Category: Highlight
-
คุณแม่ผิวสีถูกชาวเน็ตด่าว่า “น่ารังเกียจ” หลังโพสต์ภาพขณะกำลังตั้งครรภ์ลงบนโลกโซเชียล
ทุกวันนี้อินเตอร์เน็ตทำการแสดงความเห็นต่อสิ่งต่างๆ เป็นเรื่องง่ายดายขึ้น จนหลายๆ คนสามารถแสดงความเห็นต่อเรื่องราวได้อย่างสนุกปาก แต่บางครั้งการพิมพ์ด้วยความสนุกปากเหล่านั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ถูกกระทำอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้หญิงที่กำลังอยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์… และ Porsche Thomas คุณแม่ที่ตั้งท้องลูกแฝดก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะต้องมาเผชิญกับเรื่องแบบนี้ด้วย เพราะภายหลังจากที่เธอได้โพสต์ภาพของตัวเองลงในโลกออนไลน์ บรรดานักเลงคีบอร์ดทั้งหลายต่างก็พากันเข้ามาโจมตีเธอด้วยคำพูดที่ดูถูกเหยียดหยาม ในช่วงที่ Porsche มีอายุครรภ์ 35 สัปดาห์ เธอรู้มีความสุขเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าเธอกำลังจะมีลูกแฝด แต่เมื่อเธอได้โพสต์ภาพถายขณะตั้งท้องของตัวเองลงในโลกออนไลน์ ความคิดเห็นที่แสนหยาบคายก็เริ่มปรากฏขึ้นเรื่อยๆ เพราะผู้คนเหล่านั้นได้แสดงความเห็นต่อภาพของเธอว่า “น่ารังเกียจ” พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าทำไมท้องของเธอถึงเป็น “สีดำ” โชคดีที่ Porsche ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านกับคำวิจารณ์แย่ๆ เหล่านี้ เพราะแทนที่เธอจะโจมตีกลับด้วยถ้อยคำที่เจ็บแสบ แต่เธอกลับตอบสนองพวกคนที่ชอบก่อกวนเหล่านั้น โดยการโพสต์ภาพอีกรูปแบบหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความงดงาม และความมหัศจรรย์ของคนผิวสี “ในขณะที่คนบางคนได้เข้ามาวิจารณ์เรื่องท้องของฉัน ระหว่างนั้นฉันกำลังสนุกอยู่กับการใช้ชีวิต เฝ้าดูการเติบโตของมนุษย์ตัวน้อยๆ รอคอยปาฏิหาริย์และหวังว่าพวกเขาจะเกิดมามีผิวสีดำ” Porsche กล่าว และเมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา เธอก็ได้ให้กำเนิด August และ Berlin ฝาแฝดตัวน้อยที่น่ารักที่สุดแล้ว…
-
19 ภาพผลงานการ D.I.Y สิ่งต่างๆ ที่ผสมผสานความเจ๋งและความฮา ในแบบที่คาดไม่ถึง!!
การดัดแปลงสิ่งของหรือการ D.I.Y ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงสิ่งของเก่าๆ ให้กลับมาดูใหม่ และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แถมยังไม่เปลืองเงินของเราอีกด้วย และทั้งหมดนี้คือ การ D.I.Y สิ่งต่างๆ ที่มีทั้งความแปลก และความฮาในแบบที่เราคาดไม่ถึง บอกเลยว่าถ้าไม่ใช่อัจฉริยะตัวจริงคงทำไม่ได้นะเนี่ยยยยยยย เพิ่มความฟรุ้งฟริ้งให้ฝารองด้วยที่หุ้มแบบถักเอง ก้นบุหรี่ก็สามารถเปลี่ยนมาเป็นสิ่งประดิษฐ์สุดเจ๋งได้ ต่างหูจากแขนตุ๊กตา เป็นกระปุกวาสลีนที่มีความแพรวพราวที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา และนี่คือบิกินี่ตัวจิ๋วในแบบที่ไม่ซ้ำใคร หลอดยาสีฟันถูกเปลี่ยนมาเป็นกระเป๋าตังค์เก็บเหรียญ ถุงยางอนามัยถูกนำมาสร้างสรรค์ให้กลายเป็นเครื่องประดับสุดเก๋ ชุดชั้นในจากผลงานของคนอัจฉริยะ ดัดแปลงยีนส์เก่าๆ ให้กลายเป็นที่หุ้มเบาะ ศิลปะหน้ารถ รองเท้าส้นสูงมันแพงนักใช่ไหม ถ้างั้นทำเองเลยก็แล้วกัน ง่ายดี!! อยากได้ดอกไม้สักช่อไหม แหวกแนวไม่เหมือนใครดีนะ Fidget Spinner ของเล่นสุดคูลที่กินได้ด้วยนะ ฮร่าๆ ซากแมลงกลายเป็นศิลปะบนเล็บมือของสาวๆ รถที่ดูสะดุดตาผู้คนมากกกกก ถุงยางอนามัยแบบถักช่วยมอบความอบอุ่นให้น้องชายในช่วงหน้าหนาว แก้วไวน์จากหัวตุ๊กตาที่ดูหลอนมากกก…
-
เพราะไฟป่าทำให้ครอบครัวต้องพลัดพรากสัตว์เลี้ยง แต่ “เจ้าหมา” ยังรอคอยอยู่ตรงที่เดิม…
เมื่อไม่กี่วันมานี้เราคงได้ติดตามข่าวไฟป่าในแคลิฟอร์เนียที่เผาทำลายแหล่งผลิตไวน์ รวมทั้งบ้านเรือน จนต้องมีการอพยพผู้คนกว่า 25,000 คน นอกจากความเสียหายของบ้านเรือนและทรัพย์สินแล้ว บางครอบครัวยังต้องสูญเสียสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รักด้วย แต่โชคดีที่มีครอบครัวหนึ่งได้กลับมาพบกับสุนัขของพวกเขาในที่สุด นี่เป็นเรื่องราวสุดซึ้งของครอบครัวพ่อแม่ของ Beckyjean Widen ที่ประสบกับภัยพิบัติจากไฟป่าที่ลามเข้ามาถึงบ้านเรือนพวกเขา เหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวไม่มีทางเลือก นอกจากต้องทิ้งทุกอย่างรวมทั้งของมีค่าไว้ที่นั่นและหนีออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อเอาตัวรอด ที่น่าเศร้าคือ Izzy สุนัขผู้เป็นที่รักของพวกเขาได้หายไปก่อนเกิดไฟไหม้เพียงไม่กี่นาที จึงทำให้ครอบครัวต้องพลัดพรากกับมันตั้งแต่นั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ไฟดับหมดแล้ว ครอบครัวก็ตัดสินใจกลับไปยังบ้านที่ตอนนี้เหลือแต่ซาก แต่ไม่น่าเชื่อว่า Izzy มารอพวกเขาอยู่ที่นั่น ด้านล่างนี้เป็นคลิปขณะที่ครอบครัวกลับไปตามหาน้องหมา โดยพยายามปรบมือเพื่อเรียกหามัน ในคลิปจะเห็นว่าบ้านเรือนบริเวณนั้นถูกไฟไหม้จนหมด และแทบจะไม่มีเห็นสิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวอยู่เลย แต่ใครจะไปคิด เมื่อพวกเขาเดินมาใกล้ถึงที่ที่เคยเป็นบ้าน อยู่ๆ ก็มีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนที่ มันคือเจ้าหมา Izzy ที่วิ่งออกมาต้อนรับพวกเขาด้วยความดีใจ ไม่มีใครรู้ว่าช่วงที่เกิดไฟไหม้น้องหมาไปอยู่ที่ไหน แต่เห็นได้ชัดว่าขนของมันไม่มีรอยไหม้เลยสักนิด แถมยังกลับมารออยู่ที่บ้าน แม้บ้านจะถูกไฟไหม้ไปแล้วก็ตาม น้องหมาดูเหนื่อยและหิวน้ำ แต่อย่างอื่นมันไม่เป็นอะไรเลย หลังจากนั้นพวกเขาก็พามันไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอีกที หลังจากที่ Widen โพสต์คลิปนี้ในเฟซบุ๊กก็มีคนเข้ามาดูจำนวนมาก หลายคนถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจที่เห็นน้องหมาวิ่งออกมาต้อนรับเจ้าของ…
-
ภาพถ่ายแนวธรรมชาติยอดเยี่ยมประจำปี 2017 ของ Nationl Geographic งามๆ ทั้งนั้น
โลกนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงามที่เราคงได้เห็นไม่หมดในชีวิตนี้ อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณช่างภาพหลายๆ คนที่ได้เก็บภาพความงดงามเหล่านั้นมาให้เราได้ดูกัน และนี่คือภาพถ่ายแนวธรรมชาติที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประจำปี 2017 ของ Nationl Geographic ที่ทำให้รู้ว่าโลกนี้น่าหลงใหลแค่ไหน “Smile For The Camera” ถ่ายโดย Gary Peart ขณะที่ช่างภาพแอบดูจระเข้อเมริกันผ่านน้ำใสๆ จู่ๆ มันก็ว่ายเข้ามาใกล้เกือบชนจมูก แม้ช่างภาพจะรู้สึกลัวจนมือไม้สั่น แต่เขาก็พยายามรวบรวมสติแล้วก็เก็บภาพอันน่าทึ่งนี้ไว้ได้ “Over Glacial Waters” ถ่ายโดย Shane Kalyn ภาพนี้ถ่ายขณะที่ช่างภาพบินอยู่เหนือแม่น้ำโฮล์มส์ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา แม่น้ำสีฟ้าตัดกับผืนป่าสีเขียวช่างเป็นภาพที่งดงามมาก “There Is Always Room For One More” ถ่ายโดย Eivor Kuchta กลุ่มแกะน้อยกำลังเบียดกันยืนบนก้อนหินจนต้องซ้อนกัน บนเทือกเขาอีแวนส์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา “Atlantic Puffin” ถ่ายโดย Harry Collins นี่คือนกพัฟฟินแอตแลนติกที่อยู่บนเกาะ Machias Seal นอกชายฝั่ง Maine “On The…
-
นักข่าวลงพื้นที่รายงานสด มีคนพบเห็น ‘เสือ’ ออกมาเพ่นพ่าน ไหงเจอแต่ ‘ไอ้เสือจิ๋ว’ ซะงั้น
กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมากหลังจากที่ชายคนหนึ่งได้อัพคลิปวิดีโอของเจ้าเสือ ในระหว่างที่เขากำลังขับรถอยู่บนถนนสายหนึ่งในรัฐมิสซิสซิปปี ชายคนดังกล่าวได้ถ่ายคลิปของเจ้าเสือตัวนั้นพร้อมกับเขียนข้อความลงบนเฟซบุ๊กของเขาว่า “เมื่อวันพุธที่ผ่านมาระหว่างที่ผมออกไปเอาอาหารด้านนนอก ผมก็เห็นเจ้าเหมียวตัวนี้ออกมาจากป่า นี่เป็นภาพที่หาชมได้ยาก และเจ้าแมวตัวนี้ไม่ใช่แมวบ้านอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่ามันจะขนาดพอๆ กับสุนัขตัวใหญ่ๆ เลยนะ” คุณ David Sluder โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กของเขา และนี่ก็คือคลิปวิดีโอที่ว่านั้น และแน่นอนว่าการพบเห็นเจ้าเหมียวยักษ์ตัวนี้ต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ แน่ เผลอๆ จะเป็นเสือ คุณ Scott Madaus นักข่าวจากช่อง Fox ถูกส่งไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อรายงานข่าวเกี่ยวกับเจ้าเหมียวยักษ์ตัวนี้ แต่เมื่อนักข่าวหนุ่มของเราไปถึงก็พบว่าเจ้าเหมียวตัวนั้น กลับเป็นแค่แมวน้อยธรรมดาๆ ซะนี่ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ไหนๆ ก็มาแล้ว งานนี้นักข่าวหนุ่มก็เลยรายงานภาพของเจ้าเหมียวตัวนี้ไปซะเลย เล่นเอาผู้ชมฮาไปตามๆ กันเลยทีเดียว คุณ Madaus ได้ให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed ว่าเขาได้รายงานข่าวเกี่ยวกับการพบเจ้าเสือดาวในบริเวณดังกล่าว และจากนั้นเจ้าเหมียวตัวนี้ก็โผล่ออกมา “มันออกมาจากพุ่มหญ้าที่อยู่ใต้ต้นไม้นั่นและมายืนตรงหน้าผม ตอนนั้นผมก็เลยคิดว่าเราน่าจะล้อเลียนเกี่ยวกับข่าวการพบเจ้าเหมียวน้ำหนักกว่า 40 กิโลกรัมที่นี่ซะเลย” นักข่าวหนุ่มกล่าว ในตอนที่เจ้าเหมียวโผล่ออกมานั้น นักข่าวหนุ่มของเราได้รีบโทรแจ้งกับทางโปรดิวเซอร์ของทางช่องทันทีว่าให้รีบตัดภาพมาที่เขา ก่อนที่จะเริ่มรายงานข่าวแบบที่เราได้ชมกันในคลิปวิดีโอ “ถ้าหากว่าคุณได้ชมวิดีโอนั้น คุณจะเห็นเจ้าเหมียวจ้องมาที่ผม และเอียงหัวเล็กน้อย เหมือนมันกำลังจะพูดกับผมว่า มีปัญหาอะไรรึเปล่าพวก?? ” นักข่าวหนุ่มพูดแบบติดตลก …
-
นายแบบหนุ่มหล่อ เซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับพี่สาวผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม อย่างมีความสุขสุดๆ
เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจของนายแบบจากเมืองบอสตันผู้หนึ่ง ที่ทำให้กับพี่สาวที่ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรมของเขา โดยการมอบประสบการณ์การเป็นนางแบบครั้งแรกในชีวิตให้กับเธอ!! คุณ Chris Garafola นายแบบหนุ่มวัย 29 ปี และ Brittany พี่สาววัย 32 ปีของเขา เติบโตมาด้วยกันในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในรัฐเวอร์มอนต์ นอกจากจะเป็นพี่น้องกันแล้วทั้งสองยังเป็นเพื่อนซี้กันอีกด้วย คุณ Chris นั้นประสบความสำเร็จในงานนายแบบของเขา โดยตัวเขาเองนั้นเป็นนายแบบให้กับแบรนด์กีฬาชื่อดังอย่างพูม่า และนิวบาลานซ์ นอกจากนี้เขายังติดอันดับหนึ่งใน 25 หนุ่มฮอตจากการจัดอันดับของนิตยสาร Harper Bazaar อีกด้วย Chris คอยดูแลพี่สาวของเขาอย่างดี และในครั้งนี้เองเขาก็ได้ทำบางอย่างเพื่อเธอ “ผมตั้งใจทำเรื่องนี้จริงๆ เพราะผมรักพี่สาวของผมมาก” นายแบบหนุ่มกล่าว Chris นายแบบหนุ่มที่มีผู้ติดตามอย่างมากบนอินสตราแกรม . ในตอนเด็กนั้น คุณ Brittany ต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจอยู่หลายครั้ง เนื่องจากอาการป่วยของเธอ ทางครอบครัวต้องพยายามอย่างมากเพื่อหาเงินมารักษาเธอ แต่อย่างไรก็ตาม Chris กลับบอกว่าความยากลำบากเหล่านั้นทำให้พวกเขาเข้มแข็งขึ้น และทำให้ครอบครัวเขาใกล้ชิดกันมากขึ้น Chris จบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัย University of Vermont ชายหนุ่มเริ่มเข้าสู่วงการโฆษณา แต่มันก็ไม่ค่อยราบรื่นนัก เขาจึงตัดสินใจที่จะลองเป็นนายแบบดู และเซ็นสัญญาการเป็นนายแบบครั้งแรกในปี 2013 และด้วยความสำเร็จในวงการนายแบบของน้องชาย ทำให้พี่สาวของเขาอยากที่จะลองสัมผัสประสบการณ์นั้นดูบ้าง Chris…
-
หนุ่มน้อยโดนแม่เพื่อนข่มเหงเลยเอามาทำเป็นหนัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่เด็กคนอื่นบนโลก
การถูกกลั่นแกล้งของเด็กๆ กลายมาเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการถูกกลั่นแกล้งทั้งที่โรงเรียน หรือว่าจะถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตก็ตาม และด้วยการเจอมากับตัวเองทำให้ Alec Ybarra อายุ 13 ปี จากรัฐ Colorado ประเทศสหรัฐอเมรกาฯ ผู้เป็นเหยื่อของการถูกกลั่นแกล้งลุกขึ้นมาสร้างภาพยนตร์เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ของตัวเอง ให้สังคมเห็นถึงความรุนแรงที่เด็กนักเรียนกว่ากว่า 1 ใน 5 ของอเมริกาต้องเผชิญ แต่ในสถานการณ์ของ Alec นั้นเขาไม่ได้ถูกเพื่อนนักเรียนแกล้ง แต่เป็นแม่ของเพื่อนที่เป็นคนแกล้ง เพราะว่าเขาดันไปรู้ความลับบางอย่างที่สามารถทำให้ลูกชายของเธอเข้าคุกได้ เธอจึงจงใจที่จะทำลายเขาและนั่นทำให้เขาถึงขั้นต้องย้ายโรงเรียนในทุกปีเลยทีเดียว โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ Alec เป็นทั้งผู้กำกับ เขียนบท นำแสดง และตัดต่อเอง ซึ่งหนังของเขานั้นเป็นที่น่าสนใจของเทศกาลหนังต่างๆ รวมทั้งกองประกวดอีกด้วย “เมื่อมองกลับไป ผมเริ่มทำหนังมาเป็นเวลากว่า 1 ปีครึ่งมันช่วยให้ผมผ่านปีที่แย่ๆ ที่ถูกกลั่นแกล้งมาได้ มันทำผมเสียน้ำตาไปมากเลยทีเดียว และเมื่อผมมีความสามารถพอที่จะทำหนัง ผมก็หวังว่ามันจะช่วยคนที่ถูกกลั่นแกล้งเช่นเดียวกับผมได้” Alec กล่าว และพ่อของเขา Fred Ybarra ก็กล่าวเสริมว่าการกลั่นแกล้งแทบจะทำให้หัวใจของพ่อแม่ของผู้ถูกกลั่นแกล้งใจสลายเลยทีเดียว “มันเป็นเรื่องยากที่จะทำใจว่า ลูกของคุณถูกกลั่นแกล้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนที่แกล้ง กลับเป็นผู้ใหญ่เองซะด้วย” ผู้เป็นพ่อกล่าว ในปัจจุบัน Alec ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศิลปะ…
-
คุณยายนักเต้นวัย 102 ปี ได้เห็นการเต้นของตัวเองผ่านจอภาพยนตร์เป็นครั้งแรก
วินาทีอันน่าประทับใจของคุณย่าอดีตนักเต้นวัย 102 ปี ที่ได้มีโอกาสเห็นภาพเคลื่อนไหวจากการแสดงของตัวเองเป็นครั้งแรกในชีวิต!! คุณย่า Alice Barker กำลังมีความสุขอย่างมากหลังจากที่ได้มีโอกาสเห็นการแสดงของเธอในช่วงปี 1930 ที่ Harlem Renaissance คลับชื่อดังในยุคนั้น เธอเคยปรากฏตัวในภาพยนตร์โฆาณาและรายการทีวีในสมัยนั้น แต่โดยส่วนตัวแล้วเธอเองไม่เคยมีภาพหรือของที่ระลึกจากการแสดงของเธอเลย นั่นจึงทำให้คุณย่าท่านนี้ไม่เคยได้เห็นภาพการแสดงของเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่หลังจากที่ได้พบกับ David Shuff เมื่อประมาณปีก่อนและได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอ ก็ทำให้คุณย่าท่านนี้ได้มีโอกาสเห็นภาพเคลื่อนไหวของตัวเอง หลังจากใช้เวลาค้นคว้าอยู่นานคุณ Shuff ก็ได้พบกับคุณ Mark Cantor นักสะสมภาพถ่ายเกี่ยวกับดนตรีแจ๊สเจ้าของเว็บไซต์ Jazz on Film ทั้งสองพบว่าคลิปวิดีโอของการเต้นของคุณย่านั้นก็ได้มีการบันทึกไว้เช่นเดียวกัน แต่ทว่ามีการสะกดตัวอักษรผิดทำให้ไม่สามารถค้นเจอได้ คุณ Barker มีความสุขอย่างมากระหว่างที่เธอกำลังชมคลิปวิดีโอดังกล่าว คุณย่าอายุกว่า 100 ปียังจำเพลงที่เธอเต้นวันนั้นได้เป็นอย่างดีเธอร้องเพลงตามด้วยในระหว่างที่ชมวิดีโอนั้น และนอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า วิดีโอนี้ทำให้เธอรู้สึกอยากจะลุกออกจาเตียงและออกไปเต้นอีกครั้งเลยทีเดียว Barker บอกว่าเธอมีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนักเต้นมาตั้งแต่วัยเด็กแล้ว เธอเล่าว่าวันหนึ่งระหว่างที่แม่ของเธอออกไปด้านนอกเพื่อหาของบางอย่าง ในตอนนั้นเธอได้ยินเสียงวงดนตรีอยู่ใกล้ๆ และจึงตัดสินใจออกไปเต้นกับพวกเขา “เมื่อแม่ของฉันกลับมา เขาก็ไม่พบฉันแล้ว ในตอนนั้นฉันออกไปเต้นด้านนอกทั้งๆ ที่เปลือยกายเลย ฉันอยากจะเต้นต่อทั้งๆ ที่วงเล่นเสร็จไปแล้ว” คุณย่ากล่าว Shuff ได้แชร์เรื่องราวของคุณยายท่านนี้ลงบนโลกอินเตอร์เน็ต เขาบอกว่าเมื่อคุณย่าได้ดูแล้วมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นดาราดังเลยทีเดียว นอกจากนี้เขายังได้กล่าวอีกว่า คุณย่ารู้สึกดีมากๆ…
-
นักโบราณคดีพบคำว่า “อัลเลาะห์” บนเสื้อผ้าชาวไวกิ้ง หรือว่าพวกเขานับถืออิสลาม!?
ศาสนาเป็นสิ่งที่อยู่ควบคู่กับมนุษย์มาทุกยุคทุกสมัย เพราะว่าเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ใครจะไปเชื่อล่ะว่าชนเผ่าโบราณอย่างไวกิ้งอาจจะนับถือศาสนาอิสลามก็เป็นได้!! เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการค้นพบสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจหลังจากที่นักโบราณคดีได้พบคำว่า “Allah” บนชุดที่พวกเขาใช้สำหรับฝังศพ ผู้เชี่ยวชาญได้ค้นพบเสื้อผ้าในหลุมศพของชาวไวกิ้งซึ่งน่าจะมีอายุ 9 หรือ 10 ศตวรรษที่ผ่านมาในประเทศสวีเดน ซึ่งมีคำว่า Allah และ Ali ทอไว้บนเสื้อผ้า ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอิทธิพลของศาสนาอิสลามในพื้นที่สแกนดิเนเวียขึ้นมา Annika Larsson ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งทอโบราณประจำมหาวิทยาลัย Uppsala ในประเทศสวีเดน บอกว่าวัสดุที่ใช้ทำผ้าน่าจะมาจากเอเชียกลาง เปอเซียหรือจีน และเธอยังบอกอีกด้วยว่าลวดลายบนผ้านั้นไม่ใช่รูปแบบของชาวสแกนดิเนเวียแต่เป็นภาษาอารบิกโบราณมากกว่า “เรารู้มาจากการขุดหลุมศพของชาว Viking หลุมอื่นว่า บางคนก็ถูกฝังจากที่ที่เขาจากมาอย่าง เปอร์เซีย ซึ่งเป็นที่ที่ศาสนาอิสลามโดดเด่นเป็นอย่างมากเลย” Larsson กล่าว อย่างไรก็ตามการค้นพบครั้งนี้ก็ทำให้เห็นว่าการฝังศพในยุคของชาว Viking อาจจะได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาอิสลามที่เชื่อเรื่องชีวิตที่เป็นอมตะหลังความตาย นี่เป็นการค้นพบสิ่งของที่ระบุถึง Ali เป็นครั้งแรกในสแกนดิเนเวีย และทีมโบราณคดีก็กำลังหาให้ได้ว่าศพนี้มาจากที่ไหนกันแน่? ที่มา: Metro
-
เครื่องดื่มชูกำลังทำชายคนหนึ่งเกือบตาย แต่รักแท้ของภรรยาได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้
เครื่องดื่มชูกำลังในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ ซึ่งเครื่องดื่มชนิดนี้มีฤทธิ์ทำให้กระปรี้กระเป่าอยู่ช่วงหนึ่ง หลายคนจึงใช้มันเพื่อให้ผ่านวันยากๆ ไปจนกลายเป็นเสพติดโดยไม่รู้ตัว แต่มีเหตุการณ์หนึึ่งที่เครื่องดื่มชูกำลัง เกือบทำให้ชีวิตของคนสามคนต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะว่ามันทำให้เกิด ภาวะเลือดออกในสมองจนนำไปสู่เรื่องแย่ๆ ที่ไม่คาดฝัน เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นที่ Brianna หญิงสาวที่ขณะนั้นตั้งท้องได้ 9 เดือนและมีกำหนดคลอดในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้าได้รับโทรศัพท์จากแม่สามีของเธอว่า “สามีของเธอประสบอุบัติเหตุ” เธอจึงขับรถไปกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อจะไปหาสามีของเธอที่มีชื่อว่า Austin ผู้เป็นทั้งคนรักและเป็นพ่อของลูกเธอ เมื่อไปถึงทีมแพทย์ได้บอกกับเธอว่าเขามีภาวะเลือดออกในสมอง เนื่องจากการกินเครื่องดื่มชูกำลังมากเกินไป ซึ่งนี่เริ่มกลายเป็นนิสัยของเขาตั้งแต่ที่เขาเริ่มทำงานหนักขึ้น การผ่าตัดเริ่มขึ้นในเวลาต่อมาโดยใช้เวลาทั้งหมดกว่า 5 ชั่วโมง แน่นอนว่าเป็นช่วงที่ทนทุกข์ทรมานอย่างมากสำหรับเธอ เมื่อการผ่าตัดเสร็จสิ้นปรากฎว่าเขามีกระโหลกที่ยุบลงไปจนเกือบจะจำไม่ได้ และในวันต่อมามีการผ่าตัดสมองอีก 2 รอบ ทำให้มีอาการที่ไม่ค่อยสู้ดีนักทั้ง ชัก หัวบวม และอาการอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก แต่ Brianna ก็ไม่เคยหมดหวังในสามีของเธอ และไม่กลัวว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ขอแค่ให้ได้อยู่เคียงข้างกันก็พอ ซึ่งขณะที่ Austin นอนอยู่โรงพยาบาล Brianna ก็ต้องไปทำงานที่มหัศจรรย์ที่สุดในโลกอย่างการคลอดลูก โดยเธอบอกไว้ว่า “ฉันจะไม่โกหกใครหรอก มันเป็นเรื่องที่ยากมาก ฉันได้คิดไว้ว่าสามีของฉันจะมาเป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ คอยอยู่เคียงข้างฉัน จับมือฉัน เป็นคนตัดสายสะดือ และให้การต้อนรับลูกชายของเราที่จะออกมาลืมตาดูโลก…
-
บริษัทชุดสูทผู้หญิงทำโฆษณาให้ผู้ชายเปลือยเป็นตัวประกอบ นำไปสู่ประเด็นร้อนในโซเชียล
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการโฆษณาเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อยอดการขายสินค้ามาก ดังนั้นผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงมักทุ่มเทให้กับการโฆษณาเป็นหลัก เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคให้มากที่สุด แต่ดูเหมือนโฆษณาตัวล่าสุดของ Suistudio จะเป็นการฉีกกฏการโฆษณาแบบเดิมๆ มากเกินไป จนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลกออนไลน์ในขณะนี้ Suistudio เป็นบริษัทชุดสูทผู้หญิง ได้ออกแคมเปญโฆษณาตัวล่าสุดภายใต้หัวข้อ “Not Dressing Men” ซึ่งน่าสะดุดตาตรงที่ว่าให้ผู้ชายเปลือยกายอยู่ในแคมเปญด้วย แม้ว่านี่จะเป็นการโฆษราชุดสูทผู้หญิง แต่ทางบริษัทได้นำผู้ชายเปลือยกายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของภาพ เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค อย่างไรก็ตามหากสังเกตดูดีๆ บริษัทจะเน้นที่ตัวนางแบบในชุดสูทเป็นหลัก โดยให้ผู้ชายเปลือยเป็นเพียงแค่ฉากประกอบเท่านั้น อย่างเช่น เฟอร์นิเจอร์ โฆษณาชิ้นนี้เรียกได้ว่าเป็นการฉีกกฏเดิมๆ ของวงการโฆษณาไปเลย ซึ่งก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีคนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วย บางคนบอกว่า Kristina Barricelli ประธาน Suistudio และทีมงานโฆษณาชิ้นนี้ ส่งเสริมให้มองมนุษย์เป็นเพียงแค่วัตถุชิ้นหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม Barricelli ได้ออกมาอธิบายว่า นั่นไม่ใช่เจตนาของบริษัท สิ่งที่เธอต้องการสื่อคือ ‘การให้ผู้ชมได้พิจารณาในเรื่องบทบาททางเพศผ่านการโฆษณา’ ชายเปลือยที่มีบทบาทเหมือนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง นางแบบในชุดสูทจะถูกชูให้โดดเด่นกว่าชายที่นอนเปลือย แต่หลายคนเข้าใจว่านี่เป็นการส่งเสริมให้มองมนุษย์เป็นแค่วัตถุเท่านั้น ชาวเน็ตรายหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นว่า “ไม่มีใครสมควรถูกทำให้เป็นเพียงแค่วัตถุเท่านั้น” ผู้ชายคนนั้นอาจเป็นเพื่อน พี่ชาย…
-
ทำไมคนเกาะซามัว 95% ถึงเป็นโรคอ้วน บทเรียนที่ประเทศไทยควรเอามาคิดตาม..!?
ไม่น่าเชื่อว่า ‘ประเทศซามัว’ กำลังเผชิญปัญหาวิกฤตโรคอ้วนที่มีประชากรเป็นมากถึง 95% เลยทีเดียว และนับว่าเป็นประเทศที่มีประชากรเป็นโรคอ้วนเยอะที่สุดในโลก อีกทั้ง 1 ใน 3 ของประชากรยังป่วยเป็นเบาหวานอีก..!! และคราวนี้เราจะพาไปหาคำตอบกันว่า ทำไมประชากรที่นี่ถึงต้องเผชิญกับวิกฤตโรคอ้วน ซึ่งทั้งหมดนี้อาจเป็นบทเรียนที่ทำให้คนไทยเราหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น Tavita ชาวพื้นเมืองอีกคนหนึ่งที่กำลังต่อสู้กับโรคอ้วน อดีตคนขับแท็กซี่ Tavita เล่าว่า ก่อนหน้านี้เขามักจะดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำวันละ 2 ลิตร ขนมหวานจุกจิก อีกทั้งยังรับประทานแต่อาหารประเภทที่มีไขมันสูง “ผมรู้สึกเป็นห่วงสุขภาพตัวเองมากๆ ตอนนี้น้ำหนักตัวมันมากเกินไป และมันก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเรา ด้วยความรักที่มีต่อภรรยาและลูกๆ เราก็อยากจะอยู่กับพวกเค้าไปนานๆ” Tavita กล่าว แต่ดูเหมือนว่าปัญหา ‘โรคอ้วน’ ของชาวซามัวจะมีปัจจัยที่มากกว่าพฤติกรรมการบริโภคแบบจุกจิก เพราะข้อมูลจาก WHO พบว่า พฤติกรรมการบริโภคยังส่งผลตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงสุขภาพโดยรวมด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นยังพบว่ากว่า 9 ใน 10 ของชาวซามัว ยังต้องต่อสู้กับโรคอ้วน และตัวเลขของผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภท 2 ในแต่ละปีพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย (เบาหวานประเภท 2 ส่วนใหญ่มักเกิดในกลุ่มคนอ้วนที่ขาดการออกกำลังกาย…
-
เที่ยวบินเลขเฮี้ยน 666 สู่ HEL (เฮลซิงกิ) บินเวลา 13.20 ในวันศุกร์ 13 ต.ค. เครื่องบินอายุ 13 ปี
ดูเหมือนว่าความเชื่อเกี่ยวกับเลข 13 ของฝั่งตะวันตกจะเป็นอะไรที่ถูกฝังลึกมานาน คล้ายกับความเชื่อเรื่องผีในบ้านเรานั่นแหละ แต่บางทีถ้ามันนานมากไปมันก็อาจกลายมาเป็นกิมมิคสนุกๆ แบบนี้ได้ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา สายการบิน Finnair ได้จัดกิมมิคทริปสู่นรก เอาใจผู้โดยสารบนไฟลท์บิน AY666 ออกเดินทางจากกรุงโคเปเฮเก้น สู่เมืองเฮลซิงกิ (HEL) ด้วยเวลานาน 13 ชั่วโมง..!! (เต็มไปด้วยเลขเฮี้ยนๆ ทั้งนั้น) เที่ยวบิน AY666 พร้อมจะพาทุกท่านไปสู่นรก เอ๊ยยเมืองเฮลซิงกิแล้วจ้า (เวลาที่ออกก็ตอน 13.20 อีก) กัปตันเที่ยวบิน Juha-Pekka Keidasto ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เครื่องบินลำดังกล่าวก็มีอายุ 13 ปีแล้วเช่นเดียวกันนะ!! แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่มีการให้บริการเที่ยวบินหลอนๆ แบบนี้ เพราะตลอดเวลา 11 ปีที่ผ่านมามีเที่ยวบิน AY666 ทุกวันศุกร์ที่ 13 แล้วมากกว่า 21 ครั้ง แต่ดูเหมือนว่าในความไม่เป็นมงคลที่เชื่อกันมา จะแอบมีประโยชน์อยู่ไม่น้อย เมื่ออ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์…
-
โจรอินหนัก… เรียนรู้วิถีนินจาจาก ‘นารูโตะ’ ได้ไม่นาน ออกไปลองวิชา แต่สุดท้ายไปไม่รอด
เชื่อแน่ว่าในวัยเด็ก หลายๆ คนอาจจะเคยเลียนแบบตัวการ์ตูนที่ชื่นชอบและอาจจะเคยเชื่อว่าตัวเองมีพลังแห่งจันทราแบบเซเลอร์มูนแน่ๆ แต่บางครั้งการเล่นสนุกแบบเด็กๆ นั้นอาจจะทำให้คุณถูกจับได้ ถ้าหากนำพลังวิเศษเหล่านั้นไปใช้ผิดที่แบบชายคนนี้!! นาย Christopher Zahyeer Atkins ชายหนุ่มเกะนินวัย 25 ปี ผู้ร้อนวิชากำลังอยากจะลองวิชานินจาของเขา แต่ทว่างานนี้พ่อหนุ่มจากหมู่บ้านโคโนฮะของเราทำไม่สำเร็จ หลังจากที่เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจากแอตแลนตา จับกุมตัวได้ เมื่อกลางดึกของวันจันทร์ที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวถูกจับกุมตัวได้ระหว่างที่กำลังบุกเข้าไปขโมยของในร้าน Target เมื่อเวลาประมาณตี 1 เจ้าหน้าที่ Anwar Sillah จากสถานีตำรวจ Dunwoody เล่าว่าผู้ต้องหาคนนี้บอกว่าเขากำลังใช้พลังของเขาในการยกประตูขึ้น คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของร้านได้เผยให้เห็นวินาทีที่ชายคนดังกล่าวกำลังพยายามที่จะพังประตูของร้าน และนั่นจึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจเข้าจับกุมเขา “ชายคนนี้ได้ให้คำให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าหลังจากที่เขาได้อ่านหนังสือการ์ตูนนารูโตะเล่มที่ 5 และได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิชานินจาในการ์ตูนเรื่องนั้น เขาจึงคิดว่าเขาสามาถหลบหนีจากระบบรักษาความปลอดภัยและเข้าไปในร้านค้านั้นได้” เจ้าหน้าที่ Sillah ให้สัมภาษณ์ และเพจของสถานีตำรวจ Dunwoody เอง ก็ได้ออกมากล่าวถึงพ่อหนุ่มเกะนินผู้นี้เช่นกัน นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า นาย Atkins นั้นเป็นหนึ่งในผู้ลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่พบว่าสัมภาระของเขานั้นมีเพียงถุงหนังสือเก่าๆ เครื่องเล่นดีวีดี และของใช้เก่าๆ อีกนิดหน่อยเท่านั้น ขณะนี้ชายคนดังกล่าวถูกตั้งข้อหาลักขโมยในระดับ 1 และกำลังรอการพิจารณาคดีในขั้นตอนต่อไป และแล้วเส้นทางการเป็นจูนิน ของชายหนุ่มก็จบลงเพียงเท่านี้ โถ่… คุณตำรวจก็!! ที่มา orlandosentinel, fox26houston, nextshark
-
น้ำท่วมแล้วไงใครแคร์!? เจ้าเหมียวนั่งเรือกะละมังพอกลับขึ้นฝั่ง ก็กลายเป็นแมวสุดเท่ไปเลย…
ภาพสุดน่ารักนี้ถูกแชร์ในโลกออนไลน์เมื่อได้มีเจ้าเหมียวนักล่องเรือแห่งเวียดนาม ซึ่งมีคนจับภาพมันกำลังออกเรือไปเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ไม่มีใครทราบว่ามันมาได้อย่างไร จนกระทั่งสืบพบว่าจริงๆ แล้วมันเป็นของคุณ Lê Quốc Phong ซึ่งบอกว่าแมวของเธอตัวนี้มันชอบการไปล่องเรือกะละมังนี้เป็นอย่างมาก พอมันเบื่อ มันก็จะให้เจ้านายเอาขึ้นมาบนฝั่ง หรือไม่ก็กระโดขึ้นมาเอง หรือมันอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นกัปตันลูฟี่กำลังตามหาวันพีซอยู่ก็เป็นได้ . . พอขึ้นมาบนบก ก็กลับมาใส่เครื่องแบบอีกครั้งหนึ่ง ปลอมตัวซะหน่อยเดี๋ยวพวกมนุษย์จะจำได้ว่าเป็นโจรสลัด สำหรับใครที่ชื่นชอบ อยากจะไปติดตามชีวิตเจ้าเหมียวตัวนี้ สามารถเข้าไปได้ที่เพจเฟซบุ๊คของมัน PhotoCats ได้เลยนะครับ ยังมีอีกหลายตัวไว้ให้ได้ชมอีกด้วย #เหมียวสามสี
-
โลกมันอยู่ยาก.. หญิงสาวกลับบ้านตอนกลางคืน แค่คืนเดียวโดนล่วงละเมิดทางเพศถึง 3 ครั้ง!?
บ่อยครั้งที่เราได้ยินข่าวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และโดยส่วนมากนั้นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการกระทำดังกล่าวก็หนีไม่พ้นผู้หญิงนั่นเอง และหญิงสาวผู้นี้เองก็ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ แต่สำหรับกรณีของเธอนั้นกลับแย่กว่า เพราะในระหว่างการเดินกลับบ้านในตอนดึกนั้นเธอถูกล่วงละเมิดทางเพศถึง 3 ครั้งในคืนเดียว หลังจากที่เดินออกจากไนต์คลับแห่งหนึ่งของเมือง Tower Hamlets ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน เธอก็ตกเป็นเป้าหมายของชายเแปลกหน้าโดยทันที โดยทางตำรวจกล่าวว่าผู้ต้องสงสัยหมดนั้นไม่มีความเชื่อมโยงกันแต่อย่างใด นักศึกษาสาวผู้ตกเป็นเหยื่อของการกระทำดังกล่าวไม่สามารถจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอได้ โดยทางตำรวจคาดว่าในตอนนั้นเธอน่าจะอยู่ในอาการเมาไม่ได้สติ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่หญิงสาวแยกตัวจากเพื่อนๆ ของเธอที่ไนท์คลับ และกำลังเดินทางกลับบ้าน ภาพของเธอปรากฏบนกล้องวงจรปิดประมาณ 5 ทุ่ม 55 นาทีของคืนวันเกิดเหตุ โดยผู้ต้องสงสัยรายแรกนั้นปรากฏตัวขึ้นที่ถนน Cambridge Heath Road ก่อนที่จะพบเสื้อของเธอตกอยู่ในบริเวณดังกล่าว จากนั้นเวลาใกล้เคียงกันกล้องวงจรปิดอีกตัวได้จับภาพของผู้ต้องสงสัยคนที่ 2 ที่กำลังเดินผ่านถนนพร้อมกับจักรยานของเขา ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่าชายคนดังกล่าวกำลังเดินตามเธอไปยังสถานีรถไฟ Bethnal Green และหลังจากนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวก็เดินออกมาพร้อมกับสภาพเหมือนถูกข่มขืน ผู้ต้องสงสัยจากภาพของกล้องวงจรปิด จากนั้นไม่นานทางตำรวจเชื่อว่า เธอถูกล่วงละเมิดทางเพศอีกครั้งเมื่อราวๆ เที่ยงคืน 45 นาที ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นหนึ่งในสองผู้ต้องสงสัยก่อนหน้านี้ก็ได้ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดได้เผยให้เห็นผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 เดินเข้าไปในจุดเกิดเหตุ และเดินออกมาจากพื้นที่นั้น พลเมืองดีที่อยู่บริเวณนั้น ได้พบเห็นหญิงสาวคนดังกล่าวกำลังนอนอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด และได้ทำการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อช่วยเหลือเธอ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมากล่าวว่า การล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรง และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และพวกเขากำลังสืบสวนพยานต่างๆ เพื่อจับตัวคนร้ายให้ได้…
-
หนุ่มสร้างสะพานให้แมวข้าม แต่กลับได้รับความนิยม และกลายเป็นธุรกิจที่ทำเงินให้กับเขา!!
บางครั้งจุดเริ่มต้นของธุรกิจบางอย่างก็มาจากความชื่นชอบส่วนตัว และเกิดการต่อยอดจนกลายเป็นสิ่งที่ทำเงินให้กับคุณได้ และเรื่องราวของคุณ CatastrophiCreations ผู้ใช้งานจากเว็บไซต์ Boredpanda เองก็เช่นกัน เมื่อมันเขาได้เริ่มออกแบบของเล่นให้กับเจ้าเหมียวของเขา และหลังจากนั้นมันก็กลายเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ให้กับเขา!! อ่า… สบายจริงๆ เลยนะเหมียว!! คุณ CatastrophiCreations ชายหนุ่มผู้แพ้ขนแมวอย่างหนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามชีวิตของเขากลับต้องมีเจ้าเหมียววนเวียนเข้ามาตลอด หลังจากที่ได้รู้จักกับแฟนสาวผู้หลงรักแมวและย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยถูกกับแมวมากเท่าไหร่ แต่ชายหนุ่มก็พยายามจะเอาใจเจ้านายของเขาโดยการมองหาของเล่นน่ารักๆ สำหรับพวกมัน ชายหนุ่มอยากได้ของเล่นที่แปลกใหม่สำหรับเจ้าเหมียว เขาจึงตัดสินใจที่จะใช้ทักษะช่างไม้ที่ร่ำเรียนมาสร้างสะพานเล็กๆ ไว้ในอพาร์ทเม้นท์ของพวกเขาเพื่อให้เจ้านายได้เดินเล่นไปและปีนป่าย “เราสร้างสะพานพวกนี้มาเพื่อให้เจ้าเหมียวได้เดินเล่น เราพยายามออกแบบให้แปลกใหม่และในที่สุดเราก็ได้ของเล่นแมวติดผนังสุดเจ๋งออกมา และดูเหมือนว่าพวกแมวของเราจะชอบมันเอามากๆ ด้วย” ชายหนุ่มกล่าว สะพานแมวของคุณ CatastrophiCreations นั้นมีการออกแบบที่สวยงาม เขาลองนำมันไปขายในเว็บไซต์ขายของออนไลน์ และได้รับความนิยมอย่างมาก จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ แต่ตอนนี้ของเล่นแมวของเขากลับได้รับความนิยมอย่างมาก และมันก็ทำเงินให้กับเขาได้ดีเลยทีเดียว ชายหนุ่มพยายามปรับปรุงการออกแบบสะพานแมวของเขา และทำให้มันมีรูปแบบที่หลากหลายขึ้น ตามความต้องการของลูกค้า และนอกจากจะเป็นสะพานแล้ว บางครั้งมันก็ยังกลายเป็นที่นอนของเจ้าเหมียวอีกด้วยนะ!! . . . เค้าให้เดินข้าม โถ่พี่เหมียวพี่!! . “ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้คือความฝันของผม ผมมักจะตื่นขึ้นมาจามตอนกลางคืนเพราะอาการแพ้ขนแมว ผมรักเจ้าเหมียวทั้ง 3 ตัวของผมมากๆ…
-
รู้จักกับ ‘บุราคุมิน’ กลุ่มคนชนชั้นล่างของสังคมญี่ปุ่น ที่ไม่อาจจับต้องและมองเห็นได้
บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับความสามัคคีของประเทศญี่ปุ่นผ่านทางสื่อต่างๆ แต่อันที่จริงแล้วอีกมุมหนึ่งของพื้นที่ห่างไกลในประเทศนี้กลับพบว่ามีการแบ่งชนชั้นกันอยู่ โต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยกองจดหมายด่าทอและดูถูกเหยียดหยาม จากมุมหนึ่งในห้องทำงานเก่าๆ ของตลาดเนื้อ Shibaura คงจะเป็นสิ่งที่อธิบายถึงความแบ่งแยกที่มีมาแต่ยุคกลางของประเทศญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี และผู้เป็นเจ้าของกองจดหมายเหล่านั้นก็คือ “บุราคุมิน” กลุ่มคนชนชั้นล่างอันเป็นที่รังเกียจของสังคมญี่ปุ่นนั่นเอง บุราคุมินนั้นมีอาชีพในการแล่เนื้อสัตว์ ฟอกหนัง หรือจัดการกับซากสัตว์ต่างๆ ในตลาดขายเนื้อแห่งนี้ ซึ่งทักษะดังกล่าวต้องใช้เวลาในการฝึกฝนกันนานนับ 10 ปี แต่อาชีพของพวกเขากลับเป็นไม่ถูกพูดถึงอย่างน่ายกย่อง “เมื่อมีผู้คนพูดถึงงานที่เราทำ พวกเรามักลังเลที่จะตอบพวกเขาไปตรงๆ ” คุณ Yuki Miyazaki หนึ่งในคนชำแหละเนื้อกล่าว “นั่นเป็นเพราะว่าเราไม่อยากให้ครอบครัวของเราได้รับการกระทำที่ไม่ดี พวกเราสามารถทนต่อการกระทำแบบเลือกปฏิบัติได้ แต่ลูกๆ ของเรานั้นอาจจะไม่เหมือนกัน และเราต้องปกป้องพวกเขา” ชายหนุ่มเสริม คำว่า “บุราคุมิน” ในภาษาญี่ปุ่นนั้นหมายถึงคนในหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปในสมัยศักดินาของประเทศญี่ปุ่นนั้น คนในหมู่บ้านเหล่านี้จะมีอาชีพใช้แรงงานที่มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งสกปรกหรือความตาย อย่างเช่นเพชฌฆาต คนขายเนื้อ และสัปเหร่อ และในชนชั้นต่ำสุดของกลุ่มคนเหล่านี้เรียกว่า “เอตะ” ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นชนชั้นที่ต่ำสุดของญี่ปุ่น เมื่อไหร่ก็ตามที่เอตะกระทำความผิด ซามูไรสามารถฆ่าพวกเขาได้ทันทีโดยที่ไม่มีความผิด และในศตวรรษที่ 19 พวกเขาถือว่าเอตะนั้นมีค่าเพียงแค่ 1 ใน 7 ของคนธรรมดาเท่านั้น ถึงแม้ว่าระบบศักดินาของญี่ปุ่นจะถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปี 1871 แล้ว แต่การกีดกันทางสังคมและความรังเกียจบุราคุมินนั้นยังคงมีอยู่ในสังคมญี่ปุ่น จากการรายงานของ BBC…
-
20 โมเม้นต์สุดฮา…เมื่อเหล่าผู้คนไปเล่น “บ้านผีสิง” และนี่คือภาพของพวกเขาตอนถูกผีหลอก
“บ้านผีสิง” เป็นหนึ่งในสถานที่ชวนขวัญผวาสำหรับผู้กล้าที่ชื่นชอบความตื่นเต้น และความท้าทาย ซึ่งถ้าหากใครที่เคยเข้าไปเที่ยวบ้านผีสิงตามสวนสนุกต่างๆ สิ่งที่คุณจะได้พบก็คือ ประการณ์ความหลอนที่ทำให้ติดตาไปนานหลายวัน เพราะบางที่ก็สร้างความหลอนให้แบบจัดเต็มเหลือเกิน เช่น ให้ผีโผล่ออกมาจนคนตกใจ หรือผีวิ่งไล่ ผีเขย่ากรง แถมยังใส่เสียงซาวด์หลอนๆ เพิ่มเข้ามาด้วย และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน ไม่ได้จะพาเพื่อนๆ มาทัวร์บ้านผีสิงหรอกแต่ แต่จะพามาดูภาพวินาทีชวนขวัญผวาของผู้คนหลังจากถูก “ผีหลอก” เมื่อเข้าเล่น Nightmares Fear Factory ที่ประเทศแคนาดา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 …
-
ชีวิตของ “หนุ่มลาออกงานไปเที่ยวกับแมว” ตอนนี้ยังคงเที่ยวอยู่ ที่สำคัญคือไม่คิดจะหยุดง่ายๆ
จำได้ว่าเมื่อช่วงกลางปีของปีที่ผ่านมา เราเคยนำเสนอเรื่องราวของ Richard East หนุ่มชาวออสซี่ที่ยอมลาออกจากงาน เพื่อพาเจ้าเหมียวแสนรักออกผจญภัยทั่วออสเตรเลียกันไปแล้ว ซึ่งต้องบอกเลยว่าเรื่องราวของเขานั้นได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอมาอัพเดทชีวิตสุดคูลของเจ้านายและน้องเหมียวคู่นี้กันอีกครั้ง และนั่นก็จะทำให้คุณได้เห็นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา คู่นี้เขาได้ออกไปผจญภัยที่ไหนกันบ้าง แหม!! คิดแล้วก็น่าอิจฉาเหลือเกิน ย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายปีก่อน Richard ได้ตัดสินใจลาออกจากงานที่เขาทำมากว่า 10 ปี พร้อมกันนี้เขายังได้ทรัพย์สินทุกอย่างที่มี และลงทุนซื้อรถแวนเก่าๆ คันหนึ่ง เพื่อที่จะได้ออกไปท่องเที่ยวกับ Willow แมวเหมียวแสนรัก “ผมขายบ้านและทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตัวเอง และลาออกจากงานที่ทำ ดังนั้น ผมจึงสามารถออกเดินทางตลอดชีวิตได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่สามารถบอกลาได้ก็คือ เจ้าแมวตัวน้อยตัวนี้ ดังนั้น ผมเลยตัดสินใจที่จะพามันไปด้วย” Richard กล่าว Richard และ Willow ได้เริ่มออกเดินทางตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015 จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ 2017 นี้ ทั้งคู่ได้เดินทางท่องเที่ยวครบทั้ง 6 รัฐ และ 2 ดินแดนของออสเตรเลีย ด้วยระยะทางกว่า 50,000…
-
คู่รักฝังหมาไว้ที่สวนหลังบ้าน ผ่านไป 14 ชั่วโมง กลับมาโผล่มายืนอยู่หน้าบ้านเฉย!?
การจากลาหรือการสูญเสียสิ่งที่เรารักนั้นมันเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก โดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์หรือแม้แต่สิ่งของก็ตาม เรื่องราวนี้ย้อนกลับไปเมื่อปี 1990 ที่บ้านของ Viola และ Glenn ในเมือง Severna Park รัฐแมรี่แลนด์ ประเทศอังกฤษ ในขณะที่ครอบครัวกำลังนั่งเล่นกันอยู่ในสวน Glenn ก็ได้ยินเสียงดัง ตึง!! คล้ายเสียงรถชนอะไรบ่างอย่างอยู่ที่ถนนหน้าบ้าน เขาจึงรีบวิ่งออกไปดูทันทีและก็พบกับสิ่งที่เขาไม่อยากจะพบเจอเลยนั่นก็คือ ภาพของเจ้า Mugsy สุนัขพันธุ์แจ็ครัสเซล อายุ 4 ขวบสุดรักของเขาถูกรถชน มีเลือดไหลออกจากทั้งร่างกายและไหลลงสู่พื้นถนน เขาอุ้มร่างของมันขึ้นมานอนในอ้อมแขน มันค่อยๆ หายใจรวยริน และหมดลมหายใจจากไปอย่างช้าๆ ทางครอบครัวเสียใจและยังทำใจไม่ได้กับการจากไปอย่างกระทันหันของเจ้า Mugsy พวกเขาได้ขุดหลุมฝังมันไว้ที่สวนหน้าบ้าน สถานที่ที่มันชอบมาวิ่งเล่นตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่ ลูกๆ และภรรยาของกล่าวสวดมนต์และวางดอกไม้ประดับหลุมศพเพื่อไว้อาลัยให้แก่เจ้าหมาที่จากไป Viola และลูกๆ วางแผนไว้ว่าวันรุ่งขึ้นจะนำไม้กางเขนไปปักไว้ที่หลุมศพของมันเพื่อเป็นการให้เกียรติเจ้าหมาสุดที่รักของพวกเขา 5.30 น. ของวันรุ่งขึ้น สามีและภรรยาก็ต้องตกใจตื่นด้วยเสียงตะกุยประตู และเมื่อเปิดออกไปก็พบว่าเป็นเจ้า Mugsy หมาของพวกเขาที่พึ่งตายไปเมื่อเย็นวานนี้ มันยืนกระดิกหางอย่างบ้าคลั่ง และมองด้วยสายตางุนงงว่าทำไมเจ้าของถึงไม่ให้มันเข้าบ้าน…
-
เจ้าหมาพลัดตกลงไปในบ่อน้ำ แววตาเศร้าคิดว่าคงไม่รอด แต่ก็มีคนใจดีมาช่วยไว้ได้ทัน
จากรายงานในประเทศอินเดียมีสุนัขจรจัดมากกว่า 30 ล้านตัว ซึ่งกลายเป็นปัญหาระดับชาติอีกปัญหาหนึ่งที่ทางรัฐบาลต้องออกมาแก้ไข องค์กรหรือมูลนิธิต่างๆ ก็ออกมาเพื่อช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ แต่เนื่องด้วยจำนวนที่มากเกินความควบคุมทำให้ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ยาก ไม่ว่าอย่างไรก็ตามองค์กรเหล่านี้ก็ดำเนินการช่วยเหลือสัตว์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้ได้มีชาวบ้านคนหนึ่งในอินเดียโทรศัพท์ไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Animal Aid Unlimited เพื่อให้มาช่วยเหลือสัตว์ตัวหนึ่งที่ส่งเสียงร้องมาจากบ่อน้ำ พบผู้ประสบอุบัติเหตุเป็นเจ้าหมาตัวสีขาวหน้าตาน่าสงสาร 1 ตัว ไหนลองซูมเข้าไปใกล้ๆ ซิ มันคงคิดว่าชีวิตนี้คงไม่ได้ออกไปเจอโลกภายนอกแล้ว ตายเป็นหมาเฝ้าบ่อแน่ๆ T^T มันว่ายน้ำไปมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว และกำลังจะหมดแรง ไม่ไหวแล้วนะ ใครก็ได้ช่วยป๋มทีฮะ ในที่สุดก็มีฮีโร่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Animal Aid Unlimited เข้ามาช่วยเหลือ เธอมาได้ทันเวลาพอดี อย่างกับรู้ใจ เจ้าหมาถูกนำตัวใส่ตาข่ายสีฟ้า ตอนแรกมันขัดขืนนิดหน่อยแต่ก็ยอมเข้าไปนั่งนิ่งๆ อย่างหมดแรง ในที่สุดก็ขึ้นมาได้แล้ว ต้องขอบคุณพี่ๆ กลุ่มนี้ที่เข้ามาช่วยเหลือ เจ้าหมาตัวนี้ได้รับบาดเจ็บที่เท้าจึงต้องทำการรักษาและติดตามหาเจ้าของต่อไป คลิปวิดีโอการช่วยเหลือเจ้าหมาตัวนี้ คราวหน้าคราวหลังก็อย่าไปเล่นซนที่ไหนอีกล่ะเจ้าหมา บางทีแกอาจจะไม่โชคดีแบบนี้ก็ได้นะ… ที่มา inspiremore
-
10 เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับโลก ที่ทำให้เห็นว่าโลกช่างกว้างใหญ่ เกินจะรับรู้ทั้งหมด…
หลายคนอาจจะคิดว่ารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโลกใบนี้ แต่จริงๆ แล้ว นั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ มากมายเกี่ยวกับจักรวาลอยู่ตลอดเวลา และพวกเขาเชื่อว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่ยังไม่ถูกค้นพบ และนี่คือการค้นพบอันน่าทึ่ง ที่ทำให้รู้ว่าโลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์และยิ่งใหญ่เกินกว่ามนุษย์จะเข้าใจทั้งหมด 1. ยอดเขาเอเวอร์เรสไม่ใช่ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก ที่ผ่านมาหลายคนเข้าใจว่าเทือกเขาเอเวอร์เรสเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งมีความสูงอยู่ที่ 8,848 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในขณะที่ภูเขา Mauna Kea มีระดับความสูง 4,205 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แต่ยังมีพื้นที่ส่วนใหญ่ของภูเขาที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ดังนั้นเมื่อวัดความสูงจากฐานไปถึงยอด Mauna Kea จะมีความสูงอยู่ที่ 10,203 เมตร ซึ่งสูงกว่าเอเวอร์เรสถึง 1,355 เมตร ภูเขา Mauna Kea ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก 2. ชั้นบรรยากาศของโลกมีพรมแดน เส้น Kármán ได้รับการยอมในสากลว่าเป็นเส้นที่ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 100 กิโลเมตรเหนือระดับน้ำทะเล แม้ว่าระดับของชั้นบรรยากาศโลกจะอยู่สูงกว่า แต่เส้นดังกล่าวนี้ก็ได้รับการยอมรับจาก The World Air Sports Federation ว่าเป็นเส้นแบ่งระหว่างบรรยากาศกับนอกโลก 3. สถานที่ที่แห้งที่สุดในโลกตั้งอยู่ในแอนตาร์กติกา ปกติเราเชื่อกันว่าสถานที่แห้งแล้งที่สุดในโลกคือทะเลทรายอะตาคามาในชิลี ที่ไม่มีฝนตกเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว แต่มีการค้นพบว่า McMurdo Dry Valleys ในแอนตาร์กติกา…
-
งานแต่งงานในฝันของคู่รักทั่วโลกต้องล่มลง เพราะคู่รักที่ถ่ายภาพพรีเว้ดดิ้ง “โบลว์จ๊อบ” ในกรีซ
หลังจากที่คู่บ่าวสาวถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสโม๊กกี้หน้าโบสถ์บนเกาะในประเทศกรีซ จนเป็นเหตุให้ชาวต่างชาติถูกแบนไม่ให้ไปจัดงานแต่งที่นั่นอีก เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้ชาวต่างชาติทั่วโลก โดยเฉพาะคู่รักที่มีแพลนจะไปแต่งงานที่นั่น ต้องฝันสลายไปด้วย เหมือนกับว่าที่เจ้าสาว Suzanne Sparkles วัย 33 ปี จาก Chorley ใน Lancashire สหราชอาณาจักร และแฟนหนุ่ม Steve Arnold วัย 38 ปี ที่ตั้งใจไปแต่งงานในโบสถ์เซนต์พอล เมือง Rhodes โดยได้จองสถานที่ไว้แล้วกว่า 1.7 ล้านบาท Suzanne และ Steve แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องถูกยกเลิก เมื่อรัฐบาลกรีซประกาศแบนชาวต่างชาติ เพราะคู่รักชาวอังกฤษคู่หนึ่งไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสโม๊กกี้ที่นั่น หลังจากที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันมา 3 ปีครึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจจะแต่งงานกัน โดยได้ทำการจองสถานที่แต่งงานบนเกาะกรีกเมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากที่ได้รับแจ้งว่างานแต่งอาจต้องถูกยกเลิก Sparkles รู้สึกโกรธมาก และโทษคู่รักชาวอังกฤษที่เป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องแบบนี้ เธอบอกว่า “ฉันเสียใจมาก การกระทำที่ไม่มีการยั้งคิดของพวกเขา ทำให้งานแต่งในฝันของต้องล่มอย่างไม่เป็นท่า มีแขกจากจากสหราชอาณาจักร 52 คน จะไปร่วมงานของเรา โดยได้จองที่พักไว้แล้วเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์”…
-
อุโมงค์ระบายน้ำยักษ์ในโตเกียว 70,000 ล้าน ก่อสร้าง 17 ปี เพื่อแก้น้ำท่วมอย่างยั่งยืน!!
สำหรับใครที่ชื่นชอบความอลังการในหนังฟอร์มยักษ์ อย่าง Lord of the Rings รวมถึง The Hobbit แล้วล่ะก็ อาจจะเคยเห็นความอลังการของเมืองคนแคระกันมาบ้าง ด้วยขนาดเสาที่ใหญ่โต สูงชะลูด เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ แต่วันนี้จะพาไปดูของจริงกัน!!! และนี่ก็คืออุโมงค์ยักษ์ ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้มหานครโตเกียว ซึ่งก็เหมือนอีกหลายๆ เมืองที่ตั้งขึ้นบริเวณแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่าน และติดกับทะเลเพื่อความสะดวกในการค้า แต่หลังจากปี 1950 ความเจริญของชุมชนเมืองก็เข้ามา ทำให้พื้นที่อุ้มน้ำมากขึ้น และแน่นอนเกิดน้ำท่วมแทบทุกปีเหมือนกับหลายๆ เมืองทั่วโลกประสบ ในปี 1990 รัฐบาลญี่ปุ่นจึงมีแผนแก้ไขระบบการระบายน้ำ และปิ๊งไอเดียอุโมงค์ขนาดยักษ์แห่งนี้ การก่อสร้างกินเวลาไปทั้งหมด 17 ปีเต็ม และใช้งบประมาณไปกว่า 7 หมื่นล้านบาท แต่แน่นอนว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะว่าการระบายน้ำของอุโมงค์ยักษ์แห่งนี้นั้นรวดเร็วสุดๆ ท่อทั้งหมดจะมีความยาวกว่า 6.3 กิโลเมตรด้วยกัน เป็นท่อค่อยๆ ส่งไปยังบ่อพักน้ำแต่ละแห่ง ก่อนที่จะระบายสู่แม่น้ำเอโดะที่ปลายเส้นทาง อุโมงค์แห่งนี้ระบุว่า สามารถระบายน้ำจำนวนมหาศาลสู่แม่น้ำเอโดะได้ในทันที ราวๆ วินาทีละ 200 ตันเลยทีเดียว!!!…
-
ลูกแมวเกิดใหม่โดนแม่ทิ้ง เลยได้มาพบรักกับพ่อหนุ่มคนนี้ ที่เลี้ยงดีซะจนเหมือนได้เกิดใหม่
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกเมื่อแรกเกิด ก็ต้องการผู้เลี้ยงดูทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นทั้งคน หรือสัตว์ แต่ก็ยังมีผู้โชคร้ายที่เกิดมาก็โดนทอดทิ้งอยู่บนโลกใบนี้ แต่ในโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีแฝงอยู่!!! เช่นเดียวกับชายคนนี้ที่ได้เจอแมวตัวน้อยแล้วรู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจจนนำกลับมาเลี้ยงเอง ซึ่งเป็นความโชคดีของเจ้าเหมียวตัวนี้ เหมือนได้เกิดใหม่เลยทีเดียว หน้าตาแบ๊วๆ ของแมวน่าสงสารตัวนี้ ซึ่งเหตุที่ลูกแมวโดนทิ้งก็เพราะว่ามันเป็นตัวที่เล็กที่สุดในกลุ่มแมวที่เกิดใหม่ แม่แมวจึงให้ความสนใจกับตัวอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่าและมีสุขภาพที่แข็งแรงกว่า เขารู้ทันทีที่เห็นแมวตัวนี้ว่าต้องมีซักคนที่ดูแลแมวตัวนี้ เขาจึงรับมาเลี้ยงอย่างไม่มีความลังเลเลย แม่จ๋า ขอนอนหน่อย โดยเขาได้ตั้งชื่อให้มันว่า ซานซ่า เหมือนตัวละครหนึ่งในซีรี่ย์ Game of Thrones และเขาก็ได้ให้อาหารแก่ซานซ่าจนอิ่ม จากนั้นมันก็ได้มานอนระหว่างเท้าของชายคนนี้และหลับยาว ราวกับเขาเป็นแม่ของมันจริงๆ เลย กินเยอะๆ จะได้โตไวๆ เจ้าลูกแมวตัวนี้ได้รับเตียงนุ่มๆ ของเล่นมากมาย อาหารที่เหมาะแก่การเจริญเติบโต และความรัก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่แมวตัวหนึ่งต้องการที่มนุษย์จะสามารถมอบให้ได้ล่ะ ที่มา: lovemeow
-
เจ้าหนูเท้าไฟ แสดงความเป็นตัวเองจนทำให้ผู้ชมต้องหัวเราะให้กับความน่ารัก!!!
หากคุณเคยดูการเต้นประจำงานโรงเรียนของเด็กๆ คุณมักจะได้เห็นความน่ารักของเด็กๆ ที่เต้นแบบเงอะๆ งะๆ เพราะกลัวว่าจะเต้นได้ตามที่ซ้อมมาไหม แต่ไม่ใช่สำหรับเด็กคนนี้!!! ผู้ใช้หนึ่งในยูทูปที่มีนามว่า Randall Burns ได้ออกมาเผยแพร่วีดีโอที่มีสาวน้อยคนหนึ่งชื่อว่า Jordyn ได้แสดงการเต้นที่แตกต่างจากเด็กคนอื่น เพราะว่าเธอเหมือนจะออกแบบท่าเต้นเองและนั่นทำให้โชว์ของเธอดูสุดแสนจะวิเศษ ขณะเพลง Broadway Baby กำลังเริ่มต้นขึ้น กล้องก็ได้จับมาที่หนูน้อย 3 คนที่อยูท้ายแถวของเวที ทั้งหมดเริ่มการเต้นขึ้น เด็กทั้งสองคนพยายามที่จะเต้นให้ได้เหมือนที่ซ้อมมา แต่เด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงกลางกลับไม่ทำเหมือนทั้งสอง หนูน้อยคนนี้ได้ทิ้งการเต้นที่ได้ซ้อมไว้ทั้งหมด และปล่อยตัวปล่อยใจไปให้ตามเสียงเพลง และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอหันหน้าไปหาเพื่อน แล้วส่งรอยยิ้มกว้างไปให้เหมือนกับจะบอกว่า “นี่เป็นวันที่ดีที่สุดเลยเนอะ” และนั่นทำให้ผู้ชมทุกคนอดที่จะยิ้มให้กับความน่ารัก และรอยยิ้มอันสดใสของหนูน้อยคนนี้ไมได้ ซึ่งส่วนที่ดีที่สุดของหนูน้อยคนนี้คือเธอไม่เคยแสดงความเคอะเขินในเวลาที่มีคนหัวเราะ นั่นเป็นเพราะเธอมีความมั่นใจในสิ่งที่ทำลงไป และนี่อาจจะเป็นวันที่ดีที่สุดวันหนึ่งของเธอเลยก็ได้ หนูน้อยเท้าไฟจะทำให้คนดูมีความสุขได้อย่างไร เชิญชม ที่มา: inspiremore, Randall Burns
-
รวม 10 เรื่องกังวลใจของเหล่าหนุ่มๆ ที่พวกเขาไม่เคยบอกให้ใครรู้
ผู้ชายเป็นเพศที่ดูแข็งแกร่ง น่ากลัว น่าเกรงขาม แต่ว่าใครจะไปรู้ล่ะว่าจริงๆ แล้วผู้ชายจะมีความลับที่แสนกลัวแต่ไม่กล้าบอกใคร เพราะว่ามันจะทำให้พวกเขาดูอ่อนแอในสายตาของผู้หญิงนั่นเอง และนี่คือ 10 ความลับที่ผู้ชายกว่า 90% ไม่กล้าจะพูดถึงซึ่งจะเป็นจริงหรือไม่ ต้องลองติดตามกันดูจ้า 1. เรื่องหุ่น ตั้งแต่สมัยก่อน ผู้หญิงถูกสอนให้ต้องดูแลเรือนร่างของตัวเองให้มีความงดงามเข้าไว้เหมือนสาวในอุดมคติ แต่ผู้ชายกลับไม่มีแบบแผนที่แน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้ชายจะไม่คิดเรื่องนี้นะ ไม่งั้นพวกเขาคงไม่ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ เข้ายิมกันหรอก ใช่ไหมล่ะ ฮ่าา 2. เรื่องเงิน เรื่องเงินนี่จัดได้ว่าเป็นเรื่องกังวลที่น่าจะมีมากที่สุดในหมู่ผู้ชายเลยทีเดียว พวกเขาคิดว่าถ้าไม่มีเงินก็ไม่สามารถที่จะหาเลี้ยงครอบครัว หรือกระทั่งหาแฟนไม่ได้เพราะผู้ชายคิดว่าเงินน่าจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในความสัมพันธ์ แต่จริงๆ แล้วการดูแลเอาใจใส่ต่างหาก ที่ผู้หญิงเค้าต้องการละเนอะ 3. ความสูง ทำไมผู้ชายจะไม่กังวลล่ะ ในเมื่อมันคือหนึ่งในคุณสมบัติของผู้ชายในอุดมคติของผู้หญิงนี่ ถ้าผู้หญิงมองเรื่องความสูงเป็นเรื่องเล็กละก็ ผู้ชายที่มีความสูงไม่มากนักก็คงมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย ขนาดตัวไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าขนาดของใจ ว่าไหม? 4. ความหึงหวง ถึงผู้ชายจะแสดงออกในเรื่องนี้น้อยกว่าผู้หญิง ที่มีการแสดงออกที่ชัดเจนแต่มันก็ทำลายความมั่นใจของเขาได้พอสมควรเลยนะ ถ้าคุณบอกเขาว่าเพื่อนร่วมงานคุณมีอารมณ์ขันและมีคารมที่ดี เขาอาจจะไม่แสดงอาการอะไรออกมา แต่คุณรู้ไว้เถอะว่า เขากังวลมากถึงขนาดเอาตัวเองไปเปรียบเทียบเลยทีเดียว ทางที่ดีคุณควรบอกเขานะว่า คุณไม่มีทางนอกใจเขาแน่นอนเพื่อลบล้างความวิตกของเขานั่นเอง 5. การมีประสบการณ์น้อยในเรื่องความสัมพันธ์…
-
เจ้าของบ้านโวย.. ทนไม่ไหวแฟนๆ แห่มาโยนพิซซ่าตาม ‘Breaking Bad’ ถึงกับต้องสร้างรั้วกั้น!!
ไหนมีใครเป็นแฟนซีรีส์ดังเรื่อง ‘Breaking Bad’ บ้าง? ถ้าใครเคยดูคงจำกันได้ดีกับฉากที่อาจารย์ Walt หัวเสียโยนพิซซ่าไปติดอยู่บนหลังคา และนี่คือฉากที่ว่า… ใครจะไปคิดละว่าความหัวเสียของแกทำให้พิซซ่าดีๆ ไปคว่ำอยู่บนหลังคาซะได้ แม้ว่าซีรีส์จะออกอากาศมานานหลายปี แต่ดูเหมือนว่ากระแสความนิยมจะไม่ตกลงเลย เพราะเจ้าของบ้านที่ถูกใช้ถ่ายทำได้ออกมาโวยกับสำนักข่าวท้องถิ่น ถึงกรณีที่แฟนๆ จากซีรีส์ชอบมาบุกรุกถ่ายภาพ และโยนพิซซ่าใส่หลังคาบ้าน ลูกสาวเจ้าของบ้านเล่าว่า… เป็นเวลานานกว่า 4 ปีที่พวกเขาต้องคอยตามเก็บพิซซ่าที่ถูกโยนมาไว้บนหลังคาบ้าน ซึ่งอันที่จริงก่อนหน้านี้ทางผู้กำกับและทีมงานผู้สร้าเอง ก็เคยหยิบยกประเด็นนี้มาพูดกับแฟนๆ ว่าให้หยุดการโยนพิซซ่าไปที่หลังคาบ้านที่ถูกใช้ถ่ายทำ “ขอฝากอะไรถึงแฟนๆ อย่างหนึ่งนะ มันไม่ใช่เรื่องตลกหรือเรื่องที่ดูเท่อะไรเลย กับการที่คุณเอาพิซซ่าไปโยนใส่หลังคาบ้าน ภาพที่เห็นมันเป็นแค่การแสดงและคุณก็ไม่ได้คิดค้นเป็นคนแรก ได้โปรดหยุดการกระทำทั้งหมดนี้เสียที” Vince Gilligan ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ลองนึกภาพดูสิว่าเป็นเราจะเซ็งขนาดไหน ที่ตื่นเช้ามาแล้วต้องเจอพิซซ่ามาคว่ำหน้าแบบนี้ทุกวัน แม้ว่าจะมีการออกมาเตือนจากผู้กำกับ แต่ก็นั่นแหละ… มันไม่เคยได้ผลเลยแม้แต่น้อย เจ้าของบ้าน Joanne Quintana จึงตัดสินใจลงทุนจ้างช่างมาติดตั้งรั้วบ้านให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย “พวกเราหมดความอดทนแล้วจริงๆ ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่มีใครฟัง และเราคิดว่าวิธีนี้น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้..” Joanne ให้สัมภาษณ์ ติดใจชอบใจซีรีส์เรื่องไหนไม่ต้องไปทำตามตัวละครหรอกนะ…
-
20 ภาพสตรีทแฟชั่นสไตล์ Chloe Moretz สาวสวยหุ่นสตรอง ว่าที่สะใภ้ตระกูลเบ็คแฮม
นอกจากที่เธอจะมีหุ่นกระชากใจแล้ว Chloe ยังมีสไตล์การแต่งตัวที่ชิคสุดๆ เรียกว่าเป็นไอดอลของสาวๆ หลายๆ คนเลยล่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นชุดสบายๆ ชุดหวานๆ หรือชุดแบบแมนๆ เธอก็แมทช์ออกมาได้ดูดีมีสไตล์สุด เราไปชมความชิคของสาวคนนี้กันเลยดีกว่า 1. เสื้อครอปสีน้ำเงิน กางเกงเอวสูงสีเทาดำ รองเท้าหนังสีดำสุดเท่ 2. เสื้อยืด กางเกงสกินนี่สีดำ รองเท้าคัชชู เพิ่มความเก๋ด้วยแจ็กเก็ตสีแดง 3. เสื้อเชิตสีดำมีลาย กับกางเกงสกินนี่สีดำในวันสบายๆ 4. กระโปรงสีเทากับเสื้อแขนยาวสีขาวลายเก๋ๆ ก็ดูดีแล้ว 5. ดูเผินๆ อาจจะมองเป็เดรสลายธรรมดา แต่เมื่อมองดูดีๆ เดรสตัวนี้มีลูกเล่นสวยงามมากๆ 6. เสื้อยืดลายเก๋ กับกางเกงเอวสูงทรงกระบอก 7. หรือจะเปลี่ยนมาเป็นขาสั้นชิคๆ ก็สวยปังสุดๆ 8. ธีมเท่ๆ ก็มีนะจ๊ะ กระโปรงหนัง แจ็กเก็ตหนัง ก็ทำให้ดูร็อคไม่เบา 9. เสื้อสเวตเตอร์กับกางเกงขาสั้นจุดจู๋ ก็ทำให้ดูน่าสนใจขึ้นมาทันที …
-
คุณหมอโต้คนไข้รุนแรง ‘ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้’ เพราะคนไข้ทนรอคิวที่นานเป็นชั่วโมงไม่ไหว
ความไม่พอใจของคนสองคนสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายสถานการณ์และบางครั้งมันอาจบานปลายจนถึงกับแสดงความก้าวร้าวออกมา เมื่อ Jessica Stipe ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในคลินิก Gainesville After Hours เธอรู้สึกไม่สบายหนักกว่าเดิมเพราะต้องรออยู่เป็นเวลานานจนทำให้เธอเลือกที่จะขอค่าใช้จ่ายที่เสียไปคืน สิ่งนั้นจึงทำให้นายแพทย์ Peter Gallogly รู้สึกไม่พอใจและออกมาต่อว่ารวมถึงไล่เธอออกไปด้วยว่า “ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!!” คลิปคุณหมอไล่คนไข้ให้ออกไป เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่คลินิก Gainesville After Hours เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา เธอบอกว่าตอนแรกคุณหมอรายนี้นัดเธอไว้ตอน 18.30 แต่เมื่อถึงเวลา 19.45 เธอก็ยังคงไม่ได้รับการตรวจรักษาใดๆ จนทำให้เธอรู้สึกป่วยหนักกว่าเดิม และในตอนที่เธอขอกำลังขอเงินค่ารักษาคืนคุณหมอหนุ่มคนนี้ก็ออกมาบอกเธอว่า “พวกผมกำลังตรวจตัวอย่างปัสสาวะของคุณอยู่รู้บ้างมั้ย” . เธอจึงอธิบายว่าเธอไม่รู้ว่ามันต้องรอนานขนาดไหน ก่อนที่เขาจะตะคอกถามเธอว่า “นี่คุณต้องการเข้าพบหมอหรือไม่” จึงตอบกลับไปว่าเธอต้องการที่จะกลับไปนอนอยู่บนเตียงที่บ้านแล้ว เขาจึงตะคอกกลับมาอีกว่า “โอเค งั้นก็หยิบเงินของคุณและไสหัวออกไปได้แล้ว” และย้ำอย่างรุนแรงกว่าเดิมว่า “ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!!” ระหว่างที่กำลังจะออกไปจากคลินิกลูกสาวของเธอที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์เอาไว้ชี้กล้องไปที่คุณหมอคนนั้นและถามว่าเขาชื่ออะไร เขาเลือกที่จะไม่ตอบและกระชากเอามือถือที่ถ่ายอยู่ไป ถึงอย่างไรคลิปที่ถ่ายไว้ก็ได้ถูกโพสต์ลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัวของเธอจนเกิดเป็นกระแสและมีการแชร์ออกไปมากถึง 2,300 ครั้ง ลูกสาวของเธอบอกเอาไว้ในโพสต์ว่า “ฉันไม่ต้องการให้มีพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นอีก” นอกจากนั้นตำรวจในเมือง Gainesville…
-
เด็กหนุ่มวัย 13 ปีสร้างบ้านหลังเล็กๆ ได้ด้วยตัวเอง ใช้งบไป 45,000 บาท แต่น่าอยู่โพดดด!!
สำหรับเด็กวัย 13 ปีส่วนใหญ่ก็คงกำลังสนุกสนานอยู่กับเพื่อนๆ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านหรือเหน็ดเหนื่อยกับการเรียน แต่สำหรับ Luke กลับแตกต่างออกไป วันหนึ่งที่เขากำลังรู้สึกเบื่อในฤดูร้อนก็ได้เกิดไอเดียหนึ่งขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็ใช้เวลาว่างไปกับการสร้างบ้านเป็นของตัวเอง!! เด็กชายวัย 13 ปีที่สร้างบ้านด้วยตัวเอง!! เด็กชายเริ่มที่จะเรียนรู้ในสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตัดไม้ การขึ้นโครงบ้านหรือแม้แต่การโยงสายไฟซึ่งเขาเป็นเขาทำเองเกือบทุกอย่าง รวมถึงการตัดสินใจในเรื่องของเงินที่ต้องใช้ ค่าใช้จ่ายที่ใช้มาจากการทำงานพิเศษเล็กๆ น้อยๆ ที่พอสามารถทำได้อย่างเช่นการตัดหญ้าภายในสวน หรืองานทั่วๆ ไป นอกจากนั้นเขาก็ยังหาวัสดุต่างๆ จากสิ่งของที่คนในครอบครัวไม่ใช่แล้วมาช่วยลดค่าใช้จ่ายอีกด้วย เขาทำแทบทุกอย่างในการสร้างมันขึ้นมาด้วยความพยายาม รับงานพิเศษต่างๆ เพื่อให้มีงบประมาณในการลงทุนครั้งนี้ ความพยายามอย่างหนักเกือบ 1 ปีทำให้บ้านที่เขาสร้างเองกับมือในที่สุดก็เสร็จสมบูรณ์พร้อมให้เข้าไปอยู่ได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังใช้เงินไปเพียงแค่ราวๆ 45,000 บาทเท่านั้นเอง บ้านหลังเล็กๆ ในพื้นที่ประมาณ 8 ตารางเมตรตามที่เขาต้องการ แม้ตอนนี้จะเล็กไปบ้างและยังขาดระบบประปา แต่เขาก็ตั้งใจเก็บเงินต่อไปเพื่อในอนาคตจะได้ขยายต่อเติม หรือสร้างรถบ้านเป็นของตัวเองซะเลย สำคัญที่สุดก็คือเขารู้สึกขอบคุณพ่อของเขามากที่คอยสอนและช่วยเหลือเขาในหลายๆ เรื่อง “ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะยุ่งอยู่กับงานแต่ก็พยายามหาเวลามาช่วยผมอยู่เสมอ” เขากล่าว คุณพ่อผู้ที่เป็นเบื้องหลังในความสำเร็จของลูก ลักษณะภายในและภายนอกของบ้านหลังนี้…
-
เรื่องราวของสองพี่น้องบ้านเดียวกัน แต่กลับต้องแข่งฮอกกี้ในโอลิมปิกฤดูหนาวให้คนละประเทศ
หากใครมีพี่มีน้องก็คงจะเคยทะเลาะกันมาบ้างหรือในบางครั้งก็อาจจะมีการแข่งขันกันเองอย่างเช่นสองพี่น้องสาวคู่นี้ ที่พวกเธอต้องแข่งขันกันในระดับชาติเลยทีเดียว เมื่อสองพี่น้อง Marissa วัย 24 ปี และ Hannah Brandt วัย 23 ปี สองพี่น้องที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้จะอยู่บ้านเดียวกันแต่กลับต้องแข่งขันกีฬาโอลิมปิกให้กับประเทศที่แตกต่างกันซะงั้น . จุดเริ่มต้นของความสับสนนั้นเกิดขึ้นเพราะว่า Greg และ Robin Brandt สองสามีภรรยาในสหรัฐอเมริกา ได้รับเลี้ยงเด็กคนหนึ่งนั่นคือ Marissa เด็กสาวชาวเกาหลีใต้ที่มีอายุเพียงแค่ 4 เดือน หลังจากนั้นเธอก็มีน้องสาวที่อายุห่างกันหนึ่งปีชื่อ Hannah ซึ่งในวัยเด็กทั้งคู่จะได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันอยู่เสมอเช่นการเต้น เล่นสเกตลีลา หรือยิมนาสติก รวมถึงการเข้าค่ายฝึกวัฒนธรรมเกาหลีที่แม่ของพวกเธอพาไป ในขณะที่คนพี่ตอนนั้นอายุ 10 ขวบรู้สึกไม่ค่อยชอบการไปค่ายนั้นเท่าไหร่แต่น้องสาวกลับรู้สึกชอบมันเอามากๆ นอกจากนั้นผู้คนรอบข้างก็มักจะไม่เชื่อว่าทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองก็ยังคงอยู่เคียงข้างกันมาตลอดจนกระทั่งเข้าเรียนวิทยาลัยและต้องแยกทางกัน . เมื่อทั้งสองได้เล่นฮอกกี้น้ำแข็งและรู้สึกชอบมากๆ โดยเฉพาะ Hannah ที่มีความฝันจะเป็นนักกีฬาโอลิมปิก ส่วน Marissa เองในตอนนั้นขณะที่กำลังศึกษาอยู่ปีสุดท้ายที่วิทยาลัยศิลปศาสตร์ Gustavus Adolphus ในรัฐมินนิโซตา เธอก็ได้ถูกชักชวนให้ไปอยู่ในทีมชาติของเกาหลีใต้ โดยโค้ชผู้รักษาประตูของเกาหลีใต้ Rebecca…
-
15 ภาพยนตร์ที่อยากให้คุณได้ดู เพราะใครๆ ต่างก็บอกว่า “แม่มโคตรเจ๋ง” ทั้งนั้นเลย
ว่ากันว่าภาพยนตร์เป็นศิลปะอีกหนึ่งแขนงที่ทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกร่วมได้มากที่สุด และแน่นอนว่าใครๆ ก็ต้องมีรายชื่อภาพยนตร์ในดวงใจกันทั้งนั้น เมื่อก่อนหน้านี้ชาว Reddit ผู้ใช้นามว่า VarrickCarter23 ได้ออกมาตั้งคำถามถึง ‘รายชื่อหนังที่ชาวเน็ตให้คะแนน 10/10 ซึ่งทั้งหมดนี้คือ 15 รายชื่อหนังที่ชาวเน็ตทั่วโลกลงเป็นเสียงเดียวกันว่า… ควรดูซักครั้งในชีวิต!! 1. Her (2013) โปรแกรมเมอร์หนุ่มเหงาที่ซื้อระบบปฏิบัติการมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านต่างๆ ให้ตัวเอง รวมไปถึงเรื่องของความ ‘รัก’ แต่จะเกิดอะไรขึ้นล่ะถ้าสิ่งที่เราไว้ใจและฟูมฟักสร้างมากลับไม่ได้เป็นของเราเพียงคนเดียว? 2. Eternal Sunshine of the Spotless Mind (2004) เรื่องราวความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยปัญหาของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ทว่าวันหนึ่งทั้งคู่ต่างสนใจที่จะเข้ารับการลบล้างความทรงจำของกันและกัน ทว่าระหว่างการลบความทรงจำพวกเขากลับได้เรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด… 3. The Thing (1982) กลุ่มทีมวิจัยที่เดินทางไปยังแอนตาร์กติกาและได้เจอกับไวรัสเอเลี่ยนสายพันธุ์หนึ่งที่แฝงตัวเข้ามาอยู่ในร่างมนุษย์… แล้วในทีมวิจัยที่มาด้วยกันใครเป็นเอเลี่ยนแฝงตัวมานะ!? อ่าว… มันน่าตื่นเต้นระทึกใจตรงนี้แหละ!! 4. There Will Be Blood (2007) หนังที่จะบอกเล่าถึงเรื่องราวของ ครอบครัว ศาสนา ความเกลียดชัง ซึ่งหนังจะโฟกัสไปที่ช่วงชีวิตในยุคแรกของกลุ่มทุนด้านการขุดเจาะน้ำมัน…
-
เมื่อคุณแม่เห็นภาพตัวเองถูกแชร์ไปด่าสนั่นโซเชียล เลยตอกกลับด้วยความจริง จนชาวเน็ตเงิบ
ทุกวันนี้โลกโซเชียลน่ากลัวกว่าที่คิดที่เยอะ เพราะผู้คนสามารถแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งที่เห็นบนสื่อออนไลน์ได้อย่างกว้างขวาง โดยที่บางคนยังไม่ทันรู้ความจริงด้วยซ้ำ เหมือนอย่างกรณีของคุณแม่คนนี้ที่ถูกถ่ายรูปแล้วเอาไปโพสต์ในสื่อออนไลน์ จนทำให้เธอถูกชาวเน็ตด่าสนั่นโซเชียลอย่างเสียๆ หายๆ ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าคุณแม่แต่ละคนอาจจะมีวิธีเลี้ยงลูกที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนก็รักลูกเสมอ เช่นเดียวกับ Molly Lensing ที่มีแผนการเลี้ยงลูกในแบบของตัวเอง โดยเธอมีวิธีจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ที่บางคนอาจไม่เห็นด้วย กระทั่งวันหนึ่งขณะที่เธออยู่ในสนามบินและได้วางลูกน้อยนอนกับพื้น โดยปูผ้าไว้ให้ ซึ่งเธอคงมีเหตุผลที่ทำแบบนั้น แต่มีบางคนไม่เข้าใจ จึงได้แอบถ่ายรูปเธอ ก่อนจะนำไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์ คนที่เผยแพร่ภาพดังกล่าวไม่ได้ถาม Molly สักคำว่าทำไมถึงให้ลูกนอนพื้นแบบนั้น แต่กลับไปโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นที่คิดขึ้นมาเอง และแน่นอนว่ามันทำให้เธอถูกชาวเน็ตรุมด่าอย่างรุนแรง Molly ไม่รู้เลยว่าภาพดังกล่าวถูกแชร์ไปด่าในโลกโซเชียล กระทั่งเวลาผ่านไปหลายเดือน และภาพนั้นถูกแชร์ไปมากกว่า 60,000 ครั้งแล้ว เธอก็เพิ่งจะรู้ตัว… ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ ใต้ภาพของเธอนั้นมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นหลายพันคน ซึ่งส่วนใหญ่จะออกไปทางด่าทอซะมากกว่า ต่อมา Molly ได้ออกมาเผยความจริงเกี่ยวกับภาพนั้นว่า “คำพูดทั้งหมดเหล่านั้นไม่เป็นความจริงเลย วันนั้นฉันอุ้มลูกสาว Anastasia เป็นเวลาหลายชั่วโมง จนแขนเริ่มล้า” “แต่การอุ้มในอ้อมแขนนานๆ จะทำให้เด็กนอนไม่สบาย เธอจำเป็นต้องนอนในพื้นที่กว้างกว่านี้ เพื่อที่จะได้ยืดแขนยืดขา และฉันเองก็ต้องติดต่อกับญาติๆ เพื่อบอกพวกเขาว่าเราอยู่ที่ไหน” เธอยังบอกอีกว่าการอยู่ในสนามบินนานๆ มันก็เครียดพออยู่แล้ว แต่นี่เธอต้องอุ้มลูกวัย 2 เดือนไว้ตลอดเวลา…
-
ชายหนุ่มพยายามเปิดตู้เซฟเก่าแก่สมัยปู่ทวด ที่ข้างในไม่ใช่ทองแต่เป็นกระดาษมูลค่าสูง!!
ในบางครั้งเราอาจได้ค้นพบกับของที่คาดไม่ถึงจากการรื้อค้นหรือจัดของในบ้านของเราเองที่มีอายุเก่าแก่ เป็นที่อยู่อาศัยของตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่า เช่นเดียวกับผู้ใช้ Imgur ชื่อว่า Jacob ที่ไปเจอกับเซฟปริศนาที่แอบซ่อนเอาไว้อยู่ในบ้านของเขาเอง จนทำให้ต้องหาคำตอบกันว่าภายในนั้นมันจะมีอะไร แต่ก่อนที่จะเปิดดูได้เขาจำเป็นต้องขนมันออกมาจากชั้นใต้ดินเสียก่อน เพราะบ้านหลังนั้นกำลังจะมีการรื้อทิ้งในอีกไม่ช้านี้แล้ว หลังจากที่มีอยู่มาตั้งแต่สมัยปู่ทวด เราไปดูกันว่าภารกิจการขนย้ายตู้เซฟจะสำเร็จหรือไม่และภายในนั้นมันมีอะไรกันแน่ ขณะที่กำลังเก็บข้าวของภายในบ้านอันเก่าแก่สมัยปู่ทวดได้มีตู้เซฟแอบซ่อนเอาไว้อยู่ลับๆ ก่อนที่บ้านจะถูกทำลาย Jacob และเพื่อนอีกคนได้พยายามใช้รถเข็นเฟอร์นิเจอร์มานำมันออกไป ด้วยน้ำหนักของตู้เซฟกว่า 450 กิโลกรัม ทำให้ความพยายามครั้งแรกไม่สำเร็จ ต่อมาพ่อของเขาก็เข้ามาช่วยโดยพยายามใช้รถมาลากเจ้าเซฟตัวปัญหานี้ขึี้นมาจากทางลาดที่ทำเอาไว้ตรงบันได ใช้สายพ่วงผูกกับโซ่เอาไว้และใช้แรงจากรถดึงขึ้นไป ด้วยความพยายามในหลายๆ แบบก็ทำให้มันสามารถขึ้นมารับแสงแดดได้ในที่สุด จากนั้นพวกเขาก็นำมันมาไว้ในโรงรถและเล่าเรื่องของตู้เซฟให้ปู่ของเขาฟัง ทำให้คุณปู่นึกขึ้นได้ก่อนที่จะรีบกลับบ้านไปเอากระดาษที่บอกวิธีการปลดล็อคตู้ดังกล่าวนี้มาให้ เขาบอกว่า “ถ้าไม่มีกระดาษแผ่นนั้นรับรองว่าคงไม่สามารถเปิดตู้เซฟนี้ได้แน่นอน เพราะมันมีความซับซ้อนอย่างมากและต้องเปิดเข้าไปถึง 4 ชั้น” “เปิดเข้าไปต้องเจอประตูอีกชั้นตอนแรกก็ถึงกับท้อกันเลย แต่พอสังเกตดีๆ มันมีกุญแจเสียบเอาไว้พร้อมให้เราได้เปิดเข้าไปดูกัน” เขากล่าว ในตอนแรกพวกเขาไม่ได้หวังจะเจอของมีค่าอะไรเพราะทราบดีว่าปู่ทวดของเขาใช้เงินไปกับการเล่นหุ้นหรือตลาดหลักทรัพย์เป็นหลัก และมีรายได้หรือเงินปันผลที่ไม่มากนักจากการประกอบอาชีพเป็นชาวไร่ อย่างไรก็ตามแม้ภายในตู้จะมีแต่เอกสารแต่เมื่อได้ลองตรวจสอบดูก็พบว่ากระดาษเก่าๆ เหล่านั้นมันมีค่ามากกว่าทองเสียอีก เพราะมันคือเอกสารรับรองว่าปู่ทวดของเขาเคยถือหุ้นอยู่กับบริษัท Disney เป็นจำนวน 30 หุ้นก่อนถูกปิดไปหลังจากที่เสียชีวิต…
-
ชาวเน็ตต่างชาติสั่ง ‘ผัดไทย’ ขอเน้นแบบเผ็ด พ่อครัวก็จัดให้เผ็ดนรกแตกอย่างสาสม!!
เราคงทราบกันดีว่าวัฒนธรรมของบ้านเราแตกต่างกับหลายประเทศโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกินที่หากชาวต่างชาติได้มาลองบางคนอาจถึงกับทานไม่ได้และต้องเข้าโรงพยาบาลกันเลย หนุ่มผู้ใช้ Reddit ที่ชื่อ Logan Doan ก็ต้องพบกับบทเรียนที่แสนสาหัสไม่น้อย เมื่อเขาตัดสินกิน ผัดไทย โดยที่บอกพ่อครัวไว้ก่อนว่า “ขอเผ็ดๆ” เท่านั้นเองเขาก็ต้องเจอกับความเผ็ดแบบจัดหนักจัดเต็ม เรื่องนี้เกิดขึ้นในเมือง Jacksonville รัฐฟลอริด้า ซึ่งมีถนนคนเดินชื่อ Hawkers Asian Street Fare ที่เต็มไปด้วยอาหารจากหลากหลายประเทศในเอเชีย ไม่กี่วันที่ผ่านมาในช่วงพักเที่ยงชายคนดังกล่าวได้สะดุดตาเข้ากับร้านอาหารไทยร้านหนึ่งก่อนที่จะสั่งผัดไทยมาหนึ่งจาน โดยเน้นย้ำไว้ตอนสั่งว่า “ขอเพิ่มความเผ็ดนะ” เขาคนนี้เชื่อมาตลอดว่าตัวเองสามารถกินเผ็ดได้แบบสบายๆ แต่เมื่ออาหารมาถึงเขาก็ต้องถึงกับสยองเพราะที่เขาได้รับคือ ”ผัดไทยที่คลุกเคล้าด้วยพริกป่นและความเผ็ดร้อนที่พร้อมจะเผาไหม้ระบบทางเดินอาหารทันทีที่กลืนลงไป” นั่นคือสิ่งที่เขาบอกไว้ ต่อมาเขาก็ได้โพสต์ภาพของใบเสร็จสั่งอาหารจากร้านที่มีคำว่าเผ็ดมากถึง 17 คำ เรียกได้ว่าเป็นความเผ็ดแบบ 17 เท่าเลย อีกทั้งยังมีตรงข้างล่างที่เขียนเอาไว้ว่า “ทำให้เขารู้สึกเสียใจที่เกิดมาซะ!!” เผ็ดจนไม่รู้จะเผ็ดยังไงแล้วสินะ กลายเป็นกระแสให้ชาวเน็ตเข้ามากดไลค์ถึง 124,000 ครั้งและอีก 3,000 ความคิดเห็น ซึ่งบางอันก็มาเล่าถึงประสบการณ์ของตัวเองจากการเจอความเผ็ดแบบไทยเข้าไป “ผมเคยสั่งเพิ่มความเผ็ดเป็นภาษาไทยอยู่ครั้งหนึ่งมันทำให้ผมต้องเจอกับหายนะ หลังจากกินเข้าไปขนาดจะเดินกลับรถเองก็ยังไม่ได้จนต้องให้เพื่อนมาช่วยมาพยุง” “ร้านอาหารไทยแถวบ้านจะเขียนให้เลือกความเผ็ดได้เลยว่าจะเอาปานกลาง เผ็ด หรือเผ็ดแบบไทย ซึ่งบอกเลยว่าอันหลังนี่มันคือการเอาชีวิตไปทิ้งชัดๆ” …
-
เจ้าหมาจรจัดทำเนียนแอบเข้ามาร่วมงานแต่งของคู่รักใจดี สุดท้ายก็ถูกรับไปเลี้ยงอีกจนได้
วันที่สำคัญที่ทำให้ Matheus และ Marília มีความสุขมากที่สุดก็คือวันแต่งงานพวกเขา และแน่นอนว่าในวันเดียวกันนั้นก็เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่ดีที่สุดสำหรับสุนัขจรจัดผู้โดดเดี่ยวตัวหนึ่งเช่นกัน Marília และ Matheus คู่รักที่อาศัยอยู่ในเซาเปาโล ประเทศบราซิล ได้เข้าพิธีวิวาห์กลางแจ้งเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยในวันนั้นดูเหมือนว่าจะเกิดพายุและฝนตกหนัก ดังนั้น จึงทำให้ทั้งคู่รวมถึงแขกที่มาร่วมงานทั้งหมดได้ย้ายเข้าไปทำพิธีในเต็นท์ แต่ดูเหมือนว่าไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้นที่อยากจะหลบฝน เพราะเจ้าหมาจรจัดตัวหนึ่งก็อยากจะมีที่พักพิงเช่นกัน ดังนั้นจึงทำให้มันได้ตัดสินใจเดินเข้าไปในงานทันที และด้วยสภาพร่างกายที่เต็มไปด้วยโคลน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เจ้าหมาถูกผู้คนขับไล่ให้ออกไปข้างนอก แต่หลังจากนั้นไม่นานมันก็กลับเดินเข้าไปในงานอีก แถมคราวนี้ยังเดินไปหาคู่บ่าวสาวในระหว่างที่พวกเขากำลังเริ่มกล่าวคำปฏิญาณ…นับว่าใจกล้ามากเลยนะเอ็ง!! “ในตอนที่พิธีเริ่มขึ้น ทุกคนต่างก็รู้สึกแปลกใจที่มีสุนัขตัวหนึ่งเดินเข้ามา จากนั้นมันก็มานอนหลับลงบนผ้าคลุมหน้าของฉัน” Marília กล่าว มันได้รับอนุญาตให้เข้ามาร่วมงานแต่งได้ และนั้นก็ทำให้ Marília ยินดีที่จะแบ่งปันชุดของเธอให้เจ้าหมาได้นอนหลับอย่างสบายๆ “มันน่าแปลกใจมากสำหรับฉัน และฉันก็รักสัตว์” Marília กล่าว “ฉันชอบมันมาก” ภายหลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีเจ้าหมาตัวดังกล่าวก็ได้หายตัวไป และก็ไม่มีใครเห็นมันอีกเลย แต่นี่ไม่ใช่จุดเริ่มของเรื่องราวทั้งหมด เพราะมันยังคงมีเรื่องที่ประทับใจมากกว่านั้น ในคืนหลังจากการแต่งงาน Marília และ Matheus ได้ตัดสินใจออกตามหาเจ้าหมาจรจัด และถ้าหากพบเจอมันพวกเขาก็ติดสินใจรับมันมาดูแลทันที …
-
หนุ่มพาตัวเองย้อนเวลา ตัดต่อรูปปัจจุบันเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตวัยเด็กของตัวเอง
ในโลกนี้ไม่มีใครสามารถย้อนเวลาได้หรอก แต่ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยที่มาในรูปแบบโปรแกรมตัดต่ออย่างโฟโต้ชอป อะไรๆ ก็เป็นได้ทั้งนั้น ขอแค่คุณใช้มันเป็น เหมือนกับ Conor Nickerson ช่างภาพที่ใช้โฟโต้ชอปตัดต่อภาพปัจจุบันตัวเองไปอยู่ในภาพวัยเด็กที่อยู่ระหว่างปี 1997-2005 เพื่อเป็นการย้อนเวลาให้ตัวเอง และมันก็ดูสมจริงซะด้วยสิ Conor บอกว่า “ขณะที่ดูภาพเก่าๆ ของครอบครัว ผมก็สงสัยว่ามันจะเป็นอย่างไร ถ้าเราใช้โฟโต้ชอปตัดต่อตัวเองในวันนี้ไปอยู่ในภาพเหล่านั้น” ว่าแล้วชายหนุ่มก็ได้หาเสื้อผ้า หมวก และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใกล้เคียงกับช่วงเวลาในรูปให้มากที่สุด แล้วก็ถ่ายรูปให้เหมือนอยู่ในบริบทเดียวกัน ก่อนจะใช้โฟโต้ชอปปรับแต่งให้มีความสมจริงยิ่งขึ้น มันอาจจะฟังดูง่าย แต่ Conor บอกว่า “สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือ การทำให้ภาพปัจจุบันกับภาพในอดีตกลมกลืนกันอย่างแนบเนียน ทั้งความคมชัด รอยเปรอเปื้อน โทนสี และการวางตำแหน่งของรูป” ชายหนุ่มต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในการปรับแต่งรูปและต้องมีความละเอียดสูงมาก เพื่อให้ภาพออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ท้ายที่สุดหลังจากทำเสร็จแล้ว เขารู้สึกว่าเหมือนได้พาตัวเองกลับไปอยู่ในวัยเด็กจริงๆ แม้จะเป็นเพียงความรู้สึก แต่มันก็ได้ทำให้เขาเห็นตัวเองในปัจจุบันกับตัวเองในวัยเด็กอยู่ในเฟรมเดียวกันอย่างกลมกลืน นี่ถ้าไม่บอก ไม่คิดเลยนะว่าเป็นการตัดต่อ Conor ปัจจุบันกับวัยเด็กในเฟรมเดียวกัน เนียนซะเหมือนพ่อเล่นกับลูก ที่แท้ก็คนเดียวกันนั่นแหละ . ทั้งตำแหน่ง…
-
ช่างภาพใช้เวลา 9 ปี ในการตามเก็บภาพของผู้คน เพื่อให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของพวกเขา
กาลเวลาจะทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้มากแค่ไหน นี่เป็นข้อสงสัยที่ทำให้มีช่างภาพคนหนึ่ง ถ่ายภาพคนที่ไม่รู้จักตามท้องถนน และกลับมาถ่ายคนเดิมอีกครั้งโดยใช้เวลาทั้งหมดถึง 9 ปี!!!! ช่างถ่ายภาพ Peter Funch ได้ใช้เวลา 9 ปี ตามเก็บภาพของผู้คนในช่วงเวลาเร่งด่วนนั่นคือเวลา 08.30-09.30 ของเมือง New York ใกล้กับสถานีรถไฟ Grand Central Station เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเมื่อเขาพบว่าคนบางคนที่เขาได้ถ่ายภาพไว้นั้นได้ทำกิจวัตรเดิมๆ เป็นเวลากว่าเกือบ 10 ปี และเขายังบอกอีกว่า สิ่งนี้สามารถสะท้อนความเป็นเมืองนิวยอร์คได้เป็นอย่างดี เพราะว่าที่นี่ผู้คนชอบที่จะทำอะไรเดิมๆ เสมอ แม้จะผ่านไปนานแสนนานก็ตาม ซึ่งคนแปลกหน้าที่เขาถ่ายมานั้นจะมีความเปลี่ยนไปหรือเหมือนเดิมขนาดไหน เชิญรับชมกันได้เลย . . . . . . . . . . . . . . . . . . เห็นภาพอย่างนี้แล้ว บางคนเปลี่ยนไป แต่บางคนก็ไม่เปลี่ยนไปเลย ช่างเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ ฮ่า…
-
21 ภาพประวัติศาสตร์ไม่มีในห้องเรียน ที่ทำให้เห็นว่าโลกของเรา เคยผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มาด้วย!?
โลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกวัน เทคโนโลยีใหม่ๆ ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่มนุษย์ โดยนำปัญหาที่เกิดขึ้นมาหาวิธีแก้ไข เพื่อให้มนุษย์ได้ใช้ชีวิตแบบสะดวกสบาย ซึ่งกว่าที่มนุษย์โลกจะมาอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าก็ต้องผ่านยุคสมัยต่างๆ มาหลายยุคทั้งยุคแห่งประวัติศาสตร์ ยุคแห่งการคิดค้นและพัฒนามานานพอสมควร เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตก็สามารถนำมาเป็นบทเรียนให้กับมนุษย์ยุคปัจจุบันได้อย่างดีเยี่ยม มาดูกันดีกว่าว่ามนุษย์ในอดีตนั้นเขาต้องประสบพบเจออะไรกันบ้าง แต่ละเรื่องนั้นอาจจะดูแปลกๆ แต่มันก็สามารถทำให้มนุษย์ในยุคปัจจุบันอยู่ได้อย่างสบาย ผู้กำกับภาพยนตร์ในตำนาน Alfred Hitchock เข้าร่วมดื่มน้ำชากับสิงโตที่ Metro Goldwyn Mayer Studio ในปี 1942 ผู้หญิงนิยมเพ้นท์ขาให้ดูเหมือนว่าสวมถุงน่อง ตำรวจตระเวนชายแดน ยื้อแย่งฉุดลากผู้ลี้ภัยที่พยายามที่จะข้ามฝั่ง บริเวณชายแดนสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก โดยไม่มีข้อมูลยืนยันว่าทำไมทั้งสองฝ่ายจึงต้องเกิดการฉุดแย่งแบบนี้ มีการคาดว่าทั้งสองต่างต้องการผู้หลบหนีเพื่อใช้ในการดำเนินคดีของฝั่งตน นักบินฝึกหัด George Aird ดีดตัวเองออกจากเครื่องบินที่สูญเสียการควบคุม ช่วงพักกลางวันของกองถ่ายภาพยนตร์ Star Wars ต้นแบบของโทรทัศน์แบบพกพาที่ถูกคิดค้นในปี 1967 การแข่งขันการกินสปาเก็ตตี้ของผู้หญิง รถตำรวจที่ออกแบบในปี 1920 ให้มีกันชนป้องกันคนบาดเจ็บ โรงงานผลิตเบียร์ของอังกฤษส่งเบียร์มาให้กองทัพทหารที่กำลังต่อสู้ในนอร์มังดี เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 1944…
-
ชาวเน็ตร่วมโชว์ ความแตกต่างของ “แคปชั่นภาพ” ผู้ชาย-ผู้หญิง มันช่างฮาซะเหลือเกิน!!
เรื่องฮาๆ ของคู่รักวัยรุ่นนี่ก็มักจะมีมาให้เราเห็นกันอยู่ตลอด อย่างเช่นคราวนี้ที่กลายเป็นกระแสไวรัลบนโลกอินเตอร์เน็ต เรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน หญิงสาวผู้ใช้อินสตาแกรมนามว่า bellefornia_ ได้โพสต์รูปคู่ของตัวเองกับแฟนหนุ่มระหว่างไปชมการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล พร้อมกับแคปชั่นหวานๆ เอาใจแฟนหนุ่ม ทุกอย่างดูปกติจนกระทั่ง… เธอเข้าไปในอินสตาแกรมของแฟนและพบว่า ฝั่งแฟนหนุ่มก็ลงรูปคู่ไว้เหมือนกัน พร้อมกับแคปชั่นที่ดูขั้วตรงข้ามสุดๆ “นั่งอยู่เนี๊ยะ!! พยายามอธิบายเรื่องบอลๆ ให้คนที่ไม่รู้อะไรเล๊ยยย” เธออดใจไม่ไหวกับความกวนทีนของแฟนหนุ่ม เลยเอามาโพสต์แชร์ให้เพื่อนๆ ได้เห็นกันบนทวิตเตอร์ จากนั้นมันก็กลายเป็นกระแสไวรัลถูกแชร์ต่อออกไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ต เพราะความน่ารักและความฮาที่ถูกอกถูกใจชาวเน็ตเหลือเกิน แหม๊… ขอลายเซ็นหน่อยสิ บ้างก็มีเพื่อนมาแซวๆ ว่า กลายเป็นไวรัลได้ไลค์เยอะเลยน๊าา และเธอก็แทบจะไม่ทันได้รู้เลยว่า ภาพกวนๆ ของเธอได้กลายเป็นเทรนด์เล็กๆ บนโลกอินเตอร์เน็ต หลายๆ คู่ออกมาลงรูปคู่พร้อมแคปชั่นแซวกันเอง ฝ่ายหญิง: ‘เพราะเธอฉันถึงนอนหลับได้ทุกค่ำคืน ยิ้มได้ทุกวัน และหัวเราะได้ทุกเวลา…’ ฝ่ายชาย: ‘รักนะแม่หมูตุ้ยจอมอ้วนเหมือนตัวการ์ตูนจากสมัยเด็กๆ’ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะบอกรักแค่ไหน ส่วนใหญ่แล้วฝั่งผู้ชายก็มักจะกวนทีนกลับมาเสมอ ฝ่ายหญิง: ‘กับคนโปรด….<3<3’ ฝ่ายชาย: ‘เดทสไตล์อิตาลี๊ อิตาลี ช่วยมาจัดความรักให้พี่ทีสิน้อง’ อย่างเช่นคู่นี้… ฝั่งสาวอุตส่าห์บอกรักซะหวานเลย…
-
รู้จักปาร์ตี้ Bops ของเด็กมหาลัย “Oxford-Cambridge” ที่มีทั้งเซ็กส์ และยาเสพติดมาเอี่ยว!?
เชื่อว่าเพื่อนหลายคนต้องเคยผ่านการปาร์ตี้ในมหาวิทยาลัยกันมาแล้ว ที่ในตอนนั้นเรายังเป็นเด็กปี 1 ใสๆ เห็นรุ่นพี่ดื่มกันหนักๆ ก็รู้สึกทึ่งสุดไปแล้ว แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่าที่มหาลัยดังของอังกฤษเขาก็มีปาร์ตี้เหมือนกัน และดูเหมือนว่าจะเป็นงานที่ดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ซะด้วย วันนี้เราจึงจะไปตามดูปาร์ตี้ของเด็กมหาลัย Oxford และ Cambridge ที่ดูแล้วแทบไม่อยากจะเชื่อว่ามีแบบนี้ด้วยเหรอ??!!! ศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย Cambridge อย่าง Elizabeth Day จะมาเปิดเผยประสบการณ์ของเธอในเรื่องปาร์ตี้ที่น่าอับอาย ที่มีชื่อเรียกว่า “Bops” Bops คือชื่อของปาร์ตี้สำหรับเหล่านักศึกษา “Oxbridge” (ชื่อเรียกของสองสถาบันดังที่มารวมเป็นชื่อเดียวกันเพื่อความกระชับ) ซึ่งจะจัดไม่ไกลจากหอพักของนักศึกษาในระยะที่เดินไปถึง แต่ใครจะคิดว่าปาร์ตี้สุดเหวี่ยงที่จัดไม่ไกลมหาวิทยาลัยนี้ ก็จะมีความสุดเหวี่ยงขนาดเต็มไปด้วยของมึนเมา และยังไม่พอ มีทั้งเรื่องของยาเสพติดชนิดรุนแรงกว่า รวมถึงเรื่องเซ็กส์มาเกี่ยวข้องอย่างเลี่ยงไม่ได้ เธอเล่าถึงปาร์ตี้ที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นในสมัยเธอเป็นนักศึกษา เป็นงานปาร์ตี้ที่มีการใช้โคเคนอย่างเปิดเผย และมีการแต่งตัวอนาจารทั้งชายและหญิง อีกทั้งนักศึกษาบางคนก็มึนเมาทำพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่างๆ เช่นการพ่นไฟสเปรย์ หรือการมีเซ็กส์กันอย่างจะแจ้ง ในแต่ละปีที่เหล่าเด็กใหม่ Oxford และ Cambridge ดื่มด่ำกับงานรื่นเริงของ “Bops” การดื่มเหล้าและความวุ่นวายจลาจล เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์แห่งความมึนเมาและละลานตาไปด้วยสิ่งที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน Elizabeth ได้เข้าไปศึกษาที่มหาวิทยาลัย Cambridge ในปี 1998 โดยในตอนนั้นเธอคิดว่า Bops ดูเป็นงานปาร์ตี้ที่ไม่มีเรื่องอันตรายใดๆ เช่นการปิกนิค…
-
ชายหนุ่มเห็น “หมีขั้วโลก” ถูกตาข่ายพันกำลังเกือบจมน้ำ ตัดสินใจทิ้งความกลัว เข้าไปช่วยเหลือมัน!!
Kaktovik ในอลาสก้า เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรอยู่ 300 คน ที่นั่นผู้คนจะเห็นหมีขั้วโลกอยู่รอบๆ เมืองเต็มไปหมด จนกลายเป็นภาพที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว หมีขั้วโลกกับชาวเมืองแห่งนี้อยู่ร่วมกันโดยไม่เบียดเบียนกัน นั่นทำให้หมีขั้วโลกสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และชุมชนก็ไม่ต้องกลัวหมีทำร้ายด้วย ธรรมชาติอันน่าหลงใหลนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมักจะเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่ เพื่อดูวิถีชีวิตของหมีขั้วโลกอย่างใกล้ชิด แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎที่ตั้งไว้ เพื่อไม่เป็นการคุกคามพวกมัน อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่ไกด์นำเที่ยว Rolan Warrior พานักท่องเที่ยวไปยังเกาะเพื่อดูวิถีชีวิตหมีขั้วโลก เขาก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติ เขาเห็นหมีขั้วโลกตัวหนึ่งถูกตาข่ายจับปลาพันรอบตัว และมันกำลังตะเกียกตะกายเอาตัวรอดจากการจมน้ำ ท่ามกลางตวามตกใจของลูกทัวร์ที่มาด้วย สิ่งที่ Rolan คิดได้อย่างแรกคือหมีต้องได้รับการช่วยเหลือโดยด่วน แต่หมีเป็นสัตว์ใหญ่และอันตราย ใครล่ะจะลงไปช่วย และจะช่วยมันด้วยวิธีไหน พลาดไปเขาจะโดนมันฆ่าเสียเองหรือไม่? โชคดีที่มีกลุ่มชาวเมือง Kaktovik มาที่เกิดเหตุพอดี และได้พยายามทำให้หมีขั้วโลกตัวนั้นสงบลง เพื่อให้มันเข้าใจว่าพวกเขามาช่วย ไม่ได้จะมาทำร้าย นี่เป็นภารกิจที่ค่อนข้างยาก เพราะน้ำมีความเย็นมาก ที่สำคัญหมีขั้วโลกตัวนี้ก็หนักมาก โดยตัวผู้ที่เต็มวัยจะมีน้ำหนักมากกว่า 500 กิโลกรัม ซึ่งพวกเขาต้องลากเจ้าหมีตัวนี้ขึ้นไปยังฝั่งให้เร็วที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น…
-
“The New Mutants” หนัง X-Men เรื่องใหม่แนวสยองขวัญ ฉีกกฎหนังฮีโร่ทุกเรื่องที่เคยมีมา!!
เวลาที่เราพูดถึงหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังวิเศษจาก Marvel เราก็จะนึกถึง Iron Man , Captain America, Spider Man หรือจากฝั่ง X-Men เป็นต้น ซึ่งหนังพวกนี้ก็จะมีภาพลักษณ์ที่สดใส มีความตลก และต่อสู้เป็นหลัก แต่ว่ากี่เรื่องๆ ที่ออกมาก็จะมีแนวที่เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นทาง Marvel Studio หรือ Fox พวกเขาก็ไม่ยอมฉีกกฏสร้างหนังฮีโร่ที่แหวกแนวจากเดิมมากๆ เสียที อย่างมากก็จะกลายเป็น 18+ และมีฉากต่อสู้ที่โหดๆ ไม่ก็ตลกเสียดสีสังคมเข้าไปเท่านั้นเอง แต่… ลองดูภาพนี้สิ จนมาวันนี้ Fox ได้ปล่อยตัวอย่างหนังเรื่องใหม่ The New Mutants ซึ่งเป็นหนังจากตระกูล X-Men และมีต้นตำรับมาจากหัวคอมมิกตามชื่อหนัง ตัวหนังว่าด้วยเรื่องของมนุษย์กลายพันธุ์รุ่นใหม่ 5 คน ที่ต้องพบว่าพลังของพวกเขาพึ่งจะตื่นขึ้น พร้อมกับถูกจับขังไว้ในสถานีวิจัยลึกลับ ทั้งหมดจึงต้องร่วมมือกันหาทางหนีออกมานั่นเอง อ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่าก็เหมือนๆ เดิม แต่ถ้าดูตัวอย่างเราจะรู้ว่า นี่มันไม่ใช่หนัง X-Men แบบเดิมที่ต่อสู้แบบสาดพลังใส่กัน แต่มันจะเป็นหนังสยองขวัญของผู้มีพลังที่ต้องสู้กับเรื่องลึกลับและความน่ากลัวในสถานีวิจัยลึกลับที่มีความน่ากลัวของหนังสยองขวัญอยู่ ทรงผมของ Illyana Rasputin ที่มารับบท…
-
ปิดฉาก “เกรปคุง” เพนกวินน้อยผู้หลงรักสาว 2D ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบแล้ว…
ยังจำกันได้ไหมกับเจ้า ‘เกรปคุง’ เพนกวิ้นจากประเทศญี่ปุ่นที่หลงรักในตัวการ์ตูน 2D จนเกิดเป็นภาพน่ารักๆ แม้ในยามพายุพัดผ่านก็ตาม… (สามารถอ่านข่าวเก่าได้ที่ ‘เชื่อเหอะ ใครๆ ก็รักสาว 2D แม้แต่เจ้านกเพนกวิ้น ก็ยังตกหลุมรักยืนจ้องไม่เคยห่าง!!‘) และหลังจากเรื่องราวดังกล่าว เกรปคุงก็ได้กลายเป็นเซเลบของสวนสัตว์ไปในทันที ชนิดที่ว่าแม้กิจกรรมของตัวละคร Hululu ที่มันชอบหมดเวลาลงตามกำหนดเดิม กิจกรรมก็ยังต้องจัดต่อไปเพื่อเจ้าเกรป ยิ่งไปกว่านั้นทางสวนสัตว์ถึงกับประกาศจัดงานพิเศษให้แฟนๆ ในชื่องานว่า “Autumn Grape Festival” ในวันที่ 11 ถึง 15 พฤศจิกายนี่จะถึงนี้ แต่ล่าสุดข่าวร้ายของแฟนๆ เกรปคุงก็ต้องใจสลาย เมื่อทางสวนสัตว์ได้ออกมาแจ้งว่าเพนกวิ้นตัวโปรดของพวกเขา จะไม่มีโชว์ตัวในงานที่กำลังจะจัดอีกต่อไป เพราะว่าเกรปคุงนั้นป่วยหนัก ด้วยสาเหตุจากการป่วยเป็นโรคเฉพาะของเพนกวิ้น ทางทีมแพทย์จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลังจากเรื่องราวนี้ได้เผยแพร่ออกไป แฟนๆ ก็ต่างพากันให้กำลังใจเพนกวิ้นตัวโปรดของพวกเขาสุดๆ พร้อมกับหวังว่ามันจะหายดีและไม่มีข่าวร้ายตามมา… แฟนๆ วาดรูปให้กำลังใจเกรปคุง แต่แล้วเรื่องที่แฟนๆ กลัวมากที่สุดก็เกิดขึ้น เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 13 ตุลาคมนี้ ทางสวนสัตว์ได้ออกมาทวีตข้อความว่า เกรปคุงนั้นได้จากโลกใบนี้ไปแล้ว และทางสวนสัตว์ก็ขอขอบคุณทุกคนที่ชื่นชอบพร้อมกับเป็นกำลังใจให้กับเกรปคุงมาตลอด สุดท้ายพวกเขาก็หวังว่าเพนกวิ้นตัวโปรดของทุกคนจะพักผ่อนอย่างสงบในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต …
-
บริษัทเบื่อที่พนักงานชอบ “วิ่งผ่านทางเดิน” ทำกระเบื้องให้มันเป็นภาพลวงตาแบบนี้ซะเลย..!!
จะว่าไปแล้วคนเราบางทีนี่ก็แปลก… เวลาไปเจอป้ายที่บอกว่าห้ามทำอะไรก็แล้วแต่ มันก็มักจะแอบมีความรู้สึกอยากฝืนอยู่ตลอด เช่นเดียวกับที่บริษัท Casa Ceramica ในกรุงลอนดอน ปัญหาที่ชาวคณะในแผนกโชว์รูมเจอบ่อยๆ ก็คือ เวลาติดป้ายว่าห้ามวิ่งทีไร มีคนชอบวิ่งผ่านทู๊กกกที งานนี้เลยต้องเอาคืนด้วยศิลปะซะเลย “อันที่จริงการแก้เผ็ดเป็นแค่เรื่องรอง จริงๆ เราก็อยากทดลองดีไซน์แผ่นกระเบื้องให้มีความลวงตามากขึ้น และมันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้บอกทางด้านอื่นๆ ได้ด้วย” ทีมดีไซน์ให้สัมภาษณ์ เช้งงง!! เห็นหลุมยุบๆ ตรงขวามือนั่นไหม พอเวลามีคนมาเดินผ่านจริงๆ ก็จะรู้สึกเหมือนว่ากำลังจะไหลตกลงไปตามภาพจริงๆ ด้วยความที่เป็นวัสดุกระเบื้อง ขั้นตอนติดตั้งจึงไม่ยากนัก เพียงแค่ติดกระเบื้องทับลงไปบนพื้นเท่านั้น มองมุมกลับ กลับมุมมอง ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็รู้สึกเหมือนโดนภาพลวงตาเล่นเข้าให้แล้ว..!! และนี่คือโฉมหน้าของทีมดีไซน์แผ่นกระเบื้องภาพลวงตาในครั้งนี้ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่ามันจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ได้มากกว่าการแกล้งกันแน่นอน เห็นแบบนี้ชาวเน็ตก็อดที่จะแชร์ อดที่จะกดไลค์ไม่ไหว… เช่นพี่คนนี้ชวนให้เรานึกถึงตอนกลับบ้านมาพร้อมความเมาแล้วเจอกระเบื้องแผ่นนี้ บ้างก็จินตนาการเห็นเด็กสเก็ตมาลื่นล้มเพราะมันเป็นภาพลวงตา… แต่ดูไปดูมาก็ชวนให้เวียนหัวดีเหมือนกันนะเออ เป็นภาพลวงตาที่สมจริงว่าเท่แล้ว ยังนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อีกด้วย เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ ที่มา: Boredpanda
-
คุณแม่ผู้ใช้เวลาว่าง “พาลูกล่าสัตว์” ด้วยเหตุไม่อยากให้ติดสมาร์ทโฟน จุดดราม่าบนโลกออนไลน์
ในปัจจุบันไม่ว่ามองไปทางไหน ก็จะเจอผู้คนเล่นโทรศัพท์สมาร์ทโฟนกันจนเป็นเรื่องชินตาไปแล้ว ที่ไม่ว่าทั้งผู้ใหญ่หรือเด็ก ต่างก็ติดกันซะงอมแงมจนแทบจะเป็นปัจจัยที่ 5 เลยทีเดียว แต่มีแม่ท่านหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่อยากให้ลูกๆ ของเธอติดโทรศัพท์สมาร์ทโฟนมากจนเกินไป เธอจึงตัดสินใจพาพาลูกๆ ของเธอออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านแทนการเล่นสมาร์ทโฟน.. แต่มันเกิดประเด็นดราม่าเพราะเป็นการพาออกไปล่าสัตว์แทน คุณแม่ Heather Del Moral อายุ 34 ปี ได้พาลูกๆ ของเธอที่มีชื่อว่า Papi Isa และ Armonia ซึ่งมีอายุระหว่าง 9 และ 14 ปี ออกล่าสัตว์ ถึงพวกเขาจะยังมีอายุที่น้อย แต่แม่ของเธอก็ยืนยันที่จะพาลูกๆ ของเธอไปทำกิจกรรมดังกล่าว โดยเธอบอกว่า การล่าสัตว์ทำให้สายใยในครอบครัวของเธอมีความแข็งแรงมากขึ้นและยังสอนให้มีความเคารพแก่สัตว์ทั้งหลาย อีกทั้งยังทำให้ห่างไกลจากโลกโซเชียลมีเดีย ที่ปัจจุบันมีความหลอกลวงอยู่อย่างมากมาย “มันเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำสำหรับฉัน ในเวลาที่ออกล่าสัตว์ด้วยกัน เราได้พูดคุย หัวเราะ และใช้เวลาร่วมกันแทนที่จะมากดแต่ โทรศัพท์สมาร์ทโฟน” “มีบางคนไม่เชื่อเหมือนกันนะ ว่าที่ฉันพาลูกๆ ออกล่าสัตว์เนี่ยจะเป็นเรื่องที่ดี ฉันก็เคารพความคิดเห็นของพวกเขานะ แต่ขอให้พวกเขาเคารพความคิดของฉันเหมือนกัน” Heather กล่าว “การล่าสัตว์ทำให้เด็กๆ ได้ออกไปสู่ธรรมชาติที่กว้างใหญ่ ทำให้ฉันสามารถสอนพวกเขาถึงชนิดของสัตว์ต่างๆ ได้ และยังมีกีฬามากมายให้เล่น…
-
เมื่อไฟลท์ดีเลย์ทำคนหัวเสีย หนุ่มคนหนึ่งเลยไปจับไมค์ร้องเพลง จนผู้คนกลับมายิ้มอีกครั้ง!!
ทุกครั้งที่เราต้องการจะเดินทางด้วยเครื่องบิน เราก็มักจะต้องเตรียมใจกับการที่เที่ยวบินของเราจะเกิดการดีเลย์อยู่เสมอ แม้เราจะรู้ว่ามันอาจจะดีเลย์จริงๆ แต่พอมันเกิดขึ้นเราก็อดไม่ได้ที่จะหัวเสียทุกที เช่นเดียวกับผู้โดยสารที่สนามบินนานาชาติ Louis Armstrong New Orleans International Airport ที่ต้องหัวเสียเพราะเครื่องบินดีเลย์เช่นกัน ทุกคนก็ต่างพากันหัวร้อนโวยวายกับเจ้าหน้าที่ยกใหญ่ จนกระทั่งชายคนหนึ่งสามารถแก้ความตึงเครียดทั้งหมดลงได้อย่างเหลือเชื่อ!? ชายไม่ทราบชื่อคนหนึ่งเดินตรงมายังโต๊ะเจ้าหน้าที่ พร้อมกับคว้าไมค์ตรงโต๊ะมาพร้อมกับร้องเพลง No Diggity จาก Blackstreet ด้วยท่าทางร่าเริง ไม่นานนักหลังจากที่ชายคนนั้นเริ่มร้องเพลงและเต้น ผู้คนที่เคยตึงเครียดจากเครื่องบินดีเลย์ก็เริ่มจะลุกขึ้นเต้นและร้องเพลงตาม รวมถึงเจ้าหน้าที่คนอื่นเช่นกัน เรียกว่าเขาได้เปลี่ยนบรรยากาศสุดอึดอัดให้กลายเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายทันที . ยังไงก็ตาม คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวมีคนเข้าดูแล้วถึง 1.5 ล้านคนเข้าไปแล้ว งานนี้ชาวเน็ตก็ต่างพากันชื่นชมและชื่นชอบพ่อหนุ่มคนนี้กันยกใหญ่เลย โดยมีชาวเน็ตบอกว่า ก่อนพ่อหนุ่มคนนี้จะมาร้องเพลง พนักงานของสายการบิน Southwest Airlines เห็นคนเครียดๆ เลยยิงมุขเล่นๆ ว่าถ้าใครจะมาถามคำถามเรื่องเครื่องดีเลย์ละก็ ต้องร้องเพลงให้ฟังก่อน เดี่ยวจะให้ถาม พ่อหนุ่มคนนี้ก็เลยร้องเพลงอย่างที่เห็น… Dottie Moffitt ชาวเน็ตอีกคนก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า “ฉันชอบที่จะเห็นคนแปลกหน้าพากันหัวเราะและสนุกในช่วงเวลานั้นด้วยกัน เพราะยังไงสุดท้ายพวกเราก็ไม่ได้แตกต่างกัน จะเครียดจะหัวเราะตอนจบของทุกคนก็เหมือนกันอยู่ดี” ลองรับชมคลิปของพ่อหนุ่มคนนี้ดูหน่อยเป็นไง สุดท้ายเขาทำให้เราได้เห็นว่า แม้ในยามที่ทุกคนตึงเครียด ถ้าทำให้มันสนุกและเปลี่ยนบรรยากาศโดยรอบได้…
-
เด็กสาวตาโปนถูกบังคับให้ร้องไห้เพื่อขอทาน แต่ชายหนุ่มผู้ใจดีได้ช่วยเหลือเธอเอาไว้
ปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์นั้นเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ยังไม่สามารถหาวิธีกำจัดให้สิ้นซากได้และยังทวีความรุนแรง แถมยังกระจายวงกว้างไปอีกเรื่อยๆ ไม่รู้จักจบจักสิ้น Anabell วัย 7 ขวบ เกิดมาด้วยความผิดปกติจากโรคทางพันธุกรรมที่มีชื่อว่า Crouzon Syndrome ซึ่งอาการของโรคนั้นจะทำให้กะโหลกศีรษะมีรูปร่างที่ไม่เหมือนคนทั่วไป จนส่งผลให้เกิดความผิดปกติบนใบหน้า หนู Anabell ถูกแม่แท้ๆ ของเธอขายให้กับพวกแก๊งค้ายาเสพติด เนื่องจากที่ไม่สามารถดูแลเด็กที่ป่วยด้วยโรคประหลาดแบบนี้ได้ อีกทั้งยังต้องดูแลลูกๆ อีก 6 คน เด็กน้อยถูกแก๊งค้ายาเสพติดนำตัวเป็นเป็นขอทานในเมือง Bacolod ทางฝั่งตะวันตกของฟิลิปปินส์ โดยที่เธอจะถูกทำร้ายและบังคับให้ร้องไห้ทั้งวันเพื่อที่จะได้มีคนสงสารและนำเงินมาให้เธอเยอะๆ จนทำให้ดวงตาของเธอที่ผิดปกติอยู่แล้วอาการแย่ลงไปอีก ซึ่งอาการของหนู Anabell เป็นที่น่าสงสารแก่ชาวเมือง แต่ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือได้เนื่องจากกลัวอิทธิพลของแก๊งค้ายา เลยทำได้แต่เพียงให้เงินหนูน้อยเป็นครั้งๆ จนกระทั่งมีฮีโร่ใจดี Gonzalo Erize อาสาสมัครชาวอาร์เจนติน่าที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตัวเด็กน้อยจากแก๊งค้ายา Anabell หลังจากถูกช่วยเหลือมาก็ได้รับความดูแลจากมูลนิธิ Kalipa Negrense ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งมาเพื่อช่วยเหลือเด็กฟิลิปปินส์ที่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ นอกจากนี้นาย Gonzalo ยังช่วยระดมทุนจากองค์กรการกุศลเพื่อการรักษาผ่าตัดของ Anabell โดยเฉพาะ เมื่อระดมทุนได้เงินในจำนวนที่เพียงพอต่อการรักษาแล้ว หนู Anabell…
-
จะเอาป่ะล่ะ!? ชาวเน็ตสะดุ้งโหยง เจอจิงโจ้กล้ามโตยืนชิลในลำธาร นี่เอ็งโหดเกินไปแล้ว..!!
ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีจิงโจ้โดนหนุ่มออสซี่ต่อยหน้าหงายจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกมาแล้ว คราวนี้ดูเหมือนว่าพี่จิงโจ้จากออสเตรเลียจะมีทีเด็ดอะไรที่มากกว่านั้น เพราะเว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่ภาพของ ‘พ่อจิงโจ้กล้ามโต’ ที่มีชาวเน็ตไปเจอมาจากบริเวณแม่น้ำมาร์กาเร็ต ทางตอนใต้ของเมืองเพิร์ท จิงโจ้เป็นสัตว์ที่หาพบได้ทั่วไปในออสเตรเลีย… แต่คงไม่มีตัวไหนหุ่นฟิตปั๋งได้เท่าพี่คนนี้อีกแล้ว ชุดคอลเลคชั่นภาพถ่ายพ่อจิงโจ้ปริศนากล้ามโต ได้กลายเป็นกระแสไวรัลถูกอกถูกใจชาวเน็ต ที่แม้แต่เราเห็นแล้วก็ยังอดไม่ไหวที่จะต้องแชร์มาให้ทุกคนได้ชมกัน ไม่มีใครรู้ว่าอะไรทำให้พ่อจิงโจ้กล้ามโตมานั่งแช่น้ำในลำธาร แต่สังเกตดูจากภาพถ่ายแล้ว เหมือนว่าพี่แกจะรู้สึกไม่พอใจอยู่หน่อยๆ ที่มีมนุษย์มาเจอเข้า ดูท่าเบ่งกล้ามซะก่อน…!! แม้แต่ชาวเน็ตในออสซี่เองที่เห็นจิงโจ้เป็นประจำวันอยู่แล้ว ก็รู้สึกแปลกใจกับภาพที่เห็น… เพราะนอกจากสีหน้าที่ดูมีความสุขอุราแล้ว หลายคนเคลมว่านี่เป็นจิงโจ้ตัวใหญ่ร่างบึกมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นกันมา “โอ้ววเชร๊ดดอ นั่นมันโคตะระจิงโจ้ตัวบักเอ้กเลยนั่น ดูที่กล้ามแขนและกรงเล็บของพี่เค้าสิ มีใครเคยเห็นจิงโจ้ตัวใหญ่กว่านี้อีกมั้ย?” ชาวเน็ตคนหนึ่งคอมเมนท์ หลังจากที่ภาพดังกล่าวกลายเป็นที่โด่งดัง ผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาให้คำแนะนำว่า ท่าทีของจิงโจ้ที่ยืนนิ่งอยู่ในน้ำนั้นแสดงให้เห็นว่ามันพร้อมที่จะรับมือกับแขกผู้ไม่ได้รับเชิญ ซึ่งสำหรับกรณีนี้เป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่เจ้าของภาพถ่ายไม่ปล่อยให้สุนัขที่มาด้วยกันวิ่งตามจิงโจ้ไป เพราะไม่อย่างนั้นตอนจบของเรื่องอาจกลายเป็นโศกนาฏกรรมแทนก็ว่าได้ เหมือนพี่แกจะบอกว่า “จะหมัดจะมวยจะxวยจะเหล็กอะไรก็มาเห๊อะ!!” เผลอไปเจอแบบนี้กลางป่าเข้ามีหลอนกันบ้างล่ะ เอาเป็นว่าปล่อยเฮียแกอยู่ของแกไปเถอะเนาะ ที่มา: Dailymail
-
ผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือน 8 สิ่งที่ผู้หญิงไม่ควรใช้ในการ “ช่วยตัวเอง” มันอันตรายกว่าที่คิด!!
การช่วยตัวเอง เป็นหนึ่งวิธีในการระบายอารมณ์ทางเพศของมนุษย์นอกเหนือจากเซ็กส์ โดยการช่วยตัวเองนั้นไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงก็สามารถทำได้เหมือนกัน และเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยทำให้ผ่อนคลายความเครียดและอารมณ์ได้ดีเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในผู้หญิงการช่วยตัวเองอาจจะดูว่าเป็นเรื่องน่าอาย แต่ก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่มนุษย์สรรหาวิธีมาเพื่อให้ความสุขกับตัวเอง โดยวิธีการช่วยตัวเองของผู้หญิงโดยทั่วไป จะใช้นิ้วหรืออุปกรณ์อื่นๆ ในการคลึงบริเวณช่องคลอดหรือตามจุดต่างๆ จนถึงจุดสุดยอด ซึ่งก็มีสาวๆ จำนวนไม่น้อยที่ใช้อุปกรณ์แปลกๆ ในการช่วยตัวเอง ทาง Dr.Dana Rice ผู้เชียวชาญเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงโดยเฉพาะ ได้ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับการช่วยตัวเองของผู้หญิงและ 8 สิ่งของต้องห้ามที่สาวๆ ไม่ควรใช้เด็ดขาดในการช่วยตัวเอง 1. ไส้กรอก อาจจะเสี่ยงกับการติดเชื้อแบคทีเรียจากวัตถุดิบที่นำมาทำเป็นไส้กรอก เช่น เศษเนื้อ เศษไขมัน และเครื่องปรุงรสต่างๆ 2. แตงกวา แครอท หรือผักผลไม้รูปทรงยาวๆ พืชผักผลไม้ต่างๆ นั้นอาจมีสารเคมีตกค้างแล้วไปทำปฏิกิริยากับช่องคลอด ทำให้เกิดการระคายเคือง อีกทั้งผิวขรุขระอาจจะบาดผนังมดลูกแล้วเกิดอาหารติดเชื้อตามมา 3. ขวดพลาสติกหรือขวดแก้ว ความแข็งของขวดอาจทำให้จิมมี่เกิดบาดแผลได้เช่นกัน ถ้ายิ่งเป็นขวดแก้ว ถ้ามันแตกขึ้นมาก็คงจะเจ็บแสบน่าดูเลยล่ะ บรื๋ออออ 4. ปากกาเคมี ในปากกานั้นเต็มไปด้วยสารเคมีต่างๆ ในน้ำหมึก ซึ่งหากว่าสาวๆ ใช้ปากกาเคมีในการช่วยตัวเองอาจจะเกิดเหตุการณ์ปลอกปากกาหลุดเข้าไปในช่องคลอด ต้องลำบากหมอเอาออกให้นะ 5.…
-
หนุ่มสร้างภาพโปรไฟล์ในแอปฯ Tinder แบบเจ๋งๆ จนสาวๆ อยากรู้จักเขาให้มากขึ้น
แม้ว่า Tinder จะเป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับหาคู่หรือเพื่อนคุย แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จ ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากรูปโปรไฟล์ที่คุณเลือกใช้ด้วย ด้วยเหตุนี้ Jesse จึงใช้กลยุทธ์สุดสร้างสรรค์ในการสร้างรูปโปรไฟล์ที่แหวกแนว ทั้งเจ๋งและน่าสนใจซะจนสาวๆ ไม่กล้าปัดผ่าน ใครที่เคยสมัครเข้าใช้ Tinder จะรู้ว่าคุณสามารถใส่รูปโปรไฟล์ได้มากกว่า 1 รูป คนส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้รูปที่คิดว่าดูดีที่สุด แต่ Jesse กลับคิดต่างด้วยการใช้รูปเรียงต่อกันพร้อมข้อความที่ให้คนเลื่อนไปยังภาพต่อไป Jesse เริ่มด้วยภาพที่เขาใส่เสื่อผ้ามิดชิดพร้อมเสื้อคลุมกับข้อความด้านข้างว่า “แตะเพื่อลบชั้นแรก” ก่อนจะโผล่ไปยังภาพถัดมาที่ไม่ได้มีเสื้อคลุมแล้ว แน่นอนว่ามันทำให้ผู้คนเกิดความสนใจและลุ้นว่าภาพต่อไปยังไงนะ?? และเมื่อเลื่อนต่อไปก็เป็นภาพที่ชายหนุ่มใส่แค่กางเกงในตัวเดียว มาถึงจุดนี้สาวๆ คนจะเริ่มสนใจแล้วว่าภาพต่อไปจะเหลืออะไร แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ชายหนุ่มมาแบบล่อนจ้อนเลยจ้า แต่ยังค่ะ ยังไม่จบแค่นี้ เค้ายังบอกให้เลื่อนต่อไปอีก และสิ่งที่เห็นคือ Jesse ในสภาพที่เหลือแต่เนื้อหนัง โอ้ย แบบนี้มันเข้าขั้นหลอนแล้ว แต่ในเมื่อมีข้อความให้เลื่อนต่อไปอีกก็เลื่อนต่อไปละกัน ดูสิ๊จะมีอะไรเซอร์ไพรส์กว่านี้มั้ย นั่นไง จากหนังก็เหลือแต่กระดูก ตามสเต็ปเลย พร้อมข้อความว่า เลื่อนเพื่อนอ่านประวัติของ Jesse มาถึงจุดนี้แน่นอนว่าผู้คนต้องอยากรู้แน่ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน ทำอะไร …
-
หนุ่มไปชมงานแข่ง MMA จับพลัดจับผลูได้ลงแข่งเองเฉย แถมยังคว้าเข็มขัดแชมป์กลับบ้านอีก!!
เรียกว่าเล่นเอาคนดูในสนามแข่ง MMA งงกันเป็นไก่ตาแตก เมื่อชายหนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่งสามารถชนะนักชกมืออาชีพรุ่นเวลเตอร์เวทลงได้ แถมยังมีเซอร์ไพรส์คนดูอีกหนึ่งระลอก จนกลายเป็นกระแสโซเชี่ยลพูดถึงกันไม่หยุด… เรื่องทั้งหมดนั้นมันเริ่มจาก Carlos Eduardo Rufino นักชก MMA มืออาชีพจะต้องดวลตัวต่อตัวกับ Claudinei Kall นักสู้มืออาชีพอีกคนหนึ่ง แต่ในระหว่างที่ชั่งน้ำหนักนั้น Carlos กลับมีน้ำหนักเกินกำหนด ซึ่งตามกฎปกติแล้ว ไฟต์จะต้องถูกยกเลิกไป ทางด้าน Claudinei นั้น ตอนแรกเขาก็ตกลงด้วยดีว่าเขาโอเคยอมชกก็ได้ ทว่าผ่านไปไม่นานเขากลับเปลี่ยนใจไม่ชกดื้อๆ ในเวลาเดียวกัน Luis Felipe Alvim ชายหนุ่มผู้เป็นแฟนตัวยงของกีฬาต่อสู้ MMA ได้นำขนมบราวนี่มาขายอยู่ข้างนอกโรงแรมที่จัดการแข่งขัน โดยเขาและแฟนสาวตั้งใจจะขายของให้หมดเพื่อนำเงินนั้นไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปดูการชกของ Carlos และ Claudinei แต่เวลาผ่านไปก็ขายไม่หมดสักทีและงานก็จะเริ่มแล้วด้วย… ทั้งคู่ตัดสินใจนำเงินที่เตรียมไปจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้านไปซื้อตั๋วแทน แล้วใครจะเชื่อว่าชายหนุ่มที่เป็นแฟนกีฬาชนิดนี้ยอมขายขนมเพื่อมาดู อยู่ดีๆ เขาก็กลายเป็นคนที่ลงไปแข่งซะอย่างนั้น!? หลังจากซื้อตั๋วแล้ว เขาตั้งใจไปทักทายโค้ชกับเพื่อนคนหนึ่งที่จะได้ขึ้นชกในคืนเดียวกันที่หลังเวที จังหวะนั้นเอง ทีมงานโปรโมเตอร์ได้ประกาศตามหาคนมาชกแทนอิตา Claudinei ที่ถอนตัวไป พอ Luis ได้ยินแบบนั้นก็คิดในใจว่า “นี่แหละโอกาสของตรู” แม้ว่า Luis นั้นจะไม่มีมีประสบการณ์ในการชกมวย MMA มาก่อนเลย แต่เขาก็ฝึกมวยไทยระดับสูงมาบ้าง โดยถ้าให้เปรียบเทียบเขาก็อยู่ในระดับสายดำของศิลปะการต่อสู้อื่นๆ เลยทีเดียว…
-
8 สัญญาณยืนยันว่า “ปัญหาอายุ-สังคมญี่ปุ่น” เหมือนระเบิดเวลา ที่กำลังรอวันระเบิดครั้งใหญ่
ขณะนี้ญี่ปุ่นอยู่ในจุดที่เรียกได้ว่าปัญหาอายุและสังคมกำลังจะระเบิด เนื่องจากมีอัตราเด็กเกิดใหม่ที่ต่ำ การใช้จ่ายของผู้บริโภคก็ลดลง และเศรษฐกิจของประเทศค่อยๆ หดตัวลงในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน ประชากรมีอายุยืนนานขึ้น ทำให้ต้องเสียเงินค่าครองชีพมากขึ้น ที่สำคัญไม่มีคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาแทนที่พวกเขา และต่อไปนี้คือสัญญาณว่าสังคมญี่ปุ่นใกล้จะถึงเวลาระเบิดแล้ว 1. ขณะนี้มีผู้คนกว่า 68,000 คนที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ญี่ปุ่นมีกลุ่มประชากรที่มีอายุตั้งแต่หนึ่งร้อยปีขึ้นไปสูงที่สุดในโลก โดยมีใน 100,000 คน จะมีผู้สูงอายุ 4.8 คน ในขณะที่ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ มีเพียง 2.2 คน ใน 100,000 คนเท่านั้น 2. ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ขายได้มากกว่าผ้าอ้อมเด็ก นับตั้งแต่ปี 2011 ยอดขายได้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ได้แซงหน้าผ้าอ้อมเด็กอย่างต่อเนื่อง ยอดขายนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มประชากรผู้สูงอายุของญี่ปุ่นนั้นมีมากขนาดไหน ประชากรที่มีอายุตังแต่ 65 ปี ขึ้นไป คือกลุ่มประชากรที่มีมากที่สุดในญี่ปุ่น จากทั้งหมด 127.11 ล้านคน มีผู้สูงอายุถึง 26.7% 3. ปี 2016 มีรายงานว่าอัตราการเกิดต่ำที่สุดในญี่ปุ่นในรอบ 117 ปี นับตั้งแต่ปี…
-
11 ทริคอันชาญฉลาดเกี่ยวกับความสวยความงาม รับรองเป็นประโยชน์กับสาวๆ ทุกคนแน่นอน
ผู้หญิงหลายคนกว่าจะเป๊ะปังออกจากบ้านได้ ต้องเสียเวลาแต่งหน้านานแสนนานแถมยังเสียเงินไปไม่ใช่น้อย แต่ความจริงแล้วสาวๆ สามารถสวยเป๊ะได้ด้วยวิธีง่ายๆ แถมไม่ต้องเปลืองตังเยอะด้วย และนี่คือ 11 วิธีอันชาญฉลาดที่ทางเว็บไซต์ Bright Side รับรองว่าทำให้สาวๆ สวยได้อย่างประหยัดแน่นอน 1. นำลิปสติกเก่าไปละลายด้วยความร้อนเพื่อให้ดูเหมือนใหม่ นำตลับลิปเก่าไปละลายด้วยความร้อน จนกระจายทั่วตลับ จากนั้นก็รอให้มันเย็นลง แล้วจะเห็นมันดูเหมือนของใหม่อีกครั้ง 2. ทำให้ที่ดัดขนตาอุ่นขึ้นด้วยไดร์เป่าผมก่อนนำไปใช้ ก่อนที่จะตัดขนตา ควรทำให้ที่ดัดขนตาอุ่นซะก่อนเพื่อขนดูงอนและยาวมากขึ้น 3. วาสลินช่วยให้รอยด่างดำดูจางลง ผลิตภัณฑ์เสริมความงามหลายชิ้นอาจจะช่วยลดจุดด่างดำได้ แต่ก็อาจเป็นอันตรายต่อผิวได้เช่นกัน… คุณสามารถเลือกวิธีที่ดีกว่านั้นได้ด้วยการใช้วาสลิน ล้างหน้าให้สะอาดแล้วใช้วาสลินทาบริเวณที่มีจุดด่างดำ จากนั้นก็ทับด้วยแผ่นพลาสติกบางๆ จากนั้นก็ปิดด้วยผ้าขนหนู ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วลอกพลาสติกออก ต่อด้วยการนำทิชชู่แห้งบีบจุดด่างดำออก 4. ใช้ทำมาสคาร่าจากวัตถุทางธรรมชาติ นำเม็ดคาร์บอนกับเจลว่านหางจระเข้ผสมให้เข้ากัน มันจะกลายเป็นมาสคาร่าชั้นดี แถมไม่อันตรายต่อดวงตาและผิวหนังของคุณด้วย 5. ใช้เทปกาวติดกรรไกรตัดเล็บ เพื่อไม่ให้เล็บกระเด็นเวลาตัด การใช้เทปกาวติดกรรไกรตัดเล็บจะทำให้เล็บที่ตัดไม่กระเด็นและง่ายต่อการเก็บไปทิ้ง 6. วิธีทำให้แปรงแต่งใช้งานได้นานขึ้น หากคุณเก็บแปรงแต่งหน้าไม่เป็นที่เป็นทางจะทำให้หัวแปรงพังได้ง่าย คุณสามารถทำให้มันอยู่ได้นานขึ้นด้วยวิธีง่ายๆ คือการนำไปติดไว้บนคลิปบอร์ด โดยใช้ยางรัดยืดเอา แถมยังง่ายต่อการหยิบใช้และจัดเก็บด้วย…
-
แม่เหมียวท้องแก่ เดินดุ่มๆ มาร้องหน้าบ้านของคนแปลกหน้า แล้วก็ได้บ้านนั้นอยู่เฉยเลย
ใครที่กำลังคิดว่าจะเลือกแมวแบบไหนมาเลี้ยง ให้คุณหยุดความคิดไว้ตรงนั้น เพราะในความเป็นจริงแล้วคุณไม่ได้เป็นฝ่ายเลือกหรอก เจ้าเหมียวต่างหากที่จะเป็นฝ่ายเลือกเจ้าของ เหมือนกับเจ้าแมวตัวนี้ที่อยู่ดีๆ ก็มายืนอยู่หน้าบ้าน พร้อมใบหน้าที่บ่งบอกว่า “เฮ้ มนุษย์ ขอมาอยู่ด้วยได้มั้ย?” หลังจากนั้นสักพักมันก็เดินเข้ามาเองโดยไม่ต้องรอให้เชิญ “ในนี้อุ่นกว่าข้างนอกเย๊อะ เนาะ” และแล้วครอบครัวนี้ก็ได้เลี้ยงเจ้าแมวตัวนี้แบบไม่ได้ตั้งตัวมาก่อน ผู้ใช้ reddit ที่ใช้ชื่อว่า fishtank88 เล่าว่า “บ้านเราไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน และเจ้าเหมียวตัวนี้ก็ทำให้เรามีประสบการณ์กับคำว่า ‘พูดไม่ออกบอกไม่ถูก’” หลังจากนั้นครอบครัวก็ได้อาบน้ำตัดขนให้ เตรียมที่นอนอุ่นๆ ให้ และเลี้ยงมันในฐานะลูกน้อยของบ้าน พร้อมทั้งทำให้มันมีความสุขที่สุด แต่ที่ผิดสังเกตคือ เจ้าเหมียวมักจะเอาแต่นอนซะเป็นส่วนใหญ่ จนมารู้ทีหลังว่ามันกำลังตั้งท้องอยู่ และได้คลอดลูกน้อยที่น่ารัก 3 ตัวในเวลาต่อมา ลูกๆ ของมันน่ารักมาก นั่นยิ่งทำให้ครอบครัวหลงรักแมวมากยิ่งขึ้น ยิ่งโตยิ่งน่ารัก แม่ของมันก็เช่นกัน และนี่คือลูกแมวในวัย 6 สัปดาห์ น่ารักน่าชังมาก ครอบครัวบอกว่าต้องขอบคุณแม่แมวในวันนั้นที่เลือกเราให้ดูแล มันคุ้มค่ามากกับสิ่งที่มันมอบให้เราในเวลาต่อมา…
-
นักดับเพลิงร่วมกันเปลื้องผ้าถ่ายปฏิทินแห่งปี 2018 ที่ดูแล้วร้อนผ่าวๆ ไปตามๆ กัน
#เหมียวบู้บี้ ยอมรับว่าการที่หนุ่มๆ ทั้งหลายมาถอดผ้าถ่ายแบบเพื่อการกุศลแบบนี้โคตรจะดี๊ดีต่อใจ!!! เป็นกิจกรรมที่น่าจะได้รับการส่งเสริมเป็นอย่างยิ่ง แฮ่กๆ โดยนักดับเพลิงชาวออสเตรเลียได้รวมตัวกันมาเพิ่มความร้อนแรงให้กับการถ่ายปฏิทินเพื่อการกุศลที่ทำเอาเหล่าสาวๆ ต้องยอมควักตังในกระเป๋าเปย์กันเลยทีเดียว ซึ่งปฏิทินการกุศลที่นักดับเพลิงทั้งหลายจัดทำขึ้นมาตั้งแต่ปี 1993 จัดทำเพื่อหารายได้การกุศล นับว่าเป็นปีที่ 24 แล้วที่พี่ๆ ทั้งหลายมามอบความสุขให้กับเราผ่านภาพถ่ายบนปฏิทิน รูปภาพที่ถ่ายนั้นก็อุดมไปด้วย กล้าม กล้าม และกล้าม แน่นไปซะทุกสัดส่วน น่าลูบไล้ อ๊ะ อย่ารอช้า เลื่อนดูกันให้หนำใจไปเลย พี่ๆ นักดับเพลิงทั้งหลายเขาเสริมความน่ารักล่อตาล่อใจด้วยบรรดาเหล่าสัตว์ป่า โดยภาพทั้งหลายเหล่านี้ถูกถ่ายในสวนสัตว์ Steve Irwin Australia Zoo บอกเลยว่านักดับเพลิงที่คัดมา 12 ชีวิตนี้ แต่ละคนนี่อย่างแซ่บ!!! และนักดับเพลิงแต่ละนายที่มาเปลื้องผ้าถ่ายแบบในครั้งนี้ เขาอุทิศร่างกายฝึกฝน ดูแลตัวเองจนได้หุ่นที่ล่ำสมใจสาวๆ แบบเรา หนูอยากเป็นหมาในอ้อมกอดของพี่จังเลยค่ะ นี่ก็ด้วย โอ้โห!!! ซึ่งปฏิทินที่ได้ถ่ายในปีล่าสุดนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถระดมเงินเพื่อการกุศลได้ถึง 76 ล้านบาท เป็นปฏิทินที่ดูร้อนแรงมากๆ ร้อนจนไฟลุกเลยทีเดียว …
-
สายเปย์ที่แท้ทรู!! หมอศัลยกรรมที่ทำทุกอย่างให้ “เมีย” ตัวเองสวยเช้งแม้วัยใกล้ 50
ผู้หญิงที่มีแฟนเป็นสายเปย์ ซื้อเครื่องสำอาง จ่ายเงินให้ทำศัลยกรรม คงจะรู้สึกโชคดีมาก แต่ก็คงไม่มีใครโชคดีไปกว่าผู้หญิงที่มีแฟนเป็นหมอศัลย์ ที่พร้อมจะทำให้เธอสวยเป๊ะตามความต้องการได้ทุกเมื่อ เหมือนกับ Phillip Craft ศัลยแพทย์วัย 47 ปี ที่เปิดคลินิกเป็นของตัวเองที่ไมอามี่ รัฐฟลอริด้า และได้ทำการศัลยกรรมเสริมความงามให้ภรรยา Anna ตั้งแต่เธอให้กำเนิดลูกชาย 2 คนทั้งสองคน ตอนนี้ Anna อายุ 43 ปี เธอบอกว่าตื่นเต้นกับร่างกายที่สมบูรณ์แบบของตัวเอง ซึ่งหมดนี้เป็นผลงานที่ทำให้สามีรู้สึกภาคภูมิใจมาก ตลอด 21 ปีที่ทั้งคู่แต่งงานกันมา Anna ได้รับการศัลยกรรมจากสามีนับครั้งไม่ถ้วนและทำแทบทุกอย่าง เช่น ดูดไขมัน ทำหน้าอก เพิ่มขนาดบั้นท้าย ผ่าตัดเปลี่ยนรูปร่าง ทั้งช่วงเองและหน้าท้อง นอกจากนี้ยังฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ที่แก้มและริมฝีปาก จริงๆ แล้วเธอค่อนข้างภูมิใจในรูปร่างตัวเองอยู่แล้ว แต่เพื่อทำให้สามีสมความปรารถนาในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเธอ Anna ได้ตัดสินใจให้เขาศัลยกรรมหลังจากที่เธอคลอดลูกชายคนที่สอง หลังจากที่ผ่านการศัลยกรรม Anna รู้สึกชื่นชอบรูปร่างใหม่ของเธอมาก เพราะมันมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าที่เธอคาดหวังไว้ในตอนแรกซะอีก ภรรยาบอกว่า “Phillip เป็นคนที่ชอบแต่งรถสปอร์ต ชอบดัดแปลงเฟอร์นิเจอร์ และที่ชอบมากที่สุดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้ฉัน ซึ่งฉันก็ยินดีให้เขาทำทุกอย่างที่ต้องการ”…
-
หนุ่มเห็นป้าย ‘แจกลูกหมาฟรี’ อยากได้เลยขอรับมาเลี้ยง โตขึ้นกลายเป็น ‘หมาป่า’ ซะงั้น…
ใครที่ชอบของฟรี ของแถม ของที่ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนล่ะก็ คุณอาจจะต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองหน่อยแล้ว เพราะไม่งั้นคุณอาจกลายเป็นผู้โชคดี (เหรอ) แบบชายคนนี้ได้ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Boredpanda ได้เผยแพร่เรื่องของชายหนุ่ม (สงวนนาม) คนหนึ่งในเมืองทูซอน รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน เขาได้ไปเห็นป้าย “แจกลูกหมาฟรี” ถูกติดไว้ไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง เมื่อได้เห็นคำว่าฟรี เขาก็ไม่รอช้ารีบเข้าไปในบ้านหลังนั้นเพื่อขอลูกหมามาเลี้ยง เขาเปิดประตูเข้าไปก็พบกับลูกหมาดวงตาสีเหลืองน่ารักตัวหนึ่ง เขาจึงรับมาเลี้ยงและตั้งชื่อให้มันว่า Neon แต่แล้วสิ่งแปลกๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น เมื่อลูกหมาที่เขาเลี้ยง ค่อยๆ ขยายร่างใหญ่ขึ้นเกินกว่าที่จะเป็นหมาธรรมดา และเขาก็เพิ่งตระหนักได้ว่า นั่นมันคือหมาป่า!! เจ้า Neon ค่อยๆ แสดงท่าทีออกมาทีละน้อยๆ เช่น การขุดดิน กระโดดข้ามรั้วบ้านออกไปอย่างง่ายดาย มันเริ่มไม่สนใจสิ่งที่เจ้านายพูดหรือมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับมนุษย์ สิ่งเดียวที่มันสนใจคือเพื่อนๆ สุนัขของมันมากกว่า นานวันความเป็นหมาป่าของมันจะยิ่งเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งความสูงใหญ่และขนที่หยาบกระด้าง มันแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการเลี้ยงดูภายในบ้านแบบหมาทั่วๆ ไปเริ่มไม่เหมาะกับมัน …
-
ชาวต่างชาติเขียนถึง 11 เรื่องน่าประหลาดใจ ที่ต้องพบเจอเมื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น
“ญี่ปุ่น” เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมอันแสนหลากหลาย แต่ในขณะเดียวกันก็มีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากๆ ดังนั้น หากใครที่จะเดินทางไปยังประเทศนี้ หรือไม่ว่าจะประเทศไหนๆ ก็ตามคุณควรจะศึกษาวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมของผู้คนในประเทศนั้นๆ ด้วย ดั่งสำนวนที่ว่า “เข้าเมืองหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” ด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวด จึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคนหนึ่งที่ได้เดินทางไปเยือนญี่ปุ่นรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ดังนั้น เขาจึงได้ออกมาบอกเล่า 11 เรื่องราวที่คุณควรรู้ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นผ่านทางโลกออนไลน์ ว่าแล้วก็มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง 1. หลีกเลี่ยงเรื่องที่เกี่ยวกับเลข 4 ทั้งหมด ในญี่ปุ่น “เลข 4” คือสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะมันมีการออกเสียงที่คล้ายกับคำว่า “ตาย” เช่นเดียวกับเลข 13 ในวัฒนธรรมตะวันตกที่เป็นเลขอัปมงคล และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นมักหลีกเลี่ยงการใช้เลข 4 ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ หากคุณได้ไปญี่ปุ่นจะสังเกตได้ว่าในบางแห่ง เช่น ลิฟต์ หรือเลขชั้นอาคาร จะไม่มีการปรากฏของเลข 4 เลย 2. ไม่ควรสั่งน้ำมูกในที่สาธารณะ ที่ประเทศญี่ปุ่นการสั่งน้ำมูกในที่สาธารณะไม่เพียงแต่เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเพียงอย่างเดียว แต่มันยังเป็นเรื่องที่น่าขยะแขยงมากอีกด้วย ดังนั้น หากมีความจำเป็นที่จะสั่งน้ำมูกเราขอแนะนำว่าควรทำให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ 3. การให้ทิปอาจถูกมองว่าเป็นการดูถูก การให้ทิปถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สุภาพ…
-
โนตมไม่ใช่เรื่องยาก.. นักคอสเพลย์ญี่ปุ่น เผยเทคนิคอัพไซส์ง่ายๆ ทำได้ไม่กี่วินาที
สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาของสาวๆ คอสเพลย์นั้น ก็น่าจะเป็นปัญหาที่เจ้าหน้าอกของเราที่มันช่างแบนราบไปกับเสื้อผ้า ที่ใครๆ เห็นก็ต้องบอกว่าเรานั้นระดับอนุบาล แต่ด้วยความที่เป็นญี่ปุ่นประเทศเจ้าความคิด จึงมีผลิตภัณฑ์ดีๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อสาวอกไข่ดาวโดยเฉพาะ ดูจากภาพโฆษณาแล้วบอกเลยว่าน่าทึ่งมาๆ เจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้มันทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ อาวุธลับชิ้นนี้ขายอยู่ที่ร้าน Don Quijote ของญี่ปุ่น ที่จะทำคัพ A ให้เป็นคัพ D ภายในพริบตา ด้วยผลลัพธ์สุดน่าทึ่งของมันนี้ทำให้มีการทวิตไปอย่างรวดเร็วถึง 80,000 ครั้ง ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้มีลักษณะเหมือนเป็นฟองน้ำรองเต้านมเหมือนที่เราเคยเห็น แต่ที่พิเศษกว่าคือมันมีความหนากว่า 1.4 นิ้ว ที่จะพาหน้าอกของคุณดันขึ้นไปสู่ด้านบนอย่างเนียนๆ สาวๆ ชาวญี่ปุ่นต่างตื่นเต้นในผลลัพธ์ของมัน “นี่มันอัศจรรย์มากเลยนะ” “ฉันจะไป Don Quijote เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์พวกนี้!” “นี่เป็นของขวัญจากพระเจ้า” ใครที่อยากได้มาไว้คู่ตัวซักอันก็ลองไปเลือกดูกันที่นี่เลยนะ mpglobal ที่มา en.rocketnews24
-
วินาทีปะทะเดือดแห่งธรรมชาติ “จากัวร์ vs จระเข้เคแมน” เมื่อนักล่าเจอกัน ผู้ชนะมีเพียงหนึ่งเดียว!!
เมื่อธรรมชาติสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาเพื่อทำให้โลก ห่วงโซ่อาหารเป็นหนึ่งกลไกที่จะทำให้สิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นนั้นอยู่ร่วมกันได้และมีความสมดุล การพึ่งพาทางธรรมชาตินั้นมีหลายแบบเช่น ภาวะการอยู่ร่วมกันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ภาวะหาผลประโยชน์หรือภาวะล่าเหยื่อ ซึ่งเมื่อพูดถึงภาวะล่าเหยื่อเราก็จะนึกถึงผู้ล่าและผู้ถูกล่า แต่ถ้าผู้ล่ากับผู้ล่ามาเจอกันล่ะจะเกิดอะไรขึ้น? การต่อสู้เกิดขึ้นเป็นระยะเวลากว่า 20 นาที ที่ริมแม่น้ำ Mato Grosso ประเทศบราซิล เจ้าเสือจากัวร์ได้มาแอบซุ่มโจมตีจระเข้เคแมนที่ริมฝั่งแม่น้ำ เป็นการเปิดศึกอย่างเป็นทางการของทั้งสอง นี่คือภาพของวินาทีการปะทะกันระหว่างเสือจากัวร์ นักล่าแห่งผืนดินและจระเข้เคแมน นักล่าแห่งผืนน้ำโดยผู้ที่สามารถจับภาพวินาทีนั้นไว้ได้คือนาย Chris Brunskill เขาได้ถ่ายภาพการต่อสู้ของนักล่าทั้งสองโดยที่ไม่ค่อยมีใครมีโอกาสได้เห็นฉากการต่อสู้แบบนี้มากนัก ยกแรกเริ่มขึ้นเมื่อเสือจากัวร์พุ่งตัวเข้าไปในน้ำเพื่องับเจ้าจระเข้ ดูท่าว่าเจ้าจระเข้จะเสียเปรียบมากกว่าเมื่อมันโดนงับเข้ากลางหลังแบบเต็มๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นถิ่นของจระเข้แต่เสือจากัวร์ก็ไม่ได้หวั่นเกรงใดๆ แล้วงับเข้าไปที่คอของคู่ต่อสู้อย่างเต็มเหนี่ยว ยกต่อมา เสือจากัวร์ได้ลากจระเข้เคแมนขึ้นมาบนริมฝั่ง ที่ดูเหมือนว่าเจ้าจระเข้นั้นจะอ่อนแรงเสียแล้ว ซึ่งผลก็คือ เสือจากัวร์ชนะน็อคไปด้วยเวลา 20 นาที ผู้ชนะได้ลากเหยื่อขึ้นไป เพื่อฉลองชัยให้กับตัวเอง ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะสามารถอยู่รอดในธรรมชาติได้ ที่มา dailymail
-
16 ภาพวาดสะท้อนสังคมปัจจุบัน ทำให้เราเข้าใจว่าโลกทุกวันนี้มันเป็นอย่างไร…
บางครั้งผลงานศิลปะก็อาจจะเป็นมากกว่าแค่ผลงานศิลปะ มันอาจจะซ่อนความหมายมากมายไว้ภายใต้ความสวยงามเหล่านั้น บางผลงานอาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเรา และในขณะที่บางผลงานอาจจะมอบแง่คิดดีๆ นี่เป็นผลงานของ Stephan Schmitz ศิลปินจากสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งผลงานภาพวาดที่สะท้อนให้เห็นสภาพของสังคมปัจจุบันได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว และนี่ก็คือผลงานบางส่วนจากศิลปินท่านนี้ที่เรานำมาฝากกัน… 1. ภาพความสำเร็จที่เราเห็นนั้น อาจจะแลกมากับความผิดพลาดมากมายในอดีต 2. ทุกๆ วันนี้ อาหารการกินของเราส่วนมาก ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับสารเคมีทั้งนั้น 3. มนุษย์ที่ได้ขึ้นหนังสือพิมพ์ ส่วนใหญ่หน้าตาแบบนี้แหละ 4. บางครั้งชีวิตคู่ก็อาจจะต้องมีเรื่องที่ผิดใจกันบ้าง แต่ถ้าทั้งสองพร้อมที่จะหันหน้าเข้าหากันและช่วยกันแก้ปัญหา ความสัมพันธ์ของคู่รักก็อาจจะกลับมาเหมือนเดิมได้ 5. อินเตอร์เน็ต อาจจะเป็นประตูอีกหนึ่งบาน ที่จะช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับคุณได้ 6. ภรรยาที่สมบูรณ์แบบคงมีแต่ในภาพวาด 7. อันที่จริงแล้วคุณอาจจะกำลังถูกขังอยู่ในโลกของความจริงก็ได้ 8. การที่จะลบตัวตนของเรานั้น บางครั้งอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก 9. ตัวตนที่แท้จริง กับภาพที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์นั้นอาจจะไม่เหมือนกันเสมอไป 10. สายใยความรักของแม่และลูก ที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ 11. เพื่อนแท้ อาจจะอยู่ใกล้ตัวคุณมากจนคุณอาจจะมองไม่เห็นก็ได้ 12.…
-
ลืม iPhone X ไปซะ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ 7 เหตุผลที่คุณควรหันไปซื้อ iPhone 7 จะดีกว่า!!
โทรศัพท์ได้กลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่หลายๆ คนจะขาดเสียมิได้เลยในปัจจุบัน และหนึ่งในโทรศัพท์รุ่นยอดนิยมที่เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากก็คงจะหนีไม่พ้น iPhone อย่างแน่นอน และเมื่อเร็วๆ นี้ทางแอปเปิลเองก็เพิ่งเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง iPhone 8 และ iPhone X ซึ่งทำเอาเงินในกระเป๋าหลายคนนั้นสั่นไปตามๆ กัน แต่สำหรับคนที่เบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างเรา และอยากจะได้โทรศัพที่มีสเปคใกล้เคียงกัน วันนี้เราก็มีข้อเปรียบเทียบดีๆ จากเว็บไซต์ Business Insider ที่อาจจะทำให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้… 1. อย่างแรกเลยก็คือ iPhone 7 Plus นั้นราคาถูกกว่า iPhone 8 Plus และ iPhone X. นี่อาจจะเป็นเหตุผลข้อสำคัญที่ทำให้คุณต้องหันมาสนใจ iPhone 7 Plus แทนที่จะไปซื้อ iPhone 8 Plus หรือ iPhone X นั่นก็คือเรื่องราคานั่นเอง และบางครั้งถ้าซื้อผ่านโปรของค่ายโทรศัพท์อาจจะถูกว่ากันมากกว่าครึ่งหนึ่งเลยนะ!! 2. iPhone 7 และ 7 Plus นั้นมีสีให้เลือกมากกว่า…
-
22 ภาพเบื้องหลังหลุดๆ น่ารักๆ จากภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง ที่เชื่อเลยว่าคุณไม่เคยเห็น
ภาพที่เราเห็นผ่านจอหนังภาพยนตร์ทั้งหลายเป็นเพียงสิ่งที่ผู้กำกับและนักแสดงทุกคนอยากให้เราเห็นเท่านั้น แต่ว่าเบื้องหลังของความสำเร็จเหล่านั้นมันจะดูเป็นอย่างไรกันนะ? วันนี้#เหมียวตะปู จึงนำภาพของเบื้องหลังการถ่ายทำจากหนังดังที่เชื่อว่าหลายคนต้องไม่เคยเห็นมาก่อน เราไปดูกันดีกว่าว่าหนังแต่ละเรื่องจะมีความลับอะไรกันบ้าง? ปีศาจจากหนังเรื่อง It ที่กำลังยืนสูบบุหรี่ท่ามกลางความหนาวเย็น นักแสดงที่มาคัดตัวสำหรับหนังเรื่อง X-Men: Days of Future Past แกนดาล์ฟที่เผลอนั่งหลับระหว่างถ่ายทำ สงสัยจะขี่ม้ามาไกล รอยยิ้มของ Black Swan ฉากโคลสอัพของหนังเรื่อง Requiem for a Dream ผู้กำกับและเหล่าฮอบบิท ฉากดังจากหนัง The Matrix ที่มองจากสายตาคนถ่ายทำ ต้องส่งอีเมลล์บอกโฟรโด้ซะหน่อยแล้ว พระนางของหนัง La La Land กำลังซ้อมเต้น ฉากอันยิ่งใหญ่ในหนังเรื่อง The Grand Budapest Hotel ฉากด็อบบี้ตายนี่จริงๆ แอบมีคนร่วมเสียใจกันเยอะแยะเลยนะ ผู้กำกับรางวัลออสการ์กับนักแสดงในหนังที่ได้รางวัล Birdman …
-
มนุษย์ช่วยแมวป่วยใกล้ตาย เจอหมาที่บ้านเข้ามาเคลียร์ “ตัวนี้แมวเรา มานี่เราจะเลี้ยงเอง!!”
จากที่เราเคยได้ยินได้เห็นกันมาว่า หมากับแมวนั้นเป็นเหมือนดั่งศัตรูที่เจอกันที่ไหนก็จะมีเรื่องกันที่นั่น โดยที่ไม่เคยมีใครทราบสาเหตุมาก่อนเลยว่าทำไมหมากับแมวไม่ค่อยถูกกันนะ? แต่เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องของหมากับแมว ที่ฉีกกฎความสัมพันธ์ระหว่างหมากับแมวได้อย่างน่ารักสุดๆ มิตรภาพดีๆ นี้เกิดขึ้นระหว่างเจ้าหมา Dottie กับเจ้าเหมียว Luci คู่ซี้ต่างสายพันธุ์ เจ้า Dottie เป็นสุนัขพันธุ์ผสมระหว่าง Australian Shepherd กับ Colie มันถูกรับมาเลี้ยงหลังจากที่ถูกปล่อยไว้ในสถานสงเคราะห์สัตว์ ซึ่งมันได้รับโอกาสให้มีเจ้านายคนใหม่ที่จะดูแลมันไปตลอดชีวิต มันอยู่กับเจ้าของใหม่อย่างมีความสุข และมอบความรัก ความซื่อสัตย์ที่มันมีให้เจ้าของใหม่ของมันอย่างเต็มหัวใจ จนกระทั่งวันหนึ่งที่เจ้าของของมันได้ไปช่วยลูกแมวตัวหนึ่งที่ตกลงมาจากต้นไม้ ซึ่งเธอก็กลัวว่าเมื่อนำเจ้าแมวตัวนี้เข้าบ้านแล้วเจ้า Dottie จะทำร้ายแมวน้อย เธอจึงเอาแมวที่เพิ่งได้รับบาดเจ็บอยู่นั้นไปซ่อนและดูแลมันอยู่เงียบๆ เป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้วตั้งชื่อน่ารักๆ ให้กับเจ้าเหมียวตัวนี้ว่า เจ้า Luci จนกระทั่งเจ้าเหมียวหายดีแล้ว เธอจึงเอาทั้งสองตัวมาทำความรู้จักกัน ซึ่งในตอนแรกเธอกลัวว่าเจ้า Luci จะโดนทำร้ายอยู่เหมือนกัน แต่ผิดคาด ทั้งสองตัวกลับเข้าขากันดีสุดๆ อย่างกับเป็นพี่น้องกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน Luci ได้ใช้พลังความน่ารักของมันเข้าไปแทรกพื้นที่ในหัวใจของเจ้า Dottie ทั้งสองสนิทกันอย่างรวดเร็ว เหมือนดังที่เห็นในภาพ เจ้า Dottie เดิมทีก็เป็นหมาที่มีจิตใจดีอยู่แล้ว…
-
พิธี Quinceañera การฉลองวันเกิดสาวชาวละตินวัย 15 ปี ที่ครอบครัวต้องเสียสละกับความฟุ่มเฟือย
บนโลกของเรามีวัฒนธรรมประเพณีแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งทำให้มีวัฒนธรรมอีกเป็นร้อยๆ แบบที่เราอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน เช่น Quinceañera หรืออีกชื่อคือ Fiesta de quince años ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของชาวละตินอเมริกัน ประเพณีดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับเด็กสาวในวันเกิดอายุครบ 15 ปีของพวกเธอ โดยในงานเธอจะได้แต่งตัวราวกับเจ้าหญิงท่ามกลางคนจำนวนมาก ได้เต้นรำกับหนุ่มๆ และมีอาหารมากมายพร้อมกับเค้กก้อนโต แต่งานที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นก็ต้องแลกมาด้วยเงินจำนวนมหาศาล ทว่าแทบทุกครอบครัวก็พยายามจัดงานนี้ให้ได้แม้จะต้องทำงานหนักเพื่อเก็บเงินนานเป็นปีก็ตาม ประเพณีที่ว่านี้มีความสำคัญต่อครอบครัวและเด็กสาวมากขนาดนั้นเลยหรือ? คำถามนี้ทำให้ช่างภาพสาวชื่อ Delphine Blast ออกเดินทางไปถึงโคลัมเบีย เพื่อหาคำตอบ นั่นจึงทำให้เธอนำเสนอผลงานที่ให้ทุกคนเห็นระหว่างการจัดงานที่ดูฟุ่มเฟือยกับครอบครัวที่มีฐานะยากจนว่าทั้งสองอย่างนั้นมันขัดแย้งกันมากเพียงใด เธอได้ถ่ายรูปเด็กสาวจำนวน 15 คนในชุดราตรีที่พวกเธอใส่กันภายในงาน เราลองไปดูเรื่องราวส่วนหนึ่งของพวกเธอเหล่านั้นกัน Laura Cristina Zarta เธอเป็นคนที่ชอบเล่นฟุตบอลมากจนได้ไปอยู่ในทีมเยาวชนทีมชาติ และเมื่อโตขึ้น เธออยากเป็นตำรวจสืบสวน พ่อของเธอขายผลไม้ซึ่งเป็นรายรับเดียวภายในบ้าน ทำให้พวกเขาต้องเก็บเงินเป็นเวลาถึง 6 เดือนเพื่อจัดงานนี้ให้กับเธอและผู้คนในงานอีก 200 คน Luna Valentina Arias Beltrán หญิงสาวผู้ฝันจะเป็นนางเอกละครคนนี้ พ่อของเธอเป็นช่างทำรองเท้า ส่วนแม่เป็นคนเก็บขยะมารีไซเคิล…
-
สาวอ้วนรีวิวโรงแรมให้คะแนนติดลบ เจอโรงแรมสวนกลับให้ไปลดน้ำหนัก กลายเป็นเรื่องใหญ่!!
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Emily Chance หญิงสาวที่ถูก Ken Evans ผู้จัดการของโรงแรม Nelcon Hotel ที่เธอได้เข้าไปใช้บริการไล่ให้ไปควบคุมอาหาร เหตุเพราะเขารู้สึกไม่พอใจอย่างแรงหลังจากที่ Emily ได้แสดงความเห็นในเชิงลบเกี่ยวกับโรงแรมแห่งนี้ว่าทั้ง “สกปรก” และ “น่ากลัว” จากการรายงานระบุว่า เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Emily ได้จ่ายเงินจำนวน 38 ปอนด์ เพื่อเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าวที่ตั้งอยู่ในเมืองแบล็กพูล แคว้นแลงคาเชอร์ ประเทศอังกฤษ กับ Michael ผู้เป็นสามีเป็นเวลา 2 คืน เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบวันแต่งงานของพวกเขา แต่ดูเหมือนว่าโรงแรมแห่งนี้จะทำให้ Emily รู้สึกผิดหวังและไม่ประทับใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เธอได้ติดสินใจเข้าไปโพสต์รีวิวเกี่ยวกับโรงแรมดังกล่าวในเว็บไซต์ท่องเที่ยว Booking.com โดยระบุใจความสำคัญว่า… “เมื่อได้เดินเข้าไปคุณจะพบกับกลิ่นที่เหม็นมาก แถมในห้องน้ำก็เต็มไปด้วยสกปรก รวมถึงผ้าขนหนูก็ยังสกปรกด้วย ฉันให้โรงแรมนี้ 3.8 จากคะแนนเต็ม 10” . อย่างไรก็ตาม…
-
เจ้าแมวหนุ่มออกจากบ้านทุกวันจนเจ้าของสงสัย สะกดรอยตามเกือบ 10 กิโล พบว่าเอ็ง… ติดสาว!!
เคยเป็นมั้ยเวลาที่คิดถึงใครสักคนจนต้องหยิบโทรศัพท์รีบโทรหาหรือไม่ก็เฟซไทม์เห็นหน้ากันซะหน่อย แต่ถ้าหากเราเป็นแมวละเราจะทำอย่างไรเวลาคิดถึงคนที่เรารัก? เมื่อเจ้าเหมียวหนุ่มตัวหนึ่งชอบวิ่งหายออกไปจากบ้านทุกวันจนเจ้าของของมันรู้สึกสงสัยว่ามันไปไหนของมันกันนะ เขาจึงตัดสินใจที่จะลองหาคำตอบของเรื่องนี้ดู แหน่ะ!! แอบวิ่งออกไปไหนน่ะ ด้วยการสะกดรอยตามเจ้าเหมียวทำให้พบว่าที่มันหายออกไปตลอดก็เพราะมันวิ่งไปหาแฟนสาวของมันที่อยู่บ้านอีกหลังหนึ่งนี่เอง สิ่งที่น่าทึ่งก็คือมันวิ่งในระยะทางถึง 8 กิโลเมตรเลยทีเดียวเรียกว่าไม่ธรรมดาสำหรับภารกิจวิ่งเพื่อเธอในครั้งนี้เลยจริงๆ ถึงขาจะล้าแต่ใบหน้าของเธอฉันต้องไปเจอให้ได้เลย สู้โว้ยยย น่าพาไปวิ่งมาราธอนจริงๆ เลยนะเจ้าเหมียว เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วผู้ที่เป็นคนเจ้าของจึงตัดสินใจปล่อยให้มันอยู่ที่บ้านหลังนั้นไปซะเลย เพราะเขาก็คงไม่อยากที่จะพรากคู่รักให้ห่างจากกันแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จะขับรถไปเยี่ยมหาหรือซื้ออาหารไปให้มันกับแฟนสาวอยู่บ่อยๆ รักกันขนาดนี้แล้วใครจะไปแยกมันทั้งสองได้ลงคอกันละ นอกจากที่เจ้าของแมวสาวตัวนั้นจะยอมให้มันได้มาเจอและเข้ามาอยู่ด้วยแล้ว สิ่งที่สำคัญก็คือเจ้าเหมียวมันมีลูกน้อยที่น่ารักอยู่ด้วยถึง 2 ตัวเรียกว่าครบความเป็นครอบครัวเรียบร้อยแล้ว เหมียวน้อยอีก 2 ตัวก็ตั้ลล๊ากกก วิดีโอของยอดเหมียวหนุ่มผู้วิ่งไกลถึง 8 กิโลเมตรเพื่อรักแท้ เห็นแล้วก็รู้สึกอมยิ้มให้กับความพยายามและรักอันหวานชื่นของเจ้าเหมียวตัวนี้จริงๆ ไม่ว่าตัวจะอยู่ไกลกันแค่ไหนแต่ใจก็ไม่เคยห่างกันเลยยย วิ่งมาไกลขนาดนี้ก็ขอพักซักหน่อยนะ.. คร่อกกก ที่มา: SBS TV동물농장x애니멀봐
-
19 ปัญหาน่าหงุดหงิดของคนตัวสูง อากาศข้างบนที่คนทั่วไป ไม่อาจจะเข้าถึงได้เลย!!
หลายๆ คนคงรู้สึกมีปัญหากับตัวเองอยู่บ้างไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตามเช่น ตัวเตี้ยเกินไป อ้วนเกินไป ผอมเกินไป ซึ่งปัญหาเหล่ามันยังพอมีวิธีแก้ได้ แต่คนที่ตัวสูงนี้สิมีรองเท้าอะไรที่ทำให้ความสูงมาลดลงบ้างได้ไหมนะ ครั้งนี้เราจึงรวบรวมปัญหาน่าหงุดหงิดของคนตัวสูงที่ใครๆ ก็อิจฉาอยากตัวสูงบ้าง แต่พวกเขาต้องเจอกับเรื่องที่มันไม่สบอารมณ์เอาซะเลยในแต่ละวัน จนเกินเป็นภาพฮาๆ ที่ทุกคนกำลังจะได้รับชมต่อไปนี้!!! 1. ชุดเดรสยาวกลายเป็นเสื้อธรรมดาไปเลย เฮ้อออ ทำไมไม่ลองก่อนซื้อล่ะเจ๊!! 2. อยากใส่เสื้อใหญ่ๆ โคร่งๆ ของแฟนบ้างอะ (กลายเป็นตัวเล็กจี๊ดเดียว) 3. ถ้าคุณใส่มินิเดรสละก็ อย่าเอื้อมไปที่สูงๆ ล่ะ หวอจะออกเอา 4. ต่อขายีนส์หน่อยไหม??? 5. ต้องสั่งตัดยีนส์เองละล่ะ จะได้พอดีกับขา 6. จะซื้อจั๊มสูทต้องเลือกดีๆ ก่อนนะ ก็มันติดเป้า 7. ไม่ต้องเอื้อมไปดูรองเท้าให้เสียแรงเหมือนพวกตัวเล็กๆ หรอกนะ 8. อย่าฆ่ากันด้วยส้นสูงเลยนะ 9. คนตัวสูงนี้ใส่กางเกงขาสั้นเอวสูงยังไม่ให้เห็นแก้มก้นของคุณห้อยอยู่นะ 10. ขนาดนั่งเครื่องบินยังไม่สะดวกสบายเท่าไหร่ ก็ขามันยาวอะ…
-
ลองเลือก 1 ใน 4 คนจากภาพนี้ “ใครโง่ที่สุด” ตัวเลือกนั้นมันบ่งบอกได้ว่าคุณเป็นคนแบบไหน!?
ชีวิตของเราจะต้องเจอกับตัวเลือกอยู่ตลอดเช่นวันนี้จะกินอะไร? ชอบสีอะไร? หรือแต่งตัวอย่างไรดี? ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันก็จะสามารถบอกได้ว่าคุณเป็นคนยังไง วันนี้เราจึงมีตัวเลือกง่ายๆ มาให้ได้ลองทำกันดูเพื่อช่วยอธิบายได้ว่า คุณจะมีลักษณะของความคิดในการแก้ปัญหาต่างๆ ไปในทิศทางใดกันแน่ เพียงแค่ให้คุณเลือกคนที่คุณรู้สึกว่า “โง่ที่สุด” เพียงหนึ่งเดียวจาก 4 คนในภาพนี้ โดยไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกสบายๆ แล้วเราไปดูกันว่าสิ่งที่คุณเลือกนั้นอธิบายออกมาได้ว่าอย่างไรบ้าง ใครโง่ที่สุดสำหรับคุณ!? เลือกคำตอบแรกในใจได้เลย… เลือกคนที่ 1 หากคุณคิดว่าคนที่นั่งรออยู่เฉยๆ ตรงปลายกิ่งไม้เป็นคนที่โง่ที่สุด แสดงว่าคุณเป็นคนที่ชอบยอมแพ้อยู่บ่อยๆ แม้ว่าจะมีความคิดเห็นส่วนตัวว่ากำลังคิดอะไรอยู่ อยู่แต่คุณก็ไม่มีกำลังมากพอที่จะเข้าไปพูดได้ คุณจึงเลือกที่จะยอมรับในสิ่งที่ได้มามากกว่า นั่นจึงทำให้คุณไม่ค่อยมีการโต้เถียงหรือออกความคิดเห็น กลายเป็นคนดูเหมือนคนจิตใจดีที่รักความสงบคนหนึ่ง เลือกคนที่ 2 คุณเป็นคนที่ดีแต่มักจะด่วนตัดสินใจไปโดยไม่ได้ใช้เวลาคิดให้ดีก่อนจนทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ และคนรอบข้างอาจมองว่าคุณเป็นคนดื้อที่ดันทุรังทำเรื่องต่างๆ มากจนเกินไป เลือกคนที่ 3 ทุกครั้งคุณพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อความเชื่อของตัวเองจนถึงวินาทีสุดท้ายและแทบจะไม่คิดยอมแพ้เลย อีกทั้งคุณอาจมีความสามารถในการเป็นนักธุรกิจที่ดี เพราะนิสัยการชอบต่อสู้และไม่ยอมแพ้ของคุณ นอกจากนี้คุณยังเป็นนักแก้ปัญหาที่ดี คุณมักจะมีแนวทางการวางแผนที่แตกต่างกันไปในแต่ละปัญหา เลือกคนที่ 4 คุณคือสุดยอดนักปฏิวัติอย่างแท้จริงที่สามารถต่อสู้กับทุกสิ่งรวมถึงตัวเองได้เพียงเพราะพิสูจน์ในจุดยืนของตน บางครั้งคุณอาจลืมคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล จนถึงกับทำร้ายตัวเองลงไปบ้าง คุณอาจจะเป็นนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ หรือคุณอาจจะเป็นแค่คนหัวดื้อที่พยายามเถียงทุกคนก็เป็นไปได้ เป็นอย่างไรกันบ้างเพื่อนๆ…
-
สุดยอดหนังผ่อนคลายที่เคยมีบนโลก ‘BAA BAA LAND’ จัดเต็ม 8 ชั่วโมง นอนดูแกะกันจนเปื่อย…
มีปัญหาเรื่องความเครียดเหรอ? หรือว่าคุณกำลังมีปัญหานอนไม่หลับ แม้จะทำยังไงก็หลับไม่ลง? นอนนับแกะไปมาเป็นล้านตัวแล้วก็ทำไม่ได้ งั้นลองเปิดดูหนังสั้นเรื่องนี้เป็นตัวช่วยคุณดูสิ (จริงๆ มันก็ไม่สั้นนะ) หนังที่ว่านี้มีชื่อเรื่องว่า ‘BAA BAA LAND‘ (ไม่ใช่ La La Land นะอย่าจำผิดกัน) โดยหนังที่ว่านี้ถูกสร้างขึ้นบนไอเดียแบบสโลว์ไลฟ์และการผ่อนคลายอารมณ์ พร้อมแนวคิดที่ว่าเวลานอนไม่หลับเราจะนับแกะ ฉะนั้นหนังเรื่องนี้ก็เลยมีแต่แกะให้ดูกัน… แบ๊ะะะะ อ่านไม่ผิดหรอก ทั้งเรื่องมีแต่แกะจริงๆ ตัวหนังนั้นจะให้เราได้เพลิดเพลินไปกับทุ่งหญ้า แกะ และเสียงธรรมชาติที่ทำให้เรารู้สึกสบาย จะดูก็ได้จะฟังก็ดีเปิดตอนนอนก็เพลินไปอีกแบบนะ ลองรับชมตัวอย่างของหนังเรื่องนี้ดู นักแสดงนำของเรื่องก็เป็นแกะจำนวนกว่าร้อยตัว เรียงกันมาไม่ซ้ำหน้า ซึ่งถ้าใครคิดว่าพวกมันมาโดยไม่สมัครใจหรือโดนทำร้ายเพื่อให้มาถ่ายละก็ คุณคิดผิดแล้ว พวกมันมาโดยสมัครใจไม่มีการทำอันตรายใดๆ ทีมงานก็แค่เขียนตัวเลขไว้ข้างตัวเพื่อจะได้นับจำนวนพวกมันถูก นอกเหนือกว่านั้นก็แค่ปล่อยพวกมันกินหญ้าเดินชิวๆ ตามแต่ต้องการเลย… BAA BAA LAND จะมีความยาวอยู่ที่ 8 ชั่วโมงในแบบฉบับเต็มๆ ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ เราก็พบว่าระยะเวลาของหนังก็เท่ากับระยะเวลาในการนอนที่แพทย์แนะนำเลย เอาเป็นว่าถ้าใครเครียดๆ อยากหาอะไรสบายๆ ก็ขอแนะนำเรื่องนี้เลยละกัน สำหรับใครที่อยากผ่อนคลายเบาๆ แบบสั้นๆ ไม่นานมากขอแนะนำแบบฉบับ 5 นาทีไปลองดูกันก่อน…
-
เพราะการกระทำ สำคัญกว่าคำพูด… นี่คือ 21 วิธีบอกรักที่มีค่ายิ่งกว่า การพูดว่า “ฉันรักคุณ” เฉยๆ
จริงหรือเปล่าที่เขาว่ากันว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด… #เหมียวหน่า คิดว่าน่าจะจริงนะ เพราะมีคู่รักหลายคู่แล้วที่เลิกรากันไปกับการดีแต่พูด งั้นจะดีไหมถ้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปชม 21 วิธีบอกรัก ที่ทั้งน่ารักและโรแมนติค มันจะทำให้รักของคุณไม่เก่าและชื่นมื่นได้ตลอดเลยละ ไปดูกันดีกว่าว่ามีวิธีใดบ้าง 1. ใช้เวลาด้วยกันทั้งวันโดยไม่แคร์โทรศัพท์ การที่คุณทั้งสองใช้เวลาด้วยกันโดยไม่สนการแจ้งเตือนของเฟสบุ๊กหรืออีเมลล์ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีสุดๆ เลยล่ะ 2. ซื้อของที่ชอบมาฝากที่บ้านเสมอ หลังจากเลิกงาน คนที่เรารักควรจะได้ทานของอร่อยๆ ที่ชอบไม่ใช่เหรอ?? 3. ทำอาหารเช้าให้กัน สละเวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อทำอาหารให้คนที่คุณรัก ก็เป็นเรื่องเล็กๆ ที่เติมความหวานให้กันได้ทุกวันนะ 4. ร้องเพลงที่คุณชอบในร้านคาราโอเกะ การยอมรับในความชอบของกันและกันและสนุกในสิ่งที่เขาเป็น มันเป็นอะไรที่มีความสุขมากๆเลยนะ 5. วางแผนดูหนังกันในตอนกลางคืน การใช้เวลาร่วมกันตอนก่อนนอน จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีสำหรับคุณทั้งสองคน 6. แอบใส่ขนมที่คนรักชอบไว้ในกระเป๋า เป็นสิ่งน่ารักๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ แฟนจะได้เซอร์ไพรส์กับของขวัญเล็กๆ ในกระเป๋า 7. ทำอาหารทานด้วยกันเสมอ การพูดคุยแลกเปลี่ยนกันตอนทำอาหารเป็นอะไรที่สนุกดีนะ 8. ซื้อเครื่องดื่มที่ชอบมาทานด้วยกัน จะมีเมามายหรือสุขสมก็ต้องทำด้วยกันสิจ๊ะ 9.…
-
อีกขั้นของวงการแพทย์!! ทีมวิจัยคิดค้นกาวรักษาแผลภายใน 1 นาทีได้สำเร็จ
ปัจจุบันการพัฒนาของเทคโนโลยีนั้นเรียกได้ว่ามีความก้าวหน้าอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในวงการไอที การก่อสร้าง และหนึ่งในนั้นก็คือวงการแพทย์นั่นเอง เมื่อไม่นานมานี้ทางทีมวิจัยที่เกิดจากความร่วมมือกันของ University of Sydney, Harvard Medical School และ Northeastern University ได้คิดค้นกาวชนิดพิเศษขึ้นมา ซึ่งเจ้ากาวที่ว่านี้สามารถทำให้บาดแผลสนิทกันได้ภายใน 1 นาที!! MeTro หรือกาวติดบาดแผลที่ถูกคิดค้นนี้จะช่วยให้แพทย์ทำงานได้ง่ายมากขึ้น จากบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Science Transational Medicine ระบุว่า กาวชนิดนี้เป็นไฮโดรเจลที่มีความยืดหยุ่นสูงและเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อของร่างกาย มันถูกปรับเปลี่ยนให้ตอบสนองได้ดีกับแสงอัลตราไวโอเล็ต เมื่อทากาวชนิดนี้ลงบนบาดแผลและฉายแสงยูวี มันจะสามารถสมานแผลได้ภายใน 60 วินาที ในการทดสอบประสิทธิภาพของมัน ทางทีมวิจัยได้นำกาว MeTro ไปใช้ในการสมานบาดแผลจากการผ่าตัดที่ปอดและหลอดเลือดของหนู ผลการทดสอบเป็นไปด้วยดี บาดแผลที่หลอดเลือดและปอดของหนูไม่มีการรั่วแต่อย่างใด สารประกอบหลักของกาวชนิดนี้ทำมาจากโปรตีน ซึ่งมีส่วนประกอบคล้ายกับโปรตีนในเซลล์ผิวของมนุษย์ และนอกจากนี้เอนไซม์ ที่สามารถปรับตัวได้เพื่อยืดระยะเวลาในการสมานแผลให้เหมาะสมกับแผลแต่ละแบบอีกด้วย “กาว MeTro นั้นดูคล้ายกับของเหลว มันจะเข้าไปเชื่อมในรอยบาดแผล มันมีการตอบสนองที่ดี และตัวของมันเองก็คล้ายกับเซลล์เนื้อเยื่อของมนุษย์และช่วยให้เกิดการฟื้นตัวที่ดีขึ้น ตัวเจลนั้นมีการเก็บรักษาที่ง่ายและสามารถฉีดไปที่บาดแผลโดยตรงได้เลย” คุณ Anthony Weiss หนึ่งในทีมวิจัยกล่าว ตอนนี้ทางทีมวิจัยได้วางแผนจะทดสอบกาว MeTro ในระยะยาวต่อไป ก่อนที่จะนำไปทดลองทางคลินิกกับมนุษย์ ทางด้านคุณ Annabi หนึ่งในทีมวิจัยได้กล่าวถึงการคาดการณ์ของเธอว่า ภายใน 3-5 ปีนี้…
-
ส่องไลฟ์สไตล์ของ Chryseis Tan ทายาทมหาเศรษฐีและเป็น CEO ห้างมาเลเซีย ด้วยวัย 28 ปี
จะมีสาวเก่งซักกี่คนที่มีหน้าที่การงานที่ดีและหน้าตาที่สวยพร้อม อย่างสาวคนนี้ที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปส่องไลฟ์สไตล์สุดไฮไซของเธอกัน เธอจะเป็นใคร รวยระดับใด หรือสวยขนาดไหนไปแอบคุ้ยกันเลยดีกว่า!! Chryseis Tan สาวหน้าตาดี ที่มีคำคมประจำใจที่โพสไว้ในอินสตาแกรมว่า “ฉันจะท่องเที่ยวไปทั่วโลก” เธอคนนี้ไม่ใช่ใครแต่เป็นทายาทของเศรษฐีชาวมาเลเซียนั่นเอง พ่อของเธอก็คือ Vincent Tan ที่ได้การขนานนามว่าเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดอันดับที่ 20 ของมาเลเชีย เธอเดินทางโดยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวพร้อมอาหารหรูหรา ที่น้อยคนนักจะได้สัมผัส . อินสตาแกรมของเธอมีคนติดตามกว่า 2 แสนคน โดยเธอนั้นโพสต์เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์เก๋ๆ และการแต่งตัวสุดชิค เรื่องแฟชั่นเธอก็ไม่ยอมใครเหมือนกันนะ Tan เป็นนักลงทุนด้วยวัยเพียง 28 ปี เท่านั้น และยังเป็น CEO ของ Berjaya Times Square ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำของมาเลเซีย เรียกได้ว่าเป็นสาวเก่งอีกคนหนึ่งเลยล่ะ . ในเดือนมิถุนายนเธอได้หมั้นกับ Faliq Nasimuddin ลูกชายของมหาเศรษฐีอีกคนหนึ่งของมาเลเซีย เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก . เธอยังเป็นนักลงทุนของ Goxip ที่เป็นแอบพลิเคชั่น เกี่ยวกับแฟชั่นอีกด้วย…
-
โอ๊ยอิตาบ้า ชมจังหวะ Kit Harington แกล้งแฟนสาว Rose Leslie เผยความเกรียนแบบเต็มๆ
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคู่รักของวงการบันเทิงต่างประเทศ ที่เหล่าแฟนคลับหลายๆ คนดูจะอิจฉาความน่ารักของทั้งคู่ซะเหลือเกิน (โดยเฉพาะคุณผู้หญิง) นอกจากความหวานแหวนในจอที่เราได้เห็นในซีรีส์ดังอย่าง Game Of Throne แล้ว ทั้ง Kit Harington และแฟนสาวอย่าง Rose Leslie ก็มีโมเม้นต์หวานๆ นอกอให้แฟนคลับได้อิจฉากันอยู่บ่อยๆ และเมื่อไม่นานมานี้ระหว่างที่ออกรายการ The Jonathan Ross Show พระเอกหนุ่มของเราได้เล่าถึงคลิปวิดีโอแกล้งแฟนสาวสุดฮาของเขาในวัน April Fools’ Day ที่ผ่านมา ซึ่งเขาบอกว่า… “สำหรับครอบครัวผมการแกล้งกันในวัน April Fools’Day นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับ Rose นั้นไม่ใช่” การแกล้งแฟนสาวของเขานั้น พ่อหนุ่ม Kit ของเราได้เอาอะไรบางอย่างไปซ่อนไว้ในตู้เย็น และเมื่อคู่หมั้นของเขาเปิดประตูตู้เย็นออกมาในตอนเช้า… และนี่คืออาการของเธอ…. อุ๊ต๊ะ!!! เธอรีบวิ่งออกจากตู้เย็นอย่างรวดเร็ว แถมยังเกิดอาการกลัวเอามากๆ อีกด้วย อื้ม… อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่าหนุ่ม Kit ของเราเอาอะไรซ่อนไว้ในตู้เย็น?? แอ่นแอ๊น!!… และนี่ก็คือสิ่งที่ Kit ซ่อนเอาไว้ในตู้เย็น เพื่อแกล้งแฟนสาวของเขาในวัน April Fools’ Day…
-
เน็ตไอดอลสาวแคนาดาสุดแซ่บ เปิดตัวแฟนเป็น ‘หนุ่มเอเชีย’ เจอกระแสชาวเน็ตวิจารณ์เพียบ!?
ความรักของคนสองคนแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ดีและเป็นสิ่งสวยงาม แต่ในบางครั้งผู้คนโดยรอบอาจไม่ได้คิดเช่นนั้น จนถึงกับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเลยก็มี นี่เป็นเรื่องราวของสาวแคนาดาสุดฮอต Lisa Vannatta เธอเป็นเน็ตไอดอลผู้โด่งดังจากการสตรีมวิดีโอเกมบวกกับความแซ่บของหุ่นอันเซ็กซี่ที่ทำให้มีผู้ติดตามอินสตาแกรมเธอมากกว่า 400,000 คน แน่นอนว่าเธอจะต้องเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ หลายคน แต่เมื่อไม่นานมานี้เธอก็ได้โพสต์คลิปตอนที่เธอไปงาน Anime Expo ที่แคลิฟอร์เนีย จนทำให้ทุกคนได้เห็นกันว่าเธอมีแฟนหนุ่มที่รักกันมากอยู่แล้ว!! แต่สิ่งที่กลายเป็นกระแสจนทำให้ชาวเน็ตต้องออกมาแสดงความไม่พอใจก็เพราะว่า Jay แฟนหนุ่มของเธอเป็นคนเอเชีย จากนั้นมาเธอและหนุ่มเกาหลีคนนี้จึงต้องเจอกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรง เช่นเรื่องความแตกต่างของรูปร่างและเชื้อชาติ “ทำไมเธอถึงออกเดทกับหนุ่มเอเชียที่สูงแค่ 172 เซนติเมตรเองละ? ฉันคงรู้สึกแย่ถ้าพวกเขามีลูกพันธุ์ผสมออกมา” “ผิวเหลืองเป็นที่นิยมขนาดทำให้เธอไปเดทกับชาวเอเชียเลยหรอ?” . หรือแม้แต่การแสดงความคิดเห็นที่บอกว่าเธอคบกับเขาเพียงเพราะเรื่องเงิน “ไม่น่าเชื่อเลยว่าหนุ่มเอเชียหน้าตาขี้เหร่จะไปเป็นแฟนกับสาวผิวขาวสุดเซ็กซี่คนนี้ได้ ทั้งคู่ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยนะเพราะฉะนั้นเขาต้องรวยมากแน่นอน” อีกความคิดเห็นหนึ่งก็บอกว่าชายผิวขาวจะคบสาวเอเชียก็ไม่แปลก แต่หนุ่มเอเชียจะคบกับสาวผิวขาวน่ะมันไม่ได้ “ตรรกะความเป็นจริงบนโลกคือชายผิวขาวสามารถคบสาวเอเชียได้ แต่หนุ่มเอเชียจะมาคบกับสาวผิวขาวมันเป็นไปไม่ได้” . จากความคิดเห็นส่วนใหญ่บอกได้เลยว่า การเหยียดเชื้อชาติและสีผิวยังคงมีอยู่เสมอไม่ว่าโลกจะหมุนไปไกลแค่ไหน แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นอย่างนั้น คนที่เห็นด้วยกับทั้งสองอยู่ก็มี “ทั้งสองเป็นคู่รักที่น่ารักมากขอให้รักกันให้นานๆ นะ คนที่เกลียดชังคุณเขาจะพยายามดึงคุณลงมาเพียงเพราะว่าเขาอิจฉา เพราะฉะนั้นก็อย่าไปสนใจพวกเขาเลย” คลิปวิดีโอไปงาน Anime Expo และเปิดตัวแฟนหนุ่มของเธอ . การจะแสดงความคิดเห็นกับเรื่องอะไรต้องทำลงไปอย่างมีสติและเหตุผลจะใช้แต่อารมณ์อย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ…
-
นักวิทย์ทำการทดลองให้ปลาไหลไฟฟ้าช็อต เพื่อดูว่ามันโจมตีเหยื่อบนบกได้หรือไม่ และรุนแรงแค่ไหน!?
ในโลกของเรามีสัตว์อยู่เป็นร้อยเป็นพันชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีวิธีการหาอาหารที่แตกต่างกันออกไป แต่มีสัตว์อยู่ชนิดหนึ่งที่มีความพิเศษ ซึ่งรับรองได้ว่าได้เลยว่าไม่เหมือนใครแน่นอน นั่นก็คือปลาไหลไฟฟ้า!! โดยปกติแล้วเมื่อปลาไหลไฟฟ้าอยู่ตามธรรมชาติจะมีวิธีการล่าเหยื่อคือ ปล่อยไฟฟ้าไปยังเหยื่อ เพื่อช็อตให้เหยื่อตาย แต่หากมันอยู่บนบกล่ะมันจะสามารถใช้ไฟฟ้าช็อตได้ไหมนะ ? นี่คือ Dr.Kenneth Catania ผู้ที่จะมาทำการทดลองในครั้งนี้ และด้วยความอยากรู้ในคำตอบนี้ทำให้ Dr.Kenneth Catania นักชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัย Vanderbilt ประเทศ สหรัฐอเมริกา ได้ทำการทดลองกับตัวของเขาเอง โดยการลองให้ปลาไหลไฟฟ้า กระโจนออกมานอกน้ำเพื่อดูว่ามันจะสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าได้หรือไม่? ไหนลองขึ้นมาดูตัวซิ ปรากฎว่า มันสามารถที่จะปล่อยกระแสไฟฟ้านอกเหนือจากในน้ำได้ด้วยนี่สิ ทีนี้ก็ทดลองต่อว่า เมื่อมันสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าบนบกได้ จะมีความรุนแรงขนาดไหนกันเชียว ทำตัวแนบชิดติดกันปุ๊บ ไฟฟ้าก็มาปั๊บเลย!! . ขอสัมผัสได้ไหมจ๊ะ ซึ่งเขาได้นำตัวเองไปเป็นเหยื่อทดลอง โดยการนำแขนข้างหนึ่งลงไปในน้ำพร้อมกับโลหะที่เชื่อมไว้กับแอมมิเตอร์ เพื่อใช้หาปริมาณไฟฟ้าที่ปลาไหลนั้นปล่อยออกมา แผนการทดลองของศาสตราจารย์ท่านนี้ ผลออกมาก็คือมีกระแสไฟฟ้าผ่านจากแขนลงไปที่โลหะ เข้าไปที่เครื่องแอมมิเตอร์และกลับลงไปที่น้ำ ซึ่งเครื่องแอมมิเตอร์อ่านค่าปริมาณไฟฟ้าได้ถึง 40 มิลลิแอมป์ ซึ่งปริมาณดังกล่าวมากพอที่จะทำให้ม้าหรือแม้กระทั่งคนสะดุ้งได้เลยล่ะ ภายหลังผู้ทดลองคนนี้ก็ออกมาบอกว่า มันเจ็บราวกับเดินชนเสาไฟฟ้าเลยทีเดียว มาลองชมการทดลองนี้กันเล้ย…
-
ให้ตายเถอะ… 18 ภาพวาดคู่รักในช่วงเวลาโรแมนติก ที่จะฆ่าคนโสดให้ตายอย่างช้าๆ
เป็นคนโสดไม่มีคนจีบมันก็เศร้าพออยู่แล้ว ยังต้องมาเห็นรูปคนมีแฟนเค้าสวีทกันอีก คิดดูหัวใจมันจะหงอยเหงาและห่อเหี่ยวแค่ไหน ตอกย้ำด้วยภาพวาดของ Zipcy หรือชื่อจริง Yang Se Eun ศิลปินเกาหลีวัย 29 ปี จากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่วาดการ์ตูนคู่รักได้บาดใจคนโสดมาก กอดกันในวันที่มีเรื่องไม่สบายใจ นี่คือชุดภาพที่มีชื่อว่า Touch เป็นภาพวาดที่แสดงให้เห็นความโรแมนติกของคู่รักในช่วงแรกๆ ที่คบกัน พวกเขาแทบจะไม่ได้อยู่ห่างกัน แต่จะอยู่ใกล้ชิดกันในทุกช่วงเวลา มันช่างเป็นภาพชวนให้คนโสดอยากมีแฟนซะเหลือเกิน แต่ตอนนี้เลื่อนดูให้สะเทือนอารมณ์กันก่อน มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเมื่อไหร่ค่อยจัดเต็มเนาะ ตอนนี้ก็รู้สึกอิจฉากันไปก่อน ฮร่าาาา นอนฟังเสียงลมหายใจของกันและกันในวันที่ฝนตก อยากกอดกันไว้ตลอดเวลา ชอบที่จะสัมผัสผิวของกันและกัน ใช้ริมฝีปากสัมผัสหูของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา อื้มมม ความรู้สึกที่คนโสดอาจไม่เข้าใจ ชอบจ้องมองอีกฝ่ายตลอดเวลา ฝ่ายหญิงจะเคลิ้มทุกทีเมื่อนิ้วของเขาสัมผัสกับผมของเธอ ไม่ใช่แค่การสัมผัสทางร่างกาย แต่จิตใจของคุณจะได้รับการเข้าถึงโดยอีกฝ่ายจนคุณอยากปล่อยความรู้สึกให้ลอยไปกับเขา มันเป็นครั้งแรกที่คุณจะสัมผัสถึงความรู้สึกล่องลอย คุณจะชอบการสัมผัสที่นุ่มนวลของอีกฝ่าย คุณจะจำกลิ่นของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี มันเป็นเวลาที่คุณจะปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามความรู้สึก เมื่อได้จับมือจะไม่อยากปล่อย และการจับมือ…
-
“10 อาการของคนโกหก” ที่สังเกตได้อย่างง่ายดาย ไว้รับมือกับความตอแหลของใครหลายๆ คน!!
เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนต้องเคยเจอสถานการณ์ของการจับผิดคนโกหก ที่ไม่ว่าคนนั้นจะมาไม้ไหนเราก็ต้องเตรียมตัวรับมือให้พร้อม และนี่คือ 10 สิ่งที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่า “คนโกหก” มักจะเป็นกัน มันเหมือนกับสัญชาติญาณเฉพาะหน้า ที่บอกเลยว่าไม่เนียนนะแกรรร!!!! 10. ตอบคลุมเคลือ การให้คำตอบที่คลุมเครือมาก อาจเป็นสัญญาณของการโกหก มักเบนคำตอบไปหาสิ่งอื่น ทั้งๆ ที่คำตอบมีแค่คำว่า “ใช่” หรือ “ไม่” เท่านั้น 9. หัวเราะกลบเกลือน การหัวเราะกลบเกลือนั้นเป็นสิ่งที่แสดงถึงการโกหกได้เป็นอย่างดี เพราะตามหลักจิตวทยาของมนุษย์แล้ว การหัวเราะนั้นจะทำให้บทสนทนาที่เป็นคำถามเคร่งเครียดนั้นดูเบาลงได้ 8. ความซื่อสัตย์เกินจริง อีกหนึ่งในสัญญาณของการโกหก คือการพูดโอเวอร์เกินจริง เช่นเขาจะสัญญาและสาบานกับคุณว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ 7. พูดแบบเห็นอกเห็นใจ อย่าหลงเชื่อในคำพูดที่ดูเป็นห่วงเป็นใยคุณเอาง่ายๆ เพราะไม่แน่ว่าเขาอาจจะกำลังหลอกคุณอยู่ก็เป็นไปได้ 6. ตอกกลับด้วยคำถามอีกที นอกจากที่เขาจะไม่ตอบคำถามแล้ว พวกเขายังตอกกลับด้วยคำถามที่ทำให้เรารู้สึกผิด บอกเลยว่าแบบนี้มันมีแนวโน้มของการโกหกกันชัดๆ 5. สตั้น 3 วิ เมื่อคุณยิงคำถามไปแล้วเขามีอาการสตั้นหรืออ้ำๆ อึ้งๆ ไปประมาณ 3 วินาที เป็นสัญญาณที่ีชัดเจนว่าเขานั้นมีแนวโน้มที่จะตอบด้วยการโกหกแน่ๆ…
-
หนุ่มขอร้องชาวเน็ต ช่วยตัดต่อให้หมามาอยู่ในอ้อมแขน งานนี้บอกเลยเกินคาดคิด!!
การตัดต่อแก้ไขรูปภาพในปัจจุบันสามารถทำกันได้โดยทั่วไปผ่านโปรแกรมอย่าง Photoshop หรือ Photoscape แต่เมื่อมีคนต้องการตัดต่อรูปภาพแต่ดันทำไม่เป็น จึงต้องไปขอแรงจากชาวเน็ตให้ช่วยงานนี้จึงความฮาจึงบังเกิดขึ้นล่ะ… หนุ่ม Youtuber รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Mark Fischbach ผู้โด่งดังในโลกอินเทอร์เน็ตที่ที่มผู้ติดตามมากกว่า 18 ล้านคนจากการแคสเกมต่างๆ ได้ขอแรงจากชาวเน็ตให้ช่วยตัดต่อรูปของเขากับสุนัขของเขาที่ชื่อว่า Chica ให้ดูเหมือนแช็คกี้กับสกูบี้-ดู ในการ์ตูนเรื่อง สกูบี้-ดู “ขอแรงใครซักคนช่วยตัดต่อเจ้า Chica ให้มาอยู่ในอ้อมแขนของผมเหมือนในภาพได้ไหม” Mark ได้กล่าวไว้ใน Twitter ของเขา ซึ่งบอกได้เลยว่าชาวเน็ตได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ แต่ผลจะเป็นอย่างไรอยากรู้ต้องตามไปดู ตัดขาซะก็หมดเรื่อง ไปยืมไฟฉายย่อส่วนของโดเรม่อนมาเหรอ สงสัยเป็นลูกครึ่งแน่เลย จับซ้อนกันงี้ก็ได้หรอ นี่หมาหรือเปรตเนี่ย อ่ะ อยู่ในอ้อมแขนละ แต่ไม่มีตัวนะ ฮ่าา คนเลี้ยงหมาหรือหมาเลี้ยงคนเนี่ย..?? สงสัยไปเรียนวิชาจากแม่นาคมา ไม่เห็นยาก ก็ยกขึ้นไปเลยสิง่ายดี หมาเป็นงี้ ก็กลัวเด้อ นี่มันยักษ์ชัดๆ…
-
คุณพ่อสายเมาพาเพื่อนมาขุดดินหลังบ้าน เมียรู้สึกไม่ปลื้มก็เลยจัดสระว่ายน้ำให้แทนเลย
ในบางครั้งเวลาที่เราเมาด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์อาจทำให้เราได้ทำอะไรแปลกๆ ลงไปโดยไม่รู้ตัว จนบางครั้งมันอาจเป็นเรื่องที่ทำให้คนรอบข้างไม่ปลื้มซักเท่าไหร่เช่นเดียวกับเขาคนนี้ เมื่อชายวัย 59 ปีที่ชื่อว่า Andrew Ellery ได้ชวนเพื่อนมาดื่มกันที่บ้านในปี 2015 พวกเขาดื่มกันจนเมาได้ที่และตัดสินใจยกโขยงกันไปขุดดินตรงสวนหลังบ้าน เพียงเพื่อความสนุกเท่านั้นเอง เช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็ต้องตื่นมารับชะตากรรมของตัวเองจาก Stella ภรรยาที่ไม่ปลื้มกับหลุมที่เขาขุดทิ้งไว้ซักเท่าไหร่ แต่แทนที่เขาจะกลบหลุมให้เหมือนเดิม ไอเดียสุดเจ๋งก็เกิดขึ้นมาในหัวและเลือกที่จะสร้างเป็นสระว่ายน้ำไปซะเลย ทำอะไรเอาไว้ตื่นมาก็ต้องรับผิดชอบ นักดื่มตัวจริงทำสระว่ายน้ำไป จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ไป ชื่นใจนะ!! ในสัปดาห์ต่อเขาก็เปลี่ยนเจ้าหลุมขนาดใหญ่ให้กลายเป็นสระว่ายน้ำด้วยเงินราว 13,000 บาท นอกจากนั้นเขายังนำเงินจำนวน 26,000 บาทไปซื้อท่อนไม้ เครื่องทำความร้อน และอ่างน้ำเพื่อมาสร้างเป็นห้องซาวน่าราคาประหยัดเอาไว้หลังสนามหญ้าอีกด้วย กลายเป็นสระว่ายน้ำด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง สร้างความสุขให้กับทุกคนในครอบครัว สิ่งประดิษฐ์ที่เขาสร้างขึ้นมาเองเหล่านี้ทำให้บ้านของเขาในเมือง Cardiff ประเทศเวลส์ กลายเป็นที่รู้จักของผู้คนโดยรอบ ชวนให้เพื่อนบ้านหรือคนรู้จักอยากเข้ามาดูผลงานของเขากัน บ้านหลังไม่ได้ใหญ่มากแต่จุดเด่นคือมีสระว่ายน้ำอยู่ในสวนหลังบ้านนี่แหละ เขายังบอกอีกว่าเขาได้ลงไปเล่นน้ำในสระบ่อยมากเพราะการที่ต้องออกไปทำงานมาทั้งวัน เขาก็จะรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งเวลาที่กลับมาบ้านแล้วเข้าไปในห้องซาวน่า หลังจากนั้นก็ลงไปในสระว่ายน้ำเพื่อให้ร่างกายเย็นลง เขาเสริมอีกว่า “และไม่ได้มีเพียงแค่ผมที่ชอบสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ หลานๆ ของผมเองก็ชอบที่จะลงไปเล่นด้วยเหมือนกันและหลานผมคนหนึ่งก็เรียนว่ายน้ำจากสระหลังบ้านแห่งนี้อีกด้วย” ห้องซาวน่าขนาดย่อมเยา …
-
17 ภาพพฤติกรรมที่จะยืนยันได้ว่าคนคนนั้นคือ ‘เพื่อนแท้’ ของคุณอย่างแน่นอน
เชื่อว่าแทบทุกคนบนโลกจะต้องมีเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างเราอย่างแน่นอนอาจต่างกันที่จำนวนว่ามีมากหรือน้อย แต่ที่สำคัญก็คือพวกเขาเหล่านั้นรักและคอยช่วยเหลืออยู่เคียงข้างคุณหรือเปล่า แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีวิธีการที่แตกต่างกันไปแต่คำว่า “เพื่อนแท้” คือเพื่อนที่จะไม่ทิ้งกันและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้คนรอบข้างของเขาได้มีความสุขแม้จะต้องเสียสละบางสิ่งบางอย่างไปบ้างก็ตาม เราลองไปดูกันดีกว่าว่าคนเหล่านั้นเขาได้ลงทุนลงแรงเพื่อเพื่อนของเขามากขนาดไหน ความพยายามทุกอย่างเพื่อความสำเร็จของเธอ แม้อาจต้องกลายเป็นหนุมานคลุกฝุ่น แต่เพื่อเพื่อนเราทำได้ อุ่นใจทุกครั้งที่ต้องเจอกับความท้าทาย ไม่ว่าจะต้องเสี่ยงแค่ไหนนั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพื่อนที่คอยเติมเต็มในทุกสิ่งของชีวิต ถ้านายเป็นเด็กเราก็จะยอมเป็นเป็ดที่เกาะติดอยู่กับนาย การใช้เวลาทำบางสิ่งบางอย่างร่วมกัน ก็สามารถสร้างความสุขให้กับทุกคนได้ เวลาที่มีปาร์ตี้หนักๆ ก็อาจไปตะโกนให้ชาวบ้านได้รับรู้บ้างว่า “มึงเนี่ยแหละคือเพื่อนแท้ของกูคนเดียวเลยจริงๆ “ แต่ถ้าเมาก็กลับไปนอนก่อนก็ได้.. เพื่อนที่จะมีคุณอยู่เคียงข้างไม่ว่าเวลาไหน การแบ่งปันคือสิ่งสำคัญเมื่อเพื่อนต้องลำบาก หากคุณคิดว่าการเข้าฟิตเนสมันเป็นเรื่องที่น่าอาย เพื่อนจะช่วยทำให้คุณคลายความรู้สึกนั้นลงได้เอง เพราะเขาคือเจได!! เอาจริงๆ นี่น่าจะรู้สึกเขินมากกว่าเดิมอีกนะ ไม่ว่าจะสูงงง แค่ไหนก็ไปถึงงง การต้องเสียสละกางเกงขายาวเพื่อให้เพื่อนสาวได้เข้าห้องเรียน ก็ไม่ได้รู้สึกลำบากอะไร (แม้ต้องรออยู่ในห้องน้ำไปนานถึง 50 นาทีอ่ะนะ) บางครั้งชีวิตก็อาจต้องแขวนอยู่บนบานประตูบ้าง โอเคๆ ท่าได้ละ แต่ช่วยยิ้มหน่อยสิ มิตรภาพจะมีที่ว่างสำหรับคุณอยู่เสมอ…
-
ประมวลภาพการเยือนรัสเซียของกษัตริย์ซาอุฯ พร้อมผู้ติดตามกว่า 1,000 และของใช้อีกเพียบ!!
หนังสือเดินทาง โน๊ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถือ อาจจะเป็นหนึ่งในสัมภาระที่คุณนำติดตัวไปด้วยเวลาที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ของพวกนี้อาจจะธรรมดาไปเมื่อเทียบกับสิ่งที่กษัตริย์แห่งซาอุดิอาระเบียนำติดตัวมาด้วยในระหว่างที่ไปเยือนประเทศรัสเซีย เพราะนอกจากผู้ติดตามกว่า 1,500 คนแล้ว ยังมีเฟอร์นิเจอร์ พรม อาหารเกือบ 1,000 กิโลกรัม และบันไดเลื่อนที่ทำจากทองคำอีกด้วย!! การมาเยือนกรุงมอสโค ประเทศรัสเซียของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดิอาระเบีย เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานั้นถือเป็นการเยือนประเทศรัสเซียครั้งแรกของราชวงศ์ซาอุ ผู้คนที่จองห้องพักไว้ที่โรงแรม Ritz Carlton และ Four Seasons ถูกยกเลิกการจองทั้งหมด นอกจากนี้ผู้ที่พักอยู่เป็นประจำยังถูกย้ายออกจากโรงแรม เพื่อเตรียมจัดเป็นสถานที่ต้อนรับกษัตริย์ซาอุและคณะผู้ติดตามในระหว่างการปฏิบัติราชกรณียกิจจนถึงวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นประมาณ 3 ร้อยล้านบาท จากการรายงานของ Telegraph คณะผู้ติดตามทั้งหมดประกอบไปด้วยองค์รัชทายาท 25 คนที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆ พร้อมกับเชฟอีก 125 คน นอกจากนี้ยังมีผู้ติดตามส่วนตัว และหน่วยรักษาความปลอดภัยอีกจำนวนมาก รถเบนซ์ S600 ยานพาหนะสำหรับการเดินทางเยือนกรุงมอสโค ของกษัตริย์ซาอุครั้งนี้ การบริการต่างๆ ในโรงแรมยังถูกแทนที่ด้วยคนของกษัตริย์ และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ กับพรมที่นำมาด้วย ก็ถูกใช้ตกแต่งภายในโรงแรมตามพระราชประสงค์ของกษัตริย์ นอกจากนี้เครื่องบินยังต้องเดินทางไปมาระหว่างกรุงรียาด เมืองหลวงของประเทศซอุดิอาระเบีย ทุกๆ วันเพื่อขนอาหารอย่างเช่นผลไม้ และอาหารฮาลาลจำนวนมากเพื่อใช้ในการประกอบอาหารให้ถูกต้องตามหลักของศาสนา…
-
20 ภาพที่จะมาบอกให้รู้ว่าควรวาง “สมุดวาดภาพระบายสี” ของเด็กไว้ให้ห่างจากมือผู้ใหญ่
“สมุดวาดภาพระบายสี” เป็นกิจกรรมเสริมสร้างการเรียนรู้ที่ถูกออกแบบขึ้นมาสำหรับเด็ก แต่ในบางครั้งมันก็สามารถกลายเป็นกิจกรรมยามว่างของผู้ใหญ่ที่มีหัวใจรักศิลปะได้เหมือนกัน และคุณลองคิดดูสิว่าหากพวกเขาได้ลองมาระบายสีลงบนสมุดวาดภาพระบายสีของเด็กๆ ผลงานที่ได้จะออกมาเป็นอย่างไร? คงยังจินตนาการกันไม่ออกใช่หรือไม่? ถ้าอย่างนั้นก็เลื่อนลงไปชมภาพด้านล่างได้เลย ภาพเหล่านี้ได้แสดงให้เราเห็นว่า ไม่ควรวางสมุดวาดภาพระบายสีของเด็กไว้ใกล้ผู้ใหญ่ เพราะไม่อย่างนั้นสิ่งที่ได้ก็จะกลายเป็นอย่างที่เห็น จากอะไรที่มันดูแบ๊วๆ น่ารักๆ ก็เปลี่ยนเป็นความโหดเข้ามาแทนที่ มันก็จะดูสยองและสวยงามในเวลาเดียวกัน บางครั้งก็จินตนาการสูงกันซะเหลือเกิน สวยเลยงานนี้ พอได้แต่งเติมสีสันลงไปหน่อย ก็สามารถสร้างเรื่องราวใหม่ๆ ได้แล้ว แต่ส่วนใหญ่ผลงานที่ได้มันก็จะออกแนวโหดดิบไปนะ และเจ้าคือรายถัดไป จินตนาการล้ำเลิศมากกก บางครั้งก็อาจจะติดเรทหน่อยๆ จิบเบียร์สักกระป๋องแล้วขอลงมือละเลงเลยก็แล้วกัน จากภาพธรรมดาๆ ถูกแต่งเติมสีสันให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ไม่นะ!! อย่าทำลูกนก แกจะจุดไฟเผาพี่น้องหรือยังไงกัน โอ้ววว ใจร้ายมาก ทำไมเบลล์เวอร์ชั่นนี้มันดูโหดๆ จัง แหม!!…
-
บริษัท Lotte คิดค้น “หมากฝรั่งช่วยเพิ่มความจำ” นี่แหละคือสวรรค์ของคนขี้ลืมที่แท้ทรู
การเคี้ยวหมากฝรั่งนอกจากจะช่วยทำให้เราได้รับความเพลิดเพลินไปกับการเคี้ยวแล้ว มันยังมีประโยชน์อีกมากมายในแบบที่เราคาดไม่ถึง เช่น ช่วยลดความเครียด ป้องกันฟันผุ รวมถึงช่วยให้เรามีสมาธิมากยิ่งขึ้น แต่จะดีแค่ไหนกันถ้าหากมีหมากฝรั่งที่สามารถช่วยเสริมสร้างความจำให้กับคนที่ขี้ลืม? งานนี้มันจะต้องเป็นอะไรที่เจ๋งมากแน่ๆ เพราะจะได้ทั้งเคี้ยวเพลิน แถมยังได้บำรุงสมองไปในตัวอีกด้วย เมื่อไม่นานมานี้ทางบริษัทผลิตขนมชื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง “ลอตเต้” ได้ทำการคิดค้นผลิตภัณฑ์หมากฝรั่งที่จะช่วยพัฒนาเรื่องความจำขึ้นมาแล้ว โดยหมากฝรั่งดังกล่าวมาพร้อมกับชื่อที่แสนยาวว่า Ha ni Tsukinikui Gum — Kioku Ryoku o Ijisuru Type หรือ หมากฝรั่งไม่ติดฟัน ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องความจำของคุณให้ดียิ่งขึ้น แน่นอนว่าเมื่อได้ลองเคี้ยวมันเป็นครั้งแรกคุณจะไม่มีวันลืมรสชาติของมันอย่างแน่นอน เพราะเจ้าหมากฝรั่งสุดพิเศษนี้มาในรสเปบเปอร์มิ้น และมีส่วนผสมของใบแปะก๊วยที่เราทราบกันดีว่ามีคุณสมบัติในการบำรุงสมองและช่วยเรื่องความจำนั่นเอง นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้ผลิตออกมาจำหน่ายถึง 2 แบบ โดยแบบแท่งจะมีจำนวน 9 ชิ้นต่อแพ็ค และแบบเม็ดที่มีรสชาติขมกว่าเล็กน้อยจะมีจำนวน 12 ชิ้นต่อแพ็ค แต่น่าเสียดายที่มันถูกวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และมาในราคาเบาๆ เพียงแค่แพ็คละ 140 เยน หรือราวๆ 42 บาท …
-
หนุ่มข้ามเพศถ่ายเซลฟี่ตลอด 3 ปี เพื่อให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงหลังใช้ฮอร์โมนเพศชาย
“ก่อนหน้าที่จะเริ่มใช้ฮอร์โมนเพศชาย ฉันไม่มีความสุขเลยเวลาที่มองกระจก แต่ตอนนี้ฉันมีความสุขกับรูปร่างของฉัน” Jamie Raines หนุ่มข้ามเพศให้สัมภาษณ์กับ BuzzFeed หลังจากที่การแปลงเพศนั้นทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป ยูทูบเบอร์ชื่อดังวัย 21 ปี เริ่มใช้ฮอร์โมนเพศชายตั้งแต่เมื่อตอนอายุ 18 ซึ่งฮอร์โมนดังกล่าวจะทำให้ลักษณะร่างกายของเขาเปลี่ยนไปเป็นหนุ่ม ทั้งกล้ามเนื้อ และเสียง และนี่คือภาพของเขาในวันแรกที่เริ่มใช้ฮอร์โมนที่ว่านี้ เขาตัดสินใจเก็บข้อมูลการใช้ยาดังกล่าวด้วยตัวเอง โดยการถ่ายภาพเซลฟี่ตัวเองในทุกๆ วันเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ตอนแรกเขาคิดไว้ว่าจะถ่ายภาพแค่ปีแรก แต่เมื่อผ่านไปหนึ่งปี การเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าเขายังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ Raines จึงตัดสินใจทำมันต่อไปเรื่อยๆ และแล้วหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเข้าปีที่ 2 ใบหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลง “หน้าของฉันยาวขึ้นเรื่อยๆ และแก้มก็เริ่มตอบลง” เขากล่าว หลังจาก 2 ปีผ่านไป ทุกอย่างก็เริ่มชัดขึ้น “ฉันรอเวลานี้มานานแล้ว ผมด้านหลังของฉันเริ่มหยิก ฉันตื่นเต้นมากจริงๆ ” Raines กล่าว และแล้วสีหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป เปลี่ยนไป… . จนในที่สุด เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 3 ปี ใบหน้าของ Raines ก็ดูเข้มขึ้น เขามีหนวดและดูเป็นผู้ชายมากขึ้น…
-
Chloe อัพคลิปหวานถูก Brooklyn ขโมยหอมแก้มระหว่างดูฟุตบอล โลกอินเตอร์เน็ตก็ลุกเป็นไฟ!!
ถือเป็นอีกหนึ่งคู่รักฮอลลีวู้ดที่มักจะมีข่าวรักๆ เลิกๆ (อารมณ์ประมาณรักไม่รุ่งมุ่งเททิ้ง) ออกมาบ่อยมากกกก สำหรับ Brooklyn Beckham หนุ่มหน้าใสขวัญใจสตรีทั่วโลก และนักแสดงสาวผู้นำเทรนด์อวบอย่าง Chloë Moretz ที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้รับเสียงเชียร์จากบรรดาแฟนๆ กับความรักใสๆ กันอยู่ไม่น้อย ก่อนที่จะมีข่าวว่าได้เลิกรากันไป ซึ่งทางหนุ่ม Brooklyn ก็ได้มี Madison Beer นักร้องสาวสุดเซ็กซี่หวานใจคนใหม่ที่มาดามหัวใจกันไป ส่วนสาว Chloë ก็ขอลาไปค้นหาตัวเองสักครู่ และเมื่อไม่นานมานี้ ทางสื่อต่างประเทศก็ได้ออกมารายงานว่า Brooklyn และ Chloë คู่รักใสๆ ใสหัวใจต๊ะติ๊งโหน่งคู่นี้ เขาได้โคจรกลับมารักกันอีกครั้งแล้วจ้า แถมดูเหมือนว่ารักที่มีให้กันยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความหวานถึงขนาดน้ำตาลยังเรียกพี่… ได้ยินข่าวว่ากลับมาคบกันอีกครั้งยังไม่ทันไร ล่าสุด (7 ตุลาคม 2560) Chloë สาวน้อยหน้าใสก็ได้ออกมาเติมความหวาน โดยการโพสต์คลิปวีดีโอของเธอในตอนที่ถูก Brooklyn หอมแก้มม๊วบๆ ขณะไปชมการแข่งขันฟุตบอลด้วยกันลงในอินสตาแกรม งานนี้บอกเลยว่าทำเอาบรรดาแฟนๆ ถึงขั้นอิจฉาตาร้อนผ่านกันเป็นแถว แหมๆๆ หวานกันจริงๆ เลยนะ มารับชมช่วงเวลาน่ารักๆ ของคู่รักรีเทิร์นคู่นี้กันเลย…
-
เมื่อทางแคนาดา ให้ทีมงานสตูดิโอเรื่อง Your Name ช่วยทำวิดีโอโปรโมทการท่องเที่ยว ว๊าววว..!!
แม้ว่ากระแสของ ‘Your Name’ จะซาไปเยอะแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังคงอินและตรึงตาตรึงใจอยู่ ขอบอกว่าคราวนี้ผลงานจากทีมผู้สร้างเดิมกลับมาอีกครั้ง แต่อยู่ในรูปแบบที่ต่างออกไป… เพราะจากกระแสความโด่งดังของการ์ตูน บวกกับเนื้อหาที่ช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวให้กับญี่ปุ่นได้ด้วย จึงทำให้งานนี้ประเทศฝั่งตะวันตกอย่าง ‘แคนาดา’ ถึงกับตกลงจ้างทีมงานจากสตูดิโอ CoMix Wave Films ให้ช่วยทำวิดีโอโปรโมทการท่องเที่ยวให้เลยทีเดียว ธีมหลักของเรื่องนี้จะเกี่ยวกับคู่รักหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่น กับการเดินทางตามหาความสวยงามแห่งธรรมชาติในประเทศแคนาดา แม้ว่าคลิปวิดีโอโปรโมท ‘Warm Winter Canada’ จะมีขนาดความยาวเพียงแค่ 0.31 วินาที… แต่ด้วยลายเส้น รูปแบบ และองค์ประกอบอื่นๆ แล้ว หลังจากที่ได้ชมชาวเน็ตต่างก็รู้สึกหวนกลับไปคิดถึงเรื่องราวใน Your Name อีกครั้ง แม้คำว่า ‘Warm Winter’ ดูจะป็นคำที่เกิดขึ้นได้ยากกับสภาพอากาศของประเทศแคนาดา ทว่าทางทีมงานก็ต้องการจะสื่อสารให้ผู้ชมได้รู้สึกว่า แม้อุณหภูมิจะต่ำแต่การได้ออกเดินทาง การได้มีช่วงเวลาดีๆ ระหว่างท่องเที่ยวในแคนาดา จะช่วยทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนรู้สึกหายหนาวไปในทันใด และนี่คือวิดีโอโปรโมทการท่องเที่ยวของแคนาดา ที่มาในแบบของอนิเมะจากฝั่งญี่ปุ่น นอกเหนือจากนั้น ผลงานอนิเมะ…
-
นักแสดงหนุ่มเกือบโดนยิงตาย เพราะถ่ายหนังฉากปล้นธนาคารแต่ไม่ได้แจ้งให้ตำรวจรู้!?
ในการถ่ายทำละครหรือหนัง หากต้องใช้สถานที่สาธารณะหรือมีฉากเกี่ยวข้องความรุนแรง ทีมงานควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้มีการประสานกับคนในพื้นที่รวมทั้งเจ้าหน้าที่แล้วเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด เหมือนกับการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ที่ทำเอานักแสดงเกือบถูกตำรวจยิงตาย หลังถ่ายทำฉากปล้นธนาคาร แต่ไม่ได้แจ้งให้ตำรวจรู้ล่วงหน้าก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมือง Crawfordsville ได้ยิง Jeff Duff นักแสดงที่สวมหมวกโม่ง หลังได้รับแจ้งว่ามีการโจรกรรมที่บริษัท Back Step Brewing ในคลิปจะเห็น Duff ถือปืนปลอมในมือแล้วค่อยๆ ถอยออกมาจากอาคาร ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการปล้นธนาคาร ขณะนั้นตำรวจมาถึงพอดีและได้สั่งให้เขาวางปืนลง ก่อนจะยิงปืนใส่เขา แต่โชคดีที่ตำรวจยิงพลาด นักแสดงหนุ่มจึงรีบตะโกนบอกตำรวจว่า “เรากำลังถ่ายทำหนังอยู่ ผมไม่ได้โกหกนะ!!” หลังจากที่นาทีระทึกนี้ผ่านไป Phillip Demoret นักแสดงอีกคนเล่าว่า “กระสุนเฉียดหัวเขาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น มันใกล้มากๆ ผมไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ากระสุนโดนเขาจริงๆ” ต่อมา Kodi Swank เจ้าของ Montgomery County Production ที่ถ่ายทำหนังดังกล่าวได้ออกมาแถลงว่า “จากเหตุการณ์นี้เราได้รับบทเรียนที่สำคัญ 2 เรื่องคือ การทำงานของเรามีคุณภาพต่ำ และกรมตำรวจมีการปฏิบัติหน้าที่อย่างรวดเร็ว” “เราต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเยี่ยม แม้ว่านั่นจะเป็นการเข้าใจผิดก็ตาม และต้องขออภัยที่ทางเราไม่ได้มีการประสานงานให้ดี ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาบอกว่า “ปืนที่นักแสดง Duff เป็นปืนปลอมที่ใช้ในการถ่ายทำหนัง แต่ทางทีมงานไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ถ่ายทำให้พื้นที่สาธารณะ”…
-
คนขับแท็กซี่นำเงินกว่า “ครึ่งล้าน” กลับมาคืนให้คุณตา หลังรู้ว่าเขาถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอก…
การตกเป็นเหยื่อของแก๊งต้มตุ๋นนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว เพราะบางครั้งคุณเองก็อาจจะเคยตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพได้เหมือนกับคุณตาท่านนี้ แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดี เมื่อคุณตาได้พบกับแท็กซี่หนุ่มพลเมืองดีทำให้เขาได้รับเงินทั้งหมดคืน… คุณตา Barry Stone ได้รับโทรศัพท์จากบุคคลนิรนาม ที่อ้างว่าเขาโทรมาจากสำนักงานตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ด เพื่อจะขอทำการตรวจสอบบัญชีของคุณตา เนื่องจากมีความเกี่ยวโยงในเรื่องของการฉ้อโกงธนาคาร แก๊งมิจฉาชีพได้บอกให้คุณตาถอนเงินเป็นจำนวนประมาณ 12,128 ปอนด์ (ประมาณ 530,000 บาท) โดยแยกเป็นธนบัตรมูลค่า 50 ปอนด์ จำนวน 8,000 ปอนด์ (350,000 บาท) และเงินสกุลยูโรอีกประมาณ 4,128 ปอนด์ (180,000 บาท) โดยมีการบอกขั้นตอนว่าหลังจากที่ถอนเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำไปมอบให้กับคนขับรถแท็กซี่เพื่อที่จะให้นำส่งตำรวจไปตรวจสอบที่ลอนดอนต่อไป…. หลังจากที่ได้ยินกระบวนการทั้งหมด คุณตาจึงได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปฝากให้กับแท็กซี่ แต่แล้ว Izy Rashid พนักงานขับรถแท็กซี่พลเมืองดี กลับรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล เขาจึงตัดสินใจนำเงินกลับไปส่งคืนให้คุณตาถึงที่บ้าน “ผมรู้สึกไม่ดีเลย มันไม่ใช่เงินจำนวนนน้อยๆ แต่หลังจากที่ได้เงินคืนตอนนี้ผมรู้สึกดีมากๆ และไม่กังวลอะไรแล้ว” คุณตา Stone กล่าว นอกจากนี้คุณตายังได้เล่าถึงเหตุการณ์ต้มตุ๋นในครั้งนี้ว่า “บางครั้งเราก็หลงเชื่อเรื่องพวกนี้นะ พวกเขาบอกผมว่าต้องการตรวจหาลายนิ้วมือจากธนบัตรของธนาคาร เพื่อหาตัวคนร้าย” หลังจากที่ได้ติดต่อกับทางตำรวจจริงๆ คุณ Izy Rashid…
-
โลกวิกฤตหนัก!! เหมียวอ้วนป่วนหนูน้อยขณะทำการบ้าน เด็กกำลังจะมีอนาคตดีๆ…ไม่น่าเล๊ย!!
ตั้งแต่แมวเหมียวได้เริ่มเข้ามามีบทบาท และอิทธิพลในโลกออนไลน์มากขึ้น นี่นับเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่เราได้นำเสนอเรื่องราวของพวกมัน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา “แมว” ทำให้เราได้รับรู้ว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือความคาดหมาย และเต็มไปด้วยความลึกลับ ความแปลก ความบ้าบอคอแตก แต่ก็ต้องยอมรับอะนะว่าในบางครั้งมันก็น่ารักดี…อืม!! หลายครั้งที่เราได้รับข่าวว่าโลกกำลังจะถูกบรรดาแมวเหมียวยึดครองไป นั่นอาจทำให้หลายคนรู้สึกขำ เพราะมันคงไม่ใช่เรื่องจริง แถมบางคนก็ไม่คิดที่จะใส่ใจและโทษว่ามนุษย์ใส่ร้ายป้ายสีพวกมัน แต่สิ่งที่เราจะมานำเสนอให้คุณในวันนี้ มันอาจจะเป็นใบเบิกทางที่ทำให้คุณตระหนักขึ้นมาได้บ้างว่าในตอนนี้แมวทรงอิทธิพลต่อโลกมากขนาดไหน ถึงขั้นเข้ามาทำลายเด็กน้อยตาดำๆ ที่จะกลายเป็นอนาคตของชาติในไม่ช้า คิดแล้วปวดใจมากอะ!! เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2560 ทางผู้ใช้ยูทู[ในชื่อ People’s Daily, China ได้เผยคลิปวีดีโอแสดงหลักฐานชิ้นสำคัญของเจ้าเหมียวอ้วนตัวหนึ่ง ที่กำลังทำพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมต่ออนาคตของชาติ ในคลิปวีดีโอได้ปรากฏให้เห็นเป็นภาพของหนูน้อยชาวจีนที่กำลังทำการบ้านอย่างตั้งใจ แต่ทว่าดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไหร่ นั่นเป็นเพราะว่าได้รับการรบกวนจากเจ้าเหมียวอ้วนที่พยายามห้ามปรามอยู่ตลอด น้องขอทำการบ้านก่อนนะพี่ เสร็จแล้วจะไปเล่นด้วย ไม่ได้!! หยุดทำแล้วมาเล่นด้วยกันเดี๋ยวนี้นะ เห้ย…คือได้เห็นภาพแล้วรู้สึกว่าใจมันสั่นๆ อยากจะเข้าไปช่วยเหลือหนูน้อยที่ถูกแมวแกล้งใจจะขาด แล้วแบบนี้จะทำการบ้านเสร็จไหมเนี่ย หรือโลกของเรากำลังอยู่ในขั้นวิกฤตหนักถูกแมวครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างไปซะแล้ว แม้แต่เด็กมันก็ยังไม่เว้นเลย คุณสามารถรับชมคลิปน่ารักๆ ได้ที่นี่… อย่างไรก็ตาม คลิปวีดีโอดังกล่าวอาจจะเป็นการนำเสนอเพื่อให้เห็นถึงความขี้เล่นของเจ้าเหมียวที่กำลังแสดงความรักที่มีต่อเจ้านายตัวน้อย ซึ่งหนูน้อยก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรเลย…
-
ชายหนุ่มสายครีเอทีฟ ร่อนเรซูเม่สมัครงาน นำเสนอตัวเองเป็นตัวต่อโลเก้ เฮ้ย ‘เลโก้’ !?
เรซูเม่ หนึ่งในเอกสารสำคัญสำหรับการสมัครงาน ว่ากันว่าถ้าหากเรซูเม่ที่มีความน่าสนใจและมีจุดเด่นนั้นก็ทำให้คุณมีโอกาสได้งานที่มากกว่าคนอื่นๆ แล้ว และเรซูเม่ของชายหนุ่มคนนี้ก็เจ๋งและไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน คุณ Andy Morris ศิลปินหนุ่มผู้หนึ่งต้องการสร้างความแตกต่างของการแนะนำตัวเองผ่านเรซูเม่ของเขา โดยเขาได้จำลองคาแรกเตอร์ของตัวเอง ลงบนหุ่นเลโก้ตัวจิ๋ว และนี่ก็คือหุ่นเลโก้จำลองของเขาที่ว่านั้น คุณ Andy ได้ออกแบบหุ่นเลโก้ที่เป็นตัวของเขาเองจากงาน ComicCon โดยเขาได้ใส่รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเองอย่างเช่น ชื่อ อายุ และทักษะความสามารถพิเศษลงไปในซองที่บรรจุตัวต่อเลโก้ด้วย นอกจากนี้ในกล่องบรรจุหุ่นจำลองของชายหนุ่มผู้นี้ยังมีสโลแกนที่เขียนกำกับไว้ว่า “แกะกล่องลูกจ้างคนใหม่ล่าสุดของคุณ” แหม… แหย่ ขนาดนี้แล้ว จะรับทำงานมั้ยน้ออออ Andy จบการศึกษาทางด้านการออกแบบจากมหาวิทยาลัย University of South Wales ชายหนุ่มหวังว่าการยื่นเรซูเม่แบบนี้ จะช่วยให้เขาสามารถหางานได้ง่ายยิ่งขึ้น และเป็นการแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ของเขาด้วย “ทุกๆ สิ่งบนโลกควรจะเป็นเรื่องสนุก ไม่เว้นแต่การสมัครงาน” Andy กล่าว “การเขียนเรซูเม่ในรูปแบบเดิมอาจจะเหมาะในการบอกเล่าความสำเร็จที่คุณได้รับมา แต่มันอาจจะแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ของคุณได้ไม่เต็มที่ และผมหวังว่าแบบจำลองเลโก้ของผม จะช่วยแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ และผมจะเริ่มส่งเรซูเม่ในสัปดาห์นี้แล้ว” ชายหนุ่มเสริม หุ่นจำลองขนาดจิ๋ว ที่มาพร้อมกับข้อมูลส่วนตัวของนักออกแบบผู้นี้ ช่างเป็นเรซูเม่ที่แตกต่างและไม่เหมือนใครจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการทำเรซูเม่ที่แปลก และไม่ซ้ำใครเลยจริงๆ นะเนี่ย ถ้าหากใครกำลังมองหาเรซูเม่ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร จะลองเอาไอเดียของพ่อหนุ่มคนนี้ไปปรับใช้กับเรซูเม่ของคุณดูก็ได้นะ!! …
-
15 ภาพ ‘แมวป่าคาราคัล’ ที่จะทำให้คุณหลงใหล ในความสวยงามและน่ารักของพวกมัน
สำหรับใครที่เป็นทาสแมว หรือชื่นชอบในความน่ารักของเจ้าเหมียวแล้ว เชื่อแน่ว่าหลายๆ อาจจะรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อเจ้าแมวป่าคาราคัลกันมาบ้างแน่ๆ สำหรับแมวป่าแสนน่ารักนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเอชียตะวันตก เอเชียใต้ และทวีปแอฟริกา โดยที่เจ้าเหมียวคาราคัลนั้นถูกจัดเป็นแมวป่าขนาดกลาง ตัวผู้ที่โตเต็มที่นั้นจะมีน้ำหนักประมาณ 10-18 กิโลกรัม และมีความสูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร สวัสดีฮะ!! ผมคาราคัลน้อยเอง สำหรับอายุโดยเฉลี่ยของเจ้าเหมียวสายพันธุ์นี้ จะอยู่ที่ประมาณ 8-10 ปี และตามพื้นฐานทางธรรมชาติแล้วพวกมันคือสัตว์นักล่า ซึ่งอาหารของเจ้าเหมียวเหล่านี้ส่วนมากจะเป็นกวางป่า นกกระทา หมูป่า และสัตว์ตัวเล็กๆ วันนี้เราก็มีภาพน่ารักๆ ของเจ้าเหมียวหูดำตัวนี้มาฝากกัน แต่ละตัวจะน่ารักถูกใจเหล่าทาสแค่ไหน ไปชมกันเลย… ถึงจะเป็นสัตว์ป่า แต่พวกเราก็น่ารักไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ?? . . ตัวเล็กน่ารักจริงๆ นะพวกแกน่ะ!! เห็นแล้วอยากกอดจริงๆ เล๊ย ในสมัยโบราณเจ้าแมวสายพันธุ์นี้ มักจะถูกมนุษย์นำมาฝึกให้ใช้ล่าสัตว์โดยเฉพาะนก เนื่องจากมันรวดเร็ว และสามารถกระโดดได้สูง แถมยังเป็นแมวที่ค่อนข้างเชื่องเมื่อเทียบกับแมวป่าอีกหลายสายพันธุ์ ปัจจุบันเจ้าแมวป่าสายพันธุ์นี้กำลังได้รับความนิยมจากเหล่าทาสแมว และในบ้านเราเองก็มีการซื้อขายด้วยเช่นกัน โดยค่าตัวของเจ้าคาราคัล นั้นก็เริ่มต้นเบาะๆ ที่ 150,000 บาทเท่านั้นเอง …
-
สาวจุดประกายเทรนด์ความงามแบบใหม่ “ตกแต่งขนจมูกสุดฟรุ้งฟริ้ง” มันก็จะดูล้ำไปหน่อยนะ
ตลอดช่วงปี 2017 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นปีที่เทรนด์แฟชั่นความสวยความงามได้ก่อกำเนิดขึ้นมามากมาย ซึ่งก็มีทั้งเทรนด์สวยแปลก และสวยแบบโอ๊ว๊าวปะปนกันไป และล่าสุดเธ๊อออออออ ในโลกออนไลน์ได้มีการปรากฏเทรนด์ความงามรูปแบบใหม่ขึ้นมาอีกแล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าในครั้งนี้มันดูมีความล้ำหน้าไปไกลเกินกว่าที่คนธรรมดาๆ อย่างเราจะสามารถจิตนาการได้ เพราะนี่คือ เทรนด์ตกแต่งขนจมูกจากขนตาปลอมที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นบนใบหน้า อ่อม!! สำหรับเทรนด์ความงามสุดพิลึกนี้ถูกจุดประกายขึ้นมาโดยผู้ใช้อินสตาแกรมที่ชื่อว่า Gret Chen Chen ซึ่งเธอได้โพสต์ภาพของตัวเองลงในโลกออนไลน์ โดยมารูปลักษณ์ใหม่ที่ดูแตกต่างนั่นก็คือ การนำขนตาปลอมมาสร้างเป็นขนจมูกที่ยาวเฟื้อยยยย ทันทีที่ภาพของเธอถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้กลายเป็นประเด็นสุดฮอตที่ถูกพูดถึงกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็มีชาวเน็ตรายหนึ่งได้เขามาแสดงความเห็นว่า มันดูน่ารักและซุกซนในเวลาเดียวกัน ในขณะที่บางคนก็แซวแบบขำๆ ว่า แหมมันดูสร้างสรรค์เหลือเกิ๊นนน นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตอีกหลายต่อหลายคนได้บอกว่ามันเป็นอะไรที่น่าเกลียดที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็นมาเลยล่ะ มีคนลองทำตามด้วยแกร อย่างไรก็ตาม เทรนด์แฟชั่นดังกล่าวดูเหมือนจะได้รับความสนใจ และถูกพูดถึงในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก ซึ่งก็แน่ละว่าพวกเขาจะไม่ค่อยปลื้มกันสักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่มองว่ามันเป็นเทรนด์ความงามที่ดูล้ำเกินไป และไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถทำตามได้ แล้วคุณล่ะมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง? ที่มา : metro
-
ลูกแมวตัวน้อยมาร้อง ‘เมี้ยว’ อยู่หน้าบ้าน ผ่านไปสองปีอยู่ดีกินดี จนกลายเป็นเจ้าของบ้านไปแล้ว
เมื่อมีคนมาส่งเสียงเรียกอยู่หน้าบ้านหรือว่ามาเคาะประตู เราจะต้องออกไปดูกันซะหน่อยว่าเป็นใคร แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่เสียงร้องของคนเนี่ยสิ… เพราะเจ้าแมวน้อยตัวนี้ได้ใช้วิธีเดียวกันนั้นส่งเสียงร้องอยู่ตรงชานบ้านของเด็กสาวคนหนึ่งในปี 2015 เรียกร้องความสนใจของเธอและเจ้าแมวอีกสองตัวที่เธอเลี้ยงเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว เรื่องนี้ถูกถ่ายทอดผ่านผู้ใช้ Reddit ที่มีชื่อว่า hrtofdixie ในตอนที่เธอไปเจอกับสภาพอันผอมแห้งของมัน จึงรีบไปหาอาหารมาให้มันกิน ก่อนที่จะอุ้มมันขึ้นมาและตั้งใจว่าจะดูแลมันไปก่อน เพื่อรอวันที่หาบ้านใหม่ที่ดีและเหมาะสมให้กับเจ้าตัวเล็กได้ ขอเข้าไปหน่อยได้มั้ยเมี้ยววว ป๋มเหนื่อยล้ามากเลยอ่ะครับ ขอเข้าไปหน่อยน้าาา หลังจากนั้นเธอก็พามันไปอาบน้ำให้เรียบร้อยเพื่อล้างคราบสกปรกและหมัดออกไปให้หมด จนตัวหอมฉุยพร้อมที่จะเข้าไปอยู่ในบ้านร่วมกัน เวลาผ่านไปกลับกลายเป็นว่าเจ้าตัวเล็กที่ชื่อ Binx ตัวนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเธอไปเสียแล้ว เพราะมันเริ่มสร้างความสนิทสนมกับเธอและแมวตัวที่เหลือตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ได้เข้ามาแล้ว.. เย้ ที่นี่ต้องกลายเป็นฐานทัพใหม่ของป๋มแน่นอน ตรงนี้นุ่มดีงั้นลงไปนอนเล่นเลยดีกว่าาา พอเข้าบ้านปุ๊บมันก็รีบไปครอบครองที่นอนเอาไว้เป็นอย่างแรกก่อนที่จะเข้ามากอดมาเล่นกับเธอ รวมถึงเจ้าเหมียววัย 16 ปีที่ชื่อว่า Nickel ที่ตอนแรกยังไม่ค่อยไว้ใจเจ้าตัวเล็กเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ต้องตกหลุมพรางความน่ารักจนเข้ามาคลอเคลียกันอยู่ตลอดนานเป็นสัปดาห์ แต่เมื่อผ่านไป 1 เดือนเจ้าแมวชราตัวนั้นก็ต้องจากไปอย่างน่าเศร้า ทิ้งให้เจ้าแมวน้องใหม่ตัวนี้เป็นสิ่งเยียวยาจิตใจให้กับเจ้าของสาว เจ้า Nickel (ตัวทางขวา) ที่ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ แต่ถึงยังไงแม่ก็ยังมีผมอยู่นะครับ เจ้าเหมียวน้อยคอยใช้เวลาเยียวยาเธอมาตลอด เวลาผ่านไป…
-
ผู้พัฒนาเผยกระบวนการสร้างเกม ก่อนที่จะมาเป็นภาพสุดงามในเกม ต้องเจียระไนผ่านอิฐบล็อกก่อน!!
ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้เกมยุคใหม่ได้รับความนิยมอย่างสูง นอกจากเรื่องของระบบการเล่นแล้ว ก็มีเรื่องของภาพกราฟฟิคสวยๆ เนี่ยแหละ แต่กว่าที่เกมๆ หนึ่งจะออกมาวางขายได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ด้วยเหตุนี้เหล่านักพัฒนาวิดีโอเกมทั้งหลายจึงนำผลงานในขั้นตอนที่เรียกว่า ‘Blocktober’ มาให้เกมเมอร์อย่างเราๆ ได้ชมกัน… เพราะก่อนที่จะมาเป็นแผนที่หรือด่านที่เราได้เล่นกันนั้น จะต้องทำการทดสอบและออกแบบตามขั้นตอนยิบย่อยเสียก่อน กว่าที่เกม Uncharted จะปล่อยออกมาให้เราได้เล่นกัน ก็ต้องผ่านขั้นตอนการวางแผนผังมากมาย ไม่ใช่แค่การวาดกราฟฟิคอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทดสอบแผนที่จริงๆ ด้วย (มองไม่เห็นดูในนี้นะจ๊ะ) #Blocktober Start of End of the Line in motion from Blockmesh to Final Art. Art Props to @ToddDFoster. pic.twitter.com/wqK7Y5e6He — Nicholas Lance (@nicholaslance) 3 ตุลาคม 2560 ผลงานของ Em Schatz กับการออกแบบแผนที่เกม Uncharted 4…
-
7 เคล็ดลับความสวยความงาม ที่จะเปลี่ยนให้คุณกลายเป็นดาวแห่งฮอลลีวู้ดได้แบบง่ายๆ!!
หากคุณถูกชวนให้ไปงานปาร์ตี้ หรืองานสำคัญๆ ต่างๆ ในเวลาที่เร่งรีบ โอกาสที่จะทำให้คุณปฏิเสธอาจจะค่อนข้างสูง เพราะคุณคงไม่มีเวลาที่จะลุกขึ้นมาแต่งสวยแต่งหน้าสวยๆ ในเวลาที่จำกัดหรอกใช่ไหมละ แต่ในความจริงแล้วการเนรมิตตัวเองให้เปลี่ยนมาอยู่ในลุคสวยๆ นั้น อาจไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานเสมอไป เพราะบางทีมันอาจจะมีเคล็ดลับแบบง่ายๆ ที่ช่วยทำให้คุณสวยได้ทันตาเห็น และในครั้งนี้เราจะมาบอกต่อ 7 เคล็ดลับความงามที่จะเปลี่ยนให้สาวๆ ดูสวยเด้งราวกับเป็นดาวแห่งฮอลลีวู้ด มาดูกันเลยว่าจะมีอะไรบ้าง 1. ผิวอกนุ่มชุ่มชื่นได้ด้วยวาสลีน หากสาวๆ ต้องการรักษาหน้าอกของคุณให้สวยเต่งตึง วาสลีนช่วยได้นะจ๊ะ เพียงแต่นำมาลูบเบาๆ บริเวณหน้าอกก่อนเข้านอนเป็นประจำทุกคืน และหลังจาก 2 สัปดาห์ผ่านไปคุณจะสังเกตเห็นว่าผิวหนังบริเวณอกจะดูเต่งตึงมีความชุ่มชื่น และกระชับมากขึ้น 2. เคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำให้ริมฝีปากสวยและอวบอิ่ม อยากมีริมฝีปากที่ดูสวยและอวบอิ่มบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงเตรียมน้ำตาลจากนั้นนำแปรงสีฟันมาแปรงเบาๆ บนริมฝีปาก เสร็จแล้วก็ใช้อบเชย หรือน้ำมันมะกอกทาลงไป เท่านี้ก็ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มและสุขภาพดีแล้ว 3. เปลี่ยนเล็บธรรมดาๆ ให้กลายเป็นเล็บกระจกโครเมี่ยมเงาวับระยิบระยับได้ภายใน 10 นาที การทำเล็บกระจกที่สร้างความแวววาวให้กับเล็บ สาวๆ อาจไม่จำเป็นต้องไปทำที่ร้านอีกต่อไป เพราะคุณเองก็สามารถทำด้วยตัวเองได้แบบง่ายๆ โดยการทาสีเล็บตามปกติ จากนั้นก็เคลือบเจลให้เรียบร้อย แล้วใช้ผงกระจกโครเมี่ยมมาขัดๆ ถูๆ บนเล็บของคุณจนกว่าจะขึ้นเงา เท่านี้เราก็จะได้เล็บมือสุดแวววาวแล้วจ้า…
-
สาวจีนตาบอดกะทันหัน หลังเล่นเกมบนมือถือนานติดต่อกัน 7-8 ชั่วโมงแบบไม่หยุดพัก!!
ไม่เพียงแต่วัยรุ่นไทยเท่านั้นที่ติดเกมกันงอมแงม เพราะวัยรุ่นที่ประเทศจีนก็ชื่นชอบการเล่นเกมไม่แพ้กันบางคนก็เสพติดหนักเล่นเป็นเวลานานหลายชั่วโมง จนส่งผลกระทบร้ายแรงถึงขั้นทำให้ตาบอดสนิท!! เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Xiao Wu (นามแฝง) หญิงชาวจีนวัย 21 ปี จากเมืองตงกวน มณฑลกวางตุ้ง ติดเกมบนมือถืออย่างหนัก โดยเล่นเป็นเวลานาน 7-8 ชั่วโมงแบบไม่หยุดพัก จนเป็นเหตุให้ดวงตาข้างขวาสูญเสียการมองเห็นไปอย่างถาวร จากการรายงานระบุว่า ในวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ Wu กำลังเล่นเกม King of Glory (เกมแนวต่อสู้ MOBA อันดับหนึ่งของจีนคล้าย ROV) ที่เธอชื่นชอบบนมือถืออยู่นั้น เธอก็รู้สึกเหนื่อยล้าและหลับไป แต่ทว่าเมื่อตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น (2 ตุลาคม 2560) Wu ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกๆ ในดวงตาข้างขวา จนทำให้เธอรู้สึกตกใจหนัก และรีบเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ทันที จนในที่สุดแพทย์ก็ทำการวินิจฉัยและพบว่า Wu มีอาการเส้นเลือดแดงของจอประสาทตาอุดตัน (ส่วนใหญ่มักจะเกิดเฉพาะในผู้ป่วยสูงอายุ) โดยเลือดไม่สามารถเข้าไปหล่อเลี้ยงจอประสาทตาได้ และอาจทำให้เธอสูญเสียการมองเห็นไปตลอด …
-
เนื่องในวันเกิดของผู้นำรัสเซีย ขอเสนอ 20 พลังพิเศษ มีเพียง ‘ปูติน’ เท่านั้นที่ทำได้!!
นอกจากข่าวคราวจากฝั่ง สหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ แล้ว ก็มีข่าวคราวจากรัสเซีย และวีรกรรมของ ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’ เนี่ยแหละ อันเป็นที่น่าจับตามองไม่แพ้กัน และวันที่ 7 ตุลาคมนี่ก็เป็นวันคล้ายวันครบรอบวันเกิดของประธานาธิบดีปูตินผู้โด่งดัง #เหมียวบ็อบ เลยขอรวบรวมวีรกรรม และความสามารถ ที่ต้องบอกก่อนเลยว่า บนโลกนี้ไม่มีใครทำได้แน่นอน นอกจาก ‘ปูติน’ เพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่เชื่อก็ไปดูกันเลย!!! 1. เขาสามารถสั่งให้หมาทำหน้างอใส่กล้องได้ 2. ในภาพเรือไม่ได้ดำน้ำ แต่เป็นน้ำที่แหวกออกมาเองเพื่อให้เค้าลงไปสำรวจได้อย่างง่ายดาย 3. เขาสามารถพิชิตใจหญิงสาวได้ด้วยการทำปากจู๋เพียงครั้งเดียว 4. เขาไม่สามารถพูดภาษาม้าได้ แต่เขาทำให้ม้าอยากเรียนรู้ภาษาคน เพียงเพื่ออยากให้มันคุยกับเค้าให้ได้ 5. ปูตินสามารถขับรถออกนอกอวกาศ และพาโดนัลด์ ทรัมป์ไปเที่ยวนอกโลกมาแล้ว 6. ปูตินสามารถว่ายน้ำจากขั้วโลกเหนือไปขั้วโลกใต้ได้แบบชิลๆ 7. เค้าสามารถปั้นกระทะเหล็กออกมาได้ด้วยมือเปล่า 8. เมื่อเค้าลงสมัครแข่งฮ็อคกี้…พี่แกแชมป์ตั้งแต่ยังไม่ได้แข่ง 9. เห็นสิ่งก่อสร้างนั่นมั้ย? เค้าทำลายมันด้วยมือเปล่า และสร้างมันขึ้นมาอีกครั้งด้วยมือเปล่า…
-
เมื่อหนุ่มๆ เปลี่ยนทรงผมจากหนุ่มเซอร์ให้กลายเป็นหนุ่มสุดแนว แค่นี้ก็หล่อจนใจจะละลาย
ผู้ชายเป็นเพศที่รักความสบายชอบอะไรง่ายๆ และไม่ค่อยที่จะสนใจในเรื่องการดูแลตัวเองมากนัก นานๆ ครั้งจะเข้าร้านตัดผมที ถ้าผมไม่ยาวจริงๆ หรือว่าอยากเปลี่ยนทรงละก็จะไม่ยอมเสียเงินเพื่อไปร้านทำผมเด็ดขาด แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดผม หนุ่มๆ ทั้งหลายก็ต้องหาแบบทรงผมที่เข้ากับตัวเอง แต่ถ้าหากตัดพลาดมาล่ะก็โดนเพื่อนล้อไปอีกนานเลย เมื่อทรงผมของผู้ชายมีไม่ค่อยมากนัก ผู้ชายก็มักจะตัดทรงเดิมๆ ที่คิดว่าเข้ากับตัวเองที่สุด เช่นรองทรงหรือสกินเฮดไปเลย #เหมียวบู้บี้ ขอแนะนำว่า หากเพียงแค่คุณผู้ชายทั้งหลายลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง เปลี่ยนแปลงทรงผมให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพียงเท่านี้ก็มีสาวๆ ตามจีบแน่นอน 1. จากเด็กหนุ่มเนิร์ดๆ กลายเป็นหนุ่มหล่อ 2. ไถข้างนิดหน่อยก็ดูดีได้แล้ว 3. ใจจะละลายแล้วพ่อคุณเอ๊ยยยย!! 4. แพ้ความหล่อล้วนๆ 5. เอาจริงๆ #เหมียวบู้บี้ แทบไม่ได้โฟกัสทรงผมเลย 6. ดูดีได้เพียงแค่ตัดและเซ็ตผมนิดหน่อย 7. หากคุณผู้ชายเปลี่ยนมาดูแลตัวเองสักนิดนึงก็จะทำให้สาวๆ ตามกรี๊ดได้เลยล่ะ 8. เปลี่ยนจากหนุ่มผมยาวให้กลายเป็นหนุ่มเท่ 9. หนุ่มๆ เซฟรูปเก็บไว้เป็นแบบในการตัดผมกันได้ 10. ตัดผมโกนหนวดแล้วดูดีขึ้นเป็นกองเลย…
-
นักวิจัยจับภาพ ‘ลูกแมวทราย’ แบบชัดๆ ในธรรมชาติได้เป็นครั้งแรก หลังพวกมันใกล้สูญพันธุ์เต็มที
แมวเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีสายพันธุ์เยอะมากที่สุดในโลก แต่ไม่ว่าแมวสายพันธุ์ไหนๆ ก็มีความน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนกันทั้งสิ้น หนึ่งในสายพันธุ์แมวหายาก ที่หลายๆ คนคงจะไม่รู้จักกันมากนัก นั่นก็คือ “แมวทราย” (Sand Cat) ซึ่งแมวสายพันธุ์นี้เป็นแมวที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย หน้าตาน่ารักเหมือนกับแมวบ้านทั่วไปเลย แถมยังตัวเล็กดูคล่องแคล่วปราดเปรียว โดยลักษณะทั่วไปของมันจะมีลำตัวสีน้ำตาลอ่อนเกือบเทา มีขนปุยเต็มใบหน้า หูใหญ่และแหลม มีขนที่อุ้งเท้าเพื่อป้องกันความร้อนจากพื้นดิน โดยเมื่อโตเต็มวัยจะมีน้ำหนักเพียง 2.1-3.4 กิโลกรัมเท่านั้น ด้วยความน่ารักของแมวทรายทำให้มีการล่าแมวสายพันธุ์นี้เพื่อนำไปจัดแสดงในสวนสัตว์หรือนำไปขาย ซึ่งแมวทรายส่วนใหญ่ที่ถูกจับมามักจะตายด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะแวดล้อมที่มนุษย์จัดให้ได้ทำให้พวกมันกลายเป็นสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ล่าสุดทีมนักวิจัยทางด้านชีววิทยาที่นำทีมโดย Dr. Alexander Sliwa และ Gregory Breton ได้เฝ้าติดตามและบันทึกเกี่ยวกับวิถีชีวิตของแมวทรายมาเป็นเวลา 4 ปีที่ทะเลทรายซาฮารา จนกระทั่งทีมนักวิจัยสามารถเก็บภาพแมวทรายที่ใช้ชีวิตตามธรรมชาติได้เป็นครั้งแรก ในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 26 เมษายน ซึ่งแก๊งลูกแมวทรายที่ถูกพบเหล่านี้มีอายุประมาณ 6-8 สัปดาห์เท่านั้น แก๊งแมวทรายกำลังซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า จ้องที่จะตะครุบเหยื่อคือหนู Jerboa มาเป็นอาหาร แมวทรายเป็นแมวที่ออกหากินในช่วงกลางคืน จึงทำให้ทีมนักวิจัยมีความยากลำบากนิดหน่อยในการถ่ายรูปพวกมัน เพราะว่ามันเป็นสัตว์ที่มีความว่องไวเป็นอย่างมาก แถมยังหลบซ่อนตัวเก่งอีกด้วย พวกมันเป็นนักฆ่าที่เยี่ยมยอดมาก มันเก่งในเรื่องการขุดหลุมและจู่โจมเหยื่อมแบบรวดเร็ว…
-
12 คดีฆาตรกรรมที่มีผู้กระทำผิดเป็น ‘เยาวชน’ กับวีรกรรมสุดโหด ที่ไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือเด็ก
เป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กหรือเยาวชนอาจจะทำผิดพลาดบ้าง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความไม่รู้ ความอยากรู้อยากลองรวมทั้งสภาพแวดล้อมที่เด็กเติบโตมา แต่สำหรับเยาวชนเหล่านี้ได้สร้างวีรกรรมด้วยการก่อคดีฆาตรกรรมสุดโหดเหี้ยม จนกลายเป็นฆาตรกรวัยเยาว์ที่โลกต้องตะลึง 1. Jon Venables และ Robert Thompson ทั้งสองคนนี้อายุเพียง 10 ขวบ พวกเขาได้ล่อลวงเด็กน้อยวัย 2 ขวบ ออกห่างจากแม่ของเขาในศูนย์การค้าของอังกฤษเมื่อปี 1993 จากนั้นทั้งคู่ได้พาเด็กน้อยไปที่รางรถไฟก่อนที่จะลงมือฆ่าเด็กน้อยคนนั้นอย่างโหดเหี้ยม แต่หลังจากที่แพทย์ชันสูตรศพแล้ว ก็ไม่สามารถเผยสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้ 2. Sandra และ Beth Andersen Sandra วัย 16 ปี และ Beth วัย 15 ปี ได้ก่อคดีฆาตกรรมจนถูกเรียกว่า “Bathtub Girls” เพราะเด็กสาวทั้งสองทำการมอมเหล้าแม่ของตัวเองในปี 2003 ก่อนจะให้เธอกินไทลินอลแล้วจับเธอกดน้ำในอ่างอาบน้ำ 3. Brenda Spencer Brenda เด็กสาววัย 16 ปีใช้อาวุธปืนไรเฟิลที่ได้รับเป็นของขวัญจากพ่อในวันคริสมาสต์กราดยิงเด็กๆ 8 คน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่โรงเรียนในคลีฟแลนด์ นอกจากนี้เธอยังพยายามฆ่าครูใหญ่และผู้ปกครองท่านอื่นด้วย ส่วนเหตุผลที่เธอก่อเหตุเช่นนี้เพราะว่าเธอเกลียดวันจันทร์ …
-
ชาวเน็ตถกเถียงกันอย่างสุดมันส์ นี่มันเรียกว่า “สีฟ้า” หรือ “สีเขียว” กันแน่ คุณล่ะคิดว่ายังไง!?
เรื่องสีเป็นเรื่องที่อยู่รอบตัวของเราเลยทีเดียว เพราะว่าของทุกอย่างบนโลกล้วแล้วแต่มีสีที่เป็นของตัวเองทั้งหมด แต่บางทีเราก็ไม่มั่นใจว่าสีอย่างนั้นเค้าเรียกว่าสีอะไรว่า อย่าง สตรอเบอรี่มีสีชมพูหรือแดงกันแน่ น้ำทะเลล่ะมันสีอะไรกันนะ… ซึ่งปัญหานี้ก็เกิดขึ้นกับคนญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน มีอยู่สีหนึ่งที่ทำให้ชาวอินเทอร์เน็ตของญี่ปุ่นต่างเถียงกันสุดฤทธิ์ เมื่อมีผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @Hyouhonbako ได้ตั้งคำถามว่าสีนี้มันคือสีอะไรกันแน่ หน้าตาของสีเจ้าปัญหา . “สีนี้มันกวนใจฉันอยู่ตลอดเวลาเมื่อเวลาเอาไปถามใคร บางคนก็บอกว่า สีเขียว แต่บางคนก็บอกว่านี่มันสีฟ้า” @Hyouhonbako กล่าวไว้ในทวิตเตอร์ของเขา ซึ่งก็มีผู้มาตอบเขามากมายทั้งฝั่งสีเขียว และสีฟ้า บางคนถึงขั้นหาหลักฐานมายืนยัน นอนยันกันเลยทีเดียวเชียวแหละ บางคนเรียกสีนี้ ว่าสีเขียวมรกต โดยถึงขั้นหารูปจาก google มายืนยัน บางคนยกตัวละครที่ชื่อ “Super Saiyan Blue” และเค้าก็บอกว่าเค้าก็ไม่เห็นเป็นสีฟ้าเหมือนกัน และรู้สึกดีใจที่มีคนคิดเหมือนกับเขา แต่ก็มีบางคอมเม้นต์ที่คงไม่ช่วยอะไรโดยเขาบอกว่าสีนี้มันคือสีแดง ฮ่าา บางคนถึงขั้นใช้แอพเพื่อเทียบสี แต่ก็ยังไม่มีชื่อเรียกของมันที่ถูกต้องอยู่ดี “มันอยู่ใกล้สีเขียวมากกว่าน่าจะเรียกว่าสีเขียวนะ” บางคนกล่าวไว้แบบนี้ ในเมื่อวิทยาศาสตร์เอาไม่อยู่ ก็ต้องโหวตกันแล้วล่ะว่าจะเรียกมันว่าอะไรดี (ปุ่มบน= เขียว ปุ่มกลาง= ฟ้า ปุ่มล่าง= อื่นๆ)…
-
แพล่บๆ ร่วมไขข้อสงสัย ว่าทำไมเจ้าหมาถึงชอบ “เลียเท้า” ของมนุษย์?
สุนัขเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ มันมีความซื่อสัตย์ แถมยังรักและเทิดทูนเจ้าของเป็นอย่างมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสุนัขถึงได้เลื่อนขั้นเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของใครหลายๆ คน หนึ่งในพฤติกรรมของเจ้าหมาที่เหล่ามนุษย์คงจะสงสัยกันอยู่บ้างว่าทำไมเจ้าหมาเหล่านี้ถึงชอบเลียเท้าเรากันนะ เรารู้กันอยู่แล้วว่า เท้า เป็นอวัยวะที่อยู่ในส่วนต่ำสุดของร่างกาย เป็นส่วนที่สกปรกที่สุดของมนุษย์ แต่เวลากลับบ้านมาทีไร เจ้าหมาของเรามักจะมาต้อนรับด้วยการเลียเท้าเป็นอันดับแรก แถมบางที มันจะเลียเท้าก่อนแล้วค่อยขึ้นมาเลียหน้าตาม (ขอบคุณมาก) การที่มีสุนัขมาเลียเท้าแบบนี้มันทำให้เรารู้สึกจั๊กกะจี๋อย่างบอกไม่ถูก แถมยังไม่ค่อยอยากให้มันทำแบบนี้เพราะว่าเท้ามันค่อนข้างสกปรก แต่แล้วก็มีผู้ที่มาศึกษาหาข้อมูลจากคำถามที่ว่าทำไมสุนัขถึงชอบเลียเท้ามนุษย์อย่างจริงจัง โดย Dr. Elizabeth Stelow หัวหน้าด้านการศึกษาพฤติกรรมสัตว์ ประจำมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย จากการรวบรวมข้อมูลก็พบว่า เจ้าหมาทั้งหลายใช้การเลียในการสื่อสาร ตั้งแต่ลูกหมาน้อยเกิดมาแม่หมาก็ใช้การเลียเพื่อทำความสะอาด กระตุ้นให้หายใจ ส่วนลูกหมาก็เลียหน้าแม่ของพวกมันเพื่อแสดงความรัก อีกทั้งการเลียช่วยกระตุ้นการหลั่ง Endorphins ทำให้รู้สึกดียิ่งขึ้นอีกด้วย ส่วนพฤติกรรมที่เหล่าเจ้าหมาชอบเลียเท้าของเจ้าของก็เป็นเพราะว่ามันต้องการที่จะทำความสะอาดเท้า อีกทั้งการเลียเท้าทำให้มันได้รับความสนใจของเจ้าของอีกด้วย เจ้าหมาทั้งหลายคิดว่าการเลียเท้าให้กับมนุษย์เพื่อเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของ แล้วมันก็หวังว่ามนุษย์จะให้รางวัลเป็นการลูบหัวเป็นการขอบคุณซึ่งจะทำให้มันฟินที่สุดเลยล่ะ อีกหนึ่งเหตุผลที่มันชอบเลียเท้าของมนุษย์นั่นก็คือ ในเท้าของมนุษย์มีเหงื่อที่เต็มไปด้วยเกลือแร่ เจ้าหมาทั้งหลายจึงเลียเพื่อเป็นการเพิ่มแร่ธาตุให้กับตัวมันเอง แต่ทุกสิ่งที่มันทำลงไปเหตุผลหลักๆ นั่นก็คือการแสดงความรัก ความเอาใจใส่ให้กับเรานั่นแหละ เจ้าหมาถึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์อย่างไงล่ะ ที่มา thedodo
-
หนุ่มจงใจปล่อยเชื้อ HIV ใส่คู่นอนที่เจอกันผ่าน “แอปหาคู่” ถึง 4 คน แถมส่งข้อความเยาะเย้ย
ทุกคนคงรู้จักโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่าง HIV กันอยู่แล้ว และนั่นจึงทำให้ถุงยางมีประโยชน์มากกว่าการคุมกำเนิดเพราะสามารถป้องกันโรคดังกล่าวนี้ได้อีกด้วย ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้เองก็ต้องระวังไม่ให้ใครได้รับโรคร้ายนี้ไปด้วย ตรงข้ามกับชายหนุ่มชื่อ Daryll Rowe ที่ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคนี้แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะแพร่เชื้อไปให้กับคนอื่นๆ เรื่องราวของช่างตัดผมวัย 26 ปีคนนี้เริ่มขึ้นเมื่อเขาได้ถูกวินิจฉัยว่าป่วยติดเชื้อ HIV ในเดือนเมษายน 2015 ที่เมือง Edinburgh ประเทศสกอตแลนด์ หลังจากนั้นเขาจึงกินยาต้านเพื่อไม่ให้ไวรัสเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ต่อมาเขาก็ย้ายไปเมือง Brighton ประเทศอังกฤษ และเนื่องจากเขาไม่มีที่ไหนที่พอจะสามารถพักพิงได้ จึงใช้แอปฯหาคู่ชื่อ Grindr ตามหาการมีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน โดยเขาจะพูดคุยกับคนในแอปฯ ก่อนที่จะไปหาพวกเขาเหล่านั้นที่บ้านและมีอะไรกัน เพื่อที่เขาจะสามารถแพร่ไวรัสที่ตัวเองเป็นอยู่ไปให้กับคนอื่นๆ ได้ วิธีการของเขาก็คือหลอกให้ทุกคนตายใจว่าเขาไม่ได้ป่วย HIV และปฏิเสธที่จะใช้ถุงยาง หรือถ้าหากอีกฝ่ายไม่ยอมเขาก็จะใส่แล้วค่อยฉีกถุงในตอนที่กำลังร่วมเพศกันอยู่ ถึงแม้ว่าในตอนแรกเขาจะกินยาต้านแต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เลิกกินเพื่อให้คนอื่นๆ มีโอกาสที่ติดเชื้อจากเขาไปได้มากขึ้น หลังจากนั้นเมื่อแยกย้ายกันไปเขาก็จะโทรหรือส่งข้อความไปเยาะเย้ยให้กับผู้โชคร้ายเหล่านั้นอย่างเช่น “ไม่แน่ว่าคุณอาจจะมีไข้ เพราะว่าผมสอดใส่เข้าไปในตัวคุณและผมเป็น HIV อุ๊บส์!” หรือ ”ตอนนั้นผมฉีกถุงยางโดยที่คุณไม่รู้ เพราะคุณเป็นคนที่โง่มาก” อัยการ Caroline Carberry ได้เล่าว่า ชายคนนี้ได้ทำพฤติกรรมดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015 จนถึงธันวาคม 2016…
-
แก๊งโจรลงทุน 43 ล้านบาทขุดอุโมงค์ลึก หวังปล้นเงินธนาคารหมื่นล้าน แต่ดันไม่ได้ใช้งานซะงั้น!!
ถ้าหากใครที่เป็นแฟนๆ หนังแนวโจรกรรม อาจจะคุ้นเคยหนึ่งในพล็อตสุดคลาสสิคของหนังแนวนี้กันเป็นอย่างดี นั่นก็คือการขุดอุโมงค์เพื่อไปโผล่ในห้องเก็บตู้เซฟของธนาคาร และกวาดเงินหลายล้านหนีไปอย่างไร้ร่องรอย ถึงแม้การขุดอุโมงไปโผล่ใต้ตูเซฟในหนังนั้นอาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่อันที่จริงแล้วการจะทำแบบนั้นได้แค่มีสกิลพระเอกอย่างเดียวคงไม่พอ และดีไม่ดีอาจะถูกตำรวจจับอย่างหนุ่มชาวบราซิลคนนี้อีกต่างหาก!! โทษทีนะคะ คุณไม่ใช่เดอะเฟซค่ะ คุณตำรวจจากเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล ได้หยุดยั้งแผนโจรกรรมเงินของธนาคารมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาทจากกลุ่มโจรที่พยายามขุดอุโมงค์ใต้ติดเพื่อเข้าไปในธนาคาร เจ้าหน้าที่พบอุโมงที่มีความยาวถึงครึ่งกิโลเมตรอยู่ใต้ดินในเมืองเซาเปาโล พร้อมกับระบบไฟและเครื่องระบายอากาศอยู่ภายในนั้น เจ้าหน้าที่กล่าวว่าผู้ต้องหารับสารภาพว่าพวกเขาวางแผนที่จะขุดอุโมงดังกล่าวจากบ้านเช่า เพื่อขโมยเงินในธนาคาร Banco do Brasil “ถ้าหากแผนการนี้สำเร็จ มันอาจจะเป็นหนึ่งในการปล้นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขาเป็นหนึ่งในแก๊งที่อันตรายที่สุดในบราซิล และมีประวัติอาชญากรอย่างโชกโชน “ เจ้าหน้าที่ Fabio Pinheiro Lopes กล่าว เด็กหนุ่มวัย 16 ปี หนึ่งในผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมได้ในคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ใกล้ๆ กับโกดังแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของเมือง ซึ่งเป็นจุดที่พวกเขาเริ่มขุดอุโมงค์ดังกล่าว จากติดตามมาความเคลื่อนไหวของแก๊งนี้มาตลอดระยะเวลา 2 เดือน ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการคนอื่นได้อีกกว่า 20 คน ในการขุดครั้งนี้พวกเขาใช้เงินลงทุนมากถึง 1 ล้าน 3 แสนเหรียญหรือ 43 ล้านบาทเลยทีเดียว อุโมงค์ดังกล่าวใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 4…
-
กลุ่มนักวิทย์ฯ เริ่มต้นไขความลับ เพื่อให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับทวีปที่ 8 Zealandia กันมากขึ้น
อย่างที่พวกเราเคยเรียนกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่า โลกของเรานั้นแบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 ทวีปด้วยกัน ซึ่งประกอบไปด้วย ทวีปเอเชีย ทวีปแอฟริกา ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปแอนตาร์กติกา ทวีปออสเตรเลีย และทวีปยุโรป แต่รู้กันหรือเปล่าว่าจริงๆ แล้วแผ่นเปลือกโลกที่แยกออกเป็นทวีปต่างๆ นั้นไม่ได้มีเพียงแค่นี้นะเออ… แต่ยังมีอีกหนึ่งทวีปที่เพิ่งถูกคนพบซึ่งนั่นก็คือทวีปที่ 8 หรือ Zealandia นั่นเอง ทวีป Zealandia ในอดีตนั้นเป็นส่วนหนึ่งของทวีปออสเตรเลียและเกิดการแยกตัวของเปลือกโลกเมื่อประมาณ 60 ถึง 80 ล้านปีก่อน พื้นที่ประมาณ 93 เปอร์เซ็นต์ของทวีปนี้จมอยู่ภายใต้มหาสมุทร และพื้นที่ส่วนที่เหลือเป็นพื้นที่ที่เชื่อมกันของเกาะ New Zealand และหมู่เกาะ New Caledonia และเมื่อไม่นานมานี้กลุ่มของนักวิทยาศาสตร์ 32 คนจาก 12 ประเทศทั่วโลกได้ออกมาเปิดเผยความลับของทวีปที่ 8 นี้ Jamie Allan ผู้อำนวยการโครงการนี้กล่าวว่า “การศึกษาครั้งนี้จะนำเสนอเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของโลก เกี่ยวกับการสร้างตัวของแนวเขาในประเทศ New Zealand และการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกที่มีผลต่อกระแสน้ำและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ” ทีมสำรวจได้ใช้เวลาในการลงพื้นที่เป็นเวลานานถึง 9 สัปดาห์…
-
งานหนักฆ่าคนได้… นักข่าวสาวเสียชีวิตจากการ ‘ทำงานล่วงเวลา’ จำนวน 159 ชั่วโมงต่อเดือน
กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารย์เกี่ยวกับกฎหมายแรงงานของประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังจากผู้ประกาศข่าววัย 31 ปีของสำนักข่าว NHK ต้องเสียชีวิตจากการทำงานอย่างหนัก คุณ Miwa Sado ผู้ประกาศข่าวที่ประจำอยู่ในสำนักงานใหญ่ของสื่อดังกล่าวในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ทำงานล่วงเวลาอย่างหนักถึง 159 ชั่วโมงในหนึ่งเดือน และมีวันหยุดเพียงแค่เดือนละ 2 ครั้งเท่านั้น ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเนื่องจากสภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อปี 2013 โดยการเสียชีวิตของนักข่าวสาวท่านนี้เรียกว่า karoshi หรือการตายจากการทำงานหนัก ซึ่งได้รับการเปิดเผยจากอดีตนายจ้างของเธอเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การเสียชีวิตของผู้ประกาศข่าวสาวทำให้เกิดแรงกดดันเกี่ยวกับสวัสดิการของเหล่าพนักงงาน และเรียกร้องให้ภาครัฐมีการจัดการแก้ปัญหาและทำให้หลายๆ คนเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความสมดุลระหว่างเวลาทำงานและชีวิตส่วนตัว การเสียชีวิตจากการทำงานหนักนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของพนักงานชาวญี่ปุ่น แต่ก่อนหน้านี้ Matsuri Takahashi พนักงานสาววัย 24 ปีก็ตัดสินใจฆ่าตัวตาย เนื่องจากความเครียดจากการทำงานหนัก ตามการรายงานของสำนักงานมาตรฐานแรงงาน Takahashi ทำงานล่วงเวลามากกว่า 100 ชั่วโมงในหนึ่งเดือนก่อนที่เธอจะเสียชีวิต หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่เธอจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในวันที่ 25 ธันวาคม 2015 หญิงสาวได้โพสต์ข้อความว่า “ฉันอยากตาย ตอนนี้ทั้งร่างกายและจิตใจของฉันพังไปหมดแล้ว” การเสียชีวิตจากการทำงานหนักนั้นถือเป็นปัญหาระดับชาติที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ การทำงานหนักนั้นเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการทำงานของพนักงานญี่ปุ่น ที่อยากแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและทุ่มเทให้กับบริษัท แต่อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ทางการญี่ปุ่นได้ออกกฎห้ามพนักงงานทำงานล่วงเวลาเกิน 100 ชั่วโมงต่อเดือน และมีบทลงโทษสำหรับบริษัทที่อนุญาตให้พนักงงานละเมิดกฎข้อห้ามดังกล่าว …
-
ลูกน้องเห็นนายใช้ถุงกระดาษใบเดิมทุกวัน จึงสร้าง “กระเป๋าหิ้วหนัง” สวยๆ เก๋ๆ ให้เป็นของขวัญ
เรื่องราวน่ารักๆ ครั้งนี้เกิดขึ้นในบริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อพนักงานของทางบริษัทได้มอบของขวัญชิ้นพิเศษ ให้กับเจ้านายของเขาในวันเกิดอายุ 78 ปีของเขา พนักงานท่านนี้เล่าว่า เขารัก Bob เจ้านายของเขามากๆ เพราะ Bob เป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนและเรียบง่าย และในทุกๆ วันเจ้านายจะมาทำงานพร้อมกับถุงกระดาษใบเก่าหนึ่งใบ พร้อมกับอาหารมากมายสำหรับแบ่งให้พนักงาน “Bob เป็นเจ้านายที่ดีมากๆ เขาเป็นหนึ่งในคนที่คุณต้องอยากทำงานด้วยแน่ๆ และวันนี้เป็นวันเกิดอายุ 78 ปีของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะอายุมากแล้วแต่ก็ยังคงทำงานอย่างหนัก และพวกเราคิดว่าจะมอบของขวัญชิ้นพิเศษบางอย่างให้กับเขา” พนักงานท่านหนึ่งกล่าว และนี่คือถุงกระดาษใบเก่า ที่ Bob ใช้ใส่ของมาทำงาน ถุงกระดาษใบเก่าถูกใช้เป็นต้นแบบในการสร้างกระเป๋าใบใหม่ ที่ใช้ชื่อว่า “The Bob Tote” พวกเขาลงมือร่างแบบและทำการเตรียมชิ้นส่วนต่างๆ โดยใช้หนังวัวเป็นวัสดุหลักสำหรับเจ้ากระเป๋าใบนี้ . และแล้วก็ได้เป็นโครงคร่าวๆ ของกระเป๋าใบนี้ออกมาแล้ว!! จากนั้นก็เริ่มเจาะรูก่อน ก่อนที่จะนำไปทาสีและประกอบกันในขั้นตอนต่อไป และแล้วก็มาถึงขั้นตอนการย้อมสีหนัง อ่า… จากหนังธรรมดาๆ ตอนนี้เริ่มดูมีสีสันสวยงามขึ้นมาแล้ว น้ำมันย้อมหนัง ช่วยให้หนังที่ได้มีสีสันที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น…
-
นางแบบชาวสวีเดนถูกวิพากษ์วิจารณ์หนัก หลังโชว์ขนหน้าแข้งในแคมเปญใหม่ของ Adidas
ผู้คนส่วนใหญ่มักจะคาดหวังว่าคนที่เป็นนางแบบนั้นต้องมีรูปร่างดี ตัวสูง ผอม ผิวพรรณดี หรือมีคุณลักษณะตามที่นางแบบควรจะเป็น แต่ล่าสุดแบรนด์กีฬายอดนิยมอย่าง Adidas ได้เปิดตัวแคมเปญ “Superstar” ซึ่งเป็นแคมเปญที่ให้ความสำคัญกับความเป็นจริง ดังนั้นการเลือกนางแบบสำหรับสินค้าชิ้นนี้จึงต้องมีความสมจริงตามคอนเซปต์ด้วย สำหรับ Superstar นั้น เป็นรองเท้าผ้าใบที่ทาง Adidas ต้องการสื่อให้เห็นถึงความงามในมิติใหม่ แต่หลังจากที่ปล่อยคลิปโฆษณาออกไป ปรากฏว่านางแบบที่เลือกมาถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลกอินเตอร์เน็ต เหตุผลหลักของการวิพากษ์วิจารณ์นี้เป็นเพราะพรีเซนเตอร์ของสินค้าดังกล่าวคือ Arvida Byström ซึ่งเป็นศิลปิน นางแบบ และช่างภาพชาวสวีเดน ที่เป็นรู้จักในฐานะผู้ที่ต่อต้านคตินิยมและเป็นนักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนไม่ให้มีการโกนขนตามร่างกาย (no-shave) แม้จะถูกเลือกให้มาเป็นพรีเซนเตอร์รองเท้าของ Adidas แต่หญิงสาวก็ยังคงเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ เธอใส่ชุดเดรสสีขาวกับเสือข้างในสีชมพูและใส่รองเท้า Superstar สีพาสเทล ในโฆษณาชุดนี้ Byström ได้นำเสนอความงามในแบบของตัวเอง นั่นคือการโชว์ท่อนขาที่ไม่มีการโกนขนแต่อย่างใด ซึ่งเป็นความงามในแบบของตัวเอง และเธอก็มั่นใจกับสิ่งที่เป็นนี้มาตลอด แต่ปรากฏว่าหลายคนมองว่าไม่สวย ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เธออย่างเสียๆ หายๆ ทั้งยังส่งข้อความข่มขู่หญิงสาวสารพัด ต่อมา Byström ได้เขียนในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์แรงขนาดนั้น ฉันแค่ทำให้สิ่งที่มีสิทธิ์จะทำ มันอาจจะดูแตกต่างจากความที่ทุกคนคาดหวัง แต่อยากให้จำไว้ว่าเราทุกคนไม่ได้มีประสบการณ์เหมือนกันเสมอไป” …
-
ปืนพลาสม่า ที่เรามักจะเห็นในหนังไซไฟ แต่ชายคนนี้ประดิษฐ์มันขึ้นมาให้ยิงได้แล้วจริงๆ!!
ขอบอกเลยว่าช่วงนี้ใครทำตัวมีปัญหาอย่าซ่าเป็นอันขาด… เพราะตอนนี้มีคนสามารถประดิษฐ์ปืนยิงเลเซอร์ได้แล้วจริงๆ!! รับรองว่างานนี้ยิงกันสะบั้นหั่นแหลกแน่ๆ ปกติเราจะเคยเห็นกันแต่ปืนเลเซอร์จากในหนัง หรือไม่ก็ในเกมที่มีลักษณะทำนองนี้ใช่มั้ยล่ะ? แม้ผลงานการประดิษฐ์ปืนเลเซอร์สุดล้ำของคุณปู่ Al Stahler จะทำให้เรารู้สึกตะขิดตะขวงใจกับภาพที่เคยจำมาจากในหนังอยู่หน่อยๆ แต่เชื่อเถอะว่านี่คือการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดทางด้านเทคโนโลยีของมวลมนุษยชาติครั้งสำคัญ แม้หน้าตาจะออกมาดูเทอะทะไปหน่อย ทว่าสำหรับรุ่น Prototype ก็ถือว่าดูเจ๋งไม่หยอกเลยล่ะ เจ้าของผลงานเล่าว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขาเกิดขึ้นจากการนำวัสดุอย่าง ขวดพลาสติก ท่อ ถังแก๊ส และใช้ความรู้เฉพาะทางในการผสมสารเคมีโดยมีส่วนประกอบหลักเป็นแก๊สโพรเพน (Propane) และแก๊ส MAPP มีแสงออกมาจริง แถมยังสัมผัสวัตถุได้จริงด้วย..!! หลักๆ แล้วกลไกจะทำงานตัวแก๊สภายปืนจะทำให้เกิดไฟที่มีความร้อนสูงแต่มีการคายพลังงานความร้อนที่ต่ำ จนทำให้เกิดการระเบิดของมวลอากาศพุ่งออกมา ปืนเลเซอร์ของลุง Al Stahler ดูตอนกลางคืนก็ยังเท่ได้ไม่หยอก (เหมือนย้อนกลับไปในหนังไซไฟยุค 80s ไรงั้น) ทดสอบการยิงเจ้า ‘Plasma Popper’ กันซักหน่อย… จริงอยู่ที่ในช่วงแรกเริ่มของการสร้างปืนเลเซอร์อาจจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด และนับว่าเป็นการท้าทายความรู้ความสามารถของมนุษย์อย่างหนึ่ง แต่ปืนรุ่นต้นแบบที่คุณปู่ Al Stahler ประดิษฐ์ออกมา.. ได้กลายเป็นหนึ่งการพัฒนาทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญของมนุษยชาติ ซึ่งในอนาคตเรามั่นใจว่าเมื่อมีรุ่นแรกออกมาแล้ว เดี๋ยวก็ต้องมีการนำไปพัฒนาต่อจนมีรุ่นใหม่เจ๋งๆ…
-
หนักอก!! 22 ปัญหาโลกแตกของ “สาวนมโต” ใครมีหน้าอกไซส์บิ๊กเบิ้ม จะเข้าใจได้อย่างดี
ว่ากันว่า “หน้าอกใหญ่” คือลาภอันประเสริฐสำหรับสาวๆ ที่หลายคนอิจฉาอยากจะมี หรือกระทั่งหนุ่มๆ ทั้งหลายก็ใฝ่ฝัน แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วมันมีปัญหาหนักอกหนักใจซะจนหลายๆ คนคิดไม่ถึงเลย…. มาดูว่าจริงไหม?? 1. คุณจะมีปัญหากับการเลือกซื้อเสื้อผ้าเป็นอย่างมาก ใหญ่ไปก็ทำให้ตัวเองดูอ้วน แต่เล็กไปหน่อยก็กลายเป็นดูโป๊ไปซะอย่างนั้น 2. เช่นเดียวกับการติดกระดุม ติดมันทุกเม็ดก็ดูเฉิ่มๆ เชยๆ แต่ขอปลดแค่เม็ดเดียว ดันกลายเป็นดาวยั่ว ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ 3. สรุปง่ายๆ ว่า การที่คุณจะติดกระดุมทุกเม็ดแบบไม่อึดอัด มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย 4. คุณจะดูอ้วนขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ถึงแม้คุณเองจะรู้ตัวว่าผอมและมีเอวอยู่ก็ตาม 5. ไม่ว่าจะแต่งตัวแบบไหน เซ็กซี่หรือไม่ โป๊หรือไม่ก็ตาม… คุณจะถูกมองว่าแรดโดยทันที 6. การหาบราให้ขนาดพอดีกับหน้าอกของคุณเป็นเรื่องยาก เพราะส่วนใหญ่ก็ทำมาแต่เฉพาะสำหรับสาวไซส์เล็กเท่านั้น 7. บางทีได้บราน่ารักๆ แต่พอใส่จริงแล้วมันทะลักออกมาทั้งหมด… จนคุณต้องหนีไปใส่บราคุณยายจะง่ายกว่า 8. ถ้าได้บราขนาดพอดีกับหน้าอกคุณ ซัพพอร์ทดี คุณภาพใช้ได้ รับประกันได้เลยว่า “มันไม่สวย!!” 9.…
-
หนุ่มผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิงเผย ตั้งใจขอแฟนสาวแต่งงานหลังคอนเสิร์ต แต่ไม่มีวันนั้นแล้ว…
ไม่กี่วันมานี้ทั่วโลกถึงกับช็อคเมื่อรู้ข่าวเหตุการณ์กราดยิงผู้ในงานคอนเสิร์ตที่ลาสเวกัส เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในวันที่ผู้คนจำนวนมากกำลังมีความสุขกับเสียงดนตรี หนึ่งในผู้ที่หัวใจแตกสลายมากที่สุดจากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้คงจะเป็น Derek Miller ที่ตัดสินใจจะขอแฟนสาว Andrea Castilla แต่งงานหลังจบคอนเสิร์ต แต่น่าเศร้าที่เธอถูกยิงเสียชีวิตไปก่อนจะถึงเวลาสำคัญนั้น Andrea ได้มาฉลองวันเกิดครบรอบ 28 ปี ของที่เทศกาลดนตรี Route 91 พร้อมกับแแฟนหนุ่ม น้องสาวของเธอ Athena และแฟนน้องสาว Shane Armstrong โดยหญิงสาวไม่รู้เลยว่า Derek กำลังมีแผนเซอร์ไพรส์เธอหลังจบคอนเสิร์ต ในระหว่างที่ทุกคนสนุกกับเสียงดนตรีที่บรรเลงอย่างต่อเนื่องนั้น อยู่ดีๆ ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เสียงปืนเข้ามาแทนที่เสียงดนตรี ตามด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความกลัวของผู้คนในงาน ผู้คนวิ่งหนีหาที่กำบังอย่างวุ่นวาย Andrea จับมือน้องสาวไว้แน่น และคอยเอาตัวป้องเธอไว้ตลอด และโชคร้าย กระสุนนัดหนึ่งพุ่งใส่ศีรษะ จนทำให้ร่างของเธอร่วงลงไปกองกับพื้น ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ทั้ง Derek Athena และ Shane พยายามมีสติและรีบคว้าตัว Andrea ขึ้นมา ก่อนจะพาไปหลบในที่ปลอดภัย จนกระทั่งได้ขึ้นรถพยาบาล Andrea ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที ในขณะที่แฟนหนุ่มและคนอื่นๆ ต่างก็รออยู่หน้าห้องด้วยความวิตกกังวลเป็นเวลากว่า 7 ชั่วโมง และคาดหวังให้การผ่าตัดจะผ่านพ้นไปด้วยดี แต่สุดท้ายแล้ว คุณหมอได้ออกมาแจ้งข่าวร้ายให้ทุกคนทราบว่าไม่สามารถยื้อชีวิตหญิงสาวไว้…Andrea ได้เสียชีวิตลงท่ามกลางความโศกเศร้าของพี่น้อง โดยเฉพาะแฟนหนุ่ม Derek หลังจากที่แฟนสาวจากไปแล้ว Derek…
-
เจ้าเหมียวบุกเข้าไปในสถานีตำรวจ แต่ด้วยความน่ารักจึงมีแต่คนมาขอเซลฟี่ด้วย
สถานีตำรวจ เป็นสถานที่ทำงานของคุณตำรวจผู้พิทักษ์สันติราชของประชาชน ไม่ว่าใครที่กำลังเดือดร้อนอยู่ก็ตาม สถานีตำรวจจะเป็นสถานที่แรกที่พวกเขานึกถึง (งูเข้าบ้านยังโทรหาตำรวจอ่ะ) การเข้าไปทำธุระที่สถานีตำรวจบางคนก็อาจจะมีธุระที่ต่างกันเช่น แจ้งความ ได้รับความเดือดร้อน ร้องเรียนเรื่องต่างๆ เป็นต้น แต่การมาเยือนสถานีตำรวจในครั้งนี้ไม่ใช่ประชาชน แต่เป็นแมวต่างหาก… เจ้าแมวสีขาวดำที่ชื่อว่า Kingsley ได้บุกเข้ามาในสถานีตำรวจโคลัมเบียเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่มันไม่ได้จะมาแจ้งความหรอกนะ เมื่อเจ้าเหมียวเดินเข้ามาในโรงพัก มันก็เริ่มใช้สกิลการอ่อยระดับสิบ นอนแผ่หลาอยู่กับพรมหน้าประตูเพื่อเรียกร้องความสนใจจากทุกคน //แกมีแผนร้ายอยู่ใช่ไหมล่ะเจ้าเหมียว ด้วยพลังและอำนาจแห่งแมวที่สามารถเอาชนะได้ทุกสิ่ง ทำเอาให้คุณตำรวจต้องละหน้าที่การงานเข้ามามะรุมมะตุ้มเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้เกือบทั้งโรงพัก เจ้า Kingsley เดินไปทั่วโรงพัก ไม่ว่ามันจะเดินไปที่ไหนก็ทำให้เจ้าหน้าที่ใจละลาย เข้ามาขอเซลฟี่กับมันทั้งสิ้น นี่มันปีนโต๊ะขึ้นไปเสนอหน้าถ่ายรูปกับพี่ตำรวจเขาเองเลยนะเนี่ย เอ้า หนึ่ง สอง สาม แช๊ะ!!! หลังจากนั้นคุณตำรวจก็ได้นำตัวมันไปหาสัตวแพทย์เพื่อหาไมโครชิป เพื่อจะได้ส่งมันกลับคืนสู่เจ้าของ แต่ตรวจยังไงก็ตรวจไม่เจอไมโครชิป นั่นแปลว่าเจ้าแมวตัวนี้มันเป็นแมวจรจัดที่ไม่มีเจ้าของ คุณพี่ตำรวจท่านนี้เลยตัดสินใจรับมันเลี้ยงไว้ซะเลย อ๋อ นี่คือแผนของแกใช่ไหมเจ้าเหมียว ตอนนี้มันอาศัยอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่ชื่อว่า Brandon Montgomery เขาเป็นทาสแมวแห่งสถานีตำรวจโคลัมเบีย เจ้า Kingsley คงจะมีสัมผัสพิเศษ คิดว่าเจ้าหน้าที่คนนี้จะรับเลี้ยงมันอย่างแน่นอน…
-
รู้จักชายหนุ่มในภาพก้องโลก เอาตัวบังหญิงสาวในเหตุกราดยิง Las Vegas แถมช่วยคนอื่นๆ อีกเพียบ!!
ภาพของชายหนุ่มที่กำลังเอาตัวเข้าปกป้องหญิงสาวผู้หนึ่ง ระหว่างเหตุการณ์กราดยิงที่งานคอนเสิร์ต Route 91 Harvest บริเวณโรงแรม Mandalay Bay Las Vegas ในลาสเวกัส เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา กลายเป็นที่พูดถึงความกล้าหาญของชายคนนี้อย่างมาก Matthew Cobos ทหารหนุ่มจากกองทัพสหรัฐฯ ได้เข้าไปในพื้นที่กราดยิงและช่วยเหลือผู้คนที่กำลังตกอยู่ในอันตราย โดยการเอาร่างกายของตัวเองเป็นเกราะป้องกันกระสุนให้เหยื่อการกราดยิงผู้หนึ่ง Cobos และหญิงสาวคนดังกล่าว นอนหมอบอยู่กับพื้นสนาม ในระหว่างที่ผู้เข้าชมคอนเสิร์ตคนอื่นๆ กำลังตื่นตระหนกและวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันอยู่ และนี่คือภาพของคุณ Cobos ที่กำลังเข้าปกป้องหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย ท่ามกลางความวุ่นวาย Cobs พยายามปกป้องหญิงสาวคนนั้นด้วยร่างกายของเขา และพาเธอเข้าไปหลบในที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานว่าหญิงสาวคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด คุณ David Becker ผู้ถ่ายภาพของทั้งสองคนกล่าวว่า หลังจากที่ทั้งสองวิ่งไปหลบที่หลังรถ พวกเขาก็ออกจากที่เกิดเหตุไปเลย คุณ Cobos (ตรงกลาง) นายทหารหนุ่มที่เข้าช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายอย่างกล้าหาญ ทางเว็บไซต์ Daily Mail ได้รายงานว่าหลังจากที่ช่วยหญิงสาวคนดังกล่าวแล้ว คุณ Cobos ยังได้วิ่งเข้าไปในพื้นที่กราดยิง เพื่อช่วยผู้เคราะห์ร้ายคนอื่นๆ อีกด้วย ชายหนุ่มได้ใช้เข็มขัดของเขาเพื่อช่วยห้ามเลือดให้กับเหยื่อและใช้นิ้วมือของเขาอุดไปที่รูกระสุนของคนที่ถูกยิง Cobos เล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นกับคนใกล้ชิดของเขาว่า เขาได้ยินเสียงกระสุน พร้อมกับเห็นวิถีกระสุนที่วิ่งเขาไปขณะที่กำลังวิ่งอยู่ …
-
สาวไปสูบบุหรี่ กลับมาเจอแมวแปลกหน้านอนทำทีเป็นเจ้าของบ้าน เธอเลยต้องเลี้ยงมันแบบงงๆ
เคยไหมที่อยู่ดีๆ คุณก็มีสมาชิกใหม่มาจากไหนก็ไม่รู้ แถมยังมาโดยไม่ได้รับเชิญ พอไล่ก็ไม่ไปทำท่าทีเฉยเมยราวกับว่านี่คือบ้านของมัน…แขกที่ว่านั้นเรากำลังพูดถึงแมวจรจัดนั่นเอง โดยชาวเน็ตนามว่า AnaliseMarie ก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน โดยเธอได้บังเอิญเจอเจ้าเหมียวตัวหนึ่งเข้ามานอนอยู่ในบ้านหลังจากที่เธอออกไปสูบบุหรี่เพียงไม่นาน เธอบอกว่าต่อให้เอาเจ้าเหมียวตัวนี้ออกไปนอกบ้านยังไง มันก็จะกลับเข้ามาหาเธออยู่ดี โฉมหน้าของเจ้าเหมียวไม่ได้รับเชิญตัวดังกล่าว เธอยังเล่าอีกว่าทุกครั้งที่เธอเดินไปสูบบุหรี่หรือเดินไปไหนมาไหน มันก็จะตามเธอไปทุกที่ ราวกับว่ามันต้องการครอบครัวมาดูแล ฉะนั้นเธอเลยตัดสินใจว่าจะให้มันพักอยู่คืนหนึ่งแล้วจากนั้นค่อยจัดการอีกที AnaliseMarie ได้เตรียมอาหารน้ำและอื่นๆ ไว้ให้มันเรียบร้อย ซึ่งเดิมทีนั้นเธอได้เลี้ยงแมวไว้ก่อนอยู่แล้ว ร่วมกับรูมเมดซึ่งมี 3 ตัวด้วยกัน เธอจึงไม่อยากจะเลี้ยงแมวเพิ่มอีกแล้ว แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้าเหมียวตัวนี้มันน่ารักมากๆ ดู ดู๊ ดูมันทำ ทำท่าอย่างกับว่า เป็นเจ้าของแต่แรก มองหน้าราวกับคิดว่า “มองอะไรเจ้ามนุษย์” ยังไงก็ตามเธอได้ตั้งชื่อชั่วคราวให้มันว่าเจ้า Alien เธอยังกะไว้ว่าในวันรุ่งขึ้นจะไปเช็คกับศูนย์รับเลี้ยงต่างๆ ใกล้ๆ เพื่อดูว่ามีใครประกาศแมวหายหรือเปล่า แต่ถ้าเธอเกิดเช็คแล้วไม่เจอเธอก็คิดว่าจะเลี้ยงมันไว้ แม้จะทำให้ประชากรแมวเหมียวและค่าใช้จ่ายมีเยอะขึ้นก็ตาม…ก็มันน่ารักนิเนอะ ที่มา iizcat
-
หนุ่มแกล้งขอแต่งงาน ‘แฟนสาวที่นอกใจ’ ก่อนจะโยนแหวนหมั้นให้ แล้วเดินจากไปแบบคูลๆ
คุณจะทำยังไงเมื่อวันหนึ่ง คุณกำลังตั้งใจจะขอแฟนสาวแต่งงาน แต่กลับได้รู้ความจริงก่อนหน้านั้นว่าเธอกำลังนอกใจคุณอยู่ลับหลัง คุณจะทะเลาะและขอเลิกไปเฉยๆ หรือจะดัดหลังเธอแบบเจ็บแสบ? โดยชายเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้เลือกที่จะดัดหลังแฟนสาว เขาทำทีว่าจะขอแฟนสาวแต่งงานกลางร้านอาหาร พร้อมควักแหวนแต่งงานออกมาต่อหน้าแฟนสาวและผู้คนที่นั่งร่วมโต๊ะ ผู้คนที่พบเห็นก็ต่างพากันเริ่มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ราวกับรู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคู่ของชายหญิง ชายคนดังกล่าวเริ่มพูดขึ้นมาว่า “ผมรักคุณมากๆ รักสุดหัวใจ แน่นอนว่าผมแนะนำคุณให้กับลูกชายของผมและให้คุณเข้ามาอยู่ในชีวิต พร้อมตัดสินใจว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” เรื่องมันกำลังไปได้สวยผู้คนต่างพากันยิ้มกันมากขึ้น ราวกับเป็นสัญญานว่าเขาต้องขอแต่งงานและมันจะสำเร็จแน่ๆ แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้น!? ทุกคนคาดหวังว่าชายหนุ่มจะคุกเข่าพร้อมกล่าวว่า แต่งงานกับผมนะ แต่ชายหนุ่มกับพูดว่า “อันนี้จริงเรื่องนั้นมันก็ดีนะ แต่เมื่อคืน เพื่อนผมที่ชื่อว่าคริสบอกผมว่า เขาจับได้ว่าคุณนอกใจ” วินาทีนั้นชายหนุ่มโยนแหวนลงบนโต๊ะทันที พร้อมเดินจากมาและชูขึ้นมาเยาะเย้ยแฟนสาว งานนี้เล่นเอาเงิบกันทั้งงาน เราอาจจะไม่เห็นสีหน้าของแฟนสาว แต่ตัดสินได้จากสีหน้าของคนรอบๆ ว่ามันจะต้องช็อคมากแน่ๆ เมื่อคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกสู่สายตาชาวเน็ต ผู้คนก็ต่างให้กำลังใจว่าชายคนนี้ทำถูกแล้ว หรือไม่ก็ให้กำลังใจว่าเขาควรจะเจอคนที่ดีกว่านี้นั่นเอง ไม่หมดเท่านั้น ยังมีความเห็นอีกมากมายว่าอยากรู้ถึงตอนต่อ หรือไม่ก็อยากเห็นหน้าแฟนสาวว่าเธอรู้สึกยังไงมีรีแอคชั่นยังไง แล้วทำยังไงต่อไปหลังจากเรื่องนี้ และมันจะดีมากถ้าได้เห็นหน้าสุดช็อคของแฟนสาว สุดท้ายแล้ว เรื่องราวจะจบยังไงก็ตาม ถ้าเธอคนนั้นนอกจากใจเขาจริงๆ ก็ถือว่ามันเป็นอะไรที่สมควรแล้วหรือไม่? ที่มา mirror
-
25 การมาต้อนรับในสนามบิน ที่โคตรมหากาพย์ ฮาสุดๆ โอ้ย ท้องแข็งไม่ไหวแล้ว..!!
เวลาที่ญาติสนิทมิตรสหายคนรู้ใจเราออกเดินทางไปต่างบ้านต่างเมืองนานหลายปี เมื่อไหร่ที่พวกเขากลับมายังบ้านเกิดก็เป็นธรรมดาที่จะต้องมีการต้อนรับกันซักหน่อย แต่จะเป็นยังไงนะถ้าการยืนต้อนรับหน้าสนามบินไม่ได้มีแค่ป้ายชื่ออย่างเดียว เพราะบางคนก็มาทั้งชุดคอสเพลย์ บางคนก็มาเป็นจริงเป็นจัง หรือไม่บางคนก็มาซะอายเลย เอาเป็นว่าตามไปชมกันเล๊ยย 1. ขอพลังจงสถิตย์กับท่าน… ไม่รักกันจริงไม่ทำขนาดนี้นะเนี่ย 2. “ยินดีต้อนรับกลับบ้านจากคุกนะ… แม่” 3. “หนูอาจจะเพิ่งเจอคุณนะ แต่หนูชื่อ Harper เป็นลูกสาวของคุณเอง!!” 4. เมื่อพ่อมารับลูกสาวถึงสนามบิน ต้องจัดเต็มซักหน่อยแล้วล่ะ 5. “อิสาวอิตาเลี่ยนสุดฮอต” 6. เมื่อเพื่อนรักกลับมาวันคริสต์มาส เอ๊าาาจัดเต็มสิครับ 7. สาวน้อยเขียนป้ายต้อนรับคุณปู่คุณย่า.. เอาซะน่ารักเชียว >< 8. เมื่อลูกๆ เขียนบอกพ่อว่า… “ยินดีต้อนรับกลับฟลอริด้า” ทว่าพวกเขาอาศัยอยู่ที่ซีแอตเติ้ล (มาไงเนี่ยลูก) 9. เพื่อนอ้วนตัวแสบมารับคุณพร้อมป้ายขอแต่งงาน 10. “พ่อไม่ต้องห่วงน๊าา หนูดูแลหม่ามี๊ดีตลอด แต่ตอนนี้ถึงตาพ่อแล้วแหละ เพราะแม่เรื่องเยอะสุดๆ เลย!!” เป็นป้ายที่เซอร์ไพรส์ได้ดีมากๆ…
-
มาชม “25 เครื่องครัวสุดล้ำ” ที่จะช่วยย่นระยะเวลาการเข้าครัว ให้เป็นเรื่องง่ายขึ้น!!!
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดว่าการเข้าครัวนั้นมันยุ่งยากซะเหลือเกิน กว่าจะซื้อกว่าจะเตรียมกว่าจะได้กิน จนต้องขอบายและออกไปซื้ออาหารแช่แข็งมาดีกว่า เข้าไมโครเวฟแปปเดียวก็ได้กินละ แต่ในวันนี้คุณต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เพราะการเข้าครัวจะเป็นเรื่องง่ายขึ้น เมื่อเจอกับอุปกรณ์ไอเดียเจ๋งเหล่านี้ ที่จะช่วยย่นระยะเวลาการเข้าครัวของคุณไปได้มาก เราไปดูกันเลยว่ามันจะช่วยได้จริงๆ หรือไม่ 25. ที่พักฝาหม้อและทัพพี นี่แหละคือสิ่งที่แม่บ้านต้องการ 24. ที่วางของที่สามารถม้วนเก็บได้ 23. อุปกรณ์ล้างช้อน ที่แค่เสียบเข้าๆ ออก สะอาดได้แล้ว 22. เครื่องสับกระเทียม ที่หมดปัญหากลิ่นกระเทียมติดมือ . 21. เขียงที่สามารถเขี่ยเศษอาหารลงไปที่ถ้วยรองได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาทิ้งให้เมื่อย . 20. เครื่องมือที่จะใช้เปิดอาหารทุกอย่างที่คุณต้องการ . 19. เขียงพับได้ ที่หมดปัญหาเรื่องการนำอาหารใส่หม้อ 18. เครื่องเสียบบาร์บีคิว ที่คุณแค่ยัดๆๆๆ เนื้อและผักลงไป เสียบไม้ แล้วหั่นแบ่งตามแนวเท่านั้นเอง ง่ายใช่ไหมล่ะ!! 17. เครื่องมือปอกสับปะรด แค่ขั้นตอนเดียวเอาออกได้ทั้งเปลือกและแกน . 16.…
-
เรื่องราวของ ‘Sarah Rector’ เด็กสาวผิวสีวัย 12 ขวบ ที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกา..!!
หากพูดถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของชาวแอฟริกัน-อเมริกันในอดีต เราอาจจะนึกถึงภาพของการตกเป็นทาสจากการล่าอาณานิคมในแบบที่เคยเรียนหรือเห็นผ่านสื่อกันมา แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของ Sarah Rector เด็กสาวผิวสีวัย 12 ขวบ ที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในทวีปอเมริกา ณ ขณะนั้น ถึงขนาดที่ว่ามีนักธุรกิจจากเยอรมนี 4 คนแย่งกันขอเธอแต่งงาน เพียงเพราะต้องการส่วนแบ่งของเธอก็มีมาแล้ว..!! Sarah Rector ย้อนกลับไปในวันที่ 5 มกราคม ปี 1914 สำนักพิมพ์ท้องถิ่นได้มีการเผยแพร่รายรับของ Sarah Rector ที่มากถึงเดือนละ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จนนำมาซึ่งความวุ่นวายอื่นๆ ที่ตามมา เดิมที Sarah Rector เกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ปี 1902 ซึ่งพ่อแม่ของเธอก็ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มสัญญา Muscogee (หรือที่รู้จักกันในนาม Creek Nation) โดยเป็นกลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวของ 5 ชนเผ่าพื้นเมืองในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ 5 ชนเผ่าพื้นเมืองที่มีการทำสนธิสัญญาร่วมกันในบนพื้นที่ของรัฐโอคลาโฮม่า หนึ่งในข้อตกลงของสนธิสัญญานั้นมีอยู่ว่า.. เมื่อโอคลาโฮม่าได้ประกาศตนเป็นรัฐแล้ว สมาชิกจะได้รับการแบ่งสันปันส่วนที่ดินทำกิน…
-
หญิงสาวเล่าประสบการณ์ “อ่อย” ชายแปลกหน้าบนรถไฟหลายปี จนสุดท้ายก็ได้รักกัน!!
เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเราจะมัวมานั่งรอให้ฝ่ายชายเป็นมาจีบก่อนก็คงไม่ทันการแล้วหล่ะ เดี๋ยวโดนคนอื่นแย่งไปซะก่อน แต่จะจีบเขาตรงๆ ก็กลัวถูกปฏิเสธ มีอีกทางเลือกหนึ่งคือการอ่อยค่ะ แล้วต้องอ่อยจนกว่าจะได้ด้วยนะ เหมือนกับ Zoë Folbigg หญิงสาวที่ตกหลุมรักชายหนุ่มคนหนึ่งที่เจอบนรถไฟโดยยังเอิญระหว่างเดินทางไปทำงาน และเธอก็ตัดสินใจทำบางอย่างเพื่อให้เขาเห็นเธอในสายตาบ้าง เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเกือบๆ สิบปีก่อน ทุกๆ วัน Zoë จะเดินทางไปทำงานด้วยรถไฟขบวนเดิมๆ ที่เจอแต่ผู้คนเดิมๆ จนเธอรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับชีวิตเป็นอย่างมาก จนกระทั่งวันหนึ่ง มีผู้โดยสารหนุ่มหน้าใหม่มานั่งตรงข้ามกับเธอ แล้วใครจะไปคิดล่ะว่าผู้โดยสารหนุ่มคนนี้ได้ดึงดูดความสนใจของ Zoë เป็นอย่างมาก และเธอก็อยากให้เขาหันมาสนใจเธอด้วยเช่นกัน แต่ดูเหมือนเรื่องราวจะไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะชายหนุ่มมักจะก้มหน้าอ่านหนังสือตลอดการเดินทาง หญิงสาวจึงตัดสินใจใช้กลยุทธ์ใหม่เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา Zoë เริ่มด้วยการเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวเล็กน้อย ปกติแล้วเธอจะใส่กางเกงยีนส์กับรองเท้าคอนเวิร์สทุกวัน แต่เพื่อเรียกความสนใจจากหนุ่มแปลกหน้า เธอจึงหันมาสวมชุดกระโปรงบ่อยขึ้น แต่การเปลี่ยนเสื้อผ้าดูเหมือนจะไม่ได้ผลเลย เพราะชายแปลกหน้ายังคงก้มหน้าอ่านหนังสือเหมือนเดิม แต่นั่นไม่ได้ทำให้หญิงสาวยอมแพ้ หญิงสาวได้เล่าเรื่องหนุ่มบนรถไฟให้เพื่อนร่วมงานฟังด้วย ตั้งแต่นั้นมาเพื่อนๆ ก็จะถามว่า ‘หนุ่มรถไฟเป็นไงบ้าง เขาเงยหน้าขึ้นมามองเธอยัง’ คำตอบคือ ‘ยัง’ หลังจากที่ทำการอ่อยหนุ่มแปลกหน้าเป็นเวลาหลายเดือนแล้วไม่ได้ผล ในที่สุด Zoë ก็คิดว่าปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้การแล้ว เธอต้องลงมือทำอะไรบางอย่างจริงๆ จังๆ สักที เมื่อถึงวันเกิดของเธอในเดือนพฤษภาคม หญิงสาวได้เขียนโน๊ตไว้แล้วยื่นให้เขาตอนเดินออกจากรถไฟ…
-
ชาวเน็ตร่วมกันแชร์ 25 ทิป ‘ไลฟ์แฮ็ก’ เจ๋งๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอีกเย๊อะ..!!
ถ้าพูดถึงการ ‘Hack’ หลายคนอาจคิดถึงการกระทำอะไรบางอย่างที่มันช่วยให้เราได้ผลลัพธ์ที่ต้องการมาแบบง่ายๆ อาจจะเป็น แฮ็กเกม แฮ็กคอมพิวเตอร์ หรือแฮ็กที่เป็นลูกอม ถรุ้ยยยย และไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตามแต่ มันก็มักจะมีเทคนิคบางอย่างซ่อนอยู่เพื่อความง่ายมากขึ้นเสมอ ซึ่งหมดนี้คือ 25 ไอเดียการแฮ็กในชีวิตประจำวันของชาวเน็ต ที่ช่วยให้อะไรๆ ก็เป็นไปได้ง่ายขึ้นอีกหลายเท่าเลยล่ะเธอจ๋าา ถ้าต้องเจาะรูบนกำแพง… การเอาภาพสแกนมาเป็นแบบก็ช่วยทำให้เราเจาะได้แม่นยำมากขึ้น บริเวณหัวขวดพลาสติกที่ถูกตัดออกมา กลายเป็นที่รัดซองแพ็คเกจชั้นเยี่ยมเลยล่ะ ถ้าต้องย้ายเสื้อผ้าจำนวนมากๆ ล่ะก็… วิธีนี้ช่วยได้เสมอ เปลี่ยนหน้าที่ของเลโก้ ให้กลายเป็นพนักงานถือสายชาร์จซะเลย เทคนิคการหลอกน้องหมาอาบน้ำ 101 วิธีการให้นมลูกหมาทั้ง 4 ตัวโดยพร้อมเพรียงกัน ถ้าคุณกำลังหาของชิ้นเล็กที่ตกอยู่ในบ้านล่ะก็… เอาผ้ามาคลุมที่ดูดฝุ่นไว้สิ เด็กหนุ่มเอาเครื่องเป่าใบไม้มาใช้เป็นเทอร์โบเร่งสเก็ตบอร์ด นี่มันอัจฉริยะตัวจิ๋วชัดๆ วิธีการเก็บต้นคริสต์มาสแบบใช้ในปีต่อไปได้เลย วิธีซ่อนกุญแจสำรอง… เจ๋งอ่ะ ถ้าอยากจะถ่ายรูปอะไรที่อยู่ไกลๆ ล่ะก็ วิธีนี้ได้ผลเสมอ เทคนิคการตากผ้าที่มีคนไปจำมาจากในหนัง แล้วมันก็ใช้ได้ผลจริงๆ กระป๋องนูเทลล่าที่หมดแล้วยังมีค่า…
-
ช่างภาพถ่ายภาพแมวตาบอด เพื่อให้คนได้เห็นถึงความงดงามของมัน และรับไปเลี้ยง
สัตว์ทุกตัวต่างมีความน่ารักในตัวเอง ต่อให้พวกมันเกิดมาด้วยสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์บ้างก็ตาม แต่หากคุณสัมผัสมันด้วยใจ จะรู้ว่าแมวก็คือแมวที่พร้อมจะทำให้คุณตกหลุมรักได้เสมอ ด้วยเหตุนี้ Casey ช่างภาพแมวจากลอสแองเจลิสจึงตัดสินใจถ่ายภาพแมวตาบอดในศูนย์พักพิง รวมทั้งในศูนย์รักษาพันธุ์สัตว์ Milo’s เพื่อให้คนรับพวกมันไปเลี้ยง Cooper เป็นแมวตาบอดที่ได้รับการช่วยเหลือตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ มันขี้กลัวและกินเก่ง ช่างภาพบอกว่า “ฉันถ่ายรูปแมวตาบอกจากศูนย์พักพิงหลายๆ แห่ง เพื่อให้มีคนมารับไปเลี้ยง เพราะพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ” หลังจากที่ช่างภาพได้ถ่ายรูปแมวตาบอดไปครั้งแรก ปรากฏว่ามีจำนวนแมวตาบอดที่ถูกรับเลี้ยงมีมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจสร้างชุดภาพแมวตาบอดแบบจริงๆ จังๆ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงในการประกาศให้โลกรู้ว่าแมวตาบอดก็ต้องการคนดูแลเหมือนกัน Pixie Pawspouncer ถูกทิ้งอยู่บนถนนขณะที่มันท้อง โชคดีที่ Milo’s ช่วยเหลือไว้ทัน Thomas Trueheart ถูกน้ำกรดเทใส่หน้า แต่ดีที่มันได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ทำให้ยังพอมองเห็นบ้าง Daisy มาจากบ้านคนเก็บของที่มีแมวถึง 200 ตัว และหมาอีก 100 ตัว ซึ่งมันก็เอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด Phoenix Flamepaws ได้รับการช่วยมาจากถนนในลองแองเจลิส ในสภาพที่ตาบอดและไม่สบาย Regis ได้รับการช่วยเหลือจากศูนย์ฆ่าสัตว์ในลอสแองเจลิส หลังจากที่เจ้าของมันจากไป มันเป็นโรคต้อหิน ทำให้ต้องผ่าตัดตาออก…
-
สงครามเปลี่ยนคน.. ภาพก่อน-หลังศัลยกรรมใบหน้า ของเหล่าทหารกล้าที่บาดเจ็บใน WW1
ขึ้นชื่อว่าสงคราม เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะล้วนแล้วแต่มีความหวาดกลัว ความสูญเสียต่อทั้งสองฝ่ายซึ่งหากนับความเสียหายแล้วน่าจะเป็นความเสียหายต่อด้าน ทรัพย์สิน สมบัติ และสิ่งที่มีค่าที่สุดนั่นคือ ชีวิตของผู้คนในระหว่างสงครามและหลังจากสงครามนั่นเอง ภาพทั้งหมดถ่ายในปี 1918-1919 หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 การเยียวยาช่วยเหลือทหารหลังจากผ่านศึกดูจะเป็นสิ่งที่ Anna Coleman Ladd ประติมากรชาวอเมริกันสามารถช่วยเหลือได้ โดยเธอช่วยทหารที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า โดยการสร้างหน้ากากจากทองแดงเจือจาง ให้คล้ายคลึงกับหน้าเดิมของผู้บาดเจ็บให้ได้มากที่สุด โดยเธอได้ร่วมกับ Harold Gillies ศัลยแพทย์หนุ่ม ในการนำหน้ากากที่ได้จากการปั้นของเธอไปซ่อมแซมส่วนที่ขาดหายไประหว่างสงครามของทหารผ่านศึกทั้งหลายก่อนที่จะส่งกลับไปที่ภูมิลำเนาของทหารคนนั้นๆ ซึ่งผลงานของเธอก็ช่วยทหารหลายๆคนให้มีความสุขมากกว่าเดิมได้ดังต่อไปนี้ ทหารนายหนึ่งที่สูญเสียดวงตาข้างขวาและใบหน้าที่ผิดรูปไป Harold Page พลทหารนายหนึ่งที่สูญเสียดวงตา แต่หน้ากากเปลี่ยนให้ดูเหมือนยังมีดวงตาอยู่ Soldier F เป็นผู้ป่วยที่รูปลักษณ์เสียโฉมที่สุดของผู้ป่วยทั้งหมดของ Ladd ทหารนายหนึ่งที่สูญเสียจมูกทั้งหมดไปก่อนที่จะได้รับการศัลยกรรมโดยหน้ากาก ทหารสวมชุดเครื่องแบบเกียรติยศที่สูญเสียทั้งจมูกและปากไปและได้รับการศัลยกรรมตกแต่ง พลทหาร B โพสท่าให้เห็นถึงความสูญเสียที่แสนจะน่ากลัวของเขา พลทหาร William Thomas สูญเสียใบหน้าส่วนกลางไป ต้องใช้เวลากว่า 6 ปีและ ผ่าตัดกว่า 19 ครั้งเพื่อให้ได้…
-
มาดูกันระหว่าง “อาหารฮิปสเตอร์” กับ “อาหารแบบธรรมดา” คุณชอบแบบไหนมากกว่ากัน!!??
ขึ้นชื่อว่าเป็นเหล่าฮิปสเตอร์ ก็ต้องมีการใช้ชีวิตที่แปลกๆ แหวกๆ ยิ่งเรื่องอาหารการกินนั้นก็ต้องยกความงงให้พวกเขาไปเลย เพราะอาหารของเหล่าฮิปสเตอร์นั้นสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเราได้เสมอ แต่ทว่าอะไรจะดีไปกว่าเมนูธรรมดาแบบเดิมๆ ที่ดูๆ ไปแล้วมันก็น่ากินกว่าเจ้าอาหารที่ถูกดัดแปลงให้แปลกใหม่ อาหารฮิปสเตอร์อะไรบ้างที่เราของเซย์โนววว ไปดูกันดีกว่าา 1. ขนมปังปิ้งที่สอดไส้ชีสสีรุ้ง!! แต่แบบเดิมๆ ก็ทานไม่เปลี่ยนนะ 2. สปาเกตตี้แบบโดนัท ที่ดูเหมือนจะทานได้ง่าย ในขณะที่สปาเกตตี้แบบเดิมๆ ก็มีเสน่ห์ในตัวของมัน 3. ลาเต้ อโวคาโด ที่ดูแล้วเป็นอะไรที่สร้างสรรค์สุดๆ แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบอโวคาโด ก็ทานแบบแก้วปกติก็ได้นะ 4. บางคนชอบเบอร์เกอร์ชาโคล สีดำสุดแปลกแหวกแนว แต่บางคนก็ชอบความเป็นออริจินอลแบบนี้ 5. น้ำเปล่าที่มีหน่อไม้ฝรั่งแช่อยู่ด้วย!!! แต่ใครที่ไม่ชอบกลิ่นของมันก็ต้องขอดื่มน้ำเปล่าธรรมดาๆ ดีกว่า 6. บะหมี่ในโหลแก้วที่ดูครีเอตสุดๆ หรือจะเลือกแบบในถ้วยที่เราทานกันทุกวันดีล่ะ?? 7. เบเกิลสีสันละลานตา ที่สวยงามจนไม่กล้ากิน กับเบเกิลสีธรรมชาติ ที่ดูน่ารักแบบคลาสสิค …
-
ตามหลักวิทยาศาสตร์ แบ่งคู่รักออกเป็น 4 ประเภทเท่านั้น เช็คกันสิว่าคุณน่ะรักกันแบบไหน!?
เคยคิดกันไหมว่าจากคู่รักนับล้านๆ คู่ที่มีอยู่ทั่วโลกนั้น คู่ของเราจะเหมือนหรือแตกต่างกับคู่ของชาวบ้านยังไงนะ!? นักวิทยาศาสตร์ University of Illinois ต้องการไขปริศนาเรื่องความรู้สึกของคู่รักที่มีต่อกัน พวกเขาทำการทดลองจากคนรักกัน 376 คู่ เพื่อศึกษาอารมณ์ที่เปลี่ยนไปในระยะเวลาเกือบหนึ่งปี หลังจากเสร็จสิ้นการทดลอง พวกเขาสรุปว่าบนโลกของเรานี้ มีประเภทคนรักที่สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทเท่านั้น มาดูค่ะว่าคู่ของคุณเป็นแบบไหน 1. มีความสนใจไม่เหมือนกัน แต่เต็มไปด้วยความชอบในตัวอีกฝ่าย คุณเป็นคนรักประเภท – พวกคุณชอบใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอด – เวลาที่คุณได้เจอกันนั้นมันช่างสดใส และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังดึงดูดเข้าหากัน – ความสัมพันธ์ของพวกคุณนั้นพัฒนาได้ด้วยการทะเลาะโต้เถียง และสุดท้ายก็ประนีประนอมกันได้ – ความรู้สึกของพวกคุณนั้น เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนจนสังเกตได้ – บางครั้งบางทีพวกคุณก็หายเงียบไปจากกัน และก็จะมาคิดถึงอีกฝ่ายหนึ่งอยู่เสมอ จนสุดท้ายก็ทนไม่ไหวต้องกลับมาสู่อ้อมกอดของกันและกันอยู่ดี นักวิทยาศาสตร์บอกว่าคนรักกลุ่มนี้มีความ “ซับซ้อน” มากที่สุด แต่ก็เป็นแนวคู่รักที่มีโอกาสเลิกกันได้น้อยที่สุด เมื่อเทียบกับประเภทอื่นๆ ด้วย 2. คู่รักจอมดราม่า คุณเป็นคนรักประเภท – ความรักของคุณนั้นขึ้นๆ ลงๆ เหมือนกับพวกคุณ – คุณชอบตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ จากประสบการณ์แย่ๆ ในอดีตที่ได้พบเจอ หรือเอาเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับคู่รักมาตัดสินใจว่าจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร – เวลาส่วนใหญ่ที่คุณอยู่ด้วยกัน ก็จะชอบพูดถึงเรื่องราวความรักและชีวิตคู่ของตัวเอง –…
-
รวม 10 ฉากจากหนังดัง ที่คนดู “กดหยุด” แล้วกลับไปดูซ้ำมากที่สุด!!
เคยไหมเวลาที่เราซื้อหนังมาดู แล้วเกิดเจอฉากหนึ่งที่เราดูไม่ทันหรือดูแล้วร้อง โอ้วว้าว!! ออกมาจนอยากจะกดหยุดฉากนั้นไว้หรือไม่ก็ย้อนกลับไปดูซ้ำแล้วซ้ำอีก…แน่นอนว่าคุณต้องเคยโดยเฉพาะคุณผู้ชาย เชื่อสิ ด้วยเหตุนี้ทำให้ทาง Brightside ได้จัดอันดับและรวมฉากที่คนหยุดดูมากที่สุดมาให้เราได้ดูกัน ซึ่งแต่ละฉากก็คงไม่ต้องเดากันมากว่ามันจะไปในทิศทางไหน ฮร่าๆ เอาเป็นว่ามันมีอะไรบ้างนั้นเราลองมาดูกัน 10. She’s the Man ฉากที่นางเอกออกมาสารภาพว่าตนไม่ใช่ผู้ชาย แต่เป็นผู้หญิง แน่นอนว่าพระเอกของเราก็ไม่เชื่อเลยให้เธอพิสูจน์ด้วยการเปิดหน้าอกโชว์ งานนี้นางเอกก็เลยเปิดจริง จนคนดูรู้สึกว่าอาจจะได้เห็นอะไรที่มากกว่านั้นเลยกดหยุดและย้อนดูกันรัวๆ ทว่ามันไม่มีอะไรให้ดูเนี่ยสิ นอกจากนั้นฉากนี้ยังทำให้เกิดข้อถกเถียงกันว่า ถ้าอยากพิสูจน์มันต้องโชว์นมอย่างเดียวเหรอ… 9. Fast Times at Ridgemont High Phoebe Cates กลายดาราสาวสุดฮอตในอดีตที่รุ่งสุดๆ ในปี 1980 หลังจากที่เธอได้แสดงฉากขึ้นมาจากสระน้ำในเรื่อง Fast Times at Ridgemont High ซึ่งฉากดังกล่าวนั้นเป็นฉากที่เธอถอดบราของเธอออกช้าๆ จนคนดูต้องตื่นเต้นตามกันๆ ลุ้นว่าจะได้เห็นหน๊มนมกัน จนต้องหยุดดูกันยกใหญ่ 8. Total Recall ฉากในดวงใจของใครหลายๆ คนแม้จะมีการรีเมคแล้วจากฉบับปี 1990 สู่ปี 2012 ฉากนี้ก็ยังตาตรึงใจทำให้หลายคนกดหยุดได้ตลอด ฉากที่ว่านั้นก็คือการพบกันของพระเอกและหญิงสาวที่มีเต้านมสามเต้า!! อ่านไม่ผิดหรอก เธอมีสามเต้าจริงๆ…
-
หญิงสาวเปิดเผยภาพ “เรือนร่างอันบอบช้ำ” ของตัวเอง หลังจากที่ต้องตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์
**บทความอาจมีภาพหรือเนื้อหาที่มีความรุนแรง** แม้ยุคสมัยจะผ่านไปนานแค่ไหน ปัญหาการค้ามนุษย์ก็ยังคงตามติดมนุษยชาติกันมานานเป็นร้อยเป็นพันปี จนล่าสุดก็มีหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ได้ออกมาแสดงถึงผลร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอ หลังจากที่เธอต้องตกไปอยู่ในวงเวียนของการค้ามนุษย์เป็นเวลานาน เธอคนนี้เป็นหญิงชาวบัลแกเรียวัย 20 ปีซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ โดยเธอนั้นถูกคนร้ายจับตัวไปและบังคับให้ตนต้องเข้าสู่กระบวนการค้าประเวณี และทุกครั้งที่เธอพยายามหนีออกมา เธอจะต้องถูกทำร้ายตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงจนเกือบตายเลยก็มี สภาพของหญิงสาวคนดังกล่าว Norbert Ceipek นายแพทย์ผู้เปิดคลีนิคอยู่ในประเทศบัลแกเรียเพื่อคอยช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ เป็นคนที่รับเรื่องและดูแลเหยื่อเคราะห์ร้ายคนนี้ โดยเขาเล่าว่าเธอถูกนำมาทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในบัลแกเรียจึงรอดมาได้ เธอเล่าว่าเธอได้รู้จักกับชายคนหนึ่งที่สัญญาว่าจะช่วยเหลือเธอ พร้อมพาไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่ความจริงไม่เป็นแบบนั้น เมื่อเธอเดินทางไปถึงเธอกลับต้องเดินบนถนนพร้อมกับหญิงที่ถูกพามาค้าประเวณีอีกสามคน แน่นอนว่าเธอไม่ยอมที่จะตกเป็นเหยื่อ ทว่าเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้และถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนักนาน 8 เดือนเต็ม จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้โอกาสกลับมายังประเทศเกิดของเธอ เธอตัดสินใจที่จะหนีออกมาในช่วงเวลานั้น แต่โชคไม่เข้าข้าง เธอถูกจับได้และโดนซ้อมอย่างหนักจนสภาพใกล้ตาย สุดท้ายเธอก็มาจบลงตรงที่หน้าโรงพยาบาลเพราะชายคนดังกล่าวนำเธอมาทิ้งไว้ . โชคยังดีที่เวลาต่อมาเธอได้รับการช่วยเหลือ และชายคนดังกล่าวก็ถูกจับ ทว่าการจะรักษาแผลทั้งหมดของเธอนั้นต้องใช้เงินจำนวนมาก เงินบริจาคที่ Norbert ก็คงไม่เพียงพอ เขาก็ได้แต่หวังว่าจะมีเงินสนับสนุนจากรัฐที่มากขึ้น รวมถึงเงินบริจาคที่เยอะขึ้นเพื่อเพียงพอต่อการทำศัลยกรรมให้เหยื่อค้าบริการทุกคนนั่นเอง… ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาองค์กร International Labor Organization (ILO) และ Walk Free Foundation ได้รายงานว่า…
-
ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งแค่ภาพเดียว เป็นกระแสร้อนทั่วโลกออนไลน์ ชาวเน็ตถามถึงความเหมาะสม!?
ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเรื่องผิดหากคู่รักจะแสดงความรักต่อกันในระหว่างถ่ายพรีเวดดิ้ง แต่การแสดงออกมากน้อยแค่ไหนต้องดูกาลเทศะเพื่อความเหมาะสมด้วย อย่างภาพพรีเวดดิ้งของคู่รักคู่นี้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลกออนไลน์ เป็นภาพขณะที่เจ้าสาวคุกเข่าแล้วทำท่าเหมือนกำลังมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มกลางป่า ไม่ว่าภาพดังกล่าวนี้จะเป็นการจงใจถ่ายหรือถูกแอบถ่าย แต่เมื่อมันถูกโพสต์ในเฟซบุ๊กแล้ว มีชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยมีการแชร์ต่อนับพันครั้ง แคปชั่นประกอบภาพเขียนไว้ว่า “คู่บ่าวสาวที่ไม่อาจรอจนงานเลิกได้ พวกเขาแอบออกไปสวีทกันในที่เงียบๆ โชคดีที่ทั้งคู่ได้กล่าวคำมั่นสัญญาต่อกันแล้ว จึงถือว่าได้แต่งงานอย่างเป็นทางการแล้ว” Michel Klooster ช่างภาพที่ถ่ายภาพดังกล่าวบอกว่า “จริงๆ แล้ว ภาพนี้เป็นไอเดียของแม่ใครสักคนในทั้งสองคนนี้ โดยมีเจตนาเพื่อความสนุกเท่านั้น” ช่างภาพยังบอกอีกว่าทั้งคู่จัดงานแต่งอย่างเรียบง่าย ไม่เป็นทางการ ซึ่งครอบครัวของพวกเขาก็เปี่ยมด้วยความสุข ดังนั้นอะไรที่ทำให้พวกเขามีความสุข ช่างภาพก็ทำให้ แม้คู่รักและครอบครัวจะทำเพราะความสนุก แต่ดูเหมือนชาวเน็ตบางส่วนเห็นว่าไม่เหมาะสม และทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก ฉันไม่เห็นว่ามันจะเป็นภาพตลกตรงไหนเลย ถ้าเป็นฉันนะจะเก็บไว้ให้มิด แล้วเอาไว้ดูกันแค่คนในครอบครัวก็พอ พวกรสนิยมต่ำ พวกเขาต้องเสียใจมากแน่ๆ ถ้าหย่ากัน นี่เป็นพฤติกรรมที่หยาบคายและน่ารังเกียจมาก ไม่คำนึงถึงความเหมาะสมเลย อีก 5 ปี ข้างหน้า มนุษย์คงเดินแก้ผ้าในที่สาธารณะกันเป็นเรื่องปกติละมั้ง หรืออาจจะมีเพศสัมพันธ์ในที่สาธารณะแบบไม่รู้สึกอาย อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตอีกจำนวนหนึ่งที่มองว่าภาพดังกล่าวเป็นการการโพสต์ท่าขำๆ เท่านั้น และพวกเขาคงไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ ตรงนั้น ทำไมต้องคิดว่าพวกเขากำลังมีอะไรกัน เจ้าสาวอาจจะแค่หาของลับเจ้าบ่าวไม่เจอ…
-
ผู้เชี่ยวชาญแนะ “วิธีเอาตัวรอด” ที่ดีที่สุด หากคุณบังเอิญตกอยู่ใน “เหตุกราดยิง”
เมื่อไม่กี่วันนี้เราคงได้ยินข่าวเหตุการณ์กราดยิงฝูงชนที่งานเทศการดนตรีในลาสเวกัส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตนับสิบรายและบาดเจ็บอีกนับร้อย Gun Runnerz หนึ่งในช่องยูทูบที่มักจะนำเสนอเรื่องปืนบอกว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีผู้คนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เพราะผู้คนส่วนใหญ่ไม่คิดว่าเองจะตกเป็นเป้าหมายของมือปืน จึงไม่มีการป้องกันตัวเองเท่าที่ควร ด้วยเหตุนี้เขาจึงอัพโหลดวิดีโอในช่องยูทูบของเขา เพื่อแนะนำวิธีการเอาตัวรอดหากตกอยู่ในเหตุการณ์กราดยิง เขาบอกว่า “เห็นได้ชัดว่าผู้คนที่อยู่ในคลิปที่ลาสเวกัสไม่เข้าใจเสียงปืน และไม่รู้ด้วยว่าปืนกำลังเล็งมาที่พวกเขา ในฐานะที่ผมได้เรียนการยิงปืนและชำนาญในด้านนี้พอสมควร จึงเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะสอนคุณให้เข้าใจเสียงปืน เพื่อนำไปสู่การเอาตัวรอด” “สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้คือ พวกเขาใช้ปืนชนิดไหน และคนยิงอยู่ห่างออกไปไกลแค่ไหน” เพื่อทำความเข้าใจง่ายขึ้น เราจะแบ่งกระสุนออกเป็น 2 ประเภทคือ Supersonic และ Subsonic ซึ่งทั้งสองชนิดจะมีเสียงที่แตกต่างกัน กระสุน Supersonic มักจะใช้กับปืนยาว เมื่อถูกใช้งาน เสียงแรกที่คุณจะได้ยินคือเสียงคล้ายกับการหักนิ้วหัวแม่มือ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงที่แตกต่างกัน 3 เสียงคือ เสียงกระทบกับวัตถุหรือเมื่อยิงถูกคน จากนั้นก็จะได้ยินเหมือนเสียงตกกระทบพื้น ต่อเสียงคล้ายกับคอนกรีตแตก นั่นหมายความหากคุณอยู่ในเหตุการณ์กราดยิง สิ่งแรกเลยคือต้องมีสติและคอยฟังเสียงคล้ายการหักนิ้วแม่มือ จากนั้นก็รีบมองหาต้นเสียง จากนั้นก็พยายามหาที่กำบังที่สามารถป้องกันคุณจากกระสุนปืนได้ (มือปืนของจริงไม่ได้ยิงแม่นแบบในเกมหรอกนะ) ในสถานการณ์จริง แม้คุณจะแยกแยะเสียงปืนได้ แต่มันอาจจะยากตรงการได้ยิน เนื่องจากมีเสียงผู้คนร้องเอะอะแทรกขึ้นมาจนทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าปืนยิงมาจากทิศทางไหน ลองไปชมคลิปกันดีกว่าว่าเราต้องทำยังไงบ้าง หากเพื่อนๆ สนใจเรื่องนี้สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ช่องยูทูบ Gun…
-
17 ภาพการ์ตูนประชดประชัน ที่ไม่รู้ว่าจะตลกหรือสะเทือนใจดี ผลงานโดย Ryan Mason
การ์ตูนเป็นผลงานทางศิลปะอย่างหนึ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิงของมนุษย์ โดยการ์ตูนนั้นก็สามารถแบ่งออกได้หลายแบบทั้งแบบคอมมิกส์หรือที่เป็นแบบแอนนิเมชั่น แน่นอนว่าการ์ตูนนั้นมีหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นต่อสู้ โรแมนติก แต่การ์ตูนที่ได้รับความนิยมมากนั่นก็คือการ์ตูนตลก Ryan Mason เป็นนักเขียนการ์ตูน และผู้สร้างเว็บไซต์คอมมิกส์ชื่อดังที่ชื่อว่า At Random Comics ซึ่งการ์ตูนที่เขาวาดนั้นจะเป็นลายเส้นที่ดูง่ายๆ แถมมุกแต่ละมุกที่เขียนลงไปนั้น ก็ทำมาจากเรื่องจริงของมนุษย์อีกด้วย 1. ขอบคุณ Facebook ที่เตือนความจำว่าวันนี้เป็นวันเกิดแฟน 2. ว่าไงไอ้มนุษย์ ได้ข่าวว่าแกชอบจับนมเมียข้าหรอ?? 3. หลังสัมภาษณ์งานเสร็จ เธอก็ให้ชายสอบถามอะไรก็ได้ เแต่กลับโดนถามเรื่องส่วนตัวซะอย่างงั้น 4. มีเมนูพิเศษเป็นซุปเต่าเหรอ // อืม ซุปเต่า (ทำ) 5. เมื่อหัวหน้าบอกว่าใส่ชุดอะไรมาทำงานก็ได้ 6. ก่อนจะกินอาหารก็ต้องถ่ายรูปก่อนสิ!! 7. แค่จะดึงจมูกเล็บแค่นั้นเอง 8. ถึงเราจะไม่ต้องการแล้ว แต่เห็นแบบนี้ก็ยังอดสยองไม่ได้จริงๆ 9. ฉากการประหารชีวิตของตัวต่อ แค่หมุนๆ แล้วเอาหัวออกมาก็พอ 10. เขาน่าจะถูกบันทึกว่าเป็นมนุษย์คนแรกที่ถูกไดโนเสาร์ฆ่าตายนะ 11.…
-
ทำความรู้จัก “หมอย” ให้มากขึ้น ทำไมต้องเรียกหมอย? โกนได้ไหม? และทำไมต้องมีหมอย?
ประเด็นเรื่อง ‘หมอยๆ’ นี่นับว่าเป็นปัญหายิ่งกว่าประเด็นอภิปรัชญาเลยก็ว่าได้… ซึ่งเอาจริงๆ เราก็แทบจะไม่รู้จักประโยชน์ของมันเลยแม้แต่น้อย นอกเสียจากรู้แค่ว่ามันร่วงได้และตอนสางเล่นก็เพลินมือดีแค่นั้นจริงๆ แล้วตกลง ‘หมอย’ คืออะไรกันแน่นะ? นอกจากเรื่องขนบนหัวแล้ว ฝั่งขนบนโหนกนักวิทยาศาสตร์ก็ได้เข้ามาศึกษาค้นคว้าไว้เช่นกัน แม้จะไม่มีหลักฐานบ่งชี้ชัดในประเทศไทยถึงที่มาของคำว่า ‘หมอย’ แต่นักสังคมวิทยาส่วนหนึ่งชี้ว่า ‘หมอย’ คือคำที่ใช้อธิบายถึงสิ่งที่มีลักษณะเป็นเส้นเป็นฝอย เช่น บริเวณขนที่ปลายข้าวโพดก็จะถูกเรียกว่า.. หมอยข้าวโพด หรือแม้แต่ในภาษาท้องถิ่นทางภาคเหนือ (ล้านนา) ก็มีการใช้คำว่า ‘หมอย’ เรียกสิ่งที่เป็นขนหนวดขึ้นตามร่างกาย เช่นเคราก็จะเรียกว่า หมอยคาง ขนรักแร้ก็เรียกว่า หมอยแร้ เป็นต้น มาพูดถึงคุณงามความดีของ ‘หมอย’ กันบ้าง… แม้บางครั้งเราจะเอามือสางแล้วพบว่ามันหลุดลอยจนฟุ้งเต็มห้องไปหมด เราก็อย่าเพิ่งหงุดหงิดใจจนถึงกับเอามีดโกนมาไถมันให้เกลี้ยงเลย เพราะสิ่งใดที่ธรรมชาติได้สร้างมาและติดมากับการวิวัฒนาการของเรา เชื่อเถอะว่ามันย่อมดีเสมอ เหตุผลใหญ่ๆ เกี่ยวกับประโยชน์ของหมอยก็คือ มันสามารถช่วยลดการเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์ ป้องกันสิ่งแปลกปลอมเช่นเชื้อแบคทีเรีย และอีกทั้งยังช่วยกั้นกลิ่นอับเหม็นของน้องชายได้ด้วย (ไม่เคยพิสูจน์แฮะข้อนี้..) แฟชั่นกับเรื่องหมอยๆ… แต่ด้วยความที่มันดูเหมือนป่าหญ้าคารกรุงรัง เราก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเทรนด์แฟชั่นโลกทุกวันนี้ได้พัฒนาไปจนถึงขั้นที่มีการตัดแต่งย้อมสีขนหรือจัดรูปทรงกันเป็นเรื่องเป็นราว จริงอยู่ที่การตัดแต่งรูปทรงของมันจะช่วยทำให้สาวๆ รู้สึกมั่นใจเวลาใส่ชุดบิกินี่มากขึ้น หรือหนุ่มๆ ก็อาจจะให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง…
-
คุณยายวัย 90 ปี เปลี่ยนหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านให้กลายเป็นแกลลอรี่โชว์ผลงานศิลปะของเธอ
การจะทำให้บ้านเกิดเมืองนอนของเราดูน่าอยู่ยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีอันทันสมัยเสมอไป หากเรารู้จักเทคนิคศิลปะเพียงเล็กน้อย เหมือนกับ Anežka (Agnes) Kašpárková หญิงชราวัย 90 ปี ชาวเมือง Louka ในสาธารณรัฐเช็ก ที่มีเป้าหมายจะเปลี่ยนผนังอาคารทั่วบ้านเกิดของเธอให้เต็มไปด้วยลวดลายดอกไม้ ใบหญ้า เพื่อให้บ้านเมืองดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น Agnes ไม่ได้เป็นศิลปินตั้งแต่แรก แต่เธอเป็นอดีตเกษตรกรที่ชอบวาดรูปเป็นงานอดิเรก ดังนั้นตั้งแต่เกษียณมา เธอก็ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการวาดรูปตามผนังอาคารในหมู่บ้าน หญิงชราไม่ได้ใช้เทคนิคที่ยากอะไรมากมาย เธอใช้เพียงสีน้ำเงินและพู่กันขนาดเล็กสร้างเป็นลวดลายดอกไม้ที่มีความสวยงามและซับซ้อน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลปะแบบดั้งเดิมของ Moravian (ทางใต้ของสาธารณรัฐเช็ก) ตอนนี้หญิงชราได้รับการยอมทั้งในท้องถิ่นและบุคคลภายนอกในฐานะศิลปิน แต่เธอบอกว่าไม่ได้หวังมากขนาดนั้น เธอแค่ทำเพราะมีความสุขกับการวาดรูปจริงๆ “ฉันรู้สึกสนุกกับการวาดรูปและอยากทำให้บ้านเมืองน่าอยู่ขึ้น” Agnes กล่าว นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ หากคุณรักที่จะทำสิ่งใดแล้ว ขอแค่ลงมือทำ อย่าให้อายุหรืออะไรก็แล้วแต่มาขัดขวางคุณได้ เท่านี้ก็จะทำให้รู้สึกเหมือนประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว ลายเส้นและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคุณยาย . แม้จะใช้แค่สีน้ำเงินสีเดียว แต่ก็ทำให้ผนังดูสวยงามได้ คุณยายผู้มีความสุขกับการสร้างสรรค์งานศิลปะ . . . . .…
-
11 ภาพรางวัล Pulitzer Prize รวมเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่ทำให้คนทั้งโลกสะพรึง!!
“ภาพถ่าย” ถือเป็นหนังฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากๆ เป็นเหมือนกระจกสะท้อนของแต่ละยุคว่าเกิดอะไรขึ้น และถูกส่งต่อมายังรุ่นสู่รุ่น เพื่อเป็นบทเรียนให้กับคนรุ่นหลัง แต่เป็นสิ่งคอยย้ำเตือน ให้ประวัติศาสตร์เหล่านี้ไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยอีกครั้ง ตั้งแต่ปี 1942 Pulitzer Prize ก็ได้มอบรางวัลให้กับภาพต่างๆที่ถ่ายได้ยอดเยี่ยมในแต่ละปี ซึ่งแต่ละภาพให้ความรู้สึกหดหู่ไม่ใช่น้อยเลย เรามาดูกันเลยดีกว่าว่ามีภาพไหนบ้าง กองศพของทหารญี่ปุ่นในเกาะ Tarawa แถบแปซิฟิกใต้ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1943 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถ่ายโดย Frank Filan ชนะเลิศ Pulitzer Prize ในปี 1944 ภาพนี้ทำให้ Joe Rosenthal ได้รับรางวัลไปในปี 1945 ถ่ายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นภาพที่ทหารอเมริกัน นำธงไปปักที่ภูเขา Suribachi ในประเทศญี่ปุ่น ภาพนี้ถ่ายโดย Horst Faas ได้รับรางวัลในปี 1965 เป็นภาพที่คุณพ่ออุ้มศพของลูกขณะที่ทหารของเวียดนามมองลงมาจากรถหุ้มเกราะ เกิดขึ้นที่ชายแดนเขมรในวันที่ 19 มีนาคม 1964…
-
รวม 25 การทำลายทรัพย์สินสาธารณะด้วย “ศิลปะ” ที่จะทำให้คุณรู้สึกมีสีสันในชีวิตอีกครั้ง
ถ้าพูดถึงการทำลายทรัพย์สินสาธารณะสมบัติหรือทรัพย์สินที่เป็นของรัฐ ไม่ว่าจะด้วยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ต้องมองว่าเป็นการกระทำที่ผิดอย่างมหันต์ แต่จะเป็นยังไงนะ…ถ้าการทำลายทรัพย์สินสาธารณะสมบัติด้วยวิธีการพ่นสเปรย์ จนเกิดเป็นคำว่า ‘สตรีทอาร์ท’ กลับทำให้เรารู้สึกดีแทนที่จะกลายเป็นความหงุดหงิดใจแทนซะงั้น!? เปลี่ยนต้นไม้จิ๋วๆ บนทางเท้าให้กลายเป็นวันคริสต์มาสของหนู เปลี่ยนป้ายจืดชืดให้ดูมีอะไรซักหน่อย ใครบอกว่านี่เป็นทางเท้าธรรมดาทั่วๆ ไป… ดอกไม้ข้างถนนที่ไม่เคยมีใครเหลียวแลก็กลายมาเป็นงานศิลปะได้ จะโมโหร้ายกันไปถึงไหนห๊าาา ขอไว้อาลัยให้สปอนจ์บ็อบด้วย… บางทีตู้เก่าๆ ที่ถูกลืมก็อาจรู้สึกเหงาได้เหมือนกันนะ อ๊าาาาา…. ตกใจหมดนึกว่าเล่นมุก!! เปลี่ยนท่อแอร์ธรรมดาๆ ให้ดูมีความหมายมากขึ้น ใครบอกว่านี่เป็นพุ่มไม้ นี่เป็นผักโขมของป็อปอายต่างหาก เปลี่ยนซากปรักหักพังให้กลายเป็นงานศิลปะสุดวิเศษ พุ่มดอกไม้ก็ดูเก๋ขึ้นอีกเยอะ ดึงเสน่ห์ของย่านตลาดเก่าในอดีตให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แม้แต่ที่ขั้วโลกเหนือก็อาจมีเรื่องราวที่ชวนให้น่าติดตามมากขึ้น ภาพของหญิงสาวชาวอิตาลี เป็นประตูธรรมดาๆ ที่ดูไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ดึงสีสันและชีวิตให้กลับมาบนท้องถนนอีกครั้ง ภาพของ ฌอง-มิเชล บาสเคียล ศิลปินชาวอเมริกัน เปลี่ยนกำแพงเก่าให้กลายเป็นสถานที่ๆ…
-
หนุ่มนักกล้ามเดือดหลังมีรถจอดขวางหน้าบ้าน เลยลงมือยกออกด้วยมือเปล่าซะเลย!!
ปัญหาเรื่องเพื่อนบ้านเป็นเรื่องที่หลายๆ คนต้องเผชิญ ทั้งเพื่อนบ้านชอบรบกวน เพื่อนบ้านไม่เกรงใจ หรือพฤติกรรมอื่นๆ ที่ทำให้การอยู่ร่วมกันได้อย่างไม่ค่อยสบายใจนัก และมันก็เป็นปัญหาหนึ่งที่น่าปวดหัวมากๆ แต่เรื่องราวของปัญหาเพื่อนบ้านนี้เกิดขึ้นกับ Hakan Acar หรือที่ถูกเรียกว่า Turkish Hulk นักกล้ามหนุ่มอายุ 23 ปีที่พักอาศัยอยู่ในเมืองลูตั้น ประเทศอังกฤษ เมื่อเขากำลังจะไปออกกำลังกายตามปกติ แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เขารู้สึกหัวร้อนอย่างสุดขีด ภรรยาของเขาได้ทะเลาะวิวาทกับป้าข้างบ้านที่ชื่อว่า Abi Mustafa ซึ่งสาเหตุเนื่องมาจากว่าคุณป้าจอดรถขวางทางหน้าบ้านทำให้ไม่สามารถนำรถออกไปข้างนอกได้ นาย Hakan ได้บอกว่า เขามีปัญหากับป้าข้างบ้านมานานหลายเดือนแล้ว เพราะว่าป้าคนนี้ชอบมาจอดรถขวางหน้าบ้านของเขาและครั้งนี้มันทำให้เขาหมดความอดทนซะแล้ว หลังจากที่ทะเลาะกันได้ซักพัก คุณป้าก็ไม่ยอมรับผิดแถมยังด่าเขาอีกด้วย เขาจึงตัดสินใจเข้าไปยกรถของป้าด้วยมือเปล่าแล้วดันมันไปให้พ้นบริเวณบ้าน ถึงแม้ว่ารถจะถูกใส่เบรกมืออยู่ นั่นก็ทำให้นาง Abi โทรหาตำรวจทันทีเพื่อแจ้งจับเขาในข้อหาทำลายทรัพย์สิน ซึ่งนาย Hakan ก็ไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด แถมยังรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่พร้อมกับน้องชายผู้อยู่ในเหตุการณ์อีกด้วย ทันทีที่ตำรวจเดินทางมาถึง ป้า Abi ก็ฟ้องตำรวจทันทีว่านาย Hakan ได้เคลื่อนย้ายรถยนต์ของเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งอาจจะมีความเสียหายจากแรงยกอีกด้วย นี่คือคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่นาย Hakan ยกรถของเธอด้วยมือเปล่า…
-
ช่างภาพตามถ่าย 20 ภาพห้องนอนของชาวอเมริกัน สะท้อนวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไป
ทุกคนไม่ว่าจะจากที่ใดบนโลกใบนี้ ต่างก็มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่สามารถแสดงออกได้จากบุคลิก การแต่งตัว การใช้สิ่งของ และการตกแต่งบ้านต่างๆ นั่นจึงเป็นแรงบันดาลใจให้ Barbara Peacock ซึ่งเป็นนักถ่ายภาพโฆษณา ที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งในอเมริกา รู้สึกสนใจในความต่างของผู้คน เธอจึงสร้างโปรเจกภาพถ่ายใหม่ของเธอขึ้นมา โดยโปรเจกดังกล่าวที่เกิดขึ้นคือ ความต้องการที่จะถ่ายภาพความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกัน เผยให้เห็นถึงวิถีชีวิตในมุมต่างๆ ทั้งในมุมที่หลบซ่อนและในมุมที่เปิดเผย ซึ่งผู้คนในภาพมาจากหลากหลายสถานะ บางคนเป็นเพื่อนของเธอ บางคนเป็นเพียงคนแปลกหน้า ที่เธอเชิญชวนให้เข้ามาร่วมโปรเจคของเธอด้วย จากช่องทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางโซเชียลมีเดีย หรือการ์ดที่ทิ้งไว้ตามร้านค้าท้องถิ่นภายในเมือง Portland รัฐ Oregon ที่เธออาศัยอยู่นั่นเอง จนในที่สุดผลงานของเธอก็พร้อมเผยแพร่ในโลกออนไลน์ อย่างเช่นภาพเหล่านี้… ไลฟ์สไตล์คันทรี่ซึ่งเป็นรากฐานของชาวอเมริกัน คู่รักที่อยู่ในอารมณ์หลับสบายในยามเช้า ชายชรากับแมวตัวหนึ่งในรถบ้านแนววินเทจของเขา คนป่วยที่ต้องการคนดูแล ครอบครัวที่ใช้เวลาด้วยกันในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง ชีวิตแสนเหงาของชายโสดที่อาศัยอยู่แมวอีกตัวหนึ่ง ฮิปปี้สาวที่กำลังสูบบุหรี่ตัวแรกหลังจากตื่นนอน เด็กผู้หญิงผู้รักตุ๊กตาที่มีโลกอันสดใสเป็นของตัวเอง เขียนไดอารี่เพื่อเตือนตัวเองในแต่ละวันที่ผ่านมา ชายหนุ่มผู้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเมื่ออยู่ในโลกของเขา คู่ชีวิตที่ใช้ชีวิตร่วมกันมานานจนเกิดความเคยชินจนลืมความเขินอาย ตื่นขึ้นมาในเช้าของวันใหม่ในบ้านหลังเก่า ศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจของคนๆ หนึ่ง…
-
สุดยอด 11 ภาพลวงตาแห่งยุค ที่เคยหลอกให้คนงงงวยกันมานักต่อนักแล้ว
ภาพต่างๆ ที่ปรากฏอยู่บนอินเตอร์เน็ต บ่อยครั้งก็กลายเป็นที่ถกเถียงกันบนโซเชียลจากการที่แต่ละคนก็เห็นต่างกันไป แต่พอสังเกตดูดีๆ แล้วก็จะเห็นได้ว่าทุกอย่างเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านั้น ภาพลวงตาคือภาพที่ทำให้เรารู้สึกงงงวยทุกครั้งว่าที่เราเห็นนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเป็นภาพที่ถูกสร้างขึ้นมา อย่างเช่น 11 ภาพต่อไปนี้เป็นภาพลวงตาที่หลอกคนทั้งโลกออนไลน์มาแล้ว 1. Kendalll Jenner ไม่มีขา? หลังจากที่นิตยสาร Instyle ได้โพสต์ภาพลงบนอินสตาแกรม เป็นภาพของ Kendall Jenner, Kylie Jenner และ Hailey Baldwin แต่ดันไปสะดุดตาว่า ทำไมสาว Jenner ไม่มีขา จริงๆ แล้วขาอีกข้างของเธอก็อยู่ใต้ชุดนั่นแหละ สังเกตดีๆ ก็จะเห็นขายาวๆ อยู่ 2. สาว 6 คนแต่มีขา 5 คู่ เอ๊ะ!?! จากรูปจะเห็นได้ว่าผู้หญิงคนที่นั่งคนที่ 3 นับจากทางซ้ายไม่มีขา รูปนี้ต้องดูดีๆ หน่อยก็จะเห็นได้ว่าขาของผู้หญิงคนที่ 3 จากทางซ้ายก็คือขาคู่ที่ 2 ถ้าสังเกตอีกก็จะเห็นว่าผู้หญิงคนที่ 2 ใส่กางเกงยีนส์สีดำ เราเลยมองไม่เห็นขาของเธอยังไงล่ะ…
-
แฟนอนิเมะเผยเคล็ดลับ แขวนโปสเตอร์ยังไงโดยไม่ต้องเจาะผนัง ง่ายแสนง่าย ใช้แค่นี้เอ๊งงงง
ปัญหาการเจาะกำแพงบ้านเพื่อไว้แขวนโปสเตอร์นั้นดูจะเป็นปัญหากับคนที่ชื่นชอบการเก็บสะสมหรืออยากจะเอาโปสเตอร์จากอนิเมะ วงดนตรีหรืออะไรก็ตามที่ตัวเองชื่นชอบมาแปะไว้ซะเหลือเกิน อย่างที่เราพอจะทราบกันดีว่าการเช่าที่อยู่อาศัยอยู่นั้น การจะเจาะกำแพงถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้รับการอนุญาติ ส่วนจะเอาสก็อตเทปแปะโปสเตอร์ไว้เฉยๆ เวลาผ่านไปมันอาจจะหลุดเอาได้ง่าย ที่สำคัญเวลาดึงออกอาจจะฉีกได้ด้วยนะ ปัญหาดังกล่าวอาจจะเหมือนเล็กแต่มันกลับยิ่งใหญ่ระดับชาติเลยทีเดียว ฉะนั้นชาวเน็ตขาวญี่ปุ่น きりしま ผู้ชื่นชอบในการติดโปสเตอร์อยู่แล้ว จึงออกมาเสนอแนวคิดในการแก้ไขและมันก็น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ โดยได้มีการนำเสนอวิธีง่ายๆ ที่เห็นแล้ว เออ…แบบนี้ก็ได้นะขึ้นมา วิธีที่ว่านั้นใช้อุปกรณ์ง่ายๆ เพียงแค่สก็อตเทป ที่หนีบกระดาษและแม่เล็กเท่านั้น เริ่มแรกให้เอาคลิปหนีบกระดาษแปะไว้กับสก็อตเทปแบบในภาพข้างล่างก่อน แปะไว้ให้ครบสี่มุมเลยนะ จากนั้นก็เอาแม่เหล็กติดไว้ตรงหัวมุมกระดาษแต่ละจุด บริเวณด้านหน้าของโปสเตอร์ อยากจะนั้นก็ไปแปะกับตรงที่เราติดคลิปหนีบกระดาษ เท่านี้มันก็จะดึงดูดกันไม่หลุดไปไหนแล้ว เป็นไงล่ะง่ายใช่ไหม? วิธีดังกล่าวนั้นก็คือเป็นวิธีง่ายๆ แต่ได้เสียงตอบรับที่โอเคเลยล่ะ เพราะชาวเน็ตมากมายก็พากันมาตอบว่า เออ มันใช้ได้จริงด้วย หรือไม่ก็ชมว่าไอเดียดีมากๆ แต่ที่สำคัญเลยคือไม่ต้องแปะสก็อตเทปลงไปตรงๆ กับโปสเตอร์อีกแล้ว ฉะนั้นวิธีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จนั่นเอง เอาเป็นว่าใครมีวิธีดีกว่านี้ หรืออยากนำเสนอวิธีตัวเองก็ลองบอกกันมาได้นะ ที่มา rocketnews24
-
เปิดใจ Emma Watson ถึงสาเหตุที่โดนแฟนๆ ว่า “เธอไม่ชอบถ่ายรูปกับแฟนคลับเลย!?”
Emma Watson เป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดคนหนึ่ง เธอเป็นที่รู้จักในฐานะผู้รับบทเป็นตัวละคร Hermione Granger ในภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter และล่าสุดภาพยนตร์ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับเธออีกเรื่องหนึ่งก็คือ Beauty and the Beast ที่ได้มารับบทเป็นเจ้าหญิง Belle นั่นเอง แม้ว่า Emma จะเป็นนักแสดงดังที่มีแฟนคลับจากทั่วทุกมุมโลกมากมาย แต่คุณเคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่าทำไมถึงไม่ค่อยเห็นภาพของเธอถ่ายรูปกับแฟนคลับเลย ด้วยเหตุนี้ทางด้านสาว Emma จึงได้ออกมาเผยถึงเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงไม่ค่อยถ่ายรูปกับแฟนๆ “สำหรับฉันถ้ามีคนมาถ่ายภาพและโพสต์มันลงโซเชียลในเพียงแค่เวลา 2 วินาที พวกเขาจะระบุตำแหน่งว่าฉันอยู่ที่ไหน และผู้คนก็สามารถมองเห็นได้ภาย 10 เมตร พวกเขาจะเห็นฉันใส่เสื้อผ้าแบบไหนและอยู่กับใครบ้าง ฉันไม่อาจให้ข้อมูลในการติดตามได้ แต่ฉันจะบอกกับบรรดาแฟนๆ ที่มาขอถ่ายรูปว่า ฉันจะนั่งตรงนี้และจะตอบพวกเขาทุกคำถาม แต่คงจะให้ถ่ายรูปไม่ได้ “ ในขณะที่คนดังคนอื่นๆ อาจมีความสุขในการถ่ายรูปกับแฟนๆ แต่สำหรับสาว Emma แล้ว เธอชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่าที่จะเปิดเผยกับสื่อ อย่างไรก็ตาม Emma ได้เผยอีกว่า เธออาจจะเลือกถ่ายรูปกับแฟนบางคนที่คิดว่ารูปนั้นสำคัญจริงๆ “ฉันต้องเลือกถ่ายรูปอย่างระมัดระวังและเลือกช่วงเวลาในการถ่ายด้วย ซึ่งกับเด็กๆ แล้วฉันไม่ปฏิเสธพวกเขาหรอก”…
-
แข็งแกร่ง!! หนุ่มเอาชนะงูยักษ์ความยาว 7 เมตรได้ด้วยมือเปล่า แต่ก็ร่อแร่ใกล้ตายเหมือนกัน
แทบจะไม่มีใครรอดกลับมาเมื่อต้องเผชิญกับงูยักษ์ขนาดใหญ่ที่สามารถกลืนมนุษย์ลงไปทั้งตัวได้ แต่สำหรับหนุ่มคนนี้กลับเอาตัวรอดจากงูหลามความยาว 7 เมตร ได้อย่างหวุดหวิด นี่เป็นเรื่องราวของ Robert Nababan ที่ได้พบกับงูหลามขนาดใหญ่โดยบังเอิญบนถนนระหว่างเดินทางกลับจากที่ทำงานใน Indragiri Hulu Regency ของจังหวัด Riau ประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่ Robert วัย 37 ปี ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เขาก็เห็นคนสองคนหยุดชะงักระหว่างทาง เนื่องจากมีงูยักษ์นอนขวางอยู่ แทนที่จะหลบไปทางอื่น แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะสู้กับงูยักษ์ตัวนั้น เขาเล่าว่า “ผมพยายามจะเข้าไปจับตัวมัน แต่มันก็ล็อกแขนผมไว้ แล้วก็ทุ่มผมกระแทกกับพื้นอย่างแรง” เขายังเล่าอีกว่าแม้จะถูกงูพันแขนแต่เขาก็พยายามดิ้นเอาตัวรอดและกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับเจ้างูอย่างสุดกำลัง ในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายเอาชนะงูหลามได้อย่างหวุดหวิด แม้จะล้มงูได้แต่ Robert ก็เกือบจะไม่รอดเช่นกัน เพราะหลังจากที่การต่อสู้จบลงเขาได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยสภาพร่างกายอ่อนแรงและได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะแขนซ้ายที่ถูกงูรัด สำหรับศพเจ้างูหลามถูกลากไปยังหมู่บ้านของ Robert สร้างความตะลึงให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก จนแทบไม่อยากเชื่อว่ามนุษย์จะจัดการมันได้ นอกจากนี้งูหลามตัวดังกล่าวยังถือว่ามีขนาดเกือบใหญ่ที่สุดในโลก เพราะในสถิติ Guinness World งูที่ยาวที่สุดอยู่ที่ 7.67 เมตร ซึ่งใหญ่กว่าเพียงนิดเดียวเท่านั้น ชาวบ้านแห่ดูงูความยาว 7 เมตร…
-
ศิลปินสาวนำสิ่งของต่างๆ มาจัดเรียงไล่โทนสี ที่ดูเมื่อไหร่ก็รู้สึกฟินจนแทบเก็บไปฝัน
ในทางศิลปะเรื่องของสี เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากๆ สีต่างๆ ก็สามารถสื่ออารมณ์ได้ต่างกัน ขึ้นอยู่กับการเลือกที่จะใช้ สร้างสรรค์เป็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่บนโลกให้มีความสวยงาม Caroline South ศิลปินผู้ที่หลงใหลในเรื่องของสีสันเป็นชีวิตจิตใจ เธอเป็นแม่ลูกสองที่อาศัยอยู่ในเวสต์ซัสเซ็ก ในประเทศอังกฤษ เธอจบการศึกษาทางด้านศิลปะและการออกแบบ และภายหลังเธอได้เข้าศึกษาทางด้านการออกแบบเซรามิกสามมิติที่สถาบันศิลปะและการออกแบบเซอร์เรย์ เธอเป็นผู้ที่หลงใหลในเรื่องของสีสันต่างๆ และมีความสุขทุกครั้งเมื่อได้ทำงานอะไรก็ตามที่มีสีสันเยอะๆ ทั้งวาดรูป ถ่ายภาพ หรือหัตถกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับงานศิลปะ “ฉันเป็นคนที่ชอบคิดอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ สีเป็นส่วนสำคัญในการทำงานของฉันและฉันชอบที่จะถ่ายรูปตามแต่ละธีมสี หรือเรียงตามลำดับแบบสีรุ้ง” Calroline กล่าว Calroline ได้ใช้ความชอบส่วนตัวบวกกับความคิดสร้างสรรค์ ผลิตผลงานที่ีไม่ว่าใครๆ มองแล้วก็รู้สึกฟินและสบายใจทุกครั้งที่ได้มอง โทนสีฟ้า สีโปรดของใครหลายๆ คน ผลงานของเธอแต่ละอันมักจะไล่โทนสีได้อย่างเยี่ยมยอด แม้กระทั่งเศษกระเบื้องก็ยังเป็นผลงานที่สวยงามได้ สีชมพูแสนหวาน สีของใบไม้แห้ง ยิ่งดู ยิ่งฟินนนนน . . . . . …
-
ชาวเน็ตชอบใจ…PR สุดล้ำจากห้าง ‘Tops’ บนทวิตเตอร์ ไทอินกันโต้งๆ แบบนี้เลยเหรอเนี๊ยะ!! 555+
เรียกได้ว่ากำลังเป็นความฮาที่กระจายไปทั่วโลกโซเชียลไทยในตอนนี้ หลังจากที่มีชาวเน็ตไปค้นพบวิธีการไทอินโฆษณาสินค้าสุดล้ำของห้างท็อปส์ไทยแลนด์ ซึ่งหลังจากได้เห็นแล้วเราก็อดสงสัยไม่ได้จริงๆ ว่าใครอยู่เบื้องหลังงานโฆษณาทั้งหมดนี้กันนะ… เอาเป็นว่าเราไปชมตัวอย่างจากทวิตเตอร์ของ @TopsThailand กันเลยดีกว่า ตกลงว่าพวกพี่จะเล่นกันแบบนี้เลยจริงๆ ใช่ป่ะ? 555+ ไม่ว่าจะหนังเรื่องไหนก็โยงเข้าได้หมด ได้ข่าวช่วงนี้รายการเดอะเฟซมาแรง เจอเดอะเฟรชหน่อยเป็นไง? ไม่ใช่เพลงที่มันมีงูออกมา แต่นี่คืองูที่มีแป้งออกมา โอ้ยยย 555+ ยังโยงได้อยู่นะ ยอมเลยจริงๆ ช่วงนั้นมีดราม่าเรื่องตึกเอียงพอดี เอ๊าาจัดไปครับ กินทามะ? ตกลงถามหรือชวนเนี่ย กินทามะ? กี้หวีเอ้ยยกี่หวีเอ้ยยกี๊หวีเอ้ยยยกีวี่เอ้ยยถูกแล้ว!! ตอนแรกก็แอบงงๆ อ๋อ..เล่นมุกแบบนี้เลยนะ ตกลงว่าใช้กาวติดขนตาปลอมหรือขนติดขนกาวปลอม เอ้ยยหรือปลอมติดขนกาวตา เอ้ยยอะไรว๊ะ!? เจนี่วุ้นเส้นก็มาจ้าา… ใครเผือกกันโต้งๆ แบบนี้เลยเอ๊าา ยุงลาย…. ยุงมันลายจริงๆนะ ช่วงก่อนเดธโน๊ตมาแรง ต้องเจอดริ๊งค์โน๊ตหน่อย!! แหม๊… ไอ้เราก็นึกว่าเนื้อที่เป็นสีเขียวๆ หง่อวววว มีเล่นคำคล้องจองร้ายกาจอ่ะ…
-
แฟนบอลสี่ขาจอมแสบแอบลงไปในสนามตัวเปล่า แถมยังขโมยลูกบอลไปเล่นเองซะงั๊น!!
โดยส่วนมากแล้วเหล่าน้องหมากับลูกฟุตบอลนั้นดูเหมือนจะเป็นของคู่กันซะเหลือเกิน เรื่องนี้ใครที่เลี้ยงน้องหมาไว้ที่บ้านคงจะเข้าใจกันเป็นอย่างดี และเมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเรื่องราวสุดฮาขึ้นระหว่างการแข่งฟุตบอลที่ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อจู่ๆ แฟนบอลสี่ขาตัวหนึ่งได้วิ่งเข้ามาป่วนการแข่งขัน และโชว์ทักษะการเลี้ยงบอลสุดพลิ้ว งานนนี้เล่นเอานักฟุตบอลและฝ่ายจัดการแข่งขันต้องตามจับกันให้วุ่นเลยทีเดียว และนี่คือโฉมหน้าของแฟนบอลตัวป่วนในครั้งนี้!! หลังจากที่การแข่งขันระหว่างทีม San Lorenzo และทีม Arsenal de Sarandí ในศึกฟุตบอลอาร์เจนติน่า พรีเมร่า ดิวิชั่น เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา เริ่มต้นขึ้นเพียง 30 นาที ทันใดนั้นก็มีน้องหมาตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาในสนามพร้อมกับฉกบอลไปเลี้ยงโชว์เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอล เจ้าตูบตัวดังกล่าวได้วิ่งเข้ามาในสนามระหว่างจังหวะลูกเตะมุมของทีมเจ้าบ้านอย่าง San Lorenzo ก่อนที่จะขโมยบอลไปเล่นเป็นของตัวเอง และดูเหมือนงานนนี้เจ้าตูบจะไม่ยอมคืนลูกบอลให้ง่ายๆ มันพาลูกบอลวิ่งไปวิ่งมาที่มุมสนามอยู่นาน ก่อนที่ทีมงานจะพามันออกไปได้ ดูลีลาซะก่อน พลิ้วไหมล่ะ!? และดูเหมือนว่าการปรากฏตัวของเจ้าตูบจะทำให้โชคเข้าข้างทีมเจ้าบ้านอีกด้วย เมื่อหลังจากจบการแข่งขันดังกล่าวทีม San Lorenzo นั้นเป็นฝ่ายเปิดบ้านเอาชนะไปได้ 1 ประตูต่อ 0 จากการรายงานของสื่อท้องถิ่น เจ้าตูบจอมพลิ้วถูกเจ้าหน้าที่สนามรับไปดูแลต่อ และตอนนี้มันก็ได้งานที่สนามฟุตบอลดังกล่าวในฐานะหน่วยเฝ้ายาม ที่คอยไล่พวกนกที่เข้ามาสนามพร้อมกับเพื่อนตูบตัวอื่นๆ ของมัน ไปชมคลิปของเจ้าตูบแบบเต็มกันเลย… และหลายๆ คนที่ได้เห็นเจ้าตูบก็ต่างเข้ามาคอมเม้นต์ในแฟนเพจของ TyC Sports กันมากมาย…
-
ลองให้ผู้คน 150 คน วาดรูปโลโก้แบรนด์ดังจากความทรงจำ จะเป๊ะได้มากน้อยแค่ไหนกันเชียว
แบรนด์สินค้ามากมายต้องทุ่มเงินกันไปหลายล้านเพื่อออกแบบโลโก้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำให้เราจดจำได้ตั้งแต่แรกเห็น แต่ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปนั้นมันจะคุ้มค่าจริงๆ หรือเปล่านะ? เว็บไซต์ที่มีชื่อว่า Signs จึงได้ทำการทดลองดูว่าผู้คนจะสามารถจดจำโลโก้เหล่านั้นได้จริงหรือเปล่า โดยให้คนจำนวน 156 คนอายุตั้งแต่ 20 ถึง 70 ปีมาวาดโลโก้จากแบรนด์ดังในความคิดของตัวเอง ไม่มีต้นแบบอะไรให้ดูเป็นตัวอย่างออกมาจากความทรงจำของพวกเขาล้วนๆ เราลองไปดูผลลัพธ์กันดีกว่าว่าจะแตกต่างหรือว่าเหมือนเป๊ะกับต้นฉบับกันแน่ นี่คือต้นฉบับโลโก้ของ Apple ที่มีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย ผลลัพธที่ได้มุมซ้ายบนคือไม่เหมือนที่สุด มุมขวาล่างคือใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุด บางอันก็ดูเป็นแอปเปิ้ลอยู่นะ แต่ภาพที่แตกต่างกับของจริงที่สุดนี่ดูไม่ออกเลยว่าคืออะไร.. . . เปิดเครื่องมาเจอโลโก้แบบใหม่ ไฉไลกว่าเดิม มาต่อกันด้วยแบรนด์รองเท้าชื่อดังอย่าง Adidas ไม่รู้วางบางคนเขาไปจำเอาจากไหนกันมา อันที่สามแถบดำขาวนั่นคืออะไร? . . บางอันพอมาอยู่บนเสื้อก็ดูสวยดีนะ วิวัฒนาการโลโก้ร้าน Burger King สีดูมีความไม่แตกต่างกันไม่มากเท่าไหร่ ขึ้นชื่อว่า King ก็ต้องมีมงกุฎมาให้เห็นกันหน่อย . . เอามาดัดแปลงให้ดูสมจริงขึ้นมาหน่อยก็ดูสวยได้…
-
นายทหารตั้งใจฆ่าตัวตายเพราะโรคเครียด แต่.. “ฮีโร่หูแหลมสีดำ” โผล่จากพุ่มไม้ช่วยเอาไว้!?
Post-Traumatic Stress Disorder (PTSD) หรือโรคเครียดหลังจากเจอเรื่องร้ายในสงครามนั้นถือว่าเป็นโรคร้ายแรง ที่เรามองเห็นไม่ได้ด้วยตาหรือแม้แต่ยาใดๆ ก็รักษาไม่ได้ เป็นโรคร้ายที่กัดกิดจากภายในจิตใจ… Josh Marino นายทหารอเมริกันที่ไปรบยังประเทศอิรัก ในระหว่างการรบนั้นเองมีระเบิดลูกหนึ่งพุ่งมาตกห่างจากเขาไปไม่ถึง 10 เมตร จนส่งผลให้สมองของเขาสั่นสะเทือนอย่างหนักจนต้องส่งตัวกลับมายังค่ายพัก วินาทีนั้นเขาก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป… Josh นั้นต้องกลายเป็คนที่ป่วยเป็นโรค PTSD และเกิดความเครียดตลอดเวลา เขาได้บอกว่า “พวกเราทหารหลายคนไม่เคยตระหนักเลยว่าพวกเรานั้นได้พาสงครามกลับบ้านมาด้วย และกว่าจะรู้มันก็สายเกินไปแล้ว ผมไม่อยากจะต้องทนกับอะไรแบบนี้อีกแล้ว” เขาได้ทิ้งจดหมายลาตายไว้ในค่าย จากนั้นก็ถือมีดเล่มหนึ่งเดินออกไปพร้อมบุหรี่มวนสุดท้ายที่เขาตั้งใจจะสูบมันให้เต็มปอดก่อนจากโลกนี้ไป เขายืนสูบบุหรี่มวนดังกล่าวกลางสายฝนด้วยปณิธานที่แน่วแน่ แต่แล้วเหตุการณ์เหลือเชื่อก็เกิดขึ้นกับเขา… อยู่ดีๆ ก็มีลูกแมวจรจัดสีขาวดำพุ่งออกมา มันมุ่งตรงมาที่ขาของเขาจากนั้นก็คลอเลียเบาๆ ราวกับเรียกร้องให้เขาอุ้มมันหน่อย วินาทีนั้นเขาตระหนักได้ว่าก่อนจะปลิดชีวิตตัวเองเขาควรจะอุ้มมันขึ้นมา แต่แล้วน้ำตาของเขาก็ไหลรินออกมาโดยไม่รู้ตัวเลย ช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้ากลางสายฝนกับบุหรี่มวนสุดท้ายและลูกแมวหนึ่งตัวนั้นได้ทำให้เขาตระหนักว่าเจ้าแมวจรจัดตัวนี้มันมีอะไรที่ทรมานกว่าเขานัก เขาจึงเปลี่ยนความคิดและค้นพบเป้าหมายใหม่ในชีวิต Josh ได้พูดว่า “วินาทีนั้นผมเลิกคิดถึงแต่ปัญหาของตัวเองทันที แต่ผมกลับเริ่มคิดถึงปัญหาทั้งหมดที่เจ้าเหมียวต้องเจอ และต้องทำยังไงผมจะช่วยเหลือมันได้ดีที่สุด” นายทหารที่เครียดจากสงครามและพร้อมจะจบชีวิตตัวเอง ทว่าตอนนี้เขากลับพบความหมายใหม่ของชีวิตกับเพื่อนชีวิตที่ดีที่สุดของเขา . . …
-
รวมท่าออกกำลังกายเทพๆ ที่ทำให้คุณเบิร์นไขมันจนมอดไหม้ภายในเวลา 15 นาที
ทุกวันนี้คนทั่วโลกกำลังประสบกับปัญหาสุขภาพ อาจเพราะวิถีชีวิตอันเร่งรีบทำให้หลายๆ คนลืมดูแลตัวเอง แม้จะมีชั่ววูบความคิดโผล่ขึ้นมาบ้างว่าตัวเองควรออกกำลังกาย แต่พอคิดถึงเวลาว่างที่มีหลายคนก็ได้แต่พับโครงการและนอนตีพุงต่อไป แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปพบกับท่านออกกำลังกายเทพๆ ที่จะทำให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง เบิร์นไขมันจนมอดไหม้ภายในเวลาเพียง 15 นาทีต่อวัน แบบนี้ใครจะมาอ้างว่าไม่มีเวลาไม่ได้แล้วนะ การเตรียมตัว 1.ก่อนเริ่มออกกำลังกาย ให้ทุกท่านวอร์มร่างกายซัก 5 นาทีด้วยการทำสควอตสองสามครั้ง หมุนข้อต่อที่แขนและขาไปมา โยกตัวไปซ้ายทีขวาที ทำต่อเนื่องหน่อยนะ ไม่งั้นกล้ามเนื้ออาจเกิดอาการบาดเจ็บได้ 2.ตั้งเวลาเอาไว้ 15 นาที ออกกำลังกายตามท่าด้านล่างวนไปเรื่อยๆ พอครบ 15 นาทีก็หยุด พยายามทำให้ได้มากที่สุดล่ะ 3.ทำทุกวันหรือทุกสองวัน และพยายามเพิ่มจำนวนครั้งให้มากขึ้น 4.พอครบ 3 สัปดาห์ ให้เพิ่มเวลาเป็น 20 นาที ท่าที่หนึ่ง ซูโม่จั้มสควอต กางขาโดยหันเข่าไปทางด้านข้างแยกออกเล็กน้อย จากนั้นก็ย่อลงด้วยท่าสควอต พยายาททำให้หลังตรงและอย่าให้หัวเข่างอเลยปลายเท้า เมื่อย่อแล้วก็ดีดตัวเองขึ้นให้เหมือนกระโดด แล้วย่อกลับมาท่าเดิม พยายามทำให้ได้ 12 ครั้งต่อหนึ่งเซต ท่าที่สอง วิดพื้นแขนตะไหล่ ทำท่าเหมือนวิดพื้นทั่วไป จังหวะที่ลำตัวยกขึ้นสูงสุดให้ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาแตะหัวไหล่อีกข้าง…
-
ชาวต่างชาติเขียน 20 สิ่งที่ชวนแปลกใจที่คุณสามารถพบเห็นได้เมื่อไปเยือน “ญี่ปุ่น”
ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีการพัฒนาทางด้านต่างๆ มากที่สุดในทวีปเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยี หรือด้านเศรษฐกิจเองก็ตาม นอกจากความทันสมัยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนอยากที่ไปสัมผัสความสวยงามของประเทศนี้ก็คือวัฒนธรรมและความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นั่นเอง แต่ก่อนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นกันวันนี้เราก็มีเรื่องแปลกๆ ของชาวญี่ปุ่นจากมุมมองของชาวต่างชาติมาฝากกัน ซึ่งแต่ละอย่างนั้นอาจจะทำให้คุณถึงกับอึ้งเลยทีเดียว ส่วนจะมีอะรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีที่ไฮเทคมากแค่ไหน แต่การใช้แฟกซ์เพื่อส่งเอกสารก็ยังถือเป็นเรื่องปกติของที่นี่ 2. แทนที่ผู้บริหารจะเซ็นเอกสารแบบชาวตะวันตก พวกเขายังคงยึดหลักตราประทับ และใช้กันอย่างแพร่หลาย 3. นอกจากนี้การที่คุณจะได้เจอพิซซ่าหน้าแปลกๆ อย่างข้าวโพด มายองเนส หรือโมจิ นั้นถือเป็นเรื่องปรกติ 4. และอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมของที่นี่ก็คือ “mayo-corn” หรือข้าวโพดผสม มายองเนสนั่นเอง 5. การพบเห็นหนุ่มนักธุรกิจนอนเมาแอ๋ ตามสถานีรถไฟในตอนกลางคืนนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดา 6. เมื่อคุณซื้อคุกกี้มาซักถุงหนึ่ง คุณอาจจะเจอห่อขนมซ้อนห่อขนม!! 7. การหาถุงพลาสติกที่นี่ไม่ใช่เรื่องยาก ทุกๆ สิ่งที่คุณซื้อในร้านสะดวกซื้อจะถูกใส่มาในถุงพลสาติก นอกจากนี้ตามอาคารต่างๆ ก็ยังมีถุงพาสติกเอาไว้ในคุณสำหรับใส่ร่มอีกด้วย 8. ถึงแม้จะไม่มีถังขยะสาธาระณะ แต่คุณก็แทบจะมองไม่เห็นขยะแม้แต่ชิ้นเดียวบนถนนเลย 9. ตู้…
-
อัพเดทชีวิต Rosie เหมียวจรที่ถูกเลี้ยงกับแก๊งไซบีเรียน ตอนนี้กลายเป็นหัวหน้าไปแล้ว!!
เพื่อนๆ ยังคงจำเรื่องราวของ “Rosie” แมวจรจัดที่ถูกเลี้ยงโดยครอบครัวไซบีเรียน จนมันคิดว่าตัวเองเป็นหมาไปแล้วได้หรือไม่? แต่ถ้าใครที่จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะในวันนี้เราจะขอมารื้อฟื้นความจำของคุณ ด้วยการมาอัพเดทชีวิตของเจ้าเหมียว Rosie ที่ต้องบอกเลยว่าชีวิตกำลังได้ดิบได้ดีสุดๆ จากที่เคยเป็นแมวน้อยติดตามกลุ่มพี่หมา ตอนนี้ได้สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งไปเป็นที่เรียบร้อยยยยยยย แรงอ่ะ!! ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่เจ้า Rosie จะได้มาเป็นผู้นำหมาอันยิ่งใหญ่นี้ มันเป็นลูกแมวจนกำพร้าตัวน้อยๆ อายุเพียง 2 สัปดาห์ที่อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนถนนในซานโฮเซ่ จนในที่สุดโชคชะตาฟ้าลิขิตให้มันได้พบกับ Thoa Bui (เจ้าของคนใหม่ในอนาคตอันใกล้) และนั่นก็ทำให้เธอถูกชะตากับมัน พร้อมกับรับมันมาดูแลทันที ภายหลังจากที่เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหม่ นอกจากเจ้าเหมียวจะได้รับความรัก และความอบอุ่นจากเจ้าของเต็มที่แล้ว มันยังได้พบกับ Lilo พี่หมาไซบีเรียนฮัสกี้ที่ครองถิ่นอยู่ในบ้านอีกด้วย แน่นอนว่าเจ้า Rosie ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต Lilo และมันทั้งคู่ก็ดูเหมือนจะรักกันมาก ทุกคนในบ้านรู้สึกแปลกใจมาก เมื่อเห็นว่า Lilo และ Rosie นั้นมีความสนิทสนมกันไวเหลือเกิน ในตอนที่ Rosie เป็นแมวจรจัด มันไม่ยอมกินอาหารเลย…
-
เมื่อนักคอสเพลย์พากันแชร์ภาพในอดีต-ปัจจุบัน ของตัวเอง บอกเลยว่าแต่ละคนมาไกลมาก
“คอสเพลย์” คำๆ นี้ เราเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ใช่แล้วจ้า…มันคือการแต่งตัวแต่งหน้าทำผมเลียนแบบตัวละครจากในการ์ตูน ในภาพยนตร์ เกม รวมถึงเซเลปคนดังที่ชื่นชอบ มันอาจจะเป็นเรื่องยากสักหน่อย สำหรับผู้ที่เริ่มแต่งคอสเพลย์เป็นครั้งแรก เพราะบางคนก็ไม่ได้แต่งให้เหมือนเป๊ะไปซะทีเดียว บางคนกว่าจะกลายมาเป็นนักคอสเพลย์ที่ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องมีพัฒนาการหลายๆ ด้าน เช่น การแต่งหน้า แต่งตัว เป็นต้น ล่าสุดบรรดานักคอสเพลย์จากทั่วทุกมุมโลก ก็ได้พากันออกมาแบ่งปันภาพถ่ายก่อนและหลังพัฒนาการคอสเพลย์ของพวกเขา กว่าที่จะแต่งออกมาได้เหมือนหรืออลังการอย่างปัจจุบันต้องผ่านอะไรมาบ้าง? ซึ่งต้องบอกเลยว่าแต่ละคนมาไกลมากจริงๆ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16…
-
ช่างภาพนำ “เซ็กส์ดอลล์” มาถ่ายเป็นนางแบบ หวังให้เห็นมันเป็นมากกว่าเครื่องระบายทางเพศ…
เซ็กส์ดอลล์ (Sexdoll) หนึ่งในสิ่งของที่คิดค้นขึ้นมาสำหรับระบายความใคร่โดยเฉพาะ เซ็กส์ดอลล์เป็นตุ๊กตาที่มีความละม้ายคล้ายคลึงมนุษย์ที่สุด ซึ่งราคาของเซ็กส์ดอลล์ก็ขึ้นอยู่กับความสมจริง รายละเอียดต่างๆ ที่ออกแบบมาให้ตรงสเป็คของแต่ละคน ซึ่งการใช้งานเซ็กส์ดอลล์นั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใช้ในการทำอะไร แต่ก็มีบางคนที่ชื่นชอบในตัวของเซ็กส์ดอลล์จนกลายเป็นความรักเลยก็มี ตามที่เป็นข่าวอยู่บ่อยๆ ด้วยลักษณะทางกายภาพที่เหมือนมนุษย์มากๆ ของเซ็กส์ดอลล์ทำให้ Stacy Leigh ช่างภาพชาวนิวยอร์ก เกิดปิ๊งไอเดียที่จพนำเซ็กส์ดอลล์เหล่านี้มาถ่ายรูป เพื่อที่จะสื่อให้เห็นว่าตุ๊กตาเหล่านี้มีความงามและสามารถเป็นได้มากกว่าเครื่องระบายอารมณ์ทางเพศ Stacy ชื่นชอบตุ๊กตาต่างๆ เป็นอย่างมาก เธอมักจะวาดภาพตุ๊กตาน่ารักๆ อยู่เสมอ และตั้งใจศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ “ยิ่งฉันค้นคว้าเรื่องตุ๊กตามากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งคิดได้ว่าตุ๊กตาเหล่านี้มีความหมายกับคนบางคน มากว่ากว่าที่จะมาเป็นเครื่องระบายอารมณ์ทางเพศอย่างเดียว ฉันอยากจะแสดงให้เห็นว่าตุ๊กตาเหล่านี้ก็ดูมีชีวิตจิตใจเหมือนกัน” การถ่ายภาพของเธอเริ่มจากจัดเหล่าเซ็กส์ดอลล์ให้อยู่ในอิริยาบทที่เหมือนมนุษย์ทุกอย่าง ความงามที่มาจากภายในตุ๊กตาดูเหมือนกับว่าพวกเธอนั้นมีชีวิตจริงๆ . นอกจากจะเป็นเครื่องระบายอารมณ์แล้วเซ็กส์ดอลล์ก็สามารถทำให้คนมีความสุขทางด้านจิตใจได้ ราวกับว่าเป็นคนจริงๆ . . . . . . . . . . . . . . .…
-
ตามติดชีวิตประจำวัน ของหนุ่มญี่ปุ่นที่มีภรรยาเป็น “ตุ๊กตายาง” เขาใช้ชีวิตอย่างไรนะ..
เพื่อนๆ หลายคนอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับข่าวคราวของผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่กับตุ๊กตายางหรือ Sex Dolls ที่มองดูแล้วก็อาจจะแปลกตาไปนิด ที่เห็นคนธรรมดาไปไหนต่อไหนและทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันกับตุ๊กตายาง วันนี้เราจึงจะพาเพื่อนๆ ไปตามติดชีวิตของหนุ่มญี่ปุ่น ที่มีตุ๊กตายางเป็นภรรยา เขาจะมีวิธีปฏิบัติต่อกันอย่างไร จะเหมือนกับการมีภรรยาเป็นมนุษย์หรือไม่ เอ้าไปแอบดูกันเลย!! คุณ Masayuki Ozaki ได้บอกว่าตั้งแต่ภรรยาของเค้าได้ให้กำเนิดลูก พวกเขาก็ไม่ได้มีเซ็กส์กันอีกเลย ซึ่งนั้นมันทำให้เขารู้สึกเหงามากๆ คุณลุง Senji Nakajima เป็นหนุ่มญี่ปุ่นอีกคนหนึ่งที่มีภรรยาเป็นตุ๊กตายางอย่าง Saori ที่ไม่ว่าคุณลุงจะทำอะไร เธอก็มักจะอยู่ข้างๆ คุณลุงเสมอ ไม่ว่าจะไปปิคนิคชิวๆ ท่ามกลางต้นซากุระ หรือจะไปเที่ยวทะเลในวันว่าง Saori นั่งรถไปไหนมาไหนกับคุณลุงได้ธรรมชาติสุดๆ ถ้าใครที่มองผ่านกระจกเข้ามาก็คงไม่รู้เลยว่าเธอนั้นเป็นตุ๊กตายาง ส่วนคุณลุง Masayuki ก็ได้พา Mayu มาใช้ชีวิตใต้หลังเดียวกันกับภรรยาและลูกสาวแท้ๆ ของเขา ซึ่งแน่นอนว่าภรรยาของเขาไม้ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ แต่คุณ Masayuki ก็ได้กล่าวว่า Mayu คือรักแรกพบ ตั้งแต่ที่เขาได้เห็นเธอในโชว์รูม . . ตุ๊กตายางเหล่านี้ขายได้ในทุกๆ ปีกว่า…
-
15 บุคคลเหล่านี้ บอกเล่า “อาการกลัว” แบบแปลกๆ ที่มีอยู่จริงบนโลกของเรา
เวลาพูดถึงความกลัวนั้นเราก็จะนึกถึงการกลัวผี การกลัวถูกคนรอบข้างหลอก กลัวรู กลัวความสูง หรือไม่ก็กลัวสัตว์อย่างแมงมุม ไม่ก็งูเป็นต้น ทว่าความกลัวที่กล่าวมานั้นเราสามารถเชื่อไหมว่าบนโลกนี้ยังมีคนที่กลัวอะไรแปลกๆ อยู่ด้วย!? กลัวแปลกๆ ที่ว่านั้นไม่ใช่กลัวแบบกลัวเฉยๆ แต่มันเป็นอาการโฟเบียหรือก็คือโรคกลัวเลยล่ะ ซึ่งความแปลกของการกลัวพวกนี้คือ มันเป็นอะไรที่คนอื่นเขาไม่ค่อยกลัวกันนั่นเอง ฉะนั้นเราจึงจะมาดูกันว่า 15 บุคคลจากทั่วโลกเขากลัวอะไรแปลกๆ กันบ้าง… โรคกลัวคนสวมชุดคอสตูม Juliana Azevedo หนึ่งในผู้ที่มีอาการกลัวแบบนี้เล่าว่าเธอรู้สึกกลัวมากๆ เวลาเห็นคนใส่ชุดคอสตูมต่างๆ ในห้าง แต่เธอบอกว่าถ้าเป็นดิสนีย์พาร์คนั้นไม่เป็นไร เพราะเธอชอบ (สรุปกลัวไหมเนี่ย) โรคกลัวคาปิบารา Sheyla Hamashy เล่าว่าเธอไม่เคยเจอคาปีบารา แต่เธอเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับมันตอนเด็กๆ เธอก็เลยกลัวมันเรื่อยมา จนกระทั่งปัจจุบันเธอก็ยังกลัวมันอยู่ พร้อมบอกว่าดีแล้วที่ไม่เคยเห็น โรคกลัวหนอนผีเสื้อ Gabriela Salles Gratão เล่าว่าเธอกลัวหนอนแมลงมากๆ ยิ่งตอนที่เห็นมันเดินผ่านยิ่งรู้สึกขนหัวลุกสุดๆ กลัวการตั้งท้อง Julia Mattos บอกว่าที่เธอกลัวการตั้งท้องก็เพราะ มันให้ความรู้สึกว่าจะมีเลือดพุ่งออกมาเต็มไปหมด และยิ่งคิดว่าเด็กจะออกมาจากทางท้องราวกับว่าเด็กกินแม่เพื่อเกิดออกมา เธอยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ กลัวรูปลั๊กไฟ Karina Stephanie…
-
หนุ่มจีนไปพักโรงแรม แต่ไม่มีเงินจ่ายเลยสวมวิญญาณ “สไปเดอร์แมน” โตงเตงเหินเวหา
เราอาจเคยได้ยินโจรหลบหนีหรือนักโทษแหกคุกด้วยวิธีที่เหลือเชื่ออย่างการใช้ช้อนขุดอุโมงค์หรือโดดลงทะเลทำนองนั้น แต่บอกเลยว่าชายคนนี้มีวิธีที่น่าหวาดเสียวมากกว่านั้นเยอะ เรื่องเกิดขึ้นในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน เมื่อชายหนุ่มนิรนามท่านหนึ่งกำลังปีนสายโทรศัพท์เพื่อหลบหนีออกจากโรงแรม เพียงเพราะว่าเขาไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง!? ระยะห่างยังพอไหว แต่ความสูงขนาดนี้ก็ยังกล้าอยู่อีกนะ ด้วยความสูงเกือบ 60 เมตรหรือประมาณตึก 19 ชั้นของสายโทรศัพท์ที่เขาปีนอยู่ทำให้คนเดินผ่านไปมาต้องหยุดดูและรู้สึกหวาดเสียวไปตามๆ กัน เพราะถ้าเกิดพลาดตกลงมารับรองว่าเขาไม่รอดแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นหนทางที่จะปีนข้ามไปยังอีกตึกหนึ่งเขาก็ต้องเจอกับสายไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ห่างตัวเขาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น คือถ้าแตะโดนปุ๊บก็จะช็อตปั๊บ ซี้แหงแก๋ในพริบตา ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่สายโทรศัพท์เส้นไม่ใหญ่มาก ชายคนนี้จึงต้องพยายามรักษาสมดุลของร่างกายเอาไว้และส่ายไปมาอยู่บ่อยครั้ง ทำเอาซะผู้ที่ดูเหตุการณ์อยู่ด้านล่างใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ จังหวะไปติดอยู่ระว่างสายสองเส้น ผู้ชมข้างล่างนี่กรี๊ดกันสนั่น และในที่สุดเขาก็สามารถข้ามไปถึงอีกฝั่งหนึ่งได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้ามาช่วยให้เขาเข้าตึกไปได้อย่างปลอดภัยก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาควบคุมตัวเขาไปที่สถานี ตอนนี้ยังไม่มีการพูดถึงโรงแรมที่เขาเข้าไปพักหรือค่าที่พักที่เขาต้องจ่าย แต่ถึงกับต้องเสี่ยงชีวิตขนาดนี้เดาว่าราคามันคงจะไม่ใช่น้อยๆ หรอกเนาะ เมื่อคลิปวิดีโอการหลบหนีครั้งนี้ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียชื่อ Weibo ของจีน ทำให้มีผู้ชมมากกว่า 7.4 ล้านคนและมีคอมเม้นท์ฮาๆ อันหนึ่งบอกว่า “ไอ้หนุ่มนี่คิดว่าถ่ายหนังแอ็คชั่นอยู่หรือไง?” คลิปวิดีโอไอ้หนุ่ม ‘สไปเดอร์แมน’ ผู้หลบหนีค่าโรงแรม อย่างน้อยเรื่องนี้ก็จบลงได้อย่างแฮปปี้เอนดิ้งไม่มีใครต้องบาดเจ็บอะไร เพื่อนๆ เวลาไปพักที่ไหนก็อย่าลืมถามราคาค่าห้องโรงแรมก่อนด้วยนะ ที่มา: aol
-
อัยย๊ะใช่ๆ!! จัดอันดับ 5 แร็ปเปอร์ผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก กับชีวิตอันน่าอิจฉา โจ๊ะๆ
เมื่อพูดถึงอันดับของคนที่รวยที่สุดในโลกเราก็จะนึกถึง Bill Gates กันก่อนเลย แต่ถ้าพูดถึงวงการแร็ปเปอร์ล่ะ? วงการที่พอพูดถึงเราก็คงจะนึกถึงคนผิวสีที่มีเงินเยอะแยะมากมาย พวกเขาจะรวยขนาดไหนกัน? คำตอบนั้นก็คือรวยมากแต่ไม่มากเท่าเหล่านักลงทุนทั้งหลาย ทว่ายังไงก็ตามพวกเขาเหล่านี้ก็ยังนับว่ามีทรัพย์สินที่เยอะมากเลยทีเดียวล่ะ ล่าสุดทางเว็บไซต์ Forbes เลยจัด 5 อันดับแร็ปเปอร์ที่รวยที่สุดมาให้เราดูกัน ว่าแต่ใครจะอยู่อันดับไหนบ้างตรงใจเพื่อนๆ หรือเปล่ามาดูกัน… อันดับที่ 5 Drake มีสินทรัพย์ 2,800 ล้านบาท ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าพ่อหนุ่มคนนี้จะมาติดอยู่ในอันดับนี้ด้วย เพราะล่าสุดผลงานของเขาเพิ่งจะทะยานสู่อันดับ 1 Billion Spins เป็นคนแรกบน Apple Music จากนั้นเงินก็ไหลมาเท่มาจากทั้งการออกทัวร์คอนเสิร์ต ไหนจะเซ็นสัญญากับ Nike อีกงานนี้ก็รับทรัพย์อื้อเลยล่ะ จึงส่งผลให้เขามาอยู่อันดับ 5 นั่นเอง อันดับที่ 4 Bryan Christopher Williams AKA Bird Man มีสินทรัพย์ 3,600 ล้านบาท ไม่แปลกใจเลยที่ชายคนนี้จะต้องติดอยู่ในอันดับทั้ง 5 เพราะเขานั้นเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งค่ายเพลง Cash Money ซึ่งเป็นค่ายต้นสังกัดให้กับแร็ปเปอร์ชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Lil Wayne…
-
พ่อหนุ่มสุดเกรียน ตัดต่อรูปตัวเองคู่กับคนดังอย่างเทพ เนียนซะจนนึกว่าถ่ายร่วมเฟรมกันจริงๆ
Adobe Photoshop เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการตกแต่งภาพ หรือการทำสื่อต่างๆ ถ้ารู้วิธีใช้บวกกับฝีมืออีกนิดหน่อย รับรองว่าคุณจะต้องสนุกกับการใช้ photoshop แน่นอน Robert Van Impe หรือที่รู้จักในชื่อ Average Rob ชาวเบลเยี่ยม เขาเป็นคนหนึ่งที่ใช้ Photoshop ได้แบบขั้นเทพมากๆ ซึ่งการตัดต่อรูปภาพของเขาจัดว่าเด็ด เนียนซะจนไม่ใครใครดูออกเลยว่าตัดต่อ Robert จบการศึกษาด้านการโฆษณาและการตลาดมาจากมหาวิทยาลัย Coventry ปัจจุบันทำงานเป็นคอลัมนิสต์ให้กับนิตยสารตลกที่ชื่อว่า Humo ของเบลเยี่ยม เขาได้ใช้ Photoshop ในการตัดต่อรูปภาพของเขาเองกับเซเลปคนดัง เพียงแค่ใช้ฝีมือกับความคิดสร้างสรรค์นิดหน่อยก็ได้ภาพสวยๆ ออกมาเรียกยอดไลค์จากชาวเน็ตได้แล้ว งืม ไปแทรกกลางครอบครัวของ Ryan Reynold ซะงั้น โอ๊ววว แม่สาวน้อย แบบนี้ก็เดินพรมแดงได้ด้วยหรอ ตัดต่อแต่ละรูปนี่เน้นฮาอย่างเดียวเลย เอ้า ทำไมตัดต่อตัวเองเป็นหมาล่ะ จัสติน ชั้นหนาวจัง แอบไปแชะรูปกับเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่ …
-
สาวลดน้ำหนักลงได้ 158 กิโลแต่ยังมี ‘ขาย้วย’ โดนคนหัวเราะเยาะ เธอเลยตอบกลับซะหน้าหงาย!!
บางคนอาจเคยเจอกับสายตาดูถูกหรือเสียงหัวเราะเยาะจากคนอื่นรอบตัวแล้วหลังจากนั้นคุณจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร? คุณรู้สึกสูญเสียความมั่นใจแล้วเลือกที่จะหนีปัญหาไปเลยหรือเปล่า? แต่หญิงสาวชื่อ Jacqueline Adan คนนี้มีวิธีที่แตกต่างออกไป บอกได้เลยว่าเป็นสิ่งที่ดีกว่าวิธีการหนีปัญหาแน่นอน เพราะนอกจากจะสามารถจัดการกับมันได้แล้วยังช่วยให้คุณจัดการกับตัวเองได้อีกด้วย เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอผู้เคยหนักมากถึง 231 กิโลกรัมแต่ตอนนี้เธอสามารถลดลงมาเหลือเพียงแค่ 73 กิโลกรัมเท่านั้น หายไปกว่า 158 กิโลกรัมเลยทีเดียว เธอผู้สามารถลดน้ำหนักไปได้มากกว่า 150 กิโลกรัม อย่างไรก็ตามด้วยน้ำหนักที่ลดลงอย่างมากของเธอทำให้เธอมีผิวหนังที่เหี่ยวย่นหย่อนยานอยู่ทั่วร่าง เห็นได้ชัดที่สุดก็คือบริเวณต้นขาที่ดูย้วยมากกว่าปกติ แต่ในวันหนึ่งที่เธอออกไปเที่ยวในช่วงวันหยุดที่เม็กซิโก เธอตัดสินใจที่จะใส่ชุดว่ายน้ำอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้ใส่มานานมากแล้ว และเธอก็ไม่ได้ใช้ผ้ามาคลุมปกปิดร่างกายเอาไว้เหมือนที่เธอเคยทำมาก่อน สมัยที่เธอยังหนักถึง 231 กิโลกรัมอยู่ ในตอนนั้นเธอรู้สึกประหม่าและวิตกกังวลไม่ต่างกับตอนที่เธอยังหนักมากเหมือนเมื่อก่อน หลังจากนั้นเมื่อเธอเดินไปในสระว่ายน้ำก็มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งชี้มาที่เธอและเริ่มที่จะส่งเสียงหัวเราะเยาะราวกับเห็นเธอเป็นตัวตลก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะอายมากจนอยากจะหนีออกไปให้ไกล แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปแล้วเธอหายใจเข้าลึกๆ ยิ้มและเดินลงไปในสระด้วยท่าทีที่นิ่งเฉย เธอบอกว่า “ฉันยังคงรู้สึกกังวลและไม่สบายใจกับเรื่องแบบนี้อยู่มันทำให้ฉันรู้สึกรำคาญ แต่ฉันตั้งใจว่าจะไม่เอาสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับฉันเข้ามาหยุดการใช้ชีวิตของตัวเองได้” “ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะพูดว่าอย่างไรหรือพวกเขาจะพยายามให้คุณรู้สึกแย่ยังไง การแสดงออกของเราที่มีต่อสิ่งนั้นคือสิ่งสำคัญ ทุกคนต้องไม่ลืมที่จะรักตัวเองและร่างกายของเราเอง จงก้าวต่อไปด้วยรอยยิ้ม” เธอกล่าวปิดท้าย เรื่องราวทั้งหมดได้ถูกถ่ายทอดให้ผู้ติดตามเกือบ 60,000 คนของเธอได้เห็นผ่านอินสตาแกรม โพสต์นี้ของเธอก็มียอดไลก์มากกว่า 30,000 คนและเต็มไปด้วยข้อความให้กำลังใจและสนับสนุนเธอ …
-
พาส่องพิพิธภัณฑ์ “กายวิภาคมนุษย์” ในอัมสเตอร์ดัม ที่ใช้ศพคนจริงๆ มาจัดแสดง
เราอาจเคยเห็นพิพิธภัณฑ์หลายประเภทจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์รถยนต์และเครื่องจักร พิพิธภัณฑ์ของเล่น และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ ในโลกเรายังมีพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งที่ไม่เหมือนที่อื่น เพราะพวกเขาจัดแสดง “ร่างกายมนุษย์” นั่นเอง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีชื่อว่า BODY WORLDS: The Happiness Project ตั้งอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรือนร่างของมนุษย์กว่า 200 ร่าง สะท้อนให้เห็นความงดงาม ความซับซ้อน และความเปราะบางของสิ่งที่อยู่ภายในร่างกายของเรา ด้วยความมีเอกลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้กว่า 40 ล้านคนในแต่ละปี ลองไปชมกันดีกว่า . . . . . . . . . . . . . . ข่าวดีคือพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวัน ใครที่สนใจก็ลองหาโอกาสไปเยี่ยมชมได้เลยนะครับ หรือถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มตาม กดเข้าไปที่เว็บไซต์แห่งนี้ได้เลย (bodyworlds) ที่มา bodyworlds
-
วีรกรรมของนายแพทย์ผู้สร้างโรคระบาดปลอมๆ ช่วยชีวิตชาวยิวกว่า 6,000 คนจากกองทัพนาซี
เป็นที่ทราบกันดีกว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพนาซีได้สร้างค่ายกักกันชาวยิวและชนกลุ่มน้อยอันแสนโหดเหี้ยมขึ้นมาทั่วยุโรป จนมีผู้เสียชีวิตนับล้านคนจากค่ายกักกันเหล่านั้น แต่ท่ามกลางความโหดร้ายที่เกิดขึ้นโลกได้รู้จักฮีโร่ผู้ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ไม่ว่าจะเป็น ออสการ์ ชินด์เลอร์ นายทหารนาซีผู้แอบช่วยชาวยิวนับพันให้รอดชีวิตจากค่ายกักกัน หรือ ชิอุเนะ ซุงิฮะระ เจ้าหน้าที่กงศุลญี่ปุ่นผู้ออกวีซ่าช่วยชาวยิวหลายพันคนให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของนาซี และวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับนายแพทย์อีกท่านที่ช่วยชีวิตชาวยิวกว่า 6,000 คนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยการสร้างโรคระบาดปลอมๆ ขึ้นมา เรื่องราวจะเป็นอย่างไรเราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยดีกว่า คุณหมอคนนี้มีชื่อว่า ยูจีน ลาซอฟสกี้ เขาเป็นนายทหารเสนารักษ์ประจำกองทัพโปแลนด์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขาและเพื่อนทหารเสนารักษ์อีกคนชื่อว่า สแตนิสลอว์ มาตูเลวิช ค้นพบว่าหากพวกเขาฉีดแบคทีเรียที่ตายแล้วเข้าไปในตัวคนไข้ คนไข้จะมีผลเลือดเหมือนคนเป็นโรคไข้รากสาดใหญ่ โดยตอนแรกเขาใช้วัคซีนนั้นกับเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่อยากกลับเข้าไปทำงานในแคมป์นรกของพวกนาซี ซึ่งเมื่อกองทัพนาซีได้ทำการตรวจเลือดของเพื่อนคนดังกล่าว เขาก็ถูกสั่งห้ามไม่เข้าให้มาทำงานในแคมป์อีกต่อไปเพราะหวั่นเกรงว่านำโรคระบาดไปแพร่สู่แรงงานและทหารคนอื่นๆ หลังจากนั้นเขาก็ฉีดวัคซีนโรคปลอมให้กับคนไข้ทุกคนที่เข้ามารักษากับเขา ทำให้พวกเขาไม่ต้องกลับเข้าไปในค่ายนรก ซึ่งสถานการณ์โรคระบาดดังกล่าวสร้างความหวาดกลัวให้กับกองทัพนาซีเป็นอย่างมาก จนเมื่อจำนวน “ผู้ติดเชื้อ” เพิ่มสูงขึ้น ทางกองทัพนาซีก็สั่งปิดเมืองดังกล่าวทันทีทำให้ชาวเมืองไม่ต้องไปค่ายกักกันหรือเข้าแคมป์ทำงานอีก และกองทัพนาซีก็ไม่กล้าเข้ามายุ่งกับเมืองดังกล่าวอีกด้วย แม้ภายหลังกองทัพนาซีจะส่งทีมแพทย์เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง แต่ด้วยฝีมือการแสดงละครอันแสนแนบเนียนของคุณหมอทำให้แผนการนี้สามารถดำเนินไปได้เรื่อยๆ นอกจากนี้เขายังฝ่าฝืนคำสั่งของกองทัพนาซีที่ห้ามให้ความช่วยเหลือแก่ชาวยิว ด้วยการทำการรักษาชาวยิวที่ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้เขาเกือบตายหลายต่อหลายครั้ง แต่ด้วยความดีที่เขาทำ ทำให้มีคนคอยช่วยเหลือเขาโดยตลอดแม้กระทั่งทหารนาซีเองก็ตาม ว่ากันว่าเขาสามารถช่วยชีวิตชาวยิวได้มากกว่า 6,000 คนในช่วงที่มีการสู้รบ หลังสงครามจบลงเขาได้อพยพไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต…
-
นักเรียนญี่ปุ่นถีบ-กระชากคอเสื้ออาจารย์ หลังโดนยึดแท็บเลต กลายเป็นประเด็นร้อนแรง!!
สำหรับโรงเรียนในประเทศญี่ปุ่นหลายๆ แห่งแล่ว พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักเรียนเป็นเรื่องที่ไม่สามารถปล่อยให้เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการแอบงีบหลับหรือการกลั่นแกล้งกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคลิปวิดีโอความรุนแรงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนของโรงเรียนมัธยมปลายฟุกุโอะกะ ถึงได้กำลังเป็นกระแสอย่างหนักอยู่ในตอนนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อโรงเรียนนี้อนุญาตให้นักเรียนใช้แท็บเล็ตเพื่อช่วยในการเรียนรู้ แต่มีเด็กคนหนึ่งกลับใช้มันเปิดหนังดูในห้องซึ่งเป็นสิ่งที่ออกจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เมื่ออาจารย์วัย 23 ปีที่กำลังทำการสอนอยู่เห็นเข้าจึงได้ตักเตือนเด็กคนนั้นอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดเมื่อคำเตือนของเขาใช้ไม่ได้ผล ก็เลยยึดเอาแท็บเล็ตของเด็กคนนั้นมาแทน สิ่งที่เขาทำลงไปสร้างความไม่พอใจให้เด็กหนุ่มคนนั้นอย่างมาก เขาจึงเดินเข้าไปหาคุณครูเพื่อหวังจะเอาแท็บเล็ตคืนมา แต่อาจารย์คนนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรและยิ่งทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกโมโหมากยิ่งกว่าเดิม ถึงขนาดที่ว่าเขาถีบไปที่หลังครูคนนั้นถึง 4 ครั้งด้วยความแรงที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เพื่อนร่วมห้องคนอื่นกลับนั่งหัวราะและให้กำลังใจกับสิ่งที่เขาได้ทำ ปล่อยลูกถีบใส่อาจารย์ขณะที่คนอื่นๆ ก็นั่งหัวเราะกัน ยิ่งไปกว่านั้นคือเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อครู และอาจจะชกต่อยไปแล้วถ้าหากว่าอาจารย์คนนั้นไม่ได้ส่งเสียงร้องประท้วงออกมาซะก่อน กระชากคอเสื้อจนอาจารย์ต้องส่งเสียงร้องออกมาก่อนที่จะถูกต่อย คลิปวิดีโอนักเรียนถีบอาจารย์ คลิปดังกล่าวมียอดวิวรวมกันกว่า 1.2 ล้านครั้งทั้งในญี่ปุ่นเองและจากหลายๆ ประเทศทั่วโลก ถึงแม้ชื่อคลิปจะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เชื่อว่าชาวต่างชาติที่ไม่เข้าใจภาษานี้ก็พอจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นนี้โรงเรียนเลือกที่จะไม่แจ้งความกับตำรวจ เพราะเห็นว่าครูคนนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บทางร่างกายอะไร แต่การตัดสินใจของโรงเรียนและคลิปที่เผยแพร่ออกมาก็สร้างความไม่พอใจให้กับชาวเน็ตอย่างมาก “เป็นความผิดของเด็กลงมือและนักเรียนคนอื่นที่นั่งหัวเราะอยู่ ทางโรงเรียนควรรายงานเรื่องนี้ให้กับตำรวจ” “ผู้ปกครองของเด็กคนนั้นคงจะเป็นยากูซ่า” “นี่ไม่ควรที่จะรายงานตำรวจหรอ? นักเรียนมัธยมควรได้เข้าใจว่าความรุนแรงเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ปล่อยให้เด็กถูกจับไปเลย!!” “ลืมเรื่องที่ตำรวจจะมาจับเด็กคนนี้ไปเลย เพราะแม้แต่นักเรียนคนอื่นที่ไม่ลงมือทำอะไรก็สมควรถูกต่อว่าเหมือนกัน มันหมดยุคสมัยที่ลูกศิษย์จะเคารพอาจารย์ไปนานแล้ว” …
-
11 ความลับแปลกๆ เกี่ยวกับเครื่องบิน ที่ผู้โดยสารหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน
การเดินทางด้วยเครื่องบินถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีกาารเดินทางที่สะดวกสบายที่สุดในปัจจุบัน เพราะมีความปลอดภัยค่อนข้างสูงและสามารถพาเราไปถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็ว แต่คุณเคยสังเกตกันบ้างไหมว่าเราที่ใช้บริการอยู่หลายต่อหลายครั้งยังคงไม่รู้จักเครื่องบินกันดีพอเลย ซึ่งความจริงมันเต็มไปด้วยเรื่องที่น่าสนใจและความลับเล็กๆ น้อยๆ ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน สิ่งเหล่านั้นจะมีอะไรกันบ้างเราลองไปดูกันเลย 1. เครื่องบินถูกออกแบบให้เผชิญหน้ากับฟ้าฝ่าได้ เครื่องบินนั้นต้องถูกออกแบบให้ทนกับฟ้าผ่า ตามข้อมูลระบุว่าเครื่องบินแต่ละลำจะโดนฟ้าผ่าแน่ๆ ปีละ 1 ครั้ง หรือไม่ก็ทุกๆ 1,000 ชั่วโมงบินก็จะโดนผ่า 1 ครั้ง ซึ่งทุกลำนั้นจะออกแบบให้เมื่อเกิดฟ้าผ่าแล้วกระแสไฟฟ้าจะวิ่งผ่านตัวเครื่องบินไปจนออกนอกเครื่อง โดยไม่เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์เด็ดขาด 2. ไม่มีที่นั่งที่ปลอดภัยที่สุดบนเครื่องบิน แม้ก่อนหน้านี้จะมีผลการศึกษาออกมาบอกว่าสามแถวด้านหลังสุดคือที่นั่งที่ปลอดภัยมากที่สุดบนเครื่องบิน เมื่อเครื่องบินชนกับอะไรเข้า แต่สิ่งนั้นแทบไม่มีทางเกิดขึ้นและ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา(FAA) ได้ออกมาบอกว่าไม่มีที่นั่งตรงไหนเลยที่จะปลอดภัยที่สุด เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยของอุบัติเหตุ 3. เครื่องบินบางลำจะมีห้องนอนลับสำหรับลูกเรือ เครื่องบินบางลำอย่างเช่น Boeing 777 หรือ 787 จะมีที่นอนให้กับลูกเรือเพราะการต้องทำงานอยู่บนเครื่องเป็นเวลานานในการเดินทางระยะไกลจะต้องพบกับความเหนื่อยล้าเป็นธรรมดา โดยบันไดขึ้นไปบนห้องจะถูกซ่อนเอาไว้และภายในนั้นประกอบด้วยเตียง ห้องน้ำ หรือบางครั้งก็จะมีสิ่งให้ความบันเทิงอยู่บ้าง 4. ยางตรงล้อถูกออกแบบมาให้มีความคงทนเป็นพิเศษ ยางสำหรับล้อเครื่องบินสามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 38 ตันและทนกับการลงจอดด้วยความเร็ว 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้มากกว่า 500 ครั้ง นอกจากนั้นแรงดันที่ต้องเติมเข้าไปจะอยู่ที่…
-
ถ้าเป็น “คู่รัก” ที่คบกันมานานจริงๆ คุณต้องเคยทำอย่างน้อย 25 เรื่องใน 35 เรื่องนี้แน่ๆ
คุณกับแฟนสุดที่รักของคุณนั้นคบกันมานานแค่ไหนแล้ว แล้วคิดว่านั่นน่ะนานแล้วจริงๆ เหรอ.. บอกเลยว่าถ้าคุณรักกันมานานจริงๆ คุณจะต้องเคยผ่านเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้มาบ้างไม่มากก็น้อยแหละ 1. คุณต้องเคยเรอใส่หน้ากัน หลังจากกินอิ่มใหม่ๆ 2. และคุณต้องเคยตดให้กันและกันดมมาแล้ว 3. ยิ่งไปกว่านั้น คุณเอามือกำตดของคุณเอง ไปปล่อยใส่หน้าแฟน เพื่อให้สัมผัสพลังได้อย่างเต็มเปี่ยม 4. บางคนร้ายกว่านั้น ตดในผ้าห่มแล้วก็เอาคลุมแฟนตัวเอง จิตใจทำด้วยอะไร!!!? 5. บางครั้งแฟนป่วย ก็ต้องคอยส่งข้าวส่งน้ำ ป้อนยา หรือกระทั่งเช็ดอ้วกให้ 6. ต้องเคยแอบฟังเสียงระเบิดปรู๊ดปร๊าด เวลาแฟนท้องเสียแล้วหนีไปเข้าส้วม 7. เคยอาบน้ำด้วยกัน กอดกันอย่างอบอุ่นแบบไม่จำเป็นต้องมีเซ็กส์ื 8. สัมผัสลมปากอันหอมกรุ่นของกันและกันในตอนเช้า 9. ต้องเคยดูแลแฟนเมาแบบหมดสภาพ จนคิดว่านี่ตูเลี้ยงลูกอยู่รึไง 10. บีบสิวให้กันและกัน ตั้งแต่ที่หน้า ที่หลัง แม้กระทั่งที่ก้น 11. ต้องเคยเผลอเอาเท้าไปยันหน้ากัน ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม …
-
ตำรวจนิวยอร์กจับกุมสาววัย 18 ปี ใส่กุญแจมือ พาไปยังที่ลับตาคน แล้วลงมือข่มขืน…
เราทุกคนรู้ดีว่าตำรวจมีหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองประชาชนและบ้านเมืองให้อยู่ในความสงบ แต่บางครั้งก็อาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไปเพราะเจ้าหน้าที่กลายเป็นคนก่อคดีขึ้นมาซะเอง เมื่อหญิงสาววัย 18 ปีแจ้งว่าถูกตำรวจแห่งเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา 2 นาย ข่มขืนเธอหลังจากที่เธอถูกจับกุมตัว เธอเล่าว่าในวันนั้นช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาเธอกำลังขับรถเล่นอยู่กับเพื่อนอีก 2 คนบริเวณเกาะ Coney พื้นที่ของนิวยอร์ก หลังจากนั้นก็มีตำรวจมาดึงเพื่อนของเธอออกไปเพราะถูกสงสัยว่าครอบครองสารเสพติดผิดกฎหมายเอาไว้ ต่อมาตามที่เธอได้บอกกับทนายของเธอ Michael David เล่าว่าหญิงสาวถูกจับใส่กุญแจมือและนั่งรถอยู่กับตำรวจสองนายที่พาเธอไปที่ลับตาคน หลังจากนั้นก็บังคับเธอให้มีอะไรกับพวกเขา หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมาเธอก็เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเมือง ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายของเธอที่ได้รับผลกระทบแต่ที่สำคัญคือเรื่องของจิตใจ เธอบอกว่า “การถูกข่มขืนในครั้งนั้นกระทบกระเทือนต่อจิตใจฉันอย่างมาก ตอนนี้ทุกครั้งที่ฉันมองเห็นคนใส่ชุดตำรวจก็จะรู้สึกกลัวไปหมด” ในขณะนี้ คดีที่เกิดขึ้นยังคงอยู่ในช่วงตรวจสอบภายในและตำรวจทั้ง 2 กับผู้บังคับบัญชาของเขาก็ได้ถูกยึดตราและปืนเอาไว้ ระหว่างช่วงที่ยังคงสอบสวนคดีนี้อยู่ แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้อาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิดก็คือนายตำรวจ 2 คนนั้นยอมรับว่ามีอะไรกับเธอจริง แต่บอกว่าไม่ใช่การข่มขืนแต่เป็นการยินยอมของทั้งสองฝ่าย คำให้การพวกเขาทำให้กรมตำรวจนิวยอร์กออกมาพูดว่า “ปัจจุบันคดีนี้อยู่ระหว่างดำเนินการและสืบสวนว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของยาเสพติดที่มีอยู่ทางตอนใต้ของ Brooklyn” คงต้องรอดูต่อไปว่าแท้จริงแล้วคดีนี้จะเกิดจากความผิดของใครกันแน่ เพราะหากเจ้าหน้าที่ผู้ปกป้องไปก่อคดีร้ายแรงซะเอง คงจะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้อย่างมากแน่นอน ที่มา: independent
-
คุณแม่เปลี่ยน “แคม” ส่วนเกินที่ถูกตัดออก มาทำเป็นเครื่องประดับ ชาวเน็ตถกเถียงกันมันส์
นี่คือเรื่องราวของ Tracy Kiss อดีตนางแบบและคุณแม่ลูกสองวัย 29 ปี จากบักกิงแฮมเชอร์ ประเทศอังกฤษ ผู้ที่เคยประสบปัญหาแคมเล็กยื่น ส่งผลให้เธอได้รับความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวดมาตลอดชีวิต แต่ภายหลังจากที่ Tracy ได้เข้ารับการทำศัลยกรรมผ่าตัดตกแต่งแคม (เนื้อส่วนเกินของอวัยวะ) ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ความทุกข์ทรมานในระยะยาวที่เธอได้พบก็สิ้นสุดลง “สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันทำให้ฉันพลาดอะไรหลายๆ อย่างที่ฉันรัก และสนใจไปมากมาย อีกทั้งยังต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับการสวมใส่เสื้อผ้าที่แน่นเกินไป การออกกำลังหาย รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ด้วย และฉันคิดว่าผู้หญิงหลายๆ คน คงประสบกับปัญหานี้เช่นกัน” Tracy กล่าว เมื่อเดือนธันวาคม 2016 ที่ผ่านมา Tracy ก็ได้เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งแคมเจ้าปัญหา และนั่นก็ส่งผลให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไปในทันที ภายหลังจากที่ได้รับการผ่าตัด Tracy ได้ตัดสินใจที่จะเก็บชิ้นส่วนของแคมเอาไว้ เพื่อเป็นการย้ำเตือนว่าเธอเคยได้รับความทุกข์ทรมาน และความเจ็บปวดจากเจ้าแคมส่วนเกินนี้ อย่างไรก็ตาม ชิ้นส่วนของเนื้อเยื่อที่เธอได้เก็บเอาไว้ในขวดนั้น ได้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทา และเริ่มมีรอยเหี่ยวย่น นั่นจึงทำให้ Tracy ได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิดโดยการนำไปสร้างสรรค์ให้กลายเป็นเครื่องประดับสุดจี๊ดซะเลย ทางด้าน…
-
ภาพโฆษณาชวนเชื่อจากเกาหลีเหนือ บอกเล่าความโหดร้ายของทหารอเมริกันในช่วง ‘สงครามเกาหลี’
ช่วงนี้ถ้าพูดถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศนั้น คงไม่มีประเทศไหนที่จะดุเดือดเท่าอเมริกาและเกาหลีเหนืออีกแล้ว เรียกว่าออกมาจิกกัดโจมตีกันอย่างต่อเนื่องเลยก็ว่าได้ จนหลายคนคิดว่าจะเกิดการสู้กันเป็นสงครามครั้งใหม่ได้ทุกเมื่อ… จนกระทั่งล่าสุดได้มีการปล่อยภาพโฆษณาชวนเชื่อจากเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นภาพวาดที่คาดว่ามาจากช่วงปี 2005 โดยเป็นภาพที่เล่าย้อนไปถึงสมัยหลายสิบปีก่อน ว่าด้วยเรื่องราวของทหารอเมริกาที่ทรมานชาวเกาหลีเหนืออย่างโหดเหี้ยมในช่วงสงครามเกาหลี นอกจากนี้ยังมีการคาดว่า ภาพส่วนใหญ่ได้จัดโชว์ในพิพิธภัณฑ์ Sinchon Museum of American War Atrocities ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองเปียงยาง 110 กิโลเมตร นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ระลึกถึงการเสียชีวิตของผู้คนกว่า 35,000 คนในการสังหารหมู่เหตุการณ์ Sinchon ปี1950 ซึ่งเป็นการฆาตกรรมพลเรือนที่โหดเหี้ยมโดยทหารชาวอเมริกัน และยังมีรายงานว่าผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง-อึน เคยพาลูกสาวไปเยี่ยมชมเมื่อช่วงปี 2014 พร้อมกับพูดถึงภาพเหตุการณ์เหล่านี้ว่า ทหารชาวอเมริกานั้นมีความสุขจากการฆ่าอย่างโหดเหี้ยม… ภาพนี้เป็นภาพที่ดูโหดจริงๆ นะ ภาพการทรมาน และทหารอเมริกันที่ยิ้มอย่างมีความสุข ก็ไม่รู้ว่าภาพนี้มันเกินจริงหรือเปล่า แต่ที่รู้แน่นอนคือเป็นภาพที่ทำออกมาได้โหดสุดๆ ภาพของทหารที่พรากเด็กไปจากแม่ และยังทำร้ายผู้หญิงคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ในภาพหลายภาพ ก็จะเป็นการทำร้ายเด็กและผู้หญิงเป็นหลัก . ภาพของชายที่ถูกเผาทั้งเป็นพร้อมสายตาอันมุ่งมั่น กับยิงสาวที่ถูกมัดแน่นและมีปืนจี้ข้างลำตัวเพื่อให้เธอทำตามคำสั่ง…
-
หนุ่มนักคอสเพลย์ชาวอิตาเลี่ยน มาพร้อมกับกล้ามและซิกแพ็คสุดว้าว เห็นแล้วอยากลูบไล้ซะเหลือเกิน
ถ้าใครคิดว่า จะเป็นคอสเพลย์เยอร์นั้นต้องหุ่นไม่ดีหรือหน้าตาไม่หล่อ บอกเลยว่าความคิดพวกนั้นมันตกยุคไปแล้ว ยุคนี้ใครๆ เขาก็รักสุขภาพหันมาสร้างกล้ามเนื้อจนมีซิกแพคแน่นปั๊ก และเมื่อบวกกับความชอบด้วยแล้ว ผลงานจึงออกมายอดเยี่ยมอย่าบอกใคร Leon Chiro คอสเพลย์เยอร์หนุ่มชาวอิตาเลี่ยนที่ฝากผลงานในวงการมานานแล้วกว่าหลายปี ล่าสุดเขาได้แปลงกลายเป็นพ่อหนุ่ม McCree จากเกม Overwatch ในสกิน Summer Game ที่รับรองสาวๆ เห็นแล้วน้ำลายหกแน่ ด้วยหน้าตาอันคมเข้มของพี่ Leon บวกกับหุ่นสุดเป๊ะของเขา การจะคอสเพลย์เป็นตัวละครกล้ามโตและดูหมาดเข้มแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย แต่แค่นั้นมันไม่ยังพอสำหรับการคอสเพลย์สำหรับเขา เขาได้เข้าถึงคาแรคเตอร์และทำพรอพทุกอย่างขึ้นมาเอง รวมถึงยังเดินทางไปถ่ายภาพสวยๆ ถึงชายหาดเมืองซานโตโดมิงโก เลยทีเดียว เกริ่นกันมาเยอะแล้ว เรามาดูเซ็ตภาพที่เหลือของพี่แกกันเลยดีกว่า รับประกันความแข็งแรง จะมุมไหนก็หล่อเป๊ะไม่เปลี่ยนแปลง . เห็นแล้วจากจะลองจับกล้ามพี่แกดูสักหน่อยจริงๆ แฮ่ งานดีจริงๆ นะเธอว์ นอกจากผลงานนี้แล้ว พี่แกยังมีผลงานอื่นๆ อีกเพียบเลยล่ะ แต่ละอันก็งานดีทั้งนั้น แน่นอนว่าก็ยังคงเน้นที่กล้ามแน่นๆ เหมือนเดิมด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น Dante จาก Devil…
-
สาวใหญ่ตัดสินใจฉีดแบคทีเรียอายุกว่า 3.5 ล้านปีเข้าผิวหน้า เพื่อความอ่อนเยาว์
อาจมีหลายวิธีที่จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูอ่อนวัยและไร้ริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกครีมดีๆ มาบำรุงผิวหน้า การฉีดโบท็อก หรือการพอกหน้าด้วยขมิ้น แต่คุณผู้หญิงท่านนี้กลับเลือกวิธีเพื่อความอ่อนเยาว์แตกต่างออกไป นั่นก็คือเธอเลือกที่จะฉีดแบคทีเรียอายุโบราณเข้าไปในผิวหน้าตัวเอง!! คุณ Manoush ได้ให้สัมภาษณ์กับทางช่อง This Morning ถึงเคล็ดลับความอ่อนเยาว์ของเธอว่า เธอเลือกที่จะใช้เจ้าแบคทีเรีย Bacillus F แบคทีเรียที่มีอายุกว่า 3.5 ล้านปี ที่ค้นพบในเขตหนาวเย็นของประเทศรัสเซีย ฉีดเข้าไปในผิวหน้าเพื่อทำให้ดูเด็กลง คุณ Manoush สาวใหญ่วัย 48 ปีใช้เงินกว่า 2 ล้านบาทในการทำศัลยกรรมครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามเธอยอมรับว่าหน้าของเธอนั้นไม่ได้ดูเด็กลงถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ “พวกเขาค้นพบแบคทีเรียตัวนี้ มันเป็นตัวที่ช่วยซ่อมแซมดีเอ็นเอของคุณ นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองโดยฉีดมันเข้าไปในหนู แล้วพบว่าพวกมันดูอ่อนเยาว์ลง” คุณ Manoush นอกจากนี้คุณ Manoush ยังได้บอกอีกว่าเธอเองนั้นผ่านการทำศัลยกรรมมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับใบหน้า การศัลยกรรมดวงตา ทำตาสองชั้น ทำจมูกอีก 2 ครั้ง ผ่าตัดหน้าอก 6 ครั้ง ทำปาก 6 ครั้ง และทำผิวหน้าอีกหลายครั้ง เมื่อถูกสัมภาษณ์ถึงความเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ทำการฉีดแบคทีเรียตัวดังกล่าว คุณ Manoush ให้สัมภาษณ์ว่า “มันค่อนข้างอธิบายได้ยาก แต่ฉันรู้สึกว่าแข็งแรงขึ้น ฉันสามารถทำงานได้นานขึ้นและนอนหลับได้สบายขึ้น และนอกจากนี้ปัญหาไทรอยด์ของฉันยังดีขึ้นอีกด้วย” และนี่คือบทสัมภาษณ์ของเธอในรายการ This Morning …
-
ศิลปินถ่ายภาพแลนด์สเคปจากด้านบน และพบว่ามันช่างมีสีสันงดงามเหลือเกิน
อีกหนึ่งผลงานภาพถ่ายแลนด์สเคป จาก Niaz Uddin ศิลปินผู้มีความหลงใหลในการเดินทางถ่ายภาพสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก โดยภาพทั้งหมดที่เราจะได้ชมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของผลงานที่เจ้าตัวเผยแพร่ให้เราได้ยลโฉมกัน เอาเป็นว่าเราลองไปชมผลงานสุดบรรเจิดของเขากันเลยดีกว่า.. นอกเหนือจากการเป็นช่างภาพแล้ว Niaz ก็มีความหลงใหลที่จะเป็นคนทำหนังเช่นกัน ส่วนเหตุผลหนึ่งที่เจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยขั้นตอน และเทคนิคการถ่ายทำนั่นก็เพราะ.. ภาพทั้งหมดที่เราเห็นนี้ จะถูกนำไปวางขายบนเว็บไซต์ของเขาเอง (niazuddin) สนนราคาก็มีเริ่มต้นตั้งแต่ 50 เหรียญสหรัฐ (ราว 1,700 บาท) และถ้าเป็นงานขนาดใหญ่ มีความละเอียดสูง ราคาก็อาจจะพุ่งสูงไปถึงภาพละ 395 เหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว (ราว 13,500 บาท) นอกเหนือจากงานแลนด์สเคปขนาดใหญ่ ก็ยังมีงานภาพถ่ายขนาดสเกลที่เล็กลงมาด้วยเช่นกัน ภาพทั้งหมดนี้เราสามารถไปติดตามชมได้ที่อินสตาแกรม @neohumanity . . . กว่าจะถ่ายภาพแบบนี้ได้ ต้องผ่านทั้งการฝึกฝน ประสบการณ์ และการลงทุนอะไรหลายๆ อย่าง สุดยอดไปเลยจ้า ที่มา:…
-
“บอร์เดอร์ คอลลี่” 576 ตัว มารวมกันในงานปาร์ตี้ สร้างสถิติโลกแบบโฮ่งๆ ที่น่ารักที่ซู๊ด
สุนัขพันธุ์ บอร์เดอร์คอลลี่ เมื่อพูดออกไปน้อยคนนักที่จะรู้จัก แต่ถ้าพูดถึงหมาเตี้ยๆ หน้าซื่อๆ สีขาวดำล่ะก็คงจะร้องอ๋อกันแน่นอน รู้หรือไม่ว่าเจ้าบอร์เดอร์คอลลี่นี้มันเป็นหมาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหมาอัจฉริยะอันดับต้นๆ เลยนะ จากการทดสอบไอคิวในสุนัข 110 สายพันธุ์ มันเป็นสายพันธุ์ที่มีไอคิวสูงที่สุดด้วย ด้วนนิสัยรักความสงบ ไม่ก้าวร้าว ฝึกง่าย แถมยังเรียนรู้ได้รวดเร็วมันจึงถูกฝึกให้เป็นสุนัขที่เอาไว้ช่วยในภารกิจต่างๆ หรือเอาไว้โชว์ตามงานต่างๆ ด้วยความฉลาดของเจ้าบอร์เดอร์คอลลี่ ทำให้มันเป็นหมาที่เลี้ยงอย่างแพร่นิยมทั่วโลก โดยเฉพาะในออสเตรเลีย และด้วยเหตุนี้จึงได้มีการจัดงานรวมตัวพี่น้องบอร์เดอร์คอลลี่ที่สวนสาธารณะเมือง Willaston ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย งานปาร์ตี้บอร์เดอร์คอลลี่ที่จัดขึ้นนี้จัดขึ้นเพื่อรวบรวมเจ้าสุนัขสายพันธุ์นี้เพื่อบันทึกใน Guiness World Record โดยที่มีเจ้าคอลลี่ทั้งหมด 576 ตัวที่มาเข้าร่วมงานในวันนี้ บอร์เดอร์คอลลี่ บอร์เดอร์คอลลี่ บอร์เดอร์คอลลี่ เต็มไปหมดเลย!!! . แต่อย่างไรก็ตามทาง Guiness World Record ก็ไม่ได้ยอมรับการบันทึกนี้เพราะว่าเป็นการจำเพาะเจาะจงสายพันธุ์มากเกินไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้เหล่าเจ้าของสุนัขโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อยเพียงแค่คิดว่าเป็นการพาน้องหมามาปาร์ตี้ขำๆ แต่ก็ได้ทำลายสถิติการชุมนุมหมาอันเดิมที่ทำไว้ 503 ตัว เจ้าของก็น่ารักไม่แพ้น้องหมาเลยนะเนี่ย สมกับเป็นหมาที่มีไอคิวสูงที่สุดในโลก มีแต่คนรักทั้งนั้นเลย ใส่ปลอกคอสีฟรุ้งฟริ้ง จะได้ไม่หลง …
-
เผยเบื้องหลังที่ไม่ลับของ “14 เหตุการณ์จริงในหนังสยองขวัญ” ที่คุณอาจยังไม่รู้มาก่อน
หนึ่งในความสำเร็จของผู้กำกับภาพยนตร์สยองขวัญคือ การที่ได้เห็นผู้ชมรู้สึกหวาดกลัว ตื่นเต้น หลอน และช็อกไปตามเนื้อเรื่องที่ดูสมจริงในภาพยนตร์ และเพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าบางฉากในหนังสยองขวัญที่ทำให้เราหวาดผวาและกลัวนั้น อาจมีเบื้องหลังความจริงสุดสะพรึงซ่อนอยู่ เช่น การนำศพคนจริงมาร่วมถ่ายทำ หรือจะเป็นเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับเหล่านักแสดง ครั้งนี้เราจะขอมาเผยเรื่องลับๆ ที่ไม่ลับของ 14 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในหนังสยองขวัญที่หลายคนอาจยังไม่รู้ ว่าแต่จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย 1. Texas Chain Saw Massacre ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Texas Chain Saw Massacre อยู่นั้น Gunnar Hansen (ผู้รับบทเป็น Leatherface) ได้เผลอตัดนิ้วของ Marilyn Burns จริงๆ เพราะเขารู้สึกเหนื่อยล้ามากในระหว่างการถ่ายทำ 2. Alien ต้นแบบนักล่าจากต่างดาวในภาพยนตร์ Alien ใช้กะโหลกมนุษย์ของจริงนะ บรึ๋ยยย!! 3. Poltergeist ศพในฉากสระว่ายน้ำของภาพยนตร์เรื่อง Poltergeist นั้น เป็นโครงกระดูกมนุษย์ของจริง ซึ่งทางทีมงานคิดว่ามันจะง่าย และมีราคาถูกกว่าการสร้างกระดูกของปลอม ซึ่งทาง…
-
20 ภาพของเหล่าสัตว์โลก ที่สามารถอธิบายถึงความเป็นตัวคุณได้อย่างตรงเป๊ะ!!
ในหนึ่งวันมนุษย์สามารถมีได้หลายอารมณ์ บางทีตอนเช้าอารมณ์ดีตอนเย็นอาจจะเปลี่ยนเป็นเศร้าก็ได้ ตามเหตุการณ์ที่ได้เจอมาในแต่ละวัน แต่อย่างไรก็ตามคุณก็ยังอยากให้ทุกวันเป็นวันที่อารมณ์ดีใช่ไหมล่ะ เหล่าเจ้าสัตว์โลกต่างก็มีโมเม้นท์ที่ฮาๆ มาอวดเสมอ มันชอบทำหน้าแปลกๆ ในแต่ละอิริยาบทจนเราอดที่จะขำแล้วแชะภาพของมันไม่ได้ ซึ่งแต่ละรูปของเจ้าสัตว์โลกก็สามารถแทนความรู้สึกหรืออารมณ์ของคุณในแต่ละเหตุการณ์ได้ แต่ละอันฮาๆ ทั้งนั้น 1. หน้าของคุณเมื่องอนแฟน แล้วแฟนมากอด //อย่ามายุ่งกับชั้นนะ!! 2. แววตาตอนไดเอท แล้วมีคนกินขนมอยู่ตรงหน้า 3. สีหน้าตอนที่สุดที่รักเข้ามาหอมแก้มตอนอารมณ์ดี 4. เมื่อไปงานปาร์ตี้ แต่รู้จักอยู่คนเดียว //อย่าทิ้งเรานะเพื่อน 5. สายตาพิฆาตเมื่อมีคนหยิบโทรศัพท์ของคุณไปเล่น 6. สีหน้าเมื่อตอนคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดีต่อไปในชีวิต 7. สีหน้าเมื่อเจ้านายไลน์มาบอกว่าวันนี้มีประชุม 8. สีหน้าเมื่อจิกผู้ชายสุดหล่อได้ที่บาร์ //หึหึ เสร็จชั้นล่ะ คืนนี้ 9. เมื่อตั้งใจไปวิ่งลดน้ำหนักแล้วเจอร้านขนมอยู่ข้างทางพอดี พุ่งตัวเข้าใส่รัวๆ 10. หลังจากแต่งหน้าตามยูทูบมันก็จะเป็นแบบนี้แหละ 11. ฉันกำลังขอร้องอ้อนวอนเธออย่าไป… 12.…
-
ใบหน้าของผู้ป่วยเป็น ‘โรคซึมเศร้า’ ความเจ็บปวดที่มองไม่เห็นและไม่อาจสังเกตได้
โรคซึมเศร้า คือสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทำให้รู้สึกเศร้าหรือหดหู่ใจอย่างรุนแรงมากกว่าปกติทั่วไป แต่คนรอบข้างกลับดูไม่ออกว่าพวกเขาเป็นอย่างนั้นในบางครั้ง เพราะอาการของโรคไม่จำเป็นที่จะต้องมีการแสดงออกทางสีหน้าจนทำให้เราคิดว่าพวกเขาก็ดูมีความสุขดี แต่แท้จริงอาจคิดถึงเรื่องในแง่ลบอย่างเช่นการฆ่าตัวตายอยู่ก็ได้ การสนับสนุนและช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อรักษาเยียวยาให้ทุกอย่างสามารถผ่านไปได้ด้วยดี เพราะไม่อย่างนั้นบางทีทุกอย่างมันอาจสายเกินไป เหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ เราลองไปดูกันว่าใบหน้าของคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจะออกมาเป็นอย่างไร? ในตอนที่ไปหาหมอเธอกลับต้องเจอคำพูดว่า “คุณดูไม่เหมือนเป็นโรคซึมเศร้าเลยนะ” ทำให้เธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะเธอไม่สามารถรับการรักษาหรือสั่งยามากินได้ ตอนนั้นเธอคิดว่า “คนที่เป็นโรคนี้จำเป็นที่จะต้องมีใบหน้าอมทุกข์ด้วยอย่างนั้นหรอ?” ไม่กี่วันก่อนที่นักร้องหนุ่มชื่อดัง Chester Bennington ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจะจากโลกนี้ไป ภาพของเด็กชายก่อนที่เขาจะเดินไปหาวิธีการแขวนคอตายในคอมพิวเตอร์ และทำมันใน 2 วันหลังจากนั้น รอยยิ้มที่ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร แต่เขากำลังเผชิญกับโรคนี้ที่ทำลายความสุขของเขาไปจนหมด หลังจากนั้นไม่นานจึงจบชีวิตตัวเองลงไปอย่างน่าเศร้า สาวน้อยวัย 8 ขวบที่แม่ของเธอบอกว่าดูไม่ออกเลยว่าเด็กคนนี้จะทำการฆ่าตัวตาย ในคืนเดียวกันกับที่เธอยังคงเล่นสนุกอยู่กับครอบครัว ถึงอย่างนั้นเธอก็ถูกพาไปโรงพยาบาลได้ทันเวลา ใบหน้าของคุณพ่อและสามีที่ดีคนหนึ่ง ไม่มีใครรับรู้ได้เลยว่าสองอาทิตย์ต่อมาเขาจะแขวนคอตัวเอง ชายเสื้อแดงวัย 60 ปีคือคุณพ่อที่คอยเตือนลูกทุกคนไม่ให้ฆ่าตัวตายอยู่เสมอ กระทั่งเขาทำสิ่งนั้นด้วยตัวเองโดยที่ลูกๆ ไม่มีสามารถรู้ล่วงหน้าก่อนได้เลย รอยยิ้มของเด็กหนุ่มที่ถ่ายรูปกับคุณแม่ในคืนก่อนที่เขาจะตัดสินใจจากโลกนี้ไปด้วยความวิตกกังวลและความเสียใจของคนในครอบครัว หน้าตาของคนที่จมอยู่กับโรคนี้มานานถึง 4 ปี ดูไม่ออกเลยว่าภายใต้รอยยิ้มนั้นเธอต้องทุกข์ขนาดไหน คนมากมายแทบไม่เชื่อเลยว่าเธอเป็นโรคซึมเศร้า…
-
สาวถูกทางบริษัทไล่ออกจากงาน เหตุเพราะถ่ายภาพพรีเวดดิ้งอวดเรือนร่างโดยไม่แคร์สื่อ
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลายคนคงจะได้เห็นภาพถ่ายพรีเวดดิ้งของคู่รักต่างไซส์รักหว่าง Stephanie และ Arryn โดย Bria Terry ช่างภาพจากสตูดิโอ Wolf & Rose Photography ผ่านตากันมาบ้างแล้ว ซึ่งผลงานภาพถ่ายที่ออกมานั้นก็ได้กลายเป็นประเด็นฮอตที่โดนใจชาวเน็ตอย่างมาก เพราะฝ่ายเจ้าสาวร่างอวบ อยากถ่ายภาพพรีเวดดิ้งของตัวเองโดยที่ไม่จำเป็นต้องรีทัชเหมือนภาพถ่ายทั่วๆ ไป เพราะเธอรู้สึกพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น สำหรับภาพถ่ายเซตดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสไวรัลที่โด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว เพราะมันได้แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและการโชว์เรือนร่างเปลือยท่อนบนของพวกเขา ที่ดูแล้วเต็มไปด้วยอารมณ์รักสุดเร่าร้อน เมื่อมองเป็นศิลปะมันก็คือฉากรักที่แสนโรแมนติกและงดงาม แม้ว่าภาพถ่ายเซตนี้จะเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมาย แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันอาจไม่เป็นที่ถูกใจสำหรับทุกคนเสมอไป เพราะล่าสุด (29 กันยายน 2560) ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า หลังจากที่ภาพพรีเวดดิ้งของ Stephanie และคู่หมั้นของเธอได้ถูกเผยแพร่ลงบนอินเตอร์เน็ตจนโด่งดังไปชั่วข้ามคืน เธอก็ถูกทางบริษัทที่ทำงานอยู่ไล่ออกด้วยเหตุผลที่ว่าภาพถ่ายพรีเวดดิ้งเปลือยท่อนบนโชว์เรือนร่างกับคู่หมั้นแบบไม่แคร์สื่อนั้นมันดู “ไม่เหมาะสม” ทางด้าน Stephanie ได้ออกมาเผยว่า Austin Bank เจ้านายของเธอรู้สึกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้คนที่เห็นภาพถ่ายของเธอและมันก็อาจจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อทางบริษัทได้ “พวกเขาบอกว่ามันดูโป๊เปลือยและไม่เหมาะสมอย่างมาก เพราะทางบริษัทได้มุ่งเน้นไปที่ครอบครัว ฉันทำงานกับบริษัทมามากกว่า 1 ปี และทำงานหนักมาโดยตลอด…
-
14 คำศัพท์ที่คนทั่วโลกเข้าใจแบบนึง แต่คนออสเตรเลียเข้าใจอีกแบบ เอ๊า.. ได้ด้วยเหรอ!?
จริงอยู่ที่ออสเตรเลียเป็นอีกประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ทว่าในภูมิภาคหรือวิถีชีวิตที่ต่างออกไป บริบทการใช้คำศัพท์ต่างๆ มันก็ย่อมต่างออกไปเป็นธรรมดา และสำหรับใครที่กำลังมีแพลนจะไปเที่ยวหรือศึกษาต่อที่ออสเตรเลีย วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 14 คำศัพท์ที่ชาวเน็ตทั่วโลกต่างแซวเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าไม่ใช่คนออสซี่จะไม่เข้าใจแบบนี้แน่น๊อนน..!! 1. Barbie ทั่วโลก: ใครๆ ก็เข้าใจว่าคำนี้หมายถึงตุ๊กตายี่ห้อ ‘Barbie’ ที่โด่งดังไปทั่วโลกนั่นแหละ ออสซี่: ถ้าเมื่อไหร่ที่ได้ยินชาวออสซี่พูดถึงคำนี้ ไม่ต้องตกใจว่าเขาจะพูดถึงเรื่องตุ๊กตาทำไมกัน เพราะที่ออสเตรเลีย ‘Barbie’ คือคำย่อที่มาจาก ‘Barbecue'(บาบีคิว) 2. Root ทั่วโลก: พูดถึงคำนี้ก็ต้องคิดถึงราก ไม่ว่าจะเป็นรูทเชิงคณิต รูททางดนตรี หรืออะไรก็ตามแต่… ออสซี่: สำหรับคนที่นี่จะหมายถึงกิจกรรมยามที่คุณได้จบงานกับใครซักคน… (ว่าง่ายๆ ก็คือมีเซ็กส์นั่นแหละ) 3. Doodle ทั่วโลก: ใครๆ ก็ต้องคิดถึงลายเส้นขยุกขยิกที่ดูไม่เป็นระเบียบ เหมือนเด็กขีดๆ เขียนๆ สมุดเล่นยังไงยังงั้น.. ออสซี่: ….จะบอกให้ว่ามันหมายถึง ‘หรรมส์’ นั่นแหละ 4. Piss ทั่วโลก: แน่นอนว่ามันหมายถึงการ ‘ขับปัสสาวะ’…
-
9 ความจริงที่เราอาจเคยเรียนจากในหนังสือ แต่กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ไม่ใช่ซะแล้ว..!?
เรียกได้ว่าแทบทุกวันที่โลกเรามีการค้นพบความจริงใหม่ๆ ตลอด บ้างก็เป็นความจริงที่ลบล้างทฤษฎีอันน่าเชื่อถือต่างๆ ที่เราอาจเคยเรียนมาจากในหนังสือ ซึ่งคราวนี้เราจะพาไปส่องโลกกับ 9 ความจริง (Facts) ที่มีการยืนยันออกมาแล้วว่า เป็นทฤษฎีที่มีความน่าเชื่อถือและความเป็นไปได้สูงกว่าที่เราเคยเรียนกันมา จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย… 1. ประเทศอเมริกาได้รับอิสระภาพในวันที่ 4 กรกฎาคม ปี 1776 ทุกๆ วันที่ 4 กรกฎาคม ของทุกปี ชาวอเมริกันจำนวนมากจะออกมาเดินขบวนพาเหรดเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้แด่วันประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา ทว่าอันที่จริงในตอนนั้นสหรัฐอเมริกาเพิ่งได้รับเอกราชเพียงแค่ไม่กี่รัฐเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ได้รับเอกราชเป็นของตนเองตามกฎของราชอาณาจักร และสงครามปฏิวัตอเมริกาก็ยืดเยื้ออยู่นานนับปี ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอเมริกาได้รับเอกราชอย่างเต็มใบก็เมื่อครั้นปารีสเซ็นสัญญาถอยทัพในวันที่ 3 กันยายน ปี 1783 นั่นเอง 2. ฟันของ George Washington ทำมาจากไม้ มีทฤษฎีมากมายที่กล่าวอ้างว่า George Washington มีฟันปลอมที่ทำมาจากไม้ ซึ่งทางด้านนักประวัติศาสตร์ก็ได้ออกมาค้นคว้าหาข้อมูลเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง พวกเขาพบว่าในช่วงศตวรรษที่ 18 ชนชั้นทาสมักจะถอนฟันตัวเองออกและนำไปขายให้หมอฟันเพื่อหาเงินมาประทังชีวิต และมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าในปี 1784 เขาได้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากให้กับทาสชาวแอฟริกันเพื่อแลกกับฟัน 9 ซี่…
-
จัดไปครับ…ครูบอกสามารถนำโน้ตขนาด 3×5 เข้าสอบได้ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็น ‘นิ้ว’ หรือ ‘ฟุต’!!
ในบางวิชาที่จะต้องเจอกับสูตรตัวเลขเยอะๆ ชนิดที่ว่าเรียนซ้ำซัก 3 ปีก็คงจะจำไม่หมด ปัจจุบันผู้สอนทั้งหลายก็จะใจดีอนุญาตให้นักเรียนสามารถนำกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆ จดข้อมูลบางส่วนเข้าห้องสอบได้ เช่นเดียวกับอาจารย์หนุ่มชื่อว่า Reb Beatty ที่ยอมให้นักเรียนในวิชาบัญชีการเงินของเขาสามารถนำกระดาษโน้ตขนาด 3×5 นิ้วเข้าไปในห้องสอบได้ แต่เมื่อถึงวันสอบเขาก็ต้องพบว่าเขาได้ลืมสิ่งสำคัญไปซะแล้ว เมื่อนักเรียนชายคนหนึ่งของเขาชื่อ Elijah Bowen ได้นำกระดาษโน้ตขนาด 3×5 ฟุตมาในวันสอบด้วย! นั่นมันมากกว่า 10 เท่าที่ควรจะเป็นในความคิดของเขาเลย โต๊ะยังไม่ใหญ่เท่าโน๊ตของไอ้หนุ่มนี่เลย เหตุผลที่นักเรียนคนนั้นทำอย่างนี้ก็เพราะว่าในตอนที่อาจารย์บอกให้นำโน้ตเข้าได้ พูดเพียงว่า “สามารถนำโน้ตขนาด 3×5 เข้าห้องสอบได้นะ” แต่ไม่ได้บอกนี่ว่าใช่หน่วยวัดเท่ากับเท่าไหร่ ขนาดของกระดาษโน้ตอันมหึมาทำเอาอาจารย์หนุ่มต้องถึงกับกุมขมับ หลังจากนั้นก็รีบไปค้นหาแบบข้อมูลการเรียนการสอนที่แจกให้นักเรียนในต้นเทอมและพบว่าเขาไม่ได้เขียนบอกหน่วยวัดเอาไว้เลย เมื่อเป็นอย่างนั้นจึงทำให้นักเรียนสุดแสบสามารถใช้โน้ตนั้นได้โดยไม่ผิดกฎ สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนภายในห้องโดยเฉพาะกับเจ้าหนุ่มคนนั้น นี่คือหน้าตาของอาจารย์หนุ่มกับลูกๆ ที่น่าร๊ากกก ครูคนนี้ได้สอนวิชานี้ในวิทยาลัย Anne Arundel รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกามานานหลายปีและอนุญาตให้เด็กสามารถนำโน้ตเข้าห้องสอบได้เสมอ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ต้องเจอกับอะไรแบบนี้ ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกยินดีที่ได้เห็นนักเรียนมีความคิดเป็นของตัวเอง มีจินตนาการกล้าคิดนอกกรอบ และเขาก็บอกว่า “ผมชมเชยให้กับคนที่สามารถรับรู้ปัญหาที่มีอยู่ซ้ำๆ นี้ได้ และมีความกล้าที่จะทำสิ่งนั้นออกมาตรงๆ” นับว่าเป็นบทเรียนให้กับความรอบคอบของคุณครูทั้งหลายเลยนะ เพราะจุดเล็กจุดน้อยอาจตามมาด้วยสิ่งที่ใหญ่กว่าที่คิดไว้เลยก็ได้ ที่มา: buzzfeed
-
ชายหนุ่มผู้เปลี่ยน “รองเท้าแตะเก่า” ให้กลายเป็น “หุ่นฟิกเกอร์” สร้างกระแสดัง
รองเท้าแตะหูหนีบที่เราใส่กันอยู่ทุกวัน เมื่อสายมันขาดหรือขนาดเท้าเราใหญ่เกินไปก็จะกลายเป็นเพียงขยะ ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรอการย่อยสลายไป แต่มีหนุ่มชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งมีทางออกที่ดีกว่าให้กับมันแล้ว หนุ่มก่อสร้างพ่อลูกสองชื่อว่า Elmer Padilla อาศัยอยู่ในกรุงมะนิลา ผู้ที่เปลี่ยนซากรองเท้าแตะเก่าๆ ธรรมดาให้กลายเป็นฟิกเกอร์สุดเท่ ด้วยกรรไกรกับมีดบวกเข้ากับความสามารถของเขา ของเล่นที่เขาสร้างขึ้นนั้นมีต้นแบบมาจากตัวละครในหนังดังหลายเรื่องเช่น Star Wars, Transformers หรือแม้แต่เหล่าฮีโร่จาก Marvel เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ ในละแวกนั้น ศิลปินข้างถนนผู้เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าเด็กๆ ทั้งหลาย นอกจากสิ่งนี้จะสามารถเสริมรายได้ให้กับครอบครัวของเขาแล้ว เพื่อนของเขา Adrian Soriano Bernabe ก็ได้ทำให้ช่างฝีมือคนนี้กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลขึ้นมา หลังจากที่โพสต์ภาพลงในกลุ่มเฟซบุ๊กจนมียอดแชร์สูงกว่า 5,000 ครั้ง ยิ่งกว่านั้นยังได้รับยอดโหวตใน Reddit สูงกว่า 86,000 คนอีกด้วย เรียกว่ากลายเป็นคนดังไปในทันที ถึงขนาดที่มีคนต้องการซื้อผลงานของเขาหรือไม่ก็อยากช่วยสนับสนุนให้เขาได้เปิดร้านขายในเว็บ Etsy ผลงานที่พร้อมให้ลูกค้าได้เข้ามาเลือกหยิบ หุ่นยนต์กันดั้มพร้อมตะลุยศึก ถึงอย่างนั้นชายคนนี้ก็ยังไม่แสดงออกมาว่าคิดอย่างไรที่ตอนนี้ตัวเองกลายเป็นคนมีชื่อเสียงไปแล้ว หรือเขาอาจจะยังไม่รู้ก็ได้ละมั้ง แต่ผลงานของเขาก็บอกได้เลยว่ามีความคิดสร้างสรรค์และฝีมือจริงๆ เลยนะเนี่ย ตัวละครจากหนังแอ็คชั่นต่างๆ ทุกชิ้นทำจากรองเท้าแตะและสองมือของเขา เท่ๆ…
-
รวมภาพถ่ายของญี่ปุ่นช่วงยุค 1900 ที่ถูกระบบ AI ย้อมสี ราวกับว่าขึ้นไทม์แมชชีนไปถ่าย
เรื่องราวในอดีตถูกถ่ายทอดให้รุ่นลูกหลานให้ได้รับทราบในรูปแบบต่างๆ เช่น สถานที่ทางประวัติศาสตร์ คำบอกเล่า หนังสือ หรือแม้กระทั่งภาพถ่าย ภาพถ่าย ถือว่าเป็นหนึ่งในการเก็บความทรงจำที่ดีเยี่ยมที่สุด ทำให้เราเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต จนบางทีไม่ต้องใช้คำอธิบายใดๆ ก็สามารถทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนบันทึกรูปภาพได้ ภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาวดำ ตามเทคโนโลยีของสมัยนั้นซึ่งนั่นก็คือหลักฐานชั้นยอดที่จะคอยบอกให้เราได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของสิ่งต่างๆ ทีมงานนักวิจัยชาวญี่ปุ่นจากมหาวิทยาลัย Waseda นำโดย Dr. Ishikawa ใช้มีความคิดริเริ่มที่จะนำภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์เหล่านั้นมาทำการเติมสีสันใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีที่ว่านี้ก็คือ AI ช่วยในการแยกแยะสี เพียงแค่นำภาพถ่ายขาวดำสแกนแล้วนำไปให้เจ้า AI ช่วยในการประมวลผล AI จะช่วยเติมสีให้กับรูปภาพเหล่านั้นให้ออกมาในโทนสีที่ใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุด เทคโนโลยีนั้นถูกคิดค้นโดย Dr.Watanabe แห่งมหาวิทยาลัย Tokyo Metropolitan Gojozaka เกียวโต ปี 1875 เด็กวาดภาพบนถนน ถ่ายโดย Takeyoshi Tanuma ปี 1961 เด็กญี่ปุ่นในปี 1950 เด็กชายและชายคนหนึ่งกำลังเพลิดเพลินกับการกิน ในปี 1898 หญิงสาวกำลังตีข้าว ถ่ายโดย…
-
จากการวิจัย ‘แมลงสาบตัวเมีย’ สามารถดำรงเผ่าพันธุ์ได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งตัวผู้!?
เมื่อพูดถึง “แมลงสาบ” แมลงที่สุดแสนจะน่ารัก หลายๆ คนอยากจะร้องยี้เลยทันที เนื่องจากแมลงสาบนั้นเป็นตัวเพาะพันธุ์เชื้อโรค ชอบอยู่ในสิ่งสกปรก แถมยังแข็งแกร่งทนต่อทุกสภาวะอากาศ ขยายเผ่าพันธุ์ไม่รู้จักจบจักสิ้น ซึ่งหลายๆ คนก็สงสัยว่าทำไมเจ้าแมลงสาบเนี่ยถึงอยู่ยงคงกระพัน ราวกับว่ามันมี 100 ชีวิต ที่ฆ่าไปเท่าไหร่ก็จะมีพลพรรคปีเตอร์ออกมากวนใจอยู่เสมอ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮอกไกโดก็ได้หยิบปัญหาเรื่องแมลงสาบที่มีแต่คนรักและเอ็นดูมัน ว่าทำไมมันถึงได้ออกลูกออกหลานกระจายขนาดนี้ โดยการวิจัยนั้นได้ทดลองนำแมลงสาบตัวเมียมาจับขังตั้งแต่ปี 2013 เพื่อที่จะทดสอบว่าถ้าไม่มีการผสมพันธุ์จากแมลงสาบตัวผู้ จะทำให้จำนวนประชากรแมลงสาบลดลงหรือไม่ ซึ่งผลก็ออกมาค่อนข้างน่าประหลาดใจเมื่อแมลงสาบเพศเมียที่นำมาจับขังไว้สามารถออกลูกออกหลานได้เองโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเพศผู้ David Merritt ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกีฏวิทยาจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์กล่าวว่า การพัฒนาการสืบพันธุ์นี้ไม่เคยมีการค้นพบในแมลงชนิดอื่นมาก่อน เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่แมลงสาบเหล่านี้มีการพัฒนาเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ให้รอด แมลงสาบหลายตัวสามารถสืบพันธุ์แบบ parthenogenesis หรือการสืบพันธุ์แบบไม่ต้องผสมพันธุ์ได้ เป็นทางเลือกสุดท้ายในการขยายเผ่าพันธุ์ของแมลงสาบเพศเมีย ดร. Merritt ยังกล่าวอีกว่า “แมลงสาบพวกนี้รับรู้ถึงสภาวะที่ไร้เพศผู้อยู่รอบตัว ดังนั้นมันจึงหาทางออกในการอยู่รอดด้วยการสืบพันธุ์แบบไม่ใช้เพศ” ถึงว่าล่ะทำไมเจ้าแมลงสาบถึงไม่มีวันหมดไปซะที ถ้าเป็นแบบนี้ คำที่ว่าถ้าโลกแตกเผ่าพันธุ์ที่ยังจะอยู่รอดเพียงหนึ่งเดียวก็คือแมลงสาบนั้นก็คงจะเป็นเรื่องจริง ที่มา abc
-
หญิงแก่แอบอ้างรู้จักกับผู้ตาย เข้าร่วมงานศพเพื่อ “อาหารฟรี” มามากกว่า 14 ปี
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ ไม่ว่าใครก็หลีกหนีไม่พ้น เมื่อมีผู้เสียชีวิตก็ต้องมีการจัดงานศพ ซึ่งบรรยากาศของงานศพมักจะเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของผู้ตาย Theresa Doyle อายุ 65 ปี ชาวเมือง Slough สหราชอาณาจักร ผู้ที่ถูกกังขาจากการกระทำของเธอที่คอยเข้ามาทานอาหารฟรีในงานศพที่คริสตจักรมาเป็นเวลา 14 ปี คุณป้า Theresa มักจะแอบอ้างว่าเธอรู้จักกับผู้ตาย เพื่อเข้ามาฟังสวดและรับประทานอาหารที่เลี้ยงในงานศพ เพื่อนบ้านของป้า Theresa เล่าให้ฟังว่า คุณป้ามักจะสวมเสื้อผ้าสีสันสดใสออกจากบ้านพร้อมกับจักรยานคันโปรดของเธอไปที่คริสตจักร พอถึงคริสจักรแล้วเมื่อรู้ว่ามีงานศพเธอก็จะเปลี่ยนเป็นชุดสีดำแล้วเดินเข้าไปภายในงานศพ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้จักกับผู้ตายก็ตาม เมื่อถึงเวลาเลี้ยงอาหารคุณป้าก็จะพุ่งตัวเข้าไปกินอาหารฟรีราวกับไม่ได้กินอะไรมาก่อน แถมยังเอากล่องไปใส่เพื่อนำกลับมากินที่บ้านอีกด้วย Margaret Whitehead ผู้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานศพของลูกสาว Catherine Whitehead ที่พึ่งเสียชีวิตจากโรค Addison (โรคเรื้อรังที่เกิดจากต่อมหมวกไต) ได้ให้ข้อมูลว่า “คุณป้าท่านนี้เดินเข้ามาในงานศพและพูดคุยกับคนอื่นในงาน ตอนแรกฉันก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะว่าลูกสาวที่เสียชีวิตไปเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ แต่คุณป้าคนนี้เข้ามาคุยกับฉันว่าเธอกับลูกสาวของฉันเคยทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟด้วยกัน ทั้งๆ ที่ลูกสาวขอฉันไม่เคยทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ” นั่นทำให้คุณ Margaret เกิดอาการไม่พอใจทันที และสืบข้อมูลเกี่ยวกับคุณป้าคนนี้จากบาทหลวง Noel Connolly…
-
โปรเจ็ค ‘รอยสักใต้เสื้อผ้า’ เพื่อสื่อว่าคนสักไม่ใช่คนเลว พร้อมข้อคิดดีๆ จากคนรักรอยสัก
ถึงแม้ว่าปัจจุบันการสักจะเปิดกว้างมากขึ้น มีคนสนใจในงานศิลปะบนเรือนร่าง และเปิดใจยอมรับมันมากขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีกลุ่มคนที่มองว่า ‘การสัก’ เป็นเรื่องของคนไม่ดี ขี้คุก อาชญากร และเป็นต้นเหตุของปัญหาทางสังคม เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า อาชญากร มาเฟีย หรือ นักโทษเรือนจำทั้งหลาย หลายคนล้วนมีรอยสักกันทั้งนั้น แต่นั่นมันคนละเรื่องกับงานศิลปะไม่ใช่หรือ!? เพราะคนที่ชื่นชอบในรอยสัก มีอยู่ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเพศไหน ชาติไหน และที่สำคัญคนที่ชื่นชอบรอยสักไม่จำเป็นต้องเป็นคนเลว และนี่คือผลงานของช่างภาพหนุ่มจากลอนดอน Alan Powdrill กับการถ่ายภาพเพื่อสะท้อนให้สังคมเห็นว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเรานำคนที่สักทั้งตัว มาปกปิดด้วยการแต่งตัวให้มิดชิด เหมือนกับคนทั่วๆไป… (อันที่จริงไม่ว่ารูปลักษณ์คุณจะต่างแค่ไหน ทุกคนก็คือคนที่เท่าเทียมกันนั่นแหละ) 1. Graham วัย 58 ปี “ครั้งแรกที่ผมเริ่มสักก็เมื่อตอนอายุ 51 คุณพ่อไม่ได้ว่าอะไรเพราะเสียไปแล้ว ส่วนคุณแม่ก็เช่นกันเพราะท่านอยู่ในระยะสุดท้ายของโรคสมองเสื่อม” 2. Lillianna วัย 23 ปี “หลังจากที่สัก ฉันก็ไม่ได้รู้สึกว่าทัศนคติ หรือนิสัยจะเปลี่ยนไปแต่อย่างใด แต่ก็สงสัยเหมือนกันว่าแก่มาจะรู้สึกเสียใจกับการสักมั้ย?” 3. Dave วัย 66…
-
เซอร์ไพรส์!! ชายหนุ่มตกใจหลังเห็นครอบครัว Lynx ออกมาทักทายหน้าบ้านในตอนเช้า
บางครั้งการปลูกบ้านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อาจจะทำให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามอย่างใกล้ชิด และบางทีบ้านของคุณเองก็อาจจะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญโผ่มาทักทายในตอนเข้าเหมือนกับชายหนุ่มคนนี้ก็ได้ คุณ Tim Newton ชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในอลาสก้า ถึงกับตกใจไม่น้อยเมื่อเช้าวันหนึ่งในระหว่างที่เขากำลังจะออกไปรับอากาศอันแสนสดชื่นในยามเข้า แต่จู่ๆ เขาก็ได้พบกับครอบครัวของเจ้าแมวป่า Lynx พร้อมกับลูกๆ ของมันออกมาวิ่งเล่นอยู่ที่ระเบียงบ้าน เจ้า Lynx ตัวน้อยที่ออกมาทักทาย Tim ตั้งแต่เช้า “ตอนนั้นผมได้ยินเสียงแปลกๆ ด้านนอก มันเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังขูดกับโต๊ะที่ระเบียงบ้านผมอยู่ และเมื่อออกมาดูผมก็พบเจ้าแมวป่าพวกนี้พร้อมกับพี่น้องของพวกมันกำลังยึดโต๊ะของผมเป็นสนามเด็กเล่นกันอย่างสนุกเลย” ชายหนุ่มเล่า มอร์นิ่งฮะ!! และแน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงแค่ 1 หรือ 2 ตัวเท่านั้น แต่พวกเจ้า Lynx ยังพาพี่น้องของพวกมันมาอีกถึง 3 ตัวเลยทีเดียว “พวกมันวิ่งไปวิ่งมาและหยอกล้อกัน ผมเริ่มถ่ายรูปพวกมันและโชคดีมากๆ เลยที่ผมได้มีโอกาสเห็นพวกมันใกล้ๆ แบบนี้” Tim กล่าว จริงๆ แล้วพวกแมวป่าเหล่านี้ค่อนข้างที่จะพบเห็นได้ยาก และชายหนุ่มก็เห็นพวกมันไม่กี่ครั้งในป่า ดังนั้นการที่พวกมันออกมาเล่นที่ระเบียงหน้าบ้านครั้งนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ สำหรับเขา แหม่… เพลินกันเลยสินะ!! หลังจากที่เล่นกันจนหนำใจแล้ว พวกแมวน้อยก็วิ่งออกไปที่ชานบ้านของเขา ตอนนั้นชายหนุ่มคิดว่าพวกมันคงกำลังจะกลับกันแล้ว แต่ที่ไหนได้เขากลับเจอแม่ของเจ้าตัวน้อยทั้ง…
-
สาวมุสลิมใจรักคอสเพลย์ โชว์ให้โลกเห็นว่าเธอสามารถปรับเปลี่ยนให้ ‘ฮิญาบ’ เข้าได้กับทุกตัวละคร
‘เพียงแค่คุณสวมฮิญาบ ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะแต่งคอสเพลย์ไม่ได้’ คอสเพลย์อาจจะเป็นวัฒนธรรมที่เริ่มมาจากญี่ปุ่น แต่ในปัจจุบันมันกลายเป็นอะไรที่รู้จักและครอบคลุมไปทั้งโลกเรียบร้อบแล้ว จนไม่ว่าใครๆ ก็สามารถจะลุกขึ้นมาแต่งคอสเพลย์ได้ เช่นเดียวกับ Misa หญิงสาวชาวมาเลเซียวัย 21 ปี ทีนับถือศาสนาอิสลามคนนี้ ซึ่งถ้าเราพูดถึงศาสนาดังกล่าวเราก็จะรู้กันว่าสาวๆ ต้องสวมฮิญาบตลอดเวลา ฉะนั้นการคอสเพลย์จึงเป็นเรื่องที่ตัดออกทันที แต่เธอไม่ปล่อยให้มันมาเป็นอุปสรรคในความชอบของเธอ เธอได้ทำให้ทุกคนเห็นว่า แม้จะสวมฮิญาบอยู่ก็สามารถคอสเพลย์และทำให้มันเข้ากันกันได้ โดยเธอโพสต์การคอสเพลย์ระหว่างสวมฮิญาบของเธอลงอินสตาแกรม โดยวิธีหลักๆ ในการคอสเพลย์ของเธอคือพยายามเลือกฮิญาบสีต่างๆ ให้เจ้ากับการคอสเพลย์ในตัวละครนั้นๆ เป็นตัวละครจาก Attack on Titan ก็ยังได้ และด้วยการใช้ไอเดียดังกล่าว จึงทำให้ไอเดียในการคอสเพลย์นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไอเดียใหม่ๆ บังเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ และมันก็ออกมาดูดีมากๆ ไม่ว่าเธอจะคอสเพลย์เป็นอะไรก็ตาม ใช้ฮิญาบสีต่างๆ มาเป็นทรงผมของตัวละคร ถือเป็นหนึ่งในไอเดียที่น่าสนใจ อย่างมิซากิจากนารูโตะที่ผมสีฟ้า เธอก็ใช้ฮิญาบสีฟ้าก็สามารถคอสเพลย์ได้ไม่ยากแล้ว ถ้าตัวละครผมดำ ก็ใช้ฮิญาบดำ นารูโตะก็เหมือนกัน ใช้ฮิญาบสีเหลืองมาเป็นผม เท่ไม่หยอก ได้ลงหนังสือด้วยนะ ธรรมดาที่ไหน เอาเป็นว่าถ้าใครชื่นชอบอยากจะติดตามเธอแล้วละก็ สามารถเข้าไปกดติดตามได้ที่อินสตาแกรมของเธอที่ miisa_mhc และสุดท้ายอย่าปล่อยให้อะไรมาปิดกั้นความชื่นชอบของคุณ…
-
ผบ.โรงเรียนทหารสหรัฐฯ เดือด หลังมีนักเรียนเขียนเหยียดคนดำว่า “กลับบ้านไปซะ ไอ้มืด!!”
การเหยียดผิวหรือการเหยียดเชื้อชาตินั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรถูกยอมรับในสังคม แต่ก็ต้องเข้าใจว่ายังคงมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอยู่บ้าง ไม่เว้นแม้แต่ในโรงเรียนเตรียมนายเรืออากาศแห่งรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นพูดถึงอย่างมาก เมื่อในวันอังคารที่ผ่านมามีนักเรียนมือบอนคนหนึ่งในสถาบัน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร เขียนข้อความเอาไว้บนกระดานข้อความของนักเรียนเตรียมทหารผิวสี 5 คนว่า “กลับบ้านไปซะ ไอ้มืด“ จึงทำให้ผู้บังคับบัญชาในสถานศึกษาแห่งนั้นรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก สองวันต่อมาจึงมีการเรียกรวมนักเรียนทั้งหมด 4,000 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทั้งหมดอีกกว่า 1,500 คนเข้ามารับฟังสิ่งที่ผู้กำกับการแห่งนั้นต้องการพูดสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ พลโทอากาศ Jay Silveria ผู้กำกับการโรงเรียนแห่งนี้ ได้พูดโดยมีใจความสำคัญว่า “ถ้าหากคุณรู้สึกโกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นหมายความว่าคุณคือส่วนหนึ่งของพวกเรา เพราะที่เราโมโหไม่ใช่เพียงในฐานะทหารอากาศ แต่ในฐานะความเป็นมนุษย์” “ใครที่ปฏิบัติต่อคนอื่นที่มีเชื้อชาติหรือสีผิวต่างกันอย่างมีศักดิ์ศรีและความเคารพไม่ได้ ก็ไสหัวออกไป!!” เขากล่าวทิ้งท้าย เป็นการประกาศกร้าวถึงจุดยืนได้อย่างองอาจและน่าเกรงขาม “ใครไม่สามารถปฏิบัติกับคนอื่นได้อย่างเท่าเทียม ก็ออกไปซะ!!” Silveria กล่าว นอกจากนั้นเขายังบอกให้นักเรียนทุกคนที่มีสมาร์ทโฟนติดตัวอยู่ หยิบขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอการพูดครั้งนี้ของเขาไว้ เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจให้กับการกระทำของนักเรียนทุกคน เขาบอกว่าเหตุผลที่ออกมาพูดในครั้งนี้เพราะต้องการแสดงให้นักเรียนทุกคนเข้าใจว่า พวกเขาทุกคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และที่นี่คือสถาบันที่จะรักษาความเป็นสิ่งนั้นเอาไว้ คลิปวิดีโอการพูดของพลโทคนนี้แบบเต็มๆ ซึ่งเราจะสังเกตได้ถึงอารมณ์ร่วมของเขาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว หลังจากนั้นเหตุการณ์นี้ได้ถูกถ่ายทอดผ่านสื่อสำนักข่าวภายในรัฐ จนทำให้ชายคนนี้ได้รับคำชื่นชมจากคนในหน่วยงานเดียวกัน รวมไปถึงชาวเน็ตที่พูดถึงความยอดเยี่ยมในเรื่องการเป็นผู้นำที่ดีของเขา “เป็นคำพูดที่แสดงให้เห็นถึงพลัง…
-
เมื่อสถาปัตยกรรมโคจรมาเจอกับหนังโป๊ มันก็จะออกมาดู Abstract อย่างที่เห็นนี่แหละ
ภาพโป๊ที่เราเคยเห็นอาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่ชอบกันเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะสำหรับบ้านเราที่มีเรื่องของความเหมาะสมตามขนบประเพณีที่สืบทอดต่อกันมา แต่ในปัจจุบันเริ่มมีการเปิดกว้างในเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น จนทำให้ศิลปินสาวชื่อ Giulia สร้างผลงานภาพสาวเปลือยที่มีความเป็นศิลปะ ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ก่อนหน้านี้เธอเคยรู้สึกแย่กับรูปร่างของตัวเองมาก่อน จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอรู้สึกภูมิใจในร่างกายของตน ไม่สนใจสิ่งที่คนอื่นมองว่ามันคือพื้นฐานที่ผู้หญิงควรมีแต่ยึดความเป็นตัวเองเข้าไว้ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับงานชิ้นนี้ ทั้งหมดเป็นการนำภาพสาวเปลือยกายมารวมกับสถาปัตยกรรม ทำให้ดูน่าดึงดูดมากกว่าที่จะเป็นสิ่งปลุกเร้าอารมณ์ ดึงดูดสายตาและมีเสน่ห์ งานนี้เป็นการขยายขอบเขตการมองเรื่องเพศให้กว้างขึ้นและเป็นรูปแบบใหม่ของการเซ็นเซอร์เรือนร่างของหญิงสาวทั้งหลาย ทำให้เธอสามารถโพสต์ลงอินสตาแกรมได้โดยไม่ผิดกฎ อย่างไรก็ตามเธอบอกว่าการนำเสนอเรื่องราวแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะก่อนหน้านี้ภาพของเธอเคยถูกลบจนถึงกับลบไอดีเธอเลยก็มี เนื่องจากความเร้าอารมณ์ในเนื้อหาที่มีมากจนเกินไป เธอบอกว่า “โซเชียลมีเดียไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ แต่มีความเป็นประชาธิปไตย เราจึงควรที่จะหยุดคุกคามสิ่งเหล่านั้นไปมากกว่านี้” เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมรับเรื่องแบบนี้ได้ กลายเป็นภาพที่ดูไม่ลามกอีกต่อไป เป็นความเข้ากันของสิ่งที่ธรรมชาติสร้างและสิ่งที่มนุษย์สร้าง สิ่งปลูกสร้างที่ดูไม่มีอะไร กลับดูสวยงามได้เมื่อรวมเข้ากับเรือนร่างของหญิงสาว เพดานที่มีความสวยงาม ช่วยทำให้ภาพดูมีสีสัน มีความกลมกลืนเมื่อนำมาผสมกัน เป็นการตัดต่อที่เติมให้มีความสมจริงเพิ่มขึ้นไปหน่อย โมเดิร์นอาร์ทที่นำมาประกอบกันได้อย่างลงตัว เปลี่ยนความหมายของภาพออกไปอย่างชัดเจน . ซุ้มดอกไม้ในงานแต่งงาน แม้จะเป็นตาข่ายเธอก็สามารถหาภาพมาเข้าคู่ด้วยได้ เป็นซีทรูแบบไม่ได้เซ็กซี่ ศิลปะที่หลอมรวมกัน . .…
-
Elon Musk กำลังจะสร้างจรวด BFR ที่ให้คนเดินทางข้ามโลก ได้ภายใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น!!
ในเวลานี้ถ้าหากพูดถึงบุคคลที่มีบทบาทต่อการพัฒนาของเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต เชื่อว่าหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ Elon Musk ซีอีโอจาก SpaceX และผู้อยู่เบื้องหลังของยานยนต์ระดับโลกอย่าง Tesla อยู่ในรายชื่อนั้นอย่างแน่นอน และล่าสุดชายคนนี้ได้สร้างความฮืออาขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาได้ประกาศว่ากำลังจะสร้างจรวด ที่ให้คนเดินทางข้ามโลกได้ภายใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น!! ในงาน International Astronautical Congress 2017 ที่เมือง Adelaide ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา Elon Musk ได้ออกมาประกาศว่าตอนนี้พวกเขากำลังวางแผนสร้างจรวดขนส่งที่ใช้ชื่อว่า BFR ซึ่งมันจะช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปที่ต่างๆ ของโลกได้ภายในเวลาไม่กี่อึดใจ ทางซีอีโอของ SpaceX ได้ออกมากล่าวว่าจรวดลำนี้สามารถทำให้คุณเดินทางจากนิวยอร์กไปยังเซี่ยงไฮ้ได้ภายในเวลาเพียงแค่ 40 นาทีเท่านั้น ซึ่งภายในคลิปวิดีโอคอนเซ็ปต์ของจรวด BFR นั้น มันแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งได้ในระยะเวลาอันสั้น ในส่วนของการทำงานนั้น ตัวจรวดนั้นจะจอดอยู่กลางแม่น้ำ จากนั้นผู้โดยสารตั้งนั่งเรือออกไปเพื่อขึ้นจรวดแล้วยิงออกสู่นอกโลก หลังจากนั้นตัวจรวดจะเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด 27,000 กม./ชม. ก่อนกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศพร้อมลงจอดในอีกเมืองหนึ่ง ซึ่งความเร็วระดับนี้ทำให้คุณสามารถเดินทางจากกรุงเทพไปดูไบภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ ไปชมคลิปวิดีโอคอนเซปต์ของจรวดลำนี้กันเลย “การเดินทางไปยังเมืองสำคัญๆ ในโลกนั้นจะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที และการเดินทางไปยังที่อื่นๆ นั้นจะใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น” Elon Musk กล่าวผ่านอินสตราแกรมของเขาหลังจากเปิดตัวเจ้าจรวด BFR ในงาน International…
-
เรื่องราวของเจ้าพิตบูล ที่ชื่นชอบแมวเหมียวสุดๆ จนสุดท้ายฝันที่ได้ครอบครองแมวก็เป็นจริง
เมื่อพูดถึง “พิตบูล” หลายคนอาจจะจินตนาการว่ามันเป็นสุนัขที่มีนิสัยดุร้าย เพราะจากที่ผ่านๆ มาเรามักจะได้ยินข่าวอยู่บ่อยๆ ว่าเจ้าสุนัขพันธุ์นี้ทำร้ายผู้คนถึงขั้นเสียชีวิตมาแล้ว แต่จะไปเหมารวมพิตบูลทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะอย่างน้อยก็มีเจ้าพิตบูลบางตัว ที่มีนิสัยน่ารัก และอ่อนโยน แถมยังหลงใหลสัตว์ต่างสายพันธุ์อย่างแมวเหมียวมากๆ อีกด้วย พิตบูลที่เราพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่าเจ้า Ozzy เจ้าหมาพิตบูลที่ชื่นชอบเจ้าเหมียวที่สุด ซึ่งหลังจากที่ผ่านมาหลายปี มันก็ได้สิ่งที่ต้องการอยู่เสมอนั่นคือ มีลูกแมวน้อยที่รักมัน และมันก็ได้เลียตัวของเจ้าเหมียวสมใจอยากสักที สำหรับ Ozzy มันได้อยู่ภายใต้ความดูแลของครอบครัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย มานานกว่า 3 ปีแล้ว โดยครอบครัวประกอบไปด้วยลูกๆ 3 คน ผู้ใหญ่ 2 คน และเจ้าแมวชื่อ Norm เป็นเวลาหลายปีเหลือเกินที่เจ้า Ozzy ได้ตกหลุมรัก Norm เจ้าเหมียวน้อยสุดคิ้วท์ ที่ในตอนแรกมันแทบจะไม่สนใจ Ozzy เลย ซึ่งเจ้าหมาก็พยายามที่จะเอาชนะใจแมวน้อยให้ได้เวลาจะใช้เวลานานหลายวันก็ตาม นอกจาก Norm แล้ว เจ้าหมา Ozzy ยังชื่นชอบลูกชายวัย 5 ขวบของ Jennifer Lajeniss…
-
รถฝ่าไฟแดงพุ่งใส่ฝูงชนย่านชิบูย่า คนอื่นพากันวิ่งหนี แต่ลุงใจเด็ดถีบป๊าบเข้าให้..!!
อย่างที่เรารู้กันดีว่า ‘ชิบูย่า’ เป็นย่านหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นที่มีผู้คนหนาแน่นมากๆ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของระบบขนส่ง หรือไลฟ์สไตล์ของชาวเมืองก็ตามแต่ ทว่าเมื่อคืนวันที่ 25 กันยายน เวลาประมาณ 22.00 น. ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดขึ้น จู่ๆ รถตู้สีดำก็วิ่งฝ่าไฟแดงและสูญเสียการควบคุมจนพุ่งใส่ฝูงชนในย่านชิบูย่า และในเหตุการณ์นี้เองที่ได้มีเรื่องเด็ดๆ เกิดขึ้นจนเราต้องเอามาเล่าต่อ เอาเป็นว่าไปชมคลิปจากกล้องวงจรปิดตรง 4 แยกกันก่อนเลย จากคลิปวิดีโอเราจะเห็นได้ว่า ในตอนแรกรถตู้สีดำคันดังกล่าวก็ขับมาอย่างปกติดี จากนั้นก็มีการหักเลี้ยวรถขับวนกลับมาไล่ชนใส่ฝูงชนอีกเป็นซ้ำสอง ในห้วงวินาทีแห่งความวุ่นวาย แน่นอนว่าทุกคนต่างต้องการเอาชีวิตรอดและห่วงแหนคนที่ตนรัก ทว่ากลับมีคุณลุงคนหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า.. โลกยังไม่หมดหวังเพราะนี่อาจคือฮีโร่ที่แฝงตัวมาอยู่ในสังคมเราก็เป็นไปได้นะ!? ดูจากคลิปนี้ชัดๆ เราจะสังเกตเห็นคุณลุงนิรนามที่ยืนอยู่ใกล้รถตู้ เขาไม่เลือกที่จะวิ่งหนี แต่เลือกที่จะถีบรถตู้แทน..!! ついついやってしまう歩きスマホですが本当に道路を渡る時や階段などは絶対やらない方がいいです!! ちなみにその後スクランブル交差点に向かって行ったので気になってyou tubeのライブ動画を見たらやっぱり映ってました。しかも一回去ったと思ったらすぐにまた交差点へ… こわすぎる… pic.twitter.com/bK4LJ7Pqed — れな氏⋆大森玲菜✩⃛ (@re7123) 25 กันยายน 2560 โชคดีที่เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ดูเหมือนว่าอาจจะมีเพียงคุณลุงนิรนามที่ใส่เสื้อเชิ๊ตสีเขียวคู่กับกางเกงสีแทนเท่านั้น ที่สูญเสียพลังจากการต่อกรกับเหล่าวายร้ายที่หวังมุ่งเอาชีวิตชาวเมืองแห่งนี้ ถ้ายังไม่เห็นก็ขอให้ดูมุมนี้ชัดๆ กันอีกซักมุม จากวีรกรรมอันกล้าหาญของคุณลุงทำให้ชาวเน็ตต่างออกมาสร้างเป็นทฤษฏีสมคบคิดร่วมกัน.. บ้างก็ว่าคุณลุงเป็นไอ้มดแดงปลอมตัวมา บ้างก็ว่าคุณลุงเป็นมนุษย์จากดาว M78 บ้างก็ว่าเขาคือไซตามะตัวจริง…
-
เปิดประวัติพ่อเด็กขโมยป็อปคอร์น แท้จริงเป็นวีรบุรุษสงคราม สหายร่วมรบเจ้าชายแฮร์รี่..!!
จากกระแสความน่ารักของเด็กสาวตัวน้อย ที่แอบขโมยป็อปคอร์นของเจ้าชายแฮร์รี่กิน ก็ทำเอาชาวเน็ตหลายคนสงสัยว่า เอ๊ะ…แล้วครอบครัวของหนูน้อยนี้เป็นใครกันนะ ถึงได้นั่งใกล้ชิดกับเจ้าชายได้ขนาดนั้น อ่านข่าวเก่าที่: หนูน้อยมือไว แอบขโมยป็อปคอร์นของเจ้าชายแฮร์รี่ พระองค์ทรงแกล้งคืนซะเลยนี่แฮร่!! ชาวเน็ตบ้างก็อาจจะเผลอคอมเมนท์ไปก่อนแล้วว่า… คุณแม่ไม่เลี้ยงดูลูกให้ดีริอาจไปรบกวนเจ้าชายได้เยี่ยงไร ซึ่งอันที่จริงเราจะพาไปรู้จักกับ David Henson คุณพ่อของสาวน้อยผู้เป็นวีรบุรุษสงคราม ภาพจากเหตุการณ์ความน่ารักที่โด่งดังไปทั่วโลก คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว เดิมที David Henson เคยรับราชการประจำอยู่ในหน่วย ‘Royal Engineer’ ทว่าต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างไปจากการปฏิบัติหน้าที่กู้กับระเบิดในอัฟกานิสถาน เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน แต่จากการสูญเสียขาทั้งสองกลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ David Henson และภรรยาของเขาเป็นห่วงเป็นใยกันยิ่งกว่าเดิม ทั้งสองต่างเป็นวีรบุรุษที่เคยอยู่ในสนามรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาแล้ว ภาพของ David Henson และครอบครัว ด้วยกำลังใจจากคนรอบข้าง และลูกสาวตัวน้อยอย่าง Emily ทำให้คุณพ่ออดีตทหารกล้าตัดสินใจที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อตัวเองอีกครั้ง… นั่นก็คือการเป็นนักกีฬาแข่งขันให้กับรายการพาราลิมปิกเกม เขาพยายามอย่างหนักจนถูกคัดเลือกให้เป็นนักกีฬาทีมชาติอังกฤษตัวจริงในปี 2014 อีกทั้งก่อนหน้านี้เขายังเคยคว้าเหรียญทองแดงจากการวิ่งแข่งที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร มาแล้วด้วย สาวน้อย Emily กับเหรียญรางวัลของคุณพ่อ และภาพจากคลิปวิดีโอที่เราเห็น คุณพ่อก็ไม่ได้อยู่ไหนไกล……
-
นักท่องเที่ยวจีน เต้นท่าลิงเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเสือ โดยไม่สนป้ายเตือนของสวนสัตว์
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยคลิปวีดีโอของหนุ่มนักท่องเที่ยวจีนรายหนึ่ง ที่ได้แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมโดยการพยายามเต้นยั่วยุอารมณ์เสือที่อยู่ในภายในกรง โดยไม่สนป้ายเตือนเลยแม้แต่น้อย จากการรายงานระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้น ณ สวนสัตว์ท้องถิ่นในเมืองกุ้ยหยาง เมืองเอกของมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน จากภาพจะเห็นได้ว่าชายคนดังกล่าวได้พยายามเรียกร้องความสนใจจากเสือ ด้วยการเต้นท่าทางที่ดูคล้ายลิง และดูเหมือนว่าการกระทำของเขาจะส่งผลให้บรรดาเสือที่อยู่ในกรงรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก หืมมมม!! ลุงทำอะไรเนี่ย เอิ่ม!! อย่างไรก็ตามทางสวนสัตว์ได้ติดป้ายเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนว่า “ห้ามยุแหย่สัตว์ดุร้าย” เพราะมิเช่นนั้นอาจจะเป็นอันตรายได้ แต่ถึงกระนั้นชายคนดังกล่าวกลับไม่สนใจ และยังคงกระโดดโลดเต้นไปมาท่ามกลางบรรดานักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่มาดูเจ้าเสือ ภายหลังจากที่คลิปวีดีโอนี้ได้ถูกเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาชาวเน็ตจีนเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายๆ คนต่างก็พาเอือมระอากับพฤติกรรมที่แสนบ้าบอของชายรายนี้ ว่าแล้วก็มารับชมคลิปวีดีโอกันได้เลย ที่มา : shanghaiist
-
20 ป้ายคำอธิบายสุดเกรียน ที่ไม่รู้ว่ามีมาเพื่ออะไร สงสัยผู้ผลิตอยากจะเอาฮาแน่ๆ!!
สินค้าต่างๆ ที่วางขายอยู่ในท้องตลาดเกือบทุกชิ้นมีคำแนะนำและวิธีการใช้อยู่ ข้อความเหล่านั้นจะอธิบายคำแนะนำและวิธีการใช้สินค้านั้นๆ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดปลอดภัยต่อตัวผู้ใช้สินค้า ป้องกันการใช้ผิดวิธีนั่นเอง แต่ก็มีสินค้าบางชนิดที่มีคำเตือนแปลก ดูเหมือนจะเป็นห่วงลูกค้าที่มาซื้อสินค้าซะเหลือเกิน แต่ละข้อความที่เขียนนั้นก็เกรียนสุดใจ จนบางทีลูกค้าอาจจะคิดว่าผู้ผลิตเขียนมาเอาฮาหรือเปล่านะ 1. คุกเข่าขอแต่งงานมันธรรมดาไป ต้องทำท่าแบบนี้ แบบนี้ ถึงจะถูก 2. ในคู่มือมันบอกว่าให้โยนน็อตที่เหลือทิ้งไป เอ้า ละจะแถมมาทำไมตั้งแต่แรกล่ะ 3. วิธีการใช้ผ้าเช็ดมือ ฉีกมันทิ้งแล้วเช็ดลงบนเสื้อ สะอาดสุด 4. นี่คือคู่มือการใช้ตู้เย็นของญี่ปุ่น อย่าเอาไปใช้ผิดวิธีล่ะ 5. เรารู้นะว่าที่คุณอ่านฉลากสินค้าของเราตอนเข้าห้องน้ำอ่ะ 6. แม้แต่นาซ่ายังมีอารมณ์ขัน เขียนข้อความติดกระสวยอวกาศ 7. ไม่มีอะไรมาก ขอให้โชคดีนะ (เพราะฝรั่งหลายคนใช้ตะเกียบได้ยากลำบาก) 8. หากซักไม่เป็นก็เอาให้แม่ของเธอทำซะ 9. วิธีการใช้หมวก เผื่อไม่มีใครรู้วิธีใช้ 10. ถ้าต้องการจะแกะลังนี้ล่ะก็ มีคำแนะนำอยู่ในลังนี้นะ เปิดดูได้เลย 11. คำเตือน…
-
เจ้าหน้าที่เร่งช่วย “แมว” ติดบนเสาไฟ ชาวเน็ตหวั่นเป็นอันตราย แต่สุดท้ายกลับหักมุมขั้นสุด
กลายเป็นคลิปวีดีโอที่เรียกเสียงฮาให้กับบรรดาชาวเน็ตในขณะนี้เป็นอย่างมาก เมื่อเจ้าเหมียวตัวหนึ่งขึ้นไปติดแหง่กอยู่บนเสาไฟ ทำเอามนุษย์ต้องรีบเข้าช่วยเหลือเป็นการด่วน ซึ่งก็ทำให้คนดูอย่างเราๆ คอยภาวนาให้พวกเขาช่วยมันได้สำเร็จ และขอให้มันปลอดภัย… เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2560 ทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ Cats page for catlovers from all around the world ได้เผยคลิปวีดีโอวินาทีชีวิตของเจ้าเหมียวน่าสงสารตัวหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่าไปทำท่าไหนถึงขึ้นไปติดอยู่บนเสาไฟที่สูงมากๆ ได้ งานนี้ทำเอาเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลทหารในแซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่บังเอิญเห็นเข้า ก็รีบแจ้งทางศูนย์พักพิงสัตว์ให้มาช่วยเหลือมันทันที เมื่อทางเจ้าหน้าที่มาถึง พวกเขาก็ได้ใช้รถกระเช้าขึ้นไปยังเสาไฟ เพื่อช่วยเหลือแมวน้อยผู้เคราะห์ร้าย ภาพถ่ายจากกล้องที่สามารถจับใบหน้าของเจ้าเหมียวเอาไว้ได้ ขณะมนุษย์กำลังพยายามช่วยมัน ซึ่งหน้าตาก็ดูงงๆ และเหมือนกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็นำถุงผ้าขนาดใหญ่ออกมา เพื่อที่จะนำตัวเจ้าเหมียวออกมาจากบริเวณเสา เรื่องราวมันเหมือนกำลังจะจบอย่างแฮปปี้ เพราะเราเชื่อว่าหลายๆ คนคงจะคอยลุ้น และเป็นห่วงเจ้าเหมียวมากๆ ว่ามนุษย์จะช่วยมันได้หรือไม่ แต่…อย่าเชื่อในสิ่งที่กำลังเห็นเพียงไม่กี่นาที เพราะถ้าคุณได้ดูตอนสุดท้าย บอกเลยว่าจุดจบหักมุมขั้นสุด คือไม่รู้จะอธิบายยังไง เล่นเอาผู้ชมอึ้งไปเลยนะเอง มนุษย์ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยชิวิต สุดท้ายเป็นไงละ…หยิ่งๆ อย่างเราไม่ต้องการความช่วยเหลือ เพราะข้าลงเองได้ว้อยยยยยยยย…
-
ตามส่องชีวิตสุดเฟี้ยวของทายาท Playboy อย่าง ‘Cooper Hefner’ น่าอิจฉาไม่แพ้พ่อเลยทีเดียว!!
จากข่าวการเสียชีวิตของ Hugh Hefner คุณปู่วัย 91 ปีผู้ก่อตั้งบริษัท Playboy Enterprises เราก็คงจะได้เห็นทายาทของเขา Cooper Hefner มาทำหน้าที่เป็นผู้รับช่วงต่อไป เรียกได้ว่าใครหลายคนก็เพิ่งรู้จักกับพ่อหนุ่มคนนี้ก็เมื่อไม่กี่วันก่อนจากตามหน้าสื่อต่างๆ และน้อยคนนักที่จะรู้ว่าชีวิตเบื้องหลังของเขานั้น เฟี๊ยวฟ๊าวได้ไม่แพ้รุ่นพ่อเลยล่ะ!! นี่คือ Cooper Hefner ปัจจุบันอายุ 26 ปี เป็นน้องคนเล็กสุด ดำรงตำแหน่งเป็น Chief Creative Officer ให้กับ Playboy Enterprises เขาเกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน 1991 เป็นลูกของ Kimberly Conrad ซึ่งต่อมาได้หย่าร้างกับ Hugh Hefner ในปี 2010 “เมื่อไหร่ก็ตามที่พ่อจัดปาร์ตี้ในแมนชั่นของเขา ผมและพี่ๆ น้องๆ มักจะถูกเหล่าพี่เลี้ยงคอยคุมไว้เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะไม่เข้าไปป้วนเปี้ยนในงาน” เจ้าตัวเล่า Cooper เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทตั้งแต่อายุ 21 ปี และเขาก็มั่นใจว่า Playboy…
-
ส่องความน่ารักสดใส ลูกสาว Paul Walker โตเป็นสาววัย 19 ที่สวยมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก!!
หลังจากที่ Paul Walker ซุปเปอร์สตาร์ที่อยู่ในดวงใจของคนหลายๆ คน ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2556 นับเป็นเวลา 4 ปีแล้ว แต่เชื่อว่า ชื่อของนักแสดงคนนี้ยังตราตรึงอยู่ในหัวใจของเหล่าบรรดาแฟนคลับทุกคนไม่มีวันลืม Paul Walker มีลูกสาวอยู่คนหนึ่งชื่อว่า Meadow Walker เขารักลูกสาวมากๆ ถึงกระทั่งสักเป็นชื่อของเธอลงบนลำตัวของเขา แต่น่าเศร้าที่ Paul เสียชีวิตเมื่อลูกสาวของเขามีอายุเพียง 15 ปี นั่นหมายความว่าเขายังไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นลูกสาวตัวน้อยๆ ของเขาโตเป็นผู้หญิงที่สวยและเก่งขนาดนี้ Meadow Walker เกิดในปี 1998 แฟนภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious จะคุ้นเคยกับชื่อของเธอเป็นอย่างดี เพราะว่า Paul จะพูดถึงลูกสาวที่น่ารักของเขาในบทสัมภาษณ์ทุกครั้ง ถึงแม้ว่า Paul จะไม่ได้อยู่กับลูกสาวเนื่องมาจากการแยกทางกับ Rebecca Soteros แต่เขาก็คอยส่งเสียลูกสาวของเขาให้ได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด เมื่อมีเวลาว่างเขาก็จะอุทิศเวลาทั้งหมดเพื่ออยู่กับแก้วตาดวงใจของเขา Meadow อาศัยอยู่กับแม่ที่ฮาวายจนอายุ…
-
ชายหนุ่มถูกลูกฉลามกัดเข้าที่พุงไม่ยอมปล่อย สุดท้ายเขาต้องตัดสินใจปลิดชีวิตมันในท้ายที่สุด…
(บางภาพมีเนื้อหาที่รุนแรง ไม่เหมาะสำหรับคนที่กลัวเลือด) เหตุการณ์สุดสยอง เมื่อ Ervin Maccarty นักดำน้ำจากรัฐฟลอริด้าได้ถูกลูกฉลามกัดเข้าที่พุงอย่างจัง หลังจากลงไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ งานนี้เล่นเอาวุ่นวายกันสุดๆ วินาทีที่ Ervin ถูกช่วยขึ้นมาบนเรือพร้อมกับลูกฉลามตัวน้อยที่เกาะติดอยู่ที่พุงของเขา มันกัดพุงของเขาแน่นราวกับมันกำลังต่อสู้กับเหยื่อที่ตัวใหญ่กว่าอย่างไม่เกรงกลัว ด้านพุงของชายหนุ่มก็เริ่มมีเลือดที่อาบลงมาเต็มไปหมด ภาพเหตุการณ์นั้นถูกบันทึกไว้โดยเพื่อนของเขาเอง ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความทรมานของ Ervin สุดๆ แต่ถึงจะเจ็บยังไงในช่วงแรกนั้นดูเหมือนพวกเขาพยายามจะทำให้เจ้าลูกฉลามยอมปล่อยแต่โดยดี โดยไม่ทำอันตรายกับมัน แต่ลูกฉลามก็ต่อสู้สุดใจเพื่อชีวิตของมัน ในวินาทีสุดท้ายพวกเขาตัดสินใจจะจบชีวิตเจ้าฉลามลงซะด้วยการใช้มีดปาดเข้าไปในตัวของมัน จนมันสิ้นใจลงและยอมปล่อยในที่สุด . . Ervin ได้เล่าถึงวินาทีชีวิตของเขาว่า ตอนที่โดนฉลามกันนั้นมันพึ่งมากัดแรงมาก เขาหายใจไม่ออกจนต้องกลับเรือ แต่วินาทีที่ต้องว่ายน้ำกลับเรือนั้นเขาไม่มีแรงแม้แต่จะว่ายน้ำด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงและเขาก็ปลอดภัยในท้ายที่สุด ลองรับชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวได้ข้างล่างเลย ที่มา dailymail
-
รวม 18 สุดยอดสัตว์หัวใจนายแบบ ถ้าพวกพี่จะเท่ขนาดนี้ เอาไปขึ้นปกนิตยสารได้เลย
หลายคนคงเคยคิดว่าการจะจับพวกสัตว์มาถ่ายรูปหันหน้าตรง หรือทำท่าตามที่เราต้องการนั้นมันเป็นไปไม่ได้ หรือทำได้ยากมากๆ แล้วละก็ พวกคุณคิดผิด!! เพราะล่าสุด Boredpanda ได้รวบรวมภาพของเหล่าสัตว์จากตัวโลกที่ทำท่าทางจิกกล้องสุดๆ ราวกับว่าพวกมันรู้ว่าจะต้องมองกล้องทางไหน หรือทำหน้าตาเซตผมยังไง จนอดคิดไม่ได้ว่านี่พวกเองเป็นสัตว์หรือเป็นนายแบบที่พร้อมจะขึ้นปกนิตยสารกันแน่ ว่าแต่จะดูดีขนาดไหนนั้น เราลองมาดูกัน… เหล่าสัตว์จากฟาร์ม ที่เรียงหน้ากันมาถ่ายรูปพร้อมมองกล้องอย่างตั้งใจ เจ้านกพวกนี้ก็ทำท่าทางราวกับเป็นแก๊งสเตอร์ที่จะขึ้นปกหนังสืออะไรสักอย่าง ฝูงที่เซตผมกันมาอย่างดี พร้อมหันหน้ามาหากล้องอย่างพร้อมเพรียง เจ้าลูกหมาสามตัวที่จิกกล้องกันทุกตัว ภาพถ่ายเจ๋งๆ สำหรับชาวแก๊ง รวมถึงการเซลฟี่เบาๆ ของแก๊งหมาแมว แต่ละตัวเหมือนรู้ว่าจะทำท่ายังไงให้ออกมาดูดีพร้อมๆ กันเลย เจ้าลิงตัวนี้ก็ทำท่าราวกับถ่ายปกอัลบั้มเพลงที่จะฮิตในเร็วๆ นี้ นกฮูกตาโตที่ตัดกับเจ้าหมาหน้าเศร้าสร้อย เหมาะทำปกเพลงสุดๆ ฝูงเพนกวิ้นที่เดินท่าทางเหมือนกัน ราวกับเป็นสมาชิกวง World Order โทษนะ นี่ม้าหรือนายแบบ ดูทำผมเข้า นี่ก็อีกแก๊ง แมวหรือบอยแบนด์กันเนี่ย จะตัวทางขวาสุดนี่อย่างหล่อ ยอมใจทรงผมพี่แล้วจ้า อื้อหือ…
-
เด็ก 12 ขวบโดนเพื่อนจับมัดแล้วขว้างเนื้อใส่ เพียงเพราะเป็น “มังสวิรัติ” จนนำไปสู่ความตาย..
เรื่องราวสุดสลด ที่แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของการกลั่นแกล้งในสังคมนักเรียนจากโลกตะวันตก เมื่อเพื่อนของเด็กชายคนหนึ่งรู้ว่าเขามังสวิรัติ จึงจัดการกลั่นแกล้งต่างๆ นาๆ จนเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น… Louie Tom Fenton เด็กชายวัย 12 จากเมืองฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ ได้ถูกเพื่อนที่โรงเรียนกลั่นแกล้งอย่างหนักเพราะเขาเป็น ‘มังสวิรัติ’ ซึ่งนั่นทำให้เขาทั้งถูกล้อเลียนต่างๆ นาๆ จนล่าสุดเด็กชาย Louie ได้ตัดสินใจแขวนคอตายในห้องน้ำที่บ้านอย่างน่าเศร้าสลด ซึ่งผู้เป็นแม่ที่มาพบกับร่างไร้วิญญานของลูกก็ได้พบจดหมายของบุตรชาย ภายในนั้นได้บอกเล่าถึงความอึดอัดใจของลูกชาย ที่เขาได้ถูกกลั่นแกล้งต่างๆ นาๆ ตั้งแต่ย้ายมาเรียน ซึ่งเธอได้เล่าให้ศาลฟังว่า ลูกชายของเธอโดนกลั่นแกล้งมาตลอด และมันหนักข้อขึ้นทุกวันโดยเฉพาะเมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ถูกเพื่อนๆ ปาเนื้อใส่เขาที่โรงอาหารโรงเรียนด้วยเหตุที่เขาเป็นมังสวิรัติ และเมื่อการแกล้งมันหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เด็กชายก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากปลีกตัวไปกินข้าวคนเดียวให้ห่างไกลจากเพื่อนฝูง ต่อมาเด็กชายก็หันไปสูบบุหรี่เพื่อช่วยหาทางออกในความเครียดเรื่องดังกล่าว จนสุดท้ายเด็กชายก็ตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองด้วยการแขวนคอตายในท้ายที่สุด ด้าน Graeme Fenton พ่อของ Louie ได้บอกว่าลูกชายของเขานั้นไม่ได้ตั้งใจฆ่าตัวตาย เพราะเขาเป็นสมาชิกชมรมลูกเสือสมุทร และเขาก็ได้เรียนการผูกเงื่อนทุกชนิด ฉะนั้นมันอาจจะเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบที่เผลอทำลงไป นอกจากนั้นไม่นานมานี้ลูกชายยังเล่าถึงเรื่องการไปทัศนศึกษาอย่างสนุกสนานอยู่เลยแท้ๆ ยังไม่หมดเท่านั้น ด้านโรงเรียนหรือคนรู้จักของเด็กชาย ก็ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า Louie เป็นเด็กอารมณ์ดี เขาคงไม่คิดจะฆ่าตัวตายหรอก และพวกเขาก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น ทว่าจะพูดยังไงผลลัพท์มันก็ได้ออกมาแล้วอยู่ดี… ยังไงก็ตาม การตายของ Louie…
-
สถาปนิกชาวเอเธนส์ออกแบบของใช้ธรรมดาๆ ที่ดูแล้วโคตรจะไม่สบายใจเลย
ของใช้ในชีวิตประจำวันของเรา สิ่งของต่างๆ นั้นต่างก็ถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกสะบายให้กับเรา บางชิ้นก็ออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นหลัก เพื่อให้เราได้ใช้สิ่งของเหล่านั้นได้อย่างสบายใจไม่ต้องกังวลอะไร แต่แล้วก็มีสถาปนิกที่ชื่อว่า Katerina Kamprani ชาวเอเธนส์ได้ออกแบบสิ่งของที่เราใช้ในชีวิตประจำวันใหม่ โดยใช้ชื่อโปรเจ็คว่า “The Uncomfortable” ที่ดูๆ แล้วรู้สึกไม่สบายใจซักนิด 1. แก้วที่มีหูคล้องกัน 2. ชุดช้อน ส้อม และมีดที่ไม่รู้ว่าจะใช้ยังไง 3. แก้วที่ทำหูจับแบบจับยากยิ่งขึ้น 4. นาฬิกาทรายสำหรับใส่เกลือและพริกไทย 5. แก้วแชมเปญแบบนี้เวลาดื่มมันจะหกใส่หน้าหรือเปล่าน๊อ? 6. ลูกบิดประตูแบบเป่าลม แล้วจะเปิดยังไงล่ะเนี่ย 7. ร่มคอนกรีต 8. กาน้ำชา 9. แก้วแบบยาวๆ 10. ประตู 3 ชั้น ไม่รู้อันไหนจะดีดใส่ก่อนกัน 11. เก้าอี้ที่ดูแล้วรู้สึกว่าจะล้มตลอดเวลา 12. เห็นส้อมนี้แล้วหงุดหงิด…
-
10 ความผิดพลาดง่ายๆ ของ “การแต่งหน้า” ที่จะทำให้คุณดูแก่ขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เมื่อสาวๆ ต้องออกไปเผชิญโลกภายนอก การแต่งหน้าเป็นเรื่องสำคัญที่สาวๆ ต้องใส่ใจเอามากๆ เพราะการมีใบหน้าที่ดูดีและอ่อนเยาว์นั้นมันจะช่วยให้เหตุการณ์ต่างๆ ระหว่างวันราบรื่นไปด้วยดี ดังนั้นสาวๆ ควรที่จะรู้เกี่ยวกับทริคการแต่งหน้าง่ายๆ ที่สามารถทำให้เพื่อนๆ ดูเด็กลงได้ แบบนี้รอไม่ได้แล้วต้องไปอ่านบทความนี้ด่วนๆ เลยจ้า 1. การทาคอนซีลเลอร์มากเกินไป แม้ว่าการทาคอนซีลเลอร์นั้นจะช่วยปกปิดจุดด่างดำหรือรอยแดงได้ แต่ถ้าคุณทามากและหนาจนเกินไปก็จะทำให้เห็นร่องริ้วรอยที่ชัดเจนขึ้นด้วยเช่นกัน 2. การปัดขนตาล่างมากเกินไป แม้ว่าการปัดขนตาจะทำให้ดวงตาของคุณนั้นดูกลมโตและโดดเด่นขึ้น แต่การปัดขนตาล่างมากจนเกินไปนั้นจะทำให้จุดเด่นย้ายไปอยู่ที่ริ้วรอยใต้ตาของคุณ ดังนั้นต้องระวังกันหน่อยนะจ๊ะ 3. การเลือกสีลิปสติก แค่สีของลิปสติกก็ทำให้คุณดูเด็กลงได้จริงๆ อย่ากลัวที่จะลองสีลิปสติกที่แตกต่าง ยิ่งถ้าคุณมีริมฝีปากที่เรียวเล็ก ก็ควรที่จะใช้สีเข้มและแน่นเพื่อให้ดูอวบอิ่มยิ่งขึ้น 4. การใช้อายแชโดว์สีเข้มเกินไป การทาอายแชโดว์สีเข้มที่ใกล้ขอบตามากเกินไปมันทำให้คุณดูแก่ลงได้เช่นกัน ลองเป็นมาเป็นการเล่นเงาที่ปลายหางตาดูก็ช่วยให้ดูแก่น้อยลงได้นะ 5. การเขียนอายไลน์เนอร์ที่ขอบตาล่าง รู้หรือไม่ว่ามันทำให้ตาของคุณนั้นดูแคบลง ดังนั้นควรใช้สีอ่อนๆ เพื่อทำให้ตาดูกว้าง กลมโตขึ้นดีกว่านะ 6. การปัดแก้ม การปัดแก้มสีจัดๆ มันไม่ได้ทำให้คุณดูเด็กลงหรอกนะ ลองหันมาปัดแก้มสีอ่อนระเรื่อ และปัดยกสูงขึ้นมานิดๆ ก็จะช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์ได้นะ 7. คิ้วที่เข้มเกินไป การจัดคิ้วให้เป็นทรงและมีสีที่ธรรมชาติ ก็จะทำให้ใบหน้าของคุณนั้นสดใสราวกับสาวแรกรุ่นได้…
-
ทหารหนุ่มกลับมาบ้าน แมวหายไปตัวหนึ่งหาไม่เจอ… รู้อีกที เอ็งไปอยู่ตรงนั้นได้ไง!?
เรื่องราวที่ทางคุณ Arty P’Marines Rtmc เล่าผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง ถึงภารกิจตามหาเจ้าเหมียวภายในบ้าน ซึ่งกลายเป็นว่ามันสามารถเปลี่ยนสถานะจากของแข็ง ไปเป็นของเหลวได้อย่างไม่น่าเชื่อ… เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันธรรมดาวันหนึ่ง หลังจากที่เขากลับมาถึงห้องพัก พร้อมกับมีแก๊งแมวเหมียวที่เลี้ยงไว้อย่างเจ้าขี้เถ้า และเจ้าอูด้งวิ่งมาต้อนรับ แต่.. มันมีอะไรผิดปกติไปอย่างหนึ่ง เจ้าโมจิมันหายไปไหน!? ด้วยความกระวนกระวายเขาก็ตามหาแมวน้อยโมจิที่หายไป โดยพบว่าเจ้าขี้เถ้ากับอูด้งไปนอนอยู่แถวหน้าตู้เย็น มองๆ ไปก็เจอเหยือกน้ำอยู่อันหนึ่ง พลางสงสัยว่าใครเอาเหยือกน้ำมาตั้งไว้ แต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ เท่านั้นแหละ เชร๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด… ทำหน้าตาแบบไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกตามหาอยู่ด้วย… . เขาเล่าว่าเจ้าโมจิคือตัวป่วนประจำบ้าน และเหตุการณ์วันนี้ก็แสดงถึงความป่วนของมันได้เป็นอย่างดี ทำท่าทีเหมือนหายตัวไป แต่ดั๊นไปนอนขดอยู่ในเหยือก แถมยังลงไปได้ทั้งตัวจนหาไม่พบอีก ว่าแล้วก็เลยจับมันมาถ่ายเซลฟี่ประจานมันซะหน่อยยยยย…. . . เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แมวเป็นสัตว์ที่สามารถกลายเป็นของเหลวได้ และมันอาจจะชอบเล่นเกมซ่อนหา หลอกให้เราตามหามันให้ร้อนใจเล่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน!! ที่มา: Arty P’Marines Rtmc
-
เปิดเบื้องหลังการทำฟาร์ม ‘เสื้อขนสัตว์’ ที่ดูแล้วชวนให้รู้สึกหดหู่ น่าสงสารเหลือเกิน (มีคลิป)
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเบื้องหลังที่มาของชุดแฟชั่นอันโดดเด่นที่เราเห็นบนรันเวย์ ล้วนมีราคาที่ต้องจ่ายเป็นชีวิตของสัตว์โลกผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และความโหดร้ายทารุณที่พวกมันต้องได้รับ และครั้งนี้เราจะขอพาไปชมข้อมูลจากองค์กร Animal Defenders International (ADI) ที่ออกมาเปิดโปงเบื้องหลังการทำฟาร์มเสื้อขนสัตว์ที่เต็มไปด้วยความน่าหดหู่… (คำเตือน: บทความนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาที่รุนแรง) คลิปวิดีโอฟุตเทจส่วนหนึ่งที่องค์กร ADI ได้ปล่อยออกมา เกี่ยวกับชะตากรรมอันโหดร้ายที่หมาจิ้งจอก 3 ตัวต้องพบเจอ หากเรามองย้อนกลับไปที่ตัวเลขจำนวนประชากรสัตว์โลก ที่ถูกสังเวยเพื่อนำขนไปขายต่อให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่น มีการเปิดเผยว่าในแต่ละปีมีจำนวนสัตว์ถูกฆ่าทั้งหมด 110 ล้านตัว จากในคลิปวิดีโอเราจะได้เห็นเรื่องราวของ Aleska แม่สุนัขจิ้งจอก และลูกน้อยของมันทั้ง 2 ตัว Borys และ Eryk เราจะเห็นได้ว่า หลังจากที่ลูกจิ้งจอกได้ออกมาลืมตาดูโลก พวกมันก็มีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับอิสรภาพเพียงไม่กี่สัปดาห์ จากนั้นทั้ง 2 ตัวก็ถูกนำไปขังไว้ในกรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็กเพื่อรอวันที่พวกมันเติบโตเต็มที่ ทันทีที่ขนของพวกมันเริ่มมีสีขาว และมีความหนามากขึ้นเพื่อช่วยปกป้องอากาศหนาวที่กำลังจะมาถึง พวกมันก็จะถูกนำตัวไปแขนคอ… จากนั้นคนงานก็จะปลิดชีวิตพวกมันด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า ก่อนจะนำร่างกายไปถลกหนังเพื่อส่งต่อให้อุตสาหกรรมเสื้อผ้า หนึ่งในโฆษกขององค์กรช่วยเหลือสัตว์ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “จุดประสงค์ของเราก็เพื่อต่อต้านความรุนแรงและปัญหาที่เกิดขึ้นจากความโลภของมนุษย์เอง พวกเราเชื่อว่าถ้าทุกคนตระหนักถึงปัญหานี้ และเซย์โนให้กับแฟชั่นขนเฟอร์ ต่อไปจะต้องไม่มีสัตว์ชนิดใดที่ถูกทารุณกรรมแบบนี้อีก” นอกจากนั้นยังมีการเปิดเผยตัวเลขการส่งออกอุตสาหกรรมขนสัตว์ โดยพบว่าในปี 2016 มีเงินหมุนเวียนอยู่ในอุตสาหกรรมขนสัตว์ทั่วยุโรปมากกว่า 39…
-
เจ้าสาวตัดสินใจจัดงานแต่งงาน ‘คนเดียว’ เหตุเบื่อรอคนที่ใช่ พร้อมไปฮันนีมูนคนเดียว!!
เคยตั้งคำถามกันไหมว่าอายุปูนนี้แล้วทำไมตัวเรานั้นยังโสด เรารอคนที่ใช่อยู่ หรือเราไม่อยากมีใคร? แล้วเมื่อไหร่เราจะได้แต่งงานใส่ชุดสวยๆ แบบคนอื่นเขาสักที…ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อคุณตัดสินใจแต่งงานกับตัวเอง!! Laura Mesi หญิงโสดวัย 40 ที่ตัดสินใจรอคนที่ใช่มาเป็นเวลากว่า 20 ปี หลังจากเลิกกับแฟนคนล่าสุดที่คบกันมา 12 ปี เมื่อตอน 2015 แม้เขาจะเคยสัญญาว่าจะแต่งงานกับเธอก็ตาม ทว่าเขาก็ไม่ใช่ชายที่ใช่อยู่ดี เพื่อนเจ้าสาวก็มาเพียบ จนสุดท้ายเธออายุเข้าเลข 4 จึงตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับตัวเองดั่งที่เคยบอกกับครอบครัวไว้ว่าถ้า 40 ยังไม่มีคนที่ใช่ เธอจะแต่งงานกับตัวเอง สุดท้ายงานแต่งของตัวเธอเองจึงเกิดขึ้น โดยมีองค์ประกอบเหมือนงานแต่งอื่นๆ ทุกอย่าง จะต่างแค่มีเธอเป็นเจ้าสาวคนเดียวไม่มีเจ้าบ่าว Laura ได้จ่ายเงินกว่า 380,000 บาทเพื่อจัดงานแต่งในฝันของเธอ นอกจากนั้นยังเชิญเพื่อนและญาติๆ กว่า 70 ชีวิตมาร่วมงานแต่งของเธอด้วย ซึ่งแขกก็จะงงหน่อยๆ ว่าทำไมมีแต่เธอไม่มีเจ้าบ่าว คนเดียวก็ได้ ไม่ง้อผู้ชาย เพื่อนๆ ญาติต่างก็ยินดีกับงานนี้ ถ่ายรูปซักหน่อย สิ่งสำคัญของงานแต่งที่จะขาดไม่ได้คือชุดเจ้าสาวสวยๆ เค้กแต่งงานที่ปกติจะเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาว ก็มีแต่เธออยู่บนเค้ก แหวนเพรชที่มาเป็นคู่…
-
17 เรื่องที่คุณอาจจะคิดว่าคุณเป็นแค่คนเดียว แต่จริงๆ แล้วเค้าเป็นกันทั้งโลกแหละเธอเอ๊ยยย..!!
อย่าปฏิเสธเลยว่าอันที่จริงแล้วเราก็มีพฤติกรรมหลายอย่างที่รู้สึกว่า… นี่ฉันไม่ได้เป็นบ้าไปคนเดียวจริงๆ ใช่ไหมแกร!? ไม่ต้องเขินอายไปหรอกนะ แม้ว่าบางทีเราจะอยู่คนเดียวในห้องและเผลอทำพฤติกรรมแปลกๆ แต่เชื่อเถอะว่าไม่ใช่มีแค่คุณคนเดียวหรอกที่เป็น เพราะใครๆ เค้าก็เป็นกันทั้งโลกนั่นแหละ 1. เมื่อคุณนอนเปื่อยแต่ขี้เกียจลุกไปเอาผ้าห่ม… หมอนห่มแทนละกันนะ 2. เปิดพัดลมอย่างเดียวก็หนาวไป ห่มผ้าอย่างเดียวก็ร้อนไป เอามันทั้งสองอย่างเลยละกัน 3. บังคับตัวเองให้ยกของที่ไปซื้อมาให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่ไรหรอก… ขี้เกียจเดินหลายรอบ!! 4. ไม่ได้มีแค่รถคุณคนเดียวหรอกนะ ที่เต็มไปด้วยขวดน้ำ ขวดน้ำ และก็ขวดน้ำ 5. เมื่อไหร่ที่เข้าไปอึ๊โดยไม่ได้เอาหนังสือหรือโทรศัพท์ไปด้วย คุณก็จะต้อง… หยิบอะไรมาอ่านก็ได้แบบนี้แหละ 6. เผลอทำน้ำแข็งตกทีไร ต้องแอบเขี่ยใส่ใต้ตู้เย็นทู๊กกกที 7. บางทีก็แอบกินลูกอมทั้งห่อนั่นแหละ เพราะแหม๊… แกะยากเหลือเกิน 8. บางทีสมองก็เหงาซะจน ต้องเอามือมาวาดงานศิลปะบนโซฟาอย่างที่เห็นนี่แหละ 9. ไม่ใช่แค่โซฟาเท่านั้นนะ แต่บางทีอาการสมองเหงามันก็ลามมาถึงหน้าจอมือถือด้วยเหมือนกัน (นี่เธอเล่นขี้มือตัวเองอยู่นะรู้ตัวป่ะ?) 10. เผลอทีไรต้องเปิดตู้เย็นดูตลอด ทั้งที่คุณก็รู้อยู่เต็มอกว่า..…
-
40 ภาพเซ็ต “ปิศาจในตัวหญิงสาว” สะท้อนแง่คิดสังคมปัจจุบัน ที่ต้องอยู่กับสิ่งล่อใจมากมาย
ผู้หญิงเป็นเพศที่เข้าใจยาก และยิ่งในปัจจุบันรอบตัวเต็มไปด้วยสิ่งล่อใจที่เข้ามาเปลี่ยนการใช้ชีวิต กระตุ้นความต้องการหรือจิตใต้สำนึกของคนที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ให้แสดงออกมา นั่นจึงกลายเป็นไอเดียให้กับศิลปินจากกรุงลอนดอนที่ชื่อว่า Polly Nor ได้วาดภาพสิ่งที่เธอคิดเกี่ยวกับผู้หญิงในปัจจุบัน รวมทั้งเรื่องของกิเลสตัณหาที่อยู่ในคราบปีศาจ โดยทุกภาพเกิดจากแรงบันดาลใจของข้อความตลกๆ คำบ่นหรือด่า และภาพเซลฟี่ที่เธอเห็นในโลกโซเชียล กลายมาเป็นผลงานที่ดูมืดมน สะท้อนถึงภายใต้จิตใจมนุษย์ได้อย่างชัดเจน และแม้ว่าจะถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบตัวการ์ตูนสีสันสดใส แต่สิ่งที่สื่อออกมาจากภาพของเธอ อาจทำให้งานนี้ไม่ค่อยเหมาะให้เด็กดูซักเท่าไหร่ เราใส่เสื้อผ้าเพื่อปิดบังร่างกาย และร่างกายเองก็กำลังปิดบังปีศาจที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา ช่วงเวลาอยู่คนเดียว คือการเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ปลดเปลื้องทุกอย่าง วันนี้จะแต่งอะไร และจะปั้นหน้าอย่างไร ยอมรับและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับความชั่วร้ายของเราให้เหมาะสม สิ่งที่เราอยากให้คนอื่นเห็น คือเปลือกนอกที่ดูดี บางครั้งเราก็จะต้องเผชิญหน้ากับเบื้องลึกของตัวเอง ผ่อนคลายและสบายใจให้กับความต้องการของตัวเอง เป็นตัวของตัวเองเข้าไว้ อาจต้องสร้างความสุขให้กับตัณหาบ้าง อยู่กับเพื่อนสาว อยากทำอะไรก็ได้ทำ สิ่งล่อใจและปีศาจในตัวคุณ จะทำให้คุณไม่สามารถหลับลงได้เลย ความขี้เกียจที่กักขังคุณไว้ ไม่ให้ออกมาทำสิ่งต่างๆ ที่จำเป็น แต่ถ้าเราฝืน และชนะสิ่งนั้นได้ หลายอย่างจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น สิ่งที่กำลังกลืนกินเราอยู่ทุกวันนี้ ความฟุ่มเฟือย…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ 18 ความฮาความป่วนของคุณหมอ ใครว่าหมอไม่มีอารมณ์ขัน มันไม่ใช่เล๊ยยย
หนึ่งในอาชีพที่ต้องเจอกับความกดดันและความเครียดอยู่ทุกวันก็คือ อาชีพหมอ เพราะหากพวกเขาทำอะไรพลาดไป นั่นอาจหมายถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับคนไข้ของเขาได้ แต่ถึงแม้ว่าจะต้องเคร่งเครียดกับงานขนาดไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต้องเป็นคนนิ่งๆ เคร่งขรึมไปซะทีเดียว เพราะยังไงทุกคนก็จะต้องมีความตลกและขี้เล่นอยู่ในตัว จึงได้มีกระแสชาวเน็ตออกมาแชร์ภาพความฮาของพวกเขาให้เราได้เห็นกัน เราลองไปดูกันเลยดีกว่า ว่าภาพเหล่านั้นจะทำให้คุณอมยิ้มได้มากขนาดไหน นางฟ้าฟันน้ำนมกำลังจะมาถอนฟันของหนูแล้วนะ ภาพติดผนังในคลินิกหมอฟันแห่งหนึ่ง กอลลัมจะได้กินปลาให้อร่อยขึ้นนะ ผู้หญิงต้องระวังอย่าเข้าใกล้เชียวละ เพดานเอาไว้เล่นเกมส์ “ตามหา Wally” ถอนฟันไป แล้วก็มองหาไปเพลินๆ ตัวใหญ่ขนาดนี้ คงจะแข็งแรงน่าดู ใครเอาช่างซ่อมรถเข้ามารักษาฟันตรูเนี่ย ตอนเย็บคงจะตลกมากมั้งเนี่ย จะทำทุกทางให้ผอม ยกเว้นออกกำลังกายกับควบคุมอาหาร.. เป็นบัตรนัดคนไข้ที่เจ๋งมาก “ถึงเวลาย้อนกลับไปเจอหมอฟันแล้ว” ต้องเขียนติดไว้ “ห้ามใช้กับช่องคลอด” กลัวสาวๆ เข้าใจผิด คิดว่าปรอทวัดไข้ เจอหมอก็เคี้ยวหมากฝรั่งซักหน่อยมั้ยครับ ดับกลิ่นปาก อยากให้ผลักขนาดนี้ ขอถีบเข้าไปเลยได้มั้ยครับ พักการตรวจแล้วออกไปเล่นเบสบอลก่อนมั้ย คนไข้ผ่าตัดหัวใจรอแปปนึงนะ ขอหมอเล่นให้จบก่อน เป็นการแจ้งข่าวร้ายที่น่ารักจริงๆ “คุณเป็นซิฟิลิส”…
-
มาเช็คกันว่า ถ้าคุณเป็น “มนุษย์แมว” ตัวจริง คงจะต้องเคยทำ 30 ข้อใน 35 ข้อนี้แน่เลย
หากคุณเป็นคนเลี้ยงแมว ทาสแมว หรือจะเรียกตัวเองว่ามนุษย์แมวก็ได้ เชื่อเลยว่าคุณจะต้องเคยผ่านประสบการณ์ต่างๆ แบบนี้มาแล้วอย่างแน่นอน… 1. พยายามพูดกับแมว แม้จะสื่อสารไม่รู้เรื่องก็ถาม 2. แล้วเวลาพูดก็ต้องทำเสียงแหลมๆ เล็กๆ ที่น่ารักกว่าเสียงปกติอีก 3. ขอแมวจับมือ ถึงว่ามันจะไม่สนใจยื่นมาให้จับ 4. ถ่ายเซลฟี่กับแมวเก็บไว้จนภาพเต็มโทรศัพท์ 5. ชอบอวดเพื่อนๆ และคนรู้จัก เวลาที่แมวของเราทำอะไรน่ารักๆ อย่างเช่นการนอนท่าแปลกๆ 6. เคยทำงานไม่ได้ เพราะมีแมวมานอนป่วนอยู่บนโต๊ะ 7. เช่นเดียวกันกับการต้องฝืนทนปวดฉี่ เพราะแมวนอนสบายอยู่บนตัก จะลุกไปก็เกรงใจพี่เค้า 8. เรียกชื่อแมวอันแสนน่ารักด้วยฉายาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ชื่อปกติของมัน (แต่ไม่ว่าชื่อไหน ถ้ามันไม่สนใจมันก็ไม่หันหรอก) 9. ถ้ามีใครมาบ้านแล้วแมวไปสนใจคนนั้นมากกว่า คุณจะรู้สึกเหมือนโดนทรยศ 10. พยายามใช้แมวเป็นหมอน นอนเอาหัวทับมัน แต่มักจะลงเอยด้วยการถูกมันนอนทับมากกว่า 11. กลับบ้านมาก็ทักทายแมวทุกครั้ง ถึงมันจะไม่สนใจคุณก็ตาม…
-
ย้อนชมสไตล์การแต่งตัว “Porn Fashions” จากนิตยสารสยิวกิ้วในยุค 1980s
ในช่วงปี 1980 เป็นยุคที่แฟชั่นมีความโดดเด่นเป็นตัวเองมากๆ ผู้คนสมัยนั้นกล้าที่จะแต่งตัวด้วยความมั่นใจ ฉีกสไตล์เดิมๆ ด้วยสีสันสุดสะดุดตา เป็นยุคที่ผู้คนแต่งตัวได้ดูมีเสน่ห์สุดๆ จน #เหมียวบู้บี้ ชักอยากจะให้แฟชั่นเหล่านี้ย้อนกลับมาฮิตอีกครั้ง คงสนุกกับการดูผู้คนแต่งตัวด้วยชุดสวยๆ ตามท้องถนนมากๆ เชียวล่ะ ยุค 80s เป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้านทั้งทางเทคโนโลยี ผู้คน หรือแม้กระทั่งการแต่งตัว หนึ่งแฟชั่นที่ดูสะดุดตาที่สุดก็คือ “Porn Fashions” การแต่งกายก็จะออกแนวเซ็กซี่ๆ โรแมนติก จัดจ้าน ทั้งแซ่บ ทั้งเผ็ดระดับพริกยกสวนเลยล่ะ มาดูกันว่าหนุ่มๆ สาวๆ ในสมัยนั้นเค้าแต่งตัวกันอย่างไร จากนิตยสารสุดสยิวกิ้วของคนในยุคนั้น ซึ่งสตอรี่หลังจากภาพนี่ก็ไปจินตนาการกันเอาเองนะ แอร๊ยยย การแต่งกายของผู้ชายก็จะเน้นลายตาราง เข้าชุดทั้งเสื้อและกางเกง ดูสุภาพ กระชากใจ เน้นสีสันร้อนแรงอย่างกับไฟเออร์ เข็มขัดใหญ่ๆ อยู่ห่าง 1 กิโลเมตรก็ยังเห็นได้ชัด คุณแม่ควบสองไปเลย ชุดลายเสือสีเหลืองแบบนี้ ใครๆ ก็อยากจะโดนเสือขย้ำ เมี๊ยวววว แฮร่!!! ยิ่งสาวๆ…
-
“ปู” ฮีโร่ พลีชีพกระโดดออกมาจากกระทะ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนๆ ก่อนที่จะถูกผัดเป็นอาหาร
ปู เป็นหนึ่งในสัตว์ที่มนุษย์นำมารับประทานเป็นอาหาร ด้วยรสชาติและเนื้อที่แสนอร่อยของมันถูกนำมาปรุงเป็นอาหารสุดโปรดของหลายๆ คน ทั้ง ส้มตำปู ปูผัดผงกระหรี่ ปูนึ่ง ปูดอง และอีกมากมาย โอ๊ย #เหมียวบู้บี้ หิวววววว ด้วยความที่ปูมีความอร่อยโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ทำให้หลายๆ คนชอบกินปูม๊ากมาก แต่เนื่องจากปูตามธรรมชาติมีจำนวนน้อย ต้องคอยออกไปจับตามธรรมชาติ เพราะว่าการเพาะเลี้ยงปูนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงและทำได้ยากอีกด้วย ทำให้ปูนั้นมีราคาแพงมาก แต่ก็ยังเป็นที่นิยมของหลายๆ คนอยู่ดี คลิปวิดีโอต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ระทึกของปู 4 ตัวที่กำลังจะถูกนำมาปรุงเป็นอาหาร แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น จากคลิปวิดีโอก็จะเห็นว่ามีปูจำนวน 4 ตัวที่กำลังมีชีวิตอยู่ ถูกจับลงกระทะร้อนๆ ที่มีเนยกำลังค่อยๆ ละลาย แต่แล้วก็มีปูตัวหนึ่ง ด้วยความที่รักตัวกลัวตายของมัน มันจึงกระโดดออกจากกระทะร้อนๆ นั้นทันที แต่บังเอิญว่าดันกระโดดไปโดนปุ่มสวิตช์ปิดเตา เพื่อนตัวอื่นๆ เลยพลอยโชคดี รอดพ้นความตายอย่างหวุดหวิด เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่จากพ่อครัวคนหนึ่งในเมืองเหลียนหยวน มณฑลเจียงซู ทางชายฝั่งตะวันออก ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ การนำปูมาปรุงอาหารโดยที่ยังมีชีวิตอยู่จะทำให้มีความสด รสชาติเยี่ยม เป็นที่นิยมของคนในเมือง จากนั้นก็มีชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้ว่า ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Haider MJ …
-
นังแมวอ้วน ใช้มารยาออดอ้อนมนุษย์ให้รับเลี้ยง หลังติดอยู่สถานสงเคราะห์มาเป็นเวลานาน
มีข่าวสัตว์เลี้ยงถูกทิ้งทุกวัน ปัญหาเหล่านี้เกิดจากที่มนุษย์รับสัตว์เลี้ยงเหล่านี้มาแล้วไม่ดูแลรักษามันดีๆ เมื่อเลี้ยงไม่ได้ก็นำมาปล่อยในสถานที่ทั่วไป อย่างประเทศไทยก็จะเป็นบริเวณวัดต่างๆ ทำให้จำนวนประชากรหมาแมววัดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และการเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย รวมทั้งมีการจัดการที่เป็นระบบ มิเช่นนั้นอาจกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคจนทำให้สัตว์ล้มตายได้ ที่ในต่างประเทศก็มีการจัดการแก้ปัญหาสัตว์เลี้ยงถูกทิ้งโดยเฉพาะ ด้วยการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ ให้คนที่ไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้อีกต่อไปนำพวกมันมายังสถานที่แห่งนี้ และจัดการหาเจ้าของใหม่ให้กับเจ้าสัตว์เหล่านี้ในภายหลัง เจ้า Tim ก็เป็นแมวตัวหนึ่งที่ถูกทิ้งไว้ในสถานสงเคราะห์สัตว์ Potsdam ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา มันเป็นแมวที่อ้วนมากๆ และก็อยู่ในสถานสงเคราะห์แห่งนี้มานานแล้ว แต่ก็ไม่มีใครรับไปเลี้ยงซะที Rachel อาสาสมัครที่ทำงานให้กับสถานสงเคราะห์สัตว์ Postsdam เธอกำลังจะสิ้นสุดวาระการทำงาน และวันทำงานสุดท้ายของเธอก็มาถึง แต่ดูเหมือนจะมีหนึ่งสมาชิกที่นี่อยากออกไปด้วยซะแล้วสิ เจ้า Tim ได้วิ่งเข้ามาคลอเคลียเธอ จากนั้นก็ได้ใช้มารยาททั้งหมดที่มันมีออดอ้อนเธอจนเธอต้องอุ้มมันด้วยความเอ็นดู หารู้ไม่ว่าได้เข้าสู่กับดักของมันซะแล้ว มันกอดเธอแน่นหนึบไม่ยอมปล่อยเลยล่ะ ด้วยความที่เธอยังเป็นนักศึกษาอยู่ และทางหอพักมหาวิทยาลัยก็ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ เธอจึงตัดสินใจนำเจ้า Tim ไปให้แม่ของเธอเลี้ยงที่บ้าน ข้าเลือกเจ้าแล้วนะมนุษย์ แหม่ อ้อนซะขนาดนี้ใครจะไม่สงสารบ้างอ่ะ เจ้าเหมียวเอ๊ย แผนสูงจริงๆ เลย!! ที่มา lovemeow
-
18 ภาพโฆษณาที่ดูแล้วอยากจะคุกเข่าและก้มลงกราบงามๆ พร้อมถามว่าพี่คิดได้ไงครับ…
ปัจจุบันนั้น วิธีการโฆษณาผ่านภาพได้ยกระดับขึ้นในหลายๆ ด้าน ทั้งความหมายและความสวยงาม เพราะแนวคิดของคนรุ่นใหม่และฝีมือที่พัฒนาขึ้นตามยุคสมัยนั้นเรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียวล่ะ วันนี้เราก็เลยจะมาดูภาพโฆษณาเจ๋งๆ ที่ยอมใจคนคิดเลย เพราะแต่ละอันสวยๆ ทั้งนั้น แน่นอนว่าบางอันหลายคนคงจะเคยเห็นผ่านตากันมาแล้ว แต่เชื่อเหอะว่าดูกี่ทีก็เจ๋งจริงๆ นะ โดยเฉพาะอันสุดท้าย… โฆษณาของร้านขนมปัง Délifrance ที่จะสื่อว่าขนมปังของพวกเขามันนุ่มมากๆ นุ่มขนาดเอาไปทำรองเท้าแตะยังได้ โฆษณาแบตเตอรี่ Interstate Batteries ที่ทำให้เราเห็นถึงความอดทนของมัน ว่าแม้รถจะโดนทิ้งไว้ในสุสานก็ยังติดเสมอเรื่อยมา โฆษณาจาก M&M’s ที่สื่อว่า ถ้าใช้ M&M’s จะสามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ดียิ่งขึ้น โฆษณาแว๊กซ์ขนที่บอกว่า ถ้าเราใช้แว๊กซ์ของเขาแล้วล่ะก็ เวลาถูสบู่จุดนั้นมันก็จะสะอาดขาวไม่มีสิ่งสกปรกมาซ่อนอยู่เลยนั่นเอง โฆษณามาจาก Nivea ที่แสดงให้เห็นว่าริ้วรอยบนหน้าผากสามารถทำอะไรได้บ้าง . โฆษณายาแก้แฮงค์ที่ย้ำเตือนว่า คุณควรจะกินมันก่อนที่จะเมาไม่ได้สติแล้วหยิบเจ้าเหมียวมาล้างจาน… โฆษณาชวนเล่นโยคะ โดยสื่อว่าเล่นโยคะซะ ก่อนที่กระดูกสันหลังของเราจะหันมาทำร้ายเราเอง โฆษณา Band-Aid ที่สื่อว่าพลาสเตอร์ของพวกเขาเหนียวและทนมาก ขนาดเดอะฮัลค์ยังใช้ได้สบายๆ ไม่มีขาด โฆษณาอาหารสุนัขที่ีเคลมว่า ถ้าคุณให้สุนัขกินอะไรที่ไม่อร่อยพวกมันจะล้างแค้นคุณ ฉะนั้นให้อาหารจาก Natural…
-
10 เซเลบดังหลังผ่านการฟิตหุ่นอย่างหนัก จากเฉยๆ เป็นหล่อ จากหล่อแล้ว ยิ่งแซ่บได้อีก!!
ในภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่องต่างๆ ที่เราได้ชมกันนั้น กว่าที่จะมาเป็นภาพยนตร์แต่ละเรื่อง ต้องมีการทำงานทำงานร่วมกันจากหลายๆ ฝ่าย และอีกฝ่ายที่สำคัญมากๆ นั่นก็คือนักแสดง ที่เป็นตัวดำเนินเรื่องของภาพยนตร์ แล้วรู้ไหมว่ากว่าที่พวกเขาจะมาแสดงให้เราได้เห็นนั้น เขาต้องผ่านอะไรมากันบ้าง จากที่เราได้ดูในภาพยนตร์เราก็จะเคยเห็นบทพระเอกที่มีซิกแพคล่ำๆ ที่แต่ละเรื่องนั้นก็ขนแต่พระเอกหุ่นแซ่บๆ มาขยี้หัวใจเราอยู่เสมอ จนบางทีไม่ได้โฟกัสที่เนื้อเรื่องเลย เข้าไปดูเพราะซิกแพคล้วนๆ เว็บไซต์ Bright Side ได้รวบรวมนักแสดงหนุ่มที่ได้ทุ่มเทพลังกายพลังใจ เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อรับบทภาพยนตร์ต่างๆ เปลี่ยนรูปร่างจากหุ่นผอมแห้งหรืออ้วนเผละมาเป็นหุ่นน่ากอดจะมีใครกันบ้างน๊าาา 1. Zac Efron จากเมื่อตอนเขาเป็ยวัยรุ่น Zac มีความผอมมากๆ ร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว หลังจากที่ไปแคสต์บทไลฟ์การ์ด ในเรื่อง Baywatch เขาจึงฝึกฝนตัวเองอย่างหนักจนได้กล้ามแน่นๆ น่าขย้ำแบบนี้ โอ๊ย น้ำลายไหลเลยจ้า 2. Chris Pratt พ่อหนุ่มหุ่นหมีน่าฟัดน่ากอดจากเรื่อง Guardians of the Galaxy และ Jurassic World คนนี้ เดิมทีเขาเป็นคนที่อ้วนมากๆ เขาได้เปลี่ยนหุ่นบวมเบียร์ของเขาให้กลายเป็นซิกแพคได้ภายในเวลา 6 เดือน น้ำหนักของเขาลดไปถึง 27…
-
เจ้าของบ้านต๊กกะใจ หมาที่เลี้ยงไว้พา “แมวน้อย” เข้ามาอยู่ในบ้าน เฮ้ย.. เอ็งหลอกยันหมาเลย!!
เจ้าพวกแมวเหมียวนี่เผลอเป็นไม่ได้เลยจริงๆ แม้แต่บ้านหลังหนึ่งที่เลี้ยงหมามานานหลายปี มันก็ยังจะอุตส่าห์เข้าไปหลอกหมาได้อยู่นะ..!! เรื่องวุ่นๆ สุดน่ารักนี้ก็ได้เกิดขึ้นกับชาวเน็ตผู้ใช้นามว่า squishiepeachies ที่ได้นำเรื่องของตัวเองมาเล่าผ่านเว็บไซต์ Lovemeow เรื่องมันก็มีอยู่ว่า…. นี่คือเจ้า Crosby สุนัขผู้มีจิตใจเบิกบานและเฟรนด์ลี่เป็นที่สุด หนุ่มเจ้าของบ้านเล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 6 เดือนก่อน เจ้าตูบ Crosby เคยมีเพื่อนซี้ข้างบ้านเป็นแมวเหมียว แต่จู่ๆ วันหนึ่งมันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย และหลังจากที่เพื่อนแมวหายไป มันก็เอาแต่เซื่องซึมข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน หลังจากวันนั้น Crosby ก็กลายเป็นหมาผู้เดียวดายประจำบ้านหลังนี้ จนกระทั่งเมื่อประมาณไม่กี่สัปดาห์ก่อน เมื่อหนุ่มเจ้าของบ้านกลับมาจากวันหยุดพักร้อน เจ้าตัวก็ต้องต๊กกะใจเมื่อเจ้าตูบมีดูพิรุธเหมือนแอบเอาอะไรบางอย่างเข้ามาไว้ในบ้าน… จากนั้นมันก็นำทางเจ้าของบ้านมายังห้องน้ำ พ่อหนุ่มถึงกับหงายเงิบ…. เฮ้ย!! แมวมาได้ไง? “ผมไม่เคยเห็นเจ้าแมวตัวนี้ในละแวกนี้มาก่อน ผมคิดไม่ออกเลยว่าแมวจะเข้ามาได้ยังไง แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนแอบพาเข้ามานะ งานนี้ไม่ต้องสืบก็รู้ว่าใครทำ” เจ้าของบ้านเล่า พ่อหนุ่มพยายามออกไปถามไถ่เพื่อนบ้าน เพราะเกรงว่าจะเป็นแมวเหมียวของคนอื่น แล้วเจ้าตูบเพื่อนซี้ไปลักพาตัวมา แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้คำตอบที่ต้องการ หรือนี่จะเป็นพรหมลิขิตที่อยู่ดีๆ พระเจ้าก็ประทานมาให้กันนะ? “ผมเอาเจ้ามิ้วน้อยไปหาหมอเพื่อดูว่ามันฝังไมโครชิปรึเปล่า ก็พบว่ามันไม่ได้ฝัง และเพิ่งจะมีอายุได้ประมาณ 4 เดือนเท่านั้นเอง” ใจหนึ่งพ่อหนุ่มก็คิดว่า..…
-
แม่วัยใสชาวรัสเซีย ทิ้งลูกน้อยไว้เพียงลำพังเพื่อไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อน จนเด็กเสียชีวิตคาบ้าน!!
เรื่องคุณแม่วัยใส เกิดจากวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน ทำให้วัยรุ่นหญิงท้องก่อนวัยอันควร เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาอีกมาก ทั้งปัญหาการทำแท้ง หรือเด็กที่เกิดมาถูกทอดทิ้งเป็นเรื่องที่สังคมควรช่วยเหลือกันแก้ปัญหาเหล่านี้ ดั่งเช่นเรื่องราวของ Viktoria Kuznetsova คุณแม่วัยใสที่มีอายุเพียง 17 ปีชาวรัสเซีย เธอท้องกับชายคนหนึ่งซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อ และเธอก็ได้ให้กำเนิดลูกน้อยออกมาเป็นเวลา 9 เดือน แม่สาวคนนี้ได้เลี้ยงลูกน้อยเพียงลำพังภายในบ้านพัก เพราะว่าสามีของเธอได้ถูกเรียกตัวเข้ารับราชการทหารในขณะนั้น ด้วยความที่ยังเป็นวัยรุ่น ยังอยากรู้ อยากลอง อยากใช้ชีวิตแบบอิสระ เธอก็ได้ติดต่อพูดคุยกับเพื่อนๆ ของเธออยู่เสมอ และนัดกันออกไปปาร์ตี้อยู่บ่อยๆ แต่การไปปาร์ตี้ครั้งนี้ เธอออกไปปาร์ตีกับเพื่อนรักอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาถึง 7 วัน โดยที่อ้างกับคนอื่นว่าได้ฝากลูกไว้กับป้าเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เธอหายหน้าหายตาไปหลายวัน เพื่อนบ้านได้สังเกตุถึงความผิดปกติ และเห็นเธอโพสต์ในเฟสบุ๊กว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วล่ะ” ก่อนหน้าที่จะโพสต์อีกว่า “ออกมาเที่ยวกับ Nastya” ทำให้เพื่อนบ้านสงสัยว่า ลูกของเธออยู่ที่ไหน จึงได้โทรแจ้งตำรวจให้มาที่บ้านของเธอในทันที เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าเด็กน้อยเสียชีวิตแล้ว Viktoria กลายเป็นผู้ต้องสงสัยและถูกจับกุมในทันที เธอได้สารภาพกับทางตำรวจว่าเธอไม่ต้องการที่จะเลี้ยงทารกอีกต่อไปก็เลยปล่อยให้เด็กตายอยู่ในบ้านอย่างช้าๆ ทั้งนี้เธอยังเคยเอาลูกไปฝากไว้ที่สถานสงเคราะห์เด็กเมื่ออายุ 1 เดือน และก็รับกลับมาอยู่ด้วยเมื่ออายุได้ 7 เดือน เธอถูกศาลตัดสินให้ได้รับโทษจำคุก…
-
ผู้สื่อข่าว AFP เปิดเผยภาพวิถีชีวิตของชาว “เกาหลีเหนือ” ตอนนี้พวกเขาเป็นอย่างไรบ้างนะ
เมื่อช่วงในรอบเดือนที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามประเทศญี่ปุ่นถึงสองครั้ง จนกลายที่จับตามองของไปทั่วโลก และมีหลายประเทศได้ออกมาประนามเกาหลีเหนืออีกด้วย ประเทศเกาหลีเหนือ ตามที่เราทราบกันดีว่าประเทศนี้มีการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์อย่างเต็มรูปแบบ มีท่านผู้นำที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกอย่าง คิม จอง อึน ด้วยความที่เกาหลีเหนือได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมประชามติกับสหประชาชาติและทำการปิดประเทศ และตรวจตราควบคุมจำนวนคนเข้าออกประเทศ น้อยคนนักที่จะได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศภายในประเทศ เมื่อเข้าไปในประเทศก็ต้องปฏิบัตตามกฏของประเทศคือ นักท่องเที่ยวห้ามถ่ายรูปในเกาหลีเหนือเด็ดขาด คนนอกประเทศจึงไม่ค่อยทราบถึงความเป็นไปในประเทศและมีความอยากรู้ว่า วิถีชีวิตของประชาชนชาวเกาหลีเหนือเป็นอย่างไรบ้าง ภาพเหล่านี้ได้มาจากผู้สื่อข่าวของ AFP ที่ได้ไปถ่ายบรรยากาศและประชาชนในประเทศเกาหลีเหนือเป็นกรณีพิเศษ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จะเป็นยังไง เราไปชมกันเลย ประชาชนที่กำลังรอรถบัสที่กรุงเปียงยาง กรุงเปียงยางมีประชากรประมาณ 3 ล้านคน รถบัสเป็นการคมนาคมหลักของที่นี่ เนื่องจากประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิ์ครอบครองรถยนต์ได้ ยานพาหนะหลักก็คือจักรยานหรือรถบัสเท่านั้น ประชนชนชาวเกาหลีมีความแข็งแกร่งและรักประเทศมาก เช่น ผู้หญิงคนนี้ถือปืนไปทำงานด้วย ชายผู้นี้กำลังปั่นจักรยานในกรุงเปียงยาง รถไฟฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งในการคมนาคมในเกาหลีเหนือ วัยรุ่นกำลังเล่นสมาร์ทโฟน การใช้อินเตอร์เน็ตของประชาชนในเกาหลีเหนือจะถูกควบคุมโดยรัฐบาล ที่พักของชาวเกาหลีเหนือ จะอยู่บนตึกสูงๆ หลายชั้น นักเรียนในโรงเรียนของเกาหลีมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย รอยยิ้มอันไร้เดียงสาของสาวเกาหลีเหนือ บรรยากาศของเกาหลีเหนือ ข้างหลังคือ…
-
แอร์โฮสเตสสาวถูกสั่งเด้ง หลังอัดคลิปเหยียดผู้โดยสารไนจีเรีย ว่าหรรมส์ใหญ่จนต้องขออัพเกรด..!!
กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ หลังจากที่แอร์โฮสเตสสาวประจำสายการบิน British Airways ได้อัดวิดีโอผ่านแอพฯ SnapChat โดยมีประเด็นเหยียดสีผิว และพาดพิงถึงผู้โดยสารชาวไนจีเรีย หลังจากเรื่องนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทางสายการบินเองก็ได้ออกมาชี้แจงว่า Joanne Wickenden พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินวัย 23 ปี ถูกปลดออกจากการเป็นพนักงานของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว Joanne Wickenden โดยคลิปวิดีโอนี้ถูกอัดขึ้นก่อนหน้าที่เธอจะมีไฟลท์ต้องเดินทางไปยังประเทศไนจีเรีย ทว่าข้อความ คำพูด และท่าทางต่างๆ ของเธอ ที่สื่อผ่าน SnapChat กลับชวนให้ลูกค้าที่มีเชื้อสายแอฟริกันรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก โดยในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นถึงคำพูดเชิงถากถาง และเหยียดชาติพันธุ์ ทำนองว่า… “เอาล่ะ!! ได้เวลาคืนวันศุกร์ที่เราต้องทำงานกันอย่างเต็มที่ เตรียมตัวเสิร์ฟน้ำให้พร้อมนะจ๊ะ และตอนนี้ฉันก็พร้อมที่จะไปทำหน้าที่แล้วล่ะ ใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีเหลืองโง่ๆ ซักอัน ชี้ไปที่ประตูทางออกฉุกเฉิน จากนั้นก็เอาไก่หรือไม่ก็เนื้อไปเสิร์ฟให้ผู้โดยสาร เฮ้อ…นี่มันวันศุกร์ประเภทไหนกันว่ะเนี่ย!?” “จากนั้นเดี๋ยวฉันก็จะได้เจอกับพวกผู้โดยสารชาวไนจีเรียที่แบบว่าเอิ่มม… เดี๋ยวก็เรียกร้องขอน้ำโค้ก เดี๋ยวก็ขอเนื้อ ขอโน้น ขอนี่ ทำไมไม่มีนู้นล่ะ ทำไมไม่มีนี่ล่ะ และฉันก็ต้องทำหน้าเจื่อนๆ แบบว่า ขอโทษนะคะเนื้อหมดแล้วจริงๆ อะไรทำนองนั้น แต่สิ่งที่ทำให้ฉันเซ็งมากที่สุดก็คือ ผู้โดยสารชาวไนจีเรียพวกนี้ชอบเรียกร้องขออัพเกรดที่นั่งอยู่เรื่อยเลย…
-
เริ่มแล้ว “กำแพงเมืองทรัมป์” ตามไปชมภาพการก่อสร้างต้นแบบกำแพงกั้นอเมริกา-เม็กซิโก
เรายังจำกันได้ไหมเมื่อตอนที่โดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเคยลั่นว่าจาว่าจะสร้างกำแพงสูงเพื่อกั้นเขตแดนระหว่างอเมริกาและแม็กซิโกออกจากัน ตอนนี้มันได้เกิดขึ้นแล้ว!! รัฐบาลกลางสหรัฐได้บอกว่าโครงการกำแพงกั้นแม็กซิโกตัวต้นแบบได้เริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งสานต่อตามสิ่งที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้ลั่นวาจาไว้ตอนที่หาเสียงนั่นเอง ส่งรถมาขุดที่ เตรียมพร้อมทำรั้วใหม่แล้วนะ . ตัวกำแพงต้นแบบนั้นจะมี 8 แบบด้วยกัน ซึ่งแต่ละแบบจะต้องมีความสูง 9 เมตร ยาว 9 เมตรต่อกำแพงหนึ่งอัน ส่วนต้นแบบทั้ง 8 นั้นจะถูกจำแนกเป็นกำแพงที่มีคอนกรีตเป็นวัสดุหลัก 4 แบบ ส่วนอีก 4 แบบจะเป็นวัสดุอะไรก็ได้ ส่วนผู้รับเหมาที่จะมารับหน้าที่ออกแบบกำแพงนั้น จะถูกเลือกโดยเอเจนซี่ของรัฐ ต้นแบบกำแพงไหนออกแบบมาได้ดีถูกใจรัฐบาลก็จะได้รับการนำมาใช้จริงในภายหลังนั่นเอง ในภาพนั้นเป็นทีมงานจาก 4 บริษัทผู้รับเหมาที่ชนะการรับเลือก และกำลังช่วยกันสร้างกำแพงนั่นเอง โปรเจคกำแพงต้นแบบนั้นจะมีระยเวลากำหนด 30 วันสำหรับผู้ที่ชนะและได้รับเลือกให้มาสร้างกำแพงแห่งทรัมป์นี้ ที่สำคัญการลาดตระเวนชายแดนแทบซานดิเอโกก็ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะกำแพงได้เริ่มสร้างแล้วนั่นเอง การลักลอบข้ามพรมแดนในช่วงนี้จึงเป็นอะไรที่ยากมากๆ กำแพงแบบเก่านั้่นจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชายแดนคอยสอดส่องดูตลอด มาพร้อมกับอุปกรณ์ครบมือ คนที่แอบลักลอบก็ยากที่จะผ่านไปได้ นอกชายแดนก็ยังใช้ม้าในการลาดตระเวนอีก เรียกว่าแน่หนารัดกุมสุดๆ แต่ยังไงกำแพงก็ต้องเกิดขึ้น เพราะคนสังเกตเห็นว่าคนงานก่อสร้างเริ่มเดินทางมาเรื่อยๆ…
-
11 เกร็ดเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ‘ราชวงศ์อังกฤษ’ ที่เราอาจไม่เคยทราบกันมาก่อน..!?
สำหรับราชวงศ์อังกฤษนั้น พวกเขาเปรียบได้ดั่งบุคคลสาธารณะของประชาชนเลยก็ว่าได้ ในแต่ละวันพวกเขาต้องเดินทางไปออกงานต่างๆ ตามคำเชื้อเชิญของประชาชนผู้เป็นที่รัก ทว่านอกเหนือจากเรื่องราวที่เราเห็นผ่านสื่อแล้ว เราแทบจะไม่รู้เลยว่าในชีวิตจริงพวกเขาอยู่อาศัยกันอย่างใด และทั้งหมดนี้คือ 11 เรื่องน่ารู้ที่จะทำให้เรารู้จักราชวงศ์อังกฤษได้ดีกว่าเดิม 1. คนในเชื้อพระวงศ์ไม่สามารถร่วมเล่น Monopoly (เกมเศรษฐี) ได้ ในปี 2008 เจ้าชายแอนดรูว์ดยุคแห่งยอร์ค ได้เสนอให้มีการสั่งห้ามเชื้อพระวงศ์อังกฤษเล่นเกมเศรษฐี โดยให้เหตุผลว่ารูปแบบของตัวเกมเต็มไปด้วยความแก่งแย่งชิงดี และการเอาชนะซึ่งกันและกัน 2. ควีนอลิซาเบธที่ 2 ชื่นชอบที่จะสวมใส่เสื้อผ้าสีสันจัดจ้านมากกว่า ในอดีตผู้คนมักจะเห็นแต่คนในราชวงศ์ใส่ชุดที่มีสีสันดูเป็นทางการ จนกระทั่งมาถึงช่วงวลาของควีนอลิซาเบธที่ 2 ที่พระองค์เลือกที่จะสวมใส่ผ้าสีสันจัดจ้าน โดยให้เหตุผลว่า… ทำให้ประชาชนจดจำได้ง่ายกว่า 3. องค์ราชินีจะมีงานเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 ครั้ง น้อยคนนักที่จะรู้ว่าควีนอลิซาเบธที่ 2 ต้องเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพ ถึง 2 ครั้งในรอบปี โดยครั้งแรกเป็นการเฉลิมฉลองพร้อมกับประชาชนในกลุ่มประเทศที่อยู่ในเครือ Commonwealth of Nations ส่วนครั้งที่ 2 คือการเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพ ที่แท้จริง ซึ่งก็คือวันที่ 21 เมษายน ทว่าสำหรับการฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพที่แท้จริง พระองค์ทรงเลือกที่จะฉลองแบบเงียบๆ กับคนในครอบครัวมากกว่า…
-
ลองเปลี่ยน “โลโก้แบรนด์ดัง” ให้กลายเป็นอาวุธจริงๆ เลยออกมาเป็นงานศิลปะสุดเฟี้ยว
เชื่อว่าหลา่ยๆ คนต่างก็ต้องรู้จัก คุ้นเคยกับแบรนด์เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือสิ่งต่างๆ เป็นอย่างดี โลโก้ของแต่ละแบรนด์ที่ออกแบบมาก็ดูสะดุดตา เป็นเอกลักษณ์จนดูออกว่าเป็นโลโก้ของแบรนด์ไหน Tom Galle ศิลปินหนุ่มสุดติสท์จากนครนิวยอร์ค เขาเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงทางด้านศิลปะและการสื่อสาร เขาได้นำศิลปะยุคใหม่ นำมาตีความหมายสื่อออกมาต่างจากรูปแบบที่เราเคยคุ้นเคยกัน เขาชอบที่จะเปลี่ยนสิ่งของธรรมดาให้กลายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดได้ เขาได้สร้างโปรเจกต์ที่มีชื่อว่า Crop Gear โดยการคิดที่นำโลโก้ของแบรนด์ดังต่างๆ มาดัดแปลงเป็นอาวุธป้องกันตัว อีกทั้งมันสามารถเอาไปใช้ได้จริงๆ ด้วยนะ ใครจะไปรู้ว่าโลโก้ของแบรนด์ดังแต่ละแบรนด์เนี่ย สามารถเป็นอาวุธได้ด้วยนะเธอ ด้วยฝีมือของพ่อหนุ่ม Tom คนนี้แหละ!! McDonalds เจ้าแห่งฟาสต์ฟู้ดแสนอร่อย ก็กลายเป็นสนับมือ เท่ห์ชะมัดเลย ไนกี้ เสื้อผ้า รองเท้ากีฬายอดฮิต โลโก้ของมันดูไปดูมาคล้ายมีดอยู่เหมือนกันนะ อยากให้แทงซักสิบแผล โลโก้ของ Facebook ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีก็กลายมาเป็นอาวุธได้แฮะ . Mercedes Benz แบรนด์รถยนต์สุดหรูกับโลโก้สามง่าม กลายมาเป็นดาวกระจาย . บอกเลยว่านี่เป็นแค่ผลงานส่วนหนึ่งของเขาเท่านั้นนะ ใครอยากดูผลงานเพิ่มเติมล่ะก็…
-
15 ไอเดียสิ่งประดิษฐ์เก๋ๆ ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันอย่างไม่น่าเชื่อ
การใช้ชีวิตประจำวันที่แสนน่าเบื่อของเรา มักจะมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ มาคอยรบกวนให้เรารำคาญใจกันอยู่ตลอด ซึ่งยอมรับได้ว่าเจ้าปัญหาเหล่านี้ บางทีมันสามารถทำให้เราหงุดหงิดไปทั้งวันเลยนะ แต่แล้วก็มีเหล่าคนหัวใส หาวิธีสร้างสิ่งของที่จะคอยแก้ปัญหาจุกจิกพวกนี้ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย 1. กระจกอุ่น (Heated mirror) กระจกอันนี้จะมีอุณหภูมิที่สูงกว่า หมดปัญหากระจกเป็นฝ้าเวลาที่อาบน้ำอุ่น เผื่อใครอยากจะอาบน้ำแล้วชมเรือนร่างของตัวเองไปด้วย ฮี่ ฮี่ 2. ยาสีฟันแบบใช้ได้สองทาง (Two way toothpaste) พอใช้ยาสีฟันใกล้จะหมดหลอดแล้วมันบีบลำบากใช่ไหมล่ะ แถมยังเสียดายที่มันอยู่ก้นหลอดอีก เจอนี่ไปเลย บีบได้ทั้งสองทางคุ้มสุดๆ แบ่งกันใช้ได้ด้วย 3. เข็มขัดคาดไม่ถึง (Buckleless belt) เวลาใส่กางเกงยีนส์แล้วจะเข้าห้องน้ำทีไร ต้องคอยเสียเวลาถอดเข็มขัด สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยเจ้าเข็มขัดนี้เพียงแค่คล้องไว้กับหูกางเกงไว้ 4. โคมไฟดับเบิ้ล (Double-sided lamp) สำหรับใครที่มีรูมเมท แต่อ่านหนังสือดึกๆ แล้วกลัวจะรบกวนคุณเพื่อนล่ะก็ เจ้าโคมไฟที่สามารถเปิดปิดได้ทั้งสองข้างนี่ก็อาจจะช่วยได้นะ 5. แท่นวางมือถือ (Multifunctional phone rest) สำหรับคนที่ไม่ว่างจับมือถือ เพียงนำมือถือไปเสียบไว้…
-
Mimi Choi สาวผู้มากับทักษะแต่งหน้าระดับเทพ เปลี่ยนคนธรรมดา ให้เซอร์เรียลแบบไม่น่าเชื่อ…
นอกจากการปรับแต่งรูปหน้าในโปรแกรมโฟโต้ช็อปแล้วนั้น ก็เห็นจะมีแต่การแต่งหน้านี้แหละที่สามรถสามารถหลอกตาผู้คนได้ อย่างสาวช่างแต่งหน้ามากฝีมืออย่าง Mimi Choi ที่ได้แปลงโฉมใบหน้าของตัวเอง ให้กลายเป็นรูปร่างต่างๆ ที่ยากจะจินตนาการ เธอคนนี้จะฝีมีเก่งกาจแค่ไหนไปชมกันเลย ในอินสตาแกรมของที่ชื่อว่า mimles เต็มไปด้วยผลงานการแต่งหน้าของสาว Mimi Choi ที่มองๆ ดูแล้วก็ต้องงุนงงไปกับเมคอัพสุดแปลกที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน Mumi กล่าวว่าไอเดียสำหรับการแต่งหน้าของเธอ ได้แรงบันดาลใจมาจากสภาพแวดล้อมของเธอ ตลอดจนภาพวาด “รูในใบหน้า” ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของ Salvador Dali “Surrealist Newton“ ภาพศิลปะนาฬิกาละลายเธอก็ยังเอามาสร้างสรรค์เป็นการแต่งหน้าได้ ริมฝีปากกลายเป็นโหลปลาทองไปแล้ววว สมจริงสุดๆ ข้าวปั้นหน้าต่างๆ เธอก็สามารยกมาเสริฟ์ทุกส่วนของเธอได้ . ในบางลุคเธออาจจะต้องเวลากว่าสองชั่วโมง เพื่อให้ความสลับสับซ้อนในแบบที่ต้องการ อย่างลุค Jenga นี้เธอใช้เวลาไปกว่า 4 ชั่วโมงเลยล่ะ ใบหน้าของคนอื่นก็สร้างออกมาละเอียดไม่น้อยไปกว่าบนใบหน้าของตัวเอง . เรียกได้ว่าการแต่งหน้าของเธอนั้นเป็นผลงานศิลปะที่หาตัวจับยากจริง ใครที่อยากชมผลงานสุดละเอียดแบบนี้ ก็ต้องเข้าไปชมที่อินสตาแกรมของเธอแล้วล่ะ mimles ที่มา en.rocketnews24
-
พนักงานไอทีรำคาญเน็ตช้า เลยผูกเมมโมรี่การ์ดติดขานกพิราบบินไป 100 กิโล ถึงเร็วกว่าส่งไฟล์ให้อีก!!
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงสิบกว่าปีก่อน ช่วงที่อินเตอร์ของเรายังต้องต่อเน็ตขูดบัตรความเร็ว ไม่ถึง 100 kb จนเรารู้สึกว่าการส่งนกพิราบคงเป็นอะไรที่ไวกว่าเป็นไหนๆ หรือเราก็อาจจะคิดว่าในอนาคตนั้น อินเตอร์เน็ตจะส่งไฟล์ได้เร็วขึ้น… ทว่าความจริงอันแสนโหดร้ายนั่นก็คือ แม้ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตจะไวขึ้นก็จริง แต่ไฟล์งานบางอย่างในปัจจุบันก็ใหญ่ขึ้นตามยุคสมัย การส่งไฟล์ก็ช้าไม่ต่างจากเดิม โดยเฉพาะกับประเทศที่อินเทอร์เน็ตยังไม่ไวมากนักอย่างแอฟฟริกาใต้ ซึ่งพ่อหนุ่มไอทีคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่นั้นจึงโมโหมาก เลยจัดการส่งไฟล์ผ่านนกพิราบมันซะเลย!! เรื่องราวดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2009 ซึ่งก็ถือเป็นช่วงที่อินเทอร์เน็ตเริ่มเฟื่องฟูแล้ว แต่ความเร็วมันก็ยังบั่นทอนจิตใจไม่เปลี่ยนแปลง… เมื่อพนักงานไอทีนามว่า Kevin Rolfe ได้โวยกับทางบริษัทให้บริการอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ในแอฟฟริกาใต้ว่า อินเทอร์เน็ตของพวกเขานั้นมันช้าซะเหลือเกิน ส่งไฟล์ 4 GB หลายชั่วโมงก็ยังไม่เสร็จสักที (ในยุคนั้น ไฟล์ 4 GB ยังถือว่าใหญ่พอสมควรเลยนะ) ซึ่งทางบริษัทก็ไม่รับผิดชอบอะไรในเรื่องความเร็วเน็ตที่เกิดขึ้น Kevin เลยคิดว่าถ้าเน็ตวิ่งแบบนี้ ส่งนกพิราบมันคงจะไวกว่า เขาเลยจัดการยัดไฟล์ใส่เมมโมรี่การ์ด 4 GB แล้วผูกติดกับเจ้า Winston นกพิราบสงสาร จากนั้นก็ปล่อยมันไปยังปลายทาง โดยเริ่มออกตัวจาก Unlimited IT’s call centre ในเมืองโฮวิก ประเทศแอฟฟริกาใต้ พร้อมกับลองส่งไฟล์ไปพร้อมๆ กันดู… ส่วนปลายทางที่ส่งนกพิราบไปนั่นก็คือสำนักงานหลักของบริษัทในเมืองเดอร์บัน…
-
20 เซ็กส์ทอยฉลาดล้ำโลก มันไม่ใช่แค่ดิลโด้หรือจิ๋มป๋อง แต่มันพัฒนากันมาถึงขนาดนี้แล้ว…
เซ็กส์ ถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่ีสร้างขึ้นมาเพื่อการสืบพันธุ์ อีกทั้งมีวิจัยที่บอกว่าเซ็กส์สามารถลดความเครียดได้ จากการทำงานเหนื่อยล้ามาทั้งวัน ลองสะกิดแฟนข้างๆ เล่นจ้ำจี้กันบ้างสิ นอกจากจะช่วยลดความเครียดแล้วยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ด้วยนะ อิ๊ลลิ๊ แต่ถ้าการมีเซ็กส์แบบธรรมดามันน่าเบื่อ ลองเพิ่มสีสันด้วยเซ็กส์ทอยสุดพิสดารเหล่านี้ดูสิ รับรองว่า ว้าวจนลืมไม่ลงเลยทีเดียว 1.ดิลโด้เอเลี่ยนวางไข่ ดิลโด้ที่มาพร้อมกับรูปทรงประหลาด แถมด้วยเมือกไข่ชึกกะดึ๋ยให้สัมผัสความฟินแบบไม่มีใครเหมือน พรวดพราดกันเลยทีเดียว ฮ่าๆ 2. เอาใจสายมุ้งมิ้งด้วยตุ๊กตา My Little Pony นอกจากนี้ยังมีตุ๊กตาชื่อดังอื่นๆ ให้ได้เลือกสรร แถมยังสามารถสั่งออเดอร์ตามสเป็คได้ด้วย ตามเว็บนี้เลย bigsexyplush ราคาเริ่มต้นที่ 11,500 บาท 3. เพิ่มความฟินแห่งการสอดใส่ด้วยมิติใหม่แห่งเซ็กทอยส์ด้วยดิลโด้แบบเป่าลมได้ เพิ่มความสนุกให้รู้สึกดึ๊บๆ ด้วยลูกยางที่ต่อออกมา สามารถบีบให้มันขยายหรือหด ภายในเวอร์จิ๊นาของเราได้ 4. สุดๆ ไปเลยกับ ดิลโด้หมาป่า ใครที่ชื่นชอบรูปทรงแบบนี้ก็ไปช็อปได้ที่เว็บ primalhardwere มีให้เลือกอีกมากมายแล้วแต่สไตล์เลยนะ 5. เหมือนซื้อ 1 แถม 1 กับหน่มหน๊มและจิ๊มิแบบ 2 in 1 สุดคุ้มเอาใจหนุ่มๆ มาแบบแพ็คคู่แบบนี้…
-
เด็กสาวไม่กล้าทิ้งหมาไว้ที่บ้านช่วงพายุเข้า เลยอีเมลหาอาจารย์เพื่อขอพามันไปเรียนด้วย
จากเมื่อในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราก็อาจจะพอทราบข่าวเกี่ยวกับพายุเฮอริเคนเออร์มา ที่พัดเข้าถล่มเกาะทางใต้ของรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นพายุที่มีระดับความรุนแรงสูงที่สุด สร้างความเสียหายไปแล้วในบริเวณหลายพื้นที่ ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต้องอพยพออกทันทีเพื่อความปลอดภัยของชีวิต Jessica Lewis ก็เป็นประชาชนคนหนึ่งที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่ ก่อนที่พายุเฮอริเคนจะพัดเข้าถล่มในที่พักอาศัยของเธอ แต่เธอก็ยังห่วงการเรียนในคาบสุดท้าย ก่อนที่มหาวิทยาลัยจะหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว เพื่อให้นักศึกษาย้ายไปอยู่ที่อื่นในช่วงที่พายุเข้า แต่การไปเรียนในคาบสุดท้ายของเธอต้องวางแผนเป็นอย่างดี เนื่องจากเธอมีหมาอยู่หนึ่งตัวชื่อว่า เจ้า Luna เธอกังวลว่า กว่าจะเลิกเรียนกลับมาที่พักเพื่อรับมันก็อาจจะไม่ทันเวลา จึงตัดสินใจเขียนอีเมลหาอาจารย์ผู้สอนทันที ใจความว่า “สวัสดีค่ะ Dr.Kennedy หนูชื่อ Jessica Lewis เป็นนักศึกษาในคลาสวิชารัฐศาสตร์ของคุณ ซึ่งจะมีการเรียนการสอนในเวลา 15.30 น. หนูหวังว่าอาจารย์จะเมตตาและเข้าใจหนูกับเหตุการณ์ในครั้งนี้นะ นี่ถ้าอาจารย์ตอบว่าจะช่วยนะ อาจารย์โคตรคูลเลย คือว่าหนูจะขออนุญาตนำเจ้าหมาของหนูเข้าไปในคลาสด้วยได้ไหมคะ หนูไม่สามารถทิ้งมันไว้ที่อพาร์ตเมนท์ได้ หนูจะอพยพไปอยู่บ้านญาติในแอตแลนตา แต่เกรงว่าจะเลิกเรียนแล้วกลับมารับมันไม่ทัน ถึงอย่างไรก็ตามหนูก็ไม่อยากจะขาดเรียนในคลาสนี้เช่นกัน หนูสัญญานะว่าหมาของหนูมันจะไม่ดื้อไม่ซน ไม่รบกวนคนอื่นๆในคลาสเลยค่ะ อ้ะ หนูแนบรูปมาให้ดูด้วยนะ หวังว่าอาจารย์จะช่วยเหลือนะคะ ขอบคุณมากค่ะ Jessica Lewis” . หลังจากที่รับอีเมลไม่นาน อาจารย์ก็ได้ตอบกลับเธอด้วยข้อความที่ว่า “คิดว่าการเรียกผมว่าเป็น คนคูลๆ…
-
สาวอินโดถูกหามส่งโรงพยาบาล หลังศาลสั่งลงโทษฟาด 100 ที เพราะไปยืนใกล้กับชายอื่นที่ไม่ใช่สามี
สังคมชาวมุสลิมในต่างประเทศ มีกฎเกณฑ์ที่มีความเคร่งครัดเป็นอย่างมาก ทั้งนี้กฎเกณฑ์ทั้งหลายก็ได้ตั้งตามหลักศาสนาที่เคารพนับถือ การตั้งกฎเหล่านี้ หากมีคนละเมิดก็จะมีบทลงโทษที่ร้ายแรงมาก เพื่อป้องกันการทำผิดกฎ Mazidah หญิงสาวชาวอินโดนิเซียอายุ 30 ปี ถูกศาลตัดสินลงโทษด้วยการใช้แส้ฟาด 100 ทีต่อหน้าสาธารณะชน เพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่เอาเป็นแบบอย่าง เธอถูกตั้งข้อหาว่า เธอไปไปอยู่ใกล้กับชายที่ไม่ใช่สามีของตนเอง หลังจากที่ศาลตัดสิน เธอก็ถูกควบคุมตัวมาที่เวที เพื่อทำการลงโทษต่อหน้าผู้คนอื่นๆ ผู้ที่มาทำการลงโทษเธอจะต้องสวมชุดคลุมทั้งร่าง สวมหน้ากากให้ดวงตาสมารถมองเห็นได้ จากนั้นก็ทำการฟาดเธอทันทีตามจำนวนที่ศาลตัดสินนั่นก็คือ 100 ครั้ง ชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ต่างก็ได้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพไว้ ก่อนที่เธอจะเป็นลมล้มลงไปหลังจากที่ทนความเจ็บไม่ไหวและถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลทันที นอกจากเหตุการณ์นี้ก็ยังมีหญิงและชายอีกสองคนถูกตัดสินให้ใช้แส้ฟาดในวันเดียวกันอีกด้วย . . การลงโทษที่มีความรุนแรงนี้เกิดขึ้นในเมือง บันดาอาเจะฮ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่เคร่งศาสนามากที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย เมืองบันดาอาเจะฮ์ พึ่งได้รับการอนุมัติให้ใช้กฎหมายอิสลามหลังจากได้ทำข้อตกลงสันติภาพกับกรุงจาร์กาตาร์เมื่อปี พ.ศ.2548 การลงโทษแบบนี้อาจจะถูกมองว่าเป็นการใช้ความรุนแรงเกินไป แต่ทั้งนี้ก็เพื่อความสงบสุขของคนในสังคมเอง ต้องลงโทษให้เป็นแบบอย่าง คนจะได้เกรงกลัวและไม่กล้าทำความผิด ที่มา dailymail
-
ความเจ๋งของ “เนเธอร์แลนด์” มีที่ดินอันดับที่ 131 แต่กลับเป็นผู้ส่งออกอาหารใหญ่อันดับ 2 ของโลก
ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมอันดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งประเทศของเราเป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่ หลายๆ ประเทศแถบตะวันตกได้เข้ามาลงทุนสร้างฐานการผลิตที่ไทย ด้วยความอุดมสมบูรณ์เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของบ้านเรา ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศหนึ่งที่มีคนอยากเข้ามาทำงาน สังเกตได้จากแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่ทยอยเข้ามาทำงานจำนวนมาก ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตยิ่งขึ้นและมีความก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ในการแข่งขันของประเทศต่างๆ บนโลก ความก้าวหน้าทางเกษตรกรรมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศมีความเจริญ หลายๆ ประเทศให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมการเกษตรเป็นอย่างอย่างมาก ดังเช่น ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่กำลังพัฒนาและกำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศที่มีการส่งออกอาหารที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา ธุรกิจการเกษตรเป็นหนึ่งในแรงผลักดันทางการเกษตรของประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาเนเธอร์แลนด์ได้พัฒนาฟาร์มเล็กๆ ให้กลายเป็นฟาร์มขนาดใหญที่มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว อีกทั้งมีงบประมาณในการสนับสนุนด้านการวิจัยการเกษตร มีความใส่ใจจากทีมบริหารประเทศ ทำให้เนเธอร์แลนด์มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดด มาแรงแซงทางโค้งหลายๆ ประเทศที่กำลังพัฒนา ความล้ำสมัยของการเกษตรของเนเธอร์แลนด์ มีการบำบัดจัดการน้ำให้ใช้ประโยชน์สูงสุด ลดการใช้สารกำจัดศัตรูพืช หันมาใช้การพึ่งพาแบบธรรมชาติ อีกทั้งมีการศึกษาค้นคว้าใช้เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์มาพัฒนาการเกษตรควบคู่กันไป ยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับการปลูกมันฝรั่งและหัวหอม โดยใช้โดรนในการสอดส่องการเจริญเติบโต บันทึกผล นำไปพัฒนา ทำให้ผลผลิตที่ได้มีอัตราเพิ่มถึง 2 เท่า อีกทั้งการใช้โรงกระจกควบคุมสภาพอากาศ ปรับสมดุลในการผลิต ทำให้ผลิตผลมีคุณภาพ นำไปใช้กับการปลูกมะเขือเทศ พริก แตงกวา และพืชผักผลไม้อื่นๆ ทำให้เนเธอร์แลนด์มียอดส่งออกผักและผลไม้เป็นอันดับ 3 ของโลก…
-
โดนเลย!! 30 เรื่องที่ “คนมีแฟนติดเกม” จะเข้าใจได้เป็นอย่างดี มันเป็นแบบนี้กันใช่มั้ย
ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้าถึงทุกบ้าน แน่นอนว่าทุกคนก็ต้องคุ้นเคยและรู้จักกับ “การเล่นเกม” เป็นอย่างดี ซึ่งอันที่จริงการเล่นเกมนั้นก็ช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด เพลิดเพลิน แถมฝึกไหวพริบได้อีก แต่บางครั้งก็มีการเล่นมากเกินไป จนกลายเป็น “การติดเกม” ซึ่งอาจจะสร้างความเอือมระอาแก่บุคคลรอบข้าง รวมไปถึงบรรดา “แฟน” ที่รักของเราได้ และเชื่อเลยว่าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยมีแฟนติดเกม หรือกำลังมีแฟนติดเกมอย่างหัวปักหัวปำละก็ น่าจะเข้าใจความรู้สึกพวกนี้เป็นอย่างดีเลย… 1. ขณะที่คุณโทรไปปลุกเค้าในตอนหกโมงเช้า แทนที่เค้าจะตื่นด้วยอาการงัวเงีย แต่กลายเป็นว่ารับสายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น พร้อมกับบอกว่า “เดี๋ยวโทรกลับนะ กันบ้านอยู่!!” อิสึส ป่านนี้ยังไม่นอนเหรอ 2. โลกยุคนี้เปลี่ยนไปจากสมัยที่ผู้ชายรอผู้หญิงแต่งหน้าเป็นชั่วโมง กลายเป็นผู้หญิงแต่งหน้าเสร็จแล้ว ยังต้องมารอผู้ชายตีป้อมอีกแป๊ปนึง 3. คำว่า “แป๊ปนึง” ของมัน ไม่เคยมีอยู่จริง 4. เช่นเดียวกับคำว่า “อีกตาเดียวนะ” ไม่เคยมีอยู่จริงเช่นกัน.. 5. วิธีพาแฟนติดเกมไปกินข้าวที่ได้ผลที่สุดก็คือ ลุกออกมาแล้วบอกว่า “กูไปกินคนเดียวแล้วนะ!!” ห้ามใจคำว่าเค้าไปกินคนเดียวแล้วนะเด็ดขาด เพราะมันจะไม่ได้ผล 6. แต่คุณก็อย่าคิดว่ามันจะหยุดตรงนั้นแล้วยอมไปกินข้าวด้วยกัน เพราะบางครั้งทีมก็ขาดเราไม่ได้จริงๆ…
-
ไปชมความอลังการจากบ้าน 11 หลัง ของเซเลบชื่อดังทั้งหลาย ว่าจะเว่อร์วังขนาดไหน
บ้านที่เราพักอาศัยกันอยู่ทั่วไป จะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะหมู่บ้านหรือบ้านจัดสรร แต่ละหลังก็จะดูเหมือนกันไปหมด แต่สำหรับเหล่าคนดังมากมายที่มีรายรับและรายได้มากหลายล้านบาทต่อปีละ บ้านของพวกเขาเหล่านั้นจะดูเป็นอย่างไรกันบ้าง มันจะยิ่งใหญ่อลังการมากแค่ไหนกัน วันนี้ #เหมียวตะปู จึงจะพาทุกคนไปชมบ้านหรือคฤหาสน์ของเหล่าคนดัง ที่มีการออกแบบและเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร บวกกับความหรูหราจากเม็ดเงินที่น่าจะมหาศาลเลยทีเดียว ว่าแล้วเราก็ลองไปดูเลยดีกว่าว่าจะมีใคร และแต่ละหลังจะดูเป็นอย่างไร คฤหาสน์ของ Rihanna ในเบเวอร์ลีฮิลล์ แคลิฟอร์เนีย . เป็นสิ่งปลูกสร้างที่มองไกลๆ แล้วจะเห็นเป็นโอเอซิสท่ามกลางทะเลทราย หรูหราน่าพักผ่อน บวกกับสระว่ายน้ำและเก้าอี้นอน ที่เหมือนกับรีสอร์ทซะมากกว่าบ้านนะ นอกจากนั้นเธอคนนี้ยังมีบ้านอีกหลังในประเทศบาร์เบโดส ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน . บ้าน Lady Gaga ในไมแอมี ฟลอริด้า . เป็นบ้านที่อยู่ติดกับมหาสมุทร โดยภายนอกอาจดูไม่มีอะไรแปลกเท่าไหร่ แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยสิ่งให้ความบันเทิงมากมายเช่น โรงหนังขนาดย่อม ลานโบว์ลิ่ง เป็นต้น บ้านของ Julia Roberts ที่ฮาวาย . เธอคนนี้ซื้อคฤหาสน์ที่อยู่ติดกันสองหลังมารวมเป็นหนึ่ง และทำหลังคาจากกระดานดำรีไซเคิล อีกทั้งพื้นบ้านก็ทำมาจากต้นไผ่ สมกับที่เป็นคนรักในธรรมชาติจริงๆ…
-
นึกว่าหนังสยองขวัญ เมื่ออยู่ดีๆ มีเลือดออกจากพื้นลงสู่ถนน ไหลอย่างกับท่อประปาแตก!!
เป็นใครก็ต้องขนลุกขนพองสยองเกล้ากันแน่นอน ใครจะไปคิดว่าการเดินอยู่บนถนนชิวๆ ในเช้าวันที่อากาศกำลังสบายๆ กลับต้องมาพบกับเหตุการณ์สยอง จนต้องเผ่นแนบแทบไม่ทัน บรึ๋ยยยย!! เรื่องนี้เกิดขึ้นที่บริษัทรับจัดการศพแห่งหนึ่งในเมือง Baton Rouge รัฐหลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีคนพบว่าบริเวณทางเข้างานศพนั้นมีเลือดสีแดงฉานค่อยๆ ไหลออกมาจากพื้นและค่อยๆ ไหลไปจนทำให้ถนนบริเวณนั้นเต็มไปด้วยเลือด!!! หลังจากที่โทรให้ตำรวจมาตรวจสอบก็พบว่ามันคือเลือดจริงๆ ผสมกับฟอร์มาลดีไฮด์ มันรั่วไหลออกมาจากถังเก็บของเสียของบริษัทแล้วระบายออกมาบนถนน อะไรเนี่ย!!! เลือดทั้งหมดไหลออกมาจากถังเก็บของเสียที่อุดตันเป็นเวลา 20 นาที สร้างความขนลุกและขยะแขยงให้กับคนในเมืองเป็นอย่างมาก ปกติถ้าเป็นของเหลวหรือน้ำปกติก็จะมีการไหลลงสู่ท่อระบายน้ำ แต่ทางบริษัทไม่ได้จัดการกับเรื่องนี้ทำให้มันไหลออกมาบนถนน ทำให้ต้องมีการจัดการตรวจสอบใบอนุญาตกับกรมบริหารสิ่งแวดล้อม Adam Smith เจ้าหน้าที่หน่วยงานบริการด้านสิ่งแวดล้อมประจำเมืองได้กล่าวว่า “เราได้ส่งเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญทางด้านสิ่งแวดล้อมเข้าไปตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ต้องมีการจัดการกับสิ่งเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะเป็นสินทรัพย์ของเอกชน” จากนั้นไม่นานก็มีพนักงานของเทศบาลเข้ามาจัดการล้างเลือดทั้งหมดออกจากถนนเพื่อให้ชาวเมืองไม่ตื่นตระหนก เหตุการณ์ที่คล้ายๆ กันนี้ก็เคยเกิดขึ้นในประเทศจีน เมื่อแม่น้ำในท้องถิ่นเปลี่ยนเป็นสีแดง หลังจากพบว่ามีการรั่วไหลของเลือดจากโรงฆ่าสัตว์ในบริเวณนั้น แค่คิดภาพตามก็สยองแล้ว บรื๋ออออ ที่มา ladbible , dailymail
-
เด็กอัจฉริยะ จบปริญญาตรีคณิตศาสตร์ด้วยวัย 13 ปี จนเป็นบัณฑิตอายุน้อยที่สุดในอังกฤษ
พ่อแม่ทุกคนต่างก็หวังที่จะให้ลูกตัวเองเป็นคนดี คนเก่ง และฉลาดกันหมดทุกคน การเลือกสิ่งดีดีให้กับลูกน้อยตั้งแต่เกิดเป็นเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ลูกของคุณเป็นคนที่มีความพิเศษกว่าคนอื่นได้ อีกทั้งการเลี้ยงดูก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ หนุ่มน้อย Wang Pok Lo ชาวฮ่องกงก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาพิเศษแตกต่างจากคนทั่วไปคือ ความอัจฉริยะทางด้านคณิตศาสตร์ของเขานั่นเอง ความอัจฉริยะของเขาได้เปิดเผยเมื่อเขาอายุได้ 2 ขวบ เขาสามารถคำนวณเลขได้ในขณะที่เด็กคนอื่นๆ กับกำลังวิ่งเตาะแตะอยู่เลย แต่เขาก็เข้าเรียนในโรงเรียนตามปกติเหมือนคนอื่น จนกระทั่งอายุ 11 ปี เขาก็สามารถสอบคณิตศาสตร์ขั้นสูงผ่านฉลุย เขาและครอบครัวได้ย้ายจากฮ่องกงมาอยู่ที่เมืองเอดินเบอระ ประเทศสก็อตแลนด์ เด็กชายได้ศึกษาในโรงเรียน Towerbank Primary แต่ด้วยความอัจฉริยะของเขา ทางโรงเรียนก็ได้นำหลักสูตรคณิตศาสตร์ขั้นสูงมาสอนเขา และเขาก็ทำมันได้ดีมากด้วย พ่อแม่ของเขาเล็งเห็นความพิเศษของเขาตั้งแต่เกิดจึงได้เลี้ยงดูสั่งสอนเขาเป็นอย่างดี อีกทั้งส่งเสริมให้ทำกิจกรรมที่เขาชอบทั้งท่องบทกวีภาษาจีนและการพัฒนาด้านความจำพิเศษ ขณะที่เขากำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนมัธยม เขาก็ได้ลงเรียนในมหาวิทยาลัยเปิด Sheffield University ในหลักสูตรสถิติและกลศาสตร์ เขาใช้เวลาว่างจากการเรียนหนังสือในโรงเรียน อ่านหนังสือเรียนจากทางมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ก็ยังทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ด้วยการเล่นดนตรี แหม…เชื่อแล้วล่ะว่าเก่งทุกด้านจริงๆ พออายุ 13 ปีเขาก็สามารถคว้าใบปริญญามาได้ด้วยอายุที่น้อยที่สุดในอังกฤษ และมีแผนที่กำลังจะศึกษาต่อในระดับปริญญาโทในสาขาสถิติทางการแพทย์อีกด้วย จะเก่งไปไหนเนี่ย ในอนาคตก็คงจะเป็นคนที่จบปริญญาโทด้วยอายุที่น้อยที่สุดอีกแน่ๆ เลย ขอปรบมือให้เลยจ้า!! ที่มา dailymail
-
ฝันร้ายกองแช่ง!! Kit Harington และ Rose Leslie คู่รักเกมออฟโทรนส์ ประกาศหมั้นเรียบร้อย
“พวกเขายังไม่รู้เลยว่าจะแต่งงานกันเมื่อไร แต่อาทิตย์ก่อนพวกเขาบอกว่าหมั้นกันเรียบร้อยแล้ว..” หลังจากคบกันมาแสนนาน ล่าสุดข่าวต่างประเทศรายงานว่าพระเอกหนุ่มเครางาม Kit Harington ได้ตกลงปลงใจหมั้นกับแฟนสาว Rose Leslie เป็นที่เรียบร้อย ก่อนหน้านี้หนึ่งในแหล่งข่าวระบุว่า “Kit นั้นตั้งใจมานานแล้วว่าจะแต่งงานกับแม่สาว Rose ให้ได้ แต่เขาอยากให้ชีวิตมั่นคงกว่านี้สักหน่อย มีบ้านสักหลังเป็นที่เรียบร้อยก่อน” ซึ่งล่าสุดหลังจากที่คู่รักได้ย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันที่แมนชั่นหลังใหม่ราคาประมาณ 80 ล้านบาท ก็คงถึงเวลาที่จะต้องพัฒนาความสัมพันธ์ไปอยู่ในรูปแบบสามีภรรยาสักที “ผมบอกเธอ เพราะว่าเธอเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยกันแล้ว… ดูนี่สิที่รัก มันสำคัญมากว่านี่คือพื้นที่ของเรา มันรู้สึกว่านี่คือที่ของเราจริงๆ มันคือการที่คุณย้ายมาอยู่กับผม ย้ายทุกสิ่งทุกอย่าง และสิ่งต่างๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลง” ข่าวดังกล่าวตามมาหลังจากที่ก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎา เคยมีข่าวลือว่าสองคนนี้หมั้นกัน แต่ทางฝ่ายช่ายก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความ ก่อนที่จะมีการหมั้นจริงเกิดขึ้นในครั้งนี้ ทั้งสองพบรักกันในกองถ่ายซีรีส์ Game of Thrones ซึ่งในเรื่องนั้นคู่นี้ก็ตกหลุมรักกันด้วย จนมาเป็นคู่รักในโลกความเป็นจริง เชื่อว่างานนี้คงมีแฟนกลับ Jon Snow หลายคนต้องอกหักดังเป๊าะ… คงต้องไปหาเป้าหมายใหม่กันแล้วสินะ ^^ . พี่ยังว่างนะน้องสาววววววว ที่มา: dailymail…
-
ชาวเน็ตชื่นชม เจ้าบ่าวสวมบทฮีโร่ กระโดดช่วยเด็กจมน้ำทั้งชุดสูท ในวันแต่งงานของเขาเอง
อุบัติเหตุคือสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา โดยที่เราไม่อาจรู้มาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เหมือนกับที่เด็กน้อยคนหนึ่งต้องเจอกับอุบัติเหตุที่อาจพรากชีวิตของเขาไป แต่โชคดีที่มีฮีโร่หนุ่มเข้ามาช่วยไว้ทัน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองคิตเชเนอร์ ประเทศแคนาดา เมื่อระหว่างที่คู่บ่าวสาวกำลังถ่ายรูปหลังจบพิธีแต่งงานไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ระหว่างนั้นก็มีเด็กตกลงไปในบ่อน้ำใกล้ๆ Clayton Cook ผู้เป็นเจ้าบ่าวและผู้เห็นเหตุการณ์เป็นคนแรก จึงรีบลงไปช่วยในทันที ขณะที่เจ้าสาว Brittany ยังคงงงอยู่ว่าเขาลงไปในน้ำทำไม ฝ่ายชายได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ตอนนั้นเด็กน้อยหัวจมลงไปในน้ำแล้ว และพยายามตะเกียกตะกายอย่างหนัก โชคดีที่เป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ จึงทำให้ผมสามารถอุ้มเขาขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย” หลังจากนั้นเด็กน้อยก็ได้กลับไปพร้อมกับพี่ชายที่มารับและไม่ได้พูดอะไรกับทั้งคู่เลย ต่อมาทั้งสองก็ได้พูดคุยกับเด็กอีกสองคน โดยพวกเขาบอกว่ากำลังเล่นกับเด็กคนนั้นอยู่ จนเผลอผลักตกน้ำไป ซึ่งก็ไม่ทราบได้ว่าเป็นความไม่ตั้งใจหรือกลั่นแกล้งกันแน่ สิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างได้ถูกจับภาพไว้ จากฝีมือของตากล้องที่มาถ่ายรูปแต่งงานให้กับพวกเขา Darren Hatt และได้ทำการเผยแพร่สู่โลกโซเชียล ทำให้ฮีโร่หนุ่มของเรื่องได้รับคำชมจากชาวเน็ตมากมาย และมีการแชร์ต่อกันไปอย่างล้นหลาม โพสต์เล่าเรื่องราวของเขา ที่มีคนแชร์ไปเกือบพันครั้งในตอนนี้… ภรรยาของเขายังบอกอีกว่า เรื่องราวทั้งหมดไม่ได้ทำให้เธอแปลกใจเลย เพราะสิ่งที่เขาได้ทำคือสิ่งที่เขาเป็นมาตลอดอยู่แล้ว นับว่าเธอเป็นเจ้าสาวที่โชคดีไม่น้อยเลยจริงๆ สิ่งที่ชายคนนี้ได้ทำนอกจากจะเป็นการช่วยให้เด็กน้อยมีชีวิตรอดแล้ว เขายังถือว่าเป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจที่ดี ที่จะทำให้ทุกคนช่วยเหลือกัน และทำให้โลกของเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ที่มา: theloop
-
หญิงสร้าง “บันไดแมว” ไว้ข้างหน้าต่าง เพื่อให้แมวจรจัดแวะมาหลบภัยหนาวในบ้านได้!!
เคยคิดไหมว่าช่วงหน้าหนาวแบบนี้ สัตว์จรจัดไปอาศัยอยู่ที่ไหนกันเพื่อหลบหนาว ให้คิดก็คงคิดไม่ออก เพราะว่าเราไม่ได้ไปเห็นด้วยตาตัวเอง แต่สำหรับหญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่า Şebnem Ilhan เธอก็เป็นอีกคนที่ไม่รู้ว่าสัตว์เหล่านี้จะไปหลบหนาวได้ที่ไหนบ้าง ทางออกของเธอก็คือการสร้างที่หลบภัยหนาวให้กับเหล่าแมวจรจัดซะเลย ด้วยการเปิดบ้านให้แมวได้เข้ามาพักพิงกัน และวิธีการของเธอก็น่ารักมากๆ ปกติ Ilhan ทำงานเป็นทันตแพทย์อยู่ในเมือง Tekirdag ประเทศตุรกี ซึ่งปีนี้หน้าหนาวยาวนานเหลือเกิน เธอกลัวว่าแมวจรจัดจะทรมานกับความหนาวข้างนอก เธอจึงตัดสินใจที่จะสร้างบันไดแมวเล็กๆ เพื่อให้แมวสามารถปีนเข้ามาทางหน้าต่างบ้านของเธอได้ เธอให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันสร้างบันไดเพื่อให้แมวสามารถเข้ามาในบ้านของฉันได้อย่างสบายๆ” . นอกจากนี้เธอยังเล่าอีกว่าเธอก็กลัวๆ ว่าเพื่อนบ้านงงว่าบันไดนี้คืออะไร เธอก็เลยตกแต่งบันไดนี้เสียหน่อย จะได้ดูไม่แปลกตา “ฉันคิดว่าถ้าใส่กระถางดอกไม้ไป คงจะไม่ทำให้ดูรบกวนใครเท่าไหร่” และหลังจากที่ทำลงไป ผลตอบรับก็ออกมาดีเกินคาด โดยเฉพาะกับเหล่าแมวเหมียวที่แวะเวียนเข้ามาหลบหนาวในบ้านของเธอเอง . บันไดแมวนี้ไม่ใช่เฉพาะสิ่งที่เธอทำเพียงอย่างเดียว เพราะก่อนหน้านี้เธอยังเคยเป็นอาสาสมัครออกไปดูแลแมวและหมาจรจัดที่อยู่ในเมืองด้วย “ฉันไม่ต้องการให้สัตว์อดอยากอีกต่อไป อยากพวกมันมีความสุข เพราะโลกนี้ไม่ได้มีไว้เฉพาะให้คนอยู่เท่านั้น” ถือเป็นเรื่องที่งดงามมากๆ กับการที่ได้เห็นคนคนหนึ่งทำเพื่อนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ร่วมโลก และพวกมันให้ความร่วมมืออย่างดีมากๆ ด้วยเช่นกัน ที่มา thedodo
-
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อใส่ “โซเดียม” ลงไปในแตงโม&โค้ก พร้อมคำอธิบายแบบวิทย์ๆ
หลายๆ ครั้งที่การทดลองทางวิทยาศาสตร์มักทำให้เราประหลาดใจได้บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการทดลองทางฟิสิกส์ หรือการทดลองทางเคมี ก็ดูน่าทึ่งไม่น้อยเลยทีเดียว ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอเกี่ยวกับการนำสาร 2 ชนิดมาผสมซึ่งให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่แปลกใหม่ (อ่านข่าวเก่า ชั่วโมงวิทย์กับจารย์เหมียว 14 ภาพอันน่าสนใจ จะเป็นอย่างไร เมื่อสสาร 2 ชนิดมาเจอกัน) และวันนี้เราก็มีอีกการทดลองที่น่าสนใจมาฝากกัน นั่นก็คือการใส่ “โซเดียม” ลงไปในแตงโม&โค้ก นั่นเอง ส่วนผลที่ได้จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย… โซเดียมพระเอกของงานนี้!! เมื่อไม่นานมานี้ทางช่องยูทูบ The Q ได้อัพเดทคลิปวิดีโอการทดลองวิทยาศาตร์ โดยการนำโซเดียมไปใส่ลงในของทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ น้ำอัดลม แตงโม และนำผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งผลที่ได้ออกมานั้นก็คือการระเบิดนั่นเอง!! เริ่มต้นจากการหย่อนโซเดียมลงในแก้วโค้กเล็กๆ ก่อน จากนั้นจึงขยับมาที่ขวดโค้กขนาดใหญ่ขึ้น และก็… บู้มม!! เกิดเป็นระเบิด จากนั้นก็มาต่อกันที่แตงโม และผลที่ได้ก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ!! ไปชมการทดลองนี้แบบเต็มๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… การทดลองนี้จะได้ผลกับกลุ่มของโลหะอัลคาไลน์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือธาตุแถวแรกในตารางธาตุนั่นเอง โดยในธรรมชาติแล้วธาตุเหล่านี้จะมีความไวในการทำปฏิกิริยากับธาตุอื่นๆ มาก แถมยังมีความอันตรายอีกด้วย คุณ Pavel…
-
เรื่องราวอบอุ่นของ ‘เจ้าเหมียวคูจัง’ ยังจำเสียงเจ้าของเก่าได้ แม้ไม่เจอกันมานาน 2 ปี
บางคนอาจเคยได้ยินมาก่อนว่า แมวไม่ได้มีความรู้สึกผูกพัน เหมือนอย่างที่หมามีให้กับเจ้าของที่ดูแลมันมา และก่อนหน้านี้ก็เคยมีประโยคที่ว่า “ช่วงเวลา 3 ปีที่อยู่ด้วยกัน เจ้าเหมียวสามารถลืมได้ใน 3 วัน” จนเมื่อได้มีงานวิจัยออกมาบอกว่าแท้จริงแล้ว เจ้าเหมียวทั้งหลายมันสามารถจำเสียงเจ้าของของมันได้ ทำให้ Kalkan ผู้ผลิตอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง นำตัวอย่างการทดลองดังกล่าว มานำเสนอในรูปแบบของหนังสั้นสารคดี ที่น่าประทับใจนี้ โดยเป็นเรื่องราวของเจ้าแมวที่มีชื่อว่า Kuro กับ Ono ชายวัย 63 ปีเจ้าของคนเก่าของมัน ซึ่งทั้งสองไม่ได้เจอกันมานานถึง 2 ปีแล้ว อย่างนี้เจ้าแมวมันจะยังจำเสียงเขาได้อยู่มั้ยนะ? ผม Kuro หรือเจ้าของเก่าเรียกว่า คูจัง วัย 10 ปีครับป๋ม คุณ Ono เจ้าของที่ไม่ได้เจอมันมานาน 2 ปี เหตุผลที่ทำให้ชายคนนี้ต้องยกเจ้าเหมียวให้กับคนอื่น ก็เพราะว่าเขาต้องเข้ารับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ทำให้ไม่สามารถปล่อยให้มันอยู่ตามลำพังได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงคิดถึงเจ้าเหมียวที่เขาเรียกว่า คูจัง ตัวนี้มาก เขาเล่าถึงประสบการณ์ที่มีร่วมกันมากมายตั้งแต่ในตอนที่มันยังเป็นลูกแมวตัวเท่าฝ่ามือ นี่เจ้ามนุษย์มาถ่ายทำอะไรกันละเนี่ย จนเมื่อถึงเวลาที่เขาจะต้องอัดเสียงส่งไปให้มันได้ฟัง เขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมา กลัวว่าเจ้าเหมียวจะจำเสียงเจ้าของเก่าอย่างเขาไม่ได้ เพราะผู้เชี่ยวชาญเองก็บอกว่า…
-
3 เคล็ดลับเด็ดในการลดน้ำหนัก ที่ทำได้ง่ายๆ นอกเหนือจากการคุมอาหารหรือออกกำลังกาย
การลดน้ำหนักนับว่าเป็นสิ่งที่ดีเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยทำให้ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานหรืออ้วน ให้กลับมามีรูปร่างสมส่วน มีความคล่องตัวมากขึ้น มีสุขภาพที่ดี และมีความมั่นใจ แต่ในการลดน้ำหนักนั้น จะต้องอยู่ในความพอดี และไม่หักโหมจนเกินไป เพราะบางคนที่อยากมีรูปร่างที่ดี ก็พยายามบังคับตัวเองให้อดอาหาร และออกกำลังกายอย่างหนัก ซึ่งมันเป็นวิธีที่ไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่ จริงๆ แล้วมีวิธีการลดน้ำหนักแบบง่ายๆ มากมาย ที่อาจจะช่วยทำให้คนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือไม่อยากควบคุมอาหาร สามารถกำจัดน้ำหนักที่ไม่ต้องการออกไปได้ ครั้งนี้ เราจึงได้มาเผย 3 เคล็ดลับเด็ดในการลดน้ำหนัก นอกเหนือจากการคุมอาหาร และออกกำลังกาย มาให้เพื่อนๆ ได้ลองทำตามกัน บอกเลยว่าเป็นวิธีที่แสนง่ายใครก็ทำตามได้แน่นอน 1.การหายใจ สาวๆ รู้หรือไม่ว่ากฎหลักของการลดน้ำหนักนั้นคือ การหายใจเข้าและออกผ่านทางท้อง (ไม่ใช่หน้าอกนะจ๊ะ) เพราะเมื่อเราหมั่นฝึกการหายใจเข้าออกผ่านท้องอยู่เป็นประจำ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ เราจะได้หน้าท้องที่แบนราบ บางครั้งก็มีกล้ามเนื้อแถมมาอีกด้วย 2.สลับอุณหภูมิร้อน-เย็นของน้ำเวลาอาบน้ำ วิธีนี้เป็นวิธีที่ค่อนข้างง่าย ที่เราสามารถทำได้ในทุกๆ วัน เพราะการสลับความร้อนและเย็นของน้ำไปมาเวลาอาบน้ำ ความต่างของอุณหภูมิไม่เพียงแต่จะช่วยจำกัดน้ำหนักส่วนเกินเท่านั้น แต่มันยังช่วยเรื่องของภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ โรคอ้วน ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร โรคความดันโลหิตสูง และลดเซลลูไลต์ได้อีกด้วย 3.การนวด การนวดที่ดีที่สุดเพื่อต่อสู้กับไขมันคือ การนวดแบบถ้วย เพราะมันจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดในบริเวณด้านหน้าของช่องท้องดีขึ้น…
-
ศิลปินชาวจีนสร้างผลงาน ‘หญิงสาวในท่วงท่าอันงดงาม’ ด้วยเทคนิคการปั้นแบบยุโรปสมัยก่อน
รูปปั้นมากมายที่เราเคยได้เห็นกัน นอกจากที่จะสื่อถึงความแปลกใหม่ และไอเดียที่สร้างสรรค์ของศิลปินแล้ว บางทีก็อาจมีความสวยงามที่ดึงดูดสายตาของทุกคนได้ เหมือนกับงานของเธอคนนี้ ศิลปินชาวจีนที่มีชื่อว่า Luo Li Rong ได้สร้างผลงานรูปปั้นทองแดง แกะสลักขนาดเท่าตัวคน สื่อถึงความสง่างามที่มีอยู่ในรูปร่างของมนุษย์ การทำงานที่พิถีพิถันของเธอ ออกมาเป็นผลงานที่สวยงาม แม้จะยังไม่เสร็จ แต่แค่นี้ก็ดูสมจริงแล้ว โดยจะมีลักษณะของผู้หญิงในที่อยู่ในท่วงท่าต่างๆ และมีความพลิ้วไหวในส่วนของผมและเสื้อผ้า ทำให้ดูเหมือนว่ารูปปั้นกำลังยืนรับสายลมที่พัดมาอย่างแผ่วเบา จะเห็นได้ว่าผลงานของเธอเต็มไปด้วยรายละเอียด เกิดจากความประณีตในทุกพื้นผิวที่เธอแกะสลักลงไป เพื่อให้มีความสมจริงและแสดงออกถึงองค์ประกอบที่น่าอัศจรรย์อื่นๆ เช่น ก้อนเมฆ หรือหยดน้ำฝน ท่ายืนแบบนี้ ดูมีความเป็นไทยนิดๆ เหมือนกันนะ หยดน้ำฝน ที่ทำออกมาได้ลงตัวกับรูปปั้น ผิวคล้ำแต่ก็ยังดูดี ทั้งหมดที่เราได้เห็นเกิดจากฝีมือที่เธอได้เรียนรู้มาจากวิทยาลัยวิจิตรศิลป์ในปักกิ่ง และนำเทคนิคที่นิยมใช้ในช่วงฟื้นฟูศิลปะของยุโรป และสไตล์บารอกมาผสมเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นผลงานร่วมสมัยเหล่านี้ขึ้นมา ท่วงท่าอันสง่างามและพลิ้วไหว . . ลักษณะที่ทำออกมาได้เหมือนกับว่า รูปปั้นกำลังเดินอยู่บนท้องถนนจริงๆ สายลมที่พัดเข้ามา เหมือนกับยืนอยู่บนหน้าผา การเปลือยที่ดูไม่โป๊ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นความสวยงามที่ต้องการจะสื่อ .…
-
17 โมเม้นท์สุดหวานของ Kit Harington ที่จะทำให้คุณอิจฉา Rose Leslie แบบไม่ไหวแล้วววว
ก็จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับมหาศึกชิงบัลลังก์ หรือ Game Of Throne ซีซั่นล่าสุด และนอกจากเนื้อเรื่องอันแสนจะเข้มข้นแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่ร้อนแรงไม่แพ้เนื้อเรื่องเลยนั่นก็คือความแซ่บของพ่อหนุ่มจากแดนเหนืออย่าง Jon Snow หรือพี่ Kit Harington ของเรานั่นเอง วันนี้เราไม่ได้มีภาพอวดหุ่นล่ำๆ ของหนุ่มคนนี้มาฝากกันหรอกนะ แต่เป็นอะไรที่จี๊ดกว่านั้นอีก นั่นก็คือ… โมเม้นท์สุดหวานของ Kit Harington กับแฟนสาว Rose Leslie ยังไงล่ะ บอกได้เลยว่างานนี้สาวๆ มีอิจฉากันแน่นอน.. 1. พ่อหนุ่ม Kit Harington ของเรายอมรับออกมาตรงๆ เลยว่า “ผมตกหลุมรักประเทศไอซ์แลนด์ ผมตกหลุมรักเพื่อนนักแสดงด้วย” 2. เมื่อไหร่ที่ทั้งคู่ออกไปเต้นรำด้วยกัน พวกเขามักจะทำท่าแบบนี้… 3. ว่าไงจ๊ะ แม่คนเถื่อนของฉัน!? 4. ฮั้นแน่!! มีแอบส่งสายตาปิ๊งๆ ให้กันอีกด้วยนะ 5. แค่อยู่ใกล้ๆ กัน Kit Harington ก็ทำให้แฟนสาวของเขายิ้มออกมาได้อย่างธรรมชาติแล้ว 6. ไหล่พี่…
-
ผู้หญิงร่วมเผย 26 สิ่งที่ไม่ชอบให้ผู้ชายทำตอนที่ “เบิร์น-มีเซ็กส์” น่ารู้ไว้ทั้งหญิงชาย!!
บทความนี้มีส่วนของความรู้ด้านเพศศึกษา อาจจะมีเนื้อหาดูทะลึ่งตึงตังที่ไม่เหมาะกับเด็กอายุน้อย แต่หากได้อ่านพร้อมผู้ปกครองหรือคุณครูและให้คำแนะนำที่ถูกต้อง เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายอย่างมาก ถึงแม้ว่า Sex จะเป็นเรื่องอันพึงปรารถนาของทั้งหญิงและชายหลายๆ คน แต่บางครั้งถึงจะเป็นคนที่ถูกใจหรือรักกันแค่ไหน มันก็มีอะไรบางอย่างที่เราไม่ได้ชอบเสมอไป โดยเฉพาะสิ่งที่ผู้ชายทำกับคู่รักคู่นอนของตนเอง คราวนี้เราเลยมีบทสัมภาษณ์จากการสัมภาษณ์ผู้หญิง 26 คน ซึ่งพวกเธอจะมาตอบคำถามที่ว่า “อะไรคือสิ่งที่เธอไม่ชอบ ขณะที่กำลังมีเซ็กส์กับผู้ชาย!?” และเชื่อว่าคำตอบในบทความนี้ นอกจากจะมีความขำๆ น่ารักชวนฮาแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกคนอย่างแน่นอนค่ะ 1. สิ่งที่ไม่ชอบเลยคือการที่ผู้ชายพยายามช่วยฉันแบบจัดหนักจัดเต็ม โดยโฟกัสไปที่การใช้มือของเขาอย่างรุนแรงและหวังให้ฉันถึงจุดสุดยอด ที่จริงแล้ววิธีการแก้ปัญหาหรือทำให้มันดีขึ้น คือการนั่งคุยกันว่าชอบตรงจุดไหน ทำตรงไหนถึงจะดี และลองหลายๆ วิธีที่นิ่มนวลขึ้นก็น่าจะดีกว่านะ 2. ไม่ชอบตรงที่เขาพยายามจูบเลียทุกสิ่งทุกอย่าง ยกเว้นตรงส่วนคริตอริส เป็นเวลากว่า 20 นาทีที่ฉันต้องแกล้งว่ามันเสียวนะ ทั้งๆ ที่ไม่เลย ฉันคิดว่าฉันควรได้ออสก้าร์ด้วยซ้ำ 3. มันไม่เกี่ยวกับความเร็วหรอก บางคนเชื่อแบบนั้นแล้วก็ใส่ไม่ยั้ง มันขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของการกระทำที่ถูกจุด คือฉันจะบอกว่ามันไม่ต้องใช้ฟันหรอกนะ และไม่ต้องใช้ลิ้นมากเกินไป มันเป็นพื้นที่เซ๊นซิทีฟ คุณแค่ต้องทำให้ถูกต้องเท่านั้น 4. บางทีคุณก็ใช้ลิ้นได้ถูกจุด (คริตอริส)…
-
โอ๊ยยแซ่บ!! โฉมหน้า Imran Abbas ผู้รับบทกัปตันยูชีจิน ใน Descendants Of The Sun ปากีสถาน
เมื่อช่วงปี 2016 ที่ผ่านมา กระแสซีรีย์เกาหลีที่มาแรง และฮอตมากกกกกที่สุดในตอนนั้น คงหนีไม่พ้นเรื่อง Descendants Of The Sun ที่มีพระเอกหนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่าง Song Joong Ki มารับบทเป็นกัปตันยูชีจีน ซึ่งก็ทำให้บรรดาสาวๆ ทั่วเอเชียต่างออกอาการคลั่งไคล้ และเพ้อฝันกันเป็นแถว และถึงแม้ว่าซีรีย์เกาหลี Descendants Of The Sun จะจบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ดูเหมือนว่ากระแสความฮอตฮิตจะยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะล่าสุดทางเว็บไซต์ Koreaboo ได้มีรายงานว่า ตอนนี้ซีรีย์ Descendants Of The Sun กำลังจะถูกนำเอามารีเมคในเวอร์ชั่นปากีสถานอีกด้วย ซึ่งผู้ที่จะมารับบทเป็นกัปตัน Song Joong Ki ก็คือ Imran Abbas นักแสดงหนุ่ม และนายแบบวัย 34 ปี ผู้ที่เคยได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในประเทศคนนี้… โหววววว อกอิแป้นจะแตก เห็นครั้งแรกก็หลงเลยอะแกรรร ในขณะที่หลายๆ คนรู้สึกตื่นเต้นกับซีรีย์ฉบับรีเมคที่กำลังจะถูกสร้างขึ้นใหม่นี้ ก็มีชาวเกาหลีบางคนกำลังรอคอยดูว่า Descendants Of…
-
17 ภาพคนที่บังเอิ๊ญบังเอิญ ไปเหมือนกับภาพวาดในอดีต ราวกับว่ากลับชาติมาเกิดงั้นแหละ
เพื่อนๆ เชื่อเรื่องอดีตชาติหรือการกลับชาติมาเกิดไหมคะ เราอาจจะเคยได้ยินมาหรือว่าเคยดูจากละครหลายๆ เรื่องที่มีประเด็นของการกลับชาติมาเกิด โดยที่หน้าของคนในอดีตกับคนในปัจจุบันเหมือนกันเป๊ะ เรื่องนี้อาจจะพิสูจน์ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ แต่ก็มีคนจำนวนมากที่เชื่อเรื่องนี้อย่างจริงจัง ภาพคนต่อไปนี้ พวกเขาได้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ภาพ แล้วดันไปพบว่าหน้าของบุคคลในภาพบังเอิญเหมือนกับตัวเองซะงั้น ก็เลยแชะภาพตัวเองคู่กับภาพวาดนั้น เพื่อมาให้ชาวเน็ตเห็นว่า เขากับคนในภาพนั้นราวกับเป็นคนเดียวกันแน่ๆ 1. เด็กน้อยคนนี้ รูปร่างหน้าตาเหมือนกับเด็กที่อยู่ในภาพวาด แทบจะถอดแบบกันมา 2. นึกว่าเอาหน้าผู้ชายคนนี้ไปเป็นแบบในการวาดภาพเลยนะเนี่ย 3. อันไหนคนจริง อันไหนหุ่นเนี่ย? 4. พี่ต้องเป็นทหารในสมัยก่อนแน่ๆ เลย 5. ทั้งทรงผมและหนวด ดูเหมือนกันจนนึกว่าเป็นคนเดียวกัน 6. แม่สาวน้อยคนนี้ต้องข้ามไทม์แมชชีนมาแน่ๆ 7. เหมือนทั้งทรงผม ทั้งหนวดเคราเลย ฮ่าๆ 8. นี่ก็เหมือน 9. คนนี้ไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่ แต่รู้ว่าหล่อมากกกก อร๊ายยย 10. คนนี้ก็หล่อ (โอ้โห ไม่ได้มองภาพวาดเลยอ่ะ) 11. ผมยาวและมีหนวด…
-
ชมความล้ำหน้าเทคโนโลยี Virtual Camera จาก Canon ถ่ายทอดทุกมุม ราวกับหลุดจากหนังไซไฟ
ขณะนี้การถ่ายภาพนั้นได้รับความนิยมมากเรื่อยๆ และในขณะที่เรายังอยู่ในโลกของการถ่ายภาพปี 2017 ตอนนี้ทางบริษัทกล้องยักษ์ใหญ่อย่าง Canon เค้าไปที่ปี 2027 แล้ว ด้วยระบบการถ่ายแบบ Free Viewpoint แล้ว!! ทาง Canon เองได้ออกมาประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่า ตอนนี้พวกเขากำลังพัฒนาระบบการถ่ายภาพดังกล่าวอยู่ ซึ่งมันจะทำให้คุณสามารถมองเห็นภาพเสมือนจริงได้แบบ 360 องศา โดยคาดว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬา ซึ่งการถ่ายภาพแบบ Free Viewpoint นี้จะทำให้คุณได้สัมผัสมุมมองที่สมจริงเหมือนกับเป็นผู้เล่นหนึ่งคนในสนามเลยทีเดียว ระบบดังกล่าวจะมีการติดตั้งกล้องความละเอียดสูงไว้รอบๆ สนาม โดยกล้องแต่ละตัวจะเชื่อมต่อกันและควบคุมด้วยระบบปฏิบัติการ หลังจากนั้นภาพที่ได้จะถูกนำไปประมวลผลและออกมาในรูปแบบของภาพสามมิติ “ผู้ใช้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ โดยที่จะมีกล้องคอยจับภาพอยู่รอบๆ ซึ่งจะทำให้ได้ภาพที่สมจริงและเราสามารถมองเห็นได้หลายมุมมอง ระบบดังกล่าวจะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และนอกจากนี้เพื่อสนับสนุนให้การแข่งเข้มข้นมากขึ้น ทางเราได้วางแผนที่จะพัฒนาแอพลิเคชั่นเพื่อใช้ในการพัฒนานักกีฬาและทีมของพวกเขาอีกด้วย” บริษัทกล้องชั้นนำกล่าว ตอนนี้ทาง Canon กำลังวิจัยและพัฒนาให้การบันทึกภาพนั้นมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น และทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าพวกเรากำลังเล่นวิดีโอเกมอยู่ นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าทาง Canon เองก็กำลังเตรียมพัฒนาในอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่นหูฟังเพื่อให้การชมภาพวิดีโอแบบ Free Viewpoint นี้สมจริงมากขึ้น ไปชมความเจ๋งของการถ่ายภาพแบบนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย ที่มา petapixel
-
ช่างภาพสาวเสพติด ‘การซื้อเลนส์กล้อง’ ลองใช้กล้อง 35 บาท 1 เดือน เพื่อพิสูจน์ฝีมือตัวเอง
อย่างที่#เหมียวฟิ้นและใครหลายๆ คนพยายามบอกเสมอว่าการจะถ่ายภาพๆ หนึ่งให้ออกมาดูสวยงามนั้น ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ มุมมองของช่างภาพ การจัดวางต่างๆ เป็นหลัง ส่วนอุปกรณ์เสริมเช่นเลนส์ ขาตั้ง ฟิลเตอร์ ก็อาจจะมีส่วนช่วยให้ภาพสวยอยู่ แต่ต่อให้มีสิ่งเหล่านั้นแต่ตัวช่างภาพไม่มีมุมมองที่แปลกใหม่ ไม่มีวิสัยทัศน์ ก็อาจจะทำให้ภาพที่ได้ออกมาดูธรรมดาๆ เหมือนกล้องดิจิตอลธรรมดาๆ ก็ได้นะ ซึ่งวันนี้เราจะขอมาพิสูจน์เรื่องนั้นกันอีกสักรอบ กับช่างภาพสาว Skyler Adams ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นจิตใจ แต่วันหนึ่งเธอเริ่มรู้สึกตัวว่าเธอเอาแต่ซื้อแลพึ่งพาอุปกรณ์เสริมกล้องมากเกินไป เธอจึงอยากจะหาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับการถ่ายภาพของเธอ เธอออกไปซื้อกล้องฟิล์มแบบใช้แล้วทิ้งในราคาประมาณ 35 บาท พร้อมกับม้วนฟิล์มหมดอายุจาก Fujifilm ในราคา 70 บาท จากนั้นเธอก็ใช้มันถ่ายสิ่งต่างๆ รอบตัวเป็นเวลา 1 เดือน Skyler กล่าวถึงไอเดียและประสบการณ์ในการใช้กล้องราคาถูกว่า “ฉันอยากจะท้าทายตัวเองที่เป็นโรคชอบซื้ออุปกรณ์เสริมกล้อง ฉันเลยตัดสินใจเลือกถ่ายภาพด้วยกล้องราคา 35 บาท เป็นเวลา 1 เดือน” “ฉันรู้สึกประหลาดใจมากกับคุณภาพของภาพถ่ายที่ฉันได้จากฟิล์ม 38 มิลลิเมตร การตั้งค่า ISO แบบแมนน่วลช่วยให้ฉันสามารถเล่นกับการชดเชยแสงได้ แต่ความยากลำบากส่วนใหญ่อยู่ที่การหาแสงดีๆ นี่แหละ”…
-
คุณลุงสร้างสระไว้หลังบ้านเมื่อ 24 ปีก่อน พัฒนาเป็นสระ 1.8 ล้านลิตร ชาวบ้านมาเที่ยวเพียบ!!
การมีสระว่าน้ำส่วนตัวไว้ที่บ้านอาจจะเป็นความฝันของหลายๆ คน รวมถึงชายหนุ่มผู้นี้ด้วยเช่นกัน คุณ Micky Thornton ตัดสินใจทำตามความฝันในวัยเด็กของเขาโดยการสร้างสระว่ายน้ำขนาดยักษ์ไว้ที่สวนหลังบ้าน เพื่อเติมเต็มความฝันในวัยเด็กของตัวเอง เมื่อตอนที่อายุได้ 39 ปี หลังจากที่ย้ายมายังเมือง Covington รัฐเทนเนสซี คุณ Micky เริ่มทำตามความฝันของตัวเองโดยการสร้างสระว่ายๆ น้ำเล็กๆ ไว้ที่สวนหลังบ้าน ในปี 1993 และจากสระว่ายน้ำเล็กๆ ที่ลึกแค่ 6 เมตรในวันนั้น มันก็กลายมาเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่มีความจุมากถึง 1.8 ล้านลิตรเลยทีเดียว และนี่คือสระว่ายน้ำหลังบ้านของคุณ Micky และนอกจากความใหญ่โตของสระว่ายน้ำแล้ว คุณ Micky ยังได้ตกแต่งสระว่ายน้ำของเขาด้วยก้อนหินต่างๆ พร้อมกับสร้างน้ำตกจำลองขนาดเล็กขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งดูๆ ไปแล้วที่นี่น่าจะเรียกว่าสวนน้ำมากว่าสระว่ายน้ำซะอีก!! และนอกจากนี้ทางครอบครัว ยังเปิดให้ผู้คนทั่วไปเข้ามาใช้บริการในสระว่ายน้ำของพวกเขาอีกด้วย โดยรายละเอียดการจองและค่าบริการนั้นสามารถเข้าไปดูได้ที่เฟซบุ๊ก Thornton’s Pool ได้เลย นอกจากคนในครอบครัวจะได้สนุกสนานกับสระว่ายน้ำขนาดยักษ์แล้ว ทางคุณ Micky และภรรยาของเขายังเปิดให้เช่าทำกิจกรรมอื่นๆ อย่างเช่นงานเลี้ยง งานวันเกิด และเขายังเคยให้โบสถ์มาใช้บริการในการทำพิธีล้างบาปแบบฟรีๆ อีกด้วย ดูยังไงก็นี่มันสวนน้ำชัดๆ ไปชมบรรยากาศของสระว่ายน้ำแห่งนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย…
-
10 ประเภท “การถึงจุดสุดยอดของผู้หญิง” (Orgasm) ตามหลักวิทยาศาสตร์ สาระจัดเต็ม!!
การถึงจุดสุดยอดเป็นเรื่องที่ทุกคนมีเหมือนกันหมด ซึ่งเรื่องนั้นผู้ชายก็คงจะเข้าใจกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับผู้หญิงบางคนอาจคิดว่ามันคืออะไร? เพราะตัวเองไม่เคยเป็นมาก่อน โดยมีงานวิจัยบอกไว้ว่า 1 ใน 3 ของผู้หญิงทั้งหมด ไม่ได้ถึงจุดสุดยอดจากการมีเพศสัมพันธ์ จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ใครหลายคนไม่เข้าใจจุดนี้ก็ได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะการถึงจุดสุดยอดนั้น เมื่อแบ่งออกมาตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว มีมากถึง 10 แบบกันเลย เราลองไปดูกันดีกว่าว่าจะมีอะไรกันบ้าง และแบบไหนที่จะเป็นแบบที่ใช่สำหรับคุณกันนะ Clitoral มันก็คือการถึงจุดสุดยอดจากการถูกกระตุ้นบริเวณคริตอริสหรือปุ่มกระสันนั่นเอง เพราะมันอยู่ด้านนอกจึงทำให้สามารถเข้าใจกันได้ง่าย และเป็นการถึงจุดสุดยอดแบบพื้นฐานของใครหลายคน หากถูกกระตุ้นระบบประสาท Pudendal ก็จะทำงาน ทำให้คุณรู้สึกฟินกันไปเลย เสริมอีกอย่างคือหากมีการกระตุ้นตรงจุดนี้แบบผิวเผิน ควบคู่กับการเสียดสีในผนังช่องคลอดแล้ว ผลลัพธ์ก็จะยอดเยี่ยมเอามากๆ เลยแหละ G-spot เป็นชื่อที่คุ้นหูกันดีอยู่แล้วนะ เพราะมันก็เป็นการถึงจุดสุดยอดของใครหลายคนอีกเช่นเดียวกัน จุดที่จะต้องถูกกระตุ้นจะอยู่บริเวณผนังช่องคลอดด้านบน ลึกเข้าไปประมาณ 2 นิ้ว และหากถูกกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอซัก 15 นาที ก็จะทำให้ระบบประสาทบริเวณกระดูกเชิงกรานกับท้องน้อย ทำงานจนเหมือนว่าทั้งร่างเราสั่นสะท้าน และอาจมีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกนะ Blended คือจุดสุดยอดแบบผสมกันของสองแบบแรก ที่ถูกกระตุ้นทั้งส่วนภายในและภายนอก สังเกตได้ไม่ยาก เพราะเมื่อไหร่ที่รู้สึกฟินแบบจัดหนักมากกว่าปกติแล้วละก็ นั่นแหละคือการถึงจุดสุดยอดในแบบนี้…
-
ในที่สุด นักโบราณคดีก็ไขปริศนา “การสร้างพีรามิด” ว่าขนหิน 2.5 ตัน ระยะทาง 800 กิโลได้ยังไง!?
มหาพีระมิดแห่งกีซา เป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ยังคงอยู่จนปัจจุบันนี้ และด้วยขนาด รูปทรงของ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามันถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ในยุคนั้นไม่น่าจะมีเครื่องมือที่เพียงพอสำหรับการทำอะไรแบบนี้ได้ แต่ตอนนี้นักโบราณคดีได้ค้นพบหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าชาวอียิปต์ได้ขนหินก้อนละ 2.5 ตัน เป็นระยะทาง 800 กิโลเมตร เพื่อสร้างเป็นที่เก็บศพของฟาโรห์คูฟู เมื่อ 2,600 ปีก่อนคริสตกาล มหาพีระมิด มีความสูงถึง 147 เมตร ซึ่งเป็นพีรามิดที่ใหญ่ที่สุดจนถึงยุคกลาง เนื่องจากมีการก่อสร้างมหาวิหารลินคอล์น (Lincoln Cathedral) ที่ ประเทศอังกฤษ ซึ่งมียอดวิหารสูง 160 เมตร ในปี พ.ศ. 1843 ในเวลาต่อมา ข้อมูลทางโบราณคดีเผยว่า มีคนงานมืออาชีพหลายพันคนได้ขนก้อนหิน 170,000 ตัน มาตามแม่น้ำไนล์ โดยใช้เชือกมัดก้อนหินไว้ด้วยกันแล้วลำเลียงมาบนเรือไม้ ผ่านคันคลอง ไปยังท่าเรือที่อยู่ห่างจากพีรามิดเพียงไม่กี่หลา ขณะเดียวกันได้มีการค้นพบกระดาษปาปิรัสโบราณที่เมืองท่า Wadi Al-Jarf ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบทบาทของเรือที่มีผลต่อการก่อสร้างพีระมิด ข้อความในกระดาษดังกล่าวเขียนโดย Merer ซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลคนงานจำนวน 40 คน ในนั้นพูดถึงการสร้างมหาพีระมิดและอธิบายว่าก้อนหินถูกส่งมาจาก Tura ถึง Giza ได้อย่างไร …
-
ชายหนุ่มไปกินข้าวหน้าเป็ดเฉยๆ ดั๊นเจอ “ห่าน” ที่ร้านเตรียมเชือด ได้ไถ่ชีวิตมาเลี้ยงซะเลย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีเรื่องราวที่สุดแสนจะประทับใจเกี่ยวกับการช่วยเหลือสัตว์เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือหมาแมวจรจัดจากศูนย์พักพิง ให้กลับมามีชีวิตที่สดใสอีกครั้งในบ้านหลังใหม่ และในครั้งนี้ก็ถึงคิวของ “เจ้าห่าน” ตัวหนึ่ง ที่สุดแสนจะโชคดี หลังจากที่มันได้รับการช่วยเหลือก่อนที่จะถูกส่งไปเชือด เพื่อเป็นอาหารอันโอชะของมนุษย์ ทางด้านคุณ Manuschai Jenkittiwattana ผู้ที่ได้ช่วยเหลือห่านตัวนี้ ได้ออกมาแชร์ภาพพร้อมเรื่องราวของมันในเฟสบุ๊ค โดยระบุว่า.. ในวันที่ 22 กันยายน 2017 ที่ผ่านมา ขณะที่เขากำลังนั่งรับประทานข้าวหน้าเป็ดในร้านอาหารแห่งหนึ่งอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงร้องของห่านดังขึ้นมา และนั่นก็ทำให้เขารีบวางช้อน แล้วเดินออกไปดูบริเวณข้างร้านทันที และสิ่งที่เขาได้พบก็คือ เจ้าห่านที่อยู่ในกรงตัวนี้… ภายหลังจากที่พบเจ้าห่าน คุณ Manuschai ก็ได้เข้าไปสอบถามเจ้าของร้าน และพบว่า เจ้าห่านตัวนี้กำลังจะถูกนำไปเชือดขาย “ผมจะเข้าไปลูบหัวมัน เพื่อเช็คดูว่ามันดุไหม ซึ่งมันก็ขู่ฟ่อๆ ใส่ทันที จึงทำให้ผมไม่ได้ช่วยมัน(ในตอนแรก) แต่ด้วยความคาใจเลยทำให้ผมต้องขับรถกลับมาดูอีกครั้ง และพบว่ามันยังมีชีวิตอยู่ แต่ถูกมัดขาเอาไว้ พอเข้าไปถามพนักงานในร้านอาหารว่ามันจิกกัดไหม เขาก็ตอบกลับมาว่ามันกัด แต่ผมก็ยังอยากจะช่วยมัน และยอมเจ็บ เลยตัดสินใจดึงเชือกเข้ามา แล้วค่อยๆ ลูบหัวจากด้านหลัง ซึ่งมันก็ไม่ได้จิกกัดผม แถมยังให้ผมลูบหัว…