Category: สัตว์โลกน่ารัก

บางครั้งการเสียเพื่อนรักที่รู้ใจไป มันก็สร้างบาดแผลที่จะทำให้เรายอมรับและเปิดใจให้กับเพื่อนหรือคนรักใหม่ เช่นเดียวกับเจ้า Flora เจ้าตูบที่ได้เจอเพื่อนแมวเหมียวหลังจากครอบครัวรับมันมาเลี้ยง และกลายเป็นเพื่อนรักกัน เจ้าแมวตัวดังกล่าวมีชื่อว่า Dexter เป็นแมวเหมียววัย 20 ปี ที่ได้รับการเลี้ยงดูมาจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์แห่งอื่น ซึ่งเมื่อทั้งคู่ได้เจอกัน วินาทีแรกพวกมันก็เข้ากันได้ดีสุดๆ ทั้งคลอเคลียและใช้เวลาร่วมกัน จนกระทั่งไม่นานมานี้เจ้าเหมียวก็ได้ตายจากไป…   เจ้า Flora กับ Dexter   แม้เวลาผ่านไป 2 ปี ทุกคนในครอบครัวก็ยังทำใจลำบาก โดยเฉพาะเจ้า Flora ที่ไม่เปิดใจให้กับใครใหม่เลย ซึ่งปกติมันจะเป็นสุนัขที่ไม่หอน แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าวมันก็เริ่มหอน นั่นทำให้ทุกคนในครอบครัวรู้สึกใจสลายมากๆ ด้วยเหตุนี้ทางครอบครัวของเจ้า Flora จึงอยากจะช่วยเหลือมันโดยการรับเลี้ยงแมวมาอีกสองตัว ทว่าเจ้าเหมียวทั้งสองมันกลับไม่คลุกคลีกับเจ้าตูบดังที่ Dexter เคยทำ ซึ่งทำให้เจ้าตูบรู้สึกว่าบางอย่างมันขาดหายไป   ไม่นานนัก ก็มีเจ้าเหมียวสี่แสบมาอยู่ต่อ ด้านครอบครัวก็ยังไม่ยอมแพ้ พวกเขาไปรับเลี้ยงลูกแมวมาอีกถึง 4 ตัวด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วย Iggy, Bowie, Roxy และ Glamour โดยตอนแรก Jill Williams ผู้เป็นเจ้าของได้บอกว่าเธอรับเลี้ยงลูกแมวเพิ่ม เพราะอยากสอนให้ลูกรู้ถึงการรับเลี้ยงและช่วยเหลือสัตว์  …

อย่างที่พวกเรารู้กันพวกกิ้งก่าคาเมเลี่ยนนั้นสามารถเปลี่ยนสีให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ แต่เมื่อเร็วๆ นี้พวกมันกลับค้นพบความสามารถใหม่ของตัวเองแล้วนั่นก็คือนอกจากเปลี่ยนสีแล้วพวกมันยังสามารถเปลี่ยนร่างได้ด้วย!! คุณ Emma Ward ศิลปินจากรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แบ่งบันรูปภาพของเจ้ากิ้งก่าคาเมเลี่ยนของเธอ โดยศิลปินท่านนี้ให้เจ้า Olive กิ้งก่าของเธอถืออาวุธต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดาบ ฆ้อน หรือขวาน ซึ่งดูเหมือนเจ้ากิ้งก่าก็จะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีซะด้วย   เจ้า Olive กับอาวุธคู่ใจ ออกไปล่ามังกรกันฮะ!!   หลังจากที่ภาพของเจ้ากิ้งก่าถูกเผยแพร่ทางทวิตเตอร์ ก็ได้มีผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก มีผู้กดถูกใจถึง 400,000 ครั้งและแชร์รูปภาพของมันอีกกว่า 170,000 ครั้งเลยทีเดียว งานนี้เจ้า Olive เลยกลายเป็นเน็ตไอดอลไปเลย     “มันชอบถือทุกอย่างที่เรายื่นให้เอาไว้ที่มือ และฉันก็คิดว่าถ้าหากลองให้มันถืออาวุธของเล่นน่าจะเป็นไอเดียที่ดีเหมือนกัน” ศิลปินสาวกล่าว ตอนนี้เจ้า Olive อายุได้ 2 ปีแล้ว โดยทั้งคู่พบกันครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนปี 2016 ในร้านขายสัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่งในเมืองดีทรอยต์ และตั้งแต่นั้นมาคุณ Emma และเจ้า Olive ก็กลายมาเป็นคู่ซี้กัน     แต่นอกจากเจ้ากิ้งก่าแล้ว ชาวเน็ตท่านอื่นๆ ก็ได้โพสต์ภาพของเจ้ากระรอกบินที่อยากจะเป็นฮีโร่กับเค้าเหมือนกัน!!   ไปปกป้องเมืองกันเพื่อน!! .   เทพเจ้าสายฟ้าก็มานะเออ!!  …

หญิงสาวคนหนึ่งบังเอิญไปเจอประกาศหาคนรับเลี้ยงกระต่ายสองตัวจาก RSPCA แน่นอนว่าวินาทีแรกเธอรู้สึกอยากเลี้ยงพวกมันทันที แต่ว่าเธอก็กังวลว่าเธอจะทำมันได้ไม่ดี เพราะมือของเธอเป็นอัมพาตนั่นเอง Marley-Belle Quaid เจ้าของเรื่องราวได้เล่าสาเหตุการเป็นอัมพาตของเธอว่า เธอเข้ารับการผ่าตัดบริเวณข้อมือเพื่อช่วยชีวิตตัวเองแต่ก็แลกมากับการที่มือกลายเป็นอัมพาต ซึ่งเธอได้ลองหลากหลายวิธีแล้วทั้งการบำบัดและรักษาแบบต่างๆ มันก็ไม่มีวิธีไหนที่ทำให้มือของเธอกลับมาเป็นปกติได้เลย   เจ้ากระต่ายสองตัวที่เธอไปเจอบนโพสต์ของ RSPCA   จนกระทั่งเธอตัดสินใจรับเลี้ยงกระต่ายกำพร้าสองตัว แม้เธอจะหวั่นว่าจะดูแลมันได้ไม่ดีก็ตาม แต่เธอก็บอกว่าเธอชอบพวกมันทั้งสองตัวตั้งแต่แรกเห็นแล้ว ฉะนั้นเธอจึงคิดว่าเธอต้องทำมันให้ได้!! เจ้ากระต่ายสองตัวนั้นมีชื่อว่า Woodstock และ Wilfred ซึ่งพวกมันต้องการดูแลขนและสุขภาพที่หนักหนาพอสมควร และด้าน Marley ที่เป็นอัมพาตก็ต้องประสบปัญหาในการฝืนดูแลพวกมันเช่นกัน ทว่านั้นก็ไม่ทำให้เธอยอมแพ้ที่จะดูแลเด็กๆ ของเธอแต่อย่างใด   พวกมันเป็นกระต่ายตัวใหญ่ยักษ์ขนฟู ต้องได้รับการดูแลอยู่เสมอ ซึ่งมันยากมากสำหรับ Marley   แต่เชื่อไหมว่าหลังจากเวลาผ่านไป 6 เดือนนับตั้งแต่เธอฝืนเลี้ยงเจ้ากระต่ายทั้งสอง มือของเธอก็เริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง จากมือที่ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้เธอสามารถที่จะจับกรรไกรและหวีเพื่อดูแลขนให้กับพวกมันได้แล้ว   ตัวใหญ่ยักษ์น่ากอดสุดๆ   เมื่อเธอไปเล่าเรื่องนี้ให้กับแพทย์ที่ดูแลเธอฟัง ทีมแพทย์ก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ มือของเธอหายได้เพราะการเลี้ยงกระต่ายสองตัว ยังไงก็ตามชีวิตของ Marley ก็กลับมาดีอีกครั้ง เธอถึงกับสร้างห้องให้ลูกรักทั้งสองแยกต่างหากเลยล่ะ งานนี้ต้องขอบคุณเจ้า Woodstock และ Wilfred มากๆ เลยนะเนี่ย ยู้วหู้ววว   กอดเต็มไม้เต็มมือสุดๆ…

แมวเหมียวสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความแปลก พิศดาร ด้วยการกระทำของมันที่ทำเอาเราไม่เข้าใจเลยว่า พวกมันต้องการอะไรกันแน่ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้บ้านรกรุงรัง ปลุกเราในตอนกลางคืนด้วยเสียงร้องที่ฟังดูพิลึกชอบกล หรือจัดการกับสิ่งของทุกอย่างบนโต๊ะของคุณที่มันไม่ชอบใจ แต่ถึงอย่างไรพวกมันก็ยังคงเป็นสัตว์ที่สุดยอดและน่ารักทำให้เรายิ้มได้จนตกกลายเป็นทาสของพวกมันอยู่ดี และนี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์เรื่องเหล่านั้น   ไม่สนว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ใด เพราะมันก็สามารถสนุกไปกับตอนนั้นได้   อย่าหวังที่จะทำความสะอาดบ้านง่ายๆ   เป็นเพื่อนซี้และคู่หูที่ยอดเยี่ยม   พร้อมจะปีนป่ายไปอยู่บนไหล่ทาสแมวทั้งหลาย View post on imgur.com   พักผ่อนหย่อนใจในกล่องชิลล์ๆ   หรือแม้แต่ในถุงพลาสติกก็ไม่ใช่ปัญหา   เป็นหมอนวดที่ดีในตอนที่ปวดเมื่อย   แก้อาการหัวร้อนได้โดยง่าย   ความขี้เกียจนั้นมีอยู่จริง ลุกหน่อยเถอะนะ   เลียนแบบฉากใน Game of Thrones ก็ยังได้   การแช่อ่างอาบน้ำจะไม่เหงาอีกต่อไป   ผมอยากจะบิน บินไปให้ถึงดวงจันทร์   เม้ามอยกันซักนิด   แต่งหล่อเวลาที่จะออกไปหาสาวๆ   อย่ามาแหยมกับข้า อย่ามาซ่ากับน้องเหมียว   คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยากอีกเช่นเคย  …

น้องหมาและน้องแมวอาจเป็นสัตว์เลี้ยงที่เต็มไปด้วยความน่ารักน่าชัง แต่บางครั้งพวกมันก็แปลงร่างกายเป็นปิศาจตัวน้อยๆ ของคุณได้เช่นกัน สำหรับใครมีสัตว์เลี้ยงก็คงจะเคยเจอปัญหาน้องหมานักทำลายล้างกันมาบ้างแน่ๆ ใช่ไหมล่ะ และชาวเน็ตจากญี่ปุ่นท่านนี้ก็มีชะตากรรมไม่ได้แตกต่างจากพวกเราเล๊ย!! เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการเผยแพร่ภาพเศษธนาบัตรมูลค่ากว่า 10,000 เยนหรือประมาณ 3,000 บาทพร้อมกับภาพของผู้ต้องสงสัย โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ @asuka1216na5   และหลังจากนั้นก็ได้มีชาวเน็ตจำนวนมาเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกับปลอบใจเจ้าของภาพ บางคนก็เข้ามาคอมเม้นต์ปลอบใจแบบฮาๆ ว่าเงินทองมันก็แค่ของนอกกายเท่านั้นน่า ในขณะที่บางคนก็บอกว่าลองสังเกตหน้าของชายที่อยู่บนธนาบัตรดีๆ สิ บางที่เขาอาจจะกำลังร้องขอความช่วยเหลืออยู่ก็ได้นะ ฮ่าๆ   แต่ดูมุมนี้เขาอาจจะรู้สึกเซงมากกว่าก็ได้นะ!!   แต่ดูเหมือนว่าคุณ @asuka1216na5’s จะไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้เดียวที่กำลังประสบปัญหาน้องหมาหิวเงินนี้ เมื่อชาวเน็ตท่านหนึ่งได้แชร์รูปภาพของเจ้าตูบของเขาที่กำลังทำหน้าตาเหมือนกับมีความผิด พร้อมกับภาพของธนาบัตร 10,000 เยน ที่แหว่งออกไป   ใครๆ ก็ชอบเงินทั้งนั้นแหละน่า บ๊อกๆ   และแล้วก็ความหวังที่จะกอบกู้เงินคืนมาของจากเจ้าตูบก็เริ่มมีความหวังขึ้นมา เมื่อมีชาวเน็ตท่านหนึ่งได้โพสต์แผนภาพแสดงลักษณะของธนบัตรชำรุดที่ธนาคารรับแลก โดยแผนภาพดังกล่าวอธิบายไว้ว่าธนาคารจะยอมรับแลกถ้าหากว่าธนบัตรนั้นมีการชำรุดไม่เกิน 2 ใน 3   และนี่คือแผนภาพที่ว่านั้น สีฟ้าคือแบบที่ธนาคารยอมรับแลก ส่วนสีแดงหมดสิทธิ์จ้า   เงินทองก็แค่ของนอกกาย  ฮือออ!! เจ้าหมาาา ที่มา rocketnews24

กำลังกลายเป็นข่าวด่วนขึ้นหน้า 1 ไปทั่วโลก (ที่ 3) เลยก็ว่าได้ หลังจากที่เว็บไซต์ Boredpanda ได้รายงานเรื่องราวของเจ้าตูบ ‘Winter’ เรื่องมันก็มีอยู่ว่า.. Winter กำลังจะกลายเป็นแม่คนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และด้วยความดีอกดีใจบวกกับอยากทำให้คุณแม่มือใหม่ดูน่ารักกว่าใครๆ สาว Gisselle O. Suarez จึงเอาชุดอาบน้ำเด็กมาใส่ให้ซะเลย   ถ่ะแด๊มมม..!! กลายเป็นความน่ารักระดับพระกาฬ   แน่นอนว่าหลังจากที่เจ้าตัวโพสต์ภาพทั้งหมดลงทวิตเตอร์ เรื่องราวของ Winter ก็ได้กลายเป็นกระแสไวรัลโด่งดังถูกใจชาวเน็ตไปทั่วโลก   ด้วยความที่วันนั้นเป็นช่วงวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส Giselle จึงนัดก๊วนเพื่อนสาวของเธอออกไปปาร์ตี้ริมชายหาด และแน่นอนว่าเธอก็ไม่ลืมที่จะเอาเจ้า Winter ไปด้วย แต่ในฐานะที่เจ้าตูบกำลังจะกลายเป็นคุณแม่ ด้วยความที่ Giselle กลัวว่าเธอจะไม่สวยจึงเอาชุดอาบน้ำเด็กทารกมาใส่ให้ กลายเป็นชุดเดรสอย่างกับเจ้าหญิงงานพรอมเลยแหน่ะ!! น่ารักไหมล่ะ!?   เรียกได้ว่าใครที่ผ่านไปมาแถวนั้น พอได้เห็น Winter แล้วก็ไม่มีใครอดยิ้มได้เลย   และแน่นอนว่าด้วยความที่มันไวรัลขนาดนี้ ชาวเน็ตก็ไม่ลืมที่จะเข้ามาแซวเจ้าตูบ   บ้างก็บอกว่าอาจเหมือนใน Game of Thrones แต่ Winter…

โดยปกติแล้วพวกสัตว์ที่มีนิสัยขี้อ้อนมักจะเป็นน้องหมาหรือน้องแมว แต่ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าปลาหมอตัวนี้ก็เป็นไปกับเค้าด้วยแฮะ… คลิปวิดีโอน่ารักๆ ของเจ้าปลาหมอนกแก้วนี้ ถูกอัพโหลดบนเว็บไซต์ยูทูปโดยคุณ Bon Shaw ชายหนุ่มจากรัฐมิสซูรี เป็นช่วงจังหวะที่กำลังออดอ้อนเจ้านายของมัน ในระหว่างที่กำลังจะให้อาหาร ด้วยความน่ารักจนอดใจไม่ไหว ทำให้มีผู้คนแห่เข้าไปชมมากกว่า 1.4 ล้านครั้งแล้ว   เจ้าปลาหมอนกแก้วที่ชื่นชอบการลูบหัวเป็นชีวิตจิตใจ   ชายหนุ่มบอกว่า “เจ้าปลาตัวน้อยชอบจ้องมองผมทุกครั้งที่ผมเดินเข้ามาใกล้ๆ ตู้ปลา มันพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ผมสนใจ และเมื่อผมมองมันกลับ เจ้าปลาจะแสดงอาการดีใจอย่างมาก มันจะขยับเงือกและว่ายกลับไปกลับมาในตู้เพื่อรอให้ผมเข้าไปเล่นด้วย เมื่อไหร่ที่ผมเทอาหารลงไปในตู้เจ้าปลาจะไม่ค่อยสนใจ มันจะรอให้ผมเอามือแหย่ลงไปเพื่อเล่นกับมันก่อน จากนั้นมันถึงจะยอมกินอาหาร”     ไปชมความน่ารักของเจ้าปลาหมอนกแก้วตัวนี้ได้ที่คลิปวิดีโอนี้เลย…   คุณ Shaw บอกว่าปลาหมอนกแก้วตัวอื่นๆ ที่เขาเลี้ยงไว้นั้นไม่ได้มีพฤติกรรมแบบเจ้าปลาตัวนี้ “มันเหมือนกับว่าผมมีทั้งหมาและแมวอยู่ที่บ้านเลย แค่คุณอาจจะต้องมีการดูแลพวกมันที่แตกต่างออกไป” ชายหนุ่มกล่าว     โดยปกติแล้วพวกปลาหมอนกแก้วจะรู้สึกสนุกและผ่อนคลาย เมื่อพวกมันได้รับการนวดจากเจ้าของประมาณ 15 นาทีต่อวัน ปลาหมอนกแก้วนั้น เป็นสัตว์น้ำที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มาจากปลาหมอฟลามิงโก้ และปลาหมอซินสไปลุ่ม ซึ่งลักษณะที่ได้นั้นจะมีปากคล้ายกับนกแก้ว โดยการพัฒนาสายพันธุ์ครั้งแรกเกิดขึ้นที่ประเทศไต้หวันเมื่อปี 1986     น่ารักจังเลยนะเจ้าปลา เห็นแล้วอยากเลี้ยงบ้างเหมือนกันนะเนี่ย ที่มา dailymail

การสร้างเอกลักษณ์ให้กับสิ่งต่างๆ รอบตัวคงจะเป็นเรื่องปกติเหมือนกับการที่ได้มีผู้คนออกมาสร้างเอกลักษณ์ให้กับเจ้าเหมียวให้มีความโดดเด่นแต่ก็แปลกตาจนบางทีก็ไม่สามารถอธิบายความรู้สึกแรกที่เห็นพวกมันในสภาพนี้ว่าอย่างไรดีเลย เมื่อมนุษย์ให้พวกมันใส่กางเกงยางยืดที่ไม่ได้มีไว้สำหรับแมว แต่มีไว้สำหรับคนเนี่ยแหละ แถมเพิ่มเติมด้วยรองเท้าเพิ่มความเป็นมนุษย์เข้าไปอีกขั้น ทำให้ภาพที่ออกมาดูพิลึกแปลกๆ จะว่าน่ารักหรือไม่นั้นก็พูดได้ยากเพราะสิ่งที่เห็นไม่รู้ว่าจะเรียกเป็นฝันร้าย หรือตัวละครในการ์ตูนกันแน่…   ท่านั่งชิลล์ไปมั้ย   เจ้าเหมียวในแต่ละท่วงท่านั้นก็มีความพิสดารแตกต่างกันไป แล้วแต่ว่าใครจะดีไซน์ออกมาแบบไหนกันบ้าง   ขาเล็กงี้จะมีเรี่ยวแรงมั้ยล่ะเนี่ย   ไม่รู้ไปโกรธใครมา   ถ้ายืนได้ก็คงจะสูงเกิ๊นนน   นอนกินที่ไปหน่อยมั้ย   ไขว้ขาสักเล็กน้อย   แต่อันนี้ก็ไขว้เยอะไปหน่อย   นี่คือเป็นขาพอสูงเลยสะโพกไปก็หัวเลยหรอ   แมวน้อยน่ารัก สีสันโดนใจ   จากกระแสที่เกิดขึ้นนั้นก็ได้มีความคิดเห็นต่างๆ ออกมามากมาย ทั้งที่คิดว่าตลกดีและรู้สึกว่าก็ไม่ได้อะไร หากใครชื่นชอบหรือมีความคิดเห็นกันว่าไงก็สามารถแชร์กันในคอมเม้นท์ได้นะจ๊ะ ที่มา: thedodo

หากคุณตัดสินใจจะช่วยเหลือแมว ขอให้รู้ไว้ว่ามันจะไม่จบแค่การช่วยเหลือเท่านั้น เพราะแมวจะแพร่กระจายความน่ารักเข้าไปในหัวใจของคุณจนคุณต้องตกเป็นทาสของมัน เหมือนกับคู่รักคู่นี้ ที่ช่วยเหลือแมวจนต้องได้เลี้ยงมันตลอดไป ขณะที่คู่รักกำลังอยู่นอกบ้าน พวกเขาก็ได้ยินเสียงแมวน้อยร้องดังมาจากท้ายรถกระบะของเพื่อนบ้าน ทั้งคู่จึงเดินไปดู ปรากฏว่ามีแมวน้อย 3 ตัว ที่เพิ่งคลอด อยู่ในอาการหนาวสั่น     มิ้วน้อยทั้ง 3 ตัว พยายามกอดกันเพื่อให้ความอบอุ่นกันและกัน ทางคู่รักก็ได้มองหาแม่แมวแต่ก็หาไม่เจอ และเป็นจังหวะเดียวกับที่ฝนตกพอดี ทั้งคู่จึงตัดสินใจช่วยเหลือพวกมันทันที คู่รักฝ่ายชายได้แบ่งปันเรื่องนี้ในเว็บไซต์ imgur โดยใช้ชื่อ StonemonkeyKing กล่าวว่า “ผมเห็นพวกมันกำลังจะแข็งตาย แม่ของมันก็ไม่อยู่ เลยคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแมวน้อยเหล่านี้”     เขาได้พาแมวน้อยทั้ง 3 ตัวเข้าไปข้างในบ้าน จากนั้นก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตพวกมัน แต่มีมิ้วน้อยตัวหนึ่งที่อาการหนักกว่าตัวอื่นๆ ความเย็นได้เข้าไปถึงกระดูก มันไม่มีการเคลื่อนไหว และหัวใจก็แทบจะหยุดเต้นแล้ว เขาจึงได้อุ้มน้องแมวตัวนั้นไว้ในอ้อมกอด ลูบหลังให้มันเบาๆ เพื่อทำให้ร่างกายของมันได้รับความอบอุ่น     หลังจากที่เขากอดแมวตัวนั้นไว้ประมาณ 20 นาที เขาก็ได้ยินเสียงมิ้วน้อยร้องออกมาครั้งแรก ทำให้ชายคนนั้นโล่งใจมาก เพราะเขาไม่อยากเสียพวกมันตัวใดตัวหนึ่งไป ในที่สุดร่างกายของน้อยแมวก็อบอุ่นขึ้น แต่มันยังสั่นอยู่เล็กน้อย เขาจึงเอาแมวน้อยนอนใต้ผ้าหุ่ม และลูบตัวให้พวกมันทุกตัว จนอุณหภูมิร่างกายกลับมาอยู่ในระดับปกติ     ต่อมาก็ถึงเวลาที่พวกมันต้องกินอาหาร แต่คู่รักไม่รู้เลยว่าจะเป็นตอนไหน…

เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นกับคุณ Melani Andrews หญิงสาวที่ต้องสูญเสียสามีไป เมื่อช่วงมกราคมที่ผ่านมา ก่อนที่เจ้าหมาแสนรักจะตายตามสามีของเธอไปอีกในเดือนกุมภาพันธ์ และเพื่อให้เธอคลายความเศร้าและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง ลูกสาวคนโตจึงตัดสินใจตามหาน้องหมาตัวใหม่ให้กับเธอ… และเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมาคุณ Andrews ก็ได้พบกับเจ้า Jake สุนัขวัย 12 ปีจากสถานสงเคราะห์สัตว์ Front Street Animal   คุณ Andrew และเจ้า Jake   ในครั้งแรกที่พบกันนั้นเจ้า Jake สุนัขลูกผสมมีสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ แถมมันยังตรวจพบว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายอีกด้วย “ถ้าหากว่าคุณมองไปที่มันแล้ว คุณจะเห็นได้เลยว่ามันต้องการที่จะต่อสู้เพื่อร่างกายที่แข็งแรง และอยากออกไปอยู่บ้านหลังใหม่” คุณ Andrews กล่าว   ด้วยแววตาของเจ้าหมา ทำให้หญิงสาวไม่ลังเลที่จะพามันเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านเธอเลย   บ้านหลังใหม่ที่มีอาหารและความอบอุ่นที่เตรียมพร้อมไว้สำหรับเจ้าหมา   ที่นี่เจ้า Jake ได้พบกับความอบอุ่น บ่อยครั้งที่มันมักจะเข้าไปซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม ก่อนที่จะนอนหลับไป   เจ้า Jake อยู่ไหนน้าาา!?   ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่เจ้า Jake อาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่คุณ Andrews ก็พยายามดูแลมันอย่างเต็มที่ให้สมกับที่มันควรจะได้รับ “เจ้า Jake นั้นดูเป็นมิตรอย่างมาก…

การถ่ายภาพของสัตว์ โดยเฉพาะ “นก” มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การจับภาพความเคลื่อนไหวของพวกมัน ช่างภาพจะต้องมีความชำนาญเป็นพิเศษ ถึงจะสามารถจับภาพความงดงามของนกเหล่านี้ได้ และเราก็ต้องขอขอบคุณ Tracy Johnson ช่างภาพสาวฝีมือดี ที่สามารถจับภาพรายละเอียดสวยๆ ของเจ้านกฮัมมิ่งเบิร์ดเอาไว้ได้     สำหรับ Tracy เธอเป็นช่างภาพที่ชื่นชอบการถ่ายภาพในสนามหลังบ้านที่แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่เจ้านกฮัมมิ่งเบิร์ดชอบแวะเวียนมาบ่อยๆ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอสนใจที่จะบันทึกภาพของเจ้านกเอาไว้     ในครั้งแรกที่ Tracy ได้ลองถ่ายเจ้านก ภาพที่ได้มันอาจจะดูเบลอๆ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็สามารถจับภาพของมันได้โดยที่ไม่เบลอมารูปหนึ่ง “เมื่อฉันลองซูมเข้าไป มันทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพวกมันจะมีสีสันที่งดงามถึงเพียงนี้ ขนของมันมีหลายสีมาก ฉันรู้สึกอึ้งไปเลย พวกมันเหมือนเป็นผลงานศิลปะขนาดจิ๋วไม่มีผิด” Tracy กล่าว และนับตั้งแต่นั้นมา Tracy ก็เริ่มบันทึกภาพของเจ้านกฮัมมิ่งเบิร์ดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ได้ผลงานเจ๋งๆ แบบนี้…   .   “นกแต่ละตัวมีความต่างกัน ซึ่งคุณจะสามารถบอกความแตกต่างของพวกมันได้ถ้าหากคุณตั้งใจมองมัน มีนกฮัมมิ่งเบิร์ด 20 ตัวที่มาที่สวนของฉันเป็นประจำ ฉันรู้จักพวกมันเป็นอย่างดีเลยละ แต่ละตัวก็มีนิสัยที่แตกต่างกันออกไปด้วย” Tracy…

เวลาคุณเลี้ยงน้องหมาไว้ คุณก็คงจะชอบที่จะกอดรัดฟัดเหวี่ยงพวกมัน ให้หายหมั่นเขี้ยวกันไปข้างนึงเลย แต่เรารู้กันมั้ยว่าแท้จริงแล้ว ไม่ได้เป็นเพียงแค่พวกมนุษย์เท่านั้นที่ชอบแบบนี้… เพราะสำหรับสุนัขเองงก็ชอบที่จะเข้ามากอดรัดกับมนุษย์เช่นเดียวกัน แหม่ ฟังดูไม่น่าเชื่อล่ะสิ… เพราะฉะนั้นขอให้ 23 ภาพเหล่านี้จะเป็นตัวพิสูจน์ว่า เหล่าสุนัขทั้งหลายนั้นชอบการกอดมากเพียงใด!!   หลับสบายในอ้อมกอดแม่   เพื่อนบ้านก็ต้องทักทายกันหน่อย   กอดกันเกร็งเชียะ   หนักมั้ยครับพ่อ   อิจฉาล่ะสิ   เคลิ้มกันทั้งคนและน้องหมาเลย   ผมอยากได้บ้างอ่ะครับ   อบอุ่นไปทั้งกายและใจ   ส่วนสูงก็ไม่ใช่ปัญหา   แม่จ๋าอุ้มๆ   นี่กอดกันหรือว่าเต้นรำกันอยู่เอ่ย   อย่าเพิ่งออกบ้านไปเลยนะครับ   เราคือคู่หู   กอดผมบ้าง อย่าเอาแต่เล่นโทรศัพท์สิครับ   หยิกแก้มเลยนี่แหน่ะ   รักกันดีไม่มีตีกันนะครับ   อ้วนขึ้นหรือเปล่าเนี่ยเรา   กอดกันแบบเฮฟวี่เวท   ห่มผ้าให้เพื่อนซักหน่อยนะครับ   สบายจนจะหลับแล้ว   หลานตาทำไมขนฟูฟ่องจัง…

นอกจากเวลานอนแล้ว ปกติสุนัขจะไม่ค่อยอยู่นิ่งสักเท่าไหร่ หรือต่อให้นิ่งก็นิ่งได้ไม่นานหรอก แต่สำหรับน้องหมาตัวนี้มันสามารถอยู่นิ่งในท่าเดิมได้นานเท่านาน ตราบเท่าที่มันได้ดูวิดีโอกระรอก!?     ดูจากภาพ หลายคนอาจจะผ่านหูผ่านตามาบ้างแล้ว เพราะเป็นคลิปที่ถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์เมื่อไม่นานนี้ สิ่งที่เราเห็นคือสุนัขตัวหนึ่งมีความจดจ่อยู่กับหน้าจอไอแพดแบบเกินไปจริงๆ   ไหนดูซิ๊ ดูอะไรอยู่   น้องหมาเอาเท้าหน้าทั้งสองข้างไว้บนโซฟา แล้วมันก็จับจ้องอยู่ที่จอไอแพด ซึ่งมีตัวกระรอกวิ่งไปวิ่งมาอยู่ ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ แต่มันมองจอแบบใกล้มากๆ ถ้าใกล้กว่านี้ก็แทบจะเข้าไปสิงในไอแพดแล้วววว!!     ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนถ่ายวิดีโอนี้หรือถ่ายจากที่ไหน แต่ที่ชาวเน็ตรับรู้คือมันเป็นน้องหมาที่น่ารัก และต้องขอบคุณคนถ่ายที่ปล่อยคลิปแจกยิ้มแบบนี้มาให้เราได้ดูกัน   ที่มา dailymail

หมาถูกทิ้ง เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก สาเหตุหนึ่งมาจากมนุษย์บางคนไม่มีความรับผิดชอบ รับหมามาเลี้ยงแล้วไม่สามารถเลี้ยงต่อได้ และทิ้งให้มันอยู่แบบอดๆอยากๆ ทำให้ก่อให้เกิดการก่อตั้งศูนย์พักพิงสัตว์ตามประเทศต่างๆเพื่อมาแก้ปัญหาหมาถูกทิ้งเหล่านี้ ผู้ใช้จากเว็บ Reddit รายหนึ่งไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์ แล้วสะดุดตากับเจ้าหมาหน้าตาเศร้าตัวนึงนั่งเหงาหงอยอยู่ เธอจึงจัดการประกาศหาเจ้าของใหม่ให้มันเพราะหวังว่ามันควรจะมีเจ้าของที่รักและเอ็นดูในความน่ารักของมัน หลังจากภาพของมันถูกโพสลงบนอินเตอร์เน็ตด้วยแคปชั่นที่ว่า “เจ้าหมาตัวนี้กำลังรอคอยครอบครัวใหม่ที่จะรับเลี้ยงดูอยู่นะ” ก็มีชาวเน็ตช่วยกันแชร์รูปภาพของมัน ให้มันหาเจ้าของใหม่ได้เร็วๆ     ชาวเน็ตตั้งชื่อชั่วคราวของเจ้าหมาตัวนี้ว่า Mack และด้วยความพยายามช่วยกันแชร์ไปจนกลายเป็นกระแสทั่วโลก มีคนเห็นหน้าตาของมันมากมาย จนสุดท้ายเพียงแค่ 7 วัน เจ้า Mack ก็ได้เจ้าของใหม่ที่จะรับมันไปเลี้ยงดูแล้ว เย้!!   หลังจากที่มันได้เจ้าของใหม่แล้ว มันก็ถูกตั้งชื่อใหม่ว่าเจ้า Frank The Tank    พอมีครอบครัวใหม่ก็มีความสุขมากๆต่างจากอดีตเลย   แถมยังมีเพื่อนสี่ขาด้วย ไม่ต้องเหงาอีกต่อไปแล้วนะ ดูหน้าตาเพื่อนมันนี่เหมือนจะโดนแย่งความรักไปแล้วนะ ฮ่าๆ   ติดตามความน่ารักของมันเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรม frankthedoggotank ได้เลยนะคะ ที่มา boredpanda

ธรรมชาติสร้างสรรค์ทุกสิ่งบนโลก คุณรู้หรือไม่ว่า บนโลกแแห่งนี้ยังมีสัตว์อีกมากมายรอคอยการค้นพบ เช่นสัตว์ที่ #เหมียวบู้บี้ พามาให้ดูในคราวนี้กันค่ะ   1. หมูขนแกะ (Mangalitsa Pig) หมูขนแกะนี้ถูกค้นพบในช่วงศตวรรษที่ 19 แต่เนื่องจากมันเป็นหมูเลยไม่ค่อยนิยมเลี้ยงกันซักเท่าไหร่เหมือนหมาหรือแม่ อย่างไรก็ตามหากดูเผินๆ มันน่ารักมากเลยนะ .   2. ลิงจมูกเชิดสีทอง (Rhinopithecus) .   3. ลิงทามารินจักรพรรดิ (Emperor Tamarin) ด้วยหนวดขาวยาวๆของมันที่คล้ายกับจักรพรรดิ เลยถูกตั้งชื่อว่าเป็นลิงจักรพรรดิ   4. พาตาโกเนียน มารา (Patagonian Mara) เป็นสัตว์ประเภทฟันแทะ  พบเฉพาะในประเทศอาร์เจนตินาเท่านั้น  ลักษณะเหมือนจิงโจ้กับกระต่ายผสมกัน .   5. วัวขนปุย (Fluffy cow) .   6. แพะมาคอร์ (Markhor Goat) แพะมาร์คอร์ เป็นแพะป่าสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ พบในอัฟกานิสถานและปากีสถาน   7.…

เจ้า Rio หมาน้อยผู้น่าสงสารถูกทอดทิ้งจากครอบครัว แถมชะตากรรมกับซ้ำเติม มันถูกรถชนได้รับบาดเจ็บและต้องการความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก   ภาพจากกล้องหน้ารถ ถ่ายให้เห็นถึงเจ้า Rio   Hope for Paws องค์กรช่วยเหลือสัตว์ใน Beverly Hills ประเทศอังกฤษ ได้รับโทรศัพท์จากพลเมืองดีว่า เห็นเจ้า Rio กำลังเดินกะโผลกกะเผลกอยู่บนถนน ทันทีที่พวกเขาได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่จึงรีบออกเดินทางไปยังบริเวณที่แจ้งไว้ทันทีเพื่อที่จะได้นำเจ้า Rio ไปรักษาพยาบาลโดยเร็วที่สุด และเมื่อเดินทางไปถึงก็พบว่ามันกำลังตกอยู่ในอาการหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด     Eldad Hagar ผู้ก่อตั้ง Hope for Paws เล่าถึงเหตุการณ์การช่วยเหลือชีวิตเจ้า Rio ว่า “ฉันเตรียมกับดักในการเข้าช่วยเหลือ และพยายามที่จะค่อยๆ เดินเข้าไปช่วยเหลือ แต่พอมันเห็นมันก็เริ่มวิ่งหนี ฉันก็วิ่งตามเพื่อหวังที่จะช่วยมันอย่างเต็มที่ หลังจากนั้นฉันก็จับมันได้ เจ้า Rio ก็หยุดแล้วมองหน้าฉัน และพยายามจะหนีอีกครั้ง”     มันดูหวาดกลัวมนุษย์มากและพยายามจะหนีตลอดเวลา ทำให้การช่วยเหลือมันนั้นยากเป็นอย่างยิ่ง   ในที่สุดมันก็ต้องยอมจำนนแต่โดยดีเหมือนกับมันสัมผัสได้ว่าคนที่มาช่วยเหลือมันใจดีและจะช่วยมันให้หายจากอาการบาดเจ็บนี้ได้   “วินาทีต่อมาหลังจากที่มันได้ขึ้นมาบนรถกู้ภัย มันเริ่มกระดิกหางและสายตาของมันดูมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง”…

ในตลาดมืด เราสามารถหาซื้อสิ่งที่ปกติเราจะไม่ค่อยได้เห็นหรือแทบไม่มีเลยได้ที่นั่น รวมถึงเหล่าสัตว์ทั้งหลายมากมาย ที่แต่ละสายพันธุ์นั้นเราไม่เคยเห็นมันมาเป็นสัตว์เลี้ยงมาก่อนเลย แต่หารู้ไม่ว่าพวกมันที่อาศัยอยู่ที่นั่นรอคอยให้มีคนมาซื้อมันไป ต้องถูกริดรอนคำว่าอิสระไปมากเพียงใด นั่นเป็นที่มาให้กลุ่มนักอนุรักษ์สัตว์ในแคลิฟอร์เนียเข้าไปช่วยเหลือพวกมันออกมาจากที่นั่น และได้ช่างภาพ Natasha Wilson ที่ใช้ชื่อว่า De Anastacia ได้มาช่วยถ่ายทอดภาพความสวยงามของสัตว์เหล่านั้น   หมาป่า   โดยภาพชุดนี้นั้นมีชื่อว่า Where the Wild Things Are ที่นำสัตว์สายพันธุ์ต่างๆ มาถ่ายรูปกับนางแบบที่แต่งตัวมีสีสันฉูดฉาดพร้อมทั้งภาพพื้นหลังที่แสดงให้เห็นถึงผืนป่า จนออกมานั้นสวยงามและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก สิ่งที่พวกมันต้องได้เจอมาก่อนนั้นเป็นฝันร้ายของพวกมันแต่ถึงอย่างนั้นการถ่ายภาพในครั้งนี้ก็ได้รับความร่วมมือที่ดีจากเหล่าสัตว์ทั้งหลาย ที่ต่างมีเรื่องราวประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป   แอฟริกันเซอร์วัล   นกหัวเราะ คุกคาบาร่า   แมวเบงกอล   ลิงกระรอก   นกกระตั้ว   เม่น   หมีน้ำผึ้ง   จิงโจ้แดง   หนูแกสบี้   แอลลิเกเตอร์   สุนัขจิ้งจอกทะเลทราย   งู   ลิงบาบูน…

มีคำกล่าวว่า… แมวเป็นสัตว์ที่กวนตีนที่สุดในโลก อีกทั้งมันเป็นสัตว์ที่ถูกลงความเห็นว่ามันเป็นสัตว์ที่ขี้เกียจมาก ไม่ทำอะไรนอกจากกิน พอมันกินอิ่มก็มองหาที่นอน และความสามารถพิเศษของมันก็คือ นอนได้ทุกที่ ทุกเวลา และที่สำคัญความลับอย่างหนึ่งที่หลายคนเข้าใจผิดว่ามันคือวัสดุของแข็งมาตลอด แต่ที่จริงแล้วมันกลับเป็นของเหลว เข้าไปได้ทุกที่ไม่ต่างจากน้ำสักนิด!!   1. อยู่ในโหลแก้วแบบนี้บอกเลยสบายๆ   2. ไปนอนตรงนั้นระวังโดนงับหัวนะ   3. บางทีแมวก็อยากเป็นนางเงือก   4. การมุดตัวลงในกล่องแบบนี้แมวเกือบ 90 % ชอบมากกกกกก   5. นี่ก็โผล่มาแค่ลูกตา คิดว่าเล่นซ่อนแอบอยู่หรอห้ะ!?!   6. ผลิตภัณฑ์แมวอัดกล่อง แต่มันจะแน่นๆหน่อยนะ   7. สลัดแมว   8. การนอนในรองเท้าเจ้าของแบบนี้บอกเลยโคตรฟิน อ๊าาาส์   9. ยิ่งที่แคบๆ มนุษย์ตามหาไม่ได้แบบนี้ยิ่งชอบ   10. การที่ได้นอนข้างๆ เจ้าของแบบนี้ ให้เหมียวอยู่ตรงไหนเหมียวก็อยู่ได้   11. ดูทำหน้าดิ ฮ่าๆๆๆ   12.…

การไปเดินเล่นซื้อของในห้างซูเปอร์มาร์เก็ตอาจเป็นช่วงเวลาที่แสนสุขของใครหลายๆ คน ซึ่งก็คงไม่มีใครคิดหรอกว่าจะได้เจอกับเหตุการณ์บางอย่างที่เหนือความคาดหมาย แต่สำหรับหนุ่มรายนี้ กลับเจอแจ็ตพอตเข้าอย่างจัง เพราะขณะที่เขากำลังเดินเล่นอยู่ในซูเปอร์มาเก็ตนั้น จู่ๆ ก็ได้พบกับสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาด มีเส้นขนผสมลายดำเทา หางยาว หน้าตาบ็องแบ๊ว หูตั้ง และมี 4 ขา กำลังเดินดุ่มๆ อยู่บริเวณถังน้ำตาล   ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เขาไม่รอช้า รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอัดคลิปวีดีโอทันที และนี่คือภาพที่ได้มา…   ดูไกลๆ นึกว่าสัตว์ประหลาดที่ไหน แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็รู้เลยว่าสิ่งที่เห็นความจริงคือ เจ้าเหมียวนั่นเอง ว่าแต่เอ๊ะ…มันจะทำอะไรนะ!! ในคลิปวีดีโอประมาณ 1.26 นาที ได้ปรากฏให้เห็นเป็นภาพของเจ้าเหมียวตัวหนึ่ง ขณะกำลังเดินด้อมๆ มองๆ อยู่บริเวณถังน้ำตาล และดูเหมือนว่ามันกำลังจะทำในบางสิ่งบางอย่าง     ด้วยความสงสัยจึงทำให้หนุ่มรายดังกล่าวได้เดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก่อนที่จะรู้ความจริงว่า เจ้าเหมียวตัวนี้มันกำลังจะเข้าไปฉี่ในถังน้ำตาล โอ้วววววววว!!   จะห้ามก็ไม่ทัน ดูสิ…ลงไปปลดทุกข์อย่างสบายใจเฉิบเป็นที่เรียบร้อย   โถ่วววว!! หมดกันถังน้ำตาลที่อาจจะมีมนุษย์มาซื้อในไม่ช้านี้ แล้วจะทำอย่างไรดีละเนี่ย   ภายหลังจากที่ปลดทุกข์เสร็จ เจ้าเหมียวเดินหนีออกไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น   ลาก่อนถังน้ำตาลที่รัก…

นับเป็นอีกหนึ่งราวที่ฟังแล้วอบอุ่นหัวใจมากจริงๆ เมื่อเด็กน้อยวัย 5 ขวบคนหนึ่งที่มีจิตใจเมตตาได้เข้าช่วยเหลือบรรดาเหมียวจรจัดตั้งแต่ที่เขายังอายุได้เพียง 3 ขวบ งานนี้บอกเลยว่า ซุปเปอร์แมน แบทแมน หรือสไปเดอร์แมนยังต้องชิดซ้าย Kris และ Kia จากฟิลาเดลเฟีย ในรัฐเพนซิลเวเนีย สองคู่รักที่มักจะเข้าช่วยเหลือสัตว์มาเป็นเวลานานหลายปี โดยปัจจุบันพวกเขาสามารถช่วยเหลือเจ้าเหมียวมาได้มากกว่า 45 ตัวแล้ว โหว…สุดยอดดด!! “สองปีที่ผ่านมา เราให้อาหาร และน้ำแก่พวกมันวันละสองครั้ง และนั่นก็ทำให้ Shon หลายชายของเราเริ่มที่จะแสดงความสนใจที่จะเข้ามาช่วยดูแลเจ้าเหมียว ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุเพียงแค่ 3 ขวบ” Kris กล่าว     เจ้าเหมียวจรจัดเหล่านี้ มักจะไม่ชอบให้ Kris และ Kia ไปสัมผัสพวกมัน แต่ทันทีที่เห็น Shon พวกมันก็มักจะเข้ามาหาเขาอยู่เสมอ “Shon เป็นคนใจดี และอ่อนโยนมาก แมวส่วนใหญ่ที่เราดูแลมักจะมีนิสัยที่ดุร้าย เพราะพวกมันเคยเป็นแมวจรจัดที่ไม่ใช่แมวบ้านมาก่อน โดยเฉพาะเจ้า Bug และ Lady พวกมันจะไม่ยอมให้เราสัมผัสตัวเลย แต่กลับ Shon พวกมันกลับชอบเข้ามาหาเขา”…

เวลาที่เราไปทำงานแล้วปล่อยน้องหมาให้อยู่บ้านเพียงลำพัง บางทีมันอาจจะเหงาก็ได้ แต่จะดีแค่ไหนถ้าพวกมันใช้เวลานั้นในการไปเรียน ไปพบปะเพื่อนๆ เหมือนเราในวัยเด็ก     คลิปที่เพื่อนๆ ได้ชมไปนี้ถูกโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก เป็นช่วงเวลาอันน่ารักของน้องหมาตัวหนึ่งในโอเรกอน ที่รอรถโรงเรียนด้วยความตื่นเต้น หวังจะได้ไปเจอเพื่อนๆ ที่โรงเรียน น้องหมาตัวนี้คือ Rudy ในคลิปเจ้าของพูดว่า “ดูซิ๊ นั่นอะไรเอ่ย ใช่รถโรงเรียนของแกหรือเปล่านะ??” เท่านั้นแหละ สุนัขถึงกับสติหลุด วิ่งออกจากสนามหลังบ้านเพื่อไปขึ้นรถทันที     เมื่อวิ่งไปถึงประตู มันก็เห่าให้เจ้าของเปิดประตูให้ เจ้าของบอกถามมันว่า “จะไปโรงเรียนหรอ?” เจ้าหมายิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ เพราะมันอยากไปโรงเรียนใจจะขาดแล้ว พอเจ้าของเปิดประตูให้เท่านั้นแหละ มันรีบวิ่งออกไปขึ้นรถโดยไม่บอกลาซักคำ เจ้าของได้ตะโกนตามหลังว่า “ไปเลยพวก!! เรียนให้สนุกนะ”     สำหรับ Doggie School Bus เป็นศูนย์ดูแลสุนัขที่ดำเนินการโดย Arat Montaya ใน West Linn รัฐโอเรกอน เขาได้ดูแลน้องหมาแบบนี้มา 6 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าของและน้องหมาต่างก็ชอบในการบริการของเขาเป็นอย่างมาก     เมื่อรถโรงเรียนมาจอดหน้าบ้าน น้องหมาจะรู้ว่าช่วงเวลาแห่งความสนุกของพวกมันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เพราะพวกมันจะได้เจอเพื่อนและได้ทำกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมากมาย…

สุนัขเป็นสัตว์ที่มีความซื่อสัตย์และจงรักภักดีแต่เจ้าของเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องราวของเจ้า Capitan ที่มันยังคงเฝ้าหลุมศพของเจ้านายของมันมาเป็นเวลา 10 ปี หลังจากที่คุณ Miguel Guzmán เสียชีวิตลงเมื่อปี พ.ศ. 2549 เจ้า Capitan ก็หายไปจากบ้านด้วย จนกระทั่ง Guzmán Veronica ภรรยาของคุณ Miguel ได้ไปพบมันเข้าที่สุสาน เธอและลูกชายพยายามพามันกลับบ้านหลายครั้งแต่เจ้า Capitan ก็ดึงดันหนีกลับมาที่สุสานตลอดด้วยความจงรักภักดีกับเจ้านายของมันที่จากไป     แม้เจ้านายจะจากไป แต่เมื่อมันมาเฝ้าที่นี่ เจ้า Capitan ได้รับความรักและการดูแลเป็นอย่างดีจากผู้ดูแลสุสาน ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะมีอายุเกือบ 15 ปีแล้ว สายตาก็ไม่ค่อยดีแถมเดินเกือบไม่ได้แล้ว แต่มันก็ยังเลือกที่จะเฝ้าหลุมศพของเจ้านายของมันอยู่เสมอ     “เป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาดใจมากที่ Capitan มันยังไม่ลืมกลิ่นของเจ้านายของมัน คงจะมีพลังงานบางอย่างที่ทำให้มันไปถึงหลุมฝังศพของเจ้านายมันได้”  Carlos Paz ผู้ดูแลสุสานกล่าว     Aldo Cecchi ครูฝึกสุนัขยังกล่าวว่า เรื่องของเจ้า Capitan เป็นหลักฐานที่แสดงว่าสุนัขมีความเชื่อมโยงกับพลังงานของเจ้าของ และพวกมันซื่อสัตย์มากซะจนเราอาจจะคิดไม่ถึง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม มันก็ยังเลือกที่จะเฝ้าหลุมศพของเจ้านายของมันเพื่อรอวันสุดท้ายในชีวิต และเมื่อวันนั้นมาถึง ความฝันที่จะได้ไปอยู่ด้วยกันอีกครั้งตลอดกาล อาจจะเป็นจริงขึ้นมาในที่สุด……

คุณก็คงเคยเห็นว่าเจ้าหมาเจ้าแมวของเรานั้นจะหาที่นอนได้ทุกที่ทุกเวลากันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นตามหมอน เบาะ โซฟา เก้าอี้และที่ไหนก็ตาม แต่ครั้งนี้เราจะมาพบกับเจ้าหมาที่หาที่นอนได้สบายๆ แบบไม่ซ้ำใคร ที่สวนปลูกดอกไม้ในจังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่นได้มีเจ้าหมาน้อยไปนอนอยู่ในตะกร้าที่เต็มไปด้วยใบไม้ดอกไม้ที่ไม่ใช้แล้วแบบชิลๆ เคลิ้มหลับไปด้วยความสบาย จนทำให้กลายเป็นกระแสที่มีคนรีทวิตมากถึง 3 หมื่นคนเลยทีเดียว     เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นถูกพบเมื่อพนักงานของที่นั่นกำลังจะนำเหล่าเศษใบไม้เหล่านั้นไปทิ้ง แต่ก็ต้องเจอกับเจ้าสุนัขที่นอนอยู่ข้างในโผล่มาให้เห็นแค่ส่วนหัวแสดงความน่ารักน่าชัง     มันไม่ได้ถูกแกล้งอะไรเลย แต่มันเลือกที่จะเข้าไปอยู่ในตะกร้าเพื่อให้ได้นอนแช่ท่ามกลางกองเศษใบไม้ทั้งหลายด้วยความเพลิดเพลิน แถมไม่ยอมลุกไปไหนเลยด้วย     แม้ทางสวนดอกไม้แห่งนั้นกำลังยุ่งอยู่กับการที่จะต้องส่งดอกไม้เป็นจำนวนมากในช่วงเทศกาล แต่ความวุ่นวายของพวกเขานั้นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับรอยยิ้มที่ได้เกิดขึ้นจากเจ้าหมาน้อยตัวนี้เลย     พ่อครับ ห่มผ้าให้ผมหน่อย .   ไม่ยอมไปไหนหรอกนะ .   ตาเริ่มปรือ สงสัยเมื่อคืนจะนอนน้อยนะเรา   สายตาแบบนี้ อยากได้อะไรก็เอาไปให้หมดเลยละกัน   แม่จ๋า หนูหิวแล้ว   เป็นไงกันบ้างกับความน่ารักน่าชังของเจ้าหมาน้อยตัวนี้ที่ชอบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติรายล้อม บวกกับสายตาละห้อยที่ถึงแม้มันจะเข้ามาทำให้งานล่าช้าไปบ้าง แต่ก็คงต้องยอมใจอ่อนให้กับมันอยู่ดี   ที่มา: buzzfeed

กลายเป็นกระแสฮาๆ จากเว็บไซต์ Tumblr เมื่อชาวเน็ตนำภาพเจ้าเหมียวที่มาพร้อมกับแคปชั่นภาษารัสเซียไปแปลในกูเกิ้ล   เรื่องมันก็มีอยู่ว่าชาวเน็ตคนหนึ่งจากรัสเซีย ชอบโพสต์ภาพแมวน่ารักๆ ลงบน Tumblr แต่ด้วยแคปชั่นภาษารัสเซีย ก็ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าตัวหมายถึงอะไร   แต่ด้วยความสงสัยชาวเน็ตจึงก็อบคำไปวางในกูเกิ้ล ผลปรากฏว่ากลายเป็นแคปชั่นน่ารักๆ ซะงั้น   ยกตัวอย่างเช่นเจ้าเหมียวอ้วนตัวนี้   พอเอาภาษารัสเซียมาแปล จริงๆ แล้วเขียนว่า… เจ้าไส้กรอกลายทาง   แต่อันที่จริงไม่ใช่คำแปลที่แท้จริงจากกูเกิ้ลหรอกนะ   เพราะทั้งหมดนี้ชาวเน็ตเป็นคนเปลี่ยนคำแปลเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเองต่างหากล่ะ   เช่นเดียวกับแก๊งค์ลูกแมวแก๊งค์นี้   พอชาวเน็ตเอาไปแปลก็ได้คำว่า ไอ้พวกแบดบอยทำตัวโป๊เปลือย อุแวะ!!!   หรือจะเป็นเจ้าเหมียวอ้วนที่กำลังนั่งทำหน้าเหรอหราอยู่   พอมีชาวเน็ตเอาไปแปลก็กลายเป็น ‘ไหนเจ้ามะนุ๊ด บอกสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศนี้?’   แหม่.. ทั้งหมดก็กลายเป็นความฮาน่ารักๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกอินเตอร์เน็ตล่ะนะ ที่มา: Buzzfeed

ปกติแล้วเรามักจะเห็นหมากับแมวไม่ถูกกัน เจอกันทีไรขู่กันทุกที แต่มันก็ไม่เสมอไปหรอก เพราะเดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว อย่างน้องหมาเหงาตัวนี้ที่กลับมายิ้มและร่าเริงได้อีกครั้ง เพราะมีเหล่าแมวเหมียวมาเป็นเพื่อนนี่แหละ Flora เป็นเจ้าหมาร่างยักษ์ ที่กลายเป็นสุนัขผู้เหงาหงอย หลังจาก Dexter น้องแมวซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมันจากไป มันรู้สึกโดดเดี่ยวและสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง   เจ้าหมา Flora และเจ้าเหมียว Dexter   ปกติแล้วเวลาที่อยู่กับเพื่อนแมว Flora จะร่าเริง สดใส และมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเสมอ แต่เมื่อน้องแมวจากไป มันก็เปลี่ยนไปเป็นอีกตัวเลย… Jill Williams ผู้เป็นเจ้าของของน้องหมาเหงา จึงตัดสินใจรับลูกแมวจากศูนย์พักพิงมา 2 ตัว หวังจะให้พวกมันช่วยเยียวยาใจที่แตกสลายของ Flora ได้     เมื่อพาแมวน้อยมาสองตัว ดูเหมือนน้องหมาจะถูกใจมากและมันรู้สึกเหมือนกับอยู่กับ Dexter อีกครั้ง แต่ทว่าแมวน้อยสองตัวกลับไม่ชอบให้สุนัขกอด สุดท้าย Flora ก็ต้องนั่งเหงาหงอยต่อไป Jill ยังไม่ยอมแพ้ที่จะทำน้องหมากลับมาร่าเริงอีกครั้ง จนกระทั่งต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ครอบครัวก็รับแมวน้อยมาอีก 4 ตัว คือ Iggy, Bowie, Roxy และ Glamour พวกมันเป็นแมวที่ขี้สงสัย ขี้เล่น…

อีกหนึ่งเรื่องราวน่ารักๆ ของสาวน้อยวัย 7 ขวบ และเจ้าตูบขนสีกาแฟ ที่เกิดขึ้นที่เมืองเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก ก่อนหน้านี้สาวน้อย Sol ได้อุปการะเจ้าตูบ Morgan มาจากสถานพักพิงสัตว์ พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมาโดยตลอด ทว่าจู่ๆ วันหนึ่งเจ้าตูบกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย…   หนูน้อย Sol และเจ้าตูบ Morgan   หลังจากที่เจ้าตูบหายไปได้ไม่นาน หญิงสาวก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะตามหามันกลับมาให้ได้ แต่ไม่ว่าจะหายังไงเธอก็หาไม่เจอซักที Sol จึงคิดขึ้นมาได้ว่าเธอน่าจะทำโปสเตอร์ประกาศสุนัขหาย ทว่า… เธอมีภาพถ่ายของเจ้าตูบเพียงใบเดียว และเธอก็คงไม่อยากเอาไปติดไว้ข้างทางด้วย   หนูน้อย Sol จึงใช้วิธีวาดขึ้นมาเองซะเลย   Mara คุณแม่ของ Sol เล่าว่า “ลูกสาวร้องไห้ตอนที่ Morgan หายไป และในคืนนั้นเองเธอก็นั่งทำโปสเตอร์เพื่อตามหาพวกมันทั้งคืนเลย” ในโปสเตอร์เธอได้เขียนอธิบายไว้ว่า Morgan เป็นเพื่อนรักของเธอ เรียกร้องให้ผู้ที่พบเห็นช่วยพามันกลับมา พร้อมกับอธิบายลักษณะรูปพรรณสัณฐานของมัน   ใบหน้าของเจ้า Morgan ที่สาวน้อยวาดใส่ลงมาในโปสเตอร์   ไม่นานหลังจากที่ Sol นำโปสเตอร์ไปติดตามเมืองต่างๆ…

สำหรับคนที่เลี้ยงสุนัขแล้ว คงจะเคยมีช่วงเวลาที่มันจะวิ่งเข้ามาหาเราด้วยความคิดถึง หลังจากไม่ได้เจอกันนาน แต่เคยคิดไหมว่าถ้าวันหนึ่งเราเปลี่ยนไปอย่างมาก มันจะจำเราได้หรือไม่ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ Shane Godfrey ชายหนุ่มในรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ต้องจากบ้านไปเพื่อรักษาเยียวยาอาการป่วยของเขานานราว 5 สัปดาห์     ในช่วงเวลานั้นก็ทำให้เขาน้ำหนักลดลงไปมากกว่า 20 กิโลกรัม แน่นอนว่านั่นจึงทำให้รูปลักษณ์ของเขาเปลี่ยนไปมากพอสมควร ก็มากซะจนเจ้าสุนัขเพื่อนรักของเขา Willie ถึงกับจำกันไม่ได้ไปเลย เจ้าหมาถึงกับต้องเปิดโหมดระวังภัยในทันทีที่เห็น แต่ก็ค่อยๆ ลองพยายามเข้ามาใกล้ทีละนิด จนเมื่อสามารถรับรู้ได้จากกลิ่นว่านี่แหละคือเจ้าของและเพื่อนคนสำคัญของมันที่ไม่ได้เจอกันมานานนี่เอง   คลิปวิดีโอความน่ารักของเจ้าหมาเมื่อรู้ว่านี่คือเพื่อนรักของมัน     ความผูกพันของพวกเขาเกิดจากการที่ Shane ได้เจอมันเร่ร่อนหลงทางมาอยู่ที่ระเบียงบ้านของเขา จึงได้ดูแลมันมาและเกิดความผูกพันซึ่งกันและกัน ถึงแม้เจ้าหมาอาจสับสนกับรูปร่างที่เปลี่ยนไปของเขาในตอนแรก แต่เมื่อจำได้ปุ๊ป ก็เข้าไปคลอเคลียเลียหน้า หยอกล้อเล่นกับเขาอย่างหนัักหน่วง ดูน่ารัก     นั่นคือการแสดงความรักที่มันมีให้เจ้าของมันอย่างท่วมท้น ไม่ว่าภายนอกจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่ความผูกพันที่มีอยู่ในใจของทั้งคู่ก็ไม่สามารถถูกลืมเลือนไปได้   ที่มา: metro

เหตุการณ์สุดแปลก เมื่อมีคนไปเจอกลุ่มสุนัขจรจัด 5 ตัวบริเวณทางตะวันตกของอินเดีย ซึ่งมันมีลักษณะที่แปลกตาจากสุนัขปกติมากๆ โดยสุนัขบางตัวดันมีลำตัวเป็นสีฟ้าเฉย!!? Arati Chauhan เจ้าหน้าที่คุ้มครองสุนัขได้เล่าว่า ตอนที่เธอเห็นสุนัขทั้ง 5 เธอตกใจมากๆ ว่าทำไมสุนัขเกือบทั้งหมดถึงมีสีเป็นสีฟ้า เธอจึงหาต้นตอก็พบว่า เจ้าตูบทั้งหมดมันไปคุ้ยหาเศษขยะในคลองน้ำเสียเพื่อประทังชีวิต     ทว่าคลองน้ำเสียดังกล่าวนั้นมีสารพิษที่สูงมากๆ ทำให้พวกมันได้รับสารพิษดังกล่าวเข้าไป จนเมื่อกลับขึ้นมาตัวมันจึงกลายเป็นดั่งที่เห็น   ลองดูคลิปของสุนัขพวกนี้ดู   จากรายงานยังบอกเพิ่มเติมว่าที่รัฐมหาราษฏระนั้นมีปริมาณการบริโภค และทิ้งของเสียที่มากถึง 13 เท่ากว่าที่มีการกำหนดไว้ ทำให้ทางกรมควบคุมต้องออกมาตรวจสอบในท้ายที่สุด เพราะพวกเขาบอกว่ามีชาวบ้านและโรงงานอุตสาหกรรมทิ้งสารพิษและของเสียลงน้ำเยอะมากๆ และมันก็ส่งผลเสียต่อสิ่งมีชีวิตรอบๆ     ยังไงก็ตาม แม้ว่าสุนัขดังกล่าวจะมีสีฟ้าน่ารักเหมือนสเมิร์ฟ แต่ความจริงกลับไม่น่ารักเพราะคุณภาพชีวิตของมันย่ำแย่มากๆ นั่นเอง ยังไงซะก็หวังว่าจะมีเจ้าหน้าที่ลงมาจัดการช่วยเหลือไวๆ สักที…   ที่มา metro

เมื่อ 3 ปีที่แล้ว Dominique Weiser สาวชาวเบอร์ลินเดินทางไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์ในท้องถิ่นเพราะว่าเธออยากจะรับเลี้ยงแมวซักตัวหนึ่ง โดยที่ระบุข้อต้องการว่าขอเป็นแมวแก่ๆ หรือแมวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษเท่านั้น แต่ในระหว่างที่เธอกำลังเดินอยู่ภายในศูนย์พักพิงสัตว์แห่งนั้น ก็พบว่ามีแมวตัวหนึ่งมันพยายามที่จะเอาหัวกระแทกกรงและพยายามเข้าหาเธอ เหมือนกับว่ามันอยากจะอยู่กับเจ้าของคนนี้ตลอดไปอย่างนั้นแหละ มันมีชื่อว่าเจ้า Noodle   มันพยายามเรียกร้องความสนใจมากๆ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เปิดประตูให้ มันก็วิ่งขึ้นไปนอนบนตักของ  Dominique ทันที   มันเลียมือของเธอและอ้อนจนเธอใจอ่อนยอมรับเลี้ยงมันแต่โดยดี “พนักงานที่ศูนย์พักพิงสัตว์บอกว่า เจ้า Noodle ถูกทอดทิ้งมาประมาณ 4 เดือนที่แล้ว พวกเขาพบมันบนถนนที่เปลี่ยวและมันก็ดูหวาดกลัวมากๆ ด้วย”   เจ้า Noodle มีอายุประมาณ 10 ปี และมันก็ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบตรงไหล่ซ้าย ต้องใช้ยาทุกวันไปตลอดชีวิต ถึงแม้ว่าเจ้าแมวตัวนี้จะแก่และป่วย เธอก็ยินดีที่จะรับเลี้ยงและให้ความรักให้กับเจ้าแมวตัวนี้   “ฉันอยากให้มันมีชีวิตที่ดีที่สุดและได้รับความรักเหมือนแมวตัวอื่นๆ เพราะรู้ว่ามันผ่านช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิตมาแล้ว” หลังจากที่รับเจ้า Noodle มา 3  ปี ดูความตุ้ยนุ้ยของมันสิ   “มันชอบให้ฉันกอดมากๆ และมักจะนอนหลับใต้ผ้าห่มของฉันทุกคืน และขอบคุณที่มันเลือกฉันเป็นเจ้าของในวันนั้น และถ้าไม่มีมันชีวิตฉันจะเป็นอย่างไรยังไม่รู้เลย”   ไปละ บ๊ายบาย…   ที่มา lovemeow

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน  Łukasz Muniowski ชายชาวโปแลนด์และแฟนสาว ได้บังเอิญไปเจอกับเจ้าตูบตัวหนึ่งที่อยู่ในอุโมงค์ดินข้างทาง ระหว่างที่เขากำลังปั่นจักรยานในย่านชนบท เขาก็เลยตัดสินใจลงไปเช็คดู… ในจังหวะที่เขากำลังเข้าไปใกล้มันนั้น เขาก็พบว่าเจ้าตูบวิ่งหนีด้วยท่าทางแปลกๆ เขาจึงรู้ได้ทันทีว่ามันบาดเจ็บ แต่เจ้าตูบก็ยังไม่ยอมให้จับแต่อย่างใด มันวิ่งไปหลบหลังก้อนหินด้วยท่าทีที่กลัวคนมากๆ     Łukasz พยายามยื่นมือเข้าไปให้มันดมและคุ้นเคย จนสุดท้ายมันก็ยอมที่จะเข้าและวางอุ้งเท้าลงบนมือของเขา และเมื่อเขาเห็นแบบนั้นจึงจัดการอุ้มมันออกมาพร้อมพาส่งไปคลินิคใกล้ๆ ทันที   ฉันจะช่วยแกเองนะเจ้าตูบ   ไม่ต้องห่วงนะ เดี่ยวแกก็จะหายดีแล้วนะ   จากการวินิจฉัยก็พบว่า มันถูกชนมานานกว่า 3-4 สัปดาห์แล้ว แต่ก็ยังโชคดีที่มันยังรอดชีวิต ทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงมันต่อ พร้อมกับตั้งชื่อให้ว่า Bobby   เชื่อเหอะ ว่าหลังจากนี้มันจะต้องกลายเป็นสุนัขที่แฮปปี้มากแน่ๆ   สุดท้ายแล้ว เวลาผ่านไปจนถึงปัจจุบัน มันก็ได้รับการดูแลอย่างดีจากคู่รัก จากชีวิตที่ต้องทนบาดเจ็บอยู่ข้างทาง ตอนนี้มันก็กลายเป็นสุนัขที่มีความสุขมากๆ ตัวหนึ่งเลยล่ะ   ดีใจด้วยนะเจ้า Bobby ที่ได้เจอเจ้าของใหม่ที่รักแกจริงๆ   แถมยังได้เจอเพื่อนใหม่ด้วยนะ   มีบ้าน มีที่นอนนุ่มๆ   และก็มีเจ้านายที่ไปไหนไปกัน เย้!!   ที่มา boredpanda

มีหลากหลายกีฬาที่เราต้องแย่งชิงเอาสิ่งที่เป็นตัวกลางแห่งชัยชนะมาหรือไม่ก็ต้องส่งมันออกไป ตัวกลางนั้นก็คือลูกบอล ลูกเบสบอล ลูกรักบี้ และอื่นๆ อีกมากมายแล้วแต่ชนิดกีฬากันไป แต่ถ้าหากว่าตัวกลางนั้นเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่สุดแสนน่ารักอย่างเจ้าเหมียวตัวน้อยขึ้นมาแทนล่ะ เราลองมาดูรูปที่จะทำให้คุณเห็นภาพกับสิ่งที่เกริ่นมาว่านั่นไม่ควรเกิดขึ้นเลยจริงๆ   แป๊บนะครับกรรมการ ผมขอพาพวกมันไปส่งไว้ตรงอัฒจันทร์ก่อน   รับไว้ได้อย่างสวยงาม   เนียส ฉันเลือกนาย   อย่ามายุ่งกับน้องเหมียวของเค้านะ   คนหนึ่งก็ดูแลดี กับอีกคนที่คอยแต่จะโยนทิ้งขว้าง   สบายไปมั้ย มองอะไรไม่เห็นแล้ว   ผมไม่ได้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาจริงๆ นะครับจารย์   เจ้าเหมียวหลับเร็วเหมือนกันนะ หลับตอนทุ่มพอดีเลย   เหวอออ อย่าเข้ามานะ กลัวแล้ววว   ยินดีต้อนรับสู่ลานประหาร   ดูไปดูมาก็น่ารักน่าเอ็นดู แต่ถ้าเป็นอย่างนี้จริงละก็มีหวังเหล่าทาสแมวทั้งหลายคงได้โดดลงไปในสนามเพื่อช่วยเหลือเจ้าตัวเล็กอย่างไม่คิดชีวิตกันแน่เลย   ที่มา: sobadsogood

เมื่อเราได้เห็นเจ้าเหมียวแสนรักในทุกๆ วัน เชื่อว่าคงไม่มีใครสังเกตเห็นหรอกว่าพวกมันโตขึ้น และในฐานะที่มันเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของเรา จริงๆ แล้วเจ้าเหมียวเหล่านั้นก็ได้เติบโตไปพร้อมๆ กับเรานั่นแหละ และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางด้านเว็บไซต์ Boredpanda ทำการแชร์ภาพของบรรดาแมวเหมียว ที่ทางเจ้าของได้มาแบ่งปันภาพน่ารักๆ ในพัฒนาการเจริญเติบโตของพวกมัน บอกเลยว่า “แมว” ยิ่งโตก็ยิ่งน่าร๊ากกกกก   1. เวลาผ่านไปกว่า 15 ปี เจ้า Chewy และผู้เป็นเจ้าของได้เติบโตขึ้นมากเลยนะเนี่ย   2. เมื่อก่อนใส่โบว์แล้วดูใหญ่ไปนิด แต่ตอนนี้โตแล้วใส่ได้พอดีเป๊ะเลย   3. การเจริญเติบโตของ Neville   4. ผ่านไปสองปี เจ้าเหมียวก็ยังคงกินน้ำแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง   5. แมวสองเพื่อนรักที่เติบโตมาพร้อมๆ กัน   6. 7 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก   7. มันเติบโตไวมากจริงๆ   8. Leia อายุเพียงเดือนครึ่ง และ 4 ปีต่อมา…

มักจะมีคำพูดที่พวกเรามักจะได้ยินกันบ่อยๆ นั่นก็คือ สุนัขเป็นเพื่อนที่ดีของมนุษย์ บ่อยครั้งที่พวกเจ้าตูบมักจะทำตัวน่ารักๆ ว่านอนสอนง่าย ซึ่งแตกต่างจากเจ้า Inosemarine น้องหมาชิบะจากญี่ปุ่นตัวนี้มากๆ เพราะนอกจากจะหวงเนื้อหวงตัวแล้ว พี่แกยังชอบแกล้งเจ้านายเอามากๆ อีกด้วย ดูๆ ไปแล้วบางทีก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่าแกถูกวิญญาณเจ้าเหมียวตัวไหนสิงรึเปล่านะเนี่ย??   แหม่.. นอนสบายเชียวนะ เค้านินทาถึงยังไม่รู้ตัวอีกก   คลิปวิดีโอในช่องยูทูปของเจ้าตูบ แสดงให้เห็นพฤติกรรมเกรียนๆ ของเจ้าชิบะตัวนี้เอามากๆ บางครั้งเวลาที่เจ้าของจะเข้ามาหอมพี่แกก็เล่นตั๊วเล่นตัว   หรือบางครั้งกว่าจะได้กินข้าวก็ต้องคอยกันอยู่นานเลยทีเดียว เพราะพี่ inosemarine ชอบกดเปิดฝาหม้อหุงเข้าอยู่เรื่อย   อ่ะ… เย็นนี้กินอะไรไหนเลือกซิ!!   เค้าแอบอยู่ด้านหลังเนี่ยย รู้เรื่องป่าววเจ้าตูบ!!   อย่ามองเฉยๆ สิ โถ่เอ๊ยย!!   ไปชมความกวนของเจ้าชิบะตัวนี้กันได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย…   แต่ถ้าหากใครยังไม่จุใจละก็ สามารถเข้าไปชมความฮาของเจ้า inosemarine กับเจ้านายมันได้ทางช่องยูทูป inosemarine กันได้เลย… ที่มา inosemarine

เราคงจะเคยได้เห็นน้องหมาน้องแมวถูกทิ้งไว้ตามข้างทางกันบ้าง ทำให้เรารู้สึกสงสารและเอ็นดูอยากช่วยเหลือให้มันได้อยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ แต่การช่วยเหลือมันในครั้งนั้นกลับต่อยอดไปสู่อย่างอื่นที่ตามมาในภายหลังจนเป็นเรื่องราวในครั้งนี้ เมื่อผู้ประสงค์ดีได้เจอเจ้าเหมียวจำนวนถึง 5 ตัวที่มีอายุเพียง 8 สัปดาห์ถูกทิ้งให้อยู่ในกล่องข้างถนน จึงตัดสินใจจะพาพวกมันไปยังสถานสงเคราะห์สัตว์ใกล้ๆ ทันใดนั้นเองก็มีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งโดดออกไปจากกล่องด้วยความหวาดกลัวและตื่นตระหนก     ด้วยความสับสนของมันจึงได้มุดเข้าไปใต้ท้องรถที่จอดอยู่และไม่ยอมออกมา จนต้องไปตามให้คนจากสถานสงเคราะห์ที่กำลังจะไปให้มาช่วยมันออกมาซะก่อน จนกระทั่งลูกแมวตัวน้อยได้เข้าไปติดอยู่ในช่องแคบๆ บริเวณเครื่องยนต์เอาซะแล้ว     เมื่อไม่สามารถเอื้อมมือเข้าไปได้ และไม่สามารถที่จะยกรถขึ้นมาเพราะกลัวว่าจะบี้มันเอาซะก่อนเพราะว่าช่องที่ไปติดอยู่นั้นก็พอดีกับขนาดตัวซะเหลือเกิน อีกทั้งยังกลัวว่ามันจะวิ่งออกไปกลางถนน พวกเขาจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากนักดับเพลิงให้เข้ามาช่วยอีกแรง     นักดับเพลิงนั้นได้ยกรถขึ้นอย่างระมัดระวังแต่ก็ยังไม่สามารถช่วยเจ้าเหมียวออกมาได้ ซึ่งทางเดียวที่จะทำได้ก็คือต้องถอดล้อรถยนต์ออกมาล้อนึงเสียก่อน จนสุดท้ายก็สามารถเอามันออกมาได้สำเร็จ ซึ่งในขณะนั้นเจ้าลูกแมวยังคงมีอาการตกใจเล็กน้อย และเต็มไปด้วยฝุ่นที่เกิดจากการที่มันไปติดอยู่ข้างใน     ในที่สุดมันก็ได้กลับมาอยู่กับพี่น้องทั้งสี่ตัวของมันเสียที และเจ้าหน้าที่ของสถานสงเคราะห์ก็ได้ตั้งชื่อให้กับมันว่า Astra ตามชื่อยี่ห้อรถตามที่มันไปติดอยู่ข้างใต้ และพี่น้องของมันเองก็มีชื่อเป็นยี่ห้อรถด้วยกันทั้งหมด     จากเหตุการณ์นี้ก็คงต้องขอขอบคุณเหล่าคนที่มาช่วยเหลือเจ้าเหมียวกันอย่างเต็มที่รวมถึงเจ้าของรถยนต์คันนั้นอีกด้วย ไม่อย่างนั้นเจ้าลูกเหมียวตัวน้อยนี้อาจเป็นอะไรมากกว่านี้ไปแล้วก็ได้นะ   ที่มา: thedodo

นักมวยต่อยกันเราก็คงจะพอเดาได้บ้างกับน้ำหนักมือที่หนักหน่วงพุ่งเข้าใส่ใบหน้าคู่ต่อสู้จนเกิดเป็นรอยช้ำหรือบางคนก็อาจสลบน็อคไปเลย แต่ที่เราไม่น่าจะเคยเห็นก็คือสัตว์ประจำชาติที่เรารู้จักกันดีของออสเตรเลียแล้วละก็ หมัดที่ออกมามันจะเป็นยังไงบ้างนะ เมื่อมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งไปเที่ยวอุทยานสัตว์ป่ากับครอบครัวในออสเตรเลีย มาถึงที่นี่ก็ต้องมีการให้อาหารสัตว์กันซะหน่อย ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของคุณพ่อเจ้าหนูก็กล้าๆ กลัวๆ จะเข้าไปตรงตรง ในขณะที่คุณพ่อก็บอกว่า “เดินเข้าไปหามันเลย เดินเข้าไปเลย” อยู่อย่างนั้น   พ่อครับ ผมกลัว   ในภาพจะเห็นได้ว่ามีเจ้าจิงโจ้ยืนรอท่ากับเจ้านกอีมูที่ดูจะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรยืนเด๋อด๋าอยู่ตรงนั้น จนเมื่อเด็กชายได้เดินเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เจ้าอีมูก็นึกครื้มเดินตัดหน้าระหว่างเขาแล้วจิงโจ้ไปซะเฉยๆ แต่ก็เพราะที่มันเดินผ่านนี่แหละเลยทำให้เป็นเรื่อง ก็หัวมันดันไปโขกเข้ากับเจ้าจิงโจ้ ด้วยความตกใจมันก็เลยสะดุ้งปล่อยแย็บซ้ายเข้าโหนกแก้มขวาของเด็กที่คงจะคิดในใจว่า “ผมทำอะไรผิดครับเนี่ย”   จำเอาไว้ ใส่ก่อนได้เปรียบ   สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นสร้างความตกใจให้กับครอบครัวของเขาที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมกับความสงสัยที่ว่าเด็กน้อยคนนี้ควรให้อาหารเจ้าจิงโจ้หรือนกอีมูกันแน่   คลิปวิดีโอโชว์หมัดแย็บของเจ้าจิงโจ้ที่พุ่งเข้าใบหน้าเด็กน้อยอย่างจัง   คุณพ่อที่คอยเชียร์และอยู่ดูแลมาตลอดนั้นก็พูดออกมาทันทีว่าสิ่งที่เขาบอกคือจะให้ลูกชายไปให้อาหารนกอีมูต่างหากเล่า กลายเป็นว่าเด็กเข้าใจผิดซะเองเฉย ครั้งหน้าก็ช่วยเติมคำว่าอีมูไว้ในรูปประโยคหน่อยเถอะครับคุณพ่อ     ดีที่ไม่เป็นอะไรมากถึงเด็กคนนั้นจะดูเจ็บตัวหน่อยๆ แต่ก็จะได้รู้เอาไว้ว่าอย่าเผลอไปแหยมกับสัญลักษณ์ของประเทศตัวนี้เชียว   ที่มา: thesun

คนที่รักสัตว์จะตั้งใจเลี้ยงพวกมันอย่างทะนุถนอมคอยดูแลเอาใจใส่พวกมันอย่างเต็มที่ จนบางทีแทบจะเปรียบได้กับลูกแท้ๆ ของเราเลยทีเดียว แต่สำหรับเจ้าสุนัขตัวนี้แล้วนั้นมันไม่ได้รับประสบการณ์เหล่านั้นมาเลยจนกระทั่งเหตุการณ์เหล่านี้ได้เกิดขึ้น เมื่อองค์กรพิทักษ์สัตว์หรือที่เรียกกันว่า RSPCA นั้นได้ไปพบกับเจ้าหมาตัวหนึ่งในสวนหลังบ้านของเจ้าของที่แสนโหดร้ายของมันที่เมืองฮัดเดอร์ฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ในสภาพขนยาวรกรุงรังปิดหูปิดตาซะจนมันวิ่งวนไปวนมาเป็นวงกลมอยู่อย่างนั้น     เจ้าหมาน้อย Missy นั้นจึงได้ถูกช่วยเหลือในทันทีโดยในตอนแรกนั้นเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันคือสุนัขสายพันธุ์อะไรกันแน่ ส่วนหนึ่งเพราะด้วยขนที่ยาวมากไม่เป็นระเบียบเป็นปมพันกันไปพันกันมา เขาจึงนำมันไปที่โรงพยาบาลสัตว์ทันทีและต้องใช้ชุดกรรไกรตัดขนมากถึงสามชุดกว่าจะตัดขนของมันออกมาได้หมด ซึ่งมีน้ำหนักมากถึงกว่า 2 กิโลกรัมเลยทีเดียว อีกทั้งก็ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วมันก็คือหมาพันธุ์ชิสุ และยังได้พบปลอกคอของมันที่ฝังอยู่ใต้ขนของมันอีกด้วย     จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้าหมาน้อยนั้น ศาลจึงได้ตัดสินโทษว่าเจ้าของคนเก่าของมันมีความผิดฐานสร้างความทุกข์ทรมานให้กับสัตว์โดยไม่จำเป็น และถูกสั่งห้ามเลี้ยงสัตว์ไปตลอดชีวิต เพื่อไม่ให้มีน้องหมาตัวไหนต้องตกเป็นเหยื่ออีก หลังจากนั้นเจ้าสุนัขก็ได้อยู่กับองค์กรที่ช่วยมันไว้ไปอีกเป็นเดือนก่อนที่จะได้บ้านใหม่พร้อมกับเจ้าของที่รักสุนัขอย่างคู่รัก Jeff Noad และ Christine Morris     ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองคนได้เคยรับเลี้ยงสุนัขจากที่นี่ไปแล้วตัวหนึ่งชื่อว่า Poppy และนั่นก็ทำให้สมาชิกใหม่ในบ้านสามารถมีความสุขที่มีเพื่อนเล่นเป็นสุนัขเหมือนกัน แม้ว่าตอนแรกจะดูไม่คุ้นเคย แต่มันก็สามารถปรับตัวและกระโดดโลดเต้นไปกับครอบครัวใหม่ของมันได้ในเวลาไม่นาน “มันคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของพวกเรา” คือคำพูดของเจ้าของใหม่มันและก็หวังพวกเขาจะเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดสำหรับ Missy ด้วยเช่นเดียวกัน หากตอนนี้ใครที่มีเพื่อนๆ สัตว์เลี้ยงก็อย่าลืมดูแลพวกมันกันด้วยนะ   ที่มา: dailymail

เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมเวลาเราหิ้วหลังคอแมวไปไหนมาไหน เจ้าเหมียวมันก็ดูจะไม่โกรธหรือไม่มีปัญหาอะไรเลย ทั้งๆ ที่ปกติพวกมันกลับจะต้องเป็นสัตว์ชนิดที่ว่าวิ่งพล่าน ไม่ก็ซุกซนไปมาแท้ๆ ด้วยเหตุนี้เราก็เลยจะมาดูกันว่า ทำไมพวกมันถึงไม่กลัว และยอมแต่โดยดี เฉพาะเวลาที่จับหนังหลังคอพวกมันกันว่าแต่จะเพราะอะไรนั้น ลองมาดูกัน     ส่วนหลังคอของแมว… ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่า ส่วนหลังคอเจ้าเหมียวนั้น จะพิเศษกว่าส่วนอื่นๆ ตรงที่มันจะมีหนังให้หิ้วมากกว่าปกติ (ใครไม่เคยจับลองเอามือหยิบดูเล่นๆ ได้นะ อย่ามัวแต่เกาพุง^^) และส่วนนี้เวลาถูกหิ้วพวกมันก็จะรู้สึกได้ว่ากำลังถูกฝึกหรือกำลังถูกบีบบังคับให้ทำอะไรสักอย่างอยู่ ฉะนั้นมันจึงไม่ขยับ   สัญชาติญาณแมว เหตุผลต่อมาก็คือ สัญชาตญาณของลูกแมวที่มีต่อแม่แมว โดยการทำแบบนี้ลูกแมวจะรู้สึกว่าเราเป็นแม่แมว และมันจะยอมให้หิ้วส่วนคอไปไหนมาไหน เช่นเดียวกับวิธีที่แม่แมวทำเวลาย้ายลูกแมว เนื่องจากเวลาแม่แมวต้องการจะย้ายลูกแมว หากพวกมันดิ้นหรือตกใจก็จะทำให้เกิดความยากลำบาก หรือถึงขั้นบาดเจ็บกันได้ง่ายๆ ร่างกายของพวกมันจึงตอบรับสิ่งดังกล่าวด้วยการนิ่งสงบนั่นเอง     อย่างที่บอกไป เวลาจับหลังคอของแมวนั้น จะบ่งบอกถึงการบังคับเป็นนัยๆ ซึ่งลูกแมวก็จะรู้และเข้าใจ นั่นจึงทำให้วิธีการฝึกแมวสามารถทำได้ผลดีมากๆ ผ่านการหิ้วหลังคอเพื่อเตือนสติแมว   แม้แต่สิงโต ก็ยังใช้วิธีเดียวกันเลยนะ   แต่สำหรับการเคลื่อนย้ายจริงๆ การหิ้วหลังคอถือเป็นวิธีที่ทำไม่ได้ การเคลื่อนย้ายแมวของเรานั้น เราควรจะใช้การอุ้มโดยเอามือช้อนก้นมันไว้ด้วยมากกว่า จะได้ไม่ดื้นมากนักเวลาเคลื่อนย้ายมันนั่นเอง ฉะนั้นควรจะใช้แค่ในการฝึกหรือลงโทษเท่านั้น ส่วนในช่วงเวลาที่ต้องการฝึกสอนลูกแมวจริงๆ ก็ให้หิ้วหลังคอเวลาที่มันพยายามจะทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเท่านั้น แค่นั้นมันก็น่าจะพอเข้าใจแล้วล่ะ…

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแม้แต่พิพิธภัณฑ์แอร์มิทาชสุดหรูหรา ที่ตั้งอยู่ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ก็ยังคงวิธีดั้งเดิมในการกำจัดหนูที่ป้วนเปี้ยนไปมาด้วยการเลี้ยงเจ้าแมวเหมียว แถมยังเลี้ยงไว้ถึง 74 ตัว!! พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1764 ซึ่งเริ่มแรกนั้นตัวพิพิธภัณฑ์ยังเป็นแค่สถานที่ไว้เก็บผลงานศิลปะ หรือของหายากต่างๆ ของตัว Queen Catherine the Great เท่านั้น แต่เนื่องจากคอลเลคชั่นของพระองค์มันเริ่มเยอะเกินรับไหว มากเกินกว่าจะชมแค่คนเดียว ที่แห่งนี้ก็เลยจัดการเปิดให้คนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ในปี 1852 นั่นเอง     ด้วยความที่ตัวพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นสถานที่ขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันแสนสำคัญ นับตั้งแต่การครองราชของเจ้าหญิงจักรพรรดินีเอลิซาเบธแห่งรัสเซีย และยังครอบคลุมไปถึง Winter Palace ซึ่งเป็นพระราชวังของจักรพรรค์รัสเซียในตอนนั้นด้วย ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 18 พระราชวังนั้นถูกโจมตีอย่างหนักโดยกองทัพหนู ทำให้ครัวหลวงประสบปัญหาใหญ่ในการทำอาหาร รวมถึงเครื่องครัวที่เป็นไม้ก็พังไปมากมายจากฝีมือพวกมัน     ด้วยเหตุนี้ทำให้จักรพรรดินีเอลิซาเบธแห่งรัสเซีย สั่งให้นำแมวเข้ามาในวังเพื่อไล่หนูทั้งหมดไป ตอนแรกคนก็ดูไม่เชื่อในฝีมือเจ้าเหมียว แต่พอเวลาผ่านไปมันกลับได้ผลสุดๆ ประชากรหนูลดลงอย่างต่อเนื่อง!! นั่นทำให้แม้ว่าพระราชวังจะเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ พวกเขาก็ยังเลือกที่จะเก็บรักษาและดูแลเจ้าเหมียวไว้ในสถานที่แห่งนี้ต่อ ทว่าพอถึงช่วงสงครามโลกพวกมันก็ล้มหายตายจากไปจนหมด     จนต่อมาในปี 1950s ประชากรหนูก็กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ราวกับพวกมันรู้ว่าที่แห่งนี้ไม่มีคนกุมอำนาจอยู่แล้ว และแน่นอนว่าวิธีที่จะใช้จัดการพวกมันก็คือ การนำกองทัพแมวที่เคยเรืองอำนาจกลับมาอีกครั้ง ต่อมาในปี…

“ปลาไม่มีความเจ็บปวดเหมือนมนุษย์” นี่คือหนึ่งในข้อสรุปจากงานวิจัยวิจัยที่ประกอบไปด้วยนักประสาทวิทยา นักพฤติกรรม และผู้เชี่ยวชาญทางด้านปะมง ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ที่ชื่นชอบการตกปลารู้สึกสบายใจขึ้นมานิดหน่อยก็ได้ การศึกษาครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญจากยุโรป แคนาดา ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลศึกษาในขั้นต้นนั้นบอกว่าปลาไม่ได้มีระบบประสาทและสรีระร่างกายที่สามารถรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดได้เหมือนกับมนุษย์     อาการความเจ็บปวดโดยทั่วไปของมนุษย์นั้นเกิดขึ้นจากกระตุ้น Nociceptor หรือเซลล์ประสาทรับรู้ความรู้สึก โดยเมื่อมันได้รับการกระตุ้นแล้วจะทำการส่งสัญญาณประสาทไปยังสมองและกระดูกสันหลัง จากนั้นจึงแปลงเป็นความรู้สึกเจ็บออกมา และในระดับความรู้สึกทางด้านอารมณ์ ความเจ็บปวดจะรุนแรงขึ้นจากความหวาดกลัวและสามารถสร้างอาการทางจิตใจได้ถึงแม้ว่าความเจ็บปวดนั้นจะไม่ได้สร้างบาดแผลให้เราเลยก็ตาม นอกจากนี้ยังมีอาการเจ็บปวดที่สามารถเกิดขึ้นได้เองอย่างเช่นอาการชาอีกด้วย     และจากการศึกษาพบว่าพวกปลานั้นไม่ได้มีระบบการรับรู้ความเจ็บปวดที่เหมือนกับมนุษย์ โดยเส้นประสาท c-nociceptors ที่มีส่วนต่อระดับความรุนแรงของความเจ็บปวดที่พบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไปนั้น ไม่พบในพวกปลาชนิดต่างๆ ตั้งแต่ปลากระดูกอ่อนอย่างพวกฉลาม กระเบน ไปจนถึงปลากระดูกแข็งอย่างพวกปลาคาร์ฟและปลาเทราท์ ดังนั้นในทางสรีระวิทยาแล้วพวกปลาแทบจะไม่สามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดได้เลย แต่อย่างไรก็ตามพวกปลากระดูกอ่อนนั้นมีเซล์ประสาทรับความรู้สึก ซึ่งจะทำให้พวกมันสามารถตอบสนองต่อความเจ็บปวดและสิ่งที่มากระทบกับตัวมันได้ แต่ก็ไม่อาจจะยืนยันได้ว่าพวกมันสามารถรับรู้ถึงความเจ็บนั้นได้เช่นกัน     การศึกษาครั้งนี้เป็นเพียงการศึกษาความเจ็บปวดของปลาที่ได้รับจากการกระตุ้นอย่างเช่นการถูที่รอยแผลบนตัวปลา หรือการอดอาหารพวกมันเท่านั้นอย่างไรก็ตามการทดลองนี้ไม่ได้ศึกษาถึงความรู็สึกเจ็บปวดที่เกี่ยวข้องกับระบบเซลประสาทรับรู้ความรู้สึกของพวกมัน และการแสดงความรู้สึกทางด้านอารมณ์ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่การศึกษานี้ไม่ได้กล่าวถึง โดยสรุปแล้วงานวิจัยชิ้นนี้ได้ชี้ให้เห็นว่าปลาไม่มีการรับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดที่เหมือนกับมนุษย์ ซึ่งจริงๆ แล้วเราไม่สามารถตีความพฤติกรรมของพวกปลาโดยใช้มนุษย์เป็นเกณฑ์ได้   ถึงแม้ว่าผลศึกษาจะออกมาอย่างไร แต่การเบียดเบียนสัตว์ ก็เป็นการผิดศีลข้อแรกนะโยม ที่มา sciencedaily

กลายเป็นข่าวดังไปทั่วเกาะอังกฤษ หลังเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานเรื่องราวการจับกุมนาย Vitalij Kiseliov โจรลักทรัพย์ที่ก่อเหตุมาแล้วนับไม่ถ้วน โดยมีเจ้า ‘Rocky’ เป็นนกแก้วผู้คลี่คลายคดี ดูเผินๆ เราก็นึกว่าเป็นพล็อตหนัง CSI แต่มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ เมื่อผู้ต้องหาสัญชาติลิธัวเนีย ได้แอบปีนเข้าไปขโมยของมีค่าในบ้านหลังหนึ่ง และได้เจอกับเจ้านกแก้วนักสืบตัวนี้เข้า   นกแก้วเทาแอฟริกัน Rocky ช่วยคลี่คลายคดี   โดยภายในคืนวันนั้นโจรใจกล้า ก็ได้ทำการหยิบคอมพิวเตอร์แลปทอปและโทรศัพท์ภายในบ้าน ก่อนที่จะเห็นเจ้า Rocky ที่อยู่ภายในกรง ก็หวังว่าจะขโมยมันไปขายเช่นเดียวกัน ในระหว่างที่กำลังหยิบกรง เจ้านกแก้วก็ทำการต่อสู้ขัดขืนจิกเข้าที่มือของผู้ร้าย ก่อนที่มันจะถูกจับออกหน้าต่าง และทำการหลบหนีออกไปได้อย่างลอยนวล เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงจุดเกิดเหตุ พวกเขาก็ได้สังเกตเห็นคราบเลือดที่ตกอยู่บนพื้นบริเวณใกล้กับกรงนก เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเลือดของตัวคนร้ายที่เกิดจากการถูกนกแก้วจิกใส่   และดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง เมื่อนำผลเลือดไปพิสูจน์ DNA พวกเขาก็ระบุตัวคนร้ายได้ทันที   จากการสืบประวัติพบว่า Vitalij Kiseliov (ผู้ก่อเหตุ) ได้ก่อคดีเดียวกันนี้มาถึง 5 ครั้ง และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำได้ไม่นาน “เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ต้องเป็นเลือดที่เกิดจากรอยกัดของเจ้า Rocky เพราะบนลำตัวของนกแก้วก็มีบาดแผลทีเกิดจากการกระทบกระเทือนเหมือนกัน โชคดีมากจริงๆ ที่เราสามารถจับตัวคนร้ายได้” Peter Rowing…

คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของหนุ่มหล่อหน้าใส ผู้มีหัวใจงดงามดั่งพระเอกละครช่อง 3 เมื่อเจ้าตัวยอมเสี่ยงชีวิตหยุดรถไว้กลางถนน เพื่อลงไปช่วยชีวิตลูกแมวตัวน้อยกัน…   ก่อนอื่นขอแนะนำให้รู้จักกับ Tucker Fisher และเจ้าเหมียว Ivy   เรื่องมันมีอยู่ว่า.. เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ พ่อหนุ่ม Tucker Fisher ได้ขับรถไปบนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ I-81 และจู่ๆ เจ้าตัวก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างกลางถนน   “ตอนนั้นผมกำลังจะเลี้ยวรถลงจากทางด่วน จู่ๆ ก็สังเกตอะไรเล็กๆ เหมือนพยายามจะดิ้นรนเอาชีวิตรอดอยู่กลางถนน” Tucker เล่า   ยิ่งขยับรถใกล้เข้าไปมากเท่าไหร่ ภาพของสัตว์สี่ขาตัวน้อยที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอด ก็ปรากฎเข้ามาในสายตาของเขาชัดมากขึ้นเรื่อยๆ ทันทีที่รู้ว่าเป็นลูกแมวน้อย เขาก็รีบหยุดรถไว้กลางถนนเพื่อป้องกันไม่ให้รถคันอื่นๆ ขับผ่าน จากนั้นจึงรีบวิ่งลงไปช่วยแมวน้อยที่ติดอยู่กลางถนน     “ผมเหลือบไปมองกระจกหลังไม่มีรถตามมา ผมก็เลยจอดทันทีเลยครับ เพื่อที่จะได้บล็อคทางไม่ให้รถคันอื่นขับผ่าน จากนั้นผมก็อุ้มมันขึ้นมาบนรถ และเรื่องราวมิตรภาพของเราก็ได้เกิดขึ้น”   เขาพาเธอไปพบสัตวแพทย์ พาไปอาบน้ำ พร้อมทั้งดูแลเจ้า Ivy อย่างดีไม่ให้คลาดสายตา   เวลาผ่านไปไม่นานทั้งมนุษย์ และ Ivy ก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของกันและกัน พุงของมันเริ่มย้วยยานมากขึ้น…

เรื่องราวของ 3 พี่น้องตัวจิ๋วที่ต้องเผชิญชะตากรรมชีวิต เตร็ดเตร่เร่ร่อนดูแลกันและกันมาโดยตลอด จนในที่สุดพวกมันก็ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข   นี่คือ Bo Daisy และ Luke พวกมันทั้งสามต้องอยู่ข้างถนนมาก่อนที่จะถูกส่งตัวมายังศูนย์พักพิง   ย้อนกลับไปในช่วงที่มันเพิ่งอายุได้ 6 เดือน พวกมันทั้งสามไม่สามารถแม้แต่จะเดินให้เป็นเส้นตรงได้ แต่ด้วยความเชื่อเหลือจากเจ้าหน้าที่ พวกมันก็ได้รับที่อยู่อาศัย   จนเมืื่อพวกมันโตขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ก็สังเกตเห็นว่า น้องเล็กสุด (Luke) มีอาการหูหนวกไม่ได้ยินเสียง และไม่สามารถห่าเปล่งเสียงออกมาได้   ภายใต้การดูแลของ Mr. Bones and Co ศูนย์ช่วยเหลือสุนัขประจำเมืองนิวยอร์ก ได้นำตัวพวกมันไปรักษากับสัตวแพทย์ พร้อมทั้งฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่จำเป็นให้   แต่ดูเหมือนว่าใน 3 พี่น้องกลุ่มนี้ เจ้าน้องเล็กสุดจะเรียนรู้อะไรต่างๆ ได้ช้ากว่าพี่ๆ   เมื่อสัตวแพทย์วินิจฉัยและพบว่าเจ้า Luke มีอาการหูหนวก และไม่สามารถส่งเสียงได้ พวกเขาก็พยายามที่จะดูแลมันอย่างใกล้ชิดมาเสมอ   แต่สิ่งที่น่าประทับใจกว่าคือเรื่องราวของการดูแลกันและกัน   “พวกมันดูแลกันและกันไม่เคยห่างเลยค่ะ ส่วนพวกพี่ๆ ก็ไม่คิดจะทิ้งน้องเหมือนกัน ไม่ว่าจะวิ่งเล่น นอนหลับ…

ผู้เชี่ยวชาญชาวจีนและเจ้าหน้าที่จากสวนสัตว์ในประเทศฝรั่งเศส กำลังพยายามกันอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตเจ้าแพนด้าน้อยฝาแฝดที่เพิ่งลืมตาออกมาดูโลก เจ้า Huan Huan แม่ของเจ้าตัวเล็กทั้งสอง ถูกส่งตัวมาอยู่ที่สวนสัตว์ Beauval Zoo ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ลูกแพนด้าทั้งสองตัวที่เพิ่งเกิดมานั้นมีร่างกายที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ และเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเมื่อเจ้าตัวเล็กตัวหนึ่งต้องเสียชีวิตไปหลังจากที่เพิ่งคลอดได้ไม่นาน     ส่วนอีกตัวที่มีชีวิตรอดมาได้นั้นก็น้ำหนักเพียงแค่ 140 กรัมเท่านั้น “มันอ่อนแอเกินกว่าจะมีชีวิตรอดได้ พวกเราพยายามกันอย่าสุดความสามารถแล้ว แต่มันตัวเล็กและอ่อนแอเกินไป ” คุณ Rodolphe Delord ผู้เชี่ยวชาญชาวจีนพูดถึงลูกแพนด้าตัวที่เพิ่งเสียชีวิตไป     แต่ลูกหมีที่รอดชีวิตนั้นกลับดูแข็งแรงกว่า คุณ Delphine Delord ผู้อำนวยการด้านการประชาสัมพันธ์ของทางสวนสัตว์บอกว่า เจ้า Huan Huan นั้นดูแลลูกน้อยของมันอย่างใกล้ชิด ทางผู้เชี่ยวชาญได้นำน้ำนมจากแม่หมี มาใส่ขวดและป้อนให้กับเจ้าแพนด้าน้อย เจ้าหน้าที่ดูแลเจ้าหมีน้อยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่ามันสามารถมีชีวิตรอดได้ คุณ Delord บอกว่าเจ้าหมีตัวนี้เหมือนเป็นตัวแทนของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างจีนและฝรั่งเศส     เจ้าหน้าที่กำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อยื้อชีวิตเจ้าตัวเล็ก   ทางสวนสัตว์ได้รับข่าวดีนี้เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน หลังจากที่เจ้า Huan Huan เข้ารับการผสมเทียมกับหมีแพนด้าเพศผู้ Yuan Zi ทั้งคู่ถูกย้ายมาอยู่ด้วยกันเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนในที่สุดเจ้าหน้าที่จึงต้องตัดสินใจผสมเทียมให้กับมัน หนึ่งในข้อกำหนดของการรับเลี้ยงแพนด้านจากทางรัฐบาลจีน เมื่อพวกมันมีลูกแล้ว ตัวลูกน้อยนั้นจะต้องถูกส่งตัวกลับไปยังประเทศจีน และเจ้าแพนด้าน้อยตัวนี้ก็เช่นกัน โดยชาวฝรั่งเศสจะได้ชื่นชมความน่ารักของมันก่อนที่อีกสองเดือนต่อมามันจะต้องกลับบ้านเกิดที่ประเทศจีน     เจ้า Huan…

บางครั้งเราอาจจะเคยได้ยินคำว่าสุนัขคือเพื่อนที่ดีที่สุด แต่เรื่องราวต่อไปนี้อาจจะกลับกัน เพราะมนุษย์ก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเจ้าตูบได้เช่นกันนะ เรื่องราวของคุณ Paul Steklenski นักบินหนุ่มที่ตัดสินใจบินไกลกว่า 1,200 กิโลเมตรเพื่อไปช่วยเหลือเจ้า Adrienne น้องหมาที่อาจมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น…     Adrienne น้องหมาผู้น่าสงสารที่กำลังทุกข์ทรมาน กับอาการเจ็บปวดของกระเพาะปัสสาวะ ที่เกิดจากการไม่เอาใจใส่ของเจ้าของคนก่อน เจ้าหมาเพศเมียตัวนี้ถูกพบบนถนนสายหนึ่ง มันถูกนำตัวสถานสงเคราะห์สัตว์ Granville County Animal Shelter และต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน แต่ค่ารักษาสำหรับเจ้าตูบนั้นค่อนข้างสูงทางสถานสงเคราะห์จึงไม่อาจจะแบกรับภาระนี้ไว้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องประกาศขอความช่วยเหลือ     และหลังที่คุณ Paul ทราบข่าวเขาตัดสินใจมอบเงินจำนวน 48,000 บาทสำหรับค่าผ่าตัดเจ้าหมาน้อย หลังจากนั้นชายหนุ่มจึงตัดสินใจบินมาพบกับเจ้า Adrienne ที่สถานสงเคราะห์สัตวในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เพื่อพาตัวมาพบสัตวแพทย์ในเมือง Stamford รัฐคอนเนตทิคัต โดยที่เครื่องบินที่พาตัวเจ้าหมากลับมานั้น เป็นเครื่องบินที่เขาซื้อไว้ตั้งแต่ปี 2013 แล้ว มีจุดประสงค์ก็เพื่อนำมาไว้ใช้ช่วยเหลือสัตว์นั่นเอง   และนี่คือภาพแผลที่กระเพาะปัสสาวะของเจ้าตูบ ***ภาพอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจได้***   และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เจ้าตูบก็ดูเหมือนว่าจะมีอาการดีขึ้นแล้ว หลังจากที่มันได้รับการดูแลอย่างดี คุณ Paul บอกว่า “ตอนที่ผมได้ยินเรื่องของเจ้า Adrienne ผมรู้ทันทีเลยว่าผมต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือมัน มูลนิธิ Animals R…

เขาว่ากันว่าหมากับเด็กนิสัยเหมือนกัน คงเป็นเช่นเดียวกันเจ้าโกลเด้นตัวนี้ที่งอแงไม่ยอมกลับบ้านแม้เจ้าของจะลากดึงยังไงก็ตาม มันก็ยังคงดื้อดึงไม่ยอมกลับ แถมแกล้งนอนดิ้นลงกลับพื้นเป็นการแสดงจุดยืนอีก แหม แหม.. ดื้อจริงๆเจ้าตัวนี้!!   คลิปวิดีโอนี้ถูกถ่ายในตอนที่ผู้คนกำลังเพลิดเพลินกับการพักผ่อนในสวนสาธารณะ Burleigh Hill ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย   เค้ากำลังเล่นเพลินๆเลยอ่ะป่ะป๊าาาาาาา   ไม่ว่าเจ้านายของมันจะพยายามลากกลับบ้านอย่างไรมันก็ไม่ยอมกลับ   มันทิ้งตัวลงนอนจนคนเริ่มมองมันกับเจ้าของ ทำให้เจ้าของเริ่มหมดความอดทน ถอดปลอกคอแล้วเดินออกไปเลย   และแล้วเกมก็พลิก หลังจากโดนตัดหางปล่อยวัด… ในที่สุดก็ต้องยอมลุกเดินกลับบ้านแต่โดยดี กลัวโดนทิ้งมากกว่าสินะ ฮ่าๆ   วิดีโอต้นฉบับของ Kristen Bohlsen ได้รับชมมากกว่า 2,400,000  ครั้งบน Facebook  ก็เพราะความน่ารักของเจ้าโกลเด้นตัวนี้เลยนะเนี่ย ที่มา dailymail

แมวอาจจะมีนิสัยขี้อ้อน ขี้เล่น ซน สร้างเรื่องปวดหัวให้เหมือนกันๆ แต่ถึงอย่างหนึ่งพวกมันก็มีความเอกลักษณ์บางที่แตกต่างกัน อย่าง Mr. Bub Fuzzins เจ้าเหมียวผู้มีดีที่หน้าเอ๋อ เมื่อห้าปีที่แล้ว Mr. Bub ได้พุ่งเข้าไปอยู่ในหัวใจของผู้ชายคนหนึ่ง เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เจอกัน และเป็นครั้งที่แรกที่เจ้าเหมียวได้มีเจ้าของ และมันก็ทำให้รู้ว่ามนุษย์ไม่ได้เลือกแมว แต่แมวต่างหากที่เลือกเรา     เมื่อ 5 ปี ก่อน Rick Laprade พักอยู่ในอพาร์ทเม้นต์กับเพื่อน เขาก็รับการแนะนำให้รู้จักกับแมวที่มีหน้าตาค่อนข้างแปลกแต่มีเสน่ห์ Mr. Bub เป็นโรคปากเพดานโหว่และป่วยเป็นโรคหอบหืด มันมีเสียงร้องที่ไม่เหมือนแมวทั่วไป แต่นั่นยิ่งเป็นการเพิ่มความน่ารักให้กับมัน     ในวันที่พวกเขาได้พบกัน Mr. Bub ทำให้ Rick ตกหลุมรักด้วยการเอาตัวไปนัวเนียกับเขา นั่นทำให้ทั้งคู่ผูกพันกันทันทีราวกับเคยรู้จักกันมานานแล้ว Rick บอกว่า “ตอนที่ผมไปเจอมัน มันเอาตัวมาถูกับผม เราสนิทกันในไม่กี่วันต่อมา และกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกันจนทุกวันนี้ครับ”     เจ้าเหมียวกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องอยู่ติดแนบชิดกับ Rick ตลอดเวลา มันชอบขดตัวอยู่บนตักของเขาแล้วก็หลับอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาหลายชั่วโมง แม้ว่าในอพาร์ทเม้นต์ที่ Rick อยู่นั้น จะมีห้องของเพื่อนของเขาอยู่ด้วย แต่เจ้าเหมียวไม่เคยไปนอนที่ของเพื่อนเขา มันจะนอนกับ Rick คนเดียวเท่านั้น เพราะมันชอบนอนในอ้อมกอดของเขา  …

สำหรับทาสคนไหนที่เลี้ยงแมว ชื่อว่าหลายคนจะต้องรู้จักกับ Catnip หรือกัญชาแมว ซึ่งเป็นสมุนไพรที่อยู่ในตระกูลเดียวกับมิ้นต์อย่างแน่นอน เพราะเจ้าสมุนไพรชนิดนี้ เมื่อเจ้าเหมียวได้ไปสัมผัส หรือดมเข้า ก็จะทำให้มันฟินเฟร่อ บางตัวถึงขนาดคึกไปชั่วขณะหนึ่ง แถมยังมีท่าทางตลกโปกฮาที่พวกทาสทั้งหลายเห็นแล้วก็อดที่จะบันทึกภาพของมันเอาไว้ไม่ได้ และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอพาเพื่อนๆ ทุกคนไปรับชมภาพของเจ้าเหมียวที่ได้รับฤทธิ์จากกัญชาแมว บอกเลยว่างานนี้เล่นเอาคุณหัวเราะจนกรามค้างแน่ๆ   เมื่อได้ลองสัมผัสเป็นครั้งแรก เราก็ไม่อาจหยุดได้   ถึงขั้นเบลอไปเลย   ดูหน้าตาแหลมๆ ร้ายๆ เพราะฤทธิ์กัญชาหรือเปล่านะ   นาทีนี้ขอเคลิ้มก่อนละกัน   ไม่ไหวแล้วทาส   เมี๊ยวๆๆๆๆ อย่าเพิ่งเข้าใกล้ตอนนี้นะ ไม่งั้นมีเจ็บตัวแน่ๆ   นี่แหละคือสวรรค์ชั้นเจ็ด   เจอแบบนี้ฟินเลย บ่องตงรักจุงเบย   เดี๋ยวนะ ฟินจนไม่เป็นท่าแล้วเหมียวเอ้ยยยย   ตาเหลือกตาค้างกันเลยทีเดียว   ป้าดดดดดด เมากันเป็นแถว 555   ไม่ไหวแล้ว พักดื่มน้ำสักครู่   เบลอว่ารักแถบ แบบว่าเคลิ้มไปไหน   เดี๋ยวพ่อจะข่วนเข้าให้…

เราหลายๆ คนอยากเติบโตไปพร้อมกับพี่หรือน้อง ไม่ใช่แค่พวกเขาเป็นคนในครอบครัว แต่ยังเป็นเพื่อนเล่นที่ดีและเข้าใจเรามากที่สุด แต่หากต้องเป็นลูกคนเดียวมันก็คงจะเหงาๆ หน่อยสินะ เหมือนกับเด็กชายคนนี้ที่เฝ้าถามคุณแม่ทุกวันว่า “เมื่อไหร่จะมีน้อง?”     คุณแม่เล่าให้ฟังว่า เธอมีลูกชายที่ตอนนี้ใกล้จะ 5 ขวบ แล้ว เขาเป็นลูกคนเดียว ทำให้รู้สึกเหงาบ้างในบางครั้ง เด็กชายเอาแต่ถามแม่ว่าเมื่อไหร่จะมีน้องที่จะมาเล่นกับเขาสักที     ในที่สุดคุณแม่ก็ตัดสินใจที่จะหาเพื่อนเล่นให้ลูก เธอไปซื้อลูกสุนัขโกลเด้นตัวเมียตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง มันน่ารักมากๆ และดูไม่ต่างจากเด็กน้อยคนหนึ่งเลย     คุณแม่ตั้งชื่อให้น้องหมาว่า Lucy เธอรักมันเหมือนลูกน้อยคนหนึ่ง ที่สำคัญคือ ลูกชายไม่ถามแม่อีกเลยเรื่องมีน้อง เพราะตั้งแต่มีน้องหมาตัวนี้เขารู้สึกมีน้องแล้วจริงๆ และเขาก็รักมันมากด้วย     ลูกชายกับน้องหมากลายเป็นคู่พี่น้องที่ไม่อาจแยกจากกันได้ พวกเขาอยู่ด้วยในทุกๆ ช่วงเวลา และคุณแม่ก็ไม่ลืมที่จะบันทึกภาพความทรงจำนั้นไว้     เจ้า  Lucy สุนัขที่มาเป็นน้องสาวให้เด็กชาย . . . . . . . .   Lucy ในวัย 4 เดือน…

เจอแบบนี้ก็ตกใจอ่ะดิ ใครจะคิดว่าคนทำมาหากินสุจริตอย่างเช่นอาชีพขับรถบรรทุก จะมาโดนดักปล้นกลางวันแสกๆ แบบนี้!! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในแถบ Garhbeta ทางตะวันออกของอินเดีย เมื่อมีคนสามารถบันทึกคลิปวิดีโอของช้างตัวหนึ่ง ออกมาจากริมถนนเพื่อหาอาหารจากรถบรรทุกที่ขับมา และต้องจอดนิ่งๆ เพื่อไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุ     จากคลิปเราจะเห็นว่า ช้างตัวดังกล่าวโบกรถบรรทุกให้หยุด พยายามเปิดผ้าใบด้านข้างออกเพื่อขโมยมันฝรั่งมาเป็นของมันเอง.. แต่นั่นคือสิ่งที่ผิดนะ เป็นขโมยแบบนี้มันไม่ดี คนจึงพยายามไล่มันไปด้วยการจุดประทัดใส่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลย     จนกระทั่งคนขับรถบรรทุกทนไม่ไหว ปล่อยให้เจ้าช้างกินมันฝรั่งไปตามสบายใจ   โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ เพียงแค่เสียมันฝรั่งไปเล็กน้อยเท่านั้นเอง ถือซะว่าช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกที่กำลังหิวโหยละกันเนาะ ไปชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์นี้กันเลย… ที่มา thedodo

วันนี้จะพามาส่องความน่ารักของ Mame หนูน้อยชาวญี่ปุ่นวัย 1 ขวบ กับเจ้า Riku หมาพุดเดิ้ลยักษ์และผองเพื่อนที่อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักสุดๆไปเลย ภาพน่ารักๆเหล่านี้มาจากคุณยายของน้อง Mame โดยคุณยายได้ถ่ายรูปแล้วโพสลงบนอินสตาแกรม จนมีผู้ติดตามกว่า 80,000 คน   เจ้า Riku เป็นหมาพุดเดิ้ลยักษ์หรือที่เรียกกันว่า Royal Poodles และมีน้ำหนักตัวมากที่สุดได้ถึง 27 กิโลกรัม   เจ้า Riku กับ Mame สนิทกันมากจนแยกจากกันไม่ได้   นอกจากนี้หนู Mame ยังมีสุนัขอีก 2 ตัวชื่อว่าเจ้า Gaku และ Qoo แต่ดูเหมือนว่า Mame จะสนิทกับเจ้า Riku มากกว่า ถึงขั้นแยกออกจากกันไม่ได้เลย ไม่ว่าจะตอนหลับ ตอนอ่านหนังสือหรือแม้กระทั่งเล่นแทมโพรีน พวกเขาจะอยู่เคียงข้างกันเสมอ   นอกจากเจ้า Riku แล้วก็ยังมี Gaku และ Qoo อีกด้วย  …

สุนัขกับแมวเป็นสัตว์ที่หลายคนชอบนำมาเลี้ยง เพราะพวกมันเป็นทั้งเพื่อนแก้เหงา และเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์กับมนุษย์เสมอ แต่ว่าในเรื่องของนิสัยระหว่างหมากับแมวเนี่ย ถือว่าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยล่ะ… เหมือนกับภาพเปรียบเทียบน้องหมาน้องแมวเหล่านี้ ที่แสดงออกต่างกันแม้จะเจอสถานการณ์เดียวกันก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไง พวกมันก็ไม่น่ารักอยู่ดี ว่ามั้ยเอ่ย!?   1. ปฏิกิริยาน้องหมาเมื่อต้องเจอน้ำ   ส่วนน้องแมวนั้นนน…   2. เมื่อเจ้าของพาไปเดินเล่น หมามักจะตื่นเต้นเสมอ   แต่แมว…พาตรูไปตายบ้านเถอะ   3. เมื่อคุณทำงานที่บ้าน… มันเป็นสิ่งน่าเบื่อมากสำหรับหมา   แต่น้องแมวจะกวนคุณตลอดเวลา   4. ที่นอนแสนสบายสำหรับสุนัข   และนี่คือที่นอนโปรดของแมว   5. เมื่อพาหมาแมวไปนั่งรถเล่น   พามาทำไม!!? อยากอยู่บ้านนนน   6. พฤติกรรมการกินของหมา vs แมว   ไม่กินไก่!! จะกินปลาทู!!   7. เมื่อเจ้าของกลับมาบ้าน… ‘เค้ารอมานานแล้วนะ’   ไหน ซื้ออะไรมาฝากบ้าง?   8.…

เคยมีคนบอกไว้ว่า สภาพแวดล้อมนั้นจะหล่อหลอมจิตใจให้เปลี่ยนไปตามทุกอย่างรอบตัวได้ ซึ่งมันก็ดูจะจริงมากๆ และประโยคที่ว่านี้ก็ยังสามารถจะใช้กับสัตว์ได้ด้วย!!? บางครั้งถ้าเราเลี้ยงสัตว์สองชนิดไว้ด้วยกัน แต่มีจำนวนที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด สัตว์ที่เหลือน้อยกว่ามันก็มักจะมีนิสัยตามสัตว์หมู่มากอยู่บ่อยๆ เช่นเหล่าเจ้าตูบที่เป็นเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ ที่นิสัยพวกมันดันกลายเป็นแมวซะอย่างนั้น ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร ออกจะน่ารักเสียด้วยซ้ำ… พูดไปก็ไม่เห็นภาพ เอาเป็นเราลองมาดูกันเลยดีกว่า ว่าเวลาที่หมาโดนกลืนนิสัยให้เข้ากับแมว พวกมันจะกลายเป็นยังไง!?   ผมคือแมว ฉะนั้นผมก็ต้องนอนแบบแมว   เจ้าไซบีเรียนที่คิดว่าตัวเองเป็นแมว ดูการมองบนกับการนอนในกล่อง ชัดเจน!!   ก็ไม่ได้มีข้อห้ามหมานอนบนรั้วนิเนอะ ว่าแต่รั้วเล็กแบบนี้ เอ็งนอนได้ยังไง   บางครั้งหมาก็เจ้ายึดพื้นที่แมวอย่างไม่เกรงใจ ที่สำคัญดันนอนสูงกว่านี่แหละ   ภาพของแมวสามตัว ไม่มีอะไรผิดปกติ…   เมื่อหมาได้ลองนอนในกล่องเหมือนแมว มันก็ตัดสินใจแล้วว่ามันเป็นแมว   เมื่อหมาซึมซับของเล่นแมวอย่างเต็มที่ พร้อมคิดว่าตัวเองเป็นแมวเรียบร้อย   เพื่อนแมวเหมียวของผมติดอยู่บนนั้น ผมต้องสวมวิญญานแมวปีนไปช่วย!!   เซอร์ไพรส์.. ไอ แอม แคท   อีกหนึ่งภาพของเจ้าเหมียวผู้ทำหน้าตาตื่นตะลึง เมื่อหมาดันคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน   เช่นเคย ภาพของแมวสี่ตัว ไม่มีอะไรแปลกปลอมทั้งสิ้น   ภาพของชาวเน็ตที่บอกว่า…

สมัยเด็กๆ หลายคนคงจะเคยเป็นกันใช่ไหม เวลาที่พ่อแม่พาออกไปเที่ยวสวนสัตว์หรือสถานที่แปลกๆ แล้วเราเกิดติดใจอยากจะอยู่ต่ออีกสักหน่อย แต่พ่อแม่ดันจะพากลับซะแล้ว เราก็เลยดื้อดึงงอแงไม่ยอมกลับ เจ้าตูบตัวนี้ก็เช่นกัน เพราะหลังจากที่มันได้ไปเที่ยวสวนสาธารณะกับเจ้านายสุดที่รักของมัน ที่เมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย มันก็ติดใจมากๆ เพราะมันได้กลายเป็นที่สนใจของผู้คนมากมายในแถบนั้น     แต่พอเจ้านายจะเดินกลับ มันก็ดันไม่ยอมกลับซะอย่างนั้น เจ้านายดึงยังไงก็ไม่ไป งานนี้ผู้คนมากมายก็ให้ความสนใจความน่ารักของทั้งคู่   ผมไม่กลับหรอกกก   ด้านเจ้านายก็เขินเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้กระทำรุนแรงต่อสุนัขของเขาแต่อย่างใด แต่ก็ยื้อกันไปมาระหว่างเจ้าตูบ ประมานว่าถ้าแกไม่ไป ตูจะทิ้งไว้นี้นะเว้ย จากนั้นก็ปล่อยปลอกคอออกแล้วบอกว่า งั้นไปละ บัย… เจ้าตูบก็ดูจะสองจิตสองใจ ไม่อยากโดนทิ้ง แต่ก็อยากอยู่ที่สวนต่อ แต่เจ้านายอันเป็นที่รักรออยู่ ฉะนั้นมันจึงเลือกจะกลับ ทว่าพอเจ้านายเห็นว่าจะกลับละเว้ย เลยเอาปลอกคอใส่กลับเข้าไป   ปิกบ้านเฮากันเต๊อะะะ   เจ้าตูบก็เลยเล่นตัวอีกสักหน่อย ล้มลงไปนอนเลยทีนี้ ซึ่งภาพเหตุการณ์ก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้คนได้ดีเลยทีเดียว จนสุดท้ายเจ้าของก็เริ่มไม่ไหวละ ถอดปลอกคอเจ้าตูบออกอีกรอบพร้อมเดินจากไปไกลขึ้น งานนี้เจ้าตูบเลยโอเคกลับกะได้…   ไม่ไปหรอกกก หนูจะอยู่ที่นี่   สุดท้ายเจ้านายทิ้งไป ก็เลยต้องจำใจตาม   ซึ่งถ้าเราเป็นเจ้าของแล้วเจอเจ้าหมาทำแบบนี้ใส่ ก็คงมีเขินๆ บ้าง…

ถึงแม้ว่าปีที่ผ่านมาจะมีการค้นพบสัตว์สายพันธุ์ใหม่ในประเทศอังกฤษมากมาย ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก น่ารักมากน้อยแตกต่างกันออกไป แต่คราวนี้สิ่งมีชีวิตล่าสุดที่พวกเขาค้นพบอาจจะไม่น่ารักสำหรับใครหลายๆ คน เพราะมันคือ “งู” นั่นเอง!!     นักวิทยาศาสตร์ได้กล่าวว่างูที่ถูกค้นพบนี้อยู่ในวงศ์งูน้ำ (Barred grass snake) ซึ่งเป็นงูที่ถูกพบบ่อยและแพร่หลายในยุโรป และยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก งูน้ำสายพันธุ์นี้มีชื่อภาษาละตินว่า Natrix Helvetica แตกต่างออกไปจากงูน้ำชนิดเดิมในอังกฤษที่รู้จักในชื่อภาษาละติน Natrix natrix     แม้จะคล้ายกันจนหลายคนคิดว่าเป็นชนิดเดียวกัน แต่พวกมันก็แตกต่างกันตรงที่เจ้าสายพันธุ์ใหม่นี้เนี่ย มันจะมีสีเทาเข้ม และตามลำตัวจะมีแถบสีดำคาด แต่งูหญ้าที่พบได้โดยทั่วไปจะมีสีลำตัวเป็นสีเขียวมะกอก และตรงหัวจะเป็นสีเหลือง งูชนิดนี้จะสามารถยาวได้กว่าหนึ่งเมตรเมื่อโตเต็มวัย อาศัยอยู่ใกล้น้ำ ส่วนใหญ่กินอาหารเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น กบ คางคก     ศาสตราจารย์ Uwe Fritz จากสถาบันวิจัย Senckenberg ในประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นผู้นำทีมวิจัยนานาชาติกล่าวถึงการค้นพบครั้งนี้ว่า “เราค้นพบว่างูหญ้าที่เราเจอครั้งนี้มีความแตกต่างและเป็นคนละสปีชีส์กับงูหญ้าที่เราเคยค้นพบ” “ตอนนี้เราจึงต้องให้ความสนใจกับการศึกษาเรื่องสปีชีส์ของงูชนิดนี้เพิ่มขึ้นเพื่อที่จะประเมินว่าพวกมันอาจจะถูกคุกคามอยู่ก็เป็นได้ ” เขากล่าวปิดท้าย      ที่มา ladbible ,bbc

โดยปกติแล้วเหล่าเจ้าเหมียว มักจะได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ไม่แคร์เวิลด์ไม่สนโลกใดๆ ทั้งสิ้นอยู่แล้ว แต่นอกจากจะไม่สนอะไรแล้วบางครั้งพี่แกยังชอบรับบทเป็นเจ้านายอีกด้วย!! ซึ่งออฟฟิศ Catdumb ของพวกเราก็หนีไม่พ้นวิกฤตการณ์แมวเป็นเจ้าเป็นนายนี้เช่นกัน และวันนี้เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ ‘วุ้นจุ่น’ บอสตัวจริงของที่นี่ ลูกพี่แมวที่คอยสอดส่งการทำงานของพวกเรา แต่เสียอยู่อย่างเดียวพี่วุ้นไม่เคยพูดถึงเรื่องเงินเดือนเลยนี่ซิ เฮ้อ!!   ผมวุ้นจุ่นเองฮะ ยินดีที่ได้รู้จัก เดี๋ยววันนี้ผมจะพาทุกคนไปชมการควบคุมทาส เอ้ย!! ลูกน้องของผมเองฮะ   แต่ก่อนไป ขอเติมพลังก่อนนะครับผม ฮ่าๆ   พี่วุ้นแมวหนุ่มอายุ  3 ขวบ พี่ใหญ่ของที่นี่ บ่อยครั้งที่มันชอบมาเดินตรวจดูความเรียบร้อยในรังแมวเหมียว ประดุจดั่งเป็นเจ้านายของพวกเรา นอกจากมาดเข้มของพี่แกแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนต้องยอมสิโรราบต่อพี่วุ้นนั่นก็คือความน่ารักของมันนั่นเอง กิจวัตรประจำวันของพี่แกนั้นก็คือการเดิน กิน นอน และวางแผนกระตุ้นให้เหล่าแก๊งค์แมวเหมียวมีความตั้งใจในการทำงานมากขึ้น   อื่ม… ช่วงนี้จะทำยังไงให้เจ้าพวกนั้นมันตั้งใจทำงานกันดีนะ??   เฮ้อ… คิดแล้วก็ปวดหัว นอนพักก่อนดีกว่า เดี๋ยว!! พี่วุ้นไหนว่าจะพาไปทัวร์ออฟฟิศไง โถ่!!   เอาล่ะ มาถึงเวลาการคุมงานแล้ว… อย่าอู้นะเฟ้ยย เจ้าพนักงาน   แน่ะๆ พิมพ์ไปๆ…

หากคุณไม่ชอบการออกกำลังกาย ไม่เป็นไร วันนี้เรามีวิธีจะทำให้คุณได้เหงื่อออกกันได้ง่ายๆ และเพลิดเพลินไปกับมันนั่นก็คือการเต้นนั่นเอง แต่หากว่าการเต้นมันก็ยังไม่โดนใจคุณอีก ฟาร์มแห่งหนึ่งในแคนาดาก็ได้มีการเต้นออกกำลังกายแบบใหม่มานำเสนอ     สำหรับฟาร์ม 313 ที่ได้คิดการเต้นเบิร์นพลังงานแบบใหม่โดยการให้เต้นไปกับเจ้าอัลปากาที่น่ารัก โดยหลักสูตรนี้มีชื่อว่า AlpacaZone รวมการเต้นฮิปฮอป การคาร์ดิโอ และการออกกำลังกายที่เรียกว่า Pilates เจ้าของฟาร์มแห่งนี้ได้บอกว่าคลาสการเต้นนี้ได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จึงไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดอันตรายอะไร โดยเฉพาะเวลาที่อัลปาก้านั้นกำลังรู้สึกดีกับเท้าของมัน     “คนที่มาที่นี่นั้นต่างก็รู้สึกชอบคลาสนี้ พวกเขาชอบที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าอัลปาก้าเพราะว่าพวกมันเป็นมิตร และมันก็ยังเล่นกับเด็กๆ ได้ดีอีกด้วย” Ann Patman หนึ่งในเจ้าของฟาร์ม ทุกอย่างมันน่าสนุกไปหมดเมื่อเจอกับรอยยิ้มของอัลปาก้าเหล่านั้นเข้าไป     คลาสนี้จะใช้เวลา 45 นาที ต่อด้วยการพักคูลดาวน์ก่อนที่จะชวนกันไปเล่นกับเจ้าสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งพวกมันนั้นดูเหมือนจะชอบคนและแทบจะไม่ต้องเรียกมันมาเลย นั่นก็เพราะว่าที่นี่เคยทำการเก็บขี้พวกมันไปทำปุ๋ยจึงทำให้ชินผู้คน แต่ก็คงต้องระวังกันหน่อยเวลาจะเดินไปไหนมาไหนที่นั่น     โซชิลล์เกิ๊นนน   อย่างไรก็ตามเราก็คงต้องรอหาหนทางในการออกกำลังกายที่จะทำให้เราสนุกไปกับมันได้ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพก่อนหน่อยแล้วแหละ เดี๋ยวจะแพ้เจ้าอัลปาก้ามัน   ที่มา: distractify

เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นที่สถานสงเคราะห์สัตว์ Wisconsin animal หลังจากที่พวกเขาพบเจ้าตุ๊กตาฮิปโปสีม่วงตัวหนึ่งชื่อว่า Fuzzy Purple Hippo นอนแน่นิ่งอยู่ข้าง Hank เจ้าตูบสีน้ำตาลเพื่อนซี้ของมัน เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ในเช้าวันหนึ่งเจ้าหน้าที่ของสถานสงเคาะห์พบเจ้า Fuzzy ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเพื่อมอบความเป็นธรรมให้กับตุ๊กตาฮิปโป พวกเขาจะต้องหาตัวคนร้ายให้ได้!!   Hank กำลังรอคอยความเป็นธรรมสำหรับเพื่อนซี้ของมัน   เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ไม่รอชารีบพาร่างที่ไร้สติ(อยู่แล้ว) ของเจ้า Fuzzy เข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน   พวกเขาพยายามอย่างมาก เพื่อช่วยชีวิตเจ้าตุ๊กตาฮิปโป ผู้น่าสงสาร   และแน่นอนว่า ผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุและพบเจ้าฮิปโปเป็นตัวแรกอย่าง Hank ก็คงจะต้องตกเป็นผู้สงสัยอย่างแน่นอน   หลังจากที่อาการเริ่มดีขึ้น ตุ๊กตาฮิปโปน้อยก็เริ่มให้ปากคำเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่แน่บางทีนักสืบอาจจะได้เบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายก็เป็นได้!!   หลังจากที่ถูกกล่าวหา พี่ Hanke ของเราก็คงจะอยู่เฉยไม่ได้ เจ้าตูบตั้งทีมทนายเพื่อต่อสู้ขอความเป็นธรรม…   และดูเหมือนว่าเพื่อนๆ ของเจ้า Hank เองก็จะไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหาที่ว่าเจ้าตูบเป็นคนร้ายเช่นกัน   หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาจัดการเรื่องนี้ พวกเขาเริ่มตรวจสอบที่เกิดเหตุและหาหลักฐานเพื่อสืบหาตัวคนร้ายที่แท้จริง   และแล้วความจริงก็กระจ่าง เจ้าหน้าที่พบว่า Hank ไม่ใช่คนร้าย แถมมันยังพยายามช่วยเหลือเจ้า…

สำหรับคนที่มีสัตว์เลี้ยงอย่างเจ้าเหมียว คุณคงจะเคยถ่ายภาพคู่กับพวกมันมาบ้างแล้ว ซึ่งภาพที่ได้ก็คงจะเป็นภาพน่ารักๆ ระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงทั่วๆ ไป แต่สำหรับภาพถ่ายของเจ้า Charlie แมวเหมียวสีเทาตากลมโต กับหนุ่มวัย 21 จากยูทาห์ ผู้เป็นเจ้าของ กลับเป็นภาพถ่ายที่ดูไม่ธรรมดา เพราะเมื่อคุณได้เห็นแล้ว อาจจะไม่นึกถึงแค่ภาพภ่ายสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของทั่วๆ ไป แต่มันดูราวกับเป็นภาพถ่ายพรีเวดดิ้งซะมากกว่า ก็ดูสิ…เจ้าเหมียวเล่นจิกกล้องแตกขนาดนี้ ทำราวกับว่ามันเป็นเจ้าสาวยังไงยังงั้นเลยล่ะ ฮร่าๆ     ทางด้าน หนุ่มผู้เป็นเจ้าของ Charlie ได้ออกมาเผยว่า “ผมได้ถ่ายภาพคู่กับเจ้าเหมียวของผม ซึ่งมันก็ให้ความร่วมมือกับการถ่ายภาพในครั้งนี้เป็นอย่างมาก”   เราจะเห็นได้ว่าภาพถ่ายแต่ละภาพเจ้าเหมียวจะอยู่ในอ้อมกอดของเจ้าของอยู่ตลอดเวลา   หรือบางครั้งก็เปลี่ยนเป็นมานั่งบนตัก   และเมื่อเขาได้ดูภาพถ่ายทั้งหมด เขาก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เพราะภาพที่ได้มันดูดีกว่าที่คิดไว้เยอะ “มันเป็นเหมือนภาพถ่ายพรีเวดดิ้งเลย” เขากล่าว   ทั้งคู่มีรอยยิ้มที่เหมือนกัน   จิกกล้องแตกเลยนะเอ็ง   ให้ความร่วมมือดีมาก ดูสินิ่งเชียว   ถือเป็นหนึ่งในภาพถ่ายที่ทำเอาคนดูยิ้มไปตามๆ กัน หากใครที่มีสัตว์เลี้ยงแสนรักอย่างเจ้าเหมียว ก็ลองไปถ่ายภาพคู่กับมันดูสิ บางทีแมวของคุณอาจจะจิกกล้องเว่อร์วังอลังการมากกว่านี้ก็ได้นะ ที่มา : lovemeow

รายการทีวีมักจะมีการถ่ายทอดสดต่างๆ มากมาย อาจจะต้องเจอกับความผิดพลาดในขณะที่ถ่ายทำกันบ้าง แต่เมื่อความผิดพลาดครั้งนี้นั้นมันกลับเกิดขึ้นหนักมาก อย่างในเหตุการณ์นี้… ก็เจ้าบ่าวเล่นทำให้เจ้าสาวงอนจนต้องกลับไปในงานแต่งงานซะงั้น จะไม่ให้โกรธได้อย่างไรเมื่อรายการทีวีที่มีชื่อว่า Don’t Tell The Bride ได้มาถ่ายทำงานแต่งงานที่เจ้าบ่าว Billy Grieves คิดว่าไอเดียที่ยอมทุ่มเงินกว่า 6 แสนบาทในการจ้างหมูจำนวน 50 ตัวมาเซอร์ไพรส์เจ้าสาวในงานแต่งจะเป็นความคิดที่ดีเพราะเธอนั้นมีฉายาว่า “เจ้าหมูน้อย” นั่นมันใช่หรอ     นอกจากพาเหรดของหมูทั้งหลายที่มาพาเจ้าสาวเดินผ่านแขกในงานแล้ว ก็ยังมีไอเดียให้เพื่อนเจ้าสาวสวมใส่ชุดหมูซะอีก เจ้าสาวของงานวัย 23 ปีอย่าง Steph จึงรู้สึกไม่พอใจอย่างมากและได้ออกไปจากงานในทันที ยิ่งไปกว่านั้นแทนที่เขาจะได้ทำลายสถิติโลกด้วยจำนวนพาเหรดหมูที่เยอะที่สุด แต่อย่างว่าสัตว์แต่ละตัวมันก็ต้องมีความคิดเป็นของมันเอง พวกมันจึงตัดสินใจที่จะทำในสิ่งที่มันทำอยู่ตลอด อย่างการนอนเล่นโคลนโดยไม่สนใจอะไรเลย เรียกว่าเละเทะกันไปอีก     การที่เจ้าสาวไม่เข้ามาร่วมงานแต่งงานจนจบนั้นไม่เคยเกิดขึ้นกับรายการนี้มาก่อน ก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วเพราะเธอโกรธเป็นอย่างมาก รวมถึงแม่ของเธอที่ออกมาบอกอีกว่า “หากลูกสาวคนแรกจะแต่งงาน นี่มันคือสิ่งที่ฉันไม่ได้ต้องการเลย” ถึงแม้ว่าการทำลายสถิติของเขาจะพังทลายลงแต่เขาก็พอแก้สถานการณ์ให้มันดีขึ้นมาได้ด้วยประโยคที่บอกว่า “ผมไม่ใช่คนที่พิชิตสถิติโลก แต่ผมเป็นคนที่ได้แต่งงานกับสาวในฝันของผม”     เมื่อเหตุการณ์นี้ได้ถูกปล่อยออกไป หลายคนก็คิดว่าเรื่องนี้มันดูเป็นเรื่องตลก แต่ก็มีบางคนที่คิดว่า Billy นั้นดูน่าเห็นใจในสิ่งที่ไม่ควรทำเอาซะเลย   คนนี้นี่แทบจะให้คู่รักเลิกกันเลยนะ   ถึงแม้จะชอบหมู แต่ก็คงจะไม่อยากไปแต่งงานในฟาร์มของพวกมันหรอก…

สัตว์เลี้ยงที่มีความพิการอาจดูน่าสงสาร หรือในบางครั้งก็อาจทำให้มันดูน่ากลัวไปเลยจนยากที่จะมีผู้ที่อยากรับมันไปคอยดูแล ความรู้สึกเดียวกันนั้นเกิดขึ้นกับเจ้าแมวตัวนี้ แต่มันก็ได้ไปเจอกับครอบครัวที่ดีเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งเอามันไปเลี้ยง มาพบกับเจ้าแมวที่มีชื่อว่า Wesley วัย 4 เดือนกับหน้าตาของมันที่มีความละม้ายคล้ายกับโจรสลัดเป็นอย่างมาก เนื่องจากดวงตาของมันด้านขวาต้องปิดลงอีกทั้งยังมีรอยยิ้มมุมปากโชว์เขี้ยวเล็กๆ ของมันดูเป็นเอกลักษณ์   .   ในตอนแรกนั้นมันถูกพบในลาดจอดรถอยู่อย่างโดดเดี่ยว ก่อนที่จะมีคนพามันมาอยู่ที่สถานรับเลี้ยงรอให้มีใครพามันกลับไป แต่ด้วยหน้าตาของมันนั้นจึงทำให้ทุกคนคิดว่ามันดูไม่น่ารักเอาซะเลย     แต่ตรงกันข้ามกับความคิดของสาวคนหนึ่งที่เมื่อเจอเจ้าลูกแมวตัวนี้ในครั้งแรกก็รีบคว้ามันขึ้นมากอดทันที แต่ความไม่พร้อมที่จะเลี้ยงสัตว์ของเธอในตอนนั้นจึงทำให้ไม่ได้พามันกลับไปแต่อย่างใด สุดท้ายเธอก็ได้กลับมาหามันเมื่อผ่านไปไม่กี่เดือนและตัดสินใจรับเลี้ยงมันในที่สุด เจ้าเหมียวนั้นตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมากเมื่อได้กลับไปถึงบ้านใหม่ของมัน   .   เจ้าแมวชอบที่จะเกาะอยู่บนไหล่แม่มนุษย์ของมันและให้เธอได้พามันไปรอบบ้านเยี่ยงราชา อีกทั้งยังชอบนั่งอยู่ตรงบาร์ในห้องครัวดูเธอทำอาหาร ชอบเล่นที่คาดผมแต่แม่ของมันก็จะบอกว่ามันไม่ควรเอามาเล่น แถมยังชอบนั่งมองนกซึ่งไม่เหมือนกับแมวตัวอื่นๆ และการได้นอนอยู่บนผ้าที่เพิ่งซักก็ทำให้มันรู้สึกผ่อนคลาย     “สิ่งที่เกลียดก็คือเสียงดังหรือถูกอุ้มโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตอีกทั้งยังไม่ชอบเจ้าเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติที่คอยมาตอแย ชอบมาดูดเอาของเล่นของผมไปแล้วก็มากระแทกก้นผมอีกต่างหาก” นี่คือสิ่งที่มันได้พูดเอาไว้ในอินสตาแกรมส่วนตัว เก่งจริงๆ เป็นแมวก็ยังเล่นแอปมือถือได้อีกนะ     ถึงแม้ว่าหลายๆ คนจะคิดว่ามันน่ากลัวแต่แน่นอนว่าแค่ใบหน้าไม่สามารถบอกให้เห็นความน่ารักของมันได้ อย่างไรมันก็ได้กลายเป็นเจ้าเหมียวจอมซุกซนขวัญใจของเธอคนนี้ไปซะแล้ว หากใครชอบอยากติดตามเรื่องราวของเจ้าเหมียวโจรสลัดนี้ก็สามารถตามไปกันได้ที่อินสตาแกรม  wesley_the_pirate_cat ไปนั่งอ่านความเกรียนของเจ้าแมวได้เลยครับ   ที่มา: iizcat

อ่านหัวเรื่องแล้วอ่านจจะฟังดูตลก ตัวประหลาดอะไรกันนี้โลกแห่งความจริงนะ แต่บอกเลยว่ามันคือเรื่องจริง เพราะเด็กหนุ่มคนดังกล่าวถูกสิ่งมีชีวิตไม่ทราบที่ว่าโจมตีเข้าที่เท้าจนมีเลือดอาบ แม้แต่แพทย์ก็ระบุไม่ได้ว่ามันคือตัวอะไร.. Sam Kanizay วัย 16 ปี ต้องเจอกับเหตุการณ์สุดสยอง เมื่อเขาตัดสินใจไปล้างเท้าหลังเล่นฟุตบอลเสร็จ ซึ่งได้เดินไปที่ชายหาด Dendy Street Beach ในเมืองไบรตัน แต่แล้วหลังจากแช่ไปไม่นานเท้าของเขาก็อาบไปด้วยเลือดเต็มไปหมด สร้างความเจ็บปวดและงุนงงสุดๆ     เขาถูกนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลทันที ทางทีมแพทย์ก็ระบุไม่ได้ว่าเขาเจอเข้ากับอะไร แต่ที่รู้คือชิ้นเนื้อบริเวณเท้าของเขาได้หายไปบางส่วน งานนี้ด้านคุณพ่อของเขาจึงจัดการรับบทนักสืบที่ต้องออกตามหาความจริง Jarrod ผู้เป็นพ่อได้กลับไปที่หาดเดิมอีกครั้งในตอนกลางคืน ซึ่งเขาเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตดังกล่าวจะต้องยังอยู่แน่นอน และมันจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชายของเขา     สิ่งที่เขาเจอมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตตัวเดียว แต่เป็นฝูงแมลงประหลาดจำนวนมากอยุ่ในน้ำเต็มไปหมด ทีนี้พอเขาลองเอาก้อนเนื้อโยนลงไปดู เจ้าสิ่งมีชีวิตพวกนี้มันก็กัดกินเลือดจากเนื้อจนหมด จากเนื้อสีแดงกลายเป็นสีขาวๆ ได้ในเวลาไม่นาน     งานนี้เล่นเอาทุกคนตกใจกันหมดกับสิ่งมีชีวิตดังกล่าว แม้แต่ทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลก็ยังงงกันหมด ด้าน Michael Brown เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลบอก พวกมันอาจจะเป็นตัวอ่อนของแมงกระพรุนก็เป็นได้ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ฟันธงแต่อย่างใด เพราะเขาบอกว่าเขาทำงานมา 20 ปี ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน     ด้านเด็กหนุมได้เล่าว่าตอนแรก เขาคิดว่าความรู้สึกแปลกๆ ที่เท้าของเขาอาจจะมาจากความเหนื่อยล้าหลังเล่นบอล ทว่าสัญชาตญานบอกให้เข้าขึ้นจากน้ำทันที และสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเลือดที่เต็มไปหมดนั่งเอง…

น้องเหมียวนั้นมีอยู่มากมายหลายสายพันธุ์โดยจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไปทำให้ดูโดดเด่นและสามารถแยกออกได้ โดยในวันนี้จะพาให้ทุกคนได้มาทำความรู้จักกับ Selkirk Rex หนึ่งในสายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์อันดึงดูด เจ้าเหมียวพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดที่ประเทศอเมริกาในปี 1987 โดยถูกพบตอนที่คลอดออกมาจากการสืบพันธุ์ของแมวเปอร์เซียทำให้เกิดเป็นดีเอ็นเอที่มีเอกลักษณ์ดึงดูดไปอีกแบบ   .   จากที่รู้กันอยู่ว่ามันเป็นมีความเป็นเปอร์เซียแต่ความเจ๋งของต้นกำเนิดของมันอย่างหนึ่งก็คือชื่อสายพันธุ์นั้นเกิดจากการที่คนค้นพบต้องการจะใช้ชื่อพ่อบุญธรรมมาตั้งให้กับชื่อสายพันธ์ุ จนกลายเป็นแมวเพียงสายพันธุ์เดียวที่มีที่มามาจากชื่อของคน โดยเอกลักษณ์ที่ทำให้มันถูกค้นพบว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่นั้นก็คือ ร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยขนฟูสั้นบ้างยาวบ้างไม่เท่ากัน และสีของมันนั้นก็จะมีความหลากหลายพอๆ กับความหลากหลายของความยาวขนเลยทีเดียว   .   นอกจากนั้นขนมันก็ยังจะหยิกหยอยตามธรรมชาติอีกต่างหาก แล้วก็ยังจะหยิกตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกตัวจะเกิดมาแล้วขนหยิกงอเลยเหมือนกัน เพราะบางตัวอาจจะมาหยิกเอาตอนที่กำลังก้าวข้ามช่วงวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่ อีกทั้งด้วยผิวของมันที่มีลักษณะมันง่าย มันจึงต้องการการอาบน้ำและแปลงขนเพื่อให้ได้ดูรู้สึกสดชื่นอยู่ตลอด จนบางคนจะสามารถจดจำมันในฐานะ เป็นแมวที่สวมใส่ขนแกะอยู่ จะเลี้ยงก็คงต้องดูแลกันให้ดีๆ หน่อยละนะครับ   .   นิสัยของมันนั้นตรงข้ามกับแมวเปอร์เซียโดยสิ้นเชิงเพราะมันจะไม่ได้มานอนมุดอยู่บนตักของเราเหมือนทั่วๆ ไป แต่มันจะมีความกระตือรือร้นที่สูงมาก น่ารักขี้เล่นมากมายเลยทีเดียว เรียกว่าวิ่งไปทั่วบ้านได้เลย     หากใครชื่นชอบสนใจอยากจะเลี้ยงเจ้าสายพันธุ์นี้ ก็จงเตรียมใจไว้ให้กับการดูแลขนมันที่ยากเอาซะหน่อย แต่รับรองว่าด้วยความรักสนุกของมัน จะต้องทำให้คุณจดจำได้แต่ความน่ารักน่าฟัดน่ากอดของมันแน่นอน   ที่มา: iheartcats

เจ้าเหมียวสัตว์เลี้ยงในดวงใจของใครหลายคนนั้น คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของความน่ารักน่าชังน่าเอ็นดูน่ากอดน่าฟัดมากมายเกินคำบรรยาย สิ่งที่ทำให้เราเป็นได้ขนาดนั้นมันเกิดขึ้นจากอะไรกันเนี่ย เราลองมาดูภาพที่มาของสิ่งที่ทำให้มันเป็นสัตว์เลี้ยงที่สุดยอดที่สุดกัน   พ่อครับหนูทำอะไรผิด มองแล้วคิดว่าเป็นกระต่ายเลย   เต้นได้อย่างสนุกสนานโดยไม่แคร์สายตาประชาชน   ดูแลเอาใจใส่เพื่อนซะด้วย หนาวมั้ยเกลอ   ความสามารถในการหาของชั้นเลิศ แม้แต่กระเป๋าตังที่หายไปของคุณ   ไม่มีทางที่จะรู้เลยจริงๆ ว่าใครแอบกินวิปครีมที่วางเอาไว้   มันอาจแอบเขียนนิยายเอาไว้โดยที่คุณไม่รู้ตัว มีทักษะในการกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมที่สูงมาก ดูไม่ออกเลยจริงๆ   พร้อมจะไปกับคุณในทุกๆ ที่   แถมยังคอยเฝ้าระวังจับตามองดูอยู่ตลอดเวลา   ใครกันที่บอกว่าแมวกับสุนัขไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้   ไม่สนว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร ขอให้มันนุ่มนิ่มก็สามารถนอนได้แล้ว   ดูแลเด็กน้อยได้ดีอย่างกับพี่เลี้ยงมืออาชีพ   คอยดูแลดอกไม้ภายในบ้านให้อีกด้วยนะ   สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด มันก็เป็นสัตว์ที่ทำให้คุณยิ้มได้อยู่เสมอ   เป็นไงกันบ้างคงพอเห็นภาพกันแล้วสินะว่าทำไมภาพของเจ้าเหมียวนี้มันถึงได้ติดตราตรึงใจของใครมากมาย ก็เล่นทำพฤติกรรมน่ารักน่าเอ็นดูซะขนาดนี้ แล้วใครเล่าจะไปอดใจไหว   ที่มา: brightside

บางคนอาจมีเพื่อนสมัยเด็กกันบ้างที่แบบไปไหนมาไหนด้วยกันเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กสัญญาว่าโตขึ้นแล้วจะแต่งงานกัน แล้วก็มีคนนึงต้องย้ายบ้านโตขึ้นได้กลับมาเจอกันแล้วก็รักกันแฮปปี้เอ็นดิ้งเป็นละครเรื่องหนึ่ง ถึงแม้ว่าช่วงหลังจะเริ่มไม่เกี่ยวแต่เพื่อนสมัยเด็กของคุณเป็นแมวบ้านที่ใหญ่ที่สุดในโลกเหมือนอย่างเด็กน้อยคนนี้หรือเปล่าละ     มาพบกับเจ้า Ludo แมวเมนคูนที่ใหญ่ที่สุดในโลกอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ ที่ได้เติบโตมาพร้อมกับเด็กน้อยน่ารักซึ่งเปรียบเสมือนน้องชายของมันเลยทีเดียว เรียกได้ว่ายุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมกันเลย     แน่นอนว่าความไม่ธรรมดาของเจ้าเหมียวก็คือความที่ตัวมันใหญ่มากนี่เอง ซึ่งกินเนสบุ๊คได้บันทึกเอาไว้ว่ามันเป็นแมวบ้านที่มีขนาดตัวยาวที่สุด ซึ่งยาวถึง 118.33 เซนติเมตร โดยที่เจ้าเหมียวนั้นก็ยังสามารถโตได้อีกเรื่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีเพื่อนมนุษย์ที่โตด้วยกันมาตั้งแต่เด็กอย่าง Cameron ที่มันคอยดูแลอยู่เคียงข้างกันไม่ห่าง เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่อาจแยกจากกันได้เลยทีเดียว   .   ด้วยความที่โตมาด้วยกันจนถึงตอนนี้ ทำให้เกิดความรักความห่วงใยที่มีให้กันอย่างมาก นอกจากนั้นมันก็ยังคงแบ่งความรักให้กับแมวอีกสองตัวในบ้านเช่นเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าอีกสองตัวนั้นมันมีขนาดตัวปกติไม่ได้ใหญ่เหมือนเจ้านี่หรอก     เจ้าตัวเล็กนั่นชื่อ Arwen แต่จริงๆ มันก็ขนาดปกตินะ แต่ว่าเจ้า Ludo เนี่ยสิ…   ตัวสีขาวมีชื่อว่า Krum สายพันธุ์เดียวกัน แต่ขนาดนี่คนละเรื่อง .   ไม่ว่าจะสิ่งใดก็ตามหากว่าเราได้ใช้เวลาอยู่กับสิ่งนั้นมากๆ เข้า ก็คงจะหนีไม่พ้นสิ่งที่เรียกว่าความผูกพันได้เลย   ที่มา: lovemeow

การที่เรามีสัตว์เลี้ยงกันบ้างสักตัวสองตัวคงจะเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่ใครก็สามารถมีได้ แต่ถ้าหากว่าเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของราชาเพลงป็อปชื่อดังก้องโลกอย่าง Michael Jackson กันบ้างล่ะ มันจะใช้ชีวิตยังไงนะ? บางคนอาจเคยเห็นภาพนักร้องชื่อดังคนนี้อุ้มลิงชิมแปนซีกันมาบ้างแล้ว นั่นก็คือเจ้า Bubbles สัตว์เลี้ยงของเขาที่จะอยู่ข้างกาย แต่งตัวคู่กัน หรือให้แต่งชุดนอนหลับอยู่ข้างเตียงของเขาเอง     โดยในปี 1987 เจ้าลิงตัวนี้ก็ได้รับบทหนึ่งในวิดีโอของเจ้านายมันเอง จึงทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันได้กลายเป็นลิงชิมแปนซีทีมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก จนเมื่อปีถัดจากนั้นมามันก็ต้องได้พบกับเรื่องที่น่าเศร้า เมื่อไมเคิลได้ย้ายบ้านไปและทิ้งให้มันต้องอยู่กับชายหนุ่มที่มีชื่อว่า Bob Dunn แทน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก     จากวันนั้นก็ทำให้มันได้หายไปจากหน้าสื่อต่างๆ แถมมันจะไปเจอเจ้าของของมันได้ก็ต่อเมื่อเขาถามหามันเท่านั้นและจะได้เจอกันน้อยมากด้วยความที่ว่ามันอาจเป็นอันตรายกับลูกของไมเคิลในตอนนั้น นั่นทำให้หลายคนคิดว่ามันตายไปแล้วซะอีก ท้ายที่สุด ไมเคิลก็ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการทีวีในปี 2003 ว่าจำเป็นที่จะต้องขับไล่เจ้าลิงออกไปจากชีวิต ด้วยเหตุผลที่ว่ามันมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวจนเกินไป     อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมันก็มีอายุถึง 34 ปี สีขนเริ่มกลายเป็นสีเทาแล้ว โดยอาศัยอยู่ที่เขตสัตว์ป่าสงวนในฟลอริดา ภายใต้การดูแลของคุณ Patti Ragan  เธอคนนี้คือคนที่ได้รับช่วงต่อการดูแลเจ้าลิงมาจากคุณ Bob และได้ทำให้มันสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขในบ้านใหม่หลังนี้ อีกทั้งเธอจะไม่ให้มันได้เห็นรูปของไมเคิลเลย ด้วยเหตุที่กล้วว่ามันจะรู้สึกเสียใจ     นอกจากนั้นยังเสริมอีกว่า ในช่วงที่ไมเคิลยังคงมีชีวิตอยู่ เขาไม่เคยยอมเสียเงินเพื่อเป็นค่าเลี้ยงดูให้กับมันเลยสักนิดเดียว จนเมื่อได้เสียชีวิตลงถึงได้มีมรดกมาจ่ายค่าบำรุงรักษารายปีมาให้บ้าง…

คงมีคนไม่กี่คนหรอกนะที่จะสามารถพยายามเปิดประตูในตอนที่เจ้าของรถเขาก็นั่งอยู่ในนั้น แต่มันกลับไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจ้าตัวนี้ที่จะเป็นคนมันก็ยังไม่ใช่เลย เพราะมันเป็นหมีต่างหาก เมื่อได้มีผู้ถ่ายคลิปวิดีโอความพยายามในการเปิดประตูของเจ้าหมีสีน้ำตาลตัวหนึ่ง ในขณะที่รถคันนั้นมีคู่สามีภรรยานั่งอยู่ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในแคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา   .   มันพยายามอยู่อย่างนั้นและได้ยืนสองขาเพื่อช่วยในการเอื้อมถึง ในขณะที่คนถ่ายก็ยังคงรอดูอยู่ไม่ไกลว่าเจ้าหมีจะประสบความสำเร็จหรือไม่ จนเมื่อมันดันเปิดประตูได้ขึ้นมาก็ถึงกับต้องตกใจกันเป็นอย่างมาก ทำซะเหวอกันไปเลยทีเดียว คนถ่ายและเพื่อนของเขาจึงตะโกนบอกคนในรถไม่ให้ออกมา เพราะไม่อาจรู้เลยว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง…     คลิปวิดีโอที่ทำให้เห็นว่า ‘ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น’   จนกระทั่งเพื่อนของเขาได้ผิวปากดึงความสนใจของเจ้าหมีและนั่นก็ได้ผล ทำให้มันเดินห่างจากประตูมาสักพัก และนั่นก็เป็นโอกาสให้รถคันนั้นได้ขับหนีออกไป ด้วยความหัวไวของวัยรุ่นทั้งสองที่ได้ถ่ายคลิปนี้ก่อนจะไปพวกเขาก็ยังคงบีบแตรเพื่อทำให้มันกลัว และไล่กลับเข้าป่าไป เพราะว่าท้ายคลิปก็จะเห็นว่ายังมีมอเตอร์ไซค์จอดรอที่จะผ่านไปอย่างระมัดระวัง     ถ้าเป็นอย่างนี้เวลาหนีสัตว์ป่าวิ่งมาเข้ารถ ก็คงจะช่วยไม่ได้แล้วนะครับ เพราะมันจะไม่ทุบกระจก แต่จะเปิดประตูเข้ามาเองได้อย่างชิลล์ๆ เลย!! ที่มา: dailymail

กลายเป็นเรื่องตลกโปกฮาเมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งได้โพสต์ภาพน้องแมวทำหน้าหงิกใส่ เพราะออกไปเที่ยวแล้วไม่พามันไปด้วย   หน้ามันก็จะหงิกแบบนี้แหละ งอนใหญ่เลย   บัญชีทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า Dubscribe โพสต์ภาพน้องแมวทำหน้าหงิกพร้อมแคปชั่นว่า “ฉันไปโตเกียวมา แต่พอกลับเข้ามาในบ้าน ทันทีที่เจอหน้าน้องแมว มันก็ทำหน้าแบบนี้ใส่… เก๊าขอโทษ” ต่อมาทราบว่าแมวตัวนี้ชื่อเนียนชู จากประเทศญี่ปุ่น ปกติมันจะชอบทำหน้าหงิกอยู่แล้ว ยิ่งพอมาเจอเจ้าของที่ทิ้งให้อยู่บ้านตัวเดียว งอนใหญ่เลยทีนี้     ไม่ต้องมีเสียบ่นใดๆ ดูจากหน้าก็รู้ว่ามันงอนมากแค่ไหน ทำเอาเจ้าของรู้สึกผิดจนต้องขอโทษแล้วขอโทษอีก แหม่ งานนี้ไม่รู้นางจะหายงอนหรือเปล่านะ     หลังจากภาพเนียนชูถูกโพสต์ในทวิตเตอร์ ปรากฏว่ามันกลายเป็นที่ถูกอีกถูกใจผู้จำนวนมาก ทำให้ภาพของมันถูกรีทวิตไปกว่า 36,000 ครั้ง และกดไลค์อีก 72,000 ไลค์เลยแหนะ อะ ไหนๆ ก็ชอบทำหน้าหงิกแล้ว เจ้าของก็เลยสร้างบัญชีอินสตาแกรมให้ เพื่อให้ผู้คนได้ชื่นชมความน่ารักแบบหงิกๆ ของมัน     เพื่อนที่อยากสมัครเป็นแฟนคลับ คอยติดตามน้องเหมียวหน้าหงิกตัวนี้ ตามไปฟอลโลว์ได้ที่อินสตาแกรม nyanchu0610 นะคะ     งอนอะไรอีกละน้อออ . . . . ที่มา twitter l instagram

น้องหมาและน้องแมว อาจจะเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกันสักเท่าไหร่ พวกมันมักจะขู่และทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง จนบางทีก็ทำเอาเจ้าของถึงกับปวดหัวกันเลยทีเดียว แต่ภาพที่คุณจะเห็นต่อไปนี้อาจจะทำให้คุณต้องมองพวกมันทั้งคู่ใหม่ซะแล้ว เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้ทั้งสองจะยอมสงบศึกและกลายเป็นเพื่อนซี้กันแล้วล่ะ… โดยไม่นานมานี้ได้เกิดโมเม้นต์น่ารักๆ ขึ้นบนโลกออนไลน์อีกครั้ง เมื่อชาวเน็ตพร้อมใจกันโพสต์ภาพของเจ้าเหมียวที่แอบใช้แผ่นหลังและลำตัวของคู่กัดอย่างเจ้าตูบเป็นที่พักผ่อน งานนี้ทำเอาหลายๆ คนถึงกับฮากันเลยทีเดียว ส่วนมิตรภาพครั้งใหม่นี้จะน่ารักแค่ไหนนั้นไปชมกันได้เลย…     สงบศึกกันก่อนนะพี่หมา   ตื่นมาค่อยสู้กันใหม่ ฮ่าๆ   แหม่… นอนท่าเดียวกันเลยนะ   หลับปุ๋ยทั้งคู่เลย…   เฮ้ๆ นอนได้นะแต่อย่าข่วน ขอร้อง!!   หันหัวให้มันถูกทางสิเจ้าเหมียว!!   เอื่อ… หายใจไม่ออกเจ้าเหมียว   ขอยืมแขนหน่อยนะฮะ คุณลุง   ที่ที่อันตรายที่สุด คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด   zZ zZ zZ   นอกจากจะเป็นที่นอนแล้ว ยังเป็นที่เล่นได้อีกด้วยนะฮะ   เห็นไหม บอกแล้วว่าพวกเรารักกันจะตาย จริงมั้ยเจ้าเหมียว??   ฮื่ม!! พอไม่ว่าอะไรก็พาเพื่อนมาด้วยเลยสินะ เจ้าเหมียว   ดูจากท่านอน…

บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นเหล่าผู้คนที่ชอบขโมยซีนผู้สื่อข่าวภาคสนามอยู่บ่อยๆ และดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่คนเท่านั้นที่ชอบออกกล้องยังมีเหล่าสัตว์ต่างๆ อีกเช่นกัน อย่างเจ้าเหมียวที่ขโมยซีนของท่านนายกเทศมนตรีมาแล้ว (อ่านข่าวเก่า เจ้าเหมียวจอมแย่งซีน เดินเข้ามาจิบกาแฟของนายกเทศมนตรี ระหว่างให้สัมภาษณ์สด!!) และล่าสุดก็มีดาราใหม่ที่แจ้งเกิดจากการรายงานข่าวสดนี้มาอีกราย เมื่อเจ้านกตัวหนึ่งได้โผล่หน้ามาทักทายนักข่าวถึงหน้ากล้อง งานนี้ทำเอาทั้งทางห้องส่งและผู้ประกาศข่าวถึงกับฮากันเลยทีเดียว     ในระหว่างที่คุณ Tara Jean Stevens นักข่าวพยากรณ์อากาศของรายการข่าว Breakfast Television Vancouver กำลังรายงานความเคลื่อนไหวของสภาพอากาศอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาที่กล้อง เจ้านกนางนวลสีขาว ก็คงจะรู้อยู่แก่ใจว่ามันกำลังบังกล้องอยู่ แต่กระนั้นพี่แกก็ทำเป็นไม่สนใจและทำกิจกรรมของตัวเองไปแบบไม่แคร์เลย ฮร่าาาา   ไปความฮาของเจ้านกตัวนี้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย…   นักข่าวสาวไม่ยอมให้การปรากฏตัวของเจ้านกต้องมากวนใจเธอ “ฉันจะไม่ยอมให้เจ้านกทำให้ฉันเสียสมาธิหรอก” นักข่าวสาวกล่าวกับคุณ Stevens เพื่อนรวมงานของเธอ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถเอาชนะมันได้ คุณ Tara ต้องรายงานข่าวพร้อมกับรอยยิ้มของเธอ และดูเหมือนว่าเจ้านกจะชอบออกทีวีเอามากๆ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มันก็ได้ออกมาปรากฏตัวต่อหน้าแฟนๆ ในช่วงข่าวพยากรณ์อากาศอีกครั้ง แถมคราวนี้ยังสยายปีกและไม่สนกล้องอีกเช่นเคย   การกลับมาอีกครั้งของเจ้านก   ถึงแม้การออกมาของนกนางนวลตัวนี้จะบดบังวิวด้านนอก แต่มันก็ช่วยทำให้รายการดูมีสีสันมากยิ่งขึ้น คุณ Tara บอกว่าการได้พบกับมันนั้นเป็นสิ่งที่โชคดีจริงๆ “มันเป็นช่วงเวลาดีๆ ในอาชีพนักข่าวของฉันเลยทีเดียว” หญิงสาวกล่าว     โถ่… พี่นก แบบนี้สินะที่เรียกว่าไม่แคร์สื่อ ฮ่าๆ…

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าในบรรดาสัตว์โลกทั้งหลาย ‘แม่ไก่’ เป็นสัตว์ที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เหนือสิ่งอื่นใด เพราะพวกมันเลี้ยงลูกสัตว์ได้ทุกชนิด จะยกเว้นก็แต่… ลูกเจี๊ยบล่ะมั้ง และทั้งหมดนี้เป็นภาพจากชาวเน็ตจากเว็บไซต์ Boredpanda ที่รวบรวมข้อพิสูจน์ความเป็นแม่ของไก่ ที่คอยประคบประหงมลูกสัตว์ตัวน้อยๆ ตัวอื่น แต่ไหงเว้นลูกเจี๊ยบของตัวเองซะได้ เอาเป็นว่าเราลองไปชมวีรกรรมแม่ไก่ที่อยากจะยกระดับ กลายมาเป็นแม่แห่งสรรพสัตว์ทั้งปวงกันเลยดีกว่า (มันเลี้ยงได้ทุกอย่างจริงๆ นะเออ)   แม่ไก่และมิ้วน้อย   นกอื่นพวกมันก็เลี้ยงนะ อย่างเช่นลูกนกพิราบ   ลูกหมาก็เลี้ยงเป็นเหมือนกัน   แม่เป็นไก่ แต่ลูกเป็นหมู โอ้วว..!! แบบนี้ต้องขอหวยแล้ว   นี่ก็แอ๊ดว๊านซ์ขึ้นไปอีก…   บางทีมาอยู่กับฝูงลูกนกกระจอกเทศ แม่ไก่ก็ดูเท่ไปเลย   ใครว่าเป็ดกับไก่ไม่ถูกกัน จริงๆ แล้วรักกันจะตาย   ถ้าแมวชอบการเลีย แม่ไก่ก็เลียได้เหมือนกันนาจาาา   เอิ่มมม… นี่เอ็งเลี้ยงหรือกำลังจะฆาตกรรมฟร๊ะ!?   โถ่วว เจ้าแพะน้อย ไม่ใช่แค่แม่ไก่นะ.. พ่อไก่ก็เลี้ยงลูกเป็นเหมือนกัน   แม้ยามดึกดื่นอันหนาวเหน็บ แม่ก็พร้อมจะปกป้องลูกเสมอ   เล่นกับลูกเป็ดก็ได้นะ   ส่วนนี่ก็……

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2017 เกิดเหตุป่าขึ้นที่รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา จนเกือบจะทำให้เจ้าเหมียวจรจัดกว่า 18 ตัวเอาชีวิตไม่รอด แต่อย่างน้อยพวกมันก็ยังโชคดี ที่ได้รับการช่วยเหลือจากหญิงรายหนึ่งที่ได้เข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเธอก็ได้พบกับบรรดาแมวเหมียวที่ถูกกักขังเอาไว้ และนั่นก็ทำให้เธอได้นำตัวพวกมันไปยัง TinyKittens องค์กรช่วยเหลือสัตว์ใน Langley รัฐบริติชโคลัมเบีย     ภายหลังจากที่ถูกย้ายไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย ทางเจ้าหน้าที่จากองค์กรช่วยเหลือสัตว์ก็ได้สังเกตเห็นว่า มีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งแสดงสัญชาตญาณความเป็นพ่อต่อบรรดาลูกแมวน้อยตัวอื่นๆ ออกมา และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวน่ารักๆ จนทำให้ทุกคนเห็นแล้วยิ้มตามไปด้วย     “Elliott เป็นหนึ่งในแมวจรจัดที่อพยพมาจากเหตุการณ์ไฟป่า เราไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน และมันทำให้เรารู้สึกประหลาดใจจริงๆ เพราะมันเป็นเรื่องที่ผิดปกติมากสำหรับเจ้าเหมียวจรจัดตัวหนึ่ง ที่โตมาในสภาวะแวดล้อมตามธรรมชาติ แต่มันกลับแสดงความรัก และพร้อมที่จะดูแลลูกแมวตัวน้อยเหล่านี้” เจ้าหน้าที่กล่าว     Elliott อ่อนโยนต่อลูกแมวน้อยเป็นอย่างมาก เห็นภาพของพวกมันแล้วทำให้หัวใจอบอุ่นเหลือเกิน   บรรดาลูกแมวน้อยกำพร้าที่ไม่มีแม่ ตอนนี้ได้ Elliott เข้ามาดูแลแล้ว ดูสิ…กอดกันกลมเชียว   เจ้าเหมียวน้อยได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และถ้าหากพวกมันแข็งแรง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะให้พวกมันได้เข้าไปอยู่ในความดูแลของคนใจดีที่พร้อมจะมารับไปเลี้ยง ขอให้วันข้างหน้าพวกมันได้พบกับผู้ใหญ่ใจดี และได้อยู่ในบ้านที่แสนอบอุ่น ชีวิตน้อยๆ ของพวกมันจะได้ไม่ต้องทนอยู่ในสภาพสัตว์ไร้เจ้าของอีกต่อไป…

หลายคนอาจจะยืนยันอย่างมั่นใจว่ายังไงก็จะไม่เอาสัตว์มาเลี้ยงเด็ดขาด แต่รู้มั้ยที่ผ่านมาคนที่พูดแบบนี้ได้เสียท่าให้น้องหมาน้องแมวมานักต่อนักแล้วนะ อย่างเจ้ามิ้วน้อยตัวนี้ที่โผล่มาจากสวนหลังบ้าน จากนั้นก็มาร้องเมี๊ยวๆ ก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งบนตักเจ้าของบ้าน เป็นคุณจะรับเลี้ยงมั้ยล่าาา หื้ม     เมื่อ 2 วันก่อน Fizz นั่งอยู่ที่หลังบ้านกับลูกชาย สักพักก็ได้ยินร้องเมี๊ยวดังมาจากพุ่มไม้ใกล้ๆ แต่ยังไม่ทันร้องเมี๊ยวตอบ เจ้าเหมียวก็เดินออกมาจากพุ่มไม้นั้น แม้จะเจอมนุษย์ครั้งแรก แต่มิ้วน้อยไม่หวั่นกลัว มันเดินเข้าหา Fizz อย่างไม่ลังเล ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนตักของเขาเพื่อออดอ้อนตามสเต็ป     ตอนนั้นทางครอบครัวพยายามเดินดูรอบๆ เพื่อตามหาแม่ของมันแต่ก็ไม่เจอ ก็เลยคิดว่าแม่แมวคงจะออกไปหาอาหารให้ลูกน้อยแน่ๆ ทุกคนจึงนั่งรอเป็นเพื่อน โดยหวังว่าแม่ของมาจะกลับมารับ พวกเขารอจนกระทั่งฟ้ามืด ก็ไม่มีวี่แววของแม่แมว ทางด้านภรรยาคิดว่าไม่ควรปล่อยให้ลูกแมวน้อยอยู่ข้างนอกเพียงลำพังในค่ำคืนนี้     แต่ฝ่ายสามีคิดว่าถ้าเอามันเข้าไปอยู่ในบ้าน แล้วแม่แมวกลับมา พวกมันอาจจะคลาดกันได้ ดังนั้นคืนนั้นเขาจึงตัดสินใจทิ้งน้องเหมียวไว้ข้างนอก จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น เมื่อเปิดประตูออกไป ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นเจ้ามิ้วน้อยยังนั่งรออยู่ที่เดิม นั่นหมายความว่าแม่แมวไม่ได้กลับมาหามันเลย ตอนนั้นเองที่ Fizz คิดได้ว่าเจ้ามิ้วคงจะหลงทางมา พวกเขาจึงเสนอบ้านตัวเองนี่แหละให้เป็นบ้านใหม่ของมัน และพร้อมจะดูแลมันเป็นอย่างดี     หลังจากนี้พวกเขาก็ได้พาแมวน้อยไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ ก่อนจะอาบน้ำ ทำความสะอาด และให้การดูแลขั้นพื้นฐานตามความจำเป็น ก่อนจะพากลับบ้าน เมื่อ Fizz พามิ้วน้อยเข้าบ้าน ภรรยาและลูกๆ…

สำหรับเจ้าแมวเหมียวทั้งหลายแล้ว เมื่อพวกมันปล่อยให้ตัวเองขนยายเฟื้อย แน่นอนว่าพวกมันจะเปลี่ยนสภาพตัวเองกลายเป็นไม้ถูพื้นให้เราในทันที   แรกเริ่มเจ้า Pixel เข้ามาในบ้านหลังนี้ฐานะลูกแมว แต่เอาไปเอามามันกลายเป็นเจ้าพญาแมวไปซะแล้ว   ขนของมันยาวซะจนทาสมนุษย์ไม่มีวันรู้เลยว่า เมื่อไหร่มันจะหยุดยาว…   “ถึงขนมันจะยาวรุงรัง บางทีก็ร่วงเต็มบ้าน แต่มันก็น่ารักที่สุดแล้ว” เจ้าของกล่าว   หนึ่งในความสามารถพิเศษของมันก็คือ การเดินเข้ามานอนขวางหน้าคอมพิวเตอร์ตอนที่ทาสมนุษย์กำลังทำงาน   ส่วนกิจวัตรของมันวันๆ ก็ไม่ค่อยทำอะไร นอกจากนั่งเล่นอยู่เฉยๆ ไปวันๆ   ดูสิแกร.. เจ้ามิ้วนั่งบิดท่าเหมือนอ่อยสาว   แม้ว่าตอนนอนเจ้าเหมียวก็ยังดูน่ารัก   หันมุมข้างมาก็ยังน่ารักได้อีก   โอ๊ยยยอะไรจะน่ารักขนาดนั้น ที่มา: Lovemeow

เจ้าเหมียวตัวน้อยคงเป็นขวัญใจอันดับหนึ่งของใครหลายคน กับการเป็นสัตว์เลี้ยงที่ขี้อ้อนบวกกับการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ของพวกมัน ชวนให้น่าฟัดน่ากอดได้มากเลยทีเดียว และครั้งนี้เราจะมาชมภาพสาวๆ ที่คอยเลี้ยงเจ้าแมวแต่ละตัว ผ่านเลนส์กล้องกัน     ภาพความอบอุ่นประทับใจจากฝีมือของช่างภาพสาวในนิวยอร์กนามว่า Brianne Wills ที่ได้เริ่มโปรเจกต์นี้เมื่อสองปีก่อน โดยใช้อินสตาแกรมเป็นตัวกลางในการแสดงงานของเธอในตอนเริ่มต้น     ทั้งหมดนี้จะมีการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในภาพ และทำให้เห็นมุมมองอันสวยงามหลายๆ ด้านของผู้หญิงที่เลี้ยงแมวทั้งหลาย ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมดแล้วนั้นชุดนี้ใช้นางแบบและเจ้าเหมียวกว่า 180 ชีวิตเลยทีเดียว     เรื่องราวนั้นจะถูกนำเสนอเกี่ยวกับการพบกันครั้งแรก การใช้ชีวิตร่วมกัน และความประทับใจต่างๆ ที่เกิดขึ้นผ่านการเล่าของตัวเจ้าของแมวเอง   .   จะเก๋ไก๋ต้องใส่หมวกซะหน่อย . . . . .   แม่ ลูก เหมียว .   นี่เป็นเพียงแค่ส่วนเล็กจากภาพถ่ายทั้งหมดของเธอ หากใครสนใจอยากไปดูภาพที่เหลือทั้งหมดและได้ไปอ่านเรื่องราวของแต่ละคู่ละก็ ตามกันไปได้ที่อินสตาแกรม girlsandtheircats หรือเว็บไซต์ girlsandtheircats ได้เลย   ที่มา: boredpanda

ถ้าหาใครที่ชอบดูรายการตลก อาจจะคุ้นเคยกับมุกจู๋เล็กกันเป็นอย่างดี อย่างเช่นใครที่มือเล็กจู๋จะใหญ่ หรือคนที่เสียงดังจู๋จะเล็ก เป็นต้น แต่ไม่น่าเชื่อว่ามุกฮาๆ ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ นี้จะเป็นความจริง!! เมื่อไม่นานมานี้ได้การศึกษาที่น่าสนใจชิ้นหนึ่ง ได้เผยว่าลิงที่มีเสียงดังนั้นจะมีลูกอัณฑะที่เล็กกว่าลิงที่เสียงเบา แต่น่าเสียดายที่เหล่าลิงตัวเมียนั้นไม่ได้ชื่นชอบลิงที่ไข่ใหญ่นี่นะสิ ฮ่าๆ     โดยธรรมชาติแล้ว พวกลิงจะใช้เสียงร้องและพละกำลังของพวกมันในการหาคู่ และสร้างความสนใจเพื่อดึงดูดลิงเพศเมีย ยิ่งตัวไหนที่มีพละกำลังมากและส่งเสียงดังมากเท่าไหร่ก็ยังมีสาวๆ มาตอมมากเท่านั้น แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าความเนื้อหอมนี้ อาจจะต้องแลกมาด้วยขนาดของลูกอัณฑะที่เล็กลงไป เมื่อไม่นานมานี้ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cambridge ได้ค้นพบถึงความสัมพันธ์ในทางตรงกันข้ามระหว่างขนาดของลูกอัณฑะ และขนาดของกระดูก hyoid ที่เกี่ยวข้องกับขนาดของกล่องเสียง     คุณ Leslie Knapp นักมานุษยวิทยาหนึ่งในผู้ที่ศึกษานี้กล่าวว่า “เราพบว่าลิงที่มีขนาดของกระดูก hyoids ที่ใหญ่ซึ่งสามารถเปล่งเสียงได้ดัง จะมีขนาดของลูกอัณณฑะที่เล็ก นอกจากนี้พวกมันยังมีลิงสาวๆ ตามติดอีกประมาณ 1-2 ตัวอีกด้วย” การศึกษาครั้งนี้ช่วยให้นักวิจัยเข้าใจถึงสังคมของพวกลิงได้เป็นอย่างดี โดยลิงที่เสียงดังและมีขนาดของลูกอัณฑะที่เล็ก จะเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ มากที่สุด นั่นจึงทำให้พวกมันมีโอกาสเลือกคู่และผสมพันธุ์มากกว่าลิงตัวอื่นๆ     นอกจากนี้พวกลิงที่มีลูกกระแป๋งใหญ่ อาจจะไม่เป็นที่นิยมและบางครั้งอาจถูกขับไล่ออกจากฝูงเลยก็เป็นได้ และพฤติกรรมการเลือกคู่แบบนี้อาจส่งผลปยังลักณะของพวกลูงลิงที่รุ่นต่อๆ มาอีกด้วย ถึงแม้งานวิจัยชิ้นนี้จะอธิบายถึงพวกลิง แต่นักวิทยาศาสตร์ให้เหตุผลถึงความคล้ายคลึงของบรรพบุรุษมนุษย์และลิง รวมถึงอะไรหลายๆ อย่าง ที่คล้ายกันในสองสายพันธุ์นี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าการที่เรามีของใหญ่อยู่กับตัว อาจจะทำให้เราภูมิใจจนไม่ต้องเสียงดังอะไรมากมาย ขณะที่คนพยายามเรียกร้องความสนใจด้วยเสียงตลอดเวลา…

เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นกับเจ้า ‘Fox’ สุนัขจรจัด ที่ต้องมีชีวิตระหกระเหินไปตามข้างทาง และมันไม่เคยรู้เลยว่าเมื่อไหร่มันจะได้สัมผัสความรู้สึกที่เรียกว่า… ‘ความรัก’ โชคดีที่ศูนย์พักพิงสุนัข Hope For Paws ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีคนพบเห็นสุนัขเนื้อตัวมอมแมมน่าจะหลงทางมาในอาณาเขตของเมืองลอส แองเจลิส   ทันทีที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ก็ออกตามหาตัวมันทันที   โชคดีที่พวกเขาเห็นมันแอบซ่อนตัวอยู่บริเวณพุ่มหญ้าข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงพยายามเอาของกินไปล่อมันออกมา   จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงส่งคนเข้าไปล้อเจ้าสุนัข เพื่อทำให้มันรู้สึกว่าตนเองปลอดภัย ส่วนเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ได้นำตาข่ายมาล้อมไว้ (ป้องกันอุบัติเหตุจากรถชน)   “ดูเหมือนว่ามันจะหิวมากๆ เพราะทันทีที่มันได้กลิ่นอาหารมันดูจะสนใจสุดๆ แถมยังส่ายหางไปมาอีกด้วย” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเล่า   ตอนแรกทุกคนก็คิดว่าเจ้า Fox เป็นสุนัขจรจัดที่หลงทางมา ทว่าเมื่อลองดูที่ปลอกคอพวกเขาก็พบเบอร์โทรเจ้าของบ้านอยู่ จากนั้นเรื่องราวทั้งหมดจึงจบลงด้วยดี   “Fox มีนิสัยเสียมากๆ ค่ะ มันชอบหนีออกจากบ้านไปวิ่งเล่นข้างนอก บางทีมันก็หายไปเป็นวันเลย เราคงต้องจัดการไม่ให้มันหนีไปได้อีกแล้ว” – เจ้าของเล่า   เมื่อกลับมาได้ก็ต้องจัดการอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยซะก่อน   ส่วนนี่ก็พี่น้องของเจ้า Fox ที่มันหนีออกมา   อันที่จริงแล้วครอบครัวเลี้ยงดูมันอย่างดีเลยล่ะ ทว่ามันกลับมีนิสัยซนและชอบหนีเที่ยวนั่นเอง…

มีเพียงแค่หยิบมือเท่านั้นจากสายพันธุ์ทางหมดของปลาหมึกที่มีอยู่มากมาย และสร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าผู้วิจัยได้เสมอ กับพฤติกรรแปลกๆ ของมันทั้งเรื่องของการล่าอาหาร การมีสังคม หรือการมีคู่ แถมเมื่อมันอยู่ในขวดโหลก็ยังจะสามารถเปิดฝาออกมาได้เองซะอีก     ถ้าเรื่องราวเหล่านั้นมันน่ากลัวมากสำหรับคุณแล้วละก็ คุณก็คงจะไม่อยากเห็นภาพที่พวกมันขึ้นมาอยู่บนดินอย่างที่ เจ้าหมึกยักษ์ Abdopus ขึ้นมาล่าอาหารเหนือผิวน้ำในออสเตรเลีย กับคลิปวิดีโอจากสารคดีของช่อง BBC One ที่ได้ไปถ่ายเจ้าตัวนี้ใช้ตัวดูดนับร้อยบนหนวดของมันในการช่วยเคลื่อนไหวบนพื้นดินเพื่อล่าอาหาร ภาพที่ออกมานั้นชวนขนลุกแบบแหยะๆ ซึ่งอาจทำให้กลัวการลงน้ำไปเจอกับมันทันที   คลิปวิดีโอเจ้าหมึกยักษ์ขึ้นมาออกล่าบนพื้นดิน   โดยเจ้าหมึกยักษ์นั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเหล่านักล่าทั้งหมดที่มีอยู่ในรายการ The Hunt ซึ่งนั่นรวมถึง วาฬเพชฌฆาต เสือดาว อินทรีหัวขาว มดทหาร และหมีขั้วโลก นอกจากนี้ในรายการสารคดี BBC Earth Unplugged ก็ได้พิสูจน์ของความยากของการหนีออกจากการจับกุมเกาะติดของเจ้าสิ่งนี้ ซึ่งนั่นถือว่าเป็นความโชคดีที่พิธีกรได้ลองแค่จากตัวที่มีการควบคุมสิ่งแวดล้อมต่างๆ เพราะหากเป็นชีวิตจริงนี่คงพูดได้เลยว่าลำบากแน่   คลิปวิดีโอของพิธีกรรายการ ลองพยายามรอดจากการเกาะติดของเจ้าหมึก   รายการนี้ได้ถ่ายทอดให้เห็นถึงเหยื่อและนักล่าในสถานการณ์การล่า แทบทุกคนจะคิดว่านักล่าเป็นตัวร้ายอยู่เสมอ แต่เมื่อเราได้มาสังเกตดูจริงๆ จะพบได้ว่าบ่อยครั้งที่เกิดความผิดพลาด ทำให้ไม่มีอาหารสำหรับมื้อนั้น ซึ่งนั่นเป็นมุมมองให้ได้เห็นว่า สัตว์ชนิดที่ใช้ชีวิตยากที่สุดจริงๆ แล้วก็คงจะเป็นนักล่าตัวฉกาจทั้งหลายนั่นแหละ จริงๆ แล้วมันไม่ได้มีเพียงความน่ากลัว ดุร้าย หรือดูบ้าเลือดแต่เพียงอย่างเดียว…

ปกติแล้วเราจะไม่ค่อยได้เห็นเจ้าเหมียวมันก้มหัวให้ใครซักเท่าไหร่ ยกเว้นก็แต่ว่าคนนั้นจะมีอาหารอันโอชะคอยบริการให้พวกมัน แต่สำหรับเจ้า Musya คงต้องบอกว่า มันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เพราะอยู่ดีๆ จากเดิมที่เป็นแมวสาวนักผจญภัย มันก็ได้กลายเป็นคุณแม่ลูก 8 ไปซะงั้น!?   Musya และลูกเม่นน้อยทั้ง 8 ตัว   เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เมื่อเจ้าหน้าที่จากสวนสัตว์ Sadgorod Zoo ประจำเมือง Vladivostok ประเทศรัสเซีย พวกเขาค้นพบลูกเม่นทั้งหมด 8 ตัวที่ดูเหมือนจะหลงทางเข้ามา   ในตอนแรกลูกเม่นดูเหมือนจะไม่กล้ากินอาหาร แต่ด้วยความกลัวว่ามันจะไปไม่รอด เจ้าหน้าที่จึงเลี้ยงดูพวกมันไว้   แม้ว่าจะไม่ค่อยมีเคสลูกเม่นให้ช่วยเหลือบ่อยนัก แต่ปัญหาทุกอย่างก็ดูจะคลี่คลายขึ้นทันที เมื่อเหล่าลูกเม่นน้อยทั้ง 8 ตัวได้พบกับ Musya แมวชาวรัสเซียที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย   วินาทีแรกที่ Musya ได้เห็นลูกเม่น มันก็พร้อมที่จะสวมบทบาทเป็นแม่นมทันที   ไม่ว่าจะคอยอุ้มเด็กๆ เข้านอน พาเด็กๆ ไปวิ่งเล่น หรือแม้แต่พาลูกเม่นตัวน้อยมาทานอาหาร Musya จะคอยอยู่เคียงข้างและดูแลลูกต่างสายพันธุ์ของมันเสมอ   ดูเหมือนว่าเม่นน้อยทั้ง 8 จะนับถือเจ้า Musya…

เขาว่ากันว่า แมวนั้นมีถึง 9 ชีวิต เจ้าแมวน้อยตัวนี้พิสูจน์ให้ได้เห็นว่ามันมี 9 ชีวิตตามนั้นจริงๆ   นี่คือเรื่องราวของเจ้าฟีนิกซ์ ลูกแมวตัวเมียที่ปัจจุบันอายุราวๆ 3 เดือนครึ่ง มันถูกพบอยู่ใต้กองไฟในสภาพหางถูกไฟไหม้เสียหายหมด แถมยังมีรอยไฟไหม้ทั้งหูและอุ้งเท้า     หญิงคนหนึ่งในเมือง South Tyneside ติดต่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลังจากที่สังเกตเห็นเพลิงไหม้ในบริเวณบ้านของเธอ และพอหลังจากดับเพลิงเสร็จ เธอไม่รู้ว่ามีลูกแมวที่เธอรับเลี้ยงอยู่ติดอยู่ใต้ซากกองเพลิงนั้น จนกระทั่งได้ยินเสียงร้องของเจ้าฟีนิกซ์ และเห็นเท้าของมันยื่นออกมา     โชคดีของเจ้าฟีนิกซ์ที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาทันเวลา มันถูกส่งไปรักษาตัวต่อที่ RSPCA Felledge ซึ่งต้องสังเกตอาการตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแผลไฟไหม้นั้นรุนแรงมาก Luka Atkinson หัวหน้าแผนกต้อนรับของ RSPCA Felledge กล่าวว่า “เจ้าฟีนิกซ์ตอนที่ถูกส่งตัวมา น่าสงสารมากๆ มันยังอายุเพียง 6 สัปดาห์เท่านั้น และการรักษาลูกแมวตัวเล็กๆนั้นเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเรามากๆ อุ้งเท้าทั้งสี่ของเจ้าฟีนิกซ์ และขนตรงใบหน้า ท้อง ขา ถูกไฟไหม้เกือบทั้งหมด มันโชคดีมากๆที่ยังรอดชีวิตมาได้”     ความเจ็บปวดทั้งหลายก็หายไปภายในเวลาไม่กี่วัน ขนและผิวหนังของมันค่อยหลุดออก และหลังจากนั้นก็เริ่มมีขนนุ่มๆ งอกออกมาแล้ว…

เจ้า Paddy สุนัขพันธ์ชิวาวา ที่ถูกช่วยเหลือมาจากทางด่วน ในวันที่โชคร้ายวันนั้น เจ้าหมายืนอยู่ลำพังท่ามกลางรถยนต์ที่แผ่นผ่านไปมาบนถนนสี่เลน มันผอมแห้งและดูหวาดกลัวมาก แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี เจ้าตูบถูกช่วยเหลือและได้พบกับเจ้านายผู้ใจบุญ หลังจากที่ต้องฟันฝ่าเรื่องร้ายๆ มา ในที่สุดมันก็ได้เจอเพื่อนซี้ต่างสายพันธุ์     ในบ้านหลังใหม่เจ้าตูบได้พบกับ Lily แกะน้อยที่ต้องผ่านเรื่องร้ายๆ มาไม่ต่างจากมัน เจ้าแกะเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่สมประกอบเนื่องจากในมันได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอในการเจริญเติบโต นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ขาของมันเจริญเติบโตไม่เต็มที่และเดินลำบาก Lily ต้องอยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์มาตลอด จนกระทั่งสัตวแพทย์ที่ดูแลไม่อาจเลี้ยงมันต่อได้เนื่องจากเขาไม่มีเวลามากพอ ดังนั้นแกะน้อยจึงถูกย้ายมายังบ้านหลังนี้     คุณ Janell Jensen และสามีของเธอดูแลเจ้าแกะน้อยอย่างดี ถึงแม้ว่าการดูแลสัตว์พิการจะเป็นงานที่ยาก แต่พวกเขาก็พยายามอย่างเต็มที่ และที่สำคัญดูเหมือนว่าเจ้า Paddy จะคอยช่วยพวกเขาดูแลเพื่อนใหม่ของมันด้วย “ตอนที่เราไปรับ Lily มา เมื่อเจ้า Paddy ได้พบกับแกะน้อย มันวิ่งเขามาหาและพยายามมอบอ้อมกอดที่อบอุ่นให้กับเพื่อนใหม่ของมัน ทั้งคู่ชอบเดินไปไหนมาไหนด้วยกันในบ้านตลอด พวกมันไม่เคยห่างกันเลย” คุณ Janell กล่าว     เจ้าหมาและแกะน้อยเพื่อนซี้ของมัน   เมื่อเจ้าแกะเริ่มเติบโต ขาที่ลีบเล็กของมันไม่สามารถรองรับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นได้ ครอบครัวของคุณ Janell จึงได้ทำรถเข็นสีชมพูแสนน่ารักให้กับมัน ทั้งครอบครัวและเจ้าตูบคอยดูแลแกะน้อย จนกระทั่งวันหนึ่งเจ้าแกะก็ได้สูญเสียขาหลังของมันไป     ถึงแม้จะเกิดมาไม่สมประกอบ แต่ด้วยความรักและความอบอุ่นที่มันได้รับ ก็สามารถเติมเต็มส่วนที่มันขาดไปได้…

คุณก็รู้ว่าสุนัขเกือบทุกตัวบนโลกใบนี้ มีแต่ความน่ารักน่าเอ็นดู ซึ่งก็ไม่แปลกหรอกที่มันจะเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มนุษย์นิยมนำไปเป็นสัตว์เลี้ยง เพราะนอกจากความฉลาด ความน่ารักของพวกมันแล้ว เจ้าหมายังช่วยสร้างรอยยิ้ม และความสุขให้กับเราอีกด้วย ดูอย่างสิ่งที่มันทำสิ บอกเลยว่าน่ารักมากกกกก ใครเห็นก็จะต้องแอบยิ้มตามทู๊กกกกกกกที ไม่เชื่อก็ลองดูสิ…   โอ้วววว ต้องเป็นหมาที่มีทักษะเป็นเลิศเท่านั้น ถึงจะสามารถทำแบบนี้ได้   เอ๊ะ!! กำลังจินตนาการถึงอะไรอยู่น้า   หนึ่งในผู้นำแฟชั่น ที่สไตล์ลิสทั่วโลกยังต้องขอชิดซ้าย   ถึงจะคนละพันธุ์แต่เราก็รักกันนะ   เห็นสาวเป็นไม่ได้ ต้องขอเข้าไปกอดทู้กกกกที   แฮร่ๆๆๆๆ น่ากลัวกันไหมพวกมนุษย์   นายฮะ จูบเก๊ามั่งจิ   ฮึบๆ ช่วยกันเร็ว   มาเป็นเพื่อนเจ้านายจ่ายตลาด น่ารักจริงๆ   ปาร์ตี้เริ่มแล้ววว ดีใจจัง   สายเปย์ก็มา   เอิ่ม!! นั่นมันไม่ใช่ของกิน   เห้ยยย นี่มันเป็นภาพหาดูยาก ต้องรีบดูก่อนโดนลบนะจ๊ะ   เจ้าหมาที่มีลายขนสุดแหวกแนว เท่ไหมละ   ชู่วววว…

การล่าสัตว์เพื่อความอยู่รอดนั้น ถือเป็นหนึ่งสิ่งที่มนุษย์อย่างเราๆ หรือแม้แต่สัตว์กินเนื้ออื่นๆ ก็ทำกันมาเป็นเวลาช้านาน เพียงแต่สำหรับมนุษย์เราเปลี่ยนจากการล่ามาเป็นการทำปศุสัตว์แทน Lisa Taylor คุณแม่ลูกหนึ่งผู้ที่ปฏิเสธการซื้อเนื้อจากซุปเปอร์มาเก็ต แล้วหันมาล่าทุกอย่างด้วยตัวเองพร้อมกับเปิดแฟนเพจ Lisa’s Shooting & Hunting Experience ขึ้นมา และยังมีผู้ติดตามมากกว่า 15,000 คน     ภายในแฟนเพจของเธอก็จะประกอบด้วยเรื่องราวและภาพของตัวเธอเอง ที่ถ่ายคู่กับเหล่าสัตว์ป่าต่างๆ ที่เธอไปล่ามา รวมถึงรูปอาวุธที่ใช้ล่า บางครั้งก็จะมีคลิปในช่วงที่เธอกำลังออกล่า เธอได้ให้สัมภาษณ์กับทาง UNILAD ว่า “ตัวฉันเริ่มออกล่าเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งในช่วงเวลานั้นฉันได้ลิ่มรสชาติของเนื้อแปลกๆ รวมถึงได้เรียนรู้ถึงความสามารถในการล่า จนตอนนี้ฉันรู้ถึงวิธีในการล่าเป็นอย่างดี แต่ฉันก็ไม่ได้ล่าเพื่อความสนุก ฉันล่าสัตว์เพื่อใช้เป็นอาหารแก่ครอบครัวเท่านั้น”     ส่วนสาเหตุการมาล่านั้น เธอให้เหตุผลว่าเธอรู้สึกว่าการซื้อเนื้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ตการซึ่งเป็นเนื้อที่มาจากฟาร์มนั้น มันดูมีมนุษยธรรมน้อยกว่าการออกไปล่าเอง เพราะมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นการสนับสนุนให้สัตว์มีชีวิตที่วนเวียนอยู่แต่ในโรงฆ่าเท่านั้น นอกจากนั้นเธอยังบอกว่า บางครั้งเธอก็ล่าสัตว์อื่นๆ อย่างหมาป่าหรือจิ้งจอกที่พยายามจะมาทำร้ายสัตว์ในฟาร์มอื่นๆ แน่นอนว่าเธอไม่ปล่อยให้พวกมันตายเฉยๆ เธอนำมันมาทำอาหารทุกครั้งและไม่ปล่อยให้ส่วนไหนของพวกมันสูญเปล่า นอกจากนั้นเธอยังล่ากระต่ายป่าเพื่อให้เหยียวของเธอกินอีกด้วย     สุดท้ายแล้วแม้เธอจะบอกว่าการล่าของเธอไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อความสนุก แต่เพื่อความอยู่รอด ก็ยังมีกระแสสังคมโจมตีเธอพอสมควร ว่าทำไมจะต้องไปทำร้ายสัตว์ที่มีชีวิตดีๆ ของมัน ซึ่งเธอก็ตอบโต้ว่ามนุษยชาติหรือสัตว์กินเนื้อก็ทำแบบนี้กันมาเนิ่นนานแล้ว…

ดูเหมือนว่าในปัจจุบันเทรนด์ความอวบจะมาแรงซะเหลือเกิน แร๊งงงงแรงจนเจ้าแมวจากทั่วโลกก็ขอตามเทรนด์อวบอ้วนกับเขาบ้าง และดูเหมือนว่าจะน่ารัก น่าฟัด น่ากอดสุดๆ ซะด้วยสิ ครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอพาทาสแมวทุกคนมาสูบความฟินให้เต็มปอดไปกับอัลบั้มภาพแมวอ้วน รับรองว่าใครที่ได้เห็นจะต้องรู้สึกหมั่นเขี้ยวไปตามๆ กันอย่างแน่นอน   อู้วววว ถึงอ้วนแต่ก็ยังนั่งได้นะ   ตัวอะไรกลมๆ จ้องมองมา   ขนปุกปุยน่าสัมผัสมาก   ตัวกลมเชียว   จะขอลดหุ่นจริงจังแล้วนะ   ขอนอนตีพุงก่อนก็แล้วกัน   ความอวบมันดีอย่างนี้นี่เอง   ไม่ต้องอดข้าวให้เสียเวลา   เพราะชีวิตนี้มีแต่กินกินกิน   กินเยอะๆ จะได้อวบแบบนี้   อ้วนตุต๊ะเลยนะเอ็ง   ส่วนนี่ก็น่ากอดเหลือเกิน   อ้วนแล้วต้องนอน   สบายใจจริงๆ   ใครเห็นก็อยากกอดทั้งนั้น   ขนนุ่มๆ นั้นน่าสัมผัส   ถึงเวลาพากันมาออกกำลังกายบ้าง   ขอเหยียดขานิดนึง   อวบจนฉุดไม่อยู่แล้ว   นั่งนิ่งๆ…

นี่คือเรื่องราวอันสุดแสนจะอบอุ่นหัวใจของมนุษย์กับสัตว์โลกตัวน้อยๆ อย่างเจ้าโอพอสซัม ที่ได้รับการช่วยเหลือหลังจากที่แม่ของมันถูกรถชนตาย สุดท้ายมันก็ไม่ยอมไปไหน ขออยู่กับเจ้านายคนใหม่ไปตลอดก็แล้วกัน Sheri Kassalias เป็นชื่อของหญิงสาวใจดี ที่เคยช่วยชีวิตลูกโอพอสซัมกำพร้า 3 ตัวเอาไว้ ซึ่งเธอก็ได้ตั้งใจเอาไว้ว่าจะดูแลพวกมันจนกว่าจะแข็งแรง และสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามธรรมชาติในป่าเหมือนเดิมได้ ซึ่งภายหลังจากที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ลูกโอพอสซัมสองตัวก็พร้อมที่จะกลับไปมีความสุขในการใช้ชีวิตในแบบที่ควรจะเป็นอีกครั้ง ในขณะที่โอพอสซัม 1 ตัวที่เหลือ กลับไม่ได้คิดเหมือนพี่น้องของมันซะด้วยสิ     เจ้าโอพอสซัมตัวนี้ ดูเหมือนจะพิเศษกว่าพี่น้องของมัน เพราะเมื่อได้รับการดูแล ก็ทำให้มันรู้สึกผูกพันกับผู้ดูแลเป็นอย่างมาก นั่นทำให้มันตัดสินใจที่จะไม่ไปไหน และขออยู่กับ Sheri เจ้าของคนใหม่ซะเลย   Sheri ได้ตั้งชื่อให้มันว่า Opie   “เจ้า Opie น่ารักมาก มันดูเป็นมิตร และมักจะเรียกร้องความสนใจอยู่เสมอ แถมยังมีนิสัยคล้ายกับแมวที่ขี้อ้อนอีกด้วย… ในตอนนี้ Opie อยู่กับเรามาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว มันได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเราอย่างเต็มรูปแบบ แถมยังสามารถเข้ากับสุนัขหลายๆ ตัวในบ้านอีกด้วย” Sheri กล่าว   เจ้า Opie ในชุดซานตาน้อย น่ารักฝุดๆ…

เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจของการได้กลับมาพบกันอีกครั้งระหว่างแม่แมวและลูกน้อยของมัน หลังจากที่พวกมันต้องพลัดพรากจากกัน ในระหว่างที่ถูกช่วยออกมาจากห้องใต้หลังคาในบ้านหลังหนึ่ง เมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา นายหน้าขายบ้านท่านหนึ่งได้พบแม่แมวและลูกน้อยของมันอีก 3 ตัวหลบอยู่ในห้องใต้หลังคาในบ้านเก่าๆ ซึ่งไม่เหมาะสำหรับเหล่าเจ้าเหมียวมากเท่าไหร่ แม่แมวก็จำเป็นที่จะต้องออกไปหาอาหารและมองหาที่พักแห่งใหม่ที่มีความอบอุ่นในกับลูกๆ ของมัน     และในระหว่างที่แม่ของพวกแมวน้อยออกไปข้างนอก ทางนายหน้าเจ้าของบ้านก็ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ มาช่วยพวกเจ้าเหมียวออกไป “พวกเราเข้าไปช่วยเหลือเจ้าเหมียวตามที่นายหน้าบอก เราพบพวกมันอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับลังไม้บนพื้นเย็นๆ เรารีบพาพวกลูกแมวออกจาที่นั่นทันที แต่ในตอนนั้นพวกเราหาแม่ของมันไม่เจอ” เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์จากมูลนิธิกล่าว     ถึงแม้จะรอคอยอยู่เป็นเวลานาน แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีทีท่าว่าแม่ของพวกลูกแมวทั้งสามจะกลับมาเลย ในที่สุดพวกเขาจึงตัดสินใจพาพวกลูกแมวไปยังสถานสงเคราะห์ก่อน แล้วค่อยกลับมาตามหาแม่ของมันทีหลัง และแล้วในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ได้พบกับแม่แมว หลังจากที่พวกเขากลับไปค้นหาที่บ้านหลังนั้นอีกครั้ง “พวกเรากลับไปที่บ้านหลังนั้นในตอนเย็น และเมื่อเราเปิดประตูเข้าไปที่ห้องใต้หลังคานั้นก็ได้พบกับแม่แมวจริงๆ” เจ้าหน้าที่กล่าว     เหล่าอาสาสมัครต้องใช้เวลากล่อมแม่แมวอยู่นาน จนกว่ามันจะยอมตามพวกเขาไปที่สถานสงเคราะห์ “พวกเราใช้อาหารล่อมัน และจากนั้นจึงค่อยๆ เข้าไปหามัน และลูบหัวด้วยความเอ็นดู มันจึงยอมเข้าไปในกรงแต่โดยดี” เมื่อมันเดินทางมาถึงสถานสงเคราะห์สัตว์ เจ้าเหมียวก็ได้ยินเสียงเรียกเล็กๆ ของลูกๆ มัน แม่แมวเริ่มมีอาการกระวนกระวายและอยากออกจากกรงไปพบกับเจ้าตัวน้อยของเธอ     และแล้ววินาทีแห่งความสุขของครอบครัวเหมียวก็มาถึง เมื่ออาสาสมัครปล่อยแม่แมวออกจากกรง เจ้าเหมียวรีบวิ่งไปหาลูกน้อยตัวหนึ่งของมัน ตอนนี้ดูเหมือนว่าแม่แมวจะดีใจมากๆ ที่ได้มีโอกาสเห็นหน้าลูกๆ ของเธออีกครั้ง   ภาพน่ารักๆ ของแม่แมวที่ได้เจอลูกของมัน…

การได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่อย่างดี เป็นสิ่งที่ช่วยให้เหล่าสัตว์เลี้ยงมีความสุขและร่าเริ่งแบบที่พวกเขาควรจะเป็น แต่ก็มีพวกสัตว์เลี้ยงไม่น้อยที่ต้องพบกับโชคะตาที่โหดร้ายและต้องถูกทิ้งไว้อย่าน่าเศร้า แต่เมื่อพวกมันได้พบกับเจ้าของคนใหม่และได้ย้ายเข้ามาสู่บ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ชีวิตของพวกมันก็เปลี่ยนไปจากเดิม และต่อไปนี้ก็คือภาพของเหล่าน้องหมา น้องแมว ที่ได้รับการดูแลและกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง แต่ละตัวจะเป็นอย่างไรนั้นไปชมกันเลย…   เจ้า Ellie น้องหมาแสนเศร้าที่ต้องจากเจ้าของมา เพราะเธอเลิกต้องกับแฟนหนุ่ม แต่หลังจากที่ได้รับการดูแลอย่างดี มันก็กลับมาร่าเริงได้อีกครั้ง   เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว เจ้าแมวน้อยตัวนี้ถูกพบอยู่ใต้ท้องรถคันหนึ่ง ตอนนั้นมันอายุได้เพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น แต่ดูตอนนี้สิ มันกลายเป็นเจ้าเหมียวตัวโตแล้ว!!   เจ้าตูบทั้งสองกำลังยิ้มอย่างดีใจ หลังจากที่ได้ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่   หลังจากที่ถูกรับมาเลี้ยง แมวน้อยตัวนี้ก็เริ่มปฏิบัติการของมันทันที   เจ้าตูบแสนรู้ที่ถูกขังเอาไว้อยู่ในบ้าน ถูกช่วยเหลือและได้พบกับโลกที่สดใสอีกครั้ง   เจ้า Cooper สุนัขที่ถูกขังไว้ในโรงงานในสภาพแวดล้อมที่แย่มากๆ แต่หลังจากผ่านไป 4 ปี ชีวิตของมันก็เปลี่ยนไป   การดูแลและเอาใจใส่ ช่วยให้เจ้าตูบตัวนี้ได้มีโอกาสกลับมาดูดีอีกครั้ง   นี่คือสถาพของเจ้า BenBen ก่อนและหลังได้รับการดูแล   ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่เจ้าตูบย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ มันได้พบกับความอบอุ่นที่แท้จริง   เจ้า…

จะว่าไปแล้วลำพังแค่สิงโตธรรมดาเราก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นซักเท่าไหร่ แต่คราวนี้เป็นเรื่องราวของสิงโตขาวตัวจิ๋วที่ไม่มีโอกาสได้เห็นกันง่ายๆ ทุกวันแน่นอน ภาพสุดน่ารักที่คุณจะได้เห็นดังต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของสองลูกสิงโตขาวฝาแฝดจากแดนปลาดิบ ที่ได้ออกมาลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ณ สวนสัตว์ Himeji Central Park Zoo   แฮร่…!! นับตั้งแต่ช่วงสองเดือนก่อน แฝดสิงโตขาวคู่นี้ก็ได้สร้างเสียงฮือฮาให้ชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก   สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรื่องราวดังต่อไปนี้พิเศษกว่าครั้งไหนๆ ก็เพราะเดิมทีสิงโตขาวเป็นสัตว์ที่หายากและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ซึ่งปัจจุบันหลงเหลือเพียงแค่ 300 ชีวิตจากทั่วโลกเท่านั้น   และนี่ก็เป็นครั้งที่สองที่สวนสัตว์สามารถขยายพันธุ์พวกมันได้สำเร็จ   สำหรับสิงโตขาวแล้ว พวกมันไม่ใช่สายพันธุ์ย่อยแต่เป็นสายพันธุ์อีกชนิดหนึ่งที่แยกออกมาจากสิงโตปกติ พวกมันจะมีลักษณะขนสีขาวซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรม โดยไม่ได้เกิดจากภาวะผิวเผือก นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสิงโตขาว เกิดจากยีนที่ตกทอดมาจากยุคน้ำแข็ง อีกทั้งพวกมันยังสามารถปรับตัวได้ดีในสภาวะอากาศที่หนาวสุดขั้ว   เรื่องราวของสิงโตขาวเคยไปปรากฎอยู่ในตำนานนิทานปรัมปราของชนเผ่าพื้นเมืองแอฟริกาใต้   ทว่าหลังจากช่วงปี 1970 ที่มีการประกาศการค้นพบสายพันธุ์สิงโตขาว และนั่นก็ทำให้ประชากรของพวกมันลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งสาเหตุจากการถูกล่าและถูกนำไปเลี้ยง   น่าตกใจสุดๆ เพราะครั้งหนึ่งประชากรของพวกมันเคยลดลงเหลือเพียงแค่ 3 ตัวเท่านั้น!!   ต้องถือว่านี่เป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของสวนสัตว์ญี่ปุ่น ที่สามารถเพาะพันธุ์พวกมันได้สำเร็จ   เอาเป็นว่าเราลองไปชมภาพความน่ารักของมันกันเลยดีกว่า… . .  …

น้องหมาสัตว์เลี้ยงน่ารักและแสนซน สำหรับใครที่มีเจ้าสี่ขาตัวเล็กอยู่ที่บ้านคงจะเข้าใจถึงความป่วนของพวกมันเป็นอย่างดี และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีคลิปวิดีโอน่ารักๆ ที่เผยให้เห็นความซุกซนของเหล่าน้องหมาตัวจ้อย ภาพในคลิปวิดีโอเผยจังหวะของเจ้าหมาน้อยทั้ง 7 ตัวที่ออกมามะรุมมะตุ้มชายหนุ่ม ผู้ที่กำลังเดินเข้ามาส่งของในบ้านหลังหนึ่ง เขาพยายามที่ออกจากวงล้อมของน้องหมา แต่ดูเหมือนว่างานนี้จะไม่ใช่ของง่ายซะแล้ว!!   ฝูงหมาน้อยที่ออกมาต้อนรับพนักงานส่งของ   ในระหว่างที่เจ้าลูกหมากำลังรุมล้อมชายคนดังกล่าว แม่ของหมาน้อยทั้ง 7 ก็เข้ามาร่วมแจมด้วยอีกหนึ่งตัว แต่แทนทีมันจะห้ามลูกๆ กลับทำเป็นไม่สนใจซะนี่!? งานนี้ชายหนุ่มเลยต้องอาศัยความสามารถของตัวเอง เพื่อฝ่าออกจากวงล้อมให้ได้!!   การรอบล้อมไปด้วยน้องหมา จะชุนละมุนวุ่นวายแค่ไหน ไปชมที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย…   คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกถ่ายไว้โดยคุณ Jon Ashe เจ้านายของพวกมะหมา และด้วยความฮาของคลิปดังกล่าว มันจึงถูกนำไปเผยแพร่ทางแฟนเพจของบริษัท Sainsbury’s ด้วย หลังจากมีการเผยแพร่ความน่ารักของเหล่าน้องหมาลงในโลกออนไลน์ คลิปวิดีโอนี้ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างมาก     หนึ่งในความคิดเห็นจากชาวเน็ตท่านหนึ่งกล่าวว่าเธออยากจะลงไปกองบนพื้นหญ้า และให้น้องหมารุมล้อมเธอแบบนั้นเลยจริงๆ และหลายๆ คนก็อยากจะกลายเป็นพ่อหนุ่มส่งของคนนั้นกันเลยทีเดียว แต่ในขณะที่บางคนก็ออกมาแสดงความคิดเห็นแบบเห็นอกเห็นใจคนส่งของ พร้อมกับบอกว่า “เจ้าหมาเหล่านั้นน่ารักจริงๆ แต่ผมว่าคนส่งของคงจะทำงานลำบากหน่อยนะ”   แหม่… เล่นรุมกันแบบนี้ก็แย่เลย!? ที่มา dailymail

“ภาพแรกที่เราเห็นมันคือ… มันคลานเข้ามาด้วยขาหน้าอย่างน่าสงสาร พร้อมกับสายตาที่กำลังบอกเราว่ามันต้องการความช่วยเหลือจริงๆ” นั่นคือประสบการณ์แรกพบระหว่างเจ้าสุนัขผู้พิการ และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือช้างทางตอนเหนือของประเทศบอตสวานา   ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้ Susanne Vogel ได้พบกับสุนัขผู้อาภัพ   ไม่มีใครรู้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าสุนัขตัวนี้ จะต้องเผชิญกับอุปสรรคปัญหาอะไรมาบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาเชื่อมั่นคือ หัวใจนักสู้ผู้ไม่ย่อท้อของมัน   ครั้งแรกที่ Susanne ได้มองเข้าไปในสายตาของสุนัข เธอก็ทราบทันทีว่าต้องรีบช่วยเหลือมันอย่างเร่งด่วน   หลังจากนั้น Susanne ก็ได้ดูแลเจ้าสุนัขอย่างดี เธอพามันไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจอาการ อีกทั้งเธอยังพามันไปที่ศูนย์อนุรักษ์ช้าง เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับมันด้วย   และดูเหมือนว่าทั้งคู่จะสนิทกันอย่างรวดเร็ว   “สิ่งหนึ่งที่พวกเราทุกคนสงสัยก็คือ… มันสามารถเดินทางมาที่ค่ายแห่งนี้ได้ด้วยตัวเอง ทั้งที่พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่กักกัน ภายนอกแคมป์เราเต็มไปด้วยสัตว์ป่าอันตรายมากมาย แต่มันก็สามารถเดินทางมาถึงที่นี่ได้สุดยอดไปเลย” Susanne เล่า   ถึงก่อนหน้าจะต้องเผชิญอุปสรรคด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้มันก็ไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว   และท้ายที่สุดแล้วถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถรักษาอาการขาหลังของมันได้ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็รู้ว่า พวกเขาสามารถเป็นโลกทั้งใบของมันได้ เพียงแค่มอบความรักและความเอาใจใส่ให้มัน   ซึ่งทุกวันนี้เจ้าสุนัขพิการก็ยังคงอาศัยอยู่กับครอบครัวหลังใหม่อย่างมีความสุข   จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง… เห็นดวงตาน้องหมาตอนแรกแล้วเศร้าตามเลย ที่มา: TheDodo

เมื่อฤดูฝนมาถึง หนึ่งในปัญหาที่เรามักจะได้ยินกันอยู่บ่อยๆ นั่นก็คือเรื่องของน้ำท่วม และดูเหมือนว่าปัญหานี้จะไม่ได้มีแค่ในบ้านเราเท่านั้น เพราะในต่างประเทศก็ประสบเช่นเดียวกัน การหนีน้ำท่วมนั้นย่อมเป็นหนึ่งในสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดของเหล่าสิ่งมีชีวิต และเจ้ากระต่ายน้อย 3 ตัวนี้เองก็เช่นกัน เมื่อพวกมันได้หาวิธีการลี้ภัยน้ำท่วมสุดฮา ด้วยการกระโดดขึ้นไปอยู่บนหลังเจ้าแกะน้อย และขออาศัยไปด้วย   เจ้ากระต่ายและเพื่อนแกะของมัน ที่กำลังอพยพจากภัยน้ำท่วม   คุณ Ferg Horne วัย 64 ปีถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ เมื่อได้เห็นภาพสุดฮาของเจ้ากระต่าย ในระหว่างที่เขาได้เข้าไปช่วยเหลือแกะในฟาร์มของเพื่อนบ้านจากเหตุการณ์น้ำท่วม ที่เมือง Drunedin ประเทศนิวซีแลนด์ ในระหว่างที่กำลังต้อนฝูงแกะทั้ง 40 ตัวอยู่นั้น ชายหนุ่มได้สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง และเมื่อได้เข้าไปดูใกล้ๆ ก็ถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ เมื่อวัตถุประหลาดที่อยู่บนหลังเจ้าแกะนั้นคือกระต่ายตัวป่าตัวน้อย ที่แอบอาศัยหนีน้ำท่วมไปด้วย     ในการทำไร่ พวกกระต่ายถือว่าเป็นศัตรูตัวสำคัญสำหรับผลผลิตทางการเกษตรเลยทีเดียว คุณ Ferg ให้สัมภาษณ์ว่า โดยปกติแล้วถ้าเขาเห็นพวกกระต่าย เขาจะต้องจัดการพวกมันทันที แต่ความน่ารักที่เขาเห็นในวันนั้น ทำให้เขาถึงกับใจอ่อนยิงมันไม่ลงเลยทีเดียว “มันเป็นภาพที่ดูน่ารักมาก ผมรีบหยิบโทรศัพท์มาอัดวิดีโอเอาไว้ และส่งให้ลูกชายทันทีหลังจากที่กลับบ้าน ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นศัตรูต่อพืชผล แต่วันนั้นผมทำใจฆ่ามันไม่ลงเลย” คุณ Freg กล่าว   ชมความน่ารักของพวกกระต่ายได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา metro

คงมีไม่กี่บริษัทที่จะยอมให้พนักงานเอาสัตว์เลี้ยงไปทำงานด้วยได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีบริษัทของชาวเน็ตคนหนึ่ง ผู้นำเรื่องราวมาแชร์ต่อบนเว็บไซต์ Lovemeow โดยชาวเน็ตคนหนึ่งผู้ใช้นามว่า sa3belle จากเว็บไซต์ Reddit ได้ทำหน้าที่เป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์ประจำบริษัทแห่งหนึ่ง และวันนี้.. เธอก็พาเจ้ามิ้วน้อยมาทำงานเป็นวันแรก   แฮร่….!! ไอ้มนุษย์ทั้งหลาย จงรู้ไว้ว่าข้าชื่อโจอี้   แม้ว่าโจอี้จะเป็นเพียงแมวเด็กอายุได้ไม่ถึงปีเต็ม แต่ครั้งแรกสุดที่มันลืมตาดูโลกมันก็ต้องพบว่า สิ่งที่อยู่รอบตัวมันคือกองขยะหาใช่ครอบครัวพี่น้องของมันไม่   ทำให้หลังจากนั้นมันถูกส่งตัวมายังศูนย์พักพิงสัตว์   หลังจากที่ย้ายมาอาศัยอยู่กับเจ้าของคนใหม่ได้ไม่นาน พอสุขภาพร่างกายมันเริ่มกลับมาแข็งแรงดังเดิมอีกครั้ง เขาก็ได้พามันมาเปิดตัวด้วยเช่นกัน นับตั้งแต่วันแรกที่มันเดินเข้ามา บรรยากาศภายในออฟฟิศก็เปลี่ยนไปทันที   “โจอี้น่ารักมากๆ ถึงมันจะยังเด็กอยู่และไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ แต่มันจะคอยให้กำลังใจพวกเราเสมอ เมื่อถึงเวลาที่ต้องส่งงานก่อนกำหนด” พนักงานคนหนึ่งเล่า   นอกจากจะให้กำลังใจแล้ว มันยังทำให้ออฟฟิศดูคึกคักน่ารักขึ้นอีกเป็นกอง   โจอี้ช่วยทำให้พนักงานทุกคนรู้สึกมีเป้าหมายอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับงานที่ต้องรับผิดชอบ แต่พวกเขาก็รู้สึกว่าอยากจะมาที่ทำงานให้เช้ากว่าเดิม เพื่อที่จะได้มีเวลาเล่นกับแมวน้อยโจอี้     เป็นประจำทุกวันที่มันจะนั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน คอยส่งเสียงทักทายเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ   แต่เมื่อใกล้ถึงเวลาเลิกงานของวัน.. สุดท้ายแล้วสภาพก่อนกลับบ้านมันก็จะกลายเป็นแบบนี้แหละ   โถ่ววเจ้ามิ้วน้อย อดทนหน่อยนะอีกหน่อยบริษัทนี้จะกลายเป็นของเอ็ง ที่มา: Lovemeow

แมวเป็นสัตว์ที่ไม่ว่าจะอยากได้อะไรก็ต้องได้เสมอ โดยเฉพาะการยึดบ้านมนุษย์ที่ดูจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกมัน เพียงแค่ใช้ความน่ารักหลอกล่อมนุษย์ให้หลงกล เพียงเท่านี้ก็สามารถเป็นเจ้าชีวิตได้แล้ว ฮร่าาาา อย่างเช่นเจ้า Michelob แมวจรจัดที่ต้องการหาบ้าน มันก็เลยไปหามนุษย์ถึงที่พร้อมบังคับให้พวกเขาเปิดประตูให้มัน แต่ตอนนั้นทางครอบครัวมีแมวอยู่แล้ว 2 ตัว ก็เลยก็ต้องหาบ้านใหม่ให้กับมันแทน     แต่คิดหรือว่ามันจะยอม เจ้าเหมียวยังคงวงเวียนอยู่ตรงนั้นและไม่ยอมไปไหนจนกว่ามนุษย์จะเปิดประตูให้ เพราะมันเลือกแล้วว่าจะต้องได้อยู่บ้านหลังนี้ให้ได้!! ส่วนทางด้านเจ้าของบ้าน แม้จะรับเลี้ยงมันไม่ได้ เธอก็พยายามช่วยหาบ้านให้มันด้วยการแชร์ภาพน้องเหมียวลงในเว็บไซต์ imgur แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะให้คนรับเลี้ยงมัน…     หลังจากนั้น 3 วัน ทางครอบครัวก็ไม่เห็น Michelob เลย จนกระทั่งเจ้าของบ้านขับรถออกไปข้างนอก แล้วระหว่างทางก็ไปเจอเจ้าเหมียวที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 4 กิโลเมตร ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจว่าจะรับแมวจรจัดตัวนี้มาเลี้ยงเอง ต่อให้มีแมวในบ้าน 3 ตัวก็ไม่เป็นไร ดีกว่าปล่อยให้มันเดินเตร็ดเตร่เร่ร่อนอยู่อย่างนี้     หลังจากนั้นพวกเขาก็พามันไปหาสัตวแพทย์ ปรากฎว่ามันถูกทำหมันมาแล้วเรียบร้อย นั่นแปลว่ามันต้องมีเจ้าของมาก่อน แต่หาไมโครชิปของมันไม่เจอเลย Michelob ใช้เวลามาหลายเดือนในการหาบ้านใหม่ สุดท้ายแล้วทั้งครอบครัวมนุษย์ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับมันไปโดยปริยาย…     เจ้าของใหม่บอกว่า “ดูเหมือนมันจะถูกทำร้ายก่อนมาเจอเราค่ะ มันไม่ชอบเล่น ไม่ค่อยร้องเมี๊ยวๆ และไม่ชอบเคลื่อนไหวแบบรวดเร็วเหมือนแมวส่วนใหญ่”  …

การได้ชมภาพของเหล่าสัตว์ป่าตัวเล็กๆ น่ารัก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งสิ่งที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดของเราได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว และแม้สุนัขจิ้งจอกจะเป็นสัตว์ที่ตัวไม่เล็กสักเท่าไร แต่ก็ยังถือว่าเล็กกว่าช้างและแรดล่ะกันนะ… บางครั้งเราอาจจะเห็นแต่พวกมันในแง่มุมที่ดุร้ายและเป็นนักล่า แต่บางครั้งการได้เห็นภาพในมุมน่ารักๆ ของพวกมันก็ทำให้เราได้ข้อคิดบางอย่างเกี่ยวกับการใช้ชีวิตขึ้นมาบ้าง  แต่ความน่ารักของมันจะทำให้คุณค้นพบความสัจธรรมบางอย่างแน่นอน!!   ภาพถ่ายของเหล่าจิ้งจอกตัวน้อย ผลงานของช่างภาพชาวดัตช์ คุณ Roeselien Raimond ที่สื่อให้เห็นถึงการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ   เจ้าตัวนี้กำลังบอกให้เรารู้ว่า ความสุขที่แท้จริงนั้นมาจากภายใน ไม่ใช่ภายนอก   บางอย่างไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตา แต่อาจสัมผัสได้ด้วยใจ   การได้ทำให้สิ่งที่คุณชอบคือเสรีภาพ ความชอบในสิ่งที่ทำคือความสุข…   โปรดจำไว้ว่าคุณไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล   ความสุขคือส่วนหนึ่งของชีวิต   หัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก คือหัวใจที่บริสุทธิ์   รอยยิ้มคือเส้นโค้งที่จะทำให้ทุกอย่างเป็นเส้นตรง   ถ้าคุณเข้าใจธรรมชาติอย่างแท้จริง คุณจะพบสิ่งสวยงามในทุกๆ ที่   บางครั้งคุณอาจจะชนะ แต่บางครั้งคุณก็ต้องเรียนรู้ด้วย   ภาพคือบทกวีที่ไม่มีตัวอักษร   อย่าตัดสินทุกเรื่องด้วยตัวตนของคุณ   ให้ความพ่ายแพ้ เป็นโอกาสในการเรียนรู้   คุณไม่ได้ล้มเหลวหรอก แต่คุณแค่ค้นพบวิธีการที่ทำไม่ได้แค่นั้นเอง   เราไม่ได้เห็นสิ่งต่างๆ ตามที่เราเห็น แต่เราเห็นสิ่งต่างๆ ตามที่มันเป็นอยู่…

ในบรรดาพี่น้องชาวเหมียวของเราทั้งหมด นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่เราต้องสูญเสียพี่น้องร่วมสายเลือดที่เติบใหญ่ได้ดีจนกลายเป็นถึงนายกรัฐมนตรี!! เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน เป็นครั้งแรกที่เจ้าเหมียว Stubbs ได้ก้าวเท้าเข้ามายังหมู่บ้าน Talkeetna แห่งเมืองอลาสก้า และเรื่องราวดีๆ ทั้งหมดก็ได้เริ่มต้นจากจุดนั้น…   Stubbs เหมียวนักผจญภัย   หลังจากที่เจ้า Stubbs ได้ย้ายมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งใหม่ ในช่วงแรกมันเข้ามาในฐานะแมวหนุ่มนักพเนจร โดยมันมักจะได้รับความช่วยเหลือเป็นอาหารการกินต่างๆ จากชาวเมือง วันคืนล่วงเลยผ่านไป ความสนิทสนมระหว่างแมวเหมียวและชาวเมืองเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ Stubbs ใช้เวลาไม่ถึงปีในการครองใจประชาชนกว่า 900 ครัวเรือนในหมู่บ้านแห่งนี้   ไม่ว่ามันจะไปอยู่ที่ไหน ชาวเมืองก็มักจะเข้ามาโอบกอดมอบความรักให้มันตลอดเวลา   ตลอดช่วงเวลาที่มันอาศัยอยู่ในเมือง สิ่งหนึ่งที่ชาวเมืองมักจะถูกคนนอกถามบ่อยๆ ก็คือ.. ‘จะติดต่อนายกเทศมนตรีได้ที่ไหน?’ ชาวเมืองจึงร่วมกันประชุมและตัดสินใจใช้สิทธิประชาธิปไตยโหวตร่วมกันลงความเห็นว่า เจ้าเหมียว Stubbs มีความเหมาะสมที่จะทำหน้าที่เป็นผู้บริหารบ้านเมืองมากที่สุด   หลังจากนั้นมันก็ได้รับตำแหน่งมาแบบไม่ได้ทันตั้งตัว   หน้าที่ประจำวันของมันก็เรียบง่ายมาก แค่เดินตรวจตราบ้านเมืองให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย   ในทุกๆ วันมันมักจะเดินมาถามไถ่สารทุกข์สุขของชาวบ้าน อีกทั้งยังมีใจโอบอ้อมอารีย์ ชอบมาเยี่ยมเยียนสัตว์ต่างสายพันธุ์   เห็นแบบนี้งานเอกสารก็เยอะเหมือนกันนะ แต่ส่วนใหญ่ท่านนายกฯ จะใช้เป็นที่นอนหลับซะมากกว่า  …

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่คนรักสัตว์ต้องรู้สึกอิจฉากันแน่ๆ ลองนึกภาพดูสิว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าหน้าที่ในทุกๆ วันของคุณคือการเล่นกับลูกแพนด้าน้อย เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพาไปชม วิธีการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดูแลลูกแพนด้า จากศูนย์อนุรักษ์ธรรมชาติ Wolong National Nature ในประเทศจีน ซึ่งเห็นแล้วใครๆ ต่างก็ต้องรู้สึกอิจฉากันแทบทุกราย   โดยเจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องสวมชุดหมีแบบนี้ขณะปฏิบัติหน้าที่   ทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์อนุรักษ์ได้อธิบายถึงสาเหตุว่า การใส่ชุดปลอมตัวเป็นหมีแพนด้า จะช่วยทำให้พวกมันรู้สึกเหมือนได้อยู่ในสังคมที่มีแต่หมีแพนด้าจริงๆ และยังส่งผลดีต่อพฤติกรรมในระยะยาวของพวกมันอีกด้วย   นอกจากนั้นพื้นที่ในศูนย์อนุรักษ์แห่งนี้ ได้จำลองมาจากป่าไม้จริงๆ เพื่อทำให้พวกมันรู้สึกคุ้นชินกับธรรมชาติ   แต่ก็ใช่ว่าจะมีเพียงความน่ารักเท่านั้น เพราะผู้ปฏิบัติหน้าที่นี้ต้องใช้ชีวิตตลอดทั้งวันอยู่กินกับหมีแพนด้า   อีกทั้งพวกเขายังต้องยอมให้ตัวเองเหม็นกลิ่นปัสสาวะ และอุจจาระของพวกมันอีกด้วย   แต่ก็น่าตกใจอยู่ไม่น้อย ที่แม้ว่าจะมีศูนย์อนุรักษ์แพนด้ากระจัดกระจายอยู่หลายแห่งทั่วประเทศจีน ทว่าตัวเลขประชากรแพนด้ากลับลดน้อยลงเรื่อยๆ อย่างน่าใจหาย   “มันเต็มไปด้วยทั้งความสนุก ความน่ารัก แต่บางทีเราก็เหนื่อยสุดๆ เมื่อพวกมันต้องการความช่วยเหลือ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเล่า   ถ้าอยากรู้ว่าจะน่ารักขนาดไหน ลองไปชมวิดีโอจากศูนย์อนุรักษ์แห่งนี้กันเลย   น่ารักซะจนอยากลาออกจากการเป็นแมว มาเป็นหมีแพนด้าแทนได้มั้ยง่าา ที่มา: Mirror

การเดินเล่นกับน้องหมาจัดว่าเป็นหนึ่งกิจกรรมที่ผู้เลี้ยงสุนัขหลายๆ คนต้องทำกันอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว แต่บางครั้งเจ้าตูบก็อาจจะมีอาการงอแงบ้างเป็นครั้งเป็นคราว… และชาวเน็ตท่านนี้ก็เช่นกัน ดูเหมือนว่าน้องหมาของเธอไม่ค่อยอยากจะออกไปข้างนอกซักเท่าไหร่ แต่ถึงเวลาจริงเท่านั้นแหละ งานนี้ทำเอาชาวเน็ตถึงกับฮากันเลยทีเดียว!!   พบกับคุณ Chasitee Cooper หญิงสาววัย 19 ปีและเจ้า Diamond ลูกสุนัขวัย 4 เดือนกับการฝึกเดินครั้งแรก   หญิงสาวเล่าว่า เธอมักจะปล่อยให้เจ้า Diamond เดินเล่นในละแวกบ้านเธอ โดยไม่ใส่สายจูงใดๆ แต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในละแวกนั้นมีสุนัขตัวอื่นๆ อยู่ข้างนอกด้วย เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหมา เธอจึงตัดสินใจใส่สายจูงสีชมพูอันหวานแหววให้กับมัน   และนี่คือเจ้า Diamond น้องหมาน้อยวัยกำลังซน   “เจ้า Diamond ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะปรับตัวกับปลอกคอและสายจูงได้ ในตอนแรกๆ มันไม่ยอมเดินไปไหนเลย” หญิงสาววัย 19 ปีกล่าว   ในตอนแรกๆ เจ้า Diamond ไม่ยอมออกไปเดินเล่นด้วยสายจูง มันเอาแต่เล่นกับของเล่นเท่านั้น   แต่แล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หญิงสาวตัดสินใจพาเจ้าตัวเล็กออกไปฝึกเดินครั้งแรก เจ้าตูบก็ทำให้เธอประหลาดใจมาก “หลังจากที่ฉันพยายามให้มันเดิน ด้วยการเรียกมันหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดมันก็ยอมเดิน แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือมันดันคาบสายจูงและพาฉันเดินแทน ฮ่าๆ” หญิงสาวกล่าว  …

วินาที่อันแสนเศร้าของโขลงช้าง ที่พยายามจะช่วยเหลือสมาชิกตัวน้อยที่ถูกรถชนอย่างรุนแรงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส   คลิปวิดีโอดังล่าวถูกบันทึกจากอุทยานแห่งชาติ Hwange ในประเทศซิมบับเว ภายในคลิปเผยให้เห็นถึงความพยายามของช้างสองเชือกที่ดูเหมือนจะเป็นพ่อและแม่ของเจ้าตัวน้อย กำลังยื้อชีวิตลูกของพวกมันที่กำลังล้มลุกคลุกคลานและทรมานด้วยความเจ็บปวดอยู่     คุณ Heidi Haas ผู้บันทึกคลิปวิดีโอดังกล่าวเล่าว่า “ฉันตกใจมาก เมื่อเห็นเจ้าช้างตัวน้อยถูกชนด้วยความเร็วสูง หลังจากนั้นโขลงช้างหลายตัวก็ได้เข้ามาช่วยเจ้าตัวเล็ก ฉันคิดว่าหลังและขาของมันน่าจะหัก” หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ถูกเรียกมายังที่เกิดเหตุ แต่ด้วยสถานการณ์ในขณะนั้นทำให้ต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะเข้าไปช่วยชีวิตลูกช้างได้ แต่แล้วก็เป็นที่น่าเสียดายเมื่อทุกอย่างนั้นสายเกินไปเสียแล้ว     “โขลงช้างไม่ต้องการให้ใครเข้าไปใกล้เจ้าลูกช้าง พวกมันกำลังพยายามกันอย่างมาก และหวังว่าจะเกิดปฏิหาริย์ขึ้นกับเจ้าตัวเล็ก ฉันไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลยจริงๆ ฉันอยากให้ผู้ที่เข้ามาเที่ยว ควรมีความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น และหวังว่าคงจะไม่มีการสังเวยชีวิตที่สวยงามแบบนี้อีก” คุณ Haas กล่าว     โขลงช้างพยายามที่จะยื้อชีวิตเจ้าตัวน้อยของพวกมันไว้   และดูเหมือนความพยายามของพวกมันจะประสบผลสำเร็จ เจ้าลูกช้างกำลังลุกขึ้นอย่างช้าๆ   แต่แล้วมันก็กลับล้มลงกับพื้นอีกครั้ง   วินาทีการยื้อชีวิตลูกช้าง…   ถึงแม้พวกจะเป็นสัตว์ป่า แต่การที่ต้องสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไป ก็คงเสียใจไม่แพ้กับมนุษย์อย่างพวกเราหรอก ที่มา dailymail

นาทีนี้ ต้องบอกเลยว่าไม่มีใครไม่รู้จัก “ยูโร” น้องตูบสุดคิ้วท์จากเมืองไทย ที่มาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้มันโด่งดังไกลถึงต่างประเทศอย่างแน่นอน เพราะจากที่ผ่านๆ มาจะเห็นได้ว่ามีสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก ได้พากันนำเสนอเรื่องราวของเจ้ายูโร พร้อมกับภาพน่ารักๆ ของมันกันอย่างคับคั่ง และในวันนี้ เราจะขอมาอัพเดทความน่ารักของเจ้ายูโรกันอีกครั้ง บอกเลยว่ารอยยิ้มยังคงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความตะมุตะมิ และผองเพื่อน     สำหรับยูโร มันเป็นสุนัขพันธุ์แจ๊ครัสเซลเทอร์เรีย อายุ 5 ขวบจากประเทศไทย ที่ได้กลายเป็นที่รู้จักและโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์เพราะรอยยิ้มพิมพ์ใจแบบนี้…   ฮี่ๆ   เพราะความเป็นเอกลักษณ์เลยทำให้มีชาวเน็ตทั้งไทย และต่างประเทศแห่กันไปติดตามเจ้าหมาในอินสตาแกรมส่วนตัวของมันกันอย่างมากมาย ไงละ!! ฮอตไม่ฮอตถามใจเธอดูววววว ทางด้านคุณ สุมิตรา เจียวิภัทร ได้ออกมาเผยว่า “ยูโรเป็นน้องหมาที่มีพลัง และสนุกสนานมากๆ”     นอนหลับใต้อ้อมแขนเจ้าของผู้น่ารัก   และชื่นชอบการถ่ายรูปกับผองเพื่อนมากที่ซู้ดดดดด   นอกจากนี้ คุณสุมิตรา ยังได้บอกอีกว่า รอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ของยูโรนั้น ความจริงแล้วมันเกิดจากรูปแบบปาก และการกัดที่ผิดปกตินั่นเอง   อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มของมันก็สามารถนำพลังมาให้แก่แฟนๆ ได้ เพราะหากวันไหนคุณรู้สึกแย่ เพียงแค่มาดูภาพของยูโร เท่านี้ก็หายเศร้า และกลับมาสดใสอีกครั้งแล้ว…

ถ้าหากพูดถึงเรื่องความเจ้าเล่ห์แล้ว เจ้าเหมียวคงเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่หลายๆ คนจะต้องนึกถึงแน่นอน และเจ้าตัวนี้ก็เช่นกัน มันเริ่มแผนการหาทาสมนุษย์โดยการเข้ามาออดอ้อนชายหนุ่มผู้หนึ่ง และพยายามทำให้เขากลายเป็นทาสของมัน!! “เจ้าเหมียวปีนขึ้นมาบนรถตู้ของผม เพื่อต้องการความอบอุ่น มันทำเหมือนกับว่า เฮ้พวก!! ฉันเลือกนายแล้ว” ชายหนุ่มกล่าว   Jefferson แมวเหมียวตัวร้ายที่แอบมาอาศัยบนหลังรถตู้   เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในวันที่อากาศหนาวมากวันหนึ่ง คุณ Jon เล่าถึงการพบกันครั้งแรกของเขากับเจ้าเหมียวว่า“ผมทำงานที่โรงพยาบาล Veterans ในเมือง Detroit วันหนึ่งระหว่างที่ผมกำลังรอรับผู้ป่วยอยู่นั้น จู่ๆ เจ้า Jefferson ก็ออกมายืนด้านนอกและส่งสายตาให้ผม”   วินาทีที่เจ้าเหมียวกำลังเผชิญกับอากาศหนาวด้านนอก   และในระหว่างที่คุณ Jon กำลังรับส่งผู้ป่วยของเขา เจ้าเหมียวก็เริ่มปฏิบัตการของมันทันที Jefferson กระโดดขึ้นมาบนรถตู้เพื่อหาที่อุ่นๆ หลบหนาว และดูเหมือนว่าปฏิบัติการขั้นแรกของมันจะสำเร็จ ชายหนุ่มเริ่มมองหาอาหารให้กับมัน “ผมให้อาหารมันเป็นเนื้ออบแห้งและเอามันมานั่งที่ตักผม” อากาศด้านนอกหนาวมาก และชายหนุ่มก็ไม่อยากปล่อยให้เจ้าแมวต้องทนกับสภาพอากาศแบบนั้น     เจ้า Jefferson นั่งบนตักของคุณ Jon ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่สนใจแผนหาทาสแล้ว แค่ขอที่อุ่นๆ กับอาหารก็คงพอใจแล้วสินะ ฮ่าๆ   คุณ Jon และแฟนสาวพาเจ้าเหมียวไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย พวกเขาไม่พบไมโครชิปในตัวของเจ้าเหมียวเลย แต่สำหรับส่วนที่เหลือนั้นเจ้าแมวก็มีสุขภาพในเกณฑ์ที่แข็งแรงดี ตอนนี้มันมีแค่อาการหิวเท่านั้น “หลังจากที่อยู่กับพวกเรามาประมาณ 2 สัปดาห์…

เชื่อว่าหลายครั้งเราน่าจะเคยรู้สึกรำคาญหมาของข้างบ้านกันแน่ๆ ว่าบางครั้งมันจะเห่าเสียงดังอะไรนักหนา ยิ่งกลางคืนยิ่งแล้วใหญ่ จนต้องเดินไปบอกข้างบ้านว่าดูหมาให้ดีหน่อย และนั่นอาจจะเป็นต้นเหตุของการไม่พอใจกันก็เป็นได้ แต่ถ้าเกิดหมาข้างบ้านของคุณดันเป็นเจ้า Dudley แล้วละก็ ปัญหาของคุณจะหมดไปทันที เพราะมันถูกฝึกมาให้เห่าแบบกระซิบ รับรองว่าเงียบไม่สร้างปัญหาให้ใครแน่นอน     เจ้า Dudley นั้นแรกเริ่มเดิมทีมันเป็นสุนัขที่อาศัยอยู่ในหอพักของมหาลัย Greenville ในรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งนั้นเป็นที่ที่ Brian Gertler ผู้เป็นเจ้าของมันทำงานอยู่นั่นเอง แน่นอนว่าการที่มันอยู่ในหอพัก มันก็มักจะได้รับความรักจากเหล่านักศึกษา ผู้คนต่างพากันเล่นกับมันกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้วจากการได้รับความรักจากคนมากมาย แต่ว่ามันก็ต้องเรียนรู้ที่จะไม่สร้างปัญหาให้กับนักศึกษาด้วยเช่นกัน     ด้วยเหตุนี้มันจึงต้องเรียนรู้ที่จะทำให้ตัวเองไม่ส่งเสียงดัง Brian จึงต้องฝึกมันด้วยวิธีต่างๆ แน่นอนว่าแรกเริ่มมันก็เป็นเหมือนสุนัขทั่วไปที่เห่าเวลาอยากจะเล่นและมันก็เสียงดังมาก แต่แล้วหลังจากฝึกได้สักพักมันก็เรียนรู้ที่จะเห่าเงียบๆ เมื่อ Brian สั่งด้วยคีย์เวิร์ดคำว่า “Speak”     ซึ่งเมื่อ Brian สั่งเจ้า Dudley ว่า Speak เมื่อไหร่มันก็จะเห่าแบบกระซิบๆ พร้อมกับได้เล่นโยนลูกบอลกับเจ้านายของมัน แต่ว่ามันก็ไม่ได้ทำทุกครั้งหรอกนะ บางครั้งมันก็เห่าปกติเช่นกัน ทว่าอย่างน้อยนี้ก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีอย่างหนึ่งนั่นอง     ที่มา thedodo

หลายคนน่าจะเคยได้ยินว่าสุนัขนั้นสามารถถูกฝึก เพื่อให้เป็นสุนัขช่วยเหลือมนษย์ได้ในหลากหลายทาง และอย่างหนึ่งที่สุนัขมักจะถูกฝึกให้ช่วยก็คือการฟังเสียงนั่นเอง ซึ่งมันเป็นประโยชน์และช่วยชีวิตคนได้มากมายเลยล่ะ เรื่องราวในครั้งนี้ก็เช่นกัน Peggy Keating หญิงรายหนึ่งที่เธอไม่รู้มาก่อนว่า เธอจะสามารถรอดชีวิตมาได้เพราะเจ้า Pippa สุนัขตัวโปรดของเธอ     เจ้า Pippa นั้นเป็นสุนัขพันธุ์คอร์กี้ตัวเล็กน่ารักของน้องสาว Peggy ซึ่งตัวเธอก็ชอบในความน่ารักของมันมากๆ แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อทั้งคู่ออกไปเดินเล่นข้างนอก เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น!! ในเสี้ยววินาทีที่เธอกำลังอยู่ยืนใต้ต้นไม้ และเจ้า Pippa เหมือนจะได้ยินเสียงกิ่งไม้ที่ค่อยๆ แตกออกและกำลังจะหักลงมา มันจึงส่งเสียงเห่าเสียงดังอย่างสุดแรงเกิด เพื่อเตือนให้ Peggy รู้ว่าภัยอันตรายกำลังใกล้เข้ามาแล้ว…     โชคดีที่เหมือนตัว Peggy จะรู้สึกได้ถึงการเห่าของเจ้าตูบและขยับตัวไปนิดหน่อย เพียงไม่นานนักกิ่งไม้ขนาดใหญ่ก็ตกลงมาใกล้ๆ กับจุดเดิมที่เธอยืน เรียกได้ว่าตอนนั้นเธอถึงกับอึ้งไปเลยล่ะ!! เธอยังให้สัมภาษณ์กับทาง Thedodo ว่า “ฉันต้องขอบคุณ Pippa จริงๆ ที่ช่วยชีวิตของฉันให้พ้นจากภัยอันตราย ถ้ามันไม่เห่าเตือนฉันในตอนนั้น ฉันก็คงโดนกิ่งไม้ขนาดใหญ่ตกใส่เต็มๆ แล้วล่ะ”     Pegger ได้บอกปิดท้ายว่า จากเดิมที่เจ้า Pippa เป็นสุนัขตัวโปรดอยู่แล้ว พอเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ก็ทำให้เธอรักมันมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก และต้องขอบคุณความสามารถในการได้ยินของมัน ที่แม้จะไม่ได้ฝึกมาก็ตาม……

Diane Özdamar  เป็นหนึ่งในศิลปินช่างภาพสาวชาวฝรั่งเศส ผู้หลงใหลการถ่ายภาพชีวิตของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กต่างๆ และวันนี้เธอก็ได้นำผลงานภาพถ่ายสุดน่ารักมาให้เราได้ชมกัน โดยภาพถ่ายทั้งหมดนี้เธอใช้เวลารวบรวมนานนับปี เพื่อเก็บภาพอริยาบถน่ารักๆ ของหนูน้อย ซึ่งเธอหวังว่ามันจะช่วยลบความรู้สึกแย่ๆ ที่ผู้คนมีต่อพวกมันได้   เจ้า Herjan และหมวกวิเศษของมัน   3 พี่น้องหนูที่กำลังเอร็ดอร่อยกับขนมเป็นที่สุด   หมวกใบนี้ไม่มีกระต่ายนะจ๊ะ มีแต่หนูเท่านั้นแหละ   เมื่อเจ้า Arkanys ง่วงหนาวหาวนอน   Lysander บอกว่าสตรอเบอร์รี่อร่อยที่ซู๊ดดด   Thjazi ก็คงจะสงสัยอยู่ว่าลูกกลมๆ ใสๆ นี่คืออะไรกันนะ?   เค้าชื่อ Kjalarr เค้าสามารถทรงตัวกับแมลงเต่าทองได้ด้วยนะ   สองพี่น้องที่ดื้อที่สุดแห่งบ้าน Semtex และ Toutaits   Tjall กับช่วงเวลาแห่งฤดูใบไม้ผลิ   เรือเล็กจิ๋วของเจ้า Taz กำลังจะออกจากฝั่งแล้วน๊าา   ในช่วงวันคริสต์มาสตร์ดูเจ้า Feirefix จะมีความสุขกว่าใครเพื่อนเลยแฮะ   เค้าน่ารักมั้ยเหมือนดอกเดซี่เลย….   ขอกินองุ่นหน่อยได้มั้ยค๊าบบ??…

เป็นธรรมดาที่เราอาจจะถูกปลูกฝังคอนเซ็ปต์ไว้ในหัวว่า แมวมักจะไม่ถูกกับหนูเสมอเหมือนอย่างที่เราเห็นในหนังทอมแอนด์เจอร์รี่ แต่ก็ไม่เสมอไปหรอกนะ… เพราะที่ Brooklyn Cat Cafe ศูนย์พักพิงแมวเหมียวได้เลือกใช้หนู มาทำหน้าที่เป็นคุณแม่จำเป็นคอยดูแลเจ้ามิ้วน้อยทั้งหลาย   ลูกแมวทุกตัวที่ได้รับการช่วยเหลือมาที่นี่ จะถูกดูแลรักษาอาการบาดเจ็บขั้นต้นโดยเจ้าหนู Remy และ Emile   สำหรับหนูทั่วไปเมื่อพวกมันเจอแมวเหมียว สิ่งแรกมันอาจจะคิดถึงสัญชาตญาณการเอาตัวรอด ทว่าสำหรับหนูเพื่อนซี้ทั้งสองตัวนี้พวกมันกลับเลือกที่จะทำในสิ่งตรงกันข้าม “พวกมันน่ารักมากๆ เลยล่ะ แมวเหมียวทุกตัวที่ยังอายุไม่ถึง 8 สัปดาห์จะถูกส่งตัวมาที่นี่ และก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหนูทั้งสองที่จะคอยดูแลน้องๆ ต่างสายพันธุ์” Levin เล่า   ก่อนหน้านี้เจ้าหนูทั้ง 2 ชีวิต ก็เคยได้รับการช่วยเหลือมาก่อน และนี่อาจเป็นสิ่งดีๆ ที่มันอยากจะส่งต่อให้คนอื่นได้รับ   เรียกได้ว่าตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ หนูตัวจิ๋วทั้งสองได้คอยดูแลช่วยเหลือลูกมิ้วให้ผ่านพ้นช่วง 8 สัปดาห์แรกไปได้มากกว่า 15 ชีวิตแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคอยกล่อมน้องเข้านอน คอยป้อนอาหารให้น้อง คอยดูแลความสะอาดบนร่างกายน้อง หรือแม้กระทั่งปกป้องน้องจากอันตรายต่างๆ   แม้ว่าขนาดตัวจะต่างกัน และสายพันธุ์อาจจะทำให้เราอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่เจ้าหนูทั้งสองตัวนี้ได้ก้าวข้ามผ่านสิ่งเหล่านั้นไปแล้วล่ะ   “เราไม่นึกมาก่อนว่าจะได้เห็นภาพหนูอ้วน คอยดูแลเป็นห่วงเป็นใยลูกแมว และไม่น่าเชื่อว่าหางของมันจะเป็นของเล่นที่น้องๆ ชอบกันมากที่สุดเลยก็ว่าได้”…

เหล่าสัตว์โลกที่แสนจะน่ารัก มักทำให้หลายๆ คนต้องใจละลายยอมสมัครเป็นแฟนคลับพวกมัน และสัตว์หนึ่งชนิดที่เรียกได้ว่ามีความน่ารักไม่แพ้เหล่าสัตว์เลี้ยงเลยนั่นก็คือเหล่าสัตว์ในตระกูลสิงโตทะเลนั่นเอง เมื่อไม่นานมานี้ช่างภาพสาวคุณ Kinnara Bosworth ได้บันทึกภาพน่ารักๆ ของพวกสิงโตทะเล จากเกาะ Galápagos ประเทศเอลกวาดอร์ เธอใช้เวลากว่าสัปดาห์ในการเฝ้าบันทึกภาพกิจกรรมของพวกมัน และนี่คือภาพของเหล่าอุ๋งๆ ที่เรานำมาฝากกันวันนี้   พวกเราไม่ใช่แมวน้ำนะฮะ พวกเราคือสิงโตทะเลต่างหาก!!   พวกเราถูกจัดให้อยู่ในวงค์ Otariidae ในอันดับ Pinnipedia นะ และสิ่งที่แตกต่างจากแมวน้ำที่พวกคุณรู้จักนั้นก็คือพวกเรามีใบหูนั่นเอง   และนอกจากนี้เรายังมีครีบที่เอาไว้ช่วยให้เดินบนบกได้สบายๆ ต่างจากพวกแมวน้ำอีกด้วยนะ   เฉลี่ยแล้วพวกเรามีอายุประมาณ 20-30 ปีนะรู้ป่าว??   และอาหารโปรดของพวกเรานั่นก็คือ พวกสัตว์ทะเลตัวเล็กๆ อย่างพวกปลาและปลาหมึก   ส่วนมากแล้วพวกเรามักจะอาศัยอยู่ตามชายฝั่งตั้งแต่ในทะเลเขตอบอุ่น   ไปจนถึงเขตขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ก็มีพวกเราอยู่เหมือนกันนะ หรือว่าในแอฟริกา อเมริกาใต้ และบริเวณเส้นศูนย์สูตร อย่างหมู่เกาะกาลาปากอส ก็มีนะเออ   อ่า… รู้จักกันพอแล้ว ไปชมภาพน่ารักๆ ของพวกเราดีกว่านะ   แม่จ๋า…   แฮร่… น่ารักมั้ยครับบ??   ว่าไงจ๊ะ ตุ้ยนุ้ย!?   แหม่… น่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ยพวกสิงโตทะเลเนี่ย ที่มา boredpanda

คำที่ว่าหนีเสือปะจระเข้นั้น เหมือนจะเป็นสุภาษิตที่ฟังแล้วการยกตัวอย่างมันไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงได้เลย แต่มาวันนี้สุภาษิตนี้ได้ถูกพิสูจน์แล้วว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ !! ไม่นานมานี้ทางช่องยูทูบที่ชื่อว่า safariLIVE ได้ปล่อยคลิปที่แสดงให้เห็นเหตุการณ์ขณะที่กำลังอยู่บอลลูนเพื่อสำรวจอุทยานแห่งชาติ Maasai Mara ในประเทศเคนยา ซึ่งเป็นคลิปที่ม้าลายตัวหนึ่งกำลังวิ่งหนีบางอย่างในน้ำขึ้นไปบนบก…     สิ่งที่เจ้าม้าลายกำลังพยายามหนีอยู่นั้นก็คือ จระเข้ที่ทำท่าจะโจมตีและลากมันลงไปกินในน้ำ แน่นอนว่าด้วยความสามารถที่ว่องไวของม้าลายทำให้มันสามารถหนีขึ้นไปบนบกได้อย่างไม่ยากเย็นนัก   มันใกล้เข้ามาแล้ว วิ่งเร็ว!!   ทว่าเมื่อหนีจระเข้ก็ต้องมาปะเข้ากับสิงโตสองตัวที่เหมือนจะรู้และรออยู่ก่อนแล้ว เพราะเมื่อเจ้าม้าลายวิ่งขึ้นมาเพียงครู่เดียวเท่านั้น สิงโตตัวหนึ่งก็กระโจนออกมาจากทุ่งหญ้า พร้อมวิ่งไล่กวดอย่างรวดเร็วพร้อมกับกระโดดงับเข้าที่คอของม้าลายทันที!!   หนีจระเข้ได้ ก็มาเจอกับสิงโต ชีวิตมันช่างน่าเศร้า   ภายในคลิปได้มีคำอธิบายว่าพวกเขากำลังถ่ายทอดสดอยู่ และตอนแรกพวกเขาก็เอาใจช่วยให้เจ้าม้าลายมันหนีรอดจากจระเข้ได้ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จนเกิดเป็นดังภาพที่เห็น แน่นอนว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นตามกลไกธรรมชาติ ฉะนั้นเขาที่อยู่บนบอลลูนจึงทำได้แค่ดูเท่านั้นนั่นเอง…   ลองชมคลิปแบบเต็มๆ ได้ที่คลิปข้างล่างเลย   ที่มา dailymail

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2017 ที่ผ่านมาได้มีเหตุการณ์สุดประทับใจเกิดขึ้นที่มุมหนึ่งของโลก เมื่อ Dominyk Lever ช่างภาพมากฝีมือได้บันทึกเหตุการณ์ที่น่ารักที่สุดตั้งแต่เขาเคยบันทึกมา นั่นก็คือภาพของลูกแรคคูนตัวเล็ก 3 ตัว… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ Dominyk เดินทางไปตกปลาที่ Apple Creek รัฐโอไฮโอ ซึ่งขณะที่เขากำลังตกปลาอยู่ เขาก็รู้สึกว่ามีตัวอะไรบางอย่างมาเกาะแกะที่ขาของเขา   ว่ายน้ำป๋อมแป๋มมาแต่ไกล   ก้อนขนอะไรเนี่ยมาเกาขายิกๆ   พอมองลงไปเขาก็เห็นลูกแรคคูนสามตัวมาเกาะขาอยู่และพวกมันก็น่ารักมาก ไม่นานนักแรคคูนทั้งหมดก็ปืนขึ้นไปบนส่วนต่างๆ ของเขาและเลียหูเบาๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มุ้งมิ้งสุดๆ     ระหว่างนั้นเขาก็ตกปลาต่อไป และรอดูท่าทีว่าแม่ของพวกมันจะโผล่ออกมาไหม แต่ว่าเวลาผ่านไปนานสองนานก็ดูเหมือนว่าแม่ของพวกมันจะไม่โผล่มา จนสุดท้ายนักตกปลาคนอื่นก็มาถึงและนำปลาที่ตายแล้วในบริเวณนั้นมาให้ลูกแรคคูนเป็นอาหาร     พวกเขาจึงคาดว่าลูกแรคคูนทั้งสามน่าจะกำพร้า และหลงทางมาจากรังของพวกมัน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงตัดสินใจช่วยเหลือพวกมันและสร้างที่พักพิงให้ใหม่     ด้านนักวิชาการก็ออกมายืนยันว่าการช่วยลูกแรคคูนป่าทั้งสามด้วยการสร้างที่พักพิงให้ ถือเป็นเรื่องที่รับได้และไม่ทำให้พวกมันเสียนิสัยแต่อย่างใด เพราะพวกมันได้สูญเสียแม่ไป แต่ว่าก็ไม่ควรเลี้ยงพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยง ส่วนสาเหตุนั้นก็มาจากการที่พวกมันเป็นสัตว์ป่า ทำให้การฝึกและเลี้ยงดูเป็นเรื่องยาก ที่สำคัญถ้าเลี้ยงในบ้านข้าวของอาจจะพังได้ในเวลาไม่กี่วันนั่นเอง…   สามารถรับชมคลิปเต็มๆ น่ารักๆ ได้ข้างล่างเลยจ้า   ที่มา nationalgeographic

ย้อนเวลากลับไปเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม Jason และเพื่อนของเขาได้นั่งเรือออกไปตกปลาที่ทะเลสาบแห่งหนึ่ง ซึ่งในขณะที่เขาและเพื่อนกำลังจับปลาอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้เห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างที่กำลังพุ่งตัวมาหา หลายคนอาจจะคิดว่าสิ่งผิดปกติที่พุ่งเข้ามาอาจจะเป็นจระเข้ หรืองู แต่ความจริงแล้วมันคือลูกแมวน้อยที่แสนน่ารักต่างหากล่ะ!!     เหตุการณ์นี้เริ่มขึ้นก่อนที่ Jason ก่อนที่เขากับเพื่อนจะขึ้นเรือไปกลางทะเลสาบ จู่ๆ ก็ได้พบกับแมวจรตัวน้อยวิ่งเข้ามาหาเขา “เจ้าเหมียวผอมมากๆ Jason ก็เลยนำแซนด์วิชไก่และป้อนน้ำให้แมวได้กิน” Celeste Kassler แม่ของ Jason กล่าว หลังจากที่ได้รับความรักและความอบอุ่นจากมนุษย์แล้ว เจ้าเหมียวก็ออกไปด้วยความสุข จากนั้น Jason กับเพื่อนก็กระโดดขึ้นเรือเพื่อไปตกปลา เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่เขาได้พายเรือออกไปกลางทะเลสาบ Jason ก็เห็นลูกแมวตัวหนึ่งเกาะอยู่บนกิ่งไม้ กำลังส่งเสียงร้องเบาๆ ตามมาด้วยเสียงตกน้ำ จนทำให้เขาต้องรีบหันไปมองทันที!!     ภาพที่เห็นปรากฎว่าเป็น เจ้าเหมียวจรตัวน้อยตัวเดิมกำลังพยายามว่ายน้ำมาหาพวกเขา!! ทั้งสองจึงรีบพายเรือตรงไปยังเจ้าเหมียวเพื่อที่จะช่วยมันขึ้นมาพักอยู่บนเรือ เมื่อทั้งสองได้นำตัวของเจ้าแมวน้อยขึ้นมายังฝั่ง Jason ก็พบว่ายังมีแมวตัวอื่นๆ อีกหนึ่งตัว ซึ่งเขาก็คาดว่าเจ้าเหมียวทั้งสองอาจจะเป็นพี่น้อยกัน แต่ทว่าเขาไม่ได้มีอาหารมากพอที่จะแบ่งให้มันทาน ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะช่วยเหลือมัน ด้วยนำตัวเจ้าเหมียวกลับบ้าน     ภายหลังจากที่ถึงบ้าน คุณป้า และแฟนสาวของ Jason…

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายๆ คนถึงรักน้องหมาเหมือนลูก ก็ดูพวกมันสิ!! ทำตัวต่างจากเด็กซะที่ไหนล่ะ ทั้งขี้เล่น ขี้อ้อน และขี้กลัวในบางครั้ง เหมือนกับ Jasper น้องหมาพันธุ์โกลเด้นที่ไม่กล้าขึ้นบันไดเลื่อนในห้าง จนเจ้าของต้องอุ้มมันขึ้นไปแทน เป็นภาพที่น่ารักน่าชังเหมือนพาลูกไปห้างยังไงอย่างนั้นแหละ     โมเม้นน่ารักนี้เกิดขึ้นที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา เมื่อเจ้าของได้พาน้องหมาเข้าไปในศูนย์การค้า Brookfield Place ทุกอย่างดูเหมือนปกติ แต่เมื่อมาถึงบันไดเลื่อน น้องหมาก็หยุดชะงัก แสดงท่าทีลังเล และไม่กล้าที่จะขึ้นไปบนบันไดเลื่อนนั้น     ดังนั้นเจ้าของจึงอุ้ม Jasper ขึ้นมาแล้วพาขึ้นบันไดเลื่อนไปด้วยกัน ท่ามกลางสายตามากมายที่จับจ้องด้วยความเอ็นดู รวมทั้งคนที่ถ่ายคลิปนี้ด้วย ไม่นานหลังจากนั้นเจ้าของก็สร้างเพจอินสตาแกรมสำหรับมันขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า jasperthegoldenboy เพื่อตอกย้ำความน่ารักของมัน     ในอิสตาแกรมของน้องหมา เจ้าของได้โพสต์วิดีโอตอนที่อุ้มมันขึ้นบันไดเลื่อนด้วยนะ แล้วก็มีคนเข้ามาดูมากกว่า 180,000 ครั้ง พร้อมคอมเม้นต์ชื่นชมอีกเพียบ บางคนถึงกับบอกว่า ‘น่ารักอ่ะ…ขนาดเรายังไม่กล้าขึ้นบันไดเลื่อนเองเลย ต้องให้แม่พาขึ้นทุกครั้ง อิอิ’   เก๊ากลัวบันไดเลื่อนอะ   เอาเป็นว่าฝากอินสตาแกรม @jasperthegoldenboy ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคร้าบ   งุ้ยยย น่ารักอะ ที่มา dailymail 

ถ้าหากว่าคุณกำลังอยู่ในความเศร้าหรือทุกข์ใจ เชื่อหรือไม่ว่าน้องหมาน่ารักๆ นั้นจะช่วยพาคุณอกจากอาการหดหู่นี้ได้ เรื่องนี้หลายๆ คนที่มีน้องหมาคงเข้าใจกันดี ขนอันฟูฟ่องและแก้มที่หนานุ่มของเหล่าเจ้าตูบ จะช่วยทำให้คุณเผลอยิ้มออกมาได้อย่างแน่นอน และวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพน้องหมาแก้มยุ้ยน่ารัก มาฝากทุกๆ คนกัน ถ้าหากใครอยากผ่อนคลายจากความเคลียดล่ะก็ไปชมกันได้เลย…   แบร่!!   เอาตาไปซ่อนไว้ที่ไหนบอกมานะ!!   ทำไมทำตาอย่างนั้นล่ะเจ้าตูบ   เอ้า!! ยิ้มม   1.. 2.. 3.. แชะ   ตาลอยๆ นะแกน่ะ ฮ่าๆ   สวัสดีฮะ…   แหม่… ทำตาแป๋วเชียวนะ   แฮร่!! อย่ามายุ่งนะ เดี๋ยวแลบลิ้นเลย นี่แน่ะ   ว่าไงเจ้าอ้วน!!   ยิ้มหน่อยครับ   ไม่เอาแล้ว อย่าแกล้งผม   จ๊ะเอ๋!?   พอแล้วว จะนอน   ผมน่ารักไหมฮะ??   ว่าไงเจ้าตัวเล็ก…

ใครที่มีสัตว์เลี้ยงไว้ในบ้าน พวกมันมักจะสร้างเรื่องปวดหัวให้และพวกมันก็ฉลาดพอที่จะแอบทำในช่วงเวลาที่เราไม่อยู่บ้านด้วยนะ ก็เลยจับไม่ได้ไง แต่ก็ไม่ใช่สัตว์ทุกตัวนะที่จะตีเนียนได้เสมอไป เหมือนกับเจ้าพวกนี้ที่ริอาจเป็นสัตว์เลี้ยงตัวแสบ แต่ยังอ่อนหัดจนทำให้พวกมันถูกจับได้คาหนังคาเขา แล้วดูสิ๊จะทำหน้ายังไงบ้างนะ?   1. เห็นกันทนโท่ขนาดนี้ จะแก้ตัวมั้ย?   2. ยื่นมาแต่มือ คิดว่าไม่เห็นเหรอ   3. ไหนๆ ก็ถูกจับได้แล้ว ขอกินชิ้นที่คาปากแล้วกันนะ   4. เจอแล้ว เจ้าวายร้ายของบ้าน   5. อะ… เออ… ฟังเค้าอธิบายก่อนนะ   6. เด็กน้อยนั่งตกปลาตั้งนาน เอ็งจะชิ่งไปดื้อๆ แบบนี้หรอ   7. เปล่าขโมยนะ ขอแตะเฉยๆ   8. หัวขโมยไส้กรอก   9. ใช้ท่ายากขโมยขนมเด็กน้อย   10. ใครก็ได้ช่วยด้วย!!   11. เจอแล้ว หัวขโมยหนังสือพิมพ์   12. โทษรูมเมทตลอด ที่แท้เจ้าเหมียวนี่เอง…

หนึ่งในข้อเสียที่ทำให้เรารู้สึกว่า ยังไง๊ยังไงเจ้าตูบก็ยังสู้แมวเหมียวไม่ได้ ก็เพราะว่าเมื่อไหร่ที่พวกมันแอบทำผิดสายตาของพวกมันช่างไม่เนียนเอาซะเล๊ยย เช่นเดียวกับเจ้าปั๊กจอมวุ่นเพื่อนซี้ของนาย Kai Johnson ที่ดันเผลอทำแก้วแตกคาโต๊ะแบบจังๆ พอเจ้าของบ้านกลับมาเจอก็รู้สึกหัวร้อนเอาเรื่อง แถมอนุภาพแววตาอันอ่อนหวานของมันก็ช่างทำร้ายจิตใจเราซะเหลือเกิน   เรื่องมันมีอยู่ว่า Kai Johnson (ชื่อไก่ป่ะเนี่ย) กลับบ้านมาแล้วต้องเจอกับโต๊ะสภาพแบบนี้   และงานนี้จะเป็นฝีมือใครไปไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่เจ้าปั๊กหน้าย่น (ก็เอ็งอยู่บ้านคนเดียวนี่นา) แต่ดูเหมือนสายตามันจะอยากฟ้องว่า “เค้าเปล่าทำน๊าา”   ถึงในใจจะโกรธที่ข้าวของเสียหาย แต่อีกใจนึงก็อดฮาสีหน้าเจ้าปั๊กไม่ได้ พ่อหนุ่มเลยโพสต์ลงทวิตเตอร์ กลายเป็นที่ชอบอกชอบใจของชาวเน็ตกันยกใหญ่   บางคนก็แก้ตัวแทนตูบเลยว่า มันคงเป็นอุบัติเหตุจริงๆ แต่ยังไงก็อย่าลืมเช็คเศษแก้วในซอกเท้าลูกพี่ด้วยล่ะ   ถ้าเป็นสาวๆ ล่ะก็… เมื่อเจอสายตาออดอ้อนของพี่ปั๊กเข้าไปเท่านั้นแหละ เป็นต้องละลายกันทุกคนจริงๆ   ดูเหมือนเจ้าปั๊กจะเรียกคะแนนสงสารจากสาวๆ ได้ดีเหลือเกิน แหม่.. แบบนี้นาย Kai Johnson คงยกโทษให้แล้วแหละ   ไม่ว่าข้าวของจะเสียหายไปกี่ชิ้น เราก็โกรธพวกมันไม่ลงจริงๆ โถ่วเอ๊ยย ที่มา: Distractify

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เฝ้าฝันอยากจะได้ใกล้ชิดกับวาฬเจ้าสมุทรสักครั้งนั้น บางคนอาจจะโชคดีที่ได้เจอพวกมันปรากฏตัวมาให้เห็น บางคนอาจจะโชคร้ายไม่เจอเลย แต่กับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้พวกเขาอาจจะโชคดีที่สุดแล้วก็ว่าได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ San Ignacio Lagoon ในเมือง Baja California ประเทศเม็กซิโก โดยมีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งได้ซื้อทัวร์ออกทะเลไปเพื่อตามถ่ายรูปวาฬ และพวกเขาก็ได้พบกับภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ   ไม่บ่อยนักที่จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับวาฬได้ขนาดนี้   หลังจากที่เรือแล่นออกจากท่าได้ไม่นาน นักท่องเที่ยวก็ถึงกับดีใจกันสุดๆ เมื่อพวกเขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับมัน   ไม่มีใครรู้ว่าทำไมวาฬสีเทาคู่นี้ ถึงได้ใจดียอมออกมาทักทายผู้คน   นอกจากจะว่ายน้ำเวียนวนในบริเวณเรือแล้ว เจ้าวาฬยังโชว์ลีลาผาดโผนให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกันอีกด้วย   แม้ว่าวาฬจะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ แต่จิตใจของพวกมันบางทีก็ไม่ได้ดุร้ายเหมือนขนาดตัวซักเท่าไหร่   ภาพถ่ายทั้งหมดนี้ถูกถ่ายมาได้โดย Mark Carwadine ช่างภาพและนักสัตววิทยา   เจ้าวาฬสีเทาตัวนี้สงสัยจะมีนิสัยขี้อ้อนจัด ถึงกับให้คนลูบหัวเล่นราวกับตัวเองเป็นแมวเหมียวยังไงยังงั้น   อีกทั้งยังมีโชว์ลีลาผาดโผนตามสไตล์พี่บิ๊กแห่งมหาสมุทรให้นักท่องเที่ยวได้รู้สึกตื่นตาตื่นใจ   แม้ว่าวาฬจะเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่มาก แต่การตามหามันใต้ท้องทะเลลึก และได้ใกล้ชิดกับมันแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นทุกวันแน่นอน… ที่มา: Designyoutrust

เรื่องราววุ่นๆ ของเจ้า Moyo ลูกช้างตัวน้อยอายุไม่กี่วันที่ได้รับการช่วยเหลือ จากเหตุการณ์ที่มันกำลังจะจมน้ำ หลังจากพยายามจะเดินข้ามแม่น้ำเพื่อตามครอบครัวที่อยู่ห่างไปไกล… จากการช่วยเหลือในครั้งนั้น มันก็ถูกนำตัวส่งมาที่ศูนย์ Wild Is Life ซึ่งที่แห่งนั้นทำให้มันได้เจอกับ Roxy Danckwerts ผู้ก่อตั้งศูนย์ดังกล่าว และเธอก็ได้กลายมาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเจ้าช้างน้อยอีกด้วย     ด้วยความที่เจ้า Moyo ติด Roxy มากๆ ทำให้เวลาเธอไปไหนมาไหนก็จะติดตามไปทุกที่ แน่นอนว่ามันยังเป็นลูกช้างฉะนั้นมันยังอยู่ในฐานที่รับได้ จนมันมีอายุ 14 เดือน ซึ่งขนาดของมันก็โตพอสมควรแล้ว แต่มันก็ยังไม่ยอมห่างจากเธอสักที   ตอนเห็นภาพนี้ ก็ยังมั่นใจว่ามันเป็นช้างน้อยจริงๆ   พอเห็นภาพที่มันขึ้นไปบนเก้าอี้ ชักจะไม่มั่นใจแล้วล่ะว่า เป็นช้างน้อยจริงไหม   แล้วก็ซ๊นซน เดินชนนั่น ชนนี่ ทำตัวเหมือนแมวหรือสุนัขเลยนะ   เขาทำอาหารกัน เจ้า Moyo ก็ไม่วายอยากทำอาหารกับเขาด้วย   ร่อนไปทั่วบ้าน ขโมยช้อนเล่นบ้าง ตามประสาเด็กๆ แต่ลองคิดภาพตอนโตแล้วมันยังติด Roxy ดูสิ   สามารถชมความน่ารักของเจ้า Moyo เต็มๆ ได้ที่คลิปข้างล่างเลยจ้า…

การเปิดประตูให้กับคนแปลกหน้า ทั้งๆ ที่เราไม่เคยรู้จัก และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมากจริงๆ เพราะไม่ว่าจะมาขายของ หรือมาขอความช่วยเหลือ เราไม่รู้หรอกว่าพวกเขาเหล่านั้นจะมาดีหรือมาร้ายกันแน่!! เหมือนดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้ชื่อ niamhish ที่ได้เผยเรื่องราวสุดสยองผ่านเว็บไซต์ Reddit จนทำให้ชาวเน็ตต่างก็พากันแชร์เรื่องราวของเขาไปทั่วโลกโซเชียล     เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ในวันที่สดใส เขาดันไปเห็นการปรากฏตัวของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ลักษณะมีสี่ขา ขนทั่วลำตัวเป็นสีขาว ยกเว้นบางส่วนของใบหน้าและหางจะเป็นสีดำ ซึ่งสิ่งมีชีวิตชนิดนี้เราเรียกๆ กันสั้นๆ ว่า แมวเหมียว มายืนทำหน้าตามุ้งมิ้งอยู่นอกประตูบ้าน ด้วยความที่เห็นว่าเจ้าเหมียวน้อยมีท่าทางที่น่าสงสาร และอาจจะมาเพื่อขอความช่วยเหลือ ดังนั้นจึงทำให้เขาจึงเปิดประตูให้มันเข้ามา โดยที่ไม่รู้ว่านั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตหลังจากนั้นของเขาเปลี่ยนไปทันที     หลังจากที่นำมันเข้ามาในบ้าน เขาก็พบว่าเจ้าเหมียวมาขอความช่วยเหลือจริงๆ เพราะที่อุ้งมือของมันมีแผลเหมือนถูกไฟไหม้และมีขนสกปรกเลอะเทอะ และเมื่อได้นำตัวของมันไปรักษา ทางสัตว์แพทย์ก็คาดว่า เจ้าเหมียวอาจจะไปติดในเครื่องยนต์ หรืออาจจะไปเดินผ่านของเหลวประเภทน้ำกรด แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังดูแข็งแรงดีนะ     หลังจากนั้นเขาก็ใช้เวลากว่าสองถึงสามสัปดาห์ เพื่อพยายามติดต่อหาเจ้าของ แต่ทว่ากลับไม่มีใครมารับมันไปเลย ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจรับเจ้าเหมียวตัวน้อยมาเลี้ยง และทำให้มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แถมยังตั้งชื่อให้มันว่า Taco อีกด้วย     Taco ได้เข้ามาอาศัยอยู่กับครอบครัวใหม่ แถมยังได้พบเจอกับเพื่อนเหมียวตัวอื่นๆ จนกลายเป็นขบวนการแมวเหมียวไปแล้วววว…

เป็นเรื่องราวน่ารักๆ ของความเป็นห่วงสุนัขจากคุณป้าผู้ใจดีที่กำลังเป็นกระแสไวรัลไปทั่วอินเตอร์เน็ต เพราะเธอไม่ได้แค่เอามาฝากธรรมดา แต่เธอมาพร้อมกับกฎข้อบังคับที่เคร่งครัดสุดๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความน่ารักเช่นกัน เมื่อหนุ่ม Tommy Rivers รับปากคุณป้าของเขาไว้ว่าจะช่วยดูแลเจ้า Pepper เจ้าตัวก็ถึงกับเซอร์ไพรส์ทันที เมื่อคุณป้าเอามันมาฝากพร้อมกับกฎที่ไม่ทำไม่ได้จริงๆ   “เมื่อป้าอยากให้ผมช่วยดูบ้านและหมาให้ แต่แม่มเอ้ยย… เยอะเหลือเกิ๊นน ฮ่าๆๆ”   ส่วนนี่ก็คือเจ้า Pepper ตูบตาใสที่คุณป้ารักและหวงแหนเป็นที่สุด   กลับกลายเป็นว่านี่ไม่ใช่การรับฝากเลี้ยงหมาแบบธรรมดาทั่วไป แต่เปรียบได้กับภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่พ่อหนุ่มต้องรับผิดชอบ และข้อบังคับทั้งหมดที่คุณป้าสั่งไว้มีดังนี้… 1. ต้องให้อาหารเช้าตอน 8 โมง อาหารเย็นตอน 5 โมง ครั้งละ 1/4 ถ้วย และเติมน้ำสะอาดให้เต็ม 2. ขนมห้ามมีคาร์โบไฮเดรตและต้องให้กระดูกหมาไปกัดเล่นทุกวัน 3. ต้องพาไปเล่นจับลูกบอลทุกวัน (ใช้ปืนยิงสีเขียว) และพาไปเดินเล่นตามบล็อค (แล้วแต่วัน) 4. ต้องกอดเยอะๆ และจูบเยอะๆ หอมแก้มเค้าด้วย และอย่าลืมลูบท้องด้วยล่ะ 5. ส่งรูป Pepper มาให้ดูทุกวัน จะได้รู้ว่าเธอโอเครึเปล่า และต้องโทรเฟซไทม์ให้ด้วยทุกวันเช่นกัน 6.…

รู้หรือไม่ “ตั๊กแตน” แมลงที่เดิมทีไม่เป็นภัยต่อมนุษย์โดยตรงนั้น จริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายมากๆ ชนิดหนึ่งในวงของแมลงด้วยกัน ด้วยความสามารถในการเป็นนักล่านั้น เดิมทีเราจะรู้ว่าเจ้าตั๊กแตนสามารถจะกินแมลงขนาดที่เล็กกว่าได้อย่างสบายๆ หรืออาจจะเป็นตั๊กแตนด้วยกันเองพวกมันก็ล่าเป็นอาหารเช่นกัน     แต่ถ้าบอกว่า ตั๊กแตนนั้นสามารถล่าสัตว์อื่นอย่างนกได้ด้วยล่ะ เราจะเชื่อกันไหม? แน่นอนว่าปกติเราจะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะโดยธรรมชาตินั้นนกจะเป็นผู้ล่าแมลงต่างหาก แต่สำหรับตั๊กแตนแล้วมันไม่เป็นแบบนั้น เพราะตั๊กแตนหลายสายพันธุ์จากทั่วโลกได้รับการยืนยันแล้วว่า พวกมันดุร้ายและยังสามารถล่านกขนาดเล็กได้สบายๆ อีกด้วย ยังไม่หมดเท่านั้น พวกมันไม่ได้ล่านกเพื่อความสนุกแต่อย่างใด แต่พวกมันกินสมองของนกเป็นอาหารจานหลักเลยล่ะ…     Tom McCarthy และ Randy Anderson จาก University of Basel ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน โดยพวกเขาได้ทำการสังเกตการล่าของตั๊กแตนแล้วก็พบว่า ความโหดร้ายที่กล่าวไปข้างต้นมันยังธรรมดาเอามากเมื่อเทียบกับของพวกเขา พวกเขาบอกว่านกฮัมมิ่งเบิร์ดจัดเป็นนกชนิดหลักที่ตั๊กแตนจะจับกินเป็นอาหาร วิธีการกินของพวกมันนั้นจะเป็นการอัดให้นกบาดเจ็บ จากนั้นพวกมันก็จะจับตัวนกไว้นิ่งและกัดกินสมองของนกอย่างช้าๆ ที่สำคัญนกยังมีชีวิตอยู่!!   ดูกำลังขาของมันเสียก่อน ยังไม่รวมถึงกำลังแขนที่ห้อยหัวหิ้วเหยื่อได้สบายๆ ด้วยนะ   ดูสายตานักล่าของมันสิ ฮัมมิ่งเบิร์ดผู้น่าสงสาร   มาถึงจุดนี้ #เหมียวมู่ทู่ ยอมรับเลยว่า ภาพลักษณ์ตั๊กแตนยอดนักสู้ผู้มาพร้อมวิชากังฟู ตอนนี้ได้กลายเป็นตั๊กแตนยอดนักฆ่าล่าไม่เลี้ยงและยังกินเหยื่อทั้งเป็น ไปเสียแล้ว…

แมว เป็นสัตว์ที่ใครๆ เห็นก็ต้องอยากเข้าไปเล่น เข้าไปสัมผัส นั่นอาจจะเป็นเพราะความน่ารักของพวกมัน เลยทำให้ใครๆ ก็อยากเข้าใกล้ ยิ่งถ้าแมวตัวไหนที่มีขนฟูฟ่องพุงป่องๆ ละก็ มันก็จะยิ่งเพิ่มเลเวลความน่าหมั่นเขี้ยวเข้าไปอีก เหมือนดังเช่น 20 ภาพของแมวเหมียวตัวอ้วนพีเหล่านี้ ที่มาพร้องกับพุงอันน่าฟัดที่เห็นแล้วอยากจะเข้าไปสัมผัสมากเลยล่ะ   ขอทาสอย่างเราๆ ฟัดหน่อยจะได้ไหม   ขนฟูๆ นุ่มๆ ตรงหน้าท้อง มันช่างน่าเอามาเป็นหมอนยิ่งนัก   คงจะนอนสบายไม่น้อยเลยล่ะ   ขอสัมผัสหน่อยได้ไหม   อยากเอามือไปเกาเล่นตรงพุงจัง   ใบหน้าที่ดูเต็มใจให้ทาสเล่นพุงเป็นอย่างมาก   เข้ามาเล่นพุงพี่สิจ๊ะน้องหนู   ขนฟูๆ แบบนี้ มันคงจะนุ่มราวกับปุยฝ้าย   น่าฟัดจริงๆ   งานนี้ถูกใจทาสแมวหรือเปล่าน้า   แบร่!! ไม่ให้เล่นพุงหรอก   แต่สำหรับเราใครอยากเล่นก็เข้ามา   เจ้าเหมียวอ้วนกับพุงป่องๆ   ขอลูบพุงหน่อยได้ไหม   แค่จับเบาๆ เอง   พุงขาวๆ น่าฟัดมาก…

มีสุนัขน่ารักๆ ฉลาด แสนรู้ หลากหลายพันธุ์ที่โด่งดังในโซเชียลจนใครๆ ก็อยากซื้อมาเลี้ยง เช่น พันธุ์พิทบูล ชิบะ โกลเด้นฯ และพันธุ์อื่นๆ ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป แต่จะสังเกตว่าสุนัขพันธุ์เชาเชาไม่ค่อยถูกพูดถึงในโลกออนไลน์เท่าไรนัก ทั้งๆ ที่พวกมันก็มีขนปุกปุย น่ารักน่ากอด ไม่แพ้สุนัขพันธุ์อื่นๆ เลย ไม่งั้นก็ลองดูภาพของเจ้าเชาเชาพวกนี้สิ ความน่ารักของพวกมันก็ชวนให้ขย้ำเป็นที่สุด!!   งุ้ยยย ดูอุ้งเท้าของมันจิ   มีความซุกซนแบบน่ารักน่าหยิก   รับเชาเชาไว้ในอ้อมแขนสักตัวไหม?   เห็นแล้วก็อยากไปนอนเล่นด้วย   เป็นหมาที่น่าแกล้งมาก   ขนาดทะเลาะกันยังน่ารักอะ   แหม่ มีความเหมือนสิงโตเบาๆ   มันก็จะฟินๆ หน่อยเมื่อถูกพัดลมเป่าขน   แล้วแบบนี้ไม่รักได้ยังไง ที่มา distractify

การที่ต้องสูญเสียลูกชายสุดที่รักไป ทำให้คุณแม่ Marie Robinson ต้องพบกับความเศร้าเสียใจ แต่ดูเหมือนว่าสวรรค์จะเข้าใจถึงความทุกข์ของเธอ จึงได้ส่งเจ้านกน้อยตัวหนึ่งมาคอยดูแลเธอ… เป็นเวลากว่า 4 ปีแล้วที่คุณ Robinson ต้องอยู่กับความเสียใจ หลังจากที่หนูน้อย Jack ลูกชายวัย 4 ขวบของเธอต้องจากไปด้วยโรคมะเร็งในสมอง     หลังจากที่ถึงวันครบรอบสามปีของการจากไปของลูกชาย คุณแม่ได้ไปเยี่ยมที่หลุมศพของลูกชายอย่างเช่นเคย และที่นี่เองก็ทำให้เธอได้พบกับเจ้านกตัวเล็กสีส้มตัวนี้ เจ้านกน้อยออกมาเกาะที่ป้ายหลุมศพเพื่อทักทายกับคุณแม่ มันไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย และหลังจากที่ออกมาทักทายได้ซักพัก เจ้าตัวเล็กก็บินมาเกาะที่เท้าของคุณ Robinson   เจ้านกที่แสนจะธรรมดา แต่มันกลับทำให้คุณแม่ท่านนี้มีความสุขได้   คุณแม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกวิดีโอของเจ้านกน้อยระหว่างที่มันกำลังทำความคุ้นเคยกับเธอ และหลังจากนั้นเมื่อเธอยื่นมือออกไป เจ้านกน้อยก็บินขึ้นมาเกาะที่มือทันทีเหมือนมันกำลังเข้ามาปลอบใจเธอ สำหรับคุณแม่ที่ต้องสูญเสียลูกไป วินาทีนี้มีความหมายกับเธอมาก “มันทำให้ฉันร้องไห้เลย เจ้านกตัวนี้เหมือนข้อความที่ส่งมาจากลูกชายฉัน” เธอเขียนข้อความดังกล่าวลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว     คุณ Robinson หวังว่าวิดีโอของเธอนั้นจะช่วยให้กำลังใจกับผู้อื่นได้ “ฉันอยากจะบอกกับทุกคนว่า คลิปวิดีโอนี้ช่วยให้ฉันคลายความเศร้าจากการสูญเสียลูกชายได้ และขอบคุณกำลังใจจากพวกคุณทุกๆ คนมาก”   ช่วงเวลาที่เจ้านกน้อยออกมาทักทายกับคุณแม่   ช่างเป็นช่วงเวลาดีๆ สำหรับคุณแม่ท่านนี้เลยจริงๆ นะเนี่ย เล่นเอาซะซึ้งเลยนะเจ้านกน้อย… ที่มา thedodo

ปกติเรามักจะเห็นผู้คนอวดสัตว์เลี้ยงตัวเองในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นหมา แมว หมู และอื่นๆ อีกมากมาย แล้วเพื่อนๆ เคยเห็นคนอวดด้วงบ้างมั้ยเอ่ย!? นี่คือ Spike ด้วงน้อยผู้น่ารัก ที่อยู่กับ Mandy ครูสอนภาษาอังกฤษวัย 27 ปี ที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น เธอบอกว่าเด็กๆ ในญี่ปุ่นมักนิยมเลี้ยงด้วงไม่แพ้หมาแมวเลยล่ะ     สำหรับ Mandy นั้น เธอเกิดสนใจด้วงครั้งแรกตอนเห็นพวกมันถูกขายในงานเทศกาล เธอเลยตัดสินใจซื้อด้วงมาเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว จนตอนนี้นอกจาก Spike แล้วเธอยังมีด้วงอีก 3 ตัวคือ Sally Julius และ Cleo แล้วเธอก็ค้นพบความสามารถของพวกมันในวันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม 2017 ขณะที่กำลังเล่นกับเจ้า Spike ครูสาวก็เห็นมันใช้เขาจับปากกาสี แล้วขีดเขียนไปมาบนกระดาษ     หญิงสาวแปลกใจมากที่จู่ๆ มันก็จับปากกาขึ้นมาขีดเขียน เธอเลยถ่ายรูปของมันพร้อมผลงาน แล้วโพสต์ลงทวิตเตอร์ เพื่อถามชาวเน็ตว่า Spike กำลังทำอะไรกันแน่     ปรากฏว่าโพสต์ของเธอดังระเบิดในชั่วข้ามคืน มีชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก จน Mandy เองก็ยังอึ้ง…

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐเพนซิลเวเนีย ได้เข้าจับกุมแก๊งเป็ดน้อย 4 ตัว หลังจากที่พวกมันได้จับกลุ่มพากันออกมาเดินเที่ยวเตร็ดเตร่อยู่บนท้องถนน บริเวณร้านสะดวกซื้อ Pump N Pantry     ทางด้านผู้เป็นเจ้าของได้ออกมาเผยว่า โดยปกติแล้วแก๊งเป็ดน้อยเหล่านี้มักจะใช้เวลาอยู่กับการว่ายน้ำในสวนหลังบ้าน หรือเต็มที่ก็เดินไปเที่ยวเล่นบริเวณรอบๆ บ้านของเพื่อนบ้าน แต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมามันกลับพากันเดินไปที่ร้านสะดวกซื้อ Pump N Pantry ซึ่งดูเหมือนว่านี่จะเป็นการผจญภัยที่ไกลที่สุดของพวกมัน ทั้งนี้ ไม่ได้มีการระบุเอาไว้ว่าเหตุใดพวกมันถึงเลือกมาเที่ยวที่ร้านแห่งนี้ แต่อาจจะเป็นเพราะว่าพวกมันตามคนที่แอบเอาอาหารให้พวกมันกินก็เป็นได้ ซึ่งหลังจากที่พลเมืองดีเห็นพวกเขาก็ได้โทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยเหลือ     ทางด้านพนักงานประจำร้านสะดวกซื้อ Pump N Pantry ได้ออกมาเปิดเผยว่า เป็ดไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีเลย อย่างไรก็ตาม พนักงานคนดังกล่าวก็ได้ยอมรับว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง พวกเขาก็เข้าจับกุมแก็งเป็ดน้อยทันที “พวกมันถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งตามจับไปรอบๆ รถ ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ตลกมากจริงๆ” พนักงานกล่าว   แหม!! จะพากันออกมาเที่ยวหาความสุขซะหน่อย แต่ก็ไปไม่รอดเพราะสุดท้ายแก๊งเป็ดแสนน่ารักก็โดนตำรวจหนุ่มจับกุมจนได้   แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่ไม่ใช่การจับกุมเพื่อเอามันไปเป็นอาหารแต่อย่างใด แต่ทางเจ้าหน้าที่ต้องการให้พวกมันปลอดภัย พร้อมกันนี้พวกเขายังพยายามช่วยกันตามหาเจ้าของให้กับแก็งเป็ดเหล่านี้อีกด้วย  …

เจ้าเหมียวสัตว์สี่ขาที่ไม่ค่อยสนโลกสักเท่าไหร่ เรื่องนี้ใครที่เป็นทาสแมวคงจะรู้กันดี พวกมันช๊อบชอบที่จะทำอะไรเอาแต่ใจ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นซนที่ไม่สนว่าของจะพัง หรือการเข้าไปในที่หวงห้ามก็ตาม!! และล่าสุดก็ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @kazzhico2 ชาวเน็ตญี่ปุ่นที่เกิดอาการตกใจหลังจากที่กลับมาถึงบ้าน ก็พบกับเจ้าเหมียวเข้าไปยึดแท่นบูชาในบ้านไปแล้ว!? ก็เลยทำการถ่ายภาพของเจ้าเหมียว ที่เข้าไปนั่งอยู่ในบริเวณแท่นบูชาพระพุทธรูป มาแชร์ให้ชาวเน็ตท่านอื่นๆ ได้ชมกัน   “เมื่อผมกลับมาถึงบ้านและมองไปที่แท่นบูชา ผมสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ” ชาวเน็ตเจ้าของภาพกล่าว   แท่นบูชาที่เจ้าเหมียวเข้าไปอยู่นั้นสำหรับชาวญี่ปุ่นถือว่ามีความสำคัญต่อพวกเขาอย่างมาก พวกเขาจะคอยระมัดระวังอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นตอนเปลี่ยนดอกไม้หรือตอนกราบไหว้ เพื่อไม้ให้สิ่งของด้านในได้รับการกระทบกระเทือน แต่ถึงจะระวังอย่างไรก็ตาม แต่พี่เหมียวในบ้านดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจเสียเท่าไหร่ เล่นเข้าไปอยู่ในนั้นซะได้ นี่คิดจะแสดงพลังทำตัวสูงส่งกว่ามนุษย์แล้วใช่มั้ย!?   คิดว่าตัวเองเป็นแมวนางกวักหรือไงเนี่ย เจ้าเหมียว!!   หลังจากนั้นไม่นานก็มีชาวเน็ตได้เข้ามาคอมเม้นต์ภาพของพี่แมวที่ทำตัวเป็นลูกเทพกันยกใหญ่ หลายคนถึงกับฮาเลยทีเดียว   ชาวเน็ตท่านหนึ่งกล่าว่า “มันคงจะคิดว่านั่นเป็นบ้านหลังใหม่สินะ”    แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่แมวของคุณ @kazzhico2 เท่านั้นที่ชอบเข้าไปอยู่ในแท่นบูชา ยังมีเจ้าเหมียวตัวอื่นๆ ที่ชื่นชอยแท่นบูชานี้เช่นกัน ชาวเน็ตท่านอื่นๆ ได้ร่วมกันแบ่งปันภาพของน้องแมวที่เข้าไปอยู่ในแท่นบูชาและทำท่าเหมือนกับว่าตัวเองเป็นเทพเจ้าซะงั้น   อื่ม… ดูทำหน้าเข้าสิเจ้าเหมียว!!   ชาวเน็ตท่านหนึ่งโพสต์ภาพของเจ้าเหมียวพร้อมกับบอกว่า “เจ้าแมวบ้านฉันก็ชอบเข้าไปอยู่ในนั้นเหมือนกัน”   ที่หนักกว่าแมวก็เป็นกระต่ายนี่แหละ แกก็เอากะเค้าด้วยเหรอเนี่ย!!   แบบนี้ที่เค้าว่าแมวเป็นสัตว์ที่คิดจะครองโลกคงจะจริงสินะ ฮ่าๆ ที่มา rocketnews24

หลายๆ คนอาจจะเป็นแฟนคลับของเหล่าสัตว์ป่าที่แสนน่ารักๆ ไม่ว่าจะเป็นน้องแพนกวิ้น หรือเจ้าแมวน้ำอุ๋งๆ กันแน่เลยใช่ไหมล่ะ อ่า… ถ้าหากใครชื่นชอบโมเม้นต์น่ารักๆ ของพวกสัตว์แล้วล่ะก็ห้ามพลาดเรื่องที่เรานำมาฝากกันเลยล่ะ เพราะวันนี้เราได้รวบรวมภาพเหล่าสัตว์โลกสายฮาจากงานประกวด Comedy Wildlife Photography Awards มาให้ชมกัน…     การประกวดภาพถ่ายสัตว์โลกสุดฮาที่ว่านี้ ได้รับความสนใจจากช่างภาพมากมายทั่วโลก ซึ่งในปีที่ผ่านมามีภาพที่ส่งเข้าประกวดมากถึง 2,200 ภาพจาก 75 ประเทศทั่วโลกเลยทีเดียว คุณ Tom Sullam ผู้จัดการประกวดดังกล่าวเล่าถึงที่มาที่ไปของงานครั้งนี้ว่า “ผมอยากให้การประกวดนี้เป็นสัญลักษณ์ของการอนุรักษ์พวกสัตว์ป่า ภาพความน่ารักของพวกมันคงจะทำให้หลายๆ คนตระนักถึงความสำคัญของพวกเค้าได้”   เจ้าหมาจิ้งจอกที่แอบชิ้งฉ่องในสนามกอล์ฟ เมือง San Jose รัฐแคลิฟอร์เนีย   เจ้าเพนกวิ้นกับท่าทางแปลกๆ ของมันใน Isla Martillo ประเทศอาร์เจนตินา   เจ้าลิงอินดรีกำลังบอกว่าสบายมากพวก!!   เจ้านกฮูกตาเดียว จากประเทศชิลี   ภาพของเหล่านกที่กำลังพูดคุยกัน จากประเทศโคลอมเบีย   แมลงตัวน้อยที่ออกมาทักทายช่างภาพ   เจ้าจิงโจ้ที่กำลังฝึกท่ากังฟูอยู่กลางทุ่งหญ้า ในประเทศออสเตรเลีย   การคำราม (เชิงหาว) ของเจ้าป่า จากประเทศแทนซาเนีย ผลงานที่เข้าร่วมประกวดในปี 2011…

มีลูกสุนัขมากมายบนโลกใบนี้ ที่เกิดมาไม่ได้มีชีวิตที่สวยหรู และมีเจ้านายที่เลี้ยงดูเป็นอย่างดีเหมือนกับสุนัขหลายๆ ตัว Chewy เจ้าหมาน้อยพันธุ์ชิวาวา วัยเพียง 3 เดือนตัวนี้ก็เช่นกัน มันเป็นสุนัขน่าสงสารที่ถูกพบตอนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และอยู่อย่างโดดเดี่ยวในห้องน้ำที่สนามบินลาสเวกัส ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพร้อมกับโน้ตฉบับหนึ่ง   และนี่คือเรื่องราวของ Chewy หมาน้อยที่ถูกเจ้าของเดิมทิ้งอย่างไม่ใยดี แต่อย่างน้อยก็ยังมีคนมาช่วยมันเอาไว้ได้   Chewy เป็นลูกหมาตัวน้อยน่าสงสาร ที่ถูกเจ้าของเดิมทิ้งเอาไว้ พร้อมกระดาษโน้ตที่มีข้อความว่า… “สวัสดี!! ฉันชื่อ Chewy เจ้าของของฉันกำลังประสบปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ซึ่งไม่ค่อยดีนัก และเธอไม่มีเงินพอที่จะพาฉันขึ้นเครื่องบินไปกับเธอด้วย จริงๆ แล้วเธอไม่ได้ต้องการทิ้งฉัน แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว แฟนเก่าของฉันได้เตะสุนัขของฉันขณะที่เรากำลังทะเลาะกัน และมันก็มีบาดแผลขนาดใหญ่อยู่ที่หัว มันอาจจะต้องการสัตว์แพทย์ ฉันรัก Chewy มาก โปรดรัก และดูแลมันที”     โชคดีที่ Chewy ไม่ได้ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเป็นเวลานาน เพราะอย่างน้อยก็มีพลเมืองดีได้เข้ามาช่วยเหลือเอาไว้ และส่งตัวมันไปยังมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ Connor and Millie’s Dog Rescue หลังจากที่ได้อ่านเรื่องราวของมัน “ตอนที่ได้ฟังเรื่องราวของมัน ทำให้ฉันถึงกับเข่าอ่อน ฉันไม่คิดลังเลที่จะรับเจ้าหมามาดูแล พร้อมสั่งให้ผู้ดูแลรักษามันทันที” Gilliam ผู้ก่อตั้งมูลนิธิกล่าว     หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือ ในตอนนี้เจ้า…

หลายคนเคยรู้สึกบ้างมั้ยว่า เวลาที่ไปเจอเรื่องราวของสัตว์สายพันธุ์ต่างๆ ในอดีตแล้วรู้สึกว่า ดีแล้วล่ะที่พวกมันสูญพันธ์ไปแล้ว แต่ถ้าหากว่าใครไม่เคยรู้สึกแบบนั้นมาก่อน ลองมาทำความรู้จักกับ Razana กันเสียก่อน #เหมียวมู่ทู่ เชื่อเลยว่าถ้าคุณได้รู้จักกับมันแล้ว ความรู้สึกที่บอกไปนั้นจะลอยมาทันทีเลยล่ะ     Razana คือชื่อของสัตว์สายพันธุ์นักล่าที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับจระเข้ และมีลำตัวที่ยาวถึง 7 เมตร ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น ลักษณะฟันของมันยังคล้ายคลึงกับไดโนเสาร์ทีเร็กซ์อีกต่างหาก ที่สำคัญก็คือมันยืนสองขาได้ด้วย!!   ลำตัวยาวถึง 7 เมตร และยืนสองขาได้…ยอมแล้วจ้า   สาเหตุที่มีการหยิบเรื่องของเจ้าจระเข้ดึกดำบรรพ์ตัวนี้มาพูดก็เพราะว่า เมื่อไม่นานมานี้นักบรรพชีวินวิทยาได้ค้นพบชิ้นส่วนกระดูกของมันเพิ่มเติมนั่นเอง ก่อนหน้านี้นักวิจัยรู้เพียงแค่ว่า Notosuchia ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ที่มีรูปร่างคล้ายคลึงกับจระเข้และอาศัยอยู่ในยุคจูราสสิคเมื่อ 42 ล้านปีก่อน เป็นสัตว์เพียงชนิดเดียวที่เป็นต้นแบบการวิวัฒนาการของจระเข้ แต่ก็อย่างที่เห็นว่า Razana คือสัตว์อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้ยอมรับแล้วว่าเป็นสัตว์อีกชนิดที่เป็นญาติห่างๆ กับจระเข้ด้วย   ขนาดเมื่อเทียบกับคน ในช่วงที่ยังไม่ได้ยืนสองขา   นักวิจัยยังเผยถึงลักษณะนิสัยของสัตว์ชนิดนี้เพิ่มเติมจากการวิจัยฟันว่า Razana น่าจะเป็นสัตว์ที่โหดร้ายยิ่งกว่า Notosuchia และเป็นสัตว์ที่กินไม่เลือก เพราะด้วยขนาดฟันกรามที่หนาจนสามารถบดกระดูกได้ ทำให้มันถูกจัดเป็นสัตว์นักล่าและกินซากในเวลาเดียวกัน สำหรับชื่อเต็มๆ ของมันก็คือ Razanandrongobe sakalavae ซึ่งหมายความว่า กิ้งก่ายักษ์ที่เป็นบรรพบุรุษจากภูมิภาค…

นับว่าเป็นอีกเหตุการณ์การช่วยเหลือสุนัขผู้ตกทุกข์ได้ยากที่นาย Adam Parascandola จะต้องจดจำวินาทีที่เขาได้เห็นภาพมันครั้งแรกไปตลอดชีวิต… เจ้า Camo เป็นหนึ่งในสุนัขผู้โชคร้ายที่ต้องมาอยู่ในฟาร์มเนื้อสุนัขแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวชีวิตที่พลิกผันของเจ้า Camo แต่หลังจากที่เจ้าของฟาร์มเนื้อสุนัขที่ทำมานานกว่า 20 ปี คิดที่จะล้มเลิกการขายเนื้อสุนัขให้กับโรงฆ่าสัตว์ไป แต่ไม่สามารถพาน้องหมาที่อยู่ภายในฟาร์มหาที่อยู่ที่เหมาะสมได้ องค์กร Humane Society of the United States ก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือพวกมันเป็นการด่วน   มันถูกขังไว้ในกรงที่มีสภาพสกปรก เต็มไปด้วยโคลน และไม่มีการทำความสะอาดมานานหลายปี   มันถูกทิ้งอย่างไร้เยื่อใย ถึงขนาดที่ขนของมันเต็มไปด้วยโคลนจับตัวกันเป็นกระจุก และนี่คือสภาพเมื่อเจ้าหน้าที่จาก Humane Society International ได้เข้าไปช่วยเหลือมัน   ช่วงแรกที่เจ้าหน้าที่ไปถึง ดูเหมือนว่าเจ้า Camo จะฝังใจจากความทรงจำร้ายๆ มันจึงส่งเสียงขู่ใส่ทุกคนที่เข้าใกล้ตัวมัน   แต่สำหรับ Parascandola เขารู้สึกว่า… เจ้าสุนัขผู้โชคร้ายตัวนี้ต้องการจะสื่อสารอะไรบางอย่างกับเค้า และเค้าตัดสินใจที่จะรับมันมาดูแลแทน   “มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก เหมือนว่ามันก็แอบเกร็งๆ เพราะมันถูกมนุษย์ทำร้ายมาโดยตลอด แต่หลังจากที่ได้อุ้มมันแล้วมันก็ไม่ขู่ และเหมือนมันจะรู้ว่าเรามาเพื่อช่วยเหลือ”   น่าเศร้าสำหรับสุนัขจรจัดในเกาหลีใต้…

เคยไหมที่เวลาเราถูกเจ้าเหมียวของเราเข้ามาเลียตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย แล้วเราก็จะรู้สึกแปลกๆ หยาบๆ ตรงลิ้นของมันทุกที จนต้องเกิดความสงสัยว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้นกัน? ล่าสุดคำตอบสุดลึกลับนี้ก็ได้ถูกเฉลยเรียบร้อยแล้วโดยสถาบัน Georgia Tech และสถาบัน MIT ซึ่งไม่เพียงแต่ค้นพบคำตอบเท่านั้น พวกเขาก็อาจจะเจอแนวทางในการคิดค้นเทคโนยีใหม่จากลิ้นของแมวด้วยก็เป็นได้     สาเหตุที่ลิ้นของแมวสากเหมือนกับกระดาษทรายนั้นก็เพราะว่า บริเวณลิ้นของแมวจะมีส่วนที่เป็นหนามๆ คลายกับตะขอขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งเกิดจากชิ้นเนื้อคล้ายกับเล็บของมนุษย์ แมวจะใช้ตะขอเล็กๆ บริเวณลิ้นคล้ายกับหวี และกำจัดขนส่วนเกินเพื่อให้ร่างกายตัวเองสะอาดตลอดเวลา     ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าส่วนตะขอนั้นโค้งไปในทิศทางเดียวกันเสมอ   เมื่อทีมวิจัยรู้ถึงเหตุผลของความหยาบของลิ้นแมวแล้ว พวกเขาก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น พวกเขาได้รู้เพิ่มเติมอีกว่า ทำไมลิ้นของแมวจะต้องมีตะขอเหล่านี้ด้วย!? พวกเขาจึงทำการใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ สร้างลิ้นแมวจำลองขึ้นมาดู ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาพบว่า เวลาลิ้นแมวหวีขนนั้นมันง่ายต่อการทำความสะอาดจริงๆ ไม่มีปัญหาขนติดค้างเลย หรือถ้ามันติดกันก็แค่ลูบๆ มันก็ออกมาจนหมดแล้ว     ต่างกับหวีที่มนุษย์ใช้กันอยู่ที่วันนี้ เวลาหวีเสร็จก็มักจะมีเศษผมติดอยู่เสมอ เวลาจะทำความสะอาดก็ต้องต้องมาดึงออกทีละเล็กละน้อย ทีมวิจัยจึงคิดว่า นี่แหละคือแนวคิดในการสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับหวีของมนุษย์นั่นเอง!!     สามารถรับชมคลิปอธิบายถึงลิ้นแมวเพิ่มได้ที่   ที่มา kqed

หลายครั้งที่สัตว์มักจะถูกทิ้งให้อยู่ในสถาพใกล้ตายหรือทุกข์ทรมาน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลการทิ้งแบบจงใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เช่นเดียวกับเจ้า Cherry Blossom น้องหมูที่ถูกปล่อยทิ้งให้อยู่ในสภาพย่ำแย่มากๆ Cherry Blossom เป็นหมูที่ถูกทอดทิ้งจากสถานรับเลี้ยงเนื่องจากมันป่วยเป็นโรคเรื้อนชนิดหนึ่ง จนมีสภาพที่แย่ลงอย่างหนัก และไม่มีใครสนใจหรืออยากจะเข้าใกล้มันเลย     ทว่า Jen Sale ผู้ก่อตั้ง Sale Ranch Sanctuary กลับไม่ได้คิดแบบนั้น เธอกลับยินดีและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเจ้า Cherry Blossom ทันทีหลังจากรู้ถึงข่าวคราวของมันพร้อมบอกว่ามันต้องได้รับการช่วยเหลือทันที ไม่งั้นมันจะตายอย่างแน่นอน     เวลาผ่านไปกว่าสองเดือน สภาพของเจ้าหมูเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทางด้าน Jen ก็ยินดีที่จะช่วยเหลือมันอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้มันได้กลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้ง     จากผิวหนังที่เป็นเรื้อน เริ่มได้รับการรักษาและดีขึ้นตามลำดับ   เวลาผ่านไป สภาพของ Cherry Blossom ตอนนี้ก็เหมือนหมูปกติแล้ว แม้จะยังมีบางส่วนที่ไม่หายดีก็ตาม   ทั้ง Cherry Blossom และ Jen ต่างก็มีความสุข   ใครจะเชื่อจากหมูใกล้ตาย ตอนนี้มันกลายเป็นหมูที่มีความสุขสุดๆ   ที่มา boredpanda

จะดีแค่ไหนถ้าเรามีเพื่อคู่ใจสักคนที่ขี่อ้อน เอาใจเก่ง แถมตัวเล็กน่ารัก และมันจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเจ้าสุนัขกระเป๋าตัวน้อย ที่เป็นเจ้านายของคนทั้งบ้าน ถึงแม้มันจะไม่พูดไม่บ่นแต่มันกลับเห่าเก่งเสียงดังเอาเรื่อง แถมยังชอบออกไปวิ่งเล่นให้ปวดหัวอยู่บ่อยๆ แต่นางก็กลับมาง้อตอนดึกๆ ด้วยกระโดดขึ้นมานอนด้วย เราไปชมนิสัยน่ารักๆ ของเจ้าสุนัขกระเป๋ากันดีกว่า   1. เห่าได้ตลอดเวลา เช้า กลางวัน เย็น ถึงแม้จะตัวเล็กแต่ก็ไม่เคยก้มหัวให้ใคร 2. มันคือสุนัขที่เหมาะแก่การพกพาที่สุด เพราะมีขนาดเท่ากระเป๋าของคุณ 3. เจ้าสุนัขไส้กรอกเป็นลูกที่ขี้อ้อนเสมอ เวลาอยากได้ความอบอุ่นมันก็จะมานอนบนตักคุณ 4. ถึงจะมีชื่อว่าสุนัขไส้กรอกแต่มันก็ไม่ได้แปลว่ามันกินแค่ไส้กรอกนะ 5. สุนัขไส้กรอกพันธ์ Longhaired Dachsie มีขนที่หนานุ่มน่ากอดสุดๆ แถมมันยังมีหลายสีอีกด้วยนะ   6. สุนัขไส้กรอกที่มีขนเงางาม เรียบเนียน มันดูน่ากอดสุดๆ 7. เจ้าสุนัขไส้กรอกนี้มันฉลาดเป็นกรดเลยล่ะ ไม่ว่าจะสั่งให้นั่ง นอน แกล้งตาย ก็ทำได้หมดเลยครับเจ้านาย 8. คุณโชคดีแล้วที่เลี้ยงเจ้าหมาไส้กรอก ไม่ใช่ St Bernard หรือ Dalmatian เพราะคุณสามารถพามันไปเที่ยวได้ง่ายๆ แค่อุ้มใส่กระเป๋า 9. แต่ก็ต้องระวังเจ้าตัวยุ่งวิ่งแจ้นไปอย่างรวดเร็วละกัน   10.…