Tag: ข่าวต่างประเทศ
-
แห่แชร์คลิป หนุ่มน้อยหลั่งน้ำตาปิติ ได้ “ใบรับรอง” ใช้นามสกุลพ่อเลี้ยงเป็นของขวัญ
หากคุณได้ลองถามเด็กๆ ถึงของขวัญที่พวกเขาอยากได้ล่ะก็ เด็กหลายๆ คนคงจะตอบว่าเกม ของเล่น เสื้อผ้า รองเท้า หรืออะไรก็ตามแต่ที่วัยพวกเขาต้องการกัน แต่สำหรับเด็กคนนี้ของสิ่งเดียวที่ล้ำค่าและต้องการมากที่สุดกลับไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลย นี่คือเรื่องราวของหนุ่มน้อย Landon วัย 11 ขวบ ที่เติบโตและได้รับการอุปถัมภ์โดยพ่อเลี้ยงที่ชื่อว่านาย Daniel Rice แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่พ่อลูกกันแท้ๆ แต่พวกเขาก็มีความสนิทสนมกันมากประหนึ่งเป็นพ่อลูกกันจริงๆ จน Landon อยากจะใช้นามสกุล Rice ตามพ่อบุญธรรมของเขาเลย Janelle Rice แม่บุญธรรมของ Landon กล่าวว่า “ตอนที่เขาเรียนจบป. 5 เมื่อเดือนพฤษภาคม เขาขึ้นไปรับใบประกาศณียบัตรแล้วก็บอกกับคุณครูของเขาว่าเขาอยากจะให้นามสกุล Rice มากกว่านามสกุลที่ใช้มาตั้งแต่เกิด นั่นทำให้เรารู้ว่าต้องเริ่มทำอะไรสักอย่าง” แต่ใช่ว่าการเปลี่ยนนามสกุลจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพราะนาย Daniel ต้องยื่นเรื่องและเอกสารมากมายต่อเจ้าหน้าที่รัฐและใช้เวลานานพอสมควร แต่สุดท้ายเข้าก็ได้ “ใบรับรอง” การเปลี่ยนนามสกุลมาให้กับเด็กชาย Landon เรียบร้อย Daniel จึงแอบเอาใบรับรองใส่กรอบมาห่อเป็นของขวัญและเซอร์ไพรส์ลูกชายของตัวเองในวันคริสต์มาส ซึ่งพอ Landon เห็นก็แสดงอาการดีใจจนน้ำตาไหลและแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาดีใจที่ได้ใช้นามสกุลของพ่อขนาดไหน ไปชมเรื่องราวซึ้งๆ ของพวกเขากันเลย …
-
ผู้บริหาร Dentsu ประกาศลาออกแสดงความรับผิดชอบ หลังพนักงานทำงานหนักจนฆ่าตัวตาย
หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้#เหมียวฟิ้นได้เคยเขียนบทความเกี่ยวกับการทำงานในสไตล์ชาวญี่ปุ่น จนทำให้เกิดความเครียดสะสมและมีการฆ่าตัวตายนับครั้งไม่ถ้วน (อ่านบทความชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตจากการ “ทำงานหนัก” ได้ที่นี่เลย) ซึ่งในบทความนั้นได้มีการกล่าวถึงพนักงานสาว Matsuri Takahashi วัย 24 ปี ของบริษัทโฆษณา Dentsu Inc. ที่ฆ่าตัวตายเมื่อช่วงปลายปี 2015 เนื่องจากเธอต้องแบกภาระหน้าที่ที่หนักจนเกินไป และมีชั่วโมงการทำงานล่วงเวลามากถึง 105 ชั่วโมงต่อเดือนเลยทีเดียว ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2016 ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศหลายๆ แห่งเช่น Dailymail, Theguardian และ Businessinsider ได้ออกมารายงานว่าผู้บริหารสูงสุดของ Dentsu Inc. อย่างนาย Tadashi Ishii ได้จัดงานแถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งแล้ว ตามรายงานบอกว่านาย Tadashi Ishii ได้โค้งคำนับต่อสื่อมวลชนและกล่าวว่าเขาจะก้าวลงจากตำแหน่งผู้บริหารในเดือนถัดไปเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยในงานนาย Tadashi ได้กล่าวว่า “การทำงานที่มากเกินไปไม่ควรเกิดขึ้นในญี่ปุ่นเลย ผมรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งและรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และจะขอลาออกในฐานะผู้บริหารในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้” จากข่าวก่อนหน้านี้บอกว่า Matsuri Takahashi ได้รับมอบหมายงานที่เยอะมาก เธอกลับบ้านเร็วสุดคือ 4 ทุ่ม และยิ่งเมื่อเธอผ่านโปรในเดือนตุลาคม 2015…
-
งานดี๊ดี!! รวม 7 นักแสดงชายหล่อด้วยแสดงดีด้วย และคุณควรไปหาผลงานของพวกเขามาดู
เผลอแป็บๆ ก็จะหมดปี 2016 แล้ว มันช่างผ่านไปเร็วอะไรขนาดนี้? มานั่งคิดๆ ดูปีนี้#เหมียวฟิ้นก็แวะเวียนเข้าออกโรงหนังเป็นว่าเล่น ผ่านหนังมาก็หลายเรื่อง ซึ่งแต่ละเรื่องก็เต็มไปด้วยนักแสดงฝีมือดีแถมยังมีหน้าตาดีอีก วันนี้เราก็เลยขอเอาใจสาวๆ ด้วยการรวบรวมเอานักแสดงหนุ่มหน้าตาดีและฝีมือดีแห่งปี 2016 มาให้เพื่อนๆ ให้น้ำลาหกพร้อมกับไปคุ้ยหาผลงานของพวกเขามาดูกัน ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย 1. Ryan Reynolds ความดีงาม: ถ้าเราเห็นเขาแต่รูป เราจะคิดว่าเขาคือหนุ่มอเมริกันหน้าหล่อ ขี้เล่นนิดๆ แต่หลังจากที่เขาผ่านผลงานการแสดงมาหลายๆ แบบไม่ว่าจะดราม่า ตลก หรือสยองขวัญ ลุคหรือตัวตนที่แท้จริงของเขาก็เริ่มแสดงให้เราเห็นชัดขึ้น…และเห็นว่าเขานั้นเป็นคนกวนโอ๊ยแค่ไหน… แต่ด้วยความกวนโอ๊ย ความขี้เล่นของเขา บวกกับมัดกล้ามที่แน่นเปรี้ยะ ก็ทำให้สาวๆ หลายคนอ่อนระทวยและปฏิญาณตนจะตามดูหนังของเขาไปทุกเรื่องๆ หนังที่ควรดู: The Proposal Buried The Voices Deadpool สถานภาพ: แต่งงานแล้วกับ Blake Lively 2. Chris Evans ความดีงาม: คงไม่มีใครไม่รู้จักกัปตันอเมริกาหรือหรอกนะ เพราะเขาทั้งหน้าตาดีและกล้ามก็ดีด้วย (กรี๊ส) แม้ว่าผลงานการแสดงของเขาที่ติดตาคนทั่วโลกจะเป็นบทบาทของซุปเปอร์ฮีโร่ แต่ในระยะหลังๆ มานี้เขาก็พัฒนาตัวเองไปอีกขั้นด้วยการเป็นโปรดิวซ์เซอร์และผู้กำกับหนังเองแล้วด้วย เช่นเรื่อง Before…
-
ฮือฮากันใหญ่ Nasa เผยภาพคล้าย “ช้อน” ถูกพบบนผิวดาวอังคาร คาดอาจมีสิ่งมีชีวิตอยู่จริงๆ
การค้นหาสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกยังคงเป็นภารกิจที่หน่วยงานหลายๆ แห่งให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเราเองก็ตั้งตารอและรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่มีการค้นพบบสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่ามีผู้ที่คลั่งไคล้เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาว ค้นพบวัตถุหน้าตาคล้ายช้อนบนพื้นผิวดาวอังคารจากคลิปของยานสำรวจที่ Nasa ส่งขึ้นไปบนดาวอังคาร จนสร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก ตามรายงานบอกว่าการค้นพบวัตถุคล้ายช้อนครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกแต่เป็นครั้งที่สองแล้วในรอบปีนี้ และนอกจากช้อนแล้ว ก่อนหน้านี้ทาง Nasa เองยังเคยค้นพบวัตถุหน้าตาคล้ายกับแหวนและถุงมือด้วย ซึ่งการค้นพบเหล่านั้นทำให้เกิดการคาดการณ์ไปต่างๆ นานาว่านี่อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกเราว่าเคยมีสิ่งมีชีวิตภูมิปัญญาอาศัยอยู่ที่นั่นจริงๆ หลังจากที่คลิปการค้นพบช้อนนี้ถูกเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ยูทูบ ก็สร้างความตื่นตะลึงให้แก่ชาวเน็ตมากมาย เช่น M7CVZ “ว๊าว มันไม่น่าจะเป็นเรื่องธรรมชาติเลย” Haschel “Matt Damon เอาไปทิ้งไว้แน่ๆ” phillip Scarlett “Nasa รู้มาเป็นปีๆ แล้วว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่นอกโลก” แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีคนเชื่อว่ามันคือช้อนทั้งหมด และบางคนมองว่ามันอาจจะเป็นเพียงภาพลวงตาก็เป็นได้ “เรามองเห็นในสิ่งที่เราอยากเห็น บางคนยังเห็นหน้าของพระเจ้าในใบไม้ได้เลย บางคนก็มองเห็นเป็นมนุษย์ยืนอยู่บนดวงจันทร์ก็มี” หนึ่งในคอมเม้นจากยูทูบกล่าว ที่มา dailymail
-
น้องสาวขนลุกซู่ ได้ของขวัญจากพี่เป็นรถสปอร์ต แต่ที่ไหนได้มันไปเช่ามา ไม่จ่ายตังค์ด้วย!!
แม้ว่าวันนี้จะเลยเทศกาลคริสต์มาสมาแล้ว แต่ก็ยังคงมีควันหลงน่ารักๆ จากหลายที่มาให้เราได้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ อย่างเช่นเรื่องราวของพี่ชายคนหนึ่งที่เซอร์ไพรส์น้องสาวด้วยรถสปอร์ตสุดหรู แต่หลังจากที่เธอได้รู้ความจริงก็ถึงกับเงิบหงายหลังเลยล่ะ… เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านผู้ใช้ทวิตเตอร์ Morgan Svobodny เธอได้โพสต์ภาพการ์ดอวยพรคริสต์มาสและรถสปอร์ตเชฟโรเล็ค คาเมโร่ สีขาวนวล พร้อมกับข้อความว่า “โอ้พระเจ้า ฉันคิดว่าพี่ชายซื้อของขวัญให้กับฉันจริงๆ เพื่อแกล้งให้ฉันตกใจเล่น แต่ไม่ใช่อย่างงั้นเลย^^!” จากภาพคุณจะเห็นข้อความในการ์ดที่เขียนด้วยลายมือบอกว่า “ของขวัญคริสต์มาสจอดรออยู่ที่ถนน” ซึ่งไม่ว่าใครพอได้อ่านข้อความแบบนี้ก็ต้องคิดว่าของขวัญเป็นรถกันทั้งนั้น เมื่อเธอออกไปดูก็พบว่ามันก็เป็นรถจริงๆ แต่เมื่อเธอได้อ่านข้อความอวยพร (เหรอ) ของพี่ชายก็ทำเอาเงิบ เพราะมันเขียนไว้ว่า “ฉันเอารถคันนี้มาจากร้านเช่า และต้องเอามันไปคืนก่อนเวลา 5 โมงเย็นของวันจันทร์ด้วย ยังไม่ได้จ่ายค่าเช่า ฉันเลยจะขอให้เธอจ่ายด้วยบัตรเดบิตของเธอให้ด้วย” ทางด้านพี่ชายได้อธิบายว่าเขาได้ใช้เงินส่วนใหญ่ไปกับการซื้อของขวัญให้คนในครอบครัวไปหมดแล้ว จึงไม่เหลือเงินมาซื้อของขวัญให้เธอ แต่ก็ยังพอมีน้ำใจอยู่บ้าง ด้วยการแนบเอาการ์ดสมาชิกจากร้านอาหารบางแห่งมาเพื่อให้เธอได้ขับรถไปซื้อของกินเพื่อเป็นของขวัญปลอบใจ… เอาหน่า อย่างน้อยๆ ก็ได้ขับไปกินอาหาร ขับไปคืนร้านเช่ารถอยู่นะ หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกอินเตอร์เน็ต ผู้คนในโลกออนไลน์ก็ต่างขานรับกับเรื่องราวสุดเกรียนนี้กันไปอย่างมากมาย เช่น @mynameispage “นี่คุณทนไม่ฆ่าเขาได้ยังไงเนี้ยะ” @shaZayn1 “พี่ชายคุณนี่ตลกเป็นบ้าเลย” @RileySorgatz “ฉันขำแบบจริงจังมาก นี่มันอัจฉริยะชัดๆ” @Du_mmor “ผมนี่พูดไม่ออกเลย มันยิ่งใหญ่มากๆ” …
-
ไม่อยากให้พลาด!! รวม 9 หนังและซีรีส์ เกี่ยวกับแฮกเกอร์ ถึงแม้จะแฮกไม่เป็น ก็ดูได้
นับตั้งแต่ที่โลกของเราเข้าสู่ยุคอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าข้อมูลอะไรเราก็สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย แนวทางการสร้างภาพยนตร์และซีรีส์จึงเริ่มมีการใส่เรื่องของการเข้าถึงข้อมูลและการแฮกเข้ามาให้ผู้ชมได้ดูกัน วันนี้ #เหมียวฟิ้น จึงรวบรวมนำ 9 หนังและซีรีส์เด็ดๆ เกี่ยวกับแฮกเกอร์มาให้เพื่อนๆ ได้ไปลองหาชมกัน (แบบถูกลิขสิทธิ์) และไม่ต้องกังวลไปเพราะแม้คุณจะไม่รู้เรื่องคอมหรือแฮกคอมใครไม่เป็น แต่รับรองว่าดูรู้เรื่องและสนุกแน่นอน!! 1. Mr. Robot ถือเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เล่าเรื่องราวของ เอลเลียต หนุ่มนักวิศวะกรคอมพิวเตอร์ผู้เกลียดการเข้าสังคม เขามักจะแฮกข้อมูลของคนอื่นๆ เพื่อล้วงความลับอันดำมืดออกมา วันหนึ่งเขาก็ได้รู้จักกับกลุ่มแฮกเกอร์ลับ fsociety และนั่นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าไปข้องเกี่ยวกับอาชญากรรมแบบเต็มตัว 2. Mission Impossible หนังสายลับแอ็คชั่นที่คนทั่วโลกรู้จัก แต่คุณอาจลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่ง (ในภาคแรก) มันเคยมันมีบรรยากาศของความเป็นหนังโจรกรรมและหนังแฮกเกอร์อยู่ ฉากที่น่าจดจำที่สุดและกลายเป็นฉากประวัติศาสตร์ของโลกภาพยนตร์เลยก็คือฉากที่ฮีธาน ฮันท์โหนตัวลงมาจากเพดาน เพื่อล้วงข้อมูลจากภายในคอมพิวเตอร์ที่เต็มไปด้วยระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้นนี่แหละ 3. Snowden หนังเรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริงของเอ็ดเวิร์ด สโนวเดน ผู้มีความเก่งกาจในการเขียนโปรแกรมและเจาะข้อมูล เขาได้ร่วมมือกับเกล็นน์ กรีนวาลด์ ยวน แม็คแอสคิลล์ และลอรา พอยทราส เพื่อเปิดเผยข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พยายามจะรวบรวมข้อมูลส่วนตัวจำนวนมหาศาลของผู้ใช้ทุกๆ คนไม่ว่าจะในเรื่องใดก็ตาม นี่จึงกลายเป็นการเปิดโปงข้อมูลครั้งใหญ่ของโลกที่ทำให้ชีวิตของเขาต้องลำบากมากกว่าที่เคย …
-
สาวผิวน้ำผึ้งแชร์ประสบการณ์ จากคนขายน้ำมะพร้าวข้างทาง จนกลายเป็นนางแบบระดับอินเตอร์
นี่เป็นเรื่องราวที่ทำเอา#เหมียวฟิ้นถึงกับต้องหยุดอ่านอยู่นานทีเดียว แล้วเมื่ออ่านจบก็ถึงกับทึ่งในชีวิตของคนๆ หนึ่ง ที่เติบโตจากคนธรรมดาๆ จนสามารถทำตามฝันได้สำเร็จ เรื่องราวที่เราจะเล่าต่อไปนี้เป็นของคุณโอปอล พิไลวรรณ พิมพ์ภูลาด วัย 22 ปี เธอได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก Pili Opal เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเธอได้เล่าเรื่องราวของตัวเองตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เริ่มทำงานหาเงินด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสต๊าฟขายตั๋วหรืองานขายมะพร้าวข้างถนนเธอก็ผ่านมาแล้ว เนื่องจากเธอเป็นคนผิวสีน้ำผึ้ง ทำให้หน้าตาของเธอไม่ได้โดดเด่นกว่าคนอื่นๆ เท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่ได้ย่อท้อและยังฝันเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งเธอจะเป็นนางแบบให้ได้ เมื่อเธอโตขึ้นเธอก็ได้พบกับโมเดลลิ่งและคนในวงการเดินแบบ ทำให้เธอเริ่มออกเดินตามฝันในการเป็นนางแบบ คุณโอปอลเล่าให้#เหมียวฟิ้นฟังว่าในสมัยก่อน เธอได้รับการตำหนิและการดูถูกจากคนรอบข้างของเธอมากมาย “เคยมีคนแนะนำให้ทำดั้งแล้วก็แนะนำให้ใช้ครีมหน้าขาวหน้าเกือบแพ้ เพราะเราดำกร้านแดดมาก แต่ทาทีไรมันก็ไม่ขาวเพราะเราเปนคนผิวเหลืองไง” คุณโอปอลกล่าว จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้มีผลงานถ่ายแบบชิ้นแรกกับ Thiacatwalk และหลังจากนั้นเธอก็เริ่มเรียนรู้การโพสท่าและทักษะต่างๆ ในการเป็นนางแบบ คุณโอปอลเริ่มมีผลงานในต่างประเทศ ได้ขึ้นปกนิตยสาร และได้เดินแบบบนเวที Elle Fashion Week 2016 ไปจนถึงงานถ่ายแบบให้กับโฆษณาน้ำหอมของ David Beckham ก่อนจะทิ้งท้ายให้ทุกคนอย่าหยุดทำตามฝัน …
-
ตำรวจจับตัวแล้ว “หนุ่มบัลแกเรีย ถีบหญิงสาวในสถานีรถไฟ” หลังคนขับรถบัสจำหน้าได้
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคลิปๆ หนึ่งที่โด่งดังจนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วโลก นั่นก็คือคลิปวิดีโอของชายหนุ่มคนหนึ่งในสถานีรถไฟใต้ดิน ที่จู่ๆ ก็เดินเข้าไปถีบหญิงสาวตกจากบันไดแบบไร้สาเหตุ (อ่านข่าวเก่าหนุ่มบัลแกเรียถีบหญิงสาวตกบันไดโดยไร้เหตุได้ที่นี่) ล่าสุดมีรายงานว่าชายหนุ่มคนนี้ได้ถูกจับกุมตัวแล้วเรียบร้อย เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมสำนักข่าวต่างประเทศหลายๆ แห่งเช่น Dailymail หรือ Thesun ได้มีรายงานตรงกันว่านาย Svetoslav Stoykov ชาวบัลแกเรียวัย 27 ปี ได้ถูกเจ้าหน้าตำรวจที่จับกุมตัว หลังจากมีคนขับรถโดยสารคนหนึ่งจำหน้าเขาได้ จึงได้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาจับกุมเขาโดยทันที ตามรายงานบอกว่าหลังจากที่เขาก่อเหตุในกรุงเบอลิน ประเทศเยอรมันแล้ว เขาก็ได้เดินทางออกจากเยอรมันไปยังฝรั่งเศสเพื่อไปซ่อนตัวที่บ้านญาติๆ ของเขาในฝรั่งเศส แต่เมื่อกลับไปแล้ว เขาก็เกิดความคิดว่าการอยู่ในฝรั่งเศสน่าจะเป็นอันตรายกว่า และที่เยอรมันคงไม่มีปัญหาอะไรแล้ว จึงตัดสินใจบินกลับไปยังกรุงเบอลินอีกครั้งพร้อมกับภรรยา แต่นั่นก็เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดทีเดียว เมื่อนาย Svetoslav Stoykov ได้ไปใช้บริการขนส่งสาธารณะ แต่คนขับรถบัสบอกว่าเขาได้ยินเสียงของนาย Svetoslav กำลังเถียงกับผู้โดยสารอีกรายด้วยภาษาบัลแกเรีย ซึ่งคนขับเองเป็นชาวบัลแกเรียเหมือนกัน จึงจดจำใบหน้าของเขาได้ว่าเคยก่อเหตุอะไรมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้ง พวกเขาก็ขนเอาเจ้าหน้าที่กว่าสิบนายมารอรับเขาที่สถานีรถบัส และสามารถเข้าจับกุมเขาได้โดยไม่มีการขัดขืนใดๆ เบื้องต้นเขาได้ถูกตั้งข้อหาทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยเจตนา และอาจถูกจำคุกระหว่าง 6 เดือนถึง 10 ปี…
-
แบะๆๆ หญิงสาวลาออกจากงานสุดเครียดในเมือง เปิดฟาร์มเลี้ยงแพะ และเจอความสุขที่แท้จริง
เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวน่าประทับใจของ Leanne Lauricella หญิงสาวผู้ทำงานอยู่ในเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยการทำงานที่แสนเคร่งเครียด ทำให้เธอตัดสินใจลาออกแล้วหันไปใช้ชีวิตอยู่แถบชานเมืองแทน Leanne ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า “ฉันมีงานที่ดีมาก แต่การเดินทางไปทำงานมันย่ำแย่สุดๆ มีความเครียดสูง ฉันรู้สึกเหมือนไม่ประสบความสำเร็จและฉันรู้ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้” ในช่วงปี 2014 Leanne ก็ได้ไปเจอกับฟาร์มแพะแห่งหนึ่งและตกหลุมรักพวกมันแบบสุดๆ เธอเลยตัดสินใจเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการเลี้ยงแพะ เธอเรียนรู้ไปเรื่อยๆ จนสามารถก่อตั้ง Goats Of Anarchy องค์กรที่มีขึ้นเพื่อช่วยเหลือดูแลลูกแพะที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่นแพะที่ได้รับบาดเจ็บ แพะพิการหรือแพะที่กำพร้าพ่อแม “มันแสดงให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่านี่คือไลฟ์สไตล์ที่ฉันต้องการ ฉันตัดสินใจที่จะเปลี่ยนจากการสวมรองเท้าส้นสูงมาเป็นรองเท้าบูท และเปลี่ยนจากการขับรถเบนซ์มาเป็นการขับรถกระบะเชฟโรเลตแทน ฉันรักทุกๆ วินาทีที่อยู่กับมัน” หญิงสาวกล่าว Leanne ได้อธิบายถึงวันที่เธอกลายเป็นคนไร้งานทำว่า “คนบางคนบอกว่าฉันเป็นพวกโง่เง่า หรือพวกไม่มีความรับผิดชอบเพราะลาออกจากงานโดยไม่มีการวางแผนมาก่อน แต่สำหรับฉันมันคือการก้าวกระโดดของศรัทธาเลย” นี่ถือเป็นหญิงสาวที่น่าอิจฉาคนหนึ่งสำหรับ#เหมียวฟิ้นเลยก็ว่าได้ เพราะเธอกล้าที่จะตัดสินใจลาออกจากงานที่มั่นคงเพื่อมาทำสิ่งที่รักโดยไม่รู้ว่ามันจะส่งผลยังไงกับเธอ เธอบอกถึงแนวคิดตัวเองว่าการที่ตัวเองมีความฝันและยอมทำตามความฝันของตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณคิดว่ามันสำคัญ มันจะกลายเป็นสิ่งที่ดูโง่เง่าและไม่สำคัญขึ้นมาทันที ทุกวันนี้ Leanne ไม่ต้องกังวลกับงานที่แสนเคร่งเครียดหรือเส้นทางการจราจรติดขัดอีกต่อไป สิ่งที่เธอต้องสนใจมีเพียงแพะ แพะ แล้วก็แพะเท่านั้น …
-
ขนาดแม่ก็ไม่เว้น… เมื่อ Taylor Swift โพสต์ท่า ‘แอ่นตัว’ กลางคอนเสิร์ต กลายเป็นการตัดต่อสุดฮา
ตั้งแต่ที่ Taylor Swift ออกอัลบั้ม 1989 มาเมื่อปลายปี 2014 เพลงของเธอก็กลายเป็นเพลงที่ติดหูผู้คนไปทั่วโลก และจนถึงตอนนี้เธอเองก็ยังคงออกทัวร์คอนเสิร์ตไปอย่างไม่หยุดไม่หย่อน ล่าสุดเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Taylor Swift ได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศออสเตรเลีย และด้วยความที่เธอเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ จะมายืนร้องเพลงอย่างเดียวไม่ได้ เธอต้องมีการกระโดดโลดเต้นให้ผู้ชมของเธอรู้สึกสนุกไปด้วย แต่ที่มันกลายเป็นประเด็นก็เพราะว่าเมื่อเร็วๆ นี้ มีภาพที่เธอไปออกคอนเสิร์ตแห่งหนึ่ง แล้วดันทำท่าทางเหมือนกับจะโผบินไปข้างหน้า แล้วยกแขนไปด้านหลังจนชาวเน็ตรู้สึกว่ามันทั้งแปลกและฮาในเวลาเดียวกัน หลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ลงในเว็บไซต์ Reddit (คล้ายพันทิปบ้านเรา) สมาชิกคนอื่นๆ ก็เกิดไอเดียนำมาตัดต่อให้กลายเป็นภาพที่เหมาะกับท่าทางของเธอ อยากรู้ว่าเป็นไงลองไปดูเลย… นี่คือภาพต้นฉบับ จากนี้ไปคือภาพที่เธอถูกตัดต่อ… เลือดรักชาติมันพุ่ง!! กางแขนแบบนี้ พร้อมออกทะเลได้!! ท่าเด็ดแบบ Kim Kardashian นินจาโคโนฮะก็มา อ๋อ จริงๆ มันคือท่าแอโรบิคนี่เอง ความจริงแล้วข้างในมีคนแคระคอยบังคับเธออยู่… จะว่าไป เหมือนท่าเล่นสกีเหมือนกันนะแฮะ ………. คาร่า ซอเอล (ซุปเปอร์เกิร์ล)…
-
ชาวญี่ปุ่นรวมตัวกันนำเอาเศษใบไม้ที่ตกตามพื้น มาเรียงใหม่ให้กลายเป็นงานศิลปะไปทั่วเมือง
ในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ทำให้เกิดเศษใบไม้ร่วงลงสู่พื้นมากมาย แต่แทนที่ชาวญี่ปุ่นจะเก็บกวาดเอาไปลงถังขยะเฉยๆ พวกเขากลับเอามันมาสร้างเป็นผลงานศิลปะได้อย่างเหลือเชื่อทีเดียว เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้เผยแพร่ภาพงานอาร์ตทั่วประเทศญี่ปุ่น ที่ชาวเมืองจากหลายๆ แห่งรวมตัวกันเอาใบไม้หลากสีตามพื้นถนนหรือมุมต่างๆ มาเรียงกันจนกลายเป็นภาพสวยๆ จนตอนนี้กลายเป็นกระแสที่ใครๆ ก็อยากจะมีส่วนร่วมด้วย หากใครเห็นไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นหรือเคยดูภาพยนตร์ญี่ปุ่นมาบ้าง ก็น่าจะเห็นว่าต้นไม้พืชพรรณของเขานั้นมีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร คุณจะเห็นได้ว่ามีใบ้ไม้ตั้งแต่สีเขียว สีเหลือง สีแดง สีส้ม ในเฉดต่างๆ กันไป และเมื่อนำเอามาเรียงร้อยเข้าด้วยกันก็เกิดเป็นงานศิลปะที่ไม่อยากจะกวาดมันลงถังขยะเลยแม้แต่น้อย หัวใจกลางลานจอดรถ ใบไม้หัวใจ ใบไม้แห้ง งานศิลปะที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย รอยยิ้มจากใบไม้ คล้ายหมีอะไรเอ่ย? อันปังแมน คิตตี้ ใบไม้และเมล็คพันธุ์ก่อเกิดงานอาร์ตได้ ปิกาจู …
-
หนุ่มมะกันสูญเสียลูกชายไป เลยเปิดศูนย์ช่วยเหลือแมว 300 ตัว เพื่อเยียวยาจิตใจตัวเอง
นี่คือเรื่องราวของนายสถานีรถไฟชาวนิวยอร์กที่ชื่อว่านาย Chris Arsenault ในช่วงปี 2006 เขาได้สูญเสีย Eric ลูกชายอันเป็นที่รักวัย 24 ปีไปเพราะประสบอุบัติเหตุทางมอเตอร์ไซค์ แต่แล้ววันหนึ่ง… เขาก็ได้เดินผ่านรังแมวกว่า 30 ตัว ที่อาศัยรวมกันโดยไม่มีใครเหลียวแลพวกมันเลย เพื่อเป็นการบรรเทาความเศร้าในจิตใจเขาก็ตัดสินใจที่จะเอาแมวจรจัดเหล่านั้นออกมาจากรังแล้วนำมาดูแลให้อาหาร พาไปรักษาโรคและแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของบ้านทำเป็นที่อยู่ให้กับพวกมัน นาย Chris ได้เปลี่ยนบ้านของเขาให้กลายเป็นอาณาจักรแมว และเขาก็เริ่มรู้ตัวเองว่าการช่วยเหลือแมวช่วยเยียวยาจิตใจให้กับเขา ต่อมาเขาได้เปิดมูลนิธิช่วยเหลือแมวที่ชื่อว่า Happy Cat Sanctuary ขึ้นมา เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่แมวตัวไหนก็ได้ที่ต้องการความช่วยเหลือ นาย Chris กล่าว “ผมอยากจะทำอะไรสักอย่างที่ดีด้วยขีวิตของผมเอง ศูนย์พักพิงสัตว์คือความทรงจำถึงลูกของผม” เขาค่อยๆ ช่วยเหลือแมวไปเรื่อยๆ ทีละตัวสองตัว จนตอนนี้จำนวนแมวที่อาศัยอยู่กับพวกเขามีมากถึง 300 ตัวแล้ว ซึ่งแต่ละตัวมีที่มาและเรื่องราวที่แตกต่างกันไป “เราได้ช่วยแมวจากเหจุการณ์ที่แลวร้าน จากบ้านที่ไม่รักสัตว์ และแม้แต่แมวที่มาจากแก๊งที่ใช้แมวเป็นเหยื่อล่อเพื่อให้สุนัขสู้กันก็ช่วยเหลือมาแล้ว” Chris กล่าว นาย Chris ได้ริเริ่มโปรเจ็คหลายๆ อย่างเพื่อให้ศูนย์พักพิงสัตว์ของเขาสมบูรณ์ที่สุด มีทั้งคอนโดแมวขนาดใหญ่ที่รองรับแมวได้จำนวนมาก ทางเดินให้ปีนป่าย มีน้ำพุอุ่นๆ กลางแจ้ง หรือแม้แต่บริเวณที่จัดเอาไว้เพื่อให้พวกแมวได้นั่งดูไก่เพื่อความบันเทิงก็ทำไว้เช่นกัน …
-
สักชุดไหม!? ภาพปฏิทินนักยูโดและเหล่าแมวเหมียว ทั้งเซ็กซี่และน่ารักในเวลาเดียวกัน
เมื่อเทศกาลปีใหม่ใกล้เข้ามาถึง สิ่งที่เราทุกคนต้องเตรียมหาซื้อคือปฏิทินฉบับใหม่ใช่ไหมล่ะ แต่หากคุณยังคิดไม่ออกว่าจะซื้อปฏิทินแบบไหนให้เหมาะกับทาสแมวอย่างคุณดี งั้นเราขอแนะนำปฏิทินชิ้นนี้… เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่ภาพปฏิทินฉบับใหม่จากฝรั่งเศสที่มีชื่อว่า Le Calendrier Judokas & Petits Chats 2017 หรือถ้าให้แปลง่ายๆ ก็คือ ปฏิทินนักยูโดและลูกแมวเหมียวนั่นแหละ คมเข้มเร้าใจจริงๆ… ภาพทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของช่างภาพชาวฝรั่งเศสที่ชื่อว่า Fred Goudon ผู้ผสมผสานทั้งความหล่อเท่ปนเซ็กซี่ของชายหนุ่มนักกีฬา และความน่ารักสดใสของลูกแมวไว้ได้อย่างลงตัว หากใครสนใจสามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ Amazon ได้ที่นี่เลยนะ หัวมนุษย์นี่นอนสบายจริงๆ อะเฮือก!! นี่ไม่ใช่ผลงานแรกของนาย Fred Goudon เพราะก่อนหน้านี้ราวๆ เดือนกันยายน เขาได้จัดทำปฏิทินปี 2017 ในธีมนักดับเพลิงมาแล้ว ซึ่งเป็นการรวบรวมเอานักดับเพลิงตัวจริงเสียงจริงในฝรั่งเศสมายืนโชว์กล้าม โชว์ซิกแพ็คให้สาวๆ ได้ใจละลายกัน อู๋ววว ซี๊ดเลย ช่วยมาดับเพลิงในใจเหมียวที …
-
แบบนี้ก็มี!? เด็กอังกฤษถูกพักการเรียนเพราะ “ทรงผมขัดใจครู” ทำให้คุณพ่อตกงานไปด้วย…
ระบบการศึกษาในต่างประเทศนั้นค่อนข้างที่จะต่างจากบ้านเราสักหน่อย ตรงที่พวกเขาไม่ได้เข้มงวดเรื่องการแต่งกายหรือการตัดผมอะไรมากมาย มุ่งเน้นเพียงการศึกษาเท่านั้น แต่ใช่ว่าการที่พวกเขายอมให้คุณตัดผมทรงอะไรก็ได้จะเป็นเรื่องดีนะ เพราะบางทีการตัดผมทรง “ขัดใจคุณครู” ก็อาจนำพาความเดือดร้อนมาให้คุณได้เหมือนกัน เรื่องราวต่อไปนี้เป็นของหนุ่มน้อย Mackenzie Emmanuel วัย 7 ขวบ ที่เข้าเรียนในโรงเรียนประถม St Mary’s CofE Primary School ทางตอนเหนือของลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ทำให้คุณพ่ออย่าง Craig Emmanuel เดือดร้อนโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะหนุ่มน้อย Mackenzie ดันไปตัดผมทรง “ขัดใจคุณครู” เข้า ทำให้ต้องมีการเรียกผู้ปกครองเข้ามาปรับทัศนคติกันหน่อย ตามรายงานบอกว่านาย Craig และภรรยา Louise ถูกคุณครูเรียกให้เข้ามาพบที่โรงเรียน และบอกว่าทรงผมของลูกชายนั้น “ไม่เหมาะสม” เนื่องจากมีรอยบากที่กลางศีรษะและอาจจะทำลายสมาธิของเด็กคนอื่นๆ ได้ จึงขอให้พวกเขารับลูกชายกลับบ้านไปซะ ทางด้านคุณครูได้บอกกับผู้ปกครองว่านี่เป็นการฝ่าฝืนกฎระเบียบของโรงเรียน ที่ห้ามไม่ให้มีการทำรอยบากหรือซิกแซกบนศีรษะ แต่นี่เป็นเพียงการพักการเรียนชั่วคราวเท่านั้น เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมของเด็กชาย Mackenzie กลับมายาวดกดำเต็มหัว เขาก็สามารถกลับเข้ามาเรียนในชั้นเรียนได้ตามปกติ และยังพยายามช่วยกันหาทางแก้ไขอื่นด้วย แต่การที่เด็กชาย Mackenzie ต้องกลับมาอยู่ที่บ้านเป็นเวลานานๆ ทำให้นาย Craig ต้องหยุดงานเพื่อมาดูแลลูกของเขาด้วยตัวเอง…
-
พนักงานร้าน Best Buy เห็นเด็กหนุ่มมาลองเล่นเกม Wii U ทุกวันๆ ซื้อให้เป็นของขวัญซะเลย
บางคนอาจจะไม่รู้จักร้าน Best Buy เท่าไหร่ มันคือร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ในต่างประเทศ ถ้าให้เปรียบเทียบกับบ้านเราก็คงจะคล้ายๆ กับ Power Buy นั่นเอง เรื่องมันมีอยู่ว่าที่ร้าน Best Buy สาขาหนึ่งในหมู่บ้าน วัลเล่สตรีม รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการนำเอาเครื่องเล่นเกม Wii U มาตั้งเอาไว้ให้ลูกค้าทดลองเล่นมันได้ฟรีๆ แต่ในทุกๆ วันจะมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาจองที่นั่งเพื่อเล่นเกมจนพนักงานที่นั่นจำหน้าได้หมด พ่อหนุ่มคนนี้หล่ะ ด้วยเหตุนี้เองทางร้านจึงได้แอบทำเซอร์ไพรส์ซื้อเครื่องเกม Wii U เครื่องหนึ่งให้กับเด็กหนุ่มเป็นของขวัญก่อนวันคริสมาสต์ให้เขาเอากลับไปเล่นที่บ้านได้เลย พนักงานกล่าวกับเด็กชายขณะยื่นเครื่องเล่มเกมให้กับเขาว่า “โย่ ฉันและทุกๆ คนใน Best Buy มอบ Wii U ให้เธอ เธอจะได้ไม่ต้องมาที่นี่ทุกวันๆ โอเคไหม? นี่ฉันจริงจังนะ นี่คือของขวัญวันคริสมาสต์สำหรับเธอ นายจะได้กลับไปเล่นที่บ้านเลย” ตามข่าวไม่ได้ระบุว่าเงินที่ซื้อเครื่องเล่นเกมนี้เป็นเงินของเขาเพียงคนเดียวหรือว่าเป็นเงินของทางร้าน แต่มันก็สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กหนุ่มและทุกๆ คนที่ได้รับรู้เรื่องราวดีๆ ของพวกเขา ไหนลองดูซิว่าพ่อหนุ่มคนนี้จะรู้สึกยังไงตอนที่ได้รับเครื่องเล่นเกม ช่างเป็นของขวัญที่น่าจดจำอะไรขนาดนี้ แต่ไม่รู้ว่าที่พี่พนักงานซื้อให้เพราะใจดีหรือรำคาญกันแน่นะเนี้ยะ ที่มา Rahiem Storr
-
คู่รักญี่ปุ่นฮันนีมูน 400 วัน 48 ประเทศ กับโดรน 1 ตัว สร้างแรงบันดาลใจให้คุณใน 3 นาที
เมื่อพูดถึงงาน Ted Talks ทุกคนคงจะจินตนาการว่านี่คืองานที่รวบรวมบุคคลจากสาขาต่างๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ หรือเป็นแบบอย่างไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง แต่สำหรับบุคคลที่#เหมียวฟิ้นอยากจะให้คุณได้รู้จักนั้น เขาอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แต่คุณเชื่อเราไหมว่าผลงานของเขาก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณได้ภายในเวลาเพียงแค่ 3 นาทีกว่าๆ เท่านั้น เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2016 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงาน TEDxKyoto ขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในงานนี้ได้เชิญชายหนุ่มคนหนึ่งขึ้นมาพูดสร้างแรงบันดาลใจ เขามีชื่อว่านาย Kaz Yamaguchi (คาซ ยามากูจิ) คาซได้แต่งงานกับแฟนสาวและวางแผนกันว่าจะไปฮันนีมูนรอบโลก ซึ่งหากจะว่าไปแล้วในโลกนี้มีคู่รักได้ไปฮันนีมูนรอบโลกมาแล้วหลายคน แต่กับพวกเขานั้นแตกต่างออกไป คาซวางแผนเดินทางไปยัง 48 ประเทศรอบโลกใน 400 วัน ซึ่งในการเดินทางของพวกเขาได้พกโดรนไปด้วย 1 ตัว แต่ภาพที่ได้กลับมามันช่างสวยงามจนคุณคาดไม่ถึงทีเดียว คาซกล่าวว่า “พวกเราเดินทางไปยัง 48 ประเทศ เริ่มต้นที่ประเทศสิงคโปร์ เรามุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตก ผ่านเอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกาใต้ยันเหนือ” เขาบอกว่าตัวเองไม่ได้รวยอะไรมาก เพราะทุกการเดินทางพวกเขาจะใช้เงินให้น้อยที่สุด แบ็คแพ็คไปเท่าที่จะทำได้…
-
เรื่องราวให้แรงบันดาลใจของ “Bette Nash” แอร์โฮสเตสที่อายุมากที่สุดในโลก ในวัย 80 ปี
แอร์โฮสเตส เป็นอาชีพหนึ่งที่สาวๆ ใฝ่ฝันอยากจะเป็น บางคนทุ่มเทเพื่อให้ได้ขึ้นไปโบยบินอยู่บนฟากฟ้าตั้งแต่ยังสาวๆ จนผู้คนทั่วไปติดภาพไปแล้วว่าแอร์โฮสเตสจะต้องมีแต่สาวๆ เท่านั้น ซึ่ง#เหมียวฟิ้นขอบอกเลยว่าไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป เพราะบางคนทำงานนี้มาตั้งแต่สาวๆ จนตอนนี้กลายเป็นคุณยายแล้วก็ยังเป็นแอร์โฮสเตสอยู่เลย บุคคลที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้เธอเป็นชาวอเมริกันที่มีชื่อว่า Bette Nash วัย 80 ปี เธอเข้าทำงานเป็นแอร์โฮสเตสให้กับสายการบิน American Airlines มาตั้งแต่เมื่อปี 1957 จนถึงปัจจุบัน ถ้านับถึงตอนนี้เธอก็มีอายุงานร่วมเกือบๆ 60 ปีเข้าไปแล้ว และนั่นทำให้เธอกลายเป็นแอร์โฮสเตสอาวุโส ที่มีอายุมากที่สุดในโลกด้วย เรื่องราวของ Bette โด่งดังจนสำนักข่าว CNN ต้องมาขอสัมภาษณ์เธอ เจ้าตัวเล่าถึงช่วงที่ยังเป็นแอร์ใหม่ๆ ไว้อย่างสนุกสนานทีเดียว เธอบอกว่าในสมัยก่อนที่ธุรกิจสนามบินยังไม่เจริญเท่าวันนี้ ผู้โดยสารจะขึ้นเครื่องได้จะต้องลงไปเดินบนสนามบินแล้วค่อยขึ้นบันไดของเครื่องบิน ไม่มีสะพานเทียบเครื่องบินเหมือนอย่างที่เราใช้กันทุกวันนี้ การทำงานเป็นแอร์ในสมัยก่อนก็ค่อนข้างอัตโนมือมากๆ เพราะแอร์โฮสเตสแต่ละคนจะต้องมาดูกระดานชอล์กบอร์ด เพื่อดูว่าในนี้นี้พวกเธอต้องทำอะไรบ้าง พอตกบ่ายก็จะมีการลบแล้วเขียนงานขึ้นใหม่ แม้ว่าในวันนี้รูปแบบงงานจะเปลี่ยนไปจากเดิมมาก แต่เธอก็ยังคงรักมันและมาทำงานด้วยรอยยิ้มเหมือนที่เธอทำในวันแรกๆ Bette พูดถึงแนวคิดที่เธอมีต่องานนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า “ผู้คนต้องการความรักเล็กๆ น้อยๆ และฉันไม่ได้หมายถึงการกอดหรืออะไรที่คนทั่วๆ ไปเขาทำกัน” “แต่ฉันหมายถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างการให้ความสนอกสนใจ คุณไม่สามารถซื้อความรักได้ คุณไม่สามารถซื้อความสนใจจากผู้คนได้ และนั่นแหละที่ผู้คนต้องการ มันเป็นของฟรี ที่คุณสามารถมอบให้คนอื่นๆ ได้แบบฟรีๆ…
-
รัฐบาลออสเตรเลีย จะจ่ายโบนัสให้เรือนจำหญิง หากดูแลนักโทษดี จนไม่กลับไปทำผิดซ้ำอีก
การส่งผู้ต้องหาไปอยู่ในเรือนจำนั้นถือเป็นหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมเพื่อขัดเกลาให้บุคคลเหล่านั้นกลับออกมาเป็นคนที่มีคุณภาพอีกครั้ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระบวนการที่ว่านี้ไม่สามารถใช้ได้กับทุกๆ คน ยังคงมีคนหลายคนที่ออกมาจากเรือนจำแล้วทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังของสังคม ด้วยเหตุนี้เองทางรัฐบาลของออสเตรเลียจึงได้ออกนโยบายใหม่ โดยการจ่ายเงินโบนัสพิเศษให้กับเรือนจำแห่งหนึ่งที่สามารถดูแลหรือบำบัดนักโทษให้กลับมาอยู่ในสังคมได้โดยที่ไม่ทำผิดอีก เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านสำนักข่าว RT บอกว่านี่เป็นโครงการนำร่องในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย จะใช้กับเรือนจำหญิง 1 ใน 3 ของเรือนจำเอกชนที่ดำเนินการโดยบริษัท Sodexo การจ่ายโบนัสให้กับเรือนจำนั้น มีเงื่อนไขอยู่ว่า เหล่านักโทษหญิงจะต้องพ้นโทษออกไปใช้ชีวิตตามปกติและไม่ก่ออาชญากรรมอีกเป็นระยะเวลา 2 ปี หากทำได้ทางเรือนจำก็จะได้รับโบนัสเป็นจำนวนเงิน 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 392,400 บาท จากสถิติภายในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียนั้น พบว่านักโทษหญิงกว่า 34% เมื่อพ้นโทษออกไปแล้วจะกลับไปทำผิดซ้ำๆ อีก เพราะกลับไปอยู่ในสังคมแบบเดิม ที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและความรุนแรง ทางภาครัฐจึงพยายามมองหาวิธีการแก้ไขแบบใหม่ ซึ่งพวกเขาเชื่อกันว่าหากทำแบบนี้แล้วจะเป็นการช่วยเหลือนักโทษให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและช่วยให้เรือนจำใส่ใจกับนักโทษของพวกเขามากขึ้น หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ #เหมียวฟิ้น ได้เคยรายงานเกี่ยวกับเรือนจำในเนเธอร์แลนด์ ที่มักไม่ใช้วิธีการลงโทษผู้ต้องหานานๆ แต่เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมากกว่า ซึ่งก็ส่งผลให้เรือนจำของพวกเขามีจำนวนนักโทษที่ลดน้อยลง จนต้องปิดเรือนจำไปกว่า 19 แห่ง (อ่านข่าวเรือนจำในเนเธอร์แลนด์ได้ที่นี่เลย)…
-
เปิดวีรกรรมของกลุ่มก่อการร้าย “โบโก ฮาราม” ใช้เด็กสาววัย 7 ขวบ 2 คน เพื่อเป็นระเบิดพลีชีพ
หากพูดถึงกลุ่มผู้ก่อการร้าย หลายๆ คนน่าจะนึกถึงชื่อ “ไอซิส” ในอีรักและซีเรีย ขึ้นมาเป็นชื่อแรกๆ เพราะมีประวัติการก่อการร้ายและฆ่าผู้คนที่โหดเหี้ยมแทบจะรายวัน แต่วันนี้เราจะมานำเสนอชื่อของกลุ่มก่อการร้านอีกกลุ่มหนึ่งที่มีชื่อว่า “โบโก ฮาราม” ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้านในประเทศไนจีเรีย ที่ก่อวีรกรรมมาไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2016 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้ ที่มีการใช้เด็กผู้หญิงวัย 7 ขวบ 2 คน เพื่อเป็นระเบิดพลีชีพโจมตีตลาดสดแห่งหนึ่งในเมืองไมดูกูรี ประเทศไนจีเรีย การระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นใกล้กับที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายโบโก ฮาราม รัฐบอร์โน ทำให้เด็กสาววัย 7 ขวบ 2 คนเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดกว่า 18 คน ตามรายงานบอกว่ากลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้มักจะใช้หญิงสาวเพื่อเป็นอาวุธหรือระเบิดมนุษย์ ในโจมตีสถานที่ต่างๆ อยู่เป็นประจำ ซึ่งทางการของไนจีเรียเชื่อกันว่าทั้งหมดนี้น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายโบโก ฮาราม แต่ยังไม่มีฝ่ายไหนออกมาแสดงความรับผิดชอบ ทหารคนหนึ่งจากกลุ่มทหารอาสาสมัครในเมืองไมดูกูรีกล่าวว่าเขาคือคนสุดท้ายที่เห็นเด็กหญิงทั้ง 2 คนก่อนที่จะจุดระเบิดตัวเอง “พวกเขาลงมาจากรถลากคันหนึ่งและเดินตรงมาที่ผมโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ ผมพยายามจะพูดกับพวกเขาด้วยภาษาท้องถิ่นและภาษาอังกฤษ แต่พวกเขากลับไม่ตอบผม” “ผมคิดว่าพวกเขาอาจจะกำลังมองหาแม่ของตัวเองอยู่ จากนั้นพวกเธอก็เดินไปยังร้านของพ่อค้าขายไก่ในตลาด และจุดชนวนระเบิดที่พวกพวกเขาพกติดตัวมาด้วย” กลุ่มก่อการร้ายโบโก…
-
สาวเลบานอน ประท้วงรัฐบาลร่างกฎหมายใหม่ ที่บังคับให้เหยื่อถูกข่มขืน แต่งงานกับผู้ก่อเหตุ
การเป็นหญิงสาวในประเทศเลบานอนอาจจะไม่ใช่เรื่องที่โชคดีเท่าไหร่นะ เพราะที่เลบานอนเองมีข่าวคราวเกี่ยวกับหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายและข่มขืนแทบจะรายวันทีเดียว ในปี 2009 มีรายงานว่ามีเด็กหญิงชาวบังกลาเทศถูกฆ่าตายในเลบานอนถึง 11 ศพ โดยส่วนใหญ่มีร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกาย และในปีเดียวกันนี้เองยังมีข่าวว่าเด็กสาวชาวเนปาลที่เดินทางไปทำงานในเลบานอนได้ฆ่าตัวตายไปถึง 15 คน ซึ่งมีการสันนิษฐานกันว่าอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องของการข่มขู่ทางเพศ ล่าสุดได้มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศอย่าง Independent บอกว่าทางรัฐบาลของเลบานอนได้เตรียมที่จะออกร่างกฎหมายให้หญิงสาวที่ถูกข่มขืนต้องแต่งงานกับผู้ที่ข่มขืนพวกเธอ ตามพระราชบัญญัติฉบับเก่าจากปี 1940 ของเลบานอนได้ระบุเอาไว้ว่าหากใครฝ่าฝืนกฎหมายข้อนี้ จะต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 7 ปี และยิ่งหากเป็นผู้เยาว์ หรือผู้ที่มีอาการทางจิตหรือผู้ป่วยไม่ว่าจะในลักษณะใดก็ตาม ก็จะมีโทษเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ในกฎหมายใหม่มาตราที่ 522 ได้สร้างช่องโหว่ทางกฎหมายขึ้น โดยระบุว่าผู้ที่กระทำชำเราผู้อื่นจะได้รับการละเว้นโทษ หากชายคนนั้นยอมแต่งงานกับฝ่ายหญิงเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ แต่ร่างพรบ.ที่ว่านี้กลับทำให้หญิงสาวในเลบานอนไม่พอใจอย่างมาก และคิดว่านั่นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุที่ไม่น่าจะช่วยลดคดีการข่มขืนลงได้ ในวันอังคารที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา หญิงสาวเกือบสิบคนจึงได้ออกมาร่วมกันต่อต้านกฎหมายใหม่นี้ ด้วยการสวมชุดเจ้าสาว พร้อมกับมีผ้าพันแผลไว้รอบตัวและมีเลือดปลอมเปื้อนตามร่างกาย ยืนอยู่ที่ด้านนอกของอาคารรัฐสภาพในเมืองเบรุต เพื่อแสดงออกว่าพวกเธอไม่เห็นด้วยกับกฎหมายใหม่นี้ นางสาว Ghida Anani ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มในการต่อต้านครั้งนี้ได้กล่าวว่า “เราขอปฏิเสธการการละเมิดสิทธิของผู้หญิงโดยไม่คำนึงถึงอายุ พื้นเพ หรือสภาพแวดล้อม” Anani ยังบอกอีกว่าเธอไม่ชอบข้อเสนอของรัฐบาลเป็นเหมือนการซ้ำเติมผู้เคราะห์ร้ายมากกว่า “นี่มันเหมือนกับการพูดว่าผู้เคราะห์ร้ายซ้ำกันสองครั้ง พวกเธอต้องใช้ชีวิตร่วมอยู่กับคนที่ละเมิดสิทธิของพวกเธอ และนั่นเป็นเหตุให้เกิดการข่มชืนกันทุกวันๆ”…
-
ทหารรัสเซียพร้อมด้วย “หุ่นยนต์รบ” หน้าตาคล้าย Wall-E บุกเข้าโจมตีผู้ก่อการร้าย ISIS
สงครามในปัจุบันเริ่มแตกต่างไปจากสมัยก่อนโดยสิ้นเชิง แทนที่จะเป็นการใช้อาวุธเข้าต่อสู้กันแบบซึ่งๆ หน้า แต่ได้มีการเปลี่ยนมาเป็นการพึ่งพาเทคโนโลยีสมัยใหม่มากขึ้น และอีกหน่อยเราก็อาจจะได้เห็นการต่อสู้กันด้วยหุ่นยนต์จริงๆ ก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานว่า กองทัพของรัสเซียได้ส่งทหารกลุ่มหนึ่งพร้อมด้วยหุ่นยนที่ติดตั้งปืนกลเข้าโจมตีกลุ่มผู้ก่อการร้าย ISIS ที่ซ่อนตัวอยู่ในอาคาร โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อว่า Rustam Aselderov เป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการวางระเบิดในเมืองวอลโกกราด ทางตอนใต้ของประเทศรัสเซียเมื่อปี 2013 ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตกว่า 34 ราย Aselderov ได้เข้าร่วมกับการต่อสู้ของกลุ่มก่อความไม่สงบ นำไปสู่การเชื่อมโยงว่าเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคารบอมบ์ในสาธารณรัฐดาเกสถาน เมื่อปี 2012 จนมีผู้เสียชีวิต 14 คนและบาดเจ็บอีก 120 คน ทำให้รัสเซียต้องตามจับเขามาให้ได้ ถึงขนาดเสนอเงินรางวัลค่าหัวให้กับคนที่จับเขาได้ถึง 2.7 ล้านบาทเลยทีเดียว จากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นภาพของหุ่นยนต์ขนาดเล็กลักษณะคล้ายรถบังคับ กำลังยิงปืนถล่มเข้าไปในอาคารแห่งหนึ่ง ในเมืองนอร์ทคอเคซัส สาธารณรัฐดาเกสถาน หลังจากนั้นไม่นาน หุ่นยนต์รบขนาดจิ๋วก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาประจันหน้ากับอาคาร ก่อนจะเปิดฉากยิงในชั่วอึดใจ กลุ่มทหารรัสเซียได้ยืนคุ้มกันหุ่นยนต์รบในระหว่างที่มันกำลังใช้อาวุธของตัวเองเพื่อยิงเจาะอาคารให้เป็นรู และต้อนให้นาย Aselderov จนมุมในที่สุด และนี่คือใบหน้าที่แท้จริงของ Rustam Aselderov สามารถชมคลิปปฏบัติการของหุ่นยนต์ตัวนี้ได้ที่นี่เลย…
-
บทเรียนแสนแพง โรงแรมในเวลส์ถูกสอบสวนหนัก หลังมีข่าวพนักงานทำร้ายแมวในโรงแรม…
คอนเท้นท์นี้อาจจะมีเนื้อหาซึ่งรุนแรงไปบ้างเล็กน้อย… บางครั้งเรื่องราวดีๆ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับสัตว์จรจัดเสมอไป เพราะยังไงแล้วพวกมันก็ต้องผจญกับความยากลำบากในการเอาชีวิตรอด ซึ่งบางครั้งพวกมันก็เจอคนดี และหลายครั้งพวกมันก็ได้เจอกับคนที่ใจร้าย เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าโรงแรม Royal Oak Hotel ทางตอนเหนือของประเทศเวลส์ ได้ถูกชาวเน็ตรุมโจมตีอย่างหนัก เนื่องจากมีหนักงานในโรงแรมจับแมวจรจัดที่หลุดเข้าไปในห้องครัวของโรงแรมมาทุบตีจนตาย เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดยชาวเมืองในบริเวณนั้นหลายคน ที่ยืนยันตรงกันว่ามีลูกแมวจรจัดแอบเข้าไปในครัวและกินอาหารในห้องครัวของโรงแรมนิดหน่อย แต่มันกลับหาทางออกไม่ได้และเริ่มแสดงอาการหวาดกลัวจนฉี่ราด หลังจากนั้นไม่นานก็มีพนักงานของโรงแรมเข้ามาพบเข้ากับแมวและฉี่ของมัน พวกเขาก็จับมันโยนใส่ในถุงพลาสติก และใช้ไม้นวดแป้งฟาดมันจนตาย เรื่องนี้ได้ถูกแจ้งไปยังตำรวจท้องถิ่นและหน่วยงานป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ (RSPCA) พวกเขาได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้ว และตอนนี้ทางโรงแรมก็กำลังถูกสอบสวนอย่างหนักต่อการตายของแมวจรจัดตัวนี้ ด้านนาย Glen Evans หัวหน้าของโรงแรมได้ออกมายอมรับว่าแมวตัวนั้นถูกฆ่าจริงๆ แต่ปฏิเสธเกี่ยวกับวิธีการฆ่าที่พวกเขาถูกกล่าวหาอยู่ และบอกว่ามันเป็นเพียงการฆ่าแบบ “การุณยฆาต” เท่านั้น นาย Evans ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาไม่เชื่อว่าพนักงานจะทำผิดกฎหมายการฆ่าสัตว์ “กับปัญหาที่เกิดขึ้น แน่นอนครับว่าผมหวังว่าสิ่งที่เราต้องเจอจะแตกต่างออกไป เว้นแต่จะมีข้อมูลใหม่ออกมา ว่าพนักงานไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายเลย” หลังจากที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้ินเริ่มกลายเป็นข่าวแพร่ออกไปในอินเตอร์เน็ต บนหน้าเฟซบุ๊กเพจของโรงแรมก็ถูกชาวเน็ตถล่มให้ 1 ดาวอย่างมากมาย และยังมีชาวเน็ตจำนวนมากร่วมกันรณรงค์เพื่อคว่ำบาตรโรงแรมแห่งนี้อีกด้วย …
-
Johnny Depp ในร่าง “กัปตันแจ๊ค” ออกเยี่ยมเด็กๆ ในโรงพยาบาล สร้างกำลังใจช่วงคริสมาสต์
คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักตัวละคร Jack Sparrow ตัวเอกจากภาพยนตร์ชุด Pirates Of The Caribbean โจรสลัดชื่อก้องที่มีบุคลิกเฉพาะตัวจนกลายเป็นภาพจำให้กับนักแสดงอย่าง Johnny Depp ไปแล้ว และด้วยความที่ตัวละคร Jack Sparrow เป็นไอดอลของเด็กๆ หลายคนทั่วโลก Johnny Depp ก็เลยนำตัวละครนี้ออกมาสู่โลกความเป็นจริง มาให้กำลังใจเด็กๆ ผู้ป่วยได้มีแรงต่อสู้กับอาการเจ็บไข้ได้ป่วยต่อไป เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม โดยตามรายงานบอกว่า Johnny Depp ได้สวมชุดและแต่งหน้าให้กลายเป็นตัวละคร Jack Sparrow เพื่อไปเยี่ยมเด็กๆ ในโรงพยาบาล London’s Great Ormond Street Children’s Hospital ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่ลูกสาวของเขาเข้ารักษาตัว เพื่อเป็นการฉลองเทศกาลคริสมาสต์ก่อนเวลา แม้ว่าเด็กเล็กบางคนอาจจะเกิดอาการเหวอเพราะไม่รู้จักตัวละครนี้และคาดหวังว่าพวกเขาจะได้เจอกับซานตาคลอสในชุดสีแดงมากกว่าคุณลุงหน้าตาเซอร์ๆ แต่ก็มีเด็กๆ วัยรุ่นหลายคนที่จดจำเขาได้และรู้สึกตื่นเต้นมากที่ดาราฮอลลีวูดวัย 53 ปีรายนี้มาหาพวกเขาถึงในโรงพยาบาล การปรากฏตัวของ Johnny Depp ในโรงพยาบาลเด็ก ทำเอาพยาบาลและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ตื่นเต้นไปด้วย ก่อนจะมีการทักทายพูดคุยกับเด็กๆ และถ่ายภาพเพื่อเป็นที่ระลึก Depp ได้กล่าวกับสื่อหลังที่ได้ไปเยี่ยมเด็กๆ…
-
แสนรู้เหลือเกิน… ชวนดู “ทึกกังอี” เจ้าเหมียวเกาหลี ที่ชอบเข้าไปนั่งเรียนในมหาลัยกับคน
เพื่อนๆ ชาวเหมียวคงเคยอ่านเรื่องราวของเจ้าเหมียวผู้เจ้าเล่ห์ เจ้าเหมียวขี้อ้อน เจ้าเหมียวที่ชอบแกล้งสัตว์อื่น และเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าเหมียวในสารพัดรูปแบบมาแล้ว แต่เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะยังไม่เคยเห็นเรื่องราวของเจ้าเหมียวผู้รักการเรียนแน่ๆ เมื่อประมาณเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว SBS TV ของเกาหลีใต้ ได้ทำสารคดีเกาะติดเจ้าเหมียวตัวหนึ่งที่มีชื่อว่าทึกกังอี มันเป็นแมวขนสีส้มที่รักการเรียนมาก ในทุกๆ วันมันจะเดินไปที่วิทยาลัยกางดง เมืองอึมซองกุน และเดินดุ่มๆ เข้าไปในห้องเรียนเพื่อนั่ง (และนอน) ฟังเล็คเชอร์ของอาจารย์ในแต่ละวิชา ก่อนที่มันจะฟุบหลับในห้องเรียนโดยที่ไม่มีใครทำโทษมัน เมื่อจบชั่วโมงเรียนแล้วมันก็เดินออกไปยังห้องเรียนอีกห้องหนึ่งเพื่อทำแบบเดียวกัน โดยไม่จด ไม่ต้องเขียนรายงาน ไม่ต้องทำแบบฝึกหัดส่งอาจารย์เลยซักอย่าง ช่างสบายอะไรขนาดนี้ คร่อก ZZZz Zzzzz ไปห้องใหม่ดีกว่า นักศึกษาของวิทยาลัยกางดงได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของแมวตัวนี้ว่า แรกเริ่มเดิมทีมันเป็นแมวเป็นของผู้หญิงคนหนึ่งที่เรียนที่นี่ และเธอก็ชอบพามันมาเรียนด้วยทุกวันๆ แต่จู่ๆ เธอก็หยุดเรียนไปแบบกะทันหันโดยที่ทิ้งเจ้าเหมียวตัวนี้ไว้ที่มหาลัย ซึ่งไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเธอทำแบบนั้นทำไม หลังจากนั้นเจ้าเหมียวก็ยังคงเทียวไปเทียวมาภายในวิทยาลัย แต่ก็ไม่มีใครรับมันไปอยู่ที่บ้านเลยแม้แต่คนเดียวเพราะคิดว่ามันมีเจ้าของอยู่แล้ว แต่สิ่งที่พวกเขาทำได้คือนำเอาอาหารมาให้กับเจ้าเหมียวและดูแลมันอยู่ภายในวิทยาลัยเท่าที่พวกเขาจะทำได้ และวันหนึ่งพวกเขาก็ตั้งชื่อให้มันว่า ทึกกังอี ปัจจุบันเจ้าทึกกังอีกลายเป็นที่โปรดปรานของเหล่านักศึกษาที่นั่นมาก พวกเขาบอกว่ามีการวางแผนที่จะระดมเงินกับซื้อบ้านแมวให้กับมันเพื่อให้มันรู้สึกสบายกว่านอนตามพื้นหรือโต๊ะเรียนไปเรื่อยเปื่อย …
-
ลุงวัย 85 ปี รับเงิน 6.7 ล้านบาทแบบงงๆ หลังซื้อภาพวาดเก่าๆ ในราคาเพียง 107 บาท!?
บางคนพยายามกันทั้งชีวิต แต่ก็ไม่เคยจะมีโชคเกิดขึ้นกับตัวเองสักครั้ง แต่บางคนใช้เงินเพียงแค่ 107 บาทก็สามารถเปลี่ยนชีวิตตัวเองไปได้เลย… นี่คือเรื่องราวของชายคนหนึ่งผู้คลั่งไคล้ในของมือสอง ที่เผยชื่อกลางเพียงแค่ Leroy วัย 85 ปี (เนื่องจากอยากปกปิดตัวตนไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว) จากเมืองแอนเดอร์สัน รัฐแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ลุง Leroy เคยทำงานเป็นนายหน้าร้านขายของเก่า แต่เมื่อเกษียณตัวเองแล้วเขาก็ยังคงชื่นชอบของเก่าอยู่ ใน 1 สัปดาห์เขาจะต้องแวะเวียนไปที่ร้านขายของเก่าที่ชื่อว่า Goodwill ถึง 4 ครั้ง เพื่อไปซื้อของเก่าที่เขาชื่นชอบมาเก็บเอาไว้ สินค้าที่เขาซื้อมีตั้งแต่ราคาไม่กี่บาทไปจนถึงสินค้าราคาแพงๆ ราคาเป็นหมื่นก็เคยซื้อมาแล้ว แต่แล้วจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้น เมื่อราวๆ ปี 2010 คุณลุง Leroy เล่าว่าเขาได้ไปเจอภาพวาดสีน้ำมันเก่าๆ ภาพหนึ่งราคา 3 เหรียญดอลลาร์ หรือราวๆ 107 บาท ซึ่งเขารู้สึกถูกใจมากจึงซื้อมาสะสมไว้ แต่ลูกสาวบุญธรรมของเขารู้สึกว่าภาพนั้นมันมีความเก่าแก่มาก และไม่น่าจะมีราคาอยู่แค่ 3 เหรียญดอลลาร์เท่านั้น เธอเลยนำเอาภาพนั้นไปประเมินราคาดู ปรากฎว่าภาพๆ นั้นเป็นภาพที่ถูดวาดขึ้นตั้งแต่เมื่อราวๆ ปี 1650 นับจนถึงตอนนี้ก็มีอายุปาเข้าไปกว่า 366…
-
โตแล้วทำเองได้…ห้างเกาหลี แยกตะกร้าสินค้าใหม่ อยากเลือกเอง หรือจะให้พนักงานช่วย!?
บ่อยครั้งที่พวกเราประสบกับปัญหาเวลาไปเดินเลือกซื้อของตามห้าง หรือตามแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ จะต้องมีพนักงานเข้ามาแนะนำ ให้ความรู้ รวมไปถึงชักชวนให้ซื้อสินค้าในค่ายตัวเอง ซึ่งจะว่าไปแล้วการทำแบบนั้นก็ช่วยให้เราเข้าใจในตัวสินค้ามากขึ้น และสามารถตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อได้ แต่ลูกค้าบางรายอาจจะรู้สึกอึดอัด เมื่อมีพนักงานคอยเดินตามติดเหมือนวิญญาณ จนทำให้บางคนไม่กล้าเฉียดเข้าไปใกล้แผนกนั้นๆ เลยก็เป็นได้ ปัญหาเหล่านี้ได้ไปถึงหูของห้างสรรพสินค้า Innisfree ผู้จัดจำหน่ายเครื่องสำอางรายใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้ พวกเขาก็เลยแก้ปัญหานี้โดยการติดสติ๊กเกอร์ไว้ที่ตะกร้าสินค้า 2 แบบ แบบแรกเป็นสติ๊กเกอร์สีเขียว มีข้อความเขียนติดเอาไว้ว่า “ฉันทำเองได้” เมื่อพนักงานเห็นสติ๊กเกอร์สีนี้พวกเขาก็จะไม่เข้ามารบกวนคุณเลย แบบที่สองเป็นสติ๊กเกอร์สีส้ม มีข้อความว่าเขียนติดไว้ว่า “ฉันต้องการความช่วยเหลือ” เมื่อพนักงานมาเห็นเข้าพวกเขาก็จะเข้ามาแนะนำสินค้าต่างๆ ให้กับคุณอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ในการช็อปที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจและอยากกลับมาใช้บริการอีกครั้ง ที่มา buzzfeed , koreaboo
-
สาวอ้วนเซลฟี่กับม้าผอมกร่องลงเฟซบุ๊ก แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือจุดเปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่..
การใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่ออวดภาพกิจกรรมในแต่ละวัน ดูจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรอีกแล้วในปัจจุบัน แต่การเผยแพร่ภาพเหล่านั้นอาจทำให้คุณสูญเสียบางอย่างไปก็ได้… เช่นเดียวกับเรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อ Charlotte McPherson วัย 22 ปี จากเมืองวุร์สเตอร์เชอร์ ประเทศอังกฤษ เธอได้โพสต์ภาพขี่ม้าลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง แต่นั่นดันกลายเป็นจุดเปลี่ยนระหว่างเธอและม้าของเธอ เพราะเนื่องจากภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้น เจ้าม้ามีสภาพผอมแห้งม้า ในขณที่เธอนั้นมีรูปร่างอ้วนจนเปลี่ยนภาพการขี่ม้าของเธอให้กลายเป็นการทรมาณสัตว์ไปแบบช่วยไม่ได้ จากภาพที่มีการเผยแพร่ออกมา จะเห็นได้ว่านาง Charlotte นำเอาผ้าคลุมมาเปิดส่วนหลังและสะโพกของม้าเอาไว้ เพื่อไม่ให้เห็นหนังติดกระดูกของเจ้าม้า และหลังจากที่ภาพของเธอภูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก็ทำให้องค์กรการกุศลเกี่ยวกับสัตว์และหน่วยงานสิทธิสัตว์ต้องเข้ามาสืบสวนว่าม้าของเธออยู่ในอาการย่ำแย่ขนาดไหน ตอนนี้เธอถูกเจ้าหน้าที่ได้สั่งห้ามไม่ให้เธอเลี้ยงม้าชนิดใดๆ ก็ตามเป็นระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้เธอยังต้องเข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเวลา 12 เดือนและบำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 160 ชั่วโมง หน่วยงาน RSPCA ของอังกฤษที่ดูแลเรื่องสิทธิสัตว์ได้ออกมาให้กล่าวว่าม้าตัวที่เห็นนั้นมีชื่อว่า Thor มันมีสุขภาพที่ไม่ดีเอามากๆ หากต้องให้คะแนนเต็ม 5 มันคงจะได้ 0 แน่ๆ และตอนนี้เจ้า Thor ก็ถูกส่งไปยังหน่วยงานที่ดูแลสัตว์แล้ว เพื่อจะได้มีสภาพร่างกายที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ นาง McPherson ยอมรับว่าในระหว่างที่เจ้า Thor ผอมแห้งนั้น…
-
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ “หางไดโนเสาร์” ในก้อนอำพัน ลบทฤษฎีไดโนเสาร์ผิวโล้นแบบ Jurassic Park
ในความเข้าใจของพวกเรา ไดโนเสาร์นั้นเป็นสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ที่มีความดุร้าย มีผิวหนังหยาบกร้านและไร้ขน เราจะเห็นได้จากสารคดีหรือภาพยนตร์ดังอย่าง Jurassic Park หลายๆ ภาค แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศหลายๆ แห่ง เช่น CNN , Nationalgeographic หรือ Theguardian ได้ออกมารายงานว่ามีการค้นพบ “หางไดโนเสาร์” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์แล้ว ตามรายงานบอกว่าผู้ค้นพบหางไดโนเสาร์ชิ้นนี้มีชื่อว่า Xing Lida เป็นนักบรรพชีวินวิทยาชาวจีน เขาค้นพบมันในแทบตอนเหนือของประเทศพม่าใกล้กับชายแดนของจีน จากการตรวจสอบก้อนอำพันก้อนนี้ คาดว่าน่าจะมีอายุราวๆ 99 ล้านปี Xing ได้ให้สัมภาาณ์ผ่าน CNN ว่า “ผมมาคิดได้ว่าสิ่งที่อยู่ในอำพันนั้นน่าจะมาจากสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง อาจจะเป็นเทอโรพอด (มีลักษณะคล้ายทีเร็กซ์แต่ตัวเล็กกว่า) มากกว่าจะเป็นสัตว์ชนิดอื่นๆ” ด้านนาย Ryan McKellar นักบรรพชีวินวิทยา จากพิพิธภัณฑ์ Royal Saskatchwan Museum ในประเทศแคนาดาและเป็นผู้ศึกษาอำพันชิ้นนี้ด้วยได้กล่าวว่าเขารู้สึกตกตลึงมากที่นาย Xing นำอำพันมาให้เขาดูเป็นครั้งแรก “มันเป็นครั้งหนึ่งครั้งเดียวในชีวิตเลยก็ว่าได้…
-
เบื่อๆ ไม่รู้จะไปไหนงั้นมาทางนี้!! นี่คือ 5 เว็บไซต์แปลกๆ ที่ช่วยเติมความรู้ และทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น
ทุกวันนี้มีเว็บไซต์อยู่มากมายให้คุณได้ติดตามข่าวสารเพื่อความรู้หรือความบันเทิงอยู่มากมาย แต่บางคนอาจจะประสบปัญหาว่าเว็บไซต์ที่คุณสิงสู่อยู่เริ่มจะน่าเบื่อขึ้นเรื่อยๆ #เหมียวฟิ้นเลยจะขอมาแนะนำ 5 เว็บไซต์เก๋ๆ ที่จะทำให้คุณมีอะไรทำไปอีกนาน 1. BugMeNot คุณเคยประสบปัญหาในการสมัครสมาชิกเว็บไซต์กันบ้างหรือเปล่า? ไม่ว่าจะสมัครชื่ออะไรก็ตาม พลิกแพลงยังไงก็ตาม ก็จะมีคนใช้ชื่อนั้นอยู่ก่อนแล้ว งั้นเราขอนำเสนอเว็บไซต์ BugMeNot.com วิธีใช้ก็ง่ายมากๆ เพียงแค่คุณนำลิ้งของเว็บไซต์นั้นๆ ลงไปวางในเว็บไซต์นี้ มันก็จะทำการประมวลผลว่ายังเหลือชื่อผู้ใช้หรือพาสเวิร์ดแบบไหนบ้างที่ยังไม่เคยสมัคร แล้วเลือกมาให้คุณลองเอาไปใช้จริงๆ ดู ไม่ว่านะเว็บนอกหรือเว็บไทยก็สามารถทำได้ทั้งนั้น 2. Get Notify การสื่อสารผ่าน Facebook แบบทุกวันนี้มีข้อดีอย่างหนึ่งคือเราสามารถเช็คได้ว่าอีกฝ่ายอ่านข้อความของเราแล้วหรือยัง? แต่หากเป็นการส่งอีเมล์เราจะไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่หากคุณลองมาใช้เว็บไซต์ Getnotify.com มันจะสามารถตรวจสอบได้ว่าอีเมล์ที่คุณส่งไปหาอีกฝ่ายนั้น ได้รับการอ่านแล้วหรือยัง 3. Livestream เว็บ Livestream จะช่วยให้คุณชมการถ่ายทอดสดจากทุกรูปแบบได้ ไม่ว่าจะมาจาก Fox BBC Ted Spotify งานเดินแบบ งานประกาศรางวัล หรืออื่นๆ อีกมากมาย ผ่านเว็บนี้เว็บเดียว หรือจะเป็นการถ่ายทอดสดการประชุมจากบริษัทที่อยู่ห่างกันคนละมุมโลก เว็บนี้ก็สามารถดึงเอามาแสดงให้คุณชมได้ 4. Memrise นี่เป็นเว็บที่#เหมียวฟิ้นชอบมาก เพราะนี่คือเว็บไซต์ที่จะมาสอนภาษาให้คุณแบบฟรีๆ!! โดยจะมีภาษาให้คุณเรียนรู้อย่างหลากหลาย เช่น…
-
เหล่าทหารสาวยูเครนกลายเป็นคนดัง หลังจากโพสต์ภาพภารกิจในแต่ละวัน ลงบนโลกออนไลน์
ขึ้นชื่อว่าสงครามคงไม่มีสถานที่ใดที่สวยงามหรือดึงดูดเราได้หรอกนะ แต่กับสงครามแห่งนี้ อาจจะเปลี่ยนความคิดของคุณจนรู้สึกหลงไหลก็เป็นได้ เมื่อช่วงวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศหลายแห่งเช่น Dailymail, The Sun หรือ Mirror ได้เผยแพร่ภาพของกลุ่มทหารสาวสวยจากประเทศยูเครน ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ทางภาคตะวันออกของประเทศ พร้อมกับถืออาวุธไว้ข้างกาย ตามรายงานไม่ได้บอกว่าทหารสาวกลุ่มนี้มีชื่อว่าอะไร บอกเพียงแค่ว่าหลังจากที่ภาพของเธอถูกเผยแพร่ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ภาพของเธอกลายเป็นที่สนใจของหนุ่มๆ ทั่วโลก แม้ว่าใบหน้าของเธอจะดูขัดกับเครื่องแบบที่เธอสวมใส่อยู่ก็ตาม โดยส่วนใหญ่ของสงครามที่เริ่มตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2014 กองกำลังทหารของรัฐบาลยูเครนไม่อนุญาตให้ทหารสาวออกไปต่อสู้ในแนวหน้าของสงคราม หน้าที่ของพวกเธอจึงทำได้เพียงเป็นแพทย์สนาม แม่ครัวและงานอื่นๆ ที่ไม่ต้องออกไปรบโดยตรง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมิถุนายนปี 2016 กระทรวงกลาโหมของยูเครนได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎใหม่ ที่ให้หญิงสาวที่ทำหน้าที่แค่เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลภาคสนาม ทำอาหารหรือนักบัญชี สามารถเข้ารับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการยานพาหนะของกองทัพ พลปืน วิทยุสื่อสาร หรือแม้แต่การเป็นสไนเปอร์ และเพื่อการรับใช้ชาติและการต่อสู้ในสนามรบอันหนักหน่วง พวกเธอจำเป็นจะต้องเข้าฟิตเนสเพื่อฟิตซ้อมร่างกายและมีการทดสอบทางจิตวิทยาด้วย ซึ่งปัจจุบันมีหญิงสาวเข้าร่วมกับกองทัพของยูเครนเพื่อเป็นทหารแล้วกว่า 17,000 คน อนึ่งประเทศยูเครนมีกฎหมายว่าด้วยการให้หญิงสาวสามารถเข้ารับราชการเป็นทหารได้ ซึ่งประเทศยูเครนเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยสาวสวยมากมาย เราเลยได้เห็นภาพของทหารหญิงสุดสวยอยู่บ่อยครั้งนั่นเอง ถึงขนาดที่ว่าเมื่อมีการจัดอันดับทหารสาวที่สวยที่สุดในโลกจากเว็บไซต์ต่างๆ ทหารสาวจากยูเครนก็มักจะติดอันดับเป็น 1 ใน 5 หรือ 1 ใน…
-
เกมสร้างเมือง!? ชวนเที่ยวญี่ปุ่นแบบ 3 มิติ ผ่าน Google Earth สวยสมจริง ฟินไปอีกแบบ
เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้ไปเห็นกระทู้พันทิปกระทู้หนึ่งของคุณ Real~Fine เข้า โดยในกระทู้เป็นการนำเอาภาพ 3 มิติจาก Google Earth มาให้เราได้ชมกัน ซึ่งโดยปกติแล้ว Google Earth จะแสดงผลโดยการดึงเอาภาพถ่ายจากดาวเทียมมาหให้เราดู ภาพที่ได้ก็จะแบนๆ ไม่มีมิติอะไร แต่ในระยะหลังๆ มานี้ Google ได้พัฒนาระบบ 3 มิติของบ้านเรือน อาคาร สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้ดูเป็นรูปทรงโดดเด่นออกมาจากพื้นดินมากขึ้น ประหนึ่งว่าคุณกำลังเล่นเกม PS1 ยังไงยังงั้นเลย ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นก็เลยจะเชิญชวนเพื่อนๆ ไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วย Google Earth 3D ตามสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ หลายแห่ง ลองมาดูกันว่าระบบ 3 มิติที่ว่านี้จะทำให้คุณเหมือนไปอยู่ตรงนั้นได้จริงๆ หรือเปล่า? 1. พระราชวังอิมพีเรียล ภาพสถานที่จริง 2. โตเกียวทาวเวอร์ สถานที่จริง 3. ภูเขาไฟฟูจิ …
-
ลืมภาพความแบ๊วให้หมด!! นี่คือ 11 เรื่องสุดดาร์ค ของเหล่า “โลมา” ที่ไม่น่ารักเท่าไหร่หร๊อก
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา#เหมียวฟิ้นได้นำเสนอเกล็ดความรู้ชวนอึ้งเกี่ยวกับจิงโจ้ ที่ทำให้เรารู้ว่าจริงๆ แล้วพวกมันไม่ได้ใสซื่อน่ารักแบบที่เราเข้าใจ (อ่าน 12 ความจริงชวนเหวอของจิงโจ้ได้ที่นี่เลย) เราก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่ายังมีสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่มีภาพลักษณ์ที่ดูใสๆ น่ารักๆ อย่างโลมาอยู่เหมือนกัน แต่ก็มีข้อมูลหลายๆ อย่างที่บอกเราว่าพวกมันน่ะไม่ได้น่ารักอย่างที่เราเข้าใจเท่าไหร่ ในบทความนี้เราก็เลยรวบรวมความลับสุดดาร์คของพวกมัมมาให้ได้อ่านกัน รับรองว่าดับฝันทุกคนแน่ๆ… 1. โลมาสามารถ Threesome ได้… 2. โลมาใช้เวลาหมดไปกับการมีเพศสัมพันธุ์และการเล้าโลมกับโลมาตัวอื่นเยอะพอสมควร ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นฤดูผสมพันธุ์หรือไม่ 3. โลมาตัวผู้ มีพฤติกรรมข่มขืนตัวเมีย 4. โลมาสามารถพยายามขืนใจมนุษย์ได้ อย่างในคลิปวิดีโอนี้ เป็นคลิปของกลุ่มนักประดาน้ำที่ไปดำน้ำแถวๆ เกาะเคย์แมน แต่ดันถูกจู่โจมโดยโลมากลัดมันตัวหนึ่ง คุณจะสังเกตได้ว่ามันพยายามยื่นอวัยวะเพศของมันออกมาทางนักประดาน้ำ แลดูมีความพยายามอย่างมาก… 5. ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เคยมีข่าวว่าโลมามีอะไรกับมนุษย์มาแล้ว เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2014 สารคดีของ BBC ได้เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับ Margaret Howe Lovatt นักวิจัยสาวและ Peter โลมาหนุ่ม ที่มีอะไรกันภายใต้การทดลองยา LSD กับโลมา โดยนักวิจัยสาวบอกว่าหลังจากที่ให้ยากับเจ้าโลมา มันก็มีความต้องการทางเพศจนเธอสังเกตได้…
-
นาวิกโยธินเล่าประสบการณ์ ลักลอบนำ ‘สุนัข’ ที่เจอในสนามรบกลับบ้าน ทั้งน่ารักและตื่นเต้น
สนามรบอาจจะเป็นสถานที่ที่ทำให้ชีวิตของใครหลายๆ คนต้องจบลงที่นั่น แต่บางครั้งมันก็ก่อเกิดเป็นมิตรภาพดีๆ ที่คุณคิดไม่ถึงเหมือนกัน นี่เป็นเรื่องราวของนาย Craig Grossi นาวิกโยธินของสหรัฐที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในเมืองเฮลมานด์ ประเทศอัฟกานิสถาน ครั้งหนึ่งระหว่างประจำการ ในช่วงกลางคืนของเดือนตุลาคมปี 2009 ด้วยเฮลิคอปเตอร์ และรุ่งเช้ามาพวกเขากลับถูกกลุ่มตาลีบันเข้าโจมตี เมื่อการต่อสู้เริ่มซาลง นาย Grossi ก็สังเกตเห็นว่าในบริเวณนั้นมีสุนัขอยู่ตัวหนึ่งนอนอยู่ ซึ่งไม่ได้เรื่องปกติของที่นั่น เพราะสุนัขส่วนใหญ่จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มและแสดงท่าทางดุร้ายใส่ผู้คน แต่กับเจ้าตัวนี้ดูจะนิ่งสงบมากกว่า เขาเริ่มสังเกตเห็นว่าเจ้าสุนัขตัวนี้อาศัยหลบนอนอยู่ตามพุ่มไม้และคุ้ยเขี่ยหาอาหารเล็กๆ น้อยๆ กิน ไร้เจ้านาย เนื้อตัวสกปรกเต็มไปด้วยเห็บหมัด แต่ถึงจะรู้สึกสงสารมันอย่างไรก็ตาม ในหน่วยของเขามีกฎอยู่ว่าห้ามเข้าใกล้สุนัข แต่ใช่ว่านาย Grossi จะปฏิบัติตามกฎเสมอไป เพราะเขาได้หยิบเอาขนมหมาติดมือไปยื่นให้กับมัน พอมันเห็นก็แกว่งหางไปมาและเข้ามาหาเขาอย่างเป็นมิตร นาวิกโยธินหนุ่มมองเห็นความน่ารักสดใสในสุนัขตัวนี้ จึงเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าในเมื่อมันน่ารักขนาดนี้แต่ทำไมถึงไม่มีใครสนใจดูแลมันเลยแม้แต่คนเดียว? “ผมเกาที่หลังหูของมัน และผมไม่อยากจะเชื่อเลย” นาย Grossi เล่าถึงช่วงเวลาที่ทำให้เขาตกหลุมรักมัน เขาเลยตั้งชื่อเล่นให้มันว่า Fred ที่คล้ายกับคำว่า Friend (เพื่อน) ทหารหนุ่มเล่าให้ฟังถึงช่วงเวลาการทำสงครามว่า กลุ่มตาลีบันจะใช้ชาวบ้านเป็นโล่ เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ถูกทหารอเมริกันโจมตีโดยตรง ทำให้กลุ่มนาวิกโยธินต้องหลีกเลี่ยงการโจมตีใส่ชาวบ้าน ตกกลางคืนกลุ่มทหารก็จะออกสำรวจตามบ้านเรือนเพื่อดูว่าสงบเรียบร้อยดีหรือไม่ เมื่อเจ้า Fred เห็นว่านาย Grossi ออกไปในเดินตามหมู่บ้าน มันก็จะรีบเดินตามเขามาทันที …
-
สอนทำ 5 ของเล่นสำหรับแมว จะทำให้แมวแฮปปี้ (แค่แมวเป็นสุข มนุษย์ก็สุขใจ เฮ!!)
ไม่ว่าใครก็ตามที่เลี้ยงเจ้าเหมียวเอาไว้ในบ้าน คุณจะต้องประสบกับปัญหาความยากจนหลังจากที่รับเจ้าเหมียวมาเลี้ยง (ที่ตอนแรกก็ไม่จนหรอกแต่พอมีแมวเท่านั้นแหละจนเลย) เพราะเนื่องจากต้องซื้อของเล่นของใช้ให้พวกมันเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองความสุขให้กับพวกมัน แต่ปัญหาเหล่านั้นคงจะลดน้อยลงไป หากคุณได้ชมวิธีการสร้างของเล่นของใช้แมวด้วยตัวเอง จากช่องยูทูบ Cole and Marmalade รับรองว่าทำไมยาก แถมยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าคุณไปได้เยอะอย่างไม่น่าเชื่อ ของเล่นชิ้นแรกที่พวกเขาจะชวนมาทำก็คือ สถานีแปรงขนแมว สิ่งแรกที่ต้องเตรียมคือแผ่นไม้ขนาดกว้าง 12 นิ้ว นะเอาแปรงทำความสะอาดห้องน้ำมาดึงส่วนขนออกแบบนี้ (ใช้ 2 อัน) หาผ้าขนหนูเก่าๆ มาตัดเป็นตารางสี่เหลี่ยมให้กว้างกว่าแผ่นไม้แบบนี้ แล้วใช้แม็กแม็กผ้าลงไปให้ติดกับแผ่นไม้ หาไม้ทรงกลมมาเจาะรูด้วยสว่าน เอาแปรงทำความสะอาดมาทากาวร้อนแล้วเสียบลงไปในรูปไม้ จากนั้นเจาะแผ่นไม้ตรงส่วนมุมใดมุมหนึ่งให้ทะลุ แล้วเจาะมุมตรงกันข้ามกันอีก 1 รู จากนั้นหยอดกาวร้อนลงไปแล้วนำแปรงทำความสะอาดมาเสียบ เท่านี้ก็ได้สถานีแปรงขนมาแล้ว 1 อัน รับรองว่าเล่นทั้งวันแน่ๆ ต่อไปเป็นหน้าตักปลอม ให้หากางเกงเก่าๆ ที่เราไม่ใช้แล้วมา 1 ตัว นำเสื้อผ้าเก่าๆ ที่เราไม่ใช้แล้ว หรือจะเป็นเศษผ้าก็ได้ ยัดเข้าไปในกางเกงให้กางเกงพองฟู แล้วสวมถุงเท้าเข้าไปที่ขางกางเกง …
-
ทรงพระแฮนด์ซั่มมาก!! จัดอันดับ 10 เจ้าชายจากหลายประเทศที่ “หน้าตาดีที่สุดในโลก”
ในซีรี่ส์เกาหลีหลายๆ เรื่องมักจะมีการนำเอาเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าชายมาผสมผสานลงไป เพื่อช่วยเติมเต็มความฝันให้กับสาวๆ ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะมีเจ้าชายหนุ่มรูปงานมาตกหลุมรักพวกเธอ แต่นั่นก็เป็นเพียงเรื่องสมมติในละครล่ะนะ เจ้าชายเหล่านั้นไม่ได้มีตัวตนอยู่จริงๆ แต่ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นจะพาทุกคนไปรู้จักกับเจ้าชายที่มีตัวตนอยู่จริงๆ และได้รับการจัดอันดับจากเว็บไซต์ Ranker.com ว่าเป็น 10 เจ้าชายรูปงามที่สุดในโลก จะมีใครที่ทำให้สาวๆ สามัญชนอย่างเรารู้สึกคลั่งไคล้ได้บ้าง ลองไปชมกันเลยพะยะค่ะ 10. เจ้าชายอันเดรีย อัลแบร์ ปิแยร์ กาสิรากี แห่งโมนาโก 9. เจ้าชายปิแยร์ กาสิรากี แห่งโมนาโก 8. เจ้าชายแฮร์รีแห่งเวลส์ 7. เจ้าชายลอเรนโซ่ บอเกซ แห่งอิตาลี 6. สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลีเปที่ 6 แห่งสเปน 5. เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ 4. เจ้าชายเฟลิกซ์ แห่งลักเซมเบิร์ก 3. เจ้าชายอะเมเดโอแห่งเบลเยียม อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย-เอสเต 2. ฮัมเดน บิน มูฮัมหมัด อัล มักทูม แห่งดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1. เจ้าชายคาร์ล ฟิลิป…
-
หมดกัน!! ชวนดู 12 ความจริงเกี่ยวกับ “จิงโจ้” ที่พิสูจน์ว่า พวกมันน่ะไม่ได้น่ารักอย่างที่เราคิด
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลายๆ คนน่าจะได้เห็นข่าวหรือไม่ก็คลิปเกี่ยวกับกรณีที่มีชายหนุ่มชกจิงโจ้เพื่อปกป้องสุนัขของตัวเอง (อ่านข่าวหนุ่มออสซี่ชกจิงโจ้ได้ที่นี่) ซึ่งทำให้ผู้คนทั้งในไทยหรือในต่างประเทศอึ้งไปตามๆ กัน เพราะคิดว่าจิงโจ้ไม่น่าจะเป็นสัตว์ที่ดุร้ายอะไร แถมยังมองว่าเป็นสัตว์ที่น่ารักๆ เสียด้วยซ้ำ #เหมียวฟิ้นจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกมันเป็นสัตว์ที่น่ารักใสๆ อย่างที่เราเคยเข้าใจหรือเปล่า? จึงได้ทำการค้นคว้าข้อมูลและพบว่าพวกมันมีพฤตกรรมที่ชวนอึ้งมากกว่าน่ารักน่าเอ็นดูด้วยซ้ำ เช่นพฤติกรรม Threesome (ซั่ม 3 ตัว) แบบนี้… แล้วก็แบบนี้… นี่มัน Foursome ละเฮ้ยยยย!! หรืออย่างบางตัวมีพฤติกรรมที่พยายามจะข่มขืนลูกจิงโจ้แบบนี้ และหากใครที่คิดว่าจิงโจ้ไม่น่าจะทำร้ายใครก่อน งั้นลองไปชมคลิปนี้ เป็นคลิปที่จิงโจ้ตัวหนึ่งมายืนเคาะประตูบ้านของนาย Nathan Russo ในออสเตรเลีย พร้อมกับกางกงเล็บสุดสยองออกมาและทำท่าเหมือนกับจะพังกระจกเข้ามา ดูแล้วสยองใช่เล่น จากตรงนี้ไปจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับพวกจิงโจ้ที่อาจทำให้คุณอ้าปากค้างได้เลย ลองมาดูกันไปทีละข้อๆ เลยนะ 1. พวกจิงโจ้สามารถเพิ่มจำนวนประชากรได้เป็น 4 เท่าภายในเวลา 5 ปี ถึงขนาดที่ทำให้ออสเตรเลียมีปัญหาเกี่ยวกับจำนวนประชากรจิงโจ้มากเกินไป 2. ด้วยความที่จิงโจ้มีจำนวนมาก ทางออสเตรเลียจึงออกกฎหมายในปี 1980 ให้นำพวกมันมาทำเป็นอาหารและนำเนื้อส่งออกไปขายยัง 55 ประเทศทั่วโลกได้อย่างถูกกฎหมาย …
-
ลูกสาวเจ้าหน้าที่ EU ทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครดูแลผู้อพยพ แต่กลับถูกฆ่าข่มขืนโดยผู้ลี้ภัยเอง….
นี่เป็นเรื่องราวที่น่าสลดใจที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนผู้คนเริ่มรู้สึกชินชา แต่กับกรณีนี้อาจจะทำให้ทั้งโลกตั้งคำถามขึ้นมาอีกครั้งว่าการหยิบยื่นความช่วยเหลือให้แก่ผู้ลี้ภัยโดยไม่เลือกปฏิบัติต่อใครเลย เป็นเรื่องที่เหมาะสมและปลอดภัยจริงหรือไม่? เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักข่าว The Sun ของอังกฤษได้รายงานว่า Maria Ladenburger นักศึกษาแพทย์วัย 19 ปี ถูกพบเป็นศพอยู่ในแม่น้ำไฟรบูร์ก ประเทศเยอรมนีใกล้กับชายแดนของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นฝีมือของผู้ลี้ภัยชาวอัฟกานิสถาน ตามรายงานบอกว่านางสาว Maria Ladenburger ได้ออกไปร่วมงานปาร์ตี้กับเพื่อนๆ และกลับบ้านในเวลาตี 2.37 และปั่นจักรยานกลับบ้านของเธอตามปกติ แต่ในระหว่างทางกลับมีวัยรุ่นพบเห็นเธอ จึงกระชากเธอลงมาแล้วทำการข่มขืนเธอก่อนที่เธอจะจมน้ำตาย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2016 ที่ผ่านมา หลังจากที่มีการค้นพบร่างของ Maria เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สำรวจตามพุ่มไม้ต่างๆ โดยละเอียด จึงพบว่ามีเส่นผมสีดำที่ย้อมกลายเป็นสีบลอนด์ขนาด 18.5 เซ็นติเมตรตกอยู่ และยังมีการค้นพบผ้าพันคอของ Maria ตกอยู่ที่ก้นแม่น้ำใกล้ๆ ด้วย เมื่อนำเอา DNA จากผ้าพันคอและเส้นผมมาตรวจ กลับไปพบความเกี่ยวข้องใดๆ ตำรวจจึงได้ตรวจสอบกล้อง CCTV เพิ่มเติมและพบว่ามีวัยรุ่นชายวัย 17 ปีอยู่บนรถกระเช้าไฟฟ้าที่มีผมสีดำและย้อมทองคล้ายกับเส้นผมที่ตกอยู่ในพุ่มไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญให้วัยรุ่นหนุ่มมาให้ปากคำและตรวจ DNA อย่างละเอียดในวันศุกร์ที่ 2…
-
ฮีโร่ 4 ขามาแล้ว!! หญิงสาวรอดจากการถูกข่มขืน เพราะได้ ‘สุนัขพิตบูล’ ของแฟนช่วยเอาไว้
อย่างที่หลายๆ คนว่าเอาไว้ ว่าสุนัขนั้นเป็นมากกว่าแค่สัตว์เลี้ยงจริงๆ เพราะนอกจากจะช่วยเฝ้าบ้านได้แล้ว พวกมันยังทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดในยามฉุกเฉินให้เรารอดตายได้อย่างไม่คาดฝันทีเดียว เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสุนัขฮีโร่ที่ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Metro โดยมีเนื้อหาว่าเมื่อช่วงคืนวันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นางสาว Maya Fairweather วัย 18 ปี ได้พาเจ้า Apollo สุนัขสายพันธุ์พิตบูลวัย 5 เดือนของแฟนหนุ่มออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ในเมืองบรูคลิน รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ในระหว่างนั้น Maya กลับถูกชายนิรนามแปลกหน้าพุ่งเข้ามาประชิดตัว แล้วพยายามจะข่มขืนเธอ จากคำบอกเล่าของเธอบอกว่าชายคนนั้นผลักเธอลงไปนอนกับพื้นและฉีกกางเกงของเธอออก ซึ่งเธอไม่สามารถต่อสู้กับแรงของเขาได้ เมื่อเจ้า Apollo เห็นแบบนั้น มันจึงกระโจนเข้าใส่ชายแปลกหน้าคนนั้นทันที ก่อนจะงับเข้าที่ขาของชายคนนั้น ทำให้เข้าหยุดสนใจหญิงสาวและหันมาดูที่แผลของตัวเอง จนหญิงสาวฉวยโอกาสและหนีไปได้ในที่สุด หลังจากนั้นชายโรคจิตก็หนีไปเช่นกัน เธอได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เขาปกป้องฉันดีมาก ฉันคิดว่ามันคงจะแย่กว่านี้มาก ถ้าไม่มีมันฉันคงไม่โชคดีแบบนี้” เธอยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าตัวจริงของเจ้าสุนัขไม่เคยดุร้ายมาก่อนเลย “มันเป็นสุนัขที่น่ารักมาก ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะกัดใครเลย มันจะเป็นมิตรและเข้าหาทุกๆ คนได้ทันที” แม้ว่าสุดท้ายคนร้ายจะสามารถหนีไปได้ แต่หญิงสาวและเจ้า Apollo ก็ปลอดภัยดีและตอนนี้เองเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกติดตามชายโรคจิตรายนี้มาดำเนินคดีแล้ว หวังว่าคงจะตามจับมาได้โดยเร็วนะ จะได้ไม่ไปก่อเหตุกับคนอื่นๆ ที่ไหนอีก… นี่แสดงให้เห็นเลยว่าเราสามารถเชื่อใจพวกมันได้ แม้ว่าปกติแล้วพวกมันจะเป็นสุนัขที่ใจดีก็ตาม…
-
หงายเงิบ!? หนุ่มออสเตรเลียปล่อยหมัดจิงโจ้ เพื่อปกป้องสุนัขของตัวเองที่ถูกมันรังแก
หากใครที่เคยได้ดูคลิปของเหล่าจิงโจ้ในต่างแดนมาบ้าง ก็จะพอรู้ว่าพวกมันนั้นเป็นนักสู้ที่น่ากลัวตัวหนึ่งเลยล่ะ เพราะด้วยรูปร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม การออกหมัดที่คล้ายกับคน ลูกเตะที่รุนแรงจนอาจทำให้คุณไส้แตกได้ มันจึงเป็นสัตว์สายพันธุ์หนึ่งที่คุณไม่น่าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ขอให้สู้ให้สุดใจ… เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของชายหนุ่มรายหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย ขณะต่อสู้อยู่กับจิงโจ้เพื่อปกป้องสุนัขของตัวเอง ตามรายงานบอกว่าสุนัขตัวนี้มีชื่อว่าเจ้า Max มันพยายามจะวิ่งหนีจิงโจ้ตัวหนึ่งเพื่อกลับมาหาเจ้านายที่รถกระบะ แต่มันก็ถูกจิงโจ้จับตัวไว้ได้ทัน เมื่อเจ้านายของมันรู้สึกถึงอันตราย เขาก็รีบกระโดดลงจากหลังกระบะวิ่งตรงไปยังเจ้าจิงโจ้ทันที เมื่อจิงโจ้สังเกตเห็นว่ามีมนุษย์อยู่มันจึงปล่อยสุนัขและหันเหความสนใจมาอยู่ที่คน ทันทีชายหนุ่มไปถึงเขาก็ตั้งการ์ดพร้อมประจันหน้ากับเจ้าถิ่น แต่ไม่ทันไรเขาก็ปล่อยหมัดแย็บออกไป 1 หมัด ทำให้เจ้าจิงโจ้ถึงกับยืนนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่จิงโจ้จะกลับเข้าป่าไปและชายหนุ่มก็รีบพาสุนัขของเขาออกจากจุดเกิดเหตุ ชมคลิปแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปในวงกว้าง ทำให้เกิดคำวิจารณ์ในหลากหลายแง่มุม เช่น bugsplat “จากมุมมองของจิงโจ้ มันคงคิดว่า ‘ฉันแค่ออกมาหาอาหารเอง ฉันทำอะไรผิดล่ะ’” Amanda Anderson “หลังจากดูคลิปจบ ฉันก็รู้สึกเสียใจกับเจ้าจิงโจ้ไปด้วย” syed hossain “นี่คือสิ่งที่ตลกที่สุดที่ฉันได้เห็นในวันนี้เลย จิงโจ้เป็นฝ่ายชนะ เพราะมันยังยืนจ้างเขม็งผู้ชายคนนั้นได้ แต่เขากลับตื่นกลัวและเป็นฝ่ายถอยออกมาเอง” Petroleuse “ถ้าเจ้าของสุนัขไม่ทำแบบนั้น เจ้าจิงโจ้คงจะทารุณเขาด้วยขาหลังของมันไปแล้ว” …
-
เหมียว Wesley กลายเป็นพี่ใหญ่ในฟาร์มสัตว์ คอยปลอบใจอยู่บนหลังทุกตัว พี่ขี่มาหมดแล้ว!!
ใครๆ ก็รู้ว่าแมวเปรียบเสมือนราชาภายในบ้าน ไม่ว่ามันต้องการอะไร หรืออยากจะไปไหน พวกมันก็จะได้ในสิ่งที่ต้องการ โดยมีมนุษย์คอยปรนนิบัติตลอดเวลา แต่กับเจ้าเหมียวตัวนี้ กลับไม่ได้มีนิสัยรักสบายขนาดนั้น เพราะมันกลายเป็นที่พึ่งให้แก่สัตว์ตัวอื่นๆ ได้อย่างน่าชื่นชมทีเดียว เรื่องที่#เหมียวฟิ้นนำมาบอกเล่ากันในวันนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับองค์กรช่วยเหลือสัตว์ Indraloka Animal Sanctuary ในเมืองเมฮูปานี รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา องค์กรแห่งนี้จะคอยช่วยเหลือสัตว์จากฟาร์มหลายๆ แห่ง ที่หมดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมแล้วและเตรียมที่จะถูกส่งตัวไปฆ่าทิ้ง ตลอดเวลาพวกเขาช่วยสัตว์เอาไว้เยอะมากเช่นวัว ม้า หมู แพะ แกะ โดยเฉพาะแมว ตามรายงานบอกว่าภายในฟาร์มขององค์กรแห่งนี้มีแมวที่ถูกช่วยเหลือมามากกว่า 100 ตัว แต่ในบรรดาแมวทั้งหมด มีแมวอยู่ตัวหนึ่งที่โดดเด่นพิเศษกว่าตัวอื่นๆ นั่นคือเจ้า Wesley T. Monkey (ชื่อยาวจริงแฮะ) เจ้า Wesley ไม่ใช่แมวธรรมดาๆ ที่จะคอยสะบัดหางหรือพยายามจะเป็นหัวหน้าแก๊งแมวเท่านั้น เพราะมันคอยให้ความช่วยเหลือและดูแลสัตว์ชนิดอื่นๆ เท่าที่มันจะทำได้ จากคำบอกเล่าขององค์กรช่วยเหลือสัตว์บอกว่าเจ้า Wesley จะใช้เวลาในแต่ละวันเข้าสังคมกับสัตว์ตัวอื่นๆ ในฟาร์มไม่ว่าจะวัว ม้า หรือหมู โดยการนั่งอยู่บนหลังของสัตว์เหล่านั้นและร้องเหมียวๆ อยู่ตลอด คล้ายกับว่ามันกำลังสื่อสารกับสัตว์เหล่านั้นอยู่ และเมื่อสัตว์พวกนั้นไม่ได้นั่งอยู่กับพื้นแต่เปลี่ยนไปเดินเล่นที่อื่น เจ้า Wesley ก็จะกระโดดขึ้นหลังพวกมันและเดินไปทั่วฟาร์มด้วย…
-
ญี่ปุ่นนำชุดกิโมโน ดัดแปลงเป็นลายการ์ตูนดัง “Evangelion” ความแตกต่างที่ดูงามลงตัว…
เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนคงจะรู้จักกับชุดพื้นเมืองของญี่ปุ่นอย่างชุดกิโมโนกันไม่มากก็น้อยล่ะนะ แม้จะเป็นเครื่องแต่งกายที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเมื่อพันกว่าปีก่อน แต่ปัจจุบันเราก็ยังเห็นผู้คนนำมาสวมใส่กันเป็นประจำ และสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างหนึ่งของเครื่องแต่งกายชนิดนี้ก็คือ ชาวญี่ปุ่นเองได้มีการนำมาพัฒนาต่อยอดให้เข้ากับยุคเข้ากับสมัยอย่างที่เราคาดไม่ถึงกันด้วยล่ะ เมื่อช่วงวันที่ 14-31 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Otakumode ได้มีการจัดโหวตเพื่อเฟ้นหาการออกแบบลวดลายบนชุดกิโมโนลายใหม่ ที่มีการนำเอาการ์ตูน Evangelion (อีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา) สุดฮิตของญี่ปุ่นมาเป็นธีมหลักในการออกแบบ และหลังจากที่มีการโหวตกัน ก็ได้ลายชนะเลิศเป็นผืนผ้าสีดำ ที่มีลวดลายสื่อถึงการ์ตูน Evangelion แต่เพียงเล็กน้อยและไม่ดูรกจนเกินไป พร้อมกันนี้ยังมีผ้าโอบิ (สายรัดผ้าคลุม) เป็นลาย 6 เหลี่ยมสีแดงกับลายจากการ์ตูนด้วย และนี่คือหน้าตาของผ้าโอบิทั้ง 2 แบบ มีการรับประกันว่าชุดกิโมโนที่เห็นทั้งหมดนี้ถูกถักทอขึ้นด้วยมือล้วนๆ จากโรงงานเก่าแก่อายุ 70 ในจังหวัดฮิโรชิม่า แต่เนื่องจากเป็นงานแฮนเมดจึงมีราคาที่แพงพอสมควรเลยทีเดียว สนนราคาต่อชุดเริ่มต้นที่ 69,235 (อื้อหือออ) หากสนใจก็เข้าไปกดสั่งซื้อได้ที่ otakumode.com บอกตรงๆ ว่า#เหมียวฟิ้นเองก็ไม่ได้เป็นแฟนการ์ตูนเรื่อง Evangelion อะไรมากมายนะ แต่มันน่าสนใจตรงที่ประเทศเขาไม่ยอมให้วัฒนธรรมหยุดอยู่กับที่นี่แหละ ทำให้คนรุ่นใหม่ๆ สามารถเข้าถึงวัฒนธรรมอันเก่าแก่ได้ง่ายและรู้สึกอยากมีส่วนร่วมไปด้วย ยอดเยี่ยมจริงๆ ที่มา rocketnews24
-
บริษัทต่างชาติเตรียมสร้าง ‘แท็กซี่ลอยฟ้า’ เปิดใช้ปี 2020 ปฏิวัติการเดินทางราวกับหนังไซไฟ
การเดินทางด้วยแท็กซี่เริ่มสะดวกสบายมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะแทนที่เราจะต้องไปยืนโบกมือหยอยๆ ข้างถนน ตอนนี้ระบบต่างๆ ก็เริ่มพัฒนาทำให้เราสามารถเรียกแท็กซี่ผ่านสมาร์ทโฟนได้ และคุณเชื่อไหมว่าในอนาคตอันใกล้ มนุษย์เราอาจจะสามารถเรียกแท็กซี่จากทางอากาศได้ด้วย? สิ่งที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้คือ “แท็กซี่ลอยฟ้า” ที่แม้จะยังเป็นเพียงแนวคิดหรือคอนเซ็ปต์แต่ก็มีการยืนยันออกมาแล้วว่าแท็กซี่ในรูปแบบนี้กำลังถูกพัฒนาอยู่จริงๆ โดยเจ้าแท็กซี่ลอยฟ้าที่ว่านี้อยู่ในระหว่างการคิดค้นโดย Airbus Group บริษัทที่ผลิตอากาศยานและระบบป้องกันประเทศของยุโรป ซึ่งพวกเขาตั้งชื่อให้มันว่า CityAirbus เจ้า CityAirbus ที่ว่านี้ Airbus Group ต้องอาศัยบริษัทหลายๆ แห่งร่วมกันพัฒนามันขึ้นมา โดยพวกเขาได้มอบหมายงานให้บริษัท MTSI (Modern Technology Solutions, Inc) รับหน้าที่ในการบินทดสอบ ส่วนบริษัท SOAR Oregon จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนการทดสอบ ไอเดียของแท็กซี่ลอยฟ้าจะมีความใกล้เคียงกับระบบของรถไร้คนขับที่บริษัทผู้ผลิตรถ Tesla กำลังพัฒนาอยู่ ผสมกับเทคโนโลยีโดรนที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายเพื่อการถ่ายภาพ ซึ่ง CityAirbus จะมาในรูปแบบของยาน 4 ใบพัดไร้คนขับที่บังคับทิศทางได้เอง สามารถนั่งได้ 1 ที่นั่ง และบินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้เลยโดยที่ไม่ต้องใช้ถนนหรือรันเวย์ในการออกตัว นอกจากนี้ยาน CityAirbus ยังมาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ ที่จะคอยตรวจจับการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ นั่นหมายความว่าหากคุณนั่งยานที่ว่านี้อยู่บนอากาศ มันก็จะไม่มีทางชนกันเองแน่นอน…
-
ระทวย…ญี่ปุ่นจัดแสดงนิทรรศการ “ขาอ่อน” เพื่อคนที่ชื่นชอบศิลปะแบบขาวๆ โอโม่ๆ
ศิลปะสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ภาพถ่าย การปั้น การประดิษฐ์ หรือแม้แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะกลายเป็นศิลปะได้อย่าง “ขาอ่อน” ก็สามารถทำให้กลายเป็นศิลปะได้เช่นกัน… เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่าบริษัทเบค่อนจำกัดมหาชน (ชื่อนี้จริงๆ) ในประเทศญี่ปุ่น ได้เตรียมจัดงาน The World of Thigh Photography 2016-2017 หรือว่าง่ายๆ ก็คือนิทรรศการจัดแสดงภาพถ่ายขาอ่อนประจำปี 2016-2017 นั่นเอง นิทรรศการครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดยการนำเอาภาพถ่ายของช่างภาพที่ชื่อว่า Yuria ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพขาอ่อนของสาวๆ มาจัดแสดงให้ผู้ที่ชื่นชอบขาอ่อนเหมือนกัน (และมองว่าเป็นศิลปะ) ได้เข้ามาชื่นชมกันอย่างเปิดเผย ภาพถ่ายทั้งหมดจะถูกนำไปจัดแสดงไว้ที่แกลอรี่ TODAYS GALLERY STUDIO ที่เขตอซาคูซะบายาชิ เมืองโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2016 ถึง 22 มกราคม 2017 เก็บค่าเข้าชม 500 เยน หรือราวๆ 160 บาทเท่านั้น มองให้เป็นศิลปะนะหนุ่มๆ รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก… …
-
งานวิจัยต่างประเทศเผย 7 สิ่งที่ “คนโสด” ประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่า “คนมีคู่”
การแต่งงานมีครอบครัว ใช่ว่าจะเป็นเป้าหมายของทุกๆ คน บางคนอาจจะมีความสุขกับชีวิตโสด เพราะมีอิสระไม่ต้องเป็นภาระของใครหรือไม่ต้องให้ใครมาเป็นภาระของเรา ในขณะที่คนมีคู่เองก็มีความสุขกับคนรักและพยายามอธิบายถึงข้อดีต่างๆ ให้คนโสดฟังว่าเป็นยังไง จนเกิดการโต้เถียงกันหลายครั้งหลายครา เมื่อไม่นานมานี้#เหมียวฟิ้นได้ไปเจอเข้ากับงานวิจัยของนักสังคมวิทยา Eric Klinenberg ของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เกี่ยวกับ 7 ข้อดีข้องการเป็นโสด ที่ทำให้คนไม่มีคู่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่าคนมีคู่ เราลองมาไล่เรียงกันดูว่ามันดีหรือไม่ดีอย่างไร? คนโสดเข้าสังคมมากกว่าคนมีคู่ จากการศึกษาของสถาบันวิจัย National Bureau of Economic Research ได้เปรียบเทียบชาวอเมริกันระหว่างคนที่แต่งงานแล้วกับคนที่ยังโสด โดยผลวิจัยบอกว่าคนที่เป็นโสดจะได้รับการติดต่อและการสนับสนุนจากครอบครัวมากกว่าคนที่แต่งงานแล้ว ส่งเสริมให้พวกเขาเข้าสังคมกับเพื่อนๆ หรือคนรอบข้างมากกว่า คนโสดมีอิสระมากกว่า Eric Klinenberg เชื่อว่าในยุคที่ดิจิตัลมีเดียต่างๆ กำลังเติบโต การเป็นโสดนั้นถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างชัดเจน เพราะช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่คนเดียวจะช่วยให้พวกเขาค้นพบว่าตัวตนที่แท้จริง และพบว่าอะไรที่ทำให้ชีวิตของพวกเขามีความหมาย แถมยังช่วยกำหนดเป้าหมายได้ชัดเจนมากกว่าคนมีคู่ คนโสดหาเงินได้มากกว่า จากการสำรวจพบว่าผู้หญิงโสดมีโอกาสที่จะใช้เงินมากกว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วราวๆ 1 ล้านดอลลาร์ (35 ล้านบาท) โดยแบ่งง่ายๆ เป็น เงินเพื่อดูแลสุขภาพ 7.9% ใช้เงินเพื่อซื้อข้าวของเข้าบ้าน 39.8% ในขณะที่สาวที่แต่งงานแล้วใช้เงินเพื่อดูแลสุขภาพ 6.9% และซื้อของเข้าบ้านเพียง…
-
เที่ยวไหมอู๊ดๆ…ชวนไปชม “หาดสวรรค์ของหมู” ในบาฮามาส ให้คุณว่ายน้ำเล่นกับมันได้อิสระ
ทุกคนที่เดินทางไปเที่ยวทะเล เพื่อหวังจะได้พักผ่อนกับธรรมชาติ สายลม คลื่นทะเล หาดทรายสวยๆ แต่ที่เกาะแห่งนี้ให้คุณได้มากกว่า เพราะที่นี่มีหมูว่ายน้ำได้!? เกาะที่#เหมียวฟิ้นกำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Pig Beach (หาดหมู) เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศบาฮามาส สาเหตุที่มันโด่งดังก็เพราะว่าที่นี่มีหมูอยู่มากมายและมักจะออกมาว่าน้ำเล่นกับผู้คนอย่างสนุกสนาน ไม่มีการจดบันทึกอย่างเป็นทางการว่าหมูเหล่านี้ขึ้นมาอยู่ที่เกาะแห่งนี้ได้อย่างไร บางเรื่องเล่าบอกว่าที่หมูแห่กันมาอยู่บนเกาะแห่งนี้เป็นเพรามีนักเดินเรือนำพวกมันมาปล่อยไว้เพื่อที่จะกลับมาประกอบอาหารในภายหลัง แต่กลุ่มนักเดินเรื่องที่ว่าก็ไม่เคยกลับมาที่เกาะอีกเลย แต่บางคำบอกเล่าก็บอกว่าที่หมูพวกนี้มาอยู่บนเกาะได้เพราะว่ามีเรือขนหมูเหล่านี้เพื่อเดินทางไปส่งยังจุดหมายปลายทาง แต่ในระหว่างนั้นเรือเกิดอับปาง แต่หมูพวกนี้กลับสามารถเอาชีวิตรอดและว่ายน้ำไปยังเกาะที่ใกล้ที่สุดได้ ส่วนใครที่สงสัยว่าทำไมหมูเหล่านี้ถึงมีชีวิตรอดอยู่บนเกาะที่ไกลปืนเที่ยงขนาดนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าได้รับเศษอาหารจากเรือที่ผ่านไปมา ทำให้พวกมันมีชีวิตรอดไปได้ หมูเหล่านี้เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการที่พวกมันว่ายน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้เกาะแห่งนั้นมีนักท่องเที่ยวแห่กันไปว่ายน้ำเล่นกับพวกหมูหรือให้อาหารพวกมันมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นสถานที่ท่อวเที่ยวในที่สุด จากการสำรวจจำนวนประชากรหมูที่เกาะแห่งนี้พบว่ามีหมูราวๆ 20 ตัว ซึ่งนอกจากหมูแล้วที่เกาะแห่งนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ รวมอยู่ด้วย เช่นมีแมวและแพะอีกจำนวนหนึ่งด้วย สัตว์ทั้งหมดบนเกาะใช้ชีวิตอยู่อย่างอิสระมาก ไม่มีใครคอยล่ามโซ่หรือกักพวกมันไว้แต่ในคอก กิจกรรมในแต่ละวันของพวกมันก็คือการออกไปอาบแดดเป็นชั่วโมงๆ เมื่อพวกมันอาบแดดจนพอใจแล้วก็จะลงไปว่ายน้ำเล่น พวกมันมีนิสัยขี้เล่นและเป็นมิตรมากๆ เมื่อเห็นนักท่องเที่ยวพวกมันก็จะออกมาทักทายอย่างเป็นกันเอง สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน จนเกิดเป็นหนังสือเด็กที่ชื่อว่า “The Secret of Pig’s Island” เขียนโดย Jennifer R. Nolan และได้รับการบรรจุในเนื้อหาของหนังสือสำหรับเด็กในต่างประเทศด้วย หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่หลงรักหมูและตั้งปฏิญาณว่ายังไงชาตินี้ก็ต้องไปให้ได้สักครั้ง…
-
โอ้โหแฟนตาซี!! พาทัวร์โรงงาน Lush ผู้ผลิตลูกบอลอาบน้ำ ที่จะทำให้คุณเคลิ้มไปทั้งวัน
คนไทยเราเวลาจะอาบน้ำก็จะต้องมีสบู่ไว้คอยถูตัว จะก้อนหรือเหลวก็ว่ากันไป แต่ในต่างประเทศนั้นจะมีอุปกรณ์ทำความสะอาดอีกแบบหนึ่งคือ “บาธบอมบ์” บาธบอมบ์คือบอลกลมๆ คล้ายสบู่ สีสีนสดใส เวลาจะใช้ก็แค่นำไปใส่ไว้ในอ่างอาบน้ำเพื่อให้มันละลาย หลังจากนั้นก็ลงไปแช่ได้เลย ในต่างประเทศเองการใช้บาธบอมบ์ดูจะเป็นที่นิยมมากจึงทำให้เกิดผู้ผลิตขึ้นมาหลากหลายเจ้า หนึ่งในนั้นคือบริษัท Lush ผู้ผลิตเครื่องสำอางแบบแฮนด์เมดรายใหญ่ในประเทศแคนาดา ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นก็เลยจะพาเพื่อนๆ ไปทัวร์โรงงานที่เป็นแหล่งผลิตบาธบอมบ์ ตั้งแต่ที่มันยังเป็นผงๆ จนกลายมาเป็นก้อนกลมที่สวยงาม รับรองว่าดูไปเพลินไปเหมือนโดนสะกดจิตยังไงยังงั้นเลย ที่โรงงาน Lush ตั้งอยู่ในเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา ที่นี่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมชมโรงงาน กระบวนการผลิต หรือแม้แต่ลงมือทำด้วยตัวเองได้ (แต่คุณจะต้องติดต่อนัดหมายให้เป็นเรื่องเป็นราวก่อนนะ) ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2016 ที่ผ่านมา ยูทูบเบอร์ที่ชื่อว่า Jaclyn Forbes ก็ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมโรงงานแห่งนี้แล้วถ่ายคลิปวิดีโอมาให้คนที่ติดตามเธอได้ชมกันด้วย ก่อนที่ Jaclyn จะเข้าไปข้างในโรงงานได้ ทางเจ้าหน้าที่จะให้เธอและเพื่อนๆ เปลี่ยนชุด สวมแว่นและรองเท้าให้เรียบร้อยเสียก่อน วินาทีแรกที่เธอเข้าไปข้างในเธอบอกว่ากลิ่นภายในโรงงานนั้นอเมซิ่งมาก ต่อมาทีมงานก็พาเธอและเพื่อนๆ ไปลองทำบาธบอมบ์ด้วยตัวเอง มีการใส่ส่วนผสมจริงๆ เช่นอะโวคาโดให้เห็นกันชัดๆ ด้วย เป็นการพิสูจน์ว่าบาธบอมบ์หรือเครื่องประทินผิวของเขาสดใหม่จริงๆ ใส่ส่วนผสมด้วยตัวเอง ปั้นบาธบอมบ์ด้วยตัวเอง…
-
วิจารณ์ ‘อควาเรียม’ ในญี่ปุ่น ใช้ซากสัตว์น้ำ 5,000 ตัว แช่แข็งใต้ลานไอซ์สเก็ต เพื่อความแปลกใหม่!?
กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอยู่ในโลกออนไลน์ของประเทศญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีของอควาเรียมแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ที่เปลี่ยนให้ลานไอซ์สเก็ตให้กลายเป็นลานน้ำแข็งสุดสะพรึง เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SpaceWorld ในจังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว หลังจากผู้สนับสนุนสิทธิสัตว์ได้วิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบ เกี่ยวกับการดำเนินการของพวกเขา ตามรายงานบอกว่าเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทาง SpaceWorld ได้นำเอาปลากว่า 5,000 ตัว มาแช่แข็งไว้ใต้น้ำ แล้วลดอุณหภูมิเพื่อเปลี่ยนให้ผิวน้ำกลายเป็นลานสเก็ตขนาดใหญ่ เพื่อสร้างความแปลกใหม่และดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ ภาพลานไอซ์สเก็ตดังกล่าวถูกแชร์ลงใน Facebook, Twitter และสื่อสังคมออนไลน์หลายแห่งอย่างรวดเร็ว แต่ไอเดียนี้กลับไม่ปังอย่างที่ทีมงานคิดกัน เพราะหลังจากที่เปิดให้บริการไปได้เพียง 2 สัปดาห์ ก็ถูกผู้คนก่นด่าอย่างหนักในโลกออนไลน์ เนื่องจากมันเป็นภาพที่น่าสลดใจเกินกว่าจะเล่นสนุกบนตัวปลาที่ไร้ชีวิตเหล่านั้นได้ ภาพสัตว์น้ำที่เราเห็นมีตั้งแต่ปลาทั่วๆ ไป หรือแม้แต่ปลากระเบน นอนแผ่อยู่ใต้ชั้นน้ำแข็ง สร้างความหดหู่ให้แก่ชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ข่าวนี้ถูกพูดถึงในหมู่ชาวเน็ตของญี่ปุ่นกันอย่างแพร่หลาย เช่น @TK074HAKUTAKA “คุณยังสนับสนุนการเล่นไอซ์สเก็ต แม้ว่าจะเล่นอยู่เหนือปลาพวกนั้นน่ะเหรอ? ฉันคิดว่านั่นเป็นรสนิยมที่แย่มาก” @g28z0 “คุณรู้สึกสนุกกับการไม่ให้ความเคารพสิ่งมีชีวิตงั้นเหรอ?”…
-
ผลสำรวจสาวๆ ญี่ปุ่น 1,000 คน ระหว่าง “ไม่หล่อแต่รวย” กับ “หล่อแต่ไม่มีงานทำ” จะเลือกใคร!?
บ่อยครั้งที่เราจะเห็นการถกเถียง การตั้งคำถามกันในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นในการเลือกคบคน เช่น “หากมีคนหล่อแต่จนกับคนไม่หล่อแต่รวยมาจีบ คุณจะเลือกใคร?” เพื่อดูว่าผู้หญิงจะเลือกคบคนแบบไหนมาเป็นแฟน เพื่อให้การตั้งคำถามนั้นเกิดผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง นิตยสาร AneCan ในญี่ปุ่นจึงได้ทำการสำรวจสาวๆ ประมาณ 1,000 คน เพื่อสอบถามพวกเธอว่าอยากจะได้ผู้ชายแบบไหนมาเป็นแฟน ระหว่าง “ผู้ชายหน้าตาไม่หล่อแต่มีเงินถัง” (มีรายได้ต่อปี 90 ล้านบาท) กับ “ผู้ชายหล่อแต่ไม่มีงานทำ” หลังจากที่ได้ออกไปสำรวจสาวๆ ทั้งหมด ผลที่ได้ก็คือ 75.5% ของผู้หญิงที่ตอบแบบสอบถาม เลือกผู้ชายที่รวยและประสบความสำเร็จในด้านการเงิน ในอีกด้านหนึ่งราวๆ 24.5% ของผู้หญิงที่ตอบแบบสอบถาม บอกว่าพวกเธอยินดีจะจ่ายค่าอาหารแทนหนุ่มๆ ตราบใดที่พวกเธอยังได้นั่งมองหน้าหล่อๆ ของพวกเขา (สายเปย์นั่นเอง) หลังจากที่ผลสำรวจนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็ทำให้ชาวเน็ตหลายคนพากันแสดงความคิดเห็นกันไปอย่างหลากหลาย เช่น “เราควรจะดูกันที่ภายใน” “ดูกันที่ภายใน = ก็เงินไง!” “เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าทุกคนเลือกคนรวย” “ในท้ายที่สุดแล้ว เงินคือทุกสิ่ง” “ฉะนั้นไม่ใช่ตัวผู้ชายหรอกที่เนื้อหอม แต่เงินของเขาต่างหากที่เนื้อหอม” “ผมเป็นผู้ชายนะ แต่ผมก็คงตอบแบบเดียวกันถ้าผมเป็นผู้หญิง” จากผลสำรวจเห็นได้ชัดว่าสาวๆ เลือกคนที่คิดว่าจะสามารถดูแลพวกเธอได้ แต่นั่นก็อาจแปรผกผันไปตามช่วงอายุของสาวๆ…
-
นักวิจัยในฮังการีเผย สุนัขสามารถจดจำรายละเอียด สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทำ ได้หมดเลย?
ก่อนหน้านี้เว็บไซต์ของเราได้เคยนำเสนอบทความเกี่ยวกับความฝันของสุนัข ที่มักจะฝันถึงเจ้านายของมันแทบทุกคืนๆ (อ่านบทความสุนัขแอบฝันถึงเราอยู่ตลอดได้ที่นี่เลย) มาวันนี้เรามีอีกหนึ่งข้อมูลใหม่ที่จะทำให้คุณรักพวกมันมากขึ้นมาบอกกันล่ะ นั่นก็คือพวกมันจดจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของคุณได้แทบทั้งหมดเลย เตรียมหยิบทิชชู่ขึ้นมาเลย เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเผยแพร่งานศึกษาชิ้นใหม่ของนาย Claudia Fugazza นักวิจัยพฤติกรรมสัตว์ในประเทศฮังการี ที่พยายามฝึกสุนัขให้ทำสิ่งต่างๆ แบบแปลกๆ เช่นมองลงไปในถังเปล่า วางมือลงบนเก้าอี้ หรือใช้มือแตะไปที่ร่ม แล้วดูว่ามันจะทำตามหรือเปล่า? ผู้ทดลองได้สาธิตท่าทางตัวอย่างให้สุนัขเห็นต่อหน้าพวกมัน ผลปรากฏว่าพวกมันทำไม่ได้และการออกคำสั่งแบบสุ่มๆ แบบนี้ก็ไม่มีการเชื่อมโยงใดๆ กับพวกมันทั้งนั้น แต่ 1 ชั่วโมงต่อมาหลังจากที่ผู้ทดลองได้แสดงท่าทางประหลาดๆ ให้สุนัขเห็น พวกสุนัขก็เริ่มเลียนแบบท่าทางของผู้ฝึกแม้ว่าท่าทางเหล่านั้นจะไม่ได้มีนัยยะสำคัญอะไรก็ตาม การที่พวกมันทำแบบนี้หมายถึงอะไร? นั่นก็หมายความว่าสุนัขของพวกคุณจดจำรายละเอียดทุกอย่างได้ แม้จะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตามยังไงล่ะ นาย Claudia Fugazza ได้อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า “ถ้าคุณสั่งให้สุนัขเลียนแบบการกระทำที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ มันจะเหมือนเป็นการบอกพวกมันว่า ‘แกจำสิ่งที่เจ้านายทำได้หรือเปล่า?’” และพวกมันก็แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกมันจำได้ แม้จะไม่ได้แสดงออกในทันทีก็ตาม ทั้งฝันถึงแต่เรา ทั้งจดจำเราได้ทุกๆ อย่าง จะมีใครที่จริงใจและรักเราได้เท่านี้อีกไหมนะ? ที่มา metro, cell
-
แนะนำเว็บไซต์ “ลบตัวตนออกจากอินเตอร์เน็ต” เพียงคลิ๊กเดียว ข้อมูลคุณก็จะหายไปในพริบตา…
หลังจากที่โลกเราได้เข้าสู่ยุคของอินเตอร์เน็ตอย่างเต็มตัว เราก็มีบริการทางอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นมากแบบนับไม่ถ้วน มีการสมัครเข้าใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ เว็บไซต์และเว็บบอร์ด จนตัวตนของเราแทบจะอยู่ในอินเตอร์เน็ตทั้งหมด ไม่ว่าใครก็สามารถหาข้อมูลของคุณได้ ในด้านหนึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ ที่คุณจะหาข้อมูลของสิ่งต่างๆ ได้โดยง่าย แต่นั่นเท่ากับความเป็นส่วนตัวของคุณก็จะถูกรุกล้ำโดยคนอื่นเช่นกัน แต่หากคุณอยากกำจัดตัวตนในโลกออนไลน์ของคุณออกให้หมด เพื่อที่จะได้ไม่มีใครหาข้อมูลส่วนตัวของคุณเจอ งั้นบทความนี้ก็เหมาะกับคุณแล้ว เพราะในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับเว็บไซต์ที่ชื่อว่า Deseat.me ที่ถูกออกแบบโดยโปรแกรมเมอร์ชาวสวีเดน Wille Dahlbo และ Linus Unnebäck จะช่วยลบร่องรอยทุกๆ อย่างของคุณออกจากโลกอินเตอร์เน็ต เพียงแค่คลิ๊กเดียวเท่านั้น เว็บนี้ถือกำเนิดขึ้นด้วยไอเดียง่ายๆ ที่ว่า หากเราทำให้อีเมล์กลายเป็นบัตรประชาชนยืนยันตัวตนได้ อีเมล์ก็สามารถปลดล็อคการใช้บริการทุกอย่างได้เช่นกัน บริการของเว็บไซต์นี้จะใช้โปรโตคอล Google’s OAuth เพื่อเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ทั้งหมด จากนั้นมันก็จะลบบริการต่างๆ ที่เราใช้อีเมล์ดังกล่าวไปสมัครเซอร์วิสต่างๆ ไว้ทีละอย่าง เช่น Facebook, Evernote, Twitter, Youtube และอีกมากมาย (แต่หากใครอยากเก็บบางอย่างเอาไว้ก็เลือกได้นะ) ทางผู้พัฒนาเว็บไซต์นี้ให้รายละเอียดในเว็บไซต์ว่า “เราจะแสดงรายชื่อบัญชีและบริการต่างๆ ทั้งหมดที่คุณไปสมัครบริการไว้ เราจะนำเอารายชื่อทั้งหมดมาแมทช์กับลิ้งสำหรับลบข้อมูลโดยตรงเพื่อลบทุกอย่างออกไป” “และเราจะมีคำแนะนำคอยบอกคุณทุกขั้นตอน เบสิคเลยก็คือคุณแค่บอกเราว่าบัญชีไหนที่คุณอยากจะลบ แค่นั้นเลย” แต่ดูเหมือนว่าเว็บไซต์ Deseat.me เพิ่งจะถูกพัฒนาได้ไม่นาน ฉะนั้นเลยยังมีข้อจำกัดเรื่องของอีเมล์ที่จะใช้ลบข้อมูล…
-
พ่อชาวสวีเดน พบตัวลูกสาวที่หายตัวไปเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว แต่กลายเป็นคนเร่ร่อนในอิตาลี!?
นี่เป็นเรื่องราวชวนฉงนของหญิงสาวไร้บ้านคนหนึ่งที่ถูกพบอยู่ในประเทศอิตาลี แต่ดันพูดภาษาอิตาลีไม่ได้เลย แถมยังมีพฤติกรรมแปลกๆ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสืบกันวุ่นวายว่าเธอคือใครกันแน่? เรื่องนี้ถูกนำเสนอผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2016 เป็นเรื่องราวของหญิงสาวไร้บ้านวัย 21 ปี คนหนึ่งที่ถูกพบว่านอนคุดคู้อยู่บนพื้นขรุขระอยู่ในย่าน Piazza della Torretta ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ลักษณะภายนอกดูเหมือนคนท้องถิ่น แต่ทว่าเธอไม่สามารถพูดภาษาอิตาลีได้ พูดได้เพียงภาษาอังกฤษเท่านั้น เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยกับเธอ เธอจึงบอกว่าตัวเองชื่อ Maria เป็นชาวอังกฤษและพูดอังกฤษได้ ไม่มีพาสปอร์ต ไม่มีบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่จึงสงสัยว่าเธออาจจะเป็นโรคอะไรสักอย่างและพลัดหลงมา เมื่อตำรวจสอบถามเธอว่าทำไมถึงมาอยู่ที่อิตาลี เธอกลับตอบง่ายๆ ว่าเธอหนีครอบครัวมาจากอังกฤษและไม่ได้ให้ข้อมูลที่สมเหตุสมผลเลย ซึ่งในตอนแรกตำรวจได้ทำการกักตัวเธอไว้ เนื่องจากเธอมีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ พร้อมทั้งข้อมูลเบาะแสเด็กหายที่ประเทศโปรตุเกส ในปี 2007 ชื่อว่า Madeleine McCann นั้นเป็นชาวอังกฤษเช่นกัน จึงไม่แน่ใจว่าเธอคือเด็กที่หายไปหรือไม่ ก่อนหน้านั้นมีเด็กอังกฤษชื่อว่า Madeleine McCann (ภาพซ้าย) หายตัวไปในปี 2007 เกิดเหตุที่โปรตุเกส และหญิงสาวคนนี้มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันมาก แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ต้องปล่อยเธอไป…
-
“ไฮแลนด์คาว” สัตว์พื้นเมืองสกอตแลนด์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่ามีตัวตน แถมน่ารักสุดๆ
พวกเราคงคุ้นเคยกับวัวหน้าตาบ้านๆ ตัวสีขาว เอามาเลี้ยงเพื่อรีดนมหรือเลี้ยงเป็นโคขุนแล้วเอาเนื้อของพวกมันมาทำเป็นอาหารใช่ไหมล่ะ แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาทุกคนไปรู้จักกับวัวอีกสายพันธุ์หนึ่ง ที่อาจจะไม่คุ้นตาของเราสักหน่อย วัวที่ว่านี้คือ “ไฮแลนด์คาว” หรือวัวภูเขา เป็นหนึ่งในสายพันธุ์วัวท้องถิ่นของประเทศสกอตแลนด์ ที่เราไม่ค่อยจะพบเห็นได้บ่อยนัก ภาพที่ทุกคนได้เห็นอยู่นี่เป็นภาพจากฟาร์ม Happy Hens & Highlands Farm ตั้งอยู่ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ดำเนินการโดยคู่สามีภรรยา Adam Hopson และ Emily Hopson ที่นั่นพวกเขาเลี้ยงไฮแลนด์คาวไวในฟาร์มเพื่อการเพาะพันธุ์และเป็นงานอดิเรกถึง 22 ตัว และพวกมันก็ดูจะสนุกสนานตลอดเวลาเลยด้วย ไฮแลนด์คาวเป็นสัตว์ที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงแบบเดินเตร็ดเตร่อย่างที่เราได้เห็นกันจากภาพด้านล่างนี่แหละ แม้ว่าแม่ของพวกมันจะไม่ค่อยได้ประคบประหงมลูกๆ เหมือนสัตว์อื่นๆ แต่พวกมันก็มักจะเล็มหญ้าอยู่ใกล้ลูกๆ ของมันเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกๆ ของมันจะปลอดภัยดี แต่ถึงจะดูใจดี คุณก็ไม่ควรจะเข้าไปใกล้ในระหว่างนั้นนะ เพราะอาจจะเป็นอันตรายได้ หากไม่สนิทกันจริงๆ สิ่งที่เป็นจุดเด่นและทำให้พวกมันเป็นที่รักใคร่ของผู้พบเห็นก็คือ ขนที่ปุกปุยปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวมัน ขนของพวกมันจะพิเศษกว่าขนของสัตว์ทั่วๆ ไปอยู่หน่อย เพราะขนของมันมีน้ำมันเคลื่อบขนทำให้ไม่ค่อยเปียก และนั่นแหละทำให้การจับพวกมันมาอาบน้ำเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แถมขนของมันยังเป็นแบบสองชั้น ทำให้หนาอย่างที่เห็น สามารถยาวได้มากที่สุด 33 เซนติเมตร …
-
สาวๆ ยิ้มเลย งานวิจัยต่างประเทศชี้ “สาวก้นใหญ่” มักจะมีสุขภาพที่ดีกว่า “สาวก้นเล็ก”
สาวๆ หลายคนเกิดมาพร้อมกับสัดส่วนช่วงล่างที่ออกจะใหญ่กว่าผู้หญิงทั่วไปสักหน่อย (เอ่อ #เหมียวฟิ้นหมายถึงก้นอะนะ) ทำให้ตกเป็นเป้าสายตา หรือหากางเกงใส่ได้พอดีตัวยากกว่าคนอื่นๆ แต่หลังจากนี้คุณจะภูมิใจได้แล้วนะ เพราะมีงานวิจัยออกมาว่าสาวก้นใหญ่มักมีสุขภาพที่ดีกว่าสาวก้นเล็กล่ะ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2016 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Indy100 ได้นำเสนอผลงานของ Konstantinos Manolopoulos นักวิจัยและวิทยาศาสตร์จากศูนย์บำบัดรักษาโรคอ๊อกซ์ฟอร์ด ของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดและโรงพยาบาลเชอร์ชิล ที่ได้ทำการวิจัยค้นคว้า และพบว่าผู้หญิงที่มีก้นใหญ่มีความเป็นไปได้ว่าจะมีความฉลาดและมีภูมิค้มกันโรคเรื้อรังที่มากกว่าผู้หญิงก้นเล็ก เบื้องหลังการวิจัย การศึกษากลุ่มประชากรที่ถูกอ้างอิงในงานวิจัย พบว่าผู้หญิงที่ก้นใหญ่ มีระดับโคเลสเตอรอลที่ต่ำกว่าปกติ และสร้างฮอร์โมนที่เผาผลาญน้ำตาลได้มากกว่า มากกว่านั้น เนื้อเยื่อในไขมันที่ก้นและต้นขายังดักจับไขมันที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ด้วย ซึ่งมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด การที่เรามีก้นใหญ่นั้น มีส่วนช่วยฮอร์โมนในการควบคุมควบน้ำหนักและป้องกันอาการอักเสบของหลอดเลือด และป้องกันโรคเบาหวานได้ คุณสมบัติต่างๆ ของก้น จะส่งผลต่อกรดไขมันในระยะยาว ก้นใหญ่มีส่วนช่วยทำให้สติปัญญาดีขึ้น!? สำหรับสติปัญญาที่เพิ่มมากขึ้นนั้น อันเนื่องมากจากไขมันโอเมก้า 3 ที่สะสมภายในบั้นท้ายนั่นเอง ซึ่งมีความจำเป็นต่อร่างกายตั้งแต่แรก ไขมันโอเมก้า 3 ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีส่วนช่วยในการกระตุ้นพัฒนาการของสมอง งานวิจัยยังแสดงให้เห็นอีกว่าเด็กที่เติบโตมาพร้อมกับสะโพกที่ใหญ่นั้นจะมีความเฉลียวฉลาดมากกว่า และถ้าว่ากันแบบง่ายๆ มันก็ยังช่วยให้สาวๆ คลอดลูกได้ง่ายกว่าด้วย วารสารเกี่ยวกับโรคอ้วนที่ถูกเผยแพร่ในปี 2010 มีข้อสรุปว่า…
-
จากแพะตาบอดขี้กลัว ถูกหญิงสาวรักษาดูแลด้วย “ชุดเป็ด” จนตอนนี้เป็นแพะน่ารักไปแล้ว!?
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ The Dodo ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าแพะตาบอดตัวหนึ่ง ที่มีขี้กังวลเอามากๆ แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรแห่งหนึ่งจนเกิดเป็นเรื่องราวน่ารักๆ จน#เหมียวฟิ้นยังอดยิ้มไปด้วยไม่ได้ ตามรายงานบอกว่านาง Leanne Lauricella ที่ทำงานอยู่ในองค์กรช่วยเหลือแพะที่ชื่อว่า Goats of Anarchy ในรัฐนิวเจอร์ซี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ช่วยเหลือแพะมาตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า Polly จึงเกิดความสงสารเลยรับมันมาเลี้ยงที่บ้าน นาง Lauricella เล่าว่าเจ้า Polly จะเกิดอาการวิตกกังวลและส่งเสียงร้องดังลั่นทุกครั้ง ที่มันไม่เจอเจ้านายหรือรู้ว่าเจ้านายไม่ได้อยู่ในบ้าน นอกจากนี้มันยังมีอาการแปลกๆ อย่างการวิ่งไปหลบในมุมบ้าน และเลียที่ผนัง ฉะนั้นทุกมุมบ้านของพวกเขาจะเต็มไปด้วยรอยเลียจากปากของมันทุกที่เลย ปัญหาเกี่ยวกับอาการวิตกกังวลของมันดูจะเป็นปัญหาเรื้อรังที่แก้ยังไงก็แก้ไม่หาย แต่จู่ๆ Lauricella ก็ค้นพบวิธีการแก้ปัญหาโดยบังเอิญ เมื่อเธอจับเจ้า Polly มาสวมชุดแฟนซีเป็นเป็ดในช่วงเทศกาลวันฮาโลวีเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาบางสิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น “ทันทีที่ฉันสวมชุดให้มัน มันก็ดูจะสงบนิ่งไปเลย” Lauricella กล่าว การสวมชุดเป็ดอาจช่วยทำให้ร่างกายของมันอบอุ่นขึ้น ความวิตกกังวลจึงลดน้อยลงไปด้วย หลังจากนั้น ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้า Polly เกิดอาการวิตกกังวล Lauricella จะหยิบเอาชุดเป็ดมาสวมให้กับมันทันที และดูเหมือนชุดนี้จะมีความพิเศษบางอย่าง ทำให้มันเคลิ้มหลับลงได้ง่ายๆ ครั้งหนึ่ง…
-
พ่อบ้านฟังไว้!! ผลวิจัยต่างประเทศชี้ คู่รักหย่าร้างกันมากขึ้น เพราะฝ่ายชายไม่ทำงานบ้าน
ในอดีตที่ผ่านมา คนไทยเรามักจะติดกับภาพลักษณ์ของคู่สามีภรรยาว่าฝ่ายชายจะต้องทำงานหาเงินเข้าบ้าน ส่วนฝ่ายหญิงจะเป็นคนเลี้ยงลูกดูแลบ้าน แต่ปัจจุบันภาพลักษณ์แบบนั้นได้เปลี่ยนไปมากแล้ว ไม่ว่าจะฝ่ายชายหรือหญิงก็สามารถสลับหน้าที่กันทำได้หากเห็นว่าเหมาะสม แต่ก็ยังมีผู้ชายบางคนที่มองว่างานบ้านเป็นเรื่องของผู้หญิงมากกว่า ซึ่ง #เหมียวฟิ้น จะบอกเลยว่านั่นเป็นความคิดที่อาจทำให้คู่ของคุณถึงขั้นต้องเลิกกันเลยก็เป็นได้นะ เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Gleeden.com ผู้ให้บริการหาคู่ชื่อดังในต่างประเทศ ได้ทำการสำรวจกับผู้หญิงกว่า 10,000 คนที่เข้ามาใช้บริการจากทั่วโลก โดยพบว่ากว่า 72% ของผู้หญิงทั้งหมด ให้ความเห็นว่าที่พวกเธอนอกใจอีกฝ่ายเป็นเพราะ พวกเขาไม่ยอมช่วยเหลือในการทำงานบ้าน นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงอีก 18% ที่ตอบแบบสอบถาม บอกว่าพวกเธอสูญเสียการมีอะไรกับคู่รักไปเป็นระยะเวลานาน เพราะผู้ชายไม่แม้แต่จะยื่นมือเข้ามาช่วยทำงานบ้าน ทำให้พวกเธอเบื่อหน่ายกับเรื่องเหล่านี้มาก หนึ่งในหญิงสาวได้ยอมรับผ่านเว็บไซต์ Reddit ว่า “สามีของฉันไม่แตะต้องตัวฉันมานานกว่า 5 ปีแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดด้วย ซึ่งฉันรับมันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” อีกความเห็นหนึ่งบอกว่า “ฉันไม่มีความสุขกับคู่รักเลย เขาไม่ได้ให้ความสนใจฉันทั้งทางจิตใจ ทางอารมณ์ ทางร่างกายเท่าที่ฉันต้องการ ฉันรักเขานะ แต่ฉันรู้สึกว่าเขาแค่พยายามดึงให้ฉันอยู่ข้างกายเขาเฉยๆ” นอกจากเหตุผลเหล่านี้ ยังมีเหตุผลอื่นๆ อีกที่พวกเขาต้องบอกลาคู่รักของตัวเอง เช่นความสัมพันธ์บนเตียง ที่ฝ่ายชายไม่สามารถพาพวกเธอไปถึงฝั่งฝันได้ จากการศึกษาในปี 2015 ของศาสตราจารย์นิเวศวิทยาในภาควิชานิเวศวิทยา Matt…
-
หนุ่มน้อยเสนอวิธีถอนฟันน้ำนม ที่เท่สุดในโลกด้วยรถสปอร์ต พุ่งทะยานพร้อมฟันที่หลุดลอย
ในวัยเด็กของพวกเราล้วนเคยผ่านประสบการณ์ “ฟันน้ำนมหลุด” กันมาแล้วทั้งนั้น นั่นถือเป็นการสูญเสียที่ใหญ่มาก เพราะนั่นถือเป็นการที่เราได้เห็นเลือดเป็นครั้งแรกๆ และได้เห็นอะไรหลุดออกไปจากร่างกายของเรา แต่สิ่งที่เจ็บปวดยิ่งกว่าการที่ฟันหลุดออกไปคือตอนที่มันยังไม่หลุดนี่แหละ ช่างเป็นเวลาที่แสนทรมานเหลือเกิน พ่อแม่บางคนก็เลยคิดหาวิธีเพื่อดึงเอาฟันน้ำนมออกจากปากของลูกด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อที่พวกเราจะได้ไม่ต้องทรมานอย่างต่อเนื่อง นาง Stephanie Thomason คุณแม่ชาวอเมริกันจึงได้คิดหาวิธีกับสามี เพื่อเอาฟันน้ำนมออกจากปากของลูกชาย ประจวบเหมาะกับที่สามีของเธอมีรถ Audi S5 อยู่คันหนึ่ง พวกเขาจึงเกิดไอเดียแหวกแนวขึ้น พวกเขาผูกเชือกเข้ากับฟันของลูกชายและรถสปอร์ตคันงาม จากนั้นก็ให้สามีเร่งเครื่องแล้วพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็ว และในเสี้ยววินาทีนั้นเองฟันของเด็กชายก็หลุดออกมา และคลิปการถอนฟันนี้ก็กลายเป็นคลิปที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้ ว่าเป็นการถอนฟันที่เท่ที่สุดคลิปหนึ่งเลย ชมคลิปการถอนฟันได้ที่นี่เลย หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ กลับมีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงต่อว่าพ่อแม่เด็กอย่างมากมาย ถึงวิธีการที่ให้เด็กถอนฟันด้วยการผูกติดกับรถแบบนั้น Cooper O’Brien “วันหนึ่งเราคงได้เห็นคลิปวิดีโอของเด็ก ถูกลากไปกับพื้นเพราะฟันของพวกเขายังไม่พร้อมจะหลุดออกจากปาก” Chris Dozier “ใครสักคนจะกล่อมเด็กให้ทำแบบนี้ได้ยังไง? ถ้าผมทำแบบนี้กับลูก ลูกคงมองว่าผมโง่” Barbara Eriksson “น่าตกใจเหลือเกิน! ถ้าคุณสามารถซื้อรถแบบนั้นได้ คุณก็น่าจะมีเงินจ่ายค่าหมอฟันนะ! ลูกของฉันจะต้องบอบช้ำแน่ๆ ถ้าทำแบบนี้” การถกเถียงและการต่อว่าพ่อแม่เด็กเริ่มยืดเยื้อมากขึ้น จนนาง Stephanie Thomason ผู้เป็นแม่ทนไม่ไหว ออกมาชี้แจงว่าที่เห็นทั้งหมดในคลิปนั้นเป็นความคิดของลูกชายเองทั้งหมด …
-
มึนตึ๊บ!! รายการดังพา Chris Pratt ออกไปเดินตามถนน แล้วถามคนทั่วๆ ไปว่าเขาคือใคร?
ใครที่เป็นแฟน Marvel หรืออาจจะแค่ติดตามดูหนังฝั่งฮอลลีวูด เชื่อว่าชื่อของ Chris Pratt น่าจะเป็นที่คุ้นคุ้นหน้าคุ้นตาคุ้นหูของคุณอย่างแน่นอน เพราะเขามาโด่งดังเอาจากการรับบทเป็นพระเอกในหนังเรื่อง Guardians of the Galaxy ในปี 2014 ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ก็ต้องฝ่าฟันอะไรหลายๆ อย่าง (อ่านบทความเจาะลึกถึงชีวิต Chris Pratt ก่อนที่เขาจะโด่งดังได้ที่นี่เลย) หลังจากนั้นเขาก็ยังมีผลงานดังๆ ตามมาอีกอย่าง Jurassic World กับ The Magnificent Seven และด้วยความโด่งดังนี้เอง ทำให้รายการ Billy On The Street ทางยูทูบอยากจะทดสอบว่าชื่อของ Chris Pratt เป็นที่รู้จักของคนทั่วๆ ไปหรือไม่? โดยการให้ Pratt กับพิธีกรที่ชื่อ Billy ออกไปเดินบนถนนในนิวยอร์ก แล้วให้คนอื่นๆ บอกว่าชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขาคือดาราคนคนไหน? แม้จะฟังดูไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่เชื่อเถอะว่าความฮาบังเกิดแน่ๆ Billy: หมอนี่คือดาราที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลกตอนนี้ เขาคือใคร? หญิงสาว: ฉันนึกไม่ออกเลยค่ะ Billy: พวกคุณเคยดู Guardians of the…
-
เดี๋ยวนะ… ครอบครัวออกไปตกปลาในทะเล แต่ดันบังเอิญได้กวางกลับมา 4 ตัวซะงั้น!!
เว็บไซต์ของเหมียวเองได้เคยนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการช่วยเหลือสัตว์ในรูปแบบต่างๆ มานับไม่ถ้วนแล้ว แต่บอกตรงๆ ว่าเรื่องราวการช่วยเหลือสัตว์ครั้งนี้ทำเอา #เหมียวฟิ้น อึ้งที่สุดตั้งแต่เคยเห็นมาเลยล่ะ เรื่องที่เรานำมาเสนอในวันนี้เป็นเรื่องราวชวนประทับใจของนาย Tom Satre และครอบครัว ที่ชอบนั่งเรือออกไปในทะเลเพื่อดูวาฬ โลมา และตกปลากัน เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 2010 พวกเขาก็พากันนั่งเรือออกจากอ่าว Taku Inlet รัฐอะลาสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา ออกสู่ทะเลเพื่อทำกิจกรรมเหมือนอย่างเคย แต่ในระหว่างนั้นพวกเขาดันพบเข้ากับสิ่งมีชีวิต 4 ตัวกำลังว่ายน้ำอยู่ ในตอนแรกเขายังไม่มั่นใจว่าพวกมันคืออะไร แต่พอเรือของเขาขยับเข้าไปใกล้เรื่อยๆ ถึงได้เห็นว่ามันไม่ใช่ปลา แต่เป็นกวางต่างหากล่ะ!? จากการสังเกตของนาย Tom บอกว่าพวกมันทั้งหมด แสดงอาการเหนื่อยหอบและพยายามมองหาที่เกาะที่ไหนสักที่ แต่จากจุดที่พวกมันว่ายน้ำอยู่ มีระยะห่างจากชายฝั่งราวๆ 2 กิโลเมตร (ออกไปได้ไงไกลขนาดนั้น) บวกกับลมที่พัดแรงและน้ำทะเลในช่วงนั้นมีความเย็นจัด ทำให้เขาตัดสินใจช่วยพวกมันทั้งหมดขึ้นมาบนเรือ นาย Tom กล่าวว่า “พวกมันว่ายน้ำตรงมาที่เรือของเรา จากนั้นก็ว่ายวนไปรอบๆ เรือ พวกมันมองเราเหมือนกับจะขอความช่วยเหลือ” เขารู้ว่าต้องช่วยพวกมันขึ้นมาจากน้ำทะเล แต่เขาก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงถึงจะดึงพวกมันขึ้นมาได้? …
-
สับสนเหลือเกินพี่บัวลอย!! สาวมะกันเปลี่ยนเป็นทอม จากทอมกลายเป็นผู้ชาย สู่เกย์สายรับ
ยิ่งเวลาผ่านเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ๆ กำแพงในเรื่อง “เพศสภาพ” ก็ยิ่งหายไปเรื่อยๆ กล่าวคือทุกวันนี้ใครอยากจะเป็นเพศอะไรก็ได้ตามที่ใจอยากโดยไม่ต้องคำนึงถึงเพศสภาพที่แท้จริงของตัวเอง เช่นเดียวกับเรื่องราวของอดีตหญิงสาวที่ชื่อว่า Viktor Belmont (ใช่เธอคือหญิงสาวจริงๆ แต่ในปัจจุบันไม่ใช่แล้ว) ในช่วงวัยเด็กเธอเกิดมาในร่างของเด็กผู้หญิง แต่กลับสับสนในเพศสภาพของตัวเอง Viktor Belmont จากผู้หญิงสู่ผู้ชาย . เมื่อโตขึ้นเธอจึงเริ่มมีรสนิยมทางเพศที่เปลี่ยนไป เธอกลายเป็นทอมแต่งตัวแบบผู้ชายและคบหากับผู้หญิง แต่เมื่อเวลาผ่านไปการเป็นทอมก็ดูจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของเธอ Viktor จึงตัดสินใจแปลงเพศอย่างสมบูรณ์ (ศัลยกรรมเติมแต่งความเป็นชายเพิ่มเข้าไป) เพื่อตอบสนองความต้องการของเธอ แต่ก่อนที่ “เธอ” จะเปลี่ยนเป็น “เขา” เธอค่อนข้างกลุ้มใจอยู่ไม่น้อย เธอจึงเข้าพบจิตแพทย์เพื่อปรึกษาถึงแนวทางชีวิตในอนาคต Viktor ได้ให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ BuzzFeed เมื่อปี 2015 ว่า “ฉันอยากเป็นคนใช่สำหรับตัวเองอย่างใจต้องการ เมื่อตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก มีอยู่หลายครั้งมากที่ฉันต้องการใครสักคนเพื่อบอกกับฉันว่าทุกอย่างจะโอเค” และแล้วเธอก็ผ่าตัดสำเร็จจนกลายเป็นผู้ชายเต็มตัว และยังนำเอาความรู้สึกต่างๆ รวมถึงประสบการณ์ชีวิตของตัวเองมาบอกเล่าต่อๆ ไปยังคนที่กำลังสับสนและต้องการเปลี่ยนผ่านชีวิตตัวเอง เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้อื่น จนมาถึงเมื่อไม่นานมานี้ นาย Viktor ก็ได้ค้นพบอีกตัวตนหนึ่งที่อยู่ภายในตัวของเขา นั่นคือการเป็นเกย์รับ และมีการงานรับเล่นหนังผู้ใหญ่อีกด้วย!! นั่นทำให้เพศสภาพของเขาดูซับซ้อนกว่าคนทั่วไปหลายขั้นทีเดียว…
-
น่าฉงฉาน… พลเมืองดีรับเจ้าเหมียว “ไม่มีก้น” มารักษา ขอระดมทุนจากชาวเน็ตเพื่อผ่าตัด
แม้ว่าพวกแมวจะเป็นสัตว์ที่หยิ่งยโส และดูแลตัวเองได้ดีแค่ไหนก็ตาม แต่บางครั้งพวกมันก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์อยู่นะ อย่างเช่นเจ้าแมวตัวนี้ เจ้าเหมียวขนสีส้มตัวนี้มีชื่อว่าเจ้า Onion วัย 9 สัปดาห์ มันถูกทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยวข้างถนน แต่มีพลเมืองดีไปเจอมันเข้าเลยเก็บมันมาและพาไปหาสัตว์แพทย์เพื่อดูว่าร่างกายของมันได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า หลังจากที่ตรวจร่างกายครบถ้วน สัตวแพทย์ก็ค้นพบว่ามันมีอาการแปลกประหลาดอย่าง Atresia Ani หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือมันไม่มีก้นนั่นเอง ด้วยความผิดปกติของร่างกายนี้ ทำให้ปลายทางลำไส้ของมันไม่ได้ไปโผล่ที่ก้น แต่ไปโผล่ออกที่บริเวณช่องคลอดแทน แม้ว่าการขับถ่ายจะพอทำได้แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก นอกจากนี้ มันยังส่งผลให้ทางเดินปัสสาวะของมันเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียที่อาจถึงตายได้เลย ในสถาณการณ์ปกติเจ้า Onion คงจะถูกการุณยฆาตไปแล้ว แต่สัตวแพทย์ต้องการที่จะมอบโอกาศที่ 2 ให้กับมัน ได้กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติอีกครั้ง จึงได้ทำการเฝ้าดูอาการของมันตลอดไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และเตรียมแผนผ่าตัดให้กับมัน แต่การจะผ่าตัดให้กับมันได้ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนทีเดียว จึงต้องอาศัยเงินราวๆ 9 หมื่นบาท ในการรักษามัน ทางครอบครัวที่อุปการะเจ้า Onion เลยตั้งโครงการระดมทุนเพื่อหาเงินมารักษาแมวที่น่าสงสารตัวนี้ผ่านเว็บไซต์ Justgiving.com แต่หลังจากที่เปิดระดมทุนได้ไม่นาน ก็มีสายธารน้ำใจหลั่งไหลเข้ามาหาพวกเขาอย่างมากมาย จนตอนนี้สามารถระดมทุนได้เกินจำนวนเงินที่พวกเขาต้องการแล้ว และในเร็ววันนี้เจ้า Onion ก็จะได้ผ่าตัดและมีก้นเป็นของตัวเองสักที ขอให้การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดีนะเจ้า Onion ตอนนี้แกรอดตายแล้ว ที่มา metro
-
คุณพ่อลูก 4 แชร์ประสบการณ์ความเหนื่อย ของการมีลูกเยอะ มันช่างโหดร้ายอะไรขนาดนี้!!
การมีครอบครัวที่อบอุ่น และมีลูกๆ ที่น่ารักนั้นถือเป็นเป้าหมายของผู้ชายหลายคนเลย ลำพังแค่เราดูแลภรรยาก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยากอะไรเพราะโตเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว (สำหรับบางคนอาจจะยาก) แต่สำหรับการเลี้ยงดูลูกๆ ให้เติบโตเป็นคนที่ดีของสังคม (อย่าเพิ่งพูดถึงคนดีของสังคมเลย เอาแค่เลี้ยงง่ายๆ ก่อนดีกว่า) น่าจะเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายคนเป็นพ่อมาก ยิ่งถ้ามีลูกๆ ที่อายุไล่เลี่ยกันถึง 4 คนด้วยล่ะก็ ไม่ต้องนึกเลยว่าจะวายป่วงขนาดไหน หากคุณยังไม่เคยได้สัมผัสประสบการณ์หนักหน่วงแบบที่ว่านี่ล่ะก็ #เหมียวฟิ้นมีตัวอย่างมากให้ชมกัน นี่คือเรื่องราวของคุณพ่อรายหนึ่งที่ชื่อว่านาย Simon Hooper เขามีลูกทั้งหมด 4 คน ไล่ตั้งแต่คนโต 9 ขวบ 6 ขวบ และฝาแฝดคนเล็ก 10 เดือน อีก 2 คน แม้ว่านาย Simon จะมีประสบการณ์การเลี้ยงลูกมาแล้ว 2 คน แต่เขาก็ไม่ได้เตรียมใจว่าการตั้งครรภ์ของภรรยาครั้งที่ 3 จะออกมาเป็นลูกแฝด ทำให้เขาต้องเหนื่อยคูณ 4 เลย แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็เกิดไอเดียแปลกๆ อย่างการเปลี่ยนความเหนื่อยในแต่ละวันให้กลายเป็นเสียงหัวเราะด้วยการสร้างบัญชีอินสตาแกรมขึ้นมา @father_of_daughters แล้วโพสต์ภาพภารกิจและอุปสรรคที่เขาต้องเจอในแต่ละวันของการเป็นพ่อ ผลจากการโพสต์ภาพฮาๆ ของเขา ทำให้ตอนนี้เขาเริ่มกลายเป็นคนดังในอินเตอร์เน็ต…
-
เรื่องราวดีๆ ของ Ed Sheeran ไปเซอร์ไพรส์ให้กำลังใจ แฟนคลับวัย 9 ขวบ ถึงโรงพยาบาล!!
ภาพเด็กหญิงที่ทุกคนเห็นอยู่นี้ เธอมีชื่อว่า Melody วัย 9 ขวบเป็นชาวอังกฤษ เธอเธอป่วยเป็นโรคทางพันธุกรรมหลายโรค และยังมีความบกพร่องของพัฒนาการแบบรอบด้าน (Rett’s Syndrome) ทำให้เธอต้องใช้เวลากว่า 80% ในชีวิตของเธออยู่แต่ในโรงพยาบาล ด้านคุณแม่อย่าง Karina Driscoll เองก็รู้สึกเจ็บปวดใจที่ต้องเห็นลูกสาวตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่ก็พยายามทำให้เธอยิ้มได้ในทุกๆ วัน เธอเลยสร้างเฟซบุ๊กเพจ Melody In Mind ขึ้นมา เพื่อจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับลูกสาวของเธอเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ถึงสุขภาพของเธอจะไม่ได้สมบูรณ์ หรือใช้ชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่ก็ยังพอมีบางอย่างที่ช่วยเติมเต็มความสุขให้กับเธอได้ นั่นคือเสียงเพลง โดยเฉพาะเพลงของศิลปินที่เธอชื่นชอบอย่าง Ed Sheeran เรียกได้ว่า Melody นั้นเป็นแฟนตัวยงของเขาทีเดียว ทุกครั้งที่ Melody ได้ดูคลิปการแสดงต่างๆ ที่เกี่ยวกับ Ed เธอจะมีความสุขมาก และเมื่อไหร่ก็ตามที่อาการของเธอแย่ลง แม่ของเธอก็จะเปิดคลิปของ Ed ให้เธอดู แค่นั้นก็ทำให้อาการป่วยของเธอดีขึ้นราวปาฏิหาริย์ เมื่อ Ed ได้รับรู้เรื่องราวของแฟนคลับคนนี้ เขาก็เดินทางไปยังโรงพยาบาลที่ Melody พักรักษาตัวอยู่ เมื่อวันที่…
-
สาวอังกฤษเผยประสบการณ์แปลก อ้างมีวิญญาณม้า 32 ตัวอยู่ในจิตใจและใช้ชีวิตแบบม้า 7 ปี!?
หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้เว็บไซต์ของเราได้เคยนำเสนอเรื่องราวของนาย Thomas Thwaites ชายหนุ่มที่ลาออกจากการเป็นมนุษย์ไปชั่วคราว เพื่อไปใช้ชีวิตเป็นแพะภูเขาจนโด่งดังไปทั่วโลก (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่เลย) ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2016 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่ามีคนบางคนเคยพยายามจะใช้ชีวิตเหมือนสัตว์อีกคนนึงแล้ว เธอคนนี้มีชื่อว่านาง Kate Havord วัย 47 ปี เธออาศัยอยู่ในมณฑลวิลต์เชอร์ ประเทศอังกฤษ เธออ้างว่าเคยมีวิญญาณของม้าสิงอยู่ภายในจิตใจของเธอ ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตแบบม้า กินแบบม้า!? Kate เล่าว่าในช่วงที่เธอมีอายุราวๆ 6 – 13 ขวบ ตอนนั้นมีวิญญาณของม้ากว่า 32 ตัวที่มีบุคคลิปแตกต่างกัน เข้ามาสิงอยู่ในจิตใจของเธอ และมันสามารถจะพยศออกมาเวลาไหนก็ได้ แม้ว่าเธอจะเกิดที่อังกฤษ แต่เธอก็ย้ายไปอยู่กับครอบครัวที่สก็อตแลนด์และเติบโตในฟาร์มแห่งหนึ่ง ทีนั่นเธอสามารถวิ่งเล่น ‘สี่ขา’ ได้อย่างสบายใจ กินพืชกินหญ้าแบบม้า หรือแม้แต่การทำรองเท้าแบบเกือกม้าก็ทำมาแล้ว นี่คือหน้าตาอาหารที่เธอมักจะแอบกินตอนเป็นเด็กเวลาที่พ่อแม่ของเธอไม่อยู่บ้าน Kate กล่าวว่า “ฉันรู้สึกว่ามีวิญญาณม้าเข้ามาอยู่ในร่างของฉัน ฉันรู้สึกเป็นอิสระและมีพลังมหาศาล” แต่การใช้ชีวิตแบบม้าของเธอก็จบลงเมื่อตอนที่เธออายุได้ 13 ปี ตอนนั้นพ่อของเธอบอกกับเธอว่า…
-
เวรี่ฮาร์ด!! วิทยาลัยจีนจัดสอบ “E-Sports” ครั้งแรก ผลคือนักเรียนกว่า 40% สอบตก
แรกเริ่มเลย “เกม” ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับผู้เล่น ได้สวมบทบาทเป็นตัวละครต่างๆ เพื่อบุกตะลุยด่านต่างๆ จนถึงยุคหนึ่ง เกมถูกพัฒนาให้สามารถเล่นออนไลน์ร่วมกับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้ จนเกิดเป็นกิจกรรมที่จริงจังอย่าง E-Sports หรือการเล่นเกมเพื่อการแข่งขันระดับมืออาชีพนั่นเอง การแข่งขัน E-Sports เริ่มได้รับความนิยมไปทั่วโลก และไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเพียงแค่เกมหรือสื่อที่ให้ความบันเทิงเท่านั้น เพราะมีการฝึกอบรมและนำไปบรรจุลงในหลักสูตรการเรียนการสอนเลยด้วย เช่นวิทยาลัย Xilingol Vocational College ทางตอนเหนือของประเทศจีน ที่เปิดการเรียนการสอนในสาขาวิชา E-Sports อย่างจริงจัง แต่จากการรายงานของเว็บไซต์ Globaltimes เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2016 ที่ผ่านมา บอกว่านักเรียนในสาขา E-Sports ที่นั่นกว่า 40% สอบตก โดยหัวข้อการสอบในวิชานั้นเกี่ยวข้องกับเกม League of Legends หนึ่งในเกมที่ฮิตไปทั่วโลก He Jinduo คือหนึ่งในนักเรียนจากทั้งหมด 36 คน ที่อยู่ในคลาสเรียน E-Sports ที่สามารถสอบผ่านและทำคะแนนไปได้สูงถึง 89 คะแนน…
-
Pizza หมีขั้วโลก “เศร้าที่สุด” ได้รับอิสระแล้ว หลังถูกจัดไว้ในตู้โชว์ของห้าง เพื่อ ‘เซลฟี่’
ในอดีตที่ผ่านมา ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งได้จับเอาสัตว์หลายชนิดมาจัดแสดงไว้ในตู้ เพื่อให้ลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมาได้ชมกันด้วยความเพลิดเพลิน เช่นเดียวกับเรื่องราวของเจ้า Pizza หมีขั้วโลกอาศัยอยู่ในตู้กระจกของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เพื่อให้ผู้คนได้ถ่ายรูปเซลฟี่กันกับมันอย่างสนุกสนาน เจ้าพิซซ่าเป็นหนึ่งในสัตว์ 500 ชนิดที่ถูกเก็บเอาไว้ในสวนสัตว์ที่เป็นส่วนหนึ่งของห้างสรรพสินค้า แต่หลังจากที่มันต้องใช้ชีวิตอยู่ในนั้นเป็นเวลานาน ก็มีผู้คนในจีนเกิดความสงสารและรวมตัวกันล่ารายชื่อกว่า 1 ล้านรายชื่อ เพื่อเรียกร้องให้ห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นปล่อยตัวเจ้า Pizza เป็นอิสระ มีจดหมายกว่า 50 ฉบับจากองค์กรเพื่อสิทธิสัตว์ ถูกส่งไปยังผู้ว่าของมณฑลกวางตุ้งและเรียกร้องให้มีการปิดสวนสัตว์ดังกล่าว ซึ่งนอกจากเจ้า Pizza แล้วยังมีสัตว์อื่นๆ ที่อยู่ในนั้นอีก ทั้งสุนัขจิ้งจอกอาร์กติก หมาป่า และวอลรัส ทั้งหมดล้วนถูกขังไว้ในห้องเล็กๆ ที่ไม่มีหน้าต่างและสภาพแวดล้อมที่เหมาสม ผู้เชี่ยวชาญสัตว์บางคนให้ความเห็นว่าพฤติกรรมของเจ้า Pizza นั้นน่าเป็นห่วงมาก เพราะมันมีดวงตาที่เศร้าตลอดเวลา มันเดินวนไปมาภายในตู้ซ้ำแล้วซ้ำอีก และมันชอบมาตอนที่ใต้เครื่องปรับอากาศ มันต้องการอากาศบริสุทธิ์มากแค่ไหน หลังจากเกิดการเรียกร้องอย่างมากมาย ทำให้ทางห้างสรรพสินค้าตัดสินใจปิดส่วนของสวนสัตว์ลง และเริ่มโยกย้ายสัตว์ไปยังที่ต่างๆ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และเจ้า Pizza ก็ได้กลับไปอยู่ในศูนย์เลี้ยงสัตว์น้ำที่เดิมที่มันเกิด ซึ่งมีสภาพแวดล้อมเหมาะสมกับมันมากกว่าและกว้างขวางกว่าที่มันอยู่ ด้านด็อกเตอร์ Peter Li…
-
เด็กชาย 8 ขวบ ดังเพราะหน้าเหมือน “Jack Ma” เจ้าตัวถูกใจ ออกเงินให้เรียนจนกว่าจะจบมหาลัย
เพราะตอนเด็กๆ เขาไม่มีโอกาสได้รับการศึกษาดีๆ จึงอยากให้เด็กคนนี้ ได้มีโอกาสที่ดีกว่าเขา…. ณ ตอนนี้ เชื่อว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักนักธุรกิจจากประเทศจีนที่ชื่อว่า Jack Ma อีกแล้ว เพราะเขาคือเจ้าพ่อเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนอย่าง Alibaba นั่นเอง Jack Ma กลายเป็นคนดังที่ใครๆ ก็จับตามอง เขามีใบหน้าที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์และมักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับคนหลายๆ คนว่ามีใบหน้าละม้ายคล้ายกันอยู่เสมอ แต่กับรายล่าสุดนั้นเป็นเด็กชายวัย 8 ขวบที่ชื่อว่า Fan Xiaoqin ในมณฑลเจียงซี เขากลายเป็นคนดังในอินเตอร์เน็ตเมื่อปี 2015 เนื่องจากหน้าตาดันเหมือนกับ Jack Ma สมัยเด็กๆ จนเกือบจะเป็นฝาแฝดกันเลยทีเดียว แม้ว่าเด็กชายจะไม่เคยรู้จัก CEO ผู้ร่ำรวยคนนั้นเลยก็ตาม เด็กชาย Fan Xiaoqin มีเรื่องให้เขาต้องคิดมากว่าเรื่องหน้าตาเหมือนคนดัง คือเรื่องปากท้องของเขาเอง แม่ของเขาป่วยและพ่อของเขาก็ขาพิการ ส่วนคุณยายกลายเป็นโรคอัลไซเมอร์ นั่นทำให้ชาวเน็ตกลุ่มหนึ่งรู้สึกสงสารในโชคชะตาของเด็กน้อย จึงทำคลิปวิดีโอเกี่ยวกับเขาขึ้นมา เพื่อหวังให้ Jack Ma ตัวจริงมาเห็นเข้า ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหลังจากที่ Jack…
-
เผยภาพ ‘ซากรถไฟเจ็ท’ ในยุคโซเวียตรุ่งเรืองสุดขีด ทำความเร็วได้ 257 กม. ต่อชั่วโมง!!
ภาพที่คุณกำลังจะได้เห็นต่อไปนี้ แม้จะดูเหมือนเป็นยานพาหนะจากโลกอนาคต หรือยานอวกาศจากภาพยนตร์มากแค่ไหนก็ตาม แต่เราต้องบอกคุณเลยว่านี่คือรถไฟสุดล้ำที่ถูกสร้างขึ้นจริงๆ ในยุคที่สหภาพโซเวียตยังรุ่งเรืองล่ะ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่ภาพซากรถไฟเจ็ท ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้บริการในสหภาพโซเวียต เมื่อราวๆ ปี 1970 ซึ่งสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 257 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ถึงรถไฟคันนี้จะรีดประสิทธิภาพและความเร็วได้มากแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็ต้องกลายเป็นเพียงสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้จริง เนื่องจากว่ามันมีอัตราการกินน้ำมันที่สูงมาก ทางผู้ผลิตจึงต้องนำมันไปจอดไว้ให้สนิมเครอะอย่างที่เห็น รถไฟเจ็ทนั้นถูกคิดค้นและพัฒนาในประเทศสหรัฐอเมริกาโดยวิศวกรชาวนิวยอร์ก Don Wetzel เขาได้รับมอบหมายให้ออกแบบรถไฟคันนี้ในช่วงกลางยุค 60 โดยจะต้องเป็นรถไฟที่มีความเร็วมากกว่า ปลอดภัยกว่า และราคาถูกกว่ารถไฟทั่วๆ ไป นาย Wetzel จึงแก้ปัญหานั้นด้วยการนำเอาเครื่องยนต์เจ็ท ที่นิยมติดตั้งให้กับเครื่องบิน มาติดตั้งไว้ตรงส่วนบนด้านหน้าของรถไฟ เพื่อดูว่ามันจะเป็นยังไง? ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเขาได้สร้างรถไฟเจ็ทที่มีความเร็วมาก เร็วขนาดที่ว่ารถไฟของอเมริกาในยุคนี้ยังทำไม่ได้เลย และนี่คือสภาพที่แท้จริงของเจ้ารถไฟเจ็ทคันนี้ล่ะ มีเครื่องยนต์อยู่ด้านบนของตัวรถ เพื่อให้ความเร็วที่สูงสุดในการเดินทาง นี่ถ้าไม่ได้อ่านประวัติหรือจุดประสงค์ในการสร้างเจ้ารถไฟคันนี้ #เหมียวฟิ้นคงนึกว่ามันต้องมาจากหนังไซไฟสักเรื่องแน่ๆ ที่มา dailymail
-
นักชิมพร้อม!! “Jamie Oliver” เชฟชื่อดังมีตังค์เยอะ เตรียมเปิดร้านอาหารในไทยเร็วๆ นี้
หากใครยังจำกันได้ เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา เว็บไซต์ของเราได้นำเสนอเรื่องราวของเชฟฝีมือฉมังจากอังกฤษที่ชื่อว่านาย Jamie Oliver ผู้ที่เกิดมาพร้อมกับความบกพร่องในการอ่าน แต่ฝึกทำอาหารจนโด่งดังและกลายเป็นเชพที่รวยที่สุดในโลก (อ่านประวัติของเขาได้ที่นี่เลย) Jamie Oliver โด่งดังและกลายเป็นที่รู้จักของแฟนๆ ทั้งโลกผ่านรายการทำอาหารมากมาย (ใครอยากรู้ว่าเขามีเสน่ห์ยังไง ทำไมถึงโด่งดัง ลองกดไปชมคลิปของเขาได้ที่เว็บไซต์ iflix มีบริการให้ดูฟรีเดือนนึงด้วยนะ) และล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เว็บไซต์ Luxurysocietyasia ได้รายงานว่านาย Jamie กำลังเตรียมที่จะเปิดร้านอาหารของเขาในไทยแล้ว!! ตามรายงานบอกว่านาย Jamie เตรียมเปิดร้านอาหารสไตล์อังกฤษผสมอิตาเลียนในกรุงเทพฯ ในช่วงสิ้นปีนี้ ในชื่อว่า Jamie’s Italian ที่บริเวณสยาม ดิสคัฟเวอรี่ โดยร้านของเขาจะตกแต่งแบบมันสมัยและสบายๆ เพื่อให้แฟนๆ ของเขาได้กินอาหารได้อย่างสบายอกสบายใจแบบเดียวกับที่เขาแสดงให้เราเห็นตอนที่ทำรายการอาหารนั่นเอง ความพิเศษของร้านอาหารแห่งนี้ นอกจากนี้มีเมนูที่นาย Jamie ชื่นชอบแล้ว ยังใช้วัตถุดิบท้องถิ่นจากเกษตรกรไทย เพื่อนำมาทำเป็นอาหารหรูๆ ให้ลูกค้าได้กินกันด้วยนะ นับว่าเป็นไอเดียที่แบบยั่งยืนและน่าสนับสนุนจริงๆ แค่เห็นก็น้ำลายไหลแล้ว Jamie กล่าวถึงความรู้สึกที่จะได้มาเปิดร้านอาหารที่ไทยว่า “รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้เปิดตัวร้าน Jamie’s Italian ในประเทศไทย กรุงเทพถือเป็นเมืองที่สดใสสนุกสนานมากพร้อมไปด้วยอาหารรสชาติเยี่ยมมากมาย” “ผมแทบไม่สงสัยเลยว่ามันจะยอดเยี่ยมขนาดไหนสำหรับร้าน Jamie’s Italian…
-
สาระมีอยู่จริง… เปิดหนังสือเก่าญี่ปุ่น ‘คู่มือสอนรักหนุ่มสาว’ ตั้งแต่จับมือ จนขึ้นเตียง!?
ตามพื้นฐานของคนไทยแล้ว พวกเรามักจะเหนียมอายที่จะสอนลูกหลานถึงเรื่อง เพศ หรือกระทั่งมองว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดีไม่งาม จึงต้องปกปิดเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังคมกับเพศตรงข้าม การปฏิบัติตัวต่อเพศตรงข้าม หรือแม้แต่เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ นั่นก็เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอายยังไงล่ะ แต่การที่พวกเราไม่ค่อยบอกหรือสอนอะไรพวกเขา วันหนึ่งพวกเขาอาจจะไปลองทำมันด้วยตัวเองแบบผิดๆ ถูกๆ ก็ได้นะ ด้วยเหตุนี้เองญี่ปุ่นจึงได้เขียนคู่มือการปฏิบัติต่อเพศตรงข้ามขึ้นมาในช่วงยุค 60 เพื่อให้วัยรุ่นที่ไม่ประสีประสาได้เอาไปปฏิบัติอย่างถูกวิธี ในคู่มือเล่มนี้จะไล่มาตั้งแต่วิธีการเกี้ยวพาราสี มีการให้คำแนะนำอย่างละเอียดว่าควรจะจับมือยังไง พูดแบบไหน การแตะเนื้อต้องตัวสามารถทำตรงไหนได้บ้าง ไปจนถึงการเล้าโลมและการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง สอนจับมือแบบทั่วๆ ไป ในที่สาธารณะ วิธีปฏิบัติต่อเพศตรงข้าม ที่แสดงให้เห็นว่าเราสนใจในเพศตรงข้าม แน่นอน คำว่าสอนแบบละเอียด ยังมีไปถึง วิธีการ…เล้าโลม แม้ว่านี่อาจจะดูทะลึ่งตึงตังไปหน่อยสำหรับคนยุคนี้ แต่มันก็ช่วยให้ความรู้และทำให้หนุ่มสาวยุคนั้นรู้จักวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องนะ ที่ #เหมียวฟิ้น เอามานำเสนอก็เพื่อเปิดหูเปิดตาให้กับทุกคน ได้เห็นว่าต่างชาติเขามีการสอนวัยรุ่นแบบไหนเท่านั้นเอง กับประเทศเรา ที่ว่าเรื่องเพศไม่ดีไม่งาม แต่กลับมีคดีละเมิดทางเพศ (และที่ไม่เป็นคดี) อีกเยอะมาก รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่ตามมาจากการขาดความรู้เรื่องเพศ…
-
เนเธอร์แลนด์ประสบวิกฤติหนัก ‘ขาดแคลนนักโทษ’ ถึงขั้นต้องยุบเรือนจำกว่า 19 แห่ง
ในขณะที่ประเทศฟิลิปินส์เพิ่งจะประสบปัญหานักโทษล้นคุกไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2016 ทีผ่านมา จนต้องของบจากรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ขณะเดียวกันที่เนเธอร์แลนด์กลับประสบปัญหาที่ไม่ว่าชาติไหนๆ ก็อยากจะให้เกิด นั่นคือ “ขาดแคลนนักโทษ” เว็บไซต์ BBC ของต่างประเทศได้รายงานว่าในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรือนจำกว่า 19 แห่งต้องปิดตัวลง และยังมีอีกหลายแห่งที่เตรียมตัวปิดในปีถัดๆ ไป เนื่องจากมีนักโทษไม่เพียงพอให้กักขัง นับตั้งแต่เมื่อปี 2005 นักโทษในเนเธอร์แลนด์มีจำนวนราวๆ 14,468 คน แต่พอถึงปี 2015 จำนวนกลับลดลงอย่างมากเหลือเพียง 8,245 คนเท่านั้น เมื่อคิดเป็นสัดส่วนต่อประชากรทั้งหมด เหลือเพียงแค่ 57:100,000 คนเท่านั้น ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยที่สุดของโลกประเทศหนึ่งเลยก็ว่าได้ เหตุที่เนเธอร์แลนด์ไม่ค่อยมีนักโทษหรือการทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนอย่างในประเทศอื่นๆ อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยหน่วยงานยุติธรรมและราชทัณฑ์ของเนเธอร์แลนด์ออกมาให้ความเห็นว่า เป็นเพราะการแก้ไขปัญหาการกระทำผิดและปรับปรุงเป็นรายบุคคล แทนที่จะลงโทษอย่างเดียว ซึ่งหากว่ากันตามจริงแล้ว ประเทศเนเธอร์แลนด์เองมักไม่ลงโทษผู้ต้องหาด้วยการจำคุกเป็นเวลานานๆ อย่างเดียว แต่จะลงโทษด้วยวิธีอื่น เช่นติดเครื่องส่งสัญญาณที่ผู้ต้องหา เพื่อดูพฤติกรรม หรือให้ทำงานเพื่อสังคม และบำบัดอาการทางจิต ความโกรธหรืออะไรก็แล้วแต่ที่อาจส่งผลให้เกิดการทำผิดซ้ำขึ้นอีก นอกจากนี้ทางเรือนจำในเนเธอร์แลนด์ยังมีวิธีการดูแลผู้ต้องหาในแบบที่แตกต่างไปจากที่อื่นๆ ด้วย เพราะพวกเขาจะปรับให้ภายในเรือนจำมีความผ่อนคลาย มีห้องสมุด…
-
นักบินจีนช่วยชีวิตผู้โดยสาร 439 คน จากเหตุเครื่องบิน (เกือบ) ชนบนรันเวย์ รับเงินรางวัล 16 ล้านบาท
ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นข่าวการรอดชีวิตจากอุบัติเหตุทางอากาศ เพราะเนื่องจากมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ยากต่อการควบคุม และหากคุณเคยได้ดูหนังที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุของเครื่องบินมาหลายเรื่องก็คงพอจะนึกภาพกันออกว่ามันเลวร้ายขนาดไหน แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่ายังมีนักบินฝีมือดี ที่สามารถควบคุมเครื่องบินจนสามารถช่วยชีวิตผู้โดยสารนับร้อยชีวิตจนรอดตายได้อย่างปาฏิหาริย์!! เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่านักบินชาวจีนรายหนึ่ง ได้ช่วยชีวิตผู้โดยสารกว่า 439 คนให้รอดตาย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนรันเวย์ในสนามบินเซี่ยงไฮ้ ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในสนามบิน Shanghai Hongqiao International Airport ประเทศจีน เวลา 12.04 นาฬิกา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2016 ในขณะที่เครื่องบินของสายการบิน China Eastern Airlines เครื่อง Airbus A320 กำลังเทคออฟขึ้นสู่อากาศ ในขณะนั้นมีเครื่อง Airbus A330 ที่อยู่บนรันเวย์และกำลังเลี้ยวเข้าไปขวางเส้นทางของ Airbus A320 พอดิบพอดี นักบินชาวจีนที่ชื่อนาย He Chao ที่บังคับเครื่อง Airbus A320 จึงตัดสินใจเร่งเครื่องเต็มกำลังเพื่อไม่ให้เครื่องบินที่เขาขับอยู่ไปชนเข้ากับเครื่องบินบนรันเวย์ ที่เฉียดกันไปเพียง 19 เมตรเท่านั้น หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทางสายการบินก็ได้มอบเงินรางวัลให้กับเขาเป็นจำนวน 3 ล้านหยวน…
-
แฟนๆ เศร้า “Francis” สุนัขที่อยู่คู่รายการ Cooking With Dog เกือบ 10 ปี เสียชีวิตลงแล้ว
นับตั้งแต่ที่มีการเปิดตัวเว็บไซต์ Youtube ขึ้นมาเมื่อปี 2005 ทำให้เหล่าผู้ใช้ทั่วโลกอัพโหลดคลิปวิดีโอเข้าไปอย่างมากมาย จนเกิดการพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นอินเตอร์เน็ตทีวีที่มีรายการรูปแบบแปลกๆ ใหม่ๆ ขึ้นมาอีกเพียบ หนึ่งในรายการทางอินเตอร์เน็ตที่มีชื่อเสียงและอยู่คู่กับเว็บไซต์ Youtube มาตั้งแต่แรกๆ เลยคือรายการ Cooking With Dog เป็นรายการสอนทำอาหารรูปแบบเรียบง่าย แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ รายการนี้จะดำเนินรายการโดยหญิงสาววัยกลางคนชาวญี่ปุ่น (ที่ไม่เคยเปิดเผยชื่อ) และจะมีสุนัขที่ชื่อ Francis คอยนั่งอยู่ข้างๆ เธอตลอดเวลา คอยทำตัวเป็นเหมือนผู้อธิบายขั้นตอนต่างๆ ในการทำอาหาร พร้อมกับมีเสียงพากย์ของคนคอยพูดแทนเจ้าสุนัขตัวนี้เป็นภาษาอังกฤษ รายการ Cooking With Dog อยู่คู่กับเว็บยูทูปมาเป็นเวลา 10 ปี มีคลิปทำอาหารออกมามากถึง 601 คลิปและมีฐานคนดูกว่า 1.2 ล้านคน แต่เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก เพราะเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 พฤศจิกายน 2016 ที่ผ่านมา ทางรายการได้ทวีตข้อความบอกว่าเจ้า Francis ได้จากพวกเขาไปแล้ว ทางรายการได้ทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า “Francis ได้จากไปแล้วเมื่อช่วงบ่าย เขาอายุได้ 14 ปี 9 เดือน (ราว 84…
-
เจ้าเหมียวในสวิสเซอร์แลนด์ เดินนำทางชายคนหนึ่งที่หลงทางบนเขา จนสามารถหาทางกลับบ้านเจอ!?
อย่างที่รู้กันว่าพวกแมวนั้นมีความฉลาดเฉลียม (เสียแค่ว่ามันไม่ค่อยจะสนใจพวกเราเท่านั้นเอง) พวกมันสามารถดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี ทั้งหาอาหาร ปีนป่าย และต่อสู้กับแมวด้วยกัน แต่ที่บางคนยังไม่รู้คือ พวกมันมีความสามารถในการนำทางได้ด้วยนะเออ เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นหยิบมาเล่าในวันนี้เป็นเรื่องของเจ้าเหมียวสีขาวดำตัวหนึ่งในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่ถูกเผยแพร่ผ่านสมาชิกเว็บไซต์ Reddit ที่ใช้ชื่อ sc4s2cg เล่าว่าเมื่อราวๆ 2 เดือนก่อน เขาได้มีโอกาสไปปีนเขาในหมู่บ้าน Gimmelwald หมู่บ้านเล็กๆ ของสวิสเซอร์แลนด์ ในตอนแรกเขาตั้งใจที่จะไปเล่นสกี แต่เนื่องจากช่วงเวลาที่เขาเดินทางไปนั้นหมดฤดูการเล่นสกีพอดี ทำให้ลิฟท์หรือกระเช้าไม่เปิดให้บริการ เขาจึงตัดสินใจเดินตามเส้นทางลิฟท์ขึ้นไปยังด้านบนของภูเขา และเจอรางรถไฟที่นำเขาไปสู่หมู่บ้านร้าง ในตอนนั้นเขาก้าวขาพลาดจนมีอาการขาแพลง จึงนั่งพักและหยิบแผนที่ขึ้นมาดูเพื่อตรวจสอบว่าเขามาถูกทางหรือไม่ จู่ๆ ก็มีแมวสีขาวดำตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้น มันดูจะเป็นมิตรกับเขามากทีเดียว เพราะมันเดินเข้ามาใกล้และไม่มีท่าทางหวาดกลัวเขาเลย เมื่อเขาลุกขึ้นเจ้าแมวตัวนั้นก็ดูเหมือนจะเดินนำเขาไปยังเส้นทางหนึ่ง นาย sc4s2cg อธิบายว่าเจ้าแมวตัวนั้นพยายามเดินนำเข้าไปและหันมามองเขาอยู่เรื่อยๆ ว่าตัวเขาเดินตามมันอยู่หรือเปล่า จากนั้นมันก็เดินนำไปเรื่อยๆ จนถึงหมู่บ้านที่มีคนอยู่ จากนั้นเจ้าเหมียวก็เดินหายไปทันที… ถ้ายังไม่มั่นใจว่ามันจะสามารถนำทางชายคนนี้ได้ยังไง งั้นเรามีคลิปวิดีโอมาพิสูจน์กัน หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตหลายๆ คนในเว็บไซต์ Reddit ออกมาให้ความเห็นว่าพวกเขาก็เคยเจอแมวตัวนี้เหมือนกัน และยังบอกด้วยว่าเจ้าเหมียวตัวนี้น่าจะเป็นแมวของโรงแรมแห่งหนึ่งในสวิสเซอร์แลนด์ แหม่นำทางเก่งแบบนี้น่าจะมอบบัตรประจำตัวมัคคุเทศก์ให้เลยนะเนี้ยะ ที่มา heroviral , pontos78
-
ชาวเมืองในเยอรมันสร้างกำแพงสูง เพื่อกั้นที่อยู่เหล่าผู้ลี้ภัย ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่ภาพของกำแพงขนาดใหญ่ ที่ถูกสร้างขึ้นในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี เพื่อเป็นการแบ่งชนชั้นและป้องกันไม่ให้ผู้ลี้ภัยมาตั้งรกรากใกล้ๆ กับพวกเขา ตามรายงานบอกว่าชาวเมืองในมิวนิกได้รวมตัวกันเพื่อสร้างกำแพงขนาดความสูง 3.6 เมตร แถวย่านชานเมือง เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐได้อนุญาตให้เหล่าผู้ลี้ภัยวัยรุ่นกว่า 160 คนที่ไร้ผู้ดูแลย้ายเข้ามายังศูนย์พักพิง ห่างจากหมู่บ้านของชาวเยอรมันกลุ่มนี้ออกไปเพียง 100 เมตรเท่านั้น ชาวเมืองได้ให้ความเห็นว่าที่พวกเขาต้องทำแบบนั้นก็เพราะว่ากลัว “เสียงรบกวนและพฤติกรรมของผู้ลี้ภัย” สถานที่กำลังก่อสร้าง ซึ่งจะกลายเป็นที่พักของผู้ลี้ภัยในอนาคตอันใกล้ หลังจากที่มีการรายงานภาพและข่าวเกี่ยวกับกำแพงชนชั้นนี้ออกไป ทำให้เกิดการวิจารณ์ในวงกว้าง เพราะเนื่องจากขัดกับหลักการของนายกรัฐมนตรี Angela Merkel ที่อยากจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยต่างๆ ด้านรัฐมนตรีกรมที่ดิน Guido Bucholtz ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า “ผมรู้สึกขนลุกเลยเมื่อได้เห็นเจ้ากำแพงปีศาจนั่น นี่มันเป็นเหมือนโฆษณาชวนเชื่อที่ห่วยแตกมาก” หนึ่งในเหตุขัดแย้งที่พวกเขาสร้างกำแพงขึ้นมาก็เพราะว่าพวกเขากลัวว่าราคาบ้านและที่ดินของพวกเขาจะดิ่งลงเหวถ้าหากไม่มีอะไรมากั้นกลุ่มผู้ลี้ภัยออกจากพวกเขา เพราะพวกเขาอาจจะอาศัยอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือเป็นปีๆ เลยก็ได้ กำแพงดังกล่าวที่สร้างขึ้นมากั้นระหว่างกลุ่มคนในหมู่บ้าน และบ้านพักของกลุ่มผู้อพยพ ดราม่าดังกล่าวยังถูกนำไปเปรียบเทียบกับกำแพงเบอร์ลิน และนโยบายของโดนัลด์ ทรัปม์ ที่ต้องการสร้างกำแพงชายแดนระหว่างสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก ด้วยเช่นกัน ล่าสุดได้มีการรายงานความคืบหน้าว่ากำแพงที่กำลังก่อสร้างใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และชาวเมืองเองก็ไม่ได้สนใจว่ากำแพงจะออกมาสวยหรือคนอื่นๆ จะมองมันยังไง ขอเพียงมันสามารถกันเหล่าผู้ลี้ภัยออกจากพวกเขาเป็นอันใช้ได้…
-
เป็นไปได้!? เจ้าหน้าที่ตำรวจมะกัน เผลอยิงปืนใส่เท้าตัวเอง ระหว่างต่อสู้กับแรคคูนคลั่ง
แม้ว่าสัตว์อย่างแรคคูณจะมีความน่ารักน่าชังขนาดไหนก็ตาม คุณก็อย่าได้ประมาทถึงความเจ้าเล่ห์และอันตรายของมันล่ะ เพราะล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บเพราะมันด้วยนะ!! เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักข่าว Washingtonpost ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งในรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับแจ้งจากชาวเมืองว่ามีแรคคูณคลั่งออกมาป่วนอยู่ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจรายนั้นเดินทางมาถึงเขาก็เข้าไปจัดการกับแรคคูณคลั่งที่ว่านี้ แต่ดูเหมือนมันจะว่องไวและแสบกว่าที่เขาคิด เขาจึงต้องจัดการขั้นเด็ดขาดคือยิงมันซะก่อนที่มันจะไปทำร้ายใครเข้า แต่เขาก็พลาดท่าเผลอยิงปืนเข้าที่เท้าของตัวเอง ส่วนเจ้าแรคคูณตัวนั้นก็วิ่งหายไปอย่างลอยนวล เจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ได้วิทยุขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยอื่นและรายงานให้ทราบว่าเขาถูกยิง ในตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอื่นๆ รู้สึกตกใจมากจึงรีบขับรถมาช่วยเหลือเขา แต่สุดท้ายก็พบว่านั่นไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร และเขาก็ไม่ได้ถุกคนร้ายยิงด้วย นาง Andrea Barrett ผู้เป็นพยานพบเห็นเหตุการณ์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “มันทำให้ฉันกลัวไปเป็นนาทีๆ เลย ฉันหวังว่าเขาจะปลอดภัยดีนะ มันรู้สึกโล่งใจมากที่ได้รู้ว่านั่นไม่ใช่แผลใหญ่อะไรสำหรับเขา” หลังจากนั้นได้ไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจนายอื่นๆ ก็ได้ออกติดตามแรคคูณตัวนี้จนไปเจอมันอยู่ที่สวนสาธารณะอีกแห่งหนึ่ง พวกเขาจึงจัดการปลิดชีพมันทันที ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บก็มีอาการที่ทรงตัวแล้ว จึงไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ไม่รู้ทำไมพออ่านข่าวนี้แล้ว นึกถึงไอ้ตัวนี้ขึ้นมาตะหงิดๆ… ที่มา washingtonpost , metro
-
องค์กรพิทักษ์สัตว์แฉคลิป สวนสัตว์ทรมานลูกเสือ บังคับว่ายน้ำ พรากแม่ และจับขังกรง!!
หลายๆ ครั้ง ที่เราได้เห็นภาพสถานเลี้ยงสัตว์บางแห่ง เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสกับลูกเสือ กอดเล่น ให้นม ถ่ายรูป หรือแม้แต่ว่ายน้ำด้วย มองภายนอกอาจเป็นความน่ารักที่ใครๆ ก็อยากจะลองคลุกคลีบ้าง แต่ความจริงแล้วมันอาจมีเบื้องหลังอันเจ็บปวดที่คุณคาดไม่ถึงเลยก็ได้ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา องค์กรองค์กรพิทักษ์สัตว์ PETA (People for the Ethical Treatment of Animals) ในสหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอชวนตกใจ ที่ถูกแอบถ่ายมาได้จากสวนสัตว์ Dade City’s Wild Things ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา จากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่กระทำกับลูกเสือของพวกเขาอย่างโหดร้าย เริ่มตั้งแต่การพรากลูกเสือมาจากแม่ของมันตั้งแต่คลอดออกมาจากท้องแม่ของมันได้ไม่ถึงชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะใช้วิธีดึงพวกมันออกมาจากกรงลวดโดยไม่สนใจว่ามันจะเจ็บปวดตรงไหนบ้าง และหลังจากนั้นพวกมันจะไม่ได้เจอแม่ของมันอีกเลย หากตัวไหนไม่แข็งแรงพอ พวกเขาก็จะโยนมันทิ้งไปแบบไม่ใยดี แต่หากตัวไหนแข็งแรงพอ พวกเขาก็จะนำมันไปทำเงินต่อไป ทางสวนสัตว์มีการบังคับให้ลูกเสือฝึกว่ายน้ำจนกว่าจะเป็น พวกเขาจะจับเอาลูกเสือลงไปในสระว่ายน้ำ แต่เมื่อลูกเสือพยายามที่จะว่ายออกมาจากสระ เจ้าหน้าที่ก็จะดึงหางของมันกลับเข้าไปในสระอีกรอบ แม้ว่าลูกเสือจะพยายามเงยหัวให้พ้นผิวน้ำเพราะอาการเหนื่อยหอบ แต่ก็ไม่พ้นมือของเจ้าหน้าที่อยู่ดี ลูกเสือขาวตัวนี้มีชื่อว่า Luna มันถูกบังคับให้ต้องมาเล่นกับผู้คนแม้ว่ามันจะคำรามหรือส่งเสียงร้องไห้ออกมา มันพยายามจะหนีออกมาจากกลุ่มนักท่องเที่ยว…
-
เปิดเรื่องราว Mary Cotton ฆาตกรต่อเนื่องสาวคนแรกของอังกฤษ จนถูกนำไปทำเป็นหนัง
เราคงเคยได้ยินคำว่า “ฆาตกรต่อเนื่อง” กันมาจนชินหู แต่ไม่มีใครเคยรู้ว่าคำนี้เกิดมาได้ยังไง และใครคือฆาตกรต่อเนื่องคนแรกกันแน่? หากคุณสงสัยเหมือนกับ #เหมียวฟิ้น ล่ะก็ วันนี้เราจะขอชวนทุกๆ คนมาเปิดเรื่องจริงชวนขนลุกที่เคยเกิดขึ้นเมื่อราวๆ 150 ปีที่แล้วกัน นี่คือเรื่องราวของหญิงสาวชาวอังกฤษยุควิคตอเรียเมื่อประมาณ 150 ปีที่แล้ว ที่ชื่อว่า Mary Ann Cotton เธอเป็นทั้งหญิงสาว เป็นภรรยา เป็นแม่คน และเป็นฆาตกรเลือดเย็นเช่นกัน จากการศึกษาเรื่องราวของเธอที่เคยมีการบันทึกเอาไว้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าในระหว่างปี 1860 ถึงปี 1872 เธอได้ฆ่าสามีของตัวเองไป 3 คน และลูกๆ อีกกว่า 11 คน จนกลายเป็นที่โจษจันของคนทั่วสหราชอาณาจักรว่าเธอคือฆาตกรต่อเนื่อง ตามการจดบันทึกบอกว่านาง Mary Cotton ได้ใช้สารหนูในการวางยากับเหยื่อของเธอทุกๆ คน ซึ่งทำให้เกิดอาการอาเจียน ท้องเสียอย่างรุนแรง ร่างกายขาดน้ำและเสียชีวิตในที่สุด เพื่อให้คนอื่นๆ เข้าใจว่าพวกเขาตายเพราะอาการป่วยไข้แทนที่จะเป็นการฆาตกรรม นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่ายอดผู้เสียชีวิตจากน้ำมือของเธอจริงๆ แล้วน่าจะสูงถึง 21 คนด้วยซ้ำ Ian Smyth Herdman นักวิจัยที่ใช้เวลาในการศึกษาเรื่องราวของเธอนานกว่า 30…
-
เมื่อนักวิทย์ฯ บอก ‘หนุ่มลงพุง’ มีแนวโน้มดึงดูดสาวๆ และอายุยืนกว่าผู้ชายรูปร่างปกติ!?
ยุคนี้คือยุคของคนสุขภาพดี หนุ่มๆ หลายคนพยายามออกกำลังกาย เล่นกล้ามเพื่อที่จะได้มีหุ่นที่สวยงามจนสาวๆ เหลียวมอง แต่เมื่อช่วงต้นปี 2016 ที่ผ่านมา เริ่มมีกระแส Dad Bods (หนุ่มพุงพลุ้ย) โด่งดังในต่างประเทศ ทำให้หนุ่มลงพุงหรือหุ่นแบบป๋าๆ ทั้งหลายเริ่มยิ้มได้ ว่าหุ่นแบบพวกเขาก็เป็นที่ต้องการของสาวๆ เหมือนกัน ล่าสุดเริ่มมีการวิจัยและค้นคว้าอย่างจริงจังเกี่ยวกับผู้ชายทรง Dad Bods โดยนักวิยาศาสตร์ออกมาเปิดเผยว่าผู้ชายที่มีรูปร่างท้วมนิดๆ ลงพุงหน่อยๆ จะมีความดึงดูดเพศตรงข้ามมากกว่าผู้ชายรูปร่างอื่นๆ และมีอายุที่ค่อนข้างยืนยาวกว่าด้วย ศาสตรยจารย์ด้านมานุษยวิทยา Richard Bribiescas จากมหาวิทยาลัย Yale University ได้เขียนหนังสือ ‘How Men Age: What Evolution Reveals About Male Health and Mortality‘ หนังสือเล่มนี้พูดถึงน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นของท่านชายเมื่อต้องกลายเป็นพ่อคน โดยให้รายละเอียดว่าผู้ชาย Dad Bods นั้นจะมีระบบภูมิคุ้มกันมากกว่า และในระยะยาวพวกเขาจะป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่าด้วย ย้อนกลับไปในปี 2008 มีการศึกษาที่ค้นพบว่าผู้ที่มีระบบการเผาผลาญสูง (High Metabolisms)…
-
ใครหลับยากต้องเจอ Napflix เว็บไซต์รวมคลิปวิดีโอ น่าเบื่อและชวนคร่อกฟี้ที่สุด…
ถ้าคุณเป็นคนที่มีนิสัยชอบดูทีวี ดูคลิป (เรียกง่ายๆ ว่าให้ทีวีมันดูเรานั่นแหละ) เพื่อให้ตัวเองหลับไปเหมือนกับคนเฒ่าคนแก่ชอบทำล่ะก็ นี่คือเว็บไซต์ที่คุณควรเซฟเก็บไว้เลย เว็บไซต์ที่#เหมียวฟิ้นจะพาทุกคนไปรู้จักกันในวันนี้มีชื่อว่า Napflix (ชื่อคล้าย Netflix แต่คนละเจ้าของนะ) เว็บไซต์สัญชาติสเปน ที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้บริการแก่คนนอนยากโดยเฉพาะ เว็บนี้จะเล็งไปที่กลุ่มคนนอนยากหรือคนที่ชอบดูอะไรก่อนนอน โดยการรวบรวมเอาคลิปง่วงนอนๆ ใน Youtube มานำเสนอเพื่อให้คุณหลับปุ๋ย หรือถ้าจะพูดให้เจาะจงก็คือ “คลิปที่มีความน่าเบื่อ หรือการกระทำซ้ำๆ ซากๆ” นั่นเอง ตัวเว็บเพิ่งจะเปิดให้บริการไปเมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการแบ่งประเภทคลิปวิดีโอแต่ละแบบให้เราเลือกดูได้ด้วย เช่น กีฬา สารคดี เพลง การศึกษา วิดีโอเกม และอื่นๆ อีกมากมาย และแน่นอนว่าทุกคลิปนั้น…ชวนง่วง นาย Victor Gutierrez de Tena วัย 31 ปี หนึ่งในผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Napflix ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ไอเดียของเราก็คือการสร้างสือบันเทิงที่น่าเบื่อ” “มันอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราหวนคิดถึงสมัยที่เราเป็นเด็ก เช่นการเข้าเรียนหลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ และการดูละครหลังข่าว ที่คุณจะสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้แม้จะเผลอหลับไป” ต่อไปนี้คือตัวอย่างคลิปชวนง่วงที่มีอยู่ใน Napflix…
-
เรื่องราวมิตรภาพแสนอบอุ่น ระหว่างตาวัย 82 ผู้สูญเสียภรรยา กับเด็กน้อยวัย 4 ขวบ
บางครั้งมิตรภาพก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาทุกสถานที่ และสามารถเกิดขึ้นได้แม้กับบุคคลที่มีอายุต่างกันเกือบ 80 ปีก็ตาม นี่เป็นเรื่องราวน่ารักๆ เรื่องนี้ถูกนำเสนอผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ของหนูน้อย Norah วัย 4 ขวบ และคุณตา Dan Peterson วัย 82 ปี ที่ดันกลายมาเป็นเพื่อนกันจนเกิดเป็นมิตรภาพระหว่างคน 2 วัย เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นเมื่อ Tara Wood พา Norah ลูกสาวไปเดินซื้อคัพเค้กด้วยที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในรัฐจอร์เขีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนที่แล้ว ในระหว่างนั้นพวกเขาได้เดินผ่านชายชราหลังงองุ้มและดูหนาวคนหนึ่ง ที่มาเดินซื้อของคนเดียว Norah จึงพูดคุยกับชายชราว่า “สวัสดีคุณตา วันนี้คือวันเกิดของหนูเอง” เมื่อชายชราได้ยินเข้าเขาก็เริ่มเปลี่ยนท่าทีจากเคร่งขรึมมาเป็นมิตร “หนูอายุเท่าไหร่แล้ว?” ชายชราถาม จากนั้นทั้ง 3 คนก็ทำความรู้จักกันถึงได้รู้ว่าชายชราคนนี้มีชื่อว่านาย Dan Peterson จากนั้น Norah ก็ขอให้แม่ของเธอช่วยถ่ายภาพของเธอคู่กับคุณตา Dan ไว้เป็นที่ระลึก ก่อนจะแยกย้ายกันไปและไม่ได้เจอกันอีก ต่อมา Tara ได้โพสต์ภาพของคุณตา Dan และลูกสาวลงในเฟซบุ๊ก และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าจำคุณตา…
-
จากแผนที่สู่รังนก…ดีไซน์เนอร์ไต้หวันเปลี่ยนสัญลักษณ์ “Google Map” ให้กลายเป็นบ้านสำหรับนก
เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกับสัญลักษณ์นี้ดี จุดสีแดงๆ คล้ายหยดน้ำมีจุดสีดำตรงกลาง ใช้แล้วมันคือสัญลักษณ์ของ Google Map ที่เรามักจะใช้เวลาที่เราหลงทางหรือต้องการหาเส้นทางเพื่อไปยังที่ต่างๆ แต่ตอนนี้สัญลักษณ์ Google Map มันกลายเป็นมากกว่าแค่สัญลักษณ์ในโลกเสมือแล้วล่ะ เพราะว่านักออกแบบ=าวไต้หวันที่ชื่อว่า Shu Chun Hsiao ผู้ที่ชอบดัดแปลงและออกแบบข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ได้นำมันมาออกแบบให้กลายเป็นบ้านนกที่เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร โปรเจ็คที่เขาออกแบบนั้น เจ้าตัวเรียกมันว่า Google Birdhouse Project เพื่อให้พวกมันมองเห็นสัญลักษณ์นี้เป็นเหมือนจุดหมายปลายทางในโลก Offline เหมือนกับที่ Google บอกจุดหมายปลายทางให้แก่มนุษย์อย่างเราๆ ในโลก Online นั่นเอง ดีไซน์เนอร์ Shu ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “นกทั้งหลายมีประสบการณ์กับ Google Map จริงๆ พวกมันสามารถบินผ่านเมือง ผ่านถนนได้ บ้านนกพวกนี้จะกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางของพวกมัน เหมือนกับที่ Google Map ทำ” หลังจากที่คิดค้นและออกแบบเสร็จแล้ว เขาก็นำมันไปติดตามจุดต่างๆ เพื่อให้เหล่านกน้อยสังเกตเห็นได้ง่ายๆ มันอาจเป็นเพียงที่พักชั่วคราวหรือทำรังแบบถาวรเลยก็ได้ …
-
เอางี้เลย? รัฐบาลอังกฤษอยากรู้ว่าใครดูสื่อลามกบ้าง เตรียมออกกฎหมายสอดส่องเก็บข้อมูล
การดูหนัง AV หรือหนังโป๊นั้นถือเป็นเรื่องปกติของเหล่าชายชาตรีทั่วโลก ส่วนหนึ่งก็เพื่อความบันเทิง ความผ่อนคล้าย (อย่างที่เข้าใจนั่นแหละ) แต่คุณจะรู้สึกอย่างไร หากถูกรัฐบาลสอดส่องในเรื่องนี้ แล้วนำชื่อของคุณไปขึ้นบัญชี “คนดูหนังโป๊” ? เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่ากลุ่มรณรงค์เพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้อินเตอร์เน็ตอย่าง Open Rights Group (ORG) ออกมากล่าวว่ารัฐบาลอังกฤษต้องการที่จะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผู้เข้าใช้เว็บไซต์โป๊เปลือย เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีอายุกว่า 18 ปีเข้ามาเห็นโดยบังเอิญ ตามรายงานระบุว่ารัฐบาลอังกฤษได้เตรียมออกพรบ.ใหม่ ที่บังคับให้เว็บไซต์แนว 18+ ทั้งหลาย ต้องเก็บข้อมูลของผู้เข้าใช้เว็บไซต์เหล่านี้อย่างเคร่งครัด แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะสามารถทำได้ทั้งหมดหรือไม่ ตัวแทนของกลุ่ม ORG ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “เราเชื่อว่าจุดมุ่งหมายในการจำกัดสิทธิ์เด็กไม่ให้เข้าไปยังเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมนั้นเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอย่างหนึ่ง ระบบการตรวจสอบอายุแบบใหม่จะช่วยในการเก็บข้อมูลของผู้คนที่เข้าใช้เว็บไซต์ลามกอนาจาร” “การเข้าถึงเนื้อหาลามกอนาจารสร้างข้อมูลที่สำคัญที่อาจเชื่อมต่อไปยังตัวตนที่แท้จริงของผู้ใช้ (ทำให้เรารู้ว่าใครบ้างที่เข้าใช้) การร่างพรบ.ที่ว่านี้ก็หมายความว่ามันอาจมีการรั่วไหลของข้อมูลในอนาคต เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้” แม้ว่าการเก็บข้อมูลในครั้งนี้จะดูเป็นเรื่องที่สามารถทำได้หากมีการออกร่างพรบ.มาแล้ว แต่ก็ไม่มีการระบุว่าทางรัฐบาลจะมีมาตรการในการป้องกันความลับรั่วไหลอย่างไร ทั้งหมดนี้อาจจะดูเป็นเรื่องไกลตัวเพราะไม่ได้เกิดขึ้นในไทย แต่หากว่าวันหนึ่งประเทศเราต้องทำแบบนั้นบ้างล่ะ? ทุกๆ คนจะรับได้ไหมหากว่าคนอื่นรับรู้ว่าคุณดูอะไรอยู่แม้จะดูอย่างลับๆ ภายในห้องนอนของตัวเองก็ตาม? ที่มา metro
-
กล้องวงจรปิดจับภาพสาวออสซี่ วางยาพิษในกาแฟของเพื่อนสาว เพียงเพราะเธอเลิกกับแฟน!?
นี่เป็นเรื่องราวการฆาตกรรมที่อ่านแล้วชวนสะพรึงมากกว่าที่เราเคยได้เห็นจากในการ์ตูนโคนันหรือนิยายสืบสวนสอบสวนเลยก็ว่าได้… เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม เว็บไซต์ Mirror ได้นำเสนอเรื่องราวของ Jessica Wongso วัย 27 ปีหญิงสาวชาวออสเตรเลีย ได้ทำการฆาตกรรมเพื่อนสนิทสาว ด้วยการวางยาพิษลงในกาแฟของเธออย่างเยือกเย็น เหตุการณ์ทั้งหมดถูกเปิดเผยผ่านกล้องวงจรปิดภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่งในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ที่ Jessica Wongso และเพื่อนสาว Wayan Mirna Salihin ไปนั่งดื่มกัน จากคลิปวิดีโอเผยให้เห็น Jessica กำลังเทไซยาไนด์ลงไปในถ้วยกาแฟของ Mirna ในช่วงที่เธอเผลอ จากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มมีอาการทุรนทุรายก่อนจะหมดสติและเสียชีวิตไป ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่นี่ จากการสืบสวนพบว่าทั้ง Jessica และ Mirna เป็นเพื่อนสนิทที่เรียนในชั้นเดียวกัน ซึ่ง Jessica ได้ให้เหตุผลที่เธอลงมือฆ่าเพื่อนสาวเพราะว่า Mirna เลิกกับแฟนหนุ่ม แต่ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากเธอก่อน เมื่อศาลพิจารณาหลักฐานต่างๆ แล้ว จึงตัดสินให้ Jessica มีความผิดฐานฆาตกรรมผู้อื่นโดยเจตนา ในระหว่างการพิจารณาคดี ด้านอัยการได้กล่าวว่า “การกระทำของจำเลยเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก เพราะมีความมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตเพื่อนของตัวเอง มันเป็นการกระทำที่ทารุณเพราะยาพิษไซยาไนด์ได้คร่าชีวิตของเหยื่อ Wayan Mirna Salihin มันไม่ได้ฆ่าเธอในทันทีแต่ค่อยๆ ทรมาณเธอ”…
-
โมเม้นต์ประทับใจ หนุ่มทดลองให้เงินโฮมเลสไปซื้อของ สุดท้ายได้รับ ‘แรงบันดาลใจ’ ตอบแทน
หลายคนคงจะรู้จักคนเร่ร่อน (หรือที่ในต่างประเทศชอบเรียกโฮมเลส) พวกเขาจะอาศัยนอนหลับตามเก้าอี้สาธารณะ ใต้สะพานลอย ตามแหล่งเสื่อมโทรมต่างๆ พวกเขาไม่มีเงิน เนื้อตัวมอมแมม และถูกตราหน้าจากสังคมว่าเป็นพวกไม่เอาไหน ติดยา ที่ไม่น่าคบค้าสมาคมด้วย แต่เชื่อไหมว่าหลังจากที่คุณได้ดูคลิปการทดลองต่อไปนี้ คุณอาจจะมองพวกเขาไปในทางที่ดีขึ้นไม่มากก็น้อยล่ะ คลิปที่#เหมียวฟิ้นจะขอมาแนะนำในวันนี้มาจากช่องยูทูบของชายหนุ่มที่ชื่อ Johal เขาชอบถ่ายคลิปแกล้งผู้คนและการทดลองทางสังคมต่างๆ มาเผยแพร่ให้คนในอินเตอร์เน็ตได้ดูกันจนโด่งดัง จนตอนนี้มีคนติดตามดูเขามากกว่า 5 แสนคนแล้ว วันหนึ่งนาย Johal ได้ไปเจอเข้ากับคนเร่ร่อนคนหนึ่งที่นอนอยู่บนเก้าอี้สาธารณะ เขาจึงตัดสินใจทำการทดลองบางอย่างและถ่ายคลิปมาให้พวกเราดู “ผมพยายามที่จะสร้างการทดลองกับคนเร่ร่อนเพื่อให้แรงบันดาลใจแก่พวกคุณทุกคน” คือข้อความที่นาย Johal เขียนไว้ใต้คลิปวิดีโอ แรกเริ่มเลย นาย Johal ได้แอบนำธนบัตรไปสอดไว้ในกระเป๋าของคนเร่ร่อนคนนั้นแล้วรอให้เขาตื่นขึ้นมาเห็นเอง เมื่อคนเร่ร่อนคนนั้นเห็นเข้าก็ถึงกับอึ้งปนดีใจมากๆ เมื่อได้มันมาแล้วเขาก็เดินตรงไปยังร้าน Target (ซุปเปอร์มาร์เก็ตคล้าย Lotus, BigC บ้านเรา) และซื้อของกินของใช้ที่เขาต้องการ จากนั้นก็กลับมานั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม 10 นาทีต่อมาต่อ Johal ก็ทำทีเป็นคุยโทรศัพท์แล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ ชายเร่ร่อนคนนั้น แต่บทสนทนาที่เขาคุยกับปลายสายดูจะเครียดพอสมควร เพราะเขาพูดคร่าวๆ ว่าลูกสาวของเขาป่วยหนักและต้องใช้เงินเพื่อซื้อยารักษาด่วน แต่เขาต้องรออีกประมาณ 1 สัปดาห์กว่าจะมีเงินก้อนใหม่เข้ามา เมื่อการคุยโทรศัพท์จบลง ชายเร่ร่อนจึงเดินเข้ามาหาเขาและถามถามว่าเกิดอะไรขึ้น? เมื่อ Johal อธิบายเรื่องทั้งหมด ชายเร่ร่อนจึงขอให้เขารออยู่ตรงนั้นสักครู่แล้วเฝ้ากระเป๋าให้เขาด้วย…
-
อบอุ่นเหลือเกิน… สุนัขตาบอดอันเหี่ยวเฉา แต่มีคนใจดี เติมสีสันให้ชีวิตมันอีกครั้ง
นี่คือเรื่องราวที่น่าสงสารของเจ้า Muneca สุนัขสายพันธุ์ดัชชุน วัย 18 ปีตัวหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในสถานพักพิงสุนัข Baldwin Park Animal Care Center ที่เป็นประเภท “Kill Shelter” (หากไม่มีคนมารับไปเลี้ยง สุดท้ายแล้วจะถูกฆ่าตาย เพื่อป้องกันจำนวนสุนัขจรจัดที่เพิ่มมากขึ้น) เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Thedodo เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่บอกว่ามันน่าสงสารก็เพราะว่ามันทั้งแก่ ตาบอด แถมยังไม่มีใครอยากจะรับมันไปเลี้ยงเลย ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันก็จะถูกฆ่าตายในสักวันหนึ่ง แต่เหมือนโชคชะตายังปราณีกับมันอยู่บ้าง เพราะว่าหลังจากที่มันถูกทิ้งให้อยู่ที่นั่นเพียง 2 วัน มูลนิธิ Frosted Faces Foundation ก็ได้ยืนมือเข้ามาช่วยเหลือและขอตัวเจ้า Muneca ไป ก่อนที่ต่อมา Amy Gann จะเข้ามาเห็นมันเข้า เธอรู้สึกดีกับมันมากและอยากจะขอรับมันไปเลี้ยง แต่ในต่างประเทศนั้น ใช่ว่าใครจะสามารถรับสัตว์ไร้เจ้าของไปเลี้ยงได้ง่ายๆ เพราะจะต้องมีการตรวจสอบจากทางมูลนิธิอย่างละเอียด ด้านนาง Kelly Smíšek ผู้บริหารของมูลนิธิ Frosted Faces กล่าว่า “เราตรวจสอบทุกคนและพูดคุยกับเพื่อนหรือคนสนิทของพวกเขาอย่างละเอียด เราตรวจที่บ้านของเขาและผู้คนอีกมากมาย”…
-
เด็กนักเรียนรวมตัวกันร้องเพลง ให้ครูป่วยมะเร็งถึงบ้าน… และเธอก็สิ้นใจเมื่อเพลงจบลง
มีคุณครูจำนวนไม่น้อยเลยนะ ที่นอกจากจะสอนหนังสือแล้ว พวกเขายังสอนบทเรียนชีวิต ให้ความรักความเอ็นดูแก่เด็กๆ ประหนึ่งว่าพวกเขาเป็นลูกเป็นหลาน ทำให้เด็กๆ รักและยกย่องพวกเขา เช่นเดียวกับเรื่องราวของคุณครู Marian Walker ผู้สอนวิชาขับร้องประสานเสียงในโรงเรียนมัธยม Alvin Junior High School ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเป็นที่รักของนักเรียนเอามากๆ แต่แล้วการสอนหนังสือของเธอก็ต้องหยุดลงเมื่อเธอตรวจพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็ง และมันกำลังเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่งเธอได้ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนเพื่อไปรักษาตัวต่อที่บ้าน เหล่าลูกศิษย์ของเธอรู้ดีว่าการต่อสู้กับโรคร้ายของเธอใกล้จะจบลงในเร็วๆ นี้ พวกเขาเลยรวมตัวกันไปที่บ้านของคุณครู Marian เพื่อร้องเพลงเซอร์ไพรส์เธอที่นอนอยู่ในบ้าน ซึ่งเป็นเพลงที่ครูเคยสอนและคุ้นเคยดี เมื่อครอบครัวของ Marian เห็นเด็กๆ มายืนกันที่หน้าบ้าน พวกเขาจึงเปิดประตูบ้านเพื่อที่เสียงร้องของลูกศิษย์จะได้เข้าไปถึงเธอได้ง่ายๆ ลองฟังเพลงที่เด็กๆ ร้องเพื่อครูของเธอเป็นครั้งสุดท้ายกัน เพลงที่เด็กๆ เลือกมาร้องเป็นเพลง Oceans โดยศิลปิน Hillsong ที่มีเนื้อหาทราบซึ้งกินใจ เมื่อเพลงที่เด็กๆ ร้องจบลงไม่กี่นาที Marian ก็ได้เสียชีวิตลง ทางด้านครอบครัวของเธอเชื่อว่าบทเพลงทั้งหมดช่วยให้เธอผ่อนคลายและจากไปอย่างสงบ ของคุณคุณครูมากเลย ที่ครั้งหนึ่งได้สั่งสอนให้เด็กๆ มีความรู้ความสามารถ และพวกเขาจะจดจำคุณครูตลอดไป ที่มา heroviral , Inside Edition
-
อุทยานสหรัฐ ค้นพบ “หมีสีน้ำตาลที่จ้ำม้ำที่สุดในโลก” ชี้เป็นสัญญาณที่ดีต่อระบบนิเวศน์
คุณคิดว่าสัตว์อย่างหมีสีน้ำตาลจะสามารถใหญ่ได้มากสุดขนาดไหนกัน? ลองคิดไว้ในใจเล่นๆ แล้วมาอ่านบทความของ#เหมียวฟิ้นกัน เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางอุทยานแห่งชาติ Katmai National Park Service ในรัฐอะลาสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศว่ามีการค้นพบหมีสีน้ำตาล ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบมาเลยก็ว่าได้!! ทางอุทยานได้ตั้งชื่อให้หมีสีน้ำตาลตัวนั้นว่า Otis มันมีอายุราวๆ 20 ปี และคาดว่าน่าจะมีน้ำหนักมากกว่า 400 กิโลกรัมเลยด้วย นาง Anela Ramos ตัวแทนของอุทยาน Katmai National Park ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เราไม่มีอุปกรณ์ที่ใหญ่พอจะไปวัดมัน แต่เราประเมินกันว่ามันน่าจะหนักราวๆ 453 กิโลกรัม ขาดเกินไม่มากกว่านี้” ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหมีสีน้ำตาลจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 317 กิโลกรัมเท่านั้น เจ้า Otis อาศัยอยู่ในเขตแม่น้ำ Brooks ของอุทยาน Katmai และได้รับความคุ้มครองเป็นอย่างดี ซึ่งนอกเหนือจากความอวบอ้วนของมันแล้ว เจ้าหมียังมีหูข้างนึงที่พับลู่ลงมา มีขนสีบลอนด์ที่เข้มโดดเด่น และฟันหน้าหายไป 2 ซี่ ในช่วงฤดูร้อนเจ้า มันจะออกมาหาปลากินในแม่น้ำ มันจะนั่งลงอย่างใจเย็น แล้วรอให้ปลาว่ายน้ำมาหามัน…
-
คนเอาเฟอร์นิเจอร์เก่ามาทิ้งพร้อม ‘สุนัข’ มันก็นอนรอตรงนั้นไม่ไปไหน เจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วย
นี่เป็นภาพที่ชวนสะเทือนใจมาก เพราะเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยภาพถ่ายภาพของสุนัขตัวหนึ่งที่นอนคุดคู้อยู่บนฟูกนอนเก่าๆ และกองเฟอร์นิเจอร์อีกหลายชิ้นที่ไม่ใช้แล้ว บริเวณข้างถนนในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าสุนัขตัวนี้มีชื่อว่า Boo มันนอนเฝ้ารอการกลับมาของเจ้านายอยู่ข้างถนนนานหลายวัน โดยไม่รู้เลยว่ามันถูกทอดทิ้งอย่างไม่ใยดี หลังจากที่มีเพื่อนบ้านหลายคนเห็นมันนอนอยู่ข้างถนน ทุกคนก็ต่างโทรเข้าไปแจ้งแก่หน่วยงานที่ดูแลสัตว์ในเมืองอย่าง Detroit Youth and Dog Rescue เพื่อให้เข้ามาดูแลมันหน่อย Mike Diesel หนึ่งในทีมงานเมื่อได้รับแจ้งก็เดินทางมาถึงที่หน้าบ้านที่เจ้า Boo นอนอยู่ แต่ดูเหมือนว่าในตอนแรกมันจะยังไม่ค่อยเชื่อใจเท่าไหร่ เขาเลยต้องสร้างความไว้วางใจด้วยการให้ไส้กรอกและขนมมันวันละนิดๆ Mike ทำแบบนี้อยู่หลายวันทีเดียวกว่ามันจะยอมเปิดใจ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายในการพามันขึ้นรถ เพราะเขาต้องค่อยๆ ปูทางเดินให้เหมือนกับฟูกที่มันนอนด้วยผ้าห่ม ให้มันขยับตัวที่ละหน่อยๆ จนขึ้นรถในที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้มันตื่นตระหนกและได้รับผลกระทบทางจิตใจนั่นเอง สุดท้ายเจ้า Boo ก็เชื่อใจและยอมเดินทางไปกับนาย Mike เพื่อตรวจดูร่างกาย ให้ข้าวให้น้ำและที่อยู่ที่อบอุ่นมากกว่าแค่ฟูกนอนข้างถนน เรื่องราวทั้งหมดนี้ถูกเผยแพร่ลงในอินเตอร์เน็ตโดยเพื่อนบ้านรายหนึ่งที่ชื่อว่า Liz Marie เธอได้โพสต์ภาพและคลิปวิดีโอการช่วยเหลือเจ้า Boo พร้อมกับข้อความว่า “ภาพพวกนี้ช่างทำร้ายจิตใจฉันเหลือเกิน ฉันน้ำตาไหลจริงๆ Boo เป็นสุนัขน่ารักที่ถูกทิ้งไว้กับกองขยะและข้าวของต่างๆ ตอนที่ครอบครัวของมันย้ายออกไป”…
-
จะฮาหรือเครียดดี!? 18 ภาพกวนประสาทของเหล่าสัตว์โลก ที่ดูไปต้องกุมขมับไป…
แม้ว่าหลายๆ เรื่องในสังคม เราอาจจะมองไม่เหมือนกัน เห็นต่างกัน แต่เชื่อว่ามีสิ่งหนึ่งที่ทุกๆ คนมองเหมือนกันนั่นคือความฮาของสัตว์โลกน่ารักนี่แหละ เมื่อไม่นานมานี้ได้มีสมาชิกเว็บไซต์ Tumblr รวมตัวกันโพสต์ภาพสัตว์ชนิดต่างๆ ที่มีพฤติกรรมแปลกๆ อยู่ในท่าทางฮาๆ หรืออยู่ในเหตุการณ์ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมกับใส่แคปชั่นฮาเพี้ยนๆ ลงไป เราลองไปดูกันดีกว่าว่ามีภาพไหนทำคุณหัวเราะคิกคักได้บ้าง!? 1. ไปคาบบอลมาเจ้าหมา!! (เหมือนๆ จะมีอะไรแปลกไป…แต่สงสัยคงคิดไปเอง) 2. “โอ้วพี่คิดถึงน้องมากเลยน้องนุช ไม่ได้เจอกันตั้งนาน” 3. อย่าบอกว่าพวกแมวดีแต่ซน นี่ดูซะให้เต็มตา พวกมันก็สามารถกลายเป็นที่เสียบปากกาได้ด้วย!! 4. “เราคือแมว ไม่ใช่แตงโมหรือมันฝรั่งอะไรทั้งนั้น” 5. “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” 6. “ตอนนี้พวกเรากำลังคุยธุระสำคัญอยู่นะมนุษย์ ถ้ายังไงออกไปเล่นข้างนอกก่อนนะ” 7. นกฮูกตกใจรูปปั้นนกฮูก… 8. เสือในสวนสัตว์แห่งหนึ่งทำท่าเหมือนหัวตัวเองติดอยู่ในห่วงยาง แต่พอเจ้าหน้าที่ไปช่วยมันดึงออก มันก็สวมห่วงยางเข้าไปใหม่อีกหลายครั้ง… นี่แกอยากจะเป็นสิงโตให้ได้เลยใช่ไหม? 9. “แกคิดว่าการทำรองเท้าให้เหมือนแมวนี่มันตลกมากไหมไอ้มนุษย์?” 10. “คุณเห็นเจ้าแมวที่อยู่ด้านหลังผมไหมครับ…
-
นักว่ายน้ำโอลิมปิกถูกช่วยชีวิตจากมะเร็ง หลังแฟนคลับเห็นสิ่งผิดปกติ จากรูปถ่ายล่าสุดของเขา
เมื่อเราพูดถึงคำว่า “ช่วยชีวิต” หลายๆ คนน่าจะนึกถึงการกระทำที่ยิ่งใหญ่ แต่บางครั้งมันก็สามารถเกิดขึ้นได้จากการกระทำที่เล็กเพียงนิดเดียวเช่นกัน เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอเรื่องราวของนักกีฬาโอลิมปิก Mack Horton ชาวออสเตรเลียวัย 20 ปี ที่เพิ่งจะได้รับเหรียญทองมาจากงาน Rio Games 2016 ที่ผ่านมา แต่ถึงจะเป็นนักกีฬาระดับประเทศก็ตาม เขาก็ยังถูกโจมตีด้วยโรคร้ายอย่างมะเร็ง และที่น่ากลัวไปกว่านั้นก็คือ เขาเองไม่รู้ตัวด้วยว่าตัวเองกำลังป่วยและใกล้ถึงระดับอันตรายเข้าไปทุกทีๆ แต่โชคดีเหลือเกิน ที่หลังจากจบการแข่งขันโอลิมปิกไปได้ไม่นาน ก็มีแฟนตาดีที่นั่งชมเขาอยู่ที่บ้านสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบนร่างกายของเขา มันคือไฝจุดเล็กๆ บนหน้าอก ที่หากดูเผินๆ แล้วทุกคนคงคิดว่ามันคือไฝทั่วๆ ไป แต่แฟนกีฬารายนี้ดันจำได้ว่าเมื่อตอนปี 2012 ที่นาย Horton ไปแข่งว่ายน้ำที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไฝที่หน้าอกของเขายังไม่ใหญ่ขนาดนี้ แฟนกีฬารายนี้จึงเริ่มเอะใจ แล้วรู้ว่ามันอาจเป็นสัญญาณอันตรายแก่สุขภาพของนักกีฬา เขาจึงรีบเขียนอีเมลส่งไปยังสโมสรนักกีฬาว่ายน้ำในประเทศออสเตรเลีย เพื่อเตือนให้นาย Horton รู้ตัวแล้วรีบไปตรวจร่างกาย นี่คือภาพเมื่อปี 2012 ของนาย Horton หลังจากที่ได้รับการเตือนเขาก็รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อออก ต่อมานาย Horton ก็โพสต์ภาพของตัวเองพร้อมกับผ้าพันแผลบริเวณหน้าอก พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “ผมตะโกนออกมาเมื่อได้อ่านอีเมล์ที่มีคนส่งมาถึงแพทย์ประจำทีมว่ายน้ำของเราและบอกให้ผมไปเอาไฝนั่นออก เป็นการเตือนที่ดี…
-
24 ภาพถ่ายแนวสตรีทจากญี่ปุ่น ในมุมมองแปลกๆ อีกด้านของแดนอาทิตย์อุทัย!!
มีสถานที่ในโลกเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ที่จะสามารถดึงดูดให้คนจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางไปเที่ยวชมได้เหมือนกับญี่ปุ่น ในตอนกลางวันสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่จะดูสวยงามราวกับในหนังหรือซีรี่ส์ที่เราเคยดู พอตกตอนกลางคืนเองก็สวยไม่แพ้กัน เช่นตามตรอกซอกซอยของกรุงโตเกียว โอซาก้า หรือเมืองอื่นๆ จะเต็มไปด้วยแสงนีออนที่สวยงาม เหมาะแก่การถ่ายภาพยามค่ำคืนมาก แต่อย่างหลังผู้คนจะไม่ค่อยได้เห็นกัน #เหมียวฟิ้นก็เลยขอนำภาพของช่างภาพชาวญี่ปุ่น 2 คนอย่าง Masashi Wakui และนาย Takeshi Yasui ที่มีมุมมองในการถ่ายภาพที่แปลกแตกต่างกับคนอื่น จนเหมือนว่าภาพทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นในญี่ปุ่น แต่เป็นสถานที่ชวนฝันที่ไหนสักที่ หากคุณเป็นคนที่ไม่เคยเดินทางไปญี่ปุ่นมาก่อนล่ะก็ ภาพเหล่านี้จะทำให้คุณอยากแพ็คกระเป๋าแล้วเดินทางไปเดือนหน้าเลยล่ะ ภาพถ่ายยามค่ำคืน ที่ให้ความรู้สึกเหมือนหนังเรื่อง Blade Runner . มินิมอล . . ในยามที่สัตว์ต้องหลบหิมะ ความต่างระหว่างชนชั้น เมืองแห่งร่ม . . . . . เมืองซากุระ . . ถือกันไปยาวๆ . . . . .…
-
นี่คือ 18 ภาพถ่ายที่ดูเหมือนของปลอม แต่ถ้ามองดีๆ จะเห็นว่าเป็นของจริงทั้งหมด
ในยุคที่โปรแกรม Photoshop เป็นที่แพร่หลาย บางครั้งก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันนะที่จะบอกว่าภาพไหนเป็นภาพจริง ภาพไหนเป็นภาพที่ถูกแต่งเติม ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ที่ได้เห็นภาพที่สวยเกินจริง มักจะอนุมานหรือคาดเดาไปก่อนว่าภาพๆ นั้นไม่มีอยู่จริง แต่ในการถ่ายภาพจริงๆ แล้ว มันมีองค์ประกอบหลายอย่างมากที่ทำให้ภาพๆ หนึ่งออกมาดูสวยงาม เช่นมุมมอง การปรับแสง จังหวะที่ดี สถานที่ที่ดี และหากองค์ประกอบเหล่านั้นมีครบสมบูรณ์ มันก็อาจช่วยให้ภาพที่ได้สวยงามยิ่งกว่าการปรับแต่งใดๆ เสียอีก เช่นภาพที่#เหมียวฟิ้นจะพาไปชมต่อไปนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นภาพถ่ายที่เกิดขึ้นจริงทั้งนั้น ลองไปชมกันเลย 1. นี่อาจดูเหมือนภาพวาด แต่จริงๆ แล้วมันคือภาพของแม่น้ำแห่งหนึ่งในรัฐเม็กซิโก ที่กำลังเหือดแห้ง 2. บางคนอาจจะมองว่าภาพนี้ผ่านการโมเสคมาหรือเปล่า? แต่ความจริงแล้วทั้งหมดนี้เกิดจากการแข็งตัวของบ่อน้ำโดยธรรมชาติ ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 2. นี่ไม่ใช่ภาพถ่ายจากภาพยนตร์เรื่องไหน แต่นี่คือถ้ำน้ำแข็งในไอซแลนด์ ที่เกิดขึ้นจากการละลายของน้ำแข็ง แล้วกลับมาจับตัวกันเป็นก้อนอีกครั้ง 3. ดูเผินๆ อาจจะเหมือนหญิงสาวคนนี้ลอยได้ แต่ความจริงเธอใส่กะโปรงที่ท่อนกลางเป็นสีดำ 4. สะพานสายรุ้งที่เห็นนี้ไม่ได้มาจากหนังเรื่อง Thor แต่เป็นผลงานศิลปะแบบจัดวางของศิลปินที่ชื่อว่า Yvette Mattern 5. หากดูแบบไม่ตั้งใจ บางคนอาจจะนึกว่าถนนเส้นนี้มี 2…
-
ล้ำไปอีกขั้น.. นักวิทย์คิดค้น ‘ยาคุมกำเนิดท่านชาย’ ที่ทำให้สเปิร์มว่ายน้ำไม่ได้!?
เป็นเวลากว่าทศวรรษที่นักวิจัยพยายามคิดค้นทางเลือกในการคุมกำเนิดหลายๆ แบบ เช่นถุงยางอนามัน การทำหมัน หรือยาคุมกำเนิดในผู้หญิง แต่ล่าสุดโลกเรากำลังจะก้าวไปอีกขั้นแล้ว เพราะเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมาเว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่านักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษประสบความสำเร็จในการค้นคว้าตัวยา เพื่อคุมกำเนิดในเพศชายได้สำเร็จแล้ว!! ตามบันทึกของศาสตราจารย์ John Howl หัวหน้าทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Wolverhampton University แห่งประเทศอังกฤษ ผู้คิดค้นเซลล์เจาะสารประกอบเปปไทด์ ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์จากโปรตุเกสได้กล่าวว่า \ มันจะทำงานโดยลักลอบเอาตัวเองเข้าไปอยุ่ในสเปิร์มและทำให้พวกมันหยุดว่ายน้ำทันที นั่นก็หมายความว่าสเปิร์มเหล่านั้นจะไม่สามารถเข้าไปผสมกับไข่ของผู้หญิงจนเกิดเป็นตัวอ่อนได้นั่นเอง ศาสตราจารย์ John ได้อธิบายถึงประสิทธิภาพของยาตัวนี้ว่า “ผลของมันเป็นที่น่าพอใจมาก และเกือบจะออกฤทธิ์ในทันทีเมื่อคุณได้รับสารตัวนี้เข้าไปในร่างกาย ภายในเวลาไม่กี่นาทีสเปิร์มก็จะไม่สามารถขยับตัวได้” ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ชายตัวนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนการทดสอบอยู่ แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ยาตัวนี้จะสามารถวางขายได้ภายในปี 2021 แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะไว้ใจให้ผู้ชายเป็นฝ่ายกินมันเข้าไป เพราะมีการศึกษากับนักศึกษาในมหาวิทยาลัย Anglia Ruskin University ในเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงยังคงไม่ปลอดภัย 100% จากยาตัวนี้ แต่ถ้ามันได้ผล ยาคุมกำเนิดผู้ชายจะมีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะกับคู่ที่ฝ่ายหญิงไม่สามารถกินยาคุมกำเนิดได้เพราะปัญหาด้านสุขภาพ หากตัวยานี้กลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็น่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคู่รักที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตรได้อีกเยอะเลย ที่มา metro , dailymail
-
ยอดคุณพ่อ!! เปลี่ยนภาพวาดตลกๆ ที่ลูกวัย 6 ขวบวาด ให้กลายเป็นสิ่งของที่สมจริง…เอิ่ม
เด็กๆ ในช่วง 5-7 ขวบเป็นวัยที่กำลังซนเลยล่ะนะ พวกเขาจะเรียนรู้แล้วก็ชอบขีดเขียนข้อความหรือภาพต่างๆ (หากบ้านใครมีกำแพงขาวๆ ล่ะก็น่าจะทราบกันดี) แต่จะเป็นยังไงหากภาพวาดบิดๆ เบี้ยวๆ ของพวกเขาจะกลายเป็นสิ่งของที่ดูสมจริงขึ้นมา? เรื่องที่#เหมียวฟิ้นกำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นผลงานภาพวาดของหนูน้อย Dom วัย 6 ขวบ ที่ชื่นชอบการวาดภาพไม่ต่างอะไรจากเด็กคนอื่นๆ แต่ที่พิเศษกว่าหน่อยก็คือ พ่อของเขามีความสามารถในการ Photoshop พอตัว เขาเลยเกิดไอเดียแปลกๆ อย่างการหยิบเอาภาพของลูกชายมาเปลี่ยนให้กลายเป็นสัตว์ สิ่งของ ยานพาหนะที่ดูสมจริง แล้วเผยแพร่มันลงในอินสตาแกรม เราลองมาเดากันเล่นๆ ดีกว่าว่าแต่ละตัวคืออะไร? ดูคล้ายช้าง กลายเป็นแบบนี้… เหมือนแมลงหรือหนอนอะไรสักอย่าง เอ่ออออ ใกล้เคียงที่สุดก็น่าจะเป็นม้า ใช่จริงๆ ด้วย… นี่ยีราฟแน่ๆ ใช่แน่ๆ!! โว้ยยยยย ดูคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นนก… นกก็นกฟระ!! จักรยาน นี่ก็คือจักรยาน… เหมือรรถยนต์…
-
พ่อถูกตำรวจรวบ หลังพาลูกสาวออกไป ‘ทิ้งไว้นอกบ้าน’ ตอนกลางคืน เพื่อตัวเองได้แอบไปเสพยา
คำกล่าวที่ว่า “พ่อแม่ทุกคนรักลูก” ดูจะขัดกับความเป็นจริงอยู่สักหน่อยนะ เพราะในสังคมทั่วไปแล้ว มีทั้งพ่อแม่ที่รัก ดูแลเอาใจใส่ห่วงใยลูก และพ่อแม่ที่ไม่ใยดีไม่สนว่าลูกของตัวเองจะเป็นตายร้ายดียังไงเหมือนกัน เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่น่าตกใจคลิปหนึ่งของนาย Adrian Justin Sanchez วัย 41 ปีจากรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทิ้งลูกสาวตัวน้อยไว้ที่ด้านนอกอาคารของวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ท่ามกลางอุณหภูมิหนาวจัด ชมคลิปได้ที่นี่ ตามรายงานบอกว่านาย Justin ได้พา Acelynn ลูกสาววัย 5 ขวบ ออกมาเดินแถวๆ หน้าวิทยาลัย Ogden Weber Applied Technology College ในเมืองอ็อกเดน รัฐยูทาห์ ในช่วงเวลาประมาณตี 5 จากนั้นเขาก็ทำท่าเหมือนมองหาอะไรบางอย่าง ก่อนจะเดินหนีลูกสาวไป ปล่อยให้เธออยู่อยู่ท่ามกลางอากาศอุณหภูมิ 3.8 องศา พร้อมกับเสื้อกันหนาวและผ้าห่มผืนเล็กๆ จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าหนูน้อย Acelynn เอาแต่เดินไปเดินมา บางครั้งก็หยุดลงนอนกับพื้นบ้าง จนเธอทนไม่ไหวร้องไห้อยู่คนเดียวท่ามกลางความหนาวเหน็บ ต่อมาในเวลา…
-
กลุ้มใจ!! 10 ปัญหาของที่สาว “อกใหญ่” ต้องเจอ ใครไม่ใหญ่จริง ไม่เข้าใจพวกเธอหร๊อก
มีสาวๆ บนโลกใบนี้จำนวนมาก ที่เกิดมาพร้อมกับหน้าอกเล็กๆ หน้าอกปานกลาง แต่มีความคิดที่อยากจะไปเสริมให้มันใหญ่ขึ้น นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรือแปลกอะไรหรอกนะ เพราะมันทำให้เราดูดีดูเซ็กซี่มากขึ้น แต่คุณรู้ไหมว่าการเป็นสาวอกใหญ่นั้นต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง? ในชีวิตประจำวันของพวกเธอต้องเจอกับเรื่องแย่ๆ ร้อยแปด แม้จะมีหุ่นที่เซ็กซี่กว่าคนทั่วไปก็ตาม และวันนี้#เหมียวฟิ้นได้รวบรวมเอาส่วนหนึ่งของปัญหาเหล่านั้นมาเล่าให้ทุกๆ คนได้ฟังกัน ก่อนที่จะตัดสินใจไปเสริมอึ๋มล่ะ 1. คุณไม่สามารถใส่เสื้อเชิ้ตแบบปกติได้ เพราะเมื่อใส่แล้ว หน้าอกของคุณจะไปดันกระดุมให้อ้าออก มันจะทำให้คุณดูโป๊ทันที 2. หาชุดชั้นในที่พอดีๆ ใส่ยาก บราส่วนใหญ่จะมีขนาดพอดีกับหน้าอกไซส์ทั่วๆ ไป และหน้าอกแบบเล็กๆ แต่หากใหญ่เกินไปจะหาบรายากมาก 3. ผู้คนรอบข้างมักจะวิจารณ์ขนาดหน้าอกของคุณ คนรอบข้างทั้งที่สนิทและไม่สนิท มักจะวิจารณ์เรื่องขนาดหน้าอกของคุณแบบไม่สุภาพและไม่ให้เกียรติ โดยที่พวกเขาไม่เคยรู้ตัว 4. ผู้คนมักถามว่าคุณเจ็บหลังหรือเปล่า? อันที่จริงมันก็เป็นการแสดงความเป็นห่วงเป็นใยดีอยู่หรอกนะ แต่มันคล้ายๆ กับการที่คุณถามว่า “คุณไม่หนักนมบ้างเหรอ?” 5. การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ยากสำหรับบางคน การที่คุณมีหน้าอกใหญ่มากๆ ทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เช่นการวิ่ง …กระเพื่อมจนเจ็บเลยล่ะ… 6. ใส่เสื้อผ้าไซส์พอดีตัวมากไม่ได้ แน่นอนว่าพอหน้าอกของคุณใหญ่แล้ว มันจะทำให้คุณดูเซ็กซี่มากกว่าคนอื่น การเลือกใส่เสื้อผ้าพอดีตัวจะเป็นการโชว์สัดส่วนที่มากเกินไป 7.…
-
หญิงสาวสร้าง “วิมานนก” ติดกระจกหน้าต่าง เพื่อจะได้เฝ้ามอง และถ่ายภาพมันตลอดเวลา
สัตว์หลายชนิดได้รับอภิสิทธิ์พิเศษให้มีบ้านเป็นของตัวเองเช่นหมา แมว หรือแม้แต่หนูแฮมสเตอร์ แล้วทำไมสัตว์อย่างนกจะมีบ้านเป็นของตัวเองบ้างไม่ได้? วันนี้เหมียวฟิ้นจะขอชวนเพื่อนๆ ไปชมการตกแต่งบ้านนกแสนอบอุ่น ที่ถูกคิดค้นและสร้างสรรค์โดยนาง Jada Fitch นักวาดภาพสัตว์ป่า ต้องท้าวความก่อนว่าเธอเป็นผู้ที่คลั่งไคล้ในการชมนกมาก เธอจะมีความสุขทุกครั้งที่ได้หยุดดูและถ่ายรูปพวกมันเกาะตามกิ่งไม้ บินเข้ารังของมัน แต่อย่างที่รู้กันว่านกนั้นเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างระวังตัว พวกมันจะไม่ค่อยเข้าใกล้มนุษย์สักเท่าไหร่ Jada จึงไม่สามารถเข้าไปถ่ายภาพมันได้ใกล้ๆ เธอจึงตัดสินใจสร้างบ้านนกเล็กๆ ขึ้นมาจากกล่องกระดาษ แล้วตกแต่งภายในกล่องให้เหมือนกับบ้านคนจริงๆ มีทั้งประตู หน้าต่าง เก้าอี้ รูปภาพครอบครัวนก และเมล็ดทานตะวันล่อให้พวกมันเข้ามา หลังจากที่เธอออกแบบและวาดภาพภายในบ้านนกเสร็จแล้ว เธอก็นำมันไปแปะไว้กับกระจกนอกบ้าน ต่อมาพวกนกก็บินเข้ามาในบ้านที่เธอทำไว้เพื่อมากินเมล็ดทานตะวัน กลายเป็นว่าเธอสามารถเฝ้าดูพวกมันได้ใกล้ชิดเท่าที่จะใกล้ได้เลย “มันใช้เวลาพอสมควรเลย กับการที่นกพวกนั้นจะเข้ามาสำรวจบ้านที่ทำไว้ ฉันตั้งกล้องมือถือไว้บนหนังสือเพื่อถ่ายรูปพวกมัน แล้วใช้หูฟังในการลั่นชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพพวกมันทุกเวลา มีภาพนึงพวกมันโผล่หัวเข้ามาที่หน้ากล้องด้วย” Jada กล่าว หากใครเป็นคนรักนกหรือสนใจผลงานศิลปะอื่นๆ ของเธอล่ะก็ สามารถเข้าไปกดดูเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรม @jadafitch หรือเฟซบุ๊ก Jada Fitch Illustration ได้เลยนะจ๊ะ ที่มา thedodo
-
ยอมใจ!! เด็กจีนวัย 13 ปี ติดในลิฟท์นาน 5 ชั่วโมง ไม่รู้ทำไง เลยหยิบการบ้านมาทำจนเสร็จ
นี่เป็นข่าวที่#เหมียวฟิ้นไม่รู้ว่าจะอึ้ง หรือขำ หรือรู้สึกยินดีกันแน่ เพราะความรู้สึกแต่ละอย่างมันปนกันไปหมดเลย… เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่าเด็กนักเรียนหนุ่มชาวจีนนามว่า ซุน ยี่เสี่ยว วัย 13 ปี ได้ติดอยู่ในลิฟท์ระหว่างที่เขากำลังเดินทางกลับบ้าน อันที่จริงแล้วเขาสามารถกรีดร้องหรือพยายามทุบประตูเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้คนภายนอกได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะใจเย็นมากกว่าเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆ เด็กชายซุนจึงกดปุ่มไปยังชั้นต่างๆ เพราะเชื่อว่าเป็นการป้องกันไม่ให้ลิฟท์ตกลงไปข้างล่าง จากนั้นเขาก็พยายามที่จะใช้ระบบอินเตอร์คอมเพื่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ภายนอก แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลอะไรเลย ไม่มีเสียงใครตอบรับกลับมา เป็นคุณจะทำยังไงต่อ!? เขาก็เลยหยิบเอากระดาษออกมาจากกระเป๋าแล้วเริ่มเขียนข้อความร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย โดยมีข้อความว่า “มีคนอยู่ในลิฟท์ ขอร้องช่วยติดต่อคนดูแลตึกนี้หน่อย” จากนั้นก็พยายามหย่อนมันเข้าไปในช่องระหว่างประตูลิฟท์ และหวังว่าจะมีคนมาเห็นเข้อ แล้วเมื่อไม่มีอะไรให้ทำนอกจากการนั่งรอคอยความช่วยเหลือแล้ว เด็กชายซุนก็หยิบเอาการบ้านออกมา แล้วนำกระเป๋านักเรียนมาวางไว้ที่ตักเพื่อทำเป็นโตะ ก่อนจะลงมือทำการบ้านที่คุณครูสั่งอย่างใจเย็น ตั้งแต่วิชาคณิต ต่อด้วยวิชาวิทยาศาสตร์ และวิชาภาษาจีน เวลาล่วงเลยผ่านไปได้สักพักจนเด็กชายซุนทำการบ้านได้เสร็จหมดทั้ง 3 วิชาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครมาช่วยเหลือเขาสักที หลังจากที่ผ่านไป 5 ชั่วโมง ก็มีนักดับเพลิงเปิดประตูเข้ามาพาเขาออกไปจนได้ แถมยังทึ่งที่พบว่าเขาทำการบ้านอย่างใจเย็นจนเสร็จหมดทุกวิชา เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไปในโรงเรียน เด็กชายซุนก็ได้รับสมญาจากเพื่อนๆ ว่า “นักเรียนหัวเย็น” น้องทำใจเย็นอยู่ได้ไงเนี้ยะ!! ที่มา rocketnews24
-
ไม่ต้องรอนาน บริษัทจีนผลิตเครื่องเล่นเกมคล้าย Nintendo Switch วางขายตั้งแต่ปีก่อน
เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับเครื่องเล่นเกมตัวใหม่จาก Nintendo ในชื่อรุ่นว่า Nintendo Switch ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาไปทั่วโลกเลยทีเดียว เพราะมันคือเครื่องเล่นเกมแบบไฮบริด ที่ผสมผสานระหว่างเครื่องคอนโซลแบบปกติ กับเครื่องเล่นเกมพกพาเอาไว้ด้วยกัน จุดเด่นๆ ของมันเลยก็คือตัวจอยเกม ที่สามารถถอดปุ่มบังคับออกมาจากตัวจอยได้ แล้วนำมันมาเสียบเข้ากับหน้าจอ (ที่คล้ายกับแท็บเล็ต) มันก็จะกลายร่างเป็นเครื่องเล่นเกมพกพาอีกเครื่องหนึ่งไปเลย ต่อกันแล้วออกมาแบบนี้ นอกจากนี้เจ้าปุ่มคันบังคับที่ถอดเข้าถอดออกได้นี้ มันยังสามารถแยกร่างกันทำงาน เพื่อให้กลายเป็นจอยเล็กๆ 2 อัน เหมาะสำหรับการเล่นเกม 2 คนได้อย่างน่าทึ่ง เรียกได้ว่างานนี้เอาใจตลาดกลุ่มคนเล่นเกมแบบครอบครับจริงๆ แต่สิ่งที่#เหมียวฟิ้นจะนำเสนอจริงๆ ไม่ใช่ความตื่นตะลึงที่มีต่อเครื่องเกม Nintendo Switch หรอกนะ แต่เป็นเครื่องเล่นเกมจากอีกบริษัทหนึ่ง ที่ดั๊นนนมีหน้าตาเหมือนกันมาก เครื่องเล่นเกมที่ว่านี้มีชื่อว่า Morphus X300 ผลิตโดยบริษัท Aikun Electronics ส่งตรงจากประเทศจีน ที่มีคุณลักษณะในการถอดจอยออกได้เหมือนกับ Nintendo Switch โดยจะต่างจากแท็บเลตทั่วไปตรงที่เจ้าตัวนี้ทำมาเพื่อเป็น Gaming Machine โดยเฉพาะ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าเครื่อง Morphus X300 ได้ก็อปปู่นินนะ เพราะว่าเจ้าเครื่องนี้วางขายมาตั้งแต่เมื่อปี 2015 แล้ว และยังทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ…
-
ซวยทั้งหน้าหลัง… ลูกค้าเผลอทำทีวีจอโค้งล้ม ตกใจไปชนข้างหลังล้มอีกมูลค่ากว่า 2 แสน!!
หากคุณคิดว่าวันนี้เป็นวันที่แย่ที่สุดในชีวิตของคุณแล้วล่ะก็ อย่าเพิ่งน้อยใจไป เพราะว่าวันนี้ #เหมียวฟิ้น เจอคนที่ซวยยิ่งกว่าคุณแล้วล่ะ… เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่เดินเข้าไปเลือกซื้อทีวีในร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่งในเขตปกครองคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ แต่ในระหว่างที่เขากำลังก้มๆ เงยๆ เลือกดูทีวีจอโค้ง OLED ขนาดใหญ่อยู่ตัวนึง จู่ๆ เขาก็เผลอทำมันล้มลงไป เท่านั้นยังไม่พอ มันยังล้มไปโดนเข้ากับทีวีอีกเครื่องที่วางติดกันจนเหมือนกับโดมิโน่ยังไงยังงั้น ความซวยของเขายังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อเขาเกิดอาการตกใจ จึงถอยหลังออกไปเล็กน้อย แล้วชนเข้ากับทีวีอีก 2 เครื่อง กลายเป็นว่าเขาทำทีวีจอโค้งรุ่นใหม่ร่วงลงไปกับพื้นถึง 4 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าแล้วกว่า 5,000 ปอนด์ หรือราวๆ 215,300 บาท!! เมื่อพนักงานในบริเวณนั้นเห็นเข้าก็ถึงกับยกมือป้องปากด้วยความสะพรึง ก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาช่วยลูกค้าหน้าเจื่อนเก็บทีวีที่ตกอยู่บนพื้น ด้านนาย Mike Collins ผู้ช่วยผู้จัดการของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “มันเป็นช่วงที่ช็อคมากและเห็นได้ชัดเลยว่ามันไม่ดีเอามากๆ ที่เราสูญเสียทีวีในสต็อกไปมากขนาดนี้” “ทีวีได้รับความคุ้มครองจากประกันและตอนนี้เราส่งพวกมันกลับไปที่ศูนย์ซ่อมแล้วเพื่อดูว่ามันเสียหายตรงไหนบ้าง ซึ่งแค่ละเครื่องมีค่าซ่อมมากกว่า 43,000 บาทเลย” …
-
ฉีกขอบเดิมๆ!! นี่คือ 17 พิซซ่าหน้าแปลกจากรอบโลก ที่คนไทยอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
เราชาวไทยอาจจะคุ้นเคยกับพิซซ่าหน้าตาปกติ ที่เป็นแผ่นแป้งกลมๆ และเต็มไปด้วยเครื่องเคียงเช่นกุ้ง สับปะรด เห็ด ปูอัด และอีกมากมาย แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นจะขอพาทุกคนไปฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ ด้วย 17 พิซซ่าหน้าตาแปลกจากรอบโลกที่มีขายอยู่จริง และคนไทยอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน ว่าแล้วก็ไปเปิดหูเปิดตากันเลย 1. พิซซ่าเนื้อจระเข้ เมนูพิเศษที่หากินได้เฉพาะที่โรงแรม The Rocks กรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย 2. พิซซ่าขวดโหล ใช้ขวดโหลบรรจุพิซซ่า พกพาไปกินได้สะดวกกว่าเดิม 3. พิซซ่าแบล็คเบอร์รี่และใบยี่หร่า ผลไม้กับของคาวสามารถเข้ากันได้อย่างเหลือเชื่อ 4. พิซซ่าอมยิ้ม ปั้นพิซซ่าเป็นก้อนกลมแล้วเสียบไม้ 5. พิซซ่าจั๊กจั่น ถึงจะหน้าตาแปลกหน่อย แต่มีขายจริงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในรัฐมิซซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา 6. พิซซ่าถั่วกระป๋อง ร้านอาหารในอังกฤษได้นำถั่วกระป๋องสำเร็จรูปมาดัดแปลงจนเกิดเป็นพิซซ่า 7. พิซซ่าเป็ปเปอโรนีแบบพัฟ นี่อาจจะเป็นพิซซ่าหน้าตาแปลกไปสักหน่อย เพราะมันออกจะเป็นการม้วนๆ ให้กลายเป็นก้อน แล้วค่อยจิ้มกับซอสมะเขือเทศแทนที่จะเป็นการราดแล้วเอาไปอบ 8. พิซซ่ามันฝรั่งทอด นี่น่าจะเป็นพิซซ่าที่ไม่น่าเรียกตัวเองว่าพิซซ่าที่สุด เพราะมันคือมันฝรั่งที่ราดด้วยชีส เป็ปเปอโรนีแล้วก็ใบออริกาโน่ 9. พิซซ่าดิป…
-
นักผจญภัยในป่าเจ้าเดิม ทดลองจับ “ทารันทูล่าฮอว์ค” ต่อยแขนตัวเอง เพื่อดูว่าอึดได้แค่ไหน
หากใครยังจำกันได้ ในคราวก่อน#เหมียวฟิ้นได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อว่านาย Coyote Peterson ผู้ดำเนินรายการเกี่ยวกับการบุกป่าฝ่าดงบนยูทูบที่ชื่อ Brave Wilderness นาย Peterson มักจะชอบนำเอาแมลงหรือสัตว์ชนิดต่างๆ ที่ได้ชื่อว่าต่อยหรือกัดเจ็บสุดๆ มาลองกับตัวเอง เพื่อดูว่าเขาจะสามารถทนต่อความเจ็บนั้นได้มากน้อยแค่ไหน ในบทความก่อนหน้านี้เขาได้จับเอามด Cow Killer Ant (มดนักฆ่าวัว) มาต่อยตัวเอง ผลปรากฏว่าตอนนั้นเขากรีดร้องเสียงหลงกันเลยทีเดียว แถมพิษของมันแล่นลงสู่แขนจนเกิดเป็นรอยแดงๆ ไปทั่ว ล่าสุดดูเหมือนว่าความซาดิสม์ของเขาจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เพราะเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา เขาได้ปล่อยคลิปตัวใหม่ คราวนี้เขาได้จับเอาตัว Tarantula Hawk (ทารันทูล่าฮอว์ค) แมลงที่ได้ชื่อว่ามีเหล็กในที่เจ็บที่สุดเป็นอันดับสองของโลก สาเหตุที่มันได้ชื่อว่าทารันทูล่าฮอว์คเป็นเพราะว่าพวกทารันทูล่าฮอว์คตัวเมียมักจะบินไปในอากาศเพื่อตามกลิ่นสารเคมีของแมงมุมทารันทูล่า จากนั้นก็ทำการล่าพวกมันแล้วนำมาให้ลูกๆ ของมันกินเป็นอาหาร จากการศึกษาพบว่าเหล็กในของพวกมันสามารถสร้างความเจ็บปวดได้มากเกือบจะที่สุดในโลก เป็นรองก็เพียงแค่ Bullet Ant (มดกระสุน) เท่านั้น ในคลิปนี้ก็เหมือนกับคลิปก่อนๆ นาย Coyote จับแมลงมาไว้ในขวดแก้ว จากนั้นก็จับมันมาต่อยที่แขนของตัวเอง ทันทีที่เหล็กในเข้าไปในแขนเขาก็เริ่มกรีดร้องออกมาทันที ในระหว่างที่ความเจ็บปวดกำลังแทรกซึมเข้าไปในแขนของเขา เจ้าตัวก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย บอกได้เพียงว่า “นั่นคือความเจ็บปวดที่ผมเคยเจอมาเลย” …
-
ตัวแทนแห่งดวงจันทร์!! ญี่ปุ่นผลิตชุดเครื่องสำอาง “เซเลอร์มูน” แด่สาวแฟนคลับทุกคน
บริษัทผู้ผลิตของเล่นหลายแห่งมักจะมีวิธีในการดูดเงินออกจากกระเป๋าของเราได้ แม้ว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม… เมื่อไม่นานมานี้บริษัท Premium Bandai ได้คิดหาวิธีดูดตังค์จากสาวๆ…ด้วยของใช้ที่เป็นลวดลายแบบเดียวกับที่ปรากฏอยู่ในการ์ตูน Sailor Moon และ Sailor Moon S ของใช้ที่ว่านั่นก็คือเครื่องสำอางรูปแบบต่างๆ นั่นเอง เครื่องสำอางแต่ละชิ้นถูกออกแบบให้เหมือนกับอุปกรณ์แปรงร่างของตัวละคร ประหนึ่งว่าคุณคืออุซางิ กำลังแปรงร่างเป็นเซเลอร์มูนยังไงยังงั้นเลย อุปกรณ์ในเซ็ทที่ถูกปล่อยออกมามีตั้งแต่จอกพระจันทร์สายรุ้ง, เซเลอร์มูนสติ๊ก และคฑาเซเลอร์มูน ทีนี้ล่ะมันจะทำให้พวกคุณเสียเวลากับโต๊ะเครื่องแป้งมากขึ้นไปอีก (เพราะมัวแต่ยืนวาดลวดลายแปรงร่างอยู่นานสองนาน) ตอนนี้คุณสามารถพรีออเดอร์สินค้าต่างๆ ได้แล้ว ผ่านเว็บไซต์ p-bandai.jp (จอก และ คฑา) แน่นอนว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน ใครอ่านไม่ออกก็คงต้องใช้วิทยายุทธกันนิดนึงนะ ราคาอยู่ที่ชิ้นละ 1,170 บาท ถึง 1,700 บาท โดยจะเริ่มจัดจำหน่ายและส่งให้กับลูกค้าในช่วงเดือนธันวาคม ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของเซเลอร์มูนไม่ควรพลาดเด็ดขาด ที่มา rocketnews24
-
เมาฟรีลูกหมาป่า!! ไร่องุ่นอิตาลี เปิดตัว “น้ำพุไวน์” ให้ทุกคนดื่มฟรีๆ ตลอด 24 ชั่วโมง
หากคุณคิดว่าความสุขของคุณคือการได้นั่งจิบไวน์อย่างสบายอารมณ์ ในบรรยากาศร่มรื่นแล้วล่ะก็ สถานที่ต่อไปนี้นี่แหละ คือสวรรค์ที่แท้จริงของคุณเลยล่ะ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าที่ไร่องุ่น Dora Sarchese เมือง Caldari di Ortona แห่งแคว้น Abruzzo ประเทศอิตาลี ได้สร้างน้ำพุสุดแหวกแนวขึ้นมา ที่มันแปลกกว่าน้ำพุอื่นๆ ก็เพราะว่าน้ำที่ออกมานั้นไม่ใช่น้ำประปาธรรมดาๆ แต่มันคือน้ำพุไวน์!! ที่จะทำให้คุณได้ลิ้มรสชาติของมันแบบตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว ตอนนี้มีหน่วยงานที่ไม่หวังผลกำไร เข้าไปตรวจสอบและจัดทำสถานที่ให้เหมาะแก่การเป็นสถานที่บริการสำหรับนักปีนเขา นักเดินทางและนักท่องเที่ยวที่รู้สึกกระหายแล้ว ทางไร่องุ่นเองก็ได้ออกมาบอกว่าการสร้างน้ำพุไวน์แห่งนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อให้คนมาเมากันแบบฟรีๆ ตั้งแต่แรก มันถูกสร้างขึ้นเพื่อนักแสวงบุญที่เดินทางไปที่นั่น แต่ก็อนุญาตให้คนทั่วไปดื่มได้เช่นกัน แม้จะดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่มันก็ได้เกิดขึ้นจริงแล้วแถมยังอนุญาต ให้คุณได้นำแก้วไปรองกินกันแบบฟรีๆ เลยด้วย มีใครอยากจะลองไปเที่ยวที่ไร่องุ่นแห่งนี้สักครั้งบ้างไหม? ที่มา metro
-
รักสายฟ้าแล่บ!! คู่รักชาวอินโดนีเซียเจอกันผ่านแอพฯ จีบกัน และแต่งงานกัน ภายใน 7 วัน!!
ความรักของคู่รักแต่ละคู่มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปนะ บางคนอาจจะใช้เวลาศึกษากันนานเป็น 10 ปี บางคู่ปีเดียว บางคู่ 6 เดือน แต่คงจะไม่มีคู่รักคู่ไหนที่คบกันได้รวดเร็วและแต่งงานกันได้เร็วเท่าคู่รักชาวอินโดนีเซียคู่นี้แน่ๆ (ถ้ามีก็คงน้อยมาก) นี่เป็นเรื่องราวของนักธุรกิจหนุ่มชาวอินโดนีเซียผู้ร่ำรวยที่ชื่อว่า Pablo Putera Benua วันหนึ่งเขาได้ลองดาวน์โหลดแอพฯ หาคู่ Tinder มาลองใช้ดู ทำให้เขาได้รู้จักกับ Rey Utami ดาราและพิธีกรสาวที่มีชื่อเสียงของอินโดนีเซีย แต่แทนที่พวกเขาจะเสียเวลาศึกษาดูใจกันนานเป็นเดือนหรือเป็นปีแบบคู่รักคู่อื่น พวกเขากลับใช้ทุกวินาทีได้อย่างคุ้มค่า (?) ยกตัวอย่างเช่น วันที่ 1 พวกเขาได้เจอกันและคุยกันในเดทแรก ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี วันที่ 2 พวกเขาไปออกเดทกันอีกครั้ง ฝ่ายชายซื้อรก Honda HRV มูลค่า 976,900 ให้กับเธอ วันที่ 3 คราวนี้ฝ่ายชายซื้อนาฬิกาเรือนละ 10 ล้านบาทให้เป็นของขวัญกับเธอ วันที่ 4 ฝ่ายชายขอดาราสาวแต่งงาน วันที่ 5 ทั้งคู่ไปพบหน้าพ่อแม่ของฝ่ายหญิงเพื่อขอลูกสาวและตกลงเรื่องงานแต่ง วันที่ 6 ทำวิดีโอพรีเซ้นท์งานแต่งงาน วันที่ 7…
-
เอาจริง? ร้านอาหารนำแก้วน้ำที่ “Justin Bieber” ดื่ม มาขายต่อในเน็ตในราคา 2.8 ล้านบาท!!
หากพูดถึงศิลปินนักร้องชายต่างประเทศที่ดังๆ ในตอนนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักพ่อหนุ่มชาวแคนาดา Justin Bieber อย่างแน่นอน เพราะเขาเข้าวงการมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นหน้าละอ่อน จนตอนนี้แตกเนื้อหนุ่มกลายเป็นผู้ชายที่สาวๆ เกือบทั่วโลกใฝ่ฝันหา และด้วยความหล่อเหลานี่เอง ทำให้กลายเป็นที่จับตามองมาก ว่าเขาจะคบกับใคร จะเดินทางไปไหน หรือแม้กระทั่งใช้ข้าวของอะไร ก็ดูจะเป็นที่สนใจไปเสียหมด ล่าสุดเว็บไซต์ต่างประเทศหลายแห่งได้รายงานว่าพ่อหนุ่ม Justin Bieber พร้อมด้วยบอดี้การ์ด ได้เดินทางไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหารในโรงแรม Kings Oak มณฑลเอสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ ตามรายงานบอกว่า Bieber ได้สั่งแซลมอน 1 จาน และนม 1 แก้ว แต่ปรากฏว่าหลังจากที่เขาเรียกเก็บเงินและออกจากร้านไปแล้ว ทางร้านได้เก็บแก้วใบนั้นที่มีรอยริมฝีปากของ Bieber มาประมูลผ่านเว็บไซต์ eBay แบบขำๆ เพื่อดูปฏิกิริยาของแฟนๆ ด้านผู้ช่วยผู้จัดการ Amy Potter ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เขาเป็นคนดีมากๆ และดูเป็นกันเอง แต่จากนั้นเขาก็ต้องรีบไปต่อ เพราะถ้ามีคนถ่ายภาพเขากินอาหารที่ร้านนั้นแล้วนำไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต ผู้คนและเด็กๆ จะแห่กันมาที่ร้านนับร้อย” แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Bieber ย่อมเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ ที่จะให้คนอื่นๆ ได้แก้วใบนั้นไป ทุกคนจึงพยายามประมูลด้วยราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ …
-
ไอเดีย+ของเล่น=!? นักศึกษาฮ่องกงออกแบบถุงกระดาษ เปลี่ยนให้คุณเป็น “มนุษย์เลโก้”
หากใครยังจำกันได้ เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ของเราได้นำเสนอเกี่ยวกับ หมวกกันน็อคจำลองทรงผม ‘Zac Efron’ ที่พอสวมใส่แล้วจะทำให้คุณมีหน้าตา (หรือเฉพาะหัว) เหมือนกับตัวต่อเลโก้ยังไงยังงั้น มาวันนี้เราจะขอมาแนะนำอุปกรณ์อื่นๆ ที่ช่วยแปลงร่างคุณกลายเป็นมนุษย์ Lego กันบ้าง นั่นก็คือถุงกระดาษนั่นเอง สิ่งที่ทุกคนกำลังเห็นต่อไปนี้คือถุงกระดาษที่ถูกออกแบบโดย Joon Ho Ahn นักศึกษาชาวฮ่องกงจากโรงเรียน New York’s School of Visual Arts (โรงเรียนทัศนศิลป์แห่งนิวยอร์ก) ซึ่งไอเดียทั้งหมดนี้ง่ายมาก เพียงแค่เติมชิ้นส่วนของกระดาษที่บริเวณจับออกมาเล็กน้อยแล้วลงสีให้เหมือนกับมือ Lego เพียงเท่านี้ก็จะทำให้มือของคุณกลายเป็นของเล่นได้แล้ว จากมุมนี้จะเห็นว่ามีสายจับอยู่ด้านในด้วย นอกจากถุงกระดาษแล้ว ยังมีข้าวของเครื่องใช้เกี่ยวกับ Lego อีกหลายอย่างที่เขาเคยได้ออกแบบ เช่น กล่องใส่ Lego หรือรถขนาดเล็กสำหรับเด็กจาก Lego การสร้างถุงกระดาษ Lego นี้ยังเป็นเพียงแนวคิดที่กำลังออกแบบเท่านั้น แต่เราเชื่อว่าสักวันหนึ่งมันจะกลายเป็นถุงที่ถูกนำมาใช้จริงๆ ในอนาคตอย่างแน่นอน ที่มา boredpanda
-
ช่างภาพแมว ถ่ายโชว์ความน่ารักของ ‘แมวตาบอด’ เพื่อให้ผู้คนเห็นใจ แล้วรับมันไปเลี้ยง…
ในต่างประเทศมีการแก้ไขปัญหาแมวจรจัดอยู่ด้วยกันหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือการรับพวกมันมาฉีดยาป้องกันโรคแล้วเผยแพร่ภาพพวกมันลงในอินเตอร์เน็ต เพื่อให้คนที่สนใจมารับพวกมันไปเลี้ยง จะได้เป็นการลดประชากรแมวไร้เจ้าของไปด้วย หนึ่งในช่างภาพที่ทำหน้าที่ถ่ายภาพพวกแมวเหล่านั้นคือชาวอเมริกันที่ใช้ชื่อว่า Casey เขามีอาชีพเป็นช่างภาพแมวให้กับองค์กรช่วยเหลือสัตว์ Milo’s Sanctuary ในกรุงลอสแองเจลิส ที่ช่วยถ่ายภาพแมวเพื่อให้คนรับไปเลี้ยงมาแล้วหลายต่อหลายตัวแล้ว เมื่อประมาณไม่กี่เดือนก่อน เขาได้เริ่มตระหนักว่าจำนวนแมวตาบอดที่สถานสงเคราะห์ที่เขาทำงานอยู่นั้นค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงตัดสินใจจับพวกมันมาถ่ายภาพทีละตัวๆ เพื่อให้คนทั่วไปได้มองเห็นถึงความน่ารักสดใสของแมวตาบอดบ้าง นี่คือ Cooper มันถูกพบขณะยังเป็นลูกแมวตาบอดตัวเล็กๆ กำลังหลงทาง หวาดกลัวและหิวโหย เจ้า Pixie ถูกโยนลงมาบนกลางถนนทั้งที่ตาบอด แถมยังตั้งท้อง แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่จากสถานสงเคราะห์สัตว์ Milo’s Sanctuary ช่วยชีวิตเอาไว้ Sir Thomas ถูกคนใจร้ายเทน้ำกรดลงบนใบหน้าของมัน แม้จะตาบอดไปข้างหนึ่ง แต่ตอนนี้มันก็มีสุขภาพที่แข็งแรงแล้ว นี่คือ Phoenix Flamepaws ผู้ที่ถูกช่วยเหลือมาจากกลางถนนในลอสแองเจลิส มันทั้งตาบอดและป่วย แต่ก็ยังรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ Regis แมวที่ถูกช่วยเหลือมาจาก Kill Shelter (สถานรับเลี้ยงสัตว์ที่กำหนดเวลา หากไม่มีใครมารับไปเลี้ยงจะถูกการุณยฆาต) เนื่องจากเจ้านายของมันเสียชีวิตไป มันป่วยเป็นโรคต้อหิน จนต้องผ่าตัดนำดวงตาออกไป เจ้า Oliver…
-
ลองไหม!? ญี่ปุ่นนำกระแสเซ็กซี่ “Tawawa Challenge” วางโทรศัพท์ลงบนหน้าอกตามการ์ตูน
ต้องขอขอบคุณการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่กำลังออกอากาศที่ญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้เลย เพราะมันได้สร้างปรากฏการณ์ “ดูมๆ” ขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ การ์ตูนเรื่องนั้นมีชื่อว่า Getsuyoubi no Tawawa เป็นหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ที่โด่งดังจนถูกนำไปสร้างเป็นแอนิเมชั่น และเมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างสั้นๆ ออกมาให้ชมกันแล้ว ซึ่งในแอนิเมชั่นตัวนี้ก็ได้มีฉากๆ หนึ่ง ที่เผยให้เห็นภาพตัวละครหญิง (ที่มีหน้าอกค่อนข้างใหญ่) กำลังวางมือถือลงบนหน้าอกของเธอแล้วดูหน้าจอ จนสาวๆ หลายคนในโลกออนไลน์อดไม่ได้ที่จะทำตาม และเกิดเป็นกระแส “Tawawa Challenge” ขึ้นมา กิจกรรม Tawawa Challenge ที่ว่านี้ก็ง่ายมาก เพียงแค่สาวๆ วางมือถือลงบนหน้าอก (หรือจะเป็นอะไรก็ได้ที่คุณอยากเอามาใช้) แล้วทรงตัวไว้ให้ดีๆ ไม่ให้มันหล่น เกิดเป็นปรากฏการณ์ดูมๆ ในเครือข่ายสังคมของญี่ปุ่นเลย นอกจากสาวๆ แล้ว ยังมีหนุ่มๆ ออกมาทำกิจกรรมนี้ผ่านทวิตเตอร์กันด้วย เช่นชายหนุ่มบางคนที่เล่นกล้ามจนมีหน้าอกที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยแบบนี้ แต่ก็มีสาวๆ หลายคนออกมาแสดงความสนุกสนานเกี่ยวกับกิจกรรมนี้ โดยที่ไม่ได้โชว์ความเซ็กซี่เพียงอย่างเดียว เช่นสาวคนนี้ ที่หาวิธีวางมือถือลงบนหน้าอก (เหรอ)…
-
‘แม่ไปแล้วนะ…’ ช่างภาพรัสเซีย บันทึกภาพวินาทีแม่หมีทิ้งลูกริมแม่น้ำ เพื่อให้เผชิญชีวิตเอง!!
ถือเป็นช่วงเวลาเจ็บปวดหัวใจมากทีเดียว เพราะเรื่องราวที่ #เหมียวฟิ้น จะนำเสนอต่อไปนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อแม่สัตว์ ที่ดันทอดทิ้งลูกของตัวเองต่อหน้าต่อตาของช่างภาพ เพื่อให้ลูกๆ ของมันได้ใช้ชีวิตในแบบของตนเอง ภาพเหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ผ่านช่างภาพผู้ไม่เปิดเผยตัวตนรายหนึ่งเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา ในวันนั้นเขาได้ไปอยู่ที่แม่น้ำเยนีเซย์ ในเขตเมืองครัสโนยาสค์ ประเทศรัสเซีย และดันเห็นภาพสุดสลดของครอบครัวหมีครอบครัวหนึ่ง ภาพที่เขาเห็นคือภาพของแม่หมีกำลังยืนอยู่กับลูกหมี 2 ตัว อายุราวๆ ขวบครึ่ง ที่บริเวณแม่น้ำเยนีเซย์ คล้ายกับกำลังทำพิธีอะไรสักอย่าง จากนั้นแม่หมีก็เดินลงไปในแม่น้ำโดยไม่หันกลับไปมองลูกๆ ของมันอีก ก่อนจะว่ายน้ำหายลับไป นั่นถือเป็นการอำลากันครั้งสุดท้ายของแม่หมี นี่ถือเป็นการเลือกสถานที่ได้เหมาะมาก เพราะเมื่อแม่หมีลงแม่น้ำไปแล้ว ลูกๆ ก็จะไม่สามารถตามกลิ่นของแม่มันได้เลย ในตอนแรกนั้นลูกหมีทั้ง 2 ยังไม่รู้ตัวว่าแม่หมีพยายามทำอะไรกันแน่ จนกระทั่งแม่ของค่อยๆ หายลับไปจากตา แต่พวกมันก็ไม่ได้ว่ายน้ำตามแม่ของมันไป อาจจะเพราะว่ายน้ำไม่แข็ง หรือไม่รู้ว่าแม่หมีจะไม่กลับมาอีกแล้ว ได้แต่นั่งรอแม่ของมันที่ริมแม่น้ำ ตกค่ำพวกมันก็กลับเข้าป่าไปหาที่นอน พอรุ่งเช้ามันก็ออกมานั่งรอแม่หมีที่เดิมเป็นแบบนี้อยู่หลายวัน ช่างภาพที่เผยแพร่ภาพนี้ออกมาได้ให้ความเห็นว่า “ผมไม่เคยเห็นครอบครัวหมีทำแบบนี้มาก่อนเลย พวกมันยืนอยู่ด้วยกันเพื่อนัดแนะอะไรบางอย่าง จากนั้นแม่ของมันก็ลงน้ำแล้วหายไปเลย” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการรายงานข่าวว่ามีลูกหมีถูกพ่อแม่ของมันทิ้ง เพราะเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2015 เว็บไซต์ของเราก็เคยได้รายงานเรื่องเกี่ยวกับลูกหมีที่ถูกทอดทิ้งไว้กลางแม่น้ำมาแล้ว ตามธรรมชาติแล้วแม่หมีจะเลี้ยงลูกไปราวๆ 15-30 เดือน…
-
พบกับ ‘แพนด้าสีน้ำตาล’ ตัวเดียวในโลก ถูกทอดทิ้งไว้กลางป่า เพราะสีไม่เหมือนตัวอื่น
เมื่อเรานึกถึงแพนด้า เชื่อว่าทุกคนน่าจะนึกถึงเจ้าหมีตัวสีขาวๆ ดำๆ แน่นอน แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าในโลกนี้ยังมีหมีแพนด้าสีอื่นนอกจากขาวดำด้วยนะ นี่คือเรื่องราวของเจ้า Qizai หมีแพนด้าเพศผู้วัย 2 เดือนที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติ ทำให้มันมีสีขาวปนน้ำตาล และเนื่องจากที่มันมีสีแตกต่างจากแพนด้าทั่วไป ทำให้มันมักจะถูกแพนด้าตัวอื่นแกล้งอยู่บ่อยครั้ง วันหนึ่งเจ้า Qizai ก็ถูกแม่ของมันทอดทิ้งไว้กลางป่าบนภูเขา Qingling ที่ประเทศจีน อาจเนื่องมาจากการที่มันมีสีแตกต่างจากแพนด้าตัวอื่น ทำให้แม่ของมันรู้สึกว่าลูกของตัวเองแปลกแยกจากครอบครัวก็เป็นได้ นักวิทยาศาสตร์กล่าวถึงเหตุผลที่มันมีสีสันแปลกไปว่า นี่อาจเป็นการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม และนั่นทำให้แพนด้าตัวอื่นๆ ปฏิเสธมัน จนกระทั่งมันถูกทอดทิ้งให้ใช้ชีวิตเพียงลำพัง แต่มันก็เร่ร่อนอยู่ได้ไม่นาน เพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ไปเจอเข้า จึงช่วยเหลือมันและนำกลับมาเลี้ยงดูต่อที่ศูนย์ช่วยเหลือแพนด้าต่อไป ปัจจุบันเจ้า Qizai มีอายุได้ 7 ขวบแล้ว และกลายเป็นแพนด้าสำหรับศึกษาสายพันธุ์อย่างดี เพื่อที่นักวิทยาศาสตร์จะได้ไขปริศนาว่าทำไมมันถึงมีขนสีน้ำตาล ตอนนี้ทางด้านผู้เชี่ยวชาญแพนด้าในจีนได้วางแผนที่จะหาคู่ให้กับมันแล้ว และดูเหมือนว่ามันจะมีความสุขกับชีวิตขึ้นเรื่อยๆ ที่หมู่บ้านแพนด้าในจีน เจ้า Qizai มีผู้ดูแลส่วนตัวที่คอยเอาใจใส่มันตลอดเวลา ผู้ดูแลจะต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าและเข้านอนเวลาเที่ยงคืน เพื่อให้มั่นใจว่ามันจะกินอิ่มและนอนหลับอย่างสบายที่สุด แม้จะแตกต่างจากแพนด้าทั่วไป แต่บางคนก็บอกว่า มันมีความน่ารักมากกว่าแพนด้าปกติเสียอีก …
-
เรื่องราวดีๆ ของ ‘เจ้าแรคคูน’ ผู้ทำลายความเย็นชาของ ‘แมวขาโหด’ กลายเป็นเพื่อนซี้ในที่สุด
ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ ที่มีจิตใจเย็นชาไม่พร้อมจะเปิดรับใคร แต่หากมีเพื่อนดีๆ ที่เข้าใจเราสักคนแล้วล่ะก็ รับรองว่าจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมได้ เหมือนอย่างมิตรภาพระหว่างแมวและแรคคูนคู่นี้แน่ๆ นี่คือเรื่องราวดีๆ ของเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Zizi แมวบ้านๆ ที่ถูกเลี้ยงมาในโรงนา โดยมีเจ้านายใจดี Haley Williams คอยทำหน้าที่ป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับมัน แต่ดูเหมือนเจ้า Zizi ออกจะมีนิสัยแปลกแยกสักหน่อย เพราะไม่ว่าสัตว์ตัวไหนมันก็ไม่เคยจะยอมเปิดใจให้เลย แถมยังเข้าไปฟัดกับเขาอีก ทำให้คุณ Haley รู้สึกค่อนข้างลำบากใจอยู่ไม่น้อย แต่ชีวิตของมันกำลังจะเปลี่ยนไป… วันหนึ่ง Haley ได้ไปเจอกับเจ้าแรคคูนผอมแห้งแรงน้อยตัวหนึ่งอยู่ข้างถนน เธอจึงลงไปดูอาการ และพาเจ้าแรคคูนตัวน้อยไปหาสัตวแพทย์ ดูเหมือนว่าจะช่วยอะไรไม่ได้มาก เธอจึงนำมันกลับมาเลี้ยงและให้อาหารด้วยตัวเองพร้อมกับตั้งชื่อให้มันว่า Winston มันเริ่มมีอาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และร่าเริงมากขึ้น Haley จึงเริ่มแนะนำมันให้รู้จักกับสัตว์ตัวอื่นๆ ในบ้านของเธอ แรคคูนตัวน้อยรู้สึกตื่นเต้นไปกับทุกอย่าง มันเริ่มเข้าหา Zizi ทำให้ Haley หวั่นใจอยู่หน่อยๆ เพราะกลัวว่ามันจะทะเลาะกันเหมือนกับสัตว์ตัวอื่นๆ ที่ผ่านมา แต่ผิดคาด เพราะ Zizi ดันรู้สึกดีกับ Winston และกลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปโดยปริยาย ไม่ว่าเจ้าแรคคูนจะเดินไปไหน มันก็จะตามออกไปด้วยตลอด…
-
สื่อนอกรายงาน Great Barrier Reef แนวปะการังใหญ่ที่สุดในโลก แทบจะตายหมดแล้ว
อย่างที่เราได้เคยเห็นผ่านการ์ตูนและสารคดีมาแล้วมากมาย ว่าแนวปะการังตามพื้นที่ต่างๆ ในทะเล นอกจากจะมีความสวยงามแล้วยังช่วยสร้างระบบนิเวศและเป็นที่อยู่อาศัยของปลาตัวเล็กตัวน้อยได้ด้วย ล่าสุด#เหมียวฟิ้นมีข่าวเศร้ามารายงานให้เพื่อนๆ ได้รู้กัน เพราะเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Unilad ได้รานงานว่าแนวปะกางรังเก่าแก่ที่ประเทศออสเตรเลีย ได้ตายลงแล้วหลังจากเป็นที่อยู่อาศัยของปลามานานกว่า 25 ล้านปี ตามรายงานของนักเขียนเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างนาย Rowan Jacobsen บอกว่าแนวปะการังแห่งนี้มีปลากว่า 1,625 สายพันธุ์ หอย 3,000 สายพันธุ์ และวาฬอีกกว่า 30 ชนิดอาศัยอยู่ที่นี่ แนวปะการังขนาดใหญ่นี้ค่อยๆ เปลี่ยนจากปะการังสีสันสวยงามกลายเป็นเพียงซากกระดูกสีขาว ที่เรียกว่าภาวะปะการังฟอกขาว อันเนื่องมาจากผลกระทบทางมลภาวะหลายอย่าง ผลกระทบเหล่านี้ทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างแนวปะการัง เป็นเพราะภาวะโลกร้อนทำให้น้ำทะเลมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น ตะไคร่น้ำจึงสร้างออกซิเจนมากเกินไป มันจึงกลายเป็นพิษที่เข้มข้นสูง ปะการังจึงต้องสลัดเอาตะไคร่น้ำเหล่านั้นออกไปเพื่อความอยู่รอด และเมื่อไม่มีตะไคร่น้ำแล้ว ปะการังเองก็จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นกระดูกสีขาวและอดอาหารตายไปในที่สุด จากการเปิดเผยคำสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์ Tim Flannery ระบุว่า “เรากลับมาเพื่อดูว่าแนวปะการังนั้นฟื้นฟูไปได้มากน้อยเพียงใด แต่แนวปะการังที่เราคิดว่าจะฟื้นฟูเมื่อหลายเดือนก่อน กลับตายไปเกือบหมด” “ถ้าแนวปะการังนี้เป็นคน เขาก็กำลังอาการร่อแร่อยู่ในเครื่องช่วยชีวิตแล้วล่ะ” ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ที่แนวปะการังแห่งนี้พากันเหี่ยวตายมาแล้วในปี 1998 และปี 2002 โชคดีที่ตอนนั้นอุณหภูมิลดลงได้ทันเวลา…
-
ดีต่อผู้สูงอายุ!! รัฐบาลจีนแจก “สายรัดข้อมืออัจฉริยะ” ช่วยลดปัญหาผู้ป่วยอัลไซเมอร์หลงทาง
ปัญหาของผู้ป่วยอัลไซเมอร์นั้นค่อนข้างที่จะเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากทีเดียว ในหลายๆ ประเทศกำลังประสบกับปัญหาที่ผู้ป่วยอัลไซเมอร์สูญหาอยู่จำนวนไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือประเทศจีน ตามรายงานจากเพจอ้ายจง เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม บอกว่าประเทศจีนมีผู้ป่วยอัลไซเมอร์มากถึง 9.5 ล้านคน ซึ่งอย่างที่เรารู้กันว่าการป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์นั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เพราะมันทำให้ความจำของเราแย่ลง จำบุคคลหรือเส้นทางต่างๆ ไม่ได้ สำหรับประเทศจีน.มีจำนวนผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ประมาณ 9.5ล้านคน.หรือคิดเป็น4.75%ของผู้สูงอายุทั้งหมดในจีน ซึ่ง… โพสต์โดย อ้ายจง บน 9 ตุลาคม 2016 นั่นจึงส่งผลให้มีผู้ป่วยอัลไซเมอร์หลายๆ คนหลงทางหรือหายตัวออกไปจากบ้าน และที่ประเทศจีนเองก็มีผู้สูงอายุหายตัวไปถึง 1,370 คนต่อปี ทำให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันหาทางแก้ไขกันอย่างจริงจัง ทั้งนี้ทางรัฐบาลจีนได้เริ่มต้นโครงการผลิตสายรัดข้อมืออัจฉริยะมาตั้งแต่ปี 2012 เพื่อแจกจ่ายมันให้กับผู้ป่วยอัลไซเมอร์นำไปใช้กันแบบฟรีๆ โดยในสายรัดข้อมือจะมีข้อมูลเช่นชื่อ ที่อยู่ หรือเบอร์ติดต่อญาติๆ ให้มารับกลับบ้าน โครงการที่ว่านี้มีการพัฒนารุ่นใหม่ออกมาตลอด จนล่าสุดในปี 2016 ก็ได้มีการนำเอาเทคโนโลยี QRcode มาใช้ เพื่อให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายคนสามารถสแกนแล้วโทรหาญาติได้ทันที ลดระยะเวลาในการโทรแจ้งตำรวจหรือประกาศหาคนหาย นอกจากหน่วยงานรัฐแล้ว ก็ยังมีบริษัทเอกชนหลายแห่งผลิตสายรัดข้อมือแบบนี้ เช่น องค์กรอาสาสมัครยุวชนกวางโจว (Guangzhou Young Volunteers Association) องค์กรที่ว่า…
-
ชายอเมริกัน ‘เบื่อเมีย’ ขับรถไปปล้นธนาคาร ให้ตำรวจจับ บอกขอติดคุกดีกว่าอยู่บ้าน!!?
คงไม่มีใครในโลกรู้สึกดีกับคำว่า “คุก” หรือ “เรือนจำ” หรอกนะ เพราะมันคือสถานที่ที่ไม่มีใครอยากไปอยู่ เป็นสถานที่ที่สงวนไว้สำหรับผู้ที่กระทำความผิดเท่านั้น แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าในโลกใบนี้ยังมีคนที่อยากจะเข้าไปอยู่ในนั้นแบบจับใจเลยทีเดียว… เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Washingtonpost เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวของนาย Lawrence John Ripple ชายชาวอะเมริกันจากรัฐแคนซัส วัย 70 ปี เขาตัดสินใจที่จะปล้นธนาคาร โดยอ้างว่าเขาทำไปเพื่อที่จะได้หนีเมียไปติดคุก!? ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในวันอังคารที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยนาย Ripple ได้เข้าไปปล้นธนาคารแห่งหนึ่ง และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว แต่เขาไม่ได้พยายามหนีหรือหาข้อแก้ตัวใดๆ เลย ต่อมาในวันพุธที่ 5 ตุลาคม เขาได้ถูกส่งตัวไปยังเรือนจำ Leavenworth ในรัฐแคนซัส ซึ่งเป็นสถานที่เจ้าตัวบอกว่าอยากไปตั้งแต่แรก เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะนาย Ripple มักมีปัญหาทะเลาะกับภรรยาอยู่บ่อยครั้ง วันหนึ่งเขาทะเลาะกับภรรยาเรื่องไดร์เป่าผมที่เสีย เธอจึงบอกให้เขาซ่อมมัน แต่ข้อโต้เถียงระหว่างพวกเขาก็รุนแรงขึ้นเหมือนอย่างทุกครั้ง จนเขาทนไม่ไหว ตะโกนใส่ภรรยาไปว่า “ไปติดคุกยังดีกว่าอยู่ที่บ้านอีก!!” และดูเหมือนว่านาย Ripple จะเป็นคนรักษาสัญญาเสียด้วย เพราะหลังจากที่ลั่นวาจาไป เขาก็ขับรถตรงไปยังธนาคารทันที…
-
‘ผมไปนะพ่อ…’ คลิปชีวิตจริงๆ ของมือระเบิดพลีชีพ ISIS วัย 11 ขวบ กับภารกิจสุดท้ายของเขา!!
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม] ณ วันนี้ผู้คนทั่วโลกคงได้รู้กันแล้วว่ากลุ่มก่อการร้าย ISIS นั้นเลวร้ายขนาดไหน มีกองทัพหน้าตาเป็นยังไง และสามารถทำอะไรให้โลกตกตะลึงได้บ้าง แต่จะมีสักกี่คนที่ได้เห็นถึงกระบวนการในการสร้างนักรบพลีชีพของพวกเขา!? เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นได้หยิบมานำเสนอในวันนี้เป็นคลิปวิดีโอชวนเชื่อที่ถูกปล่อยโดยผู้สนับสนุน ISIS เป็นคลิปเกี่ยวกับ Abu Imara al Omri เด็กชายวัย 11 ขวบ แน่นอน ความพิเศษของเขาอยู่ที่ไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กๆ ทั้วไป วิ่งเล่น ดูการ์ตูน ไปโรงเรียน เจอเพื่อนๆ แต่ถูกฝึกให้กลายเป็นผู้เสียสละ และนักรบพลีชีพให้แก่กองทัพผู้ก่อการร้าย คลิปวิดีโอตัวนี้ถูกทำให้เหมือนกับเป็นการสัมภาษณ์กึ่งสารคดี โดยผู้ชมจะได้เห็นภาพของเด็กชาย al Omri ขณะถือปืนและแสดงสีหน้ามุ่งมั่นไปยังสนามรบ ก่อนที่เขาจะก้มลงจูบมือผู้เป็นพ่อและสตาร์ทรถที่บรรจุระเบิดไว้เต็มคันรถ แล้วขับมันออกไประเบิดที่เมือง Ghazl ใกล้กับเมือง Aleppo ในซีเรียเพื่อเป็นการแสดงการต่อต้านต่อประธานาธิบดีซีเรีย Bashar al-Assad ในช่วงท้ายของวิดีโอจะเห็นเด็กชายและพ่อของเขา กำลังตรวจสอบว่ารถของพวกเขาใช้การได้หรือไม่ ก่อนที่พ่อของเขาจะสอนวิธีในการจุดระเบิดให้กับลูกชาย และจากลากันแบบไม่สะทกสะท้านอะไร ซึ่งภาพทั้งหมดจบลงด้วยการถ่ายจากระยะไกล เผยให้เห็นลูกไฟและควันโพยพุ่ง เป็นสัญญาณที่บอกว่าเด็กชาย al Omri ได้จากโลกนี้ไปแล้ว มีนักวิจัยได้ทำการศึกษากรณีของ Omri และเด็กๆ…
-
ไม่ใช่แค่ไทย…ชาวลิทัวเนียรวมตัวกันถ่ายภาพคู่ถนนชำรุด ว่ายน้ำ แปรงฟันกันสนุกสนาน
ต้องบอกเลยว่าภาพของหญิงสาวไทยที่ลงไปอาบน้ำกับหลุมบนถนนในจ.ตากนั้น ค่อนข้างจะได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์มากทีเดียว ทำให้ภาครัฐถึงกับต้องลงมาแก้ไขกันแบบเร่งด่วนกันเลย จนขนาดที่ว่านายกของบ้านเราต้องออกมาเตือนเลยว่าเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมและอย่าทำให้เห็นอีกเพราะจะทำให้เสื่อมเสียไปถึงภาพลักษณ์ แต่เราอยากจะบอกว่าไม่ใช่แค่ที่ไทยเท่านั้นหรอกนะ ที่ทำอะไรแบบนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากภาครัฐ เพราะที่ประเทศลิทัวเนียเองก็มีมาแล้วเหมือนกัน ภาพที่ทุกคนกำลังเห็นอยู่นี้เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อน (พวกเขาเรียกแก๊งของตัวเองว่า Z999) ได้ตัดสินใจที่จะเรียกร้องความสนใจจากเจ้าหน้าที่รัฐ ให้หันมาสนใจความเสียหายของถนนหลายเส้นในเมืองเคานัส ประเทศลิทัวเนีย ภาพทั้งหมดถูกถ่ายทอดโดยช่างภาพ 2 คน ที่ชื่อว่า Arturas Artiusenka และ Eurika Balciute ในบรรดาภาพนี้ก็จะมีทั้งกิจกรรมตลกๆ เช่นแต่งชุดว่ายน้ำลงไปว่ายในบ่อ นั่งล้างหน้าแปรงฟัน ตกปลา หรือเป็นสถานที่โรแมนติกมานั่งดูดาวกันก็มี แทบไม่ต่างอะไรจากบ้านเราเลย ตื่นเช้าเราก็มาล้างหน้าแปรงฟัน รู้สึกเหมือนอยู่ริมชายหาด ดิสอิสเดอะเว๊ เค ชั่น ไทม์… ครีเอทดีนะ#เหมียวฟิ้นว่า ที่มา boredpanda
-
หัวเราะทั้งน้ำตา รวม 26 ภาพตีแผ่ชีวิตเด็กสถาปัตย์ฯ ใครเรียนสายนี้มาจะเข้าใจดี….
สำหรับใครก็ตามที่เรียนจบมาทางด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ น่าจะมีความรู้ความเข้าใจกันดีว่าการเรียนในคณะนี้ค่อยข้างยาก อาจจะไม่ได้ยากมากหรือน้อยไปกว่าคณะอื่นๆ แต่ “ยาก” ในที่นี้คือการฝ่าฟันการทำแบบ การทำโมเดล และงานอีกร้อยแปดไปให้ได้นั่นเอง ยิ่งพอเรียนจบไปแล้ว ต้องไปเจอกับสังคมการทำงานจริงๆ ที่ต้องแข่งขันกับเวลา ยิ่งทำให้คนที่เรียนสายสถาปัตย์มาต้องใช้ชีวิตอย่างลำบ๊ากลำบาก ถ้าไม่เชื่อ งั้นไปชมภาพยืนยันกันเลย… สลบกันแบบนี้เลย? . . ทุกที่คือห้องนอน . . บางทีก็ทำกันหามรุ่งหามค่ำ . . อดหลับอดนอนเพื่อต่อโมเดลไปส่งอาจารย์ . นี่แหละผ้าห่มชั้นดี . ท่ายากยังไงก็ต้องปรับตัวให้ได้ . . . คืนนี้ยาวไป . . . . แบบทั้งนั้น นี่จะแต่งงานกับแบบแล้ว . มีใครมาจากสายสถาปัตย์บ้างไหม? ตรงหรือไม่ตรงยังไงลองบอกเราหน่อยสิ ที่มา Funny Architect
-
แทบจำไม่ได้ “ลุงกะลาสี” นักคอสเพลย์ชาวญี่ปุ่น ถูกจับมาใส่สูท นึกว่าเป็นเจ้าพ่อแก๊งสเตอร์
ใครที่ติดตามดูรายการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (หรือแค่เล่นอินเตอร์เน็ตบ่อยๆ) ก็น่าจะเคยเห็นภาพคุณลุงหนวดเฟิ้มคนหนึ่ง ที่แต่งชุดคอสเพลย์เป็นชุดกะลาสีคล้ายกับเด็กนักเรียนสาวม.ปลายญี่ปุ่น จนกลายเป็นเน็ตไอดอลไปแล้ว ลุงคนนั้นก็คือ Kobayashi Hideaki วัย 53 ปี แม้มันจะดูขัดกันมากแต่ก็กลายเป็นของดีของญี่ปุ่นไปแล้ว ว่ากันว่าหากใครได้ไปที่เที่ยวกรุงโตเกียวแล้วไม่ได้ถ่ายรูปกับคุณลุงกะลาสีในตำนานล่ะก็ ถือว่าไปไม่ถึงโตเกียวเลยทีเดียว ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้จับเอาคุณลุง Kobayashi มาแต่งเนื้อแต่งตัวใหม่ เพราะที่ผ่านๆ มาทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวไทยเองจะคุ้นหน้าคุ้นตาของเขาจากการเป็นนักเรียนม.ปลาย แต่แทบจะไม่เคยเห็นเขาในชุดอื่นๆ เลย เริ่มแรกทางทีมงานได้จับเขามาแต่งหน้าให้เนียน แกะหนังยางที่มัดหนวดและเล็มออกเล็กน้อย ยืดมันให้ตรง จากนั้นก็จับให้เขาใส่สูท แท่นแทน!! นี่คือลุคใหม่ของลุงกะลาสีที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนคล้ายกับคุณครูใหญ่จากโรงเรียนประถมที่ไหนสักที่ แม้จะดูเขินๆ ไปหน่อย แต่เมื่อเขาถือหมวกหรือดอกไม้ มันก็ทำให้ดูหล่อเข้มประหนึ่งว่าเป้นเจ้าพ่อแก๊งสเตอร์ยังไงยังงั้นเลย แต่…ก็ยังไม่ลืมความแบ๊วแบบตอนที่เป็นลุงกะลาสีนะเออ… ถึงจะเป็นผู้ชายสีชมพูด แบ๊วๆ ขนาดนี้ แต่จริงๆ…
-
แบบนี้ก็มีเหรอ? หัวหน้างานบริษัทในปักกิ่ง บังคับพนักงานสาวทุกคนเข้าแถวจูบตัวเองทุกเช้า
ในหลายๆ บริษัทมักมีวัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่างกัน เมื่อเราต้องเข้าไปเป็นพนักงานเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับกฎเกณฑ์ที่นั่น แต่…กฎเกณฑ์หรือวัฒนธรรมบางที่มันก็ดูแปลกเกินกว่าที่บางคนจะรับได้จริงๆ… เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายได้โดยพนักงานออฟฟิศในบริษัทขายเครื่องชงกาแฟแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อตีแผ่เรื่องราวในที่ทำงานของเขาว่ามีกิจกรรมที่แปลกประหลาดขนาดไหน ตามรายงานบอกว่าในทุกๆ เช้า เวลา 9 โมงถึง 9 โมงครึ่ง หัวหน้างานจะเรียกให้พนักงานสาวทั้งแผนกมายืนเรียงแถวกัน จากนั้นก็บอกให้พวกเธอเหล่านั้นจูบเขาทีละคนๆ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีภายในที่ทำงานเหมือนปลากับน้ำ หัวหน้างานรายนี้บอกว่าพนักงานบางคนจะรู้สึกคิดถึงเขาเมื่อแยกย้ายกันกลับบ้าน บางคนถึงขั้นส่งข้อความไปหาเขาผ่าน WeChat เลย แถมยังบอกอีกว่าเขาได้ไอเดียนี้มาจากตอนที่เดินทางไปดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่ามีพนักงานสาวหลายคนยอมทำตามคำสั่งของหัวหน้ารายนี้ แต่ก็มีบางรายที่ทนไม่ได้และเซ็นลาออกในที่สุด (เพราะวัฒนธรรมการจูบแบบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติในเอเชีย) ชมคลิป หลังจากที่ภาพและคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในสื่อสังคมออนไลน์ของจีนอย่างเว็บไซต์ Weibo ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา เช่น “พนักงานสาวทั้งหมดนี้ยอมรับได้ยังไง? พวกแฟนๆ หรือสามีของพวกเธอรู้เรื่องกันบ้างหรือเปล่า?” “ฉันอยากจะถามพนักงานสาวพวกนี้มากว่า พวกคุณไม่มีเงินกันเหรอ? คุณจะอดตายไหมถ้าต้องเปลี่ยนงาน?” “ไอ้หัวหน้าคนนี้มันโรคจิตมาก แต่พนักงานพวกนี้โง่เง่ายิ่งกว่า” แบบนี้ก็ได้เหรออออ ที่มา shanghaiist
-
ฆ่าคนได้จริงๆ? สื่อนอกรายงาน 1 ใน 5 ของชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตจากการ “ทำงานหนัก”
ในชีวิตการทำงานมันช่างแตกต่างจากชีวิตในมหาวิทยาลัยเสียจริงๆ เพราะไม่มีใครมาคอยชี้นำคุณว่าควรใช้ชีวิตยังไง เก็บเงินเท่าไหร่ ทำงานยังไงให้ไม่กระทบสุขภาพ หรือควรจะทุ่มเทให้กับงานมากน้อยแค่ไหน ทุกอย่างล้วนเกิดจากการตัดสินใจของตัวเองแทบทั้งสิ้น แต่ไม่ว่ายังไงคุณก็ควรนึกถึงประสิทธิภาพตัวเองก่อน แล้วใส่ใจกับสุขภาพของตัวเองให้มากๆ นะ เพราะหากคุณทำงานแบบไม่ลืมหูลืมตาล่ะก็ คุณอาจจะเสียสุขภาพจนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย เพราะในเว็บไซต์ต่างประเทศเช่น Emirates-business ได้มีการเปิดเผยผลสำรวจจากรัฐบาลญี่ปุ่น ว่าตอนนี้ชาวญี่ปุ่นกว่า 1 ใน 5 กำลังเสี่ยงที่จะเสียชีวิต เนื่องจากการทำงานหนักและสังคมการทำงานที่เคร่งเครียดมากเกินไป มีรายงานว่าผู้ที่เสียชีวิต 100 คนจากการสำรวจครั้งนี้ที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำงานหนัก พวกเขาจะมีอาการเช่นหัวใจวาย หลอดเลือดในสมองแตก หรือฆ่าตัวตาย ซึ่งในแต่ละปีจะมีคนฆ่าตัวตายด้วยเหตุผลนี้ราวๆ 200 คน แต่ในปีล่าสุดกลับพุ่งสูงถึง 392 คน เหตุการณ์แบบนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก และเริ่มจะมีการรายงานข่าวเกี่ยวกับชาวญี่ปุ่นที่ทำงานหนักจนตายหลายรายแล้ว เช่นเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2016 เว็บไซต์ Washingtonpost ได้นำเสนอเรื่องของนาย Kiyotaka Serizawa ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นวัย 34 ปี พนักงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ทุ่มเทเวลาการทำงานให้บริษัทของเขากว่า 90 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ยิ่งกว่าเจ้าของบริษัทจริงๆ เสียอีก เป็นเหตุนำเขาไปสู่ความเครียม…
-
เก่งมากเจ้าหมา Meli จากหมารอความช่วยเหลือ กลายมาเป็นหมาที่ออกช่วยเหลือแมวจรจัด
นี่คือเรื่องราวของ Fay และ Dionisis คู่รักจากกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ พวกเขาเป็นคนที่รักสัตว์มากๆ ทั้งเห็นอกเห็นใจและชอบช่วยเหลือสัตว์ พวกเขาทำงานอยู่ในองค์กรที่มีชื่อว่า SCARS (ย่อมาจาก Second Chance Animal Rescue Society หรือ ชมรมช่วยเหลือและให้โอกาสที่สองแก่สัตว์) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ไม่หวังผลกำไร งานของพวกเขาก็ง่ายๆ เช่น ช่วยเหลือ ทำหมัน รับมาเลี้ยงเอง หาคนรับไปเลี้ยง ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เขาได้ไปช่วยเหลือสุนัขมา 1 ตัว แต่แล้วก็เปลี่ยนใจรับมันมาเลี้ยงแทน เลยตั้งชื่อให้มันว่า Meli ในทุกๆ วัน ทั้งคู่จะออกไปให้อาหารแมวรอบๆ บ้านพวกเขาราวๆ 30 ตัว และพาเจ้า Meli เดินออกไปกับพวกเขาด้วย ในตอนแรกดูเหมือนเจ้า Meli จะไม่คุ้นเคยกับแมวเท่าไหร่ แต่พอมันปรับตัวได้มันก็เลยกลายเป็นงานที่น่าสนุกขึ้นมาทีเดียว ทุกครั้งที่มันตามเจ้านายออกไปให้อาหารแมว มันจะดูแลพวกเหมียวเป็นอย่างดี เข้าไปคอยดูคอยทำท่าเลียพวกมันจนกลายเป็นเพื่อนกันในที่สุด เมื่อเริ่มให้อาหารบ่อยเข้าๆ ก็เริ่มสนิทสนมกับแมวมากขึ้น…
-
ซี๊ดอาห์…นักวิทย์ฯ ค้นพบ “ต้นกัญชา” ในหลุมศพมนุษย์โบราณ ช่วยยืนยันว่าเราคุ้นเคยกับมันดี
ยังคงมีเรื่องราวในอดีตอีกมากมายที่ไม่มีการค้นพบหรือไม่ถูกหยิบยกมานำเสนอ ซึ่งแต่ละเรื่องนั้นก็ชวนให้คนในยุคปัจจุบันได้เรียนรู้ว่าในสมัยก่อนเกิดเรื่องอะไรกันบ้าง หรือมีความเป็นอยู่อย่างไร เมื่อไม่นานมานี้ได้มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศว่านักโบราณคดีชาวจีน Hongen Jiang และทีมงานได้ค้นพบหลุมศพของชายผิวขาวในเมืองโบราณเต๋อป่าน เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ในหลุมศพนั่นพวกเขาพบโครงกระดูกมนุษย์นอนอยู่ในนั้นบนเตียงไม้และหมอน แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ มีต้นกัญชาขนาดยาวเกือบ 1 เมตรถูกฝังไว้กับเขาด้วยถึง 13 ต้น การค้นพบครั้งนี้จึงเป็นการยืนยันถึงทฤษฎีที่นักวิทยาศาสตร์เคยตั้งเอาไว้ว่า กัญชาเป็นสิ่งที่มอบความบันเทิงให้แก่ชาวยูเรเซียมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ (มนุษย์ที่อาศัยอยู่บนทวีปยูเรเซีย ที่เกิดจากทวีปยุโรปและเอเชียอยู่ติดกันเมื่อสมัยหลายล้านปี) มีการวิจัยและการศึกษามานานแล้วว่ากัญชานั้นช่วยในเรื่องของระบบประสาทและสามารถเป็นยารักษาโรคได้ นี่จึงพออนุมาณได้ว่ามนุษย์เราเริ่มรู้จักและใช้กัญชามาตั้งแต่สมัยอดีตแล้วนั่นเอง เพื่อนกัญ เพื่อนตายตลอดไปปปปป ที่มา distractify
-
2 โจรงัดบ้านผิดหลัง เจอเจ้าของบ้านล็อค “อัดประตูหลัง” 5 วันเต็ม ที่แท้เป็นข่าวลวง
จาก#เหมียวฟิ้นได้นำเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์ต่างประเทศฉบับหนึ่งไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เกี่ยวกับ 2 หัวขโมย Garfield Morgan วัย 54 ปี และ Kim Gorton วัย 36 ปี ย่องเข้าไปขโมยของในบ้านของนาย Harry Harrington ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา แต่กลับถูกนาย Harry (ที่มีส่วนสูง 204 เซ็นดิเมตร หนัก 136 กิโลกรัมและยังเป็นเกย์ที่มีชื่อฉาวโฉ่ในหมู่เกย์ด้วยกัน เพราะเคยถูกตัดสินจำคุกอยู่พักหนึ่งเนื่องจากไปก่อคดีข่มขืนเข้า) จับมัดเอาไว้แล้วทำการตุ๋ยพวกเขาเป็นเวลา 5 วัน 5 คืน หนังสือพิมพ์ยังได้รายงานอีกว่า เหตุการณ์นี้จบลงตรงที่มีเพื่อนบ้านมาได้ยินเสียงของพวกเขาเข้าจึงโทรเรียกให้ตำรวจเข้ามาดู ซึ่งนาย Harry ยังให้การกับตำรวจอีกว่า “พวกเขาพังเข้ามาทางประตูด้านหน้าของผม ผมเลยพังประตูหลังของพวกเขาซะเลย!” หลังจากที่ได้รายงานข่าวไป เริ่มมีผู้อ่านบางคนส่งข้อความเข้ามาท้วงติงว่าข่าวดังกล่าวอาจเป็นข่าวลวงที่เป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาเองของหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ เราจึงได้ทำการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมและเจอเข้ากับเว็บบอร์ด Spacebattles ที่มีการถกเถียงกันว่าเรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องจริง และเมื่อค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ Snopes ที่เป็นเว็บไซต์สำหรับพิสูจน์ข่าวจริงข่าวลวงในต่างประเทศ ยิ่งเป็นการยืนยันว่านี่คือข่าวปลอม เพราะหนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์เรื่องนี้คือ Sunday Sport ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่ชอบลงข่าวปลอมๆ ให้คนเข้าใจผิด นอกจากนี้ยังมีข้อมูลยืนยันว่าภาพของนาย Harry…
-
ไม่เท่ากัน…ต่างชาติสลดครอบครัวอินโดนีเซีย บังคับแม่บ้านให้นั่งดูพวกเขาทานอาหาร
ในทุกวันนี้เราจะเห็นได้ว่าทั่วโลกมีการตื่นตัวในเรื่องของความเท่าเทียมกันมาก ไม่ว่าจะเป็นความเท่าเทียมของชายหญิง ความเท่าเทียมกันของอาชีพ หรือความเท่าเทียมกันของชนชาติต่างๆ แต่ก็ยังคงมีความแตกต่างกันระหว่างชนชั้นที่เห็นได้ชัดอยู่ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่ภาพถ่ายของนาย Michael Fanny ที่เดินทางไปท่องเที่ยวในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในตอนนั้นเขาดันได้พบเห็นเหตุการณ์น่าสลดใจของครอบครัวชาวอินโดนิเซียครอบครัวหนึ่ง ขณะนั่งรับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มกันอยู่ในร้านอาหาร สิ่งที่ทำให้นาย Michael รู้สึกหดหู่ใจคือ ครอบครัวนี้ได้พาพี่เลี้ยง (หรือคนรับใช้) มาที่ร้านอาหารด้วย แต่บังคับให้เธอนั่งอยู่อีกโต๊ะหนึ่งแล้วดูพวกเขากินอาหารโดยที่โต๊ะของเธอไม่มีอาหารหรืออะไรวางอยู่เลย เขาทนไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงถ่ายภาพแล้วนำมาเผยแพร่ลงในเฟซบุ๊กพร้อมกับข้อความระบายความรู้สึกของตัวเองว่า “คนรับใช้ของคุณก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณเหมือนกัน นี่มันคือกระจกสะท้อนมนุษยธรรมของคุณ ลองจินตนาการว่าคุณอยู่ในจุดเดียวกับเธอสิ ไม่มีมือถือให้เล่น ไม่ได้รับเชิญให้ทานอาหาร ได้แต่มองไปรอบๆ” “เราต้องให้ความเคารพและรักแม่บ้านของเรา คนขับรถของเรา คนทำสวนของเรา ชีวิตมันไม่ได้มีแค่ผลประโยชน์อย่างเดียวนะ มันไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ตัวของเราคนเดียว” ตามรายงานยังระบุเพิ่มเติมอีกว่าคนที่ทำอาชีพเป็นแม่บ้านหรือทำงานภายในบ้านนั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนเริ่มเข้ามาทำงานนี้ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นสาว หลายคนมาจากชนบทที่ห่างไกลเพื่อหาเงินไปเลี้ยงดูครอบครัวของตัวเอง ล่าสุดภาพนี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตในต่างประเทศมาก เพราะเรื่องของศักดิ์ศรีและความเท่าเทียมกันของมนุษย์ถือเป็นเรื่องใหญ่ในประเทศที่เจริญแล้ว จนมีการแชร์ไปถึง 60,000 ครั้งเลยทีเดียว การมีพี่เลี้ยงหรือคนทำงานบ้านอยู่ที่บ้านเราไม่ใช่เรื่องแปลกนะ แต่การแบ่งแยกชนชั้นแบบนี้มันคือการลดคุณค่าความเป็นคนของเขา #เหมียวฟิ้นเห็นแล้วรู้สึกสลดใจแทนเลย ที่มา dailymail
-
คิดถึง…เจ้าหมาสุดอาลัยถึงเจ้านายผู้ล่วงลับ ล้มตัวลงนอนข้างหลุมศพทุกครั้งที่ไปเยี่ยม
เป็นเรื่องจริงที่ว่าหมานั้นรักเจ้านายมาก แต่ส่วนใหญ่แล้วเราจะพบเจอแต่เหตุการณ์ที่พวกมันจากเราไปก่อน เพราะเนื่องจากพวกมันอายุสั้นกว่ามนุษย์ น้อยครั้งมากที่เราจะได้เห็นมนุษย์จากไปก่อนสัตว์เลี้ยง แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วกลับน่าเศร้ายิ่งกว่าที่พวกมันจากไปเสียอีก เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นกำลังจะนำเสนอต่อไปนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้า Zozo สุนัขตัวหนึ่งในประเทศตุรกีที่ถูกรับมาเลี้ยงโดยชายชาวตุรกีคนหนึ่ง แต่แล้วเรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้นเมื่อเจ้านายของมันได้เสียชีวิตลงในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2014 ทำให้ทั้งครอบครัวรวมถึงเจ้า Zozo ตกอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก ภายหลังเจ้า Zozo ถูกส่งไปอยู่กับนาย Billow Ye ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้านายที่เพิ่งเสียชีวิตไป แต่ถึงจะผ่านเวลาไป 2 ปี มันก็ยังไม่เคยลืมเจ้านายคนแรกของมัน ในแต่ละวันนาย Billow กับเจ้า Zozo จะไปเยี่ยมหลุมฝังศพพ่อของเขา ทุกครั้งที่เจ้าหมาเห็นหลุมฝังศะเจ้านาย มันก็จะล้มตัวลงนอนและแสดงท่าทีสิ้นหวังและอาลัยถึงเจ้านายของมันเสมอ ด้านนาย Billow Ye เองบอกว่าเขาก็รู้สึกหัวใจแตกสลายทุกครั้งที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์แบบนี้เช่นกัน พวกเขาคงมีสายสัมพันธ์บางอย่างมราตัดไม่ขาดจริงๆ เห็นแล้วก็พลอยเศร้าไปด้วย ที่มา heroviral
-
ตลกไม่ตลก!! สหรัฐฯ วุ่นหนัก พบคนแต่งชุดตัวตลกออกทำร้าย ปล้นทรัพย์ผู้คนยามค่ำคืน
ตัวตลก (Clown) ที่เรามักจะเห็นกันตามงานเทศกาลหรือสวยสนุกในต่างประเทศ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นตัวตลกผู้ให้ความสนุกสนาน แต่หน้าตาของมันก็ไม่ได้ทำให้เราอยากเข้าใกล้มันซะเลย และนอกจากจะไม่น่าเข้าใกล้แล้ว เครื่องแบบตัวตลกยังเป็นสิ่งที่ตำรวจในสหรัฐออกมาสั่งห้ามไม่ให้ใส่ด้วย เพราะเนื่องจากมีคนแต่งตัวแบบนี้เพื่อใช้ก่อเรื่องไม่ดีเข้าจนเริ่มแยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนจริงอันไหนเล่น เมื่อช่วงดึกของวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของคุณ Keetapong Namwat GS ชาวไทยที่ไปศึกษาต่อในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนถึงชาวไทยที่อยู่ที่นั่นว่า ในขณะนี้ได้มีกลุ่มคนสวมใส่ชุดตัวตลกออกมาทำร้ายร่างกายผู้คนและชิงทรัพย์ในยามค่ำคืน ล่าสุดมีรายงานว่าโรงเรียนหลายแห่งในอเมริกาได้มีการสั่งห้ามไม่ให้ใส่ชุดตัวตลกกันแล้ว จึงมีการส่งต่อข่าวสารกันในหมู่ชาวไทยที่ไปเรียนต่อที่อเมริกาให้ตื่นตัวถึงเรื่องนี้ ว่าพยายามอย่ากลับบ้านดึก ใส่หูฟังเดิน หรือเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวในตอนกลางคืน ส่วนหนึ่งที่มีผู้คนแต่งตัวเป็นตัวตลกออกมาแกล้งผู้คนเพราะว่าวันที่ 31 ตุลาคม เป็นวันฮาโลวีน แต่ในบางแห่งจะเริ่มเล่นกันตั้งแต่ต้นเดือน ทำให้มีตัวตลกออกมาแกล้งผู้คนอยู่เรื่อยๆ แต่เนื่องจากมีผู้อาศัยจังหวะนี้ในการก่อเรื่องจึงไม่สามารถแยกได้ว่าคนไหนแกล้งและคนไหนทำจริงๆ หากชาวไทยคนไหนพบเจอหรือมีเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแผนกฉุกเฉินได้ที่ +1 (866) 283-9090 หรือสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน แผนกฉุกเฉิน ได้ที่ +1 (202) 944-3600 หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกมากมายเข้ามากแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยหลายความเป็นเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นหรือได้ยินข่าวคราวของตัวตลกฆาตกรมาบ้าง Ruetat Wannarat “อินเดียน่าเกิดได้สักพักแล้ว รู้สึกกฎหมายรัฐจะอนุญาตให้ทำการป้องกันตัวเบื้องต้นจากบุคคลเหล่านี้” Rinrada Sriharuethai…
-
#PrayForBusan รวมภาพเกาหลีใต้วิกฤตหนัก!! ไต้ฝุ่นชบาทำคลื่นยักษ์ 6 เมตรถล่มชายฝั่งเมืองปูซาน
นี่ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจทีเดียว เพราะเมื่อช่วงเวลา 19.15 นาฬิกา ในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์พายุไต้ฝุ่นเข้าถล่มเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ จนทำให้เกิดคลื่นน้ำทะเลขนาดใหญ่ซัดเข้าตัวเมือง ตามรายงานบอกว่าพายุไต้ฝุ่นลูกนี้มีชื่อว่าไต้ฝุ่นชบาที่เข้าถล่มประเทศญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม และมีการเคลื่อนตัวมายังประเทศเกาลี ส่งผลให้เกิดลมกระโชกแรง คลื่นสูง ฝนตกหนัก และน้ำท่วมฉับพลันได้ ทั้งนี้ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปและภาพเหตุการณ์ในเมืองปูซานเข้ามาในทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่อง พร้อมติดแฮชแท็ก #PrayForBusan @FLUFFTAEHYVNG “มันน่ากลัวมาก ขอให้ปลอดภัยนะทุกคน โดยเฉพาะคนที่อยู่ในปูซาน ฉันหวังว่าจะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บนะ” @goodbum_cb “คิดถึงตอนสึนามิที่ไทยเลย ได้แต่พาวนาอย่าให้ใครเป็นอะไรมากเลยนะ” @baekaeri06 “จะไอดอลหรือไม่ใช่ไอดอลก็ขอให้ปลอดภัยนะ เราจะภาวนาให้ทุกๆ อย่างผ่านไปได้ด้วยดี” @crybabrey “จาก Train to Busan ถึง Pray for Busan มันเกิดขึ้นเร็วมาก พวกเขาไม่ได้ถูกโจมตีด้วยซอมบี้ พวกถูกโจมตีโดยซึนามิ ปลอดภัยกันนะ” ชมคลิปบางส่วนได้ที่นี่เลย (หากคลิปไม่ขึ้นให้กดที่นี่นะ) Hope everything will…
-
รอดแล้วเรา!! หนุ่มออกตามหาแมวในกองเศษไม้ หลังได้ยินเสียง “เหมียวๆ” นาน 7 ชั่วโมง
เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Lovemeow ได้เปิดเผยเรื่องราวการช่วยเหลือลูกแมวมากถึง 7 ตัว ของนาย Cliff จากรัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา นาย Cliff บอกกับสื่อว่าเขาเจอกับกองเศษไม้และขยะกองใหญ่อยู่ข้างทาง แต่ในระหว่างนั้นเขาดันได้ยินเสียง “เหมียวๆ” เบาๆ ออกมาจากกองไม้ ในตอนนั้นเขาก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่าต้องมีสัตว์ตัวน้อยติดอยู่ในกองไม้แน่ๆ เขาก็เลยถกแขนเสื้อแล้วเริ่มค้นหาสัญญาณชีวิตใต้กองไม้อย่างช้าๆ แน่นอนว่าการค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบากและทุลักทุเล ไม้บางท่อนก็มากองกันแบบไม่เป็นระเบียบ บางชิ้นเล็ก ใหญ่ บ้างก็หนักไป และต้องค่อยๆ เคลื่อนย้ายเพื่อสำรวจ เพราะหากเคลื่อนย้ายแผ่นไม้ผิดไปแม้แต่อันเดียวก็อาจหมายถึงชีวิตน้อยๆ ชีวิตหนึ่งเลย หลังจากที่เริ่มค้นหาไปได้สักพัก เข้าก็เริ่มเจอลูกแมวตัวที่ 1 ตัวที่ 2 ตัวที่ 3ไปเรื่อยๆ จนเจอครบทั้งหมด 8 ตัวรวมถึงแม่แมวด้วยภายในเวลา 7 ชั่วโมง แต่โชคร้ายที่มีตัวหนึ่งอ่อนแรงและเสียชีวิตไปก่อน จากนั้นนาย Cliff ก็ส่งลูกแมวทั้งหมดไปให้กับหน่วยงานช่วยเหลือสัตว์ Watching Over Whiskers เพื่อให้แน่ใจว่าเหล่าแมวเหมียวทั้งหมดจะได้รับความปลอดภัยและการดูแลเป็นอย่างดี ต่อมาทางทีมกู้ภัยได้ตั้งชื่อให้กับแม่แมวว่าเจ้า Roxy ตอนนี้เจ้าเหมียวทุกตัวแข็งแรงแล้วก็มีความสุขกันมากที่บ้านอุปถัมภ์และพร้อมสำหรับการผจญภัยครั้งใหม่แล้ว นอนดูดนมแม่จ๊วบๆ …
-
เคยเป็นไหม!? “L’appel Du Vide” อาการของคนอยากโดดจากที่สูง แตกต่างจากฆ่าตัวตาย
คุณเคยไปอยู่ในที่สูงๆ แล้วเกิดความรู้สึกแปลกๆ ว่าอยากจะลองกระโดดลงไปบ้างไหม? ถ้าคุณเคยแต่หาคำอธิบายเกี่ยวกับความรู้สึกนั้นไม่ได้ล่ะก็ วันนี้#เหมียวฟิ้นจะมาอธิบายเอง ไอ้เจ้าอาการที่ว่านี้ดูจะไม่มีคำอธิบายหรือถูกบัญญัติไว้ในภาษาอื่นแบบชัดๆ แต่ในภาษาฝรั่งเศสมีคำเฉพาะเลย นั่นคือ “L’appel Du Vide” (ลาปเปล ดูวีด) แปลเป็นไทยแบบตรงๆ ว่า “เสียงเรียกจากช่องว่าง” อาการที่ว่านี้เป็นอาการของคนที่อยากกระโดดลงจากที่สูงๆ เช่นบนตึกหรือบนยอดเขา ทุกครั้งที่ไปอยู่ตามสถานที่เหล่านี้จิตใต้สำนึกจะสั่งเราว่าให้โดดลงไปเพราะอยากรู้ว่าเมื่อลงไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น!? แต่จะแตกต่างจากความรู้สึกของคนที่อยากกระโดดลงไปเพราะอยากฆ่าตัวตาย เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรัฐฟลอริดา และกลายเป็นบทความที่ชื่อว่า Journal of Affective Disorders ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 2011 ในการค้นคว้าของเขาพบว่ามีผู้คนประมาณ 30% ที่ทำแบบสอบถามยอมรับว่า พวกเขาเคยมีอาการเหล่านี้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง อาการแปลกประหลาดนี้อาจมีผลชั่วคราวต่ออการรับรู้ของสมอง นักวิจัยสงสัยว่าระบบที่ว่านี้อาจเกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็วทำให้เราไม่สามารถควบคุมสติได้ในชั่วเวลาหนึ่งจนมีความคิดอยากกระโดดแล่นเข้ามาในสมอง ในขณะที่คนอื่นๆ เกิดความรู้สึกแบบนี้ได้ช้ากว่า จนสามารถควบคุมความรู้สึกอยากกระโดดเอาไว้ได้ ใครที่เคยเกิดอาการแบบนี้ก็ไม่ต้องตกใจไปว่าคุณจะกลายเป็นโรคจิตหรืออยากฆ่าตัวตายนะ เพราะมีคนที่มีอาการแบบนี้อยู่ทั่วโลกเลย แต่มันก็เป็นแค่ชั่วคราว และสมองของเราจะสั่งการโดยอัตโนมัติเองว่า “อันตราย ถอยออกมาหน่อย” แล้วตัวคุณล่ะ… เคยมีอาการแบบที่ว่าบ้างรึเปล่า!? เรียบเรียงโดย…
-
มันไม่ใช่แล้ว!! นี่คือภาพถ่ายของ 19 บุคคล ที่ใช้อุปกรณ์แบบผิดๆ จนไม่น่าให้อภัย
ไม่ว่าจะข้าวของเครื่องใช้ใดๆ ก็ตามในโลกใบนี้ มันจะมีวิธีใช้ที่ถูกที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้ว เช่นรถเอาไว้ขับ รองเท้าเอาไว้ใส่ มือถือเอาไว้โทร เก้าอี้เอาไว้นั่ง บลาๆๆๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางคนใช้งานมันได้ผิดวัตถุประสงค์อยู่ดี ผิดชนิดที่คุณไม่อยากจะให้อภัยเลย… 1. คุณ…คุณครับ…คุณนั่นแหละ คุณเติมผิดช่องนะครับ… 2. เธอคงจะคิดว่ามันเอาไว้คาดแบบนั้นสินะ 3. เพ่ ใส่รองเท้าผิดแบบแล้วเพ่!! (ถ้าจะทะลุขนาดนี้เปลี่ยนรองเท้าเห๊อะ) 4. ได้แต่คิดว่าเธออาจจะกำลังเมาก็เป็นได้ -_- 5. ดีครับ เป็นหวัดเราก็ต้องหาอะไรมาปิดหน่อย…แต่ไม่น่าใช่ไอ้นั่นนะ!! 6. เมื่อคืนหนักไปหน่อยใช่ไหม? 7. เกือบสวยแล้วล่ะ เกือบสวยแล้ว 8. นี่พี่ไม่ได้ดูก่อนใส่เลยช่ะ!? 9. ใช่เหรอ? ไม่มั้ง…ไม่น่าใช่นา 10. ก็ทำถูกแล้วนะที่ล็อค แต่รู้สึกว่ามันแปลกๆ นิดหน่อย แต่ไม่รู้ว่าตรงไหน 11. มันเอาไว้จอดก็จริง แต่ไม่น่าจะใช่รถเข็นนะนั่น …
-
ฮ๊า ฮ๊า ฮ๊า!! จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ลั่นเสียงหัวเราะเหมือนมนุษย์เป๊ะ …หัวเราะแบบนี้ก็ได้?
สุนัขหลายตัวมีความสามารถมากกว่าแค่เห่า จดจำใบหน้า ใช้จมูกดมกลิ่น หรือช่วยเราเฝ้าบ้านนะ เพราะบางทีพวกมันก็ฉลาดเสียจนสามารถลอกเลียนสิ่งที่มนุษย์ทำได้ด้วย!? เมื่อไม่นานมานี้ได้มีคลิปวิดีโอคลิปหนึ่งที่โด่งดังมากๆ ในโลกออนไลน์ เป็นคลิปของเจ้าหมาสีขาวตัวหนึ่งที่พยายามเลียนแบบเสียงหัวเราะแบบเจ้าของมัน จนทำให้คนดูหัวเราะไปตามๆ กัน อยากรู้กันใช่ไหมว่ามันหัวเราะยังไงถึงดัง? อะงั้นไปชมกันเลย เจ้าหมาที่ปรากฎอยู่ในคลิปนั้น แท้จริงแล้วมันมีชื่อว่าเจ้า Archer วัย 4 ปี เป็นหมาจิ้งจอกอาร์กติก ที่ตอนนี้โด่งดังมากๆ ในแอพฯ Vine (แอพฯ วิดีโอขนาดสั้น) มันมีเจ้านายที่ชื่อว่า Kristina Shafer วัย 25 ปี ในรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา นาง Kristina พูดถึงการหัวเราะแปลกๆ เจ้าสุนัขตัวนี้ว่า “เจ้า Archer มักจะเริ่มหัวเราะคิกคักทุกครั้งเมื่อแฟนของฉันหัวเราะ” นอกจากนี้ยังเสริมอีกว่า มันจะหัวเราะบ่อยที่สุดก็เมื่อตอนที่มันนอนหลับ หรือตอนที่มันเหนื่อยๆ “มันชอบเปล่งเสียง เป็นหมาจิ้งจอกที่น่ารักและมีความสุขมาก มันยังกรีดร้องแบบมีความสุขและบางครั้งมันก็ทำเสียงเหมือนลิงด้วยนะ” เจ้าของหมาจิ้งจอกสุดต๊องกล่าว หมาจิ้งจอกอาร์กติกนั้นมีข้อจำกัดในเรื่องการเลี้ยงดูอยู่หลายอย่าง ทั้งสภาพภูมิอากาศ สัญชาตญาณนักล่า แต่ Kristina ก็บอกว่าเธอได้ทำการค้นคว้าถึงเรื่องนั้นมาเป็นเวลานานก่อนที่เธอจะรับเอามันมาเลี้ยง…
-
รู้จักกับ Jack Chen ชายตาบอดผู้เป็นทนายให้กับ Google และทำหน้าที่ดีไม่แพ้คนปกติเลย..!!
คนปกติที่มีอวัยวะครบ 32 มักจะดูถูกความสามารถของตัวเอง ว่าไม่สามารถทำนั่นทำนี่ได้ อาจเพียงเพราะพวกเขาไม่กล้าหรือประเมินความสามารถของตัวเองต่ำไป แต่ #เหมียวฟิ้น อยากให้ทุกๆ คนดูผู้ชายคนนี้เป็นตัวอย่าง เพราะเขาตาบอด แต่กลับใช้ชีวิตได้สุดเหวี่ยงยิ่งกว่าคนปกติซะอีก ชายหนุ่มที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Jack Chen ชายตาบอดผู้ทำงานเป็นทนายความให้กับบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Google เขาสูญเสียดวงตาไปตั้งแต่เมื่อตอนที่เขาอายุได้ 16 ปี แม้ว่าจะผ่านการผ่าตัดมาแล้ว 8-9 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำให้เขากลับมามองเห็นได้ นั่นหมายความว่าเขาคงจะต้องตาบอดไปตลอดชีวิต แต่คุณเชื่อไหมว่าการที่เขาตาบอดไม่ได้ขัดขวางการใช้ชีวิตประจำวันของเขาเลย เพราะเขายังใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ กินข้าว ขึ้นรถไฟฟ้า เรียนหนังสือ ทำงาน หรือแม้แต่การท่องตำราเพื่อเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย Jack จบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย(เบิร์กลีย์) ปัจจุบันเขาทำงานเป็นทนายให้กับ Google ในฐานะที่ปรึกษาเรื่องสิทธิบัตรระหว่างบริษัท ในแต่ละวันเขาต้องอ่าน (ฟัง) เอกสารจำนวนมาก เขาสามารถฟังคำพูดต่างๆ ได้มากถึง 620 คำต่อนาที และพิมพ์ลงในคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว เรื่องราวน่าทึ่งของนาย Jack ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะหลังจากที่เขาเลิกงานไปแล้ว เขาก็ยังใช้ชีวิตได้สุดเหวี่ยงจนคุณนึกไม่ถึงเลย เขาเข้าร่วมการแข่งขันไตรกีฬามาแล้วถึง…
-
เด็กวัย 13 ทะเลาะกับแม่ ถึงขั้นอยากหนีออกจากบ้าน แต่ได้ตำรวจใจดี อยู่ดูแลจนชีวิตดีขึ้น
ในบางครั้งเราอาจจะมองภาพลักษณ์ของตำรวจ ว่าเป็นอาชีพที่ค่อนข้างตึงเครียด ดุดัน และไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับประชาชนเท่าไหร่ แต่ยังคงตำรวจอีกหลายนาย ที่ทำหน้าที่ได้ดี เข้าอกเข้าใจประชาชน เกินกว่าหน้าที่ของพวกเขาเสียด้วยซ้ำ วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับตำรวจใจดีคนหนึ่งที่ชื่อว่า Gaetano Acerra จากสถานีตำรวจในเมืองซัมเตอร์ รัฐเซาท์แคโรไลนา วันหนึ่งเขาได้รับแจ้งจากเด็กหนุ่ม Cameron Simmons วัย 13 ปี ว่าเขาทะเลาะกับแม่อย่างหนัก จนรู้สึกเครียดและคิดอยากจะหนีออกจากบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ Gaetano ได้ยินแบบนั้น เขาก็ไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยไร้สาระ แต่มองว่าเป็นเรื่องซีเรียสที่ควรได้รับการแก้ไขเหมือนกับปัญหารถติด ขโมยขึ้นบ้าน หรืออุบัติเหตุต่างๆ หลังจากวางสาย เขาก็ขับรถของสายตรวจมาที่บ้านของหนุ่มน้อย Cameron เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เด็กหนุ่มบอกว่าแม่ของเขาเกิดอาการเครียดเพราะต้องย้ายบ้านจากรัฐเท็กเท็กซัสมายังเซาท์แคโรไลนา เพื่อมาดูแลญาติที่ป่วย ความเครียดของครอบครัวถูกส่งผ่านมายัง Cameron บวกกับเพิ่งจะย้ายบ้านมาได้ไม่นาน ทำให้ที่ห้องของเขาไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งใดๆ สำหรับเด็กเลยแม้แต่ชิ้นเดียว หลังจากที่เจ้าหน้าที่ Gaetano ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด เขาก็รู้สึกเห็นใจเด็กหนุ่มคนนี้อย่างมาก เขาจึงให้เบอร์โทรศัพท์ไป “ผมให้เบอร์โทรศัพท์กับเขาไป เพื่อที่เขาจะได้โทรหาผมเมื่อไหร่ก็ได้ที่เขาต้องการ” เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว หลายสัปดาห์ต่อมาตำรวจหนุ่มก็ให้ความช่วยเหลือแก่ Cameron ด้วยการเอาข้าวของและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เช่นเตียงนอน…
-
อย่างกับเดอะแฟลช ภายใน 1 นาที สาวมาเลเซียเปลี่ยนได้ 19 ชุด เอาสถิติโลกไปเถอะ!!
ก่อนอื่น #เหมียวฟิ้นอยากจะถามพ่อบ้านทั้งหลายว่า แม่กวางน้อยของพวกคุณมีปัญหาเรื่องการแต่งตัวนานกันบ้างหรือเปล่า? สาวๆ บางคนบอกว่า “ขอเวลาแป็บเดียว” แต่พอคุณก้มเล่นมือถือเพื่อรอเวลาที่ว่าแป๊บเดียวนั้น กลับล่วงเลยผ่านไปอย่างรวดเร็วซะงั้น!! ถ้าสาวๆ ของคุณมีปัญหาแบบนี้ คุณจะต้องส่งเธอไปเรียนรู้เรื่องการแต่งตัวแบบสายฟ้าแล่บกับ 2 สาวมาเลเซียซะแล้วล่ะ สาวๆ ที่เราพูดถึงมีชื่อว่า Avery Chin (ซ้าย) และ Sylvia Lim (ขวา) ทั้งคู่เป็นนักแสดงมายากลจากประเทศมาเลเซียที่ออกแสดงโชว์มาแล้วมากมาย แต่กับโชว์ล่าสุดของพวกเขาเล่นเอาผู้ชมตกตะลึงจนต้องมีการจดบันทึกลงในกินเนสบุ๊กเลยทีเดียว เพราะพวกเขาได้โชว์วิธีการเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งหมด 19 ชุด ภายในเวลา 1 นาทีเท่านั้น!! เปลี่ยนชุดรวดเร็วปานสายฟ้าแล่บ!! ยกม่านขึ้นลง ก็เปลี่ยนชุดในทันใด ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่นี่เลย สะสะสุดยอด!! อยากให้กวางน้อยที่บ้านแต่งตัวได้เร็วแบบนี้จริงๆ ที่มา Guinness World Records
-
โถเจ้าเหมียว… นักดับเพลิงช่วยแมวจากท่อเหล็ก ช่วยปุ๊บวิ่งหนีปั๊บ ไม่ขอบคุณส๊ากคำ!!
แมวอย่างพวกเรานี่ถือว่าเป็นสัตว์ที่จอมซุกซนอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได่ เพราะด้วยรูปร่างที่เพรียวบาง (แต่บางตัวก็ไม่) และการทรงตัว ทำให้พวกมันสามารถไปที่ไหนก็ได้ที่อยากไป แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีสัตว์ชนิดไหนที่เก่งไปซะทุกเรื่อง มันจะต้องมีวันพลาดท่าแบบแมวตัวนี้เข้าสักวันหนึ่ง… เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTV ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการช่วยเหลือเจ้าแมวตัวหนึ่ง ที่ซนไม่เข้าเรื่อง ไปมุดท่อเหล็กจนหัวของมันติดอยู่ในท่อเป็นเวลานาน ต้องทีมนักดับเพลิงต้องหาอุปกรณ์มางัดมันออกกันวุ่นวาย อยากเห็นกันแล้วล่ะสิว่ามันจะถูกช่วยอีท่าไหน!? งั้นไปดูคลิปก่อนกันเลย จากคลิปวิดีโอจะเห็นว่าเจ้าแมวตัวนี้พาตัวเองเข้าไปอยู่ในท่อเหล็ที่เล็กและแคบมาก จนมันไม่สามารถเอาหัวตัวเองมุดออกจากท่อไปได้ ต้องใช้เวลาสักพักเลยกว่าจะมีคนมาเห็นมันเข้า เมื่อมีคนสังเกตเห็นจึงโทรแจ้งให้หน่วยดับเพลิงมาช่วยเอามันออกจากท่อ เมื่อมาถึงพวกเขาก็ลองพยายามดันหัวมันออก แต่ก็ดูจะไม่เป็นผล พวกเขาจึงหยิบเอาเลื่อยไฟฟ้ามาผ่าท่อออกก่อน ในระหว่างนั้นก็รดน้ำลงไปที่บริเวณท่อด้วย เพื่อไม่ให้สะเก็ดไฟไปโดนเจ้าแมว แต่พอนักดับเพลิงช่วยมันออกมาได้ปุ๊บ มันก็กระโดดวิ่งหนีไปทันที ไม่มีขอบคงขอบคุณส๊ากคำ… เอาเป็นว่ามันปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะนะ มันคงจะวิ่งหนีไปตามสัญชาตญาณแมวน่ะแหละ ที่มา RT , Shanghaiist
-
จริงจังนางเงือก!! “โรงเรียนสอนการเป็นเงือก” แสดงออกในสิ่งที่อยากจะเป็น เพื่อเติมเต็มความฝัน
หากคุณชื่นชอบหรือมีไอดอลตัวละครนางเงือก Ariel จากการ์ตูน The Little Mermaid แล้วใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะเป็นนางเงือกแบบนั้นบ้าง (แม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ก็ตาม) วันนี้ความฝันของคุณเป็นจริงแล้วล่ะ เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้ไปเห็นและอ่านเรื่องราวของโรงเรียนเฉพาะทางแห่งหนึ่งในแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สอนให้ผู้คนสามารถว่ายน้ำได้อย่างนางเงือก พร้อมกับสวมชุดนางเงือก ประหนึ่งว่าคุณเป็นเจ้าหญิงแห่งดิสนีย์เลย โรงเรียนที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า L.A. Mermaid School ก่อตั้งโดยนาง Virginia Hankins วัย 33 ปี ผู้มีแนวคิดที่อยากจะเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันแบบเดิมๆ ให้ต่างออกไป และสนับสนุนให้ผู้คนกล้าแสดงออกในสิ่งที่พวกเขาอยากจะเป็น นาง Virginia พูดถึงคอร์สการแปลงร่างเป็นเงือกว่า “ผู้คนสามารถเรียนรู้การเป็นเงือกได้ และการเป็นเงือกก็ถือเป็นกิจกรรมยามว่างที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร ผู้ใหญ่หลายๆ คนจะมาหาเราและพวกเขาต้องการทำอะไรสักอย่างที่แตกต่างออกไป” “พวกเขาเหล่านั้นมักจะเคยดูการ์ตูน The Little Mermaid มาก่อน และพวกเขาต้องการออกไปทำตามความฝันในวัยเด็ก พวกเขาอยากจะออกมาจากโต๊ะที่พวกเขาทำงานอยู่” “เมื่อคุณอยู่ในน้ำเวทย์มนต์บางอย่างจะเกิดขึ้น มันเกือบจะเหมือนกับโลกทั้งโลกหายไป ทุกอย่างจะเงียบมากขึ้น ทุกอย่างจะดูจริงมากขึ้น” ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนเงือกกล่าว ที่โรงเรียนแห่งนี้จะสอนวิธีการว่ายน้ำให้กับคุณ โดยให้คุณสวมใส่ชุดคล้ายกับนางเงือก (หรือนายเงือก) จากนั้นก็สอนวิธีการกลั้นหายใจในน้ำ การสะบัดขา การม้วนตัว เพื่อให้คุณกลายเป็นเงือกอย่างแท้จริง…
-
น้ำตาจะไหล…สุนัขพยายามหนีออกจากสถานสงเคราะห์สัตว์ เพื่อกลับไปหาเจ้านายที่ทิ้งมัน T_T
ว่ากันว่าเวลาที่สุนัขให้ความรักกับใครไปแล้ว มันก็จะรักและภักดีกับคนๆ นั้นตลอดไป แม้ว่าเจ้านายของมันจะทิ้งมันไปแล้วก็ตาม นี่เป็นเรื่องราวของเจ้า Ginger สุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดสีน้ำตาลดำ มันถูกเจ้านายนำมาปล่อยให้กับสถานสงเคราะห์สัตว์ Apple Valley Animal Shelter ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุผลว่า “ไม่สามารถเลี้ยงมันได้อีกต่อไป” แต่เจ้า Ginger ก็ยังคงรักเจ้านายเก่าของมันมาก และเกลียดการถูกขังอยู่ในสถานสงเคราะห์ มันจึงคิดหาวิธีที่จะหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้ วันหนึ่งเจ้า Ginger ได้หายตัวออกไปจากสถานสงเคราะห์ ทางเจ้าหน้าที่จึงเปิดกล้องวงจรปิดดูความเคลื่อนไหวภายในอาคารถึงได้เห็นว่ามันพยายามเปิดประตูภายในอาคารถึง 2 บาน เพื่อกลับไปหาเจ้านายเก่าของมัน หลังจากที่หายตัวไป 3 วัน ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้รับรายงานว่ามีคนพบเจ้า Ginger อยู่แถวๆ หมู่บ้านของเจ้านายเก่า พวกเขาจึงต้องวางแผนพามันกลับเพื่อความปลอดภัย และประกาศหาคนเลี้ยงใหม่ให้กับมัน ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา ทางเฟซบุ๊กเพจ Apple Valley Animal Shelter ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าตอนนี้มีคนมาขออุปการะเจ้า Ginger แล้วเรียบร้อย และยังบอกอีกว่าที่บ้านใหม่นั้นมีสุนัขที่พร้อมจะอยู่เล่นเป็นเพื่อนกับมัน ในระหว่างที่เจ้านายใหม่ไม่อยู่บ้านด้วย …
-
ล้ำไปอีก!! ญี่ปุ่นคิดค้นเก้าอี้เข้าคิวไฟฟ้า “ProPILOT” เลื่อนไปต่อคิวอัตโนมัติ โดยไม่ต้องลุกเปลี่ยนที่
ร้านอาหารดังๆ หลายแห่งที่คนชอบไปต่อคิวรอกันนานๆ เช่นชาบู หมูจุ่ม หมูกระทะ หรือบุฟเฟ่ต์ มักจะมีเก้าอี้ไว้ที่ด้านนอกร้าน เพื่อให้ลูกค้าที่มาต่อคิวได้นั่งรอกัน เมื่อถึงคิวเรียกลูกค้าก็จะลุกเข้าไปในร้าน และคิวต่อๆ ไปก็จะต้องลุกจากเก้าอี้เพื่อขยับไปนั่งตัวถัดไป แต่การรอที่นอกร้านอาหารเหล่านั้นจะกลายเป็นเรื่องสนุกทันที เมื่อคุณได้รู้จักเก้าอี้ไฟฟ้า ProPILOT ที่เป็นผลงานการประดิษฐ์จาก Nissan ประเทศญี่ปุ่น อยากรู้ว่าเจ้าเก้าอี้ไฟฟ้าตัวนี้มันทำงานยังไงน่ะเหรอ? ลองไปชมคลิปการทำงานกันก่อนเลย จากคลิปคุณจะเห็นว่าเก้าอี้ ProPILOT นั้นสามารถเคลื่อนที่เองได้ เมื่อถึงคิวของคุณที่จะต้องลุก เจ้าเก้าอี้กตัวนี้ก็จะขยับออกมาจากแถว แล้วเลื่อนไปต่อคิวด้านท้ายเพื่อให้ลูกค้าคนใหม่มานั่ง โดยที่ไม่ต้องมีใครลุกออกจากเก้าอี้ของตัวเองเลย หลักการทำงานของเจ้าเก้าอี้ตัวนี้ก็คือ ทางทีมผู้พัฒนาจะทำการติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์ (เทคโนโลยีเดียวกับที่ Nissan ใช้กับรถยนต์) ไว้ที่ด้านล่าง ทำให้เก้าอี้รู้ระยะห่างของตัวเองกับเก้าอี้ตัวถัดไป เมื่อมีการขยับเกิดขึ้น ตัวต่อๆ ไปก็จะขยับตามโดยอัตโนมัติ ขยับได้เองโดยไม่ต้องลุกเลย ตอนนี้ทาง Nissan ได้ส่งเก้าอี้ของตัวเองไปให้กับร้านอาหารและร้านขายของต่างๆ ที่ต้องต่อคิวเพื่อทดลองใช้ โดยแลกกับการที่ทางร้านโพสต์ภาพและคลิปวิดีโอลงในโซเชียลมีเดียวแล้วติดแฮชแท็ก #NissanProPilotChair แม้ว่าเสียงตอบรับจากลูกค้าและผู้ใช้ส่วนใหญ่จะชื่นชอบเก้าอี้ตัวนี้ แต่ก็มีบางคนกังวลว่ามันจะทำให้ผู้คนเกิดความขี้เกียจมากเกินไป จนอาจกลายเป็นเก้าอี้แบบเดียวกับที่เคยปรากฏในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Wall-E ก็เป็นได้ …
-
ขยี้ตาแป็บ!! นี่คือ 18 ชาวรัสเซียที่มีหน้าเหมือนดาราดัง ถ้าตัวจริงไม่ว่าง เอาพวกเขาไปแทนนะ…
เป็นเรื่องปกตินะที่เราจะเห็นคนรอบข้างมีใบหน้าละม้ายคล้ายคนดัง (แม้แต่#เหมียวฟิ้นเองยังเคยโดนทักว่าหน้าเหมือนติ๊ก เจษฎาภรณ์เลย) แต่มีอยู่ประเทศหนึ่งที่มีคนหน้าตาคล้ายคนดังเยอะเป็นพิเศษ นั่นคือที่ประเทศรัสเซีย เพราะในเว็บไซต์ต่างประเทศหลายๆ แห่งได้มีการรวบรวมภาพออกมาแล้วหลายครั้ง ว่ามีชาวรัสเซียที่หน้าตาเหมือนคนดังจนคิดว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นดาราตัวจริงแอบมาเนียนอยู่ที่รัสเซียด้วยซ้ำ ถ้าไม่เชื่อ งั้นไปดูภาพยืนยันเลย 1. Vin Diesel 2. Björk 3. Scarlett Johansson 4. Bruce Willis 5. Johnny Depp 6. Eminem 7. Jason Statham 8. Hugh Jackman 9. Chuck Norris 10. Harrison Ford 11. Eminem อีกคน… 12. ประธานาธิบดี Barack Obama 13. The Joker (ป้าจะแต่งเหมือนอะไรขนาดนี้) 14. Hugh Laurie (นักแสดงนำจากซีรี่ส์ House)…
-
เจอหัวหน้าแล้ว!! รู้จักตัวจริงของ Pico Taro ผู้อยู่เบื้องหลังเพลง PPAP จริงๆ ไม่ได้เป็นอาจารย์?
โด่งดังกันภายในชั่วข้ามคืนเลยจริงๆ สำหรับเพลงมึนๆ “Pen-Pineapple-Apple-Pen” โดยศิลปินที่ชื่อว่า Pico Taro ที่ติดหู (หรือบางคนอาจจะไม่ติด) ไปทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งหลังจากที่เพลงนี้เริ่มเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ ก็มีการรายงานกันออกมาว่าเขาเป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น ที่กำลังทำการทดลองเกี่ยวกับ Earworm หรืออาการที่เพลงๆ หนึ่งติดอยู่ในหูจนเอาออกไม่ได้ แต่หลังจากที่#เหมียวฟิ้นพยายามค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับตา Pico Taro มาได้สักพัก ก็พบว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ได้เป็นอาจารย์อย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ (และอาจจะไม่ได้ทำการทดลองอะไรเลยด้วยซ้ำ) ชื่อ Pico Taro เป็นเพียงชื่อที่เขาตั้งขึ้นมาเพื่อใช้เป็นตัวละครสมมติเท่านั้น ชื่อจริงๆ ของเขาคือ Kazuhiko Kosaka เป็นพิธีกร ดีเจ นักแสดงตลกจากญี่ปุ่น นาย Kazuhiko Kosaka เกิดที่จังหวัดอาโอโมริเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ปี 1973 ปัจจุบันอายุ 43 ปี เคยผ่านผลงานการแสดงมาบ้างในภาพยนตร์เรื่อง By Rule of Crow’s Thumb เมื่อปี 2012 อย่างที่บอกไปว่าเขาทำอาชีพเป็นดีเจด้วย และเมื่อเข้าสู่วงการดีเจเขาก็เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น DJ Kosaka Daimaou และที่มาที่ไปของคาแรคเตอร์ Pico Taro เกิดมาจากการที่เขาแต่งตัวแปลกประหลาดในงานโชว์งานหนึ่งของเขา แล้วตั้งชื่อเล่นๆ…
-
ยกระดับความอาร์ต… รวม 23 ดีไซน์ม้านั่งสาธารณะ ออกแบบได้เก๋ไก๋ ประหนึ่งงานศิลปะกลางแจ้ง
ตามสวนสาธารณะแต่ละแห่งจะมีการตกแต่งด้วยสิ่งของอยู่ไม่กี่อย่าง เช่นต้นไม้ สนามหญ้า ถังขยะ และม้านั่งเพื่อใช้สำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ หรือเป็นจุดนัดพบเจอกันของใครต่อใคร แต่คงจะดีไม่น้อยเลยหากสวนสาธารณะเหล่านั้นเพิ่มความอาร์ตเข้าไปสักหน่อย ทำให้ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาสัมผัสได้ถึงแรงบันดาลใจและความจรรโลงใจ วันนี้#เหมียวฟิ้นอยากจะเพิ่มเติมไอเดียดีๆ ให้กับทุกๆ คนด้วยภาพงานดีไซน์ม้านั่งแปลกๆ จากทั่วโลก ที่ให้มากกว่าประโยชน์ใช้สอย แต่อาจจะสร้างไอเดียดีๆ ให้กับคุณได้ด้วยนะเออ และขอยืนยันว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ภาพตัดต่อแต่อย่างใด เราลองไปดูกันเลยดีกว่าว่ามันมีหน้าตาเป็นยังไง!? 1. ม้านั้งในสวนสาธารณะ Peyzajnaya Aleya ในเมืองเคียฟ ประเทศยูเครน 2. สวนสาธารณะ Cadigal Green ในมหาวิทยาลัย University of Sydney 3. ม้านั่งนี้ ตั้งอยู่ในเมืองสปลิต ประเทศโครเอเชีย 4. บันไดในเมืองแคนซัสซิตี รัฐมิสซูรี 5. เก้าอี้พลังแสงอาทิตย์ ที่จะเปลี่ยนพลังงานเป็นหลอดไฟให้แสงสว่างยามค่ำคืน 6. เก้าอี้ที่ดีไซน์เพื่อคนใช้คอมพิวเตอร์นอกสถานที่ หรือจะมานั่งจิบกาแฟชิลๆ ก็ได้ 7. เก้าอี้ที่ปลูกต้นไม้ไปด้วย …
-
ชมภาพผลงานภาพนิทรรศการ “บ้านคนจนในฮ่องกง” ทั้งสวย และรู้สึกอึดอัดแบบแปลกๆ!!
ความแตกต่างกันระหว่างชนชั้นนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะสังคมไหนๆ ก็ตาม เพราะเมื่อมีคนที่มีรายได้สูง ก็ต้องมีคนที่รายได้ต่ำเป็นธรรมดา แต่ในบางประเทศอย่างเช่น ฮ่องกง แม้จะมีบ้านเมืองที่สวยงามก็ตาม แต่ในซอกหลืบของสังคมก็ยังมีคนที่รายได้น้อยอยู่ น้อยชนิดที่ว่าคุณอาจจะต้องอ้าปากค้างเลย ผลงานภาพถ่ายที่คุณกำลังจะได้เห็นต่อไปนี้เป็นฝีมือการถ่ายของ สมาคมเพื่อสมาชิกองค์การชุมชน (SoCO) ในฮ่องกง พวกเขาได้ออกไปถ่ายภาพของห้องพักชาวฮ่องกงในชุมชนของคนรายได้น้อยแล้วนำภาพเหล่านั้นมาจัดเป็นนิทรรศการตีแผ่ให้สังคมภายนอกได้เห็นกัน ภาพเหล่านี้เป็นห้องพักของผู้ที่มีรายได้ต่ำหลายๆ คน อย่างเช่นนาย Tony (ไม่เปิดเผยนามสกุล) วัย 39 ปี หนึ่งในสมาชิกของชุมชนแออัดเล่าให้สื่อฟังว่าเขาออกจากโรงเรียนมัธยมหลังจากที่เพิ่งเข้าเรียนได้เพียงปีเดียว Tony หนีออกจากบ้านมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองตั้งแต่วัยรุ่นอยู่ในแฟลตแออัดแห่งนี้มาตลอด ห้องพักของเขามีพื้นที่อยู่ 46 ตารางเมตร อาจจะดูเหมือนกว้าง แต่เขาต้องอาศัยอยู่กับคนอื่นๆ อีก 21 คน “สิ่งที่ยากที่สุดในการอยู่ที่นี่ก็คือ การไม่มีอากาศบริสุทธิ์ให้หายใจ มันอึดอัดมาก” เจ้าตัวกล่าว ส่วน Ye คุณแม่ลูกหนึ่งที่อาศัยอยู่ในแฟลตแห่งหนึ่งก็บรรยายถึงที่พักของเธอว่าห้องของเธอมีพื้นที่แค่ 9 ตารางเมตรเท่านั้น เล็กขนาดที่ว่าเธอต้องทำห้องน้ำให้กลายเป็นห้องครัว เพื่อที่จะได้ทำอาหารได้ด้วย “ฉันต้องคลานลงไปอาบน้ำอยู่กับพื้น เพื่อกันไม่ให้น้ำกระเด็นมาโดนหม้ออาหาร” ส่วนหนึ่งที่พวกเขาต้องมาอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดแบบนี้ก็เพราะว่าต้องรอบ้านพักจากทางรัฐบาลที่นานถึง 4 ปี บวกกับราคาค่าเช่าที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เหล่าผู้มีรายได้น้อยเลยต้องอดทนอาศัยอยู่ในห้องพักแออัดแบบนี้ จากการสำรวจเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา พบว่าชุมชนแออัดที่พวกเราเห็นกัน มีห้องพักราคาถูกอยู่ 88,000…
-
เปิดโลกทัศน์ให้ปาก พาชม 25 เมนูอาหารเช้าทั่วโลก ที่แค่ดูก็เหมือนได้ออกผจญภัยแล้ว!!!
อาหารมื้อเช้าถือเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวันเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการสารอาหารมากที่สุดในการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งวัน แต่เนื่องจากโลกใบนี้มีประเทศที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกันอยู่มากมาย ภูมิอากาศต่างกัน วัตถุดิบในแต่ละประเทศก็ต่างกัน ทำให้อาหารที่พวกเขากินแตกต่างกันไป เมื่อไม่นานมานี้ได้มีนักเขียนและนักเดินทางที่ชื่อว่า Victoria Philpott ออกเดินทางไปทั่วโลก เพื่อถ่ายภาพอาหารเช้าจากประเทศต่างๆ มาเผยแพร่ให้พวกเราได้ดูกัน ลองดูซิว่าของประเทศไหนหน้าตาเป็นยังไง? แล้วประเทศไหนน่าชิมสุด? 1. ออสเตรเลีย ขนมปังปิ้งทาด้วย Vegemite ยีสต์สีดำที่หลงเหลือมาจากกระบวนการหมักเบียร์ 2. บราซิล ขนมปัง แฮม ชีส ขนมปัง กาแฟและนม 3. จีน ติ่มซำเป็นอาหารเช้าในแต่ละท้องถิ่น ซึ้งแต่ละที่จะมีหน้าตาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าพื้นที่นั้นมีอะไรเด่นๆ บ้าง 4. สวิตเซอร์แลนด์ มีข้าวโอ๊ต ธัญพืช ผสมกับผลไม้แห้ง/สด กินคู่กับนมหรือโยเกิร์ตก็ได้ 5. ปากีสถาน ที่ปากีสถานจะชอบกินอะไรที่ร้อนๆ หน่อยเช่น เนื้อสันนอกวัวตุ๋น หรือจะเป็นส่วนขาก็เยี่ยมไม่แพ้กัน 6. โคลอมเบีย อาหารเช้าแบบดั้งเดิมของพวกเขาจะเป็นเมนูที่ชื่อว่า Changua ประกอบไปด้วยซุป ต้นหอม…
-
ถึงกับตาลาย…เคยเห็นกันไหม แมงมุมที่มีลวดลายเหมือนกระจกเงารอบๆ ตัวของมัน?
นอกเหนือจากแมงมุมสีดำตัวเล็กๆ ที่ชอบทำรังตามเพดานบ้านแล้ว #เหมียวฟิ้น ก็แทบจะไม่สามารถรับมือกับแมงมุมชนิดอื่นๆ ได้เลย ยิ่งเจอแมงมุมที่มีขนแล้วด้วย…ไม่ต้องอยู่มันแล้วบ้านนี้!! แต่กับแมงมุมชนิดนี้อาจจะพออนุโลมได้บ้างนะ เพราะมันหน้าตาสวยงามราวกับสิ่งประดิษฐ์อะไรสักอย่างเลย แมงมุมที่ว่านี้ก็คือ แมงมุมกระจก นั่นเอง เจ้าแมงมุมกระจกที่ว่านี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Thwaitesia มันอาจจะไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเท่าไหร่นัก แต่ที่มันกลายเป็นที่พูดถึงอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตตอนนี้ก็เพราะว่ามีช่างภาพชาวสิงคโปร์ที่ชื่อว่านาย Nicky Bay ไปตามถ่ายภาพและเก็บข้อมูลของแมงมุมชนิดนี้อยู่นานหลายปีจนเกิดเป็นอัลบั้มภาพสวยๆ ที่กำลังเห็นอยู่นี้ยังไงล่ะ สาเหตุที่พวกมันได้ชื่อว่าแมงมุมกระจกก็เพราะว่า ที่บริเวณก้นของมันจะมีเกล็ดสีเงินลักษณะคล้ายกระจกสะท้อนชิ้นเล็กๆ ปกคลุมอยู่ นอกจากนี้นาย Bay ยังสังเกตเห็นด้วยว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่แมงมุมชนิดนี้รู้สึกถูกคุกคาม มันจะสามารถจัดการกับแผ่นกระจกที่ก้นของมัน ให้ขยายใหญ่ขึ้นได้เพื่อเป็นการข่มขู่ผู้ต่อสู้นั่นเอง แม้ว่านาย Bay จะไม่ได้เชี่ยวชาญทางด้านชีววิทยาเท่าไหร่ แต่ด้วยความหลงไหลในแมงมุมกระจกนี่แหละ ทำให้เขาอดทนอย่างใจจดใจจ่อเพื่อถ่ายภาพพวกมันมาเผยแพร่ให้เราได้ดูกัน พวกมันมีการสร้างใยแมงมุมที่เป็นเอกลักษณ์มาก . ขยับดุ๊กดิ๊กๆ . . ใครสนใจอยากติดตามผลงานภาพถ่ายของนาย Nicky Bay ลองกดเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ sgmacro.blogspot ได้เลย ยังมีภาพแมงมุมสวยๆ งามๆ (แต่หลอน) ให้ดูอีกเพียบ ที่มา thisiscolossal
-
23 เรื่องราวความเพี้ยน ที่มักจะพบเห็นได้ ตามฟิตเนส เป็นประจำ …คนออกกำลังกายเขารู้ดี
เดี๋ยวนี้คนหันมาใช้บริการฟิตเนสเพิ่มทุกวันๆ นั่นก็เพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นจะได้มีสุขภาพที่ดีและหุ่นสวยๆ ยังไงล่ะ แต่ #เหมียวฟิ้น เชื่อว่าทุกคนจะต้องเคยมีครั้งแรกกันทั้งนั้น ครั้งแรกของการออกกำลังกาย ครั้งแรกของการใช้เครื่องออกกำลังกาย ครั้งแรกของการสมัครสมาชิก และไอ้ครั้งแรกนี่แหละก็สร้างความเหวอความฮามาหลายครั้งแล้ว วันนี้เราก็เลยจะพาคุณไปชมการรวบรวม 25 ภาพแบบพลาดๆ ของคนที่ไปใช้บริการที่ยิม ดูกันซิว่าคุณเคยเจอเหตุการณ์แบบไหนมาบ้าง? 1. เทรนเนอร์ๆ อย่ามัวแต่มองสาวดิเห้ย!! 2. ปลอดภัยไว้ก่อน… 3. เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนมั้ยพ่อ? 4. เมื่อเมียไม่อยู่ แต่ต้องมาออกกำลังกาย 5. เดี๋ยวเท้าก็หักหรอกเจ๊!! 6. การทรงตัวเป็นเรื่องสำคัญ แต่ดูเวล่ำเวลาด้วยดิฟระ!! 7. เขาให้มาออกกำลังกายนะ ไม่ได้ให้มาหลับ ปั๊ดโถ่ 8. เราว่ามันไม่ได้เอาไว้ใช้แบบนั้นนะ 9. บางครั้งคุณต้องรู้ลิมิตของตัวเองด้วย 10. เอ่อ น่าจะผิดด้านแล้วนะครับนั่น 11. กลับไปดูทีวีที่บ้านก็ได้มั้ง?…
-
เจ้าพ่อเฟซบุ๊กร่วมมือนักธุรกิจและนักวิทยาศาสตร์ เริ่มภารกิจตามหาเอเลี่ยนนอกโลก!!
ภารกิจการค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลกนั้นดูจะเป็นอะไรที่แฟนตาซีและไกลเกินตัวมากทีเดียว แต่พวกคุณรู้หรือไม่ว่าตอนนี้เขากำลังค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลกกันจริงๆ นะ และคนที่จะได้พบสิ่งมีชีวิตที่ว่านี้ก็น่าจะเป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาดและร่ำรวยด้วย เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าผู้บริหาร Facebook อย่าง Mark Zuckerberg, นักธุรกิจชาวรัสเซีย Yuri Milner และนักฟิสิกส์ชื่อก้องโลก Stephen Hawking ได้ร่วมกันลงทุนทำโปรเจ็คออกตามหาเอเลี่ยนนอกโลกด้วยกัน โปรเจ็คที่ว่านี้มีชื่อว่า ‘Breakthrough Listen’ จะเป็นการดักจับสัญญาณชีพจากดาวที่ชื่อว่า Proxima b หนึ่งในดวงดาวที่อยู่ในระบบ Centauri ดาวที่ว่ากันว่ามีความใกล้เคียงกับโลกมากที่สุด และมีระยะทางห่างจากโลกเพียง 4 ปีแสงเท่านั้น ตามรานงานบอกว่าโครงการนี้ใช้เงินทุนสูงถึง 3,400 ล้านบาท นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่าดาวดวงนี้มีลักษณะภายนอกที่ใกล้เคียงกับโลกอยู่หลายประการและคาดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่นั่นด้วย เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2016 ที่ผ่านมา นักดาราศาสตร์ได้ค้นพบหลักฐานที่ชัดเจนว่าดวงดาว Proxima Centauri อาจทำหน้าที่เป็นดวงอาทิตย์ให้กับดาวดวงอื่นที่คล้ายกับโลกเช่น Proxima b ตอนนี้ Zuckerberg, Milner และ Hawking ได้ส่งยานอวกาศลำเล็กๆ…
-
สำเร็จหรือไม่? ทีมแพทย์ต่างประเทศเตรียมผ่าตัดเปลี่ยนหัวให้ชายหนุ่มวัย 31 เป็นครั้งแรกของโลก
แม้ในยามที่สิ้นหวังท้อแท้ ขอให้ทุกคนตระหนักไว้เสมอว่ายังมีบุคคลที่ตกทุกข์ได้ยากยิ่งกว่าเราเสมอ แต่ทุกๆ คนก็ต้องต่อสู้กับอุปสรรคเหล่านั้นให้ถึงที่สุด ให้สมกับที่ครั้งหนึ่งเราได้เกิดมานะ หากคุณนึกถึงตัวอย่างของคนสู้ชีวิตเก่งๆ ไม่ออกล่ะก็#เหมียวฟิ้นจะแนะนำให้รู้จักสักคนหนึ่ง เขาผู้นี้คือนาย Valery Spiridonov วัย 31 ปี นาย Spiridonov เกิดมาพร้อมกับโรคสุดแปลกที่ชื่อว่า Werdnig-Hoffman อาการของโรคนี้จะทำให้เด็กที่เกิดมามีอาการอ่อนแรง กล้ามเนื้อลีบ มีความผิดปกติที่ข้อกระดูก เคี้ยวและกลืนอาหารได้ลำบาก ซึ่งคนส่วนมากที่ป่วยเป็นโรคนี้มักจะเสียชีวิตตั้งแต่เด็กๆ แต่เขากลับสามารถมีชีวิตรอดมาได้ถึง 31 ปี ความทุกข์ทรมานของเขาดำเนินมาใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เพราะล่าสุดมีข่าวว่าเขาได้เป็นอาสาสมัครให้กับการทดลองผ่าตัดที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน อย่างการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายหัว การผ่าตัดครั้งนี้จะได้ Xiao-Ping Ren ศัลยแพทย์ทางระบบประสาทฝีมือดีจากประเทศจีนร่วมกับคุณหมอ Sergio Canavero จากอิตาลีมาร่วมผ่าตัดด้วย นาย Spiridonov ให้สัมภาษณ์กับสื่อเกี่ยวกับการผ่าตัดที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเจ้าตัวบอกว่าการผ่าตัดมีค่าใช้จ่าสูงถึง 450 ล้านบาท ใช้ทีมงานกว่า 150 คน เวลาผ่าตัดอย่างน้อย 36 ชั่วโมง แถมยังมีความเสี่ยงที่สูงมาก แต่เขาก็พร้อมที่จะเสี่ยงไปกับมัน “อาการ ณ ปัจจุบันของผมค่อนข้างหนัก ผมไม่สามารถดูแลตัวเองได้…
-
มุมมองทุกอย่างบนโลกจะเปลี่ยนไป เมื่อคุณได้ชมการเปรียบเทียบสิ่งต่างๆ ในภาพพวกนี้
บางครั้งแค่ภาพๆ เดียวอาจไม่สามารถอธิบายหรือบรรยายเรื่องราวได้หมด ดังเช่นที่คุณเต๋อ นวพล ได้กล่าวไว้บนเวที TEDxBangkok 2016 ว่าคนถ่ายภาพจะเลือกแค่ใดมุมหนึ่งมานำเสนอ ฉะนั้นเราลองมามองความรู้เดิมๆ ภาพเดิมๆ ด้วยมุมมองใหม่ๆ กันดูบ้างไหม? ผลงานและภาพมุมมองใหม่ๆ ที่#เหมียวฟิ้นกำลังพูดถึงอยู่นี้เป็นของนักศึกษาชาวอเมริกันคนหนึ่งที่ชื่อว่านาย Kevin Wisbith เขาได้สร้างอัลบั้มภาพๆ หนึ่งที่ชื่อ A Quick Perspective โดยการนำเอาสิ่งของต่างๆ มาเปรียบเทียบกัน เช่นเรือ Titanic หรือยานจากเรื่อง Star Wars ลองมาดูกันซิว่ามันจะเปลี่ยนมุมมองของคุณได้จริงหรือเปล่า 1. แมงป่องยุคโบราณ ตัวใหญ่พอๆ กับแมว แมงป่องชนิดนี้มีชื่อว่า Pulmonoscorpius kirktonensis เป็นแมงป่องสมัยโบราณที่สูญพันธุ์ไปนานแล้ว มีการจดบันทึกว่ามันสามารถเติบโตจนมีขนาดใหญ่ได้สูงสุดถึง 60 – 70 เซนติเมตร หรือประมาณแมว 1 ตัวเลยทีเดียว…(กลัวแล้วจ้า) 2. เรือบรรทุกน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในโลกของเรามีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ยักษ์มากมาย หนึ่งในนั้นคือเรือบรรทุกน้ำมัน Seawise Giant ที่มีขนาดความยาวอยู่ที่ 458 เมตร แต่เมื่อนำมันมาวางลงในทะเลสาบของ Central Park ในรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา มันก็ยังเหลือเนื้อที่อีกเพียบ …
-
ทัวร์ Data Center คลายข้อสงสัย ข้อมูลบนเน็ตมหาศาล เขาเอาไปเก็บกันไว้ตรงไหนยังไง!?
ในทุกวันนี้ ระบบอินเตอร์เน็ตช่างก้าวไกลไปมาก ไม่ว่าจะข้อมูล ภาพ คลิป หรือเอกสารอะไรก็ตามแต่ สามารถหาได้ตามอินเตอร์เน็ตจนหมดแล้วซึ่งนับวันไอ้เจ้าข้อมูลเหล่านี้ก็ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนบางคนเริ่มสงสัยว่า “ข้อมูลเหล่านั้นมันเอาไปเก็บไว้ที่ไหนหมด?” เมื่อไม่นานมานี้#เหมียวฟิ้นได้ไปเจอเข้ากับกระทู้หนึ่งของสมาชิกเว็บไซต์พันทิปหมายเลข 2973363 ที่ตั้งกระทู้สงสัยเกี่ยวกับข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเช่น Facobook Youtube หรือเว็บไซต์ต่างๆ ว่ามีวิธีการจัดเก็บข้อมูลมหาศาลได้ยังไง? เพราะเนื่องจากในแต่ละวันมีคนส่งข้อมูลและคลิปต่างๆ เข้าไปเยอะมาก เราก็เลยขอรวบรวมข้อมูลต่างๆ มาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้แบบง่ายๆ โดยจะเป็นการยกตัวอย่างศูนย์เก็บข้อมูลของ Google มาใช้อ้างอิง เพื่อที่ทุกคนจะได้เห็นเป็นภาพเดียวกันนะ ในทุกๆ ครั้งที่คุณใช้ผลิตภัณฑ์ของ Google ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ Google.com, Youtube.com, Gmail หรือดึงข้อมูลบนอุปกรณ์แอนดรอยด์ต่างๆ คุณจะถูกเชื่อมต่อไปยังศูนย์ข้อมูลส่วนกลางที่ชื่อว่า Google Data Center ศูนย์ข้อมูลที่ว่านี้มีอยู่ในสหรัฐฯ 12 แห่ง ส่วนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เองก็มีศูนย์ข้อมูลตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์และไต้หวันด้วยเหมือนกัน แต่ที่เราจะพาไปชมกันตอนนี้คือศูนย์เก็บข้อมูลที่อยุ่ในเมือง Lenoir รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ที่นี่จะมีพนักงานคอยหมุนเวียนเปลี่ยนกะมาทำงานตลอด 24 ชม. เพราะหากเกิดอะไรขึ้นกับข้อมูลหรืออุปกรณ์ต่างๆ พวกเขาจะได้แก้ไขมันได้ทันท่วงที ห้องนี้คือ Networkong Room ห้องนี้จะเป็นห้องที่ใช้สำหรับเชื่อต่อฐานข้อมูลต่างๆ ที่เก็บเอาไว้ ส่งต่อไปยังผู้ใช้ทั่วโลก .…
-
นักแข่งไตรกีฬาปฏิเสธชัยชนะ เพื่อแบกน้องชายของตัวเองให้เข้าเส้นชัยไปด้วยกัน
ไม่ว่าจะการแข่งขันไหนๆ ก็ตาม เหล่านักกีฬาต่างก็อยากจะคว้าชัยชนะทั้งนั้น แต่ด้วยข้อจำกัดของร่างกายที่มีการเหนื่อยล้าอ่อนแรง หรือเหตุไม่คาดฝันต่างๆ ทำให้นักกีฬาบางคนต้องแพ้พ่ายไป เช่นเดียวกับนักแข่งขันไตรกีฬาชาวอังกฤษที่ชื่อว่านาย Jonny Brownlee วัย 26 ปี ที่เข้าร่วมการแข่งขันไตรกีฬาที่ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2016 ที่ผ่านมา ตลอดการแข่งขัน นาย Jonny วิ่งนำโด่งมาเป็นอันดับหนึ่ง จนทุกคนคิดว่ายังไงเขาก็ต้องคว้าอันดับ 1 ไปได้อย่างแน่นอน แต่ในช่วง 700 เมตรสุดท้ายก่อนจะเข้าเส้นชัย นาย Jonny เกิดอาการหมดแรงจนสูญเสียการควบคุมขาของตัวเองไป ทำให้แม้แต่การเดินของเขาก็ยังกลายเป็นเรื่องยาก จนเขาต้องเซเข้าไปหาทีมงานที่ยืนแจกน้ำข้างถนน แต่ในระหว่างนั้นนาย Alistair Brownlee วัย 28 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของเขาก็วิ่งเข้ามาหิ้วไหล่ของน้องชาย เพื่อพยุงให้เขาเข้าเส้นชัยไปด้วยกัน ในระหว่างที่สองพี่น้องตระกูล Brownlee กำลังวิ่งอย่างทุลักทุเล Henri Schoeman นักกีฬาที่ตามมาเป็นอันดับที่ 3 ก็วิ่งแซงพวกเขาไปจนเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 ถึงจะเห็นแบบนั้น Alistair ก็ไม่ได้สนใจ พยายามพยุงน้องชายของเขาต่อไป…
-
ชาวเมืองประทับใจ หนูน้อยขายน้ำมะนาว เพื่อระดมทุน หวังช่วยตำรวจป่วยโรคมะเร็ง..!!
ในวัยเด็กเป็นช่วงวัยแห่งความสนุกสนาน ทุกๆ คนมักจะออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อน ตื่นเต้นไปกับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ หรือง่วนอยู่กับของเล่นที่แม่เพิ่งจะซื้อให้ แต่หนุ่มน้อยคนนี้กลับมีความคิดที่ก้าวไกลกว่านั้นมาก นี่คือเรื่องราวน่าประทับใจของหนุ่มน้อย Tyler Hardiman วัย 6 ขวบ จากเมืองกราฟตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา วันหนึ่งเขาดันไปได้ยินข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองของเขาป่วยเป็นโรคมะเร็ง และเขาต้องการที่จะช่วยเหลือตำรวจคนนั้นมากๆ แม้จะไม่เคยเจอกันเลยก็ตาม เด็กชาย Tyler จึงปิ๊งไอเดียในการสร้างธุรกิจเล็กๆ อย่างการขายน้ำมะนาวและขนมเล็กๆ น้อยๆ ข้างถนนขึ้นมา เพื่อระดมเงินแล้วนำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อการรักษาตัว ซึ่งที่ป้ายร้านมีข้อความบอกว่า “ร้านน้ำมะนาว เปิด 3-5 โมงเย็น รายได้มอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ต่อสู้กับโรคมะเร็ง” เมื่อเรื่องราวของร้านขายน้ำมะนาวแห่งนี้เริ่มเป็นที่พูดถึงของชาวบ้านในละแวกนั้นไปเรื่อยๆ ลูกค้าจากหลายๆ ที่ก็พากันมาซื้อน้ำมะนาวของเขามากขึ้น เพื่อนๆ ของเขาก็มาช่วยกันขายของเพื่อสนับสนุนให้เขาช่วยเหลือตำรวจคนนั้นได้สำเร็จ เรื่องของเขาก็เริ่มไปถึงหูของสถานีตำรวจท้องถิ่น พวกเขาก็ไม่เพิกเฉย พากันยกขบวนกันมาที่ร้านขายน้ำมะนาวข้างถนน แล้วมอบเสื้อเชิ้ต เสื้อกั๊กและเข็มกลัดให้กับเขา เพื่อเป็นรางวัลตอบแทน ทางด้านนาง Danielle Hardiman แม่ของเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “มันยอดมาก…
-
ใช่เหรอ…ทดลองค้นคำเดียวกัน ในภาษาอังกฤษกับเกาหลี แต่ผลลัพธ์ต่างกันสุดๆ!?
ในทุกวันนี้การจะค้นหาภาพสักภาพหนึ่งไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงแค่คุณเข้าเว็บไซต์ค้นหา ทุกอย่างก็ลอยมาอยู่ในหน้าจอของคุณได้ง่ายๆ แต่ใช่ว่าคนทั้งโลกจะได้ภาพที่เหมือนๆ กันนะ เพราะอย่างที่เกาหลีใต้เอง บางครั้งคุณก็จะได้ภาพแปลกๆ แตกต่างจากภาพในประเทศอื่นๆ ได้เหมือนกัน… อย่างเช่นคำค้นหาที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูกันในตอนนี้ เป็นคำค้นหาง่ายๆ เช่น “ม้าขาว”, “น้องสาว” และ “กลางคืน” เราจะทำการค้นหาในภาษาอังกฤษเปรียบเทียบไปกับภาษาเกาหลี เพื่อดูว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นยังไง? 1. ม้าขาวภาษาอังกฤษ ม้าขาวภาษาเกาหลี… 2. น้องสาวภาษาอังกฤษ น้องสาวภาษาเกาหลี… 3. กลางคืนภาษาอังกฤษ กลางคืนภาษาเกาหลี… 4. คำว่า “ถนน” ในภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลี… อย่างไรก็ตามการค้นหาภาพจากคำๆ เดียวกันในต่างภาษา อาจจะได้ภาพในบริบทที่แตกต่างกันอันเนื่องมาจากการใช้เป็นคำแสลงหรือเป็นคนที่ผู้คนใช้ค้นหาในสิ่งที่ต้องการมากที่สุดในแต่ละภาษานั้นๆ แต่จะว่าไปมันก็ไม่น่าจะต่างกันมากขนาดนี้ เอ๋ นี่เรากำลังค้นหาคำๆ เดียวกันอยู่ใช่ไหมเอ่ย? ที่มา rocketnews24 เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น
-
อยากได้สักอันไหม!? ไอเดีย “ตู้แมงกะพรุน” ตกแต่งห้อง ให้สวยงามไม่เหมือนใคร
สำหรับคนรักปลาแล้ว การได้มีอ่างปลาส่วนๆ หรือตู้ปลาเก๋ๆ ไว้ในบ้าน คงจะเป็นอะไรที่ช่วยให้รู้สึกดีและผ่อนคลายมากๆ เลยนะ แต่จะดีกว่าไหมหากตู้ปลาเหล่านั้นให้ได้มากกว่าแค่ความสวยงาม แต่ยังให้แสงส่องสว่างในยามค่ำคืนได้ด้วย? เมื่อไม่นานมานี้บริษัท Cubic Aquarium System ผู้ผลิตและออกแบบตู้ปลาในต่างประเทศ พวกเขาได้คิดค้น Jellyfish Tanks ตู้แมงกะพรุนไฮเทคสไตล์โมเดิร์นขึ้นมา เพื่อให้คุณใช้ตกแต่งบ้านได้อย่างลงตัว เจ้าตู้ Jellyfish Tanks จะมีลักษณะเป็นตู้สี่เหลี่ยมขอบมน คล้ายกับเคสคอมพิวเตอร์ สามารถใส่แมงกะพรุนตัวเล็กๆ ลงไปได้ แต่ที่เจ๋งกว่าการเลี้ยงแมงกะพรุนก็คือ ภายในตู้จะมีหลอดไฟ LED สีสันต่างๆ ค่อยส่องสว่าง เมื่อแสงเหล่านั้นไปกระทบกับตัวแมงกะพรุน มันก็จะเปลี่ยนให้แมงกะพรุนเหล่านั้นกลายเป็นหลอดไฟเคลื่อนที่ได้ยังไงยังงั้นเลย ตู้ Jellyfish Tanks มีด้วยกัน 3 รูปแบบ คือสี่เหลี่ม Pulse 80 สี่เหลี่ยมผืนผ้า Pulse 160 และทรงกลม Orbit 20 ให้คุณเอาไปวางไว้ในห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน เพิ่มความมินิมอลเรียบหรูให้กับบ้านของคุณ มีคลิปการทำงานให้ดูด้วยนะ แล้วคุณจะรู้ว่ามันน่าหลงใหลขนาดไหน สงสัยกันล่ะสิว่าจะเลี้ยงพวกมันให้มีชีวิตยืนยาวได้ยังไง? ทางผู้จำหน่ายก็แนะนำให้ผู้ที่สนใจลองไปดูในเว็บไซต์ exoticaquaculture.com ซึ่งในเว็บนั้นก็เป็นบริษัทขายแมงกะพรุนอย่างถูกกฎหมาย…
-
พ่อแม่เห่อลูกโปรดระวัง วัยรุ่นสาวออสเตรียฟ้องพ่อแม่ ฐานโพสต์ภาพน่าอายวัยเด็กลงโซเชียล!?
ข่าวนี้อาจทำให้พ่อแม่ที่ชอบเห่อลูกออกหน้าออกตารู้สึกเสียวๆ ได้เลย เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่าเด็กวัยรุ่นต่างประเทศลุกขึ้นมาฟ้องร้องพ่อแม่ของตัวเอง ฐานโพสต์ภาพน่าอายของเธอลงในโลกออนไลน์!? เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าเด็กวัยรุ่นสาวจากรัฐคารินเทีย ประเทศออสเตรียวัย 18 ปี ได้ทำการฟ้องร้องพ่อแม่ของตัวเอง เนื่องจากพวกเขาโพสต์ภาพวัยเด็กของเธอ ขณะเปลี่ยนผ้าอ้อมและนั่งอยู่บนกระโถนอึ ทำให้เธอรู้สึกอับอายและถูกคุกคามความเป็นส่วนตัว หลังจากที่เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับภาพน่าอายที่พ่อแม่ของเธอนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เธอก็ได้ขอร้องให้พ่อแม่ลบภาพเหล่านั้นออกไป แต่พวกเขากลับปฏิเสธเธอและคิดว่ามันเป็นภาพที่พวกเขาถ่ายเอง ภาพเหล่านั้นจึงควรจะเป็นสิทธิ์ของพวกเขาที่จะเผยแพร่หรือไม่ก็ได้ ทำให้เธอทนไม่ได้และต้องฟ้องร้องในที่สุด วัยรุ่นสาวรายนี้ให้ความเห็นต่อสื่อว่า “พวกเขาไม่มีความละอายหรือขอบเขตอะไรเลย และไม่สนใจว่านั่นคือภาพของฉันกำลังนั่งอยู่บนกระโถนอึหรือนอนโป๊อยู่ในเปล” “ทุกขั้นตอนของชีวิตฉันถูกถ่ายภาพเก็บไว้แล้วนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะหมด ฉันเหนื่อยหน่ายที่ไม่ได้รับการดำเนินการใดๆ แบบจริงจังจากพ่อแม่ของฉัน” ทางด้านทนายของเธอเชื่อว่าเธอน่าจะชนะการฟ้องร้องครั้งนี้ และทางพ่อแม่จะต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับเธอ แต่เนื่องจากประเทศออสเตรียไม่ได้เข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้คนในโลกออนไลน์เหมือนกับในบางประเทศ ยกตัวอย่างที่ประเทศฝรั่งเศส หากใครเผยแพร่ภาพน่าอายของผู้อื่น ไม่ว่าจะผู้ใหญ่หรือเด็ก จะถูกดำเนินคดี มีค่าปรับสูงสุด 1.7 ล้านบาทและอาจถูกจำคุกสูงสุด 1 ปี สาเหตุที่ทางฝรั่งเศสออกกฎเข้มงวดขนาดนี้ก็เพื่อเป็นการเตือนให้พ่อแม่ระมัดระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกๆ เพราะนั่นอาจเป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของเด็กมากเกินไป จนทำให้พวกเขาถูกล่อลวงจากเหล่าคนโรคจิตก็เป็นได้ ข่าวนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับคนไทยโดยตรง แต่ในโลกออนไลน์ของเราเองก็มีภาพเหล่านี้ให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่อยากจะโพสต์อวดภาพลูกๆ ของตัวเองก็อาจจะต้องคิดให้มากขึ้นนิดนึง ว่าในอนาคตหากลูกๆ…
-
‘น้องมอส’ กับผลงานการทดลองอวกาศ ได้รับคัดเลือกและชื่นชมจากญี่ปุ่น แต่คนไทยไม่ค่อยรู้
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงข่าวเล็กๆ แต่ก็เป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศได้มากทีเดียว สำหรับเรื่องราวของนักศึกษาไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงที่ประเทศญี่ปุ่น เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อของญี่ปุ่นอย่างสำนักข่าว NHK และสำนักข่าวออนไลน์หลายๆ แห่ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2016 ที่ผ่านมา ตามรายงานบอกว่านักศึกษาผู้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยรายนี้มีชื่อว่า นายวรวุฒิ จันทร์หอม หรือ น้องมอส เป็นนักศึกษาปี 2 จากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สิ่งที่ทำให้น้องมอสกลายเป็นที่พูดถึงในญี่ปุ่นก็เพราะว่าเขาได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับการทดลอง “การโค้งของผิวของเหลวในอวกาศ (Capillary in Zero gravity)” เข้าร่วมในโครงการ Asian Try Zero-G 2016 ที่จะนำแนวคิดการทดลองวิทยาศาสตร์ส่งให้มนุษย์อวกาศญี่ปุ่น จนในที่สุดผลงานของน้องมอสได้รับการคัดเลือกจากองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) ให้นำขึ้นไปทดลองบนสถานีอวกาศ (ISS) ในวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งบุคคลที่นำการทดลองของเขาไปทดสอบก็คือมนุษย์อวกาศที่ชื่อนาย Onishi Takuya ซึ่งน้องมอสเองก็ได้มีโอกาสได้ชมการทดลองและพูดคุยกับมนุษย์อวกาศจากสถานีอวกาศนานาชาติ ผ่านระบบสื่อสารจากห้องบังคับการที่ศูนย์อวกาศสึคุบะด้วย . . .…
-
รักนี้ชั่วนิรันดร์…คู่รักตายายจับมือกันแน่นในวันสุดท้ายของชีวิต และจากไปในเวลาไล่เลี่ยกัน
เราทุกคนล้วนรู้ดีว่าความรักของตัวเองเริ่มต้นขึ้นที่ตรงไหน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าความรักของพวกเขาจะไปสิ้นสุดที่ใด และหากว่าในวันสุดท้ายของชีวิตนั้นมาถึงแล้ว จะสามารถรับมือกับความเจ็บปวดนั้นได้หรือไม่? เรื่องที่ #เหมียวฟิ้น นำมาเสนอในวันนี้เป็นเรื่องราวความรักอันยิ่งใหญ่ของคู่รักอย่างคุณตา Don และคุณยาย Margaret Livengood วัย 84 และ 80 ปีชาวอเมริกัน ที่แต่งงานและอยู่กินด้วยกันมานานกว่า 59 ปีแล้ว แต่ในโลกนี้ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ทั้งคู่ค่อยๆ แก่ชราตามกาลเวลาและป่วยเป็นโรคหลายอย่าง เช่นนาย Don มีพังผืดที่ปอดและเป็นโรคปอดบวม ในขณะเดียวกันที่นาง Margaret ก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง ทั้งคู่ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล Carolinas Healthcare NorthEast ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกาเมื่อปลายปี 2015 ที่ผ่านมา การรักษาเป็นไปอย่างยากลำบาก ทั้งคู่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ดูแลกันไม่เคยห่าง ครั้งหนึ่งคุณตา Don ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่ตี 4 จนถึงเวลา 3 ทุ่ม แต่คุณยาย Margaret ก็จะอยู่เคียงข้างกับสามีของเธอไม่ห่าง แม้คุณตา Don จะมีอาการหายใจติดขัดพอสมควร แต่ภรรยาของเขาก็เชื่อว่าอาการทั้งหมดจะดีขึ้นหากพวกเขาได้ไปสวรรค์ด้วยกัน การที่ทั้งคู่ใช้เวลาในบั้นปลายชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ทำให้ลูกสาวของพวกเขาเริ่มเป็นกังวล…
-
ศิลปินเดินทางรอบโลกถ่ายภาพ “ห้องนอน” ของผู้คน เพื่อดูว่าพวกเขาเป็นคนยังไง?
ว่ากันว่าการที่เราจะรู้จักตัวจนจริงๆ ของใครสักคน เราจะต้องคอยดูตอนที่พวกเขาตกทุกข์ได้ยาก ช่วงที่พวกเขาประสบปัญหาหรือวิธีคิดที่พวกเขามีต่อคนที่ด้อยกว่าตนเอง หากเราไม่มีโอกาสเหล่านั้น ก็อาจจะเป็นเรื่องยากสักหน่อยนะ ที่จะเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคน แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่พอจะรู้จักตัวตนของคนๆ นั้นได้ก็คือ การได้เห็นภาพห้องนอนของพวกเขานี่แหละ เพราะการจัดวางสิ่งของต่างๆ ก็พอจะบอกได้ว่าพวกเขาเป็นคนมีระเบียบแค่ไหน? หรือหนังสืออะไรที่พวกเขาอ่าน? เหรือพลงแบบไหนที่พวกเขาชอบฟัง? ไอเดียการทำความรู้จักคนๆ นึงผ่านห้องนอนนี้ผุดเข้ามาในหัวของนาย John Thackwray ช่างภาพและผู้กำกับชาวแอฟริกาใต้ ทำให้เขารู้สึกสงสัยใคร่รู้ว่าคนอื่นๆ จะมีห้องนอนเป็นอย่างไรบ้าง? เขาก็เลยออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อถ่ายภาพห้องนอนของแต่ละคนมาสร้างเป็นอัลบั้มภาพ หลังจากที่นาย John ออกเดินทางไปรอบโลกได้ประมาณ 1 ปี เขาก็เก็บภาพและเรื่องราวจากห้องนอนของคนอื่นๆ มาได้มากมาย และนำมารวมกันเป็นอัลบั้มที่ชื่อว่า My Room Project คุณสามารถชมภาพบางส่วนได้ที่ด้านล่างเลย 1. Pema จากเนปาล 2. Gulle จากตุรกี 3. Joseph จากฝรั่งเศส 4. Ryoko จากญี่ปุ่น 5. Yuan จากจีน 6. Maleeq จากอเมริกา…
-
ไม่ใช่พระเจ้าก็ทำได้!! คุณตาชาวจีนสุดโรแมนติก เซอร์ไพรส์ภรรยาด้วย “ดวงจันทร์” ทั้งดวง
ขึ้นชื่อว่าความรัก มันมีพลังมากพอที่จะผลักดันเราทำสิ่งต่างๆ มากมายจนคุณอาจจะคาดไม่ถึง ทั้งทำอะไรบ้าๆ บอๆ ทำอะไรเสี่ยงๆ หรือพยายามขวนขวายหาสิ่งต่างๆ มาให้อีกฝ่าย แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม… อย่างเช่นเรื่องราวความรักของคุณตาและคุณยายคู่หนึ่งในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนที่ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Shanghaiist เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ตามรายงานบอกว่าในตอนนั้นทั้งคู่ไปนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหารแห่งหนึ่งริมทะเลสาบโฮ่วไห่เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งจะตรงกับช่วงเดือนกันยายนของทุกๆ ปี ที่เรื่องราวของพวกเขาทั้งคู่เป็นที่โด่งดังไปทั่วอินเตอร์เน็ตของจีนก็เพราะว่า คุณตาได้สัญญากับภรรยาของตัวเองว่าจะพาเธอออกมาชมพระจันทร์ทุกๆ ปี แต่เนื่องจากปีนี้สภาพอากาศไม่ค่อยจะเป็นใจ ทำให้ชาวเมืองในปักกิ่งมองเห็นพระจันทร์ได้ไม่ชัดเท่าไหร่ แต่คุณตาเองก็ไม่ได้หมดหวัง เขาจึงไปหาซื้อลูกบอลที่มีลวดลายคล้ายพระจันทร์ดวงโต มาเติมลมแล้วแอบนำมาเซอรไพรส์ให้กับภรรยาอันเป็นที่รัก เมื่อเธอได้เห็นเข้าก็ถึงกับเขินและชื่นชมในความตั้งใจของสามีมากๆ แม้จะไม่ใช่พระจันทร์จริงๆ แต่ทั้งคู่ก็ดื่มด่ำไปกับมันมากๆ ขอจับมือหน่อยสิ (มีอาการเขิน) นับว่าเป็นเรื่องยากมากเลยนะ ที่จะรักษาความรักความโรแมนติกไปจนแก่เฒ่า แต่สองตายายคู่นี้ก็ฝ่าฟันมันมาได้และยังคงเติมความหวานให้กันและกัน น่ารักจริงๆ ที่มา shanghaiist
-
พาไปชมประภาคารบนหน้าผาสูงในไอซแลนด์ หวาดเสียวจนคุณงงว่า “ขึ้นไปสร้างได้ยังไง!?”
เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้เห็นภาพๆ หนึ่งที่มีคนแชร์กันบนเฟซบุ๊ก เป็นภาพคล้ายๆ กับบ้านหลังหนึ่งบนหน้าผาสูงชัน พร้อมกับข้อความว่า “นี่คือบ้านในฝันของคนที่ขี้รำคาญหรือเกลียดคนทุกคน” จนโด่งดังและกลายเป็นภาพที่คนแชร์ต่อๆ กันไปมากมาย ถึงจะไม่รู้ว่ามีใครใจกล้าพอจะขึ้นไปสร้างที่อยู่บนนั้นกันแน่ แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกเสียวท้องน้อยทีเดียว ด้วยความสงสัยนี้เองเราจึงหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเจ้าบ้านริมหน้าผาแห่งนี้ ถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วมันไม่ใช่บ้านของมหาเศรษฐีคนไหน แต่เป็นประภาคารที่ชื่อว่า Þrídrangar Lighthouse ที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนเดินเรือนั่นเอง จากข้อมูลพบว่าประภาคารหลังนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 1939 ตั้งอยู่ใกล้กับเกาะ Vestmannaeyjar ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ แน่นอนว่าอายุเก่าแก่ถึง 77 ปีขนาดนี้ ก็ต้องเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ทางการของไอซ์แลนด์จึงได้ส่งคนขับเฮลิคอปเตอร์อย่างนาย Gísli Gíslason และทีมช่างอีก 6 ชีวิตไปลงบนประภาคารเพื่อซ่อมบำรุงเมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2016 ที่ผ่านมา จากภาพจะเห็นได้ว่าการเดินทางเข้าไปยังประภาคารนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แถมลานจอดเฮลิคอปเตอร์ก็แคบมาก แต่โชคดีที่อากาศในวันนั้นปลอดโปร่ง จึงทำให้ทุกคนทำงานได้อย่างปลอดภัย แถมยังได้เห็นครอบครัววาฬแบบแว๊บๆ ด้วยนะ . แม้จะดูหวาดเสียวมากๆ แต่ก็ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่สวยงามชิ้นหนึ่งเลย . ชมคลิปประภาคารอันสูงชันได้ที่นี่เลย …
-
สื่อนอกเผย หนุ่มไทยบินไปออสเตรเลีย ต่อแถวตากลมตากฝนนาน 19 ชั่วโมงเพื่อซื้อ iPhone 7!?
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้กระแสของโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่อย่าง iPhone 7 กำลังเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลก ไม่ว่าจะในแง่ของรูปลักษณ์ หูฟังแบบไร้สาย กล้องแบบ 2 เลนส์และอีกมากมาย จนทำให้แฟนๆ ชาวไทยหลายคนอยากจะได้มันมาไว้ในครอบครอง เช่นเดียวกับคุณต้อม อรรถพล วัย 30 ปี ที่ดั้นด้นบินไปถึงกรุงซิดนีย ประเทศออสเตรเลีย ตากแดดตากลมจากฝนกันนานกว่า 19 ชั่วโมง เพื่อซื้อ iPhone 7 มาครอง!! เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Dailymail ตามรายงานบอกว่าคุณต้อมใช้เงินไปราวๆ 27,000 บาทในการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังซิดนีย์ ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ 12 กันยายน เพื่อไปเตรียมตัวก่อนวันวางจำหน่าย iPhone 7 ในวันศุกร์มรา 16 กันยายนที่ผ่านมา จากการสอบถามพบว่าคุณต้อมต้องออกมาต่อแถวตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี ตากแดด ตากลม ตากฝน และเสียงรบกวนจากการก่อสร้างในบริเวณนั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาล้มเลิกความพยายามเลย ซึ่งในระหว่างที่คุณต้อมเข้ามาต่อแถวเพื่อรอซื้อ iPhone 7 เขาก็ได้บันทึกภาพและคลิปวิดีโอบรรยากาศต่างๆ รวมไปถึงข้อมูลเปรียบเทียบ iPhone…
-
แป๊รด!! หนุ่มฝรั่งเศสคิดค้นยาทำให้ตดของคุณมีกลิ่นคล้าย “ช็อคโกแลต” ตดหอมไม่ต้องอายใคร
“ตด” เป็นมลภาวะทางกลิ่นอย่างหนึ่ง ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นที่ไหนก็ไม่เป็นผลดีทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นที่สาธารณะ โรงหนัง ที่ทำงาน หรือในห้าง มันคงจะดีไม่น้อยเลยนะหากเราสามารถเปลี่ยนให้กลิ่นเหม็นๆ ของตดกลายเป็นกลิ่นหอมหรือกลิ่นอื่นๆ ได้ หากคุณคิดแบบเดียวกับเราแล้วล่ะก็ วันนี้เรามีทางออกมานำเสนอล่ะ เพราะเมื่อไม่นานมานี้สื่อต่างประเทศหลายๆ แห่งได้รายงานว่านาย Christian Poincheval ชาวฝรั่งเศสวัย 65 ปี ได้คิดค้นตัวยาขนานใหม่ขึ้นมา ยาตัวนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถตดออกมาโดยไม่มีกลิ่นเหม็น แต่กลายเป็นกลิ่นช็อคโกแลตหอมๆ แทน!? ตามที่นาย Christian ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับไอเดียของยาเปลี่ยนกลิ่นตดนี้ว่า เขาเริ่มมีความคิดตอนที่ออกไปกินข้าวกับเพื่อนแล้วต้องเจอกับเหตุการณ์ที่น่าอับอาย ในระหว่างที่พวกเขากำลังกินข้าวกันอย่างสนุกสนาน แต่เขากลับปวดท้องตดจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เลยทำให้เขาอยากจะแก้ไขสิ่งนี้ด้วยตัวเอง นาย Christian ก็เลยเริ่มการทดลองด้วยตนเองพร้อมกับขอคำปรึกษาจากนักวิทยาศาสตร์ไปพร้อมๆ กัน จนได้สูตรลับเปลี่ยนกลิ่นตดในที่สุด โดยมีส่วนผสมได้แก่ต้นบิลเบอร์รี่ ยางแมสติก สาหร่าย ถ่านและผงโกโก้ “ผมมีลูกค้าหลากหลายประเภทมาก บางคนซื้อมันไปเพราะมีอาการท้องอืด บางคนซื้อไปเพราะเอาไว้ไปแกล้งเพื่อนๆ ของเขา” นาย Christian กล่าว นอกจากกลิ่นช็อคโกแลตแล้ว ตา Christian…
-
เวรี่ล้ำ!! นี่คือ 15 คำศัพท์ง่ายๆ ที่คุณสามารถใช้แทนคำว่า “เวรี่” ได้ ลองเอาไปฝึกกันเก๋ๆ นะ
การใช้ภาษาอังกฤษในทุกวันนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยนะ เพราะเนื่องจากประเทศของเราเปิด AEC แล้ว การได้เปรียบทางภาษาที่ 2 ที่ 3 ก็ใช้ช่วยให้เรามีความน่าสนใจมากกว่าคนที่พูดได้ภาษาเดียวแน่ๆ แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่คนฝึกพูดภาษาอังกฤษมักจะประสบปัญหากันก็คือ บางคนมีคลังคำศัพท์ในหัวเป็นจำนวนไม่มากเท่าที่ควร ทำให้เวลาที่ต้องนำมาใช้เลือกใช้แต่คำซ้ำๆ เดิมๆ เช่นคำว่า “Very” ที่หลายคนชอบหยิบเอามาวางไว้ข้างหน้าคำต่างๆ เพื่อให้รู้สึกถึงอาการที่ “มาก” กว่าปกติ เช่น Very Cold หรือ Very Hungry แต่ความจริงแล้วมันยังมีคำอื่นๆ ที่ใช้ขยายคำเหล่านั้นได้อีกเยอะเลยนะ แถมพูดแล้วดูเป็นมืออาชีพกว่าด้วย มีคำว่าอะไรบ้างเราลองมาดูกันเลย 1. Freezing (หนาวมาก หนาวถึงขั้นถูกแช่แข็ง) 2. Ancient (เก่ามาก = โบราณ) 3. Starving (หิวมาก) 4. Keen (กระตือรือร้นมากๆ) 5. Anxious (เป็นกังวลมากๆ) …
-
ที่ไหนมีลมที่นั่นมีไฟฟ้า!! นี่คือ “กังหันลมปั่นไฟจิ๋ว” พกพาสะดวก ใช้ชาร์จมือถือและอุปกรณ์ต่างๆ ได้
หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ #เหมียวฟิ้น ได้เคยนำเสนอเกี่ยวกับ เครื่องปั่นไฟพลังงานน้ำขนาดพกพา ไปแล้ว วันนี้เราจะมาดูกันที่อุปกรณ์ปั่นไฟพลังลมกันบ้าง แถมพกพาง่ายไม่แพ้กันด้วย!! เจ้าเครื่องนี้มีชื่อว่า Micro Wind Turbine (กังหันลมจิ๋ว) ถูกออกแบบโดยนาย Nils Ferber แห่งมหาวิทยาลัย École Cantonale d’Art Lausanne Design มันมีลักษณะเป็นแท่งสั้นๆ มีน้ำหนักเบา พกติดกระเป๋าไปได้ง่ายๆ การใช้งานก็ง่ายมากเพียงแค่คุณยืดก้านที่ว่านี้ออกมาให้ยาวขึ้น จากนั้นก็กางใบพัดของมันออก แล้วหาที่เหมาะๆ ที่มีลมพัดผ่านจึงค่อยปักมันลงไปกับพื้น เมื่อมันกังหันเริ่มหมุนก็จะสร้างพลังงานไฟฟ้าไปด้วย คุณสามารถชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่างได้อย่างง่ายได้ ทั้งโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือหากคุณไปตั้งแคมป์ในที่ที่อากาศเย็น จะหิ้วเครื่องทำความร้อนไปด้วยก็ยังได้ . กังหันลมนี้เหมาะมากสำหรับนักเดินทางที่ต้องไปปีนเขา กองถ่ายภาพยนตร์ที่ต้องไปในที่ห่างไกลชุมชน หรือใครก็ตามที่หาไฟฟ้าใช้ได้ยาก ตอนนี้มีการสร้างต้นแบบของเจ้ากังหันลมจิ๋วที่ว่านี้ออกมาให้เห็นกันแล้ว และจะเริ่มวางขายกันจริงๆ ในช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ . ชมคลิปการทำงานของมันได้ที่ด้านล่างเลย อีกหน่อยมนุษย์เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแคลนพลังงานต่างๆ แล้วล่ะ เพราะเรามีทั้งอุปกรณ์ที่สร้างไฟฟ้าจากน้ำและลมได้แล้ว และที่สำคัญมันพกพาง่ายมากๆ…
-
ชายอังกฤษทำสุนัขหาย แต่มันดันมีหน้าตาเหมือนแรคคูณมาก จนกังวลว่าคนจะเข้าใจผิดเอาไปปล่อยป่า!?
บอกตรงๆ ว่า#เหมียวฟิ้นไม่ค่อยจะแน่ใจว่าควรรู้สึกยังไงกับข่าวนี้ดี…จะว่าสงสารก็สงสาร จะว่าฮาก็ฮาใช้ได้เลยทีเดียว… เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่านาย Michael McKenna วัย 51 ปี จากเมืองแบล็กพูลประเทศอังกฤษทำสุนัขแสนรักของตัวเองหายไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้เขาเป็นกังวลใจอย่างมาก นาย McKenna ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเนื่องจากโซ่ที่คล้องคอของมันดันขาด ทำให้มันวิ่งหนีไปตามทางและไม่มีใครพบเห็นมันอีกเลย เขาจึงออกไปตามหามันตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอ ความกังวลของเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะเนื่องจากสุนัขของเขามีลวดลาย (รวมถึงรูปร่าง) คล้ายกับแรคคูณมาก ทั่วตัวของมันมีขนสีขาวสลับกับดำแถมยังมีขอบตาสีดำเหมือนกันทุกประการ เขาจึงกังวลว่าคนอื่นๆ จะเข้าใจว่ามันคือแรคคูณสัตว์พื้นเมืองของอเมริกาเหนือ และนำมันไปปล่อยป่าหรือส่งให้กับหน่วยงานช่วยเหลือสัตว์ป่า จากคำบอกเล่าของเจ้าของบอกว่าเจ้า Kekei เป็นสุนัขสายพันธุ์ Raccoon Dog (Nyctereutes Procyonoides) ซึ่งเป็นสุนัขสายพันธุ์หายากที่พบเจอได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ซึ่งชาวญี่ปุ่นเรียงมันว่าตัวทานูกิ แม้ว่ามันจะมีลักษณะภายนอกเหมือนกันมาก แต่มันก็แทบจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับแรคคูณเลย “สุนัขแรคคูณเป็นสุนัขนักล่า ในป่ามันจะออกล่าหาอาหารเอง แต่เจ้า Kekei ได้รับการเลี้ยงดูตั้งแต่เกิด มันไม่เคยอยากหาอาหาร มันจะไม่รู้เลยว่าต้องทำอะไรบ้าง มันไม่คุ้นเคยกับคนอื่นๆ และขี้อายมาก นั่นคือธรรมชาติของมัน” นาย McKenna…
-
เข้าท่ามั้ย? หนุ่มจีนใช้เศษขวดเบียร์ มาเจียระไนทำเป็นแหวนทุนต่ำ… สวยแทบไม่ต่างจากเพชร
ชาวจีนเป็นชนชาติหนึ่งที่ชอบมีพิธีหรือความเอิกเกริกคล้ายๆ คนไทยเหมือนกันนะ ซึ่งเราจะเห็นได้จากการเปิดงานต่างๆ หรือพิธีแต่งงาน ที่ต้องทำให้ดูหรูหรายิ่งใหญ่ไว้ก่อน แต่เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาต้องประหยัดหรือทำอะไรเล็กๆ ขอบอกเลยว่าพวกเขาเองก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน เช่นชายหนุ่มคนนี้ที่พยายามจะทำแหวนแต่งงานให้กับแฟนสาวด้วยการนำเอาขวดเบียร์มาแปลงร่าง… เอ๊ะ ยังไงกันแน่? เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่ามีชายหนุ่มชาวจีนรายหนึ่งได้โชว์วิธีการแปรรูปขวดเบียร์ที่ไม่ใช้แล้วให้กลายเป็นแหวนเพชรผ่านเว็บไซต์ Weibo จนมีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ภาพที่ทุกคนได้เห็นต่อไปนี้บางคนอาจจะมองว่ามันคือขวดเบียร์แบบธรรมดาๆ แต่หากเรามองให้ลึกลงไปอีกจะเห็นว่ามันก็มีความใสแวววาวไม่ต่างอะไรจากเพชรมรกตที่ยังไม่ได้เจียระไนเลย คุณจะเห็นได้ว่ากระบวนการทั้งหมดเริ่มขึ้นตั้งแต่นำเอาขวดเปล่า มาทำให้กลายเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปเจียระไน และนำมาประกอบกับแหวน ซึ่งดูเผินๆ แล้วเหมือนเพชรมรกตจริงๆ ชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ภาพชุดนี้ถูกแชร์ออกไปในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของจีน ก็ทำให้หนุ่มๆ หลายคนถึงกับตื่นตะลึงในวิธีการทำแหวนแต่งงานแบบทุนต่ำ จนมีความเห็นต่างๆ ตามมากมายเช่น “ดูเหมือนว่าสาวๆ นอกจากจะต้องสวยแล้ว พวกเขาจะต้องดูอัญมณีให้เป็นด้วยนะ” “เฮ้ ทำไมแหวนฉันกลิ่นคล้ายๆ เบียร์เลยล่ะ!?” “ถ้าสามีของฉันมาขอแต่งงานด้วยแหวนทำเองแบบนี้ แม้จะไม่มีเพชรฉันก็ยังจะแต่งงานกับเขาอยู่ดี ฉันคิดว่าบางอย่างที่คุณแสดงออกมันทำให้คุณดูมีค่ามากกว่าเพชรซะอีก” . ได้แล้ว เพชรจากขวดเบียร์!! . . หนุ่มๆ คนไหนอยากลองทำแหวนทุนต่ำให้แฟนก็ลองดูได้ แต่ไม่รับประกันว่าถ้ารู้ความจริงแล้ว พวกเธอจะชอบหรือเปล่านะ…
-
Hoippu เจ้าเหมียวผู้ชอบนั่งดูทีวีกับเจ้านายเป็นชีวิตจิตใจ แถมนั่งคล้ายกับคนเลยด้วย…
แมวเป็นสัตว์ที่ฉลาด พวกมันรู้ว่าควรจะเรียกร้องความสนใจตอนไหน รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะได้อาหารกินหรือมีคนเล่นด้วย หรือรู้แม้กระทั่งการใช้มนุษย์เป็นโซฟาสำหรับพวกมัน… นี่คือเรื่องราวของเจ้าเหมียวจากญี่ปุ่นตัวหนึ่งที่ชื่อว่าเจ้า Hoippu มันมักจะชอบมานอนอยู่บนตักของเจ้านาย ประหนึ่งว่าเจ้านายของมันกลายเป็นโซฟานุ่มนิ่มอุ่นๆ ให้กับมันเลยก็ว่าได้ แต่ที่มันยิ่งแปลกไปกว่าการใช้ตักเจ้านายเป็นโซฟาก็คือ มันไม่ได้นั่งแบบเดียวกับแมวทั่วไปนะ แต่นั่งท่าเดียวกับคน แถมยังชอบดูทีวีกับเจ้านายตลอดเวลาด้วยนะเออ!! เจ้านายของ Hoippu จึงแอบถ่ายภาพแมวของเขามาเผยแพร่ในโลกทวิตเตอร์ จนมีผู้คนหลงในความน่ารักและแปลกประหลาดของมัน และกดแชร์ไปกว่า 3,700 ครั้งแล้ว แถมยังมีคอมเม้นอีก เช่น “ฉันอยากจะมีแมวแบบนี้มากเลย!!” “โอ้ว Hoippu แกช่างน่ารักอะไรขนาดนี้” “ขอบคุณสำหรับภาพนี้มาก มันทำให้ฉันยิ้มได้ทั้งวันเลย” “วันหน้าทำเมนูนี้ให้ข้ากินหน่อยนะเจ้ามนุษย์” “โซฟานี้นุ่มจริงๆ” . “เล่นกับข้าหน่อยเจ้าโซฟา” . . . “ไปนอนดูทีวีต่อละ บาย” ที่มา rocketnews24
-
เชิญพบ Diego เต่าผู้ทำหน้าที่สืบพันธุ์ สร้างลูกหลานมานานกว่า 100 ปี อะไรจะอึดขนาดนี้!!
ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ทำงานหนัก ไม่ว่าจะงานใช้แรงหรือสมองก็ทำมาหมดแล้ว คุณอาจจะอยากคิดใหม่เมื่อได้รู้จักกับผู้เฒ่าเต่าตัวนี้… เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวของเต่าตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Diego อายุ 131 ปี อาศัยอยู่บนเกาะเอสปาโนลา ในหมู่เกาะกาลาปากอส ทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา ที่เราหยิบยกเอาผู้เฒ่าเต่า Diego ขึ้นมาเปรียบเทียบกับคนที่ทำงานหนักก็เพราะว่ามันเป็นเต่าสายพันธุ์ “เชโลนอยดิส ฮูเดนซิส” ที่มีจำนวนประชากรน้อยมาก และสามารถพบเห็นได้แค่บนเกาะเอสปาโนลาเท่านั้น ตลอดระยะเวลาร้อยกว่าปีที่ผ่านมา มันได้สืบพันธุ์กับเต่าเพศเมียมากมาย จนมีลูกมาแล้วมากกว่า 800 ตัว ช่วยให้ประชากรเต่าไม่สูญพันธุ์นั่นเอง!! นาย Washington Tapia ผู้เชี่ยวชาญการอนุรักษ์เต่าที่อุทยานแห่งชาติกาลาปากอสกล่าวว่า “มันเป็นเต่าเพศผู้ ที่มีกิจกรรมทางเพศจนผลิตลูกเต่ามาแล้วมากมาย มันมีส่วนอย่างมากในการช่วยฟื้นฟูจำนวนประชากรเต่าบนเกาะ” สาเหตุที่พวกมันลดจำนวนลงอย่างมากก็เพราะมักจะถูกสัตว์ชนิดอื่นๆ มาขโมยไข่ของพวกมันไป ทำให้ลูกเต่าไม่ทันจะได้ฟักตัวออกจากไข่ก็ถูกกินเสียแล้ว จากการจดบันทึกในอดีตพบว่าเมื่อประมาณ 50 ปีก่อนที่เจ้า Diego จะถือกำเนิด ในตอนนั้นมีเต่าสายพันธุ์เชโลนอยดิส ฮูเดนซิสเพศผู้เพียง 2 ตัว และเพศเมียเพียง 12 ตัวเท่านั้น…
-
พ่อเฒ่าแม่เฒ่าจีน อาศัยอยู่ในถ้ำมานานกว่า 54 ปี แม้ไม่มีชีวิตหรูหราขอแค่มีกันและกันก็สุขใจแล้ว…
จริงอยู่ที่ว่าเงินสามารถซื้อความสุขให้กับชีวิตของเราได้หลายๆ อย่าง (หรืออาจจะเกือบทุกอย่าง) แต่ก็ยังมีคู่รักบางคู่เหมือนกันที่แม้แต่เงินก็ไม่สามารถสร้างความสุขให้กับพวกเขาได้ เพราะขอเพียงมีกันและกันก็มีความสุขพอแล้ว นี่คือเรื่องราวชีวิตรักของนาง Li Suying วัย 77 ปี และสามีของเธอ Liang Zifu วัย 54 ปี คู่รักสองตายายที่โด่งดังไปทั่วโลก เพราะพวกเขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายภายในถ้ำแห่งหนึ่ง ในเมืองหนานชง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน แม้จะดูเป็น 2 บุคคลที่ใช้ชีวิตแบบมนุษย์โบราณ แต่ภายในถ้ำก็ถูกตกแต่งให้คล้ายกับบ้านหลังหนึ่งเพียงแต่วัสดุทั้งหมดเป็นสิ่งของจากธรรมชาติ อันที่จริงแล้วทั้งคู่ไม่ได้ตั้งใจที่จะอาศัยอยู่ในถ้ำตั้งแต่แรก แต่เพราะว่าในตอนที่ทั้งคู่แต่งงานกัน พวกเขามีฐานะที่ค่อนข้างยากจนมากจึงไม่สามารถซื้อบ้านอยู่ในหมู่บ้านแบบปกติได้ พวกเขาก็เลยเลือกที่จะสร้างบ้านอยู่ภายในถ้ำเพราะใช้เงินน้อยกว่าหลายเท่าตัว สองตายายค่อยๆ นำไม้และก้อนอิฐมาก่อเป็นห้องต่างๆ ภายในถ้ำ จนตอนนี้มีห้องนอนแล้ว 3 ห้อง มีห้องครัวและห้องนั่งเล่นครบครัน เรื่องของสองตายายเริ่มเป็นที่พูดถึงมากขึ้นจนเจ้าหน้าที่รัฐเริ่มเป็นกังวลและพยายามจะเข้าไปช่วยเหลือด้วยการเสนอให้พวกเขาย้ายไปอยู่ในสถานที่ที่ดีและสะดวกสบายกว่านี้ แต่พวกเขาก็ปฏิเสธและให้เหตุผลว่าพวกเขาเติบโตและคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ พวกเขาคิดว่ามันมีข้อดีอยู่มากทีเดียว เช่นอากาศภายในถ้ำเย็นสบายในหน้าร้อนและอบอุ่นเมื่อถึงหน้าหนาว แถมยังมีน้ำพุสะอาดๆ ผุดขึ้นมาอยู่ใกล้ๆ กับถ้ำของพวกเขาด้วย และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดก็คือพวกเขามีกันและกัน ยังจะมีอะไรที่พวกเขาต้องการอีกล่ะ? #เหมียวฟิ้นล่ะอิจฉาความรักของพวกเขามากเลยนะ แม้ภายนอกจะไม่ได้มีเงินทองมากมาย…
-
แย่แล้ว!! นักวิทยาศาสตร์ถูกหมีขั้วโลกล้อมสถานีสำรวจ อาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะไปช่วยชีวิตออกมาได้
เราคงเคยเห็นหนังที่เหล่าตัวละครต้องติดอยู่ในสถานที่ใดที่หนึ่ง โดยมีฆาตกรหรือสัตว์อันตรายคอยดักทำร้ายพวกเขาอยู่ แม้ว่าที่กล่าวมาจะดูเป็นเหตุการณ์แฟนตาซีเหนือจริงไปหน่อย แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วล่ะ… เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานว่าทีมนักอุตุนิยมวิทยาชาวรัสเซีย 5 คนได้เข้าไปตั้งสถานีสำรวจพื้นที่ในทะเลอาร์กติกขั้วโลกเหนือ แถบไซบีเรีย แต่โชคร้ายที่ในระหว่างนั้นมีหมีขั้วโลกกว่า 10 ตัวออกมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ สถานี ทำให้ทีมนักสำรวจไม่สามารถออกมาจากสถานีได้ ด้านนาย Vadim Plotnikov หัวหน้าทีมสำรวจที่ติดอยู่ในสถานีให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “มีหมีตัวเมียนอนอยู่ใต้หน้าต่างของสถานีของเราตั้งแต่เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา มันอันตรายมากหากจะออกไปข้างนอก เพราะมันจะทำให้นักล่าตื่นตกใจได้ เราต้องหยุดภารกิจสังเกตการณ์เกี่ยวกับอุตุนิยมวิทยาไว้ก่อน” และดูเหมือนสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีกเมื่อสถานที่ที่พวกเขาเข้าไป อยู่ห่างไกลจากความเจริญมากจนไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้เลย แถมสิ่งที่พวกเขาพอจะทำให้หมีตกใจได้อย่างเช่นพลุไฟก็ดันหมดกะทันหัน ทำให้พวกเขาอาจต้องใช้เวลานานกว่า 1 เดือนเพื่อรอให้เรือขนเสบียงเดินทางมาถึง ณ จุดที่ตั้งสถานี จากรายงานล่าสุดจากสถานีสำรวจในอาร์กติกบอกว่าตอนนี้มีหนึ่งในสุนัขถูกหมีฆ่าไปเป็นที่เรียบแล้วจากทั้งหมดสองตัวที่นำมาเฝ้าสถานีด้วย ตอนนี้เรื่องราวของทีมสำรวจได้กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกจนรัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของรัสเซียได้ขอให้สำนักพยากรณ์อากาศจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้ว่าพวกมันจะน่ากลัวแค่ไหนก็ตาม แต่ปัจจุบันพวกมันมีประชากรทั้งหมดเหลือเพียง 20,000 ถึง 25,000 ตัวทั่วโลก ทำให้การจะบุกเข้าไปช่วยทีมนักสำรวจเป็นเรื่องที่ยาก เพราะต้องไม่เป็นอันตรายต่อหมีและคนด้วย ที่มา mirror
-
ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ หุ่นยนต์จะถูกใช้ก่ออาชญากรรมมากกว่ามนุษย์ ภายในปี 2040
ในโลกของภาพยนตร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้มีการสร้างหนังเกี่ยวกับหุ่นยนตร์ขึ้นมามากมาย เช่น RoboCop, a.i. artificial intelligence, Chappie, the Terminator, Bicentennial Man, i,Robot และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งในบรรดาหนังเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นถึงจินตนาการเกี่ยวกับโลกอนาคตที่หุ่นยนต์เข้ามามีบทบาทกับมนุษย์ ไม่ว่าจะในแง่ดีหรือไม่ดี แต่ก็ไม่มีใครรู้ได้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีของเรายังไปไม่ถึงขั้นนั้น แต่อีกไม่นาน เราอาจจะได้ไปถึงในยุคนั้นจริงๆ มีงานวิจัยบางตัวเริ่มศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของหุ่นยนต์และเครื่องจักรในอนาคตกันแล้ว ซึ่งผลวิจัยอาจจะทำให้คุณรู้สึกหวาดกลัวก็เป็นได้ เพราะเขาบอกว่าในปี 2040 เหล่าหุ่นยนต์และเครื่องจักรอาจก่อให้เกิดอาชญากรรมได้มากกว่ามนุษย์เสียอีก นาง Tracey Follows จากสำนักงาน The Future Laboratory (บริษัทผู้ให้คำแนะนำด้านการวางแผนและกลยุทธในยุคอนาคตให้แก่แบรนด์ต่างๆ) ได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะนำหุ่นยนต์มาใช้ทำงานแทนมนุษย์ในอนาคต นาง Follows มองว่ายังไงแล้วหุ่นยนต์ก็อาจมาทำงานแทนที่มนุษย์ในสักวันหนึ่ง แต่มันอาจเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองจนนำไปสู่กิจกรรมที่เป็นอันตรายกับมนุษย์ “จากการคาดการณ์ของฉัน อัตราการเกิดอาชญากรรม ในปี 2040 จะเกิดจากเครื่องจักรมากกว่ามนุษย์จริงๆ” เธอกล่าว ไม่เพียงแต่หุ่นยนต์เท่านั้นที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเป็นกังวล พวกรถและยานพาหนะที่ขับเคลื่อนได้เองก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน เพราะมันมีสิทธิ์ถูกแฮ็คข้อมูลได้ และเมื่อมันถูกแฮ็คข้อมูลไปได้ นั่นเท่ากับว่าคุณจะสูญเสียการควบคุมยานพาหนะนั้นไปทันที มันอาจนำไปสู่การลักพาตัวหรืออุบัติเหตุ นี่ยังไม่ได้พูดถึงการจะใช้เครื่องจักรในการทำอาชญากรรมอื่นๆ เท่าที่จะนึกออกเช่น การก่อเหตุคาร์บอมแบบไม่ใช้คนขับรถจริงๆ การส่งโดรนไปวางระเบิด การขโมยของและจารกรรมด้วยหุ่นยนต์…
-
หนุ่มทำคลิปแกล้ง “หรรมตุง” ในที่สาธารณะ เพื่อดูปฏิกิริยาของผู้คน พร้อมเรียกเสียงฮา…
ดูเหมือนว่าตอนนี้การแกล้งคนแบบฮาๆ ในที่สาธารณะจะไม่ได้มีเพียงรายการโทรทัศน์เท่านั้นที่สามารถทำได้ เพราะด้วยความทันสมัยของ Youtube ทำให้ทุกๆ คนเปลี่ยนตัวเองจนกลายเป็นสื่อ สามารถผลิตคลิปวิดีโอการกลั่นแกล้งแบบฮาๆ ขึ้นมาได้เองแล้ว อย่างเช่นคลิปนี้จากช่อง Average Bro Tv ที่มีผู้ดำเนินรายการอย่างนาย Cody เขาเองเป็นคนที่ชอบทำคลิปห่ามๆ เพื่อสร้างความตลกโปกฮาในที่สาธารณะแล้วถ่ายมันมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ และเมื่อช่วงปลายปี 2014 เขาก็ได้ทดลองแกล้งคนโดยการออกไปเดินที่ชายหาดเวนิส ในกรุงลอสแองเจลีส ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วแกล้ง “จู๋โด่” ออกมา ลองมาดูกันว่าแต่ละคนจะมีปฏิกิริยากับเขายังไง? ผมชอบคุณมากเลย ว่างๆ เราไปหาข้าวกินกันไหม? ขอโทษนะครับ พอดีผมหลงทาง ช่วยบอกทางผมหน่อย… คุณจะหนีไปไหนครับ? ผมขอเบอร์หน่อยได้ไหม? คุณพอจะรู้จักหมอแถวๆ นี้บ้างไหมครับ? พวกคุณชอบมันไหมครับ? ประทับใจไหม? ลองไปชมคลิปเต็มๆ เลย รับรองว่ามีกรี๊ดแน่ๆ… พี่แกช่างใจกล้าอะไรขนาดนี้!! ในชีวิตจริงถ้าเราเจอคนแบบนี้เข้ามาคุยด้วยก็คงมีวิ่งเหมือนกันนะ ที่มา TheRoyalStampede
-
ภาพพ่อแม่เสพเฮโรอีนจนสลบคารถ ทั้งที่ ‘ลูกน้อย’ นั่งอยู่… เตือนใจชาวเน็ตไปทั่วโลก!!
กระแสที่ดังในทางไม่ค่อยดีเท่าไร แต่กลับได้รับการแชร์ไปทั่วโลก ถึงภาพของครอบครัวหนึ่งในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่พ่อแม่นอนสลบเหมือดอยู่ในรถอย่างน่าอนาถ แถมยังมีลูกน้อยนั่งอยู่ด้านหลังรถแบบไร้เดียงสา โดยที่งงๆ ว่าพ่อแม่ของพวกเขาเป็นอะไรไปกันแน่!? ตามรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่นบอกว่าพวกเขาสังเกตเห็นรถคันหนึ่งขับส่ายไปมา พวกเขาจึงเรียกให้รถคันนั้นจอด เมื่อเปิดประตูออกมาจึงพบกับนาย James Acord วัย 47 และนาง Rhonda Pasek วัย 50 อยู่ในสภาพมึนเมาพูดไม่รู้เรื่อง โดยที่มีเด็กน้อยวัย 4 ขวบนั่งอยู่ที่เบาะหลัง จากการตรวจสอบพบผงสีชมพูวางไว้ที่หน้าตักของนาย James จึงสันนิษฐานว่าทั้งคู่น่าจะเสพเฮโรอีนเข้าไปเกินขนาด ทำให้ไม่ได้สติอย่างที่เห็น เจ้าหน้าที่จึงถ่ายภาพไว้ ก่อนที่จะโทรเรียกให้รถพยาบาลมารับพวกเขาไป ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โพสต์ภาพดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กเพื่อเตือนสติแก่ทุกๆ คน โดยมีข้อความว่า “เราตระหนักดีว่าบางคนอาจไม่ชอบใจกับภาพนี้เท่าไหร่และเราต้องขอโทษจริงๆ แต่เพื่อเตือนใจให้คนที่ไม่ได้อยู่ในโลกของยาเสพติดรับทราบว่า แต่ละวันมันมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นทุกที่แบบนับไม่ถ้วน” และมันก็ได้ผลจริงๆ หลังจากนั้นภาพนี้เผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ และทำให้ผู้คนต่างพากันแชร์กับภาพถึงพิษภัยของยาเสพติดชนิดนี้ โดยที่ไม่ต้องเป็นภาพอันสยอง ไม่ต้องมีรูปของยาเสพติดอยู่ เป็นเพียงภาพผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น และเด็กน้อยที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย… มันทำให้เห็นว่า ยาเสพติดไม่ได้มีแต่โทษต่อร่างกายของผู้เสพ แต่แท้จริงแล้วมันมีผลกระทบไปทั่ว กระทั่งคนที่ไม่เสพเองเช่นกัน สุดท้ายแพทย์ก็สามารถช่วยชีวิตของนาย James และนาง Rhonda…
-
ช่างภาพชวนสาว 15 คน มาถ่ายภาพระหว่าง “ถึงจุดสุดยอด” เพื่องานอาร์ตแบบธรรมชาติ
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป] ผลงานภาพถ่ายที่ทุกๆ คนกำลังจะได้ชมต่อไปนี้เป็นผลงานของช่างภาพที่ชื่อว่า Albert Pocej ผู้หลงไหลการถ่ายภาพมานานกว่า 10 ปี ในช่วงก่อนหน้านี้เขาก็ถ่ายภาพทั่วๆ ไปเช่นวิว คน สัตว์ สิ่งของ แต่จู่ๆ วันหนึ่งเขาก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับไอเดียสุดแปลก เพราะเขาอยากจะถ่ายภาพของหญิงสาวขณะ “ถึงจุดสุดยอด” เพื่อบันทึกสีหน้าของสาวๆ ในขณะนั้น เหมือนเป็นการทดลองชิ้นหนึ่ง ในเมื่อมีไอเดียแปลกขนาดนี้ สิ่งแรกที่นาย Albert ต้องกังวลเลยก็คือ เขาจะหานางแบบได้ที่ไหน!? ในตอนแรกเขาเขียนอีเมล์ไปหาทุกๆ คนที่เขารู้จัก ซึ่งสาวๆ ส่วนใหญ่จะมีปฏิกิริยากลับมาอยู่ 2 แบบ คือแบบแรก สาวๆ จะตอบกลับมาว่า “ใจไม่กล้าพอ” ส่วนอีกกลุ่มไม่มีการตอบกลับใดๆ นั่นก็หมายความว่าพวกเธอได้ปฏิเสธแล้ว แต่ในท้ายที่สุดแล้วเขาก็สามารถหานางแบบมาได้ทั้งหมด 20 คน ที่พร้อมจะถ่ายแบบสุดสยิวกิ้วกับเขา แต่ดูเหมือนว่าในระหว่างที่พวกเขาถ่ายแบบกันอยู่จะมีสาวๆ บางคนไม่เข้าใจคอนเซ็ปต์ของการถ่าย บางคนพยายามออกท่าทางมากกว่าปกติ ซึ่งมันไม่ใช่ความธรรมชาติที่เขาต้องการ หรือบางคนอาจจะแสดงท่าทีที่ไม่ผ่อนคลายมากพอ จึงต้องมีการตัดภาพออกไปบางส่วน …
-
อร่อยด้วยสวยด้วย!! ศิลปินญีปุ่นสร้างงานโมเดล “คิงกิโดราห์” จากกระดูกไก่ KFC
หลายๆ คนชอบกินอาหารฟาสต์ฟู้ด โดยเฉพาะไก่ทอดของ KFC และเมื่อเรากินเสร็จแล้วเราก็จะต้องนำกระดูกไปทิ้ง หรืออย่างมากก็เก็บเอากลับไปให้สุนัขที่บ้านแทะเล่นใช่ไหมล่ะ (แต่นั่นไม่ดีนะ เศษกระดูกอาจไปสะสมจนกระเพาะของมันฉีกได้) แต่กับศิลปินสาวชาวญี่ปุ่นรายนี้กลับมีความคิดสร้างสรรค์ นำกระดูกเหล่านั้นกลับมาสร้างเป็นผลงานศิลปะได้ด้วยนะเออ ผลงานศิลปะชิ้นนี้เป็นของ “ศิลปินกระดูก” ที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่านาย @honeoyaji เขามักจะชอบสั่งไก่ทอด KFC มากินที่บ้าน แต่วันหนึ่งไอเดียสุดบรรเจิดก็แล่นเข้ามาในหัวของเขา เลยลองหยิบเอากระดูกแต่ละชิ้นมาคัดแยกแล้วต่อกันคล้ายกับตัวต่อโมเดล และในช่วงนี้เองหนัง Shin Godzilla ก็กำลังดังมากๆ ในญี่ปุ่น เขาเลยเอาตัวละคร King Ghidorah ตัวละครที่มีลักษณะคล้ายมังกร 3 หัวมาเป็นต้นแบบ หลังจากที่เขานำเอากระดูกมาประกอบร่างจนกลายเป็น King Ghidorah แล้ว เขาก็ถ่ายภาพกล่องไก่ทอด KFC ทั้งหมดที่เขากิน…กว่าจะมาเป็นตัวขนาดนี้ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะนั่น นอกจากมังกร 3 หัวแล้ว นาย @honeoyaji ยังสามารถนำเอากระดูกไก่ไปทำเป็นรูปร่างอื่นๆ ได้ด้วยนะ เช่นโตเกียวสกายทรี ที่เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นศิลปินกระดูกนี่ดูจะไม่ใช่เรื่องที่เกินเลยจริงๆ เพราะเขายังสามารถสร้างโครงกระดูสัตว์ชนิดใหม่ขึ้นมาใหม่ได้จากเศษกระดูก…
-
ไปไหม!? หมู่บ้านนิวซีแลนด์เสนอบ้านและที่ดินให้คนมาอยู่ฟรีๆ แถมมีตำแหน่งงานว่างให้ทำเพียบ
จากข่าวนี้ทำให้#เหมียวฟิ้นถึงกับอิจฉาเลยทีเดียว เพราะโดยปกติแล้วในสังคมไทยเราจะต้องทำงานเก็บเงินกันอย่างเหน็ดเหนื่อย กว่าที่จะมีบ้านดีๆ สักหลัง แถมงานก็หาย๊ากยาก แต่ที่ประเทศนิวซีแลนด์กลับตรงกันข้ามกับเราแบบสุดๆ เพราะพวกเขามีงานให้ทำเยอะมากจนหาคนทำไม่ค่อยได้ พวกเขาก็เลยออกเสนอมอบบ้านให้ฟรีๆ แล้วให้คนมาทำงานสะเลย อะไรจะดีปานนั้น!! เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Theguardian ตามรายงานบอกว่าเมือง Kaitangata ทางตอนใต้ของนิวซีแลนด์ กำลังประสบปัญหาสุดแปลก เพราะที่นั่นมีตำแหน่งงานให้ทำมากจนหาคนมาทำไม่ค่อยได้ แถมยังมีบ้านพร้อมที่ดินว่างๆ อีกเพียบ เจ้าของหมู่บ้านหลายแห่งรวมแล้วกว่า 800 หลังจึงรวมตัวกันเพื่อออกนโยบายคัดสรรคนเข้ามาอยู่แบบฟรีๆ ในเมืองของพวกเขา ตามรายงานบอกว่าบ้านและแพ็คเกจอื่นๆ ที่แจกฟรีเหล่านี้ มีราคาอยู่ที่หลังละ 5.6 ล้านบาท เพื่อหวังดึงดูดบุคคลที่ต้องดิ้นรนกับการเป็นเจ้าของบ้านสักหลังในเมืองใหญ่ ให้มาอยู่ในเมืองนี้ ทางด้านนายกเทศมนตรี Bryan Cadogan ของเมืองนี้ได้ประเมินการว่ามีตำแหน่งงานให้ทำมากถึง 1,000 ตำแหน่ง ซึ่งชาวบ้านในท้องถิ่นไม่สามารถจะเข้าทำงานในตำแหน่งที่ว่านี้ได้ทั้งหมด นาย Cadogan ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เมื่อตอนที่ผมตกงานและมีครอบครัวคอยเลี้ยงดู เมืองแห่งนี้ให้โอกาสกับผมอีกครั้ง และตอนนี้เราอยากจะเสนอโอกาสนั้นไปยังชาวนิวซีแลนด์ที่กำลังดิ้นรนอยู่เหมือนกัน เรามีคนหนุ่มที่ว่างงานต่ำกว่า 2 ไม่ใช่ 2% นะ แต่เป็น 2 คนเท่านั้น”…
-
คิดได้ไง!? 20 สิ่งปลูกสร้างแปลกๆ จากทั่วโลก ที่ออกแบบล้ำอย่างกับในหนังแฟนตาซี
การออกแบบอาคารขึ้นมาสักหลัง จะต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายๆ อย่าง เช่นประโยชน์การใช้สอย ความสวยงาม หรือแม้แต่ความแข็งแรง แต่ก็มีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างบางแบบเหมือนกันนะ ที่ออกแบบและก่อสร้างได้อย่างแปลกตา โดยไอเดียของผู้ออกแบบที่ถ้า ไม่แคร์กฎเกณฑ์อะไร เพราะอยากจะให้มันออกมาสวยงามอย่างที่ใจคิด และก็ออกมาเป็นผลงานสุดเจ๋งเหล่านี้แหละครับ… 1. บ้านโค้งในเมืองอินเดียแนโพลิส รัฐอินดีแอนา สหรัฐอเมริกา 2. The Lou Ruvo Center for Brain Health ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา 3. พิพิธภัณฑ์ Vitra Design ในเมือง Weil am Rhein ประเทศเยอรมนี 4. ทางเข้าบริษัทโฆษณา The Chiat/Day Advertising Agency Headquarters ในรัฐแคลิฟอร์เนีย 5. The Olympic Fish Pavilion นครบาร์เซโลนา ประเทศสเปน 6. The Habitat…
-
เอ่าเฮ้!! โรงเรียนสหรัฐนำร่อง “ยกเลิกการบ้าน” สนับสนุนให้เด็กๆ ไปเล่นนอกบ้านมากขึ้น
ตั้งแต่ไหนแต่ไรเรามักจะถูกคุณครูสั่งการบ้านให้เอาไปทำต่อที่บ้าน เพื่อเป็นการทบทวนความรู้ที่ได้เรียนมาและเป็นการวัดด้วยว่าสมองของเราสามารถซึมซับความรู้ได้มากเท่าไหร่ แต่ต้องยอมรับเลยว่าการบ้านทุกวันนี้มันชักจะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ จนบางคนทำกันแทบไม่ทัน (หรือบางทีคุณครูอาจจะคิดว่านั่นคือการฝึกความทรหดก่อนการออกไปทำงานจริงๆ หรือเปล่า!?) ด้วยความที่มองว่าการทำบ้านอาจไม่ได้วัดสิ่งต่างๆ หรือการบ้านที่มากเกินไปจะทำให้เด็กซึ่งเป็นวัยที่น่าจะะเรียนรู้ได้อย่างสนุกๆ กว่ามานั่งทำการบ้าน คุณครู Kate Barker ครูใหญ่ของโรงเรียนประถม Cherry Park Elementary ในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา เลยออกสั่งยกเลิกการทำการบ้านกับเด็กๆ ให้หมดซะเลย ในเมื่อมีกฎออกมาว่าห้ามไม่ให้เด็กๆ ทำการบ้าน แต่โรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งเฉย เพราะพวกเขาสนับสนุนให้เด็กๆ กลับไปทำกิจกรรมที่บ้านมากขึ้น ทำให้เด็กๆ มีความสุขกับการมาเรียนมากขึ้่น กิจกรรมที่ทางโรงเรียนพยายามสนุบสนุนนั้นต้องได้รับความร่วมมือกับผู้ปกครองด้วย เช่นการกลับไปเล่นกับคุณพ่อคุณแม่ เล่นเกมกระดาน อ่านหนังสือและทำกิจกรรมต่างๆ เท่าที่จะเป็นไปได้ ด้านครูใหญ่ Barker ได้เผยกับสื่อว่าหลังจากที่ประกาศนโยบายนี้ออกไปให้เด็กๆ ทราบ ทุกคนก็ส่งเสียงเฮกันลั่นโรงเรียน เธอได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่าเด็กๆ ราว 75% ที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นมีฐานะที่สูงกว่าเกณฑ์ยากจนมาก และเด็กๆ หลายคนพูดด้วยภาษาที่แตกต่างกันถึง 30 ภาษา การบ้านจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับพวกเขาอีกต่อไป “เราพบว่าการบ้านเพิ่มความไม่เสมอภาคกัน มันเป็นอุปสรรคต่อนักเรียนของเราที่ต้องการกาการส่องเสริมมากที่สุด เมื่อพวกเขากลับบ้านไปพร้อมกับการบ้าน มันไม่ได้เป็นการปฏิสัมพันธ์เชิงบวกสำหรับผู้ปกครองและเด็กเลย” นาง Barker กล่าว …
-
นาทีอบอุ่นหัวใจ หนูน้อยมะกันแบ่งอาหารในจานให้กับคนเร่ร่อน ที่นั่งหิวอยู่นอกร้าน
นี่คือเรื่องราวของหนูน้อยใจดี Ella Scott ที่โด่งดังในโลกออนไลน์ของต่างประเทศในขณะนี้ สำหรับหลายคนที่ยังไม่รู้จักเธอ ลองมาดูเรื่องนี้กัน… โดยเว็บไซต์เดลีเมล์ได้รายงานว่าหนูน้อย Ella และคุณพ่อ Eddie ได้ไปทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังนั่งกินอาหารอยู่ภายในร้านนั้นเอง เด็กน้อยก็สังเกตเห็นว่าที่ด้านนอกร้านมีคนเร่ร่อนนั่งอยู่ 1 คน เธอจึงเกิดความสงสารและขออนุญาตคุณพ่อเพื่อนำเอาอาหารของเธอไปให้กับคนเร่ร่อนได้กิน จากนั้นเธอจึงเดินออกไปนอกร้านพร้อมกับถือจานสเต็กไปให้เขา หลังจากนั้น Ella ก็กลับเข้ามาในร้านอาหารและนั่งตรงข้ามกับพ่อของเธอ พ่อเลยบอกกับลูกสาวว่า “เก่งมาก Ella หนูสุดยอดมาก พ่อคิดว่าหนูทำให้เขามีความสุขมากนะวันนี้ หรืออาจจะมีความสุขไปทั้งสัปดาห์เลย มันทำให้หนูรู้สึกยังไงบ้าง?” หนูน้อย Ella ตอบเพียงสั้นๆ ว่า “หนูชอบนะคะ” คุณพ่อ Eddie จึงอดไม่ได้ที่จะถ่ายคลิปทั้งหมดแล้วนำมันมาเผยแพร่ลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง พร้อมกับบอกว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้สอนลูกของเขาให้เห็นใจเพื่อนมนุษย์และมอบโอกาสให้กับคนที่ยากไร้ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในเมืองอย่างนิวยอร์กก็ตาม . คลิปที่คุณพ่อถายทอดออกมา แบ่งปันให้กับสังคมได้เห็นแง่มุมดีๆ แหม่ ต้องเลี้ยงลูกยังไงถึงจะเติบโตมาเป็นคนดีของสังคมแบบนี้ น่าชื่นชมคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ขัดเกลาให้เธอเป็นคนน่ารักแบบนี้จริงๆ…
-
กลุ่มไบค์เกอร์อาสาขี่รถไปส่งหนุ่มน้อยดาวน์ซินโดรมที่โรงเรียน ไม่ให้เขาถูกเด็กเกเรแกล้ง!!!
แม้ว่าการเกิดมาพร้อมกับอาการผิดปกติทางสมองจะไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีหรืออะไรก็ตาม แต่มันก็ยังคงมีอีกมุมดีๆ ให้พวกเราได้เห็นเหมือนกันนะ เรื่องราวที่ #เหมียวฟิ้น หยิบมาเล่าต่อไปนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 2015 ของหนุ่มน้อย Sean Maehrer นักเรียนชั้นมัธยมปลาย ผู้มีอาการดาวน์ซินโดรม ตามรายงานบอกว่าโรงเรียนของหนุ่ม Sean มีกำหนดเปิดเทอมในวันที่ 1 กันยายน 2015 แน่นอนว่าอาการผิดปกติแบบเขาอาจจะทำให้เขาโดนเด็กเกเรที่โรงเรียนแกล้งเอาได้ง่ายๆ นั่นจึงทำให้พ่อแม่ของเขาเป็นห่วงอย่างมาก คุณแม่ของ Sean ถึงกับกลุ้มใจจนต้องแชร์ความรู้สึกของตัวเองลงไปในเฟซบุ๊กของตัวเอง แต่หลังจากนั้นแค่เพียง 48 ชั่วโมง เธอก็ได้รับการตอบรับจากโลกออนไลน์อย่างล้นหลาม เพราะในเช้าของวันที่ 1 กันยายน 2015 มีกลุ่มไบค์เกอร์จำนวนมากขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดรอที่หน้าบ้านของหนุ่ม Sean เพื่อยกขบวนพาเขาไปส่งที่โรงเรียนแบบอลังการจัดเต็มสุดๆ แม้ว่าจะสวมใส่ชุดหนังอันดุดัน มีหนวดเคราเฟิ้มและมีรอยสัก แต่เหล่าไบค์เกอร์ทั้งชายและหญิงก็แสดงท่าทีอ่อนโยนต่อหนุ่ม Sean มาก เพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลายมากที่สุดในวันเปิดเทอม การยกขบวนมาส่งหนุ่มน้อยที่โรงเรียนแบบนี้ เป็นการส่งสัญญาณไปยังกลุ่มเด็กเกเรที่หวังจะมาแกล้งเขาว่า หากพวกเขามายุ่งกับเด็กคนนี้ล่ะก็ จะต้องเจอกับอะไรบ้างนั่นเอง กลุ่มไบค์เกอร์อยากจะให้หนุ่ม Sean ดูเท่ที่สุดในโรงเรียน จึงเตรียมเอาแจ็คเก็ตหนังและหมวกกันน็อคแบบพิเศษมาให้เขาสวมใส่ด้วย…
-
ไม่ใช่มุกแล้ว… สื่อนอกรายงานอุบัติเหตุ รถชนเครื่องบิน มันเกิดขึ้นได้จริงนะเธอ!?
แต่ก่อนเรามักจะมีเรื่องเล่าติดตลกเกี่ยวกับอุบัติเหตุระหว่างยานพาหนะ 2 ชนิดที่ไม่น่าจะมาเจอกันได้ เช่นเรือชนกับเครื่องบิน หรือเครื่องบินชนกับรถยนต์ เพราะโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้นั้นแทบจะเป็นหนึ่งในล้านเลยก็ว่าได้ แต่ถึงจะเป็นไปไม่ได้ขนาดไหนมันก็ได้เกิดขึ้นแล้วล่ะ… เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเครื่องบินลำหนึ่งของสายการบิน Dragonair กำลังเตรียมตัวที่จะบินออกจากเกาะฮ่องกงเพื่อเดินทางไปยังรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ในระหว่างนั้นกลับเกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อมีคนขับรถตู้สีเทาตรงดิ่งไปชนเข้ากับเครื่องยนต์ของเครื่องบิน ก่อนจะถูกลากไปตามพื้นยางมะตอยอย่างน่าหวาดเสียว ตามรายงานบอกว่าคนขับรถตู้รายนี้มีนามสกุลว่าเฉิน เขาทำโอทีหนักอย่างต่อเนื่องเมื่อเดือนที่ผ่านมา ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว แต่โชคดีที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก มีเพียงบาดแผลที่หัวและไหล่เท่านั้น เจ้าหน้าที่เลยนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลในทันที ส่วนทางด้านของผู้โดยสารเครื่องบินไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไร ทางสายการบินจึงต้องรีบเปลี่ยนให้พวกเขาไปขึ้นเครื่องบินลำอื่นเพื่อเดินทางไปมาเลเซียแทน คลิปอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ผ่านกล้องวงจรปิดของสนามบิน แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยถึงน้อยมากๆ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว อะไรก็เป็นไปได้จริงๆ นะเนี๊ยะ ที่มา shanghaiist
-
แว่นหลุดจากดั้งบ่อยๆ? เราขอแนะนำ Nerdwax แว็กซ์ที่จะช่วยให้คุณสวมแว่นได้อย่างมั่นใจ
หนุ่มสาวหลายคนที่เป็นมนุษย์แว่น มักจะประสบปัญหาแว่นเลื่อนออกจากดั้งอยู่บ่อยๆ (ยิ่งใครดั้งแหมบยิ่งน่ารำคาญเข้าไปใหญ่) เพราะในหนึ่งวันต้องทำกิจกรรมหลายอย่าง แค่เพียงก้าวเดินแรงๆ แว่นก็กระเทือนได้แล้ว แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป หากคุณได้ลองใช้ Nerdwax มันคือแท่งแว็กซ์ที่ใช้สำหรับทาลงบนบริเวณที่รองจมูกของแว่น เพื่อสร้างความฝืดให้ระหว่างแว่นและจมูกของคุณเคลื่อนตัวออกจากกันได้ยากขึ้นประหนึ่งคู่รักข้าวใหม่ปลามัน เจ้าแท่ง Nerdwax เป็นไอเดียสร้างสรรค์โดยนาย Don Hejny ผู้ลองผิดลองถูก นำส่วนผสมหลายอย่างมากเพื่อมาลองทำด้วยตัวเอง กว่าจะเจอสูตรที่ลงตัวและใช้งานได้จริงๆ รวมๆ แล้วมันสร้างมาจากขี้ผึ้งและส่วนผสมต่างๆ จากธรรมชาติ จึงไม่เป็นอันตรายแก่ผิวหนังของคุณ 1 แท่งสามารถใช้งานได้นาน 6-8 เดือน หากคุณอยากจะทำให้การมองเห็นของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลหรือพะวงว่าแว่นจะเลื่อนออกจากดั้ง ลองหาซื้อเจ้าแท่งนี้มาใช้ได้นะ . . ตอนนี้แท่ง Nerdwax มีวางขายแล้วผ่านเว็บไซต์ Amazon สนนราคาอยู่ที่แท่งละ 350 บาท ใครสนใจลองกดเข้าไปดูได้เลยนะ ที่มา boredpanda
-
ผลโฉมเรือรบใหม่สหรัฐ ราคา 1 แสนล้าน กับความไฮเทค กระทั่งหลอกเรดาร์ว่าเป็นเรือประมง!!
แม้ว่าเรือรบลำนี้อาจจะมีรูปทรงแปลกๆ เหมือนหลุดออกมาจากหนังไซไฟสักหน่อย แต่ขอบอกเลยว่าคุณสมบัติของมันนั้นออกจะเจ๋ง กับราคาแสนแพง ยิ่งกว่ารูปร่างที่คุณเห็นหรือสิ่งที่คุณคิดเสียอีก… เรือรบที่ทุกคนได้เห็นอยู่นี้คือเรือรบ USS Zumwalt ลำใหม่ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ตามรายงานระว่ามันเป็นเรือที่อันตรายที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างกันมา คุณสมบัติคร่าวๆ บนเรือมีปืนกลซ่อนอยู่ภายในตัวเรือ ที่สามารถยิงศัตรูได้ไกลถึง 96 กิโลเมตร บรรทุกขีปนาวุธอีก 600 ลูก บรรทุกลูกเรือได้สูงสุดถึง 300 นาย นอกจากนี้มันยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำ ที่จะส่งสัญญาณเรดาร์หลอกๆ ออกมา เพื่อให้เรือลำอื่นๆ คิดว่าเรือลำนี้เป็นเพียงเรือประมงหาปลาเท่านั้น เรือลำนี้จึงเหมาะมากแก่การใช้งานแบบสอดแนม หรือเข้าไปในพื้นที่ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกตรวจจับได้ เพราะคลื่นโซนาร์จะตรวจจับมันได้ค่อนข้างยาก ตามรายงานบอกว่าต้องใช้เวลาออกแบบและก่อสร้างเรือลำนี้นานถึง 5 ปี และใช้เงินในการสร้างกว่า 138,900 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้มันก็เสร็จสมบูรณ์พร้อมกับถูกปล่อยลงน้ำแล้วเรียบร้อย แต่มันจะยังไม่ถูกนำมาใช้งานจริงๆ จนกว่าจะทดสอบกันเสร็จในปี 2018 มันถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการโจมตีของกองกำลังภาคพื้นดิน ภารกิจทำลายศัตรู ป้องกันทางอากาศ บนผิวน้ำและใต้ทะเล ทางด้านของกัปตันเรืออย่างนาย James Kirk (ซึ่งชื่อบังเอิญเหมือนกับตัวละครในหนัง Star Trek) กล่าวว่า “ลูกเรือทั้งหมด 147 คนของเราได้ผ่านการฝึกฝนและรับรองมาแล้ว”…
-
มันเบ้อเร่อมาก!! จีนสร้างกล้องโทรทรรศน์วิทยุที่ใหญ่ที่สุดในโลก หวังตามหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก
หากจะมีดวงดาว สัญญาณชีวิตหรือมนุษย์ต่างดาวรอเราอยู่นอกโลกล่ะก็ ประเทศจีนเองก็อยากจะรู้เป็นประเทศแรกๆ ว่ามันคืออะไรกันแน่? ด้วยเหตุนี้เองทางรัฐบาลของจีนจึงมีโปรเจคสร้างกล้องโทรทรรศน์วิทยุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (เรียกสั้นๆ ว่า FAST) โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 500 เมตร ขึ้นมา เพื่อจับสัญญาณของสิ่งมีชีวิตนอกโลก ตามรายงานบอกว่ามันถูกสร้างเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในมณฑลกุ้ยโจวประเทศจีน แต่จะเริ่มใช้งานจริงๆ ได้ในวันที่ 25 กันยายน 2559 ที่จะถึงนี้ การทำงานของกล้องโทรทรรศน์วิทยุตัวนี้มีความซับซ้อนพอสมควร เพราะต้องไม่มีสัญญาณวิทยุอื่นๆ แทรกในรอบรัศมี 10 กิโลเมตร ห้ามมีการก่อสร้าง ล่าสัตวหรือถมที่ดินในบริเวณนั้น หากมีการฝ่าฝืนจะถูกปรับถึง 520,000 บาทเลยทีเดียว การจะสร้างกล้องโทรทรรศน์นี้ขึ้นมาได้ ทางรัฐบาลจีนต้องขอเวนคืนที่ดินของประชาชนแถวๆ นั้นกว่า 10,000 คน ในรอบรัศมี 2.4 กิโลเมตร แต่นั่นก็ทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น เพราะชาวบ้านที่ถูกเวนคืนที่ดินจะได้รับการชดเชยเพียงรายละ 62,600 บาทเท่านั้น โครการ FAST นั้นเริ่มมีการพูดคุยมาตั้งแต่เมื่อปี 2007 และเริ่มก่อสร้างในปี 2011 โดยใช้เงินไปกับโครงการนี้กว่า…
-
เปลี่ยวเมื่อไรไปซื้อเลย!! ที่สเปนมี ตู้ขายดิลโด้หยอดเหรียญ ช่วยบรรเทาความเหงาให้สาวๆ
เมื่อพูดถึงตู้ขายของหยอดเหรียญแล้ว สมัยก่อนเราจะนึกถึงตู้สำหรับขายเครื่องดื่ม ขนม หรือของเล่นเล็กๆ น้อยๆ แต่ในปัจจุบันมันเริ่มพัฒนามาเป็นอาหารร้อน เสื้อผ้า ถุงยาง หรือแม้แต่เซ็กส์ทอยก็เริ่มมีให้เห็นกันแล้ว… เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวของครอบครัวชาวอังกฤษกลุ่มหนึ่ง ที่ประกอบไปด้วย Stuart และ Debbie Norris พร้อมด้วยลูกๆ อีก 2 คน ตามรายงานบอกว่าพวกเขาเดินทางไปพักผ่อนที่เมือง Costa Brava ชายฝั่งทะเลของประเทศสเปน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับชาวอังกฤษ แต่ในระหว่างที่พักผ่อนอยู่ในโรงแรม L’Estartit พวกเขาก็สังเกตเห็นตู้ขายของอัตโนมัติตั้งเรียงรายกันเป็นแถว ถ้าไม่สังเกตอะไรก็คงจะเป็นตู้ขายของทั่วไป แต่มีตู้หนึ่งกลับมีอุปกรณ์หน้าตาแปลกประหลาดอย่างเซ็กส์ทอยขายด้วย!? เมื่อนาย Norris เห็นเข้าก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก ได้แต่ปิดตาลูกๆ ของพวกเขา “มันค่อนข้างน่าตกใจทีเดียว เราต้องปิดตาลูกๆ เมื่อเรารู้ว่ามันคืออะไรกันแน่” ทั้งนี้ยังมีนักท่องเที่ยวและผู้ปกครองอีกหลายคนบ่นเกี่ยวกับตู้ขายของหยอดเหรียญสัปดนนี้ว่า ไม่ควรจะตั้งอยู่ในโรงแรมหรือรีสอร์ทสำหรับครอบครัวเช่นกัน โดยส่วนตัวของ #เหมียวฟิ้น มองว่าการจะนำเอาอุปกรณ์เหล่านี้มาใส่ไว้ในตู้หยอดเหรียญไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ผิดอะไร (ในบางพื้นที่) แต่คงต้องดูสถานที่ตั้งด้วย และควรจะใส่บรรจุภัณฑ์ที่มิดชิดกว่านี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความอุจาดตาได้น่ะนะ ที่มา dailymail
-
นวัตกรรมสุดล้ำ “นาฬิกาปลุกxิ๋ม” ช่วยให้สาวตื่นยาก ตื่นได้อย่างซาบซ่านและเบิกบานใจ!!
คุณเป็นผู้หญิงขี้เซาคนหนึ่งที่ตื่นยากตื่นเย็น แม้จะตั้งนาฬิกาปลุกซ้ำไว้ถึง 3-4 รอบก็ตาม แต่จิตใต้สำนึกของคุณก็พยายามเอาชนะด้วยการเอื้อมมือไปกดปิดแล้วนอนต่อแบบเบลอๆ จนลืมไปเลยว่าจะต้องตื่นได้แล้วนะ!! หากคุณเป็นคนแบบที่ว่ามาล่ะก็ #เหมียวฟิ้น อยากจะขอนำเสนอนาฬิกาปลุกแบบใหม่ รับรองว่าสะดุ้งตื่นได้แบบทันตาเห็น… เจ้าอุปกรณ์ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Little Rooster Alarm นาฬิกาที่มีลักษณะคล้ายกับด้ามจับ เหตุผลที่มันต้องมีด้ามจับก็เพราะว่าตรงส่วนด้ามจับนั้นสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนได้ วิธีใช้ก็แค่ตั้งเวลาที่คุณอยากจะตื่น จากนั้นก็สวมใส่มันลงไปในกางเกงใน (ตรงนั้นแหละ) เมื่อถึงเวลาปลุกปุ๊บ แทนที่มันจะส่งเสียงออกมา มันก็จะสั่นสะเทือนจนคุณต้องตื่นมาพร้อมกับรอยยิ้มเบิกบานแจ่มใสบนใบหน้าเลยทีเดียว… ทางเว็บไซต์ของผู้ผลิตนาฬิกา Little Rooster ได้โฆษณาสรรพคุณของมันเอาไว้ว่า “คุณจะตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ ซาบซ่าน เบิกบานใจ” นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับระดับแรงสั่นสะเทือนได้มากถึง 27 ระดับ (ใครตื่นยากๆ ก็จัดระดับแรงสุดเลย) สามารถชาร์จไฟได้ และมีการรับประกัน 1 ปี หลังจากที่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ผ่านเว็บไซต์ littleroosterstore.com มันก็สร้างปรากฎการณ์จนขาดตลาย หายจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็ว สนนราคาอยู่ที่ชิ้นละ 3,200 บาท หากคุณคิดว่ามันไม่แพงเกินไปล่ะก็ จัดเลย!! ที่มา dailymail
-
เคยสงสัยไหม เหตุใดรางรถไฟต้องมีก้อนหิน? เพราะมันช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้ยังไงล่ะ
การเดินทางด้วยรถไฟถือเป็นหนึ่งในการเดินทางที่สะดวกสบายและรวดเร็วที่สุดวิธีหนึ่งเลยก็ว่าได้ (กรณีในต่างประเทศ) แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า ตั้งแต่สมัยที่รถไฟยังเป็นเพียงรถจักรไอน้ำและกลายมาเป็นรถไฟความเร็วสูง ทำไมพวกเขาถึงต้องมีก้อนหินวางไว้รอบๆ รางรถไฟ? หินที่ทุกคนสงสัยกันมานาน ความจริงแล้วมันมีชื่อเรียกว่า “บัลลาสต์แทร็ก” ก้อนหินเหล่านี้ช่วยให้รางรถไฟมีความปลอดภัยมากขึ้น เพราะเนื่องจากรางรถไฟสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อันเนื่องมาจากอุณหภูมิความร้อน การเคลื่อนตัวของดินและแรงสั่นสะเทือน ก้อนหินพวกนี้จะเป็นตัวซึมซับแรงกระแทก ความร้อน ช่วยให้รางไม่เคลื่อนออกจากที่ที่มันควรอยู่ วิศวกรเริ่มใช้วิธีนี้ในการสร้างรางรถไฟมากว่า 200 กว่าปีแล้ว และยังคงใช้มาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันไม่ให้รางรถไฟทรุดตัวเมื่อถูกน้ำพัดไปด้วย อย่างเช่นภาพนี้จะเห็นได้ว่ารางรถไฟถูกวางไว้ริมทะเล ส่วนที่เป็นหินยังทำให้รางรถไฟคงรูปร่างเดิมอยู่ แต่ในส่วนที่ไม่มีหินจะเห็นว่ารางหย่อนลงไปอย่างน่าหวาดเสียว ผลพลอยได้จากการใช้หินมาราดลงบนรางรถไฟ ยังทำให้ต้นไม้ใบหญ้าหรือวัชพืชต่างๆ ไม่มาเติบโตบริเวณรางรถไฟด้วย แล้วใครกันล่ะที่จะมีเวลามากพอไปโรยก้อนหินเหล่านั้น? อันที่จริงแล้วบนขบวนรถไฟจะมีช่องไว้สำหรับโปรยก้อนหิน ทำให้สามารถโรยหินลงไปได้เท่าๆ กันทั้งรางเลย . . . นี่แหละคือที่มาที่ไปของก้อนหินรอบๆ รางรถไฟ มันสำคัญอย่างนี้นี่เอง ที่มา lifebuzz
-
รอคอยเธอมาแสนนาน…นี่คือ 8 หนังภาคต่อที่คุณตั้งตารอ และอาจไม่เคยรู้ว่ามันจะมีภาคต่อ!!
สำหรับผู้กำกับหรือสตูดิโอภาพยนตร์ต่างๆ แล้ว การทำหนังซักเรื่องให้ฮิตติดลมบน ดูจะเป็นเรื่องที่ต้องใช้หัวสมองกันอย่างหนัก และเมื่อมันฮิตจนทำเงินถล่มทลายแล้วพวกเขาก็ต้องมาคิดหาวิธีสร้างภาคต่อให้กับหนังเรื่องนั้นๆ เพื่อที่จะได้หากินกันไปแบบยาวๆ แต่หนังบางเรื่องใช่ว่าจะออกมาได้แบบทันทีทันใด เพราะต้องรอให้ทุกอย่างลงตัว เช่นนักแสดง บทที่ดีหรือเงินที่พร้อม เช่นในบทความนี้ #เหมียวฟิ้น จะพาเพื่อนๆ ไปดูกันว่ามีหนังเรื่องไหนบ้างที่เตรียมจะมีภาคต่อ บางเรื่องหายไปนานจนคุณไม่คิดว่ามันจะมีภาคต่อแล้วซะด้วยซ้ำ 1. American Pie 5 เรื่องราวของแก๊งวัยรุ่นสุดทะลึ่งตึงตัง American Pie เริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 1999 และกลายเป็นหนังตลกสัปดนที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จนมีภาคต่อและภาคแยกตามมาอีกเพียบ จนกระทั่งในปี 2012 มีข่าวแว่วมาว่า American Pie 5 (ภาคหลักที่ใช้ตัวเลข) จะกลับมาให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงด้วยการดึงเอาตัวละครจากภาคแรกกลับมาแสดงอีกครั้ง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดี ต่อมาในปี 2015 ได้มีหนึ่งในทีมนักแสดงอย่าง Tara Reid ออกมายืนยันว่ามีการเรียกให้นักแสดงเข้าไปพูดคุยถึงภาคต่อจริงๆ และอาจดำเนินเรื่องราวในเมืองลาสเวกัสด้วย 2. Bad Boys 3 และ 4 เป็นเวลากว่า 21 ปีแล้วนับจากที่คู่หูตำรวจ Bad…
-
สมาธิสั้นงั้นหรือ!? แนะนำ Fidget Cube อุปกรณ์บำบัดคนมือบอน ชอบกดนั่นแงะนี่ตลอดเวลา…
เคยไหม? เวลาที่อยู่เฉยๆ หรือไม่มีอะไรทำ คุณจะหาสิ่งของรอบๆ ตัวมาถือ หมุน กดเล่นอยู่ตลอดเวลา จนเหมือนเป็นคนสมาธิสั้นยังไงยังงั้น? หากคุณเป็นแบบนั้นล่ะก็ เรามีอุปกรณ์ที่จะมาช่วยบำบัดคุณ แถมยังช่วยให้คุณไม่รู้สึกเหงาเมื่อไม่มีอะไรทำอีกด้วย เมื่อไม่นานมานี้บริษัท Antsy Labs ที่ก่อตั้งโดย 2 พี่น้อง Matthew และ Mark McLachlan ได้คิดค้นอุปกรณ์ (หรืออาจจะเรียกว่าของเล่นก็ได้) ที่ชื่อว่า Fidget Cube มันมีลักษณะเป็นทรงลูกบาศก์ที่มีปุ่มและสวิตช์อยู่รอบๆ เจ้าปุ่มและสวิตช์เหล่านั้นไม่ได้มีนัยยะสำคัญอะไรนอกจากให้คุณสามารถกดๆ หมุนๆ เล่น คล้ายกับสวิตช์ไฟบ้าน กดได้เหมือนปากกา ม้วนได้เหมือนดินสอ หมุนได้เหมือนกุญแจ เมื่อกดหรือหมุนไปแล้วจะมีเสียงแก๊กๆ คลิกๆ ออกมา เหมาะสำหรับบำบัดอาการสมาธิสั้นเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้เจ้า Fidget Cube อยู่ในระหว่างการระดมทุนและผลิต หากสนใจลองเข้าไปอ่านข้อมูลการสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ kickstarter สนนราคาอยู่ที่ชิ้นละ 14 เหรียญดอลลาร์หรือประมาณ 485 บาท ชมคลิปการทำงานของเจ้าของเล่นชิ้นนี้เลย เหล่าคนมือบอน ลองไปหาซื้อมาคลายเหงากันดูนะ…
-
โดนเข้าบ้าง… นักตัดต่อภาพไปเที่ยวกับแฟน ถ่ายภาพทำหน้างงๆ โดนเพื่อนรุมแกล้งคืนบ้าง!!!
โดยปกติแล้วช่างภาพมักจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการถ่ายภาพสวยๆ ทั้งจัดแสงปรับเปลี่ยนมุมมอง อันนี้ก็แล้วแต่ฝีมือของช่างภาพแต่ละคน แต่สำหรับช่างภาพและนักตัดต่อภาพรายนี้กลับตรงกันข้าม… เมื่อไม่นานมานี้นาย Pratik Naik ช่างภาพและนักตัดต่อภาพได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ชายหาดแห่งหนึ่งในนครเวนิส ประเทศอิตาลี ระหว่างนั้นเขาได้ช่วยแฟนสาวถือข้าวของเพื่อให้เธอถ่ายรูปได้สะดวกกับเพื่อนๆ ของเธอ แต่ในระหว่างนั้นนาย Pratik กลับยืนด้วยท่าโพสต์ตลกๆ เพื่อนของเธอจึงถ่ายเอามาลงในเฟซบุ๊กของเขา และหลังจากนั้นไม่นานพลพรรคเพื่อนช่างภาพและนักตัดต่อมือทองในอินเตอร์เน็ตก็เอาภาพของเขาไปยำเป็น… ภาพประหลาดๆ อย่างที่เห็นนี่แหละ 1. ต้องการความรักหน่อยไหม? 2. สาวน้อยและการเดินทาง 3. อีกอาชีพหนึ่งที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน 4. รักแท้ไม่มีวันจืดจาง 5. ฉันบินได้แจ๊ค!! 6. ลงตัวเป๊ะ 7. ช่วยตัดต่อดวงอาทิตย์ให้เข้ามาอยู่ในมือผมให้หน่อย 8. นักดวลปืนก็เป็นได้ 9. ความลับของโมนาลิซ่า 10. ฮันส์แมน 11. โอปปากังนัมสไตล์ 12. เดินดีๆ…
-
โลกเดี๋ยวนี้มันโหดร้าย… เด็กสาวร้องไห้เป็นเผาเต่า เพราะทำการบ้านคณิตศาสตร์!?
เราทุกคนล้วนมีช่วงเวลาที่ ‘ทำการบ้านไม่ได้’ ทั้งนั้น เพราะมันจะยากขึ้นไปเรื่อยๆ ตามระดับการศึกษาของเรา ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิธีแก้ไขที่แตกต่างกันออกไป บางคนฝึกอ่านฝึกทำจนทำได้ บางคนก็ให้เพื่อนสอน บางคนลอกเพื่อน บางคนตีมึนส่งไปทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเลยก็มี… (เราก็ทำบ่อย) แต่สำหรับเด็กสาวคนนี้ มันกลับเป็นเรื่องที่หนักหนาเกินจะรับไหวทีเดียว นี่เป็นคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้ทวิตเตอร์ @FreddyAmazin เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ในคลิปนี้เป็นคลิปเด็กสาวชั้น ป.6 กำลังร้องไห้สะอื้น เนื่องจากการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ที่ได้รับมอบหมายมามีความยากเกินความสามารถของเธอ จนไม่รู้จะระบายออกทางไหนดี จากคลิปวิดีโอจะเห็นว่าเด็กสาวกำลังโวยวายถึงการบ้านของเธอ เมื่อพี่สาวของเธอมาเห็นเข้าก็ไม่ได้จะสงสารน้องตัวเองเลย แถมอดขำไม่ได้และหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกช่วงเวลาฮาๆ ไว้ให้น้องสาวกลับมาดูในอนาคต คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบชัดๆ ยากจริงโว้ย!! นี่อาจสะท้อนถึงการเลี้ยงดูลูกและวัฒนธรรมการศึกษาในต่างประเทศได้บ้างนะ แต่คงไม่ทั้งหมด เพราะวัยรุ่นหลายๆ คนที่ใช้ชีวิตและเรียนได้อย่างพอดิบพอดีก็มีเช่นกัน ที่มา distractify , @FreddyAmazin
-
Rupert เจ้าเหมียวส้ม ที่มาพร้อมดวงตา “ขี้กังวล” ตลอดเวลา (แต่ข้างในแฮปปี้นะ)
แมวได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่เดาอารมณ์ค่อนข้างยากทีเดียว เพราะมันจะนิ่งๆ ไม่ค่อยแสดงออกทางสีหน้าเท่าไหร่ บางตัวทำหน้าดุมาก บางตัวขี้เล่นมาก และบางตัวก็เศร้ามากเช่นกัน… #เหมียวฟิ้นจะชวนทุกคนมารู้จักกับเพื่อนตัวน้อยตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Rupert มันเป็นแมวที่โด่งดังมาในต่างประเทศ ทำไมมันถึงดังน่ะเหรอ!? นั่นก็เพราะว่ามันมีสายตาที่เว้าวอน เศร้าสร้อย ดูมีเรื่องให้กังวลตลอดเวลายังไงล่ะ เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านสมาชิกเว็บไซต์ Reddit คนหนึ่งที่รับเจ้า Rupert มาเลี้ยงตอนมันอายุได้ 6 สัปดาห์ เจ้าตัวเล่าว่า “ผมรับมันมาเลี้ยงจากโครงการอุปถัมภ์แมวโครงการหนึ่ง” “มันแปลกอยู่หน่อยๆ เพราะมันเป็นแมวขี้กลัว ขี้อายกับคนแปลกหน้า และมักจะซ่อนตัวอยู่หลังเฟอร์นิเจอร์จนกว่ามันจะรู้สึกสบายใจแล้วค่อยออกมา” อาจจะต้องให้เวลากับเจ้า Rupert สักหน่อยในการทำความรู้จักคนใหม่ๆ จนมันไม่กลัวคนอีกต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่มันไม่กลัวก็คือ มันชื่นชอบแมลงมาก วิ่งไล่ตามตลอดเวลา สิ่งสำคัญที่มันโดดเด่นและทำให้มันแตกต่างคือ มันเกิดมาพร้อมกับดวงตาขี้กังวลสุดๆ เหมือนมนุษย์กำลังทำหน้ากลุ้มใจอยู่ตลอดเวลา ปัจจุบันเจ้า Rupert อายุได้ 8 ปีแล้ว และยังคงมีดวงตาขี้กังวลอยู่ แต่มันก็ไม่ได้เศร้าสร้อยจริงๆ หรอกนะ มันร่าเริงและเล่นสนุกสนานเหมือนแมวทั่วๆ ไปนั่นแหละ ถึงตาของมันจะเศร้า แต่ข้างในนี่แฮปปี้เลยนะ นี่ถ้าเราเจอแมวมาทำหน้าตาแบบนี้อยู่ที่หน้าประตู เราคงจะยอมยกอาหารที่มีทุกอย่างในบ้านมาให้มันแน่ๆ…
-
และนี่คือ ‘รัสเซีย’ ออกไอเดียให้สาวเปลือยอก ถือป้ายรณรงค์ ‘ลดความเร็ว’ บนท้องถนน…
กฎหมายการควบคุมความเร็วนั้นดูจะเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยากสักหน่อยนะ เพราะในทุกวันนี้แม้จะมีการติดป้ายสัญญาณจราจรอันใหญ่ๆ หรือการโฆษณาในทีวีที่แสดงให้เห็นถึงอันตราย แต่ก็ยังคงมีการฝ่าฝืนอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้เองทางรัสเซียจึงออกไอเดียแหวกๆ ที่คงไม่มีประเทศไหนทำตามละมั้ง ด้วยการให้หญิงสาวหุ่นสะบึม มาเปลือยออกยืนอยู่ข้างถนน ให้คนตกใจเล่นๆ สะเลย!! ไอเดียที่ว่านี้เกิดขึ้นในเมืองนิจนีนอฟโกรอด อยู่ห่างจากเมืองหลวงของรัสเซียออกไปราวๆ 400 กิโลเมตร ตามรายงานบอกว่าหน่วยงานมหาชนที่ชื่อว่า Autodvijenie ได้ว่าจ้างหญิงสาวหุ่นเซ็กซี่มา 2 คน ให้เปลือยอกแล้วถือป้ายจราจรกำกับความเร็วอยู่ข้างถนน ทั้งนี้ก็เพื่อดึงดูดความสนใจจากคนใช้รถใช้ถนนและโน้มน้าวให้พวกเขาลดความเร็วลงบ้าง ผลปรากฏว่าประสบผลสำเร็จอย่างมากโดยเฉพาะผู้ชับขี่ที่เป็นผู้ชาย ช่วยสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนได้ดีทีเดียว . ตามสถิติแล้ว ประเทศรัสเซียถือเป็นประเทศที่มีการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจนมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดประเทศหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะในแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตกว่า 30,000 คน หน่วยงานต่างๆ จึงต้องออกมาช่วยกันรณรงค์ให้ขับขี่ด้วยความปลอดภัย แม้จะใช้วิธีที่ค่อนข้างโจ่งครึ่มแบบนี้ก็ตาม ชมคลิปการเปิดอกลดความเร็วได้ที่นี่เลยนะ และเสียใจว่าต้นฉบับก็เซ็นเซอร์ไว้เช่นกัน ดีนะที่ชะลอความเร็วกัน เพราะไม่งั้นอาจจะมองไม่ชัด เอ้ย!! เกิดอุบัติเหตุได้ ที่มา Akhil Blossom
-
เจ้า Princess หมาถูกทิ้งที่ได้รับโอกาสใหม่ คอยช่วยเหลือเป็นแม่บุญธรรมให้ ‘ลูกลิงกำพร้า’
เรื่องที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องของเจ้า Princess สุนัขจรจัดที่ถูกทิ้งไว้ตามข้างถนน มันได้รับอุปการะโดยนาง Jenny และนาย Jimmy Desmond พวกเขาเลี้ยงดูเจ้า Princess เป็นอย่างดีจนมันคุ้นเคยและยอมรับพวกเขา… เนื่องจาก Jenny และ Jimmy เป็นคนที่รักสัตว์มาก พวกเขาจึงขึ้นเครื่องบินและออกช่วยเหลือสัตว์ที่ตกทุกข์ได้อยากในประเทศต่างๆ ถึง 10 ประเทศ (เช่นไลบีเรีย ไลบีเรีย หรือเคนยา) นั่นทำให้เจ้า Princess ดูจะยุ่งขึ้นหลายเท่าตัวเพราะพวกเขาต้องไปด้วยกันตลอดเวลา วันหนึ่งทั้งสองต้องเดินทางไปที่ชายฝั่งในประเทศไลบีเรีย เพราะได้รับแจ้งว่ามีคนนำลิงมาปล่อยทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก นั่นอาจจะหมายถึงความตายของพวกมันทั้งหมดเลยก็ได้ ที่นั่นไม่มีอาการหรือน้ำสะอาดๆ ไว้ดื่มเลย ครอบครัว Desmond จึงติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานกู้ภัยท้องถิ่น เพื่อให้ลิงเหล่านี้มีชีวิตรอดต่อไป ในระหว่างที่พวกเขาทั้ง 2 คนกำลังง่วนอยู่กับการให้ความช่วยเหลือลิง เจ้า Princess ก็ดูจะไม่น้อยหน้า มันเข้าไปคลุกคลีคลอเคลียกับลิงทั้งหลายเพื่อปลอบใจและให้ความเป็นมิตรกับพวกมัน เพื่อให้ลิงตัวน้อยๆ รู้สึกเหมือนอยู่กับเพื่อนหรืออยู่ที่บ้าน Jenny ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เจ้า Princess เปิดหัวใจและวิญญาณให้กับลิงชิมแปนซีเหล่านั้น อนุญาตให้พวกมันเข้ามาอยู่ในที่ที่ปลอดภัยที่เรียกว่า ‘บ้าน’ และช่วยให้พวกมันเตรียมพร้อมสำหรับครอบครัวลิงใหม่ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์” …
-
อย่างกับหนังสายลับ!! เปิดตัวสายรัดข้อมือไฮเทค คุยโทรศัพท์ได้เพียงแตะปลายนิ้วไว้ที่หู
หลายครั้งหลายคราที่เราเห็นอุปกรณ์ไฮเทคแบบในหนังแล้วพาลคิดไปว่ามันน่าจะมีใช้กันจริงๆ ในสักวันหนึ่ง เช่นอุปกรณ์ที่หนังสายลับมักจะนำเสนอกัน ตั้งแต่แว่นตาแบบพิเศษ หรือนาฬิกาไฮเทคที่คุยกันได้แม้จะไม่ต้องเอาอะไรมาแนบกับหูเลยก็ตาม…วันนี้อุปกรณ์นั่นได้ถือกำเนิดขึ้นแล้วล่ะ เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา บริษัท Innomdle Lab ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์สุดไฮเทคที่มีชื่อว่า Sgnl อันที่จริงจะบอกว่ามันคือนาฬิกาเลยก็คงจะไม่ถูกนัก เนื่องจากเจ้านี่มันคือสายที่เอาไว้ปรับเปลี่ยนใส่อะไรก็ได้เช่นนาฬิกาอนาล็อกหรือ Apple Watch หรือจะใส่แค่สายเปล่าๆ เลยก็ได้ ความสามารถของเจ้า Sgnl คือการเปลี่ยนวิธีการสื่อสารไปโดยสิ้นเชิง เพราะปกติแล้วเวลาที่เราจะโทรศัพท์หากัน เราจะต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบกับหูหรือใส่สมอลทอล์กเพื่อคุย แต่สายรัดข้อมือชิ้นนี้ไม่ต้องทำแบบนั้น มันมาพร้อมกับระบบบลูทูธที่จะเอาไว้เชื่อมต่อกับมือถือของคุณ ทุกครั้งที่มีคนโทรเข้ามา มันจะสร้างแรงสั่นสะเทือนเบาๆ บนร่างกาย หากคุณนำนิ้วไปจิ้มไว้ที่หู คุณก็จะสามารถได้ยินเสียงผ่านแรงสั่นสะเทือน คล้ายกับการทำงานของประสาทหูเทียมนั่นเอง Sgnl เป็นสายรัดข้อมือไฮเทคที่มีระบบกันน้ำในระดับ IP56 สามารถป้องกันฝุ่นได้ดีและสามารถป้องกันน้ำฉีดอย่างแรงเข้าทุกทิศทาง เครื่องนี้สามารถทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.4 ขึ้นไป หรือ iOS 8 ขึ้นไป สามารถคุยต่อเนื่องได้นาน 4 ชั่วโมง และเปิดสแตนบายเอาไว้ได้นานถึง 7 วันเลยทีเดียว …
-
สายเข้มต้องมา!! รวม 13 หนุ่มเครางามต้อนรับวันเคราโลก พร้อม IG ให้ไปตามจิ้นฟินเฟร่อ!!
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะว่าเพียงแค่คุณไว้เครางามๆ คุณก็อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของ วันเคราโลกก็เป็นได้ เพราะในทุกๆ วันเสาร์แรกของเดือนกันยายน (ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 3 กันยายน 2559) จะมีการจัดตั้งให้กลายเป็นวันเคราโลกเพื่อให้คนที่มีเครางามจากแต่ละที่มารวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมบางอย่าง เช่นปิ้งบาร์บีคิว ปาร์ตี้เครื่องดื่ม แข่งกันเล่นเกมเป็นทีม และอีกมากมาย #เหมียวฟิ้น จึงถือโอกาสนี้รวบรวมภาพของหนุ่มเครางามจากแต่ละที่มาให้สาวๆ ชาวไทยได้ดูกัน และในแต่ละคนยังมีอินสตาแกรมให้ติดตามด้วยนะ เชิญสาวๆ ไปฟินกันได้เลย!! #1 @chezrust . . #2 @fracrox . . #3 @levistocke . . #4 @mateusverdelhomv . . #5 @billyhuxley . . #6 @glentrivett . . #7 @chris_perceval . . #8 @rickisamhall . . #9 @thisistimothy .…
-
สาวญี่ปุ่นครีเอทของกินทุกอย่าง ให้กลายเป็น “โทโทโร่” ทั้งน่ารักน่าหม่ำทุกอันเลย!!
Studio Ghibli คือสตูดิโอการ์ตูนญี่ปุ่นที่โด่งดังและกลายเป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วโลก และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในตัวละครที่แฟนๆ จดจำได้ดีก็คือเจ้าโทโทโร่นี่แหละ ด้วยรูปลักษณ์ที่ใหญ่เหมือนหมีน่ากอด ทำให้มันดูน่ารักมาก และด้วยความโด่งดังของโทโทโร่นี้เอง ก็ทำให้คนบางคนถึงขั้นนำเอามันมาทำเป็นอาหารในแบบต่างๆ เลยทีเดียว เช่นผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่น @blacktotoros ที่อธิบายตัวตนของเธอแบบตรงไปตรงมาว่า “เป็นสาวญี่ปุ่นที่ชอบทำอาหารโทโทโร่” หากอยากเห็นว่าอาหารหน้าตาเป็นไงงั้นลองไปดูกัน 1. ซูชิโทโทโร่ ข้าวห่อด้วยไข่เจียว แล้วใช้สาหร่ายตกแต่งเป็นหน้าตา น่ากินมาก 2. ข้าวผัดโทโทโร่ ข้าวผัดที่นำมาปั้นเป็นโทโทโร่แล้วใช้ใบโหระพามาตกแต่งเป็นร่ม 3. วุ้นเจลาตินโทโทโร่ มันคือวุ้นที่เอาไว้ใส่ในโอเด้งร้อนๆ ตักใส่ปากแล้วน่าจะฟินมาก . 4. สลัดมันฝรั่งโทโทโร่ สลัดมันฝรั่งสีเหลืองอร่ามล้อมรอบไข่ต้มที่เปรียบเสมือนหน้าท้องของมัน 5. หัวไชเท้าโทโทโร่สำหรับหม้อไฟ 6. Tarako (ไข่ปลาค็อด) ทำเป็นรูปโทโทโร่ ซ่อนตัวอยู่ในนี้ 7. พุดดิ้งโทโทโร่ สีม่วงก็มี …
-
หาดูยาก…หญิงสาวแต่งชุดชนเผ่าไปซื้อของในห้าง แม้แปลกตา แต่คือความงดงามอย่างหนึ่ง
นี่เป็นภาพที่กำลังโด่งดังในต่างประเทศขณะนี้เลย สำหรับภาพของหญิงสาวจากชนเผ่าพื้นเมืองของแอฟริกา ที่ออกมาเดินซื้อของในห้างสรรพสินค้าท้องถิ่น ภาพเหล่านี้ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Metro เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา เป็นภาพของหญิงสาวในชุดแบบชนเผ่า Himba ในประเทศนามิเบีย ที่เปลือยร่างกายบางส่วนพร้อมกับแบกลูกน้อยไว้ที่หลังของเธอ แสดงถึงความงดงามของวัฒนธรรมชนเผ่าที่เคียงคู่อยู่กับวัฒนธรรมแบบสมัยใหม่ ตามรายงานบอกว่าเธอกำลังเลือกซื้อแป้งอเนกประสงค์ น้ำตาลและผงซักฟอก ซึ่งในระหว่างนั้นมีช่างภาพชาวสวีเดน Bjorn Persson ผ่านมาเห็นพอดี จึงถ่ายภาพเธอเก็บไว้ “ในตอนแรกเธอไม่ได้สังเกตเห็นผม แต่หลังจากนั้นเธอก็เริ่มรู้แล้วว่าผมกำลังทำอะไร หญิงสาว Himba จะสวมใส่เสื้อผ้าแบบนั้น ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่บ้านหรือออกมาในเมืองใหญ่แบบนี้” นาย Persson กล่าว แม้ว่าภาพเหล่านี้จะดูแปลกตาไปหน่อย แต่ก็ต้องบอกว่านี่คือการแต่งกายเพื่อแสดงออกถึงความงามแบบ Himba ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพแบบชนเผ่าอื่นๆ หากสังเกตดีๆ บริเวณผมและผิวหนังของพวกเขาจะปกคลุมไปด้วยดินโคลน นั่นคือการใช้ครีมกันแดดแบบธรรมชาตินั่นเอง . สำหรับคนจากในตัวเมืองเอง การที่ได้เห็นหญิงสาวจากชนเผ่าออกมาในเมืองเพื่อซื้อของแบบนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้บ่อยนัก นาย Persson กล่าวปิดท้ายว่า “พวกเขาแต่งตัวแบบนั้นในหมู่บ้าน ไม่มีใครมาจ้องมองกัน แต่ผมรู้สึกตราตรึงใจ สับสน มีความสุขและเศร้าในเวลาเดียวกัน ภาพถ่ายมันเป็นตัวแทนให้กับโลกเก่าและวัฒนธรรมที่กำลังปะทะกับโลกใหม่ สำหรับผมแล้ว…
-
สาวซื้อลูกหมาพันธุ์ผสมมาเลี้ยง แต่เลี้ยงไปเลี้ยงมา ไหงกลายเป็นหมาป่าพันธ์ุแท้ไปได้ล่ะเฮ้ย!!
จะซื้อลูกหมามาเลี้ยงแต่ละครั้งเราจะต้องศึกษาหาข้อมูลและเช็คให้ดีๆ นะ ว่ามันมีสุขภาพแข็งแรงไหม ตรงกับสายพันธุ์ที่เราต้องการไหม พันธุ์แท้หรือพันธุ์ทาง ไม่งั้นคุณอาจพลาดเหมือนกับเธอคนนี้ได้… เว็บไซต์ Thedodo ได้เปิดเผยเรื่องราวของหญิงสาวนิรนามคนหนึ่ง ในรัฐโอกลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา เรื่องราวเริ่มต้นจากเธอได้ไปเห็นโฆษณาขายลูกหมาตัวหนึ่งในหนังสือพิมพ์ ในโฆษณาระบุว่าลูกหมาตัวนี้เป็นลูกหมาป่าพันธุ์ผสม อายุ 2 เดือน เข้าสังคมเก่งมากและเป็นตัวของตัวเองสูง ขนปุย ราคาประมาณ 10,000 บาท แม้จะระบุอย่างชัดเจนว่ามันมีความเป็นหมาป่าผสมอยู่ แต่เธอก็คิดว่ามันคงไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร เธอจึงตัดสินใจซื้อมันมาเลี้ยงที่บ้านและตั้งชื่อให้ว่า Trigger แต่เมื่อเลี้ยงมันได้เพียง 2-3 เดือน ตัวของมันก็เริ่มใหญ่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่จะเป็นลูกหมาตัวอื่นๆ ประหนึ่งว่ามันคือหมาป่าพันธุ์แท้ที่ออกมาจากป่าเลยก็ว่าได้ จากนั้นเธอจึงหาข้อมูลเกี่ยวกับหมาป่าและคิดหนักว่าจะทำยังไงกับเจ้า Trigger ดี เธอจึงสร้างลวดล้อมเป็นกรงไว้ในห้องนอน เพื่อไม่ให้มันออกมาสร้างความอันตรายให้กับคนอื่น แต่มันเป็นหมาป่าที่มีความแข็งแรงพอตัว แค่ลวดจึงไม่สามารถขังมันได้ เธอจึงต้องติดต่อไปยัง เขตอนุรักษ์สัตว์ป่า W.O.L.F. Sanctuary ซึ่งโชคดีมากๆ ที่พวกเขายินดีจะรับเจ้า Trigger ไปเลี้ยงดูต่อ ที่นั่น เจ้า Trigger ได้เจอกับเพื่อนใหม่เป็นเจ้า Spartacus หมาป่าโตเต็มวัยที่คอยเป็นทั้งพี่เลี้ยงและเพื่อนให้กับมัน จนตอนนี้สนิทกันมาก แทบจะแยกกันไม่ได้เลยทีเดียว สนิทกันมาก…
-
หนุ่มเคนยาพ้อ เป็นโรคประหลาด ‘เจ้าโลกใหญ่’ กว่าคนอื่น 10 เท่า สาวไม่กล้ามีอะไรด้วย…
หนุ่มๆ หลายคนใฝ่ฝันที่อยากจะมีเจ้าโลกแบบใหญ่ๆ เพื่อความภูมิใจของตัวเองและคิดว่ามันจะช่วยให้สาวๆ รู้สึกดีไปกับขนาดไอ้จ้อนอันใหญ่… แต่มันก็ไม่เสมอไปหรอกนะ เพราะหากใหญ่เกินไป มันก็อาจทำให้คุณใช้ชีวิตลำบากจนไม่สามารถมีอะไรกับสาวๆ ได้เลย เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานเรื่องราวเกี่ยวกับ Sorence Owiti Opiyo ชายหนุ่มชาวเคนยาวัย 20 ปี ที่ดันเกิดมามีเจ้าโลกใหญ่กว่าผู้ชายทั่วไปถึง 10 เท่า ตามรายงานบอกว่าในตอนที่เขาอายุได้ 10 ขวบ เขาเริ่มมีอาการบวมที่อวัยวะเพศแบบไร้สาเหตุ ตอนแรกเขาคิดว่าแค่เกิดมาเป็นคนมีขนาดใหญ่กว่าคนอื่นๆ เท่านั้น แต่มันกลับเริ่มลุกลาม เขาจึงเข้ารับการผ่าตัด แต่มันกลับใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และไม่เพียงแค่ใหญ่ขึ้นอย่างเดียว มันยังทำให้อวัยวะของเขาเสียรูปทรงไปด้วย นั่นหมายความว่านาย Opiyo ไม่สามารถมีลูกหรือเพศสัมพันธ์กับสาวคนไหนได้เลย และนั่นส่งผลให้เขาต้องออกจากการเรียนเพราะถูกคนอื่นๆ ล้อเลียนอย่างหนัก แถมยังไม่มีใครรับเขาเข้าทำงานไปโดยปริยาย ปัจจุบันโรคของนาย Opiyo ยังไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอะไรกันแน่ ทราบแค่เพียงว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นเฉพาะในแอฟริกาเท่านั้น อาจจะมาจากทางด้านกรรมพันธุ์ หรือเป็นโรคเฉพาะถิ่นก็เป็นไปได้ แต่ทางแพทย์ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ทางด้านครอบครัวของเขาหวังอย่างยิ่งที่จะระดมเงินทุนเพื่อหาทางรักษาอาการประหลาดให้กับลูกชายของเขาได้ในสักวันหนึ่ง ใหญ่ไปก็ใช่ว่าจะดีนะ ขอให้พ่อหนุ่มคนนี้หายขาดจากอาการนี้ได้ในเร็ววันนี้นะ ที่มา dailymail
-
ปริศนาหญิงสาวถูกฝังทั้งที่ยังไม่ตาย… ความผิดพลาดของแพทย์-อุปทานหมู่-หรืออะไรกันแน่!?
นี่เป็นข่าวที่น่าเหลือเชื่อและโด่งดังมากๆ ในเว็บไซต์ Mirror เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวที่ลึกลับและยังหาคำอธิบายไม่ได้ กับกรณีหญิงสาวที่เหมือนจะฟื้นจากความตายหรือจะเป็นเพียงแค่อุปทานของแฟนหนุ่ม ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป..!? ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง La Entrada ประเทศฮอนดูรัส โดยหญิงสาวรายนี้มีชื่อว่านาง Neysi Perez วัย 16 ปี (ซึ่งเธอกำลังตั้งท้องอยู่ด้วย) เกิดอาการหัวใจวายกะทันหัน เธอถูกนำส่งโรงพยาบาลทันที ซึ่งแพทย์ก็ช่วยชีวิตไม่ทัน ภายหลังตรวจสอบโดยละเอียดก็พบว่าเธอเสียชีวิตแล้วจริงๆ เมื่อทุกคนเข้าใจว่าเธอเสียชีวิตแล้วจึงนำเธอไปใส่ไว้ในโลงศพและเตรียมฝังแบบถาวร แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะในวันต่อมา แฟนหนุ่มของนาง Perez ก็ได้กลับไปเยี่ยมเธอที่สุสาน แต่ดันได้ยินเสียงประหลาดดังออกมาจากโลงศพ เขาจึงเรียกเจ้าหน้าที่แถวนั้นให้มาช่วยกันฟังด้วย จนมั่นใจว่าเสียงนั้นดังออกมาจากโลงศพของแฟนสาวที่เพิ่งตายไปเมื่อวาน ต่อมาเขาได้เรียกครอบครัวของนาง Perez ให้มาช่วยกันขุดโลงศพของเธอขึ้นมา ถึงได้เห็นว่าเธอยังไม่ตายจริงๆ ถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์มาก ด้าน Gladys Gutierrez พี่สาวของ Neysi กล่าวกับสื่อว่า “ฉันเคลื่อนตัวเธอออก เธอสำลักน้ำลายและเลือดออกมา เธอไม่ได้มีกลิ่นเหม็นเน่าเลย อุณหภูมิร่างกายปกติ” จากนั้นร่างของหญิงสาวได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน แต่มันก็สายเกินไปแล้ว หลังจากที่คุณหมอได้พยายามปลุกเธอขึ้นมาก็พบว่าเธอนั้นเสียชีวิตจริงๆ แล้ว (อีกครั้ง)…
-
พี่ชายแอบเซอร์ไพรส์น้องสาว 10 ขวบ ซ่อนชิ้นส่วนคอมพ์ใหม่ไว้ในบ้าน ให้น้องตามล่า…
นี่เป็นเรื่องราวที่กำลังโด่งดังมากๆ ในเว็บไซต์ต่างประเทศเช่น Reddit และ Imgur อยู่ในตอนนี้ #เหมียวฟิ้นเลยขอหยิบเอามาเล่าให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน เมื่อวันที่ 3 กันยายน สมาชิกที่ใช้ชื่อว่า Shadow8P ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับน้องสาวของเขา ที่เริ่มเล่นเกมมาตั้งแต่เธออายุได้ 2 ขวบ (ปัจจุบันอายุ 10 ขวบแล้ว) แต่เขาก็ไม่ได้มองว่านั่นเป็นกิจกรรมไร้สาระเลย กลับสนับสนุนน้องสาวเสียด้วยซ้ำ ตั้งแต่เริ่มเล่นเกมเป็น น้องสาวของเขาก็ผ่านเกมมาหลายเกมมาก เช่น Star Wars Battlefront 2, Minecraft, Roblox, Rocket League และอีกมากมาย นาย Shadow8P เล่าบรรยายว่าเขากับพี่ชายอีกคนเล่นเกมมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วเหมือนกัน แต่ในตอนเป็นเด็ก พวกเขาและน้องสาวคนเล็กอาศัยอยู่คนละเมืองกัน จึงต้องเล่นเกมออนไลน์ด้วยกันแทน แต่เนื่องจากทุกวันนี้น้องสาวของเขาต้องเล่นเกมผ่านโน๊ตบุ๊ก ซึ่งเป็นเพียงโน๊ตบุ๊กสเป็คต่ำที่พ่อแม่ของพวกเขาไว้ใช้ทำงานเท่านั้น พี่ชายทั้ง 2 คนจึงเกิดไอเดียที่จะซื้อคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะให้กับเธอใหม่ แต่จะซื้อให้เลยก็ดูจะธรรมดาเกินไป พวกเขาเลยนำเอาส่วนประกอบต่างๆ ของคอมไปซ่อนไว้ตามที่ต่างๆ ของบ้าน แล้วบอกใบ้ให้กับเธอไปตามหาเอาทีละชิ้นๆ ชุดคีย์บอร์ดและเมาส์ Cooler Master…
-
นี่แหละที่รอคอย!! ญี่ปุ่นผลิต “เบาะซับเสียงและกลิ่นตด” ที่พนักงานออฟฟิศทั่วโลกอยากให้มี
ในชีวิตประจำวันของชาวออฟฟิศ พวกเราต้องทนทรมาณกับการอั้นตดอยู่บ่อยๆ เพราะจะปล่อยออกมาก็กลัวจะมีเสียง บางคนควบคุมเสียงได้ แต่ควบคุมกลิ่นไม่ได้ ยิ่งพอเจองานประชุมยาวๆ ยิ่งไปกันใหญ่เพราะจะลุกออกไปกลางคันก็เสียมารยาทซะอีก ด้วยเหตุนี้เองบริษัทผู้ผลิตเบาะของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งจึงได้คิดค้นเบาะชนิดใหม่ Silent Cushion ที่สามารถซึมซับกลิ่นเหม็นและเสียงรบกวนจากการตดได้ ตามรายงานบอกว่าเจ้าเบาะตัวนี้ทำมาจากโฟมที่สามารถซับเสียงตดได้มากถึง 80% นอกจากนี้ในเบาะรองนั่งยังมีแผ่นคาร์บอนที่ช่วยบล็อคกลิ่นที่จะตามมาด้วย เบาะรองนั่ง Silent Cushion จะช่วยให้คนที่นั่งมันสามารถตดได้อย่างสบายใจ (แต่ต้องอยู่ในองศาที่เหมาะสมนะ นั่งเอียงเกินไปก็มีกลิ่นและเสียงเหมือนเดิม) เช่นพนักงานออฟฟิศที่ต้องทำงานในที่ที่มีคนอยู่เยอะ หรือนักเรียนที่อยู่ในห้องสอบแต่ดันปวดท้องขึ้นมากะทันหัน หากใครอยากเป็นเจ้าของเบาะรองนั่งตัวนี้ล่ะก็ สามารุกดเข้าไปสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ onara-pants.com ได้เลยนะ สนนราคาอยู่ที่ชิ้นละ 8,500 เยน หรือประมาณ 2,830 บาท (แอบแพงอยู่เหมือนกันนะเนี๊ยะ) ตัวอย่างวิธีการนั่งเพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด ลองชมการทำงานของเจ้าเบาะตัวนี้ได้เลย โอ้ย #เหมียวฟิ้นล่ะอยากจะได้มาไว้ครอบครองเหลือเกิน จะได้ไม่ต้องอั้นตดนานๆ มันมวนท้อง ที่มา rocketnews24
-
เพื่อนบ้านดี๊ดี!! รีโนเวทบ้านให้ฟรี หลังครอบครัวหนึ่งพาลูกสาวไปรักษามะเร็งที่อื่นนาน 2 เดือน
เคยได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนบอกกันว่าเราสามารถซื้อบ้านราคาเท่าไหร่ก็ได้ ไม่ว่าจะถูกหรือแพง แต่เราไม่มีทางซื้อเพื่อนบ้านที่ดีได้นะ อย่างปัญหาที่ว่าบางคนซื้อบ้านหรูแต่มีเพื่อนบ้านแย่ๆ ก็ทำให้บ้านนั้นหมดราคาและไม่น่าอยู่ไปในทันที แต่กับครอบครัวตระกูล Cassidy ในเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ครอบครัวของพวกเขาต้องย้ายออกจากบ้านไปเป็นเวลา 9 สัปดาห์เพื่อไปรักษาเนื้องอกหลังดวงตาของหนูน้อย Emily วัย 3 ขวบ ที่อาจเป็นอันตรายกับชีวิต การที่ครอบครัวของพวกเขาต้องพาลูกสาวเข้ารับการรักษาถือเป็นเรื่องที่ใหญ่และค่อนข้างซีเรียสกับครอบครัวของพวกเขามาก แต่ในที่สุดก็สามารถรักษาหายได้และพวกเขาก็ดีใจมากที่ได้กลับมายังบ้านอีกครั้ง แต่เหมือนกับพวกเขาถูกหวยยังไงยังงั้น เพราะเมื่อเปิดประตูบ้านออกมากลับพบว่าบ้านที่พวกเขาทิ้งไปนานกว่า 2 เดือน แทนที่จะมีฝุ่นจับและซอมซ่อ กลายเป็นบ้านสะอาดและสวยยิ่งกว่าเดิมสะอีก ครอบครัว Cassidy รู้สึกประหลาดใจมากที่บ้านของพวกเขาเหมือนกับได้รับการรีโนเวทใหม่ สืบไปสืบมาถึงได้รู้ว่าเป็นฝีมือของเพื่อนบ้านที่แสนดีนั่นเอง ในระหว่างที่พวกเขาไม่อยู่ กำแพงบ้านได้รับความเสียหาย หน้าต่างและหลังคาทรุดโทรม มีฝนสาดและเกิดเชื้อราขึ้นภายในบ้านหลายจุด เมื่อเพื่อนบ้านเห็นแบบนั้นจึงทนไม่ได้ เข้ามาช่วยซ่อมให้ ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อนบ้านยังช่วยดูแลสวนและทำห้องครัวกับห้องน้ำขึ้นมาใหม่หมด มันจะดีอะไรปานนั้น!? ทางด้าน Lucy แม่ของ Emily ได้แสดงความรู้สึกถึงเหตุการณ์นี้ว่า “มันน่าประหลาดใจมาก ฉันไม่อยากจะเชื่อว่ามันคือบ้านของฉัน ตอนที่ฉันเดินเข้าไปฉันรู้สึกเหมือนหัวใจจะระเบิดออกมา มันงดงามมาก เหมือนกับบ้านตัวอย่างเลย” …
-
เครียดเหรอ!? งั้นลอง Niceballs ลูกกระแป๋งบีบเล่น ช่วยคุณผ่อนคลาย จากงานแสนเหนื่อย
หากว่าชีวิตการทำงานของคุณมันน่าเบื่อ เซ็ง ไม่รู้จะหาทางออกยังไงดี งั้นลองมาทำความรู้จักกับ Niceballs อุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณหายเครียดกันดีไหม? เมื่อไม่นานมานี้บริษัท Imaginarte หน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการสื่อสารได้คิดค้นอุปกรณ์ช่วยคลายเครียด ที่คุณสามารถหยิบจับหรือเล่นมันได้ตลอดเวลา อุปกรณ์ที่ว่านี้คือ Niceballs ลูกบอลยางนิ่มๆ รูปหัวใจ (เอาน่า เราจะบอกว่ามันเป็นรูปหัวใจ เราจะไม่คิดลึกกว่านั้น) ที่คุณสามารถนำมันไปติดไว้ใต้โต๊ะทำงาน เครียดเมื่อไหนก็เพียงแค่เอื้อมมือลงไปบีบเล่นๆ เพื่อคลายเส้นได้ทันที เท่านี้ก็ช่วยผ่อนคลายให้กับคุณได้แล้ว มันเป็นรูปหัวใจ ย้ำว่า.. มันเป็นรูปหัวใจ อย่าคิดเป็นอย่างอื่นสิ!? เจ้าบอลรูปหัวใจนี้จะมีจุกดูด ทำให้ยึดติดกับโต๊ะทำงานของคุณได้ง่าย แถมเมื่อบีบลงไปแล้วยังสามารถคืนรูปร่างกลับมาเป็นแบบเดิมได้ทันที นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงอยากบีบมันบ่อยๆ นั่นเอง… ลองไปชมคลิปการสาธิตการทำงานของ Niceballs กันเลย ใครที่คลิปวิดีโอไม่ขึ้น คลิกชมได้ที่นี่นะครับ หากใครสนใจอยากจะมีติดโต๊ะทำงานสักอันล่ะก็ ลองกดเข้าไปดูที่เว็บไซต์ imaginarte.com ได้เลยนะ ที่มา boredpanda
-
ทำเพื่อ!? ตำรวจตามล่าหนุ่มปาแอปเปิ้ลเน่าใส่บ้านคนอื่น 2 ปี ฉายา “มือปาแอปเปิ้ลเน่าต่อเนื่อง”
คำว่าฆาตกรต่อเนื่องนั้น ถูกใช้เพื่อเรียกเหล่าคนโรคจิตหรือฆาตกรที่ออกตามล่าเหยื่อหลายๆ คนและปลิดชีวิตของพวกเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง บางคนอาจมีความแค้นส่วนตัวหรือปัญหาทางธุรกิจ บางคนอาจทำไปเพราะความชอบเท่านั้น แต่กับบางคนก็ไม่ได้อยากจะเป็นฆาตกร แต่การกระทำของเขาก็มีความใกล้เคียงกับคำว่า “ฆาตกรต่อเนื่อง” อยู่เหมือนกัน… เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ข่าวต่างประเทศได้เผยภาพของชายคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมแปลกๆ เพราะเขามักจะชอบขว้างปาแอปเปิ้ลเน่าใส่หลังคาบ้านคนอื่นอยู่เป็นประจำ ซึ่งเขาไม่ได้ทำแบบนี้มา 2-3 วัน แต่ทำติดต่อมานานถึง 2 ปี!! วันหนึ่งมือปาแอปเปิ้ลได้ออกมาปาแอปเปิ้ลเน่าใส่บ้านคนอื่นตามปกติ แต่ที่แปลกไปคือเขาก็สอดจดหมายฉบับเล็กๆ ไว้ที่หน้าบ้านของเหยื่อ โดยมีใจความสำคัญที่บอกว่า เขาออกไปเก็บแอปเปิ้ลเน่าแล้วขี่จักรยานมาขว้างปาใส่บ้านคนอื่น 5 หลัง ตอนกลางคืน โดยใช้เวลาแค่ 7 นาทีเท่านั้น สถานที่หรือบ้านของเหยื่อส่วนใหญ่อยู่ในเมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในแต่ละหลังจะได้รับแอปเปิ้ลเน่าไปคนละ 3 ลูกเท่าๆ กัน สิ่งหนึ่งที่เขาบอกในจดหมายคือ หลังคาบ้านของแต่ละคนจะมีขนาดความสูงและวัสดุที่ต่างกัน ทำให้ได้เสียงที่แตกต่างกันไป เขาเผยว่าตลอดระยะเวลาที่เขาทำแบบนี้ เคยทำหน้าต่างแตกมาบ้างแต่น้อยครั้งมาก หากมีกิ่งไม้หรือสายไฟยื่นออกมา เขาก็พยายามจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ไปโดนมัน (มีจิตสำนึกอยู่) มีอยู่คืนหนึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโผล่มาเจอกับเขาพอดีแต่ก็ไม่สามารถจับตัวเขาได้ มือปาแอปเปิ้ลเน่ายังได้ทิ้งท้ายในจดหมายอีกว่าเมืองพอร์ตแลนด์เป็นสถานที่ดีที่สุดในโลกสำหรับเขา เพราะเขาสามารถพกแอปเปิ้ลเน่าๆ…
-
ไทยจะมีไหม!? KFC ฮ่องกง เปิดมิติใหม่ให้คนรักสุขภาพ ด้วยเมนู “สุกี้ยากี้หม้อไฟ”
หากพูดถึง KFC ทุกคนจะต้องนึกถึงเมนูไก่ทอดใช่ไหมล่ะ แต่วันนี้ภาพลักษณ์ของ KFC จะเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อพวกเขาเตรียมเปิดตัวเมนูใหมเป็น…สุกี้ยากี้หม้อไฟ!? เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่าร้าน KFC สาขาฮ่องกง พยายามที่จะสร้างจุดเด่นให้กับตัวเอง โดยการเพิ่มเมนู Kansai-Style Beef Hot Pot (หม้อร้อนเนื้อวัวสไตล์คันไซ) ให้ลูกค้าที่รักสุขภาพได้กินกัน นั่นแหละ ทุกคนอ่านไม่ผิดแน่นอน เพราะในหม้อไฟที่ว่านี้จะประกอบไปด้วยเนื้อวัว เต้าหู้ เห็ดหอมชิ้นโตๆ ฟักทอง ข้าวโพด ถือเป็นมิติใหม่ของร้านอาหารฟ้าสฟู๊ดเลยก็ว่าได้ จากภาพคุณจะเห็นได้ว่ามีหม้อไฟให้เลือกกัน 2 แบบ คือขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ซึ่งทาง KFC ของฮ่องกงก็ยืนยันว่าพวกเขามีเมนูนี้ขายจริงๆ หากใครอยากชิมสุกี้หม้อไฟของ KFC ล่ะก็ คงต้องบินไปกินกันไกลถึงที่ฮ่องกงล่ะนะ เพราะที่อื่นๆ ยังไม่มีให้บริการ ซึ่งเขาก็สนนราคาอยู่ที่ชุดละ 220 บาท แถมยังมาพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ และเครื่องดื่มขนาดกลางอีก 1แก้วด้วย นี่ถือเป็นโอกาสอันดีแล้วล่ะ ที่คุณจะได้กินเมนูเพื่อสุขภาพจริงๆ ที่ไม่ทอดและไม่ใช่ไก่จาก…
-
สุนัขพลัดตกเรือ ว่ายน้ำไกล 9 กิโล เดินอีก 19 กิโล เพื่อกลับมาหาเจ้านายของมัน….
นี่เป็นเรื่องราวสุดเหลือเชื่อของเจ้า Rylee สุนัขสายพันธุ์เบลเยี่ยมมาลีนอยส์ วัย 10 เดือนตัวหนึ่ง ที่ดันพลัดตกลงไปในทะเลระหว่างไปเที่ยวพักผ่อน โดยที่เจ้าของมันก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน.… แต่มันพยายามว่ายน้ำกลับมาหาเจ้านายเป็นระยะทางเกือบ 10 กิโลเมตรเลยทีเดียว!! เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์เดลีเมล์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา บอกว่านาย Edward วัย 56 ปีและนาง Kristin Casas วัย 49 ปีได้ล่องเรือออกไปเที่ยวในทะเลสาบมิชิแกน รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ในระหว่างที่กำลังขับเรือออกไปเครื่องยนต์ของพวกเขากลับเกิดปัญหา ทำให้ต้องหยุดเรือเพื่อซ่อมกลางคัน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้า Rylee แอบกระโดดหายออกไปจากเรือพอดี นึกว่าหมาจะจมน้ำตาย แต่ดันไปโผล่อีกทีแบบไม่น่าเชื่อ แม้พวกเขาจะพยายามมองหาสัญญาณหรือความเคลื่อนไหวบนผิวน้ำแล้ว แต่ก็ไม่พบอะไรที่บอกว่าสุนัขของพวกเขาอยู่แถวนั้นเลย พวกเขาจึงส่งสัญญาณวิทยุขอความช่วยเหลือจากคนในท้องถิ่นและหน่วยค้นหาต่างๆ แต่หลังจากนั้นได้ไม่นานก็มีคนแจ้งว่าพบเจ้า Rylee มาป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ ที่ตั้งแคมป์ตรงทะเลสาบ Platte นั่นหมายความว่าหลังจากที่มันพลัดตกจากเรือ มันก็ว่ายน้ำต่อมาเรื่อยๆ เป็นระยะทาง 9.6 กิโลเมตร และเดินผ่านป่ามาจนถึงบริเวณตั้งแคมป์อีกราวๆ 19.3 กิโลเมตร . เมื่อได้รับแจ้งแบบนั้น ทั้งนาย Edward และนาง Kristin…
-
ไปส่องกันว่านักโทษใน ‘เรือนจำญี่ปุ่น’ กินอะไร ผ่านร้านอาหารเรือนจำ ที่คุณก็ลองกินได้…
เมื่อคนเรากระทำความผิด เราก็จะถูกนำตัวเข้าสู่งกระบวนทางกฎหมายและส่งไปยังเรือนจำ ที่นั่นคุณจะได้ใช้ชีวิตแบบไร้อิสระ แทบไม่มีความสะดวกสบาย แถมยังต้องกินอาหารที่ทางเจ้าหน้าที่จัดเตรียมเอาไว้อีกด้วย แต่หากว่าคุณเป็นคนดีที่ใช้ชีวิตแบบสุจริต แล้วดันอยากลองชิมอาหารแบบในเรือนจำ คุณเองก็สามารถหากินได้นะ แม้จะไม่เคยเข้าคุกเข้าตารางมาก่อนเลยก็ตาม ร้านอาหารที่#เหมียวฟิ้นจะพาทุกคนไปชมร้านอาหาร Prison Cafeteria ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฮอกไกโด ความแหวกแนวของร้านอาหารแห่งนี้อยู่ตรงที่พวเขาจะนำเอาส่วนผสมและวัตถุดิบแบบเดียวกับที่ใช้ทำอาหารให้กับนักโทษในเรือนจำมาทำเป็นเมนูอาหารให้ลูกค้าได้กินกัน อย่างเช่นเมนู้ที่ทุกคนได้เห็นต่อไปนี้ เป็น Set A ราคา 800 เยน (ประมาณ 270 บาท) จะประกอบไปด้วยซุปมิโซะ ปลาแม็คเคอเรลทอด หัวไชเท้าสไลส์ ฮารุซาเมะ (บะหมี่สลัด) ข้าวเปล่า ส่วน Set B ประกอบไปด้วยซุปมิโซะ มันเทศจีน ผัดผักญี่ปุ่น ปลาแม็คเคอเรลทอด ข้าวเปล่า แม้จะเป็นอาหารของผู้ต้องขัง แต่ทางญี่ปุ่นเองก็คำนึงถึงเรื่องสารอาหารที่ครบถ้วนเช่นกัน . . . . หากใครอยากจะลองชิมอาหารแบบเรือนจำสไตล์ญี่ปุ่นล่ะก็ ตามไปได้ที่ร้าน Prison Cafeteria (หรือ Kangoku…
-
ตัวจริงของ ‘ลุงแซม’ พาไปรู้จัก Samuel Wilson ชายอเมริกัน ผู้เป็นต้นแบบภาพ I Want You!!
เชื่อว่าคนเจนเอ็กซ์ หรือแม้แต่วัยรุ่นในยุคนี้บางคนน่าจะเคยเห็นป้าย “I Want You For U.S. Army” พร้อมกับมีภาพชายใส่เสื้อสีน้ำเงินกำลังชี้หน้ามาที่คุณ ซึ่งคนส่วนใหญ่รับรู้และเข้าใจกันว่าเขาคือ “ลุงแซม” อันที่จริงแล้วมันคือป้าย Propaganda หรือการการโฆษณาชวนเชื่ออย่างหนึ่ง ที่ทำให้ชายอเมริกันในช่วงสงครามโลกรู้สึกฮึกเหิมเป็นที่ต้องการ และอยากเข้าร่วมกับกองทัพสหรัฐ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วชายที่อยู่ในป้ายโฆษณาที่เราเห็นมาหลายทศวรรษคนนี้ มีตัวตนอยู่จริงๆ เมื่อประมาณร้อยกว่าปีก่อนด้วยนะ ในเว็บไซต์ต่างประเทศได้มีข้อมูลของชายคนนี้บอกเอาไว้อย่างละเอียด โดยชื่อเต็มๆ ของเขาคือ Samuel Wilson ประวัติคร่าวๆ เขาเกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน ปี 1766 ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 1854 แม้จะจากโลกนี้ไปกว่า 162 ปีแล้วก็ตาม แต่ใบหน้าและรูปลักษณ์ของเขาก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของอเมริกันชนไปแล้ว ในช่วงที่นาย Samuel มีชีวิตอยู่นั้น เขาทำหน้าที่เป็นคนบรรจุและขายเนื้อในรัฐนิวยอร์ค ก่อนที่จะแต่งงานกับนาง Betsey Mann ในปี 1797 และมีลูกด้วยกัน 4 คน…
-
โปเกมอน!! สื่อนอกรายงาน หนุ่มบราซิลถูกปีศาจโปเกมอนสิงร่าง เอาแต่ตะโกน “โป่เก๊ม่อนนนน!!!”
หลังจากที่เปิดตัวเกม Pokemon Go ไปเมื่อเดือนสองเดือนก่อน ต้องยอมรับเลยว่าเกมนี้ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของใครหลายๆ คนไปเลย เพราะมันทำให้ผู้เล่นต้องออกจากบ้านไปตามหาโปเกมอนเป็นวันๆ เลย แต่การเล่มเกมก็ต้องอยู่ในพื้นฐานของความพอดิบพอดีด้วยนะ เพราะไม่งั้นมันอาจจะทำให้ชีวิตของคุณลำบากแบบชายคนนี้ก็ได้… เพราะเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอสุดเหวอของชายหนุ่มชาวบราซิลขณะเล่นเกม Pokemon Go อยู่ในธนาคารแห่งหนึ่งในรัฐรีโอกรันดีโดนอร์เต แต่จู่ๆ เจ้าตัวก็คุ้มคลั่งและตะโกนเสียงดังว่า “โปเกมอน!!” อยู่หลายครั้ง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายต้องเข้ามาควบคุมตัวและกดให้เขานอนอยู่กับพื้น แม้จะอยู่ในสภาพนั้นเจ้าตัวก็ยังไม่หยุดตะโกนคำว่า “โปเกมอน” ต่อมาหนุ่มบราซิลรายนี้ได้ถูกนำตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ เจ้าตัวให้การว่าเขายืนเข้าแถวอยู่ในธนาคาร แต่จู่ๆ ก็มีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้น และเขาก็เสียการควบคุมตัวเองไปในทันที ว่าแล้วก็ไปชมคลิปกัน แต่ระวังจะโดนโปเกมอนสิงเหมือนกับหนุ่มคนนี้นะ… ไม่รู้ว่าที่โวยวายลั่นแบบนี้ เป็นเพราะความเครียดสะสมหรือจับโปเกมอนในตำนานไม่ได้กันแน่นะเนี๊ยะ!? เราทำอะไรผิดไปเหรอปิ๊กก๊า ที่มา mirror , Viralify
-
Marvel ปล่อยคลิปสารคดีฮาๆ ที่เฉลยว่า Thor และ The Hulk หายไปไหนใน Civil Wars !??
อย่างที่แฟนๆ รู้กันว่าในหนังเรื่อง Captain America: Civil Wars นั้นไม่มีการปรากฏตัวของ 2 ตัวละครหลักอย่าง Thor และ The Hulk ซึ่งแฟนๆ ก็พากันตั้งสมมติฐานกันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าพวกเขาติดภารกิจนอกโลก บ้างก็ว่าพวกเขาอาจจะกำลังต่อสู้กับเหล่าร้ายอยู่ที่ไหนสักแห่ง (ใช่หร๊าาาาา!?) แต่ล่าสุดทางสตูดิโอ Marvel ได้ปล่อยคลิปวิดีโอสารคดีหลอกๆ ที่จะมาเฉลยว่าแท้จริงแล้วพวกเขาหายไปในไหนระหว่างภารกิจกู้โลกครั้งสำคัญ!? โดยในวิดีโอตัวนี้จะเผยให้เห็น Thor (Chris Hemsworth) ขณะสวมใส่ชุดสบายๆ นั่งลงพูดคุยกับตากล้อง และบอกว่าเขาพักร้อนอยู่ในออสเตรเลียหลังจากที่ช่วยกู้โลกครั้งก่อนไว้ได้ แถมยังแสดงความรู้สึกตัดพ้อเสียใจที่ไม่มีใครเรียกให้เขาไปร่วมภารกิจ Civil War เลย ที่นั่นเขาได้เจอกับชายคนหนึ่งที่ชื่อ Darryl Jacobson พวกเขาดูจะเข้ากันได้ดีทีเดียว จากนั้น Thor ก็บอกให้นาย Darryl ส่งอีเมล์ถึงเพื่อนรัก Tony Stark และ Steve Rogers เนื่องจากเขาได้ข่าวว่าพวกเขาทะเลาะกันเล็กน้อย ในระหว่างพักผ่อน Thor…
-
“หวังเต๋อซุน” นายแบบวัย 80 ปีให้แรงบันดาลใจ “ผมใช้เวลาเตรียมตัว 60 ปี กว่าจะได้เป็นนายแบบ”
หากใครยังจำกันได้ เมื่อปีที่แล้วเราได้เคยนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องราวของนายแบบจีนรุ่นเก๋าที่มีนามว่าคุณลุงหวัง เต๋อซุน ในตอนนั้นเขากลายเป็นที่โด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ตเพราะมีการเผยแพร่ภาพการเดินแบบเปลือยท่อนบนในงาน China Fashion Week 2015 และที่ดูจะฮือฮาที่สุดก็คงจะเป็นอายุที่ปาเข้าไปกว่า 79 ปีแล้ว แต่ยังมีรูปร่างที่ฟิตปั๋งยิ่งกว่าวัยรุ่นหลายๆ คนเสียอีก ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คุณลุงหวังเต๋อซุนได้ปล่อยคลิปวิดีโอให้แรงบันดาลใจของตัวเองออกมาให้ชาวโลกได้รับชมกัน โดยเล่าว่ากว่าที่เขาจะกลายมาเป็นนายแบบอย่างทุกวันนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดูคลิปของเขาแล้วจะต้องได้รับข้อคิดดีๆ กลับไปแน่นอน “ผมชื่อหวังเต๋อซุน เกิดและเติบโตในเสิ่นหยาง ประเทศจีน ผู้คนเริ่มรู้จักผมหลังจากแคทวอล์คโชว์ในครั้งนั้น บางคนเรียกผมว่า “คุณตาที่ฮอตที่สุด” บางคนยังบอกว่าผมเป็นที่ถูกใจชาวเน็ตในชั่วข้ามคืน (หัวเราะ) แต่คุณรู้อะไรไหม เพื่อเตรียมตัวให้เป็นนายแบบทุกวันนี้ ผมต้องใช้เวลาเตรียมพร้อมกว่า 60 ปี” “ตอนผมอายุ 24 ผมเป็นนักแสดงละครเวที อายุ 44 ผมเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ อายุ 49 ผมสร้างคณะละครใบ้ขึ้นมาและเดินทางไปปักกิ่ง กลายเป็นคนเร่ร่อนไป ผมไม่มีอะไรเป็นชื่อของตัวเองเลย เริ่มต้นทุกอย่างจากไม่มีอะไร อายุ 50 ผมเริ่มเข้ายิมเป็นครั้งแรก เริ่มออกกำลังกาย” “อายุ 57…
-
จับโปเกมอนมารวมร่างกันด้วย “Pokemon Fusion” อยากรู้ว่าตัวไหนกลายเป็นอะไร ลองเลย
ที่ผ่านๆ ผู้ที่ติดตามการ์ตูน Pokemon จะได้เห็นเพียงแค่การวิวัฒนาการของตัวละครโปเกมอนเท่านั้น เมื่อพัฒนาร่าง ความสามารถก็จะเพิ่มมากขึ้น และมีรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไปจากเดิม แต่เราไม่ได้เห็นการรวมร่างของโปเกมอนในการ์ตูนเลย เพราะส่วนใหญ่เน้นเปลี่ยนร่างมากกว่า (และก็ไม่เคยเห็นแต่ละตัวมาผสมข้ามสายพันธุ์กันด้วย อิอิ) แต่หากใครอยากรู้ว่าการนำเอาโปเกมอน 2 ตัวมารวมร่างกันแล้วจะมีหน้าตาเป็นยังไง!? งั้นลองกดเข้าไปเล่นกันได้ที่เว็บไซต์ pokemon.alexonsager เลือกได้เลยว่าจะเอาตัวไหนมารวมร่างกับตัวไหน และด้วยไอเดียนี้เองทำให้ศิลปินสาวที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า Sieara (@Nintendobratkat) นำเอาภาพการรวมร่างของโปเกมอนมาต่อยอดให้กลายเป็นภาพวาดสวยๆ ลองชมกันว่าเมื่อแต่ละตัวกลายเป็นร่างผสมจะดูเท่ขนาดไหน? . . . . . . . . หรือถ้าการรวมร่างของโปเกมอน 2 ตัวยังเป็นอะไรที่ธรรมดาอยู่ล่ะก็ เขาก็มีการรวมร่างของโปเกมอน 3 ตัวด้วยนะ ผลที่ได้นี่ ออกมาแฟนตาซีทีเดียวล่ะ . นอกจากจะมีงานออกแบบเจ๋งๆ ให้เราดูแล้ว ยังมีการนำเอาเจ้าโปเกมอนฟิวชั่นที่ออกแบบไปทำเป็นตุ๊กตาไหมพรมขายกันจริงๆ ด้วยนะ ตัวละแค่ 200 กว่าบาทเอง (กดไปดูได้ที่เว็บไซต์ etsy) ใครที่สนใจลองเข้าไปชมอัลบั้มภาพการออกแบบต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ nintendobratkat.deviantart ของเธอเลยนะ แต่ละตัวดูเจ๋งหมดเลย อยากให้มีในเกมหรือการ์ตูนจริงๆ…
-
ญี่ปุ่นล้ำขนาดมี ‘หุ่นยนต์ทำซูชิ’ ทำง่ายได้ไว แถมออกมาเป็นซูชิแบบเป๊ะๆ ได้น่ากิน
ญี่ปุ่นขึ้นชื่อในเรื่องการทำสิ่งประดิษฐ์และหุ่นยนต์รูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ของเล็กๆ ไปจนหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ที่ใกล้เคียงมนุษย์แบบสุดๆ… และไม่นานมานี้ที่กรุงโตเกียว ได้มีการจัดงานมหกรรมเพื่อโชว์เครื่องจักร Kawasaki Heavy Industries ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจสุดๆ ในงานนี้ก็คือเจ้าหุ่น duAro ที่มีความสามารถในการเตรียมซูชิให้เรากินโดยไม่ต้องเปลืองแรงมนุษย์เลย เจ้าหุ่น duAro มาพร้อมกับแขนกล 2 ข้าง มันสามารถปั้นข้าวให้เป็นก้อนพอดีคำได้เท่าๆ กันทุกก้อน จากนั้นมันก็จะสลับแขนกลไปหยิบจับส่วนผสมต่างๆ เช่นวาซาบิ ชิ้นเนื้อที่นำมาโปะไว้บนข้าวจนกลายเป็นซูชิน่ากินอย่างที่เห็น เมื่อทำเสร็จแล้วก็นำมาวางไว้บนจาน ลองชมคลิปของเครื่องได้ที่นี่ แม้จะมีการถกเถียงเรื่องหุ่นยนต์กับประสิทธิภาพของเชฟซูชิพอสมควร อย่างที่เรารู้กันว่าศาสตร์การทำซูชินั้นในญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องใหญ่ และหุ่นยนต์จะมาแทนที่หรือไม่นั้นมันน่าขบคิดมากๆ บางส่วนว่ายังไงซะหุ่นยนต์ก็ไม่สามารถแทนเชฟชื่อดังได้หรอก ขณะที่บางส่วนก็ว่าหากสร้างให้ดีเยี่ยมเหมือนมือคนจริงๆ และตั้งค่าหุ่นยนต์ให้ดีแบบเชฟดัง มันก็สามารถทำผลงานได้แบบเชฟดังคนนั้นเหมือนกันทุกครั้งโดยไม่มีผิดพลาดได้เช่นกัน นี่ไม่ใช่นวัตกรรมใหม่ที่เพิ่งจะมีการคิดค้นกันนะ เพราะตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทางญี่ปุ่นเองได้มีการพัฒนาเครื่องทำซูชิในหลากหลายรูปแบบมาแล้ว อย่างเช่นเครื่อง iMaki เครื่องทำข้าวปั้นที่มีการเปิดตัวไปเมื่อปี 2011 มีความสามารถในการม้วนข้าวได้อย่างรวดเร็วถึง 250 ชิ้นต่อชั่วโมงเลยทีเดียว บางคนอาจจะมองว่าเครื่องจักรเหล่านี้อาจจะทำให้สูญเสียรสชาติของซูชิไป แต่มันก็ช่วยให้ผู้ผลิตและร้านอาหารหลายๆ แห่งประหยัดเวลาในการทำอาหารไปได้มากทีเดียว ที่มา rocketnews24
-
เอ๊ะมันยังไง? สาวอังกฤษตั้งท้องนาน 15 เดือน เชื่อมีเด็กดิ้นอยู่ แต่หมอบอกว่าเธอแค่ “อ้วน” !?
ไม่รู้ว่านี่จะเป็นเรื่องที่น่ายินดีหรือเรื่องชวนปวดหัวกันแน่ เพราะเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานว่านาง Linda Reeves คุณแม่ลูก 9 วัย 50 ปี จากเมืองมิลตัน คีนส์ ประเทศอังกฤษ รู้สึกว่ามีเด็กดิ้นอยู่ในท้องของเธอมานานกว่า 15 เดือน แต่ไม่ว่าเธอจะไปตรวจกับหมอไหนๆ ก็ตาม ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าเธอไม่ได้ท้อง!! ตามรายงานบอกเธอไปตรวจกับหมอมาถึง 5 ครั้ง แต่ทุกคนบอกว่าเธอไม่ได้ท้อง แต่เธอแค่อ้วน!? ซึ่งเธอไม่เชื่อเด็ดขาด เพราะเธอรู้สึกว่ามีเด็กดิ้นอยู่ในท้องจริงๆ นาง Linda บอกว่ามีหมอบางคนบอกว่าเธออาจมีปัญหาด้านสุขภาพจิตและคิดว่าตัวเองตั้งท้อง (Phantom Pregnancy) เธอยังหวังว่าหมอจะทำการตรวจครรภ์ของเธออย่างจริงจังด้วยซีทีสแกน คุณแม่ลูก 9 เผยกับสื่อว่า “ไม่มีใครตรวจฉันอย่างจริงจัง ฉันมีลูกมา 9 คนแล้วนะ และฉันรู้ว่าการมีเด็กอยู่ในท้องมันเป็นยังไง ฉันมีอาการเหมือนคนท้องทุกอย่างเลย ทั้งป่วย ปวดหลัง และเหนื่อยอ่อน ฉันมั่นใจมากว่ามีเด็กอยู่ข้างในนั้น แต่เขาเติบโตในที่ที่ไม่ถูกต้อง” “ฉันได้ยินเสียงเด็ก ได้ยินเสียงหัวใจของเขา ฉันรู้จักเสียงนั้นดี ทำไมฉันจะจำไม่ได้ ถ้ามันมีโอกาสที่ฉันคิดผิด…
-
ดีไซน์เนอร์ญี่ปุ่นออกแบบหมวกไหมพรม “พระพุทธเจ้า” ขายผ่านเว็บ-จัดแสดงงานพุทธศิลป์
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานข่าวผลงานใหม่ ซึ่งดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นสร้างขึ้นมา เป็นลักษณะของหมวกไหมพรม ที่มีความแปลกไปมากกว่าหมวกทั่วไป สำหรับหมวกไหมพรมนี้ ถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับเศียรพระพุทธเจ้า มีจุกตรงกลางและมีติ่งหูห้อยลงมาเล็กน้อย ทำให้ผู้สวมใส่มีลักษณะคล้ายกับพระพุทธเจ้า หลายคนสงสัยว่าออกแบบมาให้คล้ายเพื่ออะไร!? เนื่องจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติญี่ปุ่น จะมีการจัดแสดงนิทรรศการพุทธศิลป์ญี่ปุ่น ซึ่งภายในงานก็จะมีการจัดแสดงวัตถุต่างๆ และสินค้าไอเดียเกี่ยวกับทางด้านพุทธ ก็จะมีจำหน่ายภายในงานนี้เช่นกัน หมวกไหมพรมพระพุทธเจ้านั้นมีให้เลือกด้วยกัน 5 สี คือสีเทา สีขาว สีน้ำเงิน สีแดง และสีมัสตาร์ด สนนราคาอยู่ที่ใบละ 920 บาท สามารถสั่งซื้อได้ผ่านเว็บไซต์ felissimo นอกจากจะวางขายบนเว็บไซต์ออนไลน์แล้ว ยังมีการวางขายในงานเฉลิมฉลองนิทรรศการพุทธศิลป์ญี่ปุ่น ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน ถึง 11 ธันวาคม ปี 2016 ด้วย แต่แน่นอนว่า เนื่องจากเป็นเรื่องศาสนา ก็ย่อมจะต้องมีความเห็นเข้ามาหลากหลาย และหลังจากที่มีการวางขายเจ้าหมวกไหมพรมนี้ได้ไม่นาน ก็ทำให้เกิดความเห็นที่หลากหลายทีเดียว เช่น “ฉันเป็นชาวพุทธและนี่มันแย่มากที่เห็นคนตะวันตกมีเศียรพระพุทธเจ้าในสวนของพวกเขา เชื่อในพระเยซูมากเกินไปจนลืมว่าอะไรดีอะไรไม่ดี อะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ” “ฮ่าๆๆ…
-
สุดยอด.. หนังสือแนะนำอาชีพให้นักเรียนญี่ปุ่น ทำเป็นการ์ตูนเหมือนตัวละครในเกม RPG!!
เชื่อว่าในวัยเด็กของทุกๆ คน น่าจะเคยถูกคุณครูที่โรงเรียนถามคำถามแนวๆ ว่า “โตไปอยากเป็นอะไร?” ซึ่งในวัยเด็กของหลายๆ คนก็มักจะตอบคำถามนี้ด้วยอาชีพซ้ำๆ เดิมๆ เช่น ครู ทหาร ตำรวจ หมอ พยาบาล วิศวะกร ฯลฯ เนื่องจากในตอนนั้นองค์ความรู้ของพวกเรายังมีไม่มากพอที่จะเข้าในถึงอาชีพอื่นๆ อีกมากมายในสังคม มันคงจะดีไม่น้อยเลยหากมีใครสักคนคอยบอกเราเมื่อตอนนั้นว่ามันยังมีอาชีพอีกล้านแปดให้เราได้ทำกัน เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้ไปเจอเข้ากับเว็บไซต์ kyuryobank.com เว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลฐานเงินเดือนในแต่ละสายอาชีพต่างในญี่ปุ่นมาสรุปสั้นๆ พร้อมกับใส่การ์ตูนในสไตล์เกม RPG ลงไปด้วย ทำให้อ่านง่ายและน่าติดตามสุดๆ เราลองไปดูกันไหมว่าที่ญี่ปุ่นเขาทำอาชีพอะไรบ้าง? แล้วแต่ละอาชีพเขาได้เงินเดือนเท่าไหร่? *รายได้เฉลี่ยทั้งหมดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อปี 1. โปรดิวเซอร์รายการทีวี รายได้เฉลี่ยช่วงวัย 20: 180,475 บาท รายได้เฉลี่ยช่วงวัย 30: 115,777 บาท รายได้เฉลี่ยช่วงวัย 40: 122,587 บาท 2. หัวหน้าบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ รายได้เฉลี่ย: 623,152 บาท 3. สาวเมดคาเฟ่…
-
Audrey Tang สาวข้ามเพศคนแรกในประวัติศาสตร์ ผู้เข้ารับตำแหน่ง รมต.ดิจิทัลแห่งประเทศไต้หวัน
กลายเป็นเรื่องที่ค่อนข้างฮือฮาในต่างประเทศ เพราะเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางรัฐบาลของไต้หวันได้มีการประกาศดึงตัวนาง Audrey Tang นักพัฒนาซอฟต์แวร์สาวข้ามเพศวัย 35 ปี มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลคนใหม่ นั่นจะทำให้เธอกลายเป็นคณะบริหารรัฐบาลของไต้หวัน ที่มีอายุน้อยที่สุดและยังเป็นสาวข้ามเพศคนแรกในประวัติศาสตร์ด้วย ตามรายงานบอกว่าหน้าที่ของนาง Tang คือเข้ามาทำให้รัฐบาลมีความโปร่งใสมากขึ้น และทำให้ฐานข้อมูลรัฐบาลทั้งหมดใช้การได้ ช่วยเปลี่ยนไต้หวันให้กลายเป็น Silicon Valley (ศูนย์รวมบริษัทและบุคลากรไอทีระดับแนวหน้า) ของฝั่งเอเชีย เธอยังได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กของตัวเองอีกว่าการเข้ามารับตำแหน่งของเธอในครั้งนี้ไม่ใช่การสร้างกระแสหรือการโฆษณาชวนเชื่อใดๆ แต่เพื่อเป็นการผสมผสานความชาญฉลาดและพลังเข้าไว้ด้วยกัน สิ่งที่ทำให้ Audrey Tang น่าจับตามอง 1. ปัจจุบัน Tang ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของบริษัท Apple ที่ได้รับค่าตอบแทนในรูปแบบของ Bitcoin ต่อชั่วโมง 2. เธอลาออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุได้ 12 ปี 3. เธอพัฒนา Search Engine (เว็บไซต์หาข้อมูลคล้ายกับ Google) เป็นภาษาจีนแมนดารินตอนอายุ 15 ปี 4. ในตอนที่อายุได้ 24 ปี เธอตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ…
-
โจรควักดาบเล็กปล้นร้านขายของ พอเจ้าของร้านหยิบดาบเล่มเบ้อเร่อขึ้นมา วิ่งหนีแทบไม่ทัน!!
ในยุคที่ข้าวยากหมากแพงแบบนี้ ทำให้การหางานทำเป็นเรื่องที่ยากขึ้นเรื่อยๆ บางคนถึงขั้นตัดสินใจไปปล้นคนอื่นเพื่อนำเงิน (ที่ได้มาแบบผิดๆ) มาใช้จ่าย แต่จะเป็นโจรในยุคนี้ก็ไม่ง่ายเหมือนกันนะ เพราะคุณจะต้องเจอกับเจ้าของทรัพย์สินที่โหดขึ้นเหมือนกัน… อย่างเช่นข่าวนี้ เป็นเหตุการณ์การปล้นทรัพย์ที่เกิดขึ้นในร้านเพอร์รี่มาร์เก็ต เมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐฯ ในช่วงค่ำคืนหนึ่งมีโจร 2 คนสวมหมวกไอ้โม่งวิ่งเข้าไปในร้านขายของชำแห่งนี้ พร้อมกับควักมีดด้ามหนึ่งออกมาเพื่อข่มขู่เจ้าของร้านเพื่อส่งเงินให้กับพวกเขา แต่เหมือนโจร 2 คนนี้จะปล้นเงินผิดคนซะแล้ว เพราะเจ้าของร้านที่อยู่ในเคาน์เตอร์ได้ก้มหยิบดาบเล่มที่ใหญ่กว่าของโจรขึ้นมา เมื่อโจรเห็นเข้าจึงเกิดอาการตกใจและวิ่งหนีไปทันที ถึงแม้จะไม่สามารถวิ่งตามจับโจร 2 คนนั้นได้ แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไรเลย ทางด้านนาย M.C. Hydare พี่ชายของเจ้าของร้านในคลิปให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เขาหยิบดาบขึ้นมาไว้ในมือ ส่วนน้องชายผมก็หยิบดาบขึ้นมาบ้าง จากนั้นเขาก็วิ่งหนีไปเลย” “คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย คุณยังหนุ่มยังแน่น แข็งแรงสุขภาพดี ฉะนั้นไปหางานทำซะ นี่ไม่ทางของคุณ หนทางนี้มีแต่จะนำคุณไปสู่ความตายไม่ก็เข้าคุก อย่าทำแบบนี้เด็ดขาด คุณมีวิธีหาเงินที่ดีกว่านี้แน่นอน” ชมคลิป #เหมียวฟิ้น ได้ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมถึงทราบว่าเป็นเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2015 แต่มีบางเว็บไซต์ที่นำเอากลับมาเผยแพร่อีกครั้ง ทำให้ข่าวนี้กลับมาโด่งดังนั่นเอง จากเหตุการณ์บอกให้เรารู้ว่าจะปล้นใครให้ใช้ดาบเล่มใหญ่ๆ เอ้ย อย่าไปปล้นใครเขาเลยนะ มีมือมีเท้าเหมือนกัน…
-
จินตนาการไม่สิ้นสุด ชมการออกแบบก้อนเมฆของดีไซน์เนอร์มะกัน ให้กลายเป็นตัวการ์ตูน
ในวัยเด็กของพวกเรา จะต้องมีช่วงเวลาเหม่อลอยมองไปบนท้องฟ้า แล้วจินตนาการว่าก้อนเมฆรูปทรงต่างๆ มีลักษณะคล้ายกับอะไร เช่นสุนัข แมว หมี หรือสิ่งของต่างๆ แต่บางครั้งก้อนเมฆเหล่านั้นก็ไม่ได้เหมือนกับจินตนาการของเราเสียทีเดียว ด้วยไอเดียในวัยเด็กนี้เอง ทำให้นาย Rob Sayegh Jr. นักออกแบบของเล่นให้กับแบรนด์ต่างๆ เช่น Hasbro และ Dreamworks ออกไปถ่ายภาพก้อนเมฆตามที่ต่างๆ จากนั้นก็นำมาวาดเป็นรูปการ์ตูนหลายๆ แบบ ซึ่งผลงานทั้งหมดสร้างสรรค์มาจาก iPad Pro ล้วนๆ #1 นก? ไก่? #2 มังกร #3 งู #4 น้องหมา #5 คาวบอย #6 ไดโนเสาร์ #7 หมาก้อนเมฆ #8 โดนัท #9 กระต่าย #10 แมวหน้ามุ่ย …
-
แค่เห็นก็ซู่ซ่าแล้ว…หนุ่มอังกฤษทดสอบ “แช่อ่างซอสพริก 1,250 ขวด” ถึงกับกรี๊ดลั่น!!
ในเว็บไซต์ยูทูบนั้นเต็มไปด้วยคลิปวิดีโอต่างๆ มากมาย จากผลสำรวจพบว่าใน 1 นาทีมีคนอัพคลิปวิดีโอขนาดความยาวต่างๆ รวมกันแล้วกว่า 48 ชั่วโมงเลยทีเดียว และในบรรดาคลิปต่างๆ เหล่านี้เองก็มีการทดลองที่น่าสนใจๆ แฝงอยู่เยอะด้วย เช่นคลิปการทดลองที่เรานำมาให้ดูต่อไปนี้ คลิปนี้เป็นของยูทูบเบอร์ที่ชื่อว่านาย Cemre Candar ชาวอังกฤษ เขาได้ทำช่องยูทูบเพื่อเผยแพร่คลิปฮาๆ ของตัวเอง แต่คลิปที่ดูจะโด่งดังอยู่ในตอนนี้ก็คือคลิปทดลองการแช่อ่างอาบน้ำด้วยซอสพริกนี่แหละ!! นาย Cemre ตัดสินใจที่จะเอาใจแฟนๆ ที่ติดตามเขาด้วยการลงไปอาบซอสพริก เพราะคิดว่ามันน่าจะสร้างความสนุกสนานให้กับกลุ่มผู้ชมของเขาเอง โดยซอสพริกที่เขานำมาใช้มีทั้งหมด 1,250 ขวด เขาเทมันลงไปในอ่างอาบน้ำ แล้วก็ค่อยๆ หย่อนตัวลงไปแช่ แน่นอนว่าทันทีที่ร่างกายของเขาสัมผัสกับซอสพริกมันก็สร้างความปวดแสบปวดร้อนได้มากทีเดียว แต่ความพิเรนทร์ของเขาไม่หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อเขาหยิบเม็ดพริกที่ปนอยู่ในซอสมาเคี้ยวเล่น ก่อนจะจุ่มหัวของตัวเองลงไปในซอสด้วย ด้วยความเผ็ดร้อนที่ทำให้เขาเริ่มทนไม่ไหว แถมยังมีซอสพริกเปื้อนดวงตาของเขาด้วย ทำให้เขาตะโกนบอกเพื่อนที่ถ่ายคลิปว่า “เอาผ้าขนหนูมาเร็ว” นาย Cemre บรรยายว่าการลงไปนอนแช่อยู่ในซอสพริกนั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนเพิ่งลงไปอยู่ในนรกมายังไงยังงั้น “ผมยังรู้สึกว่าเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย มันเจ็บปวดมากและตอนนี้ก็ยังแสบอยู่” แต่ถึงแม้ว่าการเล่นพิเรนทร์ครั้งนี้จะสร้างความปวดแสบปวดร้อนให้เขามากแค่ไหน แต่เขาก็ยังบอกว่ามันเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมอยู่ดี นั่นก็เพราะว่าตอนนี้มีคนกดเข้าไปดูคลิปวิดีโอของเขาแล้วกว่า 3…
-
ความหวังมนุษยชาติ… นักวิทย์ค้นพบดาวที่ “คล้ายโลก” มากและใกล้ที่สุด อยู่ห่างไป 4 ปีแสง
มนุษยชาติมีความพยายามอย่างมากที่จะตามหาดวงดาวใหม่ๆ หรือสิ่งมีชีวิตนอกโลก เพื่อเพิ่มพูนองค์วามรู้และนำไปต่อยอดให้กับการค้นคว้า แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันชัดเจนว่าเราได้ค้นพบมนุษย์ต่างดาวหรือดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิต แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงศึกษาเรื่องนี้ต่อไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเราจะเจอเข้ากับแสงสว่างในการสำรวจอวากาศอันมืดมิดแล้วล่ะ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็ มีรายงานว่านักวิทยาศาตร์ได้ค้นพบดวงดาวดวงใหม่ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับโลกของเรามาก ตามรายงานบอกว่าการค้นพบครั้งนี้เป็นการค้นพบโดยหอสังเกตการณ์ดวงดาวทางตอนใต้ของยุโรป (European Southern Observatory) พวกเขาตั้งชื่อให้กับดวงดาวดวงนี้ว่า Proxima Centauri มันมีขนาดใหญ่พอๆ กับโลก และคาดว่าภายในดาวดวงนั้นยังมีน้ำทะเลด้วย ดาว Proxima Centauri มีระยะทางห่างจากโลกเพียง 4 ปีแสงเท่านั้น อยู่ใกล้ยิ่งกว่าดาว Kepler 452b (ว่ากันว่าเป็นฝาแฝดของโลก) ที่อยู่ห่างจากโลกถึง 1,400 ปีแสง ทางด้านด็อกเตอร์ Guillem Anglada-Escude จากมหาวิทยาลัย Queen Mary University of London ในอังกฤษ ได้แสดงความคิดเห็นว่า “ความสำเร็จในการค้นหาดวงดาวที่คล้ายกับโลกที่ใกล้ที่สุดกับระบบสุริยะของเราถือเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่” “มันเรียกความสนใจให้กับนักวิจัยในระดับนานาชาติ พวกเราหวังว่าการค้นพบครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อๆ ไปให้ค้นดวงดาวและสิ่งมีชีวิตใหม่ๆ ต่อไป” นอกจากนี้ ดาว Proxima Centauri ยังมีดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ…
-
ผลวิจัยต่างประเทศ ‘การเล่นเกมออนไลน์’ ช่วยพัฒนาการเรียน – ดีกว่าอยู่กับโซเชียลเน็ตเวิร์ก
หลายคนอาจจะคิดว่า ผู้หลักผู้ใหญ่บางคน มักมีชุดความคิดเกี่ยวกับเกมในด้านลบๆ อยู่หน่อย ยิ่งเป็นเกมออนไลน์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มันคือสิ่งมอมเมาเยาวชนโดยแท้จริง แต่#เหมียวฟิ้นจะบอกว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเสมอไปนะ เพราะมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งในต่างประเทศบอกว่าการเล่นเกมออนไลน์นี่แหละ ช่วยให้เราเรียนได้ดีขึ้น!? รองศาสตราจารย์ Alberto Posso จากโรงเรียนเศรษฐศาสตร์ การเงินและการตลาดในออสเตรเลีย ได้ใช้โปรแกรมสำหรับการประเมินผลนักเรียนในระดับนานาชาติเพื่อประเมินเด็กออสเตรเลียวัย 15 ปี กว่า 12,000 คน ที่เรียนวิชาคณิตศาสตร์ การอ่านและวิทยาศาสตร์ ศาสตราจารย์ Posso กล่าวว่าวิดีโอเกมสามารถช่วยให้นักเรียนฝึกฝนความสามารถในการเรียนหนังสือที่โรงเรียนได้ “นักเรียนที่เล่นเกมออนไลน์สม่ำเสมอ ทำคะแนนเฉลี่ยได้ 15 คะแนนในวิชาคณิตศาสตร์ และ 17 คะแนนสำหนับวิชาวิทยาศาตร์” “เมื่อคุณเล่นเกมออนไลน์ คุณจะได้แก้ปัญหาปริศนาอยู่บ่อยๆ นั่นนำคุณไปสู่การพัฒนาการใช้ความรู้ทั่วไป และความสามารถในคณิตศาสตร์ การอ่านและวิทยาศาสตร์ที่คุณได้รับการสอนโดยคุณครูที่โรงเรียน ครูในโรงเรียนควรพิจารณาการผสมผสานวิดีโอเกมดังๆ เข้าไปในการเรียนการสอน ตราบเท่าที่มันไม่ได้มีความรุนแรงอยู่ในเกมนั้นด้วย” ในทางกลับกัน ศาสตราจารย์ Posso บอกว่าวัยรุ่นที่ติด Facebook หรือโปรแกรมแชททุกวันๆ จะทำคะแนนในวิชาคณิตศาสตร์ได้น้อยกว่านักเรียนที่ไม่ติดสื่อสังคมออนไลน์ใดๆ เลยถึง 20 คะแนน ทั้งหมดนี้อาจบ่งชี้ว่าพวกเขามีปัญหาในการคิดคำนวน…
-
ฉันเลือกนาย!! นี่คือไข่โปเกมอนบาธบอมบ์ อาบน้ำและลุ้นว่าจะได้ตัวไหนมาเลี้ยง
หากคุณเป็นโปเกมอนเทรนเนอร์ตัวจริง ที่เบื่อหน่ายกับการเดินฟักไข่โปเกมอน 2 กิโลฯ 5 กิโลฯ และ 10 กิโลฯ ในเกม Pokemon GO และอยากจะมีไข่โปเกมอนจริงๆ ไว้ฟักเล่นล่ะก็ คุณอาจจะอยากได้สิ่งนี้ก็ได้นะ สิ่งนี้มีชื่อว่า Pokemon Egg Bath Bombs (ไข่อาบน้ำโปเกมอน) สร้างสรรค์โดยนาง Rebecca Lynn มันทำมาจากส่วนผสมธรรมชาติหลายอย่างเช่น น้ำมันเมล็ดองุ่นและเชียบัตเตอร์ ที่จะทำให้ผิวของคุณนุ่มนวลเปล่งปลั่ง อีกทั้งช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและข้อต่อของคุณด้วย เจ้าไข่โปเกมอนมีด้วยกันสองรูปแบบ แบบแรกคือไข่โปเกมอน และอีกแบบคือโปเกบอล (ซึ่งข้างในจะบรรจุโปเกมอนที่แตกต่างกันออกไป วิธีการฟักก็ง่ายมาก แค่นำมันไปจุ่มกับน้ำ เท่านี้เปลือกไข่ที่ห่อหุ้มอยู่ก็จะค่อยๆ ละลายสลายไปกับสายน้ำเอง และข้างในนั้นก็จะกลายออกมาเป็นโปเกมอน เช่น ปิกาจู เซนิกาเมะ ฮิโตะคาเงะ และอีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดล้วนได้มาด้วยการสุ่มคล้ายกับกาชาปองของญี่ปุ่นยังไงยังงั้นเลย หากใครสนใจอยากจะซื้อเอามาฟักเล่นดูบ้าง ก็เข้าไปที่เว็บไซต์ etsy เขาสนนราคาอยู่ที่ลูกละ 195 บาท หรือชุด 3 ลูก…
-
ผลวิจัยจากสหรัฐฯ เผยว่าการเลือกงานที่ไม่ชอบตั้งแต่เรียนจบ ส่งผลให้สุขภาพแย่ตอนแก่!??
หากคุณรู้สึกจิตตกทุกครั้งเมื่อถึงช่วงเย็นของวันอาทิตย์ เพราะรู้ว่าพรุ่งนี้เช้าจะต้องฝืนตัวเองตื่นนอนแต่เช้าเพื่อไปตอกบัตรเข้าทำงานล่ะก็ นี่คือข่าวร้ายสำหรับคุณล่ะ นักวิจัยในมหาวิทยาลัย Ohio State University ได้นำข้อมูลจากชาวอเมริกัน 6,432 คนที่มีการเข้าร่วมกับ National Longitudinal Survey of Youth 1979 (หน่วยงานสำรวจผลระยะยาวของเยาวชนนานาชาติ) ที่จะติดตามวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 14 – 22 ปี เมื่อปี 1979 ผู้เข้าร่วมการวิจัยจะถูกถามเพื่อให้คะแนนงานที่ทำอยู่ในระหว่างที่พวกเขามีอายุระหว่าง 25-39 ปี ตั้งแต่ 1 (ไม่ชอบเลย) ถึง 4 (ชอบมาก) และจากนั้นพวกเขาก็จะถูกถามเพื่อให้รายงานปัญหาสุขภาพเมื่อพวกเขามีอายุย่างเข้า 40 ไปแล้ว ผู้คนถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม 1. พึงพอใจงานที่ทำในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง 2. พึงพอใจในงานที่ทำในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง 3. ชอบน้อยแล้วค่อยๆ เพิ่มความชอบในตอนหลัง 4. ชอบมากในตอนแรกและเริ่มไม่ชอบในเวลาต่อมา ในกลุ่มคนที่ให้คะแนนความชอบงานต่ำช่วงตอนเริ่มต้นทำงานนั้น จะมีปัญหาในด้านสุขภาพจิต มีรายงานเกี่ยวกับการนอนไม่หลับ มีอาการซึมเศร้าและวิตกกังวลในช่วงชีวิตหลังจากนั้น ส่วนผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่ต่ำกว่านั้น…
-
ล้ำไปอีกขั้น… ญี่ปุ่นเตรียมรีไซเคิล “ขยะอิเล็คทรอนิกส์” ให้กลายเป็นเหรียญโอลิมปิกปี 2020
ต้องบอกเลยว่าหลังจากที่ได้เห็นการรับไม้ต่อของชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นในพิธีปิดริโอเกมส์ 2016 ทำเอาคนทั่วโลกถึงกับตื่นเต้นในไอเดียการนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาตัวการ์ตูนและเกมมาเป็นตัวหนึ่งของการโปรโมท ไปจนถึงการเปลี่ยนอาเบะให้กลายเป็นมาริโอ้มาโผล่ในงานที่เราได้เห็นกัน… แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ เท่านั้น เพราะพวกเขายังมีอะไรเจ๋งๆ เตรียมไว้เซอร์ไพรส์คนทั้งโลกอีกมากก่อนจะถึงปี 2020 ที่พวกเขาได้เป็นเข้าภาพแบบเต็มตัว…และการเคลื่อนไหวแรกของ Tokyo Olympic ก็มีมาให้เราได้ฮือฮากันแล้ว เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Asia.nikkei ได้รายงานว่า ทางผู้จัดงานโอลิมปิกมีไอเดียที่จะนำเอาซากสมาร์ทโฟนและเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายมาเปลี่ยนให้กลายเป็นเหรียญโอลิมปิก ทั้งทอง เงิน และทองแดง เพื่อรีไซเคิลและลดจำนวนขยะอิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศลง ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่ค่อนข้างขาดแคลน “แร่” ต่างๆ พอสมควร พวกเขาจึงแก้ปัญหานี้โดยการนำเอาเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์มาแปรรูป ซึ่งในขยะเหล่านั้นมีทองและเงินมากถึง 16 – 22% ตามลำดับ อันที่จริงแล้วเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้บรรจุเหล็กมากพอสำหรับการนำมาหลอมให้กลายเป็นเหรียญอยู่แล้ว ซึ่งตามรายงานบอกว่าทีมผู้จัดโอลิมปิกและรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการหารือเรื่องนี้กันมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา การหารือครั้งที่ผ่านมาใช้ชื่อหัวข้อว่า “อนาคตที่ยั่งยืน” โดยผู้ที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้มีตั้งแต่เจ้าหน้าที่โอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ กระทรวงสิ่งแวดล้อม ผู้บริหารบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ NTT DoCoMo และบริษัทรีไซเคิลอีกหลายแห่ง…
-
มันน่าลอง!! KFC ไอเดียล้ำ ผลิต “ครีมกันแดดกลิ่นไก่ทอด” ออกแจกจ่ายให้ลูกค้าใช้ฟรีๆ
ถ้าพูดถึงชื่อแบรนด์อย่าง KFC ทุกคนทั่วโลกก็น่าจะนึกถึงไก่ทอดมาเป็นอันดับแรก ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ KFC เปิดทำการมา พวกเขาได้แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาอีกมากมาย เช่นเบอร์เกอร์ สลัด มันบด และเฟรนช์ฟรายด์ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าวันหนึ่ง KFC จะหันมาทำผลิตภัณฑ์แปลกๆ อย่างครีมกันแดดด้วย!? แม้ว่านี่จะฟังดูพิลึกไปหน่อย แต่ต้องบอกเลยว่ามันมีอยู่จริงๆ และไม่ได้มีไว้ขายด้วยนะ เพราะเขาจะแจกให้กับลูกค้าแบบฟรีๆ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า มีการผลิตครีมกันแดดดังกล่าวออกมาจริงๆ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านการตลาดหรือส่งเสริมการขายอะไรก็ตาม รายละเอียดเกี่ยวกับครีมกันแดดของ KFC มีค่า SPF 30 สามารถกันแดดได้เหมือนครีมกันแดดทั่วๆ แต่จะมีกลิ่นของ “ไก่ทอด” แผ่ออกมาเมื่อคุณทาลงไปบนร่างกายตัวเอง!? ทางด้านโฆษกของ KFC ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้ว่า “เราสนุกกันมากกับแคมเปญครีมกันแดดในช่วงฤดูร้อนนี้ และไอเดียของครีมกันแดดนี่ก็ดูจะเป็นอะไรที่ลงตัวมากๆ” “ไก่ของเราชุบเกล็ดขนมปังเพื่อเตรียมทอดสดใหม่ในห้องครัวของเราทุกวัน นั่นทำให้กลิ่นหอมในร้านของเราเหนือชั้นกว่าที่อื่น ครีมกันแดด The Extra Crispy Sunscreen ถือเป็นเรื่องสนุกที่ช่วยยกระดับให้กับแฟนๆ ของเรา” แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ทาง…
-
บทเรียนล้ำค่า… เด็กเสิร์ฟร้านอาหาร ช่วยหญิงชราซื้อของ จากนั้นไม่นานเขาได้ทิปถึง 17,000 บาท
ทุกวันนี้#เหมียวฟิ้นยังคงเชื่อว่าการทำดียังได้ดีอยู่นะ แต่มันอาจจะไม่ได้เห็นผลในทันตา และไม่รู้ด้วยว่าจะเห็นผลได้จริงๆ หรือเปล่า แต่อย่างน้อยการเป็นคนดีมีน้ำใจมันก็ช่วยให้สังคมนี้น่าอยู่ขึ้นล่ะนะ เช่นเดียวกับเรื่องราวของนาย Kasey Simmons วัย 32 ปี บริกรที่ทำงานในร้านอาหาร Applebee ในเมือง ดัลลัส รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา วันหนึ่งเขาได้ไปเดินซื้อของในร้านขายของชำในท้องถิ่น ในตอนนั้นเขาสังเกตเห็นหญิงชราคนหนึ่งต่อแถวเพื่อจ่ายเงินด้วยท่าทางหม่นหมอง แต่ไม่มีใครช่วยเหลือเธอเลยแม้แต่คนเดียว….. นาย Simmons เลยเดินเข้าไปพูดคุยกับเธอเพื่อสอบถามว่าทำไมเธอถึงทำท่าเศร้าขนาดนั้น แต่หญิงชราก็ไม่ได้อธิบายกับเขาว่าทำไมเธอเป็นอะไร… เขาก็เลยพยายามชวนเธอคุย พูดปลอบใจให้เธอเห็นในแง่ดีๆ ของโลกใบนี้ พร้อมกับเสนอสินน้ำใจที่จะซื้อสินค้านั้นให้กับเธอเป็นเงินจำนวน 590 บาทฟรีๆ (เทียบกับในอเมริกาก็ราวๆ 15 เหรียญ หรือค่าจ้างขั้นต่ำประมาณ 1-2 ชั่วโมง) เพื่อให้ลูกค้าสูงวัยรายนี้ได้มีรอยยิ้มแฮปปี้ติดตัวกลับไป Simmons ให้สัมภาษณ์ว่า “มันราคาแค่ 590 บาทเท่านั้น แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับเงินหรอก มันคือการแสดงให้ใครบางคนเห็นว่าคุณแคร์เขา” หญิงชราก็กลับบ้านไปพร้อมกับความรู้สึกปลาบปลื้ม จากนั้นเธอได้เล่าเรื่องนี้ให้กับลูกสาวฟัง ลูกสาวของเธอจึงออกตามหาว่าพนักงานชายคนนี้เป็นใคร สุดท้ายจึงทราบว่าเขาทำงานอยู่ในร้านอาหาร Applebee’s ในเมืองดัลลัส ที่ลูกสาวของเธอต้องทำขนาดนี้ก็เพราะว่าแม่ของเธอตกอยู่ในความเศร้าโศกมานานกว่า 3 ปีหลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิตไป…
-
สู้ไหม!? ทำความรู้จัก Bakhar Nabieva สาวลูกครึ่ง ผู้มีกล้ามแน่นจนหนุ่มๆ ต้องเกรงใจ…
ดูเหมือนว่าตอนนี้เทรนด์ของสาวผอมๆ จะไม่ได้เป็นที่นิยมเหมือนแต่ก่อนแล้วนะ เพราะเราได้เห็นแล้วว่ามีสาวๆ จำนวนไม่น้อยที่หันมาออกกำลังกายเพื่อกระชับกล้ามเนื้อ สร้างกล้ามท้อง กล้ามต้นขา และก้นให้ดึ๋งดั๋ง!!! อย่างเช่น Bakhar Nabieva วัย 22 ปี ลูกครึ่งยูเครนและอาเซอร์ไบจัน เธอชื่นชอบการออกกำลังกายมาก (เธอบอกว่า เรียกว่าคลั่งเลยก็ได้) เธอออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจนสามารถสร้างกล้ามต้นขาสุดล่ำแลัซิกแพ็คเป็นของตัวเองได้ จนหนุ่มๆ ต้องอายเลยทีเดียว แม่สาว Bakhar เองมักจะชอบอวดหุ่นสวยๆ ของตัวเองลงในอินสตาแกรม @bakharnabieva อยู่บ่อยๆ จนตอนนี้มีผู้ติดตามเธอมากกว่า 650,000 คนแล้ว นอกจากนี้ยังมีช่องยูทูบที่เอาไว้สอนคนออกกำลังกายตามเธอด้วย ตามไปซับตะไคร้เธอได้ที่ Bakhar Nabieva เลยนะจ๊ะ หากคุณสงสัยว่าเธอออกกำลังกายแบบไหน ใช้ท่าอะไรถึงได้มีกล้ามแน่นเปรี๊ยะขนาดนี้ เธอก็ทำวิดีโอสอนออกกำลังกายไปด้วยเช่นกัน อย่างเช่นคลิปนี้… . . . . . . . . . สาวผอมหลบไป เทรนด์สาวแกร่งกำลังมา!! ที่มา Bakhar Nabieva
-
หนุ่มซื้อห้องสภาพเน่าหนัก มารีโนเวทด้วยตนเองน่าอยู่มาก ราคาแพงขึ้นสองเท่า!!!
เดี๋ยวนี้การซื้อบ้านเก่าๆ คอนโดเก่าๆ มารีโนเวทใหม่ ดูจะเป็นเรื่องที่นิยมมากเลยในสังคมปัจจุบัน เพราะบางที่การสร้างบ้านใหม่ขึ้นมาทั้งหลังหรือคอนโดใหม่ใจกลางเมือง ก็ดูจะใช้งบประมาณมากไปสักหน่อย แต่หากคุณเป็นคนที่ไม่มีประสบการณ์ในการตกแต่งต่อเติมอะไรเลย หรือไม่มีฝีมือทางด้านการออกแบบล่ะก็ ไม่ต้องคิดมากนะ เพราะวันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาไปดูตัวอย่างของคนที่ไม่เคยผ่านงานตกแต่งบ้านมาก่อน และต้องมารีโนเวทบ้านใหม่ทั้งหลัง ดูสิว่าจะออกมายังไง? เรื่องนี้เป็นของสมาชิกเว็บไซต์ reddit ที่ใช้นามแฝงว่า GSDrisco เจ้าตัวเล่าว่าได้ไปซื้อบ้านหลังหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศแคนาดามาในราคา 5.5 ล้านบาท แต่เมื่อเข้าไปในบ้านก็ถึงกับอึ้งเพราะมันช่างรกประหนึ่งว่าเพิ่งผ่านสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มาหมาดๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา (ก็ซื้อมาแล้วนี่) เขาเลยตัดสินใจซื้ออุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสี แผ่ไม้ แผ่นรองพื้น และอีกสารพัดมารีโนเวทบ้านหลังนี้เอง แต่…เขาไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเลย เขาเริ่มศึกษาขั้นตอนการตกแต่งบ้านจาก Youtube และวิดีโอคอลคุยกับพ่อของเขาตลอดเวลา จากนั้นก็ออกไปซื้อข้าวของตามร้านขายของมือสองและ IKEA ใช้เงินไปราวๆ 1.3 ล้านบาท เริ่มแรก เขาได้กวาดเอาขยะ และข้าวของเก่าๆ ที่เจ้าของบ้านคนก่อนทิ้งไว้ เอาไปขายเป็นของมือสองและเศษขยะ ทำให้ได้เงินกลับมาจำนวนนึง เขาทาห้องด้วยสีขาว แม้ว่ามันจะทำความสะอาดยากกว่าสีอื่นๆ แต่มันก็ดูสะอาดตาดี . เขาทุบเอากำแพงที่กั้นระหว่างห้องครัวออกไป ทำให้มีพื้นที่มากขึ้น เขาซื้อแผ่นรองพื้น Acoustik…
-
สัตวแพทย์ไทยรวมพลัง ผ่าตัดช่วยชีวิต “อนาคอนดา” หลังพบว่ามันมีเนื้องอกอยู่ใกล้หัวใจ!?
ถึงแม้ว่างูจะเป็นสัตว์ที่ชวนให้เรารู้สึกสยองและไม่อยากจะเข้าใกล้ แต่ยังไงแล้วมันก็ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจ รักตัวกลัวตายไม่ต่างไปจากสัตว์ชนิดอื่นๆ เลย และหากว่าพวกมันเจ็บไข้ได้ป่วย ใครล่ะจะยื่นมือเข้าไปช่วยพวกมันหากไม่ใช่มนุษย์อย่างเราๆ? เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของคุณ ทวีศักดิ์ อนันต์ศิริวัฒนา ได้เผยแพร่ภาพการช่วยเหลือของเจ้างูอนาคอนดาตัวหนึ่งที่โรงพยาบาลสัตว์คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังจากมันมีอาการป่วย แพทย์จึงนำมันไปตรวจร่างกายถึง 2 ครั้ง จนทราบผลว่ามันมีเนื้องอกที่หนักกว่า 1 กิโลกรัมอยู่ที่บริเวณหัวใจของมัน ทางโรงพยาบาลต้องระดมทีมแพทย์หลายคนให้เข้ามาช่วยผ่าตัดมัน และใช้เวลานานถึง 6 ชั่วโมงกว่าที่จะผ่าเอาเนื้องอกออกจากตัวของมันได้ . ทั้งนี้คุณทวีศักดิ์ ยังได้โพสต์ข้อความด้วยว่า “การตรวจสองครั้งที่ผ่านมาทำให้ทราบว่า เจ้าอนาคอนด้ามีเนื้องอกอยู่บริเวณหัวใจก้อนใหญ่มาก จึงทำการผ่าตัดที่แสนยากครั้งนี้ ใช้เวลาผ่าถึง 6 ชั่วโมงครึ่งจึงจะเสร็จ ใช้หมอเปลืองมาก แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ” “ต้องขอขอบคุณทีมงานและพนักงานโรงพยาบาลสัตว์คลองหลวง และทีมงานของพี่อดัมในการถ่ายทำภาพและวีดีโอในครั้งนี้ด้วยครับ ก้อนเนื้อหนักหนึ่งกิโลครับ ผ่ายากมากแต่ก็ฟื้นตัวแล้ว ติดตามในรายการ Save life ได้นะครับ” . . . . . . . …
-
มือในเงินถึงกับสั่น!! ลองดู Nike Pokemon ออกแบบเอง ใครชอบตัวไหนก็ซื้อลายนั้นเลย
เกม Pokémon Go ที่กำลังโด่งดังอยู่ในตอนนี้ เชื่อว่าคนที่เล่นหรือไม่ได้เล่นก็ตาม น่าจะรู้กันว่ามันคือเกมที่เราต้องออกไปไล่จับโปเกมอนในชีวิตจริง ต้องมีการเดิน การยืนรอเป็นเวลานานๆ อาจจะทำให้กล้ามขาปูดหรือเหนื่อยล้าเป็นธรรมดา สิ่งหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าของคุณได้ก็คือรองเท้าดีๆ สักคู่ ที่เดินแล้วสบายเท้า แต่จะยิ่งดีเข้าไปอีก หากรองเท้าคู่นั้นทั้งนุ่มสบายแล้วมีลวดลายโปเกมอนด้วย!! ภาพที่คุณได้เห็นทั้งหมดนนี้เป็นรองเท้า Nike ที่ถูกดีไซน์ให้เข้ากับตัวโปเกมอนแต่ละตัว มีตั้งแต่ปิกาจู เซนิกาเมะ โกดัก ฮิโตะคาเงะ หรือแม้แต่เนี๊ยส และอีกมากมาย ซึ่งคุณเองก็สามารถออกแบบรองเท้าโปเกมอนในแบบของคุณเองได้ด้วยเหมือนกันนะ โดยการกดเข้าไปที่เว็บไซต์ pokeid.tumblr จากนั้นก็ออกแบบรองเท้าด้วยตัวของคุณเอง เลือกสี เลือกโปเกมอน เลือกรุ่นรองเท้าแล้วแต่งเติมสีสันลงไปได้เอง (ตามสีสันของโปเกมอนแต่ละตัว) จากนั้นลวดลายที่คุณและคนอื่นๆ ออกแบบก็จะถูกอัพโหลดไปอยู่บนเว็บไซต์ tumblr หากถูกใจหรืออยากจะได้รองเท้าคู่นั้น (หรือเท้าที่คนอื่นออกแบบไว้อยู่แล้ว) ก็แค่นำเอาภาพนั้นไปสั่งกับเว็บไซต์ของ Nike ที่มีการเปิดบริการออกแบบรองเท้าในสไตล์ของคุณอยู่แล้ว เพื่อให้เขาผลิตตามแบบที่เราดีไซน์ได้เลย จากนั้นมันก็จะถูกส่งมายังบ้านของคุณทันที ง่ายสุดๆ ไปเลย!! (แต่ต้องมีทักษะภาษาอังกฤษสักเล็กน้อย) ลองไปชมผลงานการออกแบบรองเท้า ที่ชาวเน็ตคนอื่นๆ เคยมีการออกแบบมาก่อนหน้านี้แบบเต็มๆ . .…
-
ญี่ปุ่นเผย 10 รายชื่อนักแสดงหนัง AV ที่เล่นหนังจำนวนมากที่สุด สูงสุด 2,000 เรื่อง!!
เราคงจะเคยเห็นการจัดอันดับนักแสดง AV ที่คุณไม่ควรพลาด นักแสดงที่มาแรงที่สุดในเดือน ฮอตที่สุดแห่งปี แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นไม่ได้จะพาคุณไปดูการจัดอันดับแบบใหม่บ้าง โพลที่ว่านี้ก็คือ…จัดอันดับ 10 นักแสดง AV สาว ที่มีผลงานออกมามากที่สุด!! การจัดอันดับครั้งนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Avcollectors โดยจะเป็นผลสำรวจที่อัพเดทล่าสุดเมื่อวันที่ 16 เดือนสิงหาคมปี 2016 โดยจะนับเฉพาะผลงานที่วางขายในรูปแบบแผ่น DVD ไม่นับผลงานที่ส่งลงอินเตอร์เน็ตให้ดาว์นโหลดนะ ลองดูกันว่าใน 10 อันดับนี้คุณรู้จักใครบ้าง? 10. Maki Hojo – 1,232 เรื่อง 9. Hibiki Otsuka – 1,259 เรื่อง 8. Rio Hamasaki – 1,271 เรื่อง 7. Ryoko Murakami – 1,282 เรื่อง 6. Misa Yuuki – 1,454…
-
เจ้ากวางน้อยสลบในป่า แล้วมนุษย์จึงช่วยมา แต่มันก็ลืมทันทีว่า ‘ตัวเองเคยเป็นกวาง…’
เมื่อไม่มีใครคอยบอกหรือแนะนำว่าคุณควรจะโตไปเป็นอะไร เราจึงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสัตว์จากชนิดนึงไปเป็นอีกชนิดนึงอยู่บ่อยครั้ง… นี่คือเรื่องราวของเจ้า Bramble ลูกกวางตัวน้อยวัย 2 สัปดาห์ ที่ควรจะเติบโตมาเป็นกวางเต็มวัย แต่เส้นทางชีวิตของมันก็พลิกผัน เมื่อมันดันไปสลบอยู่ในป่าอยู่เพียงลำพัง โชคดีที่ในตอนนั้นนาย Geoff Grewcock พาสุนัขไปเดินเล่นและผ่านมาเห็นมันเข้า จึงช่วยเหลือมันไว้ได้ทัน เขาก็เลยพามันไปพักรักษาตัวที่องค์กรช่วยเหลือสัตว์ Nuneaton & Warwickshire Wildlife Sanctuary ที่เขาดูแลอยู่ เมื่อมันเริ่มมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น มันก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถพิเศษที่โดดเด่นในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมของมัน เจ้า Bramble ใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านอย่างสุขสบายคล้ายกับสุนัขหรือเด็กที่ถูกเอาอกเอาใจคนหนึ่ง ด้วยความกังวลว่าเจ้า Bramble จะไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ในป่า นาย Grewcock เลยยังไม่ปล่อยมันกลับป่าและตัดสินใจที่จะเลี้ยงมันเอาไว้ในบ้านก่อน จากวันแรกที่ Bramble เข้ามาอยู่ในบ้าน เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบ 10 ปี มันก็กลายเป็นกวางบ้านไปโดยสมบูรณ์ มันเดินเล่นไปทั่วบ้าน ใช้จมูกดุนตู้เย็น ค้นหาของกินในช่องฟรีซ แถมยังโผเข้าหาคนแปลกหน้าทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมบ้านของมันด้วย อยากรู้ว่ามันเหมือนสุนัขขนาดไหน งั้นลองไปพิสูจน์กัน ลืมไปแล้วล่ะมั้งว่าตัวเองเป็นกวาง ที่มา thedodo
-
อดีตทหารและบอดี้การ์ด David Beckham ชีวิตตกอับ เลยอยู่ในสนามบิน เลียนแบบหนัง The Terminal
เรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์หลายๆ เรื่องก็อ้างอิงมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่ในทางกลับกันเรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงก็อาจจะได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เช่นกัน… เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานข่าวจากต่างประเทศว่า Simon Jones (นามแฝง) วัย 46 ปี อดีตทหารผ่านศึกและบอดี้การ์ดของนักกีฬาดังอย่าง David Beckham ได้ตัดสินใจที่จะกลายเป็นคนเร่ร่อนและอาศัยอยู่ในสนามบินลอนดอนฮีทโธรว์เป็นเวลานานกว่า 3 สัปดาห์ ตามรายงานบอกว่านาย Simon ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง The Terminal ที่นำแสดงโดย Tom Hanks ในภาพยนตร์เป็นการเล่าเรื่องราวของ Viktor Navorski นักเดินทางชาวยุโรปที่ไม่สามารถออกจากสนามบินได้ เนื่องจากเกิดความขัดแย้งทางการเมือง เลยต้องอาศัยอยู่แต่ในสนามบินนานเป็นเดือนๆ นาย Simon บอกว่าเขาเอาตัวรอดอยู่ในสนามบินได้นานเป็นสัปดาห์ ด้วยการกินอาหารเหลือจากลูกค้าคนอื่นๆ เพื่อประทังชีวิตและใช้ไวไฟฟรีภายในสนามบินเพื่อหางานทำ สาเหตุที่เขาต้องมาอยู่ในสนามบินแบบนี้เป็นเพราะว่าธุรกิจของเขาดันประสบปัญหาหลายอย่างจนต้องปิดตัวลง Simon ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวต่างประเทศว่า “ผมสูญเสียทุกอย่าง ตอนที่ธุรกิจของผมพังทลาย เพราะมันมีความเสี่ยงสูงในการเซ็นสัญญาและการฝึกบุคคล” “ธุรกิจนี้ทำให้เกิดความเครียดในความสัมพันธ์ของผม จนผมและแฟนต้องแยกทางกัน ผมกลายเป็นคนเร่ร่อนและเพราะว่าบัญชีเงินฝากของผมเป็นแบบใช้ร่วมกันกับแฟน ทำให้ผมหมดตัวทันที” จากนั้น Simon ก็จำได้ว่ามีหนังเรื่อง The Terminal ที่ตัวเอกใช้ชีวิตอยู่ในสนามบิน เขาก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่าภายในนั้นจะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้เขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้แน่ๆ…
-
นักวิจัยต่างประเทศกล่าว… ครอบครัวที่เข้มงวดกับลูกมากไป อาจทำให้เด็กเป็นคนขี้โกหก
ในวัยเด็กของเราทุกคนคงจะเคยถูกเลี้ยงดูมาโดยวิธีการที่แตกต่างกันออกไป พ่อแม่บางคนอาจจะเลี้ยงลูกแบบถนุถนอม บางคนเลี้ยงด้วยเหตุผล บางคนเลี้ยงด้วยไม้เรียว บางคนอาจจะสร้างกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการเลี้ยงลูกแบบเข้มงวดมากๆ นั้น จะส่งผลเสียกับพฤติกรรมของลูกในระยะยาวได้นะ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลีเมล์ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ของนักจิตอายุรเวทและนักเขียนหนังสือชื่อดังชาวอังกฤษ Philippa Perry บอกว่าการที่พ่อแม่เข้มงวดกับลูกมากเกินไปนั้น จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่อยากบอกความจริงกับพวกคุณ Philippa บอกว่าทุกๆ คำโกหก ล้วนก่อตัวมาจากสถานการณ์ที่บังคับให้พวกเขาไม่สามารถพูดความจริงทั้งหมดได้ หากลูกๆ ของพวกเขากลายเป็นคนขี้โกหกล่ะก็ พ่อแม่ควรจะโทษการเลี้ยงดูของพวกเขาเอง การให้ความเห็นของเธอไม่ได้เป็นการกล่าวขึ้นมาลอยๆ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยของนักจิตวิทยาชาวแคนาดา Dr. Victoria Talwar ที่วัดและทำการทดลองกับเด็กโกหกมาแล้ว Dr. Talwar ได้ทำการทดลองกับเด็กๆ ในโรงเรียนสองแห่งในประเทศแอฟริกาตะวันตก โดยในโรงเรียนแรกจะไม่มีการตั้งกฎเกณฑ์ใดๆ ปล่อยสบายๆ ส่วนอีกโรงเรียนจะตั้งกฎไว้อย่างเข้มงวดและมีบทลงโทษด้วย การทดสอบนี้ก็ง่ายๆ แค่ให้เด็กๆ เดาว่าวัตถุอะไรที่ทำให้เกิดเสียง โดยห้ามมองวัตถุนั้น เธอเรียกการทดลองนี้ว่า Peeping Game เมื่อการทดลองเริ่มขึ้น พวกเขาให้เด็กๆ เข้าไปในห้อง แล้วผู้ทำการทดลองก็โยนบอลพลาสติกลงกับพื้น (ซึ่งมีเสียงแตกต่างจากบอลจริงๆ จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะคาดเดา) จากนั้นผู้ทำการทดลองก็ทำทีเป็นเดินออกไปข้างนอก แล้วกลับเข้ามาถามว่าเสียงที่ว่านั้นคืออะไร Dr.…
-
ลาก่อนเพื่อนรัก… สุนัขสละชีวิต เอาตัวปกป้องหนูน้อยวัย 8 เดือน ไม่ให้ถูกไฟคลอกตาย
นี่อาจจะทำให้คนรักสุนัขรู้สึกประทับใจ แต่ก็สะเทือนใจอยู่ไม่น้อย… เพราะเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เมโทรได้เปิดเผยเรื่องราวของเจ้า Polo สุนัขฮีโร่ผู้เสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้อง Viviana Poremski เด็กน้อยวัย 8 เดือน จากเหตุบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่เกิดไฟไหม้ ตามรายงานบอกว่าระหว่างที่เกิดเหตุไฟไหม้ นาง Erika ผู้เป็นแม่ ได้เดินออกไปเอาของในรถ โดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าภายในบ้านเกิดเพลิงไหม้ขึ้นแล้ว และเธอก็ต้องช็อคเมื่อเห็นว่ามีไฟไหม้อยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน เธอจึงรีบเข้าไปในบ้านเพื่อช่วยลูกน้อยของเธอ แต่ด้วยเพลิงที่ลุกไหม้หนักจึงต้องรอความช่วยเหลือจากนักดับเพลิงเพราะเธอไม่สามารถพังประตูหรือหน้าต่างเข้าไปได้ ในระหว่างนั้นเธอได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกสาวตลอดเวลา Erika ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ฉันได้ยินเสียงลูกสาวร้องไห้และฉันไม่สามารถเข้าไปหาเธอได้ ฉันพยายามที่จะเข้าไปช่วยแล้ว เพื่อนบ้านก็พยายามช่วยแล้ว แต่ก็หมดหวัง” ในเวลาไม่นานนักดับเพลิงก็เดินทางมาถึง เมื่อพวกเขาเข้าไปยังตัวบ้านได้ก็ตกตะลึงมาก เพราะพวกเขาพบร่างของเจ้า Polo นอนตายทับอยู่บนร่างของ Viviana และนั่นคือสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้หนูน้อยรอดตายจากความร้อนภายในบ้าน… . จากการตรวจสอบร่างกายพบว่าหนูน้อย Viviana ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ใบหน้า แขน และลำตัว เนื่องจากโดนไฟไหม้รุนแรง ทำให้ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและตำรวจยังไม่ฟันธงว่าเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้เกิดจากอะไรกันแน่ อยู่ระหว่างการสืบสวนต่อไป …
-
18 เทคนิคดีๆ ที่ช่วยให้คุณรอดตายจากสถานการณ์คับขันได้ รู้ไว้สักหน่อยก็ดีนะ…
หลายครั้งหลายคราที่เราได้เห็นหนังแนวเอาตัวรอด แล้วคิดไปว่าหากเป็นเราที่ต้องไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจะรอดหรือไม่? อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับไหวพริบของแต่ละคนนะ หากใครดูสารคดีมาเยอะก็น่าจะมีความรู้เรื่องการเอาตัวรอดเยอะพอสมควร แต่หากคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือได้ดูอะไรแบบนั้น วันนี้ #เหมียวฟิ้น ได้ย่อยเอา 18 เทคนิคเล็กๆ ในการเอาตัวรอดมาไว้ให้อ่านแล้ว ลองไปดูกันว่าหากอยู่ในภาวะคับขัน คุณควรจะต้องทำตัวยังไง!? 1. ถ้าคุณต้องไปปีนเขา ไปตั้งแคมป์ หรือไปที่ไหนที่ห่างไกลผู้คน อย่าลืมบอกคนที่บ้านหรือเพื่อน ว่าจะกลับมาวันไหน อย่างน้อยให้พวกเขารับทราบ 2. การพกหมากฝรั่งไว้ช่วยได้ หากติดอยู่ในที่ที่มีอาหารจำกัด ให้เคี้ยวหมากฝรั่ง มันจะช่วยระงับความหิวของคุณได้ระดับหนึ่ง (อย่างน้อยก็ช่วยให้อาหารหมดช้าลงล่ะนะ) 3. หากต้องเข้าไปในตึกที่มีผู้คนเยอะๆ ให้ลองสังเกตดูทางออกฉุกเฉินไว้หน่อยก็ดีนะ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมาคุณจะได้เอาตัวรอดได้ทันท่วงที 4. หากเดินบนถนนหรือที่ไหนก็ตาม พยายามอย่าก้มดูมือถือตลอดเวลา เพราะมันจะเบี่ยงเบนความสนใจของคุณจนไม่ทันมองสิ่งรอบข้าง เช่นขโมย รถ หรืออุบัติเหตุต่างๆ 5. อาจจะชวนอี๋ไปนิดนึง แต่ก็ต้องบอกว่าถุงยางอนามัยนั้นเป็นภาชนะเก็บน้ำที่ดีมากๆ (หากมันคับขันจริงๆ น่ะนะ) 6. หากเกิดไฟไหม้ ให้ก้มตัวให้ต่ำที่สุด เพราะออกซิเจนจะรวมตัวกันอยู่ที่ด้านล่าง แถมยังเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้คุณสำลักฝุ่นควันด้วย 7. หากคุณได้รับบาดแผลเล็กๆ และไม่สามารถหาอุปกรณ์ปฐมพยาบาลได้จริงๆ กาวร้อนก็พอจะช่วยสมานแผลได้นะ …
-
เรื่องของ 10 คนผอมที่เคยอ้วน และคนอ้วนลดน้ำหนักจนดูดี จะมาเป็นแรงบันดาลใจให้คุณ
ที่ผ่านๆ มา ทีมงานเหมียวได้ทำบทความสุขภาพ เกี่ยวกับคนที่อ้วนพยายามจะผอม และคนผอมที่เคยอ้วนมาหลายครั้งหลายครา นั่นก็เพื่อเป็นแรงบันดาลใจกับคนที่อยากจะมีรูปร่างดี หันมาออกกำลังกายกัน และในหลายๆ กรณีที่เราได้หยิบมาเล่านั้นก็มีเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่ออยู่หลายครั้ง เช่นคนที่หนักร้อยกว่าโลแล้วกลับมาผอม หรือบางคนถูกบังคับให้ผอมเพราะต้องไปแต่งงาน วันนี้ #เหมียวฟิ้น ได้รวบรวมเอาเรื่องราวเหล่านั้นมาเรียกกำลังใจของทุกๆ คนอีกครั้ง ไปชมกันเลยว่ามีใครลดน้ำหนักไปเท่าไหร่บ้าง? 1. ชายหนุ่มน้ำหนัก 154 กิโลกรัม รับสุนัขอ้วนมาเลี้ยง พวกเขาก็เลยลดน้ำหนักไปด้วยกันซะเลย (อ่านเต็มๆ ได้ที่นี่นะ) 2. สาวหนัก 160 กิโลกรัมฉุนขาด เมื่อสายการบินบอกให้เธอซื้อตั๋วสำหรับ 2 ที่นั่ง เลยออกกำลังกายจนเหลือน้ำหนักแค่ 60 กิโลกรัม (อ่านเต็มๆ ได้ที่นี่นะ) 3. สาวหนัก 90 ลดเหลือ 52 กิโลกรัม เพื่อให้มีหุ่นสวยเพรียวและเหมาะสมที่จะแต่งงานกับเจ้าบ่าว (อ่านเต็มๆ ได้ที่นี่นะ) 4. สาวไทยลดน้ำหนักจาก 55.2 เหลือ 50.4 กิโลกรัม แต่กินอาหารมากขึ้นจาก 1,000 ถึง 2,000…
-
18+ อังกฤษเปิด “เซ็กส์คลับนางแมว” สำหรับหนุ่มหลั่นล้า แค่ไม่นาน มีสมาชิกกว่า 4 หมื่น
ข่าวนี้อาจทำเอาหนุ่มๆ ตาลุกวาวเลยทีเดียว เพราะเมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์มิเรอร์ได้รายงานว่าที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษได้มีการเปิดตัว Killing Kitten เซ็กส์คลับสำหรับคนหลั่นล้า หลังจากเปิดได้ไม่นาน สถานบันเทิงสุดสยิวแห่งนี้ก็ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างมาก มีผู้มาสมัครใช้บริการมากถึง 45,000 คนทั่วโลก จนตอนนี้ต้องขยายสาขาไปยังเมืองแมนเชสเตอร์แล้ว ตามรายงานบอกว่าภายในคลับแห่งนี้มีห้องพักหลากหลายแบบให้แขกได้เลือกใช้บริการ จัดขึ้นในสถานที่ส่วนตัว ที่ไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นที่ไหน หากใครอยากจะสมัครสมาชิกเพื่อใช้บริการล่ะก็ จำเป็นจะต้องออกตามหาด้วยตัวเอง คลับแห่งนี้มีห้องลับที่ชื่อว่า Forbidden Room (ห้องต้องห้าม) อย่างแรกที่พวกคุณจะเห็นคือทางเดินที่ทำจากหิน และมีหลอดไฟแบบนี้ประดับอยู่ เมื่อเข้ามาด้านใน คุณจะได้รับการต้อนรับจากนางแมวยั่วสวาททั้งหลาย ภายในมีลูกกรงรองรับแขกได้ 2-4 คน ภาพวาดอีโรติก และอุปกรณ์พิลึกพิลั่นเต็มไปหมด ทางด้าน Louise Blakeley Taylor ผู้จัดการคลับแห่งนี้ได้อธิบายว่า เซ็กส์คลับก็ไม่ต่างอะไรกับบาร์อื่นๆ ในอังกฤษ เพราะหน้าที่ของมันคือการทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ แต่หลังจากเวลา 5 ทุ่มเป็นต้นไป เมื่อบรรยากาศได้ที่ นางแมวของพวกเขาก็จะพาแขกไปยังห้องต่างๆ ที่แยกตัวออกไปจากส่วนกลางและปิดผ้าม่าน ภายในห้องนอนก็จะประกอบไปด้วยเตียง กำแพงนุ่มๆ หรือแม้แต่กรงขัง…
-
ชาวนิวยอร์กรวมใจ รุมตื๊บอันธพาลบนรถไฟฟ้า เพื่อช่วยเด็กที่กำลังโดนขู่ขโมยโทรศัพท์
แม้ว่าในโลกแห่งความเป็นจริงจะไม่มีซุปเปอร์ฮีโร่ไว้คอยช่วยเหลือผู้คน แต่หากเราร่วมมือกัน แม้แต่โจรร่างยักษ์ก็สามารถโดนโค่นได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับคลิปของอันธพาลร่างเบิ้มรายนี้ ที่ขึ้นมาบนรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กำลังฉกเอาโทรศัพท์มือถือและทรัพย์สินอื่นๆ จากเด็กวัยรุ่นไป แม้จะมีผู้โดยสารคนอื่นๆ ยืนรายล้อมตัวเขาอยู่ก็ตาม คลิปนี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Zaida Pugh ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา เผยให้เห็นชายอ้วนสวมใส่เสื้อสีดำ กำลังขู่กรรโชคทรัพย์กับวัยรุ่นคนหนึ่ง เสียงของเขาดังเกินกว่าที่ผู้โดยสารคนอื่นๆ จะเพิกเฉยได้ ผู้คนจึงเริ่มบอกให้เขาใจเย็นๆ และหยุดขโมยของวัยรุ่นคนนั้นซะ แต่ดูท่าแล้วเขาจะไม่ยอมหยุดง่ายๆ และนั่นทำให้บางคนทนไม่ไหว จากคลิปวิดีโอจะเห็น หญิงสาวคนหนึ่งเปิดฉากปาถาดสปาเก็ตตี้ใส่หน้าเข้า และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการปลดล็อคอะไรสักอย่าง ถัดจากนั้นไม่ถึงวินาที ผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็เข้ามาช่วยตะลุมบอนอันธพาลรายนี้อย่างหนักหน่วง ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่นี่เลย (ชมคลิปไม่ได้คลิกที่นี่) YEAH HE NEEDS TO BE ARRESTED. HE’S A DAMN BULLY AND FOR ALL OF THAT THE LITTLE BOY…
-
เด็กวัย 13 เที่ยวแต๊ะอั๋งสาวๆ จนคุณพ่อส่งลูกให้ตำรวจ แต่ชาวเน็ตกลับเห็นต่างกันไปนะ!?
หากลูกชายของคุณกลายเป็นคนที่มีนิสัยชอบแต๊ะอั๋งหรือลวนลามคนอื่น คุณจะทำยังไง? ถ้านึกไม่ออก ลองมาดูวิธีจัดการกับลูกในแบบของคุณพ่อคนนี้กัน เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanhaiist ได้รายงานว่ามีคลิปวิดีโอหนึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงในเครือข่ายสังคมออนไลน์อยู่ในขณะนี้ เป็นคลิปที่ถูกถ่ายได้จากสถานีรถไฟฟ้าในเมืองนานกิง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน คลิปวิดีโอเผยให้เห็นภาพของเด็กหนุ่มวัยราวๆ 13-15 ปี เที่ยวเดินไปมาภายในสถานี จากนั้นก็ใช้มือยื่นไปจับแข้งจับขาของหญิงสาวไปทั่ว แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันต่อมา มีรายงานผ่านเว็บไซต์ Weibo บอกว่านักแต๊ะอั๋งรุ่นเยาว์รายนี้ถูกจับได้โดยพ่อของเขาเอง ซึ่งพ่อของเขาก็ไม่รอช้า พาลูกชายไปส่งให้ถึงมือตำรวจด้วยตัวเอง หลังจากที่เรื่องนี้ถูกแชร์ออกไป ชาวเน็ตก็แสดงความชื่นชมต่อการกระทำของคนเป็นพ่อและต่อว่าลูกชายที่แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม Bluex “ขนาดอายุ 13 ยังมีพฤติกรรมลวนลามแบบนี้ ถ้าฮอร์โมนของเขาเต็มตัว การข่มขืนคงไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินไป” BasicRules “การแต๊ะอั๋งหรือลวนลามผู้หญิงเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และควรได้รับการลงโทษ ไม่ใช่การโยนพวกเขาเข้าตารางนะ แต่เป็นการลงโทษไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง” Warratone Ngernpramuan “ทำตัวเป็นภัยสังคม? ‘หัวใจคุณพ่อน่ากราบ’ มาก ถ้าได้ความเป็นสุภาพบุรุษจากพ่อมาสักครึ่งหนึ่ง เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น” Chiang Noonoy “ตีให้มือหัก..เดี๋ยวมันก็หาย”…
-
ภรรยาทำ ‘หนังสือเดินทางหาย’ หนุ่มอินเดียต้องไปฮันนีมูนคนเดียวแบบเศร้าๆ (เศร้าตรงไหน ฮร่า!!)
กลายเป็นเรื่องเศร้าปนฮาไปเลย เพราะเมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Mirror ได้เปิดเผยเรื่องราวของนาย Faizan Patel หนุ่มชาวอินเดียจากกรุงนิวเดลี ที่เพิ่งจะแต่งงานกับภรรยา Sana เมื่อช่วงเดือนธันวาคมปี 2015 ที่ผ่านมา พวกเขาวางแผนจะไปฮันนีมูนที่ประเทศกรีซและอิตาลี ในเดือนสิงหาคม แต่ก่อนจะออกเดินทางได้ไม่กี่วัน Sana ก็พบว่าเธอทำหนังสือเดินทางหาย หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ และพวกเขาไม่สามารถขอคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบินและแพ็คเกจที่พักใดๆ ได้แล้ว พวกเขาจึงตัดสินใจว่านาย Faizan ควรจะไปเที่ยวเพียงลำพัง…. ในวันเดินทาง Sana ยังได้มาส่งสามีของเธอที่สนามบิน ก่อนที่เขาจะออกเดินทางไป เขาได้เตรียมกระดาษที่ปริ้นรูปภาพของภรรยาติดตัวไปด้วย เพื่อจะได้ถ่ายภาพคู่ (แบบหลอกๆ) ตามสถานที่ต่างๆ ตลอดการเดินทาง นาย Faizan ให้สัมภาษณ์ว่าเขาคิดถึงภรรยามาก “ทริปนี้ถูกวางแผนโดยเธอทั้งหมดเลย ผมอยากให้เธอมาอยู่ข้างๆ ผมเหลือเกิน” เหลือเชื่อเลยว่าเรื่องนี้โด่งดังจนไปเข้าหูของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินเดียอย่าง Sushma Swaraj เขาเลยจะออกหนังสือเดินทางอีกฉบับให้ แต่น่าเศร้า.. เพราะยังไงแล้วมันก็ยังต้องรอวีซ่าอยู่ดี ทำให้เธอไม่สามารถไปร่วมทริปกับสามีได้ทันเวลา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะ ที่มีข่าวว่าคู่รักต้องแยกกันไปฮันนีมูนคนเดียว เพราะเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก็มีข่าวว่าหญิงสาวชาวปากีสถานต้องออกไปฮันนีมูนที่กรีซกับสามี แต่ฝ่ายชายดันทำวีซ่าไม่ผ่าน…
-
Fu Yuanhui นักกีฬาว่ายน้ำสาวสุดโก๊ะจากจีน ประกาศให้โลกรู้ ว่า “ฉันอยากมีแฟน!!”
กลายเป็นคนดังไปชั่วข้ามคืนเลย สำหรับ Fu Yuanhui นักว่ายน้ำสาวชาวจีนที่ร่าเริงสดใสจนคนทั่วโลกพูดถึง หลังจากที่จบการแข่งขันแล้ว เธอก็ได้เดินทางกลับไปยังประเทศจีนเพื่อเดินสายโชว์ตัวและออกรายการโทรทัศน์ต่างๆ ล่าสุดเธอได้ไปออกรายการ Champion Fun ของจีน เธอสารภาพออกสื่อว่าไม่เคยคบกับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลย และเธออยากจะมีแฟนมากๆ Fu Yuanhui ปรากฏตัวในรายการทีวีในชุดกระโปรงยาว เสื้อดำและรองเท้าส้นสูงดูแปลกตากว่าภาพที่เราเห็นเธอในโอลิมปิกที่ผ่านมา แต่ท่าทางบ๊องๆ ต๊องๆ ของเธอยังอยู่ครบถ้วนนะ เมื่อก้าวเข้ามาในรายการ พิธีกรได้เริ่มถามถึงเสื้อผ้าหน้าผมของเธอที่ดูแปลกตา เธอแอบขำนิดๆ แล้วบอกว่าหากเธอได้กลับไปสวมเสื้อวอร์มแบบเดิมเธอคงจะโผกอดพิธีกรสักฟอดนึง จากนั้นพิธีกรก็เริ่มถามถึงความสัมพันธ์ของเธอต่อ ซึ่งเธอบอกว่าไม่เคยผ่านชายคนไหนมาก่อนเลย ต่อมาพิธีกรได้ถามเธอว่ามีนักกีฬาว่ายน้ำในทีมคนไหนที่เธอชอบบ้างไหม? เธอเลยบอกว่า “แม้แต่คนที่ฮอตที่สุดในทีมก็ยังกลายเป็น ‘พี่ชาย’ ไปเลย หลังจากที่เราซ้อมด้วยกัน” “ฉันรู้สึกว่าผู้คนที่มีอายุไล่เลี่ยกับฉันจะดูไม่เป็นผู้ใหญ่พอ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจกับคนที่แก่กว่าในทีมว่ายน้ำของฉันหรอกนะ” Fu Yuanhui พูดถึงทัศนะคติที่มีต่อความรัก ตอนนี้สื่อต่างๆ ให้ความสนใจเธอเป็นอย่างมาก เธอจึงพยายามเน้นชัดกับทุกๆ คนว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอคือนักกีฬาและนั่นคือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของเธอ เธอไม่ต้องการเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในฐานะนักแสดงตลกหรือคนดังในโลกออนไลน์ แต่หวังว่าผู้คนจะให้ความสนใจไปที่ความสำเร็จในการว่ายน้ำของเธอ ชมคลิปที่เธอไปออกรายการโทรทัศน์ได้ที่ด้านล่างเลย แม้จะฟังไม่ออกทั้งหมดแต่ก็รับรู้ในความโก๊ะกังของเธอล่ะนะ ดูไปดูมาเธอนี่โด่งดังกว่านักกีฬาที่ได้เหรียญทองบางคนอีกนะเนี๊ยะ ที่มา shanghaiist
-
ตำรวจเมืองผู้ดี ประกาศตามหาฮีโร่ผู้เสี่ยงชีวิต กระโดดลงไปช่วยคนที่ตกรางรถไฟจนรอดตาย
ทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศตามหาใครก็ตาม ดูเหมือนคนๆ นั้นจะต้องเจอปัญหาใหญ่เข้าให้แล้ว แต่ก็มีบางกรณีเหมือนกันนะ ที่ตำรวจต้องการตามตัวเพื่อสรรเสริญถึงความดีที่เขาคนนั้นได้ทำเอาไว้ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในเมือง ท็อตแนม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นภาพของชายวัย 47 ปีที่จู่ๆ เกิดสะดุดทางเดินจนร่วงลงไปบนรางรถไฟ สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนในบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก แต่ในระหว่างที่ผู้คนกำลังมุงดูและไม่มีใครกล้าลงไปช่วยเพราะเกรงว่ารถไฟกำลังจะเทียบชานชาลาได้อีกไม่กี่อึดใจ กลับมีชายหนุ่มคนหนึ่งตัดสินใจกระโดดลงไปข้างล่างเพื่อช่วยให้ชายคนนั้นกลับขึ้นมาด้านบนอย่างปลอดภัย จากนั้นไม่นานทีมแพทย์ก็เข้ามาช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่จะนำตัวคุณลุงส่งโรงพยาบาลต่อไป ตามรายงานบอกว่าทั้งคู่ปลอดภัยดีและไม่ได้ถูกไฟฟ้าช็อต เพราะเนื่องจากไปพวกเขาไม่ได้ไปโดนเข้ากับรางที่ติดกับกำแพงที่มีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ วีรกรรมของฮีโร่คนนี้ได้รับการยกย่องจากผู้คนในบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก ทางด้านผู้กำกับการตำรวจขนส่ง Chris Horton ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “การลงไปบนรางรถไฟถือเป็นเรื่องที่อันตรายสุดๆ เลย แต่ชายคนนี้กล้าลงไป ขอยกย่องเลย” “ในนามของกรมตำรวจขนส่ง ผมอยากจะสรรเสริญชายคนนี้สำหรับการกระทำที่กล้าหาญ การตัดสินใจที่รวดเร็วที่ช่วยชีวิตของชายคนนั้นไว้ได้” แถมยังปิดท้ายด้วยว่าตอนนี้พวกเขาอยากจะเจอชายคนนี้มากๆ เพื่อที่จะได้พูดคุยและรู้จักกับชายผู้กล้าคนนี้ ไม่ว่าใครก็กลายเป็นฮีโร่ได้ แม้จะไม่ได้สวมชุดแบบซุปเปอร์ฮีโร่ก็ตาม ที่มา metro
-
พ่อพระบังเกิด…พลเมืองดีช่วยเข็นรถสกู๊ตเตอร์ให้กับผู้พิการ ท่ามกลางพายุฝนโหมกระหน่ำ
ในยุคที่เกิดเหตุก่อจลาจล การก่อการร้าย และอะไรๆ ก็ดูจะไม่เป็นมิตรกับเราสักเท่าไหร่ แต่คุณก็อย่าเพิ่งหมดศรัทธากับมนุษย์ไปนะ เพราะคนดีๆ ยังมีอยู่อีกเยอะล่ะ วันนี้ #เหมียวฟิ้น จะพาทุกคนไปดูคลิปการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ชวนอิ่มเอมใจ จากช่องยูทูบ Penelope Derksen คำอธิบายคลิปบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา คลิปเผยให้เห็นภาพของชายคนหนึ่งกำลังขี่สกู๊ตเตอร์สำหรับคนพิการและชราไปตามถนน แต่เนื่องจากถนนมีความลาดชันมาก ทำให้เขาไม่สามารถขึ้นไปได้โดยง่าย ประกอบกับในตอนนั้นมีพายุฝนโหมกระหน่ำลงมา ทำให้เขาติดอยู่ตรงถนนไม่สามารถขยับไปไหนมาไหนได้ แต่โชคดีที่มีพลเมืองดีขับรถผ่านมา และจอดเพื่อลงไปช่วยเข็นสกู๊ตเตอร์ให้กับชายคนนั้นเป็นเวลาประมาณ 5 นาที ทำให้ร่างกายของเขาเปียกฝนไปด้วย พร้อมกันนี้เจ้าของคลิปยังอธิบายเพิ่มเติมว่า “แค่อยากจะขอบคุณในการตอบสนองที่รวดเร็วของเขา เขาช่วยผู้ชายคนนั้นเสร็จก่อนที่ผมจะใส่รองเท้าเสร็จซะอีก” . ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย คลิปนี้ได้รับคำวิจารณ์ได้แง่ต่างๆ มากมาย ทั้งชื่นชมในความมีน้ำใจ และคำตำหนิที่บอกว่าคนถ่ายคลิปควรจะออกไปช่วยพวกเขา แทนที่จะเอาแต่ถ่ายคลิปอย่างเดียว Lorita Gainford “ขอบคุณสำหรับความเป็นสุภาพบุรุษที่ใส่ใจกับคนพิการด้วย” Don Orchard “ความเมตตาไม่ได้มีเกิดขึ้นกับทุกๆ คน มีแค่ในบางคนเท่านั้นแหละ และมีน้อยคนที่จะมีความเป็นสุภาพบุรุษ” Abdel Hegazi “ผมมั่นใจว่าคนอีกเป็นพันน่าจะคิดแบบเดียวกับผม คือถ้าคนที่บันทึกคลิปนี้ยื่นมือเข้าไปช่วย…
-
โอ้วว๊าว!! บ.ต่างชาติคิดค้น “เครื่องปั่นไฟฟ้าพลังน้ำ” เพียงนำไปวางในกระแสน้ำ ก็สร้างกระแสไฟได้แล้ว
ลองจินตนาการว่าคุณเป็นคนที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนตามต่างจังหวัดหรือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แล้วจู่ๆ แบตเตอรี่มือถือดันหมดระหว่างทาง นั่นคงจะเป็นฝันร้ายสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป หากคุณมีเครื่องปั่นไฟฟ้าพลังน้ำ!! เมื่อไม่นานมานี้บริษัท Enomad ในกรุงลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกแบบและคิดค้นเครื่องปั่นไฟจากพลังน้ำขนาดเล็ก ที่มีลักษณะคล้ายกับกระบอกน้ำพกพาง่าย . ขั้นตอนการใช้งานมันก็เพียงแค่เปิดฝา กางใบพัดออกมา แล้วนำไปวางไว้ในแม่น้ำ ลำธาร หรือที่ไหนก็ได้ที่มีกระแสน้ำไหลผ่านตลอดเวลาเพื่อให้ใบพัดหมุน เท่านี้ก็ใช้การได้แล้ว ในการชาร์จแต่ละครั้งจะสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 2.5 – 5 วัตต์ สามารถใช้ชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้นานถึง 5 ชั่วโมง ชาร์จมือถือได้ 3 เครื่อง กล้อง GoPro หรือแม้แต่ Tablet ได้เร็วกว่าปกติถึง 2 เท่า ไม่ว่าคุณจะไปเจอกับแหล่งน้ำที่ไหนก็ตาม คุณสามารถชาร์จมันได้ทันที (เจอแหล่งน้ำเท่ากับเจอไฟฟ้าเลยนะเออ) ลองชมคลิปสาธิตการทำงานได้ที่ด้านล่างเลย ถือเป็นอีกหนึ่งพลังงานไฟฟ้าที่น่าสนใจมากทีเดียว หากใครสนใจอยากจะสนับสนุนหรือหาซื้อเครื่องปั่นไฟแบบนี้มาไว้ที่บ้านสักตัวล่ะก็ เขาสนนราคาอยู่ที่เครื่องละประมาณ 6 พันบาท…
-
เพราะสงครามน่าเศร้ากว่าที่คิด… รวม 3 เรื่องราวของเด็กชาวซีเรีย ในแง่มุมที่โลกควรสนใจ
ถือเป็นสงครามที่ก่อตัวมาอย่างยาวนานและต่อเนื่องจริงๆ สำหรับสงครามของกลุ่มก่อการร้าย ISIS ในประเทศซีเรีย และมันก็ได้แผ่ขยายสร้างความเสียหายให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์นับไม่ถ้วน ในช่วงรอบเดือนที่ผ่านมาก็มีข่าวและเหตุการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับผู้คนในซีเรียออกมาให้เราได้เห็นผ่านหลากหลายเหตุการณ์ วันนี้ #เหมียวฟิ้น เลยขอรวบรวมเอาเหตุการณ์เหล่านั้นมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้เห็นผลกระทบในมุมมองต่างๆ ของสงครามกัน 1. เด็กชาวซีเรียถือภาพโปเกม่อนเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนทั่วโลก ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กระแสของเกม Pokemon Go โด่งดังมาก จนผู้คนให้ความสนใจออกตามหาโปเกม่อนไปทั่วโลก และเพื่อเป็นการดึงความสนใจของผู้คน สำนักงานสื่อแห่งกองกำลังปฏิวัติซีเรียจึงให้เด็กๆ ชาวซีเรียถือภาพโปเกมอนที่มีข้อความว่า “ได้โปรดช่วยเหลือพวกเราบ้าง” เพื่อให้คนหันมาสนใจพวกเขาเหมือนกับที่ให้ความสนใจเกมนั่นเอง . 2. สาวน้อยจากซีเรียเป็นตัวแทนนักว่ายน้ำโอลิมปิกไร้สัญชาติ สาวน้อย Yusra Mardini หนีออกจากซีเรียพร้อมพี่สาว เนื่องจากมีสงครามปะทุขึ้น เธอและพี่สาวนั่งเรือออกไปยังเกาะ Lesbos ของประเทศกรีซและช่วยชีวิตชาวซีเรียอีก 20 คน ในระหว่างเดินทาง เครื่องยนต์ของเรือเกิดเสียหาย ทำให้เธอและพี่สาวต้องกระโดดลงไปช่วยดันเรือจนถึงเกาะในที่สุด จากนั้นพวกเธอก็เดินทางไปกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีเพื่อฝึกซ้อมร่างกาย โดยมีพ่อแม่ของเธอตามไปด้วยอย่างปลอดภัย นอกจากนี้เธอก็ยังได้รับทุนนักกีฬาที่มีไว้เพื่อสนับสนุนนักกีฬาโอลิมปิก (อ่านข่าวของเธอเต็มๆ ได้ที่ลิงก์นี้เลยนะ) …