Category: Highlight

สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้ว เมื่อลูกประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง ก็ย่อมต้องรู้สึกภูมิใจและดีใจเป็นอย่างมากแน่ๆ เช่นเดียวกันกับคุณพ่อชาวจีนคนนี้ ที่ลูกชายทำคะแนนสอบได้ 7 คะแนน เต็ม 100 คะแนน ดีใจแบบสุดขีดซื้อพลุมาจุดยิงขึ้นฟ้าฉลองเลยทีเดียว!! เรื่องราวเกิดขึ้นในเมืองซู่เซียน มณฑลเจียงซู ประเทศจีน คุณพ่อแซ่โจวได้ทำการซื้อพลุมาเต็มลำรถ แล้วกระหน่ำยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า จนกลายเป็นกระแสไวรัลโด่งดังไปทั่วโซเฃียลของประจีน     ที่ทำไปแบบนั้นก็เพราะว่าคุณพ่อต้องการที่จะเฉลิมฉลอง ในโอากาสที่ลูกชายสุดรักสอบได้คะแนน 7 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100!? คุณพ่อแซโจวประกอบอาชีพขนส่งปูน เขาเล่าว่า “ลูกชายของผมไม่ใช่เด็กที่เรียกเก่ง ปกติแล้วเขาจะสอบได้ 0 คะแนนอยู่เป็นประจำ แต่ในที่สุดเขาก็ทำได้ เขาสอบได้ถึง 7 คะแนนเลยทีเดียว ผมก็เลยอยากจะให้กำลังใจกับเขา”     คุณพ่อเล่าเพิ่มเติมอีกว่าเขาลงทุนไปทั้งหมดกว่า 1,000 หยวน (4,700 บาท) ในการซื้อพลุทั้งหมดมา แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นการสิ้นเปลืองแต่อย่างใด เพราะอย่างน้อยมันก็ถือเป็นแรงผลักดันให้กับลูกชายสุดที่รักของเขา ซึ่งจากการสอบครั้งล่าสุดก็พบว่าลูกชายของเขาทำคะแนนดีขึ้นกว่าเดิมมาก จนได้ 57 คะแนน เต็ม 100 คะแนนแล้ว!!    …

ขอบอกเลยว่านี่คงเป็นงานจับตัวคนร้ายที่ง่ายที่สุดของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองยอร์กเชอร์ ประเทศอังกฤษเลยทีเดียว เพราะมีการบอกข้อมูลละเอียดยิบยันขนาดและลักษณะของอวัยวะเพศกันเลย!! จากเหตุการณ์ที่ว่ามีชายคนหนึ่งทำ ‘อนาจาร’ ใส่นักศึกษาสาว ด้วยการเปิดเผยเรือนร่างแบบเปลือยเปล่าให้ดู ขณะที่กำลังเดินกลับบ้านเพียงลำพัง เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในเขตวินด์มิล เลน เมืองยอร์กเชอร์ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.15 น. ขณะที่นักศึกษาหญิงวัย 20 ปี กำลังเดินกลับบ้านด้วยตัวคนเดียว แต่แล้วจู่ๆ ก็มีชายปริศนาเดินตามหลังมา     จากคำให้การของเหยื่อระบุว่าชายคนดังกล่าวไม่ได้สวมเสื้อผ้า และเอากางเกงมาพาดไว้บริเวณลำคอ ก่อนที่จะเดินมาดักหน้าเธอแล้วทำท่าเหมือนกับมีเซ็กส์อยู่ด้านหน้า โชคดีที่เธอวิ่งหนีออกมาได้ และโทรแจ้งตัวรวจทันท่วงที หลังจากผ่านไป 5 นาทีเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงจุดเกิดเหตุ   จุดเกิดเหตุ   แต่ทว่าชายผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมาสอบถามรูปร่างหน้าตา เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายต่อไป และก็ได้ข้อมูลว่าดังนี้ครับ “เป็นคนอายุราวๆ 35 – 45 สูงประมาณ 175 เซนติเมตร และมีรูปร่างอ้วนท้วม ที่หน้าอกของเขามีขนเล็กน้อย ไม่มีรอยแผลเป็นหรือรอยสัก” นอกจากนี้ยังได้รายละเอียดในเรื่องรูปร่างเพิ่มเติม คือ “มีหรรมขนาดเล็ก และไข่ที่ห้อยยานลงมาต่ำกว่าปกติ”…

ในขณะนี้กำลังมีประเด็นที่พูดถึงกันอย่างมากมายในโซเชียลมีเดียจีน นั่นคือประเด็นดราม่างานวิ่งมาราธอนที่จัดในประเทศจีน เมื่อนักวิ่งหญิงจีนถูกเจ้าหน้าที่ของงานวิ่งนำธงชาติจีนมาให้ถือตอนวิ่ง ทำให้เธอเสียจังหวะ เธอจึงทิ้งมันลงระหว่างทาง ซึ่งภายหลังกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ของจีน      วันที่ 19 พฤศจิกายน 2018 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ได้มีการจัดงานวิ่ง Suzhou Taihu Marathon  ในระยะ 500 เมตรสุดท้ายของการแข่งขันประเภทหญิง He Xianli นักวิ่งหญิงชาวจีนได้ตีคู่มาอย่างสูสีกับ Ayantu Abera นักวิ่งหญิงชาวเอธิโอเปีย จู่ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่งานวิ่งโผล่เข้ามายื่นธงชาติให้ He ถือเอาไว้ แต่ในตอนแรกเธอปฏิเสธที่จะรับมันและทำการวิ่งต่อไป โดยที่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็ไม่ละความพยายาม ยังคงวิ่งตามเธอมาติดๆ   หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เจอกับเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งยืนถือธงชาติขวางเธอเอาไว้ คราวนี้เธอตัดสินใจรับมามัน แต่กลายเป็นว่าการที่ต้องถือธงชาติในการวิ่งนั้นทำให้ความเร็วของเธอตกลง เธอจึงปล่อยธงดังกล่าวลงบนถนน แต่ดูเหมือนจะไม่ทันการเสียแล้ว เนื่องจากคู่แข่งของเธอได้ใช้ความเร็วทิ้งห่างเธอและเอาชนะไปด้วยเวลาที่ต่างกันถึง 5 วินาที   เจ้าหน้าคนแรกเอาธงมาให้เธอถือ   แต่เธอไม่รับ สตาฟจึงทำการวิ่งตาม   จากนั้นสตาฟคนที่สองก็โผล่มา   คราวนี้เธอรับธงมาและก็ทิ้งมันไป   หลังที่วิดีโอดังกล่าวได้ถูกอัปโหลดลงโซเชียลมีเดียจีน ก็ได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ชาวเน็ตจีนหลายคนต่อว่าเธอที่ทิ้งธงชาติของตัวเองลงพื้นและยังบอกอีกว่าเธอสมควรที่จะถือมันไว้…

ในวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายนของทุกปี ถือว่าเป็นคนแห่งคนโสด (11.11) หรือที่ทางประเทศจีนเรียกว่า Guanggun Jie ซึ่งในวันนี้เองร้านค้าต่างๆ ก็จะมีการกระหน่ำลดราคาสินค้ามากมาย สินค้าหลายๆ อย่างที่วางจำหน่ายในวันดังกล่าว อาจจะมีราคาที่ต่ำสุดในรอบปี เรียกได้ว่าล่อหน้าล่อใจเสียยิ่งกระไร จนทำให้ชาวจีนหลายๆ คนลงทุนเก็บเงินเอาไว้เพื่อมาใช้จ่ายในช่วงดังกล่าวเพียงอย่างเดียวก็มี     เช่นเดียวกับสาวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เธอชื่อว่า Hong Jia เป็นนักศึกษาอยู่ในเมืองหนานทง มณฑลเจียงซู Hong Jia ต้องการที่จะเก็บเงินเอาไว้ใช้ซื้อของที่จะลดราคาในวันคนโสด เธอจึงตัดสินใจใช้วิธีที่เรารู้จักกันดีในช่วงสิ้นเดือน นั่นคือการรับประทาน “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” เพื่อประหยัดเงิน!!     หลังจากที่ตัดสินใจได้ เธอก็ไม่รอช้า รีบไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาตุนเอาไว้ และจากนั้นเธอก็ทานแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ติดต่อกัน แต่โชคไม่ดี ดูเหมือนวิธีประหยัดเงินของเธอจะไม่เวิร์คเท่าไหร่ เนื่องจากสุดท้ายแล้วเธอจบลงด้วยการนอนโรงพยาบาล     จากการที่เธอทานบะหมี่กึ่งสะเร็จรูปเป็นเวลานานติดต่อกัน ทำให้เธอมีไข้ขึ้นสูง เธอต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานสองวัน และอีกเรื่องที่น่าเศร้าใจก็คือ เงินส่วนใหญ่ที่เธอพยายามเก็บหอมรอมริบเอาไว้ชอปปิ้ง ต้องถูกนำมาจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลแทน ส่วนเงินที่เหลือก็สามารถซื้อของในวันคนโสดได้แค่ที่พอกหน้าเท่านั้น      เรื่องของเธอก็เป็นอุทาหรณ์ให้สำหรับคนที่ชอบทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้เป็นอย่างดี รู้แบบนี้แล้วอย่าทานบ่อยนะเพื่อนๆ…

เทรนด์ของภาพยนตร์เกี่ยวกับแวมไพร์ในยุคหลังๆ มานี้ ไม่ว่าจะเป็น Underworld, Van Helsing และ Twilight เราจะเห็นได้ว่ามีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์แวมไพร์กับมนุษย์หมาป่ากันมากขึ้น จนอาจจะทำให้หลายๆ คนคิดว่าแท้จริงแล้วแวมไพร์กับมนุษย์หมาป่านั้นไม่ถูกกันจริงๆ (แม้ว่าจริงๆ แล้วตามตำนานจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น) เช่นเดียวกับหญิงสาวคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เมื่อเธอคิดว่าเป็นแวมไพร์ จึงคว้ามีดเข้าแทงคนรักของตน เพราะคิดว่าเขาเป็นมนุษย์หมาป่า ไม่อาจจะอยู่ร่วมกันได้     สาวคนดังกล่าวคือ Ekaterina Tirskaya วัย 22 ปี จากประเทศรัสเซีย เธอคิดว่าตัวเองเป็น Elena Gilbert ตัวละครหลักจากซีรีส์ชื่อดัง The Vampire Diaries เธอกับคู่รักพบเจอกันครั้งแรกผ่านทางโซเชียลมีเดีย ทั้งคู่พูดคุยกันถูกคอ จนในที่สุดทั้งสองก็ตัดสินใจที่จะนัดพบและหลับนอนด้วยกันที่ห้องของฝ่ายชาย   Elena Gibert   กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น Ekaterina ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอบอกกับคู่รักของเธอว่าจริงๆ แล้วเธอเป็นแวมไพร์เหมือนอย่าง Elena Gilbert และมีภารกิจต้องฆ่ามนุษย์หมาป่า แต่ทางคู่นอนของเธอคิดว่าเธอคงพูดเล่น ก็ตอบกลับเธอไปว่าเขาไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ จากนั้นก็บอกให้เธอกลับบ้านของตัวเองไป ก่อนตัวเขาจะเข้าไปอาบน้ำ     เมื่อชายคนดังกล่าวออกจากห้องน้ำมาก็ต้องผวา เมื่อเจอ Ekaterina ยืนถือมีดและเข้ามาทำร้ายเขา แต่โชคดีที่เขาสามารถป้องกันตัวและยึดมีดของเธอไว้ได้…

นี่คงเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์อันน่าสลด กับการจากไปของทารกตัวน้อยวัย 6 เดือน หลังจากที่เขาถูกเด็กหญิงวัย 10 ขวบทำร้ายร่างกายจนไม่สามารถทนรับความเจ็บปวดได้และเสียชีวิตในเวลาต่อมา Jaxon Liedl คือชื่อของทารกชายผู้จากโลกนี้ไปอย่างน่าเศร้า ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2018 หลังจากที่เขาเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานถึง 2 วัน แต่ก็ไม่อาจเอาชนะความเจ็บปวดที่ได้รับมา   Jaxon เด็กน้อยผู้จากโลกนี้ไปจากการถูกทำร้ายร่างกาย   การตายของเขาได้ทำให้เด็กหญิงวัย 10 ขวบคนหนึ่งตกเป็นผู้ต้องหา (ไม่มีการระบุชื่อ) ตามข้อกล่าวหาที่ว่าเธอนั้นอุ้มและปล่อยให้ Jaxon ตกลงไปที่พื้นซ้ำๆ อีกทั้งยังมีการเหยียบกระทืบศีรษะของทารกด้วย จากการรายงานบอกว่า Jaxon ถูกนำไปฝากไว้ที่ศูนย์ดูแลเด็ก ในเมือง Chippewa Falls รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา โดยสถานที่แห่งนี้ยังเปิดเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกด้วย     ระหว่างที่เด็กคนอื่นๆ กำลังออกไปเล่นข้างนอก ทารกตัวน้อยยังคงนอนเล่นอยู่ในบ้านกับเด็กหญิงผู้ก่อเหตุเพียงลำพัง ก่อนที่จะเกิดเหตุความรุนแรงดังกล่าวขึ้น พี่เลี้ยงคนหนึ่งผ่านมาเห็นว่า Jaxon นอนอยู่บนพื้น มีเลือดออกที่ศีรษะ พวกเขาจึงรีบแจ้งรถพยาบาลและผู้ปกครองของเด็กเป็นการด่วน เพียงชั่วอึดใจ Nate พ่อของเขาก็รีบตรงมาที่ศูนย์ดูแลในทันที ก่อนที่จะตามรถพยาบาลไปเพื่อดูอาการของลูกน้อย  …

เวลาที่โจรหรือขโมยนั้นเลือกเหยื่อ พวกเขาจะมีการเลือกโดยประเมินความยากง่ายในการขโมย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่อยู่ตัวคนเดียว เหมือนอย่างเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เมื่อหัวขโมยขับมอเตอร์ไซค์หวังจะขโมยโทรศัพท์ของหญิงสาวคนหนึ่ง แต่หารู้ไม่ว่าผู้หญิงที่พวกเขาเลือกเป็นเหยื่ออันโอชะนั้นเป็นนักสู้ยิวยิตสู!!     เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเมือง Manaus ประเทศบราซิล ขณะที่ Sabrina Leite นักเรียนยิวยิตสูสาววัย 22 ปี กำลังจะออกจากบ้านของเธอ จู่ๆ ก็มีโจร 2 คนขับจักรยานยนต์มาและโจรคนที่ซ้อนท้ายก็กระโดดลงมาและขู่ให้เธอเอาโทรศัพท์มือถือมอบให้แก่เขา แต่เหยื่อสาวไม่ยอม ในที่สุดโจรคนดังกล่าววิ่งหนีไป     และแม้ว่า Sabrina จะรอดจากการถูกปล้นโทรศัพท์ไปได้แล้ว แต่เธอก็ยังไม่ยอมหยุดเพียงเท่านั้น เธอสังเกตเห็นว่าโจรที่มาปล้นเธอไม่มีอาวุธ จึงตัดสินใจที่วิ่งตามและให้บทลงโทษแก่เจ้าโจร เมื่อเธอวิ่งตามโจรทันแล้ว เธอก็ได้ใช้วิชายิวยิตสูที่เธอร่ำเรียนมา 4 ปีจัดการ โดยใช้ท่าล็อคแขนใส่ จนเขาต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด      หลังจากที่เธอจัดการกับโจรไปได้ 20 นาที ตำรวจก็มาถึงจัดการดำเนินคดีแก่โจรผู้โชคร้ายคนดังกล่าว สุดท้ายนี้ Sabrina ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับศิลปะป้องกันตัวของเธอว่า “ทั้งหมดมันเป็นเรื่องของเทคนิคยิวยิตสูที่ฉันร่ำเรียนมา 4 ปี แม้ว่าฉันยังคงเป็นสายขาวอยู่ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจเรื่องลำดับขั้นและสายคาดเอวหรอกค่ะ”   ที่มา Ladbible

เราอาจจะเคยเห็นข่าวนักโทษทำร้ายร่างกายกันระหว่างที่อยู่ในคุก แต่ว่าเรื่องนี้อาจมีความพิเศษสักหน่อยตรงที่ว่าผู้ลงมือก่อเหตุเป็น ‘หญิงข้ามเพศ’ ที่ไปข่มขืน – ทำร้ายร่างกายนักโทษหญิงคนอื่นๆ ในคุก เธอจึงถูกสั่งย้ายไปยังคุกที่รวบรวมนักโทษชายที่อันตรายที่สุดในประเทศแทน!!   Karen White   โดยเรื่องนี้มีอยู่ว่าก่อนหน้านี้ Karen White หญิงข้ามเพศ (อดีตเป็นชายชื่อว่า David Thompson) วัย 52 ปี ได้ถูกจองจำอยู่ที่คุกหญิง Hmp New Hall เมือง Wakefield ประเทศอังกฤษ แต่แล้วเธอก็ได้ก่อเหตุข่มขืน – ทำร้ายร่างกายเพื่อนนักโทษ 2 คนระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่ที่นั่น ซึ่งเธอก็ได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง     แน่นอนว่าที่เธอสามารถข่มขืนเพื่อนนักโทษหญิงได้ ก็เป็นเพราะเธอยังไม่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนเพศโดยสมบูรณ์ และในทางการแล้วเธอยังถือว่าเป็น ‘ผู้ชาย’ อยู่ แต่ว่าการที่เธอสามารถมาอยู่ที่คุกหญิงได้ ก็เป็นเพราะว่าได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการพิเศษนั่นเอง   HMP Wakefield คุกชายที่อันตรายที่สุดในอังกฤษ   ทว่าจากความผิดที่เธอก่อภายในคุกหญิงแห่งนี้ จึงมีคำสั่งจากทางการให้ย้ายเธอไปยัง HMP Wakefield คุกชายที่รวบรวมนักโทษที่อันตรายที่สุดในประเทศ จนคุกแห่งนี้ได้รับฉายาว่าเป็น ‘บ้านแห่งปิศาจ’ ซึ่งนักโทษที่อยู่ที่คุกแห่งนี้ก็มีทั้งฆาตกรต่อเนื่อง…

เรื่องราวของชายหนุ่มผู้เกือบตกเป็นแพะต้องจำคุก 99 ปี จากการถูกกล่าวหาว่า ‘บุกทำร้ายแฟนสาว’ ถึงในบ้าน แต่สุดท้ายรอดมาได้อย่างหวุดหวิดเพราะภาพถ่ายเซลฟี่ของคุณแม่ช่วยเอาไว้แท้ๆ ย้อนกลับไปในปี 2017 นาย Cristopher Precopia วัย 21 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว หลังจากถูกกล่าวหาว่าบุกเข้าไปในบ้านของแฟนสาวที่คบมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย พร้อมกับทำร้ายร่างกายของเธอด้วย ‘มีดคัตเตอร์’ กรีดบนร่างกายของเธอเป็นรูปตัว X ศาลตั้งข้อหาว่าเขาบุกรุกเข้าไปในที่พักอาศัยและมีเจตนาที่จะก่ออาชญากรรมอื่นเพิ่มเติม มีโทษจำคุกทั้งหมด 99 ปีด้วยกัน     แต่เรื่องราวกลับตาลปัตร เพราะความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้น!? หลังจากที่พ่อแม่ของนาย Cristopher จ่ายเงินค่าประกันตัวเป็นมูลค่ากว่า 150,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (5 ล้านบาท) เพื่อหาทางต่อสู้คดี และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ พวกเขาก็เพิ่งมานึกออกว่าในวันเกิดเหตุทั้งครอบครัวได้ทำการถ่ายรูปเซลฟี่และอัปโหลดลงเฟซบุ๊ก กลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่บ่งบอกว่าในวันเกิดเหตุเขาไม่ได้อยู่ที่บ้านของแฟนเก่า นาย Cristopher ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ผมไม่รู้เลยว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”     หญิงสาวผู้อ้างตัวเป็นเหยื่อให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น ณ เวลาประมาณ 19.30 น. ในวันที่ 20 กันยายน…

ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ก้าวล้ำ ทำให้เกิดอุปกรณ์เทียมขึ้นมามากมายเพื่อใช้เป็นอวัยวะทดแทนสำหรับผู้พิการ แต่ว่าอวัยวะเทียมที่ว่านี้ ไม่เพียงแต่ใช้เพื่อช่วยให้คนได้ใช้ชีวิตง่ายขึ้นเพียงเท่านั้น แต่กับสัตว์ก็มีอวัยวะเทียมผลิตขึ้นเช่นเดียวกัน!! และนี่คือวินาทีสุดประทับใจ ที่เต่าทะเลตัวหนึ่งได้ใส่ครีบเทียมว่ายน้ำเป็นครั้งแรก หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับมันทำให้ว่ายน้ำลึกไม่ได้มาเป็นระยะเวลานานแสนนานเกือบ 20 ปี!!   วิดีโอของเจ้า Rocky ขณะลงน้ำ    นี่คือเจ้า Rocky เต่าตนุ (The Green Sea Turtle) อายุประมาณ 25 – 30 ปี ที่ประสบเหตุถูกเรือชนเมื่อครั้งมันยังเด็กๆ และผลจากการถูกชนในครั้งนั้นทำให้ครีบขวาของมันไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป รวมถึงมีกระดองที่แตกร้าว     มันได้รับการช่วยเหลือมาในปี 2001 และได้รับการดูแลรักษาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่สามารถที่จะว่ายน้ำที่ใต้ผิวน้ำได้จากครีบที่เสียหาย เมื่อ Kevin Carroll ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอุปกรณ์เทียม (กายอุปกรณ์) ได้ยินเรื่องราวสุดสลดนี้ เขาจึงรวบรวมทีมผู้เชี่ยวชาญมารวมกันที่ Hanger Clinic ที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริด้า เพื่อภารกิจผลิตครีบพิเศษให้กับเจ้า Rocky     ซึ่งภาพและวิดีโอที่เราได้เห็นกันคือภาพระหว่างที่มันถูกปล่อยลงว่ายน้ำครั้งแรกที่ Key West Aquarium ในรัฐฟลอริด้า หลังจากได้รับการสวมครีบเทียมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  …

ความอดทนของคนที่รอ บางครั้งก็มีจุดสิ้นสุด…   นี่อาจเป็นอีกหนึ่งข่าวเศร้าที่ทำให้เราเห็นอีกมุมหนึ่งของโลกใบนี้ เมื่อมีชายไร้บ้านคนหนึ่งต้องเสียชีวิตลงจากความที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ไม่ให้อยู่ในโรงพัก ระหว่างที่เขาไปรับตัว ‘เจ้าตูบ’ เพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตเขา… นาย Pericles Malagardis หรือที่หลายๆ คนเรียกเขาว่า Peri ชายไร้บ้านวัย 63 ปี ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจ Uxbridge ประเทศอังกฤษ หลังจากที่เขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาหมาดๆ การไปที่สถานีตำรวจในครั้งนี้ ก็เพื่อจะมาขอรับตัวเจ้าหมา Django ซึ่งเขาบอกว่ามันเป็น ‘ทุกๆ อย่างในชีวิตสำหรับเขา’   Peri ชายไร้บ้านผู้เสียชีวิต   ทว่าเวลาที่นาย Peri เดินทางไปรับตัวมันเป็นเวลากลางคืน เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถนำหมาของเขามาคืนได้ และต้องรอให้ถึงรุ่งเช้าเสียก่อน จึงให้เขาออกจากโรงพักไป แม้ว่าในวันนั้นจะเป็นวันที่มีอากาศเย็นยะเยือกถึงศูนย์องศา แต่เจ้าหน้าที่ Bhupinder Kalsi ก็ยังยืนกรานให้เขาออกไปจากโรงพัก   สถานีตำรวจแห่งนี้   ห้าชั่วโมงต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พบตัวนาย Peri ในสภาพที่ไม่ตอบสนองต่อสิ่งใดจากภาวะ Hypothermia (ภาวะที่อุณหภูมิของร่างกายต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส) และถูกประกาศให้เสียชีวิตในชั่วโมงต่อมา เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2016 ส่วนนายตำรวจคนดังกล่าวก็ถูกให้ออกจากงาน จากรายงานกล่าวว่านาย Peri ย้ายจากประเทศกรีซมายังกรุงลอนดอนตั้งแต่ปี 1989…

บางครั้งการที่เราต้องทนทำงานอย่างหนักเพื่อแลกกับค่าแรงที่ไม่เป็นธรรม มันก็เป็นเรื่องสุดจะทนจริงๆ แต่ว่าจะให้พูดออกมาตรงๆ ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นัก และหลายคนคงไม่กล้าสักเท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทีมงานทำการ์ตูนอนิเมะที่ประสบกับปัญหาเช่นนี้ แอบซ่อนข้อความขอช่วยเหลือจากแฟนๆ ภายใต้ชื่อในเครดิตท้ายการ์ตูน!!   การ์ตูนเรื่อง “My Sister, My Writer”   โดยเรื่องที่ว่านี้เกิดขึ้นกับทีมงานของอนิเมะชื่อว่า “Ore ga Suki nano wa Imouto dakedo Imouto ja Nai” หรืออีกชื่อหนึ่งว่า “My Sister, My Writer” อนิเมะเรื่องนี้ได้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่เมื่อครั้งเปิดตัวในเดือนตุลาคม จากความที่ข้อผิดพลาดมากมายปรากฏให้เห็นในเรื่อง และนอกจากข้อผิดพลาดจำนวนมากที่มีให้เห็นแล้ว ก็มีคนตาดีสังเกตว่ามีอะไรแปลกๆ อยู่ในเครดิตผู้สร้างอนิเมะเรื่องนี้ด้วย…   ชื่อที่มีคนสังเกตว่าอาจเป็นข้อความขอความช่วยเหลือ   โดยสิ่งที่พวกเขาบอกว่ามันดูมีอะไรแหม่งๆ ก็คือชื่อของทีมงานชื่อว่า “正直困太” ซึ่งไม่น่าจะใช่ชื่อของคนจริงๆ เพราะมันอ่านได้ว่า “Shojiki Komata” ในภาษาญี่ปุ่น และแปลได้ว่า ‘ด้วยความสัตย์จริง พวกเรากำลังตกที่นั่งลำบากอยู่ โปรดช่วยพวกเราด้วย’  ซึ่งนี่น่าจะเป็นข้อความขอความช่วยเหลืออะไรบางอย่าง หรืออย่างน้อยที่สุดอาจจะเป็นข้อความขออภัยสำหรับความไม่สมบูรณ์ของอนิเมะ   ภาพจากการ์ตูนเรื่องนี้ ที่แฟนๆ บอกว่ามันดูแย่   สำหรับใครที่ติดตามวงการนี้จะเป็นอันรู้กันดีว่า แม้ทีมงานอนิเมะจะต้องมีทักษะอะไรต่างๆ มากมายแล้ว…

เดี๋ยวนี้โลกออนไลน์ได้กลายเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการหาเงินดั่งที่เราเห็นการแคสต์เกม หรือทำวิดีโอคอนเทนต์อื่นๆ ผันตัวเป็นยูทูบเบอร์หรือเป็นคนดังตามแพลตฟอร์มอื่นๆ มากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือหญิงสาววัย 21 ปีชื่อว่า Sophie Michelle ที่สามารถทำเงินจากยูทูบได้ถึง 60,000 ปอนด์ (ประมาณ 2.5 ล้านบาท) ต่อปี จากการทำเสียงกระซิบกระซาบลงยูทูบ!!   Sophie Michelle ยูทูบเบอร์คนเก่ง   Sophie เป็นนักศึกษาศิลปะการแสดงวัย 21 ปีจากเมืองเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ที่กลายมาเป็นยูทูบเบอร์อย่างเต็มตัวจากการที่เธอได้อัดเสียงกระซิบกระซาบ หนึ่งในแขนงของ ASMR ลงในยูทูบ จนในตอนนี้มีผู้ติดตามเธอแล้วกว่า 250,000 คน!!     ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะงงว่า ASMR หรือ Autonomous Sensory Meridian Response คืออะไร ซึ่งถ้าอธิบายง่ายๆ มันก็คืออาการที่ตอบสนองต่อประสาทรับความรู้สึกอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน การสัมผัส จนเกิดเป็นอารมณ์ที่ผ่อนคลาย เกิดเป็นความฟินแบบสุดๆ จนใครหลายคนนิยมเปิดเสียงฟังเพื่อช่วยให้นอนหลับได้ง่ายและสบายขึ้นนั่นเอง     ในตอนนี้ Sophie ได้รับการเรียกขานว่าเป็น ‘ศิลปินแห่ง ASMR’ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…

ขึ้นชื่อว่า ‘ความเมา’ มันเป็นอะไรที่ทำให้คนเราควบคุมตัวเองได้ไม่ค่อยอยู่ แถมบางทียังทำอะไรเพี้ยนๆ ไปแบบไม่รู้ตัว เหมือนกับเจ้าหนุ่มคนนี้ที่เพราะความเมา ทำให้เขากดซื้อสัตว์แปลกๆ อย่างหมู นกยูงกับซาลาแมนเดอร์มาแบบงงๆ     โดยเรื่องของเจ้าหนุ่มรักสัตว์ที่ว่านี้ ได้กลายเป็นกระแสไวรัลในประเทศจีนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 พ.ย.) จากความที่เขาแชร์เรื่องราวใน Wechat และต่อมาถูกแชร์กันต่ออย่างมากใน Weibo เขามีชื่อว่า Yang Yujin นักศึกษาชั้นปี 2 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในปักกิ่ง เล่าว่าในคืนก่อนที่จะถึงวันคนโสด เขาออกไปท่องราตรีกับเพื่อนๆ แล้วจัดหนักจัดเต็มดื่มค็อกเทลไป 2 แก้วกับเบียร์อีกหนึ่งขวด ก่อนที่จะเมาคอพับกลับบ้านไป และด้วยเหตุนี้เองพอตื่นเช้าขึ้นมา เลยทำให้รู้ว่าได้ไปกดซื้ออะไรแปลกๆ บนโลกออนไลน์ไปซะแล้ว   เจ้าหมูแคระ   สิ่งที่เขาซื้อไม่ใช่เสื้อผ้าหน้าตาแปลกๆ แต่ว่าเป็นสัตว์อย่าง หมูแคระพันธุ์ไทยราคา 278 หยวน (ประมาณ 1,300 บาท), นกยูงราคา 360 หยวน (ประมาณ 1,700 บาท) และซาลาแมนเดอร์ยักษ์ราคา 288 หยวน (ประมาณ 1,350 บาท) ถึงตรงนี้ใครหลายคนอาจจะคิดว่า…

คุณพ่อถึงกับหัวร้อนเมื่อไปสั่งเค้กสำหรับงานวันเกิดของลูกชายไว้ที่ร้าน แต่พอไปรับมากลับได้เป็นเค้กเปล่าๆ ที่หน้าเค้กมีรูปหน้ายิ้มกับเลข 3 อยู่!? Shane Hallford คุณพ่อวัย 43 ปีเล่าถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่าเขาไปสั่งเค้กกับร้านทำเค้กชื่อว่า Woolworth ในเมืองแทมเวิร์ธ รัฐนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยสั่งเอาไว้ว่าเป็นเค้กในธีม ‘กบ’ ซึ่งเป็นสัตว์ที่ลูกชายของเขาชอบมากๆ ทางร้านก็คิดค่าเสียหายมาให้เสร็จสรรพ รวมแล้วเป็นมูลค่า 49 เหรียญดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 1,160 บาท     และนี่คือสิ่งที่ได้…   คุณพ่อยังเล่าเพิ่มเติมอีกว่าได้ไปสั่งเค้กกับทางร้านไว้ล่วงหน้าก่อนถึง 3 วันด้วยกัน แต่เค้กที่ร้านทำออกมานั้น ‘แทบจะไม่มีอะไรเลย’ เป็นเพียงเค้กสีเขียว เขียนที่หน้าเค้กไว้ว่าเลข 3 กับหน้ายิ้มเท่านั้น ไม่มี ‘กบ’ ตามที่สั่งเอาไว้แม้แต่น้อย จึงเป็นเหตุให้คุณพ่อ Shane และ ภรรยา Amy ตัดสินใจที่จะ ‘ซ่อมหน้าเค้กใหม่’ โดยการเอาเค้กก้อนนี้ไปที่ร้านอื่นตกแต่งให้ และโชคดีที่ทันเวลาก่อนงานวันเกิดของลูกชายเริ่มแบบพอดิบพอดี   หน้าเค้กที่แต่งใหม่   คุณพ่อถึงกับบอกว่าสิ่งที่ร้านทำ…

ที่ผ่านมาพวกเราทุกคนคงเคยได้เรื่องราวหรือข่าวเกี่ยวกับการโจรกรรมไม่ว่าจะเป็นการปล้นหรือขโมยเงินจากสถานที่อย่างธนาคาร, ร้านสะดวกซื้อ, หรือห้างสรรพสินค้ากันอยู่บ่อยๆ เช่นเดียวกับในกรณีที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมในวันนี้ เมื่อ Daigo Sugano หนุ่มญี่ปุ่นถูกจับเพราะเดินเข้าออกห้างสรรพสินค้า Aeon กว่า 2.7 ล้านครั้งและทำให้ห้างต้องสูญเสียเงินถึง 5.4 ล้านเยน (1.5 ล้านบาท)!!     หลายคนอาจจะสงสัยว่าแค่การที่มาเข้าออกห้างสรรพสินค้าแบบนี้ จะทำให้ห้างสูญเสียเงินได้อย่างไร? ต้องขอบอกก่อนเลยว่าตอนนี้ในแอปพลิเคชั่นของทางห้าง Aeon มีโปรโมชั่นที่หากผู้ใช้มาเชคอินที่ห้าง ทางห้างจะมอบแต้มที่มีมูลค่า 2 เยน (0.5 บาท) ให้แก่ลูกค้า นั่นจึงกลายเป็นช่องโหว่ให้กับนาย Daigo Sugano หนุ่มวัย 29 ปีจากจังหวัดฮอกไกโดแอบโกง ปลอมแปลงตำแหน่งของตัวเองให้ไปอยู่ในพื้นที่ห้างเพื่อทำการเชคอิน โดยที่เขาไม่ต้องขยับตัวเลยสักนิด ซึ่งครั้งละ 2 เยนอาจจะดูมีค่าน้อย แต่พ่อหนุ่มคนนี้ลงทุนใช้โน๊ตบุค 45 เครื่องและแอคเคาต์ปลอมกว่า 1,000 รหัสเพื่อทำการโกงครั้งนี้     โดยสรุปแล้ว การโกงครั้งนั้น เขาได้นำตัวเองเข้าออกห้าง Aeon มากถึง 2.7 ล้านครั้ง ได้แต้มที่คิดเป็นเงินมากถึง 5.4 ล้านเยน (1.5…

เป็นที่ทราบโดยทั่วกันแล้วว่าปู่ Stan Lee ผู้สร้างตำนานอาณาจักรฮีโร่ของค่าย Marvel ได้เสียชีวิตลงในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2018 ตามวันเวลาท้องถิ่น ด้วยอายุ 95 ปี นับว่าเป็นข่าวที่ทำให้ทั้งแฟนการ์ตูน แฟนภาพยนตร์ เหล่าทีมงาน และนักแสดงที่เกี่ยวข้องในวงการซูเปอร์ฮีโร่ รู้สึกใจหายมากๆ   Stan Lee ผู้สร้างจักรวาล Marvel ตั้งแต่ปี 1961 การเดินทางอย่างยาวนานกว่า 57 ปี   ทั้งนี้ จากการร่วมไว้อาลัยของผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเพื่อนร่วมงาน และเหล่าดารานักแสดงแล้ว ด้านแฟนคลับต่างร่วมแสดงการไว้อาลัย ผ่านการ์ตูนแฟนอาร์ทหลากหลายความรู้สึก ทั้งเศร้ากับความสูญเสีย และอารมณ์แห่งการจากกันด้วยดี   . . . . . . . . . . . . . . . https://www.instagram.com/p/BqGHM2xh0Px/  …

บนโลกของเรานี้มีมนุษย์อยู่มากมายหลายเชื้อชาติ ซึ่งเรื่องเชื้อชาตินี้เองก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน บางทีการทำอะไรบางอย่างเลียนแบบชนชาติอื่นอาจก่อให้เกิดความไม่พอใจขึ้นได้ เหมือนอย่าง Regina Todorenko ศิลปินสาวชาวยูเครนวัย 28 ปีคนนี้ ที่โพสต์ภาพลงอินสตาแกรมเพื่อสนับสนุนคนยิ้มให้แก่กันมากขึ้นเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่าน แต่ทว่าภาพที่เธอลง เธอกลับใช้นิ้วดึงตาให้ตี่เหมือนกับชาวเอเชีย จึงถูกชาวเน็ตเข้ามารุมกระหน่ำว่าที่เธอโพสต์ลงไปนั้นมันคือการเหยียดชาวเอเชีย     ภาพดังกล่าวถูกโพสต์เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2018 แต่เพิ่งจะเป็นประเด็นเมื่อไม่นานมานี้ โดยในโพสต์ดังกล่าว เธอได้ใช้แคปชั่นเป็นภาษารัสเซียว่า “ฉันเพิ่งได้อ่านบทความเกี่ยวกับชาวสลาฟ (กลุ่มคนเชื้อชาติหนึ่งที่มีการตั้งถิ่นฐานบริเวณทางตะวันออกและตอนกลางของยุโรป) เป็นกลุ่มที่ชอบถ่ายเซลฟี่มากที่สุดในโลก แต่ในภาพแต่ละภาพดูเหมือนพวกเขาจะยิ้มน้อยกว่าชาวอเมริกันและญี่ปุ่นอย่างมีนัย และภายหลังฉันก็พบว่าประเทศใดที่มีผู้อพยพมากๆ อัตราการยิ้มจะเพิ่มสูงขึ้นใน 500 ปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งบางทีมันอาจจะเป็นรอยยิ้มของคนที่ถูกต้อนรับสู่ประเทศใหม่ ”     “ฉันเคยไปมาแล้วทั้งอเมริกาและญี่ปุ่นและก็ตระหนักได้ว่าผู้คนยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัย มันทำให้ฉันหัวเสียเล็กๆ เพราะว่าความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันมันดูปลอม หลังจากที่ได้อาศัยอยู่สภาพแวดล้อมแบบนั้นเป็นเวลาไม่นาน ฉันก็ตระหนักได้ว่าผู้คนเหล่านั้นพยายามที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์เลวร้าย พยายามคิดบวกและแก้ปัญหาด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ แม้ว่ามันจะไม่ง่ายก็ตาม เคยสังเกตมั้ยว่าผู้คนในขนส่งสาธารณะยิ้มให้กันยาก? แล้วคุณล่ะยิ้มให้คนแปลกหน้าบ่อยขนาดไหน?”     อย่างที่กล่าวข้างต้นการโพสต์รูปดังกล่าว ทำให้เมื่อเร็วๆ นี้โพสต์ของเธอถูกชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดว่าเธอเป็นพวกเหยียดอย่างมากมาย   แม้แต่ปลาทองยังรู้เลยว่านี่มันคือการเหยียด   คุณต้องเป็นพวกที่ขี้เหยียดแน่ๆ หากคุณคิดว่าภาพนี้มันโอเคแล้ว ลบมันออกเถอะ…

ถือว่าเป็นประเด็นข่าวที่น่าสลดใจอย่างยิ่ง เมื่อการกระทำของผู้เป็นแม่กลับไม่สนใจลูกของตัวเองเลย หลังจากที่มีการเปิดเผยว่า ชีวิตในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์พร้อม ทำให้ชีวิตเด็กต้องสูญเสียไปด้วยเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง เรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยสื่อไต้หวัน เด็กชายวัย 2 ขวบจากไทเป ถูกพบเสียชีวิตอยู่ในบริเวณห้องน้ำ ภายในห้องเช่าที่อยู่ร่วมกับคุณแม่และสามีใหม่   นาง Lin   ทั้งนี้ ผู้เป็นแม่นั้นทราบสกุลคือนาง Lin กล่าวว่าก่อนหน้านี้เธออยู่ร่วมกับสามีเก่า ผู้เป็นพ่อของเด็ก ก่อนจะเลิกรากันจนมาได้งานใหม่ที่ไนท์คลับโรงแรมแห่งหนึ่ง เธอจึงย้ายมาอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ใกล้กับที่ทำงาน และได้พบรักกับสามีคนปัจจุบันนามว่า Xiao ผ่านทางโลกออนไลน์ จนตกลงปลงใจคบหากัน แต่ทว่านาย Xiao นั้นไม่มีงานทำ และมักจะมาอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับเธอเป็นประจำ   นาย Xiao   นาง Lin มีรายได้ประมาณ 42,900 บาทต่อเดือน (40,000 ดอลลาร์ไต้หวัน) และด้วยการที่สามีใหม่ของเธอตกงาน เธอก็มักจะหมดเงินไปกับการเที่ยวเตร็ดเตร่กับสามีใหม่ โดยไม่สนใจเลี้ยงดูลูกวัย 2 ขวบอย่างที่ควรทำ จนกระทั่งในคืนวันที่ 9 พฤศจิกายน 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีเด็กเสียชีวิต และพบศพของเด็กชายวัย 2 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของนาง…

นี่คือเรื่องราวอันน่าสลดที่เกิดขึ้นกับคู่รักที่แต่งงานอยู่กินด้วยกันมานานกว่า 40 ปี ก่อนที่สามีจะเป็นคนจบความสัมพันธ์ทั้งหมดลงด้วยการสังหารภรรยา ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอ “ปฏิเสธที่จะมีเซ็กส์” กับเขา ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2018 สำนักข่าวท้องถิ่นในประเทศอินโดนีเซียได้รายงานถึงเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นโดยฝีมือของคุณปู่วัย 80 ปีที่ชื่อว่า Andi Soto   Soto คุณปู่วัย 80 ปี   Soto แต่งงานและอยู่กินกับภรรยาวัย 60 ปีมาอย่างยาวนาน ก่อนที่จะหย่าร้างกันไปในช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้ และกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง จนกระทั่งในช่วงดึกของวันหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในบ้านของคู่สามีภรรยาดังกล่าว และเมื่อเข้าไปตรวจสอบจึงพบว่า Soto เป็นคนลงมือสังหารภรรยาด้วยตัวเอง     คุณปู่ให้การสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ภรรยาของเขานอนหลับไปในระหว่างที่ตนเองกำลังสวดมนต์อยู่ จนเมื่อเธอตื่นขึ้นมา เขาก็พูดคุยและบอกว่าต้องการจะมีเพศสัมพันธ์กับเธอ แต่ทางฝั่งภรรยาตอบปฏิเสธ และนั่นจึงกลายเป็นเหตุที่ทำให้เขาหยิบมีดขึ้นมาปาดคอเธอในทันที   ลักษณะของมีดที่เขาใช้ในการสังหาร   ทางด้านลูกชายของเขาก็ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนหน้านี้ Soto ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพราะมองเห็น “ภาพหลอน” และอคติต่อคนรอบข้าง จนแม้แต่คนในครอบครัวเองก็ยังหวาดกลัวเขา แต่ถึงอย่างนั้น ลูกชายก็ยืนยันว่าในช่วงที่เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น…

เป็นประจำกันทุกครั้ง ไม่ว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหนก็แล้วแต่ มักจะมีบุคคลในพื้นที่ท่องเที่ยวบริเวณนั้น ตระเวนเดินมาทักทาย เพื่อขายของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคุณ ในราคาที่แบบว่าตื๊อแล้วตื๊ออีก ลดแลกแจกแถม จะซื้อไม่ซื้อก็ขึ้นอยู่กับความใจอ่อนแล้วล่ะ… และกลายเป็นคลิปที่ถูกแชร์กระหน่ำมากที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ กับทักษะทางด้านภาษาของเด็กชายชาวกัมพูชา ที่มาพูดกับนักท่องเที่ยวรายหนึ่ง พูดจาทักทายร่ายยาวกันได้มากถึง 10 ภาษา แถมยังคล่องทุกวาจาไม่มีผิดเพี้ยน     เด็กทั้ง 2 คนจากประเทศกัมพูชา ได้พบกับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียนามว่า Venus Gwc ซึ่งเธอได้อัดคลิประหว่างที่น้องมาพูดหว่านล้อมให้ซื้อของในเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา     “ฉันเจอกับเด็กทั้ง 2 คนนี้ ที่บริเวณปราสาทตาพรหม ในนครวัด เด็กคนแรกชื่อ Lisa เธออายุเพียงแค่ 7 ขวบ มายืนขายขลุ่ยด้วยตัวเอง ฉันได้เข้าไปหาเธอ แล้วเธอก็บอกกับฉันว่าเธอสามารถร้องเพลงแมวที่กำลังดังใน Tik Tok ได้ พวกเรามีความสนุกสนานพร้อมกับอัดคลิปไปด้วย”   โชว์ร้องเพลงของน้อง Lisa   “แต่อีกสิ่งที่ทำให้ฉันอึ้งมากๆ ก็คือ เด็กชายคนนี้ เขามีความสามารถสูงมาก เขาพูดได้มากกว่า…

เราอาจจะเคยเห็นข่าวว่ามีคนข้ามเวลามาจากในอดีตบ้างในอนาคตบ้าง แต่ว่ามีเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่แปลกกว่านั้น เพราะเขาอ้างว่าตัวเองข้ามมาจากดาวอังคาร และการกล่าวอ้างนี้ก็มีอาจารย์มหาวิทยาลัยเชื่อด้วย!!   Boris Kipriyanovich ผู้มาจากดาวอังคาร   Boris Kipriyanovich หนุ่มวัยรุ่นผู้เกิดในปี 1996 (ปัจจุบันอายุ 22 ปี) ชาวรัสเซียเจ้าของฉายา ‘Indigo Boy’ เคยสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับวงการแพทย์ เมื่อเขาสามารถอ่าน เขียนและวาดภาพต่างๆ ได้ตั้งแต่มีอายุเพียงแค่ 2 ขวบ มากไปกว่านั้นในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่เขาเกิด เขาก็สามารถชันคอได้ด้วยตัวเอง!! ส่วนทางด้านพ่อแม่ของเขาก็กล่าวถึงความมหัศจรรย์เขาคนนี้ว่า เพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่ Boris กำเนิดขึ้นมา เขาก็สามารถ ‘พูดได้’ ทั้งยังมักจะพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่พวกเขาไม่เคยสอนอย่างเช่นเรื่องอารยธรรมของเอเลี่ยน เป็นต้น     สักขีพยานในความเหนือธรรมชาติของวัยรุ่นคนนี้ไม่ได้มีเพียงพ่อแม่ของเขาเท่านั้น เพราะยังมี Gennady Belimov อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองวอลโกกราด ของประเทศรัสเซียด้วย Gennady กล่าวว่าเมื่อครั้งที่ Boris มีอายุ ได้ 7 ขวบ ทั้งคู่มีโอกาสได้เข้าร่วมแคมป์ปิงทริปด้วยกัน ซึ่งในตอนนั้นเด็กชายคนนี้ได้เล่าเรื่องถึง ‘การใช้ชีวิตในอดีตของเขาในดาวอังคารและดาวในทวีปรีมูเลีย (ทวีปที่สูญหายไปแล้ว)’ อย่างคล่องแคล่วไม่มีติดขัดจนทำให้ผู้ใหญ่หลายคนเคลิบเคลิ้ม รวมทั้งเขายังได้ทำเผยคำเตือนว่าจะเกิดหายนะครั้งใหญ่ขึ้นบนโลกในปี…

เพื่อนๆ เคยคิดกันหรือไม่ว่าหากโลกนี้มีคนที่คิดจะทำความดีอยู่ตลอดเวลา สังคมของเราคงจะน่าอยู่ขึ้นอีกมาก วันนี้เราก็เลยจะนำเรื่องราวของการทำความดีมาให้ได้ชมกัน เมื่อชายไร้บ้านคนหนึ่งได้เข็นรถเข็นเข้าจี้หาคนร้ายมีอาวุธเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและควบคุมสถานการณ์      ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุก่อการร้ายขึ้นในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อคนร้ายขับรถพุ่งชนตึกบนถนน Bourke และได้นำอาวุธมีดลงมาไล่ทำร้ายผู้อยู่ในเหตุการณ์ หลังจากเกิดเหตุไม่นานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามาควบคุมเหตุการณ์และพยายามจะจับกุมคนร้าย และระหว่างที่คนร้ายกับตำรวจกำลังต่อสู้กันอยู่นั้นก็มีพลเมืองดีคนหนึ่งเข็นรถเข็นสินค้าพุ่งเข้าใส่คนร้ายเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่     ซึ่งคนคนนั้นคือชายไร้บ้านชื่อว่า Michael Rogers หรือที่ตอนนี้ในโซเชียลมีเดียรู้จักกันในนาม “Trolley Man” หลังจากที่ข่าวการกระทำของ Michael ถูกเผยแพร่ไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความชื่นชมเขาอย่างมากมาย   เอารางวัลชาวออสเตรเลียยอดเยี่ยมแห่งปีให้ Trolley Man ไปเลย #TrolleyMan for Australian Of The Year! https://t.co/FDGjeSLHCi — 51 is the new 21! 🇦🇺❤️🖤 (@kyliebox20_) November 10, 2018  …

ใครมันจะไปคิดล่ะว่า ของกินที่เห็นกันเป็นประจำ ตามซุ้มกาแฟในตลาดแถวบ้าน จะกลายมาเป็นเครื่องประดับที่สร้างมูลค่ากุ๊กกิ๊กเก๋ไก๋ได้เช่นนี้ เชื่อเลยว่าหลายคนต้องผ่านกันมาบ้าง กับน้ำถุงมัดหนังยาง 5 บาท 10 บาท อะไรก็ว่ากันไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม น้ำชงน้ำชา นมยงนมเย็น ก็เคยเทใส่ถุงพลาสติกจุ่มหลอดดูดกันมาแล้ว…     หากว่าคุณคิดถึงมันมาก แบบว่าไม่ยากจะให้มันหายไปไหน ศิลปินนาม BMYTA . 北冥有獭 ชาวมาเลเซียก็จัดให้ จากบรรจุภัณฑ์น้ำถุงมัดหนังยาง กลายร่างมาเป็นบรรดาเครื่องประดับเก๋ๆ เช่นนี้   จากที่เห็นตัวอย่างนี้ ไลน์เครื่องประดับน้ำถุงก็มีทั้งต่างหู เหน็บหู พวงกุญแจ และตัวถุงเปล่าๆ ใน 16 สไตล์เครื่องดื่ม!!   สำหรับราคาต่อชิ้นจะตกอยู่ที่ประมาณ 18 ริงกิต (142 บาท) ซื้อคู่จะได้ราคาที่ 30 ริงกิต (237 บาท)   น่าร๊ากกกกกก . .   แต่น่าเสียดายหน่อย ใครอยากจะสั่งซื้อตอนนี้ ไม่ทันแล้วล่ะ…

กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันอยู่ในโลกโซเชียลของต่างประเทศอยู่ ณ ขณะนี้เลย กับกรณีของหญิงสาวถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าไปยังพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ของประเทศฝรั่งเศส!? Newsha Syeh หญิงสาวจากออสเตรเลียวัย 25 ปี ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์สั่งห้ามไม่ให้เข้าไปในพิพิธภัณฑ์เพราะ ‘การแต่งกายของเธอไม่เหมาะสม’   ชุดที่เธอสวมไปในวันนั้น   เธอได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ไปโพสต์ลงอินสตาแกรมว่า “เมื่อวานนี้ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ฉันถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกักตัวไว้ที่ทางเข้า เพราะเสื้อผ้าของฉัน” “เขาทำหน้าตาที่แสดงให้เห็นถึงความรังเกียจ พร้อมกับจองมาที่ฉัน ก่อนจะก่นด่าฉันบอกว่าให้ปิดมันซะ แล้วก็ไม่ให้ฉันเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์” “ฉันรู้สึกเสียใจมากๆ เพราะไม่คิดว่าที่พิพิธภัณฑ์จะมีการบังคับใช้กฎที่โบราณคร่ำครึขนาดนี้”     อย่างไรก็ตามในเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ก็ระบุเอาไว้ว่า “ผู้เข้าเยี่ยมชมจะต้องแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมต่อเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์และผู้เข้าชมคนอื่นๆ และห้ามแต่งกายด้วยชุดว่ายน้ำ โป๊เปลือย เดินเท้าเปล่า หรือการเปลือยอก” แต่ทางด้าน Syeh เองก็เคยมาเยี่ยมชมที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มาก่อนซึ่งตอนนั้นก็สวมเสื้อผ้าแบบนี้แต่ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น “มันจะต้องเป็นเรื่องของอคติส่วนบุคคลอย่างแน่นอน” Syeh กล่าว   Picasso จะต้องชอบชุดของฉันแน่ๆ   อย่างไรก็ตามชาวเน็ตต่างก็คอมเมนต์กันไปต่างๆ นานาว่าเสื้อผ้าที่เธอสวมมาน่ะ มันไม่เหมาะสมจริงๆ   “เธอควรจะให้เกียรติกับพนักงานและผู้เข้าชมคนอื่นๆ หน่อยนะ โอ้พระเจ้า ให้ตายเถอะ เด็กๆ เองก็ไปที่นั่นเหมือนกันนะ ไม่มีใครอยากจะเห็นคนสวมชุดราวกับว่าเป็นหญิงขายตัวข้างถนนหรอก”   “ชุดนี้น่ะไม่เหมาะสมจริงๆ 100%…

โดยปกติแล้วการหย่านมของลูกนั้นจะอยู่ประมาณ 1 ขวบ หรือ 2 ขวบ ซึ่งก็แล้วแต่คุณแม่แต่ละคนว่าจะมีวิธีการจัดการอย่างไร แต่เชื่อว่าไม่เกินนี้อย่างแน่นอน หรือถ้าเกินก็ไม่มากนักอาจจะ เป็น 3 ปี หรือ 4 ปี เป็นต้น แต่สำหรับคุณแม่จากเมืองยอร์กเชอร์ ประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเปิดเผยว่าเธอเพิ่งจะหย่านมลูกสาวตอนอายุ 9 ขวบ หรือให้ลูกสาวกินนมจากเต้ามาเป็นระยะเวลานานถึง 9 ปี ด้วยกัน!! Sharon Spink คุณแม่ลูกสี่ วัย 50 ปี ได้ออกมาเปิดเผยว่าเธอเพิ่งจะหย่านมลูกสาววัย 9 ขวบของเธอไปเมื่อ 2 เดือนก่อนนี้เอง     จากการกระทำดังกล่าวสร้างเสียงวิจารณ์ขึ้นในโลกโซเชียลมากมาย ระบุว่าเธอล่วงละเมิดเด็ก พร้อมกับเรียกเธอว่า ‘นังคนชอบร่วมเพศกับเด็ก’ แต่เธอก็ออกมาตอบโต้ว่าที่ทำไปนั้นก็เพื่อลูกของเธอทั้งนั้น เพราะการทำแบบนั้นมันทำให้ลูกสาวของเธอรู้สึกสบายใจ และปลอดภัย พร้อมทั้งยังเปิดเผยว่ามีแม่อีกหลายคนที่ทำแบบนี้ และสุดท้ายมันเป็นการตัดสินใจของตัวลูกเอง     “มันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับลูก ที่มีความสามารถในการควบคุมอะไรก็ได้ตามที่เธอต้องการ ดีกว่าที่เราจะไปบังคับพวกเขาจนทำให้เกิดปัญหา” คุณแม่ Sharon กล่าว…

เรื่องราวของฆาตกรฆ่าข่มขืนเด็กที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่การชดใช้กรรมของเขามันยังไม่จบอยู่แค่นั้น เพราะเขาต้องต่อสู้เอาชีวิตรอดจากการลอบทำร้ายมาโดยตลอดตั้งแต่เข้าไปอยู่ในนั้น นาย Roy Whiting วัย 59 ปี เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาฆาตกรรมและกระทำชำเราเด็กหญิงวัย 8 ขวบ Sarah Payne ที่เรือนจำ Wakefield Prison ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองยอร์กเชอร์ ประเทศอังกฤษ     ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมามีรายงานว่านาย Roy ถูกรุมแทงโดยผู้ต้องขังในคดีฆาตกรรมถึงสองคน จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด จากรายงานของเว็บไซต์ Mirror ระบุว่านาย Roy นอนจมอยู่กับกองเลือด และถูกพาไปรักษาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ทั่วร่างกายของเขามีบาดแผลถูกของมีคมแทง แม้ในตอนแรกเจ้าหน้าที่กลัวว่าเขาจะไม่รอดจากการสูญเสียเลือดเป็นจำนวนมาก แต่ในที่สุดเขาก็รอดมาได้และถูกส่งตัวกลับไปยังเรือนจำ   หนูน้อย Sarah Payne   ทางด้านโฆษกของเรือนจำ Wakefield ได้ออกมายืนยันว่าเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าวเกิดขึ้นในเรือนจำเมื่อช่วงค่ำของวันพฤหัสบดี และตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าตั้งแต่ที่นาย Roy เข้ามาอยู่ในคุกครั้งแรกในปี 2001 มีการตั้งค่าหัวของเขาเอาไว้ ทำให้มีการลอบทำร้ายนักโทษคนนี้อยู่หลายครั้ง     ครั้งแรกในปี 2002 เขาถูกนาย Rickie Tregaskis ที่เป็นนักโทษทำร้ายด้วยการใช้มีดโกน…

สำหรับผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีต่างๆ ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องหาหลักฐานมาปกป้องตัวเองให้รอดพ้นจากการตกเป็นจำเลย ไม่ว่าจะเป็นพยาน หรือว่าหลักฐานอื่นๆ แต่ว่ามีเรื่องแปลกๆ เรื่องหนึ่งเกิดขึ้นในประเทศซิมบับเว เมื่อชายผู้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าข่มขืนลูกเลี้ยง ปกป้องตัวเองด้วยการอ้างกับศาลว่า อวัยวะเพศของตนมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่ก่ออาชญากรรมที่ถูกกล่าวหาได้!!     เรื่องมีอยู่ว่าชายวัย 49 ปีชื่อว่า Biggie Dube ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการก่อคดีข่มขืนลูกเลี้ยงสาววัยรุ่นวัย 12 ปี ตามการรายงานของหนังสือพิมพ์ The New Zimbabwe กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุชายคนดังกล่าวได้เอ่ยปากชวนลูกเลี้ยงให้ไปเป็นเพื่อนบริเวณใกล้ๆ ภูเขาเพื่อจะหาไม้มาทำรั้ว แต่ว่าเมื่อถึงที่เกิดเหตุเขาก็ได้สั่งให้เธอถอดเสื้อผ้าออกจนหมด จากนั้นก็ลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง     ทว่าในเวลาต่อมาเขาได้ปฏิเสธข้อหาดังกล่าวกับทางชั้นศาลของจังหวัดมาสวิงโก โดยบอกว่าอวัยวะเพศของเขามีขนาดที่ใหญ่เกินกว่าที่จะข่มขืนลูกเลี้ยงวัย 12 ปีคนนี้ได้ เพื่อเป็นการยืนยันถึงความบริสุทธิ์ในครั้งนี้เขาได้ขอให้ผู้พิพากษาหญิง Dambudzo Malunga มาดูอวัยวะเพศของเขาให้เห็นกับตาว่ามันเป็นเช่นไร และยืนกรานด้วยว่า ‘อวัยวะเพศ’ ขนาดใหญ่ผิดปกตินี้ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เขารอดพ้นจากข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างแน่นอน     อย่างไรก็ตามผู้พิพากษา Malunga ได้ปฏิเสธคำขอของชายคนนี้ และส่งตัวเขาไปคุมขังจนถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการสืบสวนอีกครั้ง ก่อนหน้าที่จะเริ่มการไต่สวนในชั้นศาลนี้ อัยการ Edwin Mbavarira ได้รายงานกับชั้นศาลว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Gonyora ที่พวกเขาอาศัยอยู่ในเดือนเมษายนและต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ก่อนที่เด็กผู้ตกเป็นเหยื่อจะบอกเรื่องนี้กับผู้เป็นแม่ และนำไปสู่การจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่สุด… โดยในขณะนี้ลูกเลี้ยงผู้ตกเป็นเหยื่อได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลท้องถิ่นแล้ว และผลการตรวจจะนำมาประกอบผลการตัดสินในชั้นศาลต่อไป…

เรื่องของความมึนเมาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จากสาเหตุหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นก็คือการใช้สารเสพติด – ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้ก็มีสิ่งมึนเมาชนิดใหม่เกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย และกำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นที่อยากเก็ตไฮแต่มีเงินไม่มากนัก นั่นคือน้ำต้มจากผ้าอนามัย!!     ในเรื่องนี้ Sitty Hikmawatty สมาชิกของคณะกรรมการปกป้องเด็กแห่งประเทศอินโดนีเซีย (KPAI) ได้ออกมากล่าวว่า ในตอนนี้ได้มีวิธีใหม่เกิดขึ้นสำหรับวัยรุ่นที่อยากจะมอมเมาตัวเอง แต่ว่ามีเงินไม่มากพอที่จะซื้อยาเสพติดหรือว่าสุรา นั่นคือการนำ ‘ผ้าอนามัย’ ที่ผู้หญิงไว้ใช้เวลาที่มีประจำเดือนไปต้ม แล้วดื่มน้ำจากมันแทน   Sitty สมาชิกของคณะกรรมการปกป้องเด็กแห่งประเทศอินโดนีเซีย   Sitty กล่าวว่าในปัจจุบันเด็กๆ มีความคิดที่กว้างขึ้นกว่าในอดีตมาก และส่วนหนึ่งก็มาจากการสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ จึงทำให้พวกเขาสามารถค้นหาสิ่งต่างๆ ได้อย่างมากมาย ซึ่งทั้งนี้นำไปสู่การลองสิ่งใหม่ๆ และเพิ่มตัวแปรอื่นๆ เข้าไปใน ‘สารเสพติด’ เพื่อให้มันมีประสิทธิภาพความมึนเมามากขึ้นด้วย แต่ก็แน่นอนว่าการทดลองดังกล่าวแฝงไปด้วยความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายอย่างแน่นอน     ทางด้านนาย Yessi Permana นักวิจัยด้านเคมีของสถาบัน Bandung Institute of Technology กล่าวว่า โพลิเมอร์ที่สามารถดูดซับของเหลวที่อยู่ในผ้าอนามัยหรือที่รู้จักกันในนาม Superabsorbent polymers (SAP) จะสามารถส่งผลกระทบต่อดวงตาได้ โดยเฉพาะการนำไปต้มและบริโภคอย่างที่วัยรุ่นทำกันอยู่     ในตอนนี้มีรายงานว่ากรณีของการดื่มน้ำจากผ้าอนามัยต้ม เกิดขึ้นแล้วหลายแห่งในประเทศอินโดนีเซียทั้งในกรุงจาการ์ตา เมืองโบโกร์ เมืองเบกาซี เมืองเดปก และเมืองทังเกอรัง…

ใครเล่าจะคิดว่าผู้ก่ออาชญากรรมที่ถูกจับเข้าคุกไปแล้ว จะได้ไปใช้ชีวิตอย่างเสวยสุขสุดสบาย ย่างบาร์บีคิว กินปูยักษ์อยู่ในคุกซะอย่างนั้น!? นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศรัสเซีย มีการแชร์ภาพของสมาชิกแก๊งอาชญากรรายหนึ่งนามว่านาย Vyacheslav Tsepovyaz ที่ถูกตัดสินจำคุก 20 ปี ไปเมื่อปี 2013 ในข้อหาฆ่าคนตาย 12 คน ในนั้นประกอบไปด้วยเด็กถึง 4 คนด้วยกัน นอกจากนี้จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมก็พบว่า เขาเคยมีคดีฆ่าคนตายติดตัวมาแล้วมากมาย ตั้งแต่ปี 1998 ถึง 2010     แต่หลังจากที่ถูกจับเข้าคุกไปแล้ว แทนที่จะได้ไปชดใช้กรรมกับสิ่งเลวร้ายที่ตัวเองได้ลงมือทำ แต่กลายเป็นว่ามีภาพหลุดออกมาให้เห็นว่าชีวิตในคุกของพี่แกนั้นช่างสุขสบายเสียเหลือเกิน!!   ทั้งย่างบาร์บีคิว กินปูยักษ์ และไข่ปลาคาร์เวีย   อย่างไรก็ตามทางด้าน Federal Prison Service หรือทัณฑสถานแห่งรัสเซียประจำเขต Amur ซึ่งเป็นเรือนจำที่นักโทษคนนี้ถูกขังอยู่ได้ออกมาอธิบายว่าภาพดังกล่าวนั้นถูกถ่ายไว้ตั้งแต่ปี 2015 แล้ว     และขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็กำลังตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่ว่าจริงแท้แค่ไหน หรือมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่     พร้อมกับยืนยันว่าขณะนี้นาย Vyacheslav กำลังถูกกักขังอยู่ในสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้ายมากที่สุด เท่าที่คุณจะไม่สามารถจินตนาการได้เลยล่ะ!!   ที่มา…

เป็นอีกหนึ่งข่าวจากประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้ทราบได้ว่าประชากรภายในประเทศมีบุคคลที่ประสบกับโรคติดบ้าน หรือโรคฮิกิโกะโมะริ เป็นจำนวนมาก ฮิกิโกะโมะริ เป็นอาการกลัวสังคมภายนอกอย่างจริงจัง และตัดขาดจากสังคมมาอยู่ในบ้าน ปิดเงียบเชียบไม่ออกไปไหนเลย…     ข่าวล่าสุดนี้ เกิดขึ้นภายในเขตคานาซาวา เมืองโยโกฮามะ จังหวะคานางาวะ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมชายวัย 49 ปี จากการปล่อยให้ร่างอันไร้วิญญาณของมารดา ย่อยสลายอยู่ภายในบ้าน โดยไม่ยอมแจ้งเจ้าหน้าที่และใช้ชีวิตอยู่ตามปกติ     ทั้งนี้ เขาเป็นหนึ่งในบุคคลจำนวนกว่าครึ่งล้าน จากจำนวนประชากรที่ประสบกับโรคฮิกิโกะโมะริในประเทศญี่ปุ่น โดยส่วนมากแล้วจะไม่ยอมออกไปไหน ใช้ชีวิตอย่างเงียบเชียบภายในบ้านตัวเอง และจะได้รับการส่งข้าวส่งน้ำโดยญาติพี่น้อง หรือพ่อแม่คอยดูแล     ทว่าในคดีดังกล่าว คุณแม่วัย 76 ปี ได้เสียชีวิตลงในช่วงกลางเดือนตุลาคมภายในบ้าน ที่มีลูกชายคนโตคนนี้อยู่ร่วมอาศัยด้วย จนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน หลังจากที่เธอเสียชีวิต ลูกสาววัย 45 ปีก็ได้เดินทางมาเยี่ยมเยียนคุณแม่ แต่ทว่ากลับพบแต่พี่ชายของตนมาต้อนรับเพียงคนเดียว     ด้านลูกสาวจึงได้พบกับความจริงว่า พี่ชายของเธอนำศพของคุณแม่ไปไว้ในห้องนอน หลังจากเธอล้มพับจากอาการป่วย และเสียชีวิตภายในห้องครัวเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ลูกชายคนโตจึงถูกจับในวันถัดมาด้วยข้อหา “ละทิ้งศพ” จากการไม่ยอมจัดการร่างของคุณแม่ ให้เป็นไปตามความเหมาะสม……

TikTok กลายมาเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก ด้วยตัวเลขผู้ใช้งานเดือนละ 500 ล้านคน จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของผู้ใช้งานทั้งในฝั่งเอเชีย เริ่มจากจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น แล้วก็ขยายไปยังฝั่งอเมริกาแล้ว     จาก “มีแฟนยัง” มาถึง “มียูยัง” แอพพลิเคชั่น TikTok เปิดโอกาสให้เหล่าผู้ใช้ได้ครีเอทวิดีโอสั้นในรูปแบบของตนเอง ผ่านการลิปซิงค์บทเพลงในกระแสต่างๆ ล่าสุดทาง วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จึงร่วมมือกับ TikTok สร้างแคมเปญนี้ขึ้นมา โดยการนำเพลง “มีแฟนยัง” ซึ่งได้รับความนิยมถึง 40 ล้านวิวบนยูทูบ มาแปลงเป็นเพลง “มียูยัง” เพื่อทำให้เหล่าคนรุ่นใหม่รู้จักสถานศึกษามากยิ่งขึ้น      “มียูยัง” เวอร์ชั่นนี้ยังได้ตัวน้อง Diamond ผู้โด่งดังจากรายการ The Rapper มาร่วมฟีเจอร์ริ่งอีกด้วย ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งเพลงกระแสแรงบน TikTok ในตอนนี้ เพื่อมาเชิญชวนน้องๆ ที่กำลังหาที่เรียนต่อ ให้ไปร่วมงาน CIBA Open House 2018 ที่ทางวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี​ (CIBA) จะจัดขึ้นในวันที่…

  เมื่อไม่นานมานี้เกิดเรื่องแปลกๆ ที่ทำให้ชายคนหนึ่งต้องตาย จากการฉีดซิลิโคนเข้าอวัยวะเพศ…   โดยเรื่องเศร้าที่ว่านี้เกิดขึ้นกับนาย Jack Chapman ชายชาวออสเตรเลียวัย 28 ปีที่อาศัยอยู่เมืองซีแอทเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ใช้ซิลิโคนฉีดเข้าไปในอวัยวะเพศของตัวเองจนมีขนาดใหญ่ยักษ์ พร้อมกันนี้รายงานระบุว่า Jack เป็นสมาชิกของกลุ่มเกย์ที่มีชื่อกลุ่มว่า BDSM ซึ่งมีนาย Dylan Hafertepen เป็นผู้ควบคุม   Jack Chapman ผู้เสียชีวิต   เขาเสียชีวิตลงไปในวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยสาเหตุที่ระบุไว้ในมรณบัตรว่า ‘เส้นเลือดอุดตันจากซิลิโคน’ ซึ่งผลของมันทำให้เกิดอาการเลือดออกในปอดร่วมด้วย การสูญเสียที่เกิดขึ้นทำให้ Linda Chapman ผู้เป็นแม่ของผู้เสียชีวิตออกมากล่าวโทษ Dylan บล็อกเกอร์เกย์ผู้โด่งดังในโลกออนไลน์   Jack กับนาย Dylan เจ้านายของเขา   เนื่องจากเธอไปพบว่ามีความสัมพันธ์ในรูปแบบ ‘สัญญาทาส’ (คนหนึ่งเป็นเจ้านาย – คนหนึ่งเป็นทาส) เกิดขึ้นระหว่างบล็อกเกอร์คนนี้กับลูกชายของเธอ ภายใต้สัญญาดังกล่าวระบุไว้ว่า Jack จะต้องมาใช้นามสกุลของ Dylan และมีการระบุเงินค่าจ้างในสัญญา รวมทั้งข้อกำหนดที่เขียนไว้ว่าจะต้องให้เขาใส่โซ่รอบคอด้วย ดั่งที่เห็นเขาลงภาพไว้ในโซเชียลหลายภาพด้วยกัน และนอกจากนี้ในสัญญายังระบุด้วยว่า Jack ได้ยอมให้…

ความซวยในระหว่างการเดินทางไปทำงาน มักจะมาหาเราได้ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทั้งรถเสีย รถติด ระบบขนส่งมวลชนพัง ปั่นจักรยานโดนเจาะยาง แม้แต่กระทั่งการเดินไปทำงาน ก็เจออุปสรรคได้เช่นกัน!! อภิมหาความซวยแบบไม่ทันตั้งตัวในครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเช้าในเมืองฟุกุโอกะ บริเวณสถานีรถไฟ Imajuku อันเป็นช่วงเวลาที่เหล่ามนุษย์เงินเดือน ต่างออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปทำงาน   https://twitter.com/Koki915N/status/1058963346915913728   คลิปดังกล่าวถูกบันทึกเอาไว้โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ @Koki915N เผยให้เห็นว่า ชายวัย 48 ปี มนุษย์เงินเดือนคนธรรมดา กำลังเดินมายังสถานีรถไฟด้วยท่าทีผ่อนคลายสดใสรับเช้าวันใหม่ เตรียมพร้อมลุยงานเต็มที่ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเงาตะคุ่มๆ พุ่งเข้ามาหาตัวเขาอย่างรวดเร็ว จนรู้ตัวอีกทีก็ร่วงลงไปนอนกองกับพื้นเรียบร้อยแล้ว…   เอื้ออออออออ!! มะ มะ หมูป่า!?   ชนทีแรกไม่พอ ยังจะซ้ำอีก…   ทั้งนี้ สถานี Imajuku นั้นตั้งอยู่ห่างจากภูเขาเพียง 1 กิโลเมตร ซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นหมูป่าที่พลัดหลงลงมาจากภูเขาในบริเวณใกล้เคียง และหลังจากที่น้องหมูป่าวิ่งชนใส่มนุษย์เงินเดือนรายนี้ มันก็หันกลับมาขวิดด้วยเขี้ยว และกัดเข้าที่บริเวณต้นขาซ้ายของเขาอีก…     โชคดีที่ มีรถยนต์ที่แล่นผ่านมาสองคัน หยุดจอดเพื่อบีบแตรไล่หมูป่า ทำให้เขาสามารถกลับมายืนตั้งหลักได้…

เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ คลิปวิดีโอ ‘คู่แม่ลูกหมี’ กำลังปีนขึ้นภูเขาหิมะ แต่แล้วจู่ๆ ลูกหมีน้อยก็ไหลร่วงลงมาจากภูเขา แต่ด้วยความพยายามมันก็ดิ้นรนจนในที่สุดก็ปีนขึ้นไปหาแม่จนได้ คลิปดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย เพียงแค่ชั่วข้ามคืนก็มียอดเข้าชมคลิปเป็นจำนวนหลายล้านครั้ง     มีการสอดแทรกคำคมหรือข้อคิดต่างๆ เข้าไปในคลิปนี้ว่าหากคุณมีความพยายามและไม่ยอมแพ้แบบลูกหมี สักวันหนึ่งก็จะประสบความสำเร็จ เป็นต้น   ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้กันก่อนครับ   แต่ล่าสุด นักชีววิทยานามว่าดอกเตอร์ Jacquelyn Gill ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงคลิปวิดีโอดังกล่าวว่ามันไม่ใช่เหตุการณ์ที่น่ารักแต่อย่างใด และความจริงที่เกิดขึ้นขณะถ่ายทำเหตุการณ์ดังกล่าวออกจะโหดร้ายไปเลยเสียด้วยซ้ำ!     คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกถ่ายเก็บไว้โดยการใช้ ‘โดรน’ จากพื้นที่ภูเขาในเขต Magadan ที่อยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศรัสเซีย ดอกเตอร์ Jacquelyn กล่าวว่า “วิดีโอลูกหมีพยายามไต่เขาที่เต็มไปด้วยหิมะอย่างยากลำบากเพื่อกลับไปหาแม่นั้นถูกแชร์ไปในฐานะคลิปที่ดูอบอุ่นใจ และสร้างแรงบันดาลใจ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องที่น่ารักแต่อย่างใด” “เพราะมันคือเรื่องที่อันตราย ที่เกิดขึ้นจากฝีมือของคนบังคับโดรนที่ไม่มีความรับผิดชอบ!”     “การรบกวนชีวิตสัตว์ป่าเพื่อถ่ายภาพหรือวิดีโอ ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง และไม่ควรเป็นแบบนั้น เราควรเคารพพวกเขาด้วยการมอบพื้นที่ให้กับพวกเขาได้อยู่อาศัยอย่างสงบสุข” “และไม่ควรแชร์โพสต์ที่ดูแล้วเห็นว่าสัตว์กำลังตกอยู่ในอันตราย เพียงเพราะบางคนอยากจะมีชื่อเสียงจากการแชร์คลิปเท่านั้นเอง”     “ในบางประเทศคุณจะต้องมีใบอนุญาตก่อนที่จะใช้โดรน หากโดรนที่คุณใช้มันไปรบกวนสัตว์ป่าก็อาจจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายได้ในบางประเทศ เพราะฉะนั้นเขาควรออกมารับผิดชอบอะไรบ้างนะ”  …

ว่าด้วยเรื่องของ Google Map ขอบอกเลยว่าบางครั้งก็อาจจะมีเรื่องราวแปลกๆ มาให้เราได้รับชมกันอยู่ตลอดเวลา และในครั้งนี้เองก็เช่นกัน เพราะจู่ๆ คุณพ่อท่านหนึ่งเกิดบังเอิญไปเจอ ‘เครื่องบินจมอยู่ในน้ำ’ ขณะกำลังใช้เจ้าเทคโนโลยีสุดล้ำนี้ค้นหาเส้นทางเพื่อช่วยเรื่องความสะดวกในการเดินทาง นาย Robert Morton วัย 55 ปี คุณพ่อลูกสาม ผู้ค้นพบเครื่องบินจมอยู่ใต้น้ำ ใกล้ๆ กับชายฝั่งของสก็อตแลนด์ ใกล้ๆ กับเมืองเอดินเบิร์ก     คุณพ่อ Robert อาศัยอยู่ในเมืองดองคัสเตอร์ เขตยอร์กเชอร์ ประเทศอังกฤษ เล่าว่า “ผมไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร หรือว่าเกิดอะไรขึ้น” “ผมแค่เปิด Google Earth ขึ้นมาดูเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แล้วจู่ๆ ก็เลื่อนผ่านอะไรสักอย่างที่ดูเหมือนกับเครื่องบิน แถมมันยังจมอยู่ใต้น้ำอีกด้วย!!” “มันแปลกจริงๆ แปลกมากๆ เลยด้วย เป็นอะไรที่เหลือเชื่อมากๆ เลยล่ะ ผมไม่เคยเห็นภาพของเครื่องบินใน Google Earth มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกเลย”     Robert ผู้ทำงานเป็นช่างซ่อมเครื่องจักรยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า “ผมจำได้ว่าไม่เคยได้ข่าวเกี่ยวกับเครื่องบินตกแถวๆ ชายฝั่งสก็อตแลนด์มาก่อนเลยนะ…

และนี่คือเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์อย่างแท้จริง!!   เมื่อหนุ่มออฟฟิศชาวญี่ปุ่นวัย 35 คนหนึ่งตัดสินใจแต่งงานกับ Hatsune Miku ที่เป็น Virtual Singer ที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า Virtual Singer นั้นคืออะไร จริงๆ แล้วเธอก็คือนักร้องนั่นแหละ เพียงแต่ว่าเปลี่ยนจากคนจริงๆ ให้กลายเป็นตัวการ์ตูน หรือตัวละครสมมติที่สร้างขึ้นมาโดยใช้ CG นั่นเอง!! และส่วนใหญ่ Virtual Singer ที่เรามักจะเห็นกันนั้นจะเป็นตัวการ์ตูนโมเอะๆ น่ารักๆ จึงไม่แปลกใจเลยที่จะมีแฟนๆ หนุ่มๆ คอยติดตามมากมาย แต่ใครเล่าจะคิดว่ามีหนุ่มคนหนึ่งจะจริงจังกับเธอจนถึงขั้นแต่งงาน!?     ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน นาย Akihiko Kondo หนุ่มออฟฟิศว่าที่เจ้าบ่าวถูกเจ้านายสาวบูลลี่ในที่ทำงาน ทำให้เขาฝังใจจนตัดสินใจลาออกจากงาน     ประสบการณ์อันเลวร้ายนั้นยังคงตามหลอกหลอนเขาไปทุกที่ และมันทำให้เขากลายเป็นคนที่มีปัญหาในการเข้าหาผู้หญิงมาโดยตลอด เขาเริ่มหมดหวังที่จะเริ่มต้นชีวิตกับ ‘ผู้หญิงในโลกนี้’     หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้มารู้จักกับ Hatsune Miku ที่เป็น Virtual Singer…

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า ‘ปัญญาประดิษฐ์’ (Artificial Intelligence: AI) เทคโนโลยีสุดล้ำที่มนุษย์เรากำลังพัฒนาขึ้นมาเพื่อสร้างประโยชน์จากการเรียนรู้ของมัน แต่ใครจะไปเชื่อว่าในตอนนี้ระบบปัญญาประดิษฐ์สามารถไปไกลเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด และมีผู้ประกาศข่าวที่เป็นระบบ AI คนแรกเกิดขึ้นบนโลกแล้ว!!   การเปิดตัวภายในงาน   ในเรื่องนี้สำนักข่าว China Xinhua News ได้ระบุว่าในวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ งานประชุมอินเทอร์เน็ตโลก (World Internet Conference) ครั้งที่ 5 ที่เมืองอูเจิ้น มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน สำนักข่าวซินหัวได้ประกาศเปิดตัวผู้ประกาศข่าวปัญญาประดิษฐ์หรือ AI คนแรกของโลกในงานดังกล่าว!! โดยผู้ประกาศข่าวคนนี้ยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ แต่ว่าเขาถูกพัฒนาขึ้นจากความร่วมมือของสำนักข่าวซินหัวกับ Sogou.com บริษัทเสิร์ชเอนจินชื่อดังของประเทศจีน   คลิปการอ่านข่าวของผู้ประกาศข่าว AI    ในรายงานระบุว่า AI ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาคนนี้ ได้เลียนเสียงและรูปลักษณ์ภายนอกมาจากผู้ประกาศข่าวของสำนักข่าวซินหัวชื่อว่านายจางจ้าว ซึ่งเขาคนนี้มีตัวตนอยู่จริงๆ โดยในวิดีโอจะเห็นได้ว่า ผู้ประกาศข่าวที่เราเห็นอยู่นี้มีรูปร่างเหมือนกับ ‘คน’ จริงๆ ทุกประการรวมทั้ง สีหน้า ท่าทางและยังมีการพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วร่วมด้วย  …

ในปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าวงการเพลงของประเทศเกาหลีใต้กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงมีหลายคนที่คิดจะสร้างวง K-Pop ขึ้นมาบ้าง แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าขนาดค่ายเกมอย่าง Riot Games ยังจับเอาตัวละครในเกม MOBA ชื่อดังอย่าง League of Legends หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ LoL มาตั้งเป็นเกิร์ลกรุ๊ป!!     โดยที่เกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่แห่งวงการเกมนี้ใช้ชื่อว่า K/DA มีสมาชิกเป็นตัวละครจากเกมคือ Kai’Sa, Akali, Evelynn และ Ahri แถมคราวนี้พวกเขาไม่ได้มาเล่นๆ เสียด้วยเพราะลงทุนจ้างนักร้องมืออาชีพอย่าง Cho Mi-Yeon กับ Jeon So-Yeon แห่งวงเกิร์ลกรุ๊ป (G)I-DLE มาพากย์เสียงให้ Ahri กับ Akali ในขณะเดียวกันก็ได้จ้างนักร้องฝั่งอเมริกาอย่าง Madison Beers และ Jaira Barns มาพากย์เสียง Evelynn กับ Kai’Sa   https://www.instagram.com/p/Bp0UKGwFgEP/?utm_source=ig_embed   นอกจากนี้วง K/DA ยังมีการทำเพลงจริงๆ และปล่อยออกมาให้เราได้ชมกันเมื่อวันที่…

คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าการนอนอาบน้ำใน ‘อ่างอาบน้ำ’ มันเป็นสิ่งที่น่าอภิรมย์ขนาดไหน ลองคิดภาพการนอนแช่น้ำอุ่นๆ ในวันที่อากาศช่างอันหนาวเหน็บดูสิ มันจะยอดเยี่ยมเพียงใด… แต่ใครจะไปคิดว่าการนอนแช่น้ำสบายๆ ที่ว่านี้จะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องเกือบสิ้นชีพ เพราะเธอติดอยู่ในอ่างอาบน้ำเป็นเวลาถึง 5 วันเต็มๆ!!     เรื่องราวสุดแสนจะแปลกประหลาดเรื่องนี้เกิดขึ้นที่รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อหญิงวัย 54 ปีชื่อว่า Alison Gibson ต้องกลายเป็นนักโทษอยู่ในอ่างอาบน้ำในบ้านของเธอเอง จากการที่เธอไปนอนอาบน้ำอย่างแสนสุข เธอกล่าวว่าในวันดังกล่าวเธอก็นอนอาบน้ำเป็นปกติเหมือนเช่นในทุกๆ วันที่ผ่านมา แต่ว่าเมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วก็พบว่าเธอไม่สามารถเอื้อมมือที่จะไปจับราวที่ใช้ดึงตัวเหมือนทุกๆ ครั้งได้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง   Alison กับการเล่าเรื่องราวนี้    Alison อธิบายเพิ่มเติมว่าไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ไม่ว่าเธอจะพยายามเท่าไหร่ก็ไม่สามารถที่จะเอามือไปแตะราวนั้นได้สักที เลยทำให้ในที่สุดแล้วเธอต้องติดอยู่ในนั้นอย่างจำยอม แต่ในความโชคร้ายที่เกิดขึ้นนี้ก็ยังมีความโชคร้ายยิ่งกว่า นั่นคือความที่เธอวางโทรศัพท์มือถือเอาไว้อีกห้องหนึ่ง จึงไม่สามารถที่จะโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากใครได้เลย     “ตอนที่ฉันนอนลงในอ่าง ฉันก็พบว่าตัวเองไม่สามารถกลับขึ้นมาได้อีกแล้ว เพราะในตอนนั้นราวจับมันอยู่ข้างหลังตัวฉัน แต่ฉันไม่สามารถที่จะพลิกตัวเองไปจับมันได้เหมือนกับทุกครั้ง ฉันก็งงๆ ว่าทำไมเหมือนกัน”  “ฉันเลยต้องนั่งอยู่ในนั้นตลอดเวลา ในตอนที่ฉันหนาวก็จะเปิดน้ำอุ่นแช่ตัวเอาไว้ ในเวลาที่หิวน้ำก็จะกินน้ำจากก็อกนี่แหละ และฉันก็หาวิธีที่จะหลุดพ้นจากคุกในอ่างนี้ให้ได้ในเวลานั้นด้วย” Alison กล่าว แต่จนแล้วจนเล่าเธอก็ไม่สามารถที่จะลุกตัวขึ้นมา หรือขอความช่วยเหลือจากใครก็ตามเป็นเวลาถึง 5 วันเต็มๆ…

* เนื้อหาข่าวต่อไปนี้ มีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน *   เกิดเป็นเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา กับเรื่องของการมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว นอกเหนือฉันสามีภรรยา จนนำไปสู่การสังหารโหด ในประเทศบราซิล กรณีนี้เกิดขึ้นกับนักธุรกิจชาวบราซิลที่ยอมรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุฆาตกรรมนักฟุตบอลชาวบราซิล และตัดส่วนของสงวนเหยื่อทิ้ง หลังจากที่จับได้ว่านักฟุตบอลรายนี้แอบไปขึ้นเตียงกับภรรยาของตน จากการได้รับเชิญมาร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดลูกสาว…   Daniel Correa Freitas   ศพของนาย Daniel Correa Freitas นักฟตุบอลจากสโมสร São Bento วัย 24 ปี ถูกพบหมกทิ้งไว้ในพุ่มไม้ ในเมืองซาโอ โจเซ่ ดอส ปินแอส์ รัฐปารานา ทางตอนใต้ของประเทศบราซิล เบื้องต้นพบว่า ก่อนที่จะเสียชีวิต เขาได้รับเชิญไปร่วมงานปาร์ตี้ฉลองวันเกิดครบ 18 ปี ของ Allana Brittes ลูกสาวของนักธุรกิจชื่อดัง Edison Brittes Junior     ภายหลังจากเกิดเหตุได้ 3 วัน…

สำหรับสาวๆ หลายคนแล้ว ‘การถูกฝ่ายชายขอแต่งงาน’ คงเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ใครๆ ต่างก็เฝ้ารอคอยมาโดยตลอด จู่ๆ ก็ถูกฝ่ายชายอันเป็นที่รักคุกเข่าลงต่อหน้า และยืนกล่องแหวนมาให้ พร้อมกับเอ่ยคำขอแต่งงาน คงเป็นความรู้สึกที่ประทับใจอย่างบอกไม่ถูก     แต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน…เช่นเดียวกันกับหญิงสาวคนนี้ ที่บังเอิญไปค้นเจอ ‘แหวนแต่งงาน’ ที่ซ่อนอยู่ในลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงของแฟนหนุ่ม ซึ่งเธอรู้แล้วล่ะว่าแฟนหนุ่มของเธอกำลังวางแผนที่จะใช้เจ้าแหวนวงนี้ขอแต่งงานกับเธอแน่ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าเธอไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ถ่ายภาพแหวนดังกล่าวไปโพสต์ลงในกลุ่มที่ชื่อว่า Ring Shaming ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังได้รับความสนใจในโลกอินเตอร์เน็ต เป็นสถานที่ที่เหล่าสาวๆ ทั้งหลายจะเข้ามาบ่น หรือแสดงความไม่พอใจ ความคับข้องใจ ในการกระทำอันโรแมนติกของเหล่าแฟนหนุ่มหรือสามี ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกอัดอัดและรำคาญใจ หญิงสาวคนดังกล่าวถ่ายรูปแหวนไปโพสต์ลงในกลุ่มนั้น พร้อมกับแคปชันว่า “อี๋วววววววว ในที่สุดเรื่องแย่ๆ ก็โผล่มาเจอกับฉันแล้วในวันศุกร์ ฉันพบสิ่งนี้ในลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงของแฟนหนุ่ม บอกเลยว่าฉันไม่ชอบมันมากๆ” “ขอคำด่าแรงๆ แล้วแนะนำฉันทีว่าควรทำอย่างไร จะบอกปฏิเสธอย่างไร ว่าเราต้องการอะไรที่มันแตกต่างจากนี้”   .   แต่กลับกลายเป็นว่าคนในกลุ่มไม่ได้เห็นด้วยกับเธอมากนัก   “ทัศนคติของเธอธรรมดาไป แหวนนี้อาจจะเหมาะกับเธอแล้วก็ได้”   “แม่เธอไม่สอนเหรอว่าควรจะเห็นคุณค่าของมันน่ะ”   “มันหยาบเกินไปฉันรับไม่ได้”   “หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะไม่ได้มีไว้ให้กับเธอนะ”   หลังจากนั้นไม่นานเรื่องราวนี้ก็ถูกเผยแพร่ไปยังเว็บไซต์ Reddit…

หากจะพูดถึงเจ้า ‘ไซบีเรียน ฮัสกี้’ เราก็คงจะนึกถึงหน้าหล่อๆ ขนปุยๆ กับความเอ๋อในแบบที่ว่าไม่มีใครเหมือนของมัน ซึ่งหากดูจากรวมๆ ทั้งหมดแล้วมันเป็นหนึ่งสายพันธุ์หมาที่น่ากอดน่าฟัดแบบสุดๆ ไปเลยจริงไหม ทว่าในบางครั้งนอกจากความเอ๋อที่มีอยู่อย่างเอ่อล้นในตัวแล้ว มันก็อาจจะมีความเป็นเพชฌฆาตแฝงอยู่ในตัวอยู่ไม่น้อยตามสัญชาตญาณนักล่าของมัน อย่างเช่นที่เจ้าฮัสกี้ตัวหนึ่งได้แสดงให้เห็นในเหตุการณ์นี้ ด้วยการฆ่าไก่ไป 600 ตัว!!   เล่นซะตายเรียบ   สื่อท้องถิ่นของประเทศจีนได้รายงานเรื่องนี้ว่า เมื่อเช้าวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าของฟาร์มไก่แห่งหนึ่งในมณฑลอานฮุยต้องถึงกับน้ำตาร่วง หลังจากที่เข้าไปในเล้าไก่แล้วพบว่าเหลือเพียงแต่เศษซากวิญญาณเพียงเท่านั้น   ตัวการในครั้งนี้   ในความคิดแรกของเจ้าของฟาร์มเมื่อเห็นความพังพินาศดังกล่าว เขาก็คิดว่าต้องเป็นฝีมือของใครสักคนหนึ่งที่เข้ามาฆ่าไก่ของเขาจนแทบจะหมดเล้าอย่างนี้ หรือไม่ก็ต้องเป็นสัตว์ป่าสักตัวหนึ่งเป็นแน่แท้ แต่แล้วความจริงทั้งหมดก็ปรากฏออกมาทันที ที่เจ้าของฟาร์มไก่เดินสำรวจหาร่องรอยบริเวณรอบๆ เล้า เพราะเขาได้เจอเข้ากับตัวการนั่นคือเจ้าหมาพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ตัวหนึ่ง โดยมีหลักฐานคาปากคาบซากไก่เอาไว้อยู่!!   เครื่องจักรสังหารชัดๆ   ทางเจ้าของฟาร์มได้ใช้โซ่ล่ามเจ้าเครื่องจักรสังหารตัวนี้เอาไว้ แล้วพาเดินไปยังบ้านของเพื่อนบ้านที่เป็นเจ้าของมัน เจ้าของฟาร์มบอกกับเจ้าของหมาว่าเขาต้องการค่าชดใช้สำหรับไก่กว่า 600 ตัวที่ต้องจากโลกนี้ไปจากฝีปากของเจ้าฮัสกี้ แต่ว่าในที่สุดแล้วทั้งสองก็ไม่สามารถตกลงกันได้อย่างลงตัว   หลักฐานคาปาก   ในท้ายที่สุดเรื่องนี้จึงถึงมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจากการประเมินความเสียหายทั้งหมดแล้วเจ้าหน้าที่ก็สั่งให้เจ้าของฮัสกี้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับฟาร์มไก่ไปเป็นเงิน 13,000 หยวน (ประมาณ 62,000 บาท)…

เวลาที่เราไปเที่ยวสวนสัตว์เราก็อาจจะสนุกสนานไปกับการได้เห็นสัตว์แปลกๆ ในอิริยาบถที่เราไม่เคยเห็นด้วยสายตาตัวเองมาก่อน และหนึ่งในสัตว์ที่หลายคนชื่นชอบดูก็อาจจะมีโคตรไอเขี้ยมหรือว่า ‘จระเข้’ อยู่ด้วย แต่ว่าเมื่อเร็วๆ มานี้ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดขึ้นมาก่อนเกิดขึ้นที่สวนสัตว์แห่งหนึ่ง เมื่อมีนักท่องเที่ยวขว้างหินไปใส่น้องจระเข้จนเลือดออกซิบๆ เพื่อจะพิสูจน์ว่าจระเข้ที่อยู่ในสวนสัตว์มันเป็นของจริงหรือของปลอม!!     เรื่องราวที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนี้เกิดขึ้นที่สวนสัตว์ China-Africa Wildlife Zoo เมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ในวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา น้องจระเข้ที่ตกเป็นเหยื่อมีชื่อว่า Xiao He จระเข้น้ำเค็มวัย 37 ปี ซึ่งบาดแผลที่เกิดขึ้นก็คือหัวแตกและแถวๆ เท้ามีเลือดไหลออกมาจากความแรงและความหนักของก้อนหินที่กลุ่มนักท่องเที่ยวปาใส่   คลิปการทำแผลของเจ้าจระเข้    โดยการเขวี้ยงหินใส่น้องจระเข้ตัวนี้ เกิดขึ้นจากความที่ว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวเห็นเจ้า Xiao He นอนนิ่งๆ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน จึงเกิดความสงสัยขึ้นมาว่ามันใช่จระเข้ตัวจริงๆ หรือว่าสวนสัตว์เอาตัวปลอมมาหลอกกันแน่ พวกเขาเลยระดมใช้หินช่วยกันปาใส่มันจนเกิดบาดแผลอย่างที่กล่าวเอาไว้…     “จระเข้ของเรามีเลือดไหลตั้งแต่ก่อนที่พวกเราจะเข้ามาถึงแล้ว แล้วเราก็เห็นก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆ เราต้องระบายน้ำออกแล้วเริ่มการรักษามัน มันอาจต้องใช้เวลาประมาณ 10 -15 วันเพื่อให้มันหายดี เราอาจต้องทำอะไรเพื่อปกป้องสัตว์มากขึ้น แต่ยังไงฉันก็คิดว่ามันควรเริ่มที่ตัวนักท่องเที่ยวก่อน”  Zhang Xiang ผู้ดูแลจระเข้ของสวนสัตว์กล่าว     ในตอนนี้จระเข้น้ำเค็มกำลังอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์และเจ้า Xiao He ก็ถูกสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นจระเข้น้ำเค็มที่มีตัวใหญ่ที่สุดในเอเชีย…

ย้อนกลับมาสู่คลาสเรียนในระดับมหาวิทยาลัยกันหน่อย หากใครที่เรียนจบจนห่างหายไปนานแล้ว คลาสนี้อาจจะช่วยให้คุณได้คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ถึงประเด็นทางด้านวัฒนธรรมและเชื้อชาติได้มากขึ้น โดยประเด็นในวันนี้มาในหัวข้อ ความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ ทำไมหนุ่มชาวเอเชียถึงได้ตกเป็นรองเสมอไป มีความยากในการสร้างความสัมพันธ์เชิงคู่รัก และมักจะกลายมาเป็นหนุ่มจืดในสังคมชาวตะวันตก…   Sam Richards   อาจารย์ Sam Richards จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตต เปิดสอนวิชา Sociology 119 เชื้อชาติและความสัมพันธ์ทางเชื้อชาติ ได้ออกมาตีประเด็นวิเคราะห์ในเรื่องนี้ พร้อมกับเหล่านักศึกษาที่ลงเรียนในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา   คลิปสั้นบางส่วนในคลาส SOC 119    คลิปดังกล่าว ถูกถ่ายเก็บเอาไว้ในวันที่ 4 กันยายน 2018 โดยเป็นการพูดถึงและวิเคราะห์มุมมองของชาวเอชีย จะส่งผลกระทบต่อความสำเร็จในการออกเดทของชายเอเชียด้วยหรือไม่   Chris ซ้าย Andy ขวา   ซึ่งหลังจากที่ขอตัวแทนนักศึกษาชาวเอเชีย ออกมาคู่กับนักศึกษาผิวขาว ที่มีความหล่อใกล้เคียงกัน อาจารย์ Richards ได้เปิดเผยว่า ชายเอเชียจะต้องมีรายได้เพิ่มถึง 247,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี เพื่อที่จะชนะชายผิวขาวให้ได้  …

สังคมแห่งการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ยังคงมีให้เห็นกันอยู่เสมอ อาจจะเป็นในรูปแบบที่แตกต่างกันไป และแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยก็ตามที เรื่องราวอบอุ่นหัวใจระหว่างลูกค้ากับเจ้าของร้านโดนัท ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ลูกค้าขาประจำสังเกตเห็นว่า คุณลุงเจ้าของร้านต้องมายืนขายโดนัทเพียงลำพัง จากแต่ก่อนที่มีภรรยาคอยขายอยู่ด้วย…   John Chhan   เจ้าของร้าน Donut City ร้านโดนัทเล็กๆ แห่งนี้ ก็คือคุณลุง John Chhan เขามักจะเปิดร้านและยืนขายโดนัทเคียงคู่กับภรรยา Stella มาตลอดกว่า 30 ปีแล้ว จนกระทั่งภรรยาของคุณลุง ประสบกับอาการสมองโป่งพอง ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา และจะต้องพักรักษาตัวในบ้านพักคนชรา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา   ร้าน Donut City ชุมชน Seal Beach รัฐแคลิฟอร์เนีย   หลังจากที่ลูกค้าสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ ไม่มีภรรยาของคุณลุงมายืนขายด้วย จึงสอบถามและได้ความว่าภรรยาของคุณลุงป่วย เหล่าลูกค้าขาประจำจึงช่วยกันกระจายข่าวออกไปในวงกว้าง โดยที่พวกเขาตั้งใจกันไว้ว่า จะช่วยกันอุดหนุนโดนัทจากคุณลุงทุกวัน ช่วยกันเหมาให้หมดเร็วๆ เพื่อที่คุณลุงจะได้ปิดร้าน และมีเวลาไปเยี่ยมและดูแลภรรยาที่ป่วยอยู่มากขึ้น     “พวกเขาจะมาซื้อประมาณ 12 หรือ…

สำหรับแฟนๆ การ์ตูนแล้วเราคงเคยเห็นตัวละครแนวเจ้าชายที่ไม่ว่าจะหน้าตา ผลการเรียน ความสามารถทางกีฬาและฐานะทางบ้านอยู่ในระดับสูงไปเสียหมดเป็นอย่างแน่นอน แต่ใครจะไปคิดว่าในชีวิตจริงก็มีคนที่ใกล้เคียงกับตัวละครแนวเจ้าชายแบบนี้… แถมยังเป็นผู้หญิงอีกด้วย!!     วันนี้เราก็ขอเชิญทุกๆ คนพบกับ Ogawa Kirara นักเรียนหญิงชาวญี่ปุ่นผู้เป็นถึงเอซชมรมเค็นโดแห่งโรงเรียนสตรี Kikuchi ประจำจังหวัดคุมาโมโตะ ด้วยหน้าตาที่ทั้งสวยและหล่อได้ในเวลาเดียวกัน แถมยังมีผิวขาวเนียน ผมสั้นและบวกกับความสูงที่ผู้ชายบางคนยังอายนั่นคือ 178 เซนติเมตร ทำให้เธอกลายเป็นเหมือน “เจ้าชาย” แห่งโรงเรียนสตรีเลยทีเดียว   .   แต่นอกจากจะหล่อสวยหุ่นดีแล้ว เรื่องความสามารถของเธอก็ไม่ใช่ย่อย จากที่เรากล่าวไปข้างต้น เธอเป็นถึงเอซแห่งชมรมเค็นโด เธอเริ่มเล่นเค็นโดมาตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบและในปี 2017 เธอก็สามารถคว้าแชมป์ระดับมัธยมมาครองได้สำเร็จ พร้อมกับสร้างเป้าหมายต่อไปคือการเป็นแชมป์ประเทศญี่ปุ่นให้ได้   .   หลังจากเรื่องของเธอถูกแชร์ลงในอินเตอร์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ผู้ชายบางคนก็เข้ามาบอกว่า “รู้สึกถึงความพ่ายแพ้…” หรือบางคนก็เข้ามาบอกว่า “ทั้งสวยทั้งหล่อเลยนะเนี่ย”      ทั้งหล่อ ทั้งสวย สูง หุ่นดี แถมยังมีความสามารถสุดยอดขนาดนี้ สมแล้วที่ถูกยกย่องให้เป็นเจ้าชายแห่งโรงเรียน อย่างกะหลุดออกมาจากในการ์ตูนเลย!!…

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นปี 2018 ทาง CatDumb ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับเด็กหนุ่มอดีตนักกีฬารักบี้ดาวรุ่ง Sam Ballard ในวัย 28 ปี กับชีวิตที่พลิกผันกลายมาเป็นอัมพาต จากความคึกคะนองถูกท้าจากเพื่อนให้กลืน ‘ทาก’ ลงไป…   ภาพของ Sam Ballard ในวัย 19 ปี   เหตุการณ์เริ่มต้นในปี 2010 เมื่อเขายังมีอายุได้เพียง 19 ปี ร่วมฉลองงานวันเกิดของเพื่อน ในระหว่างที่นั่งดื่มไวน์แดงกันนั้น หนึ่งในกลุ่มเพื่อนสังเกตเห็นทากตัวหนึ่ง กำลังเลื้อยผ่านบริเวณโต๊ะและลั่นวาจา ‘กินเข้าไปสิ ขอท้าเอ็งให้กิน!’ ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากจะให้พิสูจน์ความเจ๋ง ในเชิงท้ามาแล้วจะหยามกันไม่ได้ หากไม่ยอมทำตามคำท้า อาจจะถูกมองว่าไม่เจ๋งพอ     และ Sam ก็ไม่ปฏิเสธคำท้า เขาจับทากตัวนั้นกลืนลงไป ซึ่งภายหลังที่ Katie Ballard ผู้เป็นแม่ได้รับรู้ เธอรู้สึกว่าลูกเธอจะต้องไม่เป็นอะไร แต่แล้วความคิดของเธอกลับไม่เป็นไปตามนั้น…     Sam เริ่มมีอาการป่วยและถูกหามส่งโรงพยาบาล Royal North Shore…

นี่เป็นเรื่องราวของ “อดีตหญิงสาว” คนหนึ่งที่รู้สึกผิดหวังต่อการตัดสินใจของตัวเองเป็นอย่างมาก หลังจากที่เธอผ่าตัด “เปลี่ยนเพศสภาพ” ของตัวเองจากหญิงกลายเป็นชาย อดีตหญิงสาวคนดังกล่าวมีชื่อว่า Debbie Karemer เธอผู้ตัดสินใจเปลี่ยนเพศสภาพของตัวเองในวัย 44 ปี จนกลายมาเป็นชายหนุ่มที่ใช้ชื่อว่า Lee Harries   Debbie ที่ได้กลายมาเป็นชายหนุ่มที่ชื่อว่า Lee   การผ่าตัดของเธอนั้นคือการผ่าเอาหน้าอก มดลูก รังไข่ และท่อนำไข่ออก ก่อนที่แพทย์จะทำอวัยวะเพศชายเทียมให้กับเขา ปัจจุบันผ่านมากว่า 15 ปี Lee อายุ 60 เข้าไปแล้วและอาศัยอยู่กับ Alan สามีที่แต่งงานกันมาตั้งแต่ตอนที่เขายังเป็นผู้หญิงอยู่ ในเขตฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ   Alan สามีของเขา   หลังจากเป็นผู้ชายมานานหลายปี ล่าสุดเขาก็ได้ออกมาพูดตรงๆ ว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้นคือการตัดสินใจและความผิดพลาดที่ร้ายแรงเอามากๆ Lee บอกว่าเขาและสามีได้เข้ารับการปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญจนทำให้รู้ตัวว่าแท้จริงแล้วเขา “ไม่ต้องการเป็นผู้ชาย” เลย เหตุผลจริงๆ ของการตัดสินใจในครั้งนั้น มันมาจากอาการของ “ความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ” (PTSD) ที่เขาได้รับมาจากการที่พ่อของตัวเองเคยคุกคามทางเพศ ข่มขืนเขาในตอนที่ยังคงเป็นสาววัยรุ่น  …

ต้องยอมรับว่าการใส่สนีกเกอร์ เป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมในไทยเราตลอดมา เกือบ 70 ปีที่ Onitsuka Tiger ได้สั่งสมคุณภาพและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เกิดการบอกต่อ และมีแฟนคลับไปทั่วโลก ล่าสุดในปีนี้ ทางแบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น ก็ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ New York Pack ซึ่งก็กลายเป็นกระแส มีคนไปหาซื้อมาใส่กันอย่างล้นหลาม   เก้า สุภัสสรา กับรุ่น Tiger Ally https://www.instagram.com/p/BpZt0N2nglR/   คอลเลคชั่นนี้น่าสนใจยังไง?? New York Pack คือคอลเคลชั่นที่ผสมผสานระหว่างความคูลแบบโมเดิร์น เข้ากับความดิบแบบคลาสสิค ตามแบบฉบับของเมืองนิวยอร์ก ที่ผสมทั้งสองสิ่งนี้ไว้อย่างลงตัว โปรเจ็คท์นี้ควบคุมการผลิตโดย Andrea Pompilio ดีไซเนอร์ลูกครึ่งอิตาลี-ญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์ในการเรียนและใช้ชีวิต ทั้งในญี่ปุ่นและอิตาลี ซึ่งเขาก็คือคนสำคัญของการออกแบบ ที่นำศิลปะแบบตะวันออกและตะวันตก มารวมไว้ด้วยกันเป็นอย่างดี   https://www.instagram.com/p/Bpg5mJ_jPPC/   และนี่คือ 2 รุ่นเด็ด ที่กำลังฮิตกันทั่วไทย… Tiger Ally สนีกเกอร์พิมพ์ลายกราฟิกที่ใช้มหานครนิวยอร์กเป็นต้นแบบหลัก ภาพที่แสดงให้เห็นตึกสูงเสียดฟ้า อันเป็นสิ่งที่ทุกคนจะนึกถึงทันทีเมื่อพูดถึงชื่อเมืองนิวยอร์ก ถูกนำมาเป็นหนังหุ้มรองเท้าด้านข้างทั้งหมด นั่นทำให้รองเท้าดูโดดเด่นขึ้นมากว่ารุ่นธรรมดา…

ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าในประเทศอินเดียมีสิ่งที่เรียกว่า “วรรณะ” กำหนดสถานะบทบาททางสังคมตามหลักความเชื่อของศาสนาฮินดู และในบางครั้งก็อาจมีบางคนนำสิ่งนี้ไปใช้ในการกดขี่ผู้ที่อยู่ในชั้นวรรณะที่ต่ำกว่า เหมือนอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้กับเมือง Attur ประเทศอินเดีย   หมู่บ้านที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น   ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2018 ได้มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ของเด็กหญิงวัย 13 ปีที่ถูกตัดคอ หลังจากที่เธอไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์กับชายที่แก่กว่า และมีวรรณะสูงกว่าเธอ จากการรายงานบอกว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวถูกชายที่ชื่อว่า Dinesh Kumar ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของเธอ พยายามจะคุกคามทางเพศเธอหลายต่อหลายครั้ง   แม่ของเด็กหญิง   เมื่อเธอนำเรื่องดังกล่าวไปบอกกับมารดา ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีการช่วยเหลือเธอใดๆ โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะครอบครัวของเธออยู่ในชั้นวรรณะที่ต่ำกว่า จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ การพยายามคุกคามทางเพศก็ได้นำไปสู่การฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม หลังจากที่เด็กหญิงปฏิเสธที่จะมีเซ็กส์กับ Dinesh จนทำให้เขาเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก และได้ใช้เคียวตัดคอเด็กหญิงในทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ ในข้อหา “อาชญากรรมความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับชั้นวรรณะ” ซึ่งเป็นกฎหมายที่ถูกใช้มาตั้งแต่ปี 1989     อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า Denish นั้นมี “อาการทางจิต” ในตอนที่เขาฆาตกรรมเด็กหญิง ซึ่งทำให้เรื่องราวนี้ยังคงอยู่ในช่วงสืบสวนและจะพิจารณาโทษที่เขาได้รับต่อไป   ที่มา: thesun , dailymail

เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์อันน่าเศร้า ที่ถูกยกให้เป็น “หนึ่งในเรื่องที่ทำร้ายจิตใจและเศร้าที่สุดเท่าที่เคยเจอมา” เมื่อลูกชายวัย 15 ปีตัดสินใจฆ่าแม่ของตัวเอง อันมีผลมาจากความโกรธในการมีปากเสียงกันเรื่องผลคะแนนสอบ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในคืนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2018 ณ เมือง DeBury รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา Gregory Logan Ramos ลูกชายวัย 15 ปีเริ่มมีปากเสียงกับแม่ของเขาเกี่ยวกับเรื่อง “เกรด D” ที่เขาได้รับ   Gregory และแม่ของเขา   การทะเลาะกันในช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่ม นำไปสู่การฆาตกรรมที่เกิดจากความอารมณ์ชั่ววูบหลังจากนั้น Gregory เดินเข้าไปปลุก Gail Cleavenger คุณแม่วัย 46 ปีของเขาตอนช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ก่อนที่จะบีบคอของเธอจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิตไปในที่สุด     จากคำให้การของเด็กชายบอกว่าเขาใช้รถเข็นล้อเดียวเคลื่อนย้ายศพไปใส่รถตู้ โดยในตอนแรกเขาได้นำศพของเธอไปทิ้งไว้ที่เนินเขานอกเมือง ก่อนจะตัดสินใจกลับมาเอาพลั่วที่บ้าน เขาเลือกที่จะนำศพของเธอไปฝังไว้ที่ด้านในหลุมไฟของโบสถ์ River City Church ที่ห่างจากบ้านไปราวๆ 2.4 กิโลเมตร   โบสถ์ที่เด็กนำศพไปฝัง…

“เทศกาลฮาโลวีน” คือช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองในวันปล่อยผี แต่สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศสปีนี้ มันคือเหตุจลาจลอันแสนวุ่นวายและป่าเถื่อน ช่วงกลางดึกของวันที่ 31 ตุลาคม 2018 ช่วงเวลาที่หลายๆ คนกำลังสนุกไปกับเทศกาลฮาโลวีน ในกรุงปารีส และเมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส กลับเกิดเหตุจลาจลขึ้นมากลางถนนจนผู้คนต้องวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น   .   คลิปวิดีโอของสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นได้ถูกโพสต์ลงในโลกโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากก่อความไม่สงบกับผู้คนและร้านค้าตามท้องถนนของทั้ง 2 เมือง กลุ่มวัยรุ่นได้ทำการจุดไฟเผาถังขยะตามข้างทาง ขว้างปาข้าวของใส่กระจกของร้านค้าโดยรอบ เผารถ ทะเลาะวิวาทกันกลางถนน ยิงพลุใส่คนที่เดินผ่านไปมา ตำรวจจึงต้องเรียกกำลังเสริมเข้ามาควบคุมสถานการณ์ในทั้ง 2 พื้นที่   .   ในเมืองลียง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตายิงเข้าไปกลางกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุจำนวนหลายร้อยคน จนสามารถยุติสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ส่วนในเขต Seine-Saint-Denis ทางตอนเหนือของกรุงปารีส ผู้ก่อเหตุได้เข้าไปปล้นร้านสะดวกซื้อ ร้านเสื้อผ้ากีฬา อีกทั้งยังมีการโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยการเอาน้ำกรดสาด   คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 1 หากดูไม่ได้กดที่ลิงก์ Twitter https://twitter.com/djam____/status/1057688727550607366?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1057688727550607366&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.rt.com%2Fnews%2F442908-purge-riots-halloween-france%2F%3Ffbclid%3DIwAR2pz4jPdLL2yWr5FsrOyphpOHnuUwpgEuuiR_FEYnpwT3ELXsct3WAi3bo   คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 2 หากดูไม่ได้กดที่ลิงก์ Twitter Situation tendue actuellement…

อย่างที่รู้กันดีว่า ‘ราชวงศ์อังกฤษ’ ถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และทรงอิทธิพลมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แน่นอนว่าพวกเขาไม่ใช่ยอดมนุษย์แต่อย่างใด มีอารมณ์และความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกันกับมนุษย์ทั่วไป หากย้อนกลับไปตอนที่เจ้าชายแฮร์รี่ยังมีพระชนมายุได้ 12 ปี เจ้าหญิงไดอาน่าได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสจนทำให้ทรงถึงแก่สวรรคต ทำให้เจ้าชายต้องสูญเสียพระมารดาไป     แต่ปัจจุบันพระองค์ได้เติบโตขึ้นมา สร้างครอบครัวเป็นของตัวเอง และกำลังจะได้กลายเป็น ‘พ่อคน’ แล้ว เจ้าชายแฮร์รี่ทรงเล่าถึงความรู้สึกนั้นว่า “ผมไม่เคยทำใจได้เลยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกอย่างมันดูแย่ไปหมด ช่วงนั้นมันเป็นอะไรที่ยากที่สุดในชีวิตของผมเลยล่ะ ผมแทบจะไม่อยากคิดถึงมันเลย”     ด้วยความรู้สึกที่ต้องสูญเสียคนสำคัญไป ทำให้เจ้าชายแฮร์รี่เข้าใจดีกว่าใครๆ ว่าการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักที่สุดในชีวิตไปมันเป็นอย่างไร นั่นทำให้พระองค์ยอมทำบางอย่างที่ขัดต่อกฎของราชวงศ์ให้กับเด็กน้อยคนหนึ่งที่สูญเสียแม่ เพื่อให้กำลังใจเขาในการมีชีวิตอยู่ต่อไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่เจ้าชายแฮร์รี่และดัชเชสแห่งซัสเซกส์ เสด็จไปเยี่ยมเยียนพสกนิกรที่บริเวณท่าเรือ Viadut เมือง Auckland ประเทศนิวซีแลนด์ มีประชาชนมากมายที่มารอเข้าเฝ้ารับเสด็จของทั้งสองพระองค์     พอเจ้าชายแฮร์รี่เสด็จไปถึงกลุ่มประชาชน ก็หยุดพูดคุยกับเด็กชาย Otia Nante ที่มาเข้าเฝ้าพระองค์พร้อมกับคุณย่า คุณย่าได้มอบกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับเจ้าชาย ซึ่งเจ้าชายก็รับมาและเก็บเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อ เพื่อนำกลับไปอ่านทีหลัง ก่อนที่เธอจะบอกกับเจ้าชายว่า Otia นั้นได้สูญเสียแม่ของตัวเองไป จากนั้นเจ้าชายก็ทรงหยุดเพื่อพูดคุยกับเด็กชายว่า “ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้แหละ เธอจะไม่เป็นอะไรหรอก…

ตามหลักของการมีคู่ครองแล้ว ที่เหมาะสมที่สุดคือควรหยุดความสัมพันธ์เชิงชู้สาวทั้งหมด ควรจะดูแลบุคคลที่อยู่เคียงข้างในฐานะ ‘สามี-ภรรยา’ กันอย่างถูกต้อง ทั้งในแง่กฎหมายและศีลธรรม ทว่าเรื่องแบบนี้ก็ยังคงเกิดขึ้นในทุกสังคม เมื่อการมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งในฐานะมือที่สามไม่ได้จางหายไป ยังคงมีผู้ตอบรับและผู้กระทำ แลกเปลี่ยนกันด้วยทรัพย์สินและเงินทอง จนจะกลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพไปแล้ว   Katie Star   เรื่องราวชีวิตของ Katie Star วัย 33 ปี หญิงผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาน้อยของชายหลายคน ผ่านผู้ชายที่แต่งงานมาแล้วมากมาย พร้อมกับใช้ชีวิตหรูหราอู้ฟู่ได้ทั้งหมดนี้ โดยไม่จำเป็นต้องออกเงินตัวเองเลย เธอเคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับชายที่แต่งงานแล้วมาหลายครั้ง โดยผ่านการนัดเดทในช่องทางออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายที่มีฐานะร่ำรวย มีเงินมากพอที่จะพาไปเที่ยวต่างประเทศแบบหรูหรา     โดยที่ผ่านมานั้น เธอได้ไปเที่ยวทั้งเมืองริมชายทะเลมาร์เบย่า ประเทศสเปน เมืองฟารูในโปรตุเกส และเกาะสวรรค์อีบีซา อันเป็นความตั้งใจเปย์ของเหล่าชาย ที่อยากจะหลีกหนีจากภรรยาตนเอง   .   แต่ก่อนที่จะได้รับการเปย์แบบหนักๆ เธอต้องลงทุนเสริมหน้าอกโดยเสียเงินไปกว่า 200,000 บาท เพื่อเป็นสิ่งดึงดูดให้ชายผู้ร่ำรวยมาติดแจ แน่นอนว่าชายเพลย์บอยก็ชอบในจุดนี้ ซึ่งคนล่าสุดที่ผ่านมานั้นคือนักการเงิน และเศรษฐีนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์     ทั้งนี้ เธอได้เปิดเผยว่าขนาดหน้าอกที่เพิ่มขึ้นนั้น ช่วยเปิดโลกใหม่ๆ ให้กับเธอเป็นอย่างมาก…

เรื่องของ ‘มูลค่า’ ของสิ่งของต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นการถูก ‘ตีราคา’ โดยความพึงพอใจของแต่ละคน…แต่ใครเล่าจะคิดว่า ‘ถุงเท้าเก่าๆ’ จะสามารถสร้างมูลค่าได้มากมายมหาศาลขนาดนี้!? นี่คือเรื่องราวของหญิงสาว ที่ขาย ‘ถุงเท้าเก่า’ จนสร้างรายได้ให้เธอปีละ 100,000 ปอนด์ หรือราวๆ 4.3 ล้านบาท!!     Roxy Skykes วัย 33 ปี จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เธอได้ทำการเปิดธุรกิจขาย ‘ถุงเท้าเก่าที่ใช้แล้ว’ มาเป็นระยะเวลานานกว่า 4 ปี โดยที่ถุงเท้าแต่ละคู่จะถูกโพสต์ขายลงในอินสตาแกรม ในราคาคู่ละ 20 ปอนด์ (856 บาท) ส่วนรองเท้า จะถูกขายที่คู่ละ 200 ปอนด์ (8,560 บาท) สร้างรายได้ให้เดือนละ 8,000 ปอนด์ (342,000 บาท) หรือตกปีละ เกือบ 100,000 ปอนด์ (4.3 ล้านบาท) Roxy…

การทำศัลยกรรมพลาสติกคือหนึ่งในทางเลือกความสวยงาม ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในช่วงที่ผ่านมา และยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะต้องเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีความน่าเชื่อถือ เพราะหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา อาจจะส่งผลเสียร้ายแรงต่อร่างกายได้     กรณีตัวอย่างจากนาง Mai Tuong Vi หญิงสาวนักร้องชาวเวียดนาม ในขณะที่กำลังจะเดินทางกลับไต้หวัน จู่ๆ ในระหว่างเที่ยวบินวันที่ 22 ตุลาคม 2018 เธอรู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบ และได้ยินเสียงระเบิดจากบริเวณหน้าอกด้านซ้ายของตนเอง     เบื้องต้น เธอคิดว่าอาจจะเป็นเพราะร่างกายพยายามปรับตัว ให้เข้ากับสภาพความดันอากาศภายในเครื่องบิน แต่ทว่าอาการของเธอกลับแย่ลง แม้จะรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการแล้ว ในที่สุด เธอจึงตัดสินใจเดินทางไปหาแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริง และแล้วก็พบว่าซิลิโคนที่เสริมหน้าอกนั้นเกิดระเบิดอยู่ภายในนั่นเอง     สืบไปสืบมา พบว่าซิลิโคนตัวนี้ เธอเลือกที่จะใช้เสริมหน้าอกเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว ซึ่งแพทย์ได้ระบุไว้ว่าเป็นซิลิโคนคุณภาพต่ำในราคาประมาณ 60,000 บาท มีความเสี่ยงที่จะแตกหรือระเบิดได้ แต่ด้วยการโปรโมชั่นรับประกันตลอดชีพที่พ่วงมาด้วย เธอจึงตัดสินใจเลือกที่จะเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนตัวนี้     อย่างไรก็ตาม เธอพยายามโทรศัพท์หาแพทย์ที่เคยเสริมหน้าอกให้กับเธอ เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทว่าเขาปฏิเสธว่าเลิกทำไปแล้ว และไม่สามารถติดต่อได้อีกหลังจากนั้น ในเมื่อไม่มีทางเลือกใดๆ จึงจำเป็นจะต้องหาศัลยแพทย์คนอื่นแทน…

เมื่อไม่นานมานี้ ประเทศจีนมีการจัดศึกวันทรงชัยครั้งใหญ่ โดยเป็นคู่ชกระหว่าง นักมวยศิษย์เส้าหลิน พบกับ แชมป์นักชกชาวแอฟริกัน โดยมีชื่อเสียงของสำนักการต่อสู้เป็นเดิมพัน… การชกในครั้งนี้ จัดขึ้นที่เมืองเติงเฟิง มณฑลเหอหนาน อันเป็นเมืองที่มีสำนักวัดเส้าหลินในตำนานตั้งอยู่ด้วย ท่ามกลางผู้ชมกว่า 30,000 คน ที่เข้ามาชมลีลาการชกของศิษย์เส้าหลินเจ้าถิ่น Shi Yanxi อายุ 51 ปี ศิษย์เจ้าอาวาส Shi Yongxin     โดยมีคู่ชกก็คือ Gabriel ชาวแทนซาเนีย แชมป์มวยที่ถูกอ้างว่ามีสถิติชนะ 14 แพ้ 1 เกือบไร้พ่าย แต่ทว่าก็ยังมีดีกรีนักสู้ที่น่าเกรงขามเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการขึ้นชกที่โชว์หมัดชนะน็อคกันไปได้เพียง 43 วินาที ชาวเน็ตเริ่มตั้งข้อสงสัย ว่าคู่ชกชาวแอฟริกันนั้นเป็นแชมป์มวยจริงๆ เนื่องจากไม่มีเชิงมวยเลย จึงทำการขุดคุ้ยสืบหาประวัติของ Gabriel กันยกใหญ่     และแล้วก็พบว่านาย Gabriel นั้นไม่ได้เป็นแชมป์มวยอย่างที่เข้าใจกัน แต่กลับกลายเป็นนักศึกษาชาวต่างชาติ ที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย Shenyang Aerospace University  …

‘สุนัข’ สัตว์ที่ขึ้นว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ พวกมันเป็นสัตว์ดุ๊กดิ๊กแสนน่ารักและชอบจะมาเคล้าเคลียมอบความสุขให้กับเจ้าของอยู่เสมอ แต่ว่าบางครั้งมันก็อาจนำความทุกข์มาให้บ้างเป็นบางครั้งอย่างเช่น การพังข้าวของบ้าน เห่าอะไรก็ไม่รู้เสียงดังลั่น หรือบางทีมันก็อาจยิงปืนใส่เจ้าของมันก็เป็นได้เหมือนอย่างในเหตุการณ์นี้!?   คุณลุง Sonny ผู้โชคร้าย   ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่านี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ โดยผู้โชคร้ายคือนาย Sonny Gilligan นายพรานวัย 74 ปีแห่งรัฐนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาได้เล่าเหตุการณ์แสนซวยในครั้งนั้นให้ฟังว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เขากำลังจะขับรถไปล่าสัตว์ทางตะวันตกของเมืองลาสครูเซสด้วยรถกระบะคันเก่ง ซึ่งก็เหมือนเช่นทุกครั้งเขาได้พาเจ้า Charlie หมาพันธุ์ผสมร็อตไวเลอร์ไปด้วย   เจ้า Charlie มือยิง   “ตอนนั้นผมกำลังขับรถอยู่ แล้วก็ไม่รู้อีท่าไหนเจ้า Charlie มันกระโดดไปที่เบาะหลังแล้วเท้าของมันก็ไปลั่นไกปืนเข้าให้ มันอาจเป็นอุบัติเหตุที่ประหลาดๆ ไปซะหน่อย แต่ทำไงได้ล่ะมันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น” Sonny กล่าว ปรากฏว่าปืนที่เจ้าหมายิงมันคือปืนลูกซอง แล้วจุดที่มันยิงก็ทะลุเบาะมาโดนแผ่นหลัง กระดูกซี่โครง และกระดูกไหปลาร้าเต็มๆ จนทำให้เขาต้องหยุดรถในทันที และถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บหนักแต่เขาก็บอกว่าเป็นโชคดีแล้วที่รอดมาได้   คลิปการรายงานข่าวเรื่องนี้    “บอกตรงๆ ผมแม่งโคตรโชคดีเลยที่ยังสามารถกดโทรศัพท์ได้ ผมกดโทรไปหา 911 หาหน่วยงานของเขตและเขาก็ช่วยชีวิตผมได้จริงๆ บอกเลยว่าถ้ารออีกสัก…

อย่างที่รู้กันดีว่าในวันฮาโลวีนนั้น เพื่อเฉลิมฉลองกับเทศกาลหลายๆ คนก็จะออกมาแต่งตัวคอสเพลย์ให้สุดแปลกแหวกแนว บ้างก็แต่งเป็นผี บ้างก็แต่งเป็นตัวละครจากหนังหรือการ์ตูน บ้างก็ออกมาแต่งเป็นคนดัง แต่จากการแต่งตัวดังกล่าว หากมันเป็นอะไรที่เลยเถิดเกินความพอดี ก็อาจจะนำไปสู่ปัญหาใหญ่ภายหลังได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่พยาบาลสาวและสามีที่เป็นคน ‘ผิวขาว’ แต่งคอสเพลย์เป็น ‘บียอนเซ่และเจย์ ซี’ ด้วยการใช้สีมาทาตามร่างกาย จนเป็นเหตุให้เธอถูกไล่ออกจากงานในที่สุด!!     Elliott-Heenan พยาบาลสาวจากโรงพยาบาล St. Luke เมืองแคนซัสซิตี้ รัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยปกติแล้วเธอและสามีเป็นคนผิวขาว แต่เนื่องจากว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเธอไปร่วมปาร์ตี้ฮาโลวีนเล็กๆ กับเพื่อนๆ แต่มันพลาดตรงที่ว่าเธอดันแต่งตัวคอสเพลย์เป็น ‘บียอนเซ่’ และให้สามีแต่งเป็น ‘เจย์ซี’ ไปร่วมงานปาร์ตี้ดังกล่าว แต่การที่เธอเป็นคนผิวขาวแล้วจะแต่งเป็นบียอนเซ่ได้อย่างไร? Elliot ตัดสินใจที่จะใช้ ‘สีน้ำตาล’ ทาทั่วตัว เพื่อทำให้เธอดูคล้ายกับคนผิวสี พร้อมกับสวมชุดเลกกิงทั้งตัว ที่งานก็มีการโพสต์ท่าถ่ายภาพแล้วก็เอาไปโพสต์ลงโซเชียล     แน่นอนว่าเหล่าชาวเน็ตต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว เพราะมันไม่ให้เกียรติคนผิวสีอย่างแรง!!   “มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ เธอควรจะถูกไล่ออก”   “ไม่รู้ว่าจะโกรธประเด็นไหนดี ที่เธอทาตัวเป็นสีดำ หรือที่ทั้งสองคนแต่งมามันไม่ได้ใกล้เคัยงกับเจย์ ซี หรือบียอนเซ่เลยแม้แต่น้อย”…

จากที่กลายเป็นข่าวใหญ่ที่มีคนติดตามกันทั่วโลก กับกรณีของ ‘นักข่าวซาอุฯ’ หายไปตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากที่เข้าไปยังสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในประเทศตุรกี ก่อนหน้านี้ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการว่าสรุปแล้วนาย Jamal Khashoggi ถูกฆาตกรรมไปแล้วหรือไม่อย่างไร แต่มีการคาดการณ์กันไปต่างๆ นานาว่าเขาถูกฆ่าหั่นศพไปแล้วเรียบร้อย โดยมีการตั้งสาเหตุหรือแรงจูงใจมาจากการที่เขาเป็นนักข่าวฝีปากกล้า ชอบเขียนข่าววิจารณ์มกุฎราชกุมารของซาอุดีอาระเบียอยู่บ่อยครั้ง จนถูกฆ่าปิดปากก็เป็นได้     อ่านข่าวสรุปไทม์ไลน์การหายตัวไปของนาย Jamal Khashoggi ได้ที่นี่ : สรุปไทม์ไลน์ ‘นักข่าวซาอุฯ’ หายตัว ก่อนถูก ‘สังหารโหด’ ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง?? ล่าสุดทางการของตุรกีได้ออกมาแถลงแล้วว่า นาย Jamal ถูกฆาตกรรมในกงสุลจริง พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจเพิ่มเติม!! จากคำแถลงการณ์ของหัวหน้าอัยการของอิสตันบูล Ifran Fiden ระบุว่า นาย Jamal ถูก ‘รัดคอ’ ทันที่ที่เข้าไปในสถานกงสุล ก่อนที่จะถูกหั่นศพเป็นชิ้น     นอกจากนี้ยังกดดันทางซาอุฯ ให้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย จากคดีนี้ไปดำเนินคดีที่ประเทศตุรกี ถือเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกโดยรัฐบาลตุรกีแล้วว่า นาย Jamal ถูกฆ่าหั่นศพจริงๆ!! นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เปิดเผยอีกว่าชิ้นส่วนศพต่างๆ ถูกทำลายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ร่างของเหยื่อถูกทำลาย…

ในช่วงฮาโลวีนที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่เหล่าฝูงชนจะออกมารวมตัวกันตามท้องถนน แต่งตัวคอสเพลย์เป็นผีและอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในค่ำคืนวันปล่อยผี ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่ร่วมฉลอลงในครั้งนี้ด้วย แต่ทว่ากลับกันแล้วย่านชิบูย่า ในกรุงโตเกียวกลับเกิดความโกลาหลเกินการควบคุม จากเหตุความคึกคะนองของทั้งกลุ่มวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ   ずっとパンツ撮ってるおじいちゃんを見つけて草 #渋谷ハロウィン pic.twitter.com/D0CM6Ky2CZ — ゆるふわ怪電波☆埼玉 (@yuruhuwa_kdenpa) October 27, 2018   เหตุการณ์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 27 ตุลาคม 2018 อีเว้นท์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ จากการมารวมตัวกันของฝูงชนวันปล่อยผี โดยในปีนี้ทางด้านนายกเทศมนตรีท้องถิ่นประจำชิบูย่า Ken Hasebe ได้ทำการประกาศร้องขอให้ร้านค้าหยุดขายเครื่องดื่มมึนเมาในรูปแบบขวดแก้วระหว่างเทศกาล รวมทั้งร้องขอให้นักท่องเที่ยวประพฤติตัวตามครรลองคลองธรรม และขอให้เดินทางกลับที่พักด้วยรถไฟเที่ยวสุดท้ายแทนการขับขี่ยานพาหนะส่วนตัว   https://twitter.com/asawq2615/status/1056185045524738048   แต่ทว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับไม่เป็นไปตามที่หวังเอาไว้ ฝูงชนแห่กันมาเฉลิมฉลองเทศกาลวันฮาโลวีนเป็นจำนวนมหาศาล พร้อมกับอาการมึนเมาอย่างหนัก โดยรวมแล้วมีผู้คนเข้ามาร่วมงานภายในคืนนั้นไม่ต่ำกว่า 70,000 คน ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านหลายครั้ง จากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยว เช่น การคว่ำรถยนต์ ลวนลาม การถอดเสื้อผ้ากลางสาธารณะ และการแอบถ่ายใต้กระโปรง   https://twitter.com/hid_shin/status/1056269194944102400   ทั้งนี้…

อย่างที่รู้ๆ กันว่าสำหรับชาวจีนบางคนบางกลุ่ม จะมีค่านิยมที่ชื่นชอบ ‘ลูกชาย’ มากกว่าลูกสาว เพราะลูกชายสามารถสืบสกุลได้ แต่ถึงอย่างนั้น ใครจะไปคิดว่าลูกสาวจะไม่เป็นที่ต้องการถึงขั้นที่ว่าคุณพ่อคนหนึ่งไม่ยอมเลี้ยงดูเธอทั้งๆ ที่เพิ่งจะเกิดมา และนำตัวไปโยนทิ้งลงหน้าผาให้ตายอย่างน่าเวทนาเช่นในเรื่องนี้…     เหตุการณ์สุดหดหู่หัวใจนี้ เริ่มขึ้นในเช้าวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในมณฑลกวางตุ้งพบว่ามีทารกเพศหญิงคนหนึ่งหายตัวไป จึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้สืบเสาะเรื่องราวนี้ในทุกๆ ทางที่เป็นไปได้ และพวกเขาก็สามารถจับสังเกตได้ว่าชายแซ่ Li ผู้เป็นพ่อของเด็กที่หายไปมีพิรุธอะไรบางอย่าง จึงได้เริ่มกระบวนการขอปากคำและเค้นความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่     ปรากฏว่าชายคนนี้ให้รับการสารภาพแต่โดยดีกับสิ่งที่ทำลงไป โดยเขาบอกว่าในเวลาประมาณตี 1 ของเช้าวันดังกล่าว เขาได้ขโมยตัวลูกสาวของเขาใส่กระเป๋า แล้วแอบเอาเธอออกจากโรงพยาบาลโดยที่ไม่มีใครจับได้ จากนั้นก็เอาตัวเธอไปโยนทิ้งหน้าผาแถวๆ นอกเมือง!!      เมื่อได้ยินดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบให้นาย Li พาไปยังจุดที่ทิ้งทารกผู้น่าสงสารในเวลาประมาณ 11 โมงและเริ่มค้นหาตัวของเด็ก ทั้งนี้ก็มีชาวบ้านอาสาสมัครมาช่วยหาด้วยหลังจากได้ยินเรื่องราวนี้ ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่หลายคนจะเชื่อว่านี่อาจจะสายเกินไปสำหรับการช่วยเหลือเด็กทารกคนนี้ แต่แล้วจู่ๆ พวกเขาก็ได้ยินเสียงเด็กร้องกระจองงองแงดังขึ้น จึงได้รีบไปยังพุ่มไม้ต้นกำเนิดเสียงนั้นและพบตัวเจอในที่สุด!!     การช่วยชีวิตในครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลาบ่ายโมงของวันเดียวกัน นั่นจึงหมายความว่าเด็กคนนี้ต้องออกมาตากลมตามฝนถึง 12 ชั่วโมงเต็มๆ โดยที่ไม่มีใครดูแลเลย… และถึงแม้ว่าจุดที่พบเจอตัวเด็กคนนี้จะอยู่ลึกจากหน้าผาไปถึง 30…

แน่นอนว่าเรื่องของ ‘การกินคน’ ไม่ใช่เรื่องปกติในโลกยุคปัจจุบัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข่าวเรื่องนี้มาให้ได้ยินอยู่บ่อยๆ และในครั้งนี้อีกก็เช่นเดียวกัน เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศยูเครนได้จับตัวสองพ่อลูกเอาไว้ได้ หลังพบว่าพวกเขาฆ่าตำรวจแล้วเฉือนเนื้อไปกิน!!   จุดที่พบศพ   เรื่องราวสุดสยองขวัญนี้เกิดขึ้นที่ย่าน Saltivka เมืองคาร์คิฟ ประเทศยูเครน หลังมีชาวเมืองไปพบกับศพไร้หัวของชายคนหนึ่งเข้าบริเวณหลุมทางเข้าห้องใต้ดินของตึกอาคารหลังหนึ่ง โดยนอกจากศีรษะที่หายไปแล้ว จากการดูสภาพศพยังพบว่ามีบางส่วนของร่างกายที่มีร่องรอยมีดเฉือนเนื้อออกไปด้วย…   ผู้ต้องหาที่จับกุมได้   เมื่อได้รับทราบเรื่องดังกล่าวและมีการสืบเรื่องราวต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบอพาร์ตเมนต์ของผู้เป็นพ่อกับลูกชายคู่หนึ่งที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับที่พบศพนั้น แล้วพวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อได้พบกับศีรษะที่หายไปของศพร่างนั้น ถูกซ่อนอยู่ที่กล่องใบหนึ่งตั้งอยู่บริเวณระเบียงห้อง ซึ่งปรากฏว่าชายผู้โชคร้ายคนนี้คืออดีตนายตำรวจอายุ 45 ปีที่หายไปตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมนั่นเอง     “ตอนแรกฉันมองดูร่างที่นอนนิ่งนี้ดูเหมือนจะไม่มีหัว และพอฉันมองอีกทีก็แอบช็อกเพราะหัวของเขาหายไปจริงๆ” Alexandra Grabeynik ชาวเมืองละแวกนั้นกล่าว ผู้ต้องหาทั้งสองพ่อลูกนี้ไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อแต่อย่างใด แต่ว่าทางลูกชายวัย 20 ปีได้ให้ปากคำกับตำรวจเอาไว้ ซึ่งหากฟังดูมันเป็นอะไรที่สะเทือนใจไม่น้อยเลยทีเดียว     เขาสารภาพว่าพ่อของเขาได้ฆ่าและหั่นเนื้อของนายตำรวจคนดังกล่าวบริเวณขาและซี่โครงเพื่อนำไปต้มกิน หลังจากนั้นทั้งสองก็กินเนื้อมนุษย์ร่วมกันด้วย ส่วนสาเหตุที่ต้องนำหัวเอาไปซ่อนในกล่องก็เพราะเมื่อไม่นานมานี้ มีญาติๆ มาอยู่อาศัยด้วย และนี่เองที่เป็นสาเหตุเดียวกับที่ต้องนำร่างไร้วิญญาณไปทิ้งเอาไว้นอกบ้าน   คลิปการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่    ทางด้านนาย Oleg Bekh นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แห่งเมืองคาร์คิฟก็กล่าวกับเหตุการณ์นี้ว่า “ในขณะนี้ทั้งสองถูกคุมตัวเอาไว้แล้ว และกำลังดำเนินการสืบสวนเรื่องราวหาหลักฐานต่างๆ…

นับว่าเป็นการก่อเหตุในดินแดนอันห่างไกลโพ้น ให้ชาวโลกได้รับรู้ว่าจากเหตุของการ ‘สปอลย์’ สามารถบันดาลให้เกิดโทสะถึงขั้นหวังเอาชีวิตกันเลยทีเดียว…     โดยเรื่องดังกล่าว มีนาย Sergei Savitsky วิศวกรไฟฟ้า วัย 54 ปี ผู้อยู่ประจำสถานีวิจัยขั้วโลกใต้ Bellingshausen ณ หมู่เกาะ South Shetland Islands ได้ก่อเหตุคว้ามีดแทงเพื่อนร่วมงาน Oleg Beloguzov ช่างเชื่อมวัย 52 ปี กลางโรงอาหาร ในวันที่ 4 ตุลาคม 2018 จากเหตุสปอยล์ตอนจบของหนังสือที่เขากำลังอ่านอยู่…   Sergei Savitsky (ซ้าย) Oleg Beloguzov (ขวา)   จากรายงานของสื่อต่างประเทศ ระบุว่าทั้ง 2 ได้กลายมาเป็นนักอ่านตัวยง หลังจากที่ต้องมาประจำการอยู่ในสถานีวิจัยระยะเวลานานหลายเดือน ซึ่งในช่วงที่เกิดเรื่องก็อยู่ที่นี้มานาน 6 เดือนแล้ว ด้าน Savitsky กำลังอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ที่อยู่ในห้องสมุดของสถานีวิจัย แต่แล้วดันมาเจอ Beloguzov…

นี่อาจเป็นอีกหนึ่งกรณีแปลกๆ ที่เกิดขึ้นจริงๆ บนโลกใบนี้   เมื่อทาง IKEA ร้านขายอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน ถูกศาลสั่งฟ้องให้ชดใช้เงินจำนวน 40,000 หยวน (ประมาณ 1.9 แสนบาท) ให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง หลังจากที่เธออ้างว่าถูกแก้วน้ำของทางร้านระเบิดใส่หน้า!!   บาดแผลที่เกิดขึ้น   เรื่องราวที่ว่านี้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2017 จากความที่หญิงแซ่ Wang กล่าวว่าเธอได้เทน้ำร้อนใส่แก้วรุ่น Stelna ของทาง IKEA แล้วปรากฏว่ามันเกิดระเบิดขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด แรงระเบิดในครั้งนั้นมันทำให้เธอถึงขั้นหมดสติ มีฟันหักหนึ่งซี่ รวมถึงทำให้เธอต้องเข้าไปเย็บแผลที่ริมฝีปากถึง 4 เข็มด้วยกัน และนอกจากนี้เธอยังต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอีกถึง 12 ครั้งเพื่อรักษาอาการทั้งหมด   หญิงคนที่ฟ้องร้องต่อ IKEA   มากไปกว่านั้นนอกจากการบาดเจ็บตามร่างกายแล้ว แรงระเบิดในครั้งนั้นยังได้ส่งผลต่อจิตใจของเธอด้วย โดยเธอได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเอาไว้ว่า “ฉันรู้สึกเสียขวัญทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดังจากอะไรก็ตาม ฉันต้องตื่นขึ้นมากลางดึกและไม่สามารถที่จะนอนต่อได้อีกเลย และในเวลากลางวันฉันจะรู้สึกหดหู่เอามากๆ ซึ่งทั้งหมดนี้มันส่งผลต่อการทำงานของฉันด้วย”  จากความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในนี้ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาหญิงคนนี้จึงได้ยื่นฟ้องต่อทาง IKEA เรียกค่าทำขวัญจากบริษัทเป็นเงิน 1 ล้านหยวน (ประมาณ 4.7 ล้านบาท)…

‘ป่าอเมซอน’ ถือเป็นป่าฝนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก…แต่ช่วง 40 ปีที่ผ่านมานี้กว่า 20% ของผืนป่าทั้งหมดถูกทำลายไปโดยน้ำมือของ ‘มนุษย์’ พื้นที่ของป่าอเมซอนนั้นมีขนาดใหญ่จนชนิดที่ว่าครอบคลุมไปถึงกว่า 9 ประเทศด้วยกัน ซึ่งพื้นที่ 60% อยู่ในประเทศบราซิล แน่นอนว่าส่วนที่เสียหายมากที่สุดก็อยู่ในฝั่งของประเทศบราซิลนี้เอง ซึ่งช่างภาพนามว่านาย Rodrigo Baleia ใช้เวลากว่าทศวรรษ ในการตามถ่ายภาพผืนป่าอเมซอน เผยให้เห็นถึงมุมที่สวยงามในอดีต และปัจจุบันที่ผืนป่าถูกทำลายไปมากมาย   จะเป็นอย่างไรบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า..   ถนนที่พาดผ่านป่าอเมซอน ที่อยู่ในเขตของรัฐ Mato Grosso ทางตะวันตกของบราซิล (อดีต)   นี่คือต้นไม้ที่หลงเหลืออยู่หลังจากเหตุไฟป่าครั้งใหญ่ในรัฐ Mato Grosso เมื่อปี 2008   ผืนป่าในรัฐ Mato Grosso เริ่มถูกรุกล้ำ เพื่อทำพื้นที่มาปลูกไร่ ‘ถั่วเหลือง’   ฟาร์มปศุสัตว์ที่อยู่ใต้ต้นไม้ 1 ต้น ในรัฐ Mato Grosso ทั้งๆ ที่ในอดีตมันเคยมีแต่ ‘สีเขียว’ เต็มไปหมด…

‘ภาษาอังกฤษ’ ถือเป็นเรื่องสำคัญมากในปัจจุบัน เพราะมันจะทำให้เราสามารถสื่อสารได้กับผู้คน ‘ส่วนใหญ่’ บนโลกใบนี้ได้ โดยเฉพาะกับประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว ที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมให้กับเหล่าพนักงาน หรือคนในประเทศให้มีความสามารถภาษาอังกฤษ เพื่อใช้สื่อสารกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมา เหมือนกับเรื่องราวดังต่อไปนี้ก็เป็นได้… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสวน Shinjuku Gyoen เป็นสวนที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียวเลยก็เป็นได้ มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมมากมาย     สวนแห่งนี้ได้รับการดูแลโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่น โดยมีการกำหนดเอาไว้ว่าหากใครที่ต้องการจะเข้าชมสวนแห่งนี้จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 200 เยน หรือราวๆ 60 บาทไทย สำหรับผู้ใหญ่ แต่ล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมามีการค้นพบว่า มีพนักงานตรวจตั๋ววัย 70 ปีรายหนึ่งปล่อยให้ ‘นักท่องเที่ยวต่างชาติ’ เข้าชมสวนแบบไม่เสียค่าเข้า มานานกว่า 2 ปี!? ด้วยเหตุผลว่าเขาไม่กล้าที่จะสื่อสารกับชาวต่างชาติ เพราะ ‘พูดภาษาอังกฤษไม่เป็น’   ภาพของตั๋วเข้าชมสวน   จากการสำรวจข้อมูล และได้ข่อสรุปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าการกระทำดังกล่าวส่งผลให้สวนเสียรายได้ไปมากกว่า 25 ล้านเยน หรือราวๆ 7.3 ล้านบาทเลยทีเดียว!! นอกจากนี้ยังพบว่าเขาเคยถูกนักท่องเที่ยวต่างชาติตะโกนใส่เมื่อหลายปีก่อน ทำให้รู้สึกระมัดระวังตัว และอึดอัดใจทุกครั้งเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับชาวต่างชาติจนไม่กล้าเก็บเงินและยื่นตั๋วให้ไปแบบฟรีๆ ซึ่งหลังจากที่ยื่นตั๋วให้ไปแล้ว เขาก็ขอให้เพื่อนร่วมงานลบข้อมูลการออกตั๋วเพื่อไม่ให้มีใครจับได้ อย่างไรก็ตามพนักงานวัย…