Tag: dog

คุณเชื่อไหมว่าบางครั้งแล้ว มิตรภาพระหว่างสัตว์ ในชีวิตจริง บางทีก็ดูน่ารักเหลือเชื่อยิ่งกว่ามิตรภาพในการ์ตูนหรือนวนิยายอีกนะ….     นี่เป็นเรื่องราวของเจ้า Tinni สุนัขล่าเนื้อและเจ้า Sniffer สุนัขจิ้งจอกป่า ที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งหนึ่งของประเทศนอร์เวย์ ถึงพวกมันจะแตกต่างกันไม่ว่าจะสายพันธ์ วิถีชีวิตหรือรูปร่าง แต่พวกมันก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้ พวกมันออกไปวิ่งเล่นด้วยกันในป่า หยอกล้อและหาอาหารด้วยกัน     แม้ว่าคนไทยอย่างเราๆ จะไม่ค่อยคุ้นเคยกับสุนัขจิ้งจอกเท่าไหร่ แต่ในต่างประเทศนั้นพวกมันถือเป็นสัตว์ที่นิยมนำมาฆ่าเพื่อเอาขนไปทำเป็นเครื่องนุ่งห่มอย่างมาก การที่เราได้เห็นจิ้งจอกอย่างเจ้า Sniffer ออกมาวิ่งเล่นแบบนี้ทำให้คนดูรู้สึกอบอุ่นหัวใจไปด้วย มิตรภาพระหว่าง Tinni และ Sniffer เริ่มเป็นที่สังเกตของชาวบ้าน จนนาย Torgeir Berge ต้องหยิบกล้องออกไปตามถ่ายชีวิตประจำวันมันเลย     จากนั้นนาย Berge ก็นำรูปของพวกมันมาลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง พร้อมกับข้อความว่า “สุนัขจิ้งจอกมีพฤติกรรมและอุปนิสัยที่เหมืนกับสุนัขทั่วๆ ไปแหละครับ” “มันทำให้ผมน้ำตาไหลเพราะความเจ็บปวดอันบริสุทธิ์ เมื่อผมคิดว่ายังมีสุนัขจิ้งจอกอย่าง Sniffers อีกเป็นล้านตัว ถูกจับล็อคในกรงตลอดชีวิตพวกมัน”     ถือเป็นโชคดีมากๆ ของเจ้า Sniffer และ Tinni ที่มีบ้านเป็นป่าใหญ่ สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ตามใจพวกมันตลอดเวลาและทุกฤดูกาล ถึงจะมีคนตามถ่ายรูป แต่พวกมันก็ไม่ค่อยจะสนใจเท่าไหร่ และยังวิ่งเล่นกันต่อไป  …

ในประเทศอินเดียมีองค์กรการกุศลอยู่แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Animal Aid Unlimited, India (AAUI) พวเขาคือหน่วยงานที่จะคอยออกไปช่วยเหลือสัตว์ที่ได้รับความเดือดร้อน ทุกทรมาน หรือได้รับบาดเจ็บจากอาการต่างๆ เมื่อช่วยเหลือมาได้แล้วพวกเขาก็จะถ่ายคลิปวิดีโอตั้งแต่วันแรกที่มันได้รับการรักษา จนมันหายดี เพื่อนำมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ชม พร้อมเปิดให้บริจาคเงินเล็กๆ น้อยๆ เพื่อนำไปต่อยอดช่วยเหลือสัตว์ตัวต่อๆ ไป     ล่าสุดทางทีมงาน AAUI ของอินเดียก็ได้รับแจ้งจากชาวบ้านจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอินเดีย ว่ามีลูกสุนัขตัวหนึ่งนอนอยู่ใต้ท้องรถ ในสภาพย่ำแย่มากๆ ทั้งอุณหภูมิร่างกายต่ำ จนแมลงวันมาตอมกันเป็นฝูงเพราะคิดว่ามันตายไปแล้ว เมื่อพวกเขาเห็นมันแล้วก็รีบเข้าไปดูอาการ ถึงได้รู้ว่าหัวใจของมันยังเต้นอยู่ แม้มันจะหายใจแบบรวยรินก็ตาม จากนั้นพวกเขาก็อุ้มมันและพากลับไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์     ในตอนแรกทีมงานเจาะเข็มเพื่อให้น้ำเกลือกับมัน โดยมีคนคอยเฝ้าลูบหัวและห่มผ้าห่มสร้างความอบอุ่นให้กับมันอยู่ตลอด   หลังจากที่นอนให้น้ำเกลือมาประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าสุนัขก็เริ่มลืมตามองไปรอบๆ ได้แล้ว แต่ก็ยังไม่แข็งแรงพอ ทีมงานพยายามให้มันลุกยืนด้วยตัวเอง แม้จะยังอ่อนแรงอยู่ มันก็มีใจสู้ลุกขึ้นยืนเช่นกัน   จากการตรวจร่างกายอย่างละเอียดพบว่ามันติดเชื้อในช่องทางเดินหายใจอย่างรุนแรง แต่พวกเขาก็คอยดูแลและให้ยามันอยู่ไม่ห่าง   หลังจากรักษาตัวมาได้ 2 เดือน มันก็มีอาการแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อ้วนท้วนสมบูรณ์และวิ่งเล่นได้ไม่ต่างจากสุนัขทั่วๆ ไปเลย แถมทีมงานยังตั้งชื่อให้มันว่าเจ้า Oliver  …

คนเลี้ยงสูนัขทุกคนจะรู้หน้าที่ของตัวเอง เมื่อสุนัขของพวกเขาเริ่มมีขนที่ยาวรุงรัง แต่จะเป็นยังไงกันหากว่าเราปล่อยให้ขนของมันยาวไปเรื่อยๆ โดยไม่พามันไปตัดขนเลย!?   ภาพที่ทุกคนได้เห็นต่อไปนี้เป็นภาพของเจ้า Lazarus สุนัขที่อาศัยอยู่แต่ในโรงนาจนขนของมันยาวเฟื้อยและสกปรกมาก ที่มันเป็นแบบนั้นก็เพราะว่าเจ้านายของมันป่วยหนักมาก ก็เลยให้มันอยู่แต่ในโรงนา และไม่สามารถพามันไปตัดขนได้นั่นเอง   ด้วยความสงสาร เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ จึงโทรไปขอความช่วยเหลือจากช่างตัดขนสุนัขในเมือง เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือมันสักหน่อย ก่อนที่ขนของมันจะยาวจนมันลุกไปไหนมาไหนไม่ได้ และเมื่อช่วง1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้มีช่างตัดขนเข้าไปให้ความช่วยเหลือเจ้า Lazarus แล้ว ในตอนแรกพวกเขาต้องให้อาหารมันผ่านคอกที่เลี้ยงเอาไว้เพื่อให้มันคุ้นเคยกับพวกเขาก่อน จากนั้นจึงเข้าไปตัดขนมันได้   จากคำบอกเล่าของช่างตัดขน บอกว่าในระหว่างที่พวกเขากำลังตัดขน เจ้า Lazarus แสดงท่าทีไม่มั่นใจ แต่เมื่อขนรุงรังของมันเริ่มหายไป มันก็เริ่มจะใจเย็นมากขึ้น “มันเริ่มสงบลงและคิดได้ว่าการตัดขนทำให้มันรู้สึกดีขึ้น” Jessica  Kincheloe หนึ่งในช่างตัดขนที่เข้าไปช่วยเหลือมันกล่าว   และนี่คือสภาพเมื่อมันถูกตัดขนแล้ว…   มีคนบอกว่า การตัดผมทำให้คนหน้าเรียวขึ้น… สุนัขก็เช่นกันนะ   หลังจากที่ตัดขนของมันแล้วนำไปชั่งน้ำหนัก ทุกคนก็ต้องตกใจทีเดียว เพราะขนของมันที่ถูกตัดออกมา หนักมากถึง 15.8 กิโลเลยทีเดียว!! เพียงระยะเวลาสั้นๆ เจ้า Lazarus ก็ดูจะเป็นมิตรกับทุกคนและแสดงสีหน้าปลื้มปิติตลอดเวลา แต่นั่นก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเล็กน้อย เพราะมันไม่ควรจะถูกปล่อยให้ทุกข์ทรมานมาตั้งแต่แรกแล้ว   ใครเลี้ยงสุนัขเอาไว้ที่บ้านก็ดูแลพวกเขาหน่อยนะ…

จะซื้อลูกหมามาเลี้ยงแต่ละครั้งเราจะต้องศึกษาหาข้อมูลและเช็คให้ดีๆ นะ ว่ามันมีสุขภาพแข็งแรงไหม ตรงกับสายพันธุ์ที่เราต้องการไหม พันธุ์แท้หรือพันธุ์ทาง ไม่งั้นคุณอาจพลาดเหมือนกับเธอคนนี้ได้…     เว็บไซต์ Thedodo ได้เปิดเผยเรื่องราวของหญิงสาวนิรนามคนหนึ่ง ในรัฐโอกลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา เรื่องราวเริ่มต้นจากเธอได้ไปเห็นโฆษณาขายลูกหมาตัวหนึ่งในหนังสือพิมพ์ ในโฆษณาระบุว่าลูกหมาตัวนี้เป็นลูกหมาป่าพันธุ์ผสม อายุ 2 เดือน เข้าสังคมเก่งมากและเป็นตัวของตัวเองสูง ขนปุย ราคาประมาณ 10,000 บาท     แม้จะระบุอย่างชัดเจนว่ามันมีความเป็นหมาป่าผสมอยู่ แต่เธอก็คิดว่ามันคงไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร เธอจึงตัดสินใจซื้อมันมาเลี้ยงที่บ้านและตั้งชื่อให้ว่า Trigger แต่เมื่อเลี้ยงมันได้เพียง 2-3 เดือน ตัวของมันก็เริ่มใหญ่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่จะเป็นลูกหมาตัวอื่นๆ ประหนึ่งว่ามันคือหมาป่าพันธุ์แท้ที่ออกมาจากป่าเลยก็ว่าได้     จากนั้นเธอจึงหาข้อมูลเกี่ยวกับหมาป่าและคิดหนักว่าจะทำยังไงกับเจ้า Trigger ดี เธอจึงสร้างลวดล้อมเป็นกรงไว้ในห้องนอน เพื่อไม่ให้มันออกมาสร้างความอันตรายให้กับคนอื่น   แต่มันเป็นหมาป่าที่มีความแข็งแรงพอตัว แค่ลวดจึงไม่สามารถขังมันได้ เธอจึงต้องติดต่อไปยัง เขตอนุรักษ์สัตว์ป่า W.O.L.F. Sanctuary ซึ่งโชคดีมากๆ ที่พวกเขายินดีจะรับเจ้า Trigger ไปเลี้ยงดูต่อ   ที่นั่น เจ้า Trigger ได้เจอกับเพื่อนใหม่เป็นเจ้า Spartacus หมาป่าโตเต็มวัยที่คอยเป็นทั้งพี่เลี้ยงและเพื่อนให้กับมัน จนตอนนี้สนิทกันมาก แทบจะแยกกันไม่ได้เลยทีเดียว   สนิทกันมาก…

ร้านรับอาบน้ำหมา คือสถานที่ที่คุณจะพาพวกสัตว์เลี้ยงตัวน้อยไปขัดสีฉวีวรรณให้สะอาดเอี่ยมอ่อง ซึ่งหลายๆ ที่ทำหน้าที่ของพวกเขาได้ดีมาก จับอาบน้ำ ตัดขน เสร็จแล้วก็ส่งคืนให้กับเจ้าของ แต่ไม่ใช่กับคุณตาคนนี้ เพราะเขาเอ็นจอยและมีความสุขกับงานมากกว่าร้านอาบน้ำหมาร้านไหนๆ เลยล่ะ   นี่คือเรื่องราวของคุณตา Luis Antonio Caballero ชาวอาร์เจนตินาวัย 58 ปี ที่เปิดร้านตัดขนและอาบน้ำหมา PetShop Perrito Feliz ในกรุงบัวโนสไอเรสร่วมกับภรรยา Gabriela ร้านของเขาไม่ได้แตกต่างอะไรกับร้านรับอาบน้ำตัดขนหมาอื่นๆ เท่าไหร่     แต่ที่แปลกแตกต่างออกไปคือเขามีความสุขมากกับการอาบน้ำให้สัตว์สี่ขาและทำให้พวกมันมีความสุขไปด้วย แทนที่จะดีดดิ้นออกจากอ่างอาบน้ำ หลักฐานสำคัญที่พิสูจน์ว่าเขาเป็นคนแบบนั้นจริงๆ ก็คือคลิปในระหว่างที่เขาอาบน้ำให้กับลูกค้านี่แหละ เพราะเขาจะอาบน้ำให้พวกมันไปด้วยแล้วก็เต้นไปด้วย     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อคุณลุง Luis ขอให้ภรรยาช่วยชงชาให้กับเขาหน่อย เมื่อภรรยาชงเสร็จแล้วก็เดินกลับมาหาเขาเลยเห็นว่าเขากำลังเต้นอยู่กับลูกค้า เธอจึงอดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปให้ชาวเน็ตได้ยิ้มกันแบบนี้ล่ะ นอกจากเขาจะมีความสุขกับการทำงานแล้ว ในเวลาว่างๆ ลุง Luis ยังชอบรับสุนัขจรจัดตามข้างถนนมาเลี้ยงที่บ้านของเขาด้วย ช่างจิตใจดีอะไรขนาดนี้ ใครสนใจร้านของคุณลุงก็ลองเข้าไปดูได้ที่ PetShop Perrito Feliz เลยนะ มีแต่คำวิจารณ์ดีๆ เยอะแยะเลย   จะน่ารักยิ่งกว่านี้อีกถ้าเป็นภาพเคลื่อนไหว เห็นแล้วคิดถึงน้องหมาที่บ้านเลย ขอกลับไปเต้นกับน้องหมาบ้างดีกว่า ที่มา boredpanda, thedodo, petshop

นี่เป็นเรื่องราวสุดเหลือเชื่อของเจ้า Rylee สุนัขสายพันธุ์เบลเยี่ยมมาลีนอยส์ วัย 10 เดือนตัวหนึ่ง ที่ดันพลัดตกลงไปในทะเลระหว่างไปเที่ยวพักผ่อน โดยที่เจ้าของมันก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน.… แต่มันพยายามว่ายน้ำกลับมาหาเจ้านายเป็นระยะทางเกือบ 10 กิโลเมตรเลยทีเดียว!!     เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์เดลีเมล์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา บอกว่านาย Edward วัย 56 ปีและนาง Kristin Casas วัย 49 ปีได้ล่องเรือออกไปเที่ยวในทะเลสาบมิชิแกน รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ในระหว่างที่กำลังขับเรือออกไปเครื่องยนต์ของพวกเขากลับเกิดปัญหา ทำให้ต้องหยุดเรือเพื่อซ่อมกลางคัน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้า Rylee แอบกระโดดหายออกไปจากเรือพอดี     นึกว่าหมาจะจมน้ำตาย แต่ดันไปโผล่อีกทีแบบไม่น่าเชื่อ แม้พวกเขาจะพยายามมองหาสัญญาณหรือความเคลื่อนไหวบนผิวน้ำแล้ว แต่ก็ไม่พบอะไรที่บอกว่าสุนัขของพวกเขาอยู่แถวนั้นเลย พวกเขาจึงส่งสัญญาณวิทยุขอความช่วยเหลือจากคนในท้องถิ่นและหน่วยค้นหาต่างๆ แต่หลังจากนั้นได้ไม่นานก็มีคนแจ้งว่าพบเจ้า Rylee มาป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ ที่ตั้งแคมป์ตรงทะเลสาบ Platte นั่นหมายความว่าหลังจากที่มันพลัดตกจากเรือ มันก็ว่ายน้ำต่อมาเรื่อยๆ เป็นระยะทาง 9.6 กิโลเมตร และเดินผ่านป่ามาจนถึงบริเวณตั้งแคมป์อีกราวๆ 19.3 กิโลเมตร   .   เมื่อได้รับแจ้งแบบนั้น ทั้งนาย Edward และนาง Kristin…

บางครั้งมิตรภาพที่สวยงามก็เกิดขึ้นได้ แม้จะเปิดคนกับสัตว์ที่อยู่ในงานวิ่งมาราธอนก็ตาม… นี่คือเรื่องราวของนาย Dion Leonard หนุ่มนักวิ่งปอดเหล็กชาวสกอตแลนด์ที่เดินทางไปวิ่งมาราธอนในงาน Gobi March 2016 ที่ประเทศจีนเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา     ในการแข่งขันวิ่งมาราธอนครั้งนี้มีระยะทาง 249.44 กิโลเมตร (ไม่ได้วิ่งภายในวันเดียวแน่นอน) เส้นทางที่เขาวิ่งไปต้องผ่านทะเลทราย 4 แห่ง ทุกคนคงจะพอจินตนาการถึงความเลยร้ายของสภาพอากาศแล้วใช่ไหม? แต่ในการแข่งขันวันที่ 2 เรื่องราวน่ารักๆ ก็เกิดขึ้น เมื่อนาย Dion กำลังยืนเตรียมตัวที่จุดสตาร์ท ในตอนนั้นเองมีสุนัขจรจัดตัวหนึ่งเดินมายืนข้างๆ เขาและมันมองหน้ากันอยู่แป็บนึงและคิดว่า “เจ้าสุนัขตัวน้อยตัวนี้ไม่น่าจะวิ่งไปเราจนถึงเส้นชัย”     แต่ต้องบอกเลยว่าเขาคิดผิดถนัด เมื่อเจ้าสุนัขตัวนี้วิ่งไปกับเขาจนจบการแข่งขันในวันนั้น โดยรวมระยะทางแล้วอยู่ที่ 37 กิโลเมตร นั่นทำให้นาย Dion รู้สึกตกหลุ่มรักเจ้าสุนัขจรจัดตัวนี้เข้าอย่างจัง   นี่คือภาพแบบชัดๆ ของเจ้าสุนัขตัวนี้ล่ะ   ทางทีมงานจึงอุ้มเจ้าสุนัขจรจัดมาไว้ในความดูแลและอนุญาตให้นาย Dion เข้ามาเล่นกับมันได้หลังจากการแข่งขันในวันสุดท้ายสิ้นสุดลง เขาจึงตัดสินใจที่จะรับมันไปเลี้ยงที่สกอตแลนด์ด้วย และตั้งชื่อให้มันว่า Gobi ตามชื่องานแข่งวิ่งมาราธอนที่เขาเพิ่งไปร่วมมา     แต่ใช่ว่าเขาจะสามารถพามันกลับบ้านไปได้ง่ายๆ นะ เพราะเขาจะต้องบินกลับไปที่สกอตแลนด์เพื่อทำหนังสือขออนุญาตจากประเทศบ้านเกิดเขาเสียก่อน ซึ่งในระหว่างที่เขาบินกลับไปทำเอกสารนั้น มีข่าวว่าเจ้า Gobi ได้หายตัวไปเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา…

นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวให้กำลังใจดีๆ ของเจ้าสุนัขที่มีชื่อว่า Hoshi วัย 11 ปี ชีวิตของมันน่าสนใจเพราะว่ามันตาบอดทั้งสองข้าง และที่กลายเป็นแบบนี้ก็เพราะว่ามันเป็นต้อหิน ทำให้มันมองอะไรไม่เห็นเลย เจ้า Hoshi ต้องเจ็บปวดอย่างมากจนครอบครัวของมันคิดว่ามันไม่น่าจะรอดไปได้แน่ๆ แต่แล้วเรื่องราวแย่ๆ ก็กลับกลายเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ขึ้นมาเมื่อมันได้เจอเพื่อนซี้ตัวน้อยที่ชื่อว่าเจ้า Zen      ทางครอบครัวของเจ้า Hoshi ได้รับอุปการะเจ้า Zen สุนัขวัย 6 เดือน มาจากสถานสงเคราห์สัตว์ ก่อนที่เจ้า Hoshi จะตาบอด ทำให้มันยังพอรับรู้ได้บ้างว่าเพื่อนของมันมีหน้าตาเป็นยังไง ซึ่งเจ้า Zen เองก็ไม่ได้มีสุขภาพดีอะไรมากนัก เพราะมันเองก็มีอาการหัวใจโต ปอดบวม หลอดลมตีบ และฟันหลอ อาการดูแย่กว่า Hoshi อีก     ด้าน Pauline Perez ผู้เป็นเจ้าของหมาทั้งสองตัวได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ช่วงเวลาที่ฉันเห็นมัน ฉันตกหลุมรักมันเลย เจ้าตัวน้อยทำให้เรารู้ว่าเรามีหน้าที่อันยิ่งใหญ่ในการเป็นเพื่อนเล่นกับเจ้า Hoshi”     Perez ไม่มั่นใจว่าเจ้า Hoshi จะรู้สึกยังไงกับ…

บ้านใครที่เลี้ยงหมาเอาไว้ น่าจะเคยฝึกให้มันเชคแฮนด์กับคุณใช่ไหมล่ะ บางคนฝึกดีจนมันฟังคำสั่ง บางคนฝึกบ้างไม่ฝึกบ้าง จนพวกมันไม่ทำตามคำสั่งของเรา แต่อย่าเพิ่งคิดว่าคุณฝึกมันไม่ดีนะ เพราะบางครั้งการรับรู้ของพวกมันก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน     เมื่อไม่นานมานี้ช่องยูทูบ Kohachannel ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของเข้าโคฮารุ สุนัขสายพันธุ์ชิบะอินุสุดน่ารักที่โด่งดังในโลกออนไลน์ของญี่ปุ่น โดยเจ้านายของมันได้ถ่ายคลิปวิดีโอการฝึกออกคำสั่ง “เชคแฮนด์” แล้ววัดระดับว่ามันจะสามารถยกมือได้สูงขนาดไหน?     โดยเจ้านายของโคฮารุได้ขีดเส้นความสูงลงในกระดานตั้งแต่ 5 – 35 เซนติเมตร ซึ่งเจ้าโคฮารุก็สามารถยกเท้ามาให้เจ้านายจับได้ในทุกระดับความสูง แต่เมื่อเจ้านายของมันเริ่มยื่นมือขึ้นสูงเรื่อยๆ เลยระดับ 35 เซ็นติเมตรขึ้นไป เจ้าโคฮารุก็เริ่มงุนงงกันคำสั่งของเจ้านาย และเพิกเฉยต่อคำสั่ง จนมันฟุบลงไปนอนกับพื้น     ชมการทดลองได้ที่นี่เลยนะโฮ่งๆ   สรุปได้คร่าวๆ ก็คือเมื่อสุนัขเห็นว่าการขอมือหรือเชคแฮนด์อยู่สูงเกินไป พวกมันจะไม่เข้าใจและจะไม่ยื่นมือมาให้เรานั่นเอง ส่วนหนึ่งเพราะมันเลยองศาที่มันจะสามารถยื่นมือถึงได้แล้วด้วย   หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ในยูทูบได้ไม่นาน ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตพอสมควร และมีความเห็นต่างๆ ตามมา เช่น “แค่มองหน้าของมันคุณก็จะเห็นแล้วว่ามันรู้สึกไร้เหตุผลขนาดไหน กับความสูงขนาดนั้น” “ช่างเป็นการทดลองที่ประหลาดอะไรขนาดนี้ มันเป็นสุนัขน่ารักที่อดทนต่อเกมที่กำลังเจอมาก” “มันน่าสนใจมากที่มันไม่เชคแฮนด์สูงเกินกว่าระดับสายตา” “ฉันชอบที่มันประกาศว่าจบเกมแล้วด้วยการลงไปนอนอยู่กับพื้น”   หากใครชื่นชอบเจ้าโคฮารุและอยากจะดูการทดลองแปลกๆ แบบนี้อีกล่ะก็ ในช่อง Kohachannel ยังมีคลิปแบบนี้อีกเพียบ ทั้งทดลองกินผลไม้ พาไปที่แปลกๆ เอาสิ่งของมาวางไว้บนตัวของมัน และอีกมากมาย จนคุณอาจจะเผลอกดรับสมัครข้อมูลได้เลยนะ…

สุนัขบางตัวเกิดมาพร้อมกับความโชคดี แค่มีหน้าตาน่ารักหรือมีสายพันธุ์ที่ผู้คนต้องการ แค่นี้มันก็เปรียบเหมือนสวรรค์น้อยๆ ของพวกมันแล้ว แต่กับสุนัขบางตัวที่เกิดมาไม่สมบูรณ์กลับกลายเป็นหนังคนละม้วนเลย เช่นเดียวกับเรื่องราวของเจ้า Shep สุนัขสายพันธุ์บีเกิลวัย 5 ขวบ ที่ถูกทิ้งอย่างโดดเดี่ยวอยู่ข้างถนนในรัฐอลาบามา สหรัฐอเมริกา มันได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาด้านขวาและคอของมัน ส่วนตาด้านซ้ายนั้นบอดสนิท     ในระหว่างที่เจ้า Shep เดินอยู่ข้างถนนก็มีหน่วยงานช่วยเหลือสัตว์ที่ชื่อว่า Two By Two Rescue พวกเขาได้รับมันมาและช่วยรักษาอาการบาดเจ็บต่างๆ จากนั้นจึงโพสต์ภาพของมันลงในเฟซบุ๊ก เพื่อตามหาใครก็ตามที่อยากจะรับมันไปเลี้ยงต่อ     จุดนั้นเองทำให้เจ้า Shep ได้เจอกับเจ้านายใหม่ที่ชื่อว่า Micah Larsen Brannon เธอบอกกับสื่อว่า “ฉันเห็นภาพของ Shep ในคืนหนึ่งและรู้ในทันทีว่าเราเกิดมาคู่กัน”     ต่อมา Micah ได้พาเจ้า Shep ไปหาผู้เชี่ยวชาญทางดวงตาเพื่อรักษาดวงตาข้างเดียวที่เหลืออยู่ของมัน แต่สัตวแพทย์ได้บอกว่าดวงตาของมันเสียหายเกินกว่าที่จะรักษาแล้ว และจำเป็นที่จะต้องผ่าตัดเอามันออก ทำให้มันกลายเป็นสุนัขตาบอดแบบถาวร   Micah กล่าวถึงสุนัขของเธอว่า “หลังจากที่ผ่าตัดเอาดวงตาของมันออก มันก็ถูกพามาอยู่ที่บ้านแสนอบอุ่น เขากลายเป็นสุนัขที่น่าอัศจรรย์มาก มันทำทุกอย่างได้เต็มที่เหมือนสุนัขปกติ ฉันไม่คิดว่ามันจะรู้สึกว่าตัวเองตาบอดด้วยซ้ำ”…

นี่เป็นเรื่องราวดีๆ ที่อาจทำให้หัวใจของคุณพองโตได้เลย เพราะเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ BoredPanda ได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องราวของเจ้าสุนัขตัวหนึ่ง ที่เกิดมาพร้อมกับความพิการขาหน้า และนั่นทำให้ไม่สามารถยืนหรือทรงตัวได้เหมือนสุนัขตัวอื่นๆ   นอกจากจะโชคร้ายเกิดมาพร้อมความพิการแล้ว มันยังถูกทอดทิ้งจากเจ้านายคนก่อนด้วย เพราะเห็นว่าร่างกายไม่สมบูรณ์เหมือนสุนัขตัวอื่นๆ ปล่อยให้มันเดินลากไปกับพื้นจนเกิดเป็นแผล   โชคดีเหลือเกินที่วันหนึ่งมีคนรับมันไปเลี้ยง และชุบให้มันกลับมาเป็นสุนัขที่น่ารักสดใสอีกครั้งและตั้งชื่อให้มันว่า Almendra เมื่อเริ่มคุ้นเคยกันแล้ว เธอก็เริ่มฝึกให้สุนัขของเธอเดินด้วยสองขาหลังให้ได้   สเต็ปต่อมาเธอก็เริ่มประดิษฐ์วีลแชร์เพื่อให้มันสามารถเดินไปโดยที่เธอไม่ต้องอุ้มมัน เธอมองว่า “ความพิการในชีวิตมีเพียงแค่อย่างเดียว นั่นคือทัศนคติแย่ๆ” เมื่อเริ่มใช้ขาหน้าคู่ใหม่แล้ว เจ้า Almendra ก็เดินเหิรได้คล่องกว่าที่เคย กระโดดไปมาได้อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน . . . . . . . .   ใครที่ได้รู้เรื่องราวของเจ้า แล้วรู้สึกรักและเอ็นดู อยากจะติดตามเรื่องราวของมันต่อ สามารถไปกดติดตามได้ที่อินสตาแกรม @queenalmendra และเฟซบุ๊ก AlmendraConDosPatitasTengo ได้เลยนะ ที่มา boredpanda , queenalmendra

สุนัขถือเป็นสัตว์ที่มีความจงรักภักดีต่อมนุษย์มากที่สุดนะ แต่นอกจากมนุษย์แล้วพวกมันก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อสุนัขด้วยกันเองด้วย อย่างเช่นคลิปที่#เหมียวฟิ้นจะให้ดูต่อไปนี้ (ดูเสร็จแล้วอ่านรายละเอียดกันต่อได้เลย…)   เรื่องราวที่ถูกบันทึกเอาไว้   เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของเจ้าหมา 2 ตัวในมณฑลชินชา ประเทศเปรู ที่มีขนาดพอๆ กัน และสีขนแบบเดียวกัน พวกมันมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ และแทบจะไม่เคยแยกจากกันเลย แต่วันหนึ่งมีชาวบ้านมาพบว่าพวกมันตัวหนึ่งลงไปนอนกองกับพื้น (คาดว่าน่าจะได้รับอุบัติเหตุมาก่อนหน้านี้) เจ้าหมาอีกตัวจึงพยายามปลุกเพื่อนของมันด้วยกาใช้เท้าสะกิดและเลียเพื่อนของมัน     หลังจากที่เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อนของมันก็ยังคงแน่นิ่ง มันจึงตัดสินใจส่งเสียงเห่าให้คนที่ขับรถผ่านไปผ่านมาแถวนั้นเข้ามาดูเพื่อนของมัน เมื่อคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกอินเตอร์เน็ตก็ทำให้ผู้คนรู้สึกซาบซึ่งกับความรักและความซื่อสัตย์ที่พวกมันมีให้กัน แต่ก็อดสลดใจไม่ได้กับความน่าสงสารครั้งนี้ มีชาวเน็ตบางคนวิพากษ์วิจารณ์และต่อว่าคนที่ถ่ายคลิปนี้มาเผยแพร่ และบอกว่าเขาน่าจะเข้าไปช่วยเหลือมันสักหน่อย มากกว่าแค่ยืนถ่ายคลิปเฉยๆ นั่นเอง       เนื่องจากรายละเอียดของคลิปมีน้อย และความแตกต่างเรื่องภาษา (ข่าวจาก Mirror ภาษาอังกฤษ – เหตุการณ์เกิดในเปรู ภาษาสเปน) #เหมียวฟิ้น พยายามหาข้อมูลว่าสุดท้ายแล้วหมาตัวนี้มีใครเข้าไปช่วย และอาการของมันคือบาดเจ็บสาหัส รอดตาย หรือเสียชีวิตไปแล้วกันแน่ แต่ก็ไม่พบข้อมูลเพิ่มเติมเลย ถ้ามีอะไรคืบหน้า…

นี่คือการพบปะกันระหว่าง Major สุนัขพี่เบิ้มที่ตัวสูงที่สุด กับ Disney สุนัขที่ไซส์มินิที่สุดจากประเทศอังกฤษ ที่เดิมทางมาพบกันในประเทศเวลส์ งานนี้น่ารักสุดๆ เลยล่ะจะบอกให้   นาย Brian Williams เจ้าของ Major บอกว่า แม้จะตัวสูง แต่มันเป็นหมานิสัยดี แม้กระทั่งแมลงวันก็ยังไม่ทำร้าย ดังนั้นหมาอย่างเจ้าดิสนีย์ก็เลยเป็นเพื่อนกันได้ง่ายๆ แบบนี้แหละ   เจ้า Major เป็นสุนัขสายพันธุ์เกรทเดน บ้านของมันอยู่ที่เมืองสวอนซี ประเทศเวลส์ ซึ่งชาวอังกฤษเชื่อกันว่ามันเป็นสุนัขที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 7 ฟุต กับอีก 1 นิ้วของมัน   สำนักข่าวเดลีเมล์รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญจากกินเนสเวิลด์เรคคอร์ดจะทำการตัดสิน เจ้าของสถิติกินเนส ‘สุนัขที่มีความสูงที่สุดในโลก’ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเจ้า Major เป็น 1 ใน 3 ของสุนัขที่จะถูกตัดสินในครั้งนี้   ส่วนเจ้า Disney สูงแค่ 3 นิ้ว และหนักประมาณ 0.77 กก. เท่านั้น ด้านนาง Natalie Vane เจ้าของของมันเล่าว่า แม้แต่ปลอกคอก็ยังหาขนาดที่พอดีกับมันไม่ได้ และเวลาเล่นกับสุนัขตัวอื่นก็มักจะถูกชนล้มอยู่บ่อยๆ .  …

ทุกคนๆ ต่างก็คงเคยมีเรื่องน่าอับอายในชีวิตกันทั้งนั้น มาดูเรื่องราวสุดเปิ่นของเจ้าหมาตัวนี้กัน #เหมียวขาสั้นไม่รู้ว่าจะสมน้ำหน้าหรือสงสารมันดี แต่ที่รู้ๆ คือขำจนน้ำตาเล็ด เจ้า Tobacco สุนัขจอมซน เพิ่งได้รับบทเรียนว่า มันไม่ความทำตามใจตัวเองไปซะทุกอย่าง ต้องดูหัดสังขารตัวเองด้วยจ้า   ในบ่ายวันพุธ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของ Florida’s Miami-Dade ได้รับแจ้งว่ามีสุนัขหัวเข้าไปติดอยู่ใต้ท้องรถบรรทุก   เจ้าหน้าที่รายงานว่า “ขากรรไกรของเจ้าสุนัขเข้าไปติดอยู่ระหว่างโลหะสองชิ้นใต้รถบรรทุก ทำให้หัวมันติดและไม่สามารถหุบปากได้” โดยเจ้าของเจ้า Tobacco เล่าว่าสาเหตุมาจากการที่ เจ้าหมาของเธอกำลังวิ่งไล่จับหนูอย่างเมามันส์ แต่สุดท้ายลงเอยด้วยการเข้าไปติดแหง็กใต้ท้องรถบรรทุก   เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยช่วยกันนำหัวของเจ้า Tobacco ที่ติดอยู่ใต้รถ ออกมาอย่างแข็งขัน จนสามารถช่วยเหลือมันจนเป็นอิสระได้สำเร็จ   ส่วนที่ฮาที่สุดในเหตุการณ์ครั้งนี้ก็คือ เจ้าหนูผู้เป็นเหยื่ออันโอชะ กลับได้มองดูผู้ไล่ล่าของมันถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลืออย่างหมดสภาพ เหมือนซื้อตั๋วชั้นหนึ่งมาดู   ความน่าอับอายของเจ้า Tobacco คงตาตรึงใจไปอีกนาน แต่ก็ดีแล้วหล่ะ ที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ   สุดท้าย เจ้าหนูก็มองดูเจ้า Tobacco  จนกระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือได้สำเร็จ   เหมียวหละไม่รู้จริงๆว่าจะสมน้ำหน้าหรือสงสารมันดี แต่ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะเจ้าหมาโง่ ที่มา: Thedodo

เพื่อนๆ เคยเห็นพวกสุนัขนอนหลับไหม? มันเป็นช่วงเวลาที่น่ารักน่าเอ็นดูสุดๆ ของพวกมันเลยนะ แต่คุณจะแสดงสีหน้ายังไงเมื่อเห็นเจ้าหมาสุดรักของคุณนอนในท่าประหลาดๆ?   ภาพที่#เหมียวฟิ้นจะให้คุณดูต่อไปนี้ เป็นภาพที่โด่งดังมากๆ ในญี่ปุ่น ของเจ้าหมาตัวหนึ่ง ผ่านผู้ใช้ทวิตเตอร์ @_kin_taro_ เป็นภาพของเจ้าหมาสีขาวกำลังนอนหลับ แต่ที่แปลกก็คือตอนที่มันนอน มันดันเอาขาหลังขึ้นมากอดเอาไว้ เหมือนกับเป็นตุ๊กตายังไงยังงั้นเลย   เจ้าของหมาตัวนี้ได้โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ว่า “มันนอนขดตัวคล้ายกับตัวหมัดน้ำเลย” ในขณะที่ชาวเน็ตบางคนมองว่ามันนอนในท่าที่คล้ายกับนักกระโดดน้ำมากกว่า   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะที่พวกมะหมาคิดค้นท่านอนแปลกๆ เพราะก่อนหน้านี้#เหมียวฟิ้นก็เคยรวบรวมท่านอนสุดแปลกพิสดารของพวกมันมาให้ชมกันแล้ว ลองดูรูปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า   นั่งแบบปกติสบายกว่าไหม? .   ท้อแท้อะไรมาล่ะลูก .   นั่งดีๆ ไม่ชอบ…   นี่ก็ด้วย… . .   ไม่เมื่อยขาเหรอ?   คร่อก . .   เดี๋ยวหายใจไม่ออกนะ   นี่ก็แปลกไป๊!!   แหม่ พวกหมานี่ก็เข้าใจยากจริงๆ นะเนี๊ยะ ที่มา rocketnews24

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าเจ้า Max สุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ ได้ออกไปเดินเล่นกับเจ้านายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเขตคิงส์ตันอะพอนฮัลล์ ประเทศอังกฤษ แต่ว่าไม่รู้ว่าเดินกันอีท่าไหน เจ้า Max ถึงได้เดินซนไปทั่วและเจอเข้ากับกัญชาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่แทนที่มันจะมองๆ ดมๆ เฉยๆ มันกลับกินเข้าไปด้วยซะงั้น (คงคิดว่าเป็นหญ้าธรรมดาล่ะมั้ง)   เมื่อมันกลับมาถึงที่บ้านมันก็เริ่มแสดงอาการมึนเมาและยืนไม่ค่อยอยู่ มันจึงพาตัวเองไปนั่งพักพิงอยู่บนโซฟา และเกิดเป็นคลิปวิดีโออย่างที่เห็นนี้แหละ   ทางด้านเจ้านายของมันอย่าง Kath Hope ได้กล่าวว่า “เขาเป็นแค่ลูกหมาและพยายามจะลองกินทุกๆ อย่าง เราคิดว่าต้องมีการทำความสะอาดสวนสาธารณะมากกว่านี้” “และต้องให้มั่นใจว่าไม่มีผู้เสพกัญชาคนไหนทิ้งเศษขยะหรือวัสดุจากการเสพเอาไว้จนเกิดอันตรายกับคนอื่นๆ ได้ คราวหน้ามันอาจจะเป็นเด็กก็ได้ที่มากินมัน”   ส่วน Shevelda Taser ที่กำลังพาเจ้า Daisy สุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ไปเดินเล่นแถวนั้นเหมือนกัน ก็ดันกินกัญชาเข้าไปด้วยเช่นกัน เธอกล่าวว่า “ดวงตาของมันกลอกไปมา มันน่ากลัวมาก” ทั้ง Hope และ Taser ได้พยายามเตือนผู้คนว่าหากจะมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะก็ควรจะระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ด้านนาย Terry Geraghty สมาชิกสภาท้องถิ่นได้ออกมากล่าวว่าตอนนี้พวกเขารับทราบปัญหาแล้วและกำลังเร่งแก้ไขปัญหานี้โดยด่วน     เจ้า ….จะสตั๊นขนาดไหน ลองดูได้ในคลิปเลย   [สาระมีอยู่จริง] จะเกิดอะไรขึ้นหากสุนัขเกิดอาการเมายา?…

ภาพที่คุณจะได้ดูต่อไปนี้เป็นภาพของเจ้า Roxanne สุนัขสายพันธุ์พิตบูลวัย 1 ขวบ มันถูกพบอยู่ในเมืองโคลัมเบีย รัฐเซาท์แคโรไลนา อยู่ตัวเดียว แต่ที่น่าเศร้าใจยิ่งกว่านั้นคือ มันถูกล่ามด้วยโซ่ ที่มีน้ำหนักมากถึง 2.7 กิโลกรัม   ตามรายงานบอกว่าเจ้า Roxanne นั้นมีน้ำหนักอยู่ที่ 22 กิโลกรัม นั่นหมายความว่าโซ่นั้นมีน้ำหนักราวๆ 10% ของน้ำหนักตัวมันเลย ไม่มีใครรู้ว่าเจ้า Roxanne ถูกล่ามมานานเท่าไหร่ แต่เนื่องจากน้ำหนักที่มากขนาดนี้ ทำให้โซ่รอบๆ คอของมันรัดแน่น ทำให้บริเวณศรีษะของมันบวมเป่ง และเสียดสีกันจนกลายเป็นแผลรอบคอ เห็นแล้วน่าสงสารมาก   หลังจากที่มีคนไปพบมันเข้า ก็รีบโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยสัตว์ Rescue Dogs Rock NYC ให้เข้ามารับตัวมันไปยังคลีนิคสัตว์ทันที ทีมงานได้ใช้เวลาสักพักกว่าที่จะเอาโซ่ขนาดใหญ่ออกจากคอของมันได้ จากนั้นมันก็ถูกนำตัวไปยังห้องผ่าตัดต่อไป   เมื่อตรวจร่างกายของมันก็พบว่าบริเวณผิวหนังรอบๆ คอของมันได้รับการเสียดสีจากโซ่จนเป็นแผลใหญ่ สภาพเข้าขั้นวิกฤติทีเดียว ทีมสัตวแพทย์ต้องช่วยกันดูอาการของมันและไม่มีใครบอกได้ว่ามันจะรอดตายหรือเปล่า? .   เมื่อได้รับการผ่าตัด ให้ยาต่างๆ แล้ว ศรีษะของมันก็ค่อยๆ กลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว แถมยังดูใจเย็นจนทีมงานพากันอึ้งทีเดียว   ทั้งนี้ไม่มีรายงานว่าเจ้า Roxanne เป็นสุนัขของใคร หรือใครเป็นคนจับมันล่ามไว้แบบนี้…

นี่คือเรื่องราวอันเหลือเชื่อ ของเจ้าสุนัขเร่ร่อนตัวหนึ่ง ที่ผอมโซ ตัวสกปรกเกรอะกรังและใกล้ตายเต็มที แต่กลับมีคนใจดียืนมือมาช่วยเหลือมันได้ทันเวลา จนคุณแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้     ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนปี 2015 มีหญิงสาวคนหนึ่งสังเกตเห็นสุนัขเร่ร่อนวัย 5 ปีตัวหนึ่งกำลังเดินอยู่บนทางเท้าในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ใบหน้าของมันนั้นเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกจับตัวกันอยู่จนกลายเป็นสะเก็ดอย่างที่เห็น     มันทั้งป่วย หวาดกลัวและไม่รู้เลยว่าความทุกทรมานของมันจะจบลงในวันไหน และด้วยความที่ทั่วร่างของมันเป็นสะเก็ดแบบนั้น มันเลยถูกตั้งชื่อว่า Petra (ในภาษากรีกแปลว่าหิน) เห็นได้ชัดเลยว่ามันไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์มาก่อน เพราะทันทีที่หน่วยช่วยเหลือสัตว์เข้าใกล้ มันจะทำท่าทางหวาดกลัวทันที ทำให้การเข้าใกล้นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย     หลังจากที่เจ้า Petra ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวไว้ได้ มันก็ถูกนำตัวส่งไปยังสถานสงเคราะห์สุนัข Save a Greek Stray Shelter ในเมืองออโรพอส ประเทศกรีซ ทางด้าน Valia Orfanidou ผู้ช่วยดูแลสุนัขจำนวนมากในสถานสงเคราะห์เล่าวว่าเธอรู้ได้ทันทีว่าจะต้องช่วยมัน “ฉันคิดว่าเจ้า Petra น่าจะอยู่แบบเร่ร่อน เพราะเหมือนว่ามันจะไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์เลย แม้ว่าจะมีสุนัขที่มีอาการป่วยแบบนี้ แต่มันก็จะเป็นมิตรกับผู้คนมากกว่าเจ้า Petra นี่เหมือนว่ามันไม่เคยถูกมนุษย์แตะต้องมาก่อนเลย”     เจ้า Petra มีอาการที่น่าสงสารมาก เพราะเป็นโรคเรื้อนขั้นรุนแรง…

เรื่องที่#เหมียวฟิ้นจะหยิบมาเล่าในวันนี้เป็นเรื่องราวของเจ้าหมาตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Harlow มันเป็นหมาสายพันธุ์ไวมาราเนอร์ ก่อนหน้านี้มันเคยมีเพื่อนสนิทที่ชื่อว่าเจ้า Sage เป็นหมาสายพันธุ์มินิดัชชุน แต่ด้วยอายุกว่า 13 ปี ทำให้เจ้า Sage ต้องจากไป ทิ้งให้เจ้า Harlow เหงาหงอยอยู่ตัวเดียว     แต่ต่อมาเจ้า Harlow ก็ได้เพื่อนใหม่ที่ชื่อว่า Indiana พวกมันเริ่มทำความรู้จักและสนิทสนมกันมากขึ้นจนกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน เท่านั้นยังไม่พอ เหมือนเจ้านายของพวกมันอยากจะให้มีสมาชิกเพิ่มอีกสักคน เลยรับเจ้า Reese หมาสายพันธุ์มินิดัชชุนมาเลี้ยงด้วยอีกตัว     ในตอนแรก เจ้า Harlow และ Reese ดูเหมือนจะไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปทั้ง 3 ตัวก็กลายเป็นเพื่อนรักกัน ไม่ว่าจะไปไหนทำอะไรก็ต้องทำด้วยกันตลอดเวลา จะกิน จะนอน จะอาบน้ำ จะเดินเล่น เรียกได้ว่าไม่มีใครแยกพวกมันออกจากกันได้เลย     และด้วยความน่ารักของพวกเขาทั้ง 3 นั้นเอง ทำให้ตอนนี้เจ้าหมาแก๊งนี้กลายเป็นดาราเซเล็บในโลกออนไลน์ไปแล้ว เจ้าหมาทั้ง 3 มีเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมเป็นของตัวเอง ซึ่งตอนนี้มีแฟนๆ กดติดตามพวกเขามากถึง 1,200,000 คนเลยทีเดียว!?     และตอนนี้ดูเหมือนว่าทั้ง 3 ตัวจะเริ่มขยับขยายความน่ารักของพวกเขาจากในโลกออนไลน์ไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงด้วยการออกหนังสือรวมภาพที่ชื่อว่า Harlow & Indiana…

คนส่วนใหญ่มักจะติดภาพลักษณ์ของหมาป่าว่าเป็นสัตว์ที่ดุร้าย เลือดเย็น แต่จริงๆ พวกคุณรู้หรือไม่ว่าพวกมันก็มีมุมแบ๊วๆ เหมือนกับหมาทั่วๆ ไปเหมือนกันนะ     เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของ Sarah หญิงสาวชาวอเมริกันรายหนึ่งที่อัพโหลดคลิปของเจ้า Lakomi หมาป่าวัย 8 เดือน ลงในยูทูบ เธออธิบายว่ามีหน่วยกู้ภัยพบเจ้าหมาป่าตัวนี้เดินหลงอยู่ในป่า  พวกเขาเชื่อกันว่ามันน่าจะถูกเลี้ยงแบบขังไว้ในกรง     ในตอนแรกที่เจอ มันมีบาดแผลที่ต้องได้รับการผ่าตัดด้วย เมื่อพาเจ้า Lakomi ไปผ่าตัดเสร็จแล้ว ดูเหมือนมันจะยังไม่คุ้นชินกับมนุษย์เท่าไหร่ จึงต้องใช้เวลาอยู่กับมันเพื่อทำความคุ้นเคยกันไปเรื่อยๆ     ต่อมามีผู้ดูแลสัตว์คนใหม่เข้ามาร่วมดูแลเจ้า Lakomi ทำให้มันเริ่มจะคุ้นชินกับมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากที่ใช้เวลาทำงานด้วยกันไม่กี่เดือน เจ้า Lakomi ก็กลายเป็นหมาตัวใหม่ ที่ออดอ้อนมนุษย์และอยากให้เกาพุงตลอดเวลา   ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า พวกนายอาจจะติดภาพว่าเราเป็นสัตว์ดุร้าย แต่จริงๆ เราก็มีด้านน่ารักๆ เหมือนกันนะ ที่มา viralnova

นับตั้งแต่อดีตกาลมาเป็นพันปี มนุษย์เราเลี้ยงสุนัขไว้เป็นเพื่อน แต่ก็ไม่สามารถสื่อสารกับมันได้เหมือนกับที่เราสื่อสารกับมนุษย์ด้วยกันเอง มีเพียงการคาดเดาและคาดคะเนว่าพวกมันต้องการอะไร จากน้ำเสียงและท่าทางของมันเท่านั้น     คงจะดีไม่น้อยหากเหล่ามะหมาสามารถพูดกับเราได้ อย่างเช่น “หากระดูกแทะเล่นได้ที่ไหนบ้าง?” “หิวข้าวแล้ว” “อยากเล่นด้วย” วันนี้เรามีอุปกรณ์ที่สามารถแก้ไขปัญหานั้นได้แล้ว เจ้าอุปกรณ์ตัวนี้มีชื่อว่า INUPATHY     เจ้าอุปกรณ์นี้เป็นปลอกคอไฟฟ้าที่สามารถวัดชีพจร อัตราการเต้นของหัวใจของพวกมันได้ เพื่อนำมาประมวลผลและวัดว่าพวกมันอยู่ในอารมณ์ไหนและแสดงมันออกมาเป็นแสงสีต่างๆ ที่ปลอกคอ สีแดงหมายถึงความตื่นเต้น, สีฟ้าหมายถึงความผ่อนคลาย, สีขาวหมายถึงการจดจ่อ และสีรุ้งหมายถึงความสุข             ชมคลิปการทำงานของมันได้ที่ด้านล่างเลย   หากใครอยากจะลองซื้อมาสวมให้กับเจ้าหมาของคุณล่ะก็ อาจจะต้องรอนิดนึงต้องสั่งจองกันล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ INDIEGOGO และจะวางจำหน่ายในเดือนธันวาคม ส่วนราคาก็อยู่ที่ 169 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6,000 บาท ล่ะ ที่มา rocketnews24 , Inupathy

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวเศร้าๆ ปนซึ้งของหนูน้อยวัย 4 เดือนที่ชื่อ Nora เธอมีอาการเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้สมองไม่ทำงาน ส่งผลให้ระบบประสาทในร่างกายของเธอไม่ทำงานไปด้วย เธอจึงต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา     แต่แล้ววันหนึ่งพ่อกับแม่ของเธออย่าง John และ Mary ก็ต้องตัดสินใจบางอย่างที่เจ็บปวดเอามากๆ เพราะพวกเขาต้องถอดเอาเครื่องช่วยหายใจของลูกออกในสุดสัปดาห์นี้ เพราะไม่ว่าจะยื้อชีวิตของหนูน้อยไว้เท่าไหร่ก็ดูจะไม่เป็นผลดีเท่าที่ควร อีกทั้งยังเป็นการทรมานเธอเอาไว้ด้วย     แม้ว่าครอบครัวของพวกเขาจะประสบปัญหาใหญ่ขนาดนี้ แต่พวกเขาก็ยังได้กำลังใจดีๆ จากเจ้าหมาสายพันธุ์บาสเซ็ท ฮาวด์ วัย 8 ปี 2 ตัวที่พวกเขาเลี้ยงเอาไว้ พวกมันทั้ง 2 ตัวมักจะเข้าไปคลอเคลียหนูน้อยตลอดเวลา     และโชคดีจริงๆ ที่ทางโรงพยาบาลเข้าใจและอนุญาตให้มันขึ้นไปนอนอยู่บนเตียงกับหนูน้อยได้ ต่อมาเมื่อพ่อแม่พา Nora กลับมาที่บ้าน เจ้า 2 ตัวนี้ก็ยังคงตามมาแนบชิดกับหนูน้อยอยู่ไม่ห่าง     ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่นั้น Marry กล่าวว่าเธอพยายามจะมีความสุขกับทุกช่วงที่ได้อยู่กับ Nora “เราภาวนาอย่างมากเพื่อให้เกิดปาฏาหาริย์ แต่เราก็ไม่เคยรู้ตัวเลยว่ามันอยู่ตรงหน้าเรามาตลอดเวลา Nora คือปาฏิหาริย์ของเรา”…

เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Telegraph ได้เผยแพร่ภาพของเจ้าสุนัขผู้น่าสงสารตัวหนึ่ง ที่ถูกเจ้านายชาวอังกฤษพาขึ้นรถเมล์และหายไปจากรถ ปล่อยมันไว้บนรถเอาซะดื้อๆ ทำให้มันนั่งแบบหงอยๆ ไม่ยอมขยับไปไหนและเฝ้ามองหาแต่เจ้านายของมันอยู่อย่างนั้น   ตามรายงานบอกว่าเจ้าสุนัขสายพันธุ์สแตฟฟอร์ด บูลเทอร์เรียตัวนี้กำลังนั่งสั่นงันงกอยู่บนเก้าอี้ผู้โดยสารผู้พิการบนรถเมล์ที่วิ่งไปทั่วกรุงลอนดอน โดยนาย Amos Paul Mak คนขับรถเมล์บอกว่าเขาเห็นมันขึ้นมานั่งพร้อมกับผู้โดยสารจำนวนหนึ่งตั้งแต่ก่อนที่รถคันนี้จะออกจากโรงจอดรถด้วยซ้ำ     นาย Mak ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมขับรถเมล์สาย 158 เจ้าหมาตัวนี้ขึ้นมาบนรถตั้งแต่ตอน 9 โมงครึ่ง ดูเหมือนมันจะขึ้นมาพร้อมกับผู้ชายสองคน แต่หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็หายไป เจ้าหมาก็เลยนั่งอยู่อย่างนั้น ผมเลยหยุดรถประมาณ 5 นาที และถามผู้โดยสารว่าใครเป็นเจ้าของหมากันแน่”   “แต่ก็ไม่มีใครแสดงตัวเลย ทุกคนบนรถเห็นอกเห็นใจเจ้าหมามาก แต่ดูเหมือนว่าจากนี้มันคงจะต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเองซะแล้ว”         แต่กว่าที่นาย Mak จะเข้าถึงตัวมันได้ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีเลย เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับเจ้าหมา แต่เขาก็พามันกลับไปอยู่ที่บ้านด้วยไม่ได้อยู่ดี   นาย Mak บอกว่ามันดูเงียบๆ และเป็นมิตร เขาก็เลยตั้งชื่อให้มันว่า Buster โดยทั้งคืนนั้นเจ้าหมาก็ไม่ได้ขยับไปไหนเลย…

เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Boredpanda ได้เปิดเผยเรื่องราวสุดน่ารักของเจ้า Bubba สุนัขสายพันธุ์พิตบูลวัย 6 ปี มันเป็นสุนัขจากสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่งในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นาง Rebecca Pizzello ไปรับมาเลี้ยง     วันหนึ่งนาง Pizzello ได้ย้ายไปอยู่ที่รัฐนิวยอร์ก และตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะให้เจ้า Bubba ได้ดูแลลูกแมวน้อยสักตัว เธอจึงรับเจ้าเหมียวน้อย Rue มาให้ Bubba เลี้ยง ซึ่งทำให้มันดูจะปลาบปลื้มกับความเป็นแม่สุดๆ เลย     นาง Pizzello ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันรู้มาตลอดเลยว่าเขาชอบดูแลใครสักคน แต่ฉันอยากให้เขารอจนกว่าเราจะย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์กซะก่อน”     หลังจากที่เจ้า Rue เข้ามาอยู่ในบ้านของพวกเขาได้ไม่กี่ชั่วโมง เจ้าเหมียวก็ลงไปนอนคลุกอยู่กับเจ้า Bubba โดยไม่มีท่าทีเกรงกลัวแต่อย่างใด ซึ่งเจ้า Bubba ก็พยายามทำตัวเป็นผู้ดูแลที่ดี คอยกอดและเลียเจ้า Rue เพื่อทำความสะอาดมันอย่างไม่ห่าง     Pizzello กล่าวว่า “ฉันว่าเจ้า Rue…

การนำสุนัขมาช่วยงานราชการ ไม่ว่าจะเป็นสุนัขตำรวจ หรือสุนัขทหาร ก็มีให้เราเห็นมาแล้วมากมาย แต่เนื่องจากสุนัขไม่ได้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันแบบมนุษย์ ทำให้พวกมันได้รับการปกป้องน้อยกว่า   แต่ตอนนี้เริ่มมีสุนัขบางตัวได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อปกป้องพวกมันจากอันตรายต่างๆ ได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้วนะ อย่างเช่น Scooby สุนัขสายพันธุ์สแปเนียลวัย 7 ปี ที่รับใช้กองทัพอังกฤษมานานถึง 5 ปีด้วยกัน แถมยังสร้างวีรกรรมให้กับกองทัพมากมาย     เจ้า Scooby ถือเป็นหนึ่งในสุนัข 35 ตัวของกองทัพอังกฤษที่รับใช้ชาติมาอย่างยาวนาน มันไปร่วมรบกับทหารมาแล้วหลายที่ เช่นอัฟกานิสถานเมื่อปี 2012 ที่มันไปทำหน้าที่เป็นสุนัขตรวจค้นสิ่งต่างๆ ทั้งระเบิด ยานพาหนะ และกระเป๋าสัมภาระต่างๆ     ตอนนี้ทางกองทัพได้เล็งเห็นว่าเหล่าสุนัขควรได้รับการปกป้องที่มากกว่าที่เคยเป็น พวกเขาเลยอนุมัติให้ซื้อแว่นตา ที่ครอบหูสำหรับสุนัข และรองเท้า เพื่อลดอาการบาดเจ็บหากพวกมันได้รับอันตรายใดๆ เพราะการออกไปในสนามรบ อาจจะทำให้พวกมันเหยียบเศษหิน ก้อนกรวดหรือภูมิประเทศที่เป็นอันตรายกับพวกมันได้     แต่ก่อนที่เหล่าสุนัขจะสวมใส่อุปกรณ์เหล่านี้ออกไปรบจริงๆ พวกมันจะต้องได้รับการฝึกฝนร่วมกับทหารเป็นเวลา 3 เดือนก่อน เพื่อพิสูจน์ว่าอุปกรณ์ทั้งหลายที่ติดตั้งเข้าไปนั้นจะไม่ทำให้พวกมันได้รับความเดือดร้อนหรือเป็นหรือส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำงาน       โอ้โห พอใส่อุปกรณ์ป้องกันแล้วดูหล่อไม่ต่างจากคนเลยนะเนี๊ยะ ที่มา metro

หลายๆ คนเลือกที่จะไปร้านกาแฟหรือคาเฟ่ต่างๆ เพราะต้องการบรรยากาศและความสงบเพื่อการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ แต่ก็มีกลุ่มลูกค้าบางกลุ่มต้องการ “บางสิ่ง” เพื่อช่วยให้การพักผ่อนของพวกเขากลายเป็นเรื่องสนุกเช่นกัน     เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นหยิบมานำเสนอในวันนี้อาจจะทำให้คนรักมะหมากรี๊ดกร๊าดเลยทีเดียว เพราะที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เปิดตัว “คาเฟ่สุนัข” ที่ช่วยให้คุณสามารถกลิ้งเกลือก และกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับเจ้าหมาได้เต็มที่ ก่อนที่จะรับมันไปเลี้ยงที่บ้านได้ด้วย!?     แน่นอนว่าก่อนหน้านี้เราคงเคยเห็นคาเฟ่แมว คาเฟ่นกฮูก หรือคาเฟ่สัตว์เลื้อยคลานมาแล้ว แต่ยังไม่ค่อยมีใครทำคาเฟ่สุนัขเท่าไหร่ จึงเกิดเป็นร้านที่ชื่อว่า The Dog Cafe ขึ้นมา     แต่ความพิเศษของคาเฟ่แห่งนี้ก็คือ พวกเขามีแนวคิดที่จะช่วยเหลือเหล่าสุนัขจรจัดหลายๆ ตัว ที่ไม่มีบ้านหรือเจ้าของ นำมาทำความสะอาดและฉีดยาให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำพวกมันมาไว้ในคาเฟ่แห่งนี้ เพื่อให้ผู้คนได้สัมผัสความน่ารักของพวกมัน     และหลังจากที่คุณได้เล่นหรือมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันแล้ว คุณสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะรับมันไปอุปการะเลี้ยงดูที่บ้านต่อหรือไม่?           นี่ถือเป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะ เพราะศูนย์รับเลี้ยงสัตว์ทั่วๆ ไปมักจะให้คุณตัดสินใจรับสุนัขไปเลี้ยงจากการดูใบหน้าและรูปร่างของพวกมันผ่านหน้ากรงเท่านั้น แต่ที่นี่คุณจะได้สัมผัสและเล่นกับพวกมันจริงๆ ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากกว่า ที่มา viralnova

แม้ว่าพวกสุนัขจะเป็นสัตว์เลี้ยงซื่อๆ ที่เอาแต่เห่าคนแปลกหน้าที่เข้ามาในบ้าน แต่พวกคุณรู้หรือไม่ว่าพวกมันเองก็ใช่ว่าจะแสดงสีหน้าแบบอื่นๆ ไม่ได้นะ ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ลองไปชมภาพถ่ายของช่างภาพคนนี้กัน     ผลงานที่#เหมียวฟิ้นจะพาไปดูต่อไปนี้เป็นผลงานของช่างภาพที่ชื่อว่านาย Elke Vogelsang เป็นช่างถ่ายภาพสัตว์ที่ทำงานอยู่ในประเทศเยอรมัน โดยเจ้าตัวบอกว่าเขาเป็นคนที่คลั่งไคล้ในสุนัขมากๆ และถือเป็นโชคดีที่เขาสามารถนำเอาสิ่งที่คลั่งไคล้และงานที่ต้องทำมาผสมรวมกันได้     เพราะตอนนี้นาย Elke กลายเป็นช่างภาพสุนัขและสัตว์ต่างๆ ไปแล้ว ซึ่งเขามักจะถ่ายภาพเหล่ามะหมาในสีหน้าท่าทางต่างๆ ทั้งทำหน้าตลกๆ ติงต๊อง ยิ้ม หรือแม้แต่ใบหน้าสงสัย     แต่กว่าจะได้แต่ละภาพมานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะกว่าที่พวกหมาจะทำสีหน้าแต่ละที ต้องรอกันนานมากแถมยังแสดงให้เห็นแบบเสี้ยววินาทีอีกด้วย     แต่อย่างผลงานล่าสุดของเขา เขาได้จับเอาเหล่ามะหมามาไว้ในสตูดิโอของเขาเพื่อถ่ายภาพหน้าตาตอนที่พวกมันกำลังสงสัย โดยนาย Elke ได้นำเอาภาพวาดที่มีความคล้ายกับเจ้านายของพวกมะหมามาแขวนไว้ที่กำแพง เพื่อดูปฏิกิริยาของพวกมัน ซึ่งแต่ละตัวก็แสดงสีหน้าได้งุนงงและกวนโอ๊ยสุดๆ               สงสัยอะไรกันนักกันหนาล่ะเจ้าหมา ถามเหมียวได้นะ ตอบได้ทุกเรื่องแหละ ที่มา boredpanda

อย่างที่#เหมียวฟิ้นมักจะเตือนเพื่อนๆ อยู่เสมอว่าหากใครที่ไม่พร้อมจะเลี้ยงหมาหรือแมวไว้ในบ้าน ก็ไม่ควรจะเอาเขามาขังหรือทรมานไว้นะ เพราะสุดท้ายแล้วสัตว์เลี้ยงของคุณอาจจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นๆ หรือเป็นคุณเองที่ทนกับความน่ารำคาญของพวกมันไม่ไหว     อย่างเช่นเรื่องราวที่เหมียวจะหยิบมาเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของเจ้าหมาในสหรัฐ 3 ตัว ที่ถูกเจ้านายใจร้ายของมันพามันทิ้งไว้ข้างทาง จากนั้นก็บึ่งรถออกไปอย่างไม่ใยดี     ตามรายงานบอกว่าทั้ง 3 ตัวมีชื่อว่า Nessie, Dee-Dee และ Charlie ซึ่งคนแถวนั้นดันเห็นเหตุการณ์ระหว่างที่เจ้านายใจร้ายนำพวกมันมาทิ้งที่ข้างทางพอดี พวกเขาจึงโทรเรียกสายด่วนขององค์กรที่มีชื่อว่า Hope For Paws ให้มารับตัวพวกมันไป     เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงก็ต้องค่อยๆ ตะล่อมพวกมันทีละตัวๆ โดยเริ่มจากเจ้า Charlie พวกเขาโยนเอาชีสเบอร์เกอร์ไปให้มันกิน และหลังจากนั้นไม่นานก็ดูเหมือนมันจะทำตัวสบายๆ จนสามารถเข้าใกล้ได้ง่ายๆ     จากนั้นทีมงานก็ต้องมาจัดการกับเจ้า 2 ตัวที่เหลืออย่าง Nessie และ Dee-Dee ดูเหมือนพวกมันจะค่อนข้างตื่นกลัวสักหน่อย ทำให้ไม่กล้าเข้าใกล้เจ้าหน้าที่เลย พวกเขาต้องใช้เวลาในการหว่านล้อมอยู่นานกว่าจะดักทางหนีทีไล่ของพวกมันไว้ได้หมด         จากนั้นทีมงานก็ค่อยๆ นำเอาเชือกไปคล้องคอพวกมันทั้ง 2 ตัวและพากลับไปยังออฟฟิศของพวกเขา ซึ่งเมื่อพวกมันเจอเพื่อนสี่ขาในศูนย์ดูแลสัตว์ พวกมันก็กลายเป็นมิตรกันอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ทีมงานได้พามันไปชำระล้างร่างกายและฉีดยาป้องกันโรคต่างๆ ให้เสร็จสรรพ    …

คุณเชื่อไหมว่าบางครั้งลูกหมาน่ารักๆ ก็อาจกลายเป็นอาหารชวนให้เราอยากจะงับได้เหมือนกัน (หากคุณหิวจัดๆ น่ะนะ) ถ้าไม่เชื่อ วันนี้#เหมียวฟิ้นจะลองเปรียบเทียบภาพให้ได้ชมกัน   เมื่อไม่นานมานี้เหมียวได้ไปเจอเข้ากับผู้ใช้ทวิตเตอร์ @teenybiscuit ของ Karen Zack มาล่ะ เธอทำงานในด้านสื่อต่างๆ เลยต้องมีไอเดียและความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ ล่าสุดเธอได้นำเอาภาพของเหล่าลูกหมามาเปรียบเทียบกับสิ่งของรอบๆ ตัว ทั้งอาหารและของใช้ในบ้าน ลองไปชมกันเลยจ้า   นี่ลูกหมาหรือว่าขนมปังเบเกิล?   สุนัขชีพด็อกหรือไม้ถูพื้น?   พุดเดิ้ลหรือไก่ทอด?   สุนัขชาเป่ยหรือว่าผ้าขนหนู?   สุนัขชาเป่ยหรือว่าครัวซอง?   ชิวาว่าหรือมัฟฟิน?   พุดเดิ้ลหรือตุ๊กตาหมี?   ปั๊กหรือปัง?   ไม่นะ เซลสมองของเหมียวได้ถูกทำลายลงไปแล้ว จากนี้ถ้าไปเห็นลูกหมาที่ไหน คงจะน้ำลายสอแน่ๆ… ที่มา boredpanda

เจ้าหมาผู้โชคร้ายตัวนี้ถูกคนจับโยนลงไปในบ่อยางมะตอยจนขึ้นมาไม่ได้ แต่ดันมีพลเมืองดีมาเห็นเข้า เลยช่วยไว้ได้ทันเวลา   เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าในระหว่างที่ 2 พ่อลูกกำลังขับรถเล่นไปในเมือง Antofagasta ประเทศชิลี พวกเขาดันเหลือบไปเห็นบ่อยางมะตอนข้างๆ ถนน แต่พอดูดีๆ เหมือนจะไม่ใช่ยางมะตอยธรรมดา เพราะมันมีบางสิ่งเคลื่อนไหวอยู่ในนั้นด้วย     นาย Jhonny Alquinta และลูกชาย Jhonny Alquinta Carrizo เล่าว่าพวกเขาจอดรถและลงไปดูที่บ่อนั่น ถึงรู้ว่ามันคือเจ้าสุนัขผู้โชคร้ายตัวหนึ่งที่ติดอยู่ในบ่อนั่น พวกเขาเลยจัดแจงช่วยกันดึงมันขึ้นมาจากบ่ออันเหนียวเหนอะ     จากนั้นพวกเขาก็พามันไปยังโรงพยาบาลสัตวใกล้ๆ เพื่อล้างเนื้อล้างตัวของมันให้สะอาดและฉีดยาต่างๆ ให้กับมัน และเมื่อเจ้าหมาเริ่มสะอาดสะอ้านแล้ว พวกเขาก็เลยตัดสินใจจะรับมันไปเลี้ยงดูต่อที่บ้าน แถมยังตั้งชื่อให้มันว่าเจ้า Quitran เป็นภาษาสเปน ซึ่งแปลว่ายางมะตอยด้วย     พวกเขาเชื่อว่าเจ้าหมาตัวนี้ถูกทิ้งไว้ด้วยความตั้งใจ เลยจะยื่นร้องเรียนเพื่อหาตัวคนที่ทำกับมันแบบนี้ ให้เขาแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งหากเจอตัวผู้กระทำผิดก็อาจจะถูกลงโทษตาม พ.ร.บ. คุ้มครองสัตว์ ด้วยเช่นกัน     รอดตายไปอีกตัวแล้วนะเจ้าหมา ขอให้มีชีวิตที่ดี เจอแต่คนดีๆ น้าาา ที่มา dailymail

ไม่ว่าจะวัยหนุ่มสาวหรือวัยชราต่างก็ต้องการความรักเหมือนๆ กัน ไม่เว้นแม้แต่กับพวกสัตว์เลยนะ     นี่เป็นภาพสุดอบอุ่นหัวใจของเจ้าหมาแก่สายพันธุ์ Golden Retriever ตัวหนึ่งที่ได้เจอเจ้านายเป็นครั้งแรกหลังจากที่เธอต้องไปรับใช้ชาตินานกว่า 3 เดือน และเมื่อมันเห็นเธอกลับมาบ้านมันก็รีบพุ่งเข้าไปหาเธอทันที พร้อมกับแสดงท่าทีแบบดีใจจนออกนอกหน้า     ตามรายงานบอกว่าคลิปดังกล่าวถูกถ่ายในช่วงก่อนคริสต์มาสเมื่อปีที่แล้ว โดยเจ้าหมาตัวนี้มีชื่อว่า Buddy เจ้านายผู้เป็นทหารหญิงไม่เผยนามในกองทัพสหรัฐให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันสมัครไปเป็นทหารในกองทัพและต้องฝึกการต่อสู้ขั้นพื้นฐานเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา”   “ฉันมีความสุขมากที่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์ในช่วงคริสต์มาส และนั่นทำให้ฉันได้เจอกับหมาของฉันในรอบ 3 เดือนกว่า”     เธอยังบอกอีกว่าเจ้า Buddy มีอายุปาเข้าไป 13 ปีแล้ว ถ้าเป็นคนก็คงหงอกมากทีเดียว เธอรู้ว่ามันคิดถึงเธอมากแค่ไหน และเธอเองก็คิดถึงมันไม่น้อยไปกว่ากัน แต่ด้วยระยะเวลาอันสั้นทำให้เธอต้องกลับไปรับใช้ชาติต่ออีกสักระยะ และเธอก็หวังว่าเธอจะได้กลับมาเจอกับมันอีกเร็วๆ นี้         ชมคลิปของเจ้าหมาตัวนี้ได้ที่นี่เลย ดูแล้วมันคงจะคิดถึงเจ้านายแบบสุดๆ เลย   แม้จะเป็นหมาที่อายุมากแล้ว ก็ยังมีความรักความซื่อสัตย์ต่อเจ้านายของมันนะ ใครที่เลี้ยงพวกเขาไว้ที่บ้านก็จงมอบความรักและเอาใจใส่แก่พวกเขาด้วยนะ ที่มา dailymail

สำหรับคนรักสัตว์อย่าง#เหมียวฟิ้นแล้ว การได้เห็นเพื่อนมนุษย์แสดงความมีน้ำใจต่อเพื่อนสี่ขา ถือเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากเลยนะ โดยเฉพาะหญิงสาวรายนี้ ที่ลงทุนเข้าช่วยน้องหมาที่ถูกรถชน ทั้งปั๊มหัวใจทั้งผายปอด เหมียวเห็นแล้วอยากจะกราบงามๆ เลย     เรื่องราวที่เหมียวจะเล่าต่อไปนี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ Pimplin Phimpha เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 มีนาคม โดยเธอเล่าว่าได้พบกับน้องหมาตัวหนึ่งถูกรถยนต์คันหนึ่งชนที่ข้างถนนจึงลงไปช่วยพร้อมกับผู้คนอีกกลุ่มหนึ่ง     ในตอนแรกน้องหมายังคงหายใจอยู่แต่เกิดอาการช็อค เธอจึงทำการปั๊มหัวใจและเป่าปาก จากนั้นเธอก็รีบพามันไปส่งยังโรงพยาบาลสัตว์ใกล้ๆ แต่เมื่อไปถึงกลับไม่สามารถยื้อชีวิตน้องหมาเอาไว้ได้และสิ้นใจในที่สุด           อ่านเรื่องราวเต็มๆ ของเธอได้ที่ด้านล่างเลย เช้านี้พบน้องหมาถูกรถชน…พร้อมกับพี่ๆที่คอยจอดรถแวะช่วยกันทั้งที่ไม่มีรถส่วนตัว ลงจากแท็กซี่ และขับมอไซค์ ตอนแรกน้องยัง… Posted by Pimplin Phimpha on 3 มีนาคม 2016   แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยน้องหมาไว้ได้ แต่เธอก็ได้พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว จนเหมียวซาบซึ้งในน้ำใจของผู้หญิงคนนี้จริงๆ สวยด้วย ใจดีด้วยแบบนี้ เอาใจเหมียวไปเลย ทีม่า Pimplin Phimpha

หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้#เหมียวฟิ้นได้เคยรายงานถึงช่างภาพชาวสหรัฐรายหนึ่ง ที่พยายามถ่ายภาพเหล่าสุนัขจรจัดเพื่อให้ผู้คนเห็นถึงความน่ารักในตัวพวกมันและรับพวกมันไปเลี้ยงที่บ้าน วันนี้ช่างภาพคนนั้นกลัวมาสร้างผลงานให้เราชมกันอีกแล้ว   ต้องบอกเลยว่าการที่จะทำสื่อประชาสัมพันธ์หรือรณรงค์ให้คนนำสุนัขไร้เจ้าของกลับไปเลี้ยงที่บ้านนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากทีเดียว เพราะมันไม่ได้น่ารักเหมือนกับลูกหมาตัวน้อยๆ ที่หาซื้อได้ตามตลาดนัดสัตว์เลี้ยง   นาย Guinnevere Shuster จากหน่วยงาน The Humane Society of Utah จึงเกิดไอเดีย จับสุนัขเหล่านั้นมาถ่ายภาพเพื่อแสดงให้เห็นถึงความน่ารักสดใสของพวกมัน ผ่านแววตา ท่าทางอันเป็นมิตรและขี้เล่นของพวกมัน จะเป็นไงลองไปชมกันเลย   1. Nero (รับเลี้ยงแล้ว)   2. Kenai (รับเลี้ยงแล้ว)   3. Floyd (รับเลี้ยงแล้ว)   4. Rhino (รับเลี้ยงแล้ว)   5. Jax (รับเลี้ยงแล้ว)   6. Jack (รับเลี้ยงแล้ว)   7. Little Bear (รับเลี้ยงแล้ว)   8. Charlie (รอคนรับเลี้ยง)   9. Bandit (รับเลี้ยงแล้ว)   10. Charlie (รับเลี้ยงแล้ว)   11. Lacey (รับเลี้ยงแล้ว)  …

ถ้าไม่นับสัตว์อย่างพวกลิงแล้ว เหมียวก็แทบจะไม่ค่อยเห็นสัตว์ชนิดไหนเลยที่สามารถแสดงสีหน้าได้หลากหลายเหมือนกับมนุษย์เลย แต่กับเจ้าหมาตัวนี้กลับแตกต่างออกไป เพราะมันสามารถแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้าและแววตาได้หลากหลายมาก     เจ้าหมาที่#เหมียวฟิ้นกำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่าเจ้า Mutka เป็นสุนัขวัย 18 เดือนสายพันธุ์เกรทเดนที่อาศัยอยู่กับเจ้านายที่ชื่อ Krista วัย 29 ปี ในเมือง Piikkiö ประเทศฟินแลนด์ Krista เล่าว่าเธอรับเจ้าหมาตัวนี้มาเลี้ยงดูตั้งแต่มันอายุได้เพียง 8 สัปดาห์เท่านั้น     ในตอนนั้นเธอยังไม่แน่ใจว่ามันมีความสามารถแปลกๆ แบบนี้อยู่ด้วย แต่เมื่อมันเข้ามาอยู่ในบ้าน และใช้เวลาร่วมกับทุกๆ คนจนคุ้นเคย มันก็ค่อยๆ แสดงสีหน้าท่าทางแบบตลกๆ ออกมา จน Krista ทนไม่ได้เลยหยิบกล้องมาถ่ายภาพสีหน้าตลกๆ ของมัน     Krista ให้สัมภาษณ์ว่า“ฉันรับมันมาเลี้ยงที่บ้านตั้งแต่มันยังเล็กๆ อายุแค่ 8 สัปดาห์เอง และเห็นได้ชัดว่ามันเป็นคนพิเศษ เพราะไม่มีใครในบ้านเลย ที่จะพักผ่อนหย่อนใจตรงโซฟา โดยที่ไม่มีพ่อหนุ่มตัวนี้มาทำหน้าตลกๆ ให้เราดู”               ทำได้หลายหน้าขนาดนี้ ออกมาตั้งคณะตลกกับเหมียวที่ร้านหมูกระทะ แถวบ้านหน่อยเป็นไง…

สัตว์เลี้ยงบางตัวนั้นโชคร้ายซะเหลือเกิน บางตัวถูกทำร้ายทารุณ บางตัวได้รับอุบัติเหตุ แม้คนจะเลี้ยวแลยังไม่มี แต่บางตัวก็โชคดี๊โชคดี แม้วาระสุดท้ายของชีวิตยังโชคดีเลย เหมือนกับเรื่องราวของเจ้าหมาตัวหนึ่งที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้     นี่เป็นเรื่งราวเศร้าๆ ปนรอยยิ้มของเจ้า Reyes สุนัขวัย 8 ปีของนาย Todd Burchanowski แต่หลังจากที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมานาน นาย Todd ก็ต้องพบกับเรื่องเศร้า เพราะว่าเจ้า Reyes ดันป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งรักษายังไงก็คงไม่ทันแล้ว     แต่แทนที่นาย Todd จะยอมรับชะตากรรมและปล่อยให้เพื่อนรักของเขาค่อยๆ ตายจากไป เขากลับมีแรงฮึด และอยากจะพาเพื่อนตัวน้อยของเขาที่ใกล้จะหมดเวลาเต็มที ออกไปผจญภัยดูโลกกว้างกับเข้าด้วย     นาย Todd ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า “วันนี้ผมได้รับข่าวร้ายที่สุด สุนัขและเพื่อนรักของผม Reyes ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย นั่นทำให้ผมใจสลายเลย ผมรู้ว่าผมมีเพื่อนที่ยอดเยี่ยมและครอบครัวที่ช่วยให้ผมผ่านเรื่องนี้ไปได้”     จากนั้นนาย Todd ก็สร้างรายการสิ่งที่ต้องทำกับเจ้า Reyes พามันออกไปเที่ยว ไปเจอผู้คนทั้งญาติๆ ของนาย Todd และคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พาไปดูพระอาทิตย์ตกดิน กินเฟรนช์ฟรายด์และเป่าเทียนเค้กวันเกิด จนกลายเป็นภาพเหตุการณ์ที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้    …

คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าหากเราจะเห็นภาพเของเหล่ามะหมานอนอาบแดดกันในช่วงฤดูหนาว นั่นก็เพราะว่าอากาศมันเย็นและพวกมันเองก็ไม่มีเสื้อผ้าให้ใส่กันหนาวเหมือนกับเรา มันจึงต้องมานอนอาบแดดแทน     แต่เอ๊ะ ทำไมพอเข้าหน้าร้อน อากาศร้อนตับแตกก็ยังเห็นพวกมันลงไปนอนเกลือกลิ้งกับพื้นร้อนๆ หรือว่าพวกมันจะเป็นลมแดดไปแล้ว!? #เหมียวฟิ้นเองก็สงสัยเรื่องนี้เช่นกันเลยไปหาข้อมูลเอามาเล่าให้เพื่อนๆ ชาวเหมียวได้รู้กัน ส่วนสาเหตุเป็นเพราะอะไรนั้นลองไปชมกันเลย     สาเหตุที่พวกหมาชอบออกมานอนตากแดดนั่นก็เป็นเพราะว่าพวกมันไม่มีเสื้อผ้าให้สวมใส่เพื่อเพิ่มความอบอุ่น มันจึงออกมานอนตากแดดกันอย่างที่เห็น การนอนอาบแดดของพวกมันจะช่วยทำให้ระดับฮอร์โมนเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความสุขนั้นเพิ่มมากขึ้น ทำให้พวกมันรู้สึกผ่อนคลาย     การนอนอาบแดดจะช่วยให้ควบคุมระดับเซโรโทนินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้นะ แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าการนอนอาบแดดของพวกมันจะเป็นอันตรายแต่อย่างใด เพราะหากมันร้อนเกินไปมันก็จะเดินเข้าร่ม หรือหาน้ำกินเพื่อลดความร้อนด้วยตัวเอง     นอกจากนี้ในแสงอาทิตย์ยังมีวิตามินดี ที่พวกมะหมาต้องการ แต่เนื่องจากพวกมันมีขนปกคลุมร่างกาย วิตามินดีจึงไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวของพวกมันได้ดีเท่ามนุษย์ แต่พวกมันก็ยังสามารถรับวิตามินดีได้ผ่านการเลียขนของมันนั่นเอง     แต่สำหรับใครที่เลี้ยงหมาหน้าสั้นหรือหมาแก่ๆ เอาไว้ก็อาจจะต้องระวังนิดนึง เพราะพวกมันไม่ค่อยทนต่อความร้อนสักเท่าไหร่นะ ถ้าตากแดดนานเกินไปอาจจะมีภาวะช็อคที่เรียกว่าฮีทสโตรกก็เป็นได้ หมั่นสังเกตนิดนึงนะ     แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรดูระยะเวลาในการอาบแดดที่เหมาะสมกับพวกมันด้วยนะ ซึ่งการอาบแดดที่พอเหมาะพอดีจะอยู่ที่ประมาณ 15 – 20 นาที ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้ว ถ้านานกว่านั้นก็อาจจะอันตรายได้นะ เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น ที่มา สพ.ญ.ภัสส์ณศา เขาท่าเพชร , dogilike

เหล่ามะมาเอง แม้จะไม่สามารถแสดงความรักออกมาได้ทางคำพูดหรือสีหน้า แต่มันไก็ยังสามารถแสดงออกมาได้ผ่านการกระทำและท่าทางนะ อย่างเจ้าหมา 2 ตัวที่#เหมียวฟิ้น จะมานำเสนอในวันนี้     นี่เป็นเรื่องราวของสุนัขไล่แกะพี่น้องเพศเมียที่ชื่อว่าเจ้า Sophie และ Sarah จากเมือง Sibculo ประเทศเนเธอร์แลนด์ พวกมันทั้งคู่รักกันมากจนแทบจะไม่เคยแยกจากกันเลย ไม่ว่าพี่สาวของมันจะไปที่ไหน น้องสาวก็จะต้องตามไปด้วยทุกที่     ตามการบอกเล่าของเจ้านายพวกมันบอกว่าเจ้า Sophie มักจะชอบถ่ายภาพประหนึ่งเป็นนางแบบ และเมื่อเจ้า Sarah เห็นเข้าก็เลยขอเข้ามาถ่ายด้วย กลายเป็นว่าทั้งคู่เป็นนางแบบไม่ห่างจากกล้องเลยทีเดียว     ทั้งนี้ความดีความชอบทั้งหมดคงต้องยกให้เจ้านายอย่างนาย Cees Bol วัย 48 ปี ที่ถ่ายภาพออกมาได้สวยงาม โดยเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า “มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจับพวกมันสองตัวแยกออกจากกัน”     นาย Bol ยังพูดต่ออีกว่า “พวกมันตัวติดหนึบมาก เหมือนเพื่อนสนิทกันมานาน พวกมันทำทุกอย่างร่วมกัน ทั้งเล่น กิน ออกไปเดินเหมือนกับฝาแฝดเลย ผมชอบถ่ายรูปพวกมัน มันรู้สึกดีที่ได้เห็นสุนัขมีความสุข และรู้สึกดียิ่งกว่าเมื่อเห็นคนสนุกสนานไปกับรูปภาพของพวกมัน”            …

ใช่ว่าสัตว์ป่าทุกตัวจะดุร้ายกับมนุษย์เท่านั้นนะ เพราะยังมีสัตว์ป่าอีกหลายๆ ชนิดที่ต้องการความรักและเล่นกับมนุษย์อย่างเป็นมิตรอยู่เหมือนกัน ดูอย่างเจ้าหมาป่าตัวเขื่องตัวนี้ซิ ทำเป็นออดอ้อนมนุษย์ซะจน#เหมียวฟิ้นรู้สึกหมั่นไส้ทีเดียว     วันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเว็บไซต์ Mirror ได้เผยคลิปวิดีโอสุดน่ารักของเจ้าหมาป่าตัวเบ้งตัวหนึ่งที่ชื่อว่าเจ้า Kekoa หมาป่าพันธุ์ทิมเบอร์วูล์ฟ ขณะกำลังออดอ้อนเจ้าหน้าที่ Danielle ในศูนย์พิทักษ์หมาป่าและสัตว์ป่ารัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา     คลิปดังกล่าวเผยให้เห็นเจ้า Kekoa ขณะคลอดเคลียเจ้าหน้าที่สาว พร้อมกับจูจุ๊บเป็นการตอบแทน คลิปนี้ถูกโพสต์บนช่องยูทูบ ColoradoWolf&WildlifeCenter มากว่า 1 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นที่น่าสนใจของชาวเน็ต จนมียอดวิวไปแล้วกว่า 1.1 ล้านครั้งแล้ว     ทั้งนี้หมาป่าสายพันธุ์ทิมเบอร์วูล์ฟจะมีชีวิตได้ราวๆ 7-10 ปี มีน้ำหนักที่ที่ประมาณ 22 – 58 กิโลกรัม ปัจจุบันคาดกันว่ามีหมาป่าทิมเบอร์วูล์ฟหลงเหลือตามธรรมชาติราวๆ 200,000 ตัว   ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย   แม้จะเป็นสัตว์ป่าแต่ก็ต้องการความรักความเอาใจใส่ไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงภายในบ้านเลยนะ ที่มา mirror , ColoradoWolf&WildlifeCenter

บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นการจากไปของเพื่อนรักอย่างเจ้าหมาผู้ซื่อสัตย์ ทำให้เจ้านายต้องเสียอกเสียใจและพามันไปฝังดิน จนวันหนึ่งความทรงจำเกี่ยวกับมันก็ค่อยๆ เลือนลางหายไป แต่ทหารผ่านศึกผู้นี้กลับไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้น     เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า Dave Heyhoe นายทหารวัย 46 ปี ได้รำลึกถึงเพื่อนสี่ขาที่จากไปอย่างเจ้า Treo ที่เคยร่วมรบกันมาในประเทศอัฟกานิสถาน ด้วยการนำเอาขี้เถ้าของมันมาสักไว้บนร่างกาย เพื่อเชิดชูเกียรติยศให้แก่มัน     เจ้า Treo เป็นสุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์สีดำ ที่ได้ชื่อว่าเป็นสุนัขที่กล้าหาญตัวหนึ่งในกองทัพอังกฤษเลยก็ว่าได้ วันหนึ่งนาย Dave ก็ได้ปลดประจำการและกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านอย่างสงบ แถมยังหิ้วเจ้า Treo กลับมาอยู่ที่บ้านด้วย     แต่หลังจากที่ใช้ชีวิตมาได้ 14 ปี เจ้า Treo ก็มีอันต้องจากไป และเพื่อเป็นการระลึกถึงเพื่อนผู้กล้าหาญ ที่เคยฝ่าสนามรบด้วยกันมา นาย Dave จึงนำเอาขี้เถ้าของมันมาผสมกับน้ำหมึกและสักลงไปบนร่างกายของเขา เพื่อที่ทั้งคู่จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป     รอยสักของเขามีข้อความบางส่วนว่า “ผมปกป้องและดุแลเขา ผมพร้อมที่จะตายเพื่อเขาและเพื่อคุณ ผมแค่ขอความเมตตาและโลกที่ปรานีเท่านั้น”    …

หลายๆ คนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “สุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์” ใช่ไหมล่ะ แต่สำหรับบางคนแล้ว มันคือครอบครัวของเขาเลย   เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่ผลงานภาพภ่ายของช่างภาพ Sam Edmonds เป็นภาพของเหล่าเด็กกำพร้าในเมืองธากา ประเทศบังกลาเทศ พร้อมกับเหล่าสุนัขจรจัดในเมือง ที่อาศัยอยู่ร่วมกันประหนึ่งครอบครัวเดียวกัน     ทั้งนี้เหล่าเด็กๆ ในเมือง แม้จะไม่มีพ่อแม่หรือครอบครัว แต่พวกเขาก็ได้รับความรักที่อบอุ่นจากพวกสุนัขในเมือง ทำให้นาย Sam รู้สึกประทับใจและขอเก็บภาพเอามาฝากให้ทุกๆ คนได้ชมกัน     ตามรายงานบอกว่าเหล่าเด็กๆ จะออกมาคุ้ยขยะและหาเศษพลาสติกเพื่อนำไปแลกกับเศษเหรียญ และเมื่อได้เงินมาพวกเขาก็นำไปซื้ออาหารกินและแบ้งปันมันให้กับพวกสุนัขและอยู่นอนร่วมกับมันตลอดทั้งคืนเพื่อให้ความอบอุ่นซึ่งกันและกัน     ความสัมพันธ์ของเด็กๆ และเหล่าสุนั้น เพิ่งจะเริ่มมีได้ไม่นาน เพราะก่อนหน้านี้ทางการได้เคยสั่งปราบปรามเหล่าสุนัขข้างถนนและนำไปฆ่า เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคพิษสุนัขบ้า แต่ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายไปเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา     และแม้ว่าพวกสุนัขจะถูกปฏิบัติแบบโหดร้ายแค่ไหนก็ตาม แต่พวกมันก็ยังคงเป็นมิตรกับมนุษย์และแสดงออกถึงความรักที่มีให้เด็กๆ         เหมียวล่ะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกสุนัขถึงรักมนุษย์ได้ขนาดนี้ นั่นก็เพราะว่าเคยมีงานวิจัยบอกว่าพวกมันรักมนุษย์มากๆ มากกว่าแมวถึง 5 เท่าแหนะ (ไม่จริงม๊างงง)  …

นี่เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์น่ารักๆ ระหว่างหญิงสาวที่ชื่อ Amanda Tromp และเจ้าหมาไซบีเรียนฮัสกี้ Kyro ที่ทั้งคู่ต่างก็มาเติมในสิ่งที่ขาดหายให้กันและกันจนเกิดเป็นมิตรภาพดีๆ แบบที่เหมียวจะเล่าต่อไปนี้ล่ะ     Amanda ได้เปิดเผยกับเว็บไวต์ Boredpanda เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาว่าเธอพบเจ้า Kyro ถูกประกาศขายอยู่บนเว็บไซต์ขายของออนไลน์แห่งหนึ่งเนื่องจากแม่ของมันทอดทิ้งมันและลูกๆ อีก 9 ตัว ทำให้เธอตัดสินใจนำเอามันมาอยู่ด้วยเพราะเธอทนความน่ารักกับท้องอันอวบอ้วนของมันไม่ไหว     ในตอนแรกที่เธอรับมันมาอยู่ด้วยที่บ้าน เธอกำลังมีปัญหาด้านความสัมพันธ์และอดีตที่เลวร้าย แต่เธอก็ได้เจ้า Kyro นี่แหละมาช่วยทำให้เธอสดใสร่างเริงอีกครั้ง เพราะมันยังเป็นเพียงลูกหมาตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่ต้องการนม วิ่งเล่นซุกซนเหมือนหมาทั่วๆ ไป     Kyro กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของ Amanda พวกเขาพากันออกไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ เพื่อลืมเรื่องราวเก่าๆ จนทั้งคู่กลายเป็นโลกใบใหม่ให้กันและกัน เธอเริ่มค้นพบว่าเธอชอบถ่ายรูปมากแค่ไหนก็เมื่อตอนที่เธออกไปเที่ยวกับเจ้า Kyro ทำให้เกิดเป็นภาพสวยๆ อย่างที่เห็นนี่แหละ   . . . . . . . . . . . .…

ไม่ว่าใครก็ต้องการอิสระภาพทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่กับสุนัขตาดำๆ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่มันได้ออกมาจากกรง พวกมันก็จะดีใจจนเราสัมผัสได้แบบนี้แหละ   เมื่อไม่นานมานี้เฟซบุ๊กเพจ Saving Carson Shelter Dogs ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือสุนัขในต่างประเทศ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของเจ้า Benny สุนัขที่อาศัยอยู่ในกรงมาเป็นเวลานาน แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของมันก็เปลี่ยนไป เมื่อมีคนใจดีมาขอรับเลี้ยงมัน ทำให้สีหน้าท่าทางของมันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง     เจ้า Benny ได้รับการเลี้ยงดูโดยสถานสงเคราะห์สุนัข Carson ในเมืองการ์ดีนา รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มันต้องมีชีวิตอยู่ในกรงแคบๆ มันไม่รู้หรอกว่าอนาคตของมันจะเป็นอย่างไร     แต่เมื่อมีครอบครัวแสดงความต้องการที่จะรับเจ้า Benny ไปเลี้ยงดู และเดินทางมารับมันถึงสถานสงเคราะห์สุนัขเพื่อรับมันไปอยู่ด้วย เจ้า Benny ก็แสดงแววตาที่สดใสออกมาและดูดี๊ด๊าสุดๆ ไปเลย     ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง This special little guy captured the hearts of everyone who stopped by his kennel. He…

ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงของพวกคุณเท่านั้นหรอกนะที่ต้องการความรัก แต่เหล่าสัตว์จรจัด สัตว์ที่ไม่มีเจ้าของก็ต้องการความรักเช่นกัน แต่มีสัตว์เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่ได้รับโอกาสดีๆ จากมนุษย์ และเจ้า Lisa ก็เป็นสุนัขที่โชคดีตัวหนึ่ง ที่มีคนรับไปเลี้ยงล่ะ     เจ้า Lisa เป็นสุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ ที่ใช้ชีวิตในช่วงแรกเกิดอยู่ในกรงที่สถานดูแลสัตว์ในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของมันก็เปลี่ยนไป เมื่อมันได้พบกับ Elpida Ismael (Elpida ภาษากรีกแปลว่าความหวัง) ช่างถ่ายภาพสัตว์สาวผู้แสนใจดี     Elpida ได้ตกหลุมรักเจ้า Lisa แทบจะในทันทีที่ได้เจอมัน เธอจึงขอรับมันไปเลี้ยงดูตั้งแต่นั้นมา วันหนึ่ง Elpida ได้ปิ๊งไอเดียจับเจ้า Lisa มาถ่ายภาพพอร์ทเทรต์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความน่ารักของสุนัขจรจัด ช่วยกระตุ้นให้ผู้คนมองเห็นตัวตนของพวกมันและอยากรับเพื่อน 4 ขาไปเลี้ยงนั่นเอง                           สุนัขจรจัดก็มีหัวใจเหมือนกันนะ โชคดีแล้วนะเจ้า Lisa…

พวกหมาเป็นสัตว์ฉลาดนะ สั่งอะไรบอกอะไรมันก็รู้เรื่องและทำตามเราได้หมด มันจะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับสิ่งที่ของที่อยู่รอบๆ ตัวมัน แต่ในขณะเดียวกัน พวกมันก็ติงต๊องเกินกว่าที่เราจะควบคุมได้ล่ะ แต่มันก็ทำให้เรายิ้มได้เสมอนะ   หากคุณกำลังเครียดหรืออารมณ์เสียจากเรื่องอะไรมาก็ตาม เหมียวขอเชิญชวนให้คุณมาดูภาพติงต๊องๆ ของพวกหมาเหล่านี้กัน รับรองว่าคุณจะอารมณ์เสียกว่าเดิม เฮ้ย! ดีกว่าเดิมซิ ไม่เชื่อไปดูพร้อมๆ กันเลยจ้า     ไม่ยิ้มใช่ไหม?   หนอยยย   แบร่     O_O   หราาาา   หืม     ช่วยป๋มด้วย     เอาเค้าออกไปที   นี่ด้วยนะ     ถอยไปไอ้มนุษย์   หง่าาาา!!     ไม่เอาไม่ไป   555+ ที่มา viralnova

หลายๆ คนคงทราบดีว่าพวกแมวนั้นมีร่างกายที่ยืดหยุ่น สามารถกรโดดขึ้นไปบนอากาศได้สบายๆ แต่กับพวกสุนัขล่ะ พวกมันจะพริ้วได้เหมือนกันพวกแมวหรือเปล่า?     วันนี้แอดเหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมผลงานภาพถ่ายของช่างภาพชาวอิตาลีที่ชื่อว่า Claudio Piccoli เธอได้เกิดไอเดียถ่ายภาพเหล่าสุนัขขณะล่องลอยอยู่ในอากาศ (หรือตอนมันกระโดดงับจานร่อน)     Piccoli กล่าวว่า “ทุกๆ ภาพที่ฉันถ่ายจะต้องมีความหมายอะไรสักอย่างที่ชัดเจน และฉันหวังว่าคุณจะสามารถพบภาพที่น่าสนใจๆ ได้จากดวงตาพวกมันนะ”                                       ไอบีลีฟไอแคนฟลายยยยย ไอบีลีฟไอแคนทัชเดอะสกายยย   ที่มา boredpanda

ถือภาพที่น่าสลดใจจริงๆ สำหรับเหล่าสุนัขในประเทศจีน ที่ถูกมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งหนึ่งในเมืองซีอาน วิทยาเขตเว่ยหยาง มณฑลส่านซี ประเทศจีน จับมาไว้บนดาดฟ้าของตึก เพื่อใช้เป็นหนูทดลองในการฝึกผ่าตัดของคณะนักเรียนแพทย์ กลายเป็นภาพที่น่าเวทนาของชาวเน็ตเป็นอย่างมาก     หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้กลุ่มพิทักษ์สัตว์ในจีนต้องเข้าตรวจสอบมหาวิทยาลัยดังกล่าว จึงพบว่าบริเวณดาดฟ้าของอาคารมีศพสุนัขนอนเกลื่อนอยู่กับพื้นอยู่หลายตัว แต่ละตัวมีแผลผ่าตัดมากมาย บางตัวถูกตัดขาออก บางตัวถูกมัดไว้ไม่ให้ขยับไปไหน แต่มีบางตัวที่ยังมีลมหายใจอยู่และสามารถลุกยืนได้อยู่     ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พิทักษ์สัตว์ยังพบกับสุนัขอีกกว่า 20 ตัว ที่มีสภาพผอมแห้งและหิวโซถูกล่ามด้วยโซ่ โดยพวกเขาคาดกันว่าอาจจะถูกนำไปผ่าตัดในเร็วๆ นี้ โดยทางมหาวิทยาลัยบอกว่าพวกเขาจะให้อาหารกับมันในตอน 20.00 เท่านั้น     ด้านคณะแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้กล่าวว่าพวกเขาจะฉีดยาเพื่อให้สุนัขไร้ความรู้สึก ก่อนที่จะนำมันไปที่ดาดฟ้าเพื่อเตรียมทำการทดลองต่อไป แต่เมื่อทีมพิทักษ์สัตว์ถามว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ใช้วิธีการุณยฆาตกับสุนัข พวกเขาก็ให้เหตุผลเพียงว่า “ไม่มีเงินมากพอ”     สุดท้ายทางมหาวิทยาลัยก็ได้รับทราบเรื่องราวดังกล่าว และสัญญาว่าจะจัดการกับศพสุนัขให้เรียบร้อยและจะไม่มีการนำสุนัขมาใช้ฝึกผ่าตัดอีก                   ขอให้พวกนายไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้นะ ที่มา shanghaiist

น่าสงสารเสียจริงๆ สำหรับเจ้า Lilly สุนัขพันธุ์ผสมระหว่างลาบราดอร์และพุดเดิ้ล ที่ดันพลัดตกลงไปในบ่อลึกกว่า 2 เมตร แต่โชคดีเหลือเกินที่มีคนมาช่วยไว้ได้ทัน   เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าเจ้า Lilly สุนัขพันธุ์ผสมสมระหว่างลาบราดอร์และพุดเดิ้ลวัย 4 ปีได้หายตัวออกไปจากบ้านเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บริเวณริมถนนในเมือง Eastleigh ประเทศอังกฤษ     แต่หลังจากที่ออกตามหาเจ้า Lily เกือบทั้งคืน เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็พบมันนอนอยู่ในหลุมแห่งหนึ่งในป่า ที่มีความลึกกว่า 2 เมตร คาดกันว่ามันน่าจะพลัดตกลงไป และหลังจากการตรวจสอบร่างกายพบว่า มันได้รับบาดเจ็บอยู่หลายแห่งทีเดียว   เจ้าหน้าที่กู้ภัยสัตว์ Anton Phillips ผู้ออกช่วยเหลือเจ้า Lily กล่าวว่า “Lily ถือเป็นหมาที่โชคดีมาก มันตกลงไปในหลุมลึก 2 เมตร ทั้งที่มันดูเหมือนจะลึกมากกว่านั้น”     ทั้งนี้นาย Phillips ยังบอกอีกว่า การช่วยเหลือเจ้าสุนัขที่หายไป ทำได้ง่ายขึ้นเพราะมีอุปกรณ์ช่วยเหลืออย่างครบครัน และยังแนะนำไปยังผู้เลี้ยงสุนัขอีกหลายๆ…

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่เรื่องราวสุดซึ้งของเจ้าสุนัขตัวหนึ่งที่ชื่อว่าเจ้า Shavi ที่ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่ข้างถนนในประเทศรัสเซีย แต่โชคดีที่มันถูกช่วยไว้ได้ทัน     เจ้า Shavi ต้องทนทรมานกับอาการบาดเจ็บกับขาหลังที่หักทั้งสองข้าง แต่โชคดีที่ในขณะนั้นเองมีคนผ่านมาเห็นมันเข้าพอดีจึงพามันไปหาสัตวแพทย์ ก่อนที่จะนำเรื่องราวของมันไปเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ต เพื่อหาใครสักคนมาดูแลมัน     หลังจากที่เรื่องราวของเจ้า Shavi ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีหญิงสาวชาวรัสเซียรายหนึ่งนามว่า Nina Baranovskaya วัย 26 ปี เสนอตัวจะช่วยเหลือมัน และหลังจากที่เจ้า Shavi ได้รับการผ่าตัดเสร็จแล้ว เธอก็มารับมันไปอยู่ที่แฟลทเล็กๆ ของเธอในเมือง Rostov-on-Don     จากนั้นเธอก็สอนให้เจ้าหมากลับมาเดินได้อีกครั้งหนึ่ง ฝึกมันด้วยคำสั่งง่ายๆ และเล่นกับมันทุกวันจนทั้งคู่ผูกพันธ์กัน   เจ้า Shavi จำเป็นจะต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพราะมันได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนั้น และ Nina ต้องซื้อผ้าอ้อมให้มันเพราะเจ้า Shavi ไม่สามารถเดินไปฉี่และอึเองได้ แถมเธอยังต้องเคยปลอบมันทุกครั้งเวลาที่มันเห็นคนแปลกหรือรถบนท้องถนน     แต่ Nina ไม่สามารถดูแลมันได้ในระยะยาวเพราะเธออาศัยอยู่ในแฟลทเล็กๆ…

เราคงเคยเห็นการฝึกสุนัขให้มีความสามารถพิเศษแบบต่างๆ มามากมายแล้วล่ะนะ ทั้งการฝึกแบบง่ายๆ อย่างการสั่งให้นั่ง ให้กลิ้ง ให้รอ ไปจนถึงการฝึกแบบแอดวานซ์อย่างการเล่นละครสัตว์หรือใช้พวกมันในการตรวจหาสารเสพติดแบบสุนัข K-9 ก็สามารถฝึกฝนกันได้     แต่เชื่อเถอะว่าคุณจะไม่เคยเห็นการฝึกฝนสุนัขที่ไหนที่เจ๋งเท่านี้แน่นอน เพราะวันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับเจ้า TreT สุนัขจากประเทศยูเครน ที่มีความสามารถในการปีนป่าย คล้ายกับการฟรีรันนิ่งเลยล่ะ     นาย Elchaninov Eugene และเจ้า TreT อาศัยอยู่ในประเทศยูเครน แต่พวกเขาท่องเที่ยวไปทั่วโลกเพื่อฝึกฝนและพักผ่อนในสถานที่ที่แตกต่างกันออกไป     พวกเขาใช้เวลาในการฝึกฝนวันนึงเป็นชั่วโมงๆ ถือเป็นการเรียนรู้และเล่นสนุกไปในตัว     ห่วงยางถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับเจ้า TreT ได้อย่างมากเลยล่ะ เพราะเมื่อมันเห็นเจ้าห่วงนี่ทีไร เป็นต้องกระโจนเข้าใส่แบบเต็มแรงทุกที (ดูความยืดหยุ่นของมันสะก่อน)     และผลของการฝึกฝนอย่างยาวนานก็กลายมาเป็นภาพนี้     เจ้า TreT ถือเป็นหนึ่งในสุนัขที่มีความสามารถในการปีนป่ายสูงที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมันสามารถทำสิ่งที่มนุษย์หลายคนยังทำไม่ได้เลย ไม่ว่าจะที่ไหนๆ มันก็เคยปีนมาแล้ว     ลองชมคลิปกิจกรรมของพวกเขาได้ที่คลิปด้านล่างเลยนะ       นี่แกคิดจะมาเทียบชั้นกับเหมียวเหรอ?…

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและข้อความผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pitsanu RongReang เป็นภาพจากกลุ่มลับกลุ่มหนึ่ง ที่เป็นแหล่งรวมตัวกันของกลุ่มคนจิตใจไม่ปกติที่ชอบมีเพศสัมพันธุ์กับสุนัข     ภายในกลุ่มดังกล่าวประกอบไปด้วยสมาขิกถึง 500 คน โดยแต่ละคนจะร่วมกันโพสต์ภาพสุนัขเพศเมียขณะอยู่ในช่วงติดสัตว์ พร้อมกับบรรยายว่าพวกเขาได้มีอะไรกับสุนัขของตัวเอง       พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “เพื่อนๆชาวเฟสบุุ๊คที่ยังมีจิตปกติอยู่ นี่มันไม่ใช่ปัญหาเล็กๆแล้วนะครับ.คนเราเริ่มกลายเป็นสัตว์นรกกันไปเยอะแล้วปะบ่นอยู่ใกล้ตัวเรา ขนาดเดรัจฉานทุกชนิดยังไม่ผสมพันธ์ุกับสิ่งมีชีวิตอื่นเลย นี่มันไม่ใช่คนแล้วละครับ”       หลังจากที่เรื่องราวของกลุ่มลับดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากเกิดความไม่พอใจ และพยายามเข้ามาต่อว่าในการกระทำของกลุ่มลับนี้อย่างไม่ขาดสาย   ที่มา Pitsanu RongReang

วันนี้แอดเหมียวมีเรื่องราวซึ้งๆ ของเพื่อนเหมียวตัวหนึ่งจะมาเล่าให้ฟังล่ะ เพื่อนเหมียวที่ว่านี้มีชื่อว่าเจ้า Perry มันเป็นสุนัขข้างถนนในประเทศอินเดียที่มีรูปร่างผอมกร่อง ดูขาดสารอาหารจนใกล้จะตายอยู่รอมร่อ       แต่โชคดีที่มีคนไปพบกับมันเข้าและแจ้งไปยังหน่วยงานที่ชื่อว่า Animal Aid Unlimited, India เจ้าหน้าที่ได้นำมันกลับมารักษาตัวต่อที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์และถ่ายรูปของมันเก็บไว้ เพื่อดูพัฒนาการของมัน       ในตอนแรกร่างกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผลและเหลือแต่หนังติดกระดู และหลังจากการรักษาตัวทำให้มันเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งแถมร่างกายของมันก็ยังดูแข็งแรงมากขึ้นด้วย       ในช่วงท้ายคลิปเราจะเห็นเจ้า Perry โผเข้ากอดเจ้าหน้าที่ชาวอินเดียรายหนึ่งด้วยความน่ารักน่าเอ็นดู เหมือนกับเป็นการขอบคุณที่ช่วยเลี้ยงดูและรักษามันมานั่นเอง       ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่าง     เหมือนได้ชีวิตใหม่เลยนะเจ้า Perry เหมียวขอให้นายมีชีวิตที่ดีขึ้นนะ ไม่ต้องกลับไปนอนรอความตายเหมือนเดิมแล้ว ที่มา Animal Aid Unlimited, India

กลายเป็นเรื่องชนสลดสำหรับคนรักหมาเลยทีเดียว เพราะเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ของอังกฤษได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกตรวจตราตามบ้านช่องตามปกติ     แต่มีบ้านอยู่หลังหนึ่งที่เขาเคาะประตูบ้านแล้วดันเจอเข้ากับสุนัขที่พุ่งพรวดออกมา เขาจึงรีบคว้าปืนขึ้นมายิงที่หัวของมันถึง 3 นัดรวด ทำให้มันตายลงในทันที     เหตุการณ์ทั้งหมดถูกบันทึกไว้ได้โดยกล้องวงจรปิดตัวหนึ่งที่ติดไว้หน้าบ้าน เผยให้เห็นภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเคาะประตูบ้านประชาชน ก่อนที่เจ้าสุนัขสายพันธุ์ดัชเชสที่ถูกเลี้ยงไว้ในบ้านหลังนี้จะพุ่งออกมาทางประตู แต่ด้วยความตกใจทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยิงมัน     หลังจากเกิดเสียงยิงปืนดังสนั่น Gillian Palacios และแม่ของเธอผู้เป็นเจ้าของสุนัขผู้น่าสงสารก็รีบออกมาดูเหตุการณ์และพบว่าสุนัขของเธอถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ทำให้เธอถึงกับช็อคสุดขีด ก่อนจะคุกเข่าลงไปนั่งกอดร่างของมัน     Gillian ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บ้านของเธอเพื่อบอกว่าเธอลืมปิดประตูโรงรถของเธอ ซึ่งเมื่อเธอเดินออกไปที่ประตู เจ้าสุนัขของเธอก็ตามออกไปเป็นปกติ โดยไม่มีท่าทีก้าวร้าวหรือเห่าอะไรเลย เธอจึงไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงต้องยิงมัน     อย่างไรก็ตามได้มีการสืบสวนสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งรัฐฟลอริดารายดังกล่าว ถึงสาเหตุในการกระทำครั้งนี้แล้ว     แอดเหมียวขอเป็นกำลังใจให้นาง Gillian ได้รับความยุติธรรมด้วยนะ ที่มา dailymail

เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงในช่วงปลายเดือนกันยายนของทุกๆ ปี ในต่างประเทศอย่างเช่นสหรัฐอเมริกาก็มักจะเต็มไปด้วยเศษใบไม้กองเป็นภูเขา ซึ่งเหนื่อยต่อการเก็บกวาดมาก จนทำให้คนที่มีสวนหรือบริเวณกว้างๆ ถึงกับเบื่อหน่ายในการทำความสะอาดเลยทีเดียว     แต่มีสุนัขอยู่ตัวหนึ่งที่ชื่นชอบฤดูนี้มากกว่าฤดูไหนๆ มันเป็นสุนัขพันธุ์ลาบาดอร์ที่ชื่อว่าเจ้า Stella ทุกครั้งที่มันเห็นกองใบไม้ขนาดใหญ่ ตาของมันจะลุกวาวและกระโจนเข้ากองใบไม้นั้นทันที จนเจ้านายของมันอย่าง Jody Hartman อดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกช่วงเวลาดังกล่าวเอาไว้ล่ะ     คลิปนี้ถูกเผยแพร่ผ่านแชแนลยูทูบของ Jody Hartman ไปเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมกับข้อความว่า “เวลานี้ของปีมาถึงแล้ว ใบไม้เต็มพื้นไปหมด และเจ้า Stella ก็…ฝังตัวอยู่ในนั้น”       ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   แม้ว่าบ้านเราจะไม่ได้มีฤดูใบไม้ร่วงแบบบ้านเขา แต่การจะหากองใบไม้ใหญ่ๆ แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เหมียวขอตัวไปกระโจนใส่ใบไม้บ้างนะ ที่มา Jody Hartman

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา แชแนลยูทูบ TopnewsThailand ได้รายงานว่า พบสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ สีน้ำตาล อายุประมาณ 5 ปี วิ่งขาลากเลือดอาบ หนีตายมาซ่อนตัวอยู่ในสวนข้างร้านณรงค์พัน­ธุ์ไม้ ถนนสายหลังสวรรคโลก-ศรีสำโรง หมู่1 ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย     โดยพบบาดแผลที่บริเวณลำคอและกลางลำตัวมีเลือดอาบ ชาวบ้านจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมารับเจ้าโกลเด้นตัวนั้นไปรักษาต่อ หลังจากการตรวจร่างกายพบว่าขาซ้ายหลังหัก และมีแผลที่กลางลำตัวกับลำคอ จนมีเลือดไหลออกมาเกาะเต็มตัวไปหมด     นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบบาดแผลขนาดใหญ่ที่ลำคอ จนเผยให้เห็นหลอดลมอย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันเช็ดเลือดและทำแผลเบื้องต้น และส่งเจ้าสุนัขผู้โชคร้ายไปให้กับเจ้าหน้­าที่ปศุสัตว์สุโขทัยเพื่อทำการเย็บแผลต่อไป     ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   การทำแผลต้องใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง เพื่อทำความสะอาดและเย็บบาดแผล ซึ่งขณะนี้เจ้าสุนัขอาการปลอดภัยแล้วและได้ประกาศตามหาเจ้าของต่อไป เจ้าหน้าที่เชื่อกันว่าบาดแผลต่างๆ อาจเกิดจากชาวบ้านใจร้ายหลังจากที่มันหลุดออกมาจากบ้านของมันนั่นเอง ที่มา TopnewsThailand