Tag: สัตว์
-
ครอบครัวอินเดียช่วยเหลือ “สัตว์ป่ากำพร้า” พร้อมเปลี่ยนบ้านตัวเองกลายเป็นศูนย์ช่วยเหลือ
เมื่อพูดถึงเหล่าสัตว์ที่กำพร้าพ่อแม่แล้ว นอกจากหมาแมวที่เราสามารถพบได้ปกติ เหล่าสัตว์ป่ามากมายก็ตกอยู่ในสถานะนี้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมาจากผลของการถูกล่าโดนเหล่านายพรานนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ครอบครัวของ Dr. Prakash Amte จึงจัดการเปลี่ยนบ้านของตัวเองให้กลายเป็นศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าทั้งหลายที่กำพร้า Dr. Prakash เล่าว่าเมื่อช่วงต้นปี 70 เขาและภรรยาได้ไปเดินเที่ยวกันในป่าของเขต Gadchiroli ซึ่งเขาได้เจอกับชนพื้นเมืองในเขตนั้นกำลังหิ้วแม่ลิงที่พวกเขาล่ามาได้กลับไปยังหมู่บ้าน ในขณะเดียวกันเขาก็สังเกตเห็นว่าลูกลิงได้เกาะบนศพของแม่และพยายามจะดูดนม ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้เขาใจสลาย เมื่อเป็นอย่างนั้น Dr. Prakash ไม่ยอมที่ให้ชนเผ่าฆ่าลูกลิงแน่ๆ เขาจึงยื่นมือเข้าไปช่วยและขอรับเลี้ยงดูลูกลิงตัวดังกล่าวไว้ แน่นอนว่าเขาเข้าใจดีว่าคนในชนเผ่าไม่ได้ฆ่าสัตว์เพื่อความสนุก แต่พวกเขาทำเพื่อเลี้ยงปากท้อง เขาจึงเสนอข้าวกับเสื้อผ้าเพื่อแลกชีวิตของลูกลิงและนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ลูกลิงถูกตั้งชื่อว่า Babli และเลี้ยงดูมานับแต่นั้น ซึ่งลูกลิงก็ดูจะชอบบ้านหลังใหม่ของมันมาก นอกจากนั้นมันยังสามารถเข้ากับทุกคนในบ้านรวมถึงสุนัขที่เลี้ยงไว้ได้เป็นอย่างดีด้วย จากจุดนี้นั่นเอง Dr. Prakash จึงตัดสินใจได้ว่าเขาจะเข้าไปช่วยเหล่าสัตว์กำพร้าจากชนเผ่า หรือนักล่าคนอื่นๆ โดยการแนะนำเหล่าชนเผ่าให้อย่าฆ่าตัวลูก เพราะมันไม่คุ้มจะเป็นอาหารหรอก เขาจะเป็นคนนำพวกมันกลับมาเลี้ยงเองเพื่อแลกกับพืชผลและยาเป็นการตอบแทน ไม่นานนักบ้านของเขาก็เต็มไปด้วยสัตว์กำพร้ามากมายที่เขาเฝ้าเลี้ยงมาแต่พวกมันยังเด็ก ซึ่งมันก็มีตั้งแต่กระรอกตัวน้อยๆ ไปยังหมี เสือดำ รวมถึงงูอินเดียกับจระเข้ก็มีนะ แบบเลี้ยงอยู่ด้วยกันพี่น้องสุดๆ โดยตัว Dr. Prakash บอกว่าเขายินดีรับสัตว์กำพร้าทุกชนิดไม่มีเกี่ยง ล่าสุดได้มีการนับจำนวนสัตว์ที่เขาเลี้ยงไว้ ซึ่งมีรวมๆ…
-
ตัลร๊ากกก!! 19 ภาพยืนยันว่า ‘โรงพยาบาลสัตว์’ เป็นสถานที่ทำงานน่ารักสุดในโลกแล้ว
การได้ทำอาชีพสัตวแพทย์และคอยดูแลเหล่าสัตว์เลี้ยงตัวน้อยในยามเจ็บไข้ได้ป่วย ถือเป็นความฝันของใครหลายๆ คนที่รักสัตว์เลยนะ และนอกจากจะได้รักษาสัตว์น่ารักๆ แล้ว เหล่าสัตวแพทย์ยังมีเรื่องราวดีๆ มากกว่าที่คุณคิดอีกนะ วันนี้แอดเหมียวได้รวบรวมเอา 19 ภาพน่ารักๆ ที่ช่วยยืนยันกับพวกเราว่าการเป็นสัตวแพทย์นั้นมีข้อดีกว่าแค่ได้เจอสัตว์เท่านั้น รับรองว่าแต่ละภาพนั้นคุณจะต้องร้องว่า “โอ้ววววว” 1. เจ้าสุนัขใจกล้า มาให้รักษาซะดีๆ 2. สัตวแพทย์ในไต้หวันถ่ายเซลฟี่กับเจ้าเหมียว 3. สัตวแพทย์กำลังปลอบปะโลมเจ้าหมาอยู่ 4. สัตวแพทย์หล่อและเจ้ากะรอกน้อย 5. นี่คือเหตุผลว่าทำไมชายคนนี้ถึงรักการเป็นสัตวแพทย์ 6. เจ้าหมาขอบคุณสัตวแพทย์ แผล่บๆ 7. เจ้าเหมียวนอนอุ่นอยู่ในกระเป๋าของสัตวแพทย์ น่ารักม๊าก 8. เจ้าเหมียว “เชลดอน” เองก็ชอบอยู่ในกระเป๋าเหมือนกัน 9. แอชตัน เจ้าเหมียวกระเป๋า 10. เจ้าเหมียวตัวนี้เดินทางไปทั่วโรงพยาบาล พร้อมกับกระเป๋าเสื้อของสัตวแพทย์เลย 11. นี่คือใบหน้าที่รู้สึกดีขึ้นหลังจากได้รับการรักษาจากสัตวแพทย์ 12.…
-
ผู้เชี่ยวชาญการนอน ระบุถึงบุคคล 4 ประเภท คุณเป็นประเภทไหน และควรจัดตารางชีวิตยังไง…
วันนี้เราจะขอทำตัวแบบมี ‘จังหวะชีวภาพ’ (Chronobiology) กันบ้าง เมื่อไหร่ที่พูดถึงเรื่องการนอนหลับ เราจะไม่ขอทำเป็นเรื่องเล่นๆ เพราะคนขี้เกียจมักจะรู้ดีว่า ‘การนอนหลับ’ คือสวรรค์ที่สุดแล้ว นาฬิกาชีวิตภายในร่างกายของเรานั้น มีส่วนสำคัญในการส่งผลถึงการปฏิบัติกิจวัตรต่างๆ ในแต่ละวันของเราด้วย ถ้าหากว่านอนผิดเวลากับนาฬิกาชีวิต ก็อาจจะส่งผลทำให้อีกครั้งที่ตื่นขึ้นมามีอาการแปรปรวนอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทางด้านผู้เชี่ยวชาญด้านเวลาชีวิต Dr. Michael Breus ก็ได้แบ่งประเภทของการลักษณะนิสัยการนอนหลับไว้เป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ เราลองมาดูกันว่าคุณเป็นประเภทไหน และเราควรจะจัดตารางชีวิตยังไงให้ดีต่อตัวเราเองมากที่สุด 1. โลมา ลักษณะนิสัยของคนที่มีพฤติกรรมในกลุ่มโลมาก็คือ พวกเขามักจะนอนหลับน้อย และมีปัญหากับอาการนอนไม่หลับอยู่เสมอ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็ได้แนะว่าช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00 คนกลุ่มนี้ควรจะปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด และรีบเข้านอนตั้งแต่ช่วง 23.30 ส่วนเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการตื่นนอนคือช่วง 6.30 น. 2. สิงโต สำหรับใครที่มีลักษณะตื่นนอนเช้าพร้อมกับพลังงานที่เต็มเปี่ยม แต่ในช่วงบ่ายแก่ๆ กลับรู้สึกหมดแรงอย่างหนัก ขอบอกเลยว่าคุณถูกจัดอยู่ในกลุ่มสิงโต และเพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้มีเรี่ยวแรงในการทำงานตลอดวัน ผู้เชี่ยวชาญแนะว่าเราควรเข้านอนตั้งแต่ 22.30 และตื่นนอนให้ไวในช่วงเช้ามืดประมาณ 5.30 น. 3. หมี (คนส่วนใหญ่)…
-
เพราะเจ้าตูบก็คือหนึ่งในสมาชิกครอบครัว พ่อหนุ่มคนนี้ก็เลยสร้างห้องพิเศษให้มันซะเลย!!
ขึ้นชื่อว่าสัตว์เลี้ยงนั้น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประเภทไหนสายพันธุ์อะไร ถ้าเราผูกพันธ์และรักมันมากๆ พวกมันก็จะเปรียบได้ดั่งสมาชิกครอบครัวของเราคนหนึ่ง ฉะนั้นการใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ด้วยเหตุนี้น้องชายของ @Al_Chris16 ที่คิดแบบเดียวกัน ก็เลยจัดการสร้างห้องพักส่วนตัวให้กับสุนัขของเขา เพราะเขาเลงเห็นว่ามันก็เป็นคนในครอบครัวเช่นกัน มันควรจะมีห้องเป็นหลักเป็นแหล่งของตัวเอง โฉมหน้าของเจ้าตูบผู้เป็นเจ้าของห้องในวันนี้ ห้องดังกล่าวนั้นถูกสร้างขึ้นอย่างเรียบง่ายภายใต้พื้นที่บันไดที่ว่างอยู่ โดยภายในห้องก็จะตกแต่งด้วยกรอบรูปของมะหมาสุดน่ารัก และที่นอนสุดสบายให้กับเจ้าตูบของเขานั่นเอง จากพื้นที่ว่างๆ ที่ไม่น่าใช้อะไรได้ เจ้าของบ้านก็เลยจัดการเปลี่ยนมันซะ!! เป็นไงเริ่มดูดีแล้วใช่ไหมล๊าาา เก็บรายละเอียดนิดๆ หน่อยๆ เท่านี้ลูกพี่ก็เข้าไปอยู่ได้สบายๆ ถ้ากลัวมืดก็มีไฟให้พร้อมเลยนะ ไม่ต้องเป็นห่วง สุดท้ายแล้วหลังจากเรื่องราวการ DIY ห้องนี้ได้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็ต่างมาแสดงความคิดเห็นมากมาย บางคนถึงกับอิจฉาว่าเจ้าตูบนี้มีห้องนอนที่ดูดีกว่าตัวเองอีก ก็ว่ากันไป ฮร่าๆ ที่มา boredpanda
-
20 ภาพท่าทางฮาๆ ของเหล่าสัตว์โลกน้อยใหญ่ เมื่อพวกมัน “ได้ทำอะไรเป็นครั้งแรก”
ทุกอย่างบนโลกนั้น ล้วนเกิดมาพร้อมกับประสบการณ์สดใหม่ การได้เจอหรือทำอะไรแปลกๆ จึงถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกเสมอ และด้วยการที่เป็นครั้งแรกเราก็มักจะมีรีแอคชั่นออกมา ซึ่งมันจะน่ารักหรือตลก ก็ขึ้นอยู่กับว่าเจออะไรมา ทว่าประสบการณ์แรกนั้นไม่ได้เกิดเฉพาะคนเท่านั้น เพราะเหล่าสัตว์ชนิดต่างๆ ก็ล้วนมีประสบการณ์ครั้งแรกเช่นกัน และรีแอคชั่นของพวกมันก็น่ารักปนฮามากๆ เลยล่ะ เจ้าตูบเมื่อเห็นลูกแมวเหมียวครั้งแรก เจ้าฮัสกี้ที่เพิ่งจะเคยเห็นจิงโจ้เป็นครั้งแรก หน้านี่เหวอไปเลย เจ้าเหมียวที่เพิ่งเคยจะเจอหิมะครั้งแรก ถึงกับร้องอู้วว้าววว ฟินสุดๆ เจ้าเหมียวตัวนี้เพิ่งจะเคยเห็นเด็กแรกเกิดเป็นครั้งแรก เหวอแดรกเลย เจ้าหมีขาวที่เพิ่งจะได้ลิ้มรสของหิมะ น่ารักสุดๆ อู๊วๆ เมื่อเจ้าเหมียวทั้งสามรู้ว่าเจ้านายแอบซื้อของเล่นมาใหม่ ก็เลยขอแอบดูสักหน่อย เจ้าหมาตัวนี้เพิ่งถูกรับเลี้ยงมา และนี่คือโฉมหน้าของมันหลังจากได้สัมผัสกับผ้านุ่มๆ เจ้าเหมียวตัวนี้เพิ่งจะเคยออกมารับลมเย็นเป็นครั้งแรก เจ้าของภาพบอกว่า แมวตัวนี้เพิ่งจะเคยเห็นไฟต้นคริสต์มาสเป็นครั้งแรก ดูตาสิ ลุกวาวสุดๆ ลูกแมวแรกเกิด หลังเพิ่งได้รับแสงแดดเป็นครั้งแรก โอ้วว้าวว เจ้าแมวขนฟูตัวนี้เพิ่งเคยจะได้เล่นหิมะ งานนี้ก็เลยกระโดดเล่นกันมันเลย สีหน้าของแมวสองตัวที่เพิ่งเคยเห็นพัดลมหมุน ดูหน้าแปลกใจสุดๆ เลย ฮร่าๆ เจ้าดัลเมเชี่ยนตัวนี้เพิ่งจะเคยขึ้นรถไฟใต้ดิน…
-
รู้จักกับเจ้ากิ้งก่าคาเมเลี่ยนสุดน่ารัก พร้อมกับอาวุธน้อยคู่ใจ เตรียมตัวออกไปกู้โลก!!
อย่างที่พวกเรารู้กันพวกกิ้งก่าคาเมเลี่ยนนั้นสามารถเปลี่ยนสีให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ แต่เมื่อเร็วๆ นี้พวกมันกลับค้นพบความสามารถใหม่ของตัวเองแล้วนั่นก็คือนอกจากเปลี่ยนสีแล้วพวกมันยังสามารถเปลี่ยนร่างได้ด้วย!! คุณ Emma Ward ศิลปินจากรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แบ่งบันรูปภาพของเจ้ากิ้งก่าคาเมเลี่ยนของเธอ โดยศิลปินท่านนี้ให้เจ้า Olive กิ้งก่าของเธอถืออาวุธต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดาบ ฆ้อน หรือขวาน ซึ่งดูเหมือนเจ้ากิ้งก่าก็จะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีซะด้วย เจ้า Olive กับอาวุธคู่ใจ ออกไปล่ามังกรกันฮะ!! หลังจากที่ภาพของเจ้ากิ้งก่าถูกเผยแพร่ทางทวิตเตอร์ ก็ได้มีผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก มีผู้กดถูกใจถึง 400,000 ครั้งและแชร์รูปภาพของมันอีกกว่า 170,000 ครั้งเลยทีเดียว งานนี้เจ้า Olive เลยกลายเป็นเน็ตไอดอลไปเลย “มันชอบถือทุกอย่างที่เรายื่นให้เอาไว้ที่มือ และฉันก็คิดว่าถ้าหากลองให้มันถืออาวุธของเล่นน่าจะเป็นไอเดียที่ดีเหมือนกัน” ศิลปินสาวกล่าว ตอนนี้เจ้า Olive อายุได้ 2 ปีแล้ว โดยทั้งคู่พบกันครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนปี 2016 ในร้านขายสัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่งในเมืองดีทรอยต์ และตั้งแต่นั้นมาคุณ Emma และเจ้า Olive ก็กลายมาเป็นคู่ซี้กัน แต่นอกจากเจ้ากิ้งก่าแล้ว ชาวเน็ตท่านอื่นๆ ก็ได้โพสต์ภาพของเจ้ากระรอกบินที่อยากจะเป็นฮีโร่กับเค้าเหมือนกัน!! ไปปกป้องเมืองกันเพื่อน!! . เทพเจ้าสายฟ้าก็มานะเออ!! …
-
ใครจะเชื่อว่าหญิงมือเป็น “อัมพาต” จะหายขาด เพียงเพราะรับเลี้ยงกระต่าย 2 ตัว!!
หญิงสาวคนหนึ่งบังเอิญไปเจอประกาศหาคนรับเลี้ยงกระต่ายสองตัวจาก RSPCA แน่นอนว่าวินาทีแรกเธอรู้สึกอยากเลี้ยงพวกมันทันที แต่ว่าเธอก็กังวลว่าเธอจะทำมันได้ไม่ดี เพราะมือของเธอเป็นอัมพาตนั่นเอง Marley-Belle Quaid เจ้าของเรื่องราวได้เล่าสาเหตุการเป็นอัมพาตของเธอว่า เธอเข้ารับการผ่าตัดบริเวณข้อมือเพื่อช่วยชีวิตตัวเองแต่ก็แลกมากับการที่มือกลายเป็นอัมพาต ซึ่งเธอได้ลองหลากหลายวิธีแล้วทั้งการบำบัดและรักษาแบบต่างๆ มันก็ไม่มีวิธีไหนที่ทำให้มือของเธอกลับมาเป็นปกติได้เลย เจ้ากระต่ายสองตัวที่เธอไปเจอบนโพสต์ของ RSPCA จนกระทั่งเธอตัดสินใจรับเลี้ยงกระต่ายกำพร้าสองตัว แม้เธอจะหวั่นว่าจะดูแลมันได้ไม่ดีก็ตาม แต่เธอก็บอกว่าเธอชอบพวกมันทั้งสองตัวตั้งแต่แรกเห็นแล้ว ฉะนั้นเธอจึงคิดว่าเธอต้องทำมันให้ได้!! เจ้ากระต่ายสองตัวนั้นมีชื่อว่า Woodstock และ Wilfred ซึ่งพวกมันต้องการดูแลขนและสุขภาพที่หนักหนาพอสมควร และด้าน Marley ที่เป็นอัมพาตก็ต้องประสบปัญหาในการฝืนดูแลพวกมันเช่นกัน ทว่านั้นก็ไม่ทำให้เธอยอมแพ้ที่จะดูแลเด็กๆ ของเธอแต่อย่างใด พวกมันเป็นกระต่ายตัวใหญ่ยักษ์ขนฟู ต้องได้รับการดูแลอยู่เสมอ ซึ่งมันยากมากสำหรับ Marley แต่เชื่อไหมว่าหลังจากเวลาผ่านไป 6 เดือนนับตั้งแต่เธอฝืนเลี้ยงเจ้ากระต่ายทั้งสอง มือของเธอก็เริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง จากมือที่ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้เธอสามารถที่จะจับกรรไกรและหวีเพื่อดูแลขนให้กับพวกมันได้แล้ว ตัวใหญ่ยักษ์น่ากอดสุดๆ เมื่อเธอไปเล่าเรื่องนี้ให้กับแพทย์ที่ดูแลเธอฟัง ทีมแพทย์ก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ มือของเธอหายได้เพราะการเลี้ยงกระต่ายสองตัว ยังไงก็ตามชีวิตของ Marley ก็กลับมาดีอีกครั้ง เธอถึงกับสร้างห้องให้ลูกรักทั้งสองแยกต่างหากเลยล่ะ งานนี้ต้องขอบคุณเจ้า Woodstock และ Wilfred มากๆ เลยนะเนี่ย ยู้วหู้ววว กอดเต็มไม้เต็มมือสุดๆ…
-
เผยวินาทีระทึก หญิงชาวอินเดียถูก “หมู” รุมทำร้ายกลางถนน เจ็บหนักถึงขั้นหามส่งโรงพยาบาล…
หมูอู๊ดอู๊ด สัตว์ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีจากการที่นำมันมาเป็นอาหาร และเป็นสัตว์ที่สามารถพบเห็นกันได้ทั่วไปจ ากรูปลักษณ์ภายนอกที่อ้วนกลมดูน่ารัก และด้วยนิสัยที่เหมือนจะขี้เกียจไปนิด ทำให้คิดว่าหมูไม่ได้เป็นสัตว์ที่มีความดุร้าย แต่ทว่าเหตุการณ์นี้จะทำให้เราได้เห็นอีกด้านของหมูแบบที่ไม่เคยคิดมาก่อนเลย เมื่อมีคลิปวิดีโอจับภาพผู้หญิงโดนเจ้าหมูสองตัวเข้ารุมทำร้ายกลางถนน จนเธอถึงกับต้องลงไปนอนกองกับพื้นในขณะที่พวกมันรุมกัดเข้าที่ศีรษะและแขนของเธอ เธอคนนั้นมีชื่อว่า Bibi Jan ที่ต้องลงไปนอนกองอยู่กับพื้นจากการโจมตีของหมูตัวแรก และถูกอีกตัวตามมาซ้ำในทันที เพราะเกิดจากสัญชาตญาณในการปกป้องลูกน้อยของมัน ที่จะสังเกตเห็นได้ในตอนเริ่มคลิปวิดีโอดังกล่าว คลิปวิดีโอที่เธอถูกเจ้าหมูทำร้าย หลังจากเกิดเหตุเพียงไม่นาน ผู้คนก็พยายามเข้ามาช่วยเหลือเธอ บ้างก็เอาผ้าเช็ดตัวมาสะบัดไล่พวกมัน และก็ได้มีชายสองคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาลงจากรถมาขว้างหินกันพวกมันให้ออกไป ภายหลังเธอก็ได้ถูกส่งโรงพยาบาลในเมือง Kavali ประเทศอินเดีย เพื่อรักษาบาดแผลที่ถูกกัดตรงใบหน้าและแขนของเธอ ยิ่งไปกว่านั้นในพื้นที่ดังกล่าว นับเป็นครั้งที่สามในหนึ่งสัปดาห์ที่มีคนถูกเจ้าหมูโจมตี… โดยก่อนหน้านี้คือเด็กวัย 3 ขวบที่โดนสัตว์ป่าทำร้าย และคุณครูที่ถูกพาไปโรงพยาบาล โดยทุกคนเชื่อว่าเกิดจากเจ้าหมูตัวเดียวกันที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ความป่าเถื่อนที่เกิดขึ้นนั้น อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุที่เข้าไปกระตุ้นสัญชาตญาณของมัน เราก็คงต้องระวังสิ่งรอบตัวกันบ้างเพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นได้อีก ซึ่งเรื่องนี้คงทำให้บางคนต้องมองว่ามันไม่ได้น่ารักเหมือนที่เราคิดกันมาก่อนซะแล้วล่ะ แต่หมูน้อยยังไงก็ดูน่ารักอยู่ดีนะ ที่มา: metro
-
เมื่อเหมียวอยู่กับมนุษย์มากไป เกิดกลายพันธุ์เป็น ‘เหมียวขางอก’ ยืดยาวมีรองเท้าใส่ด้วย!?
การสร้างเอกลักษณ์ให้กับสิ่งต่างๆ รอบตัวคงจะเป็นเรื่องปกติเหมือนกับการที่ได้มีผู้คนออกมาสร้างเอกลักษณ์ให้กับเจ้าเหมียวให้มีความโดดเด่นแต่ก็แปลกตาจนบางทีก็ไม่สามารถอธิบายความรู้สึกแรกที่เห็นพวกมันในสภาพนี้ว่าอย่างไรดีเลย เมื่อมนุษย์ให้พวกมันใส่กางเกงยางยืดที่ไม่ได้มีไว้สำหรับแมว แต่มีไว้สำหรับคนเนี่ยแหละ แถมเพิ่มเติมด้วยรองเท้าเพิ่มความเป็นมนุษย์เข้าไปอีกขั้น ทำให้ภาพที่ออกมาดูพิลึกแปลกๆ จะว่าน่ารักหรือไม่นั้นก็พูดได้ยากเพราะสิ่งที่เห็นไม่รู้ว่าจะเรียกเป็นฝันร้าย หรือตัวละครในการ์ตูนกันแน่… ท่านั่งชิลล์ไปมั้ย เจ้าเหมียวในแต่ละท่วงท่านั้นก็มีความพิสดารแตกต่างกันไป แล้วแต่ว่าใครจะดีไซน์ออกมาแบบไหนกันบ้าง ขาเล็กงี้จะมีเรี่ยวแรงมั้ยล่ะเนี่ย ไม่รู้ไปโกรธใครมา ถ้ายืนได้ก็คงจะสูงเกิ๊นนน นอนกินที่ไปหน่อยมั้ย ไขว้ขาสักเล็กน้อย แต่อันนี้ก็ไขว้เยอะไปหน่อย นี่คือเป็นขาพอสูงเลยสะโพกไปก็หัวเลยหรอ แมวน้อยน่ารัก สีสันโดนใจ จากกระแสที่เกิดขึ้นนั้นก็ได้มีความคิดเห็นต่างๆ ออกมามากมาย ทั้งที่คิดว่าตลกดีและรู้สึกว่าก็ไม่ได้อะไร หากใครชื่นชอบหรือมีความคิดเห็นกันว่าไงก็สามารถแชร์กันในคอมเม้นท์ได้นะจ๊ะ ที่มา: thedodo
-
เผยโฉมหน้าสัตว์โลกตัวจริง ผู้เป็นต้นแบบของเหล่า ‘โปเกม่อน’ ที่เราคุ้นเคยกันดี
เคยสงสัยกันมั้ยว่า เจ้าพวกโปเกม่อนทั้งหลายในการ์ตูน ที่มีจำนวนมากมาย หน้าตาหลากหลายรูปแบบ และความสามารถ มันจะมีที่มาจากไหนกันบ้างนะ? ดังนั้น #เหมียวบ็อบ ขอพาไปรู้จักกับสัตว์โลกพวกนี้ ที่มันเป็นต้นแบบของโปเกม่อนสุดแสนจะน่ารัก ที่เราต่างรู้จักกันดี เอ้าาา รีรออะไรกันอยู่ ไปดูกันเล๊ยยยย… 1. เจ้าแซนด์แพน ที่แท้แล้วก็มาจากเจ้าตัวนิ่มนี่เอง 2. เนียวโรโมะท้องกลมน่ารัก มีที่มาจากลูกอ๊อดสายพันธุ์หนึ่ง ที่มีท้องกลมๆเหมือนกันเด๊ะ 3. เลิฟคัส โปเกม่อนปลารูปหัวใจ ได้แรงบันดาลใจมาจากปลาหมอตาล หรือที่เรียกันว่าปลาจูบ 4. เพรัป เจ้านกแก้วหัวตัวโน๊ต ก็มีที่มาจากนกแก้วคอเหลืองตัวจริง 5. คาระนากุชิ ได้แบบมาจากทากทะเลสายพันธุ์ตัวสีฟ้านี้นี่เอง 6. รัฟเฟรเซีย เจ้าดอกไม้ที่ปล่อยผงนอนหลับ มีที่มาจากดอกรัฟเฟรเซียตามชื่อของมัน 7. วารุเวียล เจ้าโปเกม่อนที่มาจากตะโขงอินเดีย 8. มักเกียว เจ้าปลาน้อยที่มาจาก ปลาสตาร์เกเซอร์ 9. คอยคิง…
-
สรุปประเด็นดราม่า “แมวสวนลุม” หลังจากการทำหมัน-จับไว้รอหาบ้าน ถกเถียงกันสนั่น!?
ประเด็นดราม่าที่กำลังถกเถียงกันกับกรณีแมวสวนลุม หลังจากมีการจับพวกมันทำหมัน และจะย้ายไปยังสถานที่ใหม่… เมื่อในวันที่ 19 สิงหาคมได้มีภาพถูกแชร์ต่อกันมามากมายจากเพจเฟซบุ๊ค ตากล้องรักแมว ที่แสดงให้เห็นเจ้าเหมียวนอนเรียงกันอยู่บนโต๊ะ หลังจากการที่เจ้าหน้าที่ทำหมันให้พวกมัน และจะพามันไปพักฟื้นที่กรมปศุสัตว์ ที่ดอนเมืองไนเวลาต่อมา แมวเหล่านั้นคือแมวที่เร่ร่อนกันอยู่ในสวนลุมพินีซึ่งมีกันอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจทยอยจับพวกมันไปทำหมันเพื่อควบคุมประชากรสัตว์และส่งไปยังสถานที่พักฟื้น รอให้มีผู้ติดต่อกลับไปรับพวกมันไปเลี้ยง โดยไม่ปล่อยให้กลับมาอยู่ที่สวนลุมแห่งนี้อีก ภาพของภารกิจทำหมันแมวโดยกรมปศุสัตว์ . เหล่าคนรักแมวทั้งหลายที่คอยแวะเวียนกันเข้ามาดูแลพวกมันในสวนก็รู้สึกใจหายและเป็นห่วงพวกมันไปตามๆ กัน เพราะว่าอีกไม่นานเจ้าหน้าที่ก็จะมาพาพวกมันไปกันจนหมด และเมื่อภาพเหล่านี้ได้กระจายสู่โลกโซเชียลก็ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย ยกตัวอย่างเพจ Drama-addict ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การทำอย่างนี้นั้นถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เนื่องจากสัตว์จรจัดนั้นจะเป็นแหล่งเชื้อโรค อาหารการกินก็อดมื้อกินมื้อ อาจประสบโรคร้ายและมีอายุขัยที่สั้น การทำหมันเพื่อคุมประชากรและหาบ้านใหม่ให้พวกมันจึงเป็นสิ่งที่ถูก ความเห็นดังกล่าวนั้นตรงกับขั้นตอนการปฏิบัติในหลายประเทศ ซึ่งจะมีทั้งหน่วยงานของรัฐ เอกชน และมูลนิธิ เป็นผู้จัดการสัตว์จรจัดไว้ในที่เดียว แล้วรอหาบ้านใหม่ จนกว่าจะมีคนมารับเลี้ยงไป บางประเทศจะมีมาตรการที่ฟังดูโหดร้ายสักหน่อย เช่น การต้องปลิดชีพพวกมันเมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งแล้วยังไม่มีคนรับเลี้่ยง เป็นต้น . และก็ได้มีความคิดเห็นจากผู้ใช้เฟซบุ๊คอีกมากมายทั้งสองรูปแบบว่ามันเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมกันแน่กับการกระทำนี้ ทั้งทางด้านผู้ที่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว ถึงการจัดการมันไว้ในสถานที่เดียวกัน เช่น… Chanapha Chawalitphichet “ดีแล้วค่ะ ใครสงสารเด็กๆ และสะดวก ก็ไปติดต่อรับมาเลี้ยงสักตัวสองตัว…
-
ร่วมทายลักษณะบุคลิก ด้วยภาพซ้อนของเหล่าสรรพสัตว์ สิ่งแรกที่เห็นบ่งบอกตัวตนของคุณ…
พวกเราส่วนใหญ่ในปัจจุบันนั้นก็จะใช้ชีวิตกันอยู่ในเมือง รายล้อมไปด้วยสิ่งปลูกสร้างมากมายที่อำนวยความสะดวกให้กับเราทุกคน แต่แท้จริงแล้วนั้นมนุษย์ก็ยังคงมีความผูกพันอยู่กับธรรมชาติอย่างน่าประหลาด แม้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ในผืนคอนกรีต แต่ก็ยังคงโหยหากลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติอยู่เสมอ และด้วยความผูกพันอันซับซ้อนเหล่านั้น ก็อาจจะบอกตัวตนของเราได้จากภาพของเหล่าสัตว์ป่า เพียงแค่เมื่อเราเห็นภาพด้านล่างปุ๊ปแล้วเราเห็นสัตว์ชนิดไหนก่อนเป็นตัวแรก ก็จะสามารถเผยความเป็นคุณที่ซ่อนอยู่ออกมาได้… เห็นสัตว์อะไรเป็นตัวแรกกันเอ่ย? หลังจากที่มองเห็นสัตว์ที่ขึ้นมาในใจคุณเป็นตัวแรกแล้ว จะมีการทำนายบุคลิกของเราที่สอดคล้องกับสัตว์ชนิดนั้นออกมา อาจจะมีความเป็นไปได้สูงว่าจะตรงกับตัวตนของคุณจริงๆ ก็เป็นได้!! นกพิราบ คือตัวแทนของสันติภาพ ความหวัง และความกลมเกลียว หากคุณเห็นนกพิราบก่อนสัตว์ชนิดอื่น นั่นแสดงถึงจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์และไม่ชอบการโต้แย้ง มีแนวโน้มที่จะเข้าหาสิ่งที่ดีกว่าโดยปราศจากการแสวงหาส่วนประกอบ คุณมุ่งความสนใจไปที่มนุษย์ที่มีความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง มากกว่าการวิ่งตามสิ่งต่างๆ บนโลก หรือความรักในความสงบนั่นเอง ผีเสื้อ ผีเสื้อแสดงให้เห็นถึงความสวยงามและความสุข ใบ้ให้ได้เลยว่าคุณเป็นคนที่แสวงหาความสุขในชีวิตอยู่เสมอโดยไม่กังวลเรื่องของอดีตหรืออนาคตแต่อย่างใด คุณเชื่อว่าชีวิตมันสั้นเกินกว่าที่จะมาคิดจุกจิก เกลียดการพูดคุยเจ๊าะแจ๊ะ และรู้สึกเบื่อเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับประสบการณ์ชีวิตอย่างเต็มที่ เพราะว่าชีวิตนี้เกิดมาแค่ครั้งเดียว ก็จงเต็มที่กับมันซะ เหยี่ยว สัญลักษณ์แห่งอิสระ หากคุณเห็นเหยี่ยวก่อน คุณคือคนที่มองหาการผจญภัยอยู่ คุณมีแนวโน้มที่จะบินไปได้สูงกว่าคนอื่นๆ และคุณก็เชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้น มีความภาคภูมิใจและนับถือในตัวเองสูง สิ่งที่คุณไม่ชอบนั้นจะไม่เกิดขึ้น หากว่าคุณได้ใช้ชีวิตไปตามเงื่อนไขของตัวคุณเอง สุนัข สุนัขกับความจงรักภักดีนั้นเป็นของคู่กัน คุณเป็นผู้ให้ที่ยอดเยี่ยมโดยไม่สนใจถึงตัวคุณเองเลย…
-
19 ภาพของเหล่า “สัตว์ในตลาดมืด” ที่ถูกช่วยชีวิตมา แสดงให้เห็นถึงความงามที่ถูกซ่อนไว้
ในตลาดมืด เราสามารถหาซื้อสิ่งที่ปกติเราจะไม่ค่อยได้เห็นหรือแทบไม่มีเลยได้ที่นั่น รวมถึงเหล่าสัตว์ทั้งหลายมากมาย ที่แต่ละสายพันธุ์นั้นเราไม่เคยเห็นมันมาเป็นสัตว์เลี้ยงมาก่อนเลย แต่หารู้ไม่ว่าพวกมันที่อาศัยอยู่ที่นั่นรอคอยให้มีคนมาซื้อมันไป ต้องถูกริดรอนคำว่าอิสระไปมากเพียงใด นั่นเป็นที่มาให้กลุ่มนักอนุรักษ์สัตว์ในแคลิฟอร์เนียเข้าไปช่วยเหลือพวกมันออกมาจากที่นั่น และได้ช่างภาพ Natasha Wilson ที่ใช้ชื่อว่า De Anastacia ได้มาช่วยถ่ายทอดภาพความสวยงามของสัตว์เหล่านั้น หมาป่า โดยภาพชุดนี้นั้นมีชื่อว่า Where the Wild Things Are ที่นำสัตว์สายพันธุ์ต่างๆ มาถ่ายรูปกับนางแบบที่แต่งตัวมีสีสันฉูดฉาดพร้อมทั้งภาพพื้นหลังที่แสดงให้เห็นถึงผืนป่า จนออกมานั้นสวยงามและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก สิ่งที่พวกมันต้องได้เจอมาก่อนนั้นเป็นฝันร้ายของพวกมันแต่ถึงอย่างนั้นการถ่ายภาพในครั้งนี้ก็ได้รับความร่วมมือที่ดีจากเหล่าสัตว์ทั้งหลาย ที่ต่างมีเรื่องราวประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป แอฟริกันเซอร์วัล นกหัวเราะ คุกคาบาร่า แมวเบงกอล ลิงกระรอก นกกระตั้ว เม่น หมีน้ำผึ้ง จิงโจ้แดง หนูแกสบี้ แอลลิเกเตอร์ สุนัขจิ้งจอกทะเลทราย งู ลิงบาบูน…
-
ชายหนุ่มน้ำหนักลงไปกว่า 20 กิโล เปลี่ยนไปซะจนน้องหมาจำเจ้านายของมันไม่ได้
สำหรับคนที่เลี้ยงสุนัขแล้ว คงจะเคยมีช่วงเวลาที่มันจะวิ่งเข้ามาหาเราด้วยความคิดถึง หลังจากไม่ได้เจอกันนาน แต่เคยคิดไหมว่าถ้าวันหนึ่งเราเปลี่ยนไปอย่างมาก มันจะจำเราได้หรือไม่ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ Shane Godfrey ชายหนุ่มในรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ต้องจากบ้านไปเพื่อรักษาเยียวยาอาการป่วยของเขานานราว 5 สัปดาห์ ในช่วงเวลานั้นก็ทำให้เขาน้ำหนักลดลงไปมากกว่า 20 กิโลกรัม แน่นอนว่านั่นจึงทำให้รูปลักษณ์ของเขาเปลี่ยนไปมากพอสมควร ก็มากซะจนเจ้าสุนัขเพื่อนรักของเขา Willie ถึงกับจำกันไม่ได้ไปเลย เจ้าหมาถึงกับต้องเปิดโหมดระวังภัยในทันทีที่เห็น แต่ก็ค่อยๆ ลองพยายามเข้ามาใกล้ทีละนิด จนเมื่อสามารถรับรู้ได้จากกลิ่นว่านี่แหละคือเจ้าของและเพื่อนคนสำคัญของมันที่ไม่ได้เจอกันมานานนี่เอง คลิปวิดีโอความน่ารักของเจ้าหมาเมื่อรู้ว่านี่คือเพื่อนรักของมัน ความผูกพันของพวกเขาเกิดจากการที่ Shane ได้เจอมันเร่ร่อนหลงทางมาอยู่ที่ระเบียงบ้านของเขา จึงได้ดูแลมันมาและเกิดความผูกพันซึ่งกันและกัน ถึงแม้เจ้าหมาอาจสับสนกับรูปร่างที่เปลี่ยนไปของเขาในตอนแรก แต่เมื่อจำได้ปุ๊ป ก็เข้าไปคลอเคลียเลียหน้า หยอกล้อเล่นกับเขาอย่างหนัักหน่วง ดูน่ารัก นั่นคือการแสดงความรักที่มันมีให้เจ้าของมันอย่างท่วมท้น ไม่ว่าภายนอกจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่ความผูกพันที่มีอยู่ในใจของทั้งคู่ก็ไม่สามารถถูกลืมเลือนไปได้ ที่มา: metro
-
ท่านแพะภูเขาถูกแต่งตั้งให้เป็น “ราชา” ประจำเมือง หลังสามารถแหกคอกออกมาได้
การที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำในแต่ละที่ก็จะมีระเบียบหรือข้อกำหนดจัดตั้งแตกต่างกันไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะต้องสามารถทำให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตกันได้อย่างมีความสุขอีกด้วย และในเมืองเล็กๆ แห่งนี้เองก็มีชีวิตที่ดีกันจากราชาที่ดันไม่ใช่คนซะงั้น ในเมื่อเทศกาลอันเก่าแก่อย่าง Puck Fair ของไอร์แลนด์ ในเมือง Killorglin ได้แต่งตั้งให้แพะภูเขาที่หลุดออกมาจากที่พักอาศัยของมันมารับการแต่งตั้งเป็นราชาในช่วงระหว่างงานซะอย่างนั้น เจ้าราชาแพะนี้ได้ถูกแห่ไปในเมืองท่ามกลางขบวนพาเหรดที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ และได้รับการสวมมงกุฎจากราชินีของงานที่เป็นเด็กนักเรียนอายุ 12 ปีน่ารักใสๆ ซึ่งเจ้าแพะนั้นก็ดูสบายในพิธีมอบมงกุฎอาจมีความประหม่าเล็กน้อย แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี . ผู้ที่อยู่ในเทศกาลดังกล่าวนั้นได้พูดอีกว่า “ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมาที่ผมมางานนี้ก็ยังคงไม่มีอะไรใหม่ แต่เมื่อผมย้ายจากอังกฤษมาอยู่ที่นี่ก็คิดว่านี่มันเป็นอะไรที่แปลก ผมได้ยินผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าเขามาร่วมงานนี้ถึง 57 ปีแล้ว นั่นทำให้เขาพูดไม่หยุดเลย” ต้นกำเนิดของเทศกาลดังกล่าวนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ก็ได้มีเรื่องเล่าท้องถิ่นที่ว่ามันเกิดจากเมื่อมีแพะตัวหนึ่งหนีออกมาจากกองทัพทหารและมาที่หมู่บ้านนี้ ระยะเวลาครองราชย์สั้นๆ ของราชาแพะนั้นได้รับการปรนนิบัติอย่างดีและยิ่งใหญ่ มันได้กินกิ่งไม้ น้ำและกระหล่ำปลีในการดำรงชีวิต หลังจากนั้นผ่านไปไม่กี่วันก็ถึงพิธีสละพระราชบัลลังก์ ก่อนที่จะปล่อยมันกลับคืนสู่ป่าบ้านเกิด แม้จะดูเป็นเรื่องเรียบง่ายแต่ราชาแพะนั้นก็ได้สร้างความแปลกที่ทำให้ชาวเมืองทุกคนในงานสามารถยิ้มและมีความสุขกับเทศกาลได้มากกว่าครั้งไหนๆ ที่มา: metro
-
10 ภาพที่จะทำให้คุณเข้าใจว่าเจ้าเหมียวไม่ควรไปแทนที่ “ลูกบอล” ในกีฬาใดๆ เลย
มีหลากหลายกีฬาที่เราต้องแย่งชิงเอาสิ่งที่เป็นตัวกลางแห่งชัยชนะมาหรือไม่ก็ต้องส่งมันออกไป ตัวกลางนั้นก็คือลูกบอล ลูกเบสบอล ลูกรักบี้ และอื่นๆ อีกมากมายแล้วแต่ชนิดกีฬากันไป แต่ถ้าหากว่าตัวกลางนั้นเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่สุดแสนน่ารักอย่างเจ้าเหมียวตัวน้อยขึ้นมาแทนล่ะ เราลองมาดูรูปที่จะทำให้คุณเห็นภาพกับสิ่งที่เกริ่นมาว่านั่นไม่ควรเกิดขึ้นเลยจริงๆ แป๊บนะครับกรรมการ ผมขอพาพวกมันไปส่งไว้ตรงอัฒจันทร์ก่อน รับไว้ได้อย่างสวยงาม เนียส ฉันเลือกนาย อย่ามายุ่งกับน้องเหมียวของเค้านะ คนหนึ่งก็ดูแลดี กับอีกคนที่คอยแต่จะโยนทิ้งขว้าง สบายไปมั้ย มองอะไรไม่เห็นแล้ว ผมไม่ได้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาจริงๆ นะครับจารย์ เจ้าเหมียวหลับเร็วเหมือนกันนะ หลับตอนทุ่มพอดีเลย เหวอออ อย่าเข้ามานะ กลัวแล้ววว ยินดีต้อนรับสู่ลานประหาร ดูไปดูมาก็น่ารักน่าเอ็นดู แต่ถ้าเป็นอย่างนี้จริงละก็มีหวังเหล่าทาสแมวทั้งหลายคงได้โดดลงไปในสนามเพื่อช่วยเหลือเจ้าตัวเล็กอย่างไม่คิดชีวิตกันแน่เลย ที่มา: sobadsogood
-
อย่ามาแหยมกับจิงโจ้ ชมคลิปเมื่อเด็กตั้งใจจะให้อาหารโดนเจ้า “จิงโจ้” ต่อยเข้าหน้าเฉย
นักมวยต่อยกันเราก็คงจะพอเดาได้บ้างกับน้ำหนักมือที่หนักหน่วงพุ่งเข้าใส่ใบหน้าคู่ต่อสู้จนเกิดเป็นรอยช้ำหรือบางคนก็อาจสลบน็อคไปเลย แต่ที่เราไม่น่าจะเคยเห็นก็คือสัตว์ประจำชาติที่เรารู้จักกันดีของออสเตรเลียแล้วละก็ หมัดที่ออกมามันจะเป็นยังไงบ้างนะ เมื่อมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งไปเที่ยวอุทยานสัตว์ป่ากับครอบครัวในออสเตรเลีย มาถึงที่นี่ก็ต้องมีการให้อาหารสัตว์กันซะหน่อย ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของคุณพ่อเจ้าหนูก็กล้าๆ กลัวๆ จะเข้าไปตรงตรง ในขณะที่คุณพ่อก็บอกว่า “เดินเข้าไปหามันเลย เดินเข้าไปเลย” อยู่อย่างนั้น พ่อครับ ผมกลัว ในภาพจะเห็นได้ว่ามีเจ้าจิงโจ้ยืนรอท่ากับเจ้านกอีมูที่ดูจะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรยืนเด๋อด๋าอยู่ตรงนั้น จนเมื่อเด็กชายได้เดินเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เจ้าอีมูก็นึกครื้มเดินตัดหน้าระหว่างเขาแล้วจิงโจ้ไปซะเฉยๆ แต่ก็เพราะที่มันเดินผ่านนี่แหละเลยทำให้เป็นเรื่อง ก็หัวมันดันไปโขกเข้ากับเจ้าจิงโจ้ ด้วยความตกใจมันก็เลยสะดุ้งปล่อยแย็บซ้ายเข้าโหนกแก้มขวาของเด็กที่คงจะคิดในใจว่า “ผมทำอะไรผิดครับเนี่ย” จำเอาไว้ ใส่ก่อนได้เปรียบ สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นสร้างความตกใจให้กับครอบครัวของเขาที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมกับความสงสัยที่ว่าเด็กน้อยคนนี้ควรให้อาหารเจ้าจิงโจ้หรือนกอีมูกันแน่ คลิปวิดีโอโชว์หมัดแย็บของเจ้าจิงโจ้ที่พุ่งเข้าใบหน้าเด็กน้อยอย่างจัง คุณพ่อที่คอยเชียร์และอยู่ดูแลมาตลอดนั้นก็พูดออกมาทันทีว่าสิ่งที่เขาบอกคือจะให้ลูกชายไปให้อาหารนกอีมูต่างหากเล่า กลายเป็นว่าเด็กเข้าใจผิดซะเองเฉย ครั้งหน้าก็ช่วยเติมคำว่าอีมูไว้ในรูปประโยคหน่อยเถอะครับคุณพ่อ ดีที่ไม่เป็นอะไรมากถึงเด็กคนนั้นจะดูเจ็บตัวหน่อยๆ แต่ก็จะได้รู้เอาไว้ว่าอย่าเผลอไปแหยมกับสัญลักษณ์ของประเทศตัวนี้เชียว ที่มา: thesun
-
รวม 17 ภาพหมาสุดฮา ที่ชอบทำพฤติกรรมแบบ “แมวๆ” นี่พวกเอ็งลืมตัวไปแล้วเหรอ!?
เคยมีคนบอกไว้ว่า สภาพแวดล้อมนั้นจะหล่อหลอมจิตใจให้เปลี่ยนไปตามทุกอย่างรอบตัวได้ ซึ่งมันก็ดูจะจริงมากๆ และประโยคที่ว่านี้ก็ยังสามารถจะใช้กับสัตว์ได้ด้วย!!? บางครั้งถ้าเราเลี้ยงสัตว์สองชนิดไว้ด้วยกัน แต่มีจำนวนที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด สัตว์ที่เหลือน้อยกว่ามันก็มักจะมีนิสัยตามสัตว์หมู่มากอยู่บ่อยๆ เช่นเหล่าเจ้าตูบที่เป็นเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ ที่นิสัยพวกมันดันกลายเป็นแมวซะอย่างนั้น ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร ออกจะน่ารักเสียด้วยซ้ำ… พูดไปก็ไม่เห็นภาพ เอาเป็นเราลองมาดูกันเลยดีกว่า ว่าเวลาที่หมาโดนกลืนนิสัยให้เข้ากับแมว พวกมันจะกลายเป็นยังไง!? ผมคือแมว ฉะนั้นผมก็ต้องนอนแบบแมว เจ้าไซบีเรียนที่คิดว่าตัวเองเป็นแมว ดูการมองบนกับการนอนในกล่อง ชัดเจน!! ก็ไม่ได้มีข้อห้ามหมานอนบนรั้วนิเนอะ ว่าแต่รั้วเล็กแบบนี้ เอ็งนอนได้ยังไง บางครั้งหมาก็เจ้ายึดพื้นที่แมวอย่างไม่เกรงใจ ที่สำคัญดันนอนสูงกว่านี่แหละ ภาพของแมวสามตัว ไม่มีอะไรผิดปกติ… เมื่อหมาได้ลองนอนในกล่องเหมือนแมว มันก็ตัดสินใจแล้วว่ามันเป็นแมว เมื่อหมาซึมซับของเล่นแมวอย่างเต็มที่ พร้อมคิดว่าตัวเองเป็นแมวเรียบร้อย เพื่อนแมวเหมียวของผมติดอยู่บนนั้น ผมต้องสวมวิญญานแมวปีนไปช่วย!! เซอร์ไพรส์.. ไอ แอม แคท อีกหนึ่งภาพของเจ้าเหมียวผู้ทำหน้าตาตื่นตะลึง เมื่อหมาดันคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน เช่นเคย ภาพของแมวสี่ตัว ไม่มีอะไรแปลกปลอมทั้งสิ้น ภาพของชาวเน็ตที่บอกว่า…
-
ไม่อ๊าววว ไม่กลับบบ!! เจ้าตูบตัวน้อยติดใจสวนสาธารณะ ดื้อไม่ยอมกลับบ้านอยากอยู่ต่อ…
สมัยเด็กๆ หลายคนคงจะเคยเป็นกันใช่ไหม เวลาที่พ่อแม่พาออกไปเที่ยวสวนสัตว์หรือสถานที่แปลกๆ แล้วเราเกิดติดใจอยากจะอยู่ต่ออีกสักหน่อย แต่พ่อแม่ดันจะพากลับซะแล้ว เราก็เลยดื้อดึงงอแงไม่ยอมกลับ เจ้าตูบตัวนี้ก็เช่นกัน เพราะหลังจากที่มันได้ไปเที่ยวสวนสาธารณะกับเจ้านายสุดที่รักของมัน ที่เมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย มันก็ติดใจมากๆ เพราะมันได้กลายเป็นที่สนใจของผู้คนมากมายในแถบนั้น แต่พอเจ้านายจะเดินกลับ มันก็ดันไม่ยอมกลับซะอย่างนั้น เจ้านายดึงยังไงก็ไม่ไป งานนี้ผู้คนมากมายก็ให้ความสนใจความน่ารักของทั้งคู่ ผมไม่กลับหรอกกก ด้านเจ้านายก็เขินเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้กระทำรุนแรงต่อสุนัขของเขาแต่อย่างใด แต่ก็ยื้อกันไปมาระหว่างเจ้าตูบ ประมานว่าถ้าแกไม่ไป ตูจะทิ้งไว้นี้นะเว้ย จากนั้นก็ปล่อยปลอกคอออกแล้วบอกว่า งั้นไปละ บัย… เจ้าตูบก็ดูจะสองจิตสองใจ ไม่อยากโดนทิ้ง แต่ก็อยากอยู่ที่สวนต่อ แต่เจ้านายอันเป็นที่รักรออยู่ ฉะนั้นมันจึงเลือกจะกลับ ทว่าพอเจ้านายเห็นว่าจะกลับละเว้ย เลยเอาปลอกคอใส่กลับเข้าไป ปิกบ้านเฮากันเต๊อะะะ เจ้าตูบก็เลยเล่นตัวอีกสักหน่อย ล้มลงไปนอนเลยทีนี้ ซึ่งภาพเหตุการณ์ก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้คนได้ดีเลยทีเดียว จนสุดท้ายเจ้าของก็เริ่มไม่ไหวละ ถอดปลอกคอเจ้าตูบออกอีกรอบพร้อมเดินจากไปไกลขึ้น งานนี้เจ้าตูบเลยโอเคกลับกะได้… ไม่ไปหรอกกก หนูจะอยู่ที่นี่ สุดท้ายเจ้านายทิ้งไป ก็เลยต้องจำใจตาม ซึ่งถ้าเราเป็นเจ้าของแล้วเจอเจ้าหมาทำแบบนี้ใส่ ก็คงมีเขินๆ บ้าง…
-
รูปแบบใหม่แห่งการออกกำลังกาย นั่นคือการเต้นกับเจ้า “อัลปาก้า” สุดน่ารัก!!
หากคุณไม่ชอบการออกกำลังกาย ไม่เป็นไร วันนี้เรามีวิธีจะทำให้คุณได้เหงื่อออกกันได้ง่ายๆ และเพลิดเพลินไปกับมันนั่นก็คือการเต้นนั่นเอง แต่หากว่าการเต้นมันก็ยังไม่โดนใจคุณอีก ฟาร์มแห่งหนึ่งในแคนาดาก็ได้มีการเต้นออกกำลังกายแบบใหม่มานำเสนอ สำหรับฟาร์ม 313 ที่ได้คิดการเต้นเบิร์นพลังงานแบบใหม่โดยการให้เต้นไปกับเจ้าอัลปากาที่น่ารัก โดยหลักสูตรนี้มีชื่อว่า AlpacaZone รวมการเต้นฮิปฮอป การคาร์ดิโอ และการออกกำลังกายที่เรียกว่า Pilates เจ้าของฟาร์มแห่งนี้ได้บอกว่าคลาสการเต้นนี้ได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จึงไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดอันตรายอะไร โดยเฉพาะเวลาที่อัลปาก้านั้นกำลังรู้สึกดีกับเท้าของมัน “คนที่มาที่นี่นั้นต่างก็รู้สึกชอบคลาสนี้ พวกเขาชอบที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าอัลปาก้าเพราะว่าพวกมันเป็นมิตร และมันก็ยังเล่นกับเด็กๆ ได้ดีอีกด้วย” Ann Patman หนึ่งในเจ้าของฟาร์ม ทุกอย่างมันน่าสนุกไปหมดเมื่อเจอกับรอยยิ้มของอัลปาก้าเหล่านั้นเข้าไป คลาสนี้จะใช้เวลา 45 นาที ต่อด้วยการพักคูลดาวน์ก่อนที่จะชวนกันไปเล่นกับเจ้าสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งพวกมันนั้นดูเหมือนจะชอบคนและแทบจะไม่ต้องเรียกมันมาเลย นั่นก็เพราะว่าที่นี่เคยทำการเก็บขี้พวกมันไปทำปุ๋ยจึงทำให้ชินผู้คน แต่ก็คงต้องระวังกันหน่อยเวลาจะเดินไปไหนมาไหนที่นั่น โซชิลล์เกิ๊นนน อย่างไรก็ตามเราก็คงต้องรอหาหนทางในการออกกำลังกายที่จะทำให้เราสนุกไปกับมันได้ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพก่อนหน่อยแล้วแหละ เดี๋ยวจะแพ้เจ้าอัลปาก้ามัน ที่มา: distractify
-
เด็กหนุ่มเดินไปล้างเท้าหลังเตะบอลเสร็จ แต่กลับโดนตัวประหลาดกัดเท้าจนเลือดอาบ!!?
อ่านหัวเรื่องแล้วอ่านจจะฟังดูตลก ตัวประหลาดอะไรกันนี้โลกแห่งความจริงนะ แต่บอกเลยว่ามันคือเรื่องจริง เพราะเด็กหนุ่มคนดังกล่าวถูกสิ่งมีชีวิตไม่ทราบที่ว่าโจมตีเข้าที่เท้าจนมีเลือดอาบ แม้แต่แพทย์ก็ระบุไม่ได้ว่ามันคือตัวอะไร.. Sam Kanizay วัย 16 ปี ต้องเจอกับเหตุการณ์สุดสยอง เมื่อเขาตัดสินใจไปล้างเท้าหลังเล่นฟุตบอลเสร็จ ซึ่งได้เดินไปที่ชายหาด Dendy Street Beach ในเมืองไบรตัน แต่แล้วหลังจากแช่ไปไม่นานเท้าของเขาก็อาบไปด้วยเลือดเต็มไปหมด สร้างความเจ็บปวดและงุนงงสุดๆ เขาถูกนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลทันที ทางทีมแพทย์ก็ระบุไม่ได้ว่าเขาเจอเข้ากับอะไร แต่ที่รู้คือชิ้นเนื้อบริเวณเท้าของเขาได้หายไปบางส่วน งานนี้ด้านคุณพ่อของเขาจึงจัดการรับบทนักสืบที่ต้องออกตามหาความจริง Jarrod ผู้เป็นพ่อได้กลับไปที่หาดเดิมอีกครั้งในตอนกลางคืน ซึ่งเขาเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตดังกล่าวจะต้องยังอยู่แน่นอน และมันจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชายของเขา สิ่งที่เขาเจอมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตตัวเดียว แต่เป็นฝูงแมลงประหลาดจำนวนมากอยุ่ในน้ำเต็มไปหมด ทีนี้พอเขาลองเอาก้อนเนื้อโยนลงไปดู เจ้าสิ่งมีชีวิตพวกนี้มันก็กัดกินเลือดจากเนื้อจนหมด จากเนื้อสีแดงกลายเป็นสีขาวๆ ได้ในเวลาไม่นาน งานนี้เล่นเอาทุกคนตกใจกันหมดกับสิ่งมีชีวิตดังกล่าว แม้แต่ทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลก็ยังงงกันหมด ด้าน Michael Brown เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลบอก พวกมันอาจจะเป็นตัวอ่อนของแมงกระพรุนก็เป็นได้ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ฟันธงแต่อย่างใด เพราะเขาบอกว่าเขาทำงานมา 20 ปี ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ด้านเด็กหนุมได้เล่าว่าตอนแรก เขาคิดว่าความรู้สึกแปลกๆ ที่เท้าของเขาอาจจะมาจากความเหนื่อยล้าหลังเล่นบอล ทว่าสัญชาตญานบอกให้เข้าขึ้นจากน้ำทันที และสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเลือดที่เต็มไปหมดนั่งเอง…
-
ที่อันตรายที่สุดคือปลอดภัยที่สุด… เมื่อตัวหมาคือที่นอนของแมว หลับสบายยิ่งกว่าเตียงซะอีก!!
น้องหมาและน้องแมว อาจจะเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกันสักเท่าไหร่ พวกมันมักจะขู่และทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง จนบางทีก็ทำเอาเจ้าของถึงกับปวดหัวกันเลยทีเดียว แต่ภาพที่คุณจะเห็นต่อไปนี้อาจจะทำให้คุณต้องมองพวกมันทั้งคู่ใหม่ซะแล้ว เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้ทั้งสองจะยอมสงบศึกและกลายเป็นเพื่อนซี้กันแล้วล่ะ… โดยไม่นานมานี้ได้เกิดโมเม้นต์น่ารักๆ ขึ้นบนโลกออนไลน์อีกครั้ง เมื่อชาวเน็ตพร้อมใจกันโพสต์ภาพของเจ้าเหมียวที่แอบใช้แผ่นหลังและลำตัวของคู่กัดอย่างเจ้าตูบเป็นที่พักผ่อน งานนี้ทำเอาหลายๆ คนถึงกับฮากันเลยทีเดียว ส่วนมิตรภาพครั้งใหม่นี้จะน่ารักแค่ไหนนั้นไปชมกันได้เลย… สงบศึกกันก่อนนะพี่หมา ตื่นมาค่อยสู้กันใหม่ ฮ่าๆ แหม่… นอนท่าเดียวกันเลยนะ หลับปุ๋ยทั้งคู่เลย… เฮ้ๆ นอนได้นะแต่อย่าข่วน ขอร้อง!! หันหัวให้มันถูกทางสิเจ้าเหมียว!! เอื่อ… หายใจไม่ออกเจ้าเหมียว ขอยืมแขนหน่อยนะฮะ คุณลุง ที่ที่อันตรายที่สุด คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด zZ zZ zZ นอกจากจะเป็นที่นอนแล้ว ยังเป็นที่เล่นได้อีกด้วยนะฮะ เห็นไหม บอกแล้วว่าพวกเรารักกันจะตาย จริงมั้ยเจ้าเหมียว?? ฮื่ม!! พอไม่ว่าอะไรก็พาเพื่อนมาด้วยเลยสินะ เจ้าเหมียว ดูจากท่านอน…
-
ผู้ผลิต Game of Thrones ช่วยเหลือฟาร์มที่ใกล้ปิด ด้วยการจ้างสัตว์ทั้งฟาร์มให้เข้าร่วมแสดง
หนึ่งในซีรีส์เรื่องดังที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องมหาศึกชิงบัลลังก์ หรือ Game Of Thrones แน่ๆ และในละครหลายๆ เรื่องหนึ่งสิ่งที่จะทำให้หนังหรือซีรีส์เรื่องนั้นสมบูรณ์แบบ นอกจากบทและตัวนักแสดงหลักแล้ว พวกองค์ประกอบต่างๆ ก็ยังมีความสำคัญไม่แพ้กันอีกด้วย และหนึ่งในสิ่งประกอบฉากที่จะทำให้ซีรีส์ดูสมจริง นั่นก็คือเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ที่ออกมาเผยโฉมให้แฟนๆ ได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าม้า เจ้าหมู เจ้าหมา หรือแม้แต่อีกาก็ตาม หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าเหล่าสัตว์ต่างๆ เหล่านั้นเดินทางมาจากที่ไหนกันนะ?? และเพื่อเป็นการคลายความสงสัยสำหรับแฟนๆ ซีรีส์ วันนี้พวกเราจะขอพาทุกคนไปพบกับฟาร์มสัตว์แห่งนี้ในประเทศไอร์แลนด์เหนือกัน และนี่คือบรรยากาศภายในาร์มแห่งนี้ คุณ Kenny Gracey เจ้าของฟาร์มสัตว์ฟาร์มแห่งนี้ ได้เลี้ยงเหล่าสัตว์พันธุ์พื้นเมืองต่างๆ มากมายอย่างเช่นเจ้าหมู Saddleback วัวเขายาวพันธุ์เท็กซัสลองฮอร์น และเจ้าแกะพันธุ์ Jacob แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทางฟาร์มกลับประสบปัญหาทางรายได้ แต่หลังจากที่ซีรีส์เรื่องดังเริ่มถ่ายทำ และทางผู้กำกับอยากจะได้เหล่าสัตว์มาร่วมสมทบในฉากต่างๆ ของซีรีส์ จากนั้นทางโปรดิวเซอร์จึงได้ติดต่อมาที่คุณ Gracey และตั้งแต่นั้นมาพวกมันก็ได้ปรากฏตัวในซีรีส์เรื่องนี้ตั้งแต่ซีซั่นแรกเลยทีเดียว “ตอนนั้นผมกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผมบอกได้เต็มปากเลยว่าผมกำลังดิ้นรนอย่างมาก และแล้วพวกเขาก็มาพบกับผม โปรดิวเชอร์ต้องการสัตว์พันธุ์พื้นเมืองเพื่อเข้าฉาก ดังนั้นผมจึงบอกว่า ได้สิพวกเอาเลย!!” คุณ Gracey กล่าว คุณ Kenny Gracey เจ้าของฟาร์ม ผู้คอยดูแลเหล่าสัตว์ต่างๆ ด้วยความรัก…
-
เจ้าสุนัขใช้ชีวิตอย่างทุลักทุเลข้างถนน จนในที่สุด พลเมืองดีก็มาตามหาและช่วยเหลือมัน…
เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นกับเจ้า ‘Fox’ สุนัขจรจัด ที่ต้องมีชีวิตระหกระเหินไปตามข้างทาง และมันไม่เคยรู้เลยว่าเมื่อไหร่มันจะได้สัมผัสความรู้สึกที่เรียกว่า… ‘ความรัก’ โชคดีที่ศูนย์พักพิงสุนัข Hope For Paws ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีคนพบเห็นสุนัขเนื้อตัวมอมแมมน่าจะหลงทางมาในอาณาเขตของเมืองลอส แองเจลิส ทันทีที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ก็ออกตามหาตัวมันทันที โชคดีที่พวกเขาเห็นมันแอบซ่อนตัวอยู่บริเวณพุ่มหญ้าข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงพยายามเอาของกินไปล่อมันออกมา จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงส่งคนเข้าไปล้อเจ้าสุนัข เพื่อทำให้มันรู้สึกว่าตนเองปลอดภัย ส่วนเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ได้นำตาข่ายมาล้อมไว้ (ป้องกันอุบัติเหตุจากรถชน) “ดูเหมือนว่ามันจะหิวมากๆ เพราะทันทีที่มันได้กลิ่นอาหารมันดูจะสนใจสุดๆ แถมยังส่ายหางไปมาอีกด้วย” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเล่า ตอนแรกทุกคนก็คิดว่าเจ้า Fox เป็นสุนัขจรจัดที่หลงทางมา ทว่าเมื่อลองดูที่ปลอกคอพวกเขาก็พบเบอร์โทรเจ้าของบ้านอยู่ จากนั้นเรื่องราวทั้งหมดจึงจบลงด้วยดี “Fox มีนิสัยเสียมากๆ ค่ะ มันชอบหนีออกจากบ้านไปวิ่งเล่นข้างนอก บางทีมันก็หายไปเป็นวันเลย เราคงต้องจัดการไม่ให้มันหนีไปได้อีกแล้ว” – เจ้าของเล่า เมื่อกลับมาได้ก็ต้องจัดการอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยซะก่อน ส่วนนี่ก็พี่น้องของเจ้า Fox ที่มันหนีออกมา อันที่จริงแล้วครอบครัวเลี้ยงดูมันอย่างดีเลยล่ะ ทว่ามันกลับมีนิสัยซนและชอบหนีเที่ยวนั่นเอง…
-
Game of Thrones ของเขาดีจริง ขนาด “นก” ยังเสพติดจนเอาเพลงเปิดไปร้องทุกวัน!!
เดินทางมาเกือบจะครึ่งซีซั่น 7 แล้ว กระแสของซีรีส์เรื่องดังอย่าง Game of Thrones ก็ยังแรงอย่างต่อเนื่อง และเสียงเพลงเปิดซีรีส์ก็ยังคงดังก้องอยู่ในหัวแฟนๆ พร้อมอยากจะให้ข้ามไปสัปดาห์ต่อสัปดาห์… ทว่าเมื่อพูดถึงเสียงเพลงเปิดแล้ว ไม่ได้มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่ชื่นชอบ เพราะเชื่อไหมว่าเหล่านกมากมายจากทั่วทุกมุมโลกก็ชอบเพลงนี้เช่นกัน และพวกมันก็เอามาร้องกันสนุกสนานเลย ซึ่งพระเอกของงานนี้นั่นมีชื่อว่าเจ้า Tico ซึ่งเป็นนกคอกคาทีล ที่ชื่นชอบเพลงประกอบซีรีส์มากๆ โดยเจ้าของบอกว่าก่อนหน้านี้มันก็ชอบเพลงเปิดซีรีส์เรื่องอื่นๆ แต่สำหรับ Game of Thrones มันจะชอบเป็นพิเศษแถมร้องได้เป๊ะเลย ลองฟังเจ้า Tico ร้องเพลงหน่อยเป็นไง นอกจากเจ้า Tico แล้วก็ยังมีนกคอกคาทีลตัวอื่นๆ ที่ร้องได้เหมือนกันนะ เจ้าตัวนี้มีชื่อว่า Spikey และมันก็ร้องได้ดีสูสีกับเจ้า Tico เลยด้วย Spikey ก็เป็นแฟนเหมือนกันนะเออ นอกจากเจ้าสองตัวนี้แล้วก็ยังมีนกคอกคาทีลตัวอื่นๆ ที่สามารถร้องเพลงได้เช่นกัน และแน่นอนว่าก็ไม่มีแต่เพลงของ Game of Thrones เท่านั้น เพลงประจำตัว Darth Vader พวกมันก็ร้องได้นะ…
-
สารคดี BBC เผยคลิปปลาหมึกออกมาเดินบนดิน หนวดยุบยับสยองกว่าที่คิด หยึยยยขนลุก !!
มีเพียงแค่หยิบมือเท่านั้นจากสายพันธุ์ทางหมดของปลาหมึกที่มีอยู่มากมาย และสร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าผู้วิจัยได้เสมอ กับพฤติกรรแปลกๆ ของมันทั้งเรื่องของการล่าอาหาร การมีสังคม หรือการมีคู่ แถมเมื่อมันอยู่ในขวดโหลก็ยังจะสามารถเปิดฝาออกมาได้เองซะอีก ถ้าเรื่องราวเหล่านั้นมันน่ากลัวมากสำหรับคุณแล้วละก็ คุณก็คงจะไม่อยากเห็นภาพที่พวกมันขึ้นมาอยู่บนดินอย่างที่ เจ้าหมึกยักษ์ Abdopus ขึ้นมาล่าอาหารเหนือผิวน้ำในออสเตรเลีย กับคลิปวิดีโอจากสารคดีของช่อง BBC One ที่ได้ไปถ่ายเจ้าตัวนี้ใช้ตัวดูดนับร้อยบนหนวดของมันในการช่วยเคลื่อนไหวบนพื้นดินเพื่อล่าอาหาร ภาพที่ออกมานั้นชวนขนลุกแบบแหยะๆ ซึ่งอาจทำให้กลัวการลงน้ำไปเจอกับมันทันที คลิปวิดีโอเจ้าหมึกยักษ์ขึ้นมาออกล่าบนพื้นดิน โดยเจ้าหมึกยักษ์นั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเหล่านักล่าทั้งหมดที่มีอยู่ในรายการ The Hunt ซึ่งนั่นรวมถึง วาฬเพชฌฆาต เสือดาว อินทรีหัวขาว มดทหาร และหมีขั้วโลก นอกจากนี้ในรายการสารคดี BBC Earth Unplugged ก็ได้พิสูจน์ของความยากของการหนีออกจากการจับกุมเกาะติดของเจ้าสิ่งนี้ ซึ่งนั่นถือว่าเป็นความโชคดีที่พิธีกรได้ลองแค่จากตัวที่มีการควบคุมสิ่งแวดล้อมต่างๆ เพราะหากเป็นชีวิตจริงนี่คงพูดได้เลยว่าลำบากแน่ คลิปวิดีโอของพิธีกรรายการ ลองพยายามรอดจากการเกาะติดของเจ้าหมึก รายการนี้ได้ถ่ายทอดให้เห็นถึงเหยื่อและนักล่าในสถานการณ์การล่า แทบทุกคนจะคิดว่านักล่าเป็นตัวร้ายอยู่เสมอ แต่เมื่อเราได้มาสังเกตดูจริงๆ จะพบได้ว่าบ่อยครั้งที่เกิดความผิดพลาด ทำให้ไม่มีอาหารสำหรับมื้อนั้น ซึ่งนั่นเป็นมุมมองให้ได้เห็นว่า สัตว์ชนิดที่ใช้ชีวิตยากที่สุดจริงๆ แล้วก็คงจะเป็นนักล่าตัวฉกาจทั้งหลายนั่นแหละ จริงๆ แล้วมันไม่ได้มีเพียงความน่ากลัว ดุร้าย หรือดูบ้าเลือดแต่เพียงอย่างเดียว…
-
งงสิครับ!! หนุ่มพานกยูงขึ้นรถไฟใต้ดิน ไหงอยู่นิ่งอย่างกับเด็กน้อย บรรยากาศก็ชิลล์เกิ๊น
การเดินทางบนรถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดินเราก็คงจะได้เจอคนมากหน้าหลายตาเป็นเรื่องปกติ แต่กับสถานการณ์นี้ความไม่ปกติมันดันเกิดขึ้นเมื่อเราต้องเจอกับสีสันที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตที่ดันไม่ใช่คน แต่เป็นนกยูงเนี่ยสิ !! บ้าไปแล้วมันขึ้นมาได้ยังไงละนั่น ?! คงเป็นคำถามที่ใครหลายคนสงสัยเมื่อต้องเจอกับภาพเหตุการณ์นี้ ที่ชายคนหนึ่งได้นำนกยูงขึ้นรถไฟใต้ดินในมหานครนิวยอร์ก แบบที่เรียกได้ว่าชิลล์เกิ๊นนน โดยความชิลล์นั้นไม่ได้มีเพียงเขาและเจ้านกยูง แต่มันรวมถึงคนรอบข้างที่ไม่แสดงอาการแปลกใจอะไรเลย ทำซะอย่างกับเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในชีวิตไปซะอย่างนั้น นั่นนกยูงนะเฮ้ยยย และเมื่อภาพนี้ได้ถูกเผยแพร่ในทวิตเตอร์ก็ได้มีเสียงตอบรับต่างๆ ตามกันมามากมาย ทั้งคนที่บอกว่ามันไม่ใช่เรื่องแย่ถึงกับบอกอีกว่ามันมีบัตรรถไฟฟ้าเป็นของตัวเองด้วยนะ เรื่องนี้ถูกแชร์ต่ออย่างมากมาย กลายเป็นกระแสในโลกอินเตอร์เน็ตชั่วข้ามคืน จนถึงขั้นสถานีรถไฟใต้ดินแห่งนิวยอร์กต้องเข้ามาสอบถามถึงเหตุการณ์เพิ่มเติมจากเจ้าของภาพนี้ แต่… ความจริงก็ยังมีเพียงหนึ่งเดียว!! หลังจากที่ทางหน่วยงานรถไฟใต้ดินพยายามติดต่อสอบถาม ถึงที่มาของนกยูงตัวดังกล่าวเพื่อมาคลายข้อสงสัยให้ชาวเน็ต เมื่อความจริงอันพลิกผันถูกเฉลยจาก Reid Watson ชายผู้ถือนกยูงในภาพไว้ว่า นกยูงตัวนั้นเป็นเพียงแค่มาสคอตและเป็นเพียงแค่หุ่นเลียนแบบที่ไม่มีชีวิต!!! ซึ่งมันเป็นของประจำร้านเหล้าที่เขาเป็นเจ้าของ และ Kathryn สาวผมทองข้างๆ ก็คือผู้ที่สร้างนกยูงที่ทำซะเหมือนจริงตัวนี้ขึ้นมานั่นเอง จบความสงสัยที่ว่านกยูงขึ้นรถไฟฟ้ามาได้อย่างไรทันที ถึงอย่างไรก็คงจะไม่แปลกที่จะตกใจกับเหตุการณ์เหล่านี้ เพราะหากว่าได้มาเกิดขึ้นที่ประเทศเรา มันก็คงจะฮือฮาไม่ต่างกันนั่นแหละ ก็มันเคยเกิดขึ้นที่ไหนกันเล่า ที่มา: huffingtonpost
-
รู้จักกับ “ปูมะพร้าว” สัตว์ขาปล้องที่ใหญ่ที่สุดในโลก ว่ากันว่ามีเนื้อหอมเหมือนดั่งกะทิ!?
อย่างที่รู้กันว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกเรามันช่างมากมายซะเหลือเกิน แต่ที่เด่นๆ และน้อยคนจะรู้จักด้วยเหตุผลที่พบได้ยากในประเทศเรา วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับมันกัน สัตว์ที่ได้รับวิวัฒนาการมาจากปูเสฉวน และเป็นสัตว์ขาปล้องขนาดใหญ่ที่สุดบนพื้นดิน เจ้านั่นคือ ปูมะพร้าว ตรงตัวกับภาษาอังกฤษที่เรียกว่า Coconut Crab ซึ่งมีความสามารถในการใช้ก้ามของมันเจาะลูกมะพร้าวได้อย่างสบายๆ ขนาดทั่วไปของมันลำตัวจะยาวแค่ 40 เซนติเมตร กับน้ำหนักอีก 4 กิโลกรัม แต่ที่มันได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดเพราะมีคนไปเจอกับเจ้าปูชนิดนี้ ที่มาพร้อมกับขนาดลำตัวยาว 1 เมตร และหนักถึง 17 กิโลกรัมเลยทีเดียว มันมีขา 10 ขา ซึ่งขาคู่หน้าก็คืออาวุธคู่ใจที่ใช้เจาะลูกมะพร้าว อีกทั้งยังสามารถยกของหนักได้ถึง 29 กิโลกรัม และอวัยวะในการหายใจแบบครึ่งปอดครึ่งเหงือก ลักษณะเหมือนเหงือกแต่แลกเปลี่ยนก๊าซจากในอากาศไม่ใช่ในน้ำ และถึงแม้จะวิวัฒนาการมาจากปูเสฉวนแต่การใช้เปลือกหอยป้องกันส่วนท้องนั้นจะใช้แค่ตอนเป็นตัวอ่อน หลังจากนั้นส่วนท้องของมันจะเป็นเปลือกแข็งโดยช่วยลดการเสียน้ำขณะอยู่บนพื้นดินได้ด้วย อาหารหลักของมันคือมะพร้าว แต่มันก็ยังสามารถกินอาหารชีวภาพได้หมดอย่างใบไม้ ผลไม้เน่า ไข่เต่า ซากสัตว์ หรือสัตว์เป็นๆ ที่เคลื่อนไหวช้าอย่างเต่าที่เพิ่งฟักออกจากไข่ การหาอาหารโดยการปีนต้นมะพร้าวนั้นนอกจากจะทำให้ลูกมะพร้าวหล่นลงมาให้ได้กินแล้ว ก็ยังสามารถช่วยหลีกเลี่ยงความร้อนและอันตรายโดยรอบได้อีกด้วย นอกจากนั้นมันก็ยังมีฉายาว่า ปูปล้น หรือ ปาล์มขโมย…
-
รวมผลงานภาพจากการประกวด “ภาพถ่ายสัตว์สุดจี้แห่งปี” บอกเลยของเขาดีจริง ฮร่าๆ
ปกติแล้วเรามักจะเห็นการประกวดภาพถ่ายสวยๆ ในหมวดต่างๆ หรือไม่ก็เป็นการประกวดภาพด้วยเทคนิคแปลกๆ หรือถ้าประกวดภาพของสัตว์ก็จะเป็นภาพน่ารักๆ แต่สำหรับหัวข้อในวันนี้กลับเป็นการประกวดภาพตลกโปกฮา ของเหล่าสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งจัดโดย Tom Sullam และ Paul Johnson-Hicks โดยการคัดสรรค์ภาพจากผู้ส่งประกวดทั้งหมดกว่า 2,500 ภาพ งานนี้จะเด็ดดวงแค่ไหน จะฮาหรือป่าวไปดูกันเลย… ข้ามีความฝันอยากจะควบม้าดูสักครา เป็นแค่เจ้าเหมียว อยากจะขี่อาชาแบบข้า ฝันไปเถอะ!! เซลฟี่ด้วยการโพสท่าแบบคนดีดๆ ข้าคือเจ้าเหมียวยอดนักสู้ ผู้ยืนสองขาได้ เฟี้ยวยิ่งกว่าใคร ดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือนมนุษย์พยายามเลียข้อศอกเลย โดดจริงไม่ถึง แต่เงามันถึงก็โอเคแล้ว เข้าใจปะน้องชาย ถ้าตูหลุดไปเมื่อไหร่ เองโดนเอาคืนแน่!! ถึงแน่เจ้านายไม่ต้องห่วง นั่งเฉยๆ สบายๆ จงพาข้าไปยังจุดหมายปลายทางซะเจ้ามนุษย์ เฮ้ย จัดกล้องให้มันตรงๆ หน่อยดิ ขนมชิ้นนั้นจะให้มันตกถึงพื้นไม่ได้!! พวกเจ้าจงเต้นตามข้า กับท่าเต้นในตำนานจากไมเคิลแจ็คสัน …
-
เผยโฉมความน่ารักของครอบครัวสิงโต ช่วยกันดูแลลูกน้อยทั้ง 5 ที่เกิดมามีขนขาวจั๊วะ!!
สัตว์ที่มีสีสันสวยงามต่างๆ บนโลกมีอยู่เต็มไปหมด หลายคนอาจคิดถึงนกยูง หรือพวกสัตว์ที่ดูโดดเด่นดึงดูดสายตา แล้วถ้าเป็นสัตว์กินเนื้อที่ทุกคนเคยได้ยินถึงสมญานามว่า ‘เจ้าป่า’ จากที่ดูน่ากลัว ในครั้งนี้เราจะมาเห็นในอีกมุมกัน พบกับครอบครัวสิงโตที่สวนสัตว์จากเมือง Dvorec ในสาธารณรัฐเช็ก ที่มาพร้อมกับความแปลกตาเมื่อพวกมันทั้งหมดนั้นมีสีขาวโพลน ซึ่งถือได้ว่าเป็นสีที่หาได้ยากยิ่งของสัตว์ชนิดนี้ โดยสีของมันนั้นจะไม่ถูกจำแนกว่าเป็นสัตว์เผือก แต่เกิดจากพันธุกรรมที่หาได้ยากยิ่งของสิงโตแอฟริกันที่จะมีแหล่งอาศัยอยู่ที่แอฟริกาใต้ เขตสัตว์ป่าสงวนทิมบาวาตี และอุทยานแห่วชาติครูเกอร์ เท่านั้น และความแรร์ที่มากกว่านั้นก็คือเด็กๆ ของครอบครัวนี้นั้นมีจำนวนถึงห้าตัว ซึ่งตามปกติแล้วมักจะให้กำเนิดออกมาไม่เกินสี่ตัว ประกอบไปด้วยตัวเมียสี่ กับตัวผู้อีกหนึ่ง โดยภาพที่เราจะได้เห็นคือความน่ารักของการเล่นสนุกของพวกมันภายในกรงที่มีพ่อแม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ภาพความอบอุ่นของคุณแม่ Tia ที่คลอเคลียอยู่กับลูกๆ ในขณะที่คุณพ่อ Aga คอยระวังภัยให้ เด็กๆ ที่เกิดมาในวันที่ 4 พฤษภาคม 2017 ตั้ลล๊ากกกกกกก . พูดไร เราไม่รู้เรื่อง พ่อจ๋าแม่จ๋า หนูตกใจ นอนเล่นสบายกันเลยเชียว . . …
-
25 พฤติกรรมแปลกๆ สุดอัศจรรย์ของสัตว์โลกรอบตัว ที่คุณเองก็อาจไม่เคยรู้มาก่อน!?
ในโลกของเรานั้นมีสัตว์อยู่เป็นจำนวนมากมายมหาศาลทั่วทุกมุมโลก ซึ่งตั้งแต่เจ้าแมลงวันตัวน้อยๆ ไปจนถึงวาฬสีน้ำเงินตัวใหญ่ยักษ์นั้น แต่ละตัวก็จะมีวิธีการใช้ชีวิตหรือสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดที่แตกต่างกันออกไป และบางครั้งพวกมันก็มีอะไรแปลกๆ แบบต่างออกไปจากมนุษย์ ซึ่งหลายๆ สิ่งนั้นเราก็ทำไม่ได้หรอกเนอะ… 1.แมลงวันบ้าน มันก็คือแมลงวันที่เราพบได้ทั่วไป ด้วยอายุขัยเพียง 14 วันของมันก็ไม่สามารถขัดขวางความสามารถทางดนตรีของมันไว้ได้ เพราะเสียงร้องของเจ้าพวกแมลงวันจะเป็นคีย์ F อยู่เสมอ ไม่มีผิดเพี้ยน 2.นกกระจอกเทศ นอกจากที่มันจะวิ่งได้ไวกว่าม้าแล้วนั้น ตัวผู้ยังสามารถคำรามได้เหมือนสิงโตเลยทีเดียว 3.ค้างคาว ค้างคาวคือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเดียวที่สามารถบินได้ น่าเสียดายที่มันคงจะเจ๋งกว่านี้ถ้ารวมมนุษย์เข้าไปด้วย 4.จิงโจ้ จิงโจ้นั้นมีหางไว้สำหรับการทรงตัว หรือถ้าเราไปยกหางมันขึ้นมา หรือกระทั่งหางมันหายไปก็จะพิการโดดไม่ได้ซะอย่างนั้น 5.แมงมุม เฉลี่ยแล้วจะมีแมงมุมทุกสายพันธุ์อยู่ถึง 50,000 ตัวในทุกๆ 1 เอเคอร์ของพื้นที่สีเขียว ต้องคิดหนักก่อนออกจากบ้านกันแล้วละ 6.เสือ เสือนั้นไม่ได้มีเพียงลายบนขนของมัน แต่มันรวมถึงบนผิวหนังของมันด้วย และไม่มีเสือตัวไหนที่มีลายเหมือนกันอีกต่างหาก 7.จระเข้ หากว่าคุณตั้งใจที่จะเป็น Steve Irwin คนต่อไป การจะหนีจากกรามอันแข็งแกร่งของเจ้าจระเข้นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณใช้นิ้วหัวแม่โป้งจิ้มเข้าไปที่ลูกกะตาของมัน มันก็จะปล่อยคุณไปในทันที 8.เห็บ…
-
ญี่ปุ่นจัดเทศกาล “อึ” เรื่องขี้ๆ แต่มีสาระ สามารถสัมผัส และดมกลิ่นได้เลยทีเดียว!!
หากเราชอบหรือรักอะไรมากๆ แล้วเราก็จะต้องสมารถยอมรับได้ทั้งข้อดีและข้อเสียของสิ่งนั้นๆ ซึ่งหลายๆ ที่ได้เลี้ยงหมาแมว คงจะไม่ได้มองเพียงความน่ารักของมัน แต่เราต้องรับให้ได้กับบางอย่างที่มากกว่านั้นอย่าง “อึ” ของมันด้วยแล้วละ สวนสัตว์ Tokuyama ในเมืองยามากุจิ ที่ญี่ปุ่นนั้นได้จัดงานเทศกาลอึนี้ขึ้น มันไม่ใช่เทศกาลอึของคนหรอกนะ แต่มันคืออึของสัตว์ ภายในงานได้มีการจัดแสดงอึของสัตว์ต่างๆ มากมาย รวมถึงการแสดงพิเศษอื่นๆ เพื่อทำให้เหล่าคนรักสัตว์ทั้งหลายได้ก้าวข้ามความใกล้ชิดกับสัตว์ที่ตัวเองชอบ ที่สำคัญเราไม่ต้องห่วงถึงเรื่องสุขอนามัยเลยเพราะ อุนจิที่นำมาให้เราได้สัมผัสนั้นจะเป็นอึที่แห้งแล้ว ปลอดเชื้อ และถูกเคลือบเอาไว้ทำให้ปลอดเรื่องกลิ่น ไม่ต้องกังวลว่าจะพกพาความหอมละมุนนี้กลับบ้านคุณไปแต่อย่างใด แต่ถ้าใครอยากสัมผัสแบบใกล้ชิดขึ้น ก็จะมีการจัดแสดงที่คุณสามารถดมกลิ่นได้จากอึของสัตว์จำนวน 13 ชนิดในนั้นก็จะมี เสือ ยีราฟ หรือแม้แต่เต่าแอฟริกัน โดยจะมีการให้คะแนนเอาไว้ด้วย ซึ่งสัตว์กินเนื้ออย่างเสือนั้นก็ได้อันดับหนึ่งไปครองในเรื่องของความเหม็น ตรงข้ามกับกระรอกบินยักษ์ญี่ปุ่นที่ได้อันดับความเหม็นน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามไฮไลท์ในงานนี้ก็คืออึของเจ้าแพนด้าแดงที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้บอกไว้ว่าอึของมันนั้นมีกลิ่นที่น่าหลงใหลอย่างมาก ผลพวงมาจากที่มันกินไผ่เป็นอาหารเลยดีต่อระบบย่อยของมัน หากลองจินตนาการดูก็คงจะเหมือนกับกลิ่นของเก้าอี้หวายตัวใหม่ (งานนี้จะหอมจริงไหมคงต้องไปดมเอาเองแหละนะ) และนั้นไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อถึงช่วงสองสัปดาห์ในเดือนสิงหาคมนั้นจะมีมาสค็อทที่สวมใส่ชุดที่ทำจากขี้ช้าง มาเป็นพรีเซนเตอร์อีกคน . ถึงอย่างนั้นนี่ก็ไม่ได้เป็นงานแรกที่ดูแปลกของสวนสัตว์แห่งนี้ ในเมื่อปีก่อนด้เคยมีงานสัตว์ที่น่าเกลียดที่สุด หรือเทศกาลแมลงสาบออกมาให้เห็นไปแล้ว ทางสวนสัตว์ก็หวังไว้ว่างานนี้จะสามารถดึงให้มีผู้เข้าชมได้มากกว่า 30,000 คน และการโชว์อึครั้งนี้คงช่วยให้เด็กๆ ได้รับความรู้กลับไปอีกมากมาย ที่มา: rocketnews24
-
ดำดีสีไม่ตก!! เปิดภาพเหล่าสัตว์เผ่า ‘ราหู’ กับความด๊ามดำ ดำตั้งแต่ตาขาวไปจนถึงซอกเล็บ…
บ่อยครั้งที่ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติมักจะทำให้เราต้องทึ่งอยู่บ่อยๆ อย่างเช่นการระเบิดของภูเขาไฟ หรือพันธ์ไม้ชนิดแปลกๆ ก็ตาม และวันนี้เราก็มีหนึ่งในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติมาฝากทุกๆ คนด้วย นั่นก็คือเหล่าสัตว์ที่มีตัวเป็นสีด๊ำดำ ดำเป็นจริงเป็นจัง หลายคนคงเคยได้ยินหรือรู้จักแค่สัตว์ผิวเผือก ที่เกิดจากความผิดปกติของเม็ดสีที่ผิวกันใช่ไหมมั้ยเอ่ย? และอาจจะงงว่าเจ้าพวกสัตว์สีดำที่ว่านี้จะมีหน้าตาอย่างไรกันนะ?? ถ้าหากใครสงสัยและอยากรู้ละก็ ตาม #เหมียวเวจจี้ มาเลย… นี่คือเจ้าหมาป่าที่มีขนสีดำทมิฬทั้งตัว ซึ่งผิดแปลกไปจากเหล่าเพื่อนๆ ของมันที่มักจะมีขนสีขาว สีเทา หรือน้ำตาลอ่อน เหล่าสัตว์ที่มีผิวหนังสีดำหรือที่เรียกว่า Melanism จะมีการพัฒนาของเม็ดสีของผิวหนังเป็นสีดำซึ่งจะตรงข้ามกับโรคผิวเผือก และนี่คือเจ้าไก่สีดำ ดูเผินๆ อาจคิดว่าภาพตัดต่อ แต่เสียใจด้วย นี่คือภาพจริงๆ นะจ๊ะ เจ้าแมวป่าที่มาพร้อมกับขนสีดำ เจ้าเสือดาวสีดำ หนึ่งในตัวอย่างของสัตว์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเม็ดสีที่ผิว ยีราฟสีดำ หลายๆ คนอาจไม่เคยเห็นมาก่อนแน่นอน!! เจ้านกฟลามิงโกสีดำ ที่ดูแตกต่างจากตัวอื่นๆ ในฝูง เพนกวินจักรพรรดิสีดำ กับท่ายืนที่สง่างามของมัน เจ้ากวางน้อยสีดำ สาวกของเทพราหู การเปลี่ยนแปลงเม็ดสีไม่ได้มีแค่สัตว์ป่าเท่านั้นนะ แต่สัตว์เลี้ยงอย่างเจ้าหมาตัวนี้ก็เป็นกับเค้าด้วยนะเออ การเปลี่ยนแปลงของสีผิวนั้นไม่เป็นอันตรายต่อพวกมัน แต่แค่ทำให้ร่างกายพวกมันแตกต่างจากเพื่อนๆ เท่านั้นเอง…
-
วัฒนธรรมอันแสนหวาดเสียวกับการให้อาหาร “เหล่าไฮยีน่า” ในยามค่ำคืนแบบเม้าท์ทูเม้าท์
แทบจะทุกคนนั้นคงจะรู้จัก ไฮยีน่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่งที่เรามักจะเคยได้ยินมาว่า พวกมันมักจะกินซากศพและอยู่รวมกันเป็นฝูง จึงทำให้มองได้ว่ามันเป็นสัตว์ที่ดุร้าย แล้วถ้าสัตว์ที่เราคิดว่ามันไม่เป็นมิตร แต่กลับมีคนคอยไปให้อาหารมันทุกคืนล่ะ กลุ่มคนเหล่านี้มีอยู่จริงในเมืองกำแพงอันเก่าแก่ที่มีชื่อว่า Harar ในเอธิโอเปีย ซึ่งตามประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ได้มีส่วนหนึ่งที่กล่าวถึงไฮยีน่ามาอย่างยาวนานนับศตวรรษ โดยได้มีคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นถึงการให้อาหารที่นอกจากจะให้ผ่านมือแล้วนั้น ก็มีที่ใช้ปากคาบเนื้อสดๆ ป้อนเจ้าไฮยีน่า และเมื่อศึกษาลงไปจากแหล่งข้อมูลในท้องที่เหล่านั้นแล้วก็พบว่ากลุ่มผู้กล้าเหล่านี้ได้คอยให้อาหารไฮยีน่าตามชานเมืองมาเป็นเวลาประมาณ 60 ปีเลยทีเดียว ไกด์ที่เป็นคนท้องถิ่นชื่อว่า Hailu Gashaw ได้บอกกับนักท่องเที่ยวจาก National Geographic ว่า ย้อนกลับไปใน ค.ศ.1550 ได้มีความเชื่อที่ว่าผู้คนในเมืองนี้อยากให้ไฮยีน่าเข้ามาในเมืองด้วยเพราะว่าพวกมันจะช่วยในการกำจัดเศษซากทางการเกษตร และทำให้เมืองสะอาดสะอ้านเพื่อสุขอนามัยของแหล่งที่อยู่อาศัย ปัญหาที่เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียวคือเมื่อมีไฮยีน่าป่า เข้ามาทำความเสียหายให้กับพื้นที่ปศุสัตว์ของชาวบ้านในบางคืน จึงทำให้การให้อาหารไฮยีน่ารอบชานเมืองเริ่มจากจุดนั้น เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหามาจนถึงปัจจุบัน เพื่อแน่ใจว่าเจ้าไฮยีน่าจะไม่ไปทำร้ายผู้คน กลุ่มคนที่ให้อาหารจึงจะเดินรอบๆ เมืองและร้องเรียกเหล่านักล่าให้ออกมากินอาหารจากมือหรือปากของพวกเขาเองทุกๆ คืน ซึ่งแน่นอนว่าการที่ต้องเจอไฮยีน่ารุมเข้ามาเป็นฝูงกว่า 30 ตัวคงจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวเอามากๆ แต่เพื่อการใช้ชีวิต มันจึงเป็นเรื่องจำเป็น คลิปวิดีโอการให้อาหารเหล่าไฮยีน่าในยามค่ำคืน Mulugeta Wolde-Mariam และ Abbas Yusuf คือคนที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมที่น่าเหลือเชื่อนี้ไว้อยู่ โดยในปัจจุบันได้มีการแสดงเพื่อความบันเทิงเพื่อหารายได้จากนักท่องเที่ยวอีกด้วย หรือในบางครั้งก็จะชวนให้นักท่องเที่ยวได้ลองให้อาหารเหล่าไฮยีน่าเองกับมือ แต่ก็นะไม่ใช่ว่าทุกคนจะกล้าทำอย่างนั้นหรอก นี่อาจเป็นความตื่นเต้นหวาดเสียวที่หลายคนชื่นชอบ แต่ยังไงก็อย่าไปลองเอาเองที่บ้านเชียว…
-
ชาวเน็ตถึงกับเดือด เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จับแพนด้าน้อย ทั้งลากและโยนอย่างรุนแรงภายในกรง
ผู้ดูแลแพนด้าจากศูนย์วิจัยการผสมพันธุ์ของแพนด้าในเมืองเฉิงตู ถูกกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรงกับพวกลูกหมี หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอการดูแลลูกหมีแพนด้าของเจ้าหน้าที่ภายในศูนย์แห่งนี้ คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 2 นาที ถูกโพสต์ลงบนสื่อโซเชียล Weibo ของประเทศจีนโดยชาวเน็ตท่านหนึ่ง เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2017 ภายในคลิปเผยให้เห็นภาพของชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังลากแพนด้าและทุ่มพวกมันลงกับพื้น สร้างความไม่พอใจให้ชาวเน็ตที่ได้เห็นเป็นอย่างมาก วินาทีที่ชายหนุ่มสองคนกำลังลากและทุ่มเจ้าหมีลงกับพื้น ชาวเน็ตผู้เป็นเจ้าของคลิปวิดีโอดังกล่าวบอกว่าเขารับไม่ได้กับการกระทำของชายทั้งสอง แต่ทางด้านศูนย์วิจัยได้ออกมาอธิบายนถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า การกระทำของผู้ดูแลนั้นเป็นเรื่องปกติ สิ่งที่พวกเขากำลังทำนั้นเป็นการป้องกันไม่ให้พวกแพนด้าหลุดออกจากกรง คลิปวิดีโอความยาว 2 นาที ของเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลแพนด้าด้วยความรุนแรง หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของศูนย์วิจัยกล่าวว่า ในวันนั้นลูกหมีมีอาการตื่นตระหนกและได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนด้วย ดังนั้นทั้งคู่จึงต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อควบคุมพวกมันให้สงบลง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้เผยให้เห็นผลที่ถูกเจ้าหมีทำร้าย แต่อย่างไรก็ตามทางด้านผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยก็ได้ออกมาตำหนิการกระทำของเจ้าหน้าที่ทั้งสองคน และขอโทษต่อการกระทำดังกล่าวด้วย พร้อมกันนี้ทางผู้อำนวยการยังบอกอีกว่าจะมีการอบรมวิธีการดูแลที่อ่อนโยนและถูกต้องให้กับเจ้าหน้าที่ใหม่ เหตุการณ์เจอเรื่องแบบนี้ก็พูดยากเหมือนกันนะ แต่อย่างไรก็ตามการดูแลที่ถูกต้องและการมีความรู้ในการจัดการกับสถานการณ์แบบนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญที่เจ้าหน้าที่ไม่ควรละเลยนะ ว่าไหม?? ที่มา shanghaiist
-
โมเม้นต์น่ารักๆ ของเจ้ากระต่ายป่า แอบกระโดดขึ้นหลังเพื่อนแกะ เพื่อลี้ภัยหนีน้ำท่วม
เมื่อฤดูฝนมาถึง หนึ่งในปัญหาที่เรามักจะได้ยินกันอยู่บ่อยๆ นั่นก็คือเรื่องของน้ำท่วม และดูเหมือนว่าปัญหานี้จะไม่ได้มีแค่ในบ้านเราเท่านั้น เพราะในต่างประเทศก็ประสบเช่นเดียวกัน การหนีน้ำท่วมนั้นย่อมเป็นหนึ่งในสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดของเหล่าสิ่งมีชีวิต และเจ้ากระต่ายน้อย 3 ตัวนี้เองก็เช่นกัน เมื่อพวกมันได้หาวิธีการลี้ภัยน้ำท่วมสุดฮา ด้วยการกระโดดขึ้นไปอยู่บนหลังเจ้าแกะน้อย และขออาศัยไปด้วย เจ้ากระต่ายและเพื่อนแกะของมัน ที่กำลังอพยพจากภัยน้ำท่วม คุณ Ferg Horne วัย 64 ปีถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ เมื่อได้เห็นภาพสุดฮาของเจ้ากระต่าย ในระหว่างที่เขาได้เข้าไปช่วยเหลือแกะในฟาร์มของเพื่อนบ้านจากเหตุการณ์น้ำท่วม ที่เมือง Drunedin ประเทศนิวซีแลนด์ ในระหว่างที่กำลังต้อนฝูงแกะทั้ง 40 ตัวอยู่นั้น ชายหนุ่มได้สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง และเมื่อได้เข้าไปดูใกล้ๆ ก็ถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ เมื่อวัตถุประหลาดที่อยู่บนหลังเจ้าแกะนั้นคือกระต่ายตัวป่าตัวน้อย ที่แอบอาศัยหนีน้ำท่วมไปด้วย ในการทำไร่ พวกกระต่ายถือว่าเป็นศัตรูตัวสำคัญสำหรับผลผลิตทางการเกษตรเลยทีเดียว คุณ Ferg ให้สัมภาษณ์ว่า โดยปกติแล้วถ้าเขาเห็นพวกกระต่าย เขาจะต้องจัดการพวกมันทันที แต่ความน่ารักที่เขาเห็นในวันนั้น ทำให้เขาถึงกับใจอ่อนยิงมันไม่ลงเลยทีเดียว “มันเป็นภาพที่ดูน่ารักมาก ผมรีบหยิบโทรศัพท์มาอัดวิดีโอเอาไว้ และส่งให้ลูกชายทันทีหลังจากที่กลับบ้าน ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นศัตรูต่อพืชผล แต่วันนั้นผมทำใจฆ่ามันไม่ลงเลย” คุณ Freg กล่าว ชมความน่ารักของพวกกระต่ายได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา metro
-
หญิงสาวเจอ “แมงมุมตัวยักษ์” แปลกตาสุดๆ เลยตั้งชื่อเล่นให้มันตามในแฮร์รี่ว่า “อาราก็อก”
งานนี้บอกเลยว่าถ้าใครกลัวแมงมุม ควรหลบโพสต์นี้ให้ดี เพราะว่าแมงมุมยักษ์ Aragog จะมาบุกถึงบ้านคุณแล้ว…ยังไม่ปิดอีกเหรอ? โอเคงั้นแสดงว่าคุณพร้อมจะไปต่อแล้ว ถ้าใครที่เป็นแฟน แฮร์รี่ พอตเตอร์ คงจะคุ้นชื่อ Aragog กันเป็นอย่างดี เพราะชื่อนี้เป็นชื่อแมงมุมยักษ์ในหนังเรื่องดังกล่าว มีลักษณะที่ใหญ่โตมากๆ ตามหนังของมัน ทำให้ชาวบ้านจากออสเตรเลียตัดสินใจตั้งชื่อให้กับแมงมุมที่พวกเขาบังเอิญเจอระหว่างกำลังจะทำอาหารนั่นเอง Lauren Ansell จากรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ได้โพสต์ภาพพร้อมเล่าถึงเหตุการณ์สุดตะลึง เมื่อเธอและแฟนกำลังวางแผนจะทำกับข้าวกินกันนอกบ้าน ทว่าดันเหลือบไปเห็นเจ้าแมงมุมไซส์บิ๊กเกาะอยู่ตรงกระจก เล่นเอาทั้งคู่ตกใจกันสุดๆ แม้ว่าตัวมันจะใหญ่โตดูน่ากลัว แต่ Lauren กลับบอกว่าแม้มันจะหน้าตามันจะดูไม่เป็นมิตร แต่จริงๆ แล้วมันไม่มีภัยอะไรหรือดุร้ายเลย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดูจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะขยับออกจากหน้าต่างสักเท่าไหร่นัก เธอเล่ากับ Dailymail ว่า “แฟนของฉันพยายามจะทำอาหารกินกันข้างนอก และเราก็ไม่อยากทำร้ายมันจึงอยากให้มันย้ายที่ไปซะ แต่ดูแล้วมันจะไม่ยอมไปสักที ฉะนั้นฉันก็เลยตามเลย และปล่อยให้มันอยู่แบบนั้น ที่สำคัญฉันตั้งชื่อให้มันว่า Aragog ด้วยนะ” ดูเหมือนมันจะรู้ว่าโดนแอบถ่ายอยู่นะ รีบมาออกกล้องเลย สุดท้ายหลังจากเธอโพสต์ภาพนี้ไม่นาน เจ้า Aragog ก็จากไป โดย Lauren บอกว่ามันเจอบ้านใหม่แล้ว…
-
เมื่อวาฬหลังค่อมขนาด 40 ตัน กระโดดขึ้นโชว์เหนือผิวน้ำ วินาทีสุดอัศจรรย์จากท้องทะเล!!
ถ้าพูดถึงวาฬ หลายคนก็คงจะนึกถึงสัตว์ทะเลขนาดยักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้ามหาสมุทรกันอย่างแน่นอน ลองคิดภาพว่าเราอยู่ในเหตุการณ์ที่เจอมันกระโดดขึ้นมาจากน้ำอย่างสง่างาม ภาพนั้นมันจะสุดยอดขนาดไหนนะ? ล่าสุด Craig Capehart นักประดาน้ำ ที่ออกไปดำน้ำบริเวณชายฝั่งของเมือง Mbotyi ในประเทศแอฟฟริกาใต้ ก็ต้องพบกับเหตุการณ์สุดตะลึง เมื่อเขาได้เก็บภาพของวาฬหลังค่อมที่มีขนาดใหญ่ราวๆ 40 ตันกระโดดขึ้นมาเหนือผิวน้ำ!! Craig ยังบอกเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้เจออีกว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เขาจดจำไปทั้งชีวิต วินาทีที่วาฬหลังค่อมกระโดดขึ้นมานั้นช่างสง่างามสุดๆ “เชื่อเหอะว่าโลมาก็สู้ไม่ได้ หรือแม้แต่ยอดฉลามขาวก็ยังไม่บินขึ้นเหนือน้ำแบบนี้ แล้วดูนี่สิ มันคือวาฬหลังค่อมที่โตเต็มวัยเลยนะ!!” ด้วยน้ำหนักตัวที่มากถึง 40 ตัน แต่สามารถกระโดดขึ้นมาบนผิวน้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์!! สำหรับวาฬหลังค่อมแล้วเมื่อโตเต็มวัย จะมีน้ำหนักราวๆ 36,000 กิโลกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับฮิปโปหนุ่ม 24 ตัว แต่ Craig บอกว่าเจ้าตัวนี้มันน่าจะหนักถึง 40 ตันแน่ๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวินาทีที่หาชมได้ยากจากธรรมชาติ ทำให้คลิปดังกล่าวมียอดผู้เข้าชมถึง 1 ล้านครั้งภายใน 1 สัปดาห์ ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกถึงความสุดยอดของเจ้าแห่งท้องทะเลจริงๆ ที่มา boredpanda
-
เจ้าตูบสู้ชีวิต แม้จะถูกคนใจร้าย “ยิงปืนอัดลม” เข้าที่หัวนับครั้งไม่ถ้วน แต่มันก็ไม่ยอมแพ้!!
เหตุการณ์สุดสลดของเจ้าตูบจรจัดตัวหนึ่งที่มีคนไปเจอมันเดินเตดเตร่อยู่บริเวณชานเมืองเบรุต ในประเทศเลบานอน ตอนแรกนั้น คนที่ช่วยเหลือมันสังเกตเห็นเพียงแค่ท่าทางว่ามันน่าจะหิวน้ำจึง จัดแจงให้น้ำแก่มันไป แต่พอเข้าไปใกล้ๆ นั้นกลับช็อคกับหัวของมันที่มีแผลเหวอะหวะ เธอเลยรีบช่วยเหลือมันทันที! เป็นภาพที่ดูแล้วสะเทือนใจสุดๆ สังเกตได้ว่าอาการหนักมากๆ และถ้าปล่อยไว้มันอาจจะไม่รอดเป็นแน่แท้ Amal Andari และเพื่อนของเธอไม่รอช้า รีบพาเจ้าตูบตัวดังกล่าวไปส่งโรงพยาบาลสัตว์ใกล้ๆ ทันที จากนั้นทีมแพทย์ได้ทำการเอ็กซ์เรย์บริเวณหัวของเจ้าตูบ พวกเขาก็พบว่าที่หัวของมันกลาเป็นแบบนั้นเกิดจากการถูกยิงอัดด้วยปืนอัดลมจำนวนมาก คาดว่าจะเกิดจากกลุ่มวัยรุ่นท้องถิ่นที่นึกสนุกอยากแกล้งมันนั่นเอง เข้ารับการรักษาแล้ว นายต้องรอดนะเจ้าตูบ จากภาพเอ็กซ์เรย์เราจะเห็นได้ว่า ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมีลูกกระสุนปืนอัดลมอยู่เพียบ!! มีเพียบจริงๆ เม็ดกระสุนปืนอัดลมอยู่เต็มตัวไปหมด ยิ่งส่วนหัวยิ่งหนักมากๆ เดิมทีแล้ว Amal เป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ให้แก่องค์กรช่วยเหลือสัตว์ในประเทศเลบานอนอยู่แล้ว ซึ่งเธอเล่าว่าในประเทศนี้การทำร้ายสัตว์ถือเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ หนักหน่อยอาจจะมีการวางยาพิษแก่สุนัขจรจัดอีก ด้วยเหตุนี้เธอจึงจัดการรับเลี้ยงเจ้าตูบที่เธอช่วยมาชั่วคราว และตั้งชื่อให้ว่า Bondok ซึ่งผลของอาการบาดเจ็บของมันทำให้ตาของเจ้าตูบมืดบอด ไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไป สภาพของมันเริ่มกลับมาดีอีกครั้งหลังได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เมื่อได้รับการดูแลอย่างดี จากหมาจรจัดก็กลายเป็นหมาที่น่ารักได้ มตอนนี้มันได้รับการเลี้ยงดูให้อยู่บริเวณชานเมืองของประเทศเลบานอน และสภาพของมันก็กลับมาดีพอสมควรจนพร้อมที่จะให้เจ้าของใหม่ที่พร้อมจะรับเลี้ยงดูมันมารับเลี้ยงไป ยื่นมือเข้ามาช่วยและมอบความรักให้กับมันเสียที ยิ่งภาพนี้ยิ่งตอกย้ำความน่ารักมุ้งมิ้งของเจ้า Bondok สุดๆ…
-
แมวเซปชั่น!? ความน่ารักแบบ x2 ของเจ้าเหมียว ที่ดั๊นมี “ปานรูปแมว” สีดำอยู่ตรงจมูก
เจ้าเหมียว สัตว์เลี้ยงที่สุดแสนจะน่ารัก นอกจากนิสัยที่ขี้อ้อนของมันที่ทำให้หลายๆ คนหลงไหลแล้ว ยังมีลักษณะบางอย่างที่แตกต่างกันของแต่ละสายพันธ์ อย่างเช่น ลวดลายหรือความยาวของขนอีกด้วย ที่ทำให้พวกเราขอสมัครเข้าเป็นแก๊งค์แมวเหมียวนั่นเอง และเจ้าเหมียวตัวนี้ก็ด้วย นอกจากหน้าตาอันแสนน่ารักของมันแล้ว พี่แกยังมีลักษณะพิเศษที่จมูกอีกด้วย ซึ่งจุดด่างตรงนี้ทำให้มันดูมีความพิเศษกว่าแมวตัวอื่นๆ และนี่คือเจ้าเหมียวพระเอกของเรา… เห็นลายอะไรนั่นมั้ยยยยยย!? ภาพของเจ้าเหมียวตัวนี้ถูกเผยแพร่บนโลกอินเตอร์เน็ตโดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า @TOKAITRICK_bot ความแปลกของเจ้าเหมียวตัวนี้อยู่ที่รอยด่างตรงจมูกของมันที่ดูคลายกับมีแมวอีกตัวหมอบอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ทราบชื่อและที่มาที่ไปของเจ้าแมวตัวนี้ แต่ด้วยสีแและรอยด่างตรงจมูกของมันก็เรียกความสนใจจากชาวเน็ตได้ไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพของเจ้าเหมียวจำนวนมาก ชาวเน็ตท่าหนึ่งบอกว่า “มันน่ารักมาก!!” แต่บางคนก็สังเกตุเห็นความผิดปรกติเนื่องจากตรงหูของของเจ้าเหมียวนั้นเต็มไปด้วยหมัด พวกเขาจึงแนะนำให้คุณ @TOKAITRICK_bot รีบพามันไปพบสัตวแพทย์และรับมันไปดูแลต่อ ว่าไงเพื่อน ไม่เคยเห็นจมูกแมวกันรึไง!? แต่อย่างไรก็ตามเจ้าของภาพเจ้าแมวซ้อนแมวก็ได้ออกมาบอกว่า เจ้าแมวตัวนี้อาศัยอยู่กับแม่ของมันและพี่น้องตัวอื่นๆ ถ้าหากเธอรับมันไปเลี้ยงตัวเดียวหรือพามันออกจากที่นี่อาจทำให้พวกมันเสียใจก็ได้ แถมเธอยังไม่แน่ใจว่าจะดูแลมันทั้งหมดได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหญิงสาวจึงทำได้เพียงแค่ถ่ายรูปและบันทึกคลิปวิดีโอของมันเท่านั้น แม้ววว!! ก็หวังว่าความดังของมันครั้งนี้ จะส่งผลให้มีใครสักคนที่พร้อมและใจดี หรือสถานดูแลสักที่มารับมันไปเลี้ยง เพราะพวกมันทั้งหลายอาจจะต้องการความช่วยเหลืออยู่เช่นกันนะ ที่มา rocketnews24
-
ชาวบ้านถึงกับขวัญผวา เมื่อพบแพะน้อยหน้าตาคล้ายปีศาจ รีบโทรแจ้งตำรวจแทบไม่ทัน!!
เราอาจจะเคยได้เห็นสัตว์ประหลาดตามจินตนาการของมนุษย์ ที่โผล่อยู่ในทั้งนิยายและภาพยนตร์มาแล้วบ้าง อย่างเช่น สุนัขสามหัว หรือว่า ม้ามีปีก แต่ถ้าหากว่าเราได้เจอกับสัตว์ที่มีลักษณะแปลกประหลาดจริงๆ ล่ะ จะทำยังไง!? ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ชาวอาร์เจนตินาถึงกับตกใจไปตามๆ กัน เมื่อมีภาพลูกแพะที่เกิดมารูปร่างหน้าตาบู้บี้ ตำแหน่งดวงตาแนบชิดกัน คล้ายกับใบหน้าของมนุษย์หรือปีศาจโผล่มาในโลกออนไลน์ เจ้าแกะน้อยหน้าตาประหลาดคล้ายปีศาจนี้ เกิดอยู่ในจังหวัด San Luis ประเทศอาร์เจนตินา โดยมีคุณ Gladys Oveido ผู้เป็นเจ้าของน้องแพะตัวนี้ เธอรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ในตอนที่ได้เห็นเจ้าแพน้อยจ้องมองกลับมาที่เธอ ซึ่งมีเพียงในส่วนหัวเท่านั้นที่ผิดแปลกไป ในขณะที่ส่วนอื่นยังคงเป็นปกติไม่ต่างไปจากแพะทั่วไป สำหรับชะตากรรมของน้องแพะนั้นจบลงอย่างรวดเร็ว เพราะหลังจากที่คลอดออกมามันก็ได้ตายจากไปแล้ว แต่ภายหลังที่ลูกสะใภ้ของเธอ ได้แชร์วิดีโอของเจ้าแพะตัวดังกล่าวลงในโลกออนไลน์ ใบหน้าที่แปลกประหลาดของมัน ก็กลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ตทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นอย่างมาก บางคนที่ได้เห็นภาพแพะเจ้าแพะตัวนี้ ก็มีการส่งไปแจ้งกับตำรวจท้องถิ่น เพื่อให้เข้ามาทำการตรวจสอบฟาร์มแห่งนี้ เป็นการด่วนเลยทีเดียว เกิดมาได้เพียงไม่นาน เจ้าแพะน้อยก็ได้ตายจากไปอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า สาเหตุของความผิดปกติบนใบหน้าของเจ้าแพะตัวนี้ เกิดขึ้นมาจากอะไรกันแน่ ซึ่งทางสำนักข่าวต่างประเทศก็เชื่อว่าจะมีการสืบหาสาเหตุกันต่อไป ทั้งนี้ที่มีการเชื่อมโยงไปถึงปีศาจนั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่า ความเชื่อเกี่ยวกับแพะที่ถือเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของปีศาจ Baphomet อันเป็นร่างจำแลงของซาตานและความชั่วร้ายนั่นเอง …
-
ควีนเอลิซาเบธรับเลี้ยงสุนัขคอร์กี้อีกหนึ่งตัว แม้เคยตรัสว่าจะไม่รับเลี้ยงสุนัขเพิ่มอีกแล้ว…
อย่างที่รู้กันดีว่า Queen Elizabeth ที่ 2 นั้นรักสัตว์มากๆ โดยเฉพาะสุนัขสายพันธุ์คอร์กี้ ซึ่งก็คงไม่ต้องถามว่าทำไมพระองค์ทรงโปรดสุนัขพันธุ์นี้ ก็เพราะความน่ารักของพวกมันนั้นถือเป็นที่สุดนั่นเอง ในช่วงเวลาที่พระองค์ครองราชย์มานั้น ทรงเลี้ยงสุนัขคอร์กี้มาแล้วกว่า 30 ตัว!! ใช่แล้วอ่านไม่ผิดหรอก ซึ่งนี่เป็นข้อยืนยันว่าพระองค์ทรงโปรดสุนัขสายพันธุ์นี้จริงๆ ย้อนกลับไปราวๆ 4 ปีก่อน พระองค์ได้ทรงตรัสว่าจะเลิกเพาะพันธุ์สุนัขสายพันธุ์นี้แล้ว และต่อมาเมื่อ 1 ปีก่อน พระองค์ก็ตรัสว่าจะไม่เลี้ยงอีกสัตว์เพิ่มไปมากกว่านี้อีกแล้ว แต่ทว่าพระองค์ทรงรับสุนัขคอร์กี้ตัวใหม่มาเลี้ยงในปีนี้แทนซะงั้น!? แม้จะเป็นการกลับคำของพระองค์ แต่จริงๆ แล้วทุกอย่างที่พระองค์ทำล้วนมีเหตุและผล เพราะการที่ยอมลงทุนกลับคำนั้น เกิดขึ้นจากการที่เพื่อนของพระองค์นามว่า Bill Fenwick ผู้เป็นเจ้าหน้าที่เฝ้าประตูตำหนักซานดริงแฮม ได้เสียชีวิตลงในปีนี้ รวมถึงภรรยาของเขาก็เสียชีวิตไปเมื่อปีก่อน ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้เจ้า Whisper สุนัขคอร์กี้วัย 9 ปี ของ Bill ต้องกลายเป็นสุนัขที่ไม่มีเจ้าของ และด้วยความน่ารักนิสัยดีของมันทำให้ควีนยอมตัดสินใจรับดูแลมันแทนเพื่อนเก่าของพระองค์นั่นเอง สุดท้ายเจ้า Whisper ก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีทั้งจากพระองค์เอง และจากข้าราชสำนักใช้ของพระองค์ ซึ่งมันก็ได้ห้องนอนอย่างดี กินอาหารสุดหรูจากเชฟมากฝีมือ ที่สำคัญมันยังได้อยู่กับ…
-
เจ้าสุนัขคอร์กี้เห่าเตือนมนุษย์ เพื่อให้รับรู้ถึงภัยอันตราย ก่อนเสี้ยววินาทีกิ่งไม้ยักษ์หล่นลงมา!!
หลายคนน่าจะเคยได้ยินว่าสุนัขนั้นสามารถถูกฝึก เพื่อให้เป็นสุนัขช่วยเหลือมนษย์ได้ในหลากหลายทาง และอย่างหนึ่งที่สุนัขมักจะถูกฝึกให้ช่วยก็คือการฟังเสียงนั่นเอง ซึ่งมันเป็นประโยชน์และช่วยชีวิตคนได้มากมายเลยล่ะ เรื่องราวในครั้งนี้ก็เช่นกัน Peggy Keating หญิงรายหนึ่งที่เธอไม่รู้มาก่อนว่า เธอจะสามารถรอดชีวิตมาได้เพราะเจ้า Pippa สุนัขตัวโปรดของเธอ เจ้า Pippa นั้นเป็นสุนัขพันธุ์คอร์กี้ตัวเล็กน่ารักของน้องสาว Peggy ซึ่งตัวเธอก็ชอบในความน่ารักของมันมากๆ แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อทั้งคู่ออกไปเดินเล่นข้างนอก เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น!! ในเสี้ยววินาทีที่เธอกำลังอยู่ยืนใต้ต้นไม้ และเจ้า Pippa เหมือนจะได้ยินเสียงกิ่งไม้ที่ค่อยๆ แตกออกและกำลังจะหักลงมา มันจึงส่งเสียงเห่าเสียงดังอย่างสุดแรงเกิด เพื่อเตือนให้ Peggy รู้ว่าภัยอันตรายกำลังใกล้เข้ามาแล้ว… โชคดีที่เหมือนตัว Peggy จะรู้สึกได้ถึงการเห่าของเจ้าตูบและขยับตัวไปนิดหน่อย เพียงไม่นานนักกิ่งไม้ขนาดใหญ่ก็ตกลงมาใกล้ๆ กับจุดเดิมที่เธอยืน เรียกได้ว่าตอนนั้นเธอถึงกับอึ้งไปเลยล่ะ!! เธอยังให้สัมภาษณ์กับทาง Thedodo ว่า “ฉันต้องขอบคุณ Pippa จริงๆ ที่ช่วยชีวิตของฉันให้พ้นจากภัยอันตราย ถ้ามันไม่เห่าเตือนฉันในตอนนั้น ฉันก็คงโดนกิ่งไม้ขนาดใหญ่ตกใส่เต็มๆ แล้วล่ะ” Pegger ได้บอกปิดท้ายว่า จากเดิมที่เจ้า Pippa เป็นสุนัขตัวโปรดอยู่แล้ว พอเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ก็ทำให้เธอรักมันมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก และต้องขอบคุณความสามารถในการได้ยินของมัน ที่แม้จะไม่ได้ฝึกมาก็ตาม……
-
พนักงานส่งพัสดุ ตัดสินใจรับเลี้ยงดูเจ้าตูบที่เจอทุกวัน หลังจากที่เจ้าของเก่าได้เสียชีวิตไป…
ปกติแล้วเหล่าสัตว์เลี้ยงจะมีอายุที่สั้นกว่าเจ้าของ และพวกมันก็มักจะจากก่อนเจ้าของอยู่บ่อยๆ ทว่าถ้าเจ้าของดันจากไปก่อนพวกมันละ? แล้วมันจะอยู่กับใครในเมื่อไม่มีคนดูแลแล้ว มันจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่กำพร้าอย่างนั้นเหรอ? เช่นเดียวกันกับเจ้า Leo สุนัขพิทบูลที่ถูกรับเลี้ยงโดย Katie Newhouser เจ้าหน้าที่ส่งพัสดุบริษัท UPS ที่ทำหน้าที่ส่งพัสดุตามเส้นทางที่รับมอบหมายภายในรัฐแคลิฟอร์เนีย และแน่นอนว่า Tina ผู้เป็นเจ้าของเก่าของมันก็อยู่ในเส้นทางนั้นด้วย ‘เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันขับรถเข้ามาภายในย่านปุ๊บ เจ้าหมาก็จะวิ่งพุ่งเข้ามาหาฉันทันทีเลย มันมักจะเข้ามาเลียทุกครั้งเลยล่ะ’ นอกจากนั้นแล้ว Katie ก็บอกว่าเจ้า Leo ชอบที่จะกระโดดเข้ามาในรถของเธอด้วยนะ!! ‘มันชอบที่จะนั่งอยู่บนรถ แล้วก็ดมๆ ไปทั่วรถ แต่พอถึงเวลาที่ฉันจะต้องไปแล้ว มันก็ไม่ยอมออกจากรถเลย’ และด้วยการวนเวียนมาเจอกันของทั้งสอง เป็นระยะเวลานานนับปี ก็ทำให้ความสัมพันธ์เริ่มพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้ววันหนึ่งหลังจากที่ Katie กลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากช่วงลาพักร้อนแล้ว เธอกลับไม่เจอ Tina จนกระทั่งได้รับรู้ว่าเจ้าตัวได้เสียชีวิตไปแล้ว จะเหลือทิ้งไว้ก็แต่เจ้า Leo ที่ไม่รู้ว่าจะอยู่ยังไงต่อไป เมื่อเจ้าของมันจากไปแล้ว Katie จึงตัดสินใจว่าเธอจะเป็นคนที่รับช่วงต่อดูแลมันเอง เพราะเธอไม่อยากให้มันต้องไปจบลงที่สถานรับเลี้ยงจนถึงบั้นปลายของชีวิต ถ้าไม่มี Katie ชีวิตของเจ้า Leo คงจะจบลงที่สถานรับเลี้ยงนั่นเอง …
-
พาไปรู้จักเบื้องลึกของ “สิงโตทะเล” สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่แสนน่ารักและมีเสน่ห์!!
เหล่าสัตว์โลกที่แสนจะน่ารัก มักทำให้หลายๆ คนต้องใจละลายยอมสมัครเป็นแฟนคลับพวกมัน และสัตว์หนึ่งชนิดที่เรียกได้ว่ามีความน่ารักไม่แพ้เหล่าสัตว์เลี้ยงเลยนั่นก็คือเหล่าสัตว์ในตระกูลสิงโตทะเลนั่นเอง เมื่อไม่นานมานี้ช่างภาพสาวคุณ Kinnara Bosworth ได้บันทึกภาพน่ารักๆ ของพวกสิงโตทะเล จากเกาะ Galápagos ประเทศเอลกวาดอร์ เธอใช้เวลากว่าสัปดาห์ในการเฝ้าบันทึกภาพกิจกรรมของพวกมัน และนี่คือภาพของเหล่าอุ๋งๆ ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ พวกเราไม่ใช่แมวน้ำนะฮะ พวกเราคือสิงโตทะเลต่างหาก!! พวกเราถูกจัดให้อยู่ในวงค์ Otariidae ในอันดับ Pinnipedia นะ และสิ่งที่แตกต่างจากแมวน้ำที่พวกคุณรู้จักนั้นก็คือพวกเรามีใบหูนั่นเอง และนอกจากนี้เรายังมีครีบที่เอาไว้ช่วยให้เดินบนบกได้สบายๆ ต่างจากพวกแมวน้ำอีกด้วยนะ เฉลี่ยแล้วพวกเรามีอายุประมาณ 20-30 ปีนะรู้ป่าว?? และอาหารโปรดของพวกเรานั่นก็คือ พวกสัตว์ทะเลตัวเล็กๆ อย่างพวกปลาและปลาหมึก ส่วนมากแล้วพวกเรามักจะอาศัยอยู่ตามชายฝั่งตั้งแต่ในทะเลเขตอบอุ่น ไปจนถึงเขตขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ก็มีพวกเราอยู่เหมือนกันนะ หรือว่าในแอฟริกา อเมริกาใต้ และบริเวณเส้นศูนย์สูตร อย่างหมู่เกาะกาลาปากอส ก็มีนะเออ อ่า… รู้จักกันพอแล้ว ไปชมภาพน่ารักๆ ของพวกเราดีกว่านะ แม่จ๋า… แฮร่… น่ารักมั้ยครับบ?? ว่าไงจ๊ะ ตุ้ยนุ้ย!? แหม่… น่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ยพวกสิงโตทะเลเนี่ย ที่มา boredpanda
-
ลูกแรคคูนสุดน่ารักสามตัวไม่ยอมห่างจากชายหนุ่ม หลังเขาบังเอิญช่วยพวกมันระหว่างไปตกปลา..
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2017 ที่ผ่านมาได้มีเหตุการณ์สุดประทับใจเกิดขึ้นที่มุมหนึ่งของโลก เมื่อ Dominyk Lever ช่างภาพมากฝีมือได้บันทึกเหตุการณ์ที่น่ารักที่สุดตั้งแต่เขาเคยบันทึกมา นั่นก็คือภาพของลูกแรคคูนตัวเล็ก 3 ตัว… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ Dominyk เดินทางไปตกปลาที่ Apple Creek รัฐโอไฮโอ ซึ่งขณะที่เขากำลังตกปลาอยู่ เขาก็รู้สึกว่ามีตัวอะไรบางอย่างมาเกาะแกะที่ขาของเขา ว่ายน้ำป๋อมแป๋มมาแต่ไกล ก้อนขนอะไรเนี่ยมาเกาขายิกๆ พอมองลงไปเขาก็เห็นลูกแรคคูนสามตัวมาเกาะขาอยู่และพวกมันก็น่ารักมาก ไม่นานนักแรคคูนทั้งหมดก็ปืนขึ้นไปบนส่วนต่างๆ ของเขาและเลียหูเบาๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มุ้งมิ้งสุดๆ ระหว่างนั้นเขาก็ตกปลาต่อไป และรอดูท่าทีว่าแม่ของพวกมันจะโผล่ออกมาไหม แต่ว่าเวลาผ่านไปนานสองนานก็ดูเหมือนว่าแม่ของพวกมันจะไม่โผล่มา จนสุดท้ายนักตกปลาคนอื่นก็มาถึงและนำปลาที่ตายแล้วในบริเวณนั้นมาให้ลูกแรคคูนเป็นอาหาร พวกเขาจึงคาดว่าลูกแรคคูนทั้งสามน่าจะกำพร้า และหลงทางมาจากรังของพวกมัน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงตัดสินใจช่วยเหลือพวกมันและสร้างที่พักพิงให้ใหม่ ด้านนักวิชาการก็ออกมายืนยันว่าการช่วยลูกแรคคูนป่าทั้งสามด้วยการสร้างที่พักพิงให้ ถือเป็นเรื่องที่รับได้และไม่ทำให้พวกมันเสียนิสัยแต่อย่างใด เพราะพวกมันได้สูญเสียแม่ไป แต่ว่าก็ไม่ควรเลี้ยงพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยง ส่วนสาเหตุนั้นก็มาจากการที่พวกมันเป็นสัตว์ป่า ทำให้การฝึกและเลี้ยงดูเป็นเรื่องยาก ที่สำคัญถ้าเลี้ยงในบ้านข้าวของอาจจะพังได้ในเวลาไม่กี่วันนั่นเอง… สามารถรับชมคลิปเต็มๆ น่ารักๆ ได้ข้างล่างเลยจ้า ที่มา nationalgeographic
-
ช่ายภาพตระเวนถ่ายภาพ “สุนัขแก่” ความงดงามช่วงบั้นปลายชีวิต ที่น้อยคนจะมองเห็น
ถ้าว่ากันตามจริง ช่วงวัยที่น่ารักที่สุดของเหล่าสุนัขก็คงจะเป็นช่วงที่พวกมันเป็นเด็กๆ เป็นลูกสุนัขตัวน้อยๆ ลูกสุนัขที่ซนจนอยากจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงมันทั้งวัน แต่พอพวกมันเติบโตและแก่ลงความน่ารักก็ลดลงไปด้วย จนหลายๆ คนไม่ค่อยจะเล่นกับพวกมันเหมือนก่อนๆ จนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเหงาๆ ที่รอวันจากไปเท่านั้น… เรื่องราวทำนองนี้เกิดขึ้นกับช่างภาพสาวชาวสหรัฐฯ อย่าง Nancy Le Vine เช่นกัน เธอเองเลี้ยงสุนัขเอาไว้ 2 ตัว คือ Lulu และ Maxie จนพวกมันแก่ตัวและจากเธอไปในปี 2006 ทำให้เธอค่อนข้างเศร้าทีเดียว “ฉันคิดถึงมันมาก แม้เวลาจะผ่านไปแล้ว พวกมันยังคงอยู่กับฉันตลอดไป” Nancy กล่าว เพื่อเป็นการแสดงความระลึกถึงเหล่าสุนัขของเธอ Nancy เลยออกเดินทางไปทั่วอเมริกาเพื่อถ่ายภาพเหล่าสุนัขแก่ๆ และแสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่หรือความสวยงามจากความแก่ชราของพวกมัน Ratzoe อายุ 21 ปี จากวอชิงตัน Champ วัย 9 ปี จากเซาท์ดาโคตา Curley อายุ 14 ปี จากรัฐยูทาห์ Murphy…
-
โมเม้นหายาก… เมื่อแม่สิงโตรับเลี้ยงลูกเสือดาว ดูแลเหมือนลูกแท้ๆ หลังเสียลูกตัวเองไป
หลายๆ ครั้งที่เรามักจะเห็นแม่สัตว์เลี้ยงลูกสัตว์ที่ไม่ใช่ลูกตัวเอง แถมบางทีเป็นสัตว์ต่างชนิดด้วย นั่นเป็นเพราะพวกมันมีสัญชาตญาณแห่งความเป็นแม่นั่นเอง เหมือนกับแม่สิงโตจากอุทยานแห่งชาติเซเรนเกตี ในประเทศแทนซาเนีย ที่เลี้ยงดูลูกเสือดาว พร้อมทั้งให้กินนมราวกับเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง ตามลำดับห่วงโซ่อาหารแล้ว เมื่อสิงโตเห็นลูกเสือดาว พวกมันมักจะลงมือฆ่าทันที เนื่องจากเป็นศัตรูที่คอยแย่งชิงอาหารกัน แต่แม่สิงโตตัวนี้กลับให้ลูกเสือดาวดูดนม ซึ่งเป็นภาพที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ยังบอกว่าหาได้ยากมากๆ สำหรับแม่สิงโตตัวนี้ได้คลอดเจ้าตัวน้อย 3 ตัว เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2017 และมันก็ให้ลูกๆ ซ่อนตัวอยู่ภายในรัง บริเวณพื้นที่อนุรักษ์อึงโกรองโกโร แต่จากการสังเกต Ainslie Wilson ผู้จัดการ Ndutu Safari Lodge บอกว่า ‘ดูเหมือนลูกๆ ของมันจะตายแล้ว เพราะมันไม่ได้กลับไปที่รังนานแล้ว’ โดยในภายหลังแม่สิงโตก็พบลูกเสือดาว ที่อยู่ห่างจากรังประมาณ 1 กิโลเมตร แม่สิงโตจึงเกิดความเอ็นดู และตัดสินที่จะดูแลมันเหมือนลูกตัวเอง ไม่มีใครรู้ว่าลูกของสิงโตนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่แม่สิงโตจะอยู่ดูแลลูกเสือดาวตลอดเวลา ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าลูกของมันอาจจะตายไปแล้วจริงๆ ก็ได้ อย่างที่บอกว่ามันแทบจะเป็นไม่ได้ที่สิงโตจะไม่ทำร้ายเสือดาว แต่นักสัตววิทย Sarah Durant บอกว่า “อาจเป็นไปได้ว่าแม่สิงโตได้มาเจอลูกเสือดาว…
-
หญิงสาวพบน้ำผึ้งประหลาดไหลออกมาจากำแพง พอเปิดดูเจอผึ้งกว่า 35,000 ตัว ซ่อนอยู่!!
ถ้าคุณเป็นคนที่กลัวผึ้ง หรือแพ้เหล็กในผึ้งบ้านหลังนี้ไม่เหมาะกับคุณอย่างแน่นอน เพราะว่าถ้าคุณเป็นคนประเภทดังกล่าวคุณจะต้องช็อคตายแน่ๆ เมื่อรู้ว่ากำแพงบ้านของตัวเองมีผึ้งอาศัยอยู่ว่า 35,000 ตัว!! Cherisse Mulzac เจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ ได้เล่าว่าตอนแรกเธอก็อาศัยอยู่ในบ้านตามปรกตินั่นแหละ แม้เธอจะเจอผึ้งในอพาร์ตเมนต์ของตัวเองบ้างเมื่อหลายปีก่อน แต่มันก็แค่ไม่กี่ตัว ซึ่งเธอคาดว่าไม่น่าจะมีอะไร มันอาจจะหลุดเข้ามา เธอบอกว่าหลังๆ ก็เจอมันเยอะขึ้น ราวๆ 6-7 ตัวต่อวัน จนกระทั่งวันหนึ่งเธอสังเกตเห็นว่ามันมีของเหลวเหนียวๆ ไหลหลงมาจากำแพงอพาตเมต์ของเธอ จนเธอคนพบว่าน้ำเหนียวๆ ที่ว่ามันคือน้ำผึ้ง!!? งานนี้แหละเล่นเอาสตั้นไปชั่วขณะ จนเธอต้องหาต้นต่อว่ามันมาได้ยังไง เธอพบว่ามันมีรังผึ้งอยู่ในกำแพงของเธอ ซึ่ง Cherisse ก็ไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง แต่ยังไงก็ตามเธอก็เรียก Mickey จากบริษัทเลี้ยงผึ้งให้มาจัดการปัญหานี้หน่อย เมื่อ Mickey มาถึงเขาก็ทำการเจาะกำแพงดู ทั้งเขาและตัว Cherisse ก็ถึงกับอึ้งยิ่งกว่าเดิม เพราะรังผึ้งที่ว่ามันไม่ใช่เล็กๆ มันใหญ่มากๆ เจ้าหน้าที่คาดว่ารังนี้จะมีประชากรผึ้งมากกว่า 35,000 ตัวเลยล่ะ ทำฟาร์มน้ำผึ้งย่อมๆ ได้เลยนะเนี่ย Mickey บอกว่าเขาไม่ได้เห็นอาณานิคมผึ้งที่ใหญ่ขนาดนี้มานานแล้ว เขาจึงขอนำผึ้งพวกนี้กลับไปดูแลต่อที่บ้านของเขา ซึ่งใช้เวลาในการจัดการนานถึง 6 ชั่วโมงเพราะเขาต้องค่อยๆ…
-
ลูกช้างตามติดหญิงสาวผู้ช่วยชีวิต ไม่ว่าเธอจะไปไหน ก็ยังตามติดไปเรื่อยๆ แม้ตัวจะไม่เล็กแล้ว!?
เรื่องราววุ่นๆ ของเจ้า Moyo ลูกช้างตัวน้อยอายุไม่กี่วันที่ได้รับการช่วยเหลือ จากเหตุการณ์ที่มันกำลังจะจมน้ำ หลังจากพยายามจะเดินข้ามแม่น้ำเพื่อตามครอบครัวที่อยู่ห่างไปไกล… จากการช่วยเหลือในครั้งนั้น มันก็ถูกนำตัวส่งมาที่ศูนย์ Wild Is Life ซึ่งที่แห่งนั้นทำให้มันได้เจอกับ Roxy Danckwerts ผู้ก่อตั้งศูนย์ดังกล่าว และเธอก็ได้กลายมาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเจ้าช้างน้อยอีกด้วย ด้วยความที่เจ้า Moyo ติด Roxy มากๆ ทำให้เวลาเธอไปไหนมาไหนก็จะติดตามไปทุกที่ แน่นอนว่ามันยังเป็นลูกช้างฉะนั้นมันยังอยู่ในฐานที่รับได้ จนมันมีอายุ 14 เดือน ซึ่งขนาดของมันก็โตพอสมควรแล้ว แต่มันก็ยังไม่ยอมห่างจากเธอสักที ตอนเห็นภาพนี้ ก็ยังมั่นใจว่ามันเป็นช้างน้อยจริงๆ พอเห็นภาพที่มันขึ้นไปบนเก้าอี้ ชักจะไม่มั่นใจแล้วล่ะว่า เป็นช้างน้อยจริงไหม แล้วก็ซ๊นซน เดินชนนั่น ชนนี่ ทำตัวเหมือนแมวหรือสุนัขเลยนะ เขาทำอาหารกัน เจ้า Moyo ก็ไม่วายอยากทำอาหารกับเขาด้วย ร่อนไปทั่วบ้าน ขโมยช้อนเล่นบ้าง ตามประสาเด็กๆ แต่ลองคิดภาพตอนโตแล้วมันยังติด Roxy ดูสิ สามารถชมความน่ารักของเจ้า Moyo เต็มๆ ได้ที่คลิปข้างล่างเลยจ้า…
-
ในที่สุดเจ้าตูบ ก็ได้โอกาสเห็นแสงอาทิตย์เป็นครั้งแรก หลังถูกล่ามโซ่มานานถึง 8 ปี!!
เรื่องราวแสนทรมานสำหรับเจ้า Bron สุนัขที่ถูกล่ามโซ่ไว้กับความเศร้าและโดดเดียวในฟาร์มแห่งหนึ่งในประเทศสเปน จนไม่มีโอกาสได้มองเห็นแสงอาทิตย์มานานกว่า 8 ปี… เจ้า Bron นั้นต้องใช้ทั้งชีวิตถูกล่ามอยู่ในฟาร์มแห่งหนึ่งที่ไม่มีแม้แต่แสง และยังถูกทอดทิ้งไว้ให้เดียวดายตัวเดียว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจาก Animal Rescue España ได้บังเอิญไปเจอกับมันเข้า พวกเขายังพบอีกว่าเจ้า Bron มีบาดแผลต่างๆ มากมายรวมถึงสุขภาพของมันก็ไม่ค่อยจะดีนัก ทำให้พวกเขาตัดสินใจจะรับมันมาและจัดการดูแลรักษาเพื่อให้มันกลับมาชีวิตที่ดีอีกครั้งหนึ่ง Pilar Delgado อาสาสมัครผู้ช่วยชีวิตเจ้า Bron ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Dodo ว่า “Bron ถือเป็นเคสช่วยเหลือสุนัขที่ยากที่สุดตั้งแต่ที่ศูนย์เคยช่วยเหลือมา เพราะในด้านร่างกายมันไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงนัก จะมีก็แต่แผลตามจุดต่างๆ ที่ไม่ได้รับการรักษา ทว่าสิ่งที่ยากที่สุดคือจิตใจของมันที่ไม่ได้เห็นแสงและต้องโดดเดี่ยวมาเป็นเวลานาน การทำให้มันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งจึงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะมันต้องใช้เวลาในการสร้างความเชื่อใจต่อมนุษย์ และทุกครั้งที่มันเห็นคนมันก็จะวิ่งหนีและแอบอยู่ในมุมมืดๆ เสมอ” ยังไงก็ตามพวกเขายังไม่เลิกล้มที่จะเรียกความน่าเชื่อถือกับเจ้า Bron พวกเขาใช้เวลาอยู่นานกว่า 1 ปี จนกระทั่งมันค่อยๆ เริ่มลดความกลัวลงเรื่อยๆ ซึ่งในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง มันยอมที่จะลดการป้องกันและความกลัวลง มันออกจากมุมมืดและยอมให้เจ้าหน้าที่เล่นกับมัน วินาทีนั้นทำให้ทุกคนรู้สึกดีใจและอบอุ่นเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเจ้า Bron ก็คงคิดเช่นเดียวกัน …
-
จุใจไปกับภาพถ่ายสัตว์โลกสายฮา จากการประกวด ‘Comedy Wildlife Photography Awards’
หลายๆ คนอาจจะเป็นแฟนคลับของเหล่าสัตว์ป่าที่แสนน่ารักๆ ไม่ว่าจะเป็นน้องแพนกวิ้น หรือเจ้าแมวน้ำอุ๋งๆ กันแน่เลยใช่ไหมล่ะ อ่า… ถ้าหากใครชื่นชอบโมเม้นต์น่ารักๆ ของพวกสัตว์แล้วล่ะก็ห้ามพลาดเรื่องที่เรานำมาฝากกันเลยล่ะ เพราะวันนี้เราได้รวบรวมภาพเหล่าสัตว์โลกสายฮาจากงานประกวด Comedy Wildlife Photography Awards มาให้ชมกัน… การประกวดภาพถ่ายสัตว์โลกสุดฮาที่ว่านี้ ได้รับความสนใจจากช่างภาพมากมายทั่วโลก ซึ่งในปีที่ผ่านมามีภาพที่ส่งเข้าประกวดมากถึง 2,200 ภาพจาก 75 ประเทศทั่วโลกเลยทีเดียว คุณ Tom Sullam ผู้จัดการประกวดดังกล่าวเล่าถึงที่มาที่ไปของงานครั้งนี้ว่า “ผมอยากให้การประกวดนี้เป็นสัญลักษณ์ของการอนุรักษ์พวกสัตว์ป่า ภาพความน่ารักของพวกมันคงจะทำให้หลายๆ คนตระนักถึงความสำคัญของพวกเค้าได้” เจ้าหมาจิ้งจอกที่แอบชิ้งฉ่องในสนามกอล์ฟ เมือง San Jose รัฐแคลิฟอร์เนีย เจ้าเพนกวิ้นกับท่าทางแปลกๆ ของมันใน Isla Martillo ประเทศอาร์เจนตินา เจ้าลิงอินดรีกำลังบอกว่าสบายมากพวก!! เจ้านกฮูกตาเดียว จากประเทศชิลี ภาพของเหล่านกที่กำลังพูดคุยกัน จากประเทศโคลอมเบีย แมลงตัวน้อยที่ออกมาทักทายช่างภาพ เจ้าจิงโจ้ที่กำลังฝึกท่ากังฟูอยู่กลางทุ่งหญ้า ในประเทศออสเตรเลีย การคำราม (เชิงหาว) ของเจ้าป่า จากประเทศแทนซาเนีย ผลงานที่เข้าร่วมประกวดในปี 2011…
-
กระแส “ทาสีเล็บแมว” ในโลกออนไลน์ ผู้เชี่ยวชาญชี้อาจเป็นอันตรายกับเหล่าสัตว์เลี้ยงได้
กระแสเกี่ยวกับสัตว์นั้นในช่วงนี้เรียกว่ามีมาเรื่อยๆ ไม่หยุดไม่หย่อนเลยจริงๆ โดยล่าสุดได้มีกระแสชาวเน็ตเกี่ยวกับการโพสต์ภาพชาวเน็ตทาเล็บของสัตว์เลี้ยงอย่างหมาแมวให้มีสีเล็บเช่นเดียวกันตน จนตอนนี้กระแสวิจารณ์ก็ออกมาโจมตีกันอย่างหนักหน่วงสุดๆ เลยก็ว่าได้ เริ่มแรกนั้น กระแสนี้มันเริ่มมาจากสมาชิกทวิตเตอร์คนหนึ่งที่ชื่อว่า cristi cupcake ได้โพสต์ภาพที่โชว์ให้เห็นเล็บของเธอและแมวของเธอเห็นที่มีสีเล็บเหมือนกันเป๊ะๆ ด้วยเวลาเพียงไม่นานกระแสชาวเน็ตก็หลังไหลเข้ามารีทวีตกันเพียบเลยทีเดียว เมื่องานนี้มีคนเปิด มันก็ต้องมีคนตาม ทีนี้และงานอวดเล็บระหว่างคนกับสัตว์ก็หลั่งไหลเข้ามากันไม่หยุด เรียกว่ามีทั้งหมาทั้งแมวเลยทีเดียว น้ำเงินมาแต่ไกลเป็นแพ็คคู่ ไม่ได้มีแต่เจ้าของผู้หญิงนะที่ทำ เจ้าของผู้ชายก็มาเช่นกัน ที่สำคัญเป็นสุนัขด้วย (ดูทรงไม่บูลด็อกก็อเมริกันพิทบูลแน่ๆ) ซึ่งยิ่งเยอะเข้าๆ ดูเหมือนว่าผู้คนจะชอบกับแนวทางการทำแบบนี้สุดๆ เพราะยังมีภาพคู่กับสัตว์เลี้ยงแนวนี้มาไม่ขาดสาย สำหรับางคนแค่เล็กน้อยก็เอา สำหรับสาวคนนี้หลังจากโพสต์ภาพแล้ว ก็มีคนมาถามว่าสีที่ใช้มันไม่เป็นภัยต่อสัตว์ใช่ไหม เจ้าของทวิตก็บอกว่าไม่เป็นภัยแน่นอน กระแสความสนุกในการทวีตภาพแนวนี้ยังมีมาเรื่อยๆ แต่ว่าในที่สุดก็มีผู้เชี่ยวชาญออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เสียที ซึ่งผู้เชี่ยวชาญที่ว่านั้นก็เป็นคนจาก RSPCA Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals (RSPCA ) ซึ่งทาง RSPCA ได้ออกมาพูดว่าการทำแบบนี้มันเป็นภัยต่อสัตว์ได้ แม้ว่าการใช้เวลาร่วมกับสัตว์ของตัวเองจะเป็นเรื่องที่ดีก็ตาม แต่การตกแต่งประดับประดาสัตว์เพื่อสร้างความพอใจให้แก่ตนเอง อาจจะทำให้เกิดความสับสนให้แก่ตัวสัตว์ได้ ยังไงก็ตามไม่ว่าการกระทำแบบนี้จะเป็นภัยหรือไม่ก็ยังเป็นเรื่องเป็นน่าห่วงและควรศึกษาให้ดีก่อนจะทำอะไรนั่นเอง ที่มา metro
-
เหมื๊อนเหมือน!! สัตว์ 10 ประเภทที่คล้ายกันจนทำให้หลายคนเรียกชื่อผิดมาตลอด
บ่อบครั้งที่เรามักจะเผลอเข้าใจผิดกันอยู่บ่อยๆ เวลาที่เจอสัตว์ที่คล้ายๆ กัน อย่างเช่นละมั่งกับกระจง หรือกบกับเขียด บางคนอาจจะเผลอเข้าใจผิดและไม่เคยเรียกชนิดของพวกมันถูกเลยก็ได้ว่าไหมล่ะ ฮ่าๆ และวันนี้เราจึงได้รวบรวมสัตว์ที่มีความคล้ายกันจนหลายๆ คนมักจะเข้าใจผิดคิดว่าพวกมันคือตัวเดียวกัน!! จะมีตัวอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย… 1. Alligator กับ Crocodile ถึงแม้ว่าสัตว์ทั้งสองจะมีลักษณะคล้ายกันอย่างมาก จนหลายๆ คนแยกไม่ออกว่าแบบไหนที่เรียกว่า Alligator หรือแบบไหนที่เรียกว่า Crocodile ซึ่งอันที่จริงแลัวพวกมันก็มีจุดที่แตกต่างกันอยู่นะ อย่างเช่นส่วนหัวและส่วนของฟัน ถ้าหากใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมก็เข้าไปอ่านได้ที่นี่เลย (อ่านข่าวเก่า ถึงจะเป็นไอ่เข้ แต่ก็ไม่เหมือนกันนะ!! ความแตกต่างของ Crocodiles และ Alligators) 2. Frog vs. Toad ถึงแม้จะเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเหมือนกันแต่ Frog และ Toad นั้นก็มีความแตกต่างกันอยู่ โดย Frog นั้นมักจะอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับหนองน้ำ พวกมันมีมีผิวหนังที่เรียบและยังมีฟันอีกด้วย ส่วน Toad นั้นจะมีลักษณะตรงกันข้ามกัน Frog ทั้งหมด 3. Moth vs. Butterfly ความแตกต่างระหว่าง Moth…
-
ช่างภาพตั้งกล้องไว้ที่โคนต้นไม้ เพื่อสังเกตพฤติกรรมน่ารักๆ ของเหล่าสัตว์ป่าทั้งปวง…
เพื่อนๆ เคยสงสัยกันไหมว่าในผืนป่าที่แสนกว้างใหญ่นั้นจะมีสัตว์อยู่กันซักกี่ตัวกันเชียว!? หลายๆ ครั้งที่เรามีโอกาสได้เข้าไปในป่า ก็มักจะไม่ค่อยได้พบกับเหล่าสัตว์ป่าตัวเป็นๆ ซักเท่าไหร่ จนบางครั้งก็เข้าใจไปว่าบางทีประชากรสัตว์ป่าอาจจะเหลือน้อยเต็มทีแล้วก็ได้ สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมชีวิตของเหล่าสัตว์ป่าผ่านการตั้งกล้องของ ForestBeat ที่ตั้งไว้ตลอดระยะเวลา 1 ปี ทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล และสัตว์ชนิดต่างๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมา รวมไปถึงพฤติกรรมลับๆ ของพวกมันอีกด้วย!! เจ้ากล้องนี้ถูกติดตั้งไว้ที่บริเวณต้น Beech ในอุทยานแห่งชาติ Abruzzo National Park ในประเทศอิตาลี ด้วยฤดูกาลที่ผันเปลี่ยนไป เผยให้เห็นถึงสัตว์ชนิดต่างๆ มากมายที่วนเวียนกันมาเยี่ยมเยียนที่ต้น Beech แห่งนี้ บ้างก็เดินผ่านเฉยๆ บ้างก็แวะมาทำธุระปะปัง เช่นเจ้ากวางตัวนี้ที่แวะมาถ่ายรูปออกกล้องซักหน่อย แชะ!! เจ้าหมาป่าที่แวะมาชิ้งฉ่อง (คิดว่าไม่มีคนเห็นล่ะซิ อิอิ) เจ้าหมีที่แวะมาเกาหลัง ฮั่นแน๊ะ!! มีสะดุด คิดว่าไม่มีใครเห็นล่ะสิ 555+ ลองไปชมคลิปวิดีโอที่ถูกบันทึกเอาไว้แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า…. ที่มา : Parco Abruzzo,…
-
ยอมแล้วทูลหัว!! 20 ภาพเหล่าแรคคูนตัวจ้อย แต่ความน่ารักไม่ด้อยไปกว่าใครเลยนะ
สำหรับใครที่ชื่นชอบเหล่าสัตว์ขนปุยคงจะรู้จักกับเจ้าแรคคูนแน่ๆ เจ้าตัวเล็กขนสีน้ำตาลตาแป๋วที่ดูยังไงก็น่ารัก แถมยังชอบทำอะไรแปลกๆ ชวนให้เราขำอยู่บ่อยๆ หลายๆ คนที่ชื่นชอบในความซุกซนของเจ้าสัตว์ตัวเล็กๆ เหล่านี้ก็คงชอบที่จะดูภาพของพวกมันอยู่บ่อยๆ ใช่ไหมล่ะ และวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพของเจ้าขนปุยตัวน้อยเหล่านี้มาฝากกัน แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าแววตาของพวกมันอาจทำให้คุณใจละลายได้… 1. เจ้าแรคคูนตัวน้อยกับลูกพี่ตูบของมัน ดูแล้วน่าร๊าก น่ารัก 2. มองอะไรจ๊ะ!? 3. ทำตาแป๋วเชียวนะแกน่ะ 4. เล่นซ่อนแอบอยู่หรือไงเจ้าหนูน้อย?? 5. ตื่นๆ เจ้าหนูน้อย 6. ว้าว!! อาหาร 7. เหนื่อยจังเลยฮะ ขอนอนก่อนนะครับ 8. ต๊ะเอ๋!? 9. น่ารักแบบคู่เลยทีเดียวนะเนี่ย 10. อ๋อย.. เจ็บแขนหรอลูก?? 11. ผมชอบสายสมและแสงแดดฮะ 12. มีอะไรน่าสงสัยหรือเจ้าแรคคูน?? 13. อ่า..…
-
รู้จักกับแมงมุม Darwin’s Bark จากมาดากัสการ์ สามารถพ่นใยข้ามแม่น้ำไกลถึง 25 เมตร!!
‘แมงมุม’ เป็นสัตว์นักล่าที่ไม่ว่าใครต่างก็หวาดผวา เพราะนอกจากพิษอันร้ายแรงของมันแล้ว ยังมีขาอีกแปดขาที่เห็นแล้วชวนขนลุกแบบสุดๆ เท่านั้นยังไม่พอ เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่ามีแมงมุมชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างใยขนาดใหญ่ ข้ามแม่น้ำที่มีความกว้างกว่า 25 เมตรได้ด้วยนะเออ!! ขอแนะนำให้เพื่อนๆ ทุกคนรู้จักกับแมงมุม Darwin’s Bark ที่ได้ฉายาว่า ‘นักปล่อยใย’ โดยมันสามารถปล่อยใยพาดยาวข้ามแม่น้ำมีความกว้างถึง 25 เมตรได้แบบสบายๆ และขนาดของตาข่ายดักจับแมลงของเจ้าแมงมุมชนิดนี้ก็มีขนาดใหญ่ถึง 2.8 ตารางเมตรเลยทีเดียว!! เจ้าแมงมุม Darwin’s Bark นี้ถูกพบเป็นครั้งแรกที่อุทยานแห่งชาติ Andasibe-Mantadia National Park บนเกาะ Madagascar เมื่อปี 2009 ก่อนที่แมงมุมจะพ่นใยสร้างตาข่ายดักจับแมลง มันจะสังเกตทิศทางลมก่อน ความพิเศษของเจ้าแมงมุมชนิดนี้ก็คือใยของมัน ที่มีความเหนียวแน่นมากที่สุดมากกว่าเส้นใยสังเคราะห์ เคฟล่าร์ (Kevlar) ในปริมาณเท่ากันถึง 10 เท่า!! พอแน่ใจแล้วก็ค่อยพ่นใยออกไปในปริมาณมาก จนไปเกาะติดกับต้นไม้อีกฝั่ง และชื่อ Darwin ของเจ้าแมงมุมนี้ก็เป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อให้เกียรติกับผู้คิดค้นทฤษฎีเกี่ยวกับการวิวัฒนาการเพื่อเอาตัวรอดในธรรมชาติ Charles Darwin นั่นเอง จากนั้นมันก็จะทำการสร้างตาข่ายขึ้นมาตรงกลาง…
-
รู้จักกับ 12 สายพันธุ์ “สัตว์หายาก” จากทั่วโลก ที่ทุกวันนี้ใกล้จะสูญพันธุ์มากขึ้นทุกที…
ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอเรื่องราวของ ‘ซูดาน’ แรดขาวตัวสุดท้ายของสายพันธุ์ ที่นักวิทยาศาสตร์ต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อสืบทอดเผ่าพันธุ์ของมันให้ดำรงอยู่ต่อไป แต่นั่นอาจจะเป็นเพียงแค่ปัญหาส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมีสัตว์อีกหลายชนิดทั่วโลกที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างก็เช่นทั้ง 12 สายพันธุ์ดังต่อไปนี้… 1. Amur Leopard หนึ่งในสายพันธุ์เสือดาวที่หาเจอได้ยากที่สุด โดยปัจจุบันคาดว่ามีประชากรเสือดาวชนิดนี้อยู่เพียง 70 ตัวทั่วโลกเท่านั้น ลักษณะนิสัยของพวกมันชอบอาศัยอยู่ในป่าหิมะเช่นทางตอนเหนือของรัสเซีย ตอนเหนือของจีน และเกาหลี อีกทั้งมันยังสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดถึง 370 กม./ชั่วโมง เลยทีเดียว 2. Hawaiian Crow น่าเศร้าที่อีกาสายพันธุ์นี้ได้ถูกขึ้นบัญชีให้เป็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อปี 2002 แต่ถึงแม้ว่าจะมีการเก็บไข่ของพวกมันมาเพาะพันธุ์เป็นอย่างดี ทว่าสุดท้ายธรรมชาติกลับไม่เอื้ออำนวยให้มันสามารถอยู่รอดต่อไปได้อีก 3. Hainan Gibbon เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์เอป (ลิงไม่มีหาง) ที่หาเจอยากที่สุดในโลก เพราะมันอาศัยอยู่บนเกาะฮ่ายหนานในประเทศจีนเท่านั้น โดยสถิติจากปี 2003 พบว่ามันมีจำนวนประชากรทั้งหมด 13 ตัว แต่ปัจจุบันได้มีองค์กรอนุรักษ์ท้องถิ่นมากมายเข้าไปดูแล และช่วยกันรักษาเผ่าพันธุ์ของพวกมันให้สืบต่อไป ทว่าปัญหาสภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนไป ก็ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของพวกมันเช่นกัน 4. Santa Catarina Guinea Pig…
-
ไอ้หมาเห็นแก่กิน!! สองตูบหายหัวไป 4 วัน เจ้าของเอาไส้กรอกมาย่าง จู่ๆ ก็โผล่มาเฉย!!
เจ้าของสุนัขสองตัวรู้สึกใจคอไม่ดี เมื่อสุนัขของเขาทั้งสองตัวอยู่ดีๆ ก็หายไปจากบ้านนานกว่า 4 วันก็ยังไม่กลับมาสักที ด้านเจ้าของออกตามหายังไงก็ไม่พบ จนเจ้าของต้องงัดไม้ตายออกมาด้วยการย่างไส้กรอก แว๊บเดียวเท่านั้นแหละหมาสองตัวที่หายไปก็กลับมาทันที!!? Charlie และ Theo คือชื่อของเจ้าหมาพันธุ์ชเนาเซอร์สองตัว ที่อยู่ดีๆ ระหว่างออกไปเดินกับ Liz กับ Graham Hampson ผู้เป็นเจ้าของ พอพวกเขาเผลอแปปเดียวเจ้าตูบทั้งสองก็หายไปทันที งานนี้เล่นเอาหากันวุ่นเลยทีเดียว Charlie และ Theo สองตูบต้นเรื่อง ด้านเจ้าของนั้น พอรู้ว่าสุนัขสุดที่รักของตัวเองสองตัวหายไป พวกเขาก็ไม่รอช้ารีบออกตามหาพวกมันทันที จนแล้วจนรอดพวกเขาก็ยังหาสุนัขทั้งสองไม่เจอสักที พวกเขาจึงขยายสเกลการตามหาเพิ่มขึ้นไปอีกเป็นการตั้งแคมเปญช่วยตามหาสุนัขขึ้น อาสาสมัครกับทีมงานมากกว่า 120 คนและโดรนอีกสองตัว ต่างช่วยกันตามหาเจ้าตูบทั้งสองกันอย่างสุดความสามารถ จนการค้นหากินเวลาไปกว่า 96 ชั่วโมง พวกเขาก็ยังหามันไม่เจอสักทีจนพวกเขาเริ่มจะหมดกำลังใจ แต่ว่า Graham ผู้เป็นสามีกลับเหมือนนึกอะไรบางอย่างได้ เขานึกได้ว่าสุนัขทั้งสองของเขามันชอบไส้กรอกมากๆ เขาจึงอยากจะลองวิธีของตนดู โดยการไปใกล้ๆ กับจุดที่พวกมันหาย จากนั้นก็ทำการตั้งเตาบาบีคิวพร้อมย่างไส้กรอกให้กลิ่นหอมลอยออกไป เชื่อไหมว่าในเวลาไม่นานเจ้าตูบสองตัวมันก็โผล่ออกมาทันที!! งานนี้เล่นเอาเงิบกันทั้งขบวน ซึ่งมันทำให้ทุกคนรู้ทันทีว่าสุนัขสองตัวนี้มันเห็นแก่กินแค่ไหน ฮร่าๆ ยังไงก็ตามพวกเขาก็ดีใจที่สุนัขของพวกเขากลับมา…
-
หญิงสาวสร้างภาพสัตว์เสมือนจริงขึ้นมา ด้วยอุปกรณ์ฟรุ้งฟริ้งขนาดจิ๋ว สไตล์ผู้หญิ๊งผู้หญิง…
ในสมัยที่ Sarah Jane Connors ยังเป็นเด็ก เธอค้นพบว่าสวนหลังบ้านเธอเปรียบดั่งแหล่งที่ขุดสมบัติชั้นเลิศ เพราะมันเต็มไปด้วยเศษเครื่องปั้นดินเผา และเศษแก้วที่ดูระยิบระยับตา พอโตขึ้นเธอก็ได้รู้ว่าร้านขายของมือสองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของการกุศล หรือร้านเปิดท้ายขายของ เป็นเสมือนกล่องสมบัติล้ำค่าของเธอ และวันนี้เธอก็ได้นำสองสิ่งที่ชอบมารวมกันเป็นงานศิลปะอันล้ำค่า เธอจัดการนำวัสดุขนาดจิ๋วต่างๆ มาเรียงร้อยกันให้ออกมาเป็นภาพสัตว์ต่างๆ เมื่อซูมเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นว่ามันถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีบรรจง ผลงานแต่ละชิ้นใช้เวลานานกว่า 1 – 2 เดือนเลยทีเดียว เพราะเธอต้องใช้เวลาในการรวบรวมวัสดุแบบผู้ญิ๊งผู้หญิงทั้งหมดนี้ จากนั้นก็ต้องใช้เวลาในการออกแบบ และสิ่งที่ยากสุดก็คือขั้นตอนการเรียงร้อยอย่างบรรจง จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่แล้วลูกปัดและกระดุมจะเป็นวัสดุหลักของเธอ นอกจากเว็บไซต์ส่วนตัวของเธอ Sarahjaneconnors.com ที่นำผลงานมาโชว์แล้ว เธอก็มักจะเผยแพร่ภาพผลงานผ่านอินสตาแกรม @sarahjaneconnors ด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นอีกวิธีการสร้างงานศิลปะที่แปลกใหม่ และยังต้องใช้ทั้งฝีมือ ความใจเย็นและความปราณีต เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจผลงานของเธอก็สามารถไปติดตามชมเพิ่มเติมกันได้เลย ผลงานสวยเหมือนคนทำเลยอ๊ะ >< ที่มา: Boredpanda
-
“เสือชีต้าขี้อาย” ได้เจอกับเจ้าตูบที่สวนสัตว์จัดให้ และทั้งคู่ก็โตไปด้วยกันจนซี้ปึ๊ก!!
ในสายตาของคนแล้ว เสือชีต้าถือเป็นเสือที่น่ากลัวและวิ่งไวสุดๆ แต่เราจะรู้ไหมว่าจริงๆ แล้วเจ้าเสือพวกนี้มันเป็นสัตว์ขี้อายมากๆ ที่สำคัญพวกมันยังไม่เก่งในเรื่องของการเข้าสังคมด้วย ทำให้ลูกชีต้าบางตัวมีปัญหาในเรื่องดังกล่าว ทางสวนสัตว์ St. Louis ในรัฐมิสซูรี ก็ต้องประสบปัญหาการเลี้ยงลูกชีต้าอย่างยากลำบากมานานเช่นกัน จนกระทั่งพวกเขาพบทางออกว่าสุนัขสามารถจะเป็นทั้งเพื่อนและพี่เลี้ยงให้กับพวกมันได้ ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงจัดการส่งลูกโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ให้ไปอยู่กับลูกชีต้า ซึ่งชีต้าหนึ่งตัวก็จะได้บัดดี้สุนัขไป 1 ตัวด้วยกัน และใครจะเชื่อว่าพอลูกชีต้ากับลูกสุนัขมาอยู่ด้วยกัน พวกมันจะน่ารักได้ขนาดนี้ ไม่เชื่อดู!! เฮ้ หวัดดีเพื่อนใหม่ เราชื่อโกลเด้น นายชื่อไรหยอ? เราชื่อชีต้า ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ โกลเด้น!! โกลเด้นกับชีต้าก็เริ่มเข้าขากันจนกลายเป็นเพื่อนซี้กัน คอยดูแลกันและกันตลอดเวลาไม่ห่าง เวลาผ่านไป จากเสือนักล่ากับเจ้าหมาขี้เล่น ก็กลายเป็นเพื่อนซี้ในสวนสัตว์ แถมมีลานวิ่งเล่นขนาดใหญ่!! ภาพนี้เล่นเอาลบความคิดเกี่ยวกับเสือนักล่าลมกรดในทุ่งหญ้าไปเลยนะเนี่ย น่ารักสุดๆ ที่มา boredpanda
-
รู้จักกับผีเสื้อ Rosy Maple Moth สิ่งมีชีวิตที่หวานแหววที่สุดในจักรวาล ตอบโจทย์คนรักพาสเทล!!
แมลงกับหญิงสาว ถือว่าเป็นของแสลงที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะไม่ชอบกัน ไม่ว่าจะลักษณะภายนอกที่ดูน่าขยะแขยง หรือดูน่ากลัวก็ไม่ทราบได้ แต่ก็ใช่ว่าแมลงทุกตัวจะมีลักษณะตามที่ว่าไปเสียหมด เพราะยังมีแมลงที่ดูสวยงามอย่าง ‘ผีเสื้อ’ ไว้คอยปลอบใจอยู่บ้าง ฮร่าาาา และผีเสื้อที่ว่านั่นก็คือ Rosy Maple Moth ยังไงล่ะ Rosy Maple Moth หรือเจ้าฝีเสื้อกลางคืนสีโทนหวานตัวนี้ ถือเป็นผีเสื้อกลางคืนที่สวยที่สุดก็ว่าได้ เพราะเดิมทีแล้วผีเสื้อกลางคืนจะมีสีโทนมืด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะออกไปทางสีน้ำตาลหรือสีดำ ในส่วนของลักษณะทางกายภาพของผีเสื้อชนิดนี้ ตัวเมียจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าตัวผู้มากๆ โดยเมื่อมันกางปีกแล้วจะมีขนาดความกว้างถึง 1.5 ถึง 2 นิ้ว ในขณะที่ตัวผู้จะมีขนาดแค่ 1.25 ถึง 1.75 นิ้วเท่านั้น และจะสามารถหาพบได้ทั่วไปทางตอนเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา . ด้วยสีสันอันโดดเด่นของมันก็มีคนที่ชื่นชอบในผีเสื้อกลางคืนตัวนี้ จนทำเป็นสินค้าหรือทำเป็นภาพการ์ตูนน่ารักๆ ออกมาด้วยนะเออ… สร้อยสวยๆ ตุ๊กตาตัวเล็กน่ารักๆ หรือจะเป็นเข็มกลัดเล็กๆ ก็ดูสวยดีนะ ยิ่งถูกวาดออกมาเป็นแนวตัวการ์ตูนก็น่ารักสุดๆ เลย ดูขนฟูๆ ของมันสิ…
-
กระต่ายถูกช่วยชีวิตให้รอดตาย แล้วมาตั้งแก๊ง “ต่าย-หมา-หนู” ยึดครองบ้านไปแล้ว!!!
การเป็นเพื่อนแท้กันนั้น ไม่อาจมีข้อจำกัดใดที่สามารถมาขัดขวางมิตรภาพระหว่างเพื่อนๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างกันของเชื้อชาติ ฐานะ หรือแม้แต่สายพันธุ์ก็ตาม… พบกับเรื่องราวสุดน่ารักของเจ้ากระต่ายน้อยที่ถูกช่วยเหลือและย้ายมาบ้านหลังหนึ่ง และได้พบกับเจ้าตูบเพื่อนใหม่ของมัน ก่อนที่ทั้งคู่จะกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด ถึงแม้ว่าการพบกันของเจ้ากระต่าย Bob และเจ้าตูบ Grace ในตอนแรกนั้นจะไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนเจ้าหมาจะรู้สึกว่ากระต่ายน้อยนั้นเป็นอาหารของมัน แต่โชคดีที่เจ้าของพวกมันกลับสอนให้เจ้า Grace นั้นรู้ว่า Bob นั้นไม่ใช่ของกินนะเว่ยยยยยยยยย หลังจากนั้นเจ้าหมาก็ล้มเลิกความคิดที่จะกินมัน คุณ Lydia DesRoche บอกว่า “ตอนนี้ทั้งคู่ดูมีความสุขมากๆ พวกมันเข้ากันได้ดีจริงๆ ” ตูบนั้นย้ายมาอยู่กับคุณ DesRoche มาได้ 3 ปีแล้ว และตอนนี้เจ้ากระต่ายก็กลายมาเป็นสมาชิกใหม่อีกหนึ่งตัว . DesRoche นั้นเป็นนักฝึกสัตว์เลี้ยงที่มีฝีมือ เธอเคยฝึกให้เจ้าตูบของเธอเล่นกับหนูได้อย่างเป็นมิตร และเช่นเดียวกับ Bob เจ้า Grace นั้นก็ทำเหมือนกับว่ามันเป็นเพื่อนเช่นกัน ในบ้านของเธอนั้นเต็มไปด้วยสัตว์ต่างๆ มากมาย เจ้า Petunia หนูที่เธอเลี้ยงไว้นั้นมักจะออกมาขโมยอาหารของ Bob อยู่บ่อยๆ เจ้าตูบพยายามจะทำท่าทางให้เหมือนกับเพื่อนของมัน เรื่องราวน่ารักๆ ของ Bob และ Grace…
-
ฮอกวอตส์เลือกนายแล้ว!! หนุ่มกรี๊ดลั่น “นกฮูก” บินเข้ามาในบ้าน ต้องไล่ด้วยไม้ถูพื้นแบบสุดฮา
บ่อยครั้งที่บ้านของเรามักจะมีแขกไม่ได้รับเชิญมาเยี่ยมอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นในห้องน้ำ หรือห้องครัว และสิ่งที่น่าหนักใจกับเจ้าของบ้านนั่นก็คือการเชิญพี่ๆ ที่มาเยี่ยมทั้งหลายนั้นกลับไปยังแหล่งแหล่งพำนักเดิมของตัวเอง เพราะกว่าจะเจรจากันให้เข้าใจก็ทำเอาเหงื่อแตกกันเลยทีเดียว และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีคลิปวิดีโอของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่พยายามจะอัญเชิญแขกที่ว่านี้ออกจากบ้านเขา ชายหนุ่มต้องรวบรวมทั้งความกล้าและสมาธิอยู่นานในการขอร้องให้เจ้านกฮูกนั้นออกจากบ้านเขาไปอย่างสงบ พี่ฮูกที่หาทางกลับฮ็อกต์วอตส์ไม่เจอ ในตอนแรกเหมือนพี่ฮูกของเรานั้นจะไม่ค่อยเข้าใจคำว่าออกไปอย่างละมุนละม่อม เพราะดูพี่แกจะดีดเอาซะเหลือเกิ๊น!! (ไม่รู้ไปโดนตัวไหนมา) แต่ก็ไม่รู้ว่าพี่คนนี้เป็นหนุ่มน้อยแฮรี่หรืออย่างไร ไม่นานพี่แกก็เริ่มทำให้เจ้านกฮูกที่กำลังตกใจสงบลงได้ และถึงแม้จะไม่ใช่แฮกริตหรือเป็นญาติกับพ่อมดน้อยแฮรี่ ไม่นานพ่อหนุ่มมักเกิ้ลก็เริ่มควบคุมเจ้านกฮูกได้ ราวกับได้เรียนวิชาควบคุมสัตว์มา พ่อหนุ่มสั่งให้เจ้านกอยู่นิ่งๆ บนไม้ถูพื้นและค่อยๆ ส่งมันบินกลับภูมิลำเนาเดิม ไปชมการเชิญพี่ฮูกกลับบ้านของพ่อหนุ่มคนนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… เจ้านกฮูกขึ้นไปเกาะที่ไม้ถูพื้นอย่างว่านอนสอนง่าย นิ่งไว้เพื่อน… นิ่งไว้.. สุดท้ายพี่ฮูกของเราก็กลับบ้านอย่างปลอดภัย ไม่เสียแรงที่ตั้งใจเรียนกับแฮกริตเลยใช่ไหมล่ะพ่อหนุ่ม!? ที่มา vintoplan
-
วินาทีสุดประทับใจ ตำรวจพร้อมใจขับรถอารักขา “ฝูงห่าน” จากท้องถนนที่อันตราย…
มนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเดียวบนโลกใบนี้ที่ต้องได้รับการปกป้องจากงานบริการต่างๆ ซึ่งตำรวจเจ้าของเรื่องราวนี้ก็ดูจะเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว… เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อเจ้าห่านกลุ่มหนึ่งได้เดินทางท่องเที่ยวไปบริเวณริมถนนหลวงในเมืองกรีนวูด รัฐโคโลราโด แน่นอนว่าสัตว์เล็กแบบนั้นการเดินอยู่บนถนนหลวงย่อมเป็นอะไรที่อันตรายมาก ด้วยเหตุนี้การปล่อยให้พวกมันเดินไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองจึงเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ทางตำรวจกรีนวูดจึงเดินทางมาหาเจ้าห่านพวกนี้ พร้อมกับขับรถตำรวจสองคัน ปิดด้านข้างและปิดท้ายริมทางเท้า เพื่อช่วยอารักขาพวกมันจนไปถึงพื้นที่ปลอดภัย จนเกิดเป็นคลิปสุดประทับใจ Rod Wayne ชายผู้บันทึกคลิปเหตุการณ์ได้บอกเล่ากับเว็บไซต์ Thedodo ว่า “ผมเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยกันปกป้องพวกห่านอย่างใจเย็น และพาพวกมันไปจนสุดทางของถนนจนพวกมันเดินเข้าไปบริเวณหญ้าข้างทาง” เรื่องทั้งหมดอาจจะดูไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้วมันบ่งบอกถึงความใส่ใจในเพื่อนร่วมโลก ที่ยอมเสียเวลามาช่วยพวกห่าน แถมนี่ยังเป็นสัญญานที่บอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวมองเห็นห่านพวกนี้เป็นสิ่งมีชีวิตระดับเดียวกับมนุษย์และต้องการสิทธิ์ในความปลอดภัยเช่นกัน ต้องชื่นชมพวกเขาจริงๆ สามารถดูคลิปเหตุการณ์เต็มๆ ได้ข้างล่าง ผู้คนต่างมาชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจกันเพียบ คนดูคลิปนี้ไปมากกว่า 2 ล้านครั้ง และแชร์อีกกว่า 4 หมื่นครั้งแล้ว!! ที่มา Thedodo
-
มนุษย์ร่วมแชร์ 20 เหตุผลที่บอกว่า แมวเหมียวก็แค่อยากจะ “กวนติง” เราเท่านั้นแหล๊ะ!!
บางครั้งเวลาที่เราถามคนเลี้ยงแมวว่าพวกมันซนขนาดไหน? หรือทำตัวงี่เง่ายังไง? เจ้าของอาจจะอธิบายว่า “การเลี้ยงพวกมันก็ไม่ยากเท่าไหร่ อาจจะพอๆ กับหมาสักตัวนี่แหละ” ซึ่งถ้าพวกมันเหมือนหมาจริงทำไมไม่เลี้ยงหมามันซะตั้งแต่แรกเลยล่ะ เพราะหากให้เรานึกถึงข้อเสียของเหล่ามะหมา สิ่งที่#เหมียวฟิ้นพอจะนึกออกก็คือพวกมันเห่าไม่เป็นเวล่ำเวลาเท่านั้นแหละ แต่กับพวกแมวน่ะเหรอ หึหึ ที่สุดของความนรกแตกเลยล่ะ ให้บรรยายทั้งวันยังไม่หมดอะ เราก็เลยรวบรวมเอาเศษเสี้ยวหนึ่งของความนรกแตกมาให้คุณดูกัน… เจ้าเหมียวที่ออกไปเที่ยวเล่น แต่ขากลับดันคาบไส้กรอกจากบ้านไหนกลับมาก็ไม่รู้!! ห้องน้ำบ้านไหนมีแกนกระดาษก็น่าจะรู้ซึ้งดี พริบตาเดียวที่เจ้าแมวรู้ตัวว่าถูกจ้องมองอยู่ มันก็รีบชักมือกลับมาแล้วทำตาใสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “นอนให้มันอุ่นๆ เวลาเปิดเตาจะได้ไม่ต้องใช้เวลานานไงเล่าเจ้ามนุษย์” ตัวเดียวกรูก็เจ็บจะแย่แล้ววววว!! เวลาเราเปิดประตูจะเข้าหรือออกจากบ้าน มันก็พยายามจะกระโดดออกไปสู่อิสระภาพให้ได้ แต่พอพาออกไปข้างนอกจริงๆ เจือกไม่ยอมเดิน!! “ก็ฉันหนาวไง แล้วพิซซ่านี่ก็ชิ้นพอดีตัวเลย มันก็เท่านั้นแหละ” ประธานในพิธีมาแล้ว งานเลี้ยงเริ่มได้ “จะเล่นก็ต้องมีลิมิตหน่อยนะมนุษย์” เออ เอาเข้าไป “แกไม่ต้องการเตียงใหญ่ขนาดนั้นหรอกเจ้าหมา” นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อถึงวันเกิดของคุณ แล้วเจ้าเหมียวเกิดสำนึกบุญคุณขึ้นมาในวันนั้นพอดี… เมื่อคุณจัดของเข้าตู้แล้วเรียบร้อย แต่เจ้าแมวรู้สึกว่ามันยังไม่โอเค…”ไปจัดใหม่ซะนะ” “ตาลุงหนวดเฟิ้มนี่มันใครฟระ!!” เมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าแมวมันอยากจะได้น้ำดื่มสะอาดๆ มันก็จะเทถ้วยเก่าทิ้งแล้วนั่งรออย่างใจเย็น…
-
ตั๊กแตนใจกล้าโชว์เก๋า ยืนเผชิญหน้ากับกบถึง 3 ตัว ยังไม่พอกระโดดขึ้นไปเหยียบหัวอีก!!!
ตั๊กแตนเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มักตกเป็นเหยื่อของกบ ถึงแม้ว่าพวกมันอาจจะดีดตัวเร็วก็จริง แต่บางทีก็ไม่พ้นการตวัดลิ้นของพวกกบอยู่ดี ดังนั้นตั๊กแตนจึงต้องอยู่ห่างกบเข้าไว้ แต่ดูเหมือนเจ้าตั๊กแตนตัวนี้จะไม่เกรงกลัวกบเลยสักนิดเดียว เพราะนอกจากเผชิญหน้ากับกบถึง 3 ตัว แล้ว มันยังขึ้นไปเหยียบหัวกบอีกด้วยแหนะ!! เจ้ากบทั้งสาม มาจากสำนักไหนกัน!? ภาพชุดนี้ถ่ายโดยช่างภาพชาวอินโดนีเซีย ที่ไม่รู้จะเรียกว่าเหตุการณ์น่ารักหรือน่ากลัวดี เพราะภาพที่เห็นอยู่นี้เจ้าตั๊กแตนไปอยู่ใกล้กับแก๊งกบถึง 3 ตัว ในระยะที่ประชิดมาก อยู่ใกล้ว่าเสียวแล้ว แถมตั๊กแตนยังจะขึ้นไปเหยียบหัวกบอีก แล้วก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมกบทั้ง 3 ตัว จึงพร้อมใจกันไม่ทำอะไรเจ้าตั๊กแตนเลย ถามไปไม่ตอบแฮะ งี้ก็ต้องโชว์วิชาให้รู้สำนึกกันซักหน่อย… หรือบางทีพวกมันอาจจะวางแผนให้เจ้าตั๊กแตนจอมกวนตายใจก็ได้ ประมาณว่า ‘ไหนๆ มันก็ใกล้ถึงฆาตแล้ว ปล่อยให้มันได้มีความสุขในช่วงสุดท้ายของชีวิตสักระยะหนึ่งก่อนก็ได้ แล้วค่อยจัดการทีหลัง’ จะโชว์แล้วน้าาาาาาาาาา แต่ในทางกลับกัน นี่อาจจะเป็นมิตรภาพของสัตว์ที่อยู่ในระบบนิเวศเดียวกันก็ได้ แม้ว่าฝ่ายหนึ่งจะเป็นนักล่า ส่วนอีกฝ่ายจะเป็นเหยื่อก็ตาม อะชึ๊บ นี่แหนะ ถึงพวกเอ็งจะเป็นกบ แต่ข้าก็ไม่กล้วเฟร้ย!! แล้วเพื่อนๆ ละคะคิดว่าชะตาชีวิตของตั๊กแตนตัวนี้จะจบลงยังไงนะ? ที่มา China Xinhua News
-
นักสำรวจใต้ทะเล ได้ภาพปลาหายากคล้าย “กระปู๋” โดนชาวเน็ตแซว ซะกลายเป็นเรื่องสุดฮา
ถ้าเราพูดกันถึกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกอันมืดมิด เราก็มักจะนึกถึงสัตว์หลากหลายชนิดที่มีหน้าตาแปลกประหลาดและหน้ากลัวกันใช่ไหมล่ะ!? ถ้าใครนึกไม่ออก ลองดูข่าวเก่าๆ กันได้ที่ Roman ชาวประมงรัสเซียผู้สะสม “สัตว์ลึกลับใต้ทะเล” จากการที่เขาออกไปหาปลาและบังเอิญจับได้.. แต่หารู้ไม่ว่าสัตว์ในทะเลอันมืดมิดนั้นทุกชนิดกลับไม่ได้น่ากลัว แต่มันกลับทะลึ่งอย่างไม่เชื่อ Tim O’Hara หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของคณะสำรวจสัตว์น้ำลึกได้บอกว่า The Abyss ถือเป็นชื่อเรียกของน่านน้ำทะเลลึกที่ปกคลุมครึ่งหนึ่งของโลก และ 1 ส่วน 3 ของทะเลออสเตรเลียก็เป็นส่วนของน่านน้ำทะเลลึกเช่นกัน และทุกครั้งที่เขาออกไปสำรวจเขาก็มักจะเจอสัตว์แปลกใหม่เสมอๆ และแน่นอนว่า Dr. Tim ก็ไม่พลาดที่จะเอาภาพสัตว์น้ำลึกแปลกๆ น่ากลัวๆ มาให้เราดูกัน ว่าแต่จะเป็นยังไงนั้นลองมาดูกันเลยดีกว่า… เริ่มด้วยเจ้าแมงมุมทะเลตัวนี้กันก่อนเลย หน้าตาหยั่งกับ Face Hugger ในเอเลี่ยนเลย หรือจะเป็นหนอนซอมบี้ตัวนี้ ที่ดูหนวดมันแล้วบรึ๊ยสุดๆ ถ้าสองตัวก่อนยังหลอนไม่พอ มาต่อกันที่เจ้าตัวนี้เป็นไง….. แต่เดี๋ยวนะ นี้มันหรรมส์ใช่ไหม!! เมื่อเจ้าสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลรูปหรรมส์ได้ถูกเผยแพร่ออกมา กลายเป็นว่าสัตว์ทะเลตัวอื่นก็ถูกเมินทันที เพราะชาวเน็ตต่างให้ความสนใจกับเข้าหรรมส์ทะเลนี้เป็นอย่างมาก จนกระทั่งกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ของออสเตรเลียและต่างชาติไปซะงั้น ฉะนั้นเราลองมาดูกันว่าชาวเน็ตคิดเห็นยังไงกับหรรมส์ทะเลตัวนี้กันบ้าง ชาวเน็ตคนนี้ใช้ภาพสื่ออารมณ์ พร้อมบอกว่า “เห็นแล้วอยากจะไปดำน้ำทะเลลึกเลย แพร่บๆ”…
-
ใบประกาศตามหาแมวหายสุดเฟี้ยว “เจ้าแมวเฮงซวย” มันหายไป มีใครเห็นบ้างไหม!!?
หญิงสาวคนหนึ่งได้ทำใบประกาศตามหาแมวของเธอ แต่ที่มันแปลกกว่าปกติคือ เธอดันเรียกแมวตัวเองว่า “ไอ้เจ้าแมวเฮงซวย” จนกลายเป็นกระแสสุดฮาซะนี่ Babou คือชื่อของเจ้าเหมียวสีเทาวัย 6 ปี ตัวดังกล่าว มันได้หายตัวไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม เจ้าของก็ย่อมต้องร้อนใจประกาศตามหากันใหญ่ ซึ่งภายในประกาศก็มีรายละเอียดของมันเขียนไว้ว่า “มันเป็นแมวที่เป็นมิตรสุดๆ แต่ถ้าคุณพยายามวิ่งไล่จับมันจะหนีคุณทันที เพราะมันออกจะเป็นแมวเฮงซวยนิดหน่อย” ในตอนแรกนั้น Mary Irwin หญิงสาววัย 35 ปี ผู้เป็นเจ้าของเจ้าแมวเฮงซวยตัวดังกล่าวได้บอกว่าแมวของเธอหายไปหลายวันแล้ว มันยังไม่กลับมาสักที พอถามว่าทำไมมันถึงเป็นแมวเฮงซวยกันล่ะ Mary ก็ได้ตอบกลับมาว่า “มันเป็นเหมือนแมววัยรุ่นที่ชอบเรียกร้องความสนใจ เวลาไหนที่มันโกรธพวกเรามันจะไม่ทำอะไรเลย มันจะทำตาดุๆ แล้วก็นั่งรอจนกว่าพวกเราจะหันไปจ้องมัน แน่นอนว่าพอมันรู้ตัวว่าเรามองมันเหมือนจะง้อ เจ้าแมวบ้านี้ก็จะเดินสะบัดก้นหนีไปทันทีเลยล่ะ” จนตอนนี้ป้ายประกาศของมันก็กลายเป็นไวรัลไปแล้วด้วย ซึ่งเธอก็หวังว่ามันจะกลับมาในเร็ววัน… มองอะไรเจ้ามนุษย์? Mary ยังคงเล่าถึงวีรกรรมของเจ้า Babou เพิ่มอีกว่า “ถ้ามันเริ่มเข้ามาคลอเคลียคุณเมื่อไหร่ ให้รู้ไว้เลยว่าอีกไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น เท้าของคุณจะเป็นรอยข่วนแน่นอน เพราะมันจะโจมตีเท้าของคุณทันที” ยังไม่จบแค่นั้น เธอยังเล่าพร้อมกับเราะอีกว่า “ยังไม่หมดแค่นี้นะ เวลาที่ฉันกับสามีนอนด้วยกัน เจ้า Babou…
-
ช่างภาพญี่ปุ่นตามถ่ายภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ของ ‘แมวจรจัด’ ในโตเกียว ขอบอกว่าชิลมาก
ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นจะชวนเพื่อนๆ ไปชมผลงานภาพถ่ายน่ารักๆ ของช่างภาพชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อว่านาย Masayuki Oki ในชีวิตนี้เขาชื่นชอบอยู่เพียงแค่ 2 อย่าง นั่นก็คือแมวและกล้อง Canon EOS-1DX เมื่อสิ่งที่ชอบทั้งสองอย่างเป็นแมวและกล้อง เขาจึงออกเดินทางไปตามที่ต่างๆ ในญี่ปุ่นเพื่อถ่ายภาพแมวๆ มาให้ชาวเน็ตได้ชมกันผ่าน IG @okirakuoki แต่ภาพแมวที่เขานำมาเผยแพร่นั้นไม่ใช่แมวบ้านทั่วๆ ไป แต่เป็นแมวจรจัดตามท้องถนน นาย Oki ได้ถ่ายทอดมุมมองต่อภาพแมวในแบบของตัวเอง เพื่อดึงเอาเสน่หและความสวยงามของสัตว์สี่ขาหน้าตาเจ้าเล่ห์พวกนี้ออกมา ซึ่งในแต่ละภาพนั้นคุณจะได้เห็นอารมณ์บางอย่าง ทั้งน่ารัก สง่างาม ขี้เล่น ขี้เกียจ ติงต๊อง หรือพฤติกรรมบางอย่างที่คุณเองก็ยากจะเข้าใจ แม้ว่าก่อนหน้านี้เราจะเคยนำเสนอภาพของช่างภาพรายนี้ไปแล้ว แต่เชื่อเถอะว่ายังมีภาพถ่ายแปลกๆ ฮาๆ อีกเย๊อะ เจ้าเหมียวทัดดอกซากุระ สวัสดีโตเกียว บาทีการตื่นก็เป็นอะไรที่ยาก ยืดเส้นยืดสายหน่อยเป็นไง นอนท่านี้สบายไหมลูก? ยงโย่ยงหยก จุ๊บๆ อ้อนหน่อยๆ ฮึบ! ข่วนเล็บหน่อย…
-
นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลใช้งานแต่งงานของตัวเอง ‘ระดมทุน’ จากแขกเพื่อช่วยเหลือสัตว์จรจัด
แทนที่จะจัดงานแบบหรูหราอู้ฟู่ เชิญผู้คนมากมายมาร่วมสังสรรค์ แสดงความยินดีในวันที่น่าจดจำอย่าง ‘วันแต่งงาน’ คู่รักนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลกับแฟนสาวกับตัดสินใจจัดงานแต่งงานเพื่อเรี่ยไรเงินจากแขกไปบริจาคให้กับองค์กรช่วยเหลือสัตว์แทน Logan Ryan ผู้เล่นตำแหน่ง Conerback จากทีม Tennessee Titans และคู่หมั้น Ashley Bragg ได้ทำการจัดงานแต่งงานกันบนเกาะ Caribbean ที่อยู่ในประเทศ St. Lucia แต่ข้อเสียของงานแต่งงานอย่างหนึ่งก็คือการที่พวกเขาจะต้องบินจากบ้านที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาไปยังเกาะ Caribbean ทำให้เจ้าหมาทั้งสองตัวของพวกเขาไม่สามารถไปร่วมงานได้ “พวกเรารู้ว่าสถานที่จัดงานแต่งงานของเรามันยอดเยี่ยมมาก แต่มันมีข้อเสียอยู่ตรงที่ว่าเราไม่สามารถพาเจ้าหมาทั้งสองตัว Nala และ Leonardo ไปร่วมงานได้” Ashley เล่า งานแต่งงานถูกจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนเมษายน งานแต่งงานจัดขึ้นที่รีสอร์ทมีคู่บ่าวสาว ลูกสาว Avery และแขกอีกทั้งหมด 8 คน ในวันที่สองของงานแต่งงาน คู่บ่าวสาวได้เดินทางเข้าไปในเมือง Soufrière เพื่อถ่ายภาพสวีทหวานแหวว และที่นั่นเองพวกเขาก็ได้พบกับเหล่าหมาจรจัดมากมาย “พวกเราตัดสินใจที่จะอยู่เล่นกับพวกมัน” Ashley เล่า นั่นทำให้พวกเขารู้ว่าเจ้าหมาเหล่านั้นมันช่างน่ารักซะเหลือเกิน ทำให้คู่บ่าวสาวตัดสินใจที่จะช่วยเหลือพวกมันเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากว่าทั้งคู่เป็นคนรักสุนัขอยู่แล้ว…
-
โหดอีกขั้น… รัฐในอเมริกาเริ่มขึ้นรายชื่อ “ผู้กระทำความรุนแรงกับสัตว์” เพื่อแจ้งให้คนอื่นได้ทราบ
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีกฎหมายที่ออกมาคุ้มครองสัตว์มากมาย แต่นี่ก็ไม่สามรถที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากพอ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทางการรัฐในหลายแห่งของประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มมีมาตรการที่จัดทำ “ทะเบียนรายชื่อผู้กระทำความผิดต่อสัตว์” เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาการทารุณกรรมสัตว์ลงได้ ซึ่งรัฐแรกที่เริ่มกระบวนการการลงทะเบียนดังกล่าวไปแล้ว ก็คือรัฐเทนเนสซีตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2016 หลังจากนั้นจึงเริ่มใช้ในพื้นที่เล็ก ๆ ในรัฐนิวยอร์กและพื้นที่อื่นๆ ในรัฐอิลลินอยส์ โดยการขึ้นทะเบียนนี้ จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลพื้นฐานของผู้กระทำผิด ทั้งชื่อ ที่อยู่ รวมไปถึงความผิดที่เคยกระทำต่อสัตว์ ซึ่งจะช่วยให้ข้อมูลที่สำคัญแก่ผู้ค้นหาได้ และในเดือนกันยายนของปีที่แล้ว เมือง Tampa ในรัฐฟลอริดา ก็ได้เข้าร่วมกับฐานข้อมูลของทะเบียนนี้แล้ว ซึ่งในปัจจุบันดูเหมือนว่าจะมีอีกหลายเมืองในอเมริกา กำลังวางแผนจะใช้ฐานข้อมูลทะเบียนนี้เช่นเดียวกัน “ทะเบียนนี้ไม่เพียงช่วยปกป้องสัตว์ แต่สามารถที่จะระบุและอาจป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงต่อสัตว์ รวมไปถึงมนุษย์เช่นกัน” Kevin Beckner ผู้บัญชาการมณฑล Hillsborough เขตฟลอริดากล่าว หลังจากที่เมือง Tampa เห็นชอบกฎหมายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และด้วยไอเดียแบบนี้จึงทำให้ประชาชนในสหราชอาณาจักรเริ่มลงรายชื่อเพื่อนำระบบทะเบียนนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งมีรูปแบบที่ไม่ต่างกับทะเบียนผู้ล่วงละเมิดหรือกระทำผิดทางเพศ หากระบบทะเบียนนี้ได้นำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ก็จะทำให้การทำงานของตำรวจและการตรวจสอบจากประชาชน เกี่ยวกับผู้กระทำความผิดในเรื่องการทารุณกรรมสัตว์นั้น สามารถที่จะทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อดีของระบบทะเบียนนี้คือนอกจากการบันทึกข้อมูลต่างๆ แล้ว ยังสามารถที่จะกรอกสถานะของผู้กระทำผิดด้วยว่าเป็นโรคจิตเภทหรือบุคคลธรรมดาอีกด้วย ที่มา: independent , ladbible
-
รวม 20 ภาพถ่ายชีวิตสัตว์ในเมือง เมื่อการพัฒนาของมนุษย์ รุกคืบไปในที่อยู่อาศัยพวกมัน…
ในยุคที่สังคมเมืองรุกคืบเข้าไปในเขตป่าซึ่งอันเป็นที่อยู่ของเหล่าสัตว์มากมายนานาชนิต จนกลับกันกลายเป็นว่าตอนนี้พวกมันได้ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตมาอยู่ในเมืองแทนซะอย่างนั้น… นั่นทำให้ Sam Hobson ช่างภาพมากฝีมือ ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการถ่ายภาพสัตว์ในสังคมเมืองในโซนยุโรป ซึ่งเขาก็ได้ออกมาเล่าและแบ่งปันผลงานของตัวเองให้เราได้ดูกัน เขาเล่าว่าตัวเขาจะได้เจอกับเหล่าสัตว์ในตัวเมือง ไม่ว่าจะเป็นจิ้งจอก แบดเจอร์ กวาง กบ กระรอกหรือนกกระยาง สัตว์พวกนี้ล้วนเคยอยู่ในที่ของมัน จนกระทั่งมันมาอยู่ในตัวเมืองและกลายเป็นต้นแบบไอเดียให้กับเขา ซึ่งผันตัวให้เขากลายมาเป็นช่างภาพสายนี้นั่นเอง เขายังบอกอีกว่า เขาใช้เวลาจำนวนมากเพื่อไปนั่งเฝ้าดูพวกสัตว์ตามจุดต่างๆ และเขายังโอเคกับการกลับไปยังสถานที่เดิมๆ ที่เขาไปถ่ายรูปในลักษณะที่ใกล้เคียงของเดิม เพราะเขาบอกว่าในบางครั้งแม้จะเป็นที่เดิม เขาก็มีโอกาสที่จะได้เจอสัตว์แปลกๆ รวมถึงรู้ถึงพฤติกรรมของสัตว์เจ้าประจำด้วย ว่ามันกินอะไร ไปไหนบ้าง แล้วชอบจะทำอะไร… . Sam ยังบอกอีกว่าการทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำๆ และออกมาข้างนอกสถานที่ มันเป็นอะไรที่ให้ประสบการณ์และความรู้มากกว่าการอ่านในหนังสือเสียอีก “ส่วนใหญ่ผมก็จะใช้เวลาในการนั่งรอและทำตัวให้กลมกลืนกับสถานที่นั้นๆ รวมถึงการมาหาพวกมันบ่อยๆ เพราะพวกสัตว์ไม่ได้โง่ เมื่อพวกมันเข้ามาสำรวจจนพบว่าผมไม่ได้เป็นศัตรูแต่เป็นมิตรกับพวกมัน พวกมันก็จะจำได้และก็จะเริ่มเข้าหาผมมากขึ้น” สัตว์ที่พบเห็นได้บ่อยๆ ในตัวเมืองก็คงจะเป็นจิ้งจอกเนี่ยแหละ หรือจะเป็นกวางก็มีให้เห็นไม่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาบ้านเขา แต่ก็ถือว่าแปลกบ้านเราพอสมควร นกกระสาก็ถือเป็นสัตว์อีกหนึ่งชนิดที่ย้ายเข้ามาอยู่กับชุมชนเมือง . ทว่าสัตว์อย่างกบ หรือนกบางชนิดเราก็สามารถพบเจอได้ทั่วไปอยู่แล้ว…
-
ผู้เชี่ยวชาญแก้ปริศนา พฤติกรรม “แมวคลั่ง” หลังเพิ่ง “อึ” เสร็จ เป็นเพราะอะไรแน่!?
เหล่าคนรักแมวน่าจะทราบกันดีว่าพวกแมวนั้นเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดมากแค่ไหน ทุกครั้งที่พวกมันอึใส่กองทรายหรือกระบะทราย พวกมันก็จะใช้เท้ากลบผลงานของมันทุกครั้ง แต่ทาสทั้งหลายเคยสังเกตไหมว่า หลังจากที่พวกมัน “อึ” เสร็จแล้ว มันจะมีพฤติกรรมประหลาดๆ ตามมา? พฤติกรรมประหลาดที่ว่านี้ก็คือ พวกมันจะวิ่งเร็วปรู๊ดปร๊าด กระโดดไปมา ทำตัวเหมือนคลั่งอะไรสักอย่าง (บางตัวเป็นบางตัวไม่เป็น) จนหลายคนสงสัยว่ามันเป็นอะไรกันแน่? บางคนเรียกอาการตื่นตระหนกหรือคลั่งแบบนี้ว่า “Zoomies” ที่เป็นการแสดงสัญชาตญาณแบบสัตว์ออกมา แล้วเคลื่อนไหวไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้นักล่าสามารถตามกลิ่นอึของมันมาได้นั่นเอง แต่ทางด้านสัตวแพทย์กล่าวว่าพฤติกรรมนี้อาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าพวกมันรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวจากการกินอาหาร หรือมีอีกทฤษฎีหนึ่งที่บอกว่าแมวนั้นวิ่งหนีเร็วๆ เพราะทนไม่ได้กับกลิ่นอึของตัวเองที่เพิ่งจะปล่อยออกไป ทางด้านด็อกเตอร์ Anish Sheth ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ได้เขียนหนังสือ What’s Your Poo Telling You (อึของคุณบอกอะไรกับคุณ) กล่าวว่าในระหว่างที่มนุษย์ขับของเสียออกจากร่างกาย ในตอนนั้นเส้นประสาทจากก้านสมองจะทำงานและถูกกระตุ้น ทำให้เกิดปฏิกิริยาตื่นเต้นหรือเบิกบานใจ ซึ่งปรากฏการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นกับแมวก็ได้ นั่นจึงเป็นสิ่งที่อธิบายได้ว่าทำไมพวกแมวถึงดูเหมือนมีความสุข วิ่งพล่านไปทั่วบ้านและเอาเล็บไปข่วนกับบอลไหมพรมหรือข้าวของต่างๆ ลองชมตัวอย่างแมววิ่งปรู๊ดหลังอึเสร็จได้ที่นี่นะ… สุดท้ายนี้ แม้ว่าเราจะสรุปไม่ได้อย่างชัดเจนว่าพวกมันเป็นอะไร ถึงต้องวิ่งอย่างบ้าคลั่งหรือทำตัวเพี้ยนๆ หลังอึเสร็จ แต่เราก็พอจะรู้ล่ะนะว่าไม่ใช่แมวของเราตัวเดียวที่มีอาการแบบนี้ ที่มา thedodo
-
เห็นใจกันบ้าง!? ชวนรู้จัก “กบแก้ว” สัตว์สายพันธุ์แปลกจากเอกวาดอร์ มองเห็นทะลุไปถึงหัวใจ
หากเราพูดถึงกบ หลายๆ คนคงจะจินตนาการถึงสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ มี 4 ขา ผิวเมือกๆ สีเขียวหรือน้ำตาลตามแต่สายพันธุ์ แต่คุณรู้ไหมว่ายังมีกบอยู่อีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีผิวหนังแปลกประหลาด จนเราสามารถมองทะลุไปยันตับไตไส้พุงเลย!? เจ้ากบสายพันธุ์นี้มีชื่อเล่นว่า ‘กบแก้ว’ หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Hyalinobatrachium yaku มันถูกค้นพบครั้งแรกในป่าอเมซอน ในส่วนของประเทศเอกวาดอร์ และยังสามารถพบเห็นได้อีกในบริเวณอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ด้วยนะ นักวิจัยศึกษาแล้วพบว่ากบเหล่านี้จะมีลักษณะโปร่งแสงจนเกือบจะโปร่งใส ทำให้เรามองทะลุร่างกายมันได้ แต่อวัยวะภายในของมันก็ไม่ได้บกพร่องแต่อย่างใด ยังใช้งานได้ดีเหมือนกบชนิดอื่นๆ เลย อันที่จริงแล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการค้นพบกบที่มีผิวหนังใสแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีการค้นพบกบสายพันธุ์ H. pellucidum ที่ประเทศเปรูมาแล้ว และพวกมันก็มีผิวหนังใสกิ๊งจนเห็นตับไตไส้พุงเช่นกัน แต่เจ้ากบ H. yaku ที่เพิ่งค้นพบใหม่นี้มีจุดสีเขียวเข้มอยู่บนผิวและมีเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ ผู้เชี่ยวชาญจึงฟันธงว่ามันคือกบสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งค้นพบนั่นเอง กบแก้วตัวนี้มีความยาวประมาณ 0.8 นิ้ว ตัวสีเขียวคล้ายแอปเปิ้ล และบนหลังจะมีจุดเขียวเข้มๆ นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่าจากจุดที่นักวิจัยค้นพบเจ้ากบตัวนี้ห่างออกไปราวๆ 110 กิโลเมตร ก็ยังมีการค้นพบกบสายพันธุ์นี้อีกเหมือนกัน นั่นหมายความว่าพวกมันสามารถขยายเผ่าพันธุ์หรือเดินทางไปอาศัยอยู่ในที่ไกลๆ ได้อีก แต่น่าเสียดายที่ภายหลังมีรายงานบอกว่าพวกมันอาจได้รับผลกระทบที่ร้ายแรงจากกิจกรรมของมนุษย์เช่นการขุดเจาะและสกัดน้ำมันของรัฐบาลของเอกวาดอร์ ที่ทำให้แหล่งน้ำเป็นพิษจนพวกมันอาศัยอยู่ไม่ได้และสูญพันธุ์ในที่สุด ที่มา zookeys.pensoft.net , seeker
-
วันนี้คุณยิ้มแล้วหรือยัง? ชม 23 ภาพสัตว์แบบแฮปปี้สุดๆ ที่จะมาชวนให้ยิ้มกัน
ไม่ว่าวันนี้คุณจะเจอเรื่องหนักมาแค่ไหน ลองมายิ้มกับพวกเค้าหน่อยไหมล่ะเหมียว? #เหมียวฟิ้น ชวนชม 23 ภาพสัตว์ ที่แสดงสีหน้าเหมือนมีความสุขออกมา จะเป็นไวมาดูกันเลย 1. ปลามีความสุข 2. น้องหมาก็ยิ้มไปด้วย 3. แฮ่ๆ เจ้าสล็อธนี่ ยิ้มเห็นฟันเลย 4. เม่นแคระแฮปปี้มั่กๆ 5. วันสบายๆของนาก 6. เจ้าเหมียวและดินแดนหิมะ 7.แมวน้ำช้างก็ยิ้มเป็น 8.ลาแฮปปี้มาก 9. เต่ายิ้มได้ด้วย 10. จิ้งจอกขาว ยิ้มตาหยี 11. เฮ้ย สิงโตยิ้มเป็นด้วยนะ >< 12. ลูกไฮยีน่า ฉีกยิ้ม 13. แบร่ๆ 14. แฮมสเตอร์ มีความสู๊ขมีความสุข …
-
หญิงสาวช่วยชีวิตแมงมุงนักล่าขนาดเท่าลูกสุนัข แต่ถึงจะเห็นอย่างนี้มันไม่ดุร้ายนะ ขอบอก!!
ปกติแล้วเวลาเราเห็นข่าวการเข้าไปช่วยเหลือสัตว์ เราก็มักจะเห็นการเข้าไปช่วยเหลือสุนัขบ้าง แมวบ้าง หรือไม่ก็เป็นสัตว์ที่ดูไม่ดุร้ายอะไร อาจจะมีงูบ้างนิดหน่อย แต่เราคงยังไม่เคยเห็นศูนย์ช่วยเหลือไหนเข้าไปช่วยชีวิตแมงมุมใช่ไหมล่ะ? Charlotte คือชื่อของแมงมุมสายพันธุ์ Huntsman Spider และยังเป็นแมงมุมนักล่าที่กินแมลงเป็นอาหาร ก่อนหน้านั้นมีบุคคลที่พบและต้องการกำจัดมันทิ้ง แต่ทว่าเจ้าแมงมุมมันได้ถูกช่วยชีวิตไว้ โดยหญิงสาวชาวออสเตรเลียผู้เป็นเจ้าของศูนย์ช่วยเหลือ Betty’s Barnyard Rescue แน่นอนว่าถ้าใครได้เห็นขนาดของเจ้า Charlotte และเป็นคนกลัวแมงมุมคงไม่แปลกเลยที่เห็นแล้วจะอยากฆ่ามันทันที เพราะมันถือเป็นแมงมุม Huntsman ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดตั้งแต่พบมาเลยก็ว่าได้ โดยมันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 5 นิ้ว หรือให้เทียบง่ายๆ ก็ขนาดพอๆ กับลูกหมาปั๊กเลยล่ะ แต่ถึงมันจะเป็นแมงมุมใช่ว่ามันจะเป็นสัตว์ที่ดุร้ายเสมอไป เพราะหญิงสาวได้เล่าเกี่ยวกับเจ้าแมงมุมตัวนี้ว่า “Charlotte เป็นแมงมุมที่น่ารัก สง่างาม และไม่ดุร้าย เช่นเดียวกับแมงมุมทั่วๆ ไปที่พวกมันก็อยากจะทำหน้าที่ปกติของมัน กินแมลงและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเท่านั้น คนเราเข้าใจผิดเกี่ยวกับแมงมุมไปกันใหญ่แล้ว” ยังไงก็ตามเรื่องราวของ Charlotte ก็ถูกเผยแพร่มาแล้วตั้งแต่ปี 2015 แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันก็ยังคงดูปกติดีอยู่ และมีชีวิตที่สงบสุขในสวนของศูนย์ซึ่งเรื่องนี้บ่งบอกว่า สัตว์ทุกชนิดก็ไม่ได้แย่เสมอไป เพราะพวกมันต้องการแค่ชีวิตที่สงบสุขเท่านั้นเอง สุดท้ายเจ้าของศูนย์ก็บอกว่า “ที่ Betty’s Barnyard Rescue เราต้อนรับสัตว์ทุกชนิดไม่ว่าจะตัวเล็กตัวใหญ่ หรือหน้าตาแปลกแค่ไหนก็ตาม” …
-
“อีแร้งเกย์สองตัว” ช่วยกันฟักไข่ที่ถูกแม่ของมันทอดทิ้ง จนกระทั่งฟักออกมาเป็นตัวแล้ว!!
ปกติแล้วหน้าที่การฝึกไข่ของเหล่าสิงสาราสัตว์จะตกเป็นของตัวเมียเสียส่วนใหญ่ และสัตว์ก็มักจะมีเพศตามธรรมชาติปกติเป็นของตัวเอง ทว่าก็มีสัตว์จำนวนไม่น้อยเลยที่จะเป็นเกย์ และชื่นชอบในเพศเดียวกัน เจ้าอีแร้งสองตัวจากสวนสัตว์ Artis ในอัมสเตอร์ดัม ที่เป็นเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ก็เป็นคู่เกย์เช่นกัน และพวกมันก็ยังทำภารกิจอันยิ่งใหญ่จนสำเร็จอีกด้วย!! เจ้าหน้าที่ดูแลสวนสัตว์ได้เล่าเรื่องราวของพวกมันว่า ตอนแรกเริ่มทางสวนสัตว์ได้ไปเจอกับไข่ที่ดูเหมือนแม่ของมันจะทอดทิ้งไปแล้วเหลือแต่ไข่ให้โดดเดี่ยว จนพวกเขากะว่าจะเอาไข่ดังกล่าวไปเข้าเครื่องฟักแทน ทว่าในจังหวะเดียวกันนั้น พวกเขาก็สังเกตเห็นอีแร้งตัวผู้สองตัวกำลังรวบรวมกิ่งไม้รอบๆ เพื่อจะสร้างรังฟักไข่ ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยกไข่ดังกล่าวให้เป็นหน้าที่ของเจ้าอีแร้งเกย์ทั้งสอง ทางสวนสัตว์ยังบอกอีกว่า อีแร้งเกย์ทั้งสองไม่ได้พึ่งเป็นคู่เกย์กันแต่อย่างใด ทว่าพวกมันทั้งสองอยู่ด้วยกันมาแล้วนานกว่า 1 ปี แถมพวกมันก็ยังดูมีความสุขกันดี และพอเอาไข่นั้นให้พวกมันทั้งสอง มันก็ทำหน้าที่คุณพ่อที่ดีผลัดเปลี่ยนกันฟักไข่ดังกล่าวอย่างตั้งใจ จนล่าสุดไข่ดังกล่าวก็ฟักออกมาเป็นลูกนกเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าคุณพ่อทั้งสองก็ดูแลเอาใจใส่ลูกนกกำพร้าเป็นอย่างดี ทั้งการให้อาหารและสุขภาพความเป็นอยู่ของลูกนก ทางสวนสัตว์บอกว่า การที่สัตว์จำพวกนกจะกลายเป็นเกย์และรักในเพศเดียวกันถือว่าเป็นเรื่องปกติไม่ได้แปลกอะไร แต่ว่านี่คือเป็นครั้งแรกเลยที่สัตว์ที่เป็นเกย์ช่วยกันฟักไข่นั่นเอง นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังบอกเพิ่มเติมว่า ธรรมชาติของนกอีแร้งนั้นจะฟักไข่ 1 ฟองเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น และถ้าพวกมันจับคู่กันเมื่อไหร่ พวกมันจะอยู่ด้วยกันไปจนสิ้นลมหายใจ ฉะนั้นจึงไม่แปลกถ้านกเกย์สองตัวนี้จะอยู่ด้วยกันไปจนถึงวาระสุดท้าย… ที่มา dailymail
-
ศิลปินชาวญี่ปุ่น สร้างสรรค์งานลูกโป่งรูปร่างสัตว์ ด้วยทักษะการบิดลูกโป่งระดับสูง!!
เลลาไปเดินตามถนนคนเดิน สวนสัตว์ หรือสวนสนุก เรามักจะเห็นมีคนมาปั้นลูกโป่งเป็นรูปทรงต่างๆ ที่บอกได้เลยว่ามันช่างเจ๋งจริงๆ แต่เพื่อนๆ ต้องทึ่งยิ่งกว่าเมื่อได้ชมผลงานของ Masayoshi Matsumoto ศิลปินที่นำลูกโป่งมาบิด มาปั้น ทำโน่น นี่ นั่น จนออกมาเป็นลูกโป่งประดิษฐ์สุดสร้างสรรค์ ผลงานลูกโป่งของ Masayoshi ส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นรูปสัตว์ ที่ไม่ได้เหมือนแค่รูปร่างเท่านั้น แต่เขายังได้เลือกสีลูกโป่งมาปะติดปะต่อให้มีสีที่ใกล้เคียงสัตว์ตัวจริงด้วย นอกจากนี้เขายังได้จัดวางท่าทางของสัตว์ลูกโป่งเหล่านี้ให้ดูเป็นธรรมชาติด้วย เช่น นกเกาะกิ่งไม้ ลิงห้อยโหน แมงมุมไต่กำแพง เป็นต้น ที่สำคัญคือผลงานลูกโป่งทุกชิ้นไม่ได้ใช้อุปกรณ์เสริมในการสร้างผลงานสุดอลังการ มีเพียงแค่การใช้เชือดรัดบางส่วนเพื่อให้คงรูปได้เท่านั้นเอง และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาชมกันเลยดีกว่าว่างานลูกโป่งของเขานั้น ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย!! . . . . . . . . . . . ที่มา: mymodernmet
-
รวม 20 ภาพของเหล่าสัตว์ตัวอ้วนกลมดุ๊กดิ๊ก ย้ายสัญชาติมาเป็นเผ่าพันธุ์หมู แทบจะหมดแล้ว…
ถ้าพูดถึงความอ้วนในตัวมนุษย์แล้ว ถือว่านั่นเป็นสัญญาณที่ไม่ดีในการมาของโรคต่างๆ แต่ทว่าพอพูดถึงสัตว์อ้วนๆ แทนที่เราจะนึกถึงเรื่องไม่ดีที่จะตามมา เรากลับไปนึกถึงความน่ารักตุ้ยนุ้ยของมันไปซะได้ ด้วยเหตุฉะนี้ เราก็เลยจะมาดูเหล่าสัตว์หลากหลายชนิด ที่เปลี่ยนตัวเองจากสัตว์ที่เป็นอยู่ให้กลายเป็นเผ่าพันธุ์หมู รับรองว่าใครได้เห็นจะต้องตกเป็นทาสความอ้วนกลมของพวกมันอย่างแน่นอน ฉะนั้นเรามาดูกันเลยกับ 21 ภาพของเหล่าสัตว์อ้วนกลมดิ๊ก จะน่ารักแค่ไหนมาดูกัน!! เริ่มกันที่เจ้ากระรอกตัวแรกก่อนเลย ดูขนาดของมันสิ น่าจะนุ่มนิ่มมากๆ เลยนะ หรือจะเป็นเจ้าหมาปั๊ก ที่ชักจะเป็นหมูขึ้นเรื่อยๆ ชุดจะปริอยู่แล้วนั่นเจ้าเหมียว!! อ้วนจนลืมความหนู จนตอนนี้กลายเป็นหมูแทนแล้ว ยัง…ยังไม่หยุดกินอีก!! ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงในบ้านเท่านั้น เจ้าหมีควายตัวนี้ก็อ้วนซะเนื้อปลิ้นออกมาแล้วนั่น แม้เจ้าเหมียวตัวนี้จะดูอ้วนจนเหนียงยานขนาดนั้น แต่มันก็ดูน่ารักดีเหมือนกันนะ ก็เพราะแกไม่หยุดกิน ช่วงล่างก็เลยกองกันแบบนั้นไงล่ะ “ทำไมเดี่ยวนี้มันไม่ไปหว่า เมื่อก่อนก็ยังไหลลื่นปรี๊ดๆ อยู่เลย” ก็เข้าใจนะว่าแกเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยชอบขยับไปไหน แต่นี่มันอ้วนเกินไปแล้วโว้ย!! แม้แต่กระต่ายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีความคล่องตัวสูง ก็ยังกลายเป็นสัตว์ที่มีความทิ้งตัว ไปซะได้ เจ้าเพนกวิ้นตัวนี้มันดูตัวโตกว่าชาวบ้านหรือเปล่านะ แต่มันน่าจะนุ่มมิ่มมากๆ เลยนะเนี่ย… ส่วนสัตว์ที่ไม่น่าจะอ้วนอย่างกิ้งก่า ก็ยังเป็นกับเขา ดูสิ..อืดเชียว บอกทีว่าที่กลมๆ…
-
อดีตนายพราน ถึงกับเลิกล่าสัตว์มาแล้ว 10 ปี หลังรับเลี้ยงกวาง และมันเข้ามาเปลี่ยนชีวิต
Aladino Montes ชายชาวสเปนวัย 53 ปี ซึ่งทั้งช่วงชีวิตของเขาที่เติบโตมาในแคว้นอัสตูเรีย ด้วยความที่เติบโตมากับครอบครัวในแถบชนบท เขาได้ทำการเดินป่าล่าสัตว์มาแล้วนับไม่ถ้วน จนเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ ทว่าชีวิตการเป็นนักล่าสัตว์ของเขาก็ต้องสิ้นสุดลง หลังจากที่เขาได้พบกับลูกกวางตัวน้อยเจ้า Bambi จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลา 10 ปีได้แล้ว ที่เจ้าตัวไม่ได้ออกไปล่าสัตว์อีกเลย “ถ้าจะให้ผมกลับไปล่าสัตว์แบบนั้นอีกครั้ง ผมขอยอมตายดีกว่า” Aladino กล่าว เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีก่อน วันหนึ่ง Aladino ได้ขับรถจี๊พคู่ใจของเขาไปตามเส้นทางหุบเขาในหมู่บ้าน กระทั่งเจ้าตัวได้หันไปเห็นภาพของวัวสองตัว กำลังยืนอยู่กับลูกกวาง และนั่นก็ทำให้เค้ารู้สึกแปลกใจอย่างมาก เพราะเขาไม่เคยเห็นภาพวัวอาศัยอยู่กับกวางมาก่อน ด้วยความสงสัยเขาจึงย่องเข้าไปดู ก็ได้พบว่าลูกกวางน้อยตัวน้อยประสบอุบัติเหตุ มีร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จากนั้น Aladino ได้รีบนำตัวเจ้ากวางน้อยกลับมาที่บ้าน แล้วจัดการก่อไฟเตรียมย่าง เอ๊ย เตรียมการเพื่อช่วยรักษาบาดแผลของมันให้หายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อ Bambi หายจากอาการบาดเจ็บ แทนที่มันจะวิ่งหนีเข้าสู่ผืนป่า มันกลับเลือกที่จะอาศัยอยู่กับ Aladino และครอบครัวของเขา ช่วงเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มก่อตัว จนทุกวันนี้เจ้า Bambi ก็ได้กลายเป็นกวางสาวน้อยโตเต็มวัย…
-
คอลเลคชั่น “สัตว์ลึกลับใต้ทะเล” ชุดใหม่ชาวประมงรัสเซีย ที่บังเอิญจับได้ระหว่างหาปลา!!
หลังจากที่ไม่นานนี้แคทดั๊มบ์เราได้แชร์เรื่องราวของ Roman Fedorstov ชายขาวรัสเซียที่ตะเวนออกจับปลาน้ำลึกพร้อมกับคอยแชร์ภาพปลาแปลกๆ ให้เราได้ดูกัน เนื้อหาเก่า: Roman ชาวประมงรัสเซียผู้สะสม “สัตว์ลึกลับใต้ทะเล” จากการที่เขาออกไปหาปลาและบังเอิญจับได้.. ทว่าแค่นั้นมันอาจจะยังไม่จุใจสำหรับเหล่าปลาหน้าตาเอเลี่ยนที่เป็นสิ่งมีชีวิตสุดพิศวงในโลกของเราที่ยังไม่มีใครย่างกลายเข้าไป วันนี้ #เหมียวมู่ทู่ เลยจะมาขอสานต่ออีกซักหน่อยกับภาพปลาน้ำลึกสุดแจาก Roman นั่นเอง ซึ่งเวลาผ่านไปเขาก็จับพวกมันได้ และถ่ายรูปแชร์ลงบนโลกกอนไลน์อยู่เรื่อยๆ (ทว่าเขาไม่ได้ระบุชื่อปลาแต่ละสายพันธุ์ไว้แต่อย่างใด อย่ารอช้าลองมาดูกันเลยดีกว่า…) เจ้าปลาตัวนี้ดูมันจะทำหน้าตกใจที่เจอหน้า Roman พอสมควรเลยนะ เจ้าตัวนี้ดูจะเป็นหอย ปลิง หรืออะไรทำนองนี้มากกว่าปลานะ นอกจากเกล็ดและหน้าตาของมันที่ดูคล้ายจระเข้แล้ว ตาของมันก็ยังมีสีเหลืองที่ดูน่ากลัว น่าจะเป็นแมงมุมทะเลสายพันธุ์หนึ่ง เหมือนเจ้าตัวนี้กำลังแข่งจ้องตากับ Roman อยู่เลย อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เขาจับมาได้ เจ้าตัวนี้น่าจะจัดอยู่ในวงเดียวกับปลาแองเกลอร์หรือเปล่านะ ปลิ้งทะเลที่ดูน่ากลัวสุดๆ อีกหนึ่งตัวที่มีลักษณะแปลกๆ โดยเฉพาะบริเวณหัวและตา นี่น่าจะเป็นปลาปั๊กเป้า ปลาที่มีขนาดปากใหญ่พอๆ กับช่วงลำตัว ปลาที่มีปากอยู่ด้านล่างหัว ลักษณะคล้ายเอเลี่ยนอยู่เบาๆ เจ้าปลาลิ้นหมาขนาดยักษ์ที่ดูแล้วน่ากลัวสุดๆ…
-
15 สัตว์สายตาอ้อดอ้อนซะเหลือเกิน อู๊ยทนไม่ไหว อีแม่จะเข้าไปปล้ำละนะ!!
ถ้าพูดถึงความน่ารัก นอกจากเด็กๆ ตัวน้อยๆ แล้วอีกหนึ่งสิ่งที่เราจะคิดถึงก็คงจะหนีไม่พ้นพวกสัตว์อย่างแน่นอน และยิ่งเป็นลูกสัตว์ตัวเล็กๆ ไร้เดียงสาหน่อยๆ ความน่ารักของพวกมันก็จะทวีคุณพุ่งจนถึงจุดพีคเลยก็ว่าได้ แถมถ้าพวกมันส่งสายตาหวานๆ อ้อดอ้อนซะเหลือเกิน อย่างเช่นเจ้า 15 ตัวนี้ รับรองว่าให้ใครมาเห็นจะต้องยอมสยบต่อความน่ารักของพวกมันอย่างแน่นอน… อิ๋งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ส่งสายตาวิ้งๆ แบบแพคคู่ เป็นใครก็ต้องยอมแพ้ แม้แต่เต่าก็น่ารักก็ยังส่งสายตาออดอ้อน เจ้าตูบทำหน้าตาเศร้าศร้อย เห็นแล้วอยากอุ้มเลย พ่อๆ อ่านหนังสือให้หนูฟังหน่อย ดูเหมือนมันกำลังมองหาเหยือคนต่อไปเลยนะเนี่ย ใครจะตกเป็นทาสความน่ารักของเจ้าตูบตัวนี้กันนะ ลูกแมวก็อยากจะเข้ามาแจมด้วยเช่นกัน… ไม่รู้เป็นอะไรพอเห็นเจ้าตูบทั้งหลายทำคอเอียงหน่อยๆ พร้อมตาใสๆ ทีไรต้องละลายทุกที ใครจะต้านทานสายตาพวกนี้ไหมกัน #เหมียวมู่ทู่ คนหนึ่งแหละที่ขอยอมแพ้ พวกสัตว์เวลาส่งสายตาหวานๆ มานี่ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหนก็ดาเมจมหาศาลจริงๆ มานู๊ดดดด พวกมุงจงมาอุ้มข้าซะ!! แต่เจ้ากระต่ายตัวนี้ดูจะกินแบบไม่แคร์รอบข้างเลยนะ อรัํย ตัวเล็กน่ารักน่าชังสุดๆ เลย เจ้ากระรอกตัวนี้ก็โชว์ความน่ารัก ด้วยการทำแก้มตุ่ย…
-
20 ภาพสัตว์ “พรางตัว” กับธรรมชาติได้อย่างแนบเนียน คุณลองมาหาดู ว่าจะเจอมั้ย!?
คุณรู้จักคาถาพรางตัวกันรึเปล่า!? อ่า.. ถึงแม้ว่าไม่ใช่แฟนการ์ตูนเชื่อแน่ว่าหลายๆ คนต้องรู้จักกับการพรางตัวแน่ๆ เพราะอย่างน้อยคุณต้องเคยเล่นซ่อนแอบมาบ้างหล่ะน่าจริงไหม?? ฮ่าๆ แต่ใครถ้าหากใครคิดว่าตัวเองเป็นเซียนซ่อนแอบแล้วละก็ ลองไปชมการพรางตัวของพวกสัตว์เหล่านี้ดีกว่า รับรองเลยว่าสกิลในการซ่อนของคุณยังไม่เนียนเท่าสัตว์ต่างๆ เหล่านี้แน่ๆ และลองมาหาพวกมันให้เจอด้วยนะ!! 1. Flat Spider 2. Long-Tailed Potoo 3. Impala 4. California Ground Squirrel 5. Mossy Leaf-Tail Gecko 6. California Stick Insect 7. Chameleon 8. Buff-Tip Moth 9. Adelpha Serpa Selerio Caterpillar 10. Red Bat 11. Southern Pygmy Leatherjacket 12. Phyllium Giganteum 14. Glauert’s Seadragon…
-
จะสงสารหรือฮาดี!? หนุ่มเล่าประสบการณ์ช่วยกระรอก 4 ตัว ที่หางพันกันจนไปไหนไม่ได้…
Andrew Day ชายหนุ่มวัย 41 ปี จากเมือง Bangor ในสหรัฐอเมริกา ได้บังเอิญไปสังกตเจอเหตุการณ์ผิดปกติบางอย่างบนทางเดิน ซึ่งเหมือนมีก้อนขนอะไรบางอย่างกำลังขยับขยุกขยิกไปมา ด้วยเหตุนี้เขาจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ จึงผมว่าก้อนขนที่ว่าดันเป็นกระรอก 4 ตัว ที่มันกำลังประสบปัญหาหางพันกัน ขยับไปไหนมาไหนไม่ได้ซะงั้น!!? เขาได้เล่าว่าเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2017 เขาได้ไปเจอเข้ากับกระรอกสี่ตัวระหว่างเดินไปบ้านพ่อของเขา ซึ่งหางของพวกมันดูเหมือนจะพันกันแกะไม่ออก ยิ่งตอนที่เขาเดินเข้าไปใกล้ พวกมันก็ทำท่าจะหนีท่าเดียว แต่ด้วยความที่พวกมันหางติดกันทำให้การวิ่งของพวกมันที่พยายามจะไปคนละทาง ก็กลายเป็นการดึงกันเองไปซะอย่างนั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ “ตอนแรกผมก็แค่อยากจะบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อไว้ดูเฉยๆ เพราะมันแปลกจนต้องอุทานว่า มันเกิดเxี้ยไรกันเนี่ย “ ตัวคลิปของเขามีความยาวเพียงแค่ 28 วินาที เท่านั้น เพราะเขาให้เหตุผลว่าหลังจากที่เขาถ่ายคลิปไปได้ซักพัก เขาก็สังเกตุเห็นแมวอยู่ใกล้ๆ จึงต้องรีบจัดการไล่แมวตัวนั้นไปไกลๆ ก่อน เพราะกระรอกทั้งสี่ติดกันแบบนี้ มันคงเป็นเหยื่อชั้นดีให้กับนักล่าแน่นอน ด้วยเหตุนี้เขาและพ่อของเขาจึงช่วยเจ้ากระรอกทั้ง 4 ให้ปลอดภัยจากนักล่าก่อน และหาจัดการหางของพวกมัน พวกเขาตัดสินใจโทรไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ของเมือง แต่ว่าในวันนั้นดันเป็นวันอาทิตย์ซึ่งศูนย์ปิดทำการนั่นเอง พวกเขาจึงตัดสินใจติดต่อไปทางสถานีตำรวจ ซึ่งบอกว่าจะส่งคนมาช่วยจัดการให้แต่ต้องรอสักชั่วโมงหนึ่งนะ ด้วยเหตุนี้ Andrew จึงต้องนั่งเฝ้าดูพวกมัน เขาบอกว่าระหว่างที่รอเจ้ากระรอกทั้ง 4…
-
ศูนย์พักพิงบนเกาะสวรรค์และเหล่าตูบ เหมาะที่จะไปเที่ยวพร้อมกับน้องหมาเกือบร้อย!!
ถ้าคุณเป็นคนชอบหาดทรายสวยๆ ทะเลสีครามบวกเข้ากับเหล่าสุนัขที่แสนน่ารักๆ แล้วยังหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้ากับความชอบดังกล่าวไม่ได้ซักที เราก็ขอนำเสนอหมู่เกาะแสนสวยที่มีทุกสิ่งที่กล่าวไปมาให้คุณได้ฉ่ำหัวใจกัน!! เกาะที่ว่านี้มีชื่อว่าหมู่เกาะเติกส์และเคคอสตั้งอยู่ใน เป็นอาณานิคมโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร ประกอบไปด้วยหมู่เกาะย่อยในเขตร้อน 2 หมู่เกาะ ได้แก่ หมู่เกาะเคคอสและหมู่เกาะเติกส์ ซึ่งที่แห่งนี้ล้วนมีครบทุกอย่างที่คุณต้องการ ทั้งหาดทรายสีขาว ทะเลสีคราม และที่สำคัญก็ยังมีศูนย์พักพิงสุนัขที่มีเหล่าสุนัขน่ารักๆ เพียบ . Potcake Place เป็นศูนย์พักพิงสัตว์ที่สร้างโดยการรวมต่อของอาสาสมัครหลากหลายคน และที่แห่งนี้มีสุนัขในการเลี้ยงดูมากกว่า 50 ถึง 70 ตัว!! แถมนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาก็สามารถขอรับพวกมันไปเลี้ยงได้อีกด้วย แถมในหนึ่งปีที่นี่ยังเลี้ยงดูสุนัขมากกว่า 500 ตัวเลยทีเดียว . สุนัขสายพันธุ์หลักๆ ที่ศูนย์เลี้ยงดูอยู่ก็จะประกอบด้วย แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์,เยอรมันเชเพิร์ด และอิงลิชฟอกซ์เทอร์เรีย แน่นอนว่าพวกมันเป็นสุนัขที่น่ารักๆ ทั้งนั้นเลยละ ถ้าใครสนใจและได้แวะไปที่เกาะแห่งนี้ก็อย่าลืมแวะไปที่ Potcake Place ล่ะ เผื่อถ้าถูกใจน้องหมาตัวไหนจะได้รับมาเลี้ยงซักตัวสองตัว . ที่มา ladbible
-
ชายหนุ่มสองคนถูกจับข้อหาทำร้ายลูกจระเข้ หลังโพสต์ภาพเทเบียร์ใส่ปากมันอย่างโหดร้าย!!
แม้จระเข้จะเป็นสัตว์ที่ดุร้ายและสร้างปัญหาให้กับคนบ่อยครั้ง แต่ยังไงความจริงที่ว่าคนย่อมเป็นสิ่งมีชีวิตที่โหดเหี้ยมที่สุดก็ยังหนีไม่พ้นอยู่ดี โดยล่าสุดนี้ก็มีข่าวเกี่ยวกับชายหนุ่มสองคน ถูกจับข้อหาทารุณลูกจระเข้ด้วยการเทเบียร์ให้มันกิน!!? Joseph Andrew วัย 20 ปี และ Zachary Lloyd Brown วัย 21 ปี ทั้งคู่เป็นวัยรุ่นจากเมือง Ridgeland ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาได้ก่อวีรกรรมสุดห่ามนั่นก็คือการทารุณและทำร้ายลูกจระเข้… ทั้งคู่ได้จับลูกจระเข้มาจากข้างทางขณะที่มันกำลังข้ามถนน และจับมันบีบคอเพื่อให้จระเข้ตัวดังกล่าวอ้าปากออก จากนั้นทั้งคู่ก็กรอกเบียร์เทใส่ปากจระเข้ พร้อมกับถ่ายรูปการกระทำของพวกเขาไว้ แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่ลืมที่จะโพสต์ภาพดังกล่าวลงในโซเชียลมีเดีย แต่ต่อมาหลังจากที่ชาวเน็ตได้เห็นภาพของทั้งคู่ เหล่าชาวเน็ตก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ไปทารุณลูกสัตว์แบบนั้น ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกตามหาตัววัยรุ่นทั้งสอง และได้ตั้งข้อหาทารุณสัตว์พร้อมกับปรับทั้งคู่เป็นเงิน 300 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (เป็นเงินราวๆ 10,000 บาท) . ทาง Kyndel McConchie เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรรมชาติก็ได้ออกมาบอกว่า “พวกเราได้เห็นภาพดังกล่าวถูกโพตส์ลงใน Snapchat โดยคนใดคนหนึ่งในสองคนนั้น ซึ่งภาพดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่พวกเรารับไม่ได้ การไปทำร้ายลูกจระเข้แบบนั้นถือเป็นเรื่องที่ผิด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกเราเมินเฉยต่อเรื่องนี้ไม่ได้จนต้องออกตามหาตัวทั้งสอง” สุดท้ายแล้วทั้งสองก็คนจะได้บทเรียนเกี่ยวกับการทำอะไรห่ามๆ ไปอีกนานเลยก็ได้ แม้การลงโทษจะเป็นแค่การปรับก็ตาม แต่เชื่อว่าพวกเขาน่าจะโดนสั่งสอนจนหูชาแน่ๆ เลยทีเดียวล่ะ ที่มา dailymail
-
ทางโรงเรียนให้ “เจ้าตูบ” เข้าไปอยู่ในหนังสือรุ่น ตอบแทนคุณงามความดี ที่มันทำมาตลอด…
Diana Bloom นักเรียนสาววัย 18 จาก Stafford High School ได้เล่าเรื่องราวสุดช็อคที่เธอได้เจอมากับตัวผ่านหนังสือรุ่นของเธอที่พึ่งจะได้รับเมื่อไม่นานมานี้ เพราะมีบางอย่างที่ผิดปกติอยู่ในนั้นด้วย เธอบอกว่าระหว่างที่กำลังพลิกหน้ากระดาษเพื่อดูสมาชิกในรุ่น เธอก็สังเกตเห็นบางสิ่งในหนังสือที่มุมล่าง เป็นภาพของสุนัขตัวสีดำที่เห็นลูกตาเด่นชัดสุดๆ และแน่นอนว่านี้มันคือหนังสือรุ่นของคนนั่นเอง… Diana Bloom ผู้เป็นต้นเรื่องค้นพบภาพสุดแปลก หนึ่งในหน้าของหนังสือรุ่น ที่เป็นหลักสำคัญของเรื่องทั้งหมด ผ่าม ผ๊ามมม!! หลังจากที่ Diana ได้ไตร่ตรองอย่างแน่ชัด เธอก็นึกขึ้นได้ว่าเธอมีรุ่นน้องคนหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าว ซึ่งพอเธอไปค้นหาดูก็มั่นใจว่าใช่เขาแน่นอน ด้วยเหตุนั้นทาง Buzzfeed จึงเดินทางไปหารุ่นน้องคนนั้นและได้ทราบว่าเขาคือ Andrew ‘AJ’ Schalk วัย 16 ปี ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานและต้องมีสุนัขที่ถูกฝึกมาเพื่อเตือนระดับน้ำตาลในเลือดของเขา ส่วนเจ้าสุนัขตัวที่ว่านั้นมีชื่อว่า Alpha มันเป็นสุนัขที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี อยู่ช่วยเหลือ Andrew มาเป็นเวลานานแล้ว และเขาก็นับมันเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวด้วย Andrew ได้พูดถึงสุนัขของเขาว่า “Alpha เป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจของผม มันสามารถที่จะรู้ล่วงหน้าถึงระดับน้ำตาลของผมได้ถึง 20-40 นาทีเลยทีเดียว นอกจากนั้นมันก็ช่วยชีวิตผมนับครั้งไม่ถ้วนเลยล่ะ แม้แต่ช่วงที่ผมหลับแล้วจู่ๆ น้ำตาลในเลือดของผมผิดปกติ มันก็จะปลุกผมทันทีเพื่อให้ผมรอดพ้นจากอันตราย”…
-
เผยภาพใบหน้าสุดเศร้า ของสัตว์โลกนับร้อยชีวิต จากสวนสัตว์ที่ปิดตัวในอาร์เจนติน่า..!!
ตอนเด็กๆ หลายคนคงเคยมีโอกาสไปทัศนศึกษาที่สวนสัตว์กับโรงเรียนกันมาบ้างแล้ว ซึ่งเอาจริงๆ ในวัยนั้นเราก็ไม่ค่อยจะสนใจว่าจริงๆ แล้วพวกมันอยู่ดีกินดีกันรึเปล่า? ครั้งนี้เราจะพาไปที่สวนสัตว์ประจำเมือง Buenos Aires ประเทศอาร์เจนติน่า ที่ซึ่งปิดให้บริการไปนานหลายปี ไร้ซึ่งการดูแลเลี้ยงดูอย่างทั่วถึง และนี่คือใบหน้าแห่งความเศร้าของพวกมัน… สวนสัตว์แห่งนี้เคยเปิดให้บริการครั้งล่าสุดเมื่อ 140 ปีก่อน และปัจจุบันถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสวนสาธารณะ ทว่าการเป็นอยู่ของพวกมันกลับไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง และอย่างดีเท่าที่ควร เช่น Guille ฮิปโปฯ ผู้อาศัยอยู่ในบ่อน้ำที่ไม่ได้รับการทำความสะอาด และเปลี่ยนถ่ายน้ำมานานแล้ว แม้แต่ชาวเมืองต่างก็รู้ดีว่า ที่นี่เต็มไปด้วยสีหน้าอันเศร้าสร้อยของพวกมัน สวนสัตว์แห่งนี้เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1875 แต่ด้วยพิษเศรษฐกิจที่ทำให้ต้องปิดตัวลง มีหลายองค์กรในภาคเอกชนที่ออกมาเรียกร้องให้มีการปรับปรุง และเคลื่อนย้ายสัตว์ป่าไปอยู่ในที่ๆ มันสมควรจะอยู่ ซึ่งทางหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องก็เคยออกมาประกาศว่าจะมีการปรับปรุงสถานที่แห่งนี้ใหม่ แต่จวบจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีซึ่งการเปลี่ยนแปลงใดๆ และดูเหมือนพวกสัตว์ทั้งหลายก็ต้องใช้ชีวิตอย่างน่าเศร้าไปแบบวันต่อวัน Claudio Bertonatti อดีตเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องให้สัมภาษณ์ว่า ‘สถานการณ์มันแย่ลงเรื่อยๆ ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแล และมันก็แย่ยิ่งกว่าเรือโนอาห์ที่แตกกลางทะเลซะอีก’ Horacio Rodriguez Larreta นายกเทศมนตรีประจำเมือง ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ‘เรามีโครงการที่จะปรับปรุงพื้นที่ทั้งหมด…
-
ชาวเน็ตร่วมไขปริศนา คลิปหมาเดินสองขาที่โด่งดัง เกิดจากการฝึกอย่างทรมานรึเปล่า!!?
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราคงจะได้เห็นคลิปของเจ้าหมาตัวหนึ่งที่เดินด้วยขาหลังสองขาพร้อมกับใส่ชุดสะพายกระเป๋าดูราวกับเป็นเด็กผู้หญิง ไม่ว่าใครๆ ต่างก็หลงในความน่ารักของมันไปตามๆ กัน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ประเทศจีน เพราะในคลิปจะได้ยินเสียงของเจ้าของพูดเป็นภาษาจีนกับเจ้าหมาว่า “เดินช้าๆ หน่อย รอชั้นด้วย” ก่อนที่มันจะหยุดและหันมา เมื่อชาวเน็ตได้ชมคลิปดังกล่าวแล้วต่างก็ชื่นชมในความน่ารักของมัน บ้างก็แปลกใจว่านั่นมันใช่หมาจริงๆ เหรอนั่นน่ะ?? . คลิปวิดีโอดังกล่าวนั้นถูกดาวน์โหลดมาจากแอปฯ Huoshan Video เป็นแอปฯ วิดีโอของจีนที่คล้ายกับ Vine ในแอป Huoshan Video ก็จะมีแอคเค้าท์หนึ่งที่มีชื่อว่า ‘Wanghong Doudou’ ที่พอแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วก็จะได้ชื่อว่า ‘Viral Smol Bean’ ที่มีคนติดตามมากกว่า 34,000 คน จากแอคเค้าท์ก็จะพบว่าเจ้าหมา Smol Bean นั้นเป็นสุนัขเพศเมีย และอาศัยอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ มีคลิปวิดีโอมากมายที่โชว์ให้เห็นว่าเจ้า Smol Bean นั้นใส่ชุดที่แตกต่างกันออกไป และเดินไปมาด้วยขาหลัง เมื่อคลิปของเจ้า Smol Bean ถูกแชร์ไปมากมายในฝั่งตะวันตก ก็เริ่มทำให้ผู้คนรู้สึกสงสัย…
-
หญิงสาวกำลังเดินทางไปช่วยแมวที่ศูนย์ฯ ระหว่างทางเจอแมวจรจัดปุ๊บ ก็เลยรับเพิ่มอีกตัว!!
เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งจากเว็บไซต์ Lovemeow ที่เธอตั้งใจจะเดินทางไปช่วยเหลือเหล่าแมวเหมียวจากศูนย์พักพิงสัตว์ แต่แล้วในระหว่างทาง เธอก็บังเอิญเจอแมวจรจัดที่ต้องการความช่วยเหลือเช่นกัน ทำให้เธอเปลี่ยนใจช่วยเจ้าเหมียวตัวดังกล่าวเพิ่มอีกตัว!!? Kelley Lawrence Peters จากศูนย์ช่วยเหลือ The Kitty Krusade กำลังเดินทางเพื่อไปช่วยเหลือแมวที่บาดเจ็บจากศูนย์พักพิงอีกแห่งหนึ่ง แต่ทว่าระหว่างที่เธอกำลังขับรถบนทางด่วน เธอก็เลือบไปเห็นเจ้าเหมียวตัวหนึ่งอยู่ตรงเกาะกลางถนน วินาทีนั้นเธอรีบเหยียบเบรกและจอดรถเพื่อลงไปดูแลมันทันที ซึ่งเธอก็คาดเดาว่าลูกแมวตัวดังกล่าวน่าจะมีอายุราวๆ 6 ถึง 8 สัปดาห์ แถมตาของมันก็ปิดสนิทจากโรคติดเชื้อทางเดินหายใจและโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ด้วยสภาพการจราจรบนถนนทางด่วนที่ไม่ค่อยจะปลอดภัยเสียเท่าไหร่ Kelley จึงไม่รอช้ารีบเข้าไปช่วยเหลือเจ้าเหมียวตัวนั้นมาทันที Kelley ได้บอกกับเว็บไซต์ Lovemeow ว่า “มันเป็นไปได้ยังไงที่ลูกแมวจะไปอยู่กลางถนนหกเลนแบบนั้น และฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่มีใครยอมช่วยเหลือมันซักคน แต่ฉันมั่นใจว่ามันคงอยากจะให้ฉันช่วยมันมาอย่างแน่นอน” คลิปเหตุการณ์ในตอนที่ Kelly ลงไปช่วยเจ้าเหมียว เธอได้ตั้งชื่อให้กับเจ้าเหมียวว่า Dave ซึ่งในตอนแรก Kelly คิดว่าเจ้าเหมียวคือเพศผู้ แต่จริงๆ แล้วมันคือเพศเมีย แหละหลังจากที่มันได้รับการช่วยเหลือพร้อมทำความสะอาดเป็นอย่างดี มันก็เริ่มจะตอบสนองและคลอเคลียกับ Kelley แล้ว นอกจากตัว Dave แล้วในวันเดียวกัน…
-
ครอบครัวมนุษย์เข้าช่วยเหลือจิ้งจอก ออกมาจากฟาร์มขนสัตว์ จนกลายมาเป็นหมาบ้านๆ!!
พบกับเรื่องราวเปลี่ยนชีวิตของเจ้า Jay จิ้งจอกที่ถูกเลี้ยงมาในฟาร์มเพื่อนำขนไปทำเสื้อผ้า มันถูกช่วยไว้โดยครอบครัวแสนใจดีครอบครัวหนึ่ง ทว่าหลังจากช่วยเหลือมันแล้ว พวกเขากลับเป็นห่วงในคุณภาพชีวิตตามธรรมชาติที่เปลี่ยนไป จึงจัดการนำมันมาเลี้ยงไว้ที่บ้านเสียเลย!! ทว่าหลังจากที่เลี้ยงดูเจ้า Jay ไปได้ไม่นาน พวกเขาก็รู้สึกว่ามันอาจจะเหงาก็ได้ ทีนี้พวกเขาจึงเดินทางไปรับเลี้ยงดูสุนัขมาอีกตัวชื่อว่าเจ้า Saimon และนับจากที่ทั้งคู่ได้เจอกัน มันก็กลายเป็นเพื่อนรักและเข้าขากันสุดๆ เลยล่ะ อ่านกันมาขนาดนี้แล้วก็ฟังแล้วดูน่าสนใจใช่ไหมละ งั้นเราลองมาดูภาพความน่ารักของเจ้า Jay เลยกันดีกว่า นี่คือโฉมหน้าของเจ้า Jay และ Saimon ผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวทั้งหมด แรกเริ่มเจ้า Jay เป็นสุนัขจิ้งจอกอายุ 2 ขวบ เพศเมีย ซึ่งพวกเขาได้ไปช่วยเหลือมันออกมาจากฟารม์ขนสัตว์ ส่วนสาเหตุที่ครอบครัวดังกล่าวเลือกจะเลี้ยงมันเพราะ คุณภรรยาทำงานอยู่ที่บ้าน จึงมีเวลาที่จะเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่แค่คุณภรรยาเท่านั้น คุณสามีก็ชอบที่จะใช้เวลาอยู่กับเจ้า Jay เช่นกัน แน่นอนว่าทั้งคู่เข้ากันได้ดีสุดๆ เลยล่ะ มันชอบที่จะนอนกับพ่อแม่ของมันมากๆ บางครั้งก็จะแอบนอนอยู่ในผ้าห่ม แถมทุกวันหยุด ก็จะมีการเฉลิมฉลองด้วยกันในครอบครัวด้วย ฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ 2017…
-
กระเป๋าหน้าท้องสุดพิเศษ ที่จะเปลี่ยนเจ้าลูกเหมียวสุดดื้อรั้น ให้ใกล้ชิดกับครอบครัวใหม่มากขึ้น!!
ปัญหาลูกเหมียวจรจัดมีนิสัยดุร้ายและไม่คุ้นเคยกับคน มักจะเป็นปัญหาที่หาทางแก้ได้อย่างยากเย็นมาเป็นเวลานานแสนนาน ทว่าล่าสุดทาง Animal Rescue League of Boston (ARL) ก็ได้สร้างถุงกระเป๋าหน้าท้องเพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้แล้ว!! เรื่องราวของกระเป๋าหน้าท้องนี้ เริ่มขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน เมื่อตอนที่เหล่าทีมงานของ ARL รู้สึกว่าเจ้าลูกเหมียวจรจัดทั้งหลายที่พวกเขารับมาดูแลมักจะมีปัญหาในการเข้ากันกับมนุษย์ ซึ่งกว่าจะทำให้พวกมันเลิกตื่นคนและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีได้ต้องใช้เวลานานมากๆ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเกิดไอเดียของเจ้ากระเป๋าหน้าท้องที่เรียกว่า Kitten Bjorn ที่เรียกว่า Kitten Bjorn ก็เพราะเดิมทีมีแล้วมีแบรด์กระเป๋าหน้าท้องสำหรับหิ้วเด็กๆ ที่ชื่อว่า Babybjörn อยู่แล้ว พวกเขาจึงทำการดัดแปลงนิดหน่อยจนเกิดเป็นชื่อดังกล่าวนั่นเอง เจ้ากระเป๋าหน้าท้องแมวก็จะทำหน้าที่เดียวกับกระเป๋าหน้าท้องสำหรับหิ้วเด็กเลย คือทำให้สามารถพกพาไปไหนก็ได้ แถมยังดูแลพวกมันได้ตลอดเวลา และนอกจานั้นก็จะยังสร้างความใกล้ชิดกันระหว่างลูกแมวกับเจ้าหน้าที่ให้มากขึ้น Michael DeFina เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชนได้บอกกับเว็บไซต์ The Dodo ว่า “ไอเดียของเจ้ากระเป๋านี้ก็เพื่อที่ลูกแมวจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับคน แถมเจ้าหน้าที่ก็จะมีมือที่วางสามารถทำอะไรต่างๆ ได้พร้อมกัน นอกจากนั้นตัวกระเป๋าก็ยังโปร่งใสเพื่อให้พวกลูกแมวมองเห็นรอบๆ รวมถึงเพื่อให้รู้ว่าใครแบกมันอยู่” ที่จริงแล้วเจ้ากระเป๋าหน้าท้องดังกล่าว ARL ได้เริ่มใช้มันมาเป็นเวลานานแล้ว และผลลัพธ์ก็ออกมาดีมากๆ บางครั้งก็ใช้เวลาเพียงน้อยนิดที่ทำให้เจ้าเหมียว เริ่มร้องออกมาเพื่อให้มนุษย์ช่วยหรือเรียกหา…
-
มือสไนเปอร์ ผันตัวมาเป็นผู้พิทักษ์ “แรด” จากนักลักลอบ ด้วยมาตรการ “ยิงก่อนถาม” !!
แรด ถือเป็นหนึ่งในสัตว์ยอดฮิตอันดับต้นๆ ที่เหล่านักลักลอบล่าสัตว์มุ่งเป้า เพราะด้วยมูลค่านอของพวกมันนั้นมีราคาสูงมากๆ จนทำให้จำนวนของพวกมันลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงหลัง ซึ่งที่ทุ่งหญ้า Borana ในเคนย่าอันเป็นพื้นที่สงวน ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีแรดอยู่เยอะและเป็นที่หมายตาของเหล่านักลักลอบ แต่ว่าในอีกไม่นานมันกำลังจะได้รับความคุ้มครองที่มากขึ้น เพราะเหล่าฝูงแรดกำลังได้รับการปกป้องจากกลุ่มมือสไนเปอร์ฝีมือดี.. Chris Haslam จากสำนักข่าวบีบีซีได้เล่าว่า เขาได้ไปยังสถานที่ดังกล่าวและได้พูดคุยกับเหล่ามือสไนเปอร์ทีไ่ด้รับการฝึกจากหน่วย SAS (หน่วยรบพิเศษทางอากาศแห่งกองทัพอังกฤษ) พร้อมกับพูดคุยกับพวกเขาในขณะที่พวกเขากำลังเฝ้าดูอยู่ห่างๆ จากฝูงแรดขาว Chris ได้ถามกับเหล่าสไนเปอร์ว่า ถ้าเกิดมีคนรู้จักหรือญาติสนิทเข้ามาในบริเวณนี้จะทำยังไงเหรอ เหล่าสไนเปอร์ก็ตอบกลับเขาทันทีว่า “พวกเราไม่สนว่าคนๆ นั้นเป็นใคร แต่ถ้าคนเหล่านั้นเข้ามาเพื่อที่จะเอานอแรดเมื่อไหร่ พวกเราจะยิงให้ตายได้ทันที!!” สำหรับเขตอนุรักษ์ Lewa และ Borana นั้นมีพื้นที่รวมกันมากถึง 375 ตารางกิโลเมตร (ประมาณ 230,000 ไร่) นอกจากนี้สถานที่ดังกล่าวยังเป็นที่ซึ่งเคยมีแรดอยู่จำนวนมาก แต่ด้วยจำนวนของพวกลักลอบล่าสัตว์ที่มีจำนวนมากขึ้นเช่นกัน จึงทำให้ประชากรลดไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้การมาของหน่วยสไนเปอร์จึงเป็นเรื่องที่ดีจำเป็นสำหรับการอนุรักษ์ พวกเขาจะทำงานกันเป็นทีม 4 คน 2 คนเป็นมือสไนเปอร์ และที่เหลือเป็นหน่วยชี้เป้า ซึ่งมาพร้อมกับอาวุธครบมือและเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สำคัญคือกำลังสนับสนุนและลาดตระเวนทางอากาศ ที่ทำให้สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน ทีมสไนเปอร์จะต้องดูแลแรดจำนวน…
-
สาวน้อยแสนใจดี… ช่วยชีวิตม้าน้ำให้รอดจากการเกยตื้น จนเกือบแห้งตายอยู่ริมชายหาด!!
เรื่องมันเริ่มจากเด็กสาวคนหนึ่งกำลังเล่นกองทรายอยู่ริมหาด Indian Shores ในรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นที่เธอได้เจอกับเหล่าฝูงนกนางนวลที่บังเอิญคาบบางอย่างมา แล้วทำตกใกล้ๆ บริเวณที่แม่หนูคนดังกล่าวกำลังเล่นทรายอยู่ สิ่งนกนางนวลคาบมามีสีส้ม เด็กสาวจึงคิดว่าสิ่งนั้นน่าจะเป็นขนมชีโตสแน่ๆ แต่พอไปดูใกล้ๆ ชีโตสที่เธอคิดกลับกลายเป็นม้าน้ำตัวเล็กสีส้มซะงั้น เด็กสาวใจดีจึงไม่รอช้า รีบนำม้าน้ำตัวน้อยใส่ถังทรายของเธอทันทีพร้อมกับเติมน้ำเข้าไปเพื่อให้มันมีชีวิตต่อไปได้ จากนั้นแม่หนูคนดังกล่าวก็นำม้าน้ำที่เธอช่วยชีวิตไปให้คุณแม่ของเธอดู และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็เลยตัดสินใจช่วยชีวิตมันโดยการพาไปยังศูนย์ช่วยเหลือ Clearwater Marine Aquarium ทางทีมช่วยเหลือจึงจัดการนำเจ้าม้าน้ำผู้รอดชีวิตใส่ไว้ในตู้กระจกเพื่อให้มันได้พักฟื้นร่างกายอย่างปลอดภัย และแน่นอนว่าเจ้าม้าน้ำก็ได้ชื่อว่า “ชีโตส” จากแม่หนูผู้ช่วยชีวิตนั่นเอง ทางด้านทีมกู้ภัยก็ได้พูดถึงเจ้าชีโตสว่า มันน่าจะเป็นม้าน้ำเพศเมียสายพันธุ์ Lined Seahorse และมันก็โชคดีมากๆ ที่รอดมาจากเหล่านกนางนวลได้ แถมเหตุการณ์รอดชีวิตของมันก็เกิดถูกที่ถูกเวลามากๆ ถ้าหนูน้อยผู้ช่วยชีวิตไม่อยู่ใกล้ๆ มันคงจะตายไปแล้วล่ะ หลังจากเหตุการณ์ที่เจ้าชีโตสถูกช่วยชีวิตและมาถึงศูนย์ก็นับเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว แน่นอนว่าเหล่าเจ้าหน้าที่ก็ดูแลมันอย่างใกล้ชิด ขนาดที่ว่าทีมงานได้ติดตั้งกล้องไว้เพื่อถ่ายทอดสด และให้คนได้ดูความเคลื่อนไหวมันตลอดเวลาเลยทีเดียว . สุดท้ายเมื่อถึงเวลาที่ทีมงานคิดว่าเจ้าชีโตสหายดีแล้วจนพร้อมจะกลับบ้าน พวกเขาก็ได้เตรียมความพร้อมเพื่อพามันกลับสู่ธรรมชาติเสียที แม้ในตอนแรกเจ้าชีโตสดูทำท่าจะไม่อยากจากเหล่าคนที่ดูแลมันมา แต่สุดท้ายธรรมชาติก็เรียกหาและมันก็ว่ายจากไป แต่แม้ตัวมันจะจากไปแล้วความทรงจำดีๆ ของมันก็จะยังคงอยู่ในใจของทีมงานและสาวน้อยผู้ช่วยชีวิตตลอดเสมอ… โชคดีนะเจ้าม้ชีโตส อย่าพลาดโดนนกจับไปอีกล่ะ ที่มา:thedodo
-
เจ้าเหมียวจรจัดยอมเดินมาติดกรงกับดัก และร้องขอมนุษย์ ให้ช่วยพามันไปอยู่ด้วยหน่อย!!
เมื่อ Sarah Chelskea และ Crystal Mackey ตัดสินใจไปวางกับดักล่อแมวจรจัดในอาณาจักรของพวกมัน ไม่ใช่เพื่อจะดักมาทำเป็นอาหารหรอกนะ แต่หวังว่าจะได้ช่วยเหลือเจ้าเหมียวไร้บ้านตัวไหนที่เผลอมาติด ให้ได้มีบ้านและเจ้าของเลี้ยงสักที Jenny Storake จากหน่วยช่วยเหลือแมว CatRescue 901 ได้แชร์เรื่องราวดังกล่าวให้กับเว็บไซต์ต่างประเทศว่า “เจ้าเหมียวตัวนี้มันเป็นแมวจรแถวๆ นั้น มันติดสอยห้อยตามมาด้วยขณะที่เพื่อนๆ ของเราเดินทางไปวางกับดักเพื่อช่วยเหลือเหล่าลูกแมวจัดจร ถือว่า Ali คือแมวที่เป็นมิตรสุดๆ เลยล่ะ “ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้วางกับดักเพื่อล่อจับลูกแมวเหมียวจนสำเร็จ อยู่ดีๆ เจ้า Ali ก็วิ่งเข้ามาอยู่ในกรงที่ว่างเปล่าดังกล่าว เหมือนกับมันพยามจะบอกว่า พาผมไปด้วยคนนะได้โปรด… แม้ว่าเจ้า Ali จะเป็นแมวตัวผู้ที่เพิ่งจะโผล่มาบริเวณอาณาจักรแมวจรจัดแถวนั้นได้ไม่นาน แต่มันก็เป็นแมวที่น่ารักและใจดี มันทำหน้าที่ดูแลลูกแมวในบริเวณนั้น ซึ่งลูกแมวที่มันดูแลอยู่มีมากถึง 6 ตัวเลยทีเดียว มันเป็นแมวที่ป่วยเป็นโรค FIV หรือก็คือโรคเอดส์แมว แต่จากสภาพภายนอกมันก็เป็นแมวที่มีร่างกายแข็งแรงและร่าเริงมากๆ โรคดังกล่าวจะติดต่อผ่านทางเลือดและบาดแผล แต่การที่มันเป็นแมวนิสัยดีไม่ค่อยทะเลาะกับตัวอื่น มันจึงอยู่ด้วยกันได้ “ผลวิจัยล่าสุดระบุว่า แมว FIV ที่มีนิสัยน่ารักเรียบร้อยนั้น ก็สามารถอยู่ร่วมกับแมวตัวอื่นๆ ได้”…
-
17 เหล่ามนุษย์ผู้หลงรักสัตว์เลี้ยงของตัวเอง จนโงหัวไม่ขึ้น เปย์สัตว์มากกว่าเปย์ผู้ซะอีก!!
สำหรับเหล่าทาสแมวหรือทาสหมาทั้งหลายแล้ว การหลงรักพวกมันจนหัวปักหัวปำก็คงไม่ใช่เรื่องที่แปลกมากมายนัก สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปพิสูจน์กันว่าเรื่องที่กล่าวไปข้างบนนั้นเป็นความจริง เรียกได้เลยว่าเปย์สัตว์ มากกว่าเปย์ผู้ซะอีก ฮร่าๆ 1. หญิงสาวที่ทำเสื้อคู่ของกันและกันใส่กับเจ้าเหมียว 2. เจ้าของของเจ้าหมาที่ลงทุนสร้างอ่างบอลขึ้นมาในบ้านเพื่อให้มันได้เล่นสนุก 3. ทาสแมวที่รู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี ไม่ยอมออกไปเที่ยวนอกบ้านในวันเกิดของเจ้าเหมียว 4. คนที่ไปเขียนรีวิวเสื้อผ้าพร้อมทั้งให้คะแนนน้อย เพราะแมวไม่ชอบ 5. บางคนก็ถึงกับทำซูชิจิ๋วขึ้นมาเพื่อบริการเจ้าแฮมส์เตอร์ตัวน้อย 6. เจ้าของที่ทำผ้าพันคอและผ้าห่มเป็นรูปของตัวมันเอง ให้เจ้าหมาใช้งาน 7. เลี้ยงแมวอย่างกับเลี้ยงลูกยังงั้นแหละ 8. เจ้าของที่ทานอาหารเย็นแบบโรแมนติกกับหมาของตัวเอง 9. และเจ้าเหมียวตัวนี้เองก็เช่นกัน 10. เจ้าของที่พาเจ้ากระต่ายไปหาลุงซานต้า เพื่อถ่ายรูปด้วยกัน 11. เจ้าของที่ทำการผ่าตัดซ่อมแซมของเล่นของเจ้าหมา ที่มันทำพัง 12. เจ้าของที่ลงทุนแต่งตัวหมาของตัวเองจนออกมาดูดีอย่างที่เห็น 13. เจ้าของที่ลงทุนซื้อเต้นท์นอนมาให้เจ้าเหมียว 14.…
-
เด็กหนุ่มผู้ป่วยเบาหวาน เข้าพิธีจบการศึกษาพร้อมกับสุนัขคู่ใจ ที่ช่วยชีวิตเขานับพันครั้ง..
Tyler McCready เด็กชายจากรัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ประสบกับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และต้องพึ่งพาเครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดตลอดเวลาแต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า ช่วงเวลาใดที่น้ำตาลในเลือดของเขาจะต่ำลง จนวันหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนเขาเข้าสู่อาการโคม่าอย่างเฉียบพลัน ทำให้ครอบครัวของเขาต้องหาผู้ช่วยมาดูแลเขา นั่นก็คือเจ้า Sinatra สุนัขที่ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อตรวจเช็คอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัว Tyler นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มาทั้งคู่ก็กลายเป็นคู่หูที่ไม่เคยห่างจากกันเลย Tyler ได้เล่ากับว่า “Sinatra จะคอยบอกผมตลอดว่าเวลาไหนที่น้ำตาลในเลือดของผมลดลงต่ำ ทำให้เขากลายเป็นผู้ช่วยชีวิตผมมากกว่าพันๆ ครั้งเลยล่ะ” นอกจากนั้นก่อนที่ Tyler จะได้เจอกับ Sinatra เขาเคยอยู่ในจุดที่ต่ำสุดของชีวิตเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากโรคที่เขาเป็น หรือจะเป็นการถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อนที่โรงเรียน จนรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอก ทำให้เขาเคยคิดเกือบจะฆ่าตัวตายเลยทีเดียว แต่นับตั้งแต่พวกเขาได้เจอกัน ชีวิตของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปกลายเป็นเพื่อนที่ขาดกันไม่ได้ การมีตัวตนอยู่ของ Sinatra นั้นทำให้ Tyler มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีตลอดเวลา จนในที่สุดเรื่องราวของเขาก็เป็นที่รู้กันไปทั่วโรงเรียน และทุกคนก็เหมือนจะเข้าใจพร้อมกับเลิกแกล้งเขาในที่สุด นอกจากนั้นทั้งคู่ยังขาดกันไม่ได้เลย เพราะขนาดในหนังสือรุ่น รูปของ Tyler ยังต้องมี Sinatra ด้วย ดูแล้ว Tyler จะรักเพื่อนของเขามากๆ เลยนะเนี่ย เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี…
-
ภาพถ่ายบุคคลผสานสัตว์ธรรมชาติ สื่อถึงทุกชีวิตที่มีความเหมือน ในคราบความแตกต่าง…
การถ่ายภาพ Portrait หรือการถ่ายภาพบุคคลนั้นพวกเราคงจะเคยเห็นภาพถ่ายแบบนี้ตามนิตยสารต่างๆ หรือโฆษณากันมาบ้างแล้วแน่นอน ซึ่งแต่ละภาพก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป และวันนี้เราก็ได้นำภาพ Portrait แบบเจ๋งๆ มาฝากกัน โดยผลงานชุดนี้ช่างภาพได้ทำนำรูปของเธอและเหล่าสัตว์ต่างๆ มาผสมผสานกันจนออกมาเป็นภาพถ่ายที่ดูแปลกตาและสวยงามไม่เหมือนใคร คุณ Flora Borsi ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสร้างสรรค์ผลงานชุด Animeyed ซึ่งเป็นภาพใบหน้าของเธอครึ่งหนึ่งที่ถูกแทนที่ด้วยพวกสัตว์ต่างๆ เธอบอกว่า “ฉันแต่งหน้าและทำผมให้มีโทนสีคล้ายกับพวกสัตว์ ฉันต้องการแสดงให้เห็นว่าดวงตาของพวกเรานั้นมีความคล้ายกับตาของพวกสัตว์มากแค่ไหน มันเริ่มต้นจากภาพของฉันกับกระต่ายก่อน จากนั้นจึงเกิดเป็นผลงานชุดนี้” และนี่คือผลงานของเธอ . เธอเล่าถึงแรงบันดาลใจของผลงานชุดนี้ว่า “ฉันต้องการสำรวจตัวตนของมนุษย์ อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรามีความเป็นมนุษย์ และอะไรคือสิ่งที่เราและพวกสัตว์อื่นๆ มีเหมือนกัน ดังนั้นฉันจึงสร้างผลงานชุดนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะสื่อให้เห็นความสวยงามที่เกิดจากการรวมกันระหว่างคนและสัตว์” . แววตาของพวกสัตว์ต่างๆ ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านผลงานของเธอ . เธอแต่งหน้าและทำผมให้มีลักษณะคล้ายกับสัตว์ที่นำมาประกอบในภาพ . ทุกภาพในผลงานชุดนี้ Flora Borsi ใช้ตัวเองเป็นนางแบบทั้งหมด . ภาพผลงานของเธอสื่อให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และนี่คือคลิปวีดีโอเบื้องหลังของผลงานภาพถ่ายชุดนี้ โอโห สุดยอดไปเลยนะเนี่ยสำหรับผลงานชุดนี้ นอกจากจะสวยงามและแปลกตาแล้ว แนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานของเธอยังยอดเยี่ยมอีกด้วย ถ้าหากใครอยากชมความสวยงามของงานชุดนี้เพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์…
-
20 ภาพของเหล่าสัตว์เลี้ยงสุดน่ารัก ที่โตมาพร้อมกับ “ของเล่น” ของมัน
ลองนึกไปที่ตอนที่เรายังเป็นเด็ก เรามักจะมีของเล่นคู่ใจที่ไปไหนไปกัน เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนคนแรกของเราเลยก็ว่าได้ ของเล่นเหล่านั้นอาจจะเป็นตุ๊กตาหมี หรือไม่ก็เป็นหมอนข้างเน่าๆของเรา แต่ไม่ใช่แค่คนเท่านั้นนะ ที่มีของเล่นประจำตัว เหล่าสัตว์เลี้ยงของเรามันก็มีเช่นเดียวกัน ถ้ามันได้เล่นของเล่นชิ้นใดชิ้นหนึ่งบ่อยๆ นั่นแหละคือของเล่นชิ้นโปรด และมันก็จะเล่นมาจนถึงตอนโตด้วย เราไปดูกันดีกว่าว่าของเล่นแต่ละชิ้นเมื่อมาอยู่กับเหล่าสัตว์เลี้ยงแล้วจะน่ารักแค่ไหน . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ที่มา boredpanda
-
20 ภาพสุดฮาของเจ้าตูบ ที่พยายามจะเล่นซ่อนแอบ แต่ก็ทำได้ไม่เนียนเอาซะเลย…
สำหรับใครที่เลี้ยงสุนัขไว้ที่บ้าน คงจะรู้กันดีว่าเจ้าเพื่อนซี้สี่ขาพวกนี้ บางครั้งมันก็เป็นสัตว์ที่ขี้เล่น และบางตัวก็จะชอบเล่นซ่อนหากับเราอยู่บ่อยๆ แต่ใช่ว่าพวกมันจะมีความสามารถในด้านนี้ทุกตัว เพราะบางตัวก็ดูจะห่วยในการเล่นซ่อนแอบเสียเหลือเกิน แต่ถึงห่วยพวกมันก็ยังอยากจะเล่นกับเจ้าของผู้เป็นที่รักของมัน จนเกิดเป็นภาพน่ารักๆ เหล่านี้ ว่าแต่จะเป็นยังไงนั้นลองมาดูกันเลยดีกว่า เปิดมาตัวแรกก็รู้แล้วว่า พวกมันซ่อนหาเก่งกันขนาดไหน… ส่วนเจ้าตัวนี้ก็เนียนใช้ได้เลยนะเนี่ย บางทีมันก็คิดว่าหลบในตู้เย็น จะเนียนมากๆ จะทำทีว่าไม่เห็นก็แล้วกัน คราวนี้มาเป็นแพคคู่เลย ส่วนเจ้าตัวนี้อาจจะไม่ตั้งใจซ่อน แต่ต้องบอกว่าเนียนสุดๆ ถ้าไม่สังเกตที่ลูกตานี่หาไม่เจอเลยนะ พูดจริงๆ ปิดหน้าแล้วเจ้านายหาไม่เจอหรอก จริงๆ นะ นี่ก็อีกตัว ปิดทำไมต้องปิดตัวเองด้วยเล่า ปั๊ดโถ่ว เจ้าหมาบ๊อง ถ้าเปลี่ยนสีโซฟาอีกสักหน่อยนี้เข้ากันเป๊ะเลยนะเนี่ย ความสามารถในการมุดโซฟาอยู่ในระดับสูงเลยทีเดียวนะเนี่ย ถ้ามองจากอีกมุมก็อาจจะเนียนก็ได้ ตัวแกกับหมอนมันคนละไซส์เลยนะเจ้าตูบ โอเค ไม่เห็นก็ไม่เห็น.. ก้นของใครกันเอ่ยยย เจ้าตัวนี้ซ่อนได้เฉียบสุดๆ แต่ดูแล้วไซส์ของเสื้อน่าจะขยายขึ้นแน่ๆ ถึงว่าเห็นเงาตะคุ่มๆ…
-
นาทีระทึก!! นักปั่นจักรยานถูกหมีไล่ล่ากลางป่า แต่โชคดีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
การปั่นจักรยานถือเป็นกิจกรรมยามว่างของใครหลายๆ คน แล้วยิ่งถ้าเป็นคนชอบผจญภัยอยู่ด้วยก็จะไปปั่นตามดอยตามเขาหรือสถานที่ที่ท้าทายเพื่อความมันส์อีกระดับหนึ่ง แต่ไม่ว่าคุณจะชอบความท้าทายแค่ไหน ก็ต้องใส่ใจเรื่องความปลอดภัยด้วย โดยเฉพาะเวลาเข้าป่า เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ระหว่างทางบ้าง เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้…เมื่อนักปั่น 2 คนได้เข้าไปในป่า Malino Brdo ประเทศสโลวาเกีย แล้วจู่ๆ ก็มีหมีโผล่ออกมาจากข้างทางวิ่งไล่นักปั่นแบบไม่ทันตั้งตัว!! จากคลิปวิดีโอจะเห็นว่า หมีได้ไล่ตามนักปั่นคนแรกในระยะกระชั้นชิด นักปั่นคนดังกล่าวจึงปั่นหนีสุดความสามารถ เพื่อพ้นจากอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา เหตุการณ์ทั้งหมดนี้บันทึกได้จากกล้องหน้าหมวกกันน๊อคของนักปั่นคนที่ 2 ซึ่งปั่นตามมาติดๆ พร้อมตะโกนไล่หลังเพื่อช่วยเพื่อน หลังจากที่หมีวิ่งตามนักปั่นสักพักมันก็เปลี่ยนเส้นทางเข้าป่าไป… นักปั่นคนที่ถูกไล่จึงย้อนกลับมาเส้นทางเดิม และพากันออกจากป่านั้นอย่างรวดเร็ว จากเหตุการณ์นี้ดูเหมือนหมีตัวนั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะทำอันตรายพวกเขา เพราะหากมันจะทำแบบนั้นจริงๆ มันสามารถเข้าถึงตัวมนุษย์ได้ง่ายมาก เพราะมันวิ่งเร็วกว่าจักรยานหลายเท่า แต่มันก็เลือกที่จะเลี่ยงเข้าป่าไป คลิปนาทีนักปั่นถูกหมีไล่ล่า อย่างไรก็ตาม ใครที่คิดจะเข้าไปทำกิจกรรมอะไรในป่าก็ต้องระมัดระวังตัวไว้ด้วยนะคะ เพราะคุณอาจจะไม่โชคดีแบบนี้ก็ได้ ที่มา dailymail
-
เจ้าเหมียวตัวแสบ มัวแต่ไล่กวดแมวตัวอื่นจนลื่นตกน้ำ ลำบากมนุษย์ต้องไปช่วยเอ็งอี๊กกก!!
แมวเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแสบ และมักจะหาเรื่องเดือดร้อนให้ตัวเองได้ตลอดเวลา… เรื่องราวของ Felix เจ้าเหมียวสีขาวดำที่อาศัยอยู่ในบริเวณ London’s Royal Docks และทำหน้าที่เฝ้ายามอาณาเขตในบริเวณนั้น จนวันหนึ่งมีเจ้าเหมียวต่างถิ่นย่างกรายเข้ามา ทำให้มันต้องทำหน้าที่หัวโจกจัดการไล่ผู้บุกรุกตัวนั้นไป แต่ในขณะที่ทั้งคู่กำลังวิ่งไล่กันอยู่นั้น อยู่ดีๆ ก็มีจังหวะหนึ่งที่เจ้า Felix เหมือนจะตะครุบแมวผู้บุกรุกแล้วเผลอสไลด์ไปกับพื้นจนตกท่าน้ำ ส่วนเจ้าเหมียวอีกตัวก็หนีไปได้อย่างละม่อม เอ็งจะโง่ไปไหน Felix เอ๊ยยยยยย สามารถรับชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวกันดูได้ข้างล่างเลยจ้า ในวินาทีนั้นต้องขอบคุณชายคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ใกล้ๆ เขาสังเกตุเห็นเจ้า Felix และไม่รอช้ารีบวางของเพื่อไปช่วยเจ้าเหมียวตกน้ำทันที ชายคนดังกล่าวคือ Scott ซึ่งเขาทำงานเป็นวิศวกรของท่าเรือดังกล่าวอยู่แล้ว จึงคุ้นเคยกับเจ้าเหมียวอย่างดี หลังจากช่วยมาได้สำเร็จ ทาง London’s Royal Docks ก็ออกมาขอบคุณเขาที่ช่วยเหลือเจ้า Felix ไม่ให้มันจมน้ำตาย ทางด้านโฆษกของ London’s Royal Docks ได้บอกกับเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศว่า “หลังจากที่ Felix ได้รับความช่วยเหลือ มันก็ใช้เวลาไม่นานเพื่อให้ขนแห้งและกลับไปเป็นเหมือนเดิม นอกจากนั้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันต้องการความช่วยเหลือ ก่อนหน้านี้พวกเราได้ไปช่วยเหลือมันมาจากสถานพักพิงสัตว์ Battersea Dogs and Cats Home จนตอนนี้มันกลายเป็นแมวประจำออฟฟิศไปเรียบร้อยแล้ว” โชคดีนะเจ้าเหมียว…
-
รวม 22 ภาพของเจ้าอีกาสุดป่วน ที่บ่งบอกว่ามันเป็นสัตว์กวนทีน ไม่แคร์อะไรรอบตัวทั้งสิ้น!!
ถ้าให้พูดถึงเหล่าสัตว์ทั้งหมดทั้งมวลบนโลกในเรื่องความกวนบาทาไม่แคร์ใคร หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นแมวสินะ แต่ขอบอกว่า “อีกา” จะต้องเป็นสัตว์ชนิดแรกๆ ที่อยู่ในรายชื่อของคุณอย่างแน่นอน ด้วยความที่พวกมันเป็นสัตว์ประเภทนก ทำให้ความคล่องตัวในการไปกวนชาวบ้านมีสูงกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ และถ้าเกิดใครที่คิดว่าพญาอินทรี หรือนกตัวโตนักล่าหลากหลายชนิดเป็นเจ้าแห่งท้องฟ้าแล้วละก็ บอกเลยว่าพวกคุณจะคิดผิดอย่างแน่นอน เพราะอีกาคือนกที่อยู่เหนือนกทั้งปวงอย่างหาข้อติไม่ได้เลยล่ะ ถ้าคุณไม่เชื่อว่ามันเหนือกว่าสัตว์อื่นและกวนทีนจริงๆ ลองมาดู 22 ภาพพวกนี้ก่อนแล้วคุณจะปักใจเชื่อแบบนั้นจริงๆ เฮ้!! เพื่อนเหมียว นายพอจะมีเวลาว่างสัก 2-3 ชั่วโมงไหม มาทำงานกับเราปะ!? ดูหน้าแมวสิ พญาอินทรีอะไร พี่เนี่ยพญาอีกาเว้ย อยู่เหนือกว่าเห็นๆ ส่งเงินมา ตูมีมีดนะเว้ย!! อย่าแต่พญาอินทรี กับอีกาด้วยกันมันก็เหยียบหัวกันหน้าด้านๆ ว่าแล้วฟันปลอมคุณตาไปไหน แกเอาไปนี่เอง… กระเป๋าใครไม่รู้ ไม่มีคนอยู่ใกล้…พี่ขอก็แล้วกัน ดูความฉลาดแกมโกงของมันเสียก่อน เพลินดีเหมือนกันนะเนี่ยเจ้ามนุษย์ มองหน้าทำไม หรือจะเอา ห๊ะ..เจ้าจิ้งจอก!! แม้แต่กับพญาอินทรี มันก็ไม่แคร์ พร้อมไฟท์ได้ทุกขนาด ช่างเป็นสัตว์ที่ไม่แคร์อะไรเลย เกาะบนหัวชาวบ้านไปทั่ว …
-
เรื่องบนเตียงขอสู้ตาย!! 9 เรื่องราวการผสมพันธุ์ของ “หมึก” ที่ทั้งซึ้ง ทั้ง 18+ และชวนสยอง
ทุกสรรพสิ่งบนโลกล้วนต้องมีการสืบพันธุ์เพื่อออกลูกออกหลานมาเรื่อยๆ ไม่ให้สายพันธุ์ของพวกมันสูญพันธุ์ไปจากโลก สัตว์บางชนิดมีการผสมพันธุ์ข้ามเพศ บางตัวสามารถผสมพันธุ์และให้กำเนิดลูกๆ ได้ด้วยตัวของมันเอง แต่มีสัตว์อยู่ชนิดหนึ่งอย่างหมึกที่ทุกวันนี้#เหมียวฟิ้นก็ยังเกิดคำถามสงสัยอยู่เลยว่าพวกมันมีพฤติกรรมหรือผสมพันธุ์กันยังไง!? เชื่อว่าคำถามนี้หลายๆ คนก็คงสงสัยเหมือนกัน เราเลยไปขุดคุ้ยหาข้อมูลลับเฉพาะแบบ 18+ ของพวกมันมาให้ทุกคนอ่านกัน ลองมาดูกันไปทีละข้อๆ เลย 1. หมึกตัวผู้จะความจำเสื่อมหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์แล้วก็ตายจากไป แม้ว่าหมึกตัวผู้และตัวเมียจะผสมพันธุ์เสร็จโดยที่ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน แต่ทั้งคู่จะเริ่มเข้าสู่สภาวะแก่ชราและมีอาการคล้ายกับสมองเสื่อม ตัวผู้จะเริ่มใช้ชีวิตอยู่อย่างสันโดษ กินอาหารน้อยลงจนล่องลอยไปตามท้องทะเลแบบไร้จุดหมาย ซึ่งจะกลายเป็นเป้านิ่งให้นักล่าจับมันกินเป็นอาหาร ส่วนตัวเมียจะยังคงดูแลไข่ของลูกๆ อยู่ มันช่างน่าเศร้าอะไรขนาดนี้ 2. การผสมพันธุ์บางครั้งนำไปสู่โศกนาฏกรรม นักวิจัย Richard Ross จากสถาบันวิจัยสัตว์น้ำ California Academy of Science’s Steinhart Aquarium ได้เคยศึกษาพฤติกรรมการใช้ชีวิตคู่ของหมึก พวกเขาพบว่าบางครั้งถ้ามีอาหารไม่เพียงพอ พวกหมึกตัวเมียจะจับตัวผู้กินเป็นอาหาร ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง…อึ๋ยยย… 3. หมึกเพศผู้ได้รับความเสี่ยงสูงเวลามีเพศสัมพันธุ์ การผสมพันธุ์ของหมึกมีความซับซ้อนและค่อนข้างรุนแรง แต่หมึกตัวผู้ก็ยังต้องแบกรับความเสี่ยงอันตรายทั้งหลายไว้ หมึกตัวเมียอาจรัดคอตัวผู้จนบาดเจ็บสาหัส ดึงหนวดตัวผู้จนขาด ฉะนั้นหมึกตัวผู้จะรู้ดีว่าไม่ควรจะไปแหยมกับตัวเมียถ้าไม่จำเป็น 4. หมึกตัวผู้จะตัดแขนตัวเองจนขาด เพื่อสะบัดหนีออกจากตัวเมียก่อนจะโดนทำร้ายจนตาย บางครั้งหมึกตัวผู้จะรับรู้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามาในระหว่างที่กำลังผสมพันธุ์อยู่ พวกมันจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการตัดหนวดของตัวเองทิ้งแล้วผละจากตัวเมียเพื่อหนีเอาตัวรอด แต่ถึงจะหนีไปแบบหน้าตั้งแต่ก็ถือว่าการผสมพันธุ์นั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว…
-
ร้านขนมเม็กซิโก สร้างสรรค์ไอเดีย “ไอศกรีมเจ้าหมา” สำหรับคลายร้อนให้เพื่อนสี่ขาโดยเฉพาะ!!
ตอนนี้บ้านเราก็เข้าสู่ช่วงหน้าร้อนกันแล้ว ซึ่งสัมผัสได้จากแดดที่แรงเหมือนพระอาทิตย์อยู่หน้าบ้าน และปัญหาอากาศร้อนนี้ก็ไม่ได้ประสบแค่กับเหล่ามนุษย์เท่านั้น เพราะเพื่อนซี้สี่ขาอย่างเจ้าตูบก็ต้องเผชิญกับปัญหาเดียวกันกับเรานั่นเอง… แต่สำหรับตัวมนุษย์อย่างเราๆ แล้ว เราก็มีวิธีมากมายในการแก้ร้อนอย่างเปิดพัดลม เปิดแอร์ เล่นน้ำ หรือกินไอศกรีม แต่สำหรับเจ้าตูบนั้นมันไม่สามารถที่จะกินไอศกรีมที่ทำจากนมวัวปกติได้ (เฉพาะบางตัวจะกินนมไม่ได้) เพราะมันจะสร้างปัญหาสุขภาพให้กับพวกมันอย่างหนักจนถึงตายได้ และนั่นรวมช็อกโกแลตด้วย ด้วยปัญหาดังกล่าวทำให้ Mauricio Montoya เจ้าของร้าน Don Paletto ice cream ได้ตระหนักถึงปัญหาที่เจ้าตูบต้องเผชิญ เขาก็เลยทำการคิดค้นไอศกรีมที่จะช่วยให้เจ้าตูบทั้งหลายสามารถคลายร้อนได้ และไม่สร้างปัญหาให้กับพวกมัน เขาจึงเดินสายถามเหล่าผู้เชี่ยวชาญและคนที่เป็นมังสวิรัติ เพื่อขอคำแนะนำการทำไอศกรีมที่ว่านี้ และเขาก็ได้คำตอบว่าเขาต้องใช้นมจำพวก นมออร์แกนิก ซึ่งเป็นนมที่ช่วยให้คนแพ้แล็กโทสสามารถดื่มได้ปกติ และแน่นอนว่าเจ้าตูบก็เช่นกัน เขาจึงผสมมันเข้าผลไม้นานาชนิดที่เหล่าสุนัขน่าจะชอบทาน จนเกิดเป็นไอศกรีมสำหรับเจ้าหมาขึ้นนั่นเอง ที่สำคัญมันยังดีกับระบบขับถ่ายของพวกมันด้วยนะ Mauricio บอกถึงแรงบันดาลใจในการทำว่า “ผมอยากจะทำของหวานให้กับพวกมันได้กินบ้าง เพราะพวกมันมีของว่างอย่างอื่นอยู่ในท้องตลาดแล้วอย่างคุกกี้ เนื้อกินเล่น และอื่นๆ แต่ไอศกรีมกลับมีน้อยมาก” ส่วนคนที่กลัวว่าเจ้าตูบจะสร้างปัญหากับคนในร้านไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะ Mauricio ได้สร้างโซนไอศกรีมสำหรับสุนัขขึ้นมา เพื่อให้เจ้าของได้ร่วมทานไอศกรีมของตัวเองและซื้อไอศกรีมสุดพิเศษให้เพื่อนสี่ขาได้กินด้วย . ส่วนรสชาติที่มีให้เจ้าตูบได้ลิ้มลองในตอนนี้ก็จะประกอบด้วย ไอศกรีมรสพีนัทบัตเตอร์ กล้วย สตรอว์เบอร์รี แครBรอท…
-
Maru เจ้าสุนัขไซบีเรียนฮัสกี้สุดเพี้ยน ที่คิดว่าตัวเองเป็น “หมีแพนด้า” แถมยังมีความสุขตลอดเวลา
สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ เป็นสุนัขภาพลักษณ์ดูเท่ ดูสง่าด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาและขนที่ฟูของพวกมันจึงทำให้คนนิยมที่จะหันมาเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้กันมากขึ้นทุกวัน แต่ว่ากันว่าสุนัขพันธุ์นี้นั้นเป็นสุนัขที่ปัญญาอ่อน ซึ่งขัดกับลักษณะและท่าทางของมัน นั่นก็คงจะไม่ใช่เรื่องโกหกอย่างแน่นอน เพราะถ้าได้รู้จักกับเจ้า Maru ฮัสกี้ที่คิดว่าตัวเองเป็นแพนด้าตัวนี้แล้วละก็ เชื่อเหอะมันปัญญาอ่อนจริงๆ นั่นแหละ แล้วถ้ามันคิดว่าตัวเองเป็นแพนด้าจริงๆ มันจะรู้วิธีกินไผ่ไหม แล้วมันรู้ป่าวว่าแพนด้ามาจากจีน แล้วมันรู้วิชากังฟูเหมือนในกังฟูแพนด้าไหม? แต่ที่รู้แน่คือมันทำให้เราหยุดยิ้มเวลาดูมันไม่ได้เลยล่ะ นอกจากเจ้า Maru จะปัญญาอ่อนและดูติ้งต๊องแล้ว มันยังเป็นฮัสกี้ที่มีความสุขมากๆ แถมยังทำท่าเหมือนกำลังยิ้มบ่อยๆ อีกด้วย จนกระทั่งทำให้มียอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมของมันก็มีมากถึง 180,000 คนเลยทีเดียว แพนด้า แพนด้า เต็มไปหมดเลย ละดูหน้าเจ้า Maru สิ ฟินอะไรขนาดนั้น ชัดไหมว่ามันปัญญาอ่อนจริงๆ แต่เวลามันยิ้มก็น่ารักมากๆ เลยนะ จะมุมไหนก็ไม่ทิ้งความน่ารักปัญญาอ่อน ขนาดนอนยังน่ารัก ที่สำคัญ Maru ตาสองสีด้วยนะ Maru อยากจะเป็นแวมไพร์ พยายามทำให้หน้าบานเหมือนแพนด้า เวลาทำหน้านี้มันดูปลื้มปริ่มสุดๆ เลยนะเนี่ย …
-
คณลุงวัย 76 ปี ใช้เวลากว่า 24 ปี ช่วยเหลือแมวจรจัด เพื่อให้พวกมันได้มีชีวิตที่ดีขึ้น
ใครจะเชื่อว่าชายคนหนึ่งจะมอบความรักและดูแลแมวจรจัดตลอด 24ปี… Willie Ortiz คุณลุงวัย 76 ปี ชาวเปอร์โตริโกคนนี้ เขาได้มาอาศัยอยู่ในเมืองฮาร์ตฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งนั่นทำให้เขาพบกับปัญหาแมวจรจัดที่มีมากในเมืองแห่งนี้ และชาวเมืองก็ดูจะไม่ชอบพวกมันสักเท่าไหร่ คุณลุงแกบอกกับ thedodo ว่า “ผมเห็นแมวจรจัดจำนวนมากที่ถูกผู้คนรังเกียจ พยามจะไล่มันไปหรือเตะมันในบางครั้ง” มันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่า เขานี่แหละจะต้องเป็นคนเข้าไปช่วยพวกมัน ซึ่งเขาก็ตระหนักดีว่าตัวเขาเองไม่สามารถจะรับเลี้ยงพวกมันได้ทั้งหมด เขาจึงเริ่มจากวิธีง่ายๆ ด้วยการให้อาหารมันพร้อมกับพาพวกมันไปฉีดสเปรย์ป้องกันให้พวกมันด้วย และถ้าแมวป่วยเขาก็จะดูแลพวกมันอย่างเต็มที่และพามันบางตัวกลับไปดูแลต่อที่บ้าน ซึ่งเขาทำแบบนี้เป็นประจำมานานถึง 24 ปี แล้ว Willie บอกว่า “พวกมันต้องการความช่วยเหลือ ผมต้องมั่นใจว่าพวกมันทุกตัวจะมีอาหารกินและมีสุขภาพที่ดี” จนถึงตอนนี้คุณลุง Willie ดูแลแมวครอบคลุมถึง 68 ตัวใน 16 อาณาเขตด้วยกัน โดย Kathleen Schlentz เพื่อนของลุงแกได้อธิบายว่า อาณาเขตของพวกมันก็จะอยู่แตกต่างกันไปทั้งจุดทิ้งขยะ หัวมุมถนน ตรอก หรือตึกร้างเป็นต้น Kathleen อธิบายเพิ่มเติมว่า “อาณาเขตของพวกมันจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ไม่อยู่ที่เดิมตลอดเวลา และแมวบางตัวก็อาจจะถูกรถชนตายหรือบางครั้งก็อาจจะไม่รอดจากภัยหนาว” …
-
ไต้หวันเริ่มสั่งห้ามบริโภค เนื้อสุนัขและแมวโดยเด็ดขาด ฝ่าฝืนปรับสูงสุดถึง 287,000 บาท
หลายคนน่าจะทราบกันดีว่าชนชาติทางฝั่งเอเชียอย่างจีนหรือเกาหลี ถือเป็นชาติที่นิยมในการกินสุนัขเป็นอย่างมาก แถมยังมีการค้าขายอย่างแพร่หลายสุดๆ แต่แล้วล่าสุดใต้หวันก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าการบริโภคเนื้อหมาและแมวถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และยังถือว่าเป็นชาติแรกในเอเชียที่ประกาศห้ามในเรื่องนี้อีกด้วย ซึ่งตัวกฏหมายใหม่นี้ได้ระบุอย่างชัดเจนเลยว่าถ้าพบผู้ใดบริโภคเนื้อสุนัขและแมวจะถูกปรับไม่เกิน 57,000 บาท ส่วนใครที่ส่งออกหรือขายเนื้อสุนัขจะถูกปรับไม่เกิน 287,000 บาทเลยทีเดียว ส่วนเหตุผลที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ขึ้น ก็คงจะมาจากการที่ผู้คนในไต้หวันเริ่มที่จะหันมาเลี้ยงสุนัขและแมวกันมากยิ่งขึ้น ทำให้พวกเขาเริ่มทนไม่ได้ที่เพื่อนสี่ขาของพวกเขาต้องกลายเป็นอาหารนั่นเอง นอกจากนั้นประธานาธิบดีหญิง ไช่ อิงเหวิน ดูน่าจะมีนโยบายบางอย่างที่ตอบโต้กับเรื่องนี้ เพราะเมื่อตอนเลือกตั้งเธอเป็นคนที่ชูว่าตัวเองเป็นคนรักสัตว์มากๆ แถมยังเลี้ยงแมวไว้สองตัวสุนัขอีกสามตัว แต่ถึงอย่างนั้นการสั่งห้ามในครั้งนี้ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แม้ในจีนจะยังคงเดินหน้าและบริโภคสุนัขเป็นเรื่องปกติต่อไป แถมยังมีเทศกาลลิ้นจี่และเนื้อหมา ที่จัดขึ้นทุกปี สุดท้ายก็หวังว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชียจะหันมาให้ความใส่ใจกับเพื่อนสี่ขาเหล่านี้และก่อตั้งกฏหมายขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันต้องกลายเป็นอาหารเช่นเดียวกับที่ไต้หวันกำลังทำอยู่นั่นเอง ยอมรับว่าปกติ #เหมียวมู่ทู่ เคยเห็นแต่ข่าวกินสุนัข แต่แมวถือว่าแปลกจริงๆ ดูแววตาของพวกมันแล้วคิดว่ามันจะต้องกลายเป็นอาหารก็เศร้าสุดๆ แล้ว แม้ประเทศอื่นอย่างจีนหรือเกาหลี จะยังไม่มีกฏหมายช่วยเหลือพวกมัน แต่กลุ่มคนมากมายก็พยายามเข้าไปช่วยเหลือกันอย่างต่อเนื่อง ยิ่งพวกคนเริ่มหันมาเลี้ยงพวกมันเป็นเพื่อนมาขึ้น ความคิดของพวกเขาก็คงจะเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ และในที่สุด หวังว่าจุดยืนและมุมมองของพวกเขาต่อเพื่อนซี้สี่ขาพวกนี้ก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ที่มา boredpanda
-
เจ้าตูบสองตัว ถูกปล่อยทิ้งไว้หน้าศูนย์พักพิง ทว่าแม้จะถูกทิ้ง แต่ทั้งคู่ก็ยังมีกันและกัน…
แม้ในช่วงเวลาอันโหดร้าย ขอแค่กอดเพื่อนข้างๆ ไว้ให้แน่น แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี… Adonis และ Apollo เจ้าตูบสองตัวถูกพบอยู่ข้างหน้าศูนย์พักพิงสัตว์ A-Team Elite Rescue Dogs ในรัฐเท็กซัส เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าพวกมันทั้งคุ่น่าจะถูกเจ้าของเก่าทอดทิ้ง จากรายงานของ Cindy Droogmans ผู้ก่อตั้งศูนย์พักพิงดังกล่าวได้เล่าว่าพวกเขาเจอทั้งสองตัวอยู่ข้างหน้าศูนย์ในสภาพที่สั่นด้วยความกลัว เหมือนกับว่าพวกมันเพิ่งผ่านอะไรร้ายแรงมาไม่นาน แต่โชคดีที่พวกมันไม่ต้องทนอยู่กับความกลัวเป็นเวลานานเกินทน เพราะ Cindy ได้พาพวกมันไปรับการรักษากับสัตวแพทย์ของเธอในเมืองนิวยอร์ค และตอนนี้พวกมันก็ได้การดูแลเป็นอย่างดี เจ้าตูบทั้งคู่ดูจะเป็นห่วงและรักกันมาก ขนาดตอนที่อยู่โรงพยาบาลสัตว์พวกมันยังตัวติดกันไม่ห่างเลย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับทั้งคู่ที่อย่างน้อยก็ไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยว การหาบ้านให้หมาตัวเดียวว่าเป็นเรื่องยากแล้ว แต่มันก็จะทำให้ยากในการหาคนมารับเลี้ยงดูมันทั้งคู่พร้อมๆ กัน อย่างไรก็ตาม Cindy บอกว่าเธอจะหาบ้านใหม่ที่ดีที่สุดให้กับเพื่อนรักทั้งสองนี้ให้ได้ Cindy บอกว่า “การหาบ้านที่พร้อมจะรับเลี้ยงสุนัขสองตัวพร้อมกันมันยากมากๆ แต่ดูพวกมันสิคุณยังกล้าที่จะแยกมันออกจากกันไหม” หวังว่าพวกมันจะมีคนมารับไปเลี้ยงไวๆ ที่สำคัญขอให้ใครก็ตามแต่ที่มารับเลี้ยง พามันไปด้วยทั้งคู่ อย่าต้องให้มันแยกออกจากกันเลยนะ . ที่มา thedodo
-
รวมภาพสัตว์โลกที่ตัวกลมเกินไป กลมจนหยุดไม่อยู่ กลมจนความน่ารักทะลุขีดจำกัด!!
เชื่อว่านอกจาก #เหมียวมู่ทู่ แล้วคงจะมีหลายคนเลยที่ชอบอะไรทรงกลม เวลาเห็นแล้วอยากจะสัมผัสอยากจะจับจะบีบให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกบอล หรือสิ่งของอะไรก็ตามที่ดูกลมๆ นูนๆ โค้งเว้าาาาาาาา เพราะด้วยผิวสัมผัสของทรงกลมที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด มันเป็นอะไรที่ฟินมากๆ เลยทีเดียว ยิ่งเป็นอะไรที่นุ่มด้วยยิ่งฟินกว่าเดิม นอกจากนั้นถ้ายิ่งเป็นสัตว์ขนฟูหรือตัวอ้วนด้วยแล้ว ก็ไม่แปลกเลยที่เราจะต้องตกหลุมรักทรงกลมของพวกมัน ฉะนั้นวันนี้เราก็เลยจะมาดู สัตว์ต่างๆ ที่มีรูปร่างเป็นทรงกลมกัน เหมียวมู่ทู่รับรองว่าถ้าเห็นแล้วจะต้องอดใจไม่ไหวแน่นอน หึหึ นะ นะ นั่นมันก้อนอะไรน่ะ เจ้าเหมียวตัวนี้หน้ากลมจนกลายเป็นดอกทานตะวันเลย นกฮูกตัวกลม อยากจะเอามือลูบๆ จัง ตัวมันอ้วน หรือขนมันฟูกันนะ แม้แต่เจ้าจิ้งจอกก็ยังดูกลมได้ เมื่อดูจากข้างหน้า เจ้าฮัมมิ่งเบิร์ดที่นอกจากกลมแล้ว สีสันยังสวยงามสุดๆ อีกหนึ่งนกตัวกลมกับเจ้านก Tailed Tit และก็ยังหนีไม่พ้นนกตัวกลมอีกหนึ่งสายพันธุ์ Reedling หรือจะเป็นตรู๊ดเจ้าชินชิล่า สำหรับปลาปักเป้า ก็คงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ จะ..เจ้านกฮูกตัวนี้มันจะกลมเกินไปแล้ว!! ภาพแมวน้ำตัวกลมที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นผ่านตากันมาบ้าง พวกนกตัวเล็กๆ นี่มันกลมดีจริงๆ…
-
ลูกสุนัข 9 ตัวถูกทิ้งไว้ในกล่องอย่างไร้เยื่อใย หลังเพิ่งจะเกิดมาได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง…
ค่ำคืนหนึ่งในรัฐเวอร์มอนต์อันเงียบสงบ ชายคนหนึ่งได้เดินเรียบถนนและบังเอิญสะดุดตาเข้ากับกล่องบางอย่างข้างทาง เมื่อเปิดออกมาเขาก็ต้องตกใจทันที เพราะข้างในมีลูกสุนัขตัวเล็กๆ ถึง 9 ตัวนอนกอดกันอยู่เต็มกล่อง และเขาก็ขาดว่าพวกมันน่าจะคลอดเมื่อไม่นานนี้อย่างแน่นอน เห็นได้จากสายสะดือที่ยังคงติดอยู่กับตัวลูกสุนัข โชคยังดีที่ชายคนนั้นไม่ได้เมินพวกลูกสุนัข เขารู้ว่าพวกมันต้องการความช่วยเหลือ จึงแบกกล่องดังกล่าวไปที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ใกล้ๆ กับจุดนั้นทันที แต่โชคร้ายที่ศูนย์ดังกล่าวไม่มีเครื่องมือและทรัพยากรมากพอที่จะดูแล พวกเขาจึงทำขอส่งต่อลูกสุนัขไปที่ Central Vermont Humane Society (CVHS) Erika Holm ผู้อำนวยการของ CVHS ได้บอกกับ TheDoDo ว่า “หลังจากไม่กี่ชั่วโมงที่พวกเราได้รับแจ้งว่าจะมีการขนย้ายลูกสุนัขดังกล่าว พวกเราก็เตรียมการให้พร้อมทันทีก่อนที่พวกมันจะมาถึง ทั้งจัดแจงพื้นที่และเตรียมอาหารให้พวกมัน ซึ่งเมื่อพวกมันมาถึงพวกเราก็จัดการดูแลพร้อมกับป้อนอาหารพวกมันทันที” โชคร้ายที่พวกเขาไม่รู้ว่าสุนัขตัวไหนคือแม่ของพวกมัน จึงทำให้ทาง CVHS ได้ประกาศและออกตามหาสุนัขที่คาดว่าจะเป็นแม่ของเด็กๆ พวกนี้ทันที Erika พูดว่า “ไม่มีใครเห็นตอนที่ลูกสุนัขพวกนี้ถูกทิ้ง รวมถึงข้อมูลและเบาะแสต่างๆ ที่พอจะช่วยให้ตามหาแม่ของพวกมันเจอ ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงหวังว่าแม่ของพวกมันจะยังมีชีวิตอยู่และปลอดภัย พวกเราเข้าใจถึงความรู้สึกที่ต้องสูญเสียลูกๆ ไป” . . Erika บอกปิดท้ายว่า “ตอนนี้พวกลูกสุนัขก็อยู่ในสภาพที่แข็งแรงดีแล้วยกเว้นตัวหนึ่งที่สภาพย่ำแย่และจากไปในที่สุด ทำให้พวกเราก็ยังคงเป็นห่วงสุขภาพของตัวอื่นๆ อีกทั้งยังต้องดูแลพวกมันอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการหาคนมารับเลี้ยงคงต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อให้พวกมันโตกว่านี้อีกสักหน่อย”…
-
น้องเตี้ยคอร์กี้ชอบเล่นซ่อนหา ซุกซนชอบหลบมุมเวลาจะถ่ายรูป หาเจอกันมั้ยเอ่ย!?
เชื่อว่าหลายคนที่มีอายุหน่อยๆ น่าจะเคยเล่นเกมหนังสือภาพที่ชื่อ “Where’s Waldo?” กันมาก่อนใช่ไหมละ ส่วนถ้าใครไม่เคยก็จะบอกให้ฟังง่ายๆ ว่ามันคือเกมที่ต้องหาตัวละคร Waldo ที่ซ่อนอยู่ในภาพนั่นเอง ถือว่าเป็นอะไรที่สนุกมากเลยในสมัยก่อน แต่ในวันนี้เราก็ไม่ได้จะมาพูดถึงหรือตามหา Waldo กันหรอกนะ แต่สิ่งที่เราจะมาตามหากันในวันนี้มันคือเจ้าหมา Franklin สุนัขพันธุ์คอร์กี้วัย 8 ปีต่างหาก เรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากตอนที่เจ้า Franklin ยังเป็นเพียงลูกสุนัข และมันก็ชอบที่จะออกไปวิ่งเล่นข้างนอกบ้านกับ Melissa Looney ผู้เป็นเจ้านาย จนวันหนึ่งมันรู้สึกไม่อยากกลับบ้าน มันก็เลยเริ่มซ่อนจากสายตาของเจ้านาย บ่อยขึ้นๆ จนติดเป็นนิสัย และนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเกมตามหาคอร์กี้นั่นเอง Melissa พูดถึงสุนัขของเธอว่า “ฉันกับ Franklin พวกเราจะเล่นซ่อนหากันทุกครั้งที่ออกไปเดินเล่น และฉันก็จะถ่ายภาพพร้อมกับโพสต์ลงแฟนเพจ Where’s Franklin? เพื่อที่คนอื่นๆ จะได้มาเล่นเกมตามหาเจ้า Franklin ไปด้วยกัน” เกริ่นกันมาขนาดนี้แล้ว เรามาเริ่มเล่นเกมตามหาเจ้าคอร์กี้แสนซุกซนกันเลยดีกว่า 3..2..1 เริ่ม!! เริ่มที่อันแรกแบบง่ายๆ กันก่อน เริ่มยากขึ้นมานิดหนึ่งแล้วนะ หาเจอกันไหม? ส่วนภาพนี้ก็กลืนสุดๆ ทุ่งดอกไม้ภาพนี้น่าจะหาเจ้า Franklin…
-
สุนัขกำพร้าโดนรับไปเลี้ยง แต่สุดท้ายถึงกับงง ทำไมถูกพากลับมาที่เดิมซะได้ เฮ้อออมมมม!?
สำหรับสุนัขจรจัดนั้น การมีคนมารับไปเลี้ยงถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จอย่างหนึ่งในชีวิตของพวกมันเลยก็ว่าได้ เพราะนั่นนับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากๆ ในชีวิต บ้านหลังใหม่ ชีวิตอันอบอุ่น…แต่นั่นไม่ใช่กับเจ้า Athena เรื่องมันเริ่มเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเมื่อตอนที่เจ้าหมาตัวนี้ เพิ่งจะถูกช่วยเหลือจากศูนย์พักพิงสัตว์ที่แออัดโดย Miami-Dade Animal Services ในรัฐฟลอริด้า และไม่นานนักพวกเขาก็ประกาศหาคนมารับเลี้ยงมันไป การ์ดประวัติส่วนตัวของมัน… แน่นอนว่าก็มีคนใจดีมารับมันไปเลี้ยง เจ้าหน้าที่จึงดีใจมาก ที่สุดท้ายมันก็ได้บ้านสักที แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่า เพียงแค่ 2-3 สัปดาห์ต่อมาเจ้าของก็พามันกลับมาที่ศูนย์เพื่อทำเรื่องขอส่งคืนมัน พร้อมกับเตียงของมันอีก ส่วนเหตุผลที่พวกเขาขอคืนเจ้า Athena นั้นก็ไม่มีใครทราบ เจ้าหน้าที่บรรยายถึงเหตุการว่า “พวกเขากลับมาพร้อมกับ Athena และขอทำเรื่องคืนมันให้กับศูนย์ แถมเอาเตียงนอนของมันมาให้ที่ศูนย์ด้วย เจ้า Athena ผู้น่าสงสารคงไม่รู้ตัวแน่ๆ ว่ามันได้ถูกทิ้งและต้องกลับมาอยู่ที่จุดเริ่มต้นมันอีกครั้ง” พวกเขาจำเป็นต้องอัพเรื่องราวของมันลงเพจอีกครั้ง “คนพวกนี้จิตใจเขาทำด้วยอะไรถึงพามันกลับมา ทั้งๆ ที่มันติดพวกเขาจนถึงกับเดินตามกลับไปทั้งๆ ที่โดนทิ้งแล้วแท้ๆ ยังไงก็รบกวนช่วยแชร์โพสต์นี้เพื่อที่ Athena จะได้เจอบ้านที่ดีกว่าเดิม” ล่าสุดเมื่อเรื่องของ Athena ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ไม่นานนักก็มีคนใจดีอาสาที่จะมารับมันไปเลี้ยงแทนแล้ว ถือว่าโชคดีของมันจริงๆ และก็หวังว่ามันจะได้เจอครอบครัวใหม่ที่รักมันจริงๆ สักที จะว่าน่าสงสารก็น่าสงสาร แต่ถ้ามองในแง่ดี มันก็โชคดีที่ได้เจ้าของใหม่ ที่จะพร้อมดูแลมันตลอดชีวิต ดีกว่าอยู่กับคนที่ไม่พร้อมและทิ้งๆ ขว้างๆ ละเนอะ??…
-
Balthazar เจ้าหมาใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ส่วนสูง 2 เมตร แต่มีความมุ้งมิ้ง เป็นเพื่อนกับแมวอีก!!
Balthazar คือชื่อของเจ้าหมาแพทเทอร์เดลเทอร์เรีย ที่มีขนาดตัว 2 เมตร (วัดจากความสูงเมื่อยืนเต็มที่) และหนักถึง 95 กิโลกรัม จะเรียกว่ามันคือลูกช้างขนาดย่อมเลยก็ไม่ผิดซะทีเดียว แม้แต่ Vinnie วัย 46 ปี และ Dixie Monte Irvine วัย 39 ปีจากประเทศอังกฤษ สามีภรรยาผู้เป็นเจ้าของมันยังต้องตกใจเมื่อครั้งล่าสุดที่พวกเขาเพิ่งสังเกตตอนไปออกทริปเที่ยวกับครอบครัวและลูกๆ อีกสามคน ว่าสุนัขของพวกเขาตัวใหญ่แค่ไหนเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ ของคนอื่นนั่นเอง Vinnie ได้เล่าว่า “พวกเราเพิ่งจะสังเกตเห็นเมื่อไม่นานว่าเมื่อก่อนมันเคยตัวเล็กกว่านี้ แต่ตอนนี้ขนาดตัวของมันเรียกว่ามหึมาเลยก็ว่าได้ แถมมันก็ไม่ได้เป็นสุนัขที่อ้วนด้วยนะ สังเกตได้จากการที่ยังสามารถมองเห็นซี่โครงมันได้อยู่” “หลังจากนั้นไม่นานเราก็พามันไปตรวจดูว่ามันมีความผิดปกติอะไรไหม จนเราคาดว่าเราอาจจะต้องเพิ่มน้ำหนักส่วนขาของมันเพื่อรองรับร่างกายขนาดใหญ่ นอกจากนั้นทีมแพทย์ยังอยากจะลองชั่งน้ำหนักมันเพื่อดูว่ามันจะเป็นสุนัขที่หนักที่สุดในโลกด้วยรึเปล่า” แม้ว่าเจ้า Balthazar จะเป็นสุนัขตัวใหญ่ยักษ์ขนาดไหน มันก็เป็นสุนัขที่จิตใจดีมากๆ มันชอบเล่นกับลูกๆ ของ Vinnie บ่อยๆ แถมยังเป็นเพื่อนซี้กับเจ้าเหมียวอีกสามตัวในบ้านอีกต่างหาก Vinnie ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า “นอกจาก Balthazar แล้วพวกเรายังมีแมวอีกสามตัวชื่อว่า Magic Buffy และ Leo พวกมันทั้งสามชอบที่นอนจะคลุกอยู่กับเจ้าหมาบ่อยๆ เวลาที่มันนอนในที่นอนของมัน”…
-
ปาเงินใส่จอ!! เคสซิลิโคน “บั้นท้ายสัตว์” มีทั้งหมา หมี แมว ม้า โอ้ยยย ขอเหมาให้หมดเลย
“เคสโทรศัพท์” หนึ่งในไอเทมยอดฮิตสำหรับคนยุคนี้ที่นิยมใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งสามารถใช้เป็นตัวบ่งบอกถึงรสนิยมความชอบหรือแฟชั่นของตัวเองได้ดีพอสมควรเลยล่ะ แล้วถ้าใครที่กำลังซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อเคสแบบไหนดีนะ #เหมียวมู่ทู่ ก็เลยมีตัวเลือกน่าสนใจมานำเสนอ เป็นเคสน่ารักๆ ที่แปลกนิดๆ แต่รับรองว่าถูกใจคนรักสัตว์อย่างแน่นอนเพราะเคสที่ว่าก็คือเคสซิลิโคน “บั้นท้ายสัตว์” ที่ทำขายโดย Miko Ho ศิลปินชาวจีน แถมวัสดุที่ใช้ก็เป็นขนแกะ 100% ที่สำคัญเป็นงานทำมือทั้งหมดเลยนะ ถ้าคิดภาพตามไม่ออกว่ามันจะเป็นยังไง ลองดูภาพตัวอย่างกันก่อนดีกว่า… มีหลากหลายแบบและหลายสีเลยนะ แถมมีหางด้วย หรือถ้าใครไม่ชอบแบบมีหาง แพนด้าก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว ที่สำคัญยังมีให้เลือกหลายรุ่นหลายขนาด ตัวนี้เป็นการเอาลายแมวกับสีเคสมาทำให้ดูเข้ากัน ก็น่าใช้งานไปอีกแบบ แต่ถ้าใครชอบสีหวานๆ กับสายรุ่งอันนี้ก็น่าสนใจนะ แต่ถ้าคนชอบคอร์กี้ ก็ต้องอันนี้เลย ที่สำคัญตัวเคสยังมีหลายแบบ หลายพื้นผิว ตัวพื้นผิวและตูดสัตว์เป็นสินค้าแฮนด์เมด ด้วยการใช้ไอเดียอันสุดบรรเจิด จนเกิดเป็นก้นคอร์กี้น่ารักๆ ไม่ใช่หมาแมวเท่านั้น แม้แต่ก้นหมูน่ารักๆ ก็มีให้สั่งทำนะ หรือจะเป็นลิงก้นแดงๆ ก็น่ารักไปอีกแบบ ม้าลายก็เท่ไม่หยอกเลยล่ะ แต่สำหรับคนขี้รำคาญเคสใหญ่ๆ…
-
ในที่สุดเจ้าเหมียวที่ถูกรังแก ก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ทิ้งอดีตอันขมขื่นไว้เป็นเบื้องหลัง!!
ชีวิตของเจ้าเหมียวจรจัดขนฟูต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อมันได้รับการช่วยเหลือจากหญิงสาวใจดี ที่มาพร้อมกับอาหารในมือ เชิญพบกับเจ้า Brian แมวจรจัดผู้มีปูมหลังอันน่าสงสาร Brian คือแมวจรจัดที่ถูกเจ้าของเก่าทิ้งไว้จนต้องเดินร่อนเร่ไปบนถนนในประเทศกาตาร์ เพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตรอดไปวันๆ Happy Homes Animal Rescue หน่วยงานช่วยเหลือสัตว์ที่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่เจ้า Brian ได้บอกกับเว็บไซต์ Lovemeow ว่า “เคยมีคนเจอมันกำลังซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ เพื่อหลบการถูกรังแกจากแมวตัวอื่นๆ และดูเหมือนมันจะถูกทิ้งนานพอที่ขนของมันเป็นตังเมขนาดนี้” ด้วยเหตุนี้คู่รักพลเมืองดีจึงเริ่มคิดหาทางที่จะช่วยมัน เริ่มด้วยการให้อาหารกับมันก่อน จากนั้น Yolanda ผู้ทำงานช่วยเหลือสัตว์ และเป็นเจ้าของมูลนิธิ EvenStar Charitable Organization ก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากขนที่จับกันเป็นก้อนของเจ้า Brian ทำให้ Yolanda จำเป็นจะต้องที่ตัดขนของมันออกทั้งหมด เพื่อให้ขนของมันงอกกลับมาใหม่และสวยดังเดิม จากนั้นเธอก็ได้ติดต่อกับ Happy Homes Animal Rescue ในรัฐนิวเจอร์ซี่ เพื่อให้พวกเขาช่วยหาเจ้าของใหม่ให้มันหน่อย ในระหว่างที่รอประกาศหาคนมารับเลี้ยง ชีวิตการเป็นอยู่ของเจ้า Brian ก็ดูจะดีขึ้นตามลำดับ นับตั้งแต่ที่มันถูกโกนขน มันก็รู้สึกเหมือนตัวเบาหวิวเหมือนได้เกิดใหม่เลยล่ะ ชีวิตการเป็นอยู่ที่ศูนย์ EvenStar ของมันเรียกว่าสบายกว่าตอนอยู่ตามท้องถนนมากๆ มีอาหารให้กินตลอดทั้งวัน มีผ้าอุ่นๆ ให้นอน แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดก็เพื่อที่ตัวมันจะได้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง…
-
ผู้คนต่างพากันร่ำไห้ ภาพแม่สุนัขที่ต้องสูญเสียลูกไป 3 ตัว และเยียวยาความรู้สึกด้วยตุ๊กตา
Xavier Hernandez หนุ่มวัย 18 ปี ผู้เป็นเจ้าของทวิตเตอร์ xXx ได้แชร์ภาพและเรื่องราวสุนัขของเขาให้แก่ชาวเน็ตได้อ่านกัน แถมเรื่องที่ว่ายังเศร้าจนทุกคนต่างพากันแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมายกับเรื่องราวนี้ Twinkle คือชื่อของสุนัขที่เป็นเจ้าของเรื่องทั้งหมด โดยมันและ Xavier อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่ง Xavier ได้เล่าผ่านเว็บไซต์ Buzzfeed ว่าวันหนึ่งเขาได้รู้ว่าสุนัขของเขากำลังตั้งท้องและคลอดออกมาเป็นลูกสุนัข 3 ตัวด้วยกัน แต่หลังจากพวกมันคลอดได้ไม่นานลูกสุนัขทั้งสามก็ต้องตายจากไป ทิ้งไว้แต่ความเศร้าศร้อยให้กับเจ้า Twinkle ด้วยเหตุนี้แม่ของ Xavier ก็เลยนำตุ๊กตาสัตว์ต่างๆ 3 ตัวมาให้กับมัน เพื่ออยู่เป็นเพื่อนและช่วยเยียวยาความเศร้า หลังจากนั้นมันก็ไม่ปล่อยตุ๊กตาอีกเลย แถมไม่ยอมให้ใครแตะต้องตุ๊กตาของมันอีกด้วย และมันก็ยังดูแลเหล่าตุ๊กตาดีมากๆ เหมือนมันกำลังดูแลลูกของตัวเองเลย ลองมาดูความรู้สึกและเสียงตอบรับของชาวเน็ตกันบ้างดีกว่า ว่าพวกเขารู้สึกยังไงกับเรื่องของเจ้า Twinkle? สำหรับชาวเน็ตคนนี้แสดงความรู้สึกด้วยภาพ ที่ดูก็รู้ว่าเศร้าแค่ไหน รวมถึงคนนี้ก็เช่นกัน นี่สินะที่เรียกว่าภาพสามารถแทนคำพูดได้มากมาย ส่วนชาวเน็ตสองคนนี้ก็แสดงความรู้สึกไปในทางเดียวกันว่า เรื่องราวของมันแทบจะทำให้ความรู้สึกของพวกเธอแตกเป็นเสี่ยงๆ หรือจะเป็นเธอคนนี้ที่ถึงกับตั้งคำถามว่า ทำไมเรื่องร้ายๆ มักเกิดกับสุนัขดีๆ เสมอ …
-
หลังจากต้องแยกจากเจ้าของเกือบปี ในที่สุดเจ้าเหมียวตาบอด ก็ได้กลับมาอยู่กับเจ้าของอีกครั้ง
ถ้าสัตว์เลี้ยงของคุณเกิดมาพิการ หรืออยู่ดีๆ ก็เป็นอัมพาต พวกคุณจะยังรักมันอยู่ไหม? Leto เจ้าเหมียวสายพันธุ์ Sphynx (แมวไร้ขน) มันคือลูกแมวที่ตาบอดตั้งแต่อายุ 3 ขวบ แถมยังพิการอีกต่างหาก เรียกง่ายๆ ว่ามันไม่สมประกอบเลยสักอย่าง แต่เจ้าของก็ยังคงรักมันเหมือนลูกอยู่ดี Loren ผู้เป็นเจ้าของมันได้อธิบายถึงแมวของเขาว่า “สิ่งหนึ่งเลยที่มันไม่ชอบก็คือการถูกอุ้ม แต่ว่ามันกลับชอบที่จะนอนอยู่บนไหล่ และมันจะร้องออกมาทันทีถ้าไปจับขาของมัน” ทั้งคู่ใกล้ชิดสนิทสนมกันมากจนแทบจะห่างกันไม่ได้เลย และทั้งคู่ก็จะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ด้วยกันเสมอๆ แต่แล้ววันหนึ่ง Loren จะต้องห่างจากเจ้าเหมียวของเขาไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ Loren เล่าว่า “ในเดือนพฤษภาคมของปี 2016 ผมได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคทางพันธุกรรมที่หายากเรียกว่า Fanconi anemia ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการปลูกถ่ายกระดูกสันหลัง และโรคนี้ส่วนใหญ่จะพบแต่ในเด็กเท่านั้น มันก็เลยทำให้ผมต้องเดินทางไปที่นิวยอร์กเพื่อพบกับแพทย์เฉพาะทาง” ด้วยเหตุนี้อดีตรูมเมทของ Loren จึงยินดีที่จะรับเลี้ยงดูเจ้าเหมียวของเขาในช่วงที่เขาเดินทางไปนิวยอร์ก นั่นเลยทำให้ Leto ต้องอยู่กับอดีตรูมเมทเจ้าของมัน และแมวของเขาอีกตัวหนึ่ง Juno Juno เป็นแมวเงียบๆ ไม่ค่อยชอบเล่นซุกซนอะไรเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้น Leto ก็พยายามที่จะเล่นกับมันตลอดเวลา และดูเหมือนทั้งคู่จะเข้ากันไม่ได้ดีเท่าที่ควร เลยทำให้เจ้า Leto จะต้องเปลี่ยนมือไปอยู่กับเพื่อนคนอื่นๆ ของ Loren…
-
16 เรื่องราวน่ารักๆ จากสัตว์โลก ถึงแม้มันไม่ได้ยิ่งใหญ่ แต่ก็ทำให้คุณยิ้มกริ่มได้ทั้งวัน
เคยได้ยินคำกล่าวของลุงวินมอเตอร์ไซค์แถวบ้าน แกบอกเอาไว้ว่า… ‘ความสุขนั้นหาไม่ยากเลย บางทีมันก็อยู่ใกล้ๆ ตัวเรานี่แหละ’ ซึ่งมันก็ดูเป็นเหมือนประโยคที่ใครๆ เค้าก็พูดกัน เพื่อนๆ หลายคนอาจจะต้องทำงานเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน พวกเราเลยอยากจะหยิบยื่นรอยยิ้มเล็กๆ ให้กันบ้าง เพราะภาพน่ารักๆ ของสัตว์โลกทั้งหลายนี้จะทำให้เรารู้สึกว่า ความสุขอยู่ไม่ไกลตัวเราเลยจริงๆ เพียงแค่เรายิ้มออกมา 1. คู่หูตูบเหมียวข้างบ้าน เจ้าขาวจะมาจูบทักทายเจ้าน้ำตาลเป็นประจำทุกวัน อร๊ายยย >< 2. อยู่ดีๆ ก็มีวัวจากไหนไม่รู้ เดินมานอนบนตัก บางที… วัวอาจจะกำลังบอกให้เธอได้พักผ่อนกับธรรมชาติบ้างก็ได้นะ 3. เมื่อคุณไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คุณก็ยังมีใจที่อยากจะเข้าไปช่วย ฮ่าๆๆ 4. เจ้าตูบไม่เคยเห็นตัวเองบนกระจก เจ้าของเลยบอกมันทุกวันว่ามันหล่อขนาดไหน 5. เจ้าเหมียวผู้ชอบสะสมก้อนหินเป็นชีวิตจิตใจ ทำไมมันน่าร๊ากกแบบนี้ 6. เมื่อคุณจะแพ็คของไปเที่ยววันหยุด แต่ดูเหมือนเจ้านายจะไม่ให้ไป 7. เมื่อคุณทำตัวเป็นมิตรกับผู้คนรอบข้าง แม้กระทั่งจระเข้ -*- 8. หลังจากเจ้ากบน้อยได้รับคำชมว่า ตัวเองสวยมากขนาดไหน มันก็ยิ้มไม่หุ้มเลยทีเดียว …
-
รวม 18 ภาพเจ้าเหมียวโดนมนุษย์พาไปตัดขน จากสีหน้าแล้ว เหมือนเตรียมล้างแค้นแน่ๆ!!
เมืองไทยก็เข้าสู่หน้าร้อนแล้ว และเราต่างก็รู้ดีว่าประเทศเราเนี่ยมันร้อนรุนแรงสักแค่ไหน บางคนก็เริ่มเอาหมาแมวของตัวเองที่มีขนยาวไปตัดขน หวังว่ามันจะสบายตัวขึ้น ครั้นจะตัดขนธรรมดาก็อาจจะไม่เท่ ก็เลยต้องเพิ่มลวดลายหรือความหวือหวาเขาไป แต่บางครั้งพวกมันก็ดูจะรักขนของตัวเองซะเหลือเกิน พอโดนตัดไปก็ทำหน้ายังกับโกรธแค้นมาแต่ชาติปางไหนงั้นแหละ มันจะฮา หรือน่าสงสารแค่ไหนนั่น..มาดูกันเลย เฮ้ย!! นี่พวกแกทำอะไรลงไปกัน ฝากไว้ก่อนเถอะเจ้ามนุษย์ ตูเป็นแมวตัวผู้นะเว้ย พวกแกเห็นตูเป็นของเล่นเหรอ ห๊ะ!! ข้าจะต้องหาตัวการให้ได้ ว่าใครเป็นคนทำ!! สีหน้าเจ้าเหมียวดูเซงสุดๆ เลยนะเนี่ย ช่างน่าสงสัยว่าเจ้าของคิดอะไรกันอยู่นะ h3 ส่วนเจ้าตัวนี้หนักกว่าตัวข้างบนอีก ถ้าพี่ออกไปได้เมื่อไหร่นะ รู้เรื่อง!! บอกมาว่า เจ้ามนุษย์มันอยู่ที่ไหน มองหน้าพี่หาเรื่องเหรอ? ใคร ใครจับก้น!! แกใช่ไหมที่ทำให้ฉันกลายเป็นแบบนี้!! หน้าเจ้ามนุษย์ดูจะมีความสุขมากๆ เมื่อเทียบกับเจ้าเหมียวที่ยังอึ้งกับสิ่งที่เกิดกับมัน หน้ามันยังดูไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยนะเนี่ย ทรงใหม่ฉลองคริสต์มาส น่าจะงี้ป่าว เอาจริงๆ ทรงนี้มันหล่อมากเลยนะเนี่ย แม้จะไม่โดนตัดขนเหมือนตัวอื่นๆ…
-
Error ไม่พบสมอง!! รวมความติงต๊องของเหล่าสัตว์โลก แต่ก็คือเสน่ห์แห่งความน่ารัก
เหล่าสัตว์เลี้ยงนอกจากช่วงเวลาปกติที่มันจะน่ารักอยู่แล้ว บางครั้งพวกมันก็จะมีโมเมนต์เปิ่นๆ พังๆ เหมือนเอาสมองไปโยนไว้ไหนไม่รู้เหมือนกันในบางครั้ง แถมเวลาที่พวกมันทำแบบนั้นมันน่ารักจนอดขำไม่ได้เลยล่ะ วันนี้เราเลยจะมาดูภาพของเหล่าสัตว์ที่สมองเออเร่อชั่วคราวมาให้ดูกัน รับรองว่ามันจะทำให้พวกคุณกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว เอาล่ะ อย่ามัวเสียเวลากันเลย เราไปดูกันดีกว่า โดนล้างสมองจนคิดว่าเป็นพวกเดียวกันไปซะแล้ว Error 404 brain not found!! เมื่อเจ้าเหมียวสมองเออเร่อ ลืมว่าตัวเองเป็นแมว ไรอะ?!! ใคร!! ใครอยู่ตรงนั้น !! 3..2..1 จ๊ากกกกก สงสัยระบบการคำนวนจะเออเร่อ ถึงได้โดดพลาด อันนี้ดูจะ Get High มากกว่าสมองเออเร่อนะเนี่ย เจ้านายเกาพุงให้หนูหน่อย..เดี๋ยว เฮ้ย ใครดึง ใคร!! จะออกตัวแล้วนะ 3 2 1 แอ๊ก..เหนื่อย แล้วอะ กระดู๊กกกก ลาภปากล่ะ…เดี๋ยวนะ ทำไมมันไม่มีล่ะ ก็เห็นอยู่ตรงหน้าแท้ๆ กระโดดๆ ฮึบๆ…
-
“ริวจิ” เจ้าหมาชิบะอินุ ที่แสดงสีหน้าได้หลากหลาย ราวกับเป็นมนุษย์แต่งชุดหมางั้นแหละ
สุนัขพันธุ์ชิบะอินุ เป็นสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น แรกเริ่มเดิมทีมันก็จัดอยู่ในสายพันธุ์ที่น่ารักอยู่แล้ว แต่ทว่าเมื่อตอนปี 2013 ได้มีมชิบะออกมาทำให้ความนิยมของสุนัขพันธุ์นี้กลับเพิ่มทวีคูณขึ้นไปอีก ริวจิ เจ้าสุนัขพันธุ์ชิบะอินุ ก็เป็นหนึ่งในชิบะที่โด่งดังไม่แพ้ชิบะในมีมเช่นกัน โดยมันมีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากถึง 148,000 คนเลยทีเดียว นี่คือมีมน่ารักๆ ของชิบะที่โด่งดังทั่วโลกออนไลน์ ส่วนสาเหตุที่ทำให้มันดังเป็นพลุแตกก็คงจะหนีไม่พ้นความน่ารักของมัน ทั้งขนฟูและผ้าพันคอที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ที่จะทำให้มันโดดเด่นกว่าชิบะตัวอื่นๆ ก็คงจะเป็นความสามารถในการแสดงสีหน้าของมัน ที่หลากหลายอารมณ์ราวกับมันเป็นมนุษย์เลยทีเดียว พูดแล้วก็คงจะไม่เห็นภาพ เอาเป็นว่ามาลองดูความน่ารักของมันกันเลยดีกว่า เริ่มต้นด้วยใบหน้าธรรมดากันก่อน ซึ่งแค่นี้ก็น่ารักสุดๆ แล้วใช่ไหมล่ะ ลองดูหน้านี้หน่อยเป็นไง มียิ้มมุมปากซะด้วย ตอนหาวก็ยังน่ารักเลยนะเนี่ย ขยิบตาให้สาวๆ ได้ด้วยนะ หรือจะเป็นหน้าเซงๆ กับการที่ถูกเจ้ามนุษย์จับหัวอยู่ก็มีนะ ยืดเส้นยืดสายกันสักหน่อย ฮึบๆ สงสัยจะเห็นอะไรน่ากินเข้า ดูสิเลียปาก แพร่บๆ เลย แบร่ๆ แลบลิ้นปริ้นตาก็ได้นะ ยิ้มกระฉากใจสาวๆ ถ่ายภาพมุมตรงกับยิ้มสวยๆ ดูมันจะชอบแลบลิ้นนะเนี่ย …
-
รวมมิตร 20 ภาพโมเมนต์สุดป่วน ของเจ้า “เม่นแคระ” ซึ่งทำให้เรารู้ว่ามันน่ารักมากเพียงใด…
เม่นแคระ สัตว์เลี้ยงสุดแปลกที่ได้รับความนิยมในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ด้วยความที่น่ารักตัวเล็กกับหนามที่ไม่แหลมจนเกินไป แถมยังดูอ้วนกลมดูดุ๊กดิ๊กสุดๆ ของมันจึงไม่แปลกเลยที่มันจะได้ความนิยม วันนี้ #เหมียวมู่ทู่ ก็เลยจะขอเอาใจสาวกเม่นแคระกันสักหน่อย กับการรวม 20 ภาพความน่ารักของพวกมันจากทั่วทุกมุมโลก รับรองว่าใครที่ไม่เคยเลี้ยง พอเห็นรูปพวกนี้แล้วจะต้องตกหลุมรักจนอยากจะหามาเลี้ยงสักตัวแน่นอน …ฉะนั้น อย่ารอช้า ไปดูความน่ารักของมันกันเลยดีกว่า เปิดตัวกันแบบธรรมดากันก่อน…ไงล่ะ น่ารักไหม ตามมาด้วยท่าทางต่างๆ ของมันกันบ้าง บินไปเลย ฟิ้ววว เม่นมัน…มันเม่น งงอะดิ๊ พอมองมุมเสยนี่มองไม่ออกเลยว่าคือเจ้าเม่นแคระ ตอนหลับก็ดูน่ารักดีนะเนี่ย อากาศหนาวก็ไม่ต้องกลัว เพราะพี่ตัวอ้วนและอบอุ่นสุดๆ ขยิบตาให้สักที เผื่อดูแล้วจะหลงรัก อิอิ เห็นหน้าแค่มุมสามเหลี่ยมเล็กๆ ยังบังความน่ารักของมันไม่มิดเลย ท่าถ่ายภาพมาตรฐาน ชูสองนิ้ว เย้!! เกือบจะสไตรค์แล้วไหมล่ะ เม่นแคระนั่งสมาธิ แต่ทำไมยิ้มหวานแบบนั่นละ ท่องเที่ยวไปทุกที่สบายๆ แค่นั่งอยู่บนฝ่ามือ อ๊ะ…
-
เจ้าหมาเสียขาหน้าไปเพราะอุบัติเหตุ คุณพ่อเลยสร้างงานศิลป์บนภาพถ่าย วาดขาให้อีกครั้ง!!
Charley Desrochers ชายหนุ่มผู้ได้รับความกระทบกระเทือนต่อสมอง จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้เขาและแฟนสาวตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงลูกหมาสักตัว นั่นจึงทำให้ทั้งคู่ได้เจอกับเจ้า Bradley Bradley เป็นหมาจรจัดที่ถูกช่วยไว้ หลังจากที่มันถูกรถชนในช่วงที่มันยังใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน ตอนที่เจอมันขาของมันกลายเป็นอัมพาตไปเสียแล้ว และด้วยตอนที่มันถูกชนมันถูกรถลากไปด้วยทำให้กระดูกของมันเริ่มเสื่อมสภาพลงจนต้องตัดขาหน้าไปข้างหนึ่ง Charley บอกว่า “ตอนแรกที่พวกเราเจอกับ Bradley มันพยายามที่จะเดินด้วยขาข้างที่เป็นอัมพาต และด้วยความเสียหายที่ได้รับทำให้มันไม่สามารถที่จะใช้งานขาข้างนั้นได้อีกเลย มันจึงทำให้พวกเรารู้ดีว่า เราควรจะทำการผ่าตัดขาให้แก่มันซะ” เพราะว่ามันใช้ชีวิตกับขาที่อัมพาตมาตลอด มันจึงใช้เวลาไม่นานนักในการทำควมเคยชินกับการมีขาแค่ 3 ข้าง แต่มันต้องใช้เวลาสักพักกับการปรับตัวเข้ากับบ้านหลังใหม่ของมัน แต่ปรับตัวแค่ไม่นานนักมันก็กลายเป็นหมาที่มีความสุขและน่ารักมากที่สุดตั้งแต่ครอบครัวของมันเคยเจอเลยล่ะ “ความน่ารักของ Bradley ก็คือความหนักแน่นที่มันมี มันเป็นหมาที่น่ารักและฉลาด มันรู้ว่าวันไหนที่พวกเราต้องเจอกับเรื่องแย่ๆ มันจะเข้ามากอดกับพวกเราเสมอ เพื่อให้กำลังใจแก่ครอบครัวของมัน” หลังจากนั้นไม่นานพวกเรารู้สึกว่าอยากจะแชร์ความน่ารักของมันให้กับคนอื่นๆ ดู พวกเราก็เลยตัดสินใจที่จะวาดรูปขาที่ 4 เป็นภาพการ์ตูนตลกๆ ให้กับมัน “Marianne และผมมักจะมีมุขตลกๆ กับเจ้า Bradley เสมอพวกเราก็เลยคิดว่าเราน่าจะทำอะไรกับความน่ารักและมุขตลกพวกนี้ดู เราเลยเริ่มวาดแขนมิกกี้เมาส์ตรงบริเวณขาที่หายไปของมัน ส่วนสาเหตุที่จะต้องเป็นมิกกี้เมาส์เพราะว่า มันชอบที่จะทำเสียงคล้ายๆ กับมิกกี้เมาส์บ่อยๆ นั่นเอง” …
-
ชายหนุ่มยอมมุดถ้ำแคบๆ ชื้นแฉะ เพียงต้องการช่วย “ลูกสุนัขจรจัด” ให้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
Eldad Hagar ผู้ก่อตั้งองค์กรช่วยเหลือสุนัข Hope for Paws เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันไปกับการตามหาและช่วยสุนัขจรจัด แม้ว่าสุนัขทุกตัวไม่ใช่ว่าจะยอมให้ช่วยเหลือง่ายๆ แต่เขาก็มักจะมีวิธีเด็ดๆ ในการช่วยพวกมันเสมอ มีอยู่วันหนึ่ง Eldad และคณะ ได้ไปเจอเข้ากับสุนัขจรจัดเพศเมีย 3 ตัว และพยายามจะช่วยเหลือพวกมัน แต่ด้วยความที่พวกมันหวาดกลัวผู้คน มันจึงไม่ยอมให้พวกเขาเข้าใกล้แม้แต่นิดเดียว แต่โชคดีหน่อยตรงบริเวณที่พวกมันอยู่ จะมีหญิงสาวสองคนที่ทำงานแถวนั้น ซึ่งคอยให้อาหารพวกมันมาตลอด 2 ปี และพวกเธอก็เป็นตัวเชื่อมให้ทีมงานของเขาช่วยพวกมันได้ Hagar เล่าถึงความยากในการช่วยเหลือพวกมันว่า “ถ้าคุณเข้าไปใกล้พวกมันเมื่อไหร่ พวกมันก็จะวิ่งข้ามทางรถไฟและหายไปทันที” แต่แล้ววันหนึ่งพวกเธอก็ส่งข่าวบอกพวกเขาว่า สุนัขตัวหนึ่งได้คลอดลูกจำนวนหนึ่ง<ตัวเมียได้คลอดลูกครอกใหม่ และหนีไปซ่อนตัวอยู่บริเวณถ้ำเล็กๆ ใกล้กับจุดที่มันอยู่ในตอนแรก ซึ่งหญิงสาวได้นั่งเฝ้าและคอยสังเกตุถึงจำนวนของลูกสุนัขที่คลอดออกมานานกว่า 6 ชั่วโมง จนได้รู้ว่ามีลูกหมาอยู่ทั้งหมด 8 ตัวด้วยกัน จากนั้นไม่นานนัก Eldad และคณะก็ได้เดินทางมาถึง เตรียมปฏิบัติการช่วยเหลือลูกสุนัขและแม่ของมันจากถ้ำแห่งนั้น เพื่อให้ได้ไปอยู่ในที่ๆ ดีกว่า หลังจากที่เขาเจอเข้ากับลูกหมาพร้อมกับสังเกตสีและรูปร่างของพวกมัน เขารู้ได้ทันทีว่าพวกมันน่าจะเป็นลูกของสุนัขจรจัดตัวผู้ที่ชื่อว่า Tank ซึ่งเป็นสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่แถวนั้นเช่นกัน ซึ่งตัวนี้พวกเขาก็ได้ช่วยเหลือมันไปเมื่อหลายเดือนก่อน เขาหลอกล่อพวกมันด้วยของกิน ด้วยความที่ลูกสุนัขยังพึ่งเกิดได้ไม่กี่สัปดาห์ พวกมันจึงยังไม่มีความกลัวกับมนุษย์มากนัก แต่มันก็ระมัดระวังตัวพอสมควรเลยทีเดียว ในตอนที่เขานำอาหารไปให้พวกมัน จากนั่นไม่นาน เขาก็จับตัวลูกหมาตัวแรกได้เรียบร้อย…
-
อีนกเซ่ออออ… “เจ้านกฮูก” โชคร้าย บินไปติดระหว่างตู้คอนเทนเนอร์กับรถบรรทุก ห๊ะ!?
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2017 เมื่อ Will Sword และ Tyler Buckley กำลังขับรถบรรทุก เพื่อที่จะกลับไปบ้านของพวกเขาที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์ แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็มีเสียงดังขึ้นบริเวณหลังรถ พวกเขาคิดว่าคงขี่ไปชนกับกิ่งไม้เข้าแน่ๆ!! แต่พอ Tyler ลงเช็คดูมันกลับไม่เป็นแบบนั้น เขากลับพบนกฮูกตัวหนึ่งติดอยู่ตรงกลางระหว่างตู้คอนเทนเนอร์กับตัวรถพอดี ที่สำคัญมันยังคงมีชีวิตอยู่อีกต่างหาก ส่วนสภาพมันก็… อย่างที่เห็นนี่แหละ หลังจากนั้น Will จึงโทรแจ้งตำรวจท้องที่ และได้รับการประสานงานไปยัง Jane Kelly ผู้ดำเนินงานของศูนย์ศึกษานก On the Wing เพื่อแนะนำการช่วยเหลือแก่เขา เธอได้แนะนำให้เขาทั้งสองคนสวมถุงมือหนาๆ เสียก่อนที่จะจับตัวนกออกมา เพื่อกันกรงเล็บของนกที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ในขณะที่เอามันออกจากตรงนั้น และเมื่อสำเร็จให้ทั้งคู่นำมันใส่กล่องไว้พร้อมกับพันด้วยผ้าขนหนูอุ่นๆ Chris McKee เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ผู้มารับนกในวันรุ่งขึ้นไปส่งต่อให้กับ Jane ได้บอกว่า “มันถือว่าเป็นปาฏิหารย์เลยนะที่มันยังรอดมาได้หลังจากชนกับรถเข้าขนาดนั้น” พร้อมกับบอกว่าสาเหตุที่มันชนเข้ากับรถน่าจะมาจากที่มันกำลังพยามล่าหนูอยู่ใกล้ๆ กับทางหลวง มันก็เลยชนเข้ากับรถของพวกเขาเต็มๆ นั่นเอง Jane ได้พาเจ้านกฮูกตัวดังกล่าวส่งต่อไปที่โรงพยาบาลสัตว์ในเมือง Brentwood เพื่อตรวจสภาพร่างกายของมันให้แน่ชัดว่ามันปลอดภัยดี ผลที่ออกมาก็ดูเหมือนมันจะไม่เป็นอะไรมาก ไม่มีกระดูกชิ้นไหนที่เสียหายหรือหักแต่อย่างใด…
-
ชาวเน็ตช่วยกันแชร์ภาพสุดฮา ถ้าเลี้ยงหมามากกว่า 1 ตัว ชีวิตจะ “วุ่นวาย+น่ารัก” แค่ไหน…
ปกติแล้วเรามักจะเลี้ยงแมว หมา หรือสัตว์เลี้ยงอะไรก็ตามกันตัวเดียว บางครั้งเราก็รู้สึกว่าเรากลัวพวกมันจะเหงา ไม่มีเพื่อนเล่นเวลาที่เราไม่อยู่ เราก็เลยหาเพื่อนให้มัน หรือไม่บางคนก็อยากจะเลี้ยงเยอะๆ สัก 3-4 ตัว เพราะมันดูอบอุ่นดี เมื่อมีเสียงเรียกร้องให้ชาวเน็ตทั้งหลาย ร่วมกันส่งภาพของเจ้าตูบในบ้านของตัวเอง โดยจะต้องเป็นบ้านที่เลี้ยงมากกว่า 1 ตัว งานนี้มาดูกันว่าจะมีภาพน่ารักแค่ไหนให้เราได้ชมบ้าง… เปิดด้วยเจ้าตูบแบบเรียงไซส์กันมาเลย มองผ่านๆ นึกว่าตัดต่อนะเนี่ย เจ้าตูบกับครอบครัวใหญ่ของพวกมัน ยัดกันมาเต็มคันรถ? ครบไซส์ ตัวใหญ่ก็กลายเป็นหมอนให้ตัวเล็กไป ยึดโซฟากันเต็มพื้นที่เลยนะ ไม่กะแบ่งเจ้าของเลยทีเดียว จะเข้าครัวมาทำอาหาร ก็มีผู้ช่วยตามมาเพียบ เดินชายหาดคนเดียวไม่ต้องกลัวอัตราย บอดี้การ์ดเพียบ งานแต่งของเจ้าตูบ พร้อมกับเพื่อนเจ้าบ่าว แต่ละตัว โพสท่าสวยงามดุจดั่งรู้ว่าจะต้องถ่ายรูป และเมื่อเราต้องพามันไปเดินเล่นพร้อมกัน ปัญหาการแย่งนำทางก็จะเกิดขึ้น ไปออกทริปถ่ายรูปคนเดียวได้ไม่เหงา เพราะมีเจ้าตูบตามไปเป็นเพื่อน คุณชายทั้งสาม เช่นเดียวกับการออกทริปถ่ายรูป ทริปปีนเขาพวกมันก็ไปเป็นเพื่อนได้สบายๆ แวะปลดทุกข์?ข้างทางสักหน่อย…
-
สิ่งมีชีวิตน่ารักสุดในสัปดาห์ “เต่าแฝด” ที่ออกจากไข่ใบเดียวกัน ทำให้ชาวเน็ตคลั่งไคล้
เต่า โดยปกติก็เป็นสัตว์ที่ดูน่ารักต้วมเตี้ยมกันอยู่แล้ว ยิ่งพอเป็นลูกเต่ามันยิ่งดูดุกดิ๊กเข้าไปใหญ่ใช่ไหม แล้วถ้าเป็นลูกเต่าแฝดล่ะ ความน่ารักก็ทวีคูณเลยละสิเนี่ย Chris Leone ผู้ก่อตั้งกลุ่มอนุรักษ์พันธุ์เต่า Garden State Tortoise LLC เขากำลังรอให้ไข่เต่าที่เขากำลังเพาะเลี้ยงฟักออกมาเป็นตัว และเมื่อถึงเวลานั้นเหล่าเต่าน้อยก็พากันทยอยออกมาจากไข่ทีละตัว แต่ทว่ากลับมีไข่อยู่หนึ่งฟองที่ดูจะมีปัญหาในการฟักตัวออกมามากกว่าใครเพื่อน เขาจึงตรวจสอบดูว่าเจ้าไข่ใบนั้นมันมีปัญหาอะไรกันแน่ แต่เขาก็ต้องตกใจเพราะว่าเต่าที่อยู่ในภายในไข่ ไม่ได้มีตัวเดียว แต่ว่ามันมีถึงสอง!! ใช่แล้วมันคือเต่าแฝดนั่นเอง ในตอนแรกเต่าทั้งคู่ยังมีร่างกายที่เชื่อมกันอยู่ Chris ก็เลยกะว่าจะช่วยพวกมันนิดหน่อย โดยเขานำไหมขัดฟันมารัดตรงส่วนที่ผูกทั้งคู่ไว้ด้วยกัน และกะจะปล่อยให้พวกมันแยกออกจากกันเองหลังจากที่มันซึมซับไข่แดงจนหมดแล้ว Chris ได้เขียนกำกับไว้ในวีดีโอของเขาว่า “ปกติแล้วเราไม่ควรจะเข้าไปยุ่งกับกระบวนการพวกนี้ของสัตว์ แต่บางครั้งมันก็จำเป็น อย่างเช่นครั้งนี้ที่พวกมันต้องการให้ช่วย เพื่อที่จะได้มีชีวิตรอดต่อไปนั่นเอง” หลังจากเวลาผ่านไปสองวันพวกมันก็ดูจะมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น แถมที่สำคัญทั้งคู่แยกออกจากกันด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว ส่วนขนาดโดยรวมของทั้งคู่นั้นยังไม่ใหญ่มาก โดนมีขนาดเท่ากับเหรียญเท่านั้น สามารถดูแบบเป็นคลิปได้ข้างล่างเลย พวกมันก็ดูน่ารักมากๆ เลยนะเนี่ย ดูแล้วก็อยากเลี้ยงเต่าขึ้นมาเลยแฮะ ที่มา thedodo
-
“หนอนแบนนิวกินี” เพชรฆาตตัวใหม่ที่อพยพมาในอเมริกา และอันตรายกว่าที่หลายคนคิด
เจ้าหนอนที่ภายนอกอาจจะดูธรรมดา ไม่มีพิษมีภัย แต่มันคือ New Guinea Flatworm หรือเจ้า หนอนแบนนิวกินี ซึ่งมันกำลังสร้างความตื่นกลัวให้ชาวรัฐฟลอริดาพอสมควร ต้นกำเนิดของเจ้าหนอนชนิดนี้อยู่ที่ประเทศปาปัวนิวกินี แต่ทางสำนักข่าวของอเมริกาคาดว่ามันจะติดมากับตู้คอนเทนเนอร์สินค้าทางเรือ และมาแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วในประเทศสหรัฐอเมริกา รูปร่างของหนอนตัวนี้จะเป็นเหมือนใบไม้แบนๆ และมีสีดำ ซึ่งถ้าไปสัมผัสมันเข้า มันจะหลั่งสารพิษที่ร้ายแรงขนาดทำให้เนื้อเยื่อของเราตายทันที เนื่องจากมันมักจะตกเป็นอาหารของเหล่าหนู และสามารถแพร่เชื้อผ่านทางพยาธิตัวกลมได้ ถ้าเกิดมนุษย์ไปสัมผัสเข้ากับหนู ก็มีโอกาสที่จะถูกพิษของเจ้าหนอนชนิดนี้ไปด้วยได้นั่นเอง เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าออกมายืนยันและเตือนแล้วว่าให้หลีกเหลี่ยงการเข้าใกล้หนอนชนิดนี้ พร้อมกับกำลังหาว่าแหล่งที่อยู่หลักปัจจุบันในอเมริกาตอนนี้ของพวกมันอยู่ที่ไหน แล้วจะรับมือกับพวกมันยังไง และด้วยการที่มันเข้ามาอยู่ในเมืองแบบนี้ ซึ่งต่างจากถื่นที่อยู่ของมันที่มีศัตรูโดยธรรมชาติอยู่ ทำให้มันกลายเป็นนักล่าแทนที่สัตว์อื่นๆ ในระบบนิเวศ และเริ่มที่จะเป็นอันตรายกับเหล่าหอยทากและกิ้งก่าในตัวเมือง ปิดท้ายด้วยคลิปข่าวจากช่อง FOX 4 Now เล่าถึงการระบาดของเจ้าพวกนี้ ที่มา viralnova
-
15 เหล่าสัตว์จอมทำลายล้าง ที่สร้างความบรรลัยให้กับข้าวของในบ้าน เจองี้ก็เครียดดิ!!
สำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงเอาไว้ในบ้าน ย่อมรู้กันดีว่าการรับมือกับตัวป่วนเหล่านี้เป็นเรื่องที่ยากเย็นขนาดไหน สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์กับเรื่องเหล่านี้ล่ะก็ วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาไปชมให้เห็นกับตา แล้วจะต้องร้องอุทานขึ้นมาในใจเลยว่า ‘ความบรรลัยมีอยู่จริง!!’ 1. สองพี่น้องแมวเหมียว และเจ้าหมาจอมแสบที่แทะหมอนเจ้านายของมันซะกระจุย!! 2. เมื่อเพื่อนของฉันมาบ้านแล้วก็จ๊ะเอ๋เข้ากับเจ้า Peter ที่กำลังทำลายข้าวของอย่างสนุกสนาน 3. ไปดูหนัง 3 ชั่วโมง พอกลับมาที่บ้าน…. 4. และตอนนี้เจ้าเหมียวทั้งสองตัวก็เริ่มเรียนรู้ที่จะเล่นสนุกกับม้วนกระดาษทิชชู่แล้ว 5. ยัง ยังมาทำหน้าระรื่นอยู่อีก!! 6. ต่อแต่นี้ไปเราคงไม่มีหมอนให้นอนหนุนแล้วสินะ 7. หลังจากทำความสะอาดไปได้ 24 นาที เจ้าเหมียวพวกนี้ก็ล่อเข้าให้ 8. ลูกๆ ของฉันพยายามที่จะหาวิธีเปิดม่าน เพื่อจะได้มองเห็นข้างนอก และนี่คือสิ่งที่พวกมันทำ 9. ทิ้งไว้ให้อยู่บ้านไม่กี่นาทีก็กลายเป็นแบบนี้เลย 10. อ่ะ เอายังไงล่ะทีนี้!? 11.…
-
นักวิทย์เผยผลวิจัย เจ้าเหมียวก็ชอบเข้าสังคม-คลอเคลียมนุษย์ มากกว่าชอบกินอาหารซะอีก!!
สำหรับคนที่เลี้ยงแมว น่าจะเคยสังเกตุว่าทุกครั้งที่เรากลับมาบ้าน มันดูจะดีใจหรือแสดงความรู้สึกกับเราต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเข้ามาถูข้อเท้าเรา หรือเข้ามานอนด้วยเวลาที่เราล้มลงบนที่นอน ซึ่งคนที่ไม่ได้เลี้ยงแมวก็คงจะคิดว่าพวกมันไม่มีทางแบบนั้นแน่ๆ เพราะมีความคิดกันมานานว่าแมวเป็นสัตว์ที่ออกจะหยิ่งๆ ไม่ค่อยชอบปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์สักเท่าไร แต่ความคิดนี้ก็ตกไปในที่สุดเพราะว่าได้มีผลวิจัยจากเว็ปไซต์ sciencedirect ออกมาบอกว่าแมวเป็นสัตว์ที่นิสัยดีและชอบเข้าสังคมเอามากๆ เลยล่ะ จากการทดสอบนำแมว 50 ตัว ทั้งที่เป็นแมวเลี้ยงจากบ้านของพวกมันรวมถึงทั้งจากสถานพักพิงสัตว์ด้วย หลังจากนำพวกมันมาอยู่รวมกันแล้วก็ปล่อยให้ในห้องนั้นมีแต่พวกแมวเหมียว ไม่มีอาหาร ไม่มีของเล่นเป็นระยะ 2-3 ชั่วโมง หลังจากนั้นพวกเขาก็ลองทดสอบกระตุ้นมันด้วย 3 สิ่ง ประกอบด้วยมนุษย์ อาหาร และของเล่น แน่นอนว่าส่วนใหญ่จะเลือกปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ที่เข้าไปหา และมีเพียง 37% เท่านั้นที่จะเลือกอาหารโดยไม่สนใจมนุษย์ นักวิจัยยังพูดเพิ่มเติมว่า “ถึงสังคมจะบอกเสมอว่าแมวเป็นสัตว์ที่มีความเป็นตัวเองสูง แต่เรากลับพบว่า 50 % ของแมวทั้งหมดที่นำมาทดสอบจะมีการโต้ตอบต่อการกระตุ้นจากมนุษย์ แม้ว่าพวกจะมีทางเลือกให้ปฏิสัมพันธ์มากกว่าสามทางเลือก แต่มันก็ยังเลือกที่จะตอบรับต่อการกระตุ้นจากมนุษย์มากกว่าสิ่งอื่นๆ” “ยิ่งเราวิจัยเรื่องของพวกมันมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเห็นถึงความสามารถในการแก้ปัญหาต่างๆ ของพวกมัน อย่างไรก็ตามความเชื่อที่ว่าพวกมันหยิ่งและไม่สามารถจะฝึกได้นั้น อาจจะมาจากที่เราไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกมันต้องการ และนี่ก็น่าจะเป็นตัวกระตุ้นยอย่างดีที่ทำให้พวกเราศึกษามันต่อไป” ถึงแม้แมว 50 ตัวที่นำมาทดสอบอาจจะไม่ได้จัดอยู่ในจำนวนที่ใหญ่มากๆ จนถึงสามารถยืนยันแมวทั้งโลกได้ แต่มันก็น่าจะเป็นก้าวแรกที่ดีในการศึกษาและบอกได้ว่า…
-
เจ้าหมาโกลเด้นยอมไม่ได้ เมื่อ “ตุ๊กตาหมีตัวโปรด” ของมัน ถูกเอาไปซักโดยไม่บอก!!
เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยมีสิ่งของต่างๆ ที่ใช้กันมาตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้วเราก็ยังห่างมันไม่ได้ และเราจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องของเหล่านั้นง่ายๆ อย่างแน่นอน ซึ่งเจ้าโกลเด้นในเรื่องนี้ก็เช่นกัน!! พี่หมีไปอยู่ที่ไหนกันนะ..หรือว่าจะอยู่ในนั้นกันนะ เจ้าโกลเด้นตัวนี้มันมีตุ๊กตาหมีคู่ใจอยู่ตัวหนึ่ง แต่แล้วอยู่ดีๆ ตุ๊กตาของมันก็หายไป มันจึงยอมไม่ได้ต้องออกตามหาตุ๊กตาของมัน แน่นอนว่าคนที่เอาไปก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็เจ้าของมันนั่นเอง เพราะเธอคงเห็นว่ามันสกปรกมากแล้วก็เลยเอาไปซัก แต่ดันลืมถามความเห็นเจ้าของมันไปซะได้ ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นภาพเหตุการณ์ที่เจ้าโกลเด้นออกตามหาหมีเพื่อนรักยกใหญ่…. ไหนดูสิ พี่หมีอยู่ในนี้ไหม เอ…..อ๊ะ หรือว่านั้นจะเป็นพี่หมี!! ว่าแต่มันของที่มันก้มลงไปคาบมาจะใช่พี่หมีหรือเปล่านะ!!? สุดท้ายมันก็ได้พี่หมีคืนไป แบบที่ไม่ต้องเหนื่อยมากมายเล๊ยยยยย ก็ถือซะว่าเป็นโมเม้นต์น่ารักๆ ของเจ้าโกลเด้นตัวนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยแอบถ่ายสัตว์เลี้ยงของเราเองกันบ้างแหละ ถ้าใครมีคลิปหรือช่วงเวลาดีๆ ของเหล่าสัตว์สุดแสนน่ารัก ก็อย่าลืมเอามาแชร์กันได้นะเหมียว แล้ว #เหมียวมู่ทู่ จะรอดูนะจ๊ะ ที่มา simon bromfield
-
คู่รักมองเห็นวัตถุประหลาดบนถนน อ่าว… นั่น “แมวโดนม้วนเทปรัดคอ” ต้องช่วยมันด่วนแล้ว!!
เหตุการสุดอันน่าเป็นห่วงเมื่อเจ้าแมวสีส้มตัวหนึ่งถูกพบเจอในขณะคอของมันมีม้วนเทปพันคอมันอยู่ และมันก็ดูทรมานมากๆ จากสิ่งทีอยู่ตรงคอมัน แต่ในท้ายที่สุดทีมช่วยเหลือสุดใจดีก็เข้ามาช่วยมันได้สำเร็จและทำให้มันกลับรู้สึกดีอีกครั้ง เรื่องทั้งหมดมันเริ่มที่เจ้าเหมียวสีส้มตัวนี้ถูกพบบริเวณข้างถนนในแคลิฟอร์เนีย พร้อมกับม้วนเทปที่ใช้แล้วอยู่ที่คอของมัน ซึ่งผู้คนมากมายพยามที่จะจับและช่วยเหลือมันคนแล้วคนเล่า ทว่าทำยังไงก็ไม่สำเร็จเสียที จน Kimberly Saxelby และ Chris Gattas ก็ตัดสินใจว่าต้องออกไปช่วยเหลือเจ้าเหมียวตัวนี้กลับมาให้ได้ ซึ่งวันที่พวกเขาออกไปช่วยเหลือเจ้าเหมียวตัวนี้ตรงกับวันวาเลนไทน์พอดี โดย Kimberly ได้เล่าถึงเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือว่า “เมื่อพวกเราไปถึง พวกเราได้เอากรงไปวางไว้ห่างจากมันไม่ถึงเมตร ในขณะที่มันยังหลบอยู่ใต้ท้องรถด้วยความกลัว พวกเราเฝ้ารอจนกว่ามันจะออกมาเป็นเวลานานกว่าชั่วโมง จุดสุดท้ายพวกเราก็ตัดสินใจจะจับมันด้วยตะข่าย” “หลังจากที่พยามจับเจ้าเหมียวอยู่พักใหญ่ๆ Chris ก็จับมันได้สำเร็จ แน่นอนว่าด้วยความกลัวเจ้าเหมียวก็พยามที่จะหนีออกไปตะข่ายของเขาอย่างสุดความสามารถ” หลังจากที่เจ้าเหมียวเริ่มใจเย็นลงแล้ว พวกเขาก็พามันไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์ Rancho Cucamonga และพวกเขาก็เริ่มการรักษาเจ้าเหมียวทันที จากการคาดเดาม้วนเทปน่าจะติดอยู่กับคอของมันมานานกว่าเดือนแล้ว “ตอนแรกเราไม่รู้เลยว่าสภาพมันแย่ขนาดไหน จนเราถอดม้วนเทปนั้นออกมาได้ น้ำตาฉันถึงกับไหล ฉันคิดสภาพไม่ออกเลยว่ามันจะเจ็บปวดขนาดไหนตลอดเวลาที่ผ่านมา มันไม่สามารถจะดื่มหรือกินอะไรได้เลยในตอนที่ม้วนเทปยังอยู่ที่คอของมัน” . หลังจากทีมแพทย์ของสถานพักพิงสัตว์ ทำการรักษาเจ้าเหมียวผู้น่าสงสารตัวนี้เรียบร้อย มันก็สามารถที่จะกลับไปกินข้าวกินน้ำได้ดั่งเดิม และสภาพของมันค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่ใครก็คาดไม่ถึง “พวกเราตั้งชื่อมันว่า วาเลนไทน์ ตามชื่อวันเดียวกับที่พวกเราช่วยมัน” ถึงแม้มันจะได้รับการรักษาแล้ว…
-
รวม 26 เหล่าสัตว์โลกจอมเกรียน ไม่สนโลกหรือตั้งใจกวนทีน เล่นแบบนี้ฉะกันซักฝุ่นมั้ย!?
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา #เหมียวหง่าว ได้นำเสนอภาพของเหล่า มนุษย์ผู้ไม่สนโลก กันมาแล้วแน่นอนว่ามันตลบอบอวลไปด้วยความฮา แน่นอนว่าเหล่าสัตว์เองก็ไม่ยอมน้อยหน้า ที่จะมาเรียกความฮาด้วยคอนเซ็ปต์ ‘ไม่สนโลก’ ใครจะเด็ดกว่ากันลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้าาา… 1. มนุษย์ : วันนี้ข้าพาเอ็งมาฝึกว่ายน้ำนะเฟร้ยยย ว่ายเข้าไปสิ เจ้าหมา : จะว่ายไปทำไมก็ในเมื่อลอยอยู่เฉยๆ แบบนี้มันสบายกว่าอ่ะ 2. เอ็งจีเนียสมากเจ้าเป็ด ไม่ต้องว่ายน้ำให้เหนื่อย 3. ฮะ เฮ้ย!! ใครบอกให้เอ็งเดินผ่านฟร๊ะ!? 4. กลัวอะไรกะอิแค่จระเข้… 5. ทำไมอ่ะ มีอะไรข้องใจรึไง?? 6. เจ้าเหมียวที่อยู่ในโบสถ์ 7. แล้วไงอ่ะ ก็จะกินอ่ะ 8. แหม่ ความพยายามของเอ็งนี่สุดยอดจริงๆ ขอซูฮกเลย 9. กวาง!? 10. เอ็งจะมาโชว์เซ็กซี่อะไรบนนี้ฟร๊ะ คนเค้ากำลังจะดินเนอร์กัน 11.…
-
มิตรภาพต่างสายพันธุ์ ‘วัวไซม่อน และ เต่าลีโอนาร์โด้’ ที่กลายเป็นเพื่อนซี้ ไม่ยอมห่างกัน
เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าเต่าตัวเบิ้ม และเจ้าวัวหนุ่มพิการ ที่แม้จะต่างเผ่าพันธุ์ แต่พวกมันก็สามารถกลายเป็นเพื่อนซี้กันได้… เจ้าเต่าเดือยแอฟริกันชื่อว่า Leonardo อาศัยอยู่ที่มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ในประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี มาตั้งแต่ปี 2013 แล้ว หลังจากที่สวนสัตว์ที่เป็นที่อยู่อาศัยเดิมของมันถูกปิดตัวไปจึงทำให้มันกลายเป็นสัตว์เร่ร่อน ไม่กี่ปีต่อมาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 ก็มีเพื่อนใหม่เข้ามาอยู่ด้วยที่ศูนย์ช่วยเหลือ แต่ไม่ได้เป็นเต่าเหมือนกับเจ้า Leonardo นะเพราะสัตว์ที่เข้ามาใหม่น่ะมันคือวัวหนุ่มที่ชื่อว่า Simon ที่ถูกช่วยเหลือมาหลังจากที่มันถูกพาออกไปทำงานที่ไร่ แล้วเกิดอุบัติเหตุขาไปติดกับต้นไม้ จนทำให้มันต้องเสียขาไป 1 ข้าง ทางมูลนิธิจึงได้มอบขาเทียมให้กับมัน และตั้งใจที่จะพามันไปแนะนำให้รู้จักกับเหล่าวัวตัวอื่นๆ ที่อยู่ในศูนย์ช่วยเหลือ เพื่อให้มันได้มีเพื่อน เจ้าหน้าที่ตั้งใจที่จะพามันไปอยู่ในบ้านที่ทำเอาไว้สำหรับวัวโดยเฉพาะ ร่วมกับเจ้าวัวอีก 2 ตัวที่ถูกช่วยเหลือมาไว้ที่นี่ก่อนหน้านี้ แต่หลังจากที่เจ้า Simon ได้พบกับ Leonardo ทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันซะงั้น ตั้งแต่ที่ได้เจอกันพวกมันก็ไม่ยอมแยกห่างจากกันอีกแลย โดยเฉพาะเจ้า Simon ที่ดูเหมือนจะเป็นฝ่ายที่ถูกอกถูกใจเจ้า Leonardo เป็นพิเศษ และมักจะมอนานเล่นด้วยอยู่ทั้งวันไม่ยอมไปไหน …
-
เจ้าของร้านขายผ้า อีกร่างก็คือทาสแมว สร้าง “สถานพักพิงแมวจร” อยู่กลางตลาดซะเลย
ปกติแล้วหากให้นึกถึงบ้านหรือสถานรับเลี้ยงแมวจรจัด มันก็จะต้องเป็นบ้านที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง อาจจะนอกเขตเมืองนิดหน่อย เพื่อจะได้ไม่สร้างความรำคาญให้คนโดยรอบและมีพื้นที่ให้พวกมัน แต่ใครจะคิดว่ามันจะมาอยู่กลางตลาดในเมือง Agadir ประเทศโมร็อคโค ซึ่งสถานเลี้ยงแมวแห่งนี้ดำเนินงานโดยคุณ Nour Eddine ชายเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าที่นี่นั่นเอง ที่พักที่ว่านี้ ไม่ได้เป็นที่พังขนาดใหญ่หรือเป็นอาคารแต่อย่างใด แต่มันเป็นเพียงสวนเล็กๆ ที่ล้อมรั้วไว้เท่านั้น และภายในที่พักก็จะมีแมวอยู่เต็มไปหมด แน่นอนว่ามันทำให้คนที่เดินผ่านไปมาในตลาดรู้สึกสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว โดยปกติแล้วนอกจากการดูแลร้านคุณ Nour ก็จะหมั่นมาดูแล้วเจ้าพวกแมวเหมียวนี้บ่อยๆ ซึ่งแมวจรจัดบางตัวก็เคยอยู่ในสภาพที่แย่มากๆ มาก่อน แต่ว่าเขาก็คือคนที่ชุบชีวิตพวกมันให้กลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง นอกจากนี้ เขายังคอยควักกระเป๋าออกค่ารักษาพยาบาลเมื่อพวกมันป่วย แถมยังทำหมันแมวตัวเมีย เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันเพิ่มจำนวนมากขึ้นโดยไม่จำเป็นอีก แต่ว่าเขาก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนที่ต้องออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างด้วยตัวเองเสมอหรอกนะ บางครั้งคนที่เดินผ่านไปมาก็เข้ามาที่ร้านช่วยบริจาคเงินให้กับเขา เพื่อที่เขาจะได้นำเงินไปดูเจ้าเหมียวจรจัดทั้งหลายนั่นเอง ส่วนถ้าใครสงสัยว่าแล้วเขาต้องดูแลร้านค้าของตัวเองอยู่แล้ว เขาเอาเวลาไหนไปดูเจ้าเหมียวพวกนี้กัน คำตอบก็คือ… เขาให้ลูกชายของเขาช่วยดูแลร้าน เพื่อที่เขาจะได้มีเวลามาดูแลพวกมันนั่นเอง ซึ่งเขาก็ได้บอกปิดท้ายว่า “บ้านของผมก็เลี้ยงแมวเต็มไปหมด ขณะที่เจ้าเหมียวในละแวกบ้านก็เหมือนจะชอบมาที่บ้านของผมด้วย พวกมันรอจนผมกลับมาบ้าน และล้อมรถเมื่อผมไปถึง… ผมมักจะมีอาหารแมวติดรถกลับบ้านด้วยเสมอ และทุกครั้งผมจะไม่ได้เข้าบ้านจนกว่าจะให้อาหารแมวเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว พวกมันไม่มีทั้งบ้านและเจ้าของ ฉะนั้นการดูแลและให้อาหารพวกมันจึงเป็นหน้าที่ของผม” . ขนาดกรอบรูปในร้านยังเป็นรูปแมว ก็ไม่ต้องสงสัยความเป็นทาสแมวของแกแล้วล่ะ ที่มา lovemeow
-
ชาวมหาลัย Houston สุดเศร้าเมื่อ “กระรอกนำโชค” สัญลักษณ์ของที่นี่ ได้จากไป…
ในหลายสถานที่เช่นที่ทำงาน โรงเรียน หรือสถานที่ราชการต่างๆ มักจะต้องมีสัตว์หรือสิ่งของที่เป็นเหมือนตัวแทนสถานที่แห่งนั้นแน่ๆ แต่เมื่อสัตว์หรือสิ่งของเหล่านั้นได้ตาย สูญหายหรือถูกย้ายที่ไป ย่อมสร้างความเสียใจต่อผู้คนที่อยู่ในสถานที่แห่งนั้น เหมือนกับเรื่องราวแสนเศร้าเจ้ากระรอกหางขาวอันเป็นที่รักและเป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยฮูสตัน ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่จู่ๆ ต้องมาจากพวกเค้าไป… เมื่อวันอังคารที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมาแฟนเพจของมหาวิทยาลัย ได้ประกาศแสดงความเสียใจต่อการจากไปของเจ้ากระรอกหางขาวนี้ ซึ่งอาจจะดูแปลกนิดหน่อยแต่เจ้ากระรอกตัวนี้ไม่ใช่สัตว์ธรรมดา เพราะมันเป็นสัตว์นำโชคของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ นาย Robert หนึ่งในนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮิวสตันบอกว่า “เจ้ากระรอกตัวนี้เป็นเหมือนหนึ่งตำนานของที่นี่เลย เชื่อกันว่าถ้าคุณได้พบเห็นมันก่อนสอบจะทำให้คุณได้ A” หลังจากที่การตายของเจ้ากระรอกนำโชคนี้แพร่ไปทั่วมหาวิทยาลัย ก็มีผู้คนจำนวนมากมายมาร่วมรำลึกกับการจากไปของมันในจุดที่มักจะพบเจ้ากระรอกได้บ่อยๆ ส่วนนาย Daniel Oatman นักศึกษาคณะสถาปัตยกรรม เป็นอีกหนึ่งคนที่มีความผูกพันธุ์กับเจ้ากระรอกนี้ เธอบอกว่า “เจ้ากระรอกตัวนี้ดูน่ารักมาก ฉันพบมันครั้งแรกเมื่อตอนอยู่ปี 3 ฉันตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้พบกับกระรอกชื่อดังแห่งฮิวสตันนี้ การจากไปของมันจะทำให้พวกเราคิดถึงมันมาก” สิ่งของมากมายที่นำมาร่วมไว้อาลัย แสดงให้เห็นว่ามันเป็นที่รักของคนในมหวิทยาลัยมากขนาดไหน แต่การจากไปของเจ้ากระรอกไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้นเพราะว่าตอนนี้ได้มีการระดมเงินผ่านเว็บไซด์ gofundme เพื่อที่จะใช้ในการจัดการศพของเจ้าสัตว์นำโชคนี้อย่างสมเกียรติ นอกจากนั้นพวกเขายังต้องการที่สร้างอนุสรณ์และเก็บร่างของมันเอาไว้ใต้นั้น เพื่อที่ว่าเวลาคนที่ผ่านไปมาจะได้อาศัยความโชคดีจากมันด้วย โดยหนึ่งในผู้ระดมทุนครั้งนี้กล่าวว่า “เราคิดว่าการสร้างอนุสรณ์ให้กับมัน จะทำให้มันกลายเป็นอีกหนึ่งของตำนานในมหาวิทยาลัย ซึ่งพวกเราคิดว่าการทำแบบนี้จะเป็นการแสดงถึงสิ่งที่เจ้ากระรอกอยากจะมอบให้เรา นั่นก็คือความโชคดีนั่นเอง” น่ายินดีกับเจ้ากระรอกตัวจริงๆนะเนี่ย ที่ถึงแม้จะจากโลกนี้ไปแล้วแต่ผู้คนในมหาวิทยาลัย Houston ก็ยังไม่ลืมมัน…
-
ทำความรู้จัก “พี่โบน” แมวเซเลบหุ่นหมีขนปุย น่ารักซะจนโด่งดังไปต่างประเทศ…
สำหรับเรื่องราวของเจ้าเหมียวเซเลบนั้นยังมีมาไม่ขาดสายและไม่ซ้ำหน้าจริงๆ มาในรอบนี้เป็นคิวของเจ้าเหมียวจากประเทศไทยกันบ้าง ซึ่งดังขนาดที่ว่าแฟนเพจและเว็ปไซต์เมืองนอกเอาไปแชร์และทำข่าวกันเต็มไปหมด เจ้าเหมียวตัวว่านั่นก็คือ พี่โบน นั่นเอง เขาเป็นเปอร์เซียไทยผสมญี่ปุ่น ตอนนี้อายุ 5 ปี และด้วยความน่ารักขนฟูตัวอ้วนของพี่โบน ก็ไม่ยากเลยที่จะเข้าไปครองใจคนที่พบเห็นได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ส่วนจุดเริ่มต้นความดังของตัวพี่โบนนั้น เริ่มต้นมาจากการที่เจ้าของพี่โบนได้เอาภาพของพี่โบนไปโพสต์ไว้ในกลุ่มคนรักแมว หลังจากนั้นผู้คนก็ต่างพากันชอบยกอกชอบใจกันยกใหญ่ แถมยอดกดไลก์รูปของพี่โบนก็อยู่อันดับต้นๆ ตลอด จนเริ่มมีฐานแฟนคลับมาจากในนั้น พอกระแสนิยมของพี่โบนมากขึ้นๆ ทางแฟนคลับของพี่โบนก็เลยแนะนำให้เจ้าของตั้งแฟนเพจขึ้นมาเพื่อง่ายต่อการติดตามความน่ารักของพี่โบน ทางเจ้าของบอกว่าเพจได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 6 พฤษภาคม ปี 2557 ซึ่งตอนแรกเพจมีชื่อว่า bonebone29 ส่วนเลข 29 ข้างหลังก็มาจากปีเกิดของเจ้าของนั่นเอง ตอนแรกเจ้าของก็ไม่ได้คิดว่ากระแสนิยมของพี่โบนจะเปรี้ยงปร้างขนาดนี้ จนมาเปลี่ยนชื่อเพจเป็นพี่โบนในปี 2559 นี่เอง จนกระทั่งมีเว็บไซต์วาไรตี้และข่าวต่างประเทศ คงจะเห็นว่ามีกระแสและโด่งดัง จึงหยิบไปทำข่าว ทีนี้อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าคนต่างชาติเค้าตอบรับกันยังไง… อย่างคนนี้ถึงกับจะจองตั๋วมาไทยเลยทีเดียว แถมยังมีคนคิดเหมือนกันบอกให้จองมาสองใบเลยอีกต่างหาก ส่วนคนนี้ถึงกับยอมแพ้กับความฟูของพี่โบน เธอคนนี้ถึงกับอยากลักพาตัวพี่โบนเลยทีเดียว เอาเป็นว่าเกริ่นกันมาขนาดนี้แล้ว เรามาดูความน่ารักของพี่โบนกันแบบจัดเต็มเลยดีกว่า พี่โบนอยากจะปีนต้นไม้… แน๊ะ มองอะไรน่ะพี่โบน…
-
โถ.. นังแรด!! ชาวเน็ตแอบยิ้ม เมื่อเจ้าแรดเดินเข้าหาช่างภาพ ขอให้เกาพุงหน่อย
ปกติแล้วสัตว์จำพวกหมาแมว มักจะชอบให้เราเกาท้องให้มันอยู่บ่อยๆ รวมถึงสิงโต หรือกระทั่งเสือบางตัวก็จะชอบเช่นกัน แต่ใครจะรู้ไหมว่า นอกจากสัตว์ขนปุยพวกนั้นแล้ว “แรด” ก็ชอบให้เกาท้องเหมือนกันนะ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับ Garth De Bruno Austin ตากล้องในแอฟฟริกา ซึ่งเขาเดินทางไปถ่ายทำสารคดีที่ชื่อว่า Disunity และต้องใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานพอสมควรในการถ่ายทำ ซึ่งมันนานพอที่เขาจะได้รับความเชื่อใจจากแรดป่าตัวหนึ่งเลยล่ะ ซึ่งเจ้าแรดตัวนี้มันชอบที่จะเดินมาหาเขาและให้เขาลูบท้องให้อยู่บ่อยๆ เขาบอกว่า “ผมโชคดีที่ได้ใช้เวลาถ่ายทำสารคดีของผมอยุ่ที่นี้เป็นเวลาหลายปี ซึ่งสารคดีที่ผมทำมันก็เกี่ยวกับการลักลอบตัดนอแรดนั่นเอง เลยทำให้ผมได้ใช้เวลาอยู่กับมันบ่อยๆ” ดูมันจะชอบมากๆ เลยนะเนี่ย น่ารักเชียว “กับแรดตัวนี้ผมไม่ได้เป็นคนที่เข้าไปหามันเลยนะ มันเข้ามาหาผมเองบ่อยๆ และมันชอบที่จะให้ผมลูบท้อง ซึ่งถ้ามันรู้สึกพอใจเมื่อไหร่ มันก็จะเดินจากไปอย่างเงียบๆ เพื่อกลับเข้าที่ทุ่งหญ้าของมัน” ดูเขาก็จะชอบลูบให้มันเหมือนกันนะ เพลินทั้งคู่เลย “ผมไม่แนะนำให้ใครลองทำตามหรอกนะ เพราะจริงๆ แล้วแรดป่าเป็นสัตว์ที่โหดร้ายพอสมควร มันมีแรงพอจะทำให้คนเสียชีวิตได้ ถ้าโชคร้ายคุณอาจจะถูกพวกมันฆ่าก็ได้นะ” ถ้าสังเกตุดีๆ เราจะเห็นว่าเจ้าแรดตัวนี้มันถูกเคยตัดนอโดยพวกลักลอบมาแล้วครั้งหนึ่ง ถ้าสังเกตุจากรูปเราจะเห็นว่าแรดตัวที่เข้ามาหา Garth นั้นไม่มีนอ ซึ่งเขาบอกว่ามันถูกพวกลักลอบตัดนอของมันไป แต่โชคดีที่มันยังรอดมาได้ และไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะว่าตอนนี้มันรวมถึงแรดตัวอื่นๆ…
-
หญิงสาวขับรถผ่าน “ร้านขายเนื้อสุนัข” เธอทนไม่ไหว ลงทุนจ่ายเงินต่อชีวิตมันอีกครั้ง…
เราน่าจะรู้กันดีว่า สุนัขคือสัตว์ที่ชาวเกาหลีชื่นชอบนำมากินเป็นอาหารอยู่บ่อยๆ ซึ่งนอกจากการเอาไปทำอาหารแล้วสุนัขในเกาหลียังถูกนำไปทำเป็นยาชูกำลังอีกด้วย ด้วยเหตุนี้จึงก่อให้เกิดการค้าสุนัขเพื่อใช้ในการกินขึ้นมา ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Jiyoon Yi หญิงสาวชาวเกาหลีได้… เธอได้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับตลาด Daegu ในเกาหลีใต้ ว่าคำร่ำลือแห่งแหล่งขายเนื้อสุนัขแห่งนี้มันเป็นจริงหรือไม่!? เมื่อเธอไปถึง เธอได้มองเห็นบางอย่างที่บาดหัวใจเธอเป็นอย่างมาก ซึ่งมันเป็นภาพหน้าร้านขายสุนัขแห่งหนึ่ง ที่มีแม่สุนัขและลูกของมันอีก 5 ตัว กำลังอยู่ในกรงเหล็กหน้าร้าน ซึ่งเต็มไปด้วยสนิมเขรอะ แล้วเธอก็ต้องตกใจเมื่อรู้ที่ร้านแห่งนี้ไม่ได้ขายสุนัขเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง ทว่าเพื่อนำมันมาเป็นยาชูกำลังต่างหาก ชาวเกาหลีเชื่อว่าสุนัขมีสรรพคุณทางยาที่ดีมากๆ แน่นอนว่าพวกมันต้องถูกฆ่า หลังจากนั้นเนื้อสุนัขจะถูกต้มเป็นเวลาเกือบชั่วโมงพร้อมสมุนไพร จนกระทั่งกลายเป็นน้ำซุปสุนัขสำหรับขายให้ลูกค้าต่อไป ภาพของเจ้าหมาที่ทำให้เธอรู้สึกว่าต้องยื่นมือเข้าไป Ek Park เป็นผู้ก่อตั้ง Free Korean Dogs องค์กรช่วยเหลือจากการค้าสุนัขบอกว่า “มันคงจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน แม้ว่าจะพูดภาษาอังกฤษหรือเกาหลีไม่ได้ แต่พวกมันก็รู้ว่าพวกมันอยู่ที่ไหน” “สุนัขเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนไหวและทั้งสั่นกลัวเกิดความหวาดกลัวอย่างมากเนื่องจากอาจจะเห็นสุนัขตัวๆ อื่นๆ รับชะตากรรมอันโหดร้าย” เมื่อ Yi กลับมาถึงบ้านเธอไม่สามารถที่จะหยุดคิดภาพที่เธอเห็นได้ ด้วยเหตุนั้นเธอก็เลยกลับไปที่ร้านและยอมที่จะจ่ายเงินเพื่อให้เจ้าสุนัขทั้งหลายได้เป็นอิสระ แต่เมื่อเธอไปถึงสิ่งที่พบคือแม่สุนับที่อยู่ในกรงได้หายไปเรียบร้อยแล้ว อาจจะเป็นไปได้ว่ามันถูกฆ่าตายไปแล้วก็ได้ แต่ก็ยังโชคดีที่ลูกสุนัขยังอยู่ ยังไงก็ตามการซื้อลูกสุนัขออกมาก็ไม่ได้ช่วยให้เจ้าของร้านหยุดการกระทำเหล่านี้ได้ เพราะถ้าลูกสุนัขตัวหนึ่งหายไป เจ้าของร้านก้จะไปตามหาสุนัขตัวอื่นเพื่อเอามาทำเป็นยาอยู่ดี Yi…
-
นักวิทย์ค้นพบ “เสือแทสเมเนีย” อีกครั้ง หลังจากคาดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วกว่า 80 ปี!?
ถ้าพูดถึงสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วเราก็มักจะนึกถึงสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่จากไปแล้วมากกว่าพันปี หรือเป็นล้านๆ ปีอย่างไดโนเสาร์หรือสิ่งมีชีวิตยุคก่อน แต่ถ้าเราพูดถึงสิ่งมีชีวิตที่พึ่งสูญพันธุ์ไปในรอบร้อยปีที่ผ่านมาบ้างล่ะ!? ตัวที่เราจะพูดถึงวันนี้ก็คือ… เสือแทสเมเนีย พวกเราจะรู้สึกคุ้นชื่อบ้างไหม? ถ้าไม่ มันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะเสือพันธุ์นี้สูญพันธุ์ไปแล้วกว่า 80 ปีนั่นเอง แต่ถึงแม้มันจะขึ้นชื่อว่าเสือ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว หน้าตาของเจ้าเสือพันธุ์นี้มันจะออกไปทางหมาที่เรารู้จักกันเสียมากกว่า ไม่เชื่อลองดูรูปก่อนสิ เสือแทสเมเนีย มีถิ่นฐานอยู่ในรัฐแทสเมเนีย ของออสเตรเลีย และบางส่วนของนิวกินี ลักษณะเด่นของมันก็คือใบหน้าที่จะคล้ายกับสุนัขและมีส่วนกลางตัวไล่ไปถึงหางจะเป็นลายคล้ายกับเสือโคร่ง เสือพันธุ์นี้ยังเป็นเสือที่มีกระเป๋าหน้าท้องคล้ายกับจิงโจ้อีกด้วย แถมยังเป็นสัตว์กินเนื้อที่มีประเป๋าหน้าท้องที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ส่วนสาเหตุการสูญพันธุ์ของเสือสายพันธุ์นี้ส่วนใหญ่นั้นยังไม่แน่ชัด แต่ทว่าเสือตัวสุดท้ายที่ชื่อว่า เบนจามิน ซึ่งอยุ่ในสวนสัตว์โฮบาร์ตประเทศออสเตรเรีย ได้เสียชีวิตลงในปี 1936 หลังจากนั้นก็ไม่มีใครค้นพบมันอีกเลย ทำให้ทาง IUCN ออกมาประกาศว่าเสือแทสเมเนียได้สูญพันธุ์อย่างเป็นทางการเมื่อปี 1982 แต่แล้วล่าสุดเมื่อปลายปี 2016 ได้มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องติดตามสัตว์ป่าของคณะนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่ง ที่ทำการติดตั้งไว้ในพุ่มไม้ในเขตป่าของรัฐวิคตอเรียทางตอนใต้ของออสเตรเลีย คลิปนี้บันทึกได้เมื่อปี 2008 แต่เพิ่งผ่านการตรวจสอบ วิเคราะห์ และพยายามหาหลักฐานว่ามันคือเสือแทสเมเนียจริงๆ จากในคลิปจะปรากฏเห็นภาพของสัตว์ตัวหนึ่งที่มีรูปร่างเหมือนหมาป่าหรือสุนัขนั่นเอง ซึ่งพอสังเกตุดีๆ แล้วหางของสัตว์ที่ว่ามันมีลักษณะแข็งตรงและยาวมากๆ ทำให้คาดการณ์กันว่านั่นอาจจะเป็นเสือแทสเมเนีย ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป้นทางการว่านั่นคือเสือแทสเมเนียจริงๆ…
-
แม้เวลาผ่านไปนานสักเท่าไร เจ้าหมาตัวนี้ก็ยังชอบ “การกอด” เจ้านายของมันเสมอ….
อย่างที่เรารู้ว่า สุนัขที่กำพร้าหรือถูกทิ้งไว้ที่สถานรับเลี้ยง พอมันเจอเจ้าของใหม่เมื่อไหร่ มันก็จะรักเจ้าของใหม่มากๆ เพราะพวกมันกลัวที่จะถูกทิ้งไปอีกครั้งนั่นเอง Kylo Ren คือชื่อของหมาเจ้าของเรื่องราวทั้งหมดนี้ มันเป็นหมาที่ถูกทิ้งไว้ที่ West Memphis Animal Shelter เมื่อตอนที่มันยังอายุแค่ 10 เดือนเท่านั้น มันเป็นหมาที่น่ารักและนิสัยดี จนกระทั่งความน่ารักของมันไปดึงดูดองค์กรช่วยเหลือสัตว์ ALIVE Rescue Memphis เข้าให้อย่างจัง ซึ่งนี่จะเป็นก้าวแรกของการได้พบกับเจ้าของคนใหม่ของมัน แต่เวลาผ่านไปนานแสนนาน ก็ยังไม่มีใครสนใจที่จะมารับเลี้ยงมันเสียที ซึ่งก็ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไม มันถึงยังไม่ถูกรับไปเลี้ยง แต่แล้วแสงแห่งความหวังของมันก็ส่องสว่างขึ้น มีครอบครัวหนึ่งได้เดินทางมาเพื่อติดต่อขอรับมันไปเลี้ยง โดยพวกเขาเล่าว่า “พวกเราเห็นภาพของเขาบนเฟสบุ๊ค และฉันคิดว่าเขาน่าจะรอวันที่จะได้เจอพวกเรามานานแล้ว เพียงแต่มันอาจจะใช้เวลาไปนานหน่อยเท่านั้นเอง” Meghan Sweers คือชื่อเจ้าของใหม่ของมัน เธออาศัยอยู่กับสามีและสุนัขพันธุ์คอกี้อีกหนึ่งตัวที่ชื่อว่า Nellie พวกเขาก็กล้าๆ กลัวๆ ว่าถ้าเขารับเจ้า Kylo มาแล้วมันจะเข้ากันได้ไหม แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังจะรับมันมาเลี้ยงอยู่ดี และด้วยเหตุนี้ทางอาสาสมัครจึงนำเจ้า Kylo มาส่งถึงบ้านแล้วจากไป ช่วงเวลาที่มันมาถึงมันรู้ได้ทันทีว่านี่และคือบ้านใหม่ของมัน “หลังจากที่เจ้าหน้าที่กลับไป มันก็วิ่งเข้ามานั่งตักฉันทันที พร้อมกับเช้ามาคลอเคลียไม่ห่างเลยล่ะ ช่วงเวลานั้นฉันกับสามีรู้ได้ทันทีเลยว่า…
-
18 การร่วมทำงานกันเป็นทีมเวิร์ค ของทั้งคนและสัตว์น้อยใหญ่ นี่แหละพลังแห่งความสามัคคี!!
เชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคน คงจะเคยได้ยินคำว่า “สามัคคีคือพลัง” กันอย่างแน่นอน เพราะความสามัคคีจะส่งผลทำให้ทุกๆ อย่างที่ตั้งใจทำดำเนินการไปอย่างราบรื่น และสำเร็จได้โดยง่าย และเมื่อไม่นานมานี้ ทางเว็บไซต์เดลีเมลล์ก็ได้ออกมาเผยภาพน่ารักๆ ของทั้งคนและสัตว์ ที่จะมาแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและการทำงานร่วมกันเป็นทีม บอกเลยว่ามีทั้งความฮา ความน่ารัก และความประทับใจแบบเต็มฉบับกันเลยทีเดียว หนูน้อยใจดีมาช่วยเปิดน้ำ เพื่อให้เจ้าหมาได้กินน้ำแก้กระหาย เมื่อน้องเหมียวขาสั้น พี่หมาก็คอยมาเป็นฐานให้น้องได้ปีนขึ้นไป ม้าชื่อ Brenda Lee ได้ลงไปเล่นน้ำกับ Lucy เพื่อนหมาตัวน้อย ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการการบำบัดด้วยสัตว์ที่ชื่อว่า Horses Know the Way Home เป็นการแก้ไขปัญหาที่ยอดเยี่ยมมาก ความน่ารักของพี่สาว และน้องสาว 2 หนุ่มน้อยที่ได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้ายของพวกเขา กำลังใช้คอมพิวเตอร์ด้วยกัน ซึ่งคนหนึ่งเป็นผู้พิมพ์ คนหนึ่งก็ใช้แขนอีกข้างจับเมาส์ พี่หมาใจดีกำลังป้อนนมให้ลูกแกะตัวน้อย ภาพความน่ารักของครอบครัวแรคคูนที่ต่อตัวช่วยลูกน้อยข้ามกำแพง หนูน้อยและเจ้าหมา กำลังช่วยกันล้างจานอยู่ หนุ่มน้อยที่กำลังพลัดกันเล่นวีดีโอเกม …
-
19 ภาพ ‘สัตว์โลกทั้งหลาย’ กำลังวางแผนยึดครองโลกอย่างลับๆ โดยไม่ให้พวกเรารู้ตัว!?
ทั้งมนุษย์และสัตว์ต่างก็อาศัยอยู่ร่วมกันบนโลกอย่างสงบสุขมานานแสนนาน แต่ดูเหมือนว่าปัจจุบันเทคโนโลยีที่เหล่ามนุษย์พัฒนามันขึ้นมาได้พัฒนาไปไกลแล้ว จนอาจทำให้เกิดการรั่วไหลของสารเคมีต่างๆ ส่งผลให้เหล่าสัตว์โลกทั้งหลายมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป พวกมันเริ่มที่จะส่งสัญญาณบางอย่าง เหมือนว่ามันกำลังวางแผนที่จะยึดครองโลกและทวงทุกอย่างที่เคยเป็นของพวกมันคืน จะเป็นอย่างไรบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า 1. พวกมันกำลังรวบรวมกองกำลังกันอยู่อย่างลับๆ 2. เหล่าทหารของพวกมันล้วนแล้วแต่เปี่ยมไปด้วยความดุร้าย 3. สายลับของพวกมันกำลังคอยแอบดักฟังความเคลื่อนไหวของมนุษย์อยู่ 3. ปลอมตัวเข้ามาล้วงข้อมูล 4. เริ่มฝึกเรียนวิชาการต่อสู้ 5. เริ่มหานิ้วมือมาใส่เพื่อเริ่มนับถอยหลังวันที่จะทำการจู่โจม 6. เริ่มซ่องสุมกองกำลัง และฝึการใช้ปืน 7. มีการวางแผนอย่างรัดกุม 8. แปลงร่างของตัวเองให้กลายเป็นขั้นสุดยอดเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง 9. พวกมันเริ่มไม่ยอมทำตามกฎของฟิสิกส์แล้ว 10. และไม่แคร์กฎหมายของมนุษย์ 11. พวกมันเริ่มที่จะสานสัมพันธ์กันในหมู่สัตว์ด้วยกัน 12. ออกเดินลาดตระวานตรวจตราเพื่อป้องกันไม่ให้ใครล่วงล้ำเข้าไปในศูนย์บัญชาการ 13. พวกมันเริ่มที่จะกักตุนเสบียง 14. เดินดุ่มๆ เข้ามาเลือกซื้อในซุปเปอร์มาร์เก็ต…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่น ร่วมกันประกวดภาพ “ดึงแก้มชิบะ” เพื่อพิสูจน์ว่า มันเป็นสัตว์เหนียงยานที่สุดในปฐพี!!
ปกติแล้วเรามักจะชอบเล่นกับสัตว์เลี้ยงของเราพวกแมวหรือหมา ด้วยวิธีการทั่วๆ ไปเช่นเกาท้องเกาคาง ซึ่งมันก็รู้สึกดีในระดับหนึ่ง แต่เชื่อว่าหลายคนน่าจะยังไม่เคยสัมผัสประสบการณ์หยิกแก้มหมาพันธุ์ชิบะอย่างแน่นอน ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องเป็นหมาชิบะล่ะ เป็นพันธุ์อื่นได้ไหม คำตอบก็คือได้ แต่ว่าหมาพันธุ์นี้จะมีแก้มที่เยอะกว่าพันธุ์อื่นๆ ทำให้เวลาที่เราดึงแก้มของมันเราจะรู้สึก นุ่มมมมมม สุดๆ เลยนั่นเอง พูดอย่างเดียวคงคิดภาพไม่ออก ว่ามันนุ่มมมม ขนาดไหนลองดูภาพการหยิกแก้มของพวกมันกันเลยดีกว่า เริ่มกันจากเบาๆ กันก่อน เริ่มเห็นความนุ่มมมม แล้วหรือยัง หน้ามันเริ่มบ่งบอกแล้วว่า “พอใจหรือยังเจ้ามนุษย์” ดูหนังของมันสิ หู้วววว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานการเข้าประกวดในเทรนด์นี้ ตัวนี้แก้มมันใหญ่มากๆ เลยนะเนี่ย อยากจะหยิกมากๆ ดูท่ามันจะสนุกกับมนุษย์ด้วย (รึเปล่านะ!?) หน้ามันบ่งบอกถึงความสนุกที่โดนหยิกสุดๆ เอาที่สบายใจเลย “หยุดนะเจ้ามนุษย์” ไม่มีใครรู้ว่าการประกวดนี้ใครจะเป็นผู้ชนะ แต่ดูเหมือนที่สุดแล้วมันคงเป็นการตอบสนองต่อความสนุกของมนุษย์ ที่ได้จับเจ้าหมาของตัวเองมาลงโทษด้วยการหยิกแก้มให้มันดูหน้าตาตลกเล่นๆ ฮ่าาาาาา เห็นความนุ่มนิ่มของแก้มชิบะกันหรือยัง ดูแล้วมันน่ายิกสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ สงสัยต้องไปหาหมาชิบะมาเลี้ยงไว้สักตัวมั่งดีกว่า จะได้ยิกแก้มนุ่มๆ ของมันทุกวันเลย …
-
และนี่ก็คือออออ 28 โคอาล่าผู้น่ารักที่สุดในโลก และมันทำให้โลกของคุณสดใสทันตา!!
ถ้าพูดถึงสัตว์ในออสเตรเลียนอกจากจิงโจ้แล้ว สัตว์อีกชนิดหนึ่งที่คนจะคิดถึงก็คงจะไม่พ้นเจ้าโคอาล่าสุดน่ารัก ตัวขนฟูดูนุ่มนิ่มอย่างแน่นอน วันนี้เราก็เลยจะมาดูภาพความน่ารักของเจ้าหมีผู้เสพติดใบยูคาลิปตัสกัน ว่าพวกมันน่ารักขนาดไหน แทน แทนนนน แท๊นนนนนน!!! ช่วงเวลาส่วนใหญ่ของมันก็จะนอนหลับนี่แหละ แต่ก็น่ารักเนอะ ว่าไหม จมูกโต ตาโต ขนก็ดูนู่มมมมม น่ากอดสุดๆ ไม่แน่ใจว่ามันหาว หรือมันร้องเพราะกำลังตกลงมากันแน่ ตัวอ้วนน่ารักสุดๆ ใบยูคาลิปตัสของโปรดของพวกมัน กินได้ทั้งวันเลยล่ะ และดูท่าอากาศจะดี จนมันมีความสุขมากๆ ความสามารถในการนอนบนต้นไม้ จัดอยู่ในระดับเวิลด์คลาส เจ้าตัวนี้ดูผอมยาวต่างจากตัวอื่นเลยแหะ ตัวเล็กๆ นอนคุดคู้ ได้ท่าถ่ายรูปแล้ว เอ้าถ่ายสิพวกมนุษย์ เหล่าโคอาล่าตัวน้อย กับเจ้าหน้าที่สุดสวย ถึงตัวเล็ก แต่จมูกยังใหญ่เหมือนเดิม แม่ลูกสุขสันต์ ผู้ช่วยฝ่ายไอที เจ้าตัวนี้ดูโทรมแปลกๆ แฮะ สงสัยไปเล่นซนมาแน่ๆ โคอาล่ามาร์ชชชช…
-
จะเป็นยังไง ถ้าอยู่ดีๆ แมวของคุณก็มีมือเหมือนคนเป๊ะๆ มันจะน่ากลัวหรือจะน่ารักกันนะ!?
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีกระแสหนึ่งในอินเตอร์เน็ต หลังจากที่ยูสเซอร์ทวิตเตอร์คนหนึ่งที่ชื่อว่า @apricotbelly โพสรูปเจ้าเหมียวที่มีมือเหมือนกับคน หลังจากนั้นผู้คนก็ต่างพากันสนอกสนใจยกใหญ่ว่า ทำไมเจ้าเหมียวตัวนี้ถึงมีมือคล้ายคน รวมถึงรู้สึกตลกไปในเวลาเดียวกัน แต่พูดอย่างเดียวคงจะไม่เห็นภาพ เอาเป็นว่าเรามาดูกันก่อนดีกว่า ว่ามือของเจ้าเหมียวที่ว่าเนี่ยมันเป็นยังไง หาววววว มองอะไรเจ้ามนุษย์ มีอะไรแปลกหรือไง ก็แค่อยากจะนอนสบายๆ มีอะไรปะ จ้องอยู่ได้ ยังไม่เลิกจ้องอีกเจ้ามนุษย์ เดี๊ยะตบดิ้น 555 สุดท้าย @apricotbelly เจ้าของทวิตเตอร์ก็บอกว่า เธอไปเจอรูปนี้จากเว็ปไซต์ Tumblr แล้วคิดว่า เออ..มันน่ารักดีแหะ ก็เลยเอามาลงทวิตตัวเอง แต่เธอก็ไม่คาดคิดว่ามันจะฮิตขนาดมีคนรีทวีตมากถึง 180,000 ครั้ง หลังจากภาพเซตนี้ปล่อยออกมาก็มีกระแสสังคมแบ่งออกเป็นสองฝั่งทั้งที่ชื่นชอบ ร่วมฮาไปกับมันอย่างสนุกสนาน และที่รู้สึกรับไม่ได้ แบบว่ามันแปล๊กแปลกเกินไปมั้งงงงงง ยกตัวอย่างเช่น… บร๊ะเจ้า!! ฉันชอบมันจัง นี่แหละคือสิ่งเดียวที่ฉันต้องการในชีวิต!! มือนี่มันคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ฉันไม่ชอบมันเลย ดูแล้วมันทำให้รู้สึกอึดอัดมากๆ สาบานเลยนะ ไอ้เจ้ามือนี่มันหลอนเชี่ยๆ #เหมียวมู่ทู่…
-
บริษัทแห่งนี้ยกให้ “เจ้าตูบ” เป็น “พนักงานดีเด่นประจำเดือน” ทั้งที่วันๆ เอาแต่กินและนอน!?
ใครจะคิดว่าตำแหน่งพนักงานดีเด่นจะสามารถมอบให้กับหมาได้ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว เจ้าตูบตัวนี้ฟาดรางวัลพนักงานดีเด่นตัวเดียวตลอดทั้งปี!! Meeka คือชื่อของเจ้าตูบหนึ่งในสามพนักงานของ Accuride International Inc สาขาตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นสำนักงานขายที่มี Michael Reeg เป็นเจ้านายอยู่ แต่ทว่าเอาเข้าจริงๆ มันก็มีแค่ตัวเขา และเจ้าหมา Meeka และเจ้าหมา Kya รวมเป็นหนึ่งคนสองตัวเท่านั้นและที่ทำงานอยู่ที่สำนักงานแห่งนี้ เรื่องมันเริ่มจากการที่ Michael มาเป็นผู้จัดการฝ่ายขายแล้วเขาพบว่าเจ้าตูบทั้งสองเนี่ย มันสามารถจะเป็นลูกจ้างที่ดีให้กับเขาได้ ถึงแม้พวกมันจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับธุรกิจที่เขาทำอยู่เลยก็ตาม โดยเขาให้เหตุผลว่า “มันยากนะการที่เปลี่ยนมาทำงานอยู่ที่บ้าน ซึ่งมันเงียบมากๆ การจะหาอะไรสักอย่างมาช่วยให้คุณมีกำลังใจในการทำงานมันก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เจ้าพวกนี้จึงกลายมาเป็นลูกจ้างของผมที่ทำในตำแหน่งนั้น” ถึงแม้พวกมันจะช่วยไรเขาไม่ได้มาก และเวลาที่เขาพูดอะไรให้พวกมันฟังเขาก็เชื่อว่าพวกมันคงได้ยินแค่ว่าเขากำลังพล่ามอะไรสักอย่างอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น Meeka ยังตั้งใจฟังและเหมือนจะดีใจทุกครั้งที่ได้ยินเสียงของเขา ซึ่งเขายังบอกอีกว่าเขาดีใจที่มันให้ความสนใจกับเขามากๆ ซึ่งมันเป็นกำลังใจชั้นดีเลยล่ะ ส่วนอีกด้านหนึ่ง Kya คือเจ้าหมาอีกตัวที่ดูแล้วมันไม่ค่อยจะให้ตั้งใจและให้ความร่วมมือเสียเท่าไหร่ เขาบอกว่ามันเป็นหมาของภรรยาเขา มันจะโผล่มาก็ต่อเมื่อภรรยาของเขาไม่อยู่เท่านั้น สำนักงานนี้จึงเป็นทางเลือกที่สองที่มันจะอยู่ (และนั่นอาจจะเป็นเหตุผลให้มันพลาดรางวัลไปในทุกเดือน) Meeka เป็นพนักงานที่ตั้งใจมากๆ แม้เวลาผมจะออกไปดูงานข้างนอกมันก็จะมานอนเฝ้าอยู่ที่สำนักงานเสมอ “ถ้าวันไหนผมไม่อยู่แล้วประตูของสำนักงานปิดอยู่ Meeka จะใช้เวลาทั้งวันในการนอนเฝ้าอยู่ข้างหน้าประตูสำนักงาน ซึ่งมันคิดเสมอว่าตัวผมอยู่ในสำนักงาน” …
-
กางเกงในสามมิติ “ลายสัตว์โลกตาวิเศษ” มีหูโผล่ดุ๊กดิ๊ก ข้ารู้นะว่าใครจ้องมองอยู่…
สาวๆ หลายคนคงจะมีกางเกงในตัวโปรดในตู้เสื้อผ้ากันอยู่เเล้วตามสไตล์ของแต่ละคน แต่คุณจะต้องชอบกางเกงในสุดแหวก ที่จะเปลี่ยนความคิดเดิมๆ ของคุณไปโดยสิ้นเชิง โดยกางเกงในนี้มีสัตว์โลกน่ารักทั้งหลายมาประดับให้กางเกงในของคุณน่ารักมากขึ้นกว่าเป็น 2 เท่า วันนี้ #เหมียวหน่า ของนำเสนอ กางเกงในสัตว์โลกน่ารักแบบ 3 มิติ ด้วยคุณสมบัติของ โพลีเอสเตอร์ 97% และผ้าฝ้าย 3% เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลายไม่จางง่ายๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดเลย อุ๊ป!!! กางเกงในสัตว์โลกน่ารักแบบ 3 มิติ สุดน่ารักแถมมีหูโผล่มาด้วยอะไรมันจะทั้งแปลกทั้งน่ารักแบบนี้มีทั้งแรคคูน หมู จิ้งจอก และกระรอก จะเลือกอะไรดีน้า?? อื้อหื้อ.. ใส่แล้วมันดูน่ารักดีแต่อีกมุมก็ดูเซ็กซี่ไม่เบา บางทีหนุ่มๆ ก็อาจจะลองซื้อให้สาวๆ บ้างก็ได้นะ เจ้ากระต่ายน้อยแสนจะน่ารักมีหูเล็กๆ กระจิ๊ดริด น่าหยิบมาใส่จริงๆ เลย.. . ลายอื่นๆ ก็ดูกวนโอ้ยไม่เบาน่าจะซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเพื่อนก็ดีไม่น้อย อย่างเจ้าหมูหน้าแบ๊วตัวนี้ ทาสแมวต้องไม่พลาดนะ น่ารักจริงๆ เลยเจ้าแมวน้อย เจ้าจิ้งจอกทำหน้าตาหงุดหงิด ดูน่ารักน่าหยิกซะจริงๆ ดูมาถึงขนาดนี้แล้ว…
-
ศิลปินสร้าง ‘กระดองปูเสฉวน’ จากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ช่วยพวกมัน และแฝงความคิดเตือนใจมนุษย์!!
โดยปกติแล้วธรรมชาติของเหล่า ‘ปูเสฉวน’ จะต้องเปลี่ยนบ้านใหม่หรือกระดองอยู่เป็นประจำ ด้วยสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็เพราะขนาดตัวที่โตจนเกินไปทำให้รู้สึกอึดอัด บ้างก็ถูกไล่ที่ออกไปโดยตัวที่แข็งแรงกว่าจึงทำให้ตัวที่อ่อนแอถูกบังคับให้เปลี่ยนกระดอง เนื่องจากว่าปูเสฉวนที่ไม่มีกระดองอยู่นั้นจะไม่มีที่หลบภัยจนกลายเป็นอาหารของเหล่านก และสัตว์ชนิดอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย ศิลปินชาวญี่ปุ่น Aki Inomata ได้ทำการช่วยเหลือเหล่าปูเสฉวนที่ไม่มีบ้านให้ได้มีกระดองที่มีขนาดพอเหมาะกับตัวของพวกมันได้อยู่อาศัย ด้วยการสร้างกระดองด้วยพลาสติดใสจากเครื่องปริ้นท์ 3 มิติ เป็นรูปร่างเมืองต่างๆ จากรอบโลกดูงดงามตา นอกจากจะช่วยเหลือเหล่าปูเสฉวนให้รอดปลอดภัยจากภัยอันตราย ยังแฝงไปด้วยความคิดเรื่องการอพยพย้ายถิ่นฐานที่ดูน่าสนใจอีกด้วย ไอเดียของเธอนั้นได้มาจากการเข้าร่วมงานแสดงศิลปะ ‘No Man’s Land’ ที่จัดขึ้นที่สถานทูตฝรั่งเศสที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2009 จากเรื่องราวของสถานที่ที่ชาวฝรั่งเศสเคยอาศัยอยู่บนประเทศญี่ปุ่นจนถึงช่วงเดือนตุลาคมปี 2009 และในที่สุดก็จะกลายเป็นพื้นที่ของชาวญี่ปุ่นอีกครั้งหลังจากที่ตกเป็นของชาวฝรั่งเศสมานานกว่า 50 ปี ส่วนชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็จะต้องเดินทางกลับไปยังประเทศฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน พอ Aki ได้ทราบเรื่องราวนี้เข้าก็รู้สึกตกใจมาก และคิดว่ามันเป็นเหมือนวิถีชีวิตของปูเสฉวนที่ต้องโยกย้ายเปลี่ยนสถานที่อยู่อาศัยอยู่บ่อยๆ พื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ผู้คนจากสองชนชาติอาศัยด้วยกันอย่างสงบสุข แต่พอสถานการณ์เปลี่ยนไปก็ทำให้เราต้องเปลี่ยนที่อยู่อาศัยตาม เหมือนกับการเปลีย่นที่อยู่อาศัยของปูเสฉวนที่ต้องเปลี่ยนที่อยู่อาศัยไป ซึ่งกระดองที่เธอสร้างขึ้นมานั้นจะตกแต่งด้วยรูปร่างของเมืองต่างๆ จากรอบโลกเพื่อแสดงให้เห็นถึงการอพยพโยกย้ายไปยังเมืองต่างๆ แม้จะเป็นคนละสถานที่ แต่ผู้คนที่อยู่ภายในเมืองก็สามารถเข้าไปอยู่ได้และปรับตัวเข้ากันได้ดี …
-
ผู้คนนับร้อย ร่วมให้กำลังใจส่ง “เจ้าเต่า” กลับท้องทะเล หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บจนหายดี!!
เรามักจะได้เห็นข่าวคราวของสัตว์ทะเล หรือสัตว์ป่าชนิดต่างๆ ที่เผลอเกิดอุบัติเหตุหรือได้รับบาดเจ็บขึ้น บางครั้งพวกมันก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และย่อมเป็นหน้าที่ของมนุษย์ซึ่งต้องใช้ความรู้ในการช่วยชีวิตพวกมัน… นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง หลังจาก Poppy เจ้าเต่าหัวค้อนผู้โชคร้ายที่ถูกไปพบอยู่ในคลองของโรงงานไฟฟ้าแห่งหนึ่ง เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดเดาว่ามันน่าจะติดอยู่ในนั้นเป็นเวลานานพอสมควรสังเกตุได้จากเพรียงที่เกาะอยู่บนตัวมัน ด้วยเหตุนี้อาสาสมัครจาก Loggerhead Marinelife Center ในรัฐฟลอริดาก็รีบเข้าช่วยชีวิตมันทันที และนำมันกลับมารักษาที่ศูนย์ดูแลนั่นเอง จากการตรวจสอบพบว่ามันขาดสารอาหารจำนวนมาก อาสาสมัครจึงให้สารอาหารต่างๆ ที่มันขาดไป อย่างเช่น วิตามิน ธาตุเหล็ก ยาปฏิชีวนะ และให้มันแช่อยู่ในน้ำสะอาดเป็นเวลานานถึง 2 วันเต็มๆ เพื่อให้เพลียงและคราบต่างๆ บนตัวมันหลุดออก หลังจากนั้นถึงย้ายมาไปไว้ในสระน้ำเค็ม นับตั้งแต่นั้นมันก็ได้รับการดูแลจากอาสาสมัครมาตลอดจนร่างกายกลับมาแข็งแรง ทำให้ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ อาสาสมัครเตรียมนำมันกลับสู่ทะเลที่ๆ มันจากมาแล้ว พวกเขาไม่ได้ปล่อยมันเพียงลำพังเท่านั้น แต่แจ้งกับประชาชนในละแวกด้วยว่า จะทำการปล่อยเจ้าเต่าคืนสู่ท้องทะเล และเรื่องที่น่าประทับใจก็เกิดขึ้นแบบไม่น่าเชื่อ เมื่อมีผู้คนกว่า 500 คน แห่มาร่วมให้กำลังในมันในการกลับไปใช้ชีวิตในท้องทะเลดังเดิม เจ้าหน้าที่เคลื่อนรถเข็นพาเจ้าเต่าเดินผ่านผู้คนที่ส่งเสียงเชียร์ แถมวันนั้นอากาศยังเป็นใจท้องฟ้าแจ่มใสอีกต่างหาก ผู้คนต่างพากันมาดูและร่วมให้กำลังใจเจ้า Poppy กันเต็มไปหมด ถึงขนาดมีคนใส่ชุดเต่ามาเลยนะ …
-
หญิงสาวแชร์เรื่องราววันสุดท้าย ของเธอและหมาแสนรัก หลังรับเลี้ยงมานานถึง 9 ปี…
สำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์แล้ว เราย่อมมีความผูกพันธ์กับสัตว์ที่เราเลี้ยงไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นแมว หมา กระต่าย หรือกระทั่งจิ้งจกที่เราเห็นหน้าอยู่ทุกๆ วัน ก็อาจจะผูกพันธ์ไม่รู้ตัว แล้วลองคิดสิว่า หากอยู่ด้วยกันตั้ง 9 ปี มันจะเป็นความรักที่มากขนาดไหน… เมื่อสมาชิกเว็ปไซต์ Imgur ที่มีชื่อว่า Thedoctorsmistress ได้ออกมาแชร์ภาพและความทรงจำสุนัขตัวโปรดของเธอที่ชื่อว่า Cash ก่อนที่มันจะจากไปอย่างสงบหลังจากที่ทั้งคู่ใช้เวลาอยุ่ด้วยกันมานานถึง 9 ปี เธอเล่าว่ามันป่วยด้วยสภาวะตับและไตล้มเหลว ซึ่งทำให้มันใช้ชีวิตอย่างทรมานมากๆ จนกระทั่งถึงขั้นสุดท้ายของการรักษา ครอบครัวของพวกเธอไม่อยากให้มันทรมานอีกต่อไป จึงตัดสินใจให้มันได้จากไปอย่างสงบ ย้อนกลับไปตอนเริ่มแรก เธอขอร้องให้พ่อแม่ของเธอรับเลี้ยงมันจากสถานพักพิงแห่งหนึ่งตั้งแต่ตอนที่มันยังอายุเพียงแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น จนสุดท้ายมันโตเป็นสุนัขขนาด 60 กิโลกรัม จนกระทั่งมาถึงวันสุดท้ายของชีวิต เธออยากจะให้ทุกคนได้รับรู้ภาพความน่ารักของมัน ก็เลยทำการถ่ายภาพมันและเล่าเรื่องในโลกออนไลน์ “มันเป็นหมาขนาด 60 กิโลกรัมที่พวกเรารัก ฉันและมันเรียกได้ว่าโตมาด้วยกันเลยก็ว่าได้” เธอกล่าวถึงเจ้า Cash อย่างเอ็นดู ในภาพชุดนี้จะเห็นได้ว่า เธอถ่ายทอดพฤติกรรมต่างๆ ที่มันชอบทำ อย่างเช่นมาแอบคอยกินอาหาร ชอบคุ้ยขยะ และถ่ายมันคู่กับของเล่นที่มันรัก รวมถึงคนที่รักมันที่สุดอย่างตัวเธอเอง… มันมีนิสัยที่ชอบนอนมากๆ จึงทำให้ที่บ้านมีที่นอนของมันเต็มไปหมดเลยล่ะ …
-
สื่ออเมริกาตีข่าว “อินทรีหัวขาว” สัญลักษณ์ของประเทศกำลังล้มตายอย่างมาก แต่ไม่มีใครสนใจ!?
เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้น เมื่ออินทรีหัวขาวตัวหนึ่งถูกพามามาที่สถานพักฟื้นสัตว์ป่าในสภาพที่เป็นอัมพาตและยกหัวไม่ขึ้น ซึ่งทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่เกิดทั้งความสงสัยและสงสารในเวลาเดียวกัน เรื่องนี้มักจะเกิดขึ้นกับอินทรีหัวขาวบ่อยๆ Lynn Tompkins หัวหน้าของ Blue Mountain Wildlife Rehabilitation and Education Center ได้บอกว่าเธอพยามที่จะช่วยอินทรีพวกนี้มานานแล้วกว่า 30 ปี แต่มันก็ยังเป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ได้สักที เธอได้พูดว่า “หัวของมันตกตลอดเวลา ด้วยพิษของตะกั่วที่ไปทำลายเส้นประสาทในสมอง ทำให้มันไม่สามารถที่จะควบคุมกล้ามเนื้อของร่างกายได้ ไม่แม้แต่จะกางปีก ยืน หรือแม้แต่อ้าปากเพื่อกินอาหารด้วยซ้ำ” ส่วนสาเหตุที่ทำให้อินทรีหัวขาวพวกนี้ติดพิษจากตะกั่วนั้น มาจากการที่พวกมันเป็นสัตว์นักล่าและกินเหยื่อที่ตายแล้วเป็นอาหาร ซึ่งเหยื่อที่ตายนั้นก็จะมาจากการที่ถูกมนุษย์ยิงเข้าด้วยกระสุนตะกั่วนั่นเอง เธอบอกว่า “พวกนักล่าส่วนใหญ่ก็เต็มใจที่จะกินเหยื่อที่กลายเป็นซากอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่พวกมันจะกินพวกสัตว์ที่ตายแล้ว พวกมันกินทุกอย่างที่ถูกยิง และแน่นอนว่ากระสุนตระกั่วก็เป็นปัจจัยนั่นเอง” ภาพภายในตัวของศพหมาป่าโคโยตี ที่แสดงให้เห็นว่าถึงแม้จะถูกยิงลำตัว แต่เศษกระสุนก็กระจายไปทั่วร่าง ถึงแม้จะว่าระดับสารพิษจากตะะกั่วในตัวอินทรีหัวขาวจะอยู่ในจุดที่ต่ำมากๆ มันก็มากพอที่จะสามารถทำให้พวกมันกลายเป็นอัมพาตได้เช่นกัน ขั้นต่ำก็คงจะเป็นมันไม่มีแรงยืนไม่ขึ้น ซึ่งถ้าพวกเธอไม่เข้าไปช่วยเหลือพวกมันโดยปล่อยทิ้งไว้ตามธรรมชาติพวกมันก็จะตายอย่างช้าๆ และทรมานนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ Ryan Zinke เลขานุการกระทรวงมหาดไทยของอเมริกา จึงได้ร่วมลงนามให้มีการแบนไม่ให้ใช้กระสุนตะกั่วกับสัตว์ป่าอีกต่อไป ซึ่งจะได้ช่วยชีวิตพวกมันจากทั้งการโดนยิงตรงๆ และการถูกสารพิษจากกระสุน ไม่ใช่แค่เพื่อช่วยชีวิตเหล่าอินทรีหัวขาวสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศแล้ว ยังถือเป็นการช่วยสัตว์อื่นๆ อีกด้วย …
-
รวม 19 ภาพการเข้าทำงานวันแรกของ “เจ้าหมาน้อยตำรวจ” น่ารักจนใจละลายได้ง่ายๆ เลย!!
สุนัขเป็นสัตว์ที่เป็นที่ฉลาดและซื่อสัตย์แถมยังมีความสามารถในการดมกลิ่นอีกต่างหาก จึงไม่แปลกที่เหล่าตำรวจจะนำเจ้าตูบสี่ขาพวกนี้มาเป็นเพื่อนร่วมงาน แต่ใช่ว่าสุนัขทุกตัวจะเป็นตำรวจได้ พวกมันจะต้องผ่านการฝึกตั้งแต่เด็กเสียก่อนนั่นเอง แต่ด้วยความที่พวกมันยังเป็นเพียงลูกหมาตัวเล็กๆ จึงทำให้เราได้มีโอกาสเห็นภาพน่ารักๆ ของพวกมันทั้งก่อนและหลังจากการทำงาน และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดเป็นหัวข้อในครั้งนี้ขึ้นมากับ 19 ภาพของเหล่าลูกสุนัขที่พึ่งจะเข้ามาฝึกงานเป็นวันแรก จะน่ารักขนาดไหนไปดูกันเลย เข้างานวันแรกก็หมดแรงจนเดินไม่ได้เลยนะ ไหวไหมเนี่ยเราอะ สงสัยจะฝึกหนักนะเนี่ย หลับสบายเลย ผมพร้อมแล้ว ว่าแต่ตำรวจคู่หูผมไปไหนเนี่ย เราจะไปกันได้ยังฮะ? ฝึกหนักจัง ผมหมดแรงแล้วนะ หมดแรงทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่เลยแหะ ส่วนเจ้าตัวนี้ เข้างานวันแรกยังห่างตุ๊กตาไม่ได้เลย เจ้าหนู ผมจะเป็นสุนัขนำทางที่ดีเเหมือนพี่ๆ ให้ได้เลยฮับ ออกตรวจวันแรก ดูตั้งใจสุดๆ เลยนะเนี่ย สงสัยต้องรอโตอีกสักหน่อย ค่อยมาสมัคร K-9 ใหม่นะ ชัวนะ ว่าลูกพี่ไม่ได้หยิบเสื้อมาให้ผมผิดเนี่ย ผ่านการฝึกปุ๊บผมก็โตพอจะใส่เสื้อแล้ว ถึงผมจะเล็ก แต่ผมไม่แพ้พวกพี่ๆ แน่นอนครับ ดูเหมือนเจ้าหนูนี้จะยังห่างแม่ไม่ได้นะเนี่ย เช้าวันทำงานที่สดใส …
-
ถึงแม้จะเหลือแค่สองขา แต่เจ้าเหมียว Simon ก็ไม่ยอมให้มาทำลายความซนได้หร๊อกกกก!!
สำหรับสัตว์ 4 ขาแล้วการที่อยู่ดีๆ จะต้องเหลือ 2 ขาถือว่าเป็นเรื่องที่แย่และสามารถเปลี่ยนชีวิตพวกมันได้เลยทีเดียว บ้างก็อาจจะต้องยอมแพ้หรือนอนอยู่เฉยๆ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับเจ้าเหมียวตัวนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Simon ซึ่งมันถูกเลี้ยงดูโดยคู่รักจากเมืองออกแลนด์ ในประเทศนิวซีแลนด์ เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อราวๆ 3 ปีก่อน ทั้งคู่ได้ไปเจอกับมันในสถานพักพิงแห่งหนึ่ง และด้วยอะไรบางอย่างทำให้ทั้งคู่ตกหลุมรักเจ้าแมวสีส้มเข้าทันทีตั้งแต่แรกเจอ ท่านั้น แต่พวกเขาก็ตกลงปลงใจรับมันมาเลี้ยงแล้ว และถึงแม้มันจะขาไม่สมบูรณ์ แต่มันก็เป็นแมวที่ยังสามารถเคลื่อนที่ได้ปกติและว่องไวมากๆ แต่ทว่าเรื่องร้ายก็ต้องเกิดขึ้นกับเจ้า Simon เมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อนมันถูกสุนัขในละแวกบ้านกัดเข้า จนขาหน้าข้างซ้ายบาดเจ็บสาหัส ซึ่งพอมันถูกพาไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับการผ่าตัดและรับการรักษา ขาหน้าของมันกลับดูเหมือนจะไม่ดีขึ้นเลย จนแพทย์ต้องตัดสินใจตัดขามันออกเพื่อให้มันมีชีวิตต่อไปได้ ถึงอย่างนั้นเจ้าเหมียวก็ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิตของมัน หลังจากพักฟื้นจนหายดี ด้วยขาขวาทั้งสองข้างที่มันยังคงเหลืออยู่ มันพยามจนสามารถที่จะกลับมาวิ่งได้อีกครั้ง แถมยังวิ่งได้อย่างคล่องตัวอีกด้วย McCarthy เจ้าของ Simon ได้บอกว่า “พวกเราคิดว่าถ้ามันสามารถพูดได้ มันคงจะบอกกับเราว่า ไม่เป็นไรผมสบายดี อย่างแน่นอน” ใครที่อยากรู้เพิ่มเติมก็สามารถดูเรื่องราวของมันได้จากคลิปข้างล่างนี้เลย หรือจะเข้าไปติดตามเจ้า Simon ได้โดยตรงจากแฟนเพจของมันที่มีชื่อว่า Simons “All Right” ร่วมเป็นกำลังใจให้มันกลายเป็นเหมียวผู้แข็งแกร่ง ช่วยกันยึดครองโลกใบนี้ให้ได้นะ!!…
-
24 ภาพสุดน่ารักของเหล่า “สัตว์เบบี๋” ที่บางชนิดคุณก็อาจไม่รู้ ว่ามันมีอยู่บนโลก
ถ้าพูดถึงลูกสัตว์ต่างๆ เราก็มักจะนึกถึงลูกแมวลุกหมา หรือลูกสัตว์ที่พบเจอได้ทั่วไป แต่บางครั้งเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าแล้วสัตว์หายากแปลกๆ หน้าตาพวกมันจะเป็นยังไงนะ จะน่ารักหรือเปล่า? หรือแม้แต่ถ้าคุณเป็นคนรักสัตว์ขนานแท้ พวกคุณก็จเอเคยเจอแค่เศษเสี่ยวหนึ่งของสิ่งมีชีวิต 1,367,555 สายพันธุ์บนโลก นี่ยังไม่นับรวมพวกแมลงเข้าไปอีกนะ แต่ยังไงก็เถอะอย่าให้ตัวเลขพวกนี้มันมากวนใจเราเลย ฉะนั้นคิดถึงแค่สัตว์ที่เรายังไม่เคยเจอมาก่อนก็พอ วันนี้เราก็เลยจะมาดู 24 ลูกสัตว์หายากต่างๆ จากทั่วโลกว่าพวกมันมีหน้าตาเป็นยังไง แต่บอกเลยว่าพวกมันจะต้องพิชิตใจหลายๆ คนได้อย่างแน่นอน มาดูกันเลย ก็ลูกหมึกดัมโบ้่ หรือจะเป็นลูกหมาจิ้งจอกเฟนเนคหูกางๆ ลูกชูการ์ไกรเดอร์ตัวน้อย ลูกอาย อาย ลูกของตัวควอลล์ ลูกอาร์มาดิลโล ลูกแรดสุมาตรา ลูกของตัวควอลล์สายพันธุ์ตะวันออก ลูกตัวนิ่ม ลูกค้างคาวแอฟริกัน ลูกของ Southern Pudu Fawn ซึ่งจัดอยู่ในสัตว์จำพวกกวาง ลูกบ่างตัวจิ๋ว ลูกอูฐสองหนอก ลูกอาร์ดวาร์ก …
-
การช่วยเหลือ ‘ลิงอุรังอุตัง’ ที่ถูกขังในกรงไม้มาตลอดชีวิต ปลดปล่อยสู่ ‘อิสรภาพ’ เป็นครั้งแรก
เรื่องราวของเจ้าลิงอุรังอุตังที่ถูกขังอยู่ในกล่องไม้เล็กๆ เป็นระยะเวลานานตลอดชั่วชีวิต ไม่เคยได้เห็นเดือนเห็นตะวัน จนในที่สุดก็ได้รับการช่วยเหลือจนเป็นอิสระแล้ว!! เจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ International Animal Rescue (IAR) ได้เข้าไปตรวจค้นในบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่บนเกาะ Borneo ประเทศอินโดนีเซีย และพบว่ามีลิงอุรังอุตังตัวหนึ่งถูกขังอยู่ในนั้น และคาดว่ามันน่าจะอยู่ในนี้มาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว เจ้า Amy ลิงอุรังอุตังเพศเมียวัย 7 ขวบ ได้ถูกช่วยเหลือออกมา ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเปิดประตูกรงออกมาเจ้า Amy กลับก้มหัวลงด้วยความหวาดกลัวและไม่ยอมมองหน้าใครเลย “ตาของมันดูไม่มีชีวิตชีวาเอาซะเลย เพราะช่วงชีวิตที่ผ่านมาของมันต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว และถูกทอดทิ้ง ดูเหมือนว่ามันจะยอมแพ้ที่จะมีชีวิตอยู่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” โฆษกขององค์กร IAR กล่าว กรงไม้ที่มันอาศัยอยู่นั้นมีขนาดเล็กมาก ทำให้เจ้า Amy ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ แถมเจ้าของของมันก็ใช้โซ่ล่ามไว้ที่คอของมันอีก โซ่ดังกล่าวรัดแน่นมากจนบาดลึกลงไปในผิวหนังของมัน คุณ Sulhi Aufa เจ้านหน้าอาสาสมัครของ IAR ได้ยื่นมือเข้าจับมือของเจ้า Amy อย่างใจเย็น ด้วยความอ่อนน้อมและความอบอุ่นจากมือของคุณ Aufa เจ้า Amy ก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอ …
-
ถึงนกแต่ไม่นกนะ… เรื่องราวสุดประทับใจของ “นกกระสาคู่รัก” ที่บินกลับมาเจอกันทุกๆ ปี
หากคุณเป็นคนที่ไม่เชื่อในความรัก ไม่เชื่อว่ารักแท้ยังมีจริงอยู่บนโลกอันโหดร้ายใบนี้ล่ะก็ เราอยากให้คุณลองเปิดใจสักหน่อย เพราะถึงแม้ว่ารักแท้อาจจะหาได้ยากในหมู่มนุษย์ แต่สำหรับสัตว์บางชนิดแล้วพวกมันยังคงมีความเพียรพยายามและความรักให้แก่กัน แม้พวกมันจะอยู่ห่างไกลเป็นพันกิโลเมตรก็ตาม นี่เป็นเรื่องราวความรักเล็กๆ จากมุมหลังคาบ้านของนาย Stjepan Vokić จากหมู่บ้านแห่งหนึ่งของประเทศโครเอเชีย นาย Vokić ผู้เป็นเจ้าของบ้าน เล่าว่าที่หลังคาบ้านของเขามีนกกระสา 2 ตัวมาทำรังกันอยู่ได้ราว 20 ปีแล้ว โดยเขาตั้งชื่อให้ตัวผู้ว่า Klepetan และตัวเมียชื่อ Malena ในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมของทุกๆ ปี เจ้า Klepetan จะอพยพไปอยู่แถวๆ แอฟริกาใต้ ปล่อยให้ Malena อยู่ในรังตัวเดียว เพราะเนื่องจากปีกของมันได้รับบาดเจ็บจากนักล่าเมื่อนานมาแล้ว ทำให้ไม่สามารถบินไปไหนมาไหนกับคู่รักของมันได้ และเมื่อถึงเดือนมีนาคมของทุกปี เจ้า Klepetan ก็จะบินกลับมาที่รังเพื่อเจอกับ Malena อีกครั้ง แม้ว่านกกระสาอาจจะไม่จำเป็นต้องมีคู่เพียงตัวเดียวตลอดชีวิต แต่มันก็ยังกลับมาเจอคู่ของที่รังเดิมๆ มันทุกปีๆ แสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีของมันอย่างเหลือเชื่อ หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่านกที่บินกลับมาทุกปีๆ นั้นใช่เจ้า Klepetan ตัวจริงหรือเปล่า!? คุณ Vokić ยืนยันว่าใช่แน่นอน…
-
ชวนดูวิธีการหาคู่สุดคูลของ “ปลากระเบนปีศาจ” ใช้พุงกระแทกน้ำ โบยบินให้อีกฝ่ายสนใจ!?
#เหมียวฟิ้นเองเป็นคนที่ชอบดูสารคดีมาก และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้ไปเจอเข้ากับสารคดีเกี่ยวกับปลากระเบนคลิปหนึ่งจาก BBC ที่เผยให้เห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของพวกมันอย่างการทะยานขึ้นไปบนอากาศ!? มันคืออะไร? ตามข้อมูลต่างๆ บอกว่าปลากระเบนตัวนี้มีชื่อว่า “ปลากระเบนปีศาจ” หรือ “ปลากระเบนบิน” มักอาศัยรวมกันเป็นฝูงร้อยกว่าตัว พวกมันมีรูปร่างที่แบนราบและมีครีบคล้ายๆ ปีก ทำให้ง่ายต่อการว่ายน้ำและเหินขึ้นสู่ผิวน้ำ เมื่อนำพวกมันมาวัดความยาวของปีกจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง จะอยู่ที่ราวๆ 5.2 เมตร (ลองจินตนาการว่ากว้างขนาดคน 3 คนนอนเรียงกันสิ) ความยาวขนาดนี้จึงทำให้พวกมันทะยานขึ้นเหนือน้ำได้สูงราวๆ 2 เมตรเลยทีเดียว พฤติกรรมเหินฟ้า ข้อมูลจากสารคดีของ BBC กล่าวว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่เรียกร้องความสนใจจากเพศตรงข้ามเพื่อหาคู่ ไม่ว่าจะเพศผู้หรือเพศเมีย ในขณะที่บางข้อมูลบอกว่าพฤติกรรมแบบนี้เป็นการต้อนปลาตัวเล็กๆ ให้เข้ามาอยู่ในใกล้ๆ ฝูงของพวกมัน เพื่อง่ายต่อการจับกินเป็นอาหารนั่นเอง ด้านนาย Joshua Stewart จากสถาบันวิจัยสัตว์น้ำ Scripps Institution of Oceanography ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าหากคุณนั่งเรือออกไปแล้วเจอกับกลุ่มปลากระเบนเหล่านี้ จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับอยู่ท่ามกลางหม้อป็อปคอร์นขนาดใหญ่เลยทีเดียว ตัวอย่างของฝูงกระเบนปิศาจ นอกจากนี้เขายังได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่าเวลาที่พวกมันพุ่งขึ้นมาจากในน้ำ…
-
รวม 22 อัลปาก้าสุดน่ารักจากทั่วโลก เสน่ห์ของมันจะทำให้คุณต้องเขิน จ้องตาฉันสิ!!
มีเพียงสัตว์ไม่กี่ชนิดบนโลกที่สามารถทำให้เรายิ้มและหัวเราะได้โดยที่ไม่ต้องทำอะไรและ “อัลปาก้า” เป็นหนึ่งนั้น อาจเป็นเพราะหน้าตาที่ดูเบื่อๆ เมาๆ ตลอดเวลา ทำให้ใครหลายๆ คนต้องหลงสเน่ห์ในความน่ารักของพวกมัน (อย่าไปจำสับสนกับตัวลามะล่ะ ถึงจะหน้าคล้ายๆ กัน แต่คนละสายพันธุ์นะ) ไม่เชื่อลองชม 22 อัลปาก้าสุดน่ารักจากทั่วโลกที่ #เหมียวอ๊อดโด้ รวบรวมมาสิ รับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องหลงรักพวกมันแน่นอน ยิ้มมมม แฟชั่นระดับโลก ยิ้มอย่างมีเลศนัย ถ่ายภาพชั้นหน่อย นี่อัลปาก้าหรือหมี แฮร่ อันนี้คืออะไรนะ อัลปาก้าดักแด้ ไม่บอกก็รู้ว่าผมน่ารัก เฮ่ยย กล้องว่ะะะะ ดูทรงผมของฉันสิ เท่กว่านี้ไม่มีแล้ว โฟโต้บอมพ์ชัดๆ นั่นอัลปาก้าหรือก้อนเมฆ น่ารักมั้ย ส่งจูบให้กับทุกคน ว่าไงเพื่อน …
-
ชิวาว่าขี้กลัว ใช้ชีวิตอย่างหวาดผวาในศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์ ได้ย้ายชีวิตไปอยู่ที่บ้านใหม่แล้ว!!
แม้ชีวิตของเราจะต้องเจอแต่เรื่องแย่ๆ แต่ก็อย่าเพิ่งหมดหวังซะล่ะ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของเจ้าหมาชิวาว่าตัวนี้ ที่ต้องใช้ชีวิตราวกับตกนรกทั้งเป็นอยู่ในสถานเพาะพันธุ์สุนัข จนทำให้มันหวาดกลัวไปซะทุกอย่าง แต่ท่าทางและแววตาที่มีแต่ความหวาดกลัวนั้นเองก็ทำให้มันได้เจอกับเจ้านายคนใหม่ที่แสนใจดี Claire Stokoe กำลังนั่งเล่นเฟซบุ๊คเช็คหน้านิวส์ฟีดของตัวเองอยู่ๆ จู่ๆ ก็ได้เห็นภาพของเจ้าหมาชิวาว่าตวเล็กตัวหนึ่งที่ดูท่าทางหวาดกลัวมาก ยืนอยู่ใกล้ๆ กับผักกระป๋อง Heinz ที่ตัวของมันไม่ได้ใหญ่ไปกว่ากระป๋องนั้นซักเท่าไหร่เลย “มันไม่กล้าแม้แต่จะเดินเข้าไปหากระป๋องเลย และมันก็ดูน่ารักมากๆ น่าทะนุถนอมมากๆ เลยล่ะ” Claire เล่า เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับโทรไปหาสถานสงเคราะห์ที่เป็นคนโพสต์หาบ้านให้กับมัน เพื่อติดต่อขอรับมันมาเลี้ยงที่บ้านพร้อมกับตั้งชื่อให้มันว่าเจ้า Brie หลังจากที่มารับตัวมัน Claire ก็ได้รู้ว่าเจ้า Brie นั้นมาจากสถานเพาะพันธุ์ลูกสุนัขในชนบทของประเทศ Wales ที่ซึ่งชีวิตของมันเหมือนกับตกอยู่ในนรกทั้งเป็น เจ้า Brie นั้นมีอาการหวาดกลัวต่อทุกสิ่ง แถมยังมีอาการลืมตาลำบากในที่ที่มีแสงสว่างเยอะๆ ทำให้ Claire เชื่อว่ามันต้องใช้ชีวิตอยู่กับความมืดมาตลอดอย่างแน่นอน เจ้า Brie นั้นตัวเล็กมาก และขาดสารอาหารอย่างหนัก เพราะมันถูกใช้เป็นแม่พันธุ์ในการคลอดลูกไปมากกว่า 2 ครอกแล้ว ซึ่งสร้างภาระหนักให้กับร่างกายของมันมากๆ …
-
18 ภาพสัตว์วัยละอ่อนแสนน่ารัก ความไร้เดียงสาที่จะทำให้คุณยิ้มออกมา!!
สิงโต เสือ หมี ล้วนเป็นสัตว์ป่าแสนอันตรายที่ใครก็ไม่อยากเจอแบบตัวต่อตัว แต่เชื่อหรือไม่ว่าในช่วงที่มันยังเป็นเด็กอยู่ พวกมันก็น่ารักแทบไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงทั่วไป จนคุณแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าพอมันเติบโตไป จะกลับกลายเป็นสัตว์ที่น่ากลัวขนาดนั้น ไม่เชื่อลองไปชมสัตว์เด็กทั้ง 18 ตัว แล้วจะรู้ว่าพวกมันก็น่ารักเหมือนกันนะ เจ้านี่มันแมวชัดๆ อ๊ะๆ ตกใจอ่ะดิ๊ ขอนอนหน่อย ดุกดิ๊กๆๆ แบบนั้นแหละ กำลังชิว มาๆๆ โดดเลยลูก นอนเถอะ เดี๋ยวเลียขนให้เอง ล็อคคอตีเข่า ว้าาาา หมดแรง ดีใจจนเบรกไม่อยู่ นายไถลไกลๆ ได้แบบชั้นป่าว กลับบ้านได้แล้ว ผมโดนเจ้านั่นแกล้งมา ฮือออ เหวออออออ แม้ตอนโตจะน่ากลัวขนาดไหน แต่ตอนเด็กนี่ก็ซนไม่ต่างกันจริงๆ ฮาาา ที่มา viralnova
-
14 ข้อมูลน่าสนใจของ “วาฬสีน้ำเงิน” ทำให้เรารู้ว่ามันเป็นสัตว์ที่ยิ่งใหญ่เพียงใด
เป็นที่รู้กันว่า วาฬสีน้ำเงิน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่ทว่านั้นไม่ใช่แค่ความจริงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีความลับอีกมากมายเกี่ยวกับวาฬสีน้ำเงินที่เราอาจจะรู้หรือบางคนก็ไม่รู้อยู่ ฉะนั้นวันนี้เราจะมาดู 14 ข้อมุลที่น่ารู้ของวาฬสีน้ำเงินกันว่าเจ้าสัตว์ยักษ์ใหญ่แห่งทะเลนี้มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง 1. วาฬสีน้ำเงินสามารถพ่นน้ำได้สูงถึง 9 เมตร หรือให้เทียบความสูงของตึก ก็เท่ากับตึก 3 ชั้นเลยทีเดียว 2. ตามปกติแล้ว วาฬสีน้ำเงินจะว่ายน้ำด้วยความเร็ว 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าพวกมันว่ายเต็มสปีด มันจะว่ายได้เร็วถึง 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 3. แค่ลิ้นของวาฬสีน้ำเงินเพียงอย่างเดียว มีน้ำหนักพอๆ กับช้างตัวหนึ่งเลยทีเดียว 4. หัวใจของวาฬสีน้ำเงิน มีน้ำหนักราวๆ เกือบ 1 ตัน และถ้าเทียบง่ายๆ ก็มีขนาดที่ใหญ่พอๆ กับรถยนต์มินิคูเปอร์ 1 คันเลยทีเดียว 5. เส้นเลือดของวาฬสีน้ำเงินมีขนาดที่ใหญ่มากๆ ใหญ่พอที่จะให้คนเข้าไปอยู่ข้างในได้เลยล่ะ 6. ถ้าวาฬสีน้ำเงินโตเต็มที่จะมีความยาวถึง 31.2 เมตร ซึ่งเทียบเท่ากับสนามบาสเก็ตบอล NBA เลยล่ะนั้น…
-
มิตรภาพต่างสายพันธุ์ของ “นักพายเรือ” และ “วาฬเพชรฆาต” ที่กลายมาเป็นเพื่อนกันซะงั้น!?
ถ้าพูดถึงวาฬเพชฌฆาต เราก็คงจะรู้จักกันดีว่ามันคือนักล่าแห่งท้องทะเลที่มีนิสัยดุร้ายพอสมควร แถมยังอาศัยอยู่กับเป็นฝูงอีกตะหาก แต่ทว่าในบางครั้งเราก็จะเห็นเจ้าวาฬสายพันธุ์นี้บางตัวมีนิสัยที่รักสงบและน่ารักเช่นกัน แถมมันยังฉลาดมากเป็นอันดับต้นๆ ของสัตว์โลกที่ไม่นับมนุษย์ด้วย เราจะพาย้อนไปดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนักพายเรือพายเรือคายัคชาวออสเตรเรียที่ชื่อว่า Nathan Pettigrew เขาได้เล่าถึงวาฬเพชฌฆาตเพื่อนรักของเขาตัวหนึ่งที่เจอกันเมื่อปี 2010 โดยเขาเล่าว่า “ผมเจอกับมันครั้งแรกเมื่อตอนปี 2010 และได้พายเรือเล่นกับมันหลายครั้งเลยล่ะ นับตั้งแต่เจอมันครั้งแรก” เขาได้ตั้งชื่อให้กับวาฬเพชฌฆาตตัวนี้ว่า Pickle พอถามว่าวาฬเพชฌฆาตมันก็หน้าตาเหมือนกันหมดแล้วเขาจำเพื่อนของเขาได้ยังไง เขาก็บอกว่าเพื่อนของเขาตัวนี้จะมีครีปที่หลังที่โดดเด่นไม่เหมือนตัวไหนๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาจำเพื่อนของเขาได้ เป็นเวลาหลายปีที่ทั้งคู่ได้เป็นเพื่อนกัน เขาบอกว่ายิ่งเวลาผ่านไปเจ้า Pickle ก็ยิ่งมีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากครั้งแรกที่ทั้งคู่เจอกัน แต่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปแค่ไหน ทั้งคู่ก็ยังมาเจอกันและจำกันได้ดี แต่ใช่ว่ามันจะจำเขาได้จากหน้าตานะ เพราะว่า Nathan พยามที่จะใส่ชุดแบบเดิมเสมอเมื่อเขาไปพายเรือรอบบริเวณน่านน้ำนิวซีแลนด์ “ผมพยามที่จะใส่เสื้อสีแดง และหมวกแดงเสมอเวลาที่ผมออกไปพายเรือ ซึ่งผมคิดว่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ Pickle จำผมได้ แถมท่าทีที่มันมีต่อผมก็ยังแตกต่างจากวาฬเพชฌฆาตตัวอื่นๆ อีกด้วย” จะบอกว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องบังเอิญก็ไม่ได้ เพราะว่าทั้งคู่ยังมีปฏิสัมพันธ์ให้กันเสมอเป็นถึง 5 ปีเต็มๆ จนกระทั่งนำมาสู่คลิปวิดีโอกึ่งสารคดีนำเสนอมิตรภาพของเขาและเจ้าวาฬตัวดังกล่าว เราลองมาชมคลิปวิดีโอดังกล่าวจากแชแนล The Kayaking World of Nathan Pettigrew ด้านล่างนี้เลยครับ……
-
ชีวิตอันปรับตัวยาก ของ “เปาเปา” แพนด้าที่เกิดในอเมริกา แต่ต้องย้ายมาอยู่ในเมืองจีน!?
เป็นที่รู้กันว่าสำหรับใครที่เติบโตในสถานที่หนึ่งมาเป็นเวลานาน แต่ทว่าจู่ๆ ก็ต้องย้ายที่อยู่ไปยังสถานที่ใหม่ ภาษาใหม่ อาหารใหม่ วัฒนธรรมใหม่ๆ ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งใหม่และไม่คุ้นเคยเอาซะเลย ทำให้เรารู้สึกไม่มีความสุขกับช่วงปรับตัวเท่าไหร่นัก แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นกับเฉพาะคนหรอกนะ เพราะว่าล่าสุดมันเกิดขึ้นกับหมีแพนด้าตัวหนึ่งที่ชื่อว่า เปาเปา มันเป็นแพนด้าที่เกิดและโตที่สวนสัตว์ในวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ล่าสุดมันถูกส่งกลับไปอยู่ไปประเทศจีนตามข้อตกลงของรัฐบาลจีน และสหรัฐอเมริกา ที่ตกลงกันไว้ว่าจะต้องส่งมอบคืน เนื่องจากลูกแพนด้าที่เกิดนี้ถือเป็นสมบัติของทางจีน เจ้าเปาเปา ถูกส่งมายังสถานีอนุรักษ์แพนด้าตูเจียงเอี้ยนในเฉิงตู และจะถูกกักบริเวณไว้ที่แห่งนี้เป็นเวลาราวๆ 1 สัปดาห์ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพที่นี้ ในช่วงนี้เจ้าเปาเปา ยังปรับตัวได้ไม่ค่อยดีนัก เพราะว่าช่วงเวลา 3 ปีที่มันโตในอเมริกา มันถูกเลี้ยงดูโดยผู้แลที่พูดภาษาอังกฤษ รวมถึงยังให้กินคุกกี้แบบอเมริกา แต่พอต้องมาอยู่ที่นี้ผู้ดูแลพูดเพียงแค่ภาษาจีนเท่านั้น แถมยังให้มันกินเป็นขนมปังข้าวโพดแทนที่จะเป็นคุกกี้ ผู้คุมบอกว่า มันไม่มีการตอบสนองอะไรกับภาษาจีนเลย สิ่งที่มันเข้าใจเพียงอย่างเดียวก็คือชื่อของมันเท่านั้น แถมอาหารที่ให้มันกินมันก็ปัดทิ้งหมดทุกอย่าง จะมีก็แต่เพียงไผ่เท่านั้นที่มันยอมกินแต่โดยดี คลิปข่าวจาก CCTV เรื่องการปรับตัวของเจ้าเปาเปา ที่ชาวเน็ตต้องส่งใจช่วยหน่อยล่ะ!! ยังไงซะก็คงต้องให้เวลามันสักหน่อยล่ะนะ เพื่อที่มันจะได้ปรับตัวให้เข้ากับบ้านใหม่ของมัน ที่มา shanghaiist
-
17 ภาพของเหล่านักท่องเที่ยว ที่ถูกก่อกวนโดยสัตว์โลกสุดเกรียน จะสงสารหรือฮาดีหว่า!?
เวลาที่เราไปเที่ยวสวนสัตว์ หรือตามสถานที่ต่างๆ เคยไหมที่คุณจะถูกพวกสัตว์เข้ามาก่อกวน และวุ่นวายในชีวิต แน่นอนว่าหลายคนอาจจะเคย เช่น เวลากำลังจะถ่ายรูปเซลฟี่มุมสวยๆ จู่ๆ ก็มีเจ้าสัตว์เข้ามาร่วมเฟรมด้วยซะงั้น เหมือนดังเช่น 17 ภาพของผู้คนเหล่านี้ ที่ได้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สวนสัตว์ ทะเล ฯลฯ จนได้พบกับเรื่องราวที่ไม่คาดฝัน เพราะถูกเหล่าสัตว์สุดเกรียนเข้ามาก่อกวนแบบดื้อๆ งานนี้พวกเขาจะสามารถรับมือกับสัตว์เหล่านั้นได้อย่างไร มารับชมภาพกันเลย ชายหนุ่มที่กำลังถูกเจ้านกน้อยเข้ามาจู่โจม ดูหน้าตาของเขาสิ กำลังกลัวสุดขีดเลยละ ฮร่าๆ เมื่อเจ้าวัวอาจจะคิดว่ามือของหญิงสาวคนนี้เหมือนเบอร์เกอร์ซะเหลือเกิน เมื่อเจ้าแมวน้ำอยากจะลองใช้สน็อกเกิ้ลดูสักครั้ง นักท่องเที่ยวที่ได้มาจ๊ะเอ๋กับเจ้าเสือชีตาร์ โอ้ววววว แกเข้ามาได้ยังไงเนี่ย เจ้าหงส์ที่กำลังจะวิ่งไล่ชายหนุ่ม หญิงสาวที่ได้เจอกับช้างน้อยขี้เล่น ก็แค่จะโผล่มาทักทายเอง อย่ากลัวเราเลยนะ ดูท่าทางเจ้ากวางมูสอยากจะวิ่งเล่นกับเจ้าหน้าที่เหลือเกิน ฮร่าๆ เมื่อเจ้าวัวอยากจะแสดงความรักกับชายหนุ่ม หญิงสาวขณะกำลังพายเรือลงแม่น้ำในทวีปอเมริกาเหนือกับเพื่อนๆ แต่จู่ๆ เจ้าแรคคูนก็โผล่มาซะงั้น เด็กน้อยที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับแมงมุมยักษ์ เจ้าลิงที่กำลังทำท่าโกรธนักท่องเที่ยวหนุ่ม…
-
เด็กน้อยป่วย “เนื้องอกในสมอง” อุทิศวันเกิดตัวเอง เพื่อช่วยเหลือสัตว์ในสถานรับเลี้ยง…
นี่คือหนูน้อย Bryce Hill เด็กตัวเล็กที่ใจไม่เล็ก… เมื่อปีที่แล้ว หนูน้อยถูกวินิจฉัยว่ามีเนื้องอกในสมอง ซึ่งพบได้ยากมากๆ สำหรับเด็กอายุแค่นี้ อาจเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่ Bryce ก็ต่อสู้กับมันมาจนถึงตอนนี้ แม้ว่าจะต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้งก็ตาม ตอนนี้หนูน้อยต้องต่อสู้กับโรคร้าย แต่ก็ไม่ลืมที่จะเป็นผู้ให้ โดยเฉพาะคนที่ต้องการความช่วยเหลือ Bryce อายุครบ 6 ขวบเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เขาได้จัดงานปาร์ตี้เล็กๆ กับครอบครัวพร้อมเพื่อนๆ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาทำแตกต่างออกไป แทนที่เขาจะอยากได้ของขวัญ หนูน้อยกลับอยากให้แขกที่มาร่วมงานช่วยกันบริจาคของให้กับสถานรับเลี้ยงสัตว์ที่อยู่ในละแวกบ้าน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวดีๆ เพราะเดือนที่แล้ว Bryce ได้ไปเยี่ยมสถานรับเลี้ยง Illinois Valley Animal Rescue (IVAR) แล้วมอบของเล่นและอาหารให้กับสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ คุณแม่ Gina Panther เล่าว่าเธอภูมิใจในตัวลูกเป็นอย่างมาก และยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ทางสถานรับเลี้ยงยังให้หนูน้อยได้เป็นอาสาสมัครกิตติมศักดิ์ พร้อมกับได้เล่นกับเหล่าสัตว์ที่อยู่ที่นั่นด้วย ในตอนนี้หนูน้อยก็ยังต้องเข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งยังได้เป็นอาสาสมัครที่มีโอกาสได้เข้าถึงสัตว์ในสถานรับเลี้ยงนี้อีกด้วย นอกจากนี้หนูน้อยยังได้รับหมาน้อยกลับบ้านมาเป็นเพื่อนแก้เหงา คอยดูแลซึ่งกันและกัน นี่อาจจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับเขาเลยก็ได้ ถือเป็นเรื่องราวที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก เด็กตัวแค่นี้ แต่มีความคิดที่เอื้อเฟื้อแก่ผู้อื่น…
-
25 ภาพสัตว์โลกแสนน่ารัก ที่ทำท่าเลียกระจกได้น่ารักเว่อร์ เห็นแล้วมันอดยิ้มตามไม่ได้จริงๆ
หากใครที่อยากให้วันนี้เป็นวันที่สดใส และมีความสุข เชิญทางนี้เลยจ้า เพราะเรามีภาพถ่ายน่ารักๆ ของเหล่าสัตว์โลก มาให้ได้ชมกัน ซึ่งแต่ละภาพที่เราได้คัดมานั้น เป็นภาพที่พวกมันกำลังเลียกระจกแพล่บๆ อย่างเมามันส์กันเลยทีเดียว และต้องขอบอกเลยว่า หากใครที่ได้มองดูความน่ารักของพวกมันผ่านภาพเหล่านี้แล้วล่ะก็ เชื่อว่าคุณอาจจะเผลอยิ้มตามโดยไม่รู้ตัวเลยก็ได้ เริ่มจากน้องหมากันเลย เลียจนกระจกใสหมดแล้ว เพลินเลยนะเรา น่ารักชะมัด แบร่ๆๆๆ นี่ก็เอากับเขาด้วย ลิ้นย๊าวยาว ทักทายๆ แพล่บๆๆๆ อร่อยจัง มาไงเนี่ย ฮ่าๆ ลิ้นเล็กๆ ของน้องหนู มันน่ารักเสียจริง ทำหน้าแบ๊วอีกแล้ว สนุกใหญ่เลยนะเหมียว ทำอย่างเค้าได้อ่ะป่าว ขอเลียบ้างจิ ใจละลายเลย สวัสดีชาวโลก ทำท่านี้แล้วหล่อมาก ลิ้นเอ็งทำไมใหญ่จังเจ้าเหมียว …
-
ชาวเน็ตแชร์คลิปไก่งวงทำพิธี “เดินวนรอบศพแมว” ผู้เชี่ยวชาญชี้อาจเพราะอยากรู้อยากเห็น?
หากคุณเข้าใจว่ามีแต่มนุษย์เท่านั้นที่สามารถทำพิธีกรรมได้ล่ะก็ คุณคิดผิดแล้วล่ะ เพราะคลิปที่#เหมียวฟิ้น จะนำเสนอต่อไปนี้อาจจะทำให้คุณรู้สึกฉงนกับพฤติกรรมของสัตว์มากกว่าที่เคยเสียอีก คลิปนี้ถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์โดยผู้ใช้ที่ชื่อว่า @TheReal_JDavis เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา โดยในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นภาพของฝูงไก่งวงจำนวนหนึ่ง กำลังเดินวนรอบๆ ซากศพแมวที่นอนอยู่กลางถนน พร้อมกับข้อความว่า “ไก่งวงเหล่านี้พยายามจะมอบชีวิตที่ 10 ให้แมว” นาย Davis บอกว่าวิดีโอขนาด 24 วินาทีตัวนี้เป็นวิดีโอที่ “แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น” เลย เพราะเนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่คนทั่วไปไม่มีโอกาสได้เห็นกันบ่อยๆ และดูเหมือนพวกมันกำลังพยายามทำพิธีบางอย่างกับศพของแมวตัวนั้น ชมคลิปวิดีโอจากนาย Davis ได้ที่นี่เลย (ใครดูไม่ได้กดที่นี่นะ) These turkeys trying to give this cat its 10th life pic.twitter.com/VBM7t4MZYr — J… (@TheReal_JDavis) 2 มีนาคม 2560 แต่ในความจริงแล้วมันไม่ได้สยองขนาดนั้น เพราะด้านนักชีววิทยาสัตว์ป่าอย่างนาย Mark Hatfield ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “พวกมันพยายามที่จะทำให้มั่นใจว่าเจ้าแมวตัวนั้นไม่มีภัยคุกคามใดๆ อีกต่อไป มันน่าจะเป็นเรื่องของความอยากรู้อยากเห็น ถือเป็นเรื่องพื้นฐานของพวกไก่งวงมาก” …
-
18 ภาพสัตว์ออกกิริยา “แผล่บ” ได้น่ารักที่สุดในโลก ในกาแล็กซี่ และในจักรวาล
เวลานึกถึงเวลาไหนที่เจ้าสัตว์ต่างๆ นั้นน่ารักที่สุด หลายคนอาจบอกว่าตอนนอน บางคนอาจบอกว่าตอนวิ่ง บางคนอาจบอกว่าตอนที่พวกมันกำลังเล่นกัน แต่เชื่อหรือไม่ เวลาที่พวกมัน “แผล่บ” ก็น่ารักฝุดๆ ไม่แพ้กัน ไม่เชื่อลองไปชม 18 ภาพ “แผล่บ” ของสัตว์ทั่วโลกเหล่านี้ดูสิ รับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องหลงรักพวกมันอย่างแน่นอน แบร่ อย่ามายุ่ง ตามฉันไม่ทันหรอก แฮะๆ เพลินไปหน่อย หมดแรงแล้ววว ท่าผมสวยมั้ย เค้าบอกทำแบบนี้แล้วเหมือนหมา บอกแล้วว่าพวกผมน่ารักจริงๆ นะ . . . . . . . . . . . จะน่ารักไปไหนเนี่ยพวกนายยยย อร๊ายย ที่มา boredpanda
-
นี่คือเจ้า Buffy สุนัขผู้ยิ้มรับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเวลาไหน จะเกิดอะไร พี่ก็จะไม่หยุดยิ้ม!!
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ต่อให้เรื่องมันแย่แค่ไหน… “รอยยิ้ม” ก็ทำให้เรื่องเหล่านั้นทุเลาลงได้ พบกับ Buffy สุนัขวัย 13 ปี ที่ยิ้มตลอดเวลา ไม่ว่าจะเวลาไหนมันก็จะยิ้มอยู่เสมอ แถมมันยังเป็นขวัญใจของทุกคนในละแวกบ้านที่อ๊อกซฟอร์ดเชอร์ ในประเทศอังกฤษอีกด้วย Jill Cox เจ้าของได้เล่าว่า เธอพึ่งจะรู้ตัวว่าสุนัขของตัวเองสามารถยิ้มได้ก็เมื่อ 4 ปีที่แล้วแถมยังบอกอีกว่าสุนัขของเธอส่งยิ้มให้แทบจะตลอดเวลาเลย จนเธอมีรูปของมันมากเป็นพันๆ รูปเลยก็ว่าได้ เธอยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า “จริงๆ แล้วมันคงยิ้มามาตลอดเป็นเวลานานแล้วล่ะ เพียงแต่ว่าพวกเราไม่ได้สังเกตเท่านั่นเอง จนเมื่อฉันรู้เลยย้อนกลับไปดูรูปสมัยก่อน มันก็ยิ้มตั้งแต่ตอนนั้นแล้วจริงๆ” หลังจากภาพของเธอถูกเผยแพร่ออกไปทางอินเตอร์เน็ตก็มีคนจำนวนมากที่ชอบในรอยยิ้มของมัน แต่ว่าก็มีคนจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่คิดว่าภาพรอยยิ้มของมันถูกตัดต่อ ซึ่งพวกเขาก็พยามเรียกร้องให้ส่งภาพของมันเพื่อยืนยันในจุดนั้น หลายคนที่ได้เจอกับมัน ก็จะถ่ายรูปมันเก็บไว้ แถมบางครั้งมันก็จะถูกขอถ่ายเซลฟี่เพื่อใช้ในการให้กำลังใจกับใครสักคนอีกจะหาก แต่ว่าจากที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่มักจะขอภาพของมัน เพื่อที่จะช่วยให้พวกเขากลับมายิ้มได้อีกครั้ง ในวันที่พวกเขารู้สึกแย่และต้องการกำลังใจจากใครสักคน แน่นอนว่าภาพของ Buffy ก็ช่วยพวกเขาได้มากๆ เลยล่ะ “บางคนก็บอกกับฉันว่ามันคงมีความผิดปกติอะไรที่หน้าของมัน แต่ฉันว่ามันคงจะยิ้มเพราะมีความสุขเหมือนกับที่คนทำนั้นและ” สุดท้ายเธอก็บอกว่าเธอภูมิใจและดีใจมาก ที่มีมันเข้ามาอยู่ในครอบครัว เจ้า Buffy เปรียบเหมือนดั่งดาวดวงน้อยที่ส่องประกายตลอดเวลาให้กับครอบครัว . .…
-
รวม 14 “สะพานลอยสัตว์” จากทั่วทุกมุมโลก ช่วยชีวิตสัตว์ป่าได้นับหมื่นต่อปี…
เป็นที่รู้กันดีว่าเวลาคนจะข้ามถนน ก็จะมีทางม้าลาย สัญญานไฟ หรือสะพานลอยไว้ให้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับคนที่ข้ามถนน แต่ว่าใช่เพียงแค่คนเท่านั้นที่จะต้องการความปลอดภัยในการข้ามถนน สัตว์ก็ต้องการเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บางประเทศมีการสร้างสะพานหรือทางเดินไว้สำหรับข้ามถนนให้กับเหล่าสัตว์ต่างๆ ให้พวกมันสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับความเจริญของมนุษย์ ซึ่งพัฒนาเข้าไปในพื้นที่ของพวกมันนั่นเอง หากย้อนกลับไปในอดีต สะพานสัตว์แห่งแรกถูกสร้างขึ้นในราวๆ ปี ค.ศ.1950 ชื่อว่า Natuurbrug Zanderij Crailoo อยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ แถมสะพานนี้ก็เป็นสะพานสัตว์ที่ยาวที่สุดอีกด้วย หน้าตาของสะพานสัตว์แรกและมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด… ฉะนั้นวันนี้เราเลยจะพาไปดูตัวอย่างของสะพานเพื่อสิ่งมีชีวิตร่วมโลกของเรากันบ้าง ทั้งสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่จากหลายๆ ประเทศ ว่าจะมีหน้าตาอย่างไรบ้าง… สะพานปู ในเกาะคริสต์มาส สะพานสำหรับสัตว์ป่าอีกแห่ง ในประเทศเบลเยียม อุโมงตรงรางรถไฟสำหรับเต่าเดินผ่านรางได้ ในประเทศญี่ปุ่น สะพานสัตว์อุทยานแห่งชาติ Banff ในประเทศแคนาดา สะพานสัตว์ป่า ในประเทศเยอรมนี สะพานสำหรับเหล่านกและสัตว์อื่นๆ ในประเทศออสเตรเลีย สะพานสัตว์ขนาดใหญ่ ในประเทศสิงคโปร์ อุโมงทางลอดสำหรับเหล่าสัตว์ ในประเทศฟินแลนด์ สะพานข้ามถนนสำหรับลิง ในประเทศบราซิล สะพานลอยสำหรับสัตว์ ในประเทศแคนาดา …
-
ท่าโคตรพระเอก!! เมื่อ “กระรอกน้อย” ทำท่าต่อยดินสุดเท่ งานนี้โดนรุมยำอีกตามเคย
เป็นที่รู้กันดีว่าในยุคอินเตอร์เน็ตแบบนี้ ถ้ามีภาพอะไรเจ๋งๆ โผล่ออกมาแล้วถูกโยนไว้บนเน็ตแล้วละก็ ภาพนั้นคงจะไม่รอดที่จะถูกหยิบมาตัดต่อแน่ๆ ล่าสุดก็มีคนโพสภาพของเจ้ากระรอกที่ทำท่าสุดเท่จนทุกคนต้องหยิบมาตัดต่อ ท่าที่มันทำนั้นเป็นท่าแบบคุกเข่าหนึ่งข้าง และทำท่าเหมือนจะเอามือทุบดิน ที่เหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ที่หลายๆ คนชอบทำนั่นเอง อย่ามัวแต่รอช้ากันเลย เรามาดูผลงานการตัดต่อของชาวเน็ตกันเลยดีกว่า ว่าจะเฟี้ยวขนาดไหน!! ภาพออริจินอลฮีโร่แลนดิ้งของเจ้ากระรอก ท่าทางการสตาร์ทเครื่องตัดหญ้า บอกเลยชั้นเซียนอะ ฮะโช๊ว อ๊ะเช๊ะ ยอดมนุษย์กระรอกสุดโหด UFC ก็มา ต่อยยับอะ จะทำความสะอาดห้องเรียนก็ได้เหมือนกัน บอกแล้วอย่าให้มันกินเยอะ พอมันโตแล้วก็อาละวาดซะเละเลย ข้าคือซามูไร ผู้ปกป้องปราสาทแห่งนี้ เข้าที่… ระวัง…. กระรอก สายฟ้าฟาด ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ของทีม GotG รับกระแส Logan กันหน่อย วูฟเวอร์รอก กองทัพกระรอกบุกเมือง รอดูเลย ช็อตนี้ลงแน่นอน เดอะ เมทริกซ์…
-
จาก ‘นกน้อย’ ที่บินมากวนเขาตอนกินข้าวเที่ยงทุกวัน กลายเป็นเพื่อนสนิท ขาดกันไม่ได้ซะแล้ว!!
ปกติแล้วเวลาที่เราออกไปกินข้าวตามร้านอาหารข้างทางต่างๆ เรามักจะเจอสุนัขเจ้าถิ่นแถวนั้น มารอแบ่งอาหารจากเรา ซึ่งแน่นอนว่าบางคนก็จะรำคาญ หรือบางคนก็เต็มใจที่จะแบ่งให้พวกมัน ซึ่งมันก็เกิดขึ้นกับชายคนนี้เช่นกัน แต่ทว่าสัตว์ที่มากวน มันดันเป็น ‘นก‘ นะสิ เรื่องของชายคนนี้มันเริ่มขึ้นในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากที่เขาออกไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารแล้วบังเอิญก็มีนกตัวหนึ่งบินมาเกาะอยู่บนจานของเขา และพยามที่จะแย่งอาหารในจานของเขาไป ซึ่งในตอนแรกเขาก็รู้สึกรำคาญมันพอสมควรจนต้องไล่มันให้ออกไปจากจานข้าวของเขา… วันนั้นผ่านไปเขาก็คิดว่ามันจบแล้ว แต่ในทุกๆ วันที่เขามากินข้าวก็จะมีนกมาเกาะที่จานข้าวของเขาเหมือนเดิมทุกๆ วันจนชายคนนี้เริ่มเอะใจเกี่ยวกับเจ้านกที่มาขอข้าวกิน ซึ่งทุกตัวที่มามันมีตำหนิเหมือนเดิม จนเขารู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา มันคือนกตัวเดิม นอกจากนี้ชายนี้ยังพูดอีกว่า “ผมยอมรับว่าในตอนแรกมันก็น่ารำคาญพอสมควรเลย แต่ว่าจากรอยตำหนิที่ปีกของมันทำให้ผมพอจะเดาได้ว่านกตัวนี้ต้องบาดเจ็บหรือป่วยอยู่แน่ๆ ช่วงแรกผมจะใช้มือปัดเพื่อไล่มันไป แต่ทว่ามันกลับล้มลงแทนที่จะบินหนี นั่นจึงทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆ ตั้งแต่นั้นมาหลังจากที่ผมกินข้าวเสร็จผมก็จะแบ่งอาหารให้มันทุกครั้ง” ท้ายที่สุดชายคนนี้ก็ตั้งชื่อให้กับเจ้านกว่า Baldie และนับตั้งแต่นั้นมาการกินข้าวเที่ยงด้วยกันของทั้งคู่จึงกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้ว “ทุกครั้งที่อยู่มันๆ ก็หายไป ผมจะรู้สึกเป็นกังวลมาก ว่ามันจะเป็นอะไรไหม จะเกิดอะไรขึ้นกับมันหรือเปล่า แต่ทว่าสุดท้ายมันก็กลับมาพร้อมกับกระเพาที่หิวโหย” สุดท้านแล้วจากชายที่ปลีกตัวเพื่อมากินข้าวคนเดียวและต้องการความสงบ ตอนนี้เขาก็ได้เพื่อนกินข้าวเพิ่มมาหนึ่งตัว และดูเหมือนเขาจะมีความสุขกับเพื่อนตัวใหม่ของเขามากๆ เลยทีเดียว กลายเป็นเพื่อนที่ขาดไม่ได้ไปซะแล้ว… ที่มา thedodo
-
15 แมวเหมียวน้อย ที่ยืนยันถึงความติ๊งต๊อง และยังไม่พร้อมจะโตเป็นแมวผู้ใหญ่ซะเล๊ยยยย!!
ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ถ้าพูดถึงช่วงวัยเด็กแล้วละก็ ทุกคนล้วนมีช่วงเวลาที่ไร้เดียงสา ยังไม่รู้อะไรอย่างดีแน่นอน นั่นย่อมหมายถึงความป่วน กวนๆ และทำอะไรก็ดูตลกไปหมดแน่นอน เจ้าเหมียวพวกนี้ก็เช่นกัน ฉะนั้นเราจะมาดูความไร้เดียงสาของพวกมันกัน ว่าเจ้าเหมียวพวกนี้มันไร้เดียงสาและน่ารักขนาดไหน!? คำเตือน: ทาสแมวเตรียมรับมือความเสียหาย ดูเหมือนเจ้าเหมียวตัวนี้พยามจะกินนมจากถ้วยเป็นครั้งแรกนะเนี่ย ส่วนเจ้าเหมียวตัวนี้ก็ดูจะไม่พร้อมสำหรับอาหารมื้อนี้ที่มันเยอะเกินไป หลับคาถ้วยเลยทีเดียว เจ้าเหมียวตัวนี้กำลังเตรียมพร้อมที่จะตะครุบเป็นครั้งแรกแล้วล่ะ ขอกินหน่อยได้ไหม หนูพร้อมจะกินแล้วเนี่ย หนูหนาว ขอนอนด้วยได้ไหม ขอหนูนอนด้วยได้ไหมอะ เจ้าเหมียวกำลังหัดปีนผา แต่ดูจะไม่ได้ไม่สวย เอ๊ะ ทำไมเข้าไปไม่ได้หว่า เจ้าเหมียวพบสวนสนุกแห่งใหม่แล้วล่ะ เอ๊ะ ที่นี้ที่ไหน มันกว้างจัง ขอหนูชั่งน้ำหนักด้วยได้ไหม บรื้นๆ เดี๋ยวนะเจ้าเหมียวนั่นมันรถของเล่น เลียหางตัวเอง เป็นเด็กดูดนิ้วเลย เอาอีกๆ ขอหนูอีก นั่นหางแม่นะ ไม่ใช่ของเล่นเจ้าเหมียว หวังว่าพวกเอ็งจะเรียนรู้ในโลกใบนี้…
-
ร่วมอาลัย… เจ้าหมาพยายามใช้จมูกเขี่ยดิน เพื่อกลบ “ร่างไร้วิญญาณ” ของเพื่อนผู้จากไป
การจากลานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครทุกคนก็ต้องเจอ ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็วก็เท่านั้นเอง… แต่ถ้าวันนั้นมาถึง หากเพื่อนรักหรือคนที่เรารักได้จากไปก็ย่อมเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากเป็นธรรมดา จนถึงตอนนั้นเราเองก็คงอยากที่จะทำอะไรบางอย่างให้กับเขาเป็นครั้งสุดท้าย เช่นเดียวกันกับเจ้าหมาตัวนี้ที่ใช้จมูกดันดินกลบร่างที่ไร้วิญญาณของพี่ชายที่เพิ่งถูกรถชนจนเสียชีวิต เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีชาวเน็ตคนหนึ่งได้ทำการอัพคลิปวิดีโออันแสนเศร้านี้ลงบนเฟซบุ๊คเมื่อวาน จากนั้นก็มีคนแชร์ต่อไปมากมาย แม้แต่เว็บไซต์ต่างชาติหลายสำนักเอาไปลงข่าวกันด้วย เจ้าหมาค่อยๆ เอาจมูกเขี่ยดินไปกลบร่างของพี่ชายของมัน จากนั้นก็จะหยุดนั่งนิ่งๆ และมองไปที่ร่างของพี่ชายด้วยความอาลัย จากนั้นมันก็กระโดดลงไปในหลุมพร้อมกับดมกลิ่นของพี่ชาย ก่อนที่จะดำเนินการกลบดินต่อไป ด้วยความประทับใจนี้ทำให้ชาวเน็ตให้ความสนใจมากมาย และเข้ามาให้ความคิดเห็น บ้างก็บอกว่าที่มันไม่ใช้อุ้งเท้าในการกลบดิน เพราะว่ามันกำลังแสดงความเคารพต่อพี่ชายที่เสียไปยังไงล่ะ หมาน่ะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประเสริฐมากเลยนะ มีชาวเน็ตคนหนึ่งบอกว่า “ฉันรู้สึกเสียใจกับเจ้าหมาที่น่าสงสารตัวนี้มาก” ขณะที่อีกคนก็บอกว่า “พวกมันน่าจะเป็นพี่น้องที่สนิทกันมากๆ เลยนะ” นอกจากนี้ชาวเน็ตคนหนึ่งก็บอกว่า “ผมอายุ 16 ปี แต่ผมพูดด้วยความสัตย์จริงเลยว่าตอนนี้กำลังร้องไห้อยู่ ผมอยากจะทำอะไรซักอย่างเพื่อช่วยเหลือเจ้าหมาตัวนี้” ลองไปชมคลิปเหตุกการณ์สะเทือนใจกันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้กันได้เลย… แม้จะไม่มีข้อยืนยันว่าที่เจ้าหมาทำไปนั้นเป็นเพราะอะไรกันแน่ เพราะมันเสียใจที่สูญเสียพี่ชายไป หรือ อาจจะเป็นแค่พฤติกรรมทางธรรมชาติของมันก็เป็นไปได้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็ได้สร้างความประทับใจ และทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนต่างน้ำตาซึมไปตามๆ กัน ที่มา : dailymail
-
ขอบคุณนะมนุษย์…เปิดหน้าพี่ “อึ่งอ่าง” ฮีโร่สิบล้อ ผู้จอดรถช่วยลูกแมวน้อยที่ถูกทิ้งไว้ใต้สะพาน
กลายเป็นเรื่องราวโด่งดังในโลกออนไลน์ของเราในขณะนี้เลย สำหรับเรื่องของคนขับสิบล้อรายหนึ่ง ที่จอดรถไว้กลางถนน เพื่อช่วยเหลือลูกแมวตัวน้อยที่ใต้สะพาน ทำเอาผู้คนต่างชื่นชมทั้งในและนอกจอเลยทีเดียว เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nieb Nuttigon หรือคุณเนี๊ยบ โดยเจ้าตัวได้โพสต์คลิปวิดีโอของคนขับรถสิบล้อที่พยายามจะช่วยลูกแมวลงมาจากใต้สะพานบริเวณถนนสาธุประดิษฐ์ เขตยานาวา กรุงเทพมหานครฯ พร้อมกับข้อความประกอบด้วยว่า “แชร์กันต่อไปครับ หนุ่มสิบล้อช่วยชีวิตแมวถูกปล่อยไว้กลางสะพาน คลิปดีๆ มาดูกันครับ สัตว์โลกทุกชีวิตมีลมหายใจอยู่ร่วมกัน” เหตุการณ์การช่วยเหลือในครั้งนี้ ทำเอาผู้คนในละแวกนั้นต่างแสดงความเป็นห่วงคนขับรถสิบล้อไปตามๆ กัน เพราะเนื่องจากต้องดัมพ์กระบะท้ายให้สูงขึ้นแล้วถึงเอื้อมไปคว้าเจ้าแมวมาไว้ได้ หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปก็สร้างความประทับใจให้แก่ชาวเน็ตไม่น้อย จนตอนนี้มีการแชร์ออกไปแล้วกว่า 6,000 ครั้ง นี่คือหน้าตาของเจ้าเหมียวผู้ถูกทิ้งไว้บนสะพาน คนขับรถสิบล้อยอดฮีโร่ของเรา ทราบภายหลังว่าชื่อคุณ “อึ่งอ่าง” เมื่อคุณเนี๊ยบสอบถามกับเขาว่าจะรับเอาแมวตัวนี้ไปเลี้ยงด้วยหรือไม่? คุณอึ่งอ่างก็ได้ปฏิเสธ เพราะตัวเองใช้ชีวิตอยู่แต่บนรถสิบล้อจึงเกรงว่าจะไม่มีพื้นที่มากพอ คุณเนี๊ยบจึงอาสารับเลี้ยงเจ้าแมวตัวนี้ไว้เอง ใครอยากเห็นการกู้ภัยเจ้าเหมียวแบบเต็มๆ ลองดูได้ที่นี่เลย เมื่อคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในวงกว้างก็ทำเอาชาวเน็ตปลาบปลื้มกับวีรกรรมของคนขับสิบล้อและส่งข้อความเข้ามาชื่นชมเขาอย่างล้นหลามเลย Thirada Deemanop “กราบใจคนช่วยและคนรับเลี้ยงนะคะ ขอให้มีชีวิตที่ดีและปลอดภัยตลอดไป” Nam PigWheel “ขอให้เจริญรุ่งเรืองทั้ง คนขับ คนช่วย และคนรับเลี้ยงนะคะ พวกคุณสุดยอดจริงๆ” Apichart Wongsathan “พี่สุดยอดมากครับ…
-
ไก่ช่วยด้วย!! “Darla” จากลูกไก่ป่วยใกล้ตาย กลายเป็นไก่นักบำบัดที่ใครๆ ก็ต้องการตัว
นี่เป็นเรื่องราวน่ารักๆ ของ Erika Proctor และลูกชาย Finn จากรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาตั้งองค์กร Green Dogs Unleashed เพื่อช่วยเหลือสุนัขที่หูหนวกตาบอด ทำให้พวกเขาใกล้ชิดกับสัตว์มาก ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 2 ปีก่อน ในปี 2015 Erika Proctor และลูกชาย Finn ได้ไปเที่ยวที่งานจัดแสดงสินค้าแห่งหนึ่ง แล้วได้ไปเจอเข้ากับลูกไก่ป่วย 3 ตัว Finn เลยบอกกับแม่ของเขาว่าอยากจะรับเอาลูกไก่ตัวนั้นมาเลี้ยง แม้ว่ามันอาจจะไม่รอดก็ตาม แต่น่าเสียดายที่พอพาลูกไก่กลับมาบ้านแล้ว พวกมันดันตายไป 2 ตัว เหลือลูกไก่เพียงตัวเดียวที่แข็งแรงพอ พวกเขาเลยตั้งใจจะเลี้ยงมันและตั้งชื่อให้มันว่า Darla วันเวลาผ่านไปพวกเขาก็สนิทกับเจ้าไก่ตัวนี้มากขึ้น เจ้าไก่ตัวนี้เริ่มใช้ประตูบานพับเล็กๆ ของสุนัขเดินเข้าออกบ้านปร๋อ นอกจาก Darla แล้ว ที่บ้านของพวกเขายังมีแมวมีสุนัขตาบอดหูหนวกอยู่หลายตัว แต่พวกมันก็ไม่เคยทะเลาะกันเลย และยังเข้ากันได้ดีกับสัตว์ทุกๆ ตัวด้วย ส่วน Finn เองก็ดูจะชอบเจ้าไก่ Darla มาก พวกเขาจะออกไปเล่นนอกบ้านด้วยกันบ่อยๆ บางครั้งเขาก็จะอ่านหนังสือให้เจ้าไก่เพื่อนยากฟัง และเนื่องจากอากาศที่นั่นค่อนข้างเย็น เจ้าไก่ก็เลยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการซุกอยู่ในเสื้อกันหนาวของ Finn เป็นหลัก…
-
หมดกัน… ฟาร์มเสือจีนปล่อย “โดรน” บินว่อนพาเสือออกกำลังกาย แต่ก็โดนตะปบจนพัง!?
ในช่วงต้นปีแบบนี้ยังคงเป็นช่วงฤดูหนาวของประเทศจีน ทำให้มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีหิมะตกในหลายๆ แห่ง นอกจากมนุษย์อย่างเราๆ ที่ใช้ชีวิตลำบากแล้ว พวกสัตว์เองก็เช่นกันนะ อย่างข่าวที่#เหมียวฟิ้นหยิบมารายงานในวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฟาร์มเสือไซบีเรีย China’s Harbin Siberian Tiger Park ที่เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่นั่นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว เสือแต่ละตัวก็จะมีร่างกายที่อ้วนท้วมสมบูรณ์ป้องกันอากาศหนาว เนื่องจากอากาศหนาวมากจนพวกมันไม่อยากออกไปไหน ทางฟาร์มเสือจึงออกไอเดียนำเอาโดรนมาบินล่อให้พวกมันวิ่งตาม เพื่อเป็นการกระตุ้นให้พวกมันได้ออกกำลังกายบ้าง แต่ด้วยสัญชาตญาณของเสือ เมื่อพวกมันเห็นอะไรที่บินได้มันก็จะคิดว่าว่าเป็นนก พวกมันจึงวิ่งไล่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งโดรนลำที่ว่านี้บินต่ำลงมาถึงระดับที่พวกเสือจะกระโดดได้พอดี มันจึงเอื้อมไปตะปบจนโดรนหล่นลงมากับพื้นและพังในที่สุด เมื่อพวกเสือเดินเข้าไปดูกับเหยื่อของตัวเองก็พบว่านั่นไม่ใช่นกแต่เป็นสิ่งของหน้าตาประหลาดที่ตัวเองไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่น่าจะกินได้ด้วย… ชมการไล่ล่าโดรนได้ที่นี่เลย ด้าน Ben Pearson เจ้าหน้าที่จากสมาคมพิทักษ์สัตว์โลกได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับคลิปวิดีโอดังกล่าวว่าแม้มันจะดูเป็นเรื่องตลกๆ แต่นี่เป็นชะตากรรมของเหล่าเสือในประเทศจีนเพราะพวกมันถูกเลี้ยงไว้เพื่อสร้างความบันเทิงแก่นักท่องเที่ยวเท่านั้น และโดยธรรมชาติแล้วเสือเองเป็นสัตว์ที่รักความสันโดด การที่ได้เห็นพวกมันมาอยู่รวมกลุ่มกันแบบนี้จึงไม่ใช่ธรรมชาติของพวกมันเลย และเมื่อพวกมันตายไปบางส่วนของร่างกายพวกมันก็ยังถูกนำเอาไปเป็นเครื่องประดับหรือทำยาสมุนไพรด้วย เห็นฮาๆ แบบนี้มีเบื้องหลังให้ดราม่าด้วยนะ ที่มา Shanghaiist , abc
-
หนุ่มเคนย่าฮีโร่ตัวจริง ยอมขับรถวันละชั่วโมง เพื่อเอาน้ำไปให้สัตว์ป่าทั้งหลายกิน!!
ความแห้งแล้งในประเทศเคนย่าส่งผลให้สัตว์ป่าจำนวนมากตายเนื่องจากขาดน้ำ แต่อย่างน้อยสัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติ Tsavo West National Park ก็ยังโชคดีที่มีมนุษย์ยอมขับรถหลายชั่วโมง เพื่อนำน้ำมาส่งให้พวกมันประจำทุกวัน นี่คือ Patrick Kilonzo Mwalua หนุ่มอาสาสมัครผู้ใจดีวัย 41 ปี ที่กลายเป็นพ่อพระของอุทยานแห่งชาติ Tsavo West ไปซะแล้ว หลังจากที่เขามักจะนำน้ำกว่า 3,000 แกลอน ไปให้แก่บรรดาสัตว์ป่าได้ดื่มกิน จนทำให้มันสามารถรอดชีวิตมาได้ “เมื่อสัตว์ป่าไม่มีน้ำดื่มกิน ดังนั้นมันก็จะกลายเป็นหน้าที่ของมนุษย์แล้วละ เพราะถ้าหากเราไม่ช่วยพวกมัน สัตว์เหล่านี้ก็จะตาย” Patrick กล่าว นอกจากนี้เขายังเผยอีกว่า เวลาที่เขานำน้ำไปให้พวกมัน สัตว์หลายตัวมักจะพากันเบียดเข้ามาดื่มน้ำ ซึ่งเขาเคยเห็นควายกว่า 500 ตัว มารออยู่ที่หลุมน้ำที่เขาจะเทน้ำให้มันกิน และเมื่อ Patrick เดินทางมาถึง พวกสัตว์ก็จะได้กลิ่นของน้ำ และรีบมาหาเขาทันที “พวกมันพากันดื่มน้ำในขณะที่ผมยืนอยู่ตรงนั้น และดูเหมือนว่าพวกมันจะตื่นเต้นมากๆ เลยละ” Patrick กล่าว สำหรับ Patrick เขาเป็นเพียงแค่เกษตรกรธรรมดาๆ คนหนึ่ง…
-
ซานฟรานซิสโก ออกกฎหมายบังคับร้านสัตว์เลี้ยง ให้ขายสัตว์จากสถานสงเคราะห์เท่านั้น
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราคิดจะรับสุนัขมาเลี้ยงที่บ้าน ที่แรกที่เราจะมองหาก็คือที่ร้านขายสัตว์เลี้ยง เพื่อหาลูกสุนัขหน้าตาน่ารักๆ มาเลี้ยง คงจะมีน้อยคนมาที่จะรับเอาสุนัขจากสถานสงเคราะห์มาเลี้ยง เพราะพวกมันโตแล้วและก็ไม่ได้น่ารักเท่าไหร่ การที่คนไม่ค่อยจะรับเลี้ยงสุนัขตามสถานสงเคราะห์นั้น ทำให้จำนวนของพวกมันเพิ่มมากขึ้นและยากต่อการจัดการ ด้วยเหตุนี้เองทางเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกาจึงได้ออกกฎหมายบังคับให้ร้านขายสุนัขต้องขายแต่สุนัขที่ได้รับการช่วยเหลือมาเท่านั้น เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Independent เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเนื้อหาได้กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ซานฟรานซิสโกได้มีมติออกกฎหมายห้ามร้านขายสัตว์เลี้ยงขายสุนัขและแมวที่ไม่ได้ผ่านการช่วยเหลือมาก่อน มาตรการนี้เป็นหนึ่งในความพยายามที่จะแก้ปัญหาสุนัขและแมวแพร่พันธุ์ตามที่ต่างๆ แบบ “ไร้มนุษยธรรม” นั่นเอง ซึ่งฟาร์มหรือร้านพยายามปั๊มสัตว์พันธุ์ดีอันเป็นที่นิยมออกมาขายทำกำไร ส่วนตัวที่ขายไม่ได้ บางครั้งก็กลายเป็นสัตว์เร่ร่อน แล้วกลายเป็นว่าสถานรับเลี้ยงต่างๆ ต้องเขามาดูแล นอกจากกฎหมายบังคับให้ขายเฉพาะสัตว์จากสถานสงเคราะห์แล้ว ยังมีกฎเพิ่มเติมอีกว่าห้ามขายสัตว์เลี้ยงที่มีอายุต่ำกว่า 8 สัปดาห์ด้วย เพราะเนื่องจากพวกมันยังเด็กเกินกว่าที่จะถูกรับไปเลี้ยง นี่ไม่ใช่เมืองแรกที่มีการออกกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เพราะก่อนหน้านี้เองมีทั้งเมืองลอสแองเจลิส ซานดิเอโก ชิคาโก้ ฟิลาเดเฟีย บอสตัน และออสติน ได้ออกกฎหมายนี้นำร่องไปก่อนแล้ว Mimi Bekhechi ผู้อำนวยการองค์กรการกุศลต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์กล่าวว่า “ด้วยมตินี้จะพิสูจน์ให้เห็นว่าซานฟรานซิสโกเป็นเมืองแห่งความรักสำหรับสุนัขและแมวนับล้านที่หมดหวังจะหาบ้านใหม่” มีการคาดกันกฎหมายครั้งนี้น่าจะช่วยให้เหล่าแมวและสุนัขตัวเมีย ที่ถูกจับขังไว้ตามร้านขายสัตว์เลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยงไปขายได้รับอิสระ นอกจากนี้มันจะช่วยให้เหล่าสัตว์เลี้ยงที่ไร้เจ้าของพวกนี้มีบ้านอยู่ราวๆ ปีละ 6,000 ตัวเลยทีเดียว หวังว่าสักวันหนึ่งบ้านเราจะมีกฎหมายอะไรแบบนี้ออกมาบ้าง เพื่อช่วยลดจำนวนสัตว์จรจัดในบ้านเราบ้าง…
-
พ่อเด็กฟิลิปปินส์ เห็นลูกแอบจิ๊กอาหารออกจากบ้าน ตามไปพบกับภาพแบบที่เห็นนี่ล่ะ…
ปกติแล้วถ้าเกิดมีการขโมยเกิดขึ้น โดยทั่วไปเราก็จะไม่ให้อภัยหัวขโมยคนนั้นอย่างแน่นอน แต่ว่าสำหรับเรื่องนี้พอรู้ความจริงของสาเหตุการขโมยแล้วเรากลับจะต้องให้อภัยเขาอย่างแน่นอน เรื่องนี้เป็นเรื่องของเด็กชายวัย 9 ขวบชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งที่มีชื่อว่า Ken Amante เขาชอบที่จะเดินทางออกจากบ้านทุกวันพร้อมกับอาหารมากเป็นพิเศษ และด้วยการที่เขาเป็นคนเงียบๆ เขาจึงไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางที่เขาไปในทุกวัน พ่อแม่ก็เลยนึกว่าไปเล่นกับเพื่อนตามประสาเด็ก นั่นจึงทำให้พ่อของ Ken รู้สึกสงสัยในจุดหมายปลายทางที่ลูกของเขาไป ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าลูกของเขาเป็นเด็กดีแต่เขาก็อยากจะมั่นใจว่าลูกของเขาไม่ได้ไปในสถานที่ไม่ดี เขาจึงเลือกที่จะตามเด็กชายที่แอบหอบกระเป๋าที่เต็มไปด้วยอาหารตามไป ภาพที่เขาเห็นเป็นภาพของเด็กชายที่กำลังให้อาหารสุนัขจรจัดข้างทาง ซึ่งสุนัขบางตัวมีสภาพที่ดูไม่ได้เลยทีเดียว บางตัวซูบผอมเหลือแต่กระดูก บางตัวก็ดูจะเป็นโรคเรื้อน แต่เด็กชายก็ไม่มีท่าทีจะกลัวหรือรังเกียจเลยแถมยังป้อนอาหารพวกมันอย่างตั้งใจ โดยปกติแล้วสุนัขจรจัดจะต้องกลัวการเข้าใกล้มนุษย์และอยู่ให้ห่างมากที่สุด แต่เจ้าหมาพวกนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น พวกมันยอมที่จะเข้าใกล้ Ken และเล่นกับเขา หลังจากเรื่องราวนี้กระจายออกไปผู้คนมากมายก็อยากที่จะช่วยเจ้าหมาพวกนี้ เงินบริจาคจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้ามา ถึงแม้ว่า Ken จะเป็นเพียงเด็กชายวัย 9 ขวบ แต่เขามีความฝันที่จะเปิดที่พักพิงให้สำหรับสัตว์ ด้วยเงินก้อนนี้จึงทำให้เขาทำความฝันเป็นจริง เขาตั้งชื่อมันว่า The Happy Animals Club แน่นอนว่าสัตว์กลุ่มแรกที่เขาดูแลก็คือเจ้าสุนัขจรจัดทั้งสามตัวนั้นเอง เขาตั้งชื่อให้พวกมันว่า Whitey, Brownie และ Blackie ซึ่งหลังจากนี้เขาก็จะยังคงทำตามความฝันที่จะช่วยพวกสัตว์จรจัดต่อไปแน่นอนว่าที่บ้านของเขาก็สนับสนุนเช่นกัน ก็หวังในอนาคตเมื่อ Ken…
-
รู้จัก “เจ้าเหมียวผู้ไม่มีใครต้องการ” สถานดูแลพยายามหาบ้านให้มัน นานถึง 433 วัน!!!
เป็นปกติที่สัตว์จรจัดหลายๆ ตัวเมื่อถูกเก็บได้หรือถูกทิ้งพวกมันก็มักจะไปจบอยู่ที่ศูนย์รับเลี้ยง เพื่อรอจนกว่าจะมีคนใจดีมารับพวกมันไปเลี้ยงต่อ หรือบางแห่งอาจจะฟังดูโหดร้ายหน่อยคือต้องฆ่าหมาหรือแมวพวกนั้น เมื่อมันเต็มเพื่อเปิดรับให้ตัวใหม่เข้ามา เช่นเดียวกับ Champas เจ้าเหมียวอายุุ 5 ปี ที่ได้อยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ในซิดนีย์มาเป็นเวลาปีกว่าแล้ว ซึ่งเจ้านี่มันถูกพามาที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้เมื่อปี 2015 ในตอนแรกนั้น มันก็เป็นเหมือนแมวที่มาอยู่ในสถานที่ใหม่ๆ มันตื่นกลัวในผู้คนรอบๆ ตัวมันมาก และไม่ยอมไว้่ใจใครเลย แม้พวกเขาจะพยายามปลอบใจมัน จนแล้วจนรอดเวลาผ่านไปสุนัขและแมวอื่นๆ ในศูนย์ก็ถูกรับไปตัวแล้วตัวเล่า เหลือเพียงมันเพียงตัวเดียวที่ได้แต่นั่งดูอย่่างเศร้าสร้อย เมื่อไม่สามารถจะหาครอบครัวที่เลี้ยงมันได้ Champas จึงจบด้วยการทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับของศูนย์พักพิงสัตว์แห่งนี้ ซึ่งนั้นก็ทำให้มันได้คุ้นเคยกับผู้คนมากขึ้น เวลาผ่านไปนานนับปี มันยังคงทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับเช่นเคย แต่ศูนย์รับเลี้ยงก็รู้ดีว่าพวกเขาอาจจะดูแลมันตลอดไปไม่ได้ และอยากจะหาเจ้าของที่พร้อมจะดูแลมันจริงๆ ซึ่งล่าสุดศูนย์พักพิงสัตว์ก็ได้จัดแคมเปญขึ้นในวันวาเลนไทน์เพื่อหาบ้านให้กับเจ้าเหมียวอยู่ เพื่อที่มันจะได้มีบ้านของตัวเองสักที และจะได้อยู่กับครอบครัวนั้นไปตลอดกาล “เขาไม่ใช่แมวที่เข้ากับใครก็ได้หรือครอบครัวไหนๆ จะยอมรับมันไปเลี้ยง แต่เราเชื่อว่าจะต้องมีครอบครัวที่เข้ากับมันได้แน่นอน และพร้อมจะรับมันไปเลี้ยงเพื่อให้มันมีความสุข” เจ้าหน้าที่ของศูนย์พักพิงได้ให้สัมภาษณ์ถึงเจ้า Champas สำหรับแคมเปญนี้ พวกเขาจับมันมาถ่ายรูปโปรโมตพร้อมกับเขียนป้ายคำน่ารักๆ เพื่อช่วยให้มันได้เจอกับเจ้าของคนใหม่สักที สุดท้ายแล้วทางศูนย์พักพิงก็ได้ลดราคาค่ารับเลี้ยงดูเจ้า Champas ให้เหลือเพียงราวๆ 1,700 บาทเท่านั้น (การรับเลี้ยงหมาแมวในหลายที่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน) เพื่อช่วยให้มันสามารถหาบ้านของตัวเองได้สักที . หลังจากที่แคมเปญของมันได้ถูกโพสออกไปเพียงแค่ 4…
-
หนุ่มไร้บ้านโวยถูกเจ้าหน้าที่รัฐยึด “เจ้าเป็ด” หลังชาวบ้านแจ้งเรื่องกลิ่น และเสียงก๊าบก๊าบ!!
แม้ว่ากลุ่มคนไร้บ้านจะไม่ได้มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย อาจจะด้วยสาเหตุของปัญหาชีวิต เงินทอง หรือบางคนเลือกที่จะไม่ทำงานทำการและปล่อยให้ชีวิตมันเป็นไปแบบนั้นเอง แต่พวกเขาก็พอจะมีความสุขได้บ้างจากสัตว์เลี้ยง เช่นเดียวกับนาย Russ O’Conner เขาคือหนึ่งในคนไร้บ้านที่ต้องการเพื่อนเป็นสัตว์เลี้ยงสักตัวเหมือนกัน เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้นำเสนอเรื่องราวของนาย Russ O’Conner ชายไร้บ้านในเมือง Newton Abbot มณฑล Devon ประเทศอังกฤษ ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ช่วยชีวิตเป็ด 2 ตัวมาจากข้างถนน จากนั้นเขาก็หากล่องกระดาษเอามาทำเป็นบ้านให้กับเจ้าเป็ดพวกนั้นและพามันไปด้วยทุกที่ที่เขาไป แต่เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องการเลี้ยงเป็ดหรือการทำความสะอาดที่ถูกต้อง ทำให้กลิ่นอาหาร กลิ่นฉี่และกลิ่นอึของพวกมันไปรบกวนชาวบ้านคนอื่นๆ เข้า วันหนึ่งชาวบ้านแถวๆ นั้นจึงโทรแจ้งตำรวจให้มาจัดการเอาเป็ดนี่ออกไปจากถนน ตามรายงานบอกว่าเจ้าหน้าที่ได้ขับรถตู้สำหรับปราบจลาจลมายังถนนที่นาย O’Conner นอนอยู่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อีก 9 คน กลุ่มพิทักษ์สัตว์ RSPCA ได้ออกมากล่าวว่ามีชาวบ้านโทรเข้าไปร้องเรียนกับพวกเขาเยอะมาก และยังแสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ด้วย จึงต้องเข้ามารับตัวเป็ดดังกล่าวไป หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้ามาเอาเป็ดทั้ง 2 ตัวไป นาย O’Conner ก็แสดงอาการว้าวุ่นใจที่สูญเสียสัตว์เลี้ยงของเขาและบอกด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามบังคับใช้กฎหมายทุกๆ ข้อเพื่อยึดเอาเป็ดของเขาไป “ผมเลิกสูบกัญชาเพื่อที่จะได้ดูแลเป็ดของผม พวกมันไม่ได้ชอบเล่นกับคนมากนัก” ชายไร้บ้านกล่าว นาง…
-
เจ้าของต๊กกะใจ เมื่อหมาลาบาดอร์คลอดลูก 5 ตัว ทุกตัวปกติ ยกเว้นมีตัวนึง “สีเขียว”!?
ปกติแล้วสุนัขเวลาที่มันออกลูกมาสีของลูกสุนัขก็จะขึ้นอยู่กับตัวพ่อพันธ์แม่พันธ์ ไม่ก็จะอยู่ในโทนสีดำ ขาว น้ำตาล อะไรจำพวกนี้แล้วแต่พันธ์ของสุนัข แต่ทว่าล่าสุดก็ได้มีเรื่องแปลกเกิดขึ้นกับลูกสุนัขตัวหนึ่งที่พึ่งเกิดออกมา?!! เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเจ้าสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์เพศเมียที่ได้ให้กำเนิดลูกออกมาทั้งหมด 5 ตัว ซึ่งเป็นตัวผู้ 4 ตัวและตัวเมีย 1 ตัว ซึ่งปัญหามันไม่ได้อยู่แค่มันเป็นตัวเมียเพียงตัวเดียว แต่มันดันมีสีที่ผิดแปลกจากตัวอื่นซะงั้น พี่น้องของมันเป็นสีทองล้วนตามสไตล์หมาลาบาดอร์ แต่มีแค่เจ้าลูกหมาตัวนี้เท่านั้นที่ไม่เหมือนใคร Elaine Cooper เจ้าของหมาตัวนี้เชื่อว่ากรณีนี้เป็นกรณีที่ 3 ของโลก ซึ่งเธอได้ตั้งชื่อเจ้าหมาตัวนี้ว่า Ffif โดยชื่อของมันมาจากเจ้าหญิง ฟิโอน่า จากเรื่องเชร็ค “ตอนแรกมันคลอดออกมาจากถุงน้ําคร่ําฉันคิดว่ามันจะมีสีที่มืดๆ จนคิดว่ามันจะเป็นลาบราดอร์สีดำ” “แต่พอทำความสะอาดถุงน้ำคล่ำเสร็จ ฉันถึงกับหัวเราะออกมา พร้อมกับพูดว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่มันจะเป็นสีเขียว ตัวอื่นก็เป้นสีทองหมดแท้ๆ” กลายเป็นโดดเด่นกว่าตัวอื่นเลย สาเหตุที่ลูกสุนัขเป็นสีเขียว ทางผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เพราะน้ำดีที่มีเขียวที่เรียกว่า Biliverdin ซึ่งจะพบได้ในรกของสุนัข โดยคราบของน้ำดีจะเครือบอยู่บนตัวสุนัขเมื่อมันรวมตัวกับน้ำคร่ำ แต่ว่าของเหลวนี้ไม่ได้มีอัตรายอะไรแถมมันยังช่วยปกป้องและบำรุงลูกสุนัขอีกตะหาก พอผ่านไปไม่กี่สัปดาห์สีเขียวที่ติดวตัวลูกสุนัขก็จะหายไป แต่ถว่ากรณีแบบนี้เกิดขึ้นได้ยากมากๆ ซึ่งมันมักจะเกิดขึ้นกับสายพันธ์ที่มีสีสว่างเช่นลาบราดอร์เป็นต้น สุดท้ายเธอบอกว่า เธอกับสามีวางแผนจะขายลูกหมาทั้งหมดเมื่อพวกมันโตพอ ซึ่งเธอยังพูดเสริมอีกว่าเธอได้ค้นหาดูแล้วและพิสูจน์ได้จริงๆ ว่าทั้งโลกมีลูกลาบราดอร์เกิดออกมาเป็นสีเขียวเพียง 3 ตัวเท่านั้น โดยตัวแรกเกิดที่ประเทศสเปน…
-
นี่คือ 10 พฤติกรรมขยายพันธุ์ 18+ ของสัตว์โลก ที่ทั้งโหด และหลอนในเวลาเดียวกัน!?
สิ่งมีชีวิตใดๆ บนโลกใบนี้ ถูกสร้างขึ้นมาให้มีความแตกต่างกัน ทั้งรูปร่างหน้าตา ขนาด พฤติกรรม รวมไปถึงรูปแบบการสืบพันธุ์แบบต่างๆ แต่เพื่อนๆ บางคนอาจจะไม่รู้ว่าสัตว์บางสายพันธุ์นั้นมีพฤติกรรมที่ชวนสยองเหมือนกัน และในบทความนี้#เหมียวฟิ้นได้รวบรวมเอาพฤติกรรมที่ว่านี้มาตีแผ่ให้ทุกคนได้รู้ น่าสยองอย่างที่ว่าจริงไหมลองไปดูกันเลย 1. จิ้งเหลนหางแส้มีลูกได้เอง นี่คือความสามารถที่สาวๆ บางคนอาจจะอยากได้มันมากๆ เพราะพวกจิ้งเหลนหางแส้สามารถผสมพันธุ์และให้กำเนิดลูกได้เอง โดยที่ตัวอ่อนจิ้งเหลนจะสามารถเจริญเติบโตและเป็นรูปเป็นร่างได้อยู่ภายในร่างกายของตัวเอง แม้จะไม่ผ่านการปฏิสนธิจากตัวผู้เลยก็ตาม สิ่งนี้เรียกว่า Parthenogenesis (ภาษากรีกแปลว่าการสร้างสรรค์แบบบริสุทธิ์) 2. ปลาตกเบ็ดไม่ต้องห่วงเรื่องนอกใจ ดูจะเป็นสายพันธุ์สัตว์ที่โรแมนติกสุดๆ แต่มันก็ตามาด้วยเรื่องชวนอึ้งเช่นกัน เพราะเมื่อปลาตกเบ็ดตัวผู้ฝักออกมาจากไข่ พวกมันก็จะตรงเขาไปกัดที่ท้องของปลาตกเบ็ดตัวเมียทันที จากนั้นร่างกายของมันก็จะหดเล็กลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นเหมือนปรสิตตัวเล็กๆ เกาะติดตัวเมียไปตลอดเวลา อีกทั้งยังใช้ระบบเลือดร่วมกันด้วยนะ เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงวันที่ตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ตัวผู้ก็จะปล่อยสเปิร์มเข้าไปในตัวเมียเพื่อให้มันตั้งท้อง และถึงแม้จะผสมพันธุ์กันไปแล้ว แต่พวกมันก็จะอยู่ด้วยกันตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยนแปลง 3. ตั๊กแตนตำข้าวกินหัวตัวผู้!? ราวๆ 16% ของการผสมพันธุ์ของตั๊กแตนตำข้าวตัวผู้และตัวเมีย ตัวเมียจะกินหัวของตัวผู้เข้าไประหว่างผสมพันธุ์กัน…อึ๋ย 4. ฮิปโปสุดยัวะ มันคือหนึ่งในสายพันธุ์สัตว์ที่อันตรายที่สุดในแอฟริกาเลยก็ว่าได้ ไม่มีอะไรที่จะหยุดพวกมันได้หากพวกมันอยากจะหว่านเสน่ห์ใส่ตัวเมีย แต่วิธีในการดึงดูดเพศเมียของพวกมันอาจจะแปลกสักหน่อยตรงที่พวกมันจะทั้งอึและฉี่ออกมาเพื่อสร้างอนาเขตของตัวเอง ให้เพศเมียรู้สึกสะดุดตา… 5. เม่นปล่อยสิ่งปฏิกูลเพื่อสร้างความประทับใจ!? การที่ร่างกายของพวกมันมีหนาม ไม่ได้ทำให้การผสมพันธุ์เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเลย แต่เรื่องที่แปลกก็คือเม่นตัวผู้มักจะฉี่ใส่เม่นตัวเมียก่อนที่จะมีอะไรกัน… และบางคนอาจจะกังวลว่าพวกเม่นตัวเมียจะรู้สึกเจ็บปวดหรือเปล่าเมื่อต้องให้กำเนิดลูก? เราก็ขอบอกเลยว่ามันไม่ได้เจ็บปวดอะไรนะ…
-
ญี่ปุ่นออกไอเดีย “Neko Muffler” ผ้าพันคอแมว ที่จะเปลี่ยนเจ้าเหมียวให้ดูดีขึ้นอีก!!
แมวเหมียว ถือเป็นอีกสัตว์ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเลี้ยงอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และบ่อยครั้งที่เราเห็นมันถูกพาไปไหนมาไหนบ่อยๆ พร้อมกับชุดคอสเพลย์น่ารักในแบบญี่ปุ่นที่เจ้าของสรรหามา ล่าสุดมีได้มีคนผลิตแฟชั่นใหม่ล่าสุดให้กับเจ้าเหมียวได้ใส่กัน ซึ่งมันก็คือ “Neko Muffler หรือ ผ้าพันคอเจ้าเหมียว” นั่นเอง โดยผ้าพันคอเจ้าเหมียวนี้ทำมาจากด้ายอะคริลิคที่มีน้ำหนักเบาและหนุ่ม ผ้าพันคอเจ้าเหมียวนี้จะมาในรปแบบ 2 สี คือสีแดงและน้ำเงินสลับกันซึ่งมันจะทำให้เข้ากับเจ้าเหมียวทุกสีทุกพันธ์ุ ส่วนไซส์ของผ้าพันคอจะมีด้วยกันสองไซส์ด้วยกัน ไซส์กลางจะมีขนาดราวๆ 21-25 เซนติเมตรเหมาะสำหรับเจ้าเหมียวอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี ไซส์ใหญ่จะมีขนาดราวๆ 26-30 เซนติเมตร เหมาะสำหรับเจ้าเหมียวอายุ 2 ปีขึ้นไป เมื่อเอามาใส่กับแมวของคุณ… ตัวผ้าพันคอจะมาพร้อมกับกล่องที่สวยงาม ใครที่สนใจอยากหาให้เจ้าเหมียวของตัวเองใส่ก็สามารถสั่งซื้อได้จาก amazon หรือ col ซึ่งราคาจะอยู่ที่ราวๆ 600 บาทต่อชิ้น ภาพของกล่อง ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีเช่นกัน… นอกจากผ้าพันคอแล้ว ยังมีหมวกไว้ใส่ให้เข้าเซตน่ารักๆ ด้วยนะ ส่วนอันนี้อาจจะดูไม่เข้ากับผ้าพันคอ แต่ก็น่ารักไปอีกแบบ สงสัยต้องไปหาให้เจ้าเหมียวที่บ้านใส่บ้างแล้ว ใส่แล้วคงจะน่ารักน่าดูเลยล่ะ ที่มา rocketnews24
-
ภารกิจช่วย Mister Pickle แมวจรที่มาขออาหารทุกวัน อยู่ดีๆ ก็หายไปแล้วกลับมาพร้อมแผลรถชน…
Mister Pickle แมวจรจัดที่ถูกรถชนจนต้องเข้ารับการรักษาเป็นเงินมากกว่า 210,000 บาท จนทำให้มันได้พบกับครอบครัวใหม่ที่ทำให้ชีวิตของมันเปลี่ยนไป เรื่องมันเริ่มขึ้นจากหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Melissa Popham ซึ่งเธอทำงานอยู่ที่ร้านเพ็ทช็อปและได้เจอกับเจ้า Mister Pickle แมวจรจัดที่มันจะมาขออาหารเธอกินอยุ่เสมอ จนวันหนึ่งเจ้าแมวเหมียวได้หายไปนานถึง 5 วัน… หลังจากนั้นมันก็กลับมา แต่ไม่ได้มาแบบปกติ มันพร้อมกับสภาพที่เหมือนกับซอมบี้หยั่งกับว่าหลุดมาจากหนังสยองขวัญ จนเธอจะต้องเรียกเพื่อนร่วมงานของเธอมาช่วยกันทำแผลให้เจ้าเหมียวทันที พวกเขาสันนิษฐานว่ามันต้องจะต้องถูกรถชนเข้าแน่นอน ดูได้จากกรามที่หักและหนองที่ออกมาจากตัว… แผลที่เกิดขึ้นกับมันหนักหนาพอสมควรเลยทีเดียว ทำให้มันต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 210,000 บาท แต่ว่า Melissa ก็ดูยินดีที่จะจ่ายค่ารักษานี้เพื่อช่วยเจ้าเหมียวให้รอดตาย ชีวิตของเจ้า Mister Pickle พลิกผันสุดๆ จากการเป็นแมวจรจัดใกล้ตาย ตอนนี้มันก็กลายเป็นแมวที่มีเจ้าของไปแล้ว แถมยังรักมันมากๆ อีกด้วย สุดท้าย Melissa ได้พูดทิ้งท้ายว่า “เจ้า Mister Pickle มันเป็นแมวที่ดีมากๆ เลยล่ะ มันไม่ใช่เป็นแค่สัตว์เลี้ยงแต่ยังเป็นเพื่อนรักของฉันอีกด้วย ฉันดีใจมากๆ ที่ได้มันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉัน” พอเวลาผ่านไปสองเดือนเจ้าเหมียวก็ดูจะดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้น Melissa ก็พามันกลับมาอยู่บ้านด้วย แถมตอนนี้มันยังมีพี่ชายแล้วนะ แถมมันยังดูรักกันมากๆ…
-
เมื่อกระรอก 2 ตัว ต้องมาแย่งชิง “วอลนัท” ลูกเดียวกัน มันเลยเกิดเป็นฉากต่อสู้สุดมันส์
กระรอกเป็นผู้ที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นสัตว์ที่ชื่นชอบในการเก็บสะสมอาหารที่หามาได้ ไม่ใช่เฉพาะปกป้องจากกระรอกด้วยกันเท่านั้น แต่รวมถึงจากพวกนก และสัตว์ตัวอื่นๆ ที่จะมาขโมยอาหารของพวกมันด้วยเช่นกัน ภาพที่จะโชว์ให้ดู เป็นภาพที่กระรอกสองตัวสู้กันอย่างดุเดือด เพื่อแย่งชิงอาหารกัน แต่ถ้าจะดูแค่มันสู้กันก็คงจะธรรมดาไป เพราะว่าท่าทางที่พวกมันสู้กันนั้น ประดุจดั่งว่าใช้วิชานินจาและกังฟู เข้าห้ำหั่นกันเลยทีเดียว เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกภาพไว้โดย Martin Docker เขาบอกว่าปกติแล้วกระรอกจะมีหลุมเก็บอาหารเป็นของตัวเอง และมันจะเก็บรักษาลูกนัทอย่างดี แต่ถ้ามีสักตัวเข้ามายุ่มย่ามกับอาหารของมันล่ะก็ จะเกิดเป็นฉากบู๊อย่างที่เรากำลังจะได้เห็นนี่แหละ… เจอลูกเตะลอยฟ้าหน่อยเป็นไง!! วิชาลับ คมเขี้ยวกระรอก!! ฝามือกระรอกบินน!! สู้ไม่ได้ต้องเจอนี่… ท่าไม้ตายกระรอกบดไข่ จากข้อมูลระบุว่าในศึกแย่งอาหาร สัตว์ชนิดอื่นยากที่จะเข้าไปแย่งมาได้เพราะกระรอกมีสายตาที่เฉียบคม จึงทำให้ส่วนใหญ่กระรอกจะสู้กับกระรอกด้วยกันเองเป็นส่วนมาก เพราะว่าพวกมันสามารถที่จะขาดเดาได้ว่า คลังเสียงของกระรอกตัวอื่นเก็บไว้ที่ไหน ท่าทางการสู้ของพวกมันก็เท่ไม่หยอกเลยนะเนี่ย เรียนมาจากสำนักไหนกันนะ จะไปฝากตัวเป็นศิษย์สักหน่อย!!! ที่มา mirror
-
ความจริงของภาพ “เสืออ้วน” ที่ชาวเน็ตแชร์กัน แท้จริงคือการเพิ่มไขมันเพื่อให้ทนอากาศหนาว
ภาพที่เราได้เห็นอยู่ในขณะนี้ถือเป็นภาพหนึ่งที่โด่งดังในโลกออนไลน์ทั้งในไทยและต่างประเทศพอสมควร สำหรับภาพของเจ้าเสือผู้น่าเกรงขาม แต่ดันมีร่างกายตุ้ยนุ้นจนผู้คนอดไม่ได้ที่จะกดไลก์และแชร์กันแบบรัวๆ หลายๆ คนอาจจะเห็นแค่เพียงภาพแต่ไม่รู้ว่ามันมีที่มาที่ไปยังไง #เหมียวฟิ้นจะมาแถลงไขเอง ภาพของเจ้าเสือตัวนี้มาจากสวนสัตว์ Siberia Tiger Park ที่อยู่ในเมืองฮาร์บิน ทางตอนเหนือของประเทศจีน สวนสัตว์แห่งนี้ถือเป็นสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับเหล่าเสือไซบีเรียป่าเลยก็ว่าได้ เพราะมีพื้นที่ราวๆ 1,440,000 ตารางเมตร และเปิดดำเนินการมานานนับสิบปี โดยเป้าหมายของการเปิดสวนสัตว์แห่งนี้ ก็เพื่อช่วยอนุรักษ์เสือไซบีเรียให้คงอยู่ต่อไป อย่างล่าสุดในปี 2016 ที่ผ่านมา ทางสวนสัตว์แห่งนี้ยังได้ให้กำเนิดลูกเสือกว่า 90 ตัวเลยทีเดียว หลังจากที่ภาพของเจ้าเสือตัวนี้ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ได้ไม่นาน ผู้คนก็ต่างแซวกันว่าผู้ดูแลอาจจะให้อาหารมันมากเกินไปในช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมา จนทำให้มันอ้วนตั้บอย่างที่เห็น ในขณะที่บางคนแสดงความเป็นกังวลเรื่องสุขภาพของมัน ว่าอาจจะอ้วนเกินไปและทำให้เป็นโรคหรือเปล่า? ในจุดนี้ สำนักข่าว People’s Daily ของจีนได้ให้รายละเอียดตรงนี้ว่า ในความเป็นจริงแล้วเหล่าสัตว์ตามธรรมชาติจะกินอาหารเพื่อให้ตัวเองมีไขมันมากพอที่จะรับมือกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นในเมืองจีน อย่างที่เมืองฮาร์บินเองเมื่อถึงฤดูหนาวก็จะหนาวจนอากาศติดลบถึง -20 หรือ -30 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ฉะนั้นการที่พวกมันได้รับอาหารจนอ้วนแบบนี้ถือเป็นมาตรการช่วยเหลืออย่างหนึ่ง เพื่อให้มันทนอากาศหนาวได้ ซึ่งพวกมันก็จะค่อยๆ ผอมลงไปเองเมื่อถึงช่วงฤดูร้อน ที่พวกมันไม่จำเป็นต้องใช้ไขมันมหาศาลแล้ว พวกเขาก็จะลดปริมาณอาหารมันลง รวมถึงอากาศร้อนทำให้พวกเสือกินอะไรได้น้อยลงเช่นกัน ฉะนั้นใครที่เห็นภาพเสืออ้วนแบบนี้ก็อย่าเพิ่งตกใจไปนะ…
-
20 สัตว์ที่อารมณ์กำลังคุกรุ่น บอกเลยว่าอย่ามายุ่งกับข้า เดี๋ยวเอ็งได้กลับไปสองสามแผล!!
ปกติเวลาได้เห็นภาพของสัตว์ต่างๆ บนโลก ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ไม่เลี้ยง (แปลว่าต้องจ่ายเอง ถุ้ย ไม่ใช่) ส่วนใหญ่จะต้องเป็นภาพช่วงเวลาที่พวกเขากำลังมีความสุขและยิ้มแย้มกันอย่างสนุกสนาน แต่ความเป็นจริงแล้ว ใครล่ะจะมีความสุขตลอดเวลาได้ ไม่เชื่อลองดู 20 สัตว์โลก #เหมียวอ๊อดโด้ รวบรวมมาสิ รับรองว่าเพื่อนๆ จะรู้ทันทีว่า พวกมันก็อารมณ์บ่จอยเป็นเหมือนกันนะ เฮ้ยมนุษย์ ของกินหมดน่ะเห็นมั้ย อย่าให้เห็นว่าวางอะไรเรี่ยราด เดี๋ยวจะทำลายทิ้งให้หมดเลย ปลาทองจอมโหด แมวปิศาจ ขับไปเจ้ามนุษย์ อย่าหันมา เมื่อกีแกบอกว่าจะทำอะไรนะ เจ้ามนุษย์ มองไรฟร๊ะ คำว่าหน้าโหดยังน้อยไป ท่าทางจะเบื่อชีวิตการเป็นกบแย่ละ ทีหลังตีดีๆ เกือบโดนรังของชั้นแล้วเห็นมั้ย นี่ของฉัน ห้ามใครยุ่ง เข้าใจมั้ย เจ้านี่กำลังวางแผนฆ่าฉันอยู่แน่ๆ เต่าจอมโหด หรือจะเอา? อย่ามายุ่งเฟ้ย …
-
เหล่าลูกแร็คคูนวัยแบเบาะ ต้องเสียแม่ไปเพราะ “กับดักมนุษย์” แต่มันถูกช่วยเหลือแล้ว…
มีชายคนหนึ่งในฟลอริด้าได้วางกับดักไว้บนห้องใต้หลังคาของเขา เพื่อที่จะจัดการเจ้าแรคคูนที่มาป่วนเปี่ยนบนนั้น แต่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเมื่อเขาได้รู้ว่า เขาได้ทำเรื่องที่เลวร้ายมากๆ ลงไปแล้วนั่นเอง เขาไม่รู้เลยว่าเจ้าแรคคูนตัวนั้น ได้มาทำรังอยู่บนห้องใต้หลังคาของเขา และกำลังให้กำเนิดลูกน้อยในรังของมัน นั้นก็หมายถึงว่าชีวิตของพวกมันจะอยู่รอดได้ก็ขึ้นอยู่กับแม่ของมัน ซึ่งก็คือแรคคูนตัวนั้นก็ได้ถูกเขาฆ่าตายนั้นเอง ดังนั้นเขาจึงนำแรคคูนตัวน้อยๆที่กำพร้าแม่ไปยังสถานที่พักฟื้นสัตว์ป่า ซึ่งเขาพบว่าจากบันทึกประวัติของสถานพักฟื้นแล้ว เรื่องแบบนี้มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ จนรู้สึกได้ว่ามันบ่อยจนเกินไปด้วยซ้ำ “บ่อยครั้งมากที่แม่ของสัตว์มักจะถูกฆ่าโดยกับดักของนักล่า และสุดท้ายลูกๆ ของมันก็จะถูกนำมาไว้ยังองค์กรพื้นฟูสัตว์ป่าแห่งนี้ มีหลายกรณีมากที่พวกเขาขู่จะฆ่าลูกๆ ของมันเพียงถ้าหากว่าพวกเราไม่ยอมรับเลี้ยงสัตว์พวกนั้น” Damen Hurd ประธานองค์กรศูนย์ศึกษาและพื้นฟูสัตว์ป่าในฟลอริด้าได้กล่าวอธิบายบนเพจเฟสบุ๊คในวันพฤหัสบดี “ผมไม่ค่อยได้โพสอะไรมาก แต่สิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกท้อแท้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว” จริงๆ แล้วมันมีวิธีที่ดีและมีมนุษธรรมมากกว่าหากแค่เมื่อเจอแรคคูนในห้องใต้หลังคาของคุณ คุณก็แค่นำมันออกจากห้องใต้หลังคา และก็ปล่อยพวกมันกลับคืนสู่ป่า Damen ยังได้พูดอีกว่า “เราขอแนะนำให้ติดต่อกู้ภัยสัตว์ป่า หรือ ศูนย์ฟื้นฟูในท้องถิ่นเพื่อทำการขอให้ทำการย้ายสัตว์ป่าเหล่านี้หรือปล่อยพวกสัตว์เหล่านี้ แทนที่การวางกับดักเพื่อฆ่าพวกมันให้เสียชีวิต” แม้ว่าชีวิตพวกมันเฉียดใกล้ความตายหรือสูญเสียพ่อแม่ของมันกระทันหัน แรคคูนตัวน้อยที่กำพร้าแม่ก็ได้รับอาหารผ่านเข็มฉีดยาเล็กๆและได้อยู่ในความดูแลขององค์กรอย่างดี Damen กล่าวปิดท้ายว่า “เจ้าแรคคูนพวกนี้กำลังไปได้ดีเลยล่ะ เราป้อนอาหารพวกมันหลายครั้ง และพวกมันก็มีสุขภาพแข็งแรงดีเลยทีเดียว เพียงแต่พวกมันกลับโชคร้ายที่ต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่เกิด” สุดท้ายแล้วเพื่อที่จะช่วยยกระดับสัตว์เล็กๆพวกนี้ ศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ป่ากำลังพยายามสร้างโรงพยาบาลขนาดใหญ่เพื่อสัตว์ป่าในกรณีต่างๆ ถ้าใครที่กำลังสนใจอยากจะช่วยบริจาคสามารถเข้าไปที่หน้าแฟนเพจของ Wildlife,Inc. Education & Rehabilitation Center ได้เลย…
-
น่ารักมากลูก!! หมา “ชินจัง” และแมว “คูจัง” รักกันมากจนกอดรัดฟัดเหวี่ยงตลอดเวลา
หมาและแมวไม่ได้เป็นศัตรูคู่อาฆาตกันเสมอไปนะ แต่ในหลายๆ ครั้งพวกมันก็แสดงให้เห็นว่าการสงบศึกก็เป็นเรื่องที่น่ารักเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการเลยล่ะ เรื่องที่#เหมียวฟิ้นหยิบมาเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของเจ้าชินจัง สุนัขสายพันธุ์ชิบะอินุและเจ้าคูจัง เหมียวสีขาวหน้าตาบ้องแบ้ว เจ้าของได้เล่าถึงที่มาที่ไปของสุนัขตัวนี้ว่าแรกเริ่มเดิมทีเจ้าชินจังนั้นเป็นเพียงหมาจรจัดที่พวกเขารับมาเลี้ยงไว้ในสวนหลังบ้าน เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว “เราช่วยมันจากท้องถนนในเมือง ที่มีการจราจรที่หนาแน่น และดูเหมือนว่ามันจะใช้ชีวิตได้ยืนยาวขึ้นเมื่อใส่ปลอกคอเอาไว้นะ ตอนนั้นตัวของมันเต็มไปด้วยเห็บหมัดและมีปัญหาเรื่องโรคผิวหนังอย่างรุนแรงทั่วตัวเลย” เจ้าของชินจังจึงตัดสินใจพามันไปหาหมอและรักษาอาการต่างๆ จนหายดี หลังจากนั้นผ่านไป 1 ปี พวกเขาก็ดันมาเจอกับเจ้าเหมียวจรจัดขนสีขาวตัวหนึ่ง พวกเขาเลยตัดสินใจรับมาเลี้ยงและตั้งชื่อมันว่าคูจัง น่าแปลกใจมากที่เจ้าชินจังและคูจังไม่ได้ทะเลาะหรือฟัดกันจนตายไปข้างทั้งที่ไม่ได้ถูกเลี้ยงด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่พวกมันดันรักกันดีและสนิทสนมกันเร็วซะด้วย เจ้าของเล่าว่าหลังจากที่เห็นพวกมันสนิทกันดี พวกเขาก็เริ่มให้ชินจังเริ่มเข้ามาอยู่ในบ้านร่วมกับคูจัง จากภาพจะเห็นได้ว่าพวกมันพยายามกอดก่ายกันตลอดเวลา เห็นแล้วน่ารักจริงๆ เลย กอดกันตลอดเวลาจริงๆ นะเห็นไหม? ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทตลอดกาลไปแล้ว นี่ต้องถือเป็นความโชคดีประหนึ่งถูกหวยของเจ้าของพวกมันด้วยนะ ที่รับมาเลี้ยงแล้วไม่ทะเลาะกัน ที่มา buzzfeed
-
สวนสัตว์ร่วมประชันเหล่าสัตว์โลกน่ารัก ภายใต้การดูแลของตัวเองผ่าน #CuteAnimalTweetOff
ย้อนกลับไปในวัยเด็ก การไปเดินเล่นในสวนสัตว์เพื่อดูเหล่าสิงสาราสัตว์ทั้งหลายนั้นเป็นช่วงเวลาที่สร้างความสุขให้กับใครหลายๆ คนได้เป็นอย่างดี แต่ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมความน่ารักของเหล่าสัตว์ตัวเล็กๆ ผ่านทางทวิตเตอร์ ที่เหล่าสวนสัตว์ทั้งหลายกำลังหยิบรูปสัตว์น่ารักๆ ของตัวเองมาประชันกันอย่างดุเดือดในทวิตเตอร์ มีแฮชแท็ก #CuteAnimalTweetOff ที่ริเริ่มมาจากการที่สวนสัตว์แห่งชาติ Smithsonian’s National Zoo ของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการอัพรูปเจ้าแมวน้ำตัวน้อยตัวหนึ่ง จากนั้นก็มีชาวเน็ตคนหนึ่งใช้ชื่อว่า Sarah Hill ได้ไปท้าให้ศูนย์วิจัยสัตว์น้ำ Virginia Aquarium และทางศูนย์วิจัยก็รับคำท้าและโพสต์โชว์ความน่ารักของเจ้านากและเจ้าเหยี่ยวเพื่อมาประชันความน่ารัก ต่อมาไม่นานสวนสัตว์แห่งชาติก็รับคำท้าต่อ อัพภาพลูกลิงอุรังอุตังตัวน้อยมาโชว์ความน่ารัก เช่นเดียวกันกับสวนสัตว์อื่นๆ เองก็หยิบไพ่ตายสุดน่ารักของตัวเองมาประชันกันเรื่อยๆ จนกลายเป็นกระแสไปทั่วโลกออนไลน์ สองเสือพี่น้องจากสวนสัตว์ Bronx แพนด้าน้อยจากสวนสัตว์ Atlanta เจ้าเต่าทะเลเบบี๋จากอควาเรียม Virginia ลิงน้อยจากสวนสัตว์ Philadelphia กวางน้อยจากสวนสัตว์ Miami หาวววววว จากสวนสัตว์แห่งชาติ กิ้งก่าจิ๋วจากอควาเรียม Tennessee…
-
ช่างภาพตามถ่าย “เมียร์แคท” สัตว์ยืนเท้าตัวจิ๋ว จนเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพวกมัน…
เมียร์แคทถือเป็นสัตว์สายพันธุ์หนึ่งที่มีขนาดเล็กและน่ารักมากๆ พวกมันมักจะชอบยืนสูงๆ เพื่อสอดส่องดูวิวรอบๆ ตัวมัน ดูเป็นภาพที่น่ารักจนเราอยากจะกระโดดเข้าไปกอดมันเลย หากคุณไม่คุ้นกับชื่อเมียร์แคท ให้นึกถึงเจ้าทีโมนใน The Lion King นะ (อะไรนะ!? ‘เกิดไม่ทัน’? งั้นเรามาทำความรู้จักมันไปพร้อมๆ กันเลย) เมื่อไม่นานมานี้#เหมียวฟิ้นได้ไปเจอเข้ากับผลงานภาพถ่ายของช่างภาพที่ชื่อว่านาย Will Burrard-Lucas เขาเป็นช่างภาพที่ชื่นชอบการถ่ายภาพมาก วันหนึ่งเขาตัดสินใจเดินทางไปยังประเทศบอตสวานา แถบแอฟริกาใต้เพื่อเก็บภาพพวกเมียร์แคทโดยเฉพาะ เมียร์แคทเป็นสัตว์ในวงศ์เดียวกับพวกพังพอน มีขนาดเล็ก และชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เวลาจะออกหาอาหารก็จะไปเป็นกลุ่ม เนื่องจากตัวเล็กและไม่ค่อยมีพิษภัยอะไร มันจึงตกเป็นเหยื่อของนักล่าเช่นนกหรือหมาในได้ง่ายๆ ในกลุ่มของเมียร์แคทจึงต้องมียามอย่างน้อย 1 ตัว เพื่อคอยสอดส่องและระวังภัยให้กับทั้งฝูง และเมื่อบนพื้นดินเป็นสถานที่อันตราย พวกมันจึงต้องขุดหลุมอยู่กันใต้ดินเป็นโพรง จากการสำรวจพบว่าพวกมันสามารถขุดลงไปได้ลึกถึง 5 เมตรเลยทีเดียว แม้ว่าเมียร์แคทจะเป็นสัตว์ป่าโดยสมบูรณ์แต่ดูเหมือนมันจะเป็นมิตรกับมนุษย์มาก เพราะอย่างการที่นาย Will พยายามเข้าไปถ่ายภาพพวกมัน ก็ดูเหมือนไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกอะไรให้พวกมันเลย นั่นจึงเป็นเรื่องง่ายที่มนุษย์อย่างเราๆ จะสร้างความคุ้นเคยและเข้าไปถ่ายภาพน่ารักๆ แบบใกล้ชิดเหมือนที่เขาทำบ้าง สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจนอกจากความเป็นมิตรแล้ว พวกเมียร์แคทยังอาศัยเขาเป็นจุดชมวิวที่สูงขึ้นไปอีกด้วย แหม่นับว่าเป็นความฉลาดเฉลียวของพวกมันจริงๆ …
-
ฮากันใหญ่ “เจ้าโอพอสซั่ม” โผล่มาจ๊ะเอ๋มนุษย์ จนกลายเป็นวัตถุดิบชั้นดีในการยำรูป!!!
ภาพที่#เหมียวฟิ้นจะให้ทุกๆ คนดูต่อไปนี้เป็นภาพของเจ้าโอพอสซั่มตัวหนึ่งที่ถูกพบโดยบังเอิญในป่า แต่ด้วยท่าทางดี๊ด๊าสุดๆ ทำให้ภาพของมันโด่งดังในอินเตอร์เน็ตและจับมันไปยำเป็นภาพตลกๆ เพียบเลย นี่เป็นเรื่องราวจากสมาชิกเว็บไซต์ Reddit ที่ใช้ชื่อว่า Stretlaw โดยเขาเล่าผ่านเว็บบอร์ดว่าเมื่อไม่นานมานี้พ่อเลี้ยงของเขาได้เดินทางเข้าป่าเพื่อไปล่าสัตว์ แต่ในระหว่างทางกลับมีตัวโอพอสซั่มตัวหนึ่งโผล่ออกมาทักทายเขาพร้อมกับใบหน้าอันเบิกบาน (แถมชูแขนด้วยนะ) เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพมันมาเป็นที่ระลึก และเมื่อภาพนี้ถูกแชร์ลงสู่เว็บไซต์ Reddit มันก็เลยกลายเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศเพื่อเอาไปตัดต่อให้กลายเป็นมีมต่างๆ ว่าแล้วลองไปชมภาพบางส่วนกันเลย… 1. ฮูเร่!! ฮูเร่!! ฮูเร่!! 2. จริงๆ นั่นไม่ใช่โอพอสซั่ม แต่เป็นทรงผมต่างหาก… 3. “วันนี้อึออกแล้ว!” 4. เด๊ดพอสซั่ม 5. พอสซิลล่า 6. เซลฟี่กันหน่อยเพื่อนๆ 7. “โลกกำลังจะกลายเป็นของพวกเราแล้ว” 8. สนุกจังโว้ย!! 9. วี อาร์ เดอะ แชมป์ เปี้ยน มาย เฟรนดดด์ …
-
18 ภาพฮาๆ จากชาวเน็ต บรรยายสรรพคุณของเหล่าสัตว์ รับรองว่าจะทำให้คุณยิ้มได้!!
สำหรับ Snapchat สังคมออนไลน์ที่ไม่ค่อยจะฮิตกันมากนักในบ้านเรา แต่ในต่างประเทศ เรียกได้ว่ากำลังบูมขึ้นมาสุดๆ เพราะการใส่แคปชั่นต่างๆ ลงไปในรูปที่เราโพสต์ได้นั้น ทำให้มีความฮาเกิดขึ้นมากมายเลยทีเดียว ซึ่งวันนี้เราก็มี Snapchat ฮาๆ เกี่ยวกับสัตว์จากชาวเน็ตตต่างประเทศมาฝากกัน ลองมาอ่านกันเพลินๆ ดูนะ แต่ละอันจะทำให้คุณต้องยิ้มอย่างแน่นอน อิอิ คุณยายใช้หุ่นเชิดของตัวเอง ให้อาหารกระรอกที่สวนสาธารณะ คนข้างหน้ากรนหนักมาก เลยเตะเบาะเบาๆ ไปสักที และแล้ว…ใบหน้านี้กลับมองลอดช่องว่างมา!! วัวจะเป็นเพื่อนที่ดีของคุณ ถ้าหากคุณทำดีกับมัน เป็นแม่แล้วมีความสุขจังเล้ยยยยยยยย เย้!!! ประตูมิติ!!? ภาพการสร้างมะหมาของพระเจ้า!! หมาตัวนี้มีชีวิตที่ดีกว่าชั้นซะอีก… เพื่อนของฉันกำลังแฮปปี้กับการดูหนังแถมกินป็อปคอร์นซะด้วย!! ผู้ช่วยผู้จัดการสาขา (คำว่า Branch ในภาษาอังกฤษ แปลได้ทั้งเป็น ‘กิ่งไม้’ และ ‘สาขา’ ได้นั่นเอง) ซื้อประตูกระดาษแบบญี่ปุ่นมา…มันไม่ใช่ไอเดียที่ดีเลย ลูกไก่อายุได้ 3 วันกำลังรับไออุ่นจากแก้วกาแฟอยู่ จงจำไว้ว่าฉันมาจากที่ใด…
-
20 ภาพ ก่อน-หลัง ของเหล่าสุนัขจรจัดที่เปลี่ยนไปมาก จนเหมือนไม่ใช่ตัวเดียวกัน!!
เพราะการรับเอาเหล่าสัตว์มาเลี้ยงนั้น นอกจากเป็นการช่วยเหลือพวกมันแล้ว ยังเป็นการมอบโอกาสในการใช้ชีวิตอีกครั้งให้กับพวกมันอีกด้วย!! วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มี 20 ภาพประทับใจของเหล่าสุนัขจรจัด ที่มีชีวิตน่าสงสารสุดๆ และเกือบเอาชีวิตตัวเองไม่รอดจนกระทั่งมีคนใจดัมาช่วยเหลือพวกมันไว้ รักษามัน มอบชีวิตใหม่ให้กับมัน จนมันกลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้ง เจ้าหมาที่ถูกไฟคลอก จนมีคนใจดีไปเจอ นำมันมารักษาและมอบชีวิตใหม่ให้กับมันอีกครั้ง เจ้าหมาตัวนี้ไม่มีอาหารกิน แต่หลังจากที่ได้รับการรักษา 7 สัปดาห์ มันก็เริ่มกลับมาสมบูรณ์ขึ้นอีกครั้ง เจ้าหมาที่เคยถูกทิ้งให้อยู่สถานที่ทิ้งขยะมาตลอด เจ้าหมาที่เคยถูกทิ้ง และถูกทำร้ายเสมอ ก่อนที่ภายหลังจะถูกรับเลี้ยงโดยคนใจดี เจ้าหมาจรจัดที่เป็นโรคผิวหนังรุนแรง และไม่มีใครเคยจะเหลียวแลสักครั้ง และอีกหลากหลายภาพที่ล้วนแต่มีเรื่องราวสุดประทับใจ มาชมกันต่อได้เลย… แต่ละภาพล้วนแต่บอกเล่าเรื่องราวสุดประทับใจทั้งนั้นเลยนะเนี่ย แค่คุณให้โอกาส พวกมันก็มีชีวิตใหม่ๆ ที่ดีแล้วล่ะ…
-
24 ภาพของ ‘สัตว์โปร่งใส’ ที่คุณสามารถมองทะลุได้ ดูแล้วแทบไม่อยากเชื่อว่ามีอยู่จริงๆ บนโลก!!
เรื่องราวต่อไปที่จะมานำเสนอเพื่อนๆ ในวันนี้คือเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตหลากหลายประเทศที่มีร่างกายที่เรียกได้ว่า ‘โปร่งใส’ จนสามารถมองทะลุได้!? Sönke Johnsen ศาสตราจารย์ทางด้านชีววิทยาได้กล่าวว่า ‘กลไกของลำตัวโปร่งใส่นี้มีไว้เพื่อปกป้องพวกมันจากเหล่านักล่า ทำให้ได้รับสถานะ ‘ล่องหน’ ได้ในระดับหนึ่ง’ และนี่ก็คือทั้ง 24 ชนิดของสัตว์ที่มีความสามารถเหล่านี้ แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยทีเดียว!! ผีเสื้อ Greta oto (หรือภาษาอังกฤษกว่า Glasswinged) ที่ตัวโปร่งใส จนสามารถมองทะลุปีกมันไปยังด้านหลังได้ ปลาหมึก Juvenile Sharpear Enope มีลำตัวโปร่งใส และจุดตามตัว ปลา Juvenile Surgeonfish ปลาหัวใส Macropinna Microstoma มด Pharaoh Ants ที่กำลังกินของเหลวย้อมสีอยู่ สวยงามมากๆ แมลงเต่าทองกระดองใส Tortoise Shell Beetle European Eel หรือปลาไหลยุโรป Hyperolius Leucotaenius อีกหนึ่งสายพันธุ์กบแห่งคองโก ใสจนเห็นเครื่องในเลยล่ะ Salpa Maggiore สัตว์ประหลาดโปร่งแสงที่ถูกพบในประเทศนิวซีแลนด์…
-
สุนัขญี่ปุ่น “ซัจจัง” อ้วนขึ้นจนเจ้าของแปลกใจ เลยให้รายการทีวีตามสืบชีวิตมันจนพบความจริง
ถ้าที่บ้านของคุณมีสัตว์เลี้ยงหลายตัว คุณเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมตัวหนึ่งมันถึงได้อ้วนเอาๆ ทั้งๆ ที่คุณเองก็ให้อาหารพวกมันในปริมาณที่ปกติ!? เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาคาใจมากๆ ของหญิงสาวชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง จนถึงขั้นเขียนจดหมายเข้าไปยังรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งเพื่อให้พวกเขาช่วยแก้ปัญหานี้ให้เธอเลย นี่เป็นเรื่องราวของคุณฮามาดะ เคย์โกะ วัย 35 ปี อาชีพแม่บ้าน จากจังหวัดวะกะยะมะ ประเทศญี่ปุ่น เธอเล่าผ่านจดหมายว่าที่บ้านของเธอมีสุนัขด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว คือซัจจัง ยชจัง และ อิชจัง เธอบอกว่าในตอนแรกเธอได้รับสุนัขที่ชื่อซัจจังมาจากช่างไฟฟ้าคนหนึ่ง แต่นานวันเข้าตัวของมันก็ค่อยๆ บวมขึ้นเรื่อยๆ โดยที่สุนัขอีก 2 ตัวของเธอกลับไม่ได้อ้วนขึ้นเลย คุณฮามาดะเริ่มสงสัยว่าในแต่ละวันมันหายไปไหนบ้างเธอเลยไปถามเพื่อนบ้านบางคน พวกเขาบอกว่าเห็นเจ้าซัจจังเดินไปตามสถานนีรถไฟหรือตามบ้านคนอื่นๆ มีบางคนซื้อขนมให้กินบ้าง หรือให้อาหารบ้าง เธอเลยขอให้ทางรายการออกติดตามดูพฤติกรรมของซัจจังว่ามันไปกินอะไรที่ไหนกันแน่? ทางทีมงานจึงส่งพิธีกรภาคสนาม คุณเอจิเซ็น โฮวตะไปตามติดชีวิตของมันว่าในแต่ละวัน เจ้าซัจจังไปที่ไหน เจอใคร และกินอะไรเข้าไปบ้าง? นี่คือเจ้าซัจจังที่เราพูดถึงล่ะ ร่างกายของมันดูตุ้ยนุ้นจนแทบจะกลายเป็นหมูอยู่แล้ว… นายเอจิเซ็นเริ่มตามดูซัจจังไปเรื่อยๆ จนมาเจอบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของมันเท่าไหร่ เขาได้พูดคุยกับเจ้าของบ้านแล้วพบว่าซัจจังสามารถเดินเข้าออกบ้านหลังนี้ได้อย่างสบายๆ และเคยเข้าไปอาบน้ำกับเจ้าของบ้านมาแล้ว!? ต่อมาซัจจังเริ่มเดินไกลออกไปเรื่อยๆ มันเดินไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง คราวนี้นายเอจิเซ็นสังเกตเห็นว่าซัจจังเข้าไปในบ้านที่มีสุนัขสีขาว นั่นคือชิบิจัง…
-
สถานสงเคราะห์สัตว์ Santa Fe กับอุดมการณ์ช่วยเหมียวจรจัด 442 ตัว ให้มีคุณภาพชีวิตดียิ่งขึ้น
เรื่องราวการช่วยเหลือเจ้าเหมียวจรจัดเป็นจำนวนนับพันตัว ให้มีบ้านอยู่ และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีโดยไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในโลกภายนอกอีกต่อไป ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีสีตว์จรจัดมากกว่า 7.6 ล้านตัว (กว่า 3.9 ล้านตัวเป็นหมา และอีก 3.7 ล้านตัวเป็นแมว) พวกมันต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ไม่มีอาหารครบทุกมื้อ และสถานที่อยู่อาศัย สถานสงเคราะห์สัตว์ Santa Fe ได้ตัดสินใจที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ อยากจะช่วยลดจำนวนประชากรเหล่าเหมียวจรจัดให้ลดน้อยลงแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา สถานสงเคราะห์สัตว์แห่งนี้ได้รับเจ้าเหมียวที่ต้องการความช่วยเหลือมาดูแลมากกว่า 4,790 ตัว 2,851 ตัวได้รับบ้านใหม่ อีก 1,149 ตัว ถูกส่งกลับไปยังบ้านเก่าของพวกมัน 476 ตัวไถูกรับไปเลี้ยงที่สถานสงเคราะห์อื่น และอีก 422 ตัวถูกรักษาให้หายจากการเป็นอัมพาต เมื่อช่วงเดือนเมษายนในปี 2016 ที่ผ่านมาพวกเขาได้ทำการช่วยเหลือเหล่ามิ้วน้อยกำพร้าแม่เพิ่มมาดอีก และแน่นอนว่าพวกมันได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นการป้อนอาหารเหลวตลอดเวลา และการให้ความอบอุ่น คุณ Peter หนึ่งในเจ้าหน้าที่ในสถานสงเคราะห์ก็เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการให้การช่วยเหลือเหล่าแมวเหมียวจรจัดทั้งหลาย พร้อมกับเสนอรับเหล่ามิ้วน้อยที่มีอายุเพียง 2…
-
การ์ตูนน่ารักอีกด้านของแมว เมื่อ “เพื่อนหมา” ที่ไม่เคยสนใจหายตัวไป จนต้องออกตามหา…
จากประสบการณ์ที่หลายๆ คนน่าจะผ่านกันมาแล้ว กับท่าทางกิริยาการแสดงออกของแมว ที่ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะมองว่าพวกมันเป็นสัตว์ที่เย็นชา เย่อหยิ่ง ไม่เคยสนใจใยดีใครหน้าไหนทั้งนั้น เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง ทว่าลึกๆ แล้วเหล่าแมวเป็นอย่างนั้นรึเปล่าหนอ? ทางด้านศิลปินในนาม Lynol ได้วาดการ์ตูนชุดนี้ขึ้นมา เพื่อบอกเล่าอีกด้านหนึ่งของเจ้าเหมียวหน้าขน กับปฏิกิรยาที่มีต่อเพื่อนหมาที่พยายามจะเล่นด้วย แต่มันไม่เคยสนใจ จนกระทั่งเพื่อนหมาได้หายตัวไป มาเล่นกันเจ้าแมว แม้ลึกๆ แล้วเจ้าเหมียวไม่ค่อยสนใจใครเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกมันจะไร้ความรู้สึก เพราะอย่างน้อยๆ ด้านอ่อนไหวของแมวจะถูกแสดงออกมา ถึงจะไม่ได้ชอบมากมายขนาดนั้น แต่ก็ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ เมื่อมาถึงจุดหนึ่งที่มันคิดว่ามีบางสิ่งที่ไม่เหมือนเดิม อ๊ะ!? อย่าเพิ่งหลับสิ มาเล่นด้วยกันก่อน ผั๊วะ!? . ยังจะมาตามตื้ออีก… งั้นเล่นก็ได้ เอาไปซ่อนไว้หลังกระบะรถซะเลย!! อ้าว ลูกบอลเราอยู่ในนั้นนี่หว่า . หึ ในที่สุด… ไร้การรบกวนจากเจ้าหมาจอมป่วนซักที แต่ว่า… ทำไม… …
-
16 เรื่องเด่น ในการช่วยเหลือสัตว์แห่งปี 2016 ที่จะทำให้คุณ รู้สึกอบอุ่นหัวใจตามไปด้วย
ตลอดปีที่ผ่านมาเราได้อ่านเรื่องราวอันน่าประทับใจของการช่วยเหลือเหล่าสัตว์โลกมาหลายต่อหลายเรื่อง และเรื่องราวเหล่านั้นก็ทำให้เรารู้ว่าแม้โลกจะไม่ได้สวยงามเท่าไหร่ แต่ก็ยังมีผู้คนอีกหลายคน ที่พร้อมจะเสียสละตนเองเพื่อสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆ #เหมียวอ๊อดโด้ จึงรวบรวม 16 เรื่องการช่วยเหลือสัตว์แห่งปี 2016 ที่จะทำให้ทุกท่านต้องอบอุ่นหัวใจ หมาป่วยเป็นโรคมะเร็ง เจ้าของเลยพามันไปเที่ยวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย ย้อนอ่าน : หลังจากรู้ว่าหมาเป็น “มะเร็ง” จนถูกตัดขาทิ้ง เขาก็เลยพามันไปเที่ยวให้สมใจอยาก!! ทหารหญิงไม่อยากปล่อยแมวตัวนี้ไว้ที่อัฟกานิสถาน เธอเลื่อนการกลับบ้านไปอีกสองเดือนเพื่อรอให้แมวตัวนี้แข็งแรงดี จนสามารถเดินทางบนเครื่องบินได้ และเธอเสียค่าขนส่งแมวตัวนี้อีกประมาณ 70,000 บาท ย้อนอ่าน : ทหารหญิงพบกับเจ้าเหมียวในสนามรบ โดนพลังแมวสะกดจิต ก็พากลับมาเลี้ยงที่บ้านด้วย!! หมาบังเอิญตกลงไปในบ่อน้ำมันดิบร้อนๆ แต่โชคดีมีคนใจบุญมาช่วยไว้ จนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ย้อนอ่าน : หล่อเลย!! เมื่อหมาผู้จมลงไปในกองน้ำมันถูกช่วยชีวิต มันก็เหมือนเกิดใหม่อีกครั้ง ชายคนนี้ช่วยชีวิตสุนัขกว่า 1,000 ตัวจากเทศกาลกินสุนัขในจีน หงส์แสดงความขอบคุณชายผู้ช่วยชีวิตด้วยการโอบกอดรอบคอ ย้อนอ่าน : เรื่องราวสุดประทับใจ ก่อเกิดเป็นภาพเมื่อ “หงส์” ใช้คอกอดคนที่ช่วยชีวิตมัน!! ตำรวจช่วยชีวิตสลอธที่ติดอยู่กลางถนน ย้อนอ่าน : ‘เจ้าสลอธ’ ยังยิ้มได้…
-
สาวเยอรมันแอบถ่ายภาพนก ด้วยเครื่องให้อาหารนกทุกวัน จนได้ภาพน่ารักและใกล้ชิดที่สุด!!
เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้เป็นของนาง Lisa M. Ca หญิงสาวชาวเยอรมันที่แต่งงานกับหนุ่มสหรัฐฯ และต้องย้ายบ้านมาอยู่ในรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ Lisa ย้ายมาอยู่ได้สักพักเธอก็สังเกตเห็นว่าสภาพอากาศของที่นั่นไม่ได้ต่างอะไรจากบ้านของเธอเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ต่างคือที่มิชิแกนมีนกสวยๆ โผล่มาให้เห็นแทบทุกวัน ด้วยความที่เธอเป็นคนที่ชอบนกมากๆ เธอก็เลยไปซื้ออุปกรณ์ที่ชื่อว่า Bird Photo Booth มาลองใช้ดู “ฉันอยากจะเข้าใกล้พวกมันอีกหน่อยและเริ่มทำการศึกษาว่ากล้องแบบไหนที่จะสามารถวางข้างนอกแทนกล้อง DSLR ของฉันได้บ้าง นั่นทำให้ฉันเจอกับสิ่งที่เรียกว่า Bird Photo Booth” Lisa กล่าว หลายๆ คนอาจจะงงว่า Bird Photo Booth คืออะไร มันก็คือเครื่องให้อาหารนกรูปแบบหนึ่ง แต่มีช่องสำหรับวางกล้องเข้าไปได้ ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพพวกนกขณะมากินอาหาร โดยที่ไม่ทำให้พวกมันตกใจและบินหนีไปซะก่อนยังไงล่ะ หลังจากที่ Lisa ทดลองนำเครื่อง Bird Photo Booth ไปตั้งไว้นอกบ้านได้ไม่นาน ก็เริ่มมีนกบินมากินอาหารที่เธอวางเอาไว้ และถูกแอบถ่ายภาพมาแบบเนียนๆ โดยที่พวกมันไม่รู้ตัว แม้ว่าเธอจะไม่ได้ระบุเลยว่านกแต่ละตัวเป็นนกสายพันธุ์ใดบ้าง แต่ภาพที่ได้ออกมาก็เป็นสิ่งที่น่าประทับใจมากๆ เธอจึงโพสต์มันลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง และกลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วเลยก็ว่าได้ นี่มันเจ้านกจอมโมโหนี่หว่า!?…
-
รวม 18 ความเปลี่ยนแปลง ของสัตว์เลี้ยงเพื่อนรักสุดซี้ ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนโต…
มันจะมีอะไรเยี่ยมยอดไปกว่าการได้มีเพื่อนดีๆ ซักคนบนโลก และยิ่งถ้ามีโอกาสได้เติบโตมาด้วยกัน มันจะกลายเป็นเรื่องที่ดีขนาดไหน ซึ่งในขณะที่เรากำลังมองหาเพื่อนดีๆ แบบนั้น มีสัตว์เลี้ยงมากมายบนโลกได้พบกับเพื่อนดีๆ แบบนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างเช่นเจ้าสัตว์เลี้ยงเพื่อนซี้ที่ #เหมียวอ๊อดโด้ นำมาให้ชมวันนี้ รับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องอิจฉาในมิตรภาพอันแสนน่ารักของพวกมันอย่างแน่นอน จะน่ารักขนาดไหน เราไปชมกันเลย จิ้งจอก Juniper และเจ้าหมา Moose เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก จนถึงตอนนี้พวกมันก็ยังรักกันเหมือนเดิม เพื่อนซี้ตลอดกาล ฝาแฝดสุดน่ารัก พี่น้องที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่วันแรกของชีวิต จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เคยแยกจากกัน วันนั้นยังตัวเท่ากัน ตอนนี้เหมือนจะแซงไปแล้วนะ จากวันนั้น ถึงวันนี้ เอ๊ะ ทำไมสัดส่วนเปลี่ยนไปล่ะ จำวันนั้นได้มั้ย สามเดือนต่อมา อาจต้องเปลี่ยนที่นอน ชีต้าร์กับลาบาดอร์เพื่อนซี้ตลอดกาล มิตรภาพอันแสนยาวนาน พี่น้องแมวเหมียวเมื่อตอนนั้น โอรีโอ้กับพัมคิ้น มีมิตรภาพที่ดีต่อกันเสมอมา ยังเป็นเพื่อนที่ดีเสมอ…
-
ผลงานถ่ายภาพ ความสัมพันธ์ของมนุษย์และสัตว์โลก พวกเราอยู่ร่วมกันได้ด้วยความรัก!!
ความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์กับมนุษย์นั้นช่างเป็นอะไรที่ลึกลับซับซ้อนยากเกินจะบรรยาย แม้จะไม่สามารถสื่อสารเป็นคำพูดได้ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ และผลงานการถ่ายภาพชุดนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างสัตว์และมนุษย์ได้เป็นอย่างดี Parts of the Earth เป็นผลงานการถ่ายภาพที่ดูราวกับความฝันของ Erika Masterson ช่างภาพชาว Florida ที่เป็นการเผยให้เห็นถึงความงดงามของธรรมชาติ ความไร้เดียงสา และความทรงจำในวัยเด็ก Erika นั้นมีความสนใจในการถ่ายภาพสัตว์เป็นอย่างมาก และเธอมักจะนำหลานๆ ของเธอมาเป็นแบบถ่ายรูปร่วมกับสัตว์หลากหลายผลงาน ซึ่งผลงานก่อนหน้านี้ก็คือการถ่ายภาพหลานของเธอร่วมกับเจ้าไก่ฟ้าที่ชื่อว่า Refuge จากนั้นก็เป็นเจ้าหมาป่าไคโยตี ที่ชื่อว่า Keeper และผลที่ได้ก็เป็นอะไรที่วิเศษมาก ผลงาน Parts of the Earth นี้เองก็ทำให้ Merika ต้องทำงานแข่งกับกับตัวเอง เธอต้องเผชิญกับความยากของคอนเซ็ปท์ที่ตั้งไว้ เพราะต้องทำให้รูปภาพแต่ละภาพที่ออกมานั้นมีความน่าหลงใหล และต้องสื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติและความไร้เดียงสาของเด็กให้ออกมาได้มากที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นจะต้องมีการเตรียมการเป็นอย่างดี ถูกคำนวณไว้โดยช่างภาพอย่าง Merika แล้ว และเมื่อนำทุกสิ่งมาประกอบกัน ก็ส่งผลทำให้งานของเธอนั้นออกมาดูงดงามอย่างไร้ที่ติ “ฉันรักในกล้องฟิล์มเป็นอย่างมาก ความสว่างของภาพที่มันถ่ายออกมาช่างเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม ฉันต้องการที่จะโชว์ให้เห็นถึงรายละเอียดอันแสนงดงามของสัตว์ และดวงตาของเด็กสาว” เธอกล่าวถึงคอนเซ็ปต์ในการถ่ายภาพครั้งนี้ “ในงานชิ้นนี้ฉันอยากจะทำให้ทุกคนกลับมาคิดทบทวนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับความเปราะบางของจิตวิญญาณมนุษย์ …
-
Rakesh Shukla เศรษฐีชาวอินเดีย “พ่อพระของสุนัข” อุทิศชีวิต ดูแลหมาจรจัด 700 ตัว
สำหรับคนทั่วไปอาจรู้จัก Rakesh Shukla วัย 45 ปี ในฐานะเศรษฐี วิศวกร และผู้บริหารของ The Writers Block บริษัทเอาท์ซอสที่เกี่ยวข้องกับระบบการสื่อสาร ที่ร่วมงานกับบริษัทดังๆ ทั่วโลกมากมายตั้งแต่ Intel, Microsoft และ Oracle แต่ชีวิตอีกด้านของเขา เขาได้รับฉายาว่า “พ่อพระของเหล่าสุนัข” ผู้ดูแลเลี้ยงดูสุนัขที่ไม่มีใครต้องการกว่า 700 ตัว ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยดีกว่า เมื่อ 10 ปีก่อน Rakesh และภรรยาได้ก่อตั้งบริษัท The Writers Block ขึ้นมา และประสบความสำเร็จอย่างสูงในเชิงธุรกิจ ส่งผลให้เขากลายเป็นเศรษฐีคนหนึ่งในไม่กี่ปี แน่นอนเมื่อเขาร่ำรวย เขาก็ใช้เงินไปกับรถหรู ข้าวของแพงๆ และวิถีชีวิตแบบไฮโซ แต่สิ่งเหล่านั้นกลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเติมเต็มและมีความสุขแม้แต่น้อย จนกระทั่งในปี 2009 ภรรยาของเขาได้นำสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทีฟเวอร์ตัวหนึ่งเข้ามาในบ้าน ทันทีที่เขาได้สัมผัสและโอบกอดเจ้าหมาตัวนั้น เขาก็รู้ได้ทันทีว่า นี่แหละคือความหมายในชีวิตของเขา หลังจากนั้นสามเดือนเขาก็รับสุนัขอีกตัวมาเลี้ยงชื่อว่า Lucky เขาบอกว่าเขาเจอมันกำลังยืนหนาวสั่นตากฝนอยู่ข้างถนน เขาจึงพามันกลับมาบ้าน ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมา ทุกครั้งที่เขาเจอสุนัขจรจัดข้างถนน เขาจะพามันกลับบ้านด้วย…
-
สัตว์ประหลาดเกาะอยู่บนโขดหิน ในชายหาด Muriwai ที่แท้เป็น ‘เพรียงคอห่าน’ จำนวนมาก!!
กลายเป็นเรื่องที่ฮือฮาไปทั่วโลก เมื่อจู่ๆ ได้มีรายงานพบกับวัตถุแปลกประหลาดที่ชายหาด Muriwai ในประเทศนิวซีแลนด์ พอตรวจสอบแล้วก็พบว่ามันเป็นโขดหินที่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดหน้าตาคล้ายกับสัตว์ประหลาด Cthulhu (อสุรกายจากงานประพันธ์ของ H. P. Lovecraft) ก็เลยถูกเรียกว่าเป็นสัตว์ประหลาดแห่ง Muriwai รูปร่างหน้าตาของเจ้า Cthulhu ก็อย่างที่รู้กันว่าสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในประเทศนิวซีแลนด์นั้นเป็นอะไรที่สมบูรณ์มาก และยิ่งล่างสุดได้มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเนื่องจากเปลือกโลกได้ดันเข้าหากันจนทำให้พื้นดินใต้ทะเลยกสูงขึ้นที่บริเวณหาด Kaikura จึงอาจจะทำให้มีสิ่งมีชีวิตประหลาดที่อยู่ใต้ทะเลลึกโผล่ขึ้นมาให้เห็นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด และเมื่อวันที่ผ่านมาก็ได้มีวัตถุประหลาดโผล่ขึ้นมาที่หาด Muriwai หากใครผ่านไปผ่านมาเห็นในตอนแรกก็อาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นซากวาฬ และคนที่พบกับเจ้าวัตถุประหลาดนี้เป็นคนแรกก็คือคุณ Melissa Doubleday ขณะที่กำลังขับรถผ่านถนนเลียบชายหาด “ฉันขับรถผ่านไปทางนั้นพอดี และก็เห็นเจ้าวัตถุประหลาดนี้ ก็คิดในใจว่านี่มันอะไรกันเนี่ย??” “ตอนแรกฉันคิดว่ามันคือซากวาฬ แต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วก็พบว่ามันไม่ใช่ กลายเป็นอะไรที่แปลกมากๆ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับหนอนที่อยู่ในกระดอง ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน และก็ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกันว่าจะมีสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดแบบนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอ?” คุณ Melissa เล่า เจ้าสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดนี้อาศัยอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก และจะมีการขยับเขยื้อนเมื่อโดนแสงแดดส่อง ทำให้รู้สึกราวกับว่าเป็นเอเลี่ยนยังไงยังงั้นเลย คุณ Rani Timoti จากการตรวจสอบของนักวิจัยจากศูนย์วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับโลกใต้น้ำของประเทศนิวซีแลนด์ก็พบว่ามันคือเจ้า Lepas anatifera เป็นอีกสปีชีส์หนึ่งของตัว ‘เพรียงคอห่าน’ เหล่าสัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็งชนิดนี้อาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกโดยอาศัยเกาะอยู่ตามโขกหินหรือวัตถุต่างๆ…
-
นี่คือรูปร่างหน้าตาภายใต้ ‘ขน’ ของเหล่าสัตว์โลกทั้ง 22 ตัว พอตัวเกรียนแล้วแทบจำไม่ได้
เมื่อกล่าวถึงเหล่าสัตว์โลกทั้งหลายแล้ว เพื่อนๆ จะรู้กันดีถึงหน้าตาที่แสนน่ารักของพวกมัน และส่วนที่สำคัญที่ทำให้พวกมันดูน่ารักน่าชังนั้น ก็คือขนที่แสนปุกปุยนี่แหละที่ทำให้มันดูอ้วนกลม น่ารักน่าเอามากอด แต่ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมรูปร่างของสัตว์ชนิดต่างๆ โดยปราศจากขนของพวกมัน รับรองได้เลยว่าแต่ละตัวนี่ทำเอาเราจำไม่ได้เลยทีเดียวล่ะ ฮร่า 1. กระต่าย 2. หมี (นึกว่าแวร์วูล์ฟ) 3. เม่น 4. นกแก้ว 5. แรคคูน 6. กระรอก 7. หนูตะเภา 8. เพนกวิน 9. หนูบ้าน 10. ลิงชิมแปนซี…
-
แบะๆๆ หญิงสาวลาออกจากงานสุดเครียดในเมือง เปิดฟาร์มเลี้ยงแพะ และเจอความสุขที่แท้จริง
เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวน่าประทับใจของ Leanne Lauricella หญิงสาวผู้ทำงานอยู่ในเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยการทำงานที่แสนเคร่งเครียด ทำให้เธอตัดสินใจลาออกแล้วหันไปใช้ชีวิตอยู่แถบชานเมืองแทน Leanne ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า “ฉันมีงานที่ดีมาก แต่การเดินทางไปทำงานมันย่ำแย่สุดๆ มีความเครียดสูง ฉันรู้สึกเหมือนไม่ประสบความสำเร็จและฉันรู้ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้” ในช่วงปี 2014 Leanne ก็ได้ไปเจอกับฟาร์มแพะแห่งหนึ่งและตกหลุมรักพวกมันแบบสุดๆ เธอเลยตัดสินใจเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการเลี้ยงแพะ เธอเรียนรู้ไปเรื่อยๆ จนสามารถก่อตั้ง Goats Of Anarchy องค์กรที่มีขึ้นเพื่อช่วยเหลือดูแลลูกแพะที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่นแพะที่ได้รับบาดเจ็บ แพะพิการหรือแพะที่กำพร้าพ่อแม “มันแสดงให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่านี่คือไลฟ์สไตล์ที่ฉันต้องการ ฉันตัดสินใจที่จะเปลี่ยนจากการสวมรองเท้าส้นสูงมาเป็นรองเท้าบูท และเปลี่ยนจากการขับรถเบนซ์มาเป็นการขับรถกระบะเชฟโรเลตแทน ฉันรักทุกๆ วินาทีที่อยู่กับมัน” หญิงสาวกล่าว Leanne ได้อธิบายถึงวันที่เธอกลายเป็นคนไร้งานทำว่า “คนบางคนบอกว่าฉันเป็นพวกโง่เง่า หรือพวกไม่มีความรับผิดชอบเพราะลาออกจากงานโดยไม่มีการวางแผนมาก่อน แต่สำหรับฉันมันคือการก้าวกระโดดของศรัทธาเลย” นี่ถือเป็นหญิงสาวที่น่าอิจฉาคนหนึ่งสำหรับ#เหมียวฟิ้นเลยก็ว่าได้ เพราะเธอกล้าที่จะตัดสินใจลาออกจากงานที่มั่นคงเพื่อมาทำสิ่งที่รักโดยไม่รู้ว่ามันจะส่งผลยังไงกับเธอ เธอบอกถึงแนวคิดตัวเองว่าการที่ตัวเองมีความฝันและยอมทำตามความฝันของตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณคิดว่ามันสำคัญ มันจะกลายเป็นสิ่งที่ดูโง่เง่าและไม่สำคัญขึ้นมาทันที ทุกวันนี้ Leanne ไม่ต้องกังวลกับงานที่แสนเคร่งเครียดหรือเส้นทางการจราจรติดขัดอีกต่อไป สิ่งที่เธอต้องสนใจมีเพียงแพะ แพะ แล้วก็แพะเท่านั้น …
-
หนุ่มมะกันสูญเสียลูกชายไป เลยเปิดศูนย์ช่วยเหลือแมว 300 ตัว เพื่อเยียวยาจิตใจตัวเอง
นี่คือเรื่องราวของนายสถานีรถไฟชาวนิวยอร์กที่ชื่อว่านาย Chris Arsenault ในช่วงปี 2006 เขาได้สูญเสีย Eric ลูกชายอันเป็นที่รักวัย 24 ปีไปเพราะประสบอุบัติเหตุทางมอเตอร์ไซค์ แต่แล้ววันหนึ่ง… เขาก็ได้เดินผ่านรังแมวกว่า 30 ตัว ที่อาศัยรวมกันโดยไม่มีใครเหลียวแลพวกมันเลย เพื่อเป็นการบรรเทาความเศร้าในจิตใจเขาก็ตัดสินใจที่จะเอาแมวจรจัดเหล่านั้นออกมาจากรังแล้วนำมาดูแลให้อาหาร พาไปรักษาโรคและแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของบ้านทำเป็นที่อยู่ให้กับพวกมัน นาย Chris ได้เปลี่ยนบ้านของเขาให้กลายเป็นอาณาจักรแมว และเขาก็เริ่มรู้ตัวเองว่าการช่วยเหลือแมวช่วยเยียวยาจิตใจให้กับเขา ต่อมาเขาได้เปิดมูลนิธิช่วยเหลือแมวที่ชื่อว่า Happy Cat Sanctuary ขึ้นมา เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่แมวตัวไหนก็ได้ที่ต้องการความช่วยเหลือ นาย Chris กล่าว “ผมอยากจะทำอะไรสักอย่างที่ดีด้วยขีวิตของผมเอง ศูนย์พักพิงสัตว์คือความทรงจำถึงลูกของผม” เขาค่อยๆ ช่วยเหลือแมวไปเรื่อยๆ ทีละตัวสองตัว จนตอนนี้จำนวนแมวที่อาศัยอยู่กับพวกเขามีมากถึง 300 ตัวแล้ว ซึ่งแต่ละตัวมีที่มาและเรื่องราวที่แตกต่างกันไป “เราได้ช่วยแมวจากเหจุการณ์ที่แลวร้าน จากบ้านที่ไม่รักสัตว์ และแม้แต่แมวที่มาจากแก๊งที่ใช้แมวเป็นเหยื่อล่อเพื่อให้สุนัขสู้กันก็ช่วยเหลือมาแล้ว” Chris กล่าว นาย Chris ได้ริเริ่มโปรเจ็คหลายๆ อย่างเพื่อให้ศูนย์พักพิงสัตว์ของเขาสมบูรณ์ที่สุด มีทั้งคอนโดแมวขนาดใหญ่ที่รองรับแมวได้จำนวนมาก ทางเดินให้ปีนป่าย มีน้ำพุอุ่นๆ กลางแจ้ง หรือแม้แต่บริเวณที่จัดเอาไว้เพื่อให้พวกแมวได้นั่งดูไก่เพื่อความบันเทิงก็ทำไว้เช่นกัน …
-
ช่วยเหมียวด้วย… ชาวเมืองช่วยกันหาบ้านให้ เจ้า Bob แมวตาเหล่ผู้น่ารัก ก่อนถึงคริสมาสต์
สาเหตุที่มนุษย์อย่างเรารับเอาสัตว์เลี้ยงมาอยู่เป็นเพื่อนกับเรา นั่นก็เพราะว่าพวกมันน่ารัก ช่วยคลายเหงาให้กับเรา เราจะเล่นกับมันยังไงก็ได้ แต่พอวันที่เราเริ่มเบื่อมัน เราก็ทิ้งมันไปเสียดื้อๆ พวกมันเองก็มีแต่ต้องก้มหน้ารับชะตากรรมของมันไปเท่านั้น เรื่องที่#เหมียวฟิ้นหยิบมานำเสนอในวันนี้ เป็นเรื่องของเจ้าเหมียวขนสีขาวดำที่ชื่อว่าเจ้า Bob มันเป็นแมวของพนักงานร้านขายหนังสือร้านหนึ่งในเมืองคอเวนทรี ประเทศอังกฤษ ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน เจ้า Bob และเจ้านายของมันอาศัยอยู่ชั้นบนของร้านขายหนังสือ แต่จู่ๆ เจ้านายของมันก็เก็บข้าวของหายไปในกลางดึกคืนหนึ่ง ทำให้มันต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทางทีมงานร้านหนังสือจึงไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี พวกเขาก็เลยสร้างบ้านหลังเล็กๆ ให้กับมันแล้วตั้งเอาไว้ที่ด้านนอกของร้านขายหนังสือเพื่อให้มันมีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง หลังจากนั้นพนักงานในร้านขายหนังสือก็พยายามแวะเวียนออกมาดูให้แน่ใจว่ามันนอนหลับปลอดภัยดีหรือเปล่า แต่วันเวลาผ่านไปก็ไม่มีใครรับเจ้า Bob ไปเลี้ยงเลย เนื่องจากมันมีดวงตาที่เหล่คล้ายโดนสะกดจิต แตกต่างจากแมวตัวอื่นๆ แต่มันดูเหมือนจะไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ กับมันเลย ทุกวันนี้มันก็ยังสบายดี ด้าน Alison Rodgers คุณแม่ลูก 4 วัย 52 ปี ที่ย้ายเข้ามาอยู่ให้ห้องเดิมแทนที่เจ้านายของ Bob ได้กล่าวว่า “เราไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับดวงตาของมัน มันก็เป็นแบบนั้นมาตลอด” “มันออกจะตื่นคนสักหน่อยเพราะไม่ค่อยได้มีใครเล่นกับมันมานานแล้ว แต่มันเป็นปกติกับพวกเรานะ แต่หากมีคนแปลกหน้ามาเล่นกับมันมันก็จะวิ่งหนีทันที” …
-
แสนรู้เหลือเกิน… ชวนดู “ทึกกังอี” เจ้าเหมียวเกาหลี ที่ชอบเข้าไปนั่งเรียนในมหาลัยกับคน
เพื่อนๆ ชาวเหมียวคงเคยอ่านเรื่องราวของเจ้าเหมียวผู้เจ้าเล่ห์ เจ้าเหมียวขี้อ้อน เจ้าเหมียวที่ชอบแกล้งสัตว์อื่น และเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าเหมียวในสารพัดรูปแบบมาแล้ว แต่เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะยังไม่เคยเห็นเรื่องราวของเจ้าเหมียวผู้รักการเรียนแน่ๆ เมื่อประมาณเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว SBS TV ของเกาหลีใต้ ได้ทำสารคดีเกาะติดเจ้าเหมียวตัวหนึ่งที่มีชื่อว่าทึกกังอี มันเป็นแมวขนสีส้มที่รักการเรียนมาก ในทุกๆ วันมันจะเดินไปที่วิทยาลัยกางดง เมืองอึมซองกุน และเดินดุ่มๆ เข้าไปในห้องเรียนเพื่อนั่ง (และนอน) ฟังเล็คเชอร์ของอาจารย์ในแต่ละวิชา ก่อนที่มันจะฟุบหลับในห้องเรียนโดยที่ไม่มีใครทำโทษมัน เมื่อจบชั่วโมงเรียนแล้วมันก็เดินออกไปยังห้องเรียนอีกห้องหนึ่งเพื่อทำแบบเดียวกัน โดยไม่จด ไม่ต้องเขียนรายงาน ไม่ต้องทำแบบฝึกหัดส่งอาจารย์เลยซักอย่าง ช่างสบายอะไรขนาดนี้ คร่อก ZZZz Zzzzz ไปห้องใหม่ดีกว่า นักศึกษาของวิทยาลัยกางดงได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของแมวตัวนี้ว่า แรกเริ่มเดิมทีมันเป็นแมวเป็นของผู้หญิงคนหนึ่งที่เรียนที่นี่ และเธอก็ชอบพามันมาเรียนด้วยทุกวันๆ แต่จู่ๆ เธอก็หยุดเรียนไปแบบกะทันหันโดยที่ทิ้งเจ้าเหมียวตัวนี้ไว้ที่มหาลัย ซึ่งไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเธอทำแบบนั้นทำไม หลังจากนั้นเจ้าเหมียวก็ยังคงเทียวไปเทียวมาภายในวิทยาลัย แต่ก็ไม่มีใครรับมันไปอยู่ที่บ้านเลยแม้แต่คนเดียวเพราะคิดว่ามันมีเจ้าของอยู่แล้ว แต่สิ่งที่พวกเขาทำได้คือนำเอาอาหารมาให้กับเจ้าเหมียวและดูแลมันอยู่ภายในวิทยาลัยเท่าที่พวกเขาจะทำได้ และวันหนึ่งพวกเขาก็ตั้งชื่อให้มันว่า ทึกกังอี ปัจจุบันเจ้าทึกกังอีกลายเป็นที่โปรดปรานของเหล่านักศึกษาที่นั่นมาก พวกเขาบอกว่ามีการวางแผนที่จะระดมเงินกับซื้อบ้านแมวให้กับมันเพื่อให้มันรู้สึกสบายกว่านอนตามพื้นหรือโต๊ะเรียนไปเรื่อยเปื่อย …
-
ขยับเข้ามาดูใกล้ๆ สิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดจากทะเลลึก พบครั้งแรกในรอบ 100 ปี!?
ใต้ทะเลลึกยังมีสัตว์อีกจำนวนมากที่ยังไม่ถูกค้นพบ หรือบางตัวอาจจะถูกค้นพบมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้หาตัวเจอกันได้ง่ายๆ Bathochordaeus Charon คือหนึ่งในสัตว์ที่ว่านั่นล่ะ เจ้าสิ่งมีชีวิตที่ชื่อ Bathochordaeus Charon ที่#เหมียวฟิ้นกำลังพูดถึงอยู่นี้เป็นสัตว์จากใต้ทะเลลึก ที่เคยถูกค้นพบมาแล้วเมื่อปี 1899 หรือประมาณ 117 ปีที่แล้วในแทบมหาสมุทรแอตแลนติก สัตวหน้าตาประหลาดตัวนี้เป็นญาติกับตัวเพรียงทะเล ส่วนใหญ่แล้วมันจะมีขนาดความยาว 9 เซ็นติเมตร แต่บางตัวที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกก็สามารถเจริญเติบโตได้มากถึง 1 เมตรเลย มันเป็นสัตว์ที่เปราะบางมาก (ดูจากรูปร่างแล้วก็น่าจะเป็นอย่างงั้น) และยากต่อการจับพวกมันมาทำการศึกษา ซึ่งพวกมันเป็นไม่เคยปรากฏตัวให้เห็นกันมาตั้งแต่เมื่อปี 1899 แล้ว แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ หน่วยงานที่ชื่อ Monterey Bay Aquarium Research Institute (MBARI) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเปิดเผยรายงานว่าพวกเขาได้คันพบมันอีกครั้งแล้วเมื่อราวๆ ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยการใช้ยานดำน้ำ ROVs สุดไฮเทคลงไปสำรวจ การค้นพบครั้งนี้จะช่วยให้เหล่านักวิทยาศาสตร์ ได้ศึกษาค้นคว้าสิ่งมีชีวิตลี้ลับนี้ได้อีกมากทีเดียว ที่มา sciencealert
-
สาวอ้วนเซลฟี่กับม้าผอมกร่องลงเฟซบุ๊ก แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือจุดเปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่..
การใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่ออวดภาพกิจกรรมในแต่ละวัน ดูจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรอีกแล้วในปัจจุบัน แต่การเผยแพร่ภาพเหล่านั้นอาจทำให้คุณสูญเสียบางอย่างไปก็ได้… เช่นเดียวกับเรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อ Charlotte McPherson วัย 22 ปี จากเมืองวุร์สเตอร์เชอร์ ประเทศอังกฤษ เธอได้โพสต์ภาพขี่ม้าลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง แต่นั่นดันกลายเป็นจุดเปลี่ยนระหว่างเธอและม้าของเธอ เพราะเนื่องจากภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้น เจ้าม้ามีสภาพผอมแห้งม้า ในขณที่เธอนั้นมีรูปร่างอ้วนจนเปลี่ยนภาพการขี่ม้าของเธอให้กลายเป็นการทรมาณสัตว์ไปแบบช่วยไม่ได้ จากภาพที่มีการเผยแพร่ออกมา จะเห็นได้ว่านาง Charlotte นำเอาผ้าคลุมมาเปิดส่วนหลังและสะโพกของม้าเอาไว้ เพื่อไม่ให้เห็นหนังติดกระดูกของเจ้าม้า และหลังจากที่ภาพของเธอภูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก็ทำให้องค์กรการกุศลเกี่ยวกับสัตว์และหน่วยงานสิทธิสัตว์ต้องเข้ามาสืบสวนว่าม้าของเธออยู่ในอาการย่ำแย่ขนาดไหน ตอนนี้เธอถูกเจ้าหน้าที่ได้สั่งห้ามไม่ให้เธอเลี้ยงม้าชนิดใดๆ ก็ตามเป็นระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้เธอยังต้องเข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเวลา 12 เดือนและบำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 160 ชั่วโมง หน่วยงาน RSPCA ของอังกฤษที่ดูแลเรื่องสิทธิสัตว์ได้ออกมาให้กล่าวว่าม้าตัวที่เห็นนั้นมีชื่อว่า Thor มันมีสุขภาพที่ไม่ดีเอามากๆ หากต้องให้คะแนนเต็ม 5 มันคงจะได้ 0 แน่ๆ และตอนนี้เจ้า Thor ก็ถูกส่งไปยังหน่วยงานที่ดูแลสัตว์แล้ว เพื่อจะได้มีสภาพร่างกายที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ นาง McPherson ยอมรับว่าในระหว่างที่เจ้า Thor ผอมแห้งนั้น…
-
ใจหาย…สุนัขเข้าเยี่ยมเจ้านายที่ป่วยระยะสุดท้าย ก่อนไม่ได้เจอกันอีกตลอดกาล
โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะได้เห็นภาพของสัตว์เลี้ยงที่จากลาผู้เป็นเจ้านายไปก่อน แตกต่างจากเรื่องราวสุดสะเทือนใจที่#เหมียวฟิ้นได้หยิบมานำเสนอในวันนี้ นี่คือเรื่องราวการจากลาสุดเศร้า ของนาย Ryan Jessen วัย 33 ปี ที่มีอาการปวดหัวคล้ายกับโรคไมเกรน แต่หลังจากที่เขาเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลก็พบว่าเขามีอาการเลือดออกในโพรงสมอง และไม่สามารถรักษาให้หายได้ อาการของเขาหนักขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เขาต้องนอนหมดสติอยู่ที่โรงพยาบาล เมื่อแพทย์ยืนยันว่าอาการของเขาไม่มีทางรักษาให้หายได้และอาจจะจากไปในเร็ววันนี้ ญาติๆ ของพวกเขาจึงรวมตัวกันเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อกล่าวลากับเขาภายในห้องพักผู้ป่วยเป็นครั้งสุดท้าย นอกจากญาติๆ จะมารวมตัวกันแล้ว ยังมีอีกคนหนึ่งที่รักนาย Ryan มากๆ และอยากมาเจอกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย นั่นก็คือ Mollie สุนัขแสนรักของเขานั่นเอง ในวันที่ญาติๆ มารวมตัวกันที่โรงพยาบาล Michelle Jessen น้องสาวของนาย Ryan ก็ได้พาเจ้า Mollie ไปที่โรงพยาบาลด้วย Michelle ได้ขออนุญาตกับทางโรงพยาบาลเพื่อพาสุนัขเข้าไปในห้องพักด้วย ซึ่งพวกเขาก็ยินยอม และเมื่อเจ้าสุนัขได้พบกับเจ้านาย ก็ทำให้ทุกคนที่เห็นภาพนั้นถึงกับสะเทือนใจไปตามๆ กัน Michelle ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมดลงในเฟซบุ๊กของตัวเองพร้อมกับข้อความว่า “โรงพยาบาลทำสิ่งที่น่ารักมากกับเราและอนุญาตให้น้องสุนัขได้ ‘บอกลา’ เจ้านายของมัน มันรู้ว่าทำไมเจ้านายของมันไม่ยอมกลับบ้านเสียที ถ้าคุณรู้จักกัยพี่ชายของฉัน เขาจะเป็นคนที่รักสุนัขมากคนหนึ่งเลย” ทันทีที่เจ้า Mollie ได้พบผู้เป็นเจ้านายนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย โดยมีสายระโยงระยางไปทั่วตัว มันก็แสดงสีหน้าเศร้าสร้อยออกมาอย่างเห็นได้ชัด…
-
ลืมภาพความแบ๊วให้หมด!! นี่คือ 11 เรื่องสุดดาร์ค ของเหล่า “โลมา” ที่ไม่น่ารักเท่าไหร่หร๊อก
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา#เหมียวฟิ้นได้นำเสนอเกล็ดความรู้ชวนอึ้งเกี่ยวกับจิงโจ้ ที่ทำให้เรารู้ว่าจริงๆ แล้วพวกมันไม่ได้ใสซื่อน่ารักแบบที่เราเข้าใจ (อ่าน 12 ความจริงชวนเหวอของจิงโจ้ได้ที่นี่เลย) เราก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่ายังมีสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่มีภาพลักษณ์ที่ดูใสๆ น่ารักๆ อย่างโลมาอยู่เหมือนกัน แต่ก็มีข้อมูลหลายๆ อย่างที่บอกเราว่าพวกมันน่ะไม่ได้น่ารักอย่างที่เราเข้าใจเท่าไหร่ ในบทความนี้เราก็เลยรวบรวมความลับสุดดาร์คของพวกมัมมาให้ได้อ่านกัน รับรองว่าดับฝันทุกคนแน่ๆ… 1. โลมาสามารถ Threesome ได้… 2. โลมาใช้เวลาหมดไปกับการมีเพศสัมพันธุ์และการเล้าโลมกับโลมาตัวอื่นเยอะพอสมควร ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นฤดูผสมพันธุ์หรือไม่ 3. โลมาตัวผู้ มีพฤติกรรมข่มขืนตัวเมีย 4. โลมาสามารถพยายามขืนใจมนุษย์ได้ อย่างในคลิปวิดีโอนี้ เป็นคลิปของกลุ่มนักประดาน้ำที่ไปดำน้ำแถวๆ เกาะเคย์แมน แต่ดันถูกจู่โจมโดยโลมากลัดมันตัวหนึ่ง คุณจะสังเกตได้ว่ามันพยายามยื่นอวัยวะเพศของมันออกมาทางนักประดาน้ำ แลดูมีความพยายามอย่างมาก… 5. ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เคยมีข่าวว่าโลมามีอะไรกับมนุษย์มาแล้ว เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2014 สารคดีของ BBC ได้เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับ Margaret Howe Lovatt นักวิจัยสาวและ Peter โลมาหนุ่ม ที่มีอะไรกันภายใต้การทดลองยา LSD กับโลมา โดยนักวิจัยสาวบอกว่าหลังจากที่ให้ยากับเจ้าโลมา มันก็มีความต้องการทางเพศจนเธอสังเกตได้…
-
นาวิกโยธินเล่าประสบการณ์ ลักลอบนำ ‘สุนัข’ ที่เจอในสนามรบกลับบ้าน ทั้งน่ารักและตื่นเต้น
สนามรบอาจจะเป็นสถานที่ที่ทำให้ชีวิตของใครหลายๆ คนต้องจบลงที่นั่น แต่บางครั้งมันก็ก่อเกิดเป็นมิตรภาพดีๆ ที่คุณคิดไม่ถึงเหมือนกัน นี่เป็นเรื่องราวของนาย Craig Grossi นาวิกโยธินของสหรัฐที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในเมืองเฮลมานด์ ประเทศอัฟกานิสถาน ครั้งหนึ่งระหว่างประจำการ ในช่วงกลางคืนของเดือนตุลาคมปี 2009 ด้วยเฮลิคอปเตอร์ และรุ่งเช้ามาพวกเขากลับถูกกลุ่มตาลีบันเข้าโจมตี เมื่อการต่อสู้เริ่มซาลง นาย Grossi ก็สังเกตเห็นว่าในบริเวณนั้นมีสุนัขอยู่ตัวหนึ่งนอนอยู่ ซึ่งไม่ได้เรื่องปกติของที่นั่น เพราะสุนัขส่วนใหญ่จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มและแสดงท่าทางดุร้ายใส่ผู้คน แต่กับเจ้าตัวนี้ดูจะนิ่งสงบมากกว่า เขาเริ่มสังเกตเห็นว่าเจ้าสุนัขตัวนี้อาศัยหลบนอนอยู่ตามพุ่มไม้และคุ้ยเขี่ยหาอาหารเล็กๆ น้อยๆ กิน ไร้เจ้านาย เนื้อตัวสกปรกเต็มไปด้วยเห็บหมัด แต่ถึงจะรู้สึกสงสารมันอย่างไรก็ตาม ในหน่วยของเขามีกฎอยู่ว่าห้ามเข้าใกล้สุนัข แต่ใช่ว่านาย Grossi จะปฏิบัติตามกฎเสมอไป เพราะเขาได้หยิบเอาขนมหมาติดมือไปยื่นให้กับมัน พอมันเห็นก็แกว่งหางไปมาและเข้ามาหาเขาอย่างเป็นมิตร นาวิกโยธินหนุ่มมองเห็นความน่ารักสดใสในสุนัขตัวนี้ จึงเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าในเมื่อมันน่ารักขนาดนี้แต่ทำไมถึงไม่มีใครสนใจดูแลมันเลยแม้แต่คนเดียว? “ผมเกาที่หลังหูของมัน และผมไม่อยากจะเชื่อเลย” นาย Grossi เล่าถึงช่วงเวลาที่ทำให้เขาตกหลุมรักมัน เขาเลยตั้งชื่อเล่นให้มันว่า Fred ที่คล้ายกับคำว่า Friend (เพื่อน) ทหารหนุ่มเล่าให้ฟังถึงช่วงเวลาการทำสงครามว่า กลุ่มตาลีบันจะใช้ชาวบ้านเป็นโล่ เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ถูกทหารอเมริกันโจมตีโดยตรง ทำให้กลุ่มนาวิกโยธินต้องหลีกเลี่ยงการโจมตีใส่ชาวบ้าน ตกกลางคืนกลุ่มทหารก็จะออกสำรวจตามบ้านเรือนเพื่อดูว่าสงบเรียบร้อยดีหรือไม่ เมื่อเจ้า Fred เห็นว่านาย Grossi ออกไปในเดินตามหมู่บ้าน มันก็จะรีบเดินตามเขามาทันที …
-
เจ้าหน้าที่ในจีน รวบคนลักลอบขน ‘กระดองเต่ากระ’ สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ได้กว่าร้อยชิ้น
นี่ออกจะเป็นเรื่องน่าเศร้าของคนรักธรรมชาติเลยล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักข่าว Global Times ของจีนได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประเทศจีน ได้เข้าจับกุมผู้ลักลอบขนกระดองของเต่ากระเปล่าๆ จำนวนมาก ตามรายงานบอกว่าส่วนหัวของเต่าถูกตัดออกไป และยัดนุ่นใส่เข้าไปในตัวของพวกมันแทน เพื่อแอบเอากระดองเต่าเหล่านี้ไปส่งให้กับลูกค้าและเตรียมนำไปแปรรูปต่อไป เมื่อเจ้าหน้าที่นำเอากระดองเต่าทั้งหมดออกมาเรียกจึงพบว่ามีตำนวนทั้งสิ้น 109 ชิ้น หลังจากที่เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในประเทศจีน ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากเป็นภาพชวนสลดที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน และที่น่าเศร้ายิ่งกว่านั้นก็คือ การซื้อขายกระดองเต่าแบบนี้เริ่มกลายเป็นเรื่องที่แพร่หลายมากขึ้นจนผู้คนสัมผัสได้ ด้านนาย David Godfrey กรรมการบริหารของขององค์กรพิทักษ์เต่าทะเลได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า “กระดองเต่าพวกนี้คือสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เราเห็นว่าข้างนอกนั่นยังคงมีการซื้อขายสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อีกมากมาย” สาเหตุส่วนใหญ่ที่พวกมันถูกจับมา เป็นฝีมือของชาวประมงในแถบทะเลแคริเบียน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย จากนั้นลำเลียงพวกมันไปแบบผิดกฎหมายและนำไปแปรรูปเป็นเครื่องประดับหรือสินค้าอื่นๆ จากการสำรวจของผู้เชี่ยวชาญพบว่าในปัจจุบันโลกของเราเหลือเต่ากระอีกเพียงราวๆ 15,000 ตัวเท่านั้น ซึ่งใกล้จะสูญพันธุ์เต็มทีแล้ว นั่นหมายความว่าการที่เราได้เห็นข่าวเกี่ยวกับพวกมันจึงไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเท่าไหร่ แม้ว่าพวกเราจะไม่สามารถทำอะไรกับกลุ่มชาวประมงหรือคนที่จับพวกมันมาทำแบบนี้ แต่คุณก็พอจะช่วยได้บ้างด้วยการไม่สนับสนุนซื้อสินค้าที่ทำมาจากสิ่งมีชีวิตต่างๆ นะ หากพบเห็นล่ะก็สามารถแจ้งตำรวจให้เข้าไปตรวจสอบได้ทันทีเลย ที่มา thedodo
-
แม่หมาชิสุ ช่วยลูกแมวหลงทางในป่า ทั้งดูแลและเรียกมนุษย์เข้าไปช่วย พร้อมรับเป็นลูกอีก
โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะได้ยินการช่วยเหลือสัตว์โดยมนุษย์หลายต่อหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป เพราะนี่เป็นการช่วยเหลือสัตว์โดยสัตว์กันเอง เมื่อราวๆ เดือนพฤษภาคมปี 2013 องค์กรช่วยเหลือสัตว์ที่ชื่อ Anderson County P.A.W.S. ในเมืองแอนเดอร์สันรัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านพบสุนัขเห่าเสียงดังออกมาจากในป่า และขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เดินทางไปถึง พวกเขาก็ต้องอึ้งไปตามๆ กัน เพราะภาพที่เห็นคือมีสุนัขตัวเมียสายพันธุ์ชิสุกำลังนอนอยู่ข้างๆ ลูกแมวน้อย และเห่าเรียกขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ เมื่อเห็นแบบนั้นพวกเขาก็เลยพาพวกมันทั้ง 2 ขึ้นรถกลับไปยังศูนย์ช่วยเหลือ ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ Michelle Smith เล่าว่าก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปถึง เจ้าสุนัขมีท่าทีเหมือนกับได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากในป่า คล้ายกับเสียงร้องของแมวเจ้าหมาจึงรีบวิ่งเข้าไปในป่าเพื่อให้ความช่วยเหลือ ในระหว่างทางนั้นเจ้าสุนัขก็ทำท่าทางให้นมแก่เจ้าแมวน้อย ผลปรากฏว่ามันสามารถให้นมได้จริงๆ และช่วยต่อชีวิตให้กับเจ้าแมวน้อยจนกว่าจะเดินทางไปถึงศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ จากนั้นไม่นานทั้งเจ้าแมวและสุนัขก็ถูกเจ้าหน้าที่พาขึ้นรถไปกลับไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ ทันทีที่พวกมันเดินทางไปถึง ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานถึงกับตกหลุมรักพวกมันทั้งคู่ด้วยความเอ็นดูและมิตรภาพข้ามสายพันธุ์เลยทีเดียว ปัจจุบัน ได้มีคนมาติดต่อขอรับทั้งคู่ไปเลี้ยงแล้วเรียบร้อย ซึ่งพวกมันก็ดูจะยินดีมากที่ไม่ต้องแยกจากกันไปไหน แถมยังตั้งชื่อสุนัขว่าเจ้า Goldie และเจ้าเหมียวว่า Kate ด้วย ถึงจะไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่ก็รักนะ ถึงจะไม่มีแม่จริงๆ แต่ความรักที่พวกมันมีให้กันนั้นเป็นของจริงล่ะนะ ที่มา heroviral
-
รวม 25 สัตว์โลกชีวิตดี๊ดี ที่ดูท่ามันจะมีความสุขมาก จนอะไรก็ฉุดไม่อยู่แล้ววววว!!
มนุษย์และสัตว์นั้นต่างมีสายใยพิเศษที่เชื่อมหากัน ทุกครั้งที่เราดูแลพวกมันและได้เห็นพวกมันมีความสุข พวกเราเองก็รู้สึกมีความสุขไปด้วย ไม่เชื่อลองนึกถึงสัตว์เลี้ยงที่บ้านของท่านสิ เวลามันทำท่ามีความสุข ท่านจะรู้สึกมีความสุขขนาดไหน วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 25 ภาพของสัตว์เลี้ยงแสนร่าเริง ที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกมันมีชีวิตที่แสนสุขขนาดไหน รับรองว่าดูแล้วจะต้องมีความสุขไปด้วยอย่างแน่นอน ไม่เชื่อ ไปชมกันเลย พี่วัวอย่างทำแบบนี้สิ มันจั๊กจี้นะ อุ้ย ของโปรด อ่าห์ ฟิน เย้ ได้เล่นน้ำแล้ว ฟิ้วววว พริ้มเลย หลับฝันดีละตรู สนุกนะ มาลองสิ คร๊อกกก อุ้มหน่อยๆ มีวันเกิดแบบนี้อ่ะป่าว อิจฉาอ่ะดิ๊ ไม่ได้ว่ายน้ำสนุกๆ แบบนี้มานานขนาดไหนแล้วนะ เต็มปากเต็มคำ นี่แหนะ โฟโต้บอม!! อากาศช่างสดชื่นอะไรอย่างนี้ …
-
เที่ยวไหมอู๊ดๆ…ชวนไปชม “หาดสวรรค์ของหมู” ในบาฮามาส ให้คุณว่ายน้ำเล่นกับมันได้อิสระ
ทุกคนที่เดินทางไปเที่ยวทะเล เพื่อหวังจะได้พักผ่อนกับธรรมชาติ สายลม คลื่นทะเล หาดทรายสวยๆ แต่ที่เกาะแห่งนี้ให้คุณได้มากกว่า เพราะที่นี่มีหมูว่ายน้ำได้!? เกาะที่#เหมียวฟิ้นกำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Pig Beach (หาดหมู) เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศบาฮามาส สาเหตุที่มันโด่งดังก็เพราะว่าที่นี่มีหมูอยู่มากมายและมักจะออกมาว่าน้ำเล่นกับผู้คนอย่างสนุกสนาน ไม่มีการจดบันทึกอย่างเป็นทางการว่าหมูเหล่านี้ขึ้นมาอยู่ที่เกาะแห่งนี้ได้อย่างไร บางเรื่องเล่าบอกว่าที่หมูแห่กันมาอยู่บนเกาะแห่งนี้เป็นเพรามีนักเดินเรือนำพวกมันมาปล่อยไว้เพื่อที่จะกลับมาประกอบอาหารในภายหลัง แต่กลุ่มนักเดินเรื่องที่ว่าก็ไม่เคยกลับมาที่เกาะอีกเลย แต่บางคำบอกเล่าก็บอกว่าที่หมูพวกนี้มาอยู่บนเกาะได้เพราะว่ามีเรือขนหมูเหล่านี้เพื่อเดินทางไปส่งยังจุดหมายปลายทาง แต่ในระหว่างนั้นเรือเกิดอับปาง แต่หมูพวกนี้กลับสามารถเอาชีวิตรอดและว่ายน้ำไปยังเกาะที่ใกล้ที่สุดได้ ส่วนใครที่สงสัยว่าทำไมหมูเหล่านี้ถึงมีชีวิตรอดอยู่บนเกาะที่ไกลปืนเที่ยงขนาดนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าได้รับเศษอาหารจากเรือที่ผ่านไปมา ทำให้พวกมันมีชีวิตรอดไปได้ หมูเหล่านี้เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการที่พวกมันว่ายน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้เกาะแห่งนั้นมีนักท่องเที่ยวแห่กันไปว่ายน้ำเล่นกับพวกหมูหรือให้อาหารพวกมันมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นสถานที่ท่อวเที่ยวในที่สุด จากการสำรวจจำนวนประชากรหมูที่เกาะแห่งนี้พบว่ามีหมูราวๆ 20 ตัว ซึ่งนอกจากหมูแล้วที่เกาะแห่งนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ รวมอยู่ด้วย เช่นมีแมวและแพะอีกจำนวนหนึ่งด้วย สัตว์ทั้งหมดบนเกาะใช้ชีวิตอยู่อย่างอิสระมาก ไม่มีใครคอยล่ามโซ่หรือกักพวกมันไว้แต่ในคอก กิจกรรมในแต่ละวันของพวกมันก็คือการออกไปอาบแดดเป็นชั่วโมงๆ เมื่อพวกมันอาบแดดจนพอใจแล้วก็จะลงไปว่ายน้ำเล่น พวกมันมีนิสัยขี้เล่นและเป็นมิตรมากๆ เมื่อเห็นนักท่องเที่ยวพวกมันก็จะออกมาทักทายอย่างเป็นกันเอง สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน จนเกิดเป็นหนังสือเด็กที่ชื่อว่า “The Secret of Pig’s Island” เขียนโดย Jennifer R. Nolan และได้รับการบรรจุในเนื้อหาของหนังสือสำหรับเด็กในต่างประเทศด้วย หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่หลงรักหมูและตั้งปฏิญาณว่ายังไงชาตินี้ก็ต้องไปให้ได้สักครั้ง…
-
25 ภาพน่ารักๆ ของเจ้าเหมียวตั้งแต่เด็กยันโต ยังเป็นแมวเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือน้ำหนักตัว
จากการจดบันทึกของสมาคมผู้ผลิตของใช้เพื่อสัตว์ในอเมริกา (APPA) บอกว่ามีครอบครัวกว่า 42.9 ล้านหลังคาเรือนที่เลี้ยงแมวไว้ในบ้าน และโดยเฉลี่ยแล้วแมวจะอยู่กับพวกเขาได้ราวๆ 15 ปี นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะรับพวกมันมาเลี้ยงตอนที่คุณอายุเท่าไหร่ก็ตาม พวกมันก็จะเติบโตไปพร้อมๆ กับคุณ ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นก็เลยรวบรวมเอาภาพความทรงจำดีๆ ของพวกแมว ที่เติบโตไปพร้อมๆ กับเจ้านาย ดูซิว่าพวกมันเปลี่ยนไปยังไงบ้าง? 1. เมื่อก่อนเคยนั่งตรงนี้มองอะไรด้วยกัน ตอนนี้ก็ยังนั่งด้วยกันอยู่ 2. เมื่อก่อนชอบนอนเตียงเดียวกัน ตอนนี้ก็ยังนอนด้วยกันอยู่ 3. แม้จะตัวใหญ่มากแล้วแต่ก็ชอบยืนบนไหล่ทาส 4. จากลูกแมว โตมากลายเป็นแมวกล่อง 5. จากที่เคยนอนสบายๆ ตอนนี้ตัวจะล้นออกมาแล้ว 6. นอนได้เต็มเปล 7. เมื่อก่อนชอบนอนในกระเป๋ากล้อง ทุกวันนี้ก็ยังนอนอยู่ 8. เตียงโปรดยังไงก็อย่างงั้น 9. แมวอ่างน้ำ 10. จากแมวใสๆ กลายเป็นแมวกร้านโลก 11.…
-
จะฮาแค่ไหน? จับหน้าสัตว์ มาทำเป็นมีม “นี่คือใบหน้าของคุณ” แทนความรู้สึกได้ดีจริงจริ๊ง…
เหล่าสัตว์โลก แม้ว่าพวกมันจะดูซื่อๆ ก็ตาม แต่บางครั้งพวกมันก็แสดงสีหน้าท่าทางออกมาได้เหมือนกับคนจริงๆ #เหมียวฟิ้น ก็เลยจับเอาภาพของพวกมันทั้งหมด มาผสมกับเรื่องราวในชีวิตจริงของพวกเราให้กลายเป็นมีม “นี่คือใบหน้าของคุณ” รับรองว่าต้องมีสัตว์สักตัวที่ตรงกับชีวิตจริงของคุณแน่ๆ 1. นี่คือใบหน้าของคุณเมื่อมีคนในที่ทำงานถามคุณว่าตดหรือเปล่า 2.นี่คือใบหน้าของคุณเมื่อคิดถึงอนาคตตัวเอง 3. นี่คือใบหน้าของคุณเมื่ออยู่ในโรงหนัง แล้วมีคนเดินผ่านหน้า 4. นี่คือใบหน้าของคุณเมื่อได้ยินเสียงหมดเวลาเลิกเรียน 5. นี่คือใบหน้าของคุณเวลางอนแฟน แต่ยังไม่อยากคืนดีง่ายๆ 6. นี่คือใบหน้าของคุณเมื่อได้กลิ่นคนแอบกินอาหารบนรถโดยสาร 7. นี่คือใบหน้าของคุณเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีงานที่ต้องส่งพรุ่งนี้เช้าแต่คุณกำลังจะนอนอยู่แล้ว 8. นี่คือใบหน้าของคุณเมื่อเข้าสู่ช่วงมหาลัย 9. นี่คือใบหน้าของคุณเมื่อซื้อของกินมาแล้วเพื่อนอยู่ข้างๆ 10. นี่คือใบหน้าของคุณเมื่อนึกขึ้นได้ว่าแม่ฝากซื้อของแต่ดันลืมซื้อมา 11. นี่คือใบหน้าของคุณเมื่อสั่งข้าวพร้อมๆ เพื่อนแต่เพื่อนดันได้ก่อน 12. นี่คือใบหน้าของคุณเมื่อมีคนเห็นตอนคุณกำลังจะโดดเรียน 13. นี่คือใบหน้าของคุณเมื่อถูกแม่ด่าแต่มีคนช่วยเถียงแทน 14. นี่คือใบหน้าของคุณเมื่อกลับบ้านดึกแล้วเมียจับได้ 15. นี่คือใบหน้าที่แท้จริงของคุณ เมื่อคิดแผนชั่วร้ายขึ้นมาได้ 16. นี่คือใบหน้าของคุณเมื่อเวลาโม้ให้เพื่อนฟังว่าหนังที่เพิ่งไปดูมาสนุกขนาดไหน เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น
-
19 สัตว์เลี้ยงสุดน่ารัก โชว์ทักษะช่วยทำงานบ้าน ไม่ได้อยู่เฉยไปวันๆ หรอกนะ!!
หลายๆ คงคงได้เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ‘สัตว์เลี้ยงคือเพื่อนที่แท้จริงของมนุษย์’ และหลายๆ ครั้งนั้น พวกมันก็ยังทำตัวน่ารักช่วยทำงานบ้านได้อีกด้วย และวันนี้เราก็มี 19 สัตว์เลี้ยงน่ารักที่ช่วยทำงานบ้าน จนคุณเห็นแล้วต้องอุทานออกมาว่าขอแบบนี้มาเลี้ยงกันซักตัวสองตัวเลยทีเดียว ถ้าไม่เชื่อว่าทำได้จริงๆ ล่ะก็ มาพิสูจน์กัน!! ผมไปคาบมาให้ครับ อิอิ (ดี๊ด๊าเชียว) เจ้าตัวนี้ต้องยอมรับว่าแสนรู้จริงๆ ฮึบๆๆๆ เหมียวล้างให้เอง!! หลีกไปพี่จะดูดฝุ่น!! เดี๋ยวเช็ดให้นะครับบอส เกะกะวุ้ยยยย ผมจัดการให้เอง!! เดี๋ยวๆๆๆ เนียนมาก ฮร่าาาา How to ทำความสะอาดทั้งบ้านภายใน 10 วินาที!! มีการหมุนรอบตัวก่อนด้วยนะ ฮ่าๆๆๆ เช็ดได้ละมุนมากเจ้าตูบ เยี่ยมยอด!! อีกหนึ่งตัวเนียน >< เดี๋ยวผมจัดการให้เองครับเข้านาย ไม่ต้องห่วง!! แผล่บๆๆๆ เดี๋ยวๆๆๆ…
-
“ไฮแลนด์คาว” สัตว์พื้นเมืองสกอตแลนด์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่ามีตัวตน แถมน่ารักสุดๆ
พวกเราคงคุ้นเคยกับวัวหน้าตาบ้านๆ ตัวสีขาว เอามาเลี้ยงเพื่อรีดนมหรือเลี้ยงเป็นโคขุนแล้วเอาเนื้อของพวกมันมาทำเป็นอาหารใช่ไหมล่ะ แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาทุกคนไปรู้จักกับวัวอีกสายพันธุ์หนึ่ง ที่อาจจะไม่คุ้นตาของเราสักหน่อย วัวที่ว่านี้คือ “ไฮแลนด์คาว” หรือวัวภูเขา เป็นหนึ่งในสายพันธุ์วัวท้องถิ่นของประเทศสกอตแลนด์ ที่เราไม่ค่อยจะพบเห็นได้บ่อยนัก ภาพที่ทุกคนได้เห็นอยู่นี่เป็นภาพจากฟาร์ม Happy Hens & Highlands Farm ตั้งอยู่ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ดำเนินการโดยคู่สามีภรรยา Adam Hopson และ Emily Hopson ที่นั่นพวกเขาเลี้ยงไฮแลนด์คาวไวในฟาร์มเพื่อการเพาะพันธุ์และเป็นงานอดิเรกถึง 22 ตัว และพวกมันก็ดูจะสนุกสนานตลอดเวลาเลยด้วย ไฮแลนด์คาวเป็นสัตว์ที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงแบบเดินเตร็ดเตร่อย่างที่เราได้เห็นกันจากภาพด้านล่างนี่แหละ แม้ว่าแม่ของพวกมันจะไม่ค่อยได้ประคบประหงมลูกๆ เหมือนสัตว์อื่นๆ แต่พวกมันก็มักจะเล็มหญ้าอยู่ใกล้ลูกๆ ของมันเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกๆ ของมันจะปลอดภัยดี แต่ถึงจะดูใจดี คุณก็ไม่ควรจะเข้าไปใกล้ในระหว่างนั้นนะ เพราะอาจจะเป็นอันตรายได้ หากไม่สนิทกันจริงๆ สิ่งที่เป็นจุดเด่นและทำให้พวกมันเป็นที่รักใคร่ของผู้พบเห็นก็คือ ขนที่ปุกปุยปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวมัน ขนของพวกมันจะพิเศษกว่าขนของสัตว์ทั่วๆ ไปอยู่หน่อย เพราะขนของมันมีน้ำมันเคลื่อบขนทำให้ไม่ค่อยเปียก และนั่นแหละทำให้การจับพวกมันมาอาบน้ำเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แถมขนของมันยังเป็นแบบสองชั้น ทำให้หนาอย่างที่เห็น สามารถยาวได้มากที่สุด 33 เซนติเมตร …
-
จากแพะตาบอดขี้กลัว ถูกหญิงสาวรักษาดูแลด้วย “ชุดเป็ด” จนตอนนี้เป็นแพะน่ารักไปแล้ว!?
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ The Dodo ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าแพะตาบอดตัวหนึ่ง ที่มีขี้กังวลเอามากๆ แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรแห่งหนึ่งจนเกิดเป็นเรื่องราวน่ารักๆ จน#เหมียวฟิ้นยังอดยิ้มไปด้วยไม่ได้ ตามรายงานบอกว่านาง Leanne Lauricella ที่ทำงานอยู่ในองค์กรช่วยเหลือแพะที่ชื่อว่า Goats of Anarchy ในรัฐนิวเจอร์ซี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ช่วยเหลือแพะมาตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า Polly จึงเกิดความสงสารเลยรับมันมาเลี้ยงที่บ้าน นาง Lauricella เล่าว่าเจ้า Polly จะเกิดอาการวิตกกังวลและส่งเสียงร้องดังลั่นทุกครั้ง ที่มันไม่เจอเจ้านายหรือรู้ว่าเจ้านายไม่ได้อยู่ในบ้าน นอกจากนี้มันยังมีอาการแปลกๆ อย่างการวิ่งไปหลบในมุมบ้าน และเลียที่ผนัง ฉะนั้นทุกมุมบ้านของพวกเขาจะเต็มไปด้วยรอยเลียจากปากของมันทุกที่เลย ปัญหาเกี่ยวกับอาการวิตกกังวลของมันดูจะเป็นปัญหาเรื้อรังที่แก้ยังไงก็แก้ไม่หาย แต่จู่ๆ Lauricella ก็ค้นพบวิธีการแก้ปัญหาโดยบังเอิญ เมื่อเธอจับเจ้า Polly มาสวมชุดแฟนซีเป็นเป็ดในช่วงเทศกาลวันฮาโลวีเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาบางสิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น “ทันทีที่ฉันสวมชุดให้มัน มันก็ดูจะสงบนิ่งไปเลย” Lauricella กล่าว การสวมชุดเป็ดอาจช่วยทำให้ร่างกายของมันอบอุ่นขึ้น ความวิตกกังวลจึงลดน้อยลงไปด้วย หลังจากนั้น ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้า Polly เกิดอาการวิตกกังวล Lauricella จะหยิบเอาชุดเป็ดมาสวมให้กับมันทันที และดูเหมือนชุดนี้จะมีความพิเศษบางอย่าง ทำให้มันเคลิ้มหลับลงได้ง่ายๆ ครั้งหนึ่ง…
-
เจ้าแรคคูนบาดเจ็บ ถูกมนุษย์ช่วยเหลือ ให้หมาช่วยเลี้ยง จนคิดว่าตัวเองเป็นหมาไปแล้ว!?
มีอยู่หลายเหตุการณ์ทีเดียวที่เหล่ามนุษย์ให้ความช่วยเหลือแก่สัตว์น้อยใหญ่เป็นการชั่วคราว แต่เมื่อถึงเวลาที่ที่ต้องส่งพวกมันคืนสู่ธรรมชาติหรือที่ที่มันควรอยู่ พวกมันกลับไม่ยอมไปแถมยังติดมนุษย์แจซะนี่ นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับ Rosie Kemp จากเมืองแนสซอ ประเทศบาฮามาส ย้อนไปเมื่อประมาณปี 2014 เธอดันเจอเข้ากับลูกแรคคูนวัยเดือนเศษ ที่หล่นลงมาจากต้นไม้แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เธอบอกว่าเจ้าแรคคูนตัวนั้นดูอ่อนแอมากและขาหลังของมันก็หักด้วย แต่เธอก็ไม่ได้เข้าไปช่วยมันในทันที เธอรออยู่นานเพื่อให้แม่แรคคูนกลับมารับลูกของมันไป แต่แม่ของมันก็ไม่ยอมโผล่มาให้เห็นเลย Rosie และลูกสาว Laura Young จึงตัดสินใจพาเจ้าแรคคูนน้อยไปรับการรักษาเพื่อให้มันมีชีวิตรอดต่อไป พวกเขาให้อาหารและหาที่อยู่ให้มันเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง และตั้งชื่อให้มันว่า Pumpkin Laura ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ The Dodo ว่า “การเลี้ยงแรคคูนตัวนั้นถือเป็นงานประจำเลยก็ว่าได้ มันฉลาดอย่างไม่น่าเชื่อ ช่างสังเกตและแสดงออกทางอารมณ์ได้ชัดเจนมาก” และเนื่องจากที่ประเทศบาฮามาสอนุญาตให้เลี้ยงแรคคูนได้อย่างถูกกฎหมาย เจ้า Pumpkin เลยได้ย้ายมาอยู่กับ Laura และสามีของเธอ William แบบยาวๆ เลย ซึ่งที่บ้านของ Laura กับ William เองก็มีสุนัขจรจัดที่พวกเขารับอุปการะอยู่แล้ว 2 ตัว แต่น่าทึ่งมากที่เจ้า Pumpkin สามารถเข้ากันได้กับสุนัขทั้ง 2 จนกลายเป็นเพื่อนรักกันไปโดยปริยาย ในแต่ละวันเจ้า Pumpkin จะมีช่วงเวลาน่ารักๆ…
-
รวมฉาก Easter Egg ที่อยู่ในหนัง Fantastic Beasts ที่เชื่อมโยงไปถึงแฮร์รี่ และภาคต่อไปด้วย!!
เชื่อว่าสาวกแฮร์รี่ทุกคนคงได้ไปดู Fantastic Beasts And Where To Find Them หรือสัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่กันมาตั้งแต่วันแรกแล้ว ดูจบก็คงอิ่มและหายคิดถึงโลกเวทมนตร์ไปได้ระดับหนึ่งเลย เพราะว่าจากภาคที่แล้วมาจนถึงภาคใหม่นี้ก็ใช้เวลาหลายปีพอสมควร เป็นที่ทราบกันดีว่าภาคนี้เป็นการเล่าเรื่องราวหลายปีก่อนที่แฮร์รี่จะเกิดเสียอีก โดยธีมหลักๆ ของเรื่องจะมุ่งเน้นไปที่ตัวร้ายคู่ปรับของดัมเบิลดอร์อย่างกรินเดลวัลด์ ซึ่งเราก็น่าจะได้เห็นเขาอีกในภาคต่อๆ ไป แต่ก่อนอื่น วันนี้เราจะพาไปชมฉากลับๆ ที่แอบใส่เรื่องราวที่ได้กล่าวถึงสิ่งที่อาจจะเชื่อมโยงไปในภาคต่อไป และเชื่อมโยงไปจนถึงช่วงเวลาที่เกิดหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์ด้วย ซึ่งจะมีเรื่องอะไรบ้าง เราตามไปดูพร้อมๆ กันเลย 1. “สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่” สิ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดในเรื่องมากที่สุดเลย แหงล่ะ ก็เป็นชื่อเรื่องนี่หน่า เรื่องนี้เหมือนเป็นการผจญของนิวท์ ที่ได้ไปออกตามหาสัตว์วิเศษต่างๆ แล้วบันทึกมาเป็นหนังสือ ถ้าใครที่ดูแล้วก็คงรู้ว่าเขายังไม่ได้ชื่อหนังสือเลย จนกระทั่งทีน่าได้พูดขึ้นมาในฉากอำลาว่า “สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่” และหนังสือเล่มนี้ก็ได้ถูกตีพิมพ์มาจนถึงปัจจุบัน 2. “I’m More Of A Chaser” ถ้าใครจำได้ จะมีฉากที่นิวท์ที่เพิ่งลงมาถึงอเมรากา แล้วก็ได้ไปเจอกับกลุ่มชุมนุมของ แมรี่ ลู แบร์โบน ที่ต่อต้านผู้มีเวทมนตร์อยู่หน้าธนาคาร แล้วช่วงจังหวะนั้นเธอก็ได้มองเห็นนิวท์พร้อมกับถามว่า “Are you a seeker?…
-
หน้าไม่ให้แต่หัวใจฟรุ้งฟริ้ง…หนุ่มเลี้ยงม้า เกิดไอเดียถ่ายภาพฮาๆ ใครเห็นเป็นต้องเหวอ…
ไม่ว่าใครก็ตามที่มีสัตยว์เลี้ยงไว้ในครอบครอง ในมือถือของพวกเขาจะต้องเต็มไปด้วยรูปคู่ระหว่างเขากับเหล่าสัตว์เลี้ยงอย่างแน่นอน แต่หากสัตว์เลี้ยงของคุณเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างใหญ่ และไม่ได้เหมาะจะถ่ายภาพแบบแบ๊วๆ ล่ะ? นั่นไม่ใช่ปัญหาของนาย Jake Nodar เลย เพราะแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการเลี้ยงม้าก็ตาม แต่ก็ยังคงหาวิธีในการนำเสนอภาพถ่ายออกมาได้อย่างน่ารักจับใจ ขัดกับลุคแมนๆ ของเขาซะเหลือเกิน นาย Jake เป็นชายชาวอเมริกันรูปร่างล่ำบึก ที่รับเอาลูกม้าที่ชื่อ Tyrion มาเลี้ยง แต่เขาเองก็อยากจะมีช่วงเวลาแบ๊วๆ เหมือนอย่างคนเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวบ้าง เขาก็เลยเกิดไอเดียในการแต่งตัวแหวกแนวแล้วถ่ายภาพกับม้าคู่ใจ แล้วอัพลงในอินสตาแกรม @jakenodar จนโด่งดังไปทั่ว บางภาพอาจจะดูเหมือนธรรมดาๆ อยู่ในขั้นเบสิค แต่บางภาพก็ไม่… แล้วที่โด่งดังสุดๆ เลยก็เห็นจะเป็นภาพที่เจ้าตัวถ่ายภาพเลียนแบบศิลปินดังอย่าง Sia แบบในเพลง Cheap Thrills นี่แหละ…เห็นอึ้งเลย… นอกจากนี้ยังมีเป็นคลิปที่เจ้าตัวเต้นกับน้องม้าด้วยนะ เผื่อใครยังไม่เห็นภาพ… When you’re way too excited about Halloween and kind of obsessed with @siathisisacting…
-
น่าประทับใจ สุนัขในไอร์แลนด์ ว่ายน้ำทะเลวันละ 3 ชั่วโมง เพื่อได้เจอเพื่อนโลมา…
“สุนัข” นอกจากพวกมันจะเป็นเพื่อนที่ดีให้กับมนุษย์แล้ว มันยังสามารถแสดงมิตรภาพกับสัตว์ชนิดอื่นๆ ได้ด้วยนะ แม้จะเป็นสัตว์ที่ไม่น่าจะโคจรมาเจอกันได้อย่าง “โลมา” ก็ตาม… นี่เป็นเรื่องราวของสุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ริทรีฟเวอร์ที่ชื่อว่าเจ้า Ben ที่อาศัยอยู่ในเกาะทอรี่ ประเทศไอร์แลนด์ เจ้า Ben ไม่ได้มีกิจกรรมยามว่างอย่างการวิ่งไล่งับกระดูก เห่าคนแปลกหน้า หรือวิ่งเล่นกับเจ้านายนะ แต่มันชอบออกไปว่ายน้ำเล่นกับเพื่อนสนิทที่เป็นโลมาอย่างเจ้า Duggie มากกว่า ในทุกๆ วัน Ben จะวิ่งออกไปที่ท่าเรือแล้วกระโดดลงไปในทะเลเพื่อว่ายน้ำเล่นกับ Duggie แม้จะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็ทำแบบนี้ติดต่อกันเป็นเวลาหลายปีจนชาวเมืองที่นั่นเล่าลือต่อๆ กันไป ชาวเมืองให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าก่อนที่เจ้าโลมา Duggie จะกลายมาเป็นเพื่อนกับสุนัขนั้น มันเคยมีคู่ แต่น่าเศร้าที่คู่ของมันตายไปก่อนหน้านี้ มันก็เลยวนเวียนอยู่แถวๆ อ่าวแห่งนั้นเรื่อยมา จนมาเจอเข้ากับเพื่อนใหม่อย่าง Ben มันก็มีอาการที่สดใสมากขึ้น จากคำบอกเล่าของนาย Pat Doohan ผู้เป็นเจ้านายของ Ben และเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมในท้องถิ่นกล่าวว่าทั้งเจ้า Ben และ Duggie จะใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมงต่อวันในการว่ายน้ำเล่นกัน และแม้ว่าอ่าวแห่งนั้นจะไม่ใช่บ้านที่แท้จริงของเจ้าโลมา แต่มันก็ยังคงว่ายน้ำวนเวียนอยู่ไปไหนไกล …
-
รู้จักกับ 11 สัตว์โลกแปลกประหลาด มีลำตัวโปร่งใสกิ๊ง จนมองเห็นไส้ในกันหมดแล้ว!!
โลกของเรานั้นเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตมากมายหลายสปีชีส์ แค่เฉพาะที่วิทยาการของมนุษย์สามารถค้นพบได้ ก็มีมากมายนับไม่ถ้วนแล้ว ไหนจะยังมีสิ่งที่เราไม่รู้ไม่ว่าจะในใต้ท้องทะเลลึก หรือในป่าดิบชื้นที่ยังเข้าไปไม่ถึงอีก แล้วเพื่อนเคยจินตนาการกันมั้ยว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าร่างกายของเรามันมีความโปร่งแสง สามารถมองทะเลได้เหมือนกับกระจก (แค่คิดก็แปลกแล้ว) และเชื่อมั้ยว่ามันมีสัตว์โลกที่มีร่างกายเป็นแบบนี้อยู่จริง!! เอาเป็นว่าเราไปทำความรู้จักกับพวกมันกันเถอะ 1. Glass Frog กบชนิดนี้สามารถพบได้ในแถบตอนกลาง และตอนล่างของทวีปอเมริกา ลำตัวมีสีเขียวคล้ายมะนาว ส่วนตรงท้องมีผิวหนังที่โปร่งใส สามารถมองเห็นอวัยวะภายในได้ งานนี้ถ้าคนกลัวกบมาเจอเข้า มีหวังต้องรีบวิ่งหนีกันแน่ๆ . 2. Moon Jellyfish แมงกระพรุนสายพันธุ์ที่มีลำตัวโปร่งใส่จนแทบจะมองไม่เห็น ในส่วนของอวัยวะภายในที่ดูเหมือนทรงกลมเรียงติดกันนั้น สามารถใช้บ่งบอกเพศของมันได้ ตัวผู้จะมีสีขาว ส่วนตัวเมียจะมีอวัยวะภายในออกโทนสีชมพู สามารถพบได้ในแนวชายฝั่งตะวันออก และตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติก ลำตัวของมันเมื่อนำมาวางไว้บนทราย 3. Glass Octopus ปลาหมึกชนิดนี้ นับว่าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีลักษณะแปลกประหลาดที่สุด ทั้งลำตัว และหนวดของมันจะมีสีโปร่งใส มองเห็นทะลุได้ ยกเว้นก็แต่ดวงตา และอวัยวะที่ใช้ย่อยภายในเท่านั้นที่มีความทึบแสง แถมพวกมันยังชอบแหวกว่ายวนเวียนไปมาอยู่ใต้น้ำลึก เหมือนเป็นผีเฝ้าทะเลลึกยังไงยังงั้น สามารถพบได้ตามทะเลลึกในเขตที่มีสภาพอากาศค่อนข้างร้อน . 4. Sea Walnut สาเหตุที่มันถูกตั้งชื่อให้เป็น…
-
20 ภาพถ่าย “สัตว์” ที่จะสะกดคุณให้อยู่ในภวังค์ โดยช่างภาพสุดเทพจากยูเครน
Sergey Polyushko เป็นช่างภาพที่อาศัยอยู่ในประเทศยูเครน เขามักจะถ่ายภาพหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม แฟชั่น โฆษณา และสตรีท แต่สิ่งที่เขานำมาถ่ายทอดให้เราชมในวันนี้เป็นภาพถ่ายของสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่าน้อยใหญ่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะได้ถ่ายพวกมันออกมาได้สวยงามขนาดนี้ เพราะว่าธรรมชาติของสัตว์ไม่ได้อยู่นิ่งให้เราถ่าย แต่เขาก็ทำออกมาได้งดงามราวกับว่าจับวาง ภาพที่เขาถ่ายมามีตั้งแต่หมา แมว ไปจนถึงเป็ด กระรอก และอีกมากมาย โดยที่เขาพยายามที่จะจับภาพช่วงเวลาของสัตว์ที่กำลังแสดงอารมณ์ต่างๆ ถ้าอยากรู้ว่ามันงดงามแค่ไหน ตามไปชมผลงานภาพถ่ายของเขากันเลยดีกว่า!! ภาพนี้เรียกได้ว่าจังหวะต้องเป๊ะจริง กระรอกท่ามกลางหิมะที่กำลังตก แมวดำ เป็ดน้อย มอ.. มอ.. ขี้สงสัย เจ้าอ้วน หมุน 180 องศา แฮ่ แม่เป็ด ย่อง จ๊ะเอ๋ …
-
Pizza หมีขั้วโลก “เศร้าที่สุด” ได้รับอิสระแล้ว หลังถูกจัดไว้ในตู้โชว์ของห้าง เพื่อ ‘เซลฟี่’
ในอดีตที่ผ่านมา ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งได้จับเอาสัตว์หลายชนิดมาจัดแสดงไว้ในตู้ เพื่อให้ลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมาได้ชมกันด้วยความเพลิดเพลิน เช่นเดียวกับเรื่องราวของเจ้า Pizza หมีขั้วโลกอาศัยอยู่ในตู้กระจกของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เพื่อให้ผู้คนได้ถ่ายรูปเซลฟี่กันกับมันอย่างสนุกสนาน เจ้าพิซซ่าเป็นหนึ่งในสัตว์ 500 ชนิดที่ถูกเก็บเอาไว้ในสวนสัตว์ที่เป็นส่วนหนึ่งของห้างสรรพสินค้า แต่หลังจากที่มันต้องใช้ชีวิตอยู่ในนั้นเป็นเวลานาน ก็มีผู้คนในจีนเกิดความสงสารและรวมตัวกันล่ารายชื่อกว่า 1 ล้านรายชื่อ เพื่อเรียกร้องให้ห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นปล่อยตัวเจ้า Pizza เป็นอิสระ มีจดหมายกว่า 50 ฉบับจากองค์กรเพื่อสิทธิสัตว์ ถูกส่งไปยังผู้ว่าของมณฑลกวางตุ้งและเรียกร้องให้มีการปิดสวนสัตว์ดังกล่าว ซึ่งนอกจากเจ้า Pizza แล้วยังมีสัตว์อื่นๆ ที่อยู่ในนั้นอีก ทั้งสุนัขจิ้งจอกอาร์กติก หมาป่า และวอลรัส ทั้งหมดล้วนถูกขังไว้ในห้องเล็กๆ ที่ไม่มีหน้าต่างและสภาพแวดล้อมที่เหมาสม ผู้เชี่ยวชาญสัตว์บางคนให้ความเห็นว่าพฤติกรรมของเจ้า Pizza นั้นน่าเป็นห่วงมาก เพราะมันมีดวงตาที่เศร้าตลอดเวลา มันเดินวนไปมาภายในตู้ซ้ำแล้วซ้ำอีก และมันชอบมาตอนที่ใต้เครื่องปรับอากาศ มันต้องการอากาศบริสุทธิ์มากแค่ไหน หลังจากเกิดการเรียกร้องอย่างมากมาย ทำให้ทางห้างสรรพสินค้าตัดสินใจปิดส่วนของสวนสัตว์ลง และเริ่มโยกย้ายสัตว์ไปยังที่ต่างๆ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และเจ้า Pizza ก็ได้กลับไปอยู่ในศูนย์เลี้ยงสัตว์น้ำที่เดิมที่มันเกิด ซึ่งมีสภาพแวดล้อมเหมาะสมกับมันมากกว่าและกว้างขวางกว่าที่มันอยู่ ด้านด็อกเตอร์ Peter Li…
-
26 สรรพสัตว์ผู้เกรียงไกร อันเป็นตัวแทนและสัญลักษณ์ของประเทศต่างๆ จากรอบโลก!!
ในการใช้ ‘สัตว์’ เป็นสัญลักษณ์ของประเทศนั้นๆ อาจตีความได้ว่าเป็นการสื่อถึงลักษณะนิสัยของผู้คนในประเทศ หรือปริมาณประชากรของสัตว์นั้นๆ ว่ามีอยู่มากก็ตาม แต่ที่แน่ๆ ก็คือประเทศในโลกนี้มีสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศตัวเองเกือบทั้งนั้น อย่างบ้านเราก็คงต้องเป็น ‘ช้าง’ ที่เป้นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน และวันนี้เราก็อยากจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับ 26 สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศต่างๆ ลองมาดูกันซิว่าจะมีประเภทไหนกันบ้าง… เสือดาวหิมะ เป็นสัญลักษณ์ของประเทศปากีสถาน ไก่ตัวผู้ สัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส นกกีวี ประเทศนิวซีแลนด์ หมีสีน้ำตาล ประเทศฟินแลนด์ กวางหางขาว ประเทศฮอนดูรัส หงส์ขาว สัญลักษณ์ประเทศเดนมาร์ก (ไม่ใช่โคนมอย่าที่หลายๆ คนคิดกัน) ควายไบซัน ประเทศโปแลนด์ นกอินทรี Gyrfalcon สัฐลักษณ์ประเทศไอซ์แลนด์ โอคาพี สัญลักษณ์ของคองโก หมาไม้สน ประเทศโครเอเชีย ยูนิคอร์น ประเทศสกอตแลนด์ หรูมากกก!! ออริกซ์อาหรับ สัญลักษณ์ของโอมาน…
-
น่ารักไม่แพ้กัน นี่คือ 22 ภาพของ “แมวแม็งซ์” ที่แม้จะหางสั้นกุด แต่ก็ยังเป็นที่รักของมนุษย์อยู่ดี
สัตว์เลี้ยงอย่างพวกแมวนั้นถูกสร้างมาให้มีหางเพื่อการทรงตัว บ้างก็บอกว่าเพื่อสื่อสารถึงอารมณ์ต่างๆ แต่ก็มีแมวจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่เกิดมาโดยที่ไม่มีหางแกว่งไปมา กลายเป็นแมวหางกุดไปเสียอย่างงั้น หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าพวกแมวหางกุดนั้นมีชื่อเรียกเฉพาะของมันด้วย ในชื่อว่า “แมวแม็งซ์” แมวพวกนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ ตอนแรกพวกมันก็มีหางเหมือนแมวทั่วๆ ไป แต่พวกมันเริ่มกลายพันธุ์จนหางของพวกมันค่อยๆ หดลงเรื่อยๆ และสั้นกุดอย่างที่เห็นล่ะ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความน่ารักของพวกมันลดลงไปเลย เพราะพวกมันยังคงมีความกวนประสาท ความหยิ่ง และขี้อ้อนแบบแมวทั่วๆ ไป และนั่นแหละทำให้พวกเรายังคงหลงรักพวกมันแม้จะไม่มีหางก็ตาม 1. หางสั้นกุ๊ดดุ๊ด 2. ชอบหางกุดๆ แบบพวกเราไหม? 3. ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์ 4. หางสั้น จึงทำให้ไม่ต้องแกว่งไปมา 5. ดูไปๆ เหมือนกระต่ายเหมือนกัน 6. “มองไร ไม่เคยเห็นแมวไร้หางเหรอ” 7. ถ้าดูผ่านๆ คงจะไม่ได้สังเกตถึงความกุดของมันสินะ 8. ทำสายตาแบบว่า แค่ไม่มีหางไม่ได้พิการเฟ้ย!! 9. ดูแปลกไปนิด แต่…ใครเก๋าเจอได้…
-
ตำรวจเท็กซัสช่วยเหลือ ‘กวาง’ ที่ลำบาก พอปล่อยไป ไม่นานก็กลับมาเยี่ยมเยียนอีกครั้ง…
บ่อยครั้งที่เราจะได้เห็นข่าวคราวการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเพราะไปชนเข้ากับสัตว์ป่า ซึ่งในต่างประเทศเองก็มีเยอะไม่แพ้บ้านเรา และสัตว์ที่ตกเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุบ่อยๆ ก็คือพวกกวางนี่แหละ อ่านเจอตามอินเตอร์เน็ตทีไรก็ทำให้เรารู้สึกหดหู่ทุกครั้ง ฉะนั้นวันนี้#เหมียวฟิ้นขอนำเสนอเรื่องราวดีๆ ของพวกกวาง ที่ทำให้คุณรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างดีกว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมทีผ่านมา สำนักข่าว AP ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับเจ้ากวางน้อยตัวหนึ่งในเมืองฟัลเชียร์ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ซุกซนจนมีเศษพลากติกติดอยู่บนหัวและไม่สามารถเอาออกได้ด้วยตัวเอง เจ้ากวางตัวนี้จึงเดินเข้าไปที่บ้านคนหลังหนึ่งเพื่อขอความช่วยเหลือ ทราบภายหลังว่าเจ้าของบ้านคือนาย Kevin Zieschang เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นของที่นั่น เมื่อเจ้าหน้าที่ Kevin เห็นมันเข้าก็เลยจัดแจงใช้กรรไกรตัดเศษพลาดติกที่ติดอยู่บนหัวของมันออก จากนั่นก็ไล่ให้มันกลับเข้าป่าไปตามเดิม แต่เป็นที่น่าฉงนมากเพราะเจ้ากวางตัวนี้ดันไม่ยอมไปไหน มันพยายามยืนอยู่หน้าบ้านเหมือนรออะไรสักอย่าง เจ้ากวางเดินป้วนเปี้ยนอยู่รอบๆ บ้านของนายตำรวจ แม้ว่าเขาจะแกล้งทำให้มันตกใจกลัวแล้วก็ตาม นาย Kevin เลยตั้งชื่อเล่นๆ ให้มันว่า “ลุงบัค” สุดท้ายแล้วมันก็เดินหายลับเข้าไปในป่าตามเดิม จากนั้น 2 วันต่อมาเรื่องราวดังออกไป ได้มีนักข่าวจากสำนักข่าว AP ไปสัมภาษณ์เขาถึงที่บ้าน เพื่อนำเรื่องราวของเขาไปทำข่าว แต่ปรากฏว่าในระหว่างนั้นเองเจ้ากวางที่เขาเคยช่วยเอาไว้ดันกลับมาหาเขาอีกครั้งหนึ่ง เกิดเป็นช่วงเวลาน่าประทับใจแบบไม่คาดคิดเลยทีเดียว เรียกได้ว่า เซอไพร้ส์กันทั้งนักข่าวและคุณตำรวจ เรื่องราวของลุงบัค ก็เลยกลายมาเป็นคลิปเพิ่มเติมแบบนี้ แทนที่จะมีคลิปตอนช่วยที่เขาบันทึกเอาไว้ จึงมีคลิปการกลับมาเยี่ยมซะด้วยเลย…
-
เป็นไปได้!? เจ้าหน้าที่ตำรวจมะกัน เผลอยิงปืนใส่เท้าตัวเอง ระหว่างต่อสู้กับแรคคูนคลั่ง
แม้ว่าสัตว์อย่างแรคคูณจะมีความน่ารักน่าชังขนาดไหนก็ตาม คุณก็อย่าได้ประมาทถึงความเจ้าเล่ห์และอันตรายของมันล่ะ เพราะล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บเพราะมันด้วยนะ!! เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักข่าว Washingtonpost ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งในรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับแจ้งจากชาวเมืองว่ามีแรคคูณคลั่งออกมาป่วนอยู่ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจรายนั้นเดินทางมาถึงเขาก็เข้าไปจัดการกับแรคคูณคลั่งที่ว่านี้ แต่ดูเหมือนมันจะว่องไวและแสบกว่าที่เขาคิด เขาจึงต้องจัดการขั้นเด็ดขาดคือยิงมันซะก่อนที่มันจะไปทำร้ายใครเข้า แต่เขาก็พลาดท่าเผลอยิงปืนเข้าที่เท้าของตัวเอง ส่วนเจ้าแรคคูณตัวนั้นก็วิ่งหายไปอย่างลอยนวล เจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ได้วิทยุขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยอื่นและรายงานให้ทราบว่าเขาถูกยิง ในตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอื่นๆ รู้สึกตกใจมากจึงรีบขับรถมาช่วยเหลือเขา แต่สุดท้ายก็พบว่านั่นไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร และเขาก็ไม่ได้ถุกคนร้ายยิงด้วย นาง Andrea Barrett ผู้เป็นพยานพบเห็นเหตุการณ์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “มันทำให้ฉันกลัวไปเป็นนาทีๆ เลย ฉันหวังว่าเขาจะปลอดภัยดีนะ มันรู้สึกโล่งใจมากที่ได้รู้ว่านั่นไม่ใช่แผลใหญ่อะไรสำหรับเขา” หลังจากนั้นได้ไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจนายอื่นๆ ก็ได้ออกติดตามแรคคูณตัวนี้จนไปเจอมันอยู่ที่สวนสาธารณะอีกแห่งหนึ่ง พวกเขาจึงจัดการปลิดชีพมันทันที ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บก็มีอาการที่ทรงตัวแล้ว จึงไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ไม่รู้ทำไมพออ่านข่าวนี้แล้ว นึกถึงไอ้ตัวนี้ขึ้นมาตะหงิดๆ… ที่มา washingtonpost , metro
-
16 ภาพเอ็กซเรย์ของสัตว์กำลัง “ตั้งครรภ์” มีลูกของมันอัดแน่นอยู่เต็มท้องเลย ดูแปลกตาดีนะ
การให้กำเนิดลูกน้อย ถือเป็นเรื่องสุดมหัศจรรย์ของทั้งคนและสัตว์ แถมยังทำให้ใครต่อใครรู้สึกประทับใจทุกครั้งที่ได้เห็น เช่น ภาพขณะคุณแม่คลอดลูกในน้ำ หรือภาพของสัตว์น้อยใหญ่กำลังตั้งครรภ์ แต่ถ้าภาพความทรงจำดีๆ เหล่านั้น มันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นหัวใจเสมอไป อย่างเช่นการนำเหล่าสัตว์ที่กำลังตั้งท้องไปเอ็กซเรย์ละ มันคงจะเป็นอะไรที่แปลกตาไม่น้อย และนี่คือ 16 ภาพเอ็กซเรย์ของสัตว์ที่กำลัง “ตั้งครรภ์” หลายคนดูแล้วอาจจะร้องว้าว ขณะที่อีกหลายคนคงเห็นว่ามันแอบหลอนเหมือนกันนะ 1.สภาพภายในครรภ์ของแม่สุนัข 2.เต่า 3.แมว ว้าววว!! ดูท้องของมันสิ 4.ฉลาม 5.งู 6.หนูชินชิล่า 7.ค้างคาว 8.หนูตะเภา 9.ม้าน้ำ 10.มังกรโคโมโด 11.แรคคูน 12.ลิง 13.ม้า 14.กวาง 15.นกอีมู 16.จิ้งเหลนต้นไม้ แต่ละภาพน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก อาจเป็นเพราะเราไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นอะไรแบบนี้บ่อยๆ…
-
15 สัตว์รูปร่างแปลกๆ จากใต้ทะเลลึก ที่ทำให้เราทั้งว้าวและแอบน่ากลัวได้เช่นกัน…
วันนี้ #จ่าสิบเหมียว จะพาเพื่อนๆ ไปพบกับ 15 สัตว์รูปร่างแปลกๆ จากใต้ทะเลลึกที่ขนาดนักวิทยาศาสตร์ยังต้องอ้าปากค้างกันเลยทีเดียว!! จากข้อมูลของทาง National Oceanic and Atmospheric Association ของประเทศสหรัฐอเมริกา ชี้ว่ามนุษย์ได้สำรวจพื้นที่ของมหาสมุทรไปเพียงราวๆ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ลองคิดดูสิว่าที่เหลือจะมีสิ่งน่าตื่นตาตื่นใจซ่อนอยู่มากขนาดไหน!? ‘Purple Sock’ Creature สัตว์ประหลาดคล้ายถุงเท้าสีม่วง มันถูกค้นพบเมื่อราวๆ 60 ปีก่อนโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดนด้วยความบังเอิญ ตอนแรกพวกเขาคิดว่าเป็นถุงเท้าเก่าๆ เสียด้วยซ้ำ และประเด็นก็คือจนถึงตอนนี้เหล่านักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรอยู่ดี ในตอนแรกมีสายพันธุ์เดียวของเจ้าถุงเท้าสีม่วงนี้เท่านั้นที่ถูกค้นพบ แต่ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ได้มีรายงานว่าพบอีก 4 สายพันธุ์จากทั้งในออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา พวกมันไม่มีสมอง ดวงตา หรือไส้ พวกมันแค่กลืนอาหารเข้าไปทางปากและขับถ่ายออกมาเท่านั้น Gulper Eel ปลาไหลกัลเปอร์ ลักษณะนั้นว่ากันในเรื่องของความยาว อาจจะดูเหมือนปลาไหลทั่วๆ ไป แต่จะแปลกก็ตรงที่มีขนาดปากที่ใหญ่ ทำให้สามารถกินเหยื่อที่ขนาดใหญ่กว่ามันได้ถึงสองเท่าตัว (แต่ถึงจะดูโหด มันก็กินแค่สาหร่ายและสัตว์น้ำเล็กๆ เท่านั้น) เมื่อโตเต็มวัยเหงือกและฟันของตัวผู้จะเริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้มันต้องเร่งหาคู่เพื่อผสมพันธุ์ และสุดท้ายมันก็จะเสียชีวิตไปในที่สุดหลังจากผสมพันธุ์สำเร็จ Angler Fish ปลาแองเกลอ…
-
แม่จ๋า… ลูกหมากำพร้าแม่ทั้งครอก ได้รับความอบอุ่นและการเลี้ยงดูจาก “คาปีบารา”
นี่คือเรื่องราวน่ารักๆ ของลูกสุนัขครอกหนึ่งที่ปราศจากแม่และถูกช่วยเหลือโดยหน่วยงานช่วยเหลือสัตว์ Rocky Ridge Animal Rescue ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่ดำเนินการโดยนาง Janice ในทันทีที่พวกลูกสุนัขเดินทางมาถึงสถานที่แห่งนี้ พวกมันเองก็ได้รับการต้นรับอย่างดีจาก Cheesecake คาปีบาราเพศเมีย เจ้า Cheesecake เองดูเหมือนจะมีสัญชาตญาณของความเป็นแม่สูงแม้ว่าตัวเองจะยังไม่เคยมีลูกเลยก็ตาม มันรู้ในทันทีว่าเหล่าลูกหมากลุ่มนี้ต้องการแม่และคนคอยให้ความอบอุ่นพวกมัน มันจึงคอยอยู่ใกล้ๆ ลูกหมาเหล่านั้น คอยเป็นเพื่อนเล่น กินนอนด้วยกันตลอดเวลา แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกับหนู แต่หน้าตามันก็ค่อนข้างใกล้กับสุนัขพอสมควร จึงพอจะกลมกลืนไปกับลูกสุนัขได้บ้าง “มันนอนกับลูกหมา มันกินกับลูกหมา แล้วพวกลูกหมาก็เล่นกับมันด้วย ดูเหมือนว่ามันเองก็สนุกที่ได้ทำแบบนั้นด้วย ฉันคิดว่ามันใจดีกับสัตว์รอบข้างตัวมัน นั่นทำให้สัตว์ตัวอื่นๆ รู้สึกปลอดภัยที่ได้อยู่ใก้ลเจ้า Cheesecake” นาง Janice กล่าว กินอาหารก็กินด้วยกัน เล่นก็เล่นด้วยกัน ชมคลิปน่ารักๆ ของเจ้า Cheesecake ได้ที่นี่เลย ตอนนี้ Cheesecake เองเปรียบเสมือนแม่คนใหม่ของเหล่าลูกๆ สุนัขไปโดยปริยาย แม้จะหน้าตาไม่เหมือนกันเสียทีเดียว แต่ก็ดูแลได้ไม่แพ้แม่แท้ๆ ของพวกมันเลย ที่มา heroviral , Animal Planet
-
มันจะมากไปแล้ว!! 24 แมวผู้อาจหาญ นอนหลับทับหมา เหมือนเป็นที่นอนปุกปุย
พวกแมวนั้นเป็นสัตว์ขี้เซาพวกมันนอนได้ทุกที่ทุกเวลา และชอบที่จะหาจุดเหมาะๆ ในการหย่อนตัวลงนอนมากๆ แต่บางครั้งที่ที่พวกมันไปนอนก็ดูจะล้ำไปนิดนึง… ตามความเข้าใจของคนทั่วๆ ไปแล้ว แมวน่าจะเป็นสัตว์ที่อ่อนแอมากกว่าสัตว์เลี้ยงในบ้านอย่างสุนัขใช่ไหมล่ะ? แต่ไม่รู้ว่าทำไม๊ทำไม พวกแมวถึงอาจหาญนำเอาสุนัขมาทำเป็นที่นอนอยู่ตลอด ถึงคุณไม่เชื่อว่าพวกแมวมีอิธิพลมากแค่ไหนล่ะก็ งั้นเรามีภาพมายืนยันด้วยนะ 1. กำลังนอนต่อตัวกันอยู่เหรอ? 2. อย่าขยับไปไหนนะเจ้าหมา ท่านี้กำลังดี 3. ตัวใหญ่นอนอย่างกับเตียงคิงไซส์ 4. หายใจออกไหมล่ะนั่น? 5. ดียิ่งกว่าเตียงขนเป็ดซะอีก 6. อุ่นจริงไรจริง 7. อย่าขยับหัวนะเจ้าหมา ท่านี้กำลังสบาย 8. ตัวเดียวไม่พอ ยังจะพาพวกมาอีก!! แกนี่มันร้ายจริงๆ 9. ขนสีคล้ายๆ กัน พอจะเนียนกันไปได้ 10. ให้ฉันโอบกอดแกนะเจ้าแมว 11. นอนกอดเป็นหมอนข้างเลย 12. รักแกนะหมอนข้าง 13. อันนี้ไม่ได้นอน…
-
นักวิทยาศาสตร์เตือน น้ำลายสัตว์เลี้ยงแฝงแบคทีเรีย เสี่ยงต่อโรคทางเดินอาหารเป็นพิษ…
ผู้ที่เลี้ยงสุนัขส่วนใหญ่น่าจะหนีไม่พ้นกับพฤติกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกมัน นั่นก็คือการเลีย มันจะเลียมือเลียแข้งเลียขาเราลามไปยันใบหน้า เพื่อเป็นการแสดงความรักและความสนิทสนมรูปแบบหนึ่ง แต่บางครั้งคุณก็ควรที่จะห้ามพวกมันหรือป้องกันไม่ให้มันมาเลียปากของคุณบ้างนะ เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีการศึกษาในต่างประเทศ บอกว่าในน้ำลายของพวกมันมีแบคทีเรียที่เป็นอันตรายกับร่างกายมนุษย์เพียบเลย จากการศึกษาของ Dr. Leni K. Kaplan จากมหาวิทยาลัย Cornell University’s College of Veterinary Medicine ประเทศสหรัฐอเมริกาได้บอกว่าน้ำลายสัตว์ (รวมไปถึงสุนัข) สามารถส่งผ่านเชื้อแบคทีเรียจำพวกคลอสตริเดียม, อีโคไล, ซัลมอนเนลา และแคมไพโลแบคเตอร์ มายังมนุษย์ได้ แบคทีเรียข้างต้นนี้อาจทำให้คุณเป็นโรคระบบทางเดินอาหารอย่างรุนแรง จนต้องหามเข้าโรงพยาบาลแบบด่วนๆ นอกจากนี้สุนัขบางตัวยังมีพฤติกรรมชอบกินอึของตัวเอง แน่นอนว่าเต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูลและพยาธิต่างๆ ที่อาจส่งผ่านมายังคุณได้ด้วย แต่เรายังพอมีหวังอยู่บ้างนะ เราคงไม่ต้องกังวลกับเรื่องที่พวกมันชอบเลียผิวหนังของเราเท่าไหร่ ตราบใดที่น้ำลายของมันไม่ได้ฟูมปากมากนัก และควรที่จะใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปากของพวกมันด้วย Dr. Kaplan ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “เมื่อน้ำลายของพวกสุนัขสัมผัสกับผิวหนังของมนุษย์ โดยเฉพาะกับคนที่สุขภาพดี มันมีโอกาสน้อยมากที่จะก่อให้เกิดปัญหา เพราะมันจะมีการดูดซึมสู่ผิวหนังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” หยุดเลียได้แล้วเจ้าสุนัข!! เจ้ามนุษย์ ได้ยินแบบนี้แล้วก็ระวังกันหน่อยนะ รักกันได้เล่นกันได้ แต่ว่าต้องรักตัวเองด้วยนะ ที่มา nytimes , viralnova , today
-
20 เหล่าสัตว์โลก ที่พร้อมแล้วสำหรับ ‘ฤดูหนาว’ สวมเสื้อกันหนาวกันซะน่ารักเชี๊ยววว!!
อีกไม่กี่สัปดาห์ ‘ฤดูหนาว’ ก็จะมาถึงแล้ว แน่นอนว่าเพื่อนๆ หลายคนก็คงหาซื้อเสื้อกันหนาวใหม่ๆ ผ้าห่มหนาๆ เพื่อรับมือกับอากาศหนาวกันเป็นอย่างดี แต่ขอบอกเลยว่าไม่ได้มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่รู้สึกตื่นตัวกับเรื่องนี้ เหล่าสัตว์โลกทั้งหลายเองก็เตรียมตัวเรียบร้อยแล้วเช่นกัน หาเสื้อกันหนาวมาใส่กันซะอุ่นเลย แถมยังน่ารักแบบสุดๆ อีกต่างหาก ฮร่า 1. พอมีเสื้อกันหนาวแล้วมันอุ่นใจดีจริงๆ 2. อุ่นๆ แบบนี้แหละ หลับสบายที่สุดแล้ววว >< 3. เอ้ายกมาเป็นขบวนเชียวนะเจ้าเพนกวิ้นน 4. เมื่อวานดูพยากรณ์อากาศแล้วเค้าบอกว่าปีนี้จะหนาวกว่าเดิม หาเสื้อไหมพรมมาใส่ซักตัวซิ เพราะแค่ขนเราอาจจะเอาไม่อยู่ก็ได้ ฮร่า 5. นี่ก็เลือกเอาซักอย่างซิ จะเป็นแมวรึจะเป็นไอ้หลาม 6. ก็เรามันไม่มีขนคอยสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายนี่ฝ่า ขอยืมเสื้อหน่อยละกันนะเจ้ามนุษย์ 7. หึๆ หล่อชะมัด คิดไม่ผิดเลยที่แอบจิ๊กเสื้อกันหนาวของเจ้านายมาใส่ 8. นี่มันกระต่ายสายพั๊งค์นี่หว่าา ฮร่า 9. แม้แต่เจ้าหนูตะเภาเองก็เตรียมพร้อมด้วยเช่นกัน 10. เตรียมตัวมาเป็นอย่างดีเลยคร๊าบบบ มีหลายสีให้เลือกด้วย …
-
อบอุ่นเหลือเกิน… สุนัขตาบอดอันเหี่ยวเฉา แต่มีคนใจดี เติมสีสันให้ชีวิตมันอีกครั้ง
นี่คือเรื่องราวที่น่าสงสารของเจ้า Muneca สุนัขสายพันธุ์ดัชชุน วัย 18 ปีตัวหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในสถานพักพิงสุนัข Baldwin Park Animal Care Center ที่เป็นประเภท “Kill Shelter” (หากไม่มีคนมารับไปเลี้ยง สุดท้ายแล้วจะถูกฆ่าตาย เพื่อป้องกันจำนวนสุนัขจรจัดที่เพิ่มมากขึ้น) เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Thedodo เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่บอกว่ามันน่าสงสารก็เพราะว่ามันทั้งแก่ ตาบอด แถมยังไม่มีใครอยากจะรับมันไปเลี้ยงเลย ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันก็จะถูกฆ่าตายในสักวันหนึ่ง แต่เหมือนโชคชะตายังปราณีกับมันอยู่บ้าง เพราะว่าหลังจากที่มันถูกทิ้งให้อยู่ที่นั่นเพียง 2 วัน มูลนิธิ Frosted Faces Foundation ก็ได้ยืนมือเข้ามาช่วยเหลือและขอตัวเจ้า Muneca ไป ก่อนที่ต่อมา Amy Gann จะเข้ามาเห็นมันเข้า เธอรู้สึกดีกับมันมากและอยากจะขอรับมันไปเลี้ยง แต่ในต่างประเทศนั้น ใช่ว่าใครจะสามารถรับสัตว์ไร้เจ้าของไปเลี้ยงได้ง่ายๆ เพราะจะต้องมีการตรวจสอบจากทางมูลนิธิอย่างละเอียด ด้านนาง Kelly Smíšek ผู้บริหารของมูลนิธิ Frosted Faces กล่าว่า “เราตรวจสอบทุกคนและพูดคุยกับเพื่อนหรือคนสนิทของพวกเขาอย่างละเอียด เราตรวจที่บ้านของเขาและผู้คนอีกมากมาย”…
-
อุทยานสหรัฐ ค้นพบ “หมีสีน้ำตาลที่จ้ำม้ำที่สุดในโลก” ชี้เป็นสัญญาณที่ดีต่อระบบนิเวศน์
คุณคิดว่าสัตว์อย่างหมีสีน้ำตาลจะสามารถใหญ่ได้มากสุดขนาดไหนกัน? ลองคิดไว้ในใจเล่นๆ แล้วมาอ่านบทความของ#เหมียวฟิ้นกัน เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางอุทยานแห่งชาติ Katmai National Park Service ในรัฐอะลาสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศว่ามีการค้นพบหมีสีน้ำตาล ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบมาเลยก็ว่าได้!! ทางอุทยานได้ตั้งชื่อให้หมีสีน้ำตาลตัวนั้นว่า Otis มันมีอายุราวๆ 20 ปี และคาดว่าน่าจะมีน้ำหนักมากกว่า 400 กิโลกรัมเลยด้วย นาง Anela Ramos ตัวแทนของอุทยาน Katmai National Park ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เราไม่มีอุปกรณ์ที่ใหญ่พอจะไปวัดมัน แต่เราประเมินกันว่ามันน่าจะหนักราวๆ 453 กิโลกรัม ขาดเกินไม่มากกว่านี้” ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหมีสีน้ำตาลจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 317 กิโลกรัมเท่านั้น เจ้า Otis อาศัยอยู่ในเขตแม่น้ำ Brooks ของอุทยาน Katmai และได้รับความคุ้มครองเป็นอย่างดี ซึ่งนอกเหนือจากความอวบอ้วนของมันแล้ว เจ้าหมียังมีหูข้างนึงที่พับลู่ลงมา มีขนสีบลอนด์ที่เข้มโดดเด่น และฟันหน้าหายไป 2 ซี่ ในช่วงฤดูร้อนเจ้า มันจะออกมาหาปลากินในแม่น้ำ มันจะนั่งลงอย่างใจเย็น แล้วรอให้ปลาว่ายน้ำมาหามัน…
-
16 ภาพความน่ารักของสัตว์น้อยใหญ่ ที่ได้รับการ “เข้าเฝือกจิ๋ว” รอวันออกไปซนอีกครั้ง!!
ถ้าพูดถึงการใส่เฝือก คนที่ไม่ได้ใส่อาจจะมองว่าคนที่กำลังใส่อยู่นั้นน่ารัก แต่สำหรับคนที่ใส่อยู่นั้นก็คงจะทราบดีว่าเวลาจะทำอะไรก็ลำบากไปหมด ตั้งแต่กินข้าว อาบน้ำ หรือแม้แต่จะเกายังทำไม่ได้เลย แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพามาชมความน่ารักของสัตว์ต่างๆ ที่กำลังได้รับการรักษาด้วยการใส่เฝือก บอกตรงๆ ว่าไม่เคยเห็นโมเม้นต์แบบนี้มาก่อน ดูแต่ละตัวก็เหมือนเด็กน้อยน่ารักน่าเอ็นดูด้วย อย่ารอช้า เราไปดูกันเลยว่าเฝือกจิ๋วๆ เหล่านี้จะทำให้พวกมันน่ารักเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน 1. แขนตรงเชียว 2. เดี๋ยวก็หายแล้ว 3. กระรอกตกต้นไม้ เข้าเฝือกเลย 4. โดนไปสองขา โชคดีที่ 3 วันก็หายแล้ว 5. เจ้าจิ้กจองซึมไปเลย 6. โดดขึ้นหน้าต่างแล้วพลาด เป็นไงล่ะ 7. เม่นน้อย 10 สัปดาห์ ก็ขาหักซะแล้ว เหลืออยู่ขาเดียว 8. ลาน้อยใส่เฝือก แต่ก็พยายามเดินได้ 9. จิ้งโจ้ก็ยังไม่เว้น 10.…
-
อุ่นจัง… ลูกม้ากำพร้าติดตุ๊กตาหมีมาก แม้จะผ่านไป 3 ปี ก็นอนกอดตุ๊กตาหมีเหมือนเดิม
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหนก็ต้องการความรักความอบอุ่นกันทั้งนั้น ยิ่งเป็นสัตว์อายุน้อยๆ ยิ่งต้องการการเอาใจใส่จากพ่อแม่มันมาก เช่นเดียวกับเรื่องราวของลูกม้าตัวนี้ นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2013 เกี่ยวกับลูกม้าตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Breeze ที่มีคนพบว่ามันเดินอยู๋โดดเดี่ยวตัวเดียวในอุทยานแห่งชาติ Dartmoor ในประเทศอังกฤษ ผู้พบเห็นเหตุการณ์บอกว่าก่อนที่มันจะถูกทิ้งให้เหลืออยู่ตัวเดียวนั้น มันได้พยายามเดินเข้าไปขอดูดนมจากม้าตัวอื่นๆ แต่ก็ไม่มีใครยอมให้มันเข้าใกล้เลย เจ้า Breeze จึงค่อยๆ ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความหิวโหย เมื่อเห็นดังนั้นจึงได้มีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่จากสถานอนุบาลภัยสัตว์ Mare and Foal Sanctuary จากเมืองเดวอนมารับมันไปปฐมพยาบาลและให้อาหารมัน หลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง เจ้า Breeze ก็เริ่มมีอาการที่แข็งแรงขึ้น แต่ด้วยความที่มันยังเป็นลูกม้าอยู่ จึงต้องการความอบอุ่นเหมือนกับลูกม้าตัวอื่นๆ ทีมงานก็เลยนำตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่มาวางไว้ในคอกของมัน เพื่อให้ลูกม้าผู้น่าสงสารได้กอดและหนุนนอน ทดแทนอ้อมกอดของแม่มัน หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพของเจ้า Breeze กำลังนอนกอดตุ๊กตาหมีลงในอินเตอร์เน็ต ผู้คนก็พากันคลั่งไคล้ในความน่ารักน่าเอ็นดูของมันมาก “ต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลมันตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกลางวันกลางคืน เราก็เลยเอาตุ๊กตามาเป็นเพื่อนปลอบประโลมมัน เพื่อให้มันกอดนอนได้ตอนกลางคืน” Stacy หนึ่งในทีมดูแลเจ้า Breeze เล่าผ่านคลิปวิดีโอ ปัจจุบันเวลาผ่านไปแล้ว 3 ปี เจ้า Breeze…
-
จะฮาหรือเครียดดี!? 18 ภาพกวนประสาทของเหล่าสัตว์โลก ที่ดูไปต้องกุมขมับไป…
แม้ว่าหลายๆ เรื่องในสังคม เราอาจจะมองไม่เหมือนกัน เห็นต่างกัน แต่เชื่อว่ามีสิ่งหนึ่งที่ทุกๆ คนมองเหมือนกันนั่นคือความฮาของสัตว์โลกน่ารักนี่แหละ เมื่อไม่นานมานี้ได้มีสมาชิกเว็บไซต์ Tumblr รวมตัวกันโพสต์ภาพสัตว์ชนิดต่างๆ ที่มีพฤติกรรมแปลกๆ อยู่ในท่าทางฮาๆ หรืออยู่ในเหตุการณ์ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมกับใส่แคปชั่นฮาเพี้ยนๆ ลงไป เราลองไปดูกันดีกว่าว่ามีภาพไหนทำคุณหัวเราะคิกคักได้บ้าง!? 1. ไปคาบบอลมาเจ้าหมา!! (เหมือนๆ จะมีอะไรแปลกไป…แต่สงสัยคงคิดไปเอง) 2. “โอ้วพี่คิดถึงน้องมากเลยน้องนุช ไม่ได้เจอกันตั้งนาน” 3. อย่าบอกว่าพวกแมวดีแต่ซน นี่ดูซะให้เต็มตา พวกมันก็สามารถกลายเป็นที่เสียบปากกาได้ด้วย!! 4. “เราคือแมว ไม่ใช่แตงโมหรือมันฝรั่งอะไรทั้งนั้น” 5. “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” “หวัดดีเจ้าหมา” 6. “ตอนนี้พวกเรากำลังคุยธุระสำคัญอยู่นะมนุษย์ ถ้ายังไงออกไปเล่นข้างนอกก่อนนะ” 7. นกฮูกตกใจรูปปั้นนกฮูก… 8. เสือในสวนสัตว์แห่งหนึ่งทำท่าเหมือนหัวตัวเองติดอยู่ในห่วงยาง แต่พอเจ้าหน้าที่ไปช่วยมันดึงออก มันก็สวมห่วงยางเข้าไปใหม่อีกหลายครั้ง… นี่แกอยากจะเป็นสิงโตให้ได้เลยใช่ไหม? 9. “แกคิดว่าการทำรองเท้าให้เหมือนแมวนี่มันตลกมากไหมไอ้มนุษย์?” 10. “คุณเห็นเจ้าแมวที่อยู่ด้านหลังผมไหมครับ…