Category: สัตว์โลกน่ารัก

ทุกวันนี้เราทานเนื้อหมูกันแบบว่าไม่รู้สึกอะไร รู้อย่างเดียวว่ามันอร่อย แต่ถ้าลองได้รู้จัก ทำความคุ้ยเคยกับน้องหมูมากขึ้น จะรู้ว่าพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักจนคุณกินมันไม่ลงเลยละ Hercules น้องหมูวัย 6 เดือน ที่ไม่ใช่แค่หมูธรรมดา แต่มันคือ “ตำรวจหมู” ที่เก่งกาจ เพราะมันถูกเลี้ยงมาโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่นเอง     จริงๆ แล้ว หมูไม่ได้มีนิสัยชอบนอนแล้วก็กินอย่างเดียวนะ แต่พวกมันมีความอยากรู้อยากเห็นไปซะทุกเรื่อง ที่สำคัญหมูยังขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ฉลาดกว่าสุนัขและมนุษย์บางคนด้วยนะ!? นอกจากนี้หมูยังเป็นสัตว์ที่รักสงบ ไม่ค่อยแสดงนิสัยก้าวร้าว ยกเว้นเวลาที่มันถูกกระตุ้นหรือเพื่อนฝูงของมันถูกคุกคาม มันจะโกรธขึ้นมาทันที     หมูจะแสดงอาการก้าวร้าวก็ต่อเมื่อมันต้องการปกป้องเพื่อนฝูง และเพราะนิสัยที่ชอบปกป้องนี้จึงทำให้พวกมันเหมาะที่จะเป็นตำรวจเพื่อปกป้องมนุษย์ด้วยยังไงล่ะ ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลว่าทำไมเจ้า Hercules ถึงได้เป็นหมูตำรวจ แถมยังทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมมาตลอด จนที่เป็นที่รักของคนที่พบเห็น     ทำงานหนัก ก็ได้ของกินอร่อยๆ เป็นของตอบแทนไป   เห็นหมูๆ แบบนี้ ฝีมือไม่หมูนะ   อาจจะกินเยอะไปหน่อย แต่ทำงานคุ้มค่าแน่นอน   หมูตำรวจยินดีรับใช้ประชาชนฮะ   อู๊ดๆ ที่มา boredpanda l chicboutiquephotography.com

สำหรับสาวๆ หลายคน ช่วงเวลาที่รู้ตัวว่ากำลังจะกลายเป็นคุณแม่ครั้งแรกนั้นคงจะเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สุดพิเศษในชีวิตเลยก็ว่าได้ การฉลองกับข่าวดีนี้หลายๆ ครอบครัวอาจจะพากันออกไปเตรียมของสำหรับเจ้าตัวเล็ก หรือถ่ายรูปของคุณแม่ระหว่างอุ้มท้องก็ได้ แต่เรื่องที่น่าดีใจนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับมนุษย์เท่านั้น สำหรับเจ้าของน้องหมาน้องแมวหลายๆ ท่านก็คงรู้สึกตื่นเต้นเช่นเดียวกันเมื่อเหล่าสัตว์เลี้ยงของคุณตั้งท้องใช่ไหมล่ะ??     คุณ Elsa เจ้านายของเจ้า Fusee น้องหมาปั๊กพันธ์ผสมที่ตื่นเต้นกับการตั้งท้องของสุนัขเธอมาก หลังจากที่สุนัขของเธอตั้งท้องได้ 8 สัปดาห์ หญิงสาวได้ขอร้องให้เพื่อนช่างภาพของเธอมาช่วยเก็บภาพความน่ายินดีนี้ไว้ก่อนที่น้องหมาตัวน้อยจะออกมาดูโลก คุณ Clayton Foshaug เพื่อนของคุณ Elsa ได้บันทึกภาพของเจ้าหมาระหว่างที่มันกำลังตั้งท้องท่ามกลางทุ่งดอกไม้และเจ้านายของมัน ภาพแต่ละช็อตที่ผ่านฝีมือการกดชัตเตอร์ของเขานั้นดูสวยงามมากๆ     Fusee น้องหมาว่าที่คุณแม่มือใหม่   ระหว่างการถ่ายภาพ เจ้าตูบดูมีความสุขอย่างมาก มันสวมมงกุฎดอกไม้ที่เจ้านายทำให้และยิ้มอย่างดีใจเหมือนกับว่ามันตื่นเต้นที่กำลังจะกลายเป็นคุณแม่มือใหม่เร็วๆ นี้ ปกติแล้วสุนัขจะตั้งท้องประมาณ 9 สัปดาห์ นั่นหมายความว่าอีกไม่กี่วันแล้วที่เจ้า Fusee จะกลายเป็นคุณแม่ป้ายแดง   สีหน้าและแววตาดูมีความสุขจริงๆ นะเนี่ยเจ้าตูบ…   แหม่.. ช่างเป็นภาพที่น่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ย ที่มา mymodernmet

กระแสเกี่ยวกับสัตว์นั้นในช่วงนี้เรียกว่ามีมาเรื่อยๆ ไม่หยุดไม่หย่อนเลยจริงๆ โดยล่าสุดได้มีกระแสชาวเน็ตเกี่ยวกับการโพสต์ภาพชาวเน็ตทาเล็บของสัตว์เลี้ยงอย่างหมาแมวให้มีสีเล็บเช่นเดียวกันตน จนตอนนี้กระแสวิจารณ์ก็ออกมาโจมตีกันอย่างหนักหน่วงสุดๆ เลยก็ว่าได้ เริ่มแรกนั้น กระแสนี้มันเริ่มมาจากสมาชิกทวิตเตอร์คนหนึ่งที่ชื่อว่า cristi cupcake ได้โพสต์ภาพที่โชว์ให้เห็นเล็บของเธอและแมวของเธอเห็นที่มีสีเล็บเหมือนกันเป๊ะๆ ด้วยเวลาเพียงไม่นานกระแสชาวเน็ตก็หลังไหลเข้ามารีทวีตกันเพียบเลยทีเดียว      เมื่องานนี้มีคนเปิด มันก็ต้องมีคนตาม ทีนี้และงานอวดเล็บระหว่างคนกับสัตว์ก็หลั่งไหลเข้ามากันไม่หยุด เรียกว่ามีทั้งหมาทั้งแมวเลยทีเดียว   น้ำเงินมาแต่ไกลเป็นแพ็คคู่   ไม่ได้มีแต่เจ้าของผู้หญิงนะที่ทำ เจ้าของผู้ชายก็มาเช่นกัน ที่สำคัญเป็นสุนัขด้วย (ดูทรงไม่บูลด็อกก็อเมริกันพิทบูลแน่ๆ)   ซึ่งยิ่งเยอะเข้าๆ ดูเหมือนว่าผู้คนจะชอบกับแนวทางการทำแบบนี้สุดๆ เพราะยังมีภาพคู่กับสัตว์เลี้ยงแนวนี้มาไม่ขาดสาย   สำหรับางคนแค่เล็กน้อยก็เอา   สำหรับสาวคนนี้หลังจากโพสต์ภาพแล้ว ก็มีคนมาถามว่าสีที่ใช้มันไม่เป็นภัยต่อสัตว์ใช่ไหม เจ้าของทวิตก็บอกว่าไม่เป็นภัยแน่นอน   กระแสความสนุกในการทวีตภาพแนวนี้ยังมีมาเรื่อยๆ แต่ว่าในที่สุดก็มีผู้เชี่ยวชาญออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เสียที ซึ่งผู้เชี่ยวชาญที่ว่านั้นก็เป็นคนจาก RSPCA Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals (RSPCA ) ซึ่งทาง RSPCA ได้ออกมาพูดว่าการทำแบบนี้มันเป็นภัยต่อสัตว์ได้ แม้ว่าการใช้เวลาร่วมกับสัตว์ของตัวเองจะเป็นเรื่องที่ดีก็ตาม แต่การตกแต่งประดับประดาสัตว์เพื่อสร้างความพอใจให้แก่ตนเอง อาจจะทำให้เกิดความสับสนให้แก่ตัวสัตว์ได้ ยังไงก็ตามไม่ว่าการกระทำแบบนี้จะเป็นภัยหรือไม่ก็ยังเป็นเรื่องเป็นน่าห่วงและควรศึกษาให้ดีก่อนจะทำอะไรนั่นเอง ที่มา metro

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีกระแสโซเชียลที่ดังมากๆ ในโลกอินเตอร์เน็ตทางฝั่งอเมริกาเกี่ยวกับเจ้าหมาตัวหนึ่ง ซึ่งล่าสุดมียอดคนดู 15 ล้านเข้าไปแล้ว!! ความแปลกที่ทำให้มันกลายเป็นที่พูดถึงก็คงเป็นเพราะ ตัวของมันนั้นดูผ่านๆ แล้วยังไงก็ม้าลายแคระชัดๆ ถ้ามันไม่เห่าออกมาเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันคือหมา โดยเจ้าหมาลายตัวนี้มันมีชื่อว่า “ซุส”     เจ้าซุสเป็นสุนัขของ Katrina Short ช่างเสริมสวยสุนัขจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเจ้าตัวก็เพิ่งจะโพสต์คลิปเกี่ยวกับมันได้ไม่นานนัก หลังจากที่เธอได้เสริมสวยให้มันจนเสร็จ และคลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงก็ได้มีการแชร์ต่อๆ กันไปอย่างแพร่หลาย แน่นอนว่าการทำแบบนี้กับสุนัขก็จะต้องเกิดกระแสสังคมตีกลับมาอย่างแน่นอน   ลองชมคลิปของเจ้าสุนัขตัวนี้กันก่อน   ซึ่งในส่วนของกระแสที่ตีกลับมานั้นก็มีทั้งด้านที่ดีและไม่ดีเยอะแยะเลยทีเดียว เอาเป็นว่าเราลองมาดูกันดีกว่าว่าชาวเน็ตจะว่ายังไงกันบ้าง   เริ่มกันในแง่ลบก่อนเลย โดยชาวเน็ตคนนี้บอกแนวๆ ว่ามันตลกตรงไหนที่ย้อมคนในครอบครัวให้กลายเป็นม้าลายแบบนั้น งี้ลองย้อมสีแม่เธอเป็นม้าลายดูบ้างไหม   ฉันอยากจะเห็นเจ้าของย้อมสีตัวเองแบบเดียวกับสุนัขของเธอบ้าง แล้วให้เธอใช้ชีวิตแบบนั้นจนกว่าจะสีจะจางหายไปเอง   ในด้านดีๆ ก็จะเป็นเหล่าช่างเสริมสวยสัตว์ออกมาชื่นชมเสียส่วนใหญ่ อย่างหญิงสาวคนนี้ที่ทำอาชีพเดียวกันก็ออกปากชมว่า งานของเธอสุดยอดมากๆ และรู้สึกอิจฉาในความสามารถของ Katarina สุดๆ   ในสายตาคนทั่วไปก็ชื่นชมในความน่ารักของเจ้าซุสเช่นกัน โดยเธอคนนี้บอกว่า “สำหรับคนที่ออกมาบ่นๆ เกี่ยวกับการย้อมสีขนเจ้าหมาตัวนี้นะ ลองใช้ความคิดดูสักนิดว่าเจ้าของเขาเป็นช่างเสริมสวยมืออาชีพฉะนั้นเขาก็ต้องรู้ว่าเขาทำอะไรอยู่และเขาก็คงดูแลมันอย่างดีที่สุด ที่สำคัญเจ้าหมาก็ดูจะมีความสุขและสุขภาพดีจะตายไป ฉะนั้นเลิกโวยวายกันได้แล้ว” (มองบน)   จะยังไงก็ดี ไม่ว่าสิ่งที่เจ้าของทำจะร้ายหรือดี…

การต้องอยู่เพียงลำพังนั้น ความรู้สึกที่ตามมาคงหนีไม่พ้นความเหงาอย่างแน่นอน เหมือนกับเจ้าเหมียวตัวนี้ที่ต้องแยกจากพี่น้องของมัน แต่ทว่าสิ่งที่พาลูกแมวน้อยให้ออกจากความเศร้านั้นก็คือเพื่อใหม่ของมันนั่นเอง พบกับเรื่องราวสุดแสนน่ารักระหว่างเจ้า Neo แมวน้อยผู้เหงาหงอยและ Eenie เพื่อนซี้ตัวน้อยในบ้านของคุณ Marjorie Royal หญิงสาวผู้ใจบุญ   นี่คือเจ้า Neo แมวน้อยน่ารักที่เกิดจากแม่แมวจรจัด     ส่วนนี่คือ Eenie เพื่อนซี้ตัวใหม่ของ Neo   เจ้าเหมียวทั้งสองมีอายุเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น ทั้งคู่โชคดีมากที่ได้พบกับคุณ Marjorie Royal เจ้า Neo มาที่บ้านหลังนี้พร้อมกับพี่น้องมันอีก 2 ตัว “เจ้าเหมียวมาที่นี่พร้อมกับพี่น้อง แต่น่าเศร้าที่ Neo ต้องถูกทิ้งให้อยู่ที่นี่เพียงลำพัง” คุณ Royal กล่าว     พี่น้องทั้งสองของ Neo ถูกย้ายไปบ้านหลังใหม่ ทำให้เจ้าเหมียวต้องเศร้าใจอย่างมาก ถ้าหากเป็นคนเจ้าเหมียวก็คงจะร้องให้ไม่หยุดเลยทีเดียว คุณ Royal พยายามจะปลอบมันโดยการอุ้มลูกแมวไว้ที่ตักของเธอ     แต่แล้วพวกเขาก็คิดว่าน่าจะมีอีกวิธีที่จะทำให้ Neo หายเศร้าได้ พวกเขาขับรถไปรับเจ้า Eenie มาเล่นกับมันด้วย หลังจากที่ไม่ได้พบกันมานานทั้งสองไม่ค่อยแน่ใจว่าเคยรู้จักกันมาก่อนหรือไม่ “พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานแล้ว…

สัตว์ต่างสายพันธุ์มักจะอยู่ร่วมกันไม่ได้ โดยเฉพาะสัตว์นักล่าอย่างเสือที่มันมักจะมองสัตว์ชนิดอื่นเป็นเหยื่อเสมอ แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้ามันเติบโตมากับสัตว์ที่เป็นเหยื่อ มันอาจจะมีจิตใจอ่อนโยนกว่าที่คิดก็ได้ เหมือนกับเสือน้อง Kinwah และพี่หมา Rumble ผู้เป็นเพื่อนกันมา 7 ปีแล้ว โดยที่ทั้งสองตัวอาศัยอยู่ในสวนสัตว์ Mogo Zoo บนชายฝั่งทางตอนใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย     Kinwah เกิดในสวนสัตว์ Mogo Zoo ได้รับการเลี้ยงดูโดย  Sally ผู้เป็นเจ้าของของ Rumble พวกมันเติบโตมาในสนามหลังบ้านเดียวกัน จนกลายเป็นเพื่อนซี้ที่ไม่อาจแยกจากกันได้   นี่ไม่ได้ทะเลาะกันนะ แค่เล่นด้วยกันเฉยๆ   เพราะพวกมันถูกเลี้ยงโดยเจ้าของคนเดียวกัน ในสถานที่เดียวกัน จึงไม่ทำให้พวกมันรู้สึกถึงความแตกต่าง แต่กลับเติบโตเคียงข้างกันด้วยความเข้าใจ     Sally เจ้าของน้องหมาที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูเสือตั้งแต่เด็ก   มิตรภาพอันตะมุตะมิของเพื่อนต่างสายพันธุ์   เพื่อนต่างสายพันธุ์เค้าเล่นกันหนะ   บางทีเสืออาจจะยอมทิ้งการเป็นนักล่าเพื่อรักษามิตรภาพเอาไว้ก็เป็นได้ ที่มา dailymail

สำหรับใครที่ไม่เคยเห็นลูกนกฟลามิงโก้มาก่อน ขอบอกเลยว่าคุณเข้ามาถูกทางแล้ว เพราะวันนี้เราจะพาทุกท่านไปไขข้อสงสัยพร้อมๆ กันว่า แท้จริงแล้วพวกมันมีหน้าตาเป็นยังไง   ปกติแล้วถ้าพูดถึงลูกนก เราก็คงจะมีภาพคอนเซ็ปท์ของมันที่คล้ายๆ กันใช่มั้ยล่ะ?   มันก็จะเป็นนกตัวเล็กๆ หน่อย มีขนปุกปุย ปีกก็ยังไม่แข็งแรงแถมดูยังไงก็น่ารักน่าชัง   หรือไม่ก็อาจจะนึกถึงภาพลูกนกแบบนี้… ผ่างง!!   แต่คราวนี้ต้องขอยกความดีความชอบให้กับชาวเน็ตจากทวิตเตอร์ Celesse ที่นำภาพของลูกนกฟลามิงโก้วัยแบเบาะหาชมยาก มาให้เราได้ชมกัน ถ่ะแด๊มมม..!! นี่แหละลูกนกฟลามิงโก้ที่มีลักษณะไม่เหมือนลูกชาวบ้านเค้าเลย   แต่เดี๋ยวกัน!! แน่ใจนะว่านั่นขาลูกนก แม่มมเอ้ยยใหญ่อย่างกับโต๊ะสนุ๊ก   นอกจากจะมีขาที่ใหญ่แบบบิ๊กโอ้ดแล้ว อีกความแปลกก็คือมันสามารถพับได้!! (ถ้าพับไม่ได้สิแปลก)   บางทีเมื่อลูกนกฟลามิงโก้เริ่มโตขึ้น มันอาจจะตั้งคำถามกับตัวเองก็ได้นะว่า “นี่ตูจะทำอะไรกับขาคู่นี้ได้บ้างฟร๊ะ!?”   และดูเหมือนว่าตัวมันเองก็แทบจะไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมธรรมชาติต้องสร้างขาให้ตูใหญ่ขนาดนี้   พอพวกมันเริ่มโตเป็นวัยรุ่นแตกหนุ่ม ขาทั้งสองข้างของมันก็วิวัฒนาการให้แปลกยิ่งขึ้นไปอีก   ลองนึกภาพดูว่าเราสามารถหักเข่าไปด้านหลัง และใช้เข่าเดินแทนเท้าได้ แอบหลอนเบาๆ นะเนี่ย   แต่ใครจะเชื่อละว่าพอพวกมันโตเต็มวัย ก็กลายเป็นอีกสายพันธุ์ที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ที่สุด   ได้เห็นแล้วว่าลูกนกฟลามิงโก้เป็นยังไง ตอนนี้ก็ตายตาหลับแล้วล่ะ ที่มา: Buzzfeed

ใครที่เลี้ยงเจ้าจูบแสนซนเอาไว้ในบ้าน คงจะรู้เป็นอย่างดีว่ามันทั้งแสบ ทั้งซน และไฮเปอร์มากขนาดไหน บางครั้งก็ชอบออกไปเล่นนอกบ้านจนทำให้เนื้อตัวเลอะเทอะเต็มไปหมด หรือบางตัวที่เจ้าของเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ยังไม่ทันไร ก็ไปมุดดินมุดโคลนซะจนตัวเปื้อน เฮ้อ…งานนี้เล่นเอาเจ้าของถึงกับต้องกุมขมับกันอยู่เรื่อยเลย และนี่คือ 27 ภาพของเจ้าหมาสุดแสบ ที่เห็นโคลนเป็นไม่ได้ ต้องขอลงไปมุดแล้วชุบตัวให้เปื้อนซะหน่อยยยยยย   เย้ยยยย นี่มันหมาเคลือบช็อกโกแลตชัดๆ   ขอเลอะครึ่งหน้าก็ยังดี   เจอะแบบนี้ฟินเลย บ่องตงชอบจุงเบย   ยิ่งเลอะ…   ก็ยิ่งเยอะประสบการณ์นะจ๊ะ   เจอแบบนี้จะมีวิธีจัดการกับเจ้าสุดแสบยังไงดีน้า   ผมเปล่าไปเล่นโคลนมานะงับ   ต้องได้อาบน้ำอีกครั้งซะแล้วเรา   เรื่องมุดดินมุดโคลนขอให้บอก   เพราะมันคืองานถนัดของพวกเรา   เลอะหมดแล้วลูกเอ้ย   นี่มันสวรรค์ชัดๆ   แอบไปเล่นโคลนที่ไหนมาละเนี่ย   เห็นโคลนมันน่าจะเย็นชื่นใจ   หนูก็เลยขอไปเกลือกกลิ้งซะหน่อย   คงไม่ว่ากันนะจ๊ะนายจ๋า   นั่งนิ่งๆ ในโคลนช่วยสงบสติอารมณ์ได้   ขนขาวๆ เลอะไปหมดแล้ว  …

นี่เป็นเรื่องราวของ Kila น้องหมาตาบอดพันธุ์ผสมตัวหนึ่ง ที่ชีวิตต้องพบเจอแต่เรื่องราวอันเลวร้ายมาตั้งแต่สมัยที่มันยังเด็ก โดยในตอนนั้นมันเป็นเพียงลูกสุนัขตัวหนึ่งที่ถูกเด็กๆ และคนเมาขว้างปาก้อนหินใส่ แต่ถึงกระนั้น มันก็ไม่ได้เจอเรื่องราวอันแสนเลวร้ายเสมอไป เพราะอย่างน้อยชีวิตของมันก็มีเรื่องดีๆ เข้ามา หลังจากที่ทางมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ Forever Home Pet Rescue เข้ามาช่วยเอาไว้ หลังจากทางมูลนิธิก็ได้นำรูปของเจ้า Kila ไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์ ซึ่งก็ทำให้ Alexis Magoo แม่ในอนาคตของมันตกหลุมรักเจ้าหมาน้อยตั้งแต่แรกเห็น     ก่อนหน้านี้ Alexis กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากของชีวิต และเธอก็คิดว่าการที่ได้รับสุนัขอย่างเจ้า Kila มาเลี้ยง อาจจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น และแน่นอนว่าเธอก็คิดถูกจริงๆ “ฉันกำลังมีปัญหาส่วนตัว ฉันรู้สึกเศร้ามาตลอด และมีความวิตกกังวลเอามากๆ มันรู้สึกเป็นทุกข์ และลำบากใจมากเลยละ แต่เจ้าหมาก็สามารถนำความสุขกลับมาให้ฉัน และคนรอบข้าง มันมีแต่ความรักที่ส่งมอบออกมาจากดวงตาของมัน” Alexis กล่าว     Alexis ได้รับเจ้า Kila มาเลี้ยง เมื่อตอนที่มันมีอายุได้เพียง 9 เดือนเท่านั้น และครั้งแรกที่เธอได้พบกับมัน Alexis ก็รู้ว่าเจ้าหมาตัวนี้ต้องมีอะไรที่พิเศษแน่ๆ…

สำหรับใครที่ชื่นชอบเหล่าสัตว์ขนปุยคงจะรู้จักกับเจ้าแรคคูนแน่ๆ เจ้าตัวเล็กขนสีน้ำตาลตาแป๋วที่ดูยังไงก็น่ารัก แถมยังชอบทำอะไรแปลกๆ ชวนให้เราขำอยู่บ่อยๆ หลายๆ คนที่ชื่นชอบในความซุกซนของเจ้าสัตว์ตัวเล็กๆ เหล่านี้ก็คงชอบที่จะดูภาพของพวกมันอยู่บ่อยๆ ใช่ไหมล่ะ และวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพของเจ้าขนปุยตัวน้อยเหล่านี้มาฝากกัน แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าแววตาของพวกมันอาจทำให้คุณใจละลายได้…   1. เจ้าแรคคูนตัวน้อยกับลูกพี่ตูบของมัน ดูแล้วน่าร๊าก น่ารัก   2. มองอะไรจ๊ะ!?   3. ทำตาแป๋วเชียวนะแกน่ะ   4. เล่นซ่อนแอบอยู่หรือไงเจ้าหนูน้อย??   5. ตื่นๆ เจ้าหนูน้อย   6. ว้าว!! อาหาร   7. เหนื่อยจังเลยฮะ ขอนอนก่อนนะครับ   8. ต๊ะเอ๋!?   9. น่ารักแบบคู่เลยทีเดียวนะเนี่ย   10. อ๋อย.. เจ็บแขนหรอลูก??   11. ผมชอบสายสมและแสงแดดฮะ   12. มีอะไรน่าสงสัยหรือเจ้าแรคคูน??   13. อ่า..…

ตามแนวเส้นชายฝั่งแปซิฟิกของรัฐบริติชโคลัมเบีย แห่งประเทศแคนาดา ได้มีประชากรหมาป่าชนิดหนึ่งที่มีวิถีชีวิตแตกต่างออกไปจากสุนัขในถิ่นอื่นๆ Ian McAllister ช่างภาพผู้ตามถ่ายเรื่องราวของหมาป่าทะเล ได้เผยว่า “จากการศึกษาผ่าน DNA พบว่าปัจจุบันสายพันธุ์ที่แท้จริงของหมาป่าได้หายไปหมดแล้ว และเราจะได้เห็นพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไปของพวกมัน  พวกมันเริ่มเรียนรู้ที่จะว่ายน้ำข้ามเกาะเพื่อออกไปจับปลา และในทางโครงสร้างต้องถือว่ามันเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงจากสายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกดั้งเดิม”   เราลองตามไปชมภาพถ่ายของ Ian MaAllister ที่จะมาเผยให้เห็นถึงวิถีชีวิตอันน่าแปลกใหม่ของพวกมันกันเลยดีกว่า   พวกมันเคลื่อนที่ปราดเปรียวและเงียบเชียบดั่งภูตผี   สำหรับหมาป่าทะเลนั้นพวกมันจะมีอยู่สองประเภทหลักๆ ด้วยกัน   อย่างแรกคือหมาป่าที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินใหญ่ พวกมันมักจะมีสกิลในการหาอาหารทะเลได้น้อยกว่า ระยะว่ายน้ำสั้นกว่า และมักจะหากินเฉพาะตามชายหาด   อีกประเภทคือหมาป่าทะเลชาวเกาะ สุนัขชนิดนี้จะสามารถว่ายน้ำข้ามเกาะเพื่อหาอาหารได้อย่างคล่องแคล่ว   ทีมนักวิทยาศาสตร์เคยเข้ามาศึกษาด้วยการเก็บ DNA และนำไปเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม พวกเขาก็ต้องพบว่ามันมีความแตกต่างอย่างน่าแปลกใจ   “เดิมทีหมาป่าเป็นสัตว์นักผจญภัย พวกมันมีเขตถิ่นที่อยู่อาศัยกว้างมาก และมีความสามารถในการปรับตัวตามแหล่งอาหารได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน” Erin Navid นักวิจัยกล่าว   สำหรับสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ตามเกาะนั้น พวกมันสามารถว่ายน้ำได้ไกลถึง 12 กิโลเมตร และปัจจุบันสัตว์ทะเลกลายเป็น 90% ของปัจจัยในการอยู่รอดของพวกมันไปซะแล้ว   นี่อาจจะเป็นสัญญาณบอกเราว่า การรุกรานธรรมชาติของมนุษย์ทำให้พวกมันต้องมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปก็ได้นะ… ที่มา:…

บ่อยครั้งเมื่อเวลาที่เรากำลังทำกิจกรรมต่างๆ อยู่ก็มักจะมีเหล่ามะหมาที่คอยเข้ามารวมแจมอยู่บ่อยๆ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยเจอมาแล้วเช่นกัน และไม่นานมานี้ได้มีเหตุการณ์สุดฮาเกิดขึ้นระหว่างการแสดงคอนเสิร์ตของวง Vienna Chamber Orchestra ที่โรงละคร Ephesus Antique Theater ในประเทศตุรกี เมื่อจู่ๆ น้องหมาตัวหนึ่งก็ได้หลุดขึ้นมาบนเวทีหน้าตาเฉย     ระหว่างที่ทางวงกำลังบรรเลงเพลงอยู่นั้น เจ้าตูบสีครีมตัวหนึ่งได้เดินเข้ามาบนเวที แบบเนิบๆ ด้วยสีหน้าแบบมึนๆ พร้อมกับเข้าไปนั่งข้างๆ กับนักไวโอลินท่านหนึ่ง การปรากฏตัวของมันสร้างเสียงหัวเราและทำเอาผู้ชมในโรงละครดังกล่าวต้องฮาไปตามๆ กัน และดูเหมือนว่าน้องหมาจะรู้งาน เจ้ามันไม่ส่งเสียงเห่าหรือรบกวนการแสดงแต่อย่างไรมันได้แต่นั่งมองเหล่านักดนตรีอย่างเรียบร้อย   น้องหมาค่อยๆ นั่งในที่พิเศษแบบซุปเปอร์วีไอพี   ชมโมเมนต์น่ารักๆ ของมันได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… แหม่ สงสัยจะชอบฟังเพลงมากเลยสินะเจ้าตูบ เอาซะหน้าเวทีสุดๆ  เลยนะเนี่ย ฮ่าๆ ที่มา thedodo

บางครั้งอะไรที่มันดีเกินไปก็กลายเป็นเหตุเริ่มต้นของเรื่องแย่ๆ ได้ อย่างเรื่องราวของเจ้าเหมียวในญี่ปุ่นก็เช่นกัน เมื่อวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดวะกะยะมะ ได้ประกาศแบนห้ามนำแมวเหมียวเข้ามาในบริเวณวัดเป็นอันขาด เพราะพวกมันน่ารักเกินห้ามใจ และทำให้พระในวัดขาดสติในการทำสมาธิ!! วัดแห่งหนึ่งบนภูเขา Koyasan ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดดังกล่าว ถือเป็นวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการฝึกสมาธิอย่างสันโดษ ถ้าใครต้องการฝึกสมาธิหรือบวชเป็นพระเพื่อจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเรียบง่าย วัดแห่งนี้ถือเป็นสถานที่อันเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง     แต่ทว่าไม่นานมานี้ทางวัดเหมือนจะทนไม่ไหวกับสิ่งเร้าหน้าขนชนิดหนึ่ง ที่มีอำนาจร้ายแรงเกินกว่าพระที่จำวัดอยู่จะสามารถต้านทานมันได้ เจ้าสิ่งเร้าที่ว่านั้นก็คือ “แมว” ใช่แล้ว แมว นี่แหละ!!     เรื่องนี้ได้รับการรายงานผ่านรายการทีวีที่ชื่อว่า Sekai Ichi Uketai Jugyo ซึ่งในรายการได้รายงานว่า ปกติแล้วที่วัดดังกล่าวจะทำการแบนผู้หญิงอยู่แล้ว แต่ล่าสุดแมวก็เข้าไปอยู่ในรายชื่อสิ่งต้องห้ามของวัดเป็นอย่างที่สอง เพราะเจ้าสิ่งมีชีวิตหน้าขนสี่ขานี้ มันมีความน่ารักที่มากเกินไป และมันทำให้พระในวัดอดใจไม่ไหวที่จะต้องเข้าไปเล่นกับพวกมัน และเมื่อลองขุดค้นดูก็พบว่า จริงๆ แล้ววัดดังกล่าวมีเรื่องการแบนสัตว์พวกนี้มานานตั้งแต่ปี 1908 แล้ว นอกจากนี้ทางวัดก็ไม่ได้แบนแค่แมวเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการให้อาหารนกด้วย     จากเรื่องราวทั้งหมดมันทำให้เรารู้ว่า พระที่วัดดังกล่าวดูจะอดทนต่อความน่ารักของสิ่งเร้าพวกนี้ไม่ไหวเลย แต่เอาจริงๆ ใครจะอดใจไหวที่จะไม่เข้าไปเล่นกับแมวเหมียวกันล่ะ ก็มันน่ารักนี่หว่า…     ที่มา rocketnews24

ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอเรื่องราวของ ‘ซูดาน’ แรดขาวตัวสุดท้ายของสายพันธุ์ ที่นักวิทยาศาสตร์ต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อสืบทอดเผ่าพันธุ์ของมันให้ดำรงอยู่ต่อไป แต่นั่นอาจจะเป็นเพียงแค่ปัญหาส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมีสัตว์อีกหลายชนิดทั่วโลกที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างก็เช่นทั้ง 12 สายพันธุ์ดังต่อไปนี้…   1. Amur Leopard หนึ่งในสายพันธุ์เสือดาวที่หาเจอได้ยากที่สุด โดยปัจจุบันคาดว่ามีประชากรเสือดาวชนิดนี้อยู่เพียง 70 ตัวทั่วโลกเท่านั้น ลักษณะนิสัยของพวกมันชอบอาศัยอยู่ในป่าหิมะเช่นทางตอนเหนือของรัสเซีย ตอนเหนือของจีน และเกาหลี อีกทั้งมันยังสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดถึง 370 กม./ชั่วโมง เลยทีเดียว   2. Hawaiian Crow น่าเศร้าที่อีกาสายพันธุ์นี้ได้ถูกขึ้นบัญชีให้เป็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อปี 2002 แต่ถึงแม้ว่าจะมีการเก็บไข่ของพวกมันมาเพาะพันธุ์เป็นอย่างดี ทว่าสุดท้ายธรรมชาติกลับไม่เอื้ออำนวยให้มันสามารถอยู่รอดต่อไปได้อีก   3. Hainan Gibbon เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์เอป (ลิงไม่มีหาง) ที่หาเจอยากที่สุดในโลก เพราะมันอาศัยอยู่บนเกาะฮ่ายหนานในประเทศจีนเท่านั้น โดยสถิติจากปี 2003 พบว่ามันมีจำนวนประชากรทั้งหมด 13 ตัว แต่ปัจจุบันได้มีองค์กรอนุรักษ์ท้องถิ่นมากมายเข้าไปดูแล และช่วยกันรักษาเผ่าพันธุ์ของพวกมันให้สืบต่อไป ทว่าปัญหาสภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนไป ก็ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของพวกมันเช่นกัน   4. Santa Catarina Guinea Pig…

การโคลนนิ่งในยุคนี้เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นเรื่องธรรมดาแล้วก็ว่าได้ เพราะการโคลนนิ่งสัตว์ได้สำเร็จเราก็สามารถเห็นกันได้อยู่บ่อยๆ แต่ว่าการโคลนนิ่งแล้วให้ตัวต้นแบบกับตัวโคลนมาเจอกันนั่นไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยๆ นั่นเอง เรื่องราวในครั้งนี้จึงเป็นการพบกันระหว่างสุนัขที่เป็นร่างต้นจากรัสเซีย กับสุนัขร่างโคลนที่เกิดจากใบหูของร่างต้นที่เกาหลีใต้ และแน่นอนว่าทั้งคู่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าตนมีลูกหรือมีแม่อยู่     ส่วนสาเหตุที่ลูกสุนัขถูกโคลนนิ่งขึ้นมานั้นก็เพื่อเป็นการรักษาพันธุ์สุนัขลากเลื่อนที่เริ่มหายไปทุกๆ วันไว้ ส่วนวิธีการนั้นพวกเขาก็ใช้ชิ้นส่วนเล็กๆ จากใบหูของตัวแม่สุนัขจากนั้นก็ส่งต่อไปให้ทีมนักวิจัยเพื่อทำการโคลนนิ่งที่ประเทศเกาหลีใต้ Dr. Hwang Woo Suk คือหัวหน้าทีมวิจัยจาก Sooam Biotech Research Foundation ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่วิจัยและโคลนนิ่งลูกสุนัขขึ้นมาจนสำเร็จและตั้งชื่อมันว่า Belekh เมื่อลูกสุนัขโคลนนิ่งมีสุขภาพที่แข็งแรงจนมีอายุครบ 3 เดือน พวกเขาก็ตัดสินพามันกลับไปหาตัวแม่สุนัขผู้เป็นร่างต้นแบบที่ประเทศรัสเซีย     ทางด้านของ Dimitry ผู้เป็นเจ้าของแม่สุนัขเมื่อพบว่าทีมแพทย์ได้พาลูกสุนัขกลับมาเจอแม่มันอีกครั้ง เขาก็พูดขึ้นว่า “ผมไม่อยากเชื่อเลยว่า ลูกสุนัขตัวนั้นเป็นสุนัขที่เกิดขึ้นจากการโคลนนิ่ง มันดูเหมือนกันมากๆ ราวกับว่าเกิดมาจากท้องจริงๆ เลย” สุดท้ายแล้วเมื่อทั้งคู่ได้เจอกัน พวกมันก็ได้ใช้เวลาด้วยกันหลายวันเลยทีเดียว และพวกมันก็ดูจะมีความสุขมากๆ เลยล่ะ     ที่มา mirror

นี่คือเรื่องราวที่ไม่คาดฝันเมื่อ Barry Peterson และภรรยาของเขากลับมาถึงบ้านหลังจากไปเที่ยวกันมา ซึ่งเมื่อทั้งคู่เปิดบ้านเข้ามาก็ต้องต๊กกะใจเมื่อบ้านของพวกเขากลับมีแขกไม่ได้รับเชิญมาอาศัยอยู่ซะอย่างนั้น ทางด้านภรรยาไม่รอช้ารีบโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เธอก็บอกว่า “ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะแจ้งตำรวจไหม แต่ฉันว่ามันน่าจะเป็นปัญหานะเพราะไก่งวงป่ามันบุกบ้านของเราโดยการพังกระจกเข้ามา แถมยังพังข้าวของอีกด้วย ยังไงก็ช่วยมาจัดการให้หน่อย” ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังรอตำรวจนั้น พวกเขาก็ได้ถ่ายภาพเหตุการณ์เก็บไว้ พร้อมกับไม่รู้จะจัดการกับเจ้าไก่งวงป่าขนาดใหญ่ยักษ์นี้ยังไง เพราะแม้มันจะเป็นแค่ไก่งวงแต่ด้วยขนาดตัวมันก็ดูจะลำบากแน่ๆ ยิ่งเข้าไปจับสุ่มสี่สุ่มห้าก็คงจะลำบากกว่า สิ่งที่ทำได้คือรอตำรวจมานั่นเอง   กลับมาบ้านถึงกับเซอร์ไพรส์ โจรแม่มเล่นตูแล้วแน่ๆ   เปิดเข้ามา พ๊างง!! ไม่ใช่โจรที่เป็นคน แต่เป็นโจรที่เป็นไก่งวงป่าต่างหาก   เดินบนโซฟาสบายใจเฉิบดุจดั่งบ้านตัวเอง   เปิดประตูให้แล้ว แกจะออกหรือไม่ออก!!?   ตูไม่ออก!!   อ้าว เฮ้ยตำหนวดมา!!   ไปก็ได้ เห๊อะ ไม่เห็นต้องเรียกพวกเลย ปั๊ดโถ่   ไปแล้วอย่ากลับมาอีกนะ เจ้าไก่งวงตัวแสบ ที่มา boredpanda

การเลี้ยงสุนัขเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก เพราะนอกจากเป็นเพื่อนกับมนุษย์ เป็นสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์กับเจ้าของแล้ว พวกมันยังทำหน้าที่เป็นหมอที่คอยเตือนปัญหาสุขภาพให้ด้วย อย่างน้องหมา Percie ที่เข้ามาอยู่ในบ้านของ Claire ตั้งแต่เด็กๆ โดยที่มันได้รับการฝึกให้เป็นสุนัขคอยให้ความช่วยเหลือ และเมื่อโรคประจำตัวของ Claire กำเริบขึ้นเมื่อไหร่ เจ้า Percie ก็จะคอยดูแลคอยเตือนให้เธอได้รับรู้ก่อนอยู่เสมอ     แต่ตั้งแต่ Percie เข้ามาในชีวิต หญิงสาวก็ไม่ค่อยมีอาการทรุดหนักอีกเลย เพราะน้องหมาจะทำหน้าที่เตือนก่อนอาการจะกำเริบทุกครั้ง ทำให้เธอสามารถเดินทางไปหาหมอได้ทันเวลา Claire บอกว่า “ปัญหาสุขภาพของฉันส่วนใหญ่เกิดจากความวิตกกังวลค่ะ และถ้าอาการกำเริบมันจะทำให้ฉันชัก จนมีอาการคลั่งและทำร้ายตัวเองได้”     “แต่ Percie จะรู้ว่าเมื่อไรที่อาการของฉันจะกำเริบ มันจึงทำหน้าที่คอยเตือนฉันก่อนที่อาการจะออกทุกครั้งค่ะ เพราะการได้รู้ก่อนอาการกำเริบขึ้น ก็ช่วยลดความรุนแรงให้น้อยลงได้ค่ะ” หญิงสาวบอก ตอนนี้ Claire กำลังจะเรียนจบช่วงมัธยมแล้ว และเธอก็ตื่นเต้นกับการงานพรอมเหมือนคนอื่นๆ เธออยากจะควงแฟนหนุ่มไปงานพรอม อยากจะไปเจอเพื่อนๆ ในปาร์ตี้ และที่สำคัญที่สุดก็คือ เธออยากพาเจ้า Percie ไปร่วมงานด้วย     ดังนั้นเมื่อถึงวันงานจริงๆ หญิงสาวจึงควงแฟนหนุ่มพร้อมจูงน้องหมาเดินเข้างานไปด้วยกัน จนกลายเป็นจุดเด่นของงานเลยก็ว่าได้ แม้จะตื่นเต้นที่ได้ออกงานครั้งแรก แต่น้องหมาก็ยังคงทำหน้าที่เฝ้าระวังอาการให้หญิงสาวตลอดเวลา เธอบอกว่า “ตอนอยู่ในงาน Percie…

แมลงกับหญิงสาว ถือว่าเป็นของแสลงที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะไม่ชอบกัน ไม่ว่าจะลักษณะภายนอกที่ดูน่าขยะแขยง หรือดูน่ากลัวก็ไม่ทราบได้ แต่ก็ใช่ว่าแมลงทุกตัวจะมีลักษณะตามที่ว่าไปเสียหมด เพราะยังมีแมลงที่ดูสวยงามอย่าง ‘ผีเสื้อ’ ไว้คอยปลอบใจอยู่บ้าง ฮร่าาาา   และผีเสื้อที่ว่านั่นก็คือ Rosy Maple Moth ยังไงล่ะ   Rosy Maple Moth หรือเจ้าฝีเสื้อกลางคืนสีโทนหวานตัวนี้ ถือเป็นผีเสื้อกลางคืนที่สวยที่สุดก็ว่าได้ เพราะเดิมทีแล้วผีเสื้อกลางคืนจะมีสีโทนมืด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะออกไปทางสีน้ำตาลหรือสีดำ ในส่วนของลักษณะทางกายภาพของผีเสื้อชนิดนี้ ตัวเมียจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าตัวผู้มากๆ โดยเมื่อมันกางปีกแล้วจะมีขนาดความกว้างถึง 1.5 ถึง 2 นิ้ว ในขณะที่ตัวผู้จะมีขนาดแค่ 1.25 ถึง 1.75 นิ้วเท่านั้น และจะสามารถหาพบได้ทั่วไปทางตอนเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา   .   ด้วยสีสันอันโดดเด่นของมันก็มีคนที่ชื่นชอบในผีเสื้อกลางคืนตัวนี้ จนทำเป็นสินค้าหรือทำเป็นภาพการ์ตูนน่ารักๆ ออกมาด้วยนะเออ…   สร้อยสวยๆ   ตุ๊กตาตัวเล็กน่ารักๆ   หรือจะเป็นเข็มกลัดเล็กๆ ก็ดูสวยดีนะ   ยิ่งถูกวาดออกมาเป็นแนวตัวการ์ตูนก็น่ารักสุดๆ เลย   ดูขนฟูๆ ของมันสิ…

เป็นประจำทุกปีที่จะมีการจัดงานประกวด ‘World’s Ugliest Dog’ ขึ้นที่ Sonoma-Marin Fair รัฐแคลิฟอร์เนีย และคราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับเจ้าของแชมป์ประจำปี 2017 ซึ่งแชมป์นี้จะเป็นของใครไปไม่ได้เลยนอกจากเจ้า ‘Martha’ ตูบหน้าย่นไข่ยาน ที่อยู่คู่วงการแข่งขันสุนัขน่าเกลียดมานานหลายต่อหลายปี     ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมปีนี้แชมป์จะตกเป็นของเจ้ามาร์ธ่า เพราะด้วยน้ำหนักตัวที่มากถึง 57 กิโลกรัม บวกกับลักษณะความย่นบนใบหน้าที่ไม่เหมือนใคร ทำให้มันกลายเป็นไฮไลต์เด่นของงานไปโดยปริยาย “ทั้งอ้วน กินเยอะ กรนดัง ขี้เกียจ และไม่เคยทำตามคำสั่งเราเลย นี่แหละคือนิสัยของเจ้ามาร์ธ่า อีกทั้งหน้าตาของมันยังมีดวงตาที่เหี่ยวย่น ผิวหนังก็ยานซะอย่างกับไข่ย้อย แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะได้แชมป์กับเค้าด้วย” Jessica Burkard เจ้าของเล่า     หลังจากที่เจ้ามาร์ธ่าเอาชนะคู่แข่งไปอย่างขาดลอย ทำให้มันได้รับเงินรางวัลไปนอนกอดที่บ้านสูงถึง 1,500 เหรียญ หรือประมาณ 50,000 บาท ถ้วยรางวัลสูง 150 ซม. พร้อมตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวนิวยอร์กฟรีกับครอบครัว   “ดิฉันก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยค่ะว่ามันจะกลายเป็นข่าวได้ แถมยังเดินสายออกรายการทีวีตามช่องต่างๆ อีกด้วย” เจ้าของให้สัมภาษณ์   แต่ก่อนหน้านี้มาร์ธ่าก็มีชีวิตที่ค่อนข้างจะลำบากและต้องอาศัยอยู่ตามข้างถนนเฉกเช่นสุนัขจรจัด จนกระทั่งวันหนึ่งมันได้รับการช่วยเหลือจากศูนย์พักพิง ทำให้มันได้มาเจอกับครอบครัวของ Jessica Burkard…

เจ้าตูบนั้นถือเป็นสัตว์ที่มีนิสัยซุกซน และมันก็ชอบที่จะวิ่งเล่นไปยังที่ต่างๆ ข้างนอกบ้านอยู่เสมอ เมื่อมันเป็นแบบนั้นปัญหาก็มักจะเกิดขึ้นเสมอ นั่นรวมถึงการถูกผึ้งต่อยก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยเช่นกัน แต่ว่าพอปัญหาเกิดขึ้นจริงๆ หลายคนก็ไม่รู้ว่าจะหาทางออกยังไงให้กับเจ้าเพื่อนสี่ขาของตัวเอง จนปล่อยให้มันลุกลามไปกันใหญ่ ฉะนั้นในครั้งนี้เราก็เลยจะมาดู 5 วิธีแก้ไขปัญหาเวลาเจ้าตูบโดนผึ้งหรือแมลงอื่นๆ กัดต่อยกัน รับรองง่ายๆ สบายหายห่วง   1 . ยืนยันให้แน่ใจว่าสุนัขของเราถูกต่อยจริงๆ นี่ถือเป็นขั้นตอนแรก หลังจากที่เราเกิดความสงสัยว่าเจ้าตูบมันมีอาการบวมหรืออะไรทำนองนี้ ซึ่งเราต้องเป็นคนเช็คให้ชัวร์ว่าสุนัขของเราโดนผึ้งต่อยจริงๆ โดยวิธีสังเกตให้ดูเวลาที่พวกมันพยายามกัดหรือเคี้ยวจุดไหนเป็นพิเศษและมีลักษณะที่บวมๆ ตรงจุดนั้นๆ ก็มั่นใจได้เลยว่ามันโดนต่อยจริงๆ   2.  หาจุดที่มันถูกต่อย จังหวะนั้นถ้าเรามั่นใจว่าเจ้าตูบโดนต่อยจริงๆ และเราก็พอจะรู้ว่าตรงไหนที่โดนต่อย ให้เช็คให้ชัดเจนและสังเกตเหล็กในของผึ้ง ที่สำคัญพยายามจับตัวเพื่อนสี่ขาให้นิ่งมากที่สุด   3. ดึงเหล็กในออกจากจุดที่ถูกต่อย ถ้าเราเจอเหล็กในและจุดที่ถูกต่อยแล้วให้หาคีมนีบหรือใช้กระดาษแข็งกดลงไปบริเวณดังกล่าว จากนั้นให้นำส่วนที่เป็นเหล็กในดำๆ ออกมาและทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างแผลต่อทันที ที่สำคัญอย่าให้สุนัขเลียในที่จุดที่รักษามันไปเด็ดขาด!!   4. สังเกตุอาหารหลังจากการรักษา หลังจากที่เรานำเหล็กในออกมาแล้ว ให้หมั่นสังเกตอาการของเจ้าตูบอย่างใกล้ชิด ว่ามันรู้สึกดีขึ้นหรือว่าแย่ลง เพราะถ้าเกิดว่าสุนัขของคุณแพ้เหล็กในของแมลงแล้วจัดการปัญหาช้าอาจจะเกิดเป็นเรื่องใหญ่ได้   5. เตรียมพร้อมรับมือเสมอ ถ้าเกิดว่าสุนัขของเราแพ้ขึ้นมาจริงๆ จงเตรียมพร้อมเพื่อที่จะพามันไปหาสัตวแพทย์ทุกเมื่อ เพราะถ้าเราปล่อยไว้นานๆ แล้วสุนัขอาจแพ้พิษของผึ้ง สุนัขของเราจะป่วยหนักมากทั้งอาเจียน ปวดหัวอย่างหนัก ฉะนั้นช่วงเราจึงต้องดูแลให้ดีอย่าปล่อยให้ห่างไปไหน  …

เรื่องราวของน้องหมาตัวน้อย ที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายอันแสนบอบบาง มันได้รับการดูแลจากเจ้าของอย่างดีเพื่อให้เจ้าหมาน้อยสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้ พบกับเรื่องราวของเจ้าหมาจากอังกฤษนามว่า Tim สุนัขที่มีขนาดเล็กเท่ากระป๋องถั่ว!!     เจ้า Tim สุนัขตัวเล็กที่เกิดมาพร้อมกับน้ำหนักเพียงแค่ 70 กรัม และในตอนที่มันลืมตาออกมาดูโลครั้งแรกนั้นเจ้าหมาน้อยไม่หายใจด้วย!! Andrea McGowan ผู้เป็นเจ้าของต้องพยายามยื้อชีวิตสัตว์เลี้ยงของเธอไว้ ด้วยการนำผ้าเช็ดตัวมาห่อมันเอาไว้ และคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หมาน้อยต้องทานอาหารจากขวดนมทุกๆ 2 ชั่วโมง จนกระทั่งมันกลับมามีร่างกายที่แข็งแรง และสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ “ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากมาก ฉันกังวลสุดๆ เจ้าหมาอาจจะตายได้ถ้าหากฉันลืมให้อาหารมัน” คุณ Andrea กล่าว     คุณ Andrea บอกว่าการเลี้ยงสุนัขที่ป่วยนั้นมีความยากกว่าเลี้ยงสุนัขทั้ง 3 ตัวของเธอมาก เนื่อจากหญิงสาวไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเจ้า Tim นั้นต้องการอะไร “เราคิดว่าเจ้า Tim อาจจะไม่รอดแล้ว แต่ในที่สุดเราก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มากๆ เพราะว่ามันสามารถยืนยัดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ มันค่อยๆ มีอาการที่ดีขึ้นตามลำดับและมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และถึงแม้จะเป็นสุนัขตัวเล็กๆ แต่มันก็มีความกล้าที่มากกว่าสุนัขตัวอื่นๆ หลายเท่าเลยล่ะ” หญิงสาวเล่าถึงพัฒนาการเจ้าหมาตัวน้อยของเธอ     Tim สุนัขตัวน้อยที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายที่บอบบาง  …

จากที่ผ่านมา คุณจะเห็นได้ว่า เราได้นำเสนอเรื่องราว และภาพของแมวเหมียวจากทั่วโลกมาแล้วมากมาย และนั่นก็ทำให้เราได้เห็นถึงความน่ารัก น่าเอ็นดู และความตะมุตะมิของมันจนทำให้ทาสแมวทั้งหลายใจละลายมานักต่อนัก และในวันนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะพาเพื่อนๆ ทุกคนมารู้จักกับแมวประจำออฟฟิศแมวเหมียว ที่ไม่ได้มาพร้อมกับความน่ารักเพียงอย่างเดียว แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเจ้าเหมียวตัวนี้ มันไม่ธรรมดาเลยนะจ๊ะ เพราะมันมาพร้อมกับท่านอนแปลกๆ ที่ไม่มีแมวใดในโลกหล้าสามารถทำเหมือนมันได้ (จริงดิ)   นื่คือ “เวนเจอร์” น้องแมวเอ๋อน่ามนประจำออฟฟิศของเรานั่นเองจ้า น่ารักป่ะละ   ก่อนอื่นมารู้จักท่านอนของแมวปกติกันซะหน่อย พวกมันก็อาจจะนอนเป็นท่าเบสิคแบบนี้…   หรือบางทีก็นอนขดคู้อยู่ในที่นอนของมันแบบน่ารักๆ   แต่นี่คือเจ้าเวนเจอร์ -*-   เวนเจอร์ ถือเป็นหนึ่งในแมวที่พนักงานประจำออฟฟิศของเรารู้จักมันเป็นอย่างดี เพราะนอกจากที่มันจะเป็นแมวเอ๋อๆ เบลอๆ แล้ว บอกเลยว่าความน่ารักของคุณน้องไม่เป็นสองรองใครเลยนะจ๊ะ ไม่เชื่อก็ลองดูสิ…     นอกจากจะมีความน่ารัก และเป็นที่รักของคนในออฟฟิศแล้ว เจ้าเวนเจอร์ยังชื่นชอบการนอนเป็นชีวิตจิตใจอีกด้วย แต่เดี๋ยวนะดูท่านอนของมันซะก่อน ธรรมดาที่ไหนกันละ ฮ่าๆ   ความเอ๋อๆ เบลอๆ จึงทำให้มันได้กลายเป็นที่รักของทุกคน   ย้อนกลับไปในอดีตตอนที่เจ้าเหมียวเวนเจอร์ยังเป็นเด็ก มันเคยป่วยหนักเพราะเป็นโรคไข้หวัดแมวที่หมอบอกว่ามันอาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงแค่สองวัน แต่ถึงกระนั้นปาฏิหาริย์ก็บังเกิดทำให้เจ้าเวนเจอร์สามารถรอดชีวิตมาได้ และกลายเป็นแมวที่น่ารักอย่างที่เพื่อนๆ…

เรามักจะเห็นงานประกวดความสวยงามของเหล่าสัตว์เลี้ยงต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง แต่ทว่า #เหมียวเวจจี้ ได้ไปเจอการประกวดสัตว์เลี้ยงที่แปลกและไม่เหมือนการประกวดทั่วๆ ไป เพราะในงานนี้เค้าวัดกันที่ความน่าเกลียดล้วนๆ!! ส่วนมากแล้วเหล่าสุนัขพันธุ์ทางที่มีขนไม่สวยงามนั้นมักจะถูกละเลย และไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไหร่ แต่สำหรับที่งานประกวดน้องหมาในเทศกาล Sonoma-Marin Fair ในเมือง Petaluma รัฐแคลิฟอร์เนียนั้น กลับเป็นเวทีที่ให้โอกาสพวกมันได้เฉิดฉาย   Zoomer (ด้านซ้าย) และ Jake (ด้านขวา) ในช่วงเตรียมตัวสำหรับการเข้าประกวด   การแข่งขันดังกล่าวเริ่มขึ้นในวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และผู้ที่ชนะในครั้งนี้จะได้รับเงินรางวัลสูงถึง 50,000 บาทและได้มีโอกาสบินไปนิวยอร์กเพื่อปรากฎตัวตามสื่อต่างๆ อีกด้วย!! คุณ Erin Post ผู้จัดงานเทศกาลดังกล่าวบอกว่า “เรายินดีที่จะชื่นชมความสวยงามของสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงทุกตัวถึงแม้ว่าพวกมันจะมีรูปร่างที่ไม่สมบูรณ์ก็ตาม ซึ่งพวกมันก็ยังคงได้รับการดูแลอย่างดี และได้รับความรักจากเจ้าของ”     การประกวดดังกล่าวมีกฎการตัดสินที่เข้มงวดอยู่ด้วยกันถึง 2 ข้อ นั่นก็คือ ข้อแรกสุนัขที่เข้าประกวดนั้นจะต้องไม่เคยเข้าร่วมงานดังกล่าวมาก่อน และข้อที่สองคือ การแสดงความรักระหว่างเจ้าของกับพวกน้องหมา “เคยมีผู้ร่วมงานบอกผมว่าความน่ารักของพวกสุนัขช่วยให้พวกเขามีชีวิตรอดได้ คนส่วนมากมักจะชื่นชมสุนัขที่มีความสวยงาม แต่ความน่ารักของพวกมันนั้นไม่ได้อยู่ที่รูปร่างแต่อย่างใด” คุณ Post กล่าวทิ้งท้าย   เจ้า Monkey (ด้านซ้าย) และเจ้า…

เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้วที่ช้างวัย 70 ปีชื่อว่า Gajraj ต้องทนทุกข์ทรมานจากการที่ถูกมองว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และถูกนำไปร่วมฉลองกับขบวนต่างๆ เมื่อถึงวันสำคัญของวิหารแห่งหนึ่ง ในเมือง Satara รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าช้างตัวดังกล่าวก็ได้รับอิสรภาพครั้งใหม่ และได้มีโอกาสกลับไปใช้ชีวิตในป่าเหมือนกับช้างป่าทั่วไป หลังจากที่หน่วยงาน Wildlife SOS ได้เข้าไปช่วยเหลือมันออกมา   เจ้า Gajraj ช้างป่าวัย 70 ปี ได้รับอิสรภาพอีกครั้งหลังจากต้องอยู่ในวิหารแห่งนี้มานานถึง 50 ปี   การช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นหนึ่งในโครงการของหน่วยงาน PETA ที่มีเป้าหมายในการช่วยเหลือเหล่าช้างจากทั่วโลก Gajraj เข้ารับการรักษาตัวที่ศูนย์อนุรักษ์สัตว์แห่งหนึ่งในเมืองมถุรา รัฐอุตตรประเทศของอินเดีย เจ้าช้างมีฝีตรงเล็บเท้าของมัน ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาแผลอาจจะลุกลามจนถึงกระดูกได้ แพทย์ต้องทำการผ่าตัดและศัลยกรรมแผลดังกล่าว เพื่อให้มันกลับมาเดินได้เป็นปกติอีกครั้ง     ฝีที่เท้าของ Gajraj นั้น จะต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน!!   ทางวิหารได้ทำการล่ำรากับเจ้าช้าง แต่ดูเหมือนกับว่าชาวบ้านจะไม่เห็นด้วยกับการที่พวกเขาพามันไปจากที่นี่ เจ้าหน้าที่ต้องคอยดูแลความสงบเรียบร้อยระหว่างการนำตัวของ Gajraj ออกมาจากวิหารแห่งนี้ ในที่สุดเจ้าช้างวัย 70 ปีก็เดินทางออกจากหมู่บ้านดังกล่าวพร้อมกับสัตวแพทย์ที่คอยดูแลมันอย่างใกล้ชิด เพื่อไปยังบ้านหลังใหม่ของมันที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1,500 กิโลเมตร     เจ้าช้างกำลังขึ้นไปบนรถพยาบาล เพื่อไปยังศูนย์ดูแลสัตว์ของมูลนิธิ Wildlife…

โดยปกติแล้วในบ้านแต่ละหลังมักจะมีเหล่าสัตว์ต่างๆ ชอบหลงเข้ามาอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นน้องหมาหรือน้องแมว และส่วนมากแล้วพวกแขกไม่ได้รับเชิญเหล่านี้มักจะขี้ตกใจเอามากๆ ซะด้วย แต่… ดูเหมือนฝูงห่านเหล่านี้จะไม่ได้คิดอย่างนั้น พวกมันผ่านเข้ามาในบ้าน และเดินทอดน่องเหมือนกับว่าบ้านหลังดังกล่าวไปตั้งขวางทางเดินของมันซะอย่างนั้น!!   ขบวนของฝูงห่านแคนาดา ที่เดินผ่านเข้ามาในบ้าน อย่างไม่สะทกสะท้าน   ชาวเน็ตท่านหนึ่งได้โพสต์ภาพของฝูงห่านแคนาดาที่กำลังเดินเข้ามาในบ้านของพ่อเขา ที่ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำ Deschutes ในเมือง Bend รัฐ Oregon วันหนึ่งในระหว่างที่พ่อของคุณ Lan กำลังเปิดประตูเพื่อรับอากาศที่สดชื่นในหน้าร้อน จู่ๆ ก็มีสิ่งหนึ่งที่มากกว่าสายลมพัดผ่านเข้ามาในบ้านนั่นก็คือฝูงห่านที่เดินเข้ามาอย่างสบายใจและผ่านออกไปทางประตูหลัง คุณ Lan ยังเล่าอีกว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีเลยทีเดียวที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้   และนี่คือภาพของพี่ห่านที่เดินเข้ามาในบ้านของชายผู้นี่อย่างสบายใจ   แล้วก็เดินไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น… เอ็งบุกรุกบ้านเค้าอยู่นะเฟ้ย!!   อื่ม…   พี่เค้ามาเพื่อจากไปจริงๆ ฮ่าๆ   แหม่… สบายใจเลยนะลูกพี่ ว่าแต่ก่อนเข้ามาล้างเท้ากันรึยังเนี่ย!? ลำบากคุณแม่ต้องมาทำความสะอาดตามหลังอีก ฮ่าๆๆ ที่มา boredpanda

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสัญชาติญาณหรืออะไรที่มักจะทำให้เหล่าสัตว์เลี้ยงนั้นชอบทำท่าทางแปลกๆ อยู่บ่อยๆ หลายคนที่เลี้ยงน้องหมาน้องแมวไว้ที่บ้านคงจะคุ้นเคยกับภาพความเอ๋อของพวกมันเป็นอย่างดี และวันนี้ #เหมียวเวจจี้ ก็ได้รวบรวมภาพของเหล่ามะหมาพร้อมกับท่าทางแปลกๆ มาฝากผู้รักเจ้าตูบกัน มันอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นคนหรือสัตว์ชนิดอื่นอยู่จริงๆ นะ   1. กำลังเล่นขี่ม้าอยู่หรือไงเจ้าหนู!?   2. เอ๊า!! เอาออกให้หมดเพื่อน อวกแล้วจะได้สบาย   3. มันหนาวมากหรือไงเนี่ย!?   4. หวัดดีฮับเจ้านาย!!   5. อื่ม.. นี่สินะอนุภาพของช่วงติดสัด   6. กินไม่ได้นะหนูน้อย   7. แหม่.. เข้าคิวเป็นกะเค้าด้วยหรอเนี่ย!?   8. เจ้าตูบตัวนี้กำลังพยายามถ่ายภาพมุมกลับอยู่สินะ   9. เพลินเลยสินะ เอ่.. ว่าแต่ใครนำอยู่เนี่ยเจ้าตูบ!?   10. Kiss   11. เบิ้ลสองเลยหรอ!!   12. อื่ม.. อยากได้ทรงผมใหม่สินะ   13. ลงมาเถอะ… ทางบ้านให้อภัยแล้วเจ้าหมา  …

ตั๊กแตนเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มักตกเป็นเหยื่อของกบ ถึงแม้ว่าพวกมันอาจจะดีดตัวเร็วก็จริง แต่บางทีก็ไม่พ้นการตวัดลิ้นของพวกกบอยู่ดี ดังนั้นตั๊กแตนจึงต้องอยู่ห่างกบเข้าไว้ แต่ดูเหมือนเจ้าตั๊กแตนตัวนี้จะไม่เกรงกลัวกบเลยสักนิดเดียว เพราะนอกจากเผชิญหน้ากับกบถึง 3 ตัว แล้ว มันยังขึ้นไปเหยียบหัวกบอีกด้วยแหนะ!!   เจ้ากบทั้งสาม มาจากสำนักไหนกัน!?   ภาพชุดนี้ถ่ายโดยช่างภาพชาวอินโดนีเซีย ที่ไม่รู้จะเรียกว่าเหตุการณ์น่ารักหรือน่ากลัวดี เพราะภาพที่เห็นอยู่นี้เจ้าตั๊กแตนไปอยู่ใกล้กับแก๊งกบถึง 3 ตัว ในระยะที่ประชิดมาก อยู่ใกล้ว่าเสียวแล้ว แถมตั๊กแตนยังจะขึ้นไปเหยียบหัวกบอีก แล้วก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมกบทั้ง 3 ตัว จึงพร้อมใจกันไม่ทำอะไรเจ้าตั๊กแตนเลย   ถามไปไม่ตอบแฮะ งี้ก็ต้องโชว์วิชาให้รู้สำนึกกันซักหน่อย…   หรือบางทีพวกมันอาจจะวางแผนให้เจ้าตั๊กแตนจอมกวนตายใจก็ได้ ประมาณว่า ‘ไหนๆ มันก็ใกล้ถึงฆาตแล้ว ปล่อยให้มันได้มีความสุขในช่วงสุดท้ายของชีวิตสักระยะหนึ่งก่อนก็ได้ แล้วค่อยจัดการทีหลัง’   จะโชว์แล้วน้าาาาาาาาาา   แต่ในทางกลับกัน นี่อาจจะเป็นมิตรภาพของสัตว์ที่อยู่ในระบบนิเวศเดียวกันก็ได้ แม้ว่าฝ่ายหนึ่งจะเป็นนักล่า ส่วนอีกฝ่ายจะเป็นเหยื่อก็ตาม   อะชึ๊บ นี่แหนะ ถึงพวกเอ็งจะเป็นกบ แต่ข้าก็ไม่กล้วเฟร้ย!!   แล้วเพื่อนๆ ละคะคิดว่าชะตาชีวิตของตั๊กแตนตัวนี้จะจบลงยังไงนะ? ที่มา China Xinhua News

เป็นวินาทีที่หาชมได้ยากของพ่อหนุ่มคนหนึ่ง จนเจ้าตัวต้องเอามาบอกเล่ากันต่อบนเว็บไซต์ Dailymail จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อปลาหมึกยักษ์อยากเล่นเซิร์ฟบอร์ดด้วย James Taylor หนุ่มวัย 39 ปี ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่เมือง Merkbosstrand ประเทศแอฟริกาใต้ พร้อมกับภรรยาสาวผู้รู้ใจ Christina   ในขณะที่ทั้งคู่นั่งชิวอยู่บนแผ่นเซิร์ฟ จู่ๆ ก็มีปลาหมึกยักษ์ปรากฎตัวขึ้นมาต่อหน้าพวกเขา ซึ่งตอนแรกพ่อหนุ่มก็คิดว่าปลาหมึกคงได้รับบาดเจ็บมาแน่ๆ   จากนั้นเขาจึงใช้เชือกเพื่อช่วยพยุงปลาหมึกให้ขึ้นมาเหนือน้ำ เพื่อต้องการดูว่าเจ้าปลาหมึกได้รับบาดเจ็บส่วนไหน หรือมันต้องการความช่วยเหลือใดๆ รึเปล่า   James ได้ให้สัมภาษณ์กับ Dailymail ว่า “ตอนแรกผมคิดว่ามันคงบาดเจ็บและถูกคลื่นซัดมา ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมาก เกิดมาเราไม่เคยเห็นปลาหมึกตัวใหญ่เท่านี้มาก่อนเลย และเราก็หวังว่าตอนนี้มันจะปลอดภัยเมื่ออยู่ใต้ท้องทะเล”   หลังจากที่ช่วยมันขึ้นมาได้แล้ว พ่อหนุ่มก็รีบพาปลาหมึกกลับเข้าสู่ชายหาดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดูแล และนั่นก็นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา   เพราะชาวเน็ตหลายคนก็ได้ให้ความเห็นว่า ควรจะปล่อยปลาหมึกกลับคืนสู่ท้องทะเล ในขณะที่อีกหลายๆ คนมองว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการช่วยเหลือปลาหมึกให้ได้รับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญอย่างถูกต้อง   แต่ก็ดูเหมือนว่ากระแสวิจารณ์ในแง่ลบจะมาแรงกว่า เพราะหลายคนมองว่าถึงแม้ปลาหมึกจะบาดเจ็บมนุษย์ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง และควรจะปล่อยให้เป็นเรื่องของธรรมชาติซะมากกว่า   ถึงแม้จะไม่มีการรายงานว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่อย่างน้อยเราก็ได้รู้แล้วว่า.. ปลาหมึกไม่ได้คิดจะเล่นเซิร์ฟอะไรเล๊ยยย ที่มา: Dailymail

สำหรับสุนัขแล้ว การมีชีวิตอยู่คู่กับเจ้าของเป็นเวลาถึง 10 ปี ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากๆ เลยทีเดียว แน่นอนว่าในช่วงเวลานั้น ความรักความผูกพันกับเจ้าของคงจะมากพอๆ กับสิ่ง Magnolia Mae Blossom หรือเรียกสั้นๆ ว่าเจ้า Maggie สุนัขสายพันธุ์บาสเซ็ตฮาวด์ ซึ่งในตอนนี้มันมาอายุครบ 10 ขวบเป๊ะ!! เรียกว่าเป็นหมาแก่แล้ว ซึ่งถ้าเทียบกับอายุของมนุษย์ก็คงเป็นคุณยายวัย 70, 80 ปีแล้วล่ะ     ทว่าเจ้า Maggie ไม่ได้เป็นสุนัขที่อยู่กับเจ้าของปัจจุบันมาตั้งแต่แรก โดยเดิมทีมันเป็นสุนัขที่โตมากับครอบครัวอื่น แต่เหมือนกับว่าครอบครัวเก่าของมัน เริ่มไม่อยากเลี้ยงอีกต่อไปหลังจากอยู่ด้วยกันมานานถึง 6 ปี พวกเขาก็เลยจัดการส่งมันไปยังสถานสงเคราะห์สัตว์ จนกระทั่ง Rachel Taylor ผู้ทำงานเป็นช่างภาพสุนัขและงานแต่งงาน ก็เลยขอรับเลี้ยงเจ้าสุนัขวัยกลางคนตัวนี้มา และอยู่ด้วยกันจนมันอายุครบ 10 ปีนั่นเอง     ด้วยเหตุนี้ Rachel ก็เลยจัดการซื้อเค้กมาฉลองครบรอบวันเกิดให้กับมันซะเลย โดยตัวเค้กเป็นเค้กสั่งทำในธีม Magnolia & Pearls ที่มีสีฟ้าและไข่มุกสดใส ส่วนถ้าใครกลัวว่าเค้กจะเป็นภัยต่อเจ้าตูบก็ไม่ต้องห่วงไป เพราะเธอบอกว่าเค้กนี้ทำมาเพื่อให้เจ้าตูบโดยเฉพาะใช้ส่วนผสมที่ปลอดภัยกับสุนัขแน่นอน     ร่ายยาวกันมานาน ได้เวลาทดสอบรสชาติกันแล้ว เอ้าลุย!!…

เป็นเวลากว่า 7 เดือนที่ David Herrera และ Kash นายทหารและสุนัขสงครามร่วมต่อสู้ด้วยกันในสถานที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก จนทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่หูที่เข้าขาและผูกพันกันอย่างหาอะไรมาเทียบไม่ได้ David เป็นนาวิกโยธินประจำอยู่ที่สมรภูมิในอัฟกานิสถาน และเขาก็มีหน้าที่ต้องดูแลเจ้า Kash สุนัขศึกที่รับหน้าที่ตรวจหาระเบิด ทั้งคู่มีหน้าที่ในการเฝ้าระวังให้กับเพื่อนร่วมหน่วย รวมถึงการเฝ้าระวังกันและกันให้ปลอดภัยอยู่เสมอ สายสัมพันธ์ของทั้งคู่แปรเปลี่ยนจากเพื่อนร่วมงานจนกลายเป็นเพื่อนซี้     David ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ The Dodo ว่า “Kash ถือเป็นตัวช่วยให้กำลังใจกับผมมากๆ มันเป็นเพื่อนที่อยู่กับผมตลอด 24 ชั่วโมง กินด้วยกัน นอนด้วยกัน สู้ด้วยกัน ผ่านทุกๆ อย่างมาด้วยกัน” แต่ตั้งแต่ทั้งคู่ปลดประจำการในปี 2011 ทั้งคู่ก็ต้องแยกจากกันเพื่อไปทำหน้าที่ของตน David ได้ถูกส่งไปประจำการอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ส่วน Kash ได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ยังสถานที่ต่างๆ     David ยังเล่าว่าเพิ่มอีกว่า “นับแต่พวกเราปลดประจำการ ผมก็ไม่ได้เจอ Kash อีกเลย ผมอยากเจอมันมากๆ ผมพยายามที่จะหาวิธีเพื่อรับเลี้ยงมัน แต่ติดต่อหาข้อมูลยังไงก็ไม่คืบหน้าเลย ตั้งแต่ไม่มีมันในชีวิต ผมก็รู้สึกว่างเปล่ามากๆ ถือเป็นช่วงที่ลำบากในชีวิตเลยก็ว่าได้…

เคยมีคนบอกว่าถ้าคุณเลี้ยงแมวไว้ในบ้าน ขอให้คุณทำใจไว้ได้เลยว่าหน้าที่การเป็นเจ้าที่คอยปกปักษ์รักษาบ้านของคุณนั้น ได้ตกไปอยู่ในภายใต้การดูแลของเจ้าพวกเหมียวเข้าให้แล้ว เช่นเดียวกันกับ Ray Vargas หนุ่มใหญ่หน้าโหดแต่โปรดเถิดดวงใจรักนี้เขามอบให้เทพเจ้าเหมียวเพียงผู้เดียว โดยเจ้าตัวจะมาเล่าประสบการณ์หลังจากที่ได้บูชาองค์จตุแมวรามาเทพมาไว้ในบ้าน   ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน เป็นช่วงเวลาที่พ่อหนุ่มกำลังจะเดินกลับบ้านอย่างอ้างว้าง ทันใดนั้นเขาก็ได้เหลือไปเห็นลูกแมวที่นอนตากฝนอยู่…   ด้วยจิตใจที่โอบอ้อมอารีย์ และพร้อมจะมอบความรัก ความอบอุ่นให้กับมิ้วน้อย หลังจากที่เค้าเห็นลูกแมวถูกทิ้งไว้กลางฝน เขาก็ได้ให้คำปฏิญาณกับฟ้าฝนว่าต่อจากนี้จะไม่ปล่อยให้มิ้วน้อยต้องเผชิญชะตากรรมอันยากลำบากอีกแล้ว   “ผมได้ยินเสียงแมวร้อง แล้วผมก็ร้องเดินตามไปดูเป็นคืนที่ฝนตกหนัก และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด”   ในคืนเดียวกันนั้นหลังจากที่พ่อหนุ่มใจดีได้พามิ้วน้อยมารักษาตัวที่บ้าน เขาก็ทุ่มเทใช้เวลาอดหลับอดนอนประคบประหงมลูกแมวเป็นอย่างดี ราวกับแม่ไก่ที่เพิ่งฟักไข่ออกมาจากเล้า (เกี่ยวอะไรกันเนี่ย!?)   ไม่ว่าจะนม อาหารสำหรับเด็ก หรือชุดปฐมพยาบาล พ่อหนุ่มมั่นใจว่าถ้าเขาได้ช่วยชีวิตแมวแล้ว บุญกุศลทั้งหมดจะย้อนกลับมาหาตัวเค้า และทำให้ชีวิตเค้าดีขึ้น   เมื่อวันเวลาผ่านไป.. ในที่สุดเทพเจ้ามิ้วน้อยก็ลืมตาออกมาดูโลกแล้ว นี่สินะที่เรียกว่าโอ้วพระเจ้าทรงโปรด!!   พ่อหนุ่มได้ตั้งชื่อให้มิ้วน้อยว่าเทพเจ้า Bagheera เมื่อวันเวลาผ่านไปเขาก็ค่อยๆ ผันตัวกลายเป็นทาสแมวทีละนิดๆ จนรู้ตัวอีกทีก็ถูกมันครอบงำซะแล้ว   ระยะทางพิสูจน์ม้า แต่กาลเวลาพิสูจน์แมว เทพเจ้ามิ้วน้อยเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ สุขภาพก็แข็งแรงตามลำดับ   จนในที่สุดความฝันของพ่อหนุ่มก็กลายเป็นจริง Bagheera เติบโตกลายเป็นแมวหนุ่มผู้มีความหล่อขั้นเทพเจ้า แถมคารมจีบสาวยังร้ายซะยิ่งกว่าหนุ่มกรรชัย  …

ไม่มีใครเกิดมาเพียบพร้อม บางคนเกิดมาพร้อมความบกพร่องด้วยซ้ำไป แต่ไม่ว่าจะมีสภาพเป็นอย่างไร เราต้องรักและเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งนั้นให้ได้ เหมือนกับน้องแมวตัวนี้ ที่เกิดมามีแค่ 2 ขาหน้า แต่มันเคยยอมแพ้ และเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตโดยไม่มี 2 สองขาหลังได้อย่างมีความสุข     Anakin เจ้าเหมียวมหัศจรรย์ ถูกพบโดย Carrie Hawks ขณะที่มันกำลังมากินอาหารร่วมกับแมวตัวอื่นๆ ในโรงงานของพ่อหญิงสาวเมื่อช่วงปี 2012 จริงๆ เธอไม่คิดจะรับเลี้ยงแมวเพิ่มแล้ว แต่พอเห็น Anakin มีแค่ 2 ข้างหน้า เธอก็ทำใจไม่ได้ที่จะปล่อยมันไปโดยไม่ช่วยอะไรเลย     ในที่สุด Carrie ก็ตัดสินใจรับมันมาเลี้ยง แต่น้องเหมียวนี่สิกลับไม่ยอมให้มนุษย์เข้าใกล้เลย มันมักวิ่งหนีทุกครั้งที่หญิงสาวพยายามจะเข้าไปอุ้ม หลบเข้าพุ่มไม้ที่ประจำของมันอยู่ตลอด     แต่แล้วในที่สุดเธอก็ตามเจ้าเหมียวเข้าไปในพุ่มไม้และคว้าตัวเจ้าเหมียวมาได้สำเร็จ หลังจากนั้นผ่านไปเพียงแค่ชั่วข้ามคืน เจ้าเหมียวก็เริ่มคุ้นเคยกับเธอมากขึ้นและออกมาใช้ชีวิตอันสนุกสนานเหมือนดั่งเคยภายในบ้านของเธอ ก่อนที่จะพามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย     หลังจากที่ตรวจร่างกาย คุณหมอบอกว่า Anakin นั้นไม่มีกระดูกเชิงกรานและขาหลัง แต่น้องแมวกลับไม่รู้สึกความแตกต่างนั้น และใช้ชีวิตเหมือนแมวปกติทั่วไป Carrie บอกว่า “มันเป็นแมวที่น่ารักและรักความสงบค่ะ มันชอบให้เรากอด ฉันเลยตั้งชื่อให้มันว่า Anakin ที่มาจาก Anakin Skywalke…

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีเรื่องสุดประหลาดใจเกิดขึ้นที่ศูนย์ช่วยเหลือแมวเหมียว เมื่ออยู่ดีๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า เธอจะขอรับเลี้ยงลูกแมวกำพร้าที่ทางศูนย์พึ่งถูกช่วยมาทั้งหมดเลย แล้วทั้งหมดที่ว่านั้นก็มีจำนวนเยอะถึง 14 ตัวเลยทีเดียว… เรื่องดังกล่าวเริ่มจากที่ศูนย์ช่วยเหลือ Richmond Animal Care and Control (RACC) ได้เดินทางไปช่วยเหลือลูกแมวจำนวน 14 ตัวที่ถูกทิ้งแล้วซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้มา     เจ้าตูบที่ศูนย์ยังมาช่วยดูแล้วลูกแมวเหมียวเลย   ทางตอนแรกเหล่าสมาชิกของศูนย์เกรงว่าด้วยจำนวนลูกแมวที่มีมากขนาดนี้ พวกเขาไม่มั่นใจว่าทางศูนย์พอจะมีพื้นที่ให้พวกมันทุกตัวไหม แต่แล้วอยู่ดีๆ แสงแห่งความหวังที่คาดไม่ถึงก็โผล่สาดลงมา Dr. Megan Allred จากศูนย์ Veterinary Emergency & Specialty Center (VESC) ได้ออกปากว่าเธอจะรับดูแลเจ้าเหมียวพวกนี้ต่อเอง ซึ่งรวมถึงสุขภาพความเป็นอยู่ของพวกมันทั้งหมด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับทางศูนย์ RACC     ยังไงก็ตามทาง RACC ยังบอกเสริมว่านี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Dr. Megan ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เธอได้ทำแบบนี้หลายครั้งแล้ว เพราะเธอไม่ยอมปล่อยให้แมวเหมียวจะต้องลำบากและต้องฝืนหาบ้านรับเลี้ยงให้พวกมันทั้งที่ยังไม่พร้อม เธอจึงมักจะตัดสินใจเป็นคนทำหน้าที่ดูแลพวกมันก่อนจะหาบ้านถาวรให้พวกมันอีกต่อหนึ่ง ล่าสุดเจ้าเหมียวทั้งหมดก็อยู่ในอ้อมกอดของ Dr. Megan พวกมันได้รับการดูแลเป็นอย่างดีกินอิ่มหลับสบาย ยังไงก็ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากเธอจริงๆ ไม่งั้นเจ้าเหมียวทั้ง 14…

หนึ่งในคำถามคาใจของเหล่าคนเลี้ยงแมว ที่มักจะสงสัยว่าเจ้าเหมียวของตัวเองเนี่ย ทำไมมันถึงชอบเดินตามไปทุกที่จะเข้าห้องนอนจะเข้าห้องน้ำก็ตามติดๆ โดยเฉพาะห้องน้ำจะตามไปบ่อยมากๆ ส่วนที่สำคัญก็คือพอตามเข้ามาก็จะร้องออกไปอีก เฮ้ออออ… ชาวเน็ตในเว็บไซต์ Reddit ก็ตั้งคำถามดังกล่าวเช่นกัน ว่าทำไมมันถึงชอบตามเราไปในห้องน้ำ เพราะมันจะปกป้องเราจากอันตรายตอนที่เรากำลังทำธุระ ก็คงจะไม่ใช่นิสัยของแมวแน่ๆ พวกเขาจึงเริ่มช่วยกันหาคำตอบว่ามันเป็นเพราะอะไรกันนะ…     ซึ่งมีคอมเม้นต์หนึ่งออกมาตอบคำถามนี้ว่า แมวเป็นสัตว์ที่มีลักษณะนิสัยคล้ายกับเด็กทารก มันจะเรียกร้องความสนใจจากเรายิ่งถ้ารู้ว่าเราอยู่อีกฝากหนึ่งของประตู มันจะคิดว่าเรากำลังทำกิจกรรมอะไรบางอย่างอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีพวกมันไปแจม พวกมันก็เลยจะต้องเกาประตูเพื่อเรียกให้เราเปิดรับมันเข้าไป…     นั่นจึงทำให้หลายคนเริ่มคิดว่าจริงๆ แล้วแมวเนี่ยมันเป็นโรค FOMO (Fear of missing out) หรือเปล่านะ เลยทำให้พวกมันเลยต้องการได้รับความสนใจอยู่ตลอดเวลา หรือว่าจริงๆ แล้วการที่มันชอบเข้าไปในห้องน้ำอาจจะเพราะมันอยากจะอยู่ในที่เย็นๆ? แต่บางคนก็บอกว่าพวกมันอาจจะมีพฤติกรรมที่รักความสะอาด พอเห็นเราเข้าไปทำธุระส่วนตัวมันก็เลยอยากจะเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทำความสะอาดของเราด้วย     ยังไงก็ตามไม่ว่าจะด้วยอะไร เราก็ยังไม่สามารถหาคำตอบที่แน่นอนในเรื่องนี้อยู่ดี ทว่าสิ่งหนึ่งที่เรารู้แน่ชัดคือแม้มันจะน่ารำคาญที่ชอบเข้าๆ ออกๆ จนบางทีก็รู้สึกรำคาญไปบ้าง แต่มันก็คือเสน่ห์ของเจ้าพวกหน้าขนเหล่านี้อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย   ที่มา thedodo

นับตั้งแต่ที่ Erin Einbender ได้เริ่มเป็นอาสาสมัครให้กับศูนย์ช่วยเหลือสุนัข One Tail at a Time ในช่วงที่เธอต้องทำตัวจบเกี่ยวกับศิลปะ ซึ่งเธอก็ได้รู้ว่า.. เหล่าสุนัขทุกตัวต่างดูเศร้าโศกทุกครั้งเมื่อพวกมันต้องใส่โคน ในระหว่างที่เธอคิดถึงหัวข้อตัวจบพร้อมกับดูแลเหล่าสุนัขจรจัดไปด้วย เธอก็ได้ปิ๊งไอเดียที่จะทำโปรเจคสุดท้ายของการเป็นนักศึกษาให้ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือสัตว์โลกได้อย่างพร้อมๆ กัน   “พวกมันดูเศร้ามากเลยค่ะทุกครั้งที่ต้องใส่โคน แต่บางทีพวกมันก็จำเป็นต้องใส่จริงๆ ดังนั้นฉันจึงปิ๊งไอเดียที่จะช่วยทำให้พวกมันหาบ้านได้ง่ายขึ้น” Erin เล่า   ไอเดียครั้งนี้เธอเลือกที่จะนำโคนมาตกแต่งด้วยสีสันสดใส ใครดูต่างก็รู้สึกว่าพวกสุนัขน่ารักน่าเอ็นดูขึ้นอีกเป็นกอง   เธอเลือกที่จะใช้วัสดุตกแต่งทั่วไปเช่น ดอกไม้ปลอม ผีเสื้อปลอม หรือวัสดุอะไรก็ตามแต่ที่ดูมีสีสันสดใส   “ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่พวกมันได้รับโคนแฟนซี พวกมันก็ดูร่าเริงขึ้น บางทีสิ่งนี้อาจจะช่วยทำให้สุนัขทั้งหลายรู้สึกว่าตัวเองมีความหมายมากขึ้นก็ได้นะ” เธอเล่าเสริม   ยกตัวอย่างเช่นเจ้าตัวนี้ เจ้าหน้าที่เล่าว่าก่อนหน้านี้มันดูซึมเศร้า แต่หลังจากที่มันได้โคนแฟนซีไปมันก็ยอมให้ถ่ายรูป แถมยังกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมอีกด้วย   หรือจะมาเป็นโคนหัวใจ น้องหมาพร้อมส่งต่อความรักให้ทุกครอบครัวแล้วคร๊าบบ   ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าวิธีนี้ ช่วยทำให้มีผู้คนหันมาสนใจรับพวกมันไปอุปการะมากขึ้น   ในอนาคตเธอก็วางแผนที่จะประสานงานกับศูนย์ช่วยเหลือที่อื่นๆ เพื่อทำโคนแฟนซีให้น้องหมา และช่วยให้พวกมันทุกตัวได้อาศัยอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง   Erin ให้สัญญาว่าถึงแม้เธอจะเรียนจบแล้ว เธอก็ยังจะสานต่อโครงการนี้ต่อไปเพื่อความสุขของสุนัขจรจัดทุกตัว   แต่เจ้าตัวไหนที่มีนิสัยดื้อมากเป็นพิเศษ ก็อาจจะได้โคนที่ตกแต่งด้วยขยะไปแบบนี้แทน…

เป็นอีกครั้งที่เราจะได้เห็นพฤติกรรมแปลกๆ ปนความน่ารักของเจ้าสุนัขนิรนามสัญชาติเกาหลีใต้ตัวนี้ เรื่องมันมีอยู่ว่าวันหนึ่งชาวเน็ตได้เข้าไปชมภาพวิวของย่าน Ulleung-gun ที่จังหวัด Gyeongbuk ประเทศเกาหลีใต้ แล้วดันไปพบกับเจ้าสุนัขตัวนี้เข้า!! ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน ชื่ออะไร แต่เราพอจะเดาออกว่ามันน่าจะอยากทำงานกับกูเกิ้ลเอามากๆ ถึงขั้นที่ไม่ว่าช่างเก็บภาพสตรีทวิวจะไปทางไหน เจ้าตูบก็ขออาสานำทางประหนึ่งเป็นไกด์ส่วนตัวให้กันเลยทีเดียว…   พี่มะนุ๊ดด มาสำรวจอะไรกันเอ่ย..??   ไม่ว่าชาวเน็ตคนไหนที่เข้ามาชมภาพแถวย่านนี้ ก็จะได้เห็นภาพเจ้าตูบรีทรีฟเวอร์ตัวนี้วิ่งตามอยู่เสมอ   ดูท่าทางมันจะอยากช่วยสำรวจเส้นทางมากเลยนะเนี่ย   งานนี้ตูบขอทำหน้าที่สำรวจบ้านคนอื่นให้เอง   บางทียังมีการวิ่งนำเหมือนพยายามจะบอกว่า “ลองมาทางนี้มั้ยนายจ๋า”   ทางแคบๆ แบบนี้ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเราจะนำล่วงหน้าเอง   ดู๊วว ดูมันเอาจริงเอาจังกับการสำรวจมากเลยนะเนี่ย   บางทีก็หันมายิ้มให้กล้องด้วยนะ น่ารักแสนรู้ดีจริงๆ   จะซ้ายหรือขวาดีน๊าา บางทีตูบก็ตัดสินใจไม่ถูกเลย   และดูเหมือนว่าตอนนี้บริษัทกูเกิ้ลสาขาเกาหลีใต้ จะได้พนักงานสำรวจพื้นที่พิเศษเพิ่มเข้ามาแล้วล่ะ   ท่าทางจะชอบสำรวจมากเลยนะเนี่ย แถมยังเฟรนด์ลี่ด้วย ใจดีจริงๆ ที่มา: Boredpanda

จะว่าไปไม่ได้มีแค่คนเราเท่านั้นหรอกนะ ที่จะรู้สึกขี้เบื่อกับสิ่งต่างๆ ได้ง่ายดายซะเหลือเกิน เช่นเดียวกับคุณตูบสี่ขาที่ชื่อว่า Mac หลังจากที่ Brittany Gillott ผู้เป็นเจ้าของบ้านได้นำลูกเจี๊ยบกลับมาด้วย 6 ตัว งานนี้ดูเหมือนเจ้า Mac จะขอลาออกจากการเป็นหมา แล้วหันมาทำหน้าที่เป็นแม่ไก่แทนซะงั้น!?   จะเจี๊ยบหรือจะโฮ่งดีละงานนี้   “มันแปลกมากเลยตั้งแต่ที่ฉันพาลูกเจี๊ยบทั้ง 6 ตัวเข้ามาอยู่ในบ้าน เจ้าแมคก็ทำหน้าที่คอยเลียขน ประคบประหงมดูแลอย่างดีเลย” Brittany เล่า   เดิมทีเจ้า Mac ถูกรับเลี้ยงมาจากศูนย์พักพิงสัตว์เมื่อปีก่อน   ดูเหมือนมันจะเข้าใจดีว่า ความรู้สึกการถูกทิ้งมันเป็นอย่างไร และมันก็คงไม่อยากจะให้ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นกับลูกเจี๊ยบตัวน้อยทั้งหลาย   “วันแรกที่เราไปรับเจ้า Mac มาอยู่ที่บ้าน ฉันจำได้ว่าท่าทางมันสงบนิ่งมาก มันเป็นสุนัขที่น่ารักสุดๆ ทันทีที่มันมาถึงครอบครัวของดิฉันก็ต้อนรับมันอย่างดี และดูเหมือนตอนนี้มันกำลังจะส่งต่อความรักอีกครั้ง” เจ้าของกล่าวทั้งน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม   ในทุกๆ เช้า Mac จะเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อย และช่วยเลียขนให้กับลูกเจี๊ยบทุกตัวก่อนที่จะเริ่มทานอาหารเช้าพร้อมๆ กัน   ถ้าหากมีคำว่าทาสแมว สำหรับ Mac แล้วมันก็คงจะกลายเป็นทาสลูกเจี๊ยบไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว  …

เชื่อเถอะว่าสุนัขพวกนี้มันรักเรามากกว่าที่เราคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราได้ทำงานร่วมกับสุนัขด้วยแล้ว พวกมันคงเป็นได้ทั้งเพื่อนร่วมงาน เพื่อนเล่น เพื่อนกิน หรือแม้แต่เพื่อนนอน เช่นเดียวกับเจ้า Germa สุนัขผู้ทำหน้าที่คอยดูแลรักษาการณ์สนามบินนานาชาติออร์แลนโด เป็นเวลานานกว่าหลายปีที่มันคอยดูแลความสงบให้สนามบิน แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา และในที่สุดวันเกษียณอายุของมันก็มาถึง   Germa ทำผลงานคุณงามความดีให้กับสนามบินแห่งนี้มานานกว่า 5 ปี   สำหรับมนุษย์แล้ว Germa เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีที่สุด มันไม่เคยบ่น มันไม่เคยขอขึ้นเงินเดือน และมันก็ไม่เคยขอลาป่วยเลยแม้แต่วันเดียว   “ในความมืดมิด เธอเป็นทั้งดวงตา เป็นทั้งน้องสาว คนคุ้มกัน และในยามที่เราโดดเดี่ยวเธอก็มักจะอยู่เคียงข้างเราเสมอ” คู่หู Germa โพสต์ผ่านทวิตเตอร์   ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรียกได้ว่าหนึ่งในผลงานการจับกุมพ่อค้ายาเสพติด และของผิดกฎหมายที่ลักลอบขนส่งกันในสนามบิน ล้วนแล้วต้องเคยผ่านจมูกของ Germa และผองเพื่อนมาแล้วทั้งนั้น   “นี่คืองานเฉลิมฉลองที่ทรงคุณค่ามากที่สุด Germa เป็นเพื่อน และผู้ร่วมงานที่ซื่อสัตย์ที่สุด และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะให้เธอได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข” ประกาศจากสนามบิน   ถึงงานอาจจะไม่ได้ดูใหญ่โตเท่ากาล่าดินเนอร์ แต่เชื่อเถอะว่าทุกคนมาร่วมงานด้วยใจ และความรู้สึที่อยากจะเลี้ยงส่ง Germa จริงๆ   และในฐานะที่กำลังจะเกษียณ…

ไม่น่าเชื่อเหมือนกันนะว่าไม่ได้มีแค่มนุษย์เราเท่านั้น ที่ต้องต่อสู้กับแสงแดดที่พร้อมจะแผดเผาทุกสภาพผิวให้ราบเป็นหน้ากอง เพราะเรื่องราวของ “Spirtle” จะทำให้เราได้รู้ว่าโลมาก็ผิวไหม้ได้เหมือนกัน เดิมทีเจ้า Spirtle ถูกพบโดยเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ หลังจากที่มันขึ้นมาเกยตื้นบนชายฝั่ง Cromarty Firth ประเทศสก็อตแลนด์ ในตอนแรกเจ้าหน้าที่ตั้งใจจะปล่อยมันคืนสู่ทะเล ทว่าพวกเขากลับสังเกตเห็นรอยแผลไหม้บนเรือนร่างของมัน   เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่ามันน่าจะเกยตื้นอยู่บนฝั่งนานกว่า 24 ชั่วโมง จนทำให้ผิวหนังของมันถูกแดดเผาจนไหม้   ด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าอาการบาดเจ็บจะรุนแรงจนทำให้มันไม่สามารถมีชีวิตรอดได้ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือจึงตัดสินใจที่จะรับมันมาดูแล และรักษาพยาบาลเป็นอย่างดีก่อนปล่อยคืนสู่ทะเล ทันทีที่มันถูกย้ายมาอาศัยกับทีมวิจัยของมหาวิทยาลัย Arberdeen มันก็ได้อาศัยอยู่กับกลุ่มโลมาอีก 200 กว่าตัว อีกทั้งทีมวิจัยก็ได้ทุ่มเทเวลาไปกับการรักษาบาดแผล จนมันค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ   ภาพถ่ายหนึ่งวันหลังจากที่ช่วยเหลือ Spirtle มาได้ (กรกฎาคม 2016)   ในระยะแรกทีมวิจัยแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่า นี่คือสภาพผิวไหม้เกรียมของสัตว์ใต้ทะเลอย่างโลมา และบาดแผลก็ดูรุนแรงเกินกว่าที่จะเยียวยาได้ ทีมวิจัยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ในช่วงแรกดูเหมือน Spirtle จะค่อนข้างบาดเจ็บพอสมควร แต่สิ่งที่น่าสังเกตก็คือช่วงแรกมันมีพฤติกรรมแยกตัวออกจากฝูง ไม่มีการทำพฤติกรรมร่วมกัน และมันพยายามที่จะว่ายน้ำไม่ให้ชนตัวเพื่อนตลอด”   ภาพถ่ายจากเดือนกันยายน ปี 2016 เผยให้เห็นถึงสภาพผิวหนังของมันที่ค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นมาบ้างแล้ว  …

เจ้า Walrus สุนัขพิทบลูผู้น่าสงสาร ได้มีโอกาสพบกับความสุขอีกครั้งหลังจากที่มันถูกนำไปเลี้ยงในบ้านหลังใหม่ที่แสนอบอุ่น… คุณ Anya Kopchinsky ได้พบกับเจ้าพิทบูลน้อยตัวนี้ในสถานพักพิงสัตว์แห่งหนึ่งในรัฐ Connecticut ประเทศสหรัฐอเมริกา แววตาของเจ้าหมานั้นช่างสดใสและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม     “ฉันรู้สึกชอบมันทันทีในครั้งแรกที่พบกัน แต่ดูเหมือนมันจะตื่นกลัวมากอยู่เหมือนกันนะ” คุณ Kopchinsky ผู้ก่อตั้ง Pit Stop องค์กรช่วยเหลือสุนัขพันธุ์พิทบูลและสุนัขตัวอื่นๆ กล่าว ร่างกายของเจ้าหมาบ่งบอกถึงเรื่องราวร้ายๆ ที่มันเคยผ่านมาได้เป็นอย่างดี ฟันของเจ้าตูบดูห่างๆ แต่นั่นอาจจะไม่ชัดเจนเท่ากับรอยแผลเป็นต่างๆ บนลำตัวและผิวหนังแข็งๆ ที่แสดงถึงความเจ็บปวดที่มันเคยได้รับมา     นอกจากนี้เจ้า Walrus ยังมีขาด้านหน้าที่คดงอมาตั้งแต่เกิด และไม่ได้รับการรักษาจนทำให้ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ คุณ Kopchinsky กล่าวว่า “มันเหมือนจะไม่มีข้อเท้าด้านหน้าข้างขวา ดังนั้นจึงทำให้มันเดินไปไหนมาไหนได้ลำบาก นอกจากนี้ผิวหนังส่วนหัวของมันยังเต็มไปด้วยโรคเรื้อนอีกด้วย” ทางสถานสงเคราะห์ต้องการให้มีคนมารับเจ้า Walrus ไปโดยด่วน เนื่องจากมันเริ่มมีอาการหวาดหลัวและต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน ดังนั้นหญิงสาวเจ้าขององค์การ Pit Stop จึงรีบมารับตัวของมันไปดูแล     ตอนนี้เรื่องเรื่องร้ายๆ ที่เจ้าหมาต้องเจอนั้นได้ผ่านไปแล้ว และดูเหมือนว่ามันจะมีความสุขอย่างมากในบ้านหลังใหม่กับคุณ Kopchinsky “มันเป็นเด็กดีมาก มันเป็นที่รักของหมาตัวอื่นๆ ของที่นี่” หญิงสาวผู้ดูแลเจ้าตูบกล่าว ถึงแม้ว่าจะลุกนั่ง ลงบันไดและวิ่งได้ลำบาก แต่เจ้า Walrus ก็พยายามได้ดีมาก มันค่อยๆ เดินเหมือนสุนัขตัวอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะช้าบ้างแต่กิจกรรมเหล่านั้นก็ดูจะไม่เป็นปัญหาสำหรับมันแต่อย่างใด…

ปกติแล้วคนเลี้ยงสุนัขทุกคนย่อมทำสิ่งที่เหมือนๆ กันก็คือการพาหมาออกไปเดินเล่น เพื่อให้มันได้ออกกำลังกาย ได้พบปะกับเพื่อนฝูงและผู้คนอื่นๆ แต่รู้หรือไม่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่เป็นความลับสำหรับมันก็คือมันไม่ได้เกิดมาเพื่อเดินนะ แต่มันเกิดมาเพื่ออยู่ในกระเป๋า ใครจะรู้ว่าหมาเหล่านี้เวลามันถูกหิ้วนั้นเป็นอะไรที่น่ารักเกินคำบรรยายเลยล่ะ และวันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปพบกับความน่ารักแบบไร้ขีดจำกัดของหมากระเป๋า เห็นแล้วอยากทำตามเลย   นี่คือสิ่งที่สำคัญที่โลกต้องรับรู้ไว้ เพราะมันสามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนเลี้ยงหมาไปตลอดกาล   สิ่งนี้ก็คือหมาในกระเป๋านั่นเอง   หมาบางตัวก็ชอบที่จะอยู่ในกระเป๋าที่มีรูปหมาอีกที   และหมาบางตัวก็ชอบแบกหมาที่อยู่ในกระเป๋า   กระเป๋าบางใบก็จะเต็มไปด้วยลูกหมาน้อยมากมาย   แต่บางตัวก็ชอบการอยู่ในกระเป๋าคนเดียว   และนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่คนจะแอบเอาหมาขี้นรถไฟใต้ดิน เพราะว่าเขาไม่อนุญาตให้พวกมันขึ้นได้ ดังนั้นการอยู่ในกระเป๋าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด   ถึงแม้บางตัวมันจะตัวใหญ่เกินไปก็ตาม   ช่างน่าสงสารจริงๆ ทำไมมันถึงถูกแบนนะ   โชคยังดีที่ยังมีถุงคอยช่วยปิดบังมันได้   ถึงกับต้องมีอินสตาแกรมที่ชื่อว่า Dogs in Bags เอาไว้อวดรูปน้องหมาในกระเป๋าเลย   บอกเลยว่านี่แหละคือสิ่งที่ดีงามสำหรับโลกใบนี้   พวกเราต้องการหมากระเป๋า!!!   มันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการซ่อนตัวจากโลกภายนอก   ต้องขอบคุณสุนัขเหล่านี้   และกระเป๋าอีกหลายใบ   ที่ทำให้การเดินทางของเราเป็นสิ่งที่งดงาม…   ถึงแม้ว่ามันจะน่ารักสักแค่ไหน แต่อย่าลืมพามันออกไปเดินบ้างก็ดีเหมือนกันนะ เดี๋ยวเป็นง่อยกันพอดี อิอิ…

ถ้าคุณอยากให้มีความบันเทิงในบ้าน อยากสร้างสีสันให้ครอบครัว ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลหรอก ลองเลี้ยงสุนัขสักตัวสิ แล้วจะรู้ว่ามันมีมุมหลุดๆ ให้คุณฮาได้เสมอ คนที่เลี้ยงหมาอยู่แล้วจะรู้ดีว่ามันเป็นสัตว์ที่คาดเดาได้ยาก เพราะเราไม่รู้ว่าในแต่ละวันมันจะเซอร์ไพรส์อะไรเราบ้าง แต่ที่เชื่อสิว่าพวกมันจะทำให้คุณอารมณ์ดีได้แน่นอน   1. นี่คงจะคิดตัวเองพอดีกับเก้าอี้ตัวนี้แล้วสินะ   2. ทำอะไรของเอ็ง   3. เมื่อทำผิดแล้วถูกจับได้ ยิ้มกลบเกลื่อนไปสิ   4. ช่วงเวลานอน ห้ามรบกวน   5. ก่อนจะถามว่าขึ้นไปทำอะไร ให้ถามว่าขึ้นไปได้ไง   6. ขอนั่งขำแป๊บนะ เดี๋ยวช่วยเอาออก   7. เมื่อเจ้าของไม่ให้นอนบนเตียง มันเลยลากที่นอนตัวเองขึ้นเตียง แค่นี้ก็ไม่แหกกฎแล้ว   8. ห้ามเข้าห้อง งั้นขอได้วางหัวสักนิดก็ยังดี   9. ที่นอนมันสบายไป ขอนอนพื้นแคบๆ นี้ก็พอ   10. นอนเตียงเจ้าของแล้วทำเนียนเลยนะ   11. เมื่อแม่ซื้อชุดใหม่ให้แต่เราไม่ชอบ   12. หลับยาวไปสิ   13. อ้อนอีกแล้ว…

สำหรับสัตว์เลี้ยงผู้น่ารักทั้งหลายแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีตัวไหนที่อยากจะให้ชะตาชีวิตของตัวเองลงเอยด้วยการถูกทิ้ง และมาจบที่ศูนย์พักพิงสัตว์ เช่นเดียวกับเจ้าสุนัขวัย 10 ขวบ Annabelle ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่มันอาศัยอยู่ที่ Baldwin Park Animal Shelter มันก็ได้แต่เฝ้ารอว่าจะมีมนุษย์คนไหนใจดีมามอบความรักให้มันอีกครั้ง   หนึ่งในภาพที่ชวนให้ชาวเน็ตรู้สึกสะเทือนใจมากที่สุด เมื่อ Annabelle เฝ้ารออย่างไร้ความหวัง จนถึงกับทำคอตกกันเลยทีเดียว   ใช่ว่าเรื่องร้ายๆ จะอยู่กับเราไปตลอด… หลังเจ้าหน้าที่โพสต์ภาพสุนัขคอตกลงบนเฟซบุ๊กได้ไม่นาน ก็มีกลุ่มอาสาสมัครรับช่วยเหลือดูแลสัตว์เลี้ยงจรจัด มารับมันไปดูแลทันที   ทันทีที่มันรู้ตัวว่าจะได้ไปอยู่กับครอบครัวใหม่ เจ้า Annabelle ก็ถึงกับยิ้มแก้มปริทันที   “มันดูตื่นเต้นมากเลยค่ะ ปกติมันจะเซื่องซึมตลอดไม่เคยมีใครเห็นมันร่าเริงได้เท่านี้มาก่อน” เจ้าของคนใหม่ให้สัมภาษณ์   หลังจากที่ Annabelle ได้ย้ายออกมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ที่มันอาศัยมาอย่างโดดเดี่ยว เจ้าของคนใหม่ก็พามันไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ   ถึงจะเป็นสุนัขอายุ 10 ปี แต่ความแข็งแรงของ Annabelle ไม่เคยลดลงตามวัยเลย   “ครั้งแรกที่มันเข้ามาอยู่ในบ้านเรา มันก็ดูจะกล้าๆ กลัวๆ อยู่พอสมควร แต่หลังจากนั้นได้ซักประมาณอาทิตย์พอมันเริ่มชิน ความร่าเริงของมันก็กลับมาให้เราเห็นกันอีกครั้ง มันเป็นสุนัขที่น่ารักมากๆ เลยล่ะ พวกเราดีใจสุดๆ…

ไม่ว่ามนุษย์คนนั้นเดิมทีจะมีนิสัยใจคอดุร้าย หรือเป็นคนกร้านโลกมากขนาดไหนก็ตาม ทันทีที่พวกเขาได้กลายเป็นทาสแมวแล้ว เชื่อเถอะว่าโลกทั้งใบของเขาได้เปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวน่ารักๆ ของเจ้า Luna แมวเหมียวตัวไม่น้อยที่มีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ งานนี้พี่ทาสมนุษย์เลยขอจัดวันเกิดให้สมฐานะซะเลยฮิ้ววว   ภาพของ Luna สมัยเด็กๆ   เดิมทีมันเคยเป็นแมวจรจัดมาก่อน และโชคดีที่มีมนุษย์ไปเจอมันเข้าตั้งแต่ยังอายุได้แค่ 3 อาทิตย์เท่านั้น   Angel Olavarria คุณป้าทาสมนุษย์ผู้หลงใหลการได้รับใช้เจ้าลูน่า คิดจะเซอไพรส์เจ้านายด้วยสิ่งที่เรียกว่า ‘quinceañera’   หลายคนอาจจะงงว่า quinceañera คืออะไร? ซึ่งมันก็คือประเพณีของชาวเม็กซิกัน ที่จะเฉลิมฉลองให้กับหญิงสาวในครอบครัวที่มีอายุครบ 15 ปี   โดยตามประเพณีทั่วไปลูกสาวของบ้านจะได้ใส่ชุดเดรสสีสันดูสวยงาม พร้อมกับมีการจัดปาร์ตี้กินเลี้ยงกันเล็กๆ น้อยๆ   “เจ้าลูน่าเป็นแมวที่น่ารัก และนิสัยดีมากเลยค่ะ มันส่งเสียงดังและดูท่าทางดีใจเอามากๆ เพราะของกินทุกอย่างบนโต๊ะเราทำมาให้มันโดยเฉพาะ” เจ้าของกล่าว   ถึงแม้ว่าตอนนี้เจ้าลูน่าจะอายุครบ 15 ปีแล้ว แต่ความใสซื่อ ทว่าความกวนทีนของมันกลับไม่เคยลดน้อยลงเลย   ใครที่เพิ่งจัดงานวันเกิดให้เจ้านายที่บ้านไป เอาภาพมาอวดกันหน่อยเร๊วว ที่มา: Lovemeow

เชื่อเถอะว่าวินาทีนี้ไม่มีเจ้าตูบตัวไหนที่จะมาแรงเท่ากับ ‘Roco’ ชิบะสาวสวยจากแดนอาทิตย์อุทัย พร้อมโพสท่าถ่ายแบบสุดเอ็กซ์เซ็กซี่ที่จะมาขโมยหัวใจเหล่าพ่อบ้านสี่ขาไปทั่วทุกสารทิศ เพราะตอนนี้ที่เจแปนเขาถึงกับต้องออกกฎมาตรการระวังภัยมากเป็นพิเศษ หลังจากที่สัตว์เลี้ยงต่างๆ เริ่มออกอาการติดสัดอยากผสมพันธุ์ ทั้งที่ยังไม่เข้าถึงช่วงฤดูเลยด้วยซ้ำ..!!   และสาเหตุก็ไม่ใช่ใครที่ไหน มันคือสาวสวยชิบะอินุ Roco เธอผู้มาขยี้หัวใจชายหนุ่มทั่วประเทศ   ตอนแรกเธอยังไม่ได้เป็นเน็ตไอดอลไรกับเค้าหรอก แต่พอเริ่มสังเกตเห็นการตลาดเน็ตไอดอลในไทย แล้วคิดได้ว่า… เออตูต้องโชว์ความเอ็กซ์สิถึงจะขายได้   ผลปรากฎว่าเรตติ้งของเธอพุ่งสูงซะยิ่งกว่าจรวดนาซ่า เธอกลายเป็นซูเปอร์สตาร์เพียงข้ามคืน จากภาพถ่าย 4 ช็อตเมื่อกี้ ทำให้เธอกลายเป็นดาราดังไปซะแล้ว   ยิ่งกว่าอาโออิ เพราะหนุ่มๆ จากทางบ้านต่างก็อดใจไม่ไหวที่ได้เห็นภาพเธอ บางคนถึงกับเอาไปตัดต่อกันสนุกสนาน กลายเป็นภาพกีฬามันส์ๆ ไปซะงั้น   ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เธอกลายเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นใหม่ให้แก่ย่านฮาราจูกุ เรียกได้ว่าเจ้าของต่างก็พาสัตว์เลี้ยงไปทำตัวเซ็กซี่กันให้เพียบ   บางทีเธอก็ได้รับภาพจากหนุ่มๆ ทางบ้าน ส่งมาบอกว่า… อูยยความเซ็กซี่ของหนูทำให้ลุงทนไม่ไหวเลี้ยวว   ‘เจ้า Roco เป็นชิบะที่น่ารักมาก มันรู้ว่าตัวเองควรจะโพสท่ายังไง และฉันคิดว่ามันต้องจำมาจากนางแบบในทีวีแน่ๆ’ เจ้าของให้สัมภาษณ์   แต่ต้องเสียใจด้วยนะจ๊ะหนุ่มๆ ทั้งหลาย เห็นเธอโลดแล่นอยู่ในวงการแบบนี้ จริงๆ แล้วเธอมีคู่หมั้นแล้วน๊าา  …

ในยุคที่สังคมเมืองรุกคืบเข้าไปในเขตป่าซึ่งอันเป็นที่อยู่ของเหล่าสัตว์มากมายนานาชนิต จนกลับกันกลายเป็นว่าตอนนี้พวกมันได้ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตมาอยู่ในเมืองแทนซะอย่างนั้น… นั่นทำให้ Sam Hobson ช่างภาพมากฝีมือ ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการถ่ายภาพสัตว์ในสังคมเมืองในโซนยุโรป ซึ่งเขาก็ได้ออกมาเล่าและแบ่งปันผลงานของตัวเองให้เราได้ดูกัน     เขาเล่าว่าตัวเขาจะได้เจอกับเหล่าสัตว์ในตัวเมือง ไม่ว่าจะเป็นจิ้งจอก แบดเจอร์ กวาง กบ กระรอกหรือนกกระยาง สัตว์พวกนี้ล้วนเคยอยู่ในที่ของมัน จนกระทั่งมันมาอยู่ในตัวเมืองและกลายเป็นต้นแบบไอเดียให้กับเขา ซึ่งผันตัวให้เขากลายมาเป็นช่างภาพสายนี้นั่นเอง เขายังบอกอีกว่า เขาใช้เวลาจำนวนมากเพื่อไปนั่งเฝ้าดูพวกสัตว์ตามจุดต่างๆ และเขายังโอเคกับการกลับไปยังสถานที่เดิมๆ ที่เขาไปถ่ายรูปในลักษณะที่ใกล้เคียงของเดิม เพราะเขาบอกว่าในบางครั้งแม้จะเป็นที่เดิม เขาก็มีโอกาสที่จะได้เจอสัตว์แปลกๆ รวมถึงรู้ถึงพฤติกรรมของสัตว์เจ้าประจำด้วย ว่ามันกินอะไร ไปไหนบ้าง แล้วชอบจะทำอะไร…   .   Sam ยังบอกอีกว่าการทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำๆ และออกมาข้างนอกสถานที่ มันเป็นอะไรที่ให้ประสบการณ์และความรู้มากกว่าการอ่านในหนังสือเสียอีก “ส่วนใหญ่ผมก็จะใช้เวลาในการนั่งรอและทำตัวให้กลมกลืนกับสถานที่นั้นๆ รวมถึงการมาหาพวกมันบ่อยๆ เพราะพวกสัตว์ไม่ได้โง่ เมื่อพวกมันเข้ามาสำรวจจนพบว่าผมไม่ได้เป็นศัตรูแต่เป็นมิตรกับพวกมัน พวกมันก็จะจำได้และก็จะเริ่มเข้าหาผมมากขึ้น”     สัตว์ที่พบเห็นได้บ่อยๆ ในตัวเมืองก็คงจะเป็นจิ้งจอกเนี่ยแหละ   หรือจะเป็นกวางก็มีให้เห็นไม่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาบ้านเขา แต่ก็ถือว่าแปลกบ้านเราพอสมควร   นกกระสาก็ถือเป็นสัตว์อีกหนึ่งชนิดที่ย้ายเข้ามาอยู่กับชุมชนเมือง .   ทว่าสัตว์อย่างกบ หรือนกบางชนิดเราก็สามารถพบเจอได้ทั่วไปอยู่แล้ว…

เรื่องราวความผูกพันธ์ของเจ้า Hansel และ Gretel สุนัขจากสถานสงเคราะห์สัตว์ ที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ ถึงแม้ว่าในกรงจะมีเตียง 2 เตียงสำหรับพวกมัน แต่เจ้าตูบกลับไม่ยอมที่จะนอนแยกกันเลย คุณ Rick Tunison ผู้จัดการของสถานสงเคราะห์สัตว์จากเมือง Youngstown รัฐโอไฮโอ ได้รับเจ้าสองตัวนี้เข้ามาดูแลเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา     คุณ Tunison เล่าถึงตอนที่พาพวกมันทั้งคู่มายังสถานสงเคราะห์แห่งนี้ว่า “พวกมันวิ่งไปทั่ว กว่าเราจะพาทั้งคู่ขึ้นรถได้ก็เหนื่อยเหมือนกัน Hansel (ตัวสีน้ำตาล) ยอมขึ้นรถอย่างง่ายดายหลังจากที่มันเห็นอาหาร ส่วน Gretel นั้นไม่เหมือนกัน ต้องต้อนอยู่นานแสนนาน แต่สดท้ายมันก็ยอมหลังจากที่เห็นพี่ชายของมันขึ้นไปบนรถตู้ ”  จากนั้นพวกเจาจึงพาเจ้าตูบทั้งสองมาดูแลยังสถานสงเคราาะห์เพื่อรอหาบ้านหลังใหม่ให้กับพวกมัน แต่ดูเหมือนว่าการหาบ้านที่ยอมรับพวกมันทั้งคู่ไปดูแลนั้นจะค่อนข้างยากลำบากนิดหน่อย     และแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาความพยายามในการหาบ้านให้กับเจ้าตูบก็ประสบผลสำเร็จ หลังจากที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้ถ่ายภาพของทั้งคู่ที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกันและประกาศลงในอินเตอร์เน็ต คุณ Rachel Harris ตัดสินใจที่จะรับเจ้า Hansel และ Gretel ไปเลี้ยงดูแต่ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่พร้อมที่จะรับพวกมันไปดูแลในทันทีทันใดเนื่องจากเธอเพิ่งย้ายมาจากชิคาโก ดังนั้นเธอจึงบอกให้เพื่อนของเธอที่รับมันไปดูแลแทน     เพื่อนของคุณ Harris พาเจ้าตูบทั้งสองไปยังบ้านหลังใหม่ พวกมันดูมีความสุขมากและปรับตัวเข้ากับที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว “พวกมันฉลาด น่ารัก และอยากรู้อยากเห็นทุกเรื่อง มันทำให้ทุกคนที่มาที่นี่ตกหลุมรักมัน” คุณ Harris กล่าว เจ้านายใหม่ของ  Hansel…

น้องหมาอาจจะเป็นสัตว์เลี้ยงผู้ซื่อสัตย์พวกมันมักจะรู้น่าที่ของตัวเองดี  แต่ว่าลูกพี่เหมียวนี่สิ ช่างเป็นสัตว์ที่ไม่แคร์เวิลด์อะไรเลย ใครที่เลี้ยงเจ้าเหมียวไว้ที่บ้านก็คงจะรู้กันดี และก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่แมวที่เราเลี้ยงไว้เท่านั้นนะที่จะไม่สนโลก แต่พวกแมวจรจัดเองก็เช่นกันเหมือนว่าดีเอ็นเอความไม่แคร์นี้จะเป็นของพวกแมวทุกตัวเลยจริง ๆ และต่อไปนี้คือภาพของแมวเหมียวที่แอบเข้ามาในบ้านของคนอื่นและทำตัวเหมือนกับเป็นบ้านตัวเองซะงั้น!?   1. สบายใจ อยู่ในบ้านคนอื่นจะนั่งที่ไหนก็ได้สินะเจ้าเหมียว!?   2. ว่าไงแกอยากเข้ามาหรือไง??   3. เอิ่ม!! ทำเหมือนเป็นอ่างของตัวเองเลยนะพวกเอ็ง   4. เจ้าเหมียวที่จู่ๆ ก็เข้ามานั่งในเปลของหนูน้อย   5. บางทีพวกพี่แกก็ไม่สนอะไร พาลูกพาหลานมาอยู่บ้านคนอื่นเฉย!?   6. ไม่ต้องแอบเลยนะ!!   7. บางครั้งก็แก้เขินด้วยการทำตัวเป็นเจ้านายสินะ   8. หาอะไรกินน่ะแก!!   9. มองอะไรเจ้ามนุษย์!? ขออยู่แปบเดียวเองน่า   10. จากเจ้าเหมียวที่แอบย่องเข้าบ้าน สุดท้ายก็กลายมาเป็นเพื่อนซี้เฉยเลย   11. อื่ม.. มาแบบนี้ก็หลอนๆ เหมือนกันนะ   12. ขอเข้ามาอาบน้ำแปบเดียวน่า เดี๋ยวไปแล้ว!!   14.…

ถึงแม้จะไม่ใช่สัตว์ชนิดเดียวกัน และไม่ได้อยู่ใกล้ๆ กัน แต่เจ้าหมาน้อยตัวหนึ่งที่อาศัยอยู่กับครอบครัวของเจ้านายมันในเมือง Dublin ประเทศไอร์แลนด์ ก็ได้ทำสานสัมพันธ์และกลายมาเป็นเพื่อนซี้กับเจ้าลาในที่สุด เรื่องราวของทั้งคู่เกิดขึ้นในปี 2013 ระหว่างที่เจ้า Buster ได้ออกไปเที่ยวกับเจ้านายของมัน ในเมืองแห่งหนึ่งใกล้ๆ ท่า Dingle ระหว่างที่มันและเจ้านายกำลังเดินอยู่ริมชายหาด จู่ๆ เจ้าหมาก็ได้พบกับเพื่อนซี้ของมันเข้าโดยบังเอิญ     เจ้าลา Jack กำลังออกมาเที่ยวเล่นอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้นพอดี และทันใดนั้นเจ้าหมาก็วิ่งเข้าไปหา Jack ทันที “ในตอนแรกที่ทั้งคู่พบกัน พวกมันดูเป็นมิตรกันมาก” คุณ Buachalla ผู้ใช้งานทวิตเตอร์เจ้าของเจ้า Buster กล่าว การพบกันครั้งแรกของทั้งคู่เป็นไปได้ด้วยดี แต่นั่นไม่ใช่เพียงครั้งเดียว คุณ Buachalla จะเดินทางมาเที่ยวที่ชายหาดนี้ทุกปีในช่วงวันหยุด และพวกเขาก็ไม่ลืมที่จะพาเจ้าหมามาพบกับเพื่อนลาของมันด้วย     Buster และ Jack ดูสนิทสนมกันมากเหมือนกับพี่ชายและน้องชาย พวกมันดูเหมือนจะได้พบกับเพื่อนรักที่ตามหากันมานาน “ทั้งคู่น่ารักมาก ผมไม่รู้ว่าเจ้าลาจะรู้สึกอย่างไรนะ แต่หมาของผมดูตื่นเต้นและดีใจทุกครั้งที่เรามาที่นี่” คุณ Buachalla กล่าว และในปีนี้เจ้า Jack ก็ทำให้เพื่อนหมาของมันต้องประหลาดใจ เมื่อมันได้พาเพื่อนลาตัวใหม่ที่ชื่อว่า Jil มาทำความรู้จักกับเจ้า Buster ด้วย     โมเม้นต์น่ารักๆ ของเจ้า Buster และ Jack (หากดูคลิปวิดีโอไม่ได้กด ที่นี่ )…

บ่อยครั้งที่เหล่าสัตว์เลี้ยงของเราชอบทำท่าทางแปลกๆ จนบางทีก็อดสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่าหนูไปโดนอะไรมาเหรอลูก!? หนึ่งในเหล่าสุนัขที่ชอบทำหน้าตาแปลกๆ ก็คงจะต้องมีชื่อของเจ้าหมาปลั๊กอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน หลายๆ คนที่เลี้ยงเจ้าหมาหน้าย่นตัวเล็กๆ นี้ไว้ที่บ้านก็คงจะคุ้นกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเลี้ยงก็อาจจะจินตนาการถึงความเอ๋อของพวกมันไม่ออก ดังนั้นเพื่อให้รู้จักกับเจ้าหมาพันธุ์นี้มากขึ้น เราจึงได้รวบรวมภาพน่ารักๆ ของพวกมันมาให้ได้ชมกัน   1. น่าสงสารทำงานจนเหนื่อยเลยสินะ เดี๋ยวๆ แกทำงานได้ที่ไหนกันล่ะเจ้าหมา โถ่   2. แหม่ รถกับหมวกช่างเข้ากันดีจริงๆ เลยนะ   3. เดี๋ยวก่อนดิพวก ใจเย็นๆ !!   4. หนูเป็นเด็กดีหรอลูก!? รีดผ้าเองก็ได้ด้วย   5. มันคงจะหนาวมากเลยสินะเนี่ย!?   6. ดูเหมือนเจ้าหมาปั๊กตัวนี้จะไม่ค่อยชอบหมวกเท่าไหร่นะ ฮ่าๆ   7. อยากเป็นเป็ด!!   8. วันสบายๆ แบบนี้ก็ต้องเดินเล่นกันหน่อย เดี๋ยวๆ มันใช่หรอ!?   9. แฮร่!! จ๊ะเอ๋ เล่นกับผมหน่อยเจ้านาย   10. ฮึ่ย!! ซีรีย์ไม่หนุกเลย…

“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ประโยคสุดแสนจะคลาสสิคที่คงจะเคยผ่านหูพวกเรามาบ้างแน่ๆ ตอนสอบวิชาที่ยากๆ ที่ไรเจ้าประโยคนี้ก็มักจะวนขึ้นมาในหัวทุกที และไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเจ้าพวกสัตว์เลี้ยงมันจะเข้าใจความหมายของข้อความสุดคลาสสิคนี้รึเปล่านะ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตูบเหล่านี้กำลังทำสิ่งที่คล้ายๆ กันนี้อยู่แน่ๆ ไปชมภาพความน่ารักๆ ของเหล่าน้องหมาที่มีความพยายามสุดๆ แต่ละตัวจะทำให้คุณต้องอมยิ้มอย่างแน่นอน!!   1. เอ้า!! กัดเข้าไปพวก ซักวันมันต้องหักละน่า   2. คาบที่ละอันก็ได้ โถ่เอ้ย.. น่าสงสารจัง   3. ผมกำลังพยายามฝึกให้กล้าเผชิญหน้ากับเจ้าเหมียวอยู่ครับ แต่บทเรียนแรกเริ่มจากลูกมันก่อนก็แล้วกัน   4. งับอะไรน่ะ ปัดโถ่!! มันเป็นแสงไฟว้อยย   5. ผมพยายามเข้ามาชั่วโมงนึงแล้วฮะ ยังไงก็เข้าไม่ได้!?   6. ผมก็เหมือนกัน ขึ้นไม่ได้ ไม่รู้ติดอะไร??   7. พยายามยิ้มให้มีความสุขมากที่สุดอยู่สินะ โดนยาเข้าไปหนักมากกก   8. พร้อมออกปฏิบัติการแล้วฮะ!!   9. เฮ้อ.. พี่ก็จะมุดอย่างเดียวเลยนะ ไม่ดูอะไรเล๊ย!?   10. เจ้านายไปไหน ผมไปด้วยฮะ…

นี่คือเรื่องราวสุดประทับใจของเจ้าเหมียววัย 17 ปี ที่ได้เป็นเพื่อนกับคุณยายวัย 85 ปี แถมทั้งคู่เพิ่งเคยเจอกันในสวนสาธารณะ ไม่ใช่แค่นำเอาความสุขกลับมาเท่านั้น แต่ทว่าเหตุการณ์นี้ทำให้คุณยายรู้สึกได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เรื่องราวนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปี ก่อน ตอนที่ Kellen (เจ้าของ) ได้เจอกับ Darwin ครั้งแรกที่สถานรับเลี้ยงในเมือง เจ้าเหมียวเกิดมาพร้อมกับอาการหูหนวก ซึ่งถือเป็นเรื่องยากมากๆ ในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่มันก็สามารถรอดมาได้ทุกสถานการณ์     Kellen เล่าว่าแมวตัวนี้เหมือนเกิดมาพร้อมปาฏิหาริย์ และยิ่งมันแก่ขึ้น ความรักของมันก็เติบโตขึ้นด้วย เหมือนมันมีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น จึงไม่แปลกที่ทุกคนจะรักมัน Darwin เป็นแมวที่มีความเป็นเด็กสูงมาก มันมักจะออกไปเที่ยวข้างนอกกับเจ้าของ และชอบพบปะกับผู้คนตลอดทาง แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ดีๆ ขึ้นเมื่อมันได้เจอกับคนๆ หนึ่ง     แน่นอนว่าแก่ขึ้น มันก็อาจจะทำอะไรไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน ในวันเกิดปีที่ 17 ของมัน ก็เลยมีโอกาสพามันไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ บ้าน ในตอนนั้นมันก็ได้เจอกับคุณยาย Lida วัย 85 ปี จากประเทศอุซเบกิสถาน โดยที่เธอนั้นโดยตัวคนเดียว แต่เมื่อเจ้า Darwin เข้าไปหาเธอ ทุกๆ…

นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มที่ชื่อว่า Christian Canfield จากเมือง Saskatchewan ประเทศแคนาดา วันหนึ่งเขาได้ไปพบกับเหตุการณ์บ้านไฟไหม้ แล้วก็ทำการอัดคลิปไว้ แต่เหมือนชะตาจะทำให้เขาต้องกลายเป็นฮีโร่ช่วยแมวตัวหนึ่งไว้ ขณะที่เขาอัดคลิปอยู่นั้นได้มีแมวตัวหนึ่งวิ่งออกมาจากบ้านที่ไฟไหม้ ซึ่งเขาก็มองเห็นผ่านกล้อง แมวตัวนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาจึงไม่รอช้า พาแมวตัวนั้นไปหาพนักงานดับเพลิงเพื่อทำการช่วยเหลือ ในตอนนั้นเขาพยายามเขาไปใกล้แมว แล้วเรียกมันจนสามารถอุ้มมันได้ เมื่อมองใกล้ๆ ก็ได้เห็นว่าแมวตัวนี้ได้รับบาดเจ็บ   ดูในคลิปนี้เราจะได้เห็นว่าแมวเหมือนพยายามร้องให้ช่วย เป็นอะไรที่น่าสงสารมากๆ   หลังจากที่เขาเอาแมวไปให้นักดับเพลิง เขาก็พามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษา ซึ่งหมอได้พบแผลไหม้ที่จมูก เท้า และหูของแมว ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Saskatoon SPCA รับหน้าที่ดูแล พร้อมตั้งชื่อให้มันว่า Scarlett ซึ่งมาจากตัวละครจากนิยายชื่อดัง Gone With the Wind     เจ้า Scarlett อายุได้ประมาณ 6 เดือน เท่านั้น แต่มันต้องมาเจอกับเรื่องร้ายๆ อย่างบ้านไฟไหม้ แต่มันก็สามารถเอาชนะความกลัว กลายมาเป็นแมวที่น่ารักเหมือนแมวทั่วๆ ไปที่ชอบให้คนกอด แต่น่าเสียดายที่มันยังไม่ได้บ้านหลังใหม่ เป็นเวลากว่า 2 เดือนที่มันพักฟื้นอยู่ที่นี่ มันฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกลับมาแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง   .   ไม่น่า Christian ผู้ช่วยชีวิตเจ้าเหมียวก็ได้มาเยี่ยมที่สถานรับเลี้ยงแห่งนี้…

สำหรับใครที่เลี้ยงเจ้าเหมียวไว้ที่บ้านคงจะคุ้นเคยกับท่าทางแปลกๆ และความซุกซนของพวกมันเป็นอย่างดี เพราะทั้งความน่ารักและความซนของพวกมันนั่นแหละที่ทำให้หลายๆ คนยอมสมัครใจเป็นทาสดูแลลูกพี่เหมียวกัน และถ้าหากใครที่กำลังมีแผนว่าอยากจะเลี้ยงแมวดีมั้ย หรือกำลังตัดสินใจอยู่ วันนี้เราได้รวบรวม 20 ภาพน่ารักๆ ของน้องเหมียวมาให้ได้ชมกัน ไม่แน่นะ ดูเสร็จแล้วคุณอาจจะออกไปหาน้องเหมียวมาเลี้ยงสักตัวก็ได้!!   1. สงสัยจะนึกว่าตัวเองเป็นนักยิมนาสติกสินะ เจ้าเหมียว!!   2. ขี่ม้าครั้งแรกก็อย่างงี้แหละ มันจะตื่นเต้นหน่อย   3. สงสัยจะชอบที่ฝนเล็บจริงๆ สินะเนี่ย แหม่นั่งเฝ้าเลยนะ   4. เข้าไปทำอะไรในนั้นน่ะ!!   5. แหม่ สบายเลยนะพ่อคุณ   6. เล่นไม่ยอมปล่อยเลยนะ เอ่… หรือว่าปล่อยไม่ได้ ฮ่าๆ   7. ของหนูอยู่ข้างล่างลูก มาผิดที่แล้ว   8. บางทีก็อยากเป็นสไปเดอร์แมนสินะ?? แกน่ะ   9. เล่นซ่อนแอบหรือไงเจ้าเหมียว!!   10. บูชาข้าซะเจ้ามนุษย์ ฮึๆ   11.…

หนึ่งในปริศนาที่น่าสงสัยไม่แพ้เรื่องราวของเอเลี่ยนนอกจักรวาล หรือผีสางนางไม้ ก็คงเป็นเรื่องความคิดของพวกเจ้าแมวเหมียวทั้งหลายนี่แหละ ทาสมนุษย์อย่างเราๆ ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจริงๆ แล้วพวกมันกำลังคิดอะไรกันอยู่ และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องเล่าจากทางบ้าน ที่ชาวเน็ตเอามาแชร์ผ่าน Lovemeow ที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่า อย่าได้เผลอหลวมตัวไปช่วยเหลือพวกมันเชียว!!   เช่นครอบครัวนี้เมื่อพวกเขาเจอแมวสภาพหิวโซหลงมา ก็เลยให้อาหารมันกิน ปรากฎว่าอีกวันมันกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันมากันทั้งแก๊งเลยคร้าบบบ   ภาพจากชาวเน็ตที่ชื่อ TaraRosey เล่าว่า คืนหนึ่งให้อาหารลูกแมวสองตัวกิน พอตื่นเช้ามาก็พบว่าตัวเองถูกพวกมันยึดบ้านไปซะแล้ว   เช่นเดียวกับที่บ้านของ mandylions เป็นประจำเวลาอาหารเย็นที่พวกมันจะกลับมา แถมยังโหวกเหวกโวยวายใส่เจ้าของบ้านด้วยนะ เสียมารยาทที่ซู๊ดด   หรือจะเป็นเหตุการณ์ที่ถูกแชร์บน Imgur เมื่อเจ้าของบ้านถูกแมวเหมียวตัวน้อยใช้สายตาสะกดจิตคาประตูบ้านแบบนี้ (ปัจจุบันมันกลายเป็นเจ้าของบ้านแล้ว)   เช่นเดียวกับ vldmrt15 ไม่มีใครรู้ว่าลูกแมวมาจากไหน และกำลังจะไปไหน แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้พวกเขาโดนมันเล่นแล้วล่ะ   เรื่องราวจาก mrhickey เจ้าตัวเล่าว่าได้ยินเสียงแมวหลงอยู่แถวบ้านตัวเอง พอเอาอาหารไปวางเท่านั้นแหละ รีบมารายงานตัวทันทีเลยนะเอ็ง   บางทีพวกมันก็ไม่ได้มาปรากฎตัวซึ่งๆ หน้า แต่อาจจะกำลังวางแผนอย่างลับๆ เหมือนกับเจ้าเหมียวตัวนี้ ที่วางแผนสร้างกองทัพอยู่ในถังน้ำของ CatTaxAuditor   และเมื่อมาถึงวันเริ่มปฏิบัติการยึดบ้าน พวกมันก็สามารถทำสำเร็จได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้สายตาสะกดจิต วิ๊งก์ๆ!!…

สำหรับคนรักสัตว์ การเสียสละความสุขเล็กน้อยเพื่อสัตว์เลี้ยงของเราก็ดูจะเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนกับหญิงสาวชาวจีนผู้นี้ที่ยอมเสียสละความสุขสบายของเธอ เพื่อสัตว์เลี้ยงแสนรักเช่นกัน แต่ดูเหมือนกับว่าเจ้าสัตว์เลี้ยงของเธอนั้นจะไม่เหมือนกับสัตว์เลี้ยงทั่วไปสักเท่าไหร่ เพราะมันคือเจ้าหมูจอมขี้เซาที่กรนดังมากกกกก!! หญิงสาวผู้หนึ่งได้พบกับเจ้าหมูตัวนี้ที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่ง ณ เมืองเซินเจิ้นประเทศจีน ในปี 2010 ด้วยความน่ารักน่าชังของเจ้าหมูน้อย เธอจึงสนใจที่อยากจะรับมันมาดูแล คนขายบอกกับเธอว่าเจ้าหมูจะไม่โตไปมากกว่านี้แล้ว นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจซื้อมันมาเลี้ยง     ภาพของเจ้าหมูน้อยตอนที่มันมาอยู่กับครอบครัวในวันแรกๆ   แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นไปตามที่คนขายบอก เจ้าหมูเริ่มโตขึ้น โตขึ้น และโตขึ้น หลังจากนั้นแค่ 6 เดือนจากหมูน้อยไร้เดียงสาที่มีน้ำหนักเพียง 4 กิโลกรัม ก็กลายเป็นหมูอ้วนที่มีน้ำหนักมากถึง 20 กิโลกรัม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้เธอรักมันน้อยลงไปเลย สาวน้อยและครอบครัวตัดสินใจที่จะเลี้ยงเจ้า Dudu ต่อไป     ตอนนี้ผ่านไป 8 ปี Dudu มีน้ำหนักมากถึง 150 กิโลกรัม ชีวิตอันสงบสุขของพวกเขาเริ่มถูกเจ้าหมูรบกวนแล้วไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน หรือการใช้ชีวิต เจ้าหมูต้องการอาหารที่เพิ่มมากขึ้นและพวกเขายังต้องอาบน้ำให้มันทุกอาทิตย์อีกด้วย     แต่ปัญหาที่แท้จริงของครอบครัวนั่นคือตอนที่เจ้าหมูนอนหลับ ซึ่งตั้งแต่ที่มันเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้พวกเขาถูกเพื่อนบ้านร้องเรียนเรื่องของเสียงกรมจาก Dudu จนต้องย้ายบ้านถึง 5 ครั้ง และล่าสุดในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาพวกเขาต้องจ้างคนถึง…

บางทีก็แอบคิดเหมือนกันนะว่า การดูแลสัตว์เลี้ยงนี่ก็เหมือนการเอาตัวเองไปเป็นทาสกับอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะเวลาเลี้ยงแมวนี่แหละ ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นทาสใครมากเท่านี้มาก่อน ความน่ารักอย่างหนึ่งของพวกสัตว์เลี้ยงก็คือขนนุ่มปุกปุยของพวกมันนั่นแหละ ยิ่งช่วงไหนที่ขนฟูฟ่องยิ่งน่ากอดเป็นที่สุด แต่บางทีมันก็ต้องแลกมาด้วยอะไรบางอย่างเหมือนกัน อย่างเช่นปัญหาเรื่องขนๆ เหล่านี้…   เรื่องแบบนี้มีแต่คนเลี้ยงสัตว์เท่านั้นที่เข้าใจ   นอกจากเข้าใจแล้ว ยังต้องรู้จักที่จะทำใจด้วยนะ   เพราะขนของพวกมันจะไปปรากฎอยู่ในทุกที่ๆ มันไป   ตัวอย่างเจ๊คนนี้ เล่นกับตูบแค่แป๊บเดียว ก็โดนมันเล่นคืนซะแล้ว   มันไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นใคร…   และพวกมันก็ไม่สนใจด้วยว่าคุณจะทำอะไรอยู่   เพราะสิ่งเดียวที่คุณจะได้รับจากมันมากยิ่งกว่าความรัก ก็คือขนเนี่ยแหละ   เมื่อไหร่ที่มีพวกมันเข้ามาในชีวิต เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย   เพราะคุณจะได้สัมผัสกับขน ขน ขน และก็ขน โอ้ยยมีขนทุกที่เลยโว้ยย   ขนาดไม่มีมันอยู่ในรถ เราก็ยังเจอขนมันติดอยู่ในรถ!?   แต่ถ้าขนติดกางเกงพลอมแพลมแบบนี้ ยังถือว่าเป็นแค่ผู้เลี้ยงสัตว์ขั้นฝึกหัดเท่านั้น   ยิ่งขนติดตัวเราเยอะเท่าไหร่ ยิ่งเป็นข้อพิสูจน์ความรักมากเท่านั้น (ใช่เหรอ?)   เพราะความรักจากมัน คือความรักที่ไม่สนใจรูปลักษณ์ หรือตับใตไส้พุงใดๆ   พวกมันไม่สนว่าขาคุณจะเล็ก น่องคุณจะใหญ่ หรือไข่คุณจะยาน  …

ปกติแล้วหน้าที่การฝึกไข่ของเหล่าสิงสาราสัตว์จะตกเป็นของตัวเมียเสียส่วนใหญ่ และสัตว์ก็มักจะมีเพศตามธรรมชาติปกติเป็นของตัวเอง ทว่าก็มีสัตว์จำนวนไม่น้อยเลยที่จะเป็นเกย์ และชื่นชอบในเพศเดียวกัน เจ้าอีแร้งสองตัวจากสวนสัตว์ Artis ในอัมสเตอร์ดัม ที่เป็นเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ก็เป็นคู่เกย์เช่นกัน และพวกมันก็ยังทำภารกิจอันยิ่งใหญ่จนสำเร็จอีกด้วย!!     เจ้าหน้าที่ดูแลสวนสัตว์ได้เล่าเรื่องราวของพวกมันว่า ตอนแรกเริ่มทางสวนสัตว์ได้ไปเจอกับไข่ที่ดูเหมือนแม่ของมันจะทอดทิ้งไปแล้วเหลือแต่ไข่ให้โดดเดี่ยว จนพวกเขากะว่าจะเอาไข่ดังกล่าวไปเข้าเครื่องฟักแทน ทว่าในจังหวะเดียวกันนั้น พวกเขาก็สังเกตเห็นอีแร้งตัวผู้สองตัวกำลังรวบรวมกิ่งไม้รอบๆ เพื่อจะสร้างรังฟักไข่ ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยกไข่ดังกล่าวให้เป็นหน้าที่ของเจ้าอีแร้งเกย์ทั้งสอง     ทางสวนสัตว์ยังบอกอีกว่า อีแร้งเกย์ทั้งสองไม่ได้พึ่งเป็นคู่เกย์กันแต่อย่างใด ทว่าพวกมันทั้งสองอยู่ด้วยกันมาแล้วนานกว่า 1 ปี แถมพวกมันก็ยังดูมีความสุขกันดี และพอเอาไข่นั้นให้พวกมันทั้งสอง มันก็ทำหน้าที่คุณพ่อที่ดีผลัดเปลี่ยนกันฟักไข่ดังกล่าวอย่างตั้งใจ จนล่าสุดไข่ดังกล่าวก็ฟักออกมาเป็นลูกนกเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าคุณพ่อทั้งสองก็ดูแลเอาใจใส่ลูกนกกำพร้าเป็นอย่างดี ทั้งการให้อาหารและสุขภาพความเป็นอยู่ของลูกนก     ทางสวนสัตว์บอกว่า การที่สัตว์จำพวกนกจะกลายเป็นเกย์และรักในเพศเดียวกันถือว่าเป็นเรื่องปกติไม่ได้แปลกอะไร แต่ว่านี่คือเป็นครั้งแรกเลยที่สัตว์ที่เป็นเกย์ช่วยกันฟักไข่นั่นเอง นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังบอกเพิ่มเติมว่า ธรรมชาติของนกอีแร้งนั้นจะฟักไข่ 1 ฟองเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น และถ้าพวกมันจับคู่กันเมื่อไหร่ พวกมันจะอยู่ด้วยกันไปจนสิ้นลมหายใจ ฉะนั้นจึงไม่แปลกถ้านกเกย์สองตัวนี้จะอยู่ด้วยกันไปจนถึงวาระสุดท้าย…   ที่มา dailymail

เรื่องจริงของเจ้าหมาน้อยผู้น่าสงสารตัวหนึ่ง ที่เกิดมาพร้อมกับชะตากรรมที่น่าเศร้า มันไม่เคยได้รับความรักและความอบอุ่นจากเจ้าของมาก่อน แต่เมื่อได้พบกับคุณ Xingyi Danielle ชีวิตของมันก็เปลี่ยนไป คุณ Xingyi Danielle หญิงชาวสิงค์โปร์ที่ทำงานอยู่ในประเทศจีน ได้บังเอิญพบกับเจ้าหมาผู้น่าสงสารตัวนี้เข้าระหว่างที่เธอและคุณพ่อกำลังเดินซื้อของอยู่ในตลาดสดแห่งหนึ่ง เจ้าหมาถูกใส่ถุงเอาไว้เพื่อเตรียมชำแหละสำหรับจำหน่ายเป็นเนื้อสด     คุณพ่อของเธอจ่ายเงินประมาณ 3,000 บาทเพื่อช่วยชีวิตของเจ้าหมาตัวนั้นไว้ คุณ Danielle บอกว่า “สภาพของที่นั่นไม่เหมาะกับสุนัขอย่างมาก ดังนั้นผมจึงต้องช่วยเหลือมัน” เมื่อกลับมาถึงบ้าน พ่อของเธอได้ทำการถ่ายภาพของเจ้าหมาที่พวกเขาเพิ่งช่วยชีวิตเอาไว้ได้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเจ้าหมานั้นถูกใส่เอาไว้ในกระสอบราวกับว่ามันไม่ใช่สิ่งมีชีวิต     และนี่คือสภาพของเจ้าหมาที่พวกเขาช่วยออกมาได้   สภาพของเจ้าหมาในตอนแรกที่พบกับคุณ Danielle และพ่อของเธอ   ตอนนี้เจ้าหมาปลอดภัยดีแล้ว และพวกเขาตั้งชื่อให้กับมันว่า Doggo แต่ทว่าอาร์พาทเม้นต์ที่ครอบครัวของคุณ Danielle อาศัยอยู่นั้นไม่อนุญาตให้นำสุนัขขึ้นไปเลี้ยง ดังนั้นพวกเขาจึงเลี้ยงมันไว้ทำงานของพ่อเธอก่อน “เพื่อนร่วมงานของคุณพ่อก็บ่นเกี่ยวกับเจ้าหมาอยู่เหมือนกัน แต่ว่าพวกเราก็ยังคงพยายามที่จะหาที่ปลอดภัยให้กับมันอยู่” คุณ Danielle กล่าว     หลังจากที่ได้รับความอบอุ่นและการดูแลอย่างดี เจ้าตูบก็กลับมาสดใสร่าเริงได้อีกครั้ง   Doggo เป็นหมาที่ร่าเริงและดูมีความสุขมากขึ้นกว่าตอนแรกมาก ต้องขอบคุณครอบครัวของคุณ Danielle จริงๆ ที่ตัดสินใจช่วยเหลือมันออกมา ถึงแม้ว่าการบริโภคเนื้อสุนัขจะไม่เป็นที่นิยมมากในประเทศจีน แต่ทว่าก็ยังคงมีการซื้อขายเนื้อสุนัขจำนวนมากสำหรับพิธีกินเนื้อสุนัขในเมืองยู่หลิน แต่ข่าวดีก็คือตอนนี้ทางการได้ออกกฎหมายเกี่ยวกับการบริโภคเนื้อสุนัขใหม่แล้ว ซึ่งเป็นผลให้ความต้องการเนื้อสุนัขลดลงด้วย    …

การมีน้องหมาตัวเล็กๆ อยู่ในบ้าน บ่อยครั้งที่พวกมันมักจะทำเรื่องน่ารักๆ อยู่บ่อยๆ เหมือนกับเจ้าหมาปั๊กตัวนี้ พบกับเจ้า Nigel หมาปั๊กที่ชอบตามเจ้าของเข้าห้องน้ำและเข้าไปนั่งเฝ้าเจ้านายมันปลดทุกข์ เจ้าหมาน้อยชอบที่จะเข้ามาอยู่ใกล้ๆ กับเจ้านายของมันเวลาที่เขาเข้ามาขับถ่ายในห้องน้ำ มันชอบที่จะเข้าไปนั่งอยู่ในกางเกงบ๊อกเซอร์ของคุณ Chotters     “บ่อยครั้งที่ผมเข้าห้องน้ำเจ้า Nigel จะชอบเข้ามานั่งในกางเกงบ๊อกเซอร์ของผม มันจะเอาเท้าเขี่ยที่ประตูถ้าหากว่าผมไม่ยอมให้มันเข้ามา” ชายหนุ่มบอก ถึงแม้ว่าตอนแรกมันจะดูเป็นเรื่องที่แปลก แต่ตอนนี้เหมือนว่าคุณ Chotters ดีใจมากกว่าเพราะเขาจะได้มีเพื่อนคุยระหว่างทำภารกิจส่วนตัวแล้ว     ถึงแม้ว่าอาจจะต้องสูญเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง แต่คุณ Chotters กับคู่หมั้นของเขาก็รู้สึกดีที่เจ้า Nigel มีความสุข “มันเป็นหมาที่มหัศจรรย์มากตั้งแต่เรารับมันมาเลี้ยง ที่จริงมันก็ไม่ได้ติดตามเราไปทุกที่หรอกนะ ก็มีบางทีที่มันไม่อยากตามมาบ้างเหมือนกัน” คุณ Chotters กล่าว   และนี่คือภาพน่ารักๆ ของเจ้า Nigel .   เจ้าหมากับที่ประจำของมัน .   มันอาจจะติดเจ้านายของมัน แต่มันก็ไม่ได้ตามไปด้วยทุกที่นะ   คุณ Chotters และคู่หมั้นคุณ Ria   ห้องนำมันมีอะไรน่าค้นหาหรือยังไงเนี่ยเจ้าหมา!? แต่ก็ดีเหมือนกันนะเจ้านายแกจะได้ไม่เหงา ฮ่าๆ ที่มา boredpanda

เป็รเรื่องธรรมดาทั่วไปอยู่แล้วที่ในระหว่างการคลอดนั้น คุณแม่จะต้องมีการทำอัลตร้าซาวน์ก่อนเพื่อเป็นการตรวจดูความแข็งแรงของลูกในครรภ์ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแม่คนเท่านั้น หากใครที่เลี้ยงน้องหมาหรือน้องแมวก็อาจจะเคยมีโอกาสพาพวกเขาไปตรวจแบบนี้เช่นกัน และส่วนมากเราอาจจะคุ้นเคยกับภาพอัลตร้าซาวน์ของคน หรือหมากับแมวเท่านั้น แต่อาจจะยังไม่เคยได้เห็นภาพของตัวอ่อนสัตว์ชนิดอื่นที่อยู่ในท้องแม่เลย และวันนี้เราก็ได้นำภาพเอ็กเรย์ของสัตว์ต่างๆ อย่างแรคคูน เบียร์ดดราก้อน หรือลิงที่กำลังตั้งท้องอยู่มาให้ได้ชมกัน แต่ละตัวจะแปลกแค่ไหนไปชมกันเลย…     ภาพภายในท้องของแม่ค้างคาว ที่มีลูกน้อยอยู่ถึง 2 ตัว   สัตว์บางชนิดสามารถมีลูกได้มากถึงครั้งละ 8 ตัว ในขณะที่บางตัวนั้นมีการตั้งท้องลูกเพียงแค่ตัวเดียวคล้ายกับมนุษย์ อย่างเช่นสุนัขสามารถมีลูกได้เฉลี่ยมาก 5-6 ตัวในครั้งเดียว   ภาพเอ็กซเรย์ลูกเก้งที่อยู่ในท้องของแม่ ปกติแล้วเก้งจะใช้เวลาตั้งครรภ์นานถึง 7 เดือน และคลอดลูกปีละ 1 ครั้งเท่านั้น   เบียร์ดดราก้อน สัตว์คล้ายกับกิ้งก่าและจำนวนไข่ที่มากมายในท้องของมัน   ภาพภายในท้องของค่างหัวมงกุฎ ที่เผยให้เห็นลูกน้อยของมัน ซึ่งสัตว์ชนิดนี้มีการอุ้มท้องที่คล้ายกับมนุษย์   Chinchillas สัตว์เลี้ยงขนปุยคล้ายกับหนู โดยปกติแล้วมันจะออกลูกประมาณ 2 ตัวต่อครั้ง แต่ดูเหมือนเจ้าตัวนี้จะมีลูกน้อยถึง 3 ตัวเลยทีเดียว   ต่อมาคือหนูตะเภา จะสังเกตุเห็นว่าในท้องของมันนั้นมีลูกน้อยหลายตัวเลยทีเดียว   งูส่วนมากจะออกลูกเป็นไข่ แต่มีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่ออกลูกเป็นตัวอย่างเช่นงูหางกระดิ่ง และงูทะเล…

ในขณะที่เราหลายคนมีความเป็นห่วงเป็นใยต่อสัตว์จรจัดในศูนย์พักพิงและพยายามหาทางช่วยเหลือพวกมัน สัตว์หลายๆ ตัวก็ไม่นิ่งเฉยนะ พวกมันก็พยายามจะช่วยเหลือพวกพ้องตัวเองเหมือนกัน อย่าง Davos น้องหมาผู้มีจิตสาธารณะ ช่วยเหลือพวกพ้องด้วยการเป็นเด็กเก็บลูกกอล์ฟ เพื่อนำเงินที่ได้ไปบริจาคให้กับสถานรับเลี้ยงสัตว์     Davos เป็นหมาที่น่ารักมากๆ มีนิสัยอยากรู้อยากเห็นอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญมันยังมีความสามารถพิเศษเกี่ยวกับการหาของ ดังนั้นมันจึงมักจะหาสิ่งที่คนอื่นอาจจะไม่หาไม่เจอได้ สุนัขแสนรู้ไม่ได้ปล่อยให้ความสามารถพิเศษนี้สูญเปล่า แต่มันได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วยการเป็นเด็กเก็บลูกกอล์ฟเพื่อที่จะช่วยเพื่อนๆ อีกนับร้อยนับพันตัวในศูนย์พักพิง Cooper ผู้เป็นเจ้าของน้องหมาตัวดังกล่าวเป็นคนที่ชอบตีกอล์ฟมาก และเมื่อรับเลี้ยง Davos เขาจึงตัดสินใจพามันไปด้วยทุกครั้ง     แม้น้องหมาจะเล่นกอล์ฟไม่เป็น แต่ทุกครั้งที่ Cooper ตีลูกกอล์ฟออกไปแล้ว เจ้า Davos จะวิ่งตามไปเก็บทุกครั้ง และดูมันมีความสุขมากที่ได้ทำเช่นนั้น และระหว่างที่เจ้าหมาตามไปเก็บลูกนั้น มันมักจะไปเจอกับลูกกอล์ฟของคนอื่นอยู่เสมอ เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Cooper เกิดไอเดียดีๆ     สุนัขและเจ้าของได้ช่วยกันเก็บลูกกอล์ฟเหล่านั้นแล้วเอาไปขายในราคาลูกละประมาณ 8 บาท (25 เซนต์) แล้วได้นำเงินทั้งหมดนี้ไปบริจาคให้กับสถานรับเลี้ยง Animal Humane Society ตั้งแต่นั้นมา ความสามารถของเจ้า Davos ก็กลายเป็นที่สนใจของบรรดานักตีกอล์ฟทั้งหลาย และถูกนำไปใช้ประโยชน์มากขึ้น     ตอนนี้น้องหมากลายเป็นเด็กเก็บลูกกอล์ฟที่ใครๆ ก็ต้องการตัว โดยสามารถหาเงินด้วยตัวเองได้กว่า…

แมวเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่ผู้คนนิยมเลี้ยงมากที่สุด เพราะแมวเป็นสัตว์ที่น่ารัก น่ากอด ที่สำคัญ พวกมันจะมีนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จุดนี้แหละที่ทำให้มนุษย์รักมันแบบหัวปักหัวปำ ดูเพียงแค่ผิวเผินอาจจะคิดว่าแมวมีสิสัยขี้อ้อนเหมือนกันหมด แต่ลองสังเกตพวกมันดีๆ นะ พวกมันอาจจะเป็นแมวไม่สนโลกเลย มีความเกรียนให้เห็นไม่เว้นแต่ละวัน   1. น้องเหมียวที่ไม่อยากให้เจ้าของหลับ เจอสายตาแบบนี้ หลับไม่ลงจริงๆ   2. ที่นอนเจ้านายน้อยหรอ ใครแคร์ละ นอนแม่มเลย   3. มันใช่เวลามาออดอ้อนมั้ยเหมียว   4. อย่าทำงานเลยนะ เล่นกับเก๊าก่อน   5. อะไร ก็จะอยู่ในนี้อะ ใครจะทำไม   6. บอกว่าอย่าไปเล่นในพุ่มไม้ ก็ยังจะไปอยู่ ท้าทายอำนาจยายหรอ ห๊า!!   7. กินแล้วก็จะกินอีก ให้เจ้านายน้อยได้กินบ้างเหอะเหมียว   8. เสื้อคู่หรอ…เหอะ ถามเค้ายังว่าชอบมั้ย?   9. โหลๆ ว1 เรียก ว2 พบแมวกินแคทนิปเกินขนาด ขณะนี้นิ่งเป็นท่อนซุงเลย…

Aladino Montes ชายชาวสเปนวัย 53 ปี ซึ่งทั้งช่วงชีวิตของเขาที่เติบโตมาในแคว้นอัสตูเรีย ด้วยความที่เติบโตมากับครอบครัวในแถบชนบท เขาได้ทำการเดินป่าล่าสัตว์มาแล้วนับไม่ถ้วน จนเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ ทว่าชีวิตการเป็นนักล่าสัตว์ของเขาก็ต้องสิ้นสุดลง หลังจากที่เขาได้พบกับลูกกวางตัวน้อยเจ้า Bambi จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลา 10 ปีได้แล้ว ที่เจ้าตัวไม่ได้ออกไปล่าสัตว์อีกเลย   “ถ้าจะให้ผมกลับไปล่าสัตว์แบบนั้นอีกครั้ง ผมขอยอมตายดีกว่า” Aladino กล่าว   เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีก่อน วันหนึ่ง Aladino ได้ขับรถจี๊พคู่ใจของเขาไปตามเส้นทางหุบเขาในหมู่บ้าน กระทั่งเจ้าตัวได้หันไปเห็นภาพของวัวสองตัว กำลังยืนอยู่กับลูกกวาง และนั่นก็ทำให้เค้ารู้สึกแปลกใจอย่างมาก เพราะเขาไม่เคยเห็นภาพวัวอาศัยอยู่กับกวางมาก่อน ด้วยความสงสัยเขาจึงย่องเข้าไปดู ก็ได้พบว่าลูกกวางน้อยตัวน้อยประสบอุบัติเหตุ มีร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน   จากนั้น Aladino ได้รีบนำตัวเจ้ากวางน้อยกลับมาที่บ้าน แล้วจัดการก่อไฟเตรียมย่าง เอ๊ย เตรียมการเพื่อช่วยรักษาบาดแผลของมันให้หายเป็นปลิดทิ้ง   เมื่อ Bambi หายจากอาการบาดเจ็บ แทนที่มันจะวิ่งหนีเข้าสู่ผืนป่า มันกลับเลือกที่จะอาศัยอยู่กับ Aladino และครอบครัวของเขา ช่วงเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มก่อตัว จนทุกวันนี้เจ้า Bambi ก็ได้กลายเป็นกวางสาวน้อยโตเต็มวัย…

ถ้าพูดถึงความน่ารัก นอกจากเด็กๆ ตัวน้อยๆ แล้วอีกหนึ่งสิ่งที่เราจะคิดถึงก็คงจะหนีไม่พ้นพวกสัตว์อย่างแน่นอน และยิ่งเป็นลูกสัตว์ตัวเล็กๆ ไร้เดียงสาหน่อยๆ ความน่ารักของพวกมันก็จะทวีคุณพุ่งจนถึงจุดพีคเลยก็ว่าได้ แถมถ้าพวกมันส่งสายตาหวานๆ อ้อดอ้อนซะเหลือเกิน อย่างเช่นเจ้า 15 ตัวนี้ รับรองว่าให้ใครมาเห็นจะต้องยอมสยบต่อความน่ารักของพวกมันอย่างแน่นอน…   อิ๋งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง   ส่งสายตาวิ้งๆ แบบแพคคู่ เป็นใครก็ต้องยอมแพ้   แม้แต่เต่าก็น่ารักก็ยังส่งสายตาออดอ้อน   เจ้าตูบทำหน้าตาเศร้าศร้อย เห็นแล้วอยากอุ้มเลย   พ่อๆ อ่านหนังสือให้หนูฟังหน่อย   ดูเหมือนมันกำลังมองหาเหยือคนต่อไปเลยนะเนี่ย ใครจะตกเป็นทาสความน่ารักของเจ้าตูบตัวนี้กันนะ   ลูกแมวก็อยากจะเข้ามาแจมด้วยเช่นกัน…   ไม่รู้เป็นอะไรพอเห็นเจ้าตูบทั้งหลายทำคอเอียงหน่อยๆ พร้อมตาใสๆ ทีไรต้องละลายทุกที   ใครจะต้านทานสายตาพวกนี้ไหมกัน #เหมียวมู่ทู่ คนหนึ่งแหละที่ขอยอมแพ้   พวกสัตว์เวลาส่งสายตาหวานๆ มานี่ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหนก็ดาเมจมหาศาลจริงๆ   มานู๊ดดดด พวกมุงจงมาอุ้มข้าซะ!!   แต่เจ้ากระต่ายตัวนี้ดูจะกินแบบไม่แคร์รอบข้างเลยนะ   อรัํย ตัวเล็กน่ารักน่าชังสุดๆ เลย   เจ้ากระรอกตัวนี้ก็โชว์ความน่ารัก ด้วยการทำแก้มตุ่ย…

คุณรู้จักคาถาพรางตัวกันรึเปล่า!? อ่า.. ถึงแม้ว่าไม่ใช่แฟนการ์ตูนเชื่อแน่ว่าหลายๆ คนต้องรู้จักกับการพรางตัวแน่ๆ เพราะอย่างน้อยคุณต้องเคยเล่นซ่อนแอบมาบ้างหล่ะน่าจริงไหม?? ฮ่าๆ แต่ใครถ้าหากใครคิดว่าตัวเองเป็นเซียนซ่อนแอบแล้วละก็ ลองไปชมการพรางตัวของพวกสัตว์เหล่านี้ดีกว่า รับรองเลยว่าสกิลในการซ่อนของคุณยังไม่เนียนเท่าสัตว์ต่างๆ เหล่านี้แน่ๆ และลองมาหาพวกมันให้เจอด้วยนะ!!   1. Flat Spider   2. Long-Tailed Potoo   3. Impala   4. California Ground Squirrel   5. Mossy Leaf-Tail Gecko   6. California Stick Insect   7. Chameleon   8. Buff-Tip Moth   9. Adelpha Serpa Selerio Caterpillar   10. Red Bat   11. Southern Pygmy Leatherjacket   12. Phyllium Giganteum   14. Glauert’s Seadragon…

ถ้าคุณเป็นคนชอบหาดทรายสวยๆ ทะเลสีครามบวกเข้ากับเหล่าสุนัขที่แสนน่ารักๆ แล้วยังหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้ากับความชอบดังกล่าวไม่ได้ซักที เราก็ขอนำเสนอหมู่เกาะแสนสวยที่มีทุกสิ่งที่กล่าวไปมาให้คุณได้ฉ่ำหัวใจกัน!! เกาะที่ว่านี้มีชื่อว่าหมู่เกาะเติกส์และเคคอสตั้งอยู่ใน เป็นอาณานิคมโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร ประกอบไปด้วยหมู่เกาะย่อยในเขตร้อน 2 หมู่เกาะ ได้แก่ หมู่เกาะเคคอสและหมู่เกาะเติกส์ ซึ่งที่แห่งนี้ล้วนมีครบทุกอย่างที่คุณต้องการ ทั้งหาดทรายสีขาว ทะเลสีคราม และที่สำคัญก็ยังมีศูนย์พักพิงสุนัขที่มีเหล่าสุนัขน่ารักๆ เพียบ   .   Potcake Place เป็นศูนย์พักพิงสัตว์ที่สร้างโดยการรวมต่อของอาสาสมัครหลากหลายคน และที่แห่งนี้มีสุนัขในการเลี้ยงดูมากกว่า 50 ถึง 70 ตัว!! แถมนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาก็สามารถขอรับพวกมันไปเลี้ยงได้อีกด้วย แถมในหนึ่งปีที่นี่ยังเลี้ยงดูสุนัขมากกว่า 500 ตัวเลยทีเดียว   .   สุนัขสายพันธุ์หลักๆ ที่ศูนย์เลี้ยงดูอยู่ก็จะประกอบด้วย แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์,เยอรมันเชเพิร์ด และอิงลิชฟอกซ์เทอร์เรีย แน่นอนว่าพวกมันเป็นสุนัขที่น่ารักๆ ทั้งนั้นเลยละ ถ้าใครสนใจและได้แวะไปที่เกาะแห่งนี้ก็อย่าลืมแวะไปที่ Potcake Place ล่ะ เผื่อถ้าถูกใจน้องหมาตัวไหนจะได้รับมาเลี้ยงซักตัวสองตัว   . ที่มา ladbible

เรื่องราวของเจ้าลูกแมวผู้น่าสงสารที่ถูกทิ้งไว้ในร้านขายของชำ ได้พบกับชีวิตใหม่อีกครั้งหลังจากที่หญิงสาวผู้ใจบุญได้หยิบยื่นความรักและความอบอุ่นให้แก่มัน เป็นเวลาหลายปีมาแล้วหลังจากที่หญิงสาวผู้หนึ่งที่ใช้ชื่อในโลกออนไลน์ว่า CaliCatlady101 ได้เข้าไปช่วยเหลือลูกแมวตัวน้อยที่ถูกทิ้งไว้อย่างเดียวดาย มันอ่อนแอมากและมีอายุเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น!!     เธอเล่าเรื่องราวของเธอและเจ้าเหมียวผ่านทางโลกออนไลน์ว่า “การช่วยชีวิตและเลี้ยงดูลูกแมวตัวนี้เป็นสิ่งที่ยากลำบากมาก แต่มันกลับมอบสิ่งที่สำคัญให้กับฉัน มันเป็นลูกแมวที่น่ารักที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยทีเดียว”   ภาพของเจ้าเหมียวในวันแรกที่ทั้งคู่พบกัน ตอนนั้นมันเพิ่งมีอายุได้ 1 วันเท่านั้น   “ในตอนแรกฉันเอาเจ้าเหมียวนอนไว้ใกล้ๆ ตัว และดูแลมันอย่างดี เนื่องจากมันยังไม่สามารถส่งเสียงร้องได้ แต่ดูจากสีหน้าของมันแล้วคงจะมีความสุขมาก” หญิงสาวเล่าเรื่องของเธอกับเจ้าเหมียว   นี่คือภาพที่เธอดูแลเจ้าเหมียวในช่วงแรกๆ หญิงสาวดูแลมันไว้ข้างกายตลอดเวลาจริงๆ   ท้องป่องเชียวนะ สงสัยจะกินอิ่มแล้วล่ะสิ!?   วันหนึ่งก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับเจ้าแมวน้อย มันถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลสัตว์อย่างเร่งด่วน แต่ลูกแมวและแม่บุญธรรมของมันคุณ CaliCatlady101 ก็ไม่ยอดแพ้ต่อความเจ็บป่วย     หลังจากพักรักษาตัวไม่นานแมวน้อยก็เริ่มที่จะลืมตาได้แล้ว!! หญิงสาวจึงตั้งชื่อให้มันว่า Ollie “เจ้า Ollie เริ่มลืมตาได้ทีละนิดละนิด พร้อมกับค่อยๆ ทานอาหารได้มากขึ้น จากนั้น 12 วันให้หลังมันก็สามารถลืมตาได้เต็มที่ และเริ่มฉายแววความน่ารักออกมาแล้ว” แม่บุญธรรมของเจ้าเหมียวกล่าว     ผ่านไป 2 สัปดาห์เจ้าเหมียวเริ่มแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนว่ามันจะโตไวด้วยนะ   มันดูเกาะติดกับแม่ของมันเอามากๆ…

บ่อยครั้งที่เรามักจะพบเห็นสนัขหรือแมวจรจัดที่ต้องใช้ชีวิตอย่างตามมีตามเกิด พวกมันต้องพยายามดิ้นรนเป็นอย่างมาเพื่อที่จะเอาชีวิตรอดในแต่ละวัน เหมือนกับเจ้าเหมียวตัวนี้ถูกค้นพบอยู่ในกระเป๋าเป้ ในสภาพที่กำลังจะขาดใจตาย แต่มันโชคดีอย่างมากหลังจากที่มีคนมาพบเข้าและช่วยเหลือเอาไว้ได้ก่อนที่จะสายเกินไป ซึ่งเจ้า Hiro ก็คือแมวเหมียวมหัศจรรย์ที่รอดตายมาได้     ย้อนกลับไปเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว ในขณะที่หญิงสาวผู้หนึ่งจากรัฐ Alberta ประเทศแคนนาดา ได้พบกับกระเป๋าเป้หนึ่งใบที่วางอยู่บนถังขยะ ระหว่างที่เธอกำลังจะนำขยะไปทิ้ง เธอค่อยๆ เปิดกระเป๋าเป้ใบนั้นเพื่อสำรวจสิ่งของภายใน แต่เธอก็ต้องตกใจอย่างมาก เมื่อสิ่งที่อยู่ภายในนั้นไม่ใช่สิ่งของแต่มันคือเจ้าเหมียวตัวหนึ่งที่กำลังใกล้จะขาดใจ หญิงสาวจึงไม่รอช้ารีบโทรเรียกศูนย์ช่วยเหลือสัตว์โดยทันที ไม่นานศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Alberta Animal Services ก็มาถึงที่นั่นและรับเจ้าเหมียวไปดูแลต่อ     เจ้า Hiro สภาพแย่มาก มันได้รับบาดเจ็บมากมาย และอาจจะไม่สามารถมีชีวิตรอดได้ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอดแพ้ พวกเขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะยื้อชีวิตมันเอาไว้ จนในที่สุดความพยายามของพวกเขาก็ไม่สูญเปล่า เจ้าแมวรอดชีวิตมาได้ และเริ่มกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง     หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ผ่านไป เจ้าเหมียวก็กลายเป็นแมวตัวใหม่ที่แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้ว่ามันจะมีอาการสั่นอยู่บ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วร่างกายของมันก็แข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สิ่งแรกที่เจ้าเหมียวทำหลังจากที่กลับมาเดินได้อีกครั้งก็คือ เข้าไปหาเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยเหลือและเริ่มที่จะออดอ้อนพวกเขา     “เจ้าเหมียวกลายเป็นที่รักของที่นี่ หลังจากที่มันผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายมาได้ เวลาที่มันเห็นพยาบาลเดินมา มันจะรีบเขาไปคลอเคลียกับพวกเราโดยทันที”  เจ้าหน้าที่ของ Alberta Animal Services บอกกับเว็บไซต์ Love…

การรับสัตว์มาเลี้ยงจากสถานรับเลี้ยง นอกจากจะเป็นการช่วยสัตว์ให้มีบ้านอยู่แล้ว ยังเป็นการช่วยลดภาระของสถานรับเลี้ยงอีกด้วย เพราะว่าในแต่ละวัน สถานรับเลี้ยงก็ต้องดูแลสัตว์ที่คนนำมาทิ้งหรือได้รับบาดเจ็บอย่างไม่ขาดสาย สำหรับคนที่อยากจะมีสัตว์เลี้ยง แต่ไม่อยากไปซื้อก็ต้องไปที่สถานรับเลี้ยงสักแห่ง ซึ่งกว่าเราจะรู้ว่าตัวไหนเข้ากับเราได้นั้นอาจจะต้องดูใจอยู่นาน แต่ที่สถานรับเลี้ยง Leybourne เขาได้ทำการวาดภาพพร้อมเขียนบรรยายความชอบของเจ้าเหมียวไว้ตรงตู้กระจกให้อย่างเรียบร้อย     คนที่วาดก็คือเจ้าหน้าที่ที่รู้จักเจ้าเหมียวพวกนี้เป็นอย่างดีนั่นเอง พวกเขาอยู่กับแมวเหล่านี้ทุกวัน จึงไม่แปลกที่จะรู้ว่าแมวตัวไหนชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แล้วก็นำสิ่งที่รู้มาเขียนลงบนตู้พร้อมวาดภาพประกอบ เพื่อให้คนที่จะมารับไปเลี้ยงได้รู้ข้อมูลก่อน     ซึ่งดูจากข้อมูลแล้ว เราจะได้เห็นว่าแมวแต่ละชนิดมีนิสัยที่แตกต่างกันออกไป   น้อง Friday อายุ 3 ขวบ อยู่ที่สถานรับเลี้ยงนี้มานานมากๆ แล้ว รอวันที่จะมีคนใจดีมารับ   น้อง Lenny เจ้าเหมียวนักคุย รับฉันไปแล้วอย่าหยุดคุยนะ   ฉันชื่อ Molly แมวแก่อายุ 11 ปี ถึงตัวจะเป็นผู้ใหญ่ แต่ใจยังเด็กนะจ๊ะ   Kizzy เจ้าเหมียวขี้อายและขี้กลัว แต่ถ้ามีคนรับไปเลี้ยงแล้วรับรองว่าจะเป็นเด็กดี   สุดท้ายเจ้า Henry แมวสามขา ฝันว่าอยากมีบ้านอบอุ่นสักหลังมารับไปเลี้ยง   โดยภาพทั้งหมดนี้คือภาพที่ถ่ายไว้เมื่อไม่นาน…

ส่วนใหญ่แล้วสุนัขที่มารับหน้าที่เป็นผู้ผดุงความยุติธรรม ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะเป็นสุนัข K-9 ที่ต้องมีการฝึกฝนมาอย่างดี แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับสารวัตร Apollo เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื้อสายพิทบูล ผู้ที่จะมาต่อกรกับเหล่าอาชญกรรม และวายร้ายของสังคม โฮ่งๆๆ   เสมือนพระเจ้าได้ส่งให้เขาเกิดมาเป็นตำรวจ เพราะไม่ต้องฝึกก็ถูกบรรจุได้เหมือนกัน   ทว่าเรื่องราวพื้นเพในชีวิตของท่านสารวัตรกลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ก่อนหน้านี้ท่านสารวัตรต้องใช้ชีวิตโซซัดโซเซ เตร็ดเตร่อยู่ในรัฐวอชิงตัน อยู่นานหลายเดือน จนในที่สุดมีเจ้าหน้าที่ไปพบเข้า และได้นำตัวอะพอลโล่ มาดูแลที่ศูนย์พักพิงสัตว์ ด้วยหน่วยก้านที่ดูสมบุกสมบันกล้าหาญชาญชัย เจ้าหน้าที่จึงได้ลองติดต่อกับทางสถานีตำรวจ ให้เข้ามาดูตัวสารวัตรอะพอลโล่   หลังจากนั้นก็เหมือนพระเจ้าได้ประทานโอกาสมาให้ท่านสารวัตรพิสูจน์ตัวตนอีกครั้ง   ‘ก่อนหน้านี้ไม่มีใครต้องการตัวอะพอลโล่เลย ด้วยความที่มันเป็นพิทบูลตัวใหญ่ และไม่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี บวกกับลักษณะนิสัยพื้นฐานของสายพันธุ์นี้ด้วยแล้ว… แต่เรากลับมองเห็นแววบางอย่างในตัวมัน เราจึงมอบโอกาสให้มันอีกครั้ง’ ผู้กองตำรวจให้สัมภาษณ์   จากพิทบูลที่ไม่เคยได้รับการฝึกเลย ตอนนี้มันสามารถจบหลักสูตรการเป็นสารวัตรตำรวจได้อย่างรวดเร็ว   จากเดิมที่เคยเป็นสุนัขโฮมเลส ตอนนี้อะพอลโล่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเก่า มันได้ประจำตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีสวัสดิการจากรัฐบาลคอยดูแล พร้อมทั้งมีครอบครัวคอยมอบความรักให้ด้วย ‘ไม่ใช่แค่เรื่องงานเท่านั้นที่เขาทำได้ดี แต่อะพอลโล่ยังเป็นเหมือนเพื่อนเล่นของพวกเราทุกคน มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของสถานีตำรวจแห่งนี้ไปแล้ว และพวกเราทุกคนก็รักมันมาก’ ตำรวจนายหนึ่งให้สัมภาษณ์   และล่าสุดมันก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสารวัตรประจำสถานี ชีวิตดีขึ้นเป็นกองเลยล่ะ   และนี่คือภาพถ่ายของสารวัตรอะพอลโล่ ในวันหยุดสุดสัปดาห์กับเพื่อนชาวแก๊ง  …

จากข่าวร้ายๆ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจทำให้หลายคนเกิดความหดหู่และเศร้าใจ แต่ทว่าในบางมุมของโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ก็ยังคงมีเรื่องดีๆ ให้เราได้ชื่นชมอยู่บ้าง เมื่อไม่นานมานี้องค์กร Hope for Paws ได้เข้าช่วยเหลือแม่สุนัขจรจัดตัวหนึ่งที่เพิ่งให้กำเนิดลูกๆ พร้อมกันถึง 9 ตัวในสนามหญ้าของบ้านแห่งหนึ่ง พบกับเรื่องราวการช่วยเหลือชีวิตน้อยๆ ทั้ง 10 ชีวิตที่แสนจะน่าประทับใจของเจ้า Spring และลูกๆ ของมันกันได้เลย     หญิงสาวคนหนึ่งได้พบกับเจ้า Spring และลูกๆ ของมันในสนามหญ้าที่บริเวณบ้านของเธอ จากนั้นเธอจึงได้แจ้งไปยังองค์กรช่วยเหลือสัตว์ Hope for Paws เพื่อรับมันและลูกๆ ไปดูแล ถึงแม้ว่าในตอนแรกเจ้าตูบดูจะไม่ค่อยเป็นมิตร และค่อนข้างหวงลูกน้อยของมัน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ของ Hope for Paws มาถึง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป… “ฉันคิดว่ามันได้กลิ่นของอาหารที่เรานำมาให้เธอ จากนั้นท่าทางของเจ้า Spring ก็เปลี่ยนไป มันกลายเป็นแม่หมาใจดีขึ้นมาทันที” คุณ Eldad Hagar ผู้ก่อตั้งองค์กร Hope for Paws บอกกับเว็บไซต์ The Dodo     และหลังจากที่ทำความคุ้นเคยกับแม่หมาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามที่จะเข้าไปพาตัวมันและลูกๆ…

ถ้าหากพูดถึงสัตว์นักล่า ชื่อของเสือคงจะอยู่ในความคิดของหลายๆ คน จากภาพการล่าของมันที่เรามักจะเห็นในสารคดีต่างๆ คงไม่ทำให้คุณคิดว่ามันเป็นสัตว์ที่มีความน่ารัก แต่ความดุร้ายของมันนั้นไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มผู้นี้มีอาการหวาดกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว พบกับเรื่องราวความผูกพันของสองเพื่อนซี้ระว่างคุณ Abdullah Sholeh และเจ้า Mulan Jamillah เสือโคร่งเบงกอล     เจ้า Mulan Jamillah เสือโคร่งเบงกอลเพศเมียถูกนำมาทิ้งไว้ที่โรงเรียนสอนศาสนาในเมืองมาลัง ประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่มันอายุได้เพียง 3 เดือน หลังจากที่เจ้าของไม่สามารถที่จะดูแลได้ และที่นี่ทำให้มันได้พบกับคุณ Abdullah Sholeh ภารโรงของโรงเรียนแห่งนี้ ในตอนนั้นคุณ Abdullah อายุได้เพียง 25 ปีเท่านั้น เขาใช้เวลาส่วนมากในการดูแลความเรียบร้อยในโรงเรียน และดูแลเจ้าเสือไปพร้อมๆ กันด้วย ชายหนุ่มจึงถูกเรียกว่า The Nanny หรือ พี่เลี้ยงเด็กที่เป็นเสือ     คุณ Abdullah ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่น 3 ปีที่แล้วว่า “ถ้าหากผมไม่อยู่บ้าน เจ้า Mulan จะกระวนกระวายอย่างมาก มันจะพยายามตามหาผมให้พบ นั่นจึงเป็นเหตุลว่าทำไมผมถึงต้องอยู่กับมันตลอดเวลา”  แต่ถึงแม้ว่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่คุณ Abdullah ผู้เป็นพี่เลี้ยงก็ยังคงต้องคอยระวังตัวทุกครั้ง เพราะมันคือเสือโคร่งเบงกอลที่มีขนาดตัวเกือบ 200 กิโลกรัมเลยทีเดียว “Mulan ก็ยังคงเป็นสัตว์และมันเหมือนกับแมวตัวใหญ่นั่นแหละ…

ตอนเด็กๆ หลายคนคงเคยมีโอกาสไปทัศนศึกษาที่สวนสัตว์กับโรงเรียนกันมาบ้างแล้ว ซึ่งเอาจริงๆ ในวัยนั้นเราก็ไม่ค่อยจะสนใจว่าจริงๆ แล้วพวกมันอยู่ดีกินดีกันรึเปล่า? ครั้งนี้เราจะพาไปที่สวนสัตว์ประจำเมือง Buenos Aires ประเทศอาร์เจนติน่า ที่ซึ่งปิดให้บริการไปนานหลายปี ไร้ซึ่งการดูแลเลี้ยงดูอย่างทั่วถึง และนี่คือใบหน้าแห่งความเศร้าของพวกมัน…   สวนสัตว์แห่งนี้เคยเปิดให้บริการครั้งล่าสุดเมื่อ 140 ปีก่อน และปัจจุบันถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสวนสาธารณะ   ทว่าการเป็นอยู่ของพวกมันกลับไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง และอย่างดีเท่าที่ควร   เช่น Guille ฮิปโปฯ ผู้อาศัยอยู่ในบ่อน้ำที่ไม่ได้รับการทำความสะอาด และเปลี่ยนถ่ายน้ำมานานแล้ว   แม้แต่ชาวเมืองต่างก็รู้ดีว่า ที่นี่เต็มไปด้วยสีหน้าอันเศร้าสร้อยของพวกมัน   สวนสัตว์แห่งนี้เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1875 แต่ด้วยพิษเศรษฐกิจที่ทำให้ต้องปิดตัวลง   มีหลายองค์กรในภาคเอกชนที่ออกมาเรียกร้องให้มีการปรับปรุง และเคลื่อนย้ายสัตว์ป่าไปอยู่ในที่ๆ มันสมควรจะอยู่   ซึ่งทางหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องก็เคยออกมาประกาศว่าจะมีการปรับปรุงสถานที่แห่งนี้ใหม่   แต่จวบจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีซึ่งการเปลี่ยนแปลงใดๆ และดูเหมือนพวกสัตว์ทั้งหลายก็ต้องใช้ชีวิตอย่างน่าเศร้าไปแบบวันต่อวัน   Claudio Bertonatti อดีตเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องให้สัมภาษณ์ว่า ‘สถานการณ์มันแย่ลงเรื่อยๆ ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแล และมันก็แย่ยิ่งกว่าเรือโนอาห์ที่แตกกลางทะเลซะอีก’   Horacio Rodriguez Larreta นายกเทศมนตรีประจำเมือง ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ‘เรามีโครงการที่จะปรับปรุงพื้นที่ทั้งหมด…

เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งจากเว็บไซต์ Lovemeow ที่เธอตั้งใจจะเดินทางไปช่วยเหลือเหล่าแมวเหมียวจากศูนย์พักพิงสัตว์ แต่แล้วในระหว่างทาง เธอก็บังเอิญเจอแมวจรจัดที่ต้องการความช่วยเหลือเช่นกัน ทำให้เธอเปลี่ยนใจช่วยเจ้าเหมียวตัวดังกล่าวเพิ่มอีกตัว!!?     Kelley Lawrence Peters จากศูนย์ช่วยเหลือ The Kitty Krusade กำลังเดินทางเพื่อไปช่วยเหลือแมวที่บาดเจ็บจากศูนย์พักพิงอีกแห่งหนึ่ง แต่ทว่าระหว่างที่เธอกำลังขับรถบนทางด่วน เธอก็เลือบไปเห็นเจ้าเหมียวตัวหนึ่งอยู่ตรงเกาะกลางถนน วินาทีนั้นเธอรีบเหยียบเบรกและจอดรถเพื่อลงไปดูแลมันทันที ซึ่งเธอก็คาดเดาว่าลูกแมวตัวดังกล่าวน่าจะมีอายุราวๆ 6 ถึง 8 สัปดาห์ แถมตาของมันก็ปิดสนิทจากโรคติดเชื้อทางเดินหายใจและโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง     ด้วยสภาพการจราจรบนถนนทางด่วนที่ไม่ค่อยจะปลอดภัยเสียเท่าไหร่ Kelley จึงไม่รอช้ารีบเข้าไปช่วยเหลือเจ้าเหมียวตัวนั้นมาทันที Kelley ได้บอกกับเว็บไซต์ Lovemeow ว่า “มันเป็นไปได้ยังไงที่ลูกแมวจะไปอยู่กลางถนนหกเลนแบบนั้น และฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่มีใครยอมช่วยเหลือมันซักคน แต่ฉันมั่นใจว่ามันคงอยากจะให้ฉันช่วยมันมาอย่างแน่นอน”   คลิปเหตุการณ์ในตอนที่ Kelly ลงไปช่วยเจ้าเหมียว   เธอได้ตั้งชื่อให้กับเจ้าเหมียวว่า Dave ซึ่งในตอนแรก Kelly คิดว่าเจ้าเหมียวคือเพศผู้ แต่จริงๆ แล้วมันคือเพศเมีย แหละหลังจากที่มันได้รับการช่วยเหลือพร้อมทำความสะอาดเป็นอย่างดี มันก็เริ่มจะตอบสนองและคลอเคลียกับ Kelley แล้ว     นอกจากตัว Dave แล้วในวันเดียวกัน…

ปัญหาลูกเหมียวจรจัดมีนิสัยดุร้ายและไม่คุ้นเคยกับคน มักจะเป็นปัญหาที่หาทางแก้ได้อย่างยากเย็นมาเป็นเวลานานแสนนาน ทว่าล่าสุดทาง Animal Rescue League of Boston (ARL) ก็ได้สร้างถุงกระเป๋าหน้าท้องเพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้แล้ว!! เรื่องราวของกระเป๋าหน้าท้องนี้ เริ่มขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน เมื่อตอนที่เหล่าทีมงานของ ARL รู้สึกว่าเจ้าลูกเหมียวจรจัดทั้งหลายที่พวกเขารับมาดูแลมักจะมีปัญหาในการเข้ากันกับมนุษย์ ซึ่งกว่าจะทำให้พวกมันเลิกตื่นคนและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีได้ต้องใช้เวลานานมากๆ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเกิดไอเดียของเจ้ากระเป๋าหน้าท้องที่เรียกว่า Kitten Bjorn     ที่เรียกว่า Kitten Bjorn ก็เพราะเดิมทีมีแล้วมีแบรด์กระเป๋าหน้าท้องสำหรับหิ้วเด็กๆ ที่ชื่อว่า Babybjörn อยู่แล้ว พวกเขาจึงทำการดัดแปลงนิดหน่อยจนเกิดเป็นชื่อดังกล่าวนั่นเอง เจ้ากระเป๋าหน้าท้องแมวก็จะทำหน้าที่เดียวกับกระเป๋าหน้าท้องสำหรับหิ้วเด็กเลย คือทำให้สามารถพกพาไปไหนก็ได้ แถมยังดูแลพวกมันได้ตลอดเวลา และนอกจานั้นก็จะยังสร้างความใกล้ชิดกันระหว่างลูกแมวกับเจ้าหน้าที่ให้มากขึ้น     Michael DeFina เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชนได้บอกกับเว็บไซต์ The Dodo ว่า “ไอเดียของเจ้ากระเป๋านี้ก็เพื่อที่ลูกแมวจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับคน แถมเจ้าหน้าที่ก็จะมีมือที่วางสามารถทำอะไรต่างๆ ได้พร้อมกัน นอกจากนั้นตัวกระเป๋าก็ยังโปร่งใสเพื่อให้พวกลูกแมวมองเห็นรอบๆ รวมถึงเพื่อให้รู้ว่าใครแบกมันอยู่”     ที่จริงแล้วเจ้ากระเป๋าหน้าท้องดังกล่าว ARL ได้เริ่มใช้มันมาเป็นเวลานานแล้ว และผลลัพธ์ก็ออกมาดีมากๆ บางครั้งก็ใช้เวลาเพียงน้อยนิดที่ทำให้เจ้าเหมียว เริ่มร้องออกมาเพื่อให้มนุษย์ช่วยหรือเรียกหา…

หากเพื่อนๆ คนไหนที่เป็นแฟนของซีรีย์ใน Netflix เรื่อง Love แล้วจะต้องรู้จักกับ Paul Rust กันอยู่แล้วล่ะ สำหรับใครที่ติดตามอินสตาแกรมส่วนตัวของพี่แกก็มักจะเห็นเขาอัพรูปกับเจ้าหมาตัวเบิ้มลงให้เห็นอยู่บ่อยๆ แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยกันมั้ยว่าหมาอะไรจะตัวโตได้ขนาดนั้น มันเป็นหมาจริงๆ รึเปล่า? รึแค่เป็นการตัดต่อภาพแบบธรรมดาๆ     ขอแนะนำให้ทุกรู้จักกับ Judy เจ้าหมาตัวเบ้งที่มีขนาดตัวพอๆ กับคน ที่เป็นเพื่อนซี้คู่ขาของดาราหนุ่ม Paul เอง     ซึ่งขนาดตัวที่บะลักกั๊กของมันนั้นไม่ได้มาจากการตัดต่อแต่อย่างใด เพราะมันเป็นหมาที่มีตัวโตมากๆ ตามที่เราเห็นนั่นแหละ!!   ลองไปดูขนาดของมันเมื่อเทียบกับอ่างอาบน้ำของคนสิ นอนได้เกือบเต็มอ่างเลยนะนั่น   มันเป็นหมาขนปุยที่ดูน่ากอดมากที่สุดในโลกเลยล่ะ ><   หรือจะเป็นตอนแต่งตัวสวยๆ ก็ดูน่ารักยิ่งกว่าเดิมซะอีก!!   ลองจินตนาการดูว่าหากเราได้นอนข้างๆ มัน หมอนข้างจะเป็นสิ่งที่ไร้ค่าไปโดยปริยาย   และพอตื่นมาก็จะได้เห็นใบหน้าติงต๊องแบบนี้!!   แม้ว่าจะตัวใหญ่ แต่ก็มีนิสัยที่เป็นมิตรเข้าได้กับสัตว์ทุกชนิดโดยเฉพาะเจ้าเหมียว ><   เห็นได้ชัดเลยว่าเจ้า Judy นั้นไม่ใช่หมาแล้วล่ะ มันคือตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ที่มีชีวิตชัดๆ!!   เพื่อนๆ สามารถเข้าไปติดตามความน่ารักของเจ้า Judy…

สุนัขนอกจากจะเป็นสัตว์ที่มีความซื่อสัตย์แล้ว มันยังมีความฉลาดเป็นเลิศอีกนะ สอนอะไรทำได้หมด ขนาดเรื่องที่ไม่ได้สอนมันยังรู้เลย แต่สำหรับสุนัขบางตัวการทำตามคำสั่งมนุษย์ดูจะเป็นเรื่องจิ๊บๆ ไปหน่อย พวกมันเลยอวดรู้ด้วยการแหกกฎที่มนุษย์ตั้งไว้ให้ เพื่อทำให้เห็นว่า เป็นหมาก็คิดเองเป็นเฟ้ย   1. น้องหมาที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องครัว แต่มันก็พยายามอยู่ให้ใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้   2. มีความงอน เมื่อไม่อนุญาตให้เข้าห้องครัว   3. รู้นะว่าอยากกิน แต่พอหันไปมองเท่านั้น “อะไร ไม่รู้วววว”   4. พอรู้ว่าไม่อนุญาตให้เข้าห้อง มันเลยหลีกเลี่ยงด้วยการไม่สบตา ทำเนียนไม่รู้ไม่ชี้   5. มาทำท่าออดท้อน เพราะอยากให้เจ้าของโยนบอลให้   6. เมื่อเจ้าของไม่ให้ไปนอนบนเตียง ประชดซะเลยนี่   7. ไม่ให้นอนบนโซฟาใช่มั้ย ได้ งั้นลากหมอนจากโซฟามานอนบนพื้นละกัน   8. เมื่อเจ้าของไม่ให้นอนบนเฟอร์นิเจอร์… ดูมันทำ   9. ไม่ให้นอนใช่มั้ย งั้นขอวางตัวแป๊บนะ   10. เจ้าของไม่ให้นอนบนโซฟา แต่พอเด็กน้อยกว้างหมอนใบหนึ่งลงมาปุ๊บ มันอาศัยจังหวะนั้นขึ้นไปนั่งทันที  …

ลองสังเกตแถวละแวกบ้านตัวเอง หรือไม่ก็เพื่อนในกลุ่มตัวเองดูซิว่ามีคนไหนเป็นขี้เมาบ้างรึเปล่า? ไม่ว่าจะเมาอะไรก็ตามแต่ สำหรับพวกเขาแล้วก็พร้อมที่จะเมาได้เสมอตั้งแต่หัววันยันเที่ยงคืน ไม่ใช่แค่กับลุงแถวบ้านเท่านั้นนะที่ชอบทำตัวขี้เมาแต่หัววัน เพราะทั้ง 16 ภาพของพวกเจ้าตูบทั้งหลายนี้แหละ จะมาพิสูจน์ให้เราเห็นว่า พวกมันขี้เมามากขนาดไหน   1. เมื่อคุณไปเจอเพื่อนสายเขียว (ตาเยิ้มเลยนะเอ็ง)   2. สภาพของคุณตอนตื่นเช้ามาทำงาน แต่เมื่อคืนหนักไปหน่อย   3. เมื่อคุณเมาแอ๋ไม่ไหวแล้ว แต่ยังบอกว่าตัวเองไหวอยู่…   4. สภาพของคุณตอนภาพตัด แล้วก็ตื่นมาแบบจำอะไรไม่ได้   5. เมื่อคุณเมาแอ๋จนพูดไม่รู้เรื่อง แต่ยังอยากจะถ่ายเซลฟี่   6. เมื่อคุณเมาอิ๊บอ๋าย และกลับบ้านมาพบว่ามีอาหารรออยู่   7. สภาพของคุณเมื่อแฮงโอเว่อร์ไปทำงาน   8. เมื่อคุณออกมาจากผับแล้วพบว่า… มันเช้าแล้ว!!   9. เมื่อคุณเมาอิ๊บอ๋ายจนหลับใน…   10. สีหน้าของคุณเมื่อรู้ว่า… ข้างหน้ามีด่าน!!   11. สภาพของคุณในเช้าวันเสาร์ หลังปาร์ตี้คืนวันศุกร์หนักเกินไป   12. เมื่อคุณผู้หญิงเมาจนไม่ล้างเครื่องสำอางค์…

สำหรับชีวิตการเป็นนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยนั้น คงไม่มีวันไหนที่จะสำคัญเท่ากับวันรับปริญญา ในบางประเทศถือเป็นพิธีกรรมแสนวิเศษ ขณะที่วัฒนธรรมบางประเทศคือการเฉลิมฉลองการเรียนจบ และอาจจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่จะเป็นยังไงละถ้างานนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับเฉพาะนักศึกษาเท่านั้น!? เพราะที่สถาบัน Eckerd College จากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกไอเดียสุดน่ารักเอาใจนักศึกษา ด้วยการจัดงานรับปริญญาให้แก่สัตว์เลี้ยงซะเลย   เม่นน้อยก็ได้รับปริญญากับเค้าบ้างแล้ว เย้!!   ซึ่งงานรับปริญญาบัตรครั้งนี้เพิ่งจัดไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยภายในงานมีสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นหมา แมว เม่น หรือแม้แต่กิ้งก่า มาร่วมรับปริญญาบัตร นักศึกษาที่จบรุ่นนี้ สามารถนำพวกมันมาเข้าร่วมงานรับปริญญาพิเศษนี้ได้ทุกตัว   ภายในงานมีการต้อนรับผู้สำเร็จการศึกษา (สัตว์เลี้ยง) ด้วยคุ๊กกี้รสนมจากบริษัทอาหารสัตว์เลี้ยง และมีการกล่าวสุนทรพจน์เล็กๆ น้อยๆ ให้กับสัตว์เลี้ยงทุกตัว   แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงทุกตัวต้องใส่ชุดครุย และหมวกบัณฑิตให้ถูกต้องตามประเพณี   อันที่จริงแล้วสถาบันแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงของนักศึกษามากที่สุด เพราะนักศึกษาสามารถเอาพวกมันมาเข้าเรียนด้วยได้ หรือแม้แต่เลี้ยงสัตว์ในหอพักมหาวิทยาลัยได้   ‘เพราะที่นี่คือสถาบันที่มุ่งเน้นให้เราเข้าใจ ถึงการอยู่ร่วมกันกับทุกสิ่งมีชีวิต’ James Annarelli ประธานนักศึกษากล่าว   นอกจากนั้นแล้วทางสถาบันยังมุ่งเน้นที่จะให้นักศึกษาเข้าใจถึงการอยู่ร่วมกัน และการดูแลสิ่งแวดล้อมในสังคม จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ให้นักศึกษาสามารถนำสัตว์เลี้ยงมาด้วยได้   หลายๆ ตัวเคยอยู่อย่างอดๆ อยากๆ และเสี่ยงตายอยู่ข้างถนน และนโยบายของทางมหาวิทยาลัยก็ช่วยทำให้มีสัตว์เลี้ยงได้รับการอุปการะเพิ่มมากขึ้น  …

บางทีเราก็ไม่ค่อยเข้าใจเลยว่า.. ทำไมบางคนถึงชอบกลั่นแกล้งพวกเหล่าหมาแมวกันจังเลย บ้างก็โหดร้ายกลั่นแกล้งซะจนถึงกับเสียชีวิตเลยก็มี เหตุการณ์นี้ก็เช่นเดียวกัน เกิดขึ้นที่เมือง Robstown รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ Carlos Carrillo และเพื่อนได้ยินข่าวมาว่า มีสุนัขดูท่าทางเหมือนจะต้องการความช่วยเหลือมาอาศัยอยู่ในพงหญ้าแห่งหนึ่งแถบเมืองของพวกเขา   ทันทีที่พวกเค้าลองไปสำรวจดู ก็พบกับเจ้าตูบผู้โชคร้ายที่โดนมนุษย์กลั่นแกล้งอยู่จริงๆ   ‘ตอนแรกเราไม่เชื่อว่ามันเป็นสุนัข จนเข้าไปดูใกล้ๆ ถึงมั่นใจได้ว่ามันเป็นสุนัขจริงๆ มันน่าสงสารมากเลยมีคนใจร้ายเอาสก็อตเทปมาปิดปาก และมัดขาทั้งสองข้างของมันไว้’ Carlos เล่า   พอพวกเขาเห็นมันตกอยู่ในสภาพนี้ ก็รีบเข้าไปช่วยเหลือมันทันที   ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าตูบนิรนาม และไม่มีใครรู้สาเหตุของการกระทำในครั้งนี้ บางทีอาจจะมีมนุษย์ใจร้ายจงใจอยากจะทำให้มันจากโลกนี้ไปอย่างน่าสงสาร ‘หลังจากที่เราช่วยมันมาได้ เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่สุนัขที่เลวร้ายเลย มันดูต้องการจะขอบคุณเรา และพวกเราก็ยินดีที่จะช่วยมัน’   จากสภาพรอยกาวทำให้เห็นว่าเจ้าตูบถูกมัดอย่างแน่นหนา   หลังจากที่แก้มัดให้มันแล้ว ทั้งสองก็พาเจ้าตูบเข้าพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็คร่างกายทันที และโชคดีที่งานนี้เจ้าตูบไม่ได้เป็นอะไรมากนัก และถึงแม้ว่าความยุติธรรมจะไม่ได้ลงโทษคนที่ทำร้ายเจ้าตูบ แต่ตอนนี้มันก็ได้อยู่ภายใต้การดูแลของคนที่พร้อมจะมอบทั้งความรัก และความอบอุ่นให้ คงไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว     ใครกันนะใจร้ายเอาสก็อตเทปมาแกล้งกันแบบนี้ ถ้าเจอตัวจะจับตีก้นซะให้เข็ดเลย!! ที่มา: TheDodo

เรื่องมันเริ่มจากเด็กสาวคนหนึ่งกำลังเล่นกองทรายอยู่ริมหาด Indian Shores ในรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นที่เธอได้เจอกับเหล่าฝูงนกนางนวลที่บังเอิญคาบบางอย่างมา แล้วทำตกใกล้ๆ บริเวณที่แม่หนูคนดังกล่าวกำลังเล่นทรายอยู่ สิ่งนกนางนวลคาบมามีสีส้ม เด็กสาวจึงคิดว่าสิ่งนั้นน่าจะเป็นขนมชีโตสแน่ๆ แต่พอไปดูใกล้ๆ ชีโตสที่เธอคิดกลับกลายเป็นม้าน้ำตัวเล็กสีส้มซะงั้น เด็กสาวใจดีจึงไม่รอช้า รีบนำม้าน้ำตัวน้อยใส่ถังทรายของเธอทันทีพร้อมกับเติมน้ำเข้าไปเพื่อให้มันมีชีวิตต่อไปได้ จากนั้นแม่หนูคนดังกล่าวก็นำม้าน้ำที่เธอช่วยชีวิตไปให้คุณแม่ของเธอดู และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็เลยตัดสินใจช่วยชีวิตมันโดยการพาไปยังศูนย์ช่วยเหลือ Clearwater Marine Aquarium     ทางทีมช่วยเหลือจึงจัดการนำเจ้าม้าน้ำผู้รอดชีวิตใส่ไว้ในตู้กระจกเพื่อให้มันได้พักฟื้นร่างกายอย่างปลอดภัย และแน่นอนว่าเจ้าม้าน้ำก็ได้ชื่อว่า “ชีโตส” จากแม่หนูผู้ช่วยชีวิตนั่นเอง ทางด้านทีมกู้ภัยก็ได้พูดถึงเจ้าชีโตสว่า มันน่าจะเป็นม้าน้ำเพศเมียสายพันธุ์ Lined Seahorse และมันก็โชคดีมากๆ ที่รอดมาจากเหล่านกนางนวลได้ แถมเหตุการณ์รอดชีวิตของมันก็เกิดถูกที่ถูกเวลามากๆ ถ้าหนูน้อยผู้ช่วยชีวิตไม่อยู่ใกล้ๆ มันคงจะตายไปแล้วล่ะ     หลังจากเหตุการณ์ที่เจ้าชีโตสถูกช่วยชีวิตและมาถึงศูนย์ก็นับเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว แน่นอนว่าเหล่าเจ้าหน้าที่ก็ดูแลมันอย่างใกล้ชิด ขนาดที่ว่าทีมงานได้ติดตั้งกล้องไว้เพื่อถ่ายทอดสด และให้คนได้ดูความเคลื่อนไหวมันตลอดเวลาเลยทีเดียว   .   สุดท้ายเมื่อถึงเวลาที่ทีมงานคิดว่าเจ้าชีโตสหายดีแล้วจนพร้อมจะกลับบ้าน พวกเขาก็ได้เตรียมความพร้อมเพื่อพามันกลับสู่ธรรมชาติเสียที แม้ในตอนแรกเจ้าชีโตสดูทำท่าจะไม่อยากจากเหล่าคนที่ดูแลมันมา แต่สุดท้ายธรรมชาติก็เรียกหาและมันก็ว่ายจากไป แต่แม้ตัวมันจะจากไปแล้วความทรงจำดีๆ ของมันก็จะยังคงอยู่ในใจของทีมงานและสาวน้อยผู้ช่วยชีวิตตลอดเสมอ…     โชคดีนะเจ้าม้ชีโตส อย่าพลาดโดนนกจับไปอีกล่ะ ที่มา:thedodo

ปกติของคนทั่วไป ถ้าพูดถึงคาเฟ่สัตว์ต่างๆ ก็คงจะต้องนึกถึงเหล่าสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอย่างแมว หมา หรือสัตว์น่ารักอื่นๆ เป็นต้น แต่เคยคิดไหมว่าจะมีคนทำคาเฟ่หนูบ้าง สัตว์ที่คนส่วนใหญ่มักจะมองว่าเป็นพาหะของโรคต่างๆ… เชิญพบกับ Rat Cafe หนึ่งในร้านที่อยู่ใน The San Francisco Dungeon สถานที่ผจญภัยสุดแปลกที่จะให้เวลาผู้เข้าชม 60 นาทีในการท่องไปยังสถานที่ต่างๆ ในบริเวณท่าเรืออายุกว่า 200 ปี ซึ่งคาเฟ่หนูก็เป็นหนึ่งในฉากของการผจญภัยดังกล่าวนั่นเอง     เจ้าของร้านอย่าง Matthew Clarkson ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับตัวร้านว่า “พวกเราต้องการจะมอบประกบการณ์ความสนุกแบบใหม่ให้กับลูกค้า ซึ่งพวกเขาก็จะได้เจอกับเหล่าหนูตัวป่วนที่วิ่งไปทั่วทั้งร้าน และคุณจะหาอะไรแบบนี้ไม่ได้ที่ไหนนอกจาก The San Francisco Dungeon ของเรา” ส่วนใครที่สนใจคาเฟ่หนูดังกล่าวอยู่แล้วล่ะก็ เพียงแค่จ่ายเงินราวๆ 1,700 บาท คุณก็จะได้สิทธิ์เข้าไปท่องเที่ยวใน The San Francisco Dungeon แล้วล่ะ แถมยังมีเวลากว่า 15 นาทีเพื่อจะได้เล่นกับเหล่าหนูน้อยตัวเล็กน่ารักที่วิ่งพล่านไปบนตัวคุณอีกด้วย   .   ส่วนถ้าใครคิดว่าหนูพวกนี้จะเป็นพาหะของโรคแล้วดูไม่สะอาดก็ไม่ต้องห่วงไป เพราะหนูที่ทางร้านได้นำมาเป็นหนูที่ถูกเลี้ยงอย่างสะอาดโดยองค์กรไม่หวังผลที่ชื่อว่า Rattie Ratz ซึ่งพวกเขาพยามที่จะเลี้ยงหนูให้เหมือนกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ อย่างหมาแมวนั่นเอง แน่นอนว่าการที่หนูเป็นสัตว์ที่ถูกชาวเมืองรังเกียจกันมานาน…

เกิดเรื่องน่าเศร้ากับเจ้าตูบตัวหนึ่ง ซึ่งไม่มีใครทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับมันนั้นเป็นอุบัติเหตุหรือการถูกมนุษย์ทำร้าย เจ้าหมาผู้น่าสงสารถูกพบบริเวณถนนในสภาพที่แย่มาก แทบจะทุกส่วนของร่างกายมันถูกเคลือบด้วยน้ำมันที่เหนียวและหนาอย่างมาก แต่ด้วยความรักและความอดทนของผู้ใจบุญ ก็สามารถช่วยให้เจ้าตูบกลับมาสะอาดและมีความสุขได้อีกครั้ง     ชายหนุ่มผู้ใจดี 2 คนพบเจ้าสุนัขหลงทางตัวนี้เข้าระหว่างที่พวกเขากำลังเดินอยู่บนถนนสายหนึ่งใกล้กับสนามกีฬา Lanus ในประเทศอาร์เจนตินา เจ้าหมาอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มาก ตัวของมันนั้นเต็มไปด้วยน้ำมัน ชายหนุ่มทั้งสองจึงขอความช่วยเหลือจากคุณตำรวจเพื่อหาทางช่วยเจ้าสุนัขเคราะห์ร้ายตัวนี้ ไม่นานอาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์จากกลุ่ม Zoonosis Lanus ก็ได้เข้ามาช่วยเหลือเจ้าตูบ ถึงแม้ว่าสภาพของมันจะดูแย่ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะช่วยเหลือมัน     เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงในการล้างทำความสะอาดคราบน้ำมันที่อยู่บนตัวเจ้าตูบ ถึงแม้พวกเขาจะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แต่เจ้าหน้าที่ก็พยายามที่จะช่วยมันอย่างเต็มความสามารถ และด้วยความตั้งใจของพวกเขาเจ้าตูบก็เริ่มกลับมามีสภาพเหมือนเดิมอีกครั้ง พวกเขาตั้งชื่อให้กับมันว่า Petro แต่ภารกิจช่วยชีวิตของเจ้าตูบยังไม่สิ้นสุดพวกเขายังคงต้องทำความสะอาดให้มันอีกเล็กน้อยในวันรุ่งขึ้น     เจ้าหน้าที่หลายคนใช้เวลาอย่างยาวนานเพื่อช่วยกันทำความสะอาดให้เจ้า Petro .   คราบของน้ำมันยังคงหลงเหลืออยู่บ้างตามขนของเจ้าตูบ   Petro กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง เรื่องราวการช่วยชีวิตของมันถูกพูดถึงอย่างมากในประเทศอาร์เจนตินา ตอนนี้มันยังคงต้องพักรักษาตัวอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เพื่อให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์เหมือนเดิมอีกครั้ง แต่ด้วยความรักและความห่วงใยของอาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์จากกลุ่ม Zoonosis Lanus คงจะทำให้ Petro กลับมามีความสุขได้เร็วๆ นี้อย่างแน่นอน   ที่มา thedodo

ปกติเราเคยเห็นแต่นกเอี้ยงเกาะบนหลังควาย ซึ่งเป็นภาพที่เราคุ้นตากันดี แต่ไก่ขี่หลังลานี่ไม่ค่อยคุุ้นแฮะ แถมเกาะติดหนึบแบบไม่ยอมลงด้วยนะ เมื่อเดือนมีนาคมในปีนี้ มีคนพบไก่ตัวหนึ่งกำลังจะเดินข้ามถนนที่เต็มไปด้วยรถรา และเดินตามคู่รักคู่หนึ่งที่เข้าไปในห้าง Petco     ไม่มีใครรู้ว่าไก่ตัวนี้มาจากไหน พนักงานของห้าง Petco จึงได้โทรหา Sue Chapman ผู้ก่อตั้ง  Becky’s Hope Horse Rescue ใน Frisco รัฐเท็กซัส เพื่อให้มารับไก่ตัวนี้ไป หลังจากที่ไปรับไก่มา Sue ก็ตั้งชื่อให้มันว่า Dora ตั้งแต่นั้นมามันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวสัตว์ที่ถูกรับเลี้ยงใน Becky’s Hope ซึ่งมีทั้งม้าที่ถูกช่วยจากการถูกฆ่าและลาอีกจำนวนหนึ่ง     Missy Smith อาสาสมัครใน Becky’s Hope บอกว่า “ตอนแรกที่เราพบ Dora มันยังเป็นแค่ลูกเจี๊ยบตัวจิ๋ว แต่ตอนนี้มันโตขึ้นมาเกือบ 3 เท่าตัวเลยค่ะ” Dora เติบโตขึ้นท่ามกลางเพื่อนๆ ต่างสายพันธุ์ แต่มันกลับสนิทกับพวกมันทุกตัวในเวลาอันรวดเร็ว และก็ชอบขึ้นไปขี่หลังของเพื่อนๆ ทุกตัวด้วย     ไม่ใช่แค่ขี่หลังเพื่อนเท่านั้น บางทีถ้าเจ้าหน้าที่เข้าไปทำความสะอาดคอกม้า คอกลา Dora ยังกระโดดเกาะแขนเพื่อเรียกร้องความสนใจอีกด้วย ทุกคนจึงได้รู้ว่าที่มันชอบกระโดดขี่หลังเพื่อนๆ เป็นเพราะมันอยากอยู่ใกล้ชิดกับเพื่อนที่มันรักนั่นเอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลมันด้วย    …

ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการพาไปรู้จักกับพวกแมวเหมียวจากทางบ้าน และคราวนี้น่าจะเป็นครั้งที่ 745 ได้ ที่เราจะพาไปรู้จักกับแมวเหมียวผู้มีหน้าเหมือนตัวเกรมลินส์   นี่คือเจ้าโมโม่ ถ้านึกไม่ออกว่ามันเหมือนเกรมลินยังไง ลองไปดูภาพต่อไปเลย…   นี่คือภาพตัวอย่างเจ้าเกรมลินส์ ที่เคยปรากฎตัวในโลกภาพยนตร์   แต่จริงๆ แล้วโมโม่มีชื่อจริงว่า มอลลี่ ไม่มีนิสัยที่ดุร้ายเหมือนพวกตัวเกรมลินส์หรอกนะ   อีกหนึ่งความสามารถที่ไม่มีใครเหมือนก็คือ… การหุบลิ้นไม่ได้เนี่ยแหละ   ไม่ว่าจะนั่ง เดิน ยืน หรือนอน ก็มักจะมีลิ้นโผล่ห้อยออกมาจากปากตลอดเวลา   ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าโมโม่ ก็เคยเป็นเหมียวจรจัดไร้คนดูแลมาก่อนเหมือนกัน   จนกระทั่งวันหนึ่งมีทาสมนุษย์ใจดีไปพบเข้า จึงอาสารับเลี้ยงมาตั้งแต่ตอนนั้น   พูดได้เต็มปากว่าทุกวันนี้โมโม่มีชีวิตที่ดี๊ดี เพราะนอกจากกินกับนอนแล้ว โมโม่ก็ไม่ต้องทำอะไรอีกเลย   ตอนนี้ก็ได้เวลานอนของโมโม่แล้ว เอาเป็นว่าไว้มีโอกาสจะมาอวดโฉมความน่ารักใหม่นะ แบร่..!! ที่มา: Boredpanda

แมวถือเป็นสัตว์ที่เราเดาอารมณ์ของมันไม่ได้จริงๆ มันเหมือนมีประมาณหนึ่งล้านอารมณ์ในตัวเดียว บางทีเราก็ไม่รู้ว่าถ้าเราไปเล่นกับมันตอนนี้ เราจะได้แผลกลับคืนมาหรือไม่ ต้องบอกเลยว่าใครที่เคยเลี้ยงแมวคงจะเข้าใจฟีลลิ่งตอนที่แมวโกรธเป็นอย่างดี มันเป็นอะไรที่น่ากลัวเกินจะเข้าไปยุ่งด้วย เพียงแค่คุณไปแตะเนื้อต้องตัวมัน คุณก็อาจจะได้เส้นสีแดงๆ มาประดับร่างกาย ถ้าเลวร้ายหน่อยก็อาจจะมีน้ำแดงๆ ไหลมาด้วย   ที่มาจับคางได้นี่อนุญาตรึยัง   สิ่งที่ทำให้เจ้าเหมียวโมโหก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง เช่นเวลามันเจอคนแปลกหน้า ไปอยู่ที่ใหม่ๆ หรือไม่ก็มีแมวอื่นมายั่วมัน ในเวลาแบบนี้เราไม่ควรไปอุ้มหรือไปยุ่งกับมันเลย มันอาจจะกัดหรือจะข่วนได้ ถึงแม้ว่ามันจะดูน่ายั่วให้โมโหก็เถอะ ถือว่าเตือนแล้วกันนะ   ย๊ากกกกกกกก   แต่ถ้าคุณไม่เคยเห็นแมวพิโรธแล้วล่ะก็ วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปดูเหล่าแมวอารมณ์ร้อนที่พร้อมจะทำร้ายคุณได้ทุกเมื่อ เห็นแค่ภาพอาจจะดูน่ารักนะ แต่พอเจอจริงๆ บอกเลยว่ามีหนาว   อย่ามาแตะแตงโมของฉันนะ   ใช่เพื่อนเล่นมะ   อุ้มให้มันดีๆ หน่อย   ไหนพูดอีกทีซิ   แกกล้าอาบน้ำฉันเรอะะะ   เอาอาหารมา ให้ไว   อย่างมายุ่งกับเตียงชั้นนนน   ทำไมถึงกลับบ้านช้าาาา   แฮ่! อ่าว ภาพสะท้อนเราเองนี่หน่า  …

เป็นธรรมดาที่ทุกชีวิตต้องการคนเคียงข้างในยามที่เจ็บป่วย หรือตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก แม้แต่เจ้าพวกนกแก้วที่ดูเหมือนจะไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็เหมือนกัน วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวสุดน่ารักของคู่หูนกแก้ว Coco และ Lucky สองนกเพื่อนซี้ที่ผ่านช่วงเวลาแสนยากลำบากมาด้วยกันมากมาย   น่าเสียดายที่ตอนนี้เจ้า Lucky ป่วยเป็นมะเร็ง และต้องเข้ารับการรักษาตัว   ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยอาศัยอยู่กับเจ้าของเก่าในแคนาดา ทว่าวันหนึ่งพวกเขาก็เอามันมาปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นหน้าที่ดูแลของ World Parrot Refuge ในเมืองแวนคูเวอร์   ‘สำหรับ Lucky แล้วตอนนี้มันป่วยเป็นมะเร็ง ขนของมันร่วงลงมากขึ้นทุกวัน และมันต้องการๆ ดูแลอย่างดีเป็นพิเศษ’ Danita Morrison เจ้าของศูนย์พักพิงเล่า   จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว ศูนย์ช่วยเหลือที่พวกมันเคยอาศัยอยู่เกิดวิกฤตทางการเงิน และทั้งคู่ต้องย้ายที่อยู่อาศัยอีกครั้ง   ทว่าด้วยอาการโรคมะเร็งทำให้เจ้า Lucky ต้องไปอาศัยอยู่ที่โรงพยาบาล ทำให้เจ้า Coco รู้สึกคิดถึงเพื่อนรักเป็นอย่างมาก ถึงกับร้องไห้น้ำตาไหลออกมาเลยก็มี   ‘ตั้งแต่ที่ Lucky ต้องย้ายไปอยู่โรงพยาบาลเจ้า Coco ก็ดูซึมเศร้าขึ้นมาทันที สุดท้ายฉันก็ต้องพาพวกมันทั้งคู่มาเจอกันบ่อยๆ ให้ได้’ Danita เล่าเสริม   ‘ทันทีที่ทั้งคู่ได้เจอกัน พวกมันก็บินเข้าไปเอาจงอยปากมาสัมผัสกัน…

เวลาเราไปร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลฟเว่น สิ่งหนึ่งที่เราพบเจอเป็นประจำจนแทบจะกลายเป็นเอกลักษณ์ของเซเว่นฯไปแล้ว นั่นก็คือน้องหมาที่นอนตากแอร์อยู่หน้าประตูนั่นเอง แต่รู้หรือไม่ ตอนนี้ไม่เพียงแค่น้องหมาเท่านั้นที่ยึดครองพื้นที่เหล่านั้น เจ้าเหมียวก็เริ่มทำเข้าครอบครองเซเว่นฯ กันบ้างแล้วเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ ลองไปชม 19 ภาพที่ #เหมียวอ๊อดโด้ นำมาให้ชมวันนี้สิ รับรองจะรู้เลยว่า เซเว่นฯ ไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยจากเจ้าเหมียวอีกต่อไปแล้ว!!   หึหึ เจ้าพวกมนุษย์คิดว่าที่นี่ปลอดภัยสินะ   พวกนายคิดผิดแล้ว   ตอนนี้เราได้วางกำลังไว้ทั่วประเทศแล้ว   ไม่ว่าจะที่นี่   ที่นี่   หรือว่าที่นี่   บางทีพวกนายก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่ามีพวกเราอยู่ .   แต่ไม่ต้องกังวล   ถ้าทำตัวดีๆ มีของมาถวายเสมอ เราจะปราณีพวกนาย . . .   อย่าคิดว่าเราไม่เห็น   เราจับตาดูพวกมนุษย์ตลอดเวลา   ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์สัญชาติใดก็ตาม .   แต่บางทีก็ต้องมีแอบอู้กันบ้าง -*-   และไม่ใช่แค่เมืองไทย พวกเราจะยึดครองไปทั่วโลก…!!!   อื้อหือ…

Tyler McCready เด็กชายจากรัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ประสบกับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และต้องพึ่งพาเครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดตลอดเวลาแต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า ช่วงเวลาใดที่น้ำตาลในเลือดของเขาจะต่ำลง จนวันหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนเขาเข้าสู่อาการโคม่าอย่างเฉียบพลัน ทำให้ครอบครัวของเขาต้องหาผู้ช่วยมาดูแลเขา นั่นก็คือเจ้า Sinatra สุนัขที่ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อตรวจเช็คอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัว Tyler     นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มาทั้งคู่ก็กลายเป็นคู่หูที่ไม่เคยห่างจากกันเลย Tyler ได้เล่ากับว่า “Sinatra จะคอยบอกผมตลอดว่าเวลาไหนที่น้ำตาลในเลือดของผมลดลงต่ำ ทำให้เขากลายเป็นผู้ช่วยชีวิตผมมากกว่าพันๆ ครั้งเลยล่ะ” นอกจากนั้นก่อนที่ Tyler จะได้เจอกับ Sinatra เขาเคยอยู่ในจุดที่ต่ำสุดของชีวิตเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากโรคที่เขาเป็น หรือจะเป็นการถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อนที่โรงเรียน จนรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอก ทำให้เขาเคยคิดเกือบจะฆ่าตัวตายเลยทีเดียว     แต่นับตั้งแต่พวกเขาได้เจอกัน ชีวิตของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปกลายเป็นเพื่อนที่ขาดกันไม่ได้ การมีตัวตนอยู่ของ Sinatra นั้นทำให้ Tyler มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีตลอดเวลา จนในที่สุดเรื่องราวของเขาก็เป็นที่รู้กันไปทั่วโรงเรียน และทุกคนก็เหมือนจะเข้าใจพร้อมกับเลิกแกล้งเขาในที่สุด นอกจากนั้นทั้งคู่ยังขาดกันไม่ได้เลย เพราะขนาดในหนังสือรุ่น รูปของ Tyler ยังต้องมี Sinatra ด้วย     ดูแล้ว Tyler จะรักเพื่อนของเขามากๆ เลยนะเนี่ย   เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี…

ถ้าให้เปรียบเทียบสุนัขกับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น พวกมันก็คงจะถูกเปรียบเทียบกับเด็กๆ อย่างแน่นอน ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะสุนัขส่วนใหญ่จะชอบที่ออกไปวิ่งเล่นสนุกสนานในสถานที่กว้างใหญ่ หรืออาจจะชอบเล่นอะไรสกปรกๆ เป็นบางครั้ง แน่นอนว่ามันก็เด็กๆ เลยใช่ไหมล่ะที่ชอบไปเล่นในสวนสาธารณะ หรือไปเล่นเครื่องเล่นต่างๆ วันนี้เราก็เลยจะมาดูภาพในอิริยาบทต่างๆ ของเจ้าตูบทั้งหลายกันว่า พวกมันจะแสดงออกยังไงกันบ้าง เวลาที่พวกมันไปสวนสาธารณะหรือสถานที่เปิดกว้างกัน จะน่ารักขนาดไหนลองมาดูกันเลยดีกว่า   เปิดมาภาพแรกกับการถ่ายรูปเก๋ๆ ในทุ่งหิมะ ที่ดูแล้วมันจะชิวซะเหลือเกิน   แต่ใช่ว่าสุนัขทุกตัวจะชอบอยู่ข้างนอกนะ   ทว่าบางตัวก็ดูจะเก็บอาการไม่อยู่เมื่อเห็นน้ำ   บางตัวก็ดูกลัวๆ กับการออกไปที่สวนสาธารณะเป็นครั้งแรก   หรือบางครั้งก็อาจจะได้เจอเพื่อนสายพันธ์ุใหม่ จนต้องเกิดอาการสงสัย   เจ้าตัวนี้ช่างเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด เจอน้ำเป็นไม่ได้เลอะตลอด   ส่วนถ้าสวนสาธารณะไหนมีของเล่น ก็ไม่พลาดที่จะไปเล่นซะหน่อย   ส่วนเจ้าตัวนี้ก็ดูจะเศร้าที่โดนกักบริเวณ แต่พ่อหนุ่มคนนี้ดูสะใจที่ได้เยาะเย้ยมากกว่านะ   แต่อย่างน้อยไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ถ้ามีเจ้าของอยู่ด้วย พวกมันก็มีความสุขที่สุดแล้วล่ะ   เจ้าสองตัวนี้อาจไม่ชอบวิ่งเล่น แต่คงชอบรับลมเย็นๆ เสียมากกว่า   ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ กับแสงแดดอ่อนๆ   ทะ ทะ ทุ่งหญ้า!!   นี่คือรูปปั้นสุนัขยอดฮีโร่ผู้ช่วยสวนแห่งนี้ไว้แน่ๆ…

กลับมาอีกครั้งกับช่วงรบกวนตัดต่อภาพนี้ให้หน่อย ซึ่งครั้งนี้ไม่มีมาขอรบกวนตัดต่อให้อีกตามเคย แต่ชาวเน็ตที่มีฝีมือทางด้านการตัดต่อและความตลกในสายเลือด ก็ได้คัดเลือกภาพผู้โชคดี นั่นก็คือเจ้าแมวตัวนี้ นี่คือภาพแมวที่กำลังเป็นที่โด่งดัง เพราะว่ามันดูเหมือนมีครึ่งตัว ไม่มีขาหลัง ซึ่งจริงๆ เป็นแค่มุมภาพเท่านั้นนะ แต่ดูแค่ภาพต้นฉบับก็ว่าฮาแล้ว ยังได้กองทัพชาวเน็ตโฟโต้ช็อปช่วยกันตัดต่อเพิ่มเข้าไปอีก เราไปดูกันว่าจะฮาสักแค่ไหน   อันนี้ภาพต้นฉบับ   โปรแกรมพร้อม ลุย!! . . . . . . . . . . . . . . .   แหม่ อยู่ดีไม่ว่าดี ดันไปถ่ายรูปให้ดูเหมือนมีครึ่งตัวซะได้ เป็นไงล่ะ ดังข้ามคืนกันเลยทีเดียว ที่มา boredpanda, catcatdogcat