Category: สัตว์โลกน่ารัก

เจ้าหมาตัวน้อยพลัดหลงกับเจ้าของระหว่างหนีน้ำท่วม ทำให้มันต้องติดอยู่ตามลำพังในบ้านนานเป็นอาทิตย์ มันคงไม่รอดออกมาแล้วหากทีมกู้ภัยไม่เข้าไปช่วยมันโดยเฉพาะ     ตอนที่พายุฟลอเรนซ์เข้าโจมตีประเทศสหรัฐอเมริกา หญิงคนหนึ่งกับเจ้าหมาพันธุ์มัลตีสเทอร์เรียร์ชื่อ Soshe พลัดหลงจากกันระหว่างอพยพ เธอเป็นห่วงมันมาก แต่ก็ทำได้แค่โทรบอกให้เพื่อนว่าถ้าผ่านไปแถวบ้าน ช่วยแวะไปดูให้ด้วยว่าเจ้าหมายังอยู่ในนั้นไหม แล้วปลอดภัยดีอยู่รึเปล่า เมื่อเรื่องนี้ไปถึงหูของทีมกู้ภัย พวกเขาก็เลยจัดทีมเพื่อเข้าไปช่วยเจ้า Soshe ในบ้านที่น้ำท่วมสูงถึงหลังคาโดยเฉพาะ     ทีมกู้ภัยพยายามเข้าไปช่วย Soshe อยู่หลายครั้ง แต่เนื่องจากน้ำสูงเกินไปจึงเข้าไปหามันไม่ได้ จนกระทั่งเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์น้ำก็ลดลงต่ำพอที่พวกเขาจะเข้าไปสำรวจบ้านได้ ทันทีที่เข้าไปใกล้ตัวบ้านพวกเขาก็ได้ยินเสียงเจ้าหมาเห่าขอความช่วยเหลืออยู่ เมื่อพังประตูเข้าไปเลยเห็นว่ามันนั่งรออยู่บนโซฟามาตลอด 1 สัปดาห์เลยรอดชีวิตมาได้     ทีมกู้ภัยไม่รอช้า พวกเขาว่ายน้ำเข้าไปในบ้านแล้วเอาตัว Soshe ออกมาที่เรืออย่างปลอดภัย เจ้าหมาดูโล่งใจมากขึ้นเยอะเลยที่ได้เจอคนแล้ว พอเอาข้าวให้มันกินเจ้าหมาก็กินอย่างเอาเป็นเอาตายเลย คงเป็นเพราะมันแทบไม่ได้กินอะไรมาทั้งอาทิตย์ ตอนนี้ก็เลยกอบโกยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้     ไม่ต้องกลัว ตอนนี้ปลอดภัยแล้วนะ   เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้เวลาหิวก็กินเยอะเหมือนกัน   หลังจากเห็นมันกลับมาแข็งแรงดีแล้ว พวกเขาก็พาเจ้าหมาไปอยู่กับหญิงที่เป็นคนรู้จักของเจ้าของมัน เนื่องจากตอนนี้เจ้าของของมันอยู่ไกลกับมันมาก เธอบอกว่าตอนที่เธอโทรไปบอกเจ้าของว่า Soshe ปลอดภัยอยู่กับเธอแล้ว เจ้าของของมันดีใจมากจนร้องไห้ออกมาเชียวนะ ขอให้ทั้งคู่ได้เจอกันไวๆ…

ไม่รู้เหมือนกันว่าการที่พี่น้องแมวได้กลับมาเจอกัน เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญหรือว่าโชคชะตา แต่ถ้าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ มันก็ดูจะประจวบเหมาะเกินไป ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว Cathleen Cavin และลูกสาวกำลังหาแมวตัวใหม่มาเลี้ยงอยู่ พวกเธออยากเลี้ยงแมว 2 ตัว ก็เลยเล็งพี่น้องแมวคู่หนึ่งไว้     แต่เจ้าของที่ก็อนุญาตให้เธอเลี้ยงแมวในบ้านเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น เธอเลยรับเจ้าเหมียว Ozzie มาตามลำพัง หลังรับมันมาเจ้าแมวก็ร้องไม่หยุดเลย เหมือนมันกำลังมองหาพี่น้องของมันอยู่ ตอนนั้นลูกสาวของเธอเป็นห่วงเจ้าแมวมาก เธอเลยสัญญากับลูกว่าเธอจะหาพี่น้องของมันให้เจอแล้วพามาอยู่ด้วยกันให้ได้ โดยที่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปตามหามันได้ยังไง     ในปีถัดมาเธอได้เจอ Brian Herrera ทางแอปพลิเคชันหาคู่ที่ชื่อว่าทินเดอร์ เขาเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกสาวติดเหมือนกัน แต่ตอนแรกเธอก็ไม่ได้สนใจเขามาก กว่าจะได้นัดเจอกันจริงๆ ก็ปาเข้าไปปี 2016 โน่น ตอนที่ทั้งคู่ไปทานข้าวเย็นด้วยกันในบ้านของฝ่ายชาย เธอก็สังเกตเห็นแมวตัวที่เหมือนกับของเธอไม่มีผิด มันคือ Butter ซึ่งเป็นแมวที่ Brian เลี้ยงไว้ เธอบอกเขาว่าเธอมั่นใจมากว่ามันคือพี่น้องของแมวที่เธอเลี้ยงไว้ และวันหนึ่งเมื่อเธอกับเขาสนิทกันมากพอ เธอจะพาเขาไปที่บ้านเพื่อให้เจ้าแมว 2 ตัวได้เจอกัน     ความสัมพันธ์ของ Cathleen กับ Brian ค่อยๆ พัฒนาไปทีละนิด…

ไม่ได้มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้ สัตว์อื่นอย่างหมาหรือแมวเองก็มีอารมณ์ศิลปะเหมือนกัน ถึงผลงานที่พวกมันสร้างจะไม่ได้สวยงามและละเอียดเท่ามนุษย์ก็ตาม เดี๋ยวเราจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับเจ้าสัตว์ศิลปินส่วนหนึ่งที่เคยสร้างผลงานไว้ให้มนุษย์ได้ชมกัน แถมบางชิ้นยังขายได้เงินเยอะกว่ามนุษย์ด้วยนะ   Jumpy   Jumpy เป็นหมาที่วาดรูปแนวแลนด์สเคป หรือก็คือวิวสวยๆ มาหลายรูปแล้ว ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่เจ้าของจะช่วยผสมสีและชี้ทางวาดให้ แต่ลายเส้นทั้งหมดก็เป็นของเจ้าหมานั่นแหละ   Dagger   เจ้าหมาตัวนี้มีอีกชื่อหนึ่งในหมู่คนที่รู้จักมันว่า DogVinci มันวาดภาพแนวแอ๊บสแตรกมากมาย รวมแล้วขายได้เงินหลายแสนบาทเลยทีเดียว แถมยังบริจาคเงินที่ขายรูปให้การกุศลด้วยนะ   ช้างไทย   รู้รึเปล่าว่าช้างในศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยของเราวาดรูปได้สวยมากๆ เลย แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าพู่กันจะหลุดเข้าไปในงวงของช้างด้วย เพราะคนดูแลเขาออกแบบพู่กันให้มันใช้เป็นพิเศษ   Metro   Metro เคยเป็นม้าแข่งมาก่อนจนกระทั่งมันบาดเจ็บที่ขา จากนั้นมันก็มาอยู่กับเจ้าของใหม่ซึ่งเห็นว่ามันชอบตวัดหัวขึ้นลง เขาก็เลยเอาพู่กันให้มันเพื่อวาดงานศิลปะออกมาซะเลย งานศิลปะของมันรวมกันแล้วขายได้เงินเป็นมูลค่ากว่าล้านบาทเลยทีเดียว แล้วมันก็ใช้เงินจากตรงนี้แหละไปผ่าตัดรักษาขาของตัวเอง   Grizzler   อาวุธของ Grizzler ไม่ใช่พู่กัน มันใช้กล้องถ่ายรูปถ่ายสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวันแทน โดยเจ้าของตั้งค่าให้กล้องของมันถ่ายรูปเมื่ออัตราการเต้นหัวใจของเจ้าหมาสูงถึงระดับหนึ่ง ทำให้เขาได้เห็นว่ามันตื่นเต้นกับอะไรในชีวิตประจำวันบ้าง   นก Bowerbird   นกชนิดนี้มีความเป็นศิลปินอยู่ในตัวตั้งแต่เกิด นกตัวผู้จะไปรวบรวมของทุกอย่างที่หาได้มา แล้วเรียงเป็นรูปสวยงามเพื่อจีบตัวเมีย…

วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มารู้จักกับสัตว์ชนิดหนึ่ง ที่หลายคนน่าจะยังไม่รู้จักกัน แต่ความน่ารักของมันน่าจะถูกใจทุกคนกันน่าดูเลย เจ้าสัตว์ที่ว่าก็คือเจ้ากระต่ายหน้าง่วง วิสคาช่า (Viscacha) นั่นเอง ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเราไม่รู้จักชื่อหรือหน้าของมันเลย นั่นเป็นเพราะว่าแถวบ้านเราไม่มีเจ้าตัวนี้ยังไงล่ะ     หาวววววว   วิสคาช่าเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ จริงๆ แล้วพวกมันไม่ใช่กระต่ายหรอก ถึงหน้าตาของพวกมันจะเหมือนกระต่ายมาก แต่พวกมันเป็นสัตว์จำพวกหนูต่างหาก ที่น่ารักมากๆ ก็คือหน้าตาของพวกมันนี่แหละ เนื่องจากหน้าตาของพวกมันจะดูง่วงเป็นธรรมชาติตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจริงๆ พวกมันจะไม่ได้ง่วงเลยสักนิดก็ตาม     นอกจากพวกมันจะอาศัยอยู่แค่ในทวีปอเมริกาใต้แล้ว ก็ยังมีสายพันธุ์หลากหลาย ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะอาศัยอยู่ในเขตหรือพื้นที่ที่แตกต่างกันด้วยอีกต่างหาก อย่างเช่น Plains Viscacha เป็นสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในที่ราบแถบประเทศอาร์เจนติน่า  ส่วน Northern Viscacha เป็นสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่แถบภูเขาหิมะและป่าทึบของเทือกเขาแอนดีส     ส่วนอาหารของพวกมันก็จะเป็นพืชจำพวกหญ้า หรือไม่ก็มอสส์ที่ขึ้นอยู่บนไม้ มันจึงไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์ตัวอื่น แต่เสี่ยงโดนสัตว์อื่นล่ากินซะมากกว่า อย่างไรก็ตามสิ่งที่วิสคาช่าทุกสายพันธุ์มีร่วมกัน ก็ยังเป็นเป็นความน่ารักจากหน้าง่วงๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของมันอยู่ดี ถึงจุดนี้เราเชื่อว่าทุกคนคงหลงรักมันเข้าแล้ว     เราไม่ได้ยืนหลับนะ กำลังรับลมเฉยๆ   แม้แต่ตอนกินก็ดูเหมือนกำลังง่วง   บางทีดูไม่ออกเลยจริงๆ ว่ามันหลับอยู่รึเปล่า   เห็นแบบนี้เวลามีอันตรายพวกมันก็หนีไวนะ  …

ลูกแมวตัวน้อยอยู่ตามลำพังในลานทิ้งขยะแห่งหนึ่ง พอมันเห็นว่ามีคนผ่านมา มันก็เลยร้องขอความช่วยเหลือจนเธอพามันกลับไปอยู่ในบ้านที่ปลอดภัย วันหนึ่งตำรวจหญิง Tara จากรัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ไปทำธุระแถวลานทิ้งขยะ ตอนที่เธอกำลังจะกลับเธอก็ได้ยินเสียงร้องเหมียวๆ มาจากใต้ท้องรถ แล้วเจอลูกแมวตัวหนึ่งในนั้น     มันดูเด็กเกินกว่าจะดูแลตัวเองได้ แล้วในแถบที่เธออยู่ก็กำลังจะมีพายุเข้าพอดี เธอไม่อยากทิ้งมันไว้ตามลำพัง จึงพาลูกแมวตัวนั้นกลับบ้านไปด้วยกัน เธอตั้งชื่อลูกแมวว่า Storm น่าจะเป็นเพราะว่าเจอมันตอนที่พายุมาพอดีนั่นเอง แล้วก็เนื่องจากมีพายุเข้า เธอก็เลยพามันไปส่งศูนย์พักพิงสัตว์ไม่ได้ด้วย จึงต้องดูแลมันอยู่ในบ้านด้วยตัวเอง     เมื่อเข้ามาถึงในบ้านเจ้า Storm ก็กินข้าวอย่างเอาเป็นเอาตาย ก่อนหน้านี้มันคงจะอยู่อย่างอดอยากมาก่อน พอมีอาหารให้กินก็เลยจัดซะเต็มที่     อีกไม่กี่วันต่อมาจู่ๆ เจ้าแมวก็ป่วยแล้วก็ไม่กินข้าวอีก Tara ก็เลยพามันไปหาสัตวแพทย์ เขาบอกว่ามันเป็นโรคเซื่องซึม ให้ทำให้ร่างกายมันอบอุ่นและป้อนอาหารเสริมให้เดี๋ยวก็หายเอง หญิงสาวก็เลยอยู่ดูแลและป้อนอาหารให้มันด้วยตัวเองทั้งวัน จนวันต่อมาเจ้า Storm ก็หายดีแล้วกลับมาร่าเริงอีกครั้งหนึ่ง     มีคนดูแลมันดีแบบนี้เอง   หลังจากที่ Storm กลับมาแข็งแรงแล้ว Tara ก็ไม่มีโอกาสพามันไปที่ศูนย์พักพิงอีกเลย เพราะว่าเพื่อนตำรวจของเธออีกคนหนึ่งเห็นเจ้าแมวเข้า แล้วก็ชอบมันมากจนขอรับมันเลี้ยงเอาไว้ Tara เล่าว่า “มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอดมาก…

การแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมโลกของคนแค่คนเดียวอาจจะเปลี่ยนโลกไม่ได้ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผู้คนรู้สึกประทับใจเมื่อได้เห็นการกระทำแบบนั้น และนี่คืออีกหนึ่งโมเมนต์ดีๆ ที่ถูกแชร์ในโลกออนไลน์ ซึ่งสร้างความประทับใจ ความอบอุ่นใจ และรอยยิ้มให้ผู้คนเกือบทั่วโลก     Pamela Altamirano Sanchez ได้โพสต์วิดีโอสั้นๆ นี้เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะถ่ายที่ประเทศเอกวาดอร์… ในคลิปนั้นเผยให้เห็นชายชราคนหนึ่ง ที่มีความสุขกับการให้น้ำสุนัขบนถนน เนื่องจากสุนัขตัวนั้นไม่สามารถกินน้ำเองจากก๊อกน้ำได้ ชายชราจึงตวงน้ำใส่มือแล้วเดินมาให้เจ้าหมากิน นี่เป็นเรื่องง่ายที่ใครก็ทำได้ แต่น่าแปลกที่เราไม่ค่อยได้เห็นภาพแบบนี้     Sanchez เขียนไว้ในโพสต์ดังกล่าวว่า “นี่คือความรัก… ยังมีคนดีๆ อยู่บนโลก” แม้ว่าวิดีโอนี้จะสั้นและมีเนื้อหาน้อยมาก แต่ความเมตตาของชายชราและการตอบสนองอย่างอ่อนโยนของสุนัข ทำให้ทุกคนที่ได้ดูรู้สึกอบอุ่นหัวใจ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวิดีโอนี้ถึงถูกแชร์ในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว     เพียงไม่กี่วันก็มีคนเข้ามาดูวิดีโอดังกล่าวนี้มากกว่า 10 ล้านครั้ง … การแสดงความรักต่อเพื่อร่วมโลกไม่ใช่เรื่องยาก อยู่ที่ว่าเราจะลงมือทำหรือเปล่า และนี่อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนลุกขึ้นมาทำแบบเดียวกับที่ชายชราคนนี้ทำก็ได้   ที่มา thedodo

ใครกำลังเครียดหรือรู้สึกแย่ๆ ลองแวะเข้ามาทางนี้ก่อน เรามีภาพน่ารักๆ มาช่วยทำให้ทุกคนอารมณ์ดีกันยิ่งขึ้น ซึ่งก็คือภาพน้องสัตว์น่ารักกำลังนอนหลับปุ๋ยไงล่ะ การมองน้องหมาน้องแมวนอนหลับจะช่วยให้เพื่อนๆ รู้สึกจิตใจสงบได้ เหมือนกับที่พวกมันกำลังหลับอย่างมีความสุขอยู่นั่นเอง แต่เราไม่แนะนำให้เพื่อนๆ ดูตอนกำลังทำงานอยู่นะ เพราะถ้าเกิดง่วงตามน้องๆ จนทำงานไม่เสร็จขึ้นมาละแย่แน่เลย   กอดสกังค์นอนไม่เหม็นเหรอจ้ะ   นอนม้วนของจริง   แบบนี้เรียกว่านอนกอดตุ๊กตาได้ไหม   พี่น้องต้องนอนให้เหมือนกัน   ไม่อยากปลุกน้องเลย เดี๋ยวน้องตื่นค่อยขับรถกลับแล้วกัน   แมวมันหลับได้ทุกที่จริงๆ   เห็นตรงนี้แดดแรงดีสิท่า   แม้แต่ตอนนอนก็ต้องเล่นท่ายาก   จิ้งจอกหลับน่าร๊ากกก   แบบนี้มันนอนสบายจริงเรอะ?   หลับกันหมดเลย สงสัยเล่นกันเยอะจนหมดแรง   อยากนอนใกล้ชิดกับธรรมชาติ   น้องหมีแพนด้าแกล้งตาย   ที่นอนแบบไหนเหมียวก็นอนได้   เขาบอกว่านอนกอดกันมันอุ่นใจกว่า   ไม่รู้ว่าน้องนอนสบาย หรือสลบไปเพราะกลิ่น…   น้องหมากอดพี่หมี   ใช้เพื่อนเป็นหมอนซะเต็มที่เลย   น้องถ่านหมดก่อนถึงที่นอน เปลี่ยนถ่านให้น้องหน่อย  …

เมื่อตอนที่ Lola Ayers กำลังมองหาแมวตัวใหม่ไปอยู่บ้านด้วย เธอได้ลองเดินทางไปดูตามศูนย์พักพิงสัตว์ต่างๆ เพื่อหาแมวที่เหมาะกับตัวเอง และตอนที่เธอได้มาเจอกับ Humphrey แมวที่เกิดมาพร้อมกับดวงตาที่เจริญเติบโตไม่เต็มที่ เธอก็รู้สึกถูกชะตากับเจ้าแมวตัวนี้ทันที     ถึงแม้ Humphrey จะมองไม่ค่อยเห็น แต่มันก็ใช้ประสาทสัมผัสอื่นๆ ช่วยในการนำทางทำให้มันใช้ชีวิตได้เหมือนแมวปกติทั่วไป Lola เล่าว่า “ฉันรู้ว่ามันคือตัวที่ใช่ตั้งแต่เห็นเจ้าแมวครั้งแรกแล้ว เทียบกับแมวตัวอื่นในศูนย์พักพิง ท่าทีที่มันเข้ามาเล่นกับฉันพิเศษมากเลย มันสนิทกับฉันทันทีทันใดเลยล่ะ”     วันนั้นเธอก็เลยทำเรื่องรับเลี้ยง Humphrey แล้วพามันกลับบ้านไปด้วยกัน แต่ก่อนจะกลับเธอก็เหลือบไปเห็นแมวอีกตัวหนึ่งที่มีดวงตาคล้ายๆ กับเจ้าแมวที่เธอเอามาเลย ถึงมันจะค้างคาใจอยู่บ้าง เธอก็ไม่ได้สนใจมันมากนัก     หลายเดือนต่อมาเธอก็ยังคงจำแมวตัวนั้นได้อยู่ เธอเลยลองโทรกลับไปหาศูนย์พักพิงสัตว์เพื่อถามดูว่ามันมีคนรับไปเลี้ยงหรือยัง ตอนนั้นเองเธอก็ได้รู้ความจริงว่าแมวตัวนั้นเป็นพี่น้องที่เกิดมาพร้อมกันกับ Humphrey นี่เอง พอรู้แบบนั้นแล้วเธอก็เลยยินดีรับมันมาเลี้ยงด้วยอีกตัวหนึ่ง     น้องชายของ Humphrey ที่เธอรับมาเลี้ยงชื่อว่า Edgar มันก็เกิดมาพร้อมกับโรคตาเล็กเหมือนกับพี่ชายของมันเปี๊ยบ แต่พ่วงมาด้วยโรคเปลือกตาพัฒนาไม่เต็มที่ด้วยอีกโรคหนึ่ง พอทั้งคู่ได้มาเจอกันอีกครั้งในบ้านของ Lola พวกมันก็จำกันได้ทันที ตั้งแต่นั้นมาพวกมันทั้งคู่ก็จะอยู่ด้วยกันเสมอ     พี่น้องได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าแล้ว  …

สำหรับ Michelle Moore แล้ว เจ้าหมา Jake และ Dutchess เป็นสัตว์เลี้ยงที่พิเศษมากเสมอมา แต่เธอก็ไม่เคยนึกเลยว่าวันหนึ่งพวกมันจะช่วยชีวิตเธอไว้ คืนหนึ่งระหว่างที่ Moore และแฟนหนุ่ม Christopher Creech กำลังนอนหลับอยู่ จู่ๆ Jake ก็โดดขึ้นเตียงมาส่งเสียงเห่าปลุกเธอตอนประมาณตี 1 ครึ่ง แถมยังดึงเคราของแฟนหนุ่มด้วย มันไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย   เจ้า Jake   และ Dutchess   พอตื่นแล้วพวกเธอก็ได้ยินเสียงของ Dutchess เห่าอยู่ไม่ไกลเช่นกัน ระหว่างที่กำลังสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นพวกเธอก็ได้ยินเสียงไม้หักเหมือนมีคนกำลังใช้ขวานจามเข้ามาในบ้าน แล้วก็มีเสียงน้ำไหลเชี่ยวด้วย Creech ตัดสินใจออกไปดูลาดเลาก่อนตามลำพัง โดยปล่อยให้ Moore รออยู่ในห้อง สักพักหนึ่งเขาก็ตะโกนกลับมาด้วยความตกใจว่าบ้านกำลังถล่มแล้ว ให้เธอรีบหนีออกไป     Moore จึงรีบคว้าแว่นกับเจ้าหมาแล้วออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางมีหลายส่วนของบ้านที่พังจนเกิดเป็นหลุมใหญ่ แต่เมื่อเธอเดินตามทางเดินมาเรื่อยๆ ก็พบว่าบ้านพังลงมาปิดทางหนีของเธอซะแล้ว ระหว่างที่เธอกำลังตกใจอยู่ Jake ก็ดิ้นหลุดจากมือเธอแล้ววิ่งกลับเข้าไปหลบในห้องนอน ทั้งแฟนหนุ่มและเธอก็เลยกลับไปเอาตัวมันออกมาด้วยเพราะไม่อยากทิ้งมันไว้     หลังจากได้ตัวเจ้าหมาแล้ว โชคดีที่พวกเขาเจอทางหนีออกมาจากบ้านได้ทันเวลา ทั้ง Moore…

ในศูนย์พักพิงสัตว์แห่งหนึ่งในนครนิวยอร์ก หญิงสาวได้ไปเจอกับแม่ลูกหมาคู่หนึ่ง ทั้งแม่หมาและลูกหมาต่างก็หวาดกลัวคน โดยเฉพาะลูกหมานั้นกลัวจนเอาแต่มุดหน้าลงกับตัวแม่เพื่อหนีสายตาคนที่ผ่านไปเลย ในศูนย์พักพิงสัตว์ที่กำจัดสัตว์ที่ไม่มีคนเลี้ยงแบบนี้ แม่หมา Sadie และลูกหมา Benzy ดูแทบไม่มีความหวังอยู่เลย หญิงสาวก็เลยช่วยทั้งคู่โดยการช่วยแชร์วิดีโอของพวกมันให้คนบนโลกโซเชียลเห็น เผื่อจะมีคนมารับเลี้ยงไวขึ้น     ลูกหมาดูขี้กลัวเอามากๆ   โดยเขียนกำกับวิดีโอไว้ว่า “คุณแม่ Sadie ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะช่วย Benzy ลูกของมันได้ เธอรู้แค่ว่าเธอและลูกกำลังเสี่ยงจะถูกฆ่าหากอยู่ในศูนย์พักพิงแห่งนี้ต่อ พวกเธอถูกทิ้งและลูกของเธอก็กลัวมาก เลยหลบหลังแม่เพราะหวังว่าเธอจะช่วยปกป้องมันได้” คลิปวิดีโอของแม่ลูกหมาคู่นี้ถูกแชร์ต่อไปอย่างกว้างขวาง แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ยังไม่มีใครที่ออกมารับพวกมันออกไปจากศูนย์พักพิงเลย     จนกระทั่ง Dava Hammack ได้เห็นคลิปวิดีโอนี้เข้า เธอเล่าว่า “ฉันเห็นคลิปแล้วก็ตกใจมาก เพราะมีคนแชร์ไปแล้วตั้ง 1,600 ครั้งแต่ยังไม่มีใครมาเอาพวกมันออกไปดูแล หรือว่ารับเลี้ยงพวกมันทั้งที่แชร์ไปขนาดนั้นเลย” เธอเองก็อยู่ห่างจากศูนย์พักพิงของเจ้าหมาโดยต้องขับรถไปตั้ง 9 ชั่วโมง ถ้าจะช่วยรับดูแลแต่พามาอยู่ไกลขนาดนี้ก็แปลกอยู่เหมือนกัน แต่เธอก็ตัดสินใจขับรถไปรับมันมาเพราะไม่อยากทิ้งพวกมันไว้นานกว่านี้แล้ว     ระหว่างทางที่พา Sadie กับ Benzy กลับบ้านพวกมันเอาแต่มองเธอด้วยความระแวง แต่สักพักหนึ่งพอมันเห็นว่าเธอไม่เป็นอันตรายก็เลยหลับได้อย่างสบายใจ โดยที่แม่หมายังตื่นมาดูสถานการณ์เป็นระยะ     หลังจากที่มาอยู่ในบ้านที่อบอุ่นและปลอดภัยแล้ว แม่หมาและลูกหมาก็ดูผ่อนคลายมากขึ้น…

บางสิ่งบางอย่างต่อให้เราเห็นบ่อยแค่ไหนก็ไม่เบื่อสักที ภาพสัตว์ตัวน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นานก็เช่นกัน มันมีความน่ารักในแบบที่อะไรก็ทดแทนกันไม่ได้ วันนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับลูกสัตว์น่ารักที่ทุกคนคงไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ เพราะพวกมันไม่ได้อยู่แถวบ้านเรา แต่อยู่ทางประเทศออสเตรเลียโน่น แถมทุกตัวที่เราเอามาให้เพื่อนๆ ดูก็เป็นสัตว์ป่าทั้งนั้น เรียกได้ว่ามาดูความน่ารักของธรรมชาติอย่างแท้ๆ บางตัวไปดูในสวนสัตว์ยังไม่มีเลยนะ   เริ่มต้นกันที่สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศออสเตรเลียกันเลย   นั่นก็คือลูกจิงโจ้!!   ปกติแล้วเราจะเห็นมันอยู่ในถุงหน้าท้องของแม่   แต่บางทีมนุษย์ก็ช่วยดูแลมันเหมือนกัน   พอได้เห็นมันเต็มๆ ตัวแล้วน่ารักเนอะ   มนุษย์ทำงานเหรอ ให้ช่วยพิมพ์ไหม?   เหมือนน้องจะอยากเป็นนายแบบนะ   เคยเห็นลูกหมาป่าดิงโกกันไหม?   พวกมันซนมากๆ เลย   ส่วนนี่คือลูกควอกก้า เป็นสัตว์ตัวเล็กที่มีกระเป๋าหน้าท้องเหมือนจิงโจ้   นกกระจอกเทศตอนเด็กดูไม่ต่างจากลูกไก่เลย แค่ตัวโตกว่า   ลูกตัวทาสเมเนียน โตมาท่าจะแสบน่าดู   นี่คือลูกนัมแบท เป็นสัตว์ที่มีเฉพาะในออสเตรเลียเหมือนกัน   ลูกวอมแบทตัวน้อย   ดูมันอ้อนสิ ไม่ให้รักได้ไง   แล้วก็มาถึงสัตว์ตัวโปรดของหลายคน เจ้าโคอาล่า   นอนกอดกับแม่ใหญ่เชียวนะ   ที่มา:…

เจ้าแมวช่วยเยียวยาผู้ป่วยที่ชอบเดินทางไปให้กำลังใจทุกคนถึงโรงพยาบาล ถูกคุณตาบอกว่าไม่อยากเล่นด้วย ทุกคนก็เลยไม่ได้สนใจเขา แต่พอหันกลับมาดูอีกที คุณตาก็นอนกอดอยู่กับเจ้าแมวซะแล้ว สำหรับคนที่อ่านเรื่องราวของหมาแมวในเพจเราทุกอัน น่าจะจำเจ้าเหมียวนักเยียวยา Donny กันได้ ครั้งนี้มันก็มาทำให้ผู้ป่วยยิ้มออกอีกแล้ว (อ่านเรื่องราวของ Donny ได้ ที่นี่ )   https://www.instagram.com/p/BohsdROA12e/?taken-by=blossom_and_her_family   ส่วนใครที่ไม่รู้จัก Donny มาก่อน มันเคยเป็นแมวจรจัดตาบอดที่ถูกรับมาเลี้ยง เจ้าแมวนิสัยน่ารักมากๆ คนที่ได้เจอมันต่างก็ชอบในความเป็นมิตรของมัน ภายหลังเจ้าแมวก็เลยได้เข้ารับการฝึกเป็นแมวเยียวยาผู้ป่วย มันเลยได้เดินทางไปตามโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อมอบรอยยิ้มให้กับผู้ป่วยที่อยากเล่นด้วย โดยมันยอมให้ทุกคนกอดโดยไม่ดิ้นหนีเลย     ดูสิคนป่วยชอบเจ้าแมวกันทั้งนั้นเลย ใครเห็นก็ต้องยิ้ม https://www.instagram.com/p/BnbDcq8hrT6/?taken-by=blossom_and_her_family   แต่เมื่อไม่นานมานี้ตอนที่ Donny เดินทางไปเยี่ยมผู้ป่วยเหมือนปกติ มีคุณตาคนหนึ่งที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ไม่ยอมเล่นกับเจ้าแมว นี่คงจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่มีคนปฏิเสธอ้อมกอดของมัน Susan เจ้าของของ Donny เล่าว่า “ตอนที่เราไปศูนย์รักษาผู้ป่วยอัลไซเมอร์ในวันพุธ ฉันถามคนที่มาใหม่ว่าอยากอุ้ม Donny ไหม แต่เขาก็ตอบชัดเจนเลยว่าไม่”     แต่เมื่อ Susan กำลังสนใจผู้ป่วยคนอื่นอยู่แล้วหันกลับมาหาคุณตาอีกครั้งหนึ่ง เธอก็เห็นว่าเขากอด Donny ซะแล้ว แถมยังลงไปนอนกอดอย่างมีความสุขบนพื้นเลยด้วย…

ส่วนใหญ่แล้วสุนัขรักเจ้าของอย่างไม่มีเงื่อนไข พวกมันซื่อสัตย์ต่อใครก็ตามที่ดูแลมัน ดังนั้นถ้าอยากให้พวกมันมีความสุขเราก็ได้แต่หวังให้มันได้เจอคนที่ดูแลมันดีเช่นกัน แต่สุนัขทุกตัวก็ไม่ได้เจอคนที่รักตัวเองแบบนั้นหมด สุนัขบางตัวอย่างเช่น Rawhide ก็ถูกทอดทิ้ง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังรักเจ้าของจนวินาทีสุดท้าย     Rawhide ถูกเจ้าของพามาทิ้งไว้ที่ศูนย์พักพิงสัตว์ของ Hawkins County Humane Society แต่ตอนนั้นพนักงานล็อกประตูไว้เพื่อไม่ให้หมาที่อยู่ข้างในวิ่งออกไป ชายที่พามันมาก็เลยเข้าไปไม่ได้ ถึงจะเห็นว่ามีพนักงานอยู่ข้างใน เขาก็ไม่เคาะประตูแล้วทิ้งเจ้าหมาเอาไว้หน้าประตูเลย แต่มันก็ยังเข้าไปเกาะขาเขาเอาไว้เพราะยังอยากอยู่กับเขาต่อ โชคร้ายที่เขาไม่เห็นค่าความพยายามของมัน ชายคนนั้นขึ้นรถของตัวเองแล้วก็ขับออกไปเลย ถึงอย่างนั้น Rawhide ก็ยังวิ่งตามรถไปอย่างสุดกำลังจนกระทั่งออกไปบนถนน     เจ้าหมาวิ่งตามรถออกไปเพราะไม่อยากถูกทิ้งไว้   พออาสาสมัครเห็นมันวิ่งไปบนถนนใหญ่ พวกเขาก็รีบวิ่งตามไปเพื่อเอาตัวมันกลับมา เนื่องจากบนถนนมีรถเยอะมาก มันอาจจะถูกรถทับก็ได้ โชคดีที่ถึงแม้จะมีรถหลายมันเกือบชนมัน สุดท้ายอาสาสมัครก็วิ่งไปเอาตัวมันเข้ามาได้ทัน เจ้าหมาจึงปลอดภัยแล้วถูกพาตัวเข้าไปในศูนย์พักพิง     ภาพจากกล้องวงจรปิดด้านหน้าศูนย์พักพิงสัตว์    หลังจากสืบดูเรื่องราวของคนที่เอาหมามาทิ้งไว้แล้ว ทางศูนย์พักพิงก็ได้รับจดหมายจากเขาเล่าว่าเขาไม่ได้เกลียดสัตว์ แต่เจ้าหมาเป็นหมาที่เขาช่วยมาจากข้างถนน แล้วมันก็เข้ากับหมาที่บ้านไม่ได้ ก็เลยเอามาทิ้งไว้แบบนี้ ถึงอย่างนั้นอาสาสมัครก็ไม่เห็นด้วยเลยที่เขาเอาเจ้าหมามาทิ้งไว้แบบนั้น เธอบอกว่า “ทุกคนควรจะปฏิบัติกับหมาเหมือนที่ทำกับคนคนอื่น พวกมันก็มีจิตใจเหมือนกัน”     อย่างไรก็ตามตอนนี้เจ้า Rawhide ก็ถูกเจ้าของเก่าทิ้งแล้ว…

ถ้าเรามองลงไปในบ่อโคลนแล้วเห็นก้อนสีน้ำตาลๆ อยู่ในนั้น เราก็คงคิดว่ามันเป็นแค่ก้อนดินธรรมดาๆ โชคดีที่มีชายคนหนึ่งสังเกตเห็นว่าพวกมันเป็นสัตว์ตัวน้อยแล้วช่วยพวกมันขึ้นมา     เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2561 คุณ สุรเชษฐ์ หรือ คุณโต ได้ไปทำงานใกล้กับไซต์งานแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง ที่ตรงนั้นมีบ่อลึกที่เต็มไปด้วยโคลนอยู่ด้วย และเขาก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างในนั้น ตอนแรกเขาคิดว่าสิ่งที่เขาเห็นน่าจะเป็นก้อนหินเลอะโคลน แต่เมื่อมองดูดีๆ แล้วมันขยับได้นี่นา ก้อนหินมันขยับเองไม่ได้หรอก ตอนนั้นเขาเลยรู้ว่าพวกมันคือลูกหมาต่างหาก     เขาคิดว่าพวกมันอาจจะตกลงไปในบ่อโคลนเองก็ได้ เพราะว่าปากบ่อก็ไม่ได้สูงอะไร คงไม่แปลกถ้ามีลูกหมาเล่นซนแล้วตกลงไป แต่ที่สำคัญก็คือเขาต้องรีบช่วยพวกมันขึ้นมา เพราะหากปล่อยพวกมันไว้ในนั้นนอกจากจะอดตายแล้ว ถ้าเกิดฝนตกจนน้ำท่วมสูงพวกมันก็คงเอาชีวิตไม่รอด คุณโตลงไปช่วยเอาพวกมันขึ้นมาด้วยตัวเองเลยนะ เพราะเขาเป็นห่วงลูกหมา จึงอยากให้พวกมันขึ้นมาจากบ่อให้ไวที่สุด     ค่อยๆ ขึ้นไปทีละตัวนะ   เลอะโคลนกันขนาดนี้ไม่แปลกเลยที่ดูไกลๆ แล้วไม่รู้ว่าเป็นหมา   หลังช่วยพวกมันออกมาจากบ่อได้หมดแล้ว เขาก็พาพวกมันไปอาบน้ำจนเนื้อตัวสะอาดด้วย พออาบน้ำเสร็จพวกมันดูน่ากอดขึ้นเยอะเลย     เลอะขนาดนี้ไม่จับอาบน้ำไม่ได้แล้ว   อย่าเพิ่งเล่นซนกันนะ ให้ล้างตัวก่อน   ค่อยดูสะอาดขึ้นหน่อย   อาบน้ำเสร็จแล้ว แฉะกันทุกตัวเลย   พาไปเป่าขนกันก่อนดีกว่า  …

เด็กหญิงเกิดมาพร้อมกับโรคร้ายที่ทำให้เธอมีปัญหาในการเดิน ก่อนหน้านี้เธอต้องพึ่งอุปกรณ์ช่วยเหลือเพื่อเคลื่อนที่ตลอด แต่พอมีเจ้าหมาเข้ามาอยู่ด้วย เธอก็มีกำลังใจดีมากพอจนเดินด้วยตัวเองได้ เด็กหญิง Bella Burton ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค Morquio Sundrome ตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งส่งผลให้กระดูกของเธอพัฒนาได้ไม่ปกติ ทำให้เธอมีปัญหาในการเดิน     ที่ผ่านมาเธอใช้ไม้ค้ำยันและรถเข็นช่วยในการเคลื่อนที่ แต่นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกแตกต่างจากคนอื่น เธอหวังมาตลอดว่าอยากเป็นเหมือนเพื่อนๆ ที่เดินด้วยตัวเองได้ตามปกติ เมื่อเธออายุได้ 11 ขวบพ่อแม่ของเธอก็เลยรับเจ้า George มาจากศูนย์ฝึกหมาบริการซึ่งช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหาการเดินในเฉพาะ โดยหวังว่ามันจะช่วยให้ลูกสาวรู้สึกดีขึ้นได้     ตั้งแต่ Bella ได้เจอกับ George เธอก็ดูมีกำลังใจดีขึ้นมาก เด็กหญิงชอบที่จะอยู่กับพี่หมาตัวโตใจเย็น แล้วเธอก็เลิกใช้ไม้ค้ำยัน แล้วหันมาเกาะเจ้าหมาเพื่อหัดเดินแทน นอกจากจะช่วยให้เด็กหญิงหัดเดินได้มากขึ้นแล้ว เวลาที่เธออารมณ์เสียเพราะทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ เจ้าหมาก็ช่วยปลอบเธอได้อย่างดีด้วย พอมันเอาหัวซบลงบนไหล่ของเด็กหญิงเธอก็ใจเย็นลงพอที่จะยิ้มได้แล้ว     หลังจากนั้น Bella ก็เดินด้วยตัวเองได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ Rachel คุณแม่ของเด็กหญิงเล่าว่า “ฉันไม่เคยนึกเลยว่าเธอจะเดินได้โดยไม่ใช้ไม้ค้ำยัน แต่ตอนนี้เธอออกไปเล่นในสนามเองได้แล้ว แม้จะไม่มี George ก็ตาม ฉันรู้สึกทึ่งมากที่ได้เห็นเธอแข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้หลังจากที่เจ้าหมามาอยู่ด้วย”     George ไม่ได้ดูแล Bella อยู่ฝ่ายเดียว…

สายสัมพันธ์ในโลกใบนี้ไม่มีขีดจำกัดจริงๆ ทุกสิ่งที่มีจิตใจก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้หมด แม้แต่สัตว์ที่มีขนาดตัวและสายพันธุ์ต่างกันอย่างลิงชิมแปนซีตัวน้อยกับพี่หมาตัวใหญ่ยังเป็นเพื่อนกันได้เลย     Mario Tabraue ทำงานอยู่ในสวนสัตว์ Zoological Wildlife Foundation ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่สำหรับสัตว์ที่ถูกช่วยมาโดยเฉพาะ ลิงน้อย Limbani ก็เป็นสัตว์ตัวหนึ่งที่ได้มาอยู่กับเขา หลังจากมันถูกช่วยมาจากนักค้าสัตว์ จากนั้นเป็นต้นมามันก็อยู่ในสวนสัตว์กับเขามาตลอด     แต่คนที่ Limbani สนิทด้วยมากที่สุดไม่ใช่ชายหนุ่ม มันเป็นเจ้าหมาพันธุ์บูลล์มาสทิฟที่ชื่อว่า Bruno อาจจะเป็นเพราะว่ามันถูกชะตากัน พวกมันก็เลยสนิทกันตั้งแต่แรกเจอเลย ลิงน้อยปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ได้รวดเร็ว ส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นเพราะมันมีเพื่อนสนิทคอยอยู่ข้างๆ ด้วย ทำให้มันไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือแปลกที่สักเท่าไหร่     ตั้งแต่เจ้าลิง Limbani มาอยู่ที่สวนสัตว์แห่งนี้จนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว แต่เจ้า Bruno ก็ยังสนิทกับลิงน้อยอยู่เหมือนเดิมเลย พวกมันชอบเล่นซนด้วยกันเสมอ   https://www.instagram.com/p/BV7iQp0AyPf/?utm_source=ig_embed   ความสัมพันธ์ของพวกมันทั้ง 2 ตัวน่ารักมากจนคนในโซเชียลต่างก็พากันหลงรัก คลิปวิดีโอของคู่หูลิงหมาแต่ละอันมีคนดูเพียบเลย อย่างคลิปวิดีโอจากเฟซบุ๊กอันนี้ก็มีคนดูไปกว่า 26 ล้านครั้งแล้ว     Mario คาดว่าถึงทั้งคู่จะแก่ตัวลงไปเรื่อยๆ แต่พวกมันก็น่าจะยังเป็นเพื่อนซี้ที่ชอบเล่นด้วยกันอยู่เหมือนเดิม เพราะเขาก็เห็นพวกมันเป็นแบบนั้นมาตลอดหลายปี ความสนิทสนมของทั้งคู่ไม่ได้ลดน้อยลงเลย…

ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 Emily Taphouse กลายเป็นแม่หม้ายโดยไม่ทันตั้งตัว หลังจากสามีของเธอ Korey เสียชีวิตจากการถูกชนแล้วหนี แน่นอนว่าการสูญเสียในครั้งนี้สะเทือนใจทุกคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก และดูเหมือนจะไม่มีอะไรสามารถมาเติมเต็มช่องว่างของครอบครัวได้ Taphouse และลูกสาวอีกสองคนคือ Hazel วัย 4 ขวบ และ June วัย 2 จึงต้องอยู่กับความเศร้า โดยเฉพาะกับ Hazel ที่ดูเหมือนมันเป็นเรื่องยากเกินจะรับไหว     เพื่อให้ครอบครัวเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง Taphouse จึงขายบ้าน และย้ายไปอยู่ใกล้กับเมือง Grand Rapids ในรัฐมิชิแกน นอกจากนี้ เธอยังได้รับ Fern ลูกหมาบูลล์ด็อกเข้ามาเพิ่มในครอบครัวด้วย เช้าวันหนึ่งของเดือนพฤศจิกายน เมื่อ Fern มาถึง ชีวิตของ Taphouse และลูกสาวทั้งสองคนก็ถูกปลดปล่อยจากความเศร้าโศก     คุณแม่เห็นลูกสาวทั้งสองคนให้การต้อนรับน้องหมาอย่างอบอุ่น เธอเฝ้าดูพวกเขาเล่นกับมันอย่างสบายใจ เสียงหัวเราะของลูกๆ ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจราวกับแปะแผ่นร้อนไว้ที่อก เมื่อ Fern โตขึ้น คุณแม่สังเกตเห็นว่าเจ้าหมามีความสุขมากที่ได้เล่นกับหมาตัวอื่นๆ แต่หมดเวลาเล่น มันจะรู้สึกเศร้ามากๆ จนน่าเห็นใจ     แม้ว่าน้องหมาจะได้รับความรักมากมายจากครอบครัว แต่มันก็ยังรู้สึกเหงาอยู่ดี ดังนั้น Taphouse จึงตัดสินใจขยายครอบครัวเล็กๆ…

เมื่อเดือนที่แล้ว Will จาก Flatbush Cats ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ในบรูคลิน ได้พบกับลูกแมวตัวน้อย ระหว่างทางไปที่พักแมว มีคนในละแวกนั้น นั่งกับเจ้าเหมียวและเอาอาหารเล็กๆ น้อยๆ ให้มันกิน Will จึงรีบไปเอากรงแมว และใช้อาหารล่อให้แมวตัวนั้นเข้ามาข้างใน เพื่อที่จะพามันไปยังศูนย์ช่วยเหลือได้     เนื่องจากเจ้าเหมียวหิวมาก มันเลยเดินเข้าไปข้างในอย่างง่ายดาย และพร้อมที่จะทิ้งชีวิตบนถนนแล้ว… ผิวของมันหยาบกร้าน ผอมจนเห็นกระดูกชัดเจน และขนก็สกปรกมาก พวกเขาตั้งชื่อให้มันว่า Teddy ความเจ็บปวดในสายตาของ Teddy บ่งบอกว่าครั้งหนึ่งมันเคยได้รับความรักจากมนุษย์ และตอนนี้มันหวังว่าจะได้รับความรักแบบนั้นอีกครั้ง     หลังจากที่กินข้าวหมดไปเป็นชามโตและได้กินน้ำจนอิ่ม Teddy ก็โหยหาการเกาคาง และแม้ว่าผู้ดูแลจะเกาคางให้ แต่ดูเหมือนจะไม่พอสำหรับมันสักที ขณะเดียวกัน ผู้ดูแลก็เช็ดตัวให้มัน แปรงขนให้มัน ก่อนจะพามันไปอาบน้ำ     เนื่องจาก Teddy สกปรกมาก มันเลยต้องอาบน้ำถึง 4 รอบ และแปรงขนอีกนับครั้งไม่ถ้วน จนในที่สุด มันก็ดูสะอาดสะอ้าน และขนก็ไม่จับกันเป็นก้อนแล้ว เมื่อรู้สึกดีขึ้น Teddy ก็ทำเสียงเพอร์ แล้วก็นอนหลับไปบนตักของผู้ดูแล   Will บอกว่า “Teddy มีอาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ จึงต้องฉีดยาเข้าผิวหนังของมัน พร้อมธาตุเหล็กและวิตามิน 12…

ทุกวันนี้เรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับเราได้เสมอ อย่างหญิงสาววัย 23 ปีคนนี้ ที่ระหว่างทางบังเอิญสอยสัตว์ป่าติดรถมาจนถึงมหาวิทยาลัยโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งมาถึงที่จอดรถที่มหาวิทยาลัย Virginiа Cоmmоnweаlth University หญิงสาวแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตัวเองเห็น     มันคือตัวบ๊อบแคต ซึ่งไปติดอยู่ที่กันชนหน้ารถของเธอ เมื่อตั้งสติได้ เธอรู้ว่ามันต้องการความช่วยเหลือ เลยติดต่อไปยัง Richmоnd Аnimаl Cаre аnd Cоntrоl (RАCC) เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง พวกเขาบอกเลยว่าเจ้าบ๊อบแคทตัวนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัด มันเข้าไปติดอยู่ในโครงหน้าของรถ และดูเหมือนมันจะได้รับบาดเจ็บด้วย ยิ่งไปกว่านั้น มันน่าจะติดอยู่ในสภาพนี้มาเป็นเวลานานแล้ว     ต่อมา Christie Peters ผู้อำนวยการของ RАCC กับพ่อของเธอก็ได้พาบ๊อบแคตที่หมดสติเพราะยาสลบไปยัง  Wildlife Center оf Virginiа เพื่อรักษา แต่เมื่อมาถึง เจ้าบ๊อบแคตก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง     หลังจากที่สัตวแพทย์ได้ตรวจสุขภาพเจ้าบ๊อบแคต พบว่ามันมีสุขภาพดี มันมีแค่มีรอยขีดข่วนที่ข้างหลังและฟกช้ำเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงให้น้ำ อาหาร และทำให้มันรู้สึกผ่อนคลาย ตลอดเวลาที่อยู่ในการดูแลของมนุษย์ เจ้าบ๊อบแคตได้กินเต็มอิ่ม ได้นอนที่อุ่น และดูเหมือนมันจะมีความสุข และเมื่อแน่ใจว่ามันไม่เป็นอะไรแล้ว พวกเขาก็ปล่อยมันกลับสู่ธรรมชาติ  …

เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน คุณปู่แมว Mason ได้รับการช่วยเหลือโดย TinyKittens ในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บและเป็นโรคไตเรื้อรัง การให้มันกลับไปอยู่รวมกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสำหรับมัน ดังนั้น ผู้ช่วยเหลือใน Tinykittens จึงตัดสินใจดูแลมันในช่วงชีวิตที่เหลือ     ตอนนั้น Mason หวาดกลัวผู้คนมากและไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ จนเจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าจะทำให้มันมีความสุขในฐานะแมวบ้านได้ยังไง แต่แล้วคุณปู่แมวก็เซอร์ไพรส์คนด้วยการตัดสินใจในวันหนึ่งว่ามันจะไม่กลัวอีกต่อไป มันเริ่มยอมรับความรักจากมนุษย์และตกหลุมรักลูกแมวที่ต้องการความรัก     ตั้งแต่นั้นมา Mason ก็กลายเป็นปู่บุญธรรมประจำ Tinykittens มันคอยมอบความรักให้ลูกแมวกำพร้า และทำให้พวกมันเติบโตในแบบที่ควรเป็น กระทั่งปีก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือลูกแมวจรจัดที่ชื่อ Aura พวกเขาพบความผิดปกติเกี่ยวกับมัน มันไม่สามารถกินได้ เพราะมีรูขนาดใหญ่อยู่ที่เพดานปากของมัน พวกเขาไม่แน่ใจว่ามันจะรอดหรือเปล่า แต่รู้ว่ามันควรได้รับโอกาส     เจ้าหน้าที่เริ่มให้อาหาร Aura ตามเวลาที่กำหนด มันไม่ได้ง่ายเลยกับการกินในแต่ละครั้ง แต่มิ้วน้อยมีความกระตือรือร้นที่จะกิน มันมีจิตวิญญาณของการเป็นนักสู้อย่างน่าทึ่ง TinyKittens บอกว่า “มันเรียนรู้วิธีการกิน ด้วยการดื่มจากขวดที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ มันชอบเข้าไปอยู่ในหมวก จนมันเริ่มแข็งแรงขึ้นทุกวัน” สิ่งที่ลูกแมวชอบมากที่สุดคือการเลียจากพี่แมวและการกอด ที่สำคัญ คุณปู่ Mason คือเหมียวที่ Aura รักมากที่สุด     Aura ชอบเลียและแทะหูคุณปู่ Mason…

สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในรัฐแคลิฟอร์เนียดำเนินการเข้าจู่โจมฟาร์มกัญชาที่เพาะปลูกอย่างผิดกฎหมาย แต่เมื่อไปถึง พบว่าในฟาร์มไม่ได้มีแค่กัญชาเท่านั้น…     ระหว่างที่ตรวจสอบตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบสุนัขใกล้ตายอยู่ท่ามกลางสารเคมีอันตรายและปุ๋ยต่างๆ ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะไหวตัวทัน เลยหนีไปก่อนการจู่โจมและทิ้งสุนัขไว้ที่นั่น     น้องหมาอยู่ในสภาพที่แย่มาก มันตอบสนองช้าและมีอาการเซื่องซึม มันถูกทิ้งไว้ลำพังโดยไม่มีน้ำหรืออาหาร และต้องอยู่ท่ามกลางอุณหภูมิประมาณ 32 องศาเซลเซียส     โชคดีที่ตอนนี้น้องหมาได้อยู่ในมือของคนที่ช่วยมันได้   การจู่โจมในครั้งนี้ ลงเอยด้วยการได้ช่วยชีวิตลูกหมาตัวหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งพามันไปรับการรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่ามันได้สัมผัสกับสารพิษโดยตรงหรือไม่ แต่รู้ว่ามันตกอยู่ในความเสี่ยง     เมื่อมาถึงศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Santa Maria Animal Center  น้องหมายังคงมีอาการเซื่องซึม น้ำลายสอ และอาเจียน พวกเขาจึงส่งมันไปยังโรงพยาบาลสัตว์ในท้องถิ่น หลังจากที่มันอยู่ในโรงพยาบาลสัตว์เพื่อเฝ้าดูอาการ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ เพียงไม่นาน อาการน้องหมาก็ค่อยๆ ดีขึ้น     Stacy Silva โฆษกของศูนย์ช่วยเหลือบอกว่า “มันถูกส่งกลับไปยัง Santa Maria Animal Center ในวันรุ่งขึ้น ด้วยสภาพที่ร่าเริงสดใส ขี้เล่น และมีความสุข…

สัตว์เลี้ยงมักจะทำให้เราหัวเราะได้เสมอ แม้ว่าสิ่งที่พวกมันทำจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม โดยเฉพาะการเลียกระจก เห็นกี่ครั้งก็ขำ ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าสัตว์เป็นอะไรกับกระจก เห็นกระจกที่ไหนเป็นต้องเข้าไปเลียทุ๊กที รสชาติมันเหมือนขนมหรอลูก… แต่ก็นะ มันเป็นความเฟลที่สร้างรอยยิ้มให้เรา ก็ปล่อยมันไปเถอะ   1. เอ๊ะ หน้าต่างนี่จะมีรสชาติยังไงนะ?   2. น้องหมาสายเลีย เลียจนกระจกใสเลยจ้า   3. แม้แต่ลิงก็อยากลิ้มรสกระจก   4. เลียไปดมไป อื้มมมม   5. ส่วนนี่ เลียจนเพลีย   6. เลียแบบอ่อนโยน ต้องยกให้น้องกระต่าย   7. ไหน อาการมันเป็นยังไง บอกมาสิ๊   8. เฮ้เพื่อน ว่างๆ มาเลียด้วยกันสิ รสชาติมันก็โอนะ โอโห ไม่รู้รสเลย   9. ชิมน้ำฝนบนกระจกหน่อยสิ๊   10. เลียปาดแบบนี้ ต่อไปไม่ต้องมีคนเช็คกระจกแล้วละมั้ง…

ณ ตอนนี้ทุกคนคงจะรู้จัก Tom Hardy กันหมดแล้ว เพราะว่าพี่แกได้รับบทเป็นตัวเอกของหนังเรื่อง Venom จากค่ายดังอย่าง Marvel เชียวนะ      ยังไงก็เถอะ #เหมียวอาตี๋ ก็ไม่ได้ชอบที่ Tom Hardy เป็นคนที่มีฝีมือการแสดงยอดเยี่ยม หรือเพราะว่าเขาหน้าตาหล่อเหลาจนน่าหลงใหลหรอกนะ แต่ชอบที่พี่แกเป็นคนที่มีใจรักเจ้าหมาเหมือนกันต่างหาก ถ้าถามว่ารู้ได้ยังไงว่า Tom Hardy รักหมาน่ะเหรอ? ก็นอกจากเขาจะเลี้ยงหมาด้วยแล้ว พี่แกยังมีรูปเวลาเล่นกับหมาอีกเพียบเลยน่ะสิ ตอนเขาเล่นกับหมาน่ามองยิ่งกว่าในหนังอีก     อย่าเลียตรงหูครับ เดี๋ยวพี่เขาเสียว   มองกล้องหน่อยสิเพื่อน จะได้หล่อๆ ไง   รักหมาแค่ไหนคงไม่ต้องอธิบายมาก   อยากให้พี่เขากอดเราเหมือนกอดหมาบ้าง   ตัวเล็กตัวใหญ่พี่ Tom ก็ชอบ   รูปของเขาเมื่อตอนยังเด็ก กับเจ้า Max หมาของเขา   มาถ่ายรูปคู่กันหน่อย   แข่งทำหน้าเครียดกันเหรอ?   ทั้งเท่ ทั้งรักสัตว์…

บนโลกของเรามีภาษาที่แตกต่างกันอยู่มากมาย ถ้าอยากจะเข้าใจคนที่พูดภาษาต่างกับเรา เราก็ต้องศึกษาภาษาของอีกฝ่ายให้มากขึ้น สำหรับคนรักหมาหรือเจ้าของหมาแล้ว เราก็ควรจะศึกษาภาษากายของพวกมันไว้เหมือนกัน เราจะได้รู้ว่าพวกมันอยากบอกอะไรกับเรา แล้วเราจะได้ตอบโต้กับมันถูก ในวันนี้เราลองไปดูวิธีการบอกว่ารักของเจ้าหมากันเถอะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราควรรู้ไว้นะ ไม่อย่างนั้นถ้ามันบอกรักเราแล้วเราไม่เข้าใจ เจ้าหมาคงน้อยใจแย่เลย   1. จ้องตา   เจ้าหมาจะจ้องตาคนที่มันรัก เพื่อให้สื่ออารมณ์ผ่านการมองได้อย่างชัดเจน   2. เอาของเล่นชิ้นโปรดมาให้   หมาเป็นสัตว์ที่หวงของเล่นของตัวเองมาก ถ้ามันยอมเอามามอบให้คุณ ก็แปลว่ามันไว้ใจคุณมากจนยอมแบ่งของรักให้ใช้ด้วยกัน   3. ทำท่าหาวตามเรา   นักวิทยาศาสตร์ได้ลองทำการ วิจัย ดูแล้วพบว่าหมาที่ผูกพันกับเจ้าของจะหาวตามกัน ถึงจะยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด แต่เพื่อนๆ สามารถลองใช้วิธีนี้วัดความรักของเจ้าหมาได้เหมือนกันนะ   4. นอนหลับด้วยกัน   หากเจ้าหมาเข้ามานอนกับคุณในห้อง แปลว่ามันอุ่นใจที่ได้อยู่ใกล้ชิดคุณ ซึ่งส่งผลให้พวกมันนอนหลับได้สนิทมากขึ้น   5. ส่ายหาง   การส่ายหางของเจ้าหมาไม่ได้แปลว่าดีใจอย่างเดียวเท่านั้นนะ มันมีความหมายได้หลากหลาย แต่ที่แน่ๆ ถ้ามันส่ายหางให้คุณ ก็แปลว่าเจ้าหมาสนใจและอยากสื่อสารกับคุณแน่นอน   6. ยกคิ้วสูงขึ้นและแลบลิ้น   ถ้าเจ้าหมายกคิ้วและแลบลิ้นให้คุณเห็น มันทำแบบนั้นเพราะอยากให้คนที่มันรักเห็นว่าพวกมันทำหน้ามีความสุข แล้วก็เป็นการทำให้ตัวเองดูน่ารักในสายตาของมนุษย์ด้วย…

ชายหนุ่มไม่ได้ประสบอุบัติเหตุหรือถูกทำร้าย แต่อีกมุมหนึ่งก็บอกได้ว่าหมาของเขาได้ช่วยชีวิตเขาไว้เหมือนกัน เนื่องจากมันช่วยให้เขาเอาชนะใจตัวเองและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ Zach Skow เป็นชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตวัยรุ่นอย่างสุดเหวี่ยง เขาเริ่มดื่มเหล้าเบียร์ตั้งแต่อายุได้แค่ 16 แล้วก็ติดเหล้าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อเขาอายุ 28 ปีคุณหมอก็ตรวจพบว่าตับของเขาทำงานแทบไม่ได้แล้ว เขาน่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือนหากไม่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายตับทันเวลา     ร่างกายของ Zach ทรุดโทรมลงเร็วมาก ไม่นานเขาก็ผอมจนกลายเป็นโครงกระดูกเดินได้ซะแล้ว เขาแทบไม่เหลือกำลังใจจะใช้ชีวิตต่อเลย แต่ก็อาจจะเป็นเพราะเหลือเวลาอยู่ไม่มาก เขาก็เลยไปรับเจ้าหมา Tug, Marley กับ Buddy มาดูแล เขาคงอยากเป็นที่พึ่งของใครสักคนก่อนจะจากไป     ทว่าพอเจ้าหมาทั้ง 3 ตัวมาใช้ชีวิตอยู่ด้วย พวกมันกลับทำให้เขามีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตมากขึ้น เนื่องจากเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นที่รัก และเป็นที่พึ่งของพวกมัน นอกจากนี้การดูแลพวกมันก็ทำให้เขาสุขภาพดีขึ้นด้วย เพราะว่าการพาพวกมันไปเดินเล่นทำให้ Zach ได้ออกกำลังกายมากขึ้น แล้วเขาก็ทุ่มเทเวลามาสนใจพวกมันมากจนเลิกเหล้าได้สำเร็จ     พอเขากลับไปตรวจสุขภาพกับหมออีกครั้งหนึ่ง หมอก็บอกว่าเขาสุขภาพดีขึ้นมากจนไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายตับแล้ว ทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างปกติ     จากนั้นเป็นต้นมา Zach ก็เปลี่ยนเป็นคนใหม่ เขาดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น และก็ดูแลพวกหมาดียิ่งกว่าตัวเองซะอีก เขารู้สึกขอบคุณพวกมันมากที่เป็นจุดเริ่มต้นให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้นได้ นอกจากนั้นเขาก็ยังผันตัวเองมาเป็นคนช่วยเหลือสุนัข แล้วออกช่วยเหลือหมาจรจัดตัวอื่นๆ…

ในโลกที่มีหมาจรจัดดิ้นรนเอาชีวิตรอดอยู่มากมาย ก็ยังมีอาสาสมัครที่ยินดีให้ความช่วยเหลือพวกมันอยู่เยอะเช่นกัน พวกเขาช่วยเหลือพวกมันอย่างเต็มที่ และไม่ยอมแพ้แม้การช่วยเหลือจะยากแค่ไหนก็ตาม เจ้าหมาตัวหนึ่งในประเทศอินเดีย ถูกเจออยู่ในถังซึ่งเต็มไปด้วยน้ำมันดินเหนียวเหนอะ มันติดอยู่กับน้ำมันจนขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ จึงได้แต่รอให้คนมาช่วยเท่านั้น     อาสาสมัครบอกว่า “เราคิดว่ามันน่าจะเข้าไปนอนด้านในถังเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นในช่วงกลางคืน แต่ความร้อนจากตัวมันทำให้น้ำมันละลาย แล้วมันก็เลยจมจนติดแน่นอยู่แบบนั้น” ในเมื่อมันติดแน่นขนาดนี้ การช่วยมันออกมาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่อาสาสมัครจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Animal Aid Unlimited ก็ยังไม่ยอมแพ้แล้วพยายามช่วยมันต่อไปอยู่ดี     พวกเขาต้องยกถังที่เจ้าหมาติดอยู่มาทั้งอันเลย เนื่องจากดึงตัวเจ้าหมาออกมาไม่ได้ จากนั้นจึงค่อยตัดด้านหนึ่งของถังออกเพื่อจะได้เริ่มช่วยเหลือมัน การเอาตัวมันออกมาจากน้ำมันก็ใช้เวลามากเหมือนกัน พวกเขาต้องเอาน้ำมันพืชลูบลงไปบนขนของมันเพื่อให้มันหลุดออกมาจากถังได้ หลังจากนั้นก็ยังต้องเอาน้ำมันพืชขัดน้ำมันที่ติดอยู่กับขนของมันให้หลุดออกจนหมดอีกรอบหนึ่ง     หลังจากใช้เวลาช่วยเจ้าหมาอยู่หลายชั่วโมง ในที่สุดมันก็กลับมายืนได้ด้วยตัวของมันเองสักที แล้วพวกเขาก็ให้มันอยู่ในศูนย์พักพิงต่อเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง โดยตั้งชื่อให้มันว่า Asha     Asha ฟื้นฟูร่างได้ได้อย่างดีเยี่ยม แผลไหม้จากน้ำมันบนร่างกายของมันค่อยๆ ฟื้นฟูตามเวลา แต่สภาพจิตใจของมันดูเหมือนจะดีขึ้นทันทีทันใดหลังจากเป็นอิสระเลยทีเดียว เจ้าหมาดูมีความสุขตลอดเวลาที่ได้อยู่ในศูนย์พักพิง ยิ่งตอนมีอาสาสมัครเข้ามาหามัน Asha ก็ดูร่าเริงมากขึ้น มันคงรู้ว่าพวกเขาพยายามช่วยเหลือมันอยู่ แล้วก็น่าจะรู้สึกขอบคุณด้วย     ที่เจ้า Asha รอดมาได้ก็เป็นเพราะอาสาสมัครไปเจอตัวมันได้ทันเวลา แล้วก็ไม่เมินเฉยที่จะช่วยมันทั้งๆ ที่การช่วยมันเป็นเรื่องลำบาก…

เมื่อสัปดาห์ก่อนตอนที่ Heather Shiels รู้ว่า Spock แมววัย 15 เดือนของเธอหายไป เธอคิดว่ามันน่าจะไปติดอยู่ในเครื่องล้างจาน ขณะที่ Shiels เดินลงบันได้ เธอได้ยินเสียงร้องเมี๊ยวๆ เธอยิ่งมั่นใจว่ามันดังมาจากเครื่องล้างจาน จึงรีบวิ่งไปที่นั่นทันที และเมื่อเปิดตู้ออกมา มิ้วน้อยก็อยู่ในนั้นจริงๆ     Shiels เห็นแค่ด้านหลังของมัน เพราะหัวมิ้วน้อยติดอยู่ในรูเล็กๆ ที่น่าจะกว้างแค่ประมาณ 2-3 นิ้ว ไม่รู้มันไปทำท่าไหนถึงเอาหัวเข้าไปในนั้นได้ Shiels กับสามีพยายามช่วยกันเอาหัวมิ้วน้อยออกจากรู แต่มันติดแน่นเกินไป พวกเขาเลยกลัวว่าจะทำให้ Spock เจ็บ และแม้จะใช้วิธีอื่นก็ไม่สำเร็จ ทั้งคู่จึงโทรเรียก RSPCA เพื่อขอความช่วยเหลือ     หลังจากที่ได้รับแจ้ง Angela Paxton-Taylor พร้อมทีมงานก็มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังดังกล่าวทันที จากนั้นก็ลงมือทาน้ำมันกับเนยเทียมรอบคอแมวน้อยนักผจญภัย เพื่อง่ายต่อการดึงหัวมันออกมา น่าเสียดายที่วิธีนี้ไม่ได้ผล พวกเขาจึงติดต่อไปหาหน่วยกู้ภัยเพื่อขอความช่วยเหลืออีกแรง… กู้ภัยมาถึงอย่างรวดเร็ว และใช้เลื่อยตัดตู้อย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้โดนเจ้าเหมียว ในที่สุด Spock ก็เป็นอิสระ แต่มันตัวสั่นเล็กน้อย เพราะตกใจกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นกับมัน ครอบครัวจึงกอดปลอบใจมัน เพื่อช่วยให้มันรู้สึกผ่อนคลาย     มิ้วน้อยจอมซนถือว่าโชคดีมากที่ไม่โดนไฟดูด ทั้งๆ ที่มันติดอยู่ในนั้นเกือบ 2…

ตอนรับเลี้ยงหมา ทุกคนมักจะบอกว่าตัวเองรักหมาและจะดูมันตลอดไป แต่เมื่อถึงตอนที่น้องหมาแก่ตัวมา หลายคนตัดสินใจทิ้งสุนัขด้วยเหตุที่ว่าพวกมัน ‘แก่เกินไป’ และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นที่ Lancaster Animal Care Center ในลอนแอนเจลิส เมื่อเดือนสิงหาคม เจ้าของได้มาทิ้งสุนัขในศูนย์พักพิง โดยอ้างว่ามันแก่เกินไป นี่คือ Choco หมาพันธุ์ผสมชิวาวา อายุ 13 ปี แน่นอน มันไม่ใช่หมาหนุ่มแต่มันยังดูน่ารักมากๆ พนักงานต้องให้อยู่ในที่เงียบๆ เพื่อให้มันรู้สึกสงบและผ่อนคลาย     แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก เพราะในศูนย์พักพิงเต็มไปด้วยสัตว์มากมายจนแทบไม่มีที่ว่าง และมีเสียงเห่าของสุนัขดังรบกวนตลอดเวลา ด้วยปัญหาของ Choco ทั้งเรื่องอายุและสภาพจิตใจ อาจส่งผลให้มันมีโอกาสหาบ้านได้ยาก แต่เมื่อช่างภาพ Rita Earl เข้ามาในศูนย์พักพิงเพื่อถ่ายรูป Choco ปรากฏว่า Rita ตกหลุมรัก Choco ตั้งแต่แรกเห็น     จริงๆ แล้ว นอกจากอายุแล้ว Choco ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ดังนั้นการที่ถูกครอบครัวมาทิ้งไว้ในศูนย์พักพิง ทำให้มันรู้สึกเสียใจมาก ใบหน้าของมันช่างดูเศร้าเหลือเกิน แต่พวกเขามั่นใจว่า Choco ชอบความสนใจที่ได้รับจาก Rita และอาสาสมัคร Rita บอกว่า “มันดูดีใจมากที่เห็นเรา ตอนแรกที่ฉันเดินเข้าไปหา มันแกว่งหางไปมาด้วยความตื่นเต้น”   …

มีคำพูดยอดนิยมเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างแมวและสุนัขคือ “สุนัขมีเจ้าของ แมวมีทาส” และมักจะมีหลายๆ เคส ที่ยืนยันว่าคำพูดนี้เป็นความจริง แต่ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้นที่ตกเป็นทาสแมว และนี่คือคลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นว่าแมวมีความสามารถในการบังคับสัตว์ตัวอื่นๆ ให้เป็นลูกน้องได้     นี่เป็นคลิปสั้นๆ เรียกเสียงฮา เผยให้เห็นเจ้าเหมียวหิมาลายันตัวหนึ่งชื่อ Clyde กำลังถูกลากไปรอบๆ บ้าน โดยคู่พี่น้องหมาของมัน พี่น้องหมาคีือ Frankie กับ Louie พวกมันลากเจ้าเหมียวไปรอบๆ บ้าน โดยใช้เชือกที่ผูกกับตะกร้า ขณะที่ Clyde ดูฟินกับการถูกลากและมีความสุขที่ได้เห็นพี่น้องหมาใช้แรงงานเพื่อมัน แต่ใครจะว่าอะไรมันได้ล่ะ ก็มันเป็นเจ้านายของบ้านหนิ ขนาดคนยังยอมเป็นทาส แล้วหมาจะเหลืออะไร     สำหรับ Clyde มันเป็นเจ้าของอินสตาแกรม Bonnie and Clyde Kitties ร่วมน้องสาว Bonnie ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 177,000 คน เมื่ออยู่กับ Bonnie เจ้าเหมียว Clyde ก็ทำตัวเป็นเจ้านายของน้องเหมือนกัน จะบอกว่ามันเป็นผู้ควบคุมบ้านทั้งหลังเพียงคนเดียวก็ว่าได้     แม้ว่า Bonnie กับ Clyde อาจจะดูเหมือนกันมาก แต่ทั้งคู่มีบุคลิกที่แตกต่างกันออกไป Bonnie เป็นแมวที่รักความสงบ มันชอบเก็บตัว และไม่เคยยอมให้ใครถ่ายรูปมันได้ง่ายๆ นอกจากนี้ Bonnie…

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Leslie Ysuhuaylas กับ Rebecca Callister ผู้อำนวยการศูนย์บริการสัตว์  New Life IFS Rescue ได้ไปในย่านเท็กซัสตะวันออกเพื่อช่วยสุนัขตัวหนึ่ง แต่ที่นั่นพวกเขาได้พบสุนัขอีกตัวหนึ่งที่มีห่วงโซ่ขนาดใหญ่คล้องคออยู่     Ysuhuaylas บอกว่า “สุนัขตัวนั้นเริ่มคลานมาหาเราช้าๆ เหมือนไม่แน่ใจว่าควรมาหาเราดีมั้ย มันมีโซ่ขนาดใหญ่อยู่รอบคอ มันดูหวาดกลัว สภาพก็ดูแย่และผอมมาก”     ตอนแรกพวกเขาคาดว่ามันเป็นสุนัขจรจัดหรือไม่ก็เป็นหมาที่ถูกเจ้าของเก่าทิ้งไว้บนถนน แต่แล้วพวกเขาก็ได้รู้ว่ามันอยู่กับแม่หมาและลูกหมาจำนวนหนึ่ง ที่สำคัญพวกมันมีเจ้าของ แต่ไม่ได้รับการดูแล Ysuhuaylas กับ Callister จึงไปคุยกับเจ้าของเพื่อขอรับสุนัขเหล่านี้ไปดูแล ทางเจ้าของเองก็ยินดีมอบสุนัขให้พวกเขา     เมื่อพาหมาเหล่านั้นมาถึงที่ที่ปลอดภัย Ysuhuaylas ก็เอาโซ่ขนาดใหญ่อออกจากคอเจ้าหมา และตั้งชื่อให้มันว่า Dudette  Ysuhuaylas บอกว่า “ถ้าคุณได้ถือโซ่นั้นในมือ คุณจะรู้ว่ามันหนักมาจนสามารถทำหยุดเลือดไม่ให้ไหลเวียนได้ นั่นทำให้รอบคอของเจ้าหมามีรอยโซ่ และมันดูกลัวเล็กน้อยตอนที่เราเอาโซ่ออกให้”     คืนนั้น Dudette กับสุนัขตัวอื่นๆ นอนที่บ้านของ Ysuhuaylas ก่อนจะถูกพาไปโรงพยาบาลสัตว์ในวันรุ่งขึ้น หลังจากทีี่ตรวจสุขภาพพบว่าสุนัขทุกตัวมีติดเชื้อคอคซิเดีย แต่โชคดีที่พวกมันได้รับการรักษาจนหายดี เมื่อ Dudette อาการดีขึ้นจนสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ มันก็ได้เข้าสู่โครงการอุปถัมภ์ของ New Life IFS Rescue  …

Justin Huegel ได้พบกับ Charlie ไม่กี่วันก่อนที่เขาจะกลายเป็นพี่เลี้ยงของมันและ Dually น้องสาวมันอีกตัว เขาสามารถบอกได้ทันทีว่าเขากับแมวเหมียวผู้น่ารักวัย 5 ปีตัวนี้เข้ากันได้ดีมาก Charlie เป็นแมวที่อยากรู้อยากเห็นมากและชอบสำรวจสิ่งใหม่ๆ เสมอ ดังนั้น Huegel แม้จะเป็นแค่พี่เลี้ยงแมวชั่วคราว ในช่วงที่เจ้าของของพวกมันไม่อยู่ แต่เขาก็ตัดสินใจสร้างบางอย่างสำหรับเจ้าเหมียว     เนื่องจาก Huegel เป็นทหารผ่านศึก เขาคุ้นเคยกับรถถังตอนอยู่ในกองทัพ ดังนั้นเขาจึงสร้างรถถังให้เจ้าเหมียว เพื่อให้เหมาะกับนิสัยชอบสำรวจของมัน Huegel มีแมว 5 ตัว ที่ผ่านมาเขามักจะสร้างของเล่นจากกระดาษลังให้พวกมันอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อได้เป็นพี่เลี้ยงให้ Charlie กับน้องสาว เขาคิดว่าพวกมันก็ควรมีของเล่นพิเศษแบบนั้นเหมือนกัน     ตอนที่อยู่ระหว่างสร้าง Charlie ดูไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่พอทำเสร็จเท่านั้นแหละ มันกระโดนเข้าไปนั่งในรถถังกระดาษและไม่ยอมออกมาเลย แต่ดูเหมือนของเล่นชิ้นนี้จะสร้างความแตกแยกระหว่างพี่น้อง เพราะน้องสาวของมันก็อยากเล่นด้วย พวกมันจึงมักตบตีกันเพื่อแย่งของเล่นชิ้นนี้     เพื่อแก้ปัญหานี้ Huegel จึงสร้างรถถังของเล่นอีกชิ้นให้ Dually แต่ไม่รู้ว่าน้องจะได้เล่นหรือเปล่านะ เพราะ Charlie ชอบรถถังกระดาษนี้มาก มันอยู่ในแต่ในนั้นจนแทบไม่ยอมไปไหน ดังนั้น ถ้าทำรถถังอีกคันหนึ่ง Huegel เกรงว่าเจ้า Charlie จะยึดไปครองทั้งสองคัน และสุดท้ายมันก็ต้องตบตีกับน้องสาวอีก  …

สุนัขขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์และฉลาด ดังนั้น พวกมันหลายๆ ตัวจึงถูกฝึกให้เป็นสุนัขบริการบ้าง สุนัขกู้ภัยบ้าง เพื่อช่วยเหลือคนหรือสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างกรณีของน้องหมาเกรท ไพรีนีส ที่หายไปในป่า เจ้าของกังวลมากและกลัวจะไม่ได้เห็นมันอีก และนั่นคือช่วงเวลาที่สุนัขกู้ภัยตัวหนึ่งเข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้ และทำในสิ่งที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้     ก่อนจะเริ่มภารกิจช่วยเหลือ เรามาทำความรู้จักเจ้าหมากู้ภัยตัวนี้กันสักนิด… เริ่มจากมีคนเจอแม่หมาพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ดที่กำลังท้อง หลงอยู่ในป่าที่วอชิงตัน คนที่พบเจอพาแม่หมาตัวนั้นไปส่งให้ทางศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Useless Bay Sanctuary ในเมือง Seahurst ซึ่งดำเนินการโดย Jim Branson     หลังจากที่เข้ามาในศูนย์ช่วยเหลือได้เพียงวันเดียว แม่หมาก็คลอดลูกน้อยออกมา 1 ตัว Jim จึงตั้งชื่อให้ลูกหมาตัวนั้นว่า Tino     เมื่อ Tino โตขึ้น Jim สังเกตเห็นว่ามันชอบออกไปสำรวจป่าและรักอิสระนอกบ้าน Jim จึงเริ่มพามันเข้าร่วมภารกิจช่วยเหลือกับสุนัขตัวอื่นๆ และออกสำรวจพื้นใกล้เคียง เผื่อว่ามีใครต้องการความช่วยเหลือ แต่ Tino มีความพิเศษกว่าสุนัขกู้ภัยทั่วไป มันเริ่มฝึกฝนด้วยตัวเอง ทุกครั้งที่มีภารกิจช่วยเหลือ มันจะตื่นเต้นกับการที่ได้ออกตามหาและเป็นผู้ช่วยเหลือ     ไม่นานหลังจากที่ได้รับการรับรองเป็นสุนัขกู้ภัย Tino ก็ถูกเรียกตัวไปทำภารกิจที่สำคัญมาก … เนื่องจาก Jim ได้รับแจ้งจาก Karen James เจ้าของ…

เมื่อไม่นานมานี้สวนสัตว์แมรีแลนด์ จากประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่งช่วยเต่าเอาไว้ตัวหนึ่ง และเพื่อให้มันสามารถใช้ชีวิตปกติและพักฟื้นไปได้พร้อมๆ กัน พวกเขาก็เลยทำรถเข็นสุดเท่จากเลโก้ให้มันใช้เป็นกรณีพิเศษด้วย     มีคนไปเจอเจ้าเต่าหับตัวนี้อยู่ในสวนสัตว์ สภาพกระดองด้านล่างของมันแตกหักจนทำให้เดินได้ลำบาก คาดว่ามันอาจจะบาดเจ็บเพราะตกลงมาจากที่สูง     สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยรักษาเจ้าเต่าได้อย่างไม่ยากเย็น แต่สิ่งที่ยากก็คือการฟื้นฟูแผลของมันต่างหาก เพราะพวกเขาจำเป็นต้องไม่ให้กระดองของมันแตะพื้น ในขณะเดียวกันก็อยากให้มันเดินไปมาเองได้เช่นกัน ในกรณีนี้พวกเขาควรจะให้มันใช้รถเข็นเหมือนหมาหรือแมว แต่ก็ไม่มีใครทำรถเข็นไซส์ของเต่าไว้เลย ทางสวนสัตว์จึงตัดสินใจทำมันขึ้นมาเอง โดยใช้ตัวต่อเลโก้นี่แหละทำรถเข็นเฉพาะตัวให้มัน     Garrett Fraess สัตวแพทย์ที่รักษามันเล่าว่า “ในเมื่อไม่มีรถเข็นขนาดที่เต่าใช้ได้ เราก็เลยลองวาดโครงร่างคร่าวๆ ขึ้นมา แล้วส่งมันไปให้กับคนที่เรารู้จักซึ่งชอบการต่อเลโก้สร้างรถเข็นให้”     หลังจากที่ได้รถเข็นสั่งทำพิเศษจากเลโก้มา เจ้าเต่าก็สามารถเคลื่อนที่ได้ตามปกติโดยที่กระดองด้านล่างของมันไม่แตะพื้นตามที่สัตวแพทย์ต้องการ Ellen Bronson สัตวแพทย์อีกคนหนึ่งบอกว่าเต่าใช้เวลาฟื้นฟูแผลค่อนข้างนาน ดังนั้นเจ้าเต่าก็คงจะได้ใช้รถเข็นเลโก้นี้ไปจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้ากันเลยทีเดียว     นอกจากจะช่วยให้เจ้าเต่าเคลื่อนที่ได้อย่างสะดวกสบาย และช่วยป้องกันไม่ให้แผลสัมผัสพื้นแล้ว รถเข็นของมันยังดูเท่มากด้วยนะ ส่วนจะเคลื่อนที่คล่องแคล่วขนาดไหนต้องลองไปชมวิดีโอกันเอาเอง      ที่มา: Lad Bible, Chesapeake Bay, The Maryland Zoo in Baltimore, Tampa Bay…

คนเลี้ยงลูกหมาต้องเข้าใจว่าพวกมันซุกซน ดังนั้นจึงควรทำใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เลยว่าจะต้องตามเก็บกวาดความป่วนที่พวกมันทำไว้บ่อยๆ ด้วย แต่ถึงแม้ John Pennington ที่มีประสบการณ์เลี้ยงลูกหมามานานจะรู้เรื่องนี้ดี เขาก็ต้องเหวอแรงเมื่อกลับบ้านมาพบว่าลูกหมาแค่ตัวเดียวทำให้ห้องครัวของเขามีสภาพเละเทะจนแทบจำไม่ได้     John พึ่งจะรับลูกหมาตัวใหม่ที่ชื่อว่า Hulk เข้ามาเลี้ยงได้ไม่นาน เขาทำงานเป็นคนรับส่งสัตว์เลี้ยงจึงคุ้นเคยกับความซนของพวกมันดี แม้ว่างานของเขาจะทำให้ต้องออกบ้านบ่อยๆ แต่เขาก็มีกรงให้มันอยู่ในครัวแล้ว จึงไม่ต้องกลัวว่ามันจะเล่นซนจนเกินขอบเขต แล้วเขาก็ยังแวะกลับมาดูแลมันระหว่างวันบ่อยๆ ด้วย     แต่อยู่มาวันหนึ่งเมื่อเขาออกจากบ้านไปนานกว่าปกติ เขาก็ต้องอึ้งเมื่อห้องครัวของตัวเองถูกเจ้า Hulk ที่น่าจะอยู่ในกรงช่วยทาสีใหม่จนหมดห้อง แถมทาแบบเลอะเทอะไม่น่าดูเอาซะเลย ส่วนเจ้าหมาตัวต้นเหตุนอกจากจะไม่รู้สึกผิดแล้ว มันยังมองเขาด้วยท่าทางดีใจและส่ายหางให้อย่างแรง เหมือนกับว่ามันกำลังภูมิใจที่ได้โชว์ผลงานใหม่ของตัวเองให้เจ้านายได้เห็น      John เล่าว่า “ผมอึ้งมากจนพูดไม่ออกเลย ผมได้แต่หัวเราะแล้วคิดว่า ‘พระเจ้าช่วย มันทำแบบนี้จริงดิ?’ แล้วผมก็โกรธมันไม่ลงด้วย“ เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพราะนอกจากมันจะหนีออกมาจากกรงเองได้แล้ว มันยังปีนขึ้นไปด้านบนเคาเตอร์ แล้วเปิดฝากระป๋องสีที่วางไว้ด้านบนเองได้อีก เขาคิดไม่ออกเลยว่ามันทำแต่ละอย่างได้ยังไง นอกจากห้องครัวที่ขาวโพลนไปด้วยลายรอยเท้าของเจ้า Hulk แล้ว มันยังแอบไปอึในหม้อหุงข้าวของเขาด้วย เรียกได้ว่าแสบครบสูตรจริงๆ     โชคดีที่เจ้าหมาแค่อาบน้ำไม่กี่รอบสีก็หลุดออกจากตัวมันหมดแล้ว แถมมันยังร่าเริงเหมือนกับว่าไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิดเดียว สมกับเป็นลูกหมาแสนซนเลย ส่วนห้องครัวที่มันทำเลอะนั้น…

ใครก็บอกว่าตัวเองรักหมาได้ แต่คงมีไม่กี่คนหรอกที่เห็นความลำบากของพวกมัน แล้วไม่ปล่อยผ่านเลยไปเหมือนเด็กชายคนนี้ Roman McConn หนุ่มน้อยวัย 7 ขวบจากประเทศสหรัฐอเมริกาได้ช่วยหาบ้านให้หมามามากกว่า 1,200 ตัวแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมถึงเจ้า Luna หมาของเขาเองด้วย     หนุ่มน้อยเริ่มต้นช่วยหมาครั้งแรกหลังจากที่เห็นภาพในศูนย์พักพิงสัตว์ด้วยตัวเอง เขารู้สึกสงสารพวกหมาที่ไม่มีใครสนใจรับไปเลี้ยง เขาจึงขอร้องให้คุณแม่ช่วยทำโครงการการกุศล Project Freedom Ride เพื่อช่วยกันหาบ้านให้สุนัขอยู่อย่างมีความสุข     ตอนแรกคุณแม่ Jennifer คิดว่าลูกของเธอคงอยากช่วยสัตว์เพียงไม่กี่ตัว แต่ปัจจุบันโครงการการกุศลของ Roman ได้ช่วยหมาไว้กว่าพันชีวิตภายในเวลาแค่ 2 ปี และก็คงจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต     Roman ถือเป็นแกนหลักในการดำเนินโครงการนี้เลยทีเดียว ถึงเขาจะยังเด็กอยู่ แต่เขาก็ทำตั้งแต่หารูปเจ้าหมามาลงเพจ ถ่ายวิดีโอเพื่อโฆษณาให้เจ้าหมา แล้วโทรไปติดต่อหาคนที่ต้องการสัตว์เลี้ยงด้วยตัวเอง คงเป็นเพราะความทุ่มเทและความจริงใจของหนุ่มน้อยนี่แหละ ก็เลยมีคนให้ความสนใจกับโครงการนี้ รวมทั้งช่วยบริจาคเงินให้เพื่อใช้ในการขนส่งสัตว์เลี้ยงไปหาเจ้าของคนใหม่ด้วย     เด็กชายเล่าว่า “พวกเราไปศูนย์พักพิงสัตว์ในรัฐเท็กซัส และงานหาเจ้าของให้สัตว์เลี้ยงของ Petsmart ทุกเสาร์อาทิตย์ เราเห็นว่ามีหมามากมายต้องการบ้านอยู่ พอถึงวันเกิดของผม ผมก็เลยขอพ่อแม่ให้หาเงินบริจาคช่วยพวกมันแทนที่จะซื้อของขวัญมาให้ผม”     Roman เล่าต่อว่า “เคยมีบ้างเหมือนกันที่ผมเจอหมาที่ค่อนข้างแรงเยอะ…

หมามีอยู่มากมายหลายสายพันธุ์ แล้วแต่ละสายพันธุ์ก็มีความน่ารักที่ไม่เหมือนกัน บางตัวก็ขี้เล่น บางตัวก็บ้าพลัง เรียกได้ว่ามีจุดเด่นไม่ซ้ำกันเลย ส่วนวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับความน่ารักของดัชชุนด์ หมาตัวเล็กผู้ซื่อสัตย์ที่มีขนสวย หมาพันธุ์นี้ก็มีคนเลี้ยงเยอะเหมือนกันเนื่องจากพวกมันตัวเล็กสามารถเลี้ยงไว้ในบ้านได้สะดวก แต่ข้อดีของพวกมันไม่ได้มีแค่นี้หรอกนะ ดัชชุนด์ยังมีข้อดีอีกมากที่ทำให้มันน่าเลี้ยงสุดๆ ไปเลย   เชิญพบกับหมาดัชชุนด์ เจ้าหมาขาสั้นตัวยาว   น้องๆ เข้ากับคนง่าย ดังนั้นเลี้ยงไว้กับเด็กก็ได้ ไม่มีปัญหา   แถมยังดูน่ารักทุกเวลาแม้แต่ตอนหลับ   ดัชชุนด์เป็นหมาที่แต่งตัวชุดไหนก็ขึ้นไปหมด   จึงเหมาะกับเจ้าของที่บ้าการถ่ายรูปลูกรักของตัวเองเป็นที่สุด   พร้อมไปโรงเรียนแล้วงับ   ใส่ชุดกิโมโนยังดูเข้ากันเลย   อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนตกหลุมรักดัชชุนด์ก็คือดวงตาโตๆ ของมัน   ขอให้ลองได้จ้องตากับมันเถอะ มนุษย์หน้าไหนก็ต้องยกใจให้   สำหรับขาท่องเที่ยวดัชชุนด์ก็เหมาะเป็นเพื่อนเที่ยวเหมือนกัน   ถึงจะเที่ยวแบบเอ็กซ์ตรีมอย่างปีนเขาไม่ค่อยได้ แต่ถ้าเที่ยวแบบสบายๆ หายห่วง   เพราะพวกมันชอบพบเจอสิ่งใหม่ๆ และปรับตัวได้ค่อนข้างดี   เห็นพวกมันท่าทางเรียบร้อยแบบนี้ จริงๆ แล้วซนเหมือนกันนะ   เตรียมรับมือกับความขี้เล่นของมันไว้ให้ดีล่ะ   น่ารักมากจนมนุษย์เอามาทำรูปปั้นเลย   พวกมันฉลาดนะ…

เจ้าหมาตัวหนึ่งเป็นโรคผิวหนังจนทำให้ขนร่วงแทบไม่เหลือ โชคดีที่มีคนมากมายพร้อมให้ความช่วยเหลือมัน ทำให้สุดท้ายมันก็ได้ชุดแบรนด์แนมสุดสวยมาใส่ เพิ่มทั้งความสวยและความมั่นใจไปเลย Fraser เป็นหมาพุดเดิ้ลอายุ 4 ขวบ มันเป็นโรคผิวหนังซึ่งเรียกว่า Sebaceous Adenitis ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงขวบเลย ส่งผลให้มันมีขนขึ้นตามร่างกายแค่บางจุด     การที่ขนของมันร่วงนอกจากจะทำให้ดูไม่สวยงามแล้ว ยังเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันด้วย เนื่องจากพอไม่มีขน ผิวของมันก็ทนแดดทนฝนได้ไม่ดีพออย่างที่ควรเป็น เจ้าของจำเป็นต้องทาครีมกันแดดให้มันก่อนออกบ้านทุกครั้ง Aileen Perry หญิงวัย 54 ปีที่ได้เจอมันรู้สึกสงสาร ถึงจะไม่ได้เป็นเจ้าของมัน เธอก็อยากช่วยจึงสั่งตัดเสื้อแบรนด์หรูอย่าง ฺBurberry ให้มันใส่ เจ้าหมาจะได้มีเสื้อไว้กันลมและแดดบ้าง     อย่างไรก็ตาม การตัดเสื้อให้มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีคนจำนวนมากยื่นมือเข้ามาช่วย เนื่องจาก Perry จำเป็นต้องวัดตัวเจ้าหมาผ่านวิดีโอคอล แต่ Elaine หญิงแก่ซึ่งเป็นเจ้าของของมันไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ตเลย โชคดีที่มีคนแปลกหน้ายินดีช่วยเดินทางไปหาเจ้าหมาเพื่อเปิดวิดีโอคอลกับ Perry ให้ เธอเลยวัดตัวมันสำเร็จแล้วก็ตัดเสื้อให้เจ้าหมาได้ นอกจากนี้ตอนที่เสื้อถูกส่งไปให้เจ้าหมาที่บ้าน ก็มีคนแปลกหน้าอีกคนอาสาไปหามันเพื่อเปิดวิดีโอคอลสอนเจ้าของให้ใส่เสื้อให้มันอีกรอบหนึ่ง มีแต่คนยินดีช่วย Fraser เต็มไปหมดเลย     หลังจากที่เจ้าหมาได้เสื้อมา มันก็ดูมั่นใจมากขึ้นเวลาออกไปเดินเล่นข้างนอก น่าจะเป็นเพราะมันไม่รู้สึกร้อนผิวเนื่องจากผิวโดนแดดโดยตรงแล้ว แถมชุดแบรนด์เนมของมันยังทำให้มีแต่คนสนใจด้วย เรื่องราวของเจ้าหมาทำให้เราได้รู้ว่าโลกเรายังมีคนดีๆ อยู่เยอะแยะเลย…

ถึงคุณจะเป็นคนใจกล้ามากขนาดไหน ถ้าได้เจอกับงูตัวโตเข้าก็มีหนีกันบ้างล่ะ คงไม่มีใครอยากเสี่ยงเข้าไปยุ่งกับอสรพิษตัวโตหรอก แต่ถ้าชีวิตของครอบครัวที่เรารักตกอยู่ในอันตรายเพราะมัน อาจจะทำให้คุณมีแรงฮึดไปสู้กับงูอย่างเด็กชาย 3 คนนี้ก็ได้นะ     ในคลิปวิดีโอที่เราจะได้เห็นต่อไปนี้เป็นการต่อสู้ของเด็กชาย 3 คนกับงูตัวโต เพื่อช่วยให้เจ้าหมาซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงสุดรักของพวกเขาปลอดภัย จะเห็นได้ว่าเจ้าหมาถูกงูรัดช่วงล่างของลำตัวแน่นมาก ขาหลังของมันเองก็ถูกรัดจนขยับหนีไปไหนไม่ได้เลย  เลยได้แต่นั่งนิ่งๆ รอความช่วยเหลือ     หนึ่งในกลุ่มเด็กชายที่โตที่สุดก็เลยใช้แท่งเหล็กกดหัวเจ้างูเอาไว้ ส่วนเด็กเล็กอีก 2 คนก็เอาใบไม้แห้งไล่ฟาดงูใหญ่เลย คงกะว่าถ้าทำให้มันตกใจได้มันคงจะปล่อยเจ้าหมาไป แต่เมื่อพวกเขาพยายามตีเท่าไหร่งูมันก็ไม่ปล่อยสักที ทั้ง 3 คนเลยเปลี่ยนวิธีช่วยเจ้าหมาไปเป็นการพยายามช่วยกันคลายงูออกจากตัวเจ้าหมาแทน     ในตอนนั้นพวกเขาไม่ได้กลัวเจ้างูแล้ว พวกเขาสนใจแค่ความอยู่รอดของเจ้าหมาเท่านั้น จึงปล่อยหัวงูที่ใช้แท่งเหล็กกดไว้ออก แล้วใช้มือดึงทั้งหัวและหางของมันแทน งูจะได้รัดเจ้าหมาไว้ไม่ได้ เมื่อเด็กชายช่วยกันดึงงูจนส่วนที่รัดตัวเจ้าหมาคลายออกมากพอ ในที่สุดเจ้าหมาก็เลยได้โอกาสวิ่งหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย     สิ่งที่ช่วยให้เด็กทั้ง 3 คนมีความกล้าที่จะเผลิญหน้ากับงูตัวโตเพื่อช่วยสัตว์เลี้ยง น่าจะเป็นความรักที่มีให้กับมัน เด็กชายจึงยอมเสี่ยงอันตรายดีกว่าปล่อยให้งูเอาเจ้าหมาไปจากพวกเขา เราคิดว่าถ้าถึงคราวที่สัตว์เลี้ยงของเพื่อนๆ ตกอยู่ในอันตรายบ้าง ไม่ว่าคุณจะกลัวขนาดไหนก็ไม่มีทางทิ้งพวกมันไว้หรอก ถ้าคุณรักมันจริงๆ ตอนนั้นคุณจะคิดถึงความปลอดภัยของมันมากกว่าตัวคุณเอง ที่มา: Daily Mail

เมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่ Chloe Sargent จากซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย กำลังทำงานอยู่ในบ้าน เธอเริ่มสังเกตเห็นเจ้าเหมียว Kitty Pryde ส่งเสียงร้องเมี๊ยวๆ ไม่ยอมหยุด Chloe จึงเฝ้าดูเจ้าเหมียว เพราะเธอไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้มาก่อน สักพัก Kitty ก็กระโดดขึ้นมาบนขอบหน้าต่างในห้องนั่งเล่น และยังคงร้องเมี๊ยวๆ ต่อ หญิงสาวจึงเดินไปที่หน้าต่าง เพื่อดูว่าอะไรที่ทำให้เจ้าเหมียวมีอาการแบบนี้     เมื่อ Chloe มองออกไปที่หน้าต่าง เธอเห็นลูกแมวสีขาวตัวเล็กๆ ติดอยู่บนปล่องบันไดสูง ที่อยู่ด้านหลังอพาร์ตเมนต์ของเพื่อนบ้าน ลูกแมวน้อยดูหวาดกลัวมากๆ เพราะมันไม่รู้ว่าจะลงมายังไง ขณะเดียวกัน มันก็พยายามร้องอย่างสุดเสียงโดยหวังว่าจะมีใครสักคนได้ยินเสียงของมัน Chloe จึงรีบออกจากบ้านและไปยังอพาร์ตเมนต์นั้นทันที แล้วเคาะประตูเรียกเจ้าของบ้าน แต่ไม่มีใครอยู่บ้านเลย ขณะที่มิ้วน้อยยังคงร้องเรียกด้วยความหวาดกลัว     หญิงสาวจึงเดินผ่านประตูด้านข้างที่เปิดไว้ ในใจก็หวังว่าเจ้าของบ้านคงจะไม่เอาเรื่องสำหรับการบุกรุกในครั้งนี้ เพราะเธอมีเจตนาดี จากนั้น Chloe ก็ตะโกนเรียกมิ้วน้อย แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ยินเสียงของเธอ และเนื่องจากมิ้วน้อยลงมาเองไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจเดินขึ้นบันไดไปหามัน เมื่อไปถึง เธอเห็นแมวน้อยขดตัวเป็นวงกลมด้วยความหวาดกลัว และมันไม่สังเกตเห็นเธอ เธอพยายามทักทายมัน เพื่อทำให้มันสงบลง แต่มิ้วน้อยยังคงอยู่ท่าเดิม ไม่ยอมขยับ เธอจึงตัดสินใจเข้าไปอุ้มมันขึ้นมา    …

เมื่อเดือนที่แล้ว พลเมืองดีจากลอสแอนเจลิสเห็นลูกแมวพยายามข้ามถนนที่การจราจรวุ่นวาย มันดูอ่อนแอมาก พวกเขาจึงหยุดเพื่อช่วยลูกแมวตัวนั้น จากนั้นพวกเขาก็ติดต่อไปยังกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ TNR Now เพื่อขอความช่วยเหลือ ตอนนั้นลูกแมวเป็นโรคขาดสารอาหาร มันผอมมาก จนเห็นกระดูกชัดเจน     มิ้วน้อยไม่สามารถลืมตาได้ เพราะตาของมันติดเชื้อ มันหิวโหยมาก ดังนั้นเมื่อเจ้าหน้าเอาอาหารมาให้ มันจึงกินจนหมด เพื่อชดเชยความอดอยากที่ผ่านมา หลังจากการได้รับการักษาตา ทำความสะอาดใบหน้า เจ้าเหมียวก็สามารถนอนหลับได้อย่างสบายไร้กังวล ขณะเดียวกัน Nikki Martinez ผู้ช่วยเหลือจากลอสแอนเจลิส ได้ติดต่อไปหาผู้อุปถัมภ์ที่จะช่วยดูแลมิ้วน้อยในระหว่างที่มันรักษาตัว     Nikki บอกว่า “ฉันรู้จักศูนย์พักพิงและนักช่วยเหลือทั่วประเทศ ตอนนั้นฉันได้มีโอกาสไปแคลิฟอร์เนียตอนใต้และได้เจอเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้อุปถัมภ์แมว ฉันจึงถามเธอว่าไปลอสแอนเจลิสกับฉันได้มั้ย เธอตอบตกลง ฉันจึงพาเธอไปที่บ้านเพื่อรับอุปถัมภ์มิ้วน้อย” เพื่อนคนนั้นได้ตั้งชื่อมิ้วน้อยว่า Sugarbug มิ้วน้อยตัวเล็กและอ่อนแอมา มันหนักแค่ 272 กรัมเท่านั้น Nikki จึงเริ่มฉีดยาให้มันและรักษาอาการติดเชื้อของมันด้วยยาปฏิชีวนะ     ในช่วง 2-3 วันแรก ลูกแมวต้องการแค่นอน เพราะร่างกายของมันเหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิตอยู่บนถนนเป็นเวลานานโดยมีอาหาร Nikki เอาผ้าอุ่นให้มัน เพื่อให้มันรู้สึกสบายและอบอุ่น หลังจากที่ได้กินอาหารตามเวลา ได้รับการล้างหน้าบ่อยๆ และทำความอะอาดตา Sugarbug ก็เริ่มมีเรี่ยวแรงเพิ่มมากขึ้น     ไม่กี่วันต่อมา Sugarbug…

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่สุนัขจะชอบการลูบหัว ลูกท้อง หรือลูบทั้งตัว บางตัวเห็นคนเดินผ่านเป็นไม่ได้ เข้าไปอ้อนให้ลูบตัวให้จนได้ แต่ก็นะ ด้วยความเป็นหมามันเลยไม่เข้าใจเรื่องความเหมาะสมของเวลาและสถานที่ เหมือนกับเจ้าหมาจอมเกรียนตัวนี้ ที่อยู่ดีๆ ก็วิ่งเข้าไปในสนามฟุตบอลที่กำลังมีการแข่งขัน เพื่ออ้อนให้นักบอลลูบตัวให้ คงเห็นว่ามือพวกเขาว่างมั้ง     เหตุการณ์น่ารักๆ นี้เกิดขึ้นในช่วงนาทีสุดท้ายของการแข่งขันระหว่างทีม Unión De Santa Fe และทีม Gimnasia ในอาร์เจนตินา ระหว่างนั้น เจ้าหมาที่ชื่อ Roberto ก็ตัดสินใจเดินเข้าไปในสนาม พอไปถึงกลางสนามมันก็ลงไปนอนกลิ้งตัว โดยไม่สนใจว่าคนอื่นกำลังอะไรอยู่ สักพักมันก็พบว่าตัวเองถูกล้อมโดยนักฟุตบอลในสนาม นักฟุตบอลเองอดใจไม่ได้กับความน่ารักและความไร้เดียงสาของเจ้าตูบ พวกเขาจึงลูบหัว ลูบตัวให้มัน ทำเอาเจ้าหมาถึงกับฟินหนักมาก มันคงคิดว่าแผนการของมันสำเร็จแล้ว     อ่ะ ลูบเลยจ้า ลูบอีก อย่างนั้นแหละ   สัมผัสจากมือนักบอลมันฟินจริงจริ๊ง   ได้ฟินกับการลูบไล้เพียงไม่นาน Roberto ก็ถูกอุ้มออกจากสนาม และระหว่างที่ถูกอุ้มออกไปนั้น มันก็ยังคงทำหน้าฟินอยู่เช่นเดิม สงสัยจะติดอกติดใจมือพี่ๆ นักบอล แม้ว่าการป่วนของ Roberto จะทำให้การแข่งขันหยุดชะงักชั่วขณะ แต่สิ่งที่ผู้คนทั้งสนามได้รับนั้นถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะมันทำให้ทุกคนยิ้มแก้มปริ ทั้งผู้เล่นและกองเชียร์  …

เมื่อ Carri-Anne Jane ย้ายไปอยู่ที่ดูไบเพื่อฝึกงานในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2017 เธอไม่คิดเลยว่าจะกลับมาพร้อมสัมภาระชิ้นพิเศษที่สำคัญต่อใจมากๆ Jane ไปถึงดูไบในเดือนตุลาคม หลังจากนั้นเธอก็สังเกตเห็นแมวตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง ซุ่มอยู่บริเวณทางทางเข้าอพาร์ตเมนต์ของเธอ     เธอคิดว่าแมวตัวนี้กำลังหาอาหาร เธอจึงนั่งลงให้อาหารมัน ก่อนจะได้รับการตอบสนองจากแมวในแบบที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน เจ้าเหมียวตัวนั้นมีขนสีขาวและสีน้ำตาล มันปฏิเสธอาหารที่หญิงสาวยื่นให้ แต่มันเลือกที่จะเรียกร้องความสนใจจากเธอแทน Jane เล่าว่า “ฉันนั่งลงและเอาอาหารให้มัน แต่มันกลับกระโดดขึ้นมาบนตักของฉัน ถูหัวไปมาบนนั้น และเริ่มทำเสียงเพอร์”     Jane กับแมวตัวนี้กลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็วและอยู่ในชีวิตประจำวันของกันและกันตั้งแต่วันนั้น ทุกครั้งที่หญิงสาวกลับจากที่ทำงาน เจ้าเหมียวจะวิ่งไปต้อนรับพร้อมเสียงเมี๊ยวๆ เสมอ เธอตั้งชื่อให้มันว่า Eleven  อยู่มาวันหนึ่ง รูมเมทของ Jane ชี้ให้ดูว่าแมวตัวนั้นมีขนรูปหัวใจอยู่ที่ด้านข้างของมัน ยิ่งตอนที่มันกอดหญิงสาว จะเห็นได้ชัดมากขึ้น     หญิงสาวทึ่งมาก เพราะรูปลักษณ์ภายนอกสะท้อนสิ่งที่อยู่ในใจมัน เธอจึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อให้มันอย่างรวดเร็ว “มันเป็นแมวที่น่ารักมากๆ และมันมีหัวใจที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่แมวจะมีได้” หญิงสาวบอก “ตอนนี้ฉันเปลี่ยนชื่อให้มันเป็น Brave“ ต่อมาในเดือนธันวาคม Jane รู้ว่าไม่สามารถทิ้ง Brave ไว้ที่นี่ได้ เธอจึงพามันไปหาสัตวแพทย์ เพื่อให้แน่ใจว่ามันมีสุขภาพดีพอที่เธอจะพามันกลับไปยังแอฟริกาใต้ได้     อย่างไรก็ตามการขนส่งแมวไปยังบ้านของเธอใน Cape Town…

สัตว์คือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ พวกมันรอคอยเรา เชื่อฟังเรา และไม่เคยตั้งคำถามที่ไม่จำเป็น พวกมันรักในแบบที่เราเป็น และพวกมันดีใจเสมอที่ได้เจอกัน บางครั้งเราอาจจะไม่เห็นพวกมันอยู่ในสายตาและไม่ได้คิดว่าความสนใจจากเราคือทั้งหมดที่พวกมันต้องการ และนี่คือมิตรภาพระหว่างมนุษย์กับสัตว์เลี้ยงที่เต็มไปด้วยความรัก ซึ่งเป็นนความสัมพันธ์ที่เราหลายๆ ต้องการ   “หนึ่งในน้องหมาของเราจากไปวันนี้ และดูเหมือนเจ้าหมาอีก 2 ตัว จะรู้มาก่อนหน้านี้แล้ว พวกมันเลยบอกลาพี่หมาทุกๆ เข้า”   “เหมียวอายุเกือบ 30 ปีแล้ว มันจึงไม่เหลือฟันและกรงเล็บ แต่มันก็ยังเป็นแมวแก่ที่สง่างามสำหรับฉันเสมอ”   “เจ้าหมาทำให้ฉันขับเลยทางออกและบางครั้งมันก็ทำให้ฉันเลือกเพลงที่ไม่ค่อยน่าฟังนัก แต่มันมีค่าจนไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สามารถซื้อมันได้”   “เหมียวในฟาร์ม ทำแบบนี้ทุกครั้งที่ผมเดินมาอยู่ใกล้”   “น้องหมาต้องนอนค้างในโรงพยาบาลสัตว์ ฉันจึงต้องบอกมันเล็กน้อยว่าสุนัขตัวอื่นๆ ต้องการเป็นเพื่อนกับมันนะ แต่มันป่วยหนักเกินไปที่จะเล่นกับพวกมันได้ตอนนี้”   “หยุดร้องไห้เถอะนะ พี่เข้าใจหนู พี่เข้าใจ…”   “คุณหมอบอกว่ากระต่ายของผมเป็นโรคหัวใจและมันอยู่ได้อีกไม่กี่วัน แต่มันอายุแค่ 3 ขวบ ผมเลยคิดว่าเราน่าจะมีเวลาอยู่ด้วยกันหลายปี”   “ฉันเดินเข้าไปในศูนย์พักพิง และถามว่าพวกเขาแมวตัวไหนที่อยู่ในนี้นานที่สุด และแล้วฉันก็ได้กลับบ้านพร้อมกับแมวแก่หูหนวก ไม่มีฟัน แต่มันมีหัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก และนี่คือ Cali”   “สุนัขของฉันชอบขึ้นมานั่งบนรถแทรกเตอร์แม้จะมีพื้นที่เพียงเล็กน้อยก็ตาม”  …

เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน Martin Hall Jr คนขับรถบรรทุก ได้ขับรถไปยังพื้นที่ห่างไกลใน Coulterville รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อที่จะไปทำงานตามหน้าที่เท่านั้น แต่ระหว่างทางนั้น เครื่องนำทางทำให้เขาหลงออกนอกเส้นทาง แต่ใครจะไปคิดว่าความผิดพลาดครั้งนี้ ทำให้เขากลายเป็นผู้ช่วยชีวิตคน     Hall เล่าว่า “ตอนที่หลงทาง ผมไม่รู้ว่าต้องไปทางไหนแต่ผมต้องเลือกสักทาง ตอนนั้นเอง ผมสังเกตเห็นหมาตัวหนึ่ง นั่งอยู่กลางถนนลูกรัง” เขาคิดว่ามันน่าจะหลงทาง เพราะสุนัขตัวนั้นมีสายจูงและปลอกคอ เขาจึงตัดสินใจจอดรถและลงไปช่วยมัน โดยการเข้าหามันอย่างเป็นมิตร เขาพยายามล่อสุนัขด้วยขนมปังเพื่อให้มันเดินเข้ามาหา แต่เจ้าหมาไม่ยอมขยับเลย     Hall ไม่สามารถเข้าไปช่วยเจ้าหมาได้ เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอ โดยตั้งใจจะเอาไปโพสต์ในโซเซียลเพื่อตามหาเจ้าของของมัน เมื่อการช่วยเหลือไม่สำเร็จ Hall จึงทิ้งขนมปังและน้ำไว้ให้เจ้าหมาที่นั่น และขับรถไปต่อ แต่จังหวะนั้น เขาก็รู้สึกแปลกๆ และตัดสินใจที่จะลองดูอีกครั้ง     Hall บอกว่า “เจ้าหมาเหมือนจะพูดว่า ‘เจ้าของของฉันอยู่แถวนี้ อย่าเพิ่งไป’ ดังนั้น ผมจึงลงจากรถและเริ่มถ่ายวิดีโออีกครั้ง ตอนนั้นเองที่ผมได้ยินเสียงบางอย่าง” และนี่วิดีโอข้างล่างนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น     เขาเห็นลูกหมาอีกตัวหนึ่งอยู่ข้างถนน และข้างๆ…

สุนัขส่วนใหญ่ที่ถูกขโมยไปมักจะไม่มีโอกาสได้กลับมาหาเจ้าของอีกเลย เพราะพวกมันอาจจะถูกฆ่าก่อนจะหนีออกมา หรือไม่ก็หาทางกลับบ้านไม่ได้ แต่สำหรับ Silla สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ด วัยเพียง 9 เดือนตัวนี้ มันมีความมุ่งมั่นและพยายามที่จะเอาตัวรอดเพื่อที่จะได้กลับบ้านให้ได้ หลังจากถูกลักพาตัว     เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ภาคเหนือของประเทศตุรกี เมื่อ Silla ถูกลักพาตัว ขณะที่ Serdar Keskindir ผู้เป็นเจ้าของอยู่ในที่ทำงาน…ตำรวจสันนิษฐานว่าขโมยน่าจะจับมันไปขาย เมื่อ Serdar รู้ว่าเพื่อนที่ดีที่สุดของหายไป เขาตกใจและเสียใจมาก เขาจึงพยายามที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เจ้าตูบกลับมา อันดับแรก เขาตั้งรางวัล 10,000 บาท สำหรับใครก็ตามที่สามารถพาเจ้าหมากลับมาหาเขาได้     แม้ว่าการตั้งรางวัลนำจับจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ Serdar เชื่อว่ามันน่าจะทำให้คนร้ายขาย Silla ได้ยากมากขึ้น และแล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ คนร้ายตัดสินใจทิ้ง Silla และระหว่างนั้น ดูเหมือนว่ามันจะโดนหมาตัวอื่นทำร้ายมาอีกจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าหมาไม่ละทิ้งเป้าหมายที่จะเอาตัวรอดและกลับบ้านให้ได้ Silla เดินกะโผลกกะเผลกไปตามถนน ขณะเดียวกันมันก็มองหาที่ที่มันสามารถขอความช่วยเหลือได้ และไม่น่าเชื่อว่ามันเดินเข้าไปในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ จนได้พบกับความช่วยเหลือที่มันต้องการ     ภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลเผยภาพตอนที่เจ้าหมาขึ้นมาที่หน้าโรงพยาบาล ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในและทิ้งตัวลงด้วยความเหนื่อยล้า ต่อมา หมอในโรงพยาบาลจึงรีบแจ้งข่าวว่ามีสุนัขจรจัดเข้ามาในโรงพยาบาล เพียงไม่นาน Serdar ก็ทราบเรื่องนี้ เขาจึงรีบมุ่งหน้าไปยังพยาบาลดังกล่าวทันที และได้เจอเพื่อนรักในที่สุด…

สุนัขเป็นสัตว์ที่ฉลาด แต่บางทีพวกมันก็พลาดได้เหมือนกัน และตอนที่มันทำพลาดนี่แหละ จะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์หัวเราะ ยิ้ม และตกหลุมรักมันมากขึ้น ความเฟลของเหล่าเจ้าตูบหาดูได้ไม่อยาก โดยเฉพาะบ้านไหนที่ชอบเล่นเกมกับหมา คงจะได้เห็นความไร้เดียงสาของพวกมันบ่อยๆ เหมือนกับคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์ในอินสตาแกรม dunkinandkirby     ใครที่ติดตามไอจีดังกล่าว คงจะรู้จัก Dunkin กับ Kirby คู่หูสุดน่ารักที่โด่งดังในโซเชียล ซึ่งมีผู้ติดตามไอจีกว่า 31,000 คน แถมมีช่องยูทูบด้วยนะ ล่าสุด พวกมันยิ่งโด่งดังมากขึ้น เมื่อวิดีโอของ Dunkin ผู้น่าสงสารได้เผยแพร่ออกไป ซึ่งเป็นตอนที่มันเล่นเกมทายของในมือเจ้าของ แน่นอนนี่เป็นเกมที่ง่ายและเจ้าของก็เล่นกับมันเป็นประจำ     ตอนแรกของคลิป เจ้าของซ่อนอาหารไว้ในมือ แล้วยื่นกำปั้นออกไปให้ Dunkin ทายว่าอาหารอยู่ในมือข้างไหน เจ้าหมาได้ยกอุ้งขึ้นและวางบนมือซ้ายเจ้าของ คือเป็นการเลือกมือซ้ายนั่นแหละ พอเจ้าของเปิดมือออก ก็มีอาหารอยู่ในนั้นจริงๆ แต่มีชิ้นเดียว แล้ว Dunkin ก็กินอาหารชิ้นนั้นอย่างเอร็ดอร่อย และแล้วเจ้าของก็เฉลยความจริงที่อยู่ในมืออีกข้าง     พอเปิดออกมาปุ๊บ Dunkin เห็นว่าเป็นอาหารเหมือนกัน แต่มีหลายชิ้น มันเสียดายมากและรู้ว่าตัวเองโดนแกล้ง เลยเงยหน้ามองแรงใส่เจ้าของ เพราะสายตาที่มองแรงนี่แหละ ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากขำกับพฤติกรรมของมัน และทำให้ยอดวิวคลิปนี้พุ่งสูงมากกว่า 100,000 วิว    …

เมื่อ 2 เดือนก่อน Gina จากเมมฟิส รัฐเทนเนสซี พบลูกแมวซึ่งต่อมามีชื่อว่า Mercy อยู่ลำพังที่หลังบ้าน มันคลานไปมาแทนการเดิน เมื่อหญิงไปอุ้มมันขึ้นมา เธอก็ได้รู้ว่าขาของมันผิดปกติ Anna ลูกสาวของ Gina ตัดสินใจพา Mercy ไปศูนย์พักพิงสัตว์ที่ใกล้ที่สุดเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่พวกเขากลับปฏิเสธที่จะช่วยมัน     Gina จึงพาลูกแมวกลับบ้านพร้อมความผิดหวัง คุณแม่จึงโพสต์ภาพเจ้าเหมียวในโซเชียล เพื่อดูว่ามีใครพอจะรู้เกี่ยวกับความผิดปกตินี้บ้าง หลายจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ไป ชาวเน็ตหลายคนแนะนำให้พาเจ้าเหมียวไปตรวจกับสัตวแพทย์เป็นอันดับแรก     หลังจากที่ได้พบหมอ สองแม่ลูกจึงได้ทราบว่ามิ้วน้อยเกิดมาพร้อมความผิดปกติของขา แต่นอกเหนือจากนั้นมันมีสุขภาพแข็งแรงดี อย่างไรก็ตาม Gina และลูกสาวต้องการให้ลูกแมวได้พบกับศัลยแพทย์กระดูกและข้อ เพื่อรับคำแนะนำในการรักษามันอย่างถูกต้อง     หนึ่งเดือนต่อมา พวกเขาก็ได้พบกับคุณหมอ Fisher ที่ Bluff City Veterinary Specialists คุณหมอแนะนำให้มิ้วน้อยเข้ารับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขรูปขาเมื่อมันโตพอ ตอนนั้น Mercy อายุประมาณ 3 เดือน แต่น้ำหนักมันน้อยมาก ดังนั้น มันจึงทำให้ตัวเองโตกว่านี้ แข็งแรงกว่านี้ จึงจะพร้อมสำหรับการผ่าตัด     ทาง Bluff…

คู่รักจากรัฐนอร์ทแคโรไลนาได้ช่วยเหลือแมวตัวหนึ่งจากศูนย์พักพิง เจ้าเหมียวดีใจมากที่มีบ้านเป็นของตัวเอง มันกอดเจ้าของใหม่ด้วยอุ้งเท้าทั้ง 4 ข้าง และไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปไหน ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น Dan กับภรรยาของเขา Hannah ได้รับการติดต่อจากอาสาสมัครจาก Chesapeake Cats and Dogs ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ในรัฐแมรี่แลนด์ เกี่ยวกับแมวที่ต้องการการอุปถัมภ์     แมวตัวนั้นอายุ 9 ปี มันถูกนำมาปล่อยในศูนย์พักพิงที่นอร์ทแคโรไลนาเพราะสุขภาพของมันไม่ดี… หลังจากที่มีคนติดต่อมา Dan จึงลางานช่วงบ่ายและขับรถที่ศูนย์พักพิงดังกล่าวเพื่อไปรับเจ้าเหมียว เมื่อเจ้าเหมียวถูกนำตัวไปพบกับ Dan มันขี้อายมาก เห็นได้ชัดว่ามันถูกมนุษย์ทอดทิ้งมา ตอนนี้เจ้าหน้าที่จับมันใส่กรงสัตว์เพื่อให้ Dan พากลับบ้าน มันร้องเมี๊ยวๆ ที่ฟังคล้ายคำว่า ‘ไม่’ เพื่อทำให้มันสงบลง Dan จึงพูดกับมันตลอดทางที่ขับรถกลับบ้าน เขาบอกว่า “ผมบอกมันว่าจะพามันไปเจอทุกอย่างที่ดีกว่าและสะอาดกว่า ผมพยายามลูบมันเท่าที่จะทำได้ผ่านช่องกรงที่มันอยู่”     เมื่อมาถึงบ้าน คู่รักได้เปลี่ยนห้องรับแขกเป็นห้องสำหรับเจ้าเหมียว พวกเขาแปรงขนให้มันและดูเหมือนมันจะชอบซะด้วย หลังจากที่ให้ยาบรรเทาปวด เจ้าเหมียวก็เริ่มทำเสียงเพอร์และทำอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน คู่รักพยายามใช้เวลาอยู่กับมันให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมทั้งแปรงขนให้มัน ลูบมัน ในช่วงสองสามชั่วโมงแรก พวกเขาทำให้มันใจเย็นลง เพื่อที่จะตัดขนของมันที่จับกันเป็นก้อนและทำให้ขนของมันเรียบเนียน     หลังจากถูกแปรงขนด้วยความรัก เจ้าเหมียวก็กอดเจ้าของใหม่ด้วยอุ้งเท้า และไม่อยากให้พวกเขาไปไหน ต่อมาคู่รักได้ตั้งชื่อให้มันว่า Huggs…

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ Brittani Berg  จาก Clearwater Police Department ในรัฐฟลอริด้า ได้รับแจ้งเกี่ยวกับสัตว์หลง เธอก็ตัดสินไปช่วยตามหน้าที่โดยไม่รู้เลยว่าจะลงเอยด้วยการถูกตามไล่ นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าของบ้านคนหนึ่งกำลังจะออกไปทำงาน แต่แล้วพวกเขาก็เจอหมูอยู่ในโรงรถ     พวกเขาไม่รู้ว่าหมูตัวนี้มาจากไหน จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ สำหรับตำรวจ พวกเขาได้รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้านมากมายในแต่ละวัน แต่เรื่องหมูหายหรือหมูหลงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ หรอกนะ ดังนั้น เคสนี้จึงค่อนข้างแปลกหน่อย     ไม่นานหลังจากนั้น Berg ก็มาถึงบ้านที่โทรแจ้งมา และเมื่อได้เผชิญหน้ากับหมู เธอก็ตระหนักได้ว่าหมูไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่จะหลบหนีการจับกุม แต่มันกลับทำตรงข้าม…     และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อตำรวจมาถึง   อย่างที่เห็นนั่นแหละ นอกจากมันจะไม่หนีแล้ว มันยังวิ่งไล่ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย จนเธอต้องเดินหนีมันเรื่อยๆ โชคดีที่ทีมสมทบมาถึงพร้อมน้ำกับอาหาร เจ้าหมูจึงสงบลง ขณะเดียวกัน Berg กับเพื่อนร่วมงานพยายามตามหาเจ้าของของหมูตัวนี้ แต่ก็ไม่เจอ แล้วจะทำยังไงกับมันดีละเนี่ย…     ปรากฏว่าเมื่อการไล่ล่าสิ้นสุดลง และความตึงเครียดต่างๆ ก็ไม่มีแล้ว เจ้าหมูจึงได้ค้นพบสิ่งที่มันต้องการ นั่นคือ เพื่อนใหม่     เพื่อนใหม่ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Berg นั่นเอง…

ในโลกนี้มีสุนัขประมาณ 900 ล้านตัว ซึ่งเจ้าขนปุยทั้ง 900 ล้านตัวนี้พร้อมที่จะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ซื่อสัตย์ที่สุด และรักมนุษย์มากที่สุด ขณะที่มนุษย์เองก็ตอบแทนเหล่าเพื่อน 4 ขาด้วยการรักพวกมัน ใช้เวลากับพวกมัน และให้พวกมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต นี่ไม่ใช่ความบังเอิญแต่เป็นเพราะสุนัขคือสิ่งมีชีวิตที่ดีที่สุดในโลกสำหรับมนุษย์ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น   1. เพื่อนขนปุยพร้อมอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจคุณเสมอ   2. พวกมันทำใจคุณละลายได้ด้วยรอยยิ้ม   3. และเสียงหัวเราะ   4. สุนัขไม่ได้อยู่กับฝูงตัวเองเสมอไป เพราะมันมีความคิดเป็นของตัวเอง   5. บางครั้งพวกมันชอบเล่นเหมือนเด็กๆ   6. แต่บางทีก็ทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินวัย   7. พวกมันสามารถล้างสมองแมวให้คิดว่าตัวเองเป็นหมาได้   8. พวกมันรู้ว่าควรเลือกอะไร   9. หมานี่แหละ นักเซลฟี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด   10. พวกมันเป็นผู้ฟังที่ดี   11. พวกมันรู้หน้าที่ตัวเองแม้จะยังเป็นเพียงลูกหมาตัวน้อย   12. แววตากลมโตของพวกมันสามารถขอทุกอย่างจากคุณได้   13.…

หญิงสาวคิดว่าในรถของตัวเองมีสัตว์ตัวเล็กเข้ามาติดอยู่ บางทีอาจจะเป็นนกหรือหนูที่เข้าไประหว่างเธอจอดก็ได้ แต่สิ่งที่เธอไม่คิดเลยก็คือมันจะเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านของเธอเอง เมื่อต้นเดือนกันยายน 2018 มีหญิงสาวคนหนึ่งนำรถยนต์มาให้ช่างช่วยดูให้ เนื่องจากเธอได้ยินเสียงเหมือนมีสัตว์ติดอยู่ในรถของเธอ     ช่างที่ดูรถให้เธอเล่าว่า “คุณลูกค้ามาที่อู่ของเราเพราะเกิดความกังวลหลังจากได้ยินเสียงขูดหรือขวั่นในรถ เธอคิดว่าน่าจะมีสัตว์ติดอยู่ในรถของตัวเอง หลังจากผมและเพื่อนๆ ช่วยกันตรวจสอบดูใต้รถก็ไม่เจออะไรผิดปกติ เราจึงคิดว่ามันน่าจะวิ่งหนีไปแล้ว แต่ตอนนั้นเองมันก็ส่งเสียงให้เราได้ยินอีก เสียงมันดังมาจากโครงตรงบริเวณล้อรถ พวกเราก็เลยลองใช้ไขขวงเปิดส่วนตรงนั้นดู แต่ก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันเพราะน็อตตรงนั้นเป็นสนิมหมแล้ว”     อย่างไรก็ตามหญิงเจ้าของรถก็บอกพวกเขาว่าทำยังไงก็ได้ให้ช่วยเจ้าสัตว์ออกมา พวกเขาก็เลยพยายามงัดชิ้นส่วนตรงนั้นออกดู พอแง้มช่องตรงนั้นได้เล็กน้อย เจ้าสัตว์ข้างในก้ยื่นจมูกออกมาดมฟุดฟิดทักทายพวกเขา ตอนแรกที่เห็นมันยื่นจมูกออกมา พวกเขาคิดว่ามันต้องเป็นหนูแน่ๆ แต่เมื่อเปิดช่องได้กว้างกว่าเดิม ทั้งช่างที่ช่วยกันแง้มรูอยู่และเจ้าของรถต่างก็ต้องตกใจ เพราะสิ่งที่อยู่ข้างในเป็นหนูแฮมสเตอร์ซึ่งไม่น่าจะอยู่ตามธรรมชาตินั่นเอง     อันที่จริงแล้วเจ้าแฮมสเตอร์ก็ไม่ใช่สัตว์แปลกหน้าที่ไหนหรอก หญิงเจ้าของรถบอกว่ามันชื่อ Mila เป็นแฮมสเตอร์ที่เธอเลี้ยงเอาไว้เอง แต่ล่าสุดที่เธอเห็นมันยังที่บ้านอยู่เลย เธอเพิ่งอาบน้ำทำความสะอาดให้มันวันเดียวกันนั้นเอง เธอคิดไม่ออกจริงๆ ว่ามันแอบหนีออกมาตอนไหน แล้วเข้ามาในรถได้ยังไง     ยังไงก็ตามเธอก็ดีใจที่ไม่มีสัตว์ได้รับบาดเจ็บ แถมยังได้พา Mila กลับบ้านอย่างปลอดภัยด้วย แต่หลังจากนี้เธอคงต้องจับตาดูแฮมสเตอร์น้อยเป็นพิเศษแล้วล่ะ ไม่งั้นมันอาจจะหนีออกมาโดยที่เธอไม่รู้ตัวอีก      ที่มา: Unilad

เราอาจจะมีเพื่อนที่ดีสุดเป็นผู้ชาย ผู้หญิง เป็นคนแก่กว่าหรือเด็กกว่า แต่สำหรับ Aaron Salkill เขามีเพื่อนสนิทเป็นสุนัขแดลเมเชียน ที่ชื่อว่า Ember แม้ว่าเรื่องราวของพวกเขาจะจบลงอย่างน่าเศร้า แต่มันเป็นความทรงจำที่ยังคงสวยงามและเต็มไปด้วยความรักเสมอ และนี่เป็นเรื่องน่าอ่านของ Ember ที่คุณไม่ควรพลาด     เรื่องราวนี้เริ่มขึ้นเมื่อ Salkill จากมารีเอตตา ประเทศจอร์เจีย กำลังหาสุนัขที่จะรับเลี้ยง และเมื่อเพื่อนของเขาถามว่าต้องการลูกหมาแดลเมเชียนมั้ย… หลังจากถูกเพื่อนถามแบบนั้น เขารีบถามรายละเอียดก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสำนักงานของสัตวแพทย์ ที่ที่เจ้าของเดิมทิ้งลูกหมาวัย 3 เดือน ซึ่งก็คือ Ember     ชายหนุ่มอธิบายว่าตอนนั้นเขาดีใจมาก เขาตกหลุมรักมันตั้งแต่แรกเห็น และแทบอยากจะถอดรองเท้าและวิ่งไปกอดมันด้วยความตื่นเต้น สำหรับ Salkill นั้น เขาทำงานเป็นนักผจญเพลิง ดังนั้นการหาสุนัขแดลเมเชียนมาเลี้ยงนั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก หลังจากที่ได้เล่นด้วยกัน Salkill รู้สึกว่า Ember พลังเยอะมาก ดังนั้น ก่อนจะรับเลี้ยงเขาต้องแน่ใจว่าจะมีเวลามากมายพามันไปเดินเล่น เดินป่า ดึงเชือกกับมัน และพามันไปเดินในสวนสนุกหมา     นับตั้งแต่รับเลี้ยงมา ทุกครั้ง Salkill พาเจ้าหมาไปเดินในที่สาธารณะ จะมีเด็กๆ มารุมล้อมเล่นกับมันเสมอ นั่นทำให้เขาคิดขึ้นได้ว่า Ember อาจทำให้เด็กๆ บางคนสุขภาพดีขึ้นได้ หรืออาจมีผลทางใจต่อเด็กในโรงพยาบาล ดังนั้น วันรุ่งขึ้น Salkill…

เมื่อไม่นานมานี้มีคนพบลูกแมวจรจัดเดินอยู่บนถนนในเมือง Oxnard รัฐแคลิฟอร์เนีย มันไม่สามารถใช้ขาหลังได้ แต่นั่นไม่ได้ทำให้มันยอมแพ้ ภายหลังลูกแมวตัวนั้นถูกตั้งชื่อว่า Bernard และถูกพาไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ Ventura County Animals Services     จากนั้น หนึ่งในสัตวแพทย์ของศูนย์พักพิงก็ได้ติดต่อไปยัง Jenifer Hurt Wrenn Rescues เพื่อสอบถามว่าเธอสามารถรับอุปถัมภ์มันได้หรือเปล่า Jenifer ตอบตกลงทันที จากนั้นเธอก็ไปรับลูกแมวและพามันไปยัง Oaks Veterinary Urgent Care ที่นั้นมิ้วน้อยได้รับการตรวจโดยคุณหมอ Rachel Wallach     Alissa Smith จาก Wrenn Rescues บอกว่า “เราไม่รู้เลยว่าทำไมมันถึงใช้ขาหลังไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะกระดูกเคลื่อน ต้องมีคนช่วยมันในเรื่องการฉี่ เพราะมันไม่สามารถฉี่เองได้” วันนั้น Bernard ได้กลับบ้านไปพร้อม Jenifer ทันทีที่มาถึง มันก็วิ่งไปมาด้วยความตื่นเต้น แม้จะไม่สามารถใช้ขาหลังได้ก็ตาม มันเล่นอย่างสนุกสนานและเดินสำรวจทั่วบ้าน     มิ้วน้อยเดินเข้าห้องนั้นห้องนี้โดยไม่ต้องใช้ขาหลัง อย่างไรก็ตาม Jenifer ตัดสินใจที่จะทำวีลแชร์ให้มัน เธอได้ซื้ออุปกรณ์บางอย่างมา และต่อมันเข้ากับล้อรถของเล่น เมื่อนำวีลแชร์แฮนเมดนี้ไปใส่ให้กับ Bernard ปรากฏว่ามันได้ผลดีเกินคาด     Jenifer บอกว่า…

สำหรับเจ้าเมื่อเจ้าตูบก่อเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการอึในบ้าน กัดรองเท้า หรือทำลายข้าวของในบ้าน พวกเขาจะรู้ได้ทันที เพราะแววตาของเพื่อน 4 ขา มักเปิดเผยความจริงตั้งแต่ยังไม่ทันได้เค้นถาม แต่เมื่อเวลาผ่านไป เหล่าเพื่อน 4 ขา เริ่มได้เรียนรู้วิธีการใหม่ๆ ที่จะหลีกเลี่ยงการโดนด่าเมื่อทำความผิด และถ้าเจ้าของถามไม่ทันได้หลงกลมันแน่     อย่างเจ้าหมาบูลล์ด็อก Rover เมื่อไหร่ก็ตามที่พ่อแม่ปล่อยมันไว้ในบ้านเพียงลำพัง มันจะทำสิ่งที่ไม่ควรทำ และเมื่อพ่อแม่รู้เข้า มันก็จะทำหน้าละห้อยเหมือนสำนึกผิด จนพ่อแม่ไม่กล้าลงโทษ เพราะถือว่ามันเป็นเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่ง แต่เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2015 Rachal Rodrigues เจ้าของได้อัปโหลดคลิปของเจ้า Rover ที่ทำความผิดไว้และคิดว่าพี่สาวจะช่วยปกปิดความลับให้ แต่แล้วพี่สาวก็ทำให้มันผิดหวัง     ในคลิปนั้น เจ้า Rover มีทิชชู่ห่อรอบตัว มันก้มมองที่พื้นด้วยความรู้สึกผิด เจ้าของถามมันว่า “ต้องการแบบนี้ใช่มั้ย?” “อยากใส่ทิชชู่บนตัวแบบนี้ไปตลอดทั้งวันเลยใช่มั้ย?” “หนูทำใช่มั้ย?” ขณะที่ Rachal ยิงชุดคำถามเหล่านี้ใส่ เจ้าบูลล์ด็อกไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่ก้มหน้าและเริ่มแสดงแววตาแห่งความรู้สึกผิด     จากพฤติกรรมของเจ้า Rover เป็นการแสดงออกที่ชัดเจนว่ามันคือผู้ก่อเหตุความยุ่งเหยิงครั้งนี้ จากนั้น เจ้าของก็หันกล้องไปที่ Tana ผู้เป็นทั้งพี่สาวและเพื่อนที่ดีที่สุดของ Rover Rachal ถามมันว่า…

สำหรับ Bethany Coleman และแฟนหนุ่ม Tyson การมีสุนัขที่ชื่อ Rogue และแมวแก่อีกสองตัวในบ้าน ก็นับว่าเพียงพอแล้ว พวกเขาจึงไม่ต้องการสัตว์เลี้ยงเพิ่มอีก แต่แล้วในเดือนตุลาคม ปี 2016 เมื่อ Coleman พา Rogue ไปเดินเล่นในตลาดของเกษตรกรท้องถิ่น แต่วันนั้นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ได้อยู่ในสายตาของทั้งคู่เลย เพราะพวกเขาไปเจอสุนัขที่เหมือนภาพสะท้อนของ Rogue     Coleman บอกว่า “มีศูนย์พักพิงมาตั้งบู๊ทอยู่ที่นั้นเพื่อช่วยหาบ้านให้สุนัข หนึ่งในสุนัขเหล่านั้นเหมือน Rogue มากๆ ฉันจึงโทรหา Tyson แล้วบอกเขาว่า ‘ฉันเจอหมาตัวหนึ่ง และฉันอยากช่วยมัน’” ก่อนหน้านี้ Tyson เคยขอแฟนสาวว่าจะรับหมามาเลี้ยงอีกตัว แต่แฟนสาวปฏิเสธ ดังนั้น เมื่ออยู่ดีๆ เธอมาบอกแบบนี้ เขาจึงตอบตกลงทันที Coleman จึงรับเลี้ยงน้องหมาวัย 8 เดือนตัวนั้นและตั้งชื่อให้มันว่า Beast     ขณะที่ Rogue ดูเหมือนจะเชื่อว่าพวกมันเป็นฝาแฝดที่พลัดพรากจากกันตั้งแต่เกิด Coleman บอกว่า “ฉันกับ Rogue รัก Beast ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น” เธอบรรยายว่า “ตอนนั้นมันดูเหมือน Rogue ทั้งขนาด ขน และเป็นพันธุ์ผสมเหมือนกันด้วย”    …

การมีน้ำ อาหาร และที่พักที่สะดวกสบาย อาจจะเพียงที่จะเรียกว่าบ้านสำหรับแมวจรจัดทั่วไป แต่ดูเหมือนจะไม่เพียงพอสำหรับอดีตแมวข้างถนนอย่าง Tom ความต้องการของ Tom มีมากกว่านั้น มันต้องการการชื่นชม และในที่สุดมันได้ค้นพบที่ที่จะทำให้เป้าหมายของมันประสบความสำเร็จ     ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว พนักงานใน Photo Fast Studio ซึ่งเป็นโรงพิมพ์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เริ่มสังเกตเห็น Tom มาเดินป้วนเปี้ยนหน้าร้าน พนักงานจึงเริ่มให้อาหารมัน จากนั้นเจ้าเหมียวก็เริ่มเข้ามาในร้านมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง มันเดินตามพนักงานเขาไปในร้าน Adem หนึ่งในพนักงานบอกว่า “หลังจากที่มันเดินตามเราเข้ามาในวันนั้น มันก็ไม่ยอมออกไปอีกเลย และตอนนี้มันก็ยังอาศัยอยู่ที่นี่”      Adem บอกอีกว่า “หลังจากที่อยู่ในนี้ได้ไม่นาน มันก็แต่งตั้งตัวเองเป็นพนักงานประจำร้านอย่างรวดเร็ว และงานของมันตลอดทั้งวันคือ การกินแล้วก็นอน และมีบางครั้งที่มันเล่นกับลูกค้า”  ด้วยความน่ารักที่ใครๆ ก็พากันหลงใหล ทำให้ Tom ได้เลื่อนตำแหน่ง นั่นก็คือ การเป็นแบบให้ทางร้าน เพื่อที่จะเอารูปของมันไปใส่ในกรอบรูปตัวอย่าง     แต่จริงๆ แล้ว Tom หลอกให้พนักงานเอารูปของมันใส่ในกรอบรูปทั่วร้าน เพราะมันจะได้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของร้านต่างหาก เมื่อถามพนักงานว่าทำถึงเลือกรูปแมวมาใส่ในกรอบรูปของร้าน พวกเขามักจะตอบว่า…

หลายครั้งที่สัตว์เลี้ยงทำตัวซุกซน ทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโตจนทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นเด็กตลอดเวลา แม้บางตัวจะอายุมากแล้วก็ตาม แต่เมื่อถึงจุดจุดหนึ่งที่สัตว์เลี้ยงได้เป็นแม่ พวกมันก็เป็นแม่ที่ดีไม่แพ้มนุษย์แม่เลยนะ พวกมันยอมอดหลับอดนอนเพื่อลูก คอยปกป้องลูกจนเติบใหญ่ และนี่คือภาพสัตว์ที่ทำหน้าที่แม่ได้น่าประทับใจสุดๆ ดูกี่ครั้งก็อบอุ่นหัวใจ   1. อาจจะหน้าโหด แต่กับลูกแล้วอ่อนโยนเสมอนะ   2. บางครั้งแม่ต้องทำแขนยาวๆ เพื่อที่จะให้ลูกทุกตัวได้อยู่อ้อมกอด   3. ขอบตาดำไปนิด เพราะดูแลลูกจนไม่มีเวลาพัก   4. แม่นี่แหละ คือเพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของลูก   5. อยู่ในนั้นแหละลูก ออกมาก็ป่วนเจ้านายเปล่าๆ   6. ขอแม่พักมือแป๊บนะลูก   7. นี่คงจะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นน่าดู งื้อออ ขนปุยเชียว   8. ลูกหลับสนิทแล้ว แม่ก็หลับเถอะ อย่าฝืนเลย   9. หน้าตาอาจจะไม่เหมือนกันเป๊ะ แต่นิสัยได้แม่ 100% แน่นอน   10. นอนที่ไหนก็ไม่อุ่นเท่านอนบนตัวแม่หรอก   11. เฝ้าลูกไม่ยอมไปไหนเลย  …

เราส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า สุนัขเป็นสัตว์ที่ฉลาด พวกมันมีความซื่อสัตย์ รักสนุก และน่ารัก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม George จึงพาสนุกของเขาไปผจญภัยด้วยทุกหนแห่ง ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อน George จากประเทศนอร์เวย์ ผู้เป็นเจ้าของของ Troja สุนัขพันธุ์ไอริช เซตเทอร์ เริ่มถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือระหว่างไปเดินป่า     George บอกว่า “แรกๆ ผมมักจะถ่ายพืช แมลง และอื่นๆ Troja กับผมชอบไปเดินป่าด้วยกันเป็นประจำ แต่ผมไม่เคยคิดที่จะถ่ายรูปของมันเลย จนกระทั่งมีคนมาเจอเราระหว่างเดินป่า และพวกเขาชื่นชมความน่ารักของเจ้าหมา” “นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมตัดสินใจจะลองถ่ายรูปของมัน ในที่สุด ผมก็ได้ค้นพบว่าผมมีความสุขกับการถ่ายรูปมัน เพราะมันทำให้เราได้ใช้เวลาด้วยกันมากขึ้นระหว่างเดินป่า”     ในเดือนธันวาคม ปี 2014 George ได้สร้างบัญชีอินสตาแกรม เพื่อแชร์ภาพการผจญภัยของ Troja ตอนนี้อินสตาแกรมดังกล่าว มีคนติดตามมากกว่า 100,000 คนแล้ว และภาพเหล่านั้นก็สร้างแรงบันดาลใจให้แฟนๆ ด้วย     George บอกว่า “แฟนๆ ของ Troja หลายคนบอกว่าภาพเหล่านี้เป็นแรงบันดาลให้พวกเขาอยากใกล้ชิดและอยากใช้เวลากับสุนัขของพวกเขามากขึ้น” เขาบอกว่าอีกว่า “สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างไอจีนี้คือ ผมได้รู้จักกับผู้คนมากมาย…

ลูกแมว 4 หูตัวหนึ่ง ถูกพบอยู่ใต้ถุนบ้าน และได้รับการช่วยเหลือโดยเจ้าของบ้าน ไม่กี่เดือนต่อมา มันก็ได้พบกับน้องชายครั้งแรก ซึ่งมี 4 หูเหมือนกัน นี่เป็นเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่มีชื่อว่า Frankie หลังจากที่เจ้าของบ้านได้ช่วยเอาไว้ มันก็ถูกส่งไปยัง Geelong Animal Welfare Society (GAWS) Georgi อาสาสมัครใน GAWS บอกว่า “เราพบว่ามันติดเชื้อที่ตาและได้รับความเสียหายรุนแรงมาก แต่มันมีความพิเศษอย่างหนึ่งคือ มันมี 4 หู”     สำหรับหูที่มีมากกว่าแมวทั่วไปนั้น เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมอย่างหนึ่ง ทาง GAWS ได้ให้การช่วยเหลือมันในด้านค่าใช้จ่ายในการรักษา ค่าผ่าตัด และดูแลมันในช่วยพักฟื้น เพื่อให้มันมีร่างกายแข็งแรงและมีความสุข Georgi ได้พา Frankie กลับไปดูแลที่บ้าน และได้ดูแลมันจนมันกลับมามีสุขภาพแข็งแรง ก่อนจะตกหลุมรักมันโดยไม่ทันตั้งตัว เธอบอกว่า “ปีที่ผ่านมา ฉันรับแมวมาอุปถัมภ์เกือบ 80 ตัว แต่ Frankie เป็นตัวแรกที่ทำให้ฉันมีปัญหาในการส่งมันคืนให้ศูนย์พักพิง ฉันจึงตัดสินใจรับเลี้ยงมันซะเลย”     ระหว่างนั้น ผู้ช่วยเหลือก็พยายามจะวางกับดักให้แม่ของ Frankie เพื่อที่จะเอามันมาทำหมัน ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา…

ปกติเวลาเห็นรูปฮัสกี้ เรามักยิ้มกับความน่ารัก ความสง่างาม และความเกรียนของพวกมัน แต่เมื่อ Shari Baillargeon ได้เห็นภาพของฮัสกี้ เธอกลับร้องไห้ออกมา Baillargeon บอกว่า “ผิวของมันดูแย่มาก และแววตาของมันก็ดูเศร้ามาก จนฉันร้องไห้หนักถึง 2 วัน แล้วฉันก็คิดว่า ‘ถ้าฉันไปรับมันมา ฉันสามารถช่วยมันได้’”     ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม มีคนเห็นสุนัขฮัสกี้ตัวหนึ่ง ชื่อ Wally มันเป็นหมาจรจัดที่เร่ร่อนไปตามถนนในย่านภาคเหนือของจอร์เจีย เพื่อหาน้ำ อาหาร และที่พักพิง Wally มักจะเดินเข้าไปในบ้านพวกเขา ในที่จอดรถ และซุ้มประตูหน้าบ้าน ของผู้คนในละแวกนั้น พวกเขาจึงไล่มันพร้อมกับโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ให้มาจัดการ     เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์จึงพา Wally ไปไว้ในศูนย์พักพิง หลังจากอยู่ที่นั่นได้สองวัน Baillargeon ก็ตัดสินใจติดต่อไปยัง MUSH Rescue ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้การช่วยเหลือฮัสกี้ จากนั้นเธอก็พามันไปหาสัตวแพทย์ Baillargeon บอกว่า “สภาพของมันดูแย่มาก ร่างกายของมันแทบจะไม่กล้ามเนื้อ แต่มีก้อนเนื้อที่ก่อตัวขึ้นอยู่ที่ข้างลำตัวของมัน     นอกจากนี้ Wally ยังเป็นโรคไรขี้เรื้อน ผิวหนังติดเชื้อ ซึ่งมีสาเหตุจากการถูกไรกัด เป็นพยาธิหนอนหัวใจ และติดเชื้อในหู ตา และกระเพาะปัสสาวะ แต่ปัญหาเรื่องสุขภาพเหล่านี้ไม่ได้หยุดยั้ง…

ไม่มีใครสนิทกับ Alec Alcoser มากไปกว่าคู่หูของเขาเมื่อตอนที่ประจำการอยู่ในอัฟกานิสถาน และทั้งคู่ต่างได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีด้วยระเบิดพลีชีพเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม เหตุการณ์ในวันนั้น Alcoser กับคู่หูเดินไปตามมุมแคบๆ บนถนน Bagram Airfield จากนั้นก็เห็นคนอัฟกานิสถานคนหนึ่งเดินเข้ามาหา ก่อนจะเกิดเหตุร้ายขึ้น… รู้ตัวอีกที Alcoser รู้สึกเหมือนกระดูกหักหลายจุด และมีเศษกระสุนแทรกเข้าไปในตัวประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย นอกจากนี้เขายังได้รับบาดเจ็บที่หัวด้วย     ขณะที่คู่หูของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเหมือนกัน จนสูญเสียขาไปข้างหนึ่ง โชคดีที่คู่หูของ Alcoser ยังสามารถเดินได้ด้วย 3 ขา และขอแนะนำคู่หูตัวนี้อย่างเป็นทางการ มันคือ Alex สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดวัย 8 ปี ย้อนกลับในช่วงก่อนที่จะถูกโจมตี Alcoser กับ Alex เป็นคู่หูที่แทบจะแยกจากกันไม่ได้ พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนนอน พวกเขาก็นอนเตียงเดียวกัน และเมื่อออกไปทำภารกิจ พวกเขาก็ไปด้วยกัน     Alcoser เล่าว่า “ในวันที่เราต้องทำภารกิจ เมื่อตื่นขึ้นมา ผมจะเล่นกับมัน ให้อาหารมัน จากนั้นผมก็กินไอศกรีมก่อนจะออกไปทำภารกิจด้วยกัน เมื่อกลับมา เรามักจะนอนเป็นส่วนใหญ่” เขาเล่าต่อว่า “สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผมกับ Alex เมื่อประจำการอยู่ที่นั่น ที่ผมต้องกินไอศกรีม…

สัตว์หลายชนิดไม่ได้มีโอกาสเติบโตตามธรรมชาติที่มันควรจะเป็น เพียงเพราะความเชื่อ และค่านิยมที่ไม่เป็นธรรมสำหรับพวกมัน หนึ่งในสัตว์ที่น่าสงสารเหล่านั้นคือ ลา พวกมันมักจะถูกนำมาเลี้ยงสำหรับใช้งาน ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว พวกมันก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักสำหรับครอบครัวได้เหมือนกัน     โชคดีที่มีบางคนเห็นคุณค่าของลาในฐานะสัตว์เลี้ยง และดูแลมันให้เหมือนสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว เพื่อให้โอกาสพวกมันได้แสดงความเป็นลาในแบบที่หลายคนมองข้ามไป หนึ่งในคนที่ให้โอกาสลาคือเด็กหญิงตัวน้อยที่ชื่อ Honor… ครอบครัวของเธอได้เปิดศูนย์ลี้ภัยสำหรับสัตว์  Sycamore Tree Ranch ในเมือง Springtown รัฐเท็กซัส เด็กหญิงจึงได้เติบโตท่ามกลางสัตว์มากมาย     เมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่ครอบครัวพากันไปเดินเล่นในตอนเย็น และแวะเล่นกับลาที่พวกเขาได้ช่วยเอาไว้ ตอนนั้นเองที่พ่อแม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาดูสนใจ Honor มาก เด็กหญิงเองก็ไม่มีท่าทีกลัวพวกมันเลย Koby Wegge ผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์ลี้ภัยบอกว่า “Honor มีความสุขกับการได้ใช้เวลากับลา”      ความสัมพันธ์แบบนี้แหละ ที่เป็นเหตุผลให้ Wegge กับสามี Chad ตัดสินใจเปิดศูนย์ลี้ภัยสัตว์ตั้งแต่แรก พวกเขาต้องการให้สัตว์ช่วยบำบัดผู้ที่กำลังทุกข์ใจและผู้ที่กำลังป่วย ดังนั้น สิ่งที่ครอบครัวทำจึงไม่ใช่แค่การช่วยเหลือสัตว์ แต่เป็นการมอบสิ่งที่ล้ำค่าให้กับมนุษย์ด้วย สำหรับลาใน Sycamore Tree Ranch ส่วนใหญ่ได้รับการช่วยเหลือมาจาก “kill pens” ซึ่งเป็นฟาร์มสัตว์ที่เลี้ยงไว้เพื่อส่งไปยังแคนาดาหรือเม็กซิโก ก่อนที่พวกมันจะถูกฆ่าในที่สุด     Wegge…

สุนัขหลายๆ ตัว สามารถทำตามคำสั่งได้อย่างคล่องแคล่ว นั่นเป็นเพราะว่าพวกมันถูกฝึกมา แต่บางอย่างบางเรื่อง แม้จะไม่เคยถูกสอน พวกมันก็สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ เหมือนกับ Charlie สุนัขพันธุ์บีเกิ้ลตัวนี้ มันเป็นหมาที่ฉลาด เรียนรู้ได้รวดเร็ว ทำตามคำสั่งได้ดี และมีความคิดเป็นของตัวเองด้วย     ตั้งแต่มันมาอยู่กับครอบครัวมนุษย์ มันถูกสอนให้เล่นคีย์บอร์ดของเล่น สอนวิธีการกดเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจรที่ทางข้าม้าลาย สอนให้เอาผ้าคลุมให้ทารก รวมไปถึงวิธีการแกว่งเปล แต่สิ่งหนึ่งที่ครอบครัวไม่เคยสอน Charlie เลย คือการรักเด็กหรือการแสดงความรักต่อเด็ก ดังนั้น เมื่อคุณแม่มีลูกน้อย เธอคิดว่าเจ้าบีเกิ้ลคงจะทำในสิ่งที่ถูกสอนมาเท่านั้น ซึ่งถ้ามันทำได้ก็ถือว่าดีเพียงพอแล้ว     ปรากฏว่าเมื่อ Charlie ได้พบกับน้องสาว Laura มันได้ปฏิบัติกับน้องสาวมากกว่าที่ครอบครัวเคยสอนมันมา มันทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดี ทั้งๆ ที่คุณแม่ไม่ได้บอก พี่หมาทำให้น้องสาวยิ้มได้ทุกวัน มันกอดน้องสาว จูบเธอ และเล่นกับเธออย่างอ่อนโยน เมื่อไหร่ก็ตามที่น้องร้องไห้ มันจะคาบตุ๊กตามาให้ และเป็นเพื่อนเล่นกับเธอ จนน้องหยุดร้อง     เมื่อถึงเวลาที่ Laura รู้สึกง่วง พี่หมาจะอยู่ข้างน้องจนกว่าเธอจะหลับ และมันจะคอยเป็นผู้ปกป้องเธอ แต่บางที ถ้าหนังตาหนักๆ หน่วงๆ มันก็จะผล็อยหลับไปข้างๆ เธอ     เวลาเล่นด้วยกัน…

เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ขณะที่ Eric Maus จากบรุ๊คลินพา Gouda และ Lily ซึ่งเป็นหมาของลูกค้า ไปเดินทางไกล โดยผ่าน Prospect Park เขาก็ได้เจอกับสิ่งที่คาดไม่ถึง Maus เล่าว่า “ตอนที่ผมกำลังเดินขึ้นไปที่น้ำตก และข้ามสะพาน ผมเห็นสุนัขพิตบูลล์ตัวโตถูกผูกไว้กับต้นไม้ ผมมองไปรอบๆ และตะโกนหามันว่า ‘เฮ้ เจ้าของแกอยู่ไหน?’”     อย่างไรก็ตาม Maus ไม่เห็นใครอยู่แถวนั้นเลย เขาจึงรู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงเดินเข้าไปใกล้มันอย่างระมัดระวัง พร้อมกับสุนัขของลูกค้าอีก 2 ตัว แต่น่าแปลกที่พิตบูลล์ตัวนั้นไม่ได้ขยับหนีเลย เขาบอกว่า “พิตบูลล์ตัวนี้น่ารักและอ่อนโยนมากๆ มันแค่นั่งอยู่ตรงนั้น และทำลิ้นห้อย มันโคตรน่ารักเลย” เมื่อเงยหน้าขึ้น Maus เห็นกระดาษที่ห้อยติดกับใบไม้ ในกระดาษแผ่นนั้นมีข้อความสั้นๆ ไม่กี่ประโยค โดยระบุว่าพิตบูลล์ตัวนี้ชื่อ Mamas อายุ 7 ปี รูปลักษณ์ของมันอาจดูน่ากลัวแต่จริงๆ มันน่ารักมาก นอกจากนี้ก็มีข้อความ ‘พาผมกลับบ้านด้วย’ ‘ผมเป็นหมาที่ยอดเยี่ยม’ ‘อย่ากลัว เพียงเพราะขนาดตัวของผม เพราะผมน่ารักมาก’  …

ไม่มีใครคาดคิดว่าหมีที่ได้รับการช่วยเหลือจากการถูกทารุณกรรม จนได้รับความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ จะกลายเป็นหมีที่มีจิตใจอ่อนโยนและยอมแบ่งแอปเปิ้ลให้สัตว์ตัวอื่น นี่คือเรื่องราวของหมีจาก Four Paws’ Dancing Bear Park Belitsa ที่ได้รับการช่วยเหลือจากการถูกบังคับให้เต้นเพื่อแลกกับเงินให้กับคนบางกลุ่ม     หมีเหล่านี้จะถูกพรากจากแม่ตั้งแต่ยังเป็นลูกหมีตัวน้อย จากนั้นพวกมันก็จะถูกฝึกโดยการให้ยืนบนเหล็กร้อนๆ จนมันต้องยกอุ้งเท้าขึ้น ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังเต้น นอกจากนี้ พวกมันจะถูกเจาะจมูกทุกตัว แล้วก็เอาโซ่ร้อยเข้าไปในรููที่เจาะนั้น เพื่อที่คนพวกนั้นจะควบคุมพวกมันได้ตอนฝึกหรือตอนแสดง แน่นอนว่าหมีเหล่านี้มมักจะลืมสัญชาตญาณตามธรรมชาติของพวกมัน พวกมันได้กินแต่อาหารขยะจนเป็นโรคขาดสารอาหาร และลืมแม้กระทั่งวิธีการจำศีลในฤดูหนาว     โชคดีที่ Four Paws International และ Brigitte Bardot Foundation ได้ก่อตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือหมีเหล่านี้ และก่อนหน้านี้ พวกเขาก็เพิ่งช่วยหมีที่ขาดสารอาหารตัวหนึ่ง หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือ เจ้าหมีก็เหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง มันได้อยู่ในที่ปลอดภัย ได้เรียนรู้การเป็นหมีตามธรรมชาติ ได้กินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และมันเองก็ชอบกินผลไม้มาก แถมยังเรียนรู้ที่จะแบ่งให้เพื่อนด้วย     ขณะที่เจ้าหมีตัวนั้นอยู่ในเขตคุ้มครองสัตว์ป่า มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งชอบมาวนเวียนรอบๆ ตัวมัน คงเป็นเพราะว่ามันอยากินแอปเปิ้ลของเจ้าหมี ตอนแรก สุนัขจิ้งจอกตัวนั้นย่องเข้าไปใกล้หมี ก่อนจะคว้าแอปเปิ้ลและวิ่งหนีไป โดยมีสุนัขจิ้งจอกตัวอื่นๆ คอยเฝ้าดูในระยะไกล     แต่ต่อมา หมาจิ้งจอกตัวนั้นก็ตัดสินใจที่จะวิ่งหนีอีก มันเข้าไปกินแอปเปิ้ลกับเจ้าหมีแถมเอาไปแบ่งให้เพื่อนๆ ด้วย…

จริงๆ แล้วสัตว์มีความรู้สึกและพฤติิกรรมที่แทบจะไม่ต่างจากมนุษย์เรา โดยเฉพาะอาการตกหลุมรัก พวกมันจะแสดงออกโดยการจูบ หรือกอด ที่ทำเอาหลายคนใจละลายเมื่อได้เห็น และนี่คือภาพการแสดงความรักของเหล่าสัตว์โลกผู้น่ารัก แม้ไม่เปล่งวาจาใดๆ ก็รู้ว่ากันมาก แต่ขอแนะนำให้คนโสดข้ามไปดีกว่า เพราะถ้าดูแล้วคุณอาจจะเกิดความอิจฉาขึ้นโดยไม่รู้ตัว   1. นอนกอดสามีอุ่นที่สุ๊ดดด   2. ที่รัก รอให้ถึงบ้านก่อนก็ได้ นี่มันที่โจ่งแจ้ง อายเค้า   3. กอดกันไว้ จะได้ไม่มีใครมาพรากเราจากกัน   4. เดินแบบนี้มันอึดอัดนะ แต่มีความสุขมากกว่าเพราะเรารักกัน   5. ช่วงมีความรัก ที่แคบคือที่ที่ดีที่สุดเสมอ เพราะยิ่งแคบยิ่งได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น   6. ที่รัก เราต้องทำโลกรู้ว่าเราเป็นครอบครัวที่อบอุ่น   7. เป็นเด็กเป็นเล็ก แก่แดดนะเราอะ   8. ซ้อน 5 แบบนี้ ตำรวจจะจับมั้ยนะ   9. โตขึ้น เราจะแต่งงานกัน สัญญานะ   10. กอด…

สุนัขบางตัวอาจจะหวาดระแวงเมื่อถูกพาเข้ามาในศูนย์พักพิง เช่นเดียวกับ Dino มันเป็นลูกหมาที่กลัวทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสายตา เสียง กลิ่น แต่โชคดีที่มีแม่หมา Sookie อยู่ในกรงเดียวกับมัน แม่หมาเข้าไปกอดลูกชายและพยายามปลอบโยนมันให้หายกลัว Edi Kelley ผู้อำนวยการ Paws Crossed Dog Rescue บอกว่า “พวกมันแยกออกจากกันไม่ได้เลย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่น่าประทับใจและพึ่งพิงกันได้”     ย้อนกลับไปเมื่อเดือนก่อนหน้านี้ Dino กับ Sookie ได้รับการช่วเหลือจากมอนโรวิลล์ รัฐแอละแบมา และถูกพาไปยังศูนย์พักพิงที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย Kelly บอกว่า “ผู้คนจะเห็นสุนัขทั้งสองตัววิ่งไปมา พวกมันกำลังจะตายด้วยความหิวโหยและมีตัวหนึ่งหวาดกลัวแบบไม่มีสาเหตุ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์จึงพาพวกมันไปยังศูนย์พักพิง”     เมื่อมาถึง เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงถือว่าพวกมันเป็นแม่ลูกกัน เพราะพวกมันอายุห่างกันมาก และจากพฤติกรรมของ Dino แล้ว มันไม่น่าจะเป็นคู่หูของหมาตัวเมียตัวนี้แต่น่าจะเป็นลูกมากกว่า Kelley บอกว่า “Dino เอนตัวเข้าไปหาแม่แล้วเอาหัวไว้ใต้คอแม่ มันอยากให้ตัวสัมผัสกับแม่ตลอดเวลา เมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวไม่ได้ติดกับแม่ มันจะดูสับสนทันที”     นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสังเกตเห็นว่า Sookie กำลังตั้งท้องอยู่และพร้อมที่จะคลอดทุกวัน ดังนั้น ทุกคืนก่อนปิดศูนย์ พวกเขาจะจับ Dino แยกออกจาก Sookie เพื่อความปลอดภัย…

ในช่วงที่พายุเฮอริเคนเข้า ผู้คนคงจะได้เห็นสิ่งของหรือสัตว์แปลกหน้าลอยมาติดที่บ้านมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงู จระเข้ หรือแม่แต่หมู Josh Walls เองเป็นหนึ่งในคนที่ได้ประสบกับเหตุการณ์เช่นนั้น เมื่อเขาเดินออกจากบ้านในเช้าวันหนึ่ง และเห็นหมูเล็ดลอดออกไปตามถนน     ตอนนั้นมีคำถามเกิิดขึ้นในหัวของเขา ‘หมูตัวนี้มาจากไหน?’ ‘มันมีมากกว่า 1 ตัวหรือเปล่า?’ ขณะเดียวกัน เจ้าหมูเดินตรงมาที่ Walls จนเขาไม่รู้ว่าต้องรับมือยังไง ชายหนุ่มบอกว่า “ผมไม่แน่ใจว่ามันมาอย่างเป็นมิตรหรือเปล่า แต่มันไม่ได้ทำอะไรนะ แค่กระโดดและวิ่งเหยาะมา พร้อมกับแหว่งหางน้อยๆ ของมัน” “มันทำเสียงอู๊ดๆ ผมว่ามันเป็นเสียงอู๊ดที่ฟังดูน่ารักมากๆ” Walls เสริม     นั่นทำให้ Walls ตระหนักได้ว่าหมูตัวนี้เป็นมิตรกับมนุษย์และมันเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่น่ากลัวมา ผิวของมันถูกแดดเผาและในปอดของมันก็คงจะเต็มไปด้วยน้ำ เขาคาดว่าหมูตัวนี้น่ามาจากฟาร์มที่อยู่ใกล้เคียง เพราะฟาร์มเหล่านั้นถูกน้ำท่วม แน่นอนว่ามันคงว่ายน้ำหนีอย่างยากลำบากเพื่อเอาตัวรอด     Walls ได้ตั้งชื่อให้เจ้าหมูว่า Flo จากนั้นก็พามันไปอยู่ในที่ปลอดภัยที่หลังบ้านของเขา ก่อนจะเอาน้ำและอาหารให้มันกิน นอกจากนี้เขายังได้เอาโคลนทาทั่วตัวมัน เพื่อบรรเทาความเจ็บแสบจากการโดดแดดเผา ชายหนุ่มบอกว่า “ผมเป็นคนรักสัตว์ และถ้าเจอสัตว์ที่กำลังทุกข์ทรมาน ผมจะไม่ปล่อยพวกมันไว้แบบนั้นแน่นอน ดังนั้น ผมจึงพยายามอย่างดีที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าหมูตัวนี้ปลอดภัย”    …

หมาพันธุ์พิตบูลล์ส่วนใหญ่แล้วตัวบึกบึน ประกอบกับที่คนบอกกันว่ามันดุร้าย ก็เลยทำให้พวกมันดูไม่น่ารักสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับหมาพันธุ์อื่นที่นิยมเลี้ยงกัน แต่พอเราลองเอามันไปผสมกับพันธุ์อื่นดูแล้ว จริงๆ พวกมันก็ดูน่ารักเหมือนกันนะ บางพันธุ์ผสมไปแล้วก็ดูคูลมากๆ เปลี่ยนลุคไปเยอะเลย   บีเกิ้ลบูลล์ (พิตบูลล์ + บีเกิ้ล) ยิ้มแฉ่ง น่ารักที่สุด   ด็อกซ์บูลล์ (พิตบูลล์ + ดัชชุนด์) ดูอ่อนโยน   พิตตาดอร์ (พิตบูลล์ + ลาบราดอร์) ดูยังไงก็น่าเอ็นดู   พิตวาว่า (พิตบูลล์ + ชิวาว่า) เป็นพิตบูลล์จิ๋วน่ากอด   ออซซี่แคทเทิลพิต (พิตบูลล์ + ออสเตรเลียนแคทเทิล)   โกลเด้นพิต (พิตบูลล์ + โกลเด้นรีทรีฟเวอร์) รับประกันเรื่องความซน   พิตสกี้ (พิตบูลล์ + ไซบีเรียนฮัสกี้) หล่อๆ แนวไซ   ปั๊กพิต (พิตบูลล์+ปั๊ก)  …

เคยสงสัยไหมว่าสัตว์ป่าที่ต้องมาใช้ชีวิตในสวนสัตว์ มีวิถีชีวิตยังไง แล้วพวกมันมีความสุขมากน้อยแค่ไหนที่ได้ไปอยู่ในนั้น จริงๆ แล้วคำตอบมันก็ขึ้นอยู่กับการดูแลสัตว์ของสวนสัตว์แต่ละแห่งนั่นแหละ ถ้าสวนสัตว์ไหนดูแลสัตว์ดี พวกมันก็จะร่าเริงและมีความสุข เหมือนกับที่ที่เจ้า Jessie อยู่ยังไงล่ะ     Jessie เป็นลูกเสือดาวหิมะที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์ Paradise Wildlife Park เจ้าหน้าที่ที่นั่นดูแลมันอย่างดี มันก็เลยดูมีชีวิตชีวามาก เมื่อไม่นานมานี้ทางสวนสัตว์เพิ่งติดกล้องวงจรปิดตัวใหม่ในกรงของ Jessie พอมันหันไปเห็นแสงที่กระพริบอยู่ตรงตัวกล้อง มันก็หันมาดิ้นดุ๊กดิ๊กใหญ่เลย สงสัยจะตกใจที่มีคนจ้องมองอยู่โดยไม่รู้ตัว     คลิปวิดีโอของมันน่ารักถูกใจชาวเน็ตมาก ใครได้เข้าไปดูก็ต้องตกหลุมรักกับท่าทางขี้เล่นของ Jessie กันหมด ตอนนี้วิดีโอของมันมีคนดูเกินหนึ่งล้านครั้งแล้วนะ จากนั้นมาเจ้า Jessie ก็กลายเป็นจุดสนใจของคนที่ได้มาเห็นวิดีโอ ส่วนมากก็จะชมว่ามันน่ารักจ้ำม่ำดีเหลือเกิน แต่ถึงจะเห็นแบบนี้มันก็ไม่ได้อ้วนเกิดเกณฑ์หรอกนะ เสือดาวหิมะมีขนหนาอยู่แล้วต่างหาก แต่ไม่ต้องห่วงลูกเสือต้วน้อยหรอก มันตกใจอยู่ได้ไม่นานมันก็กลับไปเล่นซนเหมือนดิมแล้วล่ะ โดยสิ่งที่มันเล่นด้วยก็คือตุ๊กตาม้าลาย 3 มิติของโปรดที่ทางสวนสัตว์ทำให้เป็นพิเศษ     เห็นไหมว่าทางสวนสัตว์ใส่ใจเจ้า Jessie จริงๆ มันเลยดูมีความสุขมากขนาดนี้ ถ้าใครหลงรักลูกเสือดาวหิมะตัวนี้แล้วล่ะก็ ติดตามความน่ารักของมันและเพื่อนสัตว์ตัวอื่นได้ทางเพจ Paradise Wildlife Park เลยนะ ที่มา: Unilad

หมาพิตบูลล์ถูกคนเข้าใจว่าเป็นหมาที่ดุร้ายมาตั้งแต่อดีต บางคนเลี่ยงที่จะเลี้ยงหมาพันธุ์นี้เพราะกลัวถูกมันทำร้าย แต่จริงๆ แล้วนิสัยของมันจะเป็นยังไง อาจจะอยู่ที่การเลี้ยงดูมันก็ได้ ที่บ้านของคุณยาย Melissa Butt ก็เลี้ยงหมาพิตบูลล์ไว้ตั้ง 2 ตัว แต่มันทั้งคู่ไม่คิดจะทำร้ายเจ้าของเลย และหลังจากเจอเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ เธอก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าพวกมันกตัญญูจนกล้าเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเจ้าของไว้     ตอนนั้น Melissa กำลังนั่งอยู่ในสวนข้างนอกบ้าน ส่วน Zayden และ Mallory หลานๆ ของเธอก็กำลังนั่งเล่นกันอยู่บนสนามหญ้า ในขณะที่ทุกคนกำลังพักผ่อน จู่ๆ Paco กับ Slayer หมาพิตบูลล์ทั้ง 2 ตัวของเธอก็เห่าเสียงดัง แล้วทำท่าทางขู่ไปทางหลานของเธอ     ด้วยความตกใจลูกของเธอก็เลยรีบไปอุ่มหลานทั้ง 2 คนกลับเข้ามาในบ้าน ส่วนตัวเธอยังพยายามมองหาสาเหตุอยู่ว่าทำไมเจ้าหมาทั้ง 2 ตัวถึงดุร้ายขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เมื่อมองดูดีๆ เธอก็เห็นว่าในหญ้าใกล้ๆ กับตรงที่หลานของเธอนั่งเล่นกันอยู่เมื่อสักครู่มีงูพิษตัวหนึ่งอยู่ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เจ้าหมาทั้ง 2 ตัวกำลังพยายามต่อสู้ด้วยเพื่อปกป้องเด็กๆ นั่นเอง     หลังจาก Paco กับ Slayer เข้าไปฟัดกับงูพิษอยู่สักครู่ ในที่สุด Slayer ก็กัดงูตัวนั้นตาย แต่หมาทั้ง 2 ตัวเองก็ถูกงูพิษกัดด้วย อาการของพวกมันดูไม่ค่อยดีเลย Melissa…

ประสบการณ์ที่เราทุกคนน่าจะประสบมาเหมือนกันคือ ความงงเมื่อเห็นตัวเองในกระจกครั้งแรก ด้วยความไม่รู้ไงและไม่เคยเห็นว่าหน้าตัวเองเป็นยังไง เราเลยคิดว่ามีอีกคนที่พยายามเลียนแบบเรา ไม่ใช่แค่มนุษย์เรานะ สัตว์เลี้ยงก็มีประสบการณ์แบบนี้เหมือนกัน แล้วมันก็ออกมาฮาซะด้วยสิ โดยเฉพาะตอนที่พวกมันทำหน้าเอ๋อด้วยความงุนงง หนึ่งในนั้นคือ เจ้าเหมียว Mimo   เจ้าตัวนี้แหละ Mimo   Mimo เป็นแมวสก๊อตทิชผู้น่ารักที่อาศัยอยู่ในบรู๊คลิน นิวยอร์ก เช่นเดียวกับแมวทั่วไป มันรักการนอนมาก   แต่เมื่อไม่นานมานี้ ดูเหมือน Mimo จะได้เห็นหน้าตาตัวเองเป็นครั้งแรก มันเลยเกิดการมึนงงแบบนี้…   เหยนั่นมันตัวอะไรหนะ มันมีหูเหมือนเรา หน้าตาเหมือนเรา แถมเลียนแบบเราด้วยอะ   ในโลกนี้ยังมีแมวหน้าตาน่ารักเหมือนเราอยู่อีกหรอ?? ไม่จริงใช่มั้ยแม่ ไหนบอกไม่มีใครเหมือนหนู   แค่คลิปเดียว ทำเอาคนหลงรักเกือบทั้งโลก แต่ต่อให้ไม่มีคลิปนั้นออกมา มันก็น่ารักน่าหลงใหลอยู่ดี ไม่เชื่อลองดูคลิปด้านล่างนี่สิ ซูมไปที่อุ้งเท้าอวบๆ ของมัน และหน้าตาที่บ้องแบ๊ว งื้อออ น้องงงงง     ที่มา buzzfeed

เราหลายๆ คนอาจผ่านการสูญเสียคนที่รักไป แต่สิ่งที่ไม่เคยหายไปคือความทรงจำที่เราเคยมีร่วมกับคนคนนั้น…หมาน้อย Paquito ก็เช่นกัน เพื่อนรักของน้องหมา Paquito ได้จากมันไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา แต่ความทรงจำที่เต็มไปด้วยความรัก ยังคงอยู่ในใจของเจ้าหมาเสมอ Evlyn Castro หลานของผู้ตายเล่าว่าลุงของเขากับ Paquito เป็นเพื่อนรักที่แยกจากกันไม่ได้ พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยมาหลายปี และมิตรภาพของทั้งคู่พิเศษมาก พวกเขาไม่ใช่แค่เพื่อนแต่เป็นพ่อลูกด้วย     Castro บอกว่า “ลุงของผมจะพามันไปด้วยทุกหนทุกแห่งเสมอ พวกเขาตัวติดกันตลอดเวลา แต่น่าเศร้าที่ช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันมาถึงจุดจบ” เมื่อ 6 ปีก่อน ลุงของ Castro ป่วยหนักและอาการไม่ดีขึ้นจนเสียชีวิตในที่สุด ความสูญเสียในครั้งนี้ทำให้ Paquito หัวใจแตกสลาย และแทบจะไม่เหลือความเป็นตัวเอง ในช่วงเวลานั้น ทางครอบครัวพยายามเยียวยาสภาพจิตใจของเจ้าหมาอย่างสุดความสามารถ แต่ Paquito ไม่เคยลบเพื่อนรักออกจากใจและความทรงจำได้เลย     และเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ยิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่ามันคิดถึงเพื่อนรักผู้ล่วงลับมากแค่ไหน… วันนั้น Castro เข้าไปช่วยป้าย้ายกล่องเสื้อผ้าของคุณลุงที่เปียกฝนออกมา แต่แล้วก็มีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ Castro เล่าว่า “เราเอาเสื้อผ้าทั้งหมดออกจากกล่องแล้ววางไว้บนพื้นจนกว่าจะแห้ง แต่ทันทีเราเริ่มทำแบบนั้น Paquito ก็วิ่งเข้ามา” “จากนั้น Paquito ก็นอนลงบนกองเสื้อผ้าของคุณลุง มันทั้งดมกลิ่นเสื้อผ้า กอดเสื้อผ้าพวกนั้นไว้ และอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานมาก”     ดูเหมือนว่า Paquito…

Wendell Overton เด็กชายวัย 10 ขวบและเป็นคนรักสัตว์จาก Manteo รัฐนอร์ทแคโรไลนา เมื่อปี 2013 ขณะที่เขาเดินผ่านละแวกบ้าน เขาเห็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจมาก Wendell เห็นเด็กกลุ่มหนึ่ง อายุระหว่าง 5-13 ปี กำลังรังแกแมวที่ไม่มีทางสู้ พวกเขาจับแมวโยนขึ้นกลางอากาศ จากนั้นก็รุมเตะมัน ต่อด้วยการปั่นจักรยานไล่ตามมัน     เด็กชายรู้ดีว่าหากเขาไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง แมวตัวนั้นต้องตายแน่ๆ ดังนั้น เขาจึงวิ่งเขาไปหาเด็กกลุ่มนั้น และบอกให้พวกเขาหยุดรังแกแมว ตอนแรกเด็กกลุ่มนั้นไม่ยอมหยุด แต่ Wendell ก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน เด็กชายเล่าว่า “ผมไม่ยอมไปไหน ถ้าไม่ได้พาแมวตัวนั้นไปด้วย” ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจไปอุ้มแมวตัวนั้นและวิ่งกลับบ้านทันที หลังจากที่ปลอดภัยแล้ว เด็กชายกับแม่ก็ได้โทรแจ้ง Outer Banks SPCA     จากนั้น สองแม่ลูกก็พาเจ้าเหมียวไป SPCA ที่นั่นมันได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้พวกเขายังได้ตั้งชื่อให้มันว่า Jackson พวกเขารู้สึกซาบซึ้งมากกับการกระทำที่กล้าหาญของ Wendell เลยโพสต์รูปของเด็กชายพร้อมเรื่องราวที่เขาทำลงในเพจเฟซบุ๊กของ SPCA     ภาพและเรื่องราวของ Wendell กลายเป็นกระแสในโซเชียลอย่างรวดเร็ว ซึ่งชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างชื่นชมในความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของเขา หลายคนส่งจดหมายไปให้เด็กชายเพื่อขอบคุณสำหรับสิ่งที่เขาทำ 2 สัปดาห์ต่อมา Jackson ก็เริ่มฟื้นตัวจากการบาดเจ็บ…

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พนักงานจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Cassie’s Place เห็นโพสต์เกี่ยวกับหมาพุดเดิ้ลที่ชื่อ Eve ซึ่งได้รับการช่วยเหลือมา Michelle Zrubek ผู้อำนวยการของ Cassie’s Place บอกว่า “มันได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะขาหลังของมันหักทั้ง 2 ข้าง หลังจากถูกรถชน เราจึงตัดสินใจช่วยเหลือมันทันที”     Michelle ได้ติดต่อไปยัง Kelsey Kuhrt อาสาสมัครใน MASA Rescue และ Linda Posey จาก City of Midland Animal Services เพื่อร่วมกันช่วยเหลือเจ้าหมาตัวนั้น ทั้ง 3 หน่วยได้ทำงานและวางแผนกันเป็นทีม เพื่อที่จะย้าย Eve ไปสถานบำบัดพักฟื้นของพวกเขาในซานแองเจโล รัฐเท็กซัส     แต่ตามกฏหมายของเท็กซัสแล้ว สัตว์เลี้ยงที่จะย้ายมานั้นต้องมีเจ้าของรับรองก่อน นั่นทำให้ Eve ไม่สามารถย้ายไปไหนได้ จนกระทั่งวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา เมื่อ Kelsey มาถึงศูนย์พักพิง เพื่อรับตัว Eve เธอก็ต้องเซอร์ไพรส์กับภาพที่เห็น เพราะ Eve กำลังเลี้ยงดูลูกแมวกำพร้า Michelle บอกว่า…

ปกติเราจะไม่ค่อยให้ความสนใจเวลาที่สัตว์หลับหรอก เพราะดูไม่มีน่าสนใจ พวกมันแค่หลับตา อยู่นิ่งๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันตื่น วิ่งเล่น ล่าเหยื่อ หรือทำอะไรแปลก มันจะดูน่าสนใจทันที แต่ถ้าลองสังเกตสัตว์ตอนหลับดีๆ จะเห็นว่าพวกมันแทบจะไม่ต่างกันเลย ไม่ว่าจะเป็นลูกหมา ลิง หรือสิงโต ทุกตัวดูน่ารัก น่าลูบไปหมด   1. ล่าเหยื่อมาเหนื่อยๆ ขอพักแป๊บนะสาจ๋า   2. หลับธรรมดามันเชย ต้องยืนหลับแบบนี้ สาวเห็นเป็นต้องกริ๊ด   3. นอนอาบแดดวนไปจ้า   4. นอนในป่ามันน่าเบื่อ เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง   5. การนอนเป็นโรคติดต่อตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ?? พร้อมใจกันหลับเชียว   6. ใครก็ห้ามมาปลุกมากวนนะ   7. น้องนก พี่สิงโตทะเลขอนอนเงียบๆ สัก 5 ทีได้มั้ย?   8. เรื่องการนอนนิ่ง ต้องยกให้โคอาล่าเค้าเลย   9. นอนท่านี้ อย่าเผลอฝันร้ายเชียวล่ะ ไม่งั้นตกแน่…

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สร้างความประทับใจให้ผู้คนมากมาย เมื่อชายคนหนึ่งตัดสินใจช่วยสุนัขที่ถูกทิ้งบนเกาะร้าง และทำให้ชีวิตมันเปลี่ยนไปตลอดกาล เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ David Foster ไปนั่งเรือพักผ่อนที่ Amazon River ระหว่างนั้นเขาได้เห็นภาพที่แทบจะไม่อยากเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง     นักท่องเที่ยวมักจะไปยังเกาะเล็กๆ หรือเกาะร้างเป็นประจำ แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป เพราะเมื่อมาถึงเกาะร้างแหงหนึ่ง อยู่ๆ ก็มีหมาดำวิ่งมาหานักท่องเที่ยว Foster จึงรีบเดินเข้าไปหาหมาตัวนั้นและลูบตัวมัน หมาตัวนั้นผอมมาก จนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก และเห็นได้ชัดว่ามีคนมาทิ้งมันไว้ที่นี่เพื่อให้มันตายในที่สุด แม้จะอยู่อย่างยากลำบากแต่เจ้าหมารอดมาได้ ที่สำคัญมันยังเป็นมิตรกับผู้คนอย่างไม่น่าเชื่อ และกระดิกหางไม่หยุดเมื่อ Foster เริ่มลูบตัวให้     Foster รู้สึกดีกับหมาตัวนี้อย่างบอกไม่ถูก เขาจึงตั้งชื่อให้มันว่า Negrita และตั้งใจจะพามันกลับไปกับเขา ซึ่งผู้โดยสารก็เห็นด้วย นั่นทำให้เรือที่เขานั่งมามีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ตัว ขณะที่จอดเรือไว้บนเกาะเพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาที่นั่น Negrita นั่งอยู่บนเรือตลอดทั้งวัน โดยมี Foster และลูกเรือให้อาหารและเล่นกับมัน เจ้าหมาแทบจะไม่หยุดส่ายหางเลย มันดูมีความสุขมากที่ได้อยู่กับคนที่ห่วงใยมัน อย่างไรก็ตาม มีผู้โดยสารบางคนที่ไม่พอใจกับการพาหมาจรจัดขึ้นเรือด้วย     คืนนั้นก่อนเรือจะออกเพื่อกลับไปยังที่พัก ผู้โดยสารบางคนได้ไล่ Negrita ลงจากเรือ และปล่อยให้มันอยู่บนเกาะร้างต่อไป Foster กับลูกเรือไม่รู้จะทำยังไง พวกเขาจึงมุ่งหน้ากลับไปยังที่พัก โดยไม่ได้พาเจ้าหมากลับไปด้วย และในคืนเดียวกันนั้น…

วันหนึ่งขณะที่ Dave ขับรถผ่าน Millbrook Ontario เมืองขนาดเล็ก ของประเทศแคนาดา ซึ่งมีประชากรเพียง 8,000 คนเท่านั้น     ระหว่างทาง เขาได้เห็นความงดงามของภูมิประเทศภายใต้ท้องฟ้าที่สดใส และเห็นวัวสีน้ำตาลกลุ่มหนึ่งกำลังรวมตัวกันที่บ่อน้ำเพื่อคลายร้อน ในฐานะที่เป็นคนรักสัตว์ Dave จึงตัดสินใจจอดรถและหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายวิดีโอฝูงวัวเหล่านั้น แต่เมื่อเปิดกล้อง เขาก็ได้รับการทักทายที่น่าประหลาดใจ     มีวัวตัวหนึ่ง ซึ่งทราบภายหลังว่าชื่อว่า Flo ยืนอยู่ใกล้กับรั้วไฟฟ้า มันใช้เท้าขุดดิน และร้องมอๆ ด้วยความทุกข์ทรมาน ตอนแรก Dave รู้สึกงงกับการกระทำของมัน แต่แล้วเขาก็รู้ว่า Flo กำลังต้องการความช่วยเหลือ     เมื่อ Dave เดินเข้าไปดูใกล้ๆ เขาก็เห็นลูกวัวกลางดงหญ้าใกล้กับแนวรั้ว เขาบอกว่า “แม่วัวพาลูกมาเดินใกล้รั้วไฟฟ้า แต่ลูกวัวลื่นล้มจนไปติดอยู่ใต้รั้ว” แมววัวพยายามช่วยลูกวัว แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากติดรั้วไฟฟ้า ทำให้ลูกวัวเริ่มอ่อนแรงเพราะอากาศร้อนและไม่ได้กินนม     Dave รู้ว่าต้องทำบางอย่างเพื่อช่วยมัน แต่ขณะเดียวกัน เขาก็กังวลเกี่ยวกับปฏิกิริยาของ Flo เพราะแมววัวอาจไม่เข้าใจว่าเขากำลังจะช่วยของมัน อย่างไรก็ตาม Dave ไม่อยากให้แม่วัวพบกับการสูญเสีย และไม่อยากทำให้มันเสียใจ เขาจึงเดินเข้าไปช้าๆ และใช้กิ่งไม้ยกลวดไฟฟ้า…

คุณสมบัติของสุนัขบริการไม่ใช่แค่เป็นเด็กดีเท่านั้น แต่พวกมันต้องมีความสามารถในการช่วยเหลือคนอื่น มีความอยากรู้อยากเห็น และสร้างรอยยิ้มให้ผู้คนได้เสมอ และนี่คือเหล่าน้องหมาบริการที่มีคุณสมบัติตามที่ได้กล่าวมา พวกมันช่วยเจ้าของในสถานการณ์คับขันต่างๆ เตือนให้เจ้าของรู้โรคร้ายก่อนจะสายเกินแก้ และทำให้พวกเขาสบายใจเมื่อเจอเรื่องร้ายๆ   1. Rangers สุนัขบริการออทิสติก Ranger ได้เข้าฝึกการเป็นสุนัขบริการตั้งแต่อายุ 6 เดือน มันได้ฝึกเป็นเวลา 1 ปี เพื่อเรียนรู้ทักษะทั้งหมดเกี่ยวกับการช่วยเหลือเด็กออทิสติก   Ranger ชอบอยู่กับเพื่อนร่วมงานและชอบทำงานการกุศล ตอนนี้มันทำงานกับ BluePath องค์กรไม่แสดงหากำไรที่ช่วยเหลือผู้ที่เป็นโรคออทิสติก และเพราะน่ารักนี้ ทำให้มันมีอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 24,000 คนแล้ว     2. Bandit ผู้ช่วยเตือนเกี่ยวกับโรคเบาหวาน งานที่ Bandit ทำตอนนี้ถือว่าสำคัญมาก มันมีความสามารถบอกระดับของอินซูลินในร่างกายเจ้าของว่าลดลงหรือเพิ่มขึ้นด้วยการดมกลิ่น นั่นทำให้มันแจ้งเตือนเจ้าของเกี่ยวกับโรคเบาหวานได้   3. Chester ช่วยเด็กออทิสติก Chester ไม่ใช่สุนัขทั่วไป แต่เป็นหมาที่ช่วยเหลือเด็กออทิสติก เพราะแบบนี้ เด็กชาย Max จึงอยู่กับมันเกือบทุกวินาที เพราะมันช่วยเขาจัดการกับอารมณ์ต่างๆ ได้   4. Marni หมาฝึกหัดเพื่อเป็นสุนัขบริการ หลายคนคงจะเคยเจอ Marni ในดิสนีย์แลนด์ มันไปที่นั่นเพราะเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกเข้าสังคม และฝึกปฏิบัติกับผู้คนอย่างถูกต้อง…

นี่คือเจ้าหมาน้อย Roxy มันเคยผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต เพราะมันเคยถูกส่งไปยัง Sidewalk Specials เพื่อการุณยฆาต เนื่องจากเป็นมะเร็ง เมื่อผู้ช่วยเหลืออุ้มมันขึ้นมา พวกเขาพบว่ามันมีเลือดออกและสภาพก็ดูแย่มาก แต่พวกเขารู้ว่าไม่สามารถทำให้มันหลับไปตลอดกาลได้ เพราะ Roxy ยังสามารถมีชีวิตอย่างมีความสุขได้ โดยเฉพาะตอนที่พวกเขาเห็นมันกระดิกหาง     โชคดีที่เนื้องอกของมันสามารถรักษาได้ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจที่จะเริ่มรักษามันด้วยการทำเคมีบำบัด ขณะที่ Roxy ดูหดหู่มาก เพราะครอบครัวที่มันรักเอามันมาทิ้งไว้ที่นี่ มันดูสับสนและรู้สึกโดดเดี่ยว แต่มีสิ่งหนึ่งที่มันรู้คือ สิ่งที่มันจะได้รับต่อจากนี้เป็นสิ่งที่ดีกว่ามาก และในระหว่างที่รักษานี้ มันได้ไปอยู่กับผู้อุปถัมภ์ ส่งผลให้สภาพจิตใจของมันดีขึ้นทุกวัน     สามเดือนต่อมา การทำเคมีบำบัดของ Roxy ก็เสร็จสิ้นลง และไม่มีมะเร็งในตัวมันแล้ว แต่นั่นยังไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับมัน เพราะนอกจากมะเร็งหายแล้ว มันยังถูกรับเลี้ยงโดยครอบครัวที่รักมันมากด้วย ตอนนี้มันจึงกลายเป็นน้องหมาที่มีความสุขมากที่สุด มันได้วิ่งเล่นอย่างสนุกสนานกับพี่น้องหมาตัวใหม่ แถมยังได้ทำทุกอย่างที่อยากทำ และได้รับความรักในแบบที่สุนัขอย่างมันสมควรได้รับ     การที่ Roxy มีความสุขได้ในวันนี้ ต้องขอบคุณทาง Sidewalk Specials ที่ตัดสินใจไว้ชีวิตมัน และช่วยมันต่อสู้กับโรคร้าย และทำให้มันได้รับชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม   ที่มา animalsheltersnearme

บางครั้ง เรื่องราวของสัตว์ให้บทเรียนกับเราหลายๆ คน โดยเฉพาะสัตว์ที่สู้ชีวิตและไม่ยอมให้ปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ มาขัดขวางการมีชีวิตอยู่ของพวกมัน ลูกแมว Jasper ก็เช่นกัน ตอนที่มันถูกพาเข้ามาในบ้านอุปถัมภ์ มันแทบจะยืนไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้น มันไม่เคยยอมให้สิ่งเหล่านี้มาหยุดมัน และเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข     ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ Jasper อายุได้ 6 สัปดาห์ ตอนที่ถูกพาไปยัง  Saving Grace Rescue ในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อโอกาสในการมีชีวิตที่ดีขึ้น มันเกิดในฟาร์มและถูกพบโดยพลเมืองดี มิ้วน้อยเกิดมาพร้อมบกพร่องที่เรียกว่า Cerebellar Hypoplasia (CH) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสมองที่ควบคุมการทำงานของร่างกาย โชคดีที่มันมีอาการปวดหรือป่วยใดๆ     ตอนที่ Jasper มาถึงศูนย์ช่วยเหลือ สิ่งที่มันต้องการคือการเล่น และการกอด Amber Rose ผู้ก่อตั้ง Saving Grace Rescue บอกว่า “มันมีความสุข บ้าพลัง และชอบเข้าสังคม จนทุกคนถึงกับมุ่งความสนใจไปที่มัน” ต่อมา Josh Norem จาก The Furrtographer ตัดสินใจรับมิ้วน้อยบ้าพลังตัวนี้มาอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ของเขา เขาบอกว่า “ตอนแรก มิ้วน้อยทำไม่ได้แม้แต่การยืน ผมต้องอุ้มมันไปที่กระบะทราย แล้วมันก็จะนอนทำธุระ…

ความแสนรู้ของสุนัขดูจะไม่มีที่สิ้นสุด พวกมันมักทำในสิ่งที่เหนือความคาดหมายเราเสมอ และครั้งนี้เองก็เช่นกัน คงไม่มีใครคาดคิดหรอกว่าหมาจะเล่นไอซ์สเก็ตได้ เจ้าหมา Benny พันธุ์ลาบราดอร์อายุ 5 ขวบตัวนี้ไม่ธรรมดาเลย มันสามารถวิ่งไปบนลานไอซ์สเก็ตได้ด้วยรองเท้าแฮนด์เมด 2 ข้าง แถมยังชอบตามเก็บลูกฮอกกี้มากกว่าบอลซะอีก     ถึงท่าสเก็ตของมันจะไม่ได้ดูสง่างามสักเท่าไหร่ แต่ความน่ารักสดใสของมันก็ดึงดูดสายตาของคนที่มาเล่นไอซ์สเก็ตทุกครั้ง ใครได้มองมันก็เป็นต้องยิ้มออกมาทุกที Benny ได้พบกับ Cheryl Del Sangro ซึ่งเป็นเจ้าของคนปัจจุบันตอนมันเป็นลูกหมา เธอช่วยรับเลี้ยงมันเอาไว้ก่อนจะถึงกำหนดการุณฆาต ทำให้มันได้ใช้ชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้     เธอกับเจ้าหมาเข้ากันได้ดีตั้งแต่แรกเจอ มันกลายเป็นครอบครัวคนสำคัญของเธอ ทำให้มันได้ไปไหนมาไหนกับเธออยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นทำให้มันได้มาเล่นไอซ์สเก็ตกับเธอนั่นเอง Cheryl เคยเป็นนักไอซ์สเก็ตกึ่งมืออาชีพมาก่อน จากนั้นเธอก็ทำงานเป็นโค้ชไอซ์สเก็ตมานานกว่า 20 ปี พอเธอมาลานไอซ์สเก็ตเจ้าหมาก็เลยได้ติดมาด้วยบ่อยๆ      ครั้งแรกที่มันได้เดินเข้ามาบนพื้นน้ำแข็ง เจ้าหมาก็เกลือกกลิ้งตัวลงไปด้วยความร่าเริง มันชอบที่นี่มากๆ สาเหตุอาจจะเป็นเพราะแถบที่เธออาศัยอยู่ค่อนข้างร้อน อากาศในนี้เลยอาจทำให้มันรู้สึกสบายตัวก็ได้ เมื่อเห็นว่ามันชอบที่นี่ เธอก็เลยอยากลองฝึกให้มันเล่นไอซ์สเก็ตกับเธอดู เพราะเธอคิดว่าเด็กอายุแค่ขวบกว่าๆ เธอก็สอนจนเป็นมาแล้ว สอนเจ้าหมาให้ไอซ์สเก็ตเป็นก็คงไม่ยากเกินความสามารถเหมือนกัน เธอทำรองเท้าให้มันโดยใช้รองเท้าสุนัขที่มีอยู่ เอามาดัดแปลงติดใบมีดเข้าไป จนกลายเป็นรองเท้าไอซ์สเก็ตเฉพาะตัวที่เจ้า Benny ใช้อยู่ทุกวันนี้    …

เรารู้อยู่แล้วว่ามีหมาบริการคอยช่วยนำทางคนตาบอดอยู่ แต่หมานำทางี่ช่วยนำทางหมาตาบอดอีกทีหนึ่ง เพิ่งจะเคยได้ยินก็วันนี้นี่แหละ เจ้า Ginger หมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ช่วยทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้กับเพื่อนหมา Kimchi ตัวเล็กซึ่งตาบอดสนิท ตั้งแต่มันเริ่มนำทางให้จนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลา 3 ปีแล้ว พวกมันตัวติดกันตลอดเวลาจริงๆ     หมาทั้ง 2 ตัวอาศัยอยู่กับ Eric และ Thea คู่รักซึ่งเป็นเจ้าของของมันในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดย Ginger อยู่กับคู่รักมาก่อนแล้ว ส่วน Kimchi ถูกรับเลี้ยงมาทีหลัง คู่รักรับเลี้ยง Kimchi มาจากศูนย์พักพิงสัตว์ตั้งแต่ปี 2012 ตอนนั้นทางศูนย์พักพิงบอกว่าเจ้าหมาเข้ากับหมาอื่นไม่ได้ แต่เมื่อทั้งคู่ให้มันเจอกับ Ginger แล้วกลับเข้ากันได้ดี ทำให้ทั้งคู่คิดว่ามันถูกกำหนดมาให้อยู่กับพวกเขา     ตอนแรกที่ Kimchi มาอยู่ด้วยมันยังมองเห็นอยู่นิดหน่อย แต่เมื่อปี 2015 ตาของมันก็บอดสนิท ทำให้เริ่มมีปัญหาในการเดินทาง พวกเขาก็เลยพา Ginger ไปเข้ารับการฝึกเป็นหมาบริการ เพื่อให้มันช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับ Kimchi และตั้งแต่มันจบการฝึกมาทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันมาตลอด     ฉลองวันเกิดก็ต้องอยู่ด้วยกัน   ช่วยนำทางให้เพื่อนเวลาออกไปนอกบ้าน …

ไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์อะไร นิสัยเป็นยังไง แต่ละตัวย่อมมีทั้งจุดดีและไม่ดีใจตัว อยู่ที่ว่าเราจะเลือกมองมันแบบไหน และจะปฏิบัติยังไงกับพวกมัน เหมือนกับเรื่องราวของ Kiah สุนัขพิตบูลล์ที่ถูกทิ้งบริเวณร้านขายของชำ มันจึงต้องกลายเป็นหมาจรจัดผู้น่าสงสาร แถมมีแผลที่หัวด้วย     ไม่มีใครรู้ว่าพิตบูลล์ตัวนี้เป็นของใคร ดังนั้น พลเมืองดีจึงพามันไปศูนย์พักพิงสัตว์ และที่นั่นทำให้มันได้เจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะถูกรับเลี้ยงในที่สุด โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิ Animal Farm Foundation มูลนิธิดังกล่าวนี้ทำงานร่วมกับ Austin Pets Alive และ Universal K9 ของ Brad Croft ซึ่งเป็นครูฝึกสุนัขสำหรับเป็นสุนัขบริการ     หลังจากที่ได้เห็นลักษณะของ Kiah แล้ว Croft รู้ว่ามันต้องกลายเป็นสุนัขตำรวจที่สมบูรณ์แบบแน่ๆ… สำหรับสุนัขตำรวจนั้น ต้องมีคุณสมบัติหลายอย่างที่ทำให้พวกมันสมบูรณ์ ที่สำคัญที่สุดคือ พวกมันต้องมีความมั่นใจ นอกจากนี้พวกมันต้องไม่มีความกลัว มีอยากรู้อยากเห็น และรักที่จะฝึกฝน ซึ่ง Kiah เป็นหนึ่งสุนัขที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ดังนั้น Croft จึงมุ่งมั่นที่จะฝึกมันให้เป็นสุนัขตำรวจ     ตลอดระยะเวลาการฝึก สิ่งที่ทำให้ Croft ประทับใจมากที่สุดคือ Kiah สามารถจดจ่ออยู่กับของเล่นที่ใช้สำหรับฝึกได้เป็นระยะเวลานานและไม่วอกแวกเลย อย่างไรก็ตาม แม้ Kiah จะได้รับการฝึกแล้ว ไม่ได้หมายความว่าตำรวจจะนำตัวมันไปใช้งานได้ทันที เพราะอย่างที่รู้กันว่าผู้คนมักจะมีทัศนคติเชิงลบต่อพิตบูลล์เสมอ…

หากคุณเลี้ยงทั้งหมาและแมวไว้ในบ้าน จะรู้ว่าพวกมันเข้ากันไม่ค่อยได้หรอก โดยเฉพาะแมว มันพร้อมที่จะทำร้ายน้องหมาเสมอ ถ้าเห็นพวกมันเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ ถ้าว่าแต่เรียกร้องความสนใจเลย บางทีน้องหมาอยู่เฉยๆ ยังโดนเหมียวรังแกเลย เหมือนกับคลิปนี้ที่ทำเอาเจ้าของหัวเราะค้างนานเป็นปีเลย (เวอร์ได้อีก แต่ฮาจริง)     เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนแรกหมากับแมวก็นอนด้วยกันบนเตียงปกตินี่แหละ และดูเหมือนพวกมันจะนอนเตียงเดียวกันได้โดยไม่มีความขัดแย้งใดๆ แต่สักพัก น้องหมาก็ดันผายลมออกมาซะงั้น แถมยิ้มกรุ้มกริ่มอีกต่างหาก หารู้ว่าไม่ว่ากลิ่นตดของมันสร้างความไม่พอใจให้เจ้าเหมียวเป็นอย่างมาก   ตดแล้วยังมีหน้ามายิ้มอีก แบบนี้ต้องสั่งสอนสักหน่อยแล้ว   เมื่อเห็นน้องหมาทำท่าไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด เจ้าเหมียวเลยตัดสินใจสอนมารยาทให้น้องหมา เพื่อให้มันรู้ว่าไม่ควรตดในที่สาธารณะ ว่าแล้วพี่เจ้าเหมียวก็ตบเข้าที่หัวของน้องหมาอย่างแรง 2 ที แต่บทเรียนครั้งนี้คงแฝงไปด้วยความแค้นส่วนตัว ทำเอาน้องหมาตื่นพร้อมความงงงวย   เมื่อกี้เหมือนมีอะไรหล่นทับหัวเลย เอ๊ะ หรือเราฝันไป   หลังจากที่โดนตบ น้องหมาผู้น่าสงสารก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะหาตัวการแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะมันรู้ว่าเป็นฝีมือเจ้าเหมียว และมันคงชินกับการโดนกระทำแบบนี้แล้วละมั้ง   ไปดูคลิปเหตุการณ์กันสักหน่อย   ที่มา theanimalspage

สำหรับสุนัขจรจัดแล้ว พวกมันแทบจะไม่รู้จักความรัก ความอบอุ่น หรือความรู้สึกของการรับได้รับความเอาใจใส่ เพราะพวกมันไม่เคยได้สัมผัสสิ่งเหล่านี้ เจ้าหมา Blossom ก็เช่นกัน มันถูกพบอยู่ที่หน้าระเบียงของบ้านร้างหลังหนึ่ง พลเมืองดีบางคนพยายามจะจับมันเพื่อช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สำเร็จ ในที่สุด หญิงสาวที่ชื่อ Erika ก็ตัดสินใจโทรแจ้ง WOOF Pet Rescue พวกเขาจึงมายังบ้านดังกล่าวทันที     จากนั้นทีมช่วยเหลือก็พยายามจับตัว Blossom แต่มันไม่ง่ายเลย เพราะเจ้าหมาไม่อยากโดนจับ และพยายามต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตลอด แต่เมื่อทีมงานเอากรงมาวาง Blossom กลับเข้าไปนั่งในนั้นอย่างง่ายดาย จากนั้น พวกเขาก็พามันไปยังศูนย์ช่วยเหลือ WOOF แม้ว่าเจ้าหมาจะดูหวาดระแวง แต่มันก็ดูมีความสุขมากเช่นกันที่ได้อยู่ใกล้ผู้ช่วยเหลือ มันดูผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับการที่มีคนมาพูดด้วย     หลังจากที่เจ้าหมารู้สึกปลอดภัยภายใต้การดูแลของ WOOF พวกเขาก็พามันไปหาสัตวแพทย์ ซึ่งคุณหมอแจ้งว่ามันเป็นโรคเรื้อนชนิดที่ค่อนข้างร้ายแรง แต่ก็นับว่าโชคดีที่มันไม่มีความเจ็บปวดอื่นๆ ที่ร้ายแรงถึงชีวิต และด้วยความรักและการเอาใจใส่จากผู้ดูแล ทำให้มันฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว     เมื่อตรวจสุขภาพเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ของ WOOF ก็พา Blossom ไปอาบน้ำ และดูเหมือนว่านี่จะเป็นการอาบน้ำครั้งแรกในชีวิตของมัน Blossom หงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อพนักงานเริ่มบีมน้ำยาอาบน้ำลงบนตัวและถูของมัน แต่สักพัก มันก็เริ่มผ่อนคลายและไว้ใจคนที่ตั้งใจจะช่วยมัน ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนมันจะชอบที่ถูกเอาใจใส่แบบนี้ด้วย     หลังจากอาบน้ำเสร็จ Blossom…

ในปลายเดือนที่ผ่านมา หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่มีผมสีแดงและใส่ปิดตาขวาเอาไว้ ได้เดินเข้ามาใน The Secret Garden Pet Resort พร้อมกับสุนัขบูลด็อกวัยแก่ของเธอเพื่อมาอาบน้ำตัดขนให้ หลังจากนั้น หญิงคนดังกล่าวก็ยืนกรอกแบบฟอร์ม โดยระบุชื่อว่า Melanie Wichester ส่วนชื่อสุนัข เธอเขียนว่า William Katz      เมื่อพนักงานอุ้มเจ้าบูลด็อกเข้าไปข้างในเพื่ออาบน้ำ พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าสุนัขตัวนี้กำลังเจ็บปวดอยู่ ลำตัวของมันเต็มไปด้วยแผลกดทับ ซึ่งเป็นไปได้ว่ามันอาจจะลูกขังอยู่ในลัง นอกจากนี้มันยังทรมานจากการติดเชื้อที่ผิวหนัง ตา และหู พนักงานพยายามทำความสะอาดมันอย่างอ่อนโยนและทำให้มันรู้สึกสบายขึ้น พวกเขาใช้แชมพูชนิดพิเศษอาบน้ำให้มัน จากนั้นก็รอให้เจ้าของกลับมารับ     3 ชั่วโมงต่อมา ซึ่งเกินเวลาที่เจ้าของต้องกลับมารับน้องหมาแล้ว แต่หญิงสาวคนนั้นก็ยังไม่มา ส่วนเจ้าหมาได้แต่รอแล้วรอแล้วรออีก กระทั่งพระอาทิตย์ตก พนักงานจึงเริ่มตระหนักแล้วว่าน้องหมาตัวนี้คงไม่ได้กลับบ้านอีก Katie Ross ผู้จัดการของ Secret Garden Pet Resort บอกว่า “คืนนั้นมันนอนในร้านของเรา ในวันรุ่งขึ้น เราก็ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ เราจึงติดต่อไปยังกรมควบคุมสัตว์ ไม่นาน ก็มีคนมารับตัวมันไป”     สำหรับชื่อและเลขประจำตัวที่หญิงคนนั้นได้กรอกไว้ พบว่าเป็นข้อมูลปลอมทั้งหมด นักวิจัยจาก MSPCA จึงได้ทำการสืบหาตัวหญิงคนนั้นทันที ทั้งสอบถามจากคนในละแวกนั้นและตรวจสอบจากฐานของข้อมูลของตำรวจ หลายวันผ่านไป…

เมื่อ Nathan Kehn จากลอสแอนเจลิส กลับมาที่บ้านหลังจากที่อาหารแมวจรจัดในท้องถิ่นเสร็จ เขาก็ได้ยินเสียงเมี๊ยวๆ ดังมาจากสวนหลังบ้าน เมื่อตามเสียงนั้นไป เขาก็ต้องเซอร์ไพรส์ที่เจอกับลูกแมว 3 ตัวที่นั่น จากนั้นแม่แมวก็เดินจากไป เห็นได้ชัดว่าพวกมันต้องการความช่วยเหลือ ตาของลูกแมวติดเชื้อ มีหมัดอยู่เต็มตัว และพวกมันกำลังทรมานจากความหิว Nathan จึงรีบกลับไปเอาอาหารมาให้พวกมัน พร้อมให้การรักษา และทำกับดักไว้สำหรับแม่แมว     ด้วยความช่วยเหลือจาก Ashley ผู้ช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่น ทำให้ลูกแมว 2 ตัว ออกจากที่ซ่อนได้อย่างปลอดภัย แต่ลูกแมวตัวที่สาม เอาแต่หลบอยู่ในซ่อนและไม่ยอมออกมาเลย ต่อมา เมื่อ Nikki Martinez ได้รับการติดต่อเกี่ยวกับลูกแมวทั้ง 3 ตัว เธอจึงขอความช่วยเหลือผ่านทางอินสตาแกรม ปรากฏว่ามีผู้คนมากมายยินดีให้ความช่วยเหลือ     ในไม่ช้า พวกเขาก็สามารถพามิ้วน้อยตัวที่ 3 ออกจากที่ซ่อนได้สำเร็จ .   Ashley ได้พาลูกแมวทั้ง 3 ไปหา Nikki เพื่อให้เธอช่วยหาบ้านอุปถัมภ์ให้พวกมัน นอกจากนี้ เธอยังได้ตั้งชื่อให้ลูกแมวด้วยว่า Bompie Sardu และ Sprinkleboat ตอนแรกลูกแมวมีอาการหวาดกลัวเล็กน้อย แต่หลังจากที่ได้กินอาหารแบบเต็มอิ่ม…

เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน มีคนไปเจอสุนัขถูกห่อด้วยถุงดำ ก่อนจะพามันไปยังศูนย์พักพิง Richmond Animal Care and Control (RACC) สภาพของสุนัขตัวนั้นดูน่ากลัวมาก ขนมันร่วงจนเกือบหมด และผิวหนังของมันมีแผลติดเชื้อที่ไม่ได้รับการรักษามาเป็นเวลาหลายปี     Christie Chipps Peters ผู้อำนวยการของ RACC บอกว่า “เราโมโหมากเมื่อรู้ว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น แต่ตอนนี้เรารู้สึกโล่งใจที่มันถูกพามาที่นี่ เพราะเราสามารถรักษามันและทำให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปได้” หลังจากนั้น พนักงานก็เริ่มดูแลรักษาเจ้าหมาตามขั้นตอน และตั้งชื่อให้มันว่า Annabelle… นอกจากแผลติดเชื้อที่ผิวหนังแล้ว มันยังติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน เป็นโรคตาแดง และมีปัญหาเกี่ยวกับฟัน     หลังจากที่ได้รับการรักษา เมื่อเวลาผ่าน ขนของมันก็เริ่มงอกขึ้นใหม่จนดูเหมือนสุนัขมากขึ้น และแม้ว่ามันจะผ่านเรื่องร้ายๆ มา แต่ Annabelle กลับเป็นสุนัขที่น่ารักและมีความสุขมากที่สุด คุณหมอคิดว่าเจ้าหมาน่าจะอายุประมาณ 5 ปี มันจะส่ายหางเวลาพนักงานเข้ามาดูแล มันชอบเดินเล่น และชอบพบปะผู้คนใหม่ๆ เสมอ     Peters บอกว่า “มันมีความสุข มีจิตใจอ่อนโยน มันไม่ได้เศร้าหรือมีอาการหวาดกลัวเลย แต่มันมีความสุขกับทุกอย่างรอบๆ ตัว” Annabelle…

นี่คือน้องหมา Clefford มันเกิดมาพร้อมสภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ส่งผลให้มันถูกครอบครัวนำมันไปทิ้งในศูนย์พักพิงสัตว์ โดยไม่พยายามดูแลหรือรักษามันเลย แน่นอนว่ามันเป็นการตัดสินใจที่น่าเศร้ามากสำหรับเจ้าเหมา แต่หลังจากที่ครอบครัวทิ้งมันไว้กับ  Angell Animal Medical Center เจ้าหน้าที่ก็พยายามหาบ้านใหม่ให้มันอย่างรวดเร็ว     การที่ Clefford เป็นปากแหว่งเพดานโหว่ ทำให้มันมีปัญหาในการกิน ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงต้องจัดอาหารพิเศษให้มัน เพื่อไม่ได้มันบาดเจ็บระหว่างกิน อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าหมาจะถูกทิ้งและมีปัญหากับการกิน แต่มันไม่เคยเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นอุปสรรคในชีวิตเลย มันยังคงร่าเริงสดใส และมีความน่ารัก จนกลายเป็นขวัญใจของพนักงานและอาสาสมัครของศูนย์พักพิง     ที่น่ายินดีมากที่สุดคือ มันได้พบกับพ่อคนใหม่ คนคนนั้นคือ Will Stoltenberg เขาเริ่มเข้ามาเป็นอาสาสมัครปีเดียวกับที่ Clefford ถูกพามาที่นี่ และเมื่อเห็นหน้าเจ้าหมา เขาก็ตกหลุมรักมันทันที Stoltenberg เริ่มใช้เวลากับเจ้าหมาปากแหว่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเพียงไม่นาน เขาก็ตัดสินใจรับเลี้ยง Clefford     เมื่อพาเจ้าหมากลับมาบ้านครั้งแรก เขารู้เลยว่า Clefford ต้องผ่านเรื่องร้ายๆ มาเยอะมาก เพราะมันหวาดกลัวทุกอย่างรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นรถ สเกตบอร์ด ผู้หญิง รถจักรยานยนต์ รถตู้ นักวิ่ง และสุนัขตัวอื่นๆ อย่างไรก็ตาม Stoltenberg พยายามใจเย็นและอดทนกับมัน เมื่อเวลาผ่านไป เขาได้สอนให้เจ้าหมารู้ว่าโลกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่มันคิดเสมอไป  …

ใครที่อยู่กับสัตว์เลี้ยงหรือชอบสังเกตพฤติกรรมของสัตว์ จะเห็นว่าจริงๆ แล้วพวกมันไม่ต่างจากมนุษย์เราเลย พวกมันดูฉลาดและโง่ในบางครั้ง บางทีก็ซุ่มซ่าม โกรธง่าย ดีใจแรง และทำท่าทางแปลกๆ เช่นเดียวกับสัตว์เหล่านี้ที่พลาดจนเกิดเป็นโมเมนต์ฮาๆ สำหรับมนุษย์ แต่จะฮาสำหรับพวกมันหรือเปล่านั้น ก็เป็นอีกเรื่องนะ   1. ว่ากันว่าฟลามิงโก้คือนกที่สง่างามที่สุดในโลก เอิ่มมมม   2. ใครปิดไฟว่ะ เปิดเดี๋ยวนี้เลยนะ   3. เล่นซ่อนแอบมันต้องแบบนี้ แค่เราไม่เห็นเค้า เค้าก็ไม่เห็นเราแล้ว   4. ตูไม่ขำนะมนุษย์ มาช่วยเอาออกให้หน่อยเด้   5. หัวติดขนมปังไม่ใช่ปัญหา เพราะอย่างน้อยเราก็ยังกินต่อได้   6. วิ่งธรรมดา ม้าที่ไหนก็ทำได้ เราเลยต้องสร้างความแตกต่าง   7. เมื่อคุณเป็นเพื่อนใหม่ในกลุ่ม ทำอะไรก็เกร็งไปหมด   8. อ่าว ตอนมนุษย์นอน มันไม่ได้เป็นแบบนี้นี่นา   9. มองไรกันหรอ เค้าก็แค่อยากมีปลอกขาบ้างเท่านั้นเอง   10. เมื่อบอกเพื่อนว่าถ่ายสวยๆ นะ…

หมาจรจัดน้อยตัวนักที่จะเปลี่ยนชีวิตของมันให้ดีขึ้นได้ด้วยตัวมันเอง ส่วนใหญ่ที่มีชีวิตเปลี่ยนไปได้ก็มาจากความช่วยเหลือของมนุษย์ทั้งนั้น คนที่ช่วยมันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นกลุ่มหรือองค์กรช่วยเหลือสัตว์หรอก คนธรรมดาๆ อย่างเราก็มีส่วนในการเปลี่ยนชีวิตของพวกมันเหมือนกัน อย่างที่คุณ เอ ได้ช่วยพลิกชีวิตให้ นำโชค     คุณเอได้เจอนำโชคครั้งแรกเมื่อปี 2560 เขาเห็นมันอยู่ข้างถนนในอำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี เขาก็เลยหยุดรถแล้วเอาอาหารให้มันกิน ตอนที่พบเจ้าหมาแทบจะไม่มีขนเลย เนื่องจากมันเป็นโรคเรื้อนแล้วไม่ได้รับการรักษา ถึงเขาจะสงสารมันแต่ก็ยังไม่ได้เก็บมันมาเลี้ยง     ทว่าเรื่องของเจ้าหมาก็ยังคงติดอยู่ในใจคุณเอ เขาได้เอาภาพของมันไปโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก แล้วก็มีเพื่อนๆ และชาวเน็ตออกมาแสดงความเห็นใจเจ้าหมากันมากมาย รวมทั้งสนับสนุนให้เขาช่วยรับมันเลี้ยงไว้ ไม่กี่วันถัดมาเขาก็เลยขับรถกลับไปที่ถนนเส้นเดิมอีกเพื่อตามหามัน แล้วก็เจอกับมันจนได้ ก็เลยพามันขึ้นรถกลับไปอยู่บ้านด้วยกัน     เอาเสื่อบังแดดให้น้องด้วย จะได้ไม่ร้อน   หลังจากเก็บนำโชคมาแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำเลยก็คือการรักษาโรคเรื้อนของมันให้หายดี แต่มันก็ต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายามอย่างมาก เนื่องจากเรื้อนของมันค่อนข้างสาหัสอยู่เหมือนกัน คุณเอกับแฟนทั้งพามันไปหาสัตวแพทย์ แล้วก็ช่วยอาบน้ำกับให้ยาเจ้าหมาด้วยตัวเอง เขาใส่ใจมันมากๆ เพราะมีความตั้งใจจะช่วยให้ชีวิตมันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น     อาบน้ำกันนะจะได้หายไวๆ   นำโชคเป็นเด็กดียอมให้อาบน้ำโดยไม่ซน   คุณเอบอกว่ามีหลายครั้งที่ตัวเองรู้สึกถอดใจกับการรักษามันเหมือนกัน แต่เขาก็ใช้ความรักและผูกพันที่มีหลังจากใช้เวลาร่วมกันเป็นแรงผลักดันในการช่วยมันต่อไป     เปิดพัดลมให้น้องตอนอยู่บ้านด้วย ที่ต้องให้อยู่ในกรงเพราะกลัวน้องซนจนรบกวนเพื่อนบ้าน   พามาเดินเล่นข้างนอกบ้าน…

ไม่ว่าจะด้วยความมั่นใจทะลุหลอดว่าตัวเองนั้นสลิมพอจะเข้าทุกซอกทุกมุม หรือว่ามีนิสัยชอบที่แคบติดตัวมาตั้งแต่เกิด สิ่งที่เรารู้แน่ชัดก็คือแมวน่ะมันชอบเข้าไปอยู่ในอะไรก็ตามที่เป็นช่องๆ โดยเฉพาะกล่องกระดาษเนี่ยของโปรดเลย พวกมันพยายามยัดตัวเองเข้าไปอยู่ในทุกอย่าง และเผื่อว่าเพื่อนๆ ที่ไม่มีแมวจะไม่เข้าใจคำว่า ‘ทุกอย่าง’ ดีพอ เราก็เลยหาตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ในการแปลงกายเป็นของเหลวของเจ้าแมวมาให้   อะไรเป็นช่องๆ เราก็เข้าได้หมด   โดยเฉพาะกล่องกระดาษนี่เป็นสวรรค์ของแมวเลย   แม้ว่ามันจะแคบสักแค่ไหน เราก็เอาตัวเองเข้าไปให้ได้   เพราะพวกเราเป็นของเหลว หึหึ   เห็นมะ จะกลมจะเหลี่ยมเข้าไปก็พอดีตัว   เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว แม้แต่กับข้าว   ใครบอกเราเข้าไม่ได้ คราวหน้าพนันใส่เงินเลยดีกว่า   ลิ้นชักน้องก็ชอบนะ   เพราะมันปรับขนาดได้ สะดวกดี   รู้ว่าเข้าไปได้ แต่ระวังเป็นลมนะ   สงสัยวันนี้เราจะได้กินแมวอบทั้งตัว   แคบแค่นี้ก็ยังจะเข้าไปอีก   มันก็เป็นช่องๆ เหมือนกันแหละ พอแทนกันได้   อยากบิดก๊อกน้ำแรงๆ   เดี๋ยวนะ หมวกก็ได้เหรอ!?   ยอมแล้วว่าสลิมจริงๆ…

แม่แมวจรจัดถูกมนุษย์ช่วยให้มันกับลูกเข้ามาอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ถึงมันจะไม่ชอบคนเท่าไหร่ แต่เมื่อมันเจอลูกแมวกำพร้าตัวอื่นในนั้นมันก็เปลี่ยนมามีท่าทีใจดีเหมือนกับเป็นแมวคนละตัว     กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Alley Cat Rescue ลูกแมวจรจัด 2 ตัวอยู่ข้างถนน แม้ว่าจะไม่เห็นตัวแม่แมวพวกเขาก็รู้ว่ามันเฝ้าดูอยู่จากตรงไหนสักแห่ง ถึงการตามหาแม่แมวจะเป็นเรื่องลำบาก แต่พวกเขาก็ยอมเสียเวลาเพื่อที่แม่แมวและลูกแมวจะได้ไปอยู่ด้วยกัน นอกจากนี้ถ้าแม่แมวป่วยพวกเขาก็จะได้ช่วยรักษาให้ด้วย หลังจากติดตั้งกรงไว้เพื่อจับแม่แมวแล้ว ในวันเดียวกันนั้นเองแม่แมวก็เข้ามาติดในกรงที่พวกเขาวางไว้จนได้     พวกเขาตั้งชื่อแม่แมวว่า Del Rey หลังจากที่พาตัวพวกมันเข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิงแล้ว พวกเขาก็ช่วยรักษาโรค และเอาน้ำกับข้าวให้พวกมันกิน จนครอบครัวของมันแข็งแรงหมดทุกตัว พอได้อยู่กับพวกมันแล้วพวกเขาก็เลยรู้ว่าแม่แมวไม่ชอบเข้าใกล้คน ถ้ายื่นมือเข้าไปใกล้มันจะงับนิ้วอาสาสมัครเป็นเชิงเตือน ดูเหมือนมันจะอยากเลี้ยงลูกอย่างสงบๆ     ต่อมาไม่นานลูกของมันก็เริ่มตัวโตขึ้นแล้ว ระหว่างนั้นก็มีลูกแมวจรจัดอีก 2 ตัวถูกช่วยมาในศูนย์พักพิงพอดี แต่พวกมันไม่มีแม่อยู่ด้วย ทันทีที่ Del Rey ได้ยินเสียงร้องของลูกแมว มันก็เดินฝ่ามนุษย์เข้าไปตามเสียงร้อง แล้วรับพวกมันมาดูแลไว้เหมือนเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเองเลย   มิ้วน้อยกำพร้าไม่มีแม่   แต่ได้เจ้า Del Rey มาทำหน้าที่แม่ให้แทน   แม่แมวดำจะแบ่งเวลามาอยู่กับลูกแมวกำพร้าทั้ง 2 ตัวเสมอ มันจะช่วยเลียขนให้ลูกแมวหลังกินข้าวเสร็จทุกมื้อ ส่วนลูกของมันที่เริ่มกินอาหารธรรมดาได้แล้วมันก็ปล่อยให้มนุษย์ป้อนข้าวไป…

ระหว่างที่ Al Trovinger กับภรรยาของเขาและเจ้าหมา River กำลังขับรถผ่านสะพาน Jubilee Parkway Bridge จู่ๆ การจราจรก็ติดขัดจนรถของเขาเคลื่อนต่อไม่ได้ เมื่อมองไปข้างหน้า Trovinger ก็เห็นว่าด้านหน้ามีอุบัติเหตุขวางทางอยู่ ทำให้รถในแถบนั้นขับไปต่อไม่ได้นั่นเอง ทุกคนก็เลยจอดรถรอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน     แต่ระหว่างที่รอเจ้า River มันอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาพอดี เขาก็เลยใส่สายจูงให้มันแล้วเดินไปที่ขอบสะพาน เพื่อให้มันทำธุระตรงนั้น ตอนนั้นนั่นเองเจ้าหมาก็ตื่นเต้นมากที่ได้ออกมาจากรถ มันก็เลยกระโดดไปทางรั้วกั้นของสะพาน ในจังหวะนั้นสายจูงของมันก็ขาดพอดี เจ้าหมาก็เลยร่วงลงไปในแม่น้ำที่อยู่ด้านล่าง     Trovinger ตกใจมาก เขารีบตามไปดูว่าเจ้าหมาเป็นยังไงบ้าง แล้วก็เห็นมันพยายามกระเสือกกระสนว่ายน้ำเพื่อไม่ให้ตัวเองจมอยู่ แต่เนื่องจากมันกำลังตกใจมันก็เลยไม่ยอมว่ายเข้าฝั่งสักที เมื่อได้ยินเสียงคนที่อยู่รอบๆ เองก็เริ่มลงรถมาหามันด้วย พวกเขาต่างก็อยากจะช่วยเจ้าหมา แต่ก็ไม่รู้ว่าควรต้องทำยังไงเหมือนกัน     หลังจากผ่านไปประมาณ 10 นาทีเจ้าหมาก็ดูเหมือนจะหมดแรงแล้ว Trovinger ก็เลยตัดสินใจกระโดดลงจากสะพานเพื่อพามันเข้าฝั่งด้วยตัวเองเลย เขาบอกว่า “มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ถ้าไม่อยากให้มันจมน้ำไปก่อน ใครสักคนก็คงต้องโดดไปช่วยมัน ผมก็เลยกระโดดลงไปเอง”     เมื่อ River เห็นเจ้าของมาช่วยมันก็รีบว่ายน้ำเข้าไปหาเขาใหญ่เลย ทำให้เขาว่ายน้ำไม่ค่อยสะดวก แต่ดีที่คนที่อยู่บนฝั่งโยนเสื้อชูชีพหมามาให้เขา ถึงเจ้าหมาจะตัวโตเกินจนใส่ไม่ได้ แต่มันก็ช่วยให้พวกเขาลอยตัวได้ระดับหนึ่ง เมื่อเขาและเจ้าหมาว่ายมาจนถึงฝั่ง…

เจ้าหมา Myunshik มาอยู่ที่ศูนย์ราชการแห่งนี้โดยบังเอิญ แต่หลังจากได้รับน้ำใจจากคนที่นี่ เจ้าหมาก็เริ่มทำตัวเป็นพนักงานต้อนรับแขกที่มาหา ตอนนี้ไม่สำคัญแล้วว่าเจ้าหมาเคยอยู่ที่ไหนมาก่อน ปัจจุบัน Myunshik ได้อยู่ในที่ที่มันมีความสุข และมีแต่คนรักและเอ็นดูแล้ว ที่ศูนย์ราชการแห่งนี้   มีเจ้า Myunshik ทำหน้าที่เป็นหมาต้อนรับอยู่   เมื่อไหร่ที่มีคนขับรถเข้ามา มันจะมาเดินพาเข้าไปถึงประตูเลย   ต้อนรับแขกได้ดีกว่าพนักงานที่เป็นคนซะอีก   แถมมันยังแสนรู้มากๆ ด้วยนะ บอกขอมือก็ทำได้   นอกจากนี้มันก็ไม่เคยเดินเข้าไปกวนในออฟฟิศเลย   แม้จะมีอาหารน่ากินวางอยู่ด้านใน   เจ้าหมาก็จะมองไกลๆ จากตรงประตูเท่านั้น   จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะเอาอาหารมาแบ่งให้มันเป็นรางวัลความมีระเบียบและแสนรู้ของมัน   เพราะแบบนี้ทุกคนที่นี่ถึงรักเจ้า Myunshik   จริงๆ เจ้าหมาเริ่มมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณปีเดียว โดยมันจะนอนอยู่ในลานจอดรถ   เวลามีรถเข้ามามันก็จะเดินไปดูเหมือนกับรอคอยใครสักคนอยู่   มันมีเชือกผูกคอเส้นเล็กๆ ด้วย จึงน่าจะมีเจ้าของ แต่พวกเขาก็ตามหาเจ้าของให้มันไม่เจอ   ด้วยความเห็นใจคนที่ทำงานที่นี่ทุกคนเลยช่วยเลี้ยงดูมัน   รวมไปถึงท่านประธานด้วย   พวกเขาช่วยกันทำบ้านแสนสบายให้มันอยู่   ท่านประธานเป็นคนจัดบ้านให้เองเชียวนะ…

เมื่อครั้งแรกที่ Roberta Sa Griner เจอ Duke มันเป็นหมาจรจัดที่ไม่มีเจ้าของมารับ เธอก็เลยเอามันมาอยู่บ้านด้วยก่อนระหว่างรอหาบ้านใหม่ เธอจึงได้รู้ว่าเจ้าหมาตัวนี้มันซนมากจนเกินรับมือไหว แม้ว่าตอนอยู่ในบ้านมันจะทำตัวเรียบร้อย แต่พอออกบ้านปุ๊บมันจะวิ่งเล่นโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใด มันวิ่งลากคนดูแลไปจนเธอแทบจะล้มไปกองกับพื้นเลย     ไม่กี่เดือนต่อมาก็มีคนติดต่อศูนย์พักพิง Greater Charlotte SPCA ซึ่งส่ง Duke ไปให้ Griner ดูแลอยู่ พวกเขาบอกว่าเป็นเจ้าของของมัน พร้อมกับส่งวิดีโอมายืนยันด้วย แต่หลังจากเห็นวิดีโอต่างๆ ที่ส่งมาแล้ว พวกเขาก็รู้ว่านิสัยที่ซนจนไม่สนใจใครเป็นเพราะเจ้าของเก่าเลี้ยงดูมันไม่ดีเลย พวกเขาแกล้งมันบ่อย แถมไม่สอนวินัยให้มันด้วย สุดท้ายก็เลยคืนเจ้าหมาให้ไม่ได้   .   หลังจากรู้แน่นอนแล้วว่าตอนนี้มันไม่มีเจ้าของ และนิสัยของมันก็ยังไม่พร้อมจะส่งไปบ้านใหม่ Griner กับทางศูนย์พักพิงเลยร่วมกันจ้างครูฝึกหมามาสอนวินัยให้ Duke จนนิสัยของมันดีขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างที่กำลังรับการฝึกยังไม่จบนั่นเอง ก็มีครอบครัวหนึ่งติดต่อมาขอรับเลี้ยงมันไป Griner เลยยื่นเงื่อนไขให้พวกเขาไปว่าต้องพามันมารับการฝึกด้วย แล้วก็อย่าทำให้มันเสียนิสัยเหมือนเจ้าของเก่า ซึ่งพวกเขาก็ตกลง   .   ทว่าหลังจากที่รับมันไปอยู่ด้วยปีกว่าๆ ครอบครัวที่รับมันไปก็ขาดการติดต่อกับ Griner แล้วไม่พามันมาฝึกต่ออีก เธอได้รับการติดต่อจากครอบครัวนี้อีกหลังอีกปีถัดมา เพื่อขอร้องให้ศูนย์พักพิงรับตัวมันกลับคืนไป เนื่องจากพอมันขาดการฝึกแล้วมันก็กลับไปซนอีก แถมมากกว่าเดิมด้วย ครอบครัวของมันกลัวว่าลูกสาวในบ้านจะเป็นอันตาย เนื่องจากมันติดของเล่นมากๆ แล้วชอบเข้ามาแย่งของเล่นของลูกสาวอย่างรุนแรง…

เหล่าน้องหมาแทบทุกตัวมีความเป็นมิตรและขี้สงสัยในตัว ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเมื่อต้องพบเจอกับคนแปลกหน้า พวกมันจะได้เข้ากับเพื่อนใหม่ได้ แต่มันก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันนะ อย่างเวลาเจอเพื่อนสัตว์น่าสงสัยอย่างผึ้งหรือต่อ เจ้าหมาก็จะเข้าไปทักทายโดยไม่ได้ระวังตัวเลย กว่าพวกมันจะรู้ว่าไม่ควรทะเล่อทะล่าเข้าไปทักพวกผึ้ง ก็ต้องเรียนรู้หลังจากเจ็บตัวไปซะแล้ว ไปดูโฉมหน้าของเจ้าตัวแสบหลังได้เรียนรู้ด้วยวิธีเจ็บๆ กัน   ทำไมเพื่อนใหม่ไม่ชอบเรา   แค่อยากเล่นด้วยนิดเดียว ทำเราซะหมดหล่อเลย   สงสัยรอบนี้ผึ้งอารมณ์ไม่ดี รอบหน้าค่อยไปทักใหม่   จะไม่เล่นกับตัวเล็กมีปีกแล้ว   อย่าให้เจออีกนะ จะต่อยคืนบ้าง   ยิ้มอยู่นั่นแหละ รู้ตัวรึเปล่าว่าหน้าบวม   ดูหน้าแล้วคงคิดผิดที่ไปเล่นกับผึ้งมา   สายตาบอกเลยว่าเข็ดไปอีกนาน   ถ้าผมปากใหญ่ขึ้นก็กินข้าวได้เยอะขึ้นใช่ไหมฮับ?   ที่ไหนมีผึ้งน้องไม่ไปแล้วนะ กลัวเจ็บตัว   บังอาจมาทำให้หน้าอันหล่อเหลาของเราพังซะได้   จำไว้นะครับเด็กๆ เจอผึ้งให้วิ่ง   น้องระบมไปหมดแล้ว ขอนอนพักก่อน   เจ็บนะแต่ไม่เข็ด คราวหน้าก็ไปเล่นกับผึ้งอีกอยู่ดี   หน้าบวมจนปากใหญ่เท่ามือแล้ว   ของตัวนี้ไม่ใช่แค่ปาก ตาก็โดนไปด้วย   แต่ละตัวคงจำบทเรียนกันขึ้นใจเลย ที่มา: Magazine Feed…

จ่าสิบเอก Jesse Knotts เป็นทหารผู้กล้าหาญที่ทำหน้าที่ในกองทัพสหรัฐอเมริกามานานกว่าแปดปี โดยขณะที่อยู่ในอัฟกานิสถานเมื่อปี 2010 เขาได้พบกับ Koshka Koshka เป็นแมวเหมียวที่มักจะมาอยู่ในค่ายทหาร และคอยทำหน้าที่กำจัดหนูให้เหล่าทหาร Knotts กับเจ้าเหมียวตัวนี้จึงสนิทกันอย่างรวดเร็ว     สำหรับเจ้าเหมียวนั้น มันจะรู้สึกหงุดหงิดมาก เมื่อผู้คนไม่สนใจมัน แล้วมันก็จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อเตือนพวกเขาว่ากำลังละเลยมันนะ จริงๆ แล้ว ทหารไม่ควรมีสัตว์เลี้ยง แต่ Knotts ต้องการทำบางอย่างเพื่อช่วย Koshka ดังนั้น เขาจึงเลี้ยงมันไว้ในที่ทำงานของเขา     Knotts มีความสุขมากกับการมี Koshka เป็นเพื่อน แต่เขาไม่เคยรู้ตัวเลยว่าต้องการมันมากแค่ไหน จนกระทั่งวันที่เขาเจอกับเรื่องแย่ๆ ในเดือนธันวาคม ปี 2011 วันนั้น เพื่อนของ Knotts 2 คน ถูกสังหารโดยเครื่องบินทิ้งระเบิด หลังจากที่เขาได้ยินข่าวนี้ เขาก็เข้าไปในห้องและร้องไห้ด้วยความเสียใจ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อเจ้าเหมียว Koshka เห็นเขาร้องไห้ มันก็รีบไปนั่งที่ตักของเขาและเริ่มปลอบโยนเขา… Knotts บอกว่า “ผมสูญเสียความหวังและความเชื่อมั่นใจตัวเอง แต่ตอนนั้น แมวตัวนี้เข้ามาหาผม และเหมือนมันจะเตือนผมว่า ‘คุณก็คือคุณนั่นแหละ’”     Knotts รู้ว่า Koshka คงจะอยู่ในที่ทำงานของเขาตลอดไปไม่ได้ ถ้าจะให้มันรอดและมีชีวิตที่ดี…

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แมววิเชียรมาศรูปร่างผอมแห้งและขี้กลัวตัวหนึ่ง ถูกพบบริเวณคิงสตัน รัฐออนแทรีโอ มันกำลังต่อสู้เพื่อความอยู่รอดบนถนน พลเมืองดีที่เจอแมวตัวนั้น เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของมัน เพราะดูเหมือนว่ามันจะเร่ร่อนมานานหลายเดือนแล้ว ที่สำคัญมีร่องรอยการต่อสู้ทั่วตัวมันเลย พลเมืองดีจึงจัดการวางกับดักมันเพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือต่อไป     โชคดีที่ใกล้ๆ กันนั้น มีศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Happy Tails Farm Sanctuary ที่ดำเนินการโดย Carla Reilly Moore และสามีของเธอ ที่บ้านของทั้งคู่มีสัตว์มากมายที่พวกเขาช่วยไว้ สำหรับแมวสยามตัวนี้ พวกเขาตั้งชื่อให้มันว่า Sapphire มันขี้กลัวมาก จนยากเกินจะจัดการได้ มันมีผิวที่หยาบกร้าน ตาติดเชื้อ และกล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก เมื่อพาไปตรวจร่างกาย คุณหมอบอกว่ากระดูกเชิงกรานของมันหัก และมันไม่มีไมโครชิปด้วย     Carla บอกว่า “มันอาจจะถูกรถชนมาหรือโดนใครเตะมา เราไม่ทราบ แต่เห็นได้ชัดว่ามันต้องทรมานกับสภาพนี้มานานกว่า 2 สัปดาห์ โดยไม่มีได้รับยาบรรเทาปวดใดๆ” ขณะที่ Carla กับสามีให้การช่วยเหลือสัตว์มากมาย พวกเขาเองก็เพิ่งมีลูกน้อยชื่อว่า Mary เมื่อเดือนพฤษภาคม แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะพวกเขาตัดสินใจต้อนรับ Sapphire เป็นสมาชิกตัวใหม่ของครอบครัว และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แมวขี้กลัวตัวนี้เปลี่ยนไปอย่างน่าทึ่ง     ปกติแล้ว Carla กับสามีจะให้การช่วยเหลือสัตว์ในฟาร์มเป็นส่วนใหญ่…

เมื่อเดือนมกราคม Beatriz Baranski Kaniak กับสามีและสุนัขอีก 4 ตัว เพิ่งจะย้ายไปอยู่บ้านใหม่ในชิลี ซึ่งบ้านยังไม่เข้าที่เข้าทาง บางอย่างอยู่ระหว่างก่อสร้าง เพราะแบบนี้จึงมีคนงานเข้าออกบ้านและลานบ้านของพวกเขาตลอดทั้งวัน ซึ่งประตูหน้าบ้านมักจะถูกเปิดทิ้งไว้ จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่คู่รักกำลังจัดเตรียมสิ่งของให้พร้อมสำหรับบ้านใหม่ พวกเขาเหลือบไปเห็นสุนัขที่ไม่เคยเจอมาก่อน มันกำลังนอนอยู่กลางทางเข้าที่จอดของพวกเขา ซึ่งต่อมา หมาผู้น่าสงสารตัวนั้นถูกตั้งชื่อว่า Cookie     รูปร่างของหมาตัวนั้นดูไม่ค่อยดีนักและอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด แต่ดูเหมือนว่ามันเลือกที่จะมานอนหน้าบ้านหลังนี้ เพราะคิดว่าเจ้าของบ้านจะช่วยเหลือมัน นับว่าโชคดีที่การตัดสินใจของมันประสบความสำเร็จ Kaniak บอกว่า “แม้ว่าเราจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมัน แต่สุขภาพและลักษณะของมัน ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับการตัดสินใจมันดูอ่อนแอ เปราะบาง หมดหวัง และต้องการใครสักคนที่ดูแลมัน นั่นเป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วสำหรับฉันกับสามี”     ตอนแรกเมื่อทั้งคู่เข้าไปใกล้ Cookie ดูหวาดกลัวมากและสั่นไม่หยุด แต่เพียงไม่นานเจ้าหมาก็ตระหนักได้ว่ามันปลอดภัยแล้ว และตกหลุมรักครอบครัวใหม่อย่างรวดเร็ว พี่น้องหมาในบ้านทั้ง 4 ตัว ต้อนรับมันอย่างเป็นมิตร และดูเหมือน Cookie เองก็ตั้งใจที่จะเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวนี้ Kaniak บอกว่า “เพียงไม่กี่ชั่วโมงมันก็เริ่มสนิทกับเราและเป็นมิตรกับสุนัขตัวอื่นๆ ของเรา มันดูตื่นเต้นมาก นั่นทำให้เรารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย”     เนื่องจาก Cookie อยู่ในสภาพที่ค่อนข้างแย่…

แมวเหมียวจรจัดเกิดมาพร้อมอุปสรรคมากมาย มันตาบอดและมีปัญหาเกี่ยวกับสมอง แต่มันก็ไม่ได้ทำตัวเป็นภาระต่อใครเลย กลับกันมันสามารถช่วยคนอื่นได้ด้วย เมื่อครั้งเจ้าแมว Donny ยังเป็นมิ้วน้อย กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ North Shore Animal League Americ ไปเจอมันอยู่ตามลำพังในลานจอดรถ พวกเขาเลยช่วยมันไว้     หลังตรวจร่างกายแล้วพวกเขาได้รู้ว่าดวงตาของมันพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้มันไม่สามารถมองเห็นได้ พวกเขาเลยทำการผ่าตัดเอาตาของมันออก นอกจากนี้แล้ว Donny ก็มีปัญหาเกี่ยวกับสมองด้วย ส่งผลให้มันมีระบบการทรงตัวที่ไม่ดี เจ้าแมวก็เลยเดินเซไปเซมาตลอดเวลา     ถึงแม้ว่าปกติแล้วแมวพิการจะหาบ้านได้ยาก เพราะไม่ค่อยมีคนพร้อมรับภาระดูแล แต่เป็นโชคดีสำหรับ Donny ที่มันเจอครอบครัวที่รักมันอย่างรวดเร็ว     Susan Smith เจ้าของคนปัจจุบันของมันเจอรูปของมันอยู่บนอินตาแกรม ตอนนั้นเธอกับสามีไม่ได้มีความคิดจะเลี้ยงแมวเพิ่มเลย แต่พอเห็น Donny แล้วก็อดที่จะไปเยี่ยมไม่ได้ พอเธอกับสามีได้เจอเจ้าแมวจริงๆ พวกเขาก็ตกหลุมรักมัน Smith เล่าว่า “มันเดินเซและชนของไปทั่ว แต่ก็ยังวิ่งเล่นซนอยู่ดี ถึงมันจะล้มบ่อยแต่ก็มักจะลุกขึ้นมาทันทีเสมอ มันมีกำลังใจดีมาก…ฉันได้เจอมันเมื่อวันศุกร์ แล้ววันอาทิตย์ฉันก็ไปรับมันมาอยู่ด้วยเลย”     เธอเล่าต่อว่า “มันไม่เคยคิดว่าตัวเองต่างจากแมวตัวอื่นเลย มันทำทุกอย่างที่แมวตัวอื่นทำ มันชอบโดดไปอยู่บนสุดของคอนโดแมว แล้วก็มักจะตกลงมาเมื่อพยายามจะลง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมบ้านของฉันจึงมีหมอนและเสื่อปูไว้ที่พื้นเสมอ…

บ้านใครที่มีลูกเล็กเด็กแดง ควรจะหาเพื่อนขนปุยไปอยู่เป็นเพื่อนน้องๆ สักตัวนะ น้องหนูจะได้ไม่รู้สึกเหงาเพราะจะมีเพื่อนผู้ซื่อสัตย์คอยอยู่เคียงข้างตลอดเวลา และเพื่อนขนปุยที่ #เหมียวอาตี๋ คิดว่าเหมาะสมจะเป็นเพื่อนชีวิตของน้องๆ ก็คือเจ้าแมวเหมียวนี่แหละ ถ้าให้เด็กเติบโตมากับแมวรับรองได้ประโยชน์มากมาย ดังที่จะบอกต่อไปนี้   เลี้ยงเด็กให้โตมากับแมวนั้นดีหนักหนา   น้องๆ จะได้มีคนให้กอดทุกเมื่อ   มีคนคอยปลอบใจยามเศร้า   มีพี่แมวตามดูแลตอนออกไปข้างนอก   มีคนสอนน้องๆ ให้คลานเป็น   เจ้าแมวจะช่วยกระตุ้นให้น้องสนใจสิ่งใหม่ๆ มากขึ้น   ส่วนเรื่องสอนให้อาบน้ำ…ให้น้องสอนเจ้าแมวจะดีกว่า   น้องจะรู้จักการแบ่งปันให้คนอื่น   แล้วน้องก็จะไม่อ้วนเพราะมีคนช่วยกินด้วย   น้องจะไม่รู้สึกว้าเหว่อีกต่อไป   เวลาถ่ายรูป ไม่ว่าหน้าจะไม่พร้อมขนาดไหน ขอแค่มีแมวทุกรูปก็ออกมาดี   มีคนทำช่วยทำสเปเชียลเอฟเฟกประกอบภาพให้ด้วย   สอนให้น้องๆ รู้จักความรัก จุ๊ฟ   มีหมอนหนุนฉุกเฉินเมื่อรู้สึกง่วง   มีคนช่วยแบ่งเบาหน้าที่เล่านิทานให้ลูกฟัง   มีคนจับตาดูน้องไม่ให้คลาดสายตา (จ้องแรงไปนะ)   ถ้าน้องอยากมีฝาแฝด พี่แมวก็จัดให้ได้   เห็นไหมว่าให้แมวโตมากับเด็กมันดีสุดๆ…

Sadie Cox พบกับเจ้าหมา Suki ครั้งแรกเมื่อตอนที่มันกับเจ้าของเก่าออกมาเดินเล่นข้างนอก เธอเห็นว่าเจ้าหมาแทบจะเดินไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะน้ำหนักตัวของมันมากเกินไป เธอเองก็เป็นคนรักหมา จึงไม่สามารถทนเห็นมันในสภาพแบบนั้นได้ เธอเลยไปคุยกับเจ้าของของมันทั้งที่ไม่รู้จักกันสักนิด Cox ขอรับเลี้ยงมันต่อจากเขาเพราะว่าเขาดูแลมันได้ไม่ดีพอ เจ้าของเก่าของมันก็เลยมอบมันให้เธอไปดูแลต่อแต่โดยดี     เธออธิบายถึงความอ้วนของ Suki ว่า “เจ้าหมายกขาขึ้นเพื่อฉี่ไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะถ้ามันยกขาขึ้นแบบนั้นมันต้องล้มหงายตึงแน่” จากนั้นเป็นต้นมาเธอก็ตั้งใจช่วยมันลดน้ำหนักแบบจริงจัง โดยมีเป้าหมายให้มันกลับมาผอมจนสามารถใช้ชีวิตแบบหมาที่มีความสุขได้ มันจะได้วิ่งเล่นและทำอย่างอื่นได้เต็มที่     ทว่าการช่วยมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้ว่ามันจะมาอยู่กับเธอแล้วเจ้าหมาก็แทบจะไม่ขยับไปไหน เพราะว่าการขยับตัวเป็นเรื่องลำบากสำหรับมันนั่นเอง แม้แต่เวลากินข้าว มันก็ยังนอนกินเลย นอกจากนี้เจ้าของเก่าของมันคงจะไม่เล่นกับมันบ่อย เมื่อมีคนเข้าไปใกล้เจ้าหมามันก็เลยขู่เพราะมันไม่ชินกับการมีคนมาเล่นด้วย     อย่างไรก็ตาม Cox ก็มีความพยายามที่จะช่วย Suki มากเหมือนกัน เธอพามันไปหาสัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อช่วยกันวางแผนการกินอาหารให้กับมัน อีกอย่างเธอก็ช่วยมันออกกำลังกายด้วย โดยเริ่มจากการเดินวันละ 1 นาทีก่อน เพราะแค่เดินไม่ถึงนาทีมันก็หอบแฮ่กๆ แล้ว จากนั้นเธอก็ค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาการเดินให้กับมันเรื่อยๆ จนมันสามารถเดินได้นานขึ้น   วางแผนไดเอ็ทกับคุณหมอ จะได้ผอมๆ   Suki หัดเดินเป็นประจำ จนตอนนี้เริ่มเดินออกมานอกบ้านไหวแล้ว…

ชีวิตของแมวจรจัดนั้นมีอุปสรรคหลายอย่าง นอกจากจะต้องหาอาหารและที่อยู่แล้ว ถ้าป่วยขึ้นมาก็ไม่มีคนพาไปรักษาอีกด้วย ลูกแมวเกิดใหม่ตัวนี้เองก็ป่วยตั้งแต่เกิด พอมาเจอมนุษย์มันก็มีแผลเป็นแว่นกันแดดอันโตแล้ว มาถึงตอนนี้คนที่เจอมันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าช่วยแล้วมันจะกลับมามองเห็นไหม แต่เขาก็อยากลองช่วยมันดู   หลังบ้านของชายคนนี้…   มีแมวจรจัดมาคลอดลูกแล้วอาศัยอยู่   และหนึ่งในลูกของมันก็คือแมวที่มีแผลเหมือนแว่นกันแดด   แผลนั่นทำให้มันมองไม่เห็น แม้มันจะพยายามแกะสะเก็ดออกแต่ก็ทำเองไม่ได้   มันมักจะเดินชนโน่นนี่ไปเรื่อยเพราะมองไม่เห็น   นอกจากนี้มันก็มีปัญหาเวลาหาข้าวกินด้วย เนื่องจากหาจานข้าวไม่เจอ   ด้วยความสงสาร ชายหนุ่มก็เลยพามันไปหาหมอ   สัตวแพทย์บอกว่าสะเก็ดนี้เกิดจากหนองที่ตาของมันไหลออกมาตลอดเวลา   พวกเขาก็เลยเริ่มรักษาด้วยการแกะสะเก็ดให้มันก่อน   ดูเหมือนว่ามันจะติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในท้องแม่เลยมีหนองแบบนี้   ซึ่งทำให้กระจกตาของมันเสียหายหนักมาก   สัตวแพทย์ต้องตัดสินใจว่าจะเอาตาของมันออก หรือสู้ต่อทั้งที่แทบไม่มีหวัง   แต่พวกเขาก็เลือกที่ลองรักษาตาของมันดู   เผื่อว่ามันจะได้โอกาสมองเห็น   หลายวันหลังจากการผ่าตัด   อาการของลูกแมวก็ดีขึ้นมาก แล้วดวงตาก็เริ่มฟื้นฟูขึ้นมาจนลืมตาได้แล้ว   ชายหนุ่มรู้สึกภูมิใจมาก เหมือนได้เห็นลูกลืมตาดูพ่อครั้งแรกเลย   ก่อนหน้านี้พวกมันเป็นแค่แมวจรจัดที่เข้ามาเอง แต่จากนี้ไปเขาจะช่วยดูแลพวกมัน   แมวน้อยจะได้มองเห็นครอบครัวกับตัวเองมีแต่ความสุขยังไงล่ะ   เรื่องราวของลูกแมวผู้มีแผลเหมือนสวมแว่นกันแดด …

ทุกคนคงจะเคยเห็นคนท้าความตายกันมาบ้าง อย่างที่เห็นกันบ่อยสุดๆ ก็คือการข้ามตึกสูงโดยไต่เชือกเพียงแค่เส้นเดียว หากทำสำเร็จคนคนนั้นก็จะดูเท่มากเลย เมื่อเร็วๆ นี้ก็มีแรคคูนตัวหนึ่งท้าความตายเหมือนกัน มันปีนตึกขึ้นไปตั้ง 9 ชั้น จากนั้นก็กระโดดลงมาบนพื้นดินท่ามกลางสายตาประชาชี โดยที่มันไม่เป็นอะไรเลย     ตอนที่มีคนเห็นเจ้าแรคคูนกำลังไต่ตึกสูงขึ้นไปเรื่อยๆ คนที่เห็นมันต่างก็หยุดทำกิจกรรมของตัวเอง แล้วเข้าไปเฝ้าดูความเป็นไปของมันแทน พวกเขาดูกำลังกังวลว่ามันจะลงมาได้ยังไง แล้วมันจะอยู่รอดปลอดภัยไหม อีกส่วนหนึ่งก็พากันถ่ายวิดีโอกันใหญ่เลย เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ หรอก     ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าจะทำยังไงกับมันดี เจ้าแรคคูนมันก็กระโดดลงมาจากตึกอย่างกะทันหันซะงั้น แล้วเหินฟ้าจากชั้น 9 ลงมาบนพื้นดินตรงๆ เลย ที่สำคัญก็คือแรคคูนมันไม่บาดเจ็บอะไรจากการตกตึก 9 ชั้นเลย แถมยังวิ่งต่อไปได้สบายบรื๋อด้วย พาเอาคนที่ยืนดูกันทั้งทึ่งและชื่นชม พากันปรบมือให้มันใหญ่      ไม่แน่นะเจ้าแรคคูนอาจจะปีนตึกขึ้นไปเพื่อเรียกร้องความสนใจก็ได้ พอมันเห็นว่ามีคนสนใจเยอะแล้วมันก็เลยโชว์เก๋าด้วยการเหินฟ้าซะเลย แต่จริงๆ แล้วมันจะขึ้นไปบนตึกทำไมเราก็ไม่มีทางรู้ได้หรอก แค่มันลงมาได้อย่างปลอดภัยก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะ แล้วทุกคนก็อย่าไปทำตามมันล่ะ มันคงไม่จบสวยแบบเจ้าแรคคูนหรอกนะ     ที่มา: Metro

เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ชาวเมืองมิลวอกีคนหนึ่งพบลูกกระรอกสีเทา 5 ตัว อยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างแปลกประหลาด พวกมันอยู่ในรังโดยไม่สามารถขยับไปไหนได้ เพราะหางของทั้ง 5 ตัวติดกัน ซึ่งเกิดจากหญ้ารวมทั้งพลาสติกที่แม่ของพวกมันใช้สร้างรังพันกันจนไม่สามารถเอาออกได้ ลูกกระรอกอายุประมาณ 5-6 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในวัยที่กำลังกระตือรือร้นที่จะออกไปสำรวจโลกภายนอก พวกมันต่างมีทิศทางที่จะไป แต่ก็ไปไม่ได้ ยิ่งพวกมันพยายามดึงหางตัวออกมาเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างความเจ็บปวดมากเท่านั้น     Scott Diehl ผู้อำนวยการของ Wisconsin Humane Society บอกว่า “พวกมันพยายามดึงตัวไปตามทิศทางของตัวเอง ขณะเดียวกัน แม่กระรอกก็พยายามช่วยลูกๆ อย่างเต็มที่เหมือนกัน” เมื่อเห็นลูกกระรอกกำลังทุกข์ทรมาน หญิงสาวคนหนึ่งที่เห็นจึงตัดสินใจโทรแจ้งศูนย์ Wildlife Rehabilitation Center เพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อ Diehl หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของศูนย์ทราบเรื่อง เขาก็รีบไปที่นั่นทันที     จากนั้นลูกกระรอกทั้ง 5 ตัว ก็ถูกนำตัวไปที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า และโดนวางยาสลบ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะค่อยๆ แกะหางพวกมันออกจากกัน เจ้าหน้าที่บอกว่า “ตอนแกะออก เราแทบจะไม่รู้ว่าหางไหนเป็นของตัวไหน เพราะมันพันกันยุ่งเหยิงไปหมด ยิ่งไปกว่านั้น เนื้อส่วนหางของแต่ละตัวก็ได้รับบาดเจ็บด้วย บางตัวแทบจะไม่มีเลือดไหลเวียนไปที่หางเลย”  …

สำหรับคนที่มีสัตว์เลี้ยง สิ่งหนึ่งที่พวกเขาจะไม่พลาดทำคือการเซลฟี่ ทั้งถ่ายภาพคู่กับพวกมันบ้าง ถ่ายภาพเดี่ยวพวกมันบ้าง แต่สัตว์เลี้ยงจะเต็มใจหรือไม่ก็อีกเรื่องนะ เหมือนกับสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ที่ถูกเจ้าของจับมาเซลฟี่ บางตัวจำใจฝืนถ่ายเพื่อเอาใจเจ้าของ ในขณะที่บางตัวแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบการเซลฟี่ และก็มีบางตัวอีกที่ชอบเซลฟี่นะแต่ต้องแอ๊บว่าไม่ชอบ เอ่อ ลูกเล่นมันเยอะดีเนาะ   1. ความสวยมันอยู่ที่ใจ ไม่ใช่รอยยิ้มเว้ย หุบยิ้มเลยเจ้ามนุษย์   2. นี่เอ็งมาปลุกข้าแต่เช้าเพื่อเซลฟี่เนี่ยหรอ!?   3. อีกละ เซลฟี่อีกแล้วววว ไม่เบื่อบ้างหรอ   4. นี่เจ้านายนะ ไม่ใช่ตัวตลก เอามือสกปรกของแกออกไปเดี๋ยวนี้เลย   5. เกิดมาเป็นแมวสวยนี่มันน่าเบื่อจริงจริ๊ง มีแต่คนขอถ่ายรูป   6. อ่านะ บางทีเราก็ต้องฝืนทำอะไรแปลกๆ เพื่อเจ้าของสายต๊อง   7. สวยไม่มาก แต่ท่าเยอะ   8. ให้มันรู้ไปเลยว่าเราไม่อยากให้มันเซลฟี่   9. แอบถ่ายเค้าหรอ รู้นะ   10. เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่ชอบเซลฟี่ไง   11.…

นักบินหนุ่มเคยช่วยลูกหมีกำพร้าเอาไว้เมื่อครั้งมันยังเด็ก เมื่อเขาได้ข่าวว่ามันเดือดร้อนอีกตอนมันโตแล้ว เขาก็ยังยื่นมือเข้าไปช่วยมันไว้อีกครั้ง Andrey Ivanov นักบินหนุ่มชาวรัสเซียได้เจอกับหมีน้อย Mansur ครั้งแรกเมื่อปี 2016 ที่ป่าติดกับสนามบินที่เขาประจำอยู่ ตอนนั้นมันอยู่ตามลำพังโดยไม่มีแม่ เขาและเพื่อนๆ ก็เลยเก็บมันมาดูแล     เดี๋ยวพี่ช่วยดูแลให้นะ   อยากลองขับเครื่องบินไหม?   นอกจากจะช่วยดูแลแล้ว พวกเขายังเข้าไปนอนกับมันเพื่อฝึกให้มันจำศีลด้วย   พวกเขาเลี้ยงมันไว้ในพื้นที่ปิดใกล้ๆ กับสนามบิน จนเจ้าหมีตัวใหญ่ขึ้นมาก Ivanov และเพื่อนจึงคิดว่าให้มันไปอยู่ในที่ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติน่าจะเหมาะสมกับมันมากกว่า เนื่องจากมันโตมากับคน พวกเขาก็เลยไม่ให้มันกลับไปอยู่ในป่าจริงๆ แต่ส่งมันไปอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์สัตว์แทน เพราะที่นั่นนอกจากจะได้อยู่กับธรรมชาติจริงๆ แล้ว ยังมีคนคอยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้มันด้วย     ตัวโตแล้ว กลับไปอยู่ในป่าเถอะนะ   อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ส่งมันไปอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์แล้ว พวกเขาก็ไม่สามารถติดต่อถามความเป็นไปของ Mansur ได้อีกเลย ทำให้เขาและนักบินคนอื่นกังวลเรื่องเจ้าหมีมาก Ivanov และเพื่อนก็เลยทำการสืบเรื่องของมันกันเอง จึงได้รู้ความจริงว่ามันไม่ได้อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์อย่างที่ควรจะเป็น แต่ถูกส่งไปอยู่ในสังเวียนฝึกสุนัขต่อสู้ในฐานะเหยื่อต่างหาก     ทันทีที่รู้ความจริงนักบินหนุ่มและผองเพื่อนก็ร่วมมือกันติดต่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ และพากันไปช่วย Mansur ออกมาได้ทันก่อนมันจะเป็นอันตราย แม้ว่าเนื้อตัวของมันจะสกปรกและดูทรุดโทรมไปบ้าง แต่ถือว่าโชคดีที่มันไม่ได้มีแผลร้ายแรง และไม่ได้ถูกคนในนั้นถอนเขี้ยวและเล็บทิ้งไป  …

เพื่อนๆ เคยเจอแมวจรจัดหรือสัตว์อื่นเข้ามาขโมยของกินในครัวบ้างไหม? ทางฝั่งตะวันตกเขาก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้เหมือนกันนะ และนอกจากแมวที่แอบเข้ามาแล้ว ก็จะมีแรคคูนนี่แหละที่เป็นโจรขาประจำ Jenny Serwylo นักจัดงานแต่งงานในเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดาก็เจอแรคคูนขึ้นบ้านอยู่บ่อยๆ เหมือนกัน แต่ไม่มีตัวไหนเลยที่จะใจกล้าหน้าด้านเท่าตัวนี้     Serwylo เล่าว่าตอนนั้นเป็นเวลาตี 1 ครึ่ง เธอนอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ตกใจตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากห้องครัวซึ่งอยู่ชั้นล่าง เธอบอกว่า “ฉันวิ่งลงมาดูข้างล่าง และเมื่อไปถึงที่ห้องครัวฉันก็เจอต้นเหตุของเสียง มันคือเจ้าแรคคูน แถมมีกันตั้ง 3 ตัวแน่ะ”     แรคคูนตัวหนึ่งกำลังคุ้ยถังขยะอยู่ อีกตัวหนึ่งค้างเติ่งอยู่ตรงหน้าต่างเพราะกำลังจะเข้ามา ส่วนตัวสุดท้ายกำลังง่วนกับอาหารอยู่บนเคาน์เตอร์ เธอรีบไปหยิบไม้กวาดแล้วพยายามทำท่าฟาดไปมาเพื่อไล่แรคคูนออกไป พวกมัน 2 ตัวก็เลยกลัวแล้วรีบปีนออกไปทางหน้าต่างเดียวกันกับที่พวกมันเข้ามา…แต่แรคคูนตัวสุดท้ายไม่สนใจจะหนีเลย       เจ้าแรคคูนตัวที่เหลืออยู่เดินไปแอบอยู่หลังตู้อบ แล้วก็ปักหลักอยู่ตรงนั้น มันคว้าทุกอย่างที่มือสั้นๆ เอื้อมถึงแล้วยังคงกินขนมต่อไปทั้งๆ ที่จ้องตาหญิงสาวอยู่ Serwylo เล่าว่า “มันเอื้อมไปหยิบทอร์ทิลลาของฉันไปกินจนหมด แล้วก็แกะถุงอิงลิชมัฟฟินกินจนเกลี้ยง ระหว่างนั้นมันก็จ้องหน้าฉันด้วยสายตาประมาณว่า ‘เฮ้ ฉันกำลังกินข้าวอยู่นะ ช่วยมีมารยาทแล้วออกไปก่อนได้ไหม?’ “     แม้หญิงสาวจะพยายามทำท่าขู่ไล่…

เจ้าหมาตัวนี้ติดอยู่ตามลำพังในบ้านที่ไม่มีทางออก มองไปทางไหนก็เห็นแต่น้ำท่วมขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ มันจึงดีใจมากเมื่อเห็นว่ายังมีคนกลับเข้ามาช่วยมัน ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่จากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ People for the Ethical Treatment of Animals กำลังออกตรวจตราพื้นที่เพื่อช่วยเหลือสัตว์ที่ลำบากจากพายุฟลอเรนซ์ พวกเขาก็เจอกับเจ้าหมาเข้า     มันอยู่ในบ้านที่ไม่มีคนเหลืออยู่เลย น้ำรอบๆ สูงจนท่วมล้อรถยนต์ไปแล้ว แต่ยังดีที่น้ำยังสูงไม่ถึงตัวชานบ้านซึ่งเจ้าหมายืนรอความช่วยเหลืออยู่ เจ้าหน้าที่คาดว่าถ้าเจ้าของไม่ได้รีบอพยพจนลืมพาเจ้าหมาไปด้วย พวกเขาก็คงจะตั้งใจทิ้งมันไว้เพราะไม่ต้องการมันอีกแล้ว   น้ำท่วมสูงมาก โชคดีที่เจ้าหมาอยู่ที่สูงมากพอเลยไม่จมน้ำ   เจ้าหมามีท่าทีหวาดกลัวคนอย่างเห็นได้ชัด มันห่อตัวและพยายามเดินออกห่าง แต่ในขณะเดียวกันหางของมันก็สั่นด้วยความดีใจที่มีหนทางรอด พวกเขาเห็นแบบนั้นก็เลยพยายามเข้าไปใกล้มันด้วยความเป็นมิตร แล้วเรียกให้มันเข้ามาหาเขาเอง มันจะได้ไม่รู้สึกว่าพวกเขาเป็นอันตราย   ทันทีที่อาสาสมัครแตะตัวมัน เจ้าหมาก็แสดงความดีใจอย่างชัดเจน มันคงมั่นใจแล้วว่าคนที่เข้ามาช่วยมันเป็นมิตร แล้วจะพามันไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยได้   ดูสิว่าเจ้าหมาดีใจขนาดไหนที่ยังมีคนเป็นห่วงมันอยู่   ตอนนี้เจ้าหมาก็ได้ไปอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ที่ปลอดภัยจากน้ำท่วมแล้ว หลังภัยจากพายุฟลอเรนซ์สงบลงพวกเขาก็จะตามหาเจ้าของให้เจ้าหมา ถ้ายังหาเจ้าของของมันไม่เจออีก อาสาสมัครก็จะช่วยมันหาบ้านใหม่ที่อบอุ่นเอง   เห็นมันดีใจแล้วก็ชื่นใจแบบบอกไม่ถูก ที่มา: Unilad

หญิงสาวคนหนึ่งช่วยลูกแมวน้อยไว้เมื่อไม่นานมานี้ ตอนแรกมันทำท่าจะไม่รอดอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันแข็งแรงและร่าเริงดีแล้ว และมันก็ขี้อ้อนมากถึงมากที่สุดซะด้วย Courtney Bailey สาวจากรัฐไอดาโฮ ประเทศสหรัฐอเมริกาเจอกับ Reese แถวบ้านของเธอเอง มันคงถูกใครสักคนเอามาทิ้งไว้แถวนี้แล้วไม่คุ้นที่ ก็เลยส่งเสียงร้องดังจนเธอตามมาเจอตัว     ลูกแมวน้อยป่วยอยู่ และยังแตกตื่นกับสภาพแวดล้อมใหม่ด้วย ทว่าหญิงสาวก็รู้ดีว่าเธอจำเป็นต้องช่วยมัน ก็เลยพยายามอย่างมากที่จะอุ้มเจ้าเหมียวขี้กลัวเข้าบ้าน ถึงมันจะขัดขืนบ้างแต่เมื่อได้รู้ว่า Bailey เป็นมิตร มันก็เลิกต่อต้านแล้วส่งเสียงครางหึ่มๆ เป็นเชิงว่ารู้ตัวว่าได้อยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว     ถ้ามาดียอมไปบ้านด้วยก็ได้   ในช่วงหลายวันแรกที่เจอ Reese มันป่วยหนักมาก มันติดเชื้อในช่องปัสสาวะ แล้วตัวของมันก็ขาดความชุ่มชื้นด้วยเช่นกัน แม้เธอจะให้ยาจนมันดูเหมือนจะดีขึ้นแล้ว แต่พอจะอาบน้ำให้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง เจ้าแมวก็อาการทรุดลงอีกครั้งหนึ่ง   ตอนเก็บมาตัวเล็กเท่าหลอดฉีดยา (ขนาดใหญ่)   แต่หลังจากพยายามยื้อและให้ยามันอยู่หลายวัน ในที่สุดมันก็มีอาการดีขึ้น สัญญาณแรกที่เธอเห็นว่ามันคงรอดแล้วก็คือเจ้าแมวลุกขึ้นเดินด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก แล้วตามเธอไปทั่วบ้าน จากนั้นมันก็เริ่มกินอาหารด้วยตัวเอง พอเริ่มเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว Reese ก็อาการดีขึ้นเร็วจนน่าตกใจ แป๊บเดียวมันก็กินเก่งจนตัวโตแล้ว แถมยังมีความขี้เล่นเพิ่มขึ้นเป็นกองจนเธอปรับตัวแทบไม่ทัน     ตอนนี้ไม่ว่า Bailey จะเดินไปที่มุมไหนของบ้าน เจ้าแมวก็จะเดินตามเธอไปด้วย มันคงติดใจมนุษย์ที่ช่วยชีวิตมันไว้แล้วล่ะ นอกจากนี้มันก็เริ่มเข้ามานอนกับเธอแล้วทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุกอันใหม่ให้…

คุณตาคนนี้ไม่ได้ออกไปช่วยแมวจากสถานการณ์อันเลวร้าย แต่ในอีกมุมหนึ่งเขาก็มอบความสุขให้กับแมวอย่างล้นหลาม แล้วก็ทำให้ชาวเน็ตชื่นใจไปกับเรื่องสุดน่ารักของเขาด้วย     คุณตา Terry จากรัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มมอบความสุขให้แมวจากการเป็นทาสธรรมดาๆ คนหนึ่ง เมื่อเขารู้ว่ามีกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Safe Haven Pet Sanctuary ใกล้บ้านที่ไม่ขังแมวไว้ในกรง เขาก็เลยอยากเข้าไปช่วยแปรงขนแมวในนั้น     Elizabeth Feldhausen ผู้ก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์เล่าในเฟซบุ๊กว่า “เราโชคดีมากที่มีคนอย่าง Terry อยู่ด้วย วันหนึ่งจู่ๆ Terry ก็เข้ามาหาเราเอง เขาบอกว่าอยากจะช่วยแปรงขนให้พวกแมว ไปๆ มาๆ เขาก็มาที่นี่ทุกวันเลย เขาช่วยแปรงขนแมวทุกตัวในนี้ แล้วเขาก็รู้ด้วยว่าแมวแต่ละตัวชอบหรือไม่ชอบอะไร นอกจากนี้สิ่งที่เขาทำเป็นประจำก็คือการเผลอนอนหลับไปกับพวกแมวแทบทุกวัน แต่เราไม่ว่าเขาหรอก พวกแมวต้องการเขา”     ช่วยแมวหลายตัวมันก็เหนื่อย ให้คุณตานอนพักสักแป๊บ   ตัวไหนยังไม่ได้แปรงขนบอกตานะ   แปรงขนเสร็จก็งีบต่ออีก สลับกันไปแบบนี้ทุกวัน   หลังจากที่ตอนแรกเขาแค่มาช่วยเฉยๆ แต่เนื่องจากเขามาอยู่ที่นี่เป็นประจำทุกวัน สุดท้ายก็เลยกลายเป็นอาสาสมัครแบบเต็มตัวไปโดยปริยาย     Elizabeth ซาบซึ้งในความช่วยเหลือของ Terry มาก เธอเลยโพสต์เรื่องของเขาลงบนเฟซบุ๊กของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ จากนั้นไม่นานคุณตาก็กลายเป็นคนดังในหมู่คนรักแมวไปเลย…

วันนี้ 22 กันยายน 2018 ถือเป็นวันพิเศษของเจ้าสัตว์มีนอ เนื่องจากมันเป็นวัน ‘แรดแห่งโลก’ ซึ่งผู้คนพากันให้ความสำคัญกับเจ้าแรดกัน วันแรดโลกถูกกำหนดใช้ครั้งแรกในปี 2010 และจะฉลองครบรอบในวันที่ 22 กันยายนของทุกๆ ปี ครั้งนี้ก็เป็นการฉลองวันแรดครั้งที่ 9 แล้ว     จุดประสงค์ที่จัดตั้งวันแรดขึ้นก็เพื่อให้คนรู้จักพวกมันนั่นเอง เนื่องจากเมื่อก่อนมันเป็นสัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ที่มีคนรู้จักไม่ทั่วถึง พอคนรู้จักพวกมันมากขึ้นก็จะได้ช่วยอนุรักษ์พวกมันไปในตัวด้วย จริงๆ แล้วแรดก็มีศัตรูทางธรรมชาติอยู่เหมือนกัน แต่ศัตรูตัวร้ายที่สุดก็คงเป็นมนุษย์เราที่ไปล่านอของพวกมันมาขายหรือทำเป็นเครื่องประดับนี่แหละ ถ้าอยากให้พวกมันอยู่กับเราไปนานๆ ก็ต้องช่วยกันต่อต้านเรื่องพวกนี้ด้วยนะ   แรดเป็นสัตว์กินพืช   พวกมันรักสงบ และไม่ระรานคนอื่น   แม้จะรักสงบ แต่ถึงยามรบก็ไม่ขลาด   ศัตรูตัวฉกาจของแรดก็คือมนุษย์ที่ล่านอของมัน   แต่ขณะเดียวกันก็มีนักอนุรักษ์คอยดูแลพวกมันอยู่เช่นกัน   ถ้าลองได้รู้จักพวกมัน จะรู้ว่าพวกมันน่ารัก   ดูแล้วเป็นสัตว์ที่อ่อนโยนพอตัวเชียวล่ะ   มันอยู่ร่วมกับสัตว์อื่นได้   มนุษย์คนไหนเป็นมิตรก็อยู่ด้วยได้   แม้แต่หนุ่มๆ ขาลุยยังรักแรดเลย   แรดก็น่ารักเหมือนกันใช่ไหมล่ะ   ส่วนคนอย่างเรา…

หลายคนน่าจะคงรู้แล้วว่าช่วงเดือนกันยายน 2018 นี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาเจอมรสุมจากพายุฟลอเรนซ์ ทำให้ในหลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมหนักจนคนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน นอกจากคนแล้วสุนัขก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน ยังดีที่มีคนรักสัตว์ที่สละเวลาช่วยเหลือพวกมันในเวลาคับขันแบบนี้ เราเลยอยากหยิบเรื่องราวการช่วยเหลือแสนอบอุ่นหัวใจบางส่วนมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน   1. เรือกู้ภัยช่วยขนย้ายน้องหมา   ในรัฐแคโรไลนาที่มีน้ำท่วมหนัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำเรือออกค้นหาผู้ที่ต้องการการช่วยเหลืออยู่ และพวกเขาก็ไม่ได้เลือกช่วยเฉพาะคนเท่านั้น เมื่อเจอเจ้าหมาบีเกิ้ลและพิตบูลกว่า 10 ตัว พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะสละพื้นที่บนเรือให้พวกมันเลย   2. ช่วยปลดปล่อยหมาทั้ง 6 ก่อนน้ำจะท่วมสูง   ในสถานการณ์ที่ทุกคนต้องเอาตัวรอดแบบนี้ เจ้าของบางคนอาจจะไม่มีเวลาพอช่วยหมาของตัวเอง เจ้าหมาทั้ง 6 ตัวก็เลยติดอยู่ในกรง หนีน้ำออกไปไหนไม่ได้ แต่หนุ่มใจดี Ryan Nichols และ David Rebollar ก็มาช่วยพวกมันไว้ได้ทันเวลา พวกเขาเปิดกรงให้เจ้าหมาออกมาได้ก่อนน้ำจะท่วมสูงอย่างหวุดหวิด ตอนนี้ทุกตัวปลอดภัยแล้ว   3. นักข่าวสาวช่วยหมาใกล้จมน้ำด้วยตัวเอง   Julie Wilson ผู้รายงานข่าวหญิงของสำนักข่าว ABC กำลังลงพื้นที่เพื่อถ่ายทอดสดถึงสถานการณ์น้ำท่วมในรัฐแคโรไลนาอยู่ แม้จะอยู่ระหว่างถ่ายทอดสด เธอก็ไม่ลังเลที่จะทิ้งหน้าที่ผู้รายงานข่าวเพื่อไปช่วยหมาของหญิงคนหนึ่งที่ใกล้จะจมน้ำ ทำให้มันไปถึงที่ที่ปลอดภัยได้   4. ชายหนุ่มขับรถบัสไปรับพวกหมาเพื่อหนีน้ำ   Tony Alsup เป็นชายที่ชอบช่วยสัตว์อยู่แล้ว…

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในเช้าวันหยุดภายใต้อากาศที่ยังคงหนาวเย็น Stephanie Dagenhart ได้พบกับ Duke สุนัขที่ถูกทิ้งไว้ลำพัง โดยมีสายจูงของมันถูกผูกติดกับต้นไม้ในสวนสาธารณะแมรี่แลนด์ นอกจากนี้เธอยังได้พบโน้ตจากเจ้าของของมันที่ทำให้สะเทือนใจมาก โดยระบุว่า “นี่คือ Duke มันมีของเล่นชิ้นโปรด มีอาหาร มันต้องการบ้านใหม่และใครสักคนที่รักมัน” Stephanie คุณครูวัย 32 ปี เล่าว่าเช้าว่านั้นเธอพาสุนัขของเธอ 2 ตัวออกมาเดินเล่น ท่ามกลางอากาศหนาวมาก จนมือและเท้าชาไปหมด สักพักเธอก็เห็น Duke กำลังนั่งสั่นด้วยความหนาวและความกลัว     ครูสาวพยายามมองซ้ายมองขวาเพื่อหาคนที่น่าจะเป็นเจ้าของของมัน เพราะเธอไม่เชื่อว่ามันถูกทิ้ง แต่สุดท้ายก็ไม่เจอใครเลย เธอจึงโทรเจ้า 911 พร้อมกับโพสต์ภาพของมันในเฟซบุ๊ก เพื่อดูว่ามีใครรู้อะไรเกี่ยวกับหมาตัวนี้มั้ย จากนั้น เธอได้โทรเรียกให้คู่หมั้นมารับหมาทั้ง 2 ตัวกลับบ้าน เพื่อที่เธอจะสามารถช่วย Duke ได้… ตอนนั้น Duke ดูระแวงมาก มันสั่นแต่ไม่ได้ส่งเสียงใดๆ หลังจากที่คู่หมั้น Stephanie สุนัขกลับไปแล้ว เธอจึงไปนั่งข้างๆ Duke และเรียกชื่อมัน เพื่อทำให้มันมีความมั่นมากขึ้น ขณะเดียวกัน เมื่อคนในละแวกนั้นที่ได้ทราบเรื่องของมันจากเฟซบุ๊กของครูสาว พวกเขาเอาผ้าขนหนู เอาขนมมาให้ แต่ไม่มีใครรู้จักมันเลย จึงเป็นไปได้ว่าน้องหมาไม่ได้อาศัยอยู่ในละแวกนี้     ประมาณ…

การเป็นสุนัขจรจัดที่อยู่บนถนนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะพวกมันต้องพยายามเอาตัวรอดไปวันๆ โดยการหาเศษอาหารและหาที่ปลอดภัยสำหรับหลับนอน Solo เป็นหนึ่งในสุนัขจรจัดที่เร่ร่อนอยู่บนถนนในลอสแอนเจลิส ในทุกๆ วัน มันต้องต่อสู้กับสภาพอากาศเลวร้าย และผู้คนที่ต้องการทำร้ายมัน นอกจากนี้ มันยังเสี่ยงที่โดนรถชนตลอดเวลา     เมื่อใกล้จะครบ 11 ปีที่ Solo ต้องเอาชีวิตรอดอยู่บนถนน มันแทบจะไม่เหลือความหวังในชีวิตและไม่อยากพยายามเพื่อที่จะมีชีวิตที่ดีมากกว่านี้อีกแล้ว มันเดินไปตามถนนและหยุดหลับที่ระเบียงบ้านหลังหนึ่ง แต่หารู้ว่าไม่ว่านั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความโชคดี เพราะเมื่อเจ้าของบ้านมาเห็น เธอรู้ว่าสุนัขตัวนี้จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ เธอเป็นห่วงสุขภาพของ Solo ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะพยายามหาที่ที่ดีที่สุดให้มันอยู่ และได้ติดต่อไปยัง Rocket Dog Rescue เพื่อขอความช่วยเหลือ ทาง Rocket Dog Rescue เองก็ยินดีให้การช่วยเหลือ     เมื่อเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์มาถึง พวกเขาก็พามันไปหาสัตวแพทย์ทันที พร้อมให้การช่วยเหลือที่จำเป็นด้านอื่นๆ ด้วย แต่ดูเหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกกับมัน ทำให้ Solo ต้องย้ายจากครอบครัวอุปถัมภ์หนึ่งไปยังอีกครอบครัวหนึ่ง มันเคยถูกรับเลี้ยง 2 ครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครต้องการมัน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ามันอายุมากแล้ว แต่วันหนึ่ง Carol Messina ก็ได้เห็นรูปของมันและเกิดความสนใจมันทันที เธอบอกว่า “เมื่อฉันเห็นหน้าของมัน ฉันรู้สึกว่าอยากมอบความรักให้มัน” หลังจากนั้น เธอก็ได้ติดต่อไปยังองค์กรช่วยเหลือสัตว์ เพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมัน  …

เมื่อ 4 เดือนก่อน ลูกแมวตัวน้อยถูกทิ้งอยู่นอกสถานประกอบการในท้องถิ่น มันแทบจะเคลื่อนไหวไปไหนไม่ได้ เพราะมันไม่สามารถเปิดตาได้ พนักงานที่ไปเจอมัน คิดว่ายังไงมันก็ไม่รอดแน่ๆ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่จากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Cat Haven Owen Collins จาก Cat Haven บอกว่า “เมื่อเราไปถึง เราเห็นลูกแมวไม่ขยับตัวเลย และเมื่อเข้าไปตรวจสอบ ก็พบว่ามันหายใจแผ่วเบามาก”     แม้ว่าสภาพของมิ้วน้อยจะแย่มาก แต่เขารู้ยังมีโอกาสที่จะช่วยมัน จากนั้น เขาและทีมงานก็รีบพาลูกแมวไปยัง The Animal Care Hospital Douglas ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสัตว์ของพวกเขา หลังจากที่ตรวจสุขภาพของมันก็พบว่าสาเหตุที่ทำให้ตามันปิด เป็นเพราะว่ามันป่วยเป็นไข้หวัดแมว และไม่ได้รับการรักษา ตาของมันข้างหนึ่งได้รับความเสียหายรุนแรงมาก จนคุณหมอเกรงว่าจะไม่สามารถรักษาได้     Owen บอกว่า “คุณหมอบอกผมว่า อีก 24 ชั่วโมงนับจากนี้ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก แต่อย่าคาดหวังว่ามันจะรอดนะ อย่างไรก็ตาม ผมได้พามันกลับบ้าน และดูแลมันตลอด 24 ชั่วโมง” จากนั้น เขาก็ได้ตั้งชื่อให้ลูกแมววัย 4…

วันหนึ่งขณะที่พนักงานซ่อมบำรุงกำลังเข้าไปซ่อมท่อน้ำภายในอาคารที่อยู่ในวิชิตอ รัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ เมื่อเปิดประตูอพาร์ตเมนต์เข้าไป เขาได้กลิ่นที่แย่มาก ขณะเดียวกัน เขาสังเกตเห็นกรงพลาสติกวางอยู่ที่มุมห้อง ที่โหดร้ายที่สุดคือ ข้างในถุงนั้นมีลูกหมาวัย 7 เดือน 2 ตัว เห็นได้ชัดว่าลูกหมากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ทุกข์ทรมาน แต่น่าแปลก พวกมันไม่ยอมส่งเสียงร้องเลย ก่อนจะรู้ว่าพวกมันไม่สามารถอ้าปากได้     ด้านหน้ากรงมีอึและฉี่ของน้องหมาเต็มไปหมด เมื่อชายคนนั้นส่องไฟไปที่น้องหมา เขาก็ได้รู้ว่ามีบางอย่างรัดรอบปากพวกไว้ จนจมูกของพวกมันทั้งบวมและแดง Sarah Coffman ผู้อำนวยการ Wichita Animal Action League บอกว่า “ชายคนนั้นไม่รู้จะทำอย่างไร และเขาก็ไม่อยากทิ้งน้องหมาไว้ที่นั่นลำพังด้วย เขาจึงโทรบอกเพื่อนที่เป็นนักอุปถัมภ์สัตว์ที่ทำงานกับเรา”     จากนั้น Coffman พร้อมด้วยเจ้าหน้่าที่ควบคุมสัตว์จึงรีบไปยังอพาร์ตเมนต์ดังกล่าวทันที แล้วก็อุ้มลูกหมาทั้ง 2 ตัว ไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน Coffman ตกใจมาก เมื่อเห็นสิ่งที่ถูกนำมาใช้ในการปิดปากน้องหมา ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นลวด เพราะมันแน่นมาก แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลสัตว์ เธอก็ได้รู้ว่ามันคือยางมัดผม     ปากของลูกหมาทั้ง 2 ตัว…

ใครที่อยู่กับสุนัขจะรู้ว่าพวกมันมีนิสัยหลายๆ อย่างที่ไม่ต่างจากเด็กเลย โดยเฉพาะเรื่องความกลัว กลัวนั่นกลัวนี่ไปหมด บางอย่างที่ไม่น่ากลัว พวกมันก็ดันกลัว และนี่คืออาการหวาดกลัวของเหล่าน้องหมา บางตัวกลัวแม้กระทั่งน้ำแตงกวา บางตัวกลัวตุ๊กตา ดูแล้วก็น่าเห็นใจนะ แต่อดขำไม่ได้   1. เมื่อเจ้าของเอารถไปล้าง แล้วให้น้องหมาอยู่ในรถ   2. หนูไม่ลง จนกว่าจะแน่ใจว่าพ่อเอาหนูออกไปแล้ว   3. เย้ยยย นี่มันหมาพันธุ์อะไรว่ะ   4. และที่ที่สัตว์ทุกตัวไม่อยากมาคือ คลินิกสัตว์   5. น้องกลัวเครื่องตัดหญ้า เมื่อไหร่พ่อจะตัดหญ้าเสร็จสักที   6. แม่ ให้ฟ้าหยุดผ่าสักที หนูกลัวฉี่จะราดแล้ว   7. นี่เครื่องดูดฝุ่น ไม่ใช่หนู ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้   8. เห็นตัวโตแบบนี้ กลัวเครืื่องเลื่อยตัดไม้นะ ได้ยินแค่เสียงก็ตัวสั่นแล้ว จนเจ้าของต้องเข้ามาปลอบ   9. ก็รู้ว่ากลัวพื้นไม้ ทำไมแม่ต้องเอาอาหารมาวางไว้ตรงนี้เนี่ย   10. น้องกลัวสะพานอะ ไม่รู้จะหักตอนไหน…

เสื้อผ้าขนสัตว์อาจจะดูสวยงาม ดูแพงและเลอค่า แต่เบื้องหลังของความงามเหล่านี้กลับตรงข้าม เพราะมันต้องแลกมาด้วยชีวิตของสัตว์นับไม่ถ้วน เพราะแบบนี้เมืองลอสแอนเจลิสจึงได้ออกมาเคลื่อนไหวครั้งยิ่งใหญ่เพื่อช่วยสัตว์ที่ตกเป็นเหยื่อของความงามเหล่านี้ ด้วยการต่อต้านธุรกิจขายขนสัตว์ ข่าวดังกล่าวได้ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่สภาเทศบาลเมืองลอสแองเจลิสได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ในการห้ามขายขนสัตว์และมิให้มีการผลิตสินค้าขนสัตว์เพิ่มอีก     Marilyn Kroplick ประธานของ In Defense of Animals กล่าวในงานแถลงว่า “การเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ของลอสแอนเจลิสนี้ มีแนวโน้มที่จะทำให้อุตสาหกรรมขนสัตว์สุดป่าเถื่อนนี้สิ้นสุดลง” “ในฐานะเมืองอุตสาหกรรมด้านแฟชั่นและวัฒนธรรม เราได้ส่งสาส์นไปยังทั่วโลกว่า ‘สัตว์ไม่ควรถูกทารุณกรรมเพื่อวงการแฟชั่น’“     เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เสื้อผ้าขนสัตว์ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการแฟชั่น แต่แล้วธุรกิจดังกล่าวเริ่มเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ เมื่อผู้คนเริ่มตระหนักว่าขนเหล่านั้นมาจากไหน ฟาร์มขนสัตว์ส่วนใหญ่ มักจะเป็นกระต่าย สุนัขจิ้งจอกอาร์กติก มิงค์ และจิ้งจอกแรคคูน พวกมันจะถูกเลี้ยงในสิ่งแวดล้อมที่สกปรก เมื่อตัวโตมากพอ พวกมันจะถูกฆ่าและถูกลอกผิวหนังไปใช้ประโยชน์ สำหรับวิธีในการฆ่า พวกเขามักจะใช้เครื่องช็อตใส่เข้าในปากและด้านหลังของพวกมัน จากนั้นก็ช็อตจนพวกมันตาย วิธีที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ ทำให้สัตว์ที่น่าสงสารเหล่านั้นต้องเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานก่อนตาย     ฟาร์มขนสัตว์ในฟินแลนด์ สุนัขจิ้งจอกของอาร์กติกจะได้รับการเลี้ยงดูแบบพิเศษ เพื่อเพิ่มมูลค่า โดยเจ้าของจะยอมทุ่มเงินไม่น้อยเพื่อสุขภาพพวกมัน เพราะพวกเขารู้ว่าผลตอบแทนที่จะได้กลับมามากกว่าที่เสียไปหลายเท่า ชาวสวีเดนที่ใช้ชื่อว่า monsterrävar ได้แปลงานเขียน  “monster foxes” ของ Animal Defenders International (ADI) พบว่าในแต่ละปี มีสัตว์ถูกฆ่ามากกว่า 110…

ช้างเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่มีสติปัญญาสูงมาก บ่อยครั้งที่มนุษย์มักได้เห็นพวกมันแสดงอารมณ์ หรือมีพฤติกรรมที่ไม่ต่างไปจากพวกเราเลย ครั้งนี้เมื่อผู้นำของช้างโขลงหนึ่งตายไป พวกมันก็ไม่ได้ทิ้งศพเพื่อนไว้โดยไม่สนใจ ช้างทั้งโขลงพากันมาแสดงความเสียใจใกล้ๆ กับร่างของมันเหมือนกับที่มนุษย์ไว้อาลัยให้ผู้ล่วงลับไม่มีผิด       ช้างโขลงนี้อาศัยอยู่ใกล้กับแม่น้ำสายหนึ่งในประเทศศรีลังกา จ่าฝูงของมันต่อสู้กับช้างอีกตัวหนึ่ง จนตัวเองพ่ายแพ้และตายไป ช้างกว่า 300 ตัวในโขลงก็เลยผลัดกันเข้ามาใช้งวงแตะร่างของจ่าฝูง เหมือนกับกำลังไว้อาลัยให้มันก่อนจะเดินจากไปที่อื่น     ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นเองก็คิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก พวกเขาก็เลยออกมาถ่ายวิดีโอเอาไว้ก่อนที่พวกมันจะไว้อาลัยเสร็จแล้วจากไป แม้แต่ลูกช้างตัวเล็กก็ยังเข้ามาไว้อาลัยกับเขาด้วยเลย พวกมันคงเคารพจ่าฝูงซึ่งคอยนำทางให้พวกมันมาตลอดจริงๆ     เมื่อช้างทุกตัวได้ไว้อาลัยกับจ่าฝูงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกมันถึงค่อยเดินจากไปโดยที่ทิ้งร่างของจ่าฝูงไว้ข้างแม่น้ำดังเดิม คลิปวิดีโอนี้ทำให้พวกเรารู้ว่าช้างก็มีความรู้สึกอาลัยอาวรไม่ต่างกับมนุษย์เลย และพวกมันเองก็มีความเคารพและคิดถึงจ่าฝูงเหมือนกันด้วย     คลิปวิดีโอ    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกมันมีปฏิกิริยาแบบนี้ ครั้งหนึ่งโขลงช้างเองก็เคยเดินทางมาไว้อาลัยให้กับการจากไปของมนุษย์ที่ดูแลมันเช่นกัน (ติดตามเรื่องของโขลงช้างที่ไว้อาลัยให้เพื่อนมนุษย์ได้ที่ https://www.catdumb.com/old/elephant-herd-mourn-for-human-friend-700/)     บางทีภายใต้รูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน พวกช้างก็คงมีความรู้สึกนึกคิดไม่ได้ต่างไปจากมนุษย์เท่าไหร่หรอกนะ ที่มา: Daily Mail, Daily Random

จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย University of California พบว่าสัตว์มีคุณสมบัติที่ไม่ต่างจากมนุษย์เลย พวกมันทั้งด้านที่น่ารักและอันตรายในเวลาเดียวกัน และนี่คือความจริงที่อยู่เบื้องหลังความน่ารักของสัตว์โลกบางชนิดที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน และนี่อาจจะเป็นข้อมูลที่ทำให้คุณรู้จักเพื่อนร่วมโลกมากขึ้น   1. นากทะเล นากทะเลจะจับมือกันเวลาหลับ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวใดตัวหนึ่งลอยห่างออกไปจากฝูง   2. นาก เมื่อเจอกับอันตราย นากจะเอาลูกออกมาแสดงตัว เพื่อขอความเมตตาจากฝ่ายตรงข้าม   3. กระรอก ในทุกๆ ปี กระรอกจะปลูกต้นไม้นับพันต้น เพราะพวกมันมักจะลืมที่ที่ฝังลูกโอ๊กไว้   4. ปลาโลมา นอกจากจะมีภาษาเป็นของตัวเองแล้ว ปลาโลมายังตั้งชื่อให้เพื่อนแต่ละตัวด้วย เพื่อง่ายต่อการเรียกหา   5. นกพัฟฟิน เมื่อพัฟฟินเจอเนื้อคู่ของตัวเอง พวกมันจะสร้างบนหน้าผาและอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต   6. หอยนางรม หอยนางรมสามารถเปลี่ยนเพศได้ และการตัดสินใจเปลี่ยนเพศของพวกมันขึ้นอยู่กับว่าหอยตัวไหนเหมาะสำหรับการผสมพันธุ์ด้วย   7. ม้าน้ำ เมื่อม้าน้ำเจอเนื้อคู่ พวกมันจะจับหางของกันและกันเอาไว้ และครองรักตลอดชีวิต   8. ลูกหมาเพศผู้ เวลาเล่นด้วยกัน ลูกหมาเพศผู้จะปล่อยให้หมาเพศเมียชนะในบางครั้ง เพราะมันอยากทำความรู้จักกับอีกฝ่ายมากขึ้น   9. ควอกกา ควอกกาถือเป็นสัตว์ที่มีความสุขมากที่สุดในโลก   10. วัว…

หัวอกคนเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง ก็อยากจะทำให้ลูกของตัวเองดูน่ารักที่สุดในสายตาคนอื่น การเสริมความน่ารักให้สัตว์เลี้ยงของเราที่ง่ายที่สุดก็คือการหาชุดน่ารักๆ ให้ใส่ แต่ชุดสัตว์เลี้ยงที่มีขายกันอยู่ทั่วไปมักจะไปเป็นชุดแมวหรือชุดหมา สำหรับ Julie Baker ซึ่งมีไก่เป็นสัตว์เลี้ยง เธอหาซื้อชุดให้มันใส่ไม่ได้ สุดท้ายเธอกับลูกก็เลยออกแบบแล้วทำเองเลย แถมยังขายให้คนอื่นจนได้เงินดีด้วย     ร้านชุดสำหรับไก่ของ Baker มีชื่อว่า Pampered Poultry เธอเริ่มต้นทำร้านนี้ขึ้นเพราะว่าที่บ้านของเธอเลี้ยงไก่ไว้ในฐานะสัตว์เลี้ยง แต่ไม่เคยมีชุดให้มันใส่เลย พอเธอเห็นภาพไก่ตัวหนึ่งในวิดีโอบนยูทูปมีชุดใส่ เธอก็เลยเกิดความคิดอยากทำแบบนั้นให้สัตว์เลี้ยงของตัวเองใส่บ้าง จากนั้นก็ร่วมมือกับลูกสาวซึ่งรักไก่เหมือนกันออกแบบและทำชุดให้พวกมัน     Baker เล่าว่า “เราเริ่มทำชุดไก่เมื่อ 10 ปีก่อน ตอนนั้นเราต้องการชุดให้ไก่ใส่ เพราะลูกสาวฉันรักพวกมันมากจนบางครั้งก็อุ้มเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนด้วยในบ้าน เราไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าสินค้าของเราจะมีคนต้องการมากมาย โดยคนที่อยากได้ก็เป็นคนจากทั่วโลกที่เลี้ยงไก่ไว้เป็นสัตว์เลี้ยงเหมือนเรานี่แหละ”     เธอเล่าต่อว่า “ลูกค้าของเรามีตั้งแต่พวกคลั่งไคล้ไก่ที่เลี้ยงมันไว้ในบ้านตลอดเวลา และคนที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์แล้วอยากซื้อชุดพวกนี้ให้พวกมันใส่เป็นของขวัญด้วย นอกจากนี้ก็เป็นครอบครัวทั่วไปที่อยากจะทำให้ลูกๆ ของตัวเองได้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสวยๆ แล้วโพสต์รูปให้เพื่อนๆ บนโซเชียลมีเดียได้ดูกัน”     ชุดไก่ของ Julie มีความหลากหลายทั้งเรื่องสีและขนาด   บางอันก็มีลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ให้เจ้าของกับไก่ได้ตื่นเต้นด้วย   ชุดสำหรับไก่ของพวกเธอขายดีมาก   ขายได้วันละตั้ง 1,000-2,000 ชุดเลยนะ…

คุณผู้ชายทั้งหลายก็คงมีบางคนเหมือนกันที่ชอบผู้หญิงสวยๆ มาก แต่แสดงออกมาเยอะไม่ได้เพราะเดี๋ยวจะดูไม่ดีในสายตาคนอื่น ถ้าคุณเป็นหนึ่งในนั้นจะต้องอิจฉาเจ้า Dondon แน่ๆ เพราะมันถูกรายล้อมไปด้วยนางฟ้าสวยๆ ทั้งวัน แถมยังอ้อนขอความรักได้อย่างตรงไปตรงมา แล้วสาวๆ ก็ไม่เคยปฏิเสธมันด้วยสิ   ในออฟฟิศแห่งหนึ่งของลูกเรือจากประเทศเกาหลี   พวกเขาเลี้ยงหมาไว้ตัวหนึ่งชื่อว่าเจ้า Dondon   เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกเรือกลับจากงานมา   มันก็จะคอยต้อนรับเสมอ เจ้าหมาเป็นมาสคอตประจำออฟฟิศแห่งนี้เชียวนะ   ดิฉันรู้สึกใจชื้นทุกครั้งที่เจอ Dondon เลยค่ะ เหนื่อยงานมาแค่ไหนได้เจอหน้าก็หายเหนื่อยแล้ว   แต่มันไม่ได้เป็นมิตรกับทุกคนหรอกนะ เพราะพอเป็นลูกเรือผู้ชายมาหาแล้ว…   เจ้าหมาจะพยายามออกห่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยล่ะ   ไปไหนก็ไปเถอะเพื่อน เราไม่ชอบไม้ป่าเดียวกันน่ะ   ส่วนลูกเรือผู้หญิงมันจะอ้อนสุดๆ   แถมตอนอยู่กับผู้หญิงก็มีความสุขมากด้วย   เอิ้ว สวรรค์ของคุณผู้ชายอย่างผม   นี่แหละยอดชายขวัญใจสาวแอร์โฮสเตส   ในหมู่ผู้หญิงเองก็จะมีคนหนึ่งที่มันอ้อนมากกว่าใคร   เธอคือแอร์โฮสเตสคนที่เก็บมันมาเลี้ยงในออฟฟิศแห่งนี้นี่เอง   เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอมา มันก็จะตามแค่เธอคนเดียว   แม้เธอจะนั่งทำงานก็ยังต้องอุ้มมันไว้ด้วย   แล้วพอเธอกลับบ้านมันก็จะทำหน้าเศร้าทุกที แต่เธอก็พามันกลับไปอยู่ด้วยไม่ได้หรอก…

เจ้า Mike และ Boo เป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านหลังเดียวกัน พวกมันสนิทกันมากและทำกิจกรรมทุกอย่างร่วมกัน แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้วตัวหนึ่งควรโบยบินอยู่บนท้องฟ้า และอีกตัวหนึ่งจะวิ่งอยู่บนพื้นดินก็ตาม     Boo เป็นคนเดินนำเจ้าของ Steve Rostron และแฟนสาว Janine MacLean ไปเจอ Mike ระหว่างที่พวกเขากำลังเดินเล่นอยู่ ตอนนั้นนกสาลิกาตัวน้อยยังตัวเล็กอยู่เลย มันนอนแอบมุดอยู่หลังตู้โทรศัพท์ Rostron คิดว่ามันน่าจะตกลงมาจากรัง ด้วยความเป็นห่วงว่ามันอาจจะเอาตัวไม่รอด เขาก็เลยเก็บมันมาดูแลเองที่บ้าน     Mike อ่อนแอมาก ตอนแรกชายหนุ่มคิดว่ามันคงไม่รอดแล้วด้วยซ้ำ แต่พวกเขาป้อนข้าวให้มันผ่านหลอดฉีดยาอยู่หลายสัปดาห์จนมันแข็งแรงขึ้นในที่สุด ทว่าพอถึงเวลาที่จะปล่อย Mike เจ้านกน้อยกลับไม่ยอมออกไปไหน มันเลือกที่จะอยู่บ้านกับ Boo มากกว่า จากนั้นเป็นต้นมาพวกเขาก็เลยรับมันไว้เป็นสัตว์เลี้ยงด้วยอีกตัวหนึ่ง     Mike และ Boo เป็นคู่หูที่อยู่ด้วยกันเสมอ ไม่ว่าเจ้าหมาจะทำอะไรนกน้อยก็จะตามติดไปด้วย อย่างเวลานอนเจ้านกน้อยก็ไม่ยอมอยู่ในกรงของตัวเอง แต่เลือกที่จะไปนอนขดอยู่กับเจ้าหมาบนเตียงแทน นอกจากนี้เวลาเดินเล่นมันก็จะออกจากบ้านตามมาด้วยเช่นกัน โดย Mike จะบินนำไปด้านหน้าก่อนแล้วรอให้ Boo กับเจ้าของเดินตามมาทีหลัง จากนั้นมันก็จะออกบินไปรอจุดต่อไปอีกครั้ง ส่วนตอนอยู่บ้านพวกมันก็จะงีบด้วยกัน หรือไม่ก็นั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาด้วยกัน บอกได้เลยว่าพวกมันทำทุกอย่างร่วมกันจริงๆ  …

ไม่น่าเชื่อเลยว่าเจ้าหมาจะแสนรู้ขนาดนี้ พอมันได้รับบาดเจ็บมันก็ตรงดิ่งมาที่โรงพยาบาลด้วยตัวเองเลย ราวกับว่ามันรู้ว่าที่นี่มีคนช่วยมันได้     Silla เป็นหมาพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดของนาย Serdar Keskindir จากประเทศตุรกี ก่อนหน้านี้มันถูกลักพาตัวไปจากบ้าน โดยกลุ่มคนที่คาดว่าทำธุรกิจขโมยหมาไปขาย เจ้าของพยายามออกตามหามันแล้ว แถมยังตั้งราวัลให้กับคนที่พา Silla มาคืนเขาเป็นเงินมากถึง 2,000 ลีรา (ประมาณ 10,000 บาท)     หลังจากตามหาเจ้าหมาโดยที่ไม่มีข่าวคราวของมันเลย ในที่สุดมันก็โผล่มาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วยตัวเอง โดยที่ขาของมันได้รับบาดเจ็บอยู่ เจ้าหมาน่าจะถูกคนร้ายปล่อยทิ้งไว้สักแห่งเพราะว่าขายมันไม่ออก จากนั้นมันก็เลยโดนหมาจรจัดทำร้ายจนขาบาดเจ็บมาแบบนี้      เจ้าของคิดว่า Silla น่าจะรู้ว่าที่โรงพยาบาลมีคนช่วยมันได้ เพราะเขาทำงานเก็บกู้ซากรถที่ชนกันอยู่บ่อยๆ แล้วมันก็ติดไปกับเขาด้วยเสมอ มันเลยได้เห็นคนป่วยถูกเคลื่อนย้ายขึ้นรถพยาบาลไปรักษาตัวเป็นประจำ แล้วก็เรียนรู้ว่าถ้าเจ็บต้องไปที่ที่มีรถพยาบาลจอดอยู่ ในครั้งนี้พอเจ้าหมาเห็นรถพยาบาลจอดอยู่หน้าโรงพยาบาล มันก็เลยเดินเข้ามาเองได้ถูกที่นั่นเอง แสนรู้มากเลยนะเนี่ย     ที่มา: Unilad, Daily Mail, MD

ภายใต้ท่าทีเย็นชาของแมวเหมียว ใครจะรู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ ที่เห็นว่ามันไม่ค่อยสนใจทาส จริงๆ มันอาจจะหวงคุณมากเลยก็ได้นะ สำหรับเจ้าของแมวคนหนึ่งเขาคงไม่ต้องเสียเวลาเดาใจแมวให้เหนื่อยแล้วล่ะ เพราะมันแสดงออกชัดๆ เลยว่ามันไม่พอใจที่เจ้าของนอกใจ @tadanocapo ทาสแมวชาวญี่ปุ่นจากทวิตเตอร์ โดนเจ้าแมวของตัวเองเหวี่ยงใส่หลังจากกลับมาที่บ้าน เพราะมันได้กลิ่นแมวจรจัดที่เขาแวะเล่นด้วยก่อนกลับบ้านมา   https://twitter.com/tadanocapo/status/1040258229262012417?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1040258229262012417%7Ctwgr%5E363937393b70726f64756374696f6e&ref_url=https%3A%2F%2Fnextshark.com%2Fjealous-cat-twitter-growls-owner-cheats-playing-another-cat%2F   เขาโพสต์คลิปวิดีโอให้ชาวเน็ตดูท่าทีหึงหวงของมัน พร้อมกับแคปชั่นว่า “ดูเจ้าแมวสิ มันไม่ยอมให้จับเลยหลังจากฉันแอบไปเล่นกับแมวข้างนอกมาเมื่อชั่วโมงที่แล้ว” หลังจากที่แมวของเขาได้กลิ่นแมวตัวอื่นแล้ว มันก็เอาแต่ขู่เขาฟ่อๆ ท่าเดียวเลย ยิ่งยื่นมือเข้าไปจับนี่แทบจะตะปบมือทาสขาดเชียว   ข้าได้กลิ่นนะ แกนอกใจข้าไปเล่นกับแมวตัวอื่นมาใช่ไหม   ไม่ต้องทำมาเป็นลูบ เดี๋ยวปั๊ดขวั่นเข้าให้ ฮึ่ย   เห็นไหมว่าแมวมันก็หวงทาสเป็นเหมือนกัน แต่แมวตัวอื่นมันอาจจะไม่แสดงออกตรงๆ เหมือนแมวของ @tadanocapo เท่านั้นเอง แต่ถึงจะเห็นมันงอนแบบนั้น  @tadanocapo ก็ไม่ได้เลิกเล่นกับแมวจรจัดหรอกนะ ขึ้นชื่อว่าเป็นทาสแมวเห็นแมวตัวไหนเขาก็เอ็นดูหมดแหละ เขายังโพสต์คลิปที่ไปเล่นกับแมวจรจัดตัวใหม่มา หลังจากคลิปที่เพิ่งโดนเจ้าแมวที่บ้านงอนไปอยู่เลย   https://twitter.com/tadanocapo/status/1040947865491693569?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1040947865491693569%7Ctwgr%5E363937393b70726f64756374696f6e&ref_url=https%3A%2F%2Fnextshark.com%2Fjealous-cat-twitter-growls-owner-cheats-playing-another-cat%2F   ไม่ต้องหวงทาสหรอก ทาสรักแมวที่บ้านมากที่สุดอยู่แล้ว ที่มา: Next Shark

หมาหลายตัวคงยอมแพ้ไปแล้วถ้าอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับ เตเต้ แต่เจ้าหมาตัวนี้ยังมีแรงฮึด ใช้ขาหน้าเพียง 2 ขาที่มีเดินต่อไปด้วยตัวเองได้โดยไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบาก     เตเต้เคยเป็นหมาจรจัดที่ใช้ชีวิตข้างถนนมาก่อน จากนั้นมันก็ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน และถูกส่งตัวไปรักษากับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Watchdog thailand ในจังหวัดชลบุรี สัตวแพทย์เห็นว่าระบบประสาทของมันเสียหายจนเกินเยียวยาแล้ว จึงตัดขาหลังของมันออก เพราะถ้าใช้ขาไม่ได้แล้วมันก็จะมีแต่ลากขาไปตามทางจนเป็นแผลเปล่าๆ     เรื่องของเตเต้ถูกแชร์ในเพจเฟซบุ๊กของ Watchdog Thailand แล้วบังเอิญสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร หรือก็คือในหลวงร.10 ของเราทรงผ่านมาเห็นเรื่องของเจ้าหมาเข้า ด้วยความเมตตา ท่านจึงได้ช่วยอุปถัมภ์มัน แล้วมอบหมายให้ตัวแทนพระองค์เดินทางมามอบอาหารสัตว์ ค่ารักษา พร้อมทั้งรถเข็นให้กับเจ้าเตเต้ด้วย     อย่างไรก็ตามเตเต้มีความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจและร่างกายเพียงพอ มันเลยเดินด้วยกำลังของ 2 ขาที่เหลืออยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องช่วยใดๆ สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเองก็บอกว่ามันไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถเข็นหรอก ถ้ามันแข็งแรงพอจนเดินเองได้แบบนั้นก็ให้มันเดินแบบนี้ดีกว่า     น่าชื่นชมเจ้าเตเต้จริงๆ ที่มันสู้ชีวิตขนาดนี้ ถ้าให้เปรียบมันเป็นคนก็เหมือนกับคนที่เป็นอัมพาตครึ่งซีกไปแล้ว ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้รอความช่วยเหลืออย่างเดียว มันพยายามพึ่งพาตัวเองอย่างสุดความสามารถ คงเป็นเพราะความใจสู้ของมันนี่แหละ ที่ทำให้ ร.10 ของเราเห็นควรที่จะช่วยมัน แล้วมอบความช่วยเหลือให้เจ้าหมา     เรื่องของเตเต้คงเป็นกำลังใจให้กับหลายคนที่กำลังลำบากได้ดี แม้แต่หมายังไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคในชีวิตเลย เราเป็นคนก็ต้องพยายามเพื่อไม่ให้น้อยหน้ามันเหมือนกัน  …

แม้ว่านักข่าวสาวจะต้องทำการรายงานข่าวระหว่างถ่ายทอดสด เธอก็เลือกที่จะละทิ้งหน้าที่ชั่วคราวเพื่อช่วยเหลือชีวิตของเจ้าหมา โดยไม่เสียเวลาคิดเลยว่าจะมีใครตำหนิที่เธอละทิ้งหน้าที่ไปไหม Julie Wilson ได้ออกไปที่เมืองนิวเบิร์น รัฐแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อทำการรายงานข่าวสดถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ให้กับสำนักข่าว ABC     น้ำท่วมดังกล่าวเป็นผลมาจากที่พายุฟลอเรนซ์ได้พัดเข้ามาในช่วงนี้ และระหว่างที่เธอกำลังถ่ายทอดภาพของทีมกู้ภัยที่พยายามเอาเรือออกไปช่วยคนในพื้นที่ เธอก็สังเกตเห็นหญิงคนหนึ่งพยายามช่วยหมาอยู่ Wilson เล่าว่า “หมาตัวนั้นไม่ยอมขยับเลย มันเอาแต่ยืนนิ่งตรงนั้น หญิงที่พยายามช่วยมันอยู่ก็ดูจะเอามันไม่ไหว เธออาจจะบาดเจ็บเพราะพยายามช่วยมันก็ได้” นักข่าวสาวก็เลยละทิ้งหน้าที่เป็นการชั่วคราว เพื่อเข้าไปช่วยเจ้าหมาด้วยตัวเองระหว่างที่ถ่ายทอดสดอยู่   TO THE RESCUE: ABC station reporter interrupts live stream to rescue dog chest deep in the flooded streets of New Bern, North Carolina. After struggling to carry the big dog out at first,…

หญิงแก่คนหนึ่งจากประเทศลิทัวเนียสุขภาพย่ำแย่ลงตามวัย เมื่อเธอต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลโดยที่ไม่มีญาติอยู่ใกล้เคียงเลย สัตว์เลี้ยงทั้งหมดของเธอเลยไม่มีใครดูแล เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์เองก็ไม่รู้จะจัดการพวกมันยังไง เนื่องจากสัตว์เลี้ยงของเธอมีจำนวนหลายตัว แล้วบางตัวก็จำเป็นต้องได้รับการรักษาอาการป่วยด้วย จากนั้นกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Vyšnių sodas เลยยื่นมือเข้ามาช่วย     ในจำนวนสัตว์เลี้ยงทั้งหมดของหญิงแก่ Pluto เป็นตัวที่ป่วยหนักที่สุด มันเป็นเรื้อนเรื้อรังทั้งตัว และที่แย่ไปกว่านั้นคือมันได้ยอมแพ้ต่อการมีชีวิตแล้ว Indrė Žukauskaitė โฆษกของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์เล่าว่า “เจ้าหมาไม่ยอมลุกขึ้นทำอะไรเลย มันไม่ลุกขึ้นมากินข้าวด้วยซ้ำ จะอึหรือฉี่ก็ทำตรงนั้นเลยทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่”     Pluto เป็นเรื้อนหนักจนไม่อยากสู้ต่อ   ทีมสัตวแพทย์พยายามรักษามันอย่างเต็มที่ ตอนที่พวกเขาช่วยกันเอาผิวหนังที่ตายแล้วออกจากตัวมันครั้งแรก ต้องใช้เวลานานถึง 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว จากนั้นพวกเขาก็ต้องช่วยรักษาแผลให้มันอีกวันละหลายรอบ แต่อาการก็ดูขึ้นไม่ดีเท่าไหร่เลย เนื่องจากกว่าจะได้รับการรักษาอาการของมันก็เรื้อรังซะแล้ว     นอกจากนี้ระหว่างที่รับการรักษา Pluto ก็ต้องอยู่ในห้องปิดตามลำพัง เนื่องจากว่าถ้ามันออกไปข้างนอกอาจจะทำให้หมาตัวอื่นติดเชื้อได้ มันเลยไม่มีโอกาสได้ไปเดินเล่นเลย     หลังจากต้องทุกข์ทรมานกับโรคเรื้อนนานถึง 3 เดือน Pluto ก็หายดีสักที แต่ที่ยังต้องรักษากันต่อไปอีกก็คือบาดแผลทางจิตใจของมัน เจ้าหมาเริ่มเดินได้บ้างแล้ว แต่มันยังมีความกลัวอยู่ทำให้ไม่กล้าออกไปข้างนอกห้อง มันกลัวทั้งสัตว์ตัวอื่นๆ และคนแปลกหน้าด้วย    …

วันนี้ขอแนะนำให้รู้จักกับ Bella เจ้าเหมียวขนปุยผู้มีนิสัยน่ารักและอ่อนโยน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มันอาศัยอยู่ใน Vancouver ประเทศแคนาดา กับ Shawn Bell ผู้ยอมเป็นทาสมัน และรักทุกอย่างที่มันเป็น แต่เมื่อไม่นานมานี้ มันเริ่มเผยนิสัยบางอย่างที่สร้างความหนักใจให้เจ้าของ     นั่นก็คือ นิสัยขี้ขโมย   นิสัยขี้ขโมยของ Bella ดูเหมือนจะเริ่มขึ้นเมื่อช่วยฤดูร้อนที่ผ่านมา วันนั้นมันทำให้ Bell ประหลาดใจด้วยการกลับบ้านมาพร้อมกับถุงเท้าข้างหนึ่ง วันถัดมามันก็คาบถุงเท้ามาอีกครั้งหนึ่ง และวันหลังจากนั้นมันก็ยังคงเอาถุงเท้ากลับมาอีก กระทั่งวันที่ 4 มันกลับมาพร้อมภาพวาดของเด็ก   และนี่คือสิ่งที่มันขโมยมาในครั้งแรก   หลายคนอาจจะกำลังคาดเดาว่าเจ้าเหมียวของเหล่านี้มาจากไหนและเป็นของใคร แต่สิ่งหนึ่งที่ Bell มั่นใจคือ ไม่ใช่ของเขาอย่างแน่นอน Bella คงจะขโมยของเหล่านี้ขณะที่มันออกไปเที่ยวเล่นตอนเย็น แต่นิสัยขี้ขโมยไม่ได้จบลงแค่นั้น เพราะในหน้าร้อนของปีเดียวกันนั้น มันได้ขโมยเสื้อผ้ามากว่าครึ่งถุง โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ วิธีการขโมยของมันดูมีความชำนาญมากยิ่งขึ้น     Bell บอกว่า “เมื่อก่อนมันจะกลับมาพร้อมเสื้อผ้า 1 ชิ้นต่อคืน แต่เดี๋ยวนี้ ในหนึ่งคืนมันกลับมาพร้อมเสื้อ 2-3 ชิ้น หรือมากกว่านั้น” ตอนนี้เสื้อผ้าที่มันขโมยมาทั้งหมด…

ทุกๆ วัน เมื่อ Yohana Dasilva นักศึกษามหาวิทยาลัยกลับถึงบ้านหลังเลิกเรียน จะมีน้องหมา Lila ยืนต้อนรับเธอด้วยความตื่นเต้นเสมอ ซึ่งคนเลี้ยงหมาทั่วไปก็คงจะมีประสบการณ์แบบนี้เหมือนๆ กัน หญิงสาวบอกว่า “มันทั้งเห่า กระโดด เลียหน้า และวิ่งวนอย่างบ้าคลั่ง เพราะแบบนี้เราจึงสามารถมองเห็นความสุขของมันได้” แต่เมื่อไม่นานมานี้น้องหมา Lila ตัดสินใจวางแผนทำบางอย่างที่โคตรพิเศษ เพื่อต้อนรับการกลับมาของคนที่มันรักมากที่สุด     Dasilva เล่าว่า “มันต้อนรับอย่างอบอุ่นและกระตือรือร้นเหมือนอย่างที่มันทำมาตลอด แต่ครั้งนี้เมื่อฉันวางของลง มันก็คาบตุ๊กตาฮิปโปสีฟ้าและเดินตามฉันไปทั่วบ้าน”  “ดังนั้นเมื่อฉันเดินขึ้นชั้นบน มันก็เดินตามมาด้วยโดยที่ยังคงคาบตุ๊กตาไว้ในปาก และแล้ว ฉันก็พบกับสิ่งที่ทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์มากๆ” “ทันทีที่ฉันเข้าไปในห้องตัวเอง Lila รีบวิ่งไปที่เตียง จากนั้น มันก็เอาตุ๊กตาที่คาบมา วางรวมกับตุ๊กตาตัวอื่นๆ ที่มันคาบมาก่อนหน้านี้ แล้วก็นั่งจ้องหน้าฉัน เหมือนต้องการบอกว่า ‘หนูเอาทั้งหมดนี้มาให้พี่นะ’”     Dasilva แทบจะไม่เชื่อสิ่งที่เห็น เธอจึงไปถามแม่ว่าได้เอาตุ๊กตามาไว้บนเตียงในห้องเธอหรือเปล่า แม่ตอบว่า “ไม่นะ Lila เป็นคนคาบขึ้นไปทีละตัวๆ ทั้งวันเลย แล้วมันก็รอให้ลูกกลับมา เพื่อที่ลูกกับมันจะได้เล่นด้วยกันได้” เห็นได้ชัดว่า Lila วางแผนการเล่นด้วยตัวเอง และแผนของมันก็ได้ผลด้วย    …

เราหลายคนอาจจะให้คุณค่าและมองความหมายของชีวิตที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับสุนัขที่ชื่อ Aka แล้ว ชีวิตเป็นเรื่องของความอยู่รอด ในแต่ละวัน Aka จะเร่ร่อนไปตามถนนใน Lahan Sai ประเทศกัมพูชา เพื่อหาอาหาร น้ำ และหาที่ปลอดภัยสำหรับหลับนอน เมื่อป่วยจนขนร่วง การเอาชีวิตรอดยิ่งเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น     ต่อมา ในเดือนสิงหาคมขณะที่ Michael Chour ผู้ก่อตั้ง The Sound of Animals ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ในประเทศไทยและกัมพูชา กำลังขับรถกลับบ้าน เขาก็เห็น Aka อยู่บนถนน เขาบอกว่า “Aka เดินไปอยู่กลางถนนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายในเวลากลางคืน โดยไม่สนใจรถที่วิ่งผ่าน มันเป็นโรคเรื้อนชนิดร้ายแรง และผมคิดว่ามันน่าจะป่วยมานานกว่า 1 ปีแล้ว”     เขาจึงจอดรถที่ตะโกนเรียก Aka… ตอนแรกเจ้าหมาพยายามวิ่งหนี แต่เมื่อ Chour วางชามที่มีอาหารอยู่ มันก็เดินย้อนกลับมา ระหว่างที่มันกินอาหาร Chour ได้ยื่นมือออกไปและลูบตัวมัน แต่ดูเหมือนเจ้าหมาไม่รู้จะตอบสนองต่อการลูบนี้อย่างไร อาจเป็นเพราะมันไม่เคยถูกสัมผัสแบบนี้มาก่อน     Chour บอกว่า “ผู้คนที่เกลียดสุนัขจรจัดใช้หินขว้างใส่พวกมัน ดังนั้น ผมจึงคิดว่ามันคงไม่เคยมีเจ้าของมาก่อนในชีวิต” Aka ยังคงหวาดกลัวมาก ขณะเดียวกัน Chour…

สำหรับใครที่คิดว่าสัตว์โลกไม่ได้มีความน่าสนใจอะไร มันก็เหมือนๆ กันหมด งานนี้ คุณคงต้องเปลี่ยนทัศนคติแล้ว เพราะจริงๆ แล้ว สัตว์มีอะไรมากกว่าที่เห็น และนี่คือภาพสัตว์ที่ถูกถ่ายได้จังหวะพอดิบพอดี ทำให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งของสัตว์ มันก็น่าสนใจดีนะ แล้วก็ตลกในเวลาเดียวกันด้วย   1. เห้ยย มันกำลังจะละลายแล้ว   2. นี่ใช่แมวตัวเดียวกับที่เราเลี้ยงไว้จริงหรอ?   3. ตกเย็นมา ก็มานอนอ่อยผู้ข้างสนามหญ้า แรดนะเราอะ   4. ยิ้มสวยนักใช่มั้ย ด้ายยยย แย่งซีนแม่งเลย   5. ได้ออกมาพักผ่อนต่างถิ่นบ้าง มันก็ฟินดีนะ   6. เหยยย แถวนี้มีคนแอบจู๋จี๋กันด้วย   7. วันนี้ลมแรงไปหน่อย เสียทรงหมด   8. เมื่อนกเล่นซ่อนแอบ… หาไม่เจอเล้ยยยย   9. อย่าคิดว่ามีแต่นกนะที่บินได้อะ โด่วว ดูของจริงซะก่อน   10. มาหาหมอครั้งแรก น้องก็จะตื่นเต้นหน่อยๆ อยากเจอหมอเร็วๆ…

เรารู้ดีว่าหมาทุกตัวอยากมีส่วนร่วมในทุกช่วงชีวิตของเจ้าของ หลายคนจึงพาหมาออกไปเดินเล่น หรือว่าเที่ยวพักร้อนด้วยกัน เพื่อให้มันได้มีโอกาสใช้เวลาร่วมกับเรา ส่วนเจ้าหมาตัวนี้ แม้ว่าเจ้าของจะทำกิจกรรมที่ทำร่วมกับหมาไม่ได้อย่างการออกกำลังกาย มันก็ยังอยากมีส่วนร่วมด้วยอยู่ดี ก็เลยเลียนแบบท่าออกกำลังกายของเจ้าของแล้วทำตามซะเลย     เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา @ClintFalin ได้โพสต์วิดีโอสุดแสนน่ารักของการใช้เวลาร่วมกันระหว่างเขา่ และเจ้าหมาเกรทเดนตัวโต ตอนนั้นเขากำลังออกกำลังกายท่า ลังก์ (Lunge) โดยการก้าวขาไปข้างหน้าแล้วย่อตัวอยู่ ระหว่างนั้นเจ้าหมาที่อยู่ข้างๆ ก็อยากจะมีส่วนร่วมกับเขาด้วยเช่นกัน หลังจากมันสังเกตท่าทางของเขาแล้ว มันก็เลยเดินตามหลัง Clint แล้วย่อตัวตามท่าออกกำลังกายดูบ้าง ท่าทีของมันทำเอาชาวเน็ตใจละลายกันเป็ยแถบเลยทีเดียว   ผมไม่รู้หรอกนะว่าเจ้านายทำอะไร แต่ผมอยากมีเอี่ยว https://twitter.com/ClintFalin/status/1041766721630228483?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwgr%5E363937393b70726f64756374696f6e&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.buzzfeed.com%2Fconnieesch%2Fgreat-dane-learn-lunge   ชาวเน็ตชอบความน่ารักของเจ้าหมามาก จนตอนนี้วิดีโอของ Flint มียอดวิวเกือบ 5 ล้านวิวแล้ว และก็มีคนมากดไลก์ให้เกือบ 4 แสนไลก์ด้วย   เจ้านายทำอะไรอยู่อะ   ผมขอทำด้วยคนนะ   หมาอีกตัวดูสงสัยว่าพวกเอ็งจะเดินๆ ย่อๆ กันทำไม   นอกจากนี้ชาวเน็ตก็ดูจะชอบใจคลิปวิดีโอนี้กันมาก พวกเขาคอมเมนต์ชมเจ้าหมากันไว้เยอะแยะเลย แถมมีบางคนเอาเจ้าเกรทเดนไปเปรียบเทียบกับหมาของตัวเองด้วยนะ   “เจ้าหมาทำท่าลังก์เป็นอะไรที่น่ารักที่สุดในโลกเลย”   คนนี้น้อยใจที่หมาตัวเองไม่ทำแบบนี้บ้าง “หลังจากดูคลิปนี้แล้ว…

เราอาจจะเติบโตพร้อมเพื่อนหลายๆ คน แต่จะมีสักคนที่ยังอยู่เคียงข้างกันเสมอ รักเราเสมอ และไม่เคยทอดทิ้งกัน แม้จะโตแล้วก็ตาม และนี่คือความเป็นเพื่อนของสัตว์เลี้ยงที่แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่แท้จริง ตอนเด็กรักกันยังไง ตอนโตยิ่งรักกันมากขึ้น แม้แต่กาลเวลาก็ไม่อาจพรากพวกมันจากกันได้   1. หมาบ้านและสุนัขจิ้งจอกเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก พวกมันรักกันด้วยใจจนไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง   2. สามเพื่อนซี้ผู้ไม่เคยทอดทิ้งกัน   3. นี่เราตัวเล็กลงหรือเจ้าสองตัวนี้มันโตเร็วเกินไปว่ะครับพี่น้อง   4. กอดกันตั้งแต่เด็กจนโตเลย   5. เหมือนกันซะจนแยกไม่ออก   6. ขี่หลังเพื่อนมีความสุขมากสินะ ยิ้มหน้าระรื่นเชียว   7. มองที่มุมเดิมๆ อยู่ตรงที่เดิมๆ   8. รู้แล้วว่ารักแต่ที่นอนเรามันเล็กเกินไปสำหรับ 2 ตัวแล้วอะ   9. ดีนะ ตอนเด็กเป็นพี่เลี้ยงให้มัน โตมาหายห่วงเลย   10. อยู่ด้วยกันไปจนแก่เลยนะเจ้าหมา   11. ทำไมพี่กระต่ายตัวเล็กลงล่ะ หนุนไม่ได้แล้วอะ   12. หนูโตขึ้น แต่ทำไมเพื่อนยังตัวเท่าเดิมล่ะ…

มีคนพบลูกแมวตัวหนึ่งที่ถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง ตัวของมันปกคลุมด้วยสิ่งสกปรก พวกเขาจึงพามันไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ท้องถิ่นใน North Alabama มิ้วน้อยอายุประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น และสิ่งที่มันต้องการคือแม่ เมื่อ Mary Chromek อาสาสมัครจาก Friends of Rescue ได้ทราบเรื่องของมิ้วน้อยตัวนั้น เธอจึงรีบไปช่วยมันทันที ทั้งๆ ที่เวลานั้นเธอเองมีแมวที่ต้องดูแลอยู่แล้วหลายตัว     Mary บอกว่า “ฉันมีห้องสำหรับลูกแมวตัวน้อยเสมอ ดังนั้น เมื่อได้รู้เรื่องของมิ้วน้อยตัวนั้น จึงรีบไปที่นั่นทันทีก่อนที่จะสายเกินไป” ลูกแมวตัวหนึ่งเพิ่งจะเริ่มเปิดตาได้ข้างเดียว ส่วนอีกข้างไม่สามารถเปิดได้เพราะติดเชื้อ มันมีขนาดตัวเล็กๆ มาก ดูไม่ต่างจากแมวแรกเกิดเลย ทั้งที่มันอายุได้ 1 สัปดาห์แล้ว ต่อมา หญิงสาวได้ตั้งชื่อมันว่า Hope และดูแลมันอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง     เวลาผ่าน 3 สัปดาห์ Hope ยังมีน้ำหนักแค่ 160 กรัมเท่านั้น ซึ่งเท่ากับแมวที่อายุ 7-12 วันเท่านั้น เมื่อได้ 5 สัปดาห์ น้ำหนักของมันก็เพิ่มเป็น 190 กรัม ที่แย่ไปกว่านั้นคือมันเป็นโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อคอกซิเดีย…

ใครที่เลี้ยงสุนัขจะรู้สึกว่าพวกมันไม่ต่างจากเด็กคนหนึ่งเลย พวกมันชอบเล่น ชอบการกอด ชอบความรักจากพ่อแม่ และมีของเล่นชิ้นโปรดเป็นของตัวเอง น้องหมา Ozzie ก็เช่นกัน มันอายุแค่ 3 เดือนเท่านั้น แน่นอนว่ามันยังเด็ก แต่หัวใจของมันโตกว่าอายุของมันมาก และคุณสามารถพิสูจน์ได้จากเรื่องราวต่อไปนี้     Emma Green เจ้าของ Ozzie ได้รับเลี้ยงมันมาเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว แต่ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ เธอได้เรียนรู้ถึงความรักของน้องหมาตัวนี้ Green บอกว่า “มันเป็นลูกหมาที่น่ารักอย่างสมบูรณ์แบบ มันรักทุกคน รักสุนัขทุกตัวที่เจอ และเมื่อมันนานมานี้ ก็มีโมเมนต์ที่พิสูจน์ว่าความรักของ Ozzie ช่างบริสุทธิ์ งดงาม และไร้เดียงสาในเวลาเดียวกัน     โมเมนต์ถูกเจ้าของถ่ายคลิปเอา ซึ่งเป็นคลิปขณะที่ Ozzie เดินผ่านกระจกในห้องพร้อมคาบตุ๊กตาแพนด้าไว้ในปาก ทันใดนั้น มันก็เห็นสุนัขอีกตัวอยู่ในกระจกที่มีหน้าเหมือนมันทุกอย่าง ด้วยความไม่รู้ว่านั่นเป็นเงาของตัวเอง Ozzie จึงพยายามจะแบ่งตุ๊กตาของมันให้เพื่อนในกระจกเล่น จนทำให้เกิดความน่ารักอย่างที่เห็น     สำหรับเจ้าของแล้ว มันทั้งตลกและน่ารักในเวลาเดียว แต่ที่แน่ๆ เธอจะไม่มีวันลืมช่วงเวลานี้แน่ๆ เพราะมันเป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำมาก เธอบอกว่า “ฉันคิดว่าทุกคนควรจะเลี้ยงหมาหรืออย่างน้อยก็ควรมีพวกมันในชีวิต พวกเขาสุนัขจะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น แม้ว่าพวกมันจะไม่ทำอะไรเลย…

เมื่อปีก่อน Sean McCarren พนักงาน UPS ได้สร้างเพจเฟซบุ๊กภายใต้ชื่อ UPS Dogs เพื่อแชร์ความน่ารักของเหล่าน้องหมาที่เขาได้เจอระหว่างทำงาน สำหรับตัว McCarren นั้น เขาทำงานบริการนี้มานานถึง 17 ปีแล้ว และหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดในงานของเขาคือ การได้เจอเหล่าสุนัขตามเส้นทางประจำวันของเขา     ในการเจอสุนัขแต่ละครั้ง McCarren กับเพื่อนร่วมงานที่มาด้วยกัน มักจะหยุดเล่นกับพวกมันและเอาขนมเล็กๆ น้อยๆ ให้พวกมันกิน ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แต่พนักงาน UPS ส่วนใหญ่ มักจะกลายเป็นเพื่อนกับสุนัขที่เจอระหว่างทำงาน ดังนั้น เพจ UPS Dogs จึงกลายเป็นแหล่งแชร์ภาพความน่ารักระหว่างคนส่งของและเพื่อนสี่ขา     ตอนนี้เพจดังกล่าวมีคนมาไลค์กว่า 1 ล้านคนแล้ว และในนั้นมีเรื่องราวของพนักงาน UPS ทั่วโลก และนี่คือภาพส่วนหนึ่งที่ถูกแชร์ในเพจ UPS Dogs     พนักงานส่งของจากทั่วโลกมักจะส่งภาพลักษณะนี้มาให้ McCarren เสมอ และเมื่อเขาว่าง เขาก็จะนำภาพเหล่านี้แชร์ลงในเพจ     พนักงานขับรถคนใหม่น่ะ กำลังอยู่ในช่วงฝึกงาน   Jeff Skender ผู้ช่วยขับรถของ UPS ทำงานนี้มา 15 ปีแล้ว เขาบอกว่า…

เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว Hannah Shaw ผู้ก่อตั้ง Orphan Kitten Club ได้พาลูกแมวสองพี่น้องไปยังศูนย์พยาบาลแมวของเธอ พวกมันผอมมากจนเห็นซี่โครงชัดเจน ขณะที่อายุได้ 7 วัน น้ำของพวกมันน้อยกว่าที่ควรจะเป็นถึงครึ่งหนึ่ง ต่อมาเธอได้ตั้งชื่อให้พวกมันว่า Jumbo Slice และ Deep Dish (DD)     ลูกแมวทั้งสองตัวได้รับการช่วยเหลือจากศูนย์พักพิงท้องถิ่นในแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ DD น้ำหนัก 450 กรัม Jumbo หนักแค่ 320 กรัมเท่านั้น พวกเขาบอกว่าลูกแมวมีปัญหาในการกินตอนอยู่ในศูนย์พักพิง แต่หลังจากมันได้อยู่ห้องของตัวเอง สิ่งต่างๆ ก็เริ่มเปลี่ยน เมื่อ Jumbo ถูกย้ายเข้ามาอยู่ในห้องของมันเอง มันก็พุ่งไปยังจามอาหารและเริ่มกินอย่างเอร็ดอร่อย หลังจากที่กินอาหารทานเล่นเสร็จแล้ว ทั้ง Jumbo และ DD ก็ไปยังชามอาหารหลักและกินอาหารเปียกในชามที่อยู่ตรงหน้า     Andrew Marttila คู่ชีวิตของ Hannah คอยอยู่เป็นเพื่อนลูกแมวน้อย ระหว่างที่พวกมันพักผ่อน เขาบอกว่า “ผมอยู่ใกล้ๆ พวกมัน เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งคู่จะได้รับความรักอย่างเพียงพอ และทำให้พวกมันเติบโตแข็งแรง”     Jumbo แมวผู้มีขนาดตัวเล็กกว่า…

เมื่อวันที่ 7 เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ผู้คนกำลังเดินเล่นอยู่ในเมือง Laurens รัฐเซาท์แคโรไลนา พวกเขาก็เห็นสุนัขตัวหนึ่งถูกล่ามโซ่อยู่นอก มันนอนลงบนพื้นและแทบจะไม่มีแรงในการขยับตัว สุนัขตัวดังกล่าวมีแต่หนังหุ้มกระดูก จนยากที่เชื่อว่ามียังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความสิ้นหวังนี้ สุนัขตัวนั้นยังคงหายใจอยู่     พลเมืองดีคนหนึ่งได้ถ่ายรูปสุนัขตัวนั้นเอาไว้และแจ้งไปให้ทางกรมควบคุมสัตว์ทราบ ทางเจ้าหน้าที่จึงมายังที่เกิดเหตุผลภายในเวลาอันรวดเร็ว จากนั้น พวกเขาก็ได้ปลดปล่อยเจ้าหมาและพาหาสัตวแพทย์ทันที สุนัขตัวนั้นอายุ 16 เดือน ซึ่งต่อมาถูกตั้งชื่อว่า Champ มันควรมีน้ำหนักอยู่ที่ 50 กิโลกรัม แต่นี่ มันหนักเพียง 22 กิโลกรัมเท่านั้น แม้ว่าสภาพของ Champ จะดูเหมือนหมาที่ใกล้ตายเต็มที แต่แล้ว ผู้ดูแลก็พบว่ามันยังอยู่ห่างไกลจากจุดนั้น เพราะมันมีใจสู้ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ     ต่อมาเมื่อ Rescue Dogs Rock ได้ทราบเรื่องราวของมัน พวกเขาตกใจมากและตัดสินใจที่จะช่วยเหลือมันทันที เช้าวันต่อมาพวกเขาจึงติดต่อไปยังกรมควบคุมสัตว์และย้ายมันไปที่คลินิกสัตว์ที่อยู่ใกล้เคียง ที่นั่น มันได้รับการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง Jackie O’Sullivan ผู้ร่วมก่อตั้ง Rescue Dogs Rock บอกว่า “มันอยู่ในสภาพที่แย่มากและมันจำเป็นต้องได้รับการถ่ายเลือดโดยด่วน มันมีกล้ามเนื้อขา…

บางคนบอกรักน้องหมาเหมือนลูก แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขามีลูกเป็นของตัวเอง พวกเขามักจะคิดว่าสุนัขเป็นอันตรายกับเด็กเล็ก และจบลงด้วยการทอดทิ้งสุนัขในที่สุด เช่นเดียวกับกรณีที่ Nicki Fricker เจอมา… เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันเสาร์ ขณะที่เธออยู่ในลานจอดรถ รอศูนย์พักพิงเปิด เพื่อนำสุนัขจรจัดที่เจอมาให้ทางศูนย์ดูแล     ระหว่างนั้น เธอเห็นสุนัขดัชชุนอยู่ข้างๆ ชายคนหนึ่ง เธอคิดว่าชายคนหนึ่งคงไปเจอมาและจะเอามาให้ศูนย์พักพิงดูแลเหมือนกัน เลยถามออกไป แต่คำตอบที่ได้รับคือ “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” ชายคนนั้นบอกว่ามันชื่อ Dotty พวกเขาจำเป็นต้องทิ้งมัน เพราะภรรยาของเขากำลังจะมีลูก จากนั้นเขาก็ถาม Fricker ว่า “คุณอยากได้มันหรือเปล่า?” ถึงแม้ว่าที่บ้านจะมีสุนัขตัวโตอยู่แล้ว 2 ตัว แต่หญิงสาวกลับตอบตกลงทันที เพราะเธอรู้ว่าสุนัขที่กำลังอยู่อาการเครียดแบบนี้ คงอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เสียงดังในศูนย์พักพิงไม่ได้แน่ๆ     หลังจากที่เจ้าของขับรถออกไปและทิ้งน้องหมาไว้กับ Fricker หญิงสาวก็สังเกตเห็นว่าเจ้าหมามีความกังวลและเริ่มตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เธอจึงรู้ว่าสิ่งแรกที่ต้องทำให้ Dotty คือ ทำให้มันรู้สึกปลอดภัย แต่มันไม่ยอมเดินกับสายจูง เธอจึงอุ้มมันไปที่รถและตั้งใจจะเลี้ยงดูมัน จนกว่าจะหาบ้านที่ดีกว่าให้มันได้ หลังจากกลับมาถึงบ้าน เธอเปลี่ยนชื่อให้มันว่า Molly ขณะที่เธออุ้มมันไว้บนตัก เธอสัมผัสได้ว่ามันกำลังตัวสั่น จากนั้นเธอก็วิดีโอคอลบอกสามีที่ทำงานอยู่ในนิวยอร์ก     เมื่อ Molly ได้พบกับพี่หมาทั้ง 2 ตัว คือ Moo…

เมื่อเกิดภัยพิบัติในศูนย์พักพิงสัตว์ การอพยพสัตว์จำนวนมากพร้อมๆ กันไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งหากไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า ยิ่งเป็นเรื่องยากเข้าไปอีก ด้วยเหตุนี้ เมื่อศูนย์พักพิง All 4 Paws Animal Rescue ทราบข่าวว่าพายุเฮอร์ริเคนจะถล่ม พวกเขาจึงได้เตรียมอพยพสัตว์ทั้งหมดออกมาอย่างเร่งด่วนก่อนพายุจะมาถึง     เมื่อทาง Big Fluffy Dog Rescue ใน Nashville ทราบเรื่องนี้ พวกเขาก็อาสาที่จะเข้าไปช่วยอีกแรง พวกเขาต้องขับรถกว่า 20 ชั่วโมง เพื่อช่วยหมา 21 ตัวและแมว 15 ตัว ออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย All 4 Paws Animal Rescue บอกว่า “เรารู้สึกซาบซึ้งมากที่ Big Fluffy Dog Rescue เข้ามาช่วยเหลือเพื่อน 4 ขาของเรา จนพวกมันสามารถออกมาได้อย่างปลอดภัย”     เมื่อมาถึง Nashville พวกเขาได้พาแมว 8 ตัว ไปอยู่ที่ Nashville Cat Rescue ส่วนที่เหลือ ก็แยกกันอยู่ตามศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ ด้วยความมุ่งมั่นของทุกฝ่าย…

ในปี 2014 หญิงสาวซึ่งเป็นคนรักสัตว์จาก Pacific Northwest ตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงสุนัข เธอจึงค้นหาตามเว็บไซต์ต่างๆ จนไปตกหลุมรักสุนัขผู้ไม่มีดวงตา ชื่อว่า Abi Abi เคยเป็นหมาจรจัดที่เร่ร่อนอยู่บนถนน Seattle เมื่อมีคนไปเจอ มันจึงได้เข้าไปอยู่ในการดูแลของศูนย์ช่วยเหลือท้องถิ่น     ตอนแรกหญิงสาวไม่ได้วางแผนที่รับเลี้ยงสุนัขที่มีความต้องการพิเศษ เพราะเธอไม่เคยอยู่กับสุนัขลักษณะนี้มาก่อน แต่ Abi มีบางอย่างที่ดึงดูดความสนใจของมันเป็นอย่างมาก ในที่สุด หญิงสาวก็ตัดสินใจรับเลี้ยง Abi และในไม่ช้า เธอก็ได้เรียนรู้ว่าน้องหมานักผจญภัยตัวนี้ มีนิสัยขี้เล่นและชอบวิ่งเล่นมาก     เวลานั่งรถ Abi ชอบยื่นหัวออกไปนอกกระจกรถ มันมีความสุขกับการได้ดมทุกกลิ่นรอบตัว มันรับรู้การเคลื่อนไหวต่างๆ ด้วยการฟัง ที่สำคัญ มันชอบสตาร์บัคมาก     Abi กับแม่ชอบไปปีนเขาด้วยกันเป็นประจำ… ตอนแรกหญิงสาวกังวลว่าถ้าไม่ใช้สายจูงอาจจะมีปัญหาได้ แต่แล้วเธอก็มารู้ว่ามันสามารถเดินทางโดยใช้จมูกและหู มันเป็นหมาฉลาดและสามารถทำอะไรก็ได้ ไม่ต่างจากหมาทั่วไปเลย ทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และแม่ของ Abi ก็ไม่ได้คิดที่จะรับเลี้ยงสุนัขเพิ่มอีก แต่แล้วโชคชะตาก็เข้ามาแทรกแซงชีวิตเธออีกครั้ง     ในปี 2015 แม่ของ Abi ได้รับข้อความจากน้องชายในรัฐมิชิแกน เขาบอกว่าเห็นหมาตาบอดในศูนย์พักพิงสัตว์ และถามเธอว่าอยากรับเลี้ยงมั้ย มันค่อนข้างเป็นเรื่องท้าทายสำหรับหญิงสาวที่จะรับสุนัขจากมิชิแกนมายังฝั่งตะวันตก แต่หลังจากที่ได้เห็นรูปของมัน เธอก็ตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงมันทันที  …

ไซบีเรียน ฮัสกี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นสุนัขจอมดื้อ เกรียน และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่ด้วยความสง่างามที่มีเอกลักษณ์ ทำให้หลายๆ คนอยากรับเลี้ยงและมองข้ามนิสัยพวกมันไป และนี่คือประสบการณ์ตรงของคนที่เลี้ยงฮัสกี้ เจอทั้งความน่ารั๊กกก สอนง๊ายง่าย แถมเชื่อฟังดี๊ดี จนอยากรับมาเลี้ยงเพิ่มอีกสักตัว (หรอ)   1. ฮัสกี้มาจากสิ่งแวดล้อมที่หนาวเย็น แต่มันปรับตัวได้เสมอ เมื่อถึงหน้าร้อน   2. นี่คือหมาของเพื่อนบ้าน มันชอบมายื่นหน้าที่ประตูแมว เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในโรงรถ   3. อ่าวแม่ ทำไมวันนี้กลับเร็วจุง…   4. ฮัสกี้อยู่ร่วมกับหมาตัวอื่นอย่างเป็นมิตรและเท่าเทียมเสมอ   5. นอกจากน่ารักเหมือนแมวแล้ว พวกมันยังชอบกล่องเหมือนแมวด้วย   6. ไม่ใช่แค่กล่องนะ อย่าอื่นมันก็ชอบ   7. ไม่มีอะไรที่ฮัสกี้ทำไม่ได้   8. จับฮัสกี้อาบน้ำหรอ คุณพลาดแล้ว รอการแก้แค้นได้เลย   9. มันกินทุกอย่างที่ขวางหน้า ถึงไม่ใช่ของตัวเองก็เถอะ   10. เห้ยเจ้านาย กินไรอะ…

เราเชื่อว่าสัตว์แต่ละตัวมีศัตรูทางธรรมชาติที่ไม่ถูกกันอยู่ สำหรับแมวนอกจากจะไม่ถูกกับหมาแล้ว มันก็ไม่ถูกชะตากับไก่หรือนกด้วยเช่นกัน ทว่าแมวทุกตัวไม่จำเป็นต้องเกลียดไก่เสมอไป แมวบางตัวอย่างเจ้า Shabang ก็รักไก่มากๆ เลยล่ะ มันดูแลไก่ทุกตัวเหมือนกับเป็นลูกของตัวเอง   ขอแนะนำให้รู้จักกับเจ้าแมว Shabang   มันเป็นแมวที่ถึงจะเอาอาหารมาล่อก็ไม่ยอมออกจากเล้าไก่   เพราะมันรักพวกไก่และต้องการอยู่ดูแลตลอดเวลา   ทาสของมันยืนยัน นั่งยัน นอนยัน และตีลังกายันเลยว่ามันไม่เคยทำร้ายไก่แม้แต่ครั้งเดียว   Shabang ดูแลไก่ด้วยความเต็มใจและอยู่ร่วมกับพวกมันอย่างสงบสุข กินข้าวก็ยังกินด้วยกัน   บางครั้งเมื่อมันกำลังงีบหลับอยู่   แล้วถูกลูกเจี๊ยบแสนซนเข้ามาปลุก   มันก็ไม่เคยทำท่าทีโกรธเลย แถมยังไปเล่นกับลูกเจี๊ยบด้วย   ถ้าเกิดมีไก่ทะเลาะกัน   เจ้าเหมียวก็จะเข้าไปห้ามมวย แน่นอนว่าไม่มีไก่ตัวไหนกล้าหือกับมันเลย   ยิ่งไปกว่านั้นเวลามีแมวจรจัดตัวอื่นเข้ามาทำร้ายไก่   Shabang ก็จะเข้าไปไล่แมวจรจัดให้   จนมันต้องหนีหางจุกตูดไปทุกคราว   มันมีความสุขที่ใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ แล้วมันก็จะทำหน้าที่ดูแลความสงบในเล้าไก่แห่งนี้ต่อไป   ลองรับชมเรื่องราวของ Shabang ในแบบวิดีโอดูสิ น่ารักมาก  ที่มา: SBS…

ทาสแมวเห็นเจ้านายของเราน่ารักๆ แบบนี้ อย่าได้เผลอวางใจมันเป็นอันขาดเชียว ภายใต้ร่างขนปุยน่าทะนุถนอมนั้นซ่อนไว้ด้วยความแสบซ่าเกินพิกัด ขอให้มันได้หมั่นไส้อะไรสักอย่างเถอะ มันจะแกล้งแบบไม่มีเหตุผลอะไรเลย ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นทาส สัตว์ตัวอื่น หรือสิ่งไม่มีชีวิตก็ตาม ดังนั้นจงระวังเจ้าเหมียวไว้   อยากได้บอลก็ลงไปเอาในน้ำสิเจ้าหนู   เฮ้ยมาสะกิดทำไม ตกใจหมดเลย   แค่ทาสไม่สนใจแป๊บเดียวต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?   อ้อขอโทษทีนะทาส มือมันลั่น   ถ่ายท่าโยคะทำไม ถ่ายเราน่าสนใจกว่าเยอะ   แกนี่นอนทุกที่เลยนะ ยกเว้นแค่ที่นอน ตั้งใจใช่มะ??   จัดที่นอนอยู่ ไม่ได้จะเล่นด้วย ออกป๊ายยย   หมั่นไส้ ขอตะปบสักหน่อยซิ   ขอแค่เวลาเลียขนเงียบๆ บ้างเถอะ   มาเล่นเท้าเค้าเอง แล้วทำท่ารังเกียจทำไม?? https://www.tumblr.com/somecutething/176809730352   แมวพวกนี้ไม่เห็นค่าของพิซซ่าเลย ตัวนึงนอนทับ ตัวนึงเททิ้ง   กล้าดียังไงมาเทียบชั้นกับข้า ลงไปข้างล่าง!   จะเดินผ่านก็เดินไปสิ หรือเอ็งคิดแผนร้ายอะไรอยู่? https://www.tumblr.com/somecutething/176408184082   ข้าเกลียดทุกอย่างบนโลกนี้  …

เมื่อต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เจ้าแมวก็เลยเก็บตัวและยอมแพ้กับชีวิต ก่อนที่มันจะแย่ไปกว่านี้ อาสาสมัครก็ใช้ความรักรักษาใจมันเอาไว้ Marmalade และพี่น้องของมันอีก 11 ตัวถูกทาสคนเก่าทิ้ง เนื่องจากเขาดูแลพวกมันต่อไม่ไหวแล้ว ทำให้พวกมันต้องมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงสัตว์     ในบรรดาพี่น้องมีแค่เจ้า Marmalade เท่านั้นที่มีปัญหาในการปรับตัวมากเป็นพิเศษ มันซึมเศร้าจนไม่ยอมกินอาหาร ร่างกายเลยผอมลงทุกวันๆ ด้วยความเป็นห่วงเจ้าแมว ศูนย์พักพิงก็เลยติดต่อไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Here Kitty Kitty Rescue ให้ช่วยดูแลและเยียวยาจิตใจของมัน     ตอนที่ Marmalade มาอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ใหม่ๆ มันแต่นั่งอยู่บนยอดของคอนโดแมวตามลำพัง ไม่ยอมเข้าหาคนหรือแมวตัวอื่นเลย Rick ซึ่งเป็นอาสาสมัครอยู่รู้ว่ามันแค่ขาดความอบอุ่นเท่านั้น เขาก็เลยอุ้มมันลงมานอนบนตัก แล้วแปรงขนให้มัน เจ้าแมวจะได้รับรู้ถึงความรักที่เขามีให้มันได้     พอมีคนให้การดูแลมันเป็นพิเศษ Marmalade ก็ทำตัวผ่อนคลายบ้างสักที มันนอนอยู่นิ่งๆ บนตัก Rick แล้วครางหึ่มๆ อย่างสบายใจ     สบายตัวจังเลย เหมือนตอนอยู่บ้าน   หลังจากนั้นมามันก็เริ่มรับรู้ได้ว่ามนุษย์ที่นี่เองก็เป็นมิตรกับมันเหมือนกัน มันเริ่มทำตัวตามสบายมากขึ้น แถมยังกลับมากินข้าวเป็นปกติแล้วด้วย นอกจากนี้มันก็เริ่มทำความรู้จักและเล่นกับแมวตัวอื่นๆ บ้างแล้วล่ะ ความอบอุ่นจาก Rick คงเป็นกุญแจเปิดประตูหัวใจให้กับเจ้า…

อยู่มาวันหนึ่งชาวนาในประเทศอินเดียเจอลูกเสือดาวตัวหนึ่งหลงเข้ามาในพื้นที่ไร่ของเขา เขากังวลว่าแม่มันอาจจะออกมาตามหาแล้วทำร้ายเขาได้ เขาก็เลยต้องขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญให้จัดการกับลูกเสือดาวให้ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า Manikdoh Leopard Rescue Center จึงได้เข้ามาเพื่อช่วยเหลือลูกเสือดาวตัวน้อย อย่างไรก็ตามการช่วยเหลือมันไม่ใช่การเอามันไปดูแลเอง แต่เป็นการหาวิธีคืนมันให้กับแม่โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ     Arinita Sandilya เจ้าหน้าที่ของศูนย์อธิบายว่า “ส่วนใหญ่แล้วเวลาลูกเสือดาวหลงทาง แม่ของมันจะออกมาตามหาเสมอ แต่เนื่องจากมันหวงลูกมากมัน ถ้าหาลูกไม่เจอมันอาจจะเข้าทำร้ายมนุษย์ทุกคนที่พบเจอ” โชคดีที่พวกเขาเจอตัวลูกเสือดาวก่อนที่แม่เสือดาวจะออกเพ่นพ่านไปทำร้ายใครเข้า ลูกเสือดาวตัวนี้น่าจะเล่นซนมากไปหน่อยจนพลัดหลงกับแม่มาเอง ในเมื่อมันแข็งแรงดีก็คงส่งคืนให้แม่ได้เลย     หลังจากสอบถามข้อมูลจากคนแถวนั้นแล้ว พวกเขาก็เอาลูกเสือดาวใส่ไว้ในลัง แล้วเอาไปวางไว้ตรงจุดที่มีคนเห็นแม่เสือดาวครั้งสุดท้าย เพราะมันน่าจะวนกลับมาตรงนี้อีก ที่ต้องเอาใส่กล่องทิ้งไว้แบบนั้นก็เพื่อไม่ให้ลูกเสือดาวเดินเพ่นพ่านไปไหนอีก แล้วก็จะได้ไม่ต้องมีคนไปรอดูแลลูกเสือดาวจนเสี่ยงโดนแม่มันทำร้ายด้วย แต่พวกเขาก็ยังจับตามองมันอยู่ห่างๆ ถ้าเกิดแม่เสือดาวไม่มาหาสักทีพวกเขาก็จะได้พาลูกเสือดาวไปให้ข้าวให้น้ำก่อนจะตามหาแม่เสืออีกรอบ     โชคดีที่ไม่นานนักแม่เสือดาวก็มาตรงจุดที่พวกเขาทิ้งลูกเสือไว้ มันรู้ทันทีว่าลูกของมันอยู่ในกล่องใบนั้น แต่ก็ยังวนดูรอบๆ ให้แน่ใจว่ากล่องนั้นไม่เป็นอันตราย เมื่อแน่ใจแล้วว่าทุกอย่างปลอดภัย แม่เสือดาวก็ปัดกล่องด้านบนออก แล้วก็พาลูกที่อยู่ข้างในกลับไปอยู่ด้วยกันในป่าเหมือนเดิม     การช่วยให้มันกลับไปเจอแม่เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะถ้ามันไม่ได้อยู่กับแม่ ลูกเสือดาวก็จะไม่รู้ว่าควรจะหาอาหารหรือใช้ชีวิตยังไง แต่ตอนนี้มันก็ได้กลับไปเจอแม่เป็นที่เรียบร้อย คงไม่ต้องห่วงมันแล้วล่ะ      ที่มา: the dodo

ตำรวจจีนนายหนึ่งเจอลูกแมวดาวถูกรถชน แม้เขาจะอยู่นอกหน้าที่เขาก็พยายามช่วยมันอย่างสุดความสามารถ จนท้ายที่สุดเขาก็สามารถช่วยชีวิตมันเอาไว้ได้ Lee Chien จากเมือง Tongxiao ประเทศไต้หวันเป็นคนที่เจอเจ้าแมวตัวนี้อยู่กลางถนน ตอนนั้นมันนอนแน่นิ่งไปแล้ว แต่เขาคิดว่าอาจจะยังช่วยมันได้ทันก็เลยพาตัวมันไปขอความช่วยเหลือที่สถานีตำรวจด้วย ทั้งที่ไม่ใช่วันทำงานของตัวเอง     อย่างไรก็ตาม Lee ก็ไม่สามารถหาคนที่จะช่วยมันได้ในทันที เขาร้อนใจมากเพราะเจ้าแมวเองก็ดูเหมือนจะไม่รอดอยู่รอมร่อแล้ว เมื่อรอความช่วยเหลือไม่ไหวเขาก็เลยโทรไปขอวิธีการช่วยชีวิตมันจากเพื่อนที่เป็นสัตวแพทย์ ซึ่งวิธีที่เขาแนะนำให้ทำก็คือการปั๊มหัวใจให้ลูกแมวดาว     Lee ใช้ผ้าผืนหนึ่งวางรองหัวของลูกแมวดาวไว้ จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ใช้นิ้วมือกดลงไปบริเวณหัวใจของมันอย่างสม่ำเสมอ เหมือนกับการปั๊มหัวใจให้มนุษย์     หลังจากเขาช่วยปั๊มหัวใจให้มัน ไม่นานนักลูกแมวดาวก็หายใจและกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นเขาก็รีบพาตัวมันไปส่งให้สัตวแพทย์ต่อเลย      สัตวแพทย์บอกว่าลูกแมวดาวไม่มีกระดูกหักหรือแผลร้ายแรงจากการถูกรถชน แต่มันก็คงไม่รอดเหมือนกันถ้านายตำรวจ Lee ไม่รีบปั๊มหัวใจให้มันตอนนั้น     แมวดาวเป็นสัตว์จำพวกเสือขนาดเล็กที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูญพันธุ์ การช่วยเหลือของ Lee จึงถือว่าได้ช่วยสัตว์ชนิดนี้ไม่ให้สูญพันธ์ไวกว่าที่ควรจะเป็น เขาคิดถูกแล้วที่พยายามช่วยมันแม้ว่าลูกแมวดาวแทบจะไม่มีโอกาสรอดแล้ว เพราะหากเราไม่พยายามช่วยมันเลยสุดท้ายมันก็คงไม่รอดปลอดภัยแบบนี้     ที่มา: Daily Mail, News TV

เรารู้กันอยู่แล้วว่าในโลกนี้มีสัตว์ตัวใหญ่อยู่เยอะแยะ อย่างเช่นช้าง วาฬ และยีราฟ เวลาที่เราเห็นพวกมันก็เลยไม่ได้รู้สึกแปลกใจเท่าไหร่ เพราะพวกมันตัวใหญ่เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าเพื่อนๆ ได้มาลองเจอกระต่ายที่ตัวโตเท่าหมา หรือแมลงที่ตัวใหญ่กว่าฝ่ามือคน คงต้องรู้สึกทึ่งและแปลกใจกันแน่ๆ ขอบอกไว้เลยนะว่าเจ้าพวกนี้ไม่ได้เป็นรูปตัดต่อแต่อย่างใด มันมีอยู่จริงๆ เลยล่ะ   กบตัวนี้สูงเกือบเท่าคนแน่ะ   กระต่ายอะไรตัวใหญ่เท่าหมา   ด้วงตัวนี้ใหญ่เท่าแขนคนเชียวนะ   ปลาดาวตัวโตมาก แถมมาเป็นแพ็คคู่   พี่วัวสูงเลยคนไปแล้วจ้า   แมงกะพรุนสายพันธุ์โนมุระ เป็นแมงกะพรุนที่เมื่อโตเต็มวัยแล้วตัวใหญ่กว่ามนุษย์ซะอีก   ปูมะพร้าว เป็นปูบกที่ตัวใหญ่มว๊ากกก ไม่อยากจะนึกถึงเวลาที่มันเอาก้ามหนีบของเลย   พี่หมา Freddy ผู้ถือครองสถิติหมาที่สูงที่สุดในโลก ณ ขณะนี้   เจ้า Brutus จระเข้ยักษ์ยาว 18 ฟุตที่ว่ากันว่าเป็นจระเข้ที่มีอายุมากที่สุด   ถึงจะรู้ว่ามีม้าที่ตัวใหญ่อยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะใหญ่ขนาดนี้…   ซาลาแมนเดอร์ตัวโตที่คนอุ้มแทบไม่ไหว   นี่คือค้างคาวนะ ไม่ใช่พญาอินทรี   เคยเห็นจิ้งหรีดตัวใหญ่ขนาดนี้กันรึเปล่า?   ปูแมงมุมญี่ปุ่น…

เจ้าหมาขนปุยสีดำเคยอยู่บ้านกับเจ้าของมาตลอดช่วงชีวิตของมัน แต่วันหนึ่งมันก็ถูกเอามาผูกไว้กับเสาข้างถนน พร้อมกับจดหมายวอนขอให้หาเจ้าของใหม่ให้มันที พร้อมกับบอกสาเหตุที่มันต้องจากเจ้าของมา มีคนไปเจอเจ้าหมา Oreo อยู่ในถนนเส้นหนึ่งของรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา สายจูงของมันถูกผูกเอาไว้กับเสาข้างๆ ทำให้มันไปไหนไม่ได้     คนที่เจอมันก็เลยติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ให้มารับตัวมันไป พวกเขาจะได้เอามันไปดูแลและหาบ้านหลังใหม่ให้เจ้าหมา ตอนที่เจ้าหน้าที่รับตัวมันไป พวกเขาก็สังเกตเห็นจดหมายฉบับหนึ่งแขวนไว้กับตัวของมันซึ่งเขียนไว้ว่า “ผมชื่อว่า Oreo ผมอายุเกิน 10 ขวบแล้ว ตอนนี้ผมกังวลมากเพราะว่าเจ้าของของผมตายไปแล้ว แต่ผมเป็นเด็กดีมากเลยนะ โปรดช่วยหาบ้านให้ผมด้วย”     หลังจากที่พวกเขาพาตัวมันกลับมาอยู่ในศูนย์พักพิงแล้ว ก็ได้รู้ว่าเจ้าหมาแก่ปรับตัวเข้าที่ใหม่ได้ค่อนข้างยาก อาจจะเป็นเพราะมันไม่เคยเปลี่ยนที่อยู่ก็เป็นได้ แต่พอคนดูแลพยายามดูแลมันอย่างดี มันก็ปรับตัวได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อยท่าทีหวาดกลัวของมันก็ลดน้อยลงมากเมื่อเทียบกับตอนที่มาอยู่ใหม่ เมื่อพวกเขาเริ่มมั่นใจแล้วว่าเจ้าหมาน่าจะปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ได้เช่นกัน ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะช่วยตามหาบ้านให้มันได้แล้ว โดยเริ่มจากการประกาศหาเจ้าของให้ทางเฟซบุ๊กก่อน     โพสต์ของเจ้าหมาไม่ได้รับความสนใจมากนัก แต่ก็ยังมีคนติดต่อเข้ามาถามเรื่องของมันบ้าง และหนึ่งในนั้นก็คือ Linda Snyder ซึ่งติดต่อเข้ามาขอรับเลี้ยงมันโดยตรงเลย เธอบอกว่าพอได้เห็นรูป Oreo แล้วเธอก็มีความรู้สึกบางอย่างบอกว่าเจ้าตัวนี้แหละที่ควรจะมาเป็นสมาชิกตัวใหม่ในบ้านของเธอ เธอก็เลยขับรถนานถึง 2 ชั่วโมงเพื่อมารับตัวมัน     ตอนนี้ Oreo ได้อยู่กับเจ้าของใหม่เรียบร้อยแล้ว แถมยังมีเพื่อนหมา Ollie เป็นเพื่อนด้วย บ้านใหม่ของมันมีพื้นที่กว้างขวางให้มันได้วิ่งเล่นไม่รู้จักเบื่อเลย คนดูแลดีใจมากที่เจ้าหมาได้ไปอยู่กับครอบครัวที่ดีและคู่ควรกับมัน…

ห้างสรรพสินค้าไม่ใช่ที่ที่เราคาดหวังว่าจะเห็นแมวอยู่เลย แต่เจ้าแมวตัวนี้กลับมานอนอยู่ในห้างพร้อมกอดกล่องขนมอย่างสบายอารมณ์ ราวกับว่าห้างเป็นที่ประจำของมัน Melanie Morris-Jones หญิงวัย 39 ปีเจอเจ้าแมวสีขาวในห้าง Tesco Express ตอนที่เธอเข้าไปซื้อของในช่วงเช้า     เธอเล่าว่า “ตอนนั้นฉันแวะไปซื้อเครื่องดื่มและอาการที่ Tesco ก่อนไปทำงาน แล้วฉันก็เจอเจ้าแมวนอนเล่นอยู่ข้างๆ กล่องบิสกิตที่มันน่าจะปัดตกลงมาเอง มันน่าจะพยายามกินอาหารในกล่อง แต่คงยอมแพ้ไประหว่างที่พยายามอยู่”  ตอนที่เธอเห็นเจ้าแมว มันก็ใช้กล่องบิสกิสเป็นหมอนหนุน แล้วนอนหลับอยู่บนพื้นโดยไม่แคร์สายตาของคนที่เข้ามาซื้อของเลยสักนิด     Melanie เล่าต่อว่า “ฉันลองถามพนักงานคิดเงินดูแล้วว่าเธอรู้รึเปล่าว่ามีแมวนอนอยู่ในมุมอาหารสัตว์ เธอบอกฉันว่าเธอรู้อยู่แล้ว เพราะมันเป็นลูกค้าประจำของสาขานี้” นั่นแปลว่าเจ้าแมวตัวนี้ต้องเข้ามาที่นี่จนเป็นปกติ แล้วก็เดินตรงดิ่งไปที่มุมขายอาหารสัตว์ซึ่งเป็นที่ของมัน จากนั้นก็ทำตัวสบายๆ เหมือนนอนอยู่ในบ้านยังไงยังงั้น     #เหมียวอาตี๋ คิดว่าที่เจ้าเหมียวมานอนอยู่กับกล่องขนมโดยไม่ลุกไปไหน อาจจะเป็นเพราะมันมีมารยาทมากพอจะไม่ขโมยของ แล้วรอให้เจ้าของตามมาจ่ายเงินให้ก่อน หรือบางทีเจ้าแมวก็คงจะรอทาสสักคนที่บังเอิญผ่านมา แล้วเดินมาแกะขนมให้มันกินพร้อมกับจ่ายเงินให้ด้วยความเอ็นดูก็ได้นะ ที่มา: Daily Mail, Metro

แมวมีนิสัยชอบเข้าไปป่วนมนุษย์ ไม่ว่าเราจะทำกิจกรรมอะไร มันก็จะเรียกร้องความสนใจหรือขอมีส่วนร่วมเสมอ และล่าสุดมันก็เข้าไปป่วนการฝึกซ้อมตีกลอง และป่วนในหัวใจของชาวทวิตเตอร์แล้ว @taoto0711 จากทวิตเตอร์เป็นมือกลองในประเทศญี่ปุ่นคนหนึ่ง เขาเริ่มตีกลองด้วยความรักและชื่นชอบในดนตรี แต่ก็มีเหตุผลหนึ่งซึ่งทำให้เขาไม่ได้ซ้อมตีกลองในบ้าน นั่นก็คือเจ้าแมวที่บ้านชอบมาก่อกวนจนเขาไม่เป็นอันซ้อมนั่นเอง เขาบ่นเรื่องนี้ลงบนทวิตเตอร์พร้อมลงคลิปวิดีโอเป็นหลักฐานด้วย ซึ่งทำให้คนแห่เข้ามาดูทวีตของเขาเพียบ   นี่คือสาเหตุที่ผมไม่ฝึกซ้อมตีกลองที่บ้าน https://twitter.com/taoto0711/status/1039138806656425984?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1039138806656425984%7Ctwgr%5E363937393b70726f64756374696f6e%7Ctwcon%5Elogo&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2018%2F09%2F14%2Fadorable-cats-from-japan-impede-drum-practice-get-our-hearts-drumming-too%25e3%2580%2590video%25e3%2580%2591%2F   แต่เขาก็ไม่ได้ไปดุหรือว่าที่เจ้าแมวเข้ามาก่อกวนหรอกนะ เพราะเขาเองก็เป็นทาสแมวเหมือนกัน เลยต้องไม่ขัดใจเจ้าแมวทั้ง 2 ตัว ส่วนชาวเน็ตที่เข้ามาส่วนใหญ่ก็มาชื่นชมในความน่ารักของเจ้าเหมียว ที่พยายามจับไม้กลองเป็นพัลวันระหว่างที่ @taoto0711 กำลังฝึกซ้อม นอกจากนั้นก็มีมือกลองคนอื่นซึ่งเป็นทาสแมวเหมือนกัน เข้ามาแบ่งปันประสบการณ์ในทำนองเดียวกันด้วย   ฉันเข้าใจนายนะ ฉันเองก็เจอแบบนี้เหมือนกัน https://twitter.com/nekomameayaka/status/1039372846953185286?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1039372846953185286%7Ctwgr%5E363937393b70726f64756374696f6e%7Ctwcon%5Elogo&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2018%2F09%2F14%2Fadorable-cats-from-japan-impede-drum-practice-get-our-hearts-drumming-too%25e3%2580%2590video%25e3%2580%2591%2F   ชาวทวิตอีกส่วนหนึ่งที่เข้ามาดูทวีตของเขา ก็พากันเอาลูกของตัวเองมาโพสต์ให้ดูพร้อมกับชี้ว่าแมวของเขาและแมวของพวกเธอเหมือนเปี๊ยบเลย   แมวของเธอดูเหมือนลูกๆ ของฉันเลย ถึงดูจากรูปนี้แล้วบอกได้ยากก็เถอะ   ถึงจะไม่เกี่ยวกับที่พูด แต่ฉันแปลกใจมากเลยที่เห็นแมวของเธอคล้ายกับแมวของฉันสุดๆ นี่ไง 2 พี่น้องแมวของฉัน   แน่นอนว่าต้องมีทาสแมวคนอื่นเข้ามาแสดงความเห็นใจที่เจอเจ้าแมวก่อกวนมาด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องเดียวกันเป๊ะๆ แต่ทาสแมวก็เข้าใจกันได้แหละนะ   นี่ก็คือเหตุผลที่ฉันไม่อ่านหนังสือพิมพ์บนโต๊ะเช่นกัน   ถึงแมวจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เอาแต่ใจและชอบปั่นป่วนทาสมากไปหน่อย บางครั้งก็เข้ามาเล่นไม่เป็นเวลา หรือเข้ามานอนทับงานของเรา แต่ยังไงพวกเราก็รักมันอยู่ดี ที่มา: Sora…

พอมีหมา 2 ตัวเจ้าของก็ต้องดูแลมันด้วยความเท่าเทียม ตัวหนึ่งได้อะไรอีกตัวก็ต้องได้ไปด้วย แต่บางอย่างมันก็ให้ทั้ง 2 ตัวไม่ได้จริงๆ เจ้าของเลยคิดวิธีแก้ปัญหาสุดน่ารักมาให้เราได้ดูกัน Todd เจ้าของคู่หูหมาลาบราดอร์สุดน่ารัก ชนะใจชาวเน็ตไปเต็มๆ ด้วยคลิปวิดีโอที่ลูกสาวของเขา Chloe Copley โพสต์ลงบนทวิตเตอร์ไปเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2018 นี้   https://twitter.com/chloecopley_05/status/1039725587055759360?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwgr%5E363937393b70726f64756374696f6e&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.buzzfeed.com%2Fsydrobinson1%2Fear-drop-dog   เธออธิบายคลิปวิดีโอไว้ว่า “หมาตัวหนึ่งของฉันต้องใส่ยาหยอดหู แต่อีกตัวก็คิดว่ามันต้องได้หยอดยาเหมือนกัน…เลยไม่มีใครกล้าบอกมันว่าไม่ได้หยอดยาให้จริงๆ” ยาหยอดหูเป็นยารักษาอาการป่วย ถ้าเกิดหยอดให้กับตัวที่ไม่ได้ป่วยอาจจะมีปัญหาตามมาทีหลังได้ แต่ถ้าไม่หยอดให้มันก็จะน้อยใจที่ถูกปฏิบัติไม่เหมือนเพื่อน Todd ก็เลยหลอกมันแบบนี้   เจ้าหมาตัวแรกป่วย ก็หยอดยาให้ตามปกติ   พอเจ้าหมาอีกตัวแทรกเข้ามา เขาก็ปิดฝาหลอดยาก่อน   จากนั้นก็แกล้งทำเป็นหยอดยาแล้วนวดให้มันเหมือนเพื่อนตัวแรก   อะหยอดยาเสร็จทั้ง 2 ตัวแล้วไปเล่นกันได้   ไอเดียน่ารักๆ และความเอาใจใส่หมาทั้ง 2 ตัวของ Copley ทำให้ชาวเน็ตที่ได้เห็นคลิปวิดีโอใจละลายไปตามๆ กัน  แถมยังได้รับความนิยมมากจนตอนนี้มียอดไลก์มากกว่า 1.3 ล้านไลก์เชียวนะ!! แถมตอนนี้คุณพ่อก็กลายเป็นคนที่ชาวเน็ตพากันพูดถึงไปด้วย บ้างก็ว่าเขาเป็นเจ้าของหมาที่น่ารักที่สุด บ้างก็เรียกเขาว่าคนนวดหูหมา ทำให้เขาตั้งตัวกับความนิยมที่เพิ่งได้มาไม่ทันเลย  …

ถึงเราจะเห็นแมวเหมียวเอาแต่นั่งๆ นอนๆ ให้ทาสคอยรับใช้ แท้จริงพวกมันก็รู้แหละว่าเราคือผู้มีพระคุณ เพียงแต่การแสดงออกด้านความรักของพวกมันอาจจะเป็นแบบปากไม่ตรงกับใจไปหน่อยแค่นั้นเอง ทว่าก็ยังมีแมวบางตัวเหมือนกันที่แสดงความกตัญญูอย่างตรงไปตรงมา คอยดูแลอารักขาผู้มีพระคุณไม่ให้คลาดสายตาเลย และนี่คือเรื่องราวของพวกมัน…   ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณป้าออกมาด้านนอกร้าน   จะมีแมวเหมียว 2 ตัวอยู่ด้านหน้าร้านเสมอ   พอพวกมันเห็นเธอเปิดประตู ก็จะแอบวิ่งตามไปดูแลเธอแบบลับๆ   เผื่อว่ามีใครทำร้ายคุณป้าจะได้ตะปบได้ทันเวลา   แล้วพอเธอกลับเข้าไปในร้าน   เจ้าแมวก็จะหยุดแล้วเฝ้ารอที่หน้าร้านเหมือนเดิม   แม่ค้านิรนาม 1: แมว 2 ตัวนั้นเอาแต่ตามป้าคนนั้นตลอดเลยค่ะ   แม่ค้านิรนาม 2: โอ้ยคุณ คนอื่นมันไม่ตามหรอก มันตามป้าคนนั้นคนเดียวจริงๆ   คุณป้าที่ถูกเจ้าแมวตามเล่าว่าพวกมันเริ่มตามเธอเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว   เจ้าแมวท้องแก่มันมานอนหมดแรงอยู่หน้าร้าน   เธอสงสารก็เลยช่วยมันทำคลอดแล้วช่วยให้อาหารมัน   จากนั้นเป็นต้นมาแม่ลูกแมวคู่นี้ก็ตามเธอมาตลอด   พวกมันซื่อสัตย์ต่อเธอมากจนไม่ยอมกินอาหารจากคนแปลกหน้าเลย   มันจะกินแต่อาหารที่เธอเป็นคนเอาให้เท่านั้น   พวกมันรักเธอมากจริงๆ   ตอนเลิกงานแล้ว เจ้าแมวก็จะเดินไปส่งเธอกลับบ้าน   แล้วก็นอนรออยู่แถวหน้าบ้านจนถึงเวลาเช้า  …

ชายหนุ่มและเพื่อนๆ ไปเจอสัตว์ตัวหนึ่งติดอยู่ในโคลนใกล้กับขอบฝั่งทะเลสาบ พวกเขาเลยใช้เวลาอยู่นานกว่าจะช่วยมันออกมาได้ แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อได้รู้ว่าสัตว์ที่กำลังช่วยอยู่ไม่ได้เป็นบีเวอร์อย่างที่คิด     Jim Passmore เป็นหนุ่มรักสัตว์ที่อาศัยอยู่ในรัฐโอกลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาชอบใช้เวลาไปกับการดื่มด่ำบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ จะเรียกว่าเป็นงานอดิเรกยามว่างก็ได้ บ่อยครั้งที่เขาออกไปเดินเล่นชมวิว เขาก็จะถือโอกาสพาหมาของตัวเองออกไปเดินเล่นด้วย มันจะได้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน   นาย Jim Passmore   หมาของ Jim   วันหนึ่งขณะที่เขากับเจ้าหมาเดินเล่นกันอยู่ข้างทะเลสาบ หมาของ Jim ก็ทำตัวแปลกๆ เหมือนมันรู้สึกว่ามีบางอย่างอยู่ใกล้ๆ เขาก็เลยเดินตามไปดู พอตามทางที่เจ้าหมานำไป Jim ก็เจอสัตว์ตัวหนึ่งติดอยู่ในโคลนในน้ำตื้นๆ มันเลอะโคลนไปทั้งตัวจนเขาดูไม่ออกว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ แต่ก็คิดว่ามันน่าจะเป็นบีเวอร์ เพราะในทะเลสาบนี้ก็มีบีเวอร์อาศัยอยู่เหมือนกัน     Jim เห็นว่ามันยังขยับตัวอยู่ แต่ไม่สามารถออกมาจากตรงนั้นด้วยแรงของตัวเองได้ เขาเลยตัดสินใจลงไปช่วยให้มันออกมาก่อนที่มันจะจมน้ำ     เขาต้องเรียกเพื่อนของตัวเองมาช่วยอีกแรงด้วย เพราะว่ามันติดโคลนจนดึงคนเดียวไม่ออกจริงๆ แถมเจ้าบีเวอร์ตัวนี้มันยังดิ้นแรงจนทำให้การช่วยเหลือลำบากอีก ระหว่างที่ช่วยมันอยู่ เจ้าบีเวอร์ก็กัดเพื่อนของเขา จากนั้นพวกเขาก็เลยต้องเปลี่ยนวิธีช่วยโดยการใช้เชือกมัดตัวแล้วดึงมันขึ้นมาบนบกแทน     ดึงอยู่นานเลยกว่าจะหลุดออกมาได้   แต่เมื่อพวกเขาเอาตัวมันออกมาจากโคลนได้แล้ว Jim ก็ต้องตกใจเมื่อสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นบีเวอร์มีรูปร่างไม่เหมือนบีเวอร์ที่เคยเจอมาเลย…

Maëlle Girard ในจำนวนนั้นก็มีหมาที่โชคดีมากๆ เพราะได้เธอรับเลี้ยงเอาไว้ด้วย การพบเจอกับหมาตัวแรกและเป็นจุดเริ่มต้นให้ Girard เริ่มต้นช่วยเหลือสุนัขเกิดขึ้นในเกาะบาหลี ตอนนั้นเธอเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ที่นั่นใหม่ๆ แล้วระหว่างทางกลับบ้านเธอก็เจอกับลูกหมาจรจัด Ika     Ika ซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า มันนอนขดตัวที่แทบจะไม่มีขนเหลืออยู่เลย แถมดูเหมือนมันจะอยู่ตามลำพังโดยไม่มีแม่ซะด้วย Girard กับแฟนหนุ่มที่เพิ่งย้ายมาใหม่ก็ไม่รู้จะพามันไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์หรือสัตวแพทย์ที่ไหน ก็เลยปล่อยมันไว้แล้วขี่รถผ่านไป แต่สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถทิ้งมันเอาไว้ได้ เลยวนรถกลับมาที่เดิมแล้วอุ้มเจ้าหมาไปตามหาความช่วยเหลือด้วยกัน     อย่างไรก็ตามเธอก็หาใครที่จะช่วยดูแลมันไม่ได้เลย คืนนั้นเธอก็เลยต้องพามันกลับมาที่บ้านของตัวเอง โดยวางแผนว่าวันต่อไปจะพามันไปไว้ที่ศูนย์พักพิงสัตว์ แต่พอได้อยู่ด้วยกันไม่กี่วัน Girard ก็ตกหลุมรักมันซะแล้ว เธอเลยไม่เอามันไปส่งศูนย์พักพิงอยากที่ตั้งใจไว้ แล้วรับเลี้ยงมันเองซะเลย     วันแรกๆ Ika แทบไม่ขยับตัวไปไหนเลย เนื่องจากมันเป็นโรคหิดทำให้เวลาขยับจะคันเนื้อตัว มันจะลุกมากินข้าวแล้วก็นอนต่อเท่านั้น ทว่าหลังจากที่เธอช่วยอาบน้ำแล้วให้ยามันจนโรคหิดหายดี สภาพจิตใจของเจ้าหมาก็ได้รับการรักษาไปด้วย จากที่เคยนิ่งเงียบมันก็มีท่าทีร่าเริงขึ้นอย่างผิดหูผิดตา เดี๋ยวนี้ Ika มีนิสัยขี้เล่นมากแถมยังหวงเจ้าของด้วย มันจะตาม Girard ไปทุกที่เพื่อให้มั่นใจว่าตัวเองจะได้อยู่ใกล้กับคนที่รัก เหมือนว่ามันเป็นบอดี้การ์ดของเธอเลย   ตอนแรกเป็นหมาตัวเล็กไม่มีขน   พอรักษาแล้วก็ดูดีขึ้นเป็นกอง   เจ้าหมาก็เลยรักเจ้าของมาก ตามไปเฝ้าทุกที่   ถึงแม้ว่า…

สำหรับคนที่รักสัตว์แล้ว การช่วยเหลือสัตว์แต่ละตัวล้วนมีความสำคัญ ถึงจะต้องลงทุนลงแรงมากจนดูเหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตน แต่มันก็คุ้มค่าที่ช่วยเหลือสัตว์พวกนี้เสมอ เจ้าหมา Fly ที่ตกลงไปในทะเลก็รอดปลอดภัยมาได้เพราะมนุษย์พยายามช่วยเหลือมันอย่างเต็มที่ พวกเขาทุ่มกำลังออกไปค้นหามันทั้งทางน้ำและทางอากาศเลยทีเดียว แม้จะเพื่อหมาตัวเดียวก็ตาม     เมื่อตอนสิ้นเดือนสิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา หมาตาบอด Fly กับเจ้าของหนุ่ม Mark Cowing ได้ออกไปเที่ยวที่ชายหาด Lepe Beach ของประเทศอังกฤษด้วยกัน ในระหว่างที่เจ้าของกำลังจัดวางข้าวของที่เตรียมมานั่นเอง เจ้า Fly มันวิ่งไปเล่นน้ำตื้นๆ ตรงขอบหาดทราย แต่ไม่รู้ว่ามันพลาดเดินลงไปลึกเกินหรือว่ามีคลื่นลูกใหญ่ซัดมันลงไป พอ Mark หันกลับมาอีกทีเจ้าหมาก็ออกทะเลไปไกลแล้ว     Mark รีบถอดชุดที่สวมอยู่แล้วว่ายน้ำลงทะเลไปช่วยมันทันที แต่ว่ายยังไม่ทันถึงตัว Fly ก็หายไปไหนไม่รู้แล้ว ด้วยความเป็นห่วงเขาก็เลยรีบขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยให้ช่วยตามหามันอีกแรงหนึ่ง ถึงจะเป็นการช่วยเหลือสุนัขแค่ตัวเดียว หน่วยกู้ภัยก็จริงจังกับการค้นหามันมาก พวกเขาส่งเรือออกไปตามหามันทางน้ำ แล้วก็ส่งเฮลิคอปเตอร์ออกไปดูทางอากาศอีกด้วย เรียกได้ว่าทุ่มกำลังค้นหามันเต็มรูปแบบเลย   หน่วยกู้ภัยส่งเรือไปค้นหาทางน้ำ   แล้วก็ส่งเฮลิคอปเตอร์ออกไปค้นหาทางอากาศด้วย   โชคดีที่ใช้เวลาไม่นานมากนักกู้ภัยก็เจอเจ้า Fly กำลังกระเสือกกระสนว่ายน้ำอยู่ พวกเขาก็เลยเอาเรือไปรับตัวมันขึ้นมาได้ทันท่วงที เจ้าหมาเหนื่อยกับการเอาตัวรอดมาก หลังจากเจอเจ้าของแล้วได้กินข้าวเติมกำลังหน่อยแล้ว มันก็หลับปุ๋ยไปนานเลย การเอาตัวรอดตามลำพังกลางทะเลคงเหนื่อยล้ามากจริงๆ  …

ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนหรือสัตว์ชนิดใดล้วนก็มีสัญชาตญาณความเป็นแม่อยู่ในตัวทั้งนั้น ส่วนใครจะมีมากกว่ากันนั้นเป็นสิ่งที่บอกได้ยาก แต่พอ #เหมียวอาตี๋ ได้เห็นภาพของเหล่าแม่ไก่ เราเชื่อว่าไก่นี่แหละคือแม่ทุกสถาบัน พวกมันรับเลี้ยงลูกสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะไซส์เล็กไซส์ใหญ่ก็ไม่เกี่ยง แม้จะไม่ใช่เด็กแล้วพวกมันก็ยังดูแลอยู่ดี ลองไปดูกันนะว่ามันรับเลี้ยงลูกสัตว์อะไรบ้าง แล้วเพื่อนๆ จะอึ้งในความหลากหลายของแม่ไก่   ลูกหมาไก่ก็เลี้ยงได้ แค่ให้นมไม่ได้เท่านั้นเอง   ลูกแมวแม่ไก่ก็ยินดีรับเลี้ยง   เยอะแค่ไหนแม่ไก่ก็ไม่หวั่น ดูแลได้   โตแล้วเก๊าก็ยังดูแลนะ   อากาศหนาวๆ นอนกับเราดีกว่าอุ่นจะตาย   เลี้ยงลูกเป็ดมันก็ดีนะ แต่สอนว่ายน้ำให้ไม่ได้หรอก   เจ้าหมูน้อยที่น่ารัก มาหาแม่ไก่มา   นี่ลูกฉันเอง ใครจะทำไม   โตจนจะกกไม่หมดอยู่แล้ว แต่ก็จะเลี้ยง   อ๋อ นั่นไม่ใช่ขาเรานะ ขาลูกเป็ดต่างหาก   ไม่ได้เป็นลูกในไส้แต่ก็เป็นลูกเรา   นกฉันก็เลี้ยงจนมันบินได้มาหมดแล้ว   เห็นลูกแมวของฉันไหม?   อุ่นจังเลยได้นอนกับแม่   อ้อนแม่เก่งจังนะแมวน้อย   แม่ไก่นี่สุดยอดไปเลย ที่มา: BRIGHT…

เรื่องการเมืองการเลือกตั้งเป็นอะไรที่วุ่นวายมากๆ เพราะผู้เข้าสมัครแต่ละคนล้วนมีทั้งด้านดีและไม่ดี ไม่มีคนไหนที่เลือกแล้วเพอร์เฟกต์ตรงใจทุกคนเลย แต่ในเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า Idyllwild ซึ่งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ประชาชนที่นั่นทุกคนรักนายกเทศมนตรีของเมืองกันหมดเลย เนื่องจากไม่มีใครมีเหตุผลมากพอจะเกลียดเจ้า Max หมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเป็นรัฐมนตรีนั่นเอง     นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ เมือง Idyllwild มีนายกเทศมนตรีเป็นหมาจริงๆ แล้วก็ไม่มีคนทำตำแหน่งนี้ควบคู่ไปกับมันแต่อย่างใดด้วย การที่พวกเขาให้สัตว์เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น น่าจะเป็นเพราะต้องการหลีกหนีจากปัญหาด้านการเมืองที่อาจจะมีคนเอาไปหาผลประโยชน์ได้ สุดท้ายก็เลยตั้งกฎให้ผู้เข้าชิงตำแหน่งเป็นสัตว์เลี้ยงของชาวเมืองเท่านั้น และจากผู้เข้าแข่งขันหมา 14 ตัวและเจ้าแมวอีก 2 ตัว เจ้าหมา Maximus Might Dog Mueller II หรือเรียกกันสั้นๆ ว่านายกเทศมนตรี Max ก็เป็นผู้ที่มีคะแนนเสียงมากที่สุดแล้วได้รับหน้าที่นี้ไปอีกครั้งหนึ่ง     Max ทำหน้าที่เป็นนายาเทศมนตรีมาตั้งแต่ปี 2012 ควบคู่ไปกับผู้ช่วยหมาโกลเด้น Mikey และ Mitzi แล้วพออายุการทำงานของมันใกล้จะจบลง ชาวเมืองก็รักมันมากจนเลือกตั้งให้มันได้เป็นนายกเทศมนตรีต่อ โดยงานหลักของนายกเทศมนตรี Max นอกจากจะนั่งอยู่ในออฟฟิศแล้ว ก็คือการขึ้นรถประจำตำแหน่งออกไปเยี่ยมเยียนประชาชนทุกคน จากนั้นก็มอบความรักให้กับชาวเมืองโดยไม่มีแบ่งแยก รวมทั้งทำความดีอื่นๆ ที่พอจะทำได้ด้วย  ซึ่งมันก็ไม่เคยทำหน้าที่นี้ขาดตกบกพร่องเลย ชาวเมืองทุกคนเลยรักมันมากๆ  …

ทุกคนคงจะเคยเจอกับคนที่ปากไม่ตรงกับใจมาบ้างแล้ว ตอนนี้เรากำลังสงสัยว่าคุณพ่อคนนี้เองก็เป็นคนปากไม่ตรงกับใจด้วยรึเปล่า เพราะคำพูดกับการกระทำอันแสนน่ารักของเขาช่างขัดกันเหลือเกิน เรื่องราวที่ทุกคนกำลังจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าจากคุณ บุญรอด ซึ่งเธอจะพูดถึง #มนุษย์พ่อผู้เกลียดแมว ของตัวเองที่ออกตัวแรงมาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า ‘เกลียดแมว’ แต่ทุกวันนี้มีแมวอยู่เต็มบ้านเลยทีเดียว     คุณบุญรอดเล่าว่า “ในอดีต พ่อเป็นคนเกลียดแมวมาก มากถึงมากที่สุด ถ้าตรงไหนมีพ่อตรงนั้นต้องไม่มีแมว วันหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน พ่อจำใจต้องรับเลี้ยงแมวจร เป็นลูกแมวหนีน้ำท่วมคลานเตาะแตะมา มดเจาะเต็มตัว ตาปูดบวม คลานมาเกาะขาแม่ซึ่งไม่รู้ว่ามันฝ่าฝูงหมาดุๆ มาได้อย่างไร แม่กับพ่อตัดสินใจช่วยชีวิตมันไว้ แต่พ่อมีข้อตกลงกับแม่ว่าถ้ามันแข็งแรงเมื่อไหร่ต้องปล่อยมันไป เพราะพ่อไม่ชอบแมว สรุปก็ช่วยกันรักษาพยาบาล ป้อนนม น้ำ สารพัดจะบำรุง ตอนนี้ผ่านมา 8 ปีแล้ว พ่อก็ไม่เอาไปปล่อยสักที สงสัยไม่มีเวลามั้ง”     “ไปๆมาๆรับแมวจรเพิ่มมาอีกสองตัว ที่ต้องยอมจำใจเลี้ยงเพราะแม่แมวไปคลอดบนหลังคาตึก เจ้าของตึกที่ทำงานแม่นำแม่แมวไปปล่อยแล้วขังลูกแมวไว้ให้อดตาย ห้ามใครยุ่งจะโดนไล่ออก เสียงลูกแมวร้องหิวนมสองสามวัน แม่เราทนไม่ได้เลยแอบปีนไปเอาลงมา แล้วก็มาโยนแหมะให้คนเกลียดแมวเลี้ยง(พ่อ) โดยให้สัญญาว่าถ้ามันเริ่มแข็งแรงแล้วแม่จะมารับมันไปเลี้ยงเอง(ตอนนี้แม่แยกไปทำงานที่ตจว. แต่พ่อทำอยู่บ้านเดิม) พ่อก็เลยรับเลี้ยงให้ก่อน ตอนนี้ก็ผ่านมา 4ปีละ สงสัยพ่อจะลืมว่าต้องส่งแมวคืนแม่”     เอ้ะ? นึกว่าคุณพ่อเกลียดแมว  …

การไปเที่ยวประเทศกรีซของ Anastasia Kordomenos เมื่อกลางปี 2018 ที่ผ่านมา นอกจากจะทำให้เธอได้พักผ่อนแล้ว ยังทำให้เธอได้เพื่อนตัวใหม่เพิ่มเข้ามาในบ้านด้วย     ระหว่างที่ Kordomenos กำลังเที่ยวอยู่ในหมู่บ่าน Xiropigado เธอได้ยินเสียงร้องของลูกแมวดังมาจากข้างอพาร์ตเมนต์หลังหนึ่ง จึงหยุดเที่ยวชมเมืองแล้วเดินไปตามหามันแทน เธอเจอลูกแมวอยู่ตามลำพัง โดยที่ตาติดเชื้อจนลืมตาไม่ได้ ตัวก็ผอมแห้งจนน่าเป็นห่วงอีกด้วย ทำให้เธอตัดสินใจหยุดเรื่องการท่องเที่ยวไว้ก่อนแล้วพามันไปหาสัตวแพทย์ด้วยตัวเอง     หลังจากสัตวแพทย์ช่วยทำความสะอาดดวงตา และให้อาหารเสริมกับยาเรียบร้อยแล้ว ลูกแมวก็ติด Kordomenos เหมือนกับเธอเป็นแม่เลย มันเอาแต่กอดกับเธอแล้วหลับไปทั้งอย่างนั้น     หลับตรงซอกคอสบายล่ะสิ   หญิงสาวตั้งชื่อลูกแมวตัวน้อยว่า Moira แล้วก็ตัดสินใจรับเลี้ยงมันไว้เอง แม้เธอจะกำลังเที่ยวอยู่ เธอก็ยินดีจะทำเรื่องเพื่อพามันบินกลับไปบ้านด้วยกัน     อยู่ๆ ก็มีคนรับเลี้ยง   เมื่อ Moira ได้มาถึงห้องพักของเธอแล้ว มันก็เริ่มแสดงนิสัยที่แท้จริงออกมาให้เห็น ลูกแมวตัวนี้ซนไม่ใช่เล่นเลยล่ะ เห็นอะไรก็ปีนขึ้นไปเล่นซะหมด นอกจากมีบ้านใหม่แล้ว มันก็ยังได้เจอกับ Kobe หมาชิวาว่าที่ Kordomenos เลี้ยงเอาไว้ด้วย ทั้งคู่เข้ากันได้ดีมากๆ เลย     มิ้วน้อยชอบเดินตามเพื่อนหมาตัวใหม่ไปทุกที่ ถึงมันจะไม่กระตือรือร้นเท่าลูกแมว แต่มันก็พยายามอยู่เป็นเพื่อนเล่นให้…

หมาจรจัดในศูนย์พักพิงต่างก็กำลังรอคอยบ้านกันอยู่ บางตัวมาอยู่ไม่นานก็มีบ้าน แต่บางตัวอยู่มาเป็นปีก็ยังไม่มีใครรับเลี้ยงสักที Poppy กับ Daisy เองก็เป็นหมาที่รอคอยคนรับเลี้ยงอยู่ 2 ปีแล้ว แต่ในกรณีของพวกมันที่ต้องรอนานขนาดนี้ไม่ได้เป็นเพราะไม่มีคนสนใจ เป็นเพราะพวกมันอยากไปอยู่บ้านหลังเดียวกันต่างหาก     Poppy สุนัขพันธ์คอลลี่ และเจ้า Daisy พันธุ์แจ็ครัสเซลเทอร์เรียร์ เป็นคู่หูที่อยู่มาด้วยกันตลอดชีวิต พวกมันทั้งคู่ถูกเจ้าของเก่าพามาไว้ที่ศูนย์พักพิงตั้งแต่ปี 2016 เพราะเขาเลี้ยงพวกมันต่อไม่ไหวแล้ว ลำพังที่ทั้งคู่เป็นหมาแก่อายุ 17 และ 10 ปีก็ทำให้พวกมันหาบ้านยากมากพออยู่แล้ว แต่พวกมันทั้งคู่ยังต้องหาบ้านที่พร้อมรับหมาแก่ 2 ตัวไปอยู่ด้วยกันอีก ก็เลยยังหาคนที่ใช่ไม่เจอสักที     ยังไงก็ตามทั้ง Daisy และ Poppy ก็ไม่สามารถแยกจากกันได้ พวกมันจะมีท่าทีกังวลและมองหาอีกตัวทันทีที่ต้องอยู่แยกกัน พวกมันดูมีความสุขเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันเท่านั้น แม้แต่ตอนที่อยู่ในศูนย์พักพิงแล้วต้องรอดูหมาตัวอื่นมีบ้านไปทีละตัว แค่มีอีกตัวเคียงข้างพวกมันก็ยิ้มได้แล้ว     อาสาสมัครที่ดูแลพวกมันมามั่นใจว่าทั้งคู่ยังคงยินดีรอต่อไปเพื่อที่จะได้ไปอยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่การที่ต้องเห็นหมาน่ารักทั้ง 2 ตัวอยู่ในกรงเป็นเวลาเนิ่นนานขนาดนี้ก็ทำให้พวกเขาเป็นห่วงมันเหมือนกัน ก็คงได้แต่หวังว่าเจ้า Poppy กับ Daisy จะมีคนมารับพวกมันไปเลี้ยงไวๆ พวกมันจะได้มีที่ที่เป็นของตัวเองจริงๆ แล้วมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมสักที…

ยังมีหลายพื้นที่ในโลกนี้ที่มองว่าสุนัขเป็นอาหารจึงยังมีการเปิดโรงฆ่าสุนัขอยู่ สุนัขที่ได้เข้าไปในโรงฆ่าต่างก็ต้องรอพบจุดจบของตัวเอง ทว่าเป็นโชคดีสำหรับเจ้า Noun ที่รอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด Noun เคยอาศัยอยู่กับครอบครัวในประเทศแคมโบเดีย แต่เนื่องจากเจ้าของของมันเล่นการพนันจนเป็นหนี้แล้วจ่ายไม่ไหว เจ้าหนี้ก็เลยเอาตัวมันไปเพื่อขายเป็นเงินให้กับโรงฆ่าสัตว์     แม้จะไม่เต็มใจให้เอาเจ้าหมาไป แต่เจ้าของก็ช่วยมันเองไม่ได้ เขาก็เลยติดต่อขอความช่วยเหลือจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ The Sounds of Animals ให้ไปช่วยเจ้าหมาแทน Michael Chor ซึ่งเป็นอาสาสมัครของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ก็เลยเดินทางมาจากประเทศไทยเพื่อช่วยเจ้า Noun โดยเฉพาะเลย     ทางกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ได้ระดมทุนจากผู้ที่มีจิตศรัทธา จนได้เงินพอซื้อตัวเจ้าหมาออกมาภายในเวลาเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น จากนั้น Chor จึงเป็นเอาเงินจำนวนนั้นไปซื้อและพาตัว Noun ออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ด้วยตัวของเขาเอง ตอนที่เขาไปช่วยมัน เจ้าหมาถูกมัดใส่ถุงเอาไว้เพื่อเตรียมทำเป็นอาหาร แถมมันยังถูกทำให้ฟันหักเพื่อที่จะได้ไม่ทำร้ายคนในนั้นด้วย แต่ที่คอของมันก็ยังมีปลอกคอจากเจ้าของเก่าใส่คาไว้อยู่เลย     หลังจากต้องอยู่ในโรงฆ่าสัตว์หลายวันสุขภาพของมันก็เลยไม่ดีนัก เมื่อได้ตัว Noun ออกมาแล้ว Chor ก็พาตัวมันส่งไปหาสัตวแพทย์เพื่อให้รักษาเจ้าหมาต่อทันที พอ Chor บอกครอบครัวของมันว่าเจ้าหมาปลอดภัยแล้ว ลูกสาวที่ยังเด็กอยู่ก็ร้องไห้ด้วยความดีใจใหญ่เลย พวกเธอผูกพันกับเจ้าหมามาก จึงรู้สึกโล่งใจที่มันไม่ถูกฆ่าแล้ว     ระหว่างนี้ Noun จะได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์ไปก่อนจนกว่าร่างกายของมันจะกลับมาแข็งแรง…

สำหรับสุนัขแล้วสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของพวกมันคือ การมีครอบครัวที่รักมันเหมือนลูกคนหนึ่ง และโชคร้ายที่สุดสำหรับพวกมันคือ การต้องพรากจากครอบครัว น้องหมา Remy ก็เหมือนกัน มันเป็นสุนัขที่รักเจ้าของมาก แต่แล้วก็มีความจำเป็นบางอย่างที่ทำให้มันต้องอยู่ห่างกับครอบครัวนานถึง 10 เดือน     Remy อาศัยอยู่กับ Aimee Beasley-Spadoni และภรรยาของเธอ Nancy Spadoni  แต่เมื่อ 10 เดือนก่อน Nancy ต้องไปทำงานในอัฟกานิสถาน ทำให้เธอต้องจากน้องหมาไปไกลหลายพันไมล์ อย่างไรก็ตาม เธอก็พยายามติดต่อกลับมาหามันบ่อยๆ     Beasley-Spadoni บอกว่า “เรา FaceTime คุยกับ Nancy ในช่วงเวลาที่เธออยู่ห่างไกล และฉันก็บอกเธอเสมอว่า Remy คิดถึงเธอมาก” กระทั่งสัปดาห์สุดท้ายมาถึง Nancy ได้กลับบ้าน และเมื่อ Remy รู้ มันดูตื่นเต้นมากจนไม่สามารถรอต่อไปได้ แม้เพียงเสี้ยววินาที   และนี่คือโมเมนต์ที่พวกเขาได้กลับมาเจอกันครั้งแรกในรอบ 10 เดือน   ตั้งแต่ได้เจอเจ้าของอีกครั้งในวันนั้น ความตื่นเต้นของ Remy ก็ยังไม่เคยจางหาย มันแทบจะไม่ยอมออกจากบ้าน และชอบนั่งอยู่ข้างๆ Nancy เมื่อเธออยู่ในบ้าน แถมยังมอบจูบให้เธอ ราวกับเพิ่งกลับมาเจอกันวันแรก    …

เป็นตำรวจมันไม่ง่ายเลยนะ เพราะในแต่ละวันไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรบ้าง ถ้าโชคร้าย ก็อาจจะเจอเรื่องแปลกๆ ร้ายๆ ที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว เหมือนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ Ray Schilke จาก Cape Coral Police Department ในรัฐฟลอริด้า ที่ถูกอาชญากรไล่ล่าระหว่างปฏิบัติหน้าที่     เหตุการณ์เกิดขึ้นมีเมื่อชาวบ้านเห็นหมูขี้เล่นตัวหนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะหลุดออกมาจากไหนสักแห่ง พวกเขาจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอความช่วยเหลือ     เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุการณ์ Schilke ก็พบว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ค่อนข้างตลก เพราะหมูใจกล้าตัวนั้นไม่กลัวเขาเลย แถมยังเป็นฝ่ายไล่ล่าเขาด้วย     โชคดีที่เราทุกคนได้เห็นเหตุการณ์ไล่ล่าในครั้งนี้ด้วย เพราะคุณตำรวจได้อัดคลิปขณะวิ่งหนีเจ้าหมู แถมยังมีอารมณ์ขันไปพร้อมกันด้วย ในคลิป Schilke บอกว่า “โอ้ววไม่!! หมูตัวใหญ่กำลังถูกไล่ล่าโดยหมูตัวเล็ก”     และนี่คือคลิปที่คุณตำรวจถ่ายไว้ ขณะที่ถูกอาชญากรอู๊ดๆ ไล่ล่า   ช่วงต่อมาของคลิป Schilke ได้พบกับเพื่อนบ้านในละแวกนั้น แต่พวกเขาไม่รู้จักเจ้าของหมูเหมือนกัน แถมหัวเราะกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย แต่โชคดีที่เรื่องตลกนี้จบลงด้วยความสุข เพราะหลังจากที่วิ่งต่อไปเรื่อยๆ สักพักเขาก็ได้เจอกับเจ้าของหมู ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก     Allan Kolak…

ประมาณ 5 เดือนที่แล้ว ลูกแมวที่ชื่อ Gus ถูกพาไปยัง The Poppy Foundation ที่โรงพยาบาล Bonanza Cat Hospital ในลาสเวกัส หลังมีคนพบมันอยู่บนถนนกลางอากาศที่ร้อนระอุ Danielle ผู้อุปถัมภ์ในลาสเวกัสบอกว่า “พวกเขาคิดว่ามิ้วน้อยน่าจะมีปัญหากับระบบประสาท เพราะมันพลิกหัวไปรอบๆ ฉันเคยมีประสบการณ์ดูแลแมวที่มีความต้องการพิเศษ ดังนั้น ฉันจึงอยากช่วยมัน”     หลังจากที่คุณหมอตรวจร่างกายเสร็จเรียบร้อย Danielle ก็พามันกลับบ้าน และนั่นเป็นครั้งแรกที่เจ้าเหมียวได้พบกับพ่อบุญธรรม Elu Danielle บอกว่า “Elu มักจะมีจุดอ่อนที่สัตว์เลี้ยงที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว เขาจะรู้สึกแย่มากเมื่อรู้ว่าพวกมันไม่มีเพื่อน ดังนั้น เขาจึงอยากเป็นเพื่อนเล่นให้พวกมัน”     ขณะเดียวกัน  Gus เองก็ดูรักพ่อบุญธรรมมาก มันชอบเอาตัวไปถูกับหน้าของพ่อ และทำอย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนมันกำลังเล่นกับเพื่อนคนโปรด ในช่วงสองสัปดาห์แรกของการอุปถัมภ์ Gus ต้องสวมเฝือกที่คอ เพราะร่างกายของมันไม่สามารถควบคุมหรือยกหัวของมันได้ ถ้าไม่ได้ใส่ หัวของมันก็จะตกทันที     นอกจากนี้ ตาซ้ายของมันจำเป็นต้องผ่าตัดออก เพราะมันมีแผลลึกในกระจกตา แต่ตอนนี้ ขนาดตัวของ Gus ยังเล็กเกินไปสำหรับการผ่าตัด Danielle พยามยามดูแลมันอย่างใกล้ชิด และป้อนอาหารให้…

ทาสแมวหลายคนรักแมวมากเกินกว่าที่จะเป็นแค่สัตว์เลี้ยง บางคนรักเหมือนเป็นลูกของตัวเองจริงๆ เรียกแทนเจ้าเหมียวว่าลูกรักเชียวนะ ดังนั้นพอได้มาเห็นคลิปแมวเหมียวดูดอุ๋งเท้าจ๊วบๆ เหมือนเด็กทารกของจริงแล้ว ก็เลยรู้สึกถูกใจท่าทีน่าเอ็นดูของมันมากเป็นพิเศษ   うちのカブちゃん、指吸ならぬ肉球吸いをしてるんだけど… pic.twitter.com/apqrTOJhZU — お粥さん (@_okayu) September 4, 2018   คนที่จุดกระแสแมวเหมียวดูดนิ้วมือเป็นทาสแมวจากทวิตเตอร์ชื่อว่า @_okayu เขาแชร์คลิปวิดีโอแมว Kabu ของตัวเองพร้อมแคปชั่นว่า “เจ้าเหมียวดูดนิ้วตัวเอง เหมือนเด็กทารกดูดหัวแม่มือเลยเนอะ” ท่าทีอันน่ารักของเจ้า Kabu ที่ค่อยๆ ดูดอุ้งเท้านุ่มๆ พาเอาชาวเน็ตเทใจให้มันใหญ่เลยล่ะ ตอนนี้มีทาสแมวตามมาดูคลิปเยอะจนยอดวิวทะลุ 2 ล้านวิวไปแล้ว เท่านั้นยังไม่พอนะ ทาสแมวคนอื่นที่มีแมวชอบดูดอุ้งเท้าเหมือนกันก็ร่วมเอาลูกๆ ของตัวเองมาแบ่งปันความน่ารักต่อด้วย มีให้ดูกันเพลินไม่รู้จักเบื่อเลยล่ะ   ท่าทางน่ารัก แต่หน้าดุจังเลยลูก https://twitter.com/syokokoko_m/status/1037357310253838337?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1037357310253838337%7Ctwgr%5E363937393b70726f64756374696f6e&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2018%2F09%2F14%2Fvideos-of-japanese-cats-sucking-their-own-paws-melts-the-internets-heart%25e3%2580%2590videos%25e3%2580%2591%2F   ดูดม๊วฟๆ เพลินเชียว うちだけじゃなかった！ pic.twitter.com/lVzNWRvzgl — 琴音 (@adam_soyun) September 5, 2018   ดูดนิ้วฟินมากจนต้องใช้อีกมือแหวกอากาศไปด้วย うちの子は親肉球しゃぶりますよ🐱 pic.twitter.com/G9XtqunJPK — アンディと呼ばれてます (@andersonkai1)…

หมาไม่ได้เกิดมามีชีวิตที่เพียบพร้อมทุกตัว บางตัวเกิดมาต้องสู้ชีวิตและผ่านอุปสรรคมากมาย แต่พวกมันก็ไม่ได้ลำบากไปทั้งชีวิตหรอก บางตัวก็พบความสุขหลังผ่านความลำบากมาเช่นกัน เจ้า Maria เป็นสุนัขดัชชุนด์จรจัดที่อาสาสมัครจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Friends Of Emma Medical Rescue ไปเจอเข้า นอกจากจะท้องแก่มากแล้วมันยังเป็นอัมพาตด้วย     สาเหตุที่มันเป็นอัมพาตนั้นเกิดจากการที่เจ้าของเก่าใช้มันเป็นแม่พันธุ์ผลิตลูกหมาขาย แต่ไม่ได้ดูแลมันให้ดี พอต้องแบกท้องหนักๆ ด้วยขาที่เล็กมันก็เลยเป็นอัมพาตในที่สุด ครั้งนี้ดูเหมือน Maria จะไม่สามารถคลอดเองได้และจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อเอาลูกออกมาอย่างปลอดภัย ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก เจ้าของที่จะขายลูกหมาเอาเงินก็เลยทิ้งมันทั้งๆ ที่มันป่วย     แต่เมื่อได้มาเจอกับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์แล้ว พวกเขาย่อมไม่ปล่อยให้มันลำบากอีกต่อไป พวกเขาระดมเงินทุนเพื่อช่วยให้มันคลอดลูกได้อย่างปลอดภัย ความช่วยเหลือทั้งหมดจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ทำให้ลูกทั้ง 7 ตัวของ Maria ลืมตาดูโลกครบทุกตัว ทั้งยังมีคนช่วยป้อนน้ำป้อนข้าวให้ตัวเองกับลูกอีกด้วย   ตอนช่วยมาใหม่ๆ ท้องใหญ่จนถ้ามันคลอดตอนนั้นก็ไม่แปลกใจเลย   มีคนช่วยเอาไว้ก็เลยคลอดลูกได้อย่างปลอดภัย   นอกจากจะช่วยให้มันคลอดลูกแล้ว หลังจากนั้นพวกเขาก็หาทางช่วยรักษาอาการอัมพาตของมันอีกต่างหาก ถึงจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พวกเขาก็ช่วยมันอย่างเต็มที่ ใช้เวลารักษาเพียงไม่กี่เดือน Maria ก็กลับมาเดินได้เป็นปกติอีกครั้ง แถมยังมีคนมารับไปอยู่บ้านแล้วด้วย ต่อไปเจ้าหมาก็จะได้ใช้ชีวิตเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีแต่คนรักเสียที ไม่ต้องทนลำบากอีกต่อไปแล้ว     เรื่องราวของ Maria…

เมื่อพูดถึงสุนัขตำรวจ เราคงจะนึกถึงพันธุ์หมาที่ดูน่ากลัวหรือตัวใหญ่ อย่างเช่น เยอรมันเชพเพิร์ด หรือพิตบูลล์ อะไรประมาณนี้ นอกจากรูปร่างแล้วที่ดูน่าเกรงขามแล้ว พวกมันยังผ่านการฝึกมาอย่างดี เพื่อปกป้องประชาชน และรับมือกับผู้ร้ายในสถานการณ์ต่างๆ     แต่เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อว่า @AKILA1113 ได้พบกับสุนัขตำรวจตัวหนึ่ง ซึ่งไม่เหมือนกับภาพที่เราคิดไว้เลย เขาได้อัปโหลดภาพน้องหมาตัวดังกล่าวพร้อมแคปชั่นว่า “ตำรวจกำลังพาสุนัขตำรวจผู้น่ารักเดินสำรวจความเรียบร้อย”      ชายเน็ตจำนวนมากเห็นตรงกันว่า พวกเขาไม่เคยเห็นสุนัขตำรวจที่น่ารักแบบนี้มาก่อน เพราะหมาตำตรวจที่ว่านี้เป็นหมาพันธุ์ชิบะ อินุ ไม่รู้ว่าตำรวจญี่ปุ่นคิดยังไงถึงเอาสุนัขที่น่ารักมาเป็นผู้ช่วย หรืออาจจะเป็นเพราะมันเป็นสัญลักษณ์ประจำประเทศ พวกเขาเลยจับมันมาฝึก?   ยืนจนเมื่อยแล้วอะ มาเล่นกันเถอะ คุณตำรวจ   แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้ว คุณลองดูเจ้าสุนัขชิบะตำรวจตัวนี้สิ มันกำลังเล่นลอดระหว่างขาคุณตำรวจ ดูไม่มีความน่ากลัวเลย เหมือนมันไม่ได้ถูกฝึกมาทางด้านนี้อะ เอ๊ะ หรือมันอาจจะเป็นหมาหลงทางที่เจ้าหน้าที่ช่วยไว้ และกำลังตามหาเจ้าของของมัน?   เห้ย เจ้าหมา ทำตัวให้มันน่ากลัวหน่อยดิ   อย่างไรก็ตาม หน้าตาที่น่ารัก กับนิสัยที่ขี้เล่นของหมาพันธุ์นี้ มันก็บอกไม่ได้หรอกนะว่าพวกมันเป็นสุนัขตำรวจไม่ได้ บางทีมันอาจจะได้รับการฝึกมาอย่างดี แต่แค่ยังละลายพฤติกรรมบ๊องๆ ไม่ได้เท่านั้นเอง   เห็นแบ๊วๆ…

สุนัขแต่ละสายพันธุ์ย่อมมีความโดดเด่นและความน่ารักที่แตกต่าง ทั้งนิสัยและรูปลักษณ์ หนึ่งในนั้นคือคอร์กี้ สุนัขโหลดเตี้ยที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูน่ารักไปซะหมด และนี่คือเหล่าคอร์กี้ สุนัขขาสั้นที่มาพร้อมกับความน่ารักเกินจะต้านทานไหว ขนาดอยู่เฉยๆ ยังน่ารักเลย ใครที่มีหมาพันธุ์นี้อยู่ในบ้าน คงจะฟินน่าดู   1. นี่คือ Cooper ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเปิดถุงขนม มันจะตามหาและขอกินด้วย   2. ถ้าจะคุยกับ Billy ต้องนั่งคุยอย่างเป็นทางการนะ   3. น่ารักจนจะหม่ำกันเอง   4. อยู่หลังแล้วไง เด่นกว่าแล้วกัน   5. แฉกความสดใสมาเยอะละ ขอพักบ้างเถอะ… สาจ๋า เอากาแฟมาให้ที   6. ในขณะที่คอร์กี้ตัวอื่นกำลังดูลูกบอล แต่ Edison เลือกที่จะแตกต่าง   7. ในที่สุดก็จบสักที มาเพื่อนๆ มาถ่ายรูปกับเค้าหน่อย   8. เทพเจ้าธอร์กี้มาแล้ววววว   9. Cotton ไม่ใช่แค่ชอบพิชซ่า แต่มันรักพิชซ่ามาก ถ้าคิดจะกินต่อหน้ามัน ต้องแบ่งมันด้วย   10.…

การที่สัตว์เลี้ยงวิ่งเล่น หรือเข้ามารบกวนกลางดึก คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับคนที่มีสัตว์เลี้ยง เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นกับหญิงคนหนึ่งใน Bixby รัฐโอคลาโฮมา เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่่ผ่านมา ขณะที่ Bonnie Moriarty นอนหลับอยู่ในห้อง อยู่ก็มีเสียงดังแปลกๆ จนเธอต้องตื่นมากลางดึก     ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตี 4 แน่นอนว่าข้างนอกยังมืดอยู่ จู่ๆ สัตว์สองตัวก็วิ่งเข้ามาในห้องนอน หนึ่งในนั้นคือแมวของเธอเอง และอีกตัวก็คงเป็นสุนัขของเธอเองเหมือนกัน Moriarty คิดว่าหมากับแมวกำลังเล่นต่อสู้กันเหมือนปกติ แต่ปรากฏว่า สุนัขของเธอเดินเข้ามาทีหลัง และเริ่มเห่าสุนัขที่หมอบอยู่ที่มุมห้อง     เมื่อเปิดไฟดูก็พบว่ามันเป็นมาป่า เธอจึงกรีดร้องด้วยความตกใจ…ช่วงเวลานั้นสามีของเธอไปทำงานนอกเมือง ส่วนลูกๆ กำลังหลับอยู่ในห้อง เสียงร้องของแม่ทำให้ลูกๆ ตื่นและวิ่งมาดูเธอ จากนั้นทั้งลูกและแม่ก็ตัดสินใจขังหมาป่าไว้ในห้อง แล้วโทรเรียกตำรวจท้องถิ่นทันที     Moriarty เชื่อว่าหมาป่าน่าจะเข้ามาทางประตูหลังบ้าน ซึ่งไม่ได้ปิดไว้ เธอบอกว่า “มันคงจะพุ่งใส่ประตู จนประตูเปิด แล้วมันก็เข้ามาข้างในอย่างที่เห็น” เมื่อตำรวจมาถึง พวกเขาก็จับหมาได้สำเร็จและพามันออกไปข้างนอก โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทั้งเด็กๆ และสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงตัวคุณแม่เอง     ส่วนผู้บุกรุก หลังจากถูกจับออกไปข้างนอก มันก็วิ่งกลับเข้าป่าไป ทำให้ทุกคนโล่งใจ…

ถึงจะรู้ว่าเราไม่ควรจะเข้าไปยุ่งกับวิถีทางธรรมชาติ แต่ในเมื่อเห็นเจ้าแมวถูกงูเหลือมรัดอยู่ต่อหน้าต่อตา จะให้นั่งเฉยๆ ดูมันถูกรัดจนตายไปก็คงไม่ใช่ที คนใจดีเลยขอเข้าช่วย การช่วยเจ้าเหมียวตัวนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นที่ไหนไกลเลย เกิดในจังหวัดกรุงเทพฯ บ้านเรานี่เอง โดยคนที่เข้าไปช่วยเจ้าแมวเอาไว้ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือไม่ก็กู้ภัย     พวกเขาคงจะเห็นว่างูเหลือมไม่มีพิษ ก็เลยเข้าไปช่วยแกะตัวมันออกจากเจ้าแมวโดยใช้มือเปล่าๆ เลย แต่ถึงจะรู้ว่ามันไม่มีพิษ การเข้าไปงัดกับงูก็ต้องใช้ความกล้าพอสมควรเลยล่ะ งูเหลือมเองก็ไม่ยอมง่ายๆ เหมือนกันนะ เห็นมีคนมาช่วยมันก็ยิ่งรัดเจ้าแมวแน่นขึ้น คนที่มาช่วยมันก็เลยสู้แรงมันคนเดียวไม่ไหว ต้องขอแรงจากคนข้างๆ มาช่วยเพิ่มอีก     พอมีคนช่วยดึงทางหางเอาไว้ให้ พี่เขาก็เลยแกะงูออกมาจากตัวเจ้าแมวได้ง่ายขึ้น แกะอยู่ไม่นานเจ้าแมวก็เป็นอิสระจากการถูกรัดแล้ว     เรื่องนี้เกือบจะไม่มีคนเจ็บอยู่แล้วเชียว เพราะงูไม่ได้กัดหรือรัดคนที่มาช่วยเลย แต่สุดท้ายก็ต้องเจ็บตัวเพราะว่าเจ้าแมวเนี่ยแหละ พอหลุดออกมาได้ก็ข่วนคนช่วยซะอย่างงั้น ไม่รู้นะว่ามันข่วนคนที่ช่วยเพราะกำลังตกใจ หรือว่าไม่พอใจที่เขาไปแตะตัวมันโดยไม่ได้รับอนุญาตกันแน่ แต่ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลย     ยังไงก็เถอะเจ้าแมวก็รอดออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว ส่วนพี่คนที่ช่วยถึงจะโดนข่วนแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรมันหรอก แค่ตกใจเท่านั้นเอง แมวก็ปลอดภัย คนก็สบายใจ ถือว่าทุกอย่างได้จบลงด้วยดี      ที่มา: Unilad

แมวเหมียวป่วยเป็นมะเร็ง มันคงจะมีโอกาสรอดไม่มากหากไม่ได้รับการรักษาที่ดีพอ ทาสก็เลยขับรถออกเดินทางไกลไปเพื่อให้มันได้พบกับหมอที่ดีที่สุด จนมั่นใจว่ามันแข็งแรงและปลอดภัย     Crystal รับ Baba G. มาเลี้ยงตอนที่เธอและสามีอยู่ในรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา มันถูกเจ้าของเก่าทิ้งและเธอก็ยินดีให้มันมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวด้วย เจ้า Baba G. คงจะรู้ซึ้งในบุญคุณของทาส มันก็เลยทำตัวเป็นแมวที่น่ารักเรียบร้อย มอบความสุขให้กับทาสทุกวัน ทั้งยังไม่เคยทะเลาะกับหมาที่พวกเขาเลี้ยงไว้ก่อนหน้าตัวเองด้วย     ชีวิตของเธอและเจ้าแมวสงบสุขดีจนเมื่อพวกเธอย้ายมาอยู่ในบ้านใหม่ที่รัฐวอชิงตัน ตอนนั้นสัตวแพทย์ตรวจเจอมะเร็งในตัวของมัน ทำให้ Crystal เป็นกังวลมาก สัตวแพทย์แนะนำว่าเธอควรจะพามันไปรักษาที่ศูนย์รักษามะเร็งสัตว์ Flint Animal Cancer Center ที่มหาวิทยาลัยในรัฐโคโลราโด เพราะพวกเขาเชี่ยวชาญเรื่องนี้มากที่สุด     ถึงแม้ว่าจะต้องขับรถไปไกลกว่า 1,300 ไมล์ (ประมาณ 2,200 กิโลเมตร) Crystal ก็ไม่ลังเลเลยสักนิด เธอพร้อมที่จะพามันเดินทางไกลไปเพื่อรับการรักษาที่ดีที่สุด โชคดีที่เมื่อเธอไปถึงศูนย์รักษามะเร็งสัตว์แล้ว พวกเขามีทุนค่ารักษาจากองค์กรที่สนับสนุนที่นั่นอยู่ด้วย ทำให้เธอหายห่วงเรื่องค่ารักษาไปได้ แล้วไปโฟกัสกับอาการของเจ้า Baba G. อย่างเต็มที่     หลังจากที่รักษาตัวอยู่…

มีหลายคนที่เริ่มต้นชีวิตได้ไม่ดีนัก บ้างเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน บ้างเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่มบูรณ์ หรืออาจจะเหมือนกับ Bobga ที่เกิดมาโดยไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตของพวกเขาจะไม่มีความสุข     ลูกกอริลลา Bobga ถูกเจออยู่ในกรงไม้ตามลำพัง คนที่เจอมันรู้ทันทีว่าพ่อกับแม่ของพวกมันคงไม่อยู่แล้ว เพราะปกติแม่กอริลล่าจะหวงลูกมาก ไม่มีทางปล่อยให้ลูกอยู่ห่างจากตัวเองแบบนี้หรอก ดังนั้นพ่อแม่ของ Bobga คงจะถูกคนลักลอบค้าสัตว์ฆ่าตายไปแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงจะขโมยลูกกอริลล่ามาจากพ่อแม่ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหน Bobga ก็ไม่มีทางจะได้พบกับพ่อแม่อีก     หลังจากที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ป่า Limbe Wildlif Center ไปเจอมัน พวกเขาก็ช่วยเอามันมาดูแลให้เอง โดยหวังว่าพอมันโตแล้วจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตในป่าเองได้ แต่ก่อนหน้านั้นก็เป็นหน้าที่ของพวกเขาที่ต้องเลี้ยงมันจนแข็งแรง และสอนให้มันใช้ชีวิตด้วยเนื่องจากมันถูกแยกจากแม่โดยที่ไม่ทันได้เรียนรู้อะไรเลย     ถึงจะไม่มีพ่อแม่คอยสอน แต่คนดูแลของมันก็ใส่ใจมันไม่ต่างจากพ่อแม่แท้ๆ เลย จึงอาจพูดได้ว่าชีวิตของ Bobga ยังโชคดีอยู่บ้างที่ได้เจอคนช่วยแบบนี้ พวกเขาสอนให้มันรู้จักความเป็นมิตร การอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ การดูแลความสะอาดตัวเอง และการเล่นสนุกโดยการวิ่งเล่นและปีนป่ายด้วย ทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่มันควรจะรู้เพื่อเอาตัวรอดตอนกลับไปอยู่ในป่านั่นแหละ     นอกจากเรื่องพวกนั้นแล้วสิ่งที่คนดูแลไม่เคยลืมที่จะมอบให้ Bobga เลยก็คือความรัก พวกมเขาดูแลมันดีเหมือนลูกแท้ๆ ลูกกอริลล่าก็เลยได้รับความอบอุ่นแม้จะไม่มีพ่อแม่ นอกจากเวลาที่อยู่เป็นเพื่อนเล่นกัน มันก็มักจะนอนกอดกับคนดูแลอยู่เสมอ โดยที่เขายินดีให้มันกอดเพื่อแบ่งปันความอบอุ่นไปแบบเต็มที่เลย    …

เราเคยได้ยินเรื่องในทำนองว่าสัตว์ช่วยเพื่อนสัตว์ด้วยกันให้พ้นจากความลำบากมาเยอะแล้วก็จริง แต่ก็ไม่เคยนึกว่าเลยว่าสัตว์ตัวเล็กๆ อย่างกระต่ายจะช่วยสัตว์อื่นกับเขาได้ด้วย โดยทั่วไปแล้วเรามักจะเห็นกระต่ายโดดไปโดดมา กินข้าว และนอนไปวันๆ เท่านั้นเอง ถ้าหากว่าไม่ได้เห็นคลิปวิดีโอนี้กับตาตัวเองก็คงไม่เชื่อหรอกว่ามันมีความเป็นนักกู้ภัยอยู่ในตัวเหมือนกัน     ในคลิปวิดีโอที่ vgr1 โพสต์ลงในเว็บไซต์ Reddit เราจะเห็นเจ้ากระต่ายตัวหนึ่งกำลังเริ่มขุดดินอยู่ข้างๆ รั้วสังกะสีเหมือนกำลังเล่นซนอะไรสักอย่าง แต่เมื่อดูไปสักพักแล้วเราจะเห็นว่ามีแมวติดอยู่ในนั้น แล้วมันก็พยายามยื่นขาออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือให้คนพาตัวเองออกไป     เจ้ากระต่ายก็เลยใช้ความชำนาญเฉพาะตัวของมันช่วยขุดดินที่อยู่รอบๆ ออกจนเกิดช่องว่างพอจะให้แมวเหมียวลอดออกมาข้างนอกได้อย่างปลอดภัย มีอยู่หลายครั้งที่มันหยุดขุดดินเพื่อดูว่าเจ้าแมวจะออกมาได้รึเปล่า แล้วถ้าเจ้าเหมียวยื่นแขนออกมาเป็นสัญญาณว่ายังออกไปไม่ได้อีก มันก็จะขุดต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าช่องจะใหญ่มากพอ     ท้ายที่สุดเจ้าแมวก็เลยออกมาข้างนอกได้อย่างปลอดภัย   พอแมวออกมาด้านนอกรั้วได้แล้ว เจ้ากระต่ายก็ไม่ขุดต่อแล้วเดินไปนอนพักอยู่ใกล้ๆ แสดงให้เห็นว่ามันไม่ได้ขุดหลุมนั้นเพื่อความสนุกหรือความบังเอิญเลย มันตั้งใจแค่จะช่วยแมวออกมาจริงๆ อันที่จริงแล้วกระต่ายก็เป็นสัตว์ที่แสนรู้พอตัวเลยล่ะ เราสามารถฝึกนิสัยและให้มันเรียนรู้ลูกเล่นหลายๆ อย่างได้ อย่างเช่นเลี้ยงไว้ในบ้านแล้วฝึกให้มันถ่ายเป็นที่เป็นทาง อย่างไรก็ตามถ้าเราเลี้ยงมันให้อยู่แต่ในกรงก็จะไม่ได้เห็นมุมที่แสนรู้เหล่านี้เลย ใครที่มีกระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงก็ลองปล่อยมันวิ่งเล่นในที่กว้างๆ ดูบ้างนะ อาจจะได้เห็นมันในมุมที่ซุกซนและแสนรู้มากขึ้น   คลิกดูคลิป ที่นี่ ว่ากระต่ายช่วยแมวออกมาได้ยังไง   ที่มา: vgr1

ถ้าจะให้พูดถึงความแตกต่างอย่างหนึ่งระหว่างคนและสัตว์ ก็คงเป็นเรื่องการแสดงออกถึงอารมณ์นี่แหละ คนเราหลายคนแสดงออกไม่ตรงกับความรู้สึกข้างในจริงๆ ใจขณะที่พวกสัตว์รู้สึกอะไรก็แสดงออกมาแบบนั้นตรงๆ เลย ด้วยเหตุนี้บางทีพออยู่กับสัตว์เราเลยรู้สึกสบายใจมากๆ ไม่ต้องมานั่งเดาหรือคิดให้เสียเวลาว่าลึกๆ แล้วมันกำลังคิดอะไรอยู่ แค่มองดูหน้าหรือท่าทางของมันเราก็รู้แล้ว นอกจากนี้ไม่ว่าพวกมันจะมีท่าทางดีใจ เศร้า หน้ามุ่ยหรืออะไรก็ก็ตาม พอเห็นสัตว์พวกนี้แล้วก็ทำให้เรายิ้มได้ทั้งนั้นแหละ   หลังออกกำลังกายหนักๆ ก็ต้องเหนื่อย (มาก) เป็นธรรมดา   พี่แกเหม่อลอยคิดถึงอะไรอยู่เนี่ย   อิจฉาน้องที่ได้แช่น้ำแน่ๆ https://i.imgur.com/PPcmqae.mp4   ไม่ได้ทำจริงๆ เหรอ ดูมีพิรุธจัง   แฟนบังคับให้ถ่ายรูปคู่อีกแล้ว   ไม่เคาะประตูแล้วยังทำหน้าตกใจใส่อีก เสียมารยาทจริงๆ   จำวันผิด นึกว่าวันเสาร์แล้ว ยังวันศุกร์อยู่เลย https://i.imgur.com/tXiDH8C.mp4   มนุษย์อย่ามายังคับกันถ่ายรูปสิ   ขอนอนต่ออีกหน่อยได้ป่าว   อย่าไปเลยนะ เก๊าไม่มีเพื่อนเล่นด้วย   เจ้ามนุษย์ปล่อยข้าสิโว้ย   คงไม่ต้องถามนะว่าสนุกไหม   ได้นอนอยู่บ้านเฉยๆ ก็มีความสุขแล้ว   ทำหน้าแบบนี้มันต้องมาอ้อนขออะไรสักอย่าง   เหนื่อยแล้วแต่ยังอยากเล่นต่อใช่ม้า…

ในงานแสดงสุนัขคงจะเต็มไปด้วยเหล่าเจ้าตูบมากมายหลากหลายสายพันธุ์ที่เจ้าของพามา แน่นอนว่าที่แบบนี้ เจ้าเหมียวในฐานะคู่กัดของหมาคงไม่ได้รับเชิญให้เข้ามาแน่ๆ เดี๋ยวจะวุ่นวายเอาได้ แต่นั่นคงจะไม่ใช่สำหรับเจ้าเหมียว Boomer เพราะนอกจากมันจะเข้าไปในงานแสดงสุนัขแล้ว มันยังเดินทักทายเจ้าตูบกว่า 50 ตัวแหน่     Boomer เป็นแมวพันธุ์เบงกอล มันได้รับการฝึกมาอย่างดีจากครูฝึกมืออาชีพ จนสามารถเดินเล่นพร้อมสายจูงได้อย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญ มันเป็นมิตรกับสัตว์ทุกตัวรวมไปถึงสุนัขด้วย ดังนั้น เมื่อรู้ว่ามีงานแสดงสุนัข เจ้าเหมียวจึงตัดสินใจเข้าไปเดินทอดน่องท่ามกลางฝูงหมา เพื่อทักทายเพื่อนๆ ต่างสายพันธุ์ แต่หารู้ไม่ว่า ตั้งแต่มันก้าวเท้าเข้ามาในงาน ทุกคนก็พุ่งความสนใจไปที่มันเพียงตัวเดียว     ปกติเวลาเดินเล่น Boomer มักจะทักทายสุนัขที่เจออยู่แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มันได้ทักทายเพื่อนๆ หมากว่า 50 ตัวในหนึ่งวัน     เฮ้เพื่อน หวัดดี งานพวกนายน่าตื่นเต้นดีนะ   แค่จะมาทักทาย ไม่ได้อยากแซ่งซีนหรอก   แม้แต่หมาตัวใหญ่ มันก็ไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด   ไงไอ่หนู เอาอะไรมาโชว์ในงานนี้บ้าง?   แม่ สะกิดพี่เหมียวให้หน่อยสิ หนูอยากถ่ายรูปกับพี่เค้าอะ   เล่นกัดเชือกมันสนุกยังไง…

ในเรื่องของความรัก ถ้าอยากให้ฝ่ายตรงข้ามสนใจเราก็ต้องเป็นฝ่ายเข้าหาเองบ้าง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรสิงโตหนุ่มถึงได้เมินเฉยฝ่ายสาวทั้งที่เธอเรียกร้องความสนใจทุกวิถีทางขนาดนี้ ถึง #เหมียวอาตี๋ จะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านความรัก แต่คิดว่าคลิปวิดีโอของสิงโตคู่นี้น่าจะทำให้เราเห็นภาพรวมของความพยายามในการเรียกร้องความสนใจระหว่างคู่รักได้ดีทีเดียว   เข้ามาให้เห็นเต็มๆ ตาแล้วยังเบือนหน้าหนีอีกเหรอ   ในคลิปวิดีโอสิงโตสาวพยายามจะทำให้สิงโตหนุ่มสนใจตัวเอง ตอนแรกเธอก็แค่เดินอยู่รอบๆ ฝ่ายหนุ่มแบบพองาม แต่เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผล เธอก็เลยไปนอนบังด้านหน้าซะเลย ทีนี้จะได้เห็นเธอเต็มสองตาสักที แต่สิงโตหนุ่มก็ยังไม่สนใจเธออีก คราวนี้เธอเลยใช้ความพยายามมากกว่าเดิม โดยการขึ้นไปนั่งทับบนตัวสิงโตหนุ่มซะเลย ถ้าเจอแบบนี้ยังไม่สนใจอีกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว   อ่อยธรรมดาไม่ได้ผลงั้นนอนทับเลยละกัน   แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าสิงโตสาวอ่อยอ้อมๆ ก็แล้ว เข้าหาตรงๆ ก็แล้ว ทำถึงขนาดนี้เธอก็ยังไม่ได้รับความสนใจจากฝ่ายชายอยู่ดี…แถมพอรุกหนักเข้าฝ่ายชายก็เดินหนีไปซะอย่างนั้น   นี่นอนทับแล้วนะ แคร์กันบ้างสิ   ไม่สนใจไม่พอ พี่แกหลับหนีซะงั้น!?   ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทั้ง 2 ตัวมีโกรธอะไรกันมาก่อนหน้านี้รึเปล่า หรือว่าสิงโตสาวไม่ใช่สเป็กของสิงโตหนุ่มมันก็เลยเมินเธอเหมือนเป็นอากาศธาตุเลยทีเดียว สิ่งที่เราพอมั่นใจได้ก็คือสิงโตสาวเรียกร้องความสนใจจนสุดกำลังแล้ว เธอทำดีที่สุดแล้วล่ะ ถ้าอ่อยต่อไปแล้วฝ่ายชายยังไม่เห็นค่าเธออีก ลองไปหาคู่ตัวใหม่อาจจะดีกว่านะ      เรื่องความรักมันเข้าใจยากจริงๆ ที่มา: Unilad, Lad Bible

แมวเป็นสัตว์ที่ชอบออกไปสำรวจพื้นที่นอกบ้าน แต่ทาสจะตามใจปล่อยมันไปข้างนอกทั้งๆ ที่รู้ว่าอันตรายก็ไม่ได้ เขาก็เลยมีวิธีแก้ปัญหาด้วยการสร้าง ‘บ้านต้นไม้แมว’ ขึ้นมาด้วยมือของตัวเอง ครอบครัว Brooks-Joiner เป็นครอบครัวทาสแมวที่มีแมวอยู่ 3 ตัวซึ่งก็คือพี่ Luna อายุ 16 ขวบ และน้อง Daisy กับ Marvel ที่อายุ 4 ขวบทั้งคู่     คนในครอบครัวรู้ว่าแมวทั้ง 3 ตัวอยากจะออกไปข้างนอกบ้านบ้าง แต่พวกเขาก็ไม่กล้าปล่อยมันออกไป เนื่องจากแถวนั้นมีรถผ่านไปมามากมาย แถมอีกด้านก็มีสัตว์ป่าอื่นๆ ที่อาจทำร้ายมันด้วย คุณพ่อก็เลยคิดวิธีแก้ปัญหาเสียใหม่โดยทำบ้านต้นไม้แมว หรือก็คือพื้นที่ที่เชื่อมไปข้างนอกบ้านให้พวกมันเดินเล่นและอาบแดด โดยที่มีรั้วตาข่ายปกป้องพวกมันจากอันตรายเอาไว้นั่นเอง     Hadley ลูกสาววัย 21 ปีของบ้านนี้บอกว่า “คุณพ่อสร้างมันเองกับมือทั้งหมด ส่วนเรื่องที่สร้างไว้ให้มีความปลอดภัยนั้น นอกจากจะป้องกันแมวของเราจากอันตรายแล้ว ก็ป้องกันไม่ให้พวกมันทำร้ายสัตว์เล็กอื่นๆ ด้วย พวกเราอาศัยอยู่ในย่านชานเมืองที่มีรถผ่านไปมามากขึ้นทุกปี แต่ก็ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากพอที่จะมีจิ้งจอกและหมาป่าที่อาจทำร้ายแมวของเราได้” ซึ่งก็เป็นเหตุผลหลักๆ ของการสร้างบ้านต้นไม้ให้เป็นแบบนี้นี่เอง     ถึงบ้านต้นไม้แมวจะใช้เวลาสร้างนาน แต่ก็คุ้มค่ามากเพราะพวกแมวชอบมันมากๆ เลยล่ะ Hadley เล่าว่า “ครั้งแรกที่เราให้พวกมันเข้าไป Daisy…

เมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ในโรมาเนีย Howl of a Dog ได้รับแจ้งเกี่ยวกับสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง ที่เร่ร่อนอยู่บริเวณรางรถไฟ หากสุนัขตัวดังกล่าวกำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะมันอาจจะถูกรถไฟชนได้ทุกเมื่อ ดังนั้น จำเป็นที่จะต้องมีคนเข้าไปช่วยเหลือโดยด่วน     เจ้าหน้าที่จากกลุ่มช่วยเหลือจึงรีบไปหามันทันที เมื่อไปถึง พวกเขาเห็นหมาตัวสีขาว มันดูหวาดกลัวผู้คนมากและวิ่งหนีคนที่จะมาช่วยมัน อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยเหลือยังไม่ยอมแพ้ที่จะช่วยมัน ขณะเดียวกัน พวกเขาไม่อยากทำให้มันตกใจ เลยเดินตามมันช้าๆ และคอยดูให้แน่ใจว่าทางที่มันเดินไปนั้น อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย     หลังจากนั้นสักพัก เจ้าหน้าที่ก็เอาอาหารออกมา เพื่อล่อให้มันมาหา และด้วยความหิวโหย เจ้าหมาจึงรวบรวมความกล้าและเดินมาหาเจ้าหน้าที่     ขณะที่มันเดินมา เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง เพราะมันเดินกะโผลกกะเผลก นอกจากนี้ ยังมีแผลใกล้กับตาซ้ายของมันด้วย หลังจากทำให้สุนัขไว้ใจได้ พวกเขาก็เอาเชือกคล้องคอมัน และพามันไปหาสัตวแพทย์ทันที     เมื่อตรวจร่างกายเสร็จเรียบร้อย คุณหมอแจ้งว่าตาซ้ายของมันบอด และโชคดีที่ตาขวาของมันยังสามารถมองเห็นได้ปกติ แต่ที่ทำให้ทุกคนตกใจคือ มันมีไมโครชิปฟังอยู่ในตัว จึงคาดเดาว่ามันน่าจะหลงทาง เจ้าหน้าที่จึงติดต่อไปยังเจ้าของ และคิดว่าพวกเขาต้องตื่นเต้นมากแน่ๆ ถ้ารู้ว่ามีคนเจอสุนัขของพวกเขา    …

การสูญเสียอาวัยวะ อาจทำให้หลายคนท้อและหมดหวังในชีวิต ในขณะที่บางคนสามารถก้าวผ่านความสูญเสียได้ด้วยความรัก รวมไปถึงเจ้าเหมียวหูขาดตัวนี้ นี่คือลูกแมวตัวขาวดำวัย 3 เดือน มันถูกพาเข้ามาศูนย์พักพิง Humane Society Silicon Valley ในสภาพที่หางและหูทั้ง 2 ข้างขาด ดังนั้น พนักงานในศูนย์พักพิงและอาสาสมัครจึงตั้งใจจะเติมเต็มมันด้วยความรัก เพื่อทำให้มันไม่รู้สึกขาดอะไรและกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง     ลูกแมวตัวนี้มีชื่อว่า Karma มันถูกพบตอนเป็นแมวจรจัดและถูกมายังศูนย์พักพิงท้องถิ่นในเวลาต่อมา หูและหางของมันถูกตัดตั้งแต่ก่อนได้รับการช่วยเหลือแล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มันหวาดกลัวและไม่ไว้ใจมนุษย์ ทางศูนย์พักพิงดังกล่าวจึงขอความช่วยเหลือจาก Humane Society Silicon Valley อีกที เพื่อให้รับมันไปดูแลและให้การช่วยเหลือที่จำเป็น     เมื่อ Karma มาถึงศูนย์พักพิงของ Humane Society Silicon Valley มันก็ได้สัมผัสถึงความใส่ใจในแบบที่มันไม่คาดคิดมาก่อน นอกจากนี้ พวกเขายังมอบความรักให้เพื่อช่วยให้มันกลับมาไว้ใจมนุษย์อีกครั้ง Michelle Nicholson นักประชาสัมพันธ์ของศูนย์พักพิงบอกว่า “บาดแผลตามร่างกายของมันได้รับการเยียวยาจนหายเป็นปกติ แต่มันยังคงหวาดกลัวทุกอย่าง โดยเฉพาะมนุษย์”     นอกจากนี้ พวกเขายังหาบ้านอุปถัมภ์ให้มันได้โดยใช้เวลาไม่นาน ทำหน้าให้เจ้าเหมียวมีผู้ดูแลที่จะคอยช่วยทำให้ความไว้วางใจของมันกลับคืนมาอีกครั้ง Carla Berti อาสาสมัครของศูนย์พักพิง ได้ทราบเกี่ยวกับชะตากรรมของ Karma…

เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ Özgür Nevres นักปั่นจักรยานจากประเทศตุรกี อยู่ระหว่างการฝึกซ้อม ระหว่างทาง เขาเห็นลูกแมวถูกทิ้งตัวหนึ่ง มิ้วน้อยกำลังร้องขอความช่วยเหลือ Nevres จึงรีบเข้าไปหามันทันที… ตอนนั้น เส้นทางในการปั่นจักรยานที่วางแผนไว้คือ ไปสนามบิน จากนั้นก็กลับไปที่มหาวิทยาลัย Bosphorus University ซึ่งเป็นที่ทำงานของเขา     Nevres บอกว่า “เมื่อผมมาถึงสนามบิน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 50 กิโลเมตร ผมได้หยุดถ่ายรูปที่ลานเครื่องบิน ตอนนั้นเอง ผมได้ยินเสียงแมวร้อง และเดินตามหามัน” ส่วนตัว Nevres นั้น เขามีสัตว์เป็นจุดอ่อน เมื่อเห็นสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ เขาไม่สามารถมองข้ามมันไปได้ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาเดินตามหาแมวเจ้าของเสียง จนไปเจอลูกแมวตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง     ลูกแมวตัวนั้น อายุประมาณ 4 สัปดาห์ มันกำลังหิวมากๆ แน่นอนว่า Nevres ไม่สามารถทิ้งมันไว้ที่นั่นได้ เขาจึงตัดสินใจพามันกลับไปที่มหาวิทยาลัย Bosphorus University ตอนแรกเขากังวลว่าลูกแมวจะพยายามหนี เมื่อเขาเดินเข้าใกล้ แต่ปรากฏว่ามิ้วน้อยยอมให้เขาเดินเข้ามาใกล้ โดยไม่รู้สึกกลัวเลย อาจจะเป็นเพราะที่นั่นไม่มีน้ำหรืออาหาร…

เมื่อฤดูหนาวปีที่ผ่านมา เจ้าเหมียวที่ชื่อ Gus ถูกพาไปยังศูนย์พักพิงในรัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากดวงตาติดเชื้อ จากนั้น Stefan Hochstatter กับภรรยาได้เสนอตัวเป็นพ่อแม่บุญธรรมให้มัน แต่พวกเขารู้ว่า Gus ก็มีแผนจัดการชีวิตตัวเองไว้แล้วเหมือนกัน     Gus ได้รับการช่วยเหลือโดย Wisconsin Humane Society หลังจากเจ้าของที่เป็นคนชราไม่สามารถดูแลมันได้อีกต่อไป ตาของมันข้างหนึ่งติดเชื้ออย่างรุนแรงและไม่สามารถรักษาได้ Stefan บอกว่า “เจ้าเหมียวจำเป็นต้องมีครอบครัวอุปถัมภ์เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ ในช่วงที่มันพักฟื้นหลังจากผ่าตัดดวงตาที่ติดเชื้อออก”  ดังนั้น Stefan จึงพามันกลับไปดูแลที่บ้าน เมื่อมาถึง Gus ก็กระโดดขึ้นอยู่บนตู้เก็บของในห้องครัว และใช้เวลาสองสามชั่วโมงแรกอยู่ที่นั่น พร้อมคอยสังเกตสมาชิกในครอบครัว ที่ประกอบด้วยมนุษย์ 3 คน สุนัข 1 ตัว และแมวอีก 2 ตัว     หลังจากผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันก็กระโดดลงมาข้างล่าง และเข้าไปอยู่รวมกับสมาชิกครอบครัวตัวอื่นๆ ราวกับว่ามันเคยอยู่ที่นี่มาก่อนแล้ว ที่น่าแปลกสำหรับพ่อแม่บุญธรรมคือ เจ้าเหมียวดูไม่มีความกลัวเลย มันจึงไม่ลังเลที่จะทำสิ่งต่างๆ ที่มันอยากทำ พวกเขาบอกว่าไม่เคยรับอุปถัมภ์แมวนิสัยแบบนี้มาก่อน แต่สิ่งที่ทำให้ครอบครัวแปลกใจมากยิ่งขึ้นไปอีกคือ Gus เข้ากับแมวตัวอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว…

ในการคุณตัดสินใจรับเลี้ยงสุนัขสักตัว คุณต้องเลือกสุนัขที่เข้ากับทุกคนในบ้าน ทั้งผู้ใหญ่และเด็กเล็ก แต่ถ้าคุณยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกสุนัขพันธุ์ไหนดี ลองพิจารณาเยอรมัน เชพเพิร์ดดูมั้ยล่ะ สุนัขเชพเพิร์ดมีความจงรักภักดี แข็งแกร่ง ไม่ก้าวร้าว และว่องไวมาก แต่อย่าคิดว่ามันจะเชื่อฟังคุณทุกอย่างนะ ดีไม่ดีมันอาจจะเป็นตัวป่วนของบ้านด้วยซ้ำ และต่อไปนี้คือตัวอย่างของการมีเยอรมัน เชพเพิร์ดไว้ในบ้าน (ออกแนวประชดเบาๆ)   1. เยอรมัน เชพเพิร์ด เป็นหมาที่กินทุกอย่างที่ขวางหน้า ตั้งแต่อาหาร เสื้อผ้า รองเท้า และของเล่น   2. มันไม่ใช่สุนัขขี้เล่นหรอกนะ จริงจริ๊ง   3. แล้วมันก็ไม่ใช่หมาที่จะมีความสุขได้ง่ายหรอกๆ เชื่อสิ   4. มันไม่ชอบเชื่อฟัง เพราะมันคิดว่าตัวเองแข็งแกร่ง จะทำไรก็ได้   5. มันไม่เข้าใจหรอกว่าครอบครัวคืออะไร ดูภาพสิ ไม่เข้าใจเล้ย   6. เข้ากับสัตว์ชนิดอื่นก็ไม่ได้ โดยเฉพาะแมว   7. จะให้มันอยู่ร่วมกับหมาตัวอื่นนะหรอ ลืมไปได้เลย   8. อย่าให้มันอยู่ใกล้เด็กเล็กเชียวนะ   9.…

ร้านค้าส่วนใหญ่มักจะไม่อนุญาตให้พาสัตว์เลี้ยงเข้ามา ซึ่งพวกเขาก็อาจจะมีเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็มีบางครั้งที่อนุญาตให้สัตว์เลี้ยงเข้าได้ Tractor Supply ในรัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในร้านค้าที่อนุญาตให้พาสัตว์เลี้ยงเข้ามาได้ แต่ต้องใช้สายจูง เนื่องจากทางร้านไม่ได้ระบุชนิดของสัตว์เลี้ยง ด้วยเหตุนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาขณะที่ Robin Morris กำลังช้อปปิ้งอยู่ในสาขาหนึ่งของ Tractor Supply เขาเห็นชายคนหนึ่งสวมหมวกคาวบอย กางเกง chaps และใส่รองเท้าบูท     เครื่องแต่งกายไม่ใช่สิ่งผิดปกติหรือแปลกสำหรับ Morris หรอก แต่ที่แปลกคือ คำขอของเขาที่ขอกับพนักงานร้าน เขาบอกว่า “ผมเป็นคนชรา ผมมาที่นี่เพื่อซื้ออาหารให้ม้าแก่ของผม ขอให้มันเข้าไปด้วยได้มั้ย?” แน่นอนว่าหากปล่อยม้าไว้ข้างนอก มันจะต้องอดทนรอข้างนอกเพียงลำพัง ในขณะที่ทางร้านเองก็มีนโยบายให้พาสัตว์เลี้ยงเข้าได้ ตราบใดที่ใช้สายจูง นั่นหมายความว่าม้าก็สามารถเข้าได้เหมือนกัน     ในที่สุด ผู้จัดการร้านก็ยอมให้ทั้งคู่เข้าร้านได้ ชายชราดีใจมาก เขาจึงจูงเพื่อนม้าเข้าไปในร้านพร้อมกับรอยยิ้ม ทำให้เจ้าม้าได้สัมผัสกับแอร์เย็นๆ ข้างใน Morris ได้ถ่ายภาพทั้งคู่ขณะที่พวกเขาเดินเข้ามา ที่น่าแปลกอีกอย่างหนึ่งคือ ม้าตัวนั้นดูชิลล์มาก ราวกับว่ามันมาซื้อของกับเจ้าของแบบนี้หลายครั้งแล้ว     ด้วยมิตรภาพอันน่ารักของชายชรากับม้าของเขา ทำให้หลายคนเข้ามาขอถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ พร้อมทั้งทักทายทั้งคู่ และเมื่อวิดีโอเหล่านั้นถูกโพสต์ในโซเชียล ก็ถูกแชร์ไปอย่างรวดเร็วและสร้างความประทับใจให้ผู้คนจำนวนมาก…

สัตว์เลี้ยงแต่ละตัวย่อมมีนิสัยและพฤติกรรมที่แตกต่างกัน พฤติกรรมของสัตว์บางตัวมาจากการฝึกสอน จากการเลียนแบบ และจากการเรียนรู้ของมันเอง แต่วันนี้ เราขอแนะนำให้รู้จักกับ Charlie เจ้าเหมียวที่ถูกรับเลี้ยงโดยครอบครัวตั้งแต่ยังเป็นลูกแมวตัวน้อย มันชอบเรียกร้องความสนใจตั้งแต่วันแรก และชอบให้ผู้คนอยู่รอบตัวตลอดเวลา     ตอนนี้ Charlie อายุ 6 ขวบแล้ว แต่นอกจากความแข็งแรงและขนาดตัวก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย มันยังชอบอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวเหมือนเช่นเคย Chantel Barry แม่ของเจ้าเหมียวบอกว่า “Charlie รักมนุษย์ มันชอบนั่งกับพวกเขา และมันจะสะกิดขาของคุณ ถ้าคุณไม่ลูบตัวให้มัน มันชอบการอยู่ใกล้ชิดกับผู้คนตลอดเวลา”     เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ครอบครัวไม่ได้อยู่กับมันหรืออยู่อีกห้องหนึ่ง Charlie จะรู้สึกเหงา และตัดสินใจเข้าไปหาพวกเขาในห้อง โดยไม่ต้องรอให้ใครมาเปิดประตูให้ เพราะมันเปิดประตูเองได้ ตอนแรกเจ้าเหมียวไม่รู้หรอกว่าจะเปิดประตูเข้าไปได้อย่างไร เพราะไม่มีใครสอน ดังนั้น มันจึงเรียนรู้วิธีการเปิดประตูในแบบฉบับของมันเอง     ทุกครั้งที่ต้องเปิดประตู Charlie จะยื่นมือข้างหนึ่งเข้าไปก่อน แล้วก็ตีลังกาม้วนตัวจนประตูเปิด เท่านี้มันก็ได้เข้าไปใกล้ชิดกับครอบครัวสมใจแล้ว ครอบครัวเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันไปเรียนวิธีเปิดประตูแบบนี้มาจากไหน แล้วทำไมต้องใช้ท่านี้ Barry บอกว่า “มันเปิดประตูด้วยวิธีนี้ทุกครั้ง ซึ่งประตูก็เปิดกว้างพอดีกับตัวมัน มันคงคิดว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดละมั้ง”     ยื่นมือ ตีลังกาม้วนตัว…

บางครั้งการจะบรรลุความสุขในชีวิต จำเป็นต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมสักนิดนึง เหมือนกับที่ Kelsey Johnstone ได้ตัดสินใจทำเมื่อไม่นานมานี้ Johnstone อาศัยอยู่ในเท็กซัสกับครอบครัวและน้องหมาที่ชื่อ Oliver… ่ล่าสุดเธออยากได้สุนัขอีกตัวหนึ่ง เพื่อมาเป็นเพื่อนเล่นกับ Oliver แต่ปัญหาคือ แม่ของเธอไม่เห็นด้วย     ดังนั้น เพื่อให้แม่อนุมัติการรับเลี้ยงหมาอีกตัว หญิงสาวจึงจำเป็นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ บวกเล่ห์เหลี่ยมในการจัดการกับเรื่องนี้ ระหว่างคิดแผน เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทาง Dallas Animal Services and Adoption Center มีส่วนลดสำหรับผู้ที่สนใจรับเลี้ยงสัตว์ในศูนย์พักพิง       พวกเขาได้เสนอโปรโมชั่นพิเศษภายใต้สโลแกน “$5 Foot Long” แน่นอนว่าถ้าคนที่ไม่รู้ก็คงคิดว่าเป็นการโฆษณาแซนด์วิชทั่วไป สำหรับ Johnstone เธอรู้อยู่เต็มอกว่า Foot Long ในที่นี้หมายถึงสัตว์เลี้ยง แต่ด้วยความอยากได้น้องหมาเพิ่มอีกตัว เธอจึงตัดสินใจใช้โอกาสนี้ทำให้ความต้องการเป็นจริง ว่าแล้วเธอก็ส่งข้อความไปหาแม่…       เธอบอกแม่ว่า ‘ขอซื้อฟุตลองสัก 160 บาทได้มั้ย?’ แม่ตอบกลับมาว่า ‘ได้สิ แม่ไม่สนหรอก แล้วมาถามแม่ทำไมเนี่ย?’ หญิงสาวจึงตอบว่า ‘แค่อยากแน่ใจว่ามันจะเป็นไรน่ะ ขอบคุณนะคะแม่’  ด้วยวิธีที่แสนง่ายและเห็นผลอย่างรวดเร็ว ทำให้ Johnstone…

เราให้ความสนใจสัญญาณไฟจราจรเฉพาะตอนใช้รถใช้ถนนเท่านั้น แต่สำหรับสัญญาณไฟจราจรในประเทศตุรกี กำลังกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนทั่วประเทศ แน่นอนมันมีเหตุผลบางอย่าง และเหตุผลนั้นคือ…เมื่อประมาณปีที่แล้ว แม่นกพิราบได้มาทำรังบนสัญญาณไฟจราจรในเมือง Izmir หลังจากที่มีคนเห็น มันก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนในท้องถิ่นนั้น รวมทั้งสัตวแพทย์ Hakan Erdoğan     ตอนแรก Erdoğan มีความสุขกับการมองมันในระยะไกล และไม่ได้ทำอะไรกับมัน แต่ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งนกและสัตวแพทย์ก็กลายเป็นคนคุ้นเคยราวกับเพื่อนคนหนึ่ง กระทั่งเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Erdoğan ได้ช่วยเหลือลูกนกพิราบที่ตกจากรังอื่นในเมืองเดียวกัน แต่เขาไม่สามารถพามันกลับรังเดิมได้ เขาจึงคิดถึงรังนกที่อยู่บนสัญญาณไฟจราจร     ในที่สุด Erdoğan ก็พาลูกนกตัวนั้นไปไว้ในรังของแม่นกที่อยู่บนสัญญาณไฟจราจร โชคดีที่แม่นกพิราบยอมรับลูกนกตัวนั้น แถมยังเลี้ยงดูมันจนมันเติบใหญ่ และบินจากไปเพื่อเริ่มต้นใช้ชีวิตด้วยตัวเอง แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก     หลังจากที่ประสบความสำเร็จในครั้งแรก เมื่อ Erdoğan ช่วยเหลือลูกนกพิราบต่างรังอีกครั้ง เขาก็พามันไปอยู่กับแม่นกตัวเดิมอีก และมันก็ยอมรับอีกเช่นเคย สิ่งเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงความรักของแม่นกที่มีให้ลูกนก แม้ไม่ใช่ลูกของตัวเอง แต่ด้วยความเป็นแม่แล้ว มันก็พร้อมจะรักและเลี้ยงดูเหมือนลูกตัวเองเสมอ     ในที่สุด ความดีที่แม่นกทำมาก็ได้รับการตอบแทนอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะสัปดาห์นี้ มีร่มอยู่บนสัญญาณไฟจราจร ซึ่งเป็นที่ที่เดียวกับแม่นกทำรังอยู่ เห็นได้ชัดว่ามีคนเห็นอกเห็นใจแม่นก จึงได้เอาร่มไปกางให้ Erdoğan ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอาร่มไปกางให้แม่นก แต่เขารู้ว่าคนคนนั้นให้ความสำคัญกับนกไม่ใช่น้อย     คนที่ไม่สังเกต…

การรับเลี้ยงสัตว์ไม่เพียงแค่ให้ที่อยู่ใหม่กับพวกมัน แต่บางครั้งสัตว์เองต้องมีลักษณะนิสัยที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้รับเลี้ยงด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันไปนานๆ ด้วยเหตุนี้ Alison Forsyth จึงพยายามหาสุนัขซามอยด์เพื่อรับเลี้ยงเป็นเวลาหลายปีแล้ว เธอมั่นใจว่าสุนัขพันธุ์นี้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเธอ เพราะงานอดิเรกของเธอคือ การเดินป่า วิ่ง และว่ายน้ำ     ที่ผ่านมาเธอตามหาสุนัขซามอยด์ในพื้นที่ใกล้ซีแอตเทิล กรุงวอชิงตันมานานมาก แต่ไม่เจอและเกือบจะล้มเลิกความตั้งใจนี้ จนกระทั่งได้เจอกับ Mochi Mochi เป็นสุนัขซามอยด์ที่ถูกเลี้ยงเป็นสุนัขบริการ มันอยู่กับเจ้าของวัยชรา แต่เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าของรู้สึกสุนัขวัย 8 ปีตัวนี้ มีพลังมากเกินไปสำหรับเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถเลี้ยงมันได้อีกต่อไป     ในเดือนกรกฎาคม เจ้าของตัดสินใจหาบ้านใหม่ให้มันและโพสต์เรื่องราวของมันในโซเชียล เพียงไม่นาน Forsyth ก็เห็นโพสต์ดังกล่าว และรู้ทันว่า Mochi คือน้องหมาที่เธอรอคอยมานานแสนนาน เนื่องจากเจ้าของเดิมรัก Mochi มาก เธออยากให้มันได้บ้านที่ดีที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่ถูกทิ้งในภายหลัง ด้วยเหตุนี้ Forsyth จึงต้องผ่านกระบวนการรับเลี้ยงที่มีความละเอียดสูง ต้องตอบคำถามมากมาย ในที่สุด เธอก็ได้เป็นเจ้าของน้องหมาตัวนี้สมใจ     ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอมัน หญิงสาวตกหลุมรัก Mochi ทันที และเนื่องจากน้องหมาถูกเลี้ยงเป็นสุนัขบริการ มันจึงมีนิสัยอ่อนโยนมากและเอาใจใส่เจ้าความต้องการของผู้คนรอบตัวเสมอ Mochi เข้ากับเด็กและสุนัขตัวอื่นได้เป็นอย่างดี แต่เพราะมันถูกเลี้ยงในบ้านที่ค่อนข้างเงียบ ไม่ได้ออกไปข้างนอก…

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกแมวสีขาวดำตัวหนึ่ง เดินเข้าไปในสวนหลังบ้านที่บรู๊คลิน ของนครนิวยอร์ก มันขี้อายมากๆ และไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ Lindsay เจ้าของบ้านบอกว่า “เราเห็นแมวตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งเดินเข้าไปในสนามหลังบ้านของเรา แต่เมื่อเราเอาอาหารไปให้ มันจะหายตัวไปเสมอ”      ลูกแมวน้อยหิวมาก แต่มันก็กลัวมากเช่นกัน มันเลยเอาแต่ซ่อนตัวอยู่หลังล้อรถ เมื่อไหร่ที่เจ้าของบ้านเข้าใกล้ มันจะวิ่งหนีทันที Lindsay ไม่สามารถเข้าใกล้มิ้วน้อยได้ จนกระทั่ง 2 วันก่อน เมื่อมิ้วน้อยกลับมาที่สวนหลังบ้านพร้อมกับความหิวโหย มันจึงรวบรวมความกล้าและเดินไปหาเพื่อนมนุษย์เพื่อขอความช่วยเหลือ     เจ้าของบ้านจึงอุ้มมันเข้าไปในบ้าน แล้วก็เอาอาหารให้มันกินจนอิ่ม จากนั้นก็ลูบท้องให้มัน จนกระทั่งผ่านไป 2 ชั่วโมง มิ้วก็เริ่มไว้ใจ Lindsay และครอบครัว จากมิ้วน้อยที่ขี้อายกลายเป็นเจ้าเหมียวที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นที่จะได้รับความรัก มันเหยียดแขนน้อยๆ สั้นๆ ของมัน ตอนที่ Lindsay อุ้มมันนั่งบนตักและเกาท้องให้     ในวันนั้น มิ้วน้อยได้เรียนรู้ที่จะมีเพลิดเพลินไปกับการกอด และได้นอนหลับอย่างสบาย่ใจบนผ้าขนหนูนุ่มๆ ที่วางไว้บนตักของเจ้าของบ้าน     Lindsay มีแมวอยู่แล้ว 2 ตัว ดังนั้น…

ไม่ว่าจะเป็นหมาหรือแมว ถึงแม้จะมีที่นอนเป็นของตัวเอง แต่พวกมันมักจะหาที่นอนอื่นๆ ที่ตัวเองถูกใจที่สุด โดยเฉพาะโซฟากับเตียงของพ่อแม่ ถ้าในบ้านมีแค่หมาหรือแค่แมวก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับบ้านนี้ พวกเขามีทั้งน้องหมาและน้องแมว ที่สำคัญ พวกมันดันชอบเตียงของพ่อแม่มากๆ ซะด้วยสิ งานนี้ ศึกแย่งเตียงจึงได้ก่อเกิดขึ้น!!     หลายคนคงคิดว่ายังไงเหมียวก็ต้องชนะ เพราะขึ้นชื่อว่าแมวแล้ว ถ้ามันอยากได้อะไรมันก็ต้องได้และใครก็ห้ามแย่ง แต่ตัวเหมือนคดีนี้จะพลิกซะแล้ว เพราะคู่ต่อสู้ของเจ้าเหมียวคือ Max ซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ ผู้มีความสง่างามอยู่ในตัว ขณะเดียวกันมันก็ดูน่ากลัวจนไม่มีใครอยากมีเรื่องด้วย นั่นเป็นสิ่งที่สัตว์ตัวอื่นเห็น แต่จริงๆ แล้ว Max เป็นหมาหูหนวกที่มีนิสัยค่อนข้างอ่อนโยนและมารยาทดีตัวหนึ่งเลยล่ะ     เรื่องของเรื่องคือ Max ชอบนอนบนเตียงของพ่อแม่มาก โดยเฉพาะส่วนปลายของเตียง แต่วันนั้น ขณะที่มันจะขึ้นนอนบนเตียง ซึ่งเป็นที่ประจำ มันไม่สามารถขึ้นได้ เพราะมีเจ้าเหมียวนอนอยู่ ตอนแรก Max ได้เตือนเจ้าเหมียวด้วยการยืนนิ่งและมองหน้ามัน เพื่อให้เหมียวกดดันแล้วหนีไป แต่ปรากฏว่าเจ้าเหมียวแกล้งเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เพราะมันถือว่ามันมาก่อน และคนมาทีหลังไม่มีสิทธิ์มาแย่ง     แม้ว่าจะหูหนวกและไม่ได้ยินเสียงตัวเอง แต่เพื่อที่นอนที่โปรดแล้ว มันตัดสินใจเปลี่ยนวิธีกดดันด้วยการเห่าเสียงดัง ซึ่งเป็นการเพิ่มระดับความตึงเครียดของการเตือน เพื่อบอกเจ้าเหมียวว่านี่เป็นของมัน และนี่ก็ได้เวลานอนแล้ว ยังไงมันก็ต้องได้นอนตรงนี้     ตราบใดที่เจ้าเหมียวยังอยู่บนเตียง Max…

นี่เป็นเรื่องราวของ Bella สุนัขในศูนย์พักพิงที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในคอกคอนกรีตในโรมาเนีย มันแทบจะไม่ได้ออกไปข้างนอกและมีการพบปะกับมนุษย์น้อยมาก นอกจากนี้ มันยังมีปัญหาเกี่ยวกับหมัด มีปัญหาเกี่ยวกับม้ามและตับที่ไม่ได้รับการรักษา ที่น่าเศร้าคือ Bella อาจจะต้องอยู่ในสภาพอย่างนั้นไปตลอดชีวิต     โชคดีที่กลุ่มช่วยเหลือจาก Howl of the Dog ไปหามันทันเวลา เมื่อไปถึง หนึ่งในกลุ่มช่วยเหลือได้ยื่นมือไปหา Bella ปรากฏว่าเจ้าหมาเลียมือเธอทันที Bella เป็นหมาที่มีนิสัยน่ารัก อ่อนโยน และมันต้องการแค่ใครสักคนที่รักมันด้วยใจ Howl of a Dog จึงช่วยมันออกจากศูนย์พักพิงในวันนั้น     น้องหมาถูกพาไปยังศูนย์พักพิงของ Howl of a Dog ที่นั่น เจ้าหน้าที่ให้มันได้พักผ่อนก่อนจะพาไปเจอกับสัตวแพทย์ในภายหลัง แม้จะเป็นศูนย์พักพิงเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่า Bella จะรู้สึกผ่อนคลายกับการพักผ่อนที่ใหม่นี้มากกว่า เพราะมันรู้ว่ากำลังจะได้รับการช่วยเหลือและอยู่ในที่ปลอดภัย     ตั้งแต่ช่วงแรกที่น้องหมาตัวนี้มาถึงศูนย์พักพิงของ Howl of a Dog เห็นได้ชัดว่ามันเป็นหมาที่รักมนุษย์ มันนั่งลงข้างๆ ผู้ช่วยเหลือบนโซฟา และเนื่องจากมันเหนื่อยล้าจากการเดินทางตลอดทั้งวัน รวมทั้งชีวิตของก่อนหน้านี้ด้วย Bella จึงหลับไปบนตักของผู้ช่วยเหลืออย่างง่ายดาย     ทาง Howl of…

สำหรับสุนัขที่เติบโตมากับครอบครัวมนุษย์ พวกมันตั้งใจจะรักและซื่อสัตย์กับเจ้าตลอดไป ดังนั้น เรื่องการพรากจากเจ้าของจึงไม่ได้อยู่ในหัวของพวกมัน แต่สำหรับมนุษย์แล้ว พวกเขาอาจจะไม่ได้คิดกับสุนัขแบบนั้นเสมอไป นั่นเป็นเหตุผลที่น้องหมา Rocco ถูกทิ้งให้มาอยู่ในศูนย์พักพิง     Rocco เป็นสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด วัย 3 ขวบ มันกำลังนั่งอยู่ที่มุมของกรงด้วยความหวาดกลัว แววตาของมันเต็มไปด้วยเศร้าและมีคราบน้ำตา เจ้าหมาไม่รู้เลยว่าทำไมมันถึงถูกพามาที่นี่ และมันต้องได้เจอกับอะไรในอนาคต…ทางศูนย์พักพิงบอกว่าครอบครัวของมันมาทิ้งไว้ที่ Dallas Animal Services เพียงเพราะว่าพวกเขามีลูกน้อย     เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งมาเห็น Rocco นั่นหน้าเศร้าอยู่ในศูนย์ เธอจึงตัดสินใจโพสต์วิดีของมันลงในโซเชียล เพื่อช่วยให้มันได้รับการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด หลังจากที่ Preethi Pillaipakkam ผู้อุปถัมภ์จาก DFW German Shepherd Rescue เห็นโพสต์ดังกล่าว เธอได้ตัดสินใจช่วยเหลือเจ้าหมาตัวนั้นทันที     Pillaipakkam บอกว่า “ตอนแรกฉันแปลกใจมากเมื่อรู้เบื้องหลังของ Rocco มันถูกทิ้งเพราะแม่มีลูกคนใหม่ แต่หลังจากที่รู้ว่ามันได้รับการดูแลที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ฉันคิดว่าพวกเขาไม่ได้เป็นครอบครัวที่ดีสำหรับ Rocco ตั้งแต่แรกแล้ว” Rocco มีน้ำหนักแค่ 27 กิโลกรัม ทั้งๆ ที่อายุเท่านี้น้ำของมันควรอยู่ที่ 39-40…

ใครเบื่อหมาหรือแมวแล้ว ของหาแพะมาเลี้ยงสักตัวสิ เพราะนอกพวกมันจะสามารถปีนหน้าผาได้แล้ว มันยังเป็นสัตว์จอมกวนที่ทำให้คุณยิ้มได้ไม่แพ้หมาแมวเลยล่ะ เมื่อไม่นานมานี้มีคนเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความเกรียนของแพะ หลังจากที่พาลูกไปที่ฟาร์มในท้องถิ่น และได้ไปเจอกับแพะตัวหนึ่งที่หัวติดอยู่กับรั้ว   เรื่องมีอยู่ว่า “วันนั้นผมพาลูกๆ ไปที่ฟาร์มในท้องถิ่น เราเห็นแพะผู้น่าสงสารหัวติดอยู่ที่รั้ว เราต้องการช่วยมัน แต่มันดันติดแน่นมาก เราเลยลูบมันสักพักและเอาหญ้าให้มันกิน”     “จากนั้นเราก็กลับไปที่สำนักงานของฟาร์ม แล้วบอกเจ้าหน้าที่ว่ามันต้องการความช่วยเหลือ แต่ผมยังไม่ทันพูดอะไรต่อ เขาก็พูดแทรกขึ้นมาว่า ‘แพะตัวนั้นใช่มั้ย… อ๋อ เรารู้แล้ว มันติดกับรั้ว มันคือ Brenda มันสามารถเอาหัวออกได้ทุกเมื่อที่ต้องการ แต่มันชอบอยู่แบบนั้น เพราะอยากเป็นจุดสนใจแค่นั้นเอง’“   .   หลังจากที่เรื่องนี้ถูกโพสต์ในโซเชียล ก็มีผู้คนมากมายออกมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับแพะ และมันทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้ว แพะนี่มันสัตว์โลกจอมเกรียนชัดๆ     NoratheSloth บอกว่า “เรามีแพะที่เป็นแบบนี้ มันชื่อ Snowball มันชอบเอาหัวติดกับรั้วเป็นประจำ ทั้งๆ ที่รู้เรากำลังทำงาน แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายเราต้องไปเช็กมันเกือบทุกๆ ชั่วโมง”     เรื่องเล่าจาก Sweater–child…

เจ้าของมักจะเป็นคนที่เข้าใจสัตว์เลี้ยงตัวเองดีกว่าคนอื่น แม้จะใช้คนละภาพ แต่พวกเขาสามารถสื่อสารกันได้ เพราะนอกจากคำพูดแล้ว ก็มีท่าทางนี่แหละ ที่แทนคำพูดได้ดีที่สุด และนี่คือเหล่าสัตว์เลี้ยงกับท่าทางของพวกมันที่ทำให้มนุษย์เข้าใจได้ โดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ เพราะภาพได้เล่าเรื่องทุกอย่างชัดเจนแล้ว   1. หลังจากเจ้าเหมียวถูกพาไปหาหมอ งอนหนักจนเจ้าของรู้สึกผิดเลย   2. จ๊ะ รู้แล้วว่านี่เป็นตุ๊กตาตัวโปรดของหนู ไม่แย่งหรอก   3. เมื่อแม่มาร์กหน้าด้วยมาร์กโคลน…   4. นี่คือ Daisy และ Luna… Daisy กลัวการนั่งรถมาก Luna จึงพยายามปลอบใจมัน   5. มุมเงยหรอ ไม่กลัวหรอ รูปหล่อถ่ายมุมไหนก็รอด   6. เจ้าเหมียวเยาะเย้ยทาสที่ต้องออกไปทำงาน ในขณะที่มันได้นอนอยู่บ้านทั้งวัน   7. เมื่อน้อง Rosie ถูกจับได้ว่าแอบเล่นน้ำ   8. มีแค่ฉันและมีแค่เธอที่อยู่ด้วยกันเท่านั้น ในโลกใบนี้มีเพียงแค่เราที่อยู่ด้วยกันสองคน   9. ทาสต้องจับเจ้าเหมียวออกจากกระเป๋าเดินทางหลายสิบครั้ง เพราะไม่สามารถพามันไปเที่ยวด้วยได้ ครั้งนี้มันเลยเอาตุ๊กตามาวางแทน เพื่อแทนตัวเอง   10. เมื่อเจ้าหมารู้ว่าเจ้าของต้องการการกอดกลับเหมือนกัน   11. เมื่อพ่อเหมียวมีลูกที่หล่อเหลาเหมือนมัน…

คุณยายเศร้ามากที่หมาตัวเก่าตายจากไป ทางครอบครัวอยากให้เธอร่าเริงขึ้นเลยจะเซอร์ไพรส์เธอด้วยหมาตัวใหม่ เมื่อคุณยายได้เจอเจ้าหมาแล้ว ท่าทีดีใจของเธอทำให้ทุกคนซาบซึ้งตามไปด้วยเลย Shirley คุณยายของ Matthew McVey มีความสุขมากเมื่อได้อยู่กับคุณตาและเจ้าหมา Kinsey เมื่อครั้งที่คุณตาตายจากไปก่อน คุณยายก็ยังพอทำใจได้เพราะยังมีเจ้าหมาอยู่ข้างๆ แต่เมื่อไม่นานมานี้ Kinsey ก็ตายจากเธอไปอีกเหมือนกัน คุณยายจึงสูญเสียมันที่เป็นทั้งเพื่อนรู้ใจและสิ่งรำลึกถึงคุณตาด้วย เธอก็เลยซึมเศร้าจนคนในครอบครัวเป็นห่วง     แม่ของ Matthew คิดว่าคุณยายน่าจะร่าเริงขึ้นถ้าเกิดมีหมาตัวใหม่ไปอยู่ด้วย พวกเขาก็เลยตั้งใจจะพาเจ้าหมาตัวน้อย Sammy ไปเซอร์ไพรส์เธอถึงในโรงพยาบาลที่เธอกำลังเข้ารับการรักษาสภาพจิตใจอยู่เลย ความดีใจตอนที่ Shirley ได้เจอกับ Sammy ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าการทำเซอร์ไพรส์ครั้งนี้ช่างคุ้มค่ามาก เธอดีใจที่ได้เจอมันจนร้องไห้ออกมาต่อหน้าทุกคนเชียวนะ   https://twitter.com/matthewmcvey_/status/1037154164076412965?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1037154164076412965%7Ctwgr%5E363937393b70726f64756374696f6e&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.thedodo.com%2Fclose-to-home%2Fgrandma-reacts-to-new-dog-surprise   คลิปวิดีโอการเซอร์ไพรส์คุณยายที่ลงในทวิตเตอร์ของ Matthew เขียนอธิบายไว้ว่า “คุณยายของฉันเพิ่งเสียหมาที่เธออยู่ด้วยตลอด 14 ปีไปเมื่อเดือนก่อน (เธอสนิทกับมันมากเพราะมันเป็นหมาของคุณตาที่จากไป) หลังจากที่มันตายไปเธอก็ไม่ร่าเริงเหมือนอย่างเคยเลย จนวันนี้คุณแม่ของฉันพา Sammy ไปเซอร์ไพรส์เธอ ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น”     ถึงจะรู้ว่า Sammy ไม่สามารถทดแทน Kinsey ได้ แต่จากนี้ไปมันก็จะเป็นเพื่อนตัวใหม่ที่คอยอยู่เคียงข้างคุณยาย Shirley แล้วมันก็จะช่วยให้เธอไม่หมกมุ่นกับการจากไปของหมาตัวเก่าด้วย   เราควรจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว มากกว่าสิ่งที่เสียไปแล้วนะ…

หลายคนตัดสินใจทิ้งสัตว์เลี้ยงที่มีความผิดปกติ เพราะไม่อยากเอามาเป็นภาระและไม่คิดว่ามันจะมอบความสุขให้ได้ นั่นทำให้สัตว์ผู้น่าสงสารเหล่านี้ถูกทิ้งทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองทำผิดอะไร เช่นเดียวกับมิ้วน้อยผู้มีดวงตาผิดปกติ ซึ่งเหมือน Storm ในเรื่อง X-Men มันเลยถูกตั้งชื่อว่า Storm… ชีวิตช่วงแรกของมันไม่ดีนัก เพราะมันถูกนำมาทิ้งไว้หน้าศูนย์พักพิง     โชคดีที่เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาล Union County animal hospital ช่วยมันไว้ได้ทันเวลา และได้ดูแลมันจนกระทั่งมันพร้อมสำหรับการรับเลี้ยง ต่อมาเมื่อ Tracy และ Derek เห็นประกาศหาบ้านให้ Storm ในเพจของโรงพยาบาล พวกเขาตกหลุมรักมันทันทีและต้องการรับมันมาดูแล พวกเขายังรู้ด้วยว่ามันต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เพราะดูเหมือนมันตาบอด     Tracy บอกว่า “เราไม่สนว่ามันจะมีความผิดปกติอะไรบ้าง ที่เราต้องการคือ อยากให้มันมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของเรา” ในที่สุด ทั้งสองคนก็เดินทางไปพบ Storm แต่ก็ต้องประหลาดใจกับขนาดตัวของมัน เพราะมันตัวเล็กเท่าฝ่ามือ ดังนั้น หลังรับเลี้ยง ทั้งคู่จึงพามันไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพ     คุณหมอบอกว่า Storm ไม่ได้ตาบอด แต่มันมีความผิดปกติภายในกระจกตา เนื่องจากสูญเสียเซลล์ในกระจกตา ส่งผลให้ดวงตาของมันเป็นสีควันอย่างที่เห็น ทั้งยังส่งผลต่อการเจริญเติบโตของมันด้วย แต่หลังจากที่คุณหมอได้ตรวจฟันของมัน พบว่า จริงๆ แล้ว Storm…

เป็นเวลานานหลายปีแล้วที่เจ้าแร้ง Sayani ได้ถูกช่วยและปล่อยคืนสู่ธรรมชาติไป แต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน คนที่เคยช่วยมันก็ไม่เคยลืมท่าทีที่มันขอบคุณพวกเขาก่อนจะจากไปเลย ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2012 เจ้า Sayani ถูกพบในสภาพใกล้ตายเนื่องจากถูกวางยา ซึ่งน่าจะเป็นผลจากการที่มันพยายามเข้าไปกินสัตว์ในฟาร์มของเกษตรกร     จากนั้นมันก็ถูกส่งไปรักษากับสวนสัตว์ Buenos Aires Zoo หลังจากรักษาแล้วมันก็ยังได้รับการดูแลระหว่างที่ฟื้นฟูร่างกายด้วย คนในสวนสัตว์ต่างก็ดูแลมันเป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าจะเป็นสัตว์นักล่าหรือสัตว์เล็กก็ตาม พวกมันก็ควรได้มีชีวิตที่ดีทั้งนั้น พวกเขาใช้เวลารักษาและดูแลมันนาน 16 เดือน เมื่อมั่นใจแล้วว่ามันแข็งแรงพอจะกลับไปใช้ชีวิตเองได้แล้ว ในวันที่ 28 สิงหาคม 2014 ก็เลยทำการปล่อยมันจากยอดของภูเขาแห่งหนึ่ง     ทว่า Sayani ก็ไม่ได้บินออกไปทันทีที่มันได้รับอิสรภาพ ก่อนมันจะบินออกไป มันทำท่าทีเหมือนลังเลแล้วหันหลังกลับมาหาคนที่ดูแลมันอีกทีด้วย คนที่ช่วยมันเล่าว่า “ก่อนมันจะบินออกไป เจ้าแร้งที่สง่างามหันหลังกลับมาหากลุ่มคนที่ช่วยเหลือมันไว้ เหมือนกับจะขอบคุณทุกคนที่ช่วยดูแล และช่วยชีวิตมันไว้” พวกเขาตีความว่าท่าทีของมันคงเป็นการกล่าวขอบคุณสำหรับน้ำใจที่พวกเขาช่วยดูแลมันตลอดช่วงปีที่ผ่านมา จากนั้นสักพักหนึ่งมันก็หันหน้ากลับออกไปทางท้องฟ้าและบินจากไป     คลิปวิดีโอ    การขอบคุณของ Sayani อาจจะดูไม่มีอะไรพิเศษมาก แต่มันก็ทำให้เราได้รู้ว่าสัตว์ทุกชนิดแม้แต่นกเองก็มีความกตัญญูและความรู้สึกอยู่ภายใน และที่สำคัญมันจะเป็นกำลังใจในการช่วยเหลือสัตว์อื่นให้กับคนรักสัตว์แน่นอน ที่มา: the dodo

ใครที่บอกว่าแมวไม่ชอบมายุ่มย่ามกับมนุษย์ ต้องลองมารู้จักแมวตัวนี้ มันจะอ้อนจนได้กอดกับเจ้าของทุกวันก่อนไปทำงาน แล้วมันก็ทำแบบนี้มาตลอดระยะเวลา 10 ปี เจ้าเหมียว Tigger หรือเรียกสั้นๆ ว่า Tig เป็นแมวของ F. Linderman หญิงซึ่งช่วยมันเอาไว้ตอนมันยังเด็ก จากนั้นเธอก็ช่วยเลี้ยงดูมันจนโต มันก็เลยติดเธอเหมือนเป็นเงาตามตัว     แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อตอนที่เธอย้ายไปอยู่กับพ่อแม่เป็นการชั่วคราว ถึงจะไปอยู่ด้วยกันเพียงแค่เดือนเดียว เจ้าแมวก็ชอบพ่อของเธอมากจนแยกกันไม่ได้แล้ว หลังจากนั้นพ่อของเธอก็พูดเองเลยว่า Tig กลายเป็นของเขาแล้ว ยิ่งได้เห็นความสนิทสนมกันของเจ้าแมวและพ่อ เธอก็ยินดีที่จะให้มันอยู่กับเขาไปเลย เพราะแบบนั้นมันคงมีความสุขมากกว่า     นอนกอดพ่อไม่ยอมปล่อยเลย   ทุกวันก่อนไปทำงาน Tig จะกระโดดขึ้นมานอนหลับบนตักของคุณพ่อเสมอ แล้วมันก็จะนอนอยู่แบบนั้นอย่างต่ำๆ วันละครึ่งชั่วโมง โดยที่คุณพ่อเองก็ไม่ยอมลุกไปไหนจนกว่ามันจะตื่นเช่นกัน หากวันไหนมันไม่ได้ทำแบบนั้นแล้ว เจ้าแมวก็จะดูอารมณ์บูดทั้งวันจนกว่าจะได้เจอหน้าคุณพ่ออีกครั้งในตอนเย็นเมื่อเขากลับมาจากที่ทำงานนั่นแหละ   หน้าจะเบลอๆ นิดนึงนะ…เบลอว่ารักแถบ   ไม่ใช่เจ้าแมวเท่านั้นนะที่คิดถึงคุณพ่อมาก คุณพ่อเองก็คิดถึงมันมากไม่ต่างกัน เคยมีครั้งหนึ่งที่เขาต้องไปทำงานต่างเมืองเป็นเวลานาน ตอนกลับมาเขาบอก Linderman ว่าถ้ามีครั้งหน้าอีกจะเอา Tig ไปเป็นเพื่อนด้วยเลยล่ะ     เห็นมันมีความสุขคุณพ่อก็ยิ้มได้   คุณพ่อรักและเอ็นดูเจ้าแมวมากจริงๆ นะ…

สำหรับหมาที่มีเจ้านายเป็นโลกทั้งใบของมัน คงไม่มีอะไรจะเศร้ามากไปกว่าการถูกคนที่ไว้ใจทอดทิ้งอีกแล้ว และนั่นคือสิ่งที่ AJ กำลังเผชิญหน้าอยู่ AJ และน้องชายของมัน Toby ถูกเจ้าของเก่าเอามาทิ้งไว้ที่ศูนย์พักพิง Carson Animal Shelter ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา     ตอนแรกมันกับน้องชายก็ยังโอเคอยู่ แต่เมื่อต้องเข้าไปอยู่ในกรงและถูกแยกจากน้องชาย เหมือนมันจะเพิ่งรู้ตัวว่าถูกทิ้ง เจ้าหมาก็เลยซึมลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าอาสาสมัครจะพูดปลอบใจมันยังไง เจ้าหมาก็ยังไม่หายเศร้า แถมพวกเขายังเห็นด้วยว่ามันร้องไห้เพราะถูกแยกจากครอบครัวและน้องชายพร้อมๆ กัน     อาสาสมัครอยากจะช่วยมันหาบ้าน จึงโพสต์คลิปที่มันร้องไห้ไว้บนเฟซบุ๊กพร้อมบอกว่า “เจ้า AJ ที่อ่อนหวานช่างน่ารักจริงๆ มันมีพลังมากพอจะเล่นกับคุณทั้งวัน แต่ก็ถูกเอามาทิ้งไว้พร้อมกับน้องชายที่น่ารัก Toby ตอนเข้ามาพวกมันทั้งคู่ก็ยังโอเคดี แต่หลังจากมันต้องแยกจากกันทั้งยังคิดถึงครอบครัวเก่ามันเลยรู้สึกสับสนมาก พวกมันกำลังรอความช่วยเหลืออยู่”     เมื่อชาวเน็ตได้เห็นความเศร้าของเจ้าหมาแล้ว พวกเขาก็รู้สึกเศร้าตามไปด้วย ทั้งยังมีคนมากมายที่อยากช่วยเจ้า AJ  คลิปของมันมีคนดูไปกว่า 5 ล้านครั้งแล้ว ทั้งยังมีคนส่งกำลังใจให้มันอย่างล้นหลามด้วย จากนั้นไม่นานก็มีคนออกมารับ AJ ไปอยู่บ้านด้วยเพื่อที่มันจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น แล้วที่พิเศษกว่านั้นก็คือเขารับเลี้ยงเจ้า Toby ด้วยเช่นกัน หมาทั้ง 2 ตัวจะได้ไม่ต้องเศร้าเพราะแยกจากกันอีก หลังจากที่ถูกช่วยไว้แล้ว…

มีคำพูดที่บอกว่า ‘You are what you eat.’ หรือก็คือกินอะไรเข้าไปก็เป็นแบบนั้น ซึ่งหมายความว่าถ้าเรากินแต่ของที่ไม่ดีต่อร่างกาย ร่างกายก็จะไม่แข็งแรง และถ้าเรากินของที่มีประโยชน์ร่างกายก็จะแข็งแรงตามไปด้วย แต่สำหรับ @kibimomo แล้วเธอคงจะตีความหมายของมันตรงตัวไปหน่อย เธอก็เลยทำให้แมวที่เลี้ยงไว้กลายเป็นของกินนั้นไปจริงๆ เลย ขอแค่คุณลองมองหน้าพวกมัน คุณก็รู้แล้วว่ามื้อที่แล้วเจ้าเหมียวกินอะไรกันมาบ้าง นอกจากหน้าตาแมวของเธอจะเปลี่ยนไปเป็นของกินแล้ว มันยังดูน่ารักน่ามองขึ้นเป็นกองเลยล่ะ ไปดูกันว่าพวกมันกินอะไรกันมาบ้าง   กินพีชเยอะขนาดนี้ หน้าเลยเปลี่ยนล่ะสิ   ขนมปังเมล่อนก้อนไหนน่ากินกว่ากัน?   อย่ากินพุดดิ้งเยอะนะสาวๆ เดี๋ยวหน้าจะบานหมด   ทาสทำให้เรากลายเป็นแมวสตรอว์เบอร์รี่   กินมายองเนสดูสิ แล้วคุณจะกลายเป็นคนหัวสูง   สมกับเป็นแมว แม้แต่ขนมปังก็ต้องเป็นรูปปลา   แมวอะไรดูหวานฉ่ำจัง   เราไม่ได้หน้าช้ำนะ แค่เพิ่งกินมะเขือม่วงมา   มองหน้าแล้วอยากซดเบียร์เลย   หน้าบานเป็นดอกไม้เชียว   ตอนเช้าทานขนมปังมาล่ะสิ   กินผลไม้เยอะๆ ผิวสวยนะจ๊ะ   รู้ได้ไงว่าเรากินขนมปังไส้ถั่วแดงมา   ไม่รู้จะบอกว่าน่ารักหรือน่ากินดี อิอิ ที่มา:…

แค่มีโคอาล่าเดินเข้ามาในร้านขายยาเราก็ว่าแปลกแล้ว แต่เจ้าตัวนี้มันพยายามเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำอีก ไล่กี่ทีก็ยังไม่ยอมไป ไม่รู้ว่ามันอยากเข้าไปทำอะไรกันแน่     ในขณะที่ลูกค้ามาใช้บริการร้านขายยาแห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลียตามปกติ ทุกคนก็ต้องงงเมื่อเห็นโคอาล่าตัวหนึ่งเดินผ่านประตูอัตโนมัติเข้ามา แล้วเดินดูของเหมือนกับลูกค้าเลย ลูกค้าคนหนึ่งเห็นว่ามันน่ารักดี ก็เลยถ่ายรูปโคอาล่าตัวนั้นเอาไว้ก่อนที่มันจะโดนไล่ออกไป เพราะคงไม่มีโอกาสได้เห็นโคอาล่าเข้ามาในร้านขายยาบ่อยๆ หรอก     แต่ที่ไหนได้ แค่เธอหันไปดูยาบนชั้นวางแป๊บเดียว พอหันกลับมาเจ้าโคอาล่าตัวเดิมมันก็เดินกลับเข้ามาในร้านอีกแล้ว ลำบากพนักงานร้านต้องไล่มันออกไปอีกรอบหนึ่ง ครั้งนี้เธอเห็นว่ามันมีความพยายามมาก เพราะมันกลับเข้าร้านมาทั้งๆ ที่เพิ่งโดนไล่ออกไปเมื่อกี้นี้เอง เธอก็เลยถ่ายวิดีโอมันเก็บไว้ซะเลย   ไม่เห็นสัญลักษณ์ห้ามสัตว์เข้าเหรอไง   โดนไล่แบบนี้ก็ต้องออกไปตามระเบียบ   ออกไปยืนรอตรงถนนฝั่งตรงข้ามโน่นเลย   วิดีโอที่ลูกค้าถ่ายโคอาล่าเอาไว้    เท่านั้นยังไม่พอนะ ถึงมันจะโดนไล่ไปอีกฝั่งหนึ่งของถนน เจ้าโคอาล่าก็ยังพยายามกลับเข้ามาในร้านเป็นครั้งที่ 3 อีกอยู่ดี เห็นแบบนั้นแล้วพนักงานในร้านเลยไม่ไล่มันแล้วล่ะ เธออุ้มมันไปใส่ไว้ในกล่องแทน มันจะได้ไม่เดินเพ่นพ่านไปทั่วร้าน จากนั้นก็ติดต่อให้เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์มาพามันกลับไปอยู่ในป่าใกล้ๆ กัน แปลกดีนะที่สัตว์ป่าเดินเข้ามาในร้านยาที่มีคนพลุกพล่านตั้งหลายครั้งหลายครา บางทีถ้าพวกเขาปล่อยให้มันเดินดูของสักหน่อย มันอาจจะซื้อยากลับไปจริงๆ ก็ได้     ที่มา: the dodo, Viralhog

หากใครเคยดูแฮร์รี่ พอตเตอร์ คงจะจำตัวละคร Dobby กันได้ เขาเป็นเอลฟ์ประจำบ้านที่หน้าตาไม่น่ารักเท่าไหร่ แต่จิตใจงามมาก แฮร์รี่ช่วยมอบอิสระให้เขา จากนั้นเขาก็ช่วยปกป้องและรับใช้แฮร์รี่ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จัก Dobby ในเวอร์ชั่นแมวเหมียวกันดูบ้าง มันนิสัยดีไม่แพ้เอลฟ์ในหนังเลย หน้าตาก็เหมือนกันอย่างกับแกะ แต่ดูๆ ไปแล้วเจ้าตัวนี้ดูน่ารักกว่าอย่างบอกไม่ถูก     เหมียว Dobby เป็นแมวพันธุ์ Ukrainian Levkoy ของสาวนิวยอร์กชื่อว่า Nicole เธอตั้งชื่อมันตามตัวละครในแฮร์รี่ พอตเตอร์เพราะว่าหน้าตามันคล้ายๆ กัน นอกจากนี้พอเอาไปเลี้ยงแล้ว มันยังติดถุงเท้าเหมือนกับเอลฟ์ในหนังด้วย เลยยิ่งทำให้มันเหมาะสมกับชื่อนี้เข้าไปใหญ่     ถ้าทาสไม่ตามใจเดี๋ยวสาปให้เป็นกบเลย   สาเหตุที่ Nicole เลือกเลี้ยงมันเริ่มต้นมาจากอาการแพ้ขนแมวของเธอ หลังจากที่รู้เธอซึ่งเป็นทาสที่ใฝ่ฝันจะมีแมวเป็นของตัวเองเลยพยายามหาทางเลี้ยงแมวให้ได้ เธอเริ่มต้นจากการค้นหาข้อมูลของสายพันธุ์ที่เป็นมิตรกับคนเลี้ยงแมว แล้วก็ได้มาเจอกับ Dobby โดยบังเอิญ มันก็เลยได้มาอยู่กับเธอ     ถึงตอนแรกเธอจะเลือกรับเลี้ยงมันเพราะสายพันธุ์ แต่หลังจากมาอยู่ด้วยกันเธอก็ชอบ Dobby มากกว่าเดิมซะอีก เพราะนอกจากมันจะไม่ทำให้เธอแพ้แล้ว นิสัยของมันก็ทำให้เธอหลงรักด้วย เธอเล่าว่า “ทุกครั้งที่ฉันอุ้มมัน มันจะมีท่าทีสนใจและอยากเล่นด้วยกัน มันสนใจจะเล่นมนุษย์มากกว่าการวิ่งเล่นกับแมวตัวอื่นอีกนะ”  …

ต้องยอมรับจริงๆ ว่าการเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นอะไรที่ยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องโครงสร้างประโยคและการเรียบเรียงนำมาใช้ เนื่องจากมันไม่เหมือนกับภาษาไทย ทว่าหากโฟกัสไปที่การออกเสียงแทน แล้วเรียนรู้คำศัพท์เฉพาะแค่บางคำไป มันก็ไม่ยากเท่าไหร่นะ ขนาดเจ้าหมาชิบะ Beni ยังพูดได้เลย   https://twitter.com/a_t_k123/status/1035860170121740288?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1035860170121740288%7Ctwgr%5E363937393b70726f64756374696f6e%7Ctwcon%5Elogo&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2018%2F09%2F09%2Fif-this-adorable-shiba-dog-can-learn-to-speak-a-word-in-japanese-and-he-has-so-can-you%25e3%2580%2590video%25e3%2580%2591%2F   @a_t_k123’s ซึ่งเป็นเจ้าของของ Beni สอนให้เจ้าหมาพูดภาษาญี่ปุ่นตามเธอ แล้วมันก็ออกเสียงตามเธอได้อย่างน่าทึ่ง ในคลิปวิดีโอที่เธอโพสต์ไว้ในทวิตเตอร์เราจะได้ยินมันพูดว่า ‘ทาเบรุ’ ซึ่งแปลว่ากิน จากนั้นมันก็พูดคำว่า ‘ฮัมบากุ’ ซึ่งแปลว่าแฮมเบิร์กอีกด้วย เจ้าหมาออกเสียงได้เหมือนสุดๆ ไปเลย     ก่อนหน้านี้ Beni เคยเป็นหมาที่ใช้เป็นพ่อพันธุ์เพื่อผลิตลูกหมาขายมาก่อน จากนั้นเจ้าของไปเจอมันจึงช่วยรับมันมาเลี้ยงไว้เอง เจ้าหมามันแสนรู้และเชื่อฟังเจ้านายมากๆ เธอก็เลยลองสอนให้มันพูดภาษาญี่ปุ่นตามเธอดู แล้วก็ได้ผลตามที่เห็นในคลิปวิดีโอ     ไม่รู้เหมือนกันนะว่ามันเข้าใจความหมายของคำที่ตัวเองพูดรึเปล่า แล้วก็ไม่รู้ว่ามันพูดตามเพื่อจะได้รางวัลเป็นขนม หรือว่าเวลามันหิวมันจะบอกแม่เป็นภาษาญี่ปุ่นเหมือนกับที่แม่สอนมาจริงๆ อย่างไรก็ตาม Beni ก็ทำให้เราได้เห็นแล้วว่าการออกเสียงคำภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ยากเกินความพยายามเลย ถ้าเราตั้งใจจริงๆ ใครก็เรียนได้ เจ้าหมาจะเป็นกำลังใจให้นะ!!     ที่มา: Sora News 24, Beni Shiba

วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสพิเศษสำหรับเจ้าหมาอีกครั้งหนึ่ง เพราะมันถึงเวลาของ ‘วันกอดหมาแห่งชาติ’ ประจำปี 2018 แล้ว วันกอดหมาแห่งชาติริเริ่มขึ้นจาก Ami Moore หญิงผู้มีฉายาว่า ‘ผู้รู้ใจสุนัขแห่งชิคาโก’ โดยจะจัดขึ้นในทุกๆ วันอาทิตย์ของสัปดาห์ที่ 2 ในทุกๆ เดือนกันยายน จุดประสงค์ในการจัดวันกอดหมาแห่งชาติขึ้นก็เพื่อให้ทุกคนรำลึกถึงความสำคัญและความรักที่เจ้าหมามีให้กับเรา และให้เรามอบความรักกลับไปให้มันด้วยนั่นเอง เพราะฉะนั้นอย่าลืมไปกอดเจ้าหมากันล่ะ     พี่หมามากอดกัน   จะตัวเล็กตัวใหญ่ก็ต้องการความรัก   โดดกอดกันไปเลย   เบาๆ ลูกเดี๋ยวพ่อล้ม   งื้อ มีความสุข   รักแกนะเจ้าไซ   นานแค่ไหนยายก็รักแกเหมือนเดิม   กอดแล้วหอมด้วยก็ได้ เจ้าหมาจะได้ฟินยิ่งขึ้น   กอดนานจนเมื่อยแล้ว เปลี่ยนท่ากันไหม?   ขอบคุณที่รักกันมาตลอด   อยู่ด้วยกันไปนานๆ นะตูบ   วันนี้พักรบวันนึงก็ได้   แมวก็กอดหมาด้วย   พี่ลิงก็รักหมาเหมือนกันนะ   ถ้าไม่มีใครกอดเราก็กอดกันเอง   สุขสันต์วันกอดหมาแห่งชาติจ้า…

เคยได้ยินกันไหมว่า ‘หมากับเจ้าของมักจะเหมือนกัน’ แถมไม่ได้เหมือนกันเฉพาะนิสัยด้วยนะ หน้าตาก็คล้ายกันไปด้วย #เหมียวอาตี๋ ก็ไม่รู้หรอกว่าพอเริ่มเลี้ยงแล้วใครเลียนแบบอีกฝ่ายมากกว่ากัน แต่ที่รู้แน่ๆ ก็คือเจ้าของกับหมาดูคล้ายกันไม่มีผิดจริงๆ พูดเฉยๆ อาจจะไม่เชื่อกันก็ได้ งั้นเราลองไปดูภาพเปรียบเทียบกันให้เห็นแบบชัดๆ เลยดีกว่า แล้วจะอึ้งในความเหมือนอย่างกับส่องกระจกอยู่   น้อง Benji กับเจ้า Harper ทำทรงผมสไตล์เซอร์เหมือนกัน   Sergei กับพี่ไซ Spike ความดุได้พ่อ สีตาได้ลูก   Harry กับ Hatty ถ้าเจ้าของแปลงร่างเป็นหมาได้คงกลายเป็นแฝดกันเลย   ความพลิ้วไหวของเส้นผมของพี่ Henry ก็ถ่ายทอดไปถึงเจ้าหมา Hope เช่นกัน   คุณ Francoise กับเจ้า Antoine ทั้งทรงหน้าทั้งทรงผมถอดแบบกันมาเป๊ะ   นาย Cenk กับเจ้าหมา Horst ผู้เหมือนกันแม้กระทั่งการเซตผมและเครา   คุณป้า Jessica กับน้องหมา Buddy มีรอยยิ้มที่อ่อนหวานให้ทุกคน  …

ตอนที่ Lorna Back กำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในบ้านตามปกติ อยู่ๆ Rosie หมาที่เธอเลี้ยงไว้ก็เข้ามาหาเธอ แล้วแกว่งหางไปมาด้วยความตื่นเต้น เหมือนกับมันพยายามบอกอะไรสักอย่างกับเธออยู่ ด้วยความสงสัย Back ก็เลยลุกตามไปดูว่ามันอยากให้เธอเห็นอะไร แล้วพอเธอไปถึงที่สวนหลังบ้านก็เลยรู้ว่ามันต้องการให้เธอช่วยเม่นที่ตกลงไปในท่อระบายน้ำนี่เอง     เม่นตัวน้อยหล่นลงไปในท่อระบายน้ำเล็กๆ ที่อยู่ในสวนหลังบ้าน ท่อนั้นลึกเกินกว่าที่มันจะปีนขึ้นมาเองได้ แล้วก็มีน้ำขังทำให้มันอาจจะจมน้ำได้ด้วย เธอจึงรีบติดต่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA ที่เชี่ยวชาญการช่วยเหลือสัตว์ให้เข้ามาช่วยทันที เพราะถ้าน้ำสูงขึ้นเจ้าเม่นอาจจะไม่รอดก็ได้     แต่ถึงจะมีคนที่มีประสบการณ์ช่วยเหลือสัตว์เข้ามาช่วย การช่วยเม่นตัวนี้ที่ตั้งชื่อให้ว่า Spike ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย เพราะมันไม่ให้ความร่วมมือด้วย คนของ RSPCA  เล่าว่า “รูมันเล็กมาก ถึงฉันจะเอามือเข้าไปได้ แต่ทุกครั้ง Spike ก็จะม้วนตัวเป็นลูกบอลโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันตัวเอง ฉันก็เลยเอามันออกมาไม่ได้เพราะพอเป็นบอลแล้วมันตัวใหญ่เกินกว่าจะลอดช่องออกมา ฉันเป็นกังวลมากเพราะข้างล่างนั่นมีน้ำขังอยู่ แล้วฉันก็ได้ยินเสียงมันสำลัก ฉันไม่อยากให้มันจมน้ำก็เลยพยายามจับหน้าของมันให้ห่างจากน้ำเข้าไว้”     โชคดีที่หลังจากพยายามช่วยมันอยู่นานเกือบชั่วโมง Spike ก็เลิกต่อต้านแล้วยอมให้จับแต่โดยดี Boal ก็เลยดึงตัวมันออกมาจากท่อเล็กๆ นั่นได้ จากนั้นเธอก็พามันกลับไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจดูอาการบาดเจ็บ และคาดว่าจะปล่อยตัวมันคืนสู่ธรรมชาติได้ภายในไม่กี่วัน       ที่ช่วยเม่นตัวน้อยเอาไว้ได้ก็คงต้องยกความดีความชอบให้เจ้า Rosie นี่แหละที่ไปเจอเม่นแล้วเรียกคนให้ไปช่วยได้ทัน…

แม้ว่าเจ้าหมาจะขาหักอยู่ ทันทีที่มันรู้ว่ามีคนมาช่วยมันก็กระโดดเข้าไปหาโดยที่ไม่สนขาที่เจ็บเลย มันคงกำลังดีใจมากที่มีคนมาช่วยหลังจากรอมานาน อาสาสมัครหญิงจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Howl of a Dog ได้เจอกับเจ้าหมา Vlad โดยบังเอิญ เธอเห็นมันอยู่ในพุ่มไม้ขณะที่ขับรถอยู่ เจ้าหมาผอมมากจนเห็นกระดูกได้ชัดเจน แถมขาหน้าข้างหนึ่งยังหักด้วย เธอเลยรีบจอดรถที่ตรงข้างทางแล้วเข้าไปช่วยมันทันที     การช่วย Vlad ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย เพียงแค่เธอเรียกเจ้าหมา มันก็วิ่งตรงเข้ามาหาเธอเองแล้ว จากนั้นมันก็กระโดดโผกอดเธอเลย มันคงกำลังรอใครสักคนมาช่วยอยู่พอดี เธอเลยเอาสายจูงใส่ให้เจ้าหมา แล้วพามันขึ้นรถกลับไปที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ด้วยกัน มันจะได้กินข้าวแล้วก็รักษาขาที่หักด้วย     เธอไม่รู้ว่า Vlad ทนหิวมานานแค่ไหนแล้ว อย่างน้อยๆ ก็นานมากพอที่จะทำให้มันพยายามกินกล่องทิชชู่ทันทีที่ขึ้นมาบนรถเลยล่ะ เห็นแบบนั้นแล้วเธอก็เลยรีบขับรถพามันกลับไปกินข้าวโดยเร็ว     หลังจาก Vlad ได้กินข้าวจนอิ่มแปล้แล้ว อาสาสมัครก็พามันไปเอกซเรย์ต่อเลย เพื่อที่จะได้รักษาขาของมันให้หายไวที่สุด ดูจากผลเอกซเรย์แล้วเจ้าหมาน่าจะโดนรถชนมาเมื่อประมาณสัปดาห์เดียวเอง แต่แค่อาสาสมัครคิดว่ามันต้องเดินกะเผลกๆ อยู่เป็นอาทิตย์ก็สงสารมันแย่แล้ว     ไม่กี่วันต่อมา Vlad ก็ได้รับการผ่าตัดเรียบร้อย ทุกอย่างในชีวิตมันกำลังเป็นไปได้ดี มันฟื้นตัวได้อย่างยอดเยี่ยม แล้วระหว่างที่พักฟื้นก็มีคนให้อาหารแล้วก็เกาหัวให้มันจนพอใจ พอหาเริ่มหายดีแล้วเจ้าหมาก็ชอบออกไปวิ่งเล่นในสนามของศูนย์พักพิง มันดูมีความสุขขึ้นมาก โดยเฉพาะเมื่อได้วิ่งเล่นกับคนที่ช่วยมันมา  …

สุนัขเป็นที่รู้จักกันในฐานะเพื่อนที่ซื่อสัตย์ที่สุด ซึ่งไม่ใช่แค่กับเจ้าของเท่านั้น แต่พวกมันภักดีและรักพวกพ้องของตัวเองมากกว่าสิ่งอื่นใด และเรื่องราวต่อไปนี้จะบอกเล่าถึงความรักที่สุนัขมีต่อเพื่อนได้ดีที่สุด     เมื่อ 3 ปีที่แล้ว No Kill Kern กลุ่มอาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ใน Bakersfield รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้รับแจ้งเกี่ยวกับสุนัขตัวหนึ่ง ที่อยู่ในทุ่งมานานกว่า 2 เดือนแล้ว อาสาสมัครจึงสอบถามข้อมูลกับผู้ที่โทรแจ้งเข้ามา และลงพื้นที่ไปช่วยเหลือทันที อุณหภูมิในวันนั้นร้อนมาก ซึ่งสูงถึง 38 องศาเซลเซียส แต่นั่นไม่ได้ทำให้อาสาสมัครหยุดความพยายามในการช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตที่กำลังลำบาก     เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พวกเขารู้เลยว่าภารกิจนี้มันไม่ง่ายเลย เพราะพื้นที่ดังกล่าวกว้างมากและพวกเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าสุนัขอยู่จุดไหน แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็มุ่งมั่นที่จะตามหามัน อาสาสมัครเดินตามรอยเท้าสุนัขที่อยู่หลังไร่ข้าวโพด พวกเขาทำงานกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ จนทุกคนเกือบล้มเลิกการค้นหา พวกเขาบอกว่า “ขณะที่เราเกือบจะล้มเลิกในวันนั้น อยู่ดีๆ เจ้าหมาก็ปรากฏตัวขึ้นในทุ่งที่มันอาศัยอยู่”      ตอนแรกอาสาสมัครต้องการรู้ว่าทำไมสุนัขถึงมาอยู่ที่นี่ แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ จึงได้รู้คำตอบที่ทำให้หัวใจของพวกเขาแทบแตกสลาย ภาพที่เห็นคือซากศพของเพื่อนเจ้าหมาที่ถูกรถชนตาย แต่ด้วยความรักที่มีต่อเพื่อน เจ้าสุนัขผู้ซื่อสัตย์จึงอยู่เฝ้าศพเพื่อน และไม่ยอมไปไหน     ทุกๆ คืนเจ้าหมาจะนอนข้างๆ ซากศพเพื่อน มันไม่ยอมทิ้งศพเพื่อนจนกว่ามันได้รับการช่วยเหลือทั้งคู่…

สุนัขบางตัวมีความฉลาดมาก เมื่อสั่งให้ทำอะไร มันก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี เพราะแบบนี้ น้องหมาหลายๆ ตัว จึงได้รับมอบหมายหน้าที่เฉพาะของตัวเอง เหมือนกับเจ้าหมา Nelson ที่อาศัยอยู่กับเจ้าของที่ฟาร์มใน East Sussex สหราชอาณาจักร มันได้รับมอบหมายให้ดูแลฝูงแกะประมาณ 10 ตัว ฟังแบบนี้แล้ว เราหลายคนคงคิดว่าเจ้าหมาตัวนี้ต้องต้อนแกะเก่งแน่ๆ ใช่มั้ย?     แต่เดี๋ยวก่อน เพราะเจ้าของได้เผยแพร่คลิปขณะที่ Nelson ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย งานนี้ไม่รู้ว่ามันต้อนแกะ หรือมันถูกแกะต้อนกันแน่ จนได้ชื่อว่า ‘หมาเลี้ยงแกะที่แย่ที่สุด’     จากคลิป ตอนแรก Nelson เดินเข้าไปหาฝูงแกะด้วยความมั่นใจ จากนั้นมันก็พยายามจะต้อนแกะให้อยู่เป็นกลุ่ม ด้วยการวิ่งไปซ้ายที ขวาที ซึ่งฝูงแกะก็วิ่งตามทิศทางของมันทุกครั้ง จนดูเหมือนว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดี     แต่แล้ว แผนการของน้องหมาก็เกิดความผิดพลาด เมื่อแกะตัวหนึ่งตัดสินใจออกมาจากกลุ่ม แล้ววิ่งตามมันอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่ตัวอื่นๆ จะวิ่งเข้ามาสมทบ ตอนนี้ Nelson คงคิดแล้วว่าตัวเองไม่สามารถต้อนฝูงแกะให้กลับไปอยู่เป็นกลุ่มได้ เพราะมันกำลังถูกวิ่งไล่ มันจึงวิ่งหนีด้วยความเร็วสูง สุดท้าย น้องหมากลับกลายเป็นฝ่ายโดนต้อน ต้อนไปทางไหนไม่รู้ มันรู้แต่ว่าต้องวิ่งให้เร็วที่สุด    …

แมวเป็นสัตว์ที่ดื้อรั้นและมีความคิดเป็นของตัวเอง เมื่อพวกมันมีเป้าหมาย มันจะพุ่งเข้าทันที โดยไม่สนใจคำตอบของเป้าหมาย ล่าสุด ตรรกะน่ารักๆ แบบนี้ได้เกิดขึ้นกับเจ้าเหมียวตัวทำกับทหารหนุ่ม เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อเจ้าเหมียวต้องการให้ทหารหนุ่มเป็นพ่อใหม่ให้ และโชคดีที่นายทหารก็ไม่ปฏิเสธด้วย     ทหารคนนี้มีชื่อว่า Justin W เขาถูกส่งไปประจำการที่โรมาเนียกับกองทัพสหรัฐฯ วันหนึ่ง ขณะที่เขาเดินผ่านสวนสาธารณะ เขาได้เจอกับแมวดำผู้น่ารักตัวหนึ่ง เจ้าเหมียวตัวนั้นขี้เล่นและเป็นมิตรมาก และแล้ว มันกับ Justin ก็สนิทกับอย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้เวลาด้วยกันบนม้านั่งของสวนสาธารณะ และบางครั้งเจ้าเหมียวยังงีบในหมวกของทหารหนุ่มด้วย Justin จึงตัดสินใจตั้งชื่อให้มันว่า Salem     เนื่องจาก Salem กับ Justin สนิทกับตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ดังนั้น เจ้าเหมียวจึงตัดสินใจเดินตาม Justin กลับไปยังค่ายทหาร จากนั้น มันก็ยึดที่พักทหารเป็นบ้านตัวเองอย่างรวดเร็ว ทหารทุกคนที่อยู่กองเดียวกับ Justin หลงรัก Salem พวกเขาชอบใช้เวลากับเจ้าเหมียวขี้เล่นตัวนี้ และขำไปกับการแสดงสีหน้าตลกๆ ของมัน     เมื่อภารกิจของ Justin ในโรมาเนียสิ้นสุดลง เขาไม่อยากทิ้ง Salem ไว้ที่นี่ ดังนั้น เขาจึงเริ่มเปิดระดมเงินในเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อพาเจ้าเหมียวกลับไปอเมริกากับเขา ต่อมา Oana’s Homeless Street…

เมื่อมีปัญหากับสัตว์เลี้ยง หลายคนมักจะแก้ปัญหาด้วยการเอามันไปปล่อยทิ้งบ้าง ส่งไปการุณยฆาตบ้าง โดยไม่คิดถึงความรู้สึกของสัตว์เลี้ยง เหมือนกับ Mischa เจ้าเหมียวที่อาศัยอยู่กับเจ้าของมาเกือบตลอดทั้งชีวิต แต่แล้วทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่ออายุได้ 9 ปี     ขณะที่ครอบครัวเติบโตขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับภาระหน้าที่ของแต่ละคน Mischa ก็มีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน พวกเขาจึงไม่ค่อยมีเวลาให้มัน ยิ่งไปกว่านั้นมันเริ่มมีปัญหาทางเดินปัสสาวะด้วย Chatons Orphelins Montréal กลุ่มช่วยเหลือใน Montréal ประเทศแคนาดา บอกว่า “หลังจากที่ทราบปัญหาของเจ้าเหมียว ครอบครัวได้ติดต่อไปยังสัตวแพทย์ในท้องถิ่น ไม่ใช่เพื่อรักษามันนะ แต่เพื่อให้คุณหมอการุณยฆาตมัน”     อย่างไรก็ตาม ทางคลินิกไม่เห็นด้วยที่จะฆ่าสัตว์เพียงเพราะมันป่วย พวกเขาจึงพยายามพูดหว่านล้อมให้เจ้าของปล่อยมันไปแทนการการุณยฆาตมัน ตอนแรกเจ้าของไม่ยอม แต่ท้ายที่สุดพวกเขาตอบตกลง ดังนั้น พนักงานของคลินิกจึงรับ Mischa มาอยู่ในการดูแล และให้การรักษาทางการแพทย์ที่จำเป็นกับมัน     ในเวลาเดียวกันนี้ ทางคลินิกได้ติดต่อมายัง Chatons Orphelins Montréal (COM) เพื่อให้ช่วยหาบ้านอุปถัมภ์ให้ Mischa COM บอกว่า “Mischa อ้วนมาก มันมีน้ำหนักเกินเกณฑ์คือ 6.15 กิโลกรัม…

สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงแล้ว พวกเขามักจะรักสัตว์เหมือนลูกและโกรธไม่ลงเมื่อพวกมันทำผิด แต่บางที วีรกรรมของสัตว์เลี้ยงมันแสบเกินให้อภัยจริงๆ เหมือนกับเจ้าสัตว์เลี้ยงพวกนี้ เลี้ยงได้แต่ตัวแต่ใจมันเลี้ยงไม่ได้ วันๆ หาแต่เรื่องมาให้ แถมไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด บางตัวถึงกับวางแผนเล่นงานเจ้าของด้วย   1. เจ้าหมาทำของตกเรี่ยราด แล้วดูมันทำ นั่งเอามือเท้าโซฟาตอนที่คุณแม่กำลังเก็บกวาด   2. เจ้าเหมียวสร้างความอับอายให้เจ้าของด้วยการขโมยกางเกงในกับถุงเท้าคนอื่นมาให้ทุกเช้า   3. น้องหมาจะคาบทุกอย่างที่เจ้าของสนใจ เพื่อให้หันมาสนใจมันแทน   4. เจ้าเหมียวขโมยที่ปัดฝุ่นของพ่อไป แต่สุดท้ายหนีไม่รอด   5. เดี๋ยวนะ แกควรจะรู้สึกผิดไม่ใช่ภูมิใจ   7. แน่ใจเหรอว่าคุณไม่ได้เลี้ยงปีศาจไว้ในบ้าน   8. เจ้าของไม่อยากให้เจ้าเหมียวสะบัดน้ำใส่กางเกง เลยถอดไว้ในห้อง แต่พออาบน้ำเสร็จเท่านั้นแหละ… นี่คงจะเป็นการแก้แค้นที่จับมันอาบน้ำละมั้ง   9. เจ้าสัตว์ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง นี่แกอยากลองของใช่มั้ย   10. เจ้าเหมียวแสบคาบหนูใกล้ตายไปไว้ในปากแม่ เพราะเธอไม่ยอมตื่นมาดูแลมันสักที   11. ก็ว่าขนมหายไปไหนชิ้นหนึ่ง ที่แท้ก็เจ้ากระรอกนี่เองที่ขโมยไป   12. ที่นอนดีๆ ซื้อให้ไม่นอน…

เพราะความหิวโหยทำให้สัตว์จรจัดหลายตัวต้องจากโลกนี้ไปอย่างน่าเศร้า แต่สำหรับเจ้าเหมียวตัวนี้ มันโชคดีที่มีคนใจดีไปเจอซะก่อน มันจึงรอดมาได้ เรื่องราวของเจ้าเหมียวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Kim บังเอิญไปเจอมัน สภาพของมันแทบดูไม่ได้ เพราะมันผอมมาก มีแต่หนังหุ้มกระดูก และมันกำลังนอนรอความตายอย่างหมดหวัง     ตอนแรก Kim กังวลมากและสับสนเล็กน้อย เขารู้สึกหมดหวัง เพราะไม่รู้ว่าจะช่วยมันยังไง ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่มันจึงจะกลับมาอยู่ในสภาพปกติ และถ้าช่วยมันแล้ว มันจะมีโอกาสรอดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจช่วยมัน และตั้งชื่อมันว่า Tex จากนั้นเขาก็เริ่มให้อาหารมัน ดูแลมันอย่างใกล้ชิด และให้มันได้สัมผัสความรักความอบอุ่นจากมนุษย์     เมื่อยายของ Kim ได้เจอกับ Tex เธอตกหลุมรักมันทันที แต่เธอบอกว่ายังไงแมวผู้น่าสงสารตัวนี้ก็ต้องตายเพราะความหิวอยู่ดี เพราะมันผอมเกินเยียวยา อย่างไรก็ตาม Tex ไม่ยอม มันพยายามจะมีชีวิตรอดให้ได้ และ Kim เองก็ต่อสู้เคียงข้างมันเสมอ จนอาการของเจ้าเหมียวค่อยๆ ดีขึ้น วันแล้ววันเล่า     และแล้วความพยายามของทั้งคู่ก็ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่า Tex ในวันนี้เปลี่ยนไปอย่างกับคนละตัว มันมาไกลมากเมื่อเทียบกับวันแรกที่ถูกพบ Kim บอกว่า “Tex เป็นแมวที่น่ารัก จนคุณแทบไม่อยากเชื่อว่าตอนที่ผมเจอมันวันแรกมันสภาพแย่แค่ไหน มันมีแผลทั่วตัว มีกลิ่นเหม็นเน่า และผมต้องโกนขนมันทั้งตัวเพื่อรักษา”  …

ในประเทศสหรัฐอเมริกา นักดับเพลิงไม่ได้ทำหน้าที่ระวังและระงับเหตุไฟไหม้เท่านั้น บางครั้งพวกเขาก็ต้องช่วยเหลือสัตว์ด้วย ส่วนใหญ่ที่พวกเขาเจอก็มักจะเป็นแมวที่ขึ้นไปติดบนต้นไม้ หรือหมาที่ตกลงไปในหลุมลึก แต่เมื่อเจอภารกิจช่วยนกน้อยสุดน่ารักแบบนี้ บางทีมันก็ทำให้พวกเขาผ่อนคลายและรู้สึกดีเหมือนกัน     ภารกิจช่วยเหลือนกน้อยเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2018 นี่เอง โดยเกิดขึ้นในสถานีดับเพลิงของเมืองริชเบิร์ก รัฐแคโรไลนาเลย นักดับเพลิงเจอมันหมดแรงอยู่ในอาคาร ถึงจะเดินเข้าไปใกล้มันก็ไม่มีแรงมากพอจะบินหนี พวกเขารู้ดึว่าควรจะหาน้ำให้มันดื่มแก้กระหาย แล้วพอมันหายเหนื่อยมันก็คงจะบินไปต่อได้เอง การช่วยเหลือในวันนั้นจึงเกิดเป็นภาพน่ารักๆ ของคุณลุงนักดับเพลิง 2 คนที่นั่งเฝ้านกฮัมมิ่งเบิร์ดตัวน้อยด้วยความเอ็นดู และคอยป้อนน้ำให้กับมัน     ถึงภารกิจช่วยเหลือจะดูไม่ซับซ้อนเมื่อเทียบกับกรณีอื่นๆ แต่ทางสถานีดับเพลิงก็ภูมิใจที่ได้ช่วยนกน้อยตัวนี้เอาไว้ แล้วทำให้มันมีแรงบินอีกครั้ง พวกเขาโพสต์บนรูปของมันเฟซบุ๊กพร้อมบอกว่า “เชื่อไหมว่าคุณสามารถสอนให้แทบทุกคนเป็นนักดับเพลิง ทีมแพทย์ หรืออะไรก็ตามแต่ได้ทั้งนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่สอนกันไม่ได้ก็คือความทุ่มเทและเอาใจใส่ในงาน พวกเราโชคดีมากที่มีคนแบบนั้นมากมายในหน่วย พวกเขามีใจพร้อมจะช่วยเหลือผู้อื่นในทุกสถานการณ์”     หลังจากเราได้เห็นภาพนักดับเพลิงกับนกน้อยตัวนั้นแล้ว เราก็รับรู้ได้ว่าพวกเขามีความเอาใจใส่มันจริงๆ พวกเราเองก็ต้องมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นเหมือนกันนะ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์เล็ก หรือสัตว์ใหญ่ก็ตาม ที่มา: Charlotte Observer

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย ก็ต้องแต่งตัวตามแฟชั่นกันหน่อย ไม่อย่างนั้นถ้าเราไม่สวยไม่หล่อแล้วอาจจะทำให้คนที่ชอบคิดว่าเราแต่งตัวไม่เป็นก็ได้ แต่ถึงเราจะพยายามแต่งตัวให้ดียังไง ก็คงแพ้ก๊วนห่านก๊วนนี้แน่นอน เพราะพวกมันเล่นแต่งตัวกันแบบจัดเต็ม แถมดูดี แบบสุดๆ ชนิดที่ว่านางแบบก็ยังต้องชิดซ้าย อย่าเผลอไปเดินข้างพวกมันเชียวล่ะ เดี๋ยวจะดูจืดเอาซะเปล่าๆ แค่ดูความเลิศเลอของพวกมันอยู่ห่างๆ ก็พอแล้ว   ชุดสีแดงเลือดทำให้ดูไฮคลาสมากขึ้น   แต่งเป็นคุณนายไปเข้าวัดเลย   เกิร์ลกรุ๊ปมาแล้ว   แต่งสีอะไรก็ดูขึ้นไปหมด   ชอบแรงๆ หน่อยต้องจัดสีนี้   ไปดินเนอร์กันที่ไหนน้า แต่งตัวซะเต็มเชียว   สีชมพูช่างเข้ากับความเป็นกุลสตรี   อยู่ใกล้ธรรมชาติก็ต้องแต่งคุมโทนกันนิดๆ   ขนาดดอกไม้ยังดูจืดสนิทไปเลย   ไม่มีใครแต่งตัวสู้พวกเราได้หรอก   ตะลึงในความสวยของพวกเราล่ะสิเจ้าหมา   หมาแต่งตัวไม่ดีเราจะไม่คุยด้วย   ถ้าคิดว่าลูกๆ ของตัวเองแต่งตัวสู้ได้ลองเอามาประชันดูละกัน ที่มา: 9gag

หมาพันธุ์ชิสุผสมชิวาว่าชื่อว่า Maggie เป็นสัตว์เลี้ยงของ Eunice ถึงมันจะหน้าตาน่ารักมาก แต่ก็นิสัยซุกซนด้วยเช่นกัน มันเป็นหมาที่แสดงอารมณ์ได้ชัดเจน ถ้าดีใจเมื่อไหร่เจ้าของมองมันก็รับรู้ได้แล้ว แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มันดูดีใจมากจนยิ้มกว้างเป็นพิเศษ เจ้าของไม่เคยลืมความซนของมันในครั้งนั้นเลย     มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พ่อของ Eunice หลับอยู่ เขาใส่ฟันปลอมด้วยและมักจะถอดวางไว้เวลางีบหรือนอนหลับ จะได้รู้สึกสบายตัว แต่เมื่อเขาตื่นขึ้นมา ฟันปลอมที่เขาวางไว้ก็หายไปแล้ว เขาคิดว่าบางทีเขาอาจจะวางลืมไว้ในห้องน้ำก็ได้ แต่เข้าไปหาแล้วก็ไม่เจออยู่ดี     จนตอนที่เขาเดินลงมาตามหาที่ชั้นล่างนั่นแหละ ก็เลยเห็นเจ้า Maggie กำลังฉีกยิ้มให้เขาอยู่…โดยมีฟันปลอมของเขาอยู่ในปากด้วย มันตลกมากที่เจ้าหมากำลังยิ้มด้วยฟันของเขาอยู่ เขาก็เลยถ่ายรูปมันเก็บไว้แล้วส่งให้กับ Eunice พร้อมกับเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง Eunice เองก็ตลกกับสิ่งที่เจ้าหมาทำมาก เธอเอารูปของมันไปแชร์ต่อบนทวิตเตอร์อีกทีหนึ่ง คนอื่นจะได้เห็นรอยยิ้มของมันกันชัดๆ     ยิ้มกว้างพอไหม   หลังจากที่เจอมันแล้วพ่อของเธอก็รีบเอาฟันปลอมคืนจากเจ้าหมา ก่อนจะเอาไปทำความสะอาดให้เอี่ยมอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็ยิ้มกลับให้มันด้วยฟันคู่เดียวกันนั่นแหละ จากนี้ไปเขาคงไม่กล้าวางฟันปลอมทิ้งไว้เฉยๆ แล้ว เพราะไม่แน่ว่าถ้า Maggie อยากยิ้มอีก มันอาจจะมาขโมยฟันปลอมไปใส่อีกก็ได้ ซึ่งถึงมันจะตลกดีแต่พ่อของเธอก็คงไม่ยินดีสักเท่าไหร่ที่จะให้เจ้าหมายืมฟันไปใช้     ที่มา: the dodo

สมัยนี้ไม่ได้มีแต่มนุษย์ที่ทำงานเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่บ้านแล้ว สัตว์บางตัวก็นึกขยันออกมาช่วยมนุษย์ทำงานบ้างเหมือนกัน แถมดูจะทำได้ดีซะด้วย นอกจากจะทำหน้าที่ได้ดีแล้ว ยังช่วยเป็นอาหารตาให้กับมนุษย์ระหว่างทำงานอีกต่างหาก เห็นแล้วอดจะชมว่าเด็กดีไม่ได้จริงๆ   กระต่ายตำรวจพร้อมจับคนร้ายแว้ว   ตานึงคอยดูความเรียบร้อย ส่วนอีกตาโฟกัสที่ของเล่น   เดี๋ยวแยกต่อไปเลี้ยวซ้ายนะทาส   หมาเฝ้าร้านได้ดีจนเจ้านายต้องให้โบนัส   นานๆ ทีมันก็ช่วยเป็นที่วางมือถือให้ แล้วแต่อารมณ์จริงๆ   เด็กเก็บไม้ที่ว่องไวที่สุด   กำลังฝึกงานอยู่นะ ไม่ได้เล่นเลยจริงจริ๊ง   นักเรียนคนไหนแอบลอกข้อสอบเดี๋ยวจิกเลย   นอกจากจะดมหาระเบิดเก่งแล้ว ยังทำให้คนยิ้มเก่งด้วย   ถ้านักศึกษาคนไหนหลับ จะให้ออกมาลูบหัวอาจารย์ทั้งคาบเลย   พนักงานต้อนรับของโรงแรมที่ไม่มีใครเคยร้องเรียน   ผมอาจจะทำงานช้า แต่สม่ำเสมอนะครับ   เปลี่ยนความชอบให้กลายเป็นงาน   ตัวอย่างที่ดี คอยเตือนนักศึกษาให้ใส่แว่นเพื่อความปลอดภัยเสมอ   เร็วสิเจ้านาย เรามีกระเป๋าต้องตรวจอีกเยอะนะ   ใครขโมยของ เหมียวจะตะปบให้เข็ดเลย   น้องใหม่ดูตั้งใจทำงานไม่เบา   เป็นเด็กดีทุกตัวเลย ที่มา: BuzzFeed

แม่แมววิเชียรมาศตัวนี้ถูกพบอยู่ตามลำพังในรัฐโอเรกอน ประเทศสรัฐอเมริกา มันกำลังท้องแก่อยู่ ทางศูนย์พักพิงเลยเก็บมันมา พวกเขาตั้งชื่อแม่แมวว่า Hazel ถึงแม้จะไม่มีใครออกมาแสดงความเป็นเจ้าของ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ได้ช่วยให้มันมีที่ปลอดภัยสำหรับคลอดลูก     หลังจากที่เก็บมันมาได้ไม่นาน Hazel ก็คลอดลูกทั้งหมด 6 ตัว ทุกตัวมีสีขาวล้วนดูน่าทะนุถนอม แต่จะให้เลี้ยงลูกแมวในศูนย์พักพิงก็คงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ Laura ซึ่งเป็นอาสาสมัครขอกลุ่มช่วเหลือสัตว์ Cat Adoption Team ก็เลยรับพวกมันมาไว้ที่บ้านของตัวเองแม่แมวจะได้มีที่อุ่นๆ ไว้ดูแลลูกแมวเต็มที่     มุมนี้ทำให้แม่แมวไว้ดูแลลูกๆ โดยเฉพาะ   Laura เล่าว่า Hazel เป็นแม่แมวที่อ่อนโยนและรักลูกมาก มันดูแลลูกทุกเวลาเพื่อให้มั่นใจว่าทุกตัวอิ่มและเนื้อตัวสะอาด ไม่งั้นมันก็จะไม่หยุดพักเด็ดขาด เธอดีใจที่ได้แบ่งปันสถานที่ให้แม่แมวได้เลี้ยงลูก เพราะนั่นทำให้ Hazel ไม่ต้องระวังภัยรอบตัว เลยเพ่งความสนใจให้กับลูกได้อย่างเต็มที่     ค่อยๆ กินก็ได้ไม่ต้องแย่งกันหรอก   นอกจากดูแลแล้ว Hazel ก็เล่นกับลูกด้วย มันเป็นแม่แมวที่มีนิสัยขี้เล่นมาก บางครั้งมันก็จะไล่จับไม้ขนนกอยู่รอบๆ ลูก เหมือนกับกำลังสอนลูกว่าควรจะเล่นของเล่นชิ้นนี้ยังไง     เลี้ยงได้ไม่ทันไรก็ตัวโตกันแล้ว   แม้ว่าลูกแมวจะอายุ 6 สัปดาห์แล้ว…

สำหรับคนชอบการผจญภัย ชอบเดินป่า หลายคนมักจะพาสุนัขคู่ใจไปด้วย เพื่อให้พวกมันได้ออกไปสัมผัสโลกกว้างด้วยกัน แต่อุบัติเหตุย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ เหมือนกับเรื่องราวของ Sam Orr จากรัฐแคนซัส เธอได้ออกไปผจญภัยกับแม่ Jennifer ที่โคโลราโด โดยพาเจ้าตูบ Bentley ไปด้วย พวกเขาได้เดินทางโดยรถจี๊ป โดยมุ่งหน้าไปยังหุบเขาที่แห้งแล้งของ Buena Vista แต่ระหว่างทาง รถที่พวกเขานั่งได้ชนเข้ากับหินข้างทาง ทำให้รถกลิ้งตกเขาซึ่งมีความสูงถึง 160 เมตร     จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ส่งผลให้ Jennifer เสียชีวิต ขณะที่ Sam ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ซี่โครงและกระดูกสันหลัง ส่วนเจ้าตูบ Bentley ถูกพบครั้งสุดท้ายในที่เกิดเหตุ ก่อนที่มันจะวิ่งหายไปในหุบเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ สัปดาห์ต่อมา ทีมงานและอาสาสมัครได้ช่วยกันกู้ซากรถจี๊ปที่ตกเขาขึ้นมา พวกเขาหวังว่า Bentley ยังมีชีวิตรอดและไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง ดังนั้น พวกเขาจึงวางน้ำและอาหารไว้ให้ในบริเวณที่เกิด พร้อมติดโปสเตอร์ประกาศหมาหายตามที่ต่างๆ     ต่อมา Joseph Stratmann คนแปลกหน้าที่ได้อ่านเกี่ยวกับการค้นหานี้จากเว็บไซต์ Craigslist ตัดสินใจขับรถไปทั่วรัฐโคโลราโด เพื่อช่วยตามหา Bentley และแล้วปาฏิหาริย์ก็มีจริง Joseph เป็นคนแรกที่เจอ Bentley ตั้งแต่มันหายไป เจ้าหมายืนอยู่บนสันเขา และอดทนรอให้ครอบครัวกลับมารับ     น่าเสียดาย…

เจ้าหมาโกลเด้นเฟรนด์ลี่ที่ปกติมีแต่คนเล่นด้วย ถึงกับเสียความมั่นใจเมื่อเจอคนเมินเฉยใส่ท่าทีออดอ้อนของมัน แต่จะหวังให้เขาเล่นด้วยก็คงไม่ได้หรอกนะ เพราะคนที่มันเข้าไปอ้อนดันเป็นหุ่นนายแบบนี่สิ เจ้า Sporty เป็นหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ในเมืองชิคาโก มันมีคนรู้จักอยู่พอสมควรเลยเนื่องจากมันชอบ ‘พาตัวเองไปเดินเล่น’ ซึ่งเป็นความน่ารักในแบบที่ไม่เหมือนใคร   https://www.instagram.com/p/BjH6fT1jf_z/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_video_watch_again   ด้วยความน่ารักของมัน ไม่ว่ามันจะเดินไปหาใครเขาก็มักจะเล่นกับเจ้าหมาเสมอ แล้วยังมีคนติดตามความน่ารักของมันทางอินสตาแกรมอีกเกือบ 50,000 คนแน่ะ ถือว่ามันได้รับความรักอย่างล้นหลามเลยทีเดียว เพราะอย่างนั้นพอ Sporty เจอหุ่นนายแบบที่ถูกใจมันก็เลยเข้าไปเล่นด้วยบ้าง และก็เป็นครั้งแรกที่มันโดนเมินเฉยมากขนาดนี้ เจ้าหมาอุตส่าห์อ้อนหุ่นนายแบบอยู่ตั้งนาน แถมยังวนกลับมาหาหุ่นเป็นรอบที่ 2 ด้วย เจอไม่เล่นด้วยแบบนี้มันเลยเสียความมั่นใจในความน่ารักไปเลย   หรือว่าหุ่นตัวนี้จะเป็นทาสแมว เลยไม่เล่นกับ Sporty https://www.instagram.com/p/BesymLojLEH/?taken-by=sporty_thedog   แต่เจ้าหมาคงไม่เสียความมั่นใจอยู่นานหรอก เพราะหลังจากนั้นพอมันไปเล่นกับคนอื่นบ้างเขาก็เล่นกับมันหมดนั่นแหละ ขี้อ้อนและน่ารักขนาดนี้ไม่มีใครขัดใจหรอก นอกจากนี้ทางร้านเสื้อผ้า Columbia Sportwear ซึ่งเป็นร้านที่อยู่ในคลิปยังมาคอมเมนต์ขอโทษในอินสตาแกรมด้วยนะ พวกเขาบอกว่า “เราขอโทษอย่างเป็นทางการแทนหุ่นนายแบบของเราด้วย แบรนด์ของเราไม่ได้มีนโยบายจะเมินเฉยใส่เจ้าหมาหรอกนะ”   https://www.instagram.com/p/BjpU2E_DnoB/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_control   ตอนนี้ Sporty ก็คงได้คามมั่นใจกลับคืนมาเต็มที่แล้ว คงไม่มีใครปฏิเสธจะเล่นกับมันอีก ถ้ามันไม่ทะเล่อทะล่าเข้าไปเล่นกับหุ่นนายแบบหรือสิ่งไม่มีชีวิตอีกล่ะก็นะ   https://www.instagram.com/p/Bjm69SnjWfP/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_control   ที่มา: Unilad

ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ทุกคนผิดพลาดได้เสมอ รวมไปถึงเจ้าหมา Elvis แต่ความผิดพลาดของมันกลายเป็นเหตุการณ์น่ารักๆ ที่ทำให้ทุกคนยิ้มแทนที่จะโกรธ Elvis น้องหมาวัย 13 ปี มันอาศัยอยู่กับ Paul Shearn และครอบครััวในรัฐเคนทักกี ประเทศสหรัฐอเมริกา มันเป็นเพื่อนที่ดีเสมอตั้งแต่ตอนเป็นลูกหมาแล้ว     สำหรับ Shearn คงมีอะไรทำให้เขามีความสุขมากไปกว่าการมี Elvis ในชีวิตอีกแล้ว เขาบอกว่า “มันเป็นหมาที่ดีที่สุด จะบอกว่ามันเป็นลูกคนแรกของผมกับภรรยาก็ได้ แต่มันเป็นหมาที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” อย่างไรก็ตาม ล่าสุด Elvis ทำบางอย่างที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่… วันนั้นเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ขณะที่ Elvis กับ Shearn กำลังขับรถอยู่บนถนนเพื่อเดินทางไปยังฟาร์มของตากับยาย พวกเขาตั้งใจจะไปตั้งแคมป์ที่นั่น ก่อนที่สมาชิกครอบครัวที่จะเหลือจะตามมาภายหลัง     ระหว่างทาง Shearn ได้จอดรถเพื่อแวะร้านสะดวกซื้อ แต่เนื่องจาก Elvis ไม่ใช่สุนัขบริการ เขาจึงให้มันรอในรถ โดยติดเครื่องไว้และเปิดแอร์ให้มัน จากนั้นเขาได้บอกเจ้าหมาว่า “อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ นั่งพักอยู่นี่สักพัก เดี๋ยวฉันจะกลับมา” แต่ดูเหมือนคำพูดนั้นไม่ได้เข้าหู Elvis เลย เพราะหลังจากที่เจ้าของลับตา มันก็ก่อเรื่องจนได้     แทนที่จะนั่งพักเฉยๆ ตามที่เจ้าของบอก Elvis กลับอยากทำอะไรที่น่าตื่นเต้นมากกว่านั้น…

ตอนที่ Tommy เป็นแมวจรจัดที่อาศัยอยู่ในละแวก Antelope Valley รัฐแคลิฟอร์เนีย มันชอบไปโผล่ที่สวนหลังบ้านหลังเดิมเป็นประจำ เพื่อขออาหารและเรียกร้องความสนใจนิดหน่อย วันหนึ่งในเดือนมิถุนายน ปี 2016 มันไปโผล่ที่สวนหลังบ้านเหมือนปกติ แต่คราวนี้มันได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องการความช่วยเหลือจากใครสักคน     Tommy มีแผลที่เกิดจากการไหม้ทั่วใบหน้า ซึ่งดูเหมือนกับว่ามีบางคนที่ไม่ชอบมัน และเทสาดน้ำกรดใส่มันจนอยู่ในสภาพแบบนี้ ครอบครัวที่ให้อาหารมันเป็นประจำ ไม่สามารถทนเห็นเจ้าเหมียวทรมานในสภาพนั้นได้ พวกเขาจึงรีบพามันไปหาสัตวแพทย์ทันที     หลังจากที่คุณหมอเห็นสภาพ Tommy เขาบอกว่าควรการุณยฆาตมัน เพราะอาการบาดเจ็บของมันรุนแรงมาก นอกจากนี้ มันยังเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องด้วย อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวปฏิเสธการการุณฆาตและไม่ยอมแพ้ที่จะช่วยมัน ครอบครัวได้ติดต่อไปยัง Milo’s Sanctuary เพื่อขอความช่วยเหลือ ทาง Milo’s Sanctuary เอง เมื่อได้ยินเรื่องราวของ Tommy พวกเขาตกลงที่จะช่วยมันอย่างไม่ลังเล     Tommy ถูกนำตัวไปส่งให้กับสัตวแพทย์ที่ทำงานกับ Milo’s Sanctuary และทันทีที่เห็นสภาพของมัน คุณหมอแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เป็นเวลา 6 สัปดาห์ที่ Tommy ต้องรับการปลูกถ่ายผิวหนัง ต้องติดผ้าพันแผลและเอาออกหลายครั้ง มันต้องกินยานับไม่ถ้วน ก่อนที่อาการของมันจะค่อยๆ ดีขึ้น     แล้วเชื่อมั้ยว่าตลอดการรักษาที่ยาวนานนี้ Tommy…

คนรักสัตว์จริงๆ จะไม่ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงตัวเองอ้วนจนเกินไป เพราะความอ้วนนั้น นอกจากจะทำให้เคลื่อนไหวลำบากแล้ว อาจทำให้น้องมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาด้วย ด้วยเหตุนี้เมื่อมนุษย์ใจดีช่วยเหลือสัตว์อ้วน พวกเขาจึงพยายามช่วยลดน้ำหนักให้พวกมันอยู่ในจุดที่พอดี เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีชีวิตที่ดีขึ้น และนี่เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนที่คุ้มค่าสุดๆ   1. Kato Kato ถูกเลี้ยงแบบละเลย มันกินอาหารมากเกินขนาดที่ร่างกายต้องการ จนกลายเป็นแมวอ้วนลงพุง อย่างไรก็ตาม เจ้าของใหม่ได้ช่วยเหลือมัน และช่วยมันลดน้ำหนัก จนกลับมามีหุ่นพอดิบพอดี   2. Dennis ในปี 2013 Brooke สังเกตเห็นสุนัขของญาติดูไม่ค่อยแข็งแรง เธอจึงตัดสินใจรับมาดูแลเอง เธอควบคุมอาหาร ช่วยให้มันออกกำลังกาย และผ่าตัดอีกหลายครั้ง จนได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้   3. Shiva ชีวิตของ Shiva เปลี่ยนไปเมื่อมันได้ถูกรับเลี้ยงตอนอายุ 4 ขวบ โดยคนที่รักมันจริงๆ เจ้าของใหม่ดูแลมันอย่างดี และภายใน 10 เดือน น้ำหนักของมันลดลงไปถึง 10 กิโลกรัม เจ้าหมามีความสุขกับรูปร่างใหม่นี้มาก เพราะมันสามารถเล่นได้เต็มที่แถมสุขภาพดีด้วย   4. Lola Lola ถูกพาเข้ามาในศูนย์พักพิงด้วยสภาพที่น่าสงสาร มันมีน้ำหนักมากเกินไปเมื่อเทียบกับชิวาวาทั่วไป มันเดินไม่ค่อยได้ และต้องทรมานกับความเจ็บปวด…

แม่แมวและลูกอีก 2 ตัวที่รอดตายได้รับการช่วยเหลือ หลังจากที่พวกมันถูกพบหลังร้านอาหารซูชิ ลูกแมวทั้งสองตัวคือ Twister หรือ Twisty และ Hurricane พวกมันมีอายุได้แค่ 1 วันเท่านั้น Mini Cat Town กลุ่มช่วยเหลือแมวในรัฐแคลิฟอร์เนียได้รับครอบครัวแมวมาอยู่ในการดูแล และมุ่งมั่นที่ทำให้พวกมันมีชีวิตที่ดีขึ้น     ขณะที่ลูกแมวอายุได้ 2 สัปดาห์ พวกมันอยู่ในช่วงของการฝึกเดิน แต่ Thoa Bui จาก Mini Cat Town สังเกตเห็นว่า Twisty มีปัญหากับการยืน แม้จะมีความรู้สึึกและขยับขาหลังได้ก็ตาม Twisty ล้มลงทุกครั้งเมื่อพยายามจะยืน แต่แม้จะลำบากแค่ไหน มันไม่เคยปล่อยให้สิ่งเหล่านี้มาหยุดมันเลย มันเดินและสำรวจที่ต่างๆ เท่าที่จะทำได้ นั่นทำให้ผู้ดูแลรู้ว่ามันมีหัวใจแห่งนักสู้ พวกเขาจึงหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยวินิจฉัย     หลังจากนั้น ผู้ดูแลก็ได้ไปพบนักประสาทวิทยา เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับวิธีช่วยเหลือ Twisty แต่คำตอบที่ได้รับคือ เจ้าเหมียวพิการขาอย่างรุนแรง และควรจะการุณยฆาตมันซะ     Thoa บอกว่า “เราไม่เคยคิดเรื่องการการุณยฆาตเลย เพราะ Twisty ไม่ได้เป็นอัมพาตและไม่ได้เจ็บปวด มันมีความสุขและสุขภาพก็แข็งแรงดี”…