Category: Highlight
-
สาวบอกเลิกกับแฟนหนุ่มหลังเปิด IG ไปเจอสาวแปลกหน้าอัพภาพวิวห้องนอนที่เดียวกันเป๊ะๆ
สื่อโซเชียลปัจจุบันนั้น เรียกว่าเป็นหนึ่งในสื่อที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกเลยก็ได้ เพราะคนส่วนใหญ่ปัจจุบันล้วนใช้สื่อโซเชียลในการติดต่อพูดคุยแสดงออกสิ่งต่างๆ และแชร์ความทรงจำดีๆ ของตัวเอง ทว่าบางครั้งการแชร์อะไรโดยไม่นัดให้ดีก็อาจจะเป็นจุดจบของชีวิตได้ เพราะล่าสุดได้มีกระแสโซเชียลในรัสเซียเกี่ยวกับคู่รักคู่หนึ่ง ที่ภรรยาดันไปสังเกตเห็นภาพถ่ายของหญิงแปลกหน้าคนหนึ่ง แต่ภาพดังกล่าวดันเหมือนวิวจากห้องนอนของสามีแบบเป๊ะๆ !? ภาพเจ้าปัญหาที่ว่า Yulia Agranovych หญิงสาวเจ้าของเรื่องราวผู้อาศัยอยู่ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ได้เล่าว่าเธอได้ดูภาพในไทม์ไลน์ของอินสตาแกรมของแฟนหนุ่ม ซึ่งเขาได้ลงรูปภาพวิวยามค่ำคืนจากหน้าต่างห้องของเธอและเขา แต่ว่าเรื่องมันดันโป๊ะแตกก็ตรงที่ เธอดันไปสังเกตเห็นภาพของหญิงสาวอีกคนบนอินสตาแกรมเช่นกัน โดยใช้ชื่อว่า Vlada Abramovich ซึ่งภาพนั้นก็เหมือนภาพของสามีเธอเป๊ะๆ เลยล่ะ และนี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้น งานนี้ Yulia ถึงกับหัวร้อนสุดขีดตรงดิ่งไปตามสามีของเธอ Nazar Grynko ว่าเขานอกใจหรือเปล่า แน่นอนว่าคำตอบที่ได้คือไม่ได้นอกใจ เขาแค่ชวนเพื่อนสาวมาจิบชากันและอยู่ในห้องครัวเฉยๆ Yulia เลยตอบกลับเลยว่า “ถ้าแขกมาจิบชา มันต้องจิบอยู่ที่ห้องครัวไม่ใช่ห้องนอน!!” งานนี้เรื่องราวเลยบานปลายใหญ่โต จนหญิงสาวคนดังกล่าวต้องปิดแอคเคาท์อินสตาแกรมหนีไปในเวลาต่อมา แต่ในอีกสื่อโซเชียล เธอก็ออกมายอมรับกลายๆ ว่าเธอมีอะไรกับ Nazar จริงๆ งานนี้สองสาวจึงเกิดการปะทะคารมทันที โดย Yulia ถาม Vlada ว่า “เธอไม่รู้สึกผิดบ้างเหรอที่มีอะไรกับสามีคนอื่น” ด้าน Vlada ก็ตอกกลับมาว่า “เธอเป็นภรรยาของ Nazar แต่ฉันไม่ใช่ ฉะนั้นมันจะมีปัญหาอะไร…
-
สาวชาวเอเชียถูกเชิญลงจากเครื่องบิน เพราะถูกเข้าใจผิดว่าตกอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์!?
ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจสำหรับหญิงสาวที่ชื่อว่า Stephanie Ung หญิงสาวลูกครึ่งอเมริกัน-เอเชียนที่กำลังจะเดินทางจากเมืองกังกุน ประเทศเม็กซิโกไปยังบ้านเกิดที่รัฐจอร์เจียเพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดปีที่ 26 ของเธอ แต่การเดินทางของเธอกลับต้องสะดุดลงเมื่อทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้กักตัวเธอไว้เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงเพราะพวกเขาคิดว่าเธอตกอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ เธอพยายามอธิบายกับเจ้าหน้าที่ขอให้ปล่อยตัวเธอไปเนื่องจากว่าเธออยากจะไปถึงรัฐจอร์เจียภายในเย็นวันนั้นเพื่อใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในวันขอบคุณพระเจ้า แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้เพิกเฉยและกล่าวหาว่าเธออยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ จนสุดท้ายเธอก็ไม่สามารถขึ้นเครื่องได้ทันเวลา เหตุผลที่เธอทราบจากเจ้าหน้าที่มาว่า เธอโดนเชิญลงจากเครื่องเพราะว่าเธอมีเชื้อสายเอเชียพร้อมกับสาวเอเชียอีก 1 คนบนเครื่องบิน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางโฆษกของสายการบินเดลตาก็ได้ออกมาอ้างว่า มีผู้โดยสารท่านอื่นคิดว่า Stephanie และผู้หญิงอีกคนไม่ได้ถือพาสปอร์ตไว้ ซึ่งพวกเขาคิดว่าเธออาจจะอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ก็ได้ “พอฉันกับเพื่อนเป็นชาวเอเชียเพียงสองคนบนเครื่อง มันกลับกลายเป็นปัญหาขึ้นมาซะอย่างนั้น” Stephanie กล่าว “สายการบินเดลต้าได้ต่อต้านเรื่องการค้ามนุษย์อย่างเด็ดขาดตั้งแต่ปี 2011 และพนักงานจำนวนหลายพันคนของเราได้รับการฝึกอบรมเพื่อให้สังเกตและป้องกันการค้ามนุษย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงการตรวจสอบเบื้องต้นเท่าที่เป็นไปได้ ล่าสุดได้พบว่าลูกค้าสองรายไม่ได้ถือพาสปอร์ตไว้ ทางเราจึงสงสัยว่าอาจจะเป็นการค้ามนุษย์” “ทางเดลตาได้ติดต่อเจ้าหน้าที่แล้ว ถึงแม้ว่าหลังจากการสอบสวนแล้วจะพบว่าลูกค้าทั้งสองของเราไม่ได้ตกอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ แต่ทางเราก็ยังยืนยันที่จะฝึกให้ลูกเรือของเราใช้ข้อผิดพลาดนี้ในการปรับปรุงเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าทุกคน” และเรื่องราวนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า Stephanie จะทำการฟ้องร้องสายการบินหรือไม่ที่ทำให้เธอเสียเวลาและเสื่อมเสียชื่อเสียง… คลิปวิดีโอสัมภาษณ์ Stephanie โดย 11Alive ที่มา nextshark
-
หนุ่มเจอเจ้าเหมียวจรจัดเดินมาด้อมๆ มองๆ แถมเกาะประตูบ้านซะขนาดนี้ โดนยึดบ้านสิคร๊าบบบ
แมวจรจัดเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วๆไปในหลายๆประเทศ รวมทั้งในสังคมไทยด้วย แมวจรจัดเหล่านี้ต้องอยู่ตามตรอกซอยที่สกปรก และต้องหาอาหารอย่างยากลำบาก จึงไม่แปลกเลยถ้าหากแมวเหล่านี้รู้สึกอยากมีคนรับเลี้ยงบ้าง เช่นเดียวกับเจ้า Maple ตัวนี้ที่ไปวนเวียนอยู่บริเวณบ้านของสมาชิกเว็บ Reddit ที่ชื่อว่า RavenPuffFTW เขาพบแมวตัวนี้ครั้งแรกในวันที่ 17 พฤศจิกายน โดยแมวของเขาส่งเสียงดังบริเวณหลังบ้าน เขาจึงมองดูและสังเกตเห็นเจ้า Maple กำลังคุ้ยขยะหาอาหารอยู่ แต่เมื่อพยายามจะเข้าไปใกล้เจ้าเหมียวก็วิ่งหนีไปซะอย่างนั้น เขาไม่แน่ใจว่าแมวตัวนี้มีเจ้าของหรือเปล่า จึงลองโพสต์รูปของมันลงในเพจของเขา แต่ก็ไม่มีใครออกมาแสดงตัวเป็นเจ้าของของมันเลย ระหว่างนั้นเจ้า Maple ก็ยังคงมาวนเวียนอยู่หลังบ้านของเขาอยู่เรื่อยๆ มันทั้งดูหิวโหยและขาดความอบอุ่น แต่มันก็ไม่ยอมให้เขาจับสักที หลังจากนั้นเขาก็ให้อาหารเจ้าเหมียวตลอดเวลาหลายอาทิตย์ จนในที่สุดมันก็ใจอ่อนให้เขาจับและนำไปเลี้ยงในบ้านที่แสนอบอุ่น กลายเป็นแมวที่ขี้อ้อนมากๆ แต่ว่าไม่ใช่ว่าจะเข้ามาอยู่ได้เฉยๆเลยหรอกนะ ในตอนที่มันถูกรับเลี้ยงใหม่ๆ แมวเจ้าถิ่นในบ้านดูจะไม่ชอบมันซะเลย ถึงอย่างนั้นเจ้าของของมันก็ยืนยันจะรับเลี้ยงเจ้าเหมียวตัวใหม่เอาไว้ มันจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวขนาดห้าคน ที่มีแมวสี่ตัว และสุนัขอีกตัวหนึ่ง ทว่าในเวลาต่อมาครอบครัวนี้ก็ต้องแปลใจเมื่อพบว่าเจ้า Maple ไม่ได้มาอาศัยอยู่ตัวเดียว เพราะหลังจากไปหาสัตวแพทย์แล้ว จึงได้รู้ว่ามันกำลังตั้งครรภ์อยู่ ถึงอย่างนั้นทุกคนในครอบครัวก็ยังยินดีที่จะเลี้ยงมันและลูกด้วยความเต็มใจอยู่ดี บางทีการที่เจ้า Maple ต้องการครอบครัว อาจจะเป็นเพราะมันต้องการคนช่วยเลี้ยงลูกของมันให้เติบโตมาท่ามกลางความอบอุ่นก็ได้นะ ที่มา: lovemeow
-
โคตรข้าวกล่องเบนโตะ ที่รวมทุกส่วนของ ‘เนื้อวัว’ มาให้คุณได้รับประทาน ในราคาเหยียบแสน!!
ถ้าพูดถึงอาหารญี่ปุ่นแล้ว อาหารที่เป็นเอกลักษณ์อีกประเภทหนึ่งก็คือข้าวกล่องหรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า เบนโตะ นั่นเอง โดยปกติแล้วข้าวกล่องนับว่าเป็นอาหารราคาประหยัดก็ว่าได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะทำเป็นอาหารมื้อพรีเมี่ยมชั้นเลิศไม่ได้นะ ตัวอย่างเช่นข้าวกล่อง The Tottori Wagyu Complete Cow bento ที่จำหน่ายโดยเว็บไซต์ Gochikuru กล่องนี้ ข้าวกล่องสุดพิเศษนี้ไม่ใช่ข้าวกล่องธรรมดาๆ เพราะนอกจากการจัดเรียงเนื้ออย่างสวยงามแล้ว พวกเขายังใช้เนื้อวากิวจากจังหวัดทตโตะริ ซึ่งได้รับการการันตีจาก สมาคมผู้ค้าเนื้อวากิวญี่ปุ่น (Wagyu Registry Association) มาเรียบร้อยแล้วว่าเป็นเนื้อวัวที่มีคุณภาพดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ณ เวลานี้ โดยเจ้าข้าวกล่องนี้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 60 เซนติเมตร ภายในอัดแน่นไปด้วยเนื้อปริมาณที่คับแน่นจุใจถึง 4.5 กิโลกรัม เรียกว่าซื้อแล้วสามารถนำไปแบ่งคนทั้งบ้านกินได้หลายมื้อเลยทีเดียว นอกจากนี้ ตัวข้าวกล่องเองก็ทำจากไม้แท้ๆ ทั้งอัน ดูสวยงามน่าซื้อ ไม่ว่าจะเอาไว้กินเองหรือจะซื้อเป็นของฝากก็ดูดีมีระดับ ความหรูหราของมันยังไม่จบเพียงเท่านี้ ภายใต้เนื้อวากิวที่อัดแน่นเต็มกล่องยังมีข้าวสวย Kinu Musume คุณภาพดีที่ปลูกในจังหวัดทตโตะริอีกด้วย นอกจากนี้เครื่องเคียงที่มากับข้าวกล่องนี้ก็ไม่ได้น้อยแต่อย่างใด ซอสสีสันน่ากินที่เข้ากับเนื้อวากิวสุดๆ นี้ก็ใช้ลูกแพรและวาซาบิที่ปลูกและทำจากจังหวัดทตโตะริ ใครที่สนใจอยากลองข้าวกล่อง The Tottori Wagyu Complete Cow…
-
นักวิทย์ฯ เผย นี่คือ 7 สิ่งของผู้หญิงที่สามารถดึงดูดความสนใจจากชายหนุ่มมากที่สุด!!
สาวๆ ที่ยังโสดอยู่ เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมไม่มีหนุ่มๆ มาจีบบ้างเลย ทั้งๆ ที่เราก็สวย หุ่นดี และเก่งประมาณหนึ่ง? เอ๊ะ หรือสิ่งเหล่านี้มันไม่น่าดึงดูดพอ? ที่เราคิดก็อาจจะมีส่วนถูกอยู่บ้าง แต่นักวิทยาศาสตร์ได้เผยเสน่ห์ที่แท้จริงของผู้หญิงว่าลักษณะแบบไหนถึงจะเป็นที่สนใจของผู้ชายมากที่สุด 1. กลิ่นเหงื่อ เวลาออกกำลังกายแล้วเหงื่อออก หลายคนอาจจะรู้สึกอายเพราะกลัวใครจะได้กลิ่นตัว แต่จริงๆ มนุษย์มีกลิ่นที่แตกต่างกันมากกว่า 1 ล้านแบบ แน่นอนว่ากลิ่นเหงื่อนั้นมักมีความเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของผู้ที่ได้กลิ่น แต่นักวิทยาศาสตร์เผยว่า “กลิ่นแห่งความสุข” สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและอาจทำให้ผู้ที่ได้กลิ่นนั้นมีความรู้สึกในเชิงบวก 2. เสียงหัวเราะ นักจิตวิทยาบอกว่าถ้าพบใครที่ทำให้เราหัวเราะได้อย่างจริงจัง มีแนวโน้มสูงที่ความสัมพันธ์ของคุณจะเป็นได้ด้วยดีถ้าคบกับเธอ เพราะชีวิตของคุณจะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและอารมณ์ดีเกือบตลอดเวลา 3. ใส่แว่นตา ตอนนี้คุณไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตาเพื่ออ่านหนังสือเท่านั้นหรือเพียงเพราะมีปัญหาทางสายตา เพราะผลการวิจัยพบว่าผู้ชายจะรู้สึกว่าผู้หญิงที่ใส่แว่นดูน่าสนใจและเซ็กซี่มากขึ้น 4. รอยอาบแดด ส่วนของร่างกายที่เป็นรอยอาบแดด เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชายและทำให้พวกเขาอยากสัมผัสผิวส่วนนั้น 5. ผมยุ่ง การมีผมยุ่งหรือผมหยิกธรรมชาตินั้น ทำให้ผู้ชายรู้ไม่รู้สึกกังวลว่าจะทำผมของหญิงสาวพังเวลาที่กอดเธอ ยิ่งไปกว่านั้นผมยุ่งจะทำให้ผู้หญิงดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการเซตผม 6. ไม่แต่งหน้า จากการวิจัยและทำแบบสอบถามพบว่า ผู้คน 40 % บอกว่าพวกเขาชอบผู้หญิงที่ไม่แต่งหน้ามากกว่าผู้หญิงที่แต่งหน้า…
-
34 สถานที่ท่องเที่ยวอันแสนมหัศจรรย์จากรอบโลก ที่คุณควรไปให้ได้สักครั้งตอนยังมีชีวิตอยู่
ในโลกนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันแสนมหัศจรรย์มากมายรอให้เราไปสัมผัส และแม้ว่าเราจะไม่ใช่นักเดินทาง แต่บางสถานที่นั้น เห็นแล้วไม่ไปไม่ได้จริงๆ เหมือนกับภาพสถานที่อันงดงามเหล่านี้ ที่เหมือนอยู่ในโลกแห่งเทพนิยายแต่มันมีอยู่จริงๆ ในโลกใบนี้ และคุณควรจะไปเห็นด้วยตาสักครั้งในชีวิต 1. Dark Hedges สหราชอาณาจักร 2. อุทยานแห่งชาติ Tasman ประเทศออสเตรเลีย 3. สะพานปีศาจ ใน Gablenz ประเทศเยอรมนี 4. อัลบาร์ราซิน ประเทศสเปน 5. Canyon Fjaðrárgljúfur ประเทศไอซ์แลนด์ 6. มณฑลกานซู่ ประเทศจีน 7. ถ้ำคริสตัลยักษ์ Naica Mine ประเทศเม็กซิโก 8. เขาโรไรมา ประเทศเวเนซุเอลา 9. ทะเลสาบ Moraine Lake ประเทศแคนาดา 10. Antelope Canyon ประเทศสหรัฐอเมริกา 11. ทะเลสาบใน Patagonia ประเทศอาร์เจนตินา…
-
27 ภาพพิสูจน์ว่าเด็กๆ คือเครื่องจักรแห่งการทำลายล้างที่แสนบริสุทธิ์ เห็นแล้วก็โกรธไม่ลง
สำหรับหลายๆ คน การมีลูกน้อยเปรียบเสมือนกำไรของชีวิต เพราะเด็กๆ จะมีความน่ารักโดยธรรมชาติ และสร้างความวุ่นวายใน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกสิ่งที่พวกเขาทำมักทำลายความเงียบเหงาได้เสมอ เหมือนกับเด็กๆ เหล่านี้ ที่มีทั้งความซน ความน่ารัก ความไร้เดียงสา และความฮา จนทำให้ผู้ใหญ่อย่างเรามองแล้วต้องยิ้มตาม 1. เป็นการบอกรักพ่อแม่ที่น่าตีมือซะจริงๆ 2. เด็กน้อยขอเล่นก่อนอาบน้ำ…และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังผ่านไป 5 นาที 3. นี่คงจะเล่นรถคว่ำกันอยู่สินะ 4. ลูกชายวัย 6 ขวบ วาดรูปเซอร์ไพรส์พ่อแม่ในห้องน้ำ 5. ระบายบนกระดาษไม่สะใจ มันต้องบนใบหน้าแบบนี้ 6. เนยที่ดูเหมือนไอศกรีม ลูกเลยทดลองกัดแม่มทุกอันเลย 7. เมื่อลูกอยากเสริมสวยให้น้องหมา ถักเปียมาเชียว 8. กิจกรรมยามว่างของลูกเมื่อถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง 9. เค้าว่ายิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์ จัดเต็มไปเลยสิ รอไร 10. แกะอมยิ้มทุกอันที่มี แต่กินไม่หมดสักอัน…
-
อดีตนายพล ดื่มยาพิษฆ่าตัวตายกลางศาล หลังถูกตัดสินจำคุก 20 ปี ในข้อหาอาชญากรสงคราม
เป็นธรรมดาที่ผู้ต้องสงสัยหรือผู้ถูกตัดสินโทษในหลายๆ คดี มักจะหนีโทษด้วยการหลบหนีหรือการฆ่าตัวตาย เพื่อไม่ให้ตนต้องทุกข์ทรมานรับการลงโทษ แต่จะมีสักกี่คนเชียวที่กล้าฆ่าตัวตายอย่างโจ่งแจ้งท่ามกลางสื่อแบบ Slobodan Praljak อดีตนายพลในกองทัพโครเอเชียในช่วงปี 1991 – 1995 คนนี้ เขาถูกดำเนินคดีในข้อหาเป็นอาชญากรสงคราม เนื่องในช่วงศตวรรษที่ 19 เขาเคยเป็นผู้นำในการฆ่าล้างกลุ่มชาวมุสลิมในประเทศยูโกสลาเวีย เพราะเขาต้องการสร้างรัฐที่มีแต่สายเลือดบริสุทธิ์ของชาวบอสเนียและโครแอตเท่านั้น ภาพอดีตนายพล Praljak กำลังไปรับคำตัดสินที่ศาลเมืองเฮก คดีนี้ยืดเยื้อมานานหลายสิบปี จนล่าสุดเขาถูกคณะตุลาการอาญาระหว่างประเทศตัดสินโทษจำคุก 20 ปี ในเมืองเฮก ประเทศเนเธอแลนด์ แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างชัดเจน เขาพยายามที่จะยืนกรานความบริสุทธิ์ของตนโดยพูดว่า “ศาลที่เคารพ ผมนาย Slobodan Praljak ไม่ได้เป็นอาชญากร” นอกจากนี้เขายังแสดงการต่อต้านคำตัดสินของศาลโดยบอกว่า “ผมขอปฏิเสธคำตัดสินนี้” หลังจากนั้นเขาก็ยกบางอย่างขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว แล้วพูดหน้าตาเฉยว่าผมพึ่งดื่มยาพิษเข้าไป สร้างความตื่นตระหนกและมึนงงให้กับคนทั้งศาลเลยทีเดียว หลังจากนั้นศาลจึงแจ้งให้ยุติการตัดสินคดีนี้ไปก่อนและรีบเรียกรถพยาบาลให้กับนาย Praljak เพื่อช่วยชีวิตเขา แต่คงจะไม่ทันการณ์เพราะว่าหลังจากนั้นไม่นานเขาก็เสียชีวิตลง ภาพของรถพยาบาลที่มาเพื่อรับตัวอดีตนายพลไปรักษา คลิปขณะที่เขาดื่มยาพิษต่อหน้าศาล ที่มา : Quartz, Dailymail, RT
-
พบกับสาวที่มีหน้าตาเหมือน ‘เจน ลอว์’ แบบเป๊ะๆ นึกว่าฝาแฝดคลานตามกันมา
ว่ากันว่าบนโลกใบนี้ จะมีคนคนหนึ่งที่มีหน้าตาเหมือนกับเราทุกอย่าง แต่เรื่องดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่ยากพิสูจน์ เพราะว่าบนโลกนี้มีคนอยู่เป็นร้อยเป็นพันล้านคน การจะเจอคนที่หน้าเหมือนเราคงเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าคงไม่ใช่กับสาววัย 17 ปีนามว่า Alexia Maier ที่เธอดันหน้าตาไปคล้ายกับ Jennifer Lawrence ดาราสาวฮอลลีวูด ผู้โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Games โดยบังเอิญและนั่นได้ทำให้มีผู้คนมากมายเข้ามาขอลายเซ็นจากสาวคนนี้เพราะนึกว่าเป็นดาราดัง โดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าพวกเขาขอลายเซ็นของเธอไปทำไมกัน ในช่วงแรกที่มีคนเข้ามาขอลายเซ็น เธอนึกว่าผู้คนต่างๆ พยายามจะเล่นตลกกับเธอ แต่เมื่อเธอออกไปยังสถานที่ต่างๆ แล้วมีผู้คนจำนวนมากบอกถึงความเหมือนของเธอกับดาราสาวมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็ทำให้เธอเริ่มคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง “ตอนแรกฉันคิดว่าต้องเป็นการล้อเล่นแน่ๆ เมื่อพวกเขาบอกว่าฉันเหมือนกับ Jennifer แต่เมื่อมีคอมเมนต์จำนวนมากเกี่ยวกับความเหมือนของฉัน ฉันก็เริ่มสำรวจตัวเองว่ามันเหมือนอย่างไร” Alexia กล่าว นอกจากนี้ Alexia ยังบอกอีกว่าผู้คนที่บอกว่าเธอเป็น Jennifer ส่วนมากจะอยู่ในพื้นที่ที่พวกดารามักจะชอบไป แต่ไม่ใช่กับที่บ้านเธอที่ Ponte Vedra รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา “ที่บ้านเกิดของฉัน ชาวบ้านต่างก็รู้ว่ายังไงก็ไม่มีโอกาสได้เห็นคนดังตัวจริงๆ หรอก แต่กลับกันที่นิวยอร์ค มีคนเข้ามาขอลายเซ็นฉันเยอะแยะเลย” “ฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันชอบที่สุดก็คือ การที่มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาบอกว่า ‘Jennifer ฉันเป็นแฟนตัวยงของคุณเลย’ จากนั้นฉันก็บอกว่าฉันไม่ใช่ Jennifer ผู้หญิงคนนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าไปเลยแล้วพูดว่า คุณแน่ใจนะ? มันทำให้ฉันเห็นถึงความดีใจและผิดหวังในเวลาที่ใกล้เคียงกัน ” Alexia กล่าว…
-
“หลิวอวี้เฟย” ได้รับคัดเลือกให้แสดงเป็น ‘มู่หลาน’ ในหนังคนแสดงจริงเวอร์ชั่นใหม่ของดิสนี่ย์
หลังจากดิสนีย์ได้ประกาศว่าจะนำแอนิเมชั่นชื่อดังของพวกเขาอย่าง Mulan มาสร้างเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดงจริง เหล่าแฟนๆ ก็ต่างรอคอยประกาศว่า ใครจะได้มารับบท “มู่หลาน” ล่าสุดทางดิสนีย์ได้ประกาศชื่อนักแสดงออกมาแล้ว บอกเลยว่าคอหนังจีนชาวไทยต้องคุ้นหน้าคุ้นตาเธอเป็นอย่างดีแน่นอน และผู้ที่ถูกเลือกให้รับบทมู่หลานภาคคนแสดงคือ หลิว อวี้เฟย หรือที่รู้จักในชื่อ Crystal Liu เป็นนักแสดงชาวจีนที่มีหน้าตาสะสวยพร้อมคุณสมบัติที่เหมาะกับบทนี้มากๆ Hollywood Reporter รายงานว่า “ในการค้นหานักแสดงที่จะมารับบทตัวละครหลักของเรื่องนี้ ทางดิสนีย์ยืนยันว่าต้องเป็นนักแสดงหญิงเชื้อสายจีน ที่มีความสามารถทางด้านศิลปะการต่อสู้และสามารถพูดภาษาอังกฤษได้” ทั้งนี้ผู้ที่ทำหน้าที่แคสนักแสดงได้ทำการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมกว่า 1,000 คน จาก 5 ทวีปทั่วโลก จนในที่สุดก็ได้หลิวอวี้เฟยในวัย 30 ปี มารับบทมู่หลาน สำหรับหลิวมีชื่อเรียกในวงการว่า Fairy Sister เธอเป็นนักแสดงเชื้อสายจีนที่โด่งดังมากในช่วงกลางปี 2000-2009 จากการเล่นซีรีส์จีน ขณะที่เรียนอยู่ใน Beijing Film Academy เป็นโรงเรียนสอนการแสดงชื่อดังของจีน สำหรับในไทย เชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้จัก หลิวอวี้เฟย จากบทบาท “เซียวเล่งนึ้ง” ในซีรีส์ มังกรหยก…
-
เจ้าของราดน้ำใส่หมากลางอุณหภูมิ -32 องศา หวังให้แข็งตาย-โดนนายกเมืองฟ้องศาลแล้ว!!
ภาพวิดีโอจากประเทศรัสเซียที่ถูกอัพเดทลงบนโลกออนไลน์ เผยให้เห็นสภาพของน้องหมาตัวหนึ่งที่กำลังนอนขดอยู่ท่ามกลางหิมะและกำลังจะขาดใจ เจ้าหมาตัวดังกล่าวกำลังหายใจโรยรินอยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวถึง -32 องศาเซลเซียส หลังจากที่มันถูกเจ้าของเอาน้ำสาดและปล่อยให้ตายอย่างช้าๆ ท่ามกลางอากาศหนาว เจ้าหมานอนตาแข็งพร้อมกับสั่นอุ้งเท้าของมันเหมือนกำลังร้องขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากเมือง Yakutsk รีบส่งเจ้าหมาน้อยไปพบสัตวแพทย์อย่างรวดเร็ว แต่ทว่าด้วยอุณหภูมิที่ตำมากๆ และสภาพร่างกายขงอเจ้าหมาที่แทบจะแข็งไปทั้งตัวนั้น ทำให้ทีมแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตมันไว้ได้ “ฉันไม่มีวันลืมภาพนั้นไปได้เลย ดวงตาของเขาเหมือนกับคนที่กำลังพยายามจะเอาชีวิตรอด แต่มันก็ไม่สำเร็จ ฉันรับรู้ได้ถึงความเศร้าของแววตานั้น ฉันพูดอะไรไม่ออกจริงๆ ” อาสาสมัครสาวกล่าว อย่างไรก็ตามได้มีการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับเจ้าของสุนัข ซึ่งมีผู้ร่วมลงชื่อแล้วมากถึง 100,000 คนแล้ว การเรียกร้องในโลกออนไลน์ไม่สูญเปล่า เพราะหลังจากเกิดกระแสขึ้น ทางด้านนาย Sergey Boyarsky นายกเทศมนตรีของเมืองเองก็ได้ทำการฟ้องร้องกับเจ้าของสุนัขแล้ว “นี่อาจจะเป็นแค่สุนัขตัวเดียวที่เสียชีวิต แต่ชายคนนี้ยังมีลูกๆ อีกหลายคน และวันนี้เขาปล่อยให้สุนัขตายอยู่ใกล้ๆ บ้านเขา และวันพรุ่งนี้ก็อาจจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกๆ ของเขาก็ได้” อาสาสมัครสาวกล่าว ภาพสุดทะเทือนใจของเจ้าหมาสีขาว ที่กำลังร้องขอชีวิตอยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ ที่มา dailymail
-
ยูทูบเบอร์สาวโชว์การแต่งหน้า เพื่อแยกความแตกต่างของ “สาวเกาหลี” และ “สาวญี่ปุ่น”!!
ว่าด้วยเรื่องการแต่งหน้าของสาวๆ แต่ละประเทศนั้น ก็มีสไตล์และเทรนด์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าให้พูดถึงประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการแต่งหน้าของสาวๆ ที่ดูโดดเด่นตามแบบฉบับของตัวเองนั้น ก็คงต้องเป็นสาวเกาหลีและสาวญี่ปุ่น ที่แม้ว่าประเทศจะอยู่ใกล้ๆ กัน แต่สไตล์การแต่งหน้ากลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้เองทำให้สาวยูทูบเบอร์ที่ใช้ชื่อว่า Daiya ออกมารีวิวการแต่งหน้าเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของสาวทั้งสองประเทศ โดยเธอได้บอกว่าสาวเกาหลีนั้นมักจะแต่งหน้าโทน ส้ม แดง ชมพู ทอง และน้ำตาล ส่วนสาวญี่ปุ่นนั้นมันจะแต่งสีส้ม ชมพู ที่มีสดมากกว่า . เธอเริ่มแต่งจากดวงตาก่อนเลย โดยที่ลุคของสาวเกาหลีนั้นจะเน้นเขียนตาให้เข้มมากกว่า สาวญี่ปุ่นที่รูปเขียนน้อยๆ เน้นความเป็นธรรามชาติ เช่นเดียวกันกับคิ้วที่ของสาวญี่ปุ่นก็ดูสีจางกว่าแบบธรรมชาติ ต่อไปคือเทคนิคการลงรองพื้นที่แตกต่างกันของสาวทั้งสองสัญชาติ โดยเธอได้กล่าวว่าของเกาหลีนั้นมักจะใช้รองพื้นที่มีเนื้อแมทท์ ในขณะที่ญี่ปุ่นจะมีเทคนิคการลงรองพื้นให้ดูฉ่ำวาวที่โหนกแก้มมากกว่า ในส่วนของลิปนั้น สาวเกาหลีก็มักที่จะทาสีอ่อนลงไปก่อน จากนั้นก็ค่อยเพิ่มสีแดงสดลงไปที่ริมฝีปากด้านในอีกครั้ง ให้ดูอมแดงระเรื่อ แต่สาวญี่ปุ่นชอบทาลิปที่สีอ่อนๆ ที่ดูเงาๆ เป็นธรรมชาติซะมากกว่า แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดว่าสไตล์การแต่งของตัวเองเป็นแนวไหน ลองนำมาแชร์กันได้นะจ๊ะ ที่มา en.rocketnews24
-
ทางการไซบีเรียเตือนประชาชน โปรดระมัดระวัง ‘หมีมีปืน’ หลุดอาละวาด ถ้าเจออย่าแกล้งตาย!!
เวลาพูดถึงไซบีเรียคุณจะนึกถึงอะไรเป็นสิ่งแรก สุนัขไซบีเรีย? สภาพอากาศที่หนาวเย็น? แน่นอนว่าคุณอาจจะไม่ทันคิดถึงหมีใช่ไหมล่ะ ยิ่งหมีถือปืนคุณยิ่งคาดไม่ถึงแน่ๆ อ่านแล้วอาจจะงง อะไรกันหมีมีปืน? แต่ทางการไซบีเรียได้แจ้งเตือนกับประชาชนแบบนั้นจริงๆ เพราะว่าเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 ได้มีหมีตัวตัวหนึ่งบุกเข้าไปในกระท่อมนายพรานจากนั้นก็แอบขโมยปืนของเขาไป นายพรานวัย 56 ปี ได้ออกมายืนยันเรื่องนี้กับตัวเอง โดยเขาได้เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ตอนนั้นผมออกไปล่าสัตว์ ซึ่งกว่าจะกลับถึงเมืองก็ใช้เวลานาน ผมเลยตัดสินใจพักอยู่ในกระท่อมกลางป่า จากนั้นผมหิวน้ำเลยกะออกไปหาน้ำดื่มสักหน่อย พอกลับมาก็ได้เจอกับเจ้าหมีที่พยายามทำอะไรบางอย่างอยู่ ผมไม่อยากปะทะจึงต้องหนี” ไม่นานนักหลังจากที่นายพรานคนดังกล่าวหนีไปเพื่อหลบเจ้าหมีก็ได้กลับมาที่กระท่องหลังเดิม เขาพบว่ากระเป๋าและปืนสองกระบอกของเขาได้หายไป ตัวเขาจึงตัดสินใจไปแจ้งตำรวจเกี่ยวกับเรื่องที่เจอ จากรายงานของตำรวจก็พบว่าหมีได้ทิ้งร่องรอยการเดินทางไว้พอสมควร ทั้งกรงเล็บและรอยฟันของมัน อย่างไรก็ตามตัวนายพรานก็ตัดสินใจออกตามหาหมีเพื่อทวงปืนของเขาคืน . หลักฐานที่เจ้าหน้าที่เจอรอย เล็บของเจ้าหมีตัวป่วน แน่นอนว่านายพรานยังสามารถล่าหมีดังกล่าวได้ปกติ เพราะจนกว่าจะหมดฤดูกาลล่าสัตว์ในไซบีเรียนนั้น ก็ต้องรอจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งก็หวังว่านายพรานจะเจอหมีและปืนของเขา แต่สิ่งหนึ่งที่เราอยากรู้แน่ๆ คือหมีเอาปืนไปทำไม? หรือว่าหมีจะเรียนรู้การใช้ปืนแล้ว? หรือมันตั้งใจวางแผนจะมายึดครองโลกของเรา หว่ายยยยย!! ที่มา siberiantimes,odditycentral
-
เจ๊ Paris Hilton อ้างนำเทรนด์เซลฟี่มาก่อน ชาวเน็ตเห็นท่าว่าดีงาม ก็ช่วยกันสรรเสริญกันยกใหญ่!!
‘เซลฟี่’ เทรนด์การถ่ายรูปด้วยการหันกล้องเข้าตัวเอง ซึ่งเป็นเทรนด์ที่นิยมกันมากๆ ในปัจจุบันจนเราคิดว่ามันเพิ่งจะมีมาไม่นานโดยไม่รู้ว่าใครกันเป็นคนที่เริ่มกระแสถ่ายแบบนี้เป็นคนแรก ด้วยเหตุนี้ Paris Hilton ก็เลยออกมาเคลมเองซะเลยว่านางนี่แหละคือคนที่นำแฟชั่นการเซลฟี่ จากนั้นนางก็โพสต์ภาพการเซลฟี่ของตัวเองกับเพื่อนซี้ Britney Spears เพื่อยืนยันว่าวันนี้เมื่อ 11 ปีก่อนหรือก็คือปี 2006 เธอเป็นคนนำแฟชั่นเซลฟี่จริงๆ นะ ทีนี้พอชาวเน็ตมาเห็นเขาจึงรู้สึกว่า โอ้วโหววว แม่นางคนนี้นี่เองที่คิดค้นแฟชั่นการถ่ายรูปสุดฮิตมาให้เรา ทุกคนจึงพากันแปะรูปการเซลฟี่ต่างๆ เพื่อพากันสรรเสริญเธอยกใหญ่ในทำนองเดียวกันว่า ‘จ้าา คิดคนแรกจริงๆ ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเล๊ยยย!!’ พ่อหนุ่มคนนี้ก็เลยมาบอกว่า “ครับ ผมว่าผมเริ่มเทรนนี้มาตั้งแต่ปี 2002 แล้วนะ” พี่คนนี้ยังมายืนยันอีกว่า ตอนถ่ายทำ Blair Witch Project ได้มีการเซลฟี่ตั้งแต่ปี 1999 แล้ว จากนั้นก็เกิดเป็นการเกทับกันมาเรื่อยๆ ว่าภาพใครเก่ากว่ากัน ภาพส่วนใหญ่ก็มาจากทั้งในหนังหรือในอินเตอร์เน็ต แต่ทีเด็ดคือ ยอดตลกขวัญใจชาวโลกกลับนำเทคโนโยนีมาก่อนเจ๊ Paris อีกนะ ยิ่งเกิดการเกทับไปเรื่อยๆ ความเก่าของภาพก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ จากสีสดๆ…
-
เจ้าอุ๋งแซมมี่ แมวน้ำที่ติดนิสัยชอบมาขออาหาร จนชาวเมืองเริ่มทนไม่ไหวไล่กลับลงน้ำไป จ๋อม!
หลังจากที่เมื่อปีที่แล้วเราได้นำเสนอให้รู้จักกับ เจ้าแซมมี่ แมวน้ำตัวอ้วนที่มาขออาหารจากร้านขายอาหารทะเลแถบประภาคาร Wicklow ประเทศไอร์แลนด์ เจ้าแซมมี่ แมวน้ำสุดแสบที่ขึ้นมาก่อกวนที่ร้านอาหารทะเล จนพนักงานต้องยอมให้ปลาทุกๆ วัน แซมมี่ไง จำไม่ได้หรอ คลิปที่ทำให้มันดังและกลายเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ เจ้าแซมมี่มันเดินทางมาขอปลาจากร้านทุกวันซึ่งกลายเป็นภาพที่ชินตาของชาวเมืองไปซะแล้ว แต่มันก็สร้างประโยชน์ตรงที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชื่นชมความน่ารักของมัน ทำให้พ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นมีรายได้เพิ่มเล็กน้อย เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า Derek Byrne ได้ทวิตรูปภาพของเจ้าแซมมี่ถูกไล่กลับลงทะเล ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก็เพราะว่าเจ้าแซมมี่เคยตัวและขึ้นมาขออาหารบ่อยเกินไปจนพ่อค้าเริ่มรำคาญ เพราะว่ามันขึ้นมาขอปลาหลายครั้งต่อวัน หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา นี่ร้านขายอาหารทะเลนะ (ไม่ใช่เซเว่น) พ่อค้าอาหารทะเลแถวนั้นบอกว่า เนื่องจากสภาพอากาศไม่ค่อยดีนัก เจ้าแซมมี่มันเลยมักจะขึ้นมาขออาหารอยู่บ่อยๆ ซึ่งทางร้านก็ไม่ค่อยจะมีอาหารทะเลเหลือมากสักเท่าไหร่จึงต้องเริ่มดัดนิสัยเจ้าแซมมี่ที่ติดนิสัยมาขออาหารอยู่เป็นประจำ ก็น้องแค่หิวไง ถ้าใครขัดใจน้อง น้องจะพังร้านแบบนี้เลยนะ!! ที่มา irishmirror
-
สาวลองครีมทาผิว อยากจะเปลี่ยนผิวเป็นสีแทน แต่ไหงกลายเป็นสีน้ำตาลไหม้ไปได้ซะนี่!!
หญิงสาวกับความสวยงามเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันแทบไม่ได้ และหนึ่งในวิธีการที่พวกเธอดูแลตัวเองก็คือการใช้ครีมบำรุงผิวและเครื่องสำอางต่างๆ นั่นเอง และถ้าหากพูดถึงความสวยความงามยอดฮิตของเหล่าสาวๆ มะกันก็คงจะหนีไม่พ้นผิวสีแทนแน่ๆ Ebony Foley ก็เป็นหนึ่งหญิงสาวผู้หลงใหลในผิวสีน้ำผึ้ง ด้วยสีผิวที่คุณแม่ให้มานั้นมันไม่ใช่โทนที่หญิงสาวต้องการ งานนี้เธอจึงใช้ตัวช่วย นั่นก็คือครีมทำสีแทนแบบเร่งด่วนนั่นเอง แต่ทว่าสีผิวของนางแบบในโฆษณากับสีที่เธอได้นั้นมันดั๊นไม่ตรงกันซะนี่ งานนนี้ความฮาจึงเกิดขึ้น!! หญิงสาวทำการซื้อครีมทาผิวในโทนสีแทนเข้มมาลองใช้ เนื่องจากเธอต้องการสีผิวแบบน้ำตาลไหม้สวยๆ แต่เมื่อลองใช้ครีมดังกล่าวแล้ว มันทำให้เธอไม่กล้าที่จะออกไปไหนเลยทีเดียว เพราะดูเหมือนว่าสีผิวน้ำตาลไหม้ที่เธอจากได้นั้นจะใช้ไฟแรงเกินไปหน่อย… เลยได้ออกมาเป็นแบบนี้!! โฟมทาผิวสีแทนทำให้ผิวของเธอเข้มขึ้นกว่าที่เธอต้องการ ถึงแม้ว่าสีผิวที่ได้นั้นจะทำให้ไม่สามารถออกบ้านไปพบใครและจำเป็นต้องยกเลิกปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ของเธอ แต่ Ebony ก็ไม่ได้เศร้าเธอกลับสร้างเสียงหัวเราะจากความผิดพลาดของครีมทาผิวนี้ได้ “ฉันรู้สึกตลกกับสีที่หน้าของตัวเอง ฉันว่ามันเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะมากกว่านะ แขนกับขาของฉันเป็นสีน้ำตาลสวยดีนะ แต่เมื่อเอามาทาหน้ามันก็ได้สีแบบที่เห็นนี่แหละ ” Ebony ให้สัมภาษณ์ นอกจากจะไม่รู้สึกเศร้ากับสีผิวที่ผิดเบอร์แล้ว เธอยังได้อัปภาพฮาๆ ของตัวเองลงบนโลกออนไลน์อีกด้วย “ฉันทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่เมื่อคืน หลังจากที่อยากได้ผิวสีแทนแบบปลอมๆ ฉันจะไม่ทำอีก ช่วยบอกคนขายทีว่าฉันอยากได้สีน้ำตาล ไม่ใช่สีนี้” และแน่นอนความฮาแบบนี้เพื่อนๆ ของเธอก็ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย “ไม่นะ Ebony ฉันกับ Tom ถึงกับร้องไห้เลย ฮ่าๆ “ “นี่มันคือความฮาชัดๆ…
-
ทฤษฎีแห่งการ ‘สบตา’ เผยถึงสาเหตุที่ว่า ทำไมการสบตาในระหว่างสนทนาจึงเป็นเรื่องยาก
หลายคนอาจเคยสงสัยว่าเวลาที่เราคุยกับคนอื่นทำไมเขาถึงไม่ชอบมองตาเราตรงๆ แต่เลือกที่จะมองไปทางอื่นตอนที่พูดกับเรา? คำถามนี้ได้มีคำตอบออกมาอธิบายให้เพื่อนๆ เข้าใจกันว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อนักวิทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น โดยพวกเขาได้ทำ การทดสอบ กับอาสาสมัครจำนวน 26 คน แล้วให้เล่นเกมต่อคำศัพท์โดยขณะที่เล่นต้องมองหน้าของคนที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ไปด้วย ผลที่ได้คือการต้องนั่งสบตากับใบหน้าที่หันมามองเราทำให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบใช้เวลาในการคิดคำศัพท์นานกว่าการที่ไม่ต้องสบตา นั่นจึงแสดงให้เห็นว่าการมองตากันจะทำให้ยากต่อการคิดคำพูดของเรา โดยเฉพาะกับคำที่เราไม่คุ้นเคย นักวิจัยได้ออกมาบอกว่า “แม้กระบวนการการพูดและการสบตาจะไม่เกี่ยวกัน แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะไม่สบตาอีกฝ่ายขณะที่พูด และจากการทดสอบนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าสองอย่างนั้นมีการรบกวนซึ่งกันและกันอยู่” เมื่อปี 2016 เองก็ได้มี การวิจัยเกี่ยวกับการสบตา ของนักจิตวิทยาชาวอิตาลีที่ชื่อว่า Giovani Caputo เมื่อเขาได้ให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบสบตากับคนคนหนึ่งเป็นเวลานานถึง 10 นาที ผลที่ได้ก็คือผู้ทดสอบหลายๆ คนถึงกับเห็นภาพหลอนว่าใบหน้าอีกฝ่ายเป็นสัตว์ประหลาด เป็นคนรู้จัก หรือแม้แต่เห็นว่าเป็นใบหน้าของตัวเอง ผลลัพธ์ของงานวิจัยนั้นเรียกว่า Neural Adaption หมายถึงการที่สมองเกิดการตอบสนองที่เปลี่ยนไปแม้ว่าสิ่งเร้าตรงหน้าจะยังคงเดิม ยกตัวอย่างการวางมือเอาไว้บนโต๊ะ เราจะรู้สึกทันทีในตอนแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า เราก็จะลืมความรู้สึกไปว่าเรากำลังเอามือวางไว้บนโต๊ะอยู่ Neural Adaption ก็อาจเป็นสิ่งที่อธิบายให้กับงานวิจัยในมหาวิทยาลัยเกียวโตครั้งนี้ได้ว่าเป็นการตอบสนองที่ผิดเพี้ยนไปของสมองมนุษย์ ถึงอย่างไรนักวิจัยชุดนี้ก็ตั้งใจว่าจะศึกษาเรื่องของการสบตาต่อไป โดยพวกเขาวางแผนเอาไว้ว่าครั้งต่อไปจะศึกษาในเรื่องของการใช้คำพูดและการใช้ภาษากายหรืออวัจนภาษา ว่าการสบตาทำให้เกิดผลที่แตกต่างกันหรือเปล่า …
-
หนุ่มจีนฮีโร่ ช่วยสี่ชีวิตออกมาจากรถที่กำลังจมน้ำ ได้รับตอบแทนด้วย ‘หัวปลาฟรี’ ตลอดชีพ!!
ในหลายๆ ครั้ง การทำความดีหรือการช่วยเหลือผู้อื่นก็จะได้รับผลตอบแทนกลับมาเป็นคำขอบคุณหรือของตอบแทนบางอย่าง เหมือนกับชายคนนี้ที่ได้รับ หัวปลา… (ใช่คุณอ่านไม่ผิดหรอก) เป็นการขอบคุณที่เขาได้ช่วยเหลือคนถึง 4 คนให้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุมาได้ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าว Shanghaiist ได้รายงานว่า ขณะที่ Liu Xinting ชายหนุ่มชาวจีนวัย 42 ปี กำลังขับรถกลับเมืองหางโจว ประเทศจีน หลังจากที่เขาได้ออกไปกินหัวปลากับเพื่อนมา ในระหว่างทางนั้นเขาก็ได้เจอกับอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นกลางถนน อุบัติเหตุที่ถูกถ่ายไว้จากกล้องหน้ารถของ Liu รถบรรทุกเล็กสีน้ำเงินได้ชนเข้ากับท้ายรถของรถยนต์คันสีแดงขณะที่กำลังทำการเปลี่ยนเลน จนทำให้รถสีแดงคันดังกล่าวเสียการควบคุมและเลี้ยวโค้งหักตัดถนนพุ่งหายเข้าไปในป่า ก่อนที่จะไปลอยอยู่ในทะเลสาบ Qiandao Liu ผู้เห็นเหตุการณ์ก็ไม่รอช้ารีบลงไปช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในรถคันนั้นทันที ในตอนนั้นรถคันดังกล่าวลอยห่างออกไปจากบริเวณฝั่งประมาณ 20 เมตร แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคของฮีโร่หนุ่มคนนี้เลย โชคดีที่กระจกรถได้เปิดเอาไว้ ทำให้ Liu สามารถช่วยคนที่ติดอยู่ด้านในทั้ง 4 คนก่อนที่รถจะจมลงไปได้สำเร็จ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนท้องรวมอยู่ด้วย Liu ฮีโร่ผู้ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ถึง 4 คน บาดแผลเล็กน้อยที่เขาได้รับจากการทำความดีในครั้งนี้ . เขาได้ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวท้องถิ่นว่า “ในเวลานั้นผมไม่มีเวลาที่จะคิด…
-
ทีมนักวิทย์ฯ ขุดพบโครงกระดูก ‘วัวทะเลชเตลเลอร์’ สัตว์โบราณที่สูญพันธุ์ไปเกือบ 300 ปี
พวกเราคงไม่มีโอกาสได้เห็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วแบบตัวเป็นๆ แต่อย่างน้อยเราก็อาจได้เห็นซากของมันเหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ที่ได้ไปเจอเข้ากับโครงกระดูกของสัตว์น้ำขนาดมหึมาที่ได้สูญพันธ์ไปเมื่อนานมาแล้ว นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งหมู่เกาะคอมมานเดอร์ บนคาบสมุทรคัมชัตคา ในประเทศรัสเซีย เมื่อพวกเขาได้ขุดไปเจอกับซากโครงกระดูกของสัตว์ทะเลที่สูญพันธุ์ไปแล้วนั่นก็คือ “วัวทะเลชเตลเลอร์” . . . การค้นพบในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้ตรวจการสาว Maria Shitova ที่สังเกตเห็นซี่โครงของโครงกระดูกยื่นขึ้นมาเหนือพื้นดิน จนทำให้การขุดลงไปหาความจริงนานกว่า 8 ชั่วโมงได้เริ่มต้นขึ้น พวกเขาได้พบกับกระดูกสันหลังจำนวน 45 และกระดูกส่วนสะบัก ซี่โครง และอื่นๆ รวมกันอีก 25 ชิ้น ซึ่งมองไกลๆ เราก็คงคิดว่านั่นมันคือรั้วบ้านชัดๆ เพราะกระดูกของมันมีขนาดใหญ่มากจริงๆ และการขุดลงไปก็ไม่พบกะโหลกศีรษะของเจ้าสัตว์ที่สุญพันธุ์ไปแล้วตัวนี้ . . อย่างไรก็ตามสิ่งที่พบก็ไม่แปลกที่จะสามารถเจอได้บนเกาะนี้ เพราะในอดีต ที่นี่คือแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมัน และเป็นบริเวณเดียวกันกับที่ทุกคนได้รู้จักกับสัตว์ชนิดนี้เป็นครั้งแรก โดยนาย Georg Steller ได้ค้นพบพวกมันในปี 1741 และตั้งชื่อให้กับเจ้าสัตว์สายพันธุ์พะยูนตัวนี้ว่า “วัวทะเลชเตลเลอร์ (Steller Sea Cow)” แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าสัตว์ชนิดนี้ได้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 18 หลังจากถูกมนุษย์ล่าอย่างหนัก . . .…
-
ความงามของ ‘ปุ๊ก อาภัสรา’ Miss Universe คนแรกของไทยเมื่อ 52 ปีก่อน ยังสวยอมตะไม่เปลี่ยน
กระแสที่แรงที่สุดในตอนนี้คเป็นอะไรไม่ได้นอกจากกระแสการประกวด Miss Universe 2017 ที่ไทยเราได้ส่งตัวแทนเป็นสาวหน้าฝรั่งมากความสามารถอย่าง มารีญา พูลเลิศลาภ เข้าไป ด้วยความน่ารักเป็นธรรมชาติและไหวพริบที่เต็มเปี่ยมของเธอ จนคนไทยทั้งประเทศตกหลุมรักเธอเข้าแบบไม่ยากนัก และเมื่อพูดถึง Miss Universe เราก็อดที่จะคิดถึง คุณปุ๊ก อาภัสรา หงสกุล Miss Universe ประจำปี พ.ศ. 2507 คนแรกของเมืองไทยไปไม่ได้ เราจึงจะพาเพื่อนๆ ไปชมความสง่างามสุดอมตะของเธอ ที่แม้จะผ่านมากว่า 52 ปี และหลังจากที่เธอได้รับตำแหน่ง แต่เธอก็ยังคงความสวยโดยไม่ทิ้งความเป็นนางงามจักรวาลไปเลยแม้แต่น้อย ภาพย้อนความหลังเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงความงามอันทรงคุณค่าของคุณปุ๊กเมื่อครั้งที่เธอได้รับตำแหน่ง จนในปัจจุบันเธออายุ 70 ปี แล้ว เธอยังคงสวยเฉิดฉาย มีออร่าสมเป็นนางงามจักรวาลจริงๆ . . . . . . . . ในตอนนี้คุณปุ๊กก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยบุคลิคที่สง่างาม และใบหน้าที่สวยหวานเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน . . . กับลูกป๊อกสุดหล่อ …
-
สาวน้อยเป่าขลุ่ยเล่นกับนักเชลโลข้างถนน พริบตาก็มีเซอร์ไพรส์ยกใหญ่มาแบบเต็มวง!!
เหตุการณ์สุดเซอร์ไพรส์เมื่อเด็กสาวคนหนึ่ง เดินเข้าไปขอประชันฝีมือกับนักเชลโลข้างถนน ซึ่งหนูน้อยได้หยิบขลุ่ยขึ้นมาพร้อมค่อยๆ เป่าสลับกับพ่อหนุ่มเชลโล ซึ่งเพลงที่ทั้งคู่เล่นมีชื่อว่า Ode an die Freude ซึ่งหลังจากหนูน้อยเป่าเพลงดังกล่าวจบ พ่อหนุ่มเชลโลก็จัดการบรรเลงเพลงต่อ แต่ว่าไม่นานนักก็เริ่มมีนักดนตรีคนอื่นทยอยมาแจมด้วยเรื่อยๆ จนสุดท้ายเกิดเป็นวงขนาดใหญ่และสะกดคนรอบๆ ไว้ได้อย่างอยู่หมัด!! เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่เมืองเนือร์นแบร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อปี 2014 ซึ่งเป็นการทำแฟลชม็อบเพื่อฉลองครบรอบ 130 ปีของเมือง โดยเป็นการร่วมมือกันของวง “Hans-Sachs”-Choir และ the Philharmonic Orchestra of Nuremberg ที่ได้นัดแนะกันมาก่อนแล้วนั่นเอง . . อย่างไรก็ตามการทำแฟลชม็อบนี้ก็สามารถสะกดผุู้คนในเมืองที่ผ่านมาเห็นได้สบายๆ จะเรียกว่าแฟลชม็อบประสบความสำเร็จก็ว่าได้ ยิ่งเสียงตอบรับจากชาวเน็ตไม่ต้องพูดถึงชมกับเพียบ!! แม้เหตุการณ์จะเก่าแล้ว แต่ก็ยังประทับใจได้เสมอเลยนะ ที่มา inspiremore
-
25 ภาพแฟชั่นชุดธรรมดาๆ ในสไตล์ “มารีญา” ก่อนจะเฉิดฉายสู่เวที Miss Universe
ในตอนนี้คงไม่มีใครฮอตไปกว่า Miss Universe Thailand 2017 อย่าง มารีญา พูลเลิศลาภ หรือ บุ๋งๆ ที่ทั้งสวยและมีความสามารถรอบด้าน เธอได้ฝ่าฟันการเข้าประกวด Miss Universe ไปถึงรอบ 5 คนสุดท้าย ด้วยแรงเชียร์แรงใจจากคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งแม้ว่าเธอนั้นจะไม่ได้ตำแหน่ง Miss Universe มาครอง แต่เธอก็ได้เข้าไปนั่งในใจคนไทยทั้งประเทศแล้ว และแม้ว่าบุ๋งๆ จะเป็นถึง Miss Universe Thailand ที่มีภาพในสื่อสวยงามมากมายก็ตาม แต่เธอก็มีอีกมุมหนึ่งที่เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาที่มีความสุขกับการใช้ชีวิต ในวันนี้เราจึงจะพาไปส่องมารีญาในวันสบายๆ กับแฟชั่นของเธอที่แม้จะเรียบง่าย แต่กลับดูดีมีสไตล์สมเป็นนางงามขวัญใจประชาชนจริงๆ เลยจ้า 1. ในความโนเมคอัพและในชุดที่ดูเรียบง่าย เธอก็สวยปังไม่เปลี่ยน 2. ชุดเดรสธรรมดาๆ เธอจะเปลี่ยนให้ดูแพงขึ้นมาได้ 3. ในระหว่างการเตรียมตัวเข้าประกวด เธอก็มีการแต่งกายที่สง่าและถูกกาลเทศะ 5. เป็นความแมทช์ที่ลงตัวนะจ๊ะชุดนี้ 6. นอกจากจะเป็นสายสวยแล้ว ยังเป็นสายสุขภาพด้วยนะ 7. วันสบายๆ ที่ 7MagicMountain 8. เธอเป็นสาวอีกคนที่หน้าสดแล้วดูดีมากกกก 9.…
-
ชมความเปลี่ยนแปลงของผู้เข้าร่วมรายการ Let Me In เกาหลี และ Let Me In Thailand ซีซั่น 3
ไม่ว่าใครก็อยากจะมีใบหน้าที่สวยงามดูดีใช่ไหมล่ะ? การศัลยกรรมจึงเป็นทางเลือกที่รวดเร็วและถาวรที่สุดในการเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วล่ะ เช่นเดียวกับแขกรับเชิญในรายการศัลยกรรมเกาหลีสุดโด่งดังอย่าง Let Me In ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของการศัลยกรรมมามากมายหลายเคส ในครั้งนี้เราจึงขอรวบรวมความสำเร็จของทีมแพทย์ Let Me In ที่ได้มอบชีวิตใหม่ให้กับแขกรับเชิญ ทำเอาทั้งผู้ชมและเจ้าตัวทึ่งไปตามๆ กัน โอ้โหวววววววว!! 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19.…
-
เสนอวิธีเอาตัวรอดจากแมว หากเราต้องทำงานในออฟฟิศที่เจ้าเหมียวคอยก่อกวนต่อเวลา
สำหรับใครที่เป็นเหล่าทาสแมวนั้น การที่มีเจ้าเหมียวคอยอยู่ข้างๆ คุณเวลาทำงานนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียวใช่ไหมล่ะ แต่!! หนึ่งสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นนั่นก็คือคุณจะถูกลูกพี่ของคุณรบเร้าให้ออกมาเล่นด้วยอยู่บ่อยๆ นั่นเอง และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณละเลยคำขอร้องของพี่ๆ เค้าล่ะก็ งานนนี้บอกเลยว่าคุณจะไม่ได้ทำงานดีๆ แน่นอน เพราะพี่แมวจะทั้งคุ้ยทั้งเขี่ย บางทีถึงขั้นปิดคอมคุณเลยก็มี!! ยูทูปเบอร์ท่านหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Cole and Marmalade เองก็เป็นหนึ่งในทาสแมวที่กำลังประสบปัญหานี้เช่นกัน ชายหนุ่มได้อัพเดทคลิปวิดีโอที่ช่วยแนะนำเราในการจัดการกับปัญหาพี่แมวชวนเล่นนี้ วิธีที่ 1 การจัดการกับปัญหาน้องแมวแย่งที่ หลักการพื้นฐานของการแก้ปัญหานั่นก็คือสะดวกรวดเร็วและตอบโจทย์ ดั้งนั้นง่ายๆ เลยคุณก็หาเก้าอี้อันใหม่ซะ!! วิธีที่ 2 เจ้าแมวจอมเกาะแกะ หลายๆ คนอาจจะเคยประสบปัญหากับเจ้าเหมียวที่ชอบใช้แขนของคุณเป็นที่นอน ดังนั้นถ้าหากว่าคุณอยากจะนั่งพิมพ์งานแบบสบายๆ ล่ะก็ ลองหาที่นอนใหม่ให้กับมันดูสิ!! วิธีที่ 3 ถ้าไม่อยากให้ห้องเลอะ ก็หาขวดน้ำมาใช้ซะ!! แน่นอนว่าเจ้าเหมียวนั้นมักจะสนใจทุกสิ่งอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะ และถ้าหากคุณไม่อยากให้กาแฟแก้วโปรด หรือน้ำดื่มอันแสนชื่นใจเป็นน้ำลายแมวล่ะก็ หาขวดน้ำหรือภาชนะที่มีฝาปิดมาใช้ซะ และนอกจากนี้ยูทูบเบอร์ท่านนี้ยังได้แนะนำวิธีการแก้ปัญหาแบบฮาๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้อาหารแมวมาล่อ เวลาที่คุณต้องการความเป็นส่วนตัวในการทำงาน หรือถ้าหากว่ามันไม่ไหวจริงๆ ก็ลองหาอะไรมาครอบตัวกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ถ้าใครอยากรู้วิธีการเอาชีวิตรอดจากน้องเหมียวจอมกวนล่ะก็ ไปชมกันที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้ได้เลย… แต่เอ่!? ไม่รู้ว่าวิธีนี้จะใช้ได้ผลกับเจ้าเหมียวที่ทำงานของเพื่อนๆ หรือเปล่านะ ฮ่าๆ…
-
ไปดูกันว่าสนามเด็กเล่นที่ชื่อ ‘เปียงยาง’ ของท่านผู้นำ ‘คิมจองอึน’ มีอะไรประดับประดาบ้าง!!
เกาหลีเหนือประเทศที่ถูกชาติทั่วโลกต่างพากันประนามถึงความโหดเหี้ยมของผู้นำ แนวทางที่ล้าหลังต่างจากชาติอื่นๆ ภาพลักษณ์ที่ถูกมองจึงไม่ค่อยจะมีอะไรดีเท่าไหร่นัก ที่สำคัญเรื่องการมีอาวุธในครอบครองก็ทำให้มุมมองที่คนทั้งโลกมองชาติดังกล่าวลดลงไปอีก และด้วยความที่เกาหลีเหนือเป็นประเทศปิด และภาพลักษณ์ที่ถูกเผยแพร่ออกมาส่วนใหญ่ก็หมุนรอบตัวท่านผู้นำ จึงทำให้เราไม่ค่อยได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ที่แท้ทรูของชาวเมืองเท่าไห่รนัก จนสุดท้ายเราต่างคิดว่ากรุงเปียงยางช่างล้าหลังสุดๆ แต่ความจริงคือเมืองเปียงยางนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเมืองหลวงอื่นๆ ในโลกเลยนะ จะมีแต่รอบนอกและเมืองอื่นๆ ของประเทศเท่านั้นที่ต่างออกไป ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า เปียงยางมีการคัดสรรประชากรให้เข้ามาอยู่ คนที่รวยหรือเก่งก็จะได้อยู่ในเมือง ส่วนคนทั่วไปหรือคนจนก็จะต้องอยู่ในส่วนรอบนอก และถ้าใครคิดไม่ออกว่าความเจริญในเปียงยางเป็นยังไง งั้นเราลองมาดูสนามเด็กเล่นของท่านผู้นำตัวอ้วนน่ารักกัน ว่าในทุ่งดอกไม้ที่เรียกกันว่า เปียงยาง จะมีอะไรให้เราได้ดูกันบ้าง!! ก่อนจะเข้าสู่เปียงยาง ทุกคนก็จะเจอกับประตูสุดยิ่งใหญ่ เห็นแบบนี้ เปียงยางก็มีตึกสูงเยอะแยะเลยนะ แถวรูปปั้นของสองพ่อลูกก็เท่ไม่เหมือนใคร ต้องยอมรับเลยว่างานสิ่งก่อสร้างอย่างรูปปั้นของที่นี้เขาสุดยอดจริงๆ การผสมผสานระหว่างโลกสมัยใหม่และประวัติศาสตร์ชาติเกาหลีเหนือ ใบหน้าของอดีตผู้นำทั้งสอง ซึ่งสามารถเห็นได้ทั่วไปในเกาหลีเหนือ . สิ่งปลูกสร้างอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งเชิดชูชนชั้นแรงงาน แม้เมืองจะหลับใหล แต่ภาพของท่านผู้นำไม่เคยหลับ ตึกอันล้ำสมัยที่เห็นนั้นเป็นตึกที่ชื่อว่า Ryugyong Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่ตอนนี้ถูกทิ้งร้างไว้ ทุกสิ่งปลูกสร้างในเปียงยางล้วนแฝงไปด้วยความเป็นเกาหลีเหนือที่ไม่สามารถหาจากที่อื่นได้ อาคารวิทยาศาสตร์ที่สร้างเป็นรูปอะตอมก็เจ๋งไม่เบา ท่านผู้นำเขาหวังว่าอาคารแห่งนี้จะช่วยยกระดับความทันสมัยในเรื่องวิทยาศาสตร์ให้แก่ชาติของเขา แม้จะมีตึกสูงมากมาย…
-
ผลงานภาพสะท้อนสังคมของศิลปินฝรั่งเศส ที่ช่วยเบิกเนตรผู้คน และสะเทือนไปกว่าครึ่งโลก
เราอาจเคยได้เห็นศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ หรือสอดแทรกความหมายบางอย่างเอาไว้ให้เราทำความเข้าใจโดยไม่ต้องใช้คำพูด วิธีการแบบนั้นเป็นสิ่งที่ศิลปินจากประเทศฝรั่งเศสคนนี้ได้นำมาใช้สื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงสังคมยุคโมเดิร์นในปัจจุบันว่ามันสะท้อนออกมาในรูปแบบไหน โดยที่เราสามารถเข้าใจได้แบบไม่ต้องผ่านคำพูดใดๆ ศิลปิน Gunduz Aghayev วัย 36 ปีผู้ย้ายมาจากประเทศอาเซอร์ไบจาน มาอาศัยอยู่ในฝรั่งเศส เขาได้นำปัญหาสังคมในยุคโมเดิร์นมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานภาพเหล่านี้ แต่ละภาพได้มีการพูดถึงในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการวิวัฒนาการของมนุษย์และสงคราม การเซลฟี่ที่ถูกผสมผสานเข้ากับภาพทางศาสนา ที่สื่อให้เราเข้าใจไปในอีกความหมายหนึ่ง ก่อนหน้านี้เขาได้สร้างผลงานที่ชื่อว่า Art for Democracy เพื่อสะท้อนความไม่ยุติธรรมในประเทศบ้านเกิด และนั่นจึงทำให้เขาต้องย้ายมาฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2014 แต่แรงบันดาลใจในลักษณะเดียวกันก็ยังคงมีออกมาให้เห็น อย่างเช่นภาพ “ซอมบี้ในยุคโมเดิร์น” ที่สะท้อนให้เห็นถึงสังคมที่ถูกกำหนดด้วยอิทธิพลและพลังอำนาจ ภาพที่เราได้เห็นส่วนใหญ่จะถูกสื่อด้วยซอมบี้ และมีหลายภาพที่มีการพูดถึงสงคราม หรือพูดถึงค่านิยมที่ไม่แบ่งแยกและไม่ยอมรับกับบางสิ่งบางอย่าง ในเรื่องของศาสนาเองก็เช่นกัน ภาพการ์ตูนของเขาในแต่ละภาพ ต้องใช้เวลาวาดแตกต่างกันไปมีตั้งแต่ 3 ชั่วโมง หรือบางภาพที่ใช้เวลานานเป็นเดือน ภาพวาดเหล่านี้ถูกโพสต์ลงไปในโซเชียลมีเดีย จนทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก จากหลากหลายประเทศ จากความคิดเห็นที่เขาได้รับมาอย่างหลากหลาย เขาตั้งใจนำสิ่งเหล่านั้นมารวมเข้าเป็นงานศิลปะในชิ้นต่อๆ ไป เขาต้องการนำความเป็นจริงที่หลายๆ…
-
จากที่คุณยายชวนหลานผิดคน ปีนี้หลานชายแปลกหน้าคนนั้นก็กลับไปร่วมกินข้าวกับคุณยายอีกครั้ง
วันขอบคุณพระเจ้า คืออีกหนึ่งเทศกาลวันหยุดที่สามารถพบเห็นได้ในหลายประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์เป็นหลัก โดยเป็นวันที่คนในครอบครัวจะได้กินข้าวร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่สำหรับหนุ่มวัย 18 ปีในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เขากลับถูกเชิญให้ไปกินข้าวกับคนแปลกหน้าซะอย่างนั้น เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2016 เมื่อคุณยายท่านหนึ่งเข้าใจผิดไปดึงเอาหนุ่มแปลกหน้าเข้ากลุ่มแชท พร้อมกับชวนเขาไปทานข้าวด้วยกันที่บ้านของตัวเอง เมื่อปี 2016 นาย Jamal Hinton (ด้านซ้าย) ถูกลากเข้ากลุ่มแชทกลุ่มหนึ่ง โดยที่เขาไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มของใคร จากนั้นเขาก็ถูกคนที่อ้างตัวว่าเป็นคุณยายของเขาชวนให้ไปกินข้าวด้วยกันที่บ้าน ในวันขอบคุณพระเจ้า แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่านั่นเป็นยายเขาจริงหรือเปล่า จึงขอให้เธอถ่ายรูปมาให้ดู จนทำให้เขารู้ว่านั่นมันไม่ใช่ยายของเขาซักหน่อย เขาจึงถ่ายรูปส่งกลับไป พร้อมกับถามว่า “แม้คุณจะไม่ใช่ยายของผม แต่ผมยังไปกินข้าวด้วยได้อยู่มั้ย?” คุณยายท่านนั้นก็ตอบกลับมาว่า “ได้อยู่แล้ว นั่นเป็นสิ่งที่คุณยายทำ.. การทำอาหารให้กับทุกคนได้กิน” ความน่ารักของคุณยาย Wanda คนนี้ได้ถูกโพสต์ลงไปในทวิตเตอร์ของชายหนุ่ม และกลายเป็นกระแสให้ผู้คนเข้ามาแชร์ข้อความของเขาออกไปเป็นจำนวนมาก พร้อมกับกล่าวชื่นชมความน่ารักของคุณยาย 1 ปีผ่านไป เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 เด็กหนุ่มก็ยังคงไปกินข้าววันเลี้ยงขอบคุณพระเจ้ากับคุณยายคนนี้ และโพสต์ลงในทวิตเตอร์จนกลายมาเป็นกระแสอีกครั้งหนึ่ง เขาบอกว่ายังคงติดต่อกับคุณยายมาตลอด เพียงแต่ไม่มีโอกาสได้เจอกันบ่อยนัก…
-
บรรยากาศ Black Friday แบบเหงาๆ ในเวลส์ ที่ไม่ได้รับความสนใจจากลูกค้า มันจะจืดๆ หน่อยนะ
ถ้าหากพูดถึงมหกรรมของลดราคา นอกจากป้าย Sale ตัวโตๆ กับพื้นหลังสีแดงแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่พวกเรามันจะเห็นกันจนชินตานั่นก็คือฝูงพีเพิ่ลที่กำลังตะเกียดตะกายยื้อแย่งสิ่งของกันอย่างเมามันนั่นเอง และในสหรัฐอเมริกา รวมถึงสหราชอาณาจักรเองก็มีมหกรรมลดราคาสินค้าที่เรียกว่า Black Friday เช่นกัน ซึ่งโดยปรกติแล้วมหกรรมที่ว่านี้ก็แทบไม่แตกต่างจากมหาสงครามเลยทีเดียว และก็มีเหล่าวีรบุรุษหลายๆ คนที่ต้องเจ็บตัวจากการยื้อแย่งสินค้าราคาถูก และนี่คือตัวอย่างของสมรภูมิ Black Friday อาจจะเห็นภาพไม่ชัดลองไปชมกันแบบเต็มๆ ได้ที่คลิปวิดีโอนี้เลย ภาพของฝูงคนที่กำลังยื้อแย่งของลดราคาเหล่านี้ คงจะบอกถึงความร้อนแรงของมหกรรม Black Friday นี้ได้เป็นอย่างดี และเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางร้านค้าในย่านศูนย์การค้าของเมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ เองก็ได้จักมหกรรมลดราคาสินค้นี้เองเช่นกัน แต่ทว่าภาพของเหล่าผู้คนที่เบียดเสียดยัดเยียดกันเหมือนทุกๆ ครั้งนั้นกลับเหลือเพียงแค่ชายหนุ่มเสื้อแดงคนเดียวที่เดินเข้ามาแบบชิวๆ แบบในคลิปวิดีโอด้านล่างนี้ 5.. 4.. 3.. 2.. 1.. เข้ามาได้เลยครับบบ (ดูคลิปไม่ได้กด ที่นี่ ) black friday in the UK. this might just be the…
-
ได้เวลาปิดจ๊อบ… The Avengers 4 จะเป็นภาคสุดท้าย ที่ปรากฎอยู่ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล
เป็นที่รู้กันแน่แล้วว่าจักรวาลหนังมาเวลจะจบเฟส 3 ในเรื่อง The Avengers 4 ซึ่งถ้ารวมหนังทุกเรื่องที่ผ่านมาของจักรวาลนี้ก็มีมากถึง 22 เรื่อง ซึ่งก็กินเวลาเกือบ 10 ปี กว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ The Avengers 4 มีกำหนดการจะเข้าฉายในปี 2019 ซึ่งเราจะเหลือเวลาอีกแค่ 2 ปีนิดๆ ก่อนเราจะต้องบอกลาจักรวาลมาร์เวล ซึ่งตัว Kevin Feige ประธานของมาร์เวลสตูดิโอก็ได้ออกมาบอกว่า หนังภาคสุดท้ายนั้นจะเป็นการปิดฉากในแบบที่ใครหลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างไรก็ตามเหตุผลหลักในการปิดฉากไว้ที่ภาค 4 นั้น ตัว Kevin Feige ก็ให้เหตุผลว่า นักแสดงหลักส่วนใหญ่ก็จะหมดสัญญากันแล้วไม่ว่าจะเป็น Chris Evans ในบท Captain America, Robert Downey Jr. ในบท Iron Man, Mark Ruffalo ในบท The Hulk, Scarlett Johansson ในบท Black…
-
นิวซีแลนด์สั่งตรวจข้อสอบส่วนกลางวิชาคณิตฯ เพราะยากเกินไปและนอกเหนือจากบทเรียน!?
ในหลายครั้งทีี่เราทำข้อสอบ เราอาจเคยคิดว่าข้อสอบนั้นยากเกินไปหรือคิดว่าทำไมเราถึงไม่เคยเรียนอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ซึ่งนี่ก็คงเป็นความคิดของนักเรียนหลายๆ คนในประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2017 ได้มีการสอบระดับ 1 ของการวัดระดับวิชาคณิตศาสตร์ส่วนกลางที่ชื่อว่า The National Vertificate of Educational Achievement (หรือเรียกว่า NCEA) ที่มีไว้วัดระดับนักเรียนชั้น Year 11 (เทียบเท่ากับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในบ้านเรา) ของประเทศนิวซีแลนด์ จากการสอบในครั้งนั้นทำให้เด็กหลายๆ คนที่เข้าสอบร้องเรียนว่าข้อสอบนั้นยากเกินไปและอยู่นอกเหนือจากบทเรียน เด็กบางคนยอมรับว่าพวกเขาถึงกับนั่งร้องไห้ในห้องสอบเพราะว่าทำไม่ได้ ส่วนบางคนก็บอกว่าทำได้เพียง 2-3 ข้อจาก 15 ข้อเท่านั้น และเพื่อนของเขาเองก็ทำได้ประมาณนี้เหมือนกัน หรือแม้แต่บางคนที่ไม่เขียนอะไรในกระดาษคำตอบเลยก็มี Amanda Fraser ประธานสมาคมคณิตศาสตร์ Otago ในนิวซีแลนด์ บอกว่าข้อสอบนั้นยากจนเกินไปและบางข้อก็ทำให้อาจารย์หลายๆ คนเกิดความรู้สึกสับสน ซึ่งเธอมองว่าการข้อสอบที่ยากขนาดนี้จะเป็นตัวทำลายความมั่นใจและการเห็นคุณค่าในตัวเองของเด็ก ส่วนหนึ่งของข้อสอบที่เป็นประเด็นถกเถียงกันในครั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ทำให้คุณครูคณิตศาสตร์จาก 22 สถาบันได้ส่งจดหมายร้องเรียนไปให้กับกระทรวงศึกษาธิการและคณะกรรมการตรวจสอบกลาง (หรือเรียกว่า NZQA) จัดตั้งทีมตรวจสอบขึ้นมาในทันที อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่ดูแลการสอบในครั้งนี้ก็ได้ออกมาบอกว่า…
-
เราสองสามคน…กับความรักอีกรูปแบบที่มีชาย 2 หญิง 1 แต่ความรักก็ราบรื่นและแฮปปี้มาก
คำว่าคู่รักในภาษาอังกฤษคือคำว่า Couple ซึ่งหมายถึงคนสองคนที่รักกัน แต่สำหรับพวกเขาเหล่านี้กลับต้องใช้คำว่า Throuple เพราะว่าความรักของพวกเขากลับมีด้วยกันถึง 3 คน!! Chris และ Matt Brandt คือคู่รักชายรักชายในประเทศอังกฤษ ที่แต่งงานและอยู่กินด้วยกันมานานถึง 6 ปี ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจรับคนที่สามเข้ามาอยู่ร่วมในความสัมพันธ์เดียวกัน Matt วัย 28 ปี (คนซ้าย) Cait วัย 28 ปี (คนกลาง) และ Chris วัย 38 ปี (คนขวา) ในปี 2015 การใช้ชีวิตร่วมกันของสองหนุ่มได้เปิดรับหญิงสาวที่ชื่อ Cait Earnest เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความรัก จึงทำให้พวกเขากลายเป็นคนรักแบบชายสองหญิงหนึ่งที่พวกเขากำหนดคำเรียกขึ้นมาเองว่า Throuple พวกเขาได้ให้สัมภาษณ์กับช่อง Barcroft TV โดย Chris ได้พูดว่าเขาเป็นคนที่มีประสบการณ์คบกับผู้หญิงมาก่อน แตกต่างจาก Matt ที่ไม่เคยทำอย่างนั้นเลย จึงทำให้ตอนแรกก็มีการต่อต้านออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน แต่เมื่อพวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกันไปประมาณ 7-8…
-
ไม่ตลก.. สาวมหาลัยอ้างตัวเป็นเด็กที่หายไปเมื่อ 10 ปีก่อน ทั้งๆ ที่พ่อแม่กำลังรอคอยความจริง
Madeleine McCann คือเด็กสาวชาวโปรตุเกสวัย 4 ขวบที่หายตัวไปตั้งแต่ปี 2007 และพ่อแม่ของเธอก็กำลังรอคอยปาฏิหาริย์ที่จะได้เจอเธออีกครั้งหนึ่ง ผ่านมา 10 ปีเรื่องของเธอได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่สาวมหาลัยในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ อ้างตัวว่าเธอคือเด็กสาวที่หายไป เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าว Daily Mail ได้พูดถึง Harriet Brookes สาวมหาลัยผู้กล่าวอ้างในครั้งนี้ โดยเธอได้พูดติดตลกกับเพื่อนของเธอในห้องแชท ก่อนที่ Lizzie เพื่อนสนิทเธอคนนั้นจะนำเรื่องที่เธอพูดไปโพสต์ลงในโลกโซเชียล ภาพซ้ายคือเด็กที่หายตัวไป ภาพขวาคือสาวมหาลัยที่อ้างตัวว่าเป็นเด็กคนนั้น โพสต์ดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไปมากกว่า 30,000 ครั้งและได้เป็นกระแสที่โด่งดังอย่างมากในโลกโซเชียล เพราะตำหนิบนร่างกายของสาวมหาลัยคนนี้ก็ตรงกับเด็กที่หายไปอย่างมาก ทั้งจุดบนดวงตา หรือแม้แต่มีจุดเล็กๆ ตรงขาของเธอ เธอบอกกับเพื่อนในแชทว่าสีของดวงตาและรอยตำหนิตรงขามันตรงกับข้อมูลเป๊ะๆ ในตอนแรกก็มีหลายคนที่เชื่อในมุกตลกของเธอและติดต่อไปหาเป็นการส่วนตัว แต่สุดท้ายทุกคนก็เข้าใจว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริงเพราะในเวลานี้เด็กน้อย Madeleine ควรจะต้องอายุแค่ 14 ปี ไม่มีทางเป็นเด็กมหาลัยคนนี้อย่างแน่นอน และการเล่นตลกในครั้งนี้ก็ได้ทำให้ชาวเน็ตบางส่วนรู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่เธอนำเรื่องของเด็กที่หายตัวไปมาพูดเล่นๆ มีคอมเมนต์หนึ่งที่พูดว่า “เธอเป็น Madeleine ตัวจริงหรือเพียงแค่ต้องการปั่นหัวคนอื่นไปเรื่อยกันแน่” ในแชท…
-
ของคู่ชีพนศ.!! ‘Scanmarker Air’ ปากกาไฮไลท์สุดเจ๋ง ดูดตัวอักษรบนตำราให้ขึ้นจอได้!!
หนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราสามารถสรุปเนื้อหาในหนังสือให้อ่านง่ายมากยิ่งขึ้นก็คือ ปากกาไฮไลท์ มันคือสิ่งที่นักเรียน นักศึกษาแทบทุกคนจะต้องมีติดตัวเอาไว้ใช้เน้นข้อความที่สำคัญๆ ในหนังสือเรียน แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงปากกาไฮไลท์ที่เหนือชั้นและไม่เหมือนกับปากกาไฮไลท์ที่เราเคยเห็นมาก่อน นี่เป็นปากกาไฮไลท์ที่มีชื่อว่า Scanmarker Air ปากกาที่ผสมผสานกับเทคโนโลยีสุดล้ำ จนทำให้มีฟังก์ชันที่หลากหลายและทำได้มากกว่าการเน้นคำแบบทั่วๆ ไป เราไปดูความสามารถอันหลากหลายของมันกันเลย วิธีการใช้งานที่ง่ายแสนง่าย เพียงแค่กดปุ่มและใช้หัวปากกาขีดไปบนตัวหนังสือที่เราต้องการจะเน้นข้อความ เซนเซอร์ก็จะนำประโยคที่ขีดไว้ส่งต่อไปที่หน้าจอของอุปกรณ์ที่เราได้เชื่อมต่อบลูทูธกับตัวปากกาไว้ เน้นปุ๊บโผล่ขึ้นจอปั๊บ เพียงแค่เสี้ยววินาทีสิ่งที่เราเน้นก็จะปรากฏอยู่บนหน้าจออุปกรณ์ที่ทำการเชื่อมต่อเอาไว้ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน เรียกว่าทั้งสะดวกและรวดเร็วในเวลาเดียวกัน แถมหนังสือก็ยังไม่เปื้อนสีอีกด้วย การส่งต่อข้อมูลที่มีหลายช่องทาง ข้อความทั้งหมดที่คุณได้ทำการเน้นเอาไว้สามารถเลือกที่จะเซฟไว้ได้ในหลายช่องทาง ถ้าอยากส่งไปให้เพื่อนก็สามารถกดส่งไปได้อย่างง่ายดาย จะแชร์ลงเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ก็ไม่เป็นปัญหา หรือรู้สึกว่ามันขาดคำไหนอยากพิมพ์เพิ่มเข้าไปก็ใช้คีย์บอร์ดพิมพ์แก้ไขเข้าไปได้เลย สามารถแปลได้มากกว่า 40 ภาษา ข้อมูลทั้งหมดของคุณสามารถทำการแปลไปได้อีกกว่า 40 ภาษา เพื่อช่วยให้เพื่อนชาวต่างชาติของเราสามารถเข้าใจความหมายไปพร้อมๆ กันได้ แต่น่าเสียดายที่มันยังไม่มีภาษาไทย มีความสามารถในการอ่านบาร์โค้ด หากคุณจำเป็นต้องจดจำข้อมูลบาร์โค้ดที่อยู่บนสิ่งของบางอย่าง คุณก็สามารถใช้เจ้าสิ่งประดิษฐ์นี้แก้ปัญหานั้นได้ง่ายๆ สะดวกทันใจ อ่านออกเสียงให้คุณฟังได้ด้วย ถ้าคุณไม่อยากใช้สายตาอ่านผ่านหน้าจอ ก็ให้เลือกโหมดนี้ได้เลย แล้วเจ้าโปรแกรมก็จะอ่านออกเสียงให้คุณฟังเองว่าสิ่งที่คุณได้บันทึกเอาไว้มีเนื้อหาอะไรบ้าง ราคาสุดคุ้ม ราคาของเจ้าปากกาสุดล้ำนี้อยู่ที่ราวๆ 3,235 บาท เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับสารพันประโยชน์ของมันมากๆ…
-
อร๊ายยย…ภาพสมัยเอ๊าะๆ ของ “Jason Momoa” ก่อนเป็น Khal Drogo และ Aquaman
เมื่อภาพยนตร์ Justice League เข้าฉายหลายคนคงจะได้เห็นการปรากฏตัวของฮีโร่คนใหม่อย่าง Aquaman ที่รับบทโดย Jason Momoa เป็นที่เรียบร้อยแล้วใช่ไหมล่ะ และเขาคนนี้นี่แหละที่กำลังทำให้สาวๆ ทั่วโลกกำลังบ้าคลั่ง เพราะนอกจากความล่ำของร่างกายแล้ว Jason ยังมีความหล่อที่สามารถดึงดูดให้สาวๆ หลงใหลอีกด้วย ที่สำคัญหากใครที่ได้เห็นภาพสมัยเอ๊าะๆ ของเขาล่ะก็ บอกเลยว่าคุณจะต้องยิ่งหลงรักหนุ่มคนนี้มากกว่าเดิมแน่นอน สำหรับ Jason Momoa หลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นอย่างดีในบท Khal Drogo ราชาแห่ง Dothraki จากซีรีส์สุดฮอตเรื่อง Game of Thrones และล่าสุดเขาก็ได้รับบทเป็น Aquaman จากภาพยนตร์ Justice League ของค่าย DC อย่างไรก็ตาม แม้ว่าก่อนหน้านี้เราจะได้เห็นเขามาในลุคแบบโหด ดิบ เถื่อน แต่ใครจะรู้ล่ะว่าตอนสมัยเอ๊าะๆ Jason จะทั้งหล่อและมีความใสปิ๊งขนาดนี้ กรี๊ดดดดด คือดีย์ . ใสๆ เลยอะแก…
-
ศิลปินสร้างการ์ตูนเรื่องราวชีวิตของ “ซอมบี้สาว” กับผองเพื่อนสัตว์ประหลาด สนุกจริงจริ๊งงง!!
เคยจินตนาการกันบ้างมั้ยว่าถ้าแฟนหรือคนรอบข้างของเรากลายเป็นซอมบี้หรือตัวประหลาดขึ้นมา ชีวิตของเรามันจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากขนาดไหน พูดไปก็อาจจะไม่เห็นภาพ งั้นก็ต้องลองไปดูการ์ตูนที่วาดโดยศิลปินที่ใช้ชื่อว่า Emi MG คนนี้เลย ด้วยฝีมือจากที่จบปริญญาตรีด้านสื่อการวาดภาพและสื่ออนิเมชั่นมาโดยตรงบวกกับเซนส์ความสนุกของเธอ จึงเชื่อว่าการ์ตูนสั้นๆ เหล่านี้อาจทำให้ใครหลายๆ ชื่นชอบและเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวความน่ารักกับการใช้ชีวิตของเหล่าตัวประหลาดทั้งหลาย ว่าแล้วก็ลองไปอ่านดูกันได้เลยยย สนุกมั้ยที่มาไล่ยิงพวกเดียวกันกับแฟนตัวเองเนี่ย ไปคาบมาเร็วเหล่าน้องหมาทั้งหลาย เป็นแวมไพร์แบบนี้แล้วจะถ่ายรูปกันยังไง เพิ่งโกนหนวดมา หน้าตาก็เลยไม่เหมือนในบัตร อยากฟังบ้างอ่ะ อยู่ข้างล่างนี่ไม่ได้ยินเลย อย่าไปยุ่งกับผมของเขาสิคุณ เชื่อว่าเจ้าชายคงจะหาเจ้าของรองเท้าแก้วได้ไม่ยาก ที่รักอย่าทำอย่างนั้น ผมห้ามคุณไม่อยู่หรอกนะ ทำไมใส่แว่นสามมิติแล้วไม่เห็นมันพุ่งออกมาเลย ดูหนังไม่ต้องใช้ร่างกาย ใช้แต่ดวงตาก็เกินพอ แกล้งเพื่อนสำเร็จแล้ว ไฮไฟว์กันหน่อยยย แป๊บนึงนะ นั่นมันไม่ใช่เส้นสปาเกตตีแล้ว ก็อย่างนี้แหละ ซื้อของออนไลน์ ของจริงชอบไม่เหมือนกับในรูป เดี๋ยวก่อนนน ที่ใช้ไปเมื่อกี้ไม่ใช่กระดาษทิชชู่หรอกนะ นิ้วติดดึงออกไม่ได้แบบนี้ก็ปล่อยไว้อย่างนั้นละกัน ถ้าจะกินก็ไปรุมกินไอติมโน่นสิ นี่คิดว่าอย่างผมจะซ่อนอะไรเอาไว้อีกเหรอ…
-
เมืองนิวยอร์กนำตู้รถไฟที่ไม่ใช้แล้วลงสู่ก้นทะเล เพื่อช่วยซ่อมแซมระบบนิเวศให้ดีขึ้น
มีไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นการกำจัดหรือทิ้งขยะอุตสาหกรรมแบบจะจะ เพราะส่วนใหญ่แล้วพวกเขามักจะทำกันแบบลับๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกร้องเรียน แต่ช่างภาพ Stephen Mallon ได้พยายามตามถ่ายการกำจัดขยะเหล่านั้นเป็นเวลา 3 ปีด้วยกัน จนได้เห็นว่าตู้รถไฟใต้ดินในนิวยอร์กนั้นถูกนำไปทิ้งที่ไหนเมื่อไม่ใช้งานแล้ว มหานครนิวยอร์กได้สร้างทางพิเศษขึ้นมาเอง เพื่อใช้ในการกำจัดตู้รถไฟใต้ดินที่ไม่ใช้แล้ว มีเรือบรรทุกสินค้าที่เต็มไปด้วยตู้รถไฟใต้ดินกำลังแล่นไปยังกลางมหาสมุทร จากนั้นพวกเขาก็จะใช้อุปกรณ์ก่อสร้างในการผลักตู้รถไฟใต้ดินลงไปในน้ำ ตู้รถไฟใต้ดินถูกโยนลงไปทีละตู้ๆ มันอาจจะดูเหมือนเป็นการกำจัดมลพิษแบบสิ้นคิด แต่จริงๆ แล้วพวกเขามีจุดประสงค์บางอย่างที่อยู่เบื้องหลังการทำแบบนี้ พวกเขาบอกว่าการทิ้งรถไฟใต้ดินลงไปอยู่ใต้พื้นมหาสมุทรนั้นก็เพื่อให้มันผสานกับระบบนิเวศใต้น้ำ เมื่อเวลาผ่านไปตู้รถไฟใต้ดินจะปกคลุมไปด้วยสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ซึ่งเป็นการสร้างระบบแนวปะการังเทียมอย่างหนึ่ง ทุกส่วนของซากรถเหมาะสำหรับการสร้างระบบนิเวศปะการัง ทั้งนี้ การสร้างระบบแนวปะการังเทียมนั้นจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการฟื้นฟูความเสียหายในธรรมชาติที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ นี่คือสิ่งที่เกิด หลังจากที่ทิ้งซากรถไปแล้ว 5 ปี แม้แต่ทางวิศวกรเองก็เห็นด้วยกับการผลักตู้รถไฟใต้ดินลงน้ำ พวกเขาบอกว่าแม้ตอนแรกเราจะไม่ได้มีเจตนาเพื่อจัดการความเสียหายของพื้นมหาสมุทร แต่พอเวลาผ่านไปเราพบว่ามันช่วยซ่อมแซมธรรมชาติที่ถูกทำลายไป และนี่คือสภาพเมื่อผ่านไปแล้วประมาณ 10 ปี ตอนแรกที่ Mallon เผยแพร่ภาพเหล่านี้ มีแต่คนบอกว่ามันเป็นการสร้างมลภาวะ แต่เมื่อได้อ่านทั้งหมดจึงรู้มันเป็นการคืนความสวยงามให้ธรรมชาติมากกว่า ที่มา viralforest
-
นศ.เขียนโน้ตเตือนห้องข้างว่า ‘มีเซ็กส์’ เสียงดัง โดนตอบกลับ “โสดมา 18 ปี ขอจัดเต็มหน่อยเถอะ!!”
เมื่อต้องเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย เด็กต่างถิ่นหลายคนก็จำเป็นจะต้องอยู่หอพัก ซึ่งหอพักส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะห้องติดๆ กันทำให้อาจจะมีเสียงเล็ดลอดออกมาบ้างเวลาทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม เด็กสาวชื่อว่า Jenna Levine จากมหาวิทยาลัย Syracuse ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน และสิ่งที่เธอได้ยินก็ไม่ใช่เสียงธรรมดาๆ อย่างการทำกับข้าวหรือว่าพูดคุยกันซะด้วย แต่ว่ามันคือเสียงโหยหวนของคนสองคนที่กำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันอยู่… โน้ตของเธอที่ส่งไปให้ห้องข้างๆ ลองนึกภาพตามสิ่งที่เธอได้ยิน มันช่างรบกวนเวลาในการอ่านหนังสือหรือว่านอนหลับซะจริงๆ และมันก็ไม่ใช่เสียงเบา เพราะว่าคู่รักข้างห้องของเธอแสดงหนังสดซะดังจนแทบจะเห็นภาพ Jenna จึงไม่ทนอีกต่อไป และได้เขียนโน้ตแผ่นหนึ่งไปสอดเข้าที่ใต้ประตูห้องนั้น โดยมีเนื้อหาว่า “ช่วยลดเสียงระหว่างการมีเซ็กส์ให้เบาลงสักนิดเถอะนะ เพราะว่าคนบางคนต้องการที่จะนอนหลับพักผ่อน และเสียงนั้นมันยังคอยตอกย้ำคนโสดอย่างฉันด้วย มันเป็นสิทธิ์ของคุณที่คุณจะทำอย่างนั้น แต่ว่าช่วยเบาเสียงกระเส่านั้นลงนิดนึงละกัน ขอบคุณมาก” ของขวัญแทนการขอโทษพร้อมโน้ตแผ่นหนึ่ง ระหว่างที่เธอนำโน้ตแผ่นนี้ไปสอดใต้ประตูห้อง Jenna ก็สารภาพว่าเธอกลัวมากว่าพวกเขาจะเปิดประตูออกมาพอดี ในเวลาต่อมาเธอก็ได้รับการตอบกลับในแบบที่คาดไม่ถึง โดยพวกเขาได้สอดช็อกโกแลตแท่งมาใต้ประตูห้องของเธอ รวมทั้งโน้ตที่ทำให้ความโกรธของเธอหายเป็นปลิดทิ้ง ซึ่งใจความในจดหมายตอบกลับฉบับนี้ก็คือ ข้อความในโน้ตแทบทำเอาน้ำตาไหล “ถึงเพื่อนบ้านที่น่ารัก ฉันต้องขอโทษจริงๆ เกี่ยวกับเรื่องนั้น ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่ามันเป็นเสียงที่ดังมาก แต่ก็อย่างที่ทุกคนรู้ ว่าบางทีการมีเซ็กส์เสียงดังมันก็สามารถเพิ่มความเร่าร้อนให้กับคู่ของเราได้ แต่อย่างไรก็ตามฉันก็ต้องขอโทษอย่างใจจริง” “ฉันหวังว่าเรื่องแบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก และต้องขอขอบคุณเกี่ยวกับคำเตือนในโน้ตของคุณ…
-
ช่างภาพจับภาพลูกเสือดาวหิมะกระโดดเหยงๆ สุดน่ารัก นึกว่า “ทิกเกอร์” มาเองเลยนะเนี่ย!?
สัตว์จำพวกแมวนั้น ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหนๆ ก็ดูเหมือนว่าจะน่ารักไม่แพ้กันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเหมียวบ้านๆ ตัวเล็กๆ หรือว่าเจ้าแมวป่าตัวใหญ่ๆ อย่างคาราคัล และรวมถึงเจ้าลูกเสือดาวหิมะตัวน้อยตัวนี้ด้วยเช่นกัน!! ภาพของเจ้าลูกเสือดาววัย 5 ขวบจากศูนย์รักษาพันธุ์สัตว์ป่า Triple D Ranch ในรัฐมอนแทนา สหรัฐอเมริกา ที่กำลังกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขท่ามกลางธรรมชาตินั้น ได้รับความนิยมอย่างมากบนโลกออนไลน์ หลังจากที่ทางศูนย์ได้มีการโพสต์ภาพของมันลงทางเฟซบุ๊กของพวกเขา ท่าทางกระโดดของเจ้าลูกเสือที่ดูคล้ายกับ Tigger จากเรื่อง Winnie-the-Pooh เลยทีเดียว “มันยังเป็นลูกเสือตัวเล็ก และชอบเล่นอยู่ตลอดเวลา มันคือเจ้าเสือน้อยจอมกระโดด และมีเรี่ยวแรงเยอะมาก บางครั้งมันสามารถกระโดดได้สูงมากจนฉันทึ่งไปเลยทีเดียว” คุณ Shayne McGuire ผู้ถ่ายภาพเจ้าเสือน้อยตัวนี้กล่าว นอกจากความขี้เล่นแล้ว เจ้าเสือน้อยตัวนี้ยังเป็นขวัญใจของนักท่องเที่ยวอีกด้วย ภารกิจของ Triple D คือการดูแลเจ้าเสือน้อยตัวนี้ และรักษาพันธุ์สัตว์อื่นๆ ที่ใกล้สูญพันธุ์ เสือดาวหิมะนั้นเป็นสัตว์ที่สามารถพบได้แถบเทือกเขาทางตอนกลางและทางใต้ของทวีปเอเชีย “เพื่อนๆ ของฉันบอกว่าภาพของเจ้าเสือตัวนี้ดูเหมือน Tigger มาก พวกเราพยายามให้มันสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระโดยไม่ขังไว้ในกรง พวกเราจะคอยเฝ้าดูมันเติบโต และพัฒนาสัญชาตญาณนักล่าขึ้นเรื่อยๆ ” ช่างภาพสาวกล่าว เสือดาวหิมะนั้นถูกจัดอยู่ในรายชื่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของ IUCN Red List of Threatened Species…
-
หนุ่มส่งข้อความ ‘ดูกันดั้มของผมไหม’ ไปหาสาว และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นความรักของพวกเขา
เนื้อคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันไปได้ ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็หากันจนเจอไม่ว่าจะจากร้านกาแฟ ผับบาร์ หรือกระทั่งโลกออนไลน์ แต่ใครจะไปเชื่อล่ะว่าจะมีคู่รักคู่หนึ่งจะได้แต่งงานกันด้วยคำถามง่ายๆ ว่า “ดูกันดั้มของผมไหม” ในกล่องข้อความ Instagram ของ Elle Howley ได้มีข้อความหนึ่งที่มีเนื้อหาสุดแปลกมาหาเธอ ซึ่งข้อความนั้นเป็นคำถามที่ว่า “ดูกันดั้มของผมไหม” และตอนนั้นเธอยังคงไม่รู้ว่าคำถามนี้คำถามเดียวได้เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล และได้สร้างตำนานรักบทใหม่ขึ้นในยุคเทคโนโลยีครองเมืองเฉกเช่นในปัจจุบัน Elle ได้โพสต์ข้อความของชายดังกล่าวลงใน Twitter ของเธอ Elle ให้เล่าให้ฟังว่าจริงๆ แล้วเธอพบกับชายคนนี้ก่อนแล้วในแอพฯ Tinder แต่ว่าตอนนั้นเธอได้ลบบัญชีของเธอในแอพฯ นั้นทิ้งไปเพราะว่ายังมีความสุขในชีวิตโสดอยู่ ซึ่งเธอก็คิดว่าเขาคนนั้นก็คงจะลืมๆ เธอไป แต่ปรากฏว่าไม่กี่วันต่อมา เขาก็ส่งข้อความมาใน Instagram ด้วยข้อความข้างต้น โดยในตอนแรกนั้นเธอก็คิดว่าคำว่ากันดั้มของเขานั้นหมายถึง อวัยวะเพศ แต่ว่าเขากลับส่งรูปโมเดลกันดั้มจริงๆ กลับมานั่นทำให้ Elle รู้ว่าเขาคนนี้แตกต่างกับคนอื่น แท่ม แท๊มมมม ส่งกันดั้มมาให้ดูจริงๆ ด้วยแฮะ… “การ์ตูนเรื่องกันดั้ม เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องแรกที่ฉันได้ดูและตกหลุมรักมัน เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขากับฉันที่ได้พูดคุยกันเพราะว่าเรารักในสิ่งเดียวกัน เราแชทคุยกันทุกวันเป็นเดือนจนกระทั่งเราได้พบกันในที่สุด” Elle เล่าจุดเริ่มต้นความรักของเธอให้ฟัง เธอได้เรียกชายคนดังกล่าวว่า “ไอ้หนุ่มกันดั้ม” ซึ่งจริงๆ แล้วชื่อของเขาคือ John…
-
ได้อีกค่ะ!! คู่รักทหารอปป้าเกาหลีกับคุณหญิงรัสเซีย เห็นแล้วก็รู้สึกอิจฉ๊าอิจฉาเหลือเกิน
คู่รักที่น่าอิจฉาไม่ใช่คู่ที่หน้าตาสวยหล่อ ไม่ใช่คู่ที่คบกันมานาน ไม่ใช่คู่ที่ร่ำรวยเงินทอง แต่เป็นคู่ที่มั่งคั่งในเรื่องความรักโดยไม่มีเงื่อนไข อย่างคู่รัก Jay Song Alexandra และ Sasha Podberezskaja ที่ได้แบ่งปันชีวิตการผจญภัยของพวกเขาในยูทูบ จนทำให้ชาวเน็ตอิจฉาตาร้อนไปตามๆ กัน Sasha เป็นชาวรัสเซียที่เกิดในประเทศเบลารุส ปัจจุบันอาศัยอยู่ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ทำงานเป็นนักแสดงและนางแบบอิสระ ส่วน Jay เกิดที่กรุงโซล ปัจจุบันเป็นทหารรับใช้ชาติของกองทัพเกาหลีใต้ ทั้งคู่คบกันตั้งแต่ปี 2013 และได้เริ่มทำช่องยูทูบเมื่อ 2 ปีก่อน เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความรักและการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในแต่ละวันของพวกเขา ด้วยความที่เป็นคู่รักที่หน้าตาจัดว่าค่อนข้างสวยหล่อ จึงทำให้มีแฟนๆ ติดตามจำนวนมาก แต่คลิปที่โพสต์จะมีคนเข้ามาดูมากกว่า 3 ล้านครั้ง และมีผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ Jay ต้องไปเกณฑ์ทหาร แฟนๆ ห่วงว่าพวกเขาจะหยุดทำวิดีโอ แต่ Sasha ได้ออกมาบอกว่า “อย่ากังวลเลย เราจะพยายามทำวิดีโอให้เพื่อนๆ ได้ดูกันต่อไป เพราะ Jay จะออกมาจากค่ายบ่อยๆ” อย่างไม่นานนี้ ทั้งคู่เพิ่งจะได้พบกัน และ Sasha ได้โพสต์วิดีโอสั้นๆ ในอินสตาแกรม ระบุว่า “Jay…
-
ยลโฉมสาวงามผู้ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายจากการประกวด “มิสยูนิเวิร์ส 2017”
ผ่านกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการประกาศผลสาวงามผู้ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย จากการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ที่จัดขึ้น ณ โรงแรมแพลเน็ท ฮอลลีวูด รีสอร์ทแอนด์ คาสิโน ที่เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งต้องบอกเลยว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะแฟนนางงามแต่ละประเทศต่างก็ลุ้นว่า “ใคร” จะเป็นผู้ที่ได้ผ่านเข้าไปตอบคำถามบ้าง โดยผู้ที่ผ่านเข้ารอบเป็นคนแรกเลยก็คือ Demi Leigh Peters สาวงามจากประเทศแอฟริกาใต้ ตามมาติดๆ ด้วย Keysi Sayago จากประเทศเวเนซูเอล่า และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือ มารีญา พูลเลิศลาภ สาวงามจากประเทศไทยนั่นเอง คนที่ 4 คือ Davina Bennett จากประเทศจาไมก้า ม้ามืดที่สุดของที่สุดในปีนี้ และคนสุดท้ายคือ Laura González สาวงามจากประเทศโคลอมเบีย และนี่คือคลิปช่วงวินาทีการประกาศผล Top 5…
-
หนุ่มเผยทำอาชีพดำน้ำเก็บลูกกอล์ฟไปขายนาน 14 ปี อ้างทำเงินได้กว่า 500 ล้านบาท
คุณเชื่อหรือไม่ว่าแค่เก็บลูกกอล์ฟไปขายก็สามารถทำเงินได้เป็นล้านๆ แล้ว เรารู้ว่าหลายคนอาจจะไม่เชื่อแน่นอน แต่ Glenn Berger เศรษฐีหนุ่มผู้ทำอาชีพดำน้ำเก็บลูกกอล์ฟมานานกว่า 14 ปีคนนี้ ได้ออกมาอ้างว่า การเก็บลูกกอล์ฟไปขายช่วยทำเงินให้เขามากถึง 500 ล้านบาท สำหรับ Glenn เขามักจะเดินทางไปยังสนามกอล์ฟทั่วฟลอริดา เพื่อลงไปดำน้ำงมหาลูกกอล์ฟ จากนั้นก็นำไปขายในราคาลูกละ 1 เหรียญ อย่างไรก็ตาม ลูกกอล์ฟจะไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีกหลังจากตกลงไปในน้ำนานกว่า 24 ชั่วโมง ดังนั้นสนามกอล์ฟเหล่านี้จึงเป็นเหมือนขุมทองของ Glenn อย่างแท้จริง เพราะในแต่ละปีจะมีลูกกอล์ฟตกลงไปในบ่อน้ำที่สนามกอล์ฟมากถึง 1.3-1.7 ล้านลูก และนั่นก็ทำให้ Glenn ต้องสวมชุดดำน้ำพร้อมดำดิ่งลงไปเก็บลูกกอล์ฟในสนามตลอดทุกๆ สัปดาห์ ซึ่งทำให้เขาสามารถเก็บลูกกอล์ฟได้มากถึง 3,900 ลูกต่อวันเลยทีเดียว ทางด้าน Glenn ได้ออกมาเผยว่า เขาเคยต่อสู้กับจระเข้หลายครั้งเวลาที่ต้องดำน้ำลงไปงมหาลูกกอล์ฟ นอกจากนี้ Glenn ยังได้รับเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ภายหลังจากที่คลิปวิดีโอของเขาถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลกออนไลน์เกี่ยวกับอาชีพที่สร้างเงินจำนวนมหาศาลให้กับเขา ทั้งนี้ทางเจ้าหน้านี้กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า การที่ Glenn ได้ออกมาอ้างว่าอาชีพดำน้ำทำให้เขาได้กลายมหาเศรษฐีนั้นเป็นความจริงหรือไม่?…
-
หญิงสาวช่วยหางานและบ้านหลังใหม่ให้ชายไร้บ้าน หลังเขานำเช็ค 350,000 บาทมาคืนเธอ
เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่งที่พบเช็คมูลค่า 350,000 บาท เขานำมันส่งคืนเจ้าของเดิมเพียงเพราะว่าความถูกต้องนั้นมีมูลค่ามากกว่าเช็คใบนั้น แต่ทว่าสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับชายหนุ่มเมื่อดอกเตอร์ Roberta Hoskie เจ้าของเช็คใบนั้นกลับให้บ้านและงานใหม่กับชายหนุ่มเป็นสิ่งตอบแทนกับความดีของเขา หลังจากที่ชายหนุ่มพบเช็คของเธอตกอยู่บนถนนในเมือง New Haven สหรัฐอเมริกา นาย Elmer Alvarez หนุ่มไร้บ้านพลเมืองดี และดอกเตอร์ Hoskie เจ้าของเช็คที่ชายหนุ่มเก็บได้ ดอกเตอร์ Hoskie ให้ชายไร้บ้านคนดังกล่าวเข้าเรียนในโรงเรียนเกี่ยวกับธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เธอเป็นเจ้าของ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเขาในระยะยาว ด้วยความที่เคยเป็นคนไร้บ้านมาก่อนจึงทำให้ดอกเตอร์หญิงผู้นี้เข้าใจถึงความยากลำบากที่คุณ Alvarez ต้องเผชิญเป็นอย่างดี เธอบอกว่าการช่วยเหลือเขาด้วยวิธีนี้เป็นเพียงหนทางเดียวที่จะทำให้เขายืนได้ด้วยตัวเอง และกลับไปช่วยเหลือผู้อื่นได้อีก “คุณไม่ต้องทนหนาวอยู่ข้างนอกอีกต่อไปแล้ว เรามีบ้านหลังใหม่ที่จะมอบให้คุณ” ดอกเตอร์หญิงกล่าว คุณ Alvarez รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับเขา ชายหนุ่มรู้สึกทราบซึ้งกับสิ่งที่เขาได้รับ “โลกของเรายังมีนางฟ้าอยู่จริงๆ ด้วยความสัตย์จริง ผมต้องการที่จะคืนเช็คใบนี้ให้กับเธอ โดยที่ไม่ต้องการอะไรตอบแทนเลย” ชายหนุ่มกล่าว ที่มา dailymail
-
ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว คนเมามี 4 ประเภท ลองสำรวจกันดูว่าคุณเป็นสายไหน!?
อาการเมานั้นนอกจากจะเกิดจากการแพ้ยานพาหนะแล้ว บางครั้งเวลาที่คุณดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เองก็อาจจะทำให้คุณเกิดอาการเมาได้เหมือนกัน (เผื่อใครยังไม่เคยดื่ม) และเมื่อไม่นานมานี้ทางทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of Missouri สหรัฐอเมริกา ก็ได้ทำการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับอาการเมาของคนเราในแบบต่างๆ ทีมวิจัยได้ทำการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 374 คน และโดยให้พวกเขาจับคู่ออกไปดื่มกันและให้สังเกตพฤติกรรมของอีกฝ่าย ซึ่งผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Addiction Research & Theory สามารถแบ่งกลุ่มคนเมาได้ 4 ดังนี้ 1. ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่เมา The Hemingway ทีมวิจัยได้เรียกนักดื่มในสายนี้ว่าตามแบบชื่อของนักเขียนชาวอเมริกันที่เคยกล่าวเอาไว้ว่า เขาสามารถดื่มหนักแค่ไหนก็ได้โดยที่ไม่เมาเลย คนเมาสายนี้มักจะไม่มีบุคลิกที่เปลี่ยนไปเลยไม่ว่าพวกเขาจะเมามากแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงมีสติที่ช้าลงและเดินเซเล็กน้อย นักวิจัยพบว่ามีคนเมาในแบบ The Hemingway มากถึง 42 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างทั้มหมด 2. Mary Poppins สายเฟรนด์ลี่ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเริ่มเมานั้น คุณจะกลายเป็นคนที่อัธยาศัยดีขึ้นมาทันที คุณพร้อมที่จะเป็นมิตรกับทุกๆ คนในร้าน และโดนเหยียบเท้านิดหน่อยก็ไม่อาจทำให้คุณโกรธได้เลย 3. พ่อนักวิชาการใหญ่ หรือ The Nutty Professor โดยปรกติแล้วคนเมาสายนี้มักจะมีแนวโน้มที่เป็นคนเงียบๆ ในตอนที่พวกเขายังมีสติอยู่ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เหล้าเข้าปากและเริ่มเมาได้ที่ล่ะคุณเอ๊ย!! งานนี้พูดเป็นน้ำไหลไฟดับเลยทีเดียวแถมยังชอบโชว์ออฟอีกด้วย 4. Mr. Hyde จอมทำลายล้าง Mr.…
-
เมื่อหมาแมวได้ออกผจญภัยโลกกว้างด้วยกัน ภาพที่ได้มันบ่งบอกทุกอย่างแล้วล่ะ!!
ย้อนเวลากลับไปในปี 2014 Cynthia Bennett สาวผู้รักการเดินทางและแฟนหนุ่มของเธอได้รับ Henry สุนัขพันธุ์ผสมมาเลี้ยง ซึ่งในตอนนั้นมันมีอายุเพียง 14 สัปดาห์ แต่ทว่ากลับมีขนาดใหญ่กว่าลูกสุนัขตัวอื่นๆ ถึง 5 เท่า เมื่อครั้งที่ Cynthia ได้เข้าไปหา Henry มันก็เข้ามานั่งหนุนที่ตักของเธอทันที และในตอนนั้นเองที่ Cynthia รู้ว่าเธอถูกชะตากับเจ้าหมาตัวนี้เข้าซะแล้ว “ในตอนที่เราได้รับ Henry มาเลี้ยงได้เพียงแค่ 3 วัน เราก็พามันออกไปปีนเขาด้วยแล้ว ซึ่งในตอนแรกเราคิดว่ามันอาจจะไม่ชอบ แต่ที่ไหนได้เจ้า Henry กลับชอบสุดๆ แถมยังไต่ไปจนถึงยอดเขาสูงชันได้อย่างคล่องแคล่ว นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราเล็กมันว่าแพะภูเขา” Cynthia กล่าว และไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Cynthia และแฟนหนุ่มก็ได้ตัดสินใจว่าอยากจะมีสัตว์เลี้ยงมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอีกสักตัว ด้วยเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจไปรับลูกแมวอายุ 5 เดือนจากศูนย์พักพิงมาเลี้ยงดู พร้อมตั้งชื่อให้กับเจ้าเหมียวว่า Baloo เมื่อได้แนะนำ Baloo ให้ Henry รู้จัก ดูเหมือนว่าน้องเหมียวจะตกหลุมรักพี่หมาเขาอย่างจัง…
-
ชาวเน็ตชอบใจ…ไม่ใช่แร็ปเปอร์ที่ให้สัมภาษณ์ แต่เป็นสาวที่เต้นด้านหลังต่างหากล่ะ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา โลกโซเชียลออนไลน์ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอขณะที่ Jackson Wang นักร้อง K-pop วง GOT7 พร้อมกับดาราจีนคนอื่นๆ ได้เข้าสัมภาษณ์ Desiigner แร็ปเปอร์ชื่อดังวัย 20 ปี หนึ่งในศิลปินดังที่ได้เข้าร่วมงาน 2017 American Music Awards ในลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้แฟนๆ ทางบ้านหลายคนสนใจ กลับไม่ใช่พ่อหนุ่ม Desiigner แต่เป็นหญิงสาวที่กำลังเต้นอยู่ด้านหลังของเขาซะอย่างนั้น งานนี้เลยทำให้คลิปดังกล่าวกลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ต ในระหว่างการสัมภาษณ์ ดูเหมือนว่า Desiigner จะพูดเร็วไปหน่อย ทำให้หญิงสาวจีนรายดังกล่าวออกสเต็ปเต้นตามจังหวะคำตอบของเขาราวกับว่ากำลังฟังศิลปินแร็ปเพลงอยู่ยังไงยังงั้นเลย นี่อาจจะเป็นการสัมภาษณ์แบบธรรมดาๆ แต่กลับกลายเป็นว่ามีบางคนได้สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ดูเฮฮาอยู่ด้านหลัง อย่างไรก็ตาม เมื่อชื่อผู้ใช้ @hunnyblush ได้นำคลิปวิดีโอนี้ไปเผยแพร่ลงในทวิตเตอร์ ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างมากมาย แถมยังมีการรีทวิตไปมากถึง 122,713 ครั้งเลยทีเดียว นอกจากนี้ แร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง Snoop Dogg…
-
รวม 18 เกมดังจากวันวาน ในยุคที่คุณยังต้อง “ขูดบัตร” เพื่อเติมอินเตอร์เน็ต!!
สำหรับหลายๆ คนแล้วการได้เล่นเกมหลังเลิกเรียนคงจะเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ และแน่นอนในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา หลังจากการถือกำเนิดของ Play Station 1 โลกแห่งการเล่นเกมของพวกเราก็เปลี่ยนไป และนอกจากเกมในเครื่อง PS1 แล้ว ในยุคนั้นเกมคอมพิวเตอร์เองก็มีการพัฒนาอย่างมาก ที่สำคัญยังมีหลากหลายแนวให้เราเลือกเล่น ไม่ว่าจะเป็นเกมผ่านด่านยากๆ ไปจนถึงเกมแฟลชง่ายๆ และเพื่อเป็นการย้อนวันวาน เราก็ได้รวบรวม 18 เกมดังจากทุกแพลตฟอร์มที่คุณต้องเคยเล่นมาฝากกัน ส่วนจะมีเกมอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. กระบี่ผีเสื้อดาวตก เกมต่อสู้แนวกำลังภายในที่แสนจะดุเดือด การจำท่าของแต่ละอาวุธได้นั้นจะทำให้คุณกลายเป็นมหาเทพแห่งยุทธภพ และไม่แน่ตอนนี้สมุดจดคอมโบของคุณอาจจะยังอยู่ก็ได้!! 2. Counter Strike เกมแนว FPS ที่คอเกมหลายๆ คนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และเสียงพากย์ไทยสุดคลาสสิคอย่าง “ขว้างละเบิดไปแล้ว!!” หรือ “เอาน้อยหน่าไปกิน เย่!!” ก็ยังคงติดอยู่ในหูคุณจนถึงทุกวันนี้อย่างแน่นอน (อ่านบทความเก่า 20 ความทรงจำเกี่ยวกับเกม Counter Strike ที่คนเล่นในยุคแรกๆ จะเข้าใจเป็นอย่างดี) 3. Battle Realms หนึ่งในเกมวางแผนที่ครองใจหลายๆ คนจากค่ายยูบิซอฟต์ คุณสามารถเลือกเผ่าได้ถึง…
-
ลูกเหมียวกำพร้าได้พบกับ พี่สาวแสนดีเคมีเข้ากัน “พี่ไปไหนน้องขอไปด้วย”
ไม่มีอะไรที่น่าจะทำให้รู้สึกดีไปกว่าการได้เห็นสัตว์ที่น่าสงสารมีความสุขแล้ว ซึ่งนี่เป็นเรื่องราวระหว่างแมวสองตัวที่ต้องมาอยู่ด้วยกัน แต่ว่าตั้งแต่เจอกันครั้งแรกทั้งสองก็เหมือนมีสายใยที่ผูกพันธ์กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนจนแทบจะแยกทั้งคู่ออกจากกันไม่ได้เลย แมวกำพร้าชื่อว่า Cheyenne ได้เข้ามาอยู่ที่สถานรับเลี้ยงสัตว์ Nevada SPCA ที่เมืองลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยความหวังจะหาบ้านที่อบอุ่นและเหมาะสมให้กับตัวเอง และดูเหมือนว่าเจ้าแมวน้อยตัวนี้จะไม่ค่อยชอบบรรยากาศในสถานรับเลี้ยงนี้มากนัก ความน่ารักของ Cheyenne และ Pearl ในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมาเจ้าเหมียวตัวนี้ก็พร้อมสำหรับบ้านใหม่ ในเวลาไม่นาน Chey ก็ได้ขโมยหัวใจของผู้หญิงใจดีคนหนึ่งไป และผู้หญิงคนนั้นก็รับเจ้าขนปุยตัวนี้ไปเลี้ยงที่บ้านของเธอ โดยก่อนหน้านั้นเธอได้เลี้ยงแมวสองตัวอยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวที่อุปถัมภ์แมวตัวนี้มีชื่อว่า Amy เธอได้แนะนำให้มันได้รู้จักกับเพื่อนแมวอีกตัวชื่อว่า Pearl ซึ่งมันเป็นแมวที่ Amy ได้อุปถัมภ์มาจากที่เดียวกันเมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว Chey สมัยยังอยู่ที่สถานรับเลี้ยงสัตว์ “พวกเราคิดว่าต้องหาเพื่อนให้กับเจ้า Pearl เพราะว่าเจ้าแมวแก่ที่ชื่อว่า Jenny ไม่ได้สนใจในตัวของเพื่อนแมวด้วยกันมากนัก” Amy ให้สัมภาษณ์ ในช่วงแรกๆ ที่เจ้า Chey เข้ามาอยู่ที่บ้านมันก็เริ่มติดตามเจ้าถิ่นอย่าง Pearl ไปยังสถานที่ต่างๆ รอบบ้านราวกับว่าเป็นเงาของมันเลยก็ว่าได้และดูเหมือนว่า Pearl ก็ชอบใจในตัวเพื่อนใหม่เหมือนกัน ต้องอยู่ในสายตาตลอดเวลา “หลังจากผ่านไปเพียงแค่ 2-3 วันพวกมันก็เล่นกันจนตัวแทบกลม และอีก…
-
ผู้จัดการร้านให้ชายไม่มีเงินได้ “กินก่อนจ่ายทีหลัง” แต่เจ้าตัวนั้นกลับโทรหาตำรวจเพื่อมอบตัว…
อาหารญี่ปุ่นที่ชื่อว่า คัตสึด้ง หรือ ข้าวหน้าหมูทอด+ไข่ คงเป็นเมนูจานโปรดของใครหลายๆ คน และสำหรับชายคนนี้เขาก็คงชอบมันมากๆ จนถึงขนาดตัดสินใจกินเป็นอาหารมื้อสุดท้ายก่อนที่จะเข้าไปใช้ชีวิตในคุก นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2017 เมื่อชายชาวญี่ปุ่นวัย 63 ปี ผู้ไม่มีงานทำและมีเงินติดตัวอยู่แค่ 93 เยน (ประมาณ 27 บาท) เขาได้ตัดสินใจไปกินคัตสึด้งในร้านอาหารร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเมืองยะนะงะวะ จังหวัดฟุกุโอกะ เงินที่เขามีอยู่นั้นไม่เพียงพอสำหรับค่าอาหาร 650 เยน (ประมาณ 190 บาท) หลังจากกินเสร็จเขาจึงบอกกับผู้จัดการร้านให้โทรแจ้งตำรวจได้เลยเพราะเขาไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารจานนี้ แต่เจ้าของร้านผู้ใจดีก็ได้มอบโอกาสให้เขาโดยการบอกว่า เขาไม่จำเป็นต้องจ่ายตอนนี้แต่มีเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับมาจ่ายวันหลัง เมื่อเป็นอย่างนี้หลายคนอาจกำลังคิดว่าสุดท้ายหนุ่มตกงานก็คงจะกลับมาจ่ายในวันหลังอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะเมื่อออกจากร้านไปเขาก็เดินไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะและติดต่อมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหากินแล้วไม่มีเงินจ่าย ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวเขาไปเข้าคุก โดยเจ้าหน้าที่ได้เล่าว่าชายคนดังกล่าวเคยติดคุกมาก่อน พอพ้นโทษก็ได้ออกมาใช้ชีวิตด้านนอก แต่ก็ต้องเจอกับปัญหาเนื่องจากประวัติการติดคุกของเขาทำให้ไม่สามารถหางานทำได้ สิ่งที่เขาทำดูเหมือนกับว่าเขาตัดสินใจเลือกคัตสึด้งของร้านนี้เป็นอาหารแสนอร่อยมื้อสุดท้ายก่อนที่จะต้องกลับเข้าไปใช้ชีวิตในคุก ซึ่งเรื่องราวของเขาก็ได้เป็นกระแสในโลกโซเชียลของประเทศญี่ปุ่น และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก “เป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆ” “ผู้จัดการร้านคนนั้นเป็นคนดีมากเลย” “มันเป็นการแสดงให้เห็นว่าการติดคุกไม่ได้ช่วยให้คนเราดีขึ้นมาได้ แต่กลับทำให้คนคนนั้นต้องตกอยู่ในวังวนที่ไม่อาจเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีได้เลย” เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ตอนจบมีการหักมุมอย่างที่หลายๆ คนอาจไม่เคยคาดคิดกันมาก่อน…
-
10 คำพูดติดตลกสุดสยอง ของเหล่าผู้ต้องโทษประหาร และเป็นประโยคสุดท้ายในชีวิต…
การกระทำเป็นตัวกำหนดอนาคตต่างๆ หากทำความดีก็ย่อมได้รับสิ่งดีๆ ตอบแทน หากทำชั่วก็ต้องได้รับสิ่งไม่ดีตอบแทน เหมือนกับคนเหล่านี้ที่ทำความชั่วจนผิดกฎหมายและได้รับโทษถึงประหารชีวิต แต่ว่าก่อนที่การประหารชีวิตจะเกิดขึ้น พวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้พูดคำสุดท้ายก่อนที่วิญญาณจะหลุดออกจากร่างไป และนี่คือ 10 คำพูดสุดท้ายของนักโทษประหารที่มีความผิด หากอยากรู้ว่าพวกเขามีคำพูดว่าอย่างไรก็ต้องตามไปดู…. 1. George Appel “สุภาพบุรุษทั้งหลาย พวกคุณกำลังจะพบกับ Appel อบ” George Appel ได้กล่าวคำพูดนี้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นคำพูดที่ห่อเหี่ยวใจที่สุดในโลก โดยเขาถูกประหารชีวิตด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้าที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในข้อหาฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในปี 1928 2. Carl Panzram “เร็วๆ เข้าสิไอ้พวกงั่ง ฉันอาจจะฆ่าคนได้เป็นโหลหากพวกแกยังไม่ลงมือสักที” Carl Panzram ฆาตกรต่อเนื่อง ที่ทั้งข่มขืนและเป็นหัวขโมย เขาอ้างว่าได้ฆ่าคนไปกว่า 22 คนและข่มขืนผู้หญิงอีกกว่า 1,000 คน Carl ถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอที่เมืองแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 5 พฤษภาคม 1930 3. Jame French “พวกเขาจะพาดหัวข่าวว่าไงกันนะ เฟรนช์ฟรายส์ทอดหรอ” Jame…
-
เรือไอน้ำอราเบีย ถูกพบฝังอยู่ใต้พื้นดินหลังหายไปนานกว่า 132 ปี พร้อมข้าวของจากยุคนั้น
แม่น้ำมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา คือเส้นทางเดินเรือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอดีต มีเรือจักรไอน้ำกว่า 400 ลำเคยแล่นผ่านเส้นทางนี้ หนึ่งในนั้นก็คือเรือจักรไอน้ำที่มีชื่อว่า Arabia ที่บรรทุกสินค้าไว้มากกว่า 200 ตันก่อนที่จะจมลงไปอยู่ใต้แม่น้ำแห่งนี้ตั้งแต่ปี 1856 เรือลำดังกล่าวได้บรรทุกสินค้ามาจากเมืองเซนต์หลุยส์ ในรัฐมิสซูรี และได้แล่นไปตามแม่น้ำมิสซูรี จนกระทั่งเรือได้ไปชนเข้ากับสิ่งกีดขวางที่อยู่ใต้น้ำ ทำให้น้ำไหลเข้ามาผ่านรูที่อยู่ใต้ท้องเรือและจมเรือลงไปลงภายในเวลาไม่กี่นาที การขุดเพื่อกู้ซากเรือลำดังกล่าวที่จมลงไปเมื่อกว่า 100 ปีที่ผ่านมา ลูกเรือและผู้โดยสารอีกกว่า 130 คนสามารถรอดชีวิตมาได้แต่สินค้าจำนวนมากก็ได้จมหายไปนอนอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นพื้นดินรอบๆ แม่น้ำก็ได้เกิดการเคลื่อนตัวจนไม่สามารถทราบตำแหน่งของเรือได้และมันเอาไว้ลึกลงไปใต้ดินกว่า 13 เมตร เวลาผ่านไปกว่า 100 ปี นักโบราณคดีที่ชื่อว่า Bob Hawley ก็รู้สึกสนใจและได้ออกตามหาเรือลำดังกล่าวในช่วงปลาย 1980s ซึ่งเขาเชื่อว่าตำแหน่งของมันน่าจะอยู่ห่างออกไปจากบริเวณรัฐมิสซูรี ประมาณ 800 เมตร สินค้าจำนวนมากที่ถูกค้นพบภายในเรือ เขาได้รับความร่วมมือจาก Judge Norman Sortor เจ้าของไร่ข้าวโพดที่ถูกเชื่อว่ามีเรือลำดังกล่าวจมอยู่ข้างใต้ ในปี 1987 การขุดเจาะเพื่อกู้ซากเรือในที่แห่งนั้นจึงได้เริ่มต้นขึ้น ในตอนนั้นไม่อาจแน่ใจได้ว่าเรือ Arabia จมอยู่ใต้พื้นที่นั้นจริงหรือเปล่า…
-
การทดลองกับเจ้าหมา เพื่อระบุว่าพวกมันสามารถแยกแยะคนดีกับไม่ดีได้หรือไม่!?
สุนัขขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีความเฉลียวฉลาด เรียนรู้ได้เร็ว และที่สำคัญมันมีความซื่อสัตย์ รู้จักการตอบแทนคุณคนที่ดูแลหรือให้การช่วยเหลือมัน ไม่เพียงแค่นั้น งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Neuroscience และ Biobehavioural Reviews ยังได้ระบุอีกว่าสุนัขสามารถแยกแยะได้ว่าใครเป็นคนดีหรือไม่ดี ส่งผลต่อวิธีการที่สุนัขตอบสนองต่อมนุษย์แต่ละคน ในการทดสอบความสามารถนี้ นักวิจัยได้ขอให้เจ้าของสุนัขแสดงพฤติกรรมที่แตกต่างกัน แล้วให้สุนัขของพวกเขานั่งดูการกระทำเหล่านั้น นักวิจัยได้จำลองเหตุการณ์โดยให้อาสาสมัครแสร้งทำเป็นเปิดประตูไม่ได้ แล้วขอความความช่วยเหลือจากนักวิจัยสองคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ในสถานการณ์แรก นักวิจัยคนหนึ่งได้เข้าไปช่วยอาสาสมัครเปิดประตู และอีกคนกลับยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่สนใจที่ให้การช่วยเหลือใดๆ สถานการณ์ที่สอง นักวิจัยคนเดิมยังปฏิเสธที่จะเข้าไปช่วยเหลือเช่นเดิม ขณะที่นักวิจัยอีกคนก็ทำเหมือนกัน คือไม่เข้าไปช่วยอาสาสมัคร หลังจากทั้งสองสถานการณ์จบลง นักวิจัยทั้งสองคนก่อนหน้านี้ก็ได้หันไปหาสุนัขแล้วยื่นขนมให้พวกมัน ปรากฏว่าในสถานการณ์แรก สุนัขได้ตอบสนองด้วยการรับขนมจากทั้งสองคน แต่ในสถานการณ์ที่สอง สุนัขได้ปฏิเสธที่จะรับขนมจากทั้งสองคน จากการตอบสนองดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์จึงสรุปว่าถ้าสุนัขเห็นใครบางคนทำบางอย่างไม่ดี มันก็จะตัดสินจากการกระทำนั้นและจะไม่ไว้ใจคนคนนั้น ดังนั้นต่อไปนี้ถ้าสุนัขปฏิเสธคุณ แสดงว่าคุณคงไปทำไม่ดีบางอย่างให้มันเห็นแน่ๆ ที่มา esquire
-
ค้างคาวตัวน้อยได้รับการช่วยชีวิต พอป้อนกล้วยเข้าปากปุ๊บก็เคี้ยวจ๊วบๆ น่าชังเสียนี่กระไร
ค้างคาวเป็นสัตว์ที่เราอาจไม่ค่อยได้เห็นมันทั่วไปตามท้องถนน และหลายๆ คนคิดว่ามันเป็นสัตว์ที่ดูน่ากลัวคอยดูดเลือดมนุษย์ แต่ความน่ารักของเจ้าค้างคาวตัวนี้จะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดนั้นไปในทันที เจ้าค้างคาวที่มีชื่อว่า Miss Alicia ตัวนี้ได้ถูกช่วยเหลือจากคนที่ขับรถไปชนมันเข้า ในตอนกลางคืนที่รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เจ้าค้างคาวตัวน้อยมีอาการบาดเจ็บค่อนข้างมาก ก่อนที่มันจะได้รับการรักษาจาก Denise Wade นักอนุรักษ์ค้างคาวและเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก Batzilla The Bat ความน่ารักของมันก็ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของคนจำนวนมาก หลังจากที่นักอนุรักษ์ได้โพสต์วิดีโอลงไปในเพจเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2017 ทำให้มีผู้เข้าชมกว่า 242,000 ครั้งและชาวเน็ตที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกกว่า 4,800 คน เคี้ยวงุบงับๆ ซะน่ารักเชียว นี่แหละเขาถึงได้มีเพลงชื่อว่า “ค้างคาวกินกล้วย” คลิปการกินกล้วยของเจ้าค้างคาวตัวจิ๋วที่ได้รับการช่วยเหลือ ความคิดเห็นของชาวเน็ตที่ชื่นชอบในความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้าค้างคาว เธอคนนี้คิดว่ามันน่ารักมากจริงๆ จนถึงขนาดว่าอยากรับมันมาเลี้ยงเลย ชาวเน็ตคนนี้เป็นห่วงว่าเจ้าค้างคาวน้อยจะสำลักออกมา และเธอบอกอีกว่าเธอเองก็ชื่นชอบค้างคาวเหมือนกัน เวลาที่ได้เห็นพวกมันห้อยหัวอยู่บนต้นไม้ ส่วนเธอคนนี้ก็รู้สึกขอบคุณคนโพสต์ที่ทำให้เธอได้เห็นสิ่งที่น่ารักที่สุดในชีวิต Denise ดูแลมันจนกลับมาแข็งแรงเป็นปกติและได้ปล่อยมันกลับไปถิ่นที่อยู่อาศัยหลังจากนั้น หวังว่าจะได้ไปใช้ชีวิตที่ดีไม่ต้องมาเจออุบัติเหตุแบบครั้งนี้อีกแล้วนะ และก็ไม่ได้มีแค่เจ้าค้างคาวตัวนี้ที่ได้รับการดูแลจากเธอ…
-
เสียวแว๊บ… หนุ่มเห็นขอบกระจกเครื่องบินแง้ม ก็ลองอัดคลิปง้างให้ดูซะใจตุ้มๆ ต่อมๆ
ถ้าคุณเป็นคนกลัวเครื่องบินอยู่แล้ว #เหมียวตะปู เชื่อว่าภาพที่หนุ่มคนนี้ได้ถ่ายมาจะยิ่งทำให้รู้สึกขยาดและหวาดกลัวในเรื่องนั้นมากขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน เมื่อผู้โดยสารท่านหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในโลกโซเชียล เผยให้เห็นว่าระหว่างที่เขาเดินทางอยู่บนเครื่องบินที่กำลังบินอยู่เหนือประเทศชิลี ก็ได้เจอกับขอบหน้าต่างตรงที่นั่งของเขาที่สามารถง้างออกมาได้อย่างน่าหวาดเสียว เหมือนกับจะหลุดออกมาเมื่อไหร่ไม่รู้ ง้างนิดนึงนี่ก็แทบจะหลุดออกมาได้ทั้งยวง ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2017 ชายคนดังกล่าวโพสต์คลิปพร้อมกับคำพูดที่ว่า “ผมควรต้องกังวลในเรื่องนี้มั้ย นี่เป็นสายการบินราคาถูก (ราคาตั๋วประมาณ 980 บาท) ผมได้เจอกับขอบหน้าต่างที่ทำท่าจะหลุดออกมาและเห็นว่ามันดูน่าสนุกดี ก็เลยถ่ายคลิปเก็บไว้” ชาวเน็ตบางคนที่ได้เห็นรู้สึกกลัวกับสิ่งที่เขาเจอและบอกเขาว่า “คุณน่าจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่บนเครื่องทราบนะ” เห็นแล้วก็อยากให้เครื่องบินลงจอดซะเดี๋ยวนี้เลย อย่างไรก็ตามนักบิน Patrick Smith เจ้าของเว็บไซต์ Ask The Pilot ก็ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่า “สิ่งนั้นเป็นแค่ขอบที่ช่วยป้องกันกระจกหน้าต่างเอาไว้เท่านั้นเอง นี่แสดงให้เห็นถึงความน่าอับอายและความไม่เป็นมืออาชีพขอสายการบินดังกล่าว แต่มันก็ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ” Dai Whittingham ผู้บริหารสูงสุดของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหราชอาณาจักร อธิบายว่า “ไม่ต้องกังวลในเรื่องของความปลอดภัยเพราะมันเป็นเพียงแค่ส่วนตกแต่งห้องโดยสารเท่านั้นเอง กระจกจริงๆ ที่ไว้ใช้กันเสียง กันความร้อนได้ถูกปกป้องเอาไว้อยู่ภายในอีกที” “ดังนั้นมันจึงไม่ได้ส่งผลใดๆ เลย เป็นเพียงแค่สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าลูกเรือไม่ได้ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องโดยสาร” เขากล่าวเสริม ก็ยังดีที่มันไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ แต่ก็ช่วยติดให้มันดีๆ เถอะนะ หนูกลัววว …
-
คนดังและชาวเน็ตร่วมโหวตเพื่อชาติ ดัน #MissUniverse #Thailand จนติด Top 5 ทวิตของโลก!!
เอาจริงๆ ต้องยอมรับเลยนะว่าเจ้าแม่เรื่องการ “โหวต” ต้องขอยกให้ไทยแลนด์เลยจ้า เพราะถ้าหากเกิดวาระแห่งชาติ เช่น การประกวดนางงามจักรวาลขึ้นเมื่อไหร่ งานนี้พี่น้องชาวไทยขอพร้อมใจกันโชว์พลังกระหน่ำโหวตชนิดที่ทำเอาหลายๆ ประเทศยังต้องกราบบบบบ!! ล่าสุดเลยแกร๊…ภารกิจโหวตเพื่อชาติก็ได้โคจรกลับมาอีกครั้ง เพราะเมื่อเวทีการประกวด Miss Universe 2017 ได้ประกาศเปิด Vote for Semi-final ทั้งทางเว็บไซต์ และทางทวิตเตอร์ผ่านแฮชแท็ก #MissUniverse #…(ประเทศ) งานนี้ประเทศไทยของเราก็ไม่ขอน้อยหน้า ช่วยกันทุ่มแรงเชียร์แรงใจโหวตให้กับ “มารีญา พูลเลิศลาภ” Miss Universe 2017 เพื่อให้เธอได้ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายในการเข้าชิงมงกุฎโดยอัตโนมัติ หากใครที่เป็นแฟนนางงามตัวยงคุณจะรู้ว่าคู่แข่งแห่งการโหวตที่น่ากลัวของเราก็คือ ประเทศฟิลิปปินส์ นั่นเอง เพราะก่อนหน้านี้คะแนนโหวตของทางฟิลิปปินส์นั้นดูเหมือนจะแซงหน้าฝั่งไทยเราไปไม่น้อย ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดเป็นศึกสู้ชิงคะแนนโหวตครั้งยิ่งใหญ่ เพราะนอกจากแฟนนางงามที่ได้ร่วมใจกันโหวตให้กับมารีญาแล้ว เหล่าศิลปินคนดังในวงการบันเทิงไทยก็พากันมาร่วมแจมวาระแห่งชาติในครั้งนี้ด้วย โดยเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านก่อนที่จะมีการปิดโหวตในเวลา 01.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) บัญชีทวิตเตอร์ของเหล่าศิลปิน-ดาราทั่วฟ้าเมืองไทย ก็ได้ออกมาร่วมกระหน่ำโหวตทั้งผ่าน Web…
-
20 ภาพที่แสดงให้เห็นความน่าอัศจรรย์ใจของ ‘ธรรมชาติ’ ที่อยู่เหนือการคาดเดาของมนุษย์
ธรรมชาติเป็นสิ่งเดียวที่เกินการควบคุมและเกินการคาดเดาของมนุษย์ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมธรรมชาติจึงเต็มไปด้วยสิ่งน่าอัศจรรย์ใจ เหมือนกับภาพปรากฏการณ์แปลกๆ เหล่านี้ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เผยให้เห็นความน่าทึ่งของโลกที่ไม่ได้มาจากการปรุงแต่ง 1. สภาพสวนแอปเปิลในไอร์แลนด์ หลังเกิดพายุเฮอริเคนโอฟีเลีย 2. ประตูสำนักงานที่ปกคลุมด้วยหิมะ 3. เมื่อประกันภัยไม่ครอบคลุมถึงอุทกภัย…เราก็คงต้องทำด้วยตัวเอง 4. น้ำตกน้ำแข็ง 5. หิมะใต้ทะเลทรายแอลจีเรีย 6. สภาพท้องฟ้าหลังเกิดพายุเฮอริเคนโอฟีเลีย 7. เซอร์ไพรส์ไปอีกเมื่อเปิดประตูแล้วพบว่าทางออกถูกทับถมด้วยหิมะ 8. Xavier พายุที่มีความรุนแรงถึงขั้นทำให้ต้นไม้ล้มระนาบกับพื้น 9. สีขาวที่เห็นคือหิมะที่ตกในบางจุดของรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา 10. สายรุ้งเกิดขึ้นพร้อมกันสองเส้น 11. ฝนทำให้บริเวณส่วนนี้ดูคล้ายกับภาพวาดของแวนโก๊ะ 12. ฝนที่ตกเพียงเล็กน้อยในไอร์แลนด์ แต่สามารถทำให้น้ำท่วมสูงได้ขนาดนี้ 13. โดมสายรุ้งบนท้องฟ้าในออสเตรเลีย 14. ก้อนเมฆรูปทรงประหลาดในคาบสมุทรคัมชัตกาแห่งไซบีเรีย 15. ผลกระทบจากพายุเฮอริเคนแมทธิว 16. แม้อยู่ในอาคาร แต่อย่าคิดว่าหนีฝนพ้น…
-
แคมเปญจากนอร์เวย์สะท้อน ‘ชีวิตภายใน 60 วินาที’ จากอายุ 0 – 100 ปีของผู้หญิง
โฆษณาเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์เพื่อความงามสำหรับผู้หญิงอาจไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกมีอารมณ์ร่วม เพราะคิดว่าสิ่งที่ได้เห็นมันเป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อที่แต่งภาพออกมาให้ดูสวยเกินความเป็นจริง แตกต่างจากโฆษณาตัวนี้ที่ไม่มีการแต่งภาพใดๆ และมันจะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงความสวยงามที่แท้จริงของผู้หญิง นี่เป็นโฆษณาจากบริษัทยาในประเทศนอร์เวย์ Vitus Apotek ที่ร่วมมือกับบริษัทโฆษณา T/A Pol พวกเขาได้นำเสนอความงามของผู้หญิงที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัย นับตั้งแต่อายุ 0 ขวบไปจนถึง 100 ปี ซึ่งทั้งหมดถูกนำเสนอในเวลาเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น ความใสของผู้หญิงวัย 3 ขวบ ส่วนเด็กวัย 8 ขวบก็สื่อออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง การถ่ายทอดความสวยงามของพวกเธอเรียบง่ายและสามารถทำให้ทุกคนมีอารมณ์ร่วมไปพร้อมๆ กันได้ เพราะคลิปนี้ไม่ได้ผ่านการตกแต่งภาพใดๆ เลย ทำให้เราได้เห็นว่าผู้หญิงทั้ง 101 ที่มีอายุ รูปร่าง และสีผิวแตกต่างกันไป พวกเธอมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของความงามมากขนาดไหน สาวๆ ทุกคนไม่ได้แต่งหน้าใดๆ เลยด้วยนะ . Pål Laukli ช่างภาพผู้ถ่ายทำโฆษณาดังกล่าวบอกว่า “เราต้องการนำเสนอในสิ่งที่พวกเธอเป็นจริงๆ จึงไม่มีการแต่งภาพเลย สิ่งที่คุณได้เห็นคือการนำเสนอผิวพรรณและรูปร่างที่เปลี่ยนไปตามวัยของพวกเธอ” การที่พวกเธอไม่ใส่เสื้อผ้า ก็เพื่อให้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทุกสัดส่วน สังเกตได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นบนใบหน้าและรูปร่างของเธอเมื่อแก่ตัว…
-
สุดยอดพ่อบ้านใจกล้า หนุ่มดูแลแฟนสาวเมาแอ๋ทั้งแปรงฟันและเช็ดเครื่องสำอางก่อนนอนให้อีก!!
ไม่ว่าสาวๆ คนไหนต่างก็ใฝ่ฝันที่จะมีคนรักที่ดีและคอยดูแลเราไปตลอดชีวิตทั้งนั้น แต่ว่าแต่ ผู้ชายดีๆ คนนั้นเค้าคงจะไม่ได้อยู่โลกเดียวกับเรา หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอสักที หรือว่าพ่อหนุ่มคนนั้นเค้าจะยังไม่เกิดกันนะ Michelle สาวน้อยนักศึกษาผู้ที่ดูเหมือนว่าจะโชคดีที่สุดในโลก มันน่าอิจฉาตรงไหนน่ะหรอ ก็แม่สาวน้อยคนนี้เธอมีแฟนที่ชื่อว่า James แถมเค้ายังคบกันมาตั้ง 3 ปีแล้วถึงแม้ว่าจะนานแล้วแต่ความรักของพวกเขาก็ยังหวานชื่นเหมือนดั่งตอนแรกที่จีบกันใหม่ๆ ดูเหมือนว่าหนุ่ม James จะเป็นคนที่โรแมนติกมากๆ ก็แค่เซอร์ไพรส์ทุกวันสำคัญเงี้ยะ ใครจะไปอิจฉา พาไปเที่ยว พาไปชอปปิ้ง . . ให้ของขวัญตลอดๆ . ยิ่งไปกว่านั้นคือขนมหวานไม่ให้ขาด เอามาเสิร์ฟตลอด เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมาหนุ่ม James ก็ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านทางทวิตเตอร์ของเขาเป็นเหตุการณ์หลังจากที่ทั้งคู่ได้ออกไปงานปาร์ตี้ด้วยกัน แฟนสาวของเขาคงจะดื่มหนักไปจนเมาแอ๋ แต่หนุ่ม James ก็ขับรถพาเธอกลับมายังที่บ้านอย่างปลอดภัย แถมยังได้ถ่ายคลิปวิดีโอน่ารักๆ ตอนที่แฟนสาวของเขาเมาอีกด้วย ชั้นจะหาแฟนแบบนี้ได้จากที่ไหน แฟนที่มาแปรงฟันให้ตอนที่เมา ฮือออ น่ารัก When she’s too drunk to…
-
ครอบครัวเล่าประสบการณ์ขนหัวลุก กับการต่อสู้กับผีที่สิงอยู่ในบ้านตลอด 20 ปี!!
การเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับผีสาง หรือสิ่งลี้ลับให้ใครสักคนฟังนั้น มักจะถูกมองว่าเป็นเรื่องตลก ไร้สาระ หากคนๆ นั้นไม่เคยประสบกับเรื่องพวกนี้ อย่างไรก็ตามอดีตนักการเมืองรัฐเพนซิลเวเนีย Bob Cranmer และครอบครัวยืนยันว่าพวกเขาถูกผีหลอกมาเป็นเวลา 20 ปี ตั้งแต่ที่ตัดสินใจซื้อเก่าๆ ราคาถูกหลังหนึ่ง นี่อาจฟังดูตลก แต่พวกเขาเล่าว่าเจอเหตุการณ์น่าขนลุกนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งหน้าต่างสั่นเอง ประตูปิดเอง จนทำให้การใช้ชีวิตในบ้านหลังใหญ่นี้กลายเป็นฝันร้ายที่ไม่อาจลืม บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ที่มุมถนนของ Sceneridge และ Brownsville เมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา มันเป็นบ้านที่มีรูปทรงแปลกๆ ที่ Bob ชื่นชอบตอนเด็กๆ หลังจากที่เขาทำงานและเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง Bob ก็ติดต่อซื้อบ้านหลังดังกล่าว แต่แปลกที่ผู้ขายตกลงขายทันทีโดยไม่ถามอะไรเลย ที่สำคัญมันมีราคาต่ำกว่าราคาตลาดด้วย มองจากภายนอกก็ทำให้ Bob ภรรยาของเขา และลูกสาว Lisa รู้สึกว่ามันเป็นบ้านที่น่าอยู่มากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสีของบ้านและระเบียงขนาดใหญ่ นอกจากนี้มันยังเป็นบ้าน 3 ชั่นที่เหมาะสำหรับการอยู่เป็นครอบครัว ทั้งยังสามารถรองรับเพื่อนๆ หรือครอบครัวที่จะมาเยี่ยมได้อีกด้วย แต่หลังจากที่ซื้อไปได้ไม่นาน กลับกลายเป็นว่ามันคือการตัดสินใจที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของ Bob… เจ้าของบ้านคนใหม่เพิ่งจะรู้ประวัติที่น่ากลัวของบ้านหลังนี้ หลังจากที่ย้ายเข้าไปอยู่แล้วเรียบร้อย ตามประวัติเล่าว่าในช่วงปี 1700 ชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันถูกสังหารหมู่โดยคนผิวขาวในพื้นที่แห่งนี้ ต่อมาในปี 1909 มีการเล่าต่อกันว่าผู้ที่สร้างบ้านผู้เกรี้ยวกราดหลังนี้ได้ทำการสาปแช่งบ้านทั้งหลังด้วย นี่ยังไม่ใช่เรื่องแปลกที่สุดของประวัติบ้านหลังนี้ …
-
9 สัญญาณบอกความในใจ แสดงออกด้วยท่าทาง แบบนี้ข้า ‘รัก’ เจ้าทาสแล้วนะ
เคยสงสัยกันมั้ยว่าเจ้านายเหมียวรักเราหรือเปล่า? พฤติกรรมแบบนี้คือการแสดงความรักของมันหรือเปล่านะ? ถึงแม้ว่าเราอยากรู้ใจจะขาดก็ไม่สามารถถามพวกมันตรงๆ ได้ ในเมื่อมันพูดภาษาคนไม่ได้นี่นา… แต่ถ้าหากเพื่อนๆ เคยตั้งคำถามแบบนั้นแล้วล่ะก็ #เหมียวตะปู ขอแนะนำให้มาอ่านข้อสังเกตเหล่านี้ เพราะนี่คือ “9 สัญญาณที่บอกได้ว่าน้องเหมียวกำลังรักคุณอยู่จริงๆ นะ” ว่าแล้วก็ลองไปดูกันเลย เจ้าเหมียวหาของขวัญมาให้ เวลาที่มันคาบซากหนูหรือนกมาให้ นั่นหมายความว่าเจ้าเหมียวได้มอบของขวัญสุดพิเศษให้กับคุณ แม้ว่ามันอาจจะดูขนลุกไปหน่อยแต่อย่าลืมว่าแมวคือสัตว์ที่มีความเป็นนักล่าอยู่ในตัว ดังนั้นก็จงดีใจซะเถอะนะที่มันนำเหยื่ออันแสนมีค่ามามอบให้ น้องแมวนอนหงายโชว์พุงให้คุณเห็น ธรรมชาติของแมวคือค่อนข้างหยิ่งในศักดิ์ศรีและเหมือนกับสัตว์ตัวอื่นๆ ที่ไม่ชอบนอนโชว์พุงให้ใครเห็น ซึ่งหากมันทำแบบนั้นล่ะก็ นั่นหมายความว่ามันรู้สึกสบายใจ ปลอดภัย และได้รับความรักจากคุณ ถึงได้ยอมนอนหงายโชว์พุงอย่างไร้ความกังวล เจ้าแมวเอาหัวมาโขก การที่พวกมันเอาหัวมาชนหรือโขกกับร่างกายของเรา อาจทำให้เราคิดว่ามันโมโหใส่หรือเปล่า แต่ความจริงแล้วนั่นคือการปล่อยฟีโรโมนเพื่อแสดงให้เห็นว่ามันรักและเป็นเหมือนกับส่วนหนึ่งของเราไปแล้ว ชอบแทะ แต่ไม่ได้หมายถึงกัดแรงๆ นะ การที่มันชอบแทะปลายนิ้วเวลาเราเล่นด้วย คือการแสดงออกถึงความรักที่มันมีให้ แต่ต้องแยกให้ออกนะว่ามันแทะหรือว่ามันกัด เพราะถ้ามันกัดก็อาจหมายความว่ามันกำลังรำคาญเราอยู่ก็ได้ เข้ามาคลอเคลียหรือเดินตามเราไปทุกที่ เวลาที่เจ้าเหมียวรักใครมันก็จะชอบเดินมาคลอเคลียอยู่ที่ขาของเรา หรือเวลาเราเดินไปไหนมาไหนก็จะคอยเดินตามไม่ห่าง และในบางทีที่มันทำเป็นออกห่างจากเราไปก็อาจเป็นวิธีการเรียกร้องความสนใจจากคุณก็ได้นะ ชอบมานวดให้อยู่บ่อยๆ การเข้ามากดๆ นวดๆ อยู่บนร่างกายของเราคือการแสดงความรักในแบบที่เหมือนกับแม่เหมียวมอบให้ลูกเหมียว คอยดูแลเราอย่างใกล้ชิดและสิ่งนี้ก็ทำให้ทั้งเราและเจ้าเหมียวรู้สึกฟินไปพร้อมๆ กัน …
-
เจ้าเหมียวที่เคยถูกวัยรุ่นใจร้ายเตะปลิวและเป็นกระแสโด่งดังไปทั่ว ในที่สุดมันก็ได้บ้านใหม่แล้ววว
หลายๆ คนอาจเคยเห็นคลิปวิดีโอหนุ่มในปี 2014 ของวัยรุ่นชายคนหนึ่งได้เตะลูกแมวอย่างแรงจนมันปลิวข้ามรั้วไปเกิดเป็นกระแสที่ดังมากในตอนนั้น ผู้คนจำนวนมากไม่พอใจและเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อว่าการกระทำของชายคนนั้นและเขาก็ได้ถูกจับในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ทุกคนรู้ว่าชายคนนี้ถูกจับแต่อาจไม่เคยรู้ว่าเจ้าเหมียวคู่กรณีหลังจากที่ถูกเตะไปแล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? เราไปดูกันดีกว่าว่าหลังจากนั้นแมวตัวนี้มีสภาพเป็นอย่างไร ชายคนนี้เรียกเจ้าแมวเข้ามาใกล้ๆ และให้เพื่อนของเขาถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ เมื่อเจ้าแมวตายใจ เขาก็เตะเข้าไปที่กลางลำตัวของมัน จนเจ้าแมวปลิวไปไกลกว่า 6 เมตร ท้ายคลิปชายหนุ่มคนนี้ก็ยังหันมาหัวเราะกับกล้อง พร้อมกับเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ และได้โพสต์คลิปลงไปในโลกโซเชียล คลิปเมื่อ 3 ปีก่อน กับพฤติกรรมอันโหดร้ายสามารถดูได้ในนาทีที่ 0.26 ชาวเน็ตต่างรู้สึกไม่พอใจ แจ้งเรื่องนี้ไปกับทางเจ้าหน้าที่ ทำให้ในเวลาต่อมานาย Andre Robinson วัย 21 ปีคนนี้ถูกจับในคดีทารุณกรรมสัตว์ เจ้าเหมียวที่โดนเตะตัวนั้นก็ได้รับบาดเจ็บจากความรุนแรงของลูกเตะ มันได้เข้ารับการรักษาและอยู่ภายใต้การดูแลของกรมคุ้มครองสัตว์แห่งสหรัฐฯ (ASPCA) แต่ผ่านไปเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น มันก็ได้ไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ของคนที่มารับมันไปเลี้ยง นับว่าเป็นความโชคดีของเจ้าเหมียว (ตอนนี้ชื่อ King) จริงๆ เชื่อว่ามันคงไม่ได้เจอการถูกทารุณเหมือนก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน แม้เจ้าเหมียวตัวนี้จะต้องเจอเรื่องแย่ๆ มาก่อน แต่ฟ้าหลังฝนก็ย่อมสวยงามเสมอ เพราะมันได้ไปมีความสุขในบ้านหลังใหม่ของมันแล้ว อย่างไรก็ตามเราต้องอย่าลืมว่าการทารุณกรรมสัตว์ไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดขึ้นในสังคม…
-
ชาบู!! สถาปนิกญี่ปุ่นออกแบบบ้านในพื้นที่หน้ากว้างเพียง 3 เมตรให้กลายเป็นบ้านสุดน่าอยู่
พื้นที่ระหว่างบ้านหลังหนึ่งไปยังอีกหลังหนึ่ง มักจะมีตรอกซอกเล็กๆ ที่ใครๆ หลายคนมักจะนำพื้นที่เหล่านี้ไปปลูกต้นไม้หรือไม่ก็ทำแปลงดอกไม้ เนื่องจากคิดว่ามันคงเล็กเกินกว่าที่จะปลูกสร้างอะไรได้ แต่ได้มีสถาปนิกคนหนึ่งเห็นคุณค่าของพื้นที่เล็กๆ เหล่านั้นจนได้สร้างบ้านขึ้นมาในพื้นที่แคบๆ แต่มีพื้นที่ใช้สอยอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว พื้นที่เล็กๆ ระหว่างบ้านทั้งสองหลังในเมืองโอะกะซะกิ ประเทศญี่ปุ่น ที่เล็กกว่าถนนบางสายในเมืองแห่งนี้ซะอีก ได้กลายมาเป็นบ้านสุดสวยจากฝีมือของสถาปนิกชื่อว่า Katsutoshi Sasaki ที่ได้เนรมิตขึ้นมาสำหรับครอบครัวหนึ่งที่มีสมาชิกถึง 4 คน หน้าตาของบ้านในพื้นที่แคบๆ อย่างนี้ โดยมุมมองของสถาปนิกคนนี้ก็คือ แทนที่เขาจะมองในเรื่องความกว้างที่มีเพียงแค่ 3 เมตร เขากลับให้ความสำคัญไปที่ความยาวและความสูงแทน เพื่อจะให้บ้านในพื้นที่แคบๆ นี้ใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงที่สุด พื้นที่ก่อนที่จะสร้างบ้านหลังนี้ขึ้น ซึ่งมีขนาดความกว้างเพียงแค่ 3 เมตร สำหรับข้อมูลพื้นฐานของพื้นที่นี้คือมีความกว้าง 3 เมตรแต่ทว่ามันมีความยาวมากถึง 69 ตารางเมตรเลยทีเดียว แต่ว่าสถาปนิกก็สามารถทำบ้านหลังนี้ให้มีความปลอดโปร่งได้ ด้วยการยกบ้านให้สูงขึ้นนั่นเอง มีพื้นที่ในบ้านให้ใช้สอยได้อย่างกว้างขวาง “ที่ดินบริเวณนี้มีขนาดเล็กมาก โดยก่อนหน้านี้ใช้สำหรับการทำสวน แต่ผมคิดว่าลูกค้าคงต้องการความรู้สึกของอิสระ ผมจึงสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นโดยมีการเชื่อมต่อกันของพื้นที่หลายที่ และยังคงมีส่วนให้สามารถทำสวนได้อยู่อีกมุมหนึ่งของบ้านอีกด้วย” Sasaki กล่าว ชั้นบนของบ้านก็มีความน่าอยู่ไม่แพ้กัน โดยเขาได้เจาะช่องเพื่อให้แสงจากธรรมชาติผ่านเข้ามาได้ แม้จะมีพื้นที่จำกัด แต่ว่าเขาก็ตั้งใจจะให้บ้านนี้เป็นบ้านที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก และให้หลากหลายอารมณ์ในพื้นที่ๆ เดียวอย่างเช่น…
-
รู้จักกับ Kiviak เมนู ‘แมวน้ำยัดไส้’ ของชาวเอสกิโม ที่นำนกมาหมักใต้ดินเพื่อประทังชีวิต
ในแต่ละภูมิภาคของโลก เรามักจะได้เห็นอาหารแปลกๆ อยู่มากมายที่เราไม่คุ้นตา ยิ่งในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น การถนอมอาหารสดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว เช่นเดียวกับ “ชาวอินนูอิท” หรือ “ชาวเอสกิโม” ที่ต้องทนกับความหนาวเย็นสุดขั้วและการขาดแคลนอาหารในหน้าหนาว พวกเขาจึงมีวิธีการถนอมอาหารที่แปลกสุดๆ เมนูนี้มีชื่อว่า “Kiviak” Kiviak เป็นอาหารดั้งเดิมของชาวเอสกิโมที่อาศัยอยู่ในเกาะกรีนแลนด์ ลักษณะของเมนูนี้อาจจะดูขัดๆ ตานิดหน่อยเพราะมันคือซากของ Seal หรือแมวน้ำที่ถูกยัดไส้ด้วยนก Auks !! ชาวเอสกิโมมีขั้นตอนการทำ Kiviak ที่ไม่ยุ่งยากมากนัก พวกเขานำนก Auks กว่า 400 ตัว มาพับแขนพับขาแล้วยัดเข้าไปในตัวของซากแมวน้ำ จากนั้นก็รีดอากาศให้ออกจากซากแมวน้ำให้มากที่สุด ต่อไปคือการผนึกด้วยจารบีเพื่อป้องกันการเน่าเสียของเนื้อ ขั้นตอนสุดท้ายคือการนำไปฝังแล้วทับด้วยหินก้อนใหญ่ไว้ประมาณ 3-18 เดือน เมื่อได้เวลาแล้ว ชาวเอสกิโมก็จะมีวิธีการกินเนื้อนกสุดแปลกเช่นกัน โดยจะค่อยๆ หักปีกและลอกขนออกทีละนิด จากนั้นก็สามารถกินเนื้อนกอร่อยๆ จากท้องแมวน้ำได้เลย การขาดแคลนอาหารเป็นเรื่องปกติในช่วงฤดูหนาวที่ยาวนานในประเทศกรีนแลนด์ เนื่องจากการล่าสัตว์ในฤดูหนาวเต็มไปด้วยอันตรายทั้งจากอุณหภูมิติดลบและแสงแดดที่มีไม่มาก หากผิดพลาดเพียงนิดเดียวก็อาจหมายถึงความตาย โดยปกติแล้วเมนูนี้อาจจะดูเป็นสิ่งที่ไม่น่าทานสำหรับใครหลายๆ คน แต่มันกลับเป็นแหล่งอาหารและวัฒนธรรมการเอาชีวิตรอดของชาวเอสกิโม ที่ใช้ภูมิปัญญาบวกกับประสบการณ์จนเกิดเป็นเมนูสุดแปลกนี้ ที่มา gizmodo
-
หนุ่มคิดค้นรองเท้าที่สามารถขยายได้ 5 ไซส์ เพื่อช่วยเหลือเหล่าเด็กๆ ยากจนทั่วทุกมุมโลก!!
ปัญหาความยากจนนั้นเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะในประเทศโลกที่สามที่มีประชาชนขาดแคลนสิ่งอุปโภคและบริโภคอยู่มากมาย และด้วยเหตุผลนี้เองทำให้ชายคนหนึ่งมีแรงบันดาลใจที่จะทำรองเท้าให้กับเด็กๆ ที่ขาดแคลนของใช้ ให้มีรองเท้าได้ใส่กันถ้วนหน้า Kenton Lee ชายหนุ่มไอเดียเจ๋งแถมยังใจหล่อ เขาได้แรงบันดาลในการสร้างสรรค์รองเท้าสุดเจ๋งนี้จากการที่ไปพบเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้สวมใส่รองเท้า ในกรุงไนโรบี ประเทศเคนย่า ในปี 2007 เหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้จินตการของเขาพลุ่งพล่านและเกิดเป็นรองเท้าสำหรับเด็กๆ ทั่วโลกกว่า 300 ล้านคน แม้ภายนอกมันจะดูเหมือนรองเท้าทั่วไป แต่รองเท้าเหล่านี้สามารถปรับได้ถึง 5 ไซส์ ซึ่งนั้นหมายความว่าเด็กๆ สามารถสวมใส่มันได้เรื่อยๆ ไปอีกหลายปีเลยล่ะ ความคิดที่เรียบง่ายของ Kenton Lee ได้กลายเป็นความจริง นับตั้งแต่เขาเปิดตัวโปรเจกต์นี้ในเว็บไซต์ The shoe that grows และโครงการของเขาก็ได้รับสนใจและเงินบริจาคจากผู้คนทั่วโลก การสวมใส่นั้นก็สะดวกและเรียบง่ายเน้นใช้งาน . เราจะเห็นได้ว่าเพื่อนมนุษย์นั้นไม่เคยทิ้งกัน และเราทุกคนก็สามารถที่จะช่วยเหลือเด็กๆ ยากไร้เหล่านี้ให้พ้นจากความทุกข์ยากได้ไม่มากก็น้อย ใครสนใจก็สามารถไปร่วมบริจาคให้กับโครงการนี้ได้ที่เว็บไซต์ The Shoe That Grows ได้เลยนะคะ ที่มา viralforest
-
พาชมเรือนจำระดับ 5 ดาวในประเทศซาอุฯ ที่เอาไว้ขังคนใหญ่คนโต มีทุกอย่างยกเว้นอิสรภาพ
การถูกจองจำอาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่ว่าใครก็คงไม่ปรารถนาซึ่งความไร้อิสรภาพนี้อาจจะทำให้คนที่ถูกจองจำเกิดอาการเครียดและกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อพูดถึงเรือนจำทุกคนก็คงจะนึกถึงสภาพของห้องขังที่ชำรุด เก่า สกปรก และสภาพแวดล้อมไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ แต่ทว่าเรือนจำที่จะมานำเสนอในวันนี้มันหรูหราซะยิ่งกว่าโรงแรม 5 ดาวซะอีก เรือนจำแห่งนี้ตั้งอยู่ในกรุงริยาร์ด ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยสภาพภายนอกเป็นโรงแรมรีสอร์ทสุดหรู ตกแต่งไปด้วยต้นมะกอกอายุ 600 ปี และสวนปาล์มที่รายล้อมไปทั่วเรือนจำแห่งนี้ ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 52 ไร่ มกุฏราชกุมารโมฮัมเม็ด บิน ซัลมาน ทรงได้ออกกวาดล้างจัดการกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นอย่างจริงจรัง ซึ่งผู้ต้องหาล้วนแต่เป็นนักการเมือง นักธุรกิจ และยังมีเจ้าชายอีก 11 พระองค์ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย พระองค์ทรงจัดการอย่างเด็ดขาดและไม่เว้นแต่พระญาติเพื่อเป็นการล้มล้างการคอร์รัปชั่นอย่างเด็ดขาดและเป็นธรรมที่สุด ทางการซาอุดิอาระเบียเพิ่งจะมีการเปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้ามาทำการบันทึกภาพและเก็บข้อมูลโดยสำนักข่าว BBC เท่านั้นและได้มีการเผยแพร่ภาพเหล่านี้เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายในอาคารก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนของผู้เข้าพักโรงแรมกับส่วนที่เป็นแต่ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่แห่งนี้ก็มีครบทุกอย่าง สระว่ายน้ำ ห้องอาหารขนาดใหญ่ อาหารที่มีมากมายคอยให้บริการ บาร์เครื่องดื่ม ล็อบบี้ ห้องพัก คลิปวิดีโอภายในโรงแรม โรงแรมแห่งนี้ถึงแม้ว่าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างแต่อย่างใดก็ตามก็ยังไร้ซึ่งอิสรภาพอยู่ดี…
-
โรงเรียนสั่งรื้อรูปปั้นบาทหลวง เพราะมีรูปร่างสื่อไปในเชิงล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก!?
รูปปั้นส่วนใหญ่ถูกสร้างมาจากต้นแบบของใครคนหนึ่งที่มีไว้ให้คนรุ่นหลังระลึกถึงสิ่งดีๆ ที่เขาคนนั้นเคยได้ทำไว้และเอาเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต แต่บางครั้งความหมายและความตั้งใจของผู้ปั้นก็อาจผิดเพี้ยนไปจากที่คิด เช่นเดียวกับผลงานรูปปั้นนี้ที่ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรเลีย รูปปั้นดังกล่าวได้ถูกนำเสนอในข่าวท้องถิ่น 7 News ของนคร Adelaide หลังจากที่รูปปั้นนี้ถูกพูดถึงว่าเป็นสิ่งที่สื่อถึงการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก รูปปั้นที่ดันไปสื่อถึงการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก รูปปั้นถูกตั้งเอาไว้ในโรงเรียนชายล้วน Blackfriars Priory เป็นภาพของบาทหลวง Martin de Porres ผู้ให้การช่วยเหลือเด็กยากไร้จำนวนมากในช่วงศตวรรษที่ 16 กำลังยื่นขนมปังให้กับเด็ก แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็นกลับสื่อออกมาในอีกรูปแบบหนึ่งที่ต่างออกไปอย่างมาก วันต่อมาผู้อำนวยการของโรงเรียนจึงได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “รูปปั้นดังกล่าวถูกปั้นขึ้นในเวียดนาม มีไว้เพื่อสื่อถึงการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของนักบุญผู้ช่วยเหลือเด็กๆ ยากจน” เขาพูดต่อว่า “ในตอนแรกที่มีการร่างภาพเอาไว้ในกระดาษ เราไม่เห็นเลยว่ารูปปั้นนี้จะสามารถสื่อออกมาในลักษณะการล่วงละเมิดทางเพศได้ จนกระทั่งเราได้เห็นเมื่อถูกปั้นเสร็จแล้วและนำมาตั้งไว้ในโรงเรียน” อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนก็ได้ออกมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นและได้คลุมรูปปั้นนั้นเอาไว้ก่อนที่จะถูกรื้อออกไปเพื่อการซ่อมแซมและแก้ไขกลับมาใหม่ให้ตรงตามสิ่งที่ต้องการจะสื่อออกมาจริงๆ ทางโรงเรียนได้นำผ้ามาคลุมเอาไว้ เห็นแค่ขาแบบนี้จะยิ่งทำให้คิดหรือเปล่านะ? หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ทำการรื้อถอนรูปปั้นออกไป หวังว่าพวกเขาจะไม่ได้นำรูปปั้นไปซ่อมแค่ตรงขนมปังหรอกเนาะ คราวหน้าคราวหลังก็คงต้องตรวจสอบสิ่งต่างๆ กันให้ดี เพราะไม่งั้นมันอาจผิดจากจุดประสงค์ของเราไปก็ได้ ที่มา: buzzfeed
-
นักวิทย์ทดลองเปิด “กระป๋องโค้ก” ในเรือดำน้ำที่พื้นมหาสมุทร เพื่อดูผลลัพธ์ว่าจะเป็นยังไง!?
ปกติแล้วเวลาเปิดโค้ก ไม่ว่าจะเป็นกระป๋องหรือแบบขวด มันมักจะมีความซ่าขึ้นมาด้วยเสมอ นั่นเป็นเพราะแก๊สในกระป๋องถูกดันขึ้นมาปะทะกับความกดอากาศภายนอก แต่จะเป็นอย่างไรถ้ากระป๋องโค้กถูกเปิดที่พื้นในมหาสมุทร? เราคงไม่ลงทุนลงไปพื้นมหาสมุทรเพื่อหาคำตอบของเรื่องนี้หรอกใช่มั้ย? ดีแล้ว เพราะนักบินอวกาศและวิศวกร Chris Hadfield ได้มาทดลองให้ดูแล้วในฐานะผู้ที่รู้เรื่องฟิสิกส์ดีกว่าเรา จริงๆ แล้ว Hadfield เป็นที่รู้จักในฐานะยูทูบเบอร์ที่ชอบอยู่ในพื้นที่ที่คนไม่ค่อยอยู่กัน เช่น ในพื้นที่อวกาศ และพื้นมหาสมุทร ช่วงที่อยู่ในอวกาศ Hadfield มักจะทดลองอะไรแปลกๆ ให้ผู้คนได้เรียนรู้ และเมื่อเกษียณ เขาก็ไม่หยุดที่จะศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ถึงกับลงไปอยู่ในเรือดำน้ำเพื่อทำการทำลองใหม่ๆ ให้เราได้ดูกันอีกเช่นเคย ล่าสุด Hadfield ได้ทำการทดลองเปิดกระป๋องโค้กที่เขย่าแล้วใต้พื้นมหาสมุทร และสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราทึ่งไม่ใช่น้อย ลองดูจากคลิปด้านล่างนี้ ในช่วงเริ่มต้นของคลิป เขาได้พูดถึงโค้ก ซึ่งเป็นน้ำอัดลมที่เราพบได้ในชีวิตประจำวันนี่แหละ และหากเขย่าก่อนเปิด คุณรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขณะนี้ Hadfield อยู่ที่พื้นมหาสมุทร เขาก็เลยเขย่าโค้กกระป๋องนั้น เพื่อทดสอบว่าหากเปิดในนี้มันจะต่างจากการเปิดในพื้นที่ทั่วไปอย่างไร ขณะที่เขาเขย่ากระป๋องโค้ก หลายคนคิดว่าแก๊สที่ถูกอัดในนั้นต้องพุ่งขึ้นแน่ๆ เมื่อถูกเปิด แต่อย่าเพิ่งคิดแบบนั้น รอดูจนกว่าเขาจะเปิด… ปรากฏว่าเมื่อเปิดกระป๋องแล้ว น้ำโค้กกลับไม่พุ่งอย่างที่คิด นั่นเป็นเพราะมันเป็นกฎฟิสิกส์ คือภายในเรือดำน้ำที่อยู่ใต้มหาสมุทรจะมีความกดอากาศสูงมาก นั่นทำให้ไม่มีแรงดันมากพอที่จะดันแก๊สในกระป๋องโค้กออกมา…
-
ครอบครัวจ้างนักเต้นจ้ำบ๊ะมาเซอร์ไพรส์วันเกิดลูกชาย ทว่ากลับมีเด็กวัยกระเตาะอยู่ในห้องด้วย!!!
ในวันเกิดอายุครบ 20 ปีใครหลายคนอาจเลือกที่จะออกไปฉลองนอกบ้านกับครอบครัว บางคนอาจจะเลือกไปเที่ยวกลางคืนให้เมาปลิ้นกันไป แต่ว่ามีครอบครัวหนึ่งที่มีการฉลองสุดแปลกโดยพ่อแม่ของหนุ่มคนนี้ได้จ้างสาวเปลื้องผ้ามาเต้นจ้ำบ๊ะให้ลูกชายเขาดู การกระทำดังกล่าวอาจจะเป็นความหวังดีต่อลูก อยากจะให้ลูกได้เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ทว่ามีเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่านั้นเพราะว่าดันมีเด็กวัยกระเตาะจำนวนหนึ่งอยู่ในห้องนั้นด้วย นักเต้นจ้ำบ๊ะที่ถูกจ้างมาแสดงโชว์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง Kursk ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศรัสเซีย โดยมีวิดีโอหนึ่งจับภาพชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้และโดนปิดตา และต่อจากนั้นไม่นานก็มีนักเต้นระบำเปลื้องผ้าคนหนึ่งที่แต่งตัวล้อเลียนตำรวจ เข้ามาในห้องดังกล่าว จากวิดีโอดังกล่าวทำให้ได้เห็นว่า ในขณะที่นักเต้นคนนี้กำลังทำการแสดงของเธออยู่ ก็ปรากฏว่ามีเด็กน้อยจำนวน 3-4 คนวิ่งเล่นอยู่ในห้องนั้นด้วย ทว่านักเต้นคนดังกล่าวก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักยังคงดำเนินการแสดงของเธอต่อไป ขณะกำลังเริ่มการแสดง ทั้งๆ ที่มีเด็กวิ่งเล่นอยู่ในห้อง โดยในตอนแรกนั้นเธอหยอกล้อหนุ่มวัยกลัดมันวัย 20 ปีคนนี้ด้วยการลูบไล้กระบองที่เตรียมมา จากนั้นเธอก็ทำการปลดผ้าปิดตาออกและได้เต้นยั่วยวนหนุ่มคนนี้อยู่สักพักหนึ่ง ต่อมาเธอก็ถอดชุดของเธอออกเผยให้เห็นถึงชุดชั้นในสุดวาบหวิว ทั้งๆ ที่ยังมีเด็กๆ วิ่งเล่นอยู่ในห้องนั้นอยู่ และจากการสืบสวนของตำรวจในเวลาต่อมา ทำให้ทราบว่านักเต้นระบำเปลื้องผ้ามีชื่อว่านาง Anna Litvinova โดยเธอได้บอกกับสื่อท้องถิ่นว่า เธอพยายามบอกพ่อแม่ที่จ้างเธอมาเต้นโชว์แล้วว่าอย่าให้เด็กๆ เข้ามาในห้องขณะที่เธอกำลังทำการแสดงดังกล่าวเป็นอันขาด ถอดชุดออกเหลือเพียงชุดชั้นในเท่านั้น “พ่อแม่ของเด็กอายุ 20 ปีคนนี้จ้างฉันมาเพื่อให้เต้นฉลองวันเกิดให้กับเขา แต่เมื่อฉันก้าวเข้ามาในบ้านฉันก็เห็นเด็กๆ วิ่งผ่านฉันไป ฉันจึงบอกพวกเขาว่า เด็กๆ ไม่ควรอยู่ที่นั่นในตอนที่ฉันกำลังเต้นอยู่ แต่เมื่อฉันเริ่มเต้นพวกเด็กๆ ก็กลับวิ่งเข้ามาซะอย่างงั้น” Anna เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟัง …
-
‘สมใจ ศรีแววเนตร’ ชายไทยผู้ช่วยเหลือนักการทูตสหรัฐฯ ที่ไม่ถูกกล่าวถึงในหนัง Argo
ถ้าหากพูดถึงภาพยนตร์ที่มีความกดดันและลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลา หลายๆ คนอาจจะนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง Argo ผลงานการกำกับของนักแสดและผู้กำกับอย่าง เบน แอฟเฟล็ก กันบ้างแน่ๆ หนังเล่าเรื่องแผนปฏิบัติการช่วยนักการฑูตสหรัฐทั้ง 5 คนที่ถูกตามล่าตัวระหว่างช่วงที่เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองในประเทศอิหร่าน เมื่อประมาณปี 1979 โดยแผนการช่วยเหลือตัวนักการฑูตทั้ง 5 คนเพื่อกลับบ้านเกิดที่สหหรัฐอเมริกานั้น ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ CIA คนหนึ่งที่ปลอมตัวเป็นผู้กำกับหนัง พร้อมกับความช่วยเหลือจากสถานฑูตแคนาดาจนในที่สุดพวกเค้าทั้ง 5 คนก็ถูกช่วยออกมาได้สำเร็จ แต่ทว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจาก คุณสมใจ ศรีแววเนตร เชฟชาวไทยที่ได้รับการยกย่องจาก ประธานนาธิบดี จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช และชาวอเมริกันทั้งหลาย ให้เป็นวีรบุรุษผู้เสี่ยงชีวิตช่วยเหลือนักการทูตชาวอเมริกัน 5 คน จากสงครามปฏิวัติอิสลามในครั้งนั้น คุณลุงสมใจ ศรีแววเนตร ปัจจุบันอายุ 75 ปีเล่าถึงเหตุการณ์ความทรงจำของเขาผ่านทางรายการตีสิบ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมปี 2557 ว่า เขาได้ได้รับโทรศัพท์ของนักการฑูตท่านหนึ่งที่มีภริยาเป็นชาวไทย ให้ช่วยดูแลนักการฑูต 5 คนที่ยังติดอยู่ในอิหร่าน คุณสมใจ ศรีแววเนตรได้ตัดสินใจขับรถไปรับนักการฑูตทั้ง 5 และดูแลพวกเขาอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง…
-
สนใจหน่อย!! เจ้าเหมียวหาบ้านอยู่ไม่ได้ เลยเคาะกระจกพร้อมเต้นระบำเรียกแขกซะเลย
มีแมวจำนวนมากที่ไม่มีผู้รับเลี้ยงและต้องอยู่ที่สถานสงเคราะห์ บางตัวก็ได้รับโอกาสในการมีครอบครัวโดยมีผู้อุปการะไป บางตัวก็ไม่มีโอกาสที่จะได้รับความอบอุ่นจากมนุษย์ และนั่นก็ทำให้แมวตัวหนึ่งที่อยากจะได้รับความรักแบบนี้พยายามเรียกร้องความสนใจจากมนุษย์ด้วยการเต้นซะเลย เจ้าขนปุยชื่อว่า Rosie เกิดในปี 2013 ที่สถานสงเคราะห์ Purrfech Pals Cat Shelter ในรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยองค์กรแห่งนี้ได้หาบ้านให้กับเจ้าขนปุยตัวนี้ได้แล้วในตอนแรก แต่ก็ปรากฏว่าผลออกมาไม่ดีนัก มันจึงกลับมาอยู่ที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง หนูชื่อว่า Rosie ค่ะ ความปรารถนาของเจ้า Rosie ก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย เพียงแค่อยากจะมีบ้านและได้อยู่กับใครสักคนที่เข้าใจก็เพียงเท่านั้น “Rosie รู้จักการมอบความรักให้แก่ผู้คน แต่ก็มีเหตุผลอื่นๆ ที่เธอต้องการคนที่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงดู และเข้าใจแมวเป็นอย่างดี” เจ้าหน้าที่ของ Purrfect Pals ได้บอกเอาไว้ ตอนหลับยังน่ารักเลย รับไปดูแลกันเร็วว หลังจาก Rosie กลับไปสู่สถานรับเลี้ยง ดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่อยมีความสุขมากนัก และหลังจากที่มันรอคอยผู้ใจบุญมาหลายวัน มันก็คิดว่ามันต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้มันได้มีบ้านเหมือนกับที่มันตั้งใจไว้ สิ่งที่มันทำก็คือเจ้า Rosie ได้พยายามนำเท้าของมันไปเคาะกระจกทุกครั้งที่มีคนเดินผ่านมัน เพื่อให้ผู้คนหันมาสนใจในตัวมันบ้าง และดูเหมือนวิธีนี้จะได้ผล เพราะว่าการเคาะกระจกแบบนั้น เหมือนกับว่าเจ้าแมวตัวนี้กำลังเริงระบำอยู่นั่นเอง ออกมาเต้น เอ้า ออกมาเต้น…
-
ขุ่นแม่ Gal Gadot ในวัย 24 ถ่ายแบบให้ FHM ก่อนเป็น Wonder Woman!!
เราอาจจะเห็น Gal Gadot (ปัจจุบันอายุ 32 ปี) ในบทบาทการเป็น Wonder Woman กันจนชินตา แต่ถ้าหากได้ย้อนกลับไปดูภาพสมัยที่ขุ่นแม่ยังเอ๊าะๆ แล้วได้มาถ่ายแบบให้กับนิตยสาร FHM โอ้โหวววว!! แค่คิดหนุ่มๆ ก็เลือดกำเดาไหลกันเป็นแถวแล้วใช่ไหมล่ะ และเพื่อเป็นการเอาใจคุณผู้ชายทั้งหลาย วันนี้ #เหมียวขี้อ้อน ก็เลยจัดให้ โดยการนำเอาภาพของขุ่นแม่ตอนอยู่ในโหมดสุดเซ็กซี่มาให้ได้รับชมกัน งานนี้บอกเลยว่าทั้งแซ่บ ทั้งเผ็ด ชนิดที่ทำเอาลืมความเป็นฮีโร่ไปชั่วขณะเลยทีเดียว ย้อนกลับไปในช่วงปี 2009 ในขณะนั้น Gal กำลังอยู่ในวัย 24 ปี ซึ่งเธอได้เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในนักแสดงจากภาพยนตร์ Fast & Furious และในเวลานั้นเองเธอได้ถูกรับเชิญให้ไปเป็นนางแบบให้กับทางนิตยสารสำหรับผู้ชายอย่าง FHM อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการถ่ายแบบในครั้งนั้นอาจจะไม่ได้ทำให้เธอเป็นที่รู้จักหรือโด่งดังมากนัก แต่ด้วยความงาม บวกกับเสน่ห์ที่มีอยู่ในตัวของขุ่นแม่มันได้ส่องแสงแพรวพราวออกมา จนในอีกไม่กี่ปีต่อมานางก็เลยได้กลายเป็นฮีโร่หญิงที่เทพที่สุดของจักรวาล DC ด้วยบทบาทการเป็น Wonder Woman ทำให้ Gal Gadot มีชื่อเสียงที่โด่งดังมากขึ้นและได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกอย่างล้นหลาม มันก็จะมีความเซ็กซี่ในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน…
-
18 ความทรงจำยุคบุกเบิกอินเตอร์เน็ต ถ้าคุณเข้าใจแสดงว่าไม่เด็กแล้วนะ!!
ยังจำกันได้ไหมกับยุคสมัยที่การจะใช้อินเตอร์เน็ตแต่ละที ต้องจ่ายเงินค่าบริการเป็นรายชั่วโมง ยังจำกันได้ไหมเสียงเชื่อมต่อ ตู ดู ดู่ ดู๊ด ที่ทำให้เราลุ้นว่ามันจะต่อติดหรือเปล่า ถ้าคุณจำได้คุณไม่เด็กแล้วนะ… แม้ปัจจุบันนั้นอินเตอร์เน็ตจะรวดเร็ว ใช้งานง่ายแสนง่ายแถมยังมีไวไฟอีก ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีมากเพียงแต่บางครั้งเราอาจจะรู้สึกหวนนึกถึงความหลังสมัยยุค 90 ถึง 2000 ต้นๆ เพราะช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่อินเตอร์เน็ตเริ่มเข้ามาใหม่ๆ อะไรๆ ก็ดูเป็นสิ่งแปลกใหม่และสร้างความทรงจำดีๆ ให้เราเสมอ แต่ถ้าใครที่คิดไม่ออกหรือเกิดไม่ทัน แต่อยากจะรำลึกถึงจุดนั้นบ้าง งั้นมาๆ เดี๋ยว #เหมียวมู่ทู่ จะไล่ให้ดูว่าตอนนั้นมันมีอะไรน่าจดจำบ้าง… เริ่มกันด้วยหน้าเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ที่ต้องลุ้นเหมือนแทงหวยว่าจะติดหรือไม่ติด แน่นอนว่ามันจะมาพร้อมกับเสียงแบบนี้ แอบเล่นตอนพ่อแม่นอนนี่รู้กันทั้งบ้าน สมัยก่อนเราจะต้องมานั่งพิมพ์ www. กันก่อนประจำเดี๋ยวนี้สบายหน่อยไม่ต้องแล้ว ยุคจีบสาวแบบออนไลน์น่ะ มันมีมานานตั้งแต่ PIRCH98 นู้นนแล้วนะรู้ป่าว ป็อบอัพที่เด้งรัวๆ จากการคลิกผิดแค่ครั้งเดียว (ปัจจุบันก็เหมือนเดิม ต่างแต่เราไม่ได้คลิกพลาดแต่มันมาเอง) SoulSeek สุดยอดโปรแกรมหาเพลงในสมัยก่อน ก่อนจะมี Firefox หรือ Google Chrome เจ้า IE ที่เราด่ากันเนี่ยแหละคือผู้บุกเบิกที่แท้ทรู สมัยก่อนคลิปผีพุ่งออกมาเป็นอะไรที่ฮิตมากๆ…
-
หนุ่มสร้างวงกลมล่อแมวไม่สำเร็จ พอติดเป็นสัญลักษณ์ “ซาตาน” เท่านั้นละมาเฉย เฮ้ย!!!
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงกลางปี ได้มีกระแสชาวเน็ตผู้เป็นทาสแมวได้ออกมาให้คำแนะนำขำๆ ว่า ถ้าเราเอาสก็อตเทปมาตีกรอบลงบนพื้น แล้วเมื่อแมวของเรามาเห็นมันจะรู้สึกอยากเข้าไปอยู่ข้างในทันที!? ชาวเน็ตส่วนใหญ่ที่ได้ยินคำแนะนำดังกล่าวก็ต่างพากันลองทำกันยกใหญ่ เพราะอยากรู้ว่ามันทำได้จริงไหม ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมามันก็ใช้ได้จริงเว้ย!! เดินผ่านมาเจอ สงสัย…กรอบอะไรกันนะ? เข้าไปอยู่ซะเลย เห็นกรอบปุ๊บ เป็นอันต้องแย่งกัน กรอบของข้า!! ในที่สุดผู้ชนะก็ได้กรอบวิเศษไปครอบครอง แต่ใช่ว่าเจ้าเหมียวทุกตัวจะยอมทำตามเมื่อเห็นกรอบ เพราะชาวเน็ตที่ชื่อ propiro ได้ออกมาแชร์เรื่องราวของเขาหลังทำตามกระแสสุดฮิต ซึ่งผลลัพธ์มันไม่เป็นตามที่หวัง… โดยตอนแรกเขาตีกรอบให้เป็นวงกลมเสียก่อน ผลที่ได้คือเจ้าแมวดำของเขาไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ ต่อมาเจ้าตัวจึงคิดว่า เอ๊ะ! หรือวงกลมมันไม่ถูกหลัก งั้นลองสี่เหลี่ยมตามชาวบ้านดูก็แล้วกันผื่อจะได้ผล แน่นอนว่าผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม เจ้าเหมียวเปลี่ยนทีท่าเป็นแค่มองไปที่กรอบสี่เหลี่ยม สุดท้ายพี่เจ้าของจึงไม่รู้จะทำยังไง เขาเลยตัดสินใจใช้วิธีแหวกจากชาวบ้านซะเลย โดยการทำให้มันเป็นรูปดาว 5 แฉกแทน ประเด็นคือมันได้ผลเว้ยเฮ้ย!! งานนี้เจ้าตัวก็ได้แต่อึ้งไม่รู้จะพูดอะไรดี เขาจึงแชร์เรื่องราวให้ชาวเน็ตคนอื่นๆ ได้รู้กัน ซึ่งทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแมวของเขาต้องเป็นแมวปีศาจหรือแมวแม่มดแน่ๆ “เจ้าต้องให้อาหารข้าเป็นการแลกเปลี่ยน เจ้ามนุษย์” ที่มา iizcat
-
7 ทางออกปัญหาชีวิตคู่ของญี่ปุ่น แหวกแนวไม่เหมือนที่ไหน จนประเทศอื่นตามไม่ทันแล้ว!!
เมื่อพูดถึงประเทศญี่ปุ่น เราก็มักจะมีหัวข้อต่างๆ มากมายที่หยิบมาพูดเกี่ยวกับประเทศนี้ได้ไม่รู้จบ ด้วยความที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่จัดว่ามีความโดดเด่นอันดับต้นๆ ในหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมหรือเทคโนโลยี แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ญี่ปุ่นนั้นแปลกกว่าใครและติดอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งนั่นก็คือปัญหาการฆ่าตัวตาย โดยญี่ปุ่นมีอัตราการฆ่าตัวตายเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งเหตุผลใหญ่ๆ ก็มักจะมาจากงานและชีวิตคู่ที่มีปัญหา และเมื่อชีวิตคู่มันมีปัญหา ชาวญี่ปุ่นก็ไม่มัวมานั่งคิดหาทางออกแค่ทางเดียว แต่ความหัวใสของพวกเขากลับทำให้เกิดทางออกใหม่ที่ต่อยอดเป็นธุรกิจได้สบายๆ และมันก็แหวกจนน่าสนใจเลยล่ะ เซ็กส์ดอล เซ็กส์ดอลหนึ่งในทางออกยอดฮิตของหนุ่มๆ ที่ล้มเหลวกับความรัก และมักจะเป็นตัวเลือกเป็นอันดับต้นๆ เพราะพวกเขาสามารถเลือกความสวยงามของตุ๊กตาเซ็กส์ดอลได้ตามที่ต้องการ และเธอก็ไม่ร้องขอหรือพูดอะไรกลับด้วย บริการเช่าสัตว์เลี้ยง อีกหนึ่งบริการที่คนเหงาในญี่ปุ่นมักเลือกใช้ เพราะการเลี้ยงสัตว์ในญี่ปุ่นจะต้องมีพื้นที่พอสมควร และบ้านส่วนใหญ่ก็มีพื้นที่ไม่มากพอ ฉะนั้นการเช่าเลี้ยงเพื่อคลายเหงาจึงเป็นอีกหนึ่งทางออกที่น่าสนใจ บริการกอดและคุยเป็นเพื่อน บริการนี้ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องความรักหรือชีวิตคู่ โดยจะเป็นการใช้บริการด้วยการจ่ายข้าวของมูลค่าสูงเป็นการแลกเปลี่ยน โดยบริการนี้มีชื่อเรียกว่า 援助交際 หรือ enjo-kōsai แฟนเสมือนจริง ปัจจุบันเทคโนโลยีเสมือนจริงนั้นมีความก้าวหน้ามาก ฉะนั้นการที่จะเกิดแฟนเสมือนจริงจึงไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่ออีกต่อไป โดยหนุ่มโสดมักจะเลือกใช้วิธีนี้สร้างแฟนในโลกเสมือนจริงผ่าน VR ซึ่งสามารถพาไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ตามแต่ต้องการ โฮสต์คลับ ไม่ใช่เฉพาะหนุ่มๆ เท่านั้นที่ประสบปัญหาความรักจนต้องหาตัวช่วยอื่นๆ สาวๆ ก็เช่นกันเพราะบางครั้งพวกเธอก็เลือกใช้บริการโฮสต์คลับที่ให้บริการเหมือนแฟนจริงๆ แถมยังเป็นหนุ่มหล่ออีก ซึ่งมันก็สามารถคลายปัญหาดังกล่าวได้ส่วนหนึ่งนั่นเอง บริการครอบครัวจำลองเพื่อฝึกฝนการมีครอบครัว คุณฟังไม่ผิดหรอก มันมีบริการนี้จริงๆ โดยบริการดังกล่าวจะให้ผู้ใช้บริการสามารถเช่าสามี…
-
ทหารโพสต์โชว์ท่า “หัวปัก” อ้างว่าทำได้สบายๆ เจอกระแสตอกกลับจากชาวเน็ตเพียบ
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่าสลดของน้องเมย ภคพงศ์ นักเรียนเตรียมทหารที่เกิดการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในสังคมไทยอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทารุณกรรมร่างกาย รวมถึงเรื่องของอวัยวะภายในที่หายไปอีกด้วย และหนึ่งในเรื่องที่ถูกหยิบยกมาเป็นข้อสันนิษฐานการเสียชีวิตของ นรต.ภคพงศ์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 นั่นก็คือเรื่องของการทำโทษนั่นเอง เมื่อไม่นานมานี้ได้มีนายทหารท่านหนึ่งโพสต์ข้อความอธิบายเกี่ยวกับหลักการทำโทษพร้อมขอร้องให้ทุกคนอย่าเข้าใจผิดและสามัคคีกันไว้ ในใจความของโพสต์ของนายทหารท่านนี้ กล่าวว่าการทำโทษด้วยท่าหัวปักนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะทำให้ผู้ที่ไม่เคยฝึกมีอาการบาดเจ็บได้ แต่สำหรับผู้ที่ฝึกมานั้นสามารถทำได้อย่างไม่เป็นปัญหา พร้อมกับบอกว่าพวกตนที่เคยผ่านการฝึกหน่วยรบพิเศษนั้นก็เคยทำโทษด้วยท่านี้และไม่เคยได้รับอันตรายแต่อย่างใด แต่การฝึกและอันตรายนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละตัวบุคคล . เนื้อหาของโพสต์ดังกล่าว “คนไทยด้วยกันสามัคคีกันไว้ ในมุมมองทางการแพทย์ ย่อมมีความเป็นห่วงเป็นธรรมดา เพราะท่า ‘หัวปัก’ อาจเป็นอันตรายกับคนที่มีโรคประจำตัว หรือ คนที่ไม่เคยฝึกอาจได้รับบาดเจ็บ กล้ามเนื้อหรือกระดูกต้นคอหากผิดพลาด ในมุมมองของผู้ที่ได้รับการฝึกฝนมา ก็ถือว่าเป็นท่าปกติธรรมดา เพราะกล้ามเนื้อคอได้รับการฝึกฝนมาแล้ว ใครๆก็ทำได้ นานเป็นชั่วโมงก็ยังได้ แล้วในระยะยาวพวกรุ่นพี่ที่ผมรู้จักที่ผ่านหลักสูตรรบพิเศษไม่ว่า ทบ. ทร. ทอ. ตร. ที่ผ่านการฝึกท่า หัวปัก มาอย่างโชกโชน จนอายุมาก หรือ เกษียณไปแล้ว ก็ยังไม่เคยได้ยินว่ามีปัญหาสุขภาพจากท่านี้ แต่!ก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัย 100% ในระยะยาว เพราะหากแก่ตัวไปกระดูกเริ่มเปราะบางอาจงานเข้าก็ได้ หรือ เริ่มมีโรคประจำตัว เช่น ความดัน…
-
สาวระดมเงินบริจาคกว่า 7.8 ล้านบาทให้ “ชายไร้บ้าน” เพราะเขาเติมน้ำมันรถให้เธอ 650 บาท
เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีเหตุการณ์สุดประทับใจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ของผู้หญิงที่รถของเธอน้ำมันหมดและได้รับการช่วยเหลือจากชายไร้บ้านคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาเธอก็ได้ตอบแทนแก่เขาด้วยเงินนับแสนดอลลาร์เลยทีเดียว Kate McClure หญิงสาววัย 27 ปีกำลังขับรถกลับบ้านของเธอที่ รัฐฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยความเผลอหรือลืมดูก็ไม่ทราบ ทำให้รถของเธอน้ำมันหมดกลางทางหลวงซะอย่างนั้น ซึ่งขณะที่เธอกำลังโทรหา Mark D’Amico แฟนของเธอให้มารับก็ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งโผล่ออกมาจากเงามืดและให้การช่วยเหลือ เกิดน้ำมันหมด แต่ยังโชคดีที่ได้ทหารผ่านศึกคนนี้มาช่วย ปรากฏว่าคนที่มาช่วยเหลือเธอกลับเป็นชายไร้บ้านคนหนึ่งชื่อว่า Bobbitt Jr. เขาได้บอกให้เธอนั่งอยู่ในรถและล็อคประตูเพื่อความปลอดภัย ขณะที่เขาก็ไปซื้อน้ำมันมาเพื่อที่จะเติมให้เธอโดยใช้เวลาไม่นานนัก ที่สำคัญก็คือค่าน้ำมันของเขาในวันนั้นนั้นเป็นเงินจำนวน 20 ดอลลาร์ (653 บาท) ซึ่งนั่นเป็นเงินก้อนสุดท้ายของเขา เขายอมออกเงินให้ทั้งๆ ที่เขาก็แทบจะไม่มีกินเองด้วยซ้ำ “Bobbitt ไม่ได้ขอค่าตอบแทนฉันเลยแม้แต่ดอลลาร์เดียว และในตอนนั้นฉันก็ไม่มีเงินจ่ายให้แก่เขาด้วย แต่ว่าหลังจากนั้นฉันก็มักจะกลับไปที่นั่นเพื่อให้การช่วยเหลือเขาในเรื่องที่ช่วยได้ อย่างเช่นเสื้อแจ็คเก็ต ถุงมือ ถุงเท้าอุ่นๆ และให้เงินเขาเล็กๆ น้อยๆ ทุกครั้งที่เจอ” Bobbitt กับ McClure และแฟนของเธอ “ฉันหวังว่าฉันจะสามารถทำอะไรให้ชายผู้ใจดีคนนี้ ที่ยอมเสียสละเงินก้อนสุดท้ายของตัวเองเพื่อมาเติมน้ำมันให้กับฉัน เขาเป็นคนดีมากจริงๆ การที่ได้เข้าไปคุยกับเขาในแต่ละครั้งยิ่งทำให้ฉัน อยากจะช่วยเหลือเขามากขึ้นตามไปด้วย” Kate กล่าว สำหรับประวัติของชายไร้บ้านคนนี้ เขาเป็นทหารผ่านศึกในสังกัดกองทัพเรือ…
-
อดีตทหารหญิงของกองกำลังเกาหลีเหนือ เปิดเผยชีวิตแสนลำบาก เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น!!
ประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ นั่นจึงหมายความว่ารัฐบาลเป็นผู้กุมอำนาจสูงสุดไว้ในมือ ดังนั้นการจะปกปิดข่าวอะไรบางอย่างจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร และยิ่งถ้าเป็นข่าวเกี่ยวกับกองทัพแล้วล่ะก็แน่นอนว่า นั่นคือความลับสุดยอดของพวกเขาเลย แต่ว่าในวันนี้ ได้มีอดีตทหารหญิงของกองกำลังเกาหลีเหนือคนหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยความจริงที่ว่า ทหารหญิงที่อยู่ในกองทัพเกาหลีเหนือมีชีวิตความเป็นอยู่ที่แสนจะเลวร้ายเสมือนกับการตกนรกบนดินเลยก็ว่าได้ ผู้หญิงหลายคนตัดสินใจเข้าร่วมกับกองทัพตั้งแต่ยังเป็นสาว Lee So Yeon อาสาสมัครเข้าไปรับใช้กองทัพตั้งแต่อายุ 17 ปีเพื่อแสดงความรักต่อชาติ และตามรอยสมาชิกของครอบครัวของเธอที่ได้รับใช้ชาติอยู่ก่อนแล้ว สำหรับประโยชน์ที่ทางรัฐบาลใช้จูงใจให้ครอบครัวต่างๆ พากันมาเป็นทหารก็คือ การรับรองว่าจะมีอาหารให้กินอย่างแน่นอน เนื่องจากในยุค 1990-2000 ประเทศเกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับภาวะอดอยากอย่างรุนแรง และนั่นจึงเป็นเหตุให้ผู้หญิงหลายพันคนตัดสินใจเข้าร่วมกับกองทัพเหมือนกับ So Yeon ฝึกให้มีความรักชาติ และเคารพในตัวท่านผู้นำ ระยะแรกๆ ที่เข้ากองทัพนั้น เธอก็บอกว่ารู้สึกสนุกกับการใช้ชีวิตการเป็นทหาร แต่แล้วเมื่อเวลาเวลาผ่านไปไม่นานด้วยการที่ประเทศเริ่มขาดแคลนอาหาร และการฝึกที่หนักเริ่มส่งผลที่ไม่ดีต่อตัวเธอและเพื่อนร่วมกองทัพของเธอ “หลังจากเข้าร่วมกองทัพได้ 6 เดือนพวกเราก็ไม่สามารถมีประจำเดือนได้อีกต่อไป เพราะว่าขาดสารอาหารและอยู่ในสภาพที่แวดล้อมที่ตึงเครียดตลอดเวลา แต่ว่าก็มีทหารหญิงหลายคนที่รู้สึกดีใจที่ประจำเดือนหายไป เพราะพวกเธอคิดว่าหากยังมีอยู่คงจะลำบากกว่านี้เยอะ” So Yeon บอกถึงความลำบากในขณะนั้น ความเป็นอยู่ในกองทัพเต็มไปด้วยความลำบาก เธอยังได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า สิ่งที่ลำบากที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือพวกเธอไม่สามารถอาบน้ำหรือว่าทำความสะอาดใดๆ ได้เลยเพราะว่าท่อน้ำที่พวกเธอใช้นั้นต่อลงมาจากภูเขาซึ่งบางครั้งก็มีงูหรือว่ากบติดออกมาด้วย ถึงแม้ว่าผู้หญิงจะมีการฝึกที่ไม่ลำบากเท่าผู้ชาย แต่พวกเธอก็หวังที่จะได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่านี้ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับผู้ชายเพราะว่าพวกเขาได้รับอาหารอย่างเต็มที่และมีสุขอนามัยที่ดีกว่าพวกเธอแบบเทียบกันไม่ติด ระหว่างที่ So…
-
เหล่าคู่รักร่วมแชร์ประสบการณ์ความฮาของคู่ตัวเอง ชีวิตพวกนายคงเจอแต่เรื่องบันเทิงสินะ
ว่ากันว่าใครที่มีแฟนเป็นคนขี้เล่นหรือคนตลกเนี่ยรับรองว่าชีวิตคู่ไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอน เพราะเขาจะทำให้คุณหัวเราะได้และทำให้ความสัมพันธ์ของคุณเต็มไปด้วยสีสัน เหมือนกับคู่รักสายบันเทิงเหล่านี้ที่ได้แชร์ประสบการณ์ความฮาของคู่รักตัวเอง ทำให้รู้ว่าการมีคนรักเป็นคนตลกนั้นมันดีอย่างนี้นี่เอง 1. แฟนหนุ่มกลับมาในสภาพที่เมาไม่มีสติ แฟนสาวเลยเขียนโน๊ตเตือนสติให้ คนหนึ่งอ้วก อีกตัวก็จัดการกินอ้วกให้ 2. แฟนสาวตั้งใจถ่ายภาพเจ้าเหมียวนอนบนขาแฟนหนุ่ม แต่ภาพที่ได้… 3. หญิงสาวงอแงที่ช่วงหลังมานี้แฟนหนุ่มไม่ค่อยกอดเธอเลย และนี่คือการแก้ปัญหาของเขา 4. แฟนหนุ่มต้องทำงานที่บ้าน แต่เจ้าเหมียวก็อ้อนให้กอดไม่หยุด จนเขาต้องใช้วิธีนี้ถึงจะทำงานต่อได้ 5. เมื่อขอให้แฟนสาวเติมฟืนให้หน่อย ออกไปดูอีกที ก็เจอแบบนี้เลย 6. เมื่อคืนแฟนหนุ่มกลับมาเมาหนักมาก แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะชาร์ตแบตโทรศัพท์ นอกจะไม่เต็มแล้ว ยังเสี่ยงตายอีก 7. เมื่อบอกแฟนว่าหิวจนจะกินม้าได้ทั้งตัวอยู่แล้ว เธอเลยจัดแบบนี้ให้ซะเลย 8. รู้ว่าแมวแกล้ง แต่ก็ยอมให้แกล้ง 9. แฟนหนุ่มบอกว่าเธอไม่มีวันดังในโซเชียลหรอก ถ้าไม่โชว์นม… อะ จัดไป 10. แฟนชอบทักว่าใส่เสื้อสีเดิมตลอด หนุ่มเลยงัดหลักฐานว่าไม่ใช่สีเดิมเฟ้ย แต่มันแค่โทนคล้ายกัน 11.…
-
ไม่เลือกงานไม่ยากจน!! รู้ไหมว่าในต่างประเทศ วิดีโอโป๊ของเราสามารถทำเงินได้ด้วยนะเออ!!
เมื่อบ่ายวันหนึ่งขณะที่ #เหมียวมู่ทู่ กำลังเลื่อนหน้าเฟซบุ๊กอยู่ ก็ดันไปสะดุดเข้ากับโพสต์ของชาวเน็ตที่พูดถึงคนที่ได้รับเงินจากการส่งหนังโป๊แบบทำเองไปให้ทางบริษัท Pornhub แล้วได้ค่าตอบแทนที่สูงมากๆ ตีเป็นเงินไทยได้มากเกือบ 1.3 ล้านบาท!! พอเห็นตัวเลขดังกล่าวมันน่าสนใจ ความอยากรู้อยากเห็นมันก็หยุดไม่อยู่ทันที #เหมียวมู่ทู่ เลยจัดการตามหาข้อมูลของการทำคลิปโฮมเมดดังกล่าว ว่าเราต้องทำยังไงถึงจะสร้างเงินมหาศาลขนาดได้จากกิจกรรมเข้าจังหวะ ซึ่งข้อมูลที่หาได้นั้น #เหมียวมู่ทู่ ได้ใช้ข้อมูลอ้างอิงจาก Adult Industry Guide ซึ่งได้อธิบายถึงวิธีการทำเงินจากคลิปโป๊ของตัวเองเราเอง โดยมันก็มีวิธีมากมายให้เราได้เลือหารายได้จากวงการนี้ ทั้งการโปรโมตเว็บไซต์ นำคลิปไปลงเว็บของเรา แต่วิธีที่ง่ายและได้ใช้คลิปของเราที่อัดมากันเองให้เป็นประโยชน์สูงสุดก็คือการอัพลงเว็บไซต์นั่นเอง วิธีดังกล่าวนั้น เราจำเป็นจะต้องคิดชื่อลายน้ำของเราเสียก่อน เพื่อที่จะใช้เป็นการยืนยันว่าคลิปนี้ต้นฉบับเป็นของเราหรือเราถ่ายขึ้นมาเอง จะได้ไม่มีใครมาโมเมแอบขโมยไปแอบอ้างสิทธิ์ ส่วนจะใช้ชื่อว่าอะไรนั้นก็แล้วแต่เลย xXBIGCOCXx หรือ OXSAXYGIRLXO ก็แล้วแต่เราต้องการ (แต่ตั้งให้เข้ากับธีมของคลิปก็จะดีกว่านะ) จากนั้นเราก็นำคลิปของเราอัพขึ้นบนเว็บไซต์ Pornhub ซึ่งมันก็จะใช้ลายน้ำดังกล่าวเพื่อยืนยันตนของเรา และขั้นตอนสุดท้ายคือรอดูผลตอบรับของคลิปที่เราอัพลงไป ถ้ามีคนดูเยอะและมันฮิตยอดเงินที่เราจะได้ก็จะเยอะตามมา ฉะนั้นใครชื่นชอบในเรื่องนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่อยากจะหารายได้เสริมวิธีที่แนะนำก็เป็นอีกทางเรื่องที่ไม่เลวเลยล่ะ เผลอๆ ทำเงินได้มากมายเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามวิธีนี้ก็ไม่ได้ถูกยอมรับอย่างแพร่หลายหรอกนะ ด้วยเรื่องของศีลธรรมและวัฒนธรรมของแต่ละประเทศล้วนแตกต่างกัน เช่นถ้า เกิดมีคนทราบ อาจส่งผลต่อหน้าที่การงานได้ ฉะนั้นก่อนจะตัดสินใจทำอะไร ก็คิดให้ดีและต้องพร้อมรับผลที่ตามมาด้วย!! ที่มา adultindustryguide
-
อดีต FBI กับโปรเจกต์ ‘แอปเปิลที่หายไป’ การค้นหาที่ดูไม่มีอะไร แต่กลับยิ่งใหญ่อย่างเหลือเชื่อ!!
David Benscoter คือชายผู้ใช้เวลา 24 ปีไปกับการเป็น FBI เขาได้ทำคดียากๆ มาหลากหลายคดี ไม่ว่าจะเป็นคดีปล้นแบงค์ คดีจี้ชิงทรัพย์ หรือแม้แต่คดีการทุจริตคอรัปชั่นกันในแวดวงการเมือง เขาก็ล้วนผ่านประสบการณ์ดังกล่าวมาหมดแล้ว จนกระทั่งปัจจุบันเขากลายเป็นชายสูงอายุวัย 62 ปีที่รู้ว่าตัวเองถึงเวลาที่จะต้องเกษียณตัวเองออกมาจากจุดนั้นเสียที เพียงแต่ว่าหลังจากเขาออกมางานสืบสวนของเขามันกลับไม่หยุดลง… เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อเพื่อนบ้านของเขาในรัฐวอชิงตัน ได้ขอให้เขาไปช่วยตรวจสอบต้นไม้เก่าแก่บริเวณบ้านของเธอหน่อยว่ามันคือต้นอะไร ซึ่งการสืบค้นดังกล่าวทำให้เขาพบว่า ต้นไม้ต้นนั้นเป็นต้นแอปเปิลสายพันธุ์โบราณที่สาบสูญไปหลายสิบปี ยิ่ง David สืบค้นและเก็บข้อมูลของพันธุ์แอปเปิลเท่าไหร่ มันยิ่งพาเขาดำดิ่งลงไปลึกเรื่อยๆ จากคำขอของเพื่อนบ้านกลายเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่เขาต้องออกไปตามชนบท เพื่อสืบเสาะหาสายพันธุ์แอปเปิลที่สาบสูญ จากการสืบค้นเขาพบว่าในช่วงหนึ่งร้อยปีก่อน ภายในรัฐวอชิงตันแห่งนี้มีสวนแอปเปิลอยู่มากมาย แต่ภาพหลังเมื่อสภาพสังคมเปลี่ยนไป ผู้คนจึงล้มเลิกการทำสวนและหันไปประกอบอาชีพอย่างอื่นแทน แต่บริเวณเขตวอชิงตันตะวันออก สวนแอปเปิลที่พวกเขาเคยปลูกและทิ้งไปกลับยังไม่ตาย มันยังคงยืนต้นมาจนถึงทุกวันนี้ และที่นั่นจึงถือเป็นจุดสำคัญในการสืบค้นของเขา ในการสืบค้น David นั้นต้องทำทุกอย่างทั้งวาดภาพแอปเปิล เดินทางไปเก็บข้อมูลตามพิพิธภัณฑ์ ทำแผนภูมิ ตามหาว่าแอปเปิลที่เขาเจอโตมาจากที่ไหน เก็บพิกัด GPS รวมถึงเก็บตัวอย่างแล้วส่งไปยังผู้เชี่ยวชาญ บันทึกที่เขาจดไว้นั้นมีเยอะแยะมากมายเลยล่ะ . Nero, Arkansas Beauty และ Dickinson คือสามสายพันธุ์แอปเปิลหายากที่เขาค้นพบในช่วงหลายปีผ่านมา ซึ่งทุกสายพันธุ์ล้วนมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง David ได้ยกตัวอย่างความหายากของสายพันธุ์ทั้งสามว่า “สายพันธุ์ทั้งสามที่ผมหาเจอ…
-
รวมพล #คนฉลาด2018 อัจฉริยะแบบนี้ เห็นทีต้องได้รางวัลโนเบลไปแล้วล่ะ!!
ในชีวิตประจำวันของเราๆ นั้น มักเจอปัญหาที่แตกต่างกันไป บางเครื่องก็แก้ได้ง่ายๆ แต่บางเรื่องก็น่าหงุดหงิดจนไม่รู้ว่าจะแก้ได้ยังไง แต่เชื่อหรือไม่ว่าในโลกของเรานั้นยังมีบุคคลที่เรียกได้ว่าฉลาดแกมโกง ที่สามารถแก้ไขปัญหาน่าโมโหเหล่านั้นได้แบบง่ายๆ จนเพื่อนๆ แทบจะยกรางวัลโนเบลให้เลยล่ะ 1. สาวคนนี้คิดแผนที่ไม่ต้องเสียเงินค่าขนมหน้าโรงภาพยนต์เพิ่ม ด้วยการปลอมเป็นคนท้องแล้วเอาขนมใส่ 2. เมื่อพ่อแม่เปลี่ยนรูปวาดบนผนังของลูก เป็นงานโชว์ศิลปะในบ้านซะงั้น 3. เมื่อลูกชายถามว่า ถ้าโลโก้ธนาคาร Barclays กลายเป็นโลโก้ทวิตเตอร์จะเป็นยังไง 4. หนุ่มจีบสาวโดยใช้ทฤษฏีกรีกโบราณ . 5. เปลี่ยนโฉมการทานซีเรียล 6. เมื่อคุณรำคาญบางคนที่พูดมาก ลองใช้วิธีนี้ดู 7. เมื่อเด็กเรียนคณิต แต่ได้งานศิลปะบนเครื่องคิดเลขแทน 8. การออกแบบประตูที่ไม่ต้องสัมผัสลูกบิด เพื่อความสะอาดไงล่ะ 9. เมื่อการทำฟันมันน่าเบื่อ ทันแพทย์จึงติดเกมส์ตามหา Waldo ไว้ด้านบน 10. นี่คือการวางแผนก่อนไปเทศกาลดนตรีได้ดีมากกก ฝังเหล้าไว้ก่อนเลย 11. การนำถาดมาวางเป็นจานแทน…
-
หนุ่มญี่ปุ่นครอสเดรสสุดน่ารัก จนเพื่อนชายทักหา “นั่นนายใช่ไหม?” แถมขอคบกันด้วย!?
กลายเป็นกระแสสุดโด่งดังบนอินเตอร์เน็ตญี่ปุ่น เมื่อหนุ่มญี่ปุ่นที่ชื่นชอบครอสเดสดันถูกเพื่อนที่รู้จักในชีวิตจริงมารู้ความจริงเข้าให้แถมคำตอบที่ได้จากเพื่อนก็เล่นเอาเงิบสุดๆ ทำให้เรื่องราวดังกล่าวมีคนรีทวีตไปแล้วมากกว่า 46,000 ครั้ง เรื่องในครั้งนี้มันเริ่มต้นจากชาวเน็ตที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า ▫️エルも (@Elmon_0715) ได้ทวีตภาพพร้อมข้อความว่า ถ้ารูปของเขานั้นไม่เหมือนผู้ชาย ก็ช่วยรีทวีตให้หน่อย ปรากฏว่าก็มีคนถูกใจและคิดแบบนั้นรีทวีตไปถึง 1,413 ครั้ง แต่ประเด็นหลักมันอยู่ตรงนี้!! เมื่อภาพของหนุ่มครอสเดรสคนนี้มันน่ารักเกินจะห้ามใจ จนเกระทั่งพื่อนของเขาบังเอิญมาเห็นแล้วสังเกตเห็นว่าคนในภาพนั้น มีลักษณะเหมือนเพื่อนของตนเปี๊ยบ เขาจึงส่งข้อความมาหา Elmon ทันที เพื่อน: เฮ้!! เพื่อน: (จากนั้นก็ส่งภาพต้นเหตุข้างบนมาให้) เพื่อน: นี่นายใช่หรือเปล่าเพื่อน Elmon: เอ๋…นี่มันอะไรกันเนี่ย เพื่อน: ชั้นว่าใช่นี่นายแน่ๆ ห้องมันเหมือนกับห้องนายเป๊ะๆ เลย ส่วนภาพก็ดูเหมือนนายด้วย! เพื่อน: มันใช่! นี่มันนายจริงๆ ด้วย… Elmon: ขอโทษนะ Elmon: รังเกียจรึเปล่า? เพื่อน: เอาจริงๆ นะ Elmon: อือ ว่าไง? เพื่อน: ถ้านายยอมคบกับฉัน ฉันจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกกับใคร Elmon: ห๊ะ!!…
-
สาวชาวรัสเซียผู้เคยป่วยเป็น “โรคผมร่วง” แต่ตอนนี้ผมยาวสวย เงางามซะด้วย…
สิ่งหนึ่งที่ผู้หญิงทุกคนปรารถนานั้น นอกจากการที่มีใบหน้าและรูปร่างที่สวยงามแล้ว เรื่องของเส้นผมก็เป็นอย่างหนึ่งที่จะช่วยสร้างเสน่ห์ให้กับสาวๆ การมีเส้นผมที่เหยียดตรงและเงางามนั้นจะช่วยให้คุณดูดีโดดเด่นมากขึ้นเลยทีเดียวล่ะ เช่นเดียวกับสาวสวยคนนี้ เธอมีชื่อว่า Anastasiya Sidorova เธอเป็นสาวรัสเซียที่มีผมยาวสวยที่สาวๆ หลายคนต้องอิจฉา แต่ใครจะรู้ว่าเธอคนนี้เคยได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการผมร่วงจนศีรษะล้านมาแล้ว Sidorova ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค Androgenetic Alopecia หรือโรคผมร่วงและผมบางในตอนที่ยังเป็นวัยรุ่น ทั้งๆ ที่โรคนี้มักจะเกิดกับชายหญิงที่มีอายุเกินกว่า 50 ขึ้นไป เธอจึงเป็นเคสที่หาได้ยากมาก อย่างไรก็ตามโรคนี้ก็เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้และเธอก็พิสูจน์ให้เราได้เห็น เธอได้พบกับผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะ (Trichologist) จนอาการของโรคค่อยๆ ดีขึ้น Dr. Omar Milhem เภสัชกรและโฆษกสภาผมแห่งชาติได้กล่าวว่า “ภาวะผมร่วงจะมีผลต่อชีวิตสตรีชาวอังกฤษเป็นอย่างมาก” “การสูญเสียเส้นผมนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงศูนย์เสียความมั่นใจและภาพลักษณ์เป็นอย่างมาก พวกเธอมักปลีกตัวออกจากสังคมเพื่อหลีกเลี่ยงความทุกข์ทรมานนั้น” เมื่อเธอหายจากโรคผมร่วง เธอจึงตัดสินใจที่จะศึกษาเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมมืออาชีพ เพราะเธอเข้าใจความรู้สึกของคนที่ป่วยด้วยโรคนี้ ว่าเป็นเรื่องที่ทุกข์ทรมานแค่ไหน นอกจากนี้ เธอได้แบ่งปันเคล็บลับต่างๆ ในการดูแลเส้นผม โดยเธอได้กล่าวว่าเธอนั้นไม่เคยหนีบผมด้วยความร้อน และยังมาร์คผมด้วยเคราตินหลังสระผม Anastasiya สาวรัสเซียที่มีเส้นผมสีแดงสวย เมื่อสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเธอมีผมที่หนาและยาวเอามากๆ แต่เส้นผมเธอกลับดูไม่แห้งเสียหรือไร้น้ำหนักเลย และแน่นอนว่าผมสวยขนาดนี้ เธอก็ต้องได้เป็นพรีเซนเตอร์ของแชมพูแบรนด์ดังอย่างแพนทีน…
-
หญิงสาวตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะโดนแฟนเก่าปล่อยภาพลับ จนถูกล้อเลียนจากเพื่อนๆ
ปัญหาเรื่อง Bully หรือการกลั่นแกล้งกันในสังคมวัยเรียนเป็นปัญหาเรื้อรังที่ไม่สามารถแก้ได้ง่ายๆ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีการล้อเลียนถากถางของเด็กในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้นำชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไปสู่ความตายอย่างน่าอนาถใจ เหตุการณ์ที่แสนน่าเศร้านี้เกิดขึ้นกับ Karina Saifer Oliveira เด็กสาววัย 15 ปีในประเทศบราซิล โดยเธอต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับการล้อเลียนจากเพื่อนๆ ของเธอหลังจากที่แฟนเก่าของเธอได้นำภาพลับระหว่างพวกเขาออกมาเผยแพร่ Karina สาววัย 15 ปีผู้ตกเป็นเหยื่อการถูกกลั่นแกล้ง Karina เป็นเด็กแบบฉบับวัยรุ่นทั่วๆ ไป พ่อแม่ของเธอเล่าว่า ธอนั้นเป็นเด็กที่ฉลาดและมีความใฝ่ฝันที่จะเรียนกฎหมาย และพวกเขาก็คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าลูกของพวกเขาจะคิดสั้นแบบนี้ “ฉันว่ามันเป็นสิ่งที่แม่ทุกคนบนโลกนี้ไม่อยากให้เกิดขึ้น ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าต่อจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง” Angela Saifer แม่ของหนูน้อยผู้เสียชีวิตวัย 46 ปีกล่าว เธอได้ตัดสินใจจบชีวิตที่ระเบียงหลังบ้าน การติดต่อครั้งสุดท้ายระหว่างแม่และลูกคู่นี้เกิดขึ้นในแอพพลิเคชั่น WhatApp ในบ่ายวันที่ 7 พฤศจิกายนซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ Karina ได้ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลง ในบ่ายวันนั้นเธอยังกินข้าวเที่ยงอยู่กับพ่อบุญธรรมของเธออยู่เลย โดย Saifer ได้บอกว่าเธอรู้สึกกังวลใจอยู่เหมือนกันที่ลูกสาวของเธอไม่ได้ตอบข้อความ ซึ่งปกติแล้วมันจะไม่ใช่อย่างนี้ เมื่อแม่คนดังกล่าวกลับมาจากการทำงานที่โรงงานน้ำตาล ก็พบว่าลูกสาวของเธอเสียชีวิตลงแล้วที่ระเบียงหลังบ้านของเธอเอง Karina และพ่อของเธอ …
-
สาวร่ำไห้หลังเพื่อนบ้านยิง “หมาพิทบูล” ที่หลุดไปในเขตบ้านเขา ชาวเน็ตถกสมควรหรือไม่!?
กลายเป็นที่ถกเถียงกันยกใหญ่ หลังมีคลิปเหตุการณ์ที่หญิงสาวร่ำไห้หลังเห็นสุนัขของเธอนอนตายอยู่ในสวนของเพื่อนบ้าน ส่วนสาเหตุการตายก็มาจากเพื่อนบ้านเอง งานนี้ใครกันนะที่ผิด!? แม้ว่าคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นจะถูกเผยแพร่ออกมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2016 ซึ่งถ่ายโดยลูกสาวเจ้าของสุนัข แต่ปัจจุบันก็ยังคงมีการถกเถียงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้อยู่เรื่อยๆ ว่าใครกันที่ผิดกันแน่ สุนัขพิบูล เจ้าของสุนัข หรือเพื่อนบ้านกันแน่ คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเริ่มมาจากสุนัขพิบูลตัวต้นเหตุซึ่งเป็นของหญิงสาวคนหนึ่ง ได้กระชากโซ่จนขาดและวิ่งเข้ามาในสวนของเพื่อนบ้านพร้อมกับวิ่งไล่พ่อเจ้าของคลิป และอย่างที่เรารู้กันดีว่าพิทบูลเป็นสุนัขที่ดุร้ายและมันมีแรงที่มหาศาลแม้แต่ผู้ใหญ่ก็ยากจะสู้ ฉะนั้นวิธีการหยุดมันที่ได้ผลที่สุดคือจัดการปลิดชีพมัน โดยชายเพื่อนบ้านอธิบายถึงเหตุผลการยิงว่าเขาพยายามหนีมันแล้วและพยายามจะไม่ใช่ความรุนแรง แต่สุดท้ายความน่ากลัวของมันก็ทำให้เจ้าของบ้านต้องตัดสินใจปลิดชีวิตมันลง ด้านหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของสุนัขก็ร้องไห้ยกใหญ่ว่าทำไมต้องทำแบบนั้นกับหมาของเธอ เธอไม่อยู่แค่ครู่เดียวเอง ต้องฆ่ามันด้วยเหรอ พร้อมบอกว่ามันเป็นสุนัขนิสัยดี จากนั้นเธอก็ร่ำไห้ต่างๆ นานา ต่อไปด้วยความเสียใจ ด้านเพื่อนบ้านก็ออกปากขอโทษยกใหญ่พร้อมให้เหตุผลข้างต้นไป คลิปดังกล่าวได้สร้างกระแสมากมาย ว่าจริงๆ แล้วสุนัขพิทบูลผิดที่หลุดออกมาได้ เจ้าของไม่ดูแลให้ดี และสิ่งที่เพื่อนบ้านนั้นทำผิดหรือถูกกันแน่ ชาวเน็ตคนนี้บอกว่า ทำไมชายคนดังกล่าวถึงเปิดบ้านไว้แต่แรก ถ้าเขาปิดบ้านดีๆ หมามันก็เข้าไปไม่ได้ นอกจากนั้นเขาก็ยังบอกว่าเจ้าของก็ควรดูแลหมาตัวเองให้ดีๆ ด้วย พร้อมบอกว่าทั้งเจ้าของและเพื่อนบ้านผิดพอกัน ชาวเน็ตคนนี้บอกว่า เขารู้สึกแย่กับการสูญเสียของเธอนะ แต่มันก็เป็นความผิดของเธอที่ดูแลสุนัขไม่ดีเพราะทุกปีมีคนตายจากการถูกสุนัขจู่โจมตลอด ฉะนั้นเพื่อนบ้านจึงทำไปเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น ทุกคนก็ไม่ได้เห็นด้วยซะทีเดียว…
-
ย้อนเหตุการณ์ เมื่อเกาหลีใต้มีคดีทำร้ายทหารเกณฑ์จนเสียชีวิต รู้ไหมลงโทษกันอย่างไรบ้าง!?
ขณะนี้ได้เกิดกระแสที่ดังกระฉ่อนไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อนักเรียนทหารนายหนึ่งเสียชีวิตระหว่างอยู่ในค่ายและพบว่าก่อนหน้าที่เขาถูกซ้อมหลายครั้ง จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเรา แต่หากกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นในต่างประเทศ จะเป็นอย่างไร? ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2014 สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่าศาลทหารเกาหลีใต้ได้ตัดสินลงจำคุกนายทหาร 4 นาย เป็นเวลา 25-45 ในปี ในข้อห้ากลั่นแกล้งทหารเกณฑ์จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต พลทหาร Yoon Seung-joo วัย 20 ปี เสียชีวิตเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2014 หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำร้ายร่างกายทุกวันเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน ประเด็นดังกล่าวนี้สร้างความตระหนกตกใจให้กับชาวเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก เพราะในประเทศมีทหารมากกว่า 630,000 คน และบางคนก็รับใช้ชาตินานกว่า 2 ปี ในที่สุดผู้นำกองทัพก็ได้ประกาศลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ทั้งนี้อัยการได้เสนอให้ลงโทษผู้กระทำผิดหลักด้วยการประหารชีวิต อย่างไรก็ตามคณะผู้พิพากษา 3 คน ไม่เห็นด้วย และได้ตัดสินจำคุกเขาเป็นเวลา 45 ปี ในการพิจารณาคดีนายทหารทั้ง 4 คนไม่ได้พูดอะไรในชั้นศาล และทนายของพวกเขาก็ไม่มีข้อแก้ต่างใดๆ ให้ด้วย แต่หลังจากการคำตัดสินออกมาแล้ว จำเลยคนหนึ่งกล่าวว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจทำให้พลทหาร Yoon เสียชีวิต ด้านพยานยืนยันว่าพลทหาร Yoon…
-
นั่ลลั๊คอ่ะ!! ลูกช้างตัวน้อยวิ่งไล่ฝูงไก่ แต่กลับล้มแล้วไปฟ้องแม่ว่าโดนไก่ต๊อกแกล้งซะงั้น
ช้างเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่น่าเกรงขาม และด้วยความที่มันเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่โตผู้คนหลายคนจึงคิดว่ามันน่าจะเป็นสัตว์ที่โหดร้าย แต่ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นสัตว์ที่แสนจะใจดีและยังแฝงเอาไว้ซึ่งความน่ารักอีกต่างหาก ซึ่งความน่ารักของช้างนั้นสามารถหาดูได้โดยทั่วไปและเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ได้มีคลิปวิดีโอของลูกช้างตัวหนึ่งที่มีนิสัยร่าเริงวิ่งเล่นอยู่กับเหล่าฝูงไก่ต๊อก ซึ่งขณะกำลังวิ่งไล่อยู่นั้นก็ปรากฏว่าจู่ๆ ขณะมันกำลังวิ่งแล้วมันก็กลับล้มลงทั้งๆ ที่ยังไม่มีใครทำอะไรมันเลยด้วยซ้ำ และหลังจากนั้นมันก็เลิกเล่นแล้วกลับไปฟ้องแม่ของมัน เหมือนกับลูกแหง่คนหนึ่งเลยทีเดียว โดยในตอนนี้คลิปลูกช้างขี้ฟ้องตัวนี้ก็ได้กลายเป็นกระแสไวรัลบนอินเทอร์เน็ต ที่มียอดผู้ชมแล้วกว่า 9 แสนกว่าคน ซึ่งหากอยากรู้ว่าทำไมถึงมีผู้คนเข้าไปดูช้างตัวนี้จำนวนมาก ก็ลองเลื่อนลงดูได้เลย มาเล่นกับพี่ซะดีๆ ในแรกเริ่มนั้นมันวิ่งไล่ฝูงไก่ต๊อกที่วิ่งหนีมัน โดยมันได้วิ่งใส่อย่างไม่คิดชีวิต ด้วยความที่อยากเล่นกับเพื่อนต่างสายพันธุ์เหล่านี้ อ้าวเฮ้ย ใครจับขาอ่ะ แต่ปรากฏว่าขณะกำลังวิ่งๆ วนๆ อยู่มันก็ไปสะดุดล้มเอาดื้อๆ ซึ่งในตอนนั้นไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ใกล้กับช้างน้อยแสนน่ารักตัวนี้เลย แม่ พวกมันแกล้งหนูอ่ะ หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นเหมือนเด็กขี้แยกลับเข้าไปฟ้องแม่ที่เดินตามหลังมันมาอยู่ ซึ่งดูเหมือนกับว่าแม่ของมันก็เห็นเหตุการณ์แล้วเหมือนจะบอกว่า “ทำตัวเองแท้ๆ ลูกเอ๋ย” วิดีโอความซุกซนของเจ้าช้างตัวนี้ที่เรียกได้ว่า แพ้ภัยตัวเองของจริง แหม มีแม่อยู่ใกล้ๆ นี่รีบฟ้องเลยนะ ขี้ฟ้องจริงๆ เลยเจ้าช้างน้อย ที่มา: ผู้ชาย
-
หมู่บ้านกลางหุบเขาในสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศรับสมัครให้ย้ายเข้าไปอยู่ แถมเงิน 2 ล้านบาท
หากเพื่อนๆ กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติสักที่ คงจะต้องใช้เงินไม่น้อยในการซื้อที่ดิน ไหนจะต้องสร้างบ้านอีก แต่มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โอบล้อมไปด้วยภูเขาและทิวทัศน์อันงดงาม ที่นอกจากจะไม่ต้องเสียเงินซื้อแล้ว ยังมีเงินค่าจ้างอยู่ให้อีกด้วย หมู่บ้าน Albinen ตั้งอยู่ในรัฐวาเล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบ มีสภาพอากาศสุดโรแมนติก และมีประชากรเพียง 240 คนเท่านั้น ส่งผลให้โรงเรียนประจำหมู่บ้านต้องปิดตัวลง ทุกวันนี้จำนวนประชากรในหมู่บ้านได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้กลุ่มเยาวชนของหมู่บ้านยื่นคำร้องต่อรัฐบาลให้เสนอแรงจูงใจทำให้ผู้คนเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว เพื่อที่ Albinen จะไม่กลายเป็นหมู่บ้านร้าง ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงได้วางแผนเสนอเงินให้กับคนที่ย้ายเข้ามาอยู่ใน Albinen พร้อมให้การช่วยเหลือด้านการเงินอย่างถาวร สิทธิประโยชน์นี้เหมาะสำหรับทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า 45 ปี ที่ต้องการสร้าง ซื้อ หรือรีโนเวทบ้านในหมู่บ้านดังกล่าว แผนดังกล่าวนี้จะได้รับการพิจารณาในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ หากเทศบาลเมืองยอมรับ ผู้ใหญ่ที่ย้ายเข้าไปอยู่ก็จะได้รับเงินคนละ 820,000 บาท ในขณะที่เด็กจะได้รับคนละ 320,000 บาท สูงสุดคือได้กันทุกคนในครอบครัว 4 คนด้วย นั่นหมายความว่าหากคู่สามีภรรยาย้ายเข้าไปอยู่ในหมู่บ้าน Albinen พร้อมลูก 2 คน พวกเขาจะได้รับเงินรวมทั้งสิ้น 2,300,000 บาท…
-
เจ้าหมาอลาสกันพ้นจากข้อกล่าวหา ‘ทำร้าย’ คนปั่นจักรยาน เพราะมันอ้วนเกิ๊นนน!!
เมื่อพาน้องหมาออกไปเดินเล่นข้างนอก แล้วเจ้าสุนัขของเราดันไปปะทะกับสุนัขตัวอื่นที่พบเจอกันระหว่างทางก็ถือเป็นเรื่องปกติและเข้าใจได้ ตราบใดที่มันไม่ทำอันตรายใครหรือสร้างความเสียหายอะไร แต่ไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้น เพราะบางคนจะรักแค่สัตว์เลี้ยงของตัวเอง และไม่ได้รู้สึกเอ็นดูสัตว์ของคนอื่น จนทำให้เกิดเรื่องบานปลายได้ เมื่อสัตว์เลี้ยงเกิดปะทะกัน เหมือนกับคุณ Francis Thorley วัย 84 ปี ที่พาเจ้า Mishka สุนัขพันธุ์อลาสกันมาลามิวท์ วัย 11 ปี ไปเดินเล่นในสวนสาธารณะในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ แต่แล้วมันก็ดันไปทะเลาะกับสุนัขอีกตัว จนทำให้เกิดเรื่องบานปลาย Andrea Ostholt เจ้าของสุนัขอีกตัวอ้างว่า Mishka ได้วิ่งเข้ามาหาเธอที่กำลังปั่นจักรยานพาน้องหมาเดินเล่น แล้วมันก็แยกเขี้ยวใส่ ก่อนทำท่าเหมือนจะทำร้ายสุนัขของเธอ เธอบอกว่าได้ลงจากรถจักรยานเพื่อปกป้องน้องหมาของตัวเอง แต่ยังไม่ทันไร Mishka ก็กัดเข้าที่น่องขาขวาของเธอและวิ่งหนีไป จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เจ้าของสุนัขทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ จึงนำไปสู่การพิจารณาดีในชั้นศาล โดย Thorley ถูกกล่าวหาว่าสุนัขของเขาเป็นสุนัขอันตรายเกินการควบคุม อย่างไรก็ตาม ศาลได้ตัดสินให้ Mishka ไม่มีความผิด เนื่องจากมันมีน้ำหนักมากถึง 47 กิโลกรัม และนักสัตวแพทย์ก็ยืนยันว่ามันเป็นโรคอ้วน แถมยังมีการเคลื่อนไหวช้าเกินกว่าจะทำร้ายใครได้ นั่นทำให้ทั้งคุณตาและสุนัขของเขาพ้นข้อกล่าวหาไป Thorley บอกว่า Mishka ไม่ใช่สุนัขที่ก้าวร้าว มันรักความสงบ รักผู้คน และเข้ากับสุนัขตัวอื่นได้ดี…
-
ช่างภาพตามถ่ายชีวิตประจำวันของทหารหญิงใน ‘อิสราเอล’ เมื่อว่างจากการปฏิบัติหน้าที่
เราอาจจะเคยเห็นวิถีชีวิตของทหารในค่ายกันมาบ้างแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นทหารชายซะมากกว่า ทำให้หลายๆ คน โดยเฉพาะหนุ่มๆ อยากรู้ว่าเวลาอยู่ในค่าย ทหารหญิงเค้าทำอะไรกันบ้างนะ ด้วยเหตุนี้ ช่างภาพชาวนิวยอร์กที่เกิดในอิสราเอล Mayan Toledano จึงได้ตามถ่ายภาพชีิวิตประจำวันของทหารหญิงอิสราเอลมาให้เราได้ชมกัน ภาพที่เห็นนี้ไม่ได้เป็นการจัดฉากแต่อย่างใด เพราะ Mayan ก็เคยเป็นหนึ่งในทหารหญิงอิสราเอลเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงถ่ายทอดประสบการณ์ในค่ายทหารออกมาเป็นรูปภาพ Mayan บอกว่า “การเกิดและโตในอิสราเอลแต่ต้องไปอยู่ที่นิวยอร์ก ทำให้ฉันอยากย้อนกลับไปและถ่ายทอดความเป็นจริงของวัยรุ่นอิสราเอลที่อาสาไปรับใช้ชาติโดยไม่คำนึงถึงมุมมองทางการเมือง” เวลาสื่อนำเสนอภาพทหาร ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ทุกคนจะดูเหมือนกันหมด Mayan จึงต้องการเผยให้เห็นอีกมุมหนึ่ง เมื่อพวกเขาไม่ได้อยู่ในช่วงปฏิบัติหน้าที่ และที่เลือกผู้หญิง เพราะช่างภาพเองก็เคยมีประสบการณ์ช่นนี้มาก่อน ที่สำคัญ เบื้องหลังของทหารหญิงนั้นไม่ค่อยได้รับการเผยแพร่สักเท่าไหร่ อิสราเอลเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศบนโลกที่มีการเกณฑ์ทหารทั้งชายและหญิง เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ (เพราะอิสราเอลดันไปตั้งอยู่กลางดงชาติอาหรับที่เกลียดชาวยิวอย่างกับอะไรดี) โดยพวกเขาจะถูกเกณฑ์เมื่ออายุ 18 ปี และจะประจำการเป็นเวลา 2 ปี ทหารหญิงอิสราเอลในวันพักผ่อน ความคูลที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นในกลุ่มทหาร . อื้มมม นี่มันสมบัติชั้นเลิศของชาติชัดๆ ที่นอนในค่ายทหาร …
-
ย้อนอดีตโศกนาฏกรรมเครื่องบิน Luada Air ตกเสียชีวิตทั้งลำ กับด้านมืดอันหดหู่ใจของคนไทย
เชื่อว่าเด็กๆ หลายคนยุคใหม่หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า ในประเทศไทยเคยเกิดโศกนาฎกรรมทางด้านการบินครั้งหนึ่งที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้คนในยุคนั้นเป็นอย่างมาก และเป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นด้านมืดของคนไทยอันน่าหดหู่ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 เมื่อเที่ยวบินที่ NG004 ของสายการบิน Lauda Air จากประเทศออสเตรีย ที่เดินทางมาจากฮ่องกงด้วยเครื่องบิน Boeing B-767-3Z9ER เครื่องบินกำลังจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งภายในเครื่องบินลำนี้มีผู้โดยสารทั้งสิ้น 213 คนและลูกเรืออีก 10 คน หลังจากเครื่องบินขึ้นได้ไม่นานกัปตันชาวอเมริกัน Thomas J. Welch และผู้ช่วย Josef Thurner ชาวออสเตรียได้รับการสัญญาณภาพแจ้งเตือนว่า มีความผิดพลาดทางระบบที่อาจทำให้ระบบผันกลับแรงขับ (Thrust Reverser) ของเครื่องยนต์หมายเลข 1 แต่หลังจากตรวจสอบคู่มือแล้วพวกเขาตัดสินใจไม่ทำอะไร เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สุดท้ายขณะที่เครื่องบินกำลังบินอยู่เหนือบริเวณรอยต่อของจังหวัดอุทัยธานีกับจังหวัดสุพรรณบุรี ระบบผลักดันแรงขับที่เครื่องยนต์หมายเลข 1 ก็ทำงานขึ้นมากะทันหัน ทำให้เครื่องบินสูญเสียแรงยกจนฉีกแยกออกจากกันเป็นส่วนๆ กลางอากาศที่ความสูง 1,200 เมตร และตกที่บริเวณอุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี ผลคือผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 223 คน รวมไปถึงกัปตันและนักบินผู้ช่วยเสียชีวิตทั้งหมดในทันที ทำให้อุบัติเหตุครั้งนี้ ถือว่าเป็นหายนะทางการเดินทางทางอากาศที่รุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย…
-
หนุ่มนอนไม่หลับ ก็เลยมาโพสต์ “ให้คะแนนจิ้งจอก” บรรยายอย่างกับนางงาม มีคนติดตามเพียบ!!
สำหรับใครที่นอนไม่หลับหรือเป็นโรคนอนหลับยาก หนึ่งในวิธีที่คุณสามารถทำได้ง่ายโดยไม่ต้องพึ่งยานอนหลับเลยนั่นก็คือการนอนนับแกะนั่นเอง แต่สำหรับหนุ่มนักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา การนับแกะอาจจะดูง่ายเกินไปสำหรับเขา ชายหนุ่มจึงได้โพสต์ภาพของเหล่าสุนัขจิ้งจอกหลากหลายสายพันธุ์พร้อมกับให้คะแนนพวกมันอีกด้วย เรียกได้ว่าเอาใจคนนอนดึกจริงๆ และนี่ก็คือผลการให้คะแนนของหนุ่มผู้นี้!! Colin J. Carlson ได้แนะวิธีการแก้โรคนอนไม่หลับโดยการโพสต์ภาพเหล่าสุนัขจิ้งจอกพร้อมกับให้คะแนนพวกมันแต่ละสายพันธุ์ ชายหนุ่มได้ออกตัวก่อนว่าเขาเองนั้นไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุนัขจิ้งจอกนะ และถ้าหากใครมีความเห็นที่แตกต่างละก็สามารถแย้งมาได้เลย เริ่มกันที่สายพันธุ์แรกเจ้าสุนัขจิ้งจอก Red Fox สุนัขจิ้งจอกสุดคลาสสิกแต่มันดูไม่ค่อยแปลกเท่าไหร่ งั้นเอาไปแค่เกรด B ก็แล้วกัน ต่อมาเป็นเจ้าสุนัขจิ้งจอกสายพันธุ์ Tibetan sand fox ด้วยดวงตาที่มีเสน่ห์ และหน้าตาที่ไม่เหมือนใคร เอาเกรด A ไปก็แล้วกันนะ Rüppell’s Fox เจ้าจิ้งจอกที่มาพร้อมกับสีหน้าที่ไม่ค่อยเป็นมิตร และอาศัยอยู่ในหุบเขาลึก เอาเกรด A- ไปเลย!! เจ้า Corsac Fox จิ้งจองสุดเพอร์เฟกต์ ดูน่ากลัว ไม่น่าเลี้ยงได้ สายตาก็โคตรเยือกเย็น ผมให้เกรด A+ ไปเลยละกัน Blanford’s Fox ที่มาพร้อมกับหูทรงแปลกของมัน…
-
คนดังร่วมขอความเป็นธรรมให้เด็กสาวที่ถูกจำคุกตลอดชีวิต เพราะฆ่าคนล่วงละเมิดทางเพศเธอ
ปกติแล้วเราจะไม่ค่อยเห็นเซเลบหรือคนดังเข้าไปยุ่งเร่ื่องของคนอื่นสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะคดีความต่างๆ เพราะอาจทำให้พลอยเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ แต่ดูเหมือนคดีนี้คนดังจะทนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งถูกศาลของสหรัฐอเมริกาตัดสินจำคุกตลอดชีวิต เพราะเธอก่อเหตุฆาตกรรมคนที่่ล่วงละเมิดทางเพศเธอ Cyntoia Brown หญิงสาววัย 29 ปี ถูกหลอกไปค้าประเวณีโดยชายที่ชื่อว่า Kutthroat ทั้งทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนจะขายเธอให้กับนายหน้า Johnny Allen วัย 43 ปี Brown เล่าในระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อปี 2004 ว่า Allen มีแผนที่จะฆ่าเธอ แต่เธอพยายามแย่งปืนมาจากเขาได้สำเร็จ และตัดสินใจยิงเขาจนเสียชีวิตในทันที อย่างไรก็ตาม เมื่อคดีนี้ได้รับการพิจารณาในชั่นศาล Brown กลับถูกศาลตัดสินให้เธอจำคุกตลอดชีวิต และเธอจะไม่มีสิทธิ์ยื่นขอรับทัณฑ์บนเป็นเวลาอย่างน้อย 51 ปี จากการตัดสินดังกล่าวนี้ ทำให้คดีของ Brown ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมและได้เรียกร้องให้ปล่อยตัวเธอ พร้อมตั้งแฮชแท็ก #FreeCyntoiaBrown จนถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ประชาชนทั่วไปเท่านั้น แต่เซเลบและคนดังจำนวนมากก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีนี้ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ Brown อย่าง Kim Kardashian West ก็ได้โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า “ระบบความยุติธรรมล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง มันเป็นอะไรที่แย่มากเมื่อเห็นหญิงสาวคนหนึ่งต้องตกเป็นเหยื่อกระบวนการค้าประเวณี แต่เมื่อเธอมีความกล้าที่จะต่อสู้กับมันกลับถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต!” “เราต้องทำสิ่งที่ดีกว่านี้และทำให้ถูกต้อง ฉันได้โทรหาทีมกฎหมายของฉันไปแล้วเมื่อวานนี้ เพื่อปรึกษาว่าพวกเราพอจะทำอะไรได้บ้างกับเรื่องนี้”…
-
17 ภาพยนตร์ค่าย Marvel เรียงตามไทม์ไลน์ที่ควรรู้ไว้ เวลากลับไปไล่ดูจะได้ไม่งง!!
ปัจจุบันหนัง Marvel นั้นได้แพร่ขยายและมีอิทธิพลกับวงการหนังกันสุดๆ เพราะจากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันจักรวาล MCU (Marvel Cinematic Universe) นั้นมีหนังอยู่จักรวาลนี้ที่ฉายไปแล้วนับสิบเรื่อง และอย่างที่รู้กันว่าจักรวาลหนังเรื่องนี้มันช่างยาววววซะเหลือเกินจะให้ไล่ดูก็จำไม่ได้ว่าเรื่องไหนมาก่อนมาหลังจะดูเฉพาะเรื่องนั้นได้ไหม หรือจะดูข้ามๆ ได้หรือเปล่า คำตอบคือแนะนำให้ดูไล่กันเพื่อความอินที่เพิ่มขึ้นหรือตามเก็บรายละเอียดต่างๆ แม้บางเรื่องมันจะดูไม่ค่อยสนุกก็ตาม คำถามต่อมาคือแล้วเราจะดูไล่จากเรื่องไหนยังไงดีล่ะ? เพราะ 17 เรื่องที่เกริ่นมายังไม่นับรวมตัวซีรีส์ที่มีการเข้ามาแทรกอยู่ในเหตุการณ์ต่างๆ อีก แต่เอาเป็นว่าเราลองมาไล่เป็นเฟสกันดูก่อนก็แล้วกัน เฟสแรกนั้นประกอบด้วยหนัง 6 เรื่องด้วยกัน หนังเฟสแรกจะเป็นหนังภาคแรกของตัวละครหลักๆ ในกลุ่ม โดยทุกคนจะค่อยๆ เจอกับเรื่องราวของตัวเองจนกระทั่งวนมาเจอกันใน The Avengers Iron Man เรื่องราวของชายอัจริยะ Tony Stark ที่ถูกกลุ่มก่อการร้ายจับตัวไปทรมาน จนสุดท้ายเขาต้องหนีออกมาด้วยชุดเกราะไฮเทครุ่นแรกที่สร้างจากเศษเหล็ก จนภายหลังได้อัพเกรดและผันตัวเองเป็นมนุษย์เตารีดในที่สุด The Incredible Hulk จุดเริ่มต้นของบุรุษสีเขียวที่มาพร้อมกับความเกรี้ยวกราด ในเรื่องนี้จะทำให้เราได้รู้เรื่องราวของเขาพร้อมส่งต่อไปยังเรื่องต่อๆ ไป (เสียดายที่หลังจากภาคนี้ได้เปลี่ยนตัวนักแสดงไป) Iron Man 2 การกลับมาอีกครั้งของมนุษย์เตารีด มาคราวนี้พกความมันส์คูณสองแถมพาเพื่อนมาด้วย!! Thor…
-
หนุ่มไม่รักชีวิต ทำป้ายนำทางสุดโรแมนติกเซอร์ไพรส์แฟนสาว แต่.. เอ็งอาจจะไม่รอดตายนะ!?
การเซอร์ไพรส์อะไรดีๆ นั้นย่อมสร้างความประทับใจให้กับผู้ได้รับ โดยเฉพาะการที่แฟนหนุ่มทำบางสิ่งที่พิเศษให้กับแฟนสาวไม่ว่าจะด้วยโอกาสอะไรก็ตาม จะครบรอบวันเกิด วันแต่งงาน หรือขอหมั้นก็ตาม แต่สำหรับพ่อหนุ่มคนนี้กลับไม่ใช่แบบนั้น เพราะเขากลับเลือกที่จะพาตัวเองไปถึงจุดจบซะอย่างนั้น เพราะเขาได้จัดการทำป้ายเซอร์ไพรส์แฟนสาวที่เพิ่งจะมาถึงบ้าน โดยป้ายนั้นได้ชี้นำทางให้แฟนสาวเพื่อให้เธอตามไป… ‘เฮ้ ที่รัก’…เอาล่ะ เซอร์ไพรส์มาแน่!! ด้านแฟนสาวที่เพิ่งจะมาถึงพอได้เห็นป้ายบอกทาง เป็นใครก็ต้องคิดเข้าข้างตัวเอง “นี่เขาจะขอเราแต่งงานหรือมีเซอร์ไพรส์โรแมนติกๆ หรือเปล่านะ” พอความคิดสุดบรรเจิดเกิดขึ้นแฟนสาวก็ไม่รอช้ารีบหากล้องอะไรก็ได้ที่พอจะเก็บบันทึกภาพขึ้นมาทันที กะว่าคืนนี้ต้องได้ยอดวิวหลักล้านบนเฟซบุ๊กอย่างแน่นอน เขียนขนาดนี้ไม่ต้องเดาแล้วว่ามีไหม แต่จะเซอร์ไพรส์อะไรกันนะ ได้เวลาเดินเข้าไปสำรวจแล้ว แน่นอนว่าเธอระวังตัวเป็นอย่างมาก เพราะระหว่างเดินตามป้ายอาจจะต้องเจอกับการเซอร์ไพรส์แบบชุดใหญ่ไฟกระพริบก็เป็นได้ เธอถ่ายภาพพร้อมเดินอย่างระวัง เดินเข้ามาในบ้านแล้วก็ยังไม่ถึง ชักสงสัยแล้วสิ “ผมเชื่อว่าคุณต้องลืมเรื่องนี้ไปแล้วแน่ๆ” ลืม!? ลืมอะไรกันนะ จังหวะนี้เธอก็เริ่มหยุดคิดแล้วว่าอะไรที่เธอลืม มันเป็นเรื่องดีๆ หรือเปล่า เป็นใครก็คงคิดไม่ตก วันเกิดเหรอ วันครบรอบ วันพิเศษ? เดินไปต่ออีกหน่อยก็เจอให้เข้ามาใกล้ๆ สงสัยจะถึงแล้วล่ะ ตื่นเต้นจัง สุดท้ายการเซอร์ไพรส์ทั้งหมดคือ แฟนสาวลืมทิ้งขยะ … แดรกจุดกันเลยทีเดียว งานนี้ตอนจบจะเป็นยังไงก็ไม่รู้นะ…
-
แม่แมวจรจัดให้กำเนิดลูกน้อยสายพันธุ์สุดแรร์ รวมร่างสองชนิด ‘แมวหมาป่า – ไลคอย’
ตามปกติของธรรมชาติ ลูกหลานที่เกิดมาก็จะมีลักษณะตามพันธุ์ของพ่อกับแม่ โอกาสน้อยครั้งมากที่จะเกิดการผ่าเหล่าแบบชัดเจนขนาดนี้ อีกทั้งยังเป็นพันธุ์ที่หายากมากที่สุดในสายพันธุ์แมวซะด้วย เรื่องราวของเจ้าเหมียว Eyona ที่ได้รับการช่วยเหลือโดยอาสาสมัครจากองค์กร TEARS Animal Rescue ในประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งในระหว่างที่ทำการช่วยเหลือแม่แมวและลูกแมวน้อยทั้งหกตัวที่หลบซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ของสวนสาธารณะ Cape Town ก็พบว่ามีหนึ่งตัวที่แตกต่างไปจากตัวอื่น ทั้งแม้และลูกครอกเดียวกันอีก 5 ตัวมีลักษณะเหมือนกับแมวปกติทั่วไป แต่เจ้า Eyona กลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง มีขนสีเข้มเป็นหย่อมๆ ตัดกับขนสีเทา ผิวหนังคล้ายกับแมวพันธุ์สฟิงซ์ หน้าตาดุราวกับไม่ใช่แมว หากมองโดยผิวเผินแล้ว ก็จะทำให้คิดไปว่า Eyona ก็คือแมวพันธุ์สฟิงซ์ แต่ในความเป็นจริงก็คือมันไม่ใช่พันธุ์สฟิงซ์แต่เป็นการกลายพันธุ์สุดแรร์ จนกลายมาเป็นสายพันธุ์แมวผสมที่ชื่อว่า ไลคอย หรือ แมวหมาป่า นั่นเอง!! ลักษณะภายนอกของเจ้า Eyona นั้นโดดเด่นมากและยิ่งชัดเจนเมื่อขนของมันเริ่มหนาขึ้น และมีนิสัยคล้ายๆ กับสุนัขแบบไม่มีผิด ขี้เล่นเหมือนกับสุนัข ชอบใช้สายตาในการดึงดูดความสนใจ รวมไปถึงการลากผ้าห่มไปไหนมาไหนด้วย ไม่มีลักษณะเหมือนแมวทั่วไป หรือไม่รู้สึกถึงความเป็นแมวด้วยซ้ำ …
-
เข้าครัวลองทำ “ไข่ต้มมิกกี้เมาส์” ทั้งน่ากิน ทั้งน่ารัก จะรอดไหมมาดูกัน!!??
เมื่อคุณได้มีโอกาสเข้าไปดินแดนในฝันอย่างดิสนีย์แลนด์ของญี่ปุ่น เพื่อนๆ ก็คงจะเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นล้วนแล้วแต่ได้รับการตกแต่งเป็นธีมของการ์ตูนดิสนีย์ทั้งหมด แม้แต่อาหารสุดฮิตอย่างข้าวแกงกระหรี่ ยังขอเพิ่มความดิสนีย์ลงไปด้วย “ไข่มิกกี้เมาส์” สุดแสนจะน่ารัก ที่เห็นแล้วอยากจะลองเข้าครัวทำดูบ้าง.. ไข่ต้มสุดพิเศษนี้ คุณสามารถไปลิ้มลองกันได้ที่ Tokyo Disneyland’s Plaza Restaurant ของญี่ปุ่น ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่มีชื่อว่า @yanagaikota จึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าไข่มิกกี้เมาส์นี้ เขามีกรรมวิธีการทำอย่างไรกันนะ??? แม้ว่าดิสนีย์แลนด์จะมีกรรมวิธีลับๆ การทำไข่มิกกี้เมาส์ที่ทำจากเครื่องมือพิเศษ แต่เราก็ไม่ย่อท้อที่สรรหาวิธีอื่นๆ จากในอินเตอร์เน็ตมาทดลองทำกันดู ว่าแต่ผลลัพท์จะเป็นยังไงก็ต้องรอดูกันนะ ก่อนอื่นก็ต้องมาเตรียมอุปกรณ์กัน โดยเราจะมีไข่ไก่ ตะเกียบ และหม้อต้ม 1. เมื่ออุปกรณ์ครบแล้ว เราก็มาวาดเส้นกึ่งกลางให้ไข่ก่อนแบบนี้… 2. จากนั้นก็เจาะเปลือกไข่ตรงฝั่งกึ่งกลางของไข่ ต้องระวังให้ดีอย่างให้เปลือกไข่ร้าวจนเกินไป เพราะเราต้องใช้เป็นแม่พิมพ์ 3. ขั้นตอนต่อไปคือการแยกไข่แดงและไข่ขาวออกจากกัน 4. นำเปลือกไข่มาวางในถ้วยเล็กๆ โดยใช้ทิชชู่มารองไว้เพื่อไม่ได้เปลือกไข่เคลื่อนที่ จากนั้นเทไข่ขาวลงไปในเปลือกไข่ 5. จากนั้นก็นำไปนึ่งประมาณ 5 นาที ก็จะได้แบบนี้ 5.…
-
นักดาราศาสตร์พบ ‘วัตถุรูปร่างยาว’ เดินทางผ่านช่องว่างระหว่างดาว เข้าสู่ระบบสุริยะของเรา
กลายเป็นข่าวที่ช็อกวงการดาราศาสตร์กันไปทั่ว เมื่อมีการค้นพบวัตถุประหลาดที่ไม่เคยพบเจอในระบบสุริยะของเรามาก่อน แถมยังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่สูงถึง 157,715 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!? เจ้าวัตถุแปลกประหลาดนี้ถูกค้นพบเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ระหว่างที่มันกำลังเคลื่อนที่ผ่านดวงอาทิตย์ ซึ่งต่อมาในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2017 ก็ได้มีการยืนยันว่าวัตถุดังกล่าวนั้น ไม่ใช่วัตถุที่อยู่ในระบบสุริยะของเราแต่ว่ามาจากระบบอื่น เนื่องจากวงโคจรที่ไม่เหมือนกับวัตถุในระบบสุริยะนั่นเอง ภาพจำลองการเดินทางของวัตถุลึกลับดังกล่าว ซึ่งเราจะเห็นว่าความเร็วของมันไม่ใช่เล่นๆ เลยล่ะ โดยการอัพเดตล่าสุดได้ฟันธงถึงลักษณะของมันว่า มันเป็นวัตถุทรงยาวที่ไม่เหมือนกับยานยูเอฟโอหรือวัตถุอื่นๆ ที่เราพบในอวกาศ ซึ่งวัตถุชนิดนี้นั้นมีความยาวอยู่ที่ 200 เมตร และมีความกว้าง 30 เมตร ภาพจำลองของวัตถุดังกล่าวโดย NASA ในส่วนของชื่อเรียกนั้นตอนแรกนักดาราศาสตร์เรียกมันว่า A/2017 U1 แต่หลังจากการยืนยันก็ได้มีการตั้งชื่อให้มันใหม่อย่างเป็นทางการว่า 1I Oumuamua 1I มาจากคำว่า 1st Interstellar Object หรือวัตถุจากช่องว่างระหว่างดวงดาวลำดับที่ 1 เพราะนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า วัตถุชิ้นนี้เป็นวัตถุจากช่องว่างระหว่างดวงดาว (Interstellar space) ชิ้นแรกที่มีการค้นพบ ส่วน Oumuamua เป็นภาษาฮาวายซึ่งแปลได้ว่า “ปฐมบทแห่งผู้ส่งสารจากแดนไกล” และสาเหตุที่ต้องใช้เป็นภาษาฮาวายนั่นก็เพราะมันถูกค้นพบโดยกล้องดูดาว Pan-STARRS ที่ตั้งอยู่บนหมู่เกาะฮาวายนั่นเอง ส่วนหลังจากนี้ ทางนักวิทยาศาสตร์คาดว่าหลังจากที่วัตถุดังกล่าวถูกแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ปรับวงโคจรแล้ว มันก็จะออกเดินทางไปยังกลุ่มดาว Pegasus…
-
4 เหตุผลยืนยันว่า ภาษาจีนนั้นสำคัญ ถึงขั้นเศรษฐีและราชวงศ์อังกฤษ สอนเด็กๆ ให้เรียนแล้ว!!
ความรู้ในภาษาที่สองเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับการประกอบอาชีพในยุคนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าภาษาอังกฤษอย่างเดียวจะไม่เพียงพอเสียเเล้ว ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน ในด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยชาวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนมากที่สุดและมีกำลังซื้อมากที่สุดเห็นจะเป็นประเทศจีน และเป็นประเทศที่คนส่วนใหญ่มักไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ในปัจจุบันต่างประเทศเริ่มตื่นตัวและส่งเสริมลูกหลานให้เรียนภาษาจีนกลาง ซึ่งตอนนี้กลายเป็นภาษาที่นิยมใช้เป็นอันดับหนึ่งของโลก ไม่เว้นแม้แต่ตระกูลเศรษฐีหรือราชวงศ์ที่ผลักดันให้ลูกหลานของพวกเขาเรียนภาษาจีนกลางตั้งแต่เล็กๆ 1. Jeff และ MacKenzie Bezos Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon และ MacKenzie ภรรยาของเขา ซึ่งมีลูกทั้งหมด 4 คน ทดลองหลักสูตรหลายวิชาเพื่อการศึกษาของลูกๆ ของพวกเขา Mackenzie กล่าวกับนิตยสาร Vogue ว่า “เราพยายามทำหลายสิ่งหลายอย่าง รวมไปถึงการท่องเที่ยวนอกฤดูการ การทดลองวิทยาศาสตร์ในห้องครัว การฟักไข่ เรียนภาษาจีน เรียนคณิตศาสตร์หลักสูตรของสิงคโปร์ รวมทั้งสโมสรและการกีฬาต่างๆ กับเด็กในละแวกอื่น ๆ” 2. Mark Zuckerberg และ Priscilla Chan Mark Zuckerberg ผู้บริหารสูงสุดของเฟซบุ๊กและภรรยาของเขา Priscilla Chan ที่เป็นลูกสาวของผู้ลี้ภัยชาวจีน ซึ่งแน่นอนว่าเธอพูดภาษาจีนกวางตุ้งได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งคู่แนะนำภาษาจีนกลางกับ…
-
สื่อญี่ปุ่นงง คนกทม. อยู่ได้ไง แม้จะมีปัญหาน้ำท่วม แต่ยังใช้ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..
เมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วม สร้างความลำบากให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก จนแทบไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้เพราะแค่ลำพังหนีน้ำก็ลำบากพอแล้ว อย่างไรก็ตามหากพื้นที่ไหนมีน้ำท่วมบ่อยๆ อาจจะกลายเป็นความเคยชินและใช้ชีวิตท่ามกลางน้ำท่วมได้อย่างปกติ เหมือนกับกรุงเทพฯ ในบ้านเรา ที่ต้องเจอกับภาวะน้ำท่วมขังทุกครั้งที่มีฝนตกหนัก จึงทำให้พวกเขาเกิดความเคยชินและใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรื่องนี้สร้างความประหลาดให้กับชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ถึงกับงงว่าคนกรุงเทพฯ ใช้ชีวิตอยู่กับน้ำท่วมได้อย่างไร? เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ ANNnewsCH ของญี่ปุ่นรายงานว่า “เมื่อมีฝนตกหนักในกรุงเทพฯ หลายพื้นที่จะมีน้ำท่วมขัง เช่น ย่านพร้อมพงษ์ที่มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่มาก การระบายน้ำที่ท่วมขังต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง แต่ชาวกรุงเทพฯ ยังใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” สื่อญี่ปุ่นยังบอกอีกว่าเมื่อเกิดน้ำท่วม ชาวกรุงเทพฯ จะใส่กางเกงขาสั้นรองเท้าแตะเพื่อลุยน้ำไปทำงาน มีบางคนขี่จักรยาน หรือใช้มอเตอร์ไซต์รับจ้างฝ่าสายน้ำไป แม้แต่ร้านอาหารข้างถนนก็ยังคงเปิดขายได้ตามปกติ ส่วนสาเหตุของน้ำท่วมขังนั้น ทางสื่อญี่ปุ่นรายงานว่าเกิดจากสำนักงานเขตต่างๆ บวกกับการที่กรุงเทพฯ มีระบบการระบายน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพมากพอ อีกหนึ่งสาเหตุหลักคือขยะจำนวนมหาศาลขัดขวางระบบระบายน้ำก็ ทั้งขวดพลาสติก ถุงพลาสติก กิ่งไม้ เสื้อผ้า แม้แต่ฟูกและที่นอนขนาดใหญ่ที่ถูกกวาดไปกับน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นชาวกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่รู้ดีว่าขยะเป็นตัวการที่ทำให้เกิดน้ำท่วม แต่ดูเหมือนไม่มีใครตระหนัก และไม่มีมาตรการรับมือที่มีประสิทธิภาพ และทั้งหมดนี้คือข่าวที่สื่อญี่ปุ่นได้รายงานไป… ทางด้านเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพฯ ระบุว่า มีขยะที่ขัดขวางการระบายน้ำมากถึง 10-15 ตันต่อวัน…
-
ชายจีนใช้เวลากว่า 36 ปีขุดลอกคูคลองข้ามภูเขา 3 ลูก เพื่อให้น้ำไหลไปถึงหมู่บ้านของเขา
น้ำนับเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งมนุษย์ ดังนั้นในการตั้งถิ่นฐานหรือตั้งเมืองต่างๆ มักจะหาทำเลที่ใกล้กับแหล่งน้ำ เพราะหากต้องใช้ชีวิตที่ห่างไกลจากแหล่งน้ำ คุณก็จะพบกับความลำบากที่ไม่จบไม่สิ้น เหมือนกับหมู่บ้าน Caowangba ที่มีปัญหาเรื่องการลำเลียงน้ำเข้าหมู่บ้าน หมู่บ้าน Caowangba เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่กลางหุบเขาในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกล มีการเดินทางที่ยากลำบากจนทำให้ความเจริญเข้าไม่ถึง แม้จะมีความลำบากแต่พวกเขาก็ไม่ได้ย้ายออกไปไหน จนในที่สุด Huang Dafa ผู้นำหมู่บ้านตัดสินใจที่จะขุดคลองเพื่อเป็นเส้นทางในการลำเลียงน้ำเข้าสู่หมู่บ้าน ในขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่คิดว่าเขากำลังจะทำในสิ่งที่เป็นไม่ได้ แต่ Dafa ก็ยืนยันที่จะทำให้ได้ เพราะเขาคิดว่า ภูเขามันไม่ได้ใหญ่ไปกว่านี้แล้ว ถ้าขุดทุกวัน สักวันหนึ่งเขาต้องทำสำเร็จแน่ๆ เขาไม่ได้มีอุปกรณ์พิเศษหรือตัวช่วยใดๆ มีเพียงความมุ่งมั่นและพละกำลังของเขาเท่านั้น และจะทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด แม้คนอื่นจะมองว่าเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ ก็ตาม Dafa เริ่มต้นขุดเมื่อปี 1959 และต้องใช้เวลากว่า 36 ปี ถึงจะสำเร็จ จนทำให้ทุกวันนี้หมู่บ้านของมีความเจริญมากขึ้นเนื่องจากมีน้ำไหลเข้าสู่หมู่บ้านแล้ว แต่รู้มั้ยว่าก่อนที่จะมีน้ำใช้ทุกวันนี้ หมู่บ้าน Caowangba มีความแห้งแล้งมากรวมทั้งพื้นที่รอบๆ ด้วย ทำให้ชาวบ้านขาดแคลนน้ำดื่มอย่างหนัก พวกเขามีบ่อน้ำแค่บ่อเดียวเท่านั้น ส่วนบ่ออื่นๆ ก็แห้งไปหมดแล้ว ชาวบ้านต้องแบ่งกันใช้น้ำให้ทั่วถึง เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้ก็จะมีคนเอาเปรียบแล้วทำให้คนอื่นไม่มีน้ำกิน แล้วมันไม่ใช่แค่น้ำกินนะ แต่มันหมายถึงน้ำที่จะเอาไปใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ…
-
John Mayer ร่วมแสดงความยินดีกับคู่รักชาวไทย พร้อมแฮชแท็ก #TellJohnWeGotMarried
งานแต่งงานนั้นอาจจะเป็นวันที่พิเศษสุดวันหนึ่งสำหรับคู่รัก และคงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียวถ้าหากว่าศิลปินระดับโลกที่คุณชื่นชอบนั้นมาแสดงความยินดีกับงานแต่งของคุณด้วย!! คู่รักชาวไทยอย่างคุณเสาวลักษณ์วัย 36 ปี และสามีคุณสรรเสริญวัย 35 ปี หนึ่งในแฟนเพลงตัวยงของนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังอย่าง John Mayer เองก็ได้รับของขวัญสุดพิเศษจากศิลปินคนโปรดของพวกเขาด้วย หลังจากที่เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นักร้องชาวอเมริกันชื่อดังนั้นได้ทวีตข้อความแสดงความยินดีกับงานแต่งงานของทั้งสอง “แขกผู้ร่วมงานทุกคนรู้ว่า John Mayer นั้นเป็นคนพิเศษสำหรับพวกเรา เราชื่นชอบเขาและอยากให้เขามาร่วมแสดงความยินดีกับเรา แต่เรารู้ว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเราจึงเลือกที่จะจัดงานแต่งที่ให้ความรู้สึกว่าเขามาร่วมงานของเราจริงๆ ” ฝ่ายเจ้าสาวให้สัมภาษณ์กับ BBC ภาพของงานแต่งงานถูกอัพเดทลงในทวิตเตอร์พร้อมกับแฮชแท็ก #TellJohnWeGotMarried และแล้วข้อความดังกล่าวก็ไปถึงนักร้องในดวงใจของพวกเขา John Mayer รีทวีตข้อความของคุณธัญญารัตน์ เพื่อนเจ้าสาวพร้อมกับข้อความ “ยินดีด้วยนะ ผมเองก็อยากมีธีมงานแต่งแบบ John Mayer เหมือนกัน” “ฉันคิดว่าคงไม่มีอะไรจะเป็นของขวัญที่ยิงใหญ่กว่าคำอวยพรของ John แล้ว ขอบคุณ John ที่ทำให้ความฝันของพวกเขาเป็นจริง” คุณธัญญารัตน์เพื่อนเจ้าสาวกล่าว ทางด้านเจ้าบ่าวคุณสรรเสริญนักกีต้าร์แฟนเพลงของ John Mayer ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า “ในธีมงานแต่งของเรามีทั้งหน้ากากของ John เราใช้เพลงของเขาในงานของเรา และมีรูปของเขาติดอยู่ตรงโต๊ะแสดงความยินดี”…
-
16 เครือข่ายธุรกิจของ Wayne Enterprises ที่ยืนยันพลัง ‘รวย’ ของ Batman ว่าไม่ได้มาเล่นๆ
เมื่อพูดถึงซุปเปอร์ฮีโร่ ส่วนใหญ่เราก็จะนึกถึงพลังพิเศษต่างๆ อย่างบินได้ พละกำลังเหนือมนุษย์ ตาเลเซอร์หรือเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว แต่เมื่อพูดถึง ‘Batman‘ เขากลับไม่ได้มีพลังอะไรแบบนั้นแต่พลังของเขากลับยิ่งใหญ่กว่าใครๆ ที่มันยิ่งใหญ่ก็เพราะ ‘ตรู รวย’ อย่างไรก็ตาม แม้เราจะรู้ว่า Bruce Wayne หรือ Batman ของเรานั้นจะรวยมากๆ แต่หลายคนก็อาจจะสงสัยว่ารวยแบบนี้เอาเงินที่ไหนมาถลุง สู้กันทีบ้านพังเละเทะเสียหายหลายล้านบาท เขาทำงานอะไรกัน? คำตอบคือตา Bruce Wayne เนี่ยเป็นเจ้าของบริษัทที่ชื่อว่า Wayne Enterprises หรือ WayneCorp นั้นเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีบริษัทลูกจำนวนมากอยู่ในเครือ โดยบริษัทลูกนั้นมีมากถึง 31 บริษัท โดยครอบคลุมทั้งในเมือง Gotham และในสเกลระดับโลก!! แต่บริษัทที่ตัวเขาได้ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่า เป็นบริษัทใต้ร่มเงาจริงๆ นั้นมีอยู่ด้วยกัน 16 บริษัทด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วย… 1. Batman, Incorporated บริษัทสำหรับต่อสู่อาชญากรรมในโลกเบื้องหน้าของ Bruce Wayne 2. Wayne Security บริษัทที่ทำเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัย 3. Wayne…
-
ตั๊กแตนตัวผู้ สุดยอดเสียสละ แม้ถูกตัดหัวจากตัวเมียก็ต้องทำภารกิจให้สำเร็จ
เรื่องราวน่าทึ่งของสิ่งมีชีวิตยังมีอีกหลายสิ่งที่หลายๆ คนอาจไม่เคยรู้มาก่อน อย่างเช่นเรื่องที่ ตั๊กแตน เป็นแมลงที่กินพวกเดียวกันเป็นอาหารราวกับชนเผ่ามนุษย์กินคน และที่เจ๋งยิ่งกว่านั้นก็คือแม้ตัวเมียจะกินหัวของตัวผู้ไปแล้วในตอนที่กำลังมีอะไรกันอยู่ เจ้าตัวผู้ก็ยังคงสามารถร่วมรักต่อไปได้จนเสร็จ!! สิ่งนี้สามารถพบเจอได้ในหุบเขา Owen รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยในฤดูร้อนจะเป็นช่วงผสมพันธุ์ของเหล่าตั๊กแตน ทางช่อง Deep Look ในยูทูบจึงได้ไปตามเก็บภาพการผสมพันธุ์ของพวกมันและความสุดยอดของตัวผู้ตัวหนึ่ง ถึงจะไม่มีหัว แต่ปั๋วก็จะทำให้สำเร็จ คลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2017 นี้ เผยให้เห็นภาพของตั๊กแตนตัวเมียที่หลอกล่อให้เหล่าตัวผู้เข้ามาผสมพันธุ์กับมัน ก่อนที่จะกินตัวผู้เหล่านั้นเป็นอาหาร ด้วยเหตุผลที่ว่าตัวเมียต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมากในการผลิตไข่กว่าร้อยฟองในท้อง ในคลิปเห็นได้ว่าตัวผู้จำนวนมากถูกกินไปเพื่อเป็นพลังงานให้กับตัวเมีย จนกระทั่งในนาทีที่ 3.00 ก็มีตัวผู้ตัวหนึ่งสามารถเข้ามาผสมพันธุ์ได้สำเร็จโดยไม่ถูกกิน แต่ผ่านไปไม่นานมันก็ถูกกินหัวขณะที่กำลังร่วมรักอยู่ แต่เรื่องที่น่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้นเพราะถึงแม้ว่าหัวของมันขาดไปแล้ว แต่มันก็ยังคงฉีดอสุจิเข้าไปในร่างกายของตัวเมียอย่างไม่ยอมแพ้และร่างกายก็ยังขยับได้อยู่อีกด้วย คลิปการผสมพันธุ์ของเจ้าตั๊กแตน เหตุผลที่ตัวผู้ตัวนั้นยังคงขยับได้อยู่ก็เพราะว่าตั๊กแตนมีระบบประสาทอยู่บริเวณท้องเอาไว้ควบคุมการเคลื่อนไหว จึงทำให้ส่วนหัวไม่ได้จำเป็นสำหรับเรื่องนี้ จากสิ่งนี้อาจทำให้หลายๆ คนมองว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตอันป่าเถื่อน แต่ถึงอย่างไรมันก็มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ไม่เชื่อก็ลองไปดูกันเลย บิ๊กไบค์หรือจะมาสู้แมงกะไซค์ตั๊กแตน วอนพระผู้เป็นเจ้าช่วยให้ข้าสมหวังเหมือนไอ้เจ้าหัวขาดด้วยเถิด ตั๊กแตน Giant Devil’s Flower หนึ่งในสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุด …
-
ตำรวจสเปนตามล่ากลุ่มนักปีนเขา ที่พากันรุมผลักหมูป่าจนตกหน้าผาเสียชีวิต
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 สำนักข่าวเดลีเมลล์ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอสุดป่าเถื่อนของนักปีนเขากลุ่มหนึ่ง ที่ได้ช่วยกันรุมผลักหมูป่าไปยังขอบหน้าผาอย่างโหดร้ายทารุณ จนสุดท้ายก็เป็นเหตุทำให้มันตกหน้าผาเสียชีวิต สำหรับคลิปวีดีโอดังกล่าวถูกถ่ายขึ้นโดยชายหนึ่งในกลุ่มนักปีนเขา ที่เส้นทางเดินป่า Cares Trail ในอุทยานแห่งชาติ Picos de Europa ประเทศสเปน ซึ่งภายในคลิปได้แสดงให้เห็นว่า พวกเขาได้เริ่มยุแหย่มันด้วยไม้ ก่อนที่จะพยายามผลักมันไปยังขอบหน้าผา ทางด้านเจ้าหมูป่าก็ได้พยายามต่อต้านสุดฤทธิ์ แต่สุดท้ายมันก็สู้แรงกลุ่มคนไม่ไหวก่อนที่จะร่วงตกลงไปกระแทกก้อนหินเสียชีวิตในที่สุด และภายหลังจากที่ได้ฆ่าหมู่ป่าสำเร็จ นักปีนเขากลุ่มนี้ต่างก็พากันชื่นชมในการกระทำสุดป่าเถื่อนของตัวเอง โดยไม่รู้สึกผิดเลยสักนิดเดียว จากการรายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหมูป่าตัวดังกล่าวได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว แต่กลับโชคร้ายเข้าไปอีกเมื่อได้พบกับมนุษย์ใจโหดที่กำลังเดินอยู่บนเขา และนั่นก็ทำให้เกิดเหตุการณ์สุดสลดขึ้น คุณสามารถรับชมคลิปวีดีโอได้จากด้านล่างนี้ ภายหลังจากที่ภาพและคลิปวีดีโอนี้ได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ซึ่งในตอนนี้มีผู้คนเข้ามารับชมมากกว่า 100,000 คนแล้ว นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ฉันคิดว่ามนุษย์ควรจะหายตัวไปเพื่อให้โลกได้กลายเป็นสถานที่ที่สงบสุข”, “ฉันจะเอาคนเหล่านี้ไปที่ขอบหน้าผาและทำให้พวกเขาตกลงไป และฉันจะเข้าไปตีหัวเขาเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก” ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาแสดงข้อความในทวิตเตอร์ว่า “คุณรู้จักคนที่ผลักหมู่ป่าตกเขาใน Picos de Europa หรือไม่?”…
-
20 ภาพความตั้งใจของพนักงานทั้งหลาย เชิญรับรางวัลพนักงานดีเด่นประจำปีไปเล๊ยยย!!
การทำงานด้วยความเต็มที่และตั้งใจเป็นสิ่งที่ดีและน่ายกย่อง แต่ในบางครั้งถ้าทุ่มเทให้กับงานมากจนเกินไปก็อาจเกิดความเบลอ หรือมึนงงจนกลายเป็นความมผิดพลาดที่ไม่น่าเกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับพวกเขาเหล่านี้ นี่คือภาพผลงานของคนที่หักโหมให้กับการทำงานมากจนเกินไป จนแสดงออกมาให้เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาพยายามกันมากขนาดไหน เห็นแล้วก็อยากมอบรางวัลพนักงานดีเด่นประจำปีให้เลยจริงๆ เราไปดูผลงานของพวกเขากันเลย สงสัยที่หนีบเล็กไปจนมองไม่เห็น เขาก็เลยเอาเทปกาวมาติดไว้ให้แทน รับรู้ได้ถึงความเอาใจใส่ กลัวเราไม่รู้ว่าขนมปังจะหมดอายุวันไหน นี่ก็คงเป็นฝีมือของพนักงานคนเดียวกันกับขนมปังเมื่อกี้สินะ วันหมดอายุของกระป๋องนี้ดูแปลกๆ ไม่รู้หมดวันไหน แต่รูปร่างคุ้นๆ ยังไงไม่รู้ ไม่ใช่สีเทียน 64 สี แต่เป็นสีส้ม 64 แท่ง จากที่นอนคิดมาสามวัน ผมว่ามันน่าจะสะกดเป็น Shift มากกว่านะ อันนี้ไม่น่าเรียกว่าเบลอ แต่อาจจะละเมอมาทำงานหรือเปล่า เป็นรั้วที่ทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกปลอดภัยมากกว่าเดิมเยอะเลย จุดประสงค์ชัดเจน “ร้านนี้ให้บริการกับสัตว์เท่านั้น” มนุษย์ไม่ต้องแหยมเข้ามานะ ทิ้งภาพเอาไว้ซะกลัวว่าจะมีเหล็กในหลงเหลืออยู่เลย ก็ถ้าเป็นเหรียญบาทบ้านเรา เหรียญนี้ก็มีค่า .50 ขนาดตรงปกยังผิด แล้วเราจะรอดมั้ยละเนี่ยยย สงสัยพนักงานคนนี้คงไม่เคยกิน M&M มาก่อน สงสัยพนักงานคนนี้อาจยังใช้ภาษาอังกฤษได้ไม่คล่องเท่าไหร่ …
-
นักวิทย์แนะนำ 12 ต้นไม้ที่ควรเอามาแต่งบ้าน เพราะมันช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้จริงๆ
การเก็บเกี่ยวไม่ได้เป็นจุดประสงค์เดียวจากการปลูกพืชหรอกนะ เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่าการปลูกต้นไม้ในบ้าน ก็ช่วยสร้างสิ่งมหัศจรรย์ต่อสุขภาพคุณได้เช่นกัน Marc Hachadourian ผู้อำนวยการ Nolen Greenhouses ที่สวนพฤกษศาสตร์นิวยอร์ก ได้เผยว่าพืชเหล่านี้สามารถให้ประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจคุณได้ “มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากที่กล่าวว่าการปลูกพืชในพื้นที่อยู่อาศัยนั้น สามารถช่วยลดความเครียดลงได้” “เห็นได้ชัดว่าการปลูกพืชและดูแลพืชในสวนนั้น สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้และยังช่วยเพิ่มออกซิเจนอีกด้วย” ตามรายงานของ NASA พืชบางชนิดยังรับหน้าที่ในการฟอกสารเคมีที่เป็นพิษ เช่นเบนซิน ฟอร์มาลดีไฮด์และแอมโมเนีย อีกด้วย และนี่คือ 12 ต้นไม้ที่คุณควรปลูกไว้ในบ้าน รับรองสุขภาพกายสุขภาพใจแข็งแรงอย่างแน่นอน 1. Golden Pothos (ไม้ตระกูลพลูด่าง) แม้ว่าต้น Golden Pothos จะไม่สามารถกำจัดสารฟอร์มาลีนได้ แต่มันก็สามารถฟอกเอาเบนซินและไทรคลอโรเมทิลออกจากอากาศได้ โดยเบนซินที่กล่าวมานั้นมาจากกาว สีเคมี และผงซักฟอก Golden Pothos เป็นพืชที่ตายยากจึงเหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำสวน มันทนในสภาวะที่มีแสงน้อยและไม่ต้องรดน้ำให้มันมากก็ได้ 2. Peace lilies (ดอกหน้าวัว) ต้นดอกหน้าวัวสามารถฟอกสารเบนซิน ฟอร์มาลดีไฮด์ และสารเคมีอื่นๆ ที่ออกมาจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้ภายในบ้านได้ และมันคือพืชในไม่กี่อย่างที่ดอกสามารถบานในที่ร่มได้ สถานที่ที่ดีต่อมันคือแสงแดดอ่อนๆ ที่ริมหน้าต่าง และรดน้ำให้มันเมื่อดินแห้ง ระวังอย่าให้น้ำมากเกินไปเพราะรากอาจจะเน่าได้ 3. Garden mums (ดอกเบญจมาศ) นอกจากที่ดอกไม้สีสันสดใสเหล่านี้จะช่วยทำให้บ้านของคุณดูมีสีสันขึ้นแล้ว…
-
เจ้าของใจสลายหลังพบแมวแสนรักที่หายไป อยู่ในสภาพถูกแขวนและเต็มไปด้วยเลือด
PussPuss เป็นชื่อของแมวน้อยสีขาวแสนน่ารักที่อาศัยอยู่กับครอบครัวใน Bicester, Oxfordshire ประเทศอังกฤษ ทว่าวันหนึ่งเจ้าเหมียวกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย งานนี้ทำเอาเจ้าของต้องออกตามหา ก่อนที่จะพบมันอีกครั้งในสภาพที่ถูกแขวนและเต็มไปด้วยเลือด วันที่ 19 พฤศจิกายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (17 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมา เจ้าเหมียว PussPuss ที่หายตัวไปถูกพบอยู่ในสวนของเพื่อนบ้าน ในสภาพที่ไร้ลมหายใจและถูกแขวนคอด้วยเชือกไว้ที่รั้ว จนทำให้มีเลือดไหลโชกลงมาที่ขาหลัง จากการรายงานระบุว่า ขณะนี้มูลนิธิป้องกันความรุนแรงในสัตว์ (RSPCA) กำลังเร่งสืบหาเบาะแสว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำที่โหดร้ายกับเจ้าเหมียวเช่นนี้ ทางด้าน Lisa Gamage ผู้เป็นเจ้าของแมวได้ออกมาเผยว่า เธอรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากที่มีคนจิตใจโหดเหี้ยมมาทำร้าย PussPuss และพรากมันไปจากลูกชายของเธอ “มันน่าเศร้ามากจริงๆ มันเป็นแมวที่สวยงาม แถมเป็นมิตรมาก มันไม่เคยออกไปไหนไกลๆ และไม่ชอบออกไปข้างนอกเวลาฝนตก ฉันก็ได้แต่หวังว่ามันจะถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็วและไม่ได้ถูกทรมาน” Lisa กล่าว อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมากล่าวว่า แมวขาวได้ถูกแขวนลงมาจากรั้วในสวน และเลือดของมันก็ไหลลงมาที่ขาหลังเต็มไปหมด “นี่น่าจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับผู้ที่โทรมาแจ้ง และรู้สึกเสียใจกับเจ้าของแมว เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่าตอนที่เจ้าเหมียวถูกแขวนมันยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ บางทีมันอาจจะแค่ถูกห้อยเอาไว้เฉยๆ…
-
การทดลอง ‘ผ่าตัดเปลี่ยนหัว’ กับศพ ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น เชื่อมต่อระบบร่างกายได้
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายน 2016 #เหมียวฟิ้น ได้นำเสนอข่าวของหนุ่มรัสเซีย Valery Spiridonov วัย 31 ปีผู้ป่วยเป็นโรคแปลกประหลาดและได้เป็นอาสาสมัครให้กับการทดลองผ่าตัดเปลี่ยนหัว ซึ่งตอนนี้การผ่าตัดดังกล่าวได้มีความคืบหน้ามากขึ้นหลังจากที่แพทย์สามารถเปลี่ยนถ่ายหัวของศพได้สำเร็จ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าวเดลี่เมล ได้รายงานว่าศาสตราจารย์ชาวอิตาลี Sergio Canavero และทีมแพทย์ชาวจีนที่นำโดยดอกเตอร์ Xioaping Ren สามารถเปลี่ยนถ่ายหัวของศพในประเทศจีนได้สำเร็จ โดยใช้ระยะเวลาการผ่าตัดนานถึง 18 ชั่วโมง ศาสตราจารย์ Sergio Canavero ผู้ผลักดันให้เกิดการผ่าตัดปลูกถ่ายศีรษะ Canavero บอกว่านี่คือการเปลี่ยนถ่ายหัวมนุษย์ครั้งแรกของโลก โดยกระดูกสันหลัง เส้นประสาท และเส้นเลือดต่างๆ ของร่างกายสามารถเชื่อมกับหัวที่ถูกปลูกถ่ายได้สำเร็จ เขาได้พูดกับสื่อว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งไปจากเดิม ธรรมชาติเคยกำหนดความเป็นตายของเรามาโดยตลอด แต่ในยุคนี้เราจะเป็นคนที่กำหนดโชคชะตาของเราด้วยตัวเอง” เขายังเสริมอีกว่า ตอนนี้เหลือเพียงแค่ขั้นตอนสุดท้ายในการปลูกถ่ายศีรษะและสมองของคนตายที่ได้รับการบริจาคมาให้เข้ากับร่างกายเท่านั้น ซึ่งหากว่าผลออกมาสำเร็จ ในไม่ช้านี้เขาการปลูกถ่ายศีรษะของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะมีให้เราเห็นอย่างแน่นอน ไม่ใช่เพียงแค่ Canavero สำหรับศัลยแพทย์ Ren ก็มีความเชื่อเดียวกัน ก่อนหน้านี้เขาและทีมแพทย์ได้เคยทดลองผ่าตัดปลูกถ่ายศีรษะของหนูทดลองไปกว่า 1,000 ตัว…
-
ทำความรู้จัก Doug Jones ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง ที่ไม่มีใครจำได้เพราะบทบาทที่เขาได้รับ
อาจจะดูแปลกไปสักนิดที่จะบอกว่า มีดาราฮอลลีวูดคนหนึ่งที่แสดงภาพยนตร์ชื่อดังมาแล้วกว่า 30 เรื่อง แต่เรากลับแทบไม่เคยเห็นหน้าจริงๆ ของเขาเลย เพราะว่าบทบาทที่เขาได้รับในแต่ละเรื่องนั้นต้องแต่งตัวเป็นตัวประหลาดแทบทุกเรื่อง Doug Jones นักแสดงสูงและผอมแห่งวงการฮอลลีวูดได้เล่นหนังมาแล้วกว่า 150 เรื่องตลอดระยะเวลา 30 ปีที่เข้าวงการ โดยเขาได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงหลายเรื่องอย่าง Batman Return, Hellboy และ Pan’s Labyrinth โดยบทบาทที่เขาได้รับในแทบจะทุกเรื่องที่ร่วมแสดงจะต้องสวมหน้ากาก หรือไม่ก็แต่งหน้าเป็นตัวละครตัวประหลาดที่ผู้กำกับอยากให้เป็นอย่างเช่นปิศาจร้าย สัตว์ต่างๆ และเอเลี่ยน ในปัจจุบัน Doug นักแสดงจอมอำพรางในวัย 57 ปีได้ยอมเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาให้คนทั้งโลกได้เห็นเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา “ผมได้รับการจ้างเพราะว่ารูปร่างของผมนั้นสูงผอมรวมทั้งความสามารถในการแสดงของผมด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่นักทำเอฟเฟกต์ตัวละครต่างๆ ชื่นชอบเพราะว่าเขาจะได้ทำชุดออกมาได้ง่ายๆ” Doug กล่าว วิธีการแต่งหน้าเป็นตัวละครต่างๆ ของเขา โดยผลงานก่อนหน้านี้ในเส้นทางอาชีพนักแสดงของเขา Doug ได้ร่วมเล่นในหนังเรื่อง Batman Return ซึ่งเขาเป็นลูกน้องคนหนึ่งของ The Penguin และได้เล่นเป็นซอมบี้ในเรื่อง Hocus Pocus ในปี 1993 จากนั้นเขาก็ได้แสดงเป็นหนึ่งจอมวายร้ายที่คอยขโมยเสียงของผู้คนในซีรี่ย์ Buffy ในตอนที่ชื่อว่า Hush และอีกผลงานที่โดดเด่นของเขาก็คือการได้เล่นเป็นแมลงสาบยักษ์ในหนังสยองขวัญเรื่อง Mimic และได้เล่นเป็นสิ่งมีชีวิตใต้น้ำแสนฉลาดที่ชื่อว่า Abe…
-
ตำรวจจับกุมวัยรุ่น 3 ราย หลังลักพาตัวเด็กไปขัง 5 วัน และบังคับให้มีเซ็กส์กับชายกว่า 20 คน
เหตุการณ์น่าสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นที่เมืองคอเวนทรี ในเขตเวสต์มิดแลนด์ส ประเทศอังกฤษ หลังจากที่เด็กสาววัย 14 ปีผู้หนึ่งถูกขังไว้นานถึง 5 วัน และถูกบังคับให้ร่วมเพศกับชายหนุ่มกว่า 20 คน เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนปี 2017 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศได้รายว่างานนาย Jake Cairns วัย 21 ปี นาย Brandon Sharples วัย 20 ปี และนาย Jack McInally วัย 21 ปี 3 ผู้ต้องหาที่กระทำการดังกล่าว ถูกตั้งข้อหาฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก หลังจากที่พวกเขาได้โพสต์ขายภาพของเธอลงบนเว็บไซต์สื่อลามก พร้อมกับโกหกว่าเธออายุ 18 ปี นาย Jack McInally และนาย Jake Cairns เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมวัยรุ่นทั้ง 3 หลังจากที่เห็นเหยื่อสาวกำลังพยายามปีนออกมาทางหน้าต่างห้องน้ำชั้นแรก ในสภาพที่สวมเพียงแค่ชุดชั้นใน ซึ่งมีรูปร่างและใบหน้าตรงกับประกาศคนหลาย หลังจากที่เธอได้หายตัวไปจากบ้านของญาติเมื่อหลายวันก่อน “ชายทั้ง 3 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีเด็กหญิงคนนี้ ในตอนแรกนาย Cairns ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้จักกับเธอ แต่หลังจากที่เราทำการตรวจสอบก็พบว่าบัญชีธนาคารของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้” เจ้าหน้าที่ Jon Barker…
-
จัดเต็ม 600 หลักสูตรออนไลน์เรียนฟรี จาก 200 มหาวิทยาลัยชื่อดัง รวมถึง Ivy League อีกด้วย!!
การเรียนรู้ไม่ได้มีการจำกัดพื้นที่แค่ในห้องเรียน ยิ่งเป็นสมัยนี้แล้วยิ่งสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ต่างๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับคอร์สออนไลน์ที่เรานำมาฝากในวันนี้ ใครที่ชอบค้นคว้าหาความรู้ต้องถูกใจมากๆ เพราะคุณจะสามารถเรียนคอร์สออนไลน์จากมหาวิทยาลัยดังๆ ได้แบบฟรีๆ กันเลย จากข้อมูลในปี 2014 พบว่านักศึกษาอเมริกันกว่า 5.8 ล้านคนจะลงทะเบียนเรียนคอร์สออนไลน์ที่เปิดให้เรียนฟรีกันอย่างน้อย 1 คอร์ส เพื่อเป็นการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมนอกโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มหาวิทยาลัยดังๆ ระดับโลกหลายแห่งก็มีคอร์สออนไลน์ให้เรียนฟรีมากมาย คอร์สทั้ง 600 คอร์สมาจากกว่า 200 มหาวิทยาลัย ที่สำคัญคือมีคอร์สจากมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับ Ivy League (กลุ่มสถาบันระดับท็อปของสหรัฐอเมริกา) เปิดให้ผู้ที่สนใจได้เรียนฟรีอีกด้วย คอร์สเรียนฟรีจากมหาวิทยาลัย Ivy League มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (9 คอร์ส) ได้แก่ – The Climate-Energy Challenge – Modern Masterpieces of World Literature – Religion, Conflict and Peace – Ancient Masterpieces of World Literature – China Humanities:…
-
หนุ่มโดนแก๊งต้มตุ๋นโทรหา เขาก็เลยแกล้งโทรกลับไปเรื่อยๆ จนพวกนั้นต้องขอร้องให้หยุด
สมัยนี้แก๊งต้มตุ๋นใช้วิธีการโทรศัพท์เข้ามาเพื่อหลอกเอาเงินเราไปโดยอ้างว่ามาจากองค์กรโน่นนี่นั่น เหมือนกับอย่างที่ชายคนนี้ต้องเจอและเขาสามารถจัดการกับคนเหล่านั้นได้อย่างเจ็บแสบเลยทีเดียว เขามีชื่อว่า Kevin Underhill อาศัยอยู่ในเมืองลอนดอน รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา เมื่อได้มีคนฝากข้อความเสียงเอาไว้ให้แล้วอ้างว่าเป็นสำนักงานสรรพากรของประเทศ ที่บอกว่าเขากำลังเจอกับปัญหาในเรื่องของภาษีอยู่ ในตอนนั้นชายหนุ่มรู้ได้ทันทีเลยว่านี่คือการโทรมาหลอกเอาเงินอย่างแน่นอน พ่อหนุ่ม Kevin ผู้ที่สามารถรับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม เขาจึงโทรกลับไปหาที่เบอร์นั้น โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอกว่าเขาต้องจ่ายเงินไปให้ในทันที ไม่อย่างนั้นอาจต้องติดคุกหัวโตเลยก็ได้ เมื่อ Kevin ฟังจนจบก็ถูกถามให้บอกข้อมูลส่วนตัว เขาจึงสะกดชื่อของเขาไปว่า Y-O-U-E-A-S-C-A-M ซึ่งหมายความว่า “พวกนายมันเป็นแก๊งต้มตุ๋น” เจอแบบนี้เข้าไปปลายสายก็รู้สึกหัวเสียอย่างมากที่ถูกจับได้ และพูดด้วยความโมโหกับเขาว่า “นั่นมันไม่ใช่ชื่อคุณนี่!!” ก่อนที่จะวางสายไป แต่เขาก็ยังคงได้รับโทรศัพท์จากแก๊งต้มตุ๋นที่อ้างว่ามาจากหน่วยงานอื่นๆ เขาก็เลยแกล้งบอกไปว่าตัวเองคือดาราดัง Ryan Reynolds ซะเลย ทำเอาคนที่โทรมาหลอกถึงกับหัวร้อนเพราะความกวนของเขา แก๊งต้มตุ๋นไม่เชื่อว่า Kevin คือดาราหนุ่มคนนี้.. ก็แหงล่ะ ใครมันจะไปเชื่อ?! ไม่จบเพียงแค่นั้นเพราะเขาได้โทรกลับไปหาเบอร์ที่โทรมาหลอกเขาอีกหลายสาย โทรไปเรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด แต่ก็โดนตัดสายทุกครั้งที่โทรไป จนกระทั่งมีสายหนึ่งรับและอ้างตัวว่าเป็นผู้จัดการของบริษัท Kevin จึงถามไปว่า “จะวางสายผมทำไม มีอะไรก็บอกกันสิ” ฝั่งนั้นเลยตอบกลับมาว่า “ขอร้องละ หยุดแกล้งเราซักทีเถอะ” ประโยคนั้นทำให้…
-
คุณพ่อทำร้ายโจรที่เข้ามาขโมยรถถึงในบ้าน แต่ตำรวจกลับจะจับเขาเข้าคุกซะงั้น!?
ตามที่เราหลายคนเข้าใจคือ เราสามารถใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นได้โดยไม่มีความผิดตามกฎหมาย ในกรณีที่เป็นการป้องกันตัว เหมือนกับ Carl Sinclair ที่เข้าใจแบบนั้น จึงได้ทำร้ายโจรที่เข้ามาขโมยรถในบ้าน แต่สุดท้ายเขากลับถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย!? ในวันที่เกิดเหตุนั้น Carl เห็นคนร้ายกำลังจะเข้ามาขโมยรถของเขาที่จอดไว้ ขณะนั้นภรรยาและลูกๆ สามคนกำลังนอนอยู่ในบ้าน ด้วยความเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องการปกป้องครอบครัวและทรัพย์สิน เขาจึงคว้าค้อนวิ่งออกไปข้างนอก ปะทะกับโจร ก่อนจะกดหัวเขาไว้กับพื้น จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ แต่แทนที่จะจับคนโจรไปดำเนินคดี กลับจับ Carl ในข้อหาทำร้ายร่างกายซะงั้น เมื่อไปขึ้นศาล คณะลูกขุนได้ทำการพิจารณาคดีเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นแล้วตัดสินให้เขามีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย นั่นทำให้เขาต้องเสียหน้าที่การงานไปทันที แน่นอนว่า Carl ไม่เข้าใจกับการตัดสินในครั้งนี้ และเขามองว่าระบบความยุติธรรมช่างเป็นอะไรที่ตลกสิ้นดี “ผมไม่ใช่คนร้าย แต่ชีวิตผมกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเพราะคำตัดสินที่ไม่ยุติธรรมนี้ ผมเป็นพ่อ เป็นสามีธรรมดาคนหนึ่งที่แค่อยากทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าครอบครรัวที่คอยปกป้องครอบครัวที่ผมรัก” แม้จะพยายามบอกเหตุผลให้ศาลฟังยังไงก็ไม่ได้ผล สุดท้ายเขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 11 เดือน ตลอดเวลาที่เขาอยู่ในคุกนั้น ภรรยาและลูกต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก เพราะปกติแล้วเขาเป็นคนที่หารายได้ให้ครอบครัวใช้จ่ายในด้านต่างๆ นั่นทำให้ครอบครัวต้องสูญเสียบ้านไปเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน แม้ว่าปัจจุบันจะออกจากคุกแล้ว แต่ Carl ยังเจ็บใจทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ เขาบอกว่า “อะไรคือความยุติธรรม? ผมสู้กับโจรที่จะเข้าขโมยและจับเขาไว้ได้ แต่สุดท้ายคนที่ได้รับโทษกลับเป็นผม” “ที่สำคัญคนร้ายที่พยายามจะเข้ามาในบ้านของผมนั้น ถูกจำคุกเพียง 8 สัปดาห์ ทั้งๆ ที่ ถ้าเขาเข้ามาโดยที่ผมไม่รู้…
-
“9 ศาสตรา” อนิเมชั่นคนไทยเรื่องใหม่ แค่ Teaser ก็เล่นเอาขนลุก ดูแล้วไม่แพ้สตูดิโอนอก!!
วงการอนิเมชั่นไทยเตรียมลุกเป็นไฟอีกครั้ง เพราะล่าสุดได้มีอนิเมชั่นที่เรียกว่าอยู่นอกกระแสของคนไทยที่มาเงียบๆ แต่งานนี่ดีสุดๆ แถมทีมงานที่มาทำก็ไม่ใช่เล่นๆ หรือนี่จะเป็นคลื่นลูกใหม่ที่จะจุดประกายวงการนี้อีกครั้งหนึ่ง!? 9 ศาสตรา หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า 9 SATRA : THE LEGEND OF MUAYTHAI อนิเมชั่นจากทีมงาน Exformat Film นั้นพึ่งจะปล่อยตัว Teaser ตัวแรกกันมาสดๆ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน โดยตัวอย่างนั้นมีความยาวเพียง 48 วินาทีเท่านั้น แต่บอกเลยว่าเป็น 48 วินาทีที่ชวนให้อยากจะดูต่อมากๆ นอกจากตัว Teaser ดังกล่าวแล้ว ทีมงานยังได้เปิดเว็บไซต์ของหนังอย่างเป็นทางการแล้วด้วย ซึ่งภายในก็จะมีการบอกเกี่ยวกับตัวละครหลักของเรื่องซึ่งประกอบด้วย อ๊อด, เสี่ยวหลาน, วาตะ, อสูรสีชาด, เทพยักษา และ พรานทมิฬ ดีไซน์นี่เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยล่ะ . ทางด้านเนื้อเรื่องนั้นก็เรียกว่าน่าสนใจพอสมควรเลยทีเดียว โดยตัวเรื่องนั้นจะบอกเล่าเรื่องราวของ อ๊อด เด็กหนุ่มผู้ถูกเลือกให้กอบกู้อาณาจักรรามเทพนคร ซึ่งเป็นดินแดนของบ้านเกิดของเขาให้รอดพ้นจากเทพยักษา และระหว่างทางเขาก็จะได้เจอเพื่อนร่วมทางมากมาย พร้อมช่วยกันฝ่าฟันเรื่องราวทั้งหมดไปด้วยกัน . เรื่องราวอาจจะดูเรียบๆ แต่เมื่อบวกกับงานภาพและทีมงานคุณภาพแล้ว…
-
หญิงสาวเปิดประสบการณ์อันขมขื่นในการต่อสู้กับ ‘โรคคลั่งผอม’ มานานกว่า 16 ปี
Anorexia หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า โรคคลั่งผอม คืออาการทางจิตที่ทำให้ผู้ป่วยหลายๆ คนพยายามลดน้ำหนักของตัวเองลงไปให้มากที่สุดจนแทบจะกลายเป็นโครงกระดูกเดินได้ เหมือนกับเธอคนนี้ที่ต้องต่อสู้กับความผิดปกติในใจของตัวเองเพราะไม่อาจทนรับกับสิ่งที่เธอเป็นอยู่นี้ได้อีกต่อไป หญิงสาวชาวอเมริกันคนนี้มีชื่อว่า Stephanie Rodas วัย 28 ปี เธอคนนี้เคยหนักเพียงแค่ 24 กิโลกรัม จนทำให้เธอต้องไปพบแพทย์ตามคลินิกหรือโรงพยาบาลอยู่หลายครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นอาการทางจิตที่เป็นอยู่ของเธอก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย จนกระทั่งเธอได้มาเป็นแขกรับเชิญของรายการ The Doctors เธอได้รับการทดสอบทางด้านร่างกาย การทำงานของหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด รวมถึงการอัลตร้าซาวด์เพื่อเข้าไปเช็กความผิดปกติภายใน เธอต้องต่อสู่กับอาการดังกล่าวมานานกว่า 16 ปี หรือกว่าครึ่งชีวิตของเธอ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการว่า “ในแต่ละวันฉันสามารถกินอาหารได้แค่ 100 แคลอรี่ และใช้เวลาออกกำลังกายไปอีก 10 ชั่วโมง” “ฉันเริ่มเป็นอย่างนั้นตั้งแต่อายุได้ 13 ปี เพราะว่าในตอนนั้นฉันถูกเพื่อนๆ ในโรงเรียนล้อว่า ‘ยัยอ้วน’ ทุกคนในโรงอาหารคอยรังแกฉันในตอนพักทานข้าวเที่ยง พวกเขาจะปาอาหารใส่ฉัน” เธอเล่าเสริม ด้วยการที่เธอถูกรังแกมาตั้งแต่เด็กทำให้เธอเริ่มลดน้ำหนักตัวเองลงอย่างบ้าคลั่ง จนกลายเป็นโรคคลั่งผอมในที่สุด ครั้งหนึ่งเธอเคยกินยาแก้ปวดเข้าไปเพราะเชื่อว่ามันจะทำให้เธอผอมลงได้ แต่เธอกลับล้มหมดสติลงไปกับพื้นก่อนที่พี่สาวของเธอจะมาพบและรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ขาดการตอบสนองไปหลายวัน เธอยังคงไม่สามารถลบภาพความหลังฝังใจที่เคยมีในวัยเด็กได้ เธอได้บอกกับพิธีกรในรายการว่า เหตุผลที่เธอต้องมีร่างกายที่ผอมซูบขนาดนี้ก็เพราะ…
-
ละ..ล้ำ!! พริตตี้มอเตอร์โชว์กับ “ชุดโชว์นมอินเซปชั่น” ครอบนมจริงไว้ ไม่โป๊แต่ก็ดูวาบหวิวสุดๆ
แม้จะเป็นการจัดงานมอเตอร์โชว์ที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ตั้งแต่ปี 2014 แถมยังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงว่ามันดูโป๊ ดูอนาจารสุดๆ แต่ในความจริงของชุดสุดวาบหวิวที่ดาราสาว Pan Chunchun ใส่นั้นมันกลับเจ๋งกว่าที่คิด!! พอจะดูออกไหมว่าของจริงหรือเปล่า แน่นอนว่าเมื่อคนปกติดูชุดของเธอผ่านๆ เราก็จะคิดว่านี่เราต้องเผยเนื้อหนังกันขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย ต้องเปิดเต้ากันสุดๆ แล้วปิดแค่ตรงหัวเท่านั้นเหรอ ทว่าความจริงชุดที่เธอใส่มันกลับเป็นชุดโชว์นมแบบอินเซปชั่นที่ส่วนเต้าเป็นชุดทั้งหมดไม่ใช่นมของเธอจริงๆ งงเด้!? ภาพนี้จะยิ่งเห็นชัดว่าหน้าอกกับสีผิวจะแตกต่างกันมากๆ . อย่าโดนหลอกนะ ทาสนมทั้งหลาย เพราะนมที่เราเห็นเป็นส่วนของนมปลอมที่ทำออกมาได้เนียนและตูมกว่าปกติมากๆ และก็ไม่แปลกที่เราจะมองว่ามันอนาจารเพราะมันเหมือนซะขนาดนั้น ยิ่งช่วงนั้นความหื่นกระหายหรืออะไรก็แล้วแต่บังตาอยู่จนไม่ทันคิด ยังไงก็ต้องมองว่านี่มันนมจริงโว้ย แต่ถึงแม้ตอนนี้เราจะรู้แล้วว่านมของ Pan Chunchun ในงานดังกล่าวเป็นของปลอม มันก็ยังถือว่าตัวชุดทำงานได้ประสบความสำเร็จจริงไหม? เพราะมันสามารถดึงดูดสายตาของเราได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ สะท้อนแสงไหมล่ะ ทองแต่ไกล ชุดนมปลอมทำงานได้สำเร็จแล้วล่ะ ยังไงก็ตามเรื่องจะเหมาะสมหรือเปล่าอันนี้เราไม่ขอออกความคิดเห็น แต่ชุดมันประสบความสำเร็จในหน้าที่มันไหม อันนี้บอกเลยว่าสุดๆ ถ้าคุณยังไม่เชื่อในความสำเร็จของเต้าอินเซปชั่น คลิปนี้ยืนยันได้ว่ามันได้ผลตอบรับดีจริงๆ ที่มา 時空召喚 Summon spatial,sina,
-
นักวิทย์ฯ คอนเฟิร์ม ‘ผู้หญิง’ ขับรถดีกว่าผู้ชาย มีแนวโน้มผิดพลาดน้อยเพราะไม่วอกแวก
ความเชื่อที่ว่าผู้ชายขับรถได้ดีกว่าผู้หญิง แท้จริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเพราะนักวิทยาศาสตร์ชาวนอร์เวย์ได้ออกมายืนยันแล้วว่าผู้หญิงสามารถขับรถได้ดีกว่าผู้ชายบางคนซะอีก งานวิจัยของพวกเขาเกิดขึ้นมาจากสถิติขององค์กรอนามัยโลก ได้ออกมาบอกว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั่นก็คือการเสียสมาธิและความใจลอย นักวิทยาศาสตร์จึงทำการศึกษาว่าช่วงอายุ เพศ และบุคลิกภาพแบบไหนบ้างที่ส่งผลให้เกิดอาการใจลอยหรือถูกดึงดูดความสนใจจากสิ่งอื่นๆ ได้ง่าย การขาดสมาธิขณะขับขี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน กลุ่มตัวอย่างแรกของการศึกษานี้คือเด็กมัธยมปลายจำนวน 1,100 คน ซึ่งในจำนวนนั้นมีอยู่ 208 คนที่มีใบขับขี่แล้ว และอีกกลุ่มตัวอย่างเป็นเหล่าผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วๆ ไป 414 คน จากนั้นได้มีการสอบถามเกี่ยวกับความถี่และรูปแบบที่ทำให้กลุ่มตัวอย่างเสียสมาธิในขณะขับรถว่ามีอะไรบ้าง รวมถึงทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อการเสียสมาธิหรือใจลอยในตอนขับรถ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือการฟังวิทยุคือสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิขณะขับรถมากที่สุด และเมื่อดูในเรื่องของเพศ ช่วงอายุ กับบุคลิกภาพแล้วพบว่า วัยรุ่นชายคือกลุ่มที่มีอาการเสียสมาธิและใจลอยตอนขับรถมากที่สุด กลุ่มอื่นๆ ที่มีแนวโน้มขาดสติขณะขับรถก็คือ คนที่ขับรถบ่อยๆ คนที่ใจร้อนหงุดหงิดง่าย และคนที่มีบุคลิกภาพชอบสนใจในสิ่งรอบข้าง ขับรถก็ต้องมองถนน จะมามองกล้องแบบนี้มันก็ไม่ได้ ผู้วิจัย Ole Johansson จากสถาบันเศรษฐศาสตร์การขนส่งอธิบายว่า “คนที่อยู่ในกลุ่มขาดสติระหว่างขับรถคือคนที่เชื่อว่าอาการใจลอยเป็นสิ่งที่ทุกคนในสังคมก็เป็นเหมือนๆ กัน อยู่นอกเหนือการควบคุมและคิดว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมสติของตัวเองเอาไว้ได้ ทำให้พวกเขามุ่งความสนใจไปกับสิ่งอื่นขณะขับรถนอกเหนือจากถนนด้านหน้า” ในขณะเดียวกันจากการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ใน Frontiers in Psychology บอกว่ากลุ่มผู้หญิงที่มีอายุนั้นให้ผลในทางตรงกันข้าม เพราะพวกเธอสามารถควบคุมสติของตัวเองไว้ได้อย่างดี ทำให้มีอาการเสียสมาธิและใจลอยที่น้อยมาก บางทีเราก็อาจกดดันสาวๆ มากเกินไปจนทำให้เธอขาดความมั่นใจในการขับรถ…
-
คำว่า ‘แฟชั่น’ ไม่ได้ไกลตัวเรา เมื่อของบนเวทีระดับโลก ดูคล้ายๆ ของในเมืองไทยจังเลย….
ในแต่ละปีวงการแฟชั่นระดับโลกก็มักจะออกคอลเลคชั่นใหม่ๆ มาอยู่เสมอ จะเห็นได้ว่ามีการอัพเดทบนรันเวย์ตลอด แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะตามกระแฟชั่นเหล่านี้ เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัวและอีกเหตุผลหลักๆ ก็คือ แบรนด์เหล่านี้มีราคาแรงแพงมโหฬาร!! Paris Fashion Week เวทีแฟชั่นระดับโลก ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว คำว่า ‘แฟชั่น’ มันก็มักจะวนเวียนไปเรื่อยๆ ของเก่าก็ถูกนำมาปรับดีไซน์ใหม่ แต่ที่แน่ๆ ว่าในปีนี้คอลเลคชั่นใหม่ที่เพิ่งออกมา ทำให้สะกิดต่อมความเป็นโลคอลแถวบ้านเราได้ชัดเจน โดยล่าสุดมีสามแบรนด์ที่รู้สึกว่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากแถวๆ บ้านเรารึเปล่านะ? มาเริ่มกันที่รองเท้าแตะหูคีบ หูหนีบ สีขาวตัดน้ำเงิน แปะโลโก้ Nike ดูดีงามตามสไตล์ของ Nike เลยแหละ เอ ว่าแต่มันคล้ายๆ กับของแถวๆ นี้เลยนะ ปิ๊ง!! อ่ะ มาต่อกันที่กระเป๋าจากแบนรด์ Bottega Veneta มีลวดลายที่สวยงาม มีทั้งแบบกระเป๋าถือและกระเป๋าเงิน ออกไปโลดแล่นบนเวทีดูดีมีสง่าราศี แต่ไม่ต้องไปมองที่ไหนไกลเลย บ้านเราก็มี กระเป๋าสานใบลานไง!! ใบเล็กๆ…
-
13 สิ่งประดิษฐ์สีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยโลกให้รอดพ้นจากปัญหาโลกร้อน
ทุกวันนี้มนุษย์เราต่างทำทุกอย่างเพื่อความสะดวกสบาย ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้มักเป็นการทำร้ายโลกให้เสื่อมโทรมลงอย่างช้าๆ แต่น้อยคนนักที่หันมาดูแลโลกอย่างจริงจัง ด้วยเหตุนี้นักประดิษฐ์สีเขียวหรือนักประดิษฐ์รักษ์โลก จึงได้สร้างสิ่งประดิษฐ์ช่วยโลกขึ้นมา เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเราสามารถสร้างสิ่งใหม่ๆ ได้โดยไม่ทำร้ายโลก ในทางตรงข้าม มันยังเป็นการช่วยโลกได้อีกด้วย 1. สร้างสเก็ตบอร์ดจากตาข่ายจับปลาที่ไม่ใช้แล้ว บริษัท BUREO ในชิลี ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มเพื่อน 3 คน พวกเขาได้ผลิตสเก็ตบอร์ดจากตาข่ายจับปลาที่ติดอยู่ตามชายฝั่งในชิลี เพื่อเป็นการไม่เพิ่มพลาสติกให้โลก ทั้งยังเป็นการเก็บกวาดขยะพลาสติกที่อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลด้วย นอกจากสเก็ตบอร์ดแล้ว พวกเขายังนำพลาสติกมาทำเป็นแว่นกันแดด เสื้อผ้า และสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย…สำหรับภาพด้านบนนั้น ชายคนหนึ่งนอนอยู่กลางขยะที่เก็บได้จากทะเล เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักก่อนจะทิ้งขยะลงน้ำ 2. ม่านอาบน้ำถาวร ม่านอาบน้ำนี้มีชื่อว่า Spiky ทำขึ้นโดยนักประดิษฐ์สีเขียว มันเป็นม่านที่จะพองตัวขึ้นเมื่อครบเวลาที่กำหนด คือเมื่อคุณอาบน้ำไป 4 นาที ม่าน Spiky จะพองตัวขึ้น เพื่อผลักคุณออกไป เป็นการช่วยไม่ให้เราใช้น้ำมากเกินไป 3. หม้อพลังงานแสงอาทิตย์ นี่คือ Solar Cookers International ที่สามารถหุงข้าว หรือทำอาหารโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีต้นทุนต่ำและทำเองได้ 4. อุปกรณ์ทำความสะอาดมหาสมุทร โปรเจกต์ Seabin…
-
หนุ่มเอาแผ่นอุ่นไปไว้ข้างบ้านให้แมวจร เดินออกมาดูเจอแขกแปลกหน้ามานั่งกันสลอนเชียว
เข้าสู่หน้าหนาวแล้ว หลายคนคงเตรียมอุปกรณ์รับมือกับความหนาวพร้อมหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกันหนาว ผ้านวม ถุงมือ และเครื่องทำน้ำอุ่น นั่นสำหรับมนุษย์ แล้วพวกสัตว์จรจัดอย่าง หมา แมวที่ต้องอยู่ข้างนอกล่ะ พวกมันจะหาความอบอุ่นได้จากที่ไหน? ขนพวกมันอาจจะหนาก็จริง แต่นั่นคงอุ่นไม่พอ เห็นได้ชัดจากภาพด้านล่างนี้ เมื่อหนุ่มเสียบแผ่นทำความร้อนไว้นอกบ้าน สักพักออกมาดูก็พบแก๊งแมวนั่งรับความอบอุ่น พร้อมทำหน้าสลอนเชียว ภาพนี้ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ Reddit โดยคุณ whatisAlabama บอกว่า “เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่ผมทำแบบนี้ให้พวกแมวจรจัด” “ตัวสีดำที่อยู่ริมสุด มักจะกระโดดขึ้นมานั่งบนตักของผมเมื่อผมเอาอาหารออกมาด้วย แค่นั้นยังไม่พอ มันยังชอบให้ผมลูบไล้ให้ด้วย ดูเหมือนมันจะรู้สึกสบายใจเมื่อผมอยู่กับมัน อาจจะฟังดูไร้สาระนะ แต่ผมกลับรู้สึกว่าประสบความสำเร็จ ที่ทำให้พวกมันไว้ใจได้” เขาบอกอีกว่า แมวเหมียวเหล่านี้กำลังต้องการบ้าน แต่ตัวเขาเองไม่สามารถรับเลี้ยงได้ เลยช่วยพวกมันเท่าที่จะทำได้ ด้วยการนำแผ่นมาวางไว้ข้างนอกให้พวกมันทุกคืนในช่วงหน้าหนาว สำหรับแผ่นทำความร้อนนี้ สามารถซื้อได้ที่ Amazon ในราคา 400 บาท จะเอาไว้ใช้เอง หรือจะเอาไว้ช่วยเหลือสัตว์จรจัดเหมือนหนุ่มคนนี้ก็ได้นะ ที่มา iizcat
-
ชายหนุ่มตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ ในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับการตอบแทนเป็นร้านบาร์เบอร์
แทบทุกคนเคยชินกับการตัดผมในร้านบาร์เบอร์หรือร้านเสริมสวยที่มีเกลียวหมุนๆ อยู่หน้าร้าน แต่สำหรับที่เมืองฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา คุณสามารถเห็นการตัดผมได้ง่ายๆ ตามท้องถนน กับฝีมือของช่างตัดผมที่มีชื่อว่า Brennon Jones ชายหนุ่มผู้ตัดผมให้กับคนไร้บ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ชายคนนี้ทำอาชีพตัดผมมานานกว่า 11 ปี แต่เขาก็ได้วางกรรไกรและหันไปทำงานอื่น ก่อนที่จะกลับมาเป็นช่างตัดผมอีกครั้งหนึ่งที่ตัดผมให้กับคนไร้บ้านแบบฟรีๆ ภายใต้โครงการที่เขาตั้งชื่อให้ว่า Haircuts for Homeless ช่างตัดผมหนุ่ม Brennon ผู้ที่คอยตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ ด้วยความที่ชายหนุ่มไม่มีร้านเป็นของตัวเอง เขาจึงแบกอุปกรณ์ทุกอย่างเดินไปบนท้องถนนและตัดผมให้กับคนไร้บ้านตามทางเท้า หัวมุมตึก หรือเกาะกลางถนน ด้วยเก้าอี้และโต๊ะที่เตรียมมา เขาไม่ได้ตัดผมให้กับคนไร้บ้านที่อาศัยกันอยู่ในเมืองฟิลาเดลเฟียเพียงที่เดียว เพราะเขาได้เดินทางไปยังเมืองแคมเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ เมืองที่มีประชากรคนไร้บ้านมากเป็นอันดับ 4 ของสหรัฐอเมริกา และเขาก็ได้ไปตัดผมให้กับคนเหล่านั้น Brennon เล่าว่า “ก่อนหน้านี้ผมได้รู้จักกับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่งที่ทำให้ผมได้มองชีวิตต่างออกไปจากที่เคย และนั่นก็ได้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำสิ่งนี้ขึ้นมา” เขาได้ตัดผมให้คนไร้บ้านทุกๆ วัน โดยในแต่ละวันจะมีเข้ามาประมาณ 20 คน เขาบอกว่าตอนนี้น่าจะตัดผมให้คนไร้บ้านไปมากกว่า 1,000 คนแล้ว จนกระทั่งในเดือนเมษายน 2017 เขาได้รู้จักกับ Sean…
-
พ่อแอบดีใจ!! เมื่อลูกแอบตั้งกล้องดูปฏิกิริยาพ่อแม่ หลังจากรู้ว่าตัวเองกำลังจะมีหลาน
การที่ครอบครัวกำลังจะมีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามาในบ้าน นอกจากผู้เป็นพ่อแม่จะดีใจมากที่สุดในชีวิตแล้ว บรรดาปู่ย่าตายายทั้งหลายก็รู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กันเลย และสำหรับคนที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะมีลูก หลายๆ คนอาจจะเตรียมทำเซอร์ไพรส์ในการหาวิธีบอกกับคนในครอบครัวในแบบที่แตกต่างกันออกไป และสำหรับ Justin Hall กับภรรยาของเขา ก็มีวิธีที่จะบอกพ่อแม่ในรูปแบบสุดพิเศษเช่นกัน ในขณะที่บางคนเลือกใช้วิธีเปิดเผยเรื่องมีลูกโดยการกระซิบข้างๆ หู หรืออาจจะบอกไปตามตรง แต่ Justin กับภรรยา ทั้งคู่ได้แอบตั้งกล้องเอาไว้ในบ้าน เพื่อดูปฏิกิริยาของผู้เป็นพ่อแม่พวกเขาว่าจะรู้สึกยังไง และแล้วการแสดงของพวกเขาก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อ Justin และภรรยาได้ทำเซอร์ไพรส์พ่อแม่ด้วยการแขวนชุดเด็ก พร้อมแปะโพสต์อิดไว้ที่กำแพงห้องเพื่อบอกว่าเธอท้อง พอคุณแม่เข้ามาเห็นเธอดีใจอย่างหนักจนร้องตะโกนออกมาเสียงดัง นั่นทำให้คุณพ่อต้องวิ่งเข้ามาดู ซึ่งภายหลังจากที่เขาทราบตัวเองกำลังจะมีหลานก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย แถมยังทำตัวนิ่งๆ ไม่ได้แสดงอาการดีใจออกมามากนัก จนกระทั้งคุณแม่ได้เดินออกจากห้องไปเท่านั้นแหละ งานนี้คุณพ่อก็กระโดดตัวลอยดีใจสุดขีด แหมๆ แอบเก็บอาการเอาไว้ล่ะสิ๊ ฮร่าๆ และนี่คือคลิปวินาทีที่เผยให้เห็นโมเม้นต์สุดน่ารักของพ่อแม่ เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะมีหลาน ไปรับชมกันเลยจ้า ที่มา : inspiremore
-
9 เคล็ดลับอัพเกรดเสน่ห์ ให้คุณดูดีขึ้นในทันที ด้วยแนวทางจากวิทยาศาสตร์
สำหรับใครที่รู้สึกว่าตัวเองนั้นมักจะรับประทานแห้วอยู่บ่อยๆ จะไปจีบใครหรือแอบชอบใครก็ดูเหมือนจะเป็นอากาศธาตุอยู่ร่ำไป หรือไม่ค่อยจะเป็นที่สนใจของเพศตรงข้ามสักเท่าไหร่ล่ะก็ อย่าเพิ่งท้อใจไปเลยเพื่อนรัก!! วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ จากผู้เชี่ยวชาญที่จะทำให้คุณดูมีเสน่ห์เพิ่มมากขึ้นมาฝากกัน แถมยังเอาไปฝึกทำเพื่อบริหารเสน่ห์กันได้ง่ายๆ อีกด้วยนะเออ ไม่แน่… วันมาฆบูชาครั้งหน้าคุณอาจจะมีคู่ไปเวียนเทียนด้วยก็ได้นะ 1. ยิ้มให้บ่อยขึ้น จากงานวิจัยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปี 2014 เกี่ยวกับรอยยิ้มและความดึงดูดใจพบว่า ผู้ที่มีรอยยิ้มและดูสดใสร่าเริงนั้นจะมีแรงดึงดูดต่อเพศตรงข้ามมากกว่าคนที่เอาแต่ทำหน้าบึ้ง 2. ลองใส่เสื้อผ้าสีแดงดูสิ การศึกษาด้านจิตวิทยาที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเมื่อปี 2010 เผยว่าผู้ที่สวมชุดสีแดงนั้นจะเป็นที่ดึงดูดใจของสาวๆ มากกว่าการสวมเสื้อผ้าสีอื่นๆ 3. สร้างเสียงหัวเราะให้คนอื่น ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Psychological Reports เผยว่าชายหนุ่มที่พูดคุยเรื่องตลกกับเพื่อนที่หน้าบาร์นั้นจะเป็นที่ดึงดูดของเหล่าสาวๆ ที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ และนอกจากนี้คุณยังมีโอกาสที่จะได้เบอร์ของเธอมากกว่าคนอื่นๆ ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว!! แถมอารมณ์ขันยังทำให้คุณดูฉลาดขึ้นอีกด้วยนะ 4. อย่าลืมดูแลเรื่องกลิ่นกายด้วยล่ะ หลายๆ คนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่านอกจากกลิ่นปากจะไม่ใช่เรื่องตลกแล้ว กลิ่นของรักแร้เองก็เช่นกัน จากผลการวิจัยในปี 2009 เผยว่า นอกจากกลิ่นกายจะช่วยเพิ่มความมั่นใจแล้ว มันยังช่วยทำให้คุณเป็นที่น่าสนใจของเพศตรงข้ามอีกด้วย 5. หัดเป็นผู้ฟังที่ดีบ้าง อย่ามัวแต่โม้ งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Personality and Individual…
-
รวมสุดยอดภาพผู้โดยสารสุดแปลก ที่ชาวเน็ตบังเอิญเจอระหว่างนั่งเครื่องบิน…
เมื่อพูดถึงการนั่งเครื่องบินแล้ว ตามกฎโดยปกติทางสายการบินส่วนใหญ่จะไม่อนุญาตให้พาสัตว์เลี้ยงขึ้นไปนั่งด้วย โดยพวกเขาจะให้สัตว์ทั้งหลายอยู่ในส่วนของคอนเทนเนอร์ซึ่งการเป็นอยู่ก็ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับพวกมันนัก แต่ก็ยังมีสายการบินอีกมากมายที่อนุญาตให้ผู้โดยสารของพวกเขาพาสัตว์มานั่งด้วยกัน เพียงแต่ก็ต้องจ่ายค่าโดยสารปกติสำหรับพวกมันด้วย ที่สำคัญก็ต้องควบคุมพวกมันไม่ให้สร้างความวุ่นวายกับผู้สารคนอื่น และเมื่อทุกอยางลงตัวมันจึงเกิดเป็นภาพเหตุการณ์สุดแปลกสำหรับผู้โดยสารท่านอื่น ลองคิดสภาพคุณนั่งอยู่ดีๆ แล้วมีสุนัขของคนอื่นมานั่งข้างๆ เป็นเพื่อนดูสิมันจะเป็นยังไง….. เจ้าของภาพบอกว่า ตั้งแต่เครื่องออกตัวก็เห็นเจ้าตูบกับเจ้าของนอนกอดกันแบบนี้มานานกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว ผู้โดยสารที่ฮอตฮิตที่สุดบนเครื่องบิน…เออ หมายถึงเจ้าตูบนะ เออ เดี๋ยวนะผู้โดยสารตัวนี้สรุปห้ามเล่นด้วยใช่ไหม เมื่อคุณกำลังแกะขนมแสนอร่อย แต่ก็ต้องพบกับเพื่อนผู้โดนสารที่แสดงท่าทางอยากกินด้วยอย่างชัดเจนตรงหน้า กัปตันผู้กลัวแมวตัวเองเหงา เจ้าตูบตัวใหญ่ยักษ์เพิ่งจะเคยขึ้นเครื่องครั้งแรกในชีวิต เจ้าตูบที่ทำหน้าเหมือนกำลังเบื่อการเดินทางสุดๆ เพื่อนโดยสารนิสัยดีที่คุณคาดไม่ถึง มีส่งยิ้มด้วยนะ บางครั้งสุนัขของคนข้างๆ ก็ไม่ได้สนใจเจ้าของเสมอไป ไม่ได้มีแค่หมาแมวนะ ม้าก็มากับเขาเช่นกัน เจ้าตูบตัวนี้เพิ่งจะปลดประจำการมา หลังรับใช้ชาติมากว่า 12 ปี!! เจ้าโคอาล่าระดับวีไอพีที่ได้รับการบริการอย่างดีจากสายการบิน ที่ข้างบนก็มีเจ้าหนู หมาของกัปตันมันมันเป็นแบบนี้นี่เอง ข้าคือเป็ด ข้าบินไม่ได้ฉะนั้นเครื่องบินจึงเป็นทางออกของข้า ว่าแต่ปกติแล้วสัตว์มันจะนั่งท่านี้ได้นานแค่ไหนกันนะ…
-
ทหารผ่านศึกวัย 83 ปี ยืนเฝ้าโลงศพเพื่อนรัก เพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้ตอนสมัยร่วมรบด้วยกัน
เพื่อนคือคนที่จะคอยอยู่ข้างคุณในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะทุกข์หรือทุกข์ และเพื่อนแท้ต้องไม่ผิดคำสัญญา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม เหมือนกับคุณตาทหารผ่านศึกวัย 83 ปีคนนี้ ที่ได้ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนรักตอนเป็นหนุ่มๆ เมื่อครั้งร่วมรบด้วยกันในสงครามเวียดนาม นี่เป็นเรื่องราวของ William H. Cox และ James ‘Hollie’ Hollingsworth ที่รอดจากการสู้รบในวันคริสต์มาสอีฟ ณ สมรภูมิภูเขาหินอ่อน ในประเทศเวียดนาม เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อปี 1968 ในช่วงวันคริสมาสต์อีฟ เมื่ออดีตนาวิกโยธินทั้งสองกำลังร่วมรบในสงครามเวียดนาม ในวันนั้นกองทหารของพวกเขาถูกข้าศึกโจมตีอย่างหนัก ทั้งสองซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ต้องพยายามเอาชีวิตรอดจากทั้งปืนใหญ่และระเบิด พวกเขาคุยกันเล่นๆ ว่า ถ้าพวกเขารอดไปได้ พวกเขาจะนัดเจอกันทุกๆ ปีในวันนี้ แน่นอนว่าพวกเขารอดออกมาได้ นับตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนสนิท และต้องนัดเจอกันทุกปีตามคำสัญญา และเมื่อปีก่อน Cox ก็ได้เดินทางจากรัฐเซาท์แคโรไลนาไปยังรัฐจอร์เจีย เพื่อไปหาเพื่อนรัก Hollingsworth ในวัย 80 ที่กำลังป่วยหนัก ในระหว่างการพบปะกันครั้งนี้ Hollingsworth ได้ขอให้เพื่อนรักให้สัญญากับเขาอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งเป็นคำสัญญาครั้งสุดท้ายของทั้งสองคน เขาได้ขอให้เพื่อนรักยืนเฝ้าโลงศพของเขาและเป็นคนกล่าวคำสรรเสริญในงานศพของเขา ซึ่ง Cox ก็ตกลง และสัญญาว่าจะทำตามที่เขาขอ แม้จะรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่ไปอยู่ในสถานการณ์นั้นก็ตาม จากนั้นทั้งคู่ก็ได้นั่งคุยกัน…
-
เทรนด์ใหม่ใน IG เมื่อสาวๆ แต่งหน้าครึ่งหนึ่งหน้าสดครึ่งหนึ่ง คุณว่าแบบไหนดูดีกว่ากัน?
เอาจริงๆ แล้วในตอนนี้โลกยังไม่สามารถตัดสินได้หรอกว่า ผู้หญิงหน้าสดที่สวยแบบธรรมชาติ หรือผู้หญิงหน้าสวยเพราะแต่งหน้าแบบไหนจะดีกว่ากัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงตัดสินใจที่จะนำเสนอภาพถ่ายของเหล่าสาวๆ ในโลกออนไลน์ ที่พากันมาโพสต์ภาพถ่าย “การแต่งหน้าครึ่งเดียว” นั่นเป็นเพราะพวกเธออยากรู้ว่าผู้หญิงแต่งหน้าหรือไม่แต่งแบบไหนจะดีกว่ากัน? คุณสามารถแสดงความเห็นของตัวเองได้นะ… 20 19 18 17 16 15 14 13 12 11 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 จริงๆ แล้วการแต่งหน้าหรือไม่แต่งมันก็มีข้อดีที่แตกต่างกันไป ซึ่งการแต่งหน้ามันก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ผู้หญิงหลายๆ…
-
หนุ่มปล่อยให้เจ้าเหมียวเข้ามานอนในรถ สุดท้ายก็จบลงที่โดนครองบ้านนานถึง 6 ปี!!
การที่คุณได้เห็นแมวเหมียวน่าสงสารตัวหนึ่งอาศัยอยู่ตามลำพัง คุณคิดว่าการได้เข้าช่วยเหลือมันเล็กๆ น้อยๆ เช่น ให้น้ำให้อาหาร อาจเป็นเรื่องที่ทำแล้วมีความสุขใช่ไหม? แต่ก็จงระวังเอาไว้เถอะเพราะบางทีพวกมันอาจกำลังคิดแผนการใหญ่ แกล้งเข้ามาอยู่ใกล้ๆ เพื่อจะได้เข้ามาเป็นส่วนในชีวิตคุณไปตลอดกาล เหมือนดังเช่น เรื่องราวของชายผู้หนึ่งที่ได้ปล่อยให้เจ้าเหมียวที่เขาพบอยู่ใกล้ถังขยะเข้ามานอนในรถเป็นประจำทุกวัน และสุดท้ายเรื่องก็จบลงด้วยการถูกมันเข้ายึดบ้านมาเป็นเวลานานถึง 6 ปี “นี่คือ Dumpster มันอาจไม่ใช่แมวที่ดีที่สุด แต่ผมรักมันมากไม่แพ้เจ้าเหมียวที่ผมเลี้ยงไว้เลย” เขากล่าว สำหรับ Dumpster มันเป็นแมวเหมียวขนสีเทาที่ชายหนุ่มใจดีคนนี้ ได้พบมันในถังขยะที่อยู่ใกล้คลินิกสัตวแพทย์…ไม่มีใครรู้เลยว่ามันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และในตอนนั้นเจ้า Dumpster ก็ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เลย เมื่อชายหนุ่มซึ่งทำงานเป็นพนักงานที่คลินิกได้พบมันเข้า เขาก็เดินเข้ามาหาเจ้าเหมียว ซึ่งก็ทำให้มันตกใจกลัวและวิ่งหนีไป แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังได้พบกับมันทุกวัน พร้อมทั้งเริ่มให้อาหาร ให้น้ำ และค่อยๆ เข้าไปใกล้ชิดเพื่อที่จะทำให้มันไว้วางใจ จนในที่สุดหนุ่มรายนี้ก็สามารถทำให้เจ้าเหมียวน้อยเชื่อใจได้สำเร็จ และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่มันได้กระโดดขึ้นไปนั่งตักเขา Dumpster เริ่มรู้สึกดีขึ้นเมื่อมันได้อยู่ในคลินิกกับคนที่มันไว้ใจ แต่มันก็ไม่ยอมให้ใครมาสัมผัสตัวง่ายๆ เว้นแต่ชายหนุ่มผู้ที่ได้พบกับมันครั้งแรก เจ้า Dumpster จะอนุญาตให้เขาแตะต้องตัวของมันได้แต่เพียงผู้เดียว แต่สำหรับคนอื่นๆ มันมักจะเหวี่ยง หรือบางทีก็เข้าไปข่วนขาเวลาที่มีคนเดินผ่าน “มันนอนหลับอยู่ในรถของผมทุกวัน และวันไหนที่ฝนตกผมรู้ว่าต้องได้พบมันในรถแน่ๆ ผมได้สร้างบ้านหลังเล็กๆ…
-
ผู้โดยสารเซ็งเครื่องแอร์เอเชียมีปัญหาจนต้องดีเลย์ แต่ประเด็นคือ…กัปตันหล่อมาก
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2560 ทางเฟซบุ๊กที่ชื่อ Wasinee Kiatadisorn ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์ความวุ่นวายที่ประเทศเกาหลี เมื่อสายการบิน Airasia XJ 703 เกิดปัญหาส่งผลทำให้ไฟลต์บินดีเลย์นานกว่า 18 ชั่วโมง จนต้องยกเลิกไป งานนี้เลยทำเอาผู้โดยสารถึงขั้นเซ็งไปตามๆ กัน ตามสถานการณ์ในคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นถึงภาพของผู้โดยสารที่ติดค้างอยู่ในสนามบิน ภายหลังจากที่เครื่องบินไม่พร้อมให้ใช้บริการ และต้องทำให้เครื่องดีเลย์ล่าช้าออกไปอีก จนในที่สุดทางกัปตันหนุ่มของสายการบินดังกล่าว ก็ได้ตัดสินใจออกมาพูดถึงปัญหาและสาเหตุที่ทำให้ยังไม่พร้อมบิน และงานนี้ก็ดูเหมือนจะได้ผลซะด้วยสิ…จากที่สถานการณ์กำลังตึงเครียดก็ดูผ่อนคลายลงในทันที เพราะอะไรนะหรอ แกรรรรก็ดูสิ กัปตันคือดีคือหล่อขนาดนี้ เล่นเอาผู้โดยสารใจร่มไปชั่วขณะกันเลยทีเดียว โอ๊ยยย คือออกมาอธิบายและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับสายการบิน ทั้งหล่อทั้งเก่งแบบนี้ไม่ว่าเครื่องจะช้าและดีเลย์นานแค่ไหน ชั้นก็ยอมมมมม อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย เช่น “เคยเจอเเล้วค่ะไฟลต์นี้ เบรคเสียรอประมาณ 4 ชั่วโมง สวดมนต์ตลอดการบิน ยังคงจำได้ดี” “ใจเย็นๆ เป็นเหตุสุดวิสัยนะ ดีกว่าเครื่องไปไหม้ขณะบิน ใจเย็นรอนิดนึง เราเคยเจอค่ะ เรื่องชดเชยได้แน่นอนค่ะ นอกจากอยากจะได้มากเกินกว่าที่เขากำหนดคงต้องร้องอีกนาน” …
-
หนุ่มตัดสินใจเสี่ยงชีวิตกระโดดลงไปช่วยเหลือ ‘เจ้าหมี’ ที่กำลังจะจมน้ำ โดยไม่ห่วงตัวเอง
เป็นที่รู้กันดีว่าหมีเป็นหนึ่งในสัตว์นักล่าที่อันตรายที่สุดในป่า และมันพร้อมที่จะโจมตีเหยื่อทุกเมื่อ แม้จะอยู่ในระยะไกลก็ตาม ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้คนส่วนใหญ่พยายามหลีกเลี่ยงมัน อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์หมีอาจตกอยู่ในอันตรายและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง หากคุณเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์นั้น จะทำอย่างไร? แน่นอนว่าเราต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าสัตว์ป่าให้มาช่วยเหลือและส่งมันกลับสู่ธรรมชาติ แต่สำหรับนักชีววิทยา Adam Warwick ไม่อาจรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าสัตว์ป่าได้ เพราะกลัวว่าหมีจะตายซะก่อน ในที่สุดเขาตัดสินใจเข้าไปช่วยหมีที่กำลังจะจมน้ำด้วยตัวเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2008 เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าได้รับแจ้งจาก Florida Fish and Wildlife Conservation Commission ว่าพบหมีมาเดินใกล้กับย่านชุมชน ในเขตฟลอริด้า เมื่อได้ยินดังนั้น เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าจึงได้รีบไปยังที่รับแจ้งทันที เพื่อหยุดยั้งหมีก่อนที่มันจะทำอันตรายกับผู้คนในชุมชนดังกล่าว พวกเขาจัดการกับหมีด้วยวิธีที่คุ้นเคย นั่นคือการยิงลูกดอกยาสลบให้มัน แต่เกิดความผิดพลาดเมื่อหมีตื่นตระหนกจนวิ่งหนีลงไปในทะเล เจ้าหมีได้ว่ายห่างออกไปเรื่อยๆ พร้อมกำลังที่ค่อยๆ อ่อนแรงลง เพราะฤทธิ์ลูกดอกยาสลบ นั่นทำให้มันมีโอกาสจมน้ำสูงมาก ขณะนั้นทุกคนต่างเฝ้าดูด้วยความเป็นห่วงและคิดหาวิธีที่จะพามันขึ้นฝั่ง แต่ Adam ที่เฝ้าดูอยู่ เกรงว่าหมีจะจมน้ำตายซะก่อน เขาจึงตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเจ้าหมีขึ้นฝั่งให้ทันเวลา ว่าแล้วเขาก็ถอดเสื้อ ถอดรองเท้า แล้วกระโดนลงไปในน้ำ เพื่อไปช่วยเจ้าหมีตัวนั้นที แม้ว่ามันจะมีน้ำหนักมากถึง 170 กิโลกรัม แต่ในที่สุด Adam…
-
ชมภาพ “อาชญากรรมทางสายตา” ใครก็ได้แจ้งตำรวจมาจับที อิชั้นทนไม่ไหวแล้ววว!!
สำหรับใครที่เป็นเพอร์เฟกชั่นนิสต์หรือผู้ที่หลงใหลในความสมบูรณ์แบบ คงจะรู้สึกหงุดหงิดกันบ้างแน่ๆ เวลาที่คุณเห็นข้าวของหรือสิ่งต่างๆ ที่วางไม่ถูกที่ถูกทาง และคุณคงจะอดใจไม่ไหวที่จะจัดการให้มันเรียบร้อย แต่สำหรับชุดภาพที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่ชาวเพอร์เฟกชั่นนิสต์ เชื่อแน่ว่าคุณเองก็อาจจะรู้สึกกระวนกระวายใจจนอยากจะอุทานออกมาแน่ๆ อ่า… ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ไปชมกันได้เลย แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะใครที่ชอบความเพอร์เฟกต์แนะนำว่าอย่าดูเลย 1. ช่วยบอกฉันที อะไรคือจุดกึ่งกลางของภาพนี้!? 2. เบื่อบ้างไหม ที่ต้องเจอช้อนตักน้ำตาลในสภาพแบบนี้?? 3. เสียชาติเกิดเป็นสัญญาณเตือนไฟไหม้จริงจริ๊ง!! 4. นี่คือภาพที่หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นทุกครั้งที่ดึงกุญแจรถออกจากกระเป๋า 5. ทำไมน๊อ?? ทำไมไม่วางให้มันตรงๆ หน่อยนะ เห็นแล้วขัดใจจริงๆ 6. แค่มองแว๊บแรก ก็รู้สึกหงุดหงิดใจเลยใช่ไหมล่ะ?? 7. กรรไกรนี้ท่านได้แต่ใดมา?? 8. ใครสั่งใครสอนให้หิ้วกล่องพิซซ่าแบบนี้!! 9. สงสัยผู้รับเหมาจะรีบไปหน่อยสินะ!? 10. เจอนาฬิกาแบบนี้ ปวดหัวเลยทีเดียว!! 11. ทุกครั้งที่คุณเทน้ำลงบนแก้วอีกใบ คุณมักจะเจอเหตุการณ์แบบนี้เสมอ 12.…
-
คุณตาฝังรถโรงเรียนกว่า 42 คันไว้ใต้ดิน เพื่อทำเป็นบังเกอร์หลบภัยรองรับวันสิ้นโลก
ทางตอนเหนือของโตรอนโต ประเทศแคนาดา จะมีหมู่บ้าน Horning’s Mills ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบของชาวแคนาดา ที่น่าสนใจคือที่นั่นมีพื้นที่รกร้างเนื้อที่ 12.5 เอเคอร์ (ราวๆ 31 ไร่) Bruce และ Jean Beach ไว้สำหรับทำบังเกอร์หลบภัยรองรับวันสิ้นโลก หากใครที่ไม่รู้จะมองว่าในพื้นที่ดังกล่าวนั้นไม่ได้ต่างอะไรจากพื้นที่ทั่วไป แต่จริงๆ แล้ว ภายใต้พื้นที่ที่ปกคลุมด้วยหญ้าเขียวๆ นั้นมี The Ark Two ซึ่งเป็นที่หลบภัยขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ ที่หลบภัยของ Bruce วัย 83 ปี เป็นอุโมงค์คอนกรีต ภายใต้ความลึก 4.2 เมตร ซึ่งประกอบด้วยรถโรงเรียนเก่าๆ กว่า 42 คัน The Ark Two ถูกออกแบบให้รองรับผู้คนได้ 500 คน และสามารถอยู่ได้เป็นเวลาหลายเดือน เพราะในนั้นมีทุกอย่างที่จำเป็นต่อความอยู่รอด ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ห้องน้ำ ระบบประปา ไฟสำรอง รวมไปถึงยารักษาโรค สำหรับอุโมงค์หลบภัยดังกล่าวนี้ Bruce ได้เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี 1980 ระหว่างที่เกิดสงครามเย็น…
-
ลองชมงานประชุมครั้งแรกของ ‘กลุ่มคนที่เชื่อว่าโลกแบน’ และปฏิเสธข้อมูลจาก NASA
ด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่ทำให้มนุษย์เราสามารถออกไปนอกอวกาศได้ อีกทั้งยังมีดาวเทียมต่างๆ โคจรอยู่รอบโลก ซึ่งภาพถ่ายของโลกเราที่ใครๆ ต่างก็เคยเห็นก็คือมีลักษณะกลม แต่มีคนจำนวนหนึ่งที่มีความคิดที่ต่างกันออกไป โดยพวกเขาเชื่อว่าโลกของเรานั้นแบนและภาพถ่ายต่างๆ จากองค์การนาซ่านั้นเป็นเรื่องโกหก!! งานประชุมประจำปีครั้งแรกของกลุ่มคนที่เชื่อว่าโลกนี้มีลักษณะแบน จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 9-10 พฤศจิกายนที่ผ่านมาที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยงานนี้มีผู้ที่มีความคิดแบบเดียวกันเข้าร่วมกว่า 400 คน ลักษณะที่พวกเขาเชื่อว่าโลกของเราเป็น โดยการจะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ได้นั้นจะต้องมีการซื้อตั๋วเพื่อเข้างานด้วย ซึ่งตั๋วที่ขายนั้นก็มีราคาสูงถึง 250 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 8,215 บาท) เลยทีเดียว ซึ่งเนื้อหาใจความหลักๆ ในการประชุมครั้งนี้ก็คือเพื่อจะบอกว่าโลกของเรานั้นมีลักษณะแบนเหมือนจาน และยังบอกอีกด้วยว่า Nasa และองค์การอวกาศอื่นๆ นั้นได้โกหกเรามาตลอดว่าโลกของเรานั้นมีลักษณะกลมอีกทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ นั้นเป็นเรื่องโกหก ทีมงานโลกแบนได้เข้าร่วมจำนวนมาก Mark Sargent มีผู้ติดตามในเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Youtube ถึง 40,000 คนจากทฤษฎีโลกแบนที่เขาคิด ได้บอกไว้ในงานว่า “วงการวิทยาศาสตร์จะต้องออกมาอธิบายเรื่องนี้ พวกเขาหลบเราไม่ได้ตลอดไปหรอก ไม่มีใครชอบความรู้สึกอึดอัดที่จะอยู่ในลูกบอลเล็กๆ อย่างนี้พวกเขาอยากจะบินไปนอกอวกาศจนถึงจุดสิ้นสุดของจักรวาลเลยมากกว่า” พวกเขาเหล่านี้ต่างไม่เชื่อว่าโลกของเรากลมจริงๆ “นานมาแล้วที่เราอยู่ภายใต้ความคิดที่ว่าโลกนั้นกลม ไม่รู้สิผมคิดว่าเรากำลังถูกหลอกมากกว่าแต่อย่าเชื่อคำพูดของผมมากนะ ผมอาจจะเป็นผู้ป่วยทางจิตที่เพิ่งออกมาจากโรงบาลบ้าก็ได้” Mark กล่าว…
-
20 การโฆษณาสุดสร้างสรรค์ ที่น่าสนใจจนต้องต้องยอมซูฮกให้กับครีเอทีฟจริงๆ
การโฆษณาถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในการค้า จึงทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจะทำการโฆษณาให้ออกมาน่าสนใจที่สุด เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คน ในโฆษณาแต่ละชิ้นจึงเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ความตลก รวมทั้งการประชดประชัน เหมือนกับการโฆษณาต่อไปนี้ ที่จะทำให้ใครๆ ก็ต้องหันมามอง 1. การโฆษณาเปิดตัวหนัง Alice in Wonderland 2. เป็นการโฆษณาไวน์ที่น่าลิ้มลองซะจริงๆ… ใช่มั้ยหนุ่มๆ? 3. โฆษณากินเนสส์ 4. รณรงค์ต่อต้านการทุจริตทางสังคม หมายความว่าเมื่อมีการทุจริต ยังไงก็ปกปิดไม่มิด 5. กระตุ้นให้ตระหนักถึงอันตรายเมื่อฝนตก 6. ป่ายโฆษณาของ McDonald เรียบแต่เก๋ 7. โฆษณาถุงยางอนามัย 8. โฆษณาสเปรย์พริกไทย ใครโดนเข้าไปนี่ เตรียมหาลูกตาใหม่ได้เลย 9. โฆษณา Ambi Pur 10. โฆษณาหูฟัง JBL ดังแค่ไหนก็ไม่หวั่น 11. โฆษณา Pedigree 12. ต่อต้านการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ …
-
ภาพถ่ายเพื่อนเมื่อปี 2000 ถูกนำมาถ่ายอีกครั้งในปี 2017 เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของแต่ละคน…
บางครั้งเวลาผ่านไปไว้เหมือนโกหกเลยนะ กระพริบตาแป๊บๆ ก็ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว หรือบางทีเวลาผ่านไปแล้วเป็นปี 5 ปี 10 ปี เรายังไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงเลย ช่างภาพ Josephine Sittenfeld ก็มีประสบการณ์เช่นนั้นเหมือนกัน เธอเคยถ่ายรูปเพื่อนร่วมชั้นตอนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Princeton University เมื่อปี 2000 Sophie หลังจากที่เรียนจบ Josephine ก็เก็บรูปเพื่อนๆ เอาไว้โดยไม่ได้เอาออกมาดูเลย กระทั่งหลายปีผ่านไป เมื่อทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าของพ่อแม่ เธอก็ได้เจอกับรูปภาพเหล่านี้ และเมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ทางมหาลัยกำลังจะมีงานมีทติ้งศิษย์เก่าปี 15 ทำให้เธอนึกถึงรูปภาพที่เคยถ่ายเมื่อปี 2000 และตัดสินใจที่จะสร้างรูปภาพเหล่านั้นอีกครั้ง Ellie Kemper ในที่สุดหญิงสาวก็ได้สร้างชุดภาพที่มีชื่อว่า Reunion เป็นการนำภาพเพื่อนร่วมชั้นเมื่อปี 2000 กับปี 2017 มาเทียบกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าแต่ละคนเปลี่ยนไปยังไงบ้าง เพื่อนคนหนึ่งของ Sittenfeld บอกว่า “เมื่อ 20 ปีก่อน ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิตบ้าง แต่ตอนนี้ ฉันสามารถบอกได้ว่าตัวเองมาไกลแค่ไหน และมันยังไม่จบลงแค่นี้ แต่ยังมีหลายสิ่งรอเราอยู่ในวันข้างหน้า” Larry …
-
ภาพสุดชื่นมื่นจากงานแต่ง “เซเรน่า วิลเลี่ยม” เจ้าบ่าวหล่อเจ้าสาวสวย “บีย่อนเซ่-คิม” ควงคนดังร่วมงานเพียบ
ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เข้าพิธีวิวาห์เป็นที่เรียบร้อย สำหรับนักเทนนิสสาวชื่อดัง Serena Williams ซึ่งภาพของงานแต่งงานก็ถูกเผยแพร่ออกมายังสื่อมวลชน ดูเป็นงานที่มีความสุขมากจริงๆ ฝ่ายเจ้าบ่าว Alexis Ohanian ซึ่งหลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อ แต่เขาเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์เรดดิท สื่อสังคมออนไลน์ของอเมริกาที่ดังประมาณพันทิปของบ้านเรานี่แหละ งานนี้จึงถือเป็นงานแต่งงานของเซเล็บระดับต้นๆ ในอเมริกาเลย งานแต่งครั้งนี้ถูกจัดขึ้นในธีม Beauty and the Beast ตามความชื่นชอบของฝ่ายสาว โดยมีสักขีพยานเป็นลูกสาวอายุ 2 เดือน มาถ่ายภาพในพิธีนี้ด้วย “Alexis อยากจะจัดงานแต่งในเมืองนิวออร์ลีน เขาชอบเมืองนี้มากรองมาจากบรู๊คลินเลยล่ะค่ะ เพราะทั้งความเป็นยุโรป รวมถึงอาหารแสนอร่อย มันมีเสน่ห์อย่างน่าทึ่ง” เธอพูดถึงสาเหตุที่จัดงานแต่งในเมืองดังกล่าว ทั้งสองคนพบกันที่คาเฟ่ในกรุงโรม และหลังจากรักกันได้ 18 เดือน ฝ่ายชายก็ตัดสินใจขอฝ่ายสาวแต่งงานโดยทันที เพราะทั้งสองคนเชื่อว่านี่แหละคือคนที่ใช่สำหรับชีวิตนี้ ในงานยังมีบรรดาแขกเซเลบอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ Beyoncé หรือสาว Kim แห่งคาร์เดเชียน รวมถึง Kelly Rowland และ LaLa Anthony อีกด้วย บรรดาเซเลบที่มาร่วมงาน และนี่คือภาพแห่งความชื่นมื่นของงานแต่งงานดังกล่าว ซึ่งต้องบอกเลยว่าน่ารักทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว รวมถึงหนู Alexis Olympia…
-
น้องหมาตรอมใจตายเพราะซึมเศร้าหนัก หลังถูกเจ้าของทิ้งไว้ที่สนามบิน แม้ผู้ใจบุญพยายามช่วย
ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์ที่รู้สึกเสียใจเป็น เพราะสัตว์อย่างสุนัขก็มีหัวใจและเสียใจได้เช่นกัน ยิ่งถ้าหากเจ้าหมาตัวไหนที่ถูกทำร้าย หรือถูกเจ้าของเดิมทอดทิ้ง พวกมันก็จะกลายเป็นหมาซึมเศร้าบางตัวก็ถึงขั้นตรอมใจตายเลยก็มี เหมือนดังเช่นเรื่องราวของสุนัขที่น่าสงสารตัวนี้ มันถูกผู้เป็นเจ้าของทิ้งไว้ที่สนามบินอย่างไม่มีใยดี จนทำให้มันซึมเศร้าหนักและไม่ยอมกินอาหาร สุดท้ายมันก็ตรอมใจตายไปในที่สุด และนี่คือภาพของน้องหมาโดนทิ้งที่ได้จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังจากที่มันไม่ยอมแตะต้องอาหารเลย เพราะมันคิดว่าเจ้าของจะไม่กลับมาหาอีกต่อไป เจ้าหมาได้ใช้เวลาทั้งหมดตามหาเจ้าของที่มันเคยรักและไว้ใจอยู่ที่สนามบิน Bucaramanga ในประเทศโคลอมเบียเป็นเวลานานถึง 1 เดือน หลังจากที่ถูกทิ้งเอาไว้ ณ ที่แห่งนี้ ซึ่งทางพนักงานที่สนามบินก็ได้ตั้งชื่อเล่นให้มันว่า “Traveling Cloud” หลังจากที่มันรู้ตัวว่าโดนเจ้าของทิ้ง มันก็ไม่ยอมกินอาหารที่เหล่าผู้ใจบุญมอบให้ จนสุขภาพย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ภายหลังเหล่าพนักงานในสนามบินจึงพามันไปหาสัตวแพทย์ ทางด้าน Alejandro Sotomonte Nino สัตวแพทย์จากมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ในโคลอมเบียกล่าวว่า “เราคาดว่ามันน่าจะถูกทอดทิ้ง เพราะเห็นได้ชัดว่าในเดือนแรกมันกำลังมองหาใครบางคนซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของ และนั่นก็ทำให้สุขภาพของมันเริ่มทรุดโทรม เนื่องจากไม่ได้กินอาหาร ดังนั้น เราจึงต้องให้อาหาร พร้อมฉีดยาเพิ่มสารอาหารให้กับมัน แต่ดูเหมือนมันกำลังตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า และกำลังหดหู่อย่างหนัก นั่นอาจทำให้มันไม่รอดชีวิต” แม้จะพบกับสัตวแพทย์และได้รับการรักษาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าความบอบช้ำทางร่างกายไม่อาจเทียบได้กับความบอบช้ำทางจิตใจที่มันได้รับ มันยังคงเศร้าซึม จนทำให้อาการแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่ง 48 ชั่วโมงต่อมา…
-
แมวเจ้าถิ่นกอด “ลูกแมวกำพร้า” เอาไว้ทั้งคืนเพื่อให้ความอบอุ่นตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่
ไม่น่าเชื่อว่าความรักจะเกิดขึ้นได้กับใครที่เพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรก เหมือนกับเจ้าแมวตัวนี้ที่เข้ามาต้อนรับลูกแมวกำพร้าตั้งแต่เข้ามาอยู่บ้านวันแรก โดยมันทั้งประคบประหงมเจ้าแมวน้อยราวกับเป็นพี่ชายแท้ๆ เลยก็ว่าได้ เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Moonglade Rose นักช่วยเหลือสัตว์คนหนึ่งได้พบลูกแมวถูกทิ้งตัวหนึ่งที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน ซึ่งหลังจากพาไปโรงพยายาลแล้วเธอก็ได้ตัดสินใจจะพาแมวที่น่าสงสารตัวนี้กลับมาอยู่ที่บ้านร่วมกันกับเธอโดยเธอได้ตั้งชื่อให้แมวตัวนี้ว่า Opie เจ้า Opie แมวน้อยถูกทิ้งที่น่าสงสาร แต่เธอก็แอบกังวลว่าเจ้า Opie จะเป็นอย่างไรหากได้พบกับเจ้า Andy แมวที่เธอได้เก็บมาเลี้ยงก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่บ้านของเธอ เมื่อเจ้า Andy ได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยตั้งแต่เปิดประตูบ้านมันก็รีบวิ่งกระโจนออกมาดูว่า สิ่งที่มันได้ยินเป็นเสียงของตัวอะไรกันแน่นะ เมื่อเจอกันครั้งแรกก็เหมือนมีทั้งคู่มีความผูกพันธ์กันตั้งแต่แรกเห็น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้เจ้าของรู้สึกประหลาดใจทีเดียว เพราะว่าเจ้าแมวเจ้าถิ่นตัวนี้ไม่ได้มีท่าทีที่จะรังเกียจเจ้าแมวน้อยที่เข้ามาใหม่แต่อย่างใด แต่ว่ามันกลับตรงกันข้ามโดยการนำแขนของมันไปโอบกอดเจ้าแมวน้อย เหมือนกับว่ามันกำลังจะบอกว่ายินดีต้อนรับเข้าสู่บ้านหลังนี้ “เจ้า Andy ให้การต้อนรับเจ้าแมวที่น่าสงสารตัวนี้เป็นอย่างดีและมันก็กอด Opie ไว้ในอ้อมอกตลอดเวลา” Moonglade ได้ให้สัมภาษณ์ Andy รักเจ้าเหมียวตัวน้อยราวกับเป็นน้องชายแท้ๆ ในคืนนั้นทั้งสองตัวก็ได้นอนด้วยกัน และดูเหมือนว่าเจ้า Andy ที่มีตัวโตกว่าจะคอยระวังภัยต่างๆ ให้แก่น้องชายที่เข้ามาอยู่ใหม่ตลอดทั้งคืน พวกมันนอนด้วยกันอย่างอบอุ่นราวกับว่าเป็นพี่ชายและน้องชายที่คลานตามกันออกมาก็ว่าได้ “เจ้าลูกแมว Opie ดูจะเชื่อใจฉันมากและชอบที่จะนอนหลับไปพร้อมกับฉัน หลังจากกินอาหารมักจะปีนขึ้นมาที่บริเวณอกของฉันแล้วมันก็นอนหลับไปเลย และก็เป็นโชคดีของมันจริงๆ ที่เจ้า Andy ก็รักมันเช่นกัน” MoonGlade กล่าวเพิ่ม…
-
รู้หมือไร่?? อาการขี้หลงขี้ลืมนั้นเป็นผลดีต่อสมองและอาจทำให้คุณกลายเป็นอัจฉริยะก็เป็นได้
อาการขี้หลงขี้ลืมเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าคนๆ นั้นมีสมองที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่รู้หรือไม่ว่าอาการขี้ลืมจริงๆ แล้วมันเป็นสัญญาณของคนฉลาดต่างหาก งานวิจัยหนึ่งที่ได้ตีพิมพ์ในนิตยสาร Neuron บอกไว้ว่าคนที่มีสมองสุขภาพแข็งแรงบางครั้งก็มีการทำงานที่หนักหน่วงเกินไปจนกลายเป็นอาการหลงลืมชั่วขณะนั่นเอง ซึ่งงานวิจัยชิ้นนั้นเขียนโดย นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโทรอนโต ประเทศแคนาดาโดยได้ทิ้งข้อสรุปไว้ว่า การลืมสิ่งต่างๆ ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแต่ว่ามันเป็นการพักสมองหลังจากใช้งานมาอย่างหนักและมันก็กำลังเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่สมองของเราด้วย Paul Frankland และ Blake Richards ได้บอกเอาไว้ว่าหน่วยความจำจริงๆ แล้วนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือจดจำเฉพาะข้อมูลที่มีความสำคัญและอีกส่วนหนึ่งคือสร้างพื้นที่สำหรับพักผ่อนสมองซึ่งนั่นจึงทำให้เราหลงลืมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวันไป การศึกษาหนึ่งของ Frankland พบว่าเมื่อเซลล์สมองใหม่ถูกสร้างขึ้นในสมองส่วนฮิปโปแคมปัส ความทรงจำเก่าๆ จะถูกเขียนทับเหมือนกับข้อมูลในคอมพิวเตอร์เลยล่ะ “มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่สมองของเราจะลืมรายละเอียดสิ่งต่างๆ ที่ไม่สำคัญนักในชีวิตของเราและเพ่งเล็งไปในเรื่องที่สำคัญ เพราะจะทำให้เราสามารถตัดสินใจเรื่องสำคัญนั้นได้ดีขึ้นและยังสร้างพื้นที่ว่างเพื่อรองรับสิ่งใหม่ๆ อีกด้วย” Richard กล่าว ประโยชน์อย่างหนึ่งของโรคขี้หลงขี้ลืมนี้ก็คือ เมื่อเราลืมรายละเอียดในกิจกรรมต่างๆ ที่ผ่านไปแล้ว แต่ว่ายังคงจำภาพรวมของกิจกรรมนั้นได้ มันจะทำให้เราพยายามนึกย้อนไปในอดีตและทำให้เราสามารถซึมซับบรรยากาศในวันนั้นและให้ความรู้สึกเหมือนกับวันนั้นพึ่งผ่านมาเพียงไม่นาน แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไปสำหรับคนที่ลืมสิ่งสำคัญตลอดเวลา เพราะว่าการลืมสิ่งต่างๆ อาจทำให้เราเกิดความกังวลว่าเราลืมอะไรไปบ้างและนั่นอาจทำให้เราเริ่มจะเป็นโรคหวาดระแวง ซึ่งเป็นโรคประสาทชนิดหนึ่งได้ สำหรับวิธีการออกกำลังกายสมองก็มีวิธีการง่ายๆ โดยการพยายามทบทวนว่าวันนี้เราได้ทำอะไรไปบ้างแค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้สมองของเรามีสุขภาพที่ดีแล้วล่ะ ที่มา: unilad
-
17 ประโยคสุดฮา กับแฮชแท็ก #คำด่าที่ไม่ทีคำหยาบ ที่พูดเรียบๆ แต่เจ็บแสบแบบไม่รู้ตัว!!
ใครที่เป็นชาวโซเชียลตัวจริงก็ต้องเคยเห็นกระแสแฮชแท็ก #คำด่าที่ไม่ทีคำหยาบ กันมาบ้างแล้ว เรียกได้ว่าแต่ละประโยคนั้น ทำเอาสะดุ้งกันไปทั้งไทม์ไลน์เลยทีเดียว เพราะในคำด่านั้นถึงแม้ไม่มีคำหยาบแต่มันกลับเจ็บลึกไปถึงทรวงอก ซึ่งเราก็เคยเสนอ คำเจ็บๆ เหล่านั้นกันมาบ้างแล้ว แต่ก็นั้นแหละนะ ผู้ดีอย่างเราจะด่าใครซักที ก็ต้องเอาที่มันเจ็บแบบไร้คำหยาบ ว่าแต่ชาวทวิตเตอร์ทั้งหลาย จะมาช่วยแชร์ไอเดีย #คำด่าที่ไม่ทีคำหยาบ อะไรกันบ้าง เราไปอ่านข้อความเจ็บๆ ไปพร้อมๆกันเลย 1. หือใครต่ำกว่าใครจ๊ะเนี้ย… 2. เอ๊า… นึกว่าตัวเองเป็นม้ายูนิคอร์นมาโดยตลอด T_T 3. โถ้ว ก็อุตส่าห์ทำให้เทามาตลอด 4. สงสัยต้องลองตบซักฉาดดดด!! 5. อ่อออ…เขาบอกว่าเราเป็นคนมีความรู้ 6. เอ๊ะ มันอ่านว่าอะไรนะ… 7. ต้นไม้ยังไม่อยากจะยุ่งด้วย 8. ก็บอกแล้วอย่ามาเหยียดสีผิวกัน 9. สำหรับคนที่แสดงเก๊งเก่ง 10. เพราะว่ากลัวความสูงนะเนี่ย เพิ่งรู้… 11. อย่ามาวัดกันที่ฐานะหน้าตานะยะ 12.…
-
รู้จักกับ “Snowflake” ดินแดนสำหรับ “ผู้แพ้ชีวิตสมัยใหม่” ที่ใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันไม่ได้!?
ในทุกวันนี้การที่มีเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วได้ทำให้ชีวิตของเรามีความสะดวกเพิ่มมากขึ้น แต่ในเมื่อมีผลดีก็ต้องมีผลเสีย เพราะสารเคมีหรือว่ารังสีบางอย่างอยู่รอบๆ ตัวเรา นั้นอาจทำให้บางคนที่ไวต่อการสัมผัสรู้สึกไม่สบายได้ นั่นจึงเป็นที่มาของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมือง Snowflake ที่ตั้งอยู่บริเวณขอบของรัฐแอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ที่เจ็บป่วยทรมานต่อสารเคมีต่างๆ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ผู้แพ้ชีวิตสมัยใหม่” ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้เป็นโรคเรื้อรังที่แพ้ต่อสารเคมีและเทคโนโลยีในปัจจุบัน อาการบางอย่างของผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ก็คือ จะรู้สึกไม่สบายตัว ในบางรายอาจมีร่างกายที่ทรุดโทรมไปเลยอย่าง มีอาการคลื่นไส้รุนแรง ไมเกรน เป็นโรคหวาดระแวง และวิงเวียนศีรษะในบางครั้ง สาเหตุที่ทำให้พวกเขามีอาการเหล่านี้ พวกผู้ป่วยได้บอกไว้ว่าเป็นเพราะสารเคมีและเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆ ที่อยู่รอบตัวพวกเขา อย่างเช่น น้ำหอม เส้นใยสังเคราะห์ในเสื้อผ้าหรือหมอนมุ้ง สารกำจัดศัตรูพืชทั้งหลาย รวมถึงอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายหรือ Wi-Fi ด้วย ซึ่งหมอส่วนมากลังเลที่จะประกาศว่าอาการเหล่านี้เป็นโรคชนิดหนึ่ง เพราะว่ามันขาดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์แต่พวกเขาจะเรียกว่า อาการจิตทางสังคมที่ก่อให้เกิดอาการทางกายภาพอย่างฉับพลัน ด้วยเหตุเหล่านี้ ผู้ป่วยเหล่านี้จึงไม่สามารถหาความช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับโรคที่พวกเขาเป็น และต้องหาที่อยู่ใหม่เพื่อเป็นการรักษาตัวเอง เนื่องจากสาเหตุเหล่านี้ทำให้ในปี 1998 ผู้แพ้ชีวิตสมัยใหม่ทั้งหลายจึงได้ตัดสินใจที่จะกำหนดสุขภาพของพวกเขาด้วยมือตนเอง โดยพวกเขาได้ย้ายไปในเมืองทะเลเล็กๆ ในเมือง Snowflake Bruce McCreary ผู้บุกเบิกที่นี่เป็นอดีตวิศวกรไฟฟ้าได้ตัดสินใจทิ้งบ้านของเขาในเมือง Mesa หลังจากที่เกือบจะพิการจากการสัมผัสสารเคมีในโรงงานผลิตสารเคมีที่เขาทำงาน ต่อมาช่วงต้นๆ ปี 1990 ก็มีผู้ป่วยทางสังคมอีกกว่า 30 คนเข้ามาสมทบกับเขาด้วย และได้เกิดเป็นเมืองๆ หนึ่งในที่สุด ผู้อยู่อาศัยคนอีกคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ชื่อว่า…
-
เปิดท้ายขายของในตลาด ‘ถ่านไฟเก่า’ ในเวียดนาม เปลี่ยนเศษซากความรักให้กลายเป็นเงิน
เมื่อครั้งรักยังหวานชื่น หนุ่มสาวมักจะซื้อของขวัญให้กันและเพื่อเป็นสิ่งแทนใจหรือเอาไว้ดูต่างหน้าเมื่อต้องไกลกัน แต่เมื่อรักขมขื่นจนต้องเลิกรากันไป ของขวัญเหล่านั้นก็กลายเป็นแค่เศษขยะที่ไม่ค่าต่อใจอีกต่อไป แต่หากคุณคิดที่จะนำของขวัญเหล่านั้นไปทิ้งหรือทำลาย ได้โปรดคิดให้ดีก่อน เพราะคุณอาจหาประโยชน์จากมันได้ เหมือนกับ Dinh Thang วัยรุ่นชาวเวียดนาม ที่ได้ผุดไอเดียสุดบรรเจิดสำหรับจัดการกับของที่แฟนเก่าเคยให้ แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับความรักที่พังทลาย อยู่กับของที่แฟนเก่าเคยให้อย่างอาลัยอาวร Thang เลือกที่จะนำสิ่งของเหล่านั้นไปขายเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 เขาเริ่มที่จะก่อตั้งตลาด “ถ่านไฟเก่า” ในเวียดนาม ให้คนที่เลิกกับแฟนนำของของอดีตแฟนมาขายให้กับคนที่สนใจ Thang บอกว่า “นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ไอเดียที่ผมกับเพื่อนๆ คิดขึ้นมา หลังจากที่ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับอดีตแฟนและสิ่งของต่างๆ ที่เคยรับตอนที่ยังคบกัน” “หลังจากที่เลิกกัน เราพบว่ามีของหลายสิ่งที่เคยได้รับจากแฟนเก่าและเราก็ไม่อยากเห็นมันอีกต่อไปแล้ว เพราะมันทำให้เราคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด อย่างไรก็ตาม สิ่งของเหล่านั้นยังอยู่ในสภาพดี ถ้าเราทิ้งไป มันอาจจะเป็นอันตรายกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเราจึงคิดว่าควรจะนำมันไปแลกเปลี่ยนกับคนอื่นดีกว่า” “สิ่งของได้ไปอยู่กับเจ้าของใหม่ ผู้คนได้ซื้อของใหม่ๆ ที่สำคัญคือเป็นวิธีที่ดีในการปกป้องสิ่งแวดล้อม ส่วนเราก็ได้เงินจากการขาย มันวินวินด้วยกันทุกฝ่าย” สองครั้งแรกที่เปิดตลาดถ่านไฟเก่า มีคนนำของแฟนเก่ามาขายเพียง 10 คนเท่านั้น แต่ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ก็มีคนมาขายเพิ่มมากจนพื้นที่ไม่เพียงพอ ปัจจุบัน Thang ให้ทุกคนที่ต้องการขายของแฟนเก่าเข้ามาเปิดขายฟรี ผู้ซื้อหรือคนทั่วไปก็สามารถเข้ามาชมฟรี แต่ใครที่นำของใหม่ที่ไม่ใช่ของแฟนเก่า…
-
กองทัพเรือสหรัฐฯ แถลงขอโทษ หลังนักบินวาด ‘รูปหรรมส์’ บนท้องฟ้าจนดังไปทั่วโลก
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ชาวบ้านในเขต Okanogon รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ต่างพากันงงและสงสัยเมื่อพวกเขาพบว่าบนท้องฟ้าได้มีควันสีขาวที่วาดออกมาจนดูเหมือนกับ “หรรมส์” ขนาดใหญ่กำลังลอยอยู่ ความพิสดารแบบนี้จึงทำให้บางคนถ่ายภาพสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเก็บไว้และโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย สร้างความสงสัยให้กับคนจำนวนมากว่าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร จนกระทั่งกองทัพเรือแห่งสหรัฐฯ ได้ออกมาอธิบายว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นฝึมือของนักบินในสังกัดของพวกเขาเอง หรรมส์ลอยอยู่บนท้องฟ้าซะอย่างนั้น . นาวาตรี Leslie Hubbell ได้ออกมาชี้แจงกับทางสำนักข่าว Buzzfeed ว่า “ทางกองทัพเรือขอโทษสำหรับสิ่งที่ดูขาดความรับผิดชอบและขาดวุฒิภาวะอย่างนี้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในการฝึกซ้อมการขับเครื่องบินผาดโผนของคนในกองทัพ” “เราตั้งมาตรฐานของนักบินเราไว้สูงมากเพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ทำให้การซ้อมรบในครั้งนี้ของพวกเขาไร้ค่าไปโดยปริยายและลูกเรือของเราก็คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น” นาวาตรีกล่าวเสริม พลเรือโท Mike Shoemaker แห่งหน่วยกองทัพอากาศของกองทัพเรือได้ออกมาพูดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหนึ่งในอีกทางหนึ่งว่า “ชาวอเมริกันทุกคนมีสิทธิ์คาดหวังว่านักบินที่ได้รับ Wings of Gold จะแสดงให้เห็นถึงระดับวุฒิภาวะที่มากพอสำหรับการไว้วางใจให้พวกเขาได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจเสี่ยงๆ” เขาอธิบายต่ออีกว่า “ในหน่วยการบินของกองทัพเรือเราพยายามส่งเสริมให้เกิดการแสดงออกในเรื่องของศักดิ์ศรีและความน่าเคารพ ดังนั้นคนที่มาเล่นมุขตลกในเรื่องเพศเหมือนคนไม่มีวุฒิภาวะ ก็จะไม่มีที่ยืนในหน่วยของเราเด็ดขาด” . อย่างไรก็ตามยังไม่มีการแถลงว่านักบินคนดังกล่าวจะได้รับบทลงโทษอย่างไรบ้าง ที่มา: buzzfeed
-
19 สิ่งที่ผู้หญิงทำแล้วจะรู้สึกผิดมากๆ เมื่ออยู่ในช่วงที่มี “ประจำเดือน” นี่เราทำอะไรลงไป!?
เป็นผู้หญิงนี่มันไม่ง่ายเลยนะ กว่าจะออกจากบ้านได้แต่ละวัน ต้องแต่งหน้าแต่งตัวเป็นชั่วโมงๆ แหนะ แต่สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย เมื่อถึงวันนั้นของเดือน ใช่ค่ะ เรากำลังพูดถึงวันที่ผู้หญิงมีประจำเดือน มันเป็นช่วงที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกหงุดหงิดในเวลา เพราะสาวๆ ต้องคอยรับมือกับความรู้สึกผิดต่างๆ อย่างเช่น 19 ข้อนี้ 1. คุณจะรู้สึกไม่อยากไปค้างบ้านเพื่อนในช่วงแดงเดือดเด็ดขาด เพราะมันจะแย่ถ้านอนเตียงคนอื่นแล้วทำให้ผ้าปูเตียงเปื้อนเลือด ซึ่งคุณจะรู้สึกผิดมากๆ 2. แม้ประจำเดือนจะเลอะที่นอน คุณก็ทำได้แค่ซักผ้าปูให้สะอาด และต้องทนใช้ที่นอนนั้นต่อไป เพราะคงไม่มีใครอยากซื้อที่นอนใหม่ทุกเดือนหรอก 3. สมัยใช้ผ้าอนามัยใหม่ๆ คุณต้องเคยเผลอทิ้งมันลงชักโครก แล้วมารู้ทีหลังว่ามันเป็นพฤติกรรมที่แย่ม๊ากมากกกกกก 4. หรือทิ้งมันลงในถังขยะโดยลืมห่อให้ดี และคนที่มาเปิดก็จะเจอกับภาพอันสยองงงง 5. การใช้ส้วมในช่วงนี้มันเป็นเรื่องที่ต้องโคตรระมัดระวัง คุณมักจะพลาดทำประจำเดือนเลอะใต้ฝาครอบชักโครกเสมอ 6. หรือทำเปื้อนบนพื้น แล้วคุณก็ต้องเสียเวลาทำความสะอาด… หนักไปกว่านั้นคือมันเปื้อนผนังด้วย (เปื้อนไปได้ยังไง) 7. เวลาทิ้งผ้าอนามัยในถังขยะห้องน้ำสาธารณะที่เต็มมากๆ คุณจะรู้สึกผิดต่อคนที่มาทำความสะอาด 8. หรือแม้แต่ถังขยะคุณเองก็จะเต็มภายในเวลาอันรวดเร็ว แถมยังส่งกลิ่นเหม็นด้วย …
-
ชมภาพพัฒนาการของงาน Victoria’s Secret เมื่อ 20 ปีก่อน 10 ปีก่อน และในปัจจุบัน
สำหรับมหกรรมการแสดงแฟชั่นโชว์ระดับโลกอย่าง Victoria’s Secret นั้น ได้เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงกลางปี 1990 โดยในทุกๆ ปีเวทีนี้จะถูกจัดขึ้นอย่างหรูหรา และยิ่งใหญ่อลังการสุดๆ นอกจากนี้ ยังมีเหล่านางแบบชั้นนำระดับโลกมาร่วมเดินแบบโชว์กันอย่างมากมาย นับเป็นอีกหนึ่งเวทีแฟชั่วโชว์ที่สามารถดึงดูดสายตาผู้คนทั่วโลกได้เป็นอย่างมาก และเพื่อเป็นเกียรติแก่การครบรอบ 20 ปีของ Victoria’s Secret ดังนั้น เราจึงได้รวบรวมภาพบรรยากาศและการเดินแฟชั่นโชว์ของเหล่านางฟ้าตั้งแต่อดีตมาจนถึงยุคปัจจุบัน มาดูกันว่าเวทีสุดอลังการนี้จะมีพัฒนาการความเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยขนาดไหน เมื่อยี่สิบปีก่อน (1997) ชุดชั้นในที่มีรูปแบบเหมือนชุดดำน้ำสกูบ้าถือเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยม และดูเซ็กซี่ที่สุดบนรันเวย์ในนิวยอร์กเลยก็ว่าได้ ภาพของนางแบบที่กำลังเดินแฟชั่นโชว์ในปี 1997 ในปีเดียวกัน Georgianna Robertson นางแบบสาวได้เปิดตัวในชุดชั้นในแบบขนเฟอร์สุดอลัง นี่คือ Naomi Campbell ซูเปอร์โมเดลที่ฮอตตลอดกาลมาพร้อมกับชุดชั้นในแวมไพร์สุดเซ็กซี่ นางแบบสาว Tyra Banks เฉิดฉายบนรันเวย์ รูปลักษณ์ของนางแบบสาวที่ทำให้นึกถึง Mean Girls ภาพยนตร์สุดฮอตฮิตในยุคนั้น ภาพด้านหลังเวทีของเหล่านางแบบ Rebecca Romijn, Lori Loughlin…
-
ภาพอันเจ็บปวด เมื่อเด็กมือบอนทำลายเครื่องสำอางร้าน Sephora มูลค่ารวม 42,000 บาท!!
รู้มั้ย อะไรที่ผู้หญิงหวงยิ่งกว่าชีวิต? ไม่ใช่แฟน ไม่ใช่บ้าน ไม่ใช่รถ ไม่ใช่เงิน แต่มันคือเครื่องสำอาง หวงแบบว่าถ้าหายหรือพัง คนทำคือได้ไปเกิดใหม่แน่นอน ผู้ชายอาจจะคิดว่าทำไมต้องหวงอะไรเบอร์นั้น คำตอบนั้นผู้หญิงจะทราบกันดี เพราะเครื่องสำอางแต่ละชิ้นนั้นราคาไม่ใช่น้อยๆ กว่าจะได้มาครอบรองต้องเก็บตังตั้งนานแหนะ นั่นกลายเป็นเหตุผลว่าทำไมสาวๆ ผู้รักเครื่องสำอางถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เมื่อรู้ว่ามีเด็กคนหนึ่งทำลายเครื่องสำอางมูลค่ากว่า 42,000 บาท ของชอปชื่อดังอย่าง Sephora สำหรับเครื่องสำอางที่ถูกทำลายนั้นเป็นอายแชโดว์ Make Up Forever ทั้งแผง ที่ตั้งเอาไว้ให้สาวๆ เทสก่อนซื้อ ถึงจะเป็นสินค้าทดลอง แต่ราคารวมทั้งแผงก็เกือบ 50,000 เลยนะ คนที่ไปเจอภาพสุดปวดร้าวดังกล่าวคือช่างแต่งหน้า Brittney Nelson ซึ่งเธอมั่นใจว่าเป็นฝีมือเด็ก เพราะเขาหรือเธอคนนั้นคงคิดว่ามันเป็นสีทาเล็บ เลยเอานิ้วจิ้มซะอายแชโดว์เละหมดเลย ต่อมา Nelson ได้ถ่ายรูปและโพสต์ในเฟสบุ๊กว่า “อายแชโดว์ Make Up Forever มูลค่ากว่า 42,000 บาท ใน Sephora ถูกทำลายโดยเด็กมือบอนคนหนึ่ง” “แน่นอนว่าคนที่ไปชอปที่ Sephora วันนั้นต่างก็ไม่สบายใจกับสิ่งที่เห็น ดังนั้นฉันอยากขอร้องผู้ปกครองของเด็กๆ ว่ากรุณาอย่าพาลูกๆ ของคุณเข้าไปในร้านเครื่องสำอาง เพราะมันอาจจะไม่ดีต่อตัวคุณเอง คนอื่น…
-
25 ภาพคู่รักจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังอยู่เคียงข้างกันเหมือนเดิม แสดงให้เห็นว่ารักแท้มีอยู่จริง
เชื่อมั้ยว่าในโลกนี้จะมีคนอยู่คนหนึ่งที่ทำให้เราใจเต้นแรงตลอดเวลา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน และเขาคือคนที่เราอยากใช้ชีวิตด้วยตลอดชีวิต เหมือนกับคู่รักเหล่านี้ที่ครองรักกันมาอย่างยาวนาน แม้ต้องเจอความลำบาก อุปสรรคมากมายแค่ไหนแต่พวกเขาก็ไม่เคยปล่อยมือจากกัน นั่นแหละคือรักแท้ที่หลายคนใฝ่หา 1. หญิงสาวที่รอดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และทหารที่ช่วยชีวิตเธอเอา ใช้ชีวิตร่วมกันมากกว่า 70 ปี 2. คู่รักเกย์ที่โดนดูถูกว่าเป็นแค่ความลุ่มหลงชั่วคราว แต่จนถึงตอนนี้พวกเขารักกันมา 25 ปีแล้ว 3. คู่รักที่อยู่บนปกอัลบั้ม The Woodstock(เทศกาลดนตรี) ยังคงอยู่ด้วยกันแม้จะผ่านมาแล้วถึง 46 ปี 4. หนุ่มที่หมายปองเพื่อนสาวตั้งแต่เด็ก ในที่สุดก็ได้แต่งงานกันจริงๆ 5. พ่อแม่ที่แต่งงานกันมา 60 ปีแล้ว แต่รักยังหวานชื่นอยู่เสมอ 6. คู่รักที่จัดงานแต่งขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากอยู่ด้วยกันมาถึง 70 ปี 7. คู่รักเลสเบี้ยนที่คบกันตั้งแต่ปี 1970 ในที่สุดพวกเขาก็ได้แต่งงานกันในวันครบรอบ 44 ปี 8. เพื่อนสาวที่เคยเต้นรำด้วยสมัยเด็กๆ วันนี้เธอกลายเป็นเจ้าสาวในชีวิตจริงของเขา 9.…
-
15 เรื่องราวจากพ่อบ้านชาวเน็ต ที่ยืนยันว่าเวลาภรรยากำลังท้องนั้นอย่าซ่า ถ้าไม่อยากเจ็บตัว
การใช้ชีวิตคู่ของคุณพ่อบ้านทั้งหลายนั้น บางครั้งก็มีหลายสิ่งที่เราไม่เข้าใจเลยเกี่ยวกับคุณภรรยา บางวันอาจจะอารมณ์ดีแปลกๆ บางวันอาจจะอารมณ์เสียขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ใช่ว่าเราจะไม่สามารถคาดเดาช่วงเวลาที่ภรรยาจะโมโหได้ ช่วงเวลาที่ว่านั้นก็คือช่วงเวลาที่ภรรยาของคุณกำลังปวดท้องประจำเดือน และช่วงที่เธอกำลังตั้งท้องนั่นเอง ทั้งสองช่วงเวลานั้นจะเป็นช่วงเวลาที่เธอจะเจ็บปวดพร้อมกับความโมโหที่จัดเต็ม ฉะนั้นคุณไม่ควรจะล้ำเส้นเด็ดขาด ปัญหาต่อมาคือแล้วอะไรล่ะที่เราทำไม่ได้ในช่วงเวลานั้น แล้วถ้าเราซ่าไปล้ำเส้นเราจะต้องเจอกับอะไร? คำตอบนั้นพ่อบ้านชาวเน็ตที่เจอมากับตัวก็ได้หาคำตอบมาให้พวกคุณแล้ว… เริ่มกันที่หนุ่มคนนี้ที่เล่าว่า ภรรยาของเขาถามว่ารู้หรือเปล่าว่าเธอนั้นชอบอะไร สามีแบบเราๆ ก็ต้องเข้าข้างตัวเองตอบว่าตัวเราแน่ๆ แต่คำตอบคือไม่!! เธอรักไวท์ช็อกโกแลต หลังจากที่พ่อบ้านคนนี้ต้องนอนอยู่ในห้องรับแขกเป็นเวลาสองคืนติด ในที่สุดเขาก็ได้กลับเข้าสู่ห้องตัวเองเสียที ที่สำคัญได้อนุญาติให้นอนหมอนตัวเองแล้วโว้ย!! ภายในไม่กี่นาที คำพูดเธอจะเหมือนเป็นคนสองบุคลิก บางวันก็มาด่าคุณสามีกันแบบงงๆ ส่วนใครไม่รู้จะหาทางออกให้ตัวเองรอดจากการโดนภรรยาที่กำลังท้องโมโหใส่ วิธีนี้ช่วยได้ ถ้าภรรยาคุณท้อง จงอย่าเรื่องมากเด็ดขาดถ้าไม่อยากเจ็บ มีอะไรก็กินๆ ไป จะดูหนังก็ต้องเกรงใจ เปิดเสียงดังภรรยาตื่นจะยุ่งเอานะ อย่าห้าวไปกินของกินที่เธอตั้งใจจะกินเด็ดขาด และเมื่อภรรยาของพ่อบ้านคนนี้ตั้งท้องพร้อมกับสมองที่กลับด้าน สามีเลยได้ขนมปังสองแผ่นมาเป็นอาหารเที่ยง…นี่มันควรจะเป็นอาหารเช้าสิโว้ย!! นอกจากนี้พวกเธอจะขี้ร้อนมากๆ ถ้าบ้านมีแอร์ก็หาเสื้อกันหนาวมารอได้เลย ของหวานอย่าให้ขาด แน่นอนว่าอย่ากินก่อน!! ให้เธอชิมก่อนนะ หนุ่มคนนี้ได้บทเรียนแสนสำคัญว่าอย่าริอาจแอบไปกินของอร่อย โดยไม่มีภรรยา สำหรับหนุ่มคนนี้กลับชอบตอนภรรยาท้อง เพราะบางครั้งเรื่องเล็กๆ อย่างสีของเช็ดด้าชีสก็กลายเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันได้เพลินๆ…
-
แผนที่โลกแสดง “ความปลอดภัยบนท้องถนน” ของแต่ละประเทศ เดี๋ยวนะ.. มะ.. ไม่.. ไม่จริงน่า!!
ระหว่างนั่งเล่นอินเตอร์เน็ตเพลินๆ ผมสะดุดตาเข้ากับแผนที่โลกซึ่งแสดงข้อมูลความปลอดภัยบนท้องถนนของแต่ละประเทศ ซึ่งอ้างอิงข้อมูลของทาง World Health Organisation มาอีกต่อหนึ่ง ข้อมูลดังกล่าวแสดงอัตราการเสียชีวิตของประชากรต่อ 100,000 คน โดยจะนับเฉพาะอุบัติเหตุซึ่งเกิดขึ้นบนท้องถนนของประเทศนั้นๆ ซึ่งจากแผนที่ เราจะเห็นได้ว่าประเทศที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุน้อยนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นประเทศที่อยู่ในข่าย “ประเทศพัฒนาแล้ว” ตัวอย่างเช่น สวีเดน อัตราการเสียชีวิต 3 คนต่อประชากร 100,000 คน ฟินแลนด์ อัตราการเสียชีวิต 4.7 คนต่อประชากร 100,000 คน หรือญี่ปุ่น ที่ตัวเลขตรงนี้อยู่ที่ 4.8 คน แต่เมื่อเรามองอีกด้านหนึ่งของการจัดอันดับ ประเทศที่ได้ชื่อว่าท้องถนนอันตรายที่สุดในโลกนั้น กลับมีอัตราที่ต่างออกไปมาก ตัวอย่างเช่น เอริเทรีย อัตราการเสียชีวิตสูงถึง 48.4 คนต่อประชากร 100,000 คน ตามมาด้วยสาธารณรัฐโดมินิกัน และลิเบีย ตัวเลขอยู่ที่ 41.7 และ 40.5 คน ตามลำดับ ขณะที่ทางฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย พบว่าตัวเลขของผู้เสียชีวิตบนท้องถนนจะสูงมากในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยเราที่สูงถึง 38.1…
-
11 ประเภทบุคคลที่คุณควรหลีกเลี่ยง หากต้องการมีความสัมพันธ์รักที่ราบรื่น
หากคุณคิดจะใช้ชีวิตอยู่กับใครสักคน รักอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่คุณควรจะพิจารณาลักษณะนิสัย และทัศนคติของเขาคนนั้นด้วย เพราะบางคนอาจไม่เหมาะที่สานสัมพันธ์ด้วยและมันยากที่จะอยู่ด้วยกัน ดังนั้นถ้าคุณต้องการมีความสัมพันธ์ในความรักที่มีความสุข คุณควรจะหลีกเลี่ยงประเภทของบุคคลต่อไปนี้ 1. คนขี้วิจารณ์ คนขี้วิจารณ์จะไม่ชอบอะไรในตัวคุณเลย พวกเขาจะวิจารณ์ทุกอย่างทั้งเรื่องมารยาท การแต่งตัวของคุณ พวกเขาพยายามจะบอกความไม่สมบูรณ์แบบในตัวและเปลี่ยนคุณให้เป็นในสิ่งที่เขาต้องการ สำหรับคนที่ขี้วิจารณ์นั้น พวกเขามักจะคิดว่าทำไปเพราะหวังดีกับคนรัก แต่ตามกฎแล้วการคบกับคนขี้วิจารณ์ ไม่ดีต่อความสัมพันธ์รักแน่นอน 2. คนขี้หึง การคบกับคนขี้หึงดูเหมือนจะดีนะ แต่ลองคิดดูดีๆ นะ ถ้าคนรักของคุณหึงเวลาที่คุณให้ความสำคัญกับเพื่อน ครอบครัว หรือแฟนเก่า เขาคงจะกลายเป็นคนบ้าเพราะหึงแน่ๆ 3. คนขี้โกหก ถ้าคนรักของคุณโกหกตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน หลังจากนั้นเขาก็จะโกหกคุณอีก พวกเขาไม่ใช่แค่ปกปิดบางส่วนในชีวิต แต่ยังพยายามสร้างตัวตนใหม่ที่ไม่ใช่ตัวของตัวเองด้วย และแน่นอนว่าคนขี้โกหกจะไม่ไว้ใจคุณเด็ดขาด แล้วคิดหรอว่าความสัมพันธ์ที่ขาดความไว้ใจนั้นมันจะราบรื่น? 4. คนที่ชอบคิดมากไปเอง คนแบบนี้มักจะคิดว่าผู้คนทั้งโลกต่อต้านเขา ทั้งเพื่อนร่วมงาน คนรัก รวมทั้งครอบครัวของพวกเขา และมักจะเรียกร้องความสนใจ ถ้าคุณคบคนแบบนี้คุณจะต้องคอยปลอบเขา คอยอธิบายให้เขาฟังทุกอย่างตลอดเวลา คุณคิดว่าจะทำได้มั้ย? 5. คนที่ไม่รู้จักโต คนที่มีนิสัยเหมือนเด็กมักจะไม่เคยตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง แต่จะให้คนอื่นตัดสินใจแทน รับผิดชอบแทน ก่อนจะทำอะไร…
-
นิตยสาร Playboy เปิดตัวนางแบบ Plus-Sized ที่พิสูจน์ว่าความอวบนี่แหละที่เซ็กซี่..
ใครว่าการเป็นนางแบบนั้นต้องมีรูปร่างที่บางและผอมเพรียวเพียงเท่านั้น ผู้หญิงที่มีรูปร่างอวบและมีหน้าอกที่ใหญ่อย่าง Molly Constable ก็สามารถเป็นนางแบบได้ แถมเธอกำลังจะทำลายทัศนคติเก่าๆ ของการเป็นนางแบบ เพราะเธอกำลังเฉิดฉายในฐานะนางแบบของนิตยสาร Playboy นิตยสาร Playboy กำลังทำสิ่งที่น่าทึ่งด้วยการเปิดตัวนางแบบ Plus-Sized อย่าง Molly Constable ที่มีหน้าอกไซส์บิ๊กขนาดกว่า 41 นิ้ว และรูปร่างที่ไม่ได้ผอมเพรียวเหมือนนางแบบคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้เราคงเคยเห็นผลงานการเดินแบบของสาวอวบอย่าง Ashley Graham และ Jordyn Woods ที่เป็นสาวไซส์ใหญ่ที่โลดแล่นอยู่ในวงการนางแบบ และพวกเธอก็ได้เผยให้เห็นความงามตามธรรมชาติในแบบที่พวกเธอเป็น และ Molly ก็เป็นนางแบบไซส์ใหญ่อีกคนหนึ่งที่คาดว่าจะปังสุดๆ ในอีกไม่นานนี้ เพราะผลงานถ่ายแบบของเธอนั้นเป็นที่น่าสนใจสุดๆ เธอกล่าวว่า “น้ำหนักของคุณนั้นไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญคืออารมณ์ที่คุณสื่อออกมาจากข้างในมากกว่า” นิตยสาร Playboy จึงร่วมมือกับนางแบบดาวรุ่ง Molly และช่างภาพฝีมือดี Heather Hazzan เพื่อโชว์เซ็ตภาพความสวยความตามธรรมชาติของผู้หญิงที่มีร่างกายอวบ Molly เธออยู่กับเอเจนซี่ที่มีชื่อว่า MiLK Management ซึ่งก่อตั้งโดย Anna Shillinglaw เป็นเอเจนซี่ที่ส่งเสริมความหลากหลายและเป็นตัวแทนให้กับนางแบบไซส์ใหญ่ . . Molly มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 22,800 คน และยังเป็นดาวเด่นในแมกกาซีน Harper’s…
-
หนุ่มไปขอคำปรึกษาจากครูสอนอังกฤษ เรื่องขอสาวเดท ใช้ทฤษฎีอริสโตเติล แถมจีบติดด้วย!!
เวลาที่เราอยากจีบใครซักคน ส่วนใหญ่เราเลือกที่จะพูดคุยกับเพื่อนสนิทมากกว่าที่จะเข้าหาผู้ใหญ่ แต่ชายคนนี้เขากลับทำในสิ่งที่ตรงข้ามกัน เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า Jake ต้องการไปออกเดทกับสาวคนหนึ่ง แต่เขาไม่รู้ว่าควรพูดแบบไหนดีเพื่อให้เธอยอมไปด้วยกัน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับศาสตราจารย์ผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษของเขาเอง โฉมหน้าของ Jake ชายหนุ่มที่อยากไปออกเดทกับสาวคนหนึ่ง ในวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา เขาได้แชร์เรื่องราวเกี่ยวกับวิธีการที่อาจารย์คนนั้นแนะนำและช่วยเหลือเขาลงในทวิตเตอร์ แสดงให้เห็นว่าบางครั้งทฤษฎีก็สามารถช่วยเหลือเราได้โดยที่ไม่คาดคิดมาก่อน หลักการที่พวกเขาใช้คือวิธีการโน้มน้าวผู้อื่นตามความคิดของ อริสโตเติล นักปรัชญาชื่อดัง โดยแบ่งออกมาเป็น 3 หัวข้อย่อยได้แก่ Ethos , Pathos และ Logos ด้วยความที่เขาไม่มีทักษะโน้มน้าวเธอผ่านการพิมพ์ข้อความ เขาจึงไปปรึกษาอาจารย์ภาษาอังกฤษจนได้วิธีนี้มา ไปดูกันเลยว่าวิธีการนี้มันเป็นอย่างไร แล้วสุดท้ายมันทำให้เขาได้ไปเดทกับสาวคนนั้นหรือเปล่า แผนที่เขาและอาจารย์ได้ปรึกษาถกเถียงกันเพื่อให้การชวนออกเดทครั้งนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี เป้าหมายการโน้มน้าวครั้งนี้คือ ต้องพาสาวคนนั้นไปออกเดทด้วยกันให้ได้!! เขียนบอกเอาไว้ว่าผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อว่า Hannah มีลักษณะอย่างไรบ้าง เช่น เธอเลี้ยงหมา เธอชอบอาหารจีน ทำงานหนัก และเพิ่งย้ายหอ หลังจากนั้นเขาก็ได้คิดคำพูดที่จะนำไปพูดกับเธอ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนตามหลักการที่อาจารย์แนะนำมา Ethos…
-
10 ข้อผิดพลาดที่เหล่าสาวๆ มักจะทำกับ ‘ชุดชั้นใน’ ของตัวเอง… ดูซิว่าเคยทำรึเปล่า
นอกจากเสื้อผ้าสวยๆ ของสาวๆ ที่เราเห็นพวกเธอใส่แล้ว เครื่องแต่งกายอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญไปไม่น้อยกว่าเสื้อหรือกระโปรง ก็คือชุดชั้นใน ที่เป็นเครื่องแต่งกายที่ช่วยให้คุณมีความสะดวกสบาย พร้อมลุยตลอดทั้งวัน แต่ผู้หญิงหลายๆ คน ก็ยังมีความผิดพลาดอยู่บ่อยๆ ในการเลือกชุดชั้นใน ดังนั้นสาวๆ จึงต้องรู้วิธีเลือกชุดชั้นในที่ถูกต้องกันบ้างแล้วล่ะ 1. บราลูกไม้ สาวๆ ไม่ควรใส่บราลายลูกไม้ ในวันที่มีเสื้อเป็นผ้าบาง เพราะมันจะเผยให้เห็นถึงความขรุขระและลวดลายของลูกไม้ ดังนั้นสาวๆ ควรใส่บราที่ไร้รอยต่อเรียบเนียน และมันยังทำให้หน้าอกดูกระชับขึ้นด้วย 2. ชุดชั้นในเก็บรูปร่าง ผู้หญิงบางคนอยากจะมีหุ่นที่เพรียวบางเหมือนกันสาวๆ ในนิตยสาร แต่การใส่ชุดชั้นในหรือกางเกงในเก็บรูปที่เล็กเกินไป บอกจากจะทำให้หุ่นเผละแล้ว การสวมใส่ชุดรัดๆ ยังส่งผลเสียต่อการไหลเวียนของเลือดอีกด้วย 3. ชุดชั้นในที่หลวมเกินไป หลายคนคิดว่าการใส่ชุดชั้นในที่เล็กเกินไปนั้นมันส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่รู้หรือไม่ว่าการใส่ชุดชั้นในที่ใหญ่เกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน เพราะมันอาจจะทำให้คุณนั้นปวดหลังได้ คุณควรจะปรับสายชุดชั้นในให้พอดีกับทรวงอกหรือถ้าหากต้องการให้หน้าอกดูใหญ่ขึ้นก็ควรใช้ฟองน้ำหรือซิลิโคนแทน 4. ใส่เสื้อชั้นในสีฉูดฉาด เป็นเรื่องที่ดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ใช่ไหมล่ะ ถ้าคุณใส่เสื้อสีขาวแต่กลับมีชุดชั้นในสีสดใสเด่นชัดออกมา ดังนั้นถ้าวันใดที่ต้องโฉบเสื้อสีขาวเนื้อผ้าบางก็ควรที่จะใส่ชุดชั้นในสีเนื้อนะ 5. ชุดชั้นในสำหรับอยู่บ้าน เชื่อเลยว่าผู้หญิงทุกคนเมื่อกลับถึงบ้านก็จะถอดชุดชั้นในออก เพื่อให้หน้าอกของคุณได้หายใจ ซึ่งนั้นเป็นวิธีที่ใช้ได้สำหรับสาวๆ หน้าอกเล็ก แต่ถ้าสาวๆ หน้าอกใหญ่ล่ะ ควรจะทำอย่างไร เพราะการถอดชุดชั้นในออกนั้นจะทำให้หน้าอกนั้นหย่อนคล้อยได้…
-
Sylvester Stallone โดนกล่าวหาว่าบังคับเด็กสาว 16 ร่วมเซ็กส์ทรีซัม เมื่อ 30 ปีก่อน!?
หากใครชื่นชอบหนังแอคชั่นบู๊ล้างผลาญก็คงจะต้องรู้จักดาราดังอย่าง Sylvester Stallone ผู้ฝากผลงานที่มีชื่อเสียงเอาไว้มากมายเช่น Rambo , Rocky Balboa หรือ Expendable แต่ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 ได้มีการแชร์เรื่องฉาวของพระเอกนักบู๊ในเว็บไซต์ Pagesix เมื่อเขาถูกกล่าวหาว่าบังคับขืนใจเด็กอายุ 16 ปีให้มามีเพศสัมพันธ์กับเขาและบอดี้การ์ดส่วนตัว (หรือที่เรียกว่า Threesome) เหตุการณ์ที่ว่านั้นหญิงสาวผู้กล่าวหาได้เล่าว่ามันเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมปี 1986 เธอได้ไปเข้าพักกับครอบครัวของเพื่อนเธอที่โรงแรม Las Vegas Hilton เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา ในตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 16 ปี ในวันหนึ่งที่เธอกำลังขึ้นลิฟต์ของโรงแรมอยู่ก็ได้เจอกับ Sylvestor ที่ตอนนั้นอายุได้ 40 ปี ผ่านการแนะนำของดาราชายอีกคนหนึ่ง David Mendenhall และนั่นคือการพบกันครั้งแรกของทั้งสอง ผ่านไปสองวันเธอได้ไปขอลายเซ็น Sylvestor เขาได้ถามถึงอายุและพูดชมเกี่ยวกับรูปร่างของเธอ ซึ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกเขินอายกับคำพูดของเขา ภาพของ Sylvester เมื่อปี 1986 จนกระทั่งในวันต่อมา Michael De Luca…
-
หนุ่ม Tom Lenk นำของใช้ที่เจอในบ้าน มาคอสเพลย์เป็นเสื้อผ้าสุดปังของเหล่าดาราเซเลบ
Tom Lenk นักแสดงฝีมือดีที่เรารู้จักกันดีจากบทบาท Andrew Wells จากละครทีวีเรื่อง Buffy the Vampire Slayer แต่จะมีใครรู้หรือไม่ว่านอกเหนือจากผลงานการแสดงของเขา ดาราหนุ่มวัย 41 ยังมีความคิดสร้างสรรค์สุดเจ๋ง เกี่ยวกับการออกแบบชุดเลียนแบบคนดังจากสิ่งของภายในบ้าน จนเกิดเป็นภาพสุดฮาขวัญใจชาวเน็ตแบบนี้ 1. Tom Lenk ในชุดของ Balenciaga Menswear ว่าแต่ไหล่มันดูเกินๆ ไปไหม?? 2. นี่สิที่เรียกว่า Real Beyonce 3. แม้แต่ชุดของ Celine Dion ก็เลียนแบบออกมาได้เหมือนเป๊ะ! 4. ชุดของ Angela Sarafyan ก็ดูเหมือนอยู่หรอกนะ แต่ที่ต่างก็คงจะเป็นเป้าที่ดูตุงกว่านิดโหน่ย 5. บอกเลยว่า Prince George อย่าโตมาเป็นแบบนี้นะลูก 6. มีความเป็น Lady Gaga ที่ใช้จานกระดาษมาเจาะรูทำเป็นชุด ยอมใจจริงๆ 7. Heidi Klum มาในธีมเมทัลลิค แต่ Tom Lenk มาในธีมปลาเผา 8. โถ่วขนาดสุนัขยังเลียนแบบ Rose…
-
มาชม “อาหารขึ้นชื่อ” ของประเทศต่างๆ ในโลกซึ่งถ้าไปเที่ยวแล้วไม่อยากจะให้พลาดชิม
อาหารของแต่ละประเทศนั้นจัดว่ามีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์ของตนเอง และเรื่องอาหารการกินนี่แหละที่อาจเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี วันนี้เราก็มีอาหารที่เขาว่ากันว่าเป็นอาหารประจำชาติของแต่ละประเทศ ที่ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสได้ไปเยือน พวกเราก็ไม่อยากให้เพื่อนๆ ต้องพลาดอาหารจานเด็ดเหล่านี้ จะมีอะไรบ้างเราไปชมกันเลย 1. หอยนางรมที่เมือง Galway ประเทศไอร์แลนด์ นอกจากประเทศนี้จะโด่งดังเรื่องเบียร์และวิสกี้แล้ว ที่นี่ยังมีอาหารอีกอย่างที่ไม่อยากให้พลาดคือ หอยนางรมที่เมือง Galway แห่งนี้ เพราะเขาบอกกันว่าหอยที่นี่สดและอร่อยที่สุด 2. วิสกี้บนเกาะ Islay ประเทศสก็อตแลนด์ เกาะแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่า “เกาะแห่งวิสกี้” โดยบนเกาะแห่งนี้มีโรงกลั่นมากถึง 8 แห่งโดยวิสกี้ที่พวกเขาทำออกมานั้นเป็นพวกเขาบอกว่าเป็นวิสกี้แบบซิงเกิลมอลต์ที่ดีที่สุดในโลก 3. ชีส Pecorino Romano ในเมือง Sardinia ประเทศอิตาลี ชีส Pecorino Romano เป็นชีสแบบแข็งและเค็มที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศอิตาลีชนิดหนึ่ง โดยพวกเขาจะใช้นมแกะในการผลิตชีส นั่นจึงให้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 4. เบียร์ Kölsch ที่เมือง Cologne ประเทศเยอรมนี มาเมืองเบียร์แต่ไม่กินเบียร์ก็คงจะดูยังไงอยู่ โดยเบียร์ Kölsch นี้เป็นเบียร์ประเภท…
-
เด็กชายผู้รอดชีวิตจากฝูงผึ้ง บอกเหตุผลที่ทำให้ทำให้เขารอดชีวิตง่ายๆ ว่า ‘เพราะผมคือเบจิต้า’
ทุกครั้งที่มีคนรอดชีวิตจากเหตุการณ์อันร้ายแรงมาอย่างฉิวเฉียด พวกเขามักจะพูดถึงวิธีการเอาตัวรอดในหลากหลายรูปแบบ แต่สำหรับหนูน้อยคนนี้กลับก้าวข้ามทุกตำราการเอาชีวิตรอด ด้วยการเบ่งพลังไซย่าออกมา!! Kotaku ได้รายงานเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธุ์ เด็กชาย Andrew Kunz วัย 11 ขวบจากเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ได้ประสบอุบัติเหตุถูกฝูงผึ้งกว่า 400 ตัว รุมต่อยอย่างไม่ปราณีจนสุดท้ายก็มีสภาพอย่างที่เห็น ทีมแพทย์บอกว่าเขาโชคดีมากๆ ที่รอดมาได้ ปกติเด็กวัยเท่านี้ถูกผึ้งจำนวนมากต่อยคงจะทนพิษของมันไม่ไหวและเสียชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว… ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาถูกผึ้งต่อยนั้นมันเกิดเมื่อตอนที่ Andrew และเพื่อนๆ ไปเล่นปืนบีบีกันบริเวณซากรถคันหนึ่งโดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าภายในรถนั้นมีรังผึ้งสายพันธุ์ Africanized bees อาศัยอยู่ และเมื่อกระสุนไปกระทบเข้ากับรังเด็กหนุ่มจึงต้องเจอกับช่วงเวลาฝันร้าย แต่เชื่อไหมว่ามันกลับไม่เป็นแบบนั้น หนูน้อยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า เขาไม่กลัวผึ้งและตอนที่กำลังถูกต่อยเขาได้รวบรวมพลังไซย่าทั้งหมดในตัวไว้ด้วยกันจนทำให้เขารอดมาได้ พร้อมบอกสื่อว่า “ผมชื่อ Andrew แต่จะเรียกผมว่าเบจิต้าก็ได้นะ” วินาทีแห่งความตายเด็กชายเลือกจะใช้ความชอบใน Dragon Ball Z มาเป็นพลังเพื่อให้เขารอด มันช่างเป็นอะไรที่สุดยอดเกินกว่าผู้ใหญ่แบบเราจะจินตนาการได้จริงๆ ปัจจุบันเด็กชาย Andrew นั้นได้หายเป็นปกติและแข็งแรงดีเรียบร้อยแล้ว… ดีนะที่เจ้าหนูนี่เลือกเป็นเบจิต้า ไม่เป็นหยำฉา ที่มา kotaku
-
สาวเจอภาพเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ก็เลยพยายามจะเอาไปคืนเจ้าของให้ได้
Judi Palumbo หญิงสาวจากรัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ไปเจอกับรูปภาพงานแต่งงานของชายหญิงชาวญี่ปุ่นคู่หนึ่ง บนเกาะคาไว รัฐฮาวาย โดยบังเอิญ ภาพถ่ายใบนี้ถูกถ่ายเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ปี 1940 ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ โดยกองทัพญี่ปุ่นในรัฐฮาวาย จนทำให้ทหารอเมริกันจำนวนหลายพันนายเสียชีวิต Judi เชื่อว่าชาวญี่ปุ่นสองคนที่อยู่ในรูปภาพใบนี้จะต้องถูกจับตัวในค่ายกักกันเชลยศึกของสหรัฐอเมริกาเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เธอได้โพสต์ตามหาญาติของบุคคลที่อยู่ในภาพนี้บนเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอเพื่อที่จะจัดส่งรูปภาพดังกล่าวไปให้ “ฉันได้เห็นรูปครอบครัวรูปนี้ในร้านขายของเก่าแห่งหนึ่งและเกิดความสงสัยว่าคนในรูปหรือญาติๆ ไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับการเก็บรักษารูปถ่ายใบสำคัญใบนี้ ซึ่งฉันไม่รู้ว่าเรื่องราวในภาพมันมีความเป็นมาอย่างไร แต่เนื่องจากว่ารูปถ่ายใบนี้ได้ถ่ายเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 1940 ที่สตูดิโอทาคาซะวะ เกาะคาไว ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์โจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ “ฉันคิดว่าคู่บ่าวสาวที่อยู่ในรูปนี้อาจจะตกเป็นเชลยในสงครามญี่ปุ่น ฉันจึงมีความคิดที่อยากจะคืนรูปใบนี้ให้กับครอบครัวของคู่บ่าวสาว ใครที่คุ้นหน้าคุ้นตาบุคคลในภาพ กรุณาติดต่อฉัน” . และหลังจากที่เธอโพสต์ออกไปก็ได้มีคนแชร์เรื่องราวนี้ไปมากมายเพื่อช่วยตามหาญาติของบุคคลที่อยู่ในภาพ เพื่อที่พวกเขาจะได้รับภาพถ่ายใบสำคัญใบนี้เก็บไว้เป็นสมบัติของตระกูล ที่มา nextshark
-
ปฏิกิริยาของสาวเมื่อเจอตำรวจหล่อเรียกให้จอดรถ ไม่โกรธ แต่รู้สึกเป็นเกียรติสุดๆ
ผู้หญิงเราเนี่ยมักจะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองเวลาเจอผู้ชายหล่อๆ บางคนมือไม้สั่น บางคนเดินเซ บางคนพูดไม่ออก บางคนถึงกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย เหมือนกับนักแสดงตลก Jennifer Jermany ที่เปลี่ยนไปในทันใด เมื่อถูกตำรวจหล่อนายหนึ่งเรียกให้จอดรถ แทนที่จะโกรธ แต่เธอกลับรู้สึกเป็นเกียรติซะงั้น จากนั้นช่วงเวลาแห่งความขำขันก็เกิดขึ้น โดยมี Brandy Adams เพื่อนของ Jennifer ที่อยู่ในรถบันทึกวิดีโอเอาไว้ โดยหลังจากตอบคำถามเล็กๆ น้อยๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสุดหล่อเรียบร้อย Jennifer ก็ตัดสินใจลงจากรถ เพื่อไปขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มที่ให้เกียรติเรียกให้เธอจอดรถ เมื่อเดินไปยืนหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่ม เธอก็พบว่าเขาช่างหล่ออะไรปานน้านนน แล้วเธอก็ได้รัวความในใจกับเขาแบบไม่ห่วงภาพพจน์ว่า… “คุณเป็นตำตรวจที่ร้อนแรงและน่าดึงดูดมาก ต้องขอบคุณนะคะที่ให้เกียรติดิฉันด้วยการเรียกให้จอดรถ มันเป็นอะไรที่ดีมากจริงๆ ค่ะ” “ถ้ารู้ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจหล่อขนาดนี้ รับรองไม่มีใครขัดขืนแน่นอน เพราะสิ่งที่คุณทำคือให้เราหยุดรถแล้วพูดว่า ‘ขอดูใบขับขี่และบัตรประชาชนหน่อยครับ’ แค่นี้ก็ทำให้ผู้หญิงอย่างฉันยิ้มได้ทั้งวันแล้ว” “นี่บอกเลยนะ ฉันจะดูคุณเดินกลับไปที่รถแบบไม่ละสายตาเลยล่ะ แล้วฉันก็อยากให้คุณรู้ไว้ว่าคุณทำหน้าที่ได้ดีมาก คุณทำให้ฉันดีใจและรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ที่ถูกคุณเรียกให้จอดรถ” จากนั้นตำรวจหนุ่มหัวเราะเบาๆ แล้วพูดกับเธอว่า “ขอบคุณที่ชมครับ ผมก็ยินดีที่ได้พบคุณเช่นกัน” เท่านั้นยังไม่พอ Jennifer ยังพยายามสื่อไปถึงภรรยาของตำรวจคนนี้เพื่อแสดงความยินดีกับเธอว่า “คุณเป็นคนที่โคตรโชคดีเลยที่ได้เขาไป” อาการของผู้หญิงเมื่อเจอผู้ชายหล่อๆ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ เจอปุ๊บพุ่งเข้าใส่เลย…
-
ชาวบ้านคริสเตียนในจีนปลดภาพพระเยซูแล้วติดภาพท่านผู้นำแทน เพื่อรับประโยชน์จากรัฐบาล!!!
เป็นที่รู้กันว่าประเทศจีนเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ แต่ว่าในตอนนี้ประเทศมหาอำนาจนี้กลับมีนโยบายสุดแปลกคือให้ปลดสัญลักษณ์ประจำศาสนาออกแล้วให้ติดรูปของประธานาธิบดี สีจิ้นผิง แทนหากอยากได้รับการช่วยเหลือจากมาตรการแก้จนของรัฐบาลอย่างเต็มที่ ชาวคริสต์หลายพันคนในเขตพื้นที่ยากจนทางตอนตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนได้เปลี่ยนรูปพระเยซู และสัญลักษณ์ประจำศาสนาอย่างไม้กางเขนออก แล้วเป็นภาพวาดของประธานาธิบดีของพวกเขาแทนเพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลือของโครงการบรรเทาความยากจน ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาลท้องถิ่นที่พยายามจะเปลี่ยนแปลงให้ผู้ที่ศรัทธาในศาสนามาศรัทธาในรัฐบาลแทน ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณทะเลสาบผอหยาง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ในมณฑลเจียงซี เป็นที่รู้จักกันว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณเหล่านี้ ส่วนมากจะมีฐานะที่ไม่ค่อยดีนักและนับถือศาสนาคริสต์ โดยประชาชนประมาณ 11 เปอร์เซ็นที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว มีรายได้ต่ำกว่ามาตรฐานความยากจนที่รัฐบาลจีนได้จัดทำขึ้นและมีประชากรอีกเกือบ 10 เปอร์เซ็นที่นับถือศาสนาคริสต์ที่นั่นตามข้อมูลจากทางการของประเทศจีน แต่ว่าในตอนนี้รัฐบาลท้องถิ่นของประเทศจีนได้นำมาตรการบรรเทาความยากจนมาเป็นข้ออ้างให้ ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์นำรูปภาพของพระเยซูที่อยู่กลางบ้านของพวกเขาออกรวมทั้งให้เลิกเชื่อต่อคำสอนต่างๆ โดยให้ติดรูปของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงแทน เพื่อฝึกให้ประชาชนเคารพเชื่อฟังรัฐบาลมากกว่าคำสอนของศาสนา เหมือนกับในสมัยของท่านผู้นำคนก่อนอย่าง เหมาเจ๋อตุง ที่บางบ้านของประเทศจีนในตอนนี้ยังมีรูปของเขาติดอยู่ที่บ้านอยู่เลย ภายใต้การนำของท่านผู้นำสี ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะกำจัดความยากจนให้หมดไปภายในปี 2020 ซึ่งเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของรัฐบาลในตอนนี้ แคมเปญนี้ไม่เพียงแต่สำคัญต่อมรดกทางด้านการเมืองที่รับช่วงต่อมาจากประธานาธิบดีเหมาเจ๋อตุง แต่ยังทำให้ผู้คนระดับรากหญ้าเชื่อฟังรัฐบาลมากขึ้น ซึ่งนั่นจะทำให้รัฐบาลมั่นคงตามไปด้วยนั่นเอง โดยในเมืองยู่กัง ผู้นำที่ไม่เชื่อในศาสนากำลังต่อสู้กับอิทธิพลของศาสนาคริสต์ซึ่งแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่บ้านชนบทยากจนและในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองบางเมือง ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิวัติวัฒนธรรมเมื่อ 40 ปีก่อน ในตอนนี้คาดว่ามีคนที่นับถือศาสนาคริสต์ในประเทศจีนแล้วกว่า 90 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากโครงการนี้ก็คือในตอนนี้มีชาวบ้านกว่า 600 คนที่ “สมัครใจ” กำจัดภาพเขียนที่เกี่ยวข้องกับศาสนาที่มีอยู่ในบ้านของพวกเขาออกไปและแทนที่ด้วยภาพของท่านผู้นำสี ซึ่งนี่เป็นตัวเลขจากวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ในตอนนี้โครงการนี้กำลังเดินหน้าต่อไปอย่างเรื่อยๆ ในจังหวัดอื่นๆ …
-
Drake หยุดคอนเสิร์ตกลางคันพร้อมตำหนิชายคนหนึ่งที่กำลังลวนลามผู้หญิง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดตามศิลปินต่างประเทศ คงไม่มีใครไม่รู้จัง Drake หรือ นักร้องชาวแคนนาดาสุดเท่ ที่มีเพลงดังอย่าง Hotline Bling กับยอดวิวกว่า 1.3 พันล้านครั้ง และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีเหตุการณ์ในคอนเสิร์ตของ Drake ที่โด่งดังมากๆ ในโลกโซเชียล เพราะเขาได้พูดบางอย่างในขณะที่ทำการแสดงอยู่ ทำเอาผู้ชมทั้งงานเงิบไปเลย!! . นักร้องชื่อดัง Drake ได้ทำการแสดง Afterparty ในทัวร์คอนเสิร์ตของเขาที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียในคืนที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรยากาศของฝูงชนที่กำลังอินกันเพลงของเขานั้น Drake ก็หยุดทำการแสดงกลางคัน และพูดตำหนิผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังลวนลามผู้หญิงอยู่ I got this close to Drake threatening to jump into the crowd to start a fight with a guy groping a woman in the audience. Violence against women, 6 God says…
-
คุณพ่อสร้างไอจีเลียนแบบลูกสาว แต่ดั๊นมีคนนิยมและติดตามมากกว่าลูกสาวซะอีก!!
ในยุคที่ใครก็ใช้โซเชียลในชีวิตประจำวันนั้น ทำให้หลายๆ คนอยากมีตัวตนในโซเชียล ด้วยการพยายามอัพรูปให้น่าดึงดูด เพื่อจะได้มีคนกดไลค์ กดแชร์ และกลายเป็นคนดังในที่สุด ในขณะที่หลายๆ คนพยายามสร้างผู้ติดตามในโซเชียลอย่างยากลำบากนั้น คุณพ่อคนหนึ่งกลับมีผู้ติดตามจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย ด้วยการเลียนแบบลูกสาว Cassie Martin หญิงสาวที่มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 70,000 คน ซึ่งเธออ้างว่าได้มาจากการโพสต์รูปขณะดื่มไวน์เท่านั้นเอง 70,000 คนนี่ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะสำหรับคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่นี่ยังไม่มากเท่ายอดผู้ติดตามของพ่อของเธอ Chris Burr Martin ที่มียอดฟอลโลว์มากกว่า 151,000 คนเลยทีเดียว เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อปกติพ่อแม่ไม่ค่อยเล่นโซเชียลนี่ บางคนยังไม่รู้จักอินสตาแกรมเลยด้วยซ้ำ แต่คุณพ่อคนนี้กลับมาผู้ติดตามมากกว่าลูกสาวซะงั้น นั่นคงไม่ใช่กับ Chris เพราะเขาชอบที่จะอัพรูปลงอินสตาแกรม แล้วทำไมเขาถึงดังนะหรอ ก็เพราะเขาโพสต์ท่าเซลฟี่เลียนแบบลูกสาวยังไงล่ะ ไม่ว่าลูกสาวจะถ่ายภาพแบบไหน ยังไง Chris ก็จะเลียนแบบไปซะทุกท่า ทั้งเซลฟี่หน้ากระจกในห้องน้ำ ถ่ายรูปฮาโลวีน รวมทั้งการเพิ่มฟิลเตอร์ในรูปภาพ Chris บอกว่า “ผมอยากรู้ว่าถ้าลองโพสต์ท่าแบบวัยรุ่นมันจะเป็นยังไง แล้วผมก็เริ่มโพสต์รูปเลียนแบบเป็นประจำ ปรากฏว่าผู้คนมากมายชอบรูปภาพเหล่านั้น นั่นทำให้ผมมีความสุขไปด้วย” ส่วนลูกสาว Cassie บอกว่า “ฉันชอบในความพยายามของพ่อที่โพสต์รูปเลียนแบบฉัน เขามักจะวาดเครื่องประดับ วาดรอยสัก รวมทั้งแต่งหน้าแต่งตาให้ดูเหมือนฉันมากที่สุด” …
-
“กฤษณ์ คอนเฟิร์ม” รับสมัครนักกีฬาทีม E-Sport เงินเดือนเริ่ม 3,000 มีเสื้อทีมสุดเท่-ดูดวงฟรี!!
ถ้าพูดถึงอะไรที่กระแสมาแรงฮอตฮิตมากๆ ในบ้านเรา ตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นกระแสของวงการ E-Sport ที่นอกจากจะถูกรับรองให้เป็นกีฬา สื่อมากมายก็เริ่มจะหันมาจับธุรกิจนี้กันบ้างแล้ว… ถ้าจะให้เห็นชัดที่สุดก็คงจะเป็นทางช่อง Work Point ที่เพิ่งจะจัดแข่งเกม ROV ไปได้ไม่นานและไหนจะช่อง 5 ที่กำลังจะปล่อยรายการ E-Warrior ที่มีการแข่งขันเกมมากมายกับแผนการฉายในช่วงไพรม์ไทม์อีก ฉะนั้นการที่จะมีคนดังสนใจเปิดสโมสรทีม E-Sport ของตัวเองจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอีกแล้ว แต่ว่าการที่กระแสจะเกิดรายการพวกนี้จะมา มีคนดังคนหนึ่งที่เขามองการณ์ไกลมากๆ มากถึงขนาดจัดทำทีม E-Sport ก่อนกระแสจะมาเสียอีก ซึ่งเขาคนนั้นก็คือหมอกฤษณ์ คอนเฟิร์มนั่นเองงง โดยเกมแรกที่หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์มได้เปิดสังกัดนั่นก็คือเกม CSGO หรือชื่อเต็มว่า Counter Strike Global Offensive ซึ่งมีการใช้ชื่อทีมว่า KRITCONFIRM.CS:GO ตัวทีมนั้นได้เริ่มเปิดตัวมานานตั้งแต่ปี 2015 แล้ว เพียงแต่ว่าตอนแรกได้ใช้ชื่อทีมว่า YUKThai จนกระทั่งเปลี่ยนมาใช้ชื่อปัจจุบันเพราะว่าหมอกฤษณ์ คอนเฟิร์มได้เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ แน่นอนว่าการมาของเขาเรียกว่าไม่ธรรมดา เพราะเสื้อทีมกับโลโก้ทีมนั้นอาจจะดูเหมือนตลกรับประทาน แต่จริงๆ มันสร้างอิมแพคได้เยอะมากๆ เหตุผลก็ง่ายๆ เลยนั่นก็คือ คนจำได้ง่ายดูเด่นและดูปุ๊บก็รู้ว่าอ๋อ นั่นหมอกฤษณ์ คอนเฟิร์มนี่ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายปีที่ผ่านมาทีมได้ทำผลงานไม่ค่อยดีนักประจวบกับไลน์อัพเดิมซึ่งก็คือทีม YUKThai…
-
วิเคราะห์ตัวอย่าง Deadpool 2 นอกจาก DeadRoss แล้ว มันมีอะไรแฝงอยู่ในคลิปนี้กันบ้างนะ!?
เมื่อช่วงกลางดึกของวัน 15 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ทาง 20th Century Fox ก็ได้ปล่อยตัวอย่างใหม่ของ Deadpool 2 มาให้เราได้ชมกัน แน่นอนว่าตัวอย่างก็ยังคงสไตล์เกรียนแตกไม่เปลี่ยนแปลง ตัวอย่างดังกล่าว เปิดมาด้วยการที่ Ryan Reynold หรือ Deadpool ของเราแต่งตัวเป็น Bob Ross พร้อมกับการวาดภาพสุดฮาราวกับเมายา ฉากนี้เราอาจจะไม่ได้อะไรนอกจากความฮา แต่จริงๆ มันอาจจะเป็นการเล่นตลกอ้อมๆ เกี่ยวกับตัว Bob Ross ก็ได้ เพราะเขาได้เสียชีวิตด้วยมะเร็ง ส่วน Wade Wilson ก็เกือบตายด้วยมะเร็งนั่นเอง ตัวอย่างล่าสุดที่ปล่อยมาเมื่อคืน อย่างไรก็ตามประเด็นหลักของตัวอย่างนี้อยู่ที่ช่วง 10 วินาทีจากหนังจริงๆ ซึ่งมันเป็นสิบวินาทีที่ไวมากๆ ไวจนดูแทบจะไม่ทันเลยล่ะ แต่แม้มันจะรวดเร็วแค่ไหน เราก็พอจะได้อะไรหลายอย่างจาก 10 วินาทีนั้น ลองมาดูพร้อมกันเลยดีกว่า… ในสองฉากแรกนั้นเราไม่ค่อยเห็นอะไรมากนอกจากการชักปืนออกมา แต่ที่น่าสนใจคือหญิงสาวในภาพแรก เธอคือใครกันหรือว่าเป็นแค่ตัวประกอบหมายเลข 1 ? . …
-
21 ภาพของเหล่าคนที่พยายามจะ “ถ่ายเซลฟี่” แต่ก็ต้องพบกับความเฟล ฮ่าๆ
การเซลฟี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนหรือทำอะไรก็ต้องหาเวลามาเซลฟี่ให้ได้สักรูปสองรูป แต่บางสถานการณ์การเซลฟี่ก็อาจจะทำให้เกิดรูปที่ฮาๆ ขึ้นมาได้ ซึ่ง #เหมียวบู้บี้ ก็ได้รวบรวมเอาความฮาแห่งการเซลฟี่ที่ดูกี่ทีก็ขำ มาให้เพื่อนๆ ได้ลองดู ไม่เชื่อก็เลื่อนลงดูเลย รับรองว่าเพื่อนๆ ต้องอมยิ้มอย่างแน่นอน 1. ชีวิตแค่โดนทำร้าย… 2. แกทำอะไรน่ะเจ้าน้องชาย!?! 3. เฮ้ นายกำลังทำอะไรน่ะเพื่อน 4. หรืออาจจะมีพลังงานบางอย่างก็เป็นได้ 5. ตามสบายเลยครับพี่ๆ ไม่ต้องเกรงใจผม 6. เค้าขอถ่ายด้วยสิ มนุษย์ 7. หมดกันความสดใสในวันนี้ 8. เธอกำลังดูอะไรอยู่ แม่สาวน้อย 9. อย่าถ่ายค่ะบี๋ เค้าเขินน๊าาา 10. มาทำหน้าแบบนี้ เดี๋ยวก็จับตีตูดซะเลย 11. ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้ ขับเร็วเกินไปแล้ว 12. อ้าว แอบกินลูกอมแบบไม่จ่ายตังแบบนี้ก็ได้หรอป้า …
-
18 เรื่องยืนยันที่ทำให้เรารู้ว่า ประเทศญี่ปุ่นล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวสุดเซอร์ไพรส์
‘ญี่ปุ่น’ หนึ่งในประเทศยอดนิยมที่ผู้คนทั่วโลกต่างพูดถึงและอยากไปมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ เพราะเรารู้ว่าที่แห่งนี้เต็มไปด้วยวัฒนธรรม เทคโนโลยีและแฟชั่นสุดเจ๋งเต็มไปหมด แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่เรื่องทั่วไปที่เรารู้กันในวงกว้าง ด้วยเหตุนี้ทาง Bright Side ก็เลยรวบรวม 18 เรื่องสุดเซอร์ไพรส์ที่จะช่วยเพิ่มความอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นของเราให้มากยิ่งขึ้นไปอีก!! โตเกียวเป็นเมืองหลวงที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ขึ้นชื่อว่าเมืองหลวงย่อมปลอดภัยเป็นธรรมดา แต่ประเทศญี่ปุ่นมีถึงสองเมืองที่ติดอันดับเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก นั่นคือโตเกียวในอันดับหนึ่ง และโอซาก้าในอันดับสาม ป้ายแนะนำที่เข้าใจง่าย ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องป้ายเป็นอย่างมาก ขนาดที่ว่าคนต่างชาติไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นก็รู้เรื่องได้ในเวลาไม่นาน เด็กๆ มีวันเกิดพิเศษกันทุกคน เด็กๆ ที่มีอายุ 3 ปี, 5 ปี, และ 7 ปี จะมีวันเกิดร่วมกันในวันที่ 15 พฤศจิกายนในชื่อวันว่า Shiti-Go-San ซึ่งแปลตรงตัวว่า 3,5,7 โดยชาวญี่ปุ่นถือว่าเลขทั้งสามเป็นเลขนำโชค และยังหมายถึงการเจริญเติบโตด้วย ทุกเช้าจะมีการออกกำลังกาย ในโรงเรียนหรือหลายๆ บริษัทนั้นจะมีการประกาศให้นักเรียนและพนักงานออกกำลังในตอนเช้าเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรง โดยนโยบายนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 1928 แล้ว วันหยุดศุกร์พิเศษ ญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่การแข่งขันเรื่องงานสูงมาก และประชาชนก็จะเหนื่อยกันสุดๆ จากการทำงาน ฉะนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้ รัฐจึงประกาศให้ทุกวันศุกร์สุดท้ายของเดือนเหล่าพนักงานบริษัทจะสามารถเลิกงานก่อนเวลาเพื่อไปพักผ่อนได้ ธุรกิจส่วนใหญ่จะเก่าแก่ ธุรกิจส่วนใหญ่ร่วมถึงอาคารต่างๆ…
-
รู้จักกับเจ้า Lucas แมงมุมตัวน้อยที่จะมาทำให้ชีวิตของคุณสดใส และเลิกกลัวแมงมุมไปเลย
สำหรับหลายๆ คน แมงมุมอาจจะเป็นสัตว์ที่น่าขยะแขยงและทำให้คุณขนลุกซู่ได้เลยทีเดียว แต่ถ้าหากว่าคุณรู้จักกับเจ้า Lucas แล้วล่ะก็ โรคกลัวแมงมุมของคุณอาจจะหายไปเลยกก็ได้(บางทีอ่ะนะ)!! Lucas แมงมุมแอนนิเมชั่นฝีมือของยูทูบเบอร์หนุ่มคุณ Joshua Slice เขาได้ทำการอัพเดทคลิปวิดีโอสั้นๆ ของเจ้าแมงมุมตัวนี้ลงบนช่องส่วนตัวของเขา ซึ่งถึงแม้จะเป็นคลิปสั้นๆ แต่ความน่ารักของมันนั้นก็ทำเอาหลายคนถึงกับใจละลายเลยทีเดียว สวัสดีฮะ!! ผม Lucas เอง “นี่คือแอนนิเมชั่นที่ผมลองทำขึ้นมา ผมได้ทำการออกแบบและสร้างมันขึ้นมาเองทั้งหมด” ยูทูบเบอร์หนุ่มเขียนอธิบายไว้ในคลิปวิดีโอของเขา ซึ่งดูจากลักษณะของเจ้า Lucas แล้ว คาดว่ามันน่าจะเป็นแมงมุมทารันทูล่า แมงมุมยักษ์ที่มีขาดตัวตั้งแต่ตั้งแต่ 2.5 เซนติเมตรจนถึง 33 เซนติเมตร และมีน้ำหนักกว่า 160 กรัม มันจัดเป็นแมงมุมที่มีอายุขัยยาวนานกว่าแมงมุมจำพวกอื่นโดยมีอายุยาวนานถึง 15-20 ปีเลยทีเดียว!! ต๊ะเอ๋!! และหลังจากที่ความน่ารักของเจ้าแมงมุมตัวนี้ได้ออกมาสู่สายตาชาวเน็ต หลายๆ คนก็ต่างเข้ามาคอมเม้นต์กันอย่างมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เข้ามาชื่นชมความน่ารักของเจ้าแมงมุมน้อยตัวนี้นี่เอง และนี่ก็คือความคิดเห็นบางส่วนจากชาวเน็ต “ฉันอยากให้พิกซาร์เอาเจ้านี่ไปทำหนังจัง เอาไปโผล่ใน Toy Story ก็ได้” “ฉันคิดว่าแมงมุมนั้นน่ารักอยู่แล้วนะ แต่เจ้าตัวนี้มัน่ารักมากๆ จริงๆ…
-
พบ “อัญมณีแกะสลัก” อายุ 3,500 ปี ที่มีรายละเอียดชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 ทางเว็บไซต์ Odditycentral มีรายงานว่า นักโบราณคดีได้ค้นพบ “อัญมณีแกะสลัก” หนึ่งในผลงานศิลปะของยุคกรีกโบราณที่มีอายุมากถึง 3,500 ปี ทั้งยังเป็นงานแกะสลักที่มีรายละเอียดชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมาอีกด้วย จากการรายงานระบุว่าในปี 2015 ทางนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซินซินแนติ ในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ขุดพบหลุมฝังศพยุคกรีกโบราณในเมืองไพลอส ทางตอนใต้ของประเทศกรีซ โดยภายในหลุมฝังศพมีโครงกระดูกสภาพสมบูรณ์ของชาวไมเซเนียน ที่เรียกว่า “Griffin Warrior” อยู่ พร้อมกันนี้ยังมีการค้นพบทรัพย์สมบัติที่ถูกนำมาฝังอีก 3,000 ชิ้น เท่านั้นไม่พอยังพบแก้วแหวนเงินทอง อาวุธ ภาชนะที่ทำจากโลหะมีค่า รวมถึงลูกปัดที่แกะสลักจากแร่รัตนชาติอีกกว่า 1,000 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีชุดเกราะ หวีงาช้าง สร้อยคอทองคำ และหินตราประทับอีกกว่า 50 ชิ้น แต่หนึ่งในการค้นพบที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คือ Pylos Combat Agate ซึ่งเป็นอัญมณีชิ้นเล็กแสนหายากที่ถูกแกะสลักเป็นรูปนักรบกำลังต่อสู้กัน โดยการค้นพบอัญมณีดังกล่าว เรียกได้ว่าสร้างความประหลาดใจให้กับนักโบราณคดีเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันถูกออกแบบขึ้นมาให้มีรายละเอียดที่ดูซับซ้อน และเป็นผลงานชิ้นเอกที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยค้นพบมา สำหรับอัญมณีสุดล้ำค่านี้…
-
มาชมความซ่าของ “เด็กอีโมที่โตเป็นผู้ใหญ่” พวกเขาจะเปลี่ยนแปลงกันไปขนาดไหน!!??
กระแสแฟชั่นที่เหล่าวัยรุ่นทั่วโลกฮัตในช่วงกลางของยุค 2000 จนไปถึงปี 2010 นั้นคงหนีไม่พ้น Emo, Goth และ Pop-punk ที่ได้รับความนิยมสูงมากๆ โดยแฟชั่นเหล่านี้มีชื่อเรียกว่า “Scene Kids” เราเชื่อเหลือเกินว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนนั้นต้องเคยผ่านช่วงที่เรียกว่าเป็นยุคลองผิดลองถูกในการค้นหาตัวตนกันมาบ้าง โดยเฉพาะเรื่องดนตรีและแฟชั่น Emo ที่พอมองย้อนกลับไปก็ต้องอมยิ้มให้กับความซ่าความแสบในสมัยนั้น เช่นเดียวกันกับผู้คนเหล่านี้ ที่ก็ต่างหลงใหลในวัฒนธรรม Emo จนกระทั่งเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่แม้ร่างกายจะเปลี่ยนไป และใจยังคงรักใน Emo เหมือนเดิม 1. ผมเป๋เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเด็กอีโม จากเด็กหนุ่มอายุ 15 กลายเป็นหนุ่มหล่อวัย 28 แล้ว 2. “นี่คือฉันในปี 2006 และ ปี 2017 ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเมื่อก่อนฉันจะเป็นเด็กอีโม แต่ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเด็กในวันนั้นส่งผลให้ฉันเป็นตัวเองในวันนี้ และแน่นอนว่าทักษะการแต่งหน้าของฉันก็มีเพิ่มขึ้นด้วย” 3. “ในวันนั้นฉันยังอายุ 19 มีผมสีฟ้าทำงานในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดพร้อมเรียนไปด้วย แต่ในวันนี้ฉันสามารถทำสีผมอะไรก็ได้ตามต้องการ มันดูสวยใช่ไหมล่ะ” 4. “ในตอนนั้นฉันคิดว่าเสื้อลายโปเกม่อนเป็นอะไรที่เท่สุดๆ และเหมาะกับฉันมากๆ” 5.…
-
ภาพน่ารักๆ ของอดีต “หนูทดลอง” ได้ออกจากห้องแล็ปมาสัมผัสอากาศภายนอกครั้งแรก
ทุกๆ ปีมีสัตว์นับพันตัวในอิตาลีต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้าใน “ห้องทดลอง” ด้วยเหตุนี้ ทาง La Collina dei Conigli องค์กรการกุศลที่ช่วยรักษาสัตว์ในห้องทดลอง ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี จึงได้พยายามหาทางช่วยเหลือสัตว์ผู้เสียสละ ให้กลับมามีชีวิตใหม่ที่สดใสดังเดิม และโชคดีที่กฎหมายของอิตาลีได้อนุญาตให้ทางห้องปฏิบัติการไม่ต้องฆ่าสัตว์ทดลองเสมอไป และนั่นก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่องค์กรการกุศลดังกล่าวจะสามารถยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกมันได้ ซึ่งภายหลังจากที่พวกเขาสามารถช่วยเหลือหนูทดลองกลุ่มหนึ่ง ให้ออกมาจากสถานที่ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับพวกมัน ทางองค์กรจึงมอบหน้าที่ให้ Rachele Totaro ผู้เป็นช่างภาพมาช่วยสร้างสรรค์อัลบั้มภาพถ่ายน่ารักๆ ของหนูน้อยเหล่านี้เอาไว้ และนี่ก็ไม่ใช่การถ่ายภาพสัตว์ทดลองครั้งแรกของ Rachele เพราะในปีที่ผ่านมาช่างภาพคนนี้ก็เคยสร้างอัลบั้มภาพถ่ายสุดน่ารักของสัตว์ทดลองมาแล้ว โดยการถ่ายเซตภาพในครั้งนั้น เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายชื่อดังอย่าง Alice in Wonderland, The Little Prince รวมถึงเทพนิยายต่างๆ สำหรับสัตว์ตัวจิ๋วทั้งหลาย นี่เป็นครั้งแรกที่พวกมันได้ออกมาสัมผัสกับบรรยากาศภายนอกเป็นครั้งแรก พอได้พบกับโลกภายนอก พวกมันดูสดใสขึ้นเยอะเลย เหล่าหนูตัวน้อยที่ได้รับแสงแดดเป็นครั้งแรก ทำให้พวกมันได้ค้นพบว่าโลกใบนี้ก็ไม่ได้มีด้านที่เลวร้ายเสมอไป และดูเหมือนพวกมันจะชื่นชอบช่วงเวลาดีๆ แบบนี้เป็นอย่างมาก สู่อิสรภาพที่ตามหาทั้งชีวิต…
-
เผยวิธีการจับภาพความเร็วสูง 25,000,000 เฟรมต่อวินาที เคล็บลับไม่ได้อยู่ที่กล้อง!?
เคยสงสัยกันไหมว่า เวลาที่เราดูคลิปจับภาพกระสุนหรืออะไรที่มันเร็วๆ นั้นพวกเขาทำได้ยังไง ถ้าตามหลักแล้วเราก็จะพอเดาได้ว่าพวกเขาใช้กล้องความเร็วสูงในการจับภาพ แต่นั่นมันเป็นวิธีสำหรับวัตถุขนาดเล็กเพียงเท่านั้น… เพราะวัตถุใหญ่ๆ อย่างกระสุนรถถังที่การยิงแต่ละครั้งต้องใช้ระยะทางในการเคลื่อนที่ของกระสุนที่ไกลและเร็วมากๆ ฉะนั้นการใช้กล้องความเร็วสูงแล้วหันกล้องตามกระสุนที่พุ่งด้วยความเร็ว 1.5 กิโลเมตรต่อวินาที มันจึงเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ดูแล้วคงคิดว่าเป็นการหมุนกล้องตามใช่ไหมล่ะ? งั้นลองดูแบบสปีดธรรมดาเป็นไง…นี่แค่ 1 วินาทีนะ แล้วแบบนี้พวกเขาจับภาพกระสุนรถถังที่ไวแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ? ไม่ต้องห่วงไปเพราะทางช่องยูทูปนามว่า Curious Droid ได้มาเฉลยเทคนิคการถ่ายวีดีโอดังกล่าวให้เราได้รู้กันแล้ว… เทคนิคที่ว่านั้น มันเกิดขึ้นจากการใช้เครื่องหมุนกระจกอัตโนมัติความเร็วสูงผนวกเข้ากับกล้องความเร็วสูง ซึ่งตัวกระจกสามารถหมุนได้ถึง 90 องศาด้วยความเร็วสูงจนสามารถจับภาพได้ที่เร็ว 25,000,000 เฟรมต่อวินาที รูปแบบง่ายๆ ก็จะประมาณนี้ ส่วนถ้าใครคิดว่าเจ้ากระจกสะท้อนความเร็วสูงนี่เป็นอะไรที่แปลกใหม่ ความจริงแล้วมันไม่ใช่อะไรที่ใหม่เลย โดยมีการใช้กระจกแบบนี้มาตั้งแต่สมัยที่จับภาพการทดลองระเบิดปรมาณูเมื่อปี 1952 นู๊นนน แต่ตอนแรกเจ้าเครื่องนี้มันใหญ่มากๆ ด้วยน้ำหนักถึง 2,000 กิโลกรัม สามารถช่วยให้ถ่ายได้ไวถึง 7,000,000 เฟรมต่อวินาทีแล้ว และจากนั้นก็เกิดการต่อยอดมาเรื่อยๆ จนเป็น 25 ล้านเฟรมในปัจจุบัน โฉมหน้าของเจ้าเครื่องดังกล่าว นอกจากนั้นที่ Ishikawa Oku Laboratory ยังได้พัฒนากล้องที่สามารถจับภาพความเร็วสูงแบบเรียลไทม์ขึ้นมาได้ด้วย…
-
ตู้อควาเรียมอันแสนเศร้าในโตเกียว หลังจำนวนปลาลดลงอย่างมาก เพราะช่วยชีวิตพวกมันไว้ไม่ทัน
ภาพตู้อควาเรียมอันคุ้นตาที่เต็มไปด้วยปลาของ Sunshine Aquarium ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นั้นอาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หลังจากเกิดเหตุการณ์สุดช็อคเมื่อสัตว์น้ำเกือบทุกตัวในตู้ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง… เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่อควาเรียมสังเกตเห็นว่าสัตว์หลายตัวในแทงค์มีอาการป่วย พวกเขาจึงเริ่มแผนการรักษาโดยการใส่สารบางอย่างลงไปภายในแทงค์ แต่ด้วยความที่ระบบคำนวนอัตโนมัติของแทงค์อควาเรียมนั้นเกิดผิดพลาด ทำให้เกิดการปิดตัวชั่วขณะ และการปิดตัวชั่วขณะนั้นเอง กลับส่งผลให้ออกซิเจนภายในตัวแทงค์น้ำเกิดไม่พอทำให้สัตว์น้ำทั้งหมดกว่า 1,200 ตัวเสียชีวิตทันที ภาพแทงค์น้ำที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตก่อนเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น เดิมทีนั้นในอควาเรียมแห่งนี้มีสัตว์อาศัยอยู่กว่า 1,300 ตัว ซึ่งประกอบด้วยสัตว์หลากหลายชนิดทั้งปลาสวยงาม ปลาไหล ปลากระเบนและอื่นๆ อีกมากมายอาศัยรวมกันในอควาเรียมขนาด 12 เมตร ภาพของอควาเรียมที่เหลือสัตว์อยู่ภายในไม่มากเท่าแต่ก่อน ซึ่งในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @ipen_3 ชาวเน็ตญี่ปุ่นที่ได้ไปเที่ยวยังอควาเรียมดังกล่าว และเขาก็ได้พบว่าตู้ที่เคยมีปลานับพัน ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น จากภาพที่เขาถ่ายมานั้น เราจะรู้เลยว่ามันไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ เพิ่มเติมเพราะความเหงาและเศร้าโศกมันส่งผ่านตัวอควาเรียมที่เราเห็นอย่างชัดเจน ยิ่งมีหนูน้อยที่ตั้งใจมาดูสัตว์น้ำที่เธอชื่นชอบแต่กลับพบแทงค์น้ำที่ว่างเปล่าด้วยแล้ว… ภาพของหนูน้อยและคุณแม่ที่พาลูกมาดู แต่กลับเจอเพียงตู้ที่ว่างเปล่า สุดท้ายทาง Sunshine Aquarium ได้ออกมาแถลงว่า พวกเขาจะรีบเติมสัตว์น้ำกลับเข้าไปให้ไวที่สุดเพื่อดึงดูดคนให้กลับมาเยี่ยมชมอควาเรียมของพวกเขาอีกครั้งนั่นเอง ที่มา rocketnews24
-
“เจสัน โมมัว” เปิดเผยความลับสุดโรแมนติด แอบชอบเมียตัวเองมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบแล้ว
เวลาเราพูดถึง เจสัน โมมัว หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อของเขาเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึง คาล โดรโก ในเกมออฟโธรนเราก็คงจะต้องร้องอ๋อกันแน่นอน ยิ่งถ้าหนัง Justice League เข้าเมื่อไหร่รับรองว่าคนจะรู้จักเขามากขึ้นในบทอควาแมน แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น ทว่ามันอยู่ที่ชายคนนี้ได้เผยความลับเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวออกมาผ่านรายการ The Late Late Show with James Corden หลังจากที่เพิ่งแต่งงานกับภรรยาเมื่อไม่นานนี้ ว่าเขาไม่ได้เพิ่งรู้จักภรรยาคนนี้ แต่เขาชอบมาตั้งแต่เด็กแล้ว!? . เขาเล่าว่าตอนที่เขาอายุ 8 ขวบ เขาเห็น Lisa Bonet ในทีวีแล้วเขารู้สึกชอบทันที ซึ่งเขาเล่าให้กับพิธีกรฟังว่า “ตอนที่ผมเห็นเธอในทีวี ผมหันไปบอกแม่ผมทันทีว่า แม่ผมจะเอาคนนี้ ผมจะติดตามเธอคนนี้ไปทั้งชีวิตและจะทำให้เธอมาเป็นภรรยาของผมให้ได้ แม้จะดูเขาเป็นสตอร์คเกอร์โรคจิต แต่เขาก็บอกว่าเขาชอบเธอมากๆ แบบรักแรกพบเลยล่ะ แถมเรื่องนี้ก็เพิ่งจะเล่าให้ภรรยาฟังตอนมีลูกคนที่สอง เพราะมันคงฟังดูแปลกพิลึกถ้าเล่าเรื่องนี้ตอนจีบกันใหม่ๆ โดยทั้งคู่เจอกันครั้งแรกในตอนที่ไปเที่ยวแจ๊สคลับแห่งหนึ่ง ซึ่งทันทีที่เขาเห็นเธอ เขาแทบกรี๊ดเลยล่ะ และความสัมพันธ์ทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้นในวันนั้น ดูความติ่งของพี่แก ซึ่งจริงๆ นี่คงเป็นอาการเวลาเราเจอคนที่ชอบมากๆ โดยบังเอิญนั่นแหละ ฮร่าๆ คลิปเต็มๆ ในรายการ เผื่อใครอยากจะดูความเป็นติ่งภรรยาของแกแบบถึงอารมณ์…
-
รวมโฉมหน้า 83 ผู้เข้าประกวด Miss Universe ประจำปี 2017 แต่ละชาติจะปังขนาดไหน ตามไปชม…
กลับมาอีกครั้งกับการประกวด Miss Universe ที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างเกาะกระแสและร่วมลุ้นกันทุกปี และสำหรับปี 2017 นี้ แต่ละประเทศก็ได้ทำการคัดเลือกตัวแทนแล้วเรียบร้อย แฟนๆ นางงามคนอยากเห็นกันแล้วล่ะสิว่าตัวแทนจากแต่ละประเทศนั้นจะมีหน้าตาเป็นยังไงบ้าง ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก Miss Universe ก็ได้เผยโฉมนางงามทั้ง 83 คน จาก 83 ประเทศให้ทุกคนได้ชมกัน แต่ละคนจะเป็นยังไงบ้าง เชิญชมเด้อค่ะ 1. ตัวแทนจากประเทศแอลเบเนีย 2. ตัวแทนจากประเทศแองโกลา 3. ตัวแทนจากประเทศอาร์เจนตินา 4. ตัวแทนจากประเทศอารูบา 5. ตัวแทนจากประเทศออสเตรเลีย 6. ตัวแทนจากประเทศออสเตรีย 7. ตัวแทนจากประเทศบาฮามาส 8. ตัวแทนจากประเทศบาร์เบโดส 9. ตัวแทนจากประเทศเบลเยียม 10. ตัวแทนจากประเทศโบลิเวีย 11. ตัวแทนจากประเทศบราซิล 12. ตัวแทนจากประเทศบัลแกเรีย…
-
หญิงชาวอินเดีย มีตะปูฝังอยู่ในขามากถึง 70 ตัว โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง!?
บางครั้งร่างกายของเราอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยที่เกือบทั้งหมดเราสามารถทราบความเป็นมาของอาการนั้นๆ เวลาไปพบแพทย์ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวชาวอินเดียคนนี้ เพราะเธอพบว่ามีตะปูกว่า 70 ตัวที่ฝังอยู่ในขาของเธอและแม้แต่แพทย์ก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่ามันเป็นแบบนั้นได้อย่างไร ตะปูจำนวนมากถูกพบในขาของหญิงสาวชาวอินเดีย เธอมีชื่อว่า Anusuiya Devi วัย 35 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ เขต Fatehpur ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย เมื่อปี 2012 เธอเริ่มเจ็บขาอย่างรุนแรงและพบว่าความเจ็บนั้นเกิดจากตะปูจำนวนมากที่ฝังอยู่ด้านในขาของเธอ ครั้งแรกที่ทำให้เธอทราบได้ว่ามีตะปูอยู่ด้านในคือตอนที่มีถุงซีสต์งอกขึ้นมาตรงขาของเธอ จากนั้นมันก็แตกออกเป็นน้ำหนองและมีเข็มกับตะปูที่โผล่ออกมาด้วย สิ่งที่ฝังอยู่ในขาของเธอมีอยู่ด้วยกันสามชนิดคือ เข็ม ตะปู และเข็มฉีดยาที่ใช้ในโรงพยาบาล น่าสงสัยมากว่าของแบบนี้เข้าไปอยู่ในขาของเธอได้อย่างไร ความเจ็บของเธอทำให้ยากต่อการเดิน ยืน หรือแม้แต่นั่ง และนั่นเองจึงทำให้เธอตัดสินใจไปหาหมอ แต่แล้วเธอก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ เลย เพราะไม่มีหมอคนไหนสามารถบอกได้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และพากันคิดว่าเธอนำตะปูฝังเข้าไปด้วยตัวเอง เธออาศัยอยู่กับพี่ชายมานานถึง 7 ปี การไม่ได้รับความช่วยเหลือนี้ทำให้พี่ชายของเธอ Awadhesh Kumar ที่อาศัยอยู่กับเธอมานานถึง 7 ปีได้ออกมาบอกว่า “เราไปหาหมอท้องถิ่นในหลายๆ ที่ แต่การทำอย่างนั้นก็ไม่อาจช่วยแก้ปัญหาของน้องผมได้เลยซักนิด และผมขอยืนยันว่าน้องไม่ได้ทำร้ายตัวเองเลยจริงๆ ผมอยู่กับเธอแทบจะตลอดเวลา เธอไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนั้นเลย”…
-
ช่างสักหนุ่มปกปิด ‘รอยแผลเป็นอันเลวร้าย’ ให้หญิงสาวกลับมามีความสุขอีกกครั้ง
แทบทุกคนมีสิ่งที่ต้องการจะลืมหรือทิ้งมันไว้ให้กลายเป็นอดีต แต่หลายๆ ครั้งเราก็ไม่สามารถทำได้เพราะยังคงมีสิ่งที่ทำให้เรานึกถึงช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดนั้นอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับเธอคนนี้ เพราะบาดแผลที่เธอได้สร้างเอาไว้มันกลับติดตรึงอยู่บนร่างกายของเธอจนไม่อาจหลุดพ้นจากความทุกข์ไปได้ หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า Aoife Lovett ชาวไอริชวัย 19 ปี เธอเคยสร้างบาดแผลเอาไว้ที่แขนของตัวเองด้วยการกรีดข้อมือ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอรู้สึกว่าแผลเป็นนั้นทำให้เธอนึกถึงช่วงเวลาร้ายๆ ในอดีต เธอจึงอยากลบมันออกไป ซึ่งเธอได้รับความช่วยเหลือจากช่างสักหนุ่มผู้มีจิตอาสา Aoife Lovett หญิงสาวผู้ไม่อาจหลุดพ้นจากความทุกข์ไปได้ เพราะแผลเป็นของเธอ เรื่องราวนี้ถูกแชร์ในเว็บไซต์ Boredpanda วันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 โดย Aoife บอกว่าในสมัยก่อนเธอเคยมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่อย่างมากจนทำให้เธอใช้ของมีคมกรีดเข้าไปที่บริเวณแขนของตัวเองหลายต่อหลายครั้ง พอเวลาผ่านมาจนถึงตอนนี้จิตใจของเธอก็ได้ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่แผลที่เคยสร้างไว้ก็ยังคงปรากฎให้เห็นเป็นรอยแผลเป็นบนแขนของเธอ และสิ่งนี้เองที่ทำให้เธอยังคงรู้สึกถึงช่วงเวลาอันเจ็บปวดในตอนนั้นอยู่เสมอ แผลเป็นที่เกิดขึ้นจากความทุกข์และความเศร้า ยังคงติดตรึงจนทำให้เธอย้อนไปคิดถึงอดีตที่เลวร้ายอยู่ทุกครั้งที่ได้เห็น Aoife บอกว่า “มันเป็นเรื่องที่ยากมากในการเยียวยาตัวเองตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ทุกครั้งที่ฉันเห็นสิ่งนี้ ความเจ็บปวดในอดีตก็จะกลับมาหลอกหลอนฉันเสมอ เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปและความรู้สึกนี้ก็จะรุนแรงมากๆ ตอนที่ฉันอยู่กับคนในครอบครัว” นั่นจึงทำให้เธอต้องการสักทับรอยแผลนั้นเอาไว้เพื่อปกปิดไม่ให้ได้นึกถึงมันอีก แต่เมื่อเธอไปหาช่างสักคนไหนกลับไม่มีใครยอมรับงานจากเธอเลยแม้แต่คนเดียว ในขณะที่กำลังหมดสิ้นหนทาง แม่ของเธอก็ได้ไปเจอเข้ากับช่างสักหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Ryan Kelly เจ้าของโปรเจกต์ Scars Behind Beauty เป็นโครงการที่เขาสักลายทับบนแผลเป็นให้กับคนที่ต้องการแบบฟรีๆ Ryan…
-
หนุ่มอังกฤษปรากฎตัวในรายงานข่าวสดไปทั่ว เขาเป็นใคร? ทำไมถึงออกทีวีบ่อยจัง?
การรายงานข่าวในยุคปัจจุบันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนารูปแบบไปเรื่อยๆ เพื่อให้ผู้ที่ได้ดูข่าวได้รับข้อมูลที่ตรงประเด็น ง่ายต่อความเข้าใจและมีความรวดเร็ว หลายๆ สำนักข่าวก็เริ่มที่จะใช้วิธีการไลฟ์ถ่ายทอดสดในการรายงานข่าว ในการรายงานสดข่าวของสำนักข่าวในอังกฤษเช่น ITV BBC จะพบว่ามีหนุ่มลอนดอนที่ชื่อว่า Paul Yarrow พบว่าหน้าของเขามักจะไปปรากฏอยู่ เป็นภาพของเขาที่มักจะโผล่อยู่หลังนักข่าวเสมอในหลายๆ โอกาส จนเริ่มมีคนสังเกตและสืบว่าเขาคือใคร ทำไมถึงชอบมาปรากฏตัวหลังนักข่าวเสมอๆ คุณ Paul ได้บอกว่าสาเหตุที่เขาไปปรากฏตัวตามสื่อต่างๆ ก็เพราะว่าเขาตั้งใจที่จะโชว์หน้าของเขาในทุกๆ ที่ที่มีการสื่อข่าว เนื่องจากว่าเขาเคยมีประสบการณ์การถูกเมินเฉยจากผู้สื่อข่าวที่มองข้ามตัวเขาไปสัมภาษณ์คนอื่นแทน ผู้สื่อข่าวมักจะเลือกสัมภาษณ์แต่คนหน้าตาดีๆ และมักจะมองข้ามคนอ้วนๆ อย่างเขาไปอยู่เสมอ “การที่ผมมีน้ำหนักตัวเยอะทำให้ผมมักจะถูกมองข้ามไปในเหตุการณ์บางอย่าง บางครั้งไมโครโฟนถูกส่งต่อไปยังคนที่อยู่ข้างๆ แทน และนั่นเป็นประเด็นที่ผมคิดว่า ยิ่งพวกเขาเลือกที่จะมองข้ามผมมากเท่าไหร่ ผมก็จะมุ่งมั่นที่จะไปปรากฏตัวตามสื่อต่างๆ ให้บ่อยยิ่งขึ้น” Paul บอกกับสำนักข่าว EveningStandard และการปรากฏตัวในการรายงานข่าวบ่อยครั้งของเขาก็ทำให้รายการทีวีของ BBC ที่มี Russel Howard เป็นผู้ดำเนินรายการได้กล่าวว่า ชายผู้นี้เป็นเพียงคนอ้วนที่อยากจะออกทีวีคนหนึ่ง Paul ได้สัมภาษณ์กับเรื่องนี้ว่า “ผมรู้สึกโกรธที่โดนว่าแบบนี้ การล้อคนอ้วนมันไม่ใช่เรื่องตลกเลยมันแย่มากที่ทำให้คนอ้วนกลายเป็นตัวตลก” เขากล่าวปิดท้าย ที่มา ladbible, standard
-
รวม 17 ภาพที่จะยืนยันว่าแมวเป็นสัตว์ที่เข้าใจยาก และไม่ค่อยจะแคร์ใครเท่าไหร่
อันที่จริงแล้ว บางครั้งเหล่าสัตว์เลี้ยงในบ้านของเรานั้นมักชอบเอาแต่ใจอยู่บ่อยๆ แต่ดูเหมือนว่าสัตว์ที่จะขึ้นชื่อเรื่องความเอาแต่ใจ และไม่สนโลกสนใครเลยก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้าเหมียวอย่างแน่นอน และภาพที่เรานำมาฝากกันนี้ก็คงจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยยืนยันได้ว่า เจ้าแมวเนี้ยมันคือสัตว์ที่ชอบทำตัวเป็นเจ้าเป็นนายซะจริงๆ เล๊ย!! 1. พี่จ้องอะไรอยู่เหรอครับ 2. แหนะ!! ยัง ยังไม่หยุดอีก 3. อ๋อ… ไม่ชอบกินแพนเค้กสินะ 4. แตงกวาดองก็ไม่เอา!! ฮืมมม แล้วพี่ชอบกินอะไรล่ะห๊ะ?? 5. ไปเพื่อน ไปกัน รถมารับแล้ว 6. กำลังพยายามฝึกเล่นกายกรรมอยู่สินะ?? 7. ดูเหมือนว่าเจ้าตัวนี้เองก็ซ้อมกายกรรมกับเค้าเหมือนกันสินะ?? 8. ออกไป!! หือ?? ไล่ใครหรือเจ้าตูบ 9. ลองทำตาแบบผมดูสิฮะ ทำได้หรือเปล่า?? 10. เอาอาหารมา ถ้าไม่อย่างนั้นพวกแกก็ไม่ต้องดูทีวี โถ่… แตงกวาดองกับแพนเค้กก็ไม่กิน แล้วพี่จะเอาอะไรอีกเนี่ย?? 11. อยากเล่นก็อยาก แต่ว่าอยากอยู่ในถุงก็อยาก เอ๊า!!…
-
นักวิทย์ฯ ขี้สงสัย ถ้าหากว่า ‘แมงมุมเสพยา’ มันจะชักใยออกมาเป็นรูปแบบไหนบ้างนะ??
ก่อนหน้านี้หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นการทดลองเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะกันมาบ้างแล้ว และนอกจากยาเสพติดอย่างกัญชา LSD แอมเฟตามีน และโคเคนจะส่งผลกระทบต่อระบบประสาทของมนุษย์แล้ว มันยังส่งผลต่อพวกสัตว์อีกด้วยเช่นกัน!! ในปี 1948 นาย Peter N. Witt เภสัชกรชาวสวิตเซอร์แลนด์จากมหาวิทยาลัย Tübingen ของประเทศเยอรมนีได้ทำการทดลองผลกระทำจากยาเสพติดกับสัตว์ร่วมกับคุณ Peters ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสัตว์โดยใช้แมงมุมเป็นสัตว์ทดลองในครั้งนี้ การทดลองครั้งนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญหลังจากที่คุณ Peters พยายามจะแก้ปัญหาการชักใยของแมงมุมให้นานขึ้น เพราะเขามักจะพลาดการบันทึกภาพระหว่างที่พวกมันชักใย ซึ่งมักจะเกิดขึ้นประมาณตี 2 ถึงตี 5 และหลังจากที่ได้ปรึกษากับคุณ Witt ทั้งสองจึงลองใช้สารเสพติดเพื่อแก้ปัญหานั้น ทั้งสองได้ทำการผสมสารเสพติดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกัญชา ยากล่อมประสาท mescaline มอร์ฟีน สโคโปลามีน และแอมเฟตามีน เข้ากับน้ำตาลก่อนที่จะทำการหยดให้กับพวกแมงมุม 1 หยด แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นกลับไม่ใช่การชักใยที่นานขึ้น แต่กลับเป็นรูปแบบของใยที่แปลกไป!! Peter N. Witt ระหว่างที่กำลังหยดสารสะลายให้กับแมงมุม จากผลการศึกษาที่เขียนไว้ในงานวิจัยเรื่อง Spider Webs and Drugs ที่ตีพิมพ์ในปี 1954 กล่าวว่าการใช้ยาเสพติดที่ต่างชนิดกันนั้นจะทำให้ได้รูปแบบของใยแมงมุมที่แตกต่างกันไป และจากการศึกษาครั้งนี้ทำให้พวกเขาสามารถทดสอบการออกฤทธิ์ของยากับมนุษย์ได้อีกด้วย แมงมุมสายพันธุ์ zilla x-notata เพศเมียที่ถูกนำมาใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่กว่าเพศผู้ และชักใยได้มากกว่านั่นเอง และนี่คือผลจากการใช้สารเสพติดชนิดต่างๆ (ภาพเปรียบเทียบระหว่างไม่ได้รับสารกระตุ้นกับรับสารคาเฟอีนเข้าไปแล้ว) โดยการใช้สารคาเฟอีนปริมาณ…
-
ผลงานภาพถ่ายวิวทิวทัศน์ของเด็กหนุ่มวัย 18 และการคุมโทนสีธรรมชาติแบบขั้นเทพ
บางครั้งเรื่องของอายุ อาจจะไม่ได้เป็นตัวกำหนดคุณภาพของผลงานศิลปะ เหมือนกับ Fabio Zingg ช่างภาพหนุ่มวัย 18 ปี จากสวิตเซอร์แลนด์ผู้นี้ที่สร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายธรรมชาติออกมาได้สวยงามและน่าทึ่งมาก หนุ่มน้อยผู้นี้เริ่มสนใจการถ่ายภาพเมื่อตอนที่เขาได้ออกไปเที่ยวกับครอบครัวเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว หลังจากที่เขาลองถ่ายเล่นๆ เพื่อแก้เบื่อและก็พบว่าตัวเองเริ่มหลงใหลในการถ่ายภาพแล้ว!! Fabio Zingg ได้เข้าร่วมกลุ่ม The Alpinists กลุ่มช่างภาพอายุน้อยจากประเทศบ้านเกิดของเขา และออกไปเก็บภาพของสถานที่สวยๆ ต่างๆ การถ่ายภาพเป็นเพียงแค่กิจกรรมในวันหยุด เขาออกไปเก็บภาพภูเขาและแม่น้ำสวยๆ พร้อมกับกล้องตัวโปรด ส่วนวันธรรมดาเขาทำงานเป็นเด็กฝึกงานในธนาคาร ผลงานบางส่วนของช่างภาพวัย 18 ปีผู้นี้ . “มันเหมือนกับการผจญภัย และผมก็ประทับใจทุกครั้งที่ได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติ” Zingg กล่าว ภาพถ่ายของเขาไม่ได้มีเพียงแค่ธรรมชาติในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้นแต่เด็กหนุ่มยังได้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประเทศอิตาลี แคนาดา และนอร์เวย์อีกด้วย โทนสีในภาพของหนุ่มน้อยผู้นี้ดูให้อารมรณ์ที่แตกต่างจากภาพธรรมชาติทั่วๆ ไป ภาพทะเลสาบ Derborence ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ . . Preikestolen หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของประเทศนอร์เวย์ ฟยอร์ดหรือ ชายฝั่งทะเลที่ถูกน้ำกัดเซาะจนเว้าแหว่งมีลักษณะแคบและยาว เมือง Odda ประเทศนอร์เวย์ …
-
โคตรแสบ “15 วิธีการประกาศสงครามกับรูมเมท” เจอแค่ครั้งเดียวก็อยากจะย้ายออกแล้ว!!
สิ่งที่ทำให้คุณนั้นไม่เหงาโดดเดี่ยวเดียวดายในห้องนอนสี่เหลี่ยม ก็คงจะเป็นเพื่อนรูมเมทตัวแสบ ที่คอยพูดจาหนวกหูได้ทุกวี่ทุกวัน แถมยังทำเรื่องปวดหัวให้ตลอด แต่ถ้าคุณคิดว่าเพื่อนร่วมห้องของคุณแสบแล้ว ลองมาเจอนี่ “15 วิธีการประกาศสงครามกับรูมเมท” ที่ใครเจอเข้าก็ต้องโมโหเอาแน่ๆ 1. เมื่อรูมเมทแกล้งคุณด้วยการนำแมลงปลอมๆ มาวางกระจัดกระจายบนเตียงเต็มไปหมด 2. เมื่อรูมเมทเปลี่ยนห้องของคุณเป็นชายหาด 3. ถ้ารูมเมทของกรูทำแบบนี้จะฆ่ามันให้ตายเลย!! 4. ใครที่มีรูมเมทกลัวแมงมุมต้องเจอมุกนี้เข้าไป 5. การเซอร์ไพรส์กับพลุกระดาษ ที่คุณไม่ได้ตั้งตัว 6. แม้แต่เวลาอี้ แกยังไม่ละเว้น จะแกล้งกันไปถึงไหนน!!! 7. เมื่อเพืื่อนคนหนึ่งเปลี่ยนห้องของคุณเป็นสนามหญ้า คุณจะให้อภัยเขาได้ไหม 8. หรือจะเป็นการนำฟลอยด์มาห่อให้ทั่วห้อง นี่ห้องกรูนะ ไม่ใช่ปลาเผา!!! 9. สิ่งที่จะยั้วะรูมเมทได้ดีที่สุดคือ “แดรกของของมันน!!!!” . 10. เมื่อเพื่อนตัวดีเอาของเหลือจากโรงหนังมาแกล้งถึงห้อง แกจะบ้าเหรอออ!!!! 11. รูมเมทบอกว่าในห้องน้ำมีรอยรั่ว (leak) แต่เขาดันเจอกระเทียมหอม (leek) แทน 12.…
-
เทรนด์สวยใหม่ ‘ก้านดันดั้ง’ สอดเข้าจมูกเข้าไป แล้วจะดันให้โด่งขึ้นมาเหมือนฝรั่ง!?
ไม่ว่าใครก็อยากมีจมูกที่ได้รูปสวยงามกันทั้งนั้น สาวๆ ในยุคนี้จึงขอตอบโจทย์ด้วยการทำศัลยกรรม ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย เร็ว และทำให้จมูกเข้ารูปได้นานกว่าวิธีอื่นๆ แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่านอกจากการศัลยกรรมแล้วยังมีวิธีอื่นๆ ที่ผู้หญิงเขาไปสรรหามา เพื่อที่จะมีดั้งโด่งๆ ได้รูปแบบสาวเกาหลี สำหรับสาวที่เกิดมาพร้อมกับดั้งที่แบนราบ ไม่ว่าจะบีบให้โด่งขนาดไหนก็เข็นไม่ขึ้น การศัลยกรรมก็เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่เลวหรอกนะ แต่เมื่อไม่นานมานี้ในวงการความงามของสาวๆ ได้เกิดอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้จมูกนั้นดูโด่งขึ้นมาได้ภายไม่กี่วินาที แถมยังไม่ต้องเจ็บตัวอีกด้วย อุปกรณ์นั้นก็คือหมุดพลาสติกที่ใช้สอดใส่เข้าไปในรูจมูก แล้วดามให้รูปทรงของดั้งนั้นสูงขึ้น ซึ่่งเทรนด์ความงามอันนี้ได้แพร่หลายไปในแถบเอเชียเป็นอย่างมาก ด้วยราคาที่แสนถูกแต่ประสิทธิภาพที่เห็นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สาวๆ เอเชียนั้นต้องไปหาซื้อกันมาใช้ด่วนๆ กับความงามที่ DIY ได้ แถมไม่ต้องเจ็บตัวเหมือนการทำศัลยกรรม อุปกรณ์เหล่านี้มีการโฆษณาว่าสามารถใส่ได้อย่างแนบเนียบและปลอดภัย อีกบางยี่ห้อยังอ้างว่าอุปกรณ์เหล่านี้เป็นแบบ “แอนตี้แบคทีเรีย” อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามก็มีผู้คนออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลเสียของมัน ที่อาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีสาวๆ ชาวจีนรายหนึ่งทำหมุดพลาสติกหลุดเข้าไปในร่างกาย ก่อนที่หมอก็ทำการนำหมุดออกมาจากท้องของเธอในอีกสองวันต่อมา และในปีที่ผ่านมาก็เกิดเหตุร้ายกับสาวไต้หวันในทำนองนี้อีกเช่นกัน หลังจากที่หมุดพลาสติกได้ปักเข้าในเนื้อเยื่อของจมูก จนทำให้ต้องนำส่งแพทย์ฉุกเฉิน Dr. Zhou Xin ผู้เชี่ยวชาญด้าน หู คอ จมูก…
-
ชาวเน็ตพากันส่งภาพวาดเจ้าเหมียวสไตล์มินิมอลประชันฝีมือ แต่ดูยังไง๊ยังไงก็ไม่เหมือนแมว
แมว สิ่งมีชีวิตสุดมหัศจรรย์ที่ทุกท่วงท่าการใช้ชีวิตของมันนั้น มักจะทำให้เราฉุกคิดเสมอว่าจริงๆ แล้วแมวมีอวัยวะภายในเป็นของเหลวใช่ไหม และด้วยเหตุผลดังกล่าวพวกมันจึงกลายเป็นสุดยอดโมเดลสำหรับวาดรูปเลยล่ะ ด้วยเหตุนี้ชาวเน็ตก็เลยจัดการสร้างกระทู้แยกของเว็บไซต์ Reddit ขึ้นมาในชื่อว่า Minimal Cat Art เพื่อให้ชาวเน็ตทุกคนมาช่วยกันวาดรูปแมวในแบบต่างๆ ในสไตล์มินิมอล มินิมอลพอไหมล่ะ ว่าแต่นี่แมวหรืองู!? บอกเลยว่างานนี้มีฮาเพราะบางภาพเราก็พอจะดูออกว่ามันเป็นแมวน่ารักๆ ลายเส้นน้อยๆ แต่บางตัวพอวาดตามท่าแปลกๆ ของพวกมันเรากลับแยกไม่ออกเลยว่ามันคือแมวหรือเอเลี่ยนกันแน่ ฮร่าๆ อย่างไรก็ตามแม้มันจะไม่เหมือนแมว แต่คอนเซ็ปต์หลักๆ ของการวาดภาพในกระทู้นี้ก็คือ ‘วาดพวกมันตามความคิดของเรา’ ฉะนั้นขอแค่มินิมอลก็พอ ที่เหลือจะเหมือนหรือไม่เหมือนอันนี้ก็แล้วแต่คนดูอีกที… ดูรูปต้นฉบับมันก็ดูออกนะว่าแมว แต่รูปวาดเนี่ยสิ ภาพนี้ยังดูชัดเจนว่าเป็นแมว เออ…ตัวบ้าอะไรเนี่ย แมวน้ำเหรอ นี่พี่เล่นจับมันรวมเข้าด้วยกันในเส้นเดียวเลยสินะ จากแมวธรรมดากลายเป็นแมวเหงือก ดูจะอ้วนกว่าภาพต้นฉบับนะเนี่ย เออ…แมวหรือปลา ดูแล้วขยี้ตาสองที ภาพนี้ดูสวยดีนะ จะต้นฉบับหรือธรรมดาก็หน้าเซ็งพอกัน มันอ้วนจนกลายเป็นเนื้อเดียวกันแล้วใช่ป่าว พอไม่ใส่ขนแล้วมันดูตัวอ้วนกลมมากๆ เลยนะ แมวเอเลี่ยนชัดๆ…
-
หนุ่มแผนร้าย…หลอกให้แฟนมาเล่นเกมที่เขาสร้างขึ้น แล้วก็ขอเธอแต่งงานซะ!!
การคุกเข่าขอแต่งงานแบบเดิมๆ มันคงจะดูจืดและธรรมดาเกินไปสำหรับหนุ่มสาวในยุคปัจจุบัน เพราะสมัยนี้เขาลงทุนสร้างเกมขึ้นมาหลอกให้แฟนสาวเล่น เพื่อขอเธอแต่งงานกันแล้วนะเออ!! งานนี้มีความเซอร์ไพรส์มากกว่าการสวมแหวนอี๊กกกกก และนี่คือเรื่องราวสุดแสนโรแมนติกผสมความน่ารักของสมาชิกผู้ใช้เว็บไซต์ Reddit ชื่อ LA Pike ชายหนุ่มผู้ที่ลงทุนสร้างวีดีโอเกมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมชื่อดังอย่าง Super Mario Brothers ขึ้นมา เพื่อขอ Lauren ผู้เป็นแฟนสาวแต่งงาน ทางด้าน LA Pike ได้ออกมาเผยว่า “ผมสร้างวีดีโอเกมนี้ขึ้นมาสำหรับ Lauren เพื่อให้เธอได้จำจดช่วงเวลาดีๆ นี้เอาไว้ในตอนที่เรากำลังเดทกันอยู่…เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเกมถูกกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน โดยทั้งหมดนี้เป็นเหตุการณ์ในอดีตของเราที่เคยเกิดขึ้นจริง” . ในตอนแรกเขาได้หลอกให้แฟนสาวมาช่วยเป็นผู้ทดสอบเกมที่ได้สร้างขึ้น ซึ่งในระหว่างที่กำลังเล่นเกมอยู่นั้นดูเหมือนว่าเธอยังไม่ได้เอะใจอะไร แต่พอผ่านไปถึงด่านสุดท้ายก็ทำให้ Lauren เริ่มแปลกใจว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นแน่ๆ เพราะในตอนนั้นก็มีเพลงที่คุณปู่ของ LA Pike เคยเปิดตอนขอคุณย่าแต่งงานนั้นได้บรรเลงขึ้น พร้อมกับมีข้อความขึ้นมาบนหน้าจอว่า “มันอันตรายเกินไปที่จะเดินทางคนเดียว รับนี่ไปสิ” จากนั้นเขาก็ได้มอบแหวนที่ซ่อนอยู่หลังคอมพิวเตอร์ให้กับ Lauren ทันที ดูเหมือนว่าแผนการสุดแสบในครั้งนี้จะได้ผลซะด้วยสิ เพราะสุดท้ายมันก็ทำให้ Lauren ตอบตกลง…
-
ตำนานรักต่างเผ่าพันธุ์ราวกับซีรีส์เกาหลีของ ‘เหมียวมาเฟียสุดเย็นชา กับเจ้าตูบขี้อาย’
เวลาที่เราพูดถึงร้านสะดวกซื้อ นอกจากความสะดวกตามชื่อและสินค้าภายในร้านแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนมักจะนึกถึงก็คงจะหนีไม่พ้นสัตว์ประจำร้านอย่างแน่นอน บางร้านนั้นอาจจะเป็นสุนัขหรือบางร้านอาจจะเป็นแมวก็แล้วแต่ เพียงแต่ว่าเจ้าสัตว์เหล่านี้มักจะเป็นสัตว์ที่ทางร้านไม่ได้เลี้ยงหรือเชิญชวนให้พวกมันมาอยู่สักเท่าไหร่ เช่นเดียวกับเจ้าเหมียว Kami ที่มักจะทำตัวเป็นมาเฟียร้านสะดวกซื้อเสมอๆ โดยมันจะเดินเข้าไปในร้านพร้อมขออาหารจากมนุษย์อยู่เป็นประจำ ขาใหญ่ของที่นี่มาแล้ว!! ไส้กรอกอร่อยมากเจ้ามนุษย์ แต่ถึงมนุษย์จะให้อาหารมันแล้ว ถ้าเจ้าเหมียวมาเฟียไม่อยากไป มันก็จะไม่ยอมจากไปเด็ดขาด แถมมันยังฉลาดพอที่จะรู้ว่ามนุษย์เอาอาหารมาหลอกล่อด้วยนะ เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยล่ะเจ้า Kami ต่อให้ไล่ยังไงก็ไม่ไป!! คิดจะมาหลอกท่าน Kami เหรอ ฝันไปเถอะ… นอกจากการเป็นมาเฟียในร้านแล้ว มันก็ยังเป็นเจ้าที่คอยคุมหน้าร้านสะดวกซื้อร้านประจำด้วย ซึ่งถ้าใครมาจุ้นวุ่นวายกับมันก็จะถูกกัดเข้าทันที ขนาดมนุษย์เด็กยังต้องเกรงใจเจ้าเหมียวมาเฟียตัวนี้เลยคิดดู… เจ้าหนูคนนี้ถึงกับคิดหนัก จะผ่านมาเฟียประจำร้านไปยังไงดี ถ้าใครไปไล่เจ้ามาเฟียรับรองมีเจ็บ แต่ก็มีอยู่อย่างหนึ่งที่ดูจะทำให้เจ้าเหมียวมาเฟียอ่อนข้อลงได้ นั่นก็คือเจ้าตูบ Baeukgu สุดขี้อายที่มักจะมองเจ้า Kami อยู่ไกลๆ เสมอ แม้บางครั้งมันจะเคยลองเข้าไปพูดคุยกับเจ้าเหมียวจนถูกไล่ มันก็ยังไม่ถอดใจขอตามไปด้วยทุกทีอย่างไม่ลดละ ได้แต่มอง เธอข้างเดียวอยู่ที่มุมนี้…. โดน Kami ดุเท่าไหร่ก็ไม่ตัดใจ …
-
ภาพฮาๆ ของ ‘เมียน้อยวิ่งหนีเมียหลวง’ ชาวเน็ตคิดว่ายังไม่เร้าใจ จึงอัญเชิญเข้าร่วมพิธีกรรม
สมัยนี้การตกแต่งตัดต่อภาพเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้ บางครั้งเราสามารถเปลี่ยนจากภาพที่ดูไม่มีอะไรให้กลายเป็นภาพที่สื่อให้เห็นอารมณ์ได้มากยิ่งขึ้น หรือจะเพิ่มอารมณ์จากภาพที่ดูเร้าใจอยู่แล้วให้มันเร้าใจ ระทึกขวัญมากขึ้นไปอีกแบบนี้ก็ได้เช่นเดียวกัน เมื่อภาพของเมียน้อยสวมชุดชั้นในกำลังวิ่งหนีเมียหลวงอยู่คงทำให้หลายๆ คนรู้สึกว่ามันยังไม่เร้าใจมากพอ พวกเขาเลยนำภาพนี้ไปตกแต่ง ต่อเติมให้มันดูตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นไปอีก ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเป็นยังไงลองไปดูกันเลย ภาพต้นฉบับ เมียน้อยสวมชุดชั้นในกำลังวิ่งหนีเมียหลวงที่ถือไม้กวาดไล่ตามมา รีบวิ่งหนีไปทางนั้นเร็ว สงสัยจะหนีสตอร์มทรูปเปอร์มา ด้วยเกียรติของชาวสปาร์ตัน ข้าจะจัดการเจ้าให้ได้ โปเกม่อนเมียน้อย ฉันเลือกนาย ไล่ไม่ทัน เลยปาใส่กบาลแทน ก็เลยโดนจับข้อหาฆ่าคนตาย สำหรับฉากนี้ เธอเป็นได้แค่ตัวประกอบที่กำลังหนีตาย แนะนำให้หันไปหาคนด้านหลังนะ ดูแล้วเขาน่าจะช่วยได้ สีฟ้าๆ นั่นไม่ใช่ไม้กวาดแต่เป็นหอกน้ำแข็งสินะ ความจริงทั้งสามคนวิ่งไล่กันมาตั้งนานแล้ว ดูสิมีอยู่ในภาพวาดยุคเก่าด้วย อ้าวเฮ้ย!! แล้วหนูไปเกี่ยวไรด้วยเนี๊ยยย แต่งตัวแบบนั้นออกมาไม่ได้นะคะ รบกวนหลวงพี่สั่งสอนพวกเธอที วิ่งไปวิ่งมากลายเป็นนักวิ่งในงานมาราธอนซะงั้น อืมมม วงสวิงกำลังดีเลย นี่เธอขอยืมไม้กอล์ฟสีฟ้าๆ นั่นหน่อยได้มั้ย? นี่เป็นถ้วยรางวัลที่ผมภูมิใจมากที่สุดแล้วครับตั้งแต่เกิดมา คุณชาวีมาทำอย่างนี้กับอารยาไม่ได้นะคะ จะหนีไปกับนังดีดี้แบบนี้ไม่ได้…
-
ตำนานของ Jim Thorpe ผู้พิชิต 2 เหรียญทองโอลิมปิกปี 1912 ด้วยรองเท้าที่คุ้ยมาจากถังขยะ
หลายคนมีความคิดว่าการที่เรามีอุปกรณ์กีฬาที่ดีก็จะทำให้เราสามารถเล่นกีฬานั้นๆ ได้ดีขึ้น แต่ความจริงแล้วมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เพียงอย่างเดียวเสมอไป เพราะอย่างชายคนนี้ที่ใช้เพียงแค่รองเท้ากีฬาที่เก็บได้จากถังขยะก็ยังทำให้เขาได้ถึง 2 เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเลย!! ชายคนนั้นมีชื่อว่า Jim Thorpe หนุ่มชนพื้นเมืองอเมริกันที่เกิดในปี 1887 และได้สร้างผลงานเอาไว้ในการแข่งขันกรีฑาในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกประจำปี 1912 ที่กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน โดยเขาสามารถคว้าเหรียญทองกลับมาได้ถึง 2 เหรียญด้วยรองเท้าที่เก็บได้จากถังขยะ Jim Thorpe ผู้คว้า 2 เหรียญทองด้วยรองเท้าที่เก็บมาจากถังขยะ Jim มีพี่ชายฝาแฝดอยู่หนึ่งคน แต่ก็ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนอายุเพียง 9 ขวบ ต่อมาอีกไม่กี่ปีแม่และพ่อของเขาก็ได้จากโลกนี้ตามพี่เขาไป ทำให้เขาต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่นั้นมา แต่เขาก็ไม่ได้ย่อท้อกับชีวิต จนเมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ได้เข้าร่วมการทดสอบคัดตัวนักกรีฑาตัวแทนสหรัฐอเมริกาที่ต้องไปแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกปี 1912 ด้วยศักยภาพความสามารถทางด้านกีฬาของเขาทำให้สามารถติดเป็นหนึ่งในทีม Pentathlon (หรือ ปัญจกรีฑา) ได้ไม่ยาก อีกทั้งยังถูกเลือกให้ลงการแข่งขันประเภท Decathlon (หรือ ทศกรีฑา) เพิ่มเข้าไปอีก แต่ถึงแม้เขาจะต้องลงแข่งหลายรายการขนาดไหนก็ไม่น่ากังวลเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนวันแข่ง เพราะรองเท้าของเขาถูกขโมยไปในวันนั้น แน่นอนว่ารองเท้าคือสิ่งสำคัญสำหรับนักกรีฑาอย่างมาก แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัดเขาได้ตัดสินใจใช้รองเท้าที่เก็บมาได้จากถังขยะ โดยรองเท้าทั้งสองข้างนั้นไม่ได้มาจากที่เดียวกัน ขนาดของรองเท้าจึงต่างกันทำให้เท้าข้างหนึ่งของเขาต้องใส่ถุงเท้าหลายๆ ชั้นเพื่อเพิ่มความหนาไม่ให้รองเท้าหลุดออกมาระหว่างแข่ง ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องรองเท้าก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับชายคนนี้ เพราะในการแข่งประเภท…
-
Robert Wardhaugh ชายผู้เล่นเกม D&D มาเป็นเวลานานกว่า 35 ปี จนตอนนี้ก็ยังเล่นอยู่!!
ในปัจจุบันนั้นบอร์ดเกมเริ่มเป็นที่สนใจและผู้คนก็หันกลับมาเล่นกันมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเกมที่หลากหลายและวิธีการเล่นสนุกสนาน เหมาะกับกลุ่มเพื่อนฝูง จึงไม่แปลกอะไรที่มันได้รับความนิยมมากขนาดนี้ แต่ทางด้านตะวันตกนั้น ก็มีบอร์ดเกมที่อมตะสุดๆ พอกับเกมเศรษฐีที่บ้านเราชอบเล่นกันเลย เกมที่ว่านั้นก็คือ เกม D&D หรือ Dungeon and Dragon เกมแนว RPG ที่นำผู้เล่นหลายคนมาสวมบทเป็นผู้กล้า เพื่อผจญภัยไปในโลกแฟนตาซีที่เกมมาสเตอร์จะเป็นคนกำหนดเนื้อเรื่องทั้งหมด… Robert Wardhaugh เกมมาสเตอร์จากแคนาดาที่หลงใหลใน D&D มาตั้งแต่อายุ 14 จนเวลาผ่านไป 35 ปี เขาก็ยังคงรักและเล่นบอร์ดเกมนี้อยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญเนื้อเรื่องภายในเกมของเขาไม่เคยจบลง หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเกมของเขามันถึงไม่เคยจบลง นั่นก็เพราะว่าเขาเป็นคนที่ชื่นชอบจากใจจริง เขาจึงเริ่มสะสมพรอพประกอบฉาก ทั้งปีศาจ ตัวละคร สิ่งก่อสร้างหรือแม้แต่ภูมิประเทศรวมๆ แล้วกว่า 20,000 ชิ้น (แม่เจ้าโว้ยยย) โดยเขาให้เหตุผลในการสะสมว่า เขาสนุกมากๆ ที่ได้วางพรอพพวกนี้ลงไปบนโต๊ะจนเกิดเป็นฉากขึ้นมา นี่คือพรอพประกอบฉากของพี่เขาล่ะ มีทุกแบบ ไม่ว่าจะปีศาจ คน หรือสัตว์ ต้นไม้ก็เพียบเช่นกันนะ กล่องที่เรียงกันเต็มไปหมดนี้ คืออุปกรณ์ประกอบฉากทั้งหมด ความสนุกของเขาคือการวางฉาก…
-
คุณแม่กะจะส่งรูปไปให้พ่อ แต่ดั๊นส่งผิดไปให้ลูก เอ๊ะ.. แล้วแม่ส่งรูปอะไรมาล่ะนั่น!?
ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงแค่เด็กวัยรุ่นเท่านั้นที่มีสมาร์ทโฟนเพราะผู้หลักผู้ใหญ่หรือคุณพ่อคุณแม่เราเองก็มีเช่นเดียวกัน ทำให้ทั้งครอบครัวสามารถพูดคุยหรือส่งรูปภาพหากันได้ง่ายยิ่งขึ้น และบางครั้งก็อาจมีการส่งหาคนผิดบ้างเหมือนกับคุณแม่คนนี้ที่ส่งรูปหาผิดคนแค่ครั้งเดียว แต่กลับกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลซะอย่างนั้น เรื่องราวนี้ได้ถูกแชร์ลงในทวิตเตอร์ของ Liam McDonald หนุ่มวัย 24 ปีที่อยู่ในเมืองดันดี ประเทศสก็อตแลนด์ เมื่อมือถือของเขาแจ้งเตือนว่าคุณแม่ได้ส่งรูปมาให้ผ่านแอพฯ WhatsApp แต่เขากลับไม่กล้าเปิดขึ้นมาเพราะคุณแม่ดันส่งข้อความทิ้งท้ายว่า “ขอโทษที คิดว่าพ่อ (ฮา)” คุณแม่ส่งมาให้ตั้ง 3 ภาพ แถมติดรูปหัวใจมาให้ด้วย แต่ดันผิดแชท ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตรงข้อความที่ 3 เธอดันใส่อิโมจิรูปหัวใจมาให้อีก รูปแบบของข้อความแบบนี้ทำเอาลูกชายไม่กล้าเปิดเลย เพราะไม่แน่ว่ามันอาจเป็นรูปแบบส่วนตัวๆ ของพวกเขาก็ได้ จากนั้นเขาจึงได้นำภาพการแจ้งเตือนนี้ไปแชร์ลงในทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2017 พร้อมกับคำพูดที่ว่า “เช็ดเขร้ ผมไม่กล้าเปิดมันขึ้นมาเลย” โพสต์ของชายหนุ่มที่ยังคงคาใจกับรูปที่แม่ของเขาส่งมา เรื่องราวนี้ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันสงสัยไปพร้อมๆ กับเขาจนมีการรีทวีตไปมากกว่า 25,000 ครั้ง กดไลก์อีกกว่า 85,000 ครั้ง และได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเต็มไปหมด ซึ่งเกือบทั้งหมดต้องการให้เขาเปิดดูรูปนั้นซะสงสัยเรื่องนี้คงไปกระตุ้นต่อมความอยากรู้ของใครหลายๆ คนเข้าแล้วสินะ “โถ่วจารย์ จะมาปล่อยให้พวกเราคาใจแบบนี้ไม่ได้นะ” อย่างคนนี้ก็ถึงกับตั้งค่าการแจ้งเตือน เพื่อให้ได้รู้ทันทีเวลาที่ Liam เข้ามาอัพเดทเรื่องราวนี้…
-
คนในวงการออกมาแฉ Tom Hanks เนื่องจากว่าแกเป็นคน “ดีเกินไป” ช่วยหยุดดีสักวันเถ๊อะ!!
ได้โปรด Tom Hanks คุณช่วยหยุดเป็นคนดีสักวินาทีจะได้ไหม!! เรียกว่าตอนนี้วงการฮอลีวูดลุกเป็นไฟกันเลยทีเดียว หลังจากที่มีข่าวคราวเกี่ยวกับการที่ดาราหลายคนถูกขุดและถูกแฉพฤติกรรมคุกคามทางเพศของพวกเขา ซึ่งคนที่โดนไปก็ตกงานกันรัวๆ Kevin Spacey คงเป็นตัวอย่างที่ชัดที่สุดและผู้กำกับชื่อดัง Brett Ratner ก็คงจะเป็นรายต่อไป… แต่ใช่ว่าจะมีแต่ข่าวเสียๆ หายๆ ของเหล่านักแสดงหรือผู้กำกับหรอกนะ เพราะเรื่องดีๆ ก็มีเช่นกันดีขนาดที่ว่าคนต้องบอกว่านายเลิกเป็นคนดีสักวินาทีหนึ่งได้ไหมเลยทีเดียว คนดังคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ Tom Hanks นั่นเอง โดยเขาได้รับคำชมมากมายจากเพื่อนร่วมงานด้วยกันมาตลอด ยกตัวอย่างเช่นเรื่องเล่าจาก Veronica Warren ที่เล่าย้อนกลับไปเมื่อช่วงถ่ายทำหนังเรื่อง The Da Vinci Code ปี 2006 Veronica เล่าว่า Tom Hanks เป็นคนที่นิสัยดีมาก แม้ว่าเพื่อนร่วมงานจะมีอาหารไม่เพียงพอ เขาก็จะเอาอาหารส่วนของตัวเองมาแบ่งให้กับคนอื่นๆ ด้วย “เขาแบ่งแซนวิชให้ฉันครึ่งหนึ่ง หลังจากที่เขาเห็นว่าเสบียงในกองถ่ายเหลือน้อยเต็มที ตอนนั้นฉันเพิ่งจะอายุ 17 เองนะ แล้วก็ไม่ใช่ครั้งเดียวด้วย ตลอดเวลาในกองถ่ายเขาไม่เคยทำอะไรไม่ดีกับฉันเลย เขาทำกับฉันในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกันตลอดเวลา” Veronica กล่าว ก็ชมกันเกินไป… ยังๆ ยังไม่หมด Zoe Tanowitz…
-
คุณแม่เสนอวิธีเอา ‘เสี้ยน’ ที่ตำมือออกแบบง่ายๆ จนนึกไม่ถึง ชาวเน็ตถูกใจแชร์ไปเป็นแสน
ปัญหาเสี้ยนตำมือ โดยเฉพาะกับเด็กๆ ถือเป็นปัญหาระดับชาติ เพราะถึงมันจะเป็นแค่เศษไม้เล็กๆ แต่พลังทำลายล้างสูงมาก ทั้งเจ็บ ทั้งแสบ แถมยังเอาออกยากอีกต่างหาก แต่ปัญหาเสี้ยนตำมือจะไม่ใช้เรื่องใหญ่อีกต่อไป เพราะ Claire Bullen-Jones คุณแม่จากสหราชอาณาจักรได้แนะวิธีการเอาเสี้ยนออกแบบง่ายๆ และไม่เจ็บอย่างที่คิด Bullen-Jones ได้แชร์บนเฟซบุ๊กของเธอว่า “เมื่อลูกของคุณหรือแม้แต่ตัวคุณเองโดนเสี้ยนตำมือ ให้นำหลอดดูดยา (Syringe) ขนาดที่พอเหมาะกับเสี้ยนนั้นมาช่วยในการเอาออก” “เอาหลอดดูดยาครอบลงไปตรงบริเวณที่ถูกเสี้ยนตำ โดยกดลงไปให้แน่น และอย่าลืมเช็คให้แน่ใจว่าไม่มีช่องว่างให้ลมภายนอกเข้าไปในกระบอกเข็มฉีดยาได้” “ขั้นตอนต่อไปคือการดึง ให้ดึงออกอย่างเร็วที่สุด แล้วจะพบว่าเสี้ยนนั้นหลุดออกมาพร้อมหลอดดูดยา แต่หากไม่ออกในรอบแรกให้ทำต่อไปอีก 2-3 ครั้ง รับรองว่ามันออกมาแน่นอน” “วิธีนี้นอกจากช่วยประหยัดเวลาแล้ว จะทำให้ลูกน้อยไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดนานอีกด้วย หากคิดว่านี่เป็นประโยชน์ อย่าลืมส่งต่อให้พ่อแม่คนอื่นๆ ด้วยนะคะ” รู้แบบนี้แล้ว พ่อแม่คงไม่ทรมานลูกด้วยการใช้เข็มทิ่มแทงเพื่อให้เสี้ยนออกอีกแล้วนะ ที่สำคัญนี่เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ เสี้ยนหรอ ไม่กลัวหรอก หึหึ ที่มา didyouknowfacts
-
นักวิจัยเผย… คุณจะลดน้ำได้มากแค่ไหน ถ้าเอา “อึหรือตด” ออกจากร่างกาย!?
เราเคยคิดกันเล่นๆ มั้ยว่าถ้ากำจัดอึทั้งหมดออกจากร่างกาย เราจะเหลือน้ำหนักเท่าไหร่? หรือแม้แต่การผายลมเนี่ยจะช่วยลดน้ำหนักด้วยมั้ย? วันนี้ความสงสัยเหล่านั้นได้รับคำตอบทางวิทยาศาสตร์แล้ว… นักวิจัยเผยว่า อึมีน้ำหนักตั้งแต่ 70-450 กรัมโดยเฉลี่ย แต่คนตะวันตกส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักอึที่เบากว่านั้น เพราะเขาชอบกินอาหารไม่มีเส้นใยอาหาร ในการทดสอบน้ำหนักของตด นักวิจัยได้ใช้ท่อสอดเข้าไปในทวารหนักประมาณ 24 ชั่วโมง พบว่าตดเพิ่มขึ้นถึง 450 กรัม ถึง 1.4 กิโลกรัมต่อวัน นักโภชนาการ Adina Pearson กล่าวว่าการบริโภคอาหารที่มีเส้นใยและน้ำมากขึ้น จะทำให้คุณเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะช่วยในการลดน้ำหนัก นอกจากนี้ประเภทของอาหารที่คุณทานเข้าไปก็มีผลต่อน้ำหนักอึ โดยผัก 450 กรัม ที่คุณทานเข้าไปจะย่อยสลายกลายเป็นอึในที่สุด แต่อาหารบางชนิดจะกลายเป็นไขมันสะสมในร่างกายของคุณ นักวิจัยยังบอกอีกว่าในการขับถ่ายแต่ละครั้ง ร่างกายสามารขับอึออกมาได้ 400-900 กรัม แต่อย่าคิดที่จะลดน้ำหนักด้วยการกินยาระบายเพื่อที่จะได้อึมากขึ้นเชียวหล่ะ เพราะยิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งจะรู้สึกว่าอ้วนขึ้น ใครที่คิดจะลดน้ำหนักด้วยการอึ นั่นไม่ใช่สิ่งที่นักวิจัยแนะนำ เพราะวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการลดน้ำหนักคือการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการออกกำลังกายนั่นเอง ที่มา didyouknowfacts
-
คุณพ่ออุ้มลูกน้อยที่เกิดมาไม่สมบูรณ์ เต้นรำด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป
ของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดสำหรับคนเป็นพ่อแม่ก็คือลูก และแน่นอนว่าพ่อแม่ทุกคนก็คงอยากใช้ชีวิตร่วมกับลูกให้นานที่สุดในชีวิต แต่น่าเศร้าที่หนูน้อย Millie เกิดมาในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ต้องลาโลกก่อนวัยอันควร Kevin McGuire ผู้เป็นพ่อจึงอุ้มเธอเต้นรำเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อบันทึกช่วงเวลาแห่งความทรงจำกับเธอ Millie เกิดมาพร้อมความเสียหายทางสมองและต้องทนทุกข์ทรมานกับสภาวะที่กระดูกโตผิดรูป… เธอกำลังจะอายุครบ 2 ขวบในเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม McGuire และภรรยาก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำให้เธอมีความสุขมากที่สุดในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ และสร้างความทรงจำร่วมกันให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ McGuire ได้จัดกิจกรรมส่วนตัวขึ้น โดยจ้างวงดนตรี Stone Foundation มาบรรเลงเพลง เพื่อที่จะได้เต้นรำกับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะจากไปตลอดกาล ในขณะที่พ่ออุ้มลูกน้อยเต้นรำนั้น สมาชิกวง Stone Foundation แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ พวกเขาเห็นถึงความรักของพ่อ เห็นช่วงเวลาที่งดงามของพ่อลูก และการจากลาที่จะมาถึงในไม่ช้านี้ McGuire บอกว่า “เราทำใจยอมรับได้ที่ Millie จะจากไป แต่เราจะไม่ยอมปล่อยให้เวลาที่เหลืออยู่สูญเปล่า ดังนั้นเราจึงได้สร้างความทรงที่แสนพิเศษกับเธอ” “สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมได้เรียนรู้คือ ผมจะไม่มีโอกาสได้เต้นรำกับเธอในวันเกิดหรือในวันแต่งงานของเธอ และเมื่อผมเห็นวิดีโอที่พ่อเต้นรำกับลูกสาวในงานต่างๆ ทำให้ผมตระหนักได้ว่ามันเป็นกิจกรรมที่ผมกับลูกสาวไม่ควรพลาด” ส่วนเพลงที่ McGuire เลือกเต้นรำกับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายนั้น เป็นเพลงที่เขาร้องให้เธอฟังเป็นประจำ และเขาก็เชื่อว่ามันเป็นเพลงที่ลูกน้อยจะมีความสุขทุกครั้งที่ได้ฟัง “Millie ตื่นขึ้นมาตอนที่ผมเปิดเพลงนี้ เธอมองมาที่ผมแล้วทำเสียงเล็กๆ น่ารักๆ นั่นเป็นเสียงที่ผมจะจดจำไปตลอดชีวิต” คุณพ่อกล่าว สำหรับหนูน้อย Millie…
-
หญิงสาวตามหาพ่อแม่บุญธรรมที่ดูแลเธอในวัยเด็ก เพื่อขอบคุณพวกเขาแม้จะผ่านมาแล้วกว่า 20 ปี
ใครก็ตามที่มีพระคุณต่อเรา ทำให้เราเติบโตจนมีทุกวันนี้ได้ แม้จะไม่ใช่พ่อแม่หรือญาติพี่น้องที่แท้จริง แต่เขาคนนั้นก็สมควรได้รับการตอบแทน เหมือนกับหญิงสาวกำพร้าชาวไต้หวันคนนี้ ที่ตามหาพ่อแม่บุญธรรมที่เคยดูแลเธอตอนเป็นเด็ก เพื่อขอบคุณพวกเขาที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้ Lin Ching-Mei วัย 29 ปี ได้ออกตามหาพ่อแม่บุญธรรมของเธอเป็นเวลาหลายปี เธอเดินทางไปยังเทศมณฑลผิงตงในประเทศจีน ซึ่งเป็นที่อยู่เดิมในวัยเด็กที่เคยอยู่กับพ่อแม่บุญธรรม ถึงสามครั้งเพื่อดูว่าพวกเขายังอยู่ที่นั่นหรือเปล่า แต่ก็ไม่เคยพบพวกเขาที่นั่นเลยสักครั้ง ทำให้หญิงสาวต้องกลับไปพร้อมน้ำตา… อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอได้ยินคนพูดถึงสถานสงเคราะห์ ทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่าเคยอยู่ที่นั่นมาก่อน หญิงสาวจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนวิธีการตามหาพ่อแม่บุญธรรมของเธอ Lin ได้เดินทางกลับไปยังผิงตงอีกครั้ง คราวนี้เธอได้ติดต่อกับ Taiwan Fund for Children and Families ซึ่งเป็นหน่วยงานช่วยเหลือเด็กและครอบครัวในไต้หวัน เพื่อให้ช่วยตามหาพ่อแม่อุปถัมภ์ของเธอ ที่นั่นเธอได้พบกับนักสังคมสงเคราะห์ Huang Shu-Ling ที่ทำหน้าที่เก็บบันทึกข้อมูลของผู้อุปการะเด็กทุกคน เขาได้ให้ชื่อของคนที่น่าจะตรงกับที่ Lin ตามหา สองชื่อคือ Chang Hung-Chi และ Kuo Chin-Chin จนกระทั่งวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา Huang ก็พาหญิงสาวไปที่บ้านของบุคคลดังกล่าว… เมื่อไปถึงเธอก็พบกับ Chang กับ Kuo และจำได้แม่นยำว่าทั้งคู่คือคนที่เธอตามหา…
-
สาวเจอแมวจรที่ปั๊มน้ำมัน พอพากลับมาบ้านมันก็กอดแขนไม่ยอมปล่อยเลย
เวลาที่เราได้เจอกับคนที่ใช่หรืออะไรที่ชอบเราก็คงไม่อยากจะปล่อยมันให้หลุดมือไป คอยพยายามเกาะสิ่งๆ นั้นเอาไว้เหมือนกับน้องเหมียวตัวนี้ที่เมื่อมันได้เจอกับทาสของมันเรียบร้อย ก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากแขนของเธอเลย เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ได้ถูกแชร์ลงในยูทูบเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2017 โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อราวๆ 1 ปีก่อนหญิงสาวชื่อว่า Rose ได้ไปเจอกับเจ้าเหมียวที่มีอายุเพียงแค่ 6 สัปดาห์นอนอยู่บนพื้นในสภาพอิดโรยอยู่หน้าปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งใกล้รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา บ้านเกิดของเธอ เจ้าเหมียวถูกเจอในสภาพร่อแร่ ก่อนที่หญิงสาวจะพามันไปอยู่ด้วย เมื่อเห็นอย่างนั้นเธอจึงตัดสินใจพามันกลับไปด้วยในทันทีและตั้งชื่อให้มันว่า Andy เธอเล่าว่าตอนสองคืนแรกที่เจ้าเหมียวมาอยู่ด้วยก็ถึงกับทำให้เธอหลับไม่ลง เจ้าเหมียวนอนอยู่ในที่นอนบนพื้นและกอดแขนของเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวจึงลงไปนอนบนพื้นกับมันและคอยสังเกตอาการของมันด้วยความเป็นห่วง กอดไม่ปล่อยเลยนะเจ้าเหมียว น่ารักขนาดนี้ใครจะกล้าปลุกกันล่ะ ในตอนแรกเจ้าเหมียวมีอาการขนร่วงอยู่บ้าง แต่เมื่อผ่านไป 1-2 สัปดาห์มันก็กลับมาแข็งแรงเป็นปกติอีกครั้ง และถึงแม้จะโตขึ้นมาแล้วมันก็ยังคงนอนกอดแขนของเธอในทุกๆ คืน ถึงจะโตขึ้นมายังไง เวลานอนก็ต้องมีแขนของเธอมาอยู่ในอ้อมกอดอยู่ดี เธอได้บอกว่า “มาถึงตอนนี้ฉันเองก็ไม่สามารถหลับได้เลยถ้าไม่มีเจ้าเหมียวมานอนด้วย พวกเราเป็นเด็กกำพร้าด้วยกันทั้งคู่ ฉันรู้สึกได้เลยว่าพวกเราคือคู่แท้ที่มอบความรักและความอบอุ่นให้กันได้อยู่เสมอ” คลิปเรื่องราวการพบกันและความน่ารักของทั้งสอง นี่อาจไม่ใช่ความบังเอิญแต่คือพรหมลิขิตเสียมากกว่าที่ทำให้ทั้งสองได้เจอกัน และมอบความอบอุ่นให้กันและกันอย่างเปี่ยมล้นมาจนถึงทุกวันนี้ โชคดีกันทั้งคู่เลยจริงจริ๊งงง ที่มา: iizcat
-
Gordon Ramsay แกล้งโพสต์ “อวยพรวันเกิด” แซวลูกสาวของตัวเองแบบเจ็บแสบ
Gordon Ramsay คือเชฟชื่อดังที่หลายๆ คนต้องรู้จักกันในยุคนี้ ด้วยการเป็นกรรมการและผู้นำรายการอาหารบวกกับคำพูดอันเจ็บแสบตรงไปตรงมา ชนิดที่ว่าถ้าใครโดนพี่แกด่าคงต้องวิ่งหนีออกไปร้องไห้ในห้องน้ำเลยก็ว่าได้ ซึ่งแกไม่ได้ทำแบบนั้นแค่กับผู้เข้าแข่งขันเท่านั้น เพราะแม้แต่ลูกสาวสุดที่รักแกก็ไม่เว้น!? Gordon Ramsay เชฟสุดโหดกับความปากร้ายที่ด่าออกมาได้อย่างถึงพริกถึงขิง ความเจ็บจี๊ดของชายคนนี้ถูกแชร์ลงในเฟซบุ๊กของเขาเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2017 เมื่อเขาต้องการกล่าวสุขสันต์วันเกิดให้กับลูกสาวคนสุดท้องวัย 15 ปี Matilda หรือที่เรียกกันว่า Tilly เขาจึงได้โพสต์วิดีโอพร้อมแคปชั่นแบบนี้ลงไป “แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะคนเก่ง!! ขอบคุณมากจริงที่เธอสามารถทำอาหารได้ ในเมื่อการร้องเพลงไม่ใช่สิ่งที่เธอควรทำเลย!! รักนะ XXXX” เมื่อชาวเน็ตกว่า 380,000 คนได้เข้ามารับชมก็ต่างชอบอกชอบใจกับความขี้เล่นมาดกวนของชายคนนี้อย่างมาก เพราะอะไรแบบนี้เราคงไม่มีทางได้เห็นในรายการที่เขาทำอยู่อย่าง Hell’s Kitchen แน่นอน Matilda Ramsay ลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัว แสดงให้เห็นเลยว่าตัวเขาเองมีความสนิทสนมกับลูกๆ ของเขามากขนาดไหน และครอบครัว Ramsay ก็ยังมีรายการแยกมาเป็นของพวกเขาเองชื่อว่า Matilda and the Ramsay Bunch ที่มี Tilly ลูกสาวคนนี้เป็นผู้ดำเนินรายการ …
-
รู้จัก “หนอนตัวแบนนิวกินี” สายพันธุ์รุกราน มันคือตัวอะไรกันแน่? และเราจะรับมือได้อย่างไร!?
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายๆ คนอาจจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเจ้าหนอนตัวแบนนิวกินี สัตว์ต่างถิ่นที่ติดอันดับ 1 ใน 100 สายพันธุ์รุกรานที่อันตรายของโลกในบ้านเราตามสื่อต่างๆ เจ้าหนอนตัวแบนชนิดนี้ถือได้ว่ามีอันตรายต่อระบบนิเวศอย่างมาก เพราะอาหารหลักของพวกมันนั้นก็คือหอยทากและสัตว์หน้าดินต่างๆ อย่าง ไส้เดือน ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพและความอุดมสมบูรณ์ของดินนั่นเอง และเพื่อเป็นการทำความรู้จักกับเจ้าหนอนชนิดนี้ให้มากขึ้น วันนี้เราก็มีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเจ้าสตว์ต่างถิ่นชนิดนี้มาฝากกัน… หนอนตัวแบนนิวกินีคืออะไร?? เจ้าหนอนตัวแบนนิวกินีนี้จัดอยู่ในกลุ่มของพวกหนอนตัวแบน ที่มีขนาดความยาวประมาณ 4 ถึง 6 เซนติเมตร ลำตัวมีสีน้ำตาลเข้มมีลักษณะแบน ความหนาประมาณ 5 มิลลิเมตร ส่วนหัวและหางมีลักษณะเรียวแหลม และมีดวงตา 2 ข้างอยู่ที่บริเวณหัว เจ้าหนอนสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดมาจากหมู่เกาะนิวกินี ประเทศอินโดนีเซีย ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1962 โดยปรกติแล้วเจ้าหนอนชนิดนี้จะชอบอาศัยอยู่ในเขตร้อนและมีการแพร่ระบาดออกมาตามเกาะต่างๆ ของหมู่เกาะอินโด สิงคโปร์ และมาเลเซีย แล้วเจ้าหนอนพวกนี้อันตรายแค่ไหนกันนะ?? อย่างที่บอกไปแล้วว่าอาหารหลักของเจ้าหนอนพวกนี้ก็คือหอยทากและสัตว์หน้าดินอื่นๆ อย่างเช่นไส้เดือนนั่นเอง ซึ่งสัตว์เหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของดิน แต่นอกจากความอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว เจ้าหนอนพวกนี้ยังเป็นพาหะแพร่เชื้อพยาธิปอดหนู และพยาธิหอยโข่ง ซึ่งอาจจะติดต่อมายังมนุษย์ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการติดพยาธิเหล่านี้ในมนุษย์นั้นพบได้น้อยมาก แต่เราสามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการล้างผักให้สะอาด และไม่รับประทานผักสดที่อาจจะมีไข่ของพยาธิติดอยู่ก็ได้ การแพร่ระบาด ตามการรายงานของ สํานักข่าวไทย TNAMCOT ได้เปิดเผยว่าขณะนี้เจ้าหนอนตัวแบนเหล่านี้ได้แพร่ระบาดอยู่ใน 11…
-
คู่รักเปลี่ยนบ้านที่ซื้อมาในราคาแค่ 43 บาท สภาพเละเทะดูไม่ได้ ให้กลายเป็นบ้านสุดน่าอยู่
บ้านคือสถานที่พักพิงสำหรับทุกคนในครอบครัว จึงเป็นสถานที่จำเป็นสำหรับการตกแต่งให้น่าอยู่ซึ่งการที่จะทำบ้านให้สวยงามนั้น เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คงไม่พ้นเรื่องเงิน แต่มีครอบครัวหนึ่งที่ซื้อบ้านเก่าราคาเพียงแค่ 1 ปอนด์ (43 บาท) มาปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นบ้านที่แสนจะน่าอยู่ได้ราวกับปาฏิหาริย์ Sam และ Rachael Kamau ได้ซื้อบ้านหลังหนึ่งจากทางการของเมือง Liverpool ประเทศอังกฤษมาในราคาเพียงแค่ 1 ปอนด์ ซึ่งบ้านในตอนแรกที่พวกเขาได้มานั้นอยู่ในสภาพที่สุดแสนจะโทรมและไม่สามารถเข้าไปดูข้างในบ้านได้เพราะเต็มไปด้วยอันตรายต่างๆ ภาพภายนอกของบ้านก็ดูดีอยู่นะ ครอบครัว Kamau ได้เช่าบ้านอาศัยอยู่ในเมือง Liverpool มากว่า 16 ปีและได้ตัดสินใจเจียดเงิน 1 ปอนด์เพื่อจะเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ โดยคุณนาย Kamau ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า “เราได้ยินเรื่องบ้านที่มีราคาเพียงปอนด์เดียวและเราก็ช่วยกันคิดว่าทำไมจะไม่ซื้อไว้ล่ะ เพราะพวกเรามีลูกสาว 2 คนที่กำลังเจริญเติบโตซึ่งพวกเขามักจะใช้ห้องนอนแคบๆ ด้วยกัน” “ตอนเรามาเห็นบ้านหลังนี้ มันทำให้เรารู้สึกช็อคหน่อยๆ มันเหมือนมีน้ำตกอยู่ในบ้านเลยเพราะว่าหลังคานั้นมันรั่ว อีกทั้งห้องน้ำก็ไม่มีแม้แต่พื้นปู และหากพูดถึงเรื่องห้องครัวนั้นฉันบอกไว้เลยว่ามันดูไม่จืดจริงๆ “ ดูเหมือนว่าทุกๆ อย่างในบ้านนี้ต้องการการปรับปรุงยกเว้นก็แต่อิฐหน้าบ้านเท่านั้นแหละที่น่าจะพอดูได้… แต่พอมาดูข้างในบ้านเท่านั้นแหละ… การปรับปรุงบ้านหลังนี้ซึ่งต้องปรับปรุงแทบจะทุกจุด พวกเขาจึงได้ใช้เงินนับหมื่นปอนด์เพื่อรีโนเวทบ้านให้ออกมาให้สวยดั่งใจฝัน “มันเป็นบ้านที่มีสภาพเลวร้ายที่สุดที่ฉันเคยเห็น ผู้คนส่วนมากมักจะเลือกเดินผ่านบ้านสุดโทรมหลังนี้ไปแต่ว่าพวกเรากลับเห็นสิ่งที่ต่างออกไปจากบ้านเก่าๆ หลังนี้ก็คือหากไม่นับเรื่องสภาพของบ้านแล้ว บ้านหลังนี้ก็มีพื้นที่ให้พวกเรากว้างขวางทีเดียว” …
-
เด็กยากไร้ในอังกฤษ แอบนำอาหารกลางวันที่โรงเรียนใส่กระเป๋ากลับบ้าน เพื่อประทังความหิว
เด็กนักเรียนในประเทศอังกฤษ บางคนอาจเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้เพียบพร้อมเหมือนกับครอบครัวอื่นๆ ต้องประสบปัญหาโดนทารุณหรือใช้ชีวิตอยู่กับความยากจน ทำให้ต้องเก็บเสื้อผ้าเอาไว้ในถุงขยะ ไม่มีข้าวกินจนถึงกับต้องแอบเก็บอาหารในโรงเรียนกลับบ้านไปเพื่อเอาไว้ประทังชีวิตตัวเองในวันหยุดสุดสัปดาห์ ปัญหาของเด็กยากไร้ในประเทศอังกฤษได้กระจายตัวออกไปในวงกว้างอย่างน่าเป็นห่วง ทางโรงเรียนหลายๆ แห่งจึงพยายามหาทางแก้ปัญหาให้กับเด็กเหล่านั้น เช่นเดียวกับ Helen Slack ครูใหญ่ในโรงเรียนประถม Twickenham ที่ได้คิดแนวทางการช่วยเหลือลูกศิษย์ในหลายๆ เรื่อง Helen ครูใหญ่ผู้พยายามช่วยเหลือลูกศิษย์ของเธอจากปัญหาความยากจน เธอได้สร้างนโยบายให้เด็กๆ ที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้ามาสามารถเข้ามากินอาหารได้ฟรีในครึ่งชั่วโมงแรกก่อนเรียน และในวันศุกร์ทางโรงเรียนก็จะห่ออาหารเอาไว้ให้สำหรับเด็กที่ต้องการอาหารประทังชีวิตในช่วงวันหยุด ไม่ใช่แค่เรื่องของอาหาร แต่รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับชุดนักเรียน การออกไปทัศนศึกษา หรืออุปกรณ์ดนตรีและกีฬา ทุกอย่างล้วนเป็นความรับผิดชอบของทางโรงเรียนทั้งสิ้น Helen บอกว่า “โปรเจกต์ทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินมากกว่า 3,400,000 บาทต่อปี หากโปรเจกต์นี้ดำเนินไปถึงปี 2020 แต่ฉันคิดว่าเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงช่วยเหลือให้ปัญหาครอบครัวยากไร้ให้หมดไป” ถึงแม้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นยังคงมีให้เห็นอย่างชัดเจน แต่รัฐบาลอังกฤษกลับทำการตัดงบประมาณที่ใช้สำหรับช่วยเหลือในด้านการศึกษาลงไปกว่า 13,000 บาทต่อเด็กนักเรียนหนึ่งคน ทำให้งบประมาณที่แต่ละโรงเรียนได้รับอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือเด็กในครอบครัวยากไร้ได้ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017 ผู้นำโรงเรียนกว่า 7 แห่งจึงได้ทำการเข้าพูดคุยกับเลขานุการกระทรวงการศึกษา Angela Raynor เพื่อโต้แย้งเกี่ยวกับการตัดงบประมาณและปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยยังไม่มีการพูดถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการพูดคุยของพวกเขา …
-
21 สุดยอดภาพถ่ายของสิ่งต่างๆ จากทั่วโลก ที่คุณอาจไม่มีโอกาสได้เห็นบ่อยนัก
ต้องยอมรับเลยนะว่าในแต่ละวันมีสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจเกิดขึ้นบนโลกของเรามากมาย ซึ่งในบางครั้งก็ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความมหัศจรรย์ และความน่าตื่นตาตื่นใจของสิ่งเหล่านั้นเป็นพิเศษ เพราะมันอาจไม่ได้เกิดขึ้นให้เราได้เห็นบ่อยนัก และทั้งหมดนี้เป็นภาพถ่ายธรรมดาๆ แต่ไม่ธรรมดา เพราะมันเป็นภาพที่ถูกนำเสนอมุมมอง และเรื่องราวใหม่ๆ ที่เราไม่เคยเห็นในชีวิตประจำวัน ว่าแต่จะน่าสนใจแค่ไหนมารับชมกันเลย หากลองเปิดไฟทั้งหมดในเครื่องเล่น Space Mountain ก็จะมีลักษณะอย่างที่เห็นนี่แหละ นี่คือจระเข้เผือกที่พบได้ยากมาก แอมโมไลต์ (Ammolite) เป็นอัญมณีโลกล้านปีสุดหายากซึ่งสามารถพบได้ในเทือกเขาร็อกกี บางคนบอกว่ามันเป็นเพชรที่หายากที่สุดในโลก มุมสวยๆ จากยอดเขาเอเวอเรสต์ “ดอกซากศพ” เป็นดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่และเหม็นที่สุดในโลก โดยกลิ่นของมันคล้ายกับเนื้อที่เน่าเปื่อย ภาพภายในพิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Momofuku ando instant ramen museum ในโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น แม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งจากมุมมองด้านบน เฝือก 3D สุดเท่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้กระดูกสมานได้เร็วขึ้น เหมือนหลุดมาจากหนังไซไฟเลย ภาพมุมมองสุดหวาดเสียวจากนักไต่เชือก จิ้งจกลอกคราบแต่ก็ยังคงรักษารูปลักษณ์เดิมได้อย่างสมบูรณ์และน่าทึ่ง สภาพพื้นหญ้าหลังถูกฟ้าฝ่า พื้นผิวด้านในของอุกกาบาต ภาพถ่ายแมนแฮตตัน…
-
17 ภาพก่อน-หลังการไว้หนวดของหนุ่มๆ โหวววว…แต่ละคนดูเข้มขึ้นกว่าเดิมเยอะ
เมื่อพูดถึงผู้ชายมีหนวด สาวๆ หลายคนอาจจะรู้สึกไม่ชอบ เพราะมันเทำให้บุคลิกภายขอกนอกของพวกเขา ดูเป็นคนรุงรัง ไม่มีระเบียบ หรือในบางครั้งหนวดก็อาจส่งผลทำให้ใบหน้าดูโหดได้ แต่สาวๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าบางทีหนุ่มๆ ที่ไว้หนวดอาจจะมีความจำเป็น โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายนคือเดือนแห่งการไว้หนวดของพวกเขา… คุณอาจกำลังสงสัยว่าทำไมเดือนพฤศจิกายนถึงเป็นเดือนแห่งการไว้หนวด ซึ่งจริงๆ แล้ว มันได้เกิดขึ้นจากองค์กรการกุศลที่ใช้ชื่อว่า Movember และ No-Shave November โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ คอยกระตุ้นให้หนุ่มๆ ทั่วโลก ได้ตระหนักถึงปัญหาสุขภาพของตัวเอง เช่น การฆ่าตัวตาย หรือเรื่องการต่อสู้กับมะเร็งต่อมลูกหมากและอัณฑะนั่นเอง และนี่คือบรรดาหนุ่มๆ ที่ได้พากันแชร์ภาพก่อนและหลังการไว้หนวดของตัวเองลงบนโลกออนไลน์ เรามาดูกันว่าแต่ละคนไว้หนวดแล้วดูดีขึ้นมากขนาดไหน 1. จากหนุ่มหน้าใสกลายเป็นคมเข้มขึ้นมาทันที 2. โอ๊วว๊าวววว ไว้เคราแล้วดูเท่ขึ้นเยอะ 3. มันก็จะดูเซอร์ๆ หน่อย 4. เพิ่มความเท่ความปังขึ้นมาอีกหลายระดับ 5. การไว้หนวดทำให้คุณดูมีความมาดแมนเต็มตัว 6. การไว้หนวดเครานอกจากจะช่วยทำให้หนุ่มดูเป็นคนสุขุมนุ่มลึกแล้ว 7. ยังช่วยให้ใบหน้าดูคมเข้มขึ้นด้วย 8. แต่งหนวดให้ดูแฟนซี…
-
21 ภาพตอนเด็ก VS ตอนโต ฉบับ “แมวเหมียว” เผลอแป๊บเดียวโตขึ้นเป็นกอง
สำหรับผู้ที่เลี้ยงแมวเหมียว คุณอาจจะไม่ได้สังเกตว่าสัตว์เลี้ยงแสนรักที่รับมาเลี้ยงนั้น มีพัฒนาการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของร่างกายไปมากขนาดไหน จะรู้ก็เพียงแต่เห็นมันตัวใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่สำหรับทาสแมวบางคนก็มีวิธีง่ายๆ ในการสังเกตพัฒนาการเจริญเติบโตของเจ้าเหมียว บางคนก็สร้างสตอรี่เป็นเรื่องราว หรือบางคนก็ถ่ายภาพของเจ้าเหมียวที่เติบโตมาพร้อมกับสิ่งต่างๆ ที่มันคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก และนี่คือภาพถ่ายน่ารักๆ ของเจ้าเหมียวกับพัฒนาการเจริญเติบโตของพวกมัน ว่าแล้วก็มารับชมกันเลยจ้า โตขึ้นเยอะเลยนะเรา จะตัวใหญ่กว่าที่นอนแล้วนะ น้องเน่าคู่ใจ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กจนโต เหมียวสองพี่น้องที่โตมาด้วยกัน น่ารักเนาะ เวลามันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน จากแมวเหมียวตัวน้อยๆ เผลอแป๊บเดียวโตกันหมดแล้ววว แม้แต่ทาสที่เลี้ยงมายังรู้สึกใจหาย ที่นอนคู่ใจ นอนมาตั้งแต่เด็ก โตมาก็ยังนอนอยู่ จากแมวขี้เซา ตอนนี้โตเป็นเจ้านายประจำบ้านแล้วจ้า เจ้าเหมียวที่โตมาพร้อมกับเจ้านายแสนรัก จากที่เคยกอดพอดีมือ ตอนนี้ตัวใหญ่กว่าตุ๊กตาแล้วน้า ที่นอนของสองเรา มันก็จะตัวติดกันตั้งแต่เล็กจนโต เป็นภาพที่ดูแล้วยิ้มตามเลย รู้ว่ามันแคบก็ยังจะเข้าไปยัดอยู่ในนั้น ไม่ใช่เด็กแล้วนะเอ็ง อ๋อยยยย น่ารักชะมัด …
-
แม่แต่งตัวให้ลูกเป็น “แอนนาเบล” ไปงานฮาโลวีน แต่ลืมว่านัดกับหมอฟันไว้ เลยมาแบบหลอนๆ
แม้ว่าเทศกาลฮาโลวีนจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ก็ยังมีภาพเก็บตกความฮาอยู่ เมื่อมีแม่ของหนูน้อยคนหนึ่งได้แต่งตัวให้เขาเป็นแอนนาเบลเพื่อไปงานเทศกาลฮาโลวีน แต่ทั้งคู่ลืมไปว่ามีนัดกับหมอฟัน เลยไปทั้งชุดนั้นเพื่อไม่ให้เลยเวลานัด ซึ่งภาพที่เจ้าหนูสวมชุดแอนนาเบลสุดฮานี้ได้กลายมาเป็นกระแสไวรัลบนโซเชียลเน็ตเวิร์กในเวลาต่อมา ตุ๊กตาผีทะลุจอออกมาแล้ว!! แอนนาเบลน้อยที่ไม่เปิดเผยชื่อคนนี้จริงๆ แล้วเขาเป็นเด็กผู้ชายที่แม่ของเขาอยากให้เขาแต่งตัวเป็นแอนนาเบลเพื่อไปงานฮาโลวีนด้วยกัน ซึ่งแม่ของเด็กคนนี้ก็ได้บรรจงแต่งหน้าทาปาก หาวิกผมมาให้เพื่อความสมจริง โดยแม่ของเด็กชายบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กว่าที่จะเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายมาใส่ชุดตุ๊กตาผีนี้ได้ ส่วนสาเหตุที่เธออยากให้ใส่ชุดนี้ก็เพราะว่า อยากจะให้เป็นความทรงจำที่แสนสนุกในชีวิตวัยเด็กของเขานั่นเอง เธอต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อมลูกชายกว่า 2 สัปดาห์ก่อนวันฮาโลวีนจะมาถึงเพื่อให้เขาใจอ่อนและยอมใส่ในที่สุด หมอจะทำอะไรคิดดีๆ นะ โดยทั้งคู่กำลังจะเดินทางไปงานเทศกาลอยู่แล้ว แต่ทว่าทั้งคู่ก็นึกขึ้นได้ว่ามีนัดกับหมอฟันพวกเขาจึงรีบไปให้ทันเวลานัด โดยที่เจ้าหนุ่มน้อยคนนี้ยังคงใส่ชุดตุ๊กตาผีนี้อยู่ เมื่อไปถึงคลินิกทำฟันที่นัดหมอไว้ ทั้งหมอฟันและพยาบาลต่างก็มองชุดที่เด็กน้อยคนนี้ใส่แล้วก็พากันหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง แต่มีคนเดียวที่ขำไม่ออกนั่นคือเจ้าเด็กหนุ่มคนที่เป็นแอนนาเบลนั่นเอง… ถึงกับยิ้มไม่ออกนั่งหน้าบึ้งตึงเลยหรอ และเมื่อภาพต่างๆ ได้ออกสู่สื่อโซเชียล ผู้คนต่างก็พากันขำในความน่ารักของเด็กคนนี้ที่ทำหน้างอตลอดเวลาที่ทำฟัน เพราะว่าอายชุดที่ตัวเองใส่อยู่ในขณะนั้นและก็น่าจะอายหมอด้วย วิดีโอระหว่างตอนทำฟันของแอนนาเบล แหมคุณแม่นี่ก็เหลือเกิน แกล้งลูกได้ลงคอ ฮ่าๆ ที่มา: en.goodtimes
-
หนุ่มเล่าประสบการณ์หลอนเจอผีเด็กตามหลอก ตอนนี้โผล่หน้าออกมาให้เห็นแล้ว
หากใครเคยติดตามเรื่องเล่าผีๆ ของ Adam Ellis นักวาดภาพประกอบจากนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ คุณจะรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ได้พบเจอกับเหตุการณ์แปลกประหลาด ในแบบที่ไม่สามารถอธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ได้ โดยเขาได้ออกมาเล่าถึงเรื่องราวชวนขนหัวลุกที่เกิดขึ้นในอพาร์ตเมนต์ที่อาศัยอยู่ ลงบนทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @moby_dickhead และไม่น่าเชื่อเลยว่าเรื่องราวดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตจำนวนมาก จนกลายเป็นกระแสไวรัลที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลกออนไลน์ อย่างไรก็ตาม Adam นักวาดภาพประกอบได้ออกมาเผยว่า เขาถูกวิญญาณเด็กตามหลอกหลอนอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง โดยผีเด็กได้เริ่มปรากฏขึ้นในความฝันของเขา ซึ่งในตอนนั้นมันทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนผีอำ นอกจากนี้เขายังเห็นเด็กคนนั้นมีหน้าตาที่น่ากลัว เพราะกะโหลกศีรษะแหว่งอีกด้วย หลายวันต่อมา Adam ก็ได้ฝันถึงเหตุการณ์แปลกๆ อีกครั้ง และในครั้งนี้เขาฝันว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งได้เดินเข้ามาหาเขาพร้อมพูดว่า คุณเจอ David (Dear David) ที่รักแล้วใช่ไหม? อีกทั้งเด็กผู้หญิงคนนั้นก็ได้บอก Adam อีกว่าถ้าหากเขาพูดว่า David ที่รัก Adam จะได้รับอนุญาตให้ถามคำถามเด็กคนนั้นได้เพียง 2 ข้อเท่านั้น ในเดือนต่อมา หลังจากที่ Adam ได้ย้ายขึ้นไปอยู่ชั้นบนของอพาร์ตเมนต์ เขาก็ได้สังเกตเห็นแมวของเขาสองตัวมักจะมานั่งอยู่ตรงหน้าประตูในเวลาเที่ยงคืน และจ้องมองลอดช่องด้านล้างอยู่แบบนั้นราวกับมันกำลังเห็นสิ่งปกติบางอย่างอยู่ นอกจากนี้เขายังได้ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ในระหว่างที่เขาได้พบเจอกับเหตุการณ์ชวนหลอน โดยในคลิปได้แสดงให้เห็นว่าเก้าอี้ที่ตั้งอยู่เฉยๆ และขวดโหลสามารถเคลื่อนไหวได้เองโดยไม่มีใครแตะต้องเลย…
-
ชายหนุ่มโดนปฏิเสธงานกว่า 30 ครั้งเพราะรอยสักที่สักไว้เพื่อระลึกถึงคุณตาที่เสียไป
การสักลายบนเรือนร่างนั้นไม่ใช่แค่เพื่อความงามเท่านั้น แต่รอยสักสำหรับบางคนมันแฝงไปด้วยความหมายสำคัญและความทรงจำดีๆ ในชีวิต อย่างไรก็ตาม คนมีรอยสักนั้นมักถูกมองในเชิงลบ จนทำให้โอกาสทางสังคมสำหรับพวกเขามีน้อยลงไปด้วย เหมือนกับหนุ่มคนนี้ที่โดนปฏิเสธงานเพราะมีรอยสักที่คอ Joe Parsons วัย 21 ปี ได้สักลายที่คอเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2016 เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณตาที่เสียไป ขณะที่ทำงานอยู่ในโรงงาน แต่เพราะลายสักนี้ทำให้เขาถูกปฏิเสธงานกว่า 30 ครั้ง… แม้ว่าชายหนุ่มจะใส่เสื้อคอเต่าเพื่อปิดรอยสัก แต่ลายสักส่วนที่เป็นปีกอยู่สูงเกินจะปิดได้มิด Joe บอกว่า “ตอนที่ผมสักลายนี้ใหม่ๆ ผู้คนคิดว่าผมมีความสุขและมีความมั่นใจในตัวเอง แต่สำหรับผมแล้ว ผมเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องมีงานดีๆ ทำ” “ผมรู้สึกว่ามันเป็นการเลือกปฏิบัติ เพราะผมมีทักษะและมีคุณสมบัติทุกอย่างตามที่พวกเขาต้องการ แต่ผมกลับถูกปฏิเสธเพียงเพราะลายสักที่คอ” ชายหนุ่มบอก อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มก็ไม่ได้เสียใจและไม่อยากลบรอยสักนี้ออก เพราะมันมีความหมายสำหรับเขามาก แต่ที่เขาเสียใจคือทัศนคติของคนอื่นที่มีต่อรอยสัก Joe เคยทำงานอยู่ที่ McVites แต่แล้วก็ต้องลาออก เพื่อกลับไปดูแลแม่ที่ประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ลาออกจากงานได้ไม่นาน ชายหนุ่มก็ตระหนักว่าเขาต้องทำงานเพื่อหาค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้าน เขาจึงเริ่มสมัครงานในเดือนมกราคม แต่กลับถูกปฏิเสธงานถึง 30 ครั้ง แม้แต่งานที่เขาเคยทำก่อนสัก ก็ไม่ยอมรับเขาเช่นกัน นับว่าเป็นความโชคร้ายของ Joe เพราะเขาเคยมีประสบการณ์การทำงานมาแล้ว 4 ปี…
-
เด็กหญิงชาวรัสเซียวัย 12 ปี ถูกลักพาตัวไปข่มขืน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสตรีมมิ่งสดหนังโป๊เด็ก…
ทุกวันนี้ได้มีการทำคลิปโป๊ขึ้นมากมายเพื่อหารายได้ผ่านสื่อออนไลน์ ยิ่งคลิปมีความดึงดูดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะทำเงินได้มากเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคลิปโป๊เหล่านี้พยายามนำเสนอคลิปที่ดูแตกต่าง ตื่นเต้น เร้าใจ มาเผยแพร่ และหนึ่งในนั้นคือการข่มขืน เหมือนอย่างคดีนี้ที่เด็กนักเรียนชาวรัสเซียวัย 12 ปี ที่ถูกลักพาตัวไปข่มขืน เพื่อถ่ายคลิปและเอาไปลงเว็บโป๊เด็ก… เด็กหญิงคนดังกล่าวนี้ถูกลักพาตัวโดยชายสองคน ขณะที่เดินกลับบ้าน หลังจากเรียนดนตรีเสร็จ ใน Ekaterinburg ทางตะวันออกของเทือกเขาอูราล ประเทศรัสเซีย ตำรวจเผยว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ที่เด็กหญิงรอดชีวิตมาได้ เพราะเธอถูกข่มขืนหลายครั้ง ระหว่างที่ถูกลักพาตัวนานกว่า 9 ชั่วโมงครึ่ง เด็กหญิงเล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่าขณะที่เดินกลับบ้านตามปกติ ก็มีคนนำถุงมาคลุมหัวของเธอ ก่อนจะลากขึ้นรถแล้วพาไปยังที่พักของพวกเขา เมื่อไปถึง คนร้ายทั้งสองคนก็ผลัดกันข่มขืนเธอ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง สร้างความเจ็บปวดให้เธอเป็นอย่างมาก แต่ที่เจ็บกว่านั้นคือพวกเขาได้ถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย จากนั้นคนร้ายก็บังคับเธอถือป้ายโฆษณาเว็บโป๊เด็กแล้วโชว์ไปที่กล้อง เพื่อเป็นการโปรโมทเว็บไซต์นั่นเอง หลังจากที่คนร้ายได้สิ่งต้องการแล้ว พวกเขาก็จับเด็กหญิงยัดใส่กระเป๋าแล้วขับรถไปที่ชานเมือง ก่อนจะทิ้งเธอไว้ข้างทางในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน เด็กหญิงใช้เวลาหลายชั่วโมงในการพาตัวเองออกจากกระเป๋าใบนั้น กระทั่งตี 3 เธอก็ทำสำเร็จ ต่อมามีมอเตอร์ไซค์ขับผ่านและสังเกตเห็นเด็กหญิงเข้า จึงได้โทรแจ้งตำรวจทันที เบื้องต้นเด็กหญิงให้การว่าหนึ่งในคนร้ายที่ข่มขืนเธอสวมกางเกงหนังสัตว์อายุประมาณ 50 ปี … ด้านโฆษกตำรวจ Valery Gorelykh กล่าวว่า “ขณะนี้เรากำลังกระจายเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200…
-
หญิงชาวอียิปต์หย่ากับสามี หลังแต่งงานได้สองอาทิตย์ เพราะแย่งทำงานบ้านหมดเลย!?
แม้ว่าปัจจุบันนี้ผู้ชายและผู้หญิงจะมีความเท่าเทียมกันในสังคม แต่จะสังเกตเห็นว่างานบ้านมักจะตกเป็นหน้าที่ของผู้หญิงส่วนใหญ่อยู่ดี จนบางทีพวกเธอก็อยากให้สามีช่วยทำงานบ้านบ้าง แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนความพอดี เพราะถ้ามากไปอาจเกิดเรื่องเหมือนภรรยาคนนี้ที่ตัดสินใจหย่ากับสามี เพราะเขาแย่งทำงานบ้านทุกอย่าง!? หญิงชาวอียีปต์วัย 28 ปี ได้แต่งงานกับแฟนหนุ่มวัย 31 ปี แต่แล้วสองสัปดาห์หลังแต่งเธอก็ขอหย่ากับเขา เพราะสามีเปิดร้านขายเสื้อผ้า โดยจ้างพนักงานไว้หลายคน ทำให้เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านและเขาก็ว่างพอที่จะทำงานบ้านทั้งหมด Samar M. ผู้เป็นภรรยาอ้างว่า “เวลาที่อยู่บ้านเขามักจะทำความสะอาดบ้านเสมอ รวมทั้งจัดเฟอร์นิเจอร์ใหม่ และฉันก็ไม่สามารถจะทำอะไรกับพฤติกรรมของเขาได้” เธอยังบอกอีกว่า Mohammad S. สามีของเธอทำตัวเหมือนแม่บ้าน จนเธอเริ่มรู้สึกเบื่อที่เห็นเขาเป็นแบบนี้ และไม่ใช่แค่ทำงานบ้านทุกอย่างนะ แต่เขายังไม่ยอมให้เธอช่วยทำอะไรด้วย ตลอด 2 สัปดาห์ที่แต่งงานกันมา Samar ต้องทนอยู่กับความเบื่อหน่ายนี้ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเปิดใจคุยกับเขา แต่คำตอบที่ได้มาคือ “ถ้าคุณอยากอยู่ในบ้านของผม คุณต้องปฏิบัติตามกฎของผม” ฝ่ายหญิงเผยว่า “ฉันคบกับเขาด้วยความรักมามากกว่า 2 ปี แต่ภายในเวลา 2 สัปดาห์ที่แต่งงานกันมา ทำให้ฉันรู้สึกเกลียดที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกับเขา” “สามีของฉันทำตัวเหมือนแม่บ้าน เขาไม่ให้ฉันสัมผัสอะไรในบ้านของเราเลย ทั้งทำอาหาร ทำความสะอาด และงานบ้านทั่วไป เขาจะจัดการเองทั้งหมด” “เขาควบคุมทุกอย่างในบ้าน โดยที่ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้ แม้แต่เรื่องเล็กน้อยๆ อย่างการวางตำแหน่งทีวี ฉันยังไม่มีสิทธิ์พูดเลย”…
-
ผู้ปกครองรุมตีครูเนอสเซอรี่ หลังจากที่เธอใช้ความรุนแรงกับเด็กนักเรียนอายุต่ำกว่า 2 ขวบ
กลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียล เมื่อมีการเผยแพร่คลิปกลุ่มพ่อแม่ชาวจีนที่รุมทำร้ายครูจากเนอสเซอรี่ เพราะเธอตีลูกๆ ของพวกเขาระหว่างอยู่ในห้องเรียน สำหรับการกระทำของครูสาวคนดังกล่าวนี้มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นขณะที่เธอใช้ความรุนแรงกับเด็กนักเรียน โดยบังคับให้กินอาหารที่มีวาซาบิและให้กินยานอนหลับ สื่อจีน The Paper รายงานว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เนอสเซอรี่ Ctrip โดยพบว่ามีการทารุณกรรมเด็กหญิงคนหนึ่งในห้องเรียนเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2017 จากกล้องวงจรปิดพบผู้ดูแลหญิงคนหนึ่งได้นำกระเป๋าเด็กหญิงคว้างลงกับพื้น ก่อนจะผลักเด็กอย่างแรง จนทำให้เธอสะดุดและหัวไปจนกับขอบโต๊ะ นอกจากนี้ยังมีอีกคลิปหนึ่งถูกบันทึกเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน เผยให้เห็นกลุ่มนักเรียนประมาณ 18 คน นั่งเรียงกันในห้อง โดยมีผู้ดูแลบังคับให้กินวาซาบิทีละคน ทำให้เด็กๆ พากันร้องไห้และพยายามปิดปาก หลังจากคลิปเหล่านี้ถูกเผยแพร่ไป ทางเนอสเซอรี่ Ctrip ได้ออกมายอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเนอสเซอรี่จริง ทำให้เนอสเซอรี่ถูกแจ้งความดำเนินคดีทันที ส่วนเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้าย ได้รับการยืนยันแล้วว่ามาจากคลาส Rainbow Class ซึ่งทุกคนในนั้นอายุต่ำกว่า 2 ขวบ จนเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ครูผู้ก่อเหตุได้คุกเข่าบนเวที เพื่อขอโทษผู้ปกครองของนักเรียน ระหว่างการประชุมผู้ปกครอง เธอบอกว่า…
-
หนึ่งวันในหนึ่งปี ณ เวลา 11.11 น. จะเกิดความมหัศจรรย์ที่อนุสาวรีย์ในแอริโซนา
ในโลกนี้มีสถานที่มหัศจรรย์หลายแห่ง ทั้งสถานที่ทางธรรมชาติ แหล่งที่มนุษย์สร้างขึ้น และการผสมผสานระหว่างทั้งสองอย่าง เหมือนกับ Anthem Veterans Memorial (AVM) ใน Anthem รัฐแอริโซนา ที่เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่การรับใช้และการเสียสละของกองทัพสหรัฐอเมริกา อนุสาวรีย์ดังกล่าวนี้จะอยู่ในสภาพสมบูรณ์แค่ปีละครั้งเท่านั้น เพราะมันต้องอยู่ในเวลาที่พอดีกับแสงอาทิตย์ตกกระทบ นั่นก็คือเวลา 11:11 น. ของวันทหารผ่านศึกที่ตรงกับวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายนของแต่ละปี ทุกๆ ปี เมื่อถึงเวลา 11:11 น. ของวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายน แสงจากดวงอาทิตย์จะส่องผ่านวงกลมของเสา Armed Services ทั้ง 5 แล้วจะตกกระทบลงที่พื้นกระเบื้องโมเสคที่มีตรามหาสัญลักษณ์ของสหรัฐอเมริกาอยู่ สำหรับเสาหลักทั้ง 5 นี้ เป็นตัวแทนของความสามัคคีใน 5 สาขาของกองทัพสหรัฐให้คำมั่นสัญญาร่วมกัน ซึ่งประกอบด้วย นาวิกโยธินสหรัฐ กองทัพเรือสหรัฐ กองทัพอากาศสหรัฐ และหน่วยยามฝั่งสหรัฐ ทั้งนี้เสาแต่ละต้นจะมีความสูงที่แตกต่างกัน โดยเรียงตามตำแหน่งตราสัญลักษณ์ที่ทางกระทรวงกลาโหมกำหนดไว้ก่อนหน้านี้ เพราะความมหัศจรรย์นี้ ทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปชมเป็นจำนวนมากเมื่อถึงวันทหารผ่านศึก Jim Martin หัวหน้าวิศวกรผู้ออกแบบ AVM กล่าวว่า “ในแต่ละปี ศูนย์กลางดวงอาทิตย์จะมีการหักเหเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม…
-
ชายหนุ่มแต่งงานกับคุณยายของตัวเอง เพื่อที่จะได้กินเงินบำนาญ หลังจากที่เธอจากไปแล้ว
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันเงินคือสิ่งสำคัญในการแลกเปลี่ยนแทบทุกอย่างในชีวิตของเรา ทำให้ทุกคนพยายามทุกหนทางเพื่อให้ได้มีเงินเยอะๆ เหมือนกับชายคนนี้ที่ได้ใช้วิธีการแปลกๆ แต่งงานกับพี่สาวของคุณยายเพื่อให้ได้รับเงินบำนาญ เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Mauricio Ossola วัย 25 ปีและครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านพี่สาวของคุณยายตัวเองที่ชื่อว่า Yolanda ในเมือง Salta ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอาร์เจนตินา หลังจากที่พ่อแม่ของเขาแยกทางกัน จนกระทั่งในวันหนึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนเขาได้ปรึกษากับคุณยาย Yolanda ว่าจะเลิกเรียนหนังสือ แต่คุณยายไม่เห็นด้วยและยืนกรานว่าช่วยเหลือทุกทางเพราะว่าเขาเป็นเด็กดีคอยดูแลเธอมาตลอด Ossola และพี่สาวของคุณยายตัวเอง Yolanda วัย 91 ปี ชายหนุ่มที่ในขณะนั้นอายุได้ 23 ปีจึงตัดสินใจขอเธอแต่งงานเพื่อให้ได้รับเงินบำนาญของหญิงชราวัย 91 ปี จึงเกิดเป็นการแต่งงานตามพิธีการในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 ผ่านไป 14 เดือนคุณยายก็จากโลกไปด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด Mauricio จึงคิดว่าตนเองมีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินบำนาญหลังจากนั้นเพื่อเติมเต็มความต้องการสุดท้ายของเธอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่ได้เป็นไปอย่างง่ายดายเหมือนที่เขาคิดไว้ เพราะคนในละแวกบ้านดันมาบอกว่าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าทั้งคู่แต่งงานกัน ชายหนุ่มเล่าว่า “ข้างบ้านของเรามีคนสร้างกำแพงขึ้นมาจึงทำให้พวกเขาไม่อาจรู้ได้ว่าพวกเราแต่งงานกัน และหากถูกยึดสิทธิ์ผมก็พร้อมจะขึ้นศาลสูงสุดเพื่อต่อสู้คดี เพราะเราทั้งสองรักกันอย่างบริสุทธิ์ ซึ่งเงินบำนาญก้อนนี้คือสิ่งที่เราทุ่มเททำมันอย่างโปร่งใสและเป็นความปรารถนาสุดท้ายของเธอ” สิ่งที่เขาทำได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันในสองด้าน ส่วนหนึ่งบอกว่าเขาเป็นพวกฉวยโอกาส Rony Romarr บอกว่า…
-
นักวิทยาศาสตร์เผย หากเรา “นอนหลับมากเกินไป” จะเกิด 9 ผลเสียเหล่านี้ ต่อร่างกายของเรา…
ว่ากันว่ากันพักผ่อนที่ดีที่สุดคือการนอนหลับ ซึ่งก็อาจจะจริงตามนั้นเพราะว่าอวัยวะทุกส่วนในร่างกายจะทำงานน้อยลงอีกทั้งเป็นช่วงเวลาที่เรายังได้พักความคิดต่างๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่าถึงการนอนหลับจะมีประโยชน์ขนาดไหนแต่ถ้านอนเยอะเกินไปก็มีผลเสียต่อร่างกายเช่นกันนะ ซึ่งปกติแล้วสำหรับวัยผู้ใหญ่ควรนอนวันละ 7-9 ชั่วโมงและถ้าหากนอนน้อยเกินไปก็อาจจะทำให้ร่างกายเกิดอ่อนเพลียได้ แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าการนอนเยอะเกินไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้เหมือนกันนะ ซึ่งผลเสียที่ว่านี้จะร้ายแรงขนาดไหนลองไปดูกันเลยดีกว่า 1. คุณมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจมากขึ้น การนอนหลับมากกว่าวันละ 9-10 ชั่วโมงนั้นสามารถทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดมากกว่าคนที่นอนปกติกว่า 38% เลยทีเดียว ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก นอกจากนี้การนอนเยอะอาจทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือดมากกว่าคนปกติมากถึง 2 เท่า 2. มักจะนอนหลับไม่สนิทนัก มีทฤษฎีหนึ่งได้บอกไว้ว่าเวลานอนของเราถูกขัดจังหวะ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะโรคหยุดหายใจขณะนอนหลับ หรืออาจจะเป็นเพราะบรรยากาศในการนอนไม่เหมาะสมเช่นมีแสงสว่างเกินไป หรือว่ามีเสียงรบกวนซึ่งภาวะหลับไม่สนิทอย่างนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาวเลยล่ะ 3. คุณจะอ้วนได้ง่ายขึ้น การใช้เวลามากกว่า 9-10 ชั่วโมงบนเตียงนอนทำให้ร่างกายของเราไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ เลย นั่นจึงทำให้ร่างกายไม่เกิดการเผาผลาญแคลอรี่เหมือนกับตอนที่เราตื่น ซึ่งเราอาจจะออกไปทำกิจกรรมนู่นนี่ซึ่งก็เหมือนการออกกำลังกายไปในตัว จากการศึกษาพบว่าคนที่นอนเยอะกว่าปกติมีโอกาสที่จะเป็นโรคอ้วนมากกว่าคนปกติถึง 21% เลยทีเดียว 4. อาจเป็นเบาหวานได้เลยนะ การนอนหลับที่ยาวนานอาจส่งผลให้เรามีโอกาสที่จะเป็นโรคเบาหวานได้มากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า เพราะว่าระยะเวลาในการนอนนั้นส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดของแต่ละคนนั่นเอง 5. คุณมักจะปวดหัวบ่อยๆ…
-
เทรนเนอร์หนุ่ม ‘หรรม’ ติดกับเหล็กยกน้ำหนัก หมอใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการเอามันออกมา
หนุ่มๆ ทุกคนรู้ดีว่าอวัยวะเพศที่เรามีอยู่นั้นแม้ภายนอกอาจดูแข็งแกร่ง แต่ความเป็นจริงมันอ่อนไหวเอามากๆ บางครั้งแค่ไปกระแทกหรือชนกับอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็อาจทำให้เจ็บปวดหรือจุกได้เลย เราจึงต้องคอยดูแลมันเอาไว้ให้ดีอย่าให้เหมือนกับชายคนนี้… ภาพด้านล่างนี้ถูกแชร์ในสำนักขาว Dailymail เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017 เผยให้เห็นว่าอวัยวะเพศของเทรนเนอร์ชายนิรนามท่านหนึ่งได้เข้าไปติดอยู่ในช่องว่างตรงกลางของแผ่นเพิ่มน้ำหนักที่มีน้ำหนักถึง 2.5 กิโลกรัม ทำให้น้องชายของเขาถึงกับกลายเป็นสีม่วงไปเลย ภาพหลุดว่อนเน็ต เผยภาพจุ๊ดจู๋ของชายหนุ่มติดอยู่ตรงช่องของแผ่นเพิ่มน้ำหนัก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง Worms รัฐไรน์ลันท์-ฟัลทซ์ ประเทศเยอรมนี เมื่อหนุ่มฟิตเนสเห็นแบบนี้ปุ๊บก็รีบไปหาหมอในโรงพยาบาลทันที ก่อนที่แพทย์จะตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากนักดับเพลิงประจำเมือง หลังจากภาพนี้หลุดออกมา นักดับเพลิงจึงเล่าว่าพวกเขาใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง โดยการใช้เครื่องบดและเลื่อยไฟฟ้าในการแยกชิ้นส่วนแผ่นเหล็กออกมาหรรมส์ของชายหนุ่ม ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครรู้เลยว่าแผ่นเพิ่มน้ำหนักนั้นไปติดอยู่กับอวัยวะสำคัญของเขาได้อย่างไร ภาพนี้ถูกถ่ายโดยนักดับเพลิง ในตอนก่อนมีภาพหลุดออกมา พวกเขาอ้างว่านี่คือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการทำงาน อย่างไรก็ตามภาพดังกล่าวไม่ได้ถูกปล่อยออกมาด้วยความตั้งใจ แต่เกิดจากการรั่วไหลที่ไม่ทราบสาเหตุทำให้มันมาโผล่อยู่ในโลกออนไลน์และกลายเป็นกระแส ซึ่งทางโรงพยาบาลได้พยายามสืบหาต้นตอของเพื่อปกป้องสิทธิคนไข้ไม่ให้ถูกเปิดเผยตัวตน สุดท้ายแล้วเรื่องนี้ก็ยังคงทิ้งความสงสัยไว้ให้ทุกคนอยู่ดีว่ามันเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร? หรือที่จริงนี่อาจเป็นวิธีกายบริหารลดน้ำหนักแบบใหม่หรือเปล่านะ?! เอ๊าบึ๊ดจ้ำบึ๊ดๆๆ ที่มา: dailymail
-
รวม 19 ภาพแห่งความลงตัว ที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะพอเหมาะพอเจาะอะไรได้ขนาดนั้น
จะเป็นอย่างไรถ้าหากเราได้เจอสิ่งที่เราคิดว่ามันช่างพอดีอะไรขนาดนี้ บางคนอาจจะคิดว่าสิ่งเหล่านั้นมันได้เกิดมาเพื่อคู่กันจริงๆ ซึ่งมันอาจจะให้ความรู้สึกที่ฟินหรือมีความสุขได้อย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว ภาพเหล่านี้คือภาพของสิ่งของจะมาพิสูจน์ว่าความลงตัวเนี่ยสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกที่ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกจริงๆ ทั้งสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นหรือว่ามนุษย์สร้างขึ้นก็ตาม ซึ่งมันจะให้ความรู้สึกดีอย่างที่ว่าไว้หรือไม่ต้องลองไปพิสูจน์กันด้วยตัวเองแล้วล่ะ แกก็ช่างหากล่องที่มันพอดีได้เนอะ พี่แกก็ใจกล้าขับเข้ามาได้นะนั่น ตอนเอาออกนี่จะเจ็บนิ้วหน่อยๆ ตกลงมันมีกี่เครื่องกันแน่ ใช้ยันแก่ก็ไม่มีวันหมด อาจจะเป็นที่ซ่อนตัวสำหรับเด็กๆ ก็ได้ เค้าทำมาเพื่อใส่กล่องถุงมือโดยเฉพาะหรือเปล่านะ เอ๊ะ สายมันหายไปไหนกันนะ ก็คนมันกลัวหายอ่ะ อย่าไปเบียดเบียนเค้า ก็เรานั้นเกิดมาคู่กัน ช่างกระตุกได้ถูกเวลาจริงๆ เนียนจนแทบแยกไม่ออก มันส์ทุกที่ที่มีรู ถึงจะแตกต่างแต่ก็ไปด้วยกันได้ ระวังตอนเบรคละกันมีอดกินกันบ้าง เอาไปเจิมวัดไหนมา บอกมาเดี๋ยวนี้ มันก็จะพอดีหน่อยๆ เกือบได้เรียกประกันแล้วไหมล่ะ เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างเกิดมาเพื่อกันและกันเลย ว่าไหม… ที่มา: Postize
-
ธรรมดาที่ไหน…”มิสเตอร์บีน” ในวัย 62 ได้เป็นพ่อคนอีกครั้ง หลังภรรยาสาวท้องลูกคนที่ 3
ข่าวคราวเงียบหายไปนานเหลือเกินสำหรับ โรแวน แอทคินสัน (Rowan Atkinson) หรือที่เรารู้จักกันดีในบท “มิสเตอร์บีน” นักแสดงตลกชื่อดังจากซีรีส์ Mr. Bean ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสื่อหลายสำนักก็ได้มาเผยว่า หลังครองความโสดมาได้พักใหญ่ มิสเตอร์บีนก็ได้พบรักใหม่อีกครั้งกับแฟนสาวรุ่นลูกอย่าง หลุยส์ ฟอร์ด (Louise Ford) แถมเขายังดูแลเธอเป็นอย่างดีชนิดที่ว่ามดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมกันเลยทีเดียว และล่าสุดวันที่ 11 พฤศจิกายน 2560 เว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า โรแวน แอทคินสัน ในวัย 62 ปี กำลังจะได้กลายเป็นคุณพ่อลูก 3 หลังจากที่ภรรยาสาววัย 33 ได้ตั้งท้อง ซึ่งทั้งคู่ก็คาดว่าลูกคนแรกของพวกเขาจะได้เกิดมาลืมตาดูโลกในช่วงต้นปีหน้านี้แน่นอน จากการรายงานระบุว่าก่อนหน้านี้โรแวนได้แต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับอดีตภรรยา ซูเนทรา แซสทรี (Sunetra Sastry) เป็นเวลานานกว่า 25 ปี ทั้งคู่ก็ได้มีลูกด้วยกัน 2 คนคือ Benjamin ลูกชายวัย 23 และ Lily ลูกสาววัย 21 ปี…
-
หนุ่มออทิสติกยืนรอดูรถเครนทุกวัน ได้รับการจัดงานศพอย่างยิ่งใหญ่จากบริษัทรถเครน
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 เว็ยบไซต์ Metro ได้เผยเรื่องราวของ Ben Lawton ชายหนุ่มผู้ที่มักจะออกมายืนต้อนรับรถเครนจากบริษัท ABA Crane Hire ในเมืองวอลซอลล์ ประเทศอังกฤษ ที่ขับผ่านประตูในช่วงเช้าและเย็นของทุกๆ วันเป็นเวลานานกว่า 20 ปี จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต สำหรับ Ben เป็นหนุ่มออทิสติกที่ป่วยเป็นโรคลมชัก เขาได้เสียชีวิตลงในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยวัยเพียง 35 ปี จากอาการหยุดหายใจกะทันหัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีการระบุถึงสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่ชัด . จากการรายงานระบุว่าเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โลงศพของ Ben ได้ถูกนำขึ้นรถตู้ของบริษัทรถเครน พร้อมกันนี้ทางบริษัทยังได้จัดงานศพอย่างยิ่งใหญ่ให้กับ Ben ตามคำร้องขอของ Steve ผู้เป็นพ่อ โดยให้รถเครนคันใหญ่จำนวน 3 คัน รวมถึงขบวนรถเครนคันเล็กได้ขับตามหลังรถตู้อีกด้วย งานศพของ Ben ได้ถูกจัดขึ้นที่ Streetly Crematorium ในเมืองวอลซอลล์ ประเทศอังกฤษ โดยมีแขกเดินทางเข้าไปร่วมงานกันอย่างมากมาย .…
-
ภรรยาของชายผู้บริจาคอวัยวะได้สัมผัสใบหน้าของอดีตคนรัก ที่กลายเป็นใบหน้าคนอื่นอีกครั้ง
การให้หรือการมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับผู้อื่นนั้น บางครั้งอาจจะไม่เกิดผลที่เราสามารถเห็นได้อย่างทันที แต่มันอาจเป็นเรื่องยิ่งใหญ่อย่างคาดไม่ถึง เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวคนนี้ ก่อนหน้านี้เราได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องของคุณ Andy Sandness ชายหนุ่มที่เข้ารับการบริจาคใบหน้าจากครอบครัวของคุณ Lilly Ross เมื่อปี 2016 หลังจากผ่านไปหนึ่งปีกว่า คุณ Lilly ก็ได้มีโอกาสได้สัมผัสผิวหน้าของสามีที่เธอคุ้นเคยเธออีกครั้ง และถึงแม้ว่าในครั้งนี้จะไม่เหมือนกับการได้พบกับสามีของเธอเหมือนทุกๆ ครั้ง แต่มันก็ทำให้เธอมีความสุขได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งสองพบกันเมื่อประมาณเดือนตุลาคม หลังจากได้รับคำเชิญจาก Mayo Clinic ณ ห้องสมุดของคลินิกดังกล่าว ในรัฐมินนิโซตา หญิงสาวได้เริ่มพูดคุยกับชายผู้รับบริจาคใบหน้าของสามีเธอ ก่อนที่จะเริ่มสัมผัสไปที่ผิวของของเขา การทำศัลยกรรมดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่คุณ Sandness ต้องเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายเนื้อเยื่อที่ใบหน้า หลังจากที่เขาเคยคิดสั้นโดยการใช้ปืนจ่อยิงที่ใต้คางของตัวเอง จนทำให้สูญเสียจมูก แก้ม ปาก ริมฝีปาก ขากรรไกร และฟัน การตัดสินใจบริจาคอวัยวะครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้ฆ่าตัวตายในขณะที่คุณ Lilly ตั้งท้องลูกชายของเธอได้เพียงแค่ 8 เดือน แน่นอนว่าการตัดสินใจที่จะมาพบผู้รับบริจาคใบหน้าของอตีดสามีเธอนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และถึงแม้จะมีความกลัวอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจมาพบกับชายผู้รับบริจาคใบหน้าของสามีเธอก็คือ Lilly ต้องการให้ลูกชายตัวน้อยของเธอได้รับรู้ถึงสิ่งที่พ่อของเขาทำ ความกลัวของเธอก็หายไปทันทีหลังจากที่ได้พบกับชายหนุ่มคนดังกล่าว เพราะหลังจากการศัลยกรรมแล้วใบหน้าของชายหนุ่มคนนี้ไม่มีส่วนใดที่คล้ายกับสามีของเธอเลย หลังจากที่เธอได้พบกับชายหนุ่มที่ได้รับบริจาคใบหน้าไป หญิงสาวผู้ใจบุญก็รู้สึกตื้นตันใจและรู้สึกว่าเธอได้ช่วยเหลือคนคนหนึ่งให้สามารถมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ต่อไป “มันทำให้ฉันภูมิใจมาก สามีของฉันน่าจะได้เห็นใบหน้าของเขาในตอนนี้ เขาต้องไม่เคยเห็นตัวเองแบบนี้มาก่อนแน่ๆ “ Lilly กล่าว …
-
แม่ลูกสี่เล่าประสบการณ์ ‘เสพติดเซ็กส์’ นอนกับผู้ชายมาแล้วกว่า 100 คน มากกว่า 1,000 ครั้ง
การเสพติดอะไรบางอย่างจนมากเกินไปนั้นมักจะไม่ใช่เรื่องที่ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการกิน การดื่ม ยาเสพติด หรือแม้กระทั่งการติดเซ็กส์ อย่างคุณแม่ลูกสี่คนนี้ ที่เธอเคยติดเซ็กส์อย่างหนักจนกังวลใจว่าจะเป็นแม่ที่ดีของลูกๆ ไม่ได้ เธอคนนี้จะเอาชนะมันไปได้อย่างไร เราไปตามหาคำตอบกันในบทความนี้เลย Monique Price คุณแม่ลูกสี่ วัย 25 ปี ที่มีภาวะเสพติดเซ็กส์กว่า 10 ปี ที่มันเกือบจะคร่าชีวิตเธอ และในตอนนี้แม้ว่าเธอจะเป็นคุณแม่แล้ว แต่ก็ยังคงต้องการมีเพศสัมพันธ์กับสามีถึง 6 ครั้งต่อวัน ในอดีตนั้นเธอเคยมีเพศสัมพันธ์มากว่า 1,000 ครั้งกับคู่ขานับร้อยคน และเธอก็ได้บอกว่าเธอมีอาการเสพติดเซ็กส์ครั้งแรกเมื่อเธออายุ 15 ปี ภายหลัง Monique ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค STDs (กามโรค) หลายครั้งหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกัน แม้ในขณะตั้งครรภ์ก็ตาม และเธอก็กังวลว่าเธอเป็นแม่ที่ดีไม่ได้ แต่เรื่องราวชีวิตของเธอก็พลิกผันเมื่อได้เจอกับหนุ่มแปลกหน้า Brandon อายุ 31 ปี ที่มีอาชีพขับรถยก เขาขอให้เธอแต่งงานกับเขาและช่วยให้เธอเอาชนะการเสพติดเซ็กส์ที่วนเวียนซ้ำๆ อยู่ในชีวิต แพทย์ที่รักษาเธอก็ได้ออกมากล่าวเพื่อปลูกจิตสำนึกและช่วยเหลือผู้อื่น ว่าการเสพติดเซ็กส์ก็เหมือนกับการเสพยาเสพติด “คุณสนใจเพียงแค่สิ่งที่จะได้รับ คุณไม่สนใจคนรอบข้างและผลที่จะตามมา มันเป็นเพียงสิ่งที่กระตุ้นให้คุณอยากทำ และมันจะค่อยๆ ครอบงำคุณไปเรื่อยๆ” Monique กล่าวว่าเธอนั้นเป็นแม่ที่ไม่ดีเท่าไหร่ เธอพาลูกเข้านอนและหลังจากนั้นเธอก็ออกจากบ้านเพื่อไปมีเซ็กส์โดยไม่กลับมาบ้านหลายวันเลยทีเดียว ทุกคนในครอบครัวโกรธและไม่ไว้วางใจเธอ “แม้ในขณะที่ฉันกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 4 ฉันก็ยังคงมีความปรารถนาที่จะมีเซ็กส์…
-
ร้ายกาจ!! หญิงลักลอบซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 60,000 บาท แต่จ่ายเพียงแค่ 120 บาท
ปัจจุบันตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อในต่างประเทศได้นำเครื่องมือหนึ่งที่เรียกว่า เครื่องจ่ายเงินบริการตัวเอง ให้ลูกค้าสามารถนำของที่ซื้อมาสแกนบาร์โค้ดเองได้ที่เครื่อง เรียกว่าสะดวกสบายๆ รวดเร็วทันใจเรามากกว่าเดิม ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้มีเพียงแค่ข้อดี เพราะข้อบกพร่องที่ชัดเจนของเครื่องนี้ก็คือ มันสามารถทำให้ลูกค้าโกงราคาของสินค้าได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกันกับที่เธอคนนี้ได้ทำลงไป เธอมีชื่อว่า Cheyenne Amber West สาววัย 25 ปีในเมือง Fort Pierce รัฐฟลอริด้า วันหนึ่งเธอไปซื้อของในร้าน Walmart กับแม่ของเธอ และได้ทำการโกงราคาสินค้า ทำให้เธอจ่ายเพียงแค่ 120 บาท แต่กลับได้สินค้าที่มีมูลค่ากว่า 60,000 บาท!! Amber หญิงสาวผู้โกงเงินในร้านสะดวกซื้อ จากการรายงานข่าวในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2017 บอกว่าเธอเข้าร้านมาเลือกหยิบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จอยเกม และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหลายรายการ ก่อนที่จะนำบาร์โค้ดที่ตัวเองเตรียมไว้ติดทับไปกับบาร์โค้ดของสินค้าเหล่านั้นและเดินไปจ่ายเงินที่เครื่องจ่ายเงินบริการตัวเอง แน่นอนว่าเครื่องไม่สามารถรับรู้ได้ว่าบาร์โค้ดที่มันสแกนอยู่ไม่ตรงกับสินค้านั้นๆ ทำให้ราคาที่ออกมาถูกลงไปเยอะมาก แต่สิ่งที่เธอทำทั้งหมดก็ไม่อาจรอดสายตาของพนักงานรักษาความปลอดภัยไปได้ เธอจึงโดนตรวจสอบในทันที หลังจากนั้นเธอถูกจับข้อหาลักทรัพย์ตามคดีอาญาและข้อหาขโมยของในร้านค้า โดยเมื่อถามถึงสาเหตุเธอก็ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า “ฉันต้องการนำคอมพิวเตอร์นั้นไปให้สามีเพื่อตอบแทนที่เขาซื้อกระเป๋าเงินราคาแพงให้ ส่วนจอยเกมฉันต้องการนำไปฝากลูก ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่ฉันไม่สามารถมีกำลังซื้อได้เอง” การสอบปากคำแม่ของเธอที่ไปด้วยกัน Alicia West…
-
‘Taken สู้ไม่รู้จักตาย’ คุณพ่อหยิบปืนออกมายิงแก๊งวัยรุ่น ที่พยายามลักพาตัวลูกสาวของเขา
เรื่องราวของคุณ Terry Brackney คุณพ่อท่านหนึ่งจากรัฐฟลอริด้า ที่กลายเป็นฮีโร่ทันทีหลังจากตัดสินใจเข้าเผชิญหน้ากับแก๊งที่พยายามลักพาตัวลูกสาววัย 17 ปีของเขา!! เมื่อคืนวันอังคารที่ 7 พฤศจิกายนปี 2017 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับ Amber Brackney หญิงสาววัย 17 ปีจากเมือง Preservation Path หลังจากที่เธอพบถังน่าสงสัยใบหนึ่งขวางทางรถของเธอ หญิงสาวพยายามที่จะขับรถหลบถังดังกล่าว ก่อนที่เธอจะถูกแก๊งโจรที่ซ่อนอยู่เข้ามาที่รถของเธอและพยายามที่ลักพาตัว จากการให้สัมภาษณ์ของตำรวจ คุณ Brackney ผู้เป็นพ่อได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากลูกสาวของเขาและได้หยิบปืนวิ่งออกไปที่โรงรถ ก่อนที่จะยิงไปที่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวจนทำให้พวกเขาหนีไปในที่สุด คุณพ่อวัย 51 ปี พบว่าสัญญาณเตือนภัยในบ้านของเขานั้นถูกปิดลง ซึ่งเป็นไปได้ว่านี่อาจจะเป็นความพยายามในการลักพาตัวลูกสาวของเขาเป็นครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตามหลังจากที่แก๊งลักพาตัวได้หนีออกจากบ้านของคุณ Brackney ไป ทางเพื่อนบ้านได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อให้ช่วยสกัดรถของคนร้าย จนในที่สุดแก๊งทั้งหมดก็ถูกจับกุมตัวได้สำเร็จ ภายในรถของคนร้ายพบกลุ่มวัยรุ่น 4 คน ประกอบด้วย นาย Keilon Johnson วัย 19 ปี นาย Austin French วัย 17 ปี นาย Tyree Johnson วัย 16 ปี และนาย Kamauri Horn วัย 15 ปี พร้อมกับของกลาง…
-
จร้าาา!! สื่อนอกเผยภาพ Brooklyn สวมกอด Chloe ในนิวยอร์ก หวานกันไปอี๊กกกก
แหม!! เพิ่งจะมีข่าวออกมาให้ได้ยินว่าสาว Chloe Moretz วัย 20 ปี และหนุ่มน้อยหน้าใส Brooklyn Beckham วัย 18 ปี คู่รักต๊ะติ๊งโหน่งได้กลับมารีเทิร์นกันอีกครั้ง จนทำให้หนุ่มสาวทั่วโลกถึงขั้นอิจฉาตาร้อนไปได้ไม่นาน ล่าสุดวันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์ก็ได้นำภาพอันสุดแสนหวานของสาว Chloe และหนุ่ม Brooklyn มาตอกย้ำความรักที่แสนชื่นมื่นของกันอีกครั้ง เมื่อทั้งคู่ได้พากันไปรับประทานอาหารเย็นด้วยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ณ ย่านเชลซี ในนครนิวยอร์ก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายนผ่านมา งานนี้ก็กลายเป็นการเพิ่มดีกรีความอิจของหนุ่มสาวทั่วโลกกันไปอี๊กกกกกกก จากภาพปรากฏให้เห็นว่าหนุ่ม Brooklyn กำลังยืนโอบกอด และปลอบใจสาว Chloe อยู่ภายนอกร้านอาหาร ภายหลังจากที่ได้รับข่าวว่าภาพยนตร์เรื่อง I Love You, Daddy (ผลงานของผู้กำกับ Louis C.K.) ที่เธอได้ร่วมแสดงนั้นจะไม่ได้รับการปล่อยฉายภายในเดือนนี้ตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ภาพของน้องอี้ที่กำลังได้รับอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของหนุ่ม Brooklyn มันช่างน่าอิจฉาจริงจริ๊งงงงง…
-
20 ความทรงจำเกี่ยวกับเกม Counter Strike ที่คนเล่นในยุคแรกๆ จะเข้าใจเป็นอย่างดี
สำหรับคอเกมแนว FPS หรือเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับเกมดังๆ อย่าง Battlefield หรือเกมออนไลน์สุดมันและขึ้นชื่อเรื่องของแพงอย่าง CS:GO แต่เมื่อย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว เชื่อแน่ว่าหลายๆ คนจะต้องเคยผ่านสมรภูมิรบอย่าง Counter Strike กันมาบ้างแน่ๆ และเพื่อเป็นการย้อนรำลึกถึงช่วงเวลาดีๆ เราลองไปย้อนชม 20 ความทรงจำเกี่ยวกับเกม Counter Strike กันเลย ฮ่า ฮ่า โย่ว… 1. Counter Strike เวอร์ชั่น 1.00 เป็นเกมที่เป็นดัดแปลงมาจากเกม Rov เย้ย!! Half Life ต่างหาก ซึ่งตอนแรกมีผู้พัฒนา mod เพียงสองคน ภายหลังทาง Valve ได้ซื้อตัวไปพัฒนาต่อ 2. ในเกมมีด่านให้เลือกเป็นร้อยๆ ด่าน แต่ด่านที่เล่นกันจริงๆ มีอยู่แค่ไม่กี่ด่าน ยกตัวอย่างเช่น Untitled , Assualt, Italy, Dust เป็นต้น 3. ชื่อด่าน Untitled…
-
ยูทูบเบอร์หนุ่มสร้างถุงมือสุดไฮเทค ทำให้เวลาช้าลง จนสามารถมองเห็นใบพัดพัดลมได้!!
คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียวถ้าหากว่าในชีวิตจริงไของเราสามารถหยุดเวลาได้เหมือนในหนังไซไฟ หรือมีเครื่องไทม์แมชชีนเหมือนกับโดราเอม่อน แต่ดูเหมือนว่าความฝันของมวลมนุษยชาติจะเข้าใกล้ความจริงขึ้นมานิดหน่อยแล้ว!! หลังจากที่มีหนุ่มยูทูบเบอร์ผู้หนึ่งได้ประดิษฐ์ถุงมือหยุดเวลา งานนี้นึกว่าโทนี่ สตาร์กมาเองกันเลยทีเดียว… จงหยุด!! เจ้าถุงมือที่ดูเหมือนกับอุปกรณ์ไฮเทคชิ้นนี้เป็นฝีมือการประดิษฐ์ของยูทูบเบอร์หนุ่มที่ใช้ชื่อว่า MadGyver ซึ่งถึงแม้ว่าอันที่จริงแล้วเจ้าเครื่องมือหยุดเวลาที่ว่านี้มันจะไม่มีจริงๆ บนโลกนี้หรอก แต่สิ่งประดิษฐ์ของเขาก็ดูน่าทึ่งไม่น้อยเลยทีเดียว ภายในคลิปวิดีโอ MadGyver ได้แสดงให้เห็นถึงการทำงานของเจ้าถุงมือหยุดเวลานี้ ซึ่งมันสามารถทำให้เราสามารถมองเห็นใบพัดที่กำลังหมุนอยู่หยุดนิ่งได้ และนอกจากนี้ยังทำให้เรามองเห็นข้อความบนกระดาษที่กำลังหมุนอยู่ได้อีกด้วย 1… 2…. 3… หยุด!! และนี่คือหน้าตาของเจ้าถุงมือหยุดเวลาจากฝีมือยูทูบเบอร์หนุ่มผู้นี้ เป็นอย่างไงล่ะ ดูอลังการงานสร้างมากเลยใช่ไหม?? ซึ่งหลักการการทำงานของเจ้าถุงมือหยุดเวลาที่ว่านี้ก็คือการปล่อยแสงสั้นๆ ความถี่สูงจากหลอด LED ที่มีการเชื่อมต่อกับแผงวงจร ไปยังวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ ซึ่งทำให้เราสามารถมองเห็นวัตถุเหล่านั้นดูเหมือนว่ามันกำลังหยุดนิ่งอยู่ และนอกจากนี้ชายหนุ่มได้ยังสาธิตวิธีการทำ พร้อมกับบอกรายละเอียดในส่วนต่างๆ ของเจ้าถุงมือหยุดเวลานี้เอาไวในคลิปวิดีโออีกด้วย ซึ่งใครที่สนใจและพอมีความรู็ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ ก็ลองเอาไปทำเล่นๆ กันดูที่บ้านก็ได้นะ!! ไปชมการทำงานของเจ้าถุงมือหยุดเวลานี้ พร้อมกับวิธีการทำแบบเต็มๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… อืม.. ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถหยุดเวลาได้จริงๆ แต่ก็เป็นของเล่นที่เจ๋งดีเหมือนกันนะว่าไหม?? ที่มา sploid
-
หญิงชาวอเมริกาถูกศาลตัดสินจำคุกนาน 10 ปี ข้อหาแต่งงานกับแม่แท้ๆ ของตัวเอง
เรื่องราวอันแปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นระหว่าง Misty Spann หญิงสาววัย 26 ปี ผู้เติบโตขึ้นมาโดยการดูแลของคุณยายเธอตั้งแต่ยังเล็กๆ ก่อนจะเกิดความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับแม้แท้ๆ ของเธออย่าง Patricia Ann Spann แม่แท้ๆ วัย 44 ปี ทั้ง Misty และ Patricia เริ่มต้นความสัมพันธ์ของพวกเขาตั้งแต่ปี 2014 ก่อนที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทั้งสองกำลังเตรียมที่จะแต่งงานกัน แต่ตามความต้องการของทั้งสองกลับต้องสะดุดลง หลังจากที่การแต่งงานกับผู้ที่เป็นญาติกันนั้นขัดต่อข้อกฎหมายของรัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามทางด้านนาง Patricia ก็ได้อธิบายถึงความสัมพันธ์ในปัจจุบันของเธอกับลูกสาว พร้อมทั้งบอกว่าการกระทำของพวกเธอนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ผิด เนื่องจากเธอไม่ได้ระบุว่าเป็นผู้ปกครองไว้ในสูติบัตรของลูกสาวเธอ ก่อนหน้านี้ในปี 2008 หญิงคนดังกล่าวเคยจดทะเบียนแต่งงานกับลูกชายของเธอมาก่อน แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 15 เดือนทั้งสองก็หย่ากัน โดยฝ่ายชายอ้างว่าเขารับไม่ได้กับการร่วมประเวณีระหว่างญาติ การแต่งงานของทั้งสองนั้นถูกศาลตัดสินว่าเป็นโมฆะ โดย Misty Spann อ้างว่าแม่ของเธอบอกว่าเขาสามารถจัดการเรื่องดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ และให้คำมั่นสัญญากับเธอว่าทั้งคู่จะสามรถแต่งงานกันได้ อย่างไรก็ตาม Misty Spann และแม่ของเธอถูกศาลสั่งตัดสินจำคุกนาน 10 ปี หลังจากที่ทั้งสองยอมรับว่ามีการร่วมประเวณีกัน ส่วนทางด้านนาง Patricia ยังมีการตั้งข้อกล่าวหาในเรื่องของการทำร้ายร่างกาย และเตรียมเข้ารับการพิจารณาคดีอีกครั้งในเดือนมกราคมปีหน้า ที่มา ladbible
-
ชาวเน็ตถึงกับลั่น เมื่อทหารหนุ่มนั่งคั่นระหว่างทรัมป์กับนายกฯ เกาหลีใต้ ขณะทานอาหาร
กลายเป็นประเด็นขำๆ ในโซเชียล เมื่อชาวเน็ตเห็นคลิปนายทหารผู้น่าสงสารคนหนึ่งที่ต้องนั่งตรงกลางระหว่างทรัมป์ กับนายกฯ เกาหลีใต้ ขณะรับประทานอาหาร… คิดดูว่าถ้าเป็นเราจะรู้สึกยังไง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ จากสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับทหารและมูนแจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ระหว่างการไปเยือนเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการ ด้วยความที่ผู้จัดการงานต้องให้บรรยากาศเป็นกันเอง จึงจัดให้ทรัมป์กับมูแจอินนั่งร่วมโต๊ะกับทหาร แทนที่จะจัดให้ทั้งสองคนนั่งติดกัน แต่กลับให้ทหารนั่งคั่นกลางระหว่างทั้งสองคนซะงั้น แน่นอนว่าทหารผู้โชคร้าย (หรือโชคดี) ที่นั่งตรงกลางระหว่างผู้นำทั้งสองคนนั้นต้องอึดอัดมากแน่ๆ เมื่อทรัมป์กับมูนแจอินพูดคุยกันผ่านหน้าเขา ทหารหนุ่มจะก้มกินข้าว เดี๋ยวก็กลัวเป็นการขัดขวางการสนทนาของทั้งสองคน จะนั่งฟังพวกเขาคุยกันก็กลัวจะหาว่าอยากมีส่วนร่วม คือเขาทำอะไรไม่ได้จริงๆ นอกจากยิ้มกลบเกลื่อน ประหนึ่งว่า ‘ฉันมาทำอะไรที่นี่…’ ต่อมาคลิปดังกล่าวถูกแชร์ไปทั่วโซเชียลเกาหลีใต้ ชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านั่งอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ใครมันจะไปกินลง บางคนบอกว่า “ดีนะที่ไม่ใช่ปูติน ไม่งั้นทหารคนนี้คงพบกับความอัปยศตลอดชีวิตแน่ๆ” “ดูเขาสิ ไม่กล้าขยับเลย” “นี่ช่างเป็นการประชุมที่ยอดเยี่ยมจริงๆ จะเป็นยังไงนะ ถ้าเราเป็นทหารหนุ่มคนนั้น?” สำหรับอาหารมื้อนั้น ได้ทำเมนูพิเศษเพื่อทหารอเมริกา ทหารเกาหลีใต้ และผู้นำของทั้งสองประเทศ มีทั้งทาโก้ บาร์ริโต และ curly fries (เฟรนช์ฟรายด์ที่มีลักษณะโค้งบิดเป็นเกลียว) แต่ชาวเน็ตสงสัยว่าทหารหนุ่มคนนั้นจะได้กินอาหารพวกนี้บ้างมั้ยนะ?…
-
นางแบบพลัสไซส์ สวมชุดชั้นในเลียนแบบนางฟ้า Victoria’s Secret ที่ดูเซ็กซี่ไม่แพ้กันเลย
Tabria Majors เป็นชื่อของนางแบบพลัสไซส์ผู้ที่เคยสร้างความฮือฮาบนโลกโซเชียลมาแล้ว โดยการออกมาสนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนรักตัวเองให้มากขึ้น และนั่นก็ทำให้เธอได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนมุมมองให้กับสาวอวบทั่วโลก ล่าสุดนางแบบสาวร่างอวบคนนี้ ก็ได้กลับมาเรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง ซึ่งได้มาพร้อมกับการปฏิวัติวงการนางแบบ Victoria’s Secret เพื่อสร้างมาตรฐานความงามรูปแบบใหม่ และพิสูจน์ให้เห็นว่าสาวร่างอวบก็สามารถเป็นนางแบบชุดชั้นในได้เหมือนกัน Tabria ได้โพสต์ภาพถ่ายเลียนแบบนางแบบ Victoria’s Secret ลงในอินสตาแกรม ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีคนเข้ามากดไลก์มากกว่า 27,000 ครั้งเลยทีเดียว โดยปกติแล้วเรามักจะเห็นนางแบบเอวบางร่างเล็กมาถ่ายแบบแฟชั่นชุดชั้นใน แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ล้าสมัยไปแล้ว เพราะวงการนางแบบสมัยนี้เรียกได้ว่ามีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น และนี่เป็นภาพถ่ายระหว่าง Tabria Majors และเหล่านางแบบ Victoria’s Secret . . “บางทีฉันอาจจะเป็นนางฟ้า Victoria’s Secret สำหรับวันฮาโลวีนในปีนี้ เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นในชีวิตจริง” Tabria กล่าว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางแบบพลัสไซส์ได้ออกมาปฎิวัติวงการนางแบบ Victoria’s Secret เพราะก่อนหน้านี้ Lane Bryant แบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิงพลัสไซส์ ก็ได้ปล่อยแคมเปญออกมาชื่อว่า “#ImNoAngel”…
-
ชาวทวิตเตอร์รวมใจกันแชร์ #ดีใจได้ทันแดก แบ่งปันขนมที่เด็กยุค 90s ทุกคนต้องคิดถึง
เด็กยุค 90s อย่างเราๆ ที่ตอนนี้ได้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว ไม่ว่าใครต่างก็ต้องคิดถึงสมัยอดีต ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งความรู้สึกตอนที่เราเป็นเด็กนั้น มันช่างดูมหัศจรรย์ซะเหลือเกิน สิ่งหนึ่งที่เด็กยุค 90s อย่างเราคิดถึงมากๆ ก็คือขนมอร่อยๆ ในตำนานที่เรามักจะขอตังพ่อแม่มาซื้อขนมสุดอร่อยเหล่านี้ ซึ่งขนมบางอันก็เลิกขายไปแล้ว เราก็ทำได้แค่คิดถึงและวอนขอให้ขนมเหล่านี้กลับมาผลิตอีกรอบ ชาวโลกทวิตเตอร์ก็ได้มาแบ่งปันขนมที่ทุกคนคิดถึงผ่านทาง #ดีใจได้ทันแดก ที่ตอนนี้กำลังกลายเป็นเทรนด์สุดฮิตที่ชาวทวิตเตอร์กระหน่ำแชร์กันอย่างล้นหลาม จะมีอะไรกันบ้าง ไหนขอรำลึกความหลังหน่อยซิ ซื้อขนมเอาของแถม ไม่ว่าใครๆ ก็เคย ยอมรับมาซะดีๆ ริงป๊อบกับการมโนว่านี่คือแหวนแต่งงาน ฮ่าๆ หมากฝรั่งตรานกแก้วที่หวานสุดๆ แต่หอม อร่อยมากๆ ต่อทีไรบ้านพังตลอด แต่ขนมที่แถมมาอร่อยนะ กินโคนเปล่า แล้วเอาครีมบีบใส่ปาก เป็นอะไรที่ฟินสุดๆ บ๊วยแผ่นในตำนาน รถไมโลกับรสชาติที่ไม่ว่าใครก็ติดใจ ชงเองมันไม่อร่อยเท่านี้ เลิกเรียนเป็นต้องกิน นมอัดเม็ดที่ต้องแกะทีละเม็ดๆ ละยัดเข้าปากทีเดียว อันนี้อร่อยมาก แต่ละลายช้า ต้องทุบก่อนกิน …
-
เหล่าผู้ใหญ่หนุ่มสาวย้อนวันวานถ่ายรูป “เมื่อก่อนและตอนนี้” รำลึกถึงความฝันในวันที่เป็นเด็ก
เมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้ใครหลายคนคิดถึงช่วงเวลาแห่งความสุขที่เคยมีมาเมื่อนานมาแล้ว และไม่อาจย้อนเวลากลับไปในเวลานั้นได้เลย ทำได้เพียงแค่ระลึกถึงวันวานเหล่านั้นผ่านรูปถ่ายเหล่านี้ ภาพทั้งหมดเกิดจากไอเดียสร้างสรรค์ของแต่ละคนในการนำรูปถ่ายเก่าๆ มาเป็นต้นแบบและถ่ายออกมาใหม่ในปัจจุบันซะเลย เพื่อเป็นการย้อนวันวานเหล่านั้นให้กลับมาอีกครั้ง มันดูแปลก น่ารัก และชวนขำขันมากขนาดไหนก็ไปดูกันเอาเองเลยจ้าาา สามพี่น้องที่เมื่อเวลาผ่านไป 18 ปี ก็ยังคงดูเหมือนเดิมอยู่อ่ะนะ นี่ขนาดผ่านไปตั้ง 15 ปีก็ยังไม่เลิกซึมอีกหรอหนู สองภาพนี้ถูกถ่ายในที่ว่าการของรัฐเท็กซัสในปี 1984 และ 2013 ผ่านไป 29 ปี พัฒนาการของน้องคนเล็กนี่เปลี่ยนไปมากจริงๆ 2 พี่น้องกับอีก 2 ลูกพี่ลูกน้อง อาบน้ำด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนถึงทุกวันนี้ คุณพ่อผู้คอยอุ้มลูกอยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน Arnold & Patrick Schwarzenegger คุณพ่อนักกล้ามผู้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง 11 ปีผ่านไปแล้ว แต่ร้าน Burger King ก็ยังคงเป็นที่นัดพบของเขาและเพื่อนๆ เพื่อฉลองให้กับวันเกิดของคุณพ่อ เด็กๆ และคุณแม่จึงได้ถ่ายรูปร่วมกันไม่ว่าจะเป็นในตอนนั้นหรือว่าตอนนี้ จะให้ขี่คอกันจริงๆ…
-
คุณพ่อเก็บภาพลูกสาวและลูกชายทำเป็นไทม์แล็ปในทุกๆ สัปดาห์ตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน
พ่อแม่ของหลายๆ คนเลือกที่จะเก็บความทรงจำของลูกน้อยของตัวเองไว้ในหลากหลายวิธีทั้งเขียนบันทึก การถ่ายภาพ หรือการถ่ายวิดีโอ ดูพัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยที่กำลังจะเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คุณพ่อ Frans Hofmeester ช่างภาพชาวดัตช์ได้เลือกที่จะเก็บความน่ารักของลูกสาวด้วยการถ่ายวิดีโอสั้นๆ บันทึกความน่ารักของเธอที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้นในมุมมองของผู้ที่เป็นพ่อ การถ่ายทำวิดีโอสั้นๆ นี้ เขาจะเรียกลูกสาวมาถ่ายทุกๆ เช้าวันเสาร์ เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงของเธอในทุกๆ สัปดาห์ตั้งแต่ปี 1999 คุณพ่อบอกว่า “ลูกสาวที่น่ารักของผมเธอมีการเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ผมรู้สึกว่าผมต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อเก็บไว้ให้เธอรู้ว่าเธอเปลี่ยนไปยังไง” . ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ดูง่ายๆ เพียงแค่ถ่ายรูปเก็บไว้ในแต่ละสัปดาห์ แต่ก็มีอุปสรรคเล็กๆ เกิดขึ้นบ้าง เช่นบางทีหนูน้อยก็เกิดอารมณ์เสียจนไม่อยากจะถ่ายในบางครั้ง แต่เขาก็พยายามเก็บทุกความทรงจำมาทำเป็นวิดีโอให้เธอได้ดูในวันที่เธอเติบโตขึ้น Lotte ลูกสาวที่แสนจะน่ารักของเขา นอกจากนี้เขายังทำวิดีโอสำหรับ Vince ลูกชายของเขาตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 14 ปีอีกด้วย . . . การได้เห็นการเปลี่ยนแปลงแบบละเอียดอย่างนี้ มันดูน่าตื่นเต้นดีเนอะ เพื่อนๆ คนไหนอยากลองนำไอเดียไปปรับใช้ได้เลยนะคะ ที่มา mymodernmet
-
16 ภาพที่บ่งบอกถึงความรู้สึกสุดฮา มันช่างเป็นอะไรที่อธิบายไม่ถูกจริงๆ
คงจะดีหากว่ามนุษย์สามารถบ่งบอกความรู้สึกของตัวเองได้ทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรออกมา เพียงแค่แสดงอาการทางสีหน้าแล้วก็สามารถเข้าใจกันได้เป็นอย่างดี ในแต่ละสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่เราต้องเจอ บางทีเราก็ไม่สามารถบรรยายได้ทุกอย่าง มีเพียงแค่บางสิ่งบางอย่างเท่านั้นที่สามารถบรรยายความรู้สึกของคุณได้เป็นอย่างดี อย่างเช่นรูปภาพเหล่านี้ 1. นี่คือความรู้สึกของคุณเมื่อคุณสามารถเปิดฝาขวดได้ ขณะที่คนอื่นทำไม่ได้ 2. เมื่อคุณฝืนสังขารมาเรียน ทั้งๆที่ยังป่วยอยู่ 3. เมื่อแม่ซื้อหมวกใบใหม่มาให้แล้วบอกว่าคุณดูเหมาะกับหมวกใบนี้นะ 4. เมื่อคุณตื่นมาตอนเช้า สิ่งที่คุณคิด VS สิ่งที่เป็นจริง 5. เมื่อบอกให้แม่เลือกชุดไปปาร์ตี้ให้ 6. เมื่อแฟนของคุณเรียกคุณว่า เจ้าเสือ 7. เมื่อคุณเจอเพื่อนขับรถสวนกันกลางถนน 8. เมื่อคุณเถียงกับเพื่อน และไม่ว่ายังไงคุณก็เป็นฝ่ายถูก 9. เมื่อสุดที่รักของคุณชมว่าคุณสวย 10. เมื่อคุณไม่มีอะไรจะพูดและปล่อยให้ทุกสิ่งอยู่ในความเงียบ 11. เมื่อแฟนของคุณจุ๊บคุณต่อหน้าพ่อของเธอ 12. เมื่อคุณแฟนคุณงอน แต่คุณไม่รู้ว่าเธองอนเรื่องอะไร 13. เมื่ออ่อยใครแล้วเขาไม่สนใจ 14. เฟรนด์โซน……
-
8 สัญญาณที่บ่งบอกว่า ‘ความเครียด’ กำลังเล่นงานคุณเข้าให้แล้วมาลองชมวิธีการแก้กัน
คนเราตามธรรมชาติก็จะมีหลากหลายอารมณ์ทั้ง ดีใจ เศร้า ตื้นตันใจ แต่รู้ไหมว่ามีอยู่อารมณ์หนึ่งที่อาจทำร้ายสุขภาพของเราให้ล้มหมอนนอนเสื่อเอาได้ง่ายๆ อารมณ์นั้นก็คืออารมณ์เครียดนั่นเอง ความเครียดเกิดจากการที่เราคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเวลานานซึ่งความวิตกกังวลนี้อาจทำให้เกิดอาการต่างๆ ขึ้นตามร่างกายและพาไปสู่ความเจ็บป่วยในที่สุด มาลองดูกันดีกว่าว่าอาการจากความเครียดจะเป็นอย่างไรและมีทางแก้อย่างไรบ้าง เริ่มมีตุ่มต่างๆ หรือลมพิษขึ้นตามร่างกาย หากคุณพบตุ่มแดงๆ ขึ้นตามร่างกายนั่นหมายความว่าโรคเครียดกำลังจะเล่นงานคุณแล้วเพราะว่าโลกเครียดจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำลงทำให้มีจุดแดงๆ ซึ่งหากปล่อยไว้จะทำให้เกิดลมพิษขึ้นอีกทั้งยังทำให้ผิวระคายเคืองต่อสิ่งที่ไม่เคยแพ้มาก่อนอย่าง สบู่ อากาศหนาว โลชั่น หรือผงซักฟอก วิธีการแก้: นำผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นหมาดๆ ประคบไว้ในที่ที่มีตุ่มขึ้น แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นควรกินยาแก้แพ้ น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ ความเครียดจะไปกระตุ้นการปลดปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งฮอร์โมนที่ว่านี้จะไปบั่นทอนความสามารถของร่างกายในการลดระดับน้ำตาลในเลือดและเปลี่ยนแปลงวิธีการเผาผลาญไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตนั่นจึงให้น้ำหนักเกิดโยโย่นั่นเอง วิธีการแก้: พยายามกินถั่วให้มากขึ้นเพราะว่า โปรตีนจากถั่วสามารถช่วยได้หากคุณกินอาหารน้อยเกินไปและยังมีไฟเบอร์ที่สามารถช่วยได้หากคุณไม่มีเวลาว่างสำหรับกินอาหารมื้อใหญ่ คุณมักจะปวดหัวบ่อยๆ หากคุณไม่เคยทรมานจากการปวดหัวมาก่อน แต่อยู่ๆ คุณก็รู้สึกปวดหัวจนแทบจะระเบิดนั่นหมายความว่าความเครียดกำลังจะเล่นงานคุณแล้ว โดยความเครียดจะไปปลดปล่อยสารเคมีบางอย่างในสมองซึ่งสารชนิดนั้นอาจทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของเส้นประสาทแหละเส้นเลือดในสมองจะในที่สุดอาจจะทำให้เกิดโรค “ไมเกรน” ได้ วิธีการแก้: หากไม่ต้องการกินยาแก้ปวดลองทาน้ำมันลาเวนเดอร์หรือน้ำมันเปปเปอร์มินต์บริเวณขมับเมื่อเริ่มปวดหัว คุณมักจะปวดท้องบ่อยๆ ความเครียดอาจส่งผลต่อการทำงานของระบบทางเดินอาหารได้มากกว่าหนึ่งโรค โดยมันสามารถทำให้ร่างกายผลิตกรดย่อยอาหารมากขึ้นนำไปสู่อาการเสียดท้อง อีกทั้งความเครียดสามารถชะลอการย่อยอาหารที่กระเพาะอาหารซึ่งเป็นสาเหตุของก๊าซและท้องอืดและทำให้เกิดการเกร็งตัวที่ลำไส้ใหญ่ได่อีกด้วย วิธีการแก้: ใช้ยาแก้ท้องเฟ้อหรืออาจจะลองดื่มน้ำขิงก็สามารถช่วยได้ …
-
ยูทูบเบอร์วัย 10 ขวบอัดคลิปร่ำไห้ หลังไม่มีแฟนๆ มางานมีทติ้ง ทั้งๆ ที่รับปากไว้แล้ว…
ปัจจุบันโซเชียลได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตของเราในหลายๆ ด้าน จนทำให้บางคนสร้างตัวตนขึ้นในโลกโซเชียลและให้ความสำคัญมากกว่าโลกแห่งความจริงซะอีก อย่างไรก็ตาม โซเชียลนั้นเปรียบเหมือนดาบสองคมที่ให้ความสุขเราได้ มันก็ทำร้ายเราได้เหมือนกัน จึงไม่ควรไปยึดติดกับมันมาก เหมือนกับเด็กหญิงคนนี้ที่ออกมาร่ำไห้ด้วยความไร้เดียงสา หลังจากที่แฟนๆ ไม่มางานมีทติ้งที่เธอจัดขึ้น ทั้งๆ ที่พวกเขารับปากแล้วว่าจะมา Alina เป็นยูทูบเบอร์ชาวรัสเซียวัย 10 ขวบ เธอได้วางแผนที่จะจัดงานมีทติ้ง โดยคาดหวังแฟนๆ กว่า 3,000 คนจะมาร่วมงานนี้ ในจำนวน 3,000 คนนี้ มี 20 คนที่รับปากว่าจะมาอย่างแน่นอน แต่สุดท้ายแล้วเมื่อถึงวันงาน กลับไม่มีใครมาสักคน ทำให้ Alina เสียใจมากจนต้องหลั่งน้ำตาออกมา เด็กหญิงจึงตัดสินใจอัดคลิปวิดีโอเพื่อพูดถึงความรู้สึกหลังจากที่แฟนๆ ผิดสัญญากับเธอ Alina ได้ขอร้องผู้ติดตามว่าอย่าโกหกเธอ เพราะมันทำให้เสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก ในคลิปที่ Alina พูดความในใจนั้น เธอบอกว่า “ฉันเพิ่งกลับจากงานมีทติ้งที่จัดขึ้นเพื่อแฟนทุกคน แต่น่าเศร้าที่ไม่มีใครมาเลย” “ฉันอารมณ์เสียมาก เพราะในคอมเมนต์มีมากกว่า 20 คนที่รับปากว่าจะมาแน่นอน ฉันรออยู่ที่นั่น 30 นาที แล้วก็เดินดูรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นใครอยู่ดี” “ขอร้อง อย่าโกหกฉันอีก ฉันรู้สึกผิดหวังมากจริงๆ…
-
หญิงสาวชาวเอเชียผันตัวเองจาก “คนไร้บ้าน” สู่ “สมาชิกสภาเมืองเคมบริดจ์” ที่อายุน้อยที่สุด
มีโอกาสน้อยมากที่คนไร้บ้านจะกลายเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญทางสังคม โดยเฉพาะในแวดวงการเมือง แต่ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ หากเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง Nadya Okamoto นักศึกษาวัย 19 ปี จากที่เคยเป็นเพียงคนไร้บ้าน เธอได้ผลักดันตัวเองจนกระทั่งมีโอกาสได้เป็นสมาชิกสภาที่อายุน้อยที่สุด Okamoto เป็นผู้ก่อตั้ง PERIOD องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพให้กับผู้หญิงที่มีรายได้ต่ำ ตอนนั้นเธอเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลายเท่านั้น ปัจจุบันเธอได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ในรัฐแมสซาชูเซตส์ และกำลังรับมือกับสิ่งที่ท้าทายที่สุดในชีวิต นั่นคือการถูกเสนอชื่อให้เป็นสมาชิกสภาพเมืองเคมบริดจ์ที่อายุน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม กว่าหญิงสาวจะประสบความสำเร็จในวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย Okamoto เติบโตขึ้นในสังคมที่มีคนผิวขาว ในพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ทำให้ถูกคนรอบข้างรังแกตั้งแต่เด็กเพราะเธอเป็นคนเอเชียซึ่งเป็นคนส่วนน้อยในสังคม หญิงสาวเล่าว่า “ตอนนั้นฉันเป็นเด็กเอเชียตัวเล็กคนหนึ่ง แต่ผู้คนมักจะมองมาที่ฉันสายตาแปลกๆ นั่นทำให้ฉันต่อต้านทุกอย่างที่เป็นการบ่งบอกว่าเป็นคนเอเชีย” “ฉันบอกคนอื่นๆ ว่าเกลียดคณิตศาสตร์ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วฉันเก่งคณิตศาสตร์และฉันก็ชอบคณิตมากด้วย” นอกจากนี้หญิงสาวยังต้องเผชิญกับปัญหาภายในครอบครัวด้วย ทั้งการใช้ความรุนแรงและการเหยียดผิวภายในครอบครัวของตัวเอง พ่อของเธอเป็นคนญี่ปุ่น-อเมริกัน ส่วนแม่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายไต้หวันที่เกิดในอินเดีย นั่นทำให้ครอบครัวของเธอมีความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติอย่างต่อเนื่อง เท่านั้นยังไม่พอ Okamoto เติบมากับตายายที่เป็นชาวไต้หวัน ซึ่งเกลียดคนญี่ปุ่นมากๆ เพราะพวกเขาเคยอยู่ในบ้านที่ถูกยึดครองโดยทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นอกจากญี่ปุ่นแล้ว ตายายของหญิงสาวยังรังเกียจและดูถูกคนจีนด้วย เวลาที่เดินผ่านย่านไชน่าทาวน์…
-
“เรียนกฎหมายอังกฤษซะบ้าง” คู่รักบริติชกินอาหารไทยแล้วไม่ยอมจ่ายเงินพร้อมพูดจาเหยียดหยาม
กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งให้บริการอาหารแก่ลูกค้าซึ่งลูกค้าก็กินจนหมดแต่กลับมาบอกว่าอาหารไม่ดีและด่าทอพนักงานจนแทบน้ำตาร่วง คุณกิติมา แม้นเหมือนจันทร์ เจ้าของร้านอาหารชื่อว่า Bangkok Canteen ในเมือง Gloucester ได้เล่าให้ฟังว่ามีคู่รักคู่หนึ่งวัยประมาณ 30 ปีได้เข้ามาใช้บริการในร้านอาหารแห่งนี้เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ในคืนวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าพวกเขาได้ต่อว่าพนักงานทั้งคืนพร้อมทั้งหนีไปก่อนที่จะจ่ายเงินค่าอาหารจำนวน 68.50 ปอนด์ (2,976 บาท) สภาพจานอาหารที่คู่รักคู่นี้กินจนเกลี้ยงจริงๆ “ผู้หญิงคนนั้นได้ดูถูกฉันต่างๆ นานาและบอกว่าฉันควรกลับไปที่ที่ฉันจากมาแล้วเรียนกฎหมายของประเทศอังกฤษซะ” “เธอคนนั้นหยาบคายเอามากๆ โดยเธอได้ดูถูกพนักงานเสิร์ฟของฉันสองคนโดยบอกว่า “ถึงจะได้รับเพียงค่าแรงขั้นต่ำแต่ก็ควรรู้กฎหมายในประเทศอังกฤษนะ” แม้ว่าพนักงานเสิร์ฟทั้งสองคนจะเป็นคนอังกฤษก็ตาม” “นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกช็อคอย่างมาก พนักงานของเราเกือบจะร้องไห้อยู่แล้วเพราะว่าพวกเธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต” คุณกิติมา เล่าให้ฟัง ร้านอาหาร Bangkok Canteen โดยคู่รักที่ว่านี้ได้สั่งทอดมันปลาเพื่อเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยและกินมันจนหมดเกลี้ยงทุกอย่าง แต่ว่าหลังจากกินจนหมดพวกเขากลับต่อว่าคุณกิติมาและไม่ยินยอมที่จะจ่ายค่าอาหารโดยให้เหตุผลไว้ว่าทอดมันปลานั้น “เหนียวเกินไป” “ฉันบอกว่าฉันไม่สามารถคืนเงินให้ได้เพราะว่าพวกคุณไม่แจ้งให้รู้ตั้งแต่กินชิ้นแรก ซึ่งฉันรู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง” “ผู้หญิงคนนั้นก็บอกเราว่าควรจะยอมรับคำวิจารณ์บ้าง แต่ฉันคิดว่าต้องมีความยุติธรรมกับเราบ้างเพราะว่าพวกเขากินอาหารทั้งหมดเข้าไปแล้วทั้งจาน ไม่เหลือไว้แม้กระทั่งผักประดับจานเลย” “โดยปกติแล้วหากอาหารผิดปกติ พวกเรายินดีที่จะเปลี่ยนจานหรือคืนเงินให้แต่ว่านี่พวกเขากินทั้งหมดเข้าไปแล้ว คุณไม่สามารถคืนกล่องช็อกโกแลตเปล่าคืนให้แก่ซุปเปอร์มาเก็ตใช่ไหมล่ะ” “มีลูกค้าจำนวนมากเมื่อคืนวันนั้นและทุกคนที่รับประทานอาหารก็ดูมีความสุขดี” เจ้าของร้านกล่าวเสริม ร้านอาหาร Bangkok ได้รับรางวัลร้านอาหารยอดเยี่ยมเมื่อเดือนที่แล้ว…
-
ร้านอาหารในญี่ปุ่นเปิดโปรโมชั่น ‘บุฟเฟ่ต์เบียร์ ตลอด 24 ชั่วโมง” ในราคาไม่ถึงร้อยบาท!!
สำหรับนักดื่มเบียร์ตัวยงแล้ว ‘เบียร์บุฟเฟ่ต์’ ถือเป็นอะไรที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี เพียงแต่ว่าหลายร้านในบ้านเรามักจะมีการจำกัดเวลาที่ไม่มากนัก แต่ถ้าบอกว่ามีร้านที่กินได้ตลอด 24 ชั่วโมงล่ะ จะน่าสนใจไหม? Yokatai คือชื่อร้านอาหารในเขตซุงินะมิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดเฟี้ยวฟ้าวเอาใจนักดื่ม กับการดื่มเบียร์ฟรีได้ทั้งวันตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของราคาโปรโมชั่นปกตินั้นจะอยู่ที่ 2,400 เยน หรือตีเป็นไงไทยก็ราวๆ 690 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับโปรโมชั่นเบียร์บุฟเฟ่ต์รายชั่วโมงทั่วไปในญี่ปุ่นด้วยกันแล้ว ถือว่าคุ้มค่ามากๆ แต่ที่ทำให้ร้านนี้พิเศษยิ่งขึ้นไปอีกนั่นก็คือ โปรโมชั่นพรีเมี่ยมประจำวันที่ 24 ของทุกเดือน ทางร้านจะลดราคาโปรโมชั่นเบียร์ 24 ชั่วโมงจากราคาเต็มเหลือเพียง 240 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 70 บาทเท่านั้น ถูกสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ . ส่วนถ้าใครคิดว่าดื่มเบียร์อย่างเดียวจะเบื่อ ไม่มีกับแกล้มหรืออะไรเลยเหรอ ก็ไม่ต้องห่วงไปเพราะทางร้านมีอาหารพร้อมเสริฟมากมายทั้งเมนูข้าว หรือเมนูเสียบไม้ต่างๆ งานนี้เรียกว่าสวรรค์ชัดๆ (อันนี้ไม่บุฟเฟ่ต์นะ) . เพียงแต่ว่าข่าวร้ายของร้านนี้ก็คือ ทางร้านจะไม่มีการเปิดจองโต๊ะใดๆ ทั้งสิ้น ฉะนั้นถ้าใครอยากบินไปดื่ม คงต้องพกดวงกันไปให้เต็มกระเป๋าหน่อย…
-
รายการทีวีนำ “iPhone 4” ไปหลอกผู้คนในแอลเอว่าเป็น “iPhone X” ผลจะเป็นอย่างไร
ก็เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ iPhone X และผู้คนในหลายๆ ประเทศก็ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของโทรศัพท์รุ่นใหม่จากค่ายแอปเปิลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และถึงแม้ว่าจะมีการเปรียบเทียบสเปกของโทรศัพท์จากกูรูหลายๆ เจ้า และบางคนก็ออกความเห็นว่าเจ้าโทรศัพท์รุ่นใหม่นี้ไม่ค่อยมีอะไรที่มันแตกต่างจากรุ่นเก่ามากเท่าไหร่ อ่า… และเมื่อมีการถกเถียงกันแบบนี้ งานนี้ทางรายการของ Jimmy Kimmel จึงขออาสาพิสูจน์กันให้รู้ไปเลยว่าเจ้ามือถือรุ่นใหม่นี้มีความแตกต่างจากรุ่นก่อนๆ หรือไม่ ทางรายการได้ลงพื้นที่พร้อมกับจับเอา iPhone 4 ที่เปิดตัวในปี 2010 มาดัดแปลงให้กลายเป็น iPhone x และออกไปให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกันแบบจริงๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นก็เรียกเสียงฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าเจ้ามือถือที่ทำการปรับแต่งออกมานั้นจะดูไม่ค่อยเหมือนกับโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวสักเท่าไหร่ แต่ทว่าก็มีหลายคนเหมือนกันที่หลงเชื่อว่านี่คือโทรศัพท์รุ่นใหม่จากทางแอปเปิล “มันดูเล็กกะทัดรัดดีนะ” หนึ่งในผู้ร่วมรายการกล่าว นอกจากนี้บางคนยังได้บอกว่ากล้องของเจ้าโทรศัพท์เครื่องที่พวกเขากำลังถืออยู่นี้ดูดีมากๆ เลยทีเดียว และเธอก็ชอบขนาดของมันด้วย แต่ก็มีบางคนที่ดูเหมือนจะสงสัยเกี่ยวกับเจ้า iPhone ปลอมที่พวกเขาถือ พร้อมกับบอกว่านี่มันคือ iPhone 4 รุ่นใหม่หรือ อ่า.. เราลองไปชมความฮาของการทดสอบที่ว่านี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย ที่มา unilad
-
น้ำตาท่วมศาล เมื่อคุณพ่อสวมกอด ‘ฆาตกร’ ที่ฆ่าลูกชายของตัวเอง และเลือกที่จะให้อภัยเขา
การให้อภัยใครสักคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนต้องใช้เวลานานเป็นปีๆ ในขณะที่บางคนเลือกที่จะไม่ให้อภัยเลยตลอดชีวิต แต่สำหรับคุณพ่อคนนี้กลับสวมกอดฆาตกรที่ฆ่าลูกชายของเขา ในระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล และให้อภัยเขาอย่างหมดใจ จนทำให้ศาลท่วมไปด้วยความน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม ในวันอังคารที่ผ่านมานาย Trey Relford วัย 24 ปี ถูกตัดสินจำคุก 31 ปี ข้อหาฆาตกรรม นายสาลาฮูดิน จิตต์หมวด ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างที่ส่งพิชซ่าในรัฐเคนทักกี เมื่อวันที่ 19 เมษายน ปี 2015 โดยในวันนั้น นายสาลาฮูดิน ได้ออกไปส่งพิซซ่า แต่ในระหว่างทางเขาถูกแก๊งวัยรุ่นสามคนดักปล้น และถูกแทงด้วยมีดพกจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในวันไต่สวนคดี ดร. สมบัติ จิตต์หมวด ผู้เป็นพ่อได้พูดถึงลูกชายที่เสียชีวิตว่า “เขาเป็นคนอ่อนโยน ใจกว้าง และขี้อาย ในคือนั้นลูกชายของผม ต้องไปส่งพิชซ่าอีกแค่เที่ยวเดียวก็จะได้กลับบ้านแล้ว แต่เขากลับถูกสังหารไปซะก่อน” ในตอนท้าย คำพูดของ ดร. สมบัติ ทำให้ทุกคนในศาลต้องทึ่ง เมื่อเขาหันไปพูดกับฆาตกรที่ฆ่าลูกชายของเขาว่า “ผมไม่โทษคุณสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ผมโกรธปีศาจที่ทำให้คุณหลงทำผิด” คุณพ่อยังบอกอีกว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาเลือกที่จะให้อภัยฆาตกร เพราะการให้อภัยเป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดในศาสนาอิสลาม ท่าน ดร. สมบัติ จิตต์หมวด คุณพ่อของนายสาลาฮูดิน เป็นชาวไทยมุสลิมที่ไปแต่งงานและอยู่อาศัยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ท่านยังเป็นนักการศึกษาและนักกิจกรรมทางสังคมที่แข็งขันอีกด้วย แน่นอนว่าคำพูดของ ดร. สมบัติ…
-
สาวอยากมีหน้าดารา Terry Crew บนบัตรเดบิต แต่ธนาคารไม่ยอม เธอเลยทวีตขอเขาซะเลย!!
ปัจจุบันนั้น การจะทำบัตรเครดิตหรือเดบิตไม่จำเป็นที่จะต้องมีลายเป็นแบบเฉพาะของธนาคารอีกต่อไป เพราะเราสามารถที่จะเลือกลายต่างๆ ที่เราต้องการเอามาใช้ได้อย่างอิสระ เพียงแต่ว่าพอเป็นหน้าคนแปลกหน้าเราต้องได้รับการยินยอมเสียก่อนเนี่ยสิ ซึ่งนั่นจึงเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดในครั้งนี้ เพราะ Darrel Kennedy เองก็เป็นหนึ่งคนที่อยากจะใช้บัตรเดบิตเป็นหน้าตาของคนที่เธอชอบ โฉมหน้าของ Darrel Kennedy เจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ และเธอก็สั่งทำบัตรหน้า Terry Crew ไปแล้วด้วย แน่นอนว่าเธอเลือกคนที่เธอชอบมาทันที ทว่าทางธนาคารกลับปฏิเสธคำร้องของเธอกลับมาอย่างไม่ใยดี เพราะว่าเธอดันอยากใช้หน้า Terry Crew มาไว้บนบัตรเนี่ยสิ ธนาคารได้ให้เหตุผลการปฏิเสธนี้ว่ามันเป็นหน้าของคนแปลกหน้าที่ไม่ใช่คนในครอบครัว ธนาคารจึงไม่อนุญาต แต่ถ้าอยากใช้จริงๆ ก็ต้องไปขอลายเซ็นหรือให้เจ้าตัวยอมรับเสียก่อน งานนี้ Darrel ถึงกับเงิบไม่รู้จะทำยังไงดี คนที่ชอบก็ดันเป็นดาราอีก จะไปขอลายเซ็นยินยอมมาจากไหนได้ แต่ใครจะเชื่อว่าเธอตัดสินใจใช้วิธีสุดท้ายที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เธอทวีตหา Terry Crew พร้อมบอกเล่าเรื่องราวที่เธอต้องเจอ ปกติแล้วเธอคงไม่ได้คำตอบกลับมาเพราะวันหนึ่งคนคงทวีตหาเขาเยอะมากๆ ธนาคารไม่ให้ทำ งานนี้ร้อนถึง Terry เลยสิ แน่นอนว่าทันทีที่ Terry Crew เห็นทวีต พี่แกตอบมาว่า เอาไปใช้ได้เลย!! เขาบอกว่าเขาพกรูปตัวเองไว้ในกระเป๋าเงินเสมอ เพื่อย้ำเตือนตัวเองเวลาจะใช้เงินซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็น และเมื่อเรื่องราวนี้กระจายออกไปธนาคารก็ยอมรับการทำบัตรของ Darrel ให้เป็นหน้า Terry แล้วด้วย …
-
หนุ่มวางแผนลวงร่วมมือกับตำรวจ เพื่อพิสูจน์ว่าภรรยาตั้งใจส่งมือปืนมาฆ่าเขาจริงๆ
ชีวิตคนเราเนี่ยมันยิ่งกว่าละครในทีวีหรือหนังอีกนะ ใครจะคิดว่าสามีภรรยาที่อยู่กินกันมาอยู่ดีๆ จะส่งมือปืนมาลอบฆ่ากันซะอย่างนั้น แต่ที่เด็ดกว่าคือมีการตลบหลังกันเกิดขึ้น!? Ramon Sosa โค๊ชมวยวัย 50 ปีจากเท็กซัสได้เล่าว่า เขาได้ยินข่าวลือจากวงในว่าภรรยาของเขานั้นตั้งใจจะส่งคนมาฆ่าเขา เพื่อที่จะได้ไปมีชีวิตใหม่และฮุบเงินของเขาไป แต่ Ramon นั้นก็ได้แต่ยิ้มมุมปากเบาๆ ว่าภรรยาของตนนั้นตามตัวเองไม่ทันหรอก เพราะ Ramon ได้รู้ข่าวคราวมาจากชายที่ชื่อ Gustavo ว่าภรรยาของเขาจ้างนายคนนี้ให้มาจัดการกับเขาด้วยเงิน 2,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 66,225 บาท) ซึ่งหารู้ใหม่ว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน เขาเล่าว่า Gustavo เคยเป็นนักมวยในความดูแลของเขา ด้วยความที่ Gustavo มีปัญหาครอบครัวอยู่แล้วตัวเขาจึงพูดคุยและช่วยเปลี่ยนชีวิตให้ Gustavo กลับมาดีอีกครั้ง และเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเรื่องทั้งหมดมันจริง Ramon จึงร่วมมือกับตำรวจเพื่อกุข่าวการตายของเขา จากนั้นก็จ้างทีมแต่งหน้ามาแต่งให้หน้าเขาดูเหมือนถูกยิงเข้าที่หัวจริงๆ แล้วก็พาตัวเองไปนอนตายอยู่ในหลุมดินพร้อมถ่ายรูปเก็บไว้ ต่อมา Gustavo ได้เดินทางไปพบกับภรรยาของ Ramon เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับภารกิจของพวกเขา แต่ด้านภรรยาไม่รู้เลยว่านักฆ่าที่เธอตั้งใจส่งไปกลับซ่อนเครื่องบันทึกเสียงไว้ และใช้แบล็คเมล์ในตอนหลัง เมื่อเธอเห็นรูปของ Ramon นอนอยู่ในหลุม เธอก็คิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่สุดท้ายภรรยาของ Ramon ก็ถูกจับตำรวจจับกุมและถูกตัดสินจำคุก 20 ปีจากข้อหาพยายามฆ่า ส่วนตัวสามีก็ได้กลับมามีชีวิตอิสระอีกครั้งหนึ่ง… คุก…
-
ช่างภาพถ่ายภาพคนบุคคลที่ “ถูกแกล้ง” จากร่างกายที่แตกต่างจากคนอื่น ล้างภาพพิมพ์นิยม
เวลาที่เราพูดถึงความงดงามนั้น แต่ละคนก็จะมีมุมมองของความงดงามที่แตกต่างออกไป บางอย่างที่คนหนึ่งบอกว่าสวย เราอาจจะมองว่าไม่สวยก็เป็นได้ เช่นเดียวกับร่างกายของคนที่ล้วนมีความงดงามในแบบของตัวเองเสมอ ทว่าทุกคนบนโลกกลับไม่ได้คิดแบบนั้น คนส่วนใหญ่มักจะใช้ตัวเองเป็นตัวตัดสินความงามของคนอื่น ใช้สิ่งนั้นมาทั้งดูถูกและกลั่นแกล้งพวกเขาต่างๆ นานา แน่นอนว่าคนที่ถูกกระทำก็ไม่ได้ดูรู้สึกดีอะไรเลย ด้วยเหตุนั้น Francesc Planes ช่างภาพวัย 22 ปี จากสเปนจึงรู้สึกว่าตัวเองอยู่เฉยไม่ได้ จะต้องออกมาช่วยเหลือคนเหล่านั้น เขาได้เริ่มโปรเจกต์ภาพถ่ายในชื่อชุดว่า “Normal” ซึ่งเป็นชุดภาพที่ใช้กลุ่มคนที่ถูกคนดูถูกว่าน่าเกลียด แต่เขาเชื่อว่าคนเหล่านี้สามารถที่จะแสดงความงดงามที่เป็นปกติเหมือนคนอื่นๆ ได้ เพียงแค่คุณมองให้มันปกตินั่นเอง Guille ป่วยเป็นโรค Alopecia หรือโรคหัวล้านเป็นจุดๆ จึงถูกคนอื่นกลั่นแกล้ง แต่จริงๆ เขาก็ปกติดีไม่ได้แปลกอะไรจริงไหม? Jordi ถูกผ่าตาของเขาออกไปตั้งแต่ยังเด็ก เพราะว่าตอนนั้นมีเนื้องอกอยู่ ปัจจุบันเขาได้ใช้ตาปลอมมาแทนที่ . Alba Parejo เกิดมาพร้อมกับรอยไฝสีดำและมีขนตามตัวมากกว่า 500 จุด . เธอบอกว่า แฟนเก่าของเธอพูดกับเธอว่า “อย่าไปโชว์แผ่นหลังน่าเกลียดแบบนี้ให้ใครเห็นอีกนะ เพราะไม่มีใครอยากมีแฟนผิดปกติแบบนี้หรอก” . . Tess ถูกเรียกว่า อ้วนเป็นหมู ทุกวันๆ . …
-
คนขับแท็กซี่ในนิวยอร์กถ่ายรูปกับลูกค้าตั้งแต่ยุค 80s โดยใช้เบาะหลังเป็นสตูดิโอในการถ่ายภาพ
Ryan Weideman คนขับรถแท็กซี่ในมหานครนิวยอร์ก เติมเต็มความฝันของตัวเองที่อยากจะเป็นช่างภาพด้วยการใช้เบาะหลังของรถแท็กซี่ของเขา ใช้เป็นสตูดิโอในการถ่ายภาพให้กับลูกค้า เขาเริ่มถ่ายภาพลูกค้าคนต่างๆ ของเขาตั้งแต่ปี 1980 ซึ่งลูกค้าแต่ละรายก็มีความแตกต่างกันไป ทำให้ได้เห็นแฟชั่นการแต่งตัวในแต่ละยุคที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป การถ่ายภาพของเขาจะเน้นการถ่ายภาพให้ออกเป็นสีขาวดำ บางครั้งก็เป็นภาพเซลฟี่น่ารักๆ แสดงให้เห็นความเป็นกันเอง สื่อให้เห็นถึงความสุขลูกค้าแต่ละคนที่ได้มาใช้บริการแท็กซี่ของเขา 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 18.…
-
เรื่องราวอันน่าสลดใจของหญิงสาวผู้ถูกขังให้เป็นทาสเซ็กส์กว่า 6 ปี ในที่สุดก็ถูกปลดปล่อยแล้ว
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักข่าวเดลี่เมลล์ได้เผยแพร่ข่าวเหตุการณ์ผู้หญิงวัย 20 ปีที่ทางตำรวจได้เข้าไปช่วยเหลือหลังจากที่เธอถูกขังไว้ในบ้านเกือบ 6 ปี เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Lilia ได้พบเจอกับ Rinat Bilyanov ผ่านทางเว็บไซต์หาคู่ของชาวมุสลิม หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เข้าแต่งงานกันด้วยพิธีทางศาสนา แต่ไม่ได้แต่งงานกันทางกฏหมาย ต่อมาเธอก็ย้ายเข้าไปอาศัยในบ้านของฝ่ายชายเป็นซึ่งแฟลตเล็กๆ ที่ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีแม้แต่แสงเล็ดลอดเข้ามา และตัดขาดเธอจากโลกภายนอกทั้งหมด แฟลตแห่งนี้ทั้งสกปรกและไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งสิ้น เธอถูกขังไว้ในที่แห่งนี้เป็นเวลา 6 ปี เธอไม่ได้รับโอกาสในการออกไปข้างนอกเลย เขาขังเธอไว้ในที่แห่งนี้เพื่อใช้เป็นทาสเซ็กส์และที่ระบายอารมณ์ เธอถูกทุบตีบ่อยครั้งจนร่างกายฟกช้ำ บางครั้งก็เป็นแผลฉกรรจ์ อีกทั้งยังต้องมารองรับอารมณ์ทางเพศแบบพิศดาร หากเธออยากหลุดพ้นจากขุมนรกแห่งนี้ เขาบอกว่าเธอต้องหาเงินประมาณ 100 ล้าบาทเพื่อปลดปล่อยเธอ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่ทางครอบครัวของเธอจะเอาเงินจำนวนมหาศาลนั้นมาช่วยเหลือเธอได้ ในเวลา 6 ปีที่เธออยู่ในที่แห่งนี้ เธอตั้งครรภ์ถึง 4 ครั้ง ลูกของเธอทุกคนมีปัญหาในด้านการพูดและเรียนรู้ช้า เนื่องจากต้องอยู่ในที่ที่ีไม่มีแม้แต่แสงเล็ดลอดเข้ามา โดยที่ลูกๆ มีโอกาสออกไปข้างนอกเพียงปีละครั้งเท่านั้น เขาทำร้ายเธอทุกครั้งเมื่อเขาอารณ์เสีย จนกระทั่งวันหนึ่งเธอไม่สามารถอดทนต่อไปได้…
-
หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อโดนน้ำกรดสาด ได้พบรักแท้กับชายที่เจอตอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล
ขึ้นชื่อว่ารักแท้แล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลต่างๆ หรือว่ามีรูปร่างหน้าตาเป็นเช่นไร รักก็ยังคงเป็นความรักที่บริสุทธิ์อยู่ดีเหมือนกับสาวคนนี้ที่แม้จะถูกพิษน้ำกรดทำร้ายเธอ แต่นั่นก็ทำให้เธอได้เจอคู่ชีวิตของเธอที่รักเธอด้วยใจจริง Pramodini Roul หรือชื่อที่บ้านเธอเรียกเธอว่า Rani สาวอินเดียซึ่งมีอายุเพียง 15 ปีในขณะที่เธอถูกทหารรักษาการณ์คนหนึ่งขี่จักรยานยนต์แล้วสาดน้ำกรดใส่เธอเพราะว่าเธอปฏิเสธการขอแต่งงานของเขา ซึ่งการถูกทำร้ายในครั้งนั้นได้ทำให้เธอเสียโฉมและการมองเห็นไป ในช่วงหลายปีตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น Rani ต้องเข้าออกโรงพยาบาลนับครั้งไม่ถ้วนเพราะว่าเธอต้องเข้าการผ่าตัดรวมทั้งการรักษาปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่เธอต้องทนทุกข์ทรมาน นี่เองจึงทำให้เธอได้กับ Saroj Kumar Sahoo ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนกับพยาบาลของเธอและกำลังจะเป็นคู่ชีวิตในอนาคต Rani ต้องใช้เวลาถึง 4 เดือนอยู่ในห้อง ICU ทันทีหลังจากเกิดเหตุและหลังจากนั้นเธอก็ต้องใช้เวลาถึง 4 ปีรักษาตัวจากบาดแผลเรื้อรังที่บ้านของเธอใน Odisha ทางตะวันออกของประเทศอินเดียซึ่งมีแม่ของเธอดูแลเพียงลำพัง หลังจากเผชิญความเจ็บปวดเกือบนับสิบปีผ่านการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งมาแล้วกว่า 5 ครั้งรวมถึงการผ่าตัดเพื่อทำให้ดวงตาข้างซ้ายของเธอกลับมามองเห็นอีกครั้งและยังต้องต่อสู้กับภาวะของโรคซึมเศร้าในตอนนี้ Rani บอกว่าเธอได้พบเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่อีกครั้งนั่นก็คือ Soroj Kumar Sahoo นั่นเอง โดยทั้งคู่ได้พบรักกันในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งและได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลาหนึ่งปีในเมือง New Delhi ” Saroj ปฏิบัติกับฉันราวกับฉันเป็นเจ้าหญิง เขารักฉันในสิ่งที่ฉันเป็นและยังให้กำลังใจฉันให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุข” “ตอนนี้เขาเป็นส่วนหนึ่งของฉันไปแล้ว ฉันอาจจะไม่สามารถอยู่บนโลกนี้ได้จนถึงตอนนี้หากว่าไม่มีเขาในชีวิต” Rani กล่าว…
-
11 ทริคเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับร่างกาย ที่จะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น ทำไมไม่รู้ให้เร็วกว่านี้ฟร๊ะ!?
ร่างกายมนุษย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำอะไรได้หลายอย่าง ยิ่งเรารู้จักร่างกายมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้นเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่มนุษย์ส่วนใหญ่มักจะไม่รู้จักกลไกบางอย่างภายในร่างกาย ที่จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น โดยเฉพาะ 13 ทริคต่อไปนี้ 1. คุณสามารถหยุดการจามได้โดยการใช้นิ้วกดลงบนบริเวณเหนือริมฝีปากบน การจามเป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่อาจห้ามได้ แต่หากคุณอยู่ต่อหน้าคนที่คุณแอบปลื้มหรืออยู่ในสถานการณ์สำคัญ การไม่จามน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า วิธีทำให้หยุดจามคือ ใช้นิ้วใดนิ้วหนึ่งกดลงบนบริเวณเหนือริมฝีปากบน แล้วจะทำให้คุณหายจากการอยากจามทันที แต่ในกรณีที่ไม่ได้ผล ให้คุณเอามือปิดปากและจมูกระหว่างจาม หรือจะยกแขนขึ้นแล้วจามใส่ข้อพับศอกก็ได้ 2. เมื่อร่างกายได้รับความเย็นมากเกินไป จนรู้สึกว่าสมองแข็งทื่อไปด้วย ให้ดันลิ้นขึ้นไปที่เพดานปาก มันคือวิธีแก้ฉุกเฉิน ก่อนที่คุณจะได้ดื่มน้ำอุ่น หรือคุณหาน้ำดื่มตรงนั้นไม่ได้แล้วจริงๆ สำหรับสาเหตุของอาการสมองตึงและเทคนิคอื่นในการคลายความตึง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ npr 3. หากอยู่ในห้องที่เสียงดังมากๆ แล้วอยากได้ยินเสียงของคนข้างๆ ที่คุยกับคุณ ให้ค่อยๆ ดึงหูทั้งสองข้างไปด้านหลัง จากนั้นก็ดันหูทั้งสองข้างเข้าหากัน ที่หูของเราจะมีส่วนที่เรียกว่า “tragus” เป็นส่วนที่ป้องกันไม่ได้ให้เสียงรอบนอกเข้ามารบกวนการฟังเสียงและทำให้คุณได้ยินคนข้างๆ ได้ชัดขึ้น 4 การนอนตะแคงซ้ายจะช่วยทำให้ไม่เกิดอาการเสียดท้อง หลังจากที่คุณเพิ่งจัดมื้อหนักไป เราเคยได้ยินว่า หลังจากที่กินไม่ควรจะเข้านอนทันที แต่ควรรอสัก 3-4 ชั่วโมงก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการเสียดท้อง แต่จริงๆ คุณไม่จำเป็นต้องรอนานขนาดนั้น เพราะการนอนตะแคงซ้ายช่วยคุณได้ 5 ห้ามเลือดกำเดาด้วยการเอียงศีรษะไปข้างหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็บีบจมูกไว้ประมาณ…
-
รวม 15 การออกแบบที่สามารถช่วยให้โลกเราง่ายขึ้นเยอะ ทำไมคิดไม่ถึง ไม่งั้นรวยเป็นล้านแล้ว
ชีวิตประจำวันของเราแทบจะทุกคนล้วนแล้วก็แต่ต้องพึ่งพาการใช้สิ่งของอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่ในบางครั้ง การออกแบบที่ผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถทำให้เรามีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาได้เหมือนกัน นั่นจึงทำให้เหล่าอัจฉริยะที่มีความคิดสุดเฉียบได้สร้างอุปกรณ์มาคอยแก้ปัญหาการใช้สิ่งของในชีวิตประจำวันของเราให้ง่ายมากขึ้น ซึ่งบางทีเราก็แอบคิดว่าทำไมเรื่องง่ายๆ อย่างนี้เราถึงคิดไม่ถึงกันนะ เอาปุ่มกดลิฟท์มาไว้หน้าประตูซะเลยจะได้ไม่เสียเวลา ปุ่มกดในร้านอาหารที่สามารถเรียกเด็กเสิร์ฟหรือจ่ายเงินได้ อยากให้ทิปแต่ไม่มีเงินสดก็ไม่ใช่ปัญหา กล่องที่มีที่สำหรับเก็บซอสต่างๆ โดยเฉพาะ จะได้จิ้มได้อย่างสะดวก เผื่อมีใครลืมว่าตัวไหนจะซื้อตัวไหนยังลังเลอยู่ คิดเผื่อเลยจะได้ไม่ตกใจตอนคิดตัง มิติใหม่แห่งการเข็นลูก กดน้ำกินแล้วกระเด็นหกหมดเสียดายแย่ แก้วดีไซน์เท่ๆ สำหรับชงชาโดยเฉพาะ เพราะว่ามันมีที่สำหรับพักถุงชานั่นเอง เผื่อเด็กๆ ที่กดน้ำไม่ถึงรวมทั้งคนตัวเตี้ยด้วย มีกระดาษแถมมาให้ซะเลยจะได้ห่อทิ้งง่ายๆ โครตไอเดีย มีงี้จะได้ไม่ต้องพึ่งพาปลั๊กพ่วงอีกต่อไป ประหยัดทั้งที่ ประหยัดทั้งน้ำ เพราะใช้น้ำจากการล้างมือไว้กดส้วมอีกที ขึ้นอย่างหงส์ ลงอย่างมันส์ เผื่อใครใส่ส้นสูงไปเหยียบดินหรือหญ้าจะได้ไม่จมลงไป ไอศกรีมไวน์ ชื่นใจพร้อมความเมาไปตามๆ กันเลยทีเดียว แหม ฉลาดล้ำโลกจริงๆ สำหรับคนที่ิคิดได้เนี่ย…
-
เตรียมพบกับเกม Harry Potter ใหม่มาแนวโปเกม่อนโก เข้าโลกเวทมนตร์พร้อมกันปีหน้า!!
หลังจากที่ Pokemon Go เคยสร้างกระแสระดับโลกกันไปแล้วเมื่อช่วงปี 2016 ตอนนี้ทาง Niantic ผู้เป็นเจ้าของผลงานก็พร้อมที่จะสานต่อและสร้างคลื่นลูกใหม่อีกครั้งด้วยโลกเวทมนตร์ เกมใหม่ที่ว่านี้นั่นก็คือ Harry Potter: Wizards Unite ซึ่งเป็นเกมที่ทาง Niantic อยากจะต่อยอดจาก Pokemon Go ที่ใช้เทคโนโลยี AR มาชูโรงและผนวกเข้ากับโลกเวทมนตร์อันน่าสนใจของ J.K. Rowling ในส่วนของเกมเพลย์จริงๆ หรือรายละเอียดเชิงลึกนั้นทางผู้พัฒนายังไม่ได้ปล่อยข้อมูลอะไรออกมามากนัก จะมีก็แต่ข้อมูลคร่าวๆ ที่เราพอจะรู้ว่าตัวเกมจะมีการเล่นคล้ายกับ Pokemon Go โดยเราจะต้องรับบทเป็นพ่อมดแม่มดที่ออกไปผจญภัยตามสถานที่ต่างๆ บนโลกของเราผ่านระบบ AR โดยเราจะได้เรียนรู้เวทมนต์จากในโลกของ Harry Potter ต่างๆ เช่นคาถาผู้พิทักษ์หรือคาถาโจมตี นอกจากนี้เราจะได้สู้กับสัตว์วิเศษมากมายรวมถึงร่วมทีมกับเพื่อนๆ หรือคนที่ผ่านไปมาเพื่อสู้พ่อมดที่ชั่วร้ายด้วย (น่าจะคล้ายกับระบบ Raid ที่ใช้ใน Pokemon Go) ยังไงก็ตามนี่ถือเป็นสัญญานที่ดีสำหรับซีรีส์ Harry Potter ที่ Warner Bros เริ่มปล่อยเกมใหม่ๆ จากโลกพ่อมดแม่มดมาให้แฟนๆ ได้ดื่มด่ำกันอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่รวมเกมที่ทางบริษัทเคยออกมาแย๊บๆ เกี่ยวกับเกมแนว…
-
เด็กหญิง 9 ขวบ จองทริปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ มูลค่า 35,000 บาท เพราะเดารหัสผ่าน Paypal พ่อถูก
เมื่อก่อนผู้ใหญ่จะเป็นคนสอนเด็กๆ ให้ใช้สื่อเทคโนโลยีต่างๆ แต่เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีเข้าถึงง่าย เด็กสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เผลอๆ เด็กจะสอนผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ เหมือนอย่างกรณี เมื่อเด็กหญิงวัยเพียง 9 ขวบ ได้ทำการซื้อบัตรดิสนีย์แลนด์ด้วยตัวเอง ในราคา 35,000 บาทผ่าน PayPal โดยการเดารหัสผ่านของพ่อ วันนั้น Ian Wilson ผู้เป็นพ่อกำลังนอนกลับ โดยที่ Susan ลูกสาววัย 9 ได้เอาโทรศัพท์พ่อไปเล่น ซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร Susan จึงได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินในราคา 17,000 บาท จองโรงแรม 9,000 บาท และตั๋วเข้าดิสนีย์แลนด์อีก ประมาณ 17,000 บาท โดยเธอได้เลือกวันถัดไปสำหรับทริปนี้ เธอได้เข้าไปจองตั๋วผ่านเว็บไซต์ Getyourguide ส่วนโรงแรมกับตั๋วเครื่องบินได้จองผ่านเว็บไซต์ Bravofly… ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอบังเอิญเดารหัสผ่าน Paypal ของพ่อถูก ทางด้าน Ian ไม่รู้เรื่องเลยว่าลูกสาวได้ทำอะไรไปบ้าง จนกระทั่ง 3 วันต่อมา เขาเห็นข้อความแจ้งเตือนว่ามีเงินออกจากบัญชีของเขา เมื่อรู้ว่าเงินที่หายไปนั้น เป็นเพราะลูกสาวได้ทำการจองตั๋วต่างๆ เขาจึงตัดสินใจโทรไปหา Yorkshire Bank Paypal และบริษัทท่องเที่ยว เพื่อยกเลิกการจองและขอรับเงินคืน …
-
นายพรานถูกกวางป่าฆ่าตาย หลังจากที่ต้อนให้มันจนมุม ทำให้มันหันมาสู้แทนการหนี…
ธรรมชาติของสัตว์ส่วนใหญ่มักจะไม่ทำร้ายใครก่อน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ถูกทำร้าย จู่โจม หรือถูกทำให้กลัว มันก็จะสู้ไม่ถอยเพื่อปกป้องตัวเองเช่นกัน อย่างกรณีนี้ เมื่อนายพรานคนหนึ่งเข้าไปล่ากวางในป่า แต่สุดท้ายเขากลับถูกกวางป่าจู่โจมจนเสียชีวิต… เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Regis Levasseur นายพรานวัย 62 ปี ได้เข้าไปล่าสัตว์ในป่า France’s Compiegne ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปารีสประมาณ 80 กิโลเมตร ขณะนั้นเขาได้เจอกับกวางป่าตัวหนึ่ง และแน่นอนว่าเขาอยู่ในสถานะที่เหนือกว่า เพราะมีอาวุธติดตัวด้วย จากนั้นเขาก็พยายามไล่ต้อนให้เจ้ากวางจนมุม เมื่อกวางป่าอ่อนแรงจากการหนี มันจึงตัดสินใจที่จะหันหน้ามาต่อสู้มากแทนที่จะวิ่งหนี เพื่อปกป้องตัวเองจากความตาย สำนักข่าว The Local รายงานว่า Levasseur ถูกกวางป่าโจมตีโดยการใช้เขาแทงเข้าไปที่ด้านหลังของเขา ส่งผลให้มีเลือดออกภายในอย่างรุนแรง และเสียชีวิตก่อนที่หน่วยกู้ภัยจะมาถึง สื่อยังบอกอีกว่า Levasseur กำลังจะแต่งงานในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้ ด้านทาง Guy Harlé ประธานสหพันธ์ล่าสัตว์ในท้องถิ่นเผยว่า “สำหรับ Levasseur แล้ว การล่าสัตว์เป็นมากกว่างานอดิเรก แต่มันคือชีวิตของเขา” “โดยปกติแล้ว เวลาที่สัตว์โดนล่า มันจะวิ่งหนีจนวินาทีสุดท้าย แต่กวางตัวนี้เลือกที่จะสู้แล้วก็ใช้เขาแทงไปที่ด้านหลังของ Levasseur” “สำหรับเขากวางนั้น มันเหมือนมีดหลายๆ ใบที่เจาะเข้าร่างกายของคุณ แล้วคุณจะไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากต้องยอมจำนนต่อความตาย”…
-
รักแท้ไม่แพ้น้ำหนัก หนุ่มเผยแฟนสาวพลัสไซส์ ภูมิใจที่ได้รักเธอ เราจะมีขี้ปุ๋มไปด้วยกัน
เรื่องราวสุดแสนจะน่ารักเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กเพจ Diary Ng Seaman เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเป็นเรื่องราวของชายหนุ่มนาวิกโยธินคนหนึ่งที่ชื่อว่า Jeto Guanzon กับแฟนสาวที่ชื่อว่า Kaycelin Montelibano โพสต์ต้นฉบับ เขาได้บรรยายภาพด้วยแคปชั่นซึ้งๆ ว่า “เธอคือแฟนผม เธอคือคนเดียวที่ผมรัก ใช่ เธอเป็นสาวพลัสไซส์ แต่ในสายตาของผมเธอเป็นคนที่มีรูปร่างที่ดีมากๆ และผมก็รักเธอมากๆ ด้วย” Jeto Guanzon หนุ่มเจ้าของเรื่อง “ผมอยากจะบอกว่า ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่จะต้องการผู้หญิงที่ดูเซ็กซี่ ผมรักเธอในสิ่งที่เธอเป็น ผมรู้สึกว่าผมเป็นผู้ชายที่โชคดีเมื่อผมได้อยู่กับเธอ และไม่ว่าใครก็ตามที่จะเข้ามาทำร้ายเธอ ก็คงต้องมาเจอกับผมก่อน เพราะว่าเธอเป็นสิ่งเดียวที่ผมจะต่อสู้กับทุกอย่างเพื่อเธอ” เรื่องราวน่ารักๆ นี้ หลังจากที่ถูกเผยแพร่ออกไปก็กลายเป็นไวรัลที่โด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ ยอดไลค์เกือบ 121,000 ครั้ง และยอดแชร์กว่า 79,000 ครั้ง และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว Kaycelin Montelibano แฟนสาว . ความสวีทของทั้งคู่ที่เหล่าคนโสดต้องอิจฉา .…