Category: Highlight
-
ช่างตัดไม้ค้นพบซากมัมมี่หมาติดอยู่ในต้นไม้โดยบังเอิญ มันติดในนั้นมานานเกือบ 60 ปีแล้ว
โดยปกติแล้วเวลาที่สัตว์ตายร่างกายของมันก็จะเน่าเสียและสลายกลายเป็นสารอาหารให้กับพื้นดินไป แต่ในบางครั้งเราก็พบปรากฎการณ์หายากในธรรมชาติที่ร่างของสัตว์ไม่ถูกย่อยสลายแต่กลายเป็นมัมมี่แบบนี้แทน ในปี 1980 คนตัดไม้จากบริษัท Georgia Kraft Corp ทำงานตัดไม้กันตามปกติ แต่พวกเขากลับพบว่าในโพรงของต้นโอ๊กต้นหนึ่งมีมัมมี่สุนัขติดอยู่ด้วย เมื่อพวกเขาเห็นแบบนั้นก็เลยบริจาคท่อนไม้นี้ให้กับพิพิธภัณฑ์ต้นไม้ Forest World ในเมืองเวย์ครอส รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกาไป เจ้าหมา Stuckie มัมมี่สุนัขตามธรรมชาติ จากนั้นในปี 2002 ทางพิพิธภัณฑ์จึงจัดการประกวดตั้งชื่อสุนัขตัวนี้และได้รับชื่อว่า Stuckie (จากคำว่า stuck แปลว่า ติด) ซึ่งเป็นชื่อที่เหมาะกับเจ้าหมาจริงๆ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าสาเหตุที่เจ้าหมาตัวนี้ติดอยู่ในต้นไม้ น่าจะเป็นเพราะมันวิ่งไล่สัตว์เล็กจนกระทั่งมันหนีเข้าไปในโพรงต้นไม้ แต่เจ้าหมาก็ไม่ละความพยายาม ตะกายเข้าไปในโพรงยาว 28 ฟุต (ประมาณ 8.5 เมตร) จนในที่สุดตัวของมันก็ติดอยู่อย่างที่เห็นนี่แหละ ท่อนไม้ที่เจ้ามัมมี่หมาติดอยู่ ถูกตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Forest World การที่เจอเจ้าหมาตายอยู่ในโพรงไม้นั้นก็ไม่แปลกอะไรเท่าไหร่ แต่ที่แปลกจริงๆ ก็คือการที่มันกลายเป็นมัมมี่เองตามธรรมชาติต่างหาก ตามปกติหากสิ่งมีชีวิตตายไปร่างกายของมันก็จะเริ่มเน่าเสีย แบคทีเรีย เชื้อราและแมลงก็จะตามกลิ่นนี้มาแล้วย่อยสลายร่างของมันตามวัฎจักรของธรรมชาติ ทว่าเจ้า Stuckie ไม่ได้เน่าสลายไปเช่นนั้นเนื่องจากมันติดอยู่ในตัวต้นไม้นั่นเอง ทางพิพิธภัณฑ์เขียนคำอธิบายถึงปรากฎการณ์นี้ไว้ว่า “ในขอนไม้ท่อนนี้เกิดปรากฎการณ์ปล่องควันไฟ…
-
ชายเปลี่ยนเสาแทงก์น้ำให้กลายเป็นบ้านสุดหรู โอ้โห นี่มันสวรรค์ชัดๆ เล๊ยยยย
สถาปนิกหนุ่ม Patrick Mets มีความคิดที่จะเอาอาคารเก่าๆ มารีโนเวท เขาชื่นชอบพวกสิ่งก่อสร้างจำพวกอาคารอุตสาหกรรม แทงก์น้ำ เพราะว่าเขาเคยจินตนาการไว้ตั้งแต่เด็กว่า เขาอยากจะมีบ้านอยู่บนหอคอยสูงๆ และเมื่อเขาโตขึ้น เขาก็ลงมือทำในสิ่งที่เขาได้จินตนาการมาทั้งชีวิต Patrick และ Valerie Lecherf ภรรยา ได้ออกตระเวนหาที่ๆ จะนำมาสร้างเป็นบ้านใหม่ เขาได้ออกไปดูแถวชนบทของเบลเยียม แต่มันก็ไม่ถูกใจเขานัก จนกระทั่งอีก 1 ปีครึ่งต่อมาเขาก็ได้พบแทงก์น้ำขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากรุงบรัสเซลส์แล้วเขาก็รู้สึกถูกชะตาในทันที แทงก์น้ำเก่าๆ นี้ถูกทิ้งไว้ให้รกร้างประมาณ 10-15 ปี ทำมาจากปูนซีเมนต์ เขาซื้อแทงก์น้ำมาในราคาประมาน 1.3 ล้านบาท แต่ก่อนที่เขาจะดัดแปลงแทงก์น้ำนี้ให้กลายเป็นที่อยู่อาศัย แต่จะต้องได้รับอนุญาตจากเทศบาลเสียก่อน ซึ่งทำให้ต้องใช้เวลาอีกกว่า 7 ปี กว่าที่มันจะถูกดัดแปลงให้กลายมาเป็นบ้านพักอาศัยได้ เขาทุ่มเทเงินสร้างมันไปกว่า 84 ล้านบาทเพื่อที่จะรักษาสภาพให้มันคงเดิมมากที่สุด . แต่การลงทุนในครั้งนี้ของเขาก็ถือว่าคุ้ม หลังจากที่มันถูกดัดแปลงเรียบร้อยแล้ว จากแทงก์น้ำเก่าๆ นี้ก็กลายเป็นเหมือนหอคอยสวรรค์ที่ข้างในนั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ ข้างบนคือฝักบัว…
-
เด็กชายป่วยโรคลูคิเมีย เอาเงินค่ารักษาพยาบาลเกือบ 743,000 บาทไปเติมเกม
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2018 สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานข่าวของเด็กชายชาวจีนคนหนึ่งนำเงินที่ได้จากการระดมทุนรักษาโรคร้ายไปเติมเกมมือถือจนหมด สุดท้ายก็ไม่มีเงินสำหรับจ่ายค่ารักษาพยาบาล เด็กชายอายุ 10 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคนี้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2017 ซึ่งแม่ของเขาก็หาทุกวิถีทางที่จะช่วยเหลือให้ลูกชายรอดชีวิตจากโรคร้าย จึงได้เปิดกองทุนระดมเงินช่วยเหลือ นาง Lai Donghong คุณแม่ของเด็กชายพบว่าเงินในบัญชีที่เธอเก็บไว้เพื่อที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกชายจำนวนประมาณ 743,000 บาท ได้หายไป ซึ่งหลังจากการตรวจสอบแล้วพบว่าเงินทั้งหมดถูกโอนไปยังบัญชีของเกมมือถือที่ชื่อว่า King of Glory คุณแม่รู้ในทันทีเลยว่าเงินที่ถูกโอนไปยังบัญชีนี้เป็นบัญชีของเกมมือถือที่ลูกชายของเธอชอบเล่นอยู่บ่อยๆ แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะนำเงินสำหรับรักษาเขาไปใช้ได้ง่ายๆ แบบนี้ คุณแม่ได้บอกกับนักข่าวว่า ลูกชายโอนเงินจากบัญชี Wechat ของแม่เข้าบัญชี Wechat ของตัวเองแล้วนำเงินส่วนนั้นไปใช้เล่นเกม เติมเงิน ซื้อตัวฮีโร่ คุณแม่ได้เก็บเงินค่ารักษาพยาบาลไว้ในบัญชี Wechat เนื่องจากว่ามันปลอดภัยและสะดวกกว่าการถือเงินสดไว้ ลูกชายเธอบอกว่า เขาเห็นว่าแม่โอนเงินผ่านบัญชีบ่อยๆ จึงแอบจำวิธีมา แต่เขาไม่รู้ว่าเงินในนั้นมันคือเงินจริงๆ คุณแม่ได้ร้องเรียนเรื่องราวนี้ผ่านสื่อ ซึ่งทางบริษัทเกมได้ออกมาแจ้งว่า เธอสามารถเรียกเงินคืนได้แค่เพียง 2…
-
น่านำมาใช้… มหาวิทยาลัยมาเลเซีย ใช้วิธีเช็กชื่อใหม่ เพียงสแกน QR รวดเร็วและทันใจ!!
ย้อนกลับไปสมัยที่คุณยังเรียนอยู่มหาลัยเวลาที่คุณจะเข้าเช็กชื่อกับอาจารย์ พวกคุณต้องทำยังไงกัน? คุณต้องไปเซ็นชื่อบนกระดาษหรือว่าต้องขานชื่อและยกมือตอบ หรือว่าจริงๆ คุณไม่เคยมาเช็กชื่อเลยเพราะฝากเพื่อนทำให้ตลอด… เอาเป็นว่าทิ้งเรื่องเช็คชื่อแบบเก่ากันไปก่อน เรามาดูการเช็คชื่อแบบใหม่กันดีกว่ากับการใช้ QR โค้ดในการเช็กชื่อของ University Technology Petronas มหาวิทยาลัยจากประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้านเรานี่เอง ระบบดังกล่าวนั้นยังไม่มีการออกมาอธิบายอย่างจริงจังว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ใช้งานอย่างไรและส่งผลอะไรบ้าง แต่การเช็กชื่อดังกล่าวนั้นถูกเผยแพร่ออกมาโดยหนึ่งในนักศึกษาที่เข้าเรียน โดยเขาได้โพสต์ภาพการเช็กชื่อด้วยวิธีดังกล่าวลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว แน่นอนว่าก็มีคนให้ความสนใจกันเพียบ ซึ่งแม้ว่าเจ้าระบบนี้จะดูไฮโซและดูเข้าท่าเข้าทางยังไงก็ตาม ชาวเน็ตบางคนก็บอกว่านักศึกษาอาจจะโกงเช็คชื่อได้นะแค่แอบถ่ายรูป QR ไว้ก็พอแล้ว นั่นเลยทำให้เจ้าของโพสต์กลับมาตอบว่าการจะโกงที่ว่านั้นมันเป็นไปได้ยากพอสมควรเลยทีเดียว เขาให้เหตุผลว่า ตัว QR ดังกล่าวนั้นจะถูกกำหนดเวลาหมดอายุมา เพื่อให้ลงชื่อได้เฉพาะก่อนเวลาเข้าเรียนเท่านั้น ฉะนั้นถ้าใครที่มาเช็กเวลาเข้าเรียนไม่ทัน ตัวโค้ดก็จะหมดอายุทำให้นักเรียนคนดังกล่าวไม่สามารถเช็กชื่อได้นั่นเอง (ดูเหมือนที่อยู่จาก GPS ก็มีส่วนด้วย ทำให้แอบลงชื่อจากที่บ้านไม่ได้) นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตอีกคนที่เรียนอยู่ที่ University of Science Malaysia ก็มาแชร์คลิปการเข้าเรียนด้วยวิธีนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเท่ากับว่าวิธีนี้เริ่มเป็นที่แพร่หลายในประเทศมาเลเซียแล้วนั่นเอง น่าสนใจจริงๆ สำหรับใครที่ดูคลิปข้างล่างสามารถเข้าไปดูต้นฉบับได้ที่ Tira_Abu UNIMAS pun sama awak. Hihi. pic.twitter.com/lBdCb2aNGR — Nurul…
-
เมาแล้วห้ามจับโทรศัพท์ 17 ความรั่วของลูกสาว แชทรัวๆ จะส่งให้ใครก็ได้แท้ๆ ดันส่งให้ ‘แม่’
เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะต้องมีประสบการณ์เมาแล้วส่งข้อความหาคนอื่นรัวๆ อย่างเช่น แฟนเก่า เพื่อน คนที่แอบชอบ สักครั้งในชีวิต ซึ่งความมือลั่นนี้ก็สร้างความวายป่วงให้กับเรามากๆ พอตอนเมาล่ะส่งข้อความรัวๆ เช้ามานี่กดลบแทบไม่ทัน เพราะมือพี่ลั่นไปเอง แน่นอนว่า ไม่ใช่คุณเพียงคนเดียวในโลกนี้ที่ชอบเมาแล้วมือลั่น ยังมีสาวๆ อีกมากมายที่ดันโป๊ะแตก เมาแล้วส่งข้อความหาคนอื่น แต่พวกเธอซวยกว่านั่นก็คือ ดันส่งข้อความไปหาคุณแม่นั่นเอง งานนี้มีโดนบ่นหูชาแน่นอน เมื่อฉันเมาแล้วส่งข้อความหาแม่แถมยังถ่ายรูปตอนกอดชักโครกอ้วกไปอีก แม่ตอบกลับมาเพียงว่า ดื่มน้ำแล้วกลับบ้านเดี๋ยวนี้!! สาวรายนี้เมาปลิ้น แล้วไม่รู้ทำไมถึงถ่ายรูปพวกนี้ส่งไปให้แม่ตัวเอง แถมแม่ก็ดันถ่ายรูปตัวเองตอบกลับมาอีกแน่ะ ดูจากแววตาแล้วสงสัยลูกสาวคงโดนด่าหูชาแน่ๆ เมาแล้วความจำสั้น ส่งข้อความใจความเดิมๆ หาแม่ถึง 3 ครั้ง สงสัยกลัวพ่อด่าว่าเมาแล้วขับจริงๆ ไงคะแม่ ลูกสาวแม่สวยไหม นี่ได้ความสวยมาจากยีนของแม่เลยน๊าาา (แอบเมมชื่อแม่ว่า Satan ด้วย) นี่ก็เมาแล้วบอกรักแม่ไปอีก สาวคนนี้คงจะเมาแล้วพูดความในใจออกมา ขอโทษแม่ซะซึ้งเลย อ่าว ดันโป๊ะแตกนึกว่าส่งข้อความหาแฟน ส่งมาหาแม่ซะงั้น แม่จับได้ว่ามีแฟนเลยทีนี้ ฮ่าๆ …
-
ผู้เชี่ยวชาญ 7 เทคนิคป้องกันตัว เมื่อโดนทำร้ายระยะประชิด ป้องกันไม่ให้ถูกต่อย “ม้ามแตก”!!
จากที่เราเคยได้ยินข่าวกันบ่อยครั้งเกี่ยวกับเรื่องของการล่วงละเมิดทางเพศหรือการทำร้ายผู้ที่อ่อนแอกว่า ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และปัญหาเหล่านี้ยังไม่มีทางแก้ ทำได้เพียงแค่หาวิธีป้องกันตัวเมื่ออันตรายมาถึง สาวๆ ทั้งหลายก็คงจะรู้ดีกว่า ผู้หญิงมักจะตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิด ในวันนี้เราจึงมีวิธีการป้องกันตัวแบบง่ายๆ จาก Victor Lyalko ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้นำมาถ่ายทอดเป็นภาพแบบเข้าใจง่ายๆ 1. จำไว้ว่าจุดอ่อนอยู่ตรงไหน จุดอ่อนบนร่างกายที่ง่ายต่อการโจมตีที่ถึงแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ต้องพ่ายแพ้กับจุดนี้นั่นก็คือ ดวงตา จมูก ลำคอ หน้าอก เข่า และหว่างขา 2. การจู่โจมที่ง่ายที่สุดคือการใช้มือ จับนิ้วมือของฝ่ายตรงข้ามแยกออกจากกันให้แรงที่สุด วิธีนี้จะทำให้เขาร้องออกออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ถ้าไม่สามารถจับมือได้ให้ใช้นิ้วหรือกำปั้นระแทกเข้าไปตรงกลางของกระดูกไหปลาร้าหรือลูกกระเดือกของอีกฝ่าย หรือถ้าอยากจู่โจมขั้นรุนแรงขึ้นให้จับบริเวณหว่างขาแล้วจับอย่างเต็มแรง 3. วิธีป้องกันตัวหากโดนจู่โจมจากด้านหน้า ถ้าอีกฝ่ายเข้าประชิดตัวเกินไปจนคุณใช้มือโจมตีใบหน้าไม่ได้ ให้กำมือแล้วยื่นลงหน้าสะดือสร้างช่องว่างระหว่างคุณกับคนร้าย จากนั้นใช้หัวโขกเข้าที่จมูกของฝ่ายตรงข้าม จากนั้นก็ใช้เข่ากระแทกเข้าที่จุดยุทธศาสตร์ ถ้ามีช่องว่างระหว่างตัวคุณกับคนร้าย ลองใช้อีกวิธีหนึ่งคือเหยียดแขนซ้ายไปกันแขนของคนร้าย แล้วใช้ฝ่ามือขวากระแทกเข้าที่คางและจมูก สุดท้ายตีเข่าเข้าที่จุดยุทธศาสตร์เหมือนเดิม 4. วิธีปล่อยมือให้เป็นอิสระ หากโดนจับที่ข้อมือให้จำไว้ว่าถ้าถูกจับมือข้างไหนให้หมุนมือไปทางด้านนิ้วหัวแม่มือของคนร้าย พอมือหมุนไปอยู่ข้างล่างของมืออีกฝ่ายก็ออกแรงดึงมือออกมา เท่านี้มือก็เป็นอิสระพร้อมที่จะป้องกันตัวขั้นต่อไป 5. วิธีป้องกันตัวหากโดนจู่โจมจากด้านหลัง ยืดตัวเอาหัวกระแทกหน้า หรือก้มลงจับที่เข่าคนร้ายแล้วดึงมาข้างหน้าอย่างเต็มแรงเพื่อให้อีกฝ่ายล้มลง วิธีนี้จะทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถลุกขึ้นได้ 6. วิธีป้องการตัวหากโดนจู่โจมจากด้านข้าง…
-
19 เกร็ดสาระแบบสั้นๆ เข้าใจง่าย ในเรื่องของสิ่งใกล้ตัวที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
ในโลกของเราเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ มากมาย ทั้งสิ่งมีชีวิตอย่างคนหรือสัตว์ และสิ่งไม่มีชีวิตอย่างต้นไม้ ภูเขา ทะเลอีกด้วย จึงมีความรู้เกี่ยวกับโลกนี้อยู่มากมายเสียจนใช้เวลาทั้งชีวิตก็คงจำไม่หมดเลย วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเพิ่มพูนเกร็ดความรู้ใหม่เอง พวกเราจะได้มีความรู้รอบตัวเพิ่มขึ้นไปพร้อมๆ กัน ถ้าเรียนรู้เรื่องใหม่ทุกวันเป็นประจำเราอาจจะเป็นอัจฉริยะในอนาคตก็ได้ใครจะไปรุู้ 1. นกไม่ฉี่กันหรอก เพราะมันไม่มีท่อปัสสาวะนั่นเอง ดังนั้นใครที่เคยคิดว่านกฉี่ใส่ไม่มีจริงนะจ๊ะ 2. ในมะเขือม่วงก็มีสารนิโคตินเหมือนกัน แต่มีอยู่น้อยนิดเท่านั้น เทียบกับบุหรี่ไม่ติดเลย 3. เด็กทารกไม่สามารถฝันได้ นักประสาทวิทายาเชื่อว่าคนเราจะเริ่มฝันได้ตอนที่อายุ 4-5 ปีแล้ว 4. ดวงดาวสามารถทำลายดาวเคราะห์ที่เข้าไปใกล้มันมากเกินไปได้ ดีนะที่โลกเราไม่มีดวงดาวรอบๆ 5. เต่าก็สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองได้เหมือนกับคนนั่นแหละ สัตว์บางชนิดอย่างช้างและสิงโตทะเลเองก็เช่นกัน 6. แมงกะพรุนระเหยเป็นไอได้ เนื่องจากร่างกายแมงกะพรุนประกอบด้วยน้ำกว่า 98 เปอร์เซนต์เลย ถ้ามันถูกแดดเผาจนระเหยไปก็แทบจะไม่เหลืออะไรเลยนั่นเอง 7. เราสามารถรับประทานทองคำได้ แต่เครื่องประดับทองคำทั่วไปมีแร่ที่กินไม่ได้ผสมอยู่ด้วย อย่าเผลอลองกินล่ะ 8. เจ้าจ๋อก็ขัดฟันเหมือนกันนะ พวกมันมักจะใช้ขนนกหรือใบหญ้าแทนไหมขัดฟัน จะได้รักษาความสะอาดช่องปากและยิ้มสวยด้วย 9.…
-
บริษัทออกแบบลองทำตามใจลูกค้าทุกอย่าง และนี่คือผลงานที่ได้ออกมา โดนใจเอ็งมั้ยล่ะ!?
โฆษณาที่เราเห็นตามหน้าจอทีวีหรือโปสเตอร์ข้างถนนของผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้น มักจะมาจากนักออกแบบ เอเจนซี่ หรือถ้าใครกลัวไม่ถูกใจ ก็อาจจะออกแบบด้วยตัวเอง แต่การที่ลูกค้าให้นักออกแบบหรือเอเจนซี่ออกแบบให้ นั่นหมายความพวกเขาต้องเชื่อมั่นในไอเดียและฝีมือของคนคนนั้น เพราะไม่อย่างนั้น อาจเกิดความขัดแย้งระหว่างลูกค้ากับผู้ออกไปแบบได้ อย่างทวิตล่าสุดของสินค้า Nissin Cup Noodles ในประเทศญี่ปุ่น ที่เผยให้เห็นความวิบัติของภาพโฆษณา เมื่อนักออกแบบยอมทำตามทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ นี่คือภาพโฆษณาที่นักออกแบบทำให้กับบริษัท Nissin Cup Noodles ในญี่ปุ่น ในทวิตดังกล่าว ทางนักออกแบบได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความว่า “เราพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดบางอย่างที่ลูกค้าติมา แต่พวกเขาบอกว่ามันยังไม่เจ๋งพอ” จากภาพต้นฉบับที่นักออกแบบส่งให้ลูกค้าครั้ง ถูกลูกค้าติอย่างละเอียดแทบทุกจุด แน่นอนนักออกแบบไม่มีทางเลือก สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือ ทำตามความต้องการของลูกค้า แล้วดูสิ๊ ผลจะออกมาเป็นยังไง? สิ่งที่ทางบริษัทตอบกลับมาหลังเห็นภาพที่นักออกแบบส่งมาให้ ส่งไปรอบแรก Nissin Cup Noodles ติดมาหลายอย่างเลย เช่น ผมดำมันให้ความรู้สึกเหมือนหมึกสีดำทั่วไป เปลี่ยนให้มันมีความรู้สึกเข้าถึงชีสหน่อย ให้นางแบบยิ้มมากกว่านี้หน่อย ทำพื้นหลังที่ให้ความรู้สึกแบบฟาร์มหน่อย หรือ โชว์สินค้าให้เด่นกว่านี้ เป็นต้น . และนี่คือการแก้ไขครั้งแรก หลังจากที่โดนติมา…
-
โผล่อีกราย… ชายสิงคโปร์ผู้บริโภคซาชิมิ กลายเป็นแหล่งเพาะพันธ์ุพยาธิตัวตืดยาว 2.8 เมตร!!
บนโลกนีี้มีของอร่อยๆ สำหรับมนุษย์เราอยู่อย่างมากมายทั้งหมู เห็ด เป็ด ไก่ต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องนำมาผ่านกรรมวิธีปรุงให้สุกเพื่อให้มีความปลอดภัยแก่ร่างกาย รวมทั้งเพิ่มความโอชะให้กับอาหารประเภทนั้นๆ ด้วย ทว่าสำหรับบางคนนั้น อาหารดิบๆ กลับกลายเป็นอาหารชั้นเลิศ เราจึงเห็นเมนูของดิบๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย โดยในบ้านเราก็มีทั้งลาบดิบ กุ้งเต้นหรืออื่นๆ อีกมากมาย แต่ก็ไม่ใช่แต่เฉพาะกับประเทศไทยเท่านั้น เพราะว่าในต่างประเทศก็มีการทานของดิบที่ว่านี้เช่นกัน เช่น ปลาดิบ (ซาซิมิ) ก็เคยมีให้เห็นกันอย่างละลานตา ซึ่งก็เป็นที่รู้กันดีว่าอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงให้สุกนั้นมีอันตรายมากมายซ่อนอยู่ มันอาจจะทำให้เราปวดท้อง อาหารเป็นพิษหรือมันอาจจะทำให้มีเชื่อโรคเข้าไปเติบโตในร่างกายของเราได้ เหมือนกับในเคสนี้ที่มีนายแพทย์พบพยาธิตัวตืดที่มีความยาวถึง 2.8 เมตรอยู่ในร่างกายของมนุษย์!! พยาธิตัวตืดที่ค้นพบในร่างกายของชายคนหนึ่ง เหตุการณ์สยองพองเกล้าครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลทั่วไปสิงคโปร์ (SGH) เมื่อทางทีมแพทย์ได้กล่าวว่าพวกเขาได้นำพยาธิตัวตืดออกจากร่างของชายคนหนึ่งผ่านทางรูทวารหนัก โดยพยาธิที่นำออกมานี้พวกเขากล่าวเอาไว้ว่า เมื่อนำมาเรียงต่อกันจะมีความยาวมากถึง 2.8 เมตรเลยทีเดียว แต่กระนั้นชายผู้ป่วยคนดังกล่าวก็ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นกับตัวของเขาทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่จริงแล้วพยาธิที่ว่านี้อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และอาจมีอันตรายจนถึงชีวิตได้ ซึ่งสิ่งที่ทำให้เขามาพบแพทย์ก็เป็นเพราะ เขาสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างเล็ดลอดออกมาทางรูทวารของเขา จึงได้มาปรึกษากับแพทย์จนในที่สุด อร่อยอย่างนี้ ต้องระวังกันนะจ๊ะ สำหรับสาเหตุ ยังไม่แน่ใจว่าการติดเชื้อพยาธิเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากการทดสอบไม่สามารถสรุปได้ แต่พยาธิชนิดนี้จะสามารถพบได้ในเนื้อหมู เนื้อวัว…
-
จากคลิปวิดีโอ “หนูอาบน้ำ” ถูสบู่อย่างเมามัน นำไปสู่ดราม่าออนไลน์ ประเด็นทารุณสัตว์
ว่ากันว่าพวกลิงนั้นถือเป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับมนุษย์เรามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของกะโหลกศีษะ หรือท่าทางการเดินเองก็ตาม แต่ถ้าหากคุณได้รู้จักกับเจ้าหนูตัวนี้ล่ะก็ บางทีอาจจะไม่ได้มีแค่ลิงเท่านั้นที่มีลักษณะคล้ายกับพวกเรา!! คลิปวิดีโอของเจ้าหนูน้อยตัวหนึ่งที่กำลังอาบน้ำถูสบู่อย่างเพลิดเพลิน ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์เมื่อไม่นานมานี้ ได้รับความนิยมจากผู้ชมอย่างมาก โดยมีผู้เข้าชมความน่ารักของมันมากกว่าหลักล้านไปแล้ว นอกจากความน่ารักน่าชังของมันแล้ว การโชว์อาบน้ำของมันครั้งนี้ยังดูคล้ายกับมนุษย์เราไม่มีผิดเลยอีกด้วย เรียกได้ว่าถ้าไม่บอกว่านี่คือหนูอาจจะนึกว่าเป็นคนแอบใส่ชุดหนูเลยก็ว่าได้ คุณ Jose Correa ผู้อ้างตัวเป็นเจ้าของคลิปวิดดีโอดังกล่าวเผยว่า ในระหว่างที่เขากำลังจะอาบน้ำในห้องน้ำ เขาก็ต้องพบกับภาพที่น่าทึ่งไม้น้อยเลยทีเดียว เมื่อเจ้าหนูน้อยตัวนี้ปรากฏตัวต่อหน้าเขา “เขาเหมือนกับมนุษย์เลย ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ ผมถ่ายคลิปวิดีโอประมาณ 30 วิ ก่อนที่มันจะหนีไป ผมคิดว่าบางทีมันอาจจะอยากทำความสะอาดร่างกายเหมือนเราบ้างก็ได้” ชายวัย 36 ปีผู้อ้างว่าเป็นเจ้าของคลิปวิดีโอให้สัมภาษณ์ แบบนี้เห็นทีเราต้องมองแกใหม่แล้วสินะเจ้าหนู!? ไปชมความน่ารักน่าชังของมันได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย.. แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เราเห็นกันนั้นกลับไม่ใช่หนู แต่มันคือตัว Pacarana หนึ่งในตระกูลสัตว์ฟันแทะสีน้ำตาลที่พบเห็นได้ในทวีปอเมริกาใต้ “ด้วยลักษณะหัวที่ใหญ่ ยืนสองเท้า แขนและเท้ามีความยืดหยุ่น หางสั้นแข็ง และมีสีขนที่สม่ำเสมอทั่วตัว น่าจะระบุได้ว่าเป็นตัว Pacarana” Dallas Krentzel นักชีววิทยาด้านวิวัฒนาการ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ Newsweek และในพฤติกรรมน่ารักที่เราเห็นกันนั้น…
-
12 ภาพย้อนอดีต Thomas Brodie-Sangster ผ่านไปแล้ว 17 ปีก็ยังน่ารักเหมือนเดิม
วินาทีนี้คงไม่มีใครฮอตติดลมบนเท่ากับพ่อหนุ่มน้อยหน้ามน Thomas Brodie-Sangster คนนี้อีกแล้ว แต่ถ้าพูดชื่อไปก็คงไม่มีใครคุ้นสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเอ่ยชื่อของ นิวท์ จากภาพยนตร์เรื่อง Maze Runner ล่ะก็เป็นต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน ด้วยใบหน้าที่หล่อ ขาว จิ้มลิ้ม น่าเอ็นดู๊ น่าเอ็นดูของพี่แกทำให้เหล่าสาวๆ อยากจะวิ่งตามกันทั้งโลก แต่ภายใต้ใบหน้าหล่อๆ ของเขานั้น รู้หรือไม่ว่าตอนนั้นพี่เขามีอายุ 27 ปี แล้วนะ Thomas เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1990 แต่ด้วยหน้าอันใสกิ๊กแบบนี้ต้องมีคนทายอายุผิดกันอย่างแน่ๆ ก็พี่แกเล่นหน้าไม่เปลี่ยนเลยตั้งแต่เข้าวงการแรกๆ จนกระทั่งถึงตอนนี้ ปี 2001 The Miracle of the Cards ปี 2003 Love Actually ปี 2005 Nanny McPhee ปี 2007 The Last Legion ปี…
-
คุณแม่เดือด เมื่อ ‘ฆาตกร’ ที่ฆ่าลูกชายตนเอง หันมาหัวเราะเย้ยใส่ ขณะที่อยู่ในศาล…
เมื่อวันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2018 Elizabeth Marie Wren ผู้เป็นแม่ของเด็กชายสองคนที่ถูกฆาตกรรม ได้ถูกนำตัวออกจากห้องพิจารณาคดีของรัฐเคนทักกี สหรัฐอเมริกา เนื่องจากเธอเกิดอาการโมโหรุนแรง และพุ่งตัวเข้าไปยังผู้ต้องหาที่เชื่อว่าเป็นผู้ร้ายในคดี Maurice ‘Reece‘ Gordon อายุ 16 ปี และ Larry Ordway อายุ 14 ปี ทั้งคู่เป็นบุตรชายของ Elizabeth ร่างของพวกเขาทั้งสองถูกพบในบ้านร้างแห่งหนึ่ง โดยสภาพศพนั้นถูกเผาจนไหม้เกรียม จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2018 Brice Rhodes ชายวัย 27 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดี ก็ได้เข้ารับการพิจารณาคดี พร้อมกันกับ Elizabeth ที่เข้าร่วมรับฟังอย่างสงบ . จากนั้นราว 20 นาที ขณะที่ผู้ต้องหากำลังถูกนำตัวออกจากห้องพิจารณาคดีนั้น ตามรายงานบอกว่า เขาหันหน้ากลับมามองที่ Elizabeth พร้อมทั้ง “หัวเราะ” ออกมา ทำให้หญิงสาวพุ่งตัวเข้าหา Rhodes…
-
คู่รักกับสภาพเท้าอันเน่าเปื่อย ผลพวงจาก ‘พยาธิปากขอ’ สิงเท้าเปล่าบนชายหาด!!
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] วันหยุดทั้งทีใครก็ต้องอยากพักผ่อนให้ชื่นใจ แต่บางครั้งการพักผ่อนนั้นก็ไม่ได้ตามมาด้วยความชื่นใจเสมอไปหรอก มันอาจมีบางสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ตามมาด้วย และอาจทำให้วันหยุดของคุณเลวร้ายลงสุดๆ เลยก็เป็นได้ อย่างเช่นคู่รักหนุ่มสาวชาวแคนาดาคู่นี้ Katie Stephens วัย 22 ปีและ Eddie Zytner วัย 25 ปี ทั้งคู่ได้ใช้ช่วงเวลาวันหยุดด้วยกันที่สาธารณรัฐโดมินิกัน ณ รีสอร์ตแห่งหนึ่ง และได้ไปเดินเล่นเท้าเปล่าบนชายหาดใน Punta Cana แต่หลังจากที่เขากลับบ้านมาในช่วงเดือนมกราคม 2018 กลับรู้สึกคันบริเวณเท้าของพวกเขา ขณะนั้นพวกเขาคิดว่าน่าจะเป็นเพราะแมลงกัด เมือพวกเขาไปพบแพทย์ก็ไม่มีแพทย์คนไหนทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งเข้าพบแพทย์คนที่ 3 ที่พบว่า “พยาธิปากขอ” อยู่ในเท้าของพวกเขา . หลังจากนั้น พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยา “Ivermectin” ซึ่งหาไม่ได้ในประเทศแคนาคา ทำให้พวกเขาต้องเดินทางไปถึงสหรัฐอเมริกาเพื่อหายาดังกล่าว และอาการของพวกเขาดีขึ้นอย่างช้าๆ . พยาธิปากขอนั้นสามารถเข้าสู่ร่างกายคนได้หากคนเราไปสัมผัสโดนพื้นดินหรือทรายที่ปนเปื้อนอุจจาระของสัตว์ที่มีพยาธิติดอยู่ ทางที่ดีควรป้องกันโดยการ สวมรองเท้าหากออกไปข้างนอก ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณให้ดี เช่น…
-
นักวิทย์สามารถไขรหัสลับอายุกว่า 500 ปี จากคัมภีร์ลึกลับที่สุดในโลกได้สำเร็จแล้ว
Voynich Manuscript หรือว่า “ข้อเขียนวอยนิช” นั้นถือว่าเป็นหนังสือโบราณที่เขียนด้วยอักษรและภาษาที่ไม่มีใครรู้จัก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็ได้พยายามอ่านมันมาเป็นเวลาหลายปี ขณะนี้มีข่าวออกมาว่า ผู้เชี่ยวชาญได้เริ่มถอดความข้อเขียนวอยนิชออกแล้ว ทำการศึกษาโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอังกฤษ ซึ่งเชื่อว่าภาษาที่เขียนในหนังสือเล่มนี้นั้นเป็นภาษาฮิบรู หนังสือเล่มนี้ถูกนำเข้ามาในโปแลนด์ตั้งแต่ปี 1912 โดยนักสะสมหนังสือหายากชื่อว่า Wilfrid Voynich เนื้อหาและที่มาของหนังสือนั้นยังไม่มีใครทราบ แต่หลายคนเชื่อว่ามันถูกเขียนขึ้นในอิตาลีช่วงยุคสมัยฟื้นฟูศิลปะและวัฒนธรรม มีรายงานจาก Metro ว่า Greg Kondrak หัวหน้าผู้ศึกษาข้อเขียนวอยนิชได้กล่าวว่า “มันถูกเขียนออกมาเป็นประโยคที่มีหลักไวยากรณ์ มันอาจจะดูแปลกๆ แต่มันสมเหตุสมผล” กลุ่มผู้ศึกษาลองใช้โปรแกรมถอดรหัสทางสถิติเพื่อตีความประโยคแรกของข้อเขียน ซึ่ง Kondrak ออกมาเผยว่ามีความถูกต้องถึงร้อยละ 97 โดยทางกลุ่มผู้ศึกษาเองได้ออกมายอมรับว่าพวกเขาสามารถจำแนกศัพท์บางคำได้แล้ว เช่นคำว่า ชาวนา แสง และอากาศ เป็นต้น และเชื่อว่าผู้เชี่ยวชาญภาษาฮิบรูจะสามารถนำมันไปตีความได้เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มีคนบอกว่าข้อเขียนวอยนิชนั้นเป็นของที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อหลอกลวง แต่จากการวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์แล้วพบรูปแบบของภาษาจาก ศตวรรษที่ 15 ที่ไม่น่าปลอมแปลงขึ้นมาได้ เป็นการค้นพบที่น่าอัศจรรย์มาก หวังว่าในวันข้างหน้าจะสามารถถอดความเนื้อหาของมันได้นะครับ อาจจะมีความลับอะไรซ่อนอยู่ในนั้นที่ทำให้มนุษยชาติต้องสะทกสะท้านก็เป็นได้ ที่มา: Ladbible และ…
-
27 ภาพวันที่แสนเลวร้ายของเหล่ามนุษย์ เห็นแล้วอยากเดินเข้าไปปลอบ แต่ก็ทำได้เพียงนั่งมอง
ในหนึ่งวันของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน แม้ว่าเราจะมีเวลา 24 ชั่วโมงเหมือนกัน บางคนพบเจอแต่เรื่องดีๆ แต่บางคนนั้นกลับพบเจอแต่เรื่องที่โชคร้ายสุดๆ ถึงแม้วันนี้จะพบเจอแต่โชคร้าย ก็จงคิดซะว่ามันมีเพียงแค่ 24 ชั่วโมง เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เหมือนดั่งบุคคลเหล่านี้ที่พบเจอเรื่องแย่ๆ แต่พวกเขาก็ยังยิ้มได้ แล้วคุณจะรู้ว่า คุณไม่ได้อยู่เพียงแค่คนเดียวบนโลกนี้ ไม่รู้จะบรรยายระดับความซวยได้อย่างไร ถึงแม้จะเจอเรื่องแย่แค่ไหนก็อย่าร้องไห้ เพราะมันจะยิ่งซวยกว่าเดิม เค้าเรียกว่าธรรมชาติลงโทษ จะไปช่วยเหลือคนอื่นแต่ดันซวยซะเอง คุณตำรวจ เรื่องเจ็บช้ำของเหล่าคนเล่นหวยทุกคน หวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของเธอนะ จากจะได้เกรด A ต้องกลายมาเป็น D ในพริบตา ความซวยของมนุษย์ขี้ลืม วันนี้ไม่ต้องไปโรงเรียนแล้ว ภาวนาให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย น่าจะอ่านป้ายเตือนตั้งแต่แรก มันช่างเจ็บปวดเสียเหลือเกิน คนเราอะไรมันจะซวยขนาดนั้น ต้องไปถามพ่อหนุ่มคนนี้ แบบนี้ประกันรับเคลมหรือเปล่านะ โถ่ แม่หนู …
-
22 ภาพธรรมชาติของโลกนี้ บางสิ่งก็สวยงามตื่นตา บางสิ่งก็ชวนให้ขนลุก แบบบอกไม่ถูก!!
ธรรมชาติสร้างสรรค์สิ่งสวยงามให้กับโลกใบนี้เพื่อให้มนุษย์ได้ดูแล แต่ภายใต้สิ่งสวยงามที่ได้สร้างขึ้นนั้นก็แฝงไปด้วยอันตรายและความน่ากลัวที่ซ่อนไว้อยู่ เปรียบดั่งกุหลาบงามที่ย่อมมีหนามไว้ป้องกันตัว ธรรมชาติจึงต้องสร้างสิ่งที่อันตรายเอาไว้ป้องกันความงามที่แสดงออกไป ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้มี 2 ด้าน เสมอ อยู่ที่ว่าเราจะมองมุมไหนมากกว่า เหมือนดังภาพจากธรรมชาติต่อไปนี้ มดแดงกำลังจะฉลองอาหารเย็นมื้อใหญ่ของพวกมัน ผล Snapdragons ที่เมื่อแห้งแล้วจะดูเหมือนกระโหลกมนุษย์ การต่อสู้ระหว่างกบและแมงมุม ผู้แพ้ต้องตกเป็นอาหารแก่ผู้ชนะ การอพยพของฝูงมดเมื่อตอนน้ำท่วม ไม่ใช่แมลงสาบที่จะครองโลก การสร้างรังดักเหยื่อของแมงมุม ธรรมชาติสร้างสิ่งเหล่านี้เพื่อความสวยงามของโลก แต่มองอีกมุมหนึ่งมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน น้ำตกลาวา อะไรเอ่ย ซ่อนอยู่ใต้น้ำที่มืดมิดนั้น ธรรมชาติสามารถทำลายได้ทุกสิ่ง เขากวางเอลค์ในช่วงที่ลอกเขา ดูแปลกตาไปอีกแบบ เจ้าปลาตัวนี้อาจจะโดนอะไรกัดมา กบตัวนี้ไม่ต้องการที่จะกลายเป็นอาหาร ท้องฟ้าไม่เหมือนกันเสมอไป ในแม่น้ำมีปลาแบบนี้อยู่จริงๆ เมื่อฟ้าผ่าเข้ากลางต้นไม้อย่างจัง อาหารอันโอชะของงู ร่องรอยของนกฮูกที่ประทับลงบนหิมะ แมลงที่เหมือนใบไม้มากๆ …
-
6 อดีตสาวๆ จากวงไอดอลชื่อดัง ที่หลังจากจบการศึกษาก็ผันตัวเข้าสู่วงการ AV ญี่ปุ่น
เมื่อพูดถึงไอดอลญี่ปุ่นคงจะปฎิเสธไม่ได้เลยว่า AKB48 จะต้องเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงอย่างแน่นอน แต่ทว่าด้วยความที่วงไอดอลดังกล่าวนั้นก่อตั้งมาเป็นเวลานานมากแล้วจึงทำให้ปัจจุบันสมาชิกในวงจึงมีจำนวนที่เยอะสุดๆ แถมยังแตกหน่อออกไปเป็นตระกูลอื่นๆ เช่น NMB48 และ SKE48 เป็นต้น นอกจากนั้นหลายคนที่เลิกเป็นไอดอลหรือที่เราเรียกว่าจบการศึกษาจากวงไอดอล ก็ล้วนได้ใบเบิกทางเข้าสู่วงการบันเทิงญี่ปุ่นหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นวงการนักแสดง วงการนางแบบหรือถ่ายกราเวีย แต่ที่จะเห็นโดดเด่นสุดๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นวงการ AV นั่นเอง ว่าแต่เกริ่นมาขนาดนี้คงอยากจะรู้กันแล้วสิว่ามีสมาชิกจากวงไอดอลคนไหนที่หันเข้าสู่วงการนี้กันบ้าง แล้วพวกเธอมาจากรุ่นไหนและมีชื่อในวงการว่าอะไร ไม่ต้องห่วงเดี๋ยว #เหมียวมู่ทู่ คนดีคนเดิมจะชี้เป้าให้เอง!! 1. Nakanishi Rina หรือชื่อในวงการ AV ว่า Yamaguchi Riko เริ่มกันที่คนแรกกับ Rina ซึ่งเป็นสมาชิก AKB48 ตั้งแต่ยุคก่อตั้ง เธอประกาศจบการศึกษาในปี 2008 จากนั้นก็ประกาศเข้าสู่วงการ AV ในเวลาต่อมาไม่นาน ทว่าหลังจากมีผลงานอยู่ได้สักพักเธอก็ต้องอำลาวงการไปเพราะเธอไปแต่งงานมีลูกนั่นเอง 2. Yonezawa Rumi หรือชื่อในวงการ AV ว่า Shirota Rika มาต่อกันที่อดีตไอดอลคนที่สองกับ Rumi โดยเธอคนนี้นั้นเป็นมาชิกวง…
-
หนุ่มข้ามเพศ เล่าถึงการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต พร้อมเตรียมเข้ารับการแปลงเพศ
เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจของ Christopher Rhodes หนุ่มข้ามเพศผู้มีต้นกำเนิดเป็นผู้หญิง ที่ยอมผ่าตัดแปลงเพศตัวเองเพื่อคู่รักของเขา การตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่นี้ทำให้คู่รักของเขาอย่าง Anna ถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว ชายหนุ่มวัย 25 ปีจากเมือง Austin รัฐเท็กซัส อดีตหญิงสาวผู้เริ่มค้นพบตัวตนของเธอเมื่อตอนอายุ 19 ปี แต่ยังไม่กล้าแสดงออกจนกระทั่งอายุ 22 ปี Christopher และคู่หมั้นของเขาพบกันครั้งแรกในตอนที่ เขามีรูปร่างเหมือนกับผู้ชายแล้ว แต่ในตอนนั้นฝ่าย Christopher ยังไม่ได้ทำการผ่าตัดแปลงเพศแต่อย่างใด ภาพของ Christopher ตอนที่เขาย้ายมานิวยอร์กใหม่ๆ และในตอนนั้นเธอใช้ชื่อว่า Chloe ก่อนที่จะตัดสินใจแปลงเพศเป็นผู้ชาย “เราพบกันหลังจากที่ทำงานด้วยกัน และตอนนั้นผมแต่งตัวเป็นผู้ชาย แต่ยังไม่ได้แปลงเพศ หลังจากที่ออกเดตกันได้ประมาณ 1 เดือน ผมบอกเธอว่าผมอยากเปลี่ยนสรรพนาม และให้เธอเรียกผมว่า Chris” Christopher ให้สัมภาษณ์ หลังจากที่คบหาดูใจกันมาได้ซักพัก ตอนนี้ทั้งสองกำลังวางแผนที่จะแต่งงานกัน และ Chris ก็ให้สัมภาษณ์ว่า คู่หมั้นของเขาคือส่วนที่มาเติมเต็มชีวิต และเขาไม่สามารถอยู่ได้เลยถ้าหากขาดเธอไป “Anna ยอมรับในส่งที่ผมเป็น และผมไม่สามารถนึกภาพได้เลยว่าจะเดินต่อไปในวันข้างหน้าได้อย่างไรถ้าหากไม่มีเธอ” Christopher กล่าว ภาพของทั้งสองในวันที่พบกันครั้งแรก สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Chris ตัดสินใจเข้ารับการแปลงเพศนั่นก็คือความไม่พอใจในรูปร่างของตัวเอง หรือที่เรียกว่าสภาวะ Dysmorphia นั่นเอง…
-
หนุ่มฮีโร่ช่วยเจ้าหมาที่ลิ้นติดอยู่ที่ฝาท่อเนื่องจากอากาศที่หนาว ค่อยๆ เอาน้ำหยอดจนหลุด
ตอนเด็กๆ พวกเราคงเคยลองเล่นซน เอาลิ้นไปแตะๆ กับช่องแช่แข็งแล้วลิ้นดันไปติดกับภาชนะอะไรสักอย่างจนเอาลิ้นออกไม่ได้ไหม? พวกหมาๆ เองก็มีโมเมนต์แบบนี้เช่นกัน เมื่อเจ้าหมาตัวหนึ่งในเมือง Vladivostok ประเทศรัสเซียได้เผลอไปเลียฝาท่อระบายน้ำที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งในสภาพอากาศที่มีอุณภูมิถึง -15 องศา ทำให้ลิ้นของมันแข็งติดอยู่กับฝาท่อ แต่โชคดีที่มีพลเมืองใจดีได้มาพบเจ้าหมาผู้น่าสงสารตัวนี้ที่ลิ้นแข็งติดอยู่กับฝาท่อ เขาจึงรีบนำขวดน้ำค่อยๆ เทใส่ลิ้นของเจ้าหมาเพื่อให้อุณหภูมิของน้ำช่วยให้ลิ้นที่ติดของมันหลุดออกมาได้ แต่ถึงจะเทน้ำจนหมดขวดลิ้นของเจ้าสุนัขก็ยังไม่หลุดออกมา เขาจึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนที่เดินผ่านไปมาก่อนที่ภาพจะตัดไป หลังจากที่ทุกอย่างจบลงและลิ้นของเจ้าหมาได้หลุดออกมาเป็นอิสระแล้ว ชายหนุ่มพลเมืองดีผู้นี้ก็ได้เข้าไปลูบหัวยินดีกับเจ้าหมาที่หลุดออกมาได้อย่างปลอดภัย และดูเหมือนว่าลิ้นของมันจะไม่ได้รับการบาดเจ็บร้ายแรงใดๆ ด้วย ไปชมคลิปวิดีโอเจ้าหมาน่าสงสารที่ถูกช่วยเหลือโดยมนุษย์ใจดีกันเลย เห็นแล้วไม่รู้ว่าจะขำหรือสงสารดี มันคงเจ็บน่าดู โชคดีที่มีคนมาช่วยไว้นะเจ้าหมา ที่มา Dailymail
-
คุณแม่ปล่อยให้ลูกน้อยวัย 9 เดือนหิวจนเสียชีวิต หลังจากตัวเองออกไปเที่ยวเป็นอาทิตย์
ปัญหาคุณแม่วัยใสนั้นเป็นปัญหาที่ถือว่าค่อนข้างร้ายแรงที่ไม่ได้มีอยู่แค่ในประเทศไทย ซึ่งบางทีอาจเป็นปัญหาความรุนแรงหรืออาจถึงขั้นเกิดการฆาตกรรมขึ้นมาได้เลย หากขาดการเตรียมตัวและวิธีการรับมืออย่างถูกต้อง Viktoria Kuznetsova คุณแม่วัยใสอายุ 17 ปีจากเมือง Rostov ประเทศรัสเซีย ผู้ก่อเหตุทอดทิ้งลูกของเธอให้อดอาหารจนเสียชีวิต เรียกเสียงก่นด่าทั้งจากคนในชั้นศาลและบนอินเตอร์เน็ตอย่างหนัก เมื่อคดีความของเธอเข้ามาถึงมือของผู้พิพากษา ทางศาลได้รับคดีความว่าผู้ก่อเหตุวัย 17 ปีได้วางแผนฆ่า Egor ลูกตัวเองวัย 9 เดือนเมื่อเธอเริ่มเข้าเรียนที่วิทยาลัย เธอกล่าวว่าลูกของเธอทำให้เธอต้องตื่นขึ้นมาตอนดึกๆ และทำให้เธอไม่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ หลังจากที่พ่อของเด็กถูกเรียกตัวกลับเข้ากรมทหาร Kuznetsova ก็ได้นำลูกของเธอไปไว้บนรถเข็นเด็ก เธอล็อกประตูห้องและได้ออกไปหาเพื่อนๆ หลังจากนั้นเธอก็ได้ใช้เวลาทั้งสัปดาห์ในการเที่ยวและพักอาศัยอยู่ในหอพักของเพื่อน ในขณะที่ลูกของเธอถูกปล่อยให้อดอาหารอย่างช้าๆ จนเสียชีวิต เธอกลับมาที่ห้องเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเพื่อให้น้ำแก่สุนัขของเธอ ผู้พิพากษากล่าวว่า “สาเหตุการเสียชีวิตของ Egor วัย 9 เดือนคือการขาดน้ำและอาหาร เมื่อตอนที่พบศพในบ้านของ Viktoria นั้นเจ้าหนู Egor ยังคงลืมตาอยู่ด้วยความหวาดกลัว จากการสืบสวน ร่างกายของเด็กนั้นซูบผอมจนเหลือแค่หนังและกระดูก ในขณะที่อดอาหารและน้ำ อวัยวะภายในของเขาก็ค่อยๆ หยุดทำงานไปทีละส่วน” มีรายงานกล่าวว่า Egor เคยถูก Viktoria ส่งตัวไปยังสถานสงเคราะห์เมื่อมีอายุเพียงแค่…
-
‘Gay Glow-Up’ ชาวเน็ตร่วมแชร์การเผยตัวตนในสิ่งที่ตัวเองเป็น เติบโตและเฉิดฉายได้อย่างภาคภูมิ
สมัยก่อนการที่คุณเป็นรักร่วมเพศนั้นถือว่าเป็นความผิดปกติทางจิตอย่างหนึ่ง ต้องได้รับการรักษา และถ้าคุณเปิดเผยตัวตนคุณอาจถูกถูกลงโทษจากทั้งทางกฎหมาย และทางสังคมด้วย แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่เมื่อก่อน เพราะปัจจุบันสังคมที่เปิดกว้างขึ้น ต่างเริ่มยอมรับบทบาทของชาวรักร่วมเพศได้แล้ว แต่ก็ยังมีคนที่ไม่กล้าที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง เพราะเหตุผลต่างๆ นานา เมื่อเป็นเช่นนั้น ชาวเน็ตจึงมีการรณรงค์เพื่อให้คนเหล่านั้นกล้าที่เปิดเผยตัวตนจริงๆ ออกมา ด้วยแคมเปญ Gay Glow Up ที่จะให้ชาวเน็ตแชร์ภาพที่ก่อนจะเปิดตัวและหลังเปิดตัวว่าเป็นพวกรักร่วมเพศ ว่าพวกเขาสามารถเฉิดฉายแสงได้ขนาดไหนหลังจากที่ยอมรับในตัวที่เค้าเป็น เพื่อเป็นการสร้างกำลังใจ และแรงบันดาลใจให้กับคนที่ยังกล้าๆ กลัวๆ ในการเป็นตัวของตัวเอง เราไปชมกันดีกว่าว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง “ขอบคุณวิดีโอแต่งหน้าในยูทูบ การตัดผม และรักร่วมเพศ” “ตอนอายุ 16 vs อายุ 26 เปรียบเหมือนวง Greenday vs Madonna“ “ฉันทิ้งแฟนผู้ชาย ทิ้งผมยาว ทิ้งชุดเดรสไป และยอมรับว่าเป็นคนรักร่วมเพศ ตอนนี้ชีวิตฉันดีมากแถมฉันยังได้แฟนเป็นผู้หญิงด้วยนะ” “ฉันทำเป็นเพิกเฉยต่อตัวตนที่แท้จริงมาตลอด แต่ตอนนี้ฉันยอมรับว่าเป็นคนรักร่วมเพศ และฉันก็ภูมิใจกับมัน” “จากปี 2008 มาปัจจุบัน ฉันรู้สึกอึดอัดกับตัวเองมาตลอด แต่ตอนนี้ฉันภูมิใจที่เป็นคนรักร่วมเพศ” “ฉันมักเคยถูกเรียกว่าเป็นเด็กผู้ชายที่งุ่มง่ามและไม่ค่อยยิ้มแย้ม…
-
หนุ่มเจอสุนัข 2 ตัวกลางทะเลทราย เก็บมาเลี้ยง พาออกเดินทางไกลเกือบ 50,000 กม.
การพบกันระหว่างคุณ Jordan Kahana หนุ่มวัย 30 ปี กับเจ้าตูบแสนรักทั้งสองตัวของเขานั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เดือนธันวาคมปี 2016 ในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังขับรถผ่านทะเลทรายในเขตรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ชายหนุ่มพบพวกมันทั้งคู่อยู่ในสภาพที่ผอมโซ และกำลังขาดน้ำท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุยิ่งกว่าประเทศไทยในเดือนเมษายน คุณ Jordan ไม่รอช้า รีบพาเจ้าตูบทั้งสองไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน คุณ Jordan กับเจ้าหมาน้อยทั้งสองตัว ไม่นานหลังจากที่สุนัขทั้งสองถึงมือสัตวแพทย์ ความหวังในการอดชีวิตของพวกมันก็เพิ่มขึ้นมาอย่างทันที ในที่สุดจากน้องหมาที่กำลังจะขาดน้ำตายก็กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง Jordan ตัดสินใจรับพวกมันทั้งคู่ไว้ดูแล และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาทั้งสามก็กลายเป็นทีมที่แทบจะแยกจากกันไม่ได้เลย ไปกันเลยพรรคพวก!! และนอกจากจะดูแลพวกเจ้าตูบอย่างดีแล้ว สิ่งหนึ่งที่พวกเขาชอบทำร่วมกันนั่นก็คือการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ นั่นเอง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งคุณ Jordan และเจ้า Sedona กับ Zeus ก็ได้เดินทางเป็นระยะทางกว่า 48,000 กิโลเมตร ผ่าน 35 รัฐไม่ว่าจะเป็นรัฐแคลิฟอร์เนีย โคโลลาโด หรือแอริโซนา พวกเขาก็เดินทางไปสัมผัสความสวยงามมาหมดแล้ว Kelso Dunes ในรัฐแคลิฟอร์เนีย อุทธยานแห่งชาติ Yosemite รัฐแคลิฟอร์เนีย วันพักผ่อนสบายๆ…
-
คู่รักไปเยี่ยมศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ เจอเจ้าแมวอ้วนกระโดดกอดซะแน่น เลยต้องช่วยหาบ้านให้
กลายเป็นเรื่องราวน่ารักๆ อีกเรื่องหนึ่งที่คู่รักชาวเมริกันออกมาแชร์เรื่องราวของการรับเลี้ยงแมวจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ในรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม 2018 ที่ผ่านมา Andy Brumagen และภรรยา Jessica Parkenได้เดินทางไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ คู่สามีภรรยามีความตั้งใจไว้ว่าจะหาสัตว์มาเลี้ยงสักตัวหนึ่ง แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้มาพบเจอกับเจ้าแมวตัวนี้ สามีภรรยาเดินชมศูนย์ช่วยเหลืออยู่สักพักและกำลังตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงมันสักตัวหนึ่ง ทันใดนั้นก็มีเจ้าแมวอ้วนพุ่งตัวเข้าหาเธอ พร้อมกอดเธอไว้อย่างแน่น มันใช้กรงเล็บจิกเบาๆ เพราะไม่อยากออกไปไหน Jessica ตกใจจนไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้ลูบหัวเจ้าแมวอย่างแผ่วเบา ซึ่งดูได้ชัดเลยว่ามันชอบมากๆ และกอดเธอแน่นขึ้น ไม่ยอมปล่อยไปไหน การอ้อนของเจ้าแมวอ้วนทำให้เธอเกือบจะใจอ่อน แต่ทว่าด้วยข้อจำกัดที่บ้านของเธอกำลังมีเด็กวัยหัดเดิน ประกอบกับข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าเจ้าแมวตัวนี้ไม่ชอบเด็กและมันก็อยู่ร่วมกับสัตว์ตัวอื่นไม่ได้ จึงต้องตัดใจปล่อยมันไป เธอบอกว่าเธอเสียใจที่รับเลี้ยงเจ้าแมวตัวนี้ไม่ได้เพราะที่บ้านของเธอมีแมวแก่อายุ 19 ปีอีก 1 ตัวและยังมีเด็กวัยหัดเดินอีกหนึ่งคน จึงทำให้ความคิดที่จะรับเลี้ยงเจ้าเหมียวตัวนี้ต้องดับลง แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ยังรู้สึกรักเจ้าแมวตัวนี้จึงได้ช่วยเหลือในการประกาศหาบ้านให้กับมันผ่านทางเฟซบุ๊ก เธอหวังว่าอาจจะมีคนที่จะยอมรับในตัวตนของมันและอยู่ร่วมกับเจ้าเหมียวได้ หลังจากที่เธอโพสต์ลงเฟซบุ๊กไม่กี่วันเธอก็ได้รับข่าวดีจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ว่า มีคนติดต่อเข้ามาขอรับเลี้ยงเจ้าอ้วนแล้ว ซึ่งมันทำให้เธอดีใจมากๆ เธอจึงเดินทางไปที่ศูนย์แห่งนั้นอีกครั้ง แล้วเธอก็พบว่ามีคนมากมายเข้ามาเยี่ยมเจ้าเหมียว มันกลายเป็นแมวที่เนื้อหอมที่สุดจากการมีคนมะรุมมะตุ้มเข้ามาดูความน่ารักของมัน แต่ในที่สุดมันก็ได้เจ้าของที่พร้อมจะดูแลมันตลอดไปแล้ว ที่มา lovemeow
-
ตาโตบาร์บี้ดอลล์… เด็กหญิง 8 ขวบชาวอิหร่าน กับดวงตาพราวเสน่ห์ สวยจนคนตามนับแสน!!
เด็กหญิง Mahdis Mohammadi อายุ 8 ขวบชาวอิหร่าน ผู้ที่เกิดมาพร้อมกับความงามบนใบหน้าที่หลายๆ คนยกย่องให้เธอเป็นเด็กหญิงที่สวยที่สุดในโลก ด้วยดวงตาที่กลมโต จมูกเป็นสัน พร้อมกับปากสีชมพูนิดๆ เป็นเด็กยังสวยขนาดนี้ โตมาจะสวยมากขึ้นขนาดไหนเนี่ย ด้วยดวงตาโตๆ สีดำสนิทพร้อมกับขนตาแบบธรรมชาติยาวเป็นแพทำให้ใบหน้าของหนูน้อยมีเสน่ห์สุดๆ ดูแล้วเหมือนตุ๊กตา น่ารัก น่าเอ็นดู นอกจากใบหน้าอันสวยงามแล้ว เหล่าแฟนคลับที่เข้ามาติดตามก็ยังประทับใจในนิสัยที่น่ารักไร้เดียงสาของน้องอีกด้วย ความน่ารักของน้องถูกถ่ายทอดโดยผู้ปกครองผ่านอินสตาแกรมที่ใช้ชื่อว่า mahdis_mohammadi91 ความน่ารักของเธอทำให้หลายๆ คนตกหลุมรักในความน่ารักของเธอตั้งแต่แรกเห็น เธอจึงกลายเป็นดาวโรงเรียนรุ่นจิ๋ว มีแฟนคลับมากมาย บ่อยครั้งเธอมักจะได้รับของขวัญจากเพื่อนๆ พี่ๆ ในโรงเรียน ทำให้คุณพ่อนั้นเกิดอาการหวงลูกสาวสุดๆ คุณพ่อจึงทุ่มเทตัวเองในการดูแลลูกสาว เกรงว่าความสวยของลูกสาวจะทำให้เธอเป็นอันตรายจึงทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้กับลูกสาว คอยเฝ้าระวังทุกฝีก้าวเลยทีเดียว ซึ่งมันก็ไม่แปลก ใครมีลูกสาวสวยมากๆ ก็ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยกันเป็นพิเศษ สวยจริงๆ ตาโตเหมือนใส่บิ๊กอาย น่ารัก น่ารัก ไร้เดียงสาสมวัย ขนตายาวเป็นแพ พ่อแม่ให้มาทั้งนั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่พ่อแม่แต่ละคนย่อมเป็นห่วงความปลอดภัยในลูก…
-
กลุ่มวีแกนบุกเดินประท้วงถึงร้านสเต็ก ตราหน้าคนกินเนื้อเป็นพวกรุนแรง ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด
กลุ่มชุมนุมวีแกนได้รวมตัวประท้วงในร้านสเต็กชื่อดังในใจกลางเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย พร้อมกับป้ายประท้วงและโทรโข่ง… ในเวลาประมาณ 18.30 น. เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2018 โดยผู้เข้าร่วมประท้วงมาจากกลุ่ม 2 กลุ่มที่รู้จักกันในนาม Melbourne Cow Save Animal Liberation Army และกลุ่ม Direct Action Everywhere ผู้เข้าร่วมการประท้วงทั้ง 35 คนที่เข้ามาประท้วงในร้านสเต็กเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับสัตว์ที่ตายไปแล้วที่กำลังถูกกินอยู่ว่า… “การฆ่าสัตว์ที่ไม่ได้อยากตายอย่างมีมนุษยธรรมนั้นไม่มีจริง” พร้อมกับถือป้ายและตะโกนผ่านโทรโข่งจากชั้นบนว่า “มันไม่ใช่อาหาร มันคือความรุนแรง” . ในขณะที่ผู้ประท้วงยืนตะโกนข้างๆ ลูกค้าที่มารับประทานอาหาร แต่พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านใดๆ ทั้งสิ้น และยังมีลูกค้าบางคนที่แอบยิ้มและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอผู้ประท้วงอีกด้วย หลังจากนั้นพวกเขาก็รับประทานอาหารต่อราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ตอนแรกนั้นพนักงานของร้านพยายามที่จะหยุดผู้ประท้วงที่หน้าประตู แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ผู้จัดการของร้านกล่าวว่า… “พวกเขามีคนนำ 2 คนที่มาพร้อมกับไมโครโฟนและตะโกนคำกล่าวชวนเชื่อซ้ำไปซ้ำมาด้วยเสียงที่ดังมากๆ พวกเราพยายามคุยกับลูกค้าเพื่อรักษาความสงบและบอกว่าตำรวจกำลังจะมาถึง” . “ลูกค้าส่วนหนึ่งไม่พอใจกับการประท้วงนี้อย่างมาก ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็หัวเราะขำขันกับสิ่งที่เกิดขึ้น” ผู้จัดการกล่าว และพูดถึงผู้นำการประท้วงว่าก่อนที่พวกเขาจะกลับไป พวกเขาได้ขู่เราว่า “แล้วพวกเราจะกลับมาอีก”…
-
จะเป็นอย่างไรเมื่อนักวาดการ์ตูนมืออาชีพ มาสอนวิธีการวาดภาพให้เรา ทำเอางงเป็นไก่ตาแตก
เราอาจเคยเห็นการวาดรูปในหลากหลายรูปแบบ บางคนก็อาจจะวาดโครงสร้างขึ้นมาก่อน บางคนก็เลือกที่จะวาดลวดลายลงไปเลยตั้งแต่เริ่มต้น แต่สำหรับนักวาดการ์ตูนชาวญี่ปุ่นคนนี้ เขากลับมีวิธีการที่เหมือนกับว่าเราจะทำตามได้ง่ายๆ แต่ก็รู้สึกว่ามันยากซะเหลือเกิน ผลงานวิธีการวาดรูปของเขาได้ถูกแชร์ลงไปในเว็บไซต์ 9GAG เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2018 ซึ่งบอกเลยว่าเห็นตั้งแต่ต้นจนจบแล้วก็ยังรู้สึกว่าไม่น่าทำตามเขาได้เลยจริงๆ หน้าตาวิธีการและผลลัพธ์ของเขาเป็นอย่างไร ลองไปดูกันเองเลยจ้าาา อย่างแรกที่ต้องทำคือขีดเส้นให้เป็นโครงร่างซะก่อน จากนั้นก็ค่อยๆ ลงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เริ่มมองออกกันแล้วสินะว่ามันคืออะไร สิ่งที่ได้ออกมา แท่น แท่น แท๊นนน .. ยังงงอยู่ว่ากลายเป็นแบบนี้ได้เยี่ยงไร ไปดูที่รูปต่อไปกัน ดูจากลวดลายแล้วหรือว่าเขาจะวาดลูกวอลเล่ย์หรือเปล่า ไม่น่าใช่ละมั้ง อ้าวเฮ้ย!! กลายเป็นพงหญ้าเฉ้ย นี่น่าจะเป็นภาพกระดาษปลิวไปตามลม ปลิวไปปลิวมาแล้วไปเลอะหมึกเอาตอนไหน? กำาา กลายเป็นคลื่นซะอย่างนั้น นี่มันอะไรอีกฟระเนี่ย!? พระผู้เป็นเจ้าช่วยบอกข้าที มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง!? ไม่น่าใช่ทักษะวาดภาพแล้วมั้ง ออกแนวมายากลมากกว่า …
-
ความเหงาไม่เคยฆ่าใคร!! พบกับ “ต้นไม้โดดเดี่ยวที่สุดในโลก” เป็นต้นสุดท้ายของสายพันธุ์
เรื่องราวของต้นไม้ต้นหนึ่ง แต่ว่ามันไม่ใช่ต้นไม้ธรรมดาทั่วไป มันคือต้นไม้ที่เมื่อนานมาแล้วมันเคยครองโลกใบนี้ แต่ในปัจจุบันมันก็ได้กลายเป็นต้นไม้ต้นสุดท้ายที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลกไปแล้ว ต้นไม้ต้นนั้นก็คือ Encephalartos Woodii หรือเรียกสั้นๆ ว่า E. woodii ซึ่งอยู่ภายใต้ความดูแลของ David Cooke ผู้ดูแลและที่ปรึกษาเกี่ยวกับพืชประเภทปาล์ม มากว่า 20 ปีแล้ว มันถูกตั้งชื่อตามนักพฤกษศาสตร์ชาวอังกฤษนามว่า John Medley Wood ผู้ที่ต้นพบเจ้าต้นไม้ต้นนี้ขึ้นอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ตรงเนินเขาแห่งหนึ่งในแถบชายหาดประเทศแอฟริกาใต้ในปี 1895 ต้นไม้ที่ดูหน้าตาดีแหละแปลกประหลาดก็ได้เตะตาเขา เขาจึงได้พยายามเคลื่อนย้ายมันอย่างระมัดระวังโดยนำขึ้นเรือกลับไปยังเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่สวน Kew Gardens และมันก็ได้อยู่ที่นั่นมากว่า 117 ปีแล้ว แต่ทว่าประวัติของมันไปไกลกว่านั้น Encephalartos Woodii เป็นพืชที่อยู่ในสกุล Cycad หรือปรง ซึ่งปรงนั้นมีอยู่บนโลกมากว่า 300 ล้านปีแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป พืชสกุลปรงก็ได้เป็นร่มเงาให้กับพวก Triceratop เป็นรังให้กับ Pterodactyl และเป็นอาหารให้กับ Brontosaurus ในช่วงยุคจูราสสิค พืชสกุลปรงได้แพร่พันธุ์จนมีจำนวนถึง 20%…
-
รวม 15 ข้อความฮาๆ ที่คนไปเจอเขียนในห้องน้ำ แต่ละอย่างก็ช่างจะคิดกันมาได้นะพี่น้อง!!
เวลาเราเข้าไปปลดทุกข์ในห้องน้ำมันอาจจะใช้เวลาสักหน่อย คนส่วนมากมักพกหนังสือหรือโทรศัพท์มือถือเข้าไปเล่นในห้องน้ำเพื่อฆ่าเวลา แต่บางทีของเหล่านั้นก็ไม่จำเป็นหรอกเพราะห้องน้ำบางแห่งมันมี “ข้อความ” ต่างๆ นานา ปรากฏให้อ่านกันอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว เชื่อว่าหลายท่านคงจะเคยเห็นมาบ้าง วันนี้ CatDumb จึงนำภาพข้อความในห้องน้ำจากชาวเน็ต มาให้รับชมกัน บอกเลยว่าอ่านแล้วฮาจนอยากเจอหน้าคนเขียนเลยล่ะ เอ้า ไปชมกันเลย… 1. ไม่ได้เร่งนะ แต่ “ใจจะขาด” แล้วอะ ฮ่าๆ 2. เอ๊า ท้ากันแบบนี้ก็ได้หรอ 3. อธิบายซะเห็นภาพขนาดนี้ก็ติด “ที่แขวน” ให้เขาซักอันเถอะ 4. อื้อหืม แรงง! 5. อุ๊ย ถามกันงี้ก็เขินตายเลย 6. ขอบใจนะที่เตือน…แต่เหมือนไม่ทันแล้วล่ะ ข้าศึกมาแล้ว 7. มีการตักเตือนกันอย่างน่ารักๆ 8. เอ๊า!!? ทำไมอ่านอยู่ดีๆ ก็โดนด่า 9. เป็นการผสมโรงแบบไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ …
-
เรื่องราวอบอุ่นหัวใจ เมื่อครูฝึกสอนช่วยให้นักเรียนขี้อาย ค้นพบตัวเองและมีความกล้ามากขึ้น
กลายเป็นเรื่องราวให้ชาวเน็ตได้อบอุ่นหัวใจกันเลยทีเดียว หลังจากที่ครูฝึกสอนชาวมาเลเซียผู้หนึ่ง ได้ช่วยให้นักเรียนคนหนึ่งของเธอ ได้พบกับโลกใบใหม่หลังจากที่เขาเป็นคนขี้อายเอามากๆ คุณ Amymistika ได้เล่าเรื่องราวของเธอผ่านทางทวิตเตอร์ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวนั้นได้รับควานิยมจากชาวเน็ตอย่างมาก โดยมีคนรีทวีตมากกว่า 67,000 ครั้ง ครูฝึกสอนสาวเล่าว่าถึงการพบกันครั้งแรกระหว่างเธอ และ Yip Kah Shzen นักเรียนขี้อายจากโรงเรียนที่เธอฝึกสอนนานกว่า 4 เดือนว่า “ในตอนแรกฉันได้ฝึกสอนนักเรียนห้องคิง ซึ่งฉันจำพวกเขาได้ไม่หมดหรอก และเด็กคนนี้ก็เป็นคนที่เงียบกว่านักเรียนคนอื่นมาก” คุณครูฝึกสอนเล่าผ่านทวิตเตอร์ของเธอ คุณครูฝึกสอน เริ่มให้นักเรียนในห้องของเธอแนะนำตัวทีละคน และ Kah Shzen ก็ทำให้เธอแปลกใจอย่างมาก หลังจากที่เขาไม่กล้าที่จะแนะนำตัว และเอาแต่ก้มมองที่พื้น และถึงแม้ว่าคุณครูฝึกสอนจะพยายามแค่ไหน เด็กหนุ่มก็ยังไม่ยอมแนะนำตัว จนทำให้คุณครูต้องถามชื่อของเขาจากเพื่อนร่วมชั้นแทน และเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอเข้ามาสอนในชั้นเรียน คุณครูสาวก็จะพบว่า Kah Shzen นั้นเอาแต่นั่งเงียบๆ และจ้องไปที่โต๊ะของเขา คุณครูฝึกสอนได้ย้ายเด็กหนุ่มมานั่งหน้าชั้น เพื่อที่เธอจะได้ดูแลเขาอย่างใกล้ชิด วันหนึ่งในชั่วโมงเรียนคณิตศาสตร์ Kah Shzen ลืมนำเครื่องคิดเลขและหนังสือเรียนมา แต่เมื่อถูกคุณครูถามเขาก็เอาแต่นั่งเงียบไม่ยอมพูดเหมือนเดิม “เขาเอาแต่จ้องโต๊ะ และอาจารย์คนอื่นก็ไม่สนใจเขาเลย เพราะเขาไม่พูดกับใคร” เพื่อนรวมโต๊ะของเด็กชายบอกกับคุณครู ครู Amy คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องหากจะไม่สนใจเขาเหมือนคุณครูท่านอื่นๆ…
-
ข้อสอบคณิตระดับประถม ไม่ประเทืองปัญญา ถามหาอายุกัปตันเรือเกี่ยวอะไรกับจำนวนสัตว์?
สำหรับการสอบวิชาคณิตศาสตร์แล้วย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่โจทย์แต่ละข้อนั้นต้องมีคำตอบแบบตายตัว แต่ก็มีคำถามหนึ่งขึ้นมาที่สร้างความสับสนให้กับนักเรียน หรือแม้กระทั่งผู้อ่านบนอินเตอร์เน็ต โดยคำถามนั้นแทบไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับวิชาคณิตศาสตร์และดูไม่สมเหตุสมผลเลย จนทางสำนักการศึกษาของประเทศจีนทางตะวันตกเฉียงใต้ต้องออกมาแถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อสอบนี้ ข้อสอบที่ว่านั้นเป็นข้อสอบของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เมืองหนานชอง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยคำถามนั้นถามว่ากัปตันเรือมีอายุเท่าไรหากบนเรือมีแกะ 26 ตัวและแพะ 10 ตัว ซึ่งก็ได้รับคำตอบมากมายที่ไม่เหมือนกัน นักเรียนคนหนึ่งตอบว่า “กัปตันควรจะมีอายุอย่างน้อย 18 ปี เพราะคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีไม่ได้รับอนุญาตให้ขับขี่ตามกฎหมาย” นักเรียนอีกคนหนึ่งตอบว่า “กัปตันอายุ 36 ปี เขาค่อนข้างหลงตัวเอง ก็เลยนำสัตว์ขึ้นเรือจำนวนเท่าอายุของเขา” และนักเรียนคนที่สามตอบว่า “เราไม่รู้อายุของกัปตันอย่างแน่ชัดได้ เนื่องจากจำนวนแกะและแพะไม่มีความเกี่ยวข้องกับอายุของกัปตัน” ทางสำนักการศึกษาได้แถลงการณ์ว่าไม่มีคำตอบที่ถูกต้องสำหรับคำถามนี้ จุดประสงค์ของคำถามนี้คือการทดสอบการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ในส่วนของใบแถลงการณ์กล่าวว่า ”ส่วนสำคัญในการพัฒนาการศึกษาของนักเรียนชาวจีนนั้นคือการคิดวิเคราะห์ คำถามนี้เป็นคำถามปลายเปิดที่ดี ทำให้เด็กๆ มีอิสระที่จะตอบคำถามโดยไม่มีคำตอบที่ผิดหรือถูก นักเรียนแต่ละคนสามารถแสดงความคิดของตัวเองออกมาได้ หน้าที่ของการศึกษาไม่ได้มีไว้เพื่อสร้างอะไหล่สำรองที่ได้มาตรฐาน แต่ละคำตอบสะท้อนให้เห็นความแตกต่างของแต่ละบุคลิก ข้อสอบที่หลากหลายเหล่านี้จะทำให้คุณภาพของการศึกษาโดยรวมนั้นจะพัฒนาขึ้น” ที่มา NST/Thepaper/Scmp
-
เปิดตำนานของ Medusa เจ้าแม่หัวงู หากใครได้สบตาเป็นต้องแข็งทุกราย บ่เว้นผู้สาว
หากคิดถึงปิศาจที่สามารถทำให้คนแข็งกลายเป็นก้อนหินได้ล่ะก็ ชื่อของ Medusa ย่อมถูกนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ แน่นอน แต่เอาจริงๆ ถามว่ามีใครที่รู้ประวัติของเธอกันบ้างมั้ย น้อยคนนักที่จะตอบได้ วันนี้เราเลยนำเรื่องราวของ Medusa หญิงผู้ที่หัวเป็นงูมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันครับ เราสามารถเจอชื่อของ Medusa ได้ตั้งแต่มหากาพย์ที่เก่ามากๆ อย่าง กำเนิดปวงเทพ (Theogony) ที่ถูกเขียนโดย Hesiod ตามที่ผู้เขียนได้ว่าเอาไว้ Medusa นั้นเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา ที่มีพี่น้องทั้งหมดสามคนรวมตัวของเธอเองคือ Sthenno, Euryale และ Medusa ซึ่งทั้งหมดเป็นลูกของ Phorcys กับ Ceto ทั้งสามอาศัยอยู่เหนือ Oceanus ที่ขอบโลกในเวลากลางคืน พี่น้องของ Medusa นั้นล้วนแต่เป็นอมตะ ยกเว้นก็แต่ตัว Medusa เองเท่านั้น ถึงอย่างนั้น Medusa กลับเป็นคนที่มีใบหน้าที่สวยและเป็นที่นิยมมากที่สุดในพี่น้องทั้งสาม น่าแปลกที่ในมหากาพย์กำเนิดปวงเทพของ Hesiod ได้เล่าถึงเพียงต้นกำเนิด Medusa และการตายของเธอด้วยมือของ Perseus เพียงแค่เล็กน้อย โดยไม่ได้ลงรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม อย่างไรก็ตามเราสามารถอ่านรายละเอียดเรื่องราวของ Medusa กับ Perseus ได้ใน Metamorphoses ซึ่งถูกเขียนโดย Ovid โดยที่เขานั้นอธิบายรูปร่างของ Medusa…
-
13 ความเฟลที่เจอในร้านของเล่น แบบนี้ซื้อมาให้ลูกต้องมีร้องอ่ะ แต่ละอย่างนี่น๊าาาา!?
ผู้ผลิตของเล่นนั้นมักจะเซอร์ไพรส์เราด้วยจินตนาการในการออกแบบของเล่นของพวกเขาเสมอ แต่ในความไร้ขอบเขตของจินตนาการนั้น บางทีก็น่ากลัวเกินกว่าเด็กๆ จะรับไหว บางอย่างถึงขั้นที่ควรจะต้องติดป้ายเตือน 18+ เลยทีเดียว พบกับของเล่นสุดพิลึก 13 อย่าง เมื่อซื้อให้ลูกๆ แล้วอาจจะเกิดอาการเฟลขึ้นมาได้เลย 1. ของเล่นลิงขี้สงสัย คงไปเจออะไรไม่ดีมาแน่เลย สายตาเศร้าเชียว 2. นินจาเต่าพวกนี้ต้องแอบกินพิซซ่าจนหมดแน่ๆ ดูจากหน้าตาแล้ว 3. ที่กล่อง: “คุ๊กกี้ สนุกสำหรับเด็กๆ” คุ๊กกี้: “มันไม่สนุกหรอกนะ ที่ต้องถูกกิน” 4. หากเบื่อๆ ไม่รู้จะทำยังไงกับมือดี เปลี่ยนมันเป็นเซนทอร์ซะสิ 5. Will Turner จากเรื่อง Pirates of the Caribbean หน้าตาแปลกไปรึเปล่านะ หรือเป็นเพราะว่าเข็มขัดเล็กเกินไป 6. นิทานหนูน้อยหมวกแดง บอกได้เลยว่าคุณย่าน่ากลัวกว่าหมาป่าซะอีก ใครจะกินใครกันแน่เนี่ย 7. Masha กับเจ้าหมี.. Masha…
-
สุดน่ารัก…หนุ่มใจดีรับน้องตัวส้มมาเลี้ยง แต่พี่ตัวน้ำตาลที่บ้านขออาสาเลี้ยงเอง
มีเรื่องราวน่ารักๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเรามาให้เราชมกันอีกแล้ว เมื่อหนุ่มใจดีไปพบเจอเจ้าเหมียวตัวน้อยข้างถนนเข้า เขาจึงเก็บมาเลี้ยงที่บ้าน จึงทำให้เกิดความน่ารักเมื่อเจ้าเหมียวได้พบเจอกับความอบอุ่นจากแม่ใหม่ของมัน เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเจ้าเหมียวตัวน้อยสีส้ม ใช้ชีวิตเตร็ดเตร่ตามชะตากรรมอยู่ข้างถนน ขณะเดียวกันหางของมันเองก็บาดเจ็บ จนกระทั่งไปพบกับชายหนุ่มใจดีที่ต้องการช่วยเหลือเจ้าเหมียว เขานำมันกลับบ้านมาเพื่อทำความสะอาด และดูแลรักษาหางที่บาดเจ็บของมัน และขณะที่เข้าบ้านมานั้นเอง เจ้าเหมียวต้องทำความรู้จักกับสมาชิกครอบครัวที่เหลือเสียก่อน นั่นคือเจ้าตูบโกลเด้นที่ชื่อ “มะเหมี่ยว” นั่นเอง เมื่อมะเหมี่ยวเจอเจ้าเหมียว มันก็เข้าไปเล่น ไปให้ความอบอุ่น เรียกได้ว่ามันดูแลเจ้าเหมียวน้อยอย่างเต็มที่เลยล่ะ จากนั้นชายหนุ่มก็ตั้งชื่อให้กับเจ้าเหมียวว่า “ฮันนี่” ที่ตอนนี้กลายเป็นเหมือนลูกของมะเหมี่ยวไปแล้ว ชายหนุ่มบอกว่า “ฮันนี่คิดว่ามะเหมี่ยวเป็นแม่ของมันจริงๆ แล้วล่ะ” ฮันนี่อยู่ที่ไหน จะมีมะเหมี่ยวอยู่ที่นั่นเสมอ เจ้าเหมียวฮันนี่มีความสุขกับคุณแม่ตูบ มันคอยเฝ้าอยู่ข้างๆ คุณแม่ของมันเสมอ เจ้าสองตัวนี้ไม่แยกห่างจากกันเลยก็ว่าได้ เมื่อฮันนี่เริ่มโต คุณแม่มะเหมี่ยวก็เริ่มสอนสิ่งต่างๆ ให้ เช่น การเล่น และการดื่มน้ำจากชาม มะเหมี่ยวคอยทำความสะอาดลูกรักของมันด้วยการเลียและคลอเคลียเสมอๆ มันเล่นด้วยกัน และก็ผล็อยหลับไปด้วยกัน ขึ้นรถไปเที่ยวก็ไปด้วยกัน เจ้าเหมียวฮันนี่ฝึกเดินเล่นแบบสุนัขด้วยล่ะ ขณะที่มันเดินเล่นด้วยกัน…
-
BNK48 คือสิ่งเยียวยาจิตใจ…สองแฟนคลับผู้ป่วยหนัก กับความหวังในการมีชีวิตอยู่
ถ้าให้พูดถึงกระแสที่กำลังดังสุดๆ ในช่วงเวลานี้ คงจะปฎิเสธไม่ได้เลยว่า BNK48 นั้นคือที่ 1 ในตอนนี้ ไม่ว่าจะด้วยความน่ารัก ความเป็นเอกลักษณ์และฐานแฟนคลับที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีท่าทีจะหยุด แต่คุณเชื่อไหมว่า BNK48 นั้นไม่ได้นำมาเพียงแค่ความบันเทิงหรือความน่ารักสดใสเท่านั้น แต่ลึกๆ แล้วพวกเขายังเป็นแสงนำทางให้กับคนบางกลุ่มที่กำลังจมอยู่ในความมืด เช่นคุณแบงค์ หนุ่มผู้ป่วยเป็นโรคทูเร็ตต์ซินโดรม ที่ล่าสุดเขาได้ไปออกรายการ Woody World โดยเขาได้เล่าถึงที่มาที่ไปของตัวเอง รวมถึงทำไม BNK48 ถึงเป็นดั่งแสงนำทางให้กับเขา แบงค์และคุณแม่ของเขาเล่าว่า ตัวแบงค์นั้นป่วยเป็นทูเร็ตต์ซินโดรม ซึ่งเป็นกลุ่มอาการทางระบบปราสาทที่ทำให้คนป่วยเป็นโรคนี้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ โดยบางครั้งอาจจะมีอาการกระตุก สบถและอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งมันส่งผลให้เขาไม่สามารถใช้ชีวิตปกติเหมือนคนอื่นได้ จนตัวเขาถึงกับคิดจะฆ่าตัวตาย จนกระทั่งวันหนึ่ง BNK48 ได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตเขา (โรคทูเร็ตต์ซินโดรมนั้น เป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงมากแต่ก็ส่งผลประทบกับชีวิตประจำวันของผู้ป่วยพอสมควร โดยเฉพาะการเข้าสังคม เพราะปัจจุบันโรคนี้ยังไม่เป็นที่เข้าใจมากนักนั่นเอง ที่สำคัญยังไม่มีการรักษาที่หายขาดแต่อย่างใด) แบงค์เล่าว่า “หลังจากที่ผมหายจากการกินยาคลายเครียดหวังฆ่าตัวตายไม่กี่วัน ผมได้ไปงานจับมือที่ JJMall และมีโอกาสได้ไปจับมือพี่ตาหวาน (สมาชิก BNK48) เขาก็บอกผมว่า สู้ๆ นะเป็นกำลังใจให้ ตอนนั้นผมรู้สึกตกใจและดีใจมากว่าทำไมอยู่ดีๆ…
-
ติวเตอร์ให้สัญญานักเรียน “ทำคะแนนดี เดี๋ยวพี่พากินกะหรี่” แล้วเด็กเรียนดีขึ้นจริงๆ!?
โรงเรียนสวนกวดวิชาส่วนใหญ่นั้นจะมีวิธีพิเศษหรือเทคนิคแปลกใหม่มาสอนให้กับนักเรียน แต่โรงเรียนกวดวิชาที่นี่นั้นมีความแตกต่างจากที่อื่นอย่างมาก ซึ่งได้ผลออกมาดีมากเลยทีเดียว ทางเว็บไซต์ Dispatch ได้เปิดเผยเรื่องราวในรายการโทรทัศน์ของประเทศเกาหลี Shocking Real Life Stories (เรื่องจริงสุดช็อก) ที่นำประเด็นดังกล่าวมาสร้างละครจำลองฉายไปเมื่อไม่นาน เรื่องราวเริ่มต้นจากที่ประเทศเกาหลีใต้ มีบริการครูกวดวิชาแบบแปลกๆ อยู่เจ้าหนึ่ง ซึ่งไม่ได้สอนเก่ง หรือแนะนำข้อสอบเก่งกว่าครูคนอื่นๆ แต่เขามีเทคนิคเหนือไปอีกขั้น… นั่นก็คือ เขากลับทำการสัญญากับเด็กนักเรียนว่าถ้าพ่อแม่นายจ่ายค่าเรียนมาให้สอน แล้วพวกนายทำเกรดได้ดีขึ้นจริงๆ ฉันจะเลี้ยงสาวขายบริการพวกนายเป็นการตอบแทน เอางั้นไหม!? งานนี้เด็กๆ ก็ยิ่งดีใจ เพราะเงินก็ไม่ใช่ของพวกเขาเอง แถมพ่อแม่ก็ไม่รู้ว่ามาเรียนกวดวิชาแบบนี้ แถมถ้าคะแนนดีขึ้นจริงๆ พวกเขาก็ยังจะได้รางวัลแบบฟรีๆ มาอีก แต่การที่จะลงทะเบียนเรียนแบบพิเศษได้นั้น พวกเขาต้องประทับตราสัญญาว่าจะไม่เปิดเผยความลับว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างคลาสที่เรียน และทางคลาสเรียนก็จะเก็บความลับไว้เช่นกัน ทางรายงานดังกล่าว แฉว่าคุณครูกวดวิชานามสมมติ Mr.Park วัย 30 ปีนั้นไม่ได้สอนอะไรให้กับลูกศิษย์ของเขาระหว่างที่เรียนในคลาสเลยด้วยซ้ำ พวกเขาใช้เวลาไปกับการเล่นพนันไพ่กันมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม พอผลสอบออกมา พวกเขาทำเกรดได้ดีขึ้นจริงๆ!! ตามสัญญาที่ได้ให้ไว้ คุณครูกวดวิชาสุดหัวแหลมนี้ก็ได้ให้รางวัลแก่ลูกศิษย์ของเขาโดยการให้ประสบการณ์อันน่าประทับใจกับสาวขายบริการ นักเรียนที่ได้รับคะแนนสูงสุดก็ได้มีสิทธิ์เลือกห้องก่อน และนักเรียนที่ได้รับเกรดรองลงมาก็เลือกห้องเป็นคนถัดไปตามลำดับ ซึ่งในแต่ละห้องก็ได้มีสาวสวยรออยู่ข้างใน…
-
“ผู้หญิงน่ะทำแซนด์วิชให้ผัวกินเถอะ” สาววัย 16 เดินทาง 600 กิโล พิชิตขั้วโลกลบคำสบประมาท
ถ้าหากสงสัยว่าสมัยปัจจุบันนี้ยังมีการเหยียดเพศสภาพกันอยู่หรือไม่ ให้ลองอ่านช่องความคิดเห็นบน Youtube ดูก็จะรู้เอง ถึงแม้ว่าจะมีผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จหรือมีผลงานที่น่าทึ่งอย่างไรก็ตาม ก็ยังจะมีผู้คนที่คอยเหยียบย่ำซ้ำเติมจากข้างหลังหน้าจอและคีย์บอร์ดอยู่เสมอ แต่ในขณะเดียวกัน ความคิดเห็นเหล่านั้นก็สามารถเป็นแรงผลักดันให้ตอกกลับพวกเหยียดเพศบนอินเตอร์เน็ตได้ พบกับ Jade Hameister สาวน้อยนักสำรวจและผจญภัยที่แข็งแกร่งจากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ด้วยวัย 16 ปี เธอได้ประสบความสำเร็จมากกว่าถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่ที่อายุเท่ากับเธอ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว Jade ได้ออกผจญภัยพร้อมกับ “ภารกิจพิชิตขั้วโลก” ซึ่งเธอก็ได้พิชิตทั้งขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ แถมยังข้ามประเทศกรีนแลนด์อีกด้วย นอกจากนั้นเธอยังได้ถูกบันทึกสถิติโลกว่าเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดคนแรกที่ได้เล่นสกีไปยังขั้วโลกเหนือจากระดับล่างสุด เป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่เล่นสกีไปยังชายฝั่งขั้วโลกใต้โดยไม่มีคนคอยช่วยเหลือ และเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้สำรวจเส้นทางใหม่จากชายฝั่งไปยังขั้วโลกใต้ เหล่านักผจญภัยเรียกการเดินทางจากขั้วโลกไปยังอีกขั้วโลกโดยการข้ามประเทศกรีนแลนด์ว่า “Polar Hat Trick” ซึ่ง Jade ก็เป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่ทำสำเร็จ ในปี 2016 เมื่อเธออายุได้ 14 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ TEDx Talk เกี่ยวกับการเดินทางไปยังขั้วโลกเหนือของเธอ ซึ่งเธอก็ได้พูดถึงความหมายของการเป็นนักสำรวจหญิงที่อายุน้อยในโลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ซึ่งเธอหวังว่าตนเองจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นก้าวข้ามความคิดที่ใช้เพศมาเป็นข้อจำกัด …
-
เด็กน้อยใช้ดาต้าอินเตอร์เน็ตจนหมด ขอดาต้าเพิ่ม แต่ทางค่ายให้เซตของเล่นแทน
พวกเราคงเคยมีโมเมนต์ที่เล่นอินเตอร์เน็ตจนหมด ต้องเสียเงินเพิ่มหรือรอให้ครบรอบเดือนถึงจะใช้งานได้อีกครั้ง แต่ก็มีเจ้าหนูคนหนึ่งที่ได้ลองวิธีแปลกใหม่และได้รับการตอบกลับอย่างเซอร์ไพรส์ หนูน้อย Macie Bullen-Jones ได้ใช้ข้อมูลโทรศัพท์ของเธอดูคลิปวิดีโอบนอินเตอร์เน็ตจนหมดหลังจากที่ได้โทรศัพท์เป็นของขวัญเมื่อวันคริสต์มาส หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน เธอก็ได้รับข้อความจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ O2 แจ้งว่าเธอใช้งานอินเตอร์เน็ตจนหมด แต่แทนที่เจ้าหนูจะรอเดือนใหม่ หรือเปลี่ยนไปใช้ Wi-Fi ทั้งเดือน เจ้าหนูกลับส่งข้อความไปยังบริษัทเพื่อถามว่าพวกเขายินดีที่จะช่วยเธอไหม เธอส่งข้อความไปว่า “ได้โปรด ขอดาต้าเพิ่มให้หนูได้ไหม” Claire คุณแม่ของเจ้าหนู Macie ได้แอบไปเห็นข้อความในโทรศัพท์ของเธอ ก็เลยเกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา เธอจึงส่งข้อความไปยัง O2 และขอให้ทางบริษัทช่วยตอบกลับหนูน้อยคนนี้ว่าเธอต้องช่วยทำงานบ้านบ้างนะ ถึงจะได้เล่นอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง ทางด้านบริษัท O2 นั้นยิ่งกว่ายินดีที่จะช่วยและตอบกลับมาว่า “พวกเราได้รับข้อความของคุณแล้ว แต่เนื่องจากที่คุณเริ่มโด่งดัง พวกเราเลยอยากจะเขียนจดหมายตอบกลับไป” ในจดหมายกล่าวว่า “พวกเราไม่สามารถเพิ่มการใช้งานอินเตอร์เน็ตให้ได้ในระหว่างนี้ ระบบของเราบอกว่าหนูไม่ค่อยช่วยเหลืองานบ้านคุณแม่ของหนู จึงต้องรอรายงานเพิ่มเติมจากคุณแม่” แต่ทางบริษัทไม่อยากให้เจ้าหนูต้องเบื่อจากการที่ไม่ได้ดูยูทูบ ก็เลยส่งของขวัญมาให้เพื่อเป็นการปลอบใจ และกล่าวว่า “อย่าเศร้าไปเลย พวกเราได้ส่ง Fidget Spinner ไปให้เพื่อสร้างความสุขให้กับหนู พร้อมกับ #ของขวัญเซอร์ไพรส์จาก O2 หวังว่าหนูจะชอบนะ” …
-
หนุ่มเจอรถปริศนาแย่งที่จอดทุกวัน เตือนก็ไม่ฟัง แบบนี้ต้องแก้แค้นให้สาแก่ใจ หึ!!
สมัยนี้มีคนใช้รถยนต์เป็นจำนวนมาก จึงเกิดปัญหาว่าที่จอดรถไม่เพียงพอต่อความต้องการของเรา วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ อย่างหนึ่งก็คือการจ่ายเงินเช่าที่จอดรถไปเสียเลย จะได้ไม่ต้องมาหาที่จอดรถให้เหนื่อย ทว่าปัญหาของหนุ่มผู้ใช้งาน Reddit ที่ใช้ชื่อว่า Goalnado ยังไม่จบเพียงเท่านั้น แม้ว่าเขาจะเช่าที่จอดรถไว้แล้วก็ยังมีรถคันหนึ่งมาแย่งที่จอดรถของเขาเป็นประจำ แม้จะเตือนแล้วก็ไม่ออกไปเสียที เมื่อเขาทนไม่ได้ก็เลยแก้แค้นเจ้าของรถคันนั้นให้รู้สำนึกซะบ้าง ให้มันโดนปรับเงินบานเลย โพสต์ส่วนหนึ่งของ Goalnado จาก Reddit Goalnado ทำงานอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และที่จอดรถในที่ทำงานนั้นมีเพียงแค่ 8 คันเท่านั้นเขาก็เลยยอมจ่ายค่าที่จอดปีละ 1,200 ปอนด์ (ประมาณ 53,000) จะได้ไม่ต้องแย่งที่จอดกับคนอื่น แต่แล้วก็เกิดปัญหาขึ้นโดยเขาเล่าว่า “เมื่อประมาณ 7 อาทิตย์ก่อนมีรถปริศนาคันหนึ่งมาจอดในที่จอดรถของผมทุกวัน ผมเขียนโน๊ตบอกแล้วว่าที่จอดนี้เป็นของผมแต่เขาก็ยังเข้ามาจอดอยู่ดี แถมไม่ยอมติดต่อผมกลับตามที่เขียนโน๊ตไว้ให้ด้วย ผมก็ไม่พอใจอย่างมากก็เลยจอดรถขวางไม่ให้มันออกซะเลย แต่ดูเหมือนผมจะเลิกงานก่อนมันทุกทีมันก็เลยไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร แถมพอแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาปรับมันแล้วก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย” พอผ่านไปได้ 10 วันเขาก็รู้สึกทนไม่ได้กับพฤติกรรมของเจ้าของรถคันนั้น เขาเลยพยายามหาทางแก้แค้นให้หายเจ็บใจ เขากะว่าต้องทำให้เจ้าของรถรู้สำนึกให้ได้ ประจวบเหมาะว่าคนในที่ทำงานของเขาลาไปดูแลลูกที่เกิดใหม่พอดี แล้วพี่ชายของเขาก็เดินทางไปเที่ยวประเทศแคนาดาเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม เขาจึงได้ที่จอดรถเพิ่มมา 1 ที่ และก็รถของพี่ชายเพิ่มมาอีกหนึ่งคัน เขาจึงเริ่มแผนล้างแค้นทันที…
-
สาวเห็นจักรยานที่โดนขโมยไปตั้งขายใน eBay เลยตามสืบจนเจอแล้วก็ขโมยมันคืนมาซะเลย
เมื่อทรัพย์สินของเราหายไป ก็เป็นธรรมดาที่เราต้องออกเสาะแสวงหาว่ามันหายไปได้อย่างไร และตอนนี้มันได้ไปอยู่ที่ไหน ซึ่งถ้าหาไม่เจอก็คงจะเสียดายไม่ใช่น้อยถ้าหากมันเป็นของที่เรารักจริงๆ แต่คงจะเจ็บใจเป็นอย่างหนักถ้าบังเอิญเราไปเห็นของชิ้นนั้นประกาศขายอยู่ในเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ซะอย่างงั้น เช่นเดียวกับสาวพนักงานโรงพยาบาลคนนี้ที่ถูกขโมยรถจักรยานไป แล้วไปพบเจอมันอีกครั้งบนเว็บไซต์ขายสินค้าชื่อดัง เธอจึงวางแผนแก้เผ็ดหัวขโมยคนนี้ ด้วยการไปขโมยมันกลับมาหาเจ้าของที่แท้จริงซะเลย.. ฉันหวง ฉันมาทวงของฉันคืน โดยพนักงานโรงพยาบาลคนนี้ ต้องแปลงร่างเป็นยอดนักสืบเมื่อพบว่าจักรยานเสือภูเขาที่มีราคาถึง 300 ปอนด์ (ประมาณ 13,000 บาท) ของเธอนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย สำหรับสาวคนนี้เธอทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแมนเชสเตอร์รอยัล เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ทว่าเธอก็ไม่ประสงค์จะออกนาม เพราะกลัวว่าจะถูกแก้แค้นจากโจรที่ขโมยจักรยานของเธอไปนั่นเอง โรงพยาบาลที่สาวคนนี้ทำงานอยู่ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีภาพจากกล้องวงจรปิด และได้ไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเมืองแมนเชสเตอร์แล้ว แต่เธอก็บอกว่าตำรวจไม่ได้ช่วยตามหาหรือสืบสวนจักรยานคันนี้ให้เธอแต่อย่างใด เพราะพวกเขาคิดว่าเป็นคดีที่จิ๊บจ๊อยเกินไป เดี๋ยวเจอกันแน่ๆ คุณโจร “พวกตำรวจบอกกับฉันว่าไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะพวกเขามีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ” สาวเจ้าของจักรยานกล่าว ซึ่งหลังจากที่เธอค้นหามานานแต่ก็มีไม่มีวี่แววจะเจอ เธอก็เริ่มถอดใจว่าชาตินี้คงจะไม่ได้พบกับจักรยานสุดรักของเธออีกแล้ว แต่ก็เหมือนปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เมื่อเธอได้ไปพบมันอีกครั้งบนเว็บไซต์ขายของชื่อดังอย่าง eBay ในเวลา 5 วันหลังจากที่ได้แจ้งตำรวจไปซึ่งแน่นอนว่าเธอย่อมจำจักรยานของเธอได้อย่างแม่นยำ เธอจึงติดต่อไปยังผู้ขายคนนั้นในทันที เจอจักรยานที่หายอยู่บน eBay ซะงั้น ซึ่งผู้ขายจักรยานบนเว็บไซต์ eBay ต้องการจะขายจักรยานที่ขโมยมานี้ในราคา…
-
ก็มันตื่นเต้นอ่ะ!! ชายไร้บ้านดีใจ ได้รับของขวัญเป็นเสื้อโค้ทใหม่ตัวใหม่เอี่ยม
สำหรับเหล่าคนไร้บ้านแล้ว ชีวิตของพวกเขาในแต่ละวันต่างก็ต้องเต็มไปด้วยความยากลำบากอย่างมากมาย เพราะด้วยความที่พวกเขาไม่มีเงิน ทำให้พวกเขาบางวันก็อาจจะไม่มีอาหารตกถึงท้องซะด้วยซ้ำ หนำซ้ำด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปทุกวันก็ทำให้ร่างกายของพวกเขาอาจจะต้องเจ็บปวด เพราะว่าไม่มีเครื่องนุ่งห่มที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ ด้วยเหตุนี้ใครหลายคนเมื่อมีโอกาสได้พบเจอกลุ่มคนเหล่านี้ ก็อาจจะมอบสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่สามารถมอบให้ได้ เพราะถือว่าเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เพื่อให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และสำหรับคนไร้บ้านแล้วน้ำใจเพียงเล็กๆ น้อยๆ ของเราก็อาจจะเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตของเขาก็เป็นไปได้ เหมือนกับชายคนนี้ที่ได้รับเสื้อโค้ทใหม่เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น ทว่าท่าทีของเขามันกลับสร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นได้อย่างไม่รู้ลืม เพราะใครจะไปคิดว่าเสื้อเพียงตัวเดียว จะทำให้คนๆ หนึ่งสามารถดีใจแบบสุดๆ ชนิดที่ว่ากระโดดโลดเต้นออกมาเลยทีเดียว โดยภาพแห่งความประทับใจนี้เกิดขึ้นเมื่อ กลุ่มคนหนุ่มกลุ่มหนึ่งในสหราชอาณาจักร ตัดสินใจตระเวนมอบของขวัญให้กับคนไร้บ้านหลายคนภายในเมืองที่พวกเขาอาศัยกันอยู่ ซึ่งในการปฏิบัติการครั้งนี้พวกเขาก็ได้ถ่ายวิดีโอวินาทีสำคัญๆ เก็บเอาไว้ด้วย ซึ่งการแจกจ่ายของขวัญก็เป็นไปด้วยความปกติ จนกระทั่งมาถึงการมอบของขวัญให้กับชายไร้บ้านคนหนึ่ง ซึ่งของที่คนกลุ่มนี้มอบให้เขาก็คือ เสื้อโค้ทสีครีมแสนสวย โดยในตอนที่นำไปมอบนั้นพวกเขาได้เก็บเสิื้อตัวนี้ไว้ในหีบห่อก่อน เพื่อให้ชายไร้บ้านคนดังกล่าวไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าสิ่งของที่พวกเขามอบให้นั้นคืออะไร เมื่อชายคนนั้นแกะของดูแล้วพบว่าเป็นเสื้อโค้ทตัวใหม่เอี่ยม เขาก็แสดงความดีใจออกมาจนหลายคนสามารถสัมผัสได้ถึงความสุขที่เขามีในตอนนั้น โดยเขารีบถอดเสื้อตัวเก่าออกแล้วสวมเสื้อที่เพิ่งได้รับมาในทันที ซึ่งวินาทีนี้เองที่หน้าตาของเขาดูยิ้มแย้ม พร้อมทั้งมีแววตาแห่งความสุขเกิดขึ้นบนใบหน้าของเขา จากนั้นชายไร้บ้านคนนี้ก็สวมเสื้อตัวใหม่ไปส่องกระจกเพื่อดูมันช่างสวยงามเพียงใดเมื่ออยู่บนตัวของเขา เมื่อได้เห็นตัวเองในกระจกแล้ว เขาก็แสดงความสุขที่มีออกมาด้วยการเต้นระบำเหมือนกับเด็กๆ เลยก็ว่าได้ และภาพแห่งความสุขแบบง่ายๆ ของชายคนนี้ก็สร้างความตื้นตันใจให้กับใครหลายคนรวมถึงกลุ่มคนที่ช่วยเหลือกลุ่มนี้ด้วย ในตอนท้ายที่สุดแล้วชายคนนี้ก็พนมมือขึ้นเหนือหัว เหมือนกับว่าเขากำลังอธิษฐานขอบคุณสรวงสวรรค์…
-
หญิงสาวฉุนแรงเมื่อถูกจับหน้าอกในงานดนตรี แต่ถูกสวนกลับขู่ฆ่าแถมยังโดนไล่ออกนอกประเทศ!!
การลวนลามผู้อื่นเป็นสิ่งที่ถูกไม่ควรที่ใครๆ ต่างก็รู้ดี ทว่าเมื่อมีการลวนลามเกิดขึ้นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อก็เป็นธรรมดาที่จะต้องออกมาปกป้องตัวเอง แต่มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่การปกป้องตัวเองของเธอนั้น กลับถูกสังคมตราหน้าว่าที่เธอโดนลวนลามก็เป็นเพราะว่าเธอทำตัวของเธอเองซะอย่างงั้น?? เรื่องราวที่ว่านี้เกิดขึ้นกับสาวอเมริกันวัย 20 ปีชื่อว่า Madeline Anello-Kitzmiller ซึ่งถูกลวนลามร่างกายขณะที่เธอกำลังเดินอยู่ในงานเทศกาลดนตรี Rhythm and Vines ที่จัดขึ้นในประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2017 – 31 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา โดยในวันนั้น Madeline ได้เปลือยร่างกายส่วนบนออกทั้งหมดเพื่อทำบอดี้เพนท์ (แต่ก็ยังมีแผ่นกลิตเตอร์ปิดจุดสำคัญๆ เอาไว้อยู่) ซึ่งก็เป็นสิ่งธรรมดาๆ ที่วัยรุ่นต่างประเทศนิยมทำกัน ซึ่งในระหว่างที่เธอกำลังเดินเล่นอยู่กับเพื่อนสาวของเธอในงานดนตรีดังกล่าว ก็มีชายคนหนึ่งที่วิ่งมาข้างหลังเธอแล้วเอื้อมมาจับส่วนหน้าอกของเธอแบบดื้อๆ ซะอย่างนั้น ภาพจากวิดีโอได้แสดงให้เห็นว่าเมื่อมีการลวนลามเกิดขึ้น เธอก็ไม่ได้ปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ แต่อย่างใด เพราะว่าเธอได้เดินตามชายคนนั้นไปพร้อมกับเพื่อนของเธอ จากนั้นก็ลงมือทุบตีชายคนดังกล่าวไปจำนวน 4 ครั้ง เพื่อเป็นการบอกกับชายคนดังกล่าวว่า สิ่งที่เขาทำมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนั่นเอง นอกจากนี้เธอยังบอกอีกด้วยว่า ตลอดทั้งวันในวันนั้นเธอโดนลวนลามมาแล้วมากมาย และในท้ายที่สุดเธอจึงทนต่อไปไม่ไหวระเบิดอารมณ์ใส่ชายคนดังกล่าว จนเกิดเป็นคลิปวิดีโออันโด่งดังขึ้นในที่สุด ทว่าทันทีที่วิดีโอของเธอได้ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ก็มีคนดูนับล้านคนคลิกเข้ารับชม และก็ได้มีความคิดเห็นเกิดขึ้นมากมาย แต่ส่วนใหญ่ความคิดเห็นของชาวเน็ตกลับไม่ได้เห็นใจเธอแต่อย่างใด หนำซ้ำยังบอกอีกด้วยว่าที่เธอโดนลวนลาม ก็เป็นเพราะว่าการแต่งกายของเธอเอง นอกจากคำด่าทอที่ถาโถมเข้าใส่เธออย่างมากมายแล้ว Madeline ยังบอกว่ามีการข่มขู่จะเอาชีวิต…
-
ภรรยาใจสลาย เมื่อได้พบร่างกึ่งเปลือยของชู้และสามีในโรงรถ ขาดอากาศหายใจเสียชีวิตทั้งคู่
จะเป็นอย่างไรหากเราเมื่อเราไปทำงานมาทั้งวันแล้วกลับมาที่บ้านก็ต้องพบว่า บุคคลอันเป็นที่รักของเรานอนเสียชีวิตอยู่ในบ้าน ขณะเดียวกันก็มีชู้รักของเขานอนแน่นิ่งอยู่ไม่ห่างจากกายของเขานัก อารมณ์ ณ ตอนนั้นของเราก็คงจะสับสนว่าจะเสียใจหรือสะใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นดีนะ และนี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นบนโลกนี้กับสาวรัสเซียคนหนึ่ง… Natalya กลับมาที่บ้านก็ต้องพบกับเรื่องสุดช็อก โดยเรื่องเศร้าสลดหดหู่หัวใจเรื่องนี้ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา และอุบัติขึ้นกับสาวรัสเซียวัย 38 ปีชื่อว่า Natalya Nalyotova ซึ่งเธอเล่าให้ฟังว่า ในวันที่เกิดเหตุเธอกลับมาที่บ้านเพื่อจะทานอาหารเย็นกับ Denis สามีของเธอ Denis Nalyotov ชายผู้เสียชีวิตพร้อมกับชู้รักของเขา เมื่อเข้ามาที่บ้านเธอก็ไม่พบว่าสามีเธออยู่ภายในตัวบ้าน เธอจึงเดินไปเช็กดูที่โรงรถที่สามีของเธอมักจะใช้เวลาอยู่ในนั้นเพื่อซ่อมรถอยู่บ่อยๆ ทว่าภาพที่เธอเห็นกลับไม่ใช่ภาพของสามีเธอที่กำลังซ่อมรถอยู่ แต่กลับเป็นภาพของศพคนสองคน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือสามีของเธอ และอีกคนหนึ่งเธอก็คาดเอาไว้ว่าน่าจะเป็นชู้รักของเขา เพราะหญิงสาวคนดังกล่าวอยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่ากึ่งโป๊กึ่งเปลือย และเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอแทบจะพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว มีอาชีพเป็นคนขับรถบรรทุก และดูเหมือนว่าโรงรถแห่งนี้จะเป็นสถานที่ลับของทั้งคู่ เพราะ Natalya กล่าวว่าเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าสามีของเธอจะมีชู้รัก เนื่องจากปกติเธอก็ไปทำงานที่คลินิกทันตกรรมแห่งหนึ่ง โดยกว่าจะเลิกงานก็เป็นเวลาเย็นแล้ว เธอจึงไม่ได้เคลือบแคลงใจอะไรเลย จากการตรวจสอบหญิงสาวที่เสียชีวิตก็ทำให้ได้รู้ว่าเธอชื่อ Alyona Ivanova วัย 30 ปีที่แต่งงานแล้วพร้อมทั้งยังเป็นแม่ของเด็กๆ อีก 2 คน ส่วนสาเหตุที่คร่าชีวิตของทั้งคู่ไปนั้นก็คือการสูดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปมากเกินไปนั่นเอง จากผลการชันสูตรศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โรงรถสถานที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น…
-
รวมภาพคุณครูสุดเกรียน ที่จะทำให้คุณมองว่าคุณครูก็แอบเป็นสายฮาได้เหมือนกันนะเนี่ย
โดยปกติแล้วภาพคุณครูที่เราเคยเห็นกันมาในชีวิต จะเป็นภาพของคุณครูที่มีความเนี้ยบในแทบจะทุกกระเบียดนิ้ว เพราะว่าการเป็นครูนอกจากมีหน้าที่จะต้องสอนวิชาความรู้ต่างๆ ให้กับเด็กๆ แล้ว พวกเขายังต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีเพื่อให้เด็กๆ ทำตามอีกด้วย ดังนั้นเราจึงเห็นว่าคุณครูส่วนใหญ่จะมีท่าทีที่สุภาพอ่อนน้อม ซึ่งมันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ว่าก็มีคุณครูบางคนที่เรียกได้ว่าฉีกกรอบความคิดแบบเดิมๆ เพราะว่าพวกเขาได้กลายเป็นแบบอย่างสุดเฟี้ยวที่ทำให้ใครๆ ต่างก็ต้องมีเสียงหัวเราะเมื่อได้พบเจอกับพวกเขา และนี่คือภาพคุณครูสุดฮา ที่อาจจะพูดได้ว่าเป็นที่รักของนักเรียนแทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้ วิธีห้ามไม่ให้นักเรียนเล่นมือถือแบบง่ายๆ ก็คือเอามาเก็บซะเลย 1 ดอลลาร์ต่อเทป 1 แผ่น เร่เข้ามาเร็วๆ เล๊ย เมื่อหาไม้บรรทัดไม่เจอ คุณครูท่านนี้จึงเอาถังขยะมาให้นักเรียนตีเส้นแทน เฉลยแบบนี้นักเรียนคาดไม่ถึงทุกคนแน่นอน! เหมือนกับว่าคุณครูท่านนี้จะสอนเคมีพร้อมกับวิชาดนตรีไปพร้อมๆ กัน มีคนแอบสูบบุหรี่ในห้องน้ำ คุณครูคนนี้จึงลากเก้าอี้มานั่งเฝ้าซะเลย (อยู่ได้อยู่ไปนะเอ็ง) เมื่อคุณครูยึดโทรศัพท์ไป แล้วนักเรียนได้รับกลับมาพร้อมภาพนี้ ชื่อ: โฟร์โด จาก: ไชร์ ไป: มอร์ดอร์ นี่หนวดทรงอะไรครับเนี่ย อาจ๊ารย์ นี่สิ โคตรคูลของจริง ถึงเจ้าพวกคู่รักที่จู๋จี๋กันตรงโถงทางเดิน พวกนายไม่ได้ดูดีแบบที่คิดหรอกนะ …
-
17 ภาพของเหล่าอัจฉริยะ กับการแก้ปัญหาของพวกเขา ทำไมเราคิดไม่ถึงฟร๊ะ!?
การจะดำเนินชีวิตในแต่ละวันของคนเราไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ เลย เพราะมันเต็มไปด้วยปัญหาน้อยใหญ่มากมายหลายๆ ประการ ซึ่งบางปัญหาถึงมันจะไม่ใช่เรื่องที่คอขาดบาดตายอะไร ทว่ามันก็สามารถสร้างความรำคาญจนทำให้เรามีอารมณ์ที่หงุดหงิด จนความสุขในแต่ละวันน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็นเลยทีเดียว แต่เรื่องปัญหาเหล่านี้ คงจะทำอะไรกับพวกเขาเหล่านี้ไม่ได้ เพราะว่าพวกอัจฉริยะเหล่านี้ได้แสดงให้เราเห็นว่าถึงปัญหามันจะมีมาขนาดไหน แต่ถ้าเราลองหาวิธีการที่ไม่ธรรมดาๆ ดู เราก็อาจจะแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย นี่จึงเป็น 17 ภาพที่พวกเขาสาธิตให้เราดูว่า บางทีวิธีแปลกๆ ก็สามารถคลี่คลายอุปสรรคได้เป็นอย่างดีเหมือนกันนะ!! จะกวาดหิมะทำไมให้เสียเวลา เผามันง่ายกว่าไหม ไม่จีเนียสคิดไม่ได้อย่างนี้หรอกนะยะ มีท่อโผล่ขึ้นมาตรงสวน ดูไม่สวยงามเลยแฮะ ก็เอาหินปลอมมาครอบสิ ง่ายๆ ก็อันเก่ามันหักอ่ะ อยากได้ลายไหนก็เลือกเปลี่ยนได้ตามใจชอบ ก็คนมันหนาวมือง่ะ ถึงจะดูทึ่มๆ แต่มันใช้ได้ผลจริงๆ นะเออ ใครกำลังย้ายบ้าน เอาวิธีนี้ไปใช้ดูได้นะ พอดีบ้านไม่มีหลังคา แต่อยากประหยัดอ่ะ ไม่ต้องเสียตังแม้แต่แดงเดียว ก็ได้ยางใหม่มาใช้แล้ว หมดปัญหาเรื่องยกตู้ แล้วโดนทับมือ วิธีเซนเซอร์แบบง่ายๆ ก็หาอะไรมาแปะซะเลย …
-
อธิบายประโยค ‘ภาพนี้ใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น’ ผ่านผลิตภัณฑ์อาหารของ McDonald
ถ้าหากว่าคุณเป็นคนชื่นชอบการทานอาหารฟาสต์ฟู้ด หรือพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปล่ะก็ บ่อยครั้งที่เรามักจะพบว่าภาพของการโฆษณากับสินค้าที่ได้จริงๆ นั้นช่างมีความแตกต่างกันซะเหลือเกิน!! แต่ถ้าหากว่าคุณลองสังเกตที่มุมใดมุมหนึ่งของภาพโฆษณาดีๆ ล่ะก็ ตัวข้อความเล็กๆ ที่เขียนว่า “ภาพนี้ใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น” ก็คงจะคลายข้อสงสัยให้คุณได้เป็นอย่างดี และวันนี้เราก็จะขอพาทุกคนเข้าสู่โลกของการโฆษณา ที่จะทำให้คุณเข้าใจถึงความหมายของประโยคนี้ได้ดียิ่งขึ้น ผ่านชุดภาพถ่ายอาหารจากร้าน McDonald เมื่อปีที่ผ่านมา McDonald ต้องเผชิญกับปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับภาพของสินค้าที่ไม่ตรงกับโฆษณา ซึ่งถ้าหากว่าเราเคยเห็นภาพของโฆษณาซามูไรเบอร์เกอร์ หรือเฟรนช์ฟรายส์ตอนลด 50 เปอร์เซ็นต์ก็คงจะเข้าใจกันเป็นอย่างดี แต่ทว่าก่อนหน้าที่พวกเขาจะถูกทางลูกค้าร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ในปี 2012 ทางร้าน McDonald จากประเทศแคนาดา ก็ได้ทำคลิปวิดีโอที่อธิบายถึงเบื้องหลังของการถ่ายภาพโฆษณานี้ การรีทัชภาพ ถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับวงการโฆษณา คุณ Hope Bagozzi ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ McDonald แคนาดาได้เป็นผู้อาสาไขข้อข้องใจนี้ หลังจากที่มีลูกค้าส่งคำถามเกี่ยวกับการโฆษณาของพวกเขาว่า “ทำไมอาหารของพวกเขาไม่ตรงกับที่โฆษณาเลย” ผู้จัดการสาวพาเราเดินทางไปยังสตูดิโอถ่ายภาพ เพื่อชมเบื้องหลังการทำงานของการถ่ายภาพโฆษณาของพวกเขา และเปรียบให้เห็นระหว่างความแตกต่างของภาพถ่ายเบอร์เกอร์ที่เธอซื้อมา กับเบอร์เกอร์ที่ทำจากสตูดิโอถ่ายภาพ การทำงานถ่ายภาพเพื่อโฆษณานั้นจะต้องมีการจัดวางอาหารอย่างเหมาะสม และทำการรีทัชภาพที่ถ่ายอีกครั้ง เหมือนกับภาพของแอปเปิลชิ้นนี้ . หรือเมนูขึ้นชื่ออย่างชีสเบอร์เกอร์เองก็ตาม สังเกตว่าเนื้อนั้นจะมีลักษณะเรียบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เปรียบเทียบความแตกต่างกันแบบชัดๆ เลย ถึงแม้ว่าภาพของอาหารจริงๆ…
-
ชีวิตนักสู้ของสาวไอดอลใต้ดินแห่งญี่ปุ่น ออกตามฝันตัวเอง ไม่ยอมแพ้แม้ไร้บ้านอยู่…
การมีความฝันนับเป็นเรื่องที่ดี เพราะมันเป็นแรงผลักดันให้เราทำในสิ่งที่ชอบ และไม่ว่าเส้นทางจะมีอุปสรรคหรือยากลำบากแค่ไหน เราก็พร้อมจะสู้เพื่อให้บรรลุฝันที่ตั้งไว้ อิวามิ มาเรียโรส คือตัวอย่างของนักล่าฝัน เพราะแม้ว่าเธอจะเป็นคนไร้บ้าน แต่ก็ดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อที่ทำความฝันที่อยากเป็นนักร้องไอดอลเกิร์ลให้เป็นจริง นักร้องไอดอลเกิร์ลคือสิ่งที่อิวามิใฝ่ฝันมาตลอดทั้งชีวิต ดังนั้นหลังจากที่เรียนจบมัธยมต้น เธอรวบรวมเงินที่ได้จากการทำงานพาร์ทไทม์ แล้วออกเดินทางจากต่างจังหวัดไปยังมืองหลวงอย่างกรุงโตเกียว เพื่อทำตามความฝัน แน่นอนว่านี่เป็นการเริ่มต้นจากศูนย์ หญิงสาวเริ่มจากการหาอุปกรณ์เครื่องเสียงที่ขนย้ายได้อย่างสะดวก ก่อนจะร้องเพลงตามข้างถนนในย่านอาคิฮาบาระ ชิบุย่า และฮาราจุกุ การร้องเพลงตามข้างถนนทำให้หญิงสาวได้รับเงินบริจาคเล็กๆ น้อยๆ จากคนที่ผ่านไปผ่านมา แต่นั่นไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของเธอ เป้าหมายของเธอคือการเปิดตัวและหาโอกาสให้ตัวเองเป็นที่สะดุดตาแมวมองของค่ายเพลงและกลุ่มบริษัทผู้ให้การสนับสนุนไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปต่างๆ หลังจากที่ใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่ในกรุงโตเกียวในฐานะไอดอลใต้ดินมาเป็นเวลาหลายปี ในที่สุดเธอก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นและมีแฟนคลับเป็นของตัวเองด้วย แฟนๆ หลายคนติดตามผลงานของเธอจากการแสดงตามสถานที่ต่างๆ แบบศิลปินไร้สังกัด ในขณะที่บางส่วนติดตามเธอจากทวิตเตอร์และยูทูบ แม้จะมีรายได้เข้ามาบ้าง แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะได้เข้าสังกัดเป็นนักร้องหรือไอดอลอาชีพอย่างเต็มตัวสักที เวลาผ่านไป อายุเธอเริ่มมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นอิวามิก็ไม่หยุดวิ่งไล่ตามความฝัน เธอยังคงใช้ชีวิตแบบคนเร่ร่อนไร้บ้าน ลากกระเป๋าเท่าที่จำเป็นต้องใช้ ส่วนสัมภาระชิ้นใหญ่เธอฝากไว้ที่บ้านเพื่อนซึ่งอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง พอตกค่ำ ถ้าพอมีเงินบ้าง อิวามิจะอาศัยหลับนอนตามอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ซาวน่าสำหรับผู้หญิง และโรงแรมแคปซูล แต่ส่วนใหญ่เธอจะนอนตามสวนสาธารณะและสถานีรถไฟใต้ดินมากกว่า แน่นอนว่านี่เป็นการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งหากกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดเธอจะได้อยู่อย่างสบายเหมือนคนทั่วไป แต่เพื่อความฝันแล้วเธอทนได้แม้จะลำบากแค่ไหน การมีเงินติดตัว 800…
-
‘Mike McGee’ เจ้าของมีมหน้าอั้นตด อธิบายที่มาว่าจริงๆ แล้วมันเป็นยังไง ไม่ได้อั้นตดนะ
ภาพด้านล่างนี้หลายคนคงจะเคยเห็นและคุ้นเคยเป็นอย่างดีในโลกออนไลน์ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาพของนักเรียนหนุ่มที่มีสีหน้าอมทุกข์อย่างหนัก ไม่ใช่เพราะเจ็บปวดหรือเสียใจนะ แต่ดูเหมือนเขากำลังอั้นตดหรืออั้นอึซะมากกว่า ไม่มีใครรู้เลยว่าความจริงที่อยู่เบื้องหลังภาพนี้มันเป็นยังไงกันแน่? แต่ที่แน่ๆ ภาพนี้ถูกชาวเน็ตนำไปล้อเลียน นำไปแชร์ต่อพร้อมแคปชันตลกๆ และโด่งดังในโลกออนไลน์จนถึงทุกวันนี้ หารู้ไม่นั่นคือฝันร้ายทุกวันของ Mike McGee นับตั้งแต่มีการเผยแพร่ภาพของเขาออกไป ใช่แล้ว คนในภาพคือ McGee ในวัย 16 ปี ปัจจุบันเขาอายุ 20 ปี เป็นศิษย์เก่าโรงเรียน Northwest High School ในจัสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยความอยากรู้ว่าเบื้องหลังของภาพมันเป็นอย่างไงกันแน่ ทีมข่าว UNILAD เลยติดต่อขอสัมภาษณ์เขาโดยตรง คำถามแรกคือ ‘ที่หน้าคุณเป็นแบบนั้นเพราะอั้นตดใช่หรือไม่?’ คำตอบของ McGee คือ “ไม่ ผมไม่ได้อั้นตด มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลย” เขาบอกอีกว่า “มันค่อนข้างแปลก ที่อยู่ดีๆ รูปของผมก็ปรากฏในโลกอินเตอร์เน็ตและมีคนคิดว่าผมอั้นตด ทั้งที่ไม่เป็นความจริงเลย แต่ผมแฮปปี้กับกระแสตอบรับส่วนใหญ่นะ” เมื่อถามชายหนุ่มว่า “คุณทำหน้าแบบนั้นได้ทุกเมื่อที่ต้องการได้อย่างไร?” เขาบอกว่า “มันค่อนข้างเป็นความสามารถส่วนบุคคลนะ ผมแค่กลั้นหายใจและเกรงหัว” นอกจากนี้เขายังอัดวิดีโอเพื่อทำให้ดูอีกครั้งว่าตอนนั้นเขาทำยังไง ทำไมใบหน้าถึงออกมาเป็นแบบนั้น ดูจากวิดีโอด้านล้างนี้ …
-
หนุ่มถูกแฟนจับได้ขณะเล่นชู้ เลยให้ชู้แกล้งทำตัวเป็นตุ๊กตายาง เพื่อตบตา!?
เป็นใครก็คงทำตัวไม่ถูกทั้งนั้น หากถูกจับได้คาหนังคาเขาขณะแอบเล่นชู้ บางคนพยายามหาคำอธิบายต่างๆ นานา เพื่อแก้ตัว ในขณะที่บางคนได้แต่อยู่นิ่งเผื่ออีกฝ่ายจะยกโทษให้ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีบางคนใช้วิธีแปลกๆ แบบนี้… นี่เป็นคลิปการแอบถ่ายที่ถูกโพสต์ลงในอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเล่นชู้กันอย่างเมามัน จนถูกจับได้ และทั้งคู่พยายามหนีความผิดในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนแน่ๆ ตามโพสต์ในเฟซบุ๊กระบุว่าผู้ชายในคลิปถูกแฟนสาวจับได้ขณะที่เขากำลังเล่นชู้กับผู้หญิงอื่น เมื่อทำอะไรไม่ถูก หญิงสาวที่เป็นชู้เลยแกล้งทำตัวเป็น ‘ตุ๊กตายาง’ เพื่อหนีความผิด ใครที่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ จะรู้ดีว่าการถูกคนที่รักหักหลังนั้นมันรู้สึกยังไง แน่นอนคุณอาจจะรู้สึกชาไปทั้งตัว แต่ดูเหตุการณ์นี้สิ มันก็น่าโมโหนะแต่ก็อดขำไม่ได้ เพราะนอกจากจะไม่เนียนแล้ว มันยังเป็นอะไรที่ตลกมากๆ ด้วย ตอนแรกที่แฟนสาวพรวดพราดเข้าไป เธอตะโกด้วยความโมโห “มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่!? แล้วนังนี่มันเป็นใคร!?” แฟนหนุ่มที่กำลังอยู่ในชุดแปลกๆ ตอบว่า “มันเป็นแค่ตุ๊กตายาง” แถมยังหยิบใบเสร็จซื้อตุ๊กตายางออกมาให้แฟนสาวดูอีกต่างหาก ส่วนผู้หญิงที่เป็นชู้ เธอพยายามอย่างหนักที่จะทำตัวนิ่งๆ เหมือนตุ๊กตายาง แน่นอนว่าฝั่งแฟนสาวไม่เชื่อเลยสักนิด และเริ่มผลักเธอ เมื่อถูกผลักจนเซ หญิงที่เป็นชู้เลยบอกให้เธอหยุด โดยทำเสียงเหมือนหุ่นยนต์ แต่แฟนสาวของชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดผลัก ในที่สุดเธอก็หมดความอดทน และเลิกแกล้งทำเป็นตุ๊กตายาง ก่อนจะเก็บข้าวเก็บของแล้วเดินออกไป แทนที่จะยอมรับความผิดซะตอนนั้น ชายหนุ่มกลับแถต่อไปอีกว่า “ผมมีใบเสร็จนะที่รัก มันเสียและผมไม่รู้ว่าทำไมมันถึงขยับได้ มันเป็นตุ๊กตายางที่มาพร้อมกับปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้า”…
-
ฝีมือคนไทย!! รถไถ 4.0 ไม่ต้องขับตากแดด ควบคุมด้วยรีโมตพร้อมกล้อง นั่งทำนาแบบชิลๆ
ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีต่างๆ ได้พัฒนาไปก้าวหน้าอย่างมากแล้ว และแทบจะทุกวงการได้มีการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้เพื่อช่วยในการทำงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบควมคุมระยะไกล หุ่นยนต์ หรือแม้แต่ปัญญาประดิษฐ์เองก็ตาม และเกษตกรของไทยเราเองก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เมื่อคุณอาทิตย์ เพ่งกิจ เกษตกรชาวสุโขทัยรายหนึ่งได้คิดค้นระบบควบคุมรถไถจากระยะไกลพร้อมกับมุมกล้องแบบสมจริง เพื่อช่วยให้การทำงานในสวนง่ายขึ้น และไม่ต้องทนตากแดดอีกต่อไป!! คลิปการทำงานของรถไถ 4.0 ไทยแลนด์ 4.0 จะให้มาขับรถไถตากแดกตากฝนได้ไง.!! มันต้องนอนมองผ่านจอถึงจะถูก!!!!! เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับเมื่อการบังคับด้วยวิทยุได้แล้ว. ปัญหาตามมาคือไกลๆจะมองไม่ค่อยเห็นเลยเป็นมาของการควบคุมมองผ่านจอมอนิเตอร์…!!! (First Person View )มุมมองจากบุคคลที่หนึ่ง ซึ่งในรถไถนั้นคือการบังคับรถไถเสมือนว่าผู้บังคับอยู่บนรถไถ โดยใช้กล้องในการรับภาพและส่งสัญญาณภาพมายังจอมอนิเตอร์ เพื่อใช้ในการบังคับ ไปยังทิศทางที่ต้องการ เท่ากับว่าคุณจะตรงใหนก็ได้ขณะใช้งาน ยกเว้นดำน้ำอยู่ 555555…. เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขา เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา และได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีผู้เข้าชมมากกว่า 700,000 ครั้ง และแชร์อีกมากกว่า 2,700 ครั้ง คุณอาทิตย์ให้สัมภาษณ์กับทีมงาน Catdumb ว่าเขาได้เริ่มต้นไอเดียนี้จากความชื่นชอบการเล่นวิทยุบังคับ และเคยใช้งานรถไถมาก่อนบวกกับการเป็นคนชื่นชอบการประดิษฐ์คิดค้นด้วย จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เริ่มคิดค้นเจ้ารถไถบังคับวิทยุชิ้นนี้ขึ้นมา ขั้นตอนการทำงานของเจ้ารถคันนี้ก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว…
-
รู้จัก Frank Praytor ผู้อยู่ในภาพ ‘ป้อนอาหารแมวน้อยกลางสงคราม’ เสียชีวิตแล้วในวัย 90 ปี
เมื่ออ่านบทความที่พูดถึง ‘ภาพที่ทรงอิทธิพลในประวัติศาสตร์‘ หรือ ‘ภาพที่ทำให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้น‘ ภาพทหารป้อนอาหารแมวน้อยท่ามกลางสงครามเกาหลี มักจะเป็นหนึ่งในนั้นเสมอ นั่นเป็นภาพของ Frank Praytor ทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ที่ถูกถ่ายขณะที่เขาป้อนอาหารให้ลูกแมวตัวหนึ่งจนมันกลับมาแข็งแรงอีกครั้งในช่วงครามเกาหลี แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ต้องบอกทุกคนคนว่าชายในภาพนี้ได้เสียชีวิตแล้วในวัย 90 ปี สมาชิกครอบครัวของ Praytor ออกมายืนยันว่าเขาเสียชีวิตภายในบ้านที่เมืองแอลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 มกราคม ปี 2018 หลังจากที่ต่อสู้กับปัญหาสุขภาพมาเป็นเวลาหลายปี สื่อรายงานว่า Praytor ได้เข้าร่วมกับกองทัพ 1st Marine Division ในปี 1952 ก่อนจะกลายเป็นบุคคลที่โด่งดังทั่วโลก หลังจากมีการเผยแพร่ภาพของเขาขณะป้อนอาหารให้ลูกแมวด้วยหลอดฉีดยา โดยภาพดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กว่า 1,700 ฉบับ ทั่วสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2009 Praytor ได้ให้สัมภาษณ์กับ U.S. Naval Institute “หลังจากที่ภาพนั้นถูกแพร่ออกไป ผมก็ได้รับจดหมายจากสาวๆ ทั่วประเทศ พวกเขาบอกว่าอยากแต่งงานกับผม แม้แต่ผู้ชายก็บอกผมแบบนั้นเหมือนกัน” เขาพูดติดตลก ส่วนแมวน้อยตัวนั้น เขาพามันกลับมาจากสนามรบและตั้งชื่อให้มันว่า Mis Hap …
-
เมื่อการหยอกล้อกันในเกม นำไปสู่การพรากชีวิตชายคนหนึ่ง จากการแจ้งความเท็จกับตำรวจ
บางครั้งการเล่นกันขำๆ อาจจะเกิดผลลัพธ์ที่ตามมามากกว่าที่เราได้คาดคิดเอาไว้ และนั่นอาจหมายถึงการพรากชีวิตของคนคนหนึ่งไปโดยไม่มีเหตุผล เหมือนอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 28 ธันวาคม 2017 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงชายคนหนึ่งเสียชีวิต เพราะได้รับการแจ้งความเท็จ เรื่องราวดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นจากการเล่นเกม Call of Duty World War II แบบออนไลน์ของเด็กสองคนที่ชื่อว่า Shane Gaskill จากรัฐแคนซัส และ Casey Viner จากรัฐโอไฮโอ เกม Call of Duty World War II เด็กทั้งสองเล่นเกมอยู่ทีมเดียวกัน แต่ Shane กลับไปยิงตัวละครของ Casey ตาย จึงทำให้เขารู้สึกโมโหที่โดนทีมเดียวกันในเกมฆ่า Casey จึงติดต่อไปหาอีกฝ่ายผ่านทางทวิตเตอร์และขู่ว่าจะให้ตำรวจไปล้อมจับที่บ้าน Shane ไม่ได้คิดอะไรและตอบกลับมาว่า “ก็ลองดูเซ่” ก่อนที่เขาจะส่งที่อยู่ปลอมๆ ไปให้กับ Casey และนั่นจึงทำให้เด็กที่กำลังโมโหอยู่ติดต่อไปหาชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Tyler Barriss วัย 25 ปี Tyler…
-
“ช่างแ-่ง” เอ็ม ชาโดว์ นักร้องนำ Avenged Sevenfold เผยสาเหตุปฏิเสธไม่เข้าร่วมงานแกรมมี
กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจในวงการเพลงต่างประเทศอีกครั้ง หลังจากที่ทาง Matthew Charles Sanders นักร้องนำจากวง Avenged Sevenfold ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Eddie Trunk พวกเขาตัดสินใจปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการประกาศรางวัล Grammy Awards ในปีนี้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าเพลง The Stage ของพวกเขาจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาเพลงร็อกยอดเยี่ยมแห่งปีก็ตาม M. Shadows ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมาว่า “ใช่แล้วเราปฏิเสธที่จะเข้าร่วมงาน มันไม่ใช่การแสดงจุดยืนอะไรทั้งนั้น แต่ช่างมันเถอะ ไหนจะค่าใช้จ่ายของโรงแรม ตั๋วเครื่องบินสำหรับภรรยาพวกเรา รวมถึงค่าตั๋วเข้างานอีก รวมๆ กันแล้วมันตั้ง 150,000 บาทแล้ว” แต่ดูเหมือนว่างานนนี้จุดประสงที่แท้จริงที่ทางวงปฏิเสธที่จะเข้าร่วมงานประกาศรางวัลนั้นจะมาจากการที่ทางผู้จัดงานได้ตัดการออกอากาศช่วงของการประกาศรางวัลเพลงร็อกยอดเยี่ยมแห่งปีออกนั่นเอง “พวกเขาเอาการประกาศรางวัลเพลงร็อกยอดเยี่ยมออกจากการถ่ายทอดสด และก็จะพาพวกเราไปรับรางวัลที่ไหนไม่รู้อีก มันโคตรเสียเวลาและเงินจริงๆ พวกเขาไม่ให้เกียรติพวกเราเลย” M. Shadows ให้สัมภาษณ์กับ Eddie Trunk Eddie Trunk อธิบายเพิ่มเติมว่า Matt ให้เหตุผลกับเขาเพิ่มเติมว่าทางวงจะต้องเดินทางจากรัฐเซาท์ดาโคตา ไปยังรัฐนิวยอร์ก ก่อนที่จะต้องเดินทางต่อไปยังรัฐโอคลาโฮมา เพื่อเข้าร่วมงานประกาศรางวัล ซึ่งมันต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แถมพวกเขายังรู้สึกเหมือนไม่ได้รับเกียรติจากทางผู้จัดงานอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ทางวงได้ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ของพวกเขาว่า “ด้วยความเคารพ…
-
อ่านได้แต่ห้ามหัวเราะ!? ก็แค่กด “ปุ่มขำ” เฉยๆ เจอคนหัวร้อนทักมาด่ารัวๆ นี่ตรูทำอะไรผิด
ทุกคนรู้ดีว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน แต่บางครั้งอากาศที่ว่าร้อนแล้วหัวของคนบางคนอาจจะร้อนซะยิ่งกว่า เหมือนอย่างเรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Pongsakorn Noisiri ที่โพสต์เล่าเรื่องเอาไว้ในวันที่ 28 มกราคม 2018 เมื่อเขาต้องถูกต่อว่าและหาเรื่องอย่างหนัก เพียงเพราะการไปกดหัวเราะในสเตตัสของเพื่อนในเฟซบุ๊ก โพสต์ที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง หลังจากที่คู่กรณีทักมา เขาก็ถูกแฟนของฝ่ายหญิงเข้ามาโจมตีอย่างหนัก ด่าเขาเสียๆ หายๆ โดยที่เขาตอบกลับไปว่า ก็แค่กดผ่านๆ แม้จะไม่ได้รู้จักกันจริงๆ แต่ก็เห็นว่าเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก ภาพจากห้องแชทของทั้งสองฝ่าย . . . ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะทางฝั่งคู่กรณีถึงกับกล้าท้าให้เจ้าของเรื่องไปถามคนอื่นๆ ดูเลยว่า การที่มาทำแบบนี้มันเป็นเรื่องที่สมควรมั้ย . . . . . . . จบงานก็ทำเอาเจ้าของเรื่องถึงกับปวดหัว ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแค่กดหัวเราะให้กับเพื่อนในเฟซบุ๊ก จะกลายเป็นเรื่องราวที่เขาบอกว่า “มาเป็นซีรีส์” ได้ถึงขนาดนี้ โพสต์เล่าเหตุการณ์ของเจ้าของเรื่อง คราวหลังเวลาจะเข้าไปตอบโพสต์ใครในเฟซบุ๊ก ก็คงต้องดูกันให้ดีๆ แล้วแหละนะ ไม่อย่างนั้นอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่เหมือนอย่างเรื่องนี้ก็เป็นได้ ที่มา: facebook
-
‘ผมไม่เรียกพี่ ผมเรียกคันหลัง’…เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บไม่พอเสียหายนับแสน!!
กลายเป็นเรื่องฮือฮาบนโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังจากที่มีนักดนตรีท่านหนึ่งได้โพสต์เล่าเหตุการณ์อุบัติเหตุบนถนน ระหว่างการเดินทางไปเล่นดนตรีที่อยุธยา ฮาวา ศิลปินผู้โด่งดังจากรายการ X Factor ได้เล่าผ่านเฟซบุ๊กของเธอว่า สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากการเบรกอย่างกะทันหันของรถคันข้างหน้า จนทำให้รถสิบล้อคันข้างหลังเธอเบรกไม่ทันและพุ่งมาชนรถของเธอ สร้างความเสียหายให้ทั้งคนและรถอย่างมาก “กำลังขับรถไปเล่นดนตรีที่อยุธยา อยู่ๆ ตำรวจทางหลวงเดินมากลางถนนเพื่อโบกรถสิบล้อคันข้างหลังที่อยู่เลนขวาสุดให้หยุด เป็นด่านลอย ยืนกันอยู่ 2 คน เราเป็นคันตรงกลาง มีรถอยู่ข้างหน้าเราคันนึง เราเบรกทัน แต่สิบล้อเบรกไม่ทันชนรถเรา กีต้าร์ เอฟเฟกต์ของกชโดนเต็มๆ เราหางตาแตกเลือดไหลเต็มเสื้อ ตอนนี้หาหมอเรียบร้อย อยู่สถานีตำรวจแล้ว พอเจอตำรวจ ตำรวจพูดจาเหมือนไม่ใช่ความผิดตำรวจ บอกว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ ควรรู้สึกยังไงดี” ข้อความจากเฟซบุ๊กของคุณ Hawa Hawax อุบัติเหตุครั้งนี้ถูกบันทึกภาพไว้ได้จากกล้องหน้ารถของผู้เสียหาย และนี่คือภาพของอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุทางเจ้าหน้า ที่ตำรวจก็ได้เข้ามาพูดคุยกับผู้เสียหาย พร้อมกับบอกว่าเขาไม่ได้เรียกรถของผู้เสียหาย แต่เรียกรถคันด้านหลัง “ผมไม่ได้เรียกพี่ ผมเรียกคันหลัง เนี่ยกำลังเรียกรถให้เดี๋ยวๆ” เสียงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาคุยกับผู้เสียหายหลังจากเกิดอุบัติเหตุ คลิปจากผู้เสียหายหลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้ามาพูดคุยด้วย ขณะนี้นักดนตรีสาวและแฟนหนุ่มของเธอปลอดภัยแล้ว แต่ทว่าในระหว่างการทำเรื่องกับประกัน ทางฝ่ายของนักดนตรีได้ทำการติดต่อกับสน. บางปะอิน เพื่อขอใบแจ้งความไปยื่นประกัน แต่กลับพบว่าใบแจ้งความดังกล่าวได้ถูกเขียนไว้เรียบร้อยแล้ว โดยที่ไม่มีการสอบปากคำเลย…
-
‘ป๋าเดปป์ มิเรอร์AAA’ โผล่ห้างเมืองไทย คนแห่รุมขอลายเซ็น-เพจแฟนคลับชี้นั่นตัวปลอม
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2018 ได้เกิดเรื่องราวที่ทำให้ฮือฮาไปทั่วโลกโซเชียล หลังจากที่มีคนโพสต์ข้อความและภาพถ่ายบอกว่า มีโอกาสได้เจอกับ Johnny Depp นักแสดงชื่อดังระดับ Hollywood ที่เดินทางมาโชว์ตัวภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศไทย ภาพถ่ายจากคนที่บอกว่าได้เจอ Johnny Depp ตัวเป็นๆ ในประเทศไทย นักแสดงคนนี้มีชื่อเสียงจากการได้รับเป็น Jack Sparrow จากหนังเรื่อง Pirates of the Caribbean และอีกหลายๆ เรื่อง ทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นเขาต่างรู้สึกดีใจ เข้าไปถ่ายรูปและขอลายเซ็นกันอย่างล้นหลาม จนกระทั่งเริ่มมีการตั้งข้อสงสัยว่าชายคนนี้ใช่ Johnny Depp ตัวจริงหรือไม่ ซึ่งทางคนที่อยู่ในเหตุการณ์และถ่ายภาพมาโพสต์ไว้ในโซเชียลนั้น ยืนยันว่าเขาคือตัวจริง สังเกตจากการที่มีผู้ติดตามและบอดี้การ์ดคอยดูแลตามติดอยู่ไม่ห่าง โพสต์และความคิดเห็นจากคนที่บอกว่าเจอ Johnny Depp มาโชว์ตัวอยู่ในห้างดังแห่งหนึ่งที่ประเทศไทย . อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายแฟนคลับของพี่ดาราดังคนนี้ก็ออกมาบอกว่า ชายที่เห็นในรูปนั้นไม่ใช่ Johnny Depp ตัวจริงอย่างแน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์ …
-
คอลเลคชันสุดพิเศษจาก SKECHERS x One Piece โผล่วางขายแล้วที่เกาหลี!!
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เหล่าสาวกรองเท้าผ้าใบหลายๆ คนอาจจะตื่นเต้นกับการเปิดตัวของ Adidas x Dragon Ball ที่ทำเอาแบงก์พันในกระเป๋าตังสั่นไปกันเลยทีเดียว แต่ยังไม่ทันหายตื่นเต้นกับการเปิดตัวรองเท้าของทาง Adidas วันนี้เราก็มีสนีกเกอร์เจ๋งๆ ที่ได้ร่วมกับการ์ตูนดังมาฝากกันอีกแล้ว!! ขอเชิญพบกับแบบไม่ต้องพับกบเอาฮากันให้เสียเวลา กับ Sketchers x One Piece การพบกันระหว่างสนีกเกอร์แบรนด์เก๋ากับการ์ตูนยอดฮิต หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับยี่ห้อ Sketchers ในแบบของรองเท้าเพื่อสุขภาพ หรือรองเท้าวิ่งมากกว่ารองเท้าแฟชั่น แต่ถ้าหากย้อนกลับไปในยุค 90’s ล่ะก็ รองเท้าจากแบรนด์นี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งคู่ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ยี่ห้ออื่นๆ เลย และแน่นอนว่าในยุคที่แฟชั่นวนกลับมาอีกครั้ง ความนิยมในการแต่งตัวแนวสปอร์ตยุค 90’s ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่เจ้ารองเท้ายี่ห้อนี้ก็ช่วยทำให้คุณดูคูลขึ้นมาอีก และคอลเลคชันใหม่นี้ก็ขอบอกเลยว่าน่ารักน่าเป็นเจ้าของไม่น้อยเลยละ Sketchers x One Piece เปิดตัวออกมาทั้งหมด 6 แบบด้วยกัน โดยการออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากคาแรคเตอร์ของตัวละครทั้ง 6 ตัวอย่าง ซันจิ โซโล ลูฟี่ เจ้ากว่างน้อยชอปเปอร์ ลอว์ และ โดฟลามิงโก้ โดยชื่อเต็มๆ ของคอลเลคชั่นสุดพิเศษนี้ใช้ชื่อว่า D’lites 2 Sweet Monster…
-
เจ้าเหมียวอ้วนสองพี่น้อง เกือบโดนทิ้งให้หนาวตายอยู่ข้างนอก ยังดีที่ถูกช่วยได้ทัน
เรื่องราวของเจ้าเหมียวน้อยผู้น่าสงสารสองตัว ที่กำลังเผชิญกับสภาพอากาศอันแสนหนาวเหน็บอยู่ด้านนอก แต่ทว่าด้วยความช่วยเหลือของสองสามีภรรยา เจ้าเหมียวทั้งสองจึงผ่านวันที่แสนโหดร้ายมาได้ “เจ้าเหมียวทั้งสองตัวอยู่ที่สวนด้านนอกตรงนี้ วันนั้นเป็นวันที่อากาศนาวจัดมาก ทั้งสองกำลังหาที่หลบความเย็นอยู่ใต้ท้องรถ” คุณ Chris ชายผู้ช่วยเหลือเจ้าเหมียวกล่าว คุณ Chris และ Jessica แฟนสาวได้เข้าช่วยเหลือเจ้า Clarence และ Midnight หลังจากที่ได้รับการติดต่อจากหญิงสาวคนหนึ่งในระแวกนั้น ซึ่งเธอได้หลอกล่อพวกมันด้วยอาหารเพื่อรอให้ Chris พาตัวไปดูแลต่อไป แต่ทว่าภารกิจช่วยเหลือเจ้าเหมียวน้อยทั้งสองไม่ได้ง่ายอย่างนั้น แค่การหลอกล่อด้วยอาหารอาจจะไม่เพียงพอ เธอจึงใช้อาหารพร้อมกับกรงที่มีที่นอนอุ่นๆ เพื่อล่อเจ้าเหมียวให้ยอมเข้าไป และในที่สุดมันก็ติดกับ แต่น่าเสียดายที่เจ้า Midnight ไม่หลงกล ตอนที่ Chris มาถึง ดูเหมือนว่าเจ้า Clarence จะยังไม่ชินกับกรงใหม่ มันมีอาการหวาดกลัวนิดหน่อย แต่หลังจากนั้นไม่นานทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี เจ้าเหมียวถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลสัตว์เพื่อให้สัตวแพทย์ตรวจร่างกาย และหลังจากนั้นหนึ่งวันพวกเขาก็มีข่าวดีมาฝากมัน เมื่อทีมช่วยเหลือได้พบตัวเจ้า Midnight เรียบร้อยแล้ว!! บรึ๋ยยย!? หนาวจริงๆ เลยนะเนี่ย ในที่สุดเจ้าเหมียวทั้งสองก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ในตอนแรกเจ้า Midnight นั้นมีอาการเขินอายนิดหน่อย แต่หลังจากที่มันเริ่มคุ้นเคยกับสถานที่ใหม่ ความซนของลูกแมวน้อยก็เริ่มปรากฏออกมา จากการตรวจร่างกาย แพทย์พบว่าเจ้าเหมียวทั้งสองนั้นมีอายุประมาณ 3 ปี และหลังจากที่พักรักษาจนเริ่มดีขึ้นแล้ว พวกมันก็ถูกส่งไปบ้านหลังใหม่ที่ร้าน Lady Moxie ในเมือง Woodstock รัฐอิลลินอยส์ …
-
แม่ค้าสาวชาวไต้หวัน โปรโมตร้านอาหารด้วยการใส่กางเกงสั้นเสมอหู ทำเอาลูกค้าใจคอไม่ดีเลย
ในสังคมปัจจุบันเราก็คงจะเคยเห็นการโปรโมตการขายสินค้าแบบวิธีต่างๆ ซึ่งนับวันก็มักจะมีวิธีแปลกๆ ใหม่ๆ มาเรียกลูกค้าและกระตุ้นยอดขายให้สินค้าขายได้มากยิ่งขึ้น การทำโปรโมชั่นแบบลด แลก แจก แถมนั้นมันเก่าไปแล้วและมันก็ไม่ค่อยจะได้ผลมากเท่าที่ควร เหล่าพ่อค้าแม่ค้าก็เลยมีวิธีใหม่ๆ ที่เห็นมากที่สุดตอนนี้นั่นก็คือการใช้คนสวยๆ หล่อๆ มาโปรโมต อย่างเช่นร้านขายอาหารข้างทางแห่งหนึ่งที่ไต้หวันที่ได้เอาแม่ค้าสุดสวยมาดึงดูดลูกค้าหนุ่มๆ ซึ่งมันก็ได้ผลตอบรับดีเกินคาด ลูกค้าต่อแถวเข้าคิวยาวสุดๆ แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน แม่ค้าสาวสุดสวยที่มาขายอาหารในครั้งนี้ แต่งตัวด้วยกางเกงยีนส์สุดสั้นพร้อมกับเสื้อสเวตเตอร์โชว์ร่องอกขาวๆ แจกรอยยิ้มหวานๆ ให้กับคุณลูกค้าทุกคน โอ๊ย ใจคอไม่ดีเลยอิหนู แม่ค้าสาวที่ปรากฏอยู่ในภาพได้โพสต์รูปภาพของเธอลงบนเฟซบุ๊ก ซึ่งมันก็เป็นการกระตุ้นยอดขายให้กับร้านอาหารแห่งนี้ขึ้นไปอีก โดยเฉพาะลูกค้าหนุ่มๆ ที่พากันหาพิกัดร้านอาหารแห่งนี้ด่วนๆ ไม่รู้ว่าขาหมูหรือแม่ค้าที่น่ากินกว่ากัน ลูกค้านี่ต่อคิวยาวเลย . หลังจากที่โพสต์ได้เผยแพร่ออกไปทำให้แม่ค้าสาวคนนี้เป็นที่สงสัยว่าเธอคือใคร มาจากไหน ซึ่งพอสืบดูแล้วก็พบว่าเธอนั้นเป็นนางแบบ มิน่าล่ะ สวยเป๊ะขนาดนี้ การโปรโมตแบบนี้ยังมีให้เห็นอีกมากในไต้หวัน อย่างเช่น แม่ค้าขายหมูคนนี้ และพ่อค้าขายถั่วสุดล่ำ หืมมมม ใจสั่นไปหมดดดดด จะว่าไปบ้านเราก็มักจะมีข่าวแบบนี้มาอยู่บ่อยๆ สงสัยจะเป็นแผนการโปรโมตแบบใหม่แน่ๆ แต่ไม่ว่ายังไรก็คิดซะว่าเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้าแล้วกัน ที่มา medium
-
เมื่อนายกแคนาดาไปออกงาน แทนที่จะโฟกัสที่งาน แต่ดันโดน ‘ถุงเท้าลายเป็ด’ แย่งซีนซะงั้น!?
สำหรับคนใหญ่คนโตที่มีชื่อเสียงนั้น เรื่องของการแต่งตัวดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างก็จับจ้องเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าหน้าผม เครื่องประดับต่างๆ เพราะว่าพวกเขาเหล่านี้อาจจะเป็นผู้นำแฟชั่นในอนาคตก็เป็นได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับดารานักแสดงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่กับผู้นำประเทศต่างๆ ก็ถูกจับตามองเช่นเดียวกัน จะแบ๊วไปไหนพ่อคุ๊ณณ และคราวนี้ก็เป็นคิวของ Justin Trudeau ผู้นำประเทศแคนาดา ที่แทนที่สื่อจะโฟกัสในเรื่องงานที่เขาพูด แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของสื่อได้ดียิ่งกว่ากลับเป็น ‘ถุงเท้า’ ที่เขาสวมใส่ไปออกงานในวันนั้น เพราะมันทั้งน่ารักทั้งน่าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว ปิดซะหน่อย เริ่มอายละ โดยกระแสครั้งนี้เกิดมาจากการที่ท่านผู้นำประเทศแคนาดาคนนี้ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเศรษฐกิจโลก ที่เมืองดาฟอส ประเทศสวิตเซอแลนด์ ซึ่งในวันนั้นเขาได้สวมชุดสูทสีน้ำเงินเรียบ แต่สิ่งที่ดูโดดเด่นที่สุดบนตัวของเขากลับเป็น ถุงเท้าสีม่วงลายเป็ดน้อยน่ารักๆ สีเหลืองอ่อน ซึ่งทางสื่อมวลชนได้เก็บภาพถุงเท้าของเขาไว้ได้ระหว่างที่เขานั่งสนทนาปราศรัยอยู่กับ Malala Yousafzai เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ชาวปากีสถานนั่นเอง ถุงเท้าแบบคนคูลๆ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้นำแคนาดาคนนี้ สวมถุงเท้าแปลกๆ ออกสู่สายตาของสาธารณชน เพราะว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาสวมถุงเท้าลวดลายตัวการ์ตูนชื่อว่า Chewbacca จากเรื่อง Star Wars ขณะเข้าพบ Christine Lagarde หัวหน้ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยลวดลายของถุงเท้าของเขาในวันนั้นมันช่างโดดเด่นซะยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ถุงเท้าลาย Chewbacca จากเรื่อง Star Wars ถุงเท้าลายใบเมเปิลเขาก็เคยสวมใส่…
-
ม้าใหญ่ล้มป่วย ใช้คนช่วยก็แล้วใช้รถลากก็แล้วก็ยังลุกยืนไม่ไหว โชคดีเพื่อนม้าเข้ามาช่วยชีวิตไว้ได้ทัน
ม้าสายพันธุ์ Shire ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ เป็นม้าที่มีขนาดตัวใหญ่มากจนใช้ลากของได้เลย แต่ด้วยความที่มันมีน้ำหนักตัวมาก หากว่ามันนอนล้มพับอยู่เป็นเวลานานก็อาจจะทำให้อวัยวะทำงานล้มเหลวจนตายได้ เจ้า Beatrice ม้าจากฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองบาธ เขตซัมเมอร์เซต ประเทศอังกฤษ ก็ล้มป่วยเช่นกัน เจ้าของพยายามช่วยให้มันยืนขึ้นยังไงก็ทำไม่สำเร็จสักที ในขณะที่พวกเขาถอดใจจะช่วยมันแล้วม้าเพื่อนซี้ของมันกลับช่วยให้มันยืนขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เจ้า Beatrice ที่นอนป่วยอยู่ Donald MacIntyre และภรรยาของเขา Jane Lipington เป็นเจ้าของของ Beatrice พวกเขาเจอมันนอนล้มพับอยู่เนื่องจากมันปวดช่วงท้องมากจนลุกขึ้นไม่ไหว แต่หากปล่อยมันนอนอยู่อย่างนั้นคงไม่ดีแน่ พวกเขาและคนงานในฟาร์ม 4 คนจึงใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมงพยายามพยุงม้าใหญ่ที่หนักกว่า 1 ตัน (1,000 กิโลกรัม) ให้มันยืนขึ้นให้ได้ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ แม้ว่าพวกเขาจะใช้รถแทร็คเตอร์ลากมันให้ยืนขึ้นมาก็แล้ว เจ้าม้าก็ยังไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อยู่ดี คลิปวิดีโอ (หากดูไม่ได้คลิก ที่นี่) เมื่อดูจากอัตราการเต้นของหัวใจและความดันเลือดของมันที่พุ่งสูงจนเกือบถึงขีดอันตรายแล้ว พวกเขาจึงเริ่มทำใจว่าคงไม่สามารถช่วยมันได้แล้วล่ะ แล้วก็เริ่มโทรแจ้งสัตว์แพทย์ให้เตรียมจัดการกับมันทันที ตอนนั้นเองคนงานก็นึกขึ้นได้ว่าต้องปล่อยเจ้า Beau ที่อยู่ในคอกข้างๆ ให้มันออกไปวิ่งเล่นด้วย เขาจึงเปิดประตูคอกให้มัน แต่มันไม่ได้วิ่งออกไปข้างนอกฟาร์มแต่อย่างใด มันกลับวิ่งเข้าไปที่หน้าคอกของ…
-
หนูและเจ้าตูบเป็นเพื่อนซี้ พอเจ้าหนูตายจากไป เจ้าหมาก็ยังไปเยี่ยมหลุมศพเป็นประจำ
สายสัมพันธ์ของเพื่อนนั้นมีคุณค่ามากจนยากจะหาอะไรเปรียบได้ แม้ว่าเพื่อนจะจากเราไปแล้ว ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันก็ยังคงอยู่ในความทรงจำเราเสมอ เจ้าตูบตัวนี้ก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะเพื่อนสนิทของมันก็เพิ่งตายจากไปเช่นกัน สุนัขสีดำตัวนี้ชื่อว่า Barlow มันอาศัยอยู่ที่สถานพักพิงสัตว์อย่างเหงาหงอยเพราะไม่มีครอบครัว เจ้าหมาทำได้เพียงแค่รอวันที่จะตายจากโลกนี้ไปอย่าเงียบๆ อยู่คนเดียว อยู่ลำพัง หว่าเว้ ทว่าสาวน้อย Liza McKenzie และครอบครัวของเธอได้เข้ามาทำให้ชีวิตของมันเปลี่ยนไป พวกเขารับเลี้ยงมันเอาไว้และมอบความอบอุ่นให้กับมันอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน เจ้าหมารู้สึกอุ่นใจเป็นอย่างมากเมื่อได้อยู่กับครอบครัวนี้ ในที่สุดมันก็มีบ้านเป็นของตัวเองและรู้สึกมีความสุขกับชีวิตนี้เสียที ได้บ้านใหม่แล้วฮะ ชีวิตดี๊ดี เจ้าตูบไม่ใช่สมาชิกใหม่เพียงคนเดียวของบ้านนี้ คุณครูที่สอนสาวน้อยอยู่เลี้ยงหนูอยู่ตัวหนึ่งและมันก็ให้กำเนิดลูกคอกใหม่ออกมา แต่คุณครูไม่สามารถดูแลพวกมันทั้งหมดได้ สาวน้อยก็เลยรับลูกหนูมาดูแล 3 ตัวด้วยความเต็มใจ เธอตั้งชื่อมันว่า Chippy, Dewey และ Mud Truck แต่เจ้า Chippy เป็นหนูที่มีความพิเศษมากที่สุดในกลุ่ม เพราะมันเกิดมาเป็นหนูไร้ขนอยู่ตัวเดียว ลูกเยอะค่ะ ดูแลเองคงไม่ไหว ช่วยแบ่งไปหน่อยนะ ในตอนแรกสาวน้อยก็กลัวว่าหนูทั้งสามจะเข้ากับ Barlow ได้ดีรึเปล่า เพราะหนูน่าจะกลัวเจ้าตูบที่ตัวใหญ่กว่า แต่พอเธอให้พวกมันเจอกันเป็นครั้งแรก ก็ต้องแปลกใจกับความพิเศษของเจ้าหนูไร้ขนอีกครั้งหนึ่ง เธอเล่าว่า “แม้ว่า Dewey…
-
เพจข่าวโพสต์ “พระเดินบนน้ำ” ร้อนถึงพระออกมาแก้ อาตมาอยู่อเมริกา หนาวจนเป็นน้ำแข็งจ้ะโยม!!
กำลังกลายเป็นเรื่องที่สร้างความฮือฮาให้กับบรรดาชาวเน็ตแบบขั้นสุด หลังมีเพจข่าวเพจหนึ่งได้ทำการโพสต์คลิป และภาพของพระสงฆ์รูปหนึ่งที่กำลังเดินอยู่บนน้ำ!? โดยโพสต์ดังกล่าวได้ให้แคปชั่นเอาไว้ว่า “เป็นบุญตายิ่งนัก พระอริยะสงฆ์ลาวเดินบนผิวน้ำไม่จมอย่างน่าเหลือเชื่อ!!!” คลิปวิดีโอดังกล่าว ซึ่งตัวโพสต์นั้นมียอดแชร์ออกไปกว่า 20,000 ครั้ง โดยจะมีจุดประสงค์อะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังโพสต์ด้านบนนั้นหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ อาจจะทำขึ้นมาขำๆ หรือจงใจสร้างความสับสนให้กับชาวเน็ตกันแน่!? แต่ที่แน่ๆ มีคนหลงเชื่อและแชร์ไปแล้วมากมายเกือบ 20,000 แชร์เลยทีเดียว โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ที่ได้เห็นภาพและคลิปดังกล่าวก็ได้มีความเห็นออกเป็นหลายเสียงด้วยกัน บ้างก็ภาวนาสาธุกันไป บ้างก็ด่าโจมตีพระสงฆ์ที่อยู่ในรูปว่าจงใจทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย แต่ มันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิ คนที่เห็นอาจจะไม่ทราบเลยว่าคลิปเดินบนน้ำนี้ไม่ได้เกิดในประเทศไทย และที่มันเกิดขึ้นได้เพราะนั่นไม่ใช่น้ำ แต่เป็นพื้นน้ำแข็งต่างหาก จึงเดือดร้อนไปถึงเพจของพระท่านหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะเป็นพระสงฆ์ที่อยู่ในคลิปและรูปภาพดังกล่าวได้ออกมาแก้ไขข่าวว่า “ภาพชุดสุดท้ายของวันนี่้ 4 มกราคม 2561 ณ วัดอาคันซอส์พุทธวนาราม เมืองฟอร์ทสมิธ รัฐอาคันซอส์ สหรัฐอเมริกาก่อนที่น้ำแข็งในในสระจะละลาย เลยเก็บภาพนี้ไว้ดูเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ญาติธรรมท่านใดที่คิดว่าเดินบนน้ำได้ โปรดใช้สติปัญญาพิจารณาไตร่ตรอง ให้ดีก่อนที่ตัดสินใจพูดในสิ่งที่ไม่ดีออกมา อธิบายให้ชัดเจนแล้วนะ หวังว่าทุกๆ ท่านจะเข้าใจ” เป็นน้ำซึ่งเย็นจัดจนกลายเป็นน้ำแข็งนั่นเอง…. . แหม๊ เล่นเอาภาพข่าวมาลงแล้วให้แคปชั่นแบบนี้เป็นใครใครก็เข้าใจผิดกันหมด ฉะนั้นจะเสพข่าวอะไรก็ขอให้มีสติกันหน่อยนะจ๊ะทุกคนนนนน!!
-
สาวไทยไป I Can See Your Voice เกาหลี โชว์เสียงร้องทรงพลัง อินเนอร์จัดเต็ม!!
ถ้าหากพูดถึงรายการวาไรตี้ร้องเพลงยอดนิยมของไทย แทบทุกคนคงจะนึกถึงรายการ I Can See Your Voice นักร้องซ่อนแอบ เป็นแน่ ใครเล่าจะไม่สนุกกับการมานั่งลุ้นว่าหนุ่มสาวบนเวทีที่ศิลปินเลือกนั้นเสียงเพราะหรือแหกกันแน่ แม้ว่าการไปโชว์ตัวบนเวทีนี้จะสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้พอสมควร แต่สาว เอิร์ธ ศศปัญ สุขเอี่ยม คงอยากโชว์ความสามารถให้คนต่างประเทศได้เห็นด้วย เธอจึงโกอินเตอร์ไประเบิดพลังเสียงในรายการ I Can See Your Voice ของเกาหลีจนเป็นที่ฮือฮาเลย คลิปวิดีโอที่เธอออกรายการ I can see your voice ประเทศเกาหลี สาวเอิร์ธ เคยออกรายการ I Can See Your Voice ของประเทศไทยมาก่อนหน้านี้แล้ว และเธอก็ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทุกคนด้วยการร้องเพลงของเธอ นอกจากนี้เธอยังเคยไปประกวดในรายการ Thailand’s Got Talent ด้วย คลิปวิดีโอที่เธอออกรายการ I Can See Your Voice ประเทศไทย แต่เท่านั้นยังไม่พอ ล่าสุดเธอก็ไปปรากฎตัวในรายการ I Can See…
-
รวม 18 ภาพสุดงง ที่ทำให้ใครหลายคนต้องหันกลับมาดูอีกทีว่า ห๊ะ!! มันอย่างนี้จริงๆ หรอเนี่ย
หลายคนอาจจะเคยเจอกับเหตุการณ์ที่ว่า เมื่อเห็นภาพๆ หนึ่งแล้วต้องย้อนกลับมาดูอีกทีว่าสิ่งที่เราได้เห็นนั้นมันเป็นดั่งที่เราเข้าใจจริงๆ หรือไม่ เพราะว่าบางทีสายตาของเราอาจจะคลาดเคลื่อน หรือสมองอาจจะผิดเพี้ยนไปจากการใช้งานมาอย่างหนักก็อาจเป็นได้ แต่บางทีก็ไม่ได้เกิดจากร่างกายของเราเสมอไป เพราะว่าภาพบางภาพมันก็ชวนทำให้สมองของเราเกิดอาการเออเร่องงงวยซะจริงๆ เหมือนกับภาพเหล่านี้ที่ชาวเน็ตต่างก็บอกกันว่า ดูแล้วรู้สึกปวดหัวจริงๆ ว่านี่มันภาพอะไรฟะเนี่ย เคยมีอะไรอย่างนี้อยู่บนโลกนี้จริงๆ หรือ ซึ่งภาพที่ชวนปวดหัวเหล่านั้นมันจะปั่นหัวเราได้ขนาดไหน มาลองดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่า ลงไปทำอะไรข้างล่างนั่นล่ะ คุณตำหนวด!! นี่ห้องน้ำจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย นึกว่าเขื่อนแตก ไม่แน่นะอาจจะมีคนทำผมตามเจ๊แกก็เป็นได้ คนไหนเป็นคนไหนกันล่ะเนี่ย ดูเหมือนพื้นผิวของดาวอะไรสักดวงหนึ่งจริงๆ เห้ย มีคนลอยได้จริงๆ ด้วยหรอเนี่ย สัตว์ประหลาดบุกแล้ว ไปตามอุลตร้าแมนมาเร๊วว เนียนอย่างนี้ ถ้าแขกมาบ้านจะหาเจอไหมละเนี่ย คงไม่มีใครกดกันละ ขโมยกันมันส์เลย ยักษ์บุกโลกแล้ว ช่วยด้วยย ถามจริงนี่เอ็งทำได้ยังไงกันเนี่ย ถามจริงๆ นะ นี่มันอะไรเนี่ย?? มันต้องมีสักคนแหละ ที่เดินชนอ่ะเอาจริงๆ …
-
ความฮาบังเกิด!! ชาวเน็ตร่วมจับผิดปกนิตยสารสุดเฟล ที่มอบอวัยวะส่วนเกินให้กับดาราสาว
กลายเป็นเรื่องฮาๆ บนโลกอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง หลังจากที่ทางนิตยสาร Vanity Fair ได้เผยแพร่ภาพถ่ายของเหล่าดาราคนดังจากปกนิตยสารโดยฝีมือของช่างภาพมืออาชีพอย่างคุณ Annie Leibovitz ภาพถ่ายที่ว่านั้นถ้าหากดูเผินๆ แล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรให้ขำเลย เพราะมันก็คือภาพถ่ายปกนิตยสารแบบทั่วๆ ไปนั่นเอง แต่ทว่าเมื่อลองมองเข้าไปดีๆ ล่ะก็คุณจะเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปรกติอยู่!! อ่า… เห็นกันหรือยัง?? ถ้าหากไม่เห็นล่ะก็ลองซูมใกล้ๆ อีกหน่อย เฉลย!? อย่างที่เราได้เห็นกันไปแล้วว่ามีบางอย่างที่ผิดปรกติเกิดขึ้นกับนักแสดงและโปรดิวเซอร์สาวสาวอย่าง Reese Witherspoon นั่นก็คือเธอมีขาถึง 3 ข้างนั่นเอง ซึ่งความผิดพลาดจากการตัดต่อภาพของเหล่าดาราคนดังบนปกนิตยสารนี้ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาขาวเน็ตไปได้ หลังจากมีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวออกไปก็มีหลายๆ คนเข้ามาแซวดาราสาวกันอย่างมากมาย บางคนก็บอกว่า “ฉันใช้เวลามากกว่า 5 นาทีที่จะพยายามจะนับดูว่า Reese Witherspoon มีขากี่ข้างกันแน่ “ ส่วนชาวเน็ตรายนี้ก็บอกว่าสาเหตุที่เธอมีขาเพิ่มมาอีกหนึ่งข้างนั้นอาจจะเป็นเพราะเธอทำหน้าที่หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นนักแสดง โปรดิวเซอร์ เจ้าของแบรนด์แฟชั่น รวมถึงทำงานช่วยเหลือสังคมอีกด้วย แต่บางคนก็พยายามหาที่มาที่ไปของขาที่เกินมา ซึ่งก็พบว่าขาอีกข้างนั้นเป็นของนักแสดงสาว Zendaya นั่นเอง และแล้วความฮาก็เพิ่มขึ้นไปอีกหลังจากที่ Reese Witherspoon ได้ออกมาตบมุขขา 3 ข้างซะเองอีกต่างหาก “อื้ม… ฉันเดาว่าทุกคนรู้ความจริงซะแล้วว่าฉันมีขา 3 ข้าง ฉันหวังว่าคุณจะยังคงยอมรับในตัวตนของฉันได้นะคะ” ข้อความจากทวิตเตอร์ของดาราสาว…
-
ช่างภาพตามถ่ายม้านั่งตัวเดิมกว่า 10 ปี ทำให้ได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย
หากเราอยู่บ้านหลังเดิมมาตลอดเป็นเวลาหลายปี เราก็คงจะเห็นวิวทิวทัศน์ซ้ำๆ กันในทุกวัน และก็คงไม่มีใครสังเกตว่าสิ่งที่เราเห็นอยู่นั้นมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ขึ้นหรือไม่ ทว่ามีช่างภาพคนหนึ่งที่ใส่ใจในเรื่องเล็กๆ เหล่านี้ และได้สร้างโปรเจกต์หนึ่งขึ้นมาทำให้เราได้เห็นว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่อยู่รอบตัวของเรานั้น มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ สำหรับช่างภาพคนดังกล่าวมีชื่อว่า Yevhen Kotenko ชาวยูเครน โดยเขาได้ถ่ายภาพม้านั่งตัวหนึ่งจากมุมของห้องครัวในบ้านของเขาเอง และสิ่งที่ทำให้ภาพเหล่านี้ดูพิเศษก็เพราะ เขาบอกว่าใช้ต้องใช้เวลากว่าสิบปีในการตามเก็บภาพเหล่านี้ ที่ทำให้เราได้เห็นว่าแม้ว่าสีของม้านั่งตัวนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่บางสิ่งก็ไม่ได้เปลี่ยนไปตามกาลเวลาเลย “ผมไม่ได้กำหนดเวลาหรือตั้งเป้าหมายอะไรเอาไว้เลย ผมเพียงแค่เดินไปที่ห้องครัวแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง และผมก็ได้เห็นสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย” “แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่ผมเคยเห็นจากมุมนี้ก็คือ ผมได้เห็นผู้คนที่มาดื่มสังสรรค์กันบนม้านั่งตัวนี้ แล้วเมามายจนควบคุมสติตัวเองไม่ได้ บางคนเมาแล้วก็คลานกลับบ้านเสมือนกับเป็นสัตว์เลื้อยคลาน เมื่อผมได้เห็นภาพอย่างนี้ ผมก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆ ที่จะต้องออกไปข้างนอก และกังวลว่าสักวันหนึ่งผมจะเป็นหนึ่งในพวกเขาหรือเปล่า” Kotenko กล่าว ทว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนม้านั่งตัวนี้ก็ไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ๆ เสมอไป เพราะเขายังได้เห็นภาพของผู้คนที่หัวเราะให้กันอย่างมีความสุข หรือยิ้มแย้มให้แก่กัน ซึ่งสิ่งที่ได้พบเจอก็ทำให้เขามีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียว แหม นั่งกันเป็นบอยแบนด์เลยนะลุงๆ มุมสวีทก็เคยเกิดขึ้นที่ม้านั่งตัวนี้เช่นเดียวกัน ว่าไงพวก เมารึยังล่ะ? กำลังเม้ามอยอะไรกันอยู่ยะ สาวๆ ไม่มีใครสนุกคนเดียวก็ได้ฟะ เป็นโต๊ะอาหารสำหรับบางคนก็ได้นะ พี่แข็งแรงไหมล่ะไอ้น้อง …
-
ความเจ๋งบนความเฟล เมื่อโปรแกรมช่วยเหลือของ Google รวมภาพแนวใหม่ ราวกับการตัดต่อขั้นเทพ
ปัจจุบันเราจะสามารถใช้โปรแกรมตัดต่อภาพต่างๆ ออกมาได้อย่างอิสระ อยากเจอเพิ่มสีสัน เปลี่ยนรูปร่าง ทำให้ดูมิติขึ้นก็สามารถทำได้หมดตามความต้องการของตัวเอง แต่สำหรับผลงานภาพถ่ายของชายคนนี้ดูแล้วจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาต้องการซักเท่าไหร่ เพราะมันชวนพิลึกเสียเหลือเกิน นี่คือภาพถ่ายของผู้ใช้ Reddit ที่ชื่อว่า MalletsDarker เมื่อเขาได้ไปเล่นสกีอยู่บนทะเลสาบ Louise ประเทศแคนาดา และเขาต้องการที่จะเก็บภาพความสวยงามของทริปนี้เอาไว้ ก่อนที่โปรแกรมช่วยเหลือจาก Google จะยื่นข้อเสนอรวมภาพทั้งหมดเข้าด้วยกัน จนผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้ ภาพที่ได้จากการรวมภาพของโปรแกรม Google Assistant เขาเล่าว่าตนเองได้ถ่ายรูปเอาไว้สามภาพ แล้วเมื่อกำลังเลื่อนดูรูปอยู่นั้น โปรแกรม Google Assistant ก็เสนอที่จะรวมเอาทั้งสามภาพของเขามาไว้ในภาพเดียว ซึ่งตอนนั้นเขาคิดว่ามันจะออกมาเป็นภาพแบบพาโนรามา ที่เป็นภาพยาวเห็นวิวทิวทัศน์ทั้งหมด แต่สุดท้ายภาพที่ได้กลับเหมือนว่าเขาเป็นเซียนเรื่องการแต่งภาพยังไงยังงั้น ภาพแรกที่เขาถ่ายเก็บความทรงจำเอาไว้ ภาพที่สองเก็บวิวทางด้านซ้ายซะหน่อย ต่อมาจึงเลื่อนมาเก็บทางด้านขวาซักเล็กน้อย ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นจึงโพสต์ภาพฮาๆ นี้ลงไปในโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2018 ผ่านไปวันเดียว ภาพดังกล่าวก็ได้กลายเป็นกระแสโด่งดัง มีคนเข้ามาคอมเมนต์มากกว่า 1,000 ข้อความ บางคนก็ติดตลกบอกว่า “นี่คือ Attack on Titan ซีซั่น…
-
จากโพสต์รับซื้อ “คีย์บอร์ด” ไปสู่เรื่องราวให้กำลังใจสุดซึ้ง ของชายหนุ่มผู้ไม่ย่อท้อ
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2018 ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Manakit Thawlom ได้โพสต์ข้อความลงไปในเพจ ExtremePC Market 2 เพื่อขอรับซื้อคีย์บอร์ดเพื่อนำมาใช้ในการทำงานของตัวเอง สิ่งที่น่าสนใจสำหรับโพสต์ของชายคนนี้กลับไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องการซื้อคีย์บอร์ดมือสองจากคนอื่นๆ แต่เขายังพูดถึงประวัติความเป็นมาของตัวเองที่ทำให้เขาต้องใช้ปากกาในการจิ้มปุ่มคีย์บอร์ด และเรื่องราวของชายคนนี้ก็ได้ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนต่างรู้สึกซาบซึ้งไปตามๆ กัน ชายผู้มีความพิการและเป็นคนที่โพสต์รับซื้อคีย์บอร์ดมือสอง เขาคนนี้รถพลิกคว่ำมาตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี ตอนพ.ศ. 2539 จนทำให้หมอนรองกระดูกต้นคอหักทับเส้นประสาท จนทำให้ตั้งแต่คอลงมาไม่มีแรงและความรู้สึกใดๆ หลังจากนั้นเขาได้ทำกายภาพกับทางโรงพยาบาลนานเกือบปี จนกระทั่งแขนเริ่มมีแรงพอจะขยับได้บ้าง และทางโรงพยาบาลก็ได้ติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือบริเวณมือของเขา แม่ต้องคอยดูแลเขาในทุกๆ ด้าน แน่นอนว่าความพิการของเขาทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ พ่อแม่และน้องสาวจึงต้องคอยดูแลเขาอยู่เสมอ โรงเรียนผู้พิการก็ไม่รับเขาเข้าเรียนเพราะอวัยวะที่ใช้ได้จริงๆ มีแค่หัวกับคอเท่านั้นเอง เขาจึงเรียนรู้สิ่งต่างๆ ผ่านหนังสือที่น้องยืมมาให้อ่าน หลังจากนั้นเขาก็ได้เจอกับผู้ใจดีที่บริจาคคอมพิวเตอร์มาให้ ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นเพียงแค่ Windows 3.1 เรียกว่าเป็นยุคแรกๆ ที่เริ่มมีการใช้คอมพิวเตอร์เลยจริงๆ ครอบครัวที่มีอยู่ด้วยกัน 4 คน ผ่านไป 10 ปี เขาก็เริ่มที่จะหาอะไรทำผ่านคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น…
-
สาวจีนผู้เกิดมาพร้อมปานบนหน้าขนาดใหญ่ ต้องฝังลูกโป่งลงบนใบหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงมะเร็งร้าย
มนุษย์ทุกคนไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ละคนต่างก็มีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันไป มันคือสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นและไม่มีใครสามารถเลือกได้ Xiao Yan สาวชาวจีนวัย 23 ปี ชาวเมือง Longjing มณฑล Guizhou เกิดมาพร้อมกับปานสีดำขนาดใหญ่บนใบหน้า ซึ่งโอกาสที่จะเกิดมามีปานนั้นอยู่ที่อัตรา 1 ใน 100 คน เจ้าปานดำนี้กินพื้นที่เกือบครึ่งใบหน้าของเธอและทางแพทย์จากโรงพยาลเซี่ยงไฮ้ได้วินิจฉัยว่าเจ้าปานขนาดยักษ์นี้จะมีโอกาสที่พัฒนากลายเป็นมะเร็งได้ถึง 10% จึงต้องทำการรักษาก่อนที่จะสายเกินไป ทางแพทย์ได้หาวิธีการที่จะช่วยเหลือเธอ และก็ได้ข้อสรุปวิธีในการรักษาคือ การฝังลูกโป่งน้ำเกลือลงไปใต้ผิวหนังเธอเพื่อเพิ่มเนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งมันทำให้ใบหน้าของเธอออกมาเป็นแบบนี้ หญิงสาวออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตอนแรกเธอไม่คิดว่าเจ้าปานนี้จะส่งผลกับชีวิตเธอมากขนาดนี้ เธอสามารถใช้ชีวิตได้แบบปกติในวัยเด็ก ไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร แต่เมื่อเธอยิ่งโต เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอนั้นแตกต่างจากคนอื่น และเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เธอตัดสินใจเข้ารับการรักษาเมื่อเดือนตุลาคม 2017 หลังจากที่ทางแพทย์ทำการฝังลูกโป่งน้ำเกลือลงบนใบหน้าของเธอ มันทำให้เธอได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากเนื่องจากใบหน้าขยายตัวออก นอกจากนี้เธอยังต้องโดนสายตาของคนอื่นๆ ที่มองเธออย่างประหลาด อีกทั้งชาวบ้านบางคนเรียกเธอว่า ตุ๊กตาหมู ซึ่งมันทำให้แม่ของเธอไม่พอใจและขอร้องกับพวกเขาว่าอย่าล้อเลียนลูกสาวของแม่เลย แต่การรักษาก็ต้องดำเนินต่อไป ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาจะแพงแค่ไหน ทางครอบครัวก็ต้องยอมจ่ายเพื่อแลกกับชีวิตของเธอ เมื่อถึงเวลาที่สมควร เนื้อเยื่อของเธอเพียงพอต่อการผ่าตัดเพื่อเอาปานขนาดใหญ่นี้ออก เธอก็จะได้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม…
-
การลื่นล้มที่งดงามของชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้าย ล้มซ้ำแล้วซ้ำอีก จนชาวเน็ตลุ้นจะตั้งหลักได้เมื่อไหร่!?
ว่ากันว่าฤดูหนาวเป็นเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษ เพราะมันทำให้เราได้กอดคนที่รักนานขึ้น ได้จับมือกันบ่อยขึ้น และอาจจะได้ตื่นสายกว่าเดิมด้วย แต่ไม่ว่ามันจะพิเศษแค่ไหนก็คงสู้ช่วงฤดูหนาวในมอนทรีออล ประเทศแคนาดาไม่ได้ โดยเฉพาะสุดยอดผลงานโชว์สุดงดงามชิ้นนี้ที่ถ่ายทอดผ่านคลิปวิดีโอสั้นๆ 21 วินาที สุดยอดผลงานที่ว่านี้คือการลื่นล้มที่ดูเหมือนการเต้นรำท่ามกลางอากาศหนาว ถ้าเปรียบกับบทกวี มันก็คงเป็นบทกวีที่เคลื่อนที่ได้ นี่ไม่ใช่การล้มแล้วลุกธรรมดาอย่างที่เราเคยประสบมา แต่มันคือการล้มแล้วล้มอีก แถมท่าสวยตั้งแต่ท่าล้มยันท่าสไลด์จนดูเหมือนกำลังเต้นรำบนแผ่นน้ำแข็งมากกว่าการลื่นล้มซะอีก เริ่มจากการไถลลงมา แล้วก็ลุกขึ้นมาแบบสวยๆ แต่แล้วก็ล้มลงพร้อมสไลด์ไปกับพื้นอีกรอบ และแล้วก็ลุกขึ้นมาได้ แต่ดูเหมือนพื้นเจ้าปัญหาจะไม่เป็นใจเอาซะเล้ย ตั้งตัวไม่ได้สักที สุดท้ายเลยร่วงลงไปอีกรอบ… มันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับชายในคลิป แต่อย่างน้อยในช่วงเวลาสั้นๆ นี้เขาก็ได้มอบเสียงหัวเราะให้กับคนดู และก็หวังว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโชว์เต้น เอ้ย!! จากการลื่นล้มครั้งนี้นะ จากคลิปนี้มีชาวเน็ตมาคอมเมนต์ว่านี่เป็นความจริงของชีวิตในมอนทรีออล… หืม คนที่นั่นเค้าคงชอบฤดูหนาวกันน่าดูเลยเนาะ อิอิ ที่มา buzzfeed
-
คนไทยเก่งมาก สร้าง “กรุงศรีอยุธยา” โดยใช้เกม Minecraft ทั้งสวยงามและสมจริง!!
สำหรับใครที่เป็นคอเกมอาจจะรู้จักกับเกมแนวเอาชีวิตรอดชื่อดังอย่าง Minecraft กันเป็นอย่างดี นอกจากการออกล่าหาของเพื่อเอาตัวรอดจากเหล่าซอมบี้แล้ว ภายในเกมผู้เล่นยังสามารถสร้างข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และออกแบบสิ่งก่อสร้างเองได้อีกด้วย แน่นอนว่าถ้าหากใครที่เป็นแฟนๆ ของเจ้าเกมนี้ก็อาจจะเคยเห็นการสร้างเมืองสุดอลังการของยูทูบเบอร์ชาวต่างประเทศกันมาบ้างแล้ว แต่คราวนี้เราลองมาชมความสามารถของเด็กไทยกันบ้างดีกว่า!! ภาพแบบจำลองพระราชวังโบราณ อยุธยาที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านเกม Minecraft จากทางช่องยูทูบ WopLastNighTV ทำเอาเราถึงกับอึ้งเลยทีเดียว เพราะเรียกได้ว่ามีทั้งความสวยงามและเต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย พระราชวังโบราณ อยุธยาในปัจจุบันนั้นถือเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่สำคัญของบ้านเรา และประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัดพระศรีสรรเพชญ์ พระที่นั่งจักวรรดิไพชยนต์ หรือส่วนของพระราชฐานชั้นกลาง ภาพของวัดพระศรีสรรเพชญ์ภายในเกม เปรียบเทียบกับรูปจำลองวัดพระศรีสรรเพชญ์ จากมินิสยาม พัทยา คลิปวิดีโอของพระราชวังโบราณอยุธยาในเกม Minecraft นั้นถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา โดยยูทูบเบอร์เจ้าของคลิปได้อธิบายถึงที่มาของผลงานเขาว่า “สร้างเพราะใจอยากสร้างครับ อาจจะไม่ตรง 100 เปอร์เซ็นต์ นี่แค่วังนะครับ แต่ผมจะสร้างทั้งเกาะ อยุธยา” ส่วนต่างๆ ที่อยู่ภายในพระราชวังโบราณ . ไปชมความสวยงามของพระราชวังโบราณ จากเกม Minecraft กันได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… โอโหไม่ธรรมดาเลยจริงๆ นะเนี่ย…
-
เด็กชายที่อ้วนที่สุดในโลก ตอนนี้ลดน้ำหนักสำเร็จแล้ว ออกไปเล่นกับเพื่อนๆ ได้สมใจอยาก
ไม่มีใครสามารถเลือกได้ว่าเราอยากจะเกิดมามีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ทำให้บางคนต้องเจอกับปัญหาที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด เหมือนอย่างเด็กหนุ่มคนนี้ที่เกิดมาแตกต่างจากคนทั่วไป จนทำให้เขาไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนกับเด็กในวัยเดียวกันได้ เด็กชายคนนี้มีชื่อว่า Arya Permana วัย 12 ปี ผู้อาศัยอยู่ในจังหวัดชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเขามีน้ำหนักมากกว่า 190 กิโลกรัมจนได้รับตำแหน่งเด็กหนุ่มที่อ้วนที่สุดในโลก Arya เด็กชายที่ประสบปัญในเรื่องของความอยากอาหาร สิ่งที่เขามีมาตั้งแต่กำเนิด คือความผิวกระหายที่ผิดแปลกไปจากปกติ ทำให้เขาต้องกินข้าววันละ 5 มื้อ แต่ละมื้อมีปริมาณมากกว่าที่คนวัยผู้ใหญ่กินกันทั่วไปถึงสองเท่า ประกอบด้วยข้าว แกงต่างๆ เนื้อสัตว์ ซุปผัก และ Tempah ที่เป็นอาหารประจำชาติของประเทศอินโดนีเซีย แม้ว่าเขาจะกินไปเยอะมากขนาดไหน แต่เขาก็ยังคงรู้สึกหิวอยู่เสมอ รวมถึงรู้สึกเหนื่อย หายใจไม่ทั่วท้องตลอด ทำให้ต้องอยู่แต่ในบ้าน ออกไปโรงเรียนหรือเล่นกับเพื่อนๆ ไม่ได้มาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ แต่ละวันเด็กชายจะทำแค่กิน นอน เล่นมือถือ หรือแช่น้ำระบายความร้อนของร่างกายเพียงเท่านั้น ใส่เสื้อผ้าเหมือนคนอื่นก็ไม่ได้ ใส่ได้แต่ผ้าโสร่งผืนใหญ่เพียงอย่างเดียว พ่อแม่ของเด็กหนุ่มไม่มีเงินมากพอที่จะพาเขาไปรักษาได้เลย เงินเก็บทั้งหมดที่เคยมีอยู่ก็ต้องสูญไปกับการซื้ออาหารมาให้ลูกชายของพวกเขากิน เพื่อประทังความหิวกระหาย แน่นอนว่าสำหรับเด็กในวัยนี้ การที่ไม่ได้ออกไปโรงเรียนหรือเล่นสนุกกับเพื่อนๆ…
-
ผู้หญิงนับร้อยเผยแพร่ภาพนู้ดเพื่อต่อต้านฆาตกร เพราะภาพนู้ดไม่ใช่เหตุผลในการถูกใครฆ่า
จากเหตุการณ์ฆ่าข่มขืนหญิงสาวชาวรัสเซียวัย 19 ปี Tatiana Strakhova ทำให้เกิดการรณรงค์เรียกร้องสิทธิของผู้หญิงที่ได้รับการกระทำรุนแรงทั้งทางกายและทางเพศ ย้อนความกลับไปที่กรณีของ Tatiana Strakhova ผู้กระทำรุนแรงครั้งนี้คืออดีตคนรักของเธอ วัย 19 ปี ชื่อว่า Artyom Iskhakov เขาได้รัดคอเธอและแทงเธอด้วยอาวุธมีดจนเสียชีวิต จากนั้นเขาจึงข่มขืนศพและฆ่าตัวตายตาม เหตุการณ์น่าสลดเช่นนี้กลับทวีความสลดใจขึ้นไปอีกเมื่อชาวเน็ตเสนอความเห็นว่า ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า Tatiana ได้ทำการยั่วอารมณ์ของคู่รักเธอด้วยรูปภาพที่เธอโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต จนทำให้เกิดการประท้วงเรื่องดังกล่าว โดยการที่หญิงสาวชาวรัสเซียนับร้อยรวมใจกันเผยแพร่ “รูปถ่ายเปลือยกาย” ของตัวเอง อิงจาก Moscow Times การประท้วงครั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้ผู้คนเข้าใจได้ว่า การโพสต์รูปภาพเปลือยกายนั้นไม่ใช่เหตุผลในการกระทำการข่มขืนหรือฆ่า หญิงสาวคนหนึ่ง ชื่อว่า Julia ได้ออกมาแสดงความรู้สึกไม่พอใจกับความเห็นที่ว่า Tatiana นั้นยั่วยวนคู่รักด้วยรูปภาพของเธอ Julia กล่าวว่า “ฉันรู้สึกกลุ้มใจมากกับการที่ รอยสัก และสีผม ยังเป็นสิ่งที่ทำให้คนเกิดไร้ศีลธรรมขึ้นมาได้อีก นี่ปี 2018 แล้ว มันใช่เหรอที่ฆาตกรจะถูกยอมรับเพราะฆ่าคนที่โพสต์ภาพเปลือยลง Instagram ของตัวเอง” Katya Obukhova จากเยคาเตรินบุร์ก โพสต์ภาพด้านบนและเขียนว่า “อะไรกัน ผู้หญิงคนนี้ถูกเรียกว่า ‘พวกขายตัว’…
-
มหากาพย์คดีการหายตัวไปของสาววัย 17 ปี กับโค้ชทีมฟุตบอลของเธอ ก่อนจะตามตัวได้ในที่สุด
สำหรับคนที่เป็นพ่อคนแม่คนแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเขาก็คือ อยากจะให้ลูกปลอดภัยและมีความสุข เพราะลูกๆ ถือได้ว่าเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ ที่ทำให้พวกเขามีความสุขในทุกๆ วันเลยก็ว่าได้ ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม พ่อ-แม่ ย่อมจะต้องปกป้องลูกอย่างสุดความสามารถอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าลูกๆ ของพวกเขาหายไป คนที่เป็นพ่อแม่ย่อมจะต้องเดือดเนื้อร้อนใจเป็นแน่ๆ เหมือนกับเคสของเด็กสาวรายนี้ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้พ่อแม่และตำรวจต้องออกตามหาจนแทบจะพลิกแผ่นดิน หญิงสาววัย 17 ปีคนนี้มีชื่อว่า Caitlyn Frisina อาศัยอยู่ที่รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา มาตลอดเกือบทั้งชีวิต เธอมีชีวิตที่แสนธรรมดาเฉกเช่นกับเด็กสาวทั่วๆ ไป แต่จะมีความพิเศษอยู่ตรงที่ว่าเธอเป็นเด็กที่เอาใส่กับการเรียนเป็นอย่างยิ่ง โดย Caitlyn อาศัยอยู่กับแม่และพ่อของเธอชื่อว่า Scarlet และ Ward ซึ่งพวกเขาเป็นที่ปรึกษาด้านการจัดการธุรกิจท้องถิ่นที่มีชื่อว่า Flatwoods Forestry ในปัจจุบัน Caitlyn ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมฟอร์ตไวท์ และที่นี่เองที่ทำให้เธอได้รู้จักกับกีฬาฟุตบอล ซึ่งได้กลายมาเป็นสิ่งที่เธอรัก และดูเหมือนเธอจะทำมันได้เป็นอย่างดี เมื่อเธอได้เป็นถึงนักฟุตบอลประจำโรงเรียนเลยทีเดียว ด้วยใจที่รักในกีฬาฟุตบอล ทำให้เธอสามารถพัฒนาตัวเองไปได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงเธอยังมักจะอาสาสมัครเป็นกรรมการฟุตบอลให้กับการแข่งขันต่างๆ อีกด้วย ซึ่ง Caitlyn ไม่ใช่เพียงคนเดียวในครอบครัวของเธอที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ เพราะว่า Ward…
-
หนุ่มรัสเซียก่อเหตุโหดกับแฟนเก่า ก่อนจะสารภาพขั้นตอนให้พ่อแม่ได้รู้ และจบชีวิตตามไป…
ในบางครั้งเราอาจรู้สึกเหมือนกับถูกครอบงำด้วยความคิดด้านลบ จนเกิดความรู้สึกสับสนในตัวเองและมีปัญหาต้องการตัดสินใจในเรื่องผิดชอบชั่วดี เหมือนอย่างชายชาวรัสเซียคนนี้ที่ได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่โหดร้าย เพราะว่าจมไปกับด้านมืดของจิตใจตัวเอง นี่คือเรื่องราวสุดสะเทือนใจของฆาตกรหนุ่มวัย 19 ปีที่ชื่อว่า Artyom Iskhakov เขาอาศัยอยู่กับแฟนเก่าของเขา Tatiana Strakhova ก่อนที่จะฆาตกรรม ข่มขืนศพของเธอ และเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้พ่อแม่ของเขาและเธอฟัง จากนั้นจึงฆ่าตัวตายตามไป Tatiana และ Artyom วัย 19 ปี ผู้เคยคบหาเป็นแฟนกันมาก่อน เรื่องราวอันแสนเศร้านี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อตอนที่ Artyom หนุ่มโปรแกรมเมอร์ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัย Bauman เลิกคบกับแฟนสาวของเขา Tatiana สาวหัวกะทิจากมหาวิทยาลัยวิจัยนานาชาติมอสโก แม้จะเลิกกันแล้วแต่ทั้งคู่ยังคงแชร์ห้องเช่าด้วยกัน หลังจากนั้นไม่นานหญิงสาวก็มีแฟนใหม่เป็นหนุ่มจากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ชื่อว่า Igor ความอึดอัดที่ต้องอยู่ด้วยกันในสถานะที่เปลี่ยนไป Artyom จะถูกปฏิเสธเสมอเวลาที่เขาชวนเธอไปดื่มด้วยกัน แถมยังต้องทนเห็นแฟนเก่าของตัวเองจู๋จี๋อยู่กับแฟนใหม่ที่เป็นเพื่อนของเขา นั่นจึงทำให้เขารู้สึกรำคาญและโมโหอย่างมาก จนไม่อาจเก็บอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้ ชายหนุ่มต้องการที่จะมีเพศสัมพันธ์กับเธออย่างมาก มันจึงกลายเป็นแรงขับให้เขาทำสิ่งที่โหดร้ายลงไปในวันหนึ่ง ตอนที่หญิงสาวกลับมาที่ห้องเช่า เขาพุ่งเข้าไปหาเธอ ต่อยเข้าไปที่หน้าของเธออย่างจัง จนหญิงสาวล้มลงไปนอนกับพื้น จากนั้นเขาก็ต่อยเธอไปอีกหลายครั้ง ทำให้มีเลือดไหลออกมาจากปากของเธอ Tatiana บอกให้เขาลุกออกไป…
-
17 ภาพยืนยันว่า เพจ Robert Downey Jr. คือเพจดาราที่ฮาเกรียนแตกที่สุดในโลกแล้ว!!
ปัจจุบันคงแทบจะไม่มีใคร ที่ไม่รู้จักนักแสดงหนุ่มใหญ่ Robert Downey Jr. คนนี้แน่นอน ด้วยผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยมมากมายของเขาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และบทบาทแจ้งเกิดของเขาที่ทำให้เขาโด่งดังไปทั่วโลกนั่นก็คือ ยอดมนุษย์หุ่นเหล็ก Ironman หรือ Tony Stark นั่นเอง นอกจากนี้หลายคนยังรู้จักเขาจากบทบาทการแสดงเป็น Sherlock Holmes อีกด้วย แน่นอนว่าเป็นคนดังก็ย่อมต้องมีเพจ Facebook ของตัวเองเป็นธรรมดา ดาราคนไหนๆ เขาก็มีกันทั้งนั้น เพื่อให้แฟนคลับชื่นชมกับรูปภาพหล่อๆ สวยๆ และได้ติดตามความเป็นไปหรือข่าวสารต่างๆ ของบุคคลนั้นๆ แต่สำหรับ เพจ Facebook ของลุง Robert Downey Jr. แล้ว มันมีอะไรมากกว่านั้น ในเพจของพี่แกนั้นเต็มไปด้วยภาพฮาๆ ที่เกี่ยวกับทั้งตัวของ Robert และบทบาทที่เขาแสดงอีกด้วย ซึ่งภาพฮาๆ ที่ว่านั้นก็มีทั้งจากฝีมือการตัดต่อของชาวเน็ต และภาพที่แกเอามาโพสต์เล่นมุกเองด้วย หากใครได้เคยเข้าไปเยือนเพจนี้ละก็จะต้องรู้ได้ทันทีเลยว่า มันเพจเกรียนชัดๆ! 1. เครื่องเล่นรูป Ironman ที่โคตรเฟล แถมยังตัดต่อ Captain America มาขี่อีก 2. แกบอกว่านี่คือการเป่ายิ้งฉุบของซุปเปอร์ฮีโร่ 3. หาก Tony…
-
หญิงสาวผู้เป็นต้นแบบของภาพวาดหญิงแกร่ง สัญลักษณ์แห่งสิทธิสตรี เสียชีวิตด้วยวัย 96 ปี
ภาพที่เห็นอยู่ด้านบนนี้ หลายคนคงจะรู้จักและคุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นภาพของหญิงสาวโรงงานคนหนึ่งขณะที่พับแขนเสื้อขึ้นก่อนจะลงมือทำงาน ถูกถ่ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับตัวจริงของผู้หญิงในภาพคือ Naomi Parker Fraley เธอเป็นหญิงสาวที่มีภาพลักษณ์โดดเด่น จนถูกใช้เป็นต้นแบบของภาพวาดหญิงแกร่งและเป็นสัญลักษณ์แห่งสิทธิสตรี แต่น่าเศร้าที่ต้องบอกข่าวร้ายว่าเธอได้จากโลกนี้ไปแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อน… Fraley ในวัย 96 ปี จากรัฐโอคลาโฮมา ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 20 มกราคม ปี 2018 ที่เมือง Longview รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ย้อนกลับไปตอนที่หญิงสาวอายุ 20 ปี เมื่อช่างภาพคนหนึ่งเดินทางไปยัง Naval Air Station และได้ถ่ายรูป Fraley ขณะที่ทำงานในร้านเครื่องจักร เธอโพกหัวด้วยผ้าลายจุดและสวมชุดสีฟ้า ภาพเพียงภาพเดียว ทำให้หญิงสาวตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วโลกจนทุกวันนี้ และเมื่อเธอจากไปผู้คนจึงโพสต์ข้อความเพื่อไว้อาลัยให้กับเธอ อย่างเช่นโพสต์นี้ ขอให้เขาไปสู่สุขคตินะ ฉันมีโปสเตอร์ภาพของเธออยู่ในออฟฟิศด้วย ผู้หญิงบางคนบอกว่าต้องขอบคุณเธอที่เป็นแรงบันดาลในในการเคลื่อนไหวเพื่อความเท่าเทียมกันทางเพศ บางคนโพสต์โปสเตอร์ ‘We Can Do It’…
-
เจ้าวัวลืมกำพืด หักหลังฟาร์มวัวของตัวเอง วิ่งไปจอยตี้ควายป่าหน้าตาเฉย!!
เรื่องราวฮาๆ นี้เกิดขึ้นกับเจ้าวัวตัวหนึ่งจากประเทศโปแลนด์ที่หนีออกจากฟาร์มของมันเมื่อประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และแอบไปเข้าฝูงกับกลุ่มควายป่าซะอย่างนั้น!! “การได้เห็นพวกควายป่าไบซันใกล้ๆ กับป่า Bialowieza นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ทว่าในกลุ่มควายป่าเหล่านั้นกลับมีบางอย่างที่สะดุดตาฉัน” คุณ Adam Zbyryt นักวิทยาศาสตร์ผู้พบเห็นเจ้าวัวลืมฝูงตัวนี้เล่า ถึงแม้ว่าหน้าตาจะคล้ายๆ กัน แต่สีขนของแกไม่ค่อยจะเนียนนะพี่วัว!! หลายๆ คนเชื่อว่าเจ้าวัวตัวนี้อาจจะเดินทางกลับฟาร์มของมันเมื่อฤดูหนาวที่รุนแรงมาถึง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันกำลังจะเพลิดเพลินกับเพื่อนใหม่ของมันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว คุณ Rafal Kowalczyk เพื่อนของคุณ Adam ที่บันทึกภาพเจ้าวัวตัวนี้ ได้ตามติดชีวิตของมันเป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์ เขาได้ตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุที่เจ้าวัวยังไม่ออกจากกลุ่มของควายป่านั่นก็เพราะว่า เหล่าไบซันอาจจะคอยปกป้องมันจากนักล่าอย่างหมาป่านั่นเอง ไปชมภาพน่ารักๆ ของเจ้าวัวตัวนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย (ดูไม่ได้กด ที่นี่ )… This cow escaped her farm and is living her new life — as a bison. pic.twitter.com/8ykRzyQ3ZJ — CBS News (@CBSNews) 24 มกราคม 2561 …
-
Snoop Dogg สูบกัญชาระหว่างสตรีมเกม แต่ไม่โดนแบน เพราะไม่ผิดกฎในแคลิฟอร์เนีย
สำหรับใครที่ติดตามวงการเพลงแร็ป คงจะคุ้นเคยกับชื่อของแรปเปอร์ตาปรืออย่าง Snoop Dogg กันเป็นอย่างดี และนอกจากเป็นนักร้องแล้วตัวเค้าเองก็ยังเป็นเกมเมอร์อีกด้วยนะเออ!! แต่ว่าประเด็นที่ทำให้ป๋าของเรากลายเป็นที่พูดถึงในวงการสตรีมเกมนั้นกลับไม่ใช่ฝีมือหรือความเทพของแก แต่เป็นความชอบส่วนตัวของพี่แกอย่าง ‘การสูบกัญชา’ นั่นเอง ล่าสุดก็ได้มีชาวเน็ตหลายคนที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับกฎของทางแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Twitch หลังจากที่เห็น Snoop ของเราดูดปุ๊นระหว่างการสตรีมเกมซะอย่างงั้น แถมช่องของเขาก็ยังไม่ถูกทาง Twitch แบนอีกด้วย!? โดยกฎที่เขียนระบุไว้ในไกด์ไลน์ของทาง Twitch นั้นผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องเคารพกฎหมายของท้องถิ่น กฎหมายระดับประเทศ และกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหมดที่มีการบังคับใช้ และไม่อนุญาติให้มีเนื้อหาที่เชิญชวนให้กระทำผิดกฎหมาย นอกจากนี้กฎดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมอีกว่าผู้เล่นจะต้องไม่มีพฤติกรรมที่ทำร้ายตัวเอง อย่างเช่นการฆ่าตัวตาย หรือเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายอย่างเช่นยาเสพย์ติดและการดื่มสุรามากเกินเหตุ รวมถึงการกระทำอื่นๆ ที่อยู่ในข่ายนี้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามงานนี้ป๋า Snoop ของเราก็รอดตัวไปได้ เพราะทางรัฐแคลิฟอร์เนียร์ได้ประกาศให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมายและสามารถซื้อขายได้ผ่านเภสัชกรเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งการสตรีมเกมในครั้งนี้ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมานั่นเอง ทางด้านตัวแทนของ Twitch ได้ให้ระบุกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีของ Snoop Dogg ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นไม่ได้ผิดกฎของแพลตฟอร์มแต่อย่างใด เพราะรัฐแคลิฟอร์เนียร์ได้ประกาศให้กัญชาถูกกฎหมายแล้ว “เพราะว่าในแต่ละท้องถิ่นนั้นมีกฎหมายที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเราจึงสนับสนุนให้ผู้คนทำตามกฎของท้องถิ่นตัวเอง” ตัวแทนจากทาง Twitch ให้สัมภาษณ์กับ Polygon…
-
ไขข้อข้องใจชายหนุ่ม กับประเด็นที่ว่า.. ทำไมนางเอกหนังโป๊ฝั่งญี่ปุ่น ชอบครางเสียงโทนสู๊งสูง
หนังโป๊จากประเทศญี่ปุ่นนั้นเรียกได้ว่าได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว และถ้าหากว่าคุณเคยดูล่ะก็สิ่งหนึ่งที่มักจะสัมผัสได้นอกจากความเร่าร้อนของดารานำหญิงแล้วล่ะก็ เสียงร้องของพวกเธอเองก็ช่างปลุกเร้าได้ไม่น้อยเลยทีเดียว… แต่เราเคยสงสัยกันบางหรือเปล่าว่าทำไมเหล่านางเอกพวกนี้เขาถึงได้มีน้ำเสียงที่เล็กและน่ารักแบบนี้นะ และทำไมเวลาที่พวกเธอส่งเสียงกระเส่านั้นมันมักจะออกเป็นโทนเสียงสูงๆ กันนะ!? อ่า… และเพื่อให้หนุ่มๆ ได้เพลิดเพลิน เอ๊ย!! เพื่อเป็นการไขข้อข้องใจ วันนี้เราก็ได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าเสียงร้องแห่งความสุขนี้มาฝากกัน ภาพของความน่ารักคิขุนั้นเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของสาวญี่ปุ่น ภาพลักษณ์ความไร้เดียงสาเหล่านี้เองก็ถือเป็นหนึ่งในจุดขายของหนังผู้ใหญ่จากแดนปลาดิบ ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้พวกเธอดูเหมือนสาวน้อยวัยใสได้ไม่ใช่มีเพียงแค่การแต่งหน้าเท่านั้น แต่เสียงเองก็ถือเป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน จุดเริ่มต้นของน้ำเสียงสูงและแหลม น้ำเสียงที่สูงและแหลมนั้นจะทำให้พวกเธอดูเหมือนกับสาวๆ วัยรุ่น เพื่อให้พวกเธอรับบทสาวมัธยมหรือผู้หญิงที่ไร้เดียงสา ซึ่งหนังในแนวนี้ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น นอกจากนี้น้ำเสียงดังกล่าวยังได้รับความนิยมในหนังผู้ใหญ่แนวอื่นๆ อีกด้วย เนื่องจากมันแสดงให้เห็นว่าพวกเธอเองก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่กำลังต้องการมันด้วยเช่นกัน Erika Nishimori หนึ่งในนักแสดงหญิงแบบชั่วคราวของวงการเอวีได้เล่าว่า การทำเสียงสูงและยั่วยวนนั้นถือเป็นหนึ่งในงานของเธอ “ฉันต้องทำท่าทางแบบเหนียมอาย มันเป็นบทที่ต้องร้องไห้และแสดงว่าฉันกำลังกลัว และนั่นมันทำให้พวกชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้น” เธอให้สัมภาษณ์ น้ำเสียงของความอ่อนน้อม ในวัฒนธรรมของญี่ปุ่นนั้นผู้ชายจะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวที่มีความเข้มแข็ง ส่วนผู้หญิงจะต้องมีความอ่อนน้อม โดยจะต้องทำหน้าที่ภรรยาที่ดีและคอยเชื่อฟังสามี แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันแนวคิดแบบนี้ได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนไปอย่างมาก หนังผู้ใหญ่รวมถึงสื่อบันเทิงต่างๆ ก็ได้มีการพัฒนาเนื้อหาจากนวนิยายหรือเรื่องแต่งเสริมเข้าไปด้วยเช่นกัน โดยเนื้อหาของเรื่องมักจะแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงเป็นพวกขี้อายและไม่ค่อยเต็มใจ ก่อนที่จะถูกฝ่ายใช้กำลังเพื่อขืนใจพวกเธอ ซึ่งน้ำเสียงอันสูงแหลมนั้นก็ทำให้พวกเขารู้สึกพอใจด้วยเช่นกัน ตัวอย่างของการสร้างเสียงครางที่จะขาดไปไม่ได้จากสื่อฝั่งญี่ปุ่น (อย่าลืมใส่หูฟังก่อนนะ!!)… …
-
หนุ่มญี่ปุ่นรอว่าที่เจ้าสาวป่วยโคม่ากว่า 8 ปี ในที่สุดเธอก็ตื่นมาราวปาฏิหาริย์ และได้แต่งงานกัน
ในโลกนี้มีคู่รักหลายคู่ที่ต้องพรากจากกันไปด้วยโรคร้าย ในหลายกรณีก็ไม่ได้ถึงกับตายจากกันไปเสียทีเดียว แต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็นอนเป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิงนิทราไม่สามารถพูดคุยกันต่อไปได้ ชายญี่ปุ่นคนนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าความรักของเขานั้นเป็นสิ่งที่มั่นคง ด้วยการรอคอยแฟนสาวที่นอนโคม่าอยู่นานถึง 8 ปีเต็ม ฟ้าคงจะเห็นถึงความรักแท้จริงของชายหนุ่มจึงได้สร้างปาฏิหาริย์ให้หญิงสาวหายดีดังเดิม จนในที่สุดทั้งคู่ได้แต่งงานกันตามที่ตั้งใจไว้ Nashiji Hisashi และแฟนสาว Makahara Mai Nakashiji Hisashi และ Nakahara Mai รู้จักกันเมื่อปี 2005 พวกเขาคบกันในฐานะคู่รักและรักกันดีเรื่อยมา พอคบกันได้ 2 ปีทั้งคู่ก็มั่นใจแล้วว่านี่แหละคือคู่ชีวิตของตัวเอง จึงได้วางแผนแต่งงานในเดือนมีนาคม 2007 ทว่า 3 เดือนก่อนงานแต่ง Mai ก็เริ่มมีอาการเจ็บป่วยอย่างรุนแรง แฟนหนุ่มจึงพาเธอไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที แต่รักษาตัวได้เพียงแค่ 3 วันอาการของเธอก็ทรุดหนักอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นเธอก็เกิดอาการหัวใจวาย ทางโรงพยาบาลรีบส่งตัวเธอไปรักษายังโรงพยาบาลใหญ่อีกแห่งทันที แม้ว่าแพทย์จะช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ได้ แต่เธอก็กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไป แม้ว่าหญิงสาวจะไม่สามารถขยับร่างกายได้แล้ว มันก็ไม่ได้มีผลต่อความรักของชายหนุ่มที่มีต่อเธอเลยแม้แต่น้อย เขายังคงเข้ามาเยี่ยมเธอทุกวัน วันละ 3 ชั่วโมงก่อนไปทำงาน และก็ใช้เวลาทั้งวันหยุดอยู่เป็นกำลังใจให้เธอด้วย…
-
พ่อแมวบุญธรรมรับเลี้ยงลูกน้อยสองตัว กลายเป็นครอบครัวที่อบอุ่นสุดแสนน่าร๊ากกก!!
ถ้าหากว่าคุณเป็นทาสแมวตัวจริงล่ะก็ หนึ่งในนิสัยของเจ้าเหมียวที่คุณคุ้นเคยเป็นอย่างดีเลยนั่นก็คือความไม่สนโลกหรือสนสิ่งใดๆ เลย และยิ่งเป็นแมวตัวผู้ด้วยแล้วล่ะก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกมันคือเพลย์บอยชัดๆ !! แต่ทว่าสำหรับเจ้า Sora แมวหนุ่มวัย 3 ปีผู้แสนอบอุ่นตัวนี้กลับไม่เหมือนกับเจ้าเหมียวตัวอื่นๆ มันได้มอบความรักและดูแลเจ้าเหมียวจรจัดตัวน้อยสองตัวและกลายเป็นพ่อบุญธรรมของพวกมันในที่สุด พบกับเรื่อวราวสุดน่ารักของครอบครัวนี้กันได้เลย…. เจ้า Amelie และ Canele ลูกแมวน้อยวัย 2 เดือนทั้งสอง ได้รับความช่วยเหลือจากทีมกู้ภัย ก่อนที่พวกมันจะย้ายเข้ามาบ้านหลังใหม่และได้รู้จักกับพี่ใหญ่อย่างเจ้า Sora แน่นอนว่าเจ้าเหมียวน้อยทั้งสองนั้นยังคงต้องการความอบอุ่นอยู่ พวกมันจึงเริ่มทำความรู้จักกับพี่ใหญ่หลังจากที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ “ในตอนแรกที่พบกัน เจ้า Sora ค่อนข้างระวังตัวนิดหน่อย แต่หลังจากนั้นไม่นานมันก็เริ่มที่จะดูแลเจ้าตัวน้อยทั้งสอง” คุณ Rie เจ้านายของพวกมันให้สัมภาษณ์ เจ้า Amelie และ Canele แมวน้อยทั้งสองตัวที่ได้รับการช่วยเหลือ หลังจากที่เริ่มคุ้นเคยกัน เจ้า Sora ก็เริ่มทำหน้าที่ดูแลพวกเจ้าเหมียวพร้อมกับมอบความรักให้กับพวกมันไม่ว่าจะเป็นการกอด หรือคอยเล่นกับพวกมัน เรียกว่างานนี้พี่เหมียวของเราได้กลายเป็นคุณพ่อไปซะแล้ว “ทั้ง Amelie และ Canele นั้นคุ้นเคยกับเจ้า Sora ตั้งแต่วันแรกที่พวกมันได้เจอกัน พวกมันรักเจ้า Sora ก่อนที่ฉันจะรู้เสียอีก” คุณ Rie กล่าว …
-
ศิลปินถ่ายภาพ “หน้าต่าง” บานเดิมมาตลอด 12 ปี เห็นการเปลี่ยนแปลงจนถึงวาระสุดท้าย
ในโลกนี้นั้นไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากความเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างย่อมเหี่ยวแห้ง โรยรา และเสื่อมสลายไป ด้วยเหตุนี้ Alper Yesiltas นักกฎหมายและช่างภาพจึงถ่ายทอดความเปลี่ยนของสรรพสิ่งผ่านหน้าต่างใบเดิม ตลอด 12 ปี จนกระทั่งวาระสุดท้ายของมัน Alper อาศัยอยู่ในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เป็นเวลา 24 ปี และเห็นหน้าต่างใบหนึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องของเขาในมุมเดิมๆ ทุกวัน หากหน้าต่างบานนี้เป็นคน มันก็คือคนที่ Alper เห็นทุกวันและอาจจะกลายเป็นเพื่อนกันด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงเริ่มถ่ายรูปหน้าต่างบานนี้ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันของแต่ละปี ในช่วงเวลานั้นเขาได้นำภาพบางส่วนที่ถ่ายโพสต์ลงในอินเตอร์เน็ตด้วย จนได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก บางสำนักพิมพ์ได้นำภาพของเขาไปขึ้นปกหนังสือ และมีหนังสือเล่มหนึ่งที่ถูกถูกจัดแสดงในงานนิทรรศการ กระทั่งวันหนึ่ง เจ้าของอาคารตัดสินใจจะรื้อถอนอาคารเพื่อสร้างใหม่ และในระหว่างการรื้อถอนนั้น Alper ได้มีโอกาสถ่ายภาพสุดท้ายของหน้าต่างบานนั้นด้วย นั่นคือภาพสุดท้ายของหน้าต่างที่เขาเห็นทุกวัน… ติดตามผลงานภาพถ่ายอื่นๆ ของ Alper ได้ที่อินสตาแกรม alperyesiltas ศิลปินได้เห็นหน้าต่างบานเดิมมา 24 ปี และได้ถ่ายรูปมันตลอด 12 ปี . . . . . . .…
-
‘บาปหนา’ น้องสาวปั่นหัวเอาคืนพี่ หลังพี่สาวจ้ำจี้กับปั๋ว ครางจนเสียงดังกังวาลไปทั่วบ้าน
บางทีระหว่างที่เรากำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะหรือว่า ‘มีเซ็กส์’ อย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์อยู่นั้น ก็อาจจะส่งเสียงดังออกมาโดยที่เราก็ไม่รู้ตัว ซึ่งเสียงที่ว่านี้ มันอาจเป็นเสียงที่กระเส่าหรือโหยหวนจนเกินคำบรรยาย จนใครบางคนที่ได้ฟังอาจจะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ที่จะต้องมาคอยฟังเสียงเหล่านี้เล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน และหนูน้อยวัย 11 ปีคนนี้ก็เป็นอีกคนเช่นเดียวกัน ที่ดูเหมือนจะไม่ชอบเสียงอันซาบซ่านที่ว่านี้ หรืออาจจะใช้คำว่าเกลียดเลยก็ยังได้ เพราะหลังจากที่คืนก่อนหน้าที่พี่สาวของเธอร่วมรักกับแฟนหนุ่มอย่างเร่าร้อน จนส่งเสียงดังไปทั่วทั้งบ้าน ช่างเป็นคนบาปที่สกปรกจริงๆ เลยนะขุ่นพรี่ เธอก็คิดหาวิธีที่จะแก้เผ็ดพี่สาวของเธอด้วยการทำอะไรสักอย่าง และในที่สุดแล้วเธอก็หาวิธีเอาคืนพี่สาวของเธอได้ ด้วยการติดโน๊ตน่ารักๆ แต่เจ็บแสบเอาไว้ทั่วทั้งบ้าน จนกลายเป็นเรื่องสุดฮา ที่พี่สาวของเธอต้องนำมาแชร์ให้กับชาวเน็ตได้มีรอยยิ้มกับความไร้เดียงสาของน้องสาวของเธอกันเลยทีเดียว น้องสาววัย 11 ขวบของฉัน บังเอิญได้ยินเสียงฉันกับแฟนหนุ่มกำลังสอดด้ายเข้าเข็มกันเมื่อคืน ในวันนี้พอเราออกไปข้างนอก แล้วกลับมาบ้านก็พบกับกระดาษเหล่านี้อยู่เต็มไปหมดเลย ไม่กะจะให้ส่องหน้าส่องตากันบ้างละ โดยเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา จากผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่มีชื่อว่า @SalsaWater เมื่อเธอได้โพสต์ภาพสิ่งของต่างๆ ที่มีโน๊ตของน้องสาวเธอติดเอาไว้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเขียนคำว่า ‘บาป’ เอาไว้ มีแทบจะทุกหลืบของบ้าน ทว่าจุดที่พีคที่สุดที่ทำให้สาวคนนี้ ตัดสินใจนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ก็เพราะว่า โน๊ตของน้องสาวที่ว่านี้ มันมีอยู่ในแทบจะทุกซอกมุมของบ้าน ไม่ว่าจะหยิบจะจับอะไรก็เป็นอันต้องเจอกระดาษใบนี้เต็มไปหมด คงต้องให้พระเจ้าลงมาโปรดคนสกปรกอย่างพี่แล้วละมั้งเนี่ย …
-
คุณปู่ผู้สูญเสียบ้านไปจากไฟไหม้ กอดเจ้าเหมียวร่ำไห้ ตอนนี้ได้รับการช่วยเหลือ พร้อมบ้านใหม่
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2018 #เหมียวขี้ส่อง ได้นำเสนอเรื่องราวของคุณปู่ Ali Meşe ที่สามารถหนีรอดออกมาจากอุบัติเหตุเพลิงไหม้ในเขตจังหวัด Ordu ประเทศตุรกี แม้ว่าเขาและทุกคนในครอบครัวจะสามารถหนีรอดออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่เขาก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก เพราะพวกเขาต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน สมบัติอันล้ำค่าที่เหลืออยู่เพียงอย่างเดียวของพวกเขาคือน้องแมวน้อย และนั่นจึงทำให้เขาเลือกที่จะหันไปรับไออุ่นจากมันไว้ในอ้อมกอด คุณปู่ตั้งใจจะจุดเตาไฟ แต่กลับเกิดความผิดพลาดจนกลายเป็นเหตุเพลิงไหม้ ด้วยความเสียใจจากการสูญเสียบ้านของตัวเอง ทำให้คุณปู่หันไปรับไออุ่นจากเจ้าเหมียวตัวน้อยที่เขาเลี้ยงไว้ ซึ่งเหลือรอดมาเพียงแค่ตัวเดียว คลิปการโอบกอดกันของคุณปู่กับเจ้าเหมียวเป็นการแสดงถึงความอบอุ่นที่ได้รับในยามที่เราต้องเจอกับปัญหา และกลายเป็นกระแสให้กับโลกโซเชียล มีชาวเน็ตเข้ามากดไลก์ มากกว่า 800,000 คน คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอ้อมกอดของคุณปู่ที่มีให้กับเจ้าเหมียว หลายๆ คนที่ได้เห็นคลิปหรือรับรู้เรื่องราวของคุณปู่คนนี้อาจกำลังสงสัยว่า หลังจากนั้นคุณปู่และเจ้าเหมียวเป็นตายร้ายดียังไงกันบ้าง? บ้านไฟไหม้หมดทั้งหลังแล้วพวกเขาจะไปอยู่กันที่ไหน? หลังจากเรื่องราวสะเทือนใจ ตอนนี้คุณปู่และเจ้าเหมียวจะเป็นอย่างไร้กันบ้างนะ? . เพื่อคลายความสงสัย เว็บไซต์ Love Meow ก็ได้ออกมารายงานเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2018 ว่า ในตอนที่คุณปู่และเจ้าเหมียวกำลังได้รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนั้นพวกเขาก็ได้รับข่าวดีและการช่วยเหลืออันแสนประทับใจ เจ้าหน้าที่จากกลุ่ม…
-
เสื้อจัมเปอร์กึ่งสำเร็จรูป’ แค่เทน้ำร้อน ปล่อยทิ้งไว้ แล้วเอาตะเกียบคีบออกมาก็ได้เสื้อหล่อๆ มาใส่!!
ในปีนี้เป็นครบรอบปีที่ 25 ของกาแฟกระป๋อง BOSS และบะหมี่สำเร็จรูป Raoh พอดี ทั้งสองแบรนด์จึงตัดสินใจฉลองร่วมกัน แต่จะให้แจกกาแฟหรือบะหมี่สำเร็จรูปมันก็ธรรมดาเกินไป พวกเขาเลยแจกเสื้อจัมเปอร์กึ่งสำเร็จรูปที่ต้องต้มเหมือนบะหมี่แทน บริษัท Suntory ที่เป็นเจ้าของแบรนด์กาแฟสำเร็จรูป BOSS และบริษัท Nissin’s ที่เป็นเจ้าของแบรนด์บะหมี่สำเร็จรูป Raoh เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่คนรู้จักกันดี และปีนี้ทั้งคู่ก็ฉลองครบรอบแบรนด์สินค้าทั้งสองร่วมกันภายใต้ชื่อ BOSS x Nissin Raoh 25th Anniversary Collaborative Raoh Boss Jumper Campaign (กิจกรรมแจกเสื้อจัมเปอร์ฉลองครบรอบ 25 ปีร่วมกันของ BOSS และ Raoh) โปสเตอร์โฆษณากิจกรรมฉลองร่วมกันของ BOSS และ Raoh ทั้งสองบริษัทต้องการแจกของที่ระลึกที่พิเศษกว่าครั้งไหนๆ จึงได้นำเสื้อจั๊มเปอร์ที่แบรนด์ BOSS มักจะแจกให้กับผู้บริโภคตามงานต่างๆ มารวมเข้ากับแนวคิดของบะหมี่สำเร็จรูป จนเกิดเป็น เสื้อจัมเปอร์กึ่งสำเร็จรูป (Instant Jumper) รูปขึ้นมา เสื้อจัมเปอร์กึ่งสำเร็จรูปจะมอบให้กับผู้ชนะในกิจกรรมนี้เพียงผู้เดียวเท่านั้น จากนั้นผู้ชนะจะต้องนำเสื้อนี้ไปต้มน้ำร้อนเหมือนบะหมี่สำเร็จรูปเลย จึงจะสามารถนำมันไปใส่อวดได้ แพ็คเกจของเสื้อเหมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วไปไม่มีผิดเลย…
-
โคตรปั่น หนุ่มแกล้งเนียนเป็นเซเลป คนแห่ตามมาถ่ายรูปด้วย แถมทำเป็นรู้จักอีกต่างหาก
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2012 ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านทางช่องยูทูป Brett Cohen มันเป็นคลิปวิดีโอที่ชายหนุ่มที่ชื่อว่า Brett Cohen อยากจะคลายข้อสงสัยอะไรบางอย่าง เขาคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีคนสนใจ และถ้าวันหนึ่งเขากลายเป็นเซเลบขึ้นมาล่ะ มันจะเกิดอะไรขึ้น และเขาต้องการที่จะรู้ว่าสังคมในตอนนั้นกำลังนิยมความมีชื่อเสียงหรือไม่ ด้วยวิธีการเหล่านี้ เขาก็เป็นคนธรรมดาที่ไม่มีอะไรโดดเด่น เขาเริ่มคิดว่า จะทำอย่างไรให้เขากลายเป็นคนที่มีคนสนใจได้ เขาเริ่มแผนด้วยการแต่งตัวแบบดาราพร้อมกับจ้างบอดี้การ์คคุ้มกัน 2 คน และยังมีช่างภาพที่ทำทีว่าเป็นปาปารัสซี่คอยตามถ่ายภาพเขา ทันใดที่เขาก้าวออกจากโรงแรม ปาปารัสซี่หนุ่มทำทีเป็นตะโกนว่า “นั่นมันดารานี่” และนั่นก็ทำให้มีคนเริ่มสนใจและเชื่อว่าเขาเป็นดาราจริงๆ มีคนมาขอถ่ายรูปด้วยแฮะ นี่ก็อีกคน สวยๆ ทั้งนั้นเลย ทีมงานทำทีเป็นนักข่าวไปสัมภาษณ์คนที่มารุมล้อมที่จะถ่ายรูปกับเขาและถามว่า รู้จักเขาไหม หนุ่มคนนี้บอกว่า เขาน่าจะแสดงเรื่องสไปเดอร์แมน ส่วนลุงคนนี้บอกว่า “พ่อหนุ่มคนดังเป็นนักร้อง ผมชอบซิงเกิ้ลแรกของเขามาก แต่ไม่รู้ว่าชื่อเพลงอะไร ” แหม่ เนียนเลยนะ สาวๆ แก๊งนี้ก็มาขอถ่ายรูปและบอกกับสื่อว่า พวกเธอรักเขามาก จากคนธรรมดาๆ ที่กลายมาเป็นเซเลบปลอมๆ แต่ผลตอบรับมันเกินกว่าที่เขาคาดไว้มาก …
-
แม่เหมียวเดลิเวอรี คาบหมูย่างจากร้านไปให้ลูกน้อยทุกวัน แสดงความรักที่มีต่อลูกแมวทั้ง 4 ตัว งุ้ยๆ
ความรักของแม่ที่มีต่อลูกเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เสมอ ข้อความนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะกับมนุษย์เท่านั้น สัตว์ทุกชนิดก็คงจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน ที่เกาหลีมีแมวอยู่ตัวหนึ่งที่ไปร้านหมูย่างอยู่ทุกวัน แต่มันไม่ยอมกินหมูย่างเองเลยสักชิ้นหนึ่ง มันจะคอยคาบหมูย่างไปให้ลูกตัวน้อยเป็นประจำ ลูกแมวทุกตัวก็เลยติดมันแจไม่ไปไหนเลย เห็นแล้วอดหลงรักไม่ได้จริงๆ เรื่องเริ่มต้นที่ร้านหมูย่างแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลี ที่ร้านแห่งนี้มักจะมีแมวตัวหนึ่งมาร้องอ้อนขอหมูย่างอยู่ทุกวัน เจ้าของร้านเรียกมันว่า Shinja ส่งหมูย่างมานะเจ้ามนุษย์ อย่าให้ฉันรอนาน เจ้าของร้านก็จะเอาหมูย่างออกมาให้มันแบบนี้ทุกวัน ช่างมีน้ำใจซะเหลือเกิน แต่เจ้าแมวก็ไม่เคยกินหมูย่างเลยแม้แต่ชิ้นเดียว พอได้หมูย่างจากเจ้าของร้านแล้วมันก็จะคาบไว้ในปาก แล้วเดินไปทางหลังร้านทันที ที่แท้ก็เอาไปให้ลูกแมวทั้ง 4 ตัวที่อาศัยอยู่ตรงนั้นนั่นเอง ลูกแมวทุกตัวก็ได้กินหมูย่างทุกวันเลย ได้กินหรูกว่าบางครอบครัวอีก แม่แมวเป็นห่วงสุขอนามัยของลูกมาก ถ้าเกิดคาบหมูชิ้นไหนแล้วทำตกกลางทางก็จะไม่เก็บมาให้ลูกกิน มันยอมเดินกลับไปที่ร้านอีกรอบหนึ่ง จะได้เอาหมูย่างสะอาดๆ ไปให้ลูกแทน แล้วถ้าเกิดมีแมวจรจัดในแถบนั้นเข้ามารังแกลูกของมันล่ะก็ … แม่แมวก็จะตบให้กลิ้งเลย “มารังแกลูกของฉันได้ยังไงกันห๊ะ!?” แมวจรจัดในแถบนั้นก็เลยไม่กล้ามารังแกลูกของมัน อันที่จริงแล้วลูกทุกตัวของมันก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว แต่ Shinja ก็ยังไม่ปล่อยให้พวกมันอยู่กันเอง ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะลูกครอกแรกของมันถูกรถทับตายหมดนั่นเอง มันคงจะฝังใจเลยอยากดูแลลูกครอกต่อไปไม่ให้ขาดตกบกพร่อง…
-
เมนต์ยังไงให้ได้ปั๋ว.. สาวไปเมนต์ฮาๆ ในเฟซบุ๊กหนุ่ม อีกอาทิตย์นึงแต่งงานกันเฉย!!
เวลาเราจะไปตอบโพสต์บนโซเชียลมีเดียของผู้อื่น เราควรจะดูบริบทให้ดีว่าโพสต์นั้นจริงจังหรือว่าโพสต์เอาฮา ไม่งั้นอาจจะได้สามีแบบงงๆ เหมือนสาวคนนี้ที่ไปตอบโพสต์รับสมัครภรรยาในเฟสบุ๊กของเพื่อนแบบเอาฮา แต่หนุ่มกับเอาจริงจนได้แต่งงานกันเฉยเลย เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อหนุ่มไนจีเรีย Chidimma Amedu ตัดสินใจว่าเขาถึงวัยที่ควรจะแต่งงานสักที จึงได้ประกาศรับสมัครสาวมาแต่งงานด้วยอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ธันวาคม 2017 แต่แทนที่เขาจะประกาศทางเว็บไซต์หาคู่ เขากลับโพสต์ประกาศลงในเฟสบุ๊กของตัวเอง โพสต์มีใจความว่า “ผมคิดว่าตัวเองถึงวัยที่ควรจะแต่งงานแล้ว ตอนนี้ผมไม่อยากเสียเวลารออีกต่อไป ถ้าใครสนใจกรุณาส่งข้อมูลส่วนตัวเข้ามาสมัครเป็นเจ้าสาวของผม ผู้ที่เหมาะสมที่สุดจะได้แต่งงานกับผมในวันที่ 6 มกราคม 2018 ปิดรับสมัครตอนเที่ยงคืนวันท่ี 31 ธันวาคม 2017 นี่ผมเอาจริงนะครับ ใครมาไม่ทันอย่าเสียดายล่ะ” รูปจากงานแต่งงานของ Chidimma Amedu และ Sophy Ijeoma สาวช่างแต่งหน้า Sophy Ijeoma ซึ่งเป็นเพื่อนกับเขาบนเฟซบุ๊กก็ผ่านมาเห็นพอดี เธอคิดว่าเขาคงจะโพสต์ตลกๆ ไปแบบนั้นแหละ จึงตอบคอมเมนต์ไปว่า “ฉันสนใจนะ ส่งข้อความมาคุยกันดูสิ 555” จริงๆ แล้วเธอกับเขาเป็นแค่เพื่อนบนเฟซบุ๊กกันเท่านั้น ไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรกันเลย ชายหนุ่มรู้จักกับเธอตอนที่เธอไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวในงานแต่งงานของเพื่อนเขา แต่พอเห็นเธอมาโพสต์แบบนี้เขาก็สนใจในตัวเธอไม่น้อยเลย เขาตอบคอมเม้นต์เธอว่า “ผมพร้อมจะแต่งงานกับคุณกว่า 60 เปอร์เซ็นต์แล้วล่ะ” แล้วก็ตอบคอมเม้นต์ของเพื่อนอีกคนหนึ่งว่า “ตอนนี้ผมสนใจ Sophy Ijeoma อยู่” คอมเมนต์ในเฟซบุ๊กที่ฝ่ายสาวไปตอบโพสต์ของหนุ่ม…
-
รู้หรือไม่ว่านักกีฬาโอลิมปิกมักจะ ป๊าบๆ กันในค่ายพัก และมันก็เกิดขึ้นมานานแล้วด้วย!?
เป็นที่รู้กันดีว่าเรานั้นจะได้ดูงานกีฬาโอลิมปิกกันทุกๆ สองปี (มีโอลิมปิกฤดูร้อนสลับกับโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งทั้ง 2 งานจะจัด 4 ปีครั้ง ในปีที่เหลื่อมกัน เราจึงได้ดูโอลิมปิกของฤดูร้อนและหนาวสลับกันทุก 2 ปี) ซึ่งในสายตาของเรามันคือการแข่งกีฬาที่รวมสุดยอดคนที่มีความสามารถในด้านต่างๆ มาแข่งขันกัน แต่ถ้าเรามองข้ามเรื่องกีฬาไป เราเคยสงสัยไหมว่าเขาทำอะไรกันระหว่างที่อยู่ในหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิกบ้าง Hope Solo นักกีฬาฟุตบอลหญิงผู้เคยเข้าร่วมในกีฬโอลิมปิกออกมาเปิดเผยกับ ESPN ว่ากิจกรรมหลักๆ ในหมู่บ้านนั้น นอกจากการฝึกที่หนักหน่วงแล้ว นักกีฬาส่วนใหญ่ยังปาร์ตี้หนักอีกด้วย แถมที่สำคัญส่วนใหญ่ยังชอบจะมีเซ็กส์กันอีกด้วย เธอเล่าว่า “นักกีฬาหลายคนวาดฝันอยากสร้างความทรงจำที่ระหว่างได้เข้าร่วมการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่นี้ เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเราจะได้เข้าร่วมอีกไหม ฉะนั้นการมีปาร์ตี้เซ็กส์ หรือออกไปมีเซ็กส์ข้างนอกไม่ก็สนามหญ้าในค่ายจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนอยากทำ” หลายคนอ่านแล้วอาจจะงงว่า เฮ้ย!! นี่ไปแข่งกีฬามันต้องขนาดนี้เลยเหรอ แต่เชื่อเหอะว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ และมันเกิดขึ้นมานานแล้วด้วย ไม่เชื่อลองมาดูเรื่องจริงเกี่ยวกับเซ็กส์ในโอลิมปิกกันดูเป็นไง นักกีฬานั้นจุดติดง่ายมาก!! เรื่องนี้ได้รับการยืนยันโดย Ryan Lochte นักกีฬาว่ายน้ำชาวอเมริกา ซึ่งเขาบอกว่า 70 ถึง 75 % ของคนที่พักอยู่ในค่ายโอลิมปิกมักจะมองหาใครสักคนเพื่อมีอะไรกัน และแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องปกติ มีแจกถุงยางฟรีในหมูบ้านนักกีฬา คุณอ่านไม่ผิดหรอก เพราะมันมีแจกจริงๆ…
-
โอ้มายก็อด!! พ่อบ้านไต้หวันได้เงินเกือบแสนบาทต่อเดือนจากการดูแลบ้านรวมถึง “แปรงเต่า”
หากจะให้พูดถึงอาชีพที่สามารถทำเงินได้จำนวนมากต่อเดือน หลายคนก็อาจจะนึกว่าอาชีพ วิศวกร ผู้รับเหมา แอร์โฮสเตส หรืิออื่นๆ แต่ว่าคงไม่มีใครนึกถึงว่าอาชีพ ‘พ่อบ้าน’ ก็สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลได้เช่นเดียวกัน และชายหนุ่มคนนี้ก็มาพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถสร้างรายได้ถึง 86,000 บาทต่อเดือน จากการประกอบอาชีพเป็นพ่อบ้านรวมถึงการ ‘แปรงเต่า’ หน้าตาของ Lee พ่อบ้านรายได้สูงเกือบแสนบาท พูดไปอาจจะไม่เชื่อ แต่ว่านี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เมื่อมีชายหนุ่มชาวไต้หวันชื่อว่า Lee ซึ่งในอดีตเคยเป็นเพียงพนักงานในร้านอาหารที่ได้รับเงินเดือนละ 30,000 ดอลลาร์ไต้หวัน(ประมาณ 32,000 บาท) ตัดสินใจพลิกโผชีวิตตัวเอง โดยลาออกจากงานเดิมแล้วหันหน้ามาเป็นพ่อบ้านประจำ และนี่การตัดสินใจครั้งใหญ่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ เจ้าเต่าน้อยแสนน่ารัก “หลายๆ ครอบครัวในไต้หวันมักจะออกไปหาเงินกันทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ทำให้พวกเขาไม่มีเวลาที่จะดูแลบ้านช่องให้สะอาด พวกเราเหล่าพ่อบ้านแม่บ้าน จึงเข้ามาเพื่อช่วยแก้ปัญหานี้ให้กับพวกเขา” Lee กล่าว สำหรับหน้าที่หลักๆ ที่ Lee ต้องปฏิบัติก็คือ การดูแลบ้านช่องให้สะอาด กำจัดศัตรูพืชให้กับต้นไม้ที่อยู่ภายในบ้าน รวมถึงช่วยทำธุระบางอย่างที่ได้รับมอบหมาย เพียงเท่านั้น การแปรงต้องใช้ทักษะอย่างสูง แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่นอกจากการทำงานตามปกติที่พ่อบ้านทั่วๆ ไปจะได้รับมอบหมายก็คือ Lee จะต้องแปรงกระดองเต่ารวมถึงทำความสะอาดให้กับเต่าตัวน้อย…
-
กราบใจเจ้านาย… ยังคงจ่ายเงินลูกน้องรุ่นแรกทุกเดือน แม้ว่าเขาจะขอลาออกไปแล้วก็ตาม
ด้วยยุคสมัยในสังคมปัจจุบัน ที่เพียงแค่ก้าวขาออกจากบ้านก็อาจจะเสียเงินได้แล้ว ทำให้คนส่วนใหญ่จึงต้องทำงานเพื่อแลกกับเงินเอาไว้อยู่ไว้กิน ซึ่งถ้าหากไม่มีงานก็ย่อมไม่มีเงินเอาไว้ใช้สอยเป็นธรรมดา แต่เรื่องนี้อาจจะใช้ไม่ได้กับชายคนหนึ่ง ที่อาจจะเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เพราะถึงแม้จะลาออกจากการเป็นพนักงานแล้ว แต่เจ้านายก็ยังจ่ายเงินเดือนเหมือนกับสมัยที่ยังทำงานอยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลง!! โดยเรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นกับนาย Tang Jianguo พนักงานขับรถบัสของบริษัทเดินรถแห่งหนึ่งทางตะวันออกของประเทศจีน โดยจุดเริ่มต้นของการได้รับเงินเดือนแม้ไม่ต้องทำงานที่ว่านี้ เริ่มมาจากเมื่อ 5 ปีก่อนที่เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเกี่ยวกับไตอย่างรุนแรง ซึ่งตัวเขาเกรงว่าจะไม่สามารถทำงานได้เหมือนแต่ก่อน และไม่อยากให้เป็นภาระของทางบริษัท จึงตัดสินใจลาออกเพื่อไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน และด้วยเหตุนี้นี่เองที่ทำให้เจ้านายใจดีของเขา ตัดสินใจจ่ายเงินเดือนให้กับเขาดังเดิม แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำงานแม้แต่ชั่วโมงเดียวก็ตาม เพราะเจ้านายคนนี้รู้ดีว่า การรักษาอาการของโรคนั้นจะต้องมีค่าใช้จ่ายไม่น้อย และ Tang ก็คงไม่สามารถไปทำงานที่อื่นได้อีกต่อไป เขาจึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้ลูกน้องของเขาคนนี้สามารถมีชีวิตอยู่รอดในสังคมนี้ต่อไปได้ ตามการรายงานจากสื่อ China Press ระบุว่าชายสกุล Tang วัย 49 ปี นั้นเป็นพนักงานรุ่นบุกเบิกของบริษัทเอเจนซี่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในเมืองฉางโจว มลฑลเจียงซู ประเทศจีน ในตอนที่เขาเข้าร่วมนั้นบริษัทแห่งนี้มีอายุเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น และ Tang ก็ได้ทำงานให้กับบริษัทนี้ในตำแหน่งคนขับรถ ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ทว่าก็เกิดโชคร้ายขึ้นกับเขาในปี 2012 เมื่อเขาได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นภาวะ Uremia (อาการเป็นพิษในเลือด) จึงทำให้เขาต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกว่า 3…
-
‘Jung Hye In’ ลงทุนเปลี่ยนลุค หั่นผมสั้นรับบทบาทในซีรีส์ ดูยังไงก็ผู้ช๊ายย ผู้ชายย…
ใครที่ชอบดูซีรีส์เกาหลีหรือชอบติดตามวิถี K-Pop คงจะชื่นชอบศิลปินเป็นพิเศษหลายคน แต่มีอยู่คนหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในตอนนี้ เพราะมีหน้าตาที่สวยเด่นเป็นเอกลักษณ์ เธอคนนี้คือ Jung Hye In นักแสดงสาววัย 27 ปี ที่รับบทเป็นเพื่อนนางเอกในซีรีส์เรื่อง Jugglers ของช่อง KBS ที่เพิ่งจบไปไม่นาน หลายคนอาจจะคิดว่าเธอเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แต่จริงๆ แล้ว เธอเคยมีผลงานการแสดงมาแล้วหลายเรื่อง เช่น Save The Family, Healer และ Doctor Stranger แต่การที่ Hye In ได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากเล่นเรื่อง Jugglers อาจเป็นเพราะเธอเปลี่ยนลุคด้วยการหั่นผมสั้นเพื่อสวมบทเป็น Park Kyung Rye ผู้จัดการร้านกาแฟที่มีบุคลิกแมนๆ หน่อย Hye In ตอนไว้ผมยาว เธอดูเป็นสาวหวาน น่ารักใสๆ และนี่คือตอนเธอตัดผมสั้นเพื่อปรับลุคให้เข้ากับบทบาทที่ได้รับ ใครที่ไม่เคยติดตามผลงานเธอมาก่อน อาจจะคิดว่าเธอเป็นทอม ไม่ก็หนุ่มน้อยหน้าหวานไปเลยก็ได้ มันก็จะแมนๆ หน่อยอะนะ แม้จะตัดผมเพื่อแสดงละครโดยเฉพาะ…
-
Grumpy Cat ชนะคดีลิขสิทธิ์ 22 ล้าน แต่ทำเนียนไม่ยอมมาฟังคำตัดสินซะงั้น!!
เจ้าแมว Tardar Sauce หรือเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ Grumpy Cat เป็นแมวเหมียวที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดตัวหนึ่งของโลก ด้วยหน้าตาบึ้งตึงที่เป็นเอกลักษณ์จึงทำให้มันมัดใจคนทั่วโลกได้อยู่หมัด ในปี 2012 ภาพของเจ้าเหมียวที่ทำหน้าบึ้งอยู่ตลอดเวลาก็กลายเป็นกระแสไวรัลในโลกโซเชียล และมีคนเอาภาพมันไปทำมีมมากมายจนสร้างชื่อเสียงให้กับมันมาก นอกจากนี้มันยังเคยมีหนังสั้นของตัวเองในปี 2014 ที่ชื่อ Grumpy Cat’s Worst Christmas Ever อีกด้วย Tardar Sauce แมวหน้าบึ้งผู้เป็นที่รู้จักในชื่อ Grumpy Cat ล่าสุดเจ้าเหมียวหน้าบึ้งตัวนี้ก็ทำเงินให้กับเจ้าของไป 710,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 22 ล้านบาท) จากการชนะคดีเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ในการใช้โลโก้หน้าแมวเหมียวบูดบึ้ง ในศาลที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา กาแฟ Grumppuccino เรื่องเริ่มต้นขึ้นในปี 2013 ตอนนั้นบริษัทเครื่องดื่ม Grenade Beverage ของนาย Paul Sandford และ Nick ลูกชายของเขา ติดต่อบริษัท Grumpy Cat Limited เพื่อที่จะขออนุญาติใช้โลโก้เจ้าแมวบนกาแฟของเขา พวกเขาจ่ายเงินค่าลิขสิทธิจำนวน 150,000…
-
เด็ก 9 ขวบติเตียนคุณครู ‘โคลัมบัสไม่ได้พบอเมริกา’ อย่าสอนอะไรผิดๆ พร้อมตั้งคำถามย้อน
บางทีสิ่งที่เราร่ำเรียนกันมานั้น อาจจะเป็นความรู้และข้อมูลที่ถูกส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ ซึ่งอาจจะไม่ได้ถูกต้องเสมอไป แต่พวกเราเองเรียนรู้มันมาอย่างนั้น โดยที่ไม่ได้สนใจหรือสังเกตเห็นความผิดปกติ แต่สำหรับเด็กชายวัย 9 ขวบที่ชื่อว่า King Johnson คนนี้ ไม่ยอมปล่อยให้ความผิดพลาดนั้นผ่านไปง่ายๆ แน่นอน เมื่อเขาพบว่าสิ่งที่เขาได้เรียนไปในเรื่องราวเกี่ยวกับ “ผู้คนพบอเมริกา” ที่ว่าเป็น Christopher Columbus นั้นมันไม่เป็นความจริง! เขาจึงทำการเขียนรีวิววิชาดังกล่าวในเชิงตำหนิลงในสมุดบันทึกของเขา พร้อมย้อนครูผู้สอนด้วยคำถามสุดเจ็บแสบเลยทีเดียว โดยใจความในบันทึกที่เขาเขียนก็ประมาณว่า สิ่งที่เขาได้เรียนมาไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นเรื่องโกหก พร้อมทั้งเฉลยความจริงให้ผู้อ่านได้ตาแตกกันไปอีก เขาเขียนว่า “วันนี้เป็นการเรียนหนังสือที่ไม่ค่อยดีนัก บลาๆๆๆ ผมไม่อยากได้ยินคุณครูพูดอะไรอีกแล้ว” “คุณครูสอนผิด และผมก็ไม่อยากจะฟังสิ่งที่ครูโกหกอีก แม่ผมบอกว่า มีคนชื่อ Christofer (Christopher) คนเดียวเท่านั้นที่พวกเรายอมรับ นั่นก็คือ Christopher Wallace“ (Christopher Wallace คือศิลปินแร็พชื่อดัง รู้จักกันในนาม Notorious B.I.G.) เขาเขียนต่อว่า “Columbus ไม่ได้เป็นคนค้นพบประเทศของเราเสียหน่อย ชาวอินเดียแดงต่างหากที่พบ” “ผมยังอยากมีวันหยุดอยู่นะ แต่ผมไม่อยากให้คุณครูสอนอะไรที่มันไม่จริงอีก” “และคำถามสำหรับวันนี้ก็คือ คนขาวจะมาสอนประวัติของคนผิวสีได้อย่างไรกันล่ะ?” ที่หมายความประมาณว่า คนผิวขาวจะมารู้ประวัติศาสตร์คนผิวสีที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกันได้อย่างไรกัน!? …
-
แบคทีเรียกินเนื้อคร่าชีวิตเด็กชาย หมอพยายามยื้อสุดหนทาง ตัดจนไม่เหลืออะไรให้ตัดแล้ว…
แบคทีเรียนั้นมีอยู่ตามที่ต่างๆ แม้รอบๆ ตัวของพวกเราเองก็มีแบคทีเรียซ่อนอยู่ในที่ที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างสะอาดเท่าที่ควร และเมื่อคนเราได้รับแบคทีเรียมากๆ เข้า ก็จะส่งผลกับร่างกายของเรา และมนุษย์เราเองก็ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าจะมีแบคทีเรียชนิดไหน อยู่ที่ไหนบ้าง และอาจจะโชคร้ายแบบเด็กชายรายนี้ที่ชื่อว่า Liam Flanagan เขาเป็นเพียงหนุ่มน้อยอายุ 8 ปี ที่ดันขี่จักรยานล้มขณะกำลังจะปั่นไปหาครอบครัว ในวันที่ 13 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา จากอุบัติเหตุทำให้คันบังคับหรือแฮนด์ของจักรยานนั้นไปเกี่ยวกับ “ต้นขา” ของเขาเข้า จึงต้องถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาลเพื่อทำแผล หลังจากกลับบ้านมาได้ไม่กี่วันเขาพบว่า ที่แผลบนหน้าของเขานั้นเกิดเจ็บปวดและม่วงแดง เหมือนกับว่ามันเริ่มเน่า เข้าจึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกครั้ง เมื่อแพทย์วินิจฉัยจึงพบว่า เขาเป็น “โรคเนื้อเน่า” ที่เกิดจาก “แบคทีเรียกินเนื้อ” นั่นเอง จากนั้นหนูน้อย Liam จึงเข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัดเนื้อออกโดย 3 โรงพยาบาลด้วยกัน แต่แบคทีเรียตัวร้ายกลับทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ “พวกเขาตัดเนื้อของ Liam ออกชิ้นแล้วชิ้นเล่า” Scott Hinkle พ่อบุญธรรมของ Liam กล่าว Sara Hebard แม่ของ Liam กล่าวว่า “เนื้อขาขวาถูกตัดออกเกือบทั้งหมด แต่ก็ทำได้แค่ตัดและก็หวังว่ามันจะหาย…
-
มันไม่ใช่อ่ะ!? หญิงสาวตัดสินใจทิ้งแฟนหนุ่ม หลังพบว่ารถปอร์เช่ของเขาคือ ‘มิเรอร์เกรด AAA’
เพื่อนๆ เคยคิดกันไหมครับว่า ของบางอย่างเราไม่จำเป็นต้องใช้ของแท้ก็ได้ ขอให้มันใช่ได้เหมือนกัน จะของแท้หรือของเลียนแบบมันก็ไม่ต่างกันหรอก แต่เรื่องราววันนี้ ของเลียนแบบ ได้ทำพิษเข้าแล้ว เพราะเมื่อสาวจับได้ว่าหนุ่มคู่เดทของตนใช้ของปลอม จนถึงกับต้องเลิกรากันเลยทีเดียว เมื่อมีหนุ่มคนหนึ่งขับรถ Porsche (บ้านเราเรียก ปอร์เช่) คันงาม รุ่น Cayenne ไปที่งานสังสรรค์แห่งหนึ่ง แล้วด้วยความที่ขับรถยี่ห้อหรูก็ทำให้ชายหนุ่มได้แอ้มสาวกลับมาเสียด้วย เขาและหญิงสาวคบกันได้ราว 2 สัปดาห์ มีเซ็กส์กันบ้างสองสามครั้ง หญิงสาวรู้สึกพอใจที่ได้คบกับหนุ่มไฮโซแบบเขา จึงโพสต์ภาพรถ Porsche สุดหรูของเขาลงอินเทอร์เน็ตเพื่อโอ้อวด . จากนั้นเพื่อนของหญิงสาวจึงได้สังเกตเห็นว่านั่นไม่ใช่รถ Porsche จริงๆ แต่มันคือรถของจีนที่ทำขึ้นมาเพื่อลอกเลียนแบบ Porsche รุ่น Cayenne ที่มีชื่อยี่ห้อว่า Zoyte ต่างหาก เพื่อนของหญิงสาวกล่าวว่า รถยี่ห้อ Zoyte นี้มีราคาประมาณ 740,000 บาทเท่านั้นเอง ในขณะที่รถ Porsche Cayenne ของจริงจะมีราคาถึง 7,400,000 บาท ซึ่งมากกว่าถึง 10 เท่า!…
-
น้องหมาเนียนขึ้นรถไฟใต้ดิน ตามจับวุ่นวาย เจ้าของแฉ นิสัยเปลี่ยนตั้งแต่คบ “ไซบีเรียน”!?
มันจะไม่ผิดอะไรเลยถ้าสัตว์เลี้ยงทำตัวเหมือนสัตว์ทั่วไป แต่บางตัวเนี่ยสิอยู่กับมนุษย์จนเคยชิน เห็นมนุษย์ทำอะไรก็อยากทำกับเค้าหมด แบบนี้ก็วุ่นวายสิหนู นี่ไม่ได้ว่าสัตว์เลี้ยงทุกตัวหรอกนะ กำลังบ่นเจ้าสุนัขจอมซนที่แอบขึ้นรถไฟใต้ดิน ทำเอาเจ้าหน้าที่ต้องตามจับวุ่นวายกันไปหมด เรื่องนี้เกิดเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ในเมืองต้าเหลียน ประเทศจีน โดยมีสุนัขพันธุ์ซามอยด์ตัวหนึ่ง แอบหนีออกจากบ้านโดยที่เจ้าของไม่รู้ และมันก็แอบเข้ามาในสถานีรถไฟใต้ดินแบบเนียนๆ ไม่ใช่แค่เข้ามาในสถานี แต่มันยังรอดสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้อย่างง่ายดายก่อนจะลงบันไดผ่านด่านและเข้าไปนั่งในรถไฟจนได้ เรื่องตั๋วนะหรอ อย่าถามเลย ไม่มี ไม่ซื้อ ไม่สนด้วย กระทั่งรถไฟออกจากชานชาลา น้องหมาคงคิดว่ารอดแล้วมั้ง ที่ไหนได้ หลังจากนั่งไปได้แค่สองป้าย มันก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้ามารวบตัวไว้ได้สำเร็จ ส่วนเจ้าของน้องหมานั้นกว่าจะรู้ว่ามันหายไปจากบ้านเวลาก็ล่วงเลยไปถึง 2 ชั่วโมงแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ในสถานีรถไฟทันที เจ้าของบอกว่าปกติแล้วเจ้าซามอยด์ตัวนี้มันไม่ได้มีนิสัยหนีเที่ยวแบบนี้หรอก แต่ช่วงนี้มันสนิทกับไซบีเรียนฮัสกี้อีกตัวที่เลี้ยงไว้ นิสัยเลยเปลี่ยนไป เผลอไม่ได้ชอบแอบออกไปเที่ยวเป็นประจำ นี่ถ้าเจ้าไซบีเรียตัวนี้ได้ยิน มันคงจะพูดว่า ‘ตรูเป็นเด็กดีอยู่บ้าน ก็หาความผิดมาโยนให้จนได้’ ขนาดชาวเน็ตจีนยังมาแซวเลยว่าโยนความผิดให้ไซบีเรียนแบบนี้ก็ได้เหรอ บางคนบอกว่ามันอาจจะเป็นแผนของเจ้าหมาไซบีเรียที่อยากครอบครองเจ้าของไว้คนเดียว มันเลยสอนให้ซามอยด์หนีออกจากบ้าน แหม๊ มันร้ายจริงๆ แต่ก็มีอีกหลายคนคอมเมนท์บอกว่าใครที่เลี้ยงสุนัขซามอยด์จะรู้ว่ามันเป็นหมาที่เอ๋อมากจริงๆ นะ มันเลยหนีออกมาแบบไม่กลัวอะไรแบบนี้ไง…
-
สาวอาสาอุ้มท้องให้เพื่อนสนิท แต่ ‘ความตาย’ กลับพรากเพื่อนรักไปก่อนจะได้เห็นหน้าลูก
เพื่อนแท้ไม่ใช่คนที่จะอยู่กับเราเฉพาะช่วงเวลาแห่งความสุขหรือเฉพาะตอนมีความทุกข์ แต่คือคนที่จะอยู่เคียงข้างเราในทุกช่วงเวลาและไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหนความเป็นเพื่อนก็จะไม่จางหายไปตามกาลเวลา เหมือนกับคู่เพื่อนรัก Bec Arena และ Jes Brockie ที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ชั้นประถม พวกเขาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานานกว่า 20 ปี กระทั่งปีที่แล้ว ทั้งคู่สนิทกันมากกว่าที่เคยเป็น เมื่อ Jes ตกลงที่จะตั้งครรภ์แทน Bec Bec ป่วยเป็น Cystic fibrosis (CF) โรคเรื้อรังที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เป็นภาวะที่ทำให้เกิดอันตรายได้ถึงชีวิต แต่เธอก็ยังอยากที่จะมีลูกกับสามี Gareth แม้จะมีความเสี่ยงมากก็ตาม เมื่อ Jes ทราบความทุกข์ของเพื่อน เธอกับสามี Jeremy เลยตัดสินใจจะมอบของขวัญที่ดีที่สุดในโลกให้กับเพื่อนสนิทที่เธอรัก ด้วยการอาสาตั้งท้องแทนเธอ สำหรับ Jeremy นั้น เขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพในแอฟริกาใต้ที่เล่นให้กับ Mamelodi Sundowns FC และ New Zealand All White ทั้งคู่รู้สึกยินดีมากที่จะได้มอบความสุขให้เพื่อนที่กำลังเป็นทุกข์ ดังนั้นทั้ง 2 คู่ จึงแบ่งปันความสุขนี้ด้วยการทำวิดีโอประกาศเรื่องการตั้งครรภ์ ในวิดีโอ มีข้อความเขียนว่า “ไม่มีความลับใดๆ ที่โรค Cystic fibrosis จะทำให้หนทางการเป็นพ่อแม่ของเราเป็นเรื่องยากและวุ่นวาย ดังนั้นความคาดหวังสำหรับทารกน้อย Arena อีกไม่เกิน 6 เดือนก็ยังทำให้พวกเรารู้สึกเหมือนฝันอยู่เลย”…
-
ดาวโป๊ลูกครึ่งลาว-อเมริกัน อยากได้พระเอกเอเชียมาเล่นด้วย งานนี้ชายไทยสนใจกันมั้ย!?
หนุ่มๆ ที่ชอบดูหนังผู้ใหญ่ เวลาเห็นนางเอกคนไหนสวยๆ อึ๋มๆ และลีลาเด็ด คงคิดในใจว่าอยากมีโอกาสแอ้มเธอคนนั้นสักครั้ง แหน่ะ อย่าบอกนะว่าไม่ได้คิด รู้หรอกน่า ถ้าใครเคยคิดแบบนั้นก็เชิญพบกับหนึ่งในนักแสดงหนังผู้ใหญ่ที่เป็นที่จับตามองมากที่สุดคือ Brenna Sparks สาวลูกครึ่งลาว-อเมริกัน วัย 25 ปี ที่เล่นหนังโป๊มานานกว่า 1 ปีแล้ว และมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุด Sparks ทำให้หนุ่มๆ ในแถบเอเชียเซอร์ไพรส์ ดีใจ และตื่นเต้นแบบสุด เมื่อเธอโพสต์ทวิตบอกว่าวงการหนังโป๊ในสหรัฐอเมริกาต้องการผู้ชายเอเชียมากขึ้น สื่อนอกรายงานว่าผู้ชายเอเชียในแวดวงหนังโป๊ไม่ว่าที่ไหนก็ตามเป็นอะไรที่หาได้ยากมาก ยกเว้นประเทศในแถบเอเชีย อย่างญี่ปุ่น ทางด้าน Sparks ในฐานะผู้หญิงที่มีเชื้อสายลาว เธอแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีผู้ชายเอเชียอยู่ในวงการนี้ด้วย เพราะเธอไม่เคยได้เล่นหนังกับผู้ชายเอเชียเลย นั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกประหลาดในมาก เมื่อฟอลโลเวอร์บางคนของเธอในทวิตเตอร์บอกว่าจริงๆ แล้วผู้ชายเอเชียนั้นเก่งกาจในเรื่องนี้มากและตอนนี้ก็มีอยู่ไม่น้อยที่โลดแล่นอยู่ในแวดวงหนังโป๊ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่หลายคนพยายามแนะนำผู้ชายเอเชียให้ กลับมีคนกลุ่มหนึ่งกลับมาเล่นมุขล้อเลียนซะงั้น โดยกล่าวหาว่า เป็นเพราะเจ้าโลกของผู้ชายเอเชียนั้นเล็กกว่ามาตรฐานไงล่ะ ของผู้ชายเอเชียเล็กกว่ามาตรฐาน แบบนี้เล่นหนังโป๊ไม่ได้หรอก ปัญหาเดียวคือจู๋ของผู้ชายเอเชียส่วนใหญ่เล็ก แม้จะมีผลวิจัยที่พิสูจน์แล้วว่า…
-
เอาให้หนัก!! เจ้าของตึกใช้ “เครน” ยกรถไปจอดบนหลังคา หลังโดนขวางจนไปทำงานไม่ได้
จากดราม่าดังในประเทศไทย เรามาดูเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในประเทศจีนกันบ้าง หลังมีคนเอารถมาจอดขวางหน้าทางเข้า – ออก ตึกที่พักอาศัยแห่งหนึ่ง งานนี้เจ้าของตึกเลยเล่นคืนให้หนักซะเลย!! เว็บไซต์ Sina News ได้รายงานว่าช่วงปลายปีก่อน มีหญิงสาวนิรนามได้นำรถยนต์มาจอดทิ้งไว้หน้าตึกที่พักอาศัยแห่งหนึ่งในเมืองเปิ่นซี ประเทศจีน เจ้าของตึกได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่น ว่ามีหญิงนิรนามเอารถคันดังกล่าวมาจอดขวางทางเข้า – ออก ไว้ ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยไม่สามารถเดินทางออกไปทำงานได้ ซึ่งหลังจากนั้นชาวบ้านก็พยายามตามหาเจ้าของรถ ทว่าผ่านไปกว่า 38 ชั่วโมงแล้ว ก็ไม่มีเจ้าของรถออกมารับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น งานนี้เจ้าของตึกเลยคิดว่าต้องเอาคืนให้สาสมซะหน่อยแล้ว เจ้าของตึกเลยจัดจ้างเครนมายกรถไปไว้บนตึกซะเลย ชาวบ้านในละแวกนั้นต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาไม่อยากทำให้มันเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่การจอดรถมั่วๆ แบบนี้ ก็ควรได้รับบทเรียนเช่นกัน หลังจากที่เรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ Weibo ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย บ้างก็ว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสม บ้างก็ชี้แนะว่าควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะดีกว่า แต่ไม่ว่าชาวเน็ตจะว่ายังไง ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่า มันต้องใช้วิธีนี้แหละจัดการกับพวกจอดรถไม่เป็นที่เป็นทาง ลองไปชมคลิปวิดีโอตอนยกรถไปไว้บนดาดฟ้ากันเลย งานนี้เจ้าของรถก็คงต้องไปจ้างรถเครนมายกลงเองแล้วล่ะ ยุ่งยากหน่อยนะพี่เอ๋ยย ที่มา: Dailymail
-
สารคดีอาชญากรรม ฆาตกรผู้สังหารหญิงขายบริการ 49 ราย ก่อนที่จะบดร่างละเอียดปกปิดหลักฐาน…
ปกติแล้ว ฆาตกรเวลาลงมือฆ่าคนเสร็จ พวกเขามักจะทำลายหลักฐานด้วยกรนำศพไปถ่วงน้ำบ้าง เผาทิ้งบ้าง แต่สำหรับเขาคนนี้เลือกที่จะบดศพให้เละละเอียด นี่คือสารคดีเรื่องราวของ Robert Pickton วัย 49 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู่ในประเทศแคนาดา ที่ลงมือฆ่าหญิงขายบริการกว่า 49 ราย ร่างของหญิงขายบริการเหล่านั้นถูกบดจนเละก่อนจะนำไปให้หมูในฟาร์มกินและบางส่วนขายให้กับลูกค้า ซึ่งบางคนเป็นตำรวจท้องถิ่น ในที่สุดเขาจึงถูกจับในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2002 ปัจจุบันเขาอายุ 68 ปี และยังคงอยู่ในคุกที่รัฐบริติชโคลัมเบียของแคนาดา อย่างไรก็ตามได้มีการเผยแพร่ตอนใหม่ของสารคดี Voice of A Serial Killer ที่ออกอากาศผ่านช่อง British network CBS Reality ในสหราชอาณาจักรเมื่อคืนวันพุธ ซึ่งเป็นข้อมูลเพิ่มเติมจากการตรวจสอบ รวมทั้งคำสารภาพของ Pickton ที่เล่าให้เพื่อนร่วมห้องขังฟัง ด้วยความที่ไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมห้องขังคนนั้นคือสายลับจาก Royal Canadian Mounted เขาจึงพูดกับเพื่อนคนนั้นว่าเป้าหมายของเขาคือต้องการสังหารผู้หญิง 50 ราย… ย้อนกลับไปเมื่อปี 2002 ตอนที่ Pickton ถูกจับ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจเจอข้าวของของผู้หญิงหลายรายที่หายไปในฟาร์มของเขา หลังจากที่ถูกจับกุม ตำรวจพบร่องรอย DNA ของผู้หญิงที่หายไป…
-
เมื่อหิมะตกหนักในโตเกียว ชาวญี่ปุ่นก็เลยออกมาปั้น ‘ตุ๊กตาหิมะ’ แบบขั้นเทพ ไม่เหมือนที่ไหนๆ!!
เมื่อไม่กี่วันก่อน เราได้นำเสนอสภาพอากาศในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นที่กำลังประสบภัยหนาวและพายุหิมะ ที่ว่ากันว่าหนาวและรุนแรงที่สุดในรอบ 4 ปีเลยทีเดียว ส่งผลให้เที่ยวบินระหว่างประเทศต้องถูกยกเลิกไปกว่า 250 เที่ยว ด้วยกัน อ่านข่าวเก่า หนาวสะท้าน!! โตเกียวเผชิญหิมะถล่มหนัก รุนแรงสุดในรอบ 4 ปี นักท่องเที่ยวติดค้างเพียบ ชาวญี่ปุ่นจะทำอย่างไรเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้? แน่นอน พวกเขาแทบจะไม่เป็นอันทำอะไรเลย แต่สิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือ ‘การปั้นตุ๊กตาหิมะ’ และนี่ไม่ใช่การปั้นตุ๊กตาหิมะทั่วไปแบบที่เราเคยเห็น แต่มันคือการโชว์ฝีมือศิลปะขั้นเทพผ่านแฮชแท็ก #雪だるま เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศที่เคร่งเครียดให้ดูผ่อนคลายลง และแน่นอน มันกลายเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก การปั้นตุ๊กตาหิมะ ไม่ใช่การโชว์ฝีมือด้านประติมากรรมเท่านั้น แต่บางคนปั้นหิมะเพราะอยากทำความสะอาดหน้าบ้านหรือหน้าสำนักงาน แม้จะเอาหิมะออกไม่ได้ในตอนนี้ อย่างน้อยก็ทำให้มันน่าดูยิ่งขึ้น ก๊อดซิลาบุกโตเกียว ถือโอกาสตกแต่งหน้าบ้านซะเลย แก๊งมินเนี่ยนก็มา งือออ มันก็จะแบ๊วๆ หน่อย . . เจ้าหมีแพนด้าของนั่งพักแป๊บ แมวกวัก แต่คงไม่กวักเรียกหิมะเพิ่มหรอกนะ . นี่แค่ปั้นเล่นๆ…
-
25 ภาพที่พอได้เห็นแล้วจะทำให้คุณรู้สึกโกรธ ก็มันโมโหอ่ะ ทำไมชีวิตต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย!!
ชีวิตของคนเรานั้นมักจะอยู่ภายใต้ความกดดันอยู่เสมอ เมื่อเจอปัญหาเล็กน้อย เจอคนอื่นทำมารยาทไม่ดีใส่ หรือแม้กระทั่งอะไรที่มันไม่เพอร์เฟ็คขัดใจนิดหน่อย ก็อาจจะทำให้ความสงบสุขที่อยู่ในใจเราถูกทำลายลงไปง่ายๆ เลยทีเดียว พบกับ 25 ภาพสุดทรมานหัวใจเหล่านี้ ที่ดูแล้วช่างน่าหัวร้อนขัดใจสุดๆ จนอาจจะทำให้คนที่ใจเย็นที่สุด โมโหออกมาได้เลยทีเดียว 1. ดูพรมที่วางไม่ตรงเส้นของแผ่นกระเบื้องนี่สิ 2. ใครมาแอบกินสบู่ไปเนี่ย! เห็นแล้วคลื่นไส้เลย 3. เดี๋ยวนะ!! คิวฉันหายไปไหน 4. เหล่านักท่องเที่ยวมือบอน เห็นแล้วหงุดหงิดสุดๆ 5. นอนขนาดนี้ เป็นเจ้าของสนามบินหรือจ๊ะ 6. ตอนหยิบมา หยิบได้ แต่พอเปลี่ยนใจ ดันเอาไปไว้ที่เดิมไม่ได้ 7. คุณหลอกดาว! ไส้แซนด์วิชของฉันอยู่ที่ไหน 8. การขนส่งรถสปอร์ต Aston Martin ราคา 7 ล้านบาทมีข้อผิดพลาด ‘นิดหน่อย’ 9. พอเห็นแบบนี้ที่งานปาร์ตี้ หงุดหงิดจนอยากจะกลับบ้านเลยทีเดียว 10. เหมือนหลุดมาอีกมิติหนึ่ง…. …
-
ไอรอนแมนรัสเซีย สร้างชุด Exo พร้อมปืนเก็บเสียง ไม่มีและไม่หนีพร้อมสู้คนทวงหนี้สุดใจ
ทุกคนน่าจะรู้จักซูเปอร์ฮีโร่เกราะเหล็ก ไอรอนแมน จากค่าย Marvel กันดี เขาเป็นวิศกรที่สร้างชุดเกราะล้ำยุคสุดแข็งแกร่งขึ้นมาเพื่อใช้ต่อกรกับศัตรูของเขา ในโลกแห่งความเป็นจริงเองก็มีชายคนหนึ่งที่ได้รับฉายาว่า ไอรอนแมนแห่งรัสเซีย เหมือนกัน แต่เขาไม่ได้สู้กับวายร้ายที่คิดจะทำลายโลกเหมือนในภาพยนตร์หรอกนะ เขาทำชุดเกราะขึ้นเพื่อต่อสู้กับคนทวงหนี้ต่างหาก Anton Maltsev ผู้ได้รับฉายา ไอรอนแมนแห่งรัสเซีย ชายหนุ่มคนนี้ชื่อ Anton Maltsev เขาเป็นอดีตหน่วยรบพิเศษของประเทศรัสเซียที่เข้าร่วมสงครามในประเทศ Kosovo มาแล้ว เมื่อปี 2016 เขาก็กลายเป็นข่าวดังเนื่องจากเขาเปลี่ยนอพาร์ทเม้นต์ในเมืองมอสโกให้กลายเป็นฐานที่มั่นติดกับดักแน่นหนา จนต้องใช้ทหารบุกเข้าไปเลยทีเดียว เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Maltsev กู้เงินมาจากธนาคาร Rosbank แต่ไม่สามารถจ่ายหนี้มูลค่า 118,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.7 ล้านบาท) คืนได้ ต่อมาคนทวงหนี้จากธนาคารจึงเข้ามาทวงหนี้เขา แม้ว่าตอนแรกพวกเขาจะทำแค่ข่มขู่ด้วยคำพูดเท่านั้น แต่ไม่นานนักพวกเขาก็เริ่มใช้กำลังข่มขู่อดีตทหารคนนี้ ทั้งแอบดักรออยู่บริเวณใกล้อพาร์ทเมนต์ และก็เอากาวมาฉีดอุดรูกุญแจห้องเขาด้วย อดีตทหารหนุ่มเล่าว่า “วันหนึ่งผมก็หมดความอดทนกับพวกคนทวงหนี้ เพราะพวกเขาใช้ความรุนแรงด้วยการทำลายตู้ไปรษณีย์ของผม … ทำให้ผมรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างมาก ผมก็เลยให้ภรรยาย้ายไปอยู่ที่อื่น ส่วนผมก็เริ่มเสริมความแข็งแกร่งให้อพาร์ทเมนต์เพื่อรับมือกับพวกเขา” คนทวงหนี้พยายามบุกเข้าไปในอพาร์ทเมนต์ของเขาแต่โดนกับดักสเปรย์พริกไทยเข้าเต็มๆ และแม้จะใช้ค้อนใหญ่ทุบประตูห้องแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใดเพราะเขาใช้เหล็กจากฐานกำลังมาเสริมประตูไว้ จึงต้องเรียกให้ทหารผู้เชี่ยวชาญด้านการปลดระเบิดบุกเข้าไปแทน พอเข้าไปในห้องก็พบว่ามีกับดักเส้นลวดถูกติดตั้งไว้เต็มไปหมด พร้อมทั้งมีอาวุธปืนหลายชนิด…
-
22 ภาพปัญหาที่คุณอาจไม่มีทางเข้าใจได้เลย เพราะมันเป็นเรื่องของ ‘คนถนัดซ้าย’
สิ่งของส่วนใหญ่ในโลกนี้มักจะถูกสร้างมาสำหรับคนถนัดขวา ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติเพราะว่าคนส่วนใหญ่ในโลกนี้ถนัดใช้มือขวากัน แต่ถ้าเกิดคุณเป็นคนถนัดซ้ายล่ะก็ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันก็เป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับคุณได้ มาดูกันว่าคนถนัดซ้ายต้องพบเจอปัญหาอะไรบ้างในโลกที่ถูกสร้างมาเพื่อคนถนัดขวา ถ้าคนเป็นถนัดขวาทั่วไปล่ะก็คงจะมองว่าการใช้สมุดแบบห่วงมันสะดวกสบายดี เพราะว่าเปิดง่าย ฉีกง่าย แต่ถ้าเกิดมาเป็นคนถนัดซ้ายเราก็จะได้รอยแผลจากการใช้สมุดแบบห่วงทุกครั้งไป ก็เขียนยังไงมันก็ติดห่วงอะ แล้วเราก็จะมีปัญหากับการใช้แฟ้มแบบห่วงเหล็กเช่นกัน ฮึ่ย นอกจากนี้เวลาเราเขียนอะไรก็ตามด้วยปากกาหมึกซึม หรือปากกาที่หมึกแห้งช้า … มือก็จะต้องเลอะหมึกตลอดเลย!! แถมยังล้างยากอีกต่างหาก!! เพราะฉะนั้นเวลาจะต้องเขียนข้อความบนกระดาน ก็ไม่ต้องสงสัย … มือก็จะเลอะเหมือนกันนั่นแหละ เห้อออ นอกจากสมุดแล้ว ของอย่างอื่นในโลกก็ไม่เหมาะกับคนถนัดซ้ายเลยสักนิด ดูอยู่ที่เปิดกระป๋องนี่สิ คนถนัดซ้ายจะใช้ยังไง!? ที่ตักไอศกรีมนี่ก็อีก ทำไมต้องเอาที่กดไว้ทางขวาอย่างเดียวด้วยฟระ แถมเวลาต้องนั่งเรียนในห้องที่เป็นเก้าอี้พับแบบนี้ เราก็จะวางแขนไม่ได้เหมือนคนถนัดขวา ซ้ำร้ายถ้าต้องนั่งชิดกับเพื่อนแขนก็ยังชนกันจนเพื่อนนึกว่าเราสะกิดเรียกด้วย แต่เปล่าเลยตูแค่ต้องวางแขนทางซ้ายต่างหาก เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากจะให้แขนชนกับเพื่อนเวลาไปกินข้าว จนทำให้ทั้งเราและเพื่อนเสียอารมณ์ เราก็ต้องนั่งขอบโต๊ะด้านซ้ายสุดเท่านั้น ใครจะมาแย่งไม่ได้ แถมเวลาใช้กรรไกรตัดของก็ทำได้อย่างยากลำบาก เพราะที่จับมันทำมาสำหรับคนถนัดขวา ถ้าอยากจะใช้กรรไกรสบายๆ ก็ต้องไปพลิกโลกหาซื้่อกรรไกรของคนถนัดซ้ายที่เจอยากยิ่งกว่าแรร์ไอเท็มเสียอีก…
-
หนุ่มอยากตั้งชื่อลูก “โกคู” เมียบอกให้ได้ล้านไลก์ก่อนสิ งานนี้ชาวเน็ตรวมพลังกันใหญ่!!
สมมุติว่าคุณเป็นแฟนเดนตายของการ์ตูนเรื่อง Dragon Ball บวกกับดันรู้ตัวว่ากำลังจะมีลูกชาย ซึ่งนั่นทำให้คุณอยากจะตั้งชื่อให้กับลูกชายว่า Goku ตามตัวเอกที่คุณชื่นชอบ แต่ภรรยาของคุณดั๊นนน ไม่เห็นด้วยซะอย่างนั้น คุณจะทำอย่างไร? ถ้าคุณคิดไม่ออกลองให้เรื่องของคุณ Carlos Sanchez จากเมืองทูซอนรัฐแอริโซนา เป็นตัวอย่างดูก่อนก็แล้วกัน… เรื่องมันมีอยู่ว่าคุณ Carlos คนนี้เขาอยากจะตั้งชื่อให้กับลูกชายของตัวเองว่า Goku แต่ภรรยาของเขากลับไม่ยอมพร้อมเสนอเงื่อนไขว่า ถ้าพี่คนนี้อยากให้ลูกชื่อนั้นจริงๆ จะต้องให้ภาพของเขามีคนกดไลก์ 1 ล้านครั้ง จากนั้นลูกของทั้งคู่จะได้ชื่อว่า Goku จริงๆ คุณพ่อ Carlos ได้ยินอย่างนั้นก็ไม่รอช้า รีบถ่ายรูปกับป้ายพร้อมบอกให้คนแชร์และกดไลก์ 1 ล้านครั้งทันที โดยมีโปสเตอร์ Dragon Ball อยู่ข้างหลัง ภาพของเขานั้นถูกแชร์และไลก์อย่างรวดเร็ว โดยภาพนั้นถุูกโพสต์เมื่อประมาณตี 4 ตามเวลาบ้านเรา ซึ่งตอนนี้มีคนกดไลก์ไปแล้วกว่า 91,000 ครั้ง แชร์อีก 12,000 ครั้ง และยังมีท่าทีว่าจะเพิ่มอีกเรื่อยๆ ด้านคอมเมนต์ชาวเน็ตก็ต่างพากันให้กำลังใจพี่ Carlos…
-
‘เอเวอเรสต์’ ยอดเขามรณะพิชิตนักปีนเขา ดั่งสุสานลอยฟ้าที่ทิ้งร่างของผู้พ่ายแพ้
เมื่อพูดถึงภูเขาที่สูงที่สุดในโลกแล้วละก็ คงจะไม่มีสถานที่ใดมาเทียบเคียงกับ ‘ยอดเขาเอเวอเรสต์‘ ได้อีกแล้ว ด้วยระดับความสูงที่ 8,848 เมตร จึงทำให้นักปืนเขามากมายจากทั่วโลกรู้สึกตื่นเต้นและอยากจะพิชิตมันให้ได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดเขาแห่งนี้จะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเพียงใด แต่มันก็ลบความเป็นจริงที่ว่ามันเป็นดั่งสุสานลอยฟ้าของเหล่านักปีนเขาออกไปไม่ได้เสียที ด้วยความที่สภาพอากาศระหว่างไปยอดเขานั้นมันโหดร้ายมากๆ ทั้งหนาวเย็นและออกซิเจนก็น้อยนิด มันจึงคร่าชีวิตผู้คนมากมายมานับตั้งแต่อดีต ทิ้งไว้ก็แต่ร่างไร้วิญญาณมากมายบนกองหิมะอันหนาวเน็บ บ้างก็รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน บ้างก็ไม่อาจจะทราบได้ว่าพวกเขาเป็นใคร ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมีคนเสียชีวิตการจะพาพวกเขากลับมาด้วยก็เป็นเรื่องที่ยากเมื่อคุณขึ้นไปถึงระดับที่สูงขึ้น เพราะถ้าคุณมัวกู้ร่างของผู้เสียชีวิต ก็เท่ากับว่าคุณก็พร้อมจะเอาชีวิตไปเสี่ยงด้วยเช่นกัน… ในปัจจุบันภูเขาแห่งนี้ได้กลายเป็นสุสานแก่นักปีนเขาจำนวนเกือบ 300 คน ซึ่งในแต่ละการตายก็มีเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาหลากหลายเรื่องเลยทีเดียว . อย่างเช่นเรื่อง ‘Green Boots’ ที่เล่าถึง Tsewang Paljor นักปีนเขาจากอินเดียที่เสียชีวิตในปี 1996 ส่วนสาเหตุที่ต้นเหตุของเรื่องเล่าก็มาจากรองเท้าที่เขาใส่ไปปีนมันเป็นสีเขียว และนักปีนเขาคนอื่นๆ ในช่วงนั้นก็จะต้องเจอกับศพของเขาระหว่างทางนั่นเอง หรือจะเป็นเรื่อง ‘Sleeping Beauty’ ที่เล่าถึงสองสามีภรรยา Francys และ Sergei Arsentiev ที่ได้ไปพิชิตยอดเขาในปี 1998 ซึ่งทำให้ Francys นั้นยังเป็นหญิงชาวอเมริกันคนแรกที่สามารถพิชิตยอดเขาได้ แต่โชคร้ายที่ทั้งคู่ได้เสียชีวิตระหว่างทางกลับลงมานั่นเอง…
-
สถานีรถไฟญี่ปุ่นที่ใกล้ที่พักที่สุด!? ใกล้ที่ว่านั้นก็คือ สิงอยู่ในอพาร์ทเมนท์ชั้นแรกกันเลยทีเดียว
คุณเคยได้ยินคำโฆษณาจากโครงการคอนโดต่างๆ บ้างไหมว่า “ทำเลดีใกล้สถานีรถไฟ” ซึ่งไอ้คำว่าใกล้นี้พอเอาเข้าจริงๆ มันก็ไม่ได้ใกล้อย่างที่คุณคิดมากเท่าไหร่ เพราะถ้าจะโฆษณาว่าใกล้คอนโดมันต้องทำให้ได้แบบอพาร์ทเมนท์นี้!! อพาร์ทเมนท์ที่ว่านั้นตั้งอยู่ในเมืองมะสึโดะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งความพิเศษของอพาร์ทเมนท์แห่งนี้นั่นก็คือ ตัวอพาร์ทเมนท์ไม่ได้เป็นแค่ที่พักอาศัยทั่วไป แต่มันคือสถานีรถไฟไปในตัวด้วย!? ตัวอพาร์ทเมนท์นั้นถูกสร้างขึ้นมาทับสถานี ซึ่งตัวตึกนั้นมีขนาดสูง 11 ชั้น ส่วนตัวสถานีนั้นนับเป็นหนึ่งในเส้นทางนะงะเระยะมะ ฉะนั้นถ้าใครต้องเดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าวแล้วอาศัยอยู่ที่นี่ก็คงไม่ต้องกังวลเรื่องตกรถไฟเลยทีเดียวล่ะ แต่ใช่ว่าการอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเมนท์แห่งนี้จะมีแต่ข้อดีหรอกนะเพราะว่าปัญหาที่ตามมานั่นก็คือมลพิษทางเสียง เพราะรถไฟย่อมมีเสียงที่ดังและการอาศัยอยู่เหนือสถานีแบบนี้มันจึงสร้างปัญหาให้พอสมควรเลยทีเดียว เพราะรถไฟนั้นจะเริ่มวิ่งตั้งแต่ 5.03 นาฬิกาแล้วยิงยาวไปจนถึง 00.03 นาฬิกาในวันธรรมดา และจะวิ่ง 5:03 นาฬิกาไปจนถึง 00:20 นาฬิกาในวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉะนั้นถ้าใครเป็นสายนอนไวก็จะอยู่ที่นี่ลำบากพอสมควร แต่ใช่ว่ามันจะไม่มีทางออกซะทีเดียว เพราะอพาร์ทเมนท์สร้างระเบียงทางเดินหน้าห้องติดกับด้านรางรถไฟ และห้องด้านในก็จัดเรียงส่วนใช้สอยแบบญี่ปุ่น ถ้าเปิดประตูจะพบห้องครัว ห้องอาหาร และห้องน้ำ ก่อนที่จะเป็นส่วนที่อยู่อาศัยจริงๆ ฉะนั้นก็อุ่นใจได้เปราะนึง . สุดท้ายแล้ว แม้ว่าจะต้องแลกมากับเสียงรบกวนแต่เมื่อมองเกี่ยวกับการเดินทางในญี่ปุ่นเป็นหลัก การอาศัยอยู่ที่นี่ก็ถือว่าไม่เลวเลยเพราะถือว่าได้ความสะดวกสบายกลับมาเยอะมากๆ เลยทีเดียวละ แบบนี้สิถึงเรียกว่าที่อยู่อาศัยใกล้สถานีรถไฟ ที่มา rocketnews24
-
คุณหมอใจกล้าหน้าตาดี เดินตาม “รอยเลือดปริศนา” กลางห้าง จนสามารถช่วยเหลือได้ถึง 2 ชีวิต!!
เมื่อเห็นคนทะเลาะวิวาทกันถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน หลายคนอาจจะเพิกเฉยหรือกลัวและวิ่งหนีไป เพราะทุกคนต่างก็ห่วงชีวิตตัวเองทั้งนั้น คุณหมอคนนี้ก็รักชีวิตตัวเองเช่นกัน แต่เมื่อเห็นการทะเลาะวิวาท เขาไม่ได้นิ่งเฉยหรือวิ่งหนีไป แต่เลือกที่จะเดินเข้าไปช่วยเหลือคนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นั้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน Luton สหราชอาณาจักร เมื่อช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยทางโฆษกของห้างบอกว่าความรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อวัยรุ่นชาย 2 คนทะเลาะวิวาทอย่างรุนแรง ถึงขั้นคว้ามีดขึ้นมาแทงกัน ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตื่นตระหนกกับสิ่งที่เห็น บางคนร้องโวยวายด้วยความกลัว ในขณะที่บางคนวิ่งหนีออกจากตรงนั้นทันที ต่อมาเวลาประมาณบ่าย 2 โมงครึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาถึงห้าง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่คุณหมอ Yasin Fatine วัย 29 ปี กลับมาเอารถที่ห้างดังกล่าวพอดี และเมื่อเห็นตำรวจวิ่งหน้าตื่น Fatine รู้ว่าต้องมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าจะมีอะไรร้ายแรงจนกระทั่งเห็นรอยเลือดบนพื้น ด้วยความเป็นหมอ ทำให้คุณหมอตระหนักได้ว่าเขาอาจจะต้องช่วยเจ้าของเลือดคนนี้ เพราะการที่มีรอยเลือดกลางห้างมันต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ๆ ดังนั้นเขาจึงเดินตามรอยเท้าเปื้อนเลือดนั้นไปเรื่อยๆ จนไปเจอที่ที่ผู้คนกำลังมุงดูและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกประมาณ 4 คน ภาพต่อมาที่เห็นคือมีวัยรุ่นชาย 2 คน นอนบาดเจ็บอยู่บนพื้นในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง โดยมีเลือดกระจายทั่วบริเวณนั้น หนึ่งในสองคนนั้น มีเลือดไหลจากแขนของเขา ส่วนอีกคนมีเลือดไหลจากหัวเข่าข้างขวา “บาดแผลของเด็กหนุ่มดูไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่เพราะแผลถูกปิดไว้แล้ว แต่คนที่ถูกแทงที่ขาเสียเลือดมากและตัวเขาเริ่มซีด” คุณหมอกล่าว คุณหมอเลยเข้าไปตรวจดู…
-
ทำความรู้จัก “โรคกลัวการอยู่เดียว” ภัยเงียบที่อาจทำให้คุณเป็นกลายเป็น “โรคซึมเศร้า”
เพื่อนๆ เคยกลัวการอยู่คนเดียวมั้ย? เราไม่ได้หมายถึงการอยู่ในคนในที่มืด ที่ร้าง หรือแค่ที่ใดที่หนึ่ง แต่เราหมายความรู้สึกกลัวที่จะอยู่คนเดียวในทุกๆ ที่จนทำให้การใช้ชีวิตประจำวันมีปัญหาไปด้วย ความรู้สึกที่ว่านี้ในทางจิตวิทยามีชื่อว่า Autophobia Isolaphobia และ Monophobia หรือโรคกลัวการอยู่คนเดียว โดยอาการของโรคนี้คือคุณจะรู้สึกกังวล หดหู่ และไม่มั่นใจเมื่อต้องอยู่คนเดียว สาเหตุของโรคกลัวการอยู่คนเดียว มักจะมาจากความรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งในบางช่วงเวลา ทั้งจากเพื่อน ครอบครัว รวมไปถึงคนรัก จนทำให้ความมั่นใจลดลงและกังวลเมื่อต้องอยู่คนเดียว เพื่อให้เพื่อนๆ เห็นภาพของโรคกลัวการอยู่คนเดียวชัดขึ้น #เหมียวขี้ส่อง ขอแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเองที่เคยประสบมา และคิดว่าหลายๆ คนน่าจะเป็นเหมือนกัน 1. ไม่ชอบอยู่หรือทำอะไรคนเดียว ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง กินข้าว เดินเล่นในห้าง หรือแม้แต่ไปซื้อของในตลาด สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกกลัวที่จะทำคนเดียวลำพัง แต่ในอีกทางหนึ่ง คุณจะรู้สึกมีความสุขกับการใช้เวลาเงียบๆ อยู่คนเดียว 2. สูญเสียความมั่นใจเมื่อต้องอยู่คนเดียวในที่สาธารณะ เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องอยู่ในที่สาธารณะตามลำพัง คุณจะมีความกังวล หวาดระแวงเพราะคิดว่าคนอื่นกำลังจับจ้องมาที่คุณ แล้วก็จะเกิดความคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆ นานา จนอยากหนีออกจากตรงนั้น 3. พยายามแสร้งทำว่ามั่นใจ คุณจะพยายามทำตัวมั่นใจเสมอ เช่น พยายามเดินหลังตรง ไม่วอกแวก ทำตัวเหมือนเก่ง…
-
คุณพ่อน้ำหนักร่วม 100 กิโลฯ ตัดสินใจลดน้ำหนัก 6 เดือน ได้ 6 แพ็กส์มาเต็ม!!
คงจะดีถ้าหากทุกคนหันมาใส่ใจและดูแลสุขภาพให้ดีกว่าที่ควร ความอ้วนเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สุขภาพแย่ลงอีกทั้งยังเป็นบ่อเกิดโรคร้ายที่จะตามมาต่างๆ ดังนั้นเราควรจะเริ่มหันกลับมาดูแลสุขภาพก่อนที่จะสายเกินไป นาย Jeremiah Peterson พ่อลูก 3 อายุ 39 ปี ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เข้าสู่ภาวะอ้วนจากพฤติกรรมการกินที่ผิดๆ ของเขา ทั้งดื่มเหล้าและเบียร์ในทุกๆ ค่ำจนกระทั่งวันหนึ่งเขาประสบกับปัญหาสุขภาพที่ทำให้เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด ความอ้วนที่เพิ่มขึ้นทำให้เขาอึดอัดและมีอาการหายใจไม่ออกบ่อยครั้ง และมันก็เป็นจุดเปลี่ยนทำให้เขาหันกลับมาดูแลสุขภาพตัวเองเพื่อที่จะได้อยู่กับลูกไปนานๆ คุณพ่อวางแผนไว้ว่าจะลดน้ำหนักจนกว่าจะกลับมาผอม โดยตั้งกำหนดการไว้ภายใน 6 เดือน เขาต้องผอมลงและมีสุขภาพที่ดีขึ้น เริ่มจากการปรับพฤติกรรมการกิน จากเดิมที่ชอบกินอาหารจำพวกแป้งอย่างพิซซ่าหนาๆ อาหารแปรรูปต่างๆ รวมไปถึงอาหารที่มีไขมันสูงทั้งหลายเปลี่ยนมาเป็นอาหารเน้นโปรตีน ผัก ส่วนเรื่องการออกกำลังกาย คุณพ่อใช้วิธีการเดินป่าควบคู่กับการออกกำลังกายในโรงยิมรวมแล้วประมาณวันละไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง หลังจากที่เริ่มลดน้ำหนักและควบคุมอาหารอย่างหนัก คุณพ่อก็เริ่มสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของหุ่นที่เปลี่ยนไปจากพุงที่เต็มไปด้วยเบียร์และไขมันจากอาหารขยะเริ่มลดลงไปเรื่อยๆ คุณพ่อบอกว่า เมื่อเขาเริ่มความตั้งใจที่จะลดน้ำหนัก เขาพบว่าตัวเองเปลี่ยนไปมาก จากคนที่ไม่ชอบออกกำลังกายกลายมาเป็นคนที่รักในการดูแลสุขภาพ จากคนที่ชอบดื่มเบียร์เพื่อคลายเครียดก็กลายมาเป็นคนที่ออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลาย นอกจากนี้คุณพ่อคิดว่าการลดน้ำหนักของเขาต้องไม่สูญเปล่า เขาจึงไปร่วมลงทะเบียนแคมเปญลดน้ำหนักกับทางเว็บไซต์ mytransphormationstartstoday พร้อมแชร์วิธีการลดน้ำหนักและการดูแลร่างกาย ซึ่งรางวัลสำหรับคนที่สามารถลดน้ำหนักได้คือเงินสดจำนวน 1.5 ล้านบาท และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณพ่อฮึดสู้ที่จะลดน้ำหนักในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งเขาก็สามารถทำได้สำเร็จ…
-
เมื่อ PM 2.5 ฝุ่นพิษปกคลุมกรุงเทพ นี่คือ 4 เรื่องที่คุณควรรู้ ว่าจะรับมือมันอย่างไร!?
ขณะนี้ชาวกรุงเทพฯ กำลังประสบปัญหากลุ่มหมอก กลุ่มฝุ่น หรือกลุ่มควันบางอย่างที่ปกคลุมไปทั่วเมือง โดยเจ้ากลุ่มก้อนหมอกฝุ่นควันอะไรพวกนี้ถูกเรียกว่า PM 2.5 ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่า PM 2.5 มันคืออะไร มันมาจากไหน และมันเป็นอันตรายหรือไม่ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับมันกันดีกว่า… 1. PM 2.5 คืออะไร PM 2.5 ฝุ่นอนุภาคขนาดจิ๋ว ที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมถึง 25 เท่า เข้าสู่ร่างกายทางโพรงจมูก ก่อนจะเข้าสู่เส้นเลือด และเกิดเป็นโรคต่าง ๆ โดยเฟซบุ๊กเพจ Greenpeace Thailand ออกมาได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเจ้า PM 2.5 ซึ่งเป็นฝุ่นพิษขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งประกอบไปด้วยสารพิษหลากชนิด ได้แก่ 1. P-A-Hs คือสารพิษชนิดหนึ่งที่ทำให้เป็นมะเร็ง 2. ปรอท ทำลายระบบประสาท ทำให้เป็นอัมพาต มะเร็ง 3. สารหนู ทำให้เป็นโรคผิวหนัง หากถูกสารนี้ จะมีอาการมึนเวียน ตัวชา อยากอาเจียน และ 4. แคดเมียม ที่จะกัดส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ผิวหนัง ปอด กระดูก…
-
เกิดอะไรขึ้น.. “เล็ก คาราบาว” แฉพฤติกรรมสุดห่ามของคนในวง แฟนเพลงร่วมผสมโรง
หากใครที่เป็นแฟนเพลงเพื่อชีวิตน่าจะรู้จักกับพี่ ‘เล็ก คาราบาว‘ กันเป็นอย่างดี และล่าสุดก็ได้ออกมาโพสต์เล่าระบายถึงเรื่องปัญหาในวง ที่อดทนมานาน จนในที่สุดก็ปรี๊ดแตกในวันนี้ โดยพี่เล็ก คาราบาว ได้โพสต์เล่าเรื่องราวดังกล่าวลงในเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า Lek Carabao Solo ดังนี้ “จะให้เรียกว่าอะไร? เมื่อวานลงภาพปริศนาให้ท่านชม มีหลายท่านแสดงความคิดเห็นกันเข้ามา บางท่านพูดเรื่องความเมตตาและการให้อภัยซะยาวเหยียด และผมคิดว่ามีอีกมากมายที่สงสัยแต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรออกมาได้แต่เก็บไว้ในใจรออ่านวันนี้ ภายใต้บุคลิกที่ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี แถมเพลงที่ต้องร้องในแต่ละคืนก็มีอยู่แค่เพลงเดียวมาร่วมสามสิบปี แต่เนื่องจากเป็นเพลงที่มีเนื้อหาตลกน่ารักๆ จึงมีคนไม่น้อยที่เข้าใจอะไรแบบลวงๆผิดๆจากสิ่งที่เป็น แต่เดี๋ยวนี้ใครทำอะไรแย่ๆไว้ ก็พึงระวังไว้ให้ดี ทุกวันนี้มีใครไม่มีกล้องบ้างล่ะ ผมจึงเชื่อว่าต้องมีวีดีโอคลิปเหตุการณ์นี้แน่ๆ เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นบนเวทีขณะแสดง มันจึงเป็นจุดที่กล้องมากมายล้วนถ่ายกันขึ้นมา แน่นอนว่าต้องมีทั้งภาพนิ่งและวีดีโอครับ เมื่อวาน ผมถามว่า มันคืออะไร? “มันคือน้ำจิ้มซีฟู้ด หนึ่งชามใหญ่ที่พ่อครัวเค้าปรุงไว้เสิร์ฟลูกค้า” นั่นหมายความว่า ค่ำคืนนั้นไม่มีน้ำจิ้มจะเสิร์ฟ เกิดอะไร? “มีนักดนตรีในวงจงใจเทราดใส่มอนิเตอร์” ทำไม? “โกรธที่ซาวด์เอ็นจิเนียร์ปรับเสียงให้ไม่ได้อย่างใจ” อย่างไร? อันนี้ต้องบอกว่า “อายุปูนนี้แล้วทำไปได้อย่างไร” เพราะคนอายุแบบพวกเราต้องไม่ใช่แบบนี้ นั่นมันทำให้ต้องล้วงให้ลึกไปกว่าเหตุการณ์นี้ ซึ่งก็ไม่ยากเลยเพราะยังไม่ทันล้วงก็โผล่มาให้เห็นเพียบ สองสามวันก่อน คนๆเดียวกันนี้ก็เพิ่งเอาไมค์ขว้างใส่ซาวด์เอ็นจิเนียร์ ด้วยเหตุผลเดียวกันนี่แหละ เฮ้อออออออ! ซึ่งไมค์ที่ว่านี้ทำมาจากโลหะหนัก…
-
15 ข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศ ‘นิวซีแลนด์’ คือสถานที่บรรจบกันระหว่าง โลกแห่งความจริง และเทพนิยาย
ประเทศนิวซีแลนด์ หนึ่งดินแดนในฝันของหลายๆ คนที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ไปเยือนสักครั้งในชีวิต ความงดงามทางธรรมชาติ วัฒนธรรมของประชากรชาวนิวซีแลนด์ เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่เย้ายวนให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายต้องไปสัมผัส อีกหนึ่งเสน่ห์ของประเทศนิวซีแลนด์นั่นก็คือ วิถีชีวิตของชาวนิวซีแลนด์บนดินแดนที่มีแต่ความงดงามนี้ เปรียบราวกับว่านิวซีแลนด์นั้นคือโลกนิยายที่มีอยู่จริง จากสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ 1. นิวซีแลนด์มีศาสนาเจได จากการสำรวจประชากรเมื่อปี 2001 มีชาวนิวซีแลนด์นับถือศาสนาเจไดอยู่ร้อยละ 1.5 2.นิวซีแลนด์มีกระทรวงลอร์ดออฟเดอะริงส์ ที่ต้องตั้งกระทรวงลอร์ดออฟเดอะริงขึ้นมาก็เพราะว่าหลังจากที่หนังฉายออกไปก็มีนักท่องเที่ยวมาตามรอยภาพยนตร์อย่างล้นหลาม ทำให้ต้องตั้งกระทรวงมาส่งเสริมกันโดยเฉพาะ 3. รอยสัก การสักนั้นเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญมากๆ สำหรับชนเผ่าเมารีทั้งชายและหญิง ชาวเผ่าจะนิยมสักลงบนใบหน้าด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ 4. ภาษาเอลฟ์ นี่คือการรายงานสภาพอากาศด้วยภาษาเอลฟ์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาพยนตร์เรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ มีการคาดการณ์เล่นๆ ว่า ในอนาคตอาจจมีการสอนภาษาเอลฟ์ในโรงเรียนอีกด้วย 5. นิวซีแลนด์มีชื่อสถานที่ที่ยาวมากๆ ชื่อสถานที่นั้นก็คือ “Taumatawhakatangihangaoauauotameteaturipukakapikimaungah-oronukupokaiwhenuakitanatahu” ยาวไปไหน 6. ดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาว ก่อนที่จะมาเป็นประเทศนิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์ถูกยึดครองโดยชนเผ่าเมารีและตั้งชื่อดินแดนว่า Aotearoa แปลว่า ดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาว 7. กีวี กีวีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงผลไม้แต่อย่างใด แต่หมายถึงสัตว์ประจำชาติอย่างนกกีวีที่สามารถพบได้แค่ในประเทศนิวซีแลนด์เท่านั้น และคำว่า…
-
เจ้าเหมียวรักทาสมากเลยพิสูจน์ความรักนั้นด้วยการคาบ ‘ใบไม้แห้ง’ มาฝากทุกเช้า ไม่เคยขาด
ต่อให้ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยง แต่สามัญสำนึกของพวกมันไม่ต่างจากมนุษย์เราเท่าไหร่หรอก พวกมันรู้จักรักคนที่รักมัน รู้จักตอบแทนคนที่ดูแลมัน และซื่อสัตย์กับคนที่จริงใจกับมัน เหมือนกับ Baloo เจ้าเหมียวที่รักเจ้าของตัวเองมากๆ และพิสูจน์ความรักนั้นด้วยการคาบใบไม้แห้งที่เพิ่งร่วงในวันนั้นมาให้เขาทุกๆ เช้า Baloo เข้ามาในชีวิตของ Ben ครั้งแรกที่เขาอยู่กับอดีตแฟนสาว โดยแฟนเก่าเป็นคนพาเจ้าเหมียวตัวนี้มาเซอร์ไพรส์ แต่ชายหนุ่มไม่พร้อมที่จะดูแล เลยส่งมันคืนไปให้เจ้าของเดิม แต่หลังจากที่ส่งมันกลับ ทั้งคู่ก็รู้สึกว่าได้ทำผิดพลาดอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไปรับมันกลับมาอีกครั้ง ก่อนที่แฟนสาวจะบอกเลิก Ben ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวได้พา Baloo ไปอยู่ด้วย แต่แล้วเธอก็ต้องประกาศให้คนรับเลี้ยงมัน เพราะเธอจะย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านกับครอบครัว ขณะนั้น Ben ไม่ได้มีปัญหาอะไร เขาเลยตัดสินใจรับ Baloo มาอยู่ด้วยพร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนร่วมที่พักของเขา นับจากวันนั้นมา เจ้าเหมียวก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านที่มีผู้ชาย 6 คน และแฟนสาวของพวกเขาอีก 4 คน มีเสียงดังรบกวนจากปาร์ตี้ของพวกเขาบ่อยมาก แต่ Ben บอกว่าโชคดีที่เจ้า Baloo ดูจะไม่สนใจสักเท่าไหร่ ชายหนุ่มบอกว่า “นี่ไม่ใช่สิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่สักเท่าไหร่ แม้แต่มนุษย์เอง แต่ดูเหมือน Baloo จะชอบทุกสภาพสังคมโดยเฉพาะที่ที่มีอาหาร เวลามีปาร์ตี้มันก็จะเดินไปดูรอบๆ และได้รับความสนใจจากทุกคน” “มันเป็นแมวที่น่ารักมาก ทุกคนในอพาร์ทเมนต์นี้ดูเหมือนจะรู้จักชื่อของมัน เพราะมันชอบออกไปเที่ยวตามแฟลตอื่นๆ ด้วย” …
-
เกาะติดความสัมพันธ์ “เต๋อ-ดาวิกา” ผ่าน #ใหม่เต๋อ #เต๋อใหม่ นี่กิ๊กกันจริงๆ ใช่มั้ย ตอบมา!!
เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่ดังชั่วข้ามคืนกันเลยทีเดียว กับกรณีที่มีคนลือกันให้แซ่ดว่า พระเอกหนุ่มมากความสามารถสายตลกสุดฮาอย่าง เต๋อ ฉันทวิชช์ ได้ตกลงปลงใจคบกันกับนางเอกสาวซุปตาร์มีดีกรีดังไกลไปถึงเมืองนอกอย่าง ใหม่ ดาวิกา มาได้ 3-4 เดือน แล้ว!! แน่นอนว่ามีชาวเน็ตมากมายหลายคนเรียกว่าจนเกือบทั่วฟ้าเมืองไทยเลยทีเดียวได้ออกมาเสนอความคิดเห็นกันไปต่างๆ นาๆ และส่วนใหญ่เองก็มโนขอพรให้มันเป็นความจริง ในเช้าวันนี้ #เหมียวหง่าว ก็จะขอเพื่อนไปเกาะติดกระแสแฮชแท็กในทวิตเตอร์ #ใหม่เต๋อ #เต๋อใหม่ ว่าพวกเขาพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้อย่างไรกันบ้าง ลองไปติดตามชมกันได้เลยจ้า… จิ้นขั้นสุด แหม่ ก็พี่เล่นตอบคอมเม้นต์กันแบบนี้ เป็นใครใครก็คิดล่ะน๊าา กระแสเก่าหลบไป กระแสใหม่มาแล้วววว มีท่าคู่กันด้วยเว้ยเฮ้ยยยย!! GDH ก็เอากับเค้าด้วยเหรออออ!? พี่เกล้าผู้จัดการของใหม่ให้คำสัมภาษณ์เหมือนบอกเป็นนัยๆ เลยนะ กรี๊ดดดดดๆๆๆๆๆ ชงซะเป็นกาแฟเลยนะ GDH บร๊ะเจ้าก็ตรงเกิ๊นนนน!? คนละเต๋อแล้วว้อยยยยยยยยยยย เอาซี๊ๆๆๆ . ชาวเน็ตบางคนเองก็ช่างสังเกตซะจริง…
-
คนญี่ปุ่นโวย โดนร้านสเต๊กในอิตาลีชาร์จเงินกว่า 44,000 บาท จากการกินสเต๊ก 3 ปลาทอด 1
สำหรับคนที่เคยไปเที่ยวต่างประเทศอาจจะเคยโดนมาบ้าง กับการที่เข้าไปทานร้านอาหารแล้วงงกับค่าใช้จ่ายที่แพงแบบแพงเวอร์ ซึ่งบางทีก็อาจจะอยู่ในระดับที่พอรับได้ บางท่านจึงไม่คิดอะไร คิดเสียว่าเป็นอาหารบ้านเขา นานๆ กินครั้งคงจะไม่เป็นอะไร แต่สำหรับนักเรียนญี่ปุ่น 4 คนนี้ ไม่สามารถคิดแบบนั้นได้จริงๆ เนื่องจากพวกเขาเข้าไปทานอาหารในร้านแล้วโดนคิดค่าอาหารแพงจนแทบอยากจะร้องไห้ การที่ร้านอาหารจะคิดค่าบริการเกินจริงกับชาวต่างชาตินั้นเขาเรียกกันว่า “Tourist Traps“ แปลตรงๆ ก็คือ “กับดักนักท่องเที่ยว” นั่นเอง เรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติเข้ามาทานอาหารแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ดูท่าแล้วจะไม่ค่อยสังเกตรายละเอียดอะไร จึงเผยให้เห็นช่องโหว่ให้ทางร้านสามารถคิดค่านู่นค่านี่ได้แพงหูฉี่เลยทีเดียว ผู้เคราะห์ร้ายในครั้งนี้ เป็นกลุ่มนักศึกษาญี่ปุ่น 4 คน จากมหาวิทยาลัยโบโลญญา เมืองเวนิซ ประเทศอิตาลี โดยทั้ง 4 คนได้เข้าไปรับประทานอาหารที่ร้าน Osteria Da Luca ที่อยู่ใกล้ๆ กับ St. Mark’s Square พวกเขาสั่งแค่เพียงสเต๊ก 3 ชิ้น และปลาทอดหนึ่งชิ้น พร้อมน้ำดื่มเท่านั้น แต่ทั้ง 4 คนก็ต้องถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นราคาบนใบเสร็จที่ออกมาอยู่ที่ประมาณ 44,500 บาท! นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาถูกขูดรีด เพราะ 3…
-
ชาวเน็ตร่วมกันยำภาพ ‘โมบายล์ BNK48’ แปลงร่างเป็นเซเลบคนดัง เกิดกระแสความฮาไปทั่ว!!
ช่วงนี้ถ้าพูดถึงเพลงดังที่กำลังเป็นกระแสมาแรงสุดๆ คงจะหนีไม่พ้นกับเพลง ‘คุกกี้เสี่ยงทาย’ จากเกิร์ลกรุ๊ปวง BNK48 พูดเลยว่าแค่ฟังครั้งเดียวก็ติดหูสุดๆ ร้องได้ทั้งวัน ให้คุกกี้ทำนายกันนนน เพลงคุกกี้เสี่ยงทาย BNK48 ด้วยความโด่งดังของเพลงประกอบด้วยความน่ารักของน้องๆ ในวง BNK48 ทำให้ชาวเน็ตหลายคนเริ่มสนใจมากขึ้น และนำรูปปกของเพลงคุกกี้เสี่ยงทายที่เป็นหน้าของน้องโมบายล์ BNK48 มาตัดต่อใส่หน้าคนดังต่างๆ ซึ่ง #เหมียวบู้บี้ ก็ได้รวบรวมคัดเอาแต่แบบเด็ดๆ มาให้ดูกัน จะมีใครบ้างไปดูกันเลย รูปต้นฉบับน้องโมบายล์ BNK48 เจนนี่ ปาหนันกับเพลง ไก่ทอดเสี่ยงทาย แอบล่าเธออยู่นะจ๊ะ #มธุสร #ล่า2017 เมื่อมีมธุสรก็ต้องมีเซนเซยูกิ ละครเค้ากำลังดัง พี่แมน การินก็เอากับเขาด้วย รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น เต๋อ รัฐนันท์ หนูรัตน์ ธิดาพร ชาวคูเวียง เป๊ก ผลิตโชค ใครทำกับคุณหลวงของเมียแบบนี้ …
-
โรงเรียนอนุบาลในจีนให้เด็กๆ ได้เรียนอนาโตมีด้วยการผ่าหมูสดๆ ให้เด็กดูเลย
ที่โรงเรียน อนุบาลเหอเป่ย์ ในมณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีน ได้มีการสอนให้นักเรียนได้รู้จักเรื่องร่างกายและความเป็นความตายผ่านการผ่าหมูทั้งตัวให้เห็นกันจะๆ ในเมือง Badong County มณฑลเหอเป่ย์ มีเด็กนักเรียนอนุบาลราว 600 คน กำลังรับชมชายชุดขาวใส่หมวกและผู้ช่วยอีก 2 คน กำลังชำแหละหมูตัวโตสดๆ และนำเอาเครื่องในหมูออกมาโชว์ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนชี้แจงว่ากิจกรรมดังกล่าวให้ประโยชน์ใน 2 แง่ด้วยกัน ในแง่แรกคือการสร้างบรรยากาศวันตรุษจีนให้กับโรงเรียน ซึ่งเป็นปกติที่วันตรุษจีนจะต้องชำแหละหมูทั้งตัวเพื่อนำมาทำอาหารเลี้ยงฉลอง ส่วนในแง่ที่สองก็คือ เพื่อสอนให้เหล่าเด็กๆ รู้จักกับร่างกายในเชิงอนาโตมี เพื่อเป็นรากฐานในการศึกษาของเด็กๆ ในอนาคต ภาพบรรยากาศในงานจะเป็นอย่างไร เชิญรับชมได้ตามคลิปด้านล่างนี้ ชาวเน็ตเองเมื่อเห็นจึงได้ออกมาวิจารณ์ว่าบทเรียนเหล่านี้มันดูจะป่าเถื่อนเกินไปหน่อยสำหรับเด็กอนุบาล ผู้อำนวยการโรงเรียนจึงออกมากล่าวว่า เด็กๆ จะไม่มีการซึมซับเรื่องการทรมานสัตว์แน่นอน อีกอย่างก็คือก่อนจะมีกิจกรรมนี้ ทางโรงเรียนได้แจ้งพ่อแม่ของเด็กๆ ก่อน และก็ได้รับการอนุญาตแล้ว อันที่จริงแล้ว การชำแหละหมูโชว์เด็กๆ แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในชนบทของประเทศจีน อย่างไรก็ตาม หมูที่ชำแหละในงานนั้นก็ถูกนำมาทำเป็นอาหารแจกพ่อแม่ผู้ปกครอง รวมถึงเด็กๆ เนื่องจากเป็นการเลี้ยงฉลองเทศการฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึงนั่นเอง แต่ละที่ก็มีวิธีการสอนเด็กๆ ที่แตกต่างกันไป แต่การผ่าหมูสดๆ ให้เห็นอย่างนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะส่งผลอย่างไรกับเด็กๆ ก็คงต้องรอการพิสูจน์กันต่อไปละนะ ที่มา: Medium
-
สภาพฟันอันผุพัง ผลจากการดื่มน้ำอัดลมปริมาณ 6 ลิตรทุกๆ วัน ขนาดหมอยังช็อกเลยแกร๊!!
ยามแดดร้อนๆ หรือหลังทำกิจกรรมอะไรมาเหนื่อยๆ มันก็ต้องการอะไรชื่นใจๆ มากระแทกปากเสียหน่อย แน่นอนว่า น้ำอัดลมเย็นๆ ซ่าๆ คงอยู่ในความคิดแรกของใครหลายคน ด้วยความหวาน เย็น และซ่าของมัน ทำให้ผู้ที่ดื่มเข้าไปชื่นใจ และรู้สึกเหมือนได้รับการเติมพลัง แต่เจ้าเครื่องดื่มที่เรียกว่า “น้ำอัดลม” นี่มันดันมีผลเสียต่อร่างกายที่น่ากลัวมากเลยทีเดียว นอกจากการดื่มมากๆ จะทำให้ได้รับน้ำตาลมากเกินไปแล้ว มันยังทำลายฟันของคุณได้ด้วยนะ อย่างเช่นชายหนุ่มผู้นี้ผู้ที่เสพย์ติดการดื่มน้ำอัดลมเป็นอย่างมาก เขามีชื่อว่า Michael Sheridan อายุ 32 ปี มาจากเกาะไอร์แลนด์ เขาดื่มน้ำอัดลมทุกวันจนกระทั่งผลร้ายได้เกิดขึ้นกับฟันของเขา นี่คือผลลัพธ์จากการดื่มน้ำอัดลม 6 ลิตรต่อวัน เขาทานอาหารวันละมื้อเท่านั้น เพราะเขาดื่มน้ำอัดลมจนไม่อยากทานอะไรแล้ว Michael อาศัยการทานอาหารอ่อนๆ เพราะเพียงแค่เขากัดลงบนขนมปังแซนวิช เขาก็ต้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด เขากล่าวว่า “ผมติดน้ำอัดลมมากๆ ผมดื่ม 6 ลิตรต่อวัน หรืออาจจะมากกว่านั้น ผมมีน้ำอัดลมติดตัวตลอดเวลา” “ผมรู้ดีว่าหากผมไปหาทันตแพทย์ เขาต้องห้ามไม่ให้ผมดื่มมันต่อแน่ๆ ซึ่งผมไม่อยากทำแบบนั้น” “แน่นอนผมรู้ว่าฟันผมต้องเสียแน่ๆ ซึ่งผมเองก็คงไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาด้วย” ในที่สุดพ่อลูกสามอย่าง Michael ก็ยอมรักษาฟันของเขาจนได้…
-
เผยโฉม ‘ท่านลอร์ด’ ผู้ผดุงประชากรแมวยักษ์ลายจุด ให้รอดพ้นจากการสูญสิ้นตัวตนบนโลก
ช่วงนี้พูดคำว่า ‘ท่านลอร์ด’ ปุ๊บหลายคนคงจะนึกถึงแต่หนุ่มที่ว่ากันว่าเป็นมือที่ 3 ของขวัญกับกอล์ฟ แต่ท่านลอร์ดที่เราจะแนะนำให้รู้จักต่อไปนี้ ไม่ใช่มือที่ 3 ของใครอย่างแน่นอน นี่คือ ลอร์ด เสือดาวตัวผู้ที่ติดพันธุ์กับเสือดาวตัวเมียถึง 3 ตัวในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่เพราะมันเจ้าชู้นะ แต่เป็นผู้ผดุงประชากรแมวยักษ์ให้รอดพ้นจากการสูญพันธุ์ รู้มั้ยว่ามีประชากรเสือดาวเหลืออยู่ในป่าเพียง 80 ตัวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เจ้าลอร์ดจึงต้องใช้ความเป็นชายของตัวเองช่วยเผ่าพันธุ์ให้อยู่รอดต่อไปบนโลกใบนี้ เรื่องราวของลอร์ดถูกบันทึกผ่านกล้องที่ติดตั้งไว้ใน Land of the Leopard Nature Reserve ทางตะวันออกของรัสเซีย ซึ่งเผยให้เห็นว่าเจ้าลอร์ดนั้นยุ่งมากแค่ไหนกับการทำภารกิจป่ามป๊าม เจ้าลอร์ดถูกพบว่าอยู่กับเสือดาวตัวเมีย 3 ตัว คือ Amur, Pamela และ Nerussa ในอุทยานที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อนเพื่อช่วยอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ การที่ท่านลอร์ดตัวนี้ทำหน้าที่ไม่เคยขาดตกบกพร่อง แต่หมั่นป่ามป๊ามตัวเมียสม่ำเสมอ นั่นทำให้นักวิทยาศาสตร์ที่เฝ้าดูรู้สึกชื่นใจเป็นอย่างมาก Amur เป็นเสือดาวไซบีเรีย ซึ่งเป็นพันธุ์เสือดาวที่ถูกคุกคามอย่างหนักในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขล่าสุดระบุว่ามีเสือดาวเหลือในป่าเพียง 80 ตัวเท่านั้น จริงๆ แล้ว นักวิทยาศาสตร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามให้การช่วยและปกป้องเผ่าพันธุ์เสือดาวมาตลอดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา แต่จำนวนประชากรของพวกมันก็ยังคงลดลงเรื่อยๆ…
-
‘จนกว่าชีวิตจะหาไม่’ คุณย่าวัย 76 เข็นหลานชายพิการไปโรงเรียนร่วม 4 ปี ตกวันละ 24 กิโลฯ!!
ในช่วงบั้นปลายชีวิตของคนทั่วไป ช่วงวัยชราของผู้สูงอายุนั้นจะต้องพึ่งพาการดูแลจากลูกหลาน หรือถ้าหากไม่มีใครคอยอยู่ดูแล ก็ต้องพยายามใช้ชีวิตของตัวเองเท่าที่จะสามารถทำได้… แต่สำหรับคุณย่า Shi Yuying วัย 76 ปี จากเขตกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของประเทศจีน กลับต้องใช้แรงกายของตัวเองพาแรงใจเดินไกลถึงวันละ 24 กิโลเมตร!! นั่นก็เป็นเพราะว่าคุณย่าจะต้องพาหลานชายวัย 9 ขวบ ที่ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนด้วยตัวเองได้ ไปส่งถึงโรงเรียนในทุกๆ วัน… นี่คือเส้นทางที่ทั้งสองจะต้องเดินทางผ่านเป็นประจำ โดยที่ Jiang Haowen ผู้เป็นหลานชายของคุณย่านั้น ถูกวินิจฉัยพบว่าประสบกับกลุ่มโรคสมองพิการ (Cerebral Palsy) มาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ อันเป็นกลุ่มอาการของผู้ป่วยเด็กที่มีความพิการอย่างถาวรของสมอง ส่งผลทำให้ไม่สามารถสั่งการร่างกายได้อย่างที่ควรจะเป็น ที่ร้ายแรงไปยิ่งกว่านั้นก็คือ ทางพ่อแม่ของเด็กชายต่างแยกทางกันตอนที่เขามีอายุได้เพียง 4 ขวบ ฝั่งแม่ก็ไปแต่งงานมีครอบครัวใหม่ ส่วนคุณพ่อนั้นก็ต้องออกไปทำงานต่างเมืองเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวตัวเอง แต่ถึงแม้จะประสบกับความทุกข์ยากขนาดไหน คุณย่าเองก็มีพลังความคิดทางด้านบวก เพื่อให้หลานชายที่เธอดูแลอยู่ได้รับการศึกษาที่สมวัย ‘ตราบใดที่ฉันยังมีเรี่ยวแรง, ฉันก็จะทำแบบนี้ต่อไป จนกว่าชีวิตจะหาไม่’ คุณย่ากล่าว ก่อนหน้านั้นคุณย่าใช้วิธีพาหลานซ้อนจักรยานไปส่งที่โรงเรียนทุกวัน…
-
ทหารแต่งงาน ณ West Point ความเท่าเทียมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเพศอะไรมันก็คือความรัก
ในขณะนี้โลกของเรากำลังหมุนไปเรื่อยๆ การรักร่วมเพศจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป และในบางพื้นที่ การจัดงานแต่งงานก็ถือเป็นการประกาศชัยชนะที่พวกเขาเฝ้ารอคอยมาเป็นเวลานานเช่นกัน นี่เป็นเรื่องราวดีๆ ที่ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา เป็นเรื่องของทหาร LGBT 2 นายในสหรัฐ ที่แต่งงานกันในโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งว่ากันว่านี่อาจเป็นงานแต่งงานของกลุ่ม LGBT ครั้งแรกที่มีการจัดขี้นภายในโรงเรียนเตรียมทหารเลยก็ว่าได้ ทหาร 2 นายที่เราพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Daniel Hall วัย 30 ปี และ Vincent Franchino วัย 26 ปี พวกเขาเล่าว่าพบกันครั้งแรกระหว่างออกปฏิบัติภารกิจในปี 2009 ในช่วงแรกพวกเขาต้องอดทนกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น เพราะเนื่องจากเป็นความรักร่วมเพศจึงถูกสั่งห้ามแสดงออกทั้งคำพูดและความรู้สึกใดๆ ให้คนอื่นเห็น และยังต้องกังวลกับสายตาจากคนรอบข้างอีก สาเหตุที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นเรื่องต้องห้ามในค่ายทหารก็เป็นเพราะคำสั่งของ Bill Clinton ที่เคยออกกฎห้ามมีการรักร่วมเพศไว้ในปี 1993 “พวกเราทำตามกฎเกณฑ์ทุกอย่างที่ถูกสั่ง พวกเราเป็นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ทหารเรือที่สมบูรณ์แบบ เพื่อโกหกความรู้สึกจริงๆ ของพวกเรา” Daniel กล่าวเชิงตัดพ้อ …
-
เจ้าอ้วนน้อย สุนัขที่ทำหน้าตาออดอ้อน นั่งคอยอาหารจากมนุษย์ในแผงตลาดสดอย่างตั้งใจ!!
กลายเป็นข่าวดังไปทั่วจีนเลยทีเดียว เมื่อสำนักข่าวในจีนได้ไปพบเข้ากับสุนัขนักกินนามว่า ‘เจ้าอ้วนน้อย’ เข้าบริเวณหน้าร้านพะโล้แห่งหนึ่ง โดยความพิเศษของมันคือมันสามารถส่งสายตาออดอ้อนมนุษย์เพื่อของกินได้อย่างเชี่ยวชาญ สื่อของจีนได้สัมภาษณ์กับเจ้าของร้านพะโล้ที่ต้องเจอกับเจ้าตูบนักกินตัวนี้แล้วถามว่า เจ้าสุนัขตัวอ้วนนี้มันเป็นสุนัขของใครแล้วมันมาจากไหน ซึ่งเจ้าของร้านก็บอกว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นสุนัขของใครมาจากไหน แต่เขาก็คิดว่ามันน่าจะมีอายุประมาณ 4 ปีนั่นเอง ความพิเศษของเจ้าอ้วนน้อยนอกจากการส่งแววตาออดอ้อนแล้ว ชาวบ้านแถวนั้นยังบอกว่ามันยังเรียนรู้วิธีการนั่งที่แปลกไม่เหมือนสุนัขเพื่อเสริมสร้างความน่ารักอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าชาวบ้านก็มักจะแพ้ต่อสายตาและท่าทางของมันจนต้องยอมเอาของกินให้มันกิน ดูสิ ดูมันอ้อน ใครจะสู้สายตาแบบนี้ไหว อร๊ายยย ด้านเจ้าของร้านพะโล้บอกว่าเจ้าตูบนั้นจะมานั่งรอหน้าร้านเขาทุกวัน เพื่อขอกินชิ้นเนื้อแสนอร่อยจากร้านของเขา และถ้าวันไหนเขาไม่ให้ มันก็จะทำหน้าตาออดอ้อนมากกว่าเดิม บางทีทำหน้าเหมือนร้องไห้ก็มี ไม่เพียงแต่ร้านพะโล้ดังกล่าวเท่านั้นที่จะตกเป็นทาสความน่ารักของเจ้าอ้วนน้อย แต่ว่าร้านค้าบริเวณนั้นก็โดนโจมตีด้วยความน่ารักเช่นกัน จนตอนนี้ไม่ว่าจะร้านค้าร้านไหนก็จะต้องเปย์อาหารให้กับมันเสียทุกครั้งที่ลูกพี่อ้วนน้อยเดินมานั่งรอเรียกว่าภาพที่น่ารักมากๆ เลยทีเดียว ฮร่าๆ ท่านั่งอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร พร้อมกับเป้าหมายเป็นร้านอาหารตรงหน้า อาหารจะมาแล้ว!! เจ้าของร้านพะโล้พูดถึงเจ้าอ้วนน้อยว่า “เวลาเจ้าอ้วนน้อยหิวเมื่อไหร่ มันก็จะสุ่มไปนั่งรอที่หน้าร้านอาหาร มันจะรอจนกว่าจะได้อาหาร ยิ่งนานเท่าไหร่ สายตาของมันก็จะยิ่งอ้อนเท่านั้น จนสุดท้ายคนในตลาดต้องยอมให้อาหารมันจนได้” ร้านตรงหน้าไม่ให้ ร้านข้างก็คือเป้าหมายต่อไป!! สุดท้ายแล้วแม้ว่าหลังจากนี้เหล่าเจ้าของร้านอาหารจะไม่ยอมให้อาหารเจ้าอ้วนน้อยก็ดูไม่ค่อยจะสนอีกต่อไป เพราะอะไรนะเหรอ? ก็เพราะหลังจากที่มันกลายเป็นข่าวก็เริ่มมีคนแวะเวียนมาชมความน่ารักของมันพร้อมมีอาหารติดไม้ติดมือน่ะสิ ฉะนั้นตอนนี้มันคงอิ่มตลอดทั้งวันเลยละ …
-
ผู้คนพากันตกใจ หลังหญิงแอฟริกันยังคงให้กำเนิดทารกหลังจากที่เธอเสียชีวิตไปแล้ว 10 วัน!?
โลกของเรานั้นมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงและความเศร้าโศกเสียใจให้กับหลายๆ คนอย่างมาก Nomveliso Nomasonto Mdoyi หญิงสาววัย 33 ปี ได้เสียชีวิตในบ้านของเธอ ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Mthayisi ในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของแอฟริกาใต้ จากอาการขาดอากาศหายใจ และศพของเธอได้ถูกส่งไปยังบริษัทที่จัดงานศพเพื่อนำไปฝัง แต่ก่อนวันงานศพ หลังจากที่เธอเสียชีวิตได้ 10 วัน ในขณะที่ทีมงานกำลังจะขนส่งศพจากห้องเก็บศพไปยังโลงศพ ก็พบกับร่างเด็กทารกอันไร้วิญญาณอยู่ระหว่างขาของเธอ ทำให้พวกเขาตกใจอย่างมาก “พวกเราตกใจและกลัวมาก จนทำให้ไม่ทันได้ดูเพศของเด็กทารกที่คลอดออกมา” Fundile Makalana หัวหน้าบริษัทจัดงานศพกล่าว “ตั้งแต่ทำงานที่นี่มากว่า 20 ปี ผมไม่เคยพบเจอผู้หญิงที่ตายไปแล้วคลอดลูกเลย” จากเหตุการณ์อันน่าสะพรึงครั้งนี่ทำให้ Mandzala Mdoyi วัย 76 ปี แม่ของหญิงสาวผู้นี้ยิ่งโศกเศร้ากว่าเดิม เธอกล่าวว่า “พวกเราก็มีการศึกษากันแล้ว ใครก็ได้ช่วยอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีได้ไหม เป็นไปได้อย่างไรที่คนตายจะคลอดลูกได้” เธอบอกว่า “ฉันอายุมากกว่า 70 ปีแล้วแต่ไม่เคยได้ยินเรื่องอะไรแบบนี้เลย ทำไมต้องมาเกิดขึ้นกับลูกของฉันด้วย ตอนแรกฉันก็เสียใจพอแล้วที่ลูกสาวของฉันสิ้นใจ ตอนนี้ยังต้องมาตกใจที่มีทารกคลอดออกมาจากศพของลูกสาวฉันที่เสียชีวิตไปแล้วกว่า 10 วันอีกหรือ…
-
ตำรวจปราบแฟชั่น ใครมีของราคาแพง แต่พิสูจน์ที่มาไม่ได้ จะถูกสั่งถอดและยึดทันที!?
ปกติแล้วเราจะแยกคนรวยและคนจนออกจากกันได้อย่างไร? แน่นอนว่าเราไม่สามารถแยกแยะได้ 100% ถ้าเราตัดสินคนจากภายนอกโดยไม่ได้ตรวจสอบทรัพย์สินของเขา แต่การตัดสินจากการแต่งตัวก็ถือเป็นหนึ่งในวิธีพื้นฐานหรือเปล่า? ด้วยเหตุนี้ทางประเทศเนเธอร์แลนด์จึงให้กำเนิด ‘ตำรวจสายปราบแฟชั่น‘ ขึ้นมา ซึ่งจุดประสงค์หลักก็คือตรวจสอบทรัพย์สินของประชาชนที่เจ้าหน้าที่หน่วยนี้เห็นว่าพวกเขาน่าจะเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะดูไม่มีความสามารถพอจะมีทรัพย์สินราคาแพงเช่น เสื้อผ้าแบรนด์ดัง หรือนาฬิกาเรือนหรูเป็นต้น วิธีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่หน่วยนี้ก็มีการทำงานที่ง่ายมากๆ เพียงแค่ถ้าพวกเขาสงสัยใครพวกเขาก็จะเดินไปตรวจสอบและถามถึงที่มาที่ไปว่าของใช้สุดหรูดังกล่าวนั้นมาจากไหน แน่นอนว่าถ้าเป็นคนที่มีเงินจริงๆ พวกเขาก็จะสามารถอนุญาตให้ตรวจสอบได้และให้คำตอบได้ทันที แต่ถ้าเกิดว่าเสื้อผ้า สร้อยคอ รองเท้าหรือนาฬิกาดังกล่าวถูกอ้างว่าเป็นของเพื่อน ยืมมาไม่ก็เพื่อนตายจนหาที่มาที่ไปจริงๆ ไม่ได้ ของใช้ชิ้นนั้นก็จะถูกยึดและสั่งให้ปลดออกตรงนั้นทันที ปัจจุบันเจ้าหน้าที่หน่วยนี้ยังเป็นหน่วยงานที่อยู่ในช่วงทดสอบแค่ที่เมืองรอตเทอร์ดาม ในประเทศเนเธอร์แลนด์เท่านั้น และกลุ่มเป้าหมายหลักก็จะเป็นกลุ่มคนที่สวมใส่สินค้าจากแบรนด์ Gucci หรือ Rolex เป็นต้น เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มักจะมีโอกาสสูงที่ได้เงินมาอย่างผิดกฎหมาย ทว่าแม้เจ้าหน้าที่จะยืนยันกลุ่มเป้าหมายที่แน่นอน ประชาชนในเมืองก็ยังบอกว่าการที่ตำรวจตั้งหน่วยงานนี้ขึ้นมามันไม่ถูกต้อง เช่นชาวเมืองคนหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์ว่า “ตำรวจจะไม่สงสัยคนขาวว่าเป็นพวกค้ายาอย่างแน่นอนแม้พวกเขาสวมใส่เสื้อผ้าแพงๆ แต่กลับกันถ้าเป็นคนผิวสีหรือชาติอื่นละ? คนละเรื่องเลยจริงไหม?” ทางด้านผู้ตรวจการแผ่นดินเมืองรอตเทอร์ดาม Anne Mieke Zwaneveld ก็ได้ออกมาโต้ว่า “พวกเราไม่ได้อยากจะตัดสินคนจากภายนอก แต่โอกาสที่จะสุ่มตรวจแล้วจับได้จริงๆ มันดันสูงมากๆ และยิ่งไปกว่านั้นการที่คุณจะสวมเสื้อผ้าแพงๆ ไปเดินตามท้องถนนโดยไม่สามารถอธิบายถึงที่มาที่ไป หรือบอกอายุของสิ่งของชิ้นนั้น มันก็น่าสงสัยจริงไหม?” อย่างไรก็ตามหน่วยการใหม่นี้ก็ยังคงถูกชาวเมืองรอตเทอร์ดามถกเถียงกันไม่ขาดสายว่า จริงๆ แล้วมันใช้งานได้ผลจริงๆ…
-
สื่อจีนตีข่าว ทางการจีนใช้ปืนใหญ่พ่นน้ำหวังให้อากาศดี แต่จบด้วยตึกมีน้ำแข็งเกาะเพียบ
ถ้าใครที่ติดตามข่าวคราวในประเทศจีนอยู่ คงจะได้ยินผ่านหูกันมาบ้างตอนนี้ประเทศจีนนั้นกำลังประสบกับปัญหาหมอกควันอย่างหนัก ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นกำลังกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมากนั่นเอง สำนักข่าว Medium.com รายงานว่าด้วยเหตุนี้ ทางการจีนจึงหาทางออกด้วยการใช้รถบรรทุกที่ติดตั้งปืนใหญ่พ่นหมอกขนาดใหญ่ไว้ข้างหลังเพื่อพ่นหมอกตามจุดต่างๆ ในเมือง เพื่อกลบเกลื่อนปัญหาเรื่องมลพิษจากการถูกตรวจสอบข้อมูลทางอากศ พวกเขายังระบุว่าเมื่อสภาพอากาศดี ข่าวดีๆ ก็จะเกิดขึ้นบนหน้าหนังสือพิมพ์ แน่นอนว่าทางรัฐบาลก็จะได้หน้าไป อย่างไรก็ตามแม้ว่าเจ้ารถติดตั้งปืนใหญ่หมอกนี้จะใช้งานได้ผลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลในระยะยาว เพราะว่าหมอกดังกล่าวมันช่วยให้อากาศดีขึ้น ประชาชนหายใจสะดวกขึ้นก็จริง แต่ว่ามันกลับส่งผลได้ไม่นานและมีผลแค่ในพื้นที่เล็กๆ เท่านั้น แถมยังทำให้ตึกหลายๆ ตึกมีน้ำแข็งเกาะอยู่เต็มไปหมดอีก และถึงแม้ว่าทางรัฐบาลจะเข้าใจถึงปัญหาดังกล่าวดี แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใดยังคงสั่งผลิตเจ้ารถปืนใหญ่หมอกเข้าไปประจำการอีกหลายเมืองด้วยจุดประสงค์เดียวกันนั่นก็คือ เพื่อหลอกการตรวจสอบสภาพอากาศ… การหลอกลวงยังไม่หมดเท่านั้น เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากมณฑลเจียงซีและมณฑลเหอหนานจับได้ว่าพวกเขาสั่งให้เอาเครื่องยิงหมอกนี้ ไปยิงอัดเครื่องตรวจสอบสภาพอากาศเพื่อหวังเอาหน้าอีกด้วย สุดท้ายแล้วแม้ทางการจีนจะออกมาโปรยว่าจะนำท้องฟ้าสีครามกลับมาสู่ประเทศจีนอีกครั้ง แต่เจ้ารถปืนใหญ่พ่นหมอกนี้ก็ดูจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควรนัก เราก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าจีนจะจัดการปัญหาหมอกควันอย่างไรในอนาคต… ก่อนหน้านี้ก็มีการสร้างตึกฟอกอากาศขนาดใหญ่ ซึ่งคุณสามารถตามอ่านได้ที่… จีนสร้าง “เครื่องฟอกอากาศ” ขนาดยักษ์สูงกว่า 100 เมตร หวังทำให้อากาศบริสุทธ์ในพื้นที่ 6,250 ไร่ ที่มา medium
-
ศิลปินชาวไนจีเรียโชว์ฝีมือการวาดภาพด้วยดินสอเพียงอย่างเดียว งานดีจนนึกว่าเป็นรูปถ่าย!?
Ken Nwadiogbu หนุ่มชาวไนจีเรียวัย 23 ปี ผู้มาพร้อมกับฝีมือการวาดภาพสุดเจ๋ง โดยเขาได้ใช้เพียงดินสอในการสร้างสรรค์ผลงาน แต่กลับกันผลงานของเขามันสวยงามราวกับเป็นภาพถ่ายเลยทีเดียว… เขาได้เล่าผ่านทางเว็บไซต์ Boredpanda ว่าตัวเขานั้นไม่เคยเรียนวาดรูปมาก่อน เพราะว่าเขานั้นเรียนจบจากสาขาวิศวกรรมโยธา แต่เขากลับใช้ความชอบเป็นแรงผลักดันให้เขาหันมาวาดรูปนั่นเอง นอกจากนี้เมื่อเว็บไซต์ดังกล่าวสัมภาษณ์เขาเพิ่มว่าครอบครัวของ Ken ไม่ว่าอะไรเหรอที่ออกมาวาดรูปแบบนี้? ยิ่งเป็นครอบครัวจากประเทศแอฟริกาด้วย ซึ่งเขาก็บอกว่าพ่อแม่ของเขาก็เคยถามเหมือนกันว่าหลังจากเรียนจบตัวเขาทำอย่างไร จะใช้ชีวิตยังไงและหาเงินมาเลี้ยงดูตัวเองยังไง แต่ว่าจากตัวอย่างของศิลปินสตรีทที่มีชื่อเสียงมากมายในประเทศไนจีเรีย ก็ทำให้พ่อแม่ของ Ken รู้สึกว่ามันโอเคที่ลูกชายจะเดินไปในเส้นทางนี้ อย่างไรก็ตามเส้นทางของ Ken ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาเล่าว่าย้อนกลับไปเมื่อช่วง 5 ปีก่อนที่เขาเริ่มหัดวาดรูปนั้น เขาไม่รู้จักใครในสายงานนี้เลยเพราะเขาไม่ได้ไปโรงเรียนสอนวาดรูปอะไรทำนองนั้นเลย แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้และพยายามมาเรื่อยๆ แถมเขายังบอกว่าโชคดีที่ปัจจุบันวงการวาดรูปในประเทศไนจีเรียเปลี่ยนไปเยอะมากๆ . . ปัจจุบันนั้นเขากำลังเดินสายวาดภาพและโชว์งานไปทั่วประเทศไนจีเรีย โดยจุดประสงค์การออกงานไม่ใช่เพื่อโชว์ฝีมือเท่านั้น แต่งานของเขานั้นยังแฝงความหมายเกี่ยวกับความเท่าเทียมของเพศ พลังของคนผิวสีและวัฒนธรรมของชาวแอฟริกา ในอนาคต Ken ยังวางแผนจะเปิดโชว์งานที่มีธีมเกี่ยวกับสิทธิของผู้หญิงอีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยังคงมีปัญหามาตลอดในประเทศแถบแอฟริกา และเขาก็หวังเป็นอย่างมากว่างานศิลปะของเขาจะสามารถเปลี่ยนอะไรบางอย่างได้ . . . . . จากภาพนี้เราจะเห็นว่ามันเป็นภาพวาดและเขาใช้ดินสอจริงๆ…
-
ภาพประกอบทางการแพทย์แบบวินเทจ ดูแล้วหลอนถึงใจเพื่อการศึกษาที่เห็นภาพ!!
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาที่ดูรุนแรงที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] ในสมัยปัจจุบัน เทคโนโลยีและสื่อต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการศึกษาทางด้านการแพทย์ในการนำเสนอวิธีการและตัวอย่าง แต่เคยคิดกันไหมล่ะว่าในอดีตนั้นมีการศึกษากันอย่างไร ย้อนไปเมื่อยุคศตวรรษที่ 19 ก่อนที่สื่อมัลติมีเดียต่างๆ จะกำเนิดขึ้น หลักการและขั้นตอนการผ่าตัดเหล่านี้จึงได้ถูกวาดเป็นภาพเพื่อสอนให้กับผู้คนที่ต้องการจะเรียนทางด้านสายการแพทย์ ตั้งแต่เทคนิควิธีการผ่าตัดไปจนถึงการอธิบายอุปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาใช้ ภาพแต่ละภาพจะครอบคลุมเนื้อหาและทฤษฎีทางการแพทย์ที่แม่นยำในยุคนั้น ภาพวาดที่บรรยายถึงขั้นตอนต่างๆ จากศตวรรษที่ 19 ได้ถูกเรียบเรียงและตีพิมพ์โดย Richard Barnett นักประวัติศาสตร์ด้านการแพทย์ โดยหนังสือคู่มือเล่มนี้เป็นหนังสือที่มีความน่าสนใจและแสดงให้เห็นข้อมูลเชิงลึกที่ดูน่ากลัว แต่นั้นก็ได้เปลี่ยนโลกของวงการแพทย์ไปตลอดกาล . ภาพ cross section ของสมอง ภาพการผ่าหาเส้นเลือดในแขน . . . ภาพสาธิตวิธีการทำคลอดแบบผ่า ทั้งแบบเอาหัวออกก่อนและเอาขาออกก่อน . . การผ่าตัดดวงตา เป็นอะไรที่น่ากลัวสุดๆ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการผ่าตัด แต่ละภาพบางทีก็เหมือนจริงจนน่ากลัวเกินไป คนวาดนี่วาดได้เก่งสุดๆ ไปเลย ที่มา 9Gag
-
ควันหลงดราม่า “ก-ข” ชาวทวิตเตอร์ขยี้แหลก ทั้งเอาฮาทั้งจริงจัง เผือกติดเหงือกหมดแล้ว
จากดราม่าที่กำลังกลายเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในวันนี้ก็คงหนีไม่พ้นกับเรื่องของคู่รักดาราที่เพิ่งจะออกมามีข่าวว่าได้เลิกรากันไป นางเอกขวัญใจวัยเด็กที่ฝากผลงานไว้กับวงการละครไทยมากมายกับซูเปอร์สตาร์ขวัญใจวัยรุ่นในยุคบุกเบิก จากประเด็นดังนี้เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะพอทราบกันอยู่แล้วว่าดาราที่กำลังตกเป็นข่าวทั้งคู่นั้นคือใคร และเรื่องราวมันมีที่มาที่ไปอย่างไร สายเผือกแบบเราๆ ก็คงจะไม่พลาดประเด็นเหล่านี้ เอาเป็นว่าเรามาดูความเห็นจากมุมมองอีกมุมหนึ่งที่ชาวทวิตเตอร์ได้ออกมาร่วมแชร์กัน จุดเริ่มต้นของดราม่าในเดือนมกราคม สายเผือกตัวจริงต้องทันทุกเหตุการณ์ เอาล่ะ เตรียมตัวส่งไม้ต่อกันรัวๆ ไม่ว่าลูกชายหรือลูกสาวก็ต้องเลี้ยงด้วยนมเด้อ คุณแม่ จากการออกมาแถลงข่าวของฝ่ายหญิงนั้น อาจจะเช้าไปหน่อยเลยมีเบลอๆ กันบ้าง วอนแม่โปรดจงเห็นใจ แค่นี้ลูกก็แทบจะหาสามีไม่ได้แล้วจ้า กตัญญูต่อพ่อแม่ กตัญญูต่อครูบาอาจารย์และโรงเรียน ความในใจของชายไทยค่อนประเทศที่มีต่อประเด็นดาราเลิกกันนี้ ฮ่าๆ นี่ถ้าแม่เรียกสินสอดเยอะๆ เราคงไม่มีโอกาสได้แต่งงาน ทุกวันนี้ก็แทบจะแถมข้าวสารให้คนที่มาจีบแล้ววว เหล่าวัยรุ่นในยุคที่นักร้องซุปตาร์กำลังโด่งดัง นี่เป็นขวัญใจวัยรุ่นสมัยนั้นเลยนะ จริง… แอบส่งใจให้นิดๆ แม่นั้นก็ช่างเฉยเมย มันจะไม่มีวันนั้น นี่คือความจริงที่เจ็บปวด ฮ่าๆ ต้องรวยมากๆ แน่ แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง นี่คงกลายเป็นวลีฮิตแห่งปี 2018 …
-
เปิดประวัติของ ‘ท่านลอร์ด’ บุรุษผู้รักหมาสุดใจ พร้อมเปย์มูลนิธิสัตว์แบบไม่แคร์ตังค์
อื้อหือ พูดถึงข่าวเด่นประเด็นร้อน ณ วินาทีนี้คงไม่มีเรื่องไหนร้อนแรงไปกว่าเรื่องราวการยุติความรักอันหวานชื่นของนางเอกสาว ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ และหนุ่ม กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล อีกแล้ว โดยหลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ออกมาชี้แจงความจริงในฝ่ายของตนเอง ดูเหมือนเร่ื่องราวยิ่งบานปลายไปกันใหญ่ เพราะทั้งนางเอกสาวและหนุ่มกอล์ฟต่างก็พูดพาดพิงถึงครอบครัวอีกฝ่าย เท่านั้นยังไม่พอมีการโยงไปถึงเรื่องมือที่ 3 อีกด้วย เนื่องจากมีภาพที่ขวัญและครอบครัวไปนั่งทานข้าวกับหนุ่มคนนั้นในช่วงวันคริสต์มาสที่ผ่านมา เมื่อเรื่องมาถึงตรงนี้ สื่อต่างๆ จึงพุ่งประเด็นไปที่หนุ่มที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือที่ 3 คนนี้ ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน และทำอะไร? แน่นอน เราชาวเหมียวเองก็ไม่พลาดเช่นกัน… ชายผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือที่ 3 ระหว่างขวัญกับกอล์ฟคนนี้คือ James Rudolph Palumbo เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ปี 1963 ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันอายุ 54 ปี มีลูกชาย 1 คน ชื่อ Alessandro Palumbo อายุ 27 ปี…
-
หญิงสาวผู้ซึมเศร้าได้รับกำลังใจเล็กๆ จากพนักงานชงกาแฟ แค่คำว่า ‘ยิ้มหน่อย’ ช่วยเปลี่ยนชีวิตเธอได้
หลายคนคงได้ยินคำว่า “โรคซึมเศร้า” กันมาบ้าง แต่หารู้ไม่ว่าผู้ที่ต้องเผชิญกับโรคนี้นั้นต้องทุกข์ทรมานเพียงใด กับอารมณ์เบื่อๆ เฉื่อยชา ไม่อยากทำอะไรเลย อีกทั้งคนรอบข้างก็ยังไม่เข้าใจอีก แต่ที่จริงแล้วอาการของโรคนั้นอาจจะดีขึ้นได้เพียงแค่ได้กำลังใจเล็กๆ จากใครบางคนเท่านั้นเอง อย่างเช่นเรื่องราวที่จะนำมาเล่าให้ฟังในวันนี้ เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ต้องต่อสู้กับโรคซึมเศร้ามาตลอด แต่ชีวิตเธอกลับเปลี่ยนไปเมื่อเธอได้รับกำลังใจจากพนักงานร้านกาแฟ สาววัยรุ่นคนนี้ชื่อว่า Bekah Georgy อาศัยอยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์ รัฐนิวแฮมเชียร์ สหรัฐอเมริกา เธอนั้นได้ต่อสู้กับอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และโรคคลั่งผอมมาตลอดชีวิต จนครั้งหนึ่งเธอถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลและสถานพักฟื้น ซึ่งทำให้เธอรู้สึกสิ้นหวังและเคยคิดฆ่าตัวตายถึง 5 ครั้ง แต่แล้วการกระทำหนึ่งสิ่งเล็กๆ ก็มาเปลี่ยนชีวิตเธอ Bekah เป็นทั้งนักเต้นบัลเล่ต์ คนรักหนัง และคนรักกาแฟ ภาพหลายๆ ภาพที่เธอโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กนั้นล้วนแต่มีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่เบื้องหลังแล้วสภาพจิตใจของเธอย่ำแย่เกือบตลอดเวลา จนกระทั่ง เช้าวันหนึ่งในปี 2014 เธอไปพบแพทย์ทำให้ทราบว่าอาการของเธอนั้นย่ำแย่ลงจนควบคุมไม่ได้ เธอรู้สึกหมดหวังมาก ด้วยอาการของโรคทางการกินของเธอที่เลวร้ายลง ทำให้เธอทานได้แค่กาแฟเท่านั้น เธอจึงรีบไปยังร้านกาแฟ Starbucks ใกล้ๆ และสถานที่นี้เองที่ทำให้ชีวิตเธอพบเจอจุดเปลี่ยน เธออยู่ที่สี่แยกไฟแดง กำลังตัดสินใจจะจบชีวิตตัวเองลง จนกระทั่งเธอเห็นสิ่งที่พนักงานร้านกาแฟเขียนลงมาบนแก้วของเธอ ซึ่งนั่นทำให้เธอยิ้มออก และกลับมารู้สึกว่าชีวิตเธอมีหวังอีกครั้ง ไม่รู้ด้วยเหตุใด…
-
Simon Shelton Barnes ชายผู้สร้างรอยยิ้มในชุด ‘Tinky Winky’ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 52 ปี….
หากเอ่ยถึงชื่อของ Teletubbies (เทเลทับบีส์) ไม่ว่าจะเป็นแฟนรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ ต่างก็คงคุ้นเคยกับชื่อนี้เป็นอย่างดี อันเป็นรายการทีวีสำหรับเด็กจากประเทศอังกฤษ และถูกฉายในโปรแกรมโทรทัศน์ของประเทศไทยด้วย วันเวลาที่ล่วงเลยมานานหลายต่อหลายปี รายการนี้ก็ช่วยสร้างความประทับใจให้กับเด็กๆ มามากมายนับไม่ถ้วน ทั้งบรรยากาศในรายการ ตัวละครที่มีความโดดเด่นและแตกต่างกันไป ทำให้เราได้รู้จักกับแก๊ง 4 สีนั่นก็คือ ทิงกีวิงกี (ม่วง), ดิปซี (เขียว), ลาล่า (เหลือง) และโพ (แดง) แต่ในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์สื่อของประเทศอังกฤษอย่าง BBC, The Sun และ Mirror ได้รายงานว่า Simon Shelton Barnes ชายผู้เป็นนักแสดงในร่างของทิงกีวิงกีได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 52 ปี ภายหลังจากวันเกิดของเขาได้เพียง 4 วันเท่านั้น Simon เข้ามารับบทเป็นทิงกีวิงกีสีม่วง ผู้ชอบห้อยกระเป๋าถือสีแดงเดินไปมาในปีค.ศ. 1997 หลังจากที่นักแสดงหลัก Dave Thompson…
-
วัตถุสวรรค์!? ชาวอินเดียพบก้อนหินประหลาดหล่นจากฟ้า แต่จริงๆ แล้วเป็น “อึ” จากเครื่องบิน
กลายเป็นเรื่องฮือฮาในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ประเทศอินเดียมาก เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีข่าวว่ามีก้อนหินประหลาดร่วงลงมาจากท้องฟ้าตกลงในหมู่บ้าน จนชาวบ้านเชื่อว่านี่อาจเป็น “วัตถุแปลกปลอมจากนอกโลก” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน Fazilpur Badli ทางตอนเหนือของประเทศอินเดียเมื่อวันเสาร์ที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา โดยวัตถุประหลาดที่ว่านี้มีลักษณะคล้ายก้อนน้ำแข็ง มีน้ำหนักราวๆ 10-12 กิโลกรัม แต่หลังจากคำเล่าลือของชาวบ้านกลับไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่นำเอาวัตถุประหลาดนี้ไปตรวจสอบ กลับพบว่ามันคือ “ของเสีย” จากเครื่องบิน หรืออีกนัยหนึ่งคืออึนั่นเอง เจ้าหน้าที่จากกรมอุตุนิยมวิทยาในประเทศอินเดียได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด แล้วพบว่าจากแนวการตกและสิ่งต่างๆ ในวัตุประหลาดชิ้นนี้ไม่ใช่หินจากนอกโลกหรือสะเก็ดอุกาบาตอย่างแน่นอน มีการสันนิษฐานว่ามันอาจจะหลุดรั่วออกมาจากเครื่องบินขณะบินผ่านหมู่บ้านแห่งนี้ เนื่องจากถังกักเก็บของเสียภายในเครื่องมีปริมาณมากเกินกว่าที่ตัวเครื่องจะเก็บไว้ได้นั่นเอง โดยปกติแล้วเจ้าหน้าที่ในสนามบินจะมีการถ่ายเทของเสียบนเครื่องไปทิ้งทุกครั้งหลังจากที่เครื่องลงจอด แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมการบินระหว่างประเทศก็ยอมรับว่าการรั่วไหลอาจจะเกิดขึ้นได้บ้างระหว่างการบิน เจ้าหน้าที่อาวุโสอย่าง Vivek Kalia ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่าง BBC “มันมีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้าเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ มันมีขนาดใหญ่มาก ผู้คนแตกตื่นและวิ่งหาว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ชาวบ้านบางคนบอกว่ามันคือวัตถุจากนอกโลก บางคนคิดว่ามันคือหินจากสรวงสวรรค์ หนำซ้ำผมยังได้ยินว่าบางคนเก็บกลับบ้านไปด้วย” ตามรายงานของนิตยสาร Times ในประเทศอินเดียบอกว่าชาวบ้านบางคนนำเอาเศษก้อนน้ำแข็งที่ว่านี้ใส่กระเป๋าแล้วเอากลับไปแช่ในตู้เย็นที่บ้าน ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม 2016 ก็เคยมีข่าวว่าหญิงสาวชาวอินเดียรายหนึ่งถูกก้อนน้ำแข็งตกทะลุหลังคาลงมาใส่บริเวณไหล่ของเธอจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งสืบทราบในภายหลังว่าเป็นของเสียจากเครื่องบิน ต่อมาในธันวาคมปี 2016 ทางการอินเดียจึงออกกฎเพื่อคุมเข้มไม่ให้มีการปล่อยของเสียออกมาระหว่างทำการบินอยู่ หากสายการบินไหนฝ่าฝืนจะต้องถูกปรับตามความเหมาะสม…
-
โดรนช่วยชีวิต 2 วัยรุ่นลอยคอกลางทะเล ได้เป็นครั้งแรกของโลก เร็วกว่าเรือกู้ชีพอีก!!
เทคโนโลยีในปัจจุบัน นับว่ามีความก้าวหน้าไปอย่างมาก จนหลายคนอาจะเริ่มเกิดความรู้สึกว่าวันหนึ่งมนุษย์เราจะต้องถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ จนกลายเป็นว่ามนุษย์เราอาจจะต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเทคโนโลยี แต่เหตุการณ์ที่กำลังจะเสนอนี้สามารถใช้เป็นหลักฐานบ่งชี้ได้ดีเลยว่า “เทคโนโลยี” นั้นน่าจะเป็นประโยชน์กับมนุษย์แน่นอน เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวว่า “โดรน” ในประเทศออสเตรเลียได้เข้าไปช่วยชีวิตเด็กหนุ่ม 2 คนจนรอดตายมาแล้ว รายงานจาก BBC พบว่า ที่ชายฝั่งเลนน็อกซ์เฮด รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย มีคนสังเกตเห็นเด็กหนุ่ม 2 คน ติดอยู่นอกชายฝั่งราวๆ 700 เมตร ผู้ดูแลความปลอดภัยของชายฝั่งจึงบังคับ “โดรน” ที่ตนกำลังฝึกใช้อยู่ ให้ออกไปนอกชายฝั่งเพื่อค้นหาและช่วยเหลือเด็กหนุ่มดังกล่าว เด็กหนุ่มทั้งสอง อายุ 15 ปี และ 17 ปี ถูกพบว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิต เขาจึงบังคับโดรนให้นำเบาะชูชีพไปส่งให้เด็กหนุ่มทั้งสองคน ทั้งคู่จึงได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย John Barilaro รองรัฐมนตรีแห่งนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า “ไม่เคยมีการนำอุปกรณ์ชูชีพติดกับโดรนเพื่อไปช่วยคนมาก่อนเลย” Jai Sheridan หัวหน้าผู้ดูแลความปลอดภัยได้ให้สัมภาษณ์กับ The Sydney Morning Herald ว่า “วันนี้ เจ้าโดรนได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว มันเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่แสนวิเศษและยังบินได้ด้วย”…
-
4 หนุ่มลักลอบข้ามชายแดนสเปน แม้กระโปรงหน้ารถจะมีเครื่องยนต์ ก็ยังอุตส่าห์ยัดไปได้!?
เศรษฐกิจในยุคปัจจุบันนั้นอาจจะเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ การย้ายถิ่นที่อยู่จึงอาจเป็นทางเลือกสุดท้ายของพวกเขาเหล่านี้ แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะข้ามชายแดน จึงได้มีการคิดค้นวีธีใหม่ๆ เพื่อหลบหลีกด่านรักษาความปลอดภัยให้ได้ เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานถึงผู้ต้องหาลักลอบเข้าชายแดนจำนวน 4 คน ที่ถูกจับขณะที่หลบซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ กำลังลักลอบเข้ามาในดินแดนแอฟริกาเหนือของเมืองเมลียา โดยพบ 2 คน ซ่อนตัวอยู่ในท้ายรถยนต์ ส่วนอีกคนถูกพบในกระโปรงหน้ารถ และคนที่ 4 รายงานบอกว่าพบอยู่ใต้หน้าปัดของรถยนต์ คนขับและผู้โดยสารก็ถูกคุมขังด้วยเช่นกัน ตำรวจทั้ง 2 คนที่มีส่วนร่วมในการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบนั้นได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากโดนตีเข้าที่หัวเข่า และอีกคนโดนตีเข้าที่มือ ผู้ต้องหานั้นถูกรายงานว่า ลักลอบเข้าสู่ดินแดนของสเปนที่ชายแดน Beni-Enzar ระหว่าง เมลียาและโมร็อกโก รถที่ขับมานั้น ได้เร่งความเร็วและฝ่าด่านรักษาความปลอดภัย ก่อนที่คนขับและผู้โดยสารจะทิ้งรถและได้หลบหนีไป ถึงแม้ว่าจะมีการหลบหนีแต่ก็ไม่พ้นเงื้อมมือตำรวจ ถูกจับได้ในที่สุด และภายหลังก็ได้พบกับผู้ต้องหาลักลอบเข้าชายแดนซ่อนอยู่ในรถในเวลาถัดมา เมลียาและเซลตา ที่อยู่ห่างจากเขตเหนือของแอฟริกาประมาณ 250 ไมล์ มักจะเป็นจุดที่ผู้อพยพลักลอบเข้ามา โดยมีแค่ 2 ชายแดนเท่านั้น ระหว่างแอฟริกากับสหภาพยุโรป หลายปีที่ผ่านมา มีผู้อพยพจำนวนกว่าพันคน ที่พยายามข้ามขายแดน 7.5 ไมล์ ระหว่างเมลียากับโมร็อกโก…
-
หญิงจีนคีบตุ๊กตาได้กว่า 7,000 ตัว แชร์เทคนิคเด็ด “เขี่ยให้ร่วง ดีกว่าคีบติดก้าน!!”
บางคนบอกว่า “ตู้คีบตุ๊กตา” คือการพนัน หรือบ้างก็บอกว่ามันใช้ฝีมือ แต่ไม่ว่าจะแบบไหนสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ มันเสพติดสุดๆ โดยเฉพาะหลังคีบขึ้นมาแล้วทำท่าจะได้แต่จบที่ล้มเหลว… เช่นเดียวกับ Ya สาวชาวจีนวัย 27 ปี จากมณฑลกวางตุ้งที่แม้เดิมทีจะทำอาชีพช่างภาพและมองว่าการเล่นตู้คีบตุ๊กตามันไร้สาระ แต่หลังจากได้สัมผัสมันเพียงครั้งเดียวก็ค้นพบว่าตัวเองเสพติดมันไปซะแล้ว แถมหลังจากคีบตัวแรกสำเร็จมันดันเรียกพวกมาอีกกว่า 6,999 ตัว!? เรื่องราวของ Ya มันเริ่มขึ้นเมื่อปี 2016 ได้เดินไปเจอกับตู้คีบตุ๊กตาที่มีเป็ดสีเหลืองแสนน่ารักอยู่ข้างใน แน่นอนว่าสาวๆ เมื่อตุ๊กตาเป็ดก็จะต้องอยากได้เป็นธรรมดา แต่ด้วยความคิดครั้งแรกที่เธอคิดว่ามันไร้สาระและมีไว้เพื่อใช้หาเงินเท่านั้น เธอจึงไม่อยากเล่น จนกระทั่งความอยากมันชนะหลักความคิดของเธอ เธอจึงหลวมตัวหยอดเหรียญไปหนึ่งครั้ง นับจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอคนพบว่า การคีบตุ๊กตามันสนุกกว่าที่คิดมันได้คิดและใช้ความสามารถพร้อมกับโชคอีกนิดหน่อย ซึ่งเธอบอกว่ามันก็คล้ายกับการเล่นดนตรีที่ต้องฝึกหลายๆ ส่วน รวมถึงการจับเทคนิในการคีบ เธอบอกว่าช่วงแรกที่เธอเริ่มเข้าถึงมันเธอยังไม่มั่นใจมากนัก เธอใช้เวลาไปกับยืนดูและเรียนรู้เทคนิคของคนอื่นมากกว่า แต่เวลาผ่านไปเธอก็พบว่ามันไม่ช่วยอะไรมากนัก เธอจึงจัดการซื้อตู้คีบตุ๊กตามาไว้ที่บ้านเพื่อฝึกฝน แต่เรื่องมันกลับพีคยิ่งกว่าเดิมเมื่อเธอออกไปคีบตุ๊กตาจริงๆ ซึ่งเธอพบว่าตู้คีบตุ๊กตามันมีหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ฉะนั้นมันจึงไม่เหมือนกับตู้ที่เธอซื้อมาฝึก เธอจึงต้องเริ่มฝึกให้มากกว่าเดิม ด้วยการออกมาคีบ การค้นคว้าในเน็ตและอื่นๆ อีกมากมาย เวลาผ่านไป Ya ค้นพบว่าการเอาที่คีบค่อยๆ…
-
สื่อนอกโหวตให้บท Joker ของ Heath Ledger เป็นสุดยอด “วายร้าย” ตลอดกาล
เป็นธรรมดาของหนังที่เวลามีตัวเอกก็ต้องมีตัวร้าย เพื่อให้เรื่องเกิดความขัดแย้ง และนำไปสู่การแก้ปัญหาและบทสรุปของเรื่อง บางครั้งต่อให้ตัวเอกเจ๋งแค่ไหน แต่ถ้าตัวร้ายไม่สมน้ำสมเนื้อละก็ หนังมันก็อาจจะแผ่วได้เลย เชื่อว่าหลายคนก็คงมีวายร้ายในใจอยู่เหมือนกัน แต่วันนี้จะพาไปดูการจัดอันดับวายร้ายตลอดกาลโดยเว็บไซต์ Ranker.com ที่ทำการเปิดให้โหวต โดยคะแนนนั้นเรียกได้ว่าคู่คี่กันมาเลย แถมยังไม่ปิดการโหวตจนถึงตอนนี้ เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละอันดับจะมีใครจากเรื่องอะไรบ้าง *หมายเหตุ อันดับเหล่านี้มาจากการบันทึกสถิติในวันที่ 22 มกราคม 2018 1. The Joker จากเรื่อง The Dark Knight 2. Darth Vader จากเรื่อง Star Wars 3. Hannibal Lecter จากเรื่อง The Silence Of The Lambs 4. Lord Voldemort จากเรื่อง Harry Potter 5. Freddy Krueger จากเรื่อง Nightmare On Elm Street นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายตัวละครที่ติดอันดับเข้ามา 6. Jack Torrance จากเรื่อง The Shining…
-
นายตำรวจผู้เสียสละ ยอมปลอมตัวเป็นลูกคนอื่นนานถึง 5 ปีเพื่อให้พวกเขามีความสุข!?
เรื่องราวสุดซึ้งที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วประเทศจีน เมื่อตำรวจหนุ่มคนหนึ่งได้เปิดเผยผ่านรายการทีวีว่าจริงๆ แล้วตัวเขาไม่ได้เป็นลูกชายของผู้เป็นพ่อและแม่ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน แต่เขาเป็นคนอื่นและทำไปเพราะเหตุผลบางอย่าง..!? Jiang Jingwei นายตำรวจจากเมืองเซี่ยงไฮ้ คือตัวตนจริงๆ ของชายคนดังกล่าว โดยเขาเล่าว่าเขาได้แสร้งปลอมตัวเป็นลูกชายของครอบครัวสามีภรรยาคู่หนึ่ง เป็นเวลากว่า 5 ปี เพื่อช่วยสร้างความสะบายใจให้กับทั้งคู่ โดยเฉพาะฝ่ายภรรยา เพราะว่าพวกเขายังคงเสียใจกับการจากไปของลูกชายเมื่อ 15 ปีก่อน Jiang เล่าว่าเรื่องมันเริ่มมาจาก Xia Zhanhai และ Liang Qiaoying สองสามีภรรยาได้สูญเสียลูกชายที่ชื่อ Xia Xiaoyu ไปเมื่อปี 2003 ด้วยสาเหตุจากอุบัติเหตุในโรงงานที่พวกเขาทำงาน โดยลูกชายนั้นถูกสารพิษมากจนเสียชีวิตในท้ายที่สุด ส่วนผู้เป็นแม่นั้นแม้ไม่ถึงกับเสียชีวิตแต่ก็กลายเป็นอัมพาตครึ่งล่าง ด้าน Xia Zhanhai ผู้เป็นสามีที่ตอนนั้นไม่ได้เป็นอะไรมากและรู้ความจริงเกี่ยวกับการจากไปของลูก ก็ได้ตัดสินใจโกหกภรรยาว่าลูกนั้นทนไม่ไหวกับการทำงานที่นี่และขอออกไปทำงานต่างเมือง ซึ่งเขาทำเพื่อรักษากำลังใจของภรรยาให้มีชีวิตต่อไป จนกระทั่งวันหนึ่งในปี 2010 นาย Xia ได้เห็นดูทีวีและบังเอิญเจอนายตำรวจหนุ่มคนหนึ่งที่มีหน้าตาเหมือนลูกชายของเขา ซึ่งในจังหวะนั้นเขาตัดสินใจได้ทันทีว่าเขาต้องไปขอความช่วยเหลืิอจากชายคนนั้น และด้วยความช่วยเหลือจากรายการทีวีเขาจึงสามารถติดต่อกับ Jiang หรือก็คือนายตำรวจคนดังกล่าวได้ Jiang เล่าว่าตอนที่นาย Xia…
-
สยองออกก้น… หนุ่มกินซูชิแซลมอนแทบทุกวัน กลายเป็นการขับพยาธิตัวตืดยาว 1.5 เมตร ออกมา!!
เมื่อวันที่ 8 มกราคมปี 2018 ในรายการวิทยุด้านการแพทย์ This Won’t Hurt A Bit ได้เล่าถึงเคสของ Dr.Kenny Banh กับหนุ่มจากเมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนียคนหนึ่ง ชายหนุ่มจากเมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เข้ารักษาในโรงพยาบาลจากอาการปวดท้องและท้องเสียอย่างรุนแรง จนได้พบว่ามีพยาธิที่ยาวกว่า 5 ฟุตอยู่ในตัวเขา คุณหมอ Kenny เล่าว่าผู้ป่วยชี้แจงถึงภาพที่เขาได้เห็นว่า “ในขณะที่ผมกำลังเข้าห้องน้ำ เมื่อผมมองลงไป ผมก็เจอกับสิ่งที่คล้ายกับลำไส้เส้นเล็กๆ ห้อยออกมาจากก้นของผม” คนไข้นั้นตกใจมากเพราะเขานึกว่ามันคือลำไส้ของเขาจริงๆ ที่ไหลออกมา แต่เขาก็รู้สึกโล่งใจหลังจากที่ลองดึงมันออกมาและได้รู้ว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร เจ้าพยาธิตัวตืดที่เขาดึงออกมาก็ได้ดิ้นไปดิ้นมาบนมือของเขา หลังจากที่ทางโรงพยาบาลได้วางมันลงบนกระดาษเพื่อวัดขนาด พบว่ามันมีความยาวถึง 5 ฟุตครึ่ง หรือประมาณ 1.6 เมตร คนไข้นั้นจำไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงมีพยาธิอยู่ในร่างกาย แต่หลังจากที่ถามเรื่องอาหารการกิน คุณหมอ Kenny ก็ได้คำตอบ “ผมกินปลาแซลมอนเกือบทุกวัน” คนไข้กล่าว พยาธิตัวตืดที่หนุ่มคนนั้นเจอคือพยาธิตัวตืดแซลมอนญี่ปุ่น หรือ Diphyllobothrium…
-
สาวญี่ปุ่นถูกลวนลามบนรถไฟมาตั้งแต่เธออายุ 12-18 ปี บอกเล่าความรู้สึกผ่านหนังสือที่เธอเขียน
ทุกครั้งที่เราพูดถึงการลวนลามบนรถไฟ เหล่าท่านชายหลายคนก็คงจะคิดถึงพล็อตหนังผู้ใหญ่ที่มักจะเจอกันบ่อยๆ จากแดนอาทิตย์อุทัยใช่ไหมละ หรืออาจจะพูดกันติดตลกไปตามภาษา แต่เรารู้กันหรือไม่ว่าในชีวิตจริงมันกลับตลกไม่ออกเลย ปัญหาการลวนลามทางเพศในบนรถไฟในประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน ซึ่งแม้ทางรัฐจะหาทางออกยังไงมันก็ไม่หมดไปเสียที ด้วยเหตุนี้ Kumi Sasaki หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อของเหล่าโรคจิตบนรถไฟ จึงได้เขียนหนังสือพร้อมบอกเล่าถึงประสบการณ์อันเลวร้ายที่เธอต้องถูกลวมลามมาตั้งแต่อายุ 12 ขวบ หนังสือของเธอนั้นมีชื่อว่า Tchikan ซึ่งบอกเล่าเหตุการณ์ที่เธอต้องเจอมาตลอดระยะเวลาเกือบ 7 ปี โดยในหนังสือได้เล่าถึงประสบการณ์แรกที่เธอถูกลวนลามบนรถไฟเมื่อตอนอายุ 12 ปี ว่า “ตอนนั้นฉันอยู่บนบนรถไฟสายยะมะโนะเตะ ซึ่งฉันรู้สึกว่าเหมือนมีมือใครบางคนมาสัมผัสบริเวณบั้นท้าย ในตอนแรกฉันก็คิดว่ามันเป็นเพราะรถไฟที่แน่นคนเลยบังเอิญมาโดน แต่เอาเข้าจริงๆ มันไม่ใช่ และก็ไม่มีท่าทีจะหยุดด้วย มือดังกล่าวลูบมาที่หลังของฉัน มาที่เอวและก้น ยิ่งนานไปมือนั้นก็ล้วงเข้าไปถึงในกระโปรง ด้วยความที่ตอนนั้นฉันยังเด็ก ความกลัวและความตกใจมันทำให้ฉันทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะหาทางรับมืออย่างไร” หลังจากเรื่องราวดังกล่าวเธอคิดว่ามันจะจบลง แต่ไม่เลย ปัญหาดังกล่าวนั้นยังคงดำเนินต่อไปและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ บางวันถึงกับมีชายวัยกลางคนแอบตามเธอมาถึงบ้านเลยก็มี หนักหน่อยก็มีชายที่แต่งงานแล้วมาบอกให้เธอมีลูกกับเขา ปัญหาดังกล่าวมันหนักขึ้นมากจนทำให้ Kumi คิดฆ่าตัวเลยทีเดียว แต่ก็ต้องขอบคุณเพื่อนของเธอที่เป็นกำลังใจและช่วยเหลือให้เธอผ่านมันมาได้ ซึ่งปัจจุบันเธออายุเข้าเลข 3 แล้วและตัดสินใจอาศัยอยู่นอกเขตตัวเมือง เพราะทุกครั้งที่ขึ้นรถไฟเธอยังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์เดิมๆ นั่นเอง…
-
นี่คือ 10 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ‘การดูแลสุขอนามัยร่างกาย’ ที่คุณอาจเข้าใจผิดมาโดยตลอด!!
การดูแลความสะอาดและสุขอนามัยของเรานั้น บางคนทำมันเสียจนชินและเป็นกิจวัตรกันเลยทีเดียว แต่ทราบหรือไม่ว่าการดูแลสุขอนามัยในชีวิตประจำวันบางอย่างของเรานั้น ถ้าหากทำไม่ถูกวิธีแล้วล่ะก็ อาจก่อให้เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดตามมาก็เป็นได้ ดังนั้น วันนี้เราขอนำเสนอ 12 ความจริงเกี่ยวกับการ ‘ดูแลสุขอนามัย’ ที่หลายคน เข้าใจผิด ซึ่งสามารถส่งผลร้ายต่อสุขภาพเราได้ แล้วความจริงเหล่านี้มีอะไรบ้าง เชิญไปรับชมกันเลยดีกว่า… 1. การกัดเล็บช่วยแก้เครียด ความจริงคือ: การกัดเล็บนั้นแม้จะเป็นพฤติกรรมที่ทำตอนเครียด แต่มันไม่ได้ช่วยแก้เครียด แถมมันมีโอกาสทำให้เชื้อโรคมีโอกาสเข้าไปในร่างกายเราได้ แถมยังทำให้เสียบุคลิกอีกต่างหาก ฉะนั้นเลิกกัดเล็บเสียเถอะ 2. การใช้ก้านสำลี (คอตตอนบัทท์) ในการแคะหูนั้นสะอาดกว่า ความจริงคือ: การแคะหูด้วยก้านสำลีนั้นทำให้ขึ้หูของเราส่วนหนึ่งถูกดันเข้าไปในหูมากขึ้น ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่จะนำไปสู่การบาดเจ็บของแก้วหู และสูญเสียการได้ยินในที่สุด ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าหากมีปัญหาจริงๆ ควรไปพบแพทย์ อ่านบทความเรื่องไม่ควรใช้ก้านสำลีได้ที่ www.catdumb.com/dont-use-q-tips-064/ 3. ไม่ล้างมือหลังเข้าห้องน้ำเพราะไม่จำเป็นและทำให้เสียเวลา ความจริงคือ: การล้างมือนั้นเป็นวิธีที่ดีและง่ายที่สุดในการป้องกันการเจ็บป่วยที่อาจเกิดจากเชื้อโรค ซึ่งสามารถส่งต่อกันได้หลังจากเข้าห้องน้ำ เพราะฉะนั้นเสียเวลาสักนิดเพื่อสุขภาพของคุณและคนรอบข้างเถอะ 4. ไม่ยอมเปลี่ยนแปรงสีฟันเป็นเวลานาน เพราะใช้ยังไม่พัง ความจริงคือ: แปรงสีฟันนั้นมีการสะสมแบคทีเรียจากการที่เราแปรงฟันแต่ละครั้งไปเรื่อยๆ ทันตแพทย์แนะนำว่าคนเราควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 2-3 เดือน หากนานกว่านั้นจะนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพรุนแรงได้ 5. แปรงฟันอย่างไรก็ได้ ตามใจตนเอง ความจริงคือ:…
-
กลุ่มนักเลงจอมกร่าง ได้บทเรียนแสนเจ็บแสบจากคนที่เขาจะรังแก เพราะอีกฝ่ายเรียนมวยมา
นักเลงบางคนเนี่ยชอบอวดเก่งกับคนที่อ่อนแอกว่า บางคนอาศัยความที่ตัวใหญ่กว่า หรือมีพวกเยอะกว่า เลยทำตัวกร่าง ไล่ข่มคนอื่น และท้าต่อยกับเค้าไปทั่ว ใครเจอคนประเภทนี้เลี่ยงได้เลี่ยงไปเถอะ เพราะเดี๋ยวเขาก็ได้รับบทเรียนเองแหละ…อย่างเช่นนักเลงวัยรุ่นกลุ่มนี้ที่พากันไปขู่เด็กชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่สู้คน เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้เป็นคลิปวิดีโอ โดยมีกลุ่มวัยรุ่นที่คาดว่าน่าจะเป็นนักเรียนมัธยมปลายชาวอเมริกัน กำลังเดินเข้าไปหาเด็กชายเสื้อลายสก๊อตคนหนึ่งที่ถอยหนีจากพวกเขา ในระหว่างนั้น วัยรุ่นชายที่ใส่เสื้อสีขาวพยายามพูดยั่วโมโหหนุ่มเสื้อลายสก๊อต ทั้งด่าทอ ล้อเลียน ก่อนทำท่าเหมือนจะเข้าไปทำร้ายเขา แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร หนุ่มเสื้อลายสก๊อตก็เตะเข้าที่ขาซ้ายของหนุ่มนักเลง และรัวหมัดใส่หน้าเขาไม่ยั้ง จนเขาล้มลงไปกับพื้น ช็อตนั้นทำเอาวัยรุ่นคนอื่นๆ ต่างพากันอึ้ง… อย่างไรก็ตาม หนุ่มเสื้อลายสก๊อตยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เข้าได้ใช้ท่าเหมือนนักมวยปล้ำล็อกคอหนุ่มนักเลงคนนั้นจนเขาถึงกับสำลักและหน้าแดงอย่างกับลูกโป่งใกล้แตก เมื่อเห็นท่าทางไม่ดี คนที่เหลือเลยขอให้เขาปล่อยนักเลงคนนั้น พร้อมตะโกนว่า “เขาเลือดออก! เขาเลือดออก!” ชายหนุ่มเลยปล่อยเขาไป ต่อมา มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเด็กหนุ่มเสื้อลายสก๊อตคนนี้เคยเรียนมวย MMA มาก่อนนั่นเอง (ศิลปะการต่อสู้ที่ผสานมวยหลากรูปแบบไว้ด้วยกัน เช่น มวยไทย มวยสากล ยูโด มวยปล้ำ คาราเต้ แซมโบ บราซิลเลี่ยน ยูยิตสู) …มิน่าล่ะ ออกลายซะจนนักเลงกร่างไม่ออกเลย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ‘ถ้าใจกาก อย่าปากเก่ง’ นะจ๊ะ ที่มา unilad
-
22 ภาพที่ถ่ายได้ในจังหวะสุดเป๊ะ ก่อนความวายวอดจะมาเยือน หือออ เจ็บปวดน่าดู
เราทุกคนเคยผ่านช่วงเวลาแห่งหายนะกันมาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการหกล้มในวัยเด็ก ขับรถล้ม หรือประสบการณ์อื่นๆ ที่สร้างความเจ็บปวดให้จนลืมไม่ได้ลง เหมือนกับภาพเหตุการณ์เหล่านี้ที่ถูกถ่ายในจังหวะที่พอดีเป๊ะ มันคือช่วงก่อนที่ความซวยจะบรรลุ บางภาพอาจดูตลกนะ แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นขำไม่ออกแน่นอน 1. ก่อนที่เขาจะเอาหน้าไปจูบถนน 2. เห้ย!! เดินบนน้ำได้ด้วย เจ๋งอะ 3. เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน ว่าแต่เจ้าเหมียวจะทำยังไงกับจุดแดงๆ นี่นะ? 4. คลื่นสูงแค่ไหนก็ไม่หวั่น… 5. เป็นไง สดชื่นเลยละสิ 6. ล้อๆๆๆ กลับมาก่อน 7. จับผิดแล้ว ลูกบาสอยู่บนนุ่นนนน 8. ภาพนาทีระทึก ก่อนจะลงเอยด้วยขนอกเกรียม 9. จับหลานชายไว้ให้ได้นะยาย 10. อ้าว…ชน!? 11. ประสบการณ์ใหม่ของการบิน 12. เมื่อพ่อรับปากว่าจะดูแลลูกเอง… 13.…
-
ภาพการ์ตูนวัยเด็กแสนหดหู่ของ Oprah Winfrey จากเด็กโดนข่มขืน สู่ความสำเร็จในวันนี้
ในวัยเด็กเราอาจจะมีประสบการณ์ที่น่าจดจำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวันที่ได้ไปเที่ยวสวนสนุกครั้งแรก ตอนได้ของขวัญชิ้นโปรด หรือการเติบโตมาในสังคมที่อบอุ่น แต่สำหรับเด็กผู้หญิงคนนี้ เธอต้องเติบโตมากับความทรงจำอันเลวร้าย มันไม่ใช่เรื่องน่าจดจำแต่เธอกลับลืมมันไม่ลงและยังคงฝังใจอยู่จนทุกวันนี้ นี่คือผลงานภาพวาดที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่งที่ต้องตกเป็นทาสเซ็กส์ตั้งแต่ตอนอายุ 9 ขวบเท่านั้น และเธอไม่สามารถเล่าความเจ็บปวดนี้ให้ใครฟังได้… เด็กหญิงถูกข่มขืนตอนอายุ 9 ขวบ จากนั้นเขาได้พาเธอร้านไอติม ทั้งที่เลือดไหลเต็มขาของเธอ ตอนอายุ 10 เธอต้องทนรองรับอารมณ์ของญาติสนิท 2 คน ตอนอายุ 14 ปี เธอตั้งท้อง แต่ได้เก็บเป็นความลับจนกระทั่งวันคลอด เธอคลอดก่อนกำหนด และลูกน้อยได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากภาวะแทรกซ้อน แม่ยกน้องสาวของเธอให้คนอื่นรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ส่วนพี่ชายของเธอเสียชีวิตเพราะโรคเอดส์ ตั้งแต่นั้นมา เธอพยายามดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากสถานการณ์เหล่านั้น ตอนอายุ 23 ปี เรื่องราวในอดีตกลับเข้ามาในความคิดเธออีกครั้ง และเธอก็จมอยู่กับมัน นั่นส่งผลให้เธอถูกไล่ออกจากงานแรกของเธอ แต่การสูญเสียในครั้งนั้น เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเริ่มทำอาชีพในวงการโทรทัศน์ ในปี 1984 เธอได้เป็นเจ้าของรายการ…
-
หนุ่มจีนขับรถตู้ บดร่างผู้ต้องสงสัยที่ยิงลูกดอกยาพิษฆ่าหมาของเขาจนเสียชีวิต
เวลามีใครมาทำร้ายสัตว์เลี้ยงของเรา ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้เป็นธรรมดา แต่สำหรับชายคนนี้มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น เพราะเขาตั้งใจจะแก้แค้นให้ถึงแก่ชีวิต เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน มณฑลเจียงซู เมื่อหนุ่มคนหนึ่งพบว่าสุนัข 6 ตัวของเขาตายเพราะถูกคนยิงลูกดอกยาพิษใส่ ด้วยความแค้นเขาจึงออกตามหาคนที่ฆ่าหมาของเขา โดยภาพเหตุการณ์นี้ถูกบันทึกได้โดยกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นภาพที่เห็นรถตู้พุ่งชนกำแพงอิฐ พร้อมทั้งมีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งในสภาพยับเยินล้มอยู่ ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นการไล่ล่าของเจ้าของสุนัข และคนยิงลูกดอกซึ่งกำลังหลบหนี เรื่องราวการล้างแค้นนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเจ้าของสุนัขได้ยินเสียงสุนัขของตัวเองร้องออกมา จึงเข้าไปดูแล้วพบว่าสุนัขไม่สามารถขยับตัวได้เลย หลังจากนั้นเขาก็รีบขึ้นรถไป เพื่อไล่ตามชายที่ขับมอเตอร์ไซค์ ก่อนที่จะขับชนและบดร่างเขาเข้ากับกำแพงอิฐ รายงานจากทางตำรวจกล่าวว่าชายผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตคาที่ ส่วนเจ้าของสุนัขกำลังโดนสืบสวนหาข้อเท็จจริงอยู่ อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวของเจ้าของสุนัขก็ออกมาบอกว่าเขานั้นไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าคนที่ฆ่าสุนัข แต่ตอนนั้นเท้ามันควบคุมไม่ได้ ส่วนทางคนที่รู้จักกับผู้ตายก็ได้กล่าวว่า “ถึงแม้เราจะผิด แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาตัดสิน ทำร้าย หรือว่าฆ่าเราเลย” . จากรายงานเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ได้มีการยึดลูกดอกยาพิษกว่า 200,000 ชิ้น ซึ่งเชื่อว่าเอาไว้ใช้ยิงใส่สุนัขเพื่อฆ่า ซึ่งสุนัขส่วนใหญ่ก็จะถูกนำไปประกอบอาหารนั่นเอง ซึ่งสมาชิก 8 คนของกลุ่มคนที่ขายลูกดอกก็ถูกตัดสินจำคุกเป็นที่เรียบร้อย Wendy Higgins จากศูนย์ Humane Society International ก็เคยออกมาล่าถึงเหตุการณ์นี้ว่าที่จีนนั้นมีปัญหาการเรื่องการค้าเนื้อหมาและแมวเยอะมากๆ ในทุกๆ ปีมีหมากว่า 20 ล้านตัวและแมวอีก 4…
-
ตำรวจบอกให้พ่ออยู่บ้านหลังลูกชายหายไป แต่พ่อดื้อจ้างฮ.ตามหา แถมเจอก่อนตำรวจด้วย
สัญชาตญาณของพ่อแม่นั้นบางทีก็ช่างแม่นยำจนน่าตกใจราวกับว่าพวกท่านมีพลังจิต เมื่อมีบางอย่างที่ผิดปกติจากนิสัยของลูกๆ บางทีพวกเขาอาจจะรับรู้ได้ทันทีว่าอาจมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นได้ เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 15 มกราคม ปี 2018 ที่ผ่านมา หลังจากที่ Tony Lethbridge คุณพ่อชาวออสเตรเลีย ติดต่อ Samuel ลูกชายวัย 17 ปีของเขาไม่ได้เป็นเวลากว่า 24 ชั่วโมง ซึ่งผิดปกติจากนิสัยของเขาที่จะบอกกับพ่อแม่ตลอดเวลาจะออกไปไหน ด้วยความเป็นห่วง Samuel ทางครอบครัวจึงได้เข้าแจ้งกับตำรวจ แต่ว่าคำตอบที่ได้รับมานั้นทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก “พวกเขาบอกว่าลูกชายของเราอาจจะหนีออกจากบ้าน อย่างนู้นอย่างนี้ แม้ว่าเราพึ่งพูดไปว่านี่ไม่ใช่นิสัยของเขา” Tony กล่าว หลังจากที่ตำรวจได้รับรายงาน พวกเขาบอกให้ Tony และครอบครัวกลับไปรอที่บ้าน แต่ว่าการรอคอยเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทนทำได้ เพราะเขาคิดว่าลูกชายอาจประสบอุบัติเหตุที่ไหนซักแห่ง สิ่งที่เขารับรู้ครั้งสุดท้ายก่อนลูกชายจะออกจากบ้านไปคือ ลูกชายของเขาส่งข้อความหาแฟนสาวเมื่อวันอาทิตย์ตอนเช้าว่าจะไปเจอกันที่บ้านของครอบครัว Blacksmiths ในเวลาประมาณเที่ยง แต่ทว่าลูกชายของเขานั้นไปไม่ถึง Tony สงสัยว่าเขาอาจจะประสบอุบัติเหตุบนถนนเส้นนั้น ซึ่งเคยมีอุบัติเหตุรถชน ซึ่งคนขับเสียชีวิตก่อนที่ตำรวจจะมาพบเป็นเวลาหลายวัน คุณพ่อเลยไม่รอช้า เขานำเงิน $1,000 หรือประมาณ 31,000 บาทเพื่อเช่าเฮลิคอปเตอร์…
-
ความเฟลที่เกิดขึ้นในโลกของ ‘อนิเมะญี่ปุ่น’ ที่คุณอาจมองข้ามไป แต่มันไม่น่าให้อภัยเลยจริงๆ นะ T T
ต้องขอบอกเลยว่า ‘อนิเมะญี่ปุ่น’ เป็นหนึ่งในสื่อบันเทิงที่มีแฟนๆ ติดตามอยู่ทั่วโลก ทั้งเนื้อเรื่องที่สร้างความประทับใจ และงานภาพที่สวยงามอลังการ จึงไม่ยากเลยที่จะเอาชนะใจผู้คนได้มากมาย และด้วยความที่มันเป็น ‘การ์ตูน’ บางครั้งมันก็อาจจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านงานภาพ หรือตรรกะแปลกๆ ที่ทำเอาคนดูอย่างเราๆ อดมองข้ามและอดหัวเราะไม่ได้เช่นกัน ดังเช่นภาพต่อไปนี้ จะเป็นอย่างไรบ้างลองไปรับชมกันได้เลยจ้า… 1. เลเยอร์มันดูแปลกๆ นะ เอ็งควรจะเป็นคนที่โดนบังไม่ใช่เร๊ออ!? 2. แล้วเกิดเบอร์ที่จะโทรมันมีเลข 9 อยู่ด้วย นี่ไม่ต้องกด 3*3 แทนเลยเรอะ!? 3. เพื่อนๆ ต่างก็เรียกผมว่า ‘นายแขนเด็ก’ 4. แลดูหนังสือพิมพ์ในฉากนั่นจะสมจริงมากๆ เลยนะ 5. เจ้าฮอร์คที่ดูเหมือนจะตัวใหญ่กว่าหมูทั่วๆ ไป แถมยังบินได้อีกต่างหาก!? 6. อย่าหันไปเชียว เดี๋ยวมีตกใจหงายหลังกันบ้างล่ะ 7. ถ้าจะเบี้ยวแถมตั้งแต่คางยันขาขนาดนี้ล่ะก็นะ… 8. รู้สึกว่าปากมันจะแปลกๆ ไปซะหน่อยมั้ง 9.…
-
ช่วยตรูขึ้นไปที๊!! เจ้าสลอธร้องเรียกให้มนุษย์ช่วย หลังปีนขึ้นมาจากซอกหินไม่ได้ เอาจริงดิ!?
ใครจะไปคิดล่ะว่าการมาอยู่ที่ชายหาดซึ่งเป็นถิ่นของสัตว์ทะเล ยังจะมีโอกาสให้เราได้พบกับเจ้าสล็อตสิ่งมีชีวิตแสนเชื่องช้าแต่น่ารักที่หายากแบบนี้ แต่ว่าเจ้าสลอธมันติดอยู่ในซอกหินเลยขึ้นมาเองไม่ได้ ร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่ผ่านมาใหญ่เลย ถ้าใครไม่ยอมช่วยเจ้าสัตว์น่าเอ็นดูตัวนี้ก็ใจร้ายเกินไปแล้วล่ะ ช่วยตูด้วย ขาตูติดหิน เจ้าสลอธตัวพันธุ์สองนิ้วเท้าที่หายากนี้ถูกพบในวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาที่จังหวัด Punta Tigre ประเทศคอสตาริกา ดูเหมือนว่ามันจะถูกพายุพัดตกลงไปในน้ำทะเลเมื่อคืนก่อนหน้านี้ พอน้ำทะเลลดลงแล้วมันก็รอดชีวิตกลับมาได้ แต่ว่าขาของดันเข้าไปติดอยู่ในซอกหินจึงขยับไปไหนไม่ได้เลย นอกจากนี้ยังมีทรายเข้าไปในดวงตาของมันด้วย คลิปวิดีโอตอนเจอเจ้าสลอธน้อย โชคดีที่มีแขกของบ้านพัก Morgan’s Lodge ผ่านไปเห็นมันเข้าแล้วกลับไปบอกกับเจ้าของบ้านพัก Dirk Morgan ให้ไปช่วยเหลือมันไว้ได้ทัน เขาเล่าว่า “เรามีบ้านพักอยู่ในแถบที่ไม่ค่อยครึกครื้นนักของประเทศคอสตาริกา เรารู้จากแขกที่พักอยู่ว่ามีลูกสลอธติดอยู่ในหิน ห่างจากบริเวณนั้นประมาณครึ่งไมล์ (ประมาณ 800 เมตร) …” รีบๆ ช่วยตูออกไปสักทีเถอะ ฮือ Dirk ยังบอกอีกว่า “ตอนนั้นพระอาทิตย์เพิ่งขึ้นมาได้ชั่วโมงเดียวเองและพายุเมื่อคืนก็สงบลงแล้ว เราก็เลยเดินไปดูยังจุดที่แขกบอกแล้วรีบช่วยเจ้าสลอธเอาไว้ก่อนที่มันจะตาย ระหว่างทางเราก็ไล่หมา 2 ตัวที่จะเข้าไปกัดมันด้วย” เจ้าของบ้านพักเล่าต่อว่า “ตอนที่เจอมันก็ตัวเปียกน้ำทะเลโชกเลย แล้วก็มีทรายเข้าไปติดอยู่ในตาของมันด้วย มันดูอ่อนแรงแล้วก็กลัวมาก แต่ก็ยังร้องขอความช่วยเหลือตอนที่เราเข้าไปใกล้ๆ “…
-
แมวหน้าแปลกสองพี่น้องกอดกันกลม หลังมนุษย์ช่วยให้รอดพ้นจากความหนาวข้างถนน
ท่ามกลางช่วงพายุหิมะที่อุณหภูมิติดลบ ยังมี 2 ชีวิตตัวน้อยๆ กำลังตกระกำลำบาก พยายามที่จะเอาชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมอันโหดร้าย ในช่วงก่อนคริสต์มาสที่ผ่านมา เจ้าเหมียวสองตัวก็ได้ถูกพบเจออยู่ข้างนอกอพาร์ตเมนต์ในละแวกเบดฟอร์ด ย่านบรุกลิน รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกมันกำลังคุ้ยหาอาหารท่ามกลางอุณภูมิอันเย็นยะเยือก โชคดีที่มีกลุ่มอาสา Infinite Hope ในบรุกลิน ได้รับการติดต่อว่าพบเจ้าเหมียว 2 ตัวอยู่บนถนนแถวนั้น และได้พามันไปยังที่อบอุ่นและปลอดภัย พบกับเจ้า Morela (ลายสามสี) และเจ้า Dactyl (ตัวสีส้ม) “เจ้าเหมียวทั้งสองตัวนี้ไม่ยอมเข้าใกล้คนบนถนนเลย ฉันเลยไปกับเจ้าหน้าที่อาสาของ TNR อีกคนและใช้กับดักในการจับเจ้าเหมียวออกมา หลังจากที่จับได้แล้วก็พบว่าใบหน้าของมันไม่เหมือนกับแมวอื่นๆ“ Michelle เจ้าหน้าที่ของ Infinite Hope กล่าว หลังจากที่พาไปคลินิกสัตว์ หมอบอกว่าพวกมันมีอายุประมาณ 4-5 เดือน และเกิดมาพร้อมกับโครโมโซมที่ผิดปกติ ทำให้หน้าของมันนั้นประหลาดออกไป แต่ก็ไม่มีผลต่อสุขภาพของมันมาก Dactyl เจ้าเหมียวตัวสีส้มเป็นโรคที่เรียกว่า Entropion ที่ทำให้หนังตาม้วนเข้าไปข้างใน มันใช้ชีวิตทั้งๆ ที่ปวดตาตลอดเวลา ตอนที่มันเร่ร่อนไปมาบนถนน มันพึ่งพาอาศัยกันเพื่อความอยู่รอด Morela…
-
แม่เจ้าสาวขุดรูปเก่าขึ้นมา ก่อนที่จะรู้ว่าลูกเขยนั้น เคยมีอดีตแสนสุขร่วมกับลูกสาวเธอมาก่อนแล้ว…
คู่รักบางคู่ไม่ได้รอให้พรหมลิขิตมาช่วยกำหนดให้พวกเขาเจอกัน ฝ่ายชายอาจจะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจจนสามารถมัดใจฝ่ายหญิงเอาไว้ได้ในที่สุด เรียกว่าเป็นความรักจากน้ำพักน้ำแรงล้วนๆ แต่สำหรับ Heidi และ Ed Savitt คงต้องบอกว่าเป็นพรหมลิขิตจริงๆ เพราะนอกจากจะรู้สึกถูกใจกันตั้งแต่แรกพบแล้ว ทั้งคู่ยังเคยพบและมีใจให้กันในวัยเด็กด้วยแม้จะจำไม่ได้เลยก็ตาม บอกได้เต็มปากเลยว่าคู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกันจริงๆ Heidi และ Ed Savitt หนุ่มและสาวคู่นี้พบกันครั้งแรกเมื่อปี 2011 การพบกันของทั้งคู่นั้นช่างเหมือนกับฟ้าลิขิตเลย ในตอนนั้นหนุ่ม Ed เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านพักของมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลในประเทศอังกฤษ แต่เขาไม่รู้วิธีใช้เครื่องปั่นผ้าในนั้นจึงจะขอคำปรึกษาจากคนที่เคยอยู่ที่นั่นมาก่อน พอลองค้นหารายชื่อคนที่เคยอยู่ดูก็บังเอิญไปเจอชื่อ Heidi เข้าพอดีเขาจึงขอให้เธอมาช่วยสอนใช้เครื่องปั่นผ้าเสียเลย เมื่อทั้งคู่เจอกันก็ตกหลุมรักกันในทันที เหมือนกับว่าทั้งคู่รู้จักกันมานานแล้วอย่างไรอย่างนั้น จึงเริ่มทำความรู้จักและตัดสินใจคบกันในเวลาไม่นาน คบกัน 4 ปีแล้วแต่ยังรักไม่เปลี่ยนแปลง พอคบกันมาได้ 4 ปีทั้งคู่ก็ยังคงรักกันหวานชื่นอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ก็เลยตัดสินใจว่าถึงเวลาที่ควรจะพาคู่ของตัวเองไปแนะนำให้ครอบครัวได้รู้จักสักที ทั้งคู่จึงนัดครอบครัวของแต่ละฝ่ายมาทานอาหารเย็นด้วยกันที่ร้านอาหารในกรุงลอนดอน เมื่อทั้งสองครอบครัวได้เจอหน้ากัน Fiona คุณแม่ของฝ่ายชายและ Kay คุณแม่ของฝ่ายหญิงก็รู้สึกว่าทั้งคู่ชอบอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน ทั้งชอบไปล่องเรือ ชอบไปท่องเที่ยว ดูเหมือนทั้งคู่จะเข้าขากันได้ดีทีเดียว เราพาครอบครัวไปรู้จักกันดีกว่าเนอะ จะได้สานสัมพันธ์กันให้มากขึ้น พวกเธอแลกเปลี่ยนเรื่องราวของครอบครัวตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง จน Kay เล่าเรื่องในอดีตเมื่อครั้งที่…
-
‘เขาคือปีศาจในร่างมนุษย์’ ความในใจนักยิมนาสติกสหรัฐฯ ผู้ถูกแพทย์ผู้ดูแลล่วงเกิน
ในช่วงปีที่ผ่านมานั้น หากจะกล่าวถึงคดีความที่เกิดขึ้นและกลายเป็นกระแสไปทั่วโลก ก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของคดีการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางวาจาและการปฏิบัติลงมือ ต่างก็ถูกเปิดเผยออกมาจากผู้มีชื่อเสียงในหลากหลายวงการ ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ จนเกิดเป็นกระแสการต่อต้านและแฉพฤติกรรมฉาวผ่านแฮชแท็ก #metoo ไปทั่วโลกออนไลน์ และในครั้งนี้ #เหมียวเลเซอร์ ก็จะขอพูดถึงประเด็นนี้อีกครั้ง เนื่องจากมีคดีความใหญ่เกิดขึ้นในแวดวงกีฬาของประเทศสหรัฐอเมริกา และเพิ่งจะขึ้นศาลฟ้องร้องกันไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม 2018 McKayla Maroney นักยิมนาสติกทีมชาติสหรัฐฯ ผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิกในปี 2012 จุดเริ่มต้นของเรื่องอื้อฉาวในวงการยิมนาสติกของสหรัฐฯ Lawrence G. Nassar คือแพทย์ผู้ดูแลนักยิมนาสติกทีมชาติสหรัฐอเมริกา เขาได้รับใบประกอบวิชาชีพแพทย์ในสาขาออสทีโอพาธี (อันเป็นระบบการดูแลสุขภาพ ที่ประสานการนวดเข้ากับการแพทย์แผนปัจจุบัน) และเขาก็ได้ทำการเปิดคลินิก พร้อมทั้งเป็นผู้ดูแลชมรมยิมนาสติก ของมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตตอีกด้วย Lawrence G. Nassar แพทย์ผู้ดูแลนักยิมนาสติกทีมชาติสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งในเดือนกันยายน ปี 2016 หนังสือพิมพ์ Indianapolis Star เปิดเผยว่า อดีตสองนักยิมนาสติกได้กล่าวหานาย Nassar ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเมื่อทางมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตตทราบเรื่อง จึงทำการย้ายงานสอนในชมรมของเขา ก่อนที่จะไล่ออกในเวลาเพียงไม่นาน… การจุดประกายไฟเล็กๆ…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์แหลก MV “สิ่งที่เหลืออยู่” เล่าประเด็นเพศที่สามได้แย่ จนต้นทางต้องลบคลิป
กลายเป็นประเด็นดราม่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากได้มีการปล่อยเอ็มวีใหม่ของวง ZHEEZ เจ้าของบทเพลงดัง “ความรู้สึกของคนที่หมดใจ” เมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งกับซิงเกิล “สิ่งที่เหลืออยู่” แต่หลังจากปล่อยเอ็มวีมาได้ไม่นาน ก็ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากกับประเด็นที่เล่นในเอ็มวีเกี่ยวกับเพศที่สาม ที่ทำออกมาในมุมมองที่ไปทางแง่ลบเสียมากกว่า เริ่มต้นจากทวีตหนึ่ง ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับประเด็นนี้ จนตอนนี้มียอดรีทวีตไปถึง 13,000 ครั้ง และมีคนกดไลก์และคอมเมนต์จำนวนมาก ล่าสุดทางช่องยูทูบก็ได้ลบคลิปเอ็มวีตัวนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ดูคลิปเอ็มวีบางส่วนได้ที่นี่ โดยในเอ็มวีนั้นได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคู่รักคู่หนึ่ง ที่ฝ่ายชายมีเพื่อนเป็นผู้ชาย แล้วสุดท้ายจับได้ว่าเขาและเพื่อนชายนั้นมีอะไรกัน แต่จุดที่ทำให้คนออกมาต่อว่าก็คือรอยเปื้อนบนเตียงที่อาจจะเดาได้ว่าเป็นอุจจาระที่เกิดขึ้นจากการมีอะไรกันระหว่างชายกับชาย และนี่ก็คือความเห็นบางส่วนต่อเอ็มวีตัวนี้ จากกรณีนี้ก็ทำให้เราได้เห็นว่าบ้านเรานั้นมีการตระหนักถึงเนื้อหาที่ไปในเชิงเหยียด อีกทั้งผู้ผลิตก็ต้องทำการบ้านด้วยว่าความจริงแล้วสังคมมันเป็นยังไง เรียบเรียงโดย #เหมียวสามสี
-
ผู้เล่นในโลกเกมเสมือน ต่างทำได้เพียงแค่ยืนมองดูผู้เล่นที่เป็นลมชัก นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น…
ปัจจุบันนี้สื่อบันเทิงในด้านเกมนั้น มีการพัฒนาไปไกลมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (Virtual Reality) ที่หลากหลายบริษัทพัฒนาเกมต่างให้ความสนใจ และลงทุนพัฒนาออกมาเรื่อยๆ เรียกได้ว่าเป็นกระแสคลื่นลูกใหม่ที่ให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่สมจริงไปอีกขั้น แต่ทว่าในโลกเสมือนกับโลกแห่งความเป็นจริงนั้นยังมีความแตกต่างกันอยู่ เพราะว่าถึงแม้ผู้เล่นจะมีตัวตนในโลกเสมือน แต่ก็ไม่อาจมีปฏิสัมพันธ์กันได้ในโลกแห่งความเป็นจริง… ซึ่งในกรณีนี้ก็เกิดขึ้นกับผู้เล่นในเกม VRChat โลกเสมือนออนไลน์ที่ให้ผู้เล่นสวมแว่น VR มาเจอกัน พร้อมกับรองรับระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวร่างกายด้วย ยูทูบเบอร์ Rogue Shadow VR ภาพเหตุการณ์อันน่าหดหู่นี้ถูกบันทึกโดยยูทูบเบอร์นามว่า Rogue Shadow VR โดยที่เขาได้อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นเอาไว้ว่า… เขาและผู้เล่นคนอื่นๆ กำลังสนุกสนานกับสภาพแวดล้อมภายในเกมอยู่ จู่ๆ ก็มีผู้เล่นรายหนึ่งลักษณะเป็นตัวหุ่นยนต์สีดำแดง นอนลงไปกองกับพื้นและเริ่มมีอาการชักกระตุก โดยในตอนแรกนั้นยังไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นข้อผิดพลาดของเกมหรือเป็นการจงใจของผู้เล่น ที่มักจะมีการทำอะไรแผลงๆ ภายในเกมกันเป็นประจำ และหลังจากที่ไตร่ตรองกันดีๆ แล้ว จึงทำให้รู้ได้ว่าผู้เล่นรายนี้ไม่ได้แกล้ง แต่เขาประสบกับอาการลมชักจริงๆ และตัวละครในเกมก็แสดงอาการออกมาตามตัวเขาด้วย ซึ่งเจ้าตัวไม่สามารถตอบสนองกับคำถามของผู้เล่นอื่นๆ ได้เลย แถมยังมีอาการหายใจติดขัดในระหว่างที่กำลังอยู่ในโลกเสมือน (และในโลกแห่งความเป็นจริง) “มันเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ที่ได้เห็นผู้คนต่างมาร่วมแสดงความห่วงใยต่อใครบางคนที่พวกเขาไม่รู้จัก แต่ในขณะเดียวกัน มันก็รู้สึกแปลกๆ เพราะเราไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้เลย…” “เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาอยู่บนส่วนไหนของโลกใบนี้…
-
โรงเรียนอนุบาลไต้หวัน ทำป้ายชื่อแปลงผักเด็กนักเรียน แต่เฮ้ย… ชาวเน็ตร่วมขยี้ฮากระจุย!!
โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในไต้หวัน มีวิชาที่ให้เด็กนักเรียนได้ปลูกผักในแปลงผักของห้อง จากนั้นก็ให้ดูแลผักของตัวเองเพื่อส่งอาจารย์ นอกจากจะเป็นการปลูกฝังให้เด็กรู้จักรับผิดชอบผักของตนเองแล้ว ยังทำให้เด็กเรียนรู้วิชาการเกษตรอีกด้วย แต่จะทำอย่างไรให้คุณครูหรือเด็กนักเรียน สามารถจำได้ว่านั่นเป็นผักของใคร ซึ่งโรงเรียนบางแห่งอาจจะใช้วิธีทำแบบจำลองแปลง เขียนใส่ตารางในกระดาษ หรือวิธีอื่นๆ แต่โรงเรียนนี้ ก็ใช้วิธีการติดภาพบนหลุมผักของแต่ละคน… แต่ เฮ้ยยยยยยย มันคุ้นๆ ไหม ชาวเน็ตหลายคนก็เหมือนกับคุณ เมื่อได้เห็นภาพนี้ต่างก็พากันคิดไปในทางเดียวกันแทบทั้งหมด ว่าแปลงผักเหล่านี้มันไม่ดูละม้ายคล้ายแปลงผัก แต่มันดันเหมือนกับ “ป้ายหลุมศพ” ในสุสานซะงั้น งานนี้เลยทำให้ภาพดังกล่าวกลายเป็นกระแสไวรัล แล้วแชร์กันต่อด้วยความสนุกสนานเฮฮา… ยัง ยังไม่พอ ยังมีคอมเมนต์ต่างๆ ที่ทำให้ภาพนี้ฮาขึ้นไปใหญ่ คนนี้บอกว่า… พวกเขาน่าจะใส่ตัวเลขวันที่ปลูกลงไปด้วยนะ (ลองคิดว่ามันมีตัวเลขบนป้ายด้วยสิ โถ้วววววว) อีกหนึ่งคอมเมนต์ที่ร่วมฮากับชาวเน็ต ตอนแรกก็รู้สึกเศร้าใจคิดว่าเป็นเด็กนักเรียนเกาหลีเหนือ จนกระทั่งได้อ่านแคปชั่น…… บางคนก็พูดถึงโรงเรียนของตัวเองด้วย ตอนเด็กที่โรงเรียนอนุบาลของฉัน ครูจะให้ทุกคนมีสัญลักษณ์เป็นสัตว์ประจำตัว แต่มันดันโชคร้ายตรงที่ ฉันได้ควายเป็นสัตว์ประจำตัวซะงั้น (ฮ่าๆ) อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้มีแต่คอมเมนต์ในเชิงเฮฮาเท่านั้น เพราะหลายคนก็ร่วมวิเคราะห์กันจริงๆ จังๆ บ้างก็พูดถึงประเด็นวัฒนธรรม หรือประเด็นในเรื่องการมองโลกที่ต่างกันของเด็กและผู้ใหญ่กันเลยทีเดียว …
-
สองหนุ่มบุกรุกฟาร์มผึ้ง ทำลายรวงผึ้งซะราบเป็นหน้ากลอง ผึ้งกว่าครึ่งล้านตายเรียบ
ผึ้งอาจจะเป็นสัตว์ที่หลายคนหวาดกลัว เพราะหากถูกมันต่อยเข้าล่ะก็จะรู้สึกเจ็บแสบไม่ใช่น้อยเลย แต่จริงๆ แล้วผึ้งเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อโลกนี้มาก มันมีส่วนช่วยในการผลิตพืชผักกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกเลยทีเดียว แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ผึ้งมีจำนวนลดน้อยลงมากเนื่องจากมีการใช้ยาฆ่าแมลง นอกจากนี้แหล่งที่อยู่อาศัยของมันยังถูกบุกรุกด้วย และเหตุการณ์ที่เด็กชายสองคนบุกไปฆ่าผึ้งในฟาร์มกว่า 500,000 ตัวก็คงมีผลไม่น้อยเลยทีเดียว เหตุเกิดที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง Wild Hill Honey ในเมือง Sioux รัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีเด็กชาย 2 คนอายุ 12 ปีและ 13 ปีบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ของฟาร์มผึ้งแห่งนี้ จากนั้นทั้งคู่ก็ทำลายข้าวของทุกอย่างที่ขวางหน้า รวมไปถึงรวงผึ้งด้วย จากนั้นตำรวจจึงจับกุมเด็กชายทั้งสองคน นาย Engelhardt เจ้าของฟาร์มเล่าว่า “พวกเขาทำลายรวงผึ้งทุกรวงทิ้งราบคาบ ทำให้ผึ้งทุกตัวของเราตาย เหมือนกับว่าพวกเขาทำให้เราหมดตัวเลยทีเดียว” และในเมื่อรวงผึ้งพังทลายลงไปหมด ก็เป็นเหตุให้ผึ้งที่เลี้ยงไว้ไม่มีที่อยู่ด้วย ในหน้าหนาวแบบนี้ผึ้งก็ย่อมจะทนลมหนาวไม่ได้เป็นธรรมดา ผึ้งที่มีอยู่กว่าครึ่งล้านตัวในฟาร์มจึงตายเกลี้ยง นอกจากนี้ข้าวของอุปกรณ์ในฟาร์มก็เสียหายเช่นกัน ดังที่เจ้าของบอกว่า “พวกเขาบุกเข้ามาในห้องเก็บอุปกรณ์ของเรา แล้วก็เอาอุปกรณ์ทุกอย่างโยนทิ้งไว้กลางหิมะ จากนั้นก็ทำลายทุกสิ่งที่เห็น ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาขโมยอะไร แต่ข้าวของทุกอย่างนั้นพังหมดเลย” เมื่อคำนวณมูลค่าความเสียจากการถูกบุกรุกครั้งนี้แล้วรวมเป็นมูลค่ามากถึง 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 2…
-
ความจริงสุดมหัศจรรย์เกี่ยวกับร่างกายของมนุษย์ เรื่องใกล้ตั๊วใกล้ตัว แต่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!?
ตอนที่เราเรียนชั้นมัธยมศึกษาคุณครูคงจะสอนให้เรารู้จักกับร่างกายมนุษย์ในวิชาชีวศึกษามาบ้างแล้ว ว่าร่างกายของเรานั้นมีอะไรอยู่บ้าง ทำงานอย่างไรบ้าง แล้วแต่ละส่วนมีหน้าที่อะไร วันนี้เรามาทำความรู้จักกับร่างกายของเราให้มากขึ้นกว่าเดิมดีกว่า ยังมีหลายอย่างที่ตอนเรียนคุณครูไม่ได้สอนไว้ เพราะมันไม่ออกข้อสอบ รับรองว่าสิ่งที่เราจะนำเสนอให้เพื่อนๆ ดูต่อไปนี้ไม่มีอยู่ในหนังสือเรียนแน่นอน 1. ตอนที่คุณผู้หญิงกำลังตั้งท้องอยู่ ร่างกายจะยืดหยุ่นได้มากกว่าเดิม 2. ร่างกายของเราสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้เยอะกว่าที่คุณคิด จริงๆ ทุกคนสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้เหมือนกับนักกล้ามระดับโลกเชียวนะ 3. มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวบนโลกที่หลั่งน้ำตาจากความปลื้มปิติได้ สัตว์ชนิดอื่นจะหลั่งน้ำตาเมื่อได้รับความเจ็บปวดหรือเศร้าเท่านั้นแหละ 4. หนึ่งในกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งที่สุดในร่างกายเรา ก็คือ ‘ลิ้น’ นั่นเอง 5. ตาดำของเราจะกว้างมากขึ้น เมื่อเรากำลังมองคนที่ชอบอยู่ 6. เด็กทารกส่วนมากเกิดมาพร้อมกับดวงตาสีฟ้า 7. คุณคงรู้อยู่แล้วว่าเราทุกคนมีกลิ่นตัวและลายนิ้วมือที่แตกต่างกัน แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าลวดลายบนลิ้นเองก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลเหมือนกันนะ 8. ตอนที่คุณจาม ความเร็วของอากาศที่พุ่งออกมาจะเร็วถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว เร็วอย่างกับรถแข่งเลย! 9. ในร่างกายของคนทุกคน ประกอบไปด้วยอะตอมกว่า 7 พันล้านล้านล้านล้าน ตัวเลยทีเดียว ลองนำมาเขียนเป็นเลขจะได้จำนวน 7,000,000,000,000,000,000,000,000,000…
-
นักปีนเขาถูกชาวเน็ตถล่มหนัก หลังตัดสินใจทิ้งหมาไว้กลางทาง เนื่องจากพายุเข้ากะทันหัน!?
นักปีนเขาคนหนึ่งถูกชาวเน็ตโจมตีอย่างหนักหน่วง เนื่องจากเขาทิ้งสัตว์เลี้ยงของตัวเองเอาไว้ท่ามกลางพายุหิมะบนภูเขาในประเทศสก๊อตแลนด์ แล้วหนีไปหลบพายุหิมะคนเดียว ภายหลังก็พบว่ามันตายเสียแล้ว ในวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา นาย Paul Finnegan นักปีนเขาจากเมืองช็อตส์ เขตนอร์ธลานาร์คชายร์ ประเทศสก๊อตแลนด์ ตัดสินไปขึ้นไปปีนเขา Beinn Sgulaird ซึ่งสูงถึง 3074 ฟุต (ประมาณ 930 เมตร) กับ Meg สุนัขพันธุ์บอร์เดอร์คอลลี่ของเขา ทว่าเจ้าสุนัขวัย 12 ปีเกิดหมดแรงขึ้นมากลางทาง ซ้ำร้ายตอนนั้นยังมีพายุหิมะเข้าหนักอีก หลังจากเขาและเพื่อนพยายามแบกมันลงจากเขาสักพัก เขาก็ต้องตัดใจลงไปหลบพายุหิมะแล้วทิ้งมันไว้แล้วกลางทาง Meg สุนัขของ Paul Finnegan ญาติของเขาบอกว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะว่าอากาศก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ จึงต้องทิ้งมันเอาไว้ก่อนอย่างช่วยไม่ได้ แล้วออกตามหามันเมื่อพายุหิมะสงบลงอีกที นักปีนเขาที่เชี่ยวชาญเองก็ไม่โทษเขาเหมือนกัน กลับรู้สึกเห็นใจเขาด้วย เพราะแม้ว่าเขาจะตัดสินใจทิ้งสุนัขแสนรักเอาไว้กลางภูเขาหิมะแบบนั้น แต่มันก็เป็นการตัดสินใจในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างหนึ่งที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้ โพสต์ของครอบครัวนาย Paul Finnegan ที่ขอความช่วยเหลือตามหาสุนัข เมื่อพายุหิมะสงบลงเขากับเพื่อนก็กลับไปหาสุนัขทันที แต่เนื่องจากจำไม่ได้ว่ามันหายไปตรงไหน จึงทำให้การค้นหาเป็นไปอย่างลำบาก สุดท้ายเขาก็หามันไม่เจอ คนในครอบครัวของเขาจึงโพสต์ในเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือว่า “ฉันอยากขอคำแนะนำหน่อยค่ะ เมื่อวานคนในครอบครัวไปปีนเขา Beinn…
-
ชายผู้ถูกขนานนามว่า ‘ราชาแห่งขนมหวาน’ ในประเทศจีน ปั้นน้ำตาลได้สวยราวกับตุ๊กตาตั้งโชว์
ขนมเค้กถือเป็นขนมที่หลายๆ คนโปรดปราน ด้วยความที่มันมีหลากหลายชนิด และมีรสชาติอร่อยจึงสามารถมัดใจคนจำนวนมากไว้ได้ อีกสิ่งที่สำคัญสำหรับเค้กก็คือความสวยงาม เพราะมันคือสิ่งแรกที่ดึงดูดให้คนสนใจมาลิ้มลองชิมรสชาตินั่นเอง ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนของเราก็มีผู้เชี่ยวชาญด้านการตกแต่งเค้กอยู่ด้วย ฝีมือดีจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลกเชียวนะ ลองไปดูการตกแต่งเค้กของเขากัน Zhou Yi ราชาแห่งการปั้นน้ำตาล เชฟขนมหวานคนนี้ชื่อว่า Zhou Yi มีฉายาที่เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศจีนคือ Sugar King (ราชาแห่งการปั้นน้ำตาล) เขาสามารถปั้นน้ำตาลฟองดูให้กลายเป็นรูปอะไรก็ได้ และตุ๊กตาน้ำตาลที่เขาปั้นเป็นรูปมนุษย์ก็มีความละเอียดละออจนเราเห็นแล้วคิดว่าเป็นตุ๊กตาเลยทีเดียว ชายคนนี้มีชื่อเสียงในประเทศจีนมานานแล้ว เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในคนที่เก่งที่สุดในการตกแต่งเค้ก แต่พอเขาชนะ การแข่งทำเค้กระดับนานาชาติ (International Cake Competition) เมื่อปี 2017 ด้วยรางวัล 3 เหรียญทอง 2 เหรียญทองแดง ก็ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก เขาชอบผสมผสานวัฒนธรรมของประเทศจีนเข้ากับศิลปะโบราณ จึงทำให้ผลงานส่วนหนึ่งของเขาเป็นรูปเลียนแบบบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์หรือตัวละครในวรรณกรรมด้วย ผลงานชิ้นหนึ่งที่โด่งดังของเขาก็คือตุ๊กตาน้ำตาลที่ปั้นเป็น Wu Zetian จักรพรรดิณีคนแรกและคนเดียวของประเทศจีน โดยมีรายละเอียดสูงทั้งรูปร่าง เสื้อผ้า หน้า ผม จนไปถึงขนตาเลย ในตอนเด็กเขาใช้เวลาส่วนมากไปกับการศึกษาศิลปะเฉพาะตัวของจีน การตกแต่งอาหาร และการปั้นรูปแป้ง…
-
แปลกแต่จริง 9 สาเหตุความตายในอดีต อันมีต้นเหตุมาจากการแต่งกายคร่าชีวิตมนุษย์
โลกนี้มีสาเหตุการตายอยู่มากมายก็จริงอยู่ แต่เพื่อนๆเชื่อหรือไม่ว่า ในสมัยก่อนนั้นมีคนที่เสียชีวิตเพราะเครื่องแต่งกายอยู่เป็นจำนวนมากจนน่าเหลือเชื่อกันเลยทีเดียว ซึ่ง 9 สาเหตุที่เพื่อนๆ กำลังจะได้ชมนั้นเป็นหนึ่งในสาเหตุการตายจากเครื่องแต่งกายแปลกๆ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นขอเชิญรับชมได้เลย ใช้เครื่องสำอางที่ทำจากสารตะกั่ว ในยุคของพระราชินี Elizabeth ที่หนึ่งนั้น ความขาวซีดคือสัญลักษณ์ของความงาม (คล้ายๆ กับบ้านเราตอนนี้เลย) ดังนั้นพวกชนชั้นสูงในตอนนั้นจึงทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งผิวที่ขาวสวยกว่าคนอื่น จึงได้ซื้อสารที่ชื่อ Ceruse ซึ่งมีตะกั่วเป็นองค์ประกอบหลักในการแต่งหน้า แน่นอนว่ายิ่งรวยก็ยิ่งเอามาใช้เยอะ ซึ่งคนที่น่าจะรวยและมีอำนาจที่สุดในตอนนั้นอย่างพระราชินี Elizabeth ก็ได้ใช้ไอ้เจ้าสารตัวนี้ในปริมาณที่มาก จนทำให้ผิวเธอดูดซึมสารตะกั่วเข้าไปมากจนเธอถึงกับล้มป่วยและถึงแก่ความตายนั่นเอง แถมให้ว่าในสมัยนั้นผู้หญิงอยากสวยกันมากขนาดหาต้น Belladonna หรือที่รู้จักในชื่อ Deadly Nightshade ซึ่งก็แน่นอนว่าพืชนี้มีพิษสมชื่อ โดยทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ วิงเวียน คลื่นไส้ และตาพร่ามัว มาบดผสมน้ำหยดใส่ตาเพื่อให้ตาดูสว่างสดใสกันอีกด้วย โดนประหารเพราะเอาขนนกผิดชนิดมาติดหมวก ประเทศอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 16 นั้นพยายามสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์แบ่งระดับชนชั้น ดังนั้นจึงได้ประกาศให้ คนทุกคนที่อายุเกิน 13 ปีต้องสวมหมวก โดยที่หมวกจะมีขนสัตว์ปีกต่างๆ ติดอยู่ โดยที่คนที่อยู่ในชนชั้นต่ำจะต้องใช้ขน เป็ด ห่าน ไก่ หรือไก่ป่า ส่วนพวกชนชั้นสูงจะติดขน นกยูง นกกระจอกเทศ นกกระยาง หงส์ หรือขนสัตว์ปีก หากคนชั้นต่ำเอาขนของพวกชั้นสูงมาติดจะต้องพบกับโทษประหาร …
-
ชาร์จมือถือผิด ชีวิตเปลี่ยน!? หญิงสาวเศร้ารูปหาย 33,000 รูป เพราะชาร์จแบตไม่ถูกต้อง!!
ในชีวิตประจำวันของเราต้องใช้โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แต่การรักษาให้มีอายุการใช้งานที่ยืนยาวนั้น หากทำผิดวิธีอาจจะทำให้เกิดความเสียหาย หรือสูญเสียข้อมูลสำคัญไปจนหมดเลยทีเดียว นักเขียนบทความเกี่ยวกับความสวยงามของ Insider ที่มีชื่อว่า Brianna Arps ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการถ่ายรูปเซลฟี่กว่า 33,000 รูป ได้สูญเสียข้อมูลทั้งหมดในโทรศัพท์ของเธอจากการชาร์จแบตอย่างผิดวิธี Arps มักจะชาร์จโทรศัพท์เมื่อแบตเตอร์รี่ต่ำมากๆ เสมอ เธอเปิดเพลงและถ่ายรูปเมื่อแบตเหลือประมาณ 3% จนโทรศัพท์ของเธอดับ หลังจากนั้นก็ก็เสียบเข้ากับที่ชาร์จของเธอ และทำแบบเดิมประมาณ 5 ครั้ง แต่ในครั้งที่ 6 โทรศัพท์ของเธอก็เปิดไม่ติดเมื่อเสียบเข้ากับที่ชาร์จ หลังจากที่รอถึง 25 นาทีและรีเซ็ตเครื่องอีกครั้ง จอโทรศัพท์ของเธอก็ติดขึ้นมาในโหมด Recovery หลังจากที่เชื่อมต่อเข้ากับ iTune และทำตามขั้นตอนที่ได้รับคำแนะนำ เธอก็พบว่าภาพถ่ายกว่า 30,000 รูป ไม่ว่าจะเป็นรูปตอนจบการศึกษา รูปอื่นๆ และข้อมูลสำคัญอีกมากมายของเธอได้หายไปหมดแล้ว ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ Apple ได้อธิบายว่าสาเหตุหลักที่โทรศัพท์ของเธอเข้าสู่โหมด Recovery นั้นอาจเกิดมาจากตัวเครื่องที่ร้อนเกิน หรือพบข้อมูลที่เสียหาย เขาแนะนำว่าให้พยายามหลีกเลี่ยงการใช้งานโทรศัพท์ในการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันหรือถ่ายรูป ในขณะที่เหลือแบตเตอร์รี่เพียงเล็กน้อย การกระทำเหล่านี้อาจจะทำให้เกิดการเขียนโค้ดของโทรศัพท์ที่อาจจะทำให้เครื่องดับ และในระหว่างนั้นอาจจะทำให้โทรศัพท์เข้าสู่โหมด Rocovery…
-
14 ความเชื่อแปลกๆ ในช่วง ‘ยุคกลาง’ เมื่อศาสนาควบคุมทุกอย่าง และวิทยาศาสตร์ไร้พลัง
การศึกษานั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับทุกคน โดยเฉพาะเรื่องวิทยาศาสตร์ เพราะถ้าหากศึกษาไม่มากพอนั้นอาจจะทำให้เกิดความเชื่อแบบผิดๆ ได้ ตั้งแต่โบราณกาลนั้นมีความเชื่อแปลกๆ มากมายซึ่งเมื่อฟังดูแล้วไม่น่าจะมีใครเชื่อได้ แต่ผู้คนในยุคกลางกลับเชื่อว่าเรื่องราวแปลกๆ เหล่านี้เป็นความจริง เนื่องจากการศึกษาสมัยนั้นยังไม่มีการพัฒนาเท่าที่ควร 14. มีคนตัวเล็กๆ อยู่ในเชื้ออสุจิ ในศตวรรษที่ 17 และ 18 นักวิทยาศาสตร์ได้เชื่อแบบนี้จริงๆ พวกเขาคิดว่าเด็กทารกทุกคนนั้นมีร่างกายที่สมบูรณ์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ส่วนผู้หญิงนั้นเป็นแค่ตู้ฟักทารกเท่านั้น หลังจากนั้นก็ได้มีคนถกเถียงประเด็นนี้ พวกเขาคิดว่าทารกนั้นมีอยู่ในตัวของผู้หญิงอยู่แล้ว หน้าที่ของอสุจินั้นคือการเข้าไปปลุกให้ชีวิตนั้นตื่นขึ้นมา ซึ่งไม่เป็นความจริงทั้งคู่เลย 13. ปิศาจ Titivillus ในช่วงยุคกลางนั้น นักบวชมีหน้าที่เหมือนกับเครื่องพิมพ์ พวกเขาต้องเขียนหนังสือเป็นร้อยๆ เล่มด้วยมือ ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าจะต้องมีข้อผิดพลาดบ้าง แต่พวกเขาไม่อยากยอมรับผิด ก็เลยสร้างเรื่องปิศาจที่ชื่อ Titivillus ขึ้นมา พวกเขาบอกว่าเจ้าปิศาจตัวนี้จะรวบรวมข้อผิดพลาดของพระใส่ลงในย่าม และจะเอามาโชว์ให้เห็นหลังความตายเพื่อลดโอกาสที่จะได้ขึ้นสวรรค์ 12. การฝังหัวใจแยกกับศพ การเคลื่อนย้ายศพในอดีตนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่จะทำอย่างไรเมื่อมีคนขอให้คุณนำศพไปฝังในสถานที่อื่นที่แสนไกล ในช่วงศตวรรษที่ 10 ผู้คนก็ได้มีไอเดียในการผ่าเอาหัวใจออกมา เพื่อนำไปฝังในที่ที่ไม่สามารถนำร่างกายไปฝังได้ และมีแค่คนที่มีฐานะเท่านั้นที่สามารถทำได้ 11. เหล่าสัตว์ทั้งหลายก็ต้องได้รับการสอบสวนเช่นกัน ในอดีตนั้นแม้แต่สัตว์ก็สามารถเป็นผู้กระทำความผิดได้ พวกมันต้องขึ้นศาลเพื่อตัดสินกับทนายและผู้พิพากษาจริงๆ ด้วย พวกมันสามารถถูกจับเข้าคุกและถูกประหารได้ด้วยเช่นกัน ครั้งหนึ่งในเมือง Lausanne มีหนอนได้ถูกเรียกให้มาขึ้นศาลเนื่องจากกระทำความผิดโดยการกินใบไม้ในสวน…
-
ภาพบรรยากาศฤดูหนาวจากทั่วทุกมุมโลก ที่จะทำให้คุณสั่นไปจนถึงขั้วหัวใจ
ความหนาวเย็นที่พัดผ่านมาในปีนี้ช่างรุนแรงเหลือเกิน อุณหภูมิที่ลดลงต่ำเรื่อยๆ ในเกือบทุกพื้นที่ทั่วโลกทำให้มนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน ทำไมมันหนาว มันหนาวกว่าปีอื่นๆ อากาศบ้านเราที่เป็นเขตร้อนก็ยังสัมผัสได้ถึงความหนาว แต่ต่างประเทศนั้นตอนนี้จัดว่าหนาวสุดๆ ไม่เชื่อก็ดูจากภาพเหล่านี้ได้ หิมะได้มารออยู่หน้าบ้านท่านแล้ว เมื่อออกไปเล่นเซิร์ฟบอร์ดในหน้าหนาว แข็งไปหมดสิครับ ท่อประปาแตก จากห้องน้ำโรงแรมแห่งหนึ่งในจีน ก็ว่าทำไมมันกดน้ำไม่ลง อ้าว รูปปั้นโดนแช่แข็ง ดูบั้นท้ายขาวเนียนนั่นสิ แม้แต่จะหยิบมาใช้ยังไม่กล้า แค่จะออกจากบ้านตัวเอง ก็ให้ความรู้สึกเหมือนแหกคุก จระเข้โผล่หัวขึ้นมาเพื่อหายใจเพราะในแม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง นี่มันเมืองในหมอกชัดๆ อาาาา เปิดกระป๋องน้ำอัดลมในวันที่อากาศเย็นจัด ชักโครกเป็นแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้ล่ะสิ น้ำตกแช่แข็ง สวยงามแบบธรรมชาติ มันช่างเหมาะเจาะซะเหลือเกิน มนุษย์หิมะและรถคู่ใจของเขา จะดีใจหรือเสียใจดีเนี่ยที่น้ำไม่ท่วมห้องหมด เกมตามหารถ ของตูมันคันไหนฟระ? อย่าเล่นแบบนี้ เมียตกใจหมด เมื่อลืมปิดหน้าต่างรถ ใครมาเปิดท่อดับเพลิงไว้แบบนี้ล่ะเนี่ย…
-
16 สุดยอดภาพที่ดูแล้วแสนจะหงุดหงิด อยากรู้ว่าทำไปทำไม ทำเพื่อใคร!?
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] หลายๆ ครั้งที่เราต้องเจอกับเหตุการณ์ที่สุดแสนจะหงุดหงิดในชีวิตประจำวัน และมันมักจะทำให้การดำเนินชีวิตของเราในวันนั้นดูไม่สนุกไปเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน และไอ้พวกเรื่องหงุดหงิดเล่านี้ก็ขยันเกิดขึ้นกับเราซะเหลือเกิน แต่โปรดจงรู้ไว้ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า ถ้าคุณคิดว่าคุณซวยแล้วล่ะก็ ยังมีคนที่ซวยกว่าคุณอีกเยอะ เชื่อสิ ช่างเป็นสิวที่ดูแล้วเจ็บปวดมาก คนที่เคยเป็นสิวที่จมูกคงจะรู้ดี เจ็บแปลบขึ้นมาทันที… ดูแล้วมันหงุดหงิด ใครใช้ให้เอาครีมรองพื้นมาเทเล่นแบบนี้ ห๊ะ!! ลองจินตนาการว่าก้อนหินมีฟัน ฮืออออ เอาภาพนี้ออกไปจากหัวที สิวเสี้ยน ลอกออกมาเยอะขนาดนี้เชียว ดูแล้วรู้สึกระคายเคืองที่ตาชะมัด ไปทำอะไรมาเท้าถึงได้ลอกหมดแบบนี้ นี่คือเศษซากอารยะธรรมกลังจากที่ทำความสะอาดคีย์บอร์ดครั้งแรกในรอบ 3 ปี ทำไมถึงเอาของกินมาเล่นแบบนี้ แล้วเอาถั่วมาเทในรองเท้าทำไม ดูแล้วหยะแหยงจัง อย่าเล่นแบบนี้ หัวใจจะวาย กลัววววว ยอมใจเจ๊แกจริงๆ ไม่ไหวแล้วเว้ยย หงุดหงิดน่าดูถ้ามีใครมาทำร้ายสบู่ของเราแบบนี้ กัดทำไมอ่ะ ผิวหนังที่ลอกหลังจากการอาบแดด ใครหลายคนคงเคยประสบปัญหาขนตาร่วงลงไปในลูกตา คงคันน่าดู…
-
เจ้าหมาและนกฮูกเพื่อนรักต่างสายพันธุ์ ซี้ปึ้กกันปานจะกลืนกิน น่ารักน่าชังจริงเชียว
เราคงเคยจะได้ยินเรื่องราวมิตรภาพของเหล่าสัตว์ทั่วโลกที่สุดแสนจะน่ารัก น่าประทับใจมาหลายต่อหลายครั้ง มิตรภาพที่ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดวัย ไม่จำกัดสายพันธุ์นี้ช่วยให้โลกน่าอยู่ขึ้นเพราะความรัก ความเมตตา และในครั้งนี้จะเป็นเรื่องราวมิตรภาพระหว่างสัตว์สี่ขาและสองขา นั่นก็คือเจ้าหมาที่ชื่อว่าเจ้า Ingo และนกฮูกตาโตที่ชื่อว่า Poldi เจ้าหมาและนกฮูกเป็นสมาชิกในครอบครัวของ Tanja Brandt ช่างถ่ายภาพสัตว์ที่ชอบช่วยเหลือสัตว์โลกเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งสองอยู่ร่วมกับสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ อย่างมีความสุขตลอดลา “ฉันรักสัตว์มาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ ต่างจากสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ฉันจึงชอบแอบเอาสัตว์มาซ่อนไว้ในบ้าน ฉันรักความงดงาม ความมีพลัง ความซื่อสัตย์ กำลังใจ และมิตรภาพของเหล่าสัตว์ คนหลายๆ คนก็ควรเอาพวกมันเป็นแบบอย่าง” Tanja กล่าว และ Tanja ก็ได้ใช้ความสามารถในการถ่ายรูปบวกกับความรักสัตว์ของเธอมาใช้ในการเผยแพร่ความน่ารักและมิตรภาพของสมาชิกในครอบครัวของเธอให้ชาวเน็ตทั้งหลายได้ชื่นชมกัน ไปโดนตัวไหนมาาาา ง่วง ของีบหน่อยนะ กอดหน่อย หนาวจัง แต่เอ๊ะ ทำไมเจ้าหมาดูทำหน้าง่วงตลอดเวลา ตื่นมาคุยกันหน่อยสิ ตามองตา สายตาก็จ้องมองกัน อย่างกับภาพพรีเวดดิ้ง เล่นซ่อนแอบกันเจ้านกฮูก…
-
พ่อรดน้ำต้นไม้ทุกวันตามคำสั่งเสียของภรรยาผู้ล่วงลับ แต่มารู้ทีหลังว่าเป็นต้นไม้ปลอม!?
เมื่อคนใกล้ตายมีโอกาสได้สั่งเสีย พวกเขามักจะขอให้คนที่ยังอยู่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หรือไม่ก็ช่วยดูทรัพย์สมบัติให้ ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง สัตว์เลี้ยง หรือบ้าน เช่นเดียวกับภรรยาแสนขี้เล่นคนนี้ที่ไม่ได้ต้องการอะไรมาก ดังนั้นก่อนจากไปเธอจึงสั่งเสียสามีแค่ว่าให้ช่วยรดน้ำต้นไม้ที่เธอรัก ภรรยาจอมป่วนคนนี้คือ Phedre Nicol เธอพ่ายแพ้ต่อโรคมะเร็งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2013 โดยก่อนจากไปเธอให้สามีสัญญาว่าเขาจะรดน้ำต้นไม้ในห้องน้ำให้ทุกวัน ทางด้าน Nigel สามีวัย 79 ปี ได้รักษาคำมั่นสัญญานั้นเป็นอย่างดี เขาหมั่นรดน้ำต้นไม้ในห้องน้ำทุกวันเพื่อไม่มันเหี่ยวแห้งหรือตาย ก่อนจะมารู้ภายหลังว่ามันคือ ‘ต้นไม่พลาสติก’ เรื่องราวนี้ถูกแชร์โดย Antonia Nicol นักดับเพลิงวัย 46 ปีจากลอนดอน ซึ่งเป็นลูกของ Phedre และ Nigel เธอบอกในทวิตเตอร์ว่า ‘ฉันยังคงได้ยินเสียงหัวเราะของแม่จนถึงตอนนี้’ หญิงสาวได้แชร์ภาพต้นไม้ที่ยังดู เปล่งปลั่ง พร้อมคำบรรยายว่าพ่อของเธอได้ดูแลต้นไม้ต้นนี้อย่างดีเยี่ยมมาเสมอ ตั้งแต่รับปากแม่ตอนนั้น Nicol บอกว่า “พ่อได้ดูแลต้นไม้ตามสัญญามาประมาณสองสามปี กระทั่งตอนที่เขาขายบ้านและกำลังจะย้ายออกหลังเกษียณอายุ ที่ผ่านมาพ่อได้ดูแลต้นไม้ของแม่อย่างดี เพื่อไม่ให้มันตาย ดังนั้นเมื่อถึงเวลาย้ายบ้านเขาจึงอยากเอามันไปอยู่บ้านใหม่ด้วย แต่ระหว่างที่ย้ายของนั้นพ่อเพิ่งมารู้ว่ามันคือต้นไม้พลาสติก” หญิงสาวบอกอีกว่า “ตอนที่พ่อรู้ความจริง แม่คงจะหัวเราะอยู่แน่ๆ… มันกลายเป็นเรื่องที่ทำให้เราหัวเราะทุกครั้งพูดถึง ดังนั้นแม้ว่าแม่จะหลอกพ่อ แต่สุดท้ายแล้วมันกลายเป็นเรื่องที่ดีสำหรับครอบครัวเรา” โพสต์ของ Nicol ทำให้ชาวเน็ตขำไปตามๆ จนถูกรีทวิตมากกว่า…
-
แฮกเกอร์จากกลุ่ม “Anonymous” เข้าถล่ม ปิดเว็บโป๊เด็กไปกว่า 10,000 เว็บ
ทุกวันนี้มีสื่อลามกอนาจารเต็มไปหมด โดยเฉพาะเว็บโป๊เด็กที่มีผู้เข้าชมจำนวนมากๆ และเข้าถึงง่ายมาก สะท้อนให้เห็นว่ามีคนจำนวนมากที่อาจจะเป็น “โรคใคร่เด็ก” ในหลายๆ เว็บนั้นก็มีบางส่วนที่ล่วงละเมิดหรือล่อลวงเด็กมาถ่ายทำจริงๆ ไม่ได้ใช้นักแสดงผู้ใหญ่ที่ดูเด็กกว่าอายุจริงอย่างที่หนังโป๊ถูกกฎหมายทำกัน ซึ่งถือเป็นการค้ามนุษย์ นอกจากนี้สื่อลามกเด็กเองก็ผิดกม.ในแทบทุกประเทศอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าหนึ่งในแฮกเกอร์จากกลุ่ม Anonymous ได้เข้าไปยังเว็บไซต์สายมืดกว่า 10,000 เว็บ และได้ทำการปิดเว็บโป๊เด็กไปเป็นจำนวนมาก แฮกเกอร์คนดังกล่าวได้เจาะระบบของ Freedom Hosting II ซึ่งเป็นโฮสต์สำหรับเว็บไซต์ด้านมืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการเข้าไปในเครือข่ายแบบไม่ระบุตัวตนที่เรียกว่า Tor เพื่อป้องกันการถูกติดตาม แฮกเกอร์นิรนามที่อ้างตัวว่าเป็นคนเจาะระบบของ Freedom Hosting II ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Vice ว่านี่เป็นครั้งแรกของเขา ซึ่งตอนแรกเขาไม่ได้ตั้งใจจะปิดโฮสต์ แต่เมื่อเห็นว่าในเว็บไซต์มีภาพโป๊เด็กจำนวนมาก เขาจึงตัดสินใจปิดเว็บไซต์เหล่านั้นทันที ดังนั้นหลังจากนี้หากใครที่พยายามเข้าไปในเว็บไซต์เหล่านี้ จะเห็นข้อความที่เขียนว่า “สวัสดี Freedom Hosting II ตอนนี้คุณถูกแฮกเรียบร้อยแล้ว” “เรารู้สึกผิดหวังกับพวกคุณจริงๆ บนหน้าเว็บไซต์ของคุณเขียนไว้ว่า ‘เรามีนโยบายต่อต้านสื่อลามกอนาจารเด็ก’ แต่เมื่อเราเข้าไปค้นในเซิร์ฟเวอร์กลับพบว่า เกิน 50% เป็นภาพโป๊ของเด็ก” “ยิ่งไปกว่านั้น พวกคุณยังเป็นโฮสต์ให้กับเว็บไซต์เถื่อนและเว็บไซต์หลอกลวงอีกจำนวนมาก ซึ่งบางเว็บไซต์พวกคุณเป็นคนเปิดเอง เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเซิร์ฟเวอร์” “ไฟล์ทั้งหมดของพวกคุณถูกก๊อปปี้เก็บไว้แล้ว ส่วนไฟล์ต้นฉบับ 74GB…
-
ลูกจิงโจ้กำพร้าไม่มีแม่ให้อ้อน เลยเข้าไปนอนอยู่ในเสื้อของตำรวจ เดินตามต้อยๆ เลย
ไม่ว่าจะลูกคนหรือลูกสัตว์ ต่างก็ต้องการคนดูแลเอาใจใส่เหมือนกันนะ แต่กับสัตว์น้อยๆ บางตัวช่างน่าสงสารเหลือเกิน เพราะพวกมันมีโอกาสพลักพรากกับพ่อแม่ของมันสูงงกว่ามนุษย์ซะอีก แต่ถึงแม้จะกลายเป็นสัตว์กำพร้า แต่ก็ยังมีมนุษย์ใจดีบางคนให้ความช่วยเหลือมันอยู่นะ เว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า มีลูกจิงโจ้กำพร้าวัย 4 เดือนตัวหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย ได้รับการอุปถัมภ์เลี้ยงดูโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ Scott Mason ในแถบตะวันตกของออสเตรเลีย และตั้งชื่อให้มันว่าเจ้า Cuejo สาเหตุที่เจ้า Cuejo ต้องกลายเป็นจิงโจ้กำพร้าก็เพราะว่าระหว่างที่มันกำลังซุกอยู่ในกระเป๋าหน้าท้องของแม่มัน จู่ๆ ก็มีกระกระบะพุ่งมาชนแม่ของมันอย่างจัง ทำให้แม่ของมันตายทันที แต่โชคดีที่มันสามารถรอดมาได้ เจ้าหน้าที่ Mason ซึ่งเคยเป็นอดีตหน่วยพยาบาลมาก่อน จึงอาสาเข้าไปประถมพยาบาลและดูแลมันเอง แต่เนื่องจากธรรมชาติของลูกจิงโจ้มักจะได้รับการปกป้องจากแม่ของมันโดยการเข้าไปนอนอยู่ในกระเป๋าหน้าท้อง ทำให้เจ้า Cuejo ไม่สามารถเข้าไปนอนในกระเป๋าหน้าท้องของใครได้เลย มันเลยกระโดดเข้าไปซุกอยู่ในเสื้อของเจ้าหน้าที่ Mason ซะอย่างงั้น เจ้าหน้าที่ Mason พูดถึงอาการของเจ้าจิงโจ้น้อยว่า “เจ้าจิงโจ้ต้องการกินอาหารทุกๆ 3 ชั่วโมง มันเลยกลายเป็นเหมือนลูกของผมเลย มันดูผอมแห้งมาก แต่เราก็ทำเท่าที่เราจะทำได้” ชมคลิปน่ารักๆ ของเจ้าจิงโจ้ได้ที่ด้านล่างเลย คุณตำรวจหล่อด้วย ใจดีด้วย…
-
แข็งแกร่ง… ท่านปูตินร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ แช่น้ำเย็นกลางอากาศ -5 องศา ไม่แสดงสีหน้าซักติ๊ด!!
Vladimir Putin คือประธานาธิบดีคนที่สี่และคนปัจจุบันของรัสเซียที่เชื่อว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขา ด้วยภาพลักษณ์อันแข็งแกร่งและดุดันไม่ยอมใครของเขาทำให้เราได้เห็นข่าวแปลกๆ ของท่านอยู่เป็นระยะๆ ตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่าในครั้งนี้ก็เช่นกัน นี่เป็นพิธีกรรมของโบสถ์คริสเตียนออร์โธดอกซ์ของรัสเซียที่จะลงไปแช่น้ำที่เย็นเป็นน้ำแข็งเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ จริงๆ แล้วพิธีดังกล่าวก็จะคล้ายๆ การรับศีลจุ่มของชาวคริสเตียนที่เอาเด็กไปอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง ต่างกันตรงที่ว่าของชาวรัสเซียนั้นไม่ได้ทำกับเด็ก และน้ำที่นั่นเย็นเฉียบจนแทบเป็นน้ำแข็งเท่านั้นเอง แล้วก็เช่นเดียวกับการรับศีลจุ่มของชาวคริสเตียนปัจจุบัน พิธีนี้นั้นไม่ได้มีการบังคับให้เข้าร่วมแต่อย่างไร ซึ่งแน่นอนว่าพิธีสำคัญแบบนี้ มีหรือท่านปูตินวัย 65 ปีสุดแกร่งของเราจะพลาด พิธีที่ว่านี้จะให้ผู้เข้าร่วมเดินลงไปในทางน้ำที่บางครั้งก็ขุดเป็นรูปไม้กางเขนและ จุ่มตัวลงไปในน้ำจนถึงหัว โดยบางที่บอกว่าต้องจุ่มสามครั้งในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ เฉกเช่นที่ พระเยซูรับศีลจุ่ม ที่แม่น้ำจอร์แดน พิธีนี้มักจัดในวันที่ในวันที่ 18 และ 19 ของเดือนมกราคม แน่นอนว่าประชาชนกว่าสองล้านคนของรัสเซียก็ได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมพิธีนี้เช่นกัน นับว่าการเข้าพิธีของท่านปูตินนั้นมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงจริงๆ เมื่อนักข่าวได้เข้าไปสัมภาษณ์ท่านปูตินว่า “ท่านหนาวบ้างไหม” ท่านก็ตอบกลับมาอย่างสบายๆ ว่า “ไม่เห็นหนาว ออกจะสบายๆ” ว่าแล้วก็แก้ผ้าเหลือแต่กางเกงลงไปจุ่มในน้ำเย็นเฉียบ กลั้นหายใจแล้วแช่ลงไปมิดหัว โฆษกรัฐสภา Dmitry Peskov ยังออกมากล่าวอีกว่า อันที่จริงท่านปูตินของเราก็ลงไปในหลุมน้ำแข็งอยู่บ่อยๆ อยู่แล้ว เพียงแค่ไม่ได้ออกมาทำต่อหน้าสาธารณชนเท่านั้น…
-
คุณตากอดแมวร้องไห้ หลังบ้านถูกไฟไหม้ทั้งหลัง เกิดเป็นคลิปที่ชวนน้ำตาซึม…
ของมีค่าสำหรับแต่ละคนอาจต่างกัน บางคนให้ความสำคัญกับเงินทอง บางคนชอบรถ บางคนชอบของแบรนด์เนม ในขณะที่บางคนขอแค่มีสัตว์คู่ใจอยู่ด้วยก็เพียงพอแล้ว เหมือนกับคุณตา Ali Meşe วัย 83 ปี จาก Ordu Province ประเทศตุรกี ที่นั่งกอดแมวน้อยร้องไห้ หลังบ้านถูกไฟไหม้จนไม่เหลืออะไร ตามรายงานข่าวระบุว่าบ้านของคุณตาลุกไหม้เพราะเขาพยายามจะจุดไฟในเตา โดยใช้น้ำมันเบนซิน แต่เกิดความผิดพลาดจนทำให้ไฟลุกลามขึ้น ในคลิปจะเห็นว่าขณะที่นักดับเพลิงกำลังระดมดับไฟ และพยายามกู้ซากสิ่งของเท่าที่จะทำได้ แต่คุณตากลับอุ้มน้องแมวไว้ในอ้อมกอด เพราะมันคือสิ่งเดียวที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเขา ต่อมาได้มีการนำภาพเหตุการณ์ตอนที่คุณตากอดน้องแมวไปโพสต์ลงในอินสตาแกรม Theellenshow พร้อมคำบรรยายว่า “ความรักคือทุกอย่าง…แม้ว่าบ้านของเขาจะถูกไฟไหม้ไปทั้งหลัง แต่เขาก็ยังสามารถรักษาสมบัติที่มีค่าที่สุดไว้ได้” โพสต์ดังกล่าวนี้มีคนกดไลก์เกือบ 800,000 ครั้ง และแสดงความคิดเห็นอีกนับพัน ในข่าวยังบอกอีกว่าเพื่อนบ้านได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลังจากที่เห็นเปลวไฟมาจากบ้านของ Meşe แต่โชคดีที่คุณตากับครอบครัวหนีออกมาได้ และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ มีคนบอกว่าคุณตารักแมวมาก เขาเลี้ยงแมวไว้หลายตัว แต่น่าเศร้าที่น้องแมวรอดมาได้แค่ตัวเดียว… ต่อมา Meşe ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อทำแผลที่ถูกไฟไหม้เล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะกลับบ้านในวันต่อมา และแน่นอนว่าเขาไม่ปล่อยให้น้องแมวอยู่ห่างจากตัวเลย ทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสัญญาว่าจะให้การช่วยเหลือ Meşe และครอบครัวเท่าที่จะทำได้…
-
ชายชาวเมเลย์พุ่งเข้าตบหญิงสาวผู้ไม่สวมฮิญาบ เมื่อเธอบอกว่ามีสิทธิ์เลือกที่จะไม่ใส่
เมื่อเวลาผ่านไป ความเชื่อและระเบียบวินัยด้านศาสนาก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ยกตัวอย่างเรื่องที่พระสงฆ์ต้องซ้อนรถจักรยานยนตร์เพื่อเดินทางไกลแล้ว แม้ว่าในทางวินัยจะไม่ควรทำ แต่คนอีกส่วนหนึ่งก็เข้าใจว่าต้องปรับให้เข้ากับยุคสมัยตามสมควร อย่างไรก็ตามในสังคมของเราก็ยังมีทั้งกลุ่มคนที่เป็นพวกอนุรักษณ์นิยม ที่เชื่อว่าทุกอย่างควรจะเป็นไปตามกฎดั้งเดิมของศาสนาเท่านั้น และคนอีกกลุ่มที่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงแล้วอาศัยอยู่ร่วมกัน จึงอาจะทำให้เกิดความขัดแย้งกันได้ ชายหนุ่มสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงวอร์ม เข้าไปคุยกับหญิงชุดดำ เหตุการณ์นี้ก็เป็นผลจากความขัดแย้งเรื่องระเบียบของศาสนาเช่นกัน เรื่องเกิดขึ้นที่จุดรอรถประจำทางในประเทศมาเลเซีย โดยมีชายคนหนึ่งเดินเข้าไปต่อว่าและทำร้ายหญิงกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่รอรถอยู่ เนื่องจากพวกเธอไม่ยอมสวมผ้าโพกหัวตามความเชื่อของศาสนาอิสลาม คลิปนี้ถูกถ่ายไว้โดยคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ในคลิปจะเห็นว่าชายซึ่งสวมเสื้อกันหนาวแขนยาวและกางเกงวอร์ม ได้เข้าไปถามหญิงสาวที่แต่งตัวด้วยชุดสีดำว่าเธอนับถือศาสนาใด เมื่อเธอตอบเขาว่านับถือศาสนาอิสลาม เขาจึงถามต่อด้วยท่าทางโมโหว่าทำไมเธอถึงไม่สวมผ้าโพกหัว เขาไม่พอใจที่เธอไม่ยอมสวมผ้าโพกหัวตามความเชื่อดั้งเดิมของศาสนาอิสลาม หญิงสาวก็ตอบเขาว่าเธอไม่สวมผ้าโพกหัวเพราะมันเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะเลือกใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ทว่าคำตอบของเธอทำให้เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แล้วใช้หลังมือตบหน้าเธอทันที ทันทีที่คนรอบข้างเห็นดังนั้น พวกเธอก็ลุกขึ้นมาปกป้องหญิงสาว และต่อว่าชายคนดังกล่าวทันที โดยหญิงที่สวมผ้าโพกหัวและถือโทรศัพท์มือถืออยู่ได้ลุกขึ้นมาเถียงกับผู้ชายคนนี้แทนหญิงที่ถูกตบหน้า และคลิปวิดีโอก็จบลงเพียงเท่านี้ ชายหนุ่มตบหน้าหญิงสาวในที่สาธารณะทันทีที่ได้ยินคำตอบจากเธอ คลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กของประเทศมาเลเซีย และได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก โดยคนที่ได้เห็นคลิปนี้แล้ว ส่วนหนึ่งรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของชายคนนี้เอาเสียเลย คลิปวิดีโอเหตุการณ์ ประชากรกว่า 30 ล้านคนในเทศมาเลเซียนั้นเป็นคนที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในประเทศเลยทีเดียว และตามความเชื่อดั้งเดิมแล้ว ผู้หญิงอิสลามก็ควรจะสวมผ้าโพกหัวเวลาออกไปข้างนอกบ้านด้วย ไม่เช่นนั้นจะถือว่าแต่งกายไม่มิดชิด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ คนในประเทศมาเลเซียมีความเชื่อเรื่องอนุรักษณ์นิยมของศาสนาอิสลามเพิ่มมากขึ้น ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงใดๆ…
-
“Willy Wonka” ตัวจริง ชายผู้ผลิตช็อกโกแลตรสประหลาด ทำจริงขายจริง แถมขายดีด้วย
หากใครเคยได้ดูภาพยนตร์เรื่อง ชาร์ลีกับโรงงานช็อกโกแลต (Charlie and the Chocolate Factory) คงจะได้เห็นเด็กชายเดินเข้าไปชมโรงงานช็อกโกแลตที่อลังการกันมาแล้ว และคงจดจำเจ้าของโรงงานช็อกโกแลต Willy Wonka ได้แน่นอน เพื่อนๆ รู้หรือเปล่าว่าในโลกแห่งความเป็นจริงก็มีคนแบบ Willy Wonka อยู่เหมือนกัน เขาเองก็เป็นเจ้าของโรงงานช็อกโกแลตอยู่ที่ประเทศเวลส์ โรงงานช็อกโกแลตของเขาไม่ได้เวอร์เหมือนในหนังหรอกครับ ถึงแบบนั้นมันก็ยังคงน่าสนใจไม่แพ้กันเลย Willy Wonka ในโลกแห่งความเป็นจริง Liam Burgess เจ้าของโรงงานช็อกโกแลตแห่งนี้ชื่อว่า Liam Burgess เขาเป็นผู้ริเริ่มช็อกโกแลตแบรนด์ Nomnom Chocolate ชายคนนี้เริ่มต้นทำบริษัทช็อกโกแลตนี้ตอนที่เขามีอายุเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น และโรงงานของเขาก็มีเอกลักษณ์ในตัวเองมากพอสมควรเลย ในตอนต้นนั้นบริษัทของเขาเริ่มทำช็อกโกแลตในห้องเล็กๆ หลังบ้านเท่านั้น และพนักงานทั้งหมดในโรงงานก็เป็นเพื่อนวัยเด็กของเขาทั้งหมดเลย แม้ว่าแต่ละคนจะไม่ได้เรียนจบด้านที่เกี่ยวข้องกับการทำช็อกโกแลตมาก็ตาม พนักงานทุกคนเป็นเพื่อนเก่าที่รู้จักกันมานาน Lili พนักงานคนหนึ่งเล่าว่า “Sarah, Liam, Finbar และฉันเรียนโรงเรียนประถมเดียวกัน เรารู้จักกันดีมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว … หลายคนในนี้ไม่เคยทำงานมาก่อนเลย ฉันเองก็เช่นกัน … พวกเราทุกคนไม่เคยมีประสบการณ์การทำช็อกโกแลตหรือการทำงานด้านอาหารเลยด้วยซ้ำ“ นอกจากการจ้างพนักงานที่มีหลักเกณฑ์ไม่เหมือนกับที่อื่นแล้ว พนักงานทุกคนในโรงงานช็อกโกแลตของเขาก็มีชื่อตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครเช่นกัน…
-
สื่อสัมภาษณ์หนุ่มที่อ้างว่าเดินทางมาจากปี 6000 แถมเคลมว่ายุคนั้น AI ครองโลก!?
บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นข่าวที่พูดถึงคนหนึ่งคน หรือกลุ่มที่อ้างตัวว่าพวกเขานั้นมาจากโลกอนาคต บ้างก็อีก 20 ปี บ้างก็บอกว่าอีก 100 ปี หนักหน่อยก็อาจจะอีกเป็น 1000 ปีแบบหนุ่มเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ หนุ่มไม่ทราบนามคนหนึ่ง ได้อ้างว่าเขานั้นเดินทางมาจากปี 6000 พร้อมกับขอให้ทีมข่าวเบลอหน้าของเขา เพราะคนในโลกอนาคตไม่อยากให้คนในปัจจุบันรู้เกี่ยวกับโลกอนาคต ฉะนั้นเขาจึงต้องปิดหน้าเพื่อป้องกันตัว หนุ่มผู้ให้สัมภาษณ์ได้บอกเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตคร่าวๆ ว่า ในปี 6000 ยารักษามะเร็งได้ถูกคิดค้นขึ้นแล้ว และมันก็ได้ผลมากๆ นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า เทคโนโลยีในอนาคตนั้นล้ำหน้ามากๆ มนุษย์สามารถที่จะเทเลพอร์ตได้ และการย้อนเวลาก็สามารถทำได้ทุกคนถ้าคุณมีเงินมากพอ เขายังอ้างอีกว่าการย้อนเวลานั้นมีกฎอยู่แค่ข้อเดียวคือ คุณจะต้องไม่ไปยุ่งกับเหตุการณ์ใดๆ ก็ตาม คุณจะทำได้แค่มองดูมันเกิดขึ้นเท่านั้นและจะต้องล่องหนตลอดเวลา กลับกันในปี 6000 คนที่ปกครองโลกอยู่นั้นกลับไม่ใช่มนุษย์ด้วยกันเอง แต่เป็น AI โดยเขาให้เหตุผลว่ามนุษย์นั้นมีการวิเคราะห์และตัดสินใจด้วยความรู้สึก แน่นอนว่าบางครั้งคนเราก็ตัดสินใจได้ถูก แต่บางครั้งก็ผิด กลับกัน AI จะตัดสินทุกอย่างด้วยปัญญาที่มันมี และมันจะไม่ใช่ความรู้สึก ซึ่งนั่นทำให้ทุกอย่างแม่นยำ 100% หนุ่มคนนี้ยังอ้างอีกว่า ในอนาคตเราสามารถถ่ายเทจิตของเราลงไปในคอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งมันจะทำให้เราสามารถอยู่ได้ตลอดไป และในช่วงสุดท้ายเขาได้โชว์รูปภาพให้เราดูว่าเมืองในปี 6000 นั้นเป็นยังไง…
-
พ่อมีตังค์ จ้างนักเต้นรูดเสามาเต้นยั่ว เซอร์ไพรส์วันเกิดลูกชายวัย 12 ปี ชาวเน็ตถกเถียงกันใหญ่!!
กลายเป็นธรรมเนียมสากลไปแล้ว ที่เมื่อถึงวันเกิดของใครสักคนเราต้องหาของขวัญให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของวันเกิด ซึ่งของขวัญนั้นก็จะเป็นอะไรก็ได้ที่ผู้ให้อยากให้ และก็มีบางครั้งที่ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผู้รับต้องการหรือชอบใจสักเท่าไหร่ คราวนี้เป็นวันเกิดของเด็กชายวัย 12 ปี ที่คุณพ่อมหาเศรษฐีของเขานั้นทำการเซอร์ไพรส์ด้วยการมอบของขวัญที่แปลกสุดๆ เพราะนั่นคือการจ้าง “นักเต้นรูดเสา” มาเต้นยั่วรอบตัวลูกชายนั่นเอง มีคลิปวิดีโอการเซอร์ไพรส์ลูกชายด้วยสาวๆ นักเต้นรูดเสาถูกเผยแพร่ออกมาสู่โลกอินเทอร์เน็ต ในวิดีโอนั้นมีบางช่วงสั้นๆ ที่สามารถสังเกตเห็นสีหน้าของเด็กหนุ่มวัย 12 ปี ได้ว่าเขาดูไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไรกับเหตุการณ์นี้ คลิปวิดีโอเหตุการณ์การเซอร์ไพรส์วันเกิดลูกชายวัย 12 ปี ด้วยสาวนักเต้นรูดเสา ภาพเหตุการณ์ขณะสาวๆ กำลังเต้นยั่วเด็กหนุ่ม เด็กหนุ่มไม่ได้รู้สึกพึงพอใจนัก หากสังเกตจากสีหน้า คุณพ่อของเด็กหนุ่มคอยเชียร์อย่างเริงร่า สาวๆ ยังคงเต้นยั่ว พร้อมทั้งถอดเสื้อของเด็กหนุ่มออก มีชาวเน็ตหลายคนที่ส่งต่อคลิปวิดีโอนี้กันด้วยความเฮฮา บ้างก็คอมเมนต์ว่าอิจฉาเด็กชายวัย 12 ขวบ อยากจะมีอะไรแบบนี้เป็นการฉลองวันเกิดบ้าง อย่างไรก็ตาม ก็มีคนเห็นแย้งเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญและชาวเน็ตอีกหลายคนมองว่าเหตุการณ์นี้ไม่เหมาะสม พร้อมบอกว่าเด็กหนุ่มวัยรุ่นระยะแรกแบบนี้ยังไม่ควรได้รับการกระตุ้นทางเพศอย่างในคลิป บางคนกล่าวว่านี่เข้าข่ายการกดขี่ทางเพศเลยทีเดียว ที่มา: Dailymail
-
คู่รักเดือด หลังช่างภาพถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง เอาภาพไปตัดต่อให้ดูผอมลงแล้วโพสต์ลงพอร์ท
ปกติเวลาจ้างช่างภาพมาถ่ายรูปให้ ไม่ว่าจะงานแต่ง งานรับปริญญา หรืองานสำคัญต่างๆ พอถ่ายเสร็จช่างภาพจะเอารูปเหล่านั้นไปปรับแต่งให้สวยงาม ก่อนจะมอบให้ลูกค้า ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะพอใจกับภาพที่ถูกรีทัชแล้วเหล่านั้นเพราะมันทำให้พวกเขาดูดีกว่าตัวจริง แต่นั่นไม่ใช่กับบ่าวสาวคู่นี้ที่ไม่พอใจอย่างหนักหลังพบว่าช่างภาพตัดต่อรูปทำให้พวกเขาดูผอมลง Katie Liepold จากรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าเธอต้องพบเจอกับประสบการณ์ที่อับอาย เมื่อช่างภาพที่จ้างมารูปพรีเวดดิ้งทำให้เธอกับคู่หมั้น Jon Kistler ดูผอมลงจากตัวจริง ทั้งคู่ได้จ้างช่างภาพ Linda Silvestri จากสตูดิโอ Tower Photography ซึ่งตอนถ่ายทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งได้เห็นภาพนั่นแหละ Liepold บอกว่าครั้งแรกเธอสังเกตเห็นมีการเบลอภาพแปลกๆ ตรงมุม แล้วพอดูดีๆ ก็พบว่ารูปที่ถ่ายนั้นถูกทำให้ผอมลง ต่อมาว่าที่เจ้าสาวจึงได้ติดต่อไปยังช่างภาพ Silvestri และบอกกับเธอว่า “มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ มันทำให้ฉันรู้สึกน้อยใจและภาพที่ออกมามันก็ยังไม่ดีพอ” เมื่อได้ยินดังนั้นช่างภาพจึงเสนอให้ยกเลิกสัญญา แต่ทว่าความเจ็บปวดของ Liepold ไม่ได้จบลงแค่นั้น เพราะช่างภาพบอกว่าจะไม่คืนเงินค่ามัดจำ 4,700 บาทให้ ถือเป็นค่าเสียเวลาและภาพที่ถ่ายไปแล้ว วันถัดมา Liepold เห็น Silvestri โพสต์ภาพของเธอกับคู่หมั้นลงในเพจ Northeast Ohio…
-
หญิงสาวที่โยนหมาลงมาจากชั้น 6 ถูกคุกคามหนักจากประชาชน ถึงขั้นบุกไปถึงหน้าประตูบ้าน
จากประเด็น ‘สาวจีนขอเงินเพื่อแลกกับการคืนหมาแก่เจ้าของ แต่เงินไม่มากพอ เธอเลยโยนหมาลงมาจากตึกชั้น 6’ ที่ได้นำเสนอไปเมื่อไม่นานนี้ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่พร้อมจะให้อภัย ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า He Li คนที่โยนน้องหมาลงมาจากชั้น 6 ได้เผยแพร่คลิปสั้นๆ ของตัวเองขณะร้องไห้และขอโทษต่อสิ่งที่ได้ทำลงไป แต่ผู้คนจำนวนมากกล่าวว่าเธอทำวีดีโอนี้ขึ้นมาเพื่อหลบหนีความผิดเท่านั้น เช่นเดียวกับ Xiao Wu เจ้าของน้องหมาที่ออกมาบอกต่อสื่ออย่างชัดเจนว่าเธอจะไม่มีทางยอมรับคำขอโทษของ He Li อย่างเด็ดขาดและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน นอกจากรอรับโทษทางกฎหมายแล้ว ชาวจีนจำนวนมากได้สืบหาข้อมูลของ He Li และสามีของเธอ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ ที่ทำงาน ข้อมูลประกันสังคม ทะเบียนรถ รวมไปถึงข้อมูลจากทางโรงพยาบาลที่เธอฝากครรภ์ หลังจากได้ข้อมูลเหล่านี้มา ชาวจีนบางคนได้โทรไปข่มขู่เธอ ส่งข้อความน่ากลัวไปให้เธอ บางคนส่งพวงหรีดไปให้ ในขณะที่บางคนส่งธนบัตรปลอมที่สำหรับเผาให้คนตายไปให้ ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมามีคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปหาถึงประตูหน้าบ้านและตะโกนข่มขู่สามีของ He Li ว่าพวกเขาไม่รับประกันความปลอดภัยของลูกสาวของเขา ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ไม่ได้จบลงแค่นั้น เพราะเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีคนกลุ่มคน 6 คน ได้บุกเข้าไปถึงบ้านของ He Li และเรียกร้องให้เธอออกมาขอโทษประชาชน แต่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุการณ์นี้…
-
ข้อสอบสะท้านใจนศ. จีน ดึงความพีคในข้อสุดท้าย ‘สะกดชื่ออาจารย์ผิด’ มีสิทธิ์คะแนนติดลบ!!
สำหรับนักศึกษาแล้วการสอบถือเป็นตัวชี้วัดชะตาของพวกเขา จึงต้องหมั่นขยันอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนอย่างหนัก เพื่อที่จะได้มีความรู้พอจะไปสู้ฟัดกับข้อสอบสุดหินที่อาจารย์ออกมาให้ได้ นักศึกษาในประเทศจีนเองก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน แต่ในปีนี้นักศึกษาจีนกลุ่มหนึ่งต้องตกตะลึงเมื่อพบคำถามสุดท้าทายข้อสุดท้าย พวกเขาต้องสะกดชื่ออาจารย์ที่สอนให้ถูกต้อง ไม่อย่างนั้นก็จะโดนหักคะแนนยับ ข้อสอบที่ว่านี้เป็นข้อสอบจากมหาวิทยาลัย Sichuan Vocational College of Culture and Communication ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยข้อสอบข้อสุดท้ายนี้ให้รูปอาจารย์มาทั้งหมด 7 ท่าน แล้วให้นักศึกษาเขียนชื่อของอาจารย์แต่ละท่านให้ถูกต้อง คำถามพิเศษข้อนี้ไม่มีคะแนนเพิ่มเติมให้นักศึกษาที่ตอบได้ถูกต้อง แต่ถ้าพวกเขาตอบคำถามข้อนี้ไม่ถูกล่ะก็ จะถูกหักคะแนนจากคะแนนที่ทำได้ในครั้งนี้ 41 คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งนับเป็นสัดส่วนที่เยอะพอสมควรเนื่องจากข้อสอบชุดนี้คิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ของเกรดทั้งหมดในเทอมนั้นเลย แม้ว่าคำถามข้อนี้จะดูง่ายไม่ซับซ้อน แต่นักเรียนบางส่วนที่ไม่ค่อยได้เข้าเรียนแล้วอ่านบทเรียนเอง จึงไม่รู้จักหน้าค่าตาอาจารย์แต่ละคนเลย คงไม่แปลกที่นักเรียนบางคนจะตอบคำถามนี้ไม่ได้ ในวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้โพสต์คำถามข้อนี้ลงใน Weibo (โซเชียลมีเดียของประเทศจีน) เอง จากนั้นก็มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากจนกลายเป็นกระแสไวรัลไป ชาวเน็ตบางส่วนมองว่าคำถามข้อนี้เจ้าเล่ห์มาก แต่ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งคิดว่าคำถามมันง่ายและเถรตรงดี ถ้าใครเข้าเรียนก็ได้คะแนนไป นักเรียนคนหนึ่งที่ได้ทำข้อสอบข้อนี้ให้สัมภาษณ์ว่าเขามั่นใจว่าตอบคำถามนี้ได้ถูกต้อง แต่ก็คิดว่าเพื่อนร่วมชั้นบางคนคงจะมีปัญหาเป็นแน่ เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเข้าเรียนและจำหน้าอาจารย์ได้ แต่บางคนก็ยังสะกดชื่ออาจารย์ไม่ถูกอยู่ดี อาจารย์ที่เป็นคนออกข้อสอบและคิดคำถามข้อนี้บอกว่า เหตุผลที่เธอทำคำถามข้อนี้ขึ้นมาก็เพื่อเป็นการวัดผลว่านักศึกษามีให้ความสนใจในชั้นเรียนมากน้อยแค่ไหน หากว่าพวกเขาใส่ใจในรายละเอียดมากพอก็ต้องตอบคำถามข้อนี้ได้แน่นอน เวลาจะไปสอบอย่าลืมดูชื่ออาจารย์เผื่อไว้ด้วยนะครับ…
-
คู่พ่อแม่ถูกตัดสินจำคุก 20 ปี หลังจับลูกสาววัย 12 ปีเป็นทาสเซ็กส์ ร่วมกันข่มขืนเธอเป็นประจำทุกวัน
เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยเรื่องราวที่แสนเลวร้ายสำหรับเด็กหญิงชาวรัสเซียคนหนึ่งที่มีอายุเพียง 12 ปี เมื่อเธอถูกพ่อแม่ของเธอเองร่วมกันข่มขืน พ่อแม่วัย 34 ปี ของเด็กสาว หลังจากทำทารุณกรรมทางเพศกับเธอ พวกเขาจึงถูกพิจารณาคดีความว่ามีอาการของ “โรคใคร่เด็ก” พ่อแม่ผู้ลงมือก่อเหตุ พวกเขาถูกกักตัวไว้ที่เมืองวอลโกกราดในรัสเซีย หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงพวกเขาจะต้องถูกจำคุกถึง 20 ปี เด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายให้การว่าถูกทารุณกรรมทางเพศมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2016 จนถึงเดือนมีนาคม 2017 โดยกล่าวว่าฝ่ายผู้เป็นพ่อนั้นมักจะข่มขืนเธอในทุกๆ วัน บางวันก็มีแม่ร่วมด้วย ซึ่งผู้เป็นแม่เองถูกตั้งข้อหาว่ากระทำทารุณกรรมทางเพศด้วย “อวัยวะเพศเทียม” ฝ่ายผู้เป็นแม่กล่าวว่า “ให้พวกเราข่มขืนก็ยังดีกว่า ให้ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาทำ” เมืองวอลโกกราด ในฤดูหนาว ในการพิจารณาตัดสินคดี ทั้งคู่จึงถูกถอดถอนสถานะการเป็นพ่อแม่ของเด็กสาว หมายความว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเด็กสาวคนนี้อีกต่อไป เด็กสาวจึงถูกส่งตัวไปรับการดูแล ส่วนผู้เป็นแม่นั้นยังให้การกับตำรวจว่าเธอเองก็ถูกข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 13 ปี เธอและสามีจึงตกลงกัน “ฝึกฝน” ให้ลูกสาวของพวกเขาคุ้นเคยกับสิ่งที่จะต้องพบเจอในอนาคต เมื่อเด็กสาวได้รับการตรวจร่างกาย แพทย์จึงพบว่าเธอมีปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน และพบว่าเธอได้สูญเสีย “ความบริสุทธิ์” ไปแล้ว สถานกักกันในวอลโกกราด สุดท้ายจากคำให้การของเด็กสาว…
-
ตามติดชีวิตมนุษย์เงินเดือน 4 ล้านบาทแห่งนิวยอร์ก วันๆ ใช้จ่ายไปกับอะไรแค่ไหนบ้าง!?
ชีวิตมนุษย์เงินเดือนส่วนมากไม่ได้ฟู่ฟ่าหรูหรานัก เพราะว่ามีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะได้เงินเดือนเยอะจนเหลือเก็บได้ ส่วนใหญ่ที่เหลือนั้นบางทีก็เงินน้อยจนใช้กันเดือนชนเดือนเลยทีเดียว ซ้ำร้ายบางคนยังหมุนเงินไม่ทันด้วย แต่ถึงจะเป็นมนุษย์เงินดือนก็ไม่ได้เงินน้อยเสมอไปหรอก ถ้าเกิดขึ้นไปถึงตำแหน่งหัวหน้างานใหญ่ๆ ได้ล่ะก็อาจจะมีเงินเดือนเป็นแสนเป็นล้าน สามารถใช้ชีวิตหรูหราแบบสบายๆ เลยนะ ไม่เชื่อลองไปดูผู้หญิงคนนี้สิ หญิงที่จะมาแบ่งปันไดอารี่ค่าใช้จ่ายของเธอในวันนี้ เป็นหญิงวัย 35 ปีที่ทำงานเป็นหัวหน้าผู้จัดการให้กับ Hedge Fund บริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่ในเมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 100,000-200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากรวมกับเงินโบนัสที่ได้ทุกเดือนแล้ว รายได้เฉลี่ยของเธอจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 48 ล้านบาท) หากนับค่าเฉลี่ยก็จะอยู่ประมาณ 4 ล้านบาทต่อเดือน เยอะกว่าเงินรายเดือนของพนักงานทั่วๆ ไปในบ้านเราเป็นพันเท่าตัวเลยทีเดียว ลองไปดูว่าชีวิตการใช้เงินของเธอจะเป็นยังไงบ้าง วันจันทร์ เธอเริ่มต้นวันแรกของอาทิตย์ด้วยการส่งลูกทั้งสองคนไปโรงเรียน จากนั้นเธอจึงไปเข้าประชุมที่โรงแรม Palace Hotel หลังจากผ่านการประชุมติด 6 ครั้งมาอย่างเหนื่อยล้า ตอนเย็นเธอจึงแวะเติมพลังที่ร้านเสื้อผ้า Zara ด้วยการช็อปชุดเดรสใหม่ 2 ตัวรวมแล้วราคา 150 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,800 บาท) จากนั้นเธอก็เข้าไปที่ทำงานเพื่อเตรียมงานประชุมของวันรุ่งขึ้น…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นเผยเทคนิคการทำคะแนนสอบให้ได้ระดับท็อป ง่ายมาก..จดมันแมร่มให้หมด!!
เวลาพูดถึงเทคนิคการสอบ หลายคนก็มักจะมีเทคนิคที่เป็นแบบเฉพาะตัวเสมอ บางคนอาจจะเน้นความเข้าใจ บางคนอาจจะเน้นการท่องจำ แน่นอนว่าวิธีหลังนั้นเป็นวิธีที่เรามักจะฮิตมากที่สุด แต่นั่นก็ไม่ได้มีแค่คนไทยที่ชอบทำหรอกนะ.. เพราะล่าสุดชาวเน็ตจากญี่ปุ่นนามว่า @yuusuke_suzuki ก็ได้ออกมาเผยภาพเทคนิคในแบบสายท่องจำของนักเรียนคนหนึ่งของเขา โดยนักเรียนคนนี้นั้นสามารถทำคะแนนได้ระดับท็อปของชั้น เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยใช่ไหม เกริ่นมาขนาดนี้แล้วเราคงอยากรู้แล้วว่าเขาจดยังไง ท่องจำยังไงถึงได้คะแนนดี งั้นเราลองมาดูกัน… @yuusuke_suzuki นั้นได้บอกว่านักเรียนของเขา พยายามจดทุกอย่างที่เขาอ่านและเสริมความเข้าใจทั้งหมดลงไป และการจดทุกอย่างที่ว่าไม่ใช่จดเล็กๆ น้อยๆ แต่มันคือทุกอย่าง!! ถ้าพื้นที่ไม่พอก็เสริมกระดาษโน๊ตเข้าไปในจุดที่เกี่ยวข้องกัน เรียกว่าเอาให้แน่น อ่านทีต้องเข้าใจ ซึ่งกลับกันเมื่อมีการเสริมโน๊ตเข้าไปในหนังสือ สภาพมันก็จะดูยุ่งเหยิงพอสมควร แต่รับรองเข้าใจ!! ลองดูเนื้อหาข้างในเสียก่อน มีการโยงการวาด คือเสริมส่วนที่ช่วยเข้าไป งานนี้จำง่ายขึ้นแน่ๆ เยอะจริงๆ นะเนี่ย ยิิ่งเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ การวาดแผนที่หรือวาดส่วนต่างๆ เข้าไปในแบบที่เราเข้าใจมันถือเป็นตัวช่วยชั้นดีเลย ดูตรงแผนที่ เหมือนมันจะแหว่งๆ เขาเลยวาดเพิ่มเข้าไปเอง หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วก่อนหน้านั้นหนังสือของนักเรียนคนนี้มันมีหน้าตายังไง และนี่ก็คือหน้าตาของหนังสือประวัติศาสตร์โลก Ichimon Itto และนี่ก็คือสภาพหลังจากที่มันถูกนักเรียนคนดังกล่าวยัดความรู้เสริมลงไป สุดท้ายแล้วทางด้าน…
-
รวมความเฟลของงานออกแบบ ‘ของเล่น’ ที่เห็นแล้วมันจี๊ดดดด จบกันความฝันในวัยเด็กของตรู
เมื่อย้อนกลับไปเมื่อวัยเด็กเวลาที่เราได้ของเล่นชิ้นใหม่มาจากพ่อแม่ ด้วยความเป็นเด็กใส่ๆ อ่อนตอโลก เราก็คงไม่ได้คิดกันในเชิงลึกเกี่ยวกับดีไซน์ของเล่น ว่าสิ่งที่พวกเขาทำมามันดีหรือร้าย เพราะตอนนั้นเราคงคิดแค่เล่นสนุกกัน… แต่พอโตมาแล้ว ด้วยความที่เราผ่านโลกมาเยอะ เจออะไรดีและร้ายมามากมายจนเปลี่ยนมุมมองเราให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป งานนี้พอเรากลับมามองของเล่นชิ้นเดิมที่เคยเล่นทุกอย่างก็เลยเปลี่ยนไป เปลี่ยนขนาดต้องคิดย้อนว่า คนออกแบบเขาคิดอะไรอยู่กันนะ… ตุ๊กตากระบองเพรชที่เดิมทีดูมีความสุข จนกระทั่งสุนัขเจ้าของภาพกัดมันขาดก็ทำให้พบว่า ข้างในยังมีกระบองเพรชแสนเศร้าอยู่… ม้าพลาสติกแสนสวย เอ ขนหางมันดูสลวยดีจริงๆ…..ด…..เดี๋ยวนะ…. คนออกแบบเขาคิดดีแล้วใช่ไหมที่ให้เราเป่าลมตรงนั้น เอ่อ….เป็ดเอเลี่ยนหรือเปล่าเนี่ย? ความผิดพลาดของรอยต่อ ทำให้จมูกของนังซินต้องเปลี่ยนไป ตอนเด็กเราก็คิดว่าหน้ามันมีความสุขนะ พอโตมาเราได้แต่คิดว่าหน้ามันกำลังเมาชัวร์ ดูดเลยสิจ๊ะ เด็กๆ คนออกแบบเขารู้ใช้ไหมว่ามันมีประเทศ “ออสเตรีย” กับประเทศ “ออสเตรเลีย” ส่วนประเทศที่มีจิงโจ้คืออย่างหลัง เมื่อคนออกแบบขี้เกียจใส่ใจรายละเอียดตัวหลังๆ ตอนเด็กเราก็คิดว่ามันเอาไว้ยึดตัวหุ่นกับรถเฉยๆ แต่ตอนนี้เราคงคิดไม่เหมือนเดิมแล้วละ ถ้าเมาขนาดนี้กลับบ้านไหมเธอว์ นี่เขาออกแบบมาแบบนี้ หรือจริงๆ คนมันมาจัดท่าให้เราคิดตามกันนะ โลกคนเรานี่มันโหดร้ายจริงๆ อย่าทำเด็กแบบนั้นเอลโม่ แทนที่เราจะได้แสงสว่างเพิ่มเพื่อให้เราไม่กลัวความมืด…
-
สาวผู้ทนทุกข์กับโรคท้าวแสนปม ถูกล้อเลียนจากตุ่มเนื้องอกบนร่างกาย แต่ใจยังคงสู้กับสิ่งที่ตัวเองเป็น
โรคท้าวแสนปม (Neurofibromatosis) คือโรคติดต่อทางพันธุกรรมที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้เนื่องจากตุ่มเนื้องอกจำนวนมากที่ผุดขึ้นมาสร้างความรำคาญ อีกทั้งยังต้องถูกสายตาอื่นมองผู้ป่วยโรคนี้อย่างรังเกียจ ไม่กล้าเข้าใกล้ โดยที่ความเป็นจริงนั้นโรคท้าวแสนปมนี้ไม่ใช่โรคติดต่อร้ายแรงอย่างที่ใครๆ คิดกัน Libby Huffer หนึ่งในหญิงสาวผู้ที่ป่วยเป็นโรคท้าวแสนปมได้ออกมาเปิดเผยชีวิตของเธอ ที่ต้องทนกับโรคที่สร้างบาดแผลในจิตใจของเธอในวัยเด็กและตอนเป็นวัยรุ่น ด้วยโรคท้าวแสนปมนี้ทำให้เธอถูกเพื่อนๆ มองว่าเป็นตัวประหลาดและไม่กล้าเข้าใกล้ อีกทั้งยังล้อเลียนเธออย่างหนักว่าเธอนั้นเป็นคางคก เธอถูกล้อเลียนอย่างหนักจนต้องเปลี่ยนชื่อจาก Elizabeth มาเป็น Libby เนื่องจากเพื่อนมักเรียกเธอว่า ‘Lizard breath’ หรือนังตุ๊กแก ถ้อยคำล้อเลียนเหล่านี้มันฝังลึกอยู่ในหัวใจของเธอมาตลอด 45 ปี อาการของโรคท้าวแสนปมนี้เพิ่มขึ้นสูงมากเมื่อเธอคลอดลูกคนแรกเนื่องมาจากระกับฮอร์โมนที่พุ่งสูง แต่เธอก็ต้องอดทน จนกระทั่งมาถึงวันที่เธอจะได้ลบเจ้าตุ่มเนื้องอกเหล่านี้มาถึง เธอเข้ารับการรักษาจากทางแพทย์ด้วยการผ่าตัดไฟฟ้าและเลเซอร์เพื่อตัดตุ่มออกจากใบหน้าและลำคอ ตุ่มประมาณ 1,000 ตุ่มของเธอถูกลบออก ซึ่งมันก็สร้างความเจ็บปวดให้กับเธอเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับบาดแผลในจิตใจที่เธอมี เธอหวังว่าเธอจะมีชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากที่เธอได้รับการผ่าตัด และสามารถลืมความทรงจำร้ายๆ ในอดีต นอกจากนี้เธอก็บอกว่า โรคท้าวแสนปมนี้มันไม่ใช่โรคติดต่อ มันเป็นโรคทางพันธุกรรม “ฉันไม่ได้เป็นโรคติดต่อ ฉันก็เหมือนมนุษย์ทั่วไปที่ต้องการความรักความห่วงใยเหมือนกับคนอื่น” Libby กล่าวปิดท้าย ที่มา ladbible
-
จิ้งจอกหิมะอยากกินปลาใจจะขาด ทำทีมาขอจากมนุษย์ สุดท้ายพ่ายแพ้ให้กับมารยาแสนน่ารัก!!
อากาศหนาวในปีนี้จัดได้ว่ารุนแรงเหลือเกิน ล่าสุดมีข่าวว่าที่มอสโคว์นั้นอุณหภูมิทะลุ -62 องศาเซลเซียสแล้ว เดือดร้อนกันทุกพื้นที่ไม่เว้นทั้งคนทั้งสัตว์เลย ชาวประมงชาวรัสเซียคนหนึ่งได้อัดคลิปวิดีโอที่เขาถ่ายเหตุการณ์สุดน่ารักของเพื่อนร่วมโลก ในขณะที่เขาออกไปตกปลากลางทะเลน้ำแข็งแถบไซบีเรีย ในขณะที่เขากำลังตกปลานั้นก็ได้พบเจอกับเจ้าหมาจิ้งจอกหิมะสีขาวตัวนี้เข้ามาทักทาย เจ้าจิ้งจอกหิมะตัวนี้ดูหิวโหยมาก มันเดินเข้ามาที่หลุมที่ชาวประมงขุดเอาไว้เพื่อตกปลา เจ้าจิ้งจอกคงจะได้กลิ่นอันหอมหวนของปลาสดๆ จึงเดินเข้ามาขอด้วยความนอบน้อม สวัสดีฮะคุณ ผมตามกลิ่นปลามา หอมมากเลยครับ กลิ่นสดๆ แบบนี้คงจะอร่อยน่าดูเลยนะฮะ เจ้าจิ้งจอกพยายามอ้อนวอนแต่ก็ไม่ได้ผล เจอชาวประมงแกล้งไล่ออกไปให้พ้น เจ้าจิ้งจอกยังไม่ละความพยายาม วิ่งไปวิ่งมาแถวนั้นหลายครั้ง //เค้าอยากกินจริงๆ นะมนุษย์ นี่ๆ ตรงนี้เลยที่ได้กลิ่นปลา จากนั้นชาวประมงก็อนุญาตให้มันเอาปลาที่อยู่ในหลุมนั้นไปได้ เข้าทางเลยฮะ อื้ม อร่อยยยยย!! ปลาสดๆ ที่รอคอย ไปชมคลิปเต็มๆ กันดีกว่า คราวหลังชาวประมงคงต้องสอนให้เจ้าจิ้งจอกหาปลาเองบ้างนะ จะได้ไม่ต้องไปไล่ขอชาวบ้านด้วยความน่ารักแบบนี้ โอ๊ยยยย แพ้ ที่มา siberiantimes
-
หนุ่มเดินตามมาจับก้นคุณแม่ลูกสองถึง 5 ครั้ง แถมบอกว่า ‘โทษทีนะ ผมต้องทำ เพราะคุณเด็ดจริงๆ’
ปัจจุบัันนี้มีโรคจิตหลายรูปแบบที่พยายามแต๊ะอั๋งผู้หญิง บางคนเลือกที่ที่มีคนพลุกพล่าน บางคนเลือกที่ที่ลับตาคน เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ หรือแม้ว่าเหยื่อจะร้องโวยวายในที่เกิดเหตุ โรคจิตก็มักจะไม่ยอมรับความผิดและหาวิธีหนีไปได้ในที่สุด แต่สำหรับเหตุการณ์นี้ มันแตกต่างออกไป เพราะโรคจิตคนนี้ได้ตามจับก้นผู้หญิงคนเดียวถึง 5 ครั้ง ในที่โจ่งแจ้ง แถมยังหันไปยิ้มให้กล้องวงจรปิดด้วย Jesse Ratu คุณแม่ลูกสองวัย 24 ปี ผู้ตกเป็นเหยื่อเล่าว่าระหว่างทางที่กลับจาก Gold Coast มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินตามหลังมาติดๆ ชายคนนั้นเดินตามมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงหน้าอพาร์ทเมนต์ Southport ของเธอ ระหว่างที่ Jesse กำลังยืนปลดล็อคประตู จู่ๆ ชายคนหนึ่งก็เข้ามาจับก้นเธอถึง 5 ครั้งด้วยกัน ภาพจากกล้องวงจรปิดของอพาร์ทเมนต์ได้บันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตั้งแต่ตอนเดินตาม จนถึงจับก้น แถมชายคนนั้นยังหันไปยิ้มให้กล้องด้วย คุณแม่ลูกสองบอกอีกว่า “หลังจากที่โดนจับก้น ฉันหันไปมองหน้าเขาแล้วบอกกับเขาว่า ‘อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ’ แต่เขากลับตอบมาว่า ‘โทษทีนะ ผมต้องทำเพราะคุณเด็ดจริงๆ’” จากนั้นเธอก็วิ่งเข้าไปข้างในและเล่าเรื่องทุกอย่างให้สามีของเธอ Brendan Wilson ฟัง เขาโกรธมากและวิ่งออกไปข้างนอกเพื่อไปจัดการชายโรคจิตคนนั้น แต่ปรากฏว่าเขาไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว Jesse…
-
เหล่าบุคคลที่ไม่สนไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น กฎเกณฑ์ทุกอย่างพังทลาย ก็ใครจะทำไมล่ะ!?
ธรรมชาติของมนุษย์เรามักจะปรับตัวให้เข้าสังคม สิ่งแวดล้อม กฎหมาย กฎธรรมชาติ จารีตประเพณี ศีลธรรม หรือที่อย่างที่คนโบราณบอกว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เพื่อจะได้ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติเค้า แต่มันจะมีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่มีความเป็นตัวเองสูงถึงสูงมาก ไม่สนใจอะไรเลย คนอื่นจะเป็นยังก็ช่าง กฏเกณฑ์อะไร ข้าไม่รู้จัก ก็ตรูแฮปปี้ที่จะเป็นแบบนี้อ่ะ แล้วไงอ่ะ!? 1. นี่คือคนที่อายุจะย่างเข้า 99 ปีจริงๆ เหรอ? ออกกำลังแล้วจิบแอลกฮอล์ไปพลางก็ได้เหรอฮะ? 2. เมื่อปล่อยให้พ่อสอนลูกยิงธนู… แล้วดูทำหน้า ชิลมาก 3. โอ้ยยย สะกิดอะไรนักหนา คนจะถ่ายรูป 4. วันนี้วันหยุดอะ ขอนอนดูหนังยาวๆ ละกัน…นี่คุณพี่คงไม่เข้าไปซื้อป๊อบคอร์นในสภาพนี้ด้วยใช่มั้ย? 5. กฎมีไว้แหก แหกให้หมดทุกข้อ 6. ขออยู่แบบนี้แป๊บ ข้างล่างมันเย็นดี 7. สาวๆเล่นโยคะกันตามสบายเลย ผมไม่สนหรอก ผมจะนอน จริงจริ๊ง 8. ก็ยายไม่รีบไง เอ้อออ …
-
นักเรียนมาสายเพราะฝนตกรถติด โวยวายครูล็อกห้องไม่ให้เข้า ชาวเน็ตร่วมสั่งสอนให้รู้สึก!!
ในวัยเรียน หลายคนอาจมีข้ออ้างสำหรับการมาเรียนสาย ไม่ว่าจะฝนตก รถติด ตื่นสาย แต่จริงๆ แล้วสิ่งเหล่านี้มันเป็นความรับผิดชอบของเราที่ต้องหาวิธีจัดการเอง ไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะเจอเรื่องอย่างนักเรียนกลุ่มนี้ ที่ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกคุณครูล็อกห้องไม่ให้เข้าเรียกเพราะพวกเขามาสายเกินเวลาที่กำหนด กลุ่มนักเรียนชายจากโรงเรียนสารพัดช่างแห่งหนึ่งในสิงคโปร์พร้อมเพื่อนอีก 4 คน ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก ระบุว่าพวกเขามาสาย 15 นาที เพราะฝนตกและรถติด แต่กลับถูกครูล็อกประตูไม่ให้เข้า และอ้างว่าครูไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น กลุ่มนักเรียนที่อยู่ข้างนอกได้ถ่ายรูปของคุณครูที่สอนอยู่ข้างใน ซึ่งเป็นคนที่ล็อกประตูพวกเขาลงในเฟซบุ๊กด้วย และถ่ายรูปตัวเองที่อยู่นอกห้องเรียนเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม โพสต์ดังกล่าวนี้ถูกแชร์ต่อๆ กันในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็วและได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ก่อนจะเกิดเป็นประเด็นถกเถียง เพราะมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคนบอกว่าครูคนนี้ ‘เข้มงวดเกินไป’ และนักเรียนเองก็เป็นแค่เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ นักเรียนไม่ควรต้องถูกลงโทษ เพราะวันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนักมากจริงๆ อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตส่วนใหญ่มีความเห็นว่าสิ่งที่ครูทำนั้นถูกต้องแล้ว เธอต้องสอนบทเรียนให้เด็กที่มาสายและเพื่อให้ความเป็นธรรมกับนักเรียนที่มาตรงเวลาด้วย และเพราะเวลาที่คุณไปทำงาน ไม่มีใครมาสนใจหรอกว่าคุณมาสายเพราะอะไร บางคนบอกว่าแทนที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมในสังคมออนไลน์ นักเรียนกลุ่มนี้ควรจะแก้ไขปัญหาของตัวเองและควรจะขอโทษสำหรับการมาสายดีกว่า เพราะการมาสายเป็นกลุ่มไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้ออ้างได้ ทุกๆ คนควรให้ความสำคัญไปที่ความรับผิดชอบส่วนบุคคลมากกว่า หลังจากที่มีกระแสโจมตีอย่างหนัก นักเรียนกลุ่มนั้นเลยตัดสินใจลบโพสต์ต้นเรื่องไป แต่ก็ยังคงยืนยันว่าพวกเขาสมควรได้รับความเป็นธรรม…
-
เหล่าสัตว์เลี้ยงกับการได้เห็นหิมะเป็นครั้งแรก โอ้ววว้าวววววว มันน่าตื่นเต้นจริงจริ๊งงงง!!
การได้เห็นอะไรเป็นครั้งแรก เรามักจะรู้สึกตื่นเต้นเสมอ อย่างเช่น หิมะ เพราะมันคือสิ่งที่บ้านเราไม่มี ดังนั้นเมื่อไปต่างประเทศในช่วงที่หิมะตก อื้อหือ คงจะฟินน่าดู ไม่ใช่แค่เรานะรู้สึกแบบนั้น เหล่าสัตว์เลี้ยงเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน แหม่ บางตัวนี้พอได้สัมผัสกับหิมะเท่านั้นแหละ ติดหนึบไม่ยอมไปไหน 1. ปฏิกิริยาของน้องหมีขั้วโลกน้อยเมื่อเจอหิมะครั้งแรก 2. โอ้ววว สีขาวนี่มันอะไร ห๊า!! หิมะ หิมะ หิม้าาาาาา 3. ได้เห็นหิมะทั้งที ขอเอาหน้าซุกอยู่ในนี้สักพักนะ 4. สุขไหนเล่าจะเท่าการได้เล่นหิมะ ยี้ฮ้าาาา 5. เล่นหิมะครั้งแรก มันก็จะเงอะงะหน่อยๆ อะนะ 6. อู้ววว หิมะมันเป็นแบบนี้หรอเนี่ย 7. น้องหมาวิ่งฝ่าหิมะ เรียกยังไงก็ไม่ยอมกลับ 8. โดนหิมะเกาะเต็มตัวเลย 9. นี่คงจะยังงงๆ อยู่ 10. ทำหน้าแบบนี้เดาไม่ถูกเลยว่าน้องเหมียวรู้สึกยังไงกับหิมะกันแน่ …
-
ความเห็นชาวต่างชาติ หลังได้อ่านข่าว “พลเอกประวิตร กับนาฬิกาหรู 25 เรือน” พวกเขาคิดอย่างไร!?
ประเด็นดราม่า “นาฬิกาหรู” ที่กลายเป็นกระแสพูดถึงในประเทศไทยภายในช่วงเดือนที่ผ่านมา ล่าสุดได้ถูกสื่ออังกฤษอย่าง DailyMail นำไปลงข่าวแล้ว ก่อนที่จะอ่านความเห็นของชาวเน็ตต่างชาติที่ได้คอมเม้นท์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เราลองไปดูการนำเสนอของสื่อต่างชาติกันก่อนว่าตรงกับข้อเท็จจริงมากน้อยเพียงใด… สื่อต่างชาติเจ้านี้ลงพาดหัวเอาไว้ว่า The Rolex general: Thailand’s junta number two has been photographed with 25 different luxury watches worth $1.2 million since a 2014 coup แปลเป็นไทยได้ว่า นายพลโรเล็กซ์ : ผู้นำอันดับ 2 แห่งรัฐบาลทหารของไทย ใส่นาฬิกาหรูต่างกัน 25 เรือน มูลค่ารวมเกือบ 40 ล้าน นับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อปี 2014 พวกเขายังเขียนเพิ่มเติมว่า นาฬิกาหรูทั้ง 25 เรือนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ Rolex มากถึง…
-
ภาพกอดครั้งสุดท้าย หลังคุณพ่อชาวเม็กซิโกจำใจลาจากครอบครัว เพราะนโยบายของทรัมป์
หลังจากที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีมาตรการตรวจสอบผู้อพยพอย่างเข้มงวด ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในอเมริกาจึงล้วนได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้กันถ้วนหน้า เนื่องจากผู้ที่ไม่ได้มีเชื้อสายอเมริกัน หรือกระทั่งเป็นผู้อพยพที่แม้จะมีครอบครัวในสหรัฐอเมริกานั้น ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในประเทศอเมริกาโดยถูกกฎหมายอีกต่อไป ชายชาวเม็กซิกันคนนี้ชื่อว่า Jorge Garcia วัย 39 ปี จำเป็นต้องจากครอบครัวเนื่องจากกฎหมายผู้อพยพของสหรัฐนั้นมีข้อบังคับให้เขาต้องกลับไปอยู่ที่ประเทศบ้านเกิดที่เม็กซิโก ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ รวมแล้วเป็นเวลา 29 ปี เขาใช้ชีวิตเป็นชาวสวนอยู่ในสหรัฐอเมริกาอย่างเงียบๆ มาจนกระทั่งปี 2005 ที่เขาและภรรยาเริ่มช่วยกันต่อสู้เพื่อให้ Jorge มีสิทธิ์โดยชอบธรรมในการอาศัยอยู่ในอเมริกา จากนั้นในปี 2009 หน่วยงาน ICE ได้แจ้ง Jorge ล่วงหน้าว่าจะต้องถูกเนรเทศออกนอกประเทศ ขณะนั้นเองก็มีนโยบาย DACA ที่ Barack Obama อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐได้ออกมาเพื่อครอบคลุมผู้อพยพ โดยมีเงื่อนไขว่าหากผู้ที่มีอายุไม่เกิน 31 ปี ในปี 2012 จะสามารถต่ออายุเพื่ออาศัยอยู่ในประเทศได้ แต่โชคไม่ดีที่ในเวลานั้น Jorge มีอายุได้ 32 ปี ซึ่งเกินมา…
-
“ผมไม่ได้เกิดวันนี้” ลูกน้องรวมตัวเซอร์ไพรส์วันเกิดหัวหน้า เจอเซอร์ไพรส์กลับ เงิบทั้งคณะ ฮ่าๆ
เมื่อวันเกิดของเจ้านายมาถึง เชื่อว่าเหล่าพนักงานทุกคนต่างก็ต้องคอยคิดแผนเซอร์ไพรส์กันอย่างแน่นอนไม่ว่าจะออฟฟิศไหน ก็วันเกิดของเจ้านายอันเป็นที่รักของเราจะให้อยู่เฉยๆ ได้ไงล่ะ ที่ทำไปก็เพราะรักและเคารพทั้งนั้น เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2018 ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Mac Innovation ได้โพสต์คลิปวิดีโอสุดเงิบ ที่เหล่าพนักงานได้รวมตัวกันเซอร์ไพรส์วันเกิดท่านหัวหน้า แต่กลับโดนเซอร์ไพรส์กลับซะไปไม่เป็นเลย เขาได้เขียนคำบรรยายฮาๆ ว่า “16/1/61 เมื่อลูกน้องอยากจะเซอร์ไพส์เค้กวันเกิดหัวหน้า แต่ลูกน้องดันเจอหัวหน้าเซอร์ไพรส์กลับฮ่าๆๆๆ” โพสต์ต้นฉบับ เรื่องมีอยู่ว่าเหล่าพนักงานแอบไปสืบมาว่าวันที่ 16 มกราคม เนี่ยเป็นวันเกิดของหัวหน้าจึงได้จัดแจงซื้อเค้กมา กะจะเซอร์ไพรส์ท่านหัวหน้า หรือพี่แบร์ของลูกน้องทุกคน เอาให้ซึ้งไปเลยงานนี้ คลิปวิดีโอก็เริ่มถ่ายตอนที่พนักงานคนหนึ่งจุดเทียนแล้วเดินถือเค้กปรี่เข้าไปที่หัวหน้ายืนอยู่ พร้อมกับสั่งให้ทุกคนว่า “เอ้า! ร้องเพลงหน่อย” จากนั้นผู้ที่อัดคลิปวิดีโอก็ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ขึ้นมา แต่ยังไม่ทันจบเพลงกลับต้องโดนตัดจบเมื่อพี่แบร์ของน้องๆ บอกว่า “วันนี้ไม่ใช่วันเกิดผม ผมไม่ได้เกิดวันนี้ เมิงบ้าป่าวเนี่ย” หัวหน้าถึงกับอึ้ง คลิปวิดีโอเซอร์ไพรส์เซปชั่น เซอร์ไพรส์มา ก็เซอร์ไพรส์กลับ ไม่โกง!! ทำเอาเหล่าลูกน้องเงิบไปตามๆ กัน พี่แบร์ก็โบกมือและย้ำว่า “วันนี้ไม่ใช่วันเกิดผม” แต่การเซอร์ไพรส์ก็ต้องดำเนินต่อไป ในเมื่อลูกน้องตั้งใจทำมาให้ขนาดนี้ก็ต้องรับไว้เพื่อที่จะไม่ได้เสียน้ำใจ…
-
50% จอมดุ 50% ปั่นหัว รวมๆ แล้วเป็นเสน่ห์ของครูบาอาจารย์ ช่วยทำให้จดจำช่วงดีๆ ในโรงเรียนได้
เมื่อวันครูที่ผ่านมา นั้นเราเขียนถึงประสบการณ์โหดมันฮาเกี่ยวคุณครู ซึ่งจากในข่าวเก่าจะเห็นว่าคุณครูนั้นก็มีประสบการณ์โหด มัน ฮา ไม่แพ้นักเรียนเลยล่ะ ซึ่งมาคราวนี้เป็นทีคุณครูจากต่างชาติที่ทำอะไรประหลาดๆ เจ๋งๆ ที่ชาวเน็ตช่วยกันแชร์มาให้เราได้ชมกัน ไปรับชมกันเล้ย 1. เมื่อคุณครูของคุณ ต้องทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครลอกข้อสอบแน่นอน 2. เช่นกันกับข้อแรก คุณครูคนนี้ก็กันคนลอกกันเช่นกัน 3. นักเรียนคนหนึ่งนั้นได้ F มาและครูบอกให้ไปเจอหลังเลิกเรียน เด็กคนนั้นเครียดมาก พอไปหาครูเพื่อถามว่าเขาทำไรผิด ครูก็ได้เปลี่ยน F เป็น A และก็บอกแบบกวนๆ ว่าเธอกวนทีนครู ครูเลยอยากให้เธอเจอดีดูบ้าง และนักเรียนคนนั้นก็ไม่เชื่อครูคนนี้อีกทั้งปีเลย 4. คุณครูที่ถึงขั้นเอาโลงศพมาที่ห้องเรียน เพราะว่าคะแนนนักเรียนที่ออกมามันต่ำจนแทบจะทำเขาหยุดหายใจเลย ฮ่าๆ 5. มีนักเรียนคนหนึ่งโดดเรียนเพื่อไปสตรีมเกม และมีคนไปฟ้องอาจารย์ อาจารย์เลยเปิดสตรีมของเด็กคนนั้นให้ทั้งคาบได้ดูเลย ฮ่าๆ 6. นักเรียน: *กรอกตา* อาจารย์: กรอกตาไปเรื่อยๆ นะ เผื่อเธอจะเจอสมองที่นั่นบ้าง 7. คุณครูให้น้องเค้าซ้อมทั้งที่ไม่มีขลุ่ย แสดงว่าครูคิดว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ใช่มั้ยครับบบ…
-
19 ภาพของเหล่าสัตว์ที่พลาดพลั้ง โดนถ่ายภาพตอนไม่ได้ตั้งใจ มนุษย์เลยจำมายำตัดต่อซะเสียหายยิ่งไปอีก!!
เพื่อนๆ เคยมีช่วงเวลาที่แบบ เห็นภาพๆ หนึ่งแล้วจู่ๆ จินตนาการแล่นโดยพลันว่าภาพนี้น่าจะเอาไปแต่งเดิมตรงนี้ๆ หรืออาจจะเอาไปตัดต่อใหม่ภาพนู้นภาพนี้บ้างมั้ยเอ่ย ซึ่งมีเพจเฟซบุคที่ชื่อ Awkward ได้รวบรวมรูปภาพ ฮาๆ เจ๋งๆ ของเหล่าสัตว์โลกต่างๆ ที่ถูกถ่ายแล้วท่าทางของเจ้าสัตว์พวกนี้ทำให้ความคิดของนักตัดต่อมันพลุ่งพล่าน จนเกิดเป็นไอเดียตัดต่อภาพ 19 ภาพดังต่อไปนี้นี่แหละ 1. หมี: สวัสดีครับคุณผู้หญิง คุณพอมีเวลาซักสองสามนาทีมั้ยครับ 2. เฮ้! มองหน้าชั้น แกหาเรื่องชั้นเรอะ 3. เปลี่ยนยาง เช็คหมวกกันน็อกให้ดีๆ ล่ะพวกเจ้าจ๋อ 4. หึหึ แผนการเผาบ้านมนุษย์ สำเร็จไปตามแผน 5. นักดนตรี เล่นตามคอนดักเตอร์เหมียวคนนี้ให้ดีๆ นะ 6. แค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วนายจะปกป้องประเทศได้ยังไง!!? 7. This is Spartan!! 8. ข้าคือเจ้าพ่อลิงขาใหญ่ในเขตนี้ไงล่ะ! 9. จะสู้กับชั้นเรอะ!?…
-
วิธีรอดพ้นภัยหนาวน่ารักๆ ของ ‘อัลลิเกเตอร์’ โผล่จมูกตุ๊บป่องไว้หายใจ ก่อนแม่น้ำเป็นน้ำแข็ง!?
จระเข้อเมริกัน (อัลลิเกเตอร์) นั้น ดำรงชีวิตอยู่บนโลกมากว่า 150 ล้านปี เป็นผู้รอดชีวิตมาตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์จนถึงยุคปัจจุบัน บอกได้เลยว่า พวกมันมีทักษะการเอาตัวรอดที่สุดยอดเลยทีเดียว แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พายุบอมบ์ไซโคลน ที่ได้นำพาฤดูหนาวมาสู่พื้นที่แถบตะวันออกส่วนมาก ทำให้เห็นถึงวิธีการเอาตัวรอดนี่น่าทึ่งของเจ้าพวกอัลลิเกเตอร์เหล่านี้ Shallotte River Swamp Park ที่รัฐนอร์ธแคโรไลน่า เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของอัลลิเกเตอร์ที่ได้รับการช่วยเหลือจากการถูกจับ จากเหตุการณ์ที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ผ่านมายังพื้นที่ แหล่งน้ำที่เป็นที่อยู่อาศัยของพวกมันจึงกลายเป็นน้ำแข็ง แต่แทนที่พวกมันจะติดอยู่ใต้น้ำแข็งนั้น พวกมันกลับโผล่จมูกขึ้นมาจากผิวน้ำแข็งแทน ทำให้สามารถหายใจได้ ในขณะส่วนที่เหลือของร่างกายนั้นจมอยู่ใต้น้ำ George Howard ผู้จัดการทั่วไปของสวนแห่งนี้ ได้บันทึกวีดิโอ และบรรยายอัลลิเกเตอร์เหล่านี้ว่าเป็น “วิธีการเอาตัวรอด” “อัลลิเกเตอร์โตเต็มวัยนั้นสามารถมีชีวิตอยู่รอดใต้น้ำแข็งได้ พวกมันทำตัวให้จม แต่โผล่จมูกขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ถึงแม้ว่าน้ำจะกลายเป็นน้ำแข็ง พวกมันก็ยังสามารถหายใจได้ ถือว่าเป็นตัวอย่างการเอาชีวิตรอดที่สุดยอดเลยทีเดียว” การใช้เทคนิคนี้ ไม่ใช่เป็นแค่วิธีเดียวที่เหล่าสัตว์พวกนี้รับมือกับอากาศหนาว เหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เข้าสู่ภาวะจำศีล เมื่ออุณภูมิต่ำลง พวกมันก็เข้าสู่ภาวะ Brumation ที่คล้ายๆ กับจำศีล โดยการทำให้ร่างกายเผาผลาญช้าลง เพื่อประหยัดพลังงานไว้ แต่โชคดีที่อัลลิเกเตอร์พวกนั้นไม่ได้อยู่ใต้น้ำแข็งนานเกินไป เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทางสวน Shallotte River…
-
9 สัญญาณที่บ่งบอกว่า ‘เจ้าเหมียว’ หลงรักคุณเข้าจริงๆ แล้วล่ะ ถ้ามันทำแบบนี้ก็จงภูมิใจไว้เถอะ หึๆๆๆ
แมวนั้นเป็นสัตว์ที่ดูค่อนข้างหยิ่ง หรือบางทีก็ดูน่ากลัว เนื่องจากความนิ่งของมัน คนที่เลี้ยงแมวนั้น บางทีอาจจะดูไม่ออกว่าแมวที่เลี้ยงอยู่ มันรักเจ้าของหรือไม่ บางคนก็บอกว่าแมวนั้นไม่เป็นมิตร แต่ว่านั่นไม่ใช่เรื่องจริงเลย ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงที่แมวนั้นแสดงออกไม่ค่อยเก่งเหมือนกับสุนัข แต่พวกมันก็แสดงออกในวิธีของมัน ซึ่งเราจะต้องสังเกตเอง ถึงจะเห็นและรู้สึกได้ นี่คือ 9 ตัวอย่างสัญญาณที่เหล่าแมวๆ แสดงให้เห็นว่าพวกมันก็รักคุณเหมือนกัน 1. แมวของคุณจะชอบกัด หวังว่ามันจะกัดไม่แรงนะ 2. มันจะเดินตามและคลอเคลียคุณตลอดเวลา 3. แมวของคุณจะชอบนวดให้ 4. มันจะกระตุกปลายหางของมัน 5. มันจะครางออกมา 6. มันจะจ้องตาคุณ และถ้าโชคดี มันจะเข้ามาจูบคุณด้วย 7. บางทีก็มีของขวัญมาให้ อาจจะเป็นซากนก หรือซากหนูก็ได้ 8. มันจะนอนโชว์พุงของมันให้เราเห็น 9. มันจะชอบเอาหัวมาชนเรา สำหรับคนที่เลี้ยงแมว เคยเจอพฤติกรรมไหนกันมาแล้วบ้าง แสดงความคิดเห็นกันมาได้เลย ที่มา…
-
รวม 20 เหล่าบุคคลพิสูจน์ให้เห็นว่า “อัจฉริยะ” กับ “คนขี้เกียจ” มันมีแค่เส้นบางๆ กั้นอยู่!!
เมื่อเรามีความจำเป็นที่จะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบฉุกเฉิน ความคิดสร้างสรรค์ของเราก็จะพุ่งขึ้นมาทันที แต่ความคิดสร้างสรรค์นั้นจะทำให้แก้ปัญหาได้ หรือทำให้ปัญหานั้นหนักกว่าเดิมนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง นี่คือ 20 ไอเดียสร้างสรรค์จากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่ขึ้นอยู่กับคุณว่า จะตัดสินใจให้เป็นความล้มเหลว หรือเป็นความสำเร็จที่แสนจะอัจฉริยะกันแน่ 1. เก้าอี้โยกสุดขี้เกียจ เมื่อภรรยาของคุณอยากได้เก้าอี้โยกไว้นั่งหน้าบ้าน และคุณสร้างมันขึ้นมาเองจากสิ่งของรอบตัว ภายในไม่ถึง 5 นาที 2. โซฟาลังเบียร์ ถ้าบ้านของคุณเต็มไปด้วยลังเบียร์ อย่าโยนมันทิ้ง จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางด้าน DIY คุณสามารถนำมันมาทำเป็นโครงโซฟาหรือเตียงได้ 3. ที่กดสบู่ที่ใช้งานได้ จากน้ำมือของสุดยอดวิศวกรผู้ที่ดันไม่รู้ว่าเครื่องกดสบู่นั้นต้องเติมอย่างไร โชคดีที่เขายังรู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ก็เลยได้วิธีง่ายๆ มาช่วย 4. ล้อจักรยานโรลเลอร์สเก็ต จักรยาน 5 ล้อคันนี้สามารถใช้ขี่ได้แน่นอน แต่จะเบรคอย่างไร?ถ้าต้องเลี้ยวละ? ไม่แน่อาจจะชนเข้ากับเสาข้างถนนก็ได้นะ 5. ล้อหน้ารถเข็น อีกหนึ่งทางเลือกหากล้อหน้าของคุณหายไป นอกจากจะขี่ได้แล้ว ยังสามารถใช้จ่ายตลาดได้อีกด้วย แต่ปัญหาใหญ่ก็คือการเลี้ยว และเศษหินตามทาง 6. รถยนต์สามล้อ สุดยอดนวัตกรรมแห่งวิศวกรรมเครื่องกล ประโยชน์ของรถคันนี้ก็คือ อาจจะใช้ใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ขับก็เป็นได้…
-
สาวไปหาหมอเพราะโดนทำร้ายที่ไนท์คลับ แต่กลายเป็นว่านี่แหละ คนที่ทำร้ายเธอคืนนั้น!?
เมื่อไม่นานมานี้ หญิงสาวคนหนึ่งในประเทศรัสเซียถูกทำร้ายร่างกายในผับที่เธอไปเที่ยวมา หลังจากนั้นเธอจึงไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาบาดแผล แต่กลับพบว่าหมอที่จะรักษาเธอดันเป็นคนคนเดียวกันกับคนที่ทำร้ายเธอที่ผับ และเธอก็ถูกทำร้ายในห้องตรวจอีกครั้ง หญิงสาววัยประมาณ 20 ปีที่ถูกทำร้ายมีชื่อว่า Anastasia Dmitrieva ในตอนแรกนั้นเธอไปเที่ยวผับตามปกติ แต่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับชายคนหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บ เธอจึงไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมือง Neryungri ประเทศรัสเซีย เพื่อรักษาบาดแผล Vladimir Naumov หมอที่ทำร้ายหญิงสาวในข่าว เธอคิดเอาไว้ว่าหลังจากรักษาแผลที่โรงพยาบาลแล้ว ก็จะได้นำหลักฐานที่ถูกทำร้ายร่างกายไปยื่นเรื่องที่สถานีตำรวจ เพื่อเอาเรื่องที่ถูกทำร้ายได้ ทว่าเมื่อเธอเข้าไปในห้องตรวจแล้ว เธอก็ได้พบ Vladimir Naumov หมอชายที่บังเอิญเป็นคนที่ทำร้ายเธอในผับนั่นเอง พอเขาเห็นหน้าเธอก็รู้สึกโกรธและทำร้ายเธอในห้องตรวจอีกครั้ง ในระหว่างนี้เองเพื่อนของหญิงสาวก็ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ด้วยพอดี ในคลิปวิดีโอหมอหนุ่มพูดกับหญิงสาวว่า “พยานทุกคนที่อยู่ในผับบอกได้หมดแหละว่าคุณเป็นคนทำร้ายผมก่อน” จากนั้นเขาจึงข่มขู่เธอว่าหากเธอฟ้องร้องเขาเธอจะต้องเข้าคุกแน่นอน คลิปวิดีโอ (หากดูไม่ได้กรุณาคลิก ที่นี่ ) หมอหนุ่มบอกว่าที่เขาทำร้ายเธอในผับ เป็นเพราะเขาเห็นว่าพวกเธอรุมทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ เขาที่เห็นเหตุการณ์อยู่ข้างๆ จึงพยายามเข้าไปช่วย โดยบอกว่า “ผมไม่สามารถทนดูพฤติกรรมแบบนี้ได้หรอก ผู้ชายคนไหนเห็นก็คงพยายามเข้าไปห้ามทั้งนั้นแหละ” ส่วนเรื่องที่เขาทำร้ายเธอที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่งนั้น เขาทำไปเพราะความโมโหที่เจอเธออีกครั้ง ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายหญิงสาวด้วยเหตุผลส่วนตัวเลย อย่างไรก็ตามหัวหน้าใหญ่ของหมอหนุ่มก็ไล่เขาออกจากงานทันทีที่ทราบเรือง เนื่องจากเขาทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับวิชาชีพ หมอหนุ่มยังคงท้วงว่า “ตอนนั้นพวกเธอตั้งใจยั่วยุผมให้โมโห พวกเธอจะได้ถ่ายคลิปเอาไปฟ้องผมได้” นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า “ผมทำงานที่นี่มาหนึ่งปีครึ่ง…
-
สืบต้นตอจากภาพเซลฟี นำไปสู่การไขคดีฆาตกรรม และทำให้ผู้กระทำผิดต้องรับสารภาพ
บ่อยครั้งที่เราเห็นผู้คนมีปัญหาจากการเซลฟี เช่น เผลอมีของลับติดมาในภาพ หรือเซลฟีในพิพิธภัณฑ์จนเผลอไปชนกับผลงานศิลปะ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้คนบางส่วนมองการเซลฟีเป็นเรื่องไร้สาระและไม่จำเป็น แต่จริงๆ แล้ว การเซลฟีไม่ได้มีแค่ข้อเสียหรือเป็นเรื่องไร้สาระเสมอไป เพราะบางครั้งมันสามารถใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการคลี่คลายคดีได้ และด้วยภาพเซลฟีนี้เองที่ทำให้ Cheyenne Rose Antoine หญิงสาววัย 23 ปี จากรัฐซัสแคตเชวัน ประเทศแคนาดา ถูกตัดสินจำคุก 7 ปี หลังมีหลักฐานว่าเธอฆาตกรรม Brittney Gargol ซึ่งเป็นเพื่อนรักของเธอ ย้อนกลับไปในปี 2015 มีการพบศพของ Brittney วัย 18 ปี ถูกฝังอยู่ใกล้กับเมืองซาซคาทูน โดยมีรอยรัดคอปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจอ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเธอถูกฆาตกรรมโดย Antoine หลังจากที่พบภาพการเซลฟีที่ถูกโพสต์ลงในสื่อออนไลน์ ในภาพดังกล่าวนั้น Antoine ใส่สร้อยสีทองและได้โพสต์ภาพนี้ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการพบศพ Brittney โดยข้างศพมีสร้อยที่ Antoine ใส่ตกอยู่ นั่นจึงกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการไขคดีนี้ ในชั้นศาล อัยการสูงสุด Robin Ritter ได้ให้ความสนใจกับวิธีการไขคดีของตำรวจที่นำภาพเซลฟีมาเชื่่อมโยงกับสร้อยคอที่เจอ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก อย่างไรก็ตามคดีนี้ก็ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี…
-
26 ภาพการออกแบบผลิตภัณฑ์สุดโกง เพื่อล่อผู้คนให้มาซื้อ แบบนี้มันหลอกลวงผู้บริโภคชัดๆ !!
เป็นธรรมดาในวงการการตลาดที่จะออกแบบบรรจุภัณฑ์รวมทั้งตัวสินค้าให้ดูน่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า แต่ในบางครั้งเราพบว่าสิ่งที่เห็นกับความเป็นจริงนั้นช่างแตกต่างกันเหลือเกิน หรือเรียกง่ายๆ ว่าไม่ตรงปกนั่นแหละ เหมือนอย่างสินค้าเหล่านี้ ที่ดูจากบรรจุภัณฑ์แล้วน่าซื้อมากๆ ดูเต็ม ดูน่าใช้ ดูคุ้ม แต่พอเปิดออกมามันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด นี่มันหลอกกันชัดๆ 1. หืมมม กัมมี่แบร์เต็มแก้วเลย… 2. ฮอตดอกซื้อ 1 แพ็ค แถมฟรี 2 ชิ้น ที่ไหนได้ หลอกกันชัดๆ 3. หูววว ได้ตั้ง 12 ชิ้นแหน่แต่…เมื่อหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นะ 4. เดี๋ยวนะ ในภาพเข้าใจว่าเป็นเชือกสำหรับปีนเขา แต่กลับมีคำเตือนว่าไม่เหมาะสำหรับปีนป่าย 5. โอ้ยยย นี่เล็กๆ น้อยๆ ก็จะเอาเนาะ 6. บรรจุภัณฑ์ทำให้เห็นสินค้าครึ่งซีก เลยโรยหน้าแค่ครึ่งเดียว อืม ยังไงดี 7. 30% กับ 40% ไม่ได้มีความต่างเล้ยยย…
-
หนุ่มปีนเขา ดันเจอ ‘แพะภูเขา’ ติดในซอกเขา งานนี้ต้องช่วยจากเขา แพะบอก ‘อย่าจับเขา!!’
ชีวิตคนเรานั้นมักจะเจอเรื่องไม่คาดคิดเสมอ อย่างเช่นการออกไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ แล้วเจอเข้ากับคนหรีอสัตว์ที่กำลังเดือดร้อน แน่นอนว่าด้วยจิตวิญญานแห่งคนดี คนเราก็มักจะยืนมือเข้าไปช่วยอยู่เสมอ เช่นเดียวกับผองเพื่อนกลุ่มนี้ พวกเขานั้นชื่นชอบการเดินป่าและปีนเขากันมากๆ โดยล่าสุดพวกเขาได้ตัดสินใจไปปีนเขากันที่ทิวเขา Sierra de Guadarrama ใกล้ๆ เมืองมาดริด ประเทศสเปน แต่ระหว่างที่ทั้งหมดกำลังเดินชี่นกชมไม้อยู่นั้น พวกเขาก็ได้บังเอิญเจอแพะภูเขาตัวหนึ่ง ซึ่งมันดั๊นนน บังเอิญเอาตัวเองไปติดอยู่ในซอกเขาพอดี มันที่ไม่สามารถขยับไปไหนได้ แถมดูจะอารมณ์เสียมากๆ ที่ต้องมาติดอยู่แบบนี้ งานนี้กลุ่มนักเดินเขาของเราจึงต้องเริ่มภารกิจช่วยเหลือมันออกมา… ดูสิติดแหงกเลย แต่จะว่าไปถ้ามันไม่ติด มันก็จะตกลงไปยังพื้นข้างล่างที่ไม่รู้ว่าสูงแค่ไหน.. จะเรียกว่าโชคดีหรือร้ายดีนะ ดูสายตาของมันราวกับกำลังคิดว่า “อย่ามายุ่งเจ้ามนุษย์ อย่าจับเขาตรูด้วย!!” อะไรทำนองนี้เลย แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถช่วยเจ้าแพะออกมาจนสำเร็จ ดีใจด้วยนะ แบ๊ะๆ เอ้า ปลอดภัยแล้วเจ้าแพะ ตอนนี้นายเป็นอิสระแล้ว อย่าพลาดอีกนะ!! ที่มา boredpanda
-
เด็กหญิงวัย 3 ขวบ กับการ ‘คอสเพลย์’ เลียนแบบคนดัง ความน่ารักมาเต็ม!!
ความรักและกำลังใจจากครอบครัวเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนต้องการและโหยหามากที่สุดในชีวิต ในยามที่ท้อแท้ หมดหวังหรือประสบปัญหาร้ายแรงก็มีแต่คนในครอบครัวที่คอยให้กำลังใจให้ลุกขึ้นต่อสู้ต่อไป คุณยาย Nonnie ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม ซึ่งผู้ที่เป็นโรคมะเร็งมักจะมีความกังวลในเรื่องสุขภาพร่างกายของตัวเองเป็นอย่างมาก สูญเสียกำลังใจในการใช้ชีวิต แต่คุณยายท่านนี้ก็ได้รับกำลังใจมาจากหนูน้อย Scout Penelope หลานสาวสุดที่รักวัย 3 ขวบ ที่คอยเป็นกำลังใจให้กับเธอและทำให้เธออยากใช้ชีวิตเพื่อที่จะได้ดูเจ้าตัวน้อยของเธอเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เด็กหญิง Scout และคุณยาย เด็กหญิงรักคุณยายของเธอมากๆ และไม่อยากให้คุณยายจากไป จึงได้ให้ความร่วมมือกับพ่อแม่ในการทำโปรเจ็กต์ถ่ายภาพคอสเพลย์เป็นคนดังที่ล้วนแต่เป็นผู้หญิงที่มีความแข็งแกร่ง เพื่อเป็นกำลังใจให้ยายของเธอสู้กับโรคร้ายต่อไปด้วยความน่ารักของนางฟ้าตัวน้อยๆ คนนี้ Zooey Deschanel Meryl Streep Betty White Lauren Cohan Adele Carrie Fisher Frida Kahlo Selena Gomez Moana Ellen Degeneres …
-
รวมภาพถ่ายหาชมยาก ที่สามารถทำให้หัวใจของเราพองโต โอ้วววว อะไรจะงดงามเบอร์นั้น!!
ภาพหนึ่งภาพสามารถอธิบายได้เป็นหนึ่งล้านคำ หลายๆ ครั้งที่เราเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยมีโอกาสเจอได้ง่ายนักเราก็อยากที่จะเก็บภาพเหล่านั้นไว้ และไม่ว่าจะกลับมาดูเมื่อไหร่ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจทุกที ความสุขสามารถหาได้ง่ายๆ เพียงแค่คุณเปิดใจมองสิ่งรอบตัว ความงามเหล่านั้นอยู่ไม่ไกล เพียงแค่เลือกที่จะมอง อย่างเช่นภาพต่อไปนี้ ดูเหมือนบ้านข้างๆ จะเข้าฤดูใบไม้ผลิก่อนพวกเรานะนั่น ความสวยงามที่สร้างให้กับท้องทะเล ว่าแต่รูปทรงมันคุ้นๆ นะ ทางไปสวรรค์ พายไปสู่แสงสว่าง พากันมาชุมนุมอะไรตรงนี้เนี่ย เด็กชาวรัสเซีย ป่าที่ปลูกขึ้นโดนมนุษย์ เจ้าหมาคาบสมบัติมาให้ กลุ่มนักปั่นที่เห็นหิมะเป็นครั้งแรก หมีสองตัวกอดกันกลมเชียว ให้ความอบอุ่นซึ่งกันและกัน ทะเลดาว การผจญภัยของแมว ไม่ถงไม่ถามน้องสักคำ เสาไฟที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ Bobcat ตัวน้อย เดินขบวนสัตว์ขั้วโลก ความสุขเล็กๆ แบบเรียบง่าย แม่เม่นและลูกเม่นตัวจิ๋ว ผู้สังเกตการณ์ยามเช้าแห่งเมืองหิมะ ที่มา brightside
-
คุณพ่อให้ลูกชายเลือกที่มีค่าที่สุดสำหรับชีวิต และสิ่งนั้นก็คือคุณพ่อของเขาเอง
เพื่อนๆ เคยเห็นผู้ชายรอบตัวร้องไห้กันบ้างหรือเปล่าครับ โดยปกติแล้วเรามักจะไม่ค่อยเห็นผู้ชายร้องไห้บ่อยนัก เพราะผู้ชายบางคนคิดว่าการร้องไห้ทำให้พวกเขาดูอ่อนแอและน่าอาย พวกเขาจึงพยายามทำตัวสุขุมนุ่มลึกตลอดเวลา จะได้ดูเท่ในสายตาคนอื่น แต่จริงๆ แล้วผู้ชายก็ร้องไห้เหมือนกัน จาก การวิจัย พบว่าผู้ชายร้องไห้เดือนละ 0.5-1.5 ครั้งเลย ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงจนน่าตกใจสำหรับผู้ชายหลายๆ คนด้วยซ้ำ และเรื่องที่มักจะทำให้ผู้ชายร้องไห้ได้ก็เป็นเรื่องของความสัมพันธ์นี่แหละ โดยเฉพาะกับคนใกล้ตัวอย่างครอบครัวนั่นเอง เรื่องของคุณพ่อชาวจีนคนนี้ก็เช่นกัน แม้ว่าปกติเขาจะไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น แต่เขาเคยร้องไห้เพราะลูกชายมาแล้ว มาดูกันว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร Han เด็กชายเจ้าของเรื่องเล่า เด็กชายจากประเทศจีนคนนี้ชื่อว่า Han เขาได้โพสต์เรื่องราวของเขาและพ่อลงในเฟสบุ๊ก โดยเขาบอกว่าพ่อของเขาเป็นคนที่เข้มแข็งมาก ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเห็นพ่อร้องไห้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยความสงสัยเขาจึงลองถามพ่อของตัวเองดู ว่าเขาเคยทำให้พ่อร้องไห้บ้างหรือเปล่า พ่อจึงตอบตรงๆ ว่าเคยอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อตอนเขายังเด็กอยู่เลย คุณพ่อเล่าว่าตอนที่เขาอายุได้ 3 ขวบ พ่ออยากรู้ว่าถ้าลูกโตไปจะให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุด จึงได้ทำการทดสอบลูกในแบบของคนจีน โดยวางปากกา เงิน และของเล่นเอาไว้ให้เขาเลือก ถ้าหากว่าเลือกปากกาแปลว่าจะให้ความสำคัญกับความเฉลียวฉลาด ถ้าเลือกเงินแปลว่าจะให้ความสำคัญกับเงินตรา และถ้าหากเขาเลือกของเล่น หมายความว่าเขาให้ความสำคัญกับความสุขในชีวิตมากที่สุด หลังจากวางของเหล่านั้นให้ลูกเลือกแล้ว ลูกก็นั่งมองของเหล่านั้นอยู่นานเลย คุณพ่อเองก็นั่งลุ้นอยู่ว่าลูกของตัวเองจะเลือกอะไรกันแน่ แต่หลังจากนั้น คุณพ่อก็เห็นลูกชายของเขา กวาดของที่วางไว้อยู่ให้พ้นทาง แล้วค่อยๆ คลานเข้ามาพ่อเสียอย่างนั้น…
-
ชุดภาพถ่าย ‘กึ่งนู้ด’ ที่เผยให้เห็นความงดงามของผู้หญิง ความเซ็กซี่ที่แท้จริงต้องมาจากข้างใน
โลกสร้างมนุษย์ที่เรียกว่าผู้หญิงขึ้นมาเพื่อเป็นอีกความสวยงามหนึ่งของโลก มนุษย์เพศหญิงมักจะมีความอ่อนหวาน อ่อนโยน และมีอีกหลายสิ่งที่น่าค้นหา ความงามที่อยู่ในตัวผู้หญิงคือสิ่งมหัศจรรย์ที่โลกได้สร้างขึ้นมา Kevin Mathison ช่างภาพมืออาชีพชาวเมือง Torrance รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เล็งเห็นถึงความงามที่อยู่ในตัวผู้หญิงทุกคน รวมทั้งไลฟ์สไตล์และแฟชั่น โดยเฉพาะความเซ็กซี่ที่มีอยู่ในตัว เขาอยากที่จะเก็บความงามเหล่านี้มาเผยแพร่ให้กับทุกคนให้รู้ว่าความสวยที่แท้จริงของผู้หญิงคืออะไร ความเซ็กซี่ของผู้หญิง ผู้หญิงสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ทุกแนว ความสวยงามภายนอกและภายในคือสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงมีค่า . สวยจากภายในสู่ภายนอก ผู้หญิงทุกคนมีความเซ็กซี่อยู่ในตัว อยู่ที่ว่าใครจะมอง . รอยยิ้ม อีกหนึ่งเสน่ห์ที่ผู้หญิงทุกคนมีในตัว เพียงแค่สายตาก็สามารถสะกดใจชายได้ ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยร่างกายมากก็เป็นที่จับตามอง . ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ . ผู้หญิงแนวสปอร์ต ช่างดีต่อใจ หนุ่มๆ ทั้งหลายหายใจหายคอไม่สะดวกกันเลยทีเดียว . มุมเผลอๆ ของผู้หญิงบางครั้งก็สะดุดใจชายเหลือเกิน . รอยยิ้มอันแสนสดใส ยิ้มบ่อยๆ ทำให้สวยขึ้นนะ ยิ่งฉลาด…
-
อยู่กันมาตั้งหลายปี เคยสงสัยกันมั้ยว่าทำไม ‘คริสต์มาส’ ถึงต้องฉลองกันในวันที่ 25 ธันวาคม?
ถ้าหากมีคนถามว่าทำไมเราฉลองคริสต์มาสกันในวันที่ 25 ธันวาคม เชื่อว่าคนไทยกว่าครึ่งจะต้องตอบว่าเพราะเป็นวันประสูติของพระเยซูกันอย่างแน่นอน แต่เชื่อไหมล่ะว่าความเชื่อนี้ที่ว่าพระเยซูประสูติในวันนี้นั้น ไม่มีเขียนอยู่ในคัมภีร์ไบเบิลเลยแม้แต่น้อย ถ้าอย่างนั้นมีหลักฐานอะไรมาบอกไหมล่ะว่าวันคริสต์มาสไม่ใช่วันประสูติพระเยซู สารานุกรมคาทอลิกระบุไว้ว่า “ไม่มีเดือนใดในปีที่เจ้าหน้าที่ผู้มีเกียรติ ไม่ได้ตั้งให้เป็นวันประสูติพระคริสต์” อีกสาเหตุหนึ่งที่บอกว่าพระเยซูไม่ได้ประสูติในเดือนธันวาคมคือ คัมภีร์ไบเบิลบท ลูกา 2:8 ที่ว่าในระหว่างที่พระเยซูได้ประสูติ “ไม่ไกลจากที่นั่น มีคนเลี้ยงแกะอยู่ในทุ่งกำลังเฝ้าฝูงแกะตอนกลางคืน” ตามปกติแล้วจะไม่มีคนเลี้ยงแกะพาแกะออกมาในฤดูหนาว ลูกา 2:1-4 ยังบอกอีกว่า โยเซฟพามารีย์ไปจดทะเบียนที่เมืองเบธเลเฮมในตอนที่ออกัสตัสซีซาร์ออกคำสั่งให้ทุกคนทั่วอาณาจักรไปจดทะเบียนสำมะโนครัว และเป็นเวลาเดียวกับที่พระเยซูประสูติ คำสั่งที่ว่าไม่ได้ออกมาในฤดูหนาว ถ้าอย่างนั้นแล้ว ในวันที่ 25 ธันวาคม มีอะไรมันเกิดอะไรขึ้นกันล่ะ ในสมัยของศาสนาโบราณ วันนี้เป็นวันเลี้ยงฉลองพระเสาร์และวันประสูติของ เทพแห่งดวงตะวัน Mithra เดิมทีแล้ววันเลี้ยงฉลองพระเสาร์จะเริ่มจากวันที่ 17 ธันวาคม แต่ก็มีการยืดงานไปจนถึงวันที่ 25 ธันวาคม ชาวโรมันโบราณเชื่อว่างานเลี้ยงฉลองนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพแห่งการเก็บเกี่ยวและการเลี้ยงสัตว์ ส่วน Mithra นั้นเชื่อกันโดยชาวโรมันโบราณว่าเขาประสูติในวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันศักดิ์สิทธิ์จากศาสนาโบราณจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม Mithras แท้จริงแล้วมีต้นกำเนิดมาจากทางเปอร์เซีย ในช่วง 6 ศตวรรษก่อนคริสตกาลนั่นเองภาษายุคเก่าเรียกท่านว่า Mitra และเพี้ยนเป็น Mithras ในภาษาโรมันในที่สุด ว่ากันว่าคนโรมันพบเรื่องของเทพองค์นี้ตอนบุกไปเปอร์เซีย ปีใหม่ของผู้นับถือ Mithras และวันประสูติของท่านจะถูกจัดในวันเดียวกันคือวันที่ 25…
-
15 ความเฮียของมนุษย์ปั๋ว นี่คงเป็นความรักที่ฝ่ายหญิงไม่อาจจะสามารถเข้าใจได้…
สำหรับคู่รักหลายๆ คู่ที่คบกันมานาน แน่นอนว่าต้องมีอยู่บ่อยครั้งที่ความคิดเห็นของคุณและแฟนหนุ่มนั้นไม่ค่อยจะไปในทางเดียวกัน เนื่องจากบางครั้งการสื่อสารของคุณและคู่รักนั้นอาจจะไม่ตรงกันนั่นเอง แต่เชื่อเถอะสาวๆ บางครั้งหนุ่มๆ เองเค้าก็อยากจะเอาใจพวกคุณเหมือนกัน เหมือนกับภาพเหล่านี้ที่จะทำให้คุณเห็นว่าพวกผู้ชายนั้นเขารักคุณมากแค่ไหน!! 1. นี่คือเค้กที่ชายหนุ่มคนหนึ่งมอบให้กับแฟนเขา โดยมีข้อความว่า “คุณตด” อืม… สงสัยว่าฝ่ายหญิงท่าจะชอบผายลมนะเนี่ย!! 2. ชายหนุ่มที่แกล้งแฟนสาวด้วยการ ซ่อนรูปเจ้าตัวตลกไว้ในทุกๆ ที่ 3. ฉันต้องการแหวน 3 กะรัตว้อยย ไม่ใช่ 3 แครอท!! 4. ถ้าหากสาวๆ คนไหนที่เป็นแฟนซีรีส์ Game Of Thrones คงจะเข้าใจความหมายของภาพนี้เมื่อคุณเจอมันในห้องน้ำได้เป็นอย่างดี!! 5. บางครั้งความหมายของตัวอักษรที่อยู่บนหมอน ก็อาจจะเปลี่ยนไปได้ด้วยฝีมือของคุณสามี!! 6. เมื่อสามีสุดที่รักของคุณอยากจะบอกว่าคุณนอนกรน แต่ไม่กล้าพูดกับคุณตรงๆ (มันคือแผ่นแปะกันกรน) 7. แฟนหนุ่มที่ชอบสร้างงานศิลปะไว้บนหลังแฟนสาว และนี่คือผลงานของเขา!! 8. ปลอกหมอนรูปหน้าดาราดัง จากสามีที่รู้ใจ 9. ที่รักทิชชู่หมดแล้ว…
-
ที่มาของ “เฮนน่า” ศิลปะบนเรือนร่างจากยุคโบราณ ที่ยังมีศิลปินอนุรักษ์ไว้จนถึงทุกวันนี้
สำหรับใครที่ชื่นชอบงานศิลปะบนเรือนร่าง ไม่ว่าจะเป็นการสักหรือการเพนต์ร่างกาย คงจะคุ้นเคยหรือได้ยินชื่อการสักด้วยหมึกที่สามารถจางออกเองได้อย่างการสัก “เฮนน่า” กันมาบ้างแน่ๆ อันที่จริงแล้วการสักแบบนี้ไม่ใช่ศิลปะที่เพิ่งเกิดขึ้นมาบนโลกนี้หรอกนะ แต่มันถือว่าเป็นหนึ่งในศิลปะจากยุคโบราณเลยทีเดียว และวันนี้เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับต้นกำเนิดของงานศิลปะชิ้นนี้กัน!! เฮนน่ามาจากไหนกันนะ!? อันที่จริงนั้นเฮนน่าคือชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ในพื้นที่ของทวีปแอฟริกาและทางตอนเหนือของทวีปเอเชีย โดยดอกของเจ้าพันธุ์ไม้ชนิดนี้มักนิยมนำมาใช้ในการทำน้ำหอม ส่วนใบของมันนั้นมักจะนำมาใช้สกัดเป็นสารเรียกว่า Lawsome ที่มีลักษณะเป็นสีส้มหรือแดงเข้ม โดยคุณประโยชน์ของเจ้าสารสกัดที่ว่านี้ก็มีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการใช้สำหรับลดไข้ ทำให้หลับสบาย รักษาอาการปวดหัว รวมถึงย้อมสีผมและผิวได้อีกด้วย ประวัติของการสักเฮนน่า เมื่อประมาณ 1,000 ปีที่แล้ว ศิลปะการสักเฮนน่านั้นเริ่มต้นขึ้นในแถบประเทศอินเดีย แอฟริกาและทางเอเชียตะวันออก แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานที่ระบุว่าประเทศใดเป็นผู้เริ่มต้นการใช้หมึกจากต้นไม้นี้สำหรับการทำงานศิลปะบนเรือนร่าง แต่มีหนึ่งข้อสันนิฐานที่น่าสนใจเผยว่าการใช้หมึกดังกล่าวนั้นน่าจะมีการพัฒนามาจากแถบทะเลทราย เนื่องจากการสักเฮนน่าที่ผิวหนังนั้นจะช่วยทำให้รู้สึกเย็นขึ้น การสักด้วยหมึกดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมาก ในหมู่ของชาวฮินดูและมุสลิมเองก็มีการทำศิลปะบนเรือนร่างนี้สำหรับในงานฉลองหรือวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ ในประเทศอินเดียนั้นพวกเขาจะเรียกวันก่อนจัดพิธีแต่งานว่า “Night of Henna” ซึ่งในวันดังกล่าวนั้นเพื่อเจ้าสาว และฝ่ายหญิงในครอบครัวของเธอจะมีการสักเฮนน่าตามร่างกาย ตามความเชื่อว่าจะเป็นการมอบความโชคดีให้กับคู่บ่าวสาว นอกจากในประเทศอินเดียแล้ว เฮนน่ายังถูกนำไปผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมอื่นๆ และมีการออกแบบลวดลายที่สื่อความหมายแตกต่างกันออกไปอีกด้วย อย่างเช่นในแอฟริกานั้นรูปแบบของรอยสักดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นรูปทรงเรขาคณิตและมีความหนา ส่วนการออกแบบของชาวอาหรับนั้นจะเน้นลวดลายที่ละเอียดอ่อนและมีลวดลายที่สื่อถึงผู้หญิง การสักเฮนน่าที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ . ที่มา mymodernmet
-
โศกนาฏกรรมอันเป็นเบื้องหลังเพลง Zombie ของ The Cranberries ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
เรื่องราวที่น่าเศร้านั้นสามารถเกิดขึ้นได้เสมอรอบตัวเรา โดยไม่มีใครทราบว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับใครและเมื่อไหร่ บางครั้งเหตุการณ์เลวร้ายก็อาจเกิดขึ้นโดยที่เราไม่คาดคิด จนทำให้เราตราตรึงกับภาพเหตุการณ์น่าเศร้าที่เกิดขึ้น เริ่มต้นปี 2018 มาไม่ทันไร ก็มีข่าวร้ายอันน่าเศร้าเกิดขึ้นเสียแล้ว เมื่อนักร้องสาวชาวไอริช Dolores O’Riordan นักร้องนำแห่งวง The Cranberries ได้เสียชีวิตในวัย 46 ปี ผลงานชิ้นสำคัญที่ทำให้ Dolores และ The Cranberries โด่งดังก็คือบทเพลงที่ชื่อว่า “Zombie” ที่ปล่อยออกมาในปี 1994 ซึ่งเพลงนี้ก็ได้กลายเป็นเพลงมีชื่อเสียงไปทั่วโลกที่แทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก เพลง Zombie นอกจากจะเป็นเพลงที่ติดหูใครหลายๆ คนแล้ว เบื้องหลังของเนื้อหาในเพลงยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจอีกด้วย เพราะที่มาที่ไปของมันนั้นเกิดจากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจริงในประเทศอังกฤษ แต่ก่อนที่เราจะลงลึกไปยังเบื้องหลังของบทเพลง เราไปฟังเพลง Zombie แบบเต็มๆ กันก่อนดีกว่า ในวันที่ 20 มีนาคม 1993 มีระเบิดถูกวางซ่อนไว้ในถังขยะ ในเมืองวอร์ริงตัน โดยชนกลุ่มน้อยชาวไอริช การระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบราย และสิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือมีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นเด็กชาย Tim Parry วัย 12 และ Jonathan Ball วัย 3…
-
ทำร้ายใจ… หนุ่มได้ออกเดตกับสาวในรายการ Take Me Out แต่เหตุผลคือเธอลืมปิดไฟ
บางครั้งดวงความรักก็ไม่เข้าใครออกใครเลยจริงๆ เรื่องราวของของคุณ Phil นักมายากลหนุ่มจืดที่ถึงกับจ๋อยหลังจากคู่เดตของเขาในรายการ Take Me Out ได้สารภาพว่าจริงๆ แล้วเธอไม่ได้เลือกเขาเลย แต่เธอลืมปิดไฟต่างหาก “มันมีเรื่องบางอย่างที่เลวร้ายมากที่ฉันจะบอกกับคุณ” Bella คู่เดตของชายหนุ่มบอกกับเขาก่อนที่เธอจะพูดบางอย่างที่ทำให้ Phil ถึงกับอึ้ง คำสารภาพของหญิงสาวเกิดขึ้นในระหว่างการเดตของทั้งสองใต้แสงจันทร์ริมชายหาด Bella สบตากับคู่เดตของเธอก่อนที่จะยอมรับออกมาตรงๆ ว่า “ฉันหลงใหลในมายากลของคุณจริงๆ ตอนนั้นฉันกดปิดไฟแต่ว่ามันก็สายไปเสียแล้ว” หลังจากที่ได้ยินคุณ Phil ของเราถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว เขาตอบกลับฝ่ายหญิงไปว่า “อืม ตอนนั้นผมน่าจะกดปิดไฟนะ ถ้ารู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจเปิดมันไว้” และนี่คือการออกเดตของทั้งคู่ (ดูไม่ได้กด ที่นี่) Savage… ? Don’t worry, Phil! We bet there’s plenty of viewers wanting to take you to Fernando’s! #TakeMeOut pic.twitter.com/qUo80g5NcY — Take Me Out (@takemeoutuk) 13 มกราคม…
-
หญิงสาวแต่งตัวเลียนแบบ “แจ็ก สแปโรว์” ตัดสินใจแต่งงานกับผีโจรสลัดจากศตวรรษที่ 18
แน่นอนว่าการเรื่องน่ายินดีเช่นการแต่งงานนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนสองคนมีความรักให้แก่กันและสัญญาว่าจะดูแลกันตลอดไป แต่เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น หญิงสาวคนหนึ่งตกหลุมรักและแต่งงานกับคนที่ตายไปตั้งนานแล้ว! โดยเรื่องราวมีอยู่ว่าหญิงวัย 45 ปีนามว่า Amanda Teague จากเมืองดาวน์แพทริค ไอร์แลนด์เหนือ ตัดสินใจที่จะแต่งงานกับโจรสลัดชาวเฮติชื่อว่า Jack ซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ทั้งคู่มีการออกเดตกันเหมือนคู่รักปกติ โดยล่าสุดทั้งคู่ได้ล่องเรืออกไปสู่น่านน้ำสากลที่ซึ่งงานแต่งงานของพวกเขาได้เกิดขึ้น ในพิธีแต่งงาน ถึงจะมองไม่เห็นตัวของ Jack แต่ Amanda เองก็ได้ยินคำว่า “ฉันยอมรับหญิงคนนี้เป็นภรรยา” ได้จากคนทรงเจ้า ถึงเธอจะไม่เคยเจอ Jack มาก่อน แต่เธอเชื่อว่าเขามีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับ Captain Jack Sparrow ในภาพยนตร์เรื่อง Pirates of the Caribbean และ Amanda เองก็ยังเป็นผู้แต่งคอสเพลย์ตัวของ Captain Jack Sparrow อีกด้วย Amanda กล่าวว่า “มีหลายคนยังไม่รู้ถึงการมีอยู่ของความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณ ซึ่งสำหรับพวกเขามันก็อาจจะใช่ ฉันอยากจะรู้ถึงสิ่งที่วิญญาณต้องการจะสื่อ” เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2014 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสถึงวิญญาณของ Jack ได้ และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็พูดคุยกันเรื่อยมา เธอยังบอกอีกว่าเธอไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครมากขนาดนี้มาก่อน และ…
-
การ์ดยูกิ ‘บลูอายอัลติเมทดราก้อน’ ระดับโคตรแรร์ โผล่วางขายในย่านอากิฮาบาระ ราคา 13 ล้านบาท!!
แม้กระแสการ์ดเกมสุดคลาสสิกอย่าง การ์ดยูกิ ในบ้านเราจะเบาบางลงไปมากแค่ไหน แต่กระแสการ์ดดังกล่าวในเมืองนอกโดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นยังคงร้อนแรงไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนการ์ดหายากด้วยเงินจริง… ล่าสุดได้มีชาวเน็ตญี่ปุ่นนามว่า @saku06s ซึ่งเขาเป็นคนที่ซื้อขายการ์ดเป็นชีวิตจิตใจ และก็ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นการ์ดยูกิเพียงอย่างเดียว แต่ความพีคของเรื่องมันอยู่ที่การ์ดใบที่เขาไปเจอต่างหาก @saku06s บอกว่าระหว่างที่เขากำลังเดินอยู่ในย่านอากิฮาบาระ ซึ่งเป็นย่านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องสินค้าจากอนิเมะและเกม โดยเขาบังเอิญเจอกับการ์ดยูกิสุดหายากที่มีมูลค่ากว่า 45 ล้านเยน หรือตีเป็นเงินไทยก็สูงถึง 13 ล้านบาท!! หลายคนคงงง การ์ดยูกิบ้าอะไรแพง 13 ล้าน ซึ่งตอนแรก #เหมียวมู่ทู่ ก็ไม่เชื่อ แต่พอรู้ว่าการ์ดดังกล่าวคือการ์อะไรและมีที่มาที่ไปยังไงก็ได้ถึงบางอ้อทันที การ์ดที่ว่านั่นก็คือการ์ด ‘บลูอายอัลติเมทดราก้อน’ แต่เป็นเวอร์ชันแรร์ที่มีภาพแตกต่างจากปกติ โดยระดับความหายากของมันนั้นจัดอยู่ระดับท็อปเลยก็ว่าได้ เพราะว่าใบที่เป็นของแท้นั้นมีเพียงใบเดียวในโลก โดยเป็นการ์ดที่มอบให้กับผู้ชนะการแข่งขันรายการ Asian Tournament Promos: 2001 (การ์ดนี้จะเป็นรางวัลในงานแข่งที่ 3 ของทัวร์) งานนี้ใครเป็นนักสะสมเห็นแล้วคงจะต้องตาลุกวาวแน่นอน แต่ที่พีคกว่าคือ เจ้าบลูอายอัลติเมทดราก้อนนี้เป็นเพียง 1 ใน 5 ใบที่แจกในการแข่งขันดังกล่าว ซึ่งนั่นหมายความว่ายังมีการ์ดราคาระดับนี้อยู่บนโลกอีก 4 ใบ! ฉะนั้นไม่แน่คนที่ได้ไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อนอาจจะยอมตัดใจเอามันมาขายแล้วก็ได้นะใครจะรู้… ที่มา rocketnews24
-
เผยโฉม “ชุดเจ้าสาว” สง่างาม เลอค่าประดุจเจ้าหญิง จนคนกดหัวใจให้กว่า 200,000 ครั้ง!!
ผู้หญิงหลายๆ คนต่างก็มีความใฝ่ฝันที่อยากจะสวมชุดแต่งงานสวยๆ ในวันวิวาห์ของตัวเอง ไม่ว่าใครก็อยากจะสวยที่สุดในวันที่สำคัญที่สุดในชีวิต ว่าที่เจ้าสาวแต่ละคนก็มีสไตล์ในการเลือกชุดแต่งงานแตกต่างกันไป แต่ในวันนี้ #เหมียวบู้บี้ จะมานำเสนอชุดแต่งงานสุดสวยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอินสตาแกรม ชุดแต่งงานชุดนี้ถูกออกแบบโดย Ivan Gunaway เป็นชุดแต่งงานแขนยาวประดับไข่มุกหลายร้อยเม็ด ปกปิดหน้าอก มีความเรียบร้อยบริสุทธิ์ กระโปรงยาวฟูฟ่อง อย่างกับชุดของเจ้าหญิงในเทพนิยาย ชุดดังกล่าวนี้เป็นของเจ้าสาวชาวอินโดนิเซียที่ชื่อว่า Intan Azzahra เจ้าสาวแต่งหน้าสวย เกล้าผมสูง แต่งด้วยรัดเกล้าระยิบระยับพร้อมกับใส่ต่างหูมุกสีม่วง ดูแลแล้วสวยออร่าจับเหมือนเจ้าหญิง . ส่วนทาง Zendhy Zaen เจ้าบ่าวก็ไม่น้อยหน้า สวมชุดเครื่องแบบสีขาวติดยศ คาดด้วยสายสะพายสีชมพู เคียงคู่กับเจ้าหญิงในชีวิตจริงของเขา งานวิวาห์ถูกจัดขึ้นอย่างอลังการเหมือนในนิทาน ปราสาทน้อยใหญ่ต่างๆ ถูกจัดไว้เป็นพื้นหลัง นอกจากนั้นยังไม่พอ ทางเจ้าสาวยังมีอีกชุดในช่วงงานเย็น นั่นก็คือชุดราตรีขนนกสีแดงเพลิงสุดอลังการ ประดับเพชรพลอยหลายร้อยเม็ดเช่นเดิม ส่วนชุดของทางเจ้าบ่าวก็มาในชุดสูทสีแดงเช่นกัน ชุดแต่งงานสุดสวยนี้ได้รับความนิยมชาวผู้ใช้งานอินสตาแกรมจำนวนมาก ได้ยอดไลก์ไปมากกว่า 200,000 ครั้งสำหรับชุดแต่งงานสุดอลังการนี้ เกิดมาแต่งงานครั้งหนึ่งก็ต้องจัดหนักจัดเต็มกันหน่อย ไม่ว่าใครๆ…
-
สาวถึงกับงงเต๊ก เมื่อแม่ซื้อไอศกรีมมา เปิดในกล่องกลับเป็นสปาเก็ตตี้ ยังดีที่ร้านค้ารับผิดชอบให้…
สาวชาวฟิลิปปินส์ Nikki Calalang โพสต์เรื่องราวสุดขำ เป็นเรื่องราวประสบการณ์ตรงของคุณแม่ที่ได้ไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตในเมือง San Fernando เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา แต่เรื่องราวการช็อปปิ้งแบบธรรมดาๆ นี้กลับกลายเป็นเรื่องตลกไปได้ เมื่อแม่ของเธอซื้อไอศกรีมมากะจะนั่งกินที่บ้านแบบชิลๆ เลือกรสอัลมอนด์บราวนี่ฟัดจ์สุดโปรดหน้าตาน่ากินกล่องนี้ พอถึงบ้านก็เปิดถุงจะเอาไอศกรีมมาทานแต่เมื่อเปิดกล่องก็ต้องตกตะลึง ตะลึง ตะลึง ตึง ตึง เอ๊ะ นี่มัน สปาเก็ตตี้!!!! เปิดกล่องไอศกรีมแต่กลายเป็นสปาเก็ตตี้แช่แข็งแบบนี้คุณแม่ถึงกับขำไม่ออก กะจะกินไอศกรีมชิวๆ แต่มันกลับกลายเป็นสปาเก็ตตี้ไปได้ อ้าวเห้ย ทำไมไม่ตรงปก สาว Nikki ได้โพสต์รูปภาพไอศกรีมที่กลายเป็นสปาเก็ตตี้นี้ลงบนหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอ แต่มันกลับกลายเป็นไวรัลที่มีผู้คนเข้ามาแชร์และคอมเมนต์กันอย่างมากมาย . เธอโพสต์ว่า “แม่ของฉันซื้อไอติมมาจากร้าน Walter Mart San Fernando แต่พอฉันเปิดดูแล้วมันกลับกลายเป็นสปาเก็ตตี้แช่แข็ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า สวัสดี Walter Mart Supermarket เราต้องการคืนเงิน ฉันอยากได้ไอติมนะ ไม่ใช่สปาเก็ตตี้”…
-
สามีภรรยาถูกจับหลังขังลูก 13 คนไว้ในบ้านโดยการล่ามโซ่ พี่วัย 17 หนีออกมาได้จึงแจ้งตำรวจ
เกิดเหตุการณ์สุดสลดเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 911 ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากหญิงสาวคนหนึ่งที่หนีออกจากบ้าน เหตุเกิดขึ้นที่เมือง Perris รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากการรายงานข่าวของสำนักข่าว Dailymail ได้กล่าวว่า หญิงที่ขอความช่วยเหลือไปยังตำรวจ 911 เป็นหญิงวัยรุ่นอายุ 17 ปี เธอบอกกับตำรวจว่าขอให้ช่วยเหลือเธอและพี่น้องของเธออีก 12 คนที่ถูกขังไว้ภายในบ้าน เธอแจ้งพิกัดสถานที่และหวังว่าตำรวจจะมาช่วยพวกเธอให้ออกไปจากบ้านหลังนี้ได้ ทางตำรวจเมื่อได้รับเรื่องแล้วก็เดินทางไปยังสถานที่ที่ได้แจ้งไว้ ทันทีที่ไปถึงที่บ้านก็แสดงตัวขอตรวจค้นภายในบ้าน พอเปิดเข้าไปที่ห้องก็ต้องผงะกับกลิ่นเหม็นที่โชยออกมาและที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือเด็กหญิงชายจำนวน 12 คนถูกล่ามโซ่ติดไว้กับเตียง แต่ละคนร่างกายสกปรกมอมแมมและผอมมาก หลังจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ที่ถูกกักขังนั้นมีอายุตั้งแต่ 2 ถึง 29 ปี ทุกคนถูกช่วยเหลือและนำตัวส่งไปที่ศูนย์พิทักษ์เด็กและเยาวชน ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นผู้กักขังเหยื่อทั้ง 13 คนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือพ่อแม่ของพวกเขานั่นเอง นาย David Allen Turpin อายุ 57 ปีและนาง Louise Anna Turpin อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาถูกจับกุมตัวในทันทีและถูกตั้งข้อหากักขังและหน่วงเหนี่ยวให้ได้รับความทรมาน เบื้องต้นทั้งคู่ถูกฝากขังไม่ให้ติดต่อกับลูกๆ …
-
คุณแม่ลูก 5 โชว์วิธีจัดการก่อนพาไปโรงเรียน ช่วยประหยัดเวลาได้อีกเยอะเลย!!
เชื่อว่าคุณแม่ๆ ทั้งหลายคงจะต้องเคยประสบพบเจอกับปัญหาโลกแตกในทุกๆ เช้า นั่นก็คือการจัดการเจ้าตัวน้อยทั้งหลายให้ไปโรงเรียนได้ทันตามเวลา ไหนจะเรื่องอาหาร เรื่องเสื้อผ้า เหนื่อยกันตั้งแต่เช้าเลยชีวิตแม่บ้าน คุณ Jessica Louise-Groves อายุ 29 ปี คุณแม่ลูก 5 ชาวเมืองบาลลินารัฐนิวเซาท์เวล ประเทศออสเตรเลีย หนึ่งในผู้ประสบปัญหาการจัดการส่งคุณลูกไปโรงเรียนในทุกๆ วัน ด้วยความที่เธอมีลูกถึง 5 คน นั่นก็หมายความว่าเธอต้องเหนื่อยคูณ 5 ในทุกๆ เช้าเลยทีเดียว คุณแม่เลยต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้เพื่อความสะดวกสบายในชีวิต เพื่อให้ลูกๆ ของเธอ Ruby, Harlan, Nate, Theo และ Luna ได้ไปโรงเรียนแบบทันเวลาพอดีด้วยการคิดค้นวิธีแบบบ้านๆ แต่สามารถจัดการได้อย่างถูกจุดนั่นก็คือการจัดทำ “สถานีกระเป๋า” นั่นเอง เจ้าสถานีกระเป๋านี้คุณแม่บอกว่าเธอได้นำชั้นวางของที่เธอซื้อมาจากร้านขายเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป ร้านที่เธอซื้อนั้นมาจากร้าน Kmart แถวบ้านเธอนั่นเอง ราคาประมาณ 4,100 บาท และเธอก็ได้จัดแจงให้คุณสามีต่อชั้นวางของเพื่อทำเป็นสถานีกระเป๋าเพื่อคุณลูก เจ้าสถานีกระเป๋านี้แบ่งออกเป็นช่องๆ ของลูกแต่ละคน มีที่วางกระเป๋า รองเท้า หมวก…
-
15 เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ กับการมีประจำเดือนและความขมขื่น ที่ผู้หญิงในอดีตยากจะหลีกเลี่ยง
ในอดีตกาล วิทยาศาสตร์หรือความรอบรู้ยังไม่เจริญก้าวหน้าเท่ากับปัจจุบัน จึงทำให้เกิดความเชื่อหลายๆ อย่างที่ผิดไปจากความเป็นจริง อย่างเช่นความเชื่อในเรื่องประจำเดือนของผู้หญิง ช่วงก่อนศตวรรษที่ 19 แพทย์ในยุคนั้นเชื่อว่าผู้หญิงหลั่งเลือดออกมาเพื่อระบายความร้อน อารมณ์และความรู้สึกที่ผิดปกติ ซึ่งมันผิดไปจากความเป็นจริงที่เกี่ยวข้องกับการตกไข่ แต่คนในยุคนั้นไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องนี้มาก่อน นอกจากความเชื่อแบบนี้แล้ว ยังมีความเชื่อหรือตำนานแปลกๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของประจำเดือน เราลองไปรับรู้พร้อมๆ กันเลยยย 1. ชาวโรมันโบราณเชื่อว่าผู้หญิงที่มีประจำเดือนคือแม่มดมนต์ดำ นักปรัชญาชาวโรมัน Pliny The Elder บอกว่าผู้หญิงที่มีประจำเดือนจะสามารถบังคับพายุฝนฟ้าคะนอง ลมบ้าหมู ฟ้าผ่า และความแห้งแล้งอุดมสมบูรณ์ได้ รวมถึงเวทมนตร์ที่ใช้ป้องกันตัวอย่างการฆ่าสัตว์ที่จะเข้ามาทำร้ายเพื่อแค่การมอง เลือดเมนส์ที่ไหลออกมาก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดหมาบ้าขึ้นมาอีกต่างหาก 2. ชาวอียิปต์โบราณนำกระดาษพาไพรัสแบบอ่อนมาใช้เป็นผ้าอนามัยแบบสอด ชาวอียิปต์ใช้กระดาษดังกล่าวพันรอบๆ แท่งไม้เพื่อใช้เป็นผ้าอนามัยแบบสอดและช่วยในเรื่องของการคุมกำเนิด ในขณะที่ชาวโรมันใช้ขนสัตว์ในการทำผ้าอนามัยแบบเดียวกัน 3. ชาวยุโรปในยุคกลางจะเผาคางคกเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดียิ่งขึ้น นักประวัติศาสตร์ Amy License บอกถึงวิธีการที่ง่ายมากๆ เพียงแค่จับคางคกมาเผาในหม้อ แล้วนำขี้เถ้าของมันไปใส่ถุงเอาไว้ โดยพกพาถุงที่ใส่ขี้เถ้านั้นให้มันอยู่ใกล้ๆ กับช่องคลอด เท่านี้เลือดลมก็ไหลเวียนดีขึ้นแล้ว 4. ชาวฝรั่งเศสเชื่อว่าการมีเพศสัมพันธ์ตอนที่เมนส์มาจะทำให้มีสัตว์ประหลาดคลอดออกมา ตามข้อมูลจาก The Curse: A Cultural…
-
ชีวิตอีกด้านของ ‘เด็กเสี่ย’ วัย 20 มีตั้งแต่ทริปไปฮาวาย กระเป๋าดีไซน์เก๋ พร้อมเปย์การศึกษา
นักศึกษาหลายๆ คนอาจประสบปัญหาเงินไม่พอใช้ในชีวิตประจำวันหรือไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม ทำให้ต้องหางานเสริมทำระหว่างเรียน แต่สำหรับเธอคนนี้กลับมีรายได้ที่ต่างออกไป เพราะเธอไม่ได้รับเงินจากงานแต่เธอรับเงินจาก “ป๊ะป๋า” ที่ช่วยส่งเสียค่าเล่าเรียนให้เธอ ซึ่งเราอาจจำกัดความได้ว่าเธอคือ “เด็กเสี่ย” นั่นเอง นี่คือเรื่องราวของ Jessica นักศึกษาสาววัย 20 ปี ลูกครึ่งออสเตรเลีย-เวียดนาม เธอกำลังศึกษาอยู่ในคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย แต่ขณะที่เธอกำลังตั้งหน้าตั้งตาเรียนอยู่นั้น หญิงสาวก็ได้ไปเจอกับเว็บไซต์หนึ่งที่ทำให้การใช้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป Jessica เล่าว่าในตอนแรกนั้นเธอได้เห็นคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการมองหารายได้เสริม ทำให้เธอรู้จักกับเว็บไซต์ที่มีไว้สำหรับการนัดเดตกันระหว่างเด็กเสี่ย (Sugar Baby) และ ป๊ะป๋า (Sugar Daddy) ซึ่งหมายถึงเสี่ยที่จะคอยช่วยเลี้ยงดูพวกเธอ เธอได้เห็นการใช้ชีวิตของเด็กเสี่ยหลายๆ คนที่ได้รับข้อเสนอในเรื่องการจ่ายค่าเทอมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้เธอเกิดความสนใจขึ้นมาและสมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซต์นั้น ด้วยความที่เธอเป็นคนตั้งใจเรียน หุ่นดี เป็นถึงเชียร์ลีดเดอร์และคุณครูสอนร้องเพลง ทำให้ผู้ชายจำนวนมากรู้สึกสนใจและส่งข้อความมาหาเธอ แต่ข้อความส่วนใหญ่นั้นจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอต้องการ เพราะผู้ชายบางคนติดต่อหาเธอเพื่อการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด หรือข้อเสนอที่จะจ่ายเงินให้กับเธอทุกครั้งที่ออกไปเดตกับเขาเท่านั้นเอง เธอบอกว่าการจะเป็นเด็กเสี่ยไม่ใช่การรับเงินเป็นครั้งคราวหรือการมีเพศสัมพันธ์กันเพียงอย่างเดียว เพราะเด็กเสี่ยไม่ใช่ผู้หญิงขายบริการ สิ่งที่สาวๆ อย่างเธอต้องการคือความสัมพันธ์ระยะยาวที่ทำให้พวกเธอสามารถมั่นใจได้ว่า จะมีรายได้จากชายคนนั้นเข้ามาอยู่เสมอ เมื่อหญิงสาวเข้าใจแล้วว่าตัวเองสมัครเข้ามาเพราะอะไร เธอก็ใช้เวลาเป็นเดือนๆ ในการหาคนที่จะเข้ามาดูแลการเงินของเธอได้…
-
Kabang เจ้าหมาฮีโร่ ช่วยชีวิตเด็ก 2 คนจากจักรยานยนต์พุ่งชน จนต้องเสียโฉมไป
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เจ้าหมาน้อยตัวหนึ่งยอมเสี่ยงชีวิตของมันเพื่อเข้าช่วยเหลือเด็กน้อย 2 คนจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งชน เด็กน้อย 2 คนปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่ทว่าเจ้า Kabang น้องหมาซุปเปอร์ฮีโร่ของเรากลับต้องสูญเสียปากส่วนบนของมันไป เจ้า Kabang ฮีโร่ตัวน้อยผู้ช่วยชีวิตเด็กหญิง 2 คน จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่าเจ้าตูบได้กระโดดเข้าช่วยเหลือเจ้านายน้อยวัย 9 ขวบและ 3 ขวบของมันที่กำลังจะถูกรถจักรยานยนต์พุ่งชน Kabang ได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ในเมือง Zamboanga ประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล Davis ที่สหรัฐอเมริกาในเดือนตุลาคมปี 2012 หลังจากที่ได้รับการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือค่ารักษาจากหลายๆ ฝ่าย เจ้าตูบเข้ารับการรักษาตัวนานถึง 7 เดือน และนอกจากการสูญเสียปากส่วนบนแล้วทางทีมแพทย์ยังพบว่า Kabang มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของมะเร็งอีกด้วย นั่นจึงทำให้การผ่าตัดของมันล่าช้าออกไป เจ้าตูบจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดนานกว่า 6 สัปดาห์ ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาแผลที่ปาก ถึงแม้ว่าจะถูกเลื่อนออกไปมากว่า 1 ปี แต่การผ่าตัดสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทีมแพทย์ได้วางแผนการผ่าตัดศัลยกรรมไว้ 2 ขั้นตอน ในส่วนแรกจะเป็นส่วนของงานทางด้านทันตกรรมโดยจะทำการรักษารากฟันและส่วนที่เหลืออยู่ ในขั้นตอนที่ 2 จะเป็นการรักษากับส่วนเนื้อที่สัมผัสกับอากาศเพื่อป้องกันการติดเชื้อ การผ่าตัดศัลยกรรมของ…
-
รวม 9 ยอดเว็บไซต์ไร้ประโยชน์ เหมาะสำหรับคนที่อยากเผาเวลา ดีกว่าอยู่เปล่าๆ ปลี้ๆ!!
เวลาถือเป็นหนึ่งในทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในชีวิตของคน เพราะเวลาเมื่อเสียไปแล้วเราไม่สามารถจะดึงมันกลับมาได้ ฉะนั้นคนส่วนใหญ่จึงต้องตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองและจัดสรรเวลาให้ดี เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่เสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ แต่ว่าก็ยังมีกลุ่มคนบางประเภทที่รู้สึกว่า ชีวิตนี้นั้นมันไม่มีอะไรเลย อยากจะนั่งเฉยๆ หรือไม่ก็อยากหาอะไรฆ่าเวลาให้มันผ่านๆ ไป แต่คนเหล่านี้ก็ไม่รู้ว่าชีวิตจะต้องทำอย่างไรดีนั่นเอง… วันนี้ #เหมียวมู่ทู่ เลยจะมาเสนอ 9 เว็บไซต์สุดไร้สาระ ไม่รู้จะมีไปทำบ้าอะไร แต่มันก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฆ่าเวลาไปเฉยๆ นั่นเอง ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง จะไร้สาระขนาดไหน มาครับ เชิญเสียเวลาไปพร้อมๆ กัน!! (กดเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ได้จากตัวหัวข้อเลยนะ) Caffeineinformer เว็บคำนวนเครื่องดื่มคาเฟอีนที่กินได้ต่อวันตามน้ำหนักของเรา นอกจากนั้นยังช่วยคำนวนว่ากินเท่าไหร่ถึงจะตายด้วยนะ… Chicken on a Raft เว็บนี้ไม่มีอะไรมากนอกจากเพลงที่เล่นไปเรื่อยๆ กับตัวหนังสือที่บอกว่าเราเป็นไก่บนแพมานานแค่ไหนแล้ว…ห๊ะ!! อะไรนะ? ก็ใช่ไง มันมีแค่นั้นแหละ ไม่มีอะไรเลย… Donothing for 2 minutes คุณรู้สึกอยากพักสายตาไหม อยากทดสอบตัวเองว่าจะไม่ยุ่งกับคอมพิวเตอร์ได้นานเกินสองนาทีไหม? ถ้าคุณอยากทำอะไรแบบนั้น เว็บนี้คือคำตอบสำหรับคุณ มันจะนับเวลาที่คุณไม่ได้พิมพ์หรือจับเมาส์เป็นเวลา 2 นาที ถ้าคุณจับหรือขยับมันก็จะนับเวลาใหม่ How Many…
-
วิถีแห่งการลงโทษพวกจอดรถไม่เป็นที่ เจ้าของร้านที่เดือดร้อนก็ไม่ต้องออกแรงแม้แต่นิดเดียว
ในประเทศไทยทุกวันนี้ หลายครั้งที่เราจะเห็นคนที่จอดรถส่วนบุคคล หรือที่สงวนไว้ให้ลูกค้าของร้านต่างๆ ซึ่งมันเป็นที่ห้ามจอดสำหรับคนที่ไม่ได้มีจุดประสงค์มาซื้อของ ซึ่งคนที่ทำแบบนั้นจะถูกปรับหรือลงโทษอย่างไรก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าคุณไปทำแบบนั้นในประเทศญี่ปุ่นล่ะก็ เจอเจ้าของร้านแก้เผ็ดหนักๆ แน่นอน ในประเทศญี่ปุ่นช่วงนี้เป็นฤดูหนาว มีหิมะตกหนักเต็มไปหมด แต่ประเด็นคือมีคนคนหนึ่งนั้นฉลาดแกมโกง ไปจอดรถในที่จอดรถที่สงวนไว้ให้ลูกค้าของห้าง Across Plaza ในเมืองเอจิเซ็น จังหวัดฟุกุอิ โดยที่ไม่ได้ทำการซื้อของใดๆ แถมยังทิ้งรถไว้อีกด้วย แต่แทนที่จะเรียกตำรวจ พนักงานห้างกลับทำแก้เผ็ดคนจอดรถโดยการ ‘ไม่ทำอะไร’ ซึ่งในที่นี้คือการไม่ทำอะไรจริงๆ รวมถึงไม่จัดการหิมะที่ตกอยู่รอบๆ รถคันนั้นด้วย “ดูเหมือนรถคันนี้จอดผิดกฎของห้างแหละ พวกเขาเลยจัดการให้สมกับเป็นพื้นที่เขตหิมะตก” ผู้ใช้ทวิต @ponkuz ได้ทวิตข้อความพร้อมโพสต์รูป จังหวัดฟุกุอิก็เหมือนกับพื้นที่ในญี่ปุ่นช่วงนี้ ที่อุณภูมิลดต่ำลง และก็มีหิมะตกอย่างหนัก ซึ่งในลานจอดรถของห้างก็เจอหิมะอย่างหนักเช่นกัน แต่ทางห้างก็ได้ทำการเก็บกวาดหิมะออกจากลานจนหมด ยกเว้นที่เดียวคือ รอบๆ รถที่มาจอดผิดกฎของห้างนั่นเอง โดยที่ชาวเน็ตก็แสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ดังนี้ “เป็นการลงโทษที่ฉลาดอะไรขนาดนี้” “นี่เป็นวิธีจัดการกับปัญหาที่เจ๋งชะมัด” “คุณถูกจำคุกเป็นเวลา ‘จนกว่าหิมะจะละลาย’ “ “ถ้านายอาศัยอยู่มาในพื้นที่ที่หิมะตกหนักขนาดนี้ นายก็คงมีวิธีหาพลั่วมาใช้ขุดหาทางออกเองได้นั่นแหละนะ” แต่พอมาถึงเวลากลางคืนรถคันที่ถูกขังอยู่ในคุกน้ำแข็งก็หายไปแล้ว โดยไม่แน่ใจว่าเขาออกไปด้วยวิธีไหนกัน ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @2hphp ทวิตข้อความพร้อมรูปว่า “ตอนนี้เขาหนีไปได้อย่างปลอดภัยแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ” ไม่ว่าเค้าจะหนีออกไปยังไง…
-
หนุ่มอัดคลิปบ่นแม่ ยาวเหยียดเป็นหางว่าว อยู่กันแค่สองคนแต่ซื้อของมาวางไว้เต็มบ้านไปหมด!!
มีใครเป็นมั้ย? แบบว่าชอบซื้อของเข้าบ้าน เห็นอะไรก็ซื้อหมด ใช้ไม่ใช้ค่อยว่ากันทีหลัง จนบางทีข้าวของเต็มบ้านจนแทบไม่มีที่ให้คนอยู่แล้ว คุณไม่เป็น แต่พ่อแม่ของคุณอาจจะเป็นก็ได้ อย่างชายหนุ่มผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า ภูมิพัฒน์ อัจศจรรย์วิริยะตระกูล ที่ออกมาอัดคลิปบ่นคุณแม่ที่ชอบซื้อของเข้าบ้านเกินความจำเป็น จนแทบจะไม่มีที่ให้เดินแล้ว คุณภูมิพัฒน์บอกว่าทั้งบ้านเนี่ยมีกันอยู่สองคนคือแม่และตัวเขา เออ กับเจ้าเหมียวอีก 1 ตัว แต่ดูจากข้าวของที่อยู่ในบ้านและนอกบ้านแล้ว มันมากกว่าบ้านที่มีคนอยู่ 10 คนซะอีก ของบางชิ้นดูเหมือนยังไม่ได้แกะออกจากกล่องด้วยซ้ำ แต่คุณแม่ก็ยังซื้อใหม่มาอีกเรื่อยๆ เพราะแบบนี้ลูกชายเลยต้องออกอัดคลิปบ่นยาวๆ เผื่อคุณแม่จะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป นี่คือคุณแม่พลอย ผู้เสพติดการซื้อของเข้าบ้าน ส่วนนี่คือลูกชายผู้ได้รับความอบอุ่นจากข้าวของในบ้านที่คุณแม่ซื้อมามากเกินไปจนทนไหม่ไหว ว่าด้วยเรื่องหลอดไฟ บ้านนี้ไม่มีความมืดแน่นอน ของใช้ในครัวมีครบหมด แต่ถามว่ามีคนทำกับข้าวมั้ย? ไม่ แล้วนี่คุณแม่จะออกไปไหนอีก อย่าบอกนะว่าไปซื้อของมาเพิ่มหนะ ต้นไม้นี่แม่ก็ชุบแลี้ยงมา แม่บ้านนี้อยู่ดีกินดี ไม่อดตายแน่นอน โต๊ะอาหารซื้อไว้แต่ไม่เคยได้ใช้ ออกไปข้างนอกแต่ล็อคข้างใน หวงบ้านมากจนลืมไปว่าลูกชายอยู่ข้างใน แก้วนี่ก็จะเยอะไปไหน นึกว่าจะมีงานเลี้ยงใหญ่ …
-
มาดูความเห็นชาวเน็ตต่างชาติ กับการที่ทรัมป์ถือร่มให้ตัวเอง แต่ไม่ถือให้ภรรยาและลูก…
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2018 สำนักข่าว Daily Mail ได้เผยภาพของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump ที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินเดินทางไปพร้อมๆ กับครอบครัวของเขา ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา ภาพของ Trump ถือร่มกันฝนขณะที่กำลังเดินขึ้นเครื่องบิน ภาพที่ได้เห็นอาจจะดูไม่แปลกอะไร แต่มันกลับทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์กับการที่ Trump ถือร่มกันฝนเดินนำหน้าไปเพียงคนเดียว ในขณะที่ Melanie ภรรยาของเขา และลูกชาย Barron เดินตากฝนตามหลังเขามา สิ่งที่ชาวเน็ตพูดเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขาในครั้งนี้คือ ทำไม Trump ถึงใช้ร่มกันฝนให้ตัวเองเพียงคนเดียว ไม่ยอมกันฝนให้ภรรยาที่เดินตามมาข้างหลัง ทั้งๆ ที่ร่มคันนั้นมีขนาดใหญ่มากพอสำหรับคน 2 คนอย่างแน่นอน การแสดงความคิดเห็นของชาวเน็ตทั้งหลายถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือความคิดเห็นของชาวอังกฤษที่พูดถึงเรื่องความเป็นสุภาพบุรุษและมองว่าผู้นำคนนี้ทำสิ่งที่แย่มากๆ ส่วนอีกฝั่งคือชาวอเมริกันที่มองว่าชายและหญิงก็เท่าเทียมกัน Trump ไม่เห็นจำเป็นต้องไปกางร่มให้ภรรยาซักหน่อย ความคิดเห็นจากฝั่งอังกฤษส่วนใหญ่ที่พูดถึงเรื่องการไม่เป็นสุภาพบุรุษ Jollyboy “ถ้าพูดจริงๆ มันคงจะน่าตกใจกว่านี้ถ้าเราเห็น Trump กางร่มให้ภรรยาและลูกชาย เพราะเขาคือคนที่ไร้มารยาท เติบโตมาด้วยเงินเพียงอย่างเดียว และยังทำตัวหยาบคายราวกับสัตว์เดรัจฉาน”…
-
ซนจนได้เรื่อง เจ้าหมาอาศัยจังหวะเผลอ แอบหนีออกจากบ้านไปนั่งรถเมล์หน้าตาเฉย…
เจ้าหมาทั้งหลายนั้นมีสัญชาติญาณความเป็นนักล่าอยู่ในตัว สังเกตได้จากนิสัยที่ชอบขุดคุ้ยสิ่งของต่างๆ และพยายามจะสำรวจทุกๆ ที่ที่เป็นไปได้ อีกทั้งยังชอบการผจญภัยมากๆ ถ้าได้ออกบ้านเมื่อไหร่ละก็พี่แกก็จะดูดีใจมากๆ แต่ความรักในการผจญภัยในสายเลือดหมานี้คงไม่มีใครทำให้คนอื่นเดือดร้อนเท่ากับเจ้า Nismo แห่งเมือง Rangiora ประเทศนิวซีแลนด์ ตัวนี้อีกแล้ว เดือดร้อนกันตั้งแต่เจ้าของไปจนถึงชาวเมืองคนอื่นๆ ที่ต้องช่วยกันตามหาบ้านกันให้วุ่นวายเลยทีเดียว เรื่องมีอยู่ว่าเจ้า Nismo ได้หายตัวออกไปจากบ้านขณะที่ Jassie Jayne เจ้าของของมันกำลังทำอาหารกลางวันให้กับลูกชายแล้วเผลอเปิดประตูบ้านทิ้งไว้ เจ้า Nisomo เลยสบโอกาสแอบชะแว้บออกไปเดินเล่นตามประสาหมาๆ แต่ทว่ามันคงจะเที่ยวเพลินไปหน่อย หรือออกจะครึ้มอกครึ้มใจออกไปนั่งรถเล่น ชาวเมืองเห็นว่ามันเดินขึ้นรถบัสแล้วนั่งลงอย่างหน้าตาเฉย ชาวเมืองคิดว่ามันอาจจะเป็นหมาที่แอบหนีออกจากบ้านมาเลยได้โพสต์ภาพของมันลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก ‘Lost And Found Pets Rangiora and surrounding towns’ เพื่อตามหาเจ้าของ โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากสมาชิกกลุ่มเป็นอย่างมากและมีหลายคนได้เข้ามาคอมเมนต์รูปภาพเจ้าหมาสุดฮาตัวนี้ “มันวิ่งไปรอบๆ รถเลย” “มันอยากจะทักทายทุกคนเลยมั้ง” “ค่าโดยสารเท่าไหร่ล่ะเจ้าตัวนี้” โชคดีที่เพื่อนบ้านของ Jessie คุ้นหน้าเจ้าหมาตัวนี้จึงได้ไปตามตัวและอุ้มมันมาส่งถึงบ้าน ก่อนที่เจ้าหน้าที่เทศบาลจะคิดว่าเป็นสุนัขจรจัดซะก่อน พอกลับบ้านปลอดภัยแล้วมันก็ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันน่าตีซะจริงๆ เรื่องของมันดังขนาดที่ David Ayers นายกเทศมนตรีต้องออกมากล่าวชื่นชมที่มันมีความกล้าที่จะออกไปผจญภัยในโลกกว้าง…
-
จำได้มั้ย!? Norman เจ้าหมาพันธุ์ผสม ‘ปอมสกี้’ อัพเลเวลความน่ารักให้สูงขึ้นไปอีก!!
ก่อนหน้านี้เราเคยมาแนะนำเจ้า Norman น้องหมาลูกครึ่งผสมปอม กับไซบีเรียน ฮัสกี้ กันมาแล้ว ซึ่งก็ทำให้หลายๆ คนหลงใหล และชื่นชอบมันเป็นอย่างมาก เพราะเจ้ามาน้อยตัวนี้ มีทั้งความน่ารัก แถมยังดูติ๊งต๊อง และเป็นมิตรกับทุกๆ คนอีกด้วย และถ้าหากใครที่ได้ไปติดตามมันในอินสตาแกรม คุณจะเห็นว่าในตอนนี้เจ้า Norman ได้เติบโตขึ้นไปอีกขึ้นแล้ว แต่เราก็ยังคงยืนยันนอนยันเลยนะว่า ระดับความน่ารักของมันยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน นั่นแน่!! คิดถึงมันแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นไปชมภาพของมันกัน… Hiiii เก๊า Norman ไง จำกันได้หรือเปล่า!! สำหรับ Norman มันเกิดที่ฟาร์มสุนัขแห่งหนึ่งในทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย ที่มีชื่อเสียงในด้านการเพาะพันธุ์ปอมสกี้ และด้วยความที่มันเป็นสุนัขพันธุ์ผสมนี้ จึงอาจจะทำให้มันไม่ได้ดูสูงสง่าเหมือนไซบีเรียนทั่วๆ ไป แต่จะมีลักษณะเป็นไซบีเรียนแคระแทน 555 ถึงจะแคระแต่ก็น่ารักนะ หน้าตามุ้งมิ้งที่สุด ถ้าคิดถึง Norman ก็ไปชมภาพน่ารักๆ ของมันเลย . . . . .…
-
19 เรื่องเจ็บแสบฮาๆ ของการมี Sex ในชีวิตจริง ไม่ได้สวยหรูแบบที่เราดูในหนังหรอกนะ!!
ว่ากันด้วยเรื่องของความโรแมนติกกันบ้างดีกว่าครับสำหรับวันนี้ หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นการ “บทเข้าพระเข้านาง” มาแล้วในทีวี หรือสื่ออื่นๆ ไม่ว่าจะฝรั่งหรือญี่ปุ่นก็ตามแต่ (หมายถึงภาพยนตร์ธรรมดานะ ไม่ใช่หนังแบบน๊านนนน) เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า เพราะวันนี้เราจะนำเสนอเหตุการณ์ของการ “มีเซ็กส์” ที่มันไม่ได้ดูดีแบบที่เราเคยเห็นกันจากในทีวีหรอกนะ เพราะบางทีในสถานการณ์จริงมันอาจจะมีอะไรที่ซับซ้อนกว่านั้นอีก 1. คุณอาจจะเห็นในหนังพระเอกนางเอกนัวกันแบบไม่ถึง 10 วินาที ก็จับเจ้านั่นยัดกันเข้าไปแบบเสร็จสมอารมณ์หมาย แต่ความจริงกว่าจะถึงขั้นนั้น ต้องเล้าโลมฝ่ายหญิงจนกว่าเธอจะมีอารมณ์ จนเห็นได้ว่ามัน “แฉะ” เลยล่ะ และมันไม่ใช่แค่ครึ่งนาทีหรอกจริงไหม!? 2. บางทีสารหล่อลื่นก็เป็นสิ่งจำเป็นนะ แต่เราไม่เคยได้เห็นมันในภาพยนตร์เลยจริงไหม? 3. เมื่อฝ่ายชายเสร็จแล้วก็ต้องช่วยให้ฝ่ายหญิงถึงจุดสุดยอดด้วย เพราะบางครั้งเอาแต่ “จิ้ม” แบบในหนังก็ไม่ได้ทำให้เธอเสร็จหรอกนะ 4. ชีวิตจริงไม่ได้มีอารมณ์อย่างว่าตลอดเวลาอย่างที่เห็นกันในหนัง หากบางครั้งมังกรไม่ผงาดก็อาจจะไม่ใช่ความผิดของใครเลยก็ได้ 5. เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสร็จแล้วก็ไม่ได้แยกกันง่ายๆ แบบที่เห็นในทีวีนะ บางทีฝ่ายหญิงเสร็จก่อนก็อาจจะต้องรัวนิ้วถูน้องสาวของเธอให้มันส์ที่สุด เพื่ออรรถรสขณะที่ฝ่ายชายกำลังสานต่อยังไงล่ะ 6. ขณะเริ่มภารกิจที่ดูเหมือนจะง่าย แต่รู้ไหมว่าการควานหาถุงยางอนามัยนั้นมันอาจจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แล้วลองคิดดูสิว่าถ้าหาไม่เจอ ตอนนั้นมันหมดพอดี ทุกอย่างเป็นอันล่ม…
-
11 พิธีกรรมการ ‘พรากชีวิตคน’ เมื่อบุคคลเหล่านั้นไม่ได้มองเห็นคนข้างๆ เป็นมนุษย์เหมือนกัน…
การนำสัตว์หรือมนุษย์ไปใช้เป็นเครื่องบูชายัญเป็นสิ่งที่เราสามารถพบเห็นได้จากประวัติศาสตร์เก่าแก่ ซึ่งในปัจจุบันวิธีการทำนองนี้ไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่เราสามารถยอมรับได้ ด้วยความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ที่ช่วยแก้ปัญหาหลายๆ อย่างได้ บวกกับความโหดร้ายป่าเถื่อน พิธีกรรมเหล่านั้นจึงเริ่มหายสาบสูญไปจนหมด วันนี้เราจะชวนให้ทุกคนลองย้อนกลับไปดูว่า ในสมัยอดีตกาลเคยมีพิธีกรรมหรือวิธีการฆ่ามนุษย์แบบไหนบ้าง และมันเลวร้ายมากขนาดไหน ว่าแล้วก็ลองไปอ่านเรื่องราวทั้งหมดนั้นกันเลย 1. จากคำบอกเล่าของนักคิดชาวโรมันในสมัยก่อนที่ชื่อ Strabo เขาบอกว่าชาวเซลติกโบราณที่อาศัยอยู่บนเกาะอังกฤษ ใช้วิธีการจับสัตว์และมนุษย์มาผูกไว้กับหุ่นฟางแล้วเผาทั้งเป็น โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องบรรณาการบูชาพระเจ้า ซึ่งนักโบราณคดีในปัจจุบันยังไม่สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้ เพราะมันอาจเป็นการเป่าหูทำให้ชาวเซลติกกลายเป็นคนเถื่อนเท่านั้นเอง 2. ชาวโรมันสมัยก่อนได้คิดวิธีการลงโทษผู้คนอย่างโหดร้ายและพยายามทำให้มันเหมือนเป็นเรื่องตลก โดยจะจำลองให้คนเหล่านั้นตายเหมือนเทพที่อยู่ในตำนานปรัมปรา อย่างการเผาทั้งเป็นให้เหมือนกับ Hercules บางคนถูกล่ามโซ่แล้วฉีกเอาอวัยวะภายในออกมาเหมือนอย่างที่เทพ Prometheus ต้องเจอ ผู้หญิงบางคนถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับกระทิง เหมือนอย่างเทพผู้เป็นมารดาของกระทิงทั้งปวง Pasiphae ซึ่งหากผู้หญิงคนนั้นสามารถรอดชีวิตมาได้ เธอก็จะถูกฆ่าอยู่ดี 3. ชาวกรีกโบราณมีเครื่องประหารชนิดหนึ่งชื่อว่า The Brazen Bull ทำจากทองแดงและมีลักษณะรูปร่างเหมือนกระทิง วิธีการใช้งานก็คือให้คนโดนลงโทษเข้าไปอยู่ข้างใน แล้วจึงจุดไฟเผาจากด้านนอกจนถึงแก่ความตาย ระหว่างนั้นเสียงที่ร้องโหยหวนออกมาจะเหมือนกับเสียงร้องไห้ของกระทิง 4. ในประเทศญี่ปุ่นจะมีความเชื่อที่เรียกว่า Hitobashira โดยจะฝังคนเป็นๆ ลงไปข้างใต้พื้นหรือในกำแพงของสิ่งปลูกสร้าง เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นสำเร็จลงได้ด้วยดี ซึ่งคนที่ถูกฝังส่วนใหญ่จะเป็นอาสาสมัคร อย่างเช่นเหล่าซามูไรที่ต้องการใช้จิตวิญญาณ อยู่เฝ้ารักษาปราสาทหรือวัดต่างๆ 5. ในหลายๆ…
-
แทบร้อง… ลูกสาวใช้เงินแม่ เปย์ให้ไอดอลหนุ่มกว่า 3 ล้านบาท อยากได้เงินคืนก็คงไม่ทันแล้ว
การเปย์ไอดอลที่เราชอบนั้น ถือว่าเป็นการสนับสนุนไอดอลช่องทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มเปย์ หรือจะเปย์แบบขำๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้าเงินที่เปย์ไปนั้นเป็นเงินที่เราหามาเอง แต่เรื่องนี้ถือว่าตลกไม่ออก เมื่อแม่คนหนึ่งมาพบว่าลูกสาวตัวเองนั้นเปย์ไอดอลชายไปกว่า 3 ล้านบาทด้วยเงินจากบัญชีของแม่เธอ เรื่องมันมีอยู่ว่าผู้หญิงคนหนึ่งจากกรุงปักกิ่งที่รู้แค่ว่าชื่อ Liu นั้นต้องการให้ แอปพลิเคชันไลฟ์สตรีมยอดนิยมนั้นคืนเงินประมาณ 3.3 ล้านบาทที่ลูกสาวของเธอนั้นจ่ายเงินซื้อของในแอปฯ เพื่อเปย์ไอดอลที่เธอชอบ โดยที่เธอนั้นได้แพ้คดีในเดือนกันยายน 2017 ที่ผ่าน แต่เธอก็ได้ยื่นอุธรณ์ต่อศาลลำดับกลางภาค 3 ในกรุงปักกิ่ง Liu ได้บอกว่า Xiao Ya ลูกสาววัย 16 ปี ของเธอ ใช้ค่าเทอมและบัญชีธนาคารของเธอ ขณะที่เรียนอยู่ในแคนาดา เพื่อซื้อของขวัญให้กับไอดอลในแอปพลิเคชัน Inke แอปไลฟ์สตรีมที่ทำโดย Beijing MeeLive Network Technology โดยของขวัญที่ถูกที่สุดในแอปอย่างดอกไม้นั้นราคา 0.5 บาท และของที่แพงที่สุดก็คือเกาะสวรรค์ซึ่งราคาสูงถึง 16,750 บาท Liu กล่าว “ฉันช็อกไปเลยเมื่อรู้ว่าลูกสาวนั้นจ่ายเงินออนไลน์เป็นล้านๆ แต่ว่าลูกสาวฉันดันพูดว่า “แล้วไงล่ะ? ใครๆ เขาก็ทำกัน ไม่เว้นแม้แต่พ่อของเพื่อนร่วมชั้นหนูเลย” Liu ยังบอกอีกว่าลูกสาวของเธอเป็นพวกเก็บตัวและก็มีปัญหาเรื่องการปรับตัวในแคนาดา Liu ตัดสินใจฟ้อง Beijing…
-
11 ภาพวาดราคาอภิมหาแพง แต่ดูจากเนื้องานที่เห็นด้วยตาเปล่าแล้ว คงจะแพงกว่านี้ได้อีก…
ศิลปะภาพวาดต่างๆ บนโลกของเราสามารถสื่อได้ถึงหลายสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสวยงาม ความประณีตละเอียดอ่อน หรืออาจจะมีความหมายที่ลึกซึ้งอย่างที่คนทั่วไปอาจเข้าไม่ถึง ซึ่งก็อาจจะเหมือนกับภาพวาดเหล่านี้ ภาพทั้งหมดที่เรากำลังจะไปชมคือภาพวาดที่พอเรามองเห็นด้วยตาเปล่าแล้ว อาจทำให้คนส่วนใหญ่สงสัยว่ามันมีความพิเศษที่ตรงไหน? มันแตกต่างจากการลงสีทั่วไปอย่างไร? แล้วทำไมมันถึงได้มีราคาสูงมากขนาดนี้!? เราลองไปดูกันเลยว่าแต่ละภาพมีหน้าตาเป็นอย่างไรและมีราคาที่สูงมากขนาดไหนกัน ภาพ Blood Red Mirror ของศิลปินชาวเยอรมัน Gerhard Richter มีราคาอยู่ที่ประมาณ 35 ล้านบาท ภาพ Concetto Spaziale ของศิลปินชาวอาร์เจนตินา Lucio Fontano มีราคาอยู่ที่ประมาณ 47 ล้านบาท ภาพ Green White ของศิลปินชาวอเมริกัน Ellsworth Kelly มีราคาอยู่ที่ประมาณ 51 ล้านบาท ภาพ Untitled (Stoffbid) ของศิลปินชาวเยอรมัน Blinky Palermo มีราคาอยู่ที่ประมาณ 54 ล้านบาท ภาพ White…
-
คู่รักปิ๊งไอเดีย รับแมวมาเลี้ยงแบบธรรมดาโลกไม่จำ เลยได้มาเป็นชุดภาพสุดเจ๋งนี้…
ส่วนใหญ่เวลาที่เราแมวมาเลี้ยง เราก็จะถ่ายรูปความน่ารักของมันโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียอวดเพื่อนๆ บ้างเป็นธรรมดา แต่สำหรับคู่รักสองคนนี้กลับแตกต่างออกไป เพราะพวกเขาได้ถ่ายอวดลูกแมวในธีม “คลอดลูก” นี่คือชุดภาพต้อนรับสมาชิกใหม่ของ Lucy Schultz และแฟนหนุ่มของเธอ เมื่อทั้งคู่รับเลี้ยงลูกเหมียวตัวหนึ่งและต้องการจะเก็บไว้เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ เธอจึงเปลี่ยนการรับเลี้ยงแบบธรรมดาๆ ให้เหมือนกับว่าเธอคลอดมันออกมาเอง อดทนไว้นะจ๊ะที่รัก เราจะผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปด้วยกัน . ความน่ารักของทั้งสองคนกับอีกหนึ่งตัวถูกถ่ายทอดผ่านรูปถ่ายสวยๆ น่ารักๆ จากฝีมือช่างภาพ Elizabeth Woods-Darby ที่ช่วยทำให้ไอเดียของพวกเขากลายเป็นความจริงที่ดูสดใสและตลกในเวลาเดียวกัน ชุดรูปทั้งหมดนี้มีชื่อว่า New Baby ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2018 กลายเป็นที่ชื่นชอบของชาวเน็ตหลายๆ คน มียอดไลก์กว่า 13,000 คน และแชร์ออกไปมากกว่า 42,000 ครั้งในชั่วข้ามคืน จะน่ารักและโดดเด่นมากขนาดไหน เราลองไปชมตัวอย่างกันเลย หัวเด็กโผล่ออกมาแล้วครับหมอ โอ๋เอ๋ๆ มานี่มา มาหาพ่อซะดีๆ สู้เขานะที่รัก อีกเพียงแค่อึดใจเดียว จากความเหนื่อยล้าของการเบ่งคลอด ทำให้ลูกเหมียวออกมาดูโลกได้สำเร็จ ใจคอแม่จะไม่ให้พ่ออุ้มบ้างเลยหรือไง น่ารักน่าชังจริงเชียว…
-
หมาหายออกไปจากบ้าน พอกลับบ้านมา มี “กระดาษโน้ต” เล่าวีรกรรมของมันมาด้วย!?
แม้ว่าการทำความดีอาจไม่มีใครเห็น แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้สึกสบายใจและมีความสุข เหมือนอย่างเจ้าหมาตัวนี้ที่ได้ทำเรื่องดีๆ เอาไว้โดยที่คนใกล้ตัวของมันไม่รู้เลยว่า สิ่งที่มันทำคือการช่วยชีวิตน้อยๆ ชีวิตหนึ่งเลยทีเดียว นี่คือเรื่องราวของเจ้าหมาที่มีชื่อว่า Louie ที่อาศัยอยู่กับครอบครัวของ Marolyn Diver ในประเทศนิวซีแลนด์ ท่ามกลางทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่และธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้เจ้าหมาชอบวิ่งออกไปเที่ยวเล่นอยู่บ่อยครั้ง เจ้าหมาหนุ่ม Louie แต่พอเวลาผ่านไป มันเริ่มแก่ตัวลงเรื่อยๆ ทำให้ตอนนี้มันมีอายุถึง 12 ปี สุขภาพไม่ได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน ประสาทสัมผัสของเจ้าหมาก็ลดลง ทำให้ครอบครัวที่คอยดูแลมันรู้สึกเป็นห่วงและพยายามให้เจ้าหมาวิ่งเล่นอยู่ใกล้ๆ บ้านก็พอ จนกระทั่งในวันหนึ่ง Marolyn เข้าไปทำธุระในเมืองแต่พอกลับมาเจ้าหมากลับหายไปไหนก็ไม่รู้ ซึ่งแม่ของเธอไม่คิดว่ามันจะหายไปแบบนี้ เพราะคิดว่ามันเลิกซนเหมือนแต่ก่อนแล้วซะอีก ทั้งสองคนกลัวว่ามันจะจำทางกลับบ้านไม่ได้ เวลาล่วงเลยผ่านพ้นช่วงกลางวันไป ในที่สุดเจ้าหมาก็กลับมา ทำให้ทุกคนรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่พวกเขาจะได้ค้นพบเหตุผลว่าทำไมมันถึงหายไปนานแบบนี้ พวกเธอเห็นว่ามีกระดาษลังแผ่นเล็งๆ ผูกอยู่ตรงปลอกคอของเจ้าหมา โดยมีข้อความเขียนเอาไว้ว่า “Louie คือสุดยอดฮีโร่ประจำวันนี้เลย มันพาผมไปเจอกับ Maddy ที่นอนขอความช่วยเหลืออยู่ใต้กองกิ่งไม้ เยี่ยมไปเลย, Rob” คนในจดหมายที่ชื่อว่า Rob คือชาวสวนที่อยู่ห่างออกไปประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร โดยเขาเลี้ยงหมาตัวหนึ่งชื่อว่า…
-
หนูน้อยได้พบกับหมาที่โดนขโมยไปอีกครั้ง หลังจากเขียนจดหมายขอลุงซานต้าในช่วงคริสต์มาส
ใครว่าซานตาคลอสไม่มีอยู่จริง ในเมื่อเด็กน้อยที่ชื่อ Edward Latter ได้เขียนจดหมายไปหาซานตาคลอส ขอร้องให้สุนัขที่ถูกขโมยไปของเขากลับมา แล้วซานตาคลอสก็พาสุนัขของเขากลับมาจริงๆ เด็กน้อยวัยสามขวบ Edward Latter คิดว่า Morse ลูกสุนัขอายุ 10 เดือนของเขาถูกขโมยไปโดยใครสักคน หลังจากที่เจ้าสุนัขตัวน้อยหายออกไปจากบ้านในช่วงเดือนธันวาคมในปี 2017 ที่ผ่านมา เด็กน้อยที่กำลังเสียใจได้ตัดสินใจเขียนจดหมายไปหาซานตาคลอสเพื่อขอร้องให้เขาพาเจ้า Morse กลับมาให้ จดหมายของ Edward “ถึงซานตาคลอส ผมอยากได้ของขวัญเพียงแค่หนึ่งชิ้นเท่านั้นสำหรับวันคริสต์มาสปีนี้ ผมขอ Morse สุนัขของผมคืน ผมเป็นเด็กดีมาตลอดทั้งปีเลยนะครับ” น่าแปลกที่จดหมายฉบับนี้ส่งไปถึงมือของพิธีกรคนดังอย่าง Simon Cowell เจ้าของรายการ X Factor ซึ่งหลังจากเห็นจดหมายของเด็กน้อยแล้ว เขาก็ได้ตั้งเงินรางวัลสำหรับคนที่หาเจอ Morse พบเป็นเงิน 10,000 ปอนด์ หรือประมาณ 440,000 บาท หลังจากนั้นไม่นานก็มีครอบครัวติดต่อมาให้ข้อมูลว่าพบสุนัขที่น่าจะเป็นเจ้า Morse โดยคนที่พบคือ Michelle Holt คุณแม่ลูกสองซึ่งอาศัยอยู่ห่างออกจากบ้านของน้อง Edward ประมาณ 32 กิโลเมตรใน Marden รัฐ Kent ประเทศอังกฤษ เธอได้โทรไปยังบ้านของ Edward เพื่อรายงานเรื่องสุนัข เธอกล่าวว่า เธอพบเจ้าหมาเดินเร่ร่อนอยู่จึงพามันออกมาจากถนนเพราะกลัวมันโดนรถชน เธอคิดว่ามันคงเร่ร่อนมานานพอสมควรเพราะมันเปียกไปทั้งตัวและเปื้อนไปด้วยโคลน เธอพามันไปล้างตัว ตรวจดูว่ามันบาดเจ็บไหมและรับดูแลมันชั่วคราว เธอยังบอกด้วยว่าเธอไม่ได้รู้ถึงเรื่องเงินรางวัลเลย แน่นอนว่าหลังจากที่ได้รับข้อมูลของสุนัขที่พวกเขาคิดว่าตายไปแล้ว Amanda…
-
เผยคำอำลาสุดซึ้งจาก Daniel Radcliffe เขียนถึง “ศาสตราจารย์สเนป” ในวันครบรอบ 2 ปีที่เขาเสียชีวิต
หากใครเป็นแฟนคลับภาพยนตร์แนวแฟนตาซีที่มีพ่อมดแม่มดอยู่ตลอดทั้งเรื่อง เชื่อว่าคุณจะต้องเคยดูหนังเรื่อง Harry Potter มาแล้วอย่างแน่นอน โดยในหนังเรื่องนี้ไม่ได้โดดเด่นแค่พระเอก นางเอกเพียงอย่างเดียว แต่ทุกตัวละครล้วนมีเรื่องราวให้น่าจดจำอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น ศาสตราจารย์เซเวอร์รัส สเนป ตัวละครมาดเข้มหน้าตาเคร่งขรึมคนนี้ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน แต่แล้วหลังจากที่ซีรีส์หนังโรงเรียนเวทมนตร์จบไป ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าขึ้น เมื่อ Alan Rickman ผู้รับบทเป็นศาสตราจารย์สเนป ได้เสียชีวิตลงในวันที่ 14 มกราคม 2016 Alan ผู้รับบทเป็นอาจารย์ในโรงเรียนเวทมนตร์ Alan จากโลกนี้ไปในวัย 69 ปีด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายที่แทบไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่าเขาป่วยเป็นโรคนี้มานานหลายเดือน คนที่รู้มีเพียงแค่เพื่อนสนิทและคนในครอบครัวเพียงไม่กี่คน การจากไปอย่างน่าเศร้าของนักแสดงผู้มากความสามารถคนนี้ ทำให้หลายๆ คนต้องหลั่งน้ำตาออกมาเมื่อรู้ข่าว โดยเฉพาะกับนักแสดงดังที่เคยร่วมงานกับเขา Daniel Radcliffe ผู้เคยรับบทเป็น Harry Potter Daniel โพสต์คำอำลาอันแสนเศร้าลงไปใน Google+ ว่า “Alan Rickman คือหนึ่งในนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดที่ฉันเคยร่วมงานด้วย เขาเป็นคนคนนึงที่มีความซื่อสัตย์และช่วยสนับสนุนคนอื่นได้ดีที่สุดในวงการภาพยนตร์เลยจริงๆ เขาช่วยให้กำลังใจผมอยู่เสมอ ทั้งในตอนที่แสดงเป็น Harry และหลังจากนั้น” นักแสดงหนุ่มยังบอกอีกว่า Alan…
-
วิถีชีวิตคนในหมู่บ้านรัสเซีย หนาวเหน็บจนเทอร์โมมิเตอร์แตก อุณหภูมิทะลุ -62 องศา!!
ถ้าพูดถึงสภาพอากาศในประเทศไทยในตอนนี้นั้น เรียกว่ากำลังอยู่ในช่วงดีพอดีๆ เลยทีเดียว 18 ถึง 25 องศาไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปกำลังสบายๆ แต่สำหรับหลายคนอากาศเท่านี้ก็ยังรู้สึกว่ามันยังร้อน ต้องการอากาศที่หนาวกว่านี้!! ฉะนั้นสำหรับใครที่ยังรู้สึกหนาวไม่พอ แล้วอยากสัมผัสความหนาวเย็นแบบสุดขั้วแล้วละก็ ขอเชิญพบกับหมู่บ้าน Oymyakon ในรัสเซีย หมู่บ้านที่หนาวเหน็บที่สุดในโลก เย็นจนคิดว่านั่งอยู่ในตู้แช่แข็งเลยทีเดียว!! รูปปั้นแมมมอธยังหนาวจนน้ำแข็งเกาะ เกริ่นมาขนาดนี้ หลายคนอาจจะคิดว่า ‘เหมียวมู่ทู่แม่มขี้โม้ มันจะหนาวอะไรขนาดนั้น สู้ขั้วโลกไม่ได้หรอก’ ถ้าคุณกำลังคิดแบบนั้นมันก็ไม่ผิดซะทีเดียว เพราะแอนตาร์กติกายังคงเป็นสถานที่หนาวที่สุดในโลก แต่หมู่บ้านแห่งนี้ก็เป็นหมู่บ้านที่หนาวที่สุดในโลกเช่นกันนะเออ… เพราะว่าอากาศที่นี่มันหนาวขนาด -62 องศาเลยทีเดียวในปีนี้ แม้ว่าสถิติที่ทางทีมงาน Pole of Cold ซึ่งเป็นสถานีสภาพอากาศจะยืนยันว่ามันไม่ถึง แต่ตัวเทอร์มอมิเตอร์ที่มาติดไว้เมื่อปี 2017 มันกลับบอกตามที่ชาวบ้านบอกจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีชาวบ้านคนหนึ่งบอกว่าจริงๆ แล้วมันหนาวถึง -67 องศาเลยนะ แน่นอนว่าหลายคนก็อาจจะยังคาใจและรู้สึกว่า ‘มันไม่หนาวแบบนี้ทั้งปีหรอกเชื่อสิ’ คำพูดดึงกล่าวนั้นมันก็ไม่ผิดซะทีเดียวเพราะที่นี่ก็ไม่ได้จะหนาว -62 องศากันทุกวัน เพียงแต่ว่าอากาศปกติของที่นี่มันดันเป็นราวๆ -30 เนี่ยสิ และเมื่ออากาศมันหนาวเย็นตลอดทั้งปี สภาพความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านนั้นก็จะลำบากนิดหน่อย แต่พวกเขาก็สามารถปรับตัวเพื่อเข้ากับมันได้…
-
เอาเงินไปเลย!! Adidas x Dragon Ball สวยงามขนาดนี้ ไม่ใช่สาวกยังอยากได้มาครอบครอง
ตอนนี้ดูเหมือนว่าตลาดสนีกเกอร์หรือกลุ่มคนผู้คลั่งไคล้ในรองเท้าผ้าใบในบ้านเราจะเริ่มขยับขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ตอนนี้มันไม่ได้เป็นเพียงรองเท้าผ้าใบอีกต่อไป และเนื่องจากมันเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางผู้ผลิตจึงมีการนำรองเท้าจากแบรนด์ตัวเองไปร่วมมือกับแบรนด์อื่นๆ เพื่อสร้างออกมาเป็นรองเท้าใหม่ๆ ให้แฟนๆ สะสมกัน อย่างล่าสุด Adidas ก็ได้ไปร่วมแคมเปญกับการ์ตูน Dragonball จนกลายมาเป็นรองเท้าเจ๋งๆ อย่างที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้นี่แหละ นี่เป็นคอลเล็กชันรองเท้า Adidas ทั้ง 7 จากเรื่อง Dragonball ที่จะวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม โดยจะผสมผสานเข้ากับตัวละครหลักทั้งฝ่ายดีและฝ่ายร้ายของเรื่อง Dragonball เริ่มจากเดือนสิงหาคมนี้ด้วยลาย Son Goku และ Frieza โดยใช้เป็นรุ่น ZX 500 RM และ Yung-1 . ถัดมาในเดือนกันยายนจะเป็นลาย Son Gohan และ Cell โดยใช้รุ่น Deerupt และ Prophere . ต่อด้วยเดือนพฤษจิกายน จะเป็นลาย Vegeta และ Majin Boo เป็นรุ่น Ultra Tech และ…
-
มนุษย์ได้ยินเสียงร้องเหมี๊ยวๆ มาจากพุ่มไม้ พบเป็น “ไอ้เสือน้อยสีขาว” ต้องช่วยมันแล้ว!!
เจ้าแมวตัวจิ๋วอายุ 6 สัปดาห์ ร้องเหมียวๆ จากในพุ่มไม้ในสวนหลังบ้าน โชคดีที่มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเห็น ก็เลยไม่ปล่อยมันทิ้งไว้ รีบช่วยออกมาทันที เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว เสียงร้องเหมียวๆ อันแหบแห้ง ได้เรียกความสนใจแก่เด็กหญิงคนหนึ่ง เธอพบเจ้าเหมียวตัวนี้ที่พุ่มไม้หลังบ้านของเธอ ในลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวของมันผอมแห้งจนเหลือแต่หนังกับกระดูก เต็มไปด้วยเห็บหมัด และแทบดูหมดแรงจนลืมตาแทบไม่ขึ้น ตัวของแม่แมวนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เด็กสาวคนนี้จึงได้ติดต่อ Sandra Lee ผู้รับเลี้ยงสัตว์ หลังจากนั้นเธอก็ได้รีบมารับเจ้าเหมียวตัวนี้ไปทันที Sandra บอกว่า “Livvie นั้นป่วยและขาดน้ำอย่างรุนแรง ฉันแทบจะเห็นกระดูกสันหลังทุกชิ้นของมัน ตอนแรกฉันก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำ ว่าจะช่วยชีวิตมันได้รึเปล่า” เธอพามันไปโรงพยาบาลสัตว์เพื่อตรวจว่ามันเป็นอะไร ก็ได้พบว่ามันปีปัญหารุนแรงในลำไส้ เหตุมาจากสิ่งของที่มันกินเข้าไปอย่างไม่เลือก “หมอของเราบอกว่า เขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน มันอึเองไม่ได้ถึง 3 สัปดาห์ สารพิษในร่างกายก่อตัวจนทำให้ตัวสั่นอย่างรุนแรง” Sandra กล่าว เจ้าเหมียว Livvie ก็ได้เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลสัตว์เรื่อยๆ หลังจากที่ช่วยมันมาได้…
-
20 ความจริงทางวิทยาศาสตร์ ที่เราเคยเชื่อว่ามันจริงมาตลอด แต่นั่นมันไม่ใช่เลยจ้า!!
วิยาศาสตร์นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเล่นแง่ แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ จริงๆ แล้วมันควรจะมีวัตถุประสงค์ แต่ก็มีข้อมูลผิดๆ มากมาย ซึ่งอาจจะใช้เวลายาวนานถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเลยทีเดียว กว่าจะคิดได้ว่าข้อมูลที่ได้รับมานั้นมันผิด ยกตัวอย่างเมื่อสมัยก่อน ผู้คนนั้นปฏิเสธที่จะเชื่อว่าจริงๆ แล้วโลกของเรา และดาวทั้งหลายนั้น ต่างโคจรรอบดวงอาทิตย์ จนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง กาลิเลโอ ได้พิสูจน์ แต่ถึงแม้ว่าวิทยาศาสตร์จะมาไกลขนาดไหน ก็ยังจะมีคนเชื่อข้อมูลแบบผิดๆ อยู่อีก นี่คือ 20 ตัวอย่างข้อเท็จจริง ที่ผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ออกมาแล้วว่าไม่เป็นจริง 1. ผมหรือขนของคุณ จะไม่หนาขึ้นเมื่อโกนบ่อยๆ บางครั้งการโกนหนวดอาจจะทำให้ดูเหมือนว่าหนวดที่งอกขึ้นมานั้นดูหนาขึ้น แต่ในความจริงแล้วมันก็หนาเท่าเดิม 2. ผมและเล็บจะไม่ยาวขึ้นหลังจากคุณตายแล้ว เมื่อคุณตายเซลล์ต่างๆจะหยุดทำงาน ผมและเล็บจึงหยุดการเจริญเติบโต นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมคนตายถึงไม่มีเล็บเพราะว่าผิวหนังจะหดตัวลงหลังจากที่ตายแล้วนั่นเอง 3. ผมของคุณจะไม่หงอกเร็วถ้าคุณย้อมมัน จริงๆ แล้วสีผมของเราเป็นผลมาจากเซลล์เม็ดสีซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ การไม่ดูแลสุขภาพ หรือความเครียด ดังนั้นการย้อมผมไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย 4. แม่นกจะทิ้งลูกตัวเองหากถูกสมุษย์สัมผัสตัวลูก ความจริงแล้วนกนั้นมีต่อมการรับกลิ่นที่เล็กมากทำให้ความสามารถการดมกลิ่นนั้นไม่ดีนัก แม่นกจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำถ้าเราไปสัมผัสลูกของมัน 5. Daddy Longlegs ไม่ใช่แมงมุมที่พิษร้ายแรงที่สุดในโลก…
-
ร่วมรำลึกถึงคุณครูกับแฮชแท็ก #คุณครูครับ รวมประสบการณ์โหดมันฮาจากชาวทวิตเตอร์
เค้าว่าชีวิตช่วงการเรียนหนังสือ เป็นช่วงที่จะแฮปปี้ สนุก โหด มัน ฮา ที่สุดเท่าที่เราจะสามารถพบเจอได้ในชีวิตของเราแล้ว ไม่ว่าเราจะโดดเรียน เจอดุด่า เจอเรียกไปหน้าเสาธง และอีกมากมาย มันก็ล้วนแต่เป็นเหตุการณ์ที่ให้ประสบการณ์พิเศษๆ แก่เรา เมื่อเราผ่านช่วงนั้นมาแล้วก็ยังคิดถึงเวลานั้นเสมอ และในวันที่ 16 มกราคม 2561 นี่เองก็เป็นวันครูแห่งชาติของประเทศไทยเรา ชาวเน็ตหลายๆ คนก็มีประสบการณ์ความทรงจำ โหด มัน ฮา เกี่ยวช่วงเวลาที่เรายังเรียนอยู่ และพวกเค้าก็ได้แชร์ประสบการณ์เหล่านั้นให้เพื่อนๆ คนอื่นได้รับชมกัน โดยแต่ละคนนั้นจะมีวีรกรรมแบบไหนกันบ้างไปชมกันเล้ย เอ้า! นักเรียนโป๊ะแตกกันไปเลย “เล่นกับไฟ ก็จะถูกเผา” โดยอาจารย์ฝรั่ง คุณครูทำหนูนกกลางวงครูทั้งหลายเลยนะคะ เจ็บแต่มันคือเรื่องจริงงง ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างของคุณครูที่นักเรียนจะรักนะ ฮ่าๆ ถ้าเผลอเรียกฉายาต่อหน้าครูล่ะก็ มีเรื่อง! มันก็จะฮาร์ดคอร์ใส่หน่อยๆ เรื่องนี้เหมียวจะไม่ยุ่งแน่ๆ ดีนะครับที่ครูยังมาได้ถึงโรงเรียน ฮ่าๆ เปรียบเหมือนหนังเรื่อง Edge…
-
เด็กสาวชาวอังกฤษวัย 4 ขวบ หายตัว 8 เดือน แต่พบปลอดภัยดีที่สเปน เพราะแม่สติไม่ดี!?
ในทุกวันนี้จะมีเหตุการณ์ที่เด็กหายตัวไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะหายตัวไปเพราะถูกลักพาตัว หรือจะหายไปเอง ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และโอกาสที่จะตามตัวเจอนั้นไม่มีมากเท่าไหร่ สิ่งที่ทำได้ก็มีเพียงออกตามหาด้วยกำลังตัวเอง กับอีกด้านคือรอฟังข่าวจากด้านตำรวจเพียงเท่านั้น โดยข่าวที่จะนำมาพูดถึงวันนี้คือข่าวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่หายไปตัวไปจากประเทศอังกฤษ แต่โชคดีที่ยังตามไปเจอตัวเธอ แต่สถานที่พบกลับเป็นประเทศสเปน!!? หลายคนงงล่ะสิว่าเธอไปโผล่ที่นั่นได้ยังไง เจ้าหนู Elliana Richards คุณแม่ของน้อง Elliana หนูน้อย Elliana Richards อายุ 4 ปี หายตัวไป 8 เดือน ก่อนที่จะได้พบตัวเธอ ที่ประเทศสเปน เธอนั้นยังปลอดภัยดี และเธอจะเดินทางกลับอังกฤษหลังจากนั้นไม่นาน ซึ่ง Elliana นั้นหายตัวจากบ้านที่ลอนดอน เธอหายไปพร้อมกับแม่ของเธอที่มีอาการทางจิตอยู่ Justice Hayden ผู้พิพากษาของศาลชั้นสูงนั้นได้กล่าวว่า “แม่ของเธอนั้นตกอยู่ในความเครียด และบางทีอาจไม่ได้กินยาระงับประสาท หรือบางทีอาจจะมีอาการหลอนทางโสตประสาท ทำให้เธอทำแบบนั้น แม้ว่าเธอจะรักลูกสาวเธอเพียงใด แต่แบบนั้นมันเสี่ยงต่อความปลอดภัยของลูกสาวเธอมากๆ” ตำรวจประจำพื้นที่เป็นคนพบตัวเธอกับแม่ของเธอที่สเปน โดยที่ศาลนั้นยกย่องการทำงานของตำรวจของทั้งสองประเทศ ที่สามารถหาข้อมูลจนสามารถพบเจอเธอได้ และเขายังยกย่องความพยายามตามหาตัวเด็กของปู่ย่าของเธออีกด้วย และในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาศาลก็ได้ตัดสินว่าแม่ของเธอจะไม่มีสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเธออีกแล้ว เนื่องจากไม่สามารถดูแล ให้ความปลอดภัยแก่เธอได้ นี่ก็เป็นทั้งเรื่องน่ายินดีที่ได้พบเจ้าหนู…
-
มังกรตะกายฟ้า @วัดสามพราน ดังไปทั่วโลก มาดูว่าฝรั่งคิดอย่างไร เมื่อได้ชมสิ่งก่อสร้างสวยๆ นี้..
ด้วยความที่ประเทศไทยของเราขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ จึงไม่แปลกเลยที่จะมีวัดอยู่เป็นจำนวนมาก และก็มีวัดหลากหลายแห่งที่สร้างอย่างอลังการและสวยงามจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปอีกด้วย วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมวัดที่สวยงามในประเทศของเราอีกแห่งหนึ่ง เราเชื่อว่าคงมีหลายคนเลยที่ยังไม่รู้ว่าในประเทศไทยก็มีวัดสุดอลังการแบบนี้อยู่ด้วย วัดที่ว่านี้ก็คือ วัดสามพราน นั่นเอง วัดสามพราน วัดสามพรานตั้งอยู่ในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม วัดแห่งนี้ถือเป็นวัดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เพราะในพื้นที่ของวัดมีตึกมังกรตะกายฟ้า ซึ่งเป็นตึกสูงสีชมพู และมีมังกรตัวใหญ่ใช้ลำตัวโอบกอดตึกสูงแห่งนี้เอาไว้ด้วย ไม่ว่าใครได้มองก็ต้องคิดว่ามันสวยงามตระการตาทั้งนั้น ตึกมังกรตะกายฟ้ามีความสูง 80 เมตรซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกันกับอายุของพระพุทธเจ้าตอนที่ปรินิิพพาน ภายในตัวตึกมีทั้งหมด 16 ชั้นเปรียบได้กับสวรรค์ชั้นพรหม 16 ชั้นเช่นกัน ตัวตึกใช้เวลาในการสร้างรวมแล้ว 5 ปี คนนอกสามารถเข้าไปชมภายในตัวตึกได้ถึงชั้นที่ 2 เท่านั้น ส่วนชั้นที่สูงกว่านั้นเป็นพื้นที่สำหรับพระสงฆ์ หากต้องการขึ้นไปให้ถึงยอดข้างบน ต้องรอให้ถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น จึงจะเปิดให้คนนอกเข้าไปได้ คลิปวิดีโอบรรยากาศรอบวัดสามพราน วัดสามพรานและตึกมังกรตะกายฟ้านั้นโดดเด่นและสวยงาม จนชาวต่างชาติมาทำคลิปโปรโมทวัดแห่งนี้ ให้คนทั่วโลกได้ชมและกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว ชาวเน็ตที่ได้เห็นต่างก็ชื่นชอบความงามของวัดแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก เหมือนกับคอมเมนต์ส่วนหนึ่งที่เรานำมานี้ นี่ มัน สุด ยอด จริงๆ! วัดนี้ดูสวยเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายเลย แค่ได้ดูวิดีโอก็ขนลุกซู่แล้ว…
-
หนุ่มผู้มีสกิลตัดต่อขั้นเทพ เอาตัวเองไปอยู่กับฉากหนัง-คนดัง ราวกับไปแสดงมาจริงๆ!!
เมื่อคุณได้ชมภาพยนต์ เห็นโปสเตอร์ภาพยนต์สวยๆ หรือเห็นคนโพสต์ภาพบรรยากาศที่สวยงาม บางครั้งเราก็คงคิดว่าหากมีโอกาสได้เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในภาพนั้นบ้างก็คงจะดี แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกเพราะเราไม่ใช่ดาราดังหรือนักแสดงนี่นา ทว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งที่แม้ว่าจะไม่ได้เป็นนักแสดงชื่อดัง แต่ก็สามารถเอาตัวเองเข้าอยู่ในฉากสวยๆ หรือเข้าไปอยู่ใกล้ดาราดังแบบใกล้ชิดได้อย่างแนบเนียนด้วยการใช้โปรแกรมตัดต่อภาพระดับมืออาชีพ Syahril Ramadhan หนุ่มนักตัดต่อ กับภาพที่เขาเอาตัวเองเข้าอยู่กับ Christiano Ronaldo นักฟุตบอลชื่อดัง ชายหนุ่มคนนี้ชื่อว่า Syahril Ramadhan เขามีอายุ 19 ปี และมีเพจในเฟสบุ๊กของตัวเองกับอินสตาแกรม ซึ่งเอาไว้ใช้ติดต่อรับงานตัดต่อภาพ และโพต์รูปภาพที่เขาตัดต่อทั้งหมดเอาไว้ที่นี่ เพจของเขามีคนติดตามและกดไลค์เกือบ 8,000 คน แล้วรูปแต่ละรูปที่เขาเอาลงเพจ ก็มีรูปจำนวนไม่น้อยที่มียอดไลก์อยู่หลายร้อยไลก์ด้วย ส่วนอินสตาแกรมของเขานั้นมีผู้ติดตามกว่า 180,000 เลยทีเดียว รูปที่เขาตัดต่อตัวเองเข้าไปอยู่กับประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกา Barack Obama นอกจากภาพเขาจะตัดต่อภาพตัวเองเข้าไปอยู่ในภาพกับดาราได้อย่างแนบเนียนแล้ว เขาก็ยังตัดต่อตัวเองไปอยู่ในโปสเตอร์หนังดังๆ อย่าง Spider-Man: Homecoming, Justice League, และ Jumanji ได้อย่างไม่มีที่ติเช่นกัน ชายหนุ่มบอกว่า “ตอนแรกผมแค่ทำมันเป็นงานอดิเรกแค่นั้น แต่พอทำไปเรื่อยๆ ผมก็ชอบและคิดว่าตัวเองมีความสามารถที่ควรจะเอามาทำงานในด้านนี้” เขามีคำขอให้ตัดต่อภาพจำนวนมากมาย แต่เพราะว่าเขาทำงานตัวคนเดียว จึงรับงานเพียงแค่ 3 ชิ้นต่อวันเท่านั้น เขายังบอกอีกว่า “ถ้าในอนาคตผมได้เปิดสตูดิโอล่ะก็ ผมก็อยากจะทำงานในระดับนานาชาติเลย ด้วยความสามารถนี้ผมเชื่อว่าผมสามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เกิดขึ้นได้จริงในโลกดิจิตอล”…
-
พ่อบ้านใจกล้าเผย 10 อันดับพฤติกรรม “เมียในฝัน” น้องทำได้แบบนี้ พี่รักตายเลยแม่คุ๊ณณณณ!!
เมื่อคุณพ่อบ้านทุกคนเข้าสู่ชีวิตหลังแต่งงาน ที่ทุกอย่างต้องหารกับคุณภรรยาอันเป็นที่รักนั้น แน่นอนว่าจะทำตัวดื้อด้านและเที่ยวเตร่เหมือนตอนยังเฟี๊ยวๆ ไม่ได้แล้ว สิ่งที่ทำได้ก็คือการเคารพและรักเมียให้ถึงที่สุด แต่มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ นะอะ ว่าอยากให้เมียอันเป็นที่รักยอมเราบ้าง จึงเกิดเป็นฝันกลางวันของ ‘พ่อบ้านใจกล้า’ ที่อยากจะให้เมียที่ดุนักดุหนาอ่อนให้เราบ้างซักวัน… และนี่คือ 10 พฤติกรรมที่เราได้รวบรวมจากการสอบถามเหล่าพ่อบ้านทั้งหลายมาให้คุณได้รับรู้ 10. ไม่เก็บเงินเดือน คุณภรรยาอยากได้อะไรสามียอมทุกอย่าง แต่ถ้าเดือนนี้ไม่ขอเงินเดือนก็คงจะดีไม่น้อย สามีจะได้พอมีเหลือเก็บไปซื้อของขวัญมาเซอร์ไพร้ส์ยังไงล่ะ 9. สนับสนุนทุกความคิด พอมีไอเดียใหม่ๆ ก็อยากให้เป็นที่ปรึกษาทางความคิด หรือสนับสนุนอะไรมากกว่าจะบอกว่า ไม่ดีหรอก.. อย่าทำเลย.. แหม่ สามีมอบความสุขให้ภรรยามาตลอดหลายปี วันนี้ขอบ้างนะ นานๆ ทีน่าาาาาาา 8. ไม่ด่าตอนเล่นเกมส์กับเพื่อน เล่นเกมส์ก็เป็นวิธีคลายเครียดอีกแบบนะ แถมบางทีมันเป็นการเข้าสังคมกับเพื่อนแบบที่ได้อยู่ในบ้าน อยู่ในสายตาภรรยาด้วยนะ ดีจะตายไปใช่ไหมล่ะ ถ้าคุณภรรยาเข้าใจล่ะก็เยี่ยมไปเลย!!! 7. ไม่พูดว่า “กินอะไรก็ได้” ตอนหิว รู้ใช่ไหม!!? ว่าการเลือกเมนูอาหารตอนหิวคือการจุดฉนวนการทะเลาะกันได้เป็นอย่างดี ดังนั้นกินอะไรง่ายๆ กันเถอะที่รัก และถ้ากินอะไรก็ได้ ก็ขอให้มันเป็นอะไรก็ได้จริงๆ นะ ไม่ใช่เสนอนั่นไปก็ไม่ได้ นี่ไปก็ไม่ดี โถ้ววววว…
-
Google จ้างพนักงานเพิ่ม 30 คน เพื่อตามหาจักรยานของพนักงานที่ชาวบ้านขโมยไปกว่า 250 คัน!!
หลังจากที่ทาง Google ได้สร้างอาณาจักรของพวกเขาขึ้นที่ Silicon Valley เราต่างรู้ดีว่าบริษัทไอทียักษ์ใหญ่นี้มีสวัสดิการให้พนักงานมากมาย รวมถึงการให้บริการรถจักรยานฟรีเพื่อให้สามารถสัญจรไปมาในออฟฟิศขนาดกว้างใหญ่นี้ ล่าสุดดูเหมือนว่าบริการดังกล่าวจะมีปัญหาซะแล้ว หลังจากที่รถจักรยานจำนวนมากถูกชาวบ้านในละแวกนั้นขโมยไปใช้ซะอย่างนั้น!! เมือง Mountain View รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ Google กำลังเผชิญกับปัญหาจักกรยานของเหล่าพนักงานกว่า 100-250 คันที่ถูกขโมยไป จากทั้งหมด 1,100 คัน!? งานนี้ทำเอาบริษัทดังถึงขั้นต้องกลับมาคิดหนักเรื่องให้บริการจักรยานฟรี และจ้างคนสำหรับตามหารถที่หายไปโดยเฉพาะกันเลยทีเดียว หลังจากคิดหาทางแก้ปัญหาอยู่หลายวิธี ในที่สุดทาง Google ได้ลงทุนจ้างพนักงานกว่า 30 ตำแหน่งและรถตู้อีก 5 คันสำหรับการปฏิบัติภารกิจตามหาจักรยานที่หายไปนี้ นอกจากนี้พวกเขาก็ยังได้ติดตั้งระบบ GPS พร้อมกำหนดให้เฉพาะพนักงานเท่านั้น ที่สามารถใช้โทรศัพท์มืิอถือเพื่อปลดล็อครถจักรยาน เป็นการแก้ปัญหาอีกทางด้วยเช่นกัน โครงการจักรยานสำหรับพนักงานนี้เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2007 ก่อนที่จะพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี 2015 ทางบริษัทได้ลงทุนมากกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐในการพัฒนาจักรยานและระบบดังกล่าวเพื่อใช้ใน Mountain View ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาคือต้องการให้คนเมืองนี้หันมาใช้จักรยาน รวมถึงทำให้เป็นเมืองจักรยานอย่างเช่นเมือง Copenhagen ของเดนมาร์กนั่นเอง คุณ Ken Rosenberg นายกเทศมนตรีของ Mountain…
-
12 ตอนของรายการญี่ปุ่นสุดฮา คนธรรมดาไม่มีทางคิดอะไรแบบนี้ออกมาได้หรอก มันต้องญี่ปุ่นเท่านั้น
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มักจะมีอะไรแปลกๆ มาให้เราได้ดูกันอยู่เสมอๆ และของแปลกพวกนั้นส่วนใหญ่ก็ดันสนุกอย่างไม่น่าเชื่อเสียด้วย ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พวกเราได้นำของแปลกจากญี่ปุ่นมานำเสนอแก่เพื่อนๆ ด้วย 12 ตอนแปลกของรายการญี่ปุ่นที่คนธรรมดาไม่น่าจะคิดออกมาได้ แต่สุดท้ายมันก็มีออกมาฉายจนได้ “ขนมหรือเปล่า?” “Sokkuri Sweets” คือรายการสุดจะแปลกประหลาดที่จะให้แขกรับเชิญแต่ล่ะคน ไปลองชิมทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ลูกบิดประตู หรือรองเท้า แล้วบอกว่าของพวกนั้นเป็นขนมหรือไม่ แม้ว่าจะแปลกอยู่บ้างแต่บางอย่างก็ต้องชมคนทำขนมเหมือนกันที่ทำขนมบางอย่างออกมาเหมือนของจริงอย่างกับแกะ . . “สาวๆ ปะทะ กิ้งก่า” ถึงบางคนอาจจะคิดว่ากิ้งก่าไม่เห็นน่ากลัวเลย แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากกิ้งก่าตัวใหญ่ที่ว่ามันกำลังวิ่งตามชิ้นเนื้อดิบที่ดันแปะอยู่บนหน้าผากของคุณล่ะ แหม…ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าโดนกัดจะเป็นยังไง ซึ่งบังเอิญว่ารายการญี่ปุ่นรายการหนึ่งก็ทำแบบนี้ว่าไปข้างบนนี่ล่ะ เอาสาวๆ มายื่นหัวเข้าไปในตู้ที่มีกิ้งก่าอยู่เพราะทดสอบความกล้า ถ้ากลัวบนเอาหัวออกมาก็ถือว่าแพ้ วีดีโอรายการที่ว่าจาก Xichayle “เกมหาเก้าอี้” จากรายการ “Gaki No Tsukai” ฟังดูมันก็เป็นเกมที่ง่ายดีอยู่หรอก ถ้าผู้เล่นไม่โดนปิดตาล่ะก็นะ แถมยังต้องแบกรับความอับอายเวลาเดินชนโน่นชนนี่แล้วโดนคนหัวเราะใส่อีก และแน่นอนว่ายิ่งเจ็บคนยิ่งชอบ “ขอให้อร่อย” จากรายการ “AKBingo!” ซึ่งเกมนี้ก็ไม่มีอะไรมากเช่นกัน…
-
หญิงสาวพบโน้ตประหลาด บอกว่ามีคนหันปืนมาทางเธอ เพื่อปล้นเงิน สุดท้ายแกล้งชักจนรอดมาได้
จะเกิดอะไรขึ้นหากมีมือปริศนาส่งกระดาษมาบอกคุณว่าคุณกำลังโดนปืนจ่ออยู่ ไม่แน่นะว่าการตัดสินใจในเสี้ยววินาทีนั้นอาจเปลี่ยนชีวิตของคุณได้เลยทีเดียว Julie Dragland เป็นหญิงสาววัย 32 ปี ผู้อาศัยอยู่ในเมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประชาสัมพันธ์ให้แก่ SEGA Networks และมีงานอดิเรกดูหนังอาชญากรรมในเวลาว่าง แน่นอนว่าการดูหนังพวกนั้นอาจจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยนอกจากการฆ่าเวลาหลังการทำงานและคลายความเครียดเท่านั้น Julie ก็เชื่อแบบนั้นเช่นกัน จนกระทั้งวันหนึ่งในเดือน กันยายน 2017 ที่เธอต้องพบกับเหตุการณ์อันน่าหวาดกลัวที่เธออาจจะเคยเห็นแค่จากในโทรทัศน์ ในวันเสาร์เวลา 5 โมงเย็น Julie กำลังนั่งอยู่ในรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนไปยัง Dublin ซึ่งเป็นเมืองท่าฝั่งตะวันออก ด้วยความที่เป็นวันหยุดตัวรถจึงโล่งกว่าปกติแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนก็ตาม ทั้งตู้รถไฟนั้นมีเพียง Julie และผู้โดยสารอื่นๆ อีกเพียง 15 คน โชคร้ายที่ว่าหนึ่งในนั้นขึ้นรถไฟมาด้วยความประสงค์ร้าย ในตอนที่ตัวรถผ่านเมืองซานฟรานซิสโกนั่นเองกล้องของรถไฟจับภาพผู้หญิงผมสีสตรอว์เบอรี่ บลอนด์เดินมานั่งด้านหลัง Julie และแอบทิ้งโน๊ตให้แก่ Julie และเมื่อ Julie หยิบมันขึ้นมาอ่านเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น สิ่งที่เขียนอยู่บนกระดาษนั้นบอกว่า “มีปืนสองกระบอกเล็งอยู่ที่คุณ ถ้าหากยังอยากมีชีวิตให้ส่งมือถือและกระเป๋าสตางค์มาข้างหลัง ห้ามมองมาข้างหลังและอยู่ในความสงบ จากนั้นห้ามหันกลับมาจนกว่าจะออกไปจากศูนย์ประชาสังคม” ด้วยหมึกสีแดง …
-
ผู้โดยสารชั้นธุรกิจโดน “ตัวเรือด” กัดบนเครื่องบินกว่า 150 ครั้ง จากลอนดอนสู่เคปทาวน์
การเดินทางอันแสนทรมานนี้เกิดขึ้นกับคุณ Mike Gregory นักธุรกิจหนุ่มชาวอังกฤษที่ถูกตัวเรือดกัดระหว่างการเดินทางจากกรุงลอนดอนไปยังเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ “ร่างกายของผมมีรอยอยู่มากมายทั้งตรงเอวและมือ ผมคิดว่าผมน่าจะถูกกัดมากกว่า 120 ถึง 150 ครั้ง” นักธุรกิจหนุ่มเล่าประสบการณ์การเดินทาง 7 ชั่วโมงที่แสนทรมานของเขา ตัวเรือด แมลงตัวเล็กๆ ที่เล่นงานนักธุรกิจหนุ่มท่านนี้ ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยแดงระหว่างโดยสารเครื่องบินของสายการบิน British Airways ซึ่งหลังจากที่ได้พบคุณหมอ ก็สามารถยืนยันได้ว่ารอยแดงดังกล่าวนั้นเป็นฝีมือของพวกตัวเรือดที่อยู่บนเครื่องบิน คุณ Gregory ได้ทำการแจ้งไปยังสายการบินดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทางสายการบินก็ได้แจ้งกับชายหนุ่มว่าพวกเขาได้จัดการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยการจัดการพวกตัวเรือดในเครื่องบินลำดังกล่าว พร้อมกับออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ทางเราได้ทำการติดต่อไปยังคุณ Gregory เพื่อเป็นการขอโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตลอดการบินมากกว่า 280,000 เที่ยวบินใน 280 เส้นทาง การพบตัวเรือดนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่พบได้ยากมาก แต่อย่างไรก็ตามเราได้ทำการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” โฆษกของทาง British Airways แถลง อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้โดยสารจากสารการบินดังกล่าวถูกตัวเรือดกัด แต่ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ครอบครัวชาวแคนาดาครอบครัวหนึ่งก็ถูกตัวเรือดกัดในระหว่างเดินทางจากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ไปยังกรุงลอนดอนเช่นกัน แผลที่มือของคุณ Gregory หลังจากการถูกตัวเรือดกัด กระเป๋าเดินทางอาจจะเป็นหนึ่งในหนึ่งช่องทางที่ทำให้พวกตัวเรือดสามารถเดินทางจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่งได้ แต่อย่างไรก็ตามการพบตัวเรือดบนเครื่องบินนั้นถือว่าเป็นกรณีที่พบเห็นได้น้อยมาก ที่มา businessinsider
-
เผยโฉมหน้าสตั๊นท์แมนของ The Rock เป็นญาติของพี่แกเอง แถมหน้าเหมื๊อนนนเหมือน
Dwayne Johnson หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ The Rock เขาคืออดีตนักมวยปล้ำวัย 45 ปี ไอดอลของใครหลายๆ คน ซึ่งในปัจจุบันเขาได้ออกจากวงการมาเป็นนักแสดงเต็มตัว และกลายเป็นที่ชื่นชอบมากเสียยิ่งกว่าเดิม เราสามารถมองเห็นจุดเด่นในรูปลักษณ์ภายนอกของเขาอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มทรงเสน่ห์ หรือแม้แต่ร่างกายอันใหญ่โตที่เต็มไปด้วยกล้ามเป็นมัดๆ ซึ่งเราอาจจะคิดว่าคงไม่มีใครเหมือนเขาได้ แต่ความเป็นจริงแล้วกลับมีคนคนหนึ่งที่ดูเหมือนเขาจนแยกแทบไม่ออก The Rock ดาราฮอลลีวูดชื่อดังแห่งยุคนี้ คนคนนั้นก็คือ Tanoai Reed สตั๊นท์แมนวัย 43 ปี และเป็นลูกพี่ลูกน้องของ The Rock ซึ่งนั่นจึงทำให้ทั้งสองคนดูเหมือนกันเหลือเกิน Tanoai เกิดบนเกาะฮาวาย เขาทำอาชีพเสี่ยงอันตรายมานานกว่า 23 ปี โดยเป็นตัวแสดงแทนให้กับ Dwayne มานานกว่า 16 ปีเลยทีเดียว Tanoai สตั๊นท์แมนประจำตัวที่ดูเหมือนกันราวกับฝาแฝด ด้วยความที่เขาจะต้องดูเหมือนนักแสดงที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเองอยู่เสมอ ทำให้ไม่ได้มีแค่หน้าตาที่ได้รับจากกรรมพันธุ์ของครอบครัวเดียวกันมา แต่เขายังพยายามออกกำลังกาย เข้าฟิตเนสอยู่สม่ำเสมอ จนร่างกายของเขานั้นใหญ่โตมโหฬารไม่ต่างกัน เขาเล่าว่า “ผมต้องดูแลรูปร่างเพื่อเลียนแบบ Dwayne ถ้าเขาลดน้ำหนัก ผมก็ต้องลดตาม…
-
เมืองลึกลับในประเทศออสเตรเลีย ที่ประชากรกว่า 1,675 คนอาศัยอยู่ ‘ใต้ดิน’ กันหมด!?
ในขณะที่เราส่วนใหญ่สร้างบ้านเรือนอยู่บนดิน มองขึ้นก็จะเห็นท้องฟ้าในเวลากลางวันและเห็นดวงดาวในเวลากลางคืน แต่รู้มั้ยว่าในโลกนี้มีคนอีกกลุ่มที่หนึ่งอาศัยอยู่ใต้ดิน? กลุ่มคนที่ว่านี้คือชาวเมือง Coober Pedy พวกเขาอาศัยอยู่ในทะเลทรายทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ซึ่งมีอุณภูมิเฉลี่ย 51 องศาเซลเซียสในที่ร่ม จนชาวบ้านกว่า 1,675 คน ต้องสร้างบ้านใต้ดินเพื่อหนีความร้อน พื้นที่ตั้งของเมือง Coober Pedy เป็นหนึ่งในแหล่งทำเหมืองแร่โอปอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งที่นี่จะมีปล่องไฟผุดขึ้นจากพื้นดินเต็มไปหมดและมีหลุมที่เป็นทางเข้าบ้านของพวกเขาด้วย Coober Pedy เป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งคือ “เมืองหลวงโอปอลของโลก” ซึ่งถูกค้นพบเมื่อช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เนื่องจากมีการค้นพบแร่โอปอลที่นี่ ก่อนที่การทำเหมืองแร่โอปอล์จะกลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในปัจจุบันนี้ สำหรับประวัติความเป็นมาของ Coober Pedy อาจต้องย้อนกลับไปในปี 1915 โดยในช่วงต้นของปีนั้น New Colorado Prospecting Syndicate ได้ทำการตรวจหาแร่ทองคำทางตอนใต้ของ Coober Pedy สมาชิกของกลุ่มคนดังกล่าวประกอบด้วย Jim Hutchison ลูกชายของเขา William Hutchison วัย 14 ปี และเพื่อนร่วมทางอีก 2 คน โดยหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการสำรวจ พวกเขาก็ได้ตั้งแคมป์อยู่ที่นั่น กระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ของปีนั้น ขณะที่ William…