Category: สัตว์โลกน่ารัก

เมื่อปลายเดือนแล้ว Junior Cook และเพื่อนของเขา Leon Colombe กำลังผ่อนอยู่ในลานบ้านของ Cook ใกล้กับทะเลสาบในประเทศแคนาดา อยู่ๆ พวกเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่าง Cook จึงไปหากล้องส่องทางไกล และส่องไปหาเสียงนั้น ซึ่งอยู่อีกฝั่งของทะเลสาบ และแล้วเขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ อยู่ที่นั่น เขาเข้าใจว่าพวกมันคงเป็นหมาป่า และไม่ได้สนใจอะไร     วันต่อมา เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมา พวกมันก็ได้ยินเสียงนั้นอีก ด้วยความอยากรู้เขาจึงแล่นเรือไปที่นั่น และเมื่อเข้าใกล้มากขึ้นก็พบกว่า พวกมันเป็นลูกหมาตัวน้อย พวกมันมีทั้งหมด 7 ตัว และน่าจะอายุประมาณ 4 เดือน ตอนที่ลูกหมาเห็นมนุษย์เข้ามาหา พวกมันยืนเห่าด้วยความดีใจและส่ายห่างด้วยความตื่นเต้น     จากสภาพที่เห็น คาดว่าพวกมันน่าจะถูกนำมาทิ้งไว้บนเกาะแห่งนี้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ที่นั่นมีแค่ต้นไม้ที่ถูกไฟไหม้ โขดหินและหญ้าที่ทั้งหนาและสูง ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหารสำหรับพวกมัน     พวกเขาจึงเอาอาหารเล็กน้อยที่ติดตัวมาให้ลูกหมากิน แต่พวกมันกลัวเกินกว่าจะเข้าใกล้ ทั้งคู่จึงกลับบ้านและติดต่อไปหา Vandekerkhove ผู้อำนวยการของ Norway House Animal Rescue ทันที ก่อนที่แผนการช่วยเหลือจะเริ่มขึ้น     แต่ก่อนอื่น…

สำหรับหลายๆ คนแล้ว สุนัขไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง แต่มันคือเพื่อน คือครอบครัว และเป็นสิ่งที่สำคัญที่เข้ามาเติมเต็มสิ่งที่ขาดในชีวิต เช่นเดียวกับ Justin Scott หนุ่มที่ทำงานเป็น EMT (ผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์) วันหนึ่งเขาได้รับข่าวร้ายว่าหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาได้เสียชีวิตลง เหตุการณ์นี้มีผลกระทบต่อจิตใจเขามาก เขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการผ่านมันไปให้ได้ และเขาต้องการใครสักคนที่จะช่วยเขาในเรื่องนี้ และนั่นเป็นช่วงเวลาที่เจ้าหมา Shelby เข้ามาในชีวิตของเขา     Scott รับเลี้ยง Shelby ในฐานะสุนัขบำบัด และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความทุกข์ในใจของเขาค่อยๆ จางลงไป แน่นอน เขารู้สึกขอบคุณเจ้าหมาตัวนี้อยู่เสมอ Scott บอกว่า “มันช่วยดึงผมออกจากนรก มันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม และมันคือที่พักพิงของผมในช่วงที่โดนพายุร้ายโหมกระหน่ำ” กระทั่งวันที่ 4 เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Scott กับครอบครัวตัดสินใจไปตั้งแคมป์ที่ Sierras ทางตะวันออกของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งห่างจากบ้านของพวกเขาเป็นเวลาหกชั่วโมง     ขณะที่พวกเขาอยู่ในแคมป์ Shelby ก็เห็นบางอย่าง มันจึงวิ่งตามจนปลอกคอของมันหลุดออกจากสายจูงที่ผูกเอาไว้ แล้วมันก็หายตัวไปในป่า ครอบครัวพยายามออกตามหา หาแล้วหาอีก แต่ก็ไม่เจอ พวกเขาจึงทำกับดักไว้ และเฝ้าดูอยู่ใกล้ๆ และแล้วพวกเขาก็เห็นหมีมาเล่นกับกับดักนั้น นั่นยิ่งทำให้ครอบครัวเป็นห่วง Shelby มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ครอบครัวไม่ยอมแพ้ พวกเขายังคงมุ่งมั่นที่จะหาน้องหมาต่อไป เพราะมันเป็นสมาชิกตัวสำคัญที่ช่วยให้ Scott …

เจ้าหมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียน Bertie จะว่าดังก็ดังอยู่แล้ว เพราะอินสตาแกรมของมันมีคนตามหลักแสนกันเลยทีเดียว พอแต่งตัวเป็นตัวการ์ตูนพี่หมีแล้ว ตอนนี้เลยยิ่งมีแต่คนสนใจมัน     หลายคนอาจจะรู้จัก Bertie อยู่แล้วจากอินสตาแกรม Bertram The Pomeranian เจ้าของของมันรับมันมาเลี้ยงจากศูนย์พักพิงเมื่อปี 2013 ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันในแกลลอรีศิลปะที่นครนิวยอร์ก แต่เจ้าหมาก็เป็นเซเลบที่คนจากรอบโลกรู้จัก ตอนนี้มียอดติดตามเข้าไปเกือบ 200,000 คนแล้ว     ผม Bertie เอง   เห็นแล้วคงไม่ต้องสงสัยนะว่าทำไมผมดัง   เพราะผมหล่อและน่ารักมว๊ากกกก   ถึงแม้ว่าลุคปกติจะดูน่ารักมากอยู่แล้ว แต่ชุดล่าสุดของมันทำเอาหลายคนหลงรักไปเลยหละ เพราะถึงแม้มันจะเป็นหมา แต่แต่งตัวเป็นพี่ หมีแพดดิงตัน แล้วคล้ายอย่าบอกใครเชียว ไม่รู้ว่าบ้านเรารู้จักหมีแพดดิงตันกันหรือเปล่า แต่ทางฝั่นตะวันตกหมีแพดดิงตันเป็นตัวการ์ตูนจากหนังสือนิทานที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันดี แถมยังมีคนเอาไปทำหนังด้วยนะเออ     นี่ Bertie ไงจำไม่ได้เหรอ   ส่วนนี่พี่หมีแพดดิงตันในหนัง   แล้วก็เวอร์ชั่นตุ๊กตุ่น   เทียบกันให้เห็นชัดๆ ไปเลย ฝาแฝดมาเองเลยนะ   ด้วยความคล้ายและน่ารักขนาดนี้แล้ว จะไปโทษแฟนๆ…

ทาสแมวคนไหนที่คิดว่าวันที่ 8 สิงหาคมเป็นแค่วันธรรมดาๆ วันหนึ่งที่ใกล้วันแม่ ถือว่ามีความผิด!! เพราะทาสแมวทุกคนจำเป็นต้องรู้ว่าวันที่ 8 สิงหาคมเป็น ‘วันแมวสากลโลก’ วันแมวสากลโลกถูกกำหนดขึ้นครั้งแรกในปี 2002 โดย กองทุนเพื่อสวัสดิภาพของสัตว์สากล (International Fund for Animal Welfare) สำหรับทาสแมวเราคงไม่จำเป็นต้องบอกให้รักพวกมันมากๆ หรอกนะ เพราะทาสแมวทุกคนก็รักแมวกันทุกเวลาอยู่แล้ว แต่ถ้าเราจะทำอะไรพิเศษๆ ให้พวกมันบ้างก็คงจะดีเหมือนกัน เนื่องในโอกาสวันแมวโลก เราก็ขอฉลองด้วยภาพเจ้าเหมียวน่ารักๆ ก็แล้วกัน!   วันนี้เป็นวันแมวโลกนะเจ้าทาส   เพราะฉะนั้นข้าจะทำตัวขี้เกียจแค่ไหนก็ได้   จะนอนทั้งวันเลย ห้ามกวนนะ   อ๋อ วันแมวโลกเหรอ….มันกินได้ป่าว?   แมวจรจัดก็มาฉลองด้วยนะฮับ   ทาสมานั่งดูเน็ตฟลิกซ์กันชิวๆ เถอะ เราขอเลือกเรื่องนะ   ต้องเล่นกับเก๊าทั้งวันนะ ห้ามรำคาญ   ขอแมวใหญ่ร่วมฉลองด้วยคนสิ   วันพิเศษขอทำตัวชิกๆ เหมือนมนุษย์บ้าง   แน่ะ วันนี้เป็นวันพิเศษนะ หยุดเล่นคอมฯ มาเล่นกับเราเลย…

ผลไม้แต่ละชนิดมักจะออกผลในช่วงเวลาหรือฤดูที่แตกต่างกัน แต่สำหรับเจ้าเหมียวตัวหนึ่ง ไม่มีอะไรทำให้มันตื่นเต้นมากไปกว่าฤดูกาลของพีชอีกแล้ว เจ้าเหมียวตัวนั้นคือ Ozzy วัย 5 ขวบ มันไม่ได้ตื่นเต้นเพราะมันจะกินลูกพีชที่หวานฉ่ำหรอนะ แต่เพราะมันชอบกอดลูกพีช และเตียงที่สมบูรณ์แบบสำหรับมันคือเตียงที่เต็มไปด้วยลูกพีชนั่นเอง     ทุกครั้งที่เจ้าของนำลูกพีชกลับมาบ้าน เจ้าเหมียวจะจัดการกับลูกพีชเหล่านั้นตามที่มันต้องการ “มันชอบเอาหัวซุกกับลูกพีช ใช้ลูกพีชเป็นหมอน หรือบางครั้ง มันแค่ชอบที่จะยืนเฝ้าลูกพีชอยู่อย่างนั้น” Lydia Coutré แม่เจ้าเหมียวกล่าว เธอบอกอีกว่า “หลังจากที่เรารับมันมาอยู่ด้วย เราก็ได้แนะนำให้มันรู้จักกับลูกพีช เมื่อมันเห็นลูกพีชอยู่บนโต๊ะ มันก็เริ่มเอาตัวเข้าไปถูกไถด้วยทันที”     เจ้าของ Ozzy ได้วางลูกพีชไว้บนกระดาษหนังสือพิมพ์ เพื่อรอให้มันสุก แต่หารู้ไม่ว่านั่นเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเจ้าเหมียวในการเข้าไปทำให้กลายเป็นที่นอนตัวเอง หากครอบครัวต้องการลูกพีชที่ไม่มีขนแมวติดมาด้วย คงเป็นเรื่องที่ยากเลยแหละ ครั้งหนึ่ง คุณแม่เคยเอาลูกพีชไปซ่อนไว้ในห้องใต้ดิน แต่เจ้าเหมียวก็หาจนเจอ มันเลยเข้าไปนอนกกลูกพีชอย่างสบายใจเฉิบ     สำหรับ Ozzy นั้น มันอยู่กับครอบครัว Coutré ตั้งแต่พวกเขารับเลี้ยงมันในปี 2013 โดยก่อนหน้านั้น Lorraine กับแม่เป็นอาสาสมัครใน  Harbor Humane Society ตอนแรกพวกเขาไม่ได้คิดจะหาสมาชิกใหม่เข้ามาอยู่ในครอบครัวหรอก แต่เมื่อ Lorraine ได้พบกับ Ozzy เธอดันตกหลุมรักมันตั้งแต่แรกเห็น เลยตัดสินใจรับเลี้ยงอย่างไม่ลังเล  …

หลายครั้งที่เราเห็นสุนัขถูกผูกไว้ตามที่ต่างๆ เรามักจะคิดว่าพวกมันถูกเจ้าของผูกไว้ เพื่อไปทำธุระที่ไหนสักที่ แต่หากลองดูๆ อาจไม่ใช่อย่างที่เราคิดเสมอไป เหมือนกับคู่รักคู่นี้ที่ไปเจอสุนัขถูกผูกไว้ข้างร้านแห่งหนึ่ง ตอนแรกพวกเค้าไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเจอโน้ตที่วางอยู่ข้างเจ้าหมา ทำเอาทั้งคู่ตกใจมาก ในโน้ตแผ่นนั้นเขียนไว้ว่า “ให้ฟรี… ผมชื่อ Scooter เจ้าของของผมถูกจำคุกวันนี้”     พวกเขาจึงถ่ายรูปเจ้าหมาตัวนั้น แล้วโพสต์ลงในสื่อออนไลน์ โดยหวังว่าจะมีใครบางคนที่รู้จักมันและสามารถช่วยเหลือมันได้ โดยดังกล่าวได้รับความสนใจจาก Paula Langford เจ้าของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์จรจัด South Eastern Homeless Animals แล้วเธอก็ตัดสินใจช่วยเหลือ Scooter Langford ได้ไปพบกับคู่รักที่เจอน้องหมาที่ปั๊มน้ำมันในวันถัดมา และเมื่อได้เห็น Scooter เธอรู้เลยว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการดูแลมาอย่างดี เพราะร่างกายของมันสะอาดสะอ้าน และไม่มีหมัดเลย     นอกจากนี้ ยังมีกระเป๋าราคาแพงที่วางอยู่ข้างๆ มัน ปลอกคอของมันก็ราคาแพงเหมือนกัน แถมถุงอาหารของมันก็เป็นถุงที่ปลอดสารพิษด้วย เห็นได้ชัดว่าเจ้าของคนเดิมของมันดูแลมันดีแค่ไหน ตอนแรกมันดูกังวล แต่พอ Langford เริ่มลูบหัวใจน้องหมา มันก็ไว้ใจเธออย่างง่ายดายและรู้สึกผ่อนคลายลงเมื่อเธออยู่ใกล้ๆ มัน Paula สงสัยว่าถ้าเจ้าของรักมันมากขนาดนี้ เขาคงไม่กล้าทอดทิ้งมันแบบนี้ เป็นไปได้ว่าอาจจะมีใครอีกคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้     ระหว่างที่เธอพามันนั่งรถกลับบ้าน เจ้าหมาได้หัววางลงบนหน้าอกของเธอเพื่อให้เธอกอด เพราะอ้อมคือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับมันในตอนนี้ ต่อมา…

ในโลกธรรมชาตินั้นมักมีสิ่งที่ทำให้เราทึ่งได้เสมอ โดยเฉพาะธรรมชาติของเหล่าสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นนิสัย บุคลิก รวมไปได้ถึงลวดลายของพวกมัน เหมือนกับสัตว์เหล่านี้ที่เกิดมาพร้อมกับความลวดลายที่พิเศษ ทำให้พวกมันมีความน่ารักแบบไม่ธรรมดา จนเราต้องหลงรักมันหนักขึ้น   1. มากับหัวใจแบบนี้ ไม่หลงรักก็บ้าแล้ว   2. อยากเผลอจ้องหน้ามันเชียวล่ะ ถ้าไม่อยากตกเป็นทาสมัน   3. กลัวเค้าไม่รู้ว่าเป็นแมวหรอจ๊ะ   4. วงไหนขาดขา เรียกเหมียวสิ   5. นี่ไปตกถังสีที่ไหนมาหรือเปล่า   6. เค้าไม่ได้เอาเท้าจุ่มสีนะ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว   7. ตอนเกิดเลือกไม่ถูกว่าจะเป็นสีไหนดี เลยเอาทั้งสองสี แบ่งครึ่งพอดีเป๊ะ   8. ลายอะไม่แปลกหรอก แต่เจ้ามิ้วเนี่ยสิ ก๊อบได้เหมือนทุกส่วน   9. แว่นตาไม่ต้อง เพราะหนูมีของหนูแล้ว   10. ตอนอาบแดด เค้าใส่แว่นกันแดดน่ะ เลยเป็นแบบนี้   11. อย่าปล่อยมันวิ่งเข้าไปในดงดอกเชียวล่ะ ไม่งั้นได้หากันวุ่นแน่   12.…

สุนัขบางตัวเกิดมาพร้อมกับความแตกต่าง แต่เมื่อได้รับความรัก พวกมันมักจะไม่ยอมให้ความแตกต่างเหล่านั้นมาหยุดความสุขในชีวิต เหมือนกับ Linguini น้องหมาที่มีความสุขตลอดเวลา มันรักมนุษย์ทุกคน และรักสุนัขทุกตัวที่เจอ จนแทบจะไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้ว มันตาบอดทั้งสองข้าง     ครอบครัวบอกว่า Linguini เฟรนลี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่รับมันมาอยู่ด้วยแล้ว และมันมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ตาบอด แต่แค่อาจจะทำอะไรเงอะๆ งะๆ ไปบ้างเท่านั้นเอง จนพวกเขาไม่คิดว่ามันมีปัญหากับการมองเห็น จนกระทั่งพามันไปสัตวแพทย์ จึงได้รู้ว่ามันตาบอด… แม้ Linguini จะเป็นสุนัขที่ร่าเริง แต่มันมีปัญหาอย่างหนึ่งคือ ไม่สามารถผูกมิตรกับสุนัขตัวอื่นได้     Sarah Bowley เจ้าของน้องหมาบอกว่า “มันไม่สามารถมองเห็นได้ ดังนั้นมันจึงอยู่นิ่งอยู่ที่เดิม แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีเพื่อนมาอยู่ข้างๆ มันจะรับรู้ได้ แล้วมันก็จะเริ่มกระโดดเพื่อที่จะเล่นกับเพื่อนๆ และนั่น อาจทำให้เพื่อนเจ็บตัวเล็กๆ น้อยๆ ได้” หลังจากที่อยู่กับ Linguini ได้สักพัก ทางครอบครัวก็ตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงหมาอีกตัวหนึ่ง พวกเขาต้องการสุนัขพิเศษที่เข้ากับเจ้าหมาตาบอดได้     ในที่สุดครอบครัวก็ได้พบกับ Future สุนัขพันธุ์บอร์เดอร์ คอลลี่ ทันทีที่พาเข้าบ้าน เจ้าหมาตัวใหม่กับ Linguini ก็เข้ากันได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ Future เป็นหมาที่ฉลาด เพราะมันเข้าใจดีว่าครอบครัวต้องการอะไร…

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 เจ้าหน้าที่ได้พบลูกแมวสองพี่น้องซ่อนตัวอยู่ใต้บ้านหลังหนึ่งในเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย สิ่งที่ทำให้ตกใจคือ ลูกแมวตัวหนึ่งมีหู 4 ข้าง และตาขวาติดเชื้ออย่างรุนแรง พวกเขาจึงพาแมวทั้งสองไปยัง Geelong Animal Welfare Society จากนั้นก็รีบนำแมว 4 หู เข้ารับการผ่าตัดดวงตาที่ติดเชื้อออก     ทุกคนในศูนย์พักพิงหลงรักเจ้าเหมียว 4 หูตัวนี้ และอยากรู้เรื่องของมันทุกอย่าง ดังนั้น หลังจากที่มันผ่าตัดเสร็จ ทุกคนจึงรีบไปดูมันด้วยความเป็นห่วง โดยเฉพาะ Georgia Anderson ที่ดูจะหลงใหลมันหนักมาก Anderson เป็นอาสาสมัครในศูนย์พักพิงดังกล่าว เธอใช้เวลานั่งกับเจ้าเหมียวหลังการผ่าตัด แล้วเธอก็ต้องรู้สึกทึ่งที่เห็นว่ามันมีนิสัยที่น่ารักมาก     เธอบอกว่า “มันต้องผ่านความเจ็บปวดนับไม่ถ้วน แต่สิ่งแรกที่มันทำตอนฉันอุ้มคือ มันทำเสียงเพอร์ แล้วก็เอาหน้ามาซบลงที่ตัวฉัน ดังนั้น ฉันจึงบอกกับคุณหมอว่า จะรับมันไปดูแลหลังจากที่มันผ่าตัดตาเสร็จเรียบร้อย”     หลังจากที่การผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย Anderson จึงพาเจ้าเหมียวกลับบ้าน และตั้งชื่อให้มันว่า Frankenkitten เพราะมันมีรอยเย็บที่โดดเด่นบนใบหน้า จากนั้นก็เรียกมันด้วยชื่อสั้นๆ ว่า Frankie     ตอนแรก Anderson…

การใช้ชีวิตเป็นแมวจรจัดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะแต่ละวันนอกจากต้องเอาชีวิตรอดจากความหิวโหยแล้ว ยังต้องคอยหลีกหนีอันตรายที่มีอยู่รอบตัวด้วย เหมือนกับเจ้าเหมียวที่ชื่อ Otto ที่รถชนบนถนน แถมยังมีแผลเป็นอีกมากมายทั่วร่างกาย พลเมืองดีเห็นเข้าจึงพามันไปส่งศูนย์พักพิงสัตว์ โดยไม่รู้ว่าชะตาชีวิตมันจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะสภาพร่างกายของเจ้าเหมียวนั้นดูแย่มาก และมันมีน้ำหนักแค่ 2 กิโลกรัมเท่านั้น     เมื่อ Tara Kay ผู้ก่อตั้ง The Odd Cat Sanctuary ได้ยินเรื่องราวของ Otto เธอจึงตัดสินใจรีบไปช่วยเหลือมันทันที จากการตรวจร่างกายพบว่า Otto อายุ 2 ขวบ ร่างกายของมันอ่อนแอมาก ขาหักข้างหนึ่ง มีขนหลุดไปเป็นกระจุกๆ และมีแผลทั่วร่างกาย Tara จึงพาเจ้าเหมียวไปหาสัตวแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่จำเป็นอย่างเร่งด่วน     ส่วนตัว Otto นั้น แม้จะผ่านความยากลำบากต่างๆ มามากมาย แต่เมื่อมีคนมาช่วย มันหยุดทำเสียงเพอร์ไม่ได้เลย เพราะมันมีความสุขที่ได้อยู่ในที่ปลอดภัย แถมยังได้รับความรักด้วย     เจ้าเหมียวมักจะกอด Tara และพยายามเอื้อมมือไปหาเธอ เพื่ออ้อนให้ลูบหัวกับพุงให้ หญิงสาวบอกว่า “สภาพร่างกายมันแย่มาก แต่สิ่งเดียวที่มันต้องการคือ ความรัก”     หลังจากที่รักษากับคุณแม่เสร็จ Otto ก็ได้ไปพักฟื้นในบ้านอุปถัมภ์…

อ้อมกอดแม่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทารก แต่น่าเศร้าที่ทารกบางคน รวมทั้งลูกสัตว์หลายๆ ตัว ไม่มีโอกาสได้สัมผัสอ้อมกอดนั้นตั้งแต่เกิด เช่นกับดูแมวและลูกหมากำพร้ากลุ่มนี้ พวกมันไม่มีแม่ที่คอยให้ความรัก ความอบอุ่น แต่โชคดีที่พวกมันได้มาเจอกัน พวกมันจึงเติมเต็มไปให้กันและกัน     เรื่องราวนี้เริ่มขึ้นเมื่อ Ellen Carozza ได้รับดูแลลูกหมาอิงลิช บูลล์ด็อก ที่จำเป็นต้องการได้รับการให้อาหารผ่านหลอด จริงๆ แล้ว คลินิกของ Ellen เป็นคลินิกที่รับดูแลแมวโดยเฉพาะ แต่เมื่อเห็นลูกหมาที่ต้องการความช่วยเหลือ พวกเขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ Ellen ได้พาลูกหมาตัวน้อยกลับไปดูแลที่บ้าน เพราะมันจำเป็นต้องได้รับการเฝ้าดูตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญ เธออยากมอบความรัก ความอบอุ่น อ้อมกอด และอื่นๆ ที่ลูกหมากำพร้าสมควรได้รับ     ในบ้านของ Ellen มีแมวชื่อ Benny มันชอบมอบความรักให้สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยอยู่เสมอ ดังนั้น เมื่อคุณแม่พาลูกหมากำพร้ามาแนะนำให้รู้จัก มันจึงเข้าไปหาและมอบความให้อย่างไม่ลังเล ต่อมา เธอได้ตั้งชื่อลูกหมากำพร้าว่า Kiwi Pig และตั้งแต่วันที่น้องหมาย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน ทุกครั้งที่คุณแม่ป้อนอาหารให้เสร็จ เจ้าเหมียวจะคอยเลียทำความสะอาดหน้าให้มันเสมอ     จากนั้น Ellen ได้พาลูกหมากำพร้าไปอยู่กับลูกแมวกำพร้า และไม่น่าเชื่อว่า พวกมันกลายเป็นเพื่อนกัน…

คุณเคยรู้สึกเบื่อการเป็นตัวเองจนอยากแปลงร่างเป็นคนอื่นหรืออย่างอื่นบ้างมั้ย? แน่นอนว่าหลายคนคงเคยรู้สึกแบบนี้ แม้แต่สัตว์เองก็ยังเป็นเลย เช่นเดียวกับภาพสัตว์เหล่านี้ ที่เผลอกลายเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ แต่ดูรวมๆ แล้ว มันช่างตลก จนสร้างเสียงหัวเราะให้เราได้   1. เห็นมนุษย์ยืนแบบนี้ เลยอยากทำมั่ง เป็นไง เหมือนมั้ย?   2. ใครบอกว่าเราเป็นหมา เราคือ Groot ต่างหาก   3. เดี๋ยวนะ ผมเป็นหมาปั๊กใช่มั้ย? ไม่ใช่แมวน้ำแน่นะ?   4. ได้ข่าวว่าในหมู่เรามีสายลับหรอ?   5. นี่มันมังกร 3 หัว ชัดๆ   6. เมื่อน้องหมาอยากเป็นแมวเหมือนในเรื่อง Shrek… ก็ได้อยู่นะ   7. อยากสัมผัสการเป็นขนมปังบ้าง   8. เมื่อน้องหมาอยากเป็นเพื่อนกับเป็ด มันต้องมีการปรับตัวสักหน่อย   9. เป็นหนูมีแต่คนรังแก อยากเป็นจระเข้บ้าง ดูสิ๊ จะมีใครกล้าทำอะไรเราอีกมั้ย   10. ผมคือดวงอาทิตย์หน้าเศร้าฮะ…

สำหรับคนรักสุนัขแล้ว น้องหมาเปรียบเสมือนลูก ที่ต้องการความรักและการเอาใจใส่เหมือนเด็กคนหนึ่ง แต่บางคน เห็นสุนัขเป็นเพียงแค่สิ่งของเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงมีชายคนหนึ่งทิ้งลูกหมาเพียงเพราะพวกมันขายไม่ออก โชคดีที่มีคนโทรแจ้ง RSPCA พวกเขาจึงรีบไปที่นั่นทันที เมื่อไปถึง Mel Fisher ร่วมกับทีมงาน RSPCA ก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น เพราะมันคือลูกหมา 9 ตัว ต่างเพศ ต่างสายพันธุ์ ต่างอายุ ถูกทิ้งไว้ในถังและซ่อนอยู่ในพุ่มไม้     Fisher บอกว่า “พวกมันถูกทิ้งไว้ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อน มันจึงหอบและนิ่งเพราะเพลียจากแดด ที่สำคัญ เราไม่รู้ว่ามันถูกทิ้งไว้ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว แต่ตอนเดินเข้าไปหา พวกมันไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัว” เมื่อเห็นสภาพน้องหมาเป็นแบบนั้น พวกเขาจึงรีบทั้ง 9 ตัวไปหาหมอที่ใกล้ที่สุดทันที ก่อนจะย้ายพวกมันไปอยู่ใน Blackberry Farm Animal Center     เนื่องจากลูกหมาถูกทิ้งไว้ท่ามกลางอากาศร้อน และร่างกายของพวกมันก็อ่อนแอมาก จนพนักงานหลายคนคิดว่าพวกมันอาจจะไม่รอด แต่สิ่งน่าอัศจรรย์เกิดขึ้นได้เสมอ หลังจากได้รับการรักษาและพักฟื้นได้ไม่กี่สัปดาห์ ลูกหมาทั้ง 9 ตัว ก็ดูร่าเริงสดใส เหมือนลูกหมาทั่วไป     ทีมช่วยเหลือจึงตั้งชื่อให้พวกมันว่า Agnes Barbara Cheryl Davina…

ส่วนใหญ่แล้วคนชอบเลือกหมากับแมวมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่บ้าน แต่ก็มีสัตว์เลี้ยงอีกมากมายที่มีความน่ารักไม่แพ้เจ้าตูบกับเจ้าเหมียวเลย สำหรับชายคนหนึ่งเขาเลือกที่จะเลี้ยงแรคคูน ถึงแม้คนจะไม่ค่อยเอามันมาเป็นสัตว์เลี้ยง แต่มันก็เป็นเพื่อนที่เขาถูกใจมากๆ เลย และมันก็น่ารักมากซะด้วย     มาให้พ่อป้อนนมมา https://www.instagram.com/p/BUKleDZlajE/?taken-by=titotheraccoon   แรคคูนที่ว่าก็คือเจ้า Tito แรคคูนบ้านแสนน่ารัก เจ้าของของมันทำงานเป็นคนรับกำจัดพืชและสัตว์ ตอนนั้นเพื่อนร่วมงานของเขาถูกจ้างวานให้เอาลูกแรคคูนออกจากห้องใต้หลังคาของลูกค้าคนหนึ่ง เขาก็เลยเอาพวกมันกลับมาร้าน เขาบอกว่าถ้าไม่มีใครต้องการเลี้ยงพวกมันก็จะเอาไปปล่อยในป่า เจ้าของของ Tito เห็นว่าตอนนั้นมันยังอายุได้ไม่ถึงเดือนเอง ถ้าเอาไปปล่อยในป่าต้องไม่รอดแน่ๆ แม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าจะดูแลมันไหวไหม แต่เขาก็เลือกรับมันมาดูแล     ไปๆ มาๆ ก็เลยกลายเป็นเพื่อนซี้ของเขาเลย   แต่อาจจะเหมือนเป็นทาสซะมากกว่า เพราะต้องตามใจมัน   อยากไปเที่ยวข้างนอกก็ต้องตามใจ   เพราะเขาทนเห็นหน้าน่ารักๆ ของมันหงอยไม่ได้ https://www.instagram.com/p/BeOrYVLjrlm/?taken-by=titotheraccoon   ตอนนี้มันโตแล้ว ก็ยังซี้กันอยู่เหมือนเดิม   ตอนอยู่บ้านมันก็ช่วยดูแลบ้านเหมือนกันนะ   ทำงานศิลปะไว้ติดในบ้านด้วย   แต่ก็ซนสมกับเป็นแรคคูนเลยล่ะ https://www.instagram.com/p/BfUjOQFj7l7/?taken-by=titotheraccoon   ที่สำคัญที่สุดก็คือมันทำตัวน่ารักทุกเวลา   เห็นถูกเลี้ยงไว้ในบ้านแบบนี้ แต่มันเป็นมิตรสุดๆ เลยนะ…

แมวจรจัดส่วนมากมีช่องว่างในจิตใจที่เกิดจากความลำบากที่ได้เจอมาทั้งนั้น แต่ช่องว่างนั้นสามารถเติมเต็มได้ถ้าได้เจอคนที่เข้าใจมัน…หรือไม่ก็เพื่อนแมวที่ถูกชะตา     แมวเหมียวสีน้ำตาล Taffy ติดเชื้อที่ดวงตาทั้ง 2 ข้าง ตอนที่มีคนช่วยมันเอาไว้ก็รักษาไม่ทันแล้ว ทำให้ตาข้างหนึ่งของมันบอดไปแล้วส่วนอีกข้างหนึ่งก็แทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่มันก็ขี้อ้อนมาก     ส่วนเจ้าแมว Bettina เป็นแมวกำพร้าที่แม่ทิ้ง ถึงมันจะร่าเริงและมีนิสัยขี้เล่น แต่ก็โหยหาความรักความสนใจจากคนรอบข้างอยู่ตลอดเวลา     เล่นซนให้เต็มที่ แล้วก็กินข้าวแบบเต็มที่   ทั้งคู่ถูกกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Chatons Orphelins Montréal ในเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดาช่วยเอาไว้ แล้วก็ได้ไปอยู่กับคนดูแลคนเดียวกัน ทำให้พวกมันได้มาเจอกันในที่สุด Bettina รู้สึกสนใจในเพื่อนใหม่มาก การมีเพื่อนอยู่ข้างๆ ตลอดทำให้มันไม่เหงา ทางด้าน Taffy เองก็ดูจะชอบที่มีคนให้อ้อนตลอดเช่นกัน แถมยังมีคนทำหน้าที่นำทางให้ด้วย     หลังจากที่ได้มาเจอกันพวกมันก็เลยอยู่ด้วยกันเสมอ ไม่ว่า Bettina จะเดินไปเล่นซนที่ไหน Taffy ก็จะเดินตามมันไปทุกฝีก้าว จากเดิมที่ Taffy ไม่ค่อยได้เล่นซนมากเพราะมองไม่เห็น มันก็เลยมีคนพาไปเล่นในที่ใหม่ๆ ทุกวันเลย เหมือนกับว่า Bettina มาช่วยเปิดโลกของมันให้กว้างขึ้น     อ้าวเพื่อนหายไปไหน…

ความประทับใจแรกที่ได้เจอกันมักเริ่มที่รูปลักษณ์ภายนอกเสมอ ดังนั้นเจ้าหมาร็อตไวเลอร์ตัวน้อยที่มีฟันยื่นจนดูประหลาดจึงไม่มีใครอยากพาไปเลี้ยงเลย มันมีฟันยื่นออกมาแบบนี้เนื่องจากเกิดมามีเพดานปากด้านล่างสั้น ในขณะที่หลายคนคิดว่าฟันของมันดูน่าเกลียด ครอบครัวของ Tessie Johnson กลับคิดว่านี่แหละคือความน่ารักของมัน พวกเธอเลยรับมันไปเลี้ยงเอง     ฟันยื่นแล้วไง น่ารักจะตาย   Johnson ตั้งชื่อเจ้าหมาตัวน้อยว่า Biggie มันเป็นหมาที่นอกจากจะมีหน้าตาแปลกเพราะมีฟันยื่นแล้ว นิสัยของมันก็ยังดูประหลาดด้วย เจ้านายของมันบอกว่านิสัยแปลกๆ ของมันเข้ากับคนในบ้านได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ เพราะพวกเขาก็ค่อนข้างจะบ้าบออยู่บ้างเหมือนกัน บางทีก็เล่นอะไรกันแผลงๆ หรือลุกขึ้นมาเต้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยก็มี ซึ่งเจ้า Biggie ก็จะเล่นไปด้วย     เห็นหน้าตาแบบนี้เราก็เล่นได้ทุกอย่างนะ   นอกจากนี้ Biggie ก็ชอบอยู่กับคนในครอบครัวแล้วอ้อนให้พวกเขาลูบมันด้วย แน่นอนว่าพวกเขาก็ยินดีเล่นกับมันทุกเวลาแหละ เพราะท่าทีของมันก็ทำให้พวกเขาดีใจตามไปด้วย     ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ Biggie ก็มีปัญหาอยู่บ้างเหมือนกัน อย่างที่เห็นได้ชัดเลยตอนที่รับมาเลี้ยงใหม่ๆ ก็คือมันหวาดกลัวผู้ชายมากๆ เห็นแบบนั้นแล้วก็ทำให้ Johnson รู้สึกสงสัยว่ามันอาจจะถูกผู้ชายทำร้ายมาตอนเด็กก็ได้ ก็เลยทำให้มันมีความกลัวติดมาจนถึงตอนนี้     อย่างไรก็ตามสำหรับน้องชายทั้ง 2 คนของ Johnson เจ้าหมากลับไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันมันก็รักพวกเขาแล้ว อาจจะเป็นเพราะมันรู้ว่าพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันก็ได้นะ…

ถ้าคุณเป็นทาสหมาแต่ยังไม่ได้กดติดตามทวิตเตอร์ WeRateDogs เอาไว้ล่ะก็ ถือว่าคุณพลาดแล้วล่ะ รีบไปกดติดตามไว้ด่วน ทวิตเตอร์ WeRateDogs มีน้องหมาน่ารักๆ ให้ได้เสพกันทุกวันเลยล่ะ แล้วทางทวิตก็จะให้คะแนนน้องหมาแต่ละตัวไว้ด้วยว่าตัวไหนได้คะแนนมากเท่าไหร่ รับรองเพื่อนๆ ถูกใจน้องหมาทุกตัวแหละ   นี่คือ Hugo มันรู้ว่าคุณกลัวฉลาม มันเลยลองแกล้งเล่นๆ ดู เอาไป 13/10 แต่แกล้งกันแบบนี้ไม่ตลกนะ   เจ้า Coop ขุดหลุมแล้วก็เข้าไปติดอยู่ในนั้นซะเอง แต่ใครก็คงเคยเจอเรื่องแบบนี้แหละเนอะ เอาไป 13/10 ละกัน ช่วยน้องด้วยนะ   เจ้าหมาน้อยคงจะชอบรั้วมากๆ เลย ฮ่าๆๆ…ล้อเล่นน่า ใครก็ได้ช่วยน้องออกมาที! 13/10   เจ้า Drago ไม่ชอบถ่ายรูป ก็เลยแกล้งแลบลิ้นตอนเห็นกล้อง มันคงไม่รู้หรอกว่าทำให้ดูน่ารักขึ้น 13/10 ไปเลย   Squeezie อยากจะเอาหินกลับบ้านไปด้วยสักก้อน น่าเอ็นดูอะ 13/10 ละกัน   Hazard กับ Sparta ถ้าคิดว่าไม่มีคนมองเมื่อไหร่ก็จะหอนคู่กันทุกที น่ารักนะเนี่ย…

แมวที่ถูกเลี้ยงปล่อยส่วนมากมักจะชอบออกไปเที่ยวนอกบ้านบ่อยๆ แต่ปกติแล้วไปไม่นานก็กลับมาที่บ้านแล้วจึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทว่าจู่ๆ เหมียว Jimmy ก็หายออกไปเที่ยวนานผิดปกติ มันไม่กลับบ้านมาเกือบ 2 อาทิตย์แล้ว ทำให้ Meike Vielsack ซึ่งเป็นทาสของมันกังวลใจมาก     เธอตามหามันทั่วบริเวณนั้นแล้วแต่ก็ยังไม่เจอ สุดท้ายเธอก็เลยต้องติดประกาศแมวหายให้คนแถวนั้นช่วยตามหามันอีกแรงหนึ่ง แต่ก็ยังไร้วี่แววของ Jimmy อยู่ดี ในช่วงที่ Jimmy หายไปนั่นเอง เพื่อนบ้านคนหนึ่งของเธอก็ราดคอนกรีตในโรงรถของเขาใหม่ และตั้งแต่ราดคอนกรีตเสร็จเขาก็ได้ยินเสียงร้องแปลกๆ ดังอยู่ทุกคืน     เพื่อนบ้านของเธอใช้เวลาอยู่หลายวันกว่าจะแน่ใจว่ามันเป็นเสียงแมว เขาดูจนมั่นใจว่ามันน่าจะดังมาจากใต้พื้นคอนกรีตที่ราดใหม่ตรงโรงรถ เพื่อนบ้านอีกคนแถวนั้นก็ยืนยันว่าได้ยินเสียงแมวเหมือนกัน เธอคิดว่ามันน่าจะเป็นแมวของ Vielsack ก็เลยเรียกเธอมาด้วยกันตอนที่ทุกคนกำลังจะช่วยเจ้าแมวออกมา   ถ้าเจาะตรงนี้ เจ้าแมวข้างในน่าจะออกมาได้   แต่กว่าที่พวกเขาจะรู้ว่ามันอยู่ตรงนั้นเวลาก็ผ่านไป 2 อาทิตย์แล้ว ไม่รู้ว่ามันจะยังปลอดภัยดีอยู่รึเปล่า ยังไงพวกเขาก็เป็นห่วงมันเลยตัดสินใจเจาะตรงพื้นโรงจอดรถที่น่าจะมีโพรงดู     เมื่อเจาะพื้นเสร็จพวกเขาก็เห็นแมวอยู่ข้างใต้นั้นจริงๆ ดีนะที่มันอยู่รอดในนั้นมาได้ตั้ง 2 อาทิตย์ แต่เนื่องจากมันถูกขังอยู่นาน แล้วก็กลัวเสียงดังจากการเจาะพื้น ทำให้มันไม่กล้าออกมาข้างนอก Vielsack และเพื่อนบ้านต้องรอกัน 10…

เพื่อนย่อมไม่ทิ้งกัน… หมาในศูนย์พักพิงทุกตัวล้วนอยากมีบ้านอยู่ทั้งนั้น ดังนั้นถ้ามีคนมารับเลี้ยงเมื่อไหร่พวกมันก็แทบจะพุ่งตัวออกไปจากศูนย์พักพิงทันที แต่ถึงจะมีคนมารับเลี้ยง เจ้า Sunny ก็ไม่ยอมออกจากศูนย์พักพิง เพราะถ้าไม่ได้ถูกรับเลี้ยงไปพร้อมกับเพื่อนหมา Georgia มันก็เลือกจะอยู่ด้วยกันที่นี่     Sunny หมาสายพันธุ์อเมริกันสตาฟฟอร์ดชายร์เทอร์เรียร์ และเจ้าหมาชิว่าว่า Georgia เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เป็นลูกหมาตัวน้อย มันทั้งคู่เคยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันมาเป็นเวลานาน ทว่าเจ้าของก็เก่าก็เลือกจะไม่เลี้ยงพวกมันต่อ แล้วส่งทั้ง 2 ตัวเข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิง พวกมันเลยต้องรอคอยวันเวลาที่จะมีบ้านใหม่อีกครั้งหนึ่ง     อย่างไรก็ตาม Sunny กับ Georgia สนิทกันมากๆ ถ้ามันไม่ได้อยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ก็จะร้องเรียกหากันตลอดเลย พวกมันมีสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งที่คนในศูนย์พักพิงทุกคนเห็นได้ชัดเจน ดังนั้นพอมีคนมาหารับเลี้ยงหมาตัวเดียว พวกมันก็เลยไม่ยอมไปบ้านใหม่ แต่จะรอคนที่พร้อมรับเลี้ยงพวกมันทั้ง 2 ตัวพร้อมๆ กันแทน     นับตั้งแต่พวกมันมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงจนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลากว่า 4 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครที่พร้อมรับเลี้ยงพวกมันไปพร้อมกันเลย     ถึงจะเป็นแบบนั้น ตราบใดที่ Sunny และ Georgia ก็ยังเลือกจะอยู่ที่ศูนย์พักพิงด้วยกัน มากกว่าการถูกับเลี้ยงแต่ต้องแยกกันไปอยู่คนละที่คนละทาง เพราะสำหรับพวกมันแล้วตราบใดที่ยังมีเพื่อนสนิทอยู่ข้างๆ ชีวิตของพวกมันก็ยังมีความสุขเสมอ…

ครั้งหนึ่งตอนที่ช่างภาพของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Milo’s Sanctuary แวะไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์ในเมืองลอสแองเจลิส เธอเห็นลูกแมวตัวหนึ่งนอนนิ่งอยู่ในกรงอย่างเรียบร้อยผิดปกติ พอเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เลยเห็นว่าขาของมันบาดเจ็บจนลุกขึ้นยืนไม่ได้นี่เอง สภาพของมันน่าสงสารมากจนเธอทนทิ้งมันไว้ในนี้ไม่ได้ เธอก็เลยติดต่อไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ของตัวเองแล้วพามันกลับไปรักษาด้วยเลย     พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Maverick ถึงมันจะเจ็บขาจนเดินไม่ได้ แต่มันก็มีความขี้อ้อนไม่แพ้ใครเลย ขอแค่มีคนอยู่ใกล้ๆ หรืออุ้มมันมากอดไว้ มันก็จะครางหึ่มๆ เสียงดังจนได้ยินชัดเจนเชียวล่ะ ความขี้อ้อนและเป็นมิตรของมันยิ่งทำให้คนใน Milo’s Sanctuary อยากรักษามันให้หายไวๆ มากขึ้น เพราะมันควรจะมีโอกาสได้วิ่งเล่นซนแบบแมวตัวอื่น     เจ้าเหมียวตัวนี้เพิ่งจะอายุได้แค่ 6 สัปดาห์เอง แต่ก็บาดเจ็บหนักซะแล้ว กระดูกของมันแตก และกล้ามเนื้อรอบๆ ก็ฉีกขาดไปด้วย พวกเขาคิดว่ามันน่าจะถูกคนทำร้ายมาก็เลยมีแผลแบบนี้ เพราะเป็นลักษณะของแผลจากการถูกเตะหรือตีเท่านั้น ไม่อย่างนั้นมันก็คงโชคร้ายไปเจออุบัติเหตุมา     ยังไงก็เถอะแผลของมันก็ไม่ใช่ว่าจะรักษาให้หายขาดไม่ได้ ขอแค่ให้มันได้รับการผ่าตัดก็จะหายดีในไม่ช้าแล้ว ซึ่งพวกเขาก็ยอมจ่ายค่าผ่าตัดให้มันด้วยความยินดี หลังจากมันผ่าตัดเสร็จมันก็ยิ่งมีท่าทีขี้อ้อนมากกว่าเดิม แม้จะยังอยู่ในระยะพักฟื้นและเดินไม่ได้ มันก็คงรับรู้ได้แล้วว่ามีแต่คนอยากช่วยมัน มันก็เลยตอบแทนด้วยการอ้อนแบบนี้   ขอบคุณนะฮับที่พาไปผ่าตัดฟรีๆ   ทางกลุ่มช่วยเหลือสัตว์บอกว่า “มันน่ารักมากๆ เลย แล้วก็ส่งเสียงครางบ่อยมากด้วย มันพยายามจะชวนให้เราเล่นด้วยทั้งที่ตัวเองยังไม่หายดีจนเดินได้เลย เราเดาว่าถ้ามันหายดีแล้วคงจะซนน่าดูเลยล่ะ” ทุกคนเห็นด้วยว่า Maverick…

ในทางการแพทย์แล้วไม่มีอะไรมาอธิบายถึงความมหัศจรรย์ของสายสัมพันธ์และความรู้สึกได้ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยให้คนป่วยรู้สึกดีขึ้นกว่าที่เป็นได้จริงๆ จนบางครั้งหายจากโรคร้ายโดยอธิบายไม่ได้ก็มี สำหรับเจ้าช้างน้อยแล้วมันก็ได้เพื่อนตัวใหม่ช่วยประคับประคองอาการที่ป่วยเอาไว้เหมือนกัน และก็ได้ใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกันแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ ก็ตาม     ช้างน้อยตัวหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ Hluhluwe’s Bonamanzi Game Reserve ของประเทศแอฟริกาใต้พลัดหลงจากฝูง มันเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ ตามลำพัง แต่ก็ไม่ได้พบกับฝูงสักที คนดูแลที่อยู่ที่นั่นเองก็พยายามช่วยมันตามหาฝูงแล้ว แต่พอเจอฝูงมันกลับโดนปฏิเสธไม่ให้กลับเข้าไปอีก อาจจะเป็นเพราะมันแยกทางจากฝูงนานแล้วก็ได้     พวกเขาก็เลยรับช้างตัวนี้มาอยู่กับมนุษย์แทนโดยมี Karen Trendler เป็นคนดูแล เพราะมันกำลังป่วย ถ้าอยู่ตัวคนเดียวไม่มีทางรอดชีวิตได้หรอก แล้วมันก็ได้รับชื่อว่า Ellie หลังจากให้สัตวแพทย์ตรวจร่างกายมันดูแล้ว ก็พบว่ามันเป็นโรคไส้เลื่อนที่สะดือติดเชื้อ (infected umbilical hernia) ซึ่งหาได้ยาก และสัตว์ที่เป็นโรคนี้แทบไม่รอดชีวิตเลย     นอกจากนี้ Ellie ก็ยังร่างกายอ่อนแอจนมีอาการแพ้นมด้วย ในทางกลับกันถ้ามันไม่กินนมมันก็จะไม่มีเรี่ยมแรงและสารอาหารมาเลี้ยงตัวเอง Trendler พยายามหานมหลากหลายแบบและก็นมสูตรพิเศษมาให้มันกินแล้ว แต่มันก็ยังแพ้อยู่ดี อาการของมันเลยทรุดลงเรื่อยๆ ประกอบกับการที่มันเป็นโรคซึมเศร้าจากการอยู่ตัวเดียวแล้วก็ยิ่งแย่ไปใหญ่     ไม่มีเพื่อนเลย โดดเดี่ยวเดียวดาย   อยากมีเพื่อนจังเลย   ถึงแม้คนที่ดูแลมันอยู่จะรักษาให้มันดีขึ้นไม่ได้…

ชีวิตหมาจรจัดไม่เคยมีคำว่า”ง่าย” หรอก พวกมันต้องดิ้นรนหาอาหารกินในแต่ละมื้อ และแย่งชิงพื้นที่อยู่อาศัยกับสัตว์ตัวอื่น ถ้าหากไม่แข็งแรงพอก็คงจะไม่รอด เช่นเดียวกับเจ้าหมา Spyder และเพื่อนรักของมัน แม้ว่า Spyder จะดิ้นรนเอาชีวิตรอดมาได้ แต่เพื่อนของมันไม่โชคดีแบบนั้น มันจึงเหลือตัวคนเดียว     ถึงเพื่อนรักจะตายไปแล้ว Spyder ก็ไม่ยอมทิ้งเพื่อน มันนอนกอดร่างเพื่อนที่แน่นิ่งไปแล้วอยู่นาน ตอนนั้นเองที่มีคนไปเจอมันเข้าแล้วช่วยให้มันมาอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Rescue Dogs Rock NYC เจ้าหมากลัวคนมากๆ ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายก็จะกลัวมากกว่าเดิม แถมพอไม่มีเพื่อนที่ไว้ใจอยู่เคียงข้างแล้วมันก็ไม่กล้าจะเผชิญหน้ากับสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตเลย     อาสาสมัครในศูนย์พักพิงใช้เวลานานมากกว่าที่จะทำให้มันรู้ว่าพวกเขาเป็นมิตรกับมัน แต่พอมันเริ่มไว้ใจพวกเขาแล้วมันก็เปลี่ยนเป็นหมาที่อ่อนโยนและขี้อ้อน     อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีปัญหากับการปรับตัวเข้าหาคนแปลกหน้าทุกคน รวมถึง Anne Grasso ที่ตั้งใจจะมารับเลี้ยงมันด้วย เธอต้องมานั่งเล่นกับมันอยู่หลายชั่วโมงกว่ามันจะยอมให้เธอเข้าใกล้ แต่เธอก็ไม่ย่อท้อเพราะรู้ว่าพอมันไว้ใจเธอแล้ว มันจะเป็นหมาที่น่ารักมากๆ     เธอเล่าว่า “หลายเดือนหลังจากมันถูกช่วยมา แม่ของฉันก็อยากรับเลี้ยงหมาตัวใหม่ ถึงมันจะตัวโตกว่าที่เราอยากได้ แต่หลังจากที่แม่ของฉันรู้เรื่องราวชีวิตของมันแล้ว เธอก็บอกว่า ‘เราจะเลี้ยงเจ้าหมาตัวนี้แหละ’” หลังจากที่ Grasso รับ Spyder มาเลี้ยงที่บ้านแล้ว เธอก็เปลี่ยนชื่อมันใหม่เป็น…

ถึงแม้คนขับรถประจำทางจะมีหน้าที่ขับรถไปตามจุดต่างๆ ที่กำหนดเท่านั้น แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ อย่างเช่นดูแลไม่ให้ผู้โดยสารที่ไม่ได้รับอนุญาตขึ้นมาบนรถแบบผิดๆ หนึ่งในผู้โดยสารต้องห้ามก็รวมไปถึงหมาจรจัดด้วย แต่นาย Cristhian ก็ยอมละเว้นให้หมาตัวหนึ่งขึ้นมานั่งบนรถได้โดยไม่ไล่มันออกไป เพราะเขาเห็นใจมัน ตอนนั้นเจ้าหมาจรจัดแอบขึ้นมาบนรถบัสที่เขาขับอยู่ ระหว่างที่จอดรับผู้โดยสารที่ป้ายแห่งหนึ่ง แล้วมันก็วิ่งตรงไปนั่งอยู่บริเวณเบาะหลังของรถทันที   จะมาไล่เก๊าลงรถเหรอ?   Cristhian ซึ่งเป็นคนขับรถก็เลยเดินตามไปหามันตรงที่นั่ง ตอนที่มันหันมามองเขา สายตาของมันเหมือนกับจะบอกว่า “จะไล่ผมลงไปจากรถใช่ไหม?” แต่ Cristhian ก็ไม่ได้ว่าอะไรมัน เขายังลูบหัวและทักทักทายมันอย่างเป็นมิตรด้วย แสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่าเขาไม่ว่าอะไรหรอกถ้ามันจะนอนอยู่ตรงนี้ เจ้าหมาเห็นว่าเขาไม่ไล่มัน ก็เลยขดตัวลงไปนอนซุกไออุ่นจากเบาะ เห็นแล้วน่ารักน่าเอ็นดูมากๆ เลย     สาเหตุที่ Cristhian ไม่ไล่มันลงไปจากรถเป็นเพราะว่าข้างนอกนั่นอากาศหนาวมากจริงๆ ในฐานะคนขับที่มีอำนาจที่สุดในรถ เขาก็เลยยอมให้มันได้อยู่ในที่อุ่นๆ สักพักหนึ่ง อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะเสร็จงาน ระหว่างนั้นเขาก็ถ่ายวิดีโอของหมาจรจัดตัวนั้นเก็บไว้แล้วเอาไปแชร์ต่อด้วยนะ ในวิดีโอเขาบอกว่าตัวเองไม่ไล่มันออกไปเพราะเป็นคนรักหมาเหมือนกัน แล้วก็อยากให้คนรักหมาทุกคนได้ดูและแชร์คลิปต่อเพื่อความรู้สึกดีๆ ด้วย      ได้เห็นเรื่องแบบนี้แล้วทำให้หัวใจพองโต ที่มา: Daily Mail, Informe CL

จะไม่ขอพูดอะไรมากกับคำว่าหน้าร้อน เพราะประเทศไทยของเราก็มีแค่ฤดูร้อน ร้อนมาก แล้วก็ร้อนที่สุด เราเลยเคยชินกับอากาศร้อนกันดี ในขณะที่เราดับร้อนกันโดยการไม่ออกจากบ้าน หรือไปสิงในที่แอร์เย็นๆ แทน สัตว์จากเมืองหนาวเขาก็มีวิธีดับร้อนในแบบของเขาเหมือนกัน บางวิธีก็ดูเข้าท่านะ น่าเก็บมาลองใช้บ้างในวันที่ร้อนจัดจริงๆ   ลงอ่าง…เอ้ย แช่น้ำนี่แหละดีที่สุด   ได้นอนด้วย ได้อยู่ในน้ำด้วย มีอะไรดีกว่านี้ไหม   บ้านไม่มีสระ แค่อ่างเล็กๆ ก็ต้องเอาวะ   ไปแช่น้ำข้างนอกทำไม แช่ในบ้านสะดวกฝุดๆ https://www.instagram.com/p/Bif5bU8Anjw/?utm_source=ig_embed   มารับลมทะเลกับเพื่อนซี้ดีกว่านะ   ถ้าอยู่ไกลทะเลมาก คลองแถวบ้านก็ไม่เลวนะเธอ   แช่โคลนมันก็ดีอยู่หรอก แต่ก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง   มนุษย์นี่ช่างทึ่มจริง แค่ย้ายบ้านมาอยู่ในตู้เย็นก็จบ ไม่ต้องทนร้อนแล้ว   ถ้าขี้เกียจมาก ก็หาทาสที่ช่วยให้คุณเย็นได้แม้อยู่บ้าน   ไอศกรีมต่างหากคือไอเท็มที่ทำให้เย็นใจที่สุด   เห็นไอศกรีมแล้วก็อยากกินนะ แต่ไม่อยากขึ้นจากน้ำ   วิธีสุดคลาสสิก นอนตีพุงอยู่หน้าพัดลม   ถ้าบ้านไม่มีอ่าง ก็ไปแอบใช้บ้านคนอื่นได้ (เหรอ??)   ถ้าร้อนจัดจริงๆ…

วันนี้เกือบเป็นวันปกติธรรมดาอีกวันสำหรับ Eunika Brown จากเวอร์จิเนีย แต่แล้วความผิดปกติก็เกิดขึ้นเมื่อเธอขับรถออกไปได้ 72 กิโลเมตร จากนั้นเธอได้จอดรถเพื่อที่จะแวะทานข้าว แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงดังเมี๊ยวๆ อยู่ใกล้ๆ รถ เธอจึงเปิดประตูด้านข้างคนขับ และคิดว่าเสียงนั้นน่าจะอยู่แถวๆ กันชน     แล้วมันก็เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ ไม่รู้ว่าเจ้าเหมียวแอบปีนขึ้นตอนไหน อย่างไร แต่ตอนนี้มันติดอยู่ที่กันชน ไม่สามารถออกได้ และต้องการความช่วยเหลือ Brown จึงโทรหา  Petersburg Animal Care & Control และ Chief Debbie Broughton ซึ่งเป็นร้านช่างในท้องถิ่นเพื่อขอความช่วยเหลือ     เมื่อมาถึง พวกเขาก็จัดการช่วยเจ้าเหมียวทันที โดยเริ่มจากการถอดกันชนออก ตอนนั้นพวกเขาเห็นหัวเจ้าเหมียวโผล่ออกมาจากเล็กน้อยจากช่องแคบๆ แต่เห็นได้ชัดว่ามันกำลังทรมาน ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าเหมียวติดอยู่ในนั้นนานแค่ไหน แต่เป็นไปได้มันอาจจะอยู่ในนั้นมาตลอดทั้งวัน จนทำให้มันเกิดอาการเครียด อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เจ้าหน้าพยายามช่วยเหลือ ในที่สุดมันก็ปลอดภัย     พวกเขาใช้เวลาประมาณ 10 นาที ในการปลดปล่อยเจ้าเหมียวสู่อิสระ จากนั้นทาง Chief Broughton ก็ตรวจร่างกายเจ้าเหมียวทันที โชคดีที่มันไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่มันมีรูปร่างค่อนข้างผอม…

สำหรับสัตว์ที่ต้องเปลี่ยนสถานะเป็นแม่นั้นไม่ใช่เรื่อยง่ายเลย โดยเฉพาะหมาแมวที่มีลูกครั้งละไม่ต่ำกว่า 1 ตัว ทำให้พวกมันแทบไม่มีเวลาได้พัก เหมือนกับ Peregrine แมวที่ถูกพาเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิง ขณะที่มันท้องแก่มากแล้ว ก่อนจะถูกย้ายไป Lost Dog and Cat Rescue Foundation(LDCRF) ในเวลาต่อมา     หลังจากย้ายได้ไม่ถึง 48 ชั่วโมง เจ้าเหมียวก็คลอดลูก โชคดีที่ Jen คนที่ชอบเลี้ยงดูสัตว์ ตัดสินใจรับมันและลูกๆ มาดูแลที่บ้าน เพราะไม่อยากให้มันอยู่ในกรงด้วยสภาพร่างกายที่อ่อนแอ ตอนแรก Peregrine คลอดลูกทั้งหมด 5 ตัว น่าเสียดายที่อีก 2 ตัวไม่รอด ดังนั้น จึงเหลือเพียง 3 ตัวให้มันดูแล และในฐานะแม่มันก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำลูกๆ เติบโตแข็งแรง       แม้ว่า Jen จะคอยช่วยแม่แมวดูแลลูกตลอด แต่ Peregrine ก็ไม่เคยออกห่างจากลูกเลย เพราะนอกจากจะได้เห็นลูกในสายตาแล้ว มันยังได้ใกล้ชิดกับแม่ด้วย แม่อุปถัมภ์บอกว่า Peregrine ชอบอยู่ใกล้ๆ เธอ ทุกครั้งที่มีโอกาส มันจะเข้ามามาเธอ เข้ามาเลีย…

อากาศที่ร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นปัญหาในการใช้ชีวิตสำหรับทั้งคนและสัตว์ โชคดีที่เรามีแอร์กับพัดลมไว้ดับร้อน ก็เลยพอจะผ่านวันร้อนๆ ไปได้บ้าง ส่วนเจ้าหมาเองก็มีวิธีดับร้อนในแบบของมันเหมือนกัน แต่คงไม่มีใครจะดูเย็นฉ่ำเท่าเจ้า Baloo ที่ใช้สปริงเกอร์ในการดับร้อนอีกแล้ว     ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา อากาศในเมืองเลคดัลลาส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาก็ร้อนกว่าเดิมมาก ทำให้เจ้าหมา Baloo ต้องหาวิธีดับร้อนแบบใหม่ มันค้นพบว่าสปริงเกอร์ที่เจ้าของเอาไว้รดน้ำให้หญ้านี่แหละเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเลย และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามันก็ติดสปริงเกอร์มากๆ จนเคยสร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของด้วย     ครั้งหนึ่งตอนที่ Cara Wohr เจ้าของของมันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอน เธอก็ได้ยินเสียงดังมาจากชั้นล่าง แต่ก็ไม่ได้แปลกใจมาก เพราะที่บ้านเลี้ยงหมาไว้ตั้ง 5 ตัวเสียงดังจึงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ทว่าครั้งนี้เจ้า Baloo มันเห่าเสียงดังไม่ยอมหยุดซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ เธอก็เลยลองลุกไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่ชั้นล่างกันแน่ พอลงมาถึงหน้าประตูเธอก็ต้องอึ้งกับภาพที่ได้เห็น เพราะเจ้า Baloo มันลากสปริงเกอร์ลอดประตูหมาเข้ามาเล่นในห้องนั่งเล่นเลย…     แม้จะตกใจมากๆ Wohr ก็ไม่ลืมที่จะใช้มือถือที่ติดมืออยู่ถ่ายรูปเอาไว้ ก่อนรีบดันสปริงเกอร์ออกไปนอกบ้านก่อนที่ห้องจะเปียกไปมากกว่านี้ จากนั้นเธอก็ต้องใช้ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ตั้ง 5 ผืนมาเช็ดโซฟา ทีวี พื้นห้อง เพดาน โคมไฟ และอื่นๆ ในห้องอีก…

ไม่มีใครรู้ว่าลูกแมวตัวนี้จะอยู่รอดได้ใน 24 ชั่วโมงแรกหรือไม่ แต่ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 3 สัปดาห์ น้ำหนักของมันกำลังเพิ่มขึ้น และมันก็น่ารักซะจนไม่มีใครต้านทานได้ นี่เป็นเรื่องราวของ Aura ลูกแมวที่เกิดมาพร้อมพี่น้องอีก 4 ตัว และมันได้รับการช่วยเหลือโดย TinyKittens ในประเทศแคนาดา     Shelly ผู้ดูแลมิ้วน้อยสังเกตเห็นว่าพี่น้องของมันอีก 4 ตัว โตขึ้นใน 6 ชั่วโมงแรก ยกเว้น Aura ตัวเดียว ที่มีน้ำหนักลดลงจากเดิม เมื่อสังเกตดูดีๆ ก็พบว่า Aura เกิดมาพร้อมกับอาการปากแหว่งเพดานโหว่ ดังนั้นผู้ดูแลจึงต้องป้อนนมให้มันทุกๆ 2-4 ชั่วโมง แต่ไม่แน่ใจว่ามันจะผ่านคืนแรกนี้ไปได้หรือเปล่า     อย่างไรก็ตาม มิ้วน้อยปฏิเสธที่จะยอมแพ้ ดังนั้นผู้ดูแลเองจึงพร้อมจะสู้ไปกับมัน พวกเขาบอกว่า “มิ้วน้อยดูมีความสุข แข็งแรง ซุกซน และมีความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตอยู่” พวกเขาต้องรอให้ Aura อายุได้ประมาณ 4-5 เดือน ถึงจะผ่าตัดแก้ปากแหว่งเพดานโหว่ได้ และก่อนจะถึงเวลานั้น ผู้ดูแลก็มุ่งที่จะดูแลมันให้ดีที่สุด     ส่วนตัวมิ้วน้อยเองนั้น แม้จะเป็นปากแหว่งเพดานโหว่ แต่มันไม่ชอบให้ความผิดปกตินี้มาหยุดยั้งมัน…

เมื่อวันพุธที่ 30 พฤษภาคม เวลา 5.30 น. Dr. Michael White ผู้อำนวยการ Harris County Animal Shelter ในฮุสตัน ได้เปิดดูทีวี ตอนนั้นเป็นการรายงานข่าวเกี่ยวกับศูนย์พักพิงในท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงที่โด่งดังชั่วข้ามคืน หลังจากที่สุนัขและแมวกว่า 200 ตัว ถูกฆ่าตายภายในเวลาเพียง 3 วัน     วันที่ไปรายงานข่าว นักข่าวยังได้พบกับสัตว์ที่ถูกทิ้งอยู่นอกศูนย์พักพิง Harris County shelter อีกด้วย มันเป็นหมาที่ถูกล่ามด้วยโซ่แล้วผูกติดไว้กับรั้ว แต่น้องหมากลับยิ้มกว้างและส่ายหางเมื่อเห็นคนเดินมาหามันท่ามกลางความมืด     ในข่าวรายงานว่า นักข่าว Bludau คนที่ไปพบสุนัขบอกว่าเธอจะอยู่กับเจ้าหมาตัวนี้ที่นี่จนกว่าจะมีคนมาช่วยมัน เมื่อได้ยินแบบนั้น White จึงรีบลุกขึ้นแล้วไปถึงศูนย์พักพิงดังกล่าวภายใน 45 นาที จากที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่านอกจากมีหมัดและพยาธิหนอนหัวใจแล้ว เจ้าหมาก็ไม่มีปัญหาอย่างอื่นเลย มันเป็นสุนัขพันธุ์ผสมอายุ 2 ปี ซึ่งพนักงานในศูนย์ตั้งชื่อมันว่า Janelle     อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เอ็กซ์เรย์ พบว่า Janelle ไม่ได้ตัวคนเดียว…

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ลูกแมวจะมีหน้าตาหรือรูปร่างคล้ายพ่อแม่ ก็มันสายเลือดเดียวกันอะเนาะ แต่ก็มีอีกหลายคู่นะที่บังเอิญหน้าตาเหมือนกัน ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน สำหรับเจ้าเหมียวเหล่านี้ มีทั้งที่เป็นครอบครัวเดียวกัน และต่างครอบครัว แต่ที่น่าสนใจคือ พวกมันมีหน้าตาเหมือนกันเป๊ะ ต่างกันแค่ขนาด หรือจะเรียกว่าเหมียวเวอร์ชั่นเด็กกับผู้ใหญ่ก็ได้   1. ซวยแล้ว ดันมีลูกแมวหน้าเหมือนเรา เมียรู้ตายแน่กรูส์   2. นั่นเงาหรือแมวอีกตัว เหมือนเกิ๊น   3. นี่ลูกเดี๊ยนเอง เหมือนเดี๊ยนเวอร์ชั่นเด็กเป๊ะ   4. ไหนๆ ก็เหมือนกันแล้ว รักกันไว้ดีกว่าเนาะ   5. แม่ลูกกันแน่ๆ ไม่ต้องสงสัยเลย   6. ต่างกันแค่สีตาเท่านั้นแหละ   7. เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอน 14   8. เจอตัวเองเวอร์ชั่นเด็กเข้าไป ถึงกับงงเลยอะเด้   9. ผลผลิตของฉันเอง สำเนาถูกต้องทุกตัว   10. เป็นคู่แม่ลูกที่เหมือนกันทุกตารางนิ้ว   11. แมวสองตัวสองเวอร์ชั่น  …

ในโลกนี้มีหลายเรื่องที่ถ้าทำตามลำพังแล้วแสนลำบากยากเย็น แต่พอมีคนมาช่วยเพิ่มกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที มนุษย์จึงเรียนรู้การทำงานร่วมกัน หรือเรียกอีกอย่างว่าทีมเวิร์ก ไม่เพียงเฉพาะแค่คนเท่านั้น สัตว์อื่นๆ ก็รู้เรื่องนี้ดีเหมือนกัน พวกมันก็มีช่วงเวลาที่ต้องใช้ทีมเวิร์กเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ (ส่วนมากก็คือ…ของกิน) มาครอบครอง แต่ว่าจะช่วยกันแล้วเรื่องจะง่ายหรือยากขึ้นก็แล้วแต่คู่ด้วยนะ   นึกเหรอว่าหนูจะออกจากกล่องสูงไม่ได้ มีพี่งูช่วยซะอย่าง   ล่อนางเอาไว้แบบนั้นแหละเด็กๆ เราได้ของมาแล้ว   สูงอีกนิดได้ป่าวเพื่อน สาวจะผ่านมาแล้ว   หึหึ มนุษย์ไม่รู้ล่ะสิว่าแมวใช้ตู้กดน้ำได้   ไม่รู้ว่ามันช่วยกัน…หรือแย่งกันกันแน่?   อุตส่าเอาเบคอนไว้บนโต๊ะ เจ้าแมวก็ยังปัดลงไปให้หมากินได้ ฮือ   ตัวเล็กอยากข้ามฝั่งก็บอกพี่นะ เดี๋ยวพาไป   เห็นน้องคาบมาไม่ไหวเลยช่วยฮะ   ไม่ว่าจะสูงแค่ไหนก็ไปถึง   เจอแมวหมู่หน่อยเป็นไง   ใครมารังแกน้องผม เดี๋ยวงับหน้าเลย   ไม่ได้ใช้เพื่อนเป็นสะพานนะ มันคือทีมเวิร์กจริงๆ   ไหนพี่บอกว่าได้กลิ่นเนื้อไง ข้างบนมีแต่ไข่นะ   เหนื่อยแล้วเหรอ งั้นขี่หลังเราก็ได้   ทนอีกสักชั่วโมงนะตูบ เหมียวยังไม่คิดออกเลยจะเปิดโหลยังไง   ช่วยเต็มที่แล้วนะ…

หลังจากออกไปข้างนอกมาทั้งวัน Ting ก็อยากกลับมาเจอเจ้าหมา Duo Duo ที่บ้านให้ชื่นใจสักหน่อย แต่พอกลับมาที่บ้านก็ไม่เห็นหมาสุดรักเลย เธอกลับเจอหมาอีกตัวหนึ่งซึ่งเธอไม่รู้จักแทน เธอก็เลยมองหาเจ้าหมาต่อ ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งเลยกว่าเธอจะเข้าใจได้ว่าหมาแปลกหน้าที่เธอเห็นอยู่…คือเจ้า Duo Duo นั่นแหละ     Ting เป็นหญิงจากประเทศไต้หวัน เธอเลี้ยงหมาเชาเชาอยู่ตัวหนึ่งซึ่งก็คือ Duo Duo ด้วยสายพันธุ์ของมันทำให้เจ้าหมามีขนฟูสีน้ำตาล ดูนุ่มนิ่มน่ากอดเหมือนกับพี่หมีเชียว     แต่ใจขณะที่เธอไม่อยู่บ้าน แม่ของเธอเห็นว่าช่วงนี้อากาศมันร้อนมากๆ แล้ว เจ้า Duo Duo ก็ขนหนาซะขนาดนั้นเธอกลัวว่ามันจะร้อนจนเป็นลมไป เธอก็เลยพามันไปตัดขนที่ร้านเอง แต่แทนที่จะตัดขนมันให้สั้นลงนิดหน่อย เธอเลือกที่จะตัดขนมันจนเตียน ตอนนี้มันกลายเป็นหมาขนโล้นสีขาวไปซะแล้ว     พอ Ting กลับมาบ้านก็เลยจำ Duo Duo ไม่ได้เพราะมันเปลี่ยนไปเป็นหมาคนละตัวนี่แหละ แต่พอจำได้ก็ไม่รู้จะไปโทษใครดี เพราะแม่ก็หวังดีอยากให้มันไม่ร้อนแค่นั้น เธอก็เลยได้แต่ขึ้นข้อความตัดพ้อทางเฟซบุ๊กว่า “โถ่ เชาเชาที่น่าสงสาร แกเปลี่ยนไปจนฉันแทบจำไม่ได้เลยนะเนี่ย”     ตอนนี้เหลือขนสั้นๆ แค่ตรงรอบๆ จมูกกับตาเอง   ชาวเน็ตที่ได้เห็นมันต่างก็พากันเอ็นดูมัน…

ใครที่เลี้ยงสุนัข เวลากลับไปถึงที่บ้านก็มักจะเจอพวกมันออกมาต้อนรับเราด้วยความดีใจ บางตัวก็เห่าเสียงดัง บางตัวก็วิ่งเข้ามากอดเรา ซึ่งก็น่ารักทั้งนั้นแหละ แต่คงไม่มีตัวไหนจะโดดเด่นเท่ากับเจ้า Murray อีกแล้ว มันมีวิธีการต้อนรับเจ้านายที่โดดเด่นเป็นที่สุด ด้วยการปีนไปบนหลังคาของบ้าน 2 ชั้นเพื่อให้เขาเห็นว่ามันรออยู่ชัดๆ   เจ้าตูบ Murray   กับเจ้าของ AJ Allee   เจ้าของของ Murray ก็คือหนุ่มใหญ่ AJ Allee ตอนแรกเขาก็ไม่รู้หรอกว่ามันชอบขึ้นไปบนหลังคาเพื่อต้อนรับเขา จนมีเพื่อนบ้านมาบอกเขาว่าเห็นเจ้าหมาอยู่บนหลังคา ตอนแรกเขาก็กลัวว่ามันจะเป็นอันตรายอยู่เหมือนกัน ก็เลยพยายามปิดทางไม่ให้มันขึ้นไปบนหลังคาได้อีก แต่ปิดทางยังไงมันก็จะหาทางขึ้นไปบนหลังคาจนได้ เขาก็เลยต้องปล่อยให้มันทำตามใจชอบ พอเขาไม่กังวลใจเรื่องที่มันขึ้นไปบนหลังคาแล้ว มองอีกทีการที่มันแสดงความดีใจในลักษณะนี้กับเขา ก็ดูเป็นเรื่องแปลกไม่ซ้ำใครดี แถมยังน่าชื่นใจอีกด้วย   เวลารอต้อนรับเจ้านายจะขึ้นมาบนนี้ สูงมากเลยนะเนี่ย   พอเจ้านายกลับมาบ้านก็จะวิ่งไปมาอยู่ด้านบนอย่างลิงโลดก่อนลงมาต้อนรับ   ออกไปบนหลังคาทางระเบียงชั้นบนนี่เอง   นอกจากเจ้านาย บางครั้งก็ทักทายเพื่อนบ้านที่พาหมามาเดินเล่นอยู่บนนี้แหละ   มันเคยไปขึ้นเครื่องบินกับ Allee ด้วยนะ เพราะเขาขับเครื่องบินได้   มันเป็นผู้ช่วยนักบินที่ดีทีเดียว เพราะมันหลับแล้วไม่กวนเขาตอนขับเลย   ไม่แน่ว่ามันอาจจะติดใจที่สูงจากการนั่งเครื่องบินก็ได้ ใครจะไปรู้   ถ้าได้ไปเจอกับเจ้า Huck…

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา คนในชุมชนเมืองบอยส์ รัฐไอดาโฮ ประเทศสหรัฐอเมริกาก็คงจะงงไปตามๆ กัน เมื่อต้องตื่นมาเจอแพะฝูงใหญ่บุกเมืองโดยไม่มีที่มาที่ไปเลย     ไม่มีใครรู้รายละเอียดว่าแพะกว่า 100 ตัวนี้มาจากไหน ตอนมาเจอพวกมันก็เดินไปตามบ้านแต่ละหลัง แล้วเล็มกินหญ้าอย่างสบายอารมณ์ซะแล้ว พออยู่บ้านหลังหนึ่งจนพอใจพวกมันก็จะพากันยกพวกไปบ้านหลังต่อไป และไล่กินทั้งหญ้า ใบไม้ ดอกไม้ หรืออะไรก็ตามที่พวกมันกินได้ทุกอย่าง   Here is a live look at #Boise Goat-a-Paloza 2018 pic.twitter.com/RTZR6bWsRP — Joe Parris (@JoeParrisTV) August 3, 2018   ใบไม้ที่อยู่บนต้นก็ยังจะกิน!   Joe Parris นักข่าวท้องถิ่นจากช่อง KTVB ถ่ายรูปและวิดีโอของเหตุการณ์นี้ไว้ได้ทั้งหมด และแชร์มันลงบนทวิตเตอร์ของตัวเอง ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นที่ฮือฮาพอควร Parris รายงานบนทวิตเตอร์ว่า “พวกมันเดินทางจากบ้านหลังหนึ่งไปอีกหลังหนึ่ง และกินทุกสิ่งที่ขวางหน้า ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกมันมาจากที่ไหน…ยังไงจะอัปเดตเพิ่มเติมให้นะครับ”…

เมื่อแม่หมาท้องเจ้าของก็คาดหวังจะได้อุ้มลูกหมาแสนน่ารักไวๆ กันทั้งนั้น ดังนั้นเมื่อแม่หมา Ddorongy แอบไปคลอดลูกไว้แล้วไม่พากลับมา ก็เลยทำให้เจ้าของกังวลใจ แม้จะผ่านไปเป็นเดือนแล้วก็ไม่มีใครได้เห็นลูกหมาเลย ด้วยความเป็นห่วงเจ้าของก็เลยจำเป็นต้องแอบตามไปดูว่าลูกหมาพวกนั้นเป็นตายร้ายดียังไงกันแน่?…แล้วทำไมแม่หมาถึงต้องซ่อนลูกเอาไว้?   นี่คือแม่หมา Ddorongy   เจ้าของเห็นมาสักพักแล้วว่ามันท้องโตมาก   แต่พอมันคลอดลูกเสร็จ มันก็ไม่ได้พาลูกหมากลับมา จนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปเป็นเดือนแล้ว   แต่ Ddorongy ก็จะออกไปข้างนอกเป็นประจำทุกวัน อาจจะไปหาลูกหมาก็ได้   ถ้าอยากรู้ก็ต้องลองตามกันไปดู!!   แต่แม่หมาก็ระวังตัวดีมาก มันเห็นว่ามีคนแอบตามมา   มันก็เลยเปลี่ยนเส้นทางกะทันหันแล้วไปที่อื่นแทน   และที่ที่มันพาเรามาก็คือ…บ้านของแฟนหนุ่ม!?   แต่ที่นี่ไม่มีลูกหมาอยู่หรอกนะ เจ้าของของพ่อหมาก็บอกว่าหาลูกหมาไม่เจอเหมือนกัน   ในเมื่อระวังตัวดีขนาดนี้แล้ว คงต้องหันมาพึ่ง GPS แทนแล้วล่ะ   เมื่อไม่มีคนตามดู แม่หมาก็ไปในที่ที่เราไม่เคยรู้จริงๆ   ที่นั่นก็คือโรงเก็บของที่ห่างจากบ้านของพ่อหมาไม่มาก   อุต๊ะ!! ตามมาเจอเราได้ไงเนี่ย??   ทำเนียนหนีมนุษย์ไปซะแล้ว   ไหนมาดูซิว่าลูกหมาอยู่ที่นี่รึเปล่า   พอใช้กล้องส่องดูใต้โรงเก็บของก็เจอลูกหมาจริงๆ ด้วย มีตั้ง 3…

ศาลเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศตึงเครียดมาก เพราะต้องตัดสินคดีความอย่างจริงจัง บางครั้งเมื่อมีเด็กต้องเข้าว่าความด้วยก็เลยทำให้พวกเขาเครียดมาก ยังดีที่ทางศาลมีตัวช่วยให้น้องๆ อยู่ ซึ่งก็คือเหล่าหมาอาสาสมัครที่ทำหน้าที่เป็นกำลังใจและปกป้องเด็กที่มาขึ้นศาลด้วย ทำให้พวกเขาอุ่นใจและมีความกล้าที่จะในการในศาลต่อไปได้     ในบรรดาหมาที่ทำงานช่วยเด็กๆ ในศาล ก็มีเจ้า Karl ที่พิเศษกว่าใครเพื่อน เนื่องจากมันเป็นหมาหูหนวกเพียงตัวเดียวที่ได้ทำหน้าที่ในศาลนั่นเอง Karl เข้ากับเด็กๆ ได้ดีมากเพราะว่ามันดูตัวใหญ่น่าจะปกป้องเด็กได้ ในขณะเดียวกันท่าทีอ่อนโยนของมันก็ทำให้มันดูน่าเข้าหาด้วยเช่นกัน     ถึงพี่จะตัวใหญ่แต่ใจดีนะฮะ   เป็นมิตรกับเด็กทุกคนแน่นอน   ครูฝึกบอกว่าการที่มันหูหนวกทำให้ทำหน้าที่ได้ดีกว่าหมาตัวอื่น เพราะมันจะสนใจแต่เด็กที่ต้องดูแลเท่านั้น ไม่ถูกเสียงคนให้การหรือเสียงเคาะค้อนทำให้ตื่นตกใจเหมือนหมาตัวอื่น ทว่ามันก็คือข้อเสียอย่างหนึ่ง นั่นก็คือมันไม่สามารถสื่อสารกับเด็กด้วยเสียงพูดได้เหมือนกับเพื่อนหมาของมันนั่นเอง จุดนี้ทำให้ตอนทำงานใหม่ๆ Karl มีปัญหามากเลยทีเดียว     แต่ครูฝึกของมันก็ไม่ได้ตัดมันออกจากหน้าที่เลย เธอรู้ว่าทุกปัญหามีทางแก้เสมอ และทางออกสำหรับ Karl ก็คือการสอนภาษามือให้กับมัน ตอนที่สอนภาษามือให้มัน ครูฝึกก็ได้รู้ว่า Karl ฉลาดมากๆ มันเรียนรู้ภาษามือได้อย่างรวดเร็ว แล้วก็ทำตามคำสั่งได้เป็นอย่างดีด้วย     ได้รับประกาศนียบัตรรู้ภาษามือด้วย   แน่นอนว่าเด็กๆ ก็ต้องเรียนภาษามือเพื่อจะสื่อสารกับมันเหมือนกัน แต่ครูฝึกได้ทำป้ายสอนภาษามือง่ายๆ ไว้ให้พวกเขาแล้ว เด็กๆ…

ที่ผ่านมาเราได้นำเสนอแมวแปลกๆ มาเยอะแล้ว ทั้งแมวที่มีขาไม่ครบ แมวที่มีหูมาก หรือแมวที่มีนิ้วเยอะเกิน แต่ยังไม่เคยแนะนำเรื่องของแมวที่มาขาเยอะมาก่อนเลย วันนี้เราเลยจะพาเพื่อนไปเจอกับ Henrietta ลูกแมวสุดหายากที่เกิดมามีขาตั้ง 6 ขา แถมยังเป็นแมว 6 ขาตัวแรกในประเทศอังกฤษด้วยนะ     Henrietta เกิดมาในศูนย์พักพิง ไม่มีใครสังเกตเห็นขาที่เพิ่มมาของมันในตอนแรกเลย เพราะมันเป็นเพียงแค่ก้อนเนื้อเล็กๆ เท่านั้น แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นได้ชัดเลยก็คือขาของมันบิดไปคนละทาง ขาที่ผิดรูปของมันเป็นอาการที่เกิดได้ทั่วไปถ้าถูกเบียดตอนอยู่ในท้องแม่ แต่ก็แก้ไขได้ไม่ยากถ้าเกิดนวดอย่างถูกวิธีตั้งแต่เด็ก มันก็เลยกลับมาขาที่ปกติ     อย่างไรก็ตามพอผ่านไปเกือบ 2 เดือน ก้อนเนื้อเล็กๆ ตรงขาหลังของมันก็เริ่มโตขึ้น มีกระดูก อุ้งเท้าและกรงเล็บงอกออกมากลายเป็นขาที่ 5 และ 6 ทำให้อาสาสมัครที่ดูแลมันอึ้งมากเลย พอหาข้อมูลเพิ่มดูก็พบว่ามันเป็นแมวที่เกิดมาพร้อมกับอาการที่เรียกว่า polymedia ซึ่งทำให้เกิดมาพร้อมชิ้นส่วนที่มากเกิน สามารถเกิดได้ทั้งในคนและสัตว์ทุกชนิด แต่เป็นอาการที่หาได้ยากมากๆ     ในประเทศอังกฤษไม่เคยมีแมวตัวไหนมีอาการนี้มาก่อนเลย มี Henrietta ตัวแรกนี่แหละที่เกิดมามี 6 ขา ถือว่ามันเป็นแมวที่พิเศษมากๆ เลยนะ อย่างไรก็ตามขาที่งอกเพิ่มมาไม่สามารถใช้งานได้ มันเป็นเหมือนก้อนเนื้อเท่านั้น ดังนั้นมันก็ใช้ชีวิตเหมือนแมวปกติทั่วไปนี่แหละ แถมยังร่าเริงมากซะด้วย…

แมวเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างไม่สนโลก เวลาที่ทาสเรียกหรือคุยอะไรด้วยมันก็ไม่ค่อยสนใจ ทำให้เราคิดว่า ‘มันคงไม่เข้าใจที่เราพูดหรอกมั้ง?’ ทว่าก็มีชาวเน็ตอีกกลุ่มหนึ่งจากญี่ปุ่นที่คิดว่าพวกมันน่าจะเข้าใจสิ่งที่มนุษย์พูด เพราะเรื่องราวที่พวกเขาเคยเจอมามันทำให้คิดแบบนั้น     เรื่องที่ว่าแมวเข้าใจที่เราพูดรึเปล่าเริ่มต้นจากทวิตเตอร์ของ @b_st_info เขาบอกว่าแมวที่แถวบ้านของเขาน่าจะเข้าใจที่เขาพูดได้เป็นอย่างดี เขาเล่าว่า “แมวที่บ้านของฉันชอบหนีออกไปบ่อยๆ พอมันหายไปทีไรฉันก็จะไปหาหัวหน้าแมวจรจัดแถวนั้น แล้วบอกมันว่าถ้าเจอแมวของฉัน ช่วยบอกมันให้กลับมาบ้านด้วย จากนั้น 20 นาทีแมวของฉันก็จะกลับมาตลอดเลย ตอนแรกฉันก็คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญนะ แต่ว่ามันเกิดขึ้น 5 ครั้งติดต่อกันแล้ว ฉันก็เลยต้องยอมรับว่าแมวเข้าใจที่มนุษย์บอกจริงๆ” ก็อย่างที่เขาบอกว่ามันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ แต่ถ้าเกิดขึ้นตั้ง 5 ครั้งก็คงไม่บังเอิญแล้วล่ะ     หลังจากที่มีคนอ่านทวิตของเขา ชาวเน็ตคนอื่นก็ร่วมแชร์เรื่องราวในทำนองเดียวกันด้วยเหมือนกัน “เมื่อนานมาแล้วฉันบอกแมวจรจัดที่อยู่แถวบ้านว่า ‘พาเพื่อนมาด้วยก็ได้นะ’ แล้ววันต่อมามันก็มีเพื่อนมาเพิ่มจริงๆ นอกจากนั้นมันก็ไม่เคยกัดกับหมาที่บ้านฉันเลย เพราะฉันบอกว่าไม่อยากให้มันทะเลาะกัน” “ฉันก็เคยเจอเรื่องแบบนี้ ลูกแมวที่บ้านฉันหายตัวไปเป็นเดือนตอนที่ไม่สบาย ฉันเริ่มจะถอดใจแล้ว ก็เลยบอกแม่แมวว่า ‘บอกลูกให้กลับมาไวๆ นะ’ แล้วลูกมันก็กลับมาในสภาพผอมกร่อง ฉันคิดว่ามันเข้าใจฉันนะ”     “ฉันก็มีเรื่องทำนองเดียวกัน แถวบ้านฉันมีแมวจรจัดตัวหนึ่งที่ชอบรังแกแมวจรจัดอีกตัว ฉันเลยเอาใจมันทั้งคู่ แล้วมองตามันพร้อมบอกว่า ‘หยุดแกล้งเพื่อนแล้วดีกันได้แล้วนะ’ จากนั้นมันก็หยุดทะเลาะกันแล้วกอดกันเฉยเลย” “ครั้งหนึ่งแมวของฉันเคยหายไปในป่า ฉันออกไปตามหาแล้วเจอแมวจรจัดที่ชอบเล่นแถวนั้นพอดี เลยบอกมันว่า ‘เห็นแมวฉันบ้างไหม?…

ถ้าเราเกิดมาพิการและแตกต่างกับคนอื่น นอกจากจะมีปัญหาในการใช้ชีวิตแล้ว อาจมีปมด้อยในเรื่องร่างกายที่ไม่เหมือนคนทั่วไปด้วย ดังนั้นถ้าเกิดมีชีวิตที่เกิดมาพิการยิ่งน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นเรื่องน่ายินดี ทว่าสำหรับแมวเหมียว 2 ตัวนี้แล้ว การที่มันเกิดมาพิการทั้งคู่ อาจจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพวกมันก็ได้     ลูกแมวน้อย Frog เกิดมาโดยมีขาแค่ 2 ข้างด้านหน้า แต่มันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกเลย ส่วนสาเหตุที่มันทำตัวเหมือนแมวปกติได้ก็คงเป็นเพราะมันมีน้องชาย Newt อยู่ด้วย Newt เองก็มีขาหน้าแค่ 2 ข้างเหมือนกัน ด้วยความที่มันอยู่ด้วยกันตั้งแต่เกิด ก็คงจะทำให้มันคิดว่าการมีขา 2 ข้างก็ไม่เห็นผิดปกติอะไร เพราะพี่น้องทั้งคู่มีขา 2 ข้างเหมือนกัน   Newt เกิดมามี 2 ขา   แต่ไม่ได้รู้สึกแปลก เพราะน้องชาย Frog ก็มี 2 ขาเหมือนกัน   พวกมันทั้ง 2 ตัวได้รับการดูแลจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Alley Cats and Kittens ตั้งแต่ยังเด็ก พวกมันก็เลยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย     Newt กับ Frog เป็นแมวที่ร่าเริงมาก ถึงจะมีแค่…

ที่ผ่านมามีข่าวสุนัขตามหาคนหายจนเจอมานับไม่ถ้วน ซึ่งก็ช่วยพิสูจน์ความสามารถในการตามหาของหายของพวกมันได้เป็นอย่างดีแล้ว ส่วนเจ้าหมา Davos นั้นถึงจะไม่รู้ว่าตามหาคนเก่งเหมือนหมาในข่าวไหม แต่ถ้าเป็นเรื่องตามหาลูกกอล์ฟล่ะก็มันน่าจะเป็นตัวเก็งเลย Davos เป็นหมาที่คุณตา Al Cooper เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา เขาเลี้ยงมันมาตั้งแต่ยังเล็กแล้วก็ฝึกให้มันตามหาลูกกอล์ฟตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ แล้ว   เจ้าหมา Davos   คุณตา Al Cooper   Cooper เล่าว่า “ผมฝึกมันให้ตามหาลูกกอล์ฟตั้งแต่มันยังเป็นลูกหมา แล้วมันก็ทำได้เก่งมากซะด้วย โดยผมจะเอาลูกกอล์ฟ Pro V1 ใส่ถ้วยไว้แล้วสลับไปมา ถ้ามันบอกได้ถูกว่าลูกกอล์ฟอยู่ถ้วยไหน มันก็จะได้ขนมเป็นรางวัล” นอกจากเกมส์หาลูกกอล์ฟเล็กๆ ในบ้านแล้ว ข้างบ้านของมันยังเป็นสนามกอล์ฟด้วย มันก็เลยได้ออกไปตามหาลูกกอล์ฟที่นั่นอยู่บ่อยๆ ยิ่งเป็นวันหลังจากที่มีการแข่งใหญ่ ก็จะมีลูกกอล์ฟให้มันหาเพียบ     Cooper เกษียณแล้วเลยใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับ Davos แล้วการออกไปตามหาลูกกอล์ฟเล่นกับมันเป็นประจำก็ทำให้เข้าได้ลูกกอล์ฟมาเยอะมาก     เมื่อมีลูกกอล์ฟเยอะเข้า เขาก็เลยเปิดขายลูกกอล์ฟในราคาถูกยามว่างด้วย ถ้าไม่ทำไม่อย่างนั้นลูกกอล์ฟที่ Davos หามาได้เรื่อยๆ คงล้นบ้านพอดี     เกมส์หาลูกกอล์ฟของ Davos ช่วยลดภาระของคนดูแลสนามกอล์ฟไปได้มากโข แล้วมันก็ยังทำให้เจ้าของมีความสุขทุกครั้งที่ได้ออกไปเล่นกับมันด้วย…

คนที่กำลังโด่งดังในโลกโซเชียลขณะนี้ คงจะเป็นเจ๊น้ำวร้ายๆ แม่ค้าขายเสื้อผ้าผู้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร ทำเอาชาวเน็ตติดอกติดใจ ขอเป็นแฟนคลับเพียบ แต่บอกเลยว่า นอกจากเจ๊น้ำแล้ว ยังมีอีกหนึ่งไอดอลที่น่ารักมาก แม้แต่เจ๊น้ำเองก็อาจจะขอเป็นแฟนคลับ เค้าคนนั้นคือ เจ้เฮง หน้าเวี่ยง นั่นเอง     หลายคนอาจจะยังรู้สึกงงๆ เจ้เฮง หน้าเหวี่ยงคือใคร? อะ มาทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้นซะหน่อยดีกว่า น้องเฮงเฮงคือสุนัขเพศเมีย อายุย่างเข้า 8 ขวบ ที่มีความน่ารักแบบวรั้ยวร้ายๆ น้องเฮงเฮงอาศัยอยู่กับคุณแม่นุช และที่ตั้งชื่อให้เฮงเฮงเพราะว่าที่บ้านของน้องทำกิจการค้าขาย เรียกได้ว่าเป็นตัวนำโชคของบ้านเลยล่ะ     แม่นุชรับเฮงเฮงมาอยู่ด้วยตอนปี 2555 ตอนนั้นเฮงเฮงเพิ่งอายุได้สองเดือนเท่านั้น นิสัยของมันเหมือนสุนัขเด็กทั่วไปดื้อบ้างซนบ้าง และชอบกัดแทะทุกอย่างที่ขวางหน้า กระทั่งเฮงเฮงอายุย่างเข้าหนึ่งปีกว่าๆ นิสัยของมันก็เปลี่ยนไป ไม่กัด ไม่แทะ ไม่ดื้อไม่ซน และติดแม่นุชมากๆ ที่น่าเป็นห่วงคือ มันขี้กลัว ขี้ตกใจ ได้ยินเสียงฟ้าร้องเมื่อไหร่ ต้องรีบหาที่ซ่อนทันที     ปัจจุบันน้องเฮงเฮงอยู่กับแม่นุชมาจะย่างเข้าปีที่ 8 แล้ว ทุกคนในบ้านรักและชอบน้องมากๆ เพราะน้องมันมีนิสัยที่ไม่เหมือนสุนัขตัวอื่น ทั้งนิสัยเรียบร้อยเชื่อฟัง สั่งให้ทำอะไรก็ทำหมด…

ใครๆ ก็อยากจะมีสัตว์เลี้ยงที่น่ารักกันทั้งนั้นแหละ แต่รู้ไหมว่าถ้าสัตว์เลี้ยงน่ารักมากเกินไปก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันนะ…ก็คือเวลาที่มันทำความผิดเราจะเอ็นดูจนดุมันไม่ลง คุณ เก๋ ซึ่งเป็นเจ้าของ ล่า หมาแสนซนเองก็ประสบปัญหานี้เหมือนกัน เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอรู้ว่าเจ้าหมาทำไม่ดี มันก็จะแกล้งตายหนีความผิดทุกทีไป เห็นแล้วเธอก็โกรธมันไม่ลงจริงๆ     เรื่องมีอยู่ว่าคุณเก๋เธอเพิ่งไปเปลี่ยนกระโปรงหน้ารถมาใหม่เลย ทุกคนคงนึกออกนะว่ารถเนี่ยเป็นของรักของหวงของคนขับทุกคนเลย ยิ่งไปทำใหม่มานี่ยิ่งไม่อยากให้เป็นริ้วร้อยใดๆ ทั้งนั้น แต่พอเธอจอดรถทิ้งเอาไว้ในบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว เจ้าล่าก็ดันไปกัดกระโปรงหน้าใหม่เล่นซะเป็นรอยชัดเชียว พอเธอจะหันมาดุมัน มันก็แกล้งตายดื้อๆ ซะอย่างงั้น แถมเจ้า ถัง หมาอีกตัวก็ยังออกมาปกป้องมันอีก ไม่รู้ว่าสมรู้ร่วมคิดด้วยกันรึเปล่า     นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันแกล้งตายหนีความผิดหรอกนะ ไม่ว่าจะโดนเจ้าของดุเรื่องอะไรมันก็แกล้งตายหนีตลอดเลย อย่างก่อนหน้านี้เจ้าของก็เคยดุมันเรื่องฉี่ไม่เป็นที่เหมือนกัน เพราะฝึกมาตั้งนานแล้วเจ้าล่าก็ยังจะฉี่ใส่ประตูบ้านอยู่นั่นแหละ สอนไม่รู้จักจำสักที แน่นอนว่าพอเห็นเจ้าของดุปุ๊บ ล่าก็แกล้งตายตามสเต็ปตัวเองปั๊บ เห็นแล้วก็ดุไม่ลงอีกตามเคย     ท่าแกล้งตายไม่ได้เป็นไม้ตายที่เอาไว้ใช้ตอนหนีความผิดเท่านั้นนะ ล่ายังใช้ไม้นี้ตอนถูกจับอาบน้ำด้วย ซึ่งก็ทำให้เจ้าของจับมันอาบน้ำไปสบายมือมากๆ เลยล่ะ เพราะมันไม่ดิ้นหนี แต่ก็ไม่แน่ว่าล่าอาจจะชอบอาบน้ำมาก พอเจ้าของอาบน้ำให้ก็เลยฟินจนนอนนิ่งให้อาบอย่างว่าง่ายก็เป็นไปได้เหมือนกัน     ถึงจะซน แต่น่ารักอะ อยากได้แบบนี้สักตัว ที่มา: ธันยพัต จารุวัฒน์วโรดม

ที่ร้านขายยาแห่งหนึ่งในรัฐมิสซิสซิปปี ขณะที่พนักงานทำงานกันอยู่ พวกเขาก็เห็นลูกแมวตัวหนึ่งอยู่หน้าร้าน มันไม่ได้เดินมาเหมือนกับแมวตัวอื่น แต่ลากขาหลังทั้ง 2 ข้างมาจนถึงหน้าประตูร้านเลย ท่าทางมันต้องการความช่วยเหลือ     หลังจากที่เจอมันแล้วพนักงานก็ติดต่อไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Southern Cross Animal Rescue เพราะพวกเขาน่าจะช่วยมันได้มากกว่า เมื่อมันมาถึงมือของอาสาสมัครแล้ว พวกเขาก็เลยเห็นว่ามันบาดเจ็บที่ขาหลังทั้ง 2 ข้างจนเดินไม่ได้ มันก็ดูกลัวคนอยู่พอสมควร แต่ที่เข้ามาหามนุษย์แบบนี้คงเป็นเพราะอยากให้ช่วยจริงๆ     พวกเขาตั้งชื่อลูกแมวตัวนี้ว่า Quinn หลังจากที่รักษาแผลเบื้องต้นให้มันแล้ว พวกเขาก็ส่งมันไปอู่บ้านกับอาสาสมัครเพื่อพักฟื้นตัวก่อน มันยังต้องได้รับการผ่าตัดอีกถึงจะทำให้ขาหายดีได้อีกครั้ง แต่ระหว่างที่รอการผ่าตัดคนที่ดูแลมันก็ช่วยดูแลมันให้หายกลัวคนด้วย     พวกเขาไม่รู้หรอกว่า Quinn โดนอะไรมาถึงได้มีแผลที่ขาแบบนี้ แต่อาจจะเป็นคนทำร้ายก็ได้มันถึงไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้คน แม้แต่คนที่จะช่วยรักษามันก็ด้วย ทว่าพอมันได้เจอความรักและอบอุ่นจากคนดูแล มันก็ค่อยๆ เปิดใจให้พวกเขาทีละนิด และยิ่งโดนลูบและมีคนเอาใจมันก็ไว้ใจคนอย่างรวดเร็ว     ยิ่งเมื่อมันได้เจอลูกสาววัย 10 ขวบของคนดูแลด้วยแล้ว มันก็ยิ่งไว้ใจมนุษย์มากขึ้นเพราะเธอดูไม่มีพิษมีภัยและมีแต่ความรักให้มัน ตอนนี้มันกลายเป็นแมวขี้อ้อนที่ไว้ใจมนุษย์เต็มที่แล้วล่ะ หลังจากได้รับการผ่าตัดเรียบร้อย มันก็กลับมาพักฟื้นตัวที่บ้านของคนดูแลอีกครั้งหนึ่ง ต้องรอให้มันหายดีถึงจะเปิดหาคนรับเลี้ยงมันได้ แต่มันก็ดูมีความสุขดีเมื่อได้อยู่กับคนดูแลปัจจุบัน โดนอุ้มเมื่อไหร่ก็ดูมีความสุข แถมเดี๋ยวนี้เดินเข้าไปอ้อนมนุษย์เองแล้วด้วย ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะได้เป็นคนรับมันเลี้ยงไว้ซะเองก็ได้     ที่มา:…

ในโลกนี้ยังมีสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้อยู่อีกเยอะ หนึ่งในนั้นก็คือความเชื่อเรื่องการทำนายอนาคต ซึ่งมีอยู่ทั่วทุกมุมโลกเลยทืเดียว การทำนายอนาคตก็มีหลากหลายรูปแบบ บางทีก็เอาสัตว์มาเอี่ยวด้วยนะ อย่างที่เห็นชัดเลยก็คือเจ้าหมึก Paul ผู้โด่งดังที่เคยใช้ทำนายผลบอลกันเมื่อหลายปีที่แล้ว มันทำนายแม่นจนดังไปทั่วโลกเลย   หมึก Paul   Paul เคยเป็นสัตว์ทำนายผลฟุตบอลโลกตอนปี 2010 แถมยังทำนายผลถูกหมดเลยด้วย แต่จริงๆ มันก็ทำนายผลบอลแมชอื่นมาตั้งแต่ปี 2008 แล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีสัตว์อีกหลายตัวที่เคยทำนายในลักษณะนี้เหมือนกัน แถมมีเยอะซะด้วย จะมีอะไรบ้างลองไปดูกันเลย   เหมียว Archilles   แมวเหมียวก็เคยทำนายผลบอลเหมือนกันนะ Archilles เป็นแมวหูหนวกที่ทุกคนคิดว่ามันทำนายได้ดี เพราะมันจะไม่ถูกรบกวนด้วยเสียงใดๆ แต่มันก็ไม่ได้แม่นเหมือนพี่ Paul หรอกนะ เพราะสุดท้ายแล้วมันก็ทำนายผิด   พี่หมู Mystic Marcus   Mystic Marcus ใช้วิธีการทำนายผลโดยเลือกกินแอปเปิ้ลที่เป็นตัวแทนของแต่ละประเทศ มันเคยทำนายถูกหลายอย่างเหมือนกันนะ แต่ก็เหมือนกับเจ้า Archilles มันทำนายผลบอลโลก 2018 พลาดไป   ลิงจ๋อ Geda   Geda เป็นลิงจากประเทศจีน มันไม่ได้ถูกใช้ให้ทำนายผลบอลหรอก…

การจะพาหมาสักตัวเข้ามาอยู่ในครอบครัวเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้ดี ยิ่งมีคนที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษในบ้านด้วยยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ พ่อแม่ของหนุ่มน้อยที่มีความพิการเองก็ไม่รู้ว่าคิดถูกรึเปล่าที่หาหมามาเป็นเพื่อนลูก จนกระทั่งได้เห็นรอยยิ้มของหนุ่มน้อยตอนอยู่กับเจ้าหมาถึงได้รู้ว่าตัดสินใจไม่ผิดแล้วที่พาเจ้าหมาเข้ามา     หนุ่มน้อย Hugh เพิ่งจะมีอายุเพียง 8 ขวบ แต่เขาก็ผ่านความยากลำบากในแบบที่หลายคนไม่เคยสัมผัสมาแล้ว เพราะเขาเกิดมาพร้อมความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ที่เรียกว่า FOXG1 ซึ่งทำให้การพัฒนาของสมองผิดปกติ อาการของโรคนี้มีอยู่หลากหลาย อาการร่วมกันที่เห็นได้ชัดนั้นก็คือกินอาหารได้ลำบาก ควบคุมการเคลื่อนไหวได้ยาก และอาจมีอาการชักด้วย     คุณแม่ของเขาคิดว่าหากมีสัตว์เลี้ยงสักตัวมาอยู่เป็นเพื่อน อาจจะทำให้เด็กชายมีความสุขมากขึ้นได้ เธอก็เลยรับเลี้ยงเจ้าหมา Barney มาตั้งแต่มันอายุยังไม่ถึงเดือน ซึ่งดูเหมือนมันกับ Hugh จะเข้ากันได้ดีตั้งแต่เจอหน้าเลย อย่างไรก็ตามการเลี้ยงหมาย่อมมีปัญหาที่คาดเดาไม่ได้บ้าง ทำให้เธอชั่งใจอยู่เหมือนกันว่าคิดถูกรึเปล่าที่เอา Barney เข้ามาในชีวิตของ Hugh     คุณแม่เล่าว่า “เราคิดอยู่นานว่าจะเลี้ยงหมาดีไหม ด้านหนึ่งเราก็หวังว่ามันจะเป็นเรื่องดีสำหรับ Hugh แต่อีกด้านหนึ่งก็กลัวว่ามันจะทำให้ชีวิตของเขาวุ่นวาย ที่ผ่านมา Barney เคยเปิดฝาขวดที่เชื่อมกับท่ออาหารของ Hugh แล้วกินนมหกออกมาจนเลอะเต็มพื้น แล้วก็เคยกัดสายออกซิเจนของ Hugh ด้วย ถึงเราจะสอนกี่ครั้งมันก็ไม่รู้จักจำสักที แถมมันยังมาขวางทางรถเข็นบ่อยๆ ด้วย”     เธอเล่าต่อว่า “แต่ Barney ก็อดทนที่ Hugh…

ใครอยู่บ้านกับสัตว์เลี้ยงบ่อยๆ จะสรุปได้ว่าส่วนใหญ่พวกมันเสียเวลาไปกับการกิน นอน และเล่นซนแค่นั้น แล้วก็จะวนอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้ทำอะไรที่มีสาระเลย แต่อย่าได้ประมาทไป ตอนนี้ #เหมียวอาตี๋ ค้นพบแล้วว่าพวกมันกำลังตบตาเราเท่านั้น แล้วก็ไม่ได้มีแค่แมวเท่านั้นที่ตั้งใจจะยึดครองโลก ตอนนี้พวกสัตว์กำลังร่วมมือกันแอบเอาชนะเราอยู่ เวลาที่เราไม่ได้จับตาดูสัตว์เลี้ยงพวกนี้ พวกมันก็กำลังเรียนรู้พฤติกรรมของเราแล้วฝึกเลียนแบบ เพื่อที่สักวันหนึ่งพวกมันได้ครองโลกขึ้นมาจะได้มาใช้ชีวิตแทนเรา!   ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าสัตว์เลี้ยงแอบจับตามองเราอยู่เสมอ   แล้วก็เบี่ยงเบนความสนใจของเรา เพื่อไปฝึกเลียนแบบมนุษย์โดยไม่ให้รู้ตัว   ตอนเราไม่อยู่บ้านพวกมันก็แอบเข้าครัวไปลองทำอาหาร   ขโมยสูตรเนื้อย่าง   หัดรดน้ำต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเชียว   หัดอ่านหนังสือสะสมความรู้   แอบขโมยของของเราไปวิจัย   ฝึกทักษะการเป็นสายลับ   ถ้าวางเครื่องสำอางไว้โดยไม่ได้เก็บ มันก็จะแอบไปเรียนแต่งหน้า (ฝีมือยังไม่ถึงนะ)   เก่งกว่านั้นหน่อยก็ปลอมตัวได้ด้วย   แล้วก็แอบกดขี่ให้มนุษย์ตัวน้อยเป็นทาสแบบเนียนๆ   คุณอาจคิดว่ามันทำไม่ได้หรอก แต่พวกมันมีความกล้าในแบบที่คุณไม่รู้   ถ้าจำเป็นก็เสียสละพวกเดียวกันเพื่อยึดโลกได้   แถมยังมีพลังทำลายล้างสูง!!   บางทีพวกมันก็ไม่แอบมนุษย์นะ มาเรียนวิชาจากทาสโดยตรงเลย   สอนพี่ไซซิ่งหน่อย เดี๋ยวคราวหน้าขี่ให้…

เมื่อคราวก่อนเราเคยพาเพื่อนๆ ไปดูความน่ารักมุ้งมิ้งของแมวที่เนียนเข้าไปอยู่ในหลากหลายเมนูอาหารกันมาแล้ว ทำให้เราฟินกับความมุ้งมิ้งของแมวกับอาหารไปพร้อมๆ กันเลย (ดูแมวเหมียวในอาหารได้ที่นี่ https://www.catdumb.com/old/cat-and-food-fusion-700/) แต่จะปล่อยให้เจ้าแมวมันเรียกคะแนนจากมนุษย์ฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้ คราวนี้มะหมาเลยมาประชันความน่ารักเมื่อเข้าไปอยู่ในขนมกันบ้าง รับรองว่าน่ารักน่ากินไม่แพ้กันเลย   เอ้า มัวแต่จ้องอยู่นั่นแหละ ไม่กินเหรอ?   (พิต)บูลล์เบอร์รี่พายสักชิ้นไหม   ข้างนอกน่ากิน ข้างในน่ารัก   ฟองนมรุ่นใหม่ ยิ้มให้คุณได้ด้วย   จ้องหน้ากันแบบนี้ กินไม่ลงหรอก   เห็นคาราเมลโคนข้างๆ แล้วอยากชิม   ปกติเขาไม่กินเม็ดอะโวคาโดกันนะ แต่ลูกนี้ดูน่ากินจัง   กวนเบาๆ เดี๋ยวน้องเจ็บ   กาแฟแก้วนี้แค่มองก็ตื่นแล้ว   งุ้ยๆ หมาเมลโลว์นุ่มนิ่ม   กินอัลมอนด์สิ แล้วจะอารมณ์ดี   นี่ตาฝาดหรือว่าคุกกี้กำลังจ้องเราอยู่??   ขอลูบวิปครีมได้ไหม?   ไอศกรีมถ้วยนี้มันยั่วยวนใจ   กินแค่กาแฟ แล้วเก็บครัวซองไว้ดูเล่นแล้วกัน   จะเอาเราไปกินหรือเลี้ยงก็ได้นะ   พายชิบะอร่อยนะฮ้าบ   กินแต่ขนมไม่ดีนะ…

หมาส่วนใหญ่ที่เราได้เจอจะวิ่งมาหาแต่ไกลทุกครั้งที่เรามีของกินอยู่ด้วย แล้วพวกมันก็จะรอคอยอาหารจากมือเราอย่างใจจดใจจ่อ บางตัวไม่ทันเอาขนมออกมาจากถุงก็คาบไปหมดซะแล้ว พอ #เหมียวอาตี๋ ได้มาเจอกับคลิปหมาที่เรียบร้อย รอกินอาหารจากมือเราแบบอ่อนน้อมเข้า ก็เลยรู้สึกว่ามันใช่เลย หมาแบบนี้แหละโคตรน่ารัก แถมเวลามองพวกมันค่อยๆ กินค่อยๆ เคี่ยวแล้วมันผ่อนคลายแบบบอกไม่ถูกด้วย รู้ตัวอีกทีก็เลยนั่งดูหมากินขนมอยู่นานเลย ยิ่งดูมันค่อยๆ กินก็ยิ่งหยุดไม่ได้ ฟินสุดๆ เลย   มีความค่อยๆ งับ มีมารยาท https://www.instagram.com/p/BkflUv7nqmQ/?taken-by=dogseatinggently   อ่อนโยนมากเลยลูก https://www.instagram.com/p/BjsDm87H3ND/?taken-by=dogseatinggently   ดูดเบาๆ แบบเนียนๆ งุ้ยๆ https://www.instagram.com/p/BjWwx7Fj6ei/?taken-by=dogseatinggently   ต้องงับเบาๆ เดี๋ยวเผลอจูบปากละเขินแย่เลย https://www.instagram.com/p/Bi4SGADHjVz/?taken-by=dogseatinggently   บ้านสอนมาดี เลยไม่มูมมาม https://www.instagram.com/p/BiY9u_9n4ue/?taken-by=dogseatinggently   เก่งนะเนี่ย กินไอศกรีมแบบไม่เลอะเทอะ https://www.instagram.com/p/BhdmY99lQhS/?taken-by=dogseatinggently   งับเบาๆ มันไม่ขาด เก๊าขอกัดแรงนิดนึงนะ https://www.instagram.com/p/BeruZ7xnKyK/?taken-by=dogseatinggently   รับมาดีๆ ก่อนแล้วค่อยกิน กลัวเจ้านายมือเลอะ https://www.instagram.com/p/BloWn9clNRD/?taken-by=dogseatinggently   อะน้องหมา อ้ามมมม…

ใครได้เห็นก็คงต้องงงทั้งนั้น เมื่อแม่หมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์คลอดลูกออกมาเป็นลายขาวดำแบบวัวหมด เหมือนกับมันเอาลูกของคนอื่นมาเลี้ยงอย่างนั้นแหละ คนอื่นงงยังไม่เท่าไหร่นะ แม้แต่แม่หมาที่คลอดออกมาเองยังทำหน้างงเลย!?     แม่หมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์พันธุ์ผสม Rosie ถูกช่วยเอาไว้โดยกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Neuse River Golden Retriever Rescue ตอนที่เจอตัวมันก็ท้องแก่แล้ว Katie และ John Black ก็เลยรับมันมาอยู่ที่บ้าน เพราะอยากให้มันคลอดลูกอย่างสะดวกสบาย ในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวหน่อย     ทว่าเมื่อ Rosie คลอดลูกออกมาลูกหมาทั้ง 4 ตัวของมันกลับมีแต่ลายสีขาวดำ ปกติเราจะคาดหวังให้ลูกกับพ่อแม่มีลักษณะคล้ายกัน พอเจอแบบนี้คนดูแลเลยค่อนข้างแปลกใจ พอแม่หมาเห็นลูกของตัวเอง มันก็ดูทึ่งๆ ไม่แพ้มนุษย์เลย มันอาจจะไม่แน่ใจว่านี่เป็นลูกหมาที่ตัวเองคลอดรึเปล่าก็ได้ ก็มันไม่มีอะไรดูเหมือนกันเลยนี่นะ     ลูกหน้าไม่เหมือนแม่เลยอะ ได้พ่อมาล้วนๆ   แต่พอมันปรับตัวได้ มันก็ดูแลลูกๆ ตามปกติอย่างที่แม่หมาควรจะทำ ทำให้เจ้า Daisy, Beysy, Clarabelle กับ Moo ตัวโตขึ้นไวมากๆ แค่ 9 เดือนลูกหมาลายวัวทั้ง 4 ตัวก็ตัวโตเท่าแม่แล้ว แต่แม่ก็ยังดูแลลูกๆ เหมือนเดิมแหละ…

ในประเทศโคลัมเบียมีสุนัขตำรวจอยู่ตัวหนึ่ง มันใช้ความสามารถในการดมจับยาเสพติดมาได้นักต่อนักแล้ว ความเก่งของมันคงสร้างปัญหาให้กับคนค้ายาจริงๆ ท้ายที่สุดคนร้ายก็เลยตั้งค่าหัวให้มันเป็นมูลค่ากว่า 7 หลัก     สุนัขตำรวจที่ว่าก็คือเจ้า Sombra สุนัขตำรวจสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดที่ถูกฝึกมาตั้งแต่เป็นลูกหมาแล้ว มันมีความสามารถในการดมกลิ่นที่โดดเด่น ตำรวจเล่าว่าตอนฝึกมันดมกลิ่นเก่งเป็นที่ 1 เชียวนะ จากการทำงานมาหลายปี Sombra ก็ได้ช่วยให้ตำรวจจับผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดได้มากถึง 245 คน ทำให้มันมีคนชื่นชมมากมาย     นอกจากนี้มันก็ช่วยจับโคเคนไม่ให้เข้าไปสู่ตลาดยาเสพติดได้ตั้ง 9 ตัน (9,000 กิโลกรัม) ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่มากสำหรับการทำงานของหมาตัวหนึ่ง อย่างไรก็ตามการทำงานอย่างหนักของ Sombra ก็ไปขัดกับผลประโยชน์ของผู้ค้ายาเสพติดเข้า ทำให้กลุ่มผู้ค่ายาตั้งค้าหัวให้ใครก็ตามที่จัดการมันได้     หลังจากที่ Sombra จับยาเสพติดได้แล้วมีสื่อนำเรื่องของมันไปเผยแพร่ กลุ่มค้ายา Urabeños ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ค้ายาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโคลัมเบียก็ตั้งค่าหัวเอาไว้ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.3 ล้านบาท) เจ้าหน้าที่ตำรวจให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ที่พวกเขาอยากทำร้าย Sombra แล้วตั้งค่าหัวให้สูงขนาดนี้ คงจะเป็นเพราะมันทำให้พวกเขาเสียกำไรมากมายจริงๆ”      ถึงอย่างนั้นก็ตาม Sombra ก็ยังทำงานอย่างเต็มที่เสมอมา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้เพิกเฉยต่อการตั้งค่าหัวครั้งนี้ พวกเขาเองก็เป็นห่วงความปลอดภัยของยอดหมาตำรวจเหมือนกัน…

เจ้า Jay น่าจะเป็นจิ้งจอกบ้านอีกตัวหนึ่งที่มีความสุขที่สุด ชีวิตของมันหลังจากถูกช่วยมาในตอนเด็ก ก็มีแต่ความสดใสที่ได้จากพ่อแม่ และเพื่อนซี้ 4 ขาอีกตัวหนึ่ง ตอนยังเล็กอยู่ Jay ถูกจับไปเพื่อเอาขนไปใช้ทำเสื้อผ้า แต่มันก็ถูกช่วยออกมาได้และได้มาอยู่บ้านกับคู่รักในเมือง Krakow ประเทศโปแลนด์     จากนั้นมันก็ถูกเลี้ยงไว้ในบ้านของพวกเขา แต่มันก็ยังมีความสุขดีเพราะทั้งคู่เข้าใจว่าต้องดูแลสุนัขจิ้งจอกยังไง แถมมันยังมีเพื่อนอยู่ด้วยทำให้ไม่เหงา Jay ชอบเข้าสังคมและเป็นมิตรกับสัตว์แทบทุกตัว คนที่เลี้ยงมันก็เลยคิดว่าถ้าอยู่บ้านตัวเดียวมันคงเหงา พวกเขาก็เลยรับหมาอีกตัวมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ ซึ่งก็คือ Saimon หลังจากเจ้าหมาเข้ามาในครอบครัว ชีวิตของ Jay ก็มีความสุขมากยิ่งขึ้น ลองไปดูชีวิตแสนสุขของมันสิว่าดีมากแค่ไหน     นี่คือคนที่เอามันมาดูแล แล้วก็ยังมีแฟนสาวของเขาอีกคนด้วย   มันถูกเลี้ยงมาในบ้าน ก็เลยอยู่กับมนุษย์ได้อย่างไม่มีปัญหา   ทั้งคู่ดูแลมันอย่างดีจนโตเป็นจิ้งจอกที่งดงาม   ทั้งคู่รู้ว่า Jay ชอบมีเพื่อนอยู่ด้วย เพราะมันเข้าไปเล่นกับสัตว์ทุกตัวที่เจอ   พวกเขาก็เลยพา Saimon มาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน Jay   Jay เข้ากับสัตว์ได้ดีอยู่แล้ว แต่กับ Saimon ดูมันจะรักมากเป็นพิเศษนะ…

ในศูนย์พักพิงสัตว์ที่มีแมวอยู่มากมาย มีแมวเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่เตะตาคู่รักอย่างจัง แล้วทั้งคู่ก็ตั้งใจเลยว่าจะเอามันมาเลี้ยงให้ได้ และต้องเป็นตัวนี้เท่านั้น!     Mike Wilson และคู่รัก Megan Hanneman ทำธุรกิจออกแบบสนามเด็กเล่นแมวในบ้าน เพื่อสนับสนุนให้แมวออกกำลังกายได้แม้จะไม่ได้ออกไปข้างนอก พวกเขามีแมวอยู่ 2 ตัวเพื่อเป็นผู้ทดสอบและคัดเลือกสินค้าที่น่าพึงพอใจสำหรับเจ้าขนฟู 4 ขาทั้งหลาย และก็คิดว่าน่าจะรับแมวมาเพิ่มอีกสักตัวหนึ่ง ก็เลยพาแฟนเดินทางไปดูแมวที่เปิดรับเลี้ยงด้วยกัน     เมื่อทั้งคู่ไปถึงศูนย์พักพิงสัตว์ พวกเขาก็ถูกใจแมวตัวเดียวกันซึ่งก็คือ Bronson แมวที่อ้วนตุ้ยจนเด่นสะดุดตา มันอ้วนมากซะจนตัวใหญ่เกือบเท่าตัวคนเลยนะ เจ้าหน้าที่บอกว่ามันอ้วนแบบนี้ตั้งแต่มาที่นี่แล้ว เจ้าของเก่าที่ตายไปน่าจะไม่ได้คุมน้ำหนักให้มัน ตอนนี้มันก็เลยน้ำหนักตั้ง 33 ปอนด์ (ประมาณ 15 กิโลกรัม)     อย่างไรก็ตามทั้ง Wilson และ Hanneman ก็ยืนยันที่จะรับเลี้ยงเจ้าแมวตัวนี้ แล้วตั้งใจว่าจะช่วยมันลดน้ำหนักเอง พวกเขามั่นใจว่ามันจะช่วยเติมเต็มให้ครอบครัวของพวกเขาอบอุ่นมากขึ้นแน่นอน พวกเขาไม่ผิดหวังเลยที่เลือก Bronson มันเป็นแมวที่ขี้อ้อนและชอบกอดมาก ถึงมันจะมีปัญหาเรื่องน้ำหนักอยู่บ้างแต่พวกเขาก็พยายามช่วยมันลดน้ำหนักและคุมอาหารอยู่ รับรองว่าลดเสร็จจะต้องซุกซนมากกว่าเดิมแน่นอน และนั่นคือสิ่งที่ทั้งคู่ต้องการ เพราะยิ่งเห็นแมวที่ดูแลร่าเริงมาก พวกเขาก็ยิ่งมีความสุข     ตัวใหญ่มากจนไม่เหลือที่ว่างบนเบาะเลย  …

ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นกระแสถ่ายรูปแนวใหม่ในตอนนี้ เมื่อเหล่าเจ้าของน้องหมาเริ่มพากันถ่ายรูปมันในมุมกลับหัว ดูไปแล้วก็เหมือนกับมันลอยขึ้นไปติดอยู่บนเพดานยังไงยังงั้นเลย แปลกดีเหมือนกัน โดยรูปแรกเริ่มโพสต์โดย IASWABTBJ จากเว็บไซต์ Reddit ซึ่งเขาถ่ายเจ้าหมาชิบะของตัวเองแบบกลับหัว ทำให้ดูเหมือนมันกลายเป็นลูกโป่งลอยฟ้าแสนน่ารักที่ลอยอยู่แล้วยิ้มกลับมาให้เจ้าของเลย     พอชาวเน็ตเห็นรูปของเขาเข้า ก็รู้สึกชอบ แล้วก็เลยไปถ่ายหมาของตัวเองมาอวดในแนวเดียวกันบ้าง ซึ่งแต่ละตัวก็น่ารักสูสีกันมากจริงๆ นะ     อ้าห์ ล่องลอย   นี่มันก้อนเมฆชัดๆ   ท่าทางเหมือนกำลังละเมอ   โอ้ย พี่ชิบะน่ากอดมาก   อย่ามัวแต่มองสิมนุษย์ ลอยขึ้นมาด้วยกัน   ข้างบนนี้ลมเย็นดี   เมฆก้อนนี้ขนเนียนเหมือนแกะเลย   อันนี้ดูเหมือนลอยอยู่จริงๆ นะ   อุ้ย ติดมุม   แผ่เป็นพรมเลยนะแก   น้องผิดงานแล้ว เขาหันหน้าออกกัน   ยิ้มหวานให้กล้องหน่อย   เราไม่ได้หน้าย่นนะ นี่รอยจากการต้านแรงโน้มถ่วงต่างหาก   ลอยแรงมาก ผิวร่นไปอยู่ที่เพดานหมด   นี่หลับไปแล้วใช่ไหม?  …

เมื่อกลางเดือน กรกฎาคม 2014 ในขณะที่ Sabrina la Grotteria กำลังอยู่นอกบ้าน เธอได้ผ่านไปเห็นภาพน่าประทับใจของเจ้าของและสุนัขคู่หนึ่ง เธอเลยถ่ายคลิปวิดีโอเก็บเอาไว้ จากนั้นคลิปวิดีโอสั้นๆ ของเธอก็ชนะใจชาวเน็ตหลายแสนคน และนำพาให้เราได้ไปรู้จักเรื่องราวอบอุ่นหัวใจของคุณปู่กับเจ้าหมาโกลเด้นตัวนี้     คลิปวิดีโอที่เธอถ่ายได้นั้นเป็นกิจวัตรประจำวันสั้นๆ ของคุณตาซึ่งช่วยพาเจ้าหมาในรถเข็นเข้าไปในบ้าน โดนใช้มือประคองช่วงหลังของมันไว้แทนขาหลังที่ใช้การไม่ได้ของเจ้าหมานั่นเอง จริงๆ คุณลุงก็แก่แล้ว ส่วนเจ้าหมาก็ตัวใหญ่ไม่ใช่เล่นเลย การที่เขาออกแรงช่วยหมาแบบนี้จึงเป็นภาพที่ทำให้ชาวเน็ตซาบซึ้งใจมาก ถึงแม้ว่า Grotteria จะไม่รู้จักคุณลุงกับเจ้าหมาเลย แต่ก็มีสำนักข่าวท้องถิ่นเข้าไปสัมภาษณ์พวกเขา จนได้ความเป็นมาของคุณตาและเจ้าหมาโกลเด้นมาแบ่งปันให้ทุกคนได้รู้กัน     คุณตาคนนี้ชื่อว่า Tonino Vitale เขาใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าหมา Dylan มานาน 13 ปีแล้ว ตอนแรกมันก็เดินได้เหมือนหมาทั่วไปนี่แหละ แต่อาการป่วยก็ทำให้มันพิการในที่สุด Dylan พิการเนื่องจากเป็นโรคข้ออักเสบ ส่งผลให้มันใช้ขาหลังเดินไม่ได้ แต่ Vitale ซึ่งรักมันมากก็ไม่อยากให้มันอยู่แต่กับบ้าน เขาก็เลยอุ้มมันขึ้นลงรถเข็น แล้วพามันไปข้างนอกด้วยทุกวัน แถมยังเข็นรถให้มันเองด้วย     Vitale ให้สัมภาษณ์ว่า “ตั้งแต่ Dylan ลืมตาดูโลก มันก็เป็นรักแรกพบของผม สำหรับเราแล้วการแสดงความรักต่อ Dylan เป็นเรื่องปกติ แต่เราก็ยินดีที่จะบอกเล่าเรื่องราวของมันให้ทุกคนรู้…

หมาตัวใหม่ที่หญิงสาวรับมาเลี้ยงดูเหมือนจะเข้ากับลูกน้อยของเธอได้ดี แต่อยู่ๆ มันก็มีท่าทีก้าวร้าวกับลูกของเธออย่างกะทันหัน ในขณะที่เธอกำลังคิดว่าจะทำยังไงกับเจ้าหมาดี เธอก็ได้รู้ความจริงภายใต้ท่าทีก้าวร้าวของมัน     Catherine Svilicic และสามีของเธอเพิ่งมีลูกสาวตัวน้อยชื่อว่า Charlotte ถึงจะมีเด็กหญิงแล้วเธอและสามีก็ยังอยากได้เพื่อนอีกสักคนมาอยู่กับลูกสาวด้วย พวกเธอก็เลยเลือกเลี้ยงหมาสายพันธุ์โดเบอร์แมนพินส์เชอร์ โดยไปรับมันมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ เพราะเธอเองก็อยากเปิดโอกาสให้หมาที่ไม่มีบ้าน และหาเพื่อนให้ลูกไปพร้อมๆ กันด้วย     อย่างไรก็ตามหมาสายพันธุ์โดเบอร์แมนมักจะถูกมองว่ามันเป็นสายพันธุ์ที่ดุร้าย และคาดคะเนพฤติกรรมไม่ได้ หลายคนจึงไม่อยากเลี้ยงมันไว้เป็นสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้เจ้าหมา Khan ที่เธอรับเลี้ยงมาก็ถูกทำร้ายมาก่อนด้วย เจ้าของคนก่อนหน้านี้เคยทารุณมัน แล้วก็ดูแลมันไม่ดี จึงเป็นไปได้เหมือนกันว่ามันอาจจะยังไม่ไว้ใจคน เธอเลยต้องจับตาดูมันให้ดีตอนอยู่กับลูก     แต่เท่าที่ Catherine ดูแล้ว Khan ไม่ได้มีพฤติกรรมน่าเป็นห่วงเลย ถึงจะเพิ่งเลี้ยงมันได้ไม่กี่วัน มันก็ดูมีนิสัยเรียบร้อย อ่อนโยน เข้ากับ Charlotte ได้ดี แถมดูจะรักและเป็นห่วงลูกของเธอมากซะด้วย ทว่าต่อมาก็เกิดเหตุการณ์ที่เธอไม่คาดคิดขึ้น…     ในวันที่ 4 หลังจากรับ Khan มาเลี้ยง Catherine ปล่อยมันเอาไว้กับ Charlotte ในสวนเพื่อให้มันและลูกได้เล่นด้วยกัน โดยเธอนั่งมองดูความเรียบร้อยอยู่ห่างๆ ตอนนั้นนั่นเองอยู่ๆ Khan ก็เริ่มมีท่าทีลุกลี้ลุกลนแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย มันผลัก…

คาดว่าหลายคนน่าจะรู้จักเกม Pokemon Go (โปเกมอน โก) ที่เราต้องใช้มือถือเดินออกไปจับโปเกมอนตามสถานที่จริงกันดีอยู่แล้ว ตอนนี้เกมนี้ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่พอสมควรเลย Ela Okreša Đurić ก็เป็นหญิงคนหนึ่งที่เล่นเกมนี้อยู่ เธอเลยชวนแฟนหนุ่มและเพื่อนๆ ออกไปจับโปเกมอนด้วยกันข้างนอก แต่นอกจากจะได้โปเกมอนมาแล้ว เธอยังได้สัตว์เลี้ยงแถมมาด้วย!?     ระหว่างที่ Đurić กำลังจับโปเกมอนอยู่เพลินๆ นั่นเอง มีหมาจรจัดสีดำตัวหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอและเพื่อน มันทั้งขนยุ่งและมีเห็บหมัดทั่วตัว มันดูเหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิตข้างถนน ทว่ามันก็ดูจะให้ความสนใจกับพวกเธอมากเป็นพิเศษ ตั้งแต่ที่เจ้าหมาเดินเข้ามา มันก็ไม่ยอมเดินไปที่อื่นเลย แถมยังตามติดพวกเธอไปจับโปเกมอนต่อด้วย     แม้ว่ามันจะเป็นหมาจรจัด แต่หมาสีดำตัวนี้ก็ดูเรียบร้อยมากเลยทีเดียว มันตามพวกเธอไปอย่างเงียบๆ โดยไม่รบกวน แล้วก็จะนั่งรออยู่ข้างๆ ด้วยท่าทีเป็นมิตร     เก๊าแค่อยากมีเพื่อนเดินด้วย ไม่กวนตอนเล่นหรอก   Đurić เห็นว่ามันเดินตามเธอมาเป็นชั่วโมงแล้ว แถมยังรู้สึกถูกชะตากับมันด้วย เธอที่อยากมีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้วแต่ไม่เจอหมาที่ถูกใจสักที ก็เลยตัดสินใจรับมันมาเลี้ยงพร้อมกับตั้งชื่อว่า Loki     ก่อนจะตัดสินใจรับเลี้ยง Loki เธอก็พามันไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์เพื่อสแกนหาไมโครชิปก่อนแล้ว เมื่อไม่เจอก็เลยมั่นใจได้ว่ามันไม่มีเจ้าของ แล้วรับมันมาเลี้ยงได้อย่างสบายใจ หลังจากมันมาอยู่บ้านกับ Đurić เธอก็อาบน้ำให้มันจนสะอาดเอี่ยมอ่อง เห็บและหมัดที่เคยมีก่อนหน้านี้ก็หายไปด้วย…

สุนัขแต่ละสายพันธุ์ก็มีจุดเด่นและเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้บางครั้งคนเลือกเลี้ยงก็คิดไม่ตกเหมือนกันว่าจะเลี้ยงพันธุ์ไหนดี เพราะมันน่ารักคนละแบบ ถ้าเลือกไม่ถูกสุนัขพันธุ์ผสมอาจเป็นทางออกของคุณก็ได้นะ เพราะมันได้รวมเอาความน่ารักของ 2 สายพันธุ์เข้ามาไว้แบบทูอินวัน ทำให้เราไม่ต้องเลือกแบบรักพี่เสียดายน้อง แถมพอผสมออกมาแล้ว ก็หล่อมีเสน่ห์ไปอีกแบบที่ไม่ซ้ำของเก่าเลย เอ๊ะ…หรือว่า #เหมียวอาตี๋ มองว่าหมาทุกตัวน่ารักก็เลยคิดไปเอง? ทุกคนมาช่วยกันดูหน่อยว่าน่ารักจริงไหม   เยอรมันเชพเพิร์ด + โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ทั้งขนปุยทั้งสง่า   ไซบีเรียน + พิตบูลล์ กลายเป็นพิตบูลล์ตาฟ้าสวย   ผสมสมอะไรไม่รู้ แต่ตา 2 สีเก๋ไก๋มาก   น้องหมาคอร์กี้ กับขนลายเยอรมันเชพเพิร์ด   เจ้าหมาชาร์เป่ยที่มีหน้าย่นเหมือนบูลด็อก   ชิวาว่าผสม หูมันก็จะตกหน่อยๆ   ตัวนี้ผสมกับหมาป่า หน้าเรียวเชียว   ดูเยอรมันเชพเพิร์ดตัวนี้สิ ได้หูโตมาจากอเมริกันสแตฟฟอร์ดชายร์ล่ะ   อิงลิชบูลเทอร์เทียร์ผสมก็หล่อเหลาไม่เบา   อะไรเล่าจะมาน่ารักสู้ปอมสกี้ (ปอม + ไซบีเรียนฮัสกี้)   ก็เชาเชา + ไซบีเรียนไงเล่า…

ลูกหมาตกหลุมเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยมากๆ ทุกคนอาจจะคิดว่าแค่มีคนลงไปช่วยมันขึ้นมาก็จบแล้ว แต่ครั้งนี้มันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิ กว่าจะช่วยน้องหมาได้ต้องระดมความคิดกันทั้งชุมชนเลย Karen Smith ทำหน้าที่ดูแลหมาให้กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ A New Leash on Life เป็นประจำ ครั้งนี้เธอได้ดูแลลูกหมาครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีเจ้า Toffee ลูกหมาสีขาวหูหนวกอยู่ด้วย     วันหนึ่ง Smith กับเพื่อนพาลูกหมาพวกนี้ออกไปเดินเล่น แต่บังเอิญว่าแถวนั้นมีร่องลึกอยู่ด้วย ตอนที่เธอเรียก Toffee ให้วิ่งมาหานั่นเอง เจ้าหมาก็หล่นเข้าไปในนั้นเพราะมันไม่ได้มองทาง Smith ตกใจมากเพราะเธอมาแถวนี้ค่อนข้างบ่อย แต่ก็ไม่เคยเห็นหลุมนี้มาก่อนเลย เธอคิดว่ามันอาจจะเกิดขึ้นเพราะช่วงนี้ฝนตกบ่อย หินเลยถูกกัดเซาะจนเป็นหลุมแบบนี้     ตอนแรกเธอคิดว่าน่าจะช่วยมันออกมาเองได้ เพราะเธอเห็นว่าก้นหลุมอยู่ลึกลงไปแค่ 5 ฟุต (ประมาณ 1.5 เมตร) แต่เมื่อลองส่องไฟฉายลงไปดู ก็เห็นว่ามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น และภายในนั้นยังมีหลุมเล็กๆ ที่อยู่ลึกลงไปอีกมากเลย โชคดีที่เธอได้ยินเสียง Toffee ร้องอยู่ก็เลยรู้ว่ามันยังสบายดี แต่เธอก็ลงไปช่วยมันเองไม่ได้ เธอลองแทรกตัวลงไปในร่องหินดูแล้ว แต่มันก็แคบมากซะจนเธอลงไปไม่ถึงตัวมัน เธอเลยต้องติดต่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจและพนักงานดับเพลิง     หลังจากเจ้าหน้าที่มาถึงพวกเขาก็พบว่าจริงๆ หลุมนี้ลึกมากถึง 35 ฟุต…

แมวเป็นสัตว์ที่มีพลังทำลายล้างสูงคำพูดนี้ถูกต้องทุกประการ เพราะนอกจากจะมีพลังความน่ารักสูงจนยึดใจทาสได้แล้ว มันก็ยังทำลายข้าวของเก่งจริงๆ ด้วย คนที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นทาสแมวคงนึกภาพไม่ออกหรอกว่ามันทำลายของบ่อยแค่ไหน ต้องได้ใช้ชีวิตอยู่กับมันจริงๆ แล้วจะรู้ว่ามันทำลายข้าวของได้ทุกวี่ทุกวัน…และก็ทำลายได้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วย แบบนี้ไง!   อากาศมันร้อนอย่ามาดึงสายพัดลมเล่นสิเฮ้ย   พึ่งด่าไปหยกๆ ว่าอย่าขึ้นบนโต๊ะ พูดไม่ทันจบก็เอามือแตะท้าทายเลย   แกทำกับหัวหอมที่ฉันปลูกเองได้ยังง๊ายยย   เรากลัวว่าเจ้าหมาจะได้สารอาหารไม่พอ เลยมาเติมปุ๋ยให้   รู้แล้วว่าทำไมห้องครัวเปียกตลอดเวลา แกนี่เอง   ถ้ามีมันอยู่ด้วย ชาตินี้ฉันคงไม่ได้ใช้ทิชชู่ในบ้านแล้วล่ะ   ข้าทำลายได้แม้แต่เพื่อนของตัวเอง   ดู ดู๊ ดู ดูมันทำ   มาทำร้ายปลาในอ่างทำไม   ทำลายแม้แต่เวลาชิลของทาส   ไม่ว่าจะวางของสูงแค่ไหน ก็ลำลายได้   ทำลายความหวังดีที่เรามีให้มัน   แถมยังทำลายความเชื่อใจของเพื่อนบ้านด้วยการไปขโมยอาหารอีก   เผลอหน่อยไม่ได้ แย่งอาหารทาสกินตลอด   อุตส่าห์เอาผ้ามาคลุมไว้แล้ว มันยังมาเหยียบขนมอีก ฮือ   ทาสกินแค่นี้พอแล้ว ที่เหลือเดี๋ยวเราช่วยกินเอง จะได้ไม่อ้วน  …

การมีรูปปั้นหล่อเป็นของตัวเอง เป็นเหมือนกับหลักฐานที่บอกว่าคนคนนั้นเคยได้ทำความดีอันยิ่งใหญ่เอาไว้ ไม่เพียงแต่คนเท่านั้นที่ทำดีจนมีรูปปั้น เจ้าหมาเองก็มีเหมือนกัน เมื่อเดือนกันยายน ปี 2017 เคยเกิดแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงมากถึง 7.1 ริกเตอร์ ส่งผลให้คนในพื้นที่ต้องบาดเจ็บและล้มตายไปจำนวนมาก หลังเกิดเหตุนายทหารเรือ Israel Arauz ก็ได้นำเจ้าหมา Frida คู่ใจออกไปในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในซากปรักหักพัง จนช่วยคนไว้ได้กว่า 12 ชีวิตเลยทีเดียว     ความดีของทั้งคู่เป็นที่ชื่นชมของทุกคนทำให้นาย Arauz มีรูปปั้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงความดีในครั้งนี้เอาไว้ในสวนสาธารณะที่เมือง Puebla City ประเทศเม็กซิโก โดยพิธีเปิดตัวรูปปั้นอย่างเป็นทางการเพิ่งมีในเดือนกรกฎาคม 2018 นี้เอง เจ้าหมา Frida เองก็มีส่วนในการช่วยเหลืออยู่ไม่น้อย ทุกคนรู้เรื่องนี้ดีและก็ชื่นชมมันเหมือนกัน จึงได้ทำรูปปั้นให้มันอยู่ข้างๆ เจ้านายด้วย     Israel Arauz และ Frida รูปปั้นที่ระลึกถึงฮีโร่ผู้ช่วยเหลือในเหตุแผ่นดินไหวที่เม็กซิโก   Frida ได้รับการฝึกฝนจาก Arauz เพื่อช่วยเหลือคนมานาน 6 ปีแล้ว มันมีภารกิจช่วยเหลือคนมากมาย แต่การช่วยเหลือในเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้มีผลงานโดดเด่นที่สุดจนเป็นที่จดจำ มันเองก็คงดีใจไม่น้อยเลยที่มีคนทำรูปปั้นให้ ในพิธีแสดงความยินดีมันก็เลยเดินเข้าไปชนจมูกกับรูปปั้นของตัวเองแทนคำขอบคุณทุกคนที่ทำรูปปั้นให้มันด้วย   ทั้งเก่งทั้งน่ารักแบบนี้…

แค่น้ำหนักตัวมากเกินไป อาจจะไม่เป็นปัญหาในมุมมองของหลายคน เพราะถึงจะรูปร่างไม่ดีก็ยังใช้ชีวิตประจำวันได้ แต่สำหรับน้องหมา Miss B แล้วมันสำคัญมาก Miss Butterworth หรือว่า Miss B เป็นสุนัขพันธุ์ชิวาว่าผสมคอร์กี้ มันต้องมาอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ Asheville Humane Society หลังจากที่เจ้าของเก่าตายไป ครั้งแรกที่คนได้เจอมันก็คิดว่ามันเป็นลูกหมูซะอีก เพราะมันอ้วนมากจริงๆ     หลังจากตรวจร่างกายดูแล้ว เจ้าหมามีน้ำหนักมากถึง 20 ปอนด์ (ประมาณ 9 กิโลกรัม) ซึ่งมากกว่าที่ควรจะเป็นถึง 2 เท่า และหากมันยังเป็นแบบนี้ก็คงจะประกาศหาบ้านใหม่ให้มันไม่ได้ ดังนั้น Miss B จึงถูกส่งไปอยู่กับคู่รัก Sharon และ Barry ชั่วคราว พวกเขาเคยดูแลหมามาหลายตัวแล้ว และรู้ดีว่าจะช่วยมันลดน้ำหนักได้ยังไง     คู่รักเริ่มจากการพามันไปเดินเล่นเป็นประจำก่อน แต่ก็ไม่ให้เดินมากเกินไปเพราะน้ำหนักตัวมันมาก ถ้าเดินมากไปอาจเป็นอันตรายได้ นอกจากนั้นก็พามันไปว่ายน้ำที่ทะเลสาบใกล้บ้านอีกทางหนึ่งด้วย หลังจากที่พามันไปวิ่งกับว่ายน้ำเป็นประจำ เจ้าหมาอ้วนเตี้ยก็กลายเป็นที่รู้จักของคนในชุมชน และเป็นขวัญใจของทุกคน     เจ้าหมาถูกพาไปออกรายการทีวีและวิทยุท้องถิ่นอยู่หลายครั้งเลยล่ะ แต่ถึงจะมีชื่อเสียงและมีแต่คนชอบ Miss…

เมื่อถึงเวลาออกอากาศของรายการโทรทัศน์แล้ว ทีมงานย่อมอยากให้งานออกมาราบรื่นและสมบูรณ์แบบ จึงไม่ต้องการให้มีสิ่งรบกวนใดๆ เข้ามาทำป่วนรายการ แต่สำหรับเจ้าหมาที่บังเอิญเดินเข้าไปในฉาก เหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นตัวก่อกวนสำหรับพวกเขานะ ทุกคนคิดว่ามันสร้างสีสันให้รายการ แล้วคนดูก็ชอบมันด้วย     วันหนึ่งในขณะที่พิธีกร Khambrel Marshall กำลังรายงานพยากรณ์ประจำวันตามปกติทางช่อง KPRC2 ทีมงานคงไม่ได้จับตามองรอบข้างนัก ก็เลยมีหมาตัวหนึ่งหลุดเข้าไปในฉากตอนกำลังถ่ายทอดสดด้วย ตอนแรก Marshall เองก็ไม่ทันสังเกตเห็นมันเหมือนกัน แต่พอเห็นมันแล้วเขาก็ไม่ได้ไล่ตะเพิดมันออกไปจากฉาก หรือทำท่าทางหัวเสียเลย เขากลับรู้สึกยินดีมากที่เจ้าหมามาออกอากาศเป็นเพื่อนเขา หลังจากที่เขาทักทายเจ้าหมาอย่างน่าเอ็นดูแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะรายงานพยากรณ์อากาศต่อโดยอุ้มมันเอาไว้ในอ้อมแขน สมกับเป็นมืออาชีพจริงๆ     ดูเหมือนว่านอกจากพิธีกรแล้ว คนดูเองก็ให้ความสนใจกับเจ้าหมามากกว่าเนื้อหาของพยากรณ์อากาศซะอีก มีคนไปคอมเมนต์ในคลิปวิดีโอนั้นมากมาย และหนึ่งในนั้นก็บอกว่า “นี่เป็นสิ่งที่น่ารักที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลย!” เท่านั้นยังไม่พอนะ เจ้าหมาได้รับความสนใจมากจนทางรายการต้องเอามันไปออกอากาศซ้ำอีกรอบ เป็นเทปสัมภาษณ์เจ้าหมาโดยเฉพาะเลย     ครั้งนี้เราเลยได้รู้จักกับเจ้าหมากันอย่างเป็นทางการ เจ้าตูบตัวนี้ชื่อว่า Angel คนที่ดูแลมันอยู่พามันมาที่สตูดิโอด้วย แล้วระหว่างนั้นมันก็เลยหลุดเข้าไปในฉากนั่นเอง เจ้า Angel ถูกเจ้าของเก่าเอามาทิ้งไว้ที่ศูนย์พักพิง เพราะที่ที่พวกเขาอยู่ไม่ให้เลี้ยงสุนัข ตอนนี้มันก็เลยอยู่กับศูนย์พักพิงไปก่อน แล้วรอหาเจ้าของใหม่อยู่ โชคดีนะที่มันได้มาออกทีวี เพราะพอมีคนรู้จักมันเยอะก็ยิ่งทำให้มันมีโอกาสถูกรับเลี้ยงมากขึ้นตามไปด้วย และหลังจากที่ทุกคนได้เห็นความน่ารักของมันกันไปแล้ว อีกไม่นานมันก็คงจะเจอบ้านใหม่แล้วล่ะ    ที่มา: the dodo

หมาชิวาว่าตัวน้อยตาบอดตั้งแต่เกิด แถมตอนนี้มันก็ป่วยหนักมากด้วย ทว่าอาการป่วยของมันนี่แหละ ทำให้มันได้เจอเพื่อนรักตัวใหม่ที่แยกจากกันไม่ได้ เจ้าหมาชิวาว่าแก่ Tito เป็นหมาตาบอด แถมตอนนี้มันก็หายใจไม่สะดวกด้วย บางครั้งก็ต้องไอเพื่อทำให้หายใจได้ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือมันมีก้อนเนื้อที่หลัง ทำให้ตอนนี้มันเดินไม่ได้ จึงเอาแต่นอนหายใจอย่างยากลำบาก ต่อมาเจ้าของของมันล้มป่วย ทำให้ไม่มีเวลาดูแลมัน คนอื่นในบ้านก็ดูแลมันไม่ได้ ทำให้มันต้องไปอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Wise Animal Rescue     Kristina Helfer ที่เป็นอาสาสมัครอยู่ที่นั่นรู้สึกสงสารมันมาก เธอบอกว่า “มันน่าสงสารมาก มันไอเป็นประจำแล้วก็ต้องขยับหัวไปรอบๆ เพื่อเอาอากาศหายใจ” อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่ยอมปล่อยให้มันอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เธอพามันไปหาสัตวแพทย์แล้วเริ่มวางแผนการรักษามันโดยด่วน จากนั้นก็พาตัวมันกลับไปที่บ้านของตัวเองเพื่อให้พักฟื้นตัวด้วย ที่นั่นเอง มันก็ได้เจอกับหมาพิตบูล Frank…     Frank เป็นหมาตัวหนึ่งที่เธอเคยช่วยมาแล้วรับเลี้ยงเอาไว้ มันมีนิสัยชอบดูแลหมาตัวอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้นเมื่อมาเห็น Tito มันก็เข้ามาหาทันทีเลย Helfer เล่าว่า “Frank เข้ามาหาเพื่อนใหม่ตั้งแต่ได้เจอกัน มันดมและเลีย Tito อยู่บ่อยๆ ตอนแรกฉันก็กังวลเหมือนกันว่า Tito มันจะโอเคไหม เพราะมันแก่แล้วก็ป่วยอยู่เลยอาจจะไม่ชอบ แต่มันก็ชอบที่ Frank เข้ามาดูแล”     Frank…

แม้ว่าเราจะไม่สามารถเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงได้อีกต่อไป แต่ก็ควรจะระวังเอาไว้ให้มากเวลาจะหาเจ้าของใหม่ให้มัน ไม่ใช่ว่าใครมาขอดูแลก็ให้ไปหมด ไม่อย่างนั้นอาจเกิดเรื่องร้ายๆ กับเจ้าหมาอย่างเรื่องนี้ Trixie น้องหมาพิตบูลล์อายุ 6 เดือนกำลังอยู่ระหว่างหาบ้านใหม่ เจ้าของเองก็อยากให้มันได้ไปอยู่บ้านที่ดี ก็เลยโพสต์หาเจ้าของใหม่ให้มันบนเฟซบุ๊ก มีคนสนใจรับเลี้ยงมันและติดต่อเข้ามาหา เขาทำท่าทีเหมือนจะดูแลเจ้าหมาอย่างดี แต่เมื่อได้ตัวเจ้าหมาไปแล้ว ก็บล็อกเจ้าของไม่ให้ติดต่อกลับซะอย่างนั้น     เจ้า Trixie ถูกพบอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Happy Tails Animal Rescue ได้ช่วยมันมาไว้ในความดูแล โดยที่สภาพของเจ้าหมานั้นมีรอยถูกสุนัขตัวอื่นกัด บาดแผลมันรุนแรงจนทำให้หน้าของมันบวมมาก กลุ่มช่วยเหลือสัตว์เตือนเหล่าเจ้าของสัตว์บนเฟซบุ๊กว่า “นี่คือเหตุผลที่คุณไม่ควรให้หมาฟรีแก่คนอื่นไปง่ายๆ เจ้า Trixie หมาน่ารักอายุ 6 เดือนที่ผ่านการถูกทารุณมาแล้วเป็นบทเรียนอย่างดีให้พวกเรา ก่อนหน้านี้ Happy Tails ได้รับแจ้งว่าเจ้าของเก่าของมันไม่สามารถดูแลมันได้ ก็เลยหาเจ้าของที่ ‘น่าจะดูแลมันอย่างดี’ ไปทางเฟซบุ๊ก จากนั้นพวกเขาก็บล็อกเจ้าของเก่าของ Trixie ก็เลยติดตามความเป็นไปไม่ได้”     พวกเขาเล่าต่อว่า “2 อาทิตย์ต่อมา มันก็ถูกช่วยมาไว้ที่ศูนย์พักพิงสัตว์ พร้อมกับบาดแผลอันน่ากลัวบนใบหน้า จากรูปแล้วมันน่าจะถูกใช้เป็นเหยื่อในการฝึกฝนสุนัขที่ใช้ต่อสู้ เราคงไม่มีทางรู้หรอกว่ามันผ่านความเจ็บปวดมาขนาดไหนภายใน 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่มันถูกพาไปอยู่ ‘บ้านที่น่าจะดูแลมันอย่างดี’”  …

ไม่รู้ว่าพี่ไซใช้ซิกส์เซนส์รึเปล่า อยู่ๆ มันถึงได้เดินนำเจ้าของออกจากบ้าน เข้าไปในป่าจนเจอกล่องใบหนึ่ง ทำให้ลูกแมวรอดตายจากการถูกทิ้งในกล่องปิด     Banner เป็นหมาพันธุ์ไซบีเรียนอายุ 3 ขวบของ Whitney Braley เจ้าของฝึกมันให้สามารถช่วยคนที่เกิดความเครียด หรือเป็นไมเกรนได้ นอกจากนี้มันยังรักแมวด้วย เธอเคยช่วยแมวตัวหนึ่งไว้แล้วเอามาเลี้ยงที่บ้าน เจ้า Banner มันก็ช่วยเธอดูแลแมวตัวนี้อย่างดี ทุกวันนี้มันก็ยังอยู่บ้านกับเธอและเจ้าหมา แต่นอกจากมันแล้วก็มีแมวอีกหลายตัวที่มันเคยช่วยดูแล ทว่าเธอไม่เคยเห็นเจ้าหมาทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย…     วันหนึ่งอยู่ๆ Banner ก็เรียกร้องความสนใจจาก Whitney แล้วพยายามนำทางเธอเข้าไปในป่าแถวบ้าน เธอเดินตามมันไปเพราะอยากรู้ว่ามันต้องการอะไรจากเธอ เมื่อเธอเดินเข้ามาสักพักหนึ่ง มันก็นำทางเธอมายังกล่องกระดาษที่ปิดสนิทอยู่ พอเปิดดูก็เจอลูกแมว 7 ตัวอยู่ข้างในนั้น พวกมันเพิ่งเกิดใหม่ได้ไม่นาน แล้วตัวก็เย็นหมดเลย     เธอเล่าว่า “ฉันคิดว่าใครสักคนคงเอามันใส่ไว้ในกล่องแล้วตั้งใจเอามาทิ้งทั้งที่ปิดไว้ เพราะอยากทิ้งให้พวกมันตายอยู่ที่นี่ เขาคงไม่คิดว่าจะมีคนมาเจอพวกมันหรอก นอกจากนี้ฉันก็ไม่รู้ด้วยว่า Banner รู้ได้ยังไงว่าลูกแมวอยู่ที่นั่น เพราะลูกแมวแต่ละตัวตัวเย็นเกินกว่าจะขยับ แถมพวกมันยังไม่ร้องสักแอะด้วย”     จากนั้นมา Banner ก็ดูแลลูกแมวที่เจอโดยไม่ยอมออกห่างเลย   มันดูแลลูกแมวเหมือนกับว่าเป็นลูกของตัวเอง  …

เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์เคยเจอสัตว์มามากมาย พวกเขาพร้อมรับมือกับการช่วยเหลือพวกมันเสมอ แต่พวกเขาคงไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่อรับมือกับแมวจำนวนมหาศาลขนาดนี้     ในรัฐนิวเจอร์ซี ประเทศสหรัฐอเมริกา มีบ้านอยู่หลังหนึ่งเป็นของคุณตาคุณยาย เมื่อคุณยายตายจากไปคุณตาก็ทิ้งบ้านหลังนี้ไปเช่นกัน โดยทิ้งแมวที่คุณยายเคยดูแลเอาไว้ด้วย อีกปีต่อมาคุณตาก็โทรไปหาหน่วยควบคุมสัตว์ St. Hubert’s Animal Welfare Center เพราะแมวมันเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนคุณตารับมือไม่ไหวแล้ว เจ้าหน้าที่ก็เลยเดินทางมาที่บ้านร้างเพื่อช่วยพวกมัน     แต่เมื่อมาถึงพวกเขาก็ต้องพบกับแมวจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของบ้านก็มีแมวโผล่ออกมาเต็มไปหมด กะด้วยสายตาคร่าวๆ ก็คง 100 ตัวแล้ว นอกจากนี้บ้านร้างของคุณตาก็ไม่มีน้ำหรือไฟฟ้าเลย แล้วช่วงนั้นอากาศก็ร้อนมาก พวกเขากลัวว่าถ้าช่วยแมวพวกนี้ออกมาช้าอาจจะเกิดอันตรายกับพวกมันได้     เจ้าหน้าที่ก็เลยเริ่มปฏิบัติการช่วยพวกมันโดยด่วน ถึงแม้แมวที่นั่นจะเยอะมากจนช่วยกันแทบไม่ไหว พวกเขาก็ไม่ย่อท้อแล้วช่วยมันอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเอากรงดักแมวมาวางไว้ทั้งกลางวันกลางคืน และก็เอากรงใหม่มาตั้งสับเปลี่ยนทุกวันเพื่อพาแมวทั้งหมดออกไปจากที่นั่น     หลังจากทำแบบนั้นอยู่ 4 อาทิตย์ พวกเขาก็ช่วยแมวออกมาได้ตั้ง 187 ตัวแล้ว แถมดูท่าทีว่ายังมีแมวเหลืออยู่ในบ้านหลังนั้นอีกต่างหาก จากนี้ไปเจ้าหน้าที่ก็จะส่งคนไปตรวจตราที่บ้านหลังนั้นอีกเป็นประจำ แล้วก็จะพยายามช่วยเหลือแมวทั้งหมดออกมาให้สำเร็จ ไม่แน่พวกมันอาจจะมีจำนวนมากกว่า 200 ตัวก็ได้นะ     ส่วนแมวที่ช่วยมาได้แล้วตอนนี้พวกมันก็อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ แล้วถ้าตัวไหนที่พวกเขาเห็นว่ามันน่าจะชินคนพอจะไปอยู่บ้านได้แล้วก็จะเปิดประกาศรับเลี้ยง ส่วนตัวไหนที่ยังไม่ชินคน พวกเขาก็จะให้อยู่ที่นี่กับพวกเขาไปก่อน แมวแต่ละตัวมีความพร้อมไม่เท่ากัน…

ถ้าเราได้มาลองนั่งสังเกตชีวิตของแมวดูดีๆ เราจะเห็นว่าพวกมันเป็นสัตว์ที่มีคนสปอยล์มากที่สุด แถมยังมีชีวิตที่น่าอิจฉาอีก แต่จะไปว่ามันก็ไม่ได้ เพราะหลักๆ แล้วที่มันสบายขนาดนี้เพราะทาสอย่างเราเอาแต่ตามใจนั่นแหละ ได้แต่ท่องในใจว่าความสุขของเจ้านายคือความสุขของเรา ตัดภาพไปที่เจ้านายของเรากันบ้าง ว่าความสบายของพวกมันเป็นยังไง…   ทำดีมากเจ้าทาส นวดตรงนั้นแหละ https://www.instagram.com/p/Bj7CJLAg4TR/?utm_source=ig_embed   เอ้อ หายปวดไหล่ดีจัง   เปลของทาสก็คือเปลของเรา ขอนอนก่อนนะ   คนนวดเหมือนจะยังไม่พอ ต้องมีเครื่องนวดต่อ   ไม่ได้อยากมีหน้าวีเชปหรอก เอาความฟินล้วนๆ   สบายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว   ฟิตเนสกันมาเหนื่อยๆ ขอนั่งเท่แป๊บนะ   อาห์ แช่น้ำไปด้วย จิบไวน์ไปด้วย ช่างมีความสุข https://www.instagram.com/p/BhhmqqCjg12/?utm_source=ig_embed   บางทีถ้ามีเพื่อนก็ไม่ง้อทาสแล้ว นวดกันเองก็โอเค   ลมมันเย็นอ่า เก๊าชอบ   เคลิ้มๆ จะหลับอยู่แล้ว   ถ้ามีคนมาบริการทาสแบบนี้บ้างก็น่าจะดี ที่มา: BuzzFeed

เมื่ออากาศร้อนมาเยือนมันก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้อารมณ์ของเราหงุดหงิด งุ่นง่านได้ง่ายๆ แถมบางทียังมีความเหนียวตัวเหนอะหนะมาทำให้เรารำคาญจนโมโหได้อีกด้วย ดังนั้นแล้วเราจึงต้องหาวิธีคลายร้อนด้วยวิธีต่างๆ อย่างกินไอศกรีม เปิดแอร์ให้มันเย็นฉ่ำ และอีกหนึ่งวิธีก็คือการใช้ ‘น้ำ’ เข้าช่วย แต่ว่าวิธีนี้ไม่ได้ใช้แต่เฉพาะคนเท่านั้นนะ เพราะมีหมาตัวหนึ่งที่ร้อนเกินจนลากสปริงเกอร์เข้าในบ้าน อาบให้ฉ่ำใจซะเลย!!      เรื่องราวของเจ้าหมาน้อยแสนรู้ตัวนี้ได้โพสต์ลงสู่โลกโซเชียลโดยเจ้าของชื่อว่า Cara Wohr เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเป็นภาพของหมาตัวหนึ่งที่กำลังยืนอยู่ท่ามกลางสายน้ำด้วยความสนุกสนานบันเทิงใจ ราวกับเล่นอยู่ในสวนสนุกยังไงยังงั้น ทางเจ้าของเล่าว่าเป็นเพราะอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัดในวันนั้น เจ้าตูบตัวนี้เลยลากสปริงเกอร์จากสวนหน้าบ้าน ผ่านเข้ามาทางช่องประตูสำหรับหมา แล้วเอามาเล่นในบ้านอย่างที่เห็นในภาพ และแน่นอนว่าบ้านทั้งบ้านต้องเขรอะจากฝีมือของเจ้าหมาตัวนี้     แต่ว่าสำหรับเธอแล้วก็ไม่ได้โกรธหรือโมโหกับความฉลาดนี้เท่าไหร่นัก แถมยังใส่แคปชั่นประกอบภาพขำๆ เอาไว้ด้วยว่า “นี่คือวินาทีที่หมาน้อยของคุณลากสปริงเกอร์ผ่านประตูบ้านมาแล้วกระโดดเล่นอย่างเมามันส์ โชคดีจริงๆ ที่วันนั้นฉันปัดมาสคาร่ากันน้ำไว้พอดี”      โพสต์ที่ว่านี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ตในเวลาอย่างรวดเร็ว และก็มีความเห็นเข้ามามากมายถึงความน่ารักผสมความร้ายกาจของหมาตัวนี้ !! “มันเป็นทั้งหายนะและความฮาในเวลาเดียวกัน” “ฉันจะไม่เปิดภาพนี้ให้หมาฉันดูเด็ดขาด เดี๋ยวมันจะทำตาม” “น่ารักจริงๆ เลยเจ้าหมาน้อย”   จะด่าก็ด่าไม่ลง เฮ้ออ ที่มา: metro, cara wohr

ตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ Charlie Weiss อยู่ในเมืองวินเทอร์วิลล์ รัฐนอร์ธแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกามา เขารู้จักกับเพื่อนบ้านแค่ผิวเผิน จะมีทักทายกันเล็กน้อยตอนเจอหน้าเท่านั้น เขากะจะอยู่เงียบๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านหญิงคนหนึ่งย้ายเข้ามาอยู่ข้างๆ พร้อมกับหมาของเธอ ชีวิตที่เงียบเหงาของเขาก็เริ่มมีสีสันมากขึ้น หลังจากที่เธอย้ายมา เขาจะรู้สึกว่ามีใครบางคนแอบมองตอนที่ออกมาหน้าบ้านทุกครั้ง แต่นั่นไม่ใช่สายตาของหญิงสาวที่สอดแนมชายหนุ่มเลย…มันเป็นสายตาของหมาขี้เล่นที่อยากทักทายเขา     Weiss บอกว่าครั้งแรกที่เขาสังเกตเห็นพวกมัน เขารู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองเขาอยู่ แต่มองดูรอบๆ แล้วก็ไม่มีใครเลยสักคน จนเมื่อมองต่ำลงมาถึงได้เจอจมูกของเจ้าหมาลอดผ่านช่องเล็กๆ ใต้รั้วเข้ามา     จากนั้นทุกครั้งที่เขาออกมาหน้าบ้าน เจ้าหมาก็จะลอดจมูกเข้ามาทักทายเสมอ แล้วก็จะเห่าเรียกจนกว่าเขาจะยอมเล่นกับมันด้วย เขามองว่าแบบนี้ก็น่ารักดีก็เลยไม่ได้ห้ามมันหรือบอกกับเพื่อนบ้านคนใหม่เรื่องนี้ มันก็คงไม่วุ่นวายเท่าไหร่ถ้ามีหมาแค่ตัวเดียว แต่จากนั้นเพื่อนบ้านของเขาก็รับหมาพิตบูลล์เข้ามาอีกตัวหนึ่ง แถมยังเห่าเขาเก่งซะด้วย     เขาเล่าว่า “จากระเบียงหน้าบ้านของผม มันมองข้ามรั้วไปได้ และครั้งแรกที่มันเห็นผมมันก็จะวิ่งมาที่รั้วแล้วเห่าผม แต่ผมคิดว่ามันคงเครียดที่เพิ่งได้มาอยู่บ้านใหม่ ทุกครั้งที่มันเจอผม ผมก็เลยทักทายมันอย่างเป็นมิตร เพราะผมคิดว่าสักพักมันน่าจะชินกับผมเอง ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ” พอเจ้าพิตบูลล์ชินกับ Weiss แล้วมันก็ไม่เห่าเขาแล้ว ถึงมันจะเอาจมูกลอดรั้วเข้ามาเหมือนเพื่อนมันก็ไม่ได้อ้อนให้เล่นด้วย แต่เขาก็ชอบเห็นใบหน้าตลกๆ ของมันที่จ้องมองเขาตลอด     ถ้าคุณคิดว่าเขามีหมาเพื่อนบ้านขี้เผือกแค่ 2…

นอกจากเวลาที่เจ้าของเรียกแล้ว อีกเวลาหนึ่งที่มันจะมาหาเราโดยไม่ต้องเรียกให้เหนื่อยเลยก็คือ…ตอนเรามีของกินอร่อยๆ นี่แหละ ก็รู้นะว่าจมูกไวเลยได้กลิ่นหอมมาแต่ไกล แต่ไม่ต้องรีบมาหาขนาดนั้นก็ได้ มันชัดเจนเกินไปว่าอยากได้แค่ของกิน เห็นแล้วเจ้าของเหนื่อยใจ แต่ก็นั่นแหละ เห็นใบหน้าชอบออดอ้อนของมันแล้วก็ทนไม่ได้หรอก ต้องแบ่งให้มันกินทุกทีไป…ไม่งั้นมันก็จะมาแย่งไปจากเราเองอยู่ดี   ถึงกับต้องยืน 2 ขารอให้เนื้อสุก   มีของกินในมือทีไร มากันพร้อมหน้าทุกที   เฮ้ยเดี๋ยว หลอกให้เราเล่นด้วยแล้วแอบกินงี้ก็ได้เหรอ!?   บางตัวก็เนียนทำเป็นไม่ได้มอง แต่จริงๆ ก็สนใจ   เหมือนตัวข้างบนเลยอ่ะ   เจ้านี่มันร้าย หลอกเราเดินไปเปิดประตูบ้าน พอเราลุกมันก็วิ่งกลับมาคาบพิซซ่าเฉยเลย   เอ่อ…ถ้านายจ้องขนาดนั้นเราแบ่งให้ก็ได้   พิซซ่าชิ้นเดียวต้องรุมกันขนาดนี้เลยเหรอ   มนุษย์เห็นไหมว่าจานข้าวเราว่าง แบ่งของนายมาบ้างก็ได้   ต้องป้อนให้ตัวไหนก่อน?   เจ้านายไม่แบ่งใช่ไหม…งั้นผมแย่ง!   อยากกินก็มาใกล้ๆ สิครับ   รอตั้งนานก็ไม่ให้กิน…หลับรอก็ได้   เฮ้ยจะมารุมทำไม ใจเย๊นนน   ข้างหลังน่าสนใจกว่าเบสบอลอีก   ถ้าไม่แบ่งเบค่อนให้ เห็นทีไส้กรอกเราคงไม่ปลอดภัย  …

ในเวลาที่เพื่อนร่วมโลกกำลังเดือดร้อน เราก็ควรยื่นมือให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่มนุษย์ร่วมมือกันช่วยเพื่อนสัตว์สำเร็จ แม้ว่าปัญหาจะใหญ่ระดับช้างก็ตาม     วันนึ่งเมื่อชาวบ้านในเมือง Alipurduar ประเทศอินเดียตื่นมาดำเนินชีวิตตามปกติ พวกเขาก็พบว่ามีลูกช้างตัวหนึ่งแหวกว่ายอยู่ในที่เก็บน้ำของพวกเขา แลดูเหมือนมันจะว่ายขึ้นมาไม่ได้ พวกเขาคาดว่ามันน่าจะเข้ามาแวะดื่มน้ำตอนกลางคืนหรือเช้ามืด แต่เนื่องจากน้ำในที่เก็บน้ำตื้นเกินไป ลูกช้างก็เลยปีนจนตกลงไปในนั้น จากนั้นก็ติดอยู่อย่างที่เห็น     มันพยายามแหวกว่ายและปีนขึ้นมาบนขอบที่เก็บน้ำอยู่หลายครั้ง แต่ด้วยความที่ตัวมันเล็ก และพื้นก็ค่อนข้างลื่นทำให้มันปีนกลับขึ้นมาไม่สำเร็จสักที ชาวบ้านก็อยากจะช่วยมันให้ปีนขึ้นมาให้ได้เหมือนกัน แต่จะให้คนเข้าไปดันตัวมันขึ้นมาก็ดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ เพราะถึงจะยังเป็นลูกช้างอยู่มันก็ตัวหนักไม่ใช่เล่นเลย     ชาวบ้านเลยตัดสินใจขอความช่วยเหลือโดยให้รถเครนก่อสร้างเข้ามาช่วยลูกช้างแทน รถคันนี้ถูกเอามาเพื่อช่วยลูกช้างโดยเฉพาะเชียวนะ หลังจากที่ได้แรงจากรถเครนมาช่วยดันตัวลูกช้างขึ้นมา มันก็สามารถกลับมาบนพื้นดินได้สำเร็จ พอลงพื้นปุ๊บมันก็วิ่งหายเข้าไปในป่าทันทีเลย     ชาวบ้านบอกว่าช้างตัวนี้น่าจะเป็นหนึ่งในโขลงช้างที่เข้ามาก่อความวุ่นวายในหมู่บ้าน เพราะเห็นเพื่อนช้างของมันแอบรออยู่ใกล้ๆ กันนั้นด้วย อย่างเมื่อคืนบ้านเรือนก็เสียหายไปตั้ง 5 หลังแน่ะ อย่างไรก็ตามถึงมันจะสร้างความเดือดร้อนให้พวกเขาบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไม่ช่วยเหลือช้างเมื่อพวกมันกำลังเดือดร้อน พวกเขาก็เลยช่วยมันให้ปลอดภัยอย่างที่เห็น     ขึ้นมาได้ปลอดภัยก็ดีแล้ว โดนช่วยแล้วคราวหน้าก็อย่ากวนชาวบ้านเยอะนะ   ที่มา: Daily Mail

ลูกแมวตัวน้อยต้องอยู่ตามลำพังข้างถนน แถมมันยังตาบอดอีกด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะใช้ชีวิตแบบไหนถ้าไม่ได้มนุษย์เก็บมาดูแลเหมือนตอนนี้     ลูกแมวน้อย Ducky เดิมทีอาศัยอยู่ตามลำพังข้างถนนของเมืองซานโจส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จนอยู่มาวันหนึ่งมีคนไปเจอมันแล้วเก็บไปให้ศูนย์พักพิงท้องถิ่น เมื่ออยู่ๆ ต้องไปอยู่ในสถานที่ใหม่ แล้วก็ไม่คุ้นกลิ่นอะไรเลย Ducky ก็เลยเอาแต่ห่อตัวตลอดเวลา แล้วหลบอยู่ในมุมห้องเพราะคิดว่ามันปลอดภัยที่สุด     คนที่อยู่ในศูนย์พักพิงพากันคิดว่ามันคงจะเป็นแมวพันธุ์มัชกิน เพราะขาสั้นเหลือเกิน หารู้ไม่ว่าที่มันขาสั้นแบบนั้นเพราะห่อตัวตลอดเวลา คนที่ดูออกว่ามันรู้สึกกลัวขนาดไหนก็คือ Amber Rose ผู้ก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Saving Grace Rescue หลังจากที่เจอมันในศูนย์พักพิง เธอก็เลยรับมันมาดูแล แล้วส่งไปอยู่บ้านกับอาสาสมัคร     ทันทีที่มันได้มาอยู่ในบ้านแห่งใหม่ มันก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเพราะไม่มีกลิ่นสัตว์อื่น เมื่อปรับตัวได้แล้วมันก็เริ่มยืนขึ้นและสำรวจบ้านเองบ้าง ด้วยความที่มันตาบอด เวลาที่ Ducky ต้องการอะไรก็ตามมันร้องเรียกมนุษย์สุดเสียง ทั้งเวลาที่มันหิว เวลาที่ต้องการเข้าห้องน้ำ หรือแม้แต่เวลาที่อยากให้ใครสักคนกอดมัน     ตาของ Ducky บอดเนื่องจากมีภาวะเปลือกตาพัฒนาได้ไม่เต็มที่ตั้งแต่เกิด เวลามีอะไรเข้าไปในตาก็หลับตาไม่ได้ คงรู้สึกเจ็บปวดน่าดู แต่หลังจากมีคนคอยเอาอกเอาใจมันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้แล้ว แถมดูมันจะชอบเวลาถูกกอดมากเป็นพิเศษด้วยนะ เพราะมันจะครางหึ่มๆ เสียงดังจนคนได้ยินทุกครั้งที่อุ้มมันขึ้นมาเชียว     Ambr เล่าว่า…

คำว่าทาสแมวอาจจะอธิบายความรักที่หญิงชาวตุรกีคนหนึ่งมีให้แมวได้ไม่พอ เธอไม่เพียงแค่หวังอยากให้แมวทุกตัวสบายเท่านั้น เธอยอมเปิดบ้านให้แมวจรจัดเข้ามาหลบหนาวได้ทุกเวลา     Sebnem Ilhan หญิงที่อยู่ตัวคนเดียวในประเทศตุรกี เธอช่วยเหลือแมวจรจัดเป็นประจำ และยังช่วยเหลือสัตว์อื่นๆ ด้วยเพราะอยากให้สัตว์ทุกตัวไม่ลำบาก   หมาเราก็รัก   ทว่าอากาศในหน้าหนาวดูจะเป็นปัญหาสำหรับการใช้ชีวิตของพวกแมวจรจัด เพราะมันหนาวเย็นมากจนถ้าไม่มีที่กำบังแมวจรจัดอาจรู้สึกทรมาน พอคิดได้แบบนั้น Ilhan ก็เลยคิดจะเปิดบ้านของตัวเองให้พวกมันเข้ามาอยู่ได้ตามสบาย แต่จะเปิดประตูหน้าทิ้งไว้ก็ใช่เรื่อง เธอก็เลยเปิดหน้าต่างให้มันไว้ตลอดเวลา โดยวางบันไดเอาไว้ให้พวกมันปีนเข้ามาด้วย   บันไดสู่สวรรค์อันอบอุ่นของเจ้าเหมียว   เข้ามาเร็วลูก มาหลบลมหนาวก่อน   เข้ามาเร็วๆ สิคะ บิดขี้เกียจเพื่อ…ป้าก็หนาว   ถึงแม้ว่าแค่ตั้งบันไดไว้ก็เพียงพอให้มันปีนขึ้นมาได้แล้ว แต่เธอก็กลัวว่าเพื่อนบ้านอาจจะไม่ชอบใจที่เธอให้แมวเข้ามาในห้องแบบนี้ เธอก็เลยตกแต่งบันไดด้วยกระถางต้นไม้ เพื่อทำให้มันดูสบายหูสบายตามากขึ้น แถมยังสร้างบรรยากาศที่สดชื่นให้กับเธอ เพื่อนบ้าน และแมวเหมียวด้วย   ถ้าหนาวก็เข้ามาในห้องก่อนสิเจ้าแมว   มีกระถางต้นไม้ติดไว้ต้อนรับด้วยนะ   คนเห็นก็สดชื่น แมวเห็นก็อยากปีน   นอกจากอยู่ห้องแล้ว เธอก็ชอบใช้เวลาว่างในการดูแลสัตว์ข้างนอกด้วย   นี่แหละคนรักสัตว์ที่แท้ทรู ให้ได้ทุกอย่างแม้แต่พื้นที่ในห้องของตัวเอง   ที่มา: PurrWorld

ตอนที่ Jennifer Osborne กับสามีได้เจอกับลูกหมา Moose ในร้านขายสัตว์เลี้ยง พวกเขาถูกชะตากับมันมากจนต้องซื้อมันมาทันที เธอรักมันมากๆ แต่มันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่ซื้อสัตว์เลี้ยงจากร้านขายสัตว์อีกเลย…     Moose เป็นสุนัขพันธุ์บลูฮีลเลอร์ ตอนรับมันมาเลี้ยงแรกๆ มันยังอายุได้ไม่กี่เดือนอยู่เลย มันก็ดูเหมือนกับหมาตัวอื่นๆ แต่เมื่อมันเริ่มโตขึ้นเธอกับสามีก็สังเกตเห็นได้ชัดว่ามันไม่ปกติ นอกจากฟันบนที่ยื่นออกมาไม่เท่าฟันล่างที่เธอสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้ว หัวของมันก็ดูผิดรูป ดวงตาก็คนละสีกัน แล้วมันก็มีอาการแพ้อื่นๆ อีกมากมาย     เมื่อเห็นว่ามันมีปัญหาสุขภาพมากผิดปกติเธอก็เลยโทรกลับไปหาที่ร้าน ทางร้านเลยเสนอจะคืนเงินให้ และบอกว่าน่าจะมีสาเหตุจากยีนส์จากแม่พันธุ์ของมัน เพราะลูกหมาครอกต่อมาก็ตายหมดเลย     หลังจากนั้นไม่นาน Moose ก็มีอาการชักกระตุกเพิ่มเข้ามาอีก ตอนที่เธอเห็นมันชักครั้งแรกมันมีน้ำลายฟูมปากอยู่ในกรง เธอตกใจมากแต่ก็โทรเรียกสัตวแพทย์มารักษามันไว้ได้ทัน ครั้งนี้เธอก็โทรกลับไปหาร้านขายสัตว์เลี้ยงเช่นกัน เธอเล่าว่า “เขาบอกว่า ‘เราคืนเงินคุณไปแล้ว’ แต่ฉันก็บอกกลับไปว่า ‘ฉันไม่ได้โทรมาขอเงิน ฉันแค่โทรมาเช็กดูว่ามีเจ้าของหมาคนอื่นที่โทรมาแจ้งเรื่องหมาชักอีกไหม ถ้าไม่มีฉันจะได้สบายใจได้ว่ามันไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับสมอง’”     พอได้ยินแบบนั้นผู้จัดการร้านขายสัตว์เลี้ยงก็บอกว่าไม่มีใครโทรมาแจ้งเลย แล้วที่มันชักน่าจะเป็นเพราะว่ามันเคยถูกหมาในร้านกัดตอนเด็ก อาจทำให้สมองกระทบกระเทือนได้…ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่เล่าตอนแรกเลย นอกจากนี้ถึงมันจะถูกหมาตัวอื่นกัดจริงๆ ก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมมันถึงมีตา 2 สีและมีขนาดตาผิดปกติ Osborne ก็เลยสรุปได้ว่าร้านขายสัตว์เลี้ยงแห่งนี้เพาะพันธุ์หมาแบบไม่มีคุณภาพจนหมาที่คลอดออกมาป่วย  …

หนุ่มน้อยมีสัตว์เลี้ยงอยู่ตัวหนึ่ง มันเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเขา คอยอยู่ด้วยตลอดเวลาที่บ้าน มารอรับทุกครั้งหลังเลิกเรียน เหมือนกับเรื่องของหมาแสนดีที่เคยได้ยินมาไม่มีผิดเลย… เว้นซะแต่ว่าสัตว์เลี้ยงของหนุ่มน้อยมันเป็น ‘เป็ด’   งานนี้เป็ดเป็นพระเอก หมานอนพักอยู่ในบ้านไปนะ   เจ้าเป็ดตัวนี้ชื่อว่า Nibbles มันเป็นสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านมาตั้งแต่ปี 2014 และมันก็สนิทกับหนุ่มน้อย Jonny มากกว่าใครในบ้าน เพราะตอนเพิ่งฟักตัวออกมาจากไข่มันเจอเขาเป็นคนแรก เขาเลยเป็นคนสำคัญที่สุด Nibbles จะอยู่เป็นเพื่อน Jonny ทุกสถานการณ์ที่มีโอกาส แม้ว่ามันจะไปโรงเรียนกับเขาไม่ได้ มันก็ยังมารอรับที่จุดรอรถบัสทุกวัน พอเจอหน้าเขาหางมันก็จะสั่นดุ๊กดิ๊กด้วยความดีใจ แล้วก็จะเดินกลับบ้านไปพร้อมกับเด็กชาย     เวลาจะออกไปข้างนอกด้วยกัน Nibbles ก็จะพยายามเข้าไปอยู่ใกล้ Jonny ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันจะเบียดคนอื่นจนกว่าจะได้อยู่ข้างเด็กชายเลยทีเดียว      Jamie Toschi คุณแม่ของ Jonny เล่าว่าการมีเจ้าเป็ดเข้ามาในครอบครัวทำให้ Jonny ใช้ชีวิตได้ดีกว่าปกติ เนื่องจากเขาเป็นเด็กพิเศษ Jonny เป็นโรคสมาธิสั้น และก็เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ แถมยังเข้าสังคมไม่เก่งอีกด้วย แต่หลังจากมี Nibbles อยู่เป็นกำลังใจให้เขาก็เริ่มมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ และยังกล้าเข้าไปพบปะผู้คนมากกว่าเดิม    …

หลังจากที่หมาสุดรักโดนลักพาตัวไป ทางครอบครัวก็พยายามตามหามันมาตลอดโดยไม่ลดความพยายาม และความพยายามหลายปีของพวกเขาก็ส่งผลให้ได้เจอมันในวันนี้ Nicola Phillips เจ้าของของเจ้าหมา Scampi อาศัยอยู่ในเมืองแรดสต็อก เขตซัมเมอร์เซ็ต ประเทศอังกฤษ เธอรักมันมากและไม่เคยคิดเลยว่าต้องจากมันเป็นเวลานาน จนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2013 เวลาประมาณตี 2 ก็มีรถคันหนึ่งมาจอดแถวบ้านเธอ และลักพาตัว Scampi ไป จากนั้นพวกเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย     Phillips รักเจ้าหมามาก เธอตามหามันทุกวิถีทาง รวมทั้งตั้งเพจ Help Bring Scampi Home (หลังเจอแล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Scampi is now home) ในเฟซบุ๊กเพื่อตามหามันด้วย แม้จะผ่านไปหลายปีโดยที่ไม่มีเบาะแสของมันเลยนอกจากรูปในอินเตอร์เน็ตที่ดูคล้ายกัน Phillips ก็ยังไม่ยอมแพ้และพยายามแชร์ข่าวตามหา Scampi อยู่เป็นประจำในเพจของมัน จนเมื่อปี 2018 นี้เองพวกเขาก็เจอเบาะแสของมันเข้าจนได้…     Coco Bing ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงลอนดอนไปเจอหมาจรจัดตัวหนึ่งที่เหมือนกับ Scampi เข้า จากนั้นเธอก็แชร์คลิปของมันลงบนโซเชียล จนลูกเพจของ Phillips ไปเจอมันและส่งต่อให้กับเธอ…

เอาล่ะ สูดหายใจกันลึกๆ แล้วเตรียมตัวกันเอาไว้ให้ดี เพราะสิ่งที่เรากำลังจะได้เห็นกันต่อไปนี้เป็นหนึ่งในภาพที่น่ารักที่สุดเท่าที่ #เหมียวอาตี๋ เคยเห็นมาเลยล่ะ ดูแล้วดีต่อใจมากมาย     คลิปวิดีโอด้านล่างกำลังโด่งอย่างมากบนทวิตเตอร์ในขณะนี้ มันเป็นคลิปวิดีโอของเด็กชายตัวน้อยและเจ้าหมาตัวหนึ่งซึ่งอยู่ข้างๆ บ้านกัน ซึ่งกวาดยอดไลก์ไปได้เกือบ 800,000 ไลก์ภายในเวลาแค่คืนเดียวเท่านั้น แม้ว่าจะมีกำแพงกั้นระหว่างกันเอาไว้ แต่เด็กน้อยกับเจ้าหมาก็ยังเล่นโยนบอลด้วยกันได้อย่างสนุกสนาน โดยไม่ปล่อยให้กำแพงมาเป็นอุปสรรคเลยแม้แต่น้อย   A fence can’t stop my two-year-old from playing with his new best friend. pic.twitter.com/9QBuaq4Ee2 — Chad Nelson (@CMNelsonPhoto) July 18, 2018   คนที่โพสต์คลิปนี้ก็คือ Chad Nelson คุณพ่อของเด็กชายในคลิปนั่นเอง เขาเขียนแคปชั่นไว้ว่า “กำแพงไม่อาจขวางกั้นลูกชายวัย 2 ขวบของผมกับเพื่อนสนิทคนใหม่ได้หรอก” เขายังเสริมอีกว่าถึงคลิปวิดีโอจะดูมีความยาวแค่นิดเดียว แต่จริงๆ แล้วลูกของเขากับเจ้าหมาเล่นด้วยกันสักพักใหญ่ๆ เลยล่ะ ถึงจะดูซ้ำแล้วซ้ำอีกมันก็ยังทำให้เราอบอุ่นหัวใจได้เสมอ ที่ได้เห็นเด็กน้อยกับหมาขี้เล่นพยายามผูกสัมพันธ์กัน แม้จะเห็นตัวกันได้ยากก็ตาม…

จากตอนแรกที่เจ้าหมาจะได้ออกไปเที่ยวผ่อนคลายกับเจ้าของแสนรัก พอเกิดความผิดพลาดขึ้นระหว่างทาง มันก็เลยได้ออกไปผจญภัยในทะเลทรายแทน กว่าจะกลับมาหาเจ้าของได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เจ้าหมา Gaspar กับเจ้าของ Ligia Gallardo วางแผนจะไปเที่ยวตอนเหนือของประเทศชิลีด้วยกัน พวกเธอเดินทางกันไปด้วยเครื่องบิน โดยที่เจ้าหมา Gaspar อยู่ในโซนเก็บสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ     ทว่าระหว่างที่เครื่องบินกำลังลงจอดที่สนามบินก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น ประตูห้องสัมภาระที่ Gaspar อยู่เปิดออกเองจากแรงกระแทก ทำให้กรงที่มันอยู่กลิ้งตกลงมาบนพื้น แล้วด้วยความที่มันตกใจที่หล่นลงมาจากเครื่อง เจ้าหมาก็เลยวิ่งหนีหายเข้าไปในทะเลทราย Atacama โดยที่ไม่มีใครรู้ กว่า Gallardo จะรู้ว่าหมาแสนรักหายไปก็ตอนที่เธอลงมาจากเครื่องแล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งเธอว่ามันเกิดจากอุบัติเหตุที่ประตูเครื่องเปิดเอง จากนั้นเธอก็เลยออกตามหาเจ้าหมาแทนการไปเที่ยว   กรงที่มันอยู่ตอนประตูเครื่องบินเปิด   แน่นอนว่าทางสายการบินและทหารในพื้นที่พร้อมให้ความช่วยเหลือเธอเพื่อตามหามันอยู่แล้ว โดยพวกเขาจะจัดหาพาหนะและออกค่าใช้จ่ายเพื่อติดตามตัว Gaspar ส่วน Gallardo เองก็เปิดเพจ Buscando a Gaspar -Iquique- บนเฟซบุ๊ก เพื่อใช้รวบรวมข้อมูลของมันโดยเฉพาะเช่นกัน เพราะหากมีข้อมูลเกี่ยวกับมันน่าจะง่ายกว่าการหาแบบสุ่มๆ ในทะเลทราย มีคนเข้ามาให้ข้อมูลกับเธอว่าเห็นเจ้าหมาอยู่เหมือนกัน แต่ก็จับตัวมันกลับมาไม่ได้ เวลาก็ผ่านเลยไปหลายวันโดยที่มีแต่คนให้ข้อมูลว่าพบเจอมันเท่านั้น จนเมื่อวันที่ 6 หลังจากที่มันหายไป Gallardo ก็เจอตัว Gaspar จนได้ …    …

แจ้งข่าวด่วนกันให้ทราบ ล่าสุดมีผู้ร้ายสุดแสนน่ารักตัวหนึ่งหลบหนีออกจากบ้านของเจ้าของ แล้วเลือกที่จะหลบภัยอยู่ในสวนของบ้านข้างๆ แต่ก็ไปไม่รอดโดนตำรวจจับได้ซะงั้น แถมยังต้องเข้าคุกด้วยนะเออ ไปฟังรายงานข่าวจากเจ้าหมาเอาละกันนะ …   สวัสดีฮะ วันนี้มาพบกับตูบพงศ์อีกครั้ง   เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2017 หมาปั๊กตัวนี้ถูกจับกุมได้ในเขตพื้นที่การดูแลของตำรวจเมือง Cape May รัฐนิวเจอร์ซี ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่มันไปโผล่อยู่ในสวนของคนแปลกหน้า พวกเขาก็เลยควบคุมตัวมันไว้ก่อนเพราะไม่รู้ว่าเจ้าของเป็นใคร   กับรายงานข่าวคนร้ายตัวล่าสุด ที่น่ารักเกินกว่าจะคาดโทษน้องได้… เจ้าปั๊ก!   แม้ว่าจะไม่ได้ทำความผิดอะไรร้ายแรงมาก แค่บุกรุกพื้นที่บ้านคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต (เจ้าของบ้านไม่เอาความ) แต่เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องถ่ายรูปนักโทษไว้เป็นพิธี (เห็นน้องน่ารักเลยอยากถ่ายรูปนั่นแหละ) ในเมื่อเป็นนักโทษ ระหว่างรอเจ้าของมาประกันตัวก็เลยถูกจับไปอยู่ในห้องขังเป็นการชั่วคราว จะได้ไม่มากวนเจ้าหน้าที่จนพวกเขาอยากเล่นด้วยจนไม่เป็นอันทำงาน   ลูกกรงกว้างจะตาย เดินลอดก็ออกได้แล้ว   โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวเจ้าของของหมาน้อยในเวลาไม่นาน วันต่อมาเจ้าหน้าที่ก็เลยเรียกให้เธอมาประกันตัวมันกลับไปบ้านได้ เจ้าของของหมาปั๊กเองก็มีมารยาทมาก เธอรู้ดีว่าถึงมันจะไม่ได้ไปก่อเรื่องใหญ่โตอะไร แต่ก็ควรจะมีค่าประกันตัวให้ตำรวจที่ช่วยดูแลลูกรักให้ตอนที่เธอหามันไม่เจอ ในวันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เลยได้คุกกี้ถุงใหญ่เป็นค่าประกันตัวน้องหมา Bean แสนซน เอาไว้กินกับกาแฟได้อีกหลายวันเลย     ส่วนน้องหมาก็ถูกเจ้าของพาตัวกลับไปแล้ว ไม่รู้จะโดนลงโทษอะไรรึเปล่าที่แอบหนีออกมาจนทำให้คนอื่นเป็นห่วง แต่ดูจากหน้าตาน่ารักของ Bean แล้ว…

วันนี้ #เหมียวอาตี๋ พาน้องหมา น้องแมว และน้องอื่นๆ มาพบกับทุกคนอีกครั้งแล้ว แถมยังพกความแบ๊วติดตัวกันมาเพียบ พวกมันน่ารักมากซะจนแค่ได้เห็นหน้าก็จะทำให้คุณยิ้มกว้างเชียวล่ะ รับรองใครกำลังเศร้าอยู่ได้ดูแล้วโลกจะสดใสขึ้นมาทันตา ปะไปเจอน้องๆ กันเลย!   เช้าแล้วเหรอ ขอนอนกอดกันต่อแป๊บได้ไหม   อุ๋งๆ ก็ชอบให้ลูบท้องเหมือนกัน   เจ้านายจะแข่งยิ้มกว้างกับผมเหรอ ไม่ยอมแพ้หรอก   แกไปทางโน้นก่อน ข้ายังเคลียร์กับเพื่อนไม่เสร็จ   ไม่ว่าอะไรก็มาขวางกั้นผมกับเจ้านายไม่ได้   งับหางตัวเองไว้แว้ว มนุษย์ทำไม่ได้อะเด้ (ก็ไม่ได้น่ะสิ ไม่มีหางอะ)   อุ้ย ลืมดูทาง ล้มตึงเลย   เครียดทำไม มายิ้มกับพวกเราดีกว่า   ลูกๆ เห่าไม่เป็นสักที กลุ้มใจ   แม่ยกสูงๆ อีก หนูชอบ   ทำอะไรกลางวันแสกๆ เขิล   ขอใช้บ้างสิมนุษย์ จะงกทำไม   แกคิดว่าหลบแบบนี้มันเนียนแล้วสินะ   ทาสช่วยเราด้วย…

ใครจะไปรู้ว่าอะไรจะดังบนอินเทอร์เน็ตบ้าง ขนาดแค่เรื่องของคู่รักนกแก้วยังเป็นจุดสนใจของชาวเน็ตได้เลย รู้แบบนี้เราคงคาดเดาเรื่องราวบนอินเทอร์เน็ตไม่ได้หรอก แต่เรื่องของนกแก้ว Kiwi ก็น่ารักมากจนเราเข้าใจได้ว่าทำไมคนถึงติดตามกัน แถมยังเอาใจช่วยให้มันมีครอบครัวที่แสนน่ารักด้วย และนี่คือเรื่องราวของมัน …   กาลครั้งหนึ่ง … เมื่อไม่นานมานี้ (ปี 2017 นี่แหละ) มีนกแก้วหนุ่มชื่อ Kiwi   มันอยู่กับมนุษย์ Maura Hennelly และมีชีวิตที่สุขสบายดี   แต่ Kiwi ก็ยังเหงาเพราะไม่มีคู่   Hennelly ก็เลยพามันมารู้จักกับสาวสวยตัวหนึ่ง   ทั้งคู่ก็ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี   แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ถูกใจ Kiwi มันก็เลยกลับมาอยู่อย่างเดียวดายอีกครั้ง   ต่อมา Hennelly ก็พยายามแนะนำสาวให้ Kiwi รู้จักอีก   เธอเป็นนกแก้วสีขาวดำชื่อว่า Siouxsie   และครั้งนี้เจ้านกแก้วหนุ่มก็ดูชอบพอสาวคนนี้มากซะด้วย   มันคงชอบสาวคนละขั้วกับตัวเองละมั้ง   ทั้งคู่ใช้ชีวิตหลังจากนั้นร่วมกัน   และไม่นานก็เริ่มสร้างรังรักต้อนรับพยานรักตัวน้อย   แล้วความรักของทั้งคู่ก็ผลิบานเป็นนกน้อย…

เอาล่ะ เรารู้อยู่แล้วว่าแมวมันชอบที่แคบ ทาสแห่งบ้าน Cream Heroes ก็เลยเอาวิธีจับแมวที่เธอพบเจอมาโดยบังเอิญมานำเสนอให้ทุกคนดูกัน พร้อมกันนั้นก็เอาความน่ารักของน้องแมวประจำบ้านทุกๆ ตัวมาฝากให้ทุกคนได้ยิ้มไปกับความป่วนของน้องๆ ด้วย มาดูกันว่าขวดโหลจะสร้างความวุ่นวายได้ขนาดไหน   นี่คือทาสประจำบ้าน Cream Heroes เธอซื้อขวดโหลมาหมักไวน์   แต่พอเอาขวดโหลมาถึงบ้าน ก็พบว่ามันมีประโยชน์ในการใช้จับแมวด้วย   โดยวิธีก็ง่ายๆ แค่วางโหลที่เปิดฝาทิ้งไว้   แมวจะเกิดความสงสัยแล้วเข้าไปในโหลเอง   เท่านี้เราก็จับตัวแมวได้เรียบร้อยแล้ว หึหึ   เอาล่ะ ประเด็นที่จะพูดก็คือว่า แมวแต่ละตัวมันดูชอบขวดโหลกันมาก เลย   วันนี้ทาสก็เลยเอาขวดโหลมาให้เจ้าแมวได้เล่นกัน   พี่ Momo ยึดโหลแรกไปแล้ว โหลต่อไปเป็นของ Coco   อ๊ะ Lulu อย่าไปกวน Coco สิ   มาทางนี้ดีกว่า ทาสเตรียมโหลไว้ให้ทุกตัวแล้ว   ในระหว่างที่ทาสกำลังง่วนกับน้อง Lulu พี่ DD ตัวยักษ์ก็เข้ามาใกล้ๆ   ออกไปซะ Coco…

เจ้าหมูตัวหนึ่งวิ่งหนีเข้ามากลางถนนใหญ่ในรัฐนอร์ธแคโรไลนา มันวิ่งหนีมาจากหมากลุ่มหนึ่งที่วิ่งไล่กัดมันจนบาดเจ็บ ท้ายที่สุดมันก็ล้มลงเพราะหมดแรงหนีจนพวกหมาไล่ตามมาทัน และคงไม่รอดแล้วถ้าไม่ได้คนวิ่งเข้ามาช่วยไว้ จากนั้นตำรวจก็กันทางไม่ให้รถวิ่งมาชนมันเข้า แล้วส่งตัวมันให้กับเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์เพื่อพามันไปรักษาตัวที่ศูนย์พักพิงสัตว์ Orange County Animal Shelter     แต่ศูนย์พักพิงทั่วไปก็ไม่มีทุนในการรักษาสัตว์ใหญ่อย่างมัน เจ้าหน้าที่ก็เลยต้องติดต่อไปหา Alesja and Alex Daehnrich จากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Blind Spot Animal Sanctuary เพื่อให้พวกเขาดูแลมันแทน เมื่อ Alex มาถึงที่ศูนย์พักพิงแล้วเห็นเจ้าหมูในสภาพที่บาดเจ็บนอนอยู่ เขาก็ขอเข้าไปหามันเพื่อเข้าไปปลอบและทำความคุ้นเคย     แค่เข้าไปหา มันก็ขึ้นไปนอนหนุนขาของ Alex เลย   ย้ายมารักษาตัวอยู่กับเราดีกว่านะ   พวกเขาพาเจ้าหมูย้ายมารักษาตัวที่ Blind Spot Animal Sanctuary เพราะว่ามันมีแผลติดเชื้อจากการถูกหมากัดอยู่หลายแห่ง Alex และ Alesja ตั้งชื่อมันว่า Toby และด้วยความทุ่มเทที่พวกเขาให้มัน แผลของมันก็อาการดีมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้นมันก็รู้สึกได้ถึงความรักที่พวกเขามีให้ด้วย     เดี๋ยวแกก็หายแล้วนะ อดทนเข้าล่ะเพื่อน   นอกจากนี้ทั้งคู่ยังสังเกตด้วยว่ามันถูกตอนมาก่อน ซึ่งน่าจะหมายความว่ามันถูกมนุษย์เลี้ยงไว้เป็นอาหาร เพราะหมูที่ถูกเลี้ยงไว้กินมักจะถูกตัดอัณฑะเพื่อให้รสชาติดีมากขึ้น อย่างไรก็ตามตอนนี้มันก็ไม่ต้องห่วงว่าจะถูกสัตว์อื่นไล่ หรือมีคนมาทำร้ายมันอีกแล้ว เพราะพวกเขาจะดูแลมันให้ดีที่สุด…

ถ้าบอกว่าคุณตาคนหนึ่งมีเพื่อนรักเป็นปลา มันก็คงจะไม่แปลกหรอก เพราะมีหลายคนที่รักปลาเหมือนลูก แล้วก็เลี้ยงพวกมันมานานแล้ว แต่เรื่องของคุณลุงนั้นพิเศษกว่าคนอื่น ตรงที่เขาไม่ได้เลี้ยงมันไว้ในตู้ มันเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติ แล้วเขาก็ว่ายน้ำไปทักทายมันเป็นประจำนานกว่า 25 ปี     คุณตา Hiroyuki Arakawa มีเพื่อนสนิทเป็นปลานกขุนทองสายพันธุ์ Asian Sheepshead Wrasse อยู่ตัวหนึ่งในอ่าวทาเตยามะ เขตชินโต เขาได้เจอมันครั้งแรกเมื่อได้รับหน้าที่ให้ดูแลศาลเจ้าแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใต้น้ำบริเวณอ่าวทาเตยามะ จากนั้นก็ได้เจอมันอีกเป็นประจำเพราะเขาต้องมาดูแลศาลเจ้าแห่งนี้อยู่เสมอ     เขาตั้งชื่อปลาตัวนี้ว่า Yoriko มันเองก็น่าจะจำ Arakawa ได้ดี เวลาที่เขาดำน้ำลงมาดูแลศาลเจ้ามันก็เลยว่ายน้ำมาอยู่ใกล้ๆ เขา ทุกครั้งที่เจอ Yoriko เขาก็จะจูจุ๊บเบาๆ ที่หัวเพื่อเป็นการทักทักทาย เขาสนิทกับมันมากจนสามารถลูบตัวได้โดยที่มันไม่ว่ายน้ำหนีด้วยนะ     ตั้งแต่ตอนที่เจอกันครั้งแรกจนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลานานกว่า 25 ปีแล้วที่พวกเขาทั้งคู่สนิทสนมกัน และความสัมพันธ์ระหว่างคุณตากับปลาตัวนี้ก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คงมีไม่กี่คนหรอกที่สนิทกับปลาได้มากถึงขนาดนี้ ความสัมพันธ์ของคุณตา Arakawa กับเจ้าปลานกขุนทอง Yoriko ก็คงจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตายจากไปนั่นแหละ     ที่มา: Japan Inside

หลังจากที่แม่แมวคลอดมันไว้ในชุมชนแมวจรจัด ลูกแมวน้อยก็ถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตตามลำพังอย่างยากลำบาก หลังจากมนุษย์เอามันมาดูแล ชีวิตของมันก็เริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น     มิ้วน้อยตัวนี้ถูกช่วยไว้โดยกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Chatons Orphelins Montréal ในเมืองมอลทรีออล ประเทศแคนาดา และได้รับชื่อว่า Runner ตอนที่ช่วยมันมาใหม่ๆ แมวน้อยติดเชื้อที่ตาด้วย แล้วก็อาจจะตาบอดไปแล้วถ้าช่วยเอาไว้ไม่ทัน ร่างกายก็ดูเล็กจิ๋วเพราะคงไม่ได้กินข้าวอิ่มท้องทุกมื้อ แต่ต่อจากนี้มันจะมีคนดูแลทุกเวลา     รักษาแล้วก็ลืมตาได้แล้ว   หลังจากตาของมันหายดีมิ้วน้อยก็ถูกส่งไปดูแลในบ้านของอาสาสมัคร Celine Crom มันจะได้มีคนคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากที่อยู่แบบจรจัดมานาน พอได้มาอยู่ในบ้านมิ้วน้อยก็ดูจะชอบใจมาก     นอกจาก Celine แล้วแมวเหมียว Marsha ของเธอก็ช่วยดูแลมิ้วน้อยด้วยเหมือนกัน มันทำหน้าที่เหมือนเป็นแม่ให้กับ Runner ซึ่งเจ้าตัวเล็กก็ไม่มีท่าทีขัดขืนเลย หลังจากที่ Runner ได้รับความรักจากแม่มนุษย์และแม่แมว มันก็เริ่มเรียนรู้ที่จะมอบความรักให้คนอื่นบ้าง     เมื่อแข็งแรงแล้ว Runner ก็ชอบเข้าไปกอดกับคนรอบข้างเสมอ ดูเหมือนการกอดจะเป็นกิจกรรมโปรดแบบใหม่ของมัน นอกจากการกอดจะทำให้มันอบอุ่นแล้ว ยังเป็นการบอกด้วยว่ามันรักทุกคน     ต่อมา Runner ก็ต้องย้ายบ้านอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้มันเริ่มทำความคุ้นชินกับคนอื่นบ้าง…

ในวันที่ 4 กรกฎาคมของทุกปีเป็นโอกาสพิเศษ เนื่องจากเป็นวันชาติสหรัฐอเมริกา ในประเทศสหรัฐอเมริกาจึงมีการจุดดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองกันซึ่งก็เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้คนมากๆ ทว่าดอกไม้ไฟที่สวยงามสำหรับคนนั้น สำหรับพวกหมาแล้วเสียงดังจากดอกไม้ไฟเป็นเสียงที่ทำให้พวกมันตกใจกลัว ในวันที่มีการเฉลิมฉลองใหญ่ๆ จึงไม่ใช่วันที่พวกมันชอบนัก ในขณะที่ผู้คนมากมายออกไปเฉลิมฉลองกัน มีคนกว่า 100 คนยอมไม่ไปสังสรรค์ แล้วตรงไปยังศูนย์พักพิงสัตว์แทนเพื่อจะปลอบพวกหมาไม่ให้ตกใจกับเสียงดอกไม้ไฟ     เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2018 ที่ผ่านมาศูนย์พักพิงสัตว์ Maricopa County Animal Care and Control แห่งเขตมาริโคปา รัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประกาศเชิญคนมาร่วมกันปลอบใจน้องหมาระหว่างที่มีการจุดดอกไม้ไฟ ถึงแม้จะไม่มีค่าตอบแทนให้ แต่ก็มีคนมาอยู่เป็นเพื่อนสุนัขกันมากมาย รวมแล้วในวันนั้นที่ศูนย์พักพิงทั้ง 2 สาขามีคนมาช่วยกันมากกว่า 100 คนเลยทีเดียว     บางคนก็หยิบเครื่องดนตรีคู่ใจมาเล่นเพลงให้เจ้าหมาฟัง อีกส่วนหนึ่งก็ลูบหัวแล้วพูดคุยกับพวกมัน มีแม้กระทั่งเด็กที่เอานิทานเล่มโปรดมานั่งอ่านให้พวกหมาฟังด้วยนะ ถึงปกติทางศูนย์พักพิงจะให้พาหมาออกมาเล่นข้างนอกได้ แต่พวกเขาก็กลัวว่าเสียงดอกไม้ไฟจะทำให้หมาวิ่งหนีกันไป พอถึงช่วงค่ำก็เลยให้พวกมันเข้าไปอยู่ในกรงของตัวเองแล้วให้คนที่มาไปอยู่หน้ากรงกับพวกมันแทน แต่ทางศูนย์พักพิงก็ห่วงว่าพวกมันจะเครียดที่ต้องอยู่ในกรงกับเสียงดังๆ ก็เลยช่วยฉีดน้ำมันลาเวนเดอร์กับเปิดเพลงคลาสสิคให้พวกมันฟัง เพื่อทำให้พวกมันผ่อนคลายมากขึ้นอีกทางหนึ่ง     Jose Santiago เจ้าหน้าที่ฝ่ายสัมพันธ์ประจำศูนย์พักพิงบอกว่า “ศูนย์พักพิงเป็นที่ที่เครียดสำหรับพวกสัตว์ แล้วยิ่งมีเสียงดังจากดอกไม้ไฟด้วยก็จะทำให้พวกมันเครียดกว่าเดิมอีก… เราก็เลยถามตัวเองว่าทำอะไรให้พวกมันได้บ้าง แล้วก็ได้คำตอบออกมาแบบนี้” การที่มีคนมาอยู่เป็นเพื่อนพวกหมาทำให้พวกมันผ่อนคลายขึ้นมากจริงๆ…

หมาหนุ่ม Saebangee รักลูกหมาดั่งดวงใจ มันคอยดูแลลูกหมาอยู่ไม่เคยห่าง ใครได้เห็นต่างก็ชื่นชมในความเป็นพ่อที่ห่วงใยของมันทั้งนั้น แต่ถ้าเกิดได้รู้เรื่องราวเบื้องลึกของมันล่ะก็ คุณจะต้องประทับใจในตัวเจ้าหมามากกว่าเดิมแน่นอน เพราะความใจดีของมันน่าชื่นชมจริงๆ   ในบ้านหลังหนึ่งมีลูกหมาน่ารัก 2 ตัว   เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันร้องเรียก พ่อหมา Saebangee ก็จะมาหาในทันใด   คุณพ่อก็น่ารักใช่ไหมล่ะ   มันเป็นห่วงลูกหมามากกว่าตัวเองอีก   ดูๆ ไปแล้วพ่อลูกคู่นี้เหมือนกันอย่างกับแกะ   แต่ช้าก่อน … เจ้าของจะบอกว่านั่นไม่ใช่ลูกในไส้ของ Saebangee   แท้ที่จริงแล้วพวกมันเป็นหมาจรจัดที่ถูกทิ้งไว้   หมาที่น่าจะเป็นแม่ของมันกลัวคนมาก พอคนเข้าใกล้มันก็เลยหนีหายไป   Saebangee ก็เลยสงสารพาพวกมันกลับบ้านมาด้วย   แล้วรับเลี้ยงเหมือนกับเป็นลูกของตัวเอง   มันชอบดูแลลูกหมาจรจัดอยู่แล้ว   แต่ตอนนี้มีแค่ลูกหมา 2 ตัวนี้เท่านั้นที่สำคัญที่สุด   เจ้าของเองก็ชื่นชมในความเมตตาของมัน ก็เลยช่วยด้วยการยอมรับเลี้ยงลูกหมาจรจัดไว้   พวกมันเลยกลายเป็นครอบครัวหมาที่ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่รักกันที่สุดเลย   วิดีโอซึ้งมาก ต้องดู …

สัตว์ตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มตัวนี้ จะว่าเป็นหนูก็อาจจะใช่ แต่จะว่าเป็นกระต่ายก็ไม่ผิด เอ๊ะ หรือว่ามันจะเป็นจิงโจ้…เอาเป็นว่าเรียกเจ้านี่ว่า เจอร์บัว ก็แล้วกัน เจ้าเจอร์บัวเป็นสัตว์จำพวกหนูที่พบได้หลากหลายแถบทั่วโลก มันตัวเล็กมาก แต่ก็มีขนที่ยาวและทรงพลังเอาไว้กระโดดไปไกลๆ ได้ หางเองก็ยาวยิ่งกว่าตัวซะอีก ผิดกับแขนที่สั้นจนแทบจะไม่เห็นเลย เราก็เลยไม่รู้ว่ามันเป็นหนูขายาว กระต่ายตัวจิ๋ว หรือว่าจิงโจ้ย่อส่วนกันแน่ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนก็คือมัน…น่ารักอ่ะ!     เจ้านี่แหละคือเจอร์บัว   บางคนก็เรียกว่ามิกกี้เม้าส์แห่งทะเลทราย เพราะมีหูโต   เจอร์บัวเคลื่อนที่โดยการกระโดดไปมาเหมือนจิงโจ้   ซึ่งดูน่ารักค่อดๆ   ดูแล้วข้องใจจริงๆ ว่าเป็นหนูหรือกระต่าย   อีกส่วนที่มีเสน่ห์ก็คือหางของมัน   นอกจากจะยาวมากจนทำให้ดูน่ารักแล้ว ก็มีขนฟูๆ ตรงปลายด้วย   ตกลงเอ็งเป็นตัวอะไรผสมกันบ้างเนี่ย!?   แต่นั่นก็ไม่สำคัญหรอก เพราะแค่น่ารักก็พอแล้ว   ตัวเล็กน่ารักแบบนี้ไม่ให้ชอบก็คงยาก   เอาล่ะออกมาเจอหน้ากันนานพอละ กลับบ้านดีกว่า   น่ารักนะ…แต่ก็แปลกดี ที่มา: BuzzFeed

ช้างเป็นสัตว์ที่มหัศจรรย์ พวกมันมีความอ่อนโยนในตัวเอง และก็มีความเฉลียวฉลาดในระดับที่เข้าใจได้ยาก บางครั้งพวกมันก็ทำในสิ่งที่เราคาดไม่ถึงเลย Françoise Malby-Anthony กับสามี Lawrence Anthony เป็นคู่รักที่พบกันในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษโดยบังเอิญ ฝ่ายหญิงอาศัยอยู่ที่เมืองนี้อยู่แล้ว ส่วนฝ่ายชายเป็นนักอนุรักษ์สัตว์ตัวยงที่อาศัยอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ แต่หลังจากที่เธอตกหลุมรักเขา ทั้งคู่ก็ตัดสินใจย้ายออกจากเมืองใหญ่มาอยู่ที่ประเทศแอฟริกาใต้     พวกเขาซื้อพื้นที่แถบป่าไว้เพื่อทำเป็นพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่า โดย Lawrence เป็นคนตั้งต้นและขอความช่วยเหลือจากชนพื้นเมืองแถวนั้นเพื่อดูแลสัตว์ป่าให้ปลอดภัย จากนั้นพวกเขาก็ได้ก่อตั้ง Thula Thula ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางในการอนุรักษ์สัตว์ และก็เปิดรับแขกที่สนใจมาทัวร์ดูสัตว์ด้วยเพื่อหาเงินมาสนับสนุนการทำงานของพวกเขา     ต่อมาในปี 1999 มีช้างโขลงหนึ่งในแถบนั้นก่อความวุ่นวายให้ชาวบ้าน พวกมันเคยถูกมนุษย์รังแกมาก่อนก็เลยมีท่าทีดุร้ายและระรานมนุษย์ ทุกคนต่างก็ต้องการกำจัดช้างโขลงนี้ และพวกมันคงตายหมดแล้วถ้าไม่ได้ Lawrence ที่บ้าพอจะปกป้องพวกช้างอันตรายและรับมาดูแลไว้     ถึงแม้จะบอกว่ารับดูแล แต่พวกเขาก็ไม่สามารถห้ามไม่ให้พวกมันเดินไปไหนมาไหนตามใจได้ พวกเขาทำได้แค่เฝ้าสังเกตการณ์ว่าพวกมันอยู่ที่ไหนของพื้นที่ป่าเท่านั้นเอง ถึงพวกมันจะไม่ชอบคนแต่ก็มี Lawrence คนหนึ่งที่สามารถเข้าไปใกล้พวกมันได้โดยไม่ถูกทำร้าย แล้วเขาก็สนิทกับช้าง Nana ซึ่งเป็นหัวหน้าโขลงมากเป็นพิเศษด้วย     นานวันเข้าโขลงช้างก็ยิ่งติดตามตัวยากมากขึ้น พวกมันเดินทางในป่าโดยที่พวกเขาติดตามตัวแทบไม่ได้เลย พวกมันคงไม่อยากออกมาให้มนุษย์เจอหน้าสักเท่าไหร่ จนอยู่มาวันหนึ่ง ในขณะที่ Françoise ไปทำธุระในที่ห่างไกล เธอก็ได้รู้ข่าวร้ายว่า Lawrence ตายจากไปด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลันแล้ว     ในวันถัดมา Françoise…

เวลาเลิกกับแฟนใครๆ ก็คงเศร้ากันทั้งนั้นแหละ และก็คงจะจมอยู่กับความเศร้าไปอีกนานถ้าไม่มีอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจไปจากเรื่องนี้ สำหรับศิลปินหนุ่ม Rafael Mantesso ที่โดนภรรยาหอบข้าวหอบของหนีไปนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย คงอธิบายไม่ถูกว่าเขาเสียใจมากขนาดไหน ยังดีที่ภรรยาไม่ได้เอาเจ้าหมา Jimmy Choo ไปด้วย ทำให้เขามีเพื่อนที่แสนน่ารักช่วยให้เขาลืมเศร้าได้…โดยการมาเป็นนายแบบให้กับความคิดสร้างสรรค์ของเขา   นี่คือ Rafael หนุ่มที่ถูกภรรยาทิ้ง   เขายังมีเจ้าหมา Jimmy Choo แสนน่ารักอยู่ด้วย   เขาเลยเบนความสนใจจากเรื่องภรรยา โดยการไปเล่นกับ Jimmy แทน   ทั้งจับมันแต่งตัวเล่น   แล้วก็วาดรูปเล่นกับเจ้าหมาด้วย แล้วเก็บเป็นภาพคอลเลคชั่นซะเลย   ซูเปอร์หมาจะช่วยปลอบใจ   เอ๊ะ ผมไปปล้นธนาคารมาเมื่อไหร่??   เจ้านาย ช่วยเก๊าด้วย จะเป็นเนื้อย่างแล้ว   มีลูกน่ารักขนาดนี้ช่างเมียเถอะ   เก๊าเป็นหมาชอบอาบน้ำ   …หรือเป็นวัวกันแน่นะ!?   เดี๋ยวครูจะเล่นเพลงแล้วนักเรียนร้องตามนะ   กวางที่ยิ้มเก่งที่สุด   จะกิน…หรือไม่กินดีล่ะ   ทำไมมันร้อนอย่างเน้   หมาก็มีช่วงเสริมสวยกันบ้าง…

แทนที่ลูกสิงโตจะได้ใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ มันถูกมนุษย์ลักลอบเอาไปเป็นสัตว์เลี้ยงในอพาร์ตเมนต์แทน ดีที่สุดท้ายมันยังได้กลับมาใช้ชีวิตตามธรรมชาติเหมือนเดิม ลูกสิงโตตัวนี้ถูกขังไว้ในอพาร์ตเมนต์แถบชานเมืองของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่ก็คงจะเป็นโชคดีของมันที่คนที่พาตัวมันมาเลินเล่อถ่ายรูปมันลงบนโซเชียลมีเดีย ทำให้มีคนรู้ว่ามันถูกจับมาอยู่ที่นี่อย่างผิดกฎหมาย พนักงานดับเพลิงในเมืองเลยบุกเข้ามาในห้องแล้วช่วยมันให้เป็นอิสระไว้ได้ทันก่อนที่มันจะถูกทารุณไปมากกว่านี้     พนักงานดับเพลิงเป็นคนช่วยพาตัวมันออกมา   จากนั้นมันก็ถูกส่งตัวไปที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Natuurhulpcentrum ในประเทศเบลเยียม และได้รับชื่ออันยิ่งใหญ่ว่า King (พระราชา) ให้สมกับความเป็นเจ้าป่าของมัน King ได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ในนั้น มันเติบโตเป็นสิงโตที่แข็งแรงสมวัย ไม่กี่เดือนมันก็ตัวใหญ่จนแทบไม่เหลือเค้าของลูกสิงโตน้อยแล้ว     อย่างไรก็ตามแม้ว่าชีวิตของมันจะดีกว่าเดิมแล้ว แต่ทุกคนก็ยังหวังให้มันได้กลับไปอยู่ในป่าที่มันควรจะได้อยู่อีกครั้งหนึ่ง องค์กรช่วยเหลือสัตว์ Born Free Foundation จึงช่วยระดมหาเงินทุนเพื่อจะทำการส่ง King ไปอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ของ Shamwari Private Game Reserve ในประเทศแอฟริกาใต้     และเมื่อ King โตจนเริ่มมีขนแผงคอแล้ว มันก็ถูกจับเข้าไปอยู่ในกรงอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้มันไม่ได้ถูกแย่งชิงอิสระไป มันกำลังจะถูกส่งไปพบกับอิสระที่รออยู่ข้างหน้าต่างหาก     จับเก๊าเข้ากรงอีกแล้วเหรอ?   ทนอยู่ในกรงหน่อยนะ กำลังจะได้ไปบ้านใหม่แล้ว   King ถูกส่งขึ้นเครื่องบินจากประเทศเบลเยียมไปยังบ้านใหม่ในประเทศแอฟริกาใต้   Virginia McKenna ผู้ก่อตั้งองค์กร Born Free บอกว่า…

ถึงสัตว์เลี้ยงที่อยู่กับคุณมันจะน่ารักและซื่อสัตย์กับคุณมากขนาดไหน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อวันนึงที่มันแก่ตัว มันอาจจะจากเราไปแล้วทิ้งเอาไว้เพียงคราบน้ำตาและเรื่องราวดีๆ ระหว่างคุณและเจ้าสัตว์เลี้ยงที่เคยมีร่วมกันมาตลอด นี่เป็นเรื่องราวของเจ้า Michy สุนัขสายพันธุ์ชิบะอินุ วัย 15 ปี ที่มีความน่ารักและแสนรู้จนทำให้เจ้าของของมันต้องถ่ายคลิปลงในยูทูบทุกวันๆ เพื่อบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะกิน นอน ไปเที่ยว หรือทำตัวตลกๆ จนทำให้มีแฟนๆ กดติดตามช่องของ Michy มากถึง 2 หมื่นคน     ด้วยความที่มีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เจ้า Michy มีปัญหาด้านสุขภาพไม่ต่างจากสุนัขทั่วๆ ไป มันเริ่มมีดวงตาที่ฝ้าฟาง มีเลือดออกภายในร่างกาย และมีเกล็ดเลือดต่ำ นั่นทำให้มันเริ่มมีเลือดไหลออกมาจากจมูกของมัน     เจ้านายของ Michy ได้พามันไปตรวจร่างกายกับสัตวแพทย์ จึงได้รับคำแนะนำในการรักษา ว่าพอจะมีวิธีช่วยให้มันดีขึ้นอยู่ แต่เนื่องจากมันเป็นสุนัขที่แก่มากแล้ว การรักษาอาจไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับมัน     เจ้านายของ Michy จึงตัดสินใจพามันกลับมาที่บ้านเพื่อดูแลมันในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต คอยให้อาหารและพามันนอนบนเตียงนุ่มๆ และในวาระสุดท้ายก่อนจะจากไป เจ้า Michy ก็ได้เผยรอยยิ้มเล็กๆ ให้เจ้านายของมันเห็น ก่อนจะจากไปอย่างสงบโดยมีเจ้านายและเพื่อนสุนัขอีกตัวคอยดูอย่างใกล้ชิด     รอยยิ้มสุดท้ายของเจ้า Michy .…

ปกติแล้วที่สถานีตำรวจถ้าจะมีสัตว์สักตัว ก็น่าจะเป็นหมาตำรวจซึ่งคอยช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทว่าที่เจ้าหน้าที่ของสถานีตำรวจในเขต Mangwon ประเทศเกาหลี กลับเอาแมวมาไว้ที่สถานีตรวจแทน แถมยังยอมเป็นทาสให้มันด้วย!? แต่มันก็ช่วยงานในสถานีตำรวจเหมือนกันนะ จะช่วยยังไงไปดูเอา   นี่คือสถานีตำรวจ Mangwon   คนที่มาที่นี่จะเห็นแมวตัวนี้อยู่บ่อยๆ   มันชื่อว่า Mango   ทำตัวสบายอย่างกับอยู่บ้านเลยนะ   แต่ก็ไปว่ามันไม่ได้หรอก สถานีตำรวจแห่งนี้เป็นบ้านของมันอย่างเป็นทางการเลยล่ะ   แถมไม่ได้มาอยู่ฟรีๆ ด้วยนะ   Mango ชอบเข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจงาน   เด็กใหม่อู้เหรอ เดี๋ยวฟ้องสารวัตรนะ   แถมยังช่วยต้อนรับคนที่มาแจ้งความอีกต่างหาก   มีแมวในสถานีตำรวจก็แปลกดีค่ะ แต่ฉันก็ว่ามันเท่ไม่หยอก   ถ้าทำหน้าที่จนเบื่อแล้ว เจ้าเหมียวก็จะไปนั่งงีบบนเก้าอี้ของสารวัตร   ส่วนสารวัตรก็ยืนขาแข็งไปละกัน รอ Mango ตื่นก่อนค่อยนั่ง หึหึ   เวลาเดียวที่มันจะไปนอกสถานีตำรวจ … คือตอนไปจู๊ดๆ ข้างนอก จะได้ไม่เลอะในสถานี โคตรฉลาด   แต่มันไม่ได้เกิดในสถานีตำรวจแห่งนี้  …

แรคคูนอาจจะเป็นสัตว์ที่อยู่ไกลตัวเราสักหน่อย คนไทยเราไม่มีโอกาสได้เห็นมันบ่อยนัก ส่วนมากเราจะเห็นมันตามฝั่งตะวันตกมากกว่า #เหมียวอาตี๋ ก็เคยเห็นแรคคูนแค่ในเรื่อง Pocahontas ของดิสนีย์แค่นั้นแหละ ตั้งแต่ตอนนั้นก็คิดตลอดเลยว่าแรคคูนมันดูน่ารักน่าชังจัง แล้วพอได้มานั่งส่องรูปแรคคูนเยอะๆ พวกมันก็น่ารักไม่ผิดกับที่หวังไว้เลย ถึงจะเป็นสัตว์ป่าตัวป่วนที่ชอบเข้ามาแอบหยิบของตามบ้านก็เถอะน้า   แรคคูนเป็นสัตว์ป่า   แต่พวกมันก็อ่อนโยน เข้ากับสัตว์หรือคนแบบไหนก็ได้   ใจดีรับแมวมาอยู่แก๊งด้วย   ขอนอนหนุนหน่อยทำไมต้องจ้องเราขนาดนั้น   แถมยังรู้จักการทำงานเป็นทีมด้วยนะ   ที่มองข้ามไปไม่ได้เลยคือความน่ารัก   พวกมันชอบทำหน้าเหมือนอ้อนขออะไรสักอย่างตลอดเวลา   แล้วก็ขี้อ้อน (ขอขนม) มากจริงๆ ซะด้วย   แต่ถ้าไม่ชินกับคนก็อาจจะขี้อายก็ได้   พอเริ่มชินกันเดี๋ยวก็หายอายเองแหละ   เวลาเอาขนมให้น้องไม่ต้องกลัวจะเกลือ น้องไม่กินทิ้งกินขว้าง (ตะกละนั่นแหละ)   มาอ้อนกันเป็นทีมแบบนี้ใครจะใจร้ายไม่ให้ขนม   ถึงเป็นสัตว์ป่าก็อยู่กับคนได้เหมือนกัน   แรคคูนเผือกยิ่งน่ารักไปใหญ่เลย   มาแย่งกันกอดขนาดนี้ก็แย่สิ   มองแบบนี้อยากได้ขนมล่ะสิ   บางทีก็มาบ้านมนุษย์เพื่อนั่งชิล   ถ้าไม่เปิดบ้านให้น้องก็จะทำหน้าน่าสงสารแบบนี้   ถ้าเจอก็เปิดให้น้องเข้ามาเถอะ…

ถ้าจะบอกว่ามีแมวที่ดูสวยสมบูรณ์แบบอยู่บนโลกนี้ด้วย Molly น่าจะเป็นหนึ่งในแมวพวกนั้นด้วยเหมือนกัน เพราะมันเป็นแมวเบงกอลที่ขนสวยมาก ที่สำคัญกว่านั้นดวงตาของมันดูน่าหลงใหลมากเลย Molly เป็นแมวเชื้อสายญี่ปุ่นเพราะเกิดที่นั่น แต่ตอนนี้เจ้าของของมันพามันย้ายไปอยู่ด้วยที่เมือง Johannesburg ประเทศแอฟริกาใต้แล้ว แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน มนุษย์ก็ยังหลงใหลในความงดงามของมันอยู่เหมือนเดิม   สวัสดี ฉันชื่อ Molly   คำที่เหมาะกับฉันก็มีไม่มาก   จะบอกว่าสวย หรือน่ารักก็เลือกเอาแล้วกัน   ถึงจะใส่โบว์สีเด่นขนาดนี้ ตาสวยๆ ของ Molly ก็ยังเด่นกว่าอยู่ดี   ตอนเพิ่งตื่นหน้าก็จะง่วงหน่อยๆ   มนุษย์จงมองตาข้าแล้วมาเป็นทาสซะ   ถึงจะมีของเล่นแล้ว แต่เราก็ชอบเล่นกับทาสมากกว่านะ   หืม ถ้าอารมณ์ดีจะจุ๊บทาสก็ได้   แมวคริสต์มาส??   มองอะไรห๊ะมนุษย์ ไม่เคยเห็นคนสวยเหรอ   มีฉันอยู่แล้วไปเอาแมวปลอมมาทำไม   ใส่อะไรก็สวย …. ใช่มะ?   หิวแล้ว ทาสไปเอาข้าวมาให้กินหน่อย   มองบนแบบมนุษย์บ้าง   อยากเห็นเรายิ้มเหรอ ……

ที่ผ่านมามีเหตุการณ์มากมายทำให้เราได้รู้ว่าหมาเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของมากขนาดไหน แล้วเคยคิดกันบ้างไหมว่าแมวมันจะซื่อสัตย์แบบหมาบ้างรึเปล่า? คำถามนี้คงผุดขึ้นมาในหัวของใครหลายคน เนื่องจากแมวดูมีนิสัยสันโดษ ถ้าหากเกิดเรื่องไม่ดีกับเราดีไม่ดีมันอาจจะหนีไปก่อนก็ได้ แต่วันนี้มีคลิปวิดีโออันหนึ่งที่ทำให้เรารับรู้ได้ว่าแมวเองก็ซื่อสัตย์กับคนที่รัก แม้แต่เพื่อนมันยังไม่ทิ้งเลย รับรองว่าคนที่เลี้ยงมันก็ต้องไม่ทิ้งเหมือนกัน      คลิปวิดีโอนี้เป็นคลิปสั้นๆ เพียงแค่ประมาณครึ่งนาทีที่ถ่ายได้ในประเทศจีน โดยมีตัวเอกคือแมวสีขาวส้มตัวหนึ่งที่กำลังลากเพื่อนของมันไปตามทาง เริ่มต้นเราจะเห็นว่าเพื่อนแมวของมันที่มีสีน้ำตาลนั้นตายแล้ว แต่เจ้าแมวส้มก็ไม่ยอมทิ้งมันเอาไว้ แล้วพยายามพาเพื่อนเข้าไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย มันอาจจะคิดว่าถ้าเพื่อนได้พักก็คงดีขึ้น     เราจะไม่ทิ้งนายไว้หรอก   หลังจากมันลากเพื่อนไปตามทางแล้ว คลิปวิดีโอก็จบลงที่เจ้าแมวพาเพื่อนมุดลงไปใต้ท้องรถสีขาวคันหนึ่ง ซึ่งมันน่าจะคิดว่าปลอดภัยสำหรับพวกมันแล้วนั่นเอง จากคลิปเราไม่รู้ว่าเพื่อนแมวของมันตายด้วยสาเหตุอะไร แต่ที่เห็นแน่ชัดเลยก็คือแมวไม่คิดที่จะทิ้งเพื่อนไว้เลย มันพยายามช่วยเพื่อนสุดกำลังและทำทุกอย่างที่คิดว่าช่วยได้     เรื่องราวในคลิปนั้นน่าเศร้า เห็นแล้วก็สงสารเจ้าแมวที่ต้องเสียเพื่อนไปโดยช่วยอะไรไม่ได้ แต่มันก็ช่วยให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งของแมวที่เราไม่ค่อยได้เห็นกัน นี่แหละคือความรักและซื่อสัตย์ที่แมวมีต่อคนที่มันรัก ดังนั้นไม่ต้องกลัวเลยว่าแมวจะซื่อสัตย์น้อยกว่าหมาหรือสัตว์อื่น ความจริงแล้ว #เหมียวอาตี๋ คิดว่าเลี้ยงสัตว์อะไรพวกมันก็ซื่อสัตย์กับเราทั้งนั้นแหละ ถ้าเราทำให้มันเห็นว่าเราจริงใจและรักมันจริงเหมือนกัน ที่มา: Next Shark

เจ้าหมาถูกใครสักคนมัดทิ้งไว้ในป่า โดยไม่มีข้าวหรือน้ำให้กิน มันออกไปไหนไม่ได้ก็เลยทำได้เพียงเห่าขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งมีคนที่ผ่านมาได้ยินเข้า เขาเลยโทรบอก Alex Kelly เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ที่อยู่ในเขตนั้นให้มาช่วยมันออกมา แต่กว่าเขาจะมาเจอแล้วตัดสินใจโทรขอความช่วยเหลือ เจ้าหมาก็ถูกทิ้งให้อยู่ตรงนั้นมา 3 วันแล้ว   ภาพเจ้าหมาเมื่อมองจากมุมไกลๆ   เมื่อ Kelly ไปถึงเขาก็รู้ว่ามันอยู่ในป่าหลังชุมชนแห่งหนึ่ง มันถูกมัดติดกับต้นไม้โดยมีแค่กรงพลาสติกปูผ้าให้มันนอน พร้อมกับจานข้าวที่ว่างเปล่าอีก 2 อัน พอถามคนแถวนั้นก็ไม่มีใครบอกอะไรเกี่ยวกับเจ้าหมาได้เลย เขาบอกว่า “ไม่มีใครยอมออกมาบอกอะไรกับผมเลย พวกเขาไม่ยอมบอกว่ามันเป็นหมาของใคร คงเพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้”     มันมีท่าทีหวาดกลัวตอนที่เขาเข้าไปหา แต่เมื่อเห็นว่าขาของมันโดยเชือกรัดไว้แน่นมาก เขาก็ต้องรีบช่วยมันก่อนเป็นอันดับแรก Kelly บอกว่า “ถ้าปล่อยเอาไว้อีกแค่วันเดียว เลือดคงไหลไปเลี้ยงขาไม่ได้ แล้วมันก็คงถูกตัดขาทิ้งไปแล้วล่ะ”     โชคดีที่ Kelly มาช่วยเจ้าหมาเอาไว้ได้ทันท่วงที พอมันเห็นว่าเขามาดีมันก็เลยเริ่มไว้ใจเขามากขึ้นแล้วยอมให้เขาพากลับไปด้วย มันมีท่าทีกลัวเขาน้อยลงทีละนิด จนในที่สุดก็ไม่กลัวแล้ว     แค่ช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างนั่งรถมาที่ศูนย์พักพิง Associated Humane Popcorn Park Shelter ด้วยกัน เจ้าหมาก็ไว้ใจ Kelly มากจนหมือนหมาคนละตัวกับตอนแรก จริงๆ…

การใช้ชีวิตตามธรรมชาติในช่วงที่อากาศร้อนคงจะไม่ค่อยสบายนัก พอสบโอกาสเจอกับสระว่ายน้ำสุดชิลในบ้านของมนุษย์ เจ้าตัวนิ่มก็เลยแอบเข้ามานั่งเล่นตอนไม่มีคนอยู่ซะเลย…แต่ดันผิดแผนไปหน่อยเลยโดนจับได้ สระว่ายน้ำแห่งนี้เป็นสระส่วนตัวของ Kristy West และครอบครัว ปกติแล้วก็มีแต่พวกเธอนี่แหละที่ใช้สระน้ำ แต่วันหยุดสุดสัปดาห์นั้นพวกเธออกไปเที่ยวทะเลกันแทน     ไม่รู้ว่าบังเอิญไม่อยู่บ้านพอดี หรือเจ้าตัวนิ่มตัวนี้วางแผนเอาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว มันก็เลยถือโอกาสแอบเข้ามาใช้สระว่ายน้ำแห่งนี้ซะเลย แล้วเจ้าของบ้านก็ไม่อยู่ด้วย ถ้ามันมาแอบชิลหน่อยคงไม่มีใครรู้หรอก     ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่มันไม่รู้ นั่นก็คือถึง Kristy จะอยู่ไกลบ้าน แต่เธอก็ฝากน้องสะใภ้เข้ามาเช็กความเรียบร้อยในบ้านให้ตอนเธอไม่อยู่ด้วย นิ่มตัวนี้ก็เลยโดนเจอตอนพักผ่อนชิลๆ อยู่บนที่นอนลอยน้ำกลางสระโต้งๆ เลย   ว้า ถูกจับได้ซะแล้ว   น้องสะใภ้ส่งรูปผู้บุกรุกตัวน้อยไปให้ Kristy กับเด็กๆ ดูผ่านทางมือถือของลูกสาว ตอนที่ลูกวิ่งเข้ามาหา Kristy ในทะเลอย่างรีบร้อนเธอก็นึกว่ามีเรื่องฉุกเฉินซะอีก แต่พอเห็นภาพตัวนิ่มเท่านั้นแหละทุกคนก็หัวเราะกันใหญ่ พวกเธอค่อนข้างแปลกใจที่เจอตัวนิ่มแอบมาว่ายน้ำเล่นแบบนี้ แต่ด้วยความที่มันดูน่ารักแล้วก็ไม่มีพิษมีภัยเธอก็เลยไม่ถือสา แล้วปล่อยให้นอนเล่นต่อไป     อย่างไรก็ตาม ถึงตัวนิ่มจะว่ายน้ำเก่งอยู่แล้ว แต่พวกเธอก็เป็นห่วงว่าบางทีมันอาจจะอยากได้คนช่วยก็ได้ พอผ่านไปสักพักก็เลยให้น้องสะใภ้ช่วยดึงที่นอนลอยน้ำที่มันนอนอยู่ขึ้นมาข้างสระ จากนั้นก็ค่อยๆ ตะล่อมให้มันออกไปจากสระอย่างอ่อนโยน …   เก๊าทำเบาๆ แล้วนะ   หลังจากที่ขึ้นมาจากสระ มันก็ยังไม่ได้ไปไหนหรอก…

ร้านพิซซ่าแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลีเป็นที่นิยมของคนแถบนั้น ที่ดังไม่ได้เป็นเพราะรสชาติของอาหารอย่างเดียวนะ อีกส่วนมาจากเก้าอี้วิเศษหน้าร้านด้วย ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนมานั่งเก้าอี้หน้าร้านพิซซ่า จะมีแมวตัวหนึ่งวิ่งมานั่งตักลูกค้าเสมอ โดยไม่เลือกเลยว่าลูกค้าคนนั้นจะเป็นชาย หญิง เด็ก แก่ แค่นั่งมันก็จะมาหาแล้ว ส่วนเรื่องราวของมันจะเป็นยังไงไปลองฟังกันดูนะ …   ที่ร้านพิซซ่าแห่งนี้มีเก้าอี้อยู่ตัวหนึ่ง   เมื่อไหร่ก็ตามที่มีลูกค้ามานั่ง   จะมีแมวตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาหา   แล้วมันก็จะเข้าไปนั่งตักคนที่มานั่งเสมอ   ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ผู้ชายหรือผู้หญิง หรือจะมากี่คนก็ไม่เกี่ยง   ถ้ามาเราก็จะนั่ง   คุณป้ามาคนเดียวเหรอ เดี๋ยวเรานั่งเป็นเพื่อนนะ   ถึงกับมีลูกค้าบอกเลย ว่าร้านนี้เป็นร้านโปรดเพราะเจ้าเหมียวเชียวนะ   ทำให้ลูกค้าติดใจในความน่ารักของแมวเหมียวแล้วมาร้านพิซซ่านี้บ่อยมากขึ้นด้วย   จะมาเยอะแค่ไหนก็พร้อมรับลูกค้า เมี๊ยว   แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นแมวที่ทางร้านเลี้ยงไว้!?   เจ้าของร้านหญิงคนนี้บอกมาแบบนั้น   เธอบอกว่าเมื่อก่อนเคยเห็นมันถูกแมวจรจัดรุม ก็เลยช่วยเอาไว้   ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามันก็ตามเธอมาโดยตลอด   แม้แต่ตอนกินข้าวยังตามมาดูเลยอะ   แล้วเธอก็ให้ข้าวมันกินที่ร้านด้วย   มันรักเธอมากถึงขั้นจะตามกลับบ้านเชียวล่ะ   แต่น่าเสียดายที่ที่อยู่ของเธอเลี้ยงมันไม่ได้…

ในเวลาที่คุณลุงกำลังเศร้ากับการจากไปของหมาเพื่อนรัก สัตว์ที่เข้ามาทำให้เขารู้สึกดีอีกครั้งกลับเป็นไก่ตัวหนึ่งซึ่งปกติไม่ค่อยมีใครนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง ทว่ามันก็ทำให้เขารู้ว่าไก่ก็เป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน     คุณลุง Dave Cox วัย 43 ปีอาศัยอยู่ในเมืองแจ็กสันวิลล์ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา แม้จะอยู่คนเดียวแต่ก็ไม่ได้โดดเดี่ยวเพราะเขามี Cort เพื่อนหมาตัวโปรดอยู่ด้วย แต่ไม่นานมานี้มันก็ตายจากเขาไปด้วยอายุ 17 ปี ทำให้เขาเหงาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และเขาก็ไม่อยากจะหาหมาอื่นมาแทนที่มัน     แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่เปิดโอกาสให้สัตว์เลี้ยงตัวอื่นเลย เขายังอยากมีสัตว์เลี้ยงอยู่เป็นเพื่อนคู่ใจเหมือนเดิม แค่ไม่อยากเลี้ยงหมาตัวอื่นเพราะดูเหมือนจะเอามันมาแทนที่ Cort เท่านั้น และเมื่อเขาไปที่ร้านสัตว์เลี้ยงเพื่อหาเพื่อนตัวใหม่มาอยู่ด้วย ไม่รู้ว่าอะไรดลใจเขา Cox ถึงเลือกลูกเจี๊ยบอายุ 3 วันตัวหนึ่งมาอยู่ด้วยแทน ทั้งที่ปกติคนอื่นคงไม่เลือกไก่มาเป็นสัตว์เลี้ยงหรอก     Cox ช่วยเลี้ยงดูไก่ที่เขาตั้งชื่อว่า Sammi จนมันโต โดยเลี้ยงเอาไว้ในบ้านที่เขาอาศัยอยู่ ทั้งคู่ก็เลยใกล้ชิดกันมาก ถึงจะโตแล้ว มันก็ไม่เคยหนีไปไหนเลย จากนั้นเป็นต้นมาเขาก็พบว่าถึง Sammi จะเป็นไก่ แต่มันก็เป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขา เขาอยู่กับมันแล้วรู้สึกสบายใจ แถมมันยังเป็นเพื่อนไปเที่ยวกับเขาได้ทุกที่โดยไม่ต้องกลัวว่ามันจะหนีเขาไปด้วย     พาไปเที่ยวไม่เคยต้องใส่สายจูงหรือกรง   ยังไงมันก็รักเจ้าของแล้วไม่บินหนี…

ถ้าคุณได้เดินผ่านน้องหมาพวกนี้ อาจจะต้องโทรจองคอร์สนวดกันสักนิด เพราะพวกมันอาจทำให้คุณมองตามชนิดที่เหลียวหลังได้เลย ก็จะไม่ให้มองได้ยังไงล่ะ ลายของน้องๆ มันแปลกมากเลยอะ เห็นแล้วต้องขอดูซ้ำว่ามันของจริงรึเปล่า แต่ถ้าหมาพูดได้มันคงบอกแล้วแหละว่านี่ของจริงแน่นอน พ่อแม่ให้มาเลยนะค้าบ   นี่แกใส่ถุงน่องอยู่ใช่ไหม   เย้ย นึกว่าลูกเสือที่ไหน   ผมตัวสะอาดแล้วครับ นี่เป็นแค่ลายเฉยๆ   แถวนี้ก็ไม่มีโคลนให้เล่น แล้วหน้าไปเลอะอะไรมา   เห็นหัวใจดวงน้อยๆ ของน้องไหม   ใครๆ ก็บอกว่าผมมี 4 ตา   ถ้าไม่บอกว่าหมาเราคงนึกว่าเป็นแรคคูน ลายเหมือนซะ   สาวๆ คงอิจฉาน้อง ไม่ต้องตื่นมาเขียนคิ้วทุกวัน   เห็นแบบนี้ผมเป็นคนจริงใจนะ ไม่ได้ชอบสวมหน้ากากเข้าหากัน   หมาแพนดี้ที่แท้ทรู   ด้านหน้าก็น่ารัก ด้านหลังก็น่าเลิฟ   ตอนเด็กๆ ท่าจะโดนแมวตะปบหน้ามา   มีเส้นแบ่งครึ่งตัวไว้ด้วย   ว้าว ตัวนี้มีลายหัวใจเหมือนแม่เปี๊ยบ   ผมสายตาปกติดีฮะ แค่ใส่แว่นเป็นแฟชั่น  …

หลังจากเพิ่งได้รับรางวัล ‘หมาน่าเกลียดที่สุดในโลกประจำปี 2018’ ไปเพียงแค่ 2 อาทิตย์ ไม่น่าเชื่อเลยว่าตอนนี้เจ้า Zsa Zsa จะตายจากไปอย่างกะทันหัน Zsa Zsa เป็นหมาพันธุ์อิงลิชบูลด็อกที่มีฟันยื่นและมีลิ้นห้อยของ Megan Brainard เธอรับมันมาเลี้ยงเมื่อ 5 ปีก่อนและอยู่กันในบ้านที่รัฐมินเนสโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา     เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2018 มันเพิ่งได้รับตำแหน่งผู้ชนะการประกวดหมาน่าเกลียดในเมืองเปตาลูมา รัฐแคลิฟอร์เนียมาหมาดๆ แต่พอถึงวันที่ 10 กรกฎาคม 2018 มันก็ได้ตายจากไปอย่างสงบขณะที่หลับไป ตอนที่ตายมันอยู่ในบ้านของพ่อ Brainard แล้วเธอจึงประกาศอย่างเป็นทางการบนเฟซบุ๊กให้ทุกคนทราบในวันถัดมา     Barinard เล่าว่า “ฉันยังรู้สึกตกใจอยู่เลย… เหมือนกับตอนที่มันชนะการประกวด แม้ว่าจะผ่านมา 2 อาทิตย์แล้วฉันก็ยังแทบไม่ค่อยเชื่อเลยว่ามันชนะ และครั้งนี้ฉันก็คงทำใจเชื่อได้ยากเหมือนกันว่ามันจากไปแล้ว” ตอนนี้ Barinard และลูกสาวได้ทำการบอกลาเจ้าหมาและนำมันไปฝังเรียบร้อยแล้ว โดยลูกสาวของเธอได้จูบมันบอกลาเป็นการบอกให้รู้ว่าเธอรักมันมากแค่ไหน     Barinard เล่าต่อว่า “Zsa Zsa เกิดมาเพื่อเป็นจุดสนใจ มันถ่ายรูปขึ้นเสมอแล้วก็ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ทุกรูปแบบ จริงๆ…

บ่อยครั้งที่สัตว์เลี้ยงซึ่งหายไปจากบ้านจะไปโผล่อยู่ในศูนย์พักพิงของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ เมื่อเจ้าหมา Daisy ของ Joyce หายไปจากบ้านที่รัฐมิสซิสซิปปี ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเลยลองติดต่อไปถามดู เธอบอกกับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Jackson Friends of the Animal Shelter ที่ Lyn Crawford ดูแลอยู่ว่าถ้าเห็นเจ้าหมาของเธอ ช่วยติดต่อไปบอกเธอด้วย แล้วก็ทิ้งรูปเจ้าหมาเอาไว้ให้เผื่อมีคนเจอเข้าจะได้เปรียบเทียบได้   Daisy ที่หายไป   เวลาผ่านไปเนิ่นนานกว่าสัปดาห์ ถึงจะแจ้งอาสาสมัครทุกคนแล้วก็ไม่มีใครเห็นเจ้า Daisy เลย ความหวังของ Joyce เริ่มหมดลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าช่วงสัปดาห์ที่ 2 ก็มีคนเจอหมาตัวหนึ่งที่คล้ายกับในรูป ทว่าหมาที่เจอนิสัยไม่เหมือนกับที่ Joyce อธิบายไว้เลย เธอบอกว่า Daisy มันค่อนข้างร่าเริง แต่หมาที่เจอนั้นดูหวาดกลัวคนอื่นไปเสียหมด ก็เลยไม่มั่นใจว่าใช่หมาตัวเดียวกันไหม   มีแต่คนไม่รู้จัก น้องกลัว   แม้ว่า Crawford จะถ่ายรูปมันไปให้ Joyce ดูแล้ว เธอก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะถึงมันจะคล้ายกัน แต่เธอไม่เคยเห็น Daisy เศร้าขนาดนี้มาก่อนเลย เธอเลยต้องมาดูให้มั่นใจกับตาตัวเองที่ศูนย์พักพิง และทันทีที่เธอเปิดประตูเข้ามา ทุกคนก็มั่นใจแล้วว่าหมาตัวนั้นคือ Daisy…

เป็นคุณจะทำยังไงเมื่อจู่ๆ ได้ยินคนบอกให้ยิงหมาของตัวเองซะ โดยที่มันกำลังวิ่งเข้ามาหาเราด้วยความเร็ว… หลายคนที่ได้ยินคงจะคิดว่าเจ้าหมาอันตรายมากจนต้องยิงก่อนจะโดนทำร้ายก็ได้… ถึงจริงๆ แล้วมันจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมดก็ตาม AKghandi จากเว็บไซต์ Imgur ได้เล่าถึงเรื่องชวนเข้าใจผิดจากการทำงานของเขาอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเป็นคนส่งพิซซ่า และเรื่องก็เกิดขึ้นในตอนดึกของการทำงานนั่นเอง     ตอนนั้นเป็นเวลาตี 2 แล้ว เขากำลังไปส่งพิซซ่าที่บ้านหลังหนึ่ง และระหว่างทางเขาก็เห็นหมาตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว และมีหญิงคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของวิ่งตามมาพร้อมตะโกนว่า “ยิงมันซะ! (Shoot Her)“ AKghandi เล่าว่าคนในอลาสก้าบางคนก็พกอาวุธไว้ป้องกันตัวอยู่แล้ว แล้วเขาก็มีปืนพกด้วยเหมือนกัน ก็เลยชักมันออกมาเตรียมยิงไปที่เจ้าหมาไว้ก่อน เพราะคิดว่าเธอคงกำลังบอกว่ามันอาจทำอันตรายเขาได้ ให้ยิงมันป้องกันตัวเองดีกว่า     แต่พอมันเข้ามาใกล้เขามากๆ เขาก็เห็นว่ามันไม่ได้ดูอันตรายเลยสักนิด มันก็เป็นแค่หมาพันธุ์เชพเพิร์ดทั่วๆ ไป ไม่มีน้ำลายฟูมปาก ไม่ได้ตัวเปื้อนเลือดจากการทำร้ายคน แล้วก็ไม่ได้ขู่เขาเลยด้วยซ้ำ มันเข้ามาดมเขาเล็กน้อย แล้วก็ส่ายหางใหญ่เลยเป็นเชิงบอกว่ามันมาอย่างเป็นมิตร เขาก็เลยสบายใจแล้วลดปืนลงอย่างงงๆ … แล้วเจ้าของบอกให้เขายิงมันทำไมกันนะ? สักพักหนึ่งเจ้าของก็วิ่งตามมันมาได้ทันแล้วขอโทษเขาที่มันมารบกวน พร้อมกับดุเจ้าหมาว่า “อย่าวิ่งหนีไปตามใจแบบนี้สิ Shooter“     ตอนนั้นเองเขาก็เลยเพิ่งเข้าใจว่าที่จริงแล้วเจ้าของไม่ได้ตะโกนว่า ‘ยิงมันซะ! (Shoot her)’ เธอเรียกชื่อมันซึ่งก็คือ Shooter ต่างหาก… เกือบเข้าใจผิดจนยิงไปแล้วนะเนี่ย…

ลูกแมวน้อย 3 ตัวอยู่ในชุมชนแมวจรจัด แต่พวกมันอยู่กันตามลำพังไม่มีแม่อยู่ด้วย พวกมันดูแลตัวเองได้ไม่นานหรอก ดีที่มีคนไปช่วยพวกมันออกมาดูแล     Mona เป็นหญิงที่ช่วยเหลือแมวจรจัดเป็นประจำ เธอได้ยินเสียงร้องของลูกแมวทั้ง 3 ตัวแล้วเห็นว่ามันไม่มีแม่ดูแลก็เลยช่วยมาอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Tinykittens พวกเขาบอกว่าพวกมันเด็กเกินกว่าจะดูแลตัวเองได้ โชคดีมากที่ Mona เจอมันแล้วพามาให้พวกเธอดูแลให้ทัน พวกมันก็เลยแข็งแรงดีทุกตัว     มาให้พี่ๆ ป้อนนมให้นะ   พวกเขาตั้งชื่อลูกแมวว่า Avory, Arthur และ Ray แมวทั้ง 3 ตัวซุกซนมาก แล้วก็กินเก่งมากเช่นกัน ส่วนที่น่ารักที่สุดก็คือพวกมันจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ สมกับเป็นพี่น้องกันเลย   แป๊บเดียวก็โตพอกินอาหารเองได้แล้ว   ค่อยๆ กินนะอย่าแย่งกัน   อาบน้ำก็อาบด้วยกัน ง่อววว   แน่นอนว่าต้องนอนด้วยกันด้วยนะ   อย่างไรก็ตามแมวทั้ง 3 ตัวก็ไม่มีแม่คอยดูแล พวกมันก็ยังต้องการแมวที่จะมาดูแลให้พวกมันไม่เหงาด้วยเหมือนกัน แต่อาสาสมัครก็ตามหาตัวแม่ของพวกมันไม่เจอ โชคดีที่ในศูนย์พักพิงของพวกเขามีคุณปู่เหมียว Mason อยู่ด้วย มันเป็นแมวแก่ที่รักลูกแมวตัวเล็ก และยินดีจะดูแลลูกแมวทุกตัวที่มาที่นี่ให้ (อ่านเรื่องของคุณปู่เหมียว Mason…

เมื่อพลัดหลงกับเจ้าของแล้วหาทางกลับบ้านไม่ถูก หมาทั่วไปคงรออยู่แถวนั้นจนกว่าจะมีคนผ่านมาช่วย แต่ก็มีหมาบางตัวเหมือนกันที่เข้าไปหาความช่วยเหลือเองจนได้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังออกตรวจตราความเรียบร้อยในเมืองวัลนัทครีก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาก็ทำหน้าที่ตามปกติ แต่เมื่อกลับมาที่รถของตัวเองก็เจอหมาแปลกหน้าตัวหนึ่งอยู่ในนั้น     พวกเขารู้ได้ทันทีเลยว่ามันกำลังหลงทางอยู่ แต่ก็แปลกใจเหมือนกันที่มันแสนรู้มาหาตำรวจเองได้ แถมมารอถึงในรถเลยด้วย เก่งอะไรขนาดนี้ ตำรวจเล่าว่า “วันนี้ประมาณตอน 5 โมง 45 นาที เจ้าหมาน้อยตัวนี้รู้ว่าตัวเองกำลังลำบาก มันก็เลยขึ้นมาบนรถของเราที่จอดทิ้งไว้เพื่อบอกให้เจ้าหน้าที่ Akers รู้ว่าตัวเองกำลังหลงทาง”     แถมมันยังทำตัวเรียบร้อยน่ารักกับตำรวจด้วย พวกเขาเล่าว่า “มันมางีบหลับปุ๋ยอยู่บนตักของเจ้าหน้าที่ Akers … เจ้าหมามันถูกฝึกมาอย่างดี บอกให้นั่ง รอ หรือนอนลงก็ได้ ฉลาดมากๆ เลยล่ะ แถมมันยังจูจุ๊บขอบคุณตำรวจที่ช่วยมันด้วย”     แน่นอนว่ามาถึงที่เองแบบนี้แล้วเจ้าหน้าที่ก็เต็มใจจะช่วยมันหาเจ้าของเต็มที่ แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะหาเจ้าของให้หมาตัวนี้ เพราะมันไม่ได้ฝังไมโครชิปเอาไว้ แล้วก็ไม่ได้ใส่ปลอกคอด้วย เห็นทีตอนนี้พวกเขาคงต้องหันไปใช้โซเชียลมีเดียช่วยหาเจ้าของให้มันต่อ แล้วถ้าเกิดยังไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของมัน ก็จะเริ่มหาเจ้าของใหม่ให้มันแล้ว ยังไงก็ขอให้เจอเจ้าของไวๆ นะ   ที่มา: the dodo

ในช่วงที่เจ้าหมาอยู่ในศูนย์พักพิง มันไม่มีใครมองเห็นค่าเลยจนเกือบจะถูกการุณยฆาตอยู่แล้ว จนเมื่อหญิงคนหนึ่งรับมันไปอยู่ด้วย เจ้าหมาเลยได้แสดงพรสวรรค์ของมันให้ทุกคนเห็นจนกลายเป็นสุดยอดหมาแข่ง Stitch เป็นหมาพันธุ์อเมริกันสตัฟฟอร์ดชายร์เทอร์เรียที่ไม่มีคนมารับเลี้ยงเลย มันอยู่ศูนย์พักพิงนานจนเกือบจะเกินกำหนดอยู่แล้ว และในวันสุดท้าย Millie Sawyer ก็ได้มาช่วยชีวิตมันไว้     เธอเป็นคนรักหมาที่รับดูแลหมาเฉยๆ ก็เลยไม่ได้เป็นเจ้าของให้กับมัน แต่เธอก็เป็นคนพามันไปพบกับแม่ใหม่ Kaitlyn Johnson ที่มอบความหมายในชีวิตให้กับมัน Johnson เป็นคนที่คลุกคลีกับกีฬา ฟลายบอล (Flyball) ซึ่งเป็นการแข่งขันให้หมาข้ามสิ่งกีดขวางไปในเวลาอันรวดเร็วที่สุด เมื่อ Stitch ได้มาอยู่กับเธอ เธอก็เลยให้มันลองเล่นกีฬานี้บ้าง     ตอนนั้นเองเธอถึงได้รู้ว่า Stitch มีพรสวรรค์ในการแข่งฟลายบอลอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ด้วยเวลาการฝึกสั้นๆ แค่ 2 เดือน มันก็ทำสถิติได้รอบเวลาเพียง 4.35 วินาทีซึ่งเป็นเวลาที่ดีที่สุดในบรรดาหมาที่เธอฝึกแล้ว เธอเลยลองพามันไปแข่งขันจริงๆ ดู และเมื่อถึงเวลาแข่งจริง Stitch ก็ทำสิ่งเหนือความคาดหมายอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการทุบสถิติของตัวเองที่เคยทำมา แล้วเข้าเส้นชัยไปด้วยเวลาเพียง 4.117 วินาทีเท่านั้น คนที่มาเชียร์มันพากันส่งเสียงเชียร์ดังลั่นเลย ตอนนี้ Stitch ก็กลายเป็นหมาสายพันธุ์สตัฟฟอร์ดชายร์ที่แข่งฟลายบอลได้เร็วที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว     หมาทุกตัวมีจุดเด่นและความสามารถที่ดีอยู่ ขอแค่คุณให้โอกาสมัน คุณจะได้เห็นว่าเจ้าหมาน่ารักและเก่งจนทำให้คุณประทับใจได้ไม่รู้ลืมเลย ที่มา: Lad Bible

หมาพวกนี้มันต้องมีพลังวิเศษอะไรสักอย่างแน่ๆ ไม่งั้นแค่เดินมาให้เราเจอหน้า จะทำให้เราเผลอยิ้มแล้วลืมเรื่องเครียดได้ยังไงกัน? บางทีเรายังรู้สึกเลยว่ามันใช้ดีกว่ายาแก้เครียดด้วยนะ แถมไม่มีผลข้างเคียงเหมือนยาด้วย… ถ้าจะมีก็คงเป็นตอนเผลอตัวควักเงินซื้อขนมให้มันกินแค่นั้นแหละ แหะๆ ใครไม่คิดแบบนั้น ก็ลองห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มตอนดูรูปน้องดูละกัน หึหึ…   เราขอเรียกแกว่า สไปเดอร์หมา   จะจับคีย์บอร์ดมาทำงาน หรือจะขยุ้มพุงนุ่มๆ นี่ดี   โอ้ย น้องคาบบอลแล้วลิ้นห้อยด้วย น่ารักอ่า   ที่บอกให้ไปนั่งไม่ได้หมายถึงท่านี้ …   มองหาตั้งนาน ที่แท้มาแอบเจ้านายในพุ่มไม้นี่เอง   ถึงบอลจะแฟบแล้วก็ยังเป็นของลิ้นชิ้นโปรดอยู่ดี   เพื่อน ออกไปเล่นกันเถอะ เจ้านายจับไม่ได้หรอก (เหรอ!?)   เขาบอกว่าใกล้ชิดกับธรรมชาติจะทำให้จิตใจสงบ   จะบอกว่าอยากไปเดินเล่นสินะ   แกนี่หูโตเหมือนค้างคาวเลยนะ   ผมช่วยทำให้พื้นบ้านเจ้านายนุ่มขึ้นแล้ว   ขอเหมาได้ไหมฮะ   แอบไปย้อมสีกับถ่านมาอีกแล้ว ต้องพาไปอาบน้ำอีกแล้วสิ   เล่นน้ำสนุกมากเลย คราวหน้าพามาอีกนะมนุษย์   มีหมาแบบนี้เลี้ยงแทนลูกได้เลยนะเนี่ย   จะเข้าแก๊งนี้ได้ต้องทำลิ้นห้อย  …

จากการทำงานเป็นช่างภาพการให้กำเนิดเด็กมานาน Kristin Ann ก็ได้พบกับความประทับใจจากหลายครอบครัวที่ตัวเองไปทำงานด้วย หนึ่งในนั้นก็คือครอบครัวของ Brooke ที่เธอไปบันทึกช่วงเวลาพิเศษมาให้แล้ว 2 ครั้ง และถึงจะต้องไปถ่ายรูปให้ลูกน้อยที่กำลังจะเกิดมาเป็นคนที่ 3 เธอก็ไม่รู้สึกเบื่อกับความอบอุ่นของครอบครัวนี้เลย เพราะว่ามันมีเจ้าหมา Ranger ที่แสนอบอุ่นอยู่ด้วย     Ranger เป็นหมาคอร์กี้ที่อยู่กับครอบครัวของ Brooke มาเนิ่นนาน มันเป็นห่วงคนในบ้านอยู่เสมอ และจะเป็นห่วงคุณแม่เป็นพิเศษทุกครั้งที่เธอตั้งท้อง มันทำตัวเป็นผู้ช่วยที่ดีและอยู่ให้กำลังใจเธอทุกเวลา และในการให้กำเนิดลูกคนที่ 3 นี้ก็ไม่ต่างไปจากเดิมเลยสักนิดเดียว มีแต่จะดูเป็นห่วงเป็นใยมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย   Ranger จะตามแม่ไปทุกที่ โดยเฉพาะตอนเธอตั้งท้อง   พอเห็นว่าเธอต้องการความช่วยเหลือ ก็จะไปเป็นกำลังใจให้ข้างๆ   ครอบครัวของ Brooke ทำคลอดที่บ้านประจำ และจะมี Ranger อยู่ข้างๆ เสมอ   นี่แหละกำลังใจที่ทำให้คุณแม่ผ่านความเจ็บปวดไปได้   ตอนที่เธอย้ายไปทำคลอดในสระน้ำ   มันก็ตามมาอยู่กับทุกคนด้วย   สู้ๆ นะแม่ แม่ต้องทำได้อยู่แล้ว   มันรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเข้าไปอยู่กับเธอ และเมื่อไหร่ควรจะถอยมาอยู่สถานการณ์เงียบๆ  …

ในบางพื้นที่ยังมีการใช้หมีเพื่อเป็นตัวล่อฝึกสุนัขให้ทำการล่าสัตว์ได้ชำนาญมากขึ้น แต่มันดูไม่ถูกต้องต่อเจ้าหมีนัก และถ้าไม่ได้คนที่พยายามช่วยมันอย่างมาก มันคงไม่ได้ออกจากกรงทั้งชีวิต     เจ้าของของ Kvitka ทำการฝึกหมาล่าเนื้ออยู่ในเมือง Terebovlya ประเทศยูเครน โดยเขาใช้เจ้าหมีนี่แหละเป็นเหยื่อให้หมาฝึกล่า นอกเหนือจากเวลาฝึกเขาก็จะขังมันไว้ในกรงเท่านั้น มันใช้ชีวิตอยู่แบบนี้มา 8 ปีแล้ว ชีวิตของมันจึงไม่มีอะไรเลยนอกจากความหวาดกลัวและถูกทารุณ ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งพยายามมอบอิสระให้มัน     Four Paws International เป็นกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ที่ต่อต้านการฝึกหมาล่าเนื้อโดยการใช้หมี พวกเขาพยายามพูดคุยกับเจ้าของของ Kvitka มาหลายเดือนแล้ว เพื่อให้เขายอมปล่อยมันจากการฝึก หลังจากพยายามเจรจากับเจ้าของอยู่หลายครั้งตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ในที่สุดเจ้าของก็ใจอ่อนและยอมให้พวกเขาเอาเจ้าหมีไปดูแลแทน มันเลยได้ออกจากกรงที่กักขังมันมาทั้งชีวิต   กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ช่วยให้ Kvitka ได้ออกจากกรงที่อยู่มา 8 ปี   มันไม่จำเป็นต้องถูกใช้เป็นเหยื่อให้หมาทำร้ายอีกต่อไป   ทันทีที่ได้ตัวเจ้าหมีมา อาสาสมัครก็พามันเดินทางไกลกลับมายังที่ของพวกเขาเพื่อพามันตรงเข้าไปรักษาทันที เนื่องจากเจ้าของคนเก่าดูแลมันไม่ดีเลย มันจึงมีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง อย่างแรกเลยพวกเขาต้องช่วยดูแลฟันที่แตกหักของมันซะก่อน ซึ่งถ้าไม่ทำอย่างเร่งด่วนอาจทำให้มันมีปัญหาในการใช้ชีวิตต่อไปได้ แถมยังต้องรักษาแผลจากการถูกหมากัดที่มีอยู่ทั่วตัวด้วย     พอรักษาเสร็จก็ได้ไปอยู่บ้านใหม่แล้ว   หลังจากพวกเขามั่นใจว่ามันไม่เจ็บป่วยอะไรแล้ว ก็จัดแจงให้มันไปอยู่บ้านใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าปิดในความดูแลของพวกเขาเอง Kvitka ใช้ชีวิตอยู่ในกรงมาตลอด การให้มันอยู่ในความดูแลของมนุษย์ต่อไปจึงดูเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว…

บ็อกเซอร์เป็นพี่หมาตัวโตที่ดูน่าเกรงขาม บางครั้งถ้าไม่ได้รู้จักมันดีก็อาจจะคิดว่ามันเป็นหมาที่อาจจะดุร้ายก็ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก บ็อกเซอร์ก็เป็นหมาตัวใหญ่ที่มีหัวใจเหมือนเด็ก พวกมันอ่อนโยนแล้วก็ขี้อ้อนจะตายไป ไม่เชื่อก็ลองไปดูภาพน่ารักๆ ของพวกมันดูสิ   เห็นหน้าไม่ยิ้มแบบนี้ก็รักสัตว์ทุกตัวนะ   โถ่ว สระตื้นแบบนี้พี่ไม่ต้องว่ายเลย   ท่านอนแอดวานซ์ไปมั้ยเพ่   ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอยากเดินเล่นต่อ   มารอเพื่อนไม่ต้องยื่นหน้ามองขนาดนั้นก็ได้   จริงๆ แล้วเราอ่อนโยนจะตาย รักดอกไม้ม๊ากมาก   ชวนน้องมาซนแบบนี้ไม่ดีเลย   นั่งดีๆ สิคะ เดี๋ยวเบรกหน้าก็ทิ่มหรอก   นั่นคาบหรือว่าจะกินลูกบอล   เคยนั่งตักพ่อยังไง โตแล้วก็จะนั่งเหมือนเดิม   มันไม่ใช่ที่นอนนะน้อง   ตัวอะไรอะเจ้านาย น่ากลัวจังเลย   เย้ย แกถอดหัวได้ด้วยเหรอ!?   ท่าทางอร่อยนะตัวเล็ก   แค่เดินมาทักเฉยๆ จะตกใจทำไมเล่า   แกเอาอะไรคิดว่าจะหลบหลังต้นไม้เล็กได้เหรอ ….   รู้นะว่ารัก แต่ลงไปนั่งที่พื้นเถอะ พ่อหนัก  …

หนุ่มน้อย Peyton Harris อายุ 9 ปีเป็นสาวกแมวตั้งแต่เด็ก เขาอยากเลี้ยงแมวมานานแล้ว ก็เลยอ้อนพ่อแม่ให้รับเลี้ยงแมวมาตั้งนานแล้ว แต่พวกเขาเพิ่งอนุญาตให้หนุ่มน้อยเลี้ยงแมวเมื่อไม่นานนี้เอง พวกเขาก็เลยตระเวนไปดูตามศูนย์พักพิงสัตว์หลายแห่ง รวมทั้งงานเปิดให้รับเลี้ยงสัตว์เลี้ยงด้วย หลังจากดูแมวมาหลายตัว Peyton ก็ถูกชะตากับแมวที่ชื่อ Luna Lovegood (คนตั้งชื่อต้องเป็นแฟนคลับแฮร์รี่ พอตเตอร์แน่เลย) เขาเลยกรอกใบขอรับเลี้ยงมันโดยระบุชื่อแมวเป็นเจ้าตัวนี้เท่านั้น และในบรรดาครอบครัวทั้งหมดที่มารับเลี้ยงสัตว์ เขาก็เป็นคนเดียวที่ขอเลี้ยงมัน ทั้งคู่เลยได้มาอยู่บ้านเดียวกัน     Luna เข้ากับสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี แม้แต่เจ้าหมาที่มาอยู่ก่อนมันก็ตีซี้ได้ มันมีนิสัยเป็นมิตรและขี้อ้อนเป็นที่สุด Peyton หลงรักมันหัวปักหัวปำ แค่เดือนแรกที่เลี้ยงมันเขาก็เก็บเงินเพื่อซื้อคอนโดแมวให้มันด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว…แต่เขาอยากทำอะไรที่พิเศษกว่านั้นให้มันรู้ถึงความรักของเขา ก็เลยจะสร้างบ้านส่วนตัวให้มัน     Peyton และครอบครัวสร้างบ้านให้มันตอนที่พวกเขาไปเที่ยวบ้านของคุณปู่คุณย่า โดยหนูน้อยเป็นคนตั้งต้นไอเดียทั้งหมด โชคดีที่ที่นั่นมีวัสดุจำพวกไม้กับตะปูเหลือใช้อยู่แล้ว ก็เลยมีของพร้อมสร้างบ้านให้แมวน้อยเลย แถมยังมีญาติที่คุ้นชินกับการสร้างของด้วย เขาก็เลยช่วยวางแผนสร้างบ้านจิ๋วได้   Peyton เป็นคนตอกตะปูและทาสีทั้งหมด   ใช้เวลาตั้ง 4 วันแน่ะกว่าจะทำเสร็จ   พอทำเสร็จแล้วก็ดูดีใช้ได้เลย   บ้านที่เขาทำให้มันเป็นบ้าน 2 ชั้นที่มีระเบียงตรงชั้น 2…

ตอนที่ Jeff Saul เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งใหม่ เขาก็กำลังยุ่งกับการย้ายของเข้ามาในห้องอยู่ แล้วได้ยินเสียงร้องของแมวมาจากข้างนอกด้วย เมื่อเปิดประตูออกไปดู เจ้าแมวก็พุ่งพรวดเข้ามากลางห้องของเขา พร้อมทำสีหน้าสุดงงงวย ราวกับว่ามันเพิ่งเข้ามาในที่ที่คุ้นชิน แต่มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ถ้ามันเป็นแมวจรจัดอาจจะถูกไล่มันออกนอกห้องไปแล้ว แต่โชคดีที่ Saul รู้ว่าแมวตัวนี้เป็นของใคร …     ก่อนหน้าที่เขาจะเข้ามาอยู่ที่นี่ ลูกสาวตัวน้อยของครอบครัวที่เคยอยู่บอกว่าพวกเธอหาแมว Crispy ที่เลี้ยงไว้ไม่เจอตอนจะย้ายออกไป ถึงจะตามหาอยู่นานก็ยังไม่มีวี่แวว ก็เลยต้องย้ายออกไปทั้งที่ยังเป็นห่วงเจ้าเหมียวอยู่ Saul คิดว่าแมวตัวนี้คงจะเป็น Crispy เพราะมันเดินเข้ามาในห้องนี้อย่างมั่นใจ แล้วก็ไม่ออกไปไหนเลยถึงจะไม่ชินกับบรรยากาศห้องใหม่ก็ตาม เขารู้สึกสงสารมัน เจ้าแมวคงรู้สึกเคว้งคว้างที่หนีเที่ยวไปไม่นาน แต่ต้องเข้ามารู้ว่าครอบครัวที่เคยอยู่ด้วยย้ายไปที่อื่นแล้ว เขาก็เลยให้มันอยู่ที่นี่กับเขาก่อน แล้วจะหาหนทางเอามันไปคืนให้กับครอบครัวนั้นทีหลัง เพราะตอนนี้เขาไม่มีวิธีติดต่อครอบครัวที่เพิ่งย้ายออกไปเลย     ไม่นานนักก็มีเพื่อนของครอบครัวเก่าแวะเข้ามาเอาของที่พวกเขาลืมเอาไว้ พวกเขาช่วยยืนยันได้ว่าแมวตัวนี้คือ Crispy จริงๆ แล้วจะช่วยเอามันไปคืนเจ้าของให้เอง Saul รู้สึกดีมากที่ได้ช่วยให้เจ้าแมวเจอกับคนที่รักมันอีกครั้ง เขาบอกว่า “คนที่เอาแมวไปส่งบอกว่าครอบครัวเจ้าของมันดีใจมาก…ผมหวังว่าเด็กหญิงคนที่เล่าให้ผมฟังจะได้รู้ข่าวแล้วว่าตอนนี้ Crispy จะได้กลับไปอยู่บ้านกับเธออีก” ที่มา: the dodo

ในประเทศสหรัฐอเมริกา หมาที่อยู่ในศูนย์พักพิงนานเกินไปจนอายุเกินกำหนด ตามกฎแล้วจะต้องถูกการุณยฆาตเนื่องจากไม่มีใครมารับดูแลมัน ในจำนวนนั้นก็มีหมาบ็อกเซอร์ตัวหนึ่งอยู่ด้วย มันคงจะรู้ว่าไม่มีใครอยากให้มันอยู่บ้านด้วยแล้ว มันก็เลยเอาแต่นอนนิ่งไม่ยอมขยับไปไหนเลย ถึงจะมีคนมาหารับเลี้ยงหมา มันก็ไม่สนใจออกไปทักทายใครทั้งนั้น     มีคนมาหาก็ยังไม่ยอมลุกมาอ้อน   Ysuhuaylas ก็เลยเดินทางไปหาเจ้าหมาเพื่อถ่ายรูปมันโดยเฉพาะ โดยเธอหวังว่าภาพที่เธอจะเอาไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กจะช่วยให้มีคนอยากรับเลี้ยงมันก่อนจะสายเกินไป   หมาส่วนใหญ่จะส่ายหางดีใจตอนมีคนมาหารับเลี้ยง แต่มันไม่เป็นแบบนั้น   มันคงรออยู่ที่นี่มานานจนหมดหวังไปแล้ว   ตอนที่เหลือเวลาอีกเพียงแค่ไม่กี่วันก่อนมันจะถูกการุณยฆาต ในที่สุดก็มีกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Legacy Boxer Rescue เสนอตัวมาช่วยมันไว้ ถึงพวกเขาจะยังหาคนรับเลี้ยงมันไม่ได้ แต่ก็ช่วยต่อชีวิตให้มันสำเร็จ จากนั้นพวกเขาก็ตั้งชื่อมันว่า Wendell และพามันไปอยู่บ้านกับอาสาสมัคร James Zalinski เป็นการชั่วคราวระหว่างที่รอหาเจ้าของให้ อย่างน้อยมันจะได้รู้สึกเหมือนอยู่บ้านสักที     ตอนที่มันอยู่บ้านกับ Zalinski เขาเล่าว่า “มันดูดีขึ้นมากเลย มันเป็นหมาที่นิสัยเรียบร้อย แต่ก็ยังเหลือพลังไว้เล่นอยู่ด้วย… มันเพิ่งมาอยู่บ้านผมได้แค่วันเดียว แต่แค่นั้นก็ทำให้ผมมั่นใจแล้วว่ามันเป็นหมาที่อ่อนโยน มันไม่ได้กระโดดโลดเต้นอย่างบ้าพลัง เข้ากับเด็กและผู้ใหญ่ได้อย่างดี ผมเลยคิดว่ามันน่าจะมีคนให้ความสนใจรับเลี้ยงเยอะเลยล่ะ แต่เราก็อยากให้มันได้บ้านที่เข้าใจว่ามันเป็นหมาโตแล้วที่ต้องการความรัก และไม่ต้องการออกกำลังมากเกินไป”     ถึงตอนนี้จะยังไม่มีคนเลี้ยง แต่ชีวิตของ Wendell ก็ดีขึ้นมากเรื่อยๆ มันได้ออกมาจากศูนย์พักพิงที่มันไม่ชอบ แถมยังได้มาอยู่บ้านกับมนุษย์แล้วด้วย ที่เหลือก็เพียงแค่รอคนที่เข้าใจมารับเลี้ยงเท่านั้น ซึ่งก็คงอีกไม่นานหรอก  …

คงไม่มีนกตัวไหนที่ชื่นชอบการถูกขังไว้ในกรง เช่นเดียวกับเจ้านกฟลามิงโกตัวนี้ ย้อนกลับไปในปี 2005 ได้มีนกฟลามิงโกตัวหนึ่งหนีออกไปจากสวนสัตว์ Sedgwick County Zoo เมืองวิชิตา รัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วออกเดินทางใช้ชีวิตอย่างอิสระไปตามที่มันต้องการ เวลาผ่านเลยไปปีแล้วปีเล่า และคงไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนคาดคิดว่าจะเจอมันอีกแล้ว มันอาจจะถูกรถชน หรือแก่ตายไปตามอายุขัยก็ไม่มีใครรู้ได้ แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ดันมีเจ้าหน้าที่สัตว์ป่าไปเห็นมันกำลังเดินเล่นอย่างสบายใจกับกลุ่มนกนางนวลที่ชายหาดในรัฐเท็กซัส ที่อยู่ห่างจากสวนสัตว์เดิมที่มันเคยอยู่ไปประมาณ 1,126 กิโลเมตร     ที่มีคนจดจำมันได้อาจจะไม่ใช่สีสันหรือเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมาก แต่เป็นป้ายหมายเลขที่ติดอยู่ที่ขาของมัน ที่เขียนไว้ว่า ‘No. 492’ และเจ้าตัวที่เพิ่งถูกพบเมื่อไม่นานมานี้ก็มีหมายเลขนี้ติดอยู่ที่ขาของมันเช่นกัน ทำให้เจ้าหน้าที่รู้ว่ามันคือตัวที่เคยหายไปจากสวนสัตว์เมื่อนานมาแล้วนั่นเอง ส่วนสาเหตุที่มันหลุดออกไปจากสวนสัตว์เมื่อปี 2005 นั่นเป็นเพราะความประมาทของเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ที่ดันคิดว่าปีกของมันยังไม่โตเต็มที่ เลยไม่ทันได้ขลิบปีกนก (ขั้นตอนในการตัดแต่งขนปีกทำให้พวกมันบินไม่ได้) ในคืนหนึ่งที่เกิดพายุรุนแรงเข้าใส่สวนสัตว์ เจ้า ‘No. 492’ ก็ฉวยโอกาสนี้บินหนีออกไป โดยที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ไม่ทันได้ระบุว่ามันเป็นเพศอะไร     ทั้งนี้เจ้านกขายาวตัวนี้ยังคงใช้ชีวิตอย่างอิสระไปตามสถานที่ต่างๆ โดยที่ทางสวนสัตว์ก็ไม่ได้คิดจะไปจับมันกลับมาแล้ว และเพราะว่ามันเป็นสัตว์ที่ตื่นคนมาก การจะเข้าใกล้มันจึงเป็นเรื่องที่ยากมากนั่นเอง ที่มา odditycentral

ชมวินาทีชวนหวาดเสียว เมื่อนักดำน้ำช่วยดึงตะขอเหล็กออกจากปากฉลาม   การลงไปดำน้ำในทะเลพร้อมกับถังออกซิเจนก็ดูจะเป็นกิจกรรมที่ชวนให้เกิดอาการตื่นเต้นและกดดันอยู่แล้ว และยิ่งเมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับสัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่อาจจะเป็นอันตรายต่อคุณได้ ก็อาจจะทำให้คุณเกิดอาการตกใจได้เลย แต่สำหรับเธอคนนี้ไม่ใช่แบบนั้น เธอสามารถควบคุมสติได้ดีและยังช่วยชีวิตนักล่าแห่งท้องทะเลเอาไว้ได้ด้วย เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม เว็บไซต์ Unilad ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของนักประดาน้ำและนักชีววิทยาทางทะเล Leigh Cobb ชาวอังกฤษวัย 38 ปี ขณะดำน้ำอยู่ในทะเลและเจอเข้ากับฉลามตัวหนึ่งที่มาว่ายน้ำวนเวียนใกล้ๆ     เธอสังเกตเห็นว่าที่ปากของมันมีตะขอเกี่ยวอยู่ จึงพยายามหาทางที่จะดึงมันออกมา แต่การดึงสิ่งที่อยู่ติดกับปากของฉลามไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันอาจทำให้ฉลามตกใจแล้วงับมือของคุณได้เลย เธอจึงพยายามสร้างความไว้ใจให้กับฉลามด้วยการยื่นอาหารให้กับมันก่อน เพื่อให้มันเห็นว่าเธอและคนอื่นๆ มาอย่างเป็นมิตร จากนั้นจึงให้โอกาสนั้นรีบดึงตะขอที่เกี่ยวออกด้วยความรวดเร็ว     เธอบอกว่า “ตะขอที่เกี่ยวปากมันไว้ทำให้มันกินอะไรไม่ได้ ฉันเลยคิดว่าฉันอาจจะช่วยชีวิตมันได้ ปกติแล้วพวกมันเป็นสายพันธุ์ฉลามที่ขี้เล่น แต่เจ้านี่ดูเหมือนจะสังเกตเห็นว่าฉันไม่ใช่นักล่าที่เป็นอันตราย ฉันเลยใช้อาหารล่อและช่วยดึงเอาตะขอออกมา”     ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย    ที่มา unilad , Metro Newspaper UK

น้องหมา Bongsoon ติดคุณลุงเพื่อนบ้านมากเป็นพิเศษ ติดมากกว่าเจ้าของที่ดูแลมันซะอีก จะบอกว่ามันอยู่กับเขามากกว่าเจ้าของก็ยังได้เลย ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น อาจจะเป็นเพราะมันอยากให้กำลังใจเขา รู้สึกซาบซึ้งในความช่วยเหลือของเขา หรือเพราะว่าถูกชะตากับเขาตั้งแต่แรกเจอกันแน่?     นี่คือเจ้าหมา Bongsoon   มันเป็นหมาของคุณลุงกับคุณป้า   ปกติก็จะนอนอยู่บ้านเฉยๆ ไม่สนใจเจ้าของเท่าไหร่   แต่พอได้ยินเสียงของรถลุงเพื่อนบ้านข้างๆ   มันก็จะวิ่งไปหาเขาถึงบ้านทันที   แล้วก็ออดอ้อนให้เล่นด้วย ผิดกับตอนอยู่กับเจ้าของลิบลับ   และเมื่อเล่นกันเสร็จจนคุณลุงเข้าบ้านไปแล้ว   มันก็จะนอนรออยู่ที่ประตูหน้าบ้านด้วยท่าทางมีความสุข   นี่แหละกิจวัตรประจำวันของมัน มันจะรอดูว่าเขากลับบ้านมาเมื่อไหร่   พอเห็นรถของเขามาถึงบ้าน   ก็จะวิ่งลงจากจุดที่มันชอบรอไปหาเขา   สาเหตุที่มันชอบเขาขนาดนี้ อาจเป็นเพราะเมื่อก่อนเขาเคยช่วยฝังน้องของมันที่ตายเพราะถูกรถทับ   หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะรู้ว่าเขาป่วยเป็นมะเร็ง เลยอยากให้กำลังใจเขาก็ได้   คุณลุงก็ยอมรับเหมือนกันว่าที่สู้กับโรคมาได้ขนาดนี้เป็นเพราะมีมันเป็นกำลังใจให้   จริงๆ เจ้าของก็แอบน้อยใจอยู่เหมือนกันที่มันรักเขามากกว่า   พอลุงข้างบ้านไปข้างนอก มันก็จะซึมแล้วกินข้าวน้อยทุกที   พอกินเสร็จก็จะมารอเขาอย่างเดียวเลย   แต่จะทำไงได้ล่ะก็มันชอบอยู่กับเขานี่นา   แล้วตอนเย็นทุกวันคุณลุงก็จะไล่มันกลับไปหาเจ้าของเองนั่นแหละ…

ไม่ว่าใครหากได้เจอกับพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามาอย่างดีหลังจากแยกกันอยู่แล้ว ก็ต้องดีใจมากกันทั้งนั้นแหละ แม้แต่ลิงที่มีพ่อแม่เป็นมนุษย์ก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน ลูกลิงชิมแปนซี Limbini อาศัยอยู่ใน Zoological Wildlife Foundation ซึ่งเป็นองค์กรอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา มันสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่เล็กก็เลยต้องมาอยู่กับมนุษย์     ก่อนหน้าที่จะมาอยู่กับองค์กรนี้ มันเคยอยู่กับ Jorge และ Tania ซึ่งเป็นพ่อแม่บุญธรรมมาก่อน ถึงพวกเขาจะรักมันไม่แพ้ที่มันรักพวกเขา แต่เมื่อมันเริ่มโตแล้วก็ต้องแยกจากกันเพื่อให้ Limbani ไปอยู่ในที่ที่ดูแลมันได้ดีกว่า จนเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2018 นี้ Jorge กับ Tania ก็แอบไปเซอร์ไพรซ์มันถึงบ้านใหม่ พอเจ้าลิงเห็นทั้งคู่มันก็ร้องลั่นด้วยความตื่นเต้นเชียวล่ะ จากนั้นมันก็โดดเข้าไปกอดกับ Jorge และ Tania อย่างมีความสุข ดูแล้วเป็นภาพที่อบอุ่นใจมากเลย   พ่อมาหาแล้ว ดีใจที่ได้เจอแกนะ   มากอดกับแม่บ้างดีกว่า คิดถึงอะ   คลิปวิดีโอ    จริงๆ แล้วเจ้าหน้าที่ในองค์กรก็ดูแลมันดีมากเหมือนกัน แถมมันยังมีเพื่อนสัตว์ตัวอื่นในนั้นด้วย ชีวืตในบ้านใหม่ของมันก็คงมีความสุขพอดู แต่ก็คงไม่รู้สึกผูกพันและรักเท่ากับ Jorge แและ Tania…

เพิ่งเกิดมาลืมตาดูโลกนี้ได้ไม่นาน มิ้วน้อยกับพี่น้องก็กลายเป็นแมวกำพร้าซะแล้ว มีคนไปเจอพวกมันอยู่ตามลำพังโดยไม่มีแม่ ด้วยความสงสารก็เลยช่วยพวกมันเอาไว้ ตอนที่ถูกเจอ เจ้า Domino เพิ่งมีอายุได้แค่ประมาณเดือนเดียว เมื่อเทียบกับพี่น้องตัวอื่นแล้วมันทั้งตัวเล็กแล้วก็ไม่ร่าเริง ก็เลยเป็นตัวเดียวที่จำเป็นต้องพาไปหาสัตวแพทย์โดยด่วน     สาเหตุหลักๆ ที่มันดูอ่อนแอเป็นเพราะอุณหภูมิร่างกายและปริมาณน้ำตาลในตัวต่ำกว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว เพราะพอถึงมือสัตวแพทย์เขาก็ช่วยรักษามันจนหายดี อย่างไรก็ตามลูกแมวอ่อนแอแบบนี้ควรมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด สัตวแพทย์ฺก็เลยติดต่อไปหา Alissa Smith หญิงที่ยินดีรับดูแลมิ้วน้อยที่ตกยากทุกเมื่อ มันเลยได้มาอยู่ในบ้านของเธอ     เมื่อมาถึงบ้าน Domino ก็เข้าไปคลอเคลียกับ Alissa ไม่หยุดเลย มันจะร้องเมี๊ยวๆ ทุกครั้งที่ได้อยู่คนเดียว และพยายามวิ่งเข้าไปอยู่ใกล้กับเธอตลอดเวลา ถ้าอยู่คนเดียว Alissa คงต้องดูแลมันทั้งวันจนเหนื่อยแน่ๆ โชคดีที่เธอมีสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วย แล้วเจ้าเหมียวก็อยากกอดกับพวกมันเหมือนเธอ หน้าที่อยู่เป็นเพื่อนมิ้วน้อยเลยตกไปอยู่กับ Rocket พี่หมาบูลล์ด็อกใจดี   อยากหาคนกอดมาหาเราก็ได้   ขี้เหงาจังเลยนะแมวน้อย   ตัวเล็กแต่นอนกินที่กว่าพี่หมาอีก   นอกจากจะมีพี่หมา Rocket อยู่เป็นเพื่อนให้ความอุ่นกายอุ่นใจแล้ว ในบ้านของ Alissa ก็ยังมี Poppy แมวเจ้าถิ่นคอยทำหน้าที่เป็นแม่ให้กลายๆ ด้วย   มานี่ เดี๋ยวเราสอนเลียขนให้…

สุนัขไม่เคยทอดทิ้งเจ้านาย เมื่อไหร่ก็ตามที่มันเห็นเจ้านายลำบาก มันพร้อมจะเสี่ยงอันตรายไปช่วยเสมอ แม้ว่าสุดท้ายมันจะต้องตายก็ตาม เรื่องน่าเศร้านี้เกิดขึ้นในเขต Tamil Nadu ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของชาวนา M Mokkusu และหมา Ramu เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2018 ที่ผ่านมานี้เอง     ตอนนั้นวัวของ Mokkusu กำลังออกไปกินหญ้า แล้วก็ถูกไฟฟ้าจากสายไฟที่ขาดดูดเข้า เขาเห็นแบบนั้นก็พยายามเข้าไปช่วยวัวของตัวเอง แต่ก็ถูกไฟฟ้าดูดไปด้วย Ramu สุนัขที่ Mokkusu เลี้ยงไว้ก็พยายามจะช่วยชีวิตเจ้าของโดยการดึงสายไฟไปให้พ้นตัวเขา ทว่านั่นก็ทำให้มันถูกไฟฟ้าดูดไปด้วยอีกตัวหนึ่ง     ท้ายที่สุดทั้งเจ้าวัว Mokkusu และ Ramu ก็ถูกไฟฟ้าดูดตายไปด้วยกันทั้งหมด แล้วตำรวจก็มาพบร่างไร้วิญญาณของพวกเขาในเวลาต่อมา Senthamilan ญาติของ Mokkusu ให้สัมภาษณ์ว่า “เจ้าหมาตัวนี้อยู่กับครอบครัวมานานเกือบ 7 ปีแล้ว มันก็ทำตัวเป็นฮีโร่ช่วยคนในครอบครัวประจำจนเราชิน มันเคยสู้กับงูหรือไม่ก็หนูตัวโตเพื่อช่วยเราด้วยนะ มันเป็นหมาที่น่ารักและทุ่มเทปกป้องพวกเรา เราเองก็ไว้ใจมันให้ดูแลวัวทั้ง 4 ตัวที่มี”     ถึงมันจะตายไปและช่วยเจ้าของไม่สำเร็จ แต่ก็แสดงให้เราเห็นแล้วว่ามันเป็นห่วงเจ้าของและไม่หวั่นกลัวต่ออันตรายที่ต้องเจอ ถึงจะต้องสละชีวิตเพื่อช่วยเจ้าของไว้มันก็ยอม ที่มา: Unilad