Tag: สัตว์โลกน่ารัก

พวกเราคงคุ้นเคยกับวัวหน้าตาบ้านๆ ตัวสีขาว เอามาเลี้ยงเพื่อรีดนมหรือเลี้ยงเป็นโคขุนแล้วเอาเนื้อของพวกมันมาทำเป็นอาหารใช่ไหมล่ะ แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาทุกคนไปรู้จักกับวัวอีกสายพันธุ์หนึ่ง ที่อาจจะไม่คุ้นตาของเราสักหน่อย วัวที่ว่านี้คือ “ไฮแลนด์คาว” หรือวัวภูเขา เป็นหนึ่งในสายพันธุ์วัวท้องถิ่นของประเทศสกอตแลนด์ ที่เราไม่ค่อยจะพบเห็นได้บ่อยนัก     ภาพที่ทุกคนได้เห็นอยู่นี่เป็นภาพจากฟาร์ม Happy Hens & Highlands Farm ตั้งอยู่ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ดำเนินการโดยคู่สามีภรรยา Adam Hopson และ Emily Hopson ที่นั่นพวกเขาเลี้ยงไฮแลนด์คาวไวในฟาร์มเพื่อการเพาะพันธุ์และเป็นงานอดิเรกถึง 22 ตัว และพวกมันก็ดูจะสนุกสนานตลอดเวลาเลยด้วย     ไฮแลนด์คาวเป็นสัตว์ที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงแบบเดินเตร็ดเตร่อย่างที่เราได้เห็นกันจากภาพด้านล่างนี่แหละ   แม้ว่าแม่ของพวกมันจะไม่ค่อยได้ประคบประหงมลูกๆ เหมือนสัตว์อื่นๆ แต่พวกมันก็มักจะเล็มหญ้าอยู่ใกล้ลูกๆ ของมันเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกๆ ของมันจะปลอดภัยดี แต่ถึงจะดูใจดี คุณก็ไม่ควรจะเข้าไปใกล้ในระหว่างนั้นนะ เพราะอาจจะเป็นอันตรายได้ หากไม่สนิทกันจริงๆ   สิ่งที่เป็นจุดเด่นและทำให้พวกมันเป็นที่รักใคร่ของผู้พบเห็นก็คือ ขนที่ปุกปุยปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวมัน ขนของพวกมันจะพิเศษกว่าขนของสัตว์ทั่วๆ ไปอยู่หน่อย เพราะขนของมันมีน้ำมันเคลื่อบขนทำให้ไม่ค่อยเปียก และนั่นแหละทำให้การจับพวกมันมาอาบน้ำเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แถมขนของมันยังเป็นแบบสองชั้น ทำให้หนาอย่างที่เห็น สามารถยาวได้มากที่สุด 33 เซนติเมตร  …

“สุนัข” นอกจากพวกมันจะเป็นเพื่อนที่ดีให้กับมนุษย์แล้ว มันยังสามารถแสดงมิตรภาพกับสัตว์ชนิดอื่นๆ ได้ด้วยนะ แม้จะเป็นสัตว์ที่ไม่น่าจะโคจรมาเจอกันได้อย่าง “โลมา” ก็ตาม…     นี่เป็นเรื่องราวของสุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ริทรีฟเวอร์ที่ชื่อว่าเจ้า Ben ที่อาศัยอยู่ในเกาะทอรี่ ประเทศไอร์แลนด์ เจ้า Ben ไม่ได้มีกิจกรรมยามว่างอย่างการวิ่งไล่งับกระดูก เห่าคนแปลกหน้า หรือวิ่งเล่นกับเจ้านายนะ แต่มันชอบออกไปว่ายน้ำเล่นกับเพื่อนสนิทที่เป็นโลมาอย่างเจ้า Duggie มากกว่า     ในทุกๆ วัน Ben จะวิ่งออกไปที่ท่าเรือแล้วกระโดดลงไปในทะเลเพื่อว่ายน้ำเล่นกับ Duggie แม้จะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็ทำแบบนี้ติดต่อกันเป็นเวลาหลายปีจนชาวเมืองที่นั่นเล่าลือต่อๆ กันไป     ชาวเมืองให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าก่อนที่เจ้าโลมา Duggie จะกลายมาเป็นเพื่อนกับสุนัขนั้น มันเคยมีคู่ แต่น่าเศร้าที่คู่ของมันตายไปก่อนหน้านี้ มันก็เลยวนเวียนอยู่แถวๆ อ่าวแห่งนั้นเรื่อยมา จนมาเจอเข้ากับเพื่อนใหม่อย่าง Ben มันก็มีอาการที่สดใสมากขึ้น     จากคำบอกเล่าของนาย Pat Doohan ผู้เป็นเจ้านายของ Ben และเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมในท้องถิ่นกล่าวว่าทั้งเจ้า Ben และ Duggie จะใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมงต่อวันในการว่ายน้ำเล่นกัน และแม้ว่าอ่าวแห่งนั้นจะไม่ใช่บ้านที่แท้จริงของเจ้าโลมา แต่มันก็ยังคงว่ายน้ำวนเวียนอยู่ไปไหนไกล  …

สัตว์เลี้ยงอย่างพวกแมวนั้นถูกสร้างมาให้มีหางเพื่อการทรงตัว บ้างก็บอกว่าเพื่อสื่อสารถึงอารมณ์ต่างๆ แต่ก็มีแมวจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่เกิดมาโดยที่ไม่มีหางแกว่งไปมา กลายเป็นแมวหางกุดไปเสียอย่างงั้น หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าพวกแมวหางกุดนั้นมีชื่อเรียกเฉพาะของมันด้วย ในชื่อว่า “แมวแม็งซ์” แมวพวกนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ ตอนแรกพวกมันก็มีหางเหมือนแมวทั่วๆ ไป แต่พวกมันเริ่มกลายพันธุ์จนหางของพวกมันค่อยๆ หดลงเรื่อยๆ และสั้นกุดอย่างที่เห็นล่ะ     แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความน่ารักของพวกมันลดลงไปเลย เพราะพวกมันยังคงมีความกวนประสาท ความหยิ่ง และขี้อ้อนแบบแมวทั่วๆ ไป และนั่นแหละทำให้พวกเรายังคงหลงรักพวกมันแม้จะไม่มีหางก็ตาม   1. หางสั้นกุ๊ดดุ๊ด   2. ชอบหางกุดๆ แบบพวกเราไหม?   3. ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์   4. หางสั้น จึงทำให้ไม่ต้องแกว่งไปมา   5. ดูไปๆ เหมือนกระต่ายเหมือนกัน   6. “มองไร ไม่เคยเห็นแมวไร้หางเหรอ”   7. ถ้าดูผ่านๆ คงจะไม่ได้สังเกตถึงความกุดของมันสินะ   8. ทำสายตาแบบว่า แค่ไม่มีหางไม่ได้พิการเฟ้ย!!   9. ดูแปลกไปนิด แต่…ใครเก๋าเจอได้…

บ่อยครั้งที่เราจะได้เห็นข่าวคราวการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเพราะไปชนเข้ากับสัตว์ป่า ซึ่งในต่างประเทศเองก็มีเยอะไม่แพ้บ้านเรา และสัตว์ที่ตกเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุบ่อยๆ ก็คือพวกกวางนี่แหละ อ่านเจอตามอินเตอร์เน็ตทีไรก็ทำให้เรารู้สึกหดหู่ทุกครั้ง ฉะนั้นวันนี้#เหมียวฟิ้นขอนำเสนอเรื่องราวดีๆ ของพวกกวาง ที่ทำให้คุณรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างดีกว่า   เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมทีผ่านมา สำนักข่าว AP ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับเจ้ากวางน้อยตัวหนึ่งในเมืองฟัลเชียร์ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ซุกซนจนมีเศษพลากติกติดอยู่บนหัวและไม่สามารถเอาออกได้ด้วยตัวเอง   เจ้ากวางตัวนี้จึงเดินเข้าไปที่บ้านคนหลังหนึ่งเพื่อขอความช่วยเหลือ ทราบภายหลังว่าเจ้าของบ้านคือนาย Kevin Zieschang เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นของที่นั่น   เมื่อเจ้าหน้าที่ Kevin เห็นมันเข้าก็เลยจัดแจงใช้กรรไกรตัดเศษพลาดติกที่ติดอยู่บนหัวของมันออก จากนั่นก็ไล่ให้มันกลับเข้าป่าไปตามเดิม แต่เป็นที่น่าฉงนมากเพราะเจ้ากวางตัวนี้ดันไม่ยอมไปไหน มันพยายามยืนอยู่หน้าบ้านเหมือนรออะไรสักอย่าง   เจ้ากวางเดินป้วนเปี้ยนอยู่รอบๆ บ้านของนายตำรวจ แม้ว่าเขาจะแกล้งทำให้มันตกใจกลัวแล้วก็ตาม นาย Kevin เลยตั้งชื่อเล่นๆ ให้มันว่า “ลุงบัค” สุดท้ายแล้วมันก็เดินหายลับเข้าไปในป่าตามเดิม   จากนั้น 2 วันต่อมาเรื่องราวดังออกไป ได้มีนักข่าวจากสำนักข่าว AP ไปสัมภาษณ์เขาถึงที่บ้าน เพื่อนำเรื่องราวของเขาไปทำข่าว แต่ปรากฏว่าในระหว่างนั้นเองเจ้ากวางที่เขาเคยช่วยเอาไว้ดันกลับมาหาเขาอีกครั้งหนึ่ง เกิดเป็นช่วงเวลาน่าประทับใจแบบไม่คาดคิดเลยทีเดียว   เรียกได้ว่า เซอไพร้ส์กันทั้งนักข่าวและคุณตำรวจ   เรื่องราวของลุงบัค ก็เลยกลายมาเป็นคลิปเพิ่มเติมแบบนี้ แทนที่จะมีคลิปตอนช่วยที่เขาบันทึกเอาไว้ จึงมีคลิปการกลับมาเยี่ยมซะด้วยเลย…

นี่คือเรื่องราวน่ารักๆ ของลูกสุนัขครอกหนึ่งที่ปราศจากแม่และถูกช่วยเหลือโดยหน่วยงานช่วยเหลือสัตว์ Rocky Ridge Animal Rescue ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่ดำเนินการโดยนาง Janice ในทันทีที่พวกลูกสุนัขเดินทางมาถึงสถานที่แห่งนี้ พวกมันเองก็ได้รับการต้นรับอย่างดีจาก Cheesecake คาปีบาราเพศเมีย     เจ้า Cheesecake เองดูเหมือนจะมีสัญชาตญาณของความเป็นแม่สูงแม้ว่าตัวเองจะยังไม่เคยมีลูกเลยก็ตาม มันรู้ในทันทีว่าเหล่าลูกหมากลุ่มนี้ต้องการแม่และคนคอยให้ความอบอุ่นพวกมัน   มันจึงคอยอยู่ใกล้ๆ ลูกหมาเหล่านั้น คอยเป็นเพื่อนเล่น กินนอนด้วยกันตลอดเวลา แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกับหนู แต่หน้าตามันก็ค่อนข้างใกล้กับสุนัขพอสมควร จึงพอจะกลมกลืนไปกับลูกสุนัขได้บ้าง   “มันนอนกับลูกหมา มันกินกับลูกหมา แล้วพวกลูกหมาก็เล่นกับมันด้วย ดูเหมือนว่ามันเองก็สนุกที่ได้ทำแบบนั้นด้วย ฉันคิดว่ามันใจดีกับสัตว์รอบข้างตัวมัน นั่นทำให้สัตว์ตัวอื่นๆ รู้สึกปลอดภัยที่ได้อยู่ใก้ลเจ้า Cheesecake” นาง Janice กล่าว   กินอาหารก็กินด้วยกัน   เล่นก็เล่นด้วยกัน   ชมคลิปน่ารักๆ ของเจ้า Cheesecake ได้ที่นี่เลย   ตอนนี้ Cheesecake เองเปรียบเสมือนแม่คนใหม่ของเหล่าลูกๆ สุนัขไปโดยปริยาย แม้จะหน้าตาไม่เหมือนกันเสียทีเดียว แต่ก็ดูแลได้ไม่แพ้แม่แท้ๆ ของพวกมันเลย ที่มา heroviral , Animal Planet

นี่คือเรื่องราวที่น่าสงสารของเจ้า Muneca สุนัขสายพันธุ์ดัชชุน วัย 18 ปีตัวหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในสถานพักพิงสุนัข Baldwin Park Animal Care Center ที่เป็นประเภท “Kill Shelter” (หากไม่มีคนมารับไปเลี้ยง สุดท้ายแล้วจะถูกฆ่าตาย เพื่อป้องกันจำนวนสุนัขจรจัดที่เพิ่มมากขึ้น)   เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Thedodo เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่บอกว่ามันน่าสงสารก็เพราะว่ามันทั้งแก่ ตาบอด แถมยังไม่มีใครอยากจะรับมันไปเลี้ยงเลย ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันก็จะถูกฆ่าตายในสักวันหนึ่ง   แต่เหมือนโชคชะตายังปราณีกับมันอยู่บ้าง เพราะว่าหลังจากที่มันถูกทิ้งให้อยู่ที่นั่นเพียง 2 วัน มูลนิธิ Frosted Faces Foundation ก็ได้ยืนมือเข้ามาช่วยเหลือและขอตัวเจ้า Muneca ไป ก่อนที่ต่อมา Amy Gann จะเข้ามาเห็นมันเข้า เธอรู้สึกดีกับมันมากและอยากจะขอรับมันไปเลี้ยง   แต่ในต่างประเทศนั้น ใช่ว่าใครจะสามารถรับสัตว์ไร้เจ้าของไปเลี้ยงได้ง่ายๆ เพราะจะต้องมีการตรวจสอบจากทางมูลนิธิอย่างละเอียด ด้านนาง Kelly Smíšek ผู้บริหารของมูลนิธิ Frosted Faces กล่าว่า “เราตรวจสอบทุกคนและพูดคุยกับเพื่อนหรือคนสนิทของพวกเขาอย่างละเอียด เราตรวจที่บ้านของเขาและผู้คนอีกมากมาย”…

ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ ที่มีจิตใจเย็นชาไม่พร้อมจะเปิดรับใคร แต่หากมีเพื่อนดีๆ ที่เข้าใจเราสักคนแล้วล่ะก็ รับรองว่าจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมได้ เหมือนอย่างมิตรภาพระหว่างแมวและแรคคูนคู่นี้แน่ๆ นี่คือเรื่องราวดีๆ ของเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Zizi แมวบ้านๆ ที่ถูกเลี้ยงมาในโรงนา โดยมีเจ้านายใจดี Haley Williams คอยทำหน้าที่ป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับมัน     แต่ดูเหมือนเจ้า Zizi ออกจะมีนิสัยแปลกแยกสักหน่อย เพราะไม่ว่าสัตว์ตัวไหนมันก็ไม่เคยจะยอมเปิดใจให้เลย แถมยังเข้าไปฟัดกับเขาอีก ทำให้คุณ Haley รู้สึกค่อนข้างลำบากใจอยู่ไม่น้อย แต่ชีวิตของมันกำลังจะเปลี่ยนไป…     วันหนึ่ง Haley ได้ไปเจอกับเจ้าแรคคูนผอมแห้งแรงน้อยตัวหนึ่งอยู่ข้างถนน เธอจึงลงไปดูอาการ และพาเจ้าแรคคูนตัวน้อยไปหาสัตวแพทย์ ดูเหมือนว่าจะช่วยอะไรไม่ได้มาก เธอจึงนำมันกลับมาเลี้ยงและให้อาหารด้วยตัวเองพร้อมกับตั้งชื่อให้มันว่า Winston มันเริ่มมีอาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และร่าเริงมากขึ้น Haley จึงเริ่มแนะนำมันให้รู้จักกับสัตว์ตัวอื่นๆ ในบ้านของเธอ     แรคคูนตัวน้อยรู้สึกตื่นเต้นไปกับทุกอย่าง มันเริ่มเข้าหา Zizi ทำให้ Haley หวั่นใจอยู่หน่อยๆ เพราะกลัวว่ามันจะทะเลาะกันเหมือนกับสัตว์ตัวอื่นๆ ที่ผ่านมา แต่ผิดคาด เพราะ Zizi ดันรู้สึกดีกับ Winston และกลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปโดยปริยาย ไม่ว่าเจ้าแรคคูนจะเดินไปไหน มันก็จะตามออกไปด้วยตลอด…

นี่คือเรื่องราวมิตรภาพระหว่างเจ้าสุนัข CC (สีขาว) และเจ้า Chewbacca (สีดำ) ที่ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Thedodo ไปเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา จนสร้างความประทับใจให้แก่ผู้อ่านในต่างประเทศอย่างมากมาย   ในตอนแรกทั้งเจ้า CC และ Chewbacca เป็นสุนัขเพื่อนซี๊ที่อาศัยอยู่ในบ้านของเจ้านายหลังหนึ่ง แต่เนื่องจากเจ้านายมีเด็กทารกตัวน้อยๆ และดันมีอาการแพ้ขนของพวกมัน เจ้านายจึงจำใจจะต้องนำมันไปทิ้งไว้ให้กับศูนย์ช่วยเหลือสัตว์และประกาศหาผู้เลี้ยงใจดีคนใหม่   เจ้า CC และ Chewbacca มีความต้องการเพียงอย่างเดียว คืออยากจะเจอกับเจ้านายสักคนที่จะรับพวกมันไปเลี้ยงทั้ง 2 ตัว เพราะพวกมันสนิทเกินกว่าจะแยกจากกัน ไม่ว่าเวลาไหนก็คลอเคลียกันอยู่ตลอดเวลา   “เกือบจะทุกครั้งที่เราเดินผ่านกรงของพวกมัน เจ้า CC จะทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการนั่งหรือนอนพาดตัวอยู่บนเจ้า Chewy” Jessica Jorgenson โฆษก ของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์กล่าว   ด้วยความต่างกันในเรื่องของขนาดตัว ทำให้ CC ทำเหมือนกับว่าเจ้า Chewbacca เป็นหมอนส่วนตัวของมัน แต่ถึงจะสนิทกันขนาดนี้ พวกมันก็ยังมีมิตรภาพเผื่อแผ่ไปยังสัตว์หรือแม้แต่แมวตัวอื่นๆ ด้วยนะ   บางวันมีอาสาสมัครพามันออกไปเที่ยวข้างนอกด้วย และแน่นอนว่าพวกมันก็ยังคงทำตัวติดกันไม่ยอมห่างเลย…

เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Lovemeow ได้เปิดเผยเรื่องราวการช่วยเหลือลูกแมวมากถึง 7 ตัว ของนาย Cliff จากรัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา นาย Cliff บอกกับสื่อว่าเขาเจอกับกองเศษไม้และขยะกองใหญ่อยู่ข้างทาง แต่ในระหว่างนั้นเขาดันได้ยินเสียง “เหมียวๆ” เบาๆ ออกมาจากกองไม้   ในตอนนั้นเขาก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่าต้องมีสัตว์ตัวน้อยติดอยู่ในกองไม้แน่ๆ เขาก็เลยถกแขนเสื้อแล้วเริ่มค้นหาสัญญาณชีวิตใต้กองไม้อย่างช้าๆ แน่นอนว่าการค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบากและทุลักทุเล ไม้บางท่อนก็มากองกันแบบไม่เป็นระเบียบ บางชิ้นเล็ก ใหญ่ บ้างก็หนักไป และต้องค่อยๆ เคลื่อนย้ายเพื่อสำรวจ เพราะหากเคลื่อนย้ายแผ่นไม้ผิดไปแม้แต่อันเดียวก็อาจหมายถึงชีวิตน้อยๆ ชีวิตหนึ่งเลย   หลังจากที่เริ่มค้นหาไปได้สักพัก เข้าก็เริ่มเจอลูกแมวตัวที่ 1 ตัวที่ 2 ตัวที่ 3ไปเรื่อยๆ จนเจอครบทั้งหมด 8 ตัวรวมถึงแม่แมวด้วยภายในเวลา 7 ชั่วโมง แต่โชคร้ายที่มีตัวหนึ่งอ่อนแรงและเสียชีวิตไปก่อน   จากนั้นนาย Cliff ก็ส่งลูกแมวทั้งหมดไปให้กับหน่วยงานช่วยเหลือสัตว์ Watching Over Whiskers เพื่อให้แน่ใจว่าเหล่าแมวเหมียวทั้งหมดจะได้รับความปลอดภัยและการดูแลเป็นอย่างดี ต่อมาทางทีมกู้ภัยได้ตั้งชื่อให้กับแม่แมวว่าเจ้า Roxy ตอนนี้เจ้าเหมียวทุกตัวแข็งแรงแล้วก็มีความสุขกันมากที่บ้านอุปถัมภ์และพร้อมสำหรับการผจญภัยครั้งใหม่แล้ว         นอนดูดนมแม่จ๊วบๆ      …

มีคำกล่าวกันว่าการที่คุณจะเติบโตไปเป็นอะไรสักอย่าง คุณจะต้องมีไอดอลสำหรับให้ทำตามหรือเลียนแบบ แต่คุณจะต้องระมัดระวังนิดนึงนะ เพราะการทำตามคนอื่นมากๆ อาจจะทำให้ตัวของคุณลืมตัวตนของคุณไปแบบเดียวกับเป็ดเหล่านี้ก็เป็นได้ วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาเพื่อนๆ ไปชมเหล่าเป็ดทั้งหลายที่ดันอาศัยอยู่ใกล้กับฝูงนกฟลามิงโก จนพฤติกรรมของมันค่อยๆ คล้ายกับนกฟลามิงโกเข้าไปทุกวันๆ!?     อย่างที่ทุกคนรู้ว่านกฟลามิงโกนั้นจะชอบยืนขาเดียว เพื่อให้ขาของมันอบอุ่นและหลอกล่อปลาทั้งหลายให้คิดว่าพวกมันเป็นเพียงต้นไม้ต้นหนึ่ง พอพวกเป็ดเหล่านั้นเห็นการยืนขาเดียวของฟลามิงโก พวกมันก็เลยลองทำตามบ้าง จนเริ่มจะแยกไม่ออกแล้วว่าตัวไหนเป็ดตัวไหนฟลามิงโกกันแน่?     ไหนลองยืนขาเดียวดูซิ .   เออ มันก็อุ่นๆ เหมือนกันนะเนี้ยะ .   ข้าคือฟลามิงโก้ .   เราคือเทพแห่งการเลียนแบบ .   ไม่มีใครดูออกอยู่แล้ว!! .   ยืนขาเดียว ฮึบๆ . .   แม้ทั้งหมดนี่จะดูเป็นเรื่องขำๆ แต่#เหมียวฟิ้นได้บทเรียนมาอย่างนึงก็คือ อย่างปล่อยให้คนอื่นมาบอกว่าเราเป็นอะไร คุณต่างหากที่เป็นคนกำหนด ที่มา boredpanda

ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยก็ตาม ภาพลักษณ์ของสุนัขก็ยังคงเป็นเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ ขี้เล่น และฉลาด แต่ความจริงแล้วพวกมันยังมีอีกหลายๆ ด้านที่เราไม่เคยเห็น เช่น เพี้ยน ติงต๊อง หรือตลกขบขัน หากคุณนึกภาพเวลาที่พวกมันเป็นแบบที่ว่าไม่ออกล่ะก็ งั้นเรามีภาพตัวอย่างให้ดูกันด้วย…   1. หมาเป็นสัตว์ที่ถ่ายรูปหมู่ขึ้นที่สุด   2. แต่ถึงจะถ่ายคนเดียวก็ขึ้นกล้องอยู่ดี…   3. ชอบเข้าไปทักทายมนุษย์เป็นที่สุด แฮร่!!   4. บางตัวมีท่าเต้นที่แตกต่างไปจากตัวอื่นๆ ด้วยนะ   5. แค่คุณสวมเนคไทให้กับมันก็เปลี่ยนให้มันกลายเป็นพนักงานออฟฟิศทันที   6. ถ้ามีพวกมันอยู่ด้วย รับรองว่าเกมทุกเกมจะสนุกตื่นเต้นขึ้น   7. ไม่ว่าคุณจะเจอวันแย่ๆ แค่ไหนมาก็ตาม แต่ถ้าเห็นมันในสภาพนี้ล่ะก็ ต้องยิ้มแน่ๆ   8. วิ่งๆ อยู่แกล้งสะดุดล้มให้ดูตลกก็ได้นะ   9. ทำอะไรต๊องๆ ก็ไม่แคร์สายตาใคร แบร่ๆ!!   10. ใครบอกว่าพวกหมานั่งแบบคนไม่ได้   11. นี่นั่งเลียนแบบภาพวาดเลย…  …

เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Thedodo ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับลูกแรคคูนตัวน้อยตัวหนึ่งในรัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ดันซุ่มซ่ามตกลงมาจากต้นไม้ มันยังเด็กมาก ดวงตายังไม่เปิดดี และไม่มีแรงจะปีนกลับขึ้นไปบนต้นไม้ แต่อย่างน้อยมันก็ยังพอรู้วิธีส่งเสียงขอความช่วยเหลืออยู่นะ     ในเวลาไม่นาน หญิงสาวชาวอเมริกันที่ชื่อ Bethany Swindell ก็บังเอิญผ่านมาเห็นเข้าพอดีจึงเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วพบว่าแม่ของเจ้าแรคคูนน้อยอยู่บนต้นไม้ เธอจึงไม่ทำอะไรกับมัน ปล่อยมันนอนอยู่กับพื้นและคิดว่าเดี๋ยวแม่ของมันคงลงมารับลูกไปเอง     Bethany จึงออกไปหาอะไรกินกับสามีและเพื่อนๆ ของเธอ เมื่อเวลาผ่านไป 5 ชั่วโมง เธอกลับมาแล้วพบว่าเจ้าแรคคูนน้อยยังคงอยู่ที่เดิม แถมแม่ของมันก็หายไปแล้วด้วย เธอจึงอุ้มมันขึ้นมาแล้วพาเข้าไปหลบหนาวอยู่ในบ้านก่อน     เธอพยายามโทรหาสัตวแพทย์และศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพสัตว์ป่าอยู่หลายแห่งว่ามีที่ไหนที่ดูแลแรคคูนหรือไม่ คำตอบคือไม่มีเลยเพราะพวกเขาไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับแรคคูนมาก่อน     แต่ยังถือเป็นโชคดีอยู่บ้างที่ครอบครัวของ Bethany เคยทำงานเกี่ยวกับการฟื้นฟูและเลี้ยงดูสัตว์มาก่อน เธอจึงพอจะทำหน้าที่นี้ได้บ้าง Bethany ตั้งชื่อให้กับแรคคูนตัวน้อยว่า June (มิถุนายน) ตามเดือนที่พวกเขาได้เจอกัน แต่เห็นตัวเล็กน่ารักแบบนี้ก็ทำเอาเหนื่อยเลยทีเดียว เพราะมันยังเป็นเด็กที่ต้องการความดูแลเป็นพิเศษ     “ฉันโชคดีมากที่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ฉันสามารถดูแลมันได้ตลอดเวลาแถมยังพามันมาทำงานกับฉันได้ด้วย” Bethany กล่าว     เวลาล่วงเลยผ่านไป 9…

เมื่อไม่มีใครคอยบอกหรือแนะนำว่าคุณควรจะโตไปเป็นอะไร เราจึงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสัตว์จากชนิดนึงไปเป็นอีกชนิดนึงอยู่บ่อยครั้ง… นี่คือเรื่องราวของเจ้า Bramble ลูกกวางตัวน้อยวัย 2 สัปดาห์ ที่ควรจะเติบโตมาเป็นกวางเต็มวัย แต่เส้นทางชีวิตของมันก็พลิกผัน เมื่อมันดันไปสลบอยู่ในป่าอยู่เพียงลำพัง     โชคดีที่ในตอนนั้นนาย Geoff Grewcock พาสุนัขไปเดินเล่นและผ่านมาเห็นมันเข้า จึงช่วยเหลือมันไว้ได้ทัน เขาก็เลยพามันไปพักรักษาตัวที่องค์กรช่วยเหลือสัตว์ Nuneaton & Warwickshire Wildlife Sanctuary ที่เขาดูแลอยู่     เมื่อมันเริ่มมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น มันก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถพิเศษที่โดดเด่นในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมของมัน เจ้า Bramble ใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านอย่างสุขสบายคล้ายกับสุนัขหรือเด็กที่ถูกเอาอกเอาใจคนหนึ่ง     ด้วยความกังวลว่าเจ้า Bramble จะไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ในป่า นาย Grewcock เลยยังไม่ปล่อยมันกลับป่าและตัดสินใจที่จะเลี้ยงมันเอาไว้ในบ้านก่อน จากวันแรกที่ Bramble เข้ามาอยู่ในบ้าน เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบ 10 ปี มันก็กลายเป็นกวางบ้านไปโดยสมบูรณ์ มันเดินเล่นไปทั่วบ้าน ใช้จมูกดุนตู้เย็น ค้นหาของกินในช่องฟรีซ แถมยังโผเข้าหาคนแปลกหน้าทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมบ้านของมันด้วย     อยากรู้ว่ามันเหมือนสุนัขขนาดไหน งั้นลองไปพิสูจน์กัน   ลืมไปแล้วล่ะมั้งว่าตัวเองเป็นกวาง ที่มา thedodo

กลายเป็นเรื่องราวน่ารักๆ ของคู่รักชาวแคนาดาอย่าง Kelin Flanagan และ Spencer Taubner ที่ตกลงกันว่าจะออกไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสวยๆ กันบนเทือกเขาร็อกกี้ อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ ประเทศแคนาดา การถ่ายภาพครั้งนี้พวกเขาได้จ้างทีมช่างภาพที่ชื่อว่า BDFK Photography ให้มาเก็บภาพสวยๆ ของพวกเขา ในระหว่างการเดินทางกลับ พวกเขาได้แวะถ่ายภาพที่บริเวณโขดหิน ซึ่งเป็นมุมถ่ายภาพที่สวยมาก     ด้านนาย Kelin ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกในการถ่ายภาพครั้งนี้ว่า “เราแทบไม่อยากจะเชื่อ เราชอบที่จะถ่ายภาพตลกๆ กัน” “ผมไม่ได้นับเลยว่าเซลฟี่กันไปกี่ภาพ และเราไม่ได้คาดหวังว่าเราจะจบลงด้วยภาพที่สวยงามและตลกแบบนั้น แทนที่จะเป็นภาพโรแมนติก”     ที่นาย Kelin พูดแบบนั้นก็เพราะว่าในระหว่างที่พวกเขาถ่ายภาพอย่างดูดดื่มอยู่ จู่ๆ กลับมีกะรอกน้อยโผล่พรวดออกมาอยู่ที่หน้ากล้อง ทีมช่างภาพได้ยืนยันกับสำนักข่าวต่างๆ ว่าภาพที่เห็นนั้นเป็นของจริงแท้แน่นอน ไม่มีการตัดต่อ แถมยังส่งภาพต้นฉบับมาให้พิสูจน์อีกด้วย     จ๊ะเอ๋!!   เห็นเราชัดไหม?   ทั้งนี้ Kelin และ Spencer จะแต่งงานกันในวันที่ 10 กันยายนนี้ พวกเขาไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก หรือการขอแต่งงานที่เยิ่นเย้อ ทำทุกอย่างแบบเรียบง่ายสุดๆ “เราแค่พูดถึงการแต่งงานและตัดสินใจกันว่ามันคือความคิดที่ดีที่สุด เราออกแบบแหวนกันเองกับร้านจิวเวอรี่ และเราทั้งคู่สวมแหวนให้กัน” Kelin…

ในโลกนี้ยังมีสัตว์น้อยใหญ่ต้องการความช่วยเหลืออีกมากนะ หากไม่มีองค์กรช่วยเหลือสัตว์อย่าง Animal Aid ล่ะก็ พวกเขาคงจะต้องลำบากแน่ๆ เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้น หยิบมานำเสนอในวันนี้เป็นการออกปฏิบัติภารกิจของ Animal Aid สาขาประเทศอินเดีย     พวกเขาได้รับแจ้งจากชาวบ้านในเมืองอุทัยปุระ ว่ามีลูกหมาตกลงไปในบ่อน้ำที่มีความลึกหลายเมตรและไม่มีใครสามารถลงไปช่วยพวกมันได้ เมื่อทีมอาสาสมัครได้ยินดังนั้นพวกเขาก็รีบบึ่งรถออกไปพร้อมกับอุปกรณ์ช่วยเหลือ     ทันทีที่ทีมงานลงไปถึงก้นบ่อ เจ้าลูกสุนัขตัวนี้ก็ปรี่เข้ามาหาพร้อมกับส่งเสียงร้องสะอื้นเบาๆ ให้กับเขาโดยไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย     เจ้าสุนัขดูจะหนาวมากเพราะมีละอองฝนตกลงมาตลอดเวลา ซึ่งภายในหลุมนั้นกลับไม่มีที่หลบฝนเลย ทำให้มันต้องตากฝนเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทีมงานจึงนำผ้าห่อตัวมันไว้และพามันกลับขึ้นมายังพื้นดินข้างบน     ปัจจุบันคลิปนี้มียอดวิวเกือบ 5 แสนครั้งแล้ว และได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม เช่น Summerleighxo “คนเหล่านี้สมควรมีคนกดติดตามหลักพันล้านคนได้แล้ว พวกเขามีน้ำใจมาก ฉันรู้สึกขอบคุณในการกระทำของพวกเขามาก” Deeb “พวกนายเจ๋งมาก ตอนนี้มันเป็นยังไงบ้าง มันมีบ้านหรือยัง?” em gee “ฉันสาบานเลยว่าเสียงแรกที่ได้ยินจากมันคือ ‘เร็วเข้า’”     ไปชมภารกิจช่วยเจ้าหมาน้อยกันเลย   หากคุณรู้สึกประทับใจและอยากเห็นการช่วยเหลือสัตว์น้อยใหญ่ที่ตกทุกข์ได้ยากแบบนี้อีกล่ะก็ ตามไปกดติดตามได้ที่ช่องยูทูบ Animal Aid Unlimited, India ได้เลยนะ ยังมีเรื่องราวดีๆ รออีกเพียบ   ทำดีแบบนี้ต้องปรบมือให้เลย…

หากจะมีสิ่งมีชีวิตตัวไหนในโลกนี้ที่เข้าใกล้กับคำว่า “อมตะ” มากที่สุดล่ะก็ #เหมียวฟิ้น คิดว่าเจ้าฉลามตัวนี้คงใกล้เคียงที่สุดแล้วล่ะ เพราะมันมีอายุยืนยาวเกือบ 400 ปีเลยทีเดียว!!     เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลีเมล์ได้เปิดเผยเรื่องราวเจ้าฉลามสายพันธุ์กรีนแลนด์ (ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Somniosus Microcephalus) มันถูกพบโดยทีมวิจัยของคณะนักชีววิทยาทางทะเลจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก จากการตรวจสอบพบว่ามันน่าจะมีอายุราวๆ 392 ปี และอาจมีชีวิตได้ถึง 400 ปี นอกจากนี้ อายุที่คาดการณ์ไว้ยังบวกลบ 120 ปี นั่นหมายถึงฉลามตัวนี้อาจจะเป็นไปได้ว่ามีอายุตั้งแต่ 272 ปีถึง 512 ปีเลยทีเดียว     อันที่จริงแล้ว อายุขัยโดยเฉลี่ยของพวกมันอยู่ที่ประมาณ 60 ปี หรือมากกว่านั้น แต่เจ้าฉลามตัวนี้ก็ถือว่ามีอายุที่ยืนยาวนานมาก และมากกว่าวาฬหัวคันศรที่เคยมีการบันทึกเอาไว้ว่ามีอายุยืนยาวที่สุด 211 ปี โดยทั่วไปแล้ว ฉลามกรีนแลนด์จะอาศัยอยู่ในน้ำเย็นที่อุณหภูมิ -10 องศาเซลเซียสถึง 10 องศาเซลเซียส มันสามารถว่ายน้ำลงไปได้มากถึง 2.1 กิโลเมตร และมีน้ำหนักมากกว่า 1 ตัน…

สัตว์อย่างสุนัขหรือแมวนั้นถือว่าโชคดีมากเลย เพราะพวกมันเกิดมาพร้อมกับคุณสมบัติที่พร้อมจะกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยง กินอยู่สบายๆ ในบ้านของเรา แต่กับพวกหมูหรือวัว กลับไม่ค่อยได้รับความเมตตาเท่าไหร่ เพราะในที่สุดมันต้องกลายมาเป็นอาหารของคน นี่คือเรื่องราวอีกด้านหนึ่งของว่าที่อาหารของมนุษย์อย่างเจ้า Bernie วัวที่ถูกพรากไปจากแม่ของมันหลังจากที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียง 12 วัน และจุดหมายปลายทางของมันคือการส่งไปยังโรงฆ่าสัตว์เพื่อเตรียมชำแหละ     แต่แล้ววันหนึ่งมันก็ถูกสถานสงเคราะห์สัตว์ Juliana’s Animal Sanctuary ในประเทศโคลอมเบียช่วยเอาไว้ มันทั้งแสดงท่าทีหวาดกลัวและเหงาหงอย เพราะมันไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่ตัวเดียว แต่แล้ววันหนึ่งมันก็ได้เจอกับ Sri Ram สุนัขตัวน้อย     ตามรายงานบอกว่าผู้ก่อตั้งของสถานสงเคราะห์สัตว์แห่งนี้ต้องการที่จะช่วยชีวิตของเจ้า Bernie ให้มันได้มีบ้านอยู่อีกครั้ง เธอจึงตัดสินใจที่จะย้ายมันมาอยู่ที่นี่ แต่เนื่องจากไม่มีบริเวณที่ใช้สำหรับเลี้ยงวัวโดยเฉพาะ ทางทีมงานจึงต้องให้เจ้าวัวอยู่ในพื้นที่เลี้ยงสุนัขก่อน     จากนั้นเจ้า Bernie ก็ทำความรู้จักและสนิทสนมกับเจ้า Sri Ram ในเวลาไม่นาน จนกลายเป็นเพื่อนรักและไม่สามารถแยกจากกันได้เลย พวกมันชอบเล่นด้วยกันและจะหยุดก็ต่อเมื่อพวกมันเหนื่อยมากๆ เท่านั้น     เจ้า Bernie ทำตัวแนบเนียนไปกับกลุ่มสุนัขที่นั่น จนตัวมันดูเหมือนเป็นเพียงสุนัขตัวโตตัวหนึ่ง เมื่อได้รู้ว่าทั้งเจ้า Bernie และ Sri Ram ต่างก็เคยผ่านเรื่องเลวร้ายมา ทำให้เรารู้สึกว่าใบหน้าอันยิ้มแย้ม กิริยาร่าเริงของพวกมันช่างล้ำค่าจริงๆ  …

ก่อนหน้านี้#เหมียวฟิ้นได้เคยนำเสนอเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับองค์กร Animal Aid Unlimited องค์กรที่คอยช่วยเหลือสัตว์ตกทุกข์ได้ยากในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นถูกทำร้ายร่างกาย ถูกกักขัง ถูกทิ้งไว้ตามถนน ถูกทรมาณอย่างน่าสงสาร     ล่าสุดพวกเขาก็ได้ออกช่วยเหลือสัตว์อีกครั้ง.. แต่คราวนี้พวกเขาต้องให้ความช่วยเหลือแก่แม่สุนัขตัวหนึ่ง ที่ลูกของมันดันติดอยู่ในซากปรักหักพักของบ้าน หลังจากเกิดเหตุฝนเทลงมาอย่างหนักจนโครงสร้างต่างๆ พังลงมา     ตามรายงานไม่ได้บอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองใด ระบุเพียงว่ามีชาวบ้านในละแวกนั้นได้ยินเสียงร้องหงิงๆ ของลูกสุนัขอยู่ในซากอาคารที่พังถล่ม พวกเขาเลยโทรเรียกให้องค์กรช่วยเหลือสัตว์เข้ามาดู   เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจดูก็พบว่าเสียงร้องนั้นเป็นของลูกสุนัขตัวหนึ่งที่ติดอยู่ข้างใน พวกเขาเลยพยายามดึกเอาเศษซากสังกะสีและเศษวัสดุต่างๆ ออก เพื่อเข้าไปอุ้มลูกสุนัขหน้าตามอมแมมที่เปียกโชกเพราะฝน   เมื่อเจ้าหน้าที่ช่วยลูกหมาออกมาได้ พวกเขาก็พบว่าบริเวณใกล้ๆ กันนั้น มีแม่สุนัขอยู่ตัวหนึ่งนอนอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นแม่ของเจ้าลูกสุนัขตัวนี้ เลยนำมันมาวางไว้ใกล้ๆ   ในทันทีที่แม่หมาเห็นเข้ามันก็กระดิกหาไหวๆ และเข้ามาหาลูกของมันทันที จากนั้นมันก็คาบลูกน้อยจอมซนกลับไปอยู่ในรังของมันเพื่อให้นม เป็นอันจบภารกิจช่วยให้แม่หมาเจอกับลูกหมาอีกครั้ง   ชมภารกิจการช่วยชีวิตลูกหมาสู่อ้อมอกแม่ของมันกันเลย   ตามรายงานไม่ได้บอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองใดนะ แต่หากคุณชอบเรื่องราวดีๆ แบบนี้ และอยากจะติดตามกิจกรรมหรือส่งเสริมให้พวกเขาได้ช่วยเหลือสุนัขตัวต่อๆ ไปแบบนี้ล่ะก็ ล องเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ animalaidunlimited ได้เลยนะ ที่มา viralnova

แม้ว่าสัตว์อย่างเสือจะเป็นนักล่าที่ดูน่ากลัว แต่จิตใจของพวกมันก็ไม่ได้ต่างไปจากแมวเหมียวหนึ่งตัวเลยนะ อย่างเช่นเจ้าเสือตัวนี้   เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดน่ารักของเจ้า Gabriel ลูกเสือชีตาห์ที่ไม่ได้เจอกับคนเลี้ยงมานานเกือบปี เมื่อมันได้เจออีกครั้งก็กระโจนเข้าหาด้วยความคิดถึงและคลอเคลียไม่หยุดเลยทีเดียว   ตามรายงานบอกว่าเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร Dolph Volker ได้พบกับเจ้า Gabriel ที่สถานเลี้ยงดูเสือชีตาห์ ประเทศแอฟริกาใต้ ตอนนั้นมันมีอายุได้ 10 เดือนเท่านั้น นาย Dolph และเจ้า Gabriel ดูจะใกล้ชิดสนิสนมกันมาก เพราะเขาให้อาหาร ให้ความอบอุ่นและเล่นกับมันตลอดเวลา   แต่แล้วด้วยหน้าที่ทำให้นาย Volker ต้องจากลูกเสือชีตาห์ตัวนี้ไปเกือบปี แต่ในที่สุดพวกเขาก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง มันตรงเข้าไปกอดคนที่เคยเลี้ยงดูมันและครางออกมาด้วยความคิดถึง   นาย Volker จึงอดไม่ได้ที่จะถ่ายคลิปวิดีโอช่วงเวลาน่ารักๆ ของเจ้าชีตาห์หัวใจลูกแมวมาให้ชาวเน็ตได้ดูกัน พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “นี่เป็นชีตาห์ที่เชื่องมากและมันก็ไว้วางใจผมแบบสุดๆ แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่ต้องทำงานกับสัตว์ป่าอยู่นะ” “บาดแผลเดียวที่ผมได้รับตลอดระยะเวลาที่เลี้ยงมัน คือรอยกรงเล็บเล็กๆ ที่หน้าผากของผม มันเอาเล็บมาข่วนคล้ายๆ กับการนวด” . . .   เพื่อพิสูจน์ความสนิทสนมและมิตรภาพของพวกเขา คืนนั้นทั้งนาย Volker และเจ้า Gabriel ก็เข้านอนด้วยกัน โดยเจ้าเสือนอนอยู่ข้างเตียงไม่ยอมห่างไปไหนเลย   ชมคลิปน่ารักๆ ของเจ้า Gabriel…

ในโลกนี้มีแมวพิการอยู่มากมาย แต่คงจะไม่มีตัวไหนที่น่ารักและพิเศษเท่ากับเจ้า “เหมียวทีเร็กซ์” ตัวนี้อีกแล้วล่ะ…     เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Thedodo ได้นำเสนอเรื่องราวของเจ้าเหมียวพิการตัวหนึ่งในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่เกิดมาพร้อมกับความบกพร่องทางร่างกายเพียบ ไม่ว่าจะเป็นหางที่หักงอ มีแค่ฟันเขี้ยว (ฟันอื่นๆ ไม่มีเลย) เปลือกตาของมันพับเข้าไปด้านในทำให้มองอะไรลำบาก ฉี่เป็นผลึก แถมที่เลวร้ายที่สุดคือกระดูกขาหน้ายังบิดผิดรูป ทำให้ไม่สามารถยืนได้แบบแมวปกติ ต้องยืนด้วยสองขาหลังเหมือนกับทีเร็กซ์ โอ้ว อะไรมันจะน่าสงสารขนาดนี้     อาการทั้งหมดนี้หมายความว่าเจ้าเหมียวจะต้องกินอาหารอย่างรัดกุมและได้รับการดูแลเป็นพิเศษ โชคดีที่มีหน่วยงานช่วยเหลือสัตว์อย่าง Dutchess County SPCA ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือมัน และวางแผนที่จะผ่าตัดเพื่อช่วยให้มันได้ใช้ชีวิตแบบปกติเสียที     เมื่อเจ้าเหมียวได้รับการดูแลอย่างดี พวกเขาก็ตั้งชื่อเล่นให้มันว่า Walter แม้ว่าขาของมันจะไม่สมบูรณ์ดี แต่มันก็เดินหรือวิ่งพล่านไปทั่วเลย มันเริ่มเล่นและเป็นมิตรกับแมวตัวอื่นๆ และถึงมันจะไม่มีฟันเหลือเลย แต่มันก็พยายามกินอาหารให้ได้เหมือนแมวทั่วๆ ไป     ด้าน Sherri Taylor ผู้จัดการของสถานสงเคราะห์สัตว์ได้ลองพูดคุยกับ Leah Hapeman เพื่อนร่วมงานที่สถานสงเคราะห์สัตว์ หญิงสาวผู้ที่กำลังเศร้าใจกับการจากไปของเจ้าเหมียวตัวก่อน ที่เธอเลี้ยงมันมาตั้ง 18 ปี    …

หากคุณมองว่าแมวพิการเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยจะน่ารักเท่าไหร่ และดูไม่น่าสนใจเหมือนแมวทั่วๆ ไปล่ะก็ คุณอาจจะต้องคิดใหม่เมื่อได้รู้จักกับเจ้า Scooter นะ เจ้า Scooter เป็นแมวที่ป่วยเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงขาหลัง ทำให้มันไม่สามารถเดินได้ตามปกติ จะต้องใช้ขาหน้าในการเกี่ยวพื้นพรมเพื่อดันตัวไปข้างหน้าเท่านั้น     เวลาที่มันจะนั่งก็ไม่สามารถนั่งแบบแมวปกติได้ ต้องนั่งแบบมนุษย์แทน…   แม้เจ้า Scooter จะเดินลำบาก แต่มันก็ดูสดใสและซุกซนมาก มันพยายามออกเดินไปทั่วบ้าน เจ้านายของมันก็เลยสร้างอินสตาแกรม Scoot.Butt เพื่อถ่ายทอดชีวิตประจำวันให้กับแฟนๆ ในโลกออนไลน์ได้ชมกัน     เวลานอนมันก็ชอบนอนท่านี้   ถ่ายเซลฟี่เป็นนะ   หง่าว   เจ้า Scooter นั้นเป็นแมวที่อารมณ์ดีมาก เข้ากับแมวตัวอื่นๆ ได้ดี ถึงจะจับหนูได้ไม่เก่งเหมือนแมวทั่วไป แต่อย่างน้อยมันก็ไปไหนมาไหนได้เองล่ะนะ ดูอย่างสเต็ปการขึ้นบันไดของมันสิ ต้องยอมเขาเลยทีเดียว   ให้มันรู้กันไปว่าแมวอย่างพวกเรานั้นเก่งแค่ไหน!! ใครสนใจลองไปติดตามต่อได้ที่อินสตาแกรม scoot.butt เลยนะจ๊ะ ที่มา viralnova , scoot.butt

จากนิยายหรือเรื่องเราวปรัมปรา ผู้คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าปลาหมึกหรือปลาหมึกยักษ์ใต้ทะเลลึกนั้นมีความอันตราย สามารถคร่าชีวิตของลูกเรือจำนวนมากได้แบบในหนังแฟนตาซี แต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วนะ แล้วพวกมันก็ไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนอย่างที่เข้าใจกันด้วย เพราะ#เหมียวฟิ้นจะพาทุกคนไปชมอีกด้านหนึ่งของชีวิตพวกมัน ที่น้อยคนนักจะได้เห็น   คลิปที่เรานำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เป็นคลิปที่ถูกบันทึกได้โดยยานดำน้ำ ROV จากสถาบันวิจัยและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Monterey Bay Aquarium Research Institute รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา   ในระหว่างที่ยาน ROV กำลังดำลงไปในทะเลลึก จู่ๆ กล้องวิดีโอก็สามารถจับภาพบางอย่างได้ คล้ายกับดาวหางส่องประกายสีขาวสว่างออกมา   เมื่อยาน ROV เริ่มขยับเข้าไปเรื่อยๆ จึงเห็นว่าประกายสีขาวเล็กๆ นั่น แท้จริงแล้วคือปลาหมึกยักษ์กำลังให้กำเนิดลูกๆ ของมันนับพันตัว เป็นภาพหายากภาพหนึ่งที่น้อยคนจะได้เห็นเลยก็ว่าได้ .   ชมคลิปปลาหมึกตกลูกได้ที่นี่เลย (ใครดูไม่ได้ลองกดที่นี่เลยจ้า)   แม้จะเป็นสัตว์ที่หลายคนหวาดกลัว แต่กลับสวยงามตรงข้ามกกับภาพที่เราจินตนาการเอาไว้อีกนะ ที่มา viralnova

ไม้เซลฟี่เป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ช่วยให้ผู้คนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพได้ใช้มันถ่ายภาพเซลฟี่ในระที่ไกลขึ้นไปอีกหน่อย ช่วยให้กล้องหรือมือถือของเราสามารถเก็บภาพได้กว้างมากขึ้น แต่คุณเชื่อ#เหมียวฟิ้นไหมว่า หากคุณใช้มันให้ถูกที่ถูกจังหวะ มันก็ทำให้คุณได้ภาพที่เจ๋งกว่าแค่เซลฟี่กับเพื่อนๆ นะ   ภาพที่เราจะให้คุณดูต่อไปนี้เป็นภาพของนักท่องเที่ยวรายหนึ่งที่ใช้เวลาในช่วงวันหยุด เดินทางเข้าป่าดูธรรมชาติ แต่ในระหว่างทางเขาก็ดันไปเจอกับสัตว์หา(ตัว)ยาก มันคือตัวสล็อตกำลังเกาะอยู่บนต้นไม้เหนือหัวเขาไปไม่กี่เมตร   ทันใดนั้นพ่อหนุ่มคนนี้ก็รู้ทันทีว่าเขาต้องหยิบเอาไม้เซลฟี่ออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เขารีบกางแล้วยื่นไปที่หน้าของสล็อต เพราะหากใช้มือถือถ่ายมันตรงๆ หรือเข้าไปใกล้กว่านี้อาจทำให้มันตื่นกลัวได้ และเหมือนว่ามันจะรู้ตัวว่ากำลังถูกถ่ายภาพ จู่ๆ มันก็อ้าแขนดโพสต์ท่าออกมาช้าๆ กลายเป็นภาพอันโด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ตขณะนี้เลย   การพบเจอตัวสล็อตในธรรมชาติแบบนี้นั้นถือเป็นเรื่องที่ยากมากๆ และยิ่งพบเจอมันในระยะเผาขนแบบนี้ยิ่งเป็นเรื่องยากเข้าไปใหญ่ เพราะพวกมันมักจะหลบซ่อนตัวจากนักล่าอยู่บนต้นไม้มากกว่า กว่า 70% ของชีวิตพวกมัน จะเคลื่อนที่ช้าๆ ไปตามกิ่งไม้ต่างๆ แม้จะดูเป็นสัตว์ที่ขี้เกียจไปหน่อย แต่นั่นก็ช่วยให้พวกมันดำรงชีวิตอยู่ในธรรมชาติได้ล่ะนะ   เมื่อพูดถึงเรื่องไม้เซลฟี่แล้วก็คงจะไม่พูดถึงคลิปนี้ไม่ได้ นี่เป็นคลิปของสิงโตทะเลตัวหนึ่งจาก Aquarium of the Pacific ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ครูฝึกสอนให้มันคาบไม้เซลฟี่ไว้ที่ปาก ทำให้เราได้เห็นมุมมองการถ่ายภาพของมันแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน   ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย   ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม้เซลฟี่ถือเป็นสิ่งของต้องห้ามที่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่นสวนสนุก Disney Theme Parks ที่สั่งห้ามไม่ให้นำเข้าไป เรื่องจากการใช้งานที่ไม่ถูกกาละเทศะ อาจก่อเกิดความอันตรายแก่ตนเองหรือนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ได้ แต่หากเรานำมันมาใช้ได้อย่างถูกที่ถูกเวลาแบบหนุ่มคนนี้…

นับเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก เพราะเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ The David Sheldrick Wildlife Trust ขององกรช่วยเหลือสัตว์ป่าในประเทศเคนยา ทวีปแอฟริกาตะวันออก ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าช้างตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บ แต่กลับรู้ว่าตนเองต้องเข้าไปขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ถึงจะได้รับการรักษา   ตามรายงานบอกว่าช้างตัวนี้มีชื่อว่าเจ้าทิม วัย 47 ปี เป็นหนึ่งในช้างที่ใหญ่ที่สุดของเคนยา มันถูกแทงด้วยหอกที่บริเวณใบหูด้านซ้าย คาดว่าเป็นฝีมือของเหล่าชาวไร่ชาวนาแถวๆ นั้น มันจึงเดินตรงมาที่แคมป์ในอุทยานแห่งชาติแอมโบเซลี เพื่อให้ทีมแพทย์และนักอนุรักษ์ช่วยรักษาให้มัน   สาเหตุที่มันเดินมาที่นี่ได้ก็เพราะว่าเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2014 มันเคยได้รับบาดเจ็บมาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง ในตอนนั้นมันถูกโจมตีด้วยหอกที่หลังของมันจนกลายเป็นแผลลึก ทำให้มันกลายเป็นโรคขี้หวาดระแวง ทีมแพทย์ก็ช่วยกันรักษาและปล่อยมันกลับสู่ธรรมชาติไป แม้เวลาล่วงเลยผ่านไปถึง 2 ปี แต่เจ้าทิมก็ยังไม่ลืมสถานที่แห่งนี้ เมื่อมันได้รับบาดเจ็บอีกครั้งมันจึงกลับมาให้มนุษย์ช่วยรักษาให้กับมัน   จากการตรวจร่างกายพบว่าปอกไม่ได้ฝังเข้าไปในกะโหลกทำให้มันไม่ได้รับอันตรายอะไรมาก ทีมนักอนุรักษ์จึงช่วยกันทำแผลจนมันหายเป็นปกติ ทั้งนี้ทางทีมอนุรักษ์ต้องอาศัยความร่วมมือจากชนเผ่ามาไซที่อยู่แถวนั้น ไม่ให้ขายที่ดินของพวกเขาให้นายทุนมาพัฒนาหรือทำเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ไม่อย่างงั้นก็จะยิ่งมีผลกระทบต่อสัตว์มากขึ้นไปอีก ที่มา The David Sheldrick Wildlife Trust

ว่ากันว่าพวกแมวนั้น โดยเฉลี่ยแล้วจะมีอายุประมาณ 10-15 ปี หากแมวตัวไหนสามารถมีชีวิตได้ยืนยาวกว่านี้ก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก แต่คุณเชื่อไหมว่ามีแมวตัวหนังที่มีอายุยืนยาวมากกว่านั้น แบบที่คุณไม่คาดคิดเลยล่ะ   เจ้าเหมียวที่ว่านี้มีชื่อว่าเจ้า Nutmeg มันเป็นแมวจรจัดที่ถูกเก็บมาเลี้ยงโดย Ian และภารรยาของเขา Liz Finlay ตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 1990 ในตอนแรกที่พวกเขารับมันมาเลี้ยงนั้น พวกเขาพามันไปตรวจร่างกายที่คลีนิคสัตว์ ทางสัตวแพทย์จึงบอกว่าเจ้า Nutmeg นั้นมีอายุราวๆ 5 ขวบได้แล้ว นั่นหมายความว่าตอนนี้มันมีอายุปาเข้าไปกว่า 31 ปีนั่นเอง!!     โดยปกติแล้ว เมื่อนำอายุของแมวไปเทียบกับคน พวกมันก็จะมีอายุล้ำมนุษย์ไปประมาณ 10 กว่าปี และเมื่อพิจารณาแล้ว ตอนนี้มันก็น่าจะมีอายุพอๆ กับคนแก่อายุประมาณ 129 ปีเลยทีเดียว ทั้ง Ian และ Liz พูดถึงเคล็ดลับในการทำให้แมวของพวกเขาอายุยืนว่า พวกเขาจะให้เจ้า Nutmeg กินอาหารที่ชอบทุกๆ เย็นวันอาทิตย์ โดยเมนูนั้นเป็นไก่อบร้อนๆ ราดด้วยซอสเกรวี่     และเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ เจ้า Nutmeg เองก็ครบรอบวันเกิดปีที่ 31 พอดี มีการจัดงานวันเกิดเล็กๆ พร้อมกับซื้อขนมเค้กมาเพื่อเฉลิมฉลองให้กับเจ้าแมวอันเป็นที่รัก ทางด้านคุณลุง…

ไม่ว่าตอนนี้คุณจะทำอะไรอยู่ก็ตาม #เหมียวฟิ้นอยากให้คุณหยุดทุกกิจกรรม แล้วมาเอนจอยไปกับเหล่านากสุดน่ารักเหล่านี้ พวกมันจะทำให้คุณอารมณ์ดีไปทั้งวันเลยล่ะ…เชื่อเราไหม?   มีสัตว์อยู่ไม่กี่ชนิดหรอกนะที่มันจะน่ารักได้สุดติ่งตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงตอนโตเต็มวัย และหนึ่งในนั้นก็คือพวกนากนั่นเอง พวกมันมีลำตัวที่ค่อนข้างยาวและเต็มไปด้วยขนฟูฟ่อง พร้อมกับหน้ามนๆ กลมๆ ที่แสดงอารมณ์ร่าเริงอยู่ตลอดเวลา ด้วยความน่ารักน่าชังแบบนากๆ นี้เอง พวกมันจึงเหมาะมากกับการเป็นสัตว์สำหรับ “พักสายตา” ไม่ว่าจะทำงานอะไรมาเหนื่อยๆ หรือเครียดกับชีวิต หากได้ลองชมภาพและคลิปของพวกนากแล้ว รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังนะ   ตั้งท่าเตรียม   โดดน้ำซุ่ม!!   ง่วงจัง นอนละนะ คร่อก   แค่กินอาหารเฉยๆ ยังน่ารักอะ (ใครดูไม่ได้กดที่นี่เลยจ้า) 赤ちゃんカワウソがかわいすぎる pic.twitter.com/9pJuGthqO5 — ほのぼの♨︎動物動画 (@kawanimal_movie) 17 พฤษภาคม 2559   เอิ่ม แต่บางทีพวกแกก็ขี้เกียจไปหน่อยนะ… (ใครดูไม่ได้กดที่นี่เลยจ้า) だらけ過ぎ…(･･;) pic.twitter.com/2gstewdcxq — RYUSUKE (@jamworldmixjam) 19 สิงหาคม 2558   พวกมันเป็นสัตว์ที่ขี้สงสัยมากกก (ใครดูไม่ได้กดที่นี่เลยจ้า) カワウソたちが空港でスターを待つファンみたいでかわいい pic.twitter.com/Sycf52J5g1 — ほのぼの♨︎動物動画…

หลายๆ บ้านมักจะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์เอาไว้ในบ้าน เพราะมันมีรูปร่างใหญ่ใจดี ยิ่งบ้านไหนมีเด็กตัวเล็กๆ อยู่ก็สามารถใช้ให้มันเป็นบอดี้การ์ดได้เลย และด้วยความที่เป็นสุนัขใจดี มันจึงแสดงอาการสงสัยใคร่รู้ไปกับทุกสิ่งทุกอย่าง มันเป็นนักกอดชั้นเซียน มันชอบคลอเคลียและจู่โจมคุณด้วยขนนุ่มนิ่ม คงไม่มีอะไรจะทำให้เราอารมณ์ดีได้ดีไปกว่าการได้เล่นกับพวกมันอีกแล้วล่ะ   หากคุณกำลังเครียด หรือต้องการกำลังใจ วันนี้#เหมียวฟิ้นจะขอพาเพื่อนสี่ขามาเป็นผู้ช่วยในการบำบัดความเครียด จนคุณรู้สึกดีและสดใสไปกับพวกมันเอง ลองดูซิว่าพวกโกลเด้นจะทำให้คุณแจ่มใสได้จริงไหม?   1. ตอนพวกมันเป็นเด็กนี่ขี้อ้อนเหลือเกิน   2. ถ้าจะเลี้ยงหมาให้เหมือนกับเด็กคนหนึ่ง พวกมันก็โอเคนะ   3. เมื่อพวกมันอยู่ร่วมแก๊งกัน ขอบอกว่าละลายตายไปเลย   4. มันเป็นสุนัขที่ดูสง่างามมาก และทำให้ตัวอื่นๆ ดูแย่ไปเลย…   5. พวกมันจะรอให้คุณกลับบ้านมาเล่นกับมันตลอดเวลา ดูสิคิดถึงเจ้านายขนาดไหน   6. พอเจ้านายกลับบ้านปุ๊บ พวกเขาจะกระโจนเข้าหาทันที   7. พวกมันรักเจ้านายมากนะ ดูสิ มีล้างรถให้ด้วย   8. ตัดไม้ก็ทำได้นะ   9. มีสองต้องดีกว่าหนึ่ง   10. มารุมกันแบบนี้ไม่รู้จะเลือกตัวไหนเลย แอ็ค!  …

อย่างที่เรารู้กันว่าสัตว์โลกนั้นมีทั้งผู้ล่าและผู้ถูกล่า และผู้ที่อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร ก็มักจะเป็นสัตว์ประเภทเสือสิงโตที่มีความแข็งแกร่งและคมเขี้ยว ดูแล้วไม่น่าจะมีใครรอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกมันได้…แต่บางครั้งพวกมันก็พลาดได้อย่างไม่เหลือฟอร์มเจ้าป่าเลยเหมือนกันนะ ภาพที่#เหมียวฟิ้นจะนำเสนอต่อไปนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ ViralSpell เป็นภาพของเจ้าเสือตัวหนึ่งที่พยายามจะออกล่าลิงตัวน้อย แต่ด้วยความที่มันเป็นนักปีนป่าย มันจึงหลบขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ ทำให้พี่เสือต้องเหนื่อยปีนตามมันขึ้นไป     แต่จุดหักเหมันอยู่ตรงนี้ เมื่อเจ้าเสื้อปีนขึ้นไปบนต้นไม้แล้ว มันกลับขยับไปไหนมาไหนได้ไม่สะดวกนัก ด้วยรูปร่างอันใหญ่โตและน้ำหนักที่มากทำให้มันตกลงมานอนแอ้งแม้งกับพื้นในที่สุด และเจ้าลิงก็หนีเอาชีวิตรอดไปได้อย่างหวุดหวิด ตามรายงานไม่ได้บอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ป่าหรือเขตอนุรักษ์แห่งไหนกันแน่ แต่ดูแล้วเจ้าเสือน่าจะอับอายพอสมควรเลยล่ะ     ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า   โถ ไม่น่าเลยเจ้าแมวยักษ์ ที่มา viralspell

คงจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าพอสมควร หากคุณจะต้องถูกจองจำให้อยู่แต่ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เพื่อให้คนอื่นๆ เดินเข้ามาชมความเป็นอยู่ของคุณในทุกๆ วัน และยังต้องแสดงท่าทางสนุกสนาน ทั้งที่ข้างในอาจจะสนุกหรือเปล่าก็ไม่มีใครรู้ได้ เช่นเดียวกับเจ้าบับเบิลส์ วาฬเพชรฆาตในสวนสัตว์ SeaWorld ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์แห่งนี้มาตั้งแต่ยุค 60 ถือเป็นสัตว์ที่อายุยืนที่สุดในสวนสัตว์แห่งนี้เลย   ตามรายงานบอกว่าเจ้าบับเบิลส์ถูกจับแยกออกมาจากครอบครัวของมันตั้งแต่เมื่อปี 1966 ที่ชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย จากนั้นมันก็ถูกส่งตัวไปยังศูนย์ฝึกสัตว์น้ำ Marineland of the Pacific และออกแสดงโชว์ต่างๆ ที่นั่นเป็นเวลา 20 ปี     ด้วยความฉลาดในการแสดงทำให้มันเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนกับว่ามันเกิดมาเพื่อเป็นซุปเปอร์สตาร์เลยทีเดียว ต่อมาในปี 1987 ทางสวนสัตว์ SeaWorld ก็ได้เข้าซื้อกิจการของ Marineland และนำเจ้าบับเบิลส์ออกแสดงต่ออีกเป็นเวลา 30 ปี     แต่ชีวิตการแสดงแบบไม่รู้จบของมันก็มีอันต้องสิ้นสุดลง เพราะเมื่อวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2016 ที่ผ่านมา ทางสวนสัตว์น้ำ SeaWorld ได้ออกมาแถลงข่าวว่าตอนนี้เจ้าบับเบิลส์ได้เสียชีวิตลงแล้ว ก่อนหน้านี้เคยมีวาฬหลายๆ ตัวได้เสียชีวิตลงที่สวนสัตว์น้ำแห่งนี้เช่นกัน เช่นเจ้าอันนา วาฬเพชฆาตวัย 18 ปี ที่เสียชีวิตในแท๊งค์น้ำเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หรือเจ้าเบสตี้…

สัตว์บางตัว อยู่ในป่าดีไม่ว่าดี กลับวิ่งเข้าไปหาเรื่องวุ่นๆ ใส่ตัว จนบางครั้งมนุษย์ก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือพวกมันอยู่บ่อยครั้ง…   เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เปิดเผยเรื่องราววุ่นๆ ของเจ้านกนางนวลตัวหนึ่ง ที่ดันบินทะเล่อทะล่าเข้าไปในโรงงานอาหารแห่งหนึ่งในประเทศเวลส์ แล้วไปที่ไหนไม่ไป ดันบินไปตกในถังใส่ผงเครื่องเทศ จนตัวสีขาวของมันกลายเป็นสีเหลืองอร่ามซะงั้น!!!     ทันทีที่คนงานเห็นมันเข้า พวกเขาก็รีบดึงมันขึ้นมาแล้วนำมันใส่ไว้ในกล่องเปล่า แล้วส่งไปที่คลีนิคสัตว์ทันที ทางด้านสัตวแพทย์ Lucy Kells วัย 41 ปี เมื่อได้เห็นเจ้านกตัวนี้ก็บอกว่า “เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีคนถือกล่องเข้ามาในคลีนิคแล้วบอกว่า ‘เจ้านี่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน’ มันส่งกลิ่นแรงมากตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดกล่อง”     ในตอนแรกเจ้านกนางนวลไม่ได้มีทีท่าว่าจะหงุดหงิดหรืออะไรเท่าไหร่ ทางคลีนิคจึงนำมันไปอาบน้ำอยู่นานประมาณ 30 นาที กว่าที่สีและผงเครื่องเทศจะหลุดออกจากตัวมัน ไม่มีการรายงานว่าผงเครื่องเทศนี้เป็นผงอะไรกันแน่ แต่คุณหมอ Lucy บอกว่ามันน่าจะเป็นผงขมิ้น     เมื่อพวกเขาอาบน้ำทำความสะอาดให้มันแล้ว ขนของมันก็ค่อยๆ ขาวขึ้น (แม้จะไม่ทั้งหมด) และจะทำการดูแลมันต่ออีกสักพัก ก่อนที่จะปล่อยตัวมันกลับเข้าป่าไปในที่สุด   ทีหลังจะบินไปไหนก็ระวังหน่อยล่ะเจ้านก!! ที่มา metro

ทุกครั้งที่เรานำสัตว์เลี้ยงใหม่ๆ เข้าบ้าน หรือมีลูกหมาลูกแมวเกิดใหม่ เรามักจะกังวลว่า พวกมันจะชอบบ้านหลังนี้ไหม? (ก็อาจจะนะ) พวกมันจะตะกุยโซฟาของเราไหม? (แน่นอน) และที่สำคัญ พวกมันจะเข้ากันได้กับสมาชิกเดิมไหมนะ?     เราคงจะเคยเห็นภาพหมาใหญ่กับแมวตัวเล็ก หรือแมวตัวใหญ่กับลูกหมาตัวเล็ก มีปัญหากัน (เนื่องจากพวกมันไม่ได้ถูกเลี้ยงมาด้วยกันแต่เด็ก) แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไปนะ เพราะการเริ่มต้นความสัมพันธุ์นั้น บางครั้งก็ราบรื่นอย่างที่เราไม่ได้คาดคิดเหมือนกัน ไม่เชื่อลองไปชมกันเลย   1. มันเป็นเรื่องดีนะ ที่จะเผชิญกับสิ่งใหม่ๆ ด้วยความระมัดระวัง (ต๊ะเอ๋)   2. เจ้ามนุษย์เด็กนี่ก็น่ารักดีเหมือนกันนะเนี๊ยะ (เอาหัวถูๆ)   3. “เอิ่ม ช่วยฉันที”   “เอ๊ะ แต่เจ้านี่ก็น่ารักดีเหมือนกันแฮะ”   4. “ว่าไงเจ้าเด็กน้อย”   5. ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันจนจับแยกกันไม่ได้แล้วแฮะ (โอ๋เอ๋นะ)   6. แผล่บๆๆๆๆๆๆ มันน่ารักจัง แผล่บๆๆๆๆๆ   7. “ถึงจะตัวเล็ก แต่ฉันไม่รังแกนายหรอกนะ”   “จุ๊บๆ”   8.…

เราทุกคนล้วนรักสัตว์ตัวน้อยๆ ยิ่งเป็นลูกสัตว์ตัวเล็กๆ หรือสัตว์ขนปุยด้วยแล้วพวกเราก็อยากจะกระโดดไปฟัดเหลือเกิน เพราะภาพเหล่านี้มีพลังบางอย่างที่ทำให้คนดูรู้สึกเอ็นดูและอบอุ่นหัวใจ   แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาไปดูภาพน่ารักๆ ของสัตว์ตัวน้อยที่เราไม่ค่อยจะคุ้นตาสักเท่าไหร่ดูบ้าง เพราะถึงแม้ว่าร่างกายของพวกมันจะมีหนามแหลมๆ มีกลิ่นเหม็น หรืออะไรก็ตาม แต่พวกมันก็น่ารักไม่ได้แพ้หมา แมว หรือสัตว์ตัวอื่นๆ เลย ลองไปดูกันนะว่ามีอะไรบ้าง   1. ลิงจมูกยาว   ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ลิงจมูกยาว ฉะนั้นสิ่งแรกที่เราจะเห็นก็คือจมูกอันโดดเด่น แต่ตอนที่พวกมันเป็นเด็ก จมูกยังไม่ยาวเท่าไหร่นะ น่ารักไปอีกแบบ   2. แร้งหัวขาว   แม้ชื่อของมันอาจจะดูน่ากลัวไปสักหน่อย แต่ตอนที่พวกมันเป็นเด็ก หน้าตาของพวกมันก็ขนปุยไม่เบา จนแทบไม่ต่างอะไรกับลูกเจี๊ยบตัวน้อยๆ เลย   3. สมเสร็จ   หน้าตาของพวกมันมีความคล้ายคลึงกับสัตว์หลายๆ ประเภท ทั้งม้า แรก และที่ใกล้สุดๆ เลยก็คือหมู ตอนเด็กๆ พวกมันน่ากอดเหมือนกันนะนั่น   4. หนูน้ำคาปิบารา   แม้ว่าพวกหนูน้ำเหล่านี้ตอนโตจะค่อนข้างน่ากลัวไปสักหน่อย แต่ตอนที่พวกมันเป็นเด็กหรือวัยรุ่น ก็ดูจะไม่ค่อยต่างอะไรกับหนูตะเพาเลยนะนั่น   5. หมูป่า   เชื่อว่าทุกคนที่ได้เห็นหน้าตาของเจ้าหมูป่าแล้ว ต้องมีร้องอี๋กันบ้างแน่ๆ เพราะหน้าตาของมันดูยุ่งเหยิงซะเหลือเกิน…

ทุกครั้งที่เห็นสัตว์ตัวอ้วนๆ บางคนอาจจะคิดว่ามันจ้ำม่ำ น่ารักน่ากอด แต่จริงๆ แล้วพวกมันใช้ชีวิตกันลำบากมากเลยนะ เพราะบางทีพวกมันก็ไม่มีความยับยั้งชั่งใจแบบมนุษย์ ทำให้มีสัตว์บางตัวกินเข้าไปจนอวบอ้วนเหมือนกับเจ้าตัวนี้ล่ะ…   เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่ภาพของเจ้าเม่นแคระตัวหนึ่ง ที่รูปลักษณ์ของมันไม่ได้แคระสมชื่อเลย เพราะมันมีน้ำหนักมากถึง 1.4 กิโลกรัม ซึ่งเม่นแคระโดยทั่วไปจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 300 – 600 กรัมเท่านั้น     ตามรายงานบอกว่ามันถูกพบที่เมืองไฮวิคัมบ์ ประเทศอังกฤษ โดยคนที่พบคือนาย Les Stocker เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลทิกกี้วิงเกิลส์ เขาเลยตัดสินใจนำมันกลับมาด้วย เพราะหากปล่อยไว้ตามธรรมชาติล่ะก็ มันอาจจะกินจนท้องแตกตายแน่ๆ ตอนนี้เจ้าเม่นแคระได้ถูกนำมาเข้าคอร์สลดความอ้วน ด้วยการให้มันกินแต่ไดเอทบิสกิตแบบพิเศษ ที่จะสามารถลดน้ำหนักมันลงได้ราวๆ 500 กรัม     ทางด้านนาย Les ได้กล่าวว่า “เจ้าเม่นตัวเบิ้มนี้กำลังลดความอ้วนอยู่ ตอนนี้มันลดมาได้ถึง 281 กรัมแล้ว แต่ยังต้องทำต่อไปอีก เพื่อให้มีน้ำหนักที่เหมาะสมที่ต่ำกว่า 1 กิโลกรัม”   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะที่มีข่าวเกี่ยวกับเม่น (ไม่) แคระ…

นี่คือเรื่องราวของเจ้า “นิม” สุนัขอารมณ์ดีวัย 7 ขวบ จากเมืองบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย มันใช้ชีวิตปกติแบบสุนัขทั่วๆ ไป แต่วันหนึ่งก็ดันมาถูกคนใจร้ายทารุณกรรม จนมันต้องสูญเสียดวงตาไปทั้ง 2 ข้าง     แต่โชคดีที่มันได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยสัตว์ในโรมาเนีย ทำให้มันรอดตาย และทางโรมาเนียก็ประสานงานไปยัง Blind Dogs Rescue UK หน่วยงานช่วยเหลือสุนัขตาบอดในประเทศอังกฤษเพื่อรับมันไปดูแลต่อ     เมื่อเจ้านิมมาถึงที่อังกฤษ อาการของมันค่อนข้างแย่พอสมควร ตัวของมันสั่นอยู่ตลอดเวลา ไม่มีแรงพอที่จะยืนได้เอง แถมยังหวาดกลัวมนุษย์อีกด้วย แต่หลังจากที่มันได้รับการอุปถัมภ์และเลี้ยงดูอย่างดีจากนางพยาบาลที่ชื่อว่า Sian Porter เจ้านิมก็ค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ     Sian ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เจ้านิมตัวสั่นด้วยความกลัวเมื่อตอนที่มันเดินทางมาถึงนี่” แต่หลังจากที่ใช้เวลา 6 สัปดาห์ในการดูแลรักษามัน เจ้านิมก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแถมดูจะเป็นมิตรกับเธอมากขึ้นด้วย     นาง Sian ยังบอกถึงความผูกพันธุ์ที่ทำให้เธออยากเลี้ยงมันว่า “เจ้านิมค่อยๆ คลำทางไปช้าๆ มันเดินไปข้างหน้าตามทิศทางของเสียงที่ฉันพูด ก่อนที่มันจะเอาหัวมาซุกไซ้ที่คอของฉัน และนั่นทำให้ฉันรู้ว่าฉันต้องอยู่กับมันตลอดไป”     ตอนนี้เจ้านิมมีชีวิตชีวามากขึ้น มันกลายเป็นตัวแทนของหน่วยกู้ภัยสัตว์ตาบอด Blind Dog Rescue…

อย่างที่เคยบอกกันไปว่าเวลาจะขับรถขับรา เราควรจะเช็คใต้ท้องรถ และกระโปรงหน้ารถให้ดีๆ ก่อน เพราะมักจะมีสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยแอบซุกซ่อนอยู่ น้อยครั้งมากที่พวกมันจะสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้เหมือนกับเจ้าแมวผู้โชคดีตัวนี้นะ   เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าเจ้าเหมียววัย 5 เดือนได้แอบปีนเข้าไปอยู่ในกระโปรงรถคันหนึ่งที่กำลังเดินทางจากเมืองเดียร์พาร์คไปยังเมืองเมลเบิร์นในประเทศออสเตรเลียเป็นระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร     เจ้าแมวตัวนี้อาศัยอยู่ในห้องเครื่องยนต์อยู่นาน จนคนขับเริ่มรู้ตัวว่ามีแมวอาศัยอยู่ในเครื่องยนต์เพราะมันส่งเสียงร้องเหมียวๆ ออกมา จากนั้นคนขับก็ลงจากรถมาเปิดประโปรงหน้าดู และเห็นแมวตัวเล็กตัวหนึ่งนอนอยู่ด้านหลังหม้อน้ำ โชคดีที่มันไม่ได้รับอันตรายร้ายแรง เขาจึงช่วยมันออกมาได้ทันเวลา     ต่อมาเจ้าเหมียวตัวนี้ก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด ทางด้านคุณหมอ Russell Harrison ผู้เป็นหัวหน้าของโรงพยาบาลสัตว์ได้กล่าวว่า “แม้ว่าจะมีการเดินทางจากเดียร์พาร์คไปยังอีกที่หนึ่งโดยมีเจ้าแมวติดไปด้วย มันต้องใช้เวลาอยู่ในนั้นนานถึง 8-9 ชั่วโมงเลย โดยที่เจ้าของรถออกไปทำงาน นับว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากที่มันไม่เป็นอะไร”  ต่อมาเจ้าเหมียวตัวนี้ก็ถูกตั้งชื่อว่า Honda ตามยี่ห้อรถที่มันเข้าไปอยู่นั่นเอง     หลังจากที่ได้อ่านข่าวนี้แล้ว เหมียวฟิ้นอยากจะส่งส่งสาส์นไปยังแมวทุกตัวในประเทศไทยว่า “พวกแกก็ระมัดระวังรถของพวกมนุษย์หน่อยนะ เดี๋ยวกลายเป็นโจ๊กขึ้นมาจะหาว่าไม่เตือนนะเออ” ที่มา dailymail

เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ People’s Daily, China ได้รายงานว่ามีการค้นพบฉลามวาฬยักษ์สายพันธุ์หายากตัวหนึ่งที่บ่อน้ำมันบริเวณนอกชายฝั่งของเมืองเป๋ยไห่ ประเทศจีน แต่มันกลับถูกคนแถวนั้นฆ่าตายอย่างไร้สาเหตุ     ตามรายงานบอกว่ามีคนพบเจ้าฉลามวาฬตัวนี้มาว่ายน้ำวนเวียนอยู่แถวๆ แท่นขุดเจาะน้ำมันทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเหอเป่ย เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง มันก็ถูกฆ่าและนำมาแขวนไว้ที่ท่าเรือแล้วเรียบร้อย     โดยทั่วไปแล้วฉลามวาฬมักจะว่ายน้ำไปทั่วท้องทะเลเพียงตัวเดียว ถือเป็นสัตว์น้ำชนิดหนึ่งที่มีความใหญ่ที่สุดในท้องทะเล นอกจากนี้มันยังเป็นสัตว์สายพันธุ์หายากที่ได้รับการคุ้มครองในหลายๆ ประเทศ การล่าพวกมันถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายมากทีเดียว     หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นในเชิงต่อว่าอย่างมากมาย เช่นคุณ Ralph McDonald บอกว่า “ผมไม่เคยได้ยินการล่าฉลามวาฬมาก่อนเลย ประเทศจีนมีความอุดมสมบูรณ์ของอาหารอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปล่ามันเลย”  Justin Estremos “โอ้พระเจ้า ชาวจีนอันตรายจริงๆ พวกเขากินทุกอย่างเลย น่ารังเกียจจริง” Biku Shah “ชาวจีนยังไม่เลิกกินหมาเลย ฉลามคงเป็นอาหารจานเด็ดสำหรับพวกเขาล่ะ ป่านนี้เต้นร่าไปแล้ว” Hendrik Fouche “คนจีนเขาฆ่าทุกอย่างที่กินได้แหละ”   ไม่น่าว่ายน้ำมาเจอคนเลยนะเจ้าฉลามวาฬ ที่มา PeoplesDaily

วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับเจ้า Maray เจ้าแมวสีส้มผู้รักการใช้ชีวิตอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในรัสเซีย มันไปบ่อยจนเจ้าหน้าที่ที่นั่นต้องจ้างให้มันมาเป็นมาสคอตประจำพิพิธภัณฑ์เลยนะขอบอก     เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Distractify ได้เปิดเผยเรื่องราวของเจ้าเหมียว Maray ที่มักจะชอบไปเดินเล่นในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และศิลปะแห่งหนึ่งในเมือง Serpukhov ในประเทศรัสเซีย จนพนักงานที่นั่นตกหลุมรักมันด้วยความทะเล้นและกวนโอ้ยของมัน     แรกเริ่มเดิมที ทางพิพิธภัณฑ์ไม่ได้คิดจะรับเลี้ยงหรือว่าจ้างเจ้าแมวตัวนี้แต่อย่างใด เพียงแต่ลองนำเอาเรื่องของเจ้า Maray มาทำเป็นมุกตลกๆ ในวัน April Fool’s Day เท่านั้น และทำทีเป็นว่าเจ้าเหมียวตัวนี้เขียนจดหมายสมัครงานและประทับตราด้วยเท้าของมันเอง     แต่มุกตลกก็ไม่ใช่แค่มุกตลกอีกต่อไป เพราะเมื่อชาวเน็ตเห็นเข้าก็รู้สึกรักและเอ็นดูเจ้าแมวตัวนี้ เลยขอให้ทางพิพิธภัณฑ์นำเจ้า Maray ไปเลี้ยงดูจริงๆ เลย     พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์เลยเสนอตำแหน่งให้เจ้า Maray เป็นพนักงานต้อนรับอย่างเป็นทางการ โดยแลกกับอาหารมื้อเที่ยงและเต็นท์สำหรับพักผ่อนด้วย     หนึ่งในพนักงานของพิพิธภัณฑ์อย่าง Nina Strelkova กล่าวว่าเจ้า Maray มีปฏิสัมพันธ์อย่างมากกับผู้ที่มาใช้บริการ “ทุกคนที่ทำงานที่นี่รักเจ้า Maray ทั้งนั้น…

เมื่อวาน หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นเพียงวันพฤหัสธรรมดาๆ แต่จริงๆ แล้ววันที่ 7 เมษายนของทุกๆ ปี ทางสหรัฐได้ประกาศให้เป็นวันบีเวอร์สากล     ปัจจุบันเพื่อนๆ รู้ไหมว่าจำนวนประชากรบีเวอร์ใกล้จะสูญพันธุ์เข้าไปทุกทีๆ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นพวกมันก็ยังทำหน้าที่ในการช่วยรักษาระบบนิเวศตามแหล่งน้ำต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยมเลยนะ     บางครั้งพวกมันก็ถูกขนานนามว่าเป็นวิศวะกรของธรรมชาติเลยก็ว่าได้ เพราะพวกมันจะสร้างเขื่อนไม้เล็กๆ ตามแหล่งน้ำต่างๆ ช่วยให้ลำธารหรือบึงมีน้ำไหลเวียนในช่วงฤดูน้ำแห้ง     อันที่จริงแล้วในปี 1930 ทางรัฐบาลสหรัฐฯ เคยนำเอาตัวบีเวอร์กว่า 600 ตัวไปปล่อยที่ลำธารแห่งหนึ่งในรัฐโอเรกอนเพื่อยับยั้งการพังทลายของหน้าดินด้วยนะ และก็ได้ผลอย่างดีเยี่ยมเลย     เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันบีเวอร์นานาชาติ และคุณงามความดีที่พวกมันเคยทำไว้ วันนี้#เหมียวฟิ้นเลยได้รวบรวมเอาภาพน่ารักๆ ของพวกมันมาฝากกันล่ะ เชื่อเลยว่าคุณจะต้องชอบในความรักของมันแน่นอน                                    …

ขึ้นชื่อว่าแอลกอฮอล์ ไม่ว่าใครที่ได้กินมันก็จะต้องแสดงอาการมึนเมา และมีอากัปกิริยาที่เปลี่ยนไปจากเดิม เพราะแม้แต่สัตว์เองก็ยังสูญเสียการควบคุมตัวเองเลย     เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดช็อคของเจ้าลิงน้อยตัวหนึ่งที่กำลังตะโกนร้องลั่น เพราะถูกมนุษย์แย่งขวดเบียร์ไปจากมัน     คลิปวิดีโอดังกล่าวเผยให้เห็นภาพของเจ้าลิงน้อยตัวหนึ่งขณะสวมใส่ผ้าอ้อมและถูกล่ามโซ่อยู่กับกรงเหล็ก จู่ๆ ก็มีมือของชายคนหนึ่งยื่นขวดเบียร์มาใกล้ๆ เจ้าลิงและเทลงที่ปากของมัน จากนั้นเขาก็เอาขวดเบียร์ออกไปให้ห่างจากเจ้าลิง     แต่ดูเหมือนเจ้าลิงน้อยจะไม่พอใจจึงส่งเสียงกรีดร้องและทุบพื้นเพื่อแสดงความเกรี้ยวกราด ทำให้ชายนิรนามคนนี้ต้องเอาขวดเบียร์มาวางไว้ใกล้ๆ มัน จากนั้นเจ้าลิงน้อยก็ไม่รอช้ารีบหยิบขวดเบียร์ขึ้นมากระดกจนหมดขวดทันที     นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะลิงชิมแปนซีพื้นเมืองในแถบแคริเบี้ยนเองก็มักจะแอบมาขโมยเอาเครื่องดื่มที่นักท่องเที่ยวทิ้งไว้ไปดื่มเล่นเพื่อความสนุกสนานและมึนเมาอยู่บ่อยครั้ง แต่ยังไงแล้วนี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยล่ะ           ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า   ดูซิ ขนาดลิงยังมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ถ้าใครยังไม่เคยลองก็อย่าไปลองจะดีกว่านะ แต่หากใครดื่มอยู่ก็ขอให้ดื่มแต่พอดีๆ ละกันนะจ๊ะ ที่มา dailymail

ไม่ใช่แค่มนุษย์หรอกนะ ที่จะวิ่งหาที่หลบเมื่อฝนเทลงมา แต่พวกสัตว์น้อยใหญ่เองก็ต้องการที่แห้งๆ ไว้หลบฝนเหมือนกัน   เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่ภาพถ่ายสุดน่ารักของช่างภาพที่ชื่อว่า Tanto Yensen ชาวอินโดนีเซียวัย 36 ปี เป็นภาพของเจ้านกฮูกตัวน้อย 2 ตัวที่กำลังนั่งเบียดเสียดหลบฝนอยู่ภายใต้ใบไม้ใบหนึ่งในสวนสาธารณะในกรุงจาการ์ตา     นาย Yensen กล่าวว่า “ตอนนั้นผมกำลังเดินฉับๆ ผ่านสวนสาธารณะ จู่ๆ ผมก็เห็นนกฮูกเกาะอยู่บนกิ่งไม้ ตอนนั้นฝนเพิ่งเริ่มตกและเจ้านกฮูกทั้งสองก็เบียดกันเข้าไปอยู่ใต้ใบไม้ ดูเหมือนพวกมันจะใช้ใบไม้เป็นร่มเพื่อให้ร่างกายของมันอบอุ่น”   ทังนี้นาย Yensen บอกว่าเขาใช้เวลายืนถ่ายภาพเจ้านกฮูกเป็นเวลา 20 นาที จนตัวเปียกซกไปหมดเลย แต่เขาก็พยายามหาถุงพลาสติกมาคลุมอุปกรณ์ของเขาไว้เพื่อไม่ให้มันพังซะก่อน ทำให้เราได้เห็นภาพสวยๆ อย่างนี้นี่แหละ     ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้นนะที่กลัวเปียกฝน พวกสัตว์เองก็เช่นกัน ดูแล้วน่ารักม๊าก ที่มา dailymail

สัตว์บางชนิด เมื่อเติบโตได้ไม่นานนักก็จะเริ่มออกเดินทางหรือออกโบยบินไปสู่ความอิสระ แต่กับสัตว์บางชนิดอาจต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตของมันเพื่อที่จะได้เป็นอิสระเลยก็ว่าได้   เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องของเจ้าฟีฟี่ หมีไซบีเรียนสีน้ำตาล ในช่วง 10 ปีแรกของชีวิตมันต้องอาศัยอยู่ในสวนสัตว์ ในรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่สวนสัตว์ก็มีอันต้องปิดตัวลง แต่แทนที่สวนสัตว์จะปล่อยเจ้าฟีฟี่กลับสู่ผืนป่า กลับขับมันไว้ให้อยู่แต่ในกรงเล็กๆ     เจ้าฟีฟี่ต้องมีชีวิตอยู่อย่างเศร้าสร้อยในกรงเป็นเวลาอีก 20 ปี โดยที่ไม่เคยออกไปข้างนอกเลย ทั้งหาอาหาร เล่นน้ำ หรือแสดงพฤติกรรมต่างๆ แบบที่หมีควรจะเป็น     เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เจ้านายของฟีฟี่ก็ได้ตัดสินใจทอดทิ้งเจ้าฟีฟี่ในที่สุด เจ้าหน้าที่กลุ่มองค์กรพิทักษ์สัตว์ (PETA) จึงรีบเข้าไปหาเจ้าฟีฟี่ ซึ่งภาพที่พวกเขาเห็นก็ทำให้หดหู่ใจทีเดียว เพราะเจ้าฟีฟี่มีดวงตาที่เศร้าสร้อยยิ่งกว่าหมีตัวไหนๆ ที่เคยเจอเลย มันมีรูปร่างผอม ขนของมันมีแต่รอยเปื้อนมอมแมม     นอกจากนี้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยยังค้นพบอีกว่าเจ้าฟีฟี่มีอาการบาดเจ็บเวลาที่มันเดินไปมา เป็นผลมาจากโรคไขข้ออักเสบที่ขาหลังนั่นเอง     นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์อีกว่าหากเจ้าฟีฟี่ไม่เคยออกไปไหนมาไหนเลย นั่นก็อาจจะหมายความว่าตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เจ้าฟีฟี่ไม่เคยได้จำศีลเลย ถือเป็นเรื่องร้ายแรงมากเพราะมันคือกิจกรรมทางธรรมชาติที่ช่วยให้พวกมันอบอุ่นและมีสุขภาพที่ดี     เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ที่ให้การช่วยเหลือเจ้าฟีฟี่ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “เจ้านายของมันคิดว่าการจำศีลไม่จำเป็น พวกเขาเลยทำให้มั่นใจว่าเจ้าฟีฟี่จะตื่นตัวตลอดทุกครังที่ถึงฤดูหนาวเป็นเวลากว่า 10 ปี”   ตอนนี้เจ้าฟีฟี่มีอายุกว่า…

หากคุณเคยเห็นภาพถ่ายสวนหวาดเสียวมาแล้วมากมาย เชื่อ#เหมียวฟิ้นเถอะว่าภาพที่คุณกำลังจะได้ดูต่อไปนี้จะชวนหวาดเสียว (แต่สวยงาม) ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ที่เคยเห็นมาเลย     ผลงานภาพถ่ายที่เหมียวจะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นภาพถ่ายของช่างภาพที่มีชื่อว่านาย George Probst เป็นช่างภาพผู้หลงใหลการถ่ายภาพฉลามขาวมาตั้งแต่เด็กๆ ต่อมาในปี 2006 เขาเลยตัดสินใจเดินทางไปยังรัฐเม็กซิโกเพื่อถ่ายภาพพวกมันในทะเล     แต่การได้ถ่ายภาพของฉลามขาว แน่นอนว่าเขาเองต้องเตรียมตัวอย่างหนักเพื่อลงไปดำน้ำเล่นกับฉลามขาว ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ปลอดภัยเอาซะเลย แต่เพื่อความฝันอันสูงสุดของเขา ก็จำเป็นที่จะต้องทำให้สำเร็จ     นาย George เผยว่าการถ่ายภาพฉลามขาวเป็นอะไรที่ยากมาก เพราะเนื่องจากพวกมันอยู่ในน้ำ ที่มีแสงน้อยกว่าบนบก จึงต้องรอเวลาที่พวกมันว่ายขึ้นมาใกล้ๆ บนผิวน้ำ และต้องรอช่วงเวลาที่แสงตกกระทบให้มันพอดิบพอดี     ส่วนกล้องที่ใช้นั้นถ่ายนั้นนาย George บอกว่าเขาใช้กล้อง Canon รุ่น 350D และ 5D Mark III ภาพถ่ายจะสวยงามขนาดไหนลองไปชมกันเลย                      …

บางครั้ง พวกเราใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างเร่งรีบ รีบไปทำงาน รีบไปเรียน รีบไปหาแฟน รีบไปหากิ๊ก จนมองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบกายของพวกเรา ซึ่งสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้น อาจจะทำให้คุณอมยิ้ม หรืออารมณ์ดีขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะ   วันนี้ #เหมียวฟิ้นเลยอยากจะขอให้เพื่อนๆ ได้ลองหยุดพักและเหลียวมองสิ่งรอบๆ ตัวดูสักหน่อย ลองมาทำตัวสโลว์ไลฟ์ แล้วไปชมภาพของเหล่าสัตว์โลก ที่คุณอาจไม่เคยสังเกตเห็นกัน พร้อมแล้วไปชมกันเลยจ้า   1. “เฮ้ยตื่นเร็วๆ เผลอหลับอีกแล้วเนี๊ยะ”   2. “เก่งจริงก็งับฉันเลยซิ!!”   3. “เคยเห็นกันเปล่า แมวมีหนวด”   4. “เราเจอกันอีกแล้วนะเจ้ามนุษย์ หึหึ”   5. “ลิ้นใครยาว สาวได้สาวเอา”   6. “มีใครเขาใหญ่กว่านี้อีกไหม”   7. “แข็งแกร่งเหลือเกิน”   8. “ยอมแล้วจ้า อย่าทำอะไรป๋มเลย”   9. “ภาพก่อนและหลังย้อมสีขน”  …

คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากเราจะพบแมว แอบเดินดุ่มๆ เข้ามาในร้านอาหาร หรือแอบตามมุมต่างๆ เพราะว่ามันตัวเล็ก เลยมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ (บ้าง) แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าวันหนึ่งจะมีคนพบสิงโตทะเลเดินเข้ามานอนในร้านอาหารบ้าง!!     เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ AP ได้เผยแพร่ภาพน่ารักๆ ของเจ้าลูกสิงโตทะเลหน้าทะเล้นตัวหนึ่ง ที่แอบเนียนเข้ามานั่งนอนในร้านอาหาร Marine Room ในแถบชายหาดของเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา     ตามรายงานบอกว่าในระหว่างที่พนักงานในร้านกำลังจัดโต๊ะเพื่อเตรียมเปิดร้าน พวกเขาก็ได้พบกับแขกไม่ได้รับเชิญอย่างเจ้าสิงโตทะเล กำลังนอนแผ่หราอยู่บนโซฟาของร้าน     โดยพวกเขาบอกว่ามันมีใบหน้าที่ดูซูบเซียว และค่อนข้างผอมพอสมควร คาดกันว่ามันอาจจะเดินเข้ามาหาที่นอนและอาหารในร้านเพราะเห็นว่าประตูหน้าร้านเปิดอยู่นั่นเอง     เมื่อเห็นดังนั้นทางร้านจึงได้ติดต่อเข้าหน้าที่จากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SeaWorld San Diego ใ้ห้เข้ามารับตัวมันไปเพื่อตรวจสอบร่างกายโดยผู้เชี่ยวชาญอีกที ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามันมีน้ำหนักตัวที่น้อยมากและมีภาวะขาดน้ำ แต่น่าจะดีขึ้นในเร็วๆ นี้เพราะอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่แล้ว     ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย   โถ ในทะเลของจะไม่ค่อยมีของกินซินะ มามะ มาอยู่กับเหมียวดีกว่า มีปลาทูให้กินทู๊กกวันเลย ที่มา ap , seaworldcares

ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเจอกับพายุและความหนาวเย็นแบบนี้ ทำให้มนุษย์อย่างเราๆ หาเสื้อกันหนาวมาใส่ ห่มผ้าหนาๆ บนเตียงอุ่นๆ แต่กับพวกหมาตามวัดและท้องถนนล่ะ จะทำยังไงให้หายหนาว?     นี่เป็นภาพน่ารักๆ ที่ถูกแชร์ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Naree Saewong เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา เป็นภาพของเจ้ามะหมาในวัดบางนาขณะสวมใส่จีวร พร้อมกับข้อความว่า “หมาวัดบางนาในนอนสั่นหนาวไม่มีเสื้อใส่หลวงพ่อให้ผ้าที่ไม่ใช้แล้ว พี่จึงนำมาช่วยห่มให้น้องหมาวัดช่วยคลายหนาวได้บ้าง”           หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันชื่นชมในความคิดของหลวงพ่อแห่งวัดบางนากันอย่างมากมาย พร้อมกันนี้ยังมีคนเป็นกังวลเกี่ยวกับการถ่ายหนักถ่ายเบาของเหล่าสุนัข แต่คุณ Naree ก็ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่ามีการถอดและพันผ้าให้ใหม่ทุกๆ ครั้งเลย         ชมภาพเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย หมาวัดบางนาในนอนสั่นหนาวไม่มีเสื้อใส่หลวงพ่อให้ผ้าที่ไม่ใช้แล้ว พี่จึงนำมาช่วยห่มให้น้องหมาวัดช่วยคลายหนาวได้บ้าง Posted by Naree Saewong on 25 มกราคม 2016   บ้านใครเลี้ยงน้องหมาน้องแมวก็อย่าลืมหาผ้าหรือเสื้อมาใส่ให้มันหน่อยนะ เพราะมันก็หนาวเป็นเหมือนกัน ที่มา Naree Saewong