นี่เห็นอยู่นี้คือหน้าเว็บ CatDumb เวอร์ชันเก่า
-
สาวแชร์เรื่องมหัศจรรย์ ได้กลับมาเจอ Snow White ที่ไม่ได้เจอ 23 ปีและ Snow White ยังจำเธอได้
#เหมียวโคบี้ เชื่อว่าหลายๆ คนบนโลกใบนี้เติบโตมาพร้อมๆ กับการ์ตูน, แอนิเมชั่นจาก Walt Disney ซึ่งการได้รับชมการ์ตูนดังกล่าวถือว่าเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่จะทำให้เราคิดถึงอยู่เสมอ รวมถึง Disneyland สวนสนุกที่ออกแบบและดูแลโดย Disney เอง ก็ถือว่าเป็นสถานที่ที่จะทำให้แฟนๆ Disney ได้พบกับความมหัศจรรย์ฉบับดิสนีย์ หากอยากรู้ว่า Disneyland มหัศจรรย์แค่ไหน วันนี้เราก็ได้นำเรื่องมหัศจรรย์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในดิสนีย์แลนด์มาฝากเพื่อนๆ วันที่ 9 มกราคม 2019 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Amber Shaddock Roberts โพสต์ภาพและเล่าเรื่องราวสุดมหัศจรรย์ของเธอกับ Snow White ว่า “ในตอนที่ฉันอายุเพียง 2 ขวบ ฉันได้พบกับ Snow White และต่อจากนั้นมาทุกครั้งที่ฉันไปหาเธอ เธอก็จำฉันได้เสมอ แถมยังรู้ชื่อของฉันด้วย เธอทำให้ความทรงจำเกี่ยวกับ Disney ในวัยเด็กของฉันมหัศจรรย์มากๆ แต่พอฉันอายุได้ 15 ปี ฉันก็ไม่ได้ไปหาเธออีกเลย แต่พอฉันได้รู้ว่าตอนนี้เธอรับบทเป็น ‘นางฟ้าแม่ทูนหัว’ ฉันก็หาข้อมูลของเธอและวันนี้ฉันก็ตามไปกอดเธอ นี่เป็นวันที่ดีที่สุดเลย!! (และใช่ ฉันร้องไห้ด้วย)” …
-
เหล่าพี่สาวจับน้องชายมาอีโว เปลี่ยนเด็กชายให้กลายเป็นสาว เฮ้ย น่ารักกว่าพี่ซะอีก
ความสัมพันธ์ของพี่น้องแต่ละบ้านแตกต่างกันเนื่องจากลักษณะนิสัยที่ไม่เหมือนกัน ทั้งเพศ การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อมและปัจจัยอื่นๆ ทำให้บางครอบครัว บรรดาพี่น้องดูสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก แต่บางครอบครัวกลับดูห่างเหิน แถมเข้ากันไม่ได้ซะงั้น ผะ ผะ ผู้ชาย ครอสเดรส (แต่งตัวข้ามเพศ) สำหรับบางบ้าน ความสัมพันธ์ของพี่สาวและน้องชายก็ออกมาในรูปแบบเพื่อนซี้ จำได้ไหมว่า ตอนเด็กเราเคยเล่นกับพี่ๆ น้องๆ กันแบบไหน บางทีอาจจะสวมบทบาทเป็นคุณหมอ เป็นตำรวจจับผู้ร้าย เล่นขายของหรือจะพากันไปปีนต้นไม้จนโดนคุณพ่อคุณแม่ฟาดน่องลาย ซ้ายคือพี่สาว ส่วนด้านขวาคือน้องชาย! และอีกหนึ่งกิจกรรมที่พี่สาวแต่ละบ้านดูจะสนุกเสียเหลือเกิน ซึ่งนั้นก็คือการจับน้องชายแต่งตัว บางคนโตเป็นหนุ่มแล้ว แต่คนพี่ก็ยังไม่เลิกจับแต่งหน้า ทำผม ใส่กระโปรง ดูไปดูมาแล้ว เฮ้ย! น่ารักกว่าตัวเองซะอีก ยกตัวอย่างชาวญี่ปุ่นทั้งชวนกันมาโพสต์อวดรูปน้องชายของตัวเองในลุคสวยเช้ง จนหนุ่มๆ เหลียวมอง แยกไม่ออกไม่ว่าใครเป็นพี่สาว ใครเป็นน้องชาย เมื่อน้องชายอยากแต่งครอส มีหรือพี่สาวจะขัดใจได้ สาวผมเปียน่ารัก สาวแซนตี้ก็ถูกใจ สาวผมยาว ตาโต ก็เซ็กซี่ดี สาวสวย…
-
คุณครูโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนชี้ ผลจากการสังเกตหลังเด็กๆ แต่งชุดไปรเวทมาเรียน 1 วัน!!
จากประเด็นดัง เรื่องของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนที่อนุญาตให้นักเรียนสามารถแต่ง ‘ชุดไปรเวท’ มาโรงเรียนได้สัปดาห์ละ 1 วัน เป็นเวลา 1 เทอมในทุกๆ วันอังคาร โดยจุดประสงค์ของนโยบายนี้คือ ด้านความสุขสูงสุดของนักเรียน ด้านความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย และอีกด้านคือการทดลองทำวิจัยเรื่อง ‘การแต่งเครื่องแบบนักเรียน’ ซึ่งถ้าหากเรื่องนี้เกิดปัญหาขึ้น ทางโรงเรียนก็ยินดีที่จะยกเลิก… เด็กๆ ยิ้มแย้มกับการแต่งชุดไปรเวทไปโรงเรียน เรื่องนี้ได้กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างดุเดือดในโลกออนไลน์ว่า เหมาะสมหรือไม่กับสังคมไทยเพราะโดยปกติแล้วเด็กนักเรียนก็จะเครื่องแบบนักเรียนที่กำหนดโดยโรงเรียนอยู่แล้ว การแต่งชุดไปรเวทอาจทำให้เกิด ‘ความเหลื่อมล้ำ’ ได้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของประเด็นนี้คือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้มีหนังสือแจ้งไปยังโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ขอให้โรงเรียนทบทวนเรื่องดังกล่าวว่ามีความเหมาะสมหรือไม่เพียงใด ไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นในส่วนของนักเรียน ด้านนายนายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้เปิดเผยว่าถึงเรื่องนี้ว่า ตนมีความหนักใจกับประเด็นนี้เช่นเดียวกัน เพราะมองว่ากิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ อย่างเช่นถ้าหากมีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำกันขึ้น จะได้นำมาใช้เป็นกรณีศึกษาสอนให้เด็กๆ ได้รู้ถึงเรื่องนี้ แต่เมื่อมีข้อกังขาเช่นนี้ ก็ต้องขอหารือกับทางนักเรียนก่อนว่าจะมีทิศทางต่อไปในเรื่องนี้อย่างไร อนึ่งนายศุภกิจ ระบุว่า หากดูตามข้อกฎหมายในระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ.2551 โรงเรียนมีอำนาจการดำเนินการ และกิจกรรมนี้ไม่ถือว่าขัดต่อระเบียบแต่อย่างใด และนี่เป็นอีกมุมมองหนึ่งของทางคุณครูที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยในประเด็นนี้ เมื่อเฟซบุ๊กชื่อว่า Neung Wichai ได้ออกมาเผยถึงผลงานวิจัยหลังจากที่เด็กๆ ใส่ชุดไปรเวทไปเรียนเป็นเวลา…
-
ชาวเน็ตชื่นชม ศัลยแพทย์จีนยอมทำงานหนัก ผ่าตัดติดกัน 6 เคส จนผล็อยหลับกลางห้องผ่าตัด
อาชีพคุณหมอถือว่าเป็นอาชีพหนึ่งที่จำเป็นต่อสังคมมากๆ เพราะพวกเขาคืออาชีพที่จะช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของมนุษย์ แต่ในปัจจุบัน หลายๆ สังคมนั้นดูเหมือนจะมีแพทย์ไม่เพียงพอต่อความต้องการสักเท่าไหร่ เราจึกมักเห็นแพทย์คนหนึ่งต้องโหมทำงานหนักติดต่อกันหลายชั่วโมงหรือบางทีอาจหลายวัน เหมือนอย่างเรื่องที่เราจะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันในวันนี้ เมื่อศัลยแพทย์จีนคนหนึ่งโหมทำงานหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน จนผล็อยหลับไปทันทีที่ผ่าตัดเคสสุดท้ายเสร็จ ในวันที่ 4 มกราคม 2019 ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองกุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน เป็นวันที่ถือว่าวุ่นวายที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของศัลยแพทย์มือดีอย่างนายแพทย์แซ่หลัวก็เป็นได้ เนื่องจากมีเคสผ่าตัดเข้ามาอย่างมากมายและไม่มีบุคลากรและทรัพยากรพอที่จะจัดการเคสทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว คุณหมอแซ่หลัวจึงต้องเหมาเคสผ่าตัด ซึ่งแต่ละเคสก็ใช้เวลาไม่ใช่น้อยๆ คุณหมอแซ่หลัวผ่าตัดเสร็จไปเคสแล้ว เคสเล่า จนผ่านไปทั้งหมด 6 เคสติด และทันทีที่ผ่าตัดเชื่อมกระดูกมือของคนไข้สำเร็จ พลังกายของคุณหมอจะหมดลง เขาผล็อยหลับไปทันที กระนั้นเขาก็คงประคองมือคนไข้ไว้ได้อยู่ เมื่อรูปภาพดังกล่าวถูกแชร์ลงอินเทอร์เน็ต ก็กลายเป็นไวรัลภายในโซเชียลมีเดียจีนทันที มีชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมและแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ซึ่งคุณหมอแซ่หลัวก็ได้เห็นภาพของตัวเองในภายหลัง เขากล่าวว่าก็รู้สึกสงสารตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตามการรักษาคนไข้คือภารกิจสำคัญของคนเป็นแพทย์และต้องมาก่อนสิ่งอื่นเสมอ เขายังบอกต่อว่าตอนปกติเวลาเข้าเวรงานก็จะหนักประมาณนี้อยู่แล้วและก่อนจะเข้าผ่าตัดแพทย์จะต้องพิสูจน์ว่าตัวเองไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าคนไข้จะไม่ได้รับอันตราย รวมถึงคุณหมอยังเล่าอีกว่าเคสที่เคยผ่าตัดนานที่สุดใช้เวลาถึง 22 ชั่วโมงเลยทีเดียว ที่มา China Xinhua News
-
คนไร้บ้านจำใจทิ้งสุนัขเพราะไม่สามารถดูแลมันได้ดีพอ จึงหวังให้มันเจอคนที่ดีกว่า
วันที่ 2 เดือนมกราคม ปี 2019 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ใน Delaware Humane Association เจอสุนัขถูกทิ้งเดินไปเดินอยู่นอกศูนย์พักพิงของพวกเขา วันนั้นพนักงานได้พาสุนัขในศูนย์ออกไปเดินเล่น แต่อยู่ดีๆ น้องหมาก็เห่าเหมือนมันเห็นบางอย่าง เมื่อพนักงานตามไปดู พวกเขาก็ได้พบกับสุนัขตัวหนึ่งที่เดินวนเวียนอยู่แถวนั้น เจ้าหมาตัวนั้นผอมมาก แต่มีโน้ตที่เสียบกับสายปลอกคอของมัน ระบุว่า “โปรดช่วยดูแล Sky มันอายุ 6 ขวบ มันเป็นมิตรมากๆ ฉันไม่สามารถดูแลมันได้ เพราะฉันได้กลายเป็นคนไร้บ้านแล้วและไม่สามารถหาอาหารให้มันได้ มันไม่ได้ป่วย แต่แค่หิว ได้โปรด หาบ้านให้มันด้วย” พนักงานจึงพา Sky เข้าไปในศูนย์และเอาอาหารให้มันกิน และเมื่อสัตวแพทย์ได้ตรวจร่างกายของมัน ก็พบว่ามันอายุ 5-6 ปี ตามที่เขียนไว้ในโน้ต Kerry Flanagan Bruni ผู้อำนวยการของ Delaware Humane Association บอกว่า “ดูเหมือนว่ามันไม่ได้กินอาหารในปริมาณที่เหมาะสมมานาน” นอกจากจะมีน้ำหนักน้อยและมีหมัดเล็กน้อยแล้ว Sky ไม่มีปัญหาสุขภาพอย่างอื่น มันแข็งแรงดี ชอบเข้าสังคม และชอบให้ผู้คนมากมายอยู่รอบตัว…
-
นุ้งแมวเกิดมามีขาที่ยาวผิดปกติข้างหนึ่ง แต่มันสามารถทำทุกอย่างได้เหมือนแมวทั่วไป
นุ้งแมวจรจัดวัย 6 สัปดาห์ตัวหนึ่ง ถูกพาเข้าไปในศูนย์พักพิงสัตว์ท้องถิ่น ด้วยสภาพขาที่ยาวผิดปกติข้างหนึ่ง ซึ่งเป็นความผิดปกติตั้งแต่เกิด ต่อมาเมื่อ Tara Kay ผู้ก่อตั้ง The Odd Cat Sanctuary ในเซเลม รัฐแมสซาชูเซตส์ ได้รู้จักมิ้วน้อยตัวนี้ เธอจึงติดต่อไปยังศูนย์พักพิงดังกล่าว และเสนอรับมิ้วน้อยมาอยู่ในการดูแล Tara บอกว่า “มันอายุ 6 สัปดาห์ มันเกิดมาพร้อมขาหลังที่พิการ ขาหลังข้างหนึ่งของมันจึงยาวผิดปกติ และอีกข้างไม่มีนิ้วเท้าเลย มีแต่ตอ” Joelene หนึ่งในอาสาสมัครของ The Odd Cat Sanctuary ได้ไปรับมิ้วน้อยจากศูนย์พักพิง และพามันไปยังบ้านหลังใหม่ ซึ่งตลอดการเดินทาง มิ้วน้อยซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอและเพอร์เสียงดังมาก พวกเขาตั้งชื่อให้มิ้วน้อยว่า Millie แม้ขาหลังจะผิดปกติทั้ง 2 ข้าง แต่เจ้าเหมียวไม่ยอมให้อะไรมาหยุดยั้งมัน และเลือกที่จะใช้ชีวิตเหมือนแมวปกติ เมื่อมาถึง Odd Cat Sanctuary มิ้วน้อยเริ่มสำรวจรอบๆ ห้อง ก่อนจะปีนขึ้นบนไหล่ของ Tara เพื่อคลอเคลีย แน่นอนว่าไม่มีใครต้านทานลูกแมวขี้อ้อนตัวนี้ได้…
-
หญิงสาวกลับมาเจอ น้องหมากับน้องแมว แอบสวีทกัน หวานซะจนไม่กล้าเข้าไปขัด
เมื่อไหร่ก็ตามที่ Jordan Ireland นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Concordia University Wisconsin กลับบ้านที่โคโรลาโด เธอมักจะใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงที่บ้านเสมอ แต่เมื่อเธอกลับบ้านในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เธอเห็นพฤติกรรมของสองพี่น้องขนปุย Pumpkin กับ Maggie เปลี่ยนไปเล็กน้อย Maggie เป็นสุนัขพันธุ์ลาบราดูเดิ้ลขนาดเล็ก มันเข้ามาอยู่ในบ้านตอนที่ Ireland จบมัธยม ซึ่งตั้งแต่มันเข้ามา เจ้าเหมียว Pumpkin ก็เปลี่ยนไป ตอนแรก Maggie กับ Pumpkin เกลียดกันมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปทั้งคู่เริ่มสนิทกันมากกว่าเพื่อน และชอบเล่นสนุกด้วยกันเสมอ แม้จะรู้ว่าทั้งคู่สร้างความสนิทสนมในช่วงที่เธอไม่อยู่บ้าน แต่ Ireland ไม่รู้เลยว่าพวกมันสนิทกันมากแค่ไหน จนกระทั่งล่าสุด หญิงสาวบังเอิญเดินเข้าไปเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของพวกมัน แน่นอน เธอไม่พลาดที่จะบันทึกช่วงเวลานั้นเอาไว้ด้วย และได้โพสต์ในทวิเตอร์ว่า “นี่หมาฉันลูบแมวหรอ? แล้วแมวฉันกอดหมาด้วยหรอ?” จากคลิปข้างบนที่ Ireland แอบถ่ายไว้จะเห็นว่า Maggie เอามือไปลูบหลังน้องเหมียว และแทนที่ Pumpkin จะเคืองเหมือนแมวทั่วไปเวลาโดนรบกวน แต่มันกลับลุกขึ้นและใช้แขนทั้งสองข้างโอบกอดเพื่อนหมาอย่างอบอุ่น เพียงแค่สัปดาห์เดียวมีผู้เข้าชมคลิปดังกล่าวกว่า 1 ล้านครั้ง และถูกแชร์ในสื่อโซเชียลต่างๆ หลายพันครั้ง…
-
หมีที่เพิ่งเป็นอิสระจากการถูกขัง ได้รู้จักความสุขที่แท้จริง เมื่อมันเห็นหิมะตกครั้งแรก
หมีที่ชื่อ Otto ได้รู้จักกับความสุขที่แท้จริงหลังจากที่มันได้รับการช่วยเหลือออกมาจากกรงคอนกรีตโดย Four Paws International เมื่อปี 2016 และได้ย้ายไปอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่เยอรมนี ทันทีที่ Otto ไปถึง Bear Sanctuary Müritz ท่าทางที่แสดงออกอย่างธรรมชาติของมันบ่งบอกว่ามันรู้ว่าได้อยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว ที่บ้านใหม่นี้ Otto ไม่ได้อยู่ลำพัง แต่มันมีเพื่อนอีกตัวชื่อ Mascha ทั้งคู่เคยถูกขังในกรงเดียวกัน และได้รับการช่วยเหลือออกมาพร้อมกัน ตอนนี้พวกมันกำลังสำรวจบ้านใหม่และแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ด้วยกัน เวลาผ่านไป Otto จะเริ่มชินกับสิ่งแวดล้อมใหม่ แต่แล้วเมื่อฤดูหนาวแรกนับตั้งแต่มันถูกช่วยออกมามาถึง เจ้าหมีดูสับสนอย่างเห็นได้ชัด อย่างที่รู้กันว่าหมีที่ถูกขังเป็นเวลานาน พวกมันมักจะสูญเสียสัญชาตญาณธรรมชาติไป มันเลยไม่รู้จะตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติอย่างไร ดังนั้น เมื่อถึงฤดูหนาวและหิมะตก Otto จึงพยายามอย่างดีที่สุดในการเรียนรู้ที่จะผ่านฤดูหนาวนี้ไป เช่นเดียวกันพวกเขาทุกคน และวิธีปรับตัวเข้ากับฤดูหนาวของ Otto คือ การนอนราบลงไปบนหิมะ ภายใต้แสงแดดอ่อนๆ นี่เป็นวิธีการที่มันคิดค้นด้วยตัวเอง และดูมันมีความสุขมากซะด้วยสิ ทาง Four Paws บอกว่า “มันกำลังทำเตีียงแสนสบาย เพื่อเพลิดเพลินกับแสงอาทิตย์ในหน้าหนาวที่หาได้ยาก” นับตั้งแต่นั้นมา Otto ก็ได้เรียนรู้การจำศีลในฤดูหนาวอย่างที่หมีทั่วไปควรทำ แม้ว่าการได้สัมผัสหิมะจะเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับ Otto แต่มันเรียนรู้ที่จะปรับตัวได้เป็นอย่างดี ทำเอาผู้ที่ช่วยมันไว้รู้สึกอุ่นใจไปด้วย…
-
23 ภาพสัตว์โลกโครตน่ารักที่เรียกว่า ‘อัลปาก้า’ ยิ้มเก่ง เซลฟี่เก่ง ทำใจละลายเก่งกว่า
วันนี้เหมียวพาเพื่อนๆ ไปดูความน่ารักของสัตว์โลกที่มีชื่อว่าอัลปาก้า พวกมันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอูฐ แต่พวกมันมีขนาดเล็กกว่า ขนฟูกว่า และถ่ายรูปขึ้นกว่าสัตว์ในตระกูลเดียวกันด้วยนะ สำหรับอัลปาก้านี้ พวกมันมีถิ่นกำเนิดในประเทศเปรู มีดวงตากลมโตและมีรอยยิ้มอันแสนหวานที่ทำให้ใจคุณละลายได้ และน่ารักน่ากอดจนทำให้วันแย่ๆ ของคุณกลายเป็นวันที่สดใสได้ 1. เฮ้!! เจ้าพวกลามะ ออกไปจากถิ่นพวกตรูเลย อย่ามาตีเนียน 2. มาจ่ะ เข้ามาเลยจ่ะ พร้อมจุ๊บทุกคนแล้ว 3. เซลฟี่เก่ง แย่งซีนเก่งกว่า 4. คือจะถ่ายหมู ไม่ได้จะถ่ายแกเล้ยย เจ้าอัลปาก้า 5. นี่คือนุ้ง Simona เองจ้า นางยิ้มเก่งเด้อ 6. ใครคิดจะแอบถ่ายรูปอัลปาก้าตอนเผลอ บอกเลยไม่ได้ผลหรอก… 7. ของจริงไม่พูดมาก เจ็บคอ 8. ดูหน้าแม่สิ นางภูมิใจมากที่มีลูกให้พ่อแม่ได้ 9. วันนี้น้องติดโบว์จ้ะ เพราะต้องถ่ายรูปครอบครัว 10. เนี่ย…
-
เหมียวแก่วัย 20 ปีถูกทิ้ง ได้หญิงคนหนึ่งช่วยให้มันได้ใช้ชีวิตบั้นปลายแสนสุข
แมวเหมียว Rascal ใช้เวลาแทบทั้งชีวิตอยู่กับครอบครัวเพียงครอบครัวเดียว จนกระทั่งมันแก่เจ้าเหมียวก็ยังสุขภาพดี จะมีก็เพียงแค่หูที่หนวกไปแล้วเท่านั้น ทว่าปัญหาของมันก็เริ่มขึ้นเมื่อทาสคนเก่าของมันย้ายบ้าน ทำให้เจ้าแมวที่เคยชินกับบ้านหลังเก่าปรับตัวไม่ทัน และมักมีอุบัติเหตุในบ้านใหม่เสมอ สุดท้ายเจ้าแมวก็ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ศูนย์พักพิงสัตว์ ด้วยเหตุผลว่า “มันแก่เกินไปและชอบมีอุบัติเหตุในบ้านเป็นประจำ” ทำให้เจ้าแมวลำบากหนักขึ้นไปอีก Rascal ดูสับสนมากเมื่อถูกเจ้าของทิ้งไว้ คนที่นั่นเข้าใจเจ้าแมวดี เนื่องจากลำพังแค่บ้านใหม่มันก็ปรับตัวไม่ได้แล้ว นี่เล่นพามันมาที่ใหม่โดยที่ไม่มีคนที่มันคุ้นเคยอยู่เลย มันจึงงงหนักเข้าไปอีก เมื่อเจ้าหน้าที่ในศูนย์พักพิงได้รู้ว่ามันอายุตั้ง 20 ปีแล้ว พวกเขาก็ร้อนใจใหญ่เลยที่แมวแก่ขนาดนี้ถูกทิ้ง เนื่องจากมันน่าจะเหลือเวลาใช้ชีวิตอีกไม่นานแล้ว และพวกเขาก็ไม่อยากให้เวลาอันน้อยนิดของมันต้องจบลงที่ศูนย์พักพิงสัตว์ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันหาบ้านใหม่ให้มันในทันที โดยโพสต์เรื่องของมันในเพจเฟซบุ๊กว่า “Rascal เป็นแมวแก่ที่อยู่กับครอบครัวมาเกือบทั้งชีวิต เราจึงเข้าใจว่าทำไมมันรู้สึกสับสน เราหวังว่าคุณจะช่วยกันแชร์โพสต์นี้ต่อไป เพื่อที่ว่าคืนนี้จะเป็นคืนแรกและคืนสุดท้ายที่มันจะได้อยู่ในศูนย์พักพิง” โชคดีที่โพสต์ของพวกเขาช่วยเจ้าแมวได้สำเร็จจริงๆ คลิปวิดีโอที่พวกเขาโพสต์ให้มันถูกแชร์ต่อไป และมีคนเข้าชมกว่า 200,000 ครั้ง ทำให้มีคนมากมายรับรู้เรื่องของมัน ในวันต่อมา Meredith Bauer ที่ได้เห็นคลิปของมันก็มารับมันไปเลี้ยง ทำให้เจ้าเหมียวไม่ต้องทนใช้ชีวิตตามลำพังในศูนย์พักพิงนาน ครั้งนี้ Rascal สามารถปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ได้เป็นอย่างดี มันไม่สร้างเรื่องที่บ้านใหม่เลย และก็ยังเข้ากับคนในครอบครัวใหม่ได้ดีมากด้วย ใช้เวลาเพียงนิดหน่อยมันก็ยอมกอดกับ Bauer…
-
หญิงเต็มใจติดหนี้หลักแสน เพื่อช่วยให้หมาของตัวเองได้รักษาโรคมะเร็ง
สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคน พวกมันไม่ใช่แค่เพื่อนแก้เหงา แต่เปรียบเสมือนสมาชิกคนสำคัญในครอบครัว ดังนั้นถึงจะต้องลำบาก หญิงสาวก็ไม่ลังเลที่จะต้องช่วยชีวิตมัน Elizabeth Ann Entenman สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างจากเจ้า Pearl หมาลาบราดอร์สีดำของเธอ มันคือชิ้นเนื้อเล็กๆ สีแดงที่โผล่ขึ้นมาในปากของเจ้าหมาโดยไม่มีที่มาที่ไป เธอสังหรณ์ใจไม่ดีตั้งแต่เห็นมันครั้งแรกแล้ว แต่ก็พยายามทำเป็นไม่สนใจระหว่างที่รอผลตรวจจากสัตวแพทย์อยู่ ทว่าต่อมาเธอก็ได้รับแจ้งว่ามันเป็นมะเร็งจริงๆ Elizabeth จึงจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ว่าเธอจะพยายามยืดชีวิตมันโดยการพาเจ้าหมาไปรักษา หรือว่าจะเลี้ยงมันให้มีความสุขที่สุดในเวลาที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด…แต่ด้วยความที่เธอรักมันมาก เธอจึงเลือกรักษามัน Pearl เข้ามาในชีวิตของเธอตั้งแต่ปี 2010 ตอนนั้นแม่ของเธอเองก็กำลังป่วยเป็นมะเร็งปอด และเธอก็มีเจ้าหมาที่คอยอยู่เป็นกำลังใจให้ นอกจากเรื่องการจากไปของแม่แล้ว ตลอดหลายปีที่อยู่ด้วยกันมา มันก็คอยเติมเต็มเธอเสมอ เธอดีใจมากที่รับมันมาจากเจ้าของเก่าที่บอกว่ามันบ้าพลังและขี้อ้อนเกินไป เพราะสำหรับเธอแล้วมันเป็นคู่หูที่เข้ากันได้อย่างลงตัว อย่างไรก็ตาม ถึง Elizabeth ตัดสินใจจะช่วยมัน แต่เธอก็ไม่ได้มีเงินเก็บมากมายที่จะใช้รักษาเจ้าหมา เธอจึงต้องยอมเป็นหนี้บัตรเครดิตเพื่อให้เจ้าหมาหายดี ค่ารักษาของมันก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย เธอต้องจ่ายค่าตรวจ ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่ารับคำปรึกษา และค่าอื่นๆ อีกมากมาย ถึงค่าใช้จ่ายบางอย่างจะไม่แพง แต่เมื่อต้องเข้ารักษาหลายต่อหลายครั้ง รวมแล้วก็แพงจนเธอท้อใจ เธอจ่ายค่ารักษาให้มันไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันเธอมีหนี้รวมเกือบ 17,000 ดอลลาร์สหรัฐ…
-
หญิงสาวช่วยแมวถูกทิ้งในลานจอดรถ และพามาเจอเพื่อนใหม่ที่มันถูกใจ
แมวน้อยถูกทิ้งโชคดีมากที่มีทาสคนใหม่รับเลี้ยงต่อแทบจะในทันที และยังได้ไปเจอเพื่อนแมวอีกตัวในบ้านหลังใหม่ด้วย พวกมันทั้ง 2 ตักลายเป็นเพื่อนซี้กันตั้งแต่แรกเจอเลย มิ้วน้อยตัวนี้ถูกเอามาทิ้งไว้ในสถานดูแลเด็กที่ Cathy Blouin ทำงานอยู่ เธอรู้เรื่องมันจากคนที่มารับลูก จากนั้นจึงตามเสียงมันไปจนเจอตัวอยู่ในลานจอดรถ มันร้องดังมากเพราะไม่รู้ต้องทำตัวยังไง และแน่นอนว่ามันพยายามจะวิ่งหนีเธอด้วย แต่ Blouin ก็ไวพอจะคว้าตัวมันไว้ได้ และพามันกลับไปเลี้ยงไว้ที่บ้านด้วย เธอตั้งชื่อมันว่า Whippet ในตอนแรกเจ้าแมวส่งเสียงขู่เธอไม่หยุดเลย แต่พอผ่านไปสักพักมันคงเห็นว่าเธอไม่เป็นอันตรายต่อมัน มันจึงไม่ระแวงเธออีก พอเธอเอาข้าวเอาน้ำให้มันกิน และอาบน้ำให้มันแล้ว เจ้าแมวน้อยก็เปิดใจให้ครอบครัวใหม่เต็มที่ มันสบายใจจนหลับปุ๋ยไปบนไหล่ของเธอเลย แม้ว่าการได้บ้านใหม่ทันทีจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับมัน แต่ดูเหมือนเจ้า Whippet จะยินดีกว่าที่มันได้เจอพี่แมวขาวดำ Oreo อยู่ในบ้านด้วย ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน Whippet ก็เข้าเอาหน้าไปถูไถ Oreo ก่อนเลย ส่วนพี่แมวเองก็คงเห็นน้องเป็นมิตรดี มันจึงช่วยดูแลโดยการเลียขนให้น้องเช่นกัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Whippet ก็ตาม Oreo เหมือนเป็นเงาเลยทีเดียว มันจะตามพี่แมวไปทุกที่ และพยายามมีส่วนร่วมกับทุกสิ่งที่พี่แมวทำ เจ้า Oreo เองก็ดูจะชอบที่มันทำแบบนั้น แถมมันยังช่วยสอนวิถีแมวให้กับน้องเล็กด้วย…
-
เจ้าเหมียวเดินรออยู่หน้าประตูด้วยความตื่นเต้น เพราะรู้ว่าทาสทหารกำลังจะกลับมา
การที่แมวไม่ได้อยู่หน้าประตูทุกวันเพื่อรอคุณกลับบ้านหรือไม่ได้ส่ายหาง ไม่ได้หมายความว่าพวกมันไม่รักคุณ แต่อาจเป็นเพราะพวกมันไม่รู้แสดงออกถึงความรู้สึกที่มีต่อคุณอย่างไร อย่างไรก็ตาม Finn ไม่เหมือนแมวทั่วไป เมื่อเจ้าของของมันต้องไปเกณฑ์ทหารและจากบ้านไปนาน มันคิดถึงเขามากๆ มันรอเขากลับมาทุกวัน และมันไม่อายที่แสดงความรู้สึกที่มีต่อเจ้าของ Finn รักและผูกพันกับเจ้าของมากๆ ถึงขนาดที่ว่าวันที่เจ้าของกลับมา มันเริ่มร้องเมี๊ยวๆ และสนใจประตูมากเป็นพิเศษ ทั้งๆ ที่มันยังไม่เห็นและไม่ได้ยินเสียงเจ้าของด้วยซ้ำ เจ้าเหมียวดูตื่นเต้นมากๆ มันร้องเมี๊ยวๆ พร้อมกับเดินวนเวียนอยู่ที่ประตูตลอดเวลา ขณะเดียวกัน หญิงสาวที่ถ่ายคลิปก็ถามมันซ้ำๆ ว่า “รู้หรอว่าเขาจะกลับมา?” สักพักหญิงสาวถามเจ้าเหมียวอีกว่า “ลูกได้ยินเสียงพ่อมั้ย? ใคร ใครมาบ้านกันนะ?” เท่านั้นหและ Finn วิ่งไปที่ประตู แล้วยืน 2 เท่า พร้อมกับพยายามใช้อุ้งเท้าเปิดประตู แต่ก็นั่นแหละ มันเปิดประตูไม่ได้ สุดท้ายมันกลับถอยออกมานั่งรถเหมือนเดิม… และแล้วไม่กี่นาทีหลังจากหน้า ประตูก็ถูกเปิดออก พร้อมการปรากฏตัวของมนุษย์คนโปรดของเจ้าเหมียว นี่คงเป็นการเซอร์ไพรส์ที่พิเศษที่สุดสำหรับ Finn มันเดินวนอยู่ที่เท้าของพ่อ และพยายามจะบอกพ่อว่ามันคิดถึงพ่อมากแค่ไหน หลังจากที่พ่อวางของเสร็จ เขาก็หันไปหา Finn แล้วอ้าแขนออกพร้อมถามเจ้าเหมียวว่า “ว่าไงเพื่อน” เท่านั้นแหละ…
-
นางแบบสาวเผยเคล็ดลับหุ่นผอมเพรียว แขนขาเรียว ต้องขอบคุณ “อาหารว่างและโคเคน”
หากพูดถึงสิ่งที่ผู้หญิงหลายๆ คนปรารถนา การมีรูปร่างที่ดีตามสมัยนิยมนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในลิสต์ที่สำคัญของพวกเธออย่างแน่นอน วันนี้เราก็เลยเอาเคล็ดลับความผอมของนางแบบสาวมาให้ชมกัน แต่เป็นเคล็ดลับที่ไม่แนะนำให้ทำตามกันสักเท่าไหร่ เนื่องจากเธอใช้สารเสพติดหนักมาก!! https://www.instagram.com/p/BPvfOHig7wt/?utm_source=ig_embed พบกับ Ruby Tuesday Matthews นางแบบสาวชาวออสเตรเลียวัย 25 ปี ผู้มีหุ่นในฝันอย่างที่ผู้หญิงหลายๆ คนอยากมี เธอเปิดให้แฟนๆ ได้เข้ามาถามคำถามผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยมีแฟนคนหนึ่งถามเธอว่าเทคนิคอะไรที่ทำให้เธอรักษาน้ำหนักอยู่ในช่วง 54 กิโลกรัมได้ตลอด ซึ่งเธอก็ตอบไปว่าเป็นเพราะไลฟ์สไตล์และการเลือกทานอาหารของเธอที่มักจะทานพวกของว่างและเสพโคเคน “ฉันเสพโคเคนหนักมาก ฉันชอบมันมากเลยล่ะ แถมฉันยังสูบบุหรี่ ดื่มกาแฟดำและโค้กอีกด้วย” Ruby กล่าวถึงเคล็ดลับที่ทำให้เธอยังผอมอยู่แม้จะทานอะไรเข้าไปมากมายก็ตาม https://www.instagram.com/p/BH3ADWzjf3C/?utm_source=ig_embed แต่ในปัจจุบันนี้ Ruby ไม่เสพโคเคนอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากเธอกลายเป็นคุณแม่ลูกสอง ที่คำนึงถึงสุขภาพของตัวเองและลูกอย่างที่สุด “ฉันไม่รู้เลยตอนที่ฉันตั้งครรภ์ ฉันไปปาร์ตี้กับเพื่อนจากนั้นก็รู้สึกไม่สบาย เลยขอกลับบ้าน วันต่อมาก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองและฉันไม่คิดว่าตัวเองท้องเลย เพราะฉันผอมและก็ปาร์ตี้หนักมาก” เธอกล่าว แต่หลังจากไปให้แพทย์ตรวจ แพทย์ก็คอนเฟิร์มว่าเธอตั้งครรภ์ ทันทีที่รู้ Ruby ก็กังวลเป็นอย่างมากกว่าไลฟ์สไตล์ของเธอจะทำร้ายลูกน้อยในท้อง แต่แพทย์ก็ได้ปลอบเธอว่าทุกอย่างมันจะไม่เป็นไร https://www.instagram.com/p/Bor550xlS1O/ ปัจจุบัน Ruby…
-
สุดสลด นายพรานลั่นไกปลิดชีพลูกชายของตัวเอง เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นกวางมูส
การที่หิมะตกนี้ ดูเผินๆ อาจจะดูสวยงาม แต่จริงๆ แล้วมันทำให้การใช้ชีวิตของผู้คนในพื้นที่ดังกล่าวยากลำบากขึ้นมากๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งทำให้การใช้พาหนะบังคับไม่ได้ดังใจหรือทำให้วิสัยทัศน์การมองเห็นแย่ลง และเรื่องของวิสัยทัศน์ที่ย่ำแย่ในวันที่หิมะตกหนักนี้เอง จึงเกิดเหตุการณ์สลดอย่างที่เราจะนำมาให้ได้ชมกัน เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2019 สำนักข่าว Moscow Times ได้รายข่าวการตายของหนุ่มวัย 18 ปีที่ถูกยิงโดยคุณพ่อแท้ๆ เนื่องจากคิดว่าเขาเป็นกวางมูส อ้างอิงตามรายงานของเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์สุดสลดคุณพ่อได้พาลูกชายเข้าไปล่าสัตว์ในป่าใกล้ๆ เมือง Khanty-Mansiysk ป่าดังกล่าวเป็นที่รู้ดีว่าเป็นป่าที่มีภูมิอากาศแบบกึ่งขั้วโลก (Subarctic) ซึ่งจะมีอุณภูมิหนาวเย็นตลอดทั้งปี บวกกับวันดังกล่าวมีหิมะตก ทำให้วิสัยทัศน์การมองเห็นย่ำแย่มากๆ สองพ่อลูกตัดสินใจแยกกันออกไปเพื่อหาร่องรอยของสัตว์ที่พวกเขาจะล่า ก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะเจอกับสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ท่ามกลางหิมะ เขาเข้าใจว่าคงเป็นกวางมูส จึงลั่นไกปืนใส่อย่างไม่ลังเล อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณพ่อเข้าไปตรวจสอบสิ่งที่เขายิงไป ก็พบว่ามันไม่ใช่กวางมูสอย่างที่เขาเข้าใจ มันคือร่างของลูกชายของเขาเองที่นอนแน่นิ่งไม่ตอบสนองอยู่บนพื้นหิมะ ตามรายงานของเจ้าหน้าที่สืบสวนพบว่าเด็กหนุ่มวัย 18 ปี เสียชีวิตทันทีที่ถูกพ่อของเขายิง และในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ก็จับกุมผู้เป็นพ่อในข้อหาประมาทเลินเล่อจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี ที่มา Ladbible, Moscow Times
-
เซย์โนถุงพลาสติก ลดถุงไปแล้ว 91 ล้านใบ ยอดบริจาคให้ รพ.ศิริราช พุ่ง 18.2 ล้านบาท
ในยุคสมัยที่ใครๆ ก็หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น จะไปไหนมาไหนก็พกถุงผ้า แก้วน้ำส่วนตัว หรือหลอดดูดน้ำที่ใช้ซ้ำได้ ทำให้จำนวนพลาสติกที่ใช้ในชีวิตประจำวันลดน้อยลงกว่าแต่ก่อน แคมเปญ “ลดวันละถุง คุณทำได้” เป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่ช่วยลดการใช้ถุงพลาสติก หลายๆ คนอาจจะคุ้นตาจากแสตนดี้พี่ตูน พรีเซนเตอร์ของแคมเปญ ที่ตั้งอยู่บนทางเข้า-ออกร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลฟเว่น ทุกครั้งที่เราซื้อสินค้าภายในร้าน โดยไม่รับถุงพลาสติก จะได้ใบเสร็จที่ลงท้ายด้วยคำว่า “ขอบคุณที่ไม่รับถุงพลาสติก” ระบบจะมีการบันทึกไว้เพื่อสบทบทุนครั้งละ 20 สตางค์ให้กับโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งตอนนี้ยอดเงินพุ่งถึง 18.2 ล้านบาทแล้ว ศิลปินอีกหลายท่านก็ร่วมรณรงค์ในแคมเปญนี้ด้วย ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้สแลม คาดหวังว่าแคมเปญนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ เพื่อลูกหลานของเราในอนาคต ปัญหาขยะและถุงพลาสติกที่ยากต่อการย่อยสลายยังคงมีมาอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน โดยประเทศไทยมีจำนวนขยะกว่า 27.40 ล้านตัน คิดเป็น 75,000 ตันต่อวัน เฉลี่ยแล้วเราสร้างขยะราวๆ 1.13 กิโลกรัมต่อวัน แคมเปญดังกล่าวจึงเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นที่ของการแสดงความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในโรงพยาบาลอีกด้วย แคมเปญดีๆ แบบนี้ มาช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อรักษาโลกของเราให้น่าอยู่กันเถอะ ที่มา: @7ElevenThailand, กรุงเทพธุรกิจ
-
เมื่อกะเพราไข่ดาวถูกย่ำยีในร้านอาหารญี่ปุ่น ดูแล้วปวดใจ อย่าทำแบบนี้ไม่ว่ากับใคร เข้าใจไหม…
ประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ชาวไทยนิยมไปเที่ยวเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากว่าอยู่ใกล้ เดินทางเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง แถมเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นก็มีความน่าหลงใหลสุดๆ ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่นที่มีมาอย่างยาวนานทำให้วัฒนธรรมของทั้งสองชาติเข้ากันได้ดีมากๆ โดยเฉพาะเรื่องของอาหาร เรื่องต่อไปนี้กำลังถูกแชร์ต่อและพูดถึงกันเยอะมากๆ ในโลกออนไลน์ มาจากโพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่าคุณ Kamonwit Warakornwanlaya ที่ได้เผยคลิปวิดีโอลงในกลุ่ม คนชอบตะลอนเที่ยวญี่ปุ่น ในคลิปวิดีโอเป็นคลิปของอาหารขึ้นชื่อของประเทศไทยอย่าง กะเพราไก่ไข่ดาว ที่ตอนนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตในญี่ปุ่น “นี่คือร้านอาหารไทยที่ดังในญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นชอบทาน ร้านนี้อยู่แถว ginza ดูเค้าทำผัดกะเพราไข่ดาวบ้านเราเป็นแบบนี้ จานนี้ราคาประมาณ 500 บาทบ้านเรานะครับ ฝากไว้เพื่อใครคิดถึงอาหารไทย” กะเพราไข่ดาวหน้าตาน่าทานจานนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับมันนะ พนักงานสาวกล่าวทักทายและเริ่มลงมือ ขะ ขะ เขี่ยไข่ดาวออก และบี้ข้าวสวยในจานให้เป็นหลุม นำไข่ดาวคว่ำหน้าลงแล้วทำการสับลงไปอย่างไร้ความปราณี สับ สับ สับ สับ สับ สับ ม่ายยยยยยย สับ สับ สับ จนหนำใจแล้วก็เอากะเพราที่อยู่ข้างๆ มาคลุก นี่ใส่หอมหัวใหญ่อีกด้วย ม่ายยยยยย คลุกแล้วสับเพิ่มอีกรอบ ไม่จริงงงงง…
-
แฟนคลับไม่ขำ! พิธีกร Greek TV ออกมาขอโทษ หลังเหยียดหน้าตา สมาชิกบอยแบนด์เกาหลี
การทำรายการให้ออกมามีเนื้อหาน่าสนใจนั้น นอกจากจะต้องอาศัยการเทคนิคต่างๆ ที่ใช้ในการเล่าเรื่อง เป็นการดึงดูดคนดูแล้ว พิธีกรเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สร้างสีสันในรายการ โดยบางคนอาจจะใช้ทักษะในการพูดคุยหยอกล้อกับแขกรับเชิญ ทำให้รายการดำเนินต่อไปอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การหยอกล้อนั้นต้องพอเหมาะพอควร เพื่อเป็นการระมัดระวังไม่เกิดประเด็นดราม่า เหมือนพิธีกรรายการ “Eutixeite” ช่อง Greek TV ที่ต้องออกมาขอโทษเหล่าสมาชิกและแฟนคลับไอดอลเกาหลีวง BTS, EXO, Wanna One เมื่อพูดถึงประเด็นหน้าตาและความหล่อ… Katerina Kainourgiou พิธีกรคนดังกล่าวได้โพสต์ลงในอินตราแกรมว่า “ฉันต้องโทษที่พูดแบบนั้นออกไปทำให้หลายคนรู้สึกแย่ ทั้งแฟนๆ ของ Kang Daniel วง Wanna One, Sehun วง Exo, Taehyung และ Jungkook จากวง BTS” https://www.instagram.com/p/BsP4F_BhpGR/?utm_source=ig_embed เรื่องของเรื่องคือระหว่างดำเนินรายการเธอได้พูดคุยกับแขกรับเชิญในหัวข้อ “100 อันดับชายหน้าตาดี ใน 2018” โดยแสดงความคิดเห็นเชิงหมิ่นประมาทว่า “เขาเป็นผู้ชายจริงเหรอ” และ “ไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้หญิงโหวตให้เขาได้อันดับ 5” คลิปที่วิจารณ์หน้าตาของสมาชิกวงบอยแบนด์เกาหลี จนเป็นประเด็นดราม่า ถ้อยคำเหล่านั้นทำให้เหล่าแฟนคลับเกิดความไม่พอใจ…
-
สังคมรุมวิจารณ์ เมื่อนิตยสารญี่ปุ่นชี้เป้า นักศึกษามหาวิทยาลัยไหน ได้ง่ายเมื่อเมาแล้ว…
วัฒนธรรมการดื่มของญี่ปุ่นมีมายาวนานแล้ว อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะตั้งใจทำงานอย่างหนัก พอหลังเลิกงานจะพากันไปดื่มเพื่อคลายความเครียดที่สะสมมาตลอดทั้งวัน ไม่ใช่แค่เพียงผู้ใหญ่เท่านั้นที่พากันไปดื่มจนเมาแอ๋ แต่เหล่านักศึกษาก็ดื่มอย่างหนักเช่นกัน จากประเด็นนิตยสารญี่ปุ่นแท็ปลอยด์ ที่ลงบทความพาดพิงถึงนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น เรียงลำดับจากความง่ายในการมีเพศสัมพันธ์ด้วย ทำให้ชาวเน็ตออกมาแสดงความคิดเห็นถึงความไม่เท่าเทียมทางเพศในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมองว่าผู้หญิงเป็นเพียงวัตถุทางเพศ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักศึกษาหญิงในมหาลัยหลายแห่งแสดงความเคลื่อนไหวโดยการร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ Change.org เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวของจากทางนิตยสารออกมาขอโทษ พร้อมกับงดเผยแพร่เนื้อหาที่พาดพิงถึงเพศหญิง เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น Sputniko! ศิลปินชื่อดังยังเชิญชวนผู้ติดตามของเธอในทวิตเตอร์ร่วมลงชื่อเพื่อแสดงความเคลื่อนไหว จนเป็นกลายเป็นกระแสโด่งดังและตอนนี้มีผู้ลงนามว่ากว่า 25,600 ในเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา Kazuna Yamamoto ผู้ผลักดันการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ นี้เป็นรุ่นพี่ปี 4 ของมหาวิทยาลัย International Christian เธอให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันดีใจที่มีคนร่วมลงชื่อมากขนาดนี้ และอยากให้ทุกคนเห็นว่าการมองผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศไม่ใช่เรื่องตลก” นอกจากนั้นเธอยังได้โพสต์วิดีโอลงบนโลกออนไลน์โดยใช้แฮชแท็ก #StandUpJapan ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นิตยสารลงบทความที่เกี่ยวข้องกับการดูหมิ่นเพศหญิง ยกตัวอย่างเช่น “ลักษณะผู้หญิงที่พาขึ้นเตียงได้ง่าย” หรือ “ชนิดของแอลกอฮอล์ชวนดื่มเมื่ออยากมีเซ็กส์กับหญิง” . . เมื่อเร็วๆนี้เอง ประเทศญี่ปุ่นถูกจับตามองในเรื่องของความไม่เท่าเทียมทางเพศ จากการเคลื่อนไหวของสังคมโดยใช้แฮชแท็ก #MeToo จากการจัดอันดับความเท่าเทียมทางเพศโดย World Economic Forum ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่อยู่ในลำดับที่ 110 จาก 149 และยังมีการเปิดเผยถึงการลดโอกาสของเพศหญิงในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอีกด้วย…
-
หนุ่มเมาฉุนจัด การ์ดไม่ให้เข้าร้าน กลับบ้านคว้าลูกซองกลับมาจ่อหน้า วิ่งกันวุ่น!!
สำหรับบางสถานที่อย่างเช่นไนท์คลับ และบาร์ต่างๆ ก็จะมีการ์ดคอยดูแลอยู่หน้าทางเข้า เพื่อดูแขกที่เข้ามาใช้บริการว่าทำตามกฎของทางร้านหรือไม่ และบางทีเมื่อเห็นคนที่ไม่ทำตามกฎหรือว่าเมาเกินไปพวกเขาก็อาจปฏิเสธไม่ให้เข้าเพื่อความปลอดภัย แต่ว่ามีอยุ่เหตุการณ์หนึ่งที่การ์ดดูแลเกือบจะกลายเป็นผีเฝ้าหน้าร้านไปซะแล้ว เมื่อมีชายเมาแอ๋คนหนึ่งเดือดจัดที่การ์ดไม่ให้เข้าร้าน เขาเลยควักปืนลูกซองมาจ่อหน้าการ์ดซะเลย!! นี่แน่ะ โดยสื่อต่างประเทศได้รายงานเรื่องนี้ว่า ชายนามว่านาย Azat Khikmatullin ถูกการ์ดของไนท์คลับแห่งหนึ่งในเมือง Naberezhnye Chelny ประเทศรัสเซียปฏิเสธไม่ให้เข้าร้านด้วยเหตุผลบางอย่าง ด้วยความเดือดดาลบวกกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่อยู่ในกระแสเลือดเวลานั้น เขาเลยกลับบ้านไปเอาปืนที่บ้านแล้วย้อนกลับมาที่ไนท์คลับอีกครั้ง เพื่อจะทำการแก้แค้นให้สาสมแก่ใจ เห้ย เจอของจริงนี่หว่า ทางด้านการ์ดในเวลานั้น สังเกตการณ์ผ่านกล้องวงจรปิดเห็นแล้วว่านาย Azat กลับมาอีกครั้งหลังจากถูกปฏิเสธไปในตอนแรก เลยทำให้การ์ดคนหนึ่งเตรียมสเปรย์พริกไทยเอาไว้เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น แล้วไปรอเขาที่หน้าทางเข้า แต่ดูเหมือนว่าสเปรย์พริกไทยในมือของการ์ดคนนี้จะดูง๋อยไปเลย เมื่อเจอกับ Azat ที่คว้าปืนลูกซองขึ้นมาจ่อไปยังการ์ดคนนี้ เขาเลยต้องหนีเพื่อหาที่กำบังก่อน คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ แต่ว่าด้วยความเชี่ยวชาญในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา การ์ดก็กระโจนออกมาจากที่หลบแล้วฉีดสเปรย์พริกไทยเอาไปเต็มๆ หน้าของนาย Azat จากนั้นก็ตะลุมบอนกันอย่างอุตลุด ก่อนที่จะมีอีกคนหนึ่งเข้ามาช่วย จนในท้ายที่สุดแล้วทางการ์ดก็สามารถขว้างปืนออกไปไกลตัวของนาย Azat ได้และจับชายวัย 30 ปีคนนี้มัดเอาไว้แล้วส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ข้อหาที่นาย Azat ต้องเผชิญกับความผิดครั้งนี้ก็คือข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งอาจทำให้เขาถูกคุมขังเอาไว้ก่อนเป็นเวลา 2 เดือนและรอการตัดสินจากชั้นศาล โดยหากพบว่าผิดจริงก็อาจต้องติดตารางถึง…
-
นักโทษถูกจับคาหนังคาเขาว่ามีเข็มฉีดยา 3 อันอยู่ในทวาร ปฏิเสธ ‘มันไม่ใช่ของผมนะ’!!
อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าร่างกายของคนเรานั้น สามารถแปรเปลี่ยนใช้เป็นสถานที่สำหรับซุกซ่อนสิ่งต่างๆ ได้ อย่างที่เคยเห็นกันมาแล้วก่อนหน้านี้ทั้งแอบซ่อนของในอวัยวะเพศ หรือว่าในทวารหนักก็มีให้เห็นไม่น้อย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีที่เข้าข่ายที่ว่านี้เช่นเดียวกัน เมื่อมีนักโทษคนหนึ่งถูกจับได้คาหนังคาเขาว่ามี ‘เข็มฉีดยา’ ถึง 3 อันอยู่ในรูทวารของเขา แต่เขาก็ปฏิเสธออกมาดื้อๆ ว่า ‘นี่มันไม่ใช่ของผมนะครับ’!! เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานาย Wesley Scott ชาวฟลอริด้าวัย 40 ปีถูกส่งเข้ายังสถานที่คุมขังของเขต Pinellas County ด้วยข้อหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ว่าก่อนหน้าที่จะเข้ายังห้องขังได้ ก็จะต้องมีกระบวนการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ก่อนว่าไม่ได้แอบเอาอะไรเข้ามา และระหว่างการเปลือยกายเช็คของนี้เองก็ได้เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ได้ค้นพบว่าภายในช่องทวารหนักของชายคนนี้ มีเข็มฉีดยาอยู่ถึง 3 อันด้วยกัน ทว่าเขาก็บอกว่านี่มันไม่ใช่ของเขาอย่างแน่ๆ แต่ก็มีอีกจุดหนึ่งที่น่าสงสัยในกรณีนี้เนื่องมาจาก ณ เวลานั้นนาย Wesley ได้ตอบคำถามเมื่อเจ้าหน้าที่ถามว่าแอบซ่อนอะไรเข้ามารึเปล่าว่า ‘ไม่มี’ รวมทั้งบอกด้วยว่ารู้ดีว่าโทษสำหรับการลักลอบสิ่งของเข้ามาเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามนาย Wesley ถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมจากการถูกค้นพบในครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นข้อหานำสิ่งของต้องห้ามเข้าไปยังสถานที่คุมขังของรัฐ ครอบครองยาเสพติดเพื่อการค้า และมีกัญชาในครอบครอง อีกทั้งยังทำให้เงินค่าประกันตัวของเขาสูงถึง 5,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 159,000 บาท) อีกด้วย… ที่มา:…
-
พี่เนมมาเอง ชวนแฟนคลับร่วมตั้งชื่อเพลงของ Getsunova ชาวเน็ตชงมาซะหวานเจี๊ยบ
Getsunova อีกหนึ่งกลุ่มศิลปินที่ได้รับความนิยมจากชาวไทยเป็นอันดับต้นๆ จากเนื้อหาของเพลงที่ลึกซึ้งโดนใจวัยรุ่นทำให้แต่ละเพลงจากวง Getsunova ฮอตฮิตติดชาร์ตคนสามารถร้องตามได้ทั่วประเทศ จากการสังเกตของเหล่าแฟนคลับที่ติดตามผลงานเพลงของวงนี้มาตลอดจะพบว่า เพลงแต่ละเพลงของวง Getsunova จะมีการเลือกใช้คำที่มีความตรงกันข้ามกันมาทำเป็นชื่อเพลงอย่างเช่น ไกลแค่ไหนคือใกล้ ความเงียบที่ดังที่สุด ความรู้สึกที่ไม่เคยรู้สึก จากชื่อเพลงที่มักจะนำความหมายตรงกันข้ามกันมาตั้ง ทำให้ชาวเน็ตเริ่มแซวๆ ทางวงนี้บ้างแล้ว ฝ่ายทางนักร้องนำอย่าง เนม Getsunova จึงไม่รอช้า ชวนชาวเน็ตร่วมกันตั้งชื่อเพลงกันทวิตเตอร์ โจทย์มีอยู่ว่า วิธีตั้งชื่อเพลงสไตล์ Getsunova ใช้คำหน้าอะไรก็ได้ + คำที่ตรงข้ามกับคำข้างหน้า งานนี้พี่เนมขอมาว่า ขอเด็ดๆ คมๆ เพราะเห็นขำๆ เยอะแล้ว ชาวทวิตเตอร์ก็จัดให้ไม่ขัดศรัทธา ความอ้วนที่เบาบาง ความผอมที่อ้วน รอยยิ้มในคราบน้ำตา ความลับที่เธอรู้ ไม่หิวแต่กิน อ่านมาแต่สอบตก โถ่ จ๊ารรรรย์ ใครไม่ช็อตเงินช็อต เอ๊ะ คุ้นๆ นาาาา เลื่อนแล้วเลื่อนอีก สาบานไหมว่าที่ฤดูหนาวจริงๆ…
-
สาวไปฟิตเนสครั้งแรก ถูกกลั่นแกล้ง-หัวเราะเยาะ คนแปลกหน้าจึงลุกขึ้นมาแก้แค้นให้
สำหรับคนหน้าใหม่ที่อยากจะเริ่มเข้าฟิตเนสเพื่อไปออกกำลังกายแล้ว ช่วงแรกๆ นี่ถือว่าเป็นช่วงที่ยากที่สุด เพราะมือใหม่หลายๆ คนไม่รู้วิธีในการเล่นเครื่องออกกำลังกายต่างๆ เหมือนอย่างเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชม ก็เป็นเรื่องของผู้หญิงที่พยายามจะเข้าฟิตเนส เพื่อลดความอ้วน แต่กลับเจอกลุ่มคนที่ใช้ฟิตเนสอยู่รุมบูลลี่เธอ โชคดีที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาช่วยเอาไว้ วันที่ 3 มกราคม 2019 มีสมาชิกเว็บ Reddit ได้แชร์ประสบการณ์ที่เขาได้ไปเจอมา ในเช้าวันดังกล่าวผู้โพสต์ได้เข้าฟิตเนสตามปกติของเขาและก็เห็นกลุ่มหญิง 2 ชาย 1 แอบเมาท์ผู้หญิงอีกคน ซึ่งผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นเพิ่งเคยเข้าฟิตเนสอย่างแน่นอน เธอดูกระวนกระวาย ในตอนแรกผู้โพสต์ก็ไม่ได้ตระหนักว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นเพราะใส่หูฟังอยู่ แต่ต่อมาผู้โพสต์ก็ได้เห็นว่าผู้หญิงหนึ่งในกลุ่มดังกล่าวนำโทรศัพท์ออกมาถ่ายวิดีโอและทำให้เธอดูเป็นตัวตลก ทันทีที่ผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามาใช้บริการฟิตเน็ตรู้ ก็กลั้นน้ำตาไว้แทบจะไม่ไหว รีบเดินลงจากลู่วิ่งแล้วหนีไปยังห้องแต่งตัวทันที ทันทีเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้โพสต์เลยพักการออกกำลังกายของตนไว้และตามเธอไปแล้วบอกให้เธอรออยู่ตรงนั้นสักเดี๋ยว ก่อนที่จะไปแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ผู้จัดการฟิตเนสทราบ เมื่อผู้โพสต์กลับมาในห้องแต่งตัวก็พบว่าคุณผู้หญิงหน้าใหม่กำลังร้องไห้อยู่และเธอก็พูดกับผู้โพสต์เบาๆ ว่าเธอไม่รู้ว่าวิธีการออกกำลังกาย แต่เธอก็กำลังพยายามที่จะเรียนรู้ เธออธิบายต่อว่าเธอเพิ่งจะเสียพ่อแม่ไปจากโรคอ้วนซึ่งส่งผลต่อโรคหัวใจ และแพทย์ก็บอกกับเธอว่าเธออาจจะเป็นเหมือนกันหากเธอไม่ระวังให้ดี ผู้โพสต์ก็เลยบอกกับเธอไปว่าคนเราก็ต้องมีการเริ่มต้นจากที่ไหนสักแห่งอยู่แล้ว หลังจากคุยกันอยู่สักพัก ผู้โพสต์ก็บอกกับเธอว่า ที่ไหนสักแห่งของเธอก็คือการเริ่มต้นในวันนี้และก็ช่วยเธอลุกขึ้นยืน ผู้โพสต์ชวนเธอให้มาออกกำลังกายไปด้วยกันและก็ช่วยสอนการออกกำลังกายให้กับเธอเท่าที่เขารู้ เพราะว่าผู้โพสต์เคยอยู่ในจุดเดียวกันกับเธอมาก่อนเมื่อปีที่แล้ว สิ่งที่เหลือจากการออกกำลังกาย…
-
10 อันดับ “สิ่งของราคาแพงที่สุด” ที่ถูกขายใน eBay ประจำปี 2018
eBay ถือว่าเป็นเว็บขายของออนไลน์เบอร์ต้นๆ ของโลก ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1995 ซึ่งในเว็บก็มีของขายมากมายหลายประเภท ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเครื่องบิน (ย้ำ! เครื่องบินจริงๆ) และไหนๆ ปี 2018 ก็ได้ผ่านไปแล้ว วันนี้เราเลยจะนำ 10 อันดับ “สิ่งของราคาแพงที่สุด” ที่ถูกขายใน eBay เมื่อปีที่ผ่านมา มาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน เพื่อนๆ คิดว่าจะมีของชนิดไหนติดอันดับมามั่งล่ะ? หากไม่อยากเดาแล้วก็เลื่อนลงไปรับชมกันเล้ย 10. Robinson R-44 Raven II ปี 2013 – $325,200 (10 ล้านบาท) 9. McLaren 675LT Coupe ปี 2016 – $325,800 (10.5 ล้านบาท) 8. Ferrari 488 Spider ปี 2017 – $329,998 (10.56 ล้านบาท)…
-
หนุ่มช็อกได้ของแถมเหนือคาดคิด ซื้อกาน้ำร้อนเปิดออกมา มีงูน้อยออกมาด้วยตัวนึง!!
มีใครไหนเลยที่จะไม่ชอบ ‘ของฟรี’ กันบ้าง แต่ว่านอกจากของฟรีแล้วบางทีเราซื้อของแล้วได้รับ ‘ของแถม’ ก็อาจเป็นอะไรที่น่าประทับใจแบบสุดๆ ได้เหมือนกัน… แต่ว่าในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ล่ะก็ ไม่แน่เหมือนกันว่าคุณอาจจะไม่อยากได้ของแถมอีกเลยตลอดไปก็เป็นได้ ถ้าเปิดออกมาแล้วเป็น ‘งู’ เหมือนกับชายคนนี้ เรื่องนี้มีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมานาย Barry Downes ชายชาวลอนดอน ได้ไปซื้อกาน้ำร้อนมาหนึ่งใบในช่วงเซลล์เทศกาลคริสต์มาสของร้าน Argos จากนั้นเขาก็นำเจ้ากาน้ำใบใหม่นี้กลับมาที่บ้าน แล้วแกะกล่องลองใช้ชงชาทันทีเพื่อเช็คดูว่ามันสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติหรือไม่ ซึ่งมันก็ใช้ได้ปกติดีไม่มีปัญหา แล้วนั่งจิบชาสักพักหนึ่ง แต่แล้วเมื่อกลับมาที่ครัวอีกครั้งเขาก็พบเข้ากับเจ้าของแถมนี้เข้าให้ ซึ่งในตอนแรกเขานึกว่ามันไม่ใช่งูแต่อาจจะเป็นเชือกอะไรสักอย่าง… “บอกเลยนะตอนแรกผมไม่รู้หรอกว่ามันคืองู ผมเลยหยิบมันจะเอาไปทิ้งถังขยะแต่หลังจากนั้นมันก็เริ่มดิ้นยุกยิกไปมา ผมถึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่เชือกแล้วล่ะ!!” ด้วยความตกใจในเวลานั้นเขาจึงรีบปล่อยงูในทันที แล้วจัดแจงหาฝาหม้อมาครอบมันไว้เพื่อใม่ให้มันหนีไปซุกซ่อนที่อื่นได้ แล้วจึงเรียกเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยจัดการ “เขาคงจะช็อกมากแน่ๆ ที่เจอกับงูตัวนี้มากับกาน้ำร้อนใบนี้” “Barry คงคิดว่าเจ้างูตัวนี้มาจากประเทศจีนซึ่งเป็นสถานที่ที่ผลิตมัน แต่สำหรับฉันแล้วฉันคิดว่ามันน่าจะมาจากโรงเก็บของในประเทศอังกฤษซะมากกว่า” “มันคืองูข้าวโพด สุดยอดนักหลบหนีที่เหนือการคาดเดา ฉันเดาว่ามันน่าจะหนีมาจากป่าที่ไหนสักแห่งนี่แหละ” Ella Davies เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนี้กล่าว ทั้งนี้งูข้าวโพดเป็นงูที่ไม่มีพิษและสามารถมีความยาวได้สูงสุดอยู่ที่ 1.5 เมตรนิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งตอนนี้เจ้างูได้ถูกส่งไปยังโรงพยาบาลสัตว์ Putney Animal Hospital เรียบร้อยและมันปลอดภัยดี ที่มา: thesun,…
-
ชายเอาแมวไว้ในกางเกง หวังลอบนำเข้าเมือง แต่ความแตกเพราะ จนท. ได้ยินเสียง “เหมียว” ดังขึ้นมา
บ่อยครั้งที่เราอาจเห็นว่ามีวิธีการใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอในการลักลอบนำสิ่งต่างๆ ให้พ้นจากสายตาเจ้าหน้าที่ และนี่ก็อาจจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ดีถ้าหากว่าไม่ถูกจับได้เสียก่อน เมื่อชายคนหนึ่งแอบลักลอบแมวออกนอกประเทศด้วยการเอายัดใส่ไว้ในกางเกง แต่ความก็มาแตกเอาซะเพราะว่าดันมีเสียงร้อง ‘เหมียว’ ดังออกมา เลยทำให้ไปไม่รอดโดนรวบในที่สุด!! เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ณ สะพานเชื่อมระหว่างประเทศสิงคโปร์และประเทศมาเลเซีย (ฝั่งขาเข้าประเทศสิงคโปร์) เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหน่วยงาน Immigration and Checkpoints Authority (ICA) ได้ทำการตรวจสอบรถของชายชาวสิงคโปร์วัย 45 ปีตามหน้าที่ปกติ แต่แล้วขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังทำการตรวจค้นอยู่นั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียง ‘เหมียว’ ดังขึ้นมาจากที่ใดสักแห่งหนึ่งในรถคันนี้ จึงทำให้พวกเขาต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อค้นหาต้นตอว่าเสียงมันดังมาจากที่ใดกันแน่… และแล้วในเวลาต่อมาพวกเขาก็ได้ค้นพบกับความจริงเข้าให้ ว่าเสียงร้องนี้มันดังมาจากกางเกงวอร์มของชายชาวสิงคโปร์วัย 45 ปีคนขับนี้เอง ซึ่งสิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือในนั้นมีลูกแมวอยู่ถึง 4 ตัวด้วยกัน ชายคนนี้จึงถูกจึงถูกจับกุมไปในทันที ตามกฏหมายของประเทศสิงคโปร์ที่ว่าการแอบลักลอบสัตว์มีชีวิต ซึ่งโทษก็คือค่าปรับเป็นเงิน 100,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราวๆ 236,000 บาท) หรือโทษจำคุกหนึ่งปีหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนลูกแมวเจ้าหน้าที่ได้ยึดเอาไว้และกำลังดูแลอยู่ในตอนนี้… เจ้าหน้าที่กล่าวปัญหาการลักลอบนำสัตว์เข้า – ออกโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจทำให้เกิดโรคต่างๆ…
-
ชาวเน็ตต่างประเทศร่วมแชร์ ‘รอยสัก’ ที่เกิดจาก ‘ดินสอทิ่ม’ มันจะติดตัวเราไปอีกแสนนาน!!
หากย้อนกลับไปในวัยเด็ก คุณคงจะเคยผ่านการ ‘ใช้ดินสอ’ กันมาไม่มากก็น้อย ซึ่งไอ้ดินสอเนี่ยมันมีลักษณะปลายแหลม ฉะนั้นหากไม่ระวังก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุถูกแทงจนเป็นแผลได้ไม่ยาก แต่ทว่าแผลที่ถูกแทงโดยดินสอนั้นมันจะไม่เหมือนกับแผลทั่วๆ ไปน่ะสิครับ เพราะเมื่อหายแล้วแผลเป็นมันจะมีสีดำๆ คล้ายไฝเล็กๆ ติดตัวเราไปตลอดชีวิตเหมือนกับรอยสักเลยล่ะ ด้วยเหตุนี้เองบรรดาชาวเน็ตต่างประเทศ เค้าก็เลยเอาภาพรอยแผลที่ว่านี้มาแชร์กัน เพื่อแสดงให้เห็นว่า ‘คุณไม่ได้มีมันแค่คนเดียวบนโลกใบนี้นะ!!’ จะเป็นอย่างไร ลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. ฉันเคยถูกดินสอแทงสมัยอยู่เกรด 5 จนตอนนี้ก็ยังอยู่ ขอยกให้มันเป็น ‘รอยสักแรก’ ในชีวิตเลยละกัน 2. ลองดูตามร่างกายของคุณ คุณอาจจะเคยถูกทิ่มแต่ลืมไปแล้วก็ได้… 3. มันเกิดขึ้นตอนฉันอยู่เกรด 3 จำได้ว่าเดินไปหาพยาบาลทั้งๆ ที่ดินสอปักคาอยู่ที่มือเลย 4. ตอนนั้นฉันถอดกระเป๋าออกมาแล้วดินสอเจ้ากรรมมันดันโผล่ทะลุออกมา ฟาดป๊าบเข้าให้ปักคาเข่าเลยทีเดียว 5. ตอนนั้นฉันน่าจะ 8 ขวบ ดินสอมันวางอยู่บนพรมแล้วตั้งขึ้นมาหน่อยนึง ฉันก็เตะเข้าไปให้ ปักเข้านิ้วเท้าเต็มๆ!! 6. ตรงนี้และที่ยอดฮิต 7. ตอนเกรด 3…
-
ผลงานของหนูน้อย 6 ขวบเข้าตา Google จนชนะการประกวด ได้รับทุนกว่า 960,000 บาท
เมื่อย้อนไปสมัยเรียนอนุบาล คุณครูมักจะสอนให้เด็กๆ วาดรูป ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใบหญ้า ก้อนเมฆ ท้องฟ้า สัตว์โลกที่น่ารักทั้งหลาย ทุกคนต่างนำมาขีดเขียนในกระดาษแผ่นขาว ก่อนที่จะแต่งแต้มสีสันหลากหลายลงไปเพื่อเสริมสร้างจินตนาการในยุคนั้น… เช่นเดียวกับหนูน้อยวัย 6 ขวบ ชาวรัฐ Virginia คนนี้ ที่มีพรสวรรค์ในการวาดรูปเข้าตาผู้ใหญ่ใจดี อย่าง Google ที่ได้มอบทุนการศึกษาให้เธอกว่า 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นเงินไทยกว่า 960,000 บาท Sarah Gomez-Lane นักเรียนชั้นอนุบาล ผู้ชนะการแข่งขัน Doodle for Google ด้วยภาพวาดไดโนเสาร์สุดน่ารัก ทำให้ผลงานของเธอถูกนำมาใช้ในหน้า Homepage ของเว็บไซต์ Google สหรัฐอเมริกา ผลงานของน้อง Sarah Gomez-Lane . ความมุ่งมั่นของหนูน้อยคนนี้ทำให้เธอเป็นที่หนึ่งในการแข่งขัน ในหัวข้อ “สิ่งสร้างแรงบันดาลใจ” โดยหนูน้อย Sarah ได้วาดไดโนเสาร์จากแรงบันดาลที่เธออยากเป็น ผู้ชำนาญวิชาที่ว่าด้วยสัตว์และพืชดึกดำบรรพ์ (paleontologist) ในอนาคต เธอเป็นผู้ชนะคนแรกที่จะได้ทำงานร่วมกับศิลปินจาก Google ด้วยเหตุผลที่ผลงานของเธอมีชีวิตและดึงดูดใจ ยกตัวอย่างเช่น ไทแรนโนซอรัสเล่นทรัมเป็ต ไทรเซราทอปส์กินไอศกรีม และสเตโกซอรัสเป่าลูกโป่งจากหมากฝรั่ง…
-
คำขอร้อง 18 ข้อจากเหล่าลูกเรือถึงผู้โดยสาร ได้โปรดหยุดทำสิ่งเหล่านี้เถอะ
ปัจจุบันการเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางที่ได้รับความนิยมสุดๆ เนื่องจากว่ามีทั้งความปลอดภัย ความสะดวกสบาย รวมไปถึงราคาที่ถูกจนสามารถจับต้องได้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสาร จึงต้องมีการตั้งกฎให้ปฏิบัติตามกันอย่างเคร่งครัด แต่ในบางครั้งก็มีผู้โดยสารที่ไม่ยอมปฏิบัติตามกฎต่างๆ ที่ตั้งไว้ จากผลการสัมภาษณ์เหล่าพนักงานบนเครื่องบินโดยเว็บไซต์ Insider พวกเขาทั้งหลายอยากจะฝากบอกกับผู้โดยสารดังนี้ 1. รื้อค้นเอาของจากกระเป๋าบนที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะ “การรื้อเอากระเป๋าจากที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะเพื่อเอาสิ่งของจะเป็นการรบกวนทั้งผู้โดยสารท่านอื่นและพนักงานต้อนรับ ” Haley Fox พนักงานต้อนรับสายการบิน US Airline ทางที่ดีก็เอากระเป๋าลงมาด้านล่าง แล้วค่อยค้นหาของจะดีกว่า 2. การรบกวนขอของจากพนักงานขณะที่กำลังสาธิตการใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือ การสาธิตการใช้อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะจะเป็นการช่วยชีวิตคุณจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ดังนั้นควรตั้งใจฟังและไม่รบกวนขอสิ่งของจากพนักงานในขณะที่กำลังสาธิต 3. สั่งเครื่องดื่มหลายๆ รายการพร้อมๆ กัน ผู้โดยสารบางท่านมักจะขอเครื่องดื่มจากพนักงานหลายๆ อย่างพร้อมกันเช่น ทั้งกาแฟ และน้ำอัดลม ซึ่งพนักงานจะต้องทำหน้าที่บริการให้กับทุกคนบนเครื่อง การขอหลายๆ รายการพร้อมกันทำให้พนักงานทำงานช้าลง แต่ถ้าพนักงานเสิร์ฟเครื่องดื่มให้กับทุกท่านเสร็จแล้วสามารถขอได้เสมอ 4. ให้พนักงานทวนรายการเครื่องดื่มทั้งหมดที่มีในขณะที่มีประกาศตอนเริ่มเที่ยวบินแล้ว ตอนเริ่มเที่ยวบินจะมีการประกาศเมนูที่มีเสิร์ฟบนเครื่อง ผู้โดยสารควรตั้งใจฟังและเลือกเครื่องดื่มที่ต้องการ ดีกว่าให้พนักงานมาทวนรายการที่มีซ้ำๆ 5. ไม่สนใจพนักงานขณะที่พวกเขากล่าวคำทักทายคุณ คุณควรเงยหน้าและถอดหูฟังออกในขณะที่พนักงานตั้งใจกล่าวคำทักทายคุณเพื่อเป็นมารยาท 6. วางเท้าหรือเอานิ้วเท้าวางไว้ตรงถาดรองด้านหน้า ถาดรองด้านหน้าที่นั่งผู้โดยสารไม่ควรจะนำเท้าไปวาง…
-
พ่อค้ายาใจรักษ์โลก ขายโคเคนใน ‘ฝักพลาสติก’ อ้างลดโลกร้อน พร้อมกำชับให้คนซื้อเอามาเปลี่ยน!!
แม้ว่าจะเป็น ‘พ่อค้ายา’ แต่ก็ไม่ลืมที่จะใส่ใจเรื่องของปัญหาโลกร้อน… อย่างที่เรารู้กันดีว่า ‘การค้ายาเสพติด’ ถือเป็นอาชีพที่ทั้งผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม แต่สำหรับพ่อค้ายารายนี้ แม้ว่าจะทำงานที่ขึ้นชื่อว่าไม่ดี แต่เขาก็ยังไม่ลืมที่จะใส่ใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เรื่องมีอยู่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ใช้ยาเสพย์ติดรายหนึ่งได้ พร้อมกับ ‘ของกลาง’ ที่บรรจุอยู่ในฝักพลาสติก และมันดีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร เราลองไปฟังคำพูดจากผู้เสพกันดูครับ จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ทราบข้อมูลว่า “พ่อค้ายาจะบรรจุโคเคน 1 กรัมไว้ในเจ้าฝักพลาสติก แทนที่จะใช้ถุงซิปล็อกแบบที่ที่อื่นๆ ใช้กัน ซึ่งพ่อค้ายายังกำชับอีกว่าให้เอากลับมาคืน เพื่อที่จะใช้มันอีกในครั้งต่อไป เพราะว่ามันน่าจะดีต่อสิ่งแวดล้อม” ผู้เสพเล่า “ตอนแรกผมคิดว่าเขาพูดเล่น แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วเขาจริงจังกับมันมาก ผมบอกกับเขาว่า ‘ตรูเองก็ไม่ได้อะไรกับเรื่องสิ่งแวดล้อมหรอกนะ แต่แค่เอ็งทำโคเคนมาขายเนี่ย มันก็ไม่ได้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแต่แรกแล้วป่าวฟะ?’” “แต่เขาก็เล่าตอบกลับมาว่าลูกค้าหลายคนของเขาเป็นฮิปส์เตอร์ และชอบอะไรแบบนี้เอามากๆ เลยล่ะ” อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเบอร์มิงแฮมกำลังทำงานกันอย่างหนักติดตามสืบหาตัวพ่อค้ายารักษ์โลกรายนี้กันต่อไปเพื่อจับตัวมาดำเนินคดี จากรายงานในปี 2017/2018 พบว่าประเทศอังกฤษมีผู้เสพโคเคนเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล ถึง 875,000 ราย เป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี เลยทีเดียว แต่ก็น่าอุ่นใจไปเปราะหนึ่ง…
-
คุณหมอชาวจีนอุทิศตนรักษาคนไข้ในชนบทมาตลอด 50 ปี ขอค่ารักษาแค่ครั้งละ 5 บาท!!
นี่คือเรื่องราวของคุณหมอชาวจีน ที่อุทิศตนเพื่อรักษาคนไข้แบบไม่หวังผลตอบแทนที่มากมาย มาตลอด 50 กว่าปี!! ขอแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกับคุณหมอ อู๋ กวงอิ๋ง วัย 73 ปี คุณหมอผู้ทำหน้าที่เป็นแพทย์ประจำหมู่บ้านเหมยถังซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญ ตั้งอยู่ในมณฑลเจ้อเจียงประเทศจีน คุณหมอเลือกที่จะทำงานรักษาคนในแถบชนบทมานานกว่า 50 ปีแล้ว และสิ่งที่ทำให้คุณหมอตัดสินใจทำแบบนั้น ก็เป็นเพราะเรื่องราวในอดีตและคำปณิธานของเพื่อนรักนั่นเอง ย้อนกลับไปในปี 1969 ขณะที่กำลังออกไปเก็บสมุนไพรบนภูเขากับเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันมากๆ เพื่อเอามารักษาคนไข้ ทั้งสองคนฝ่าฟันอุปสรรคมากมายกว่าจะเก็บสมุนไพรมาได้ รวมไปถึงเกิดอุบัติเหตุตกเขาจนได้รับบาดเจ็บอีกด้วย คุณหมออู๋เล่าว่า ตลอดระยะทางที่เดินไปด้วยกันนั้น เพื่อนของคุณหมอมักจะพูดว่า “การแพทย์ชนบทจะต้องคงอยู่ต่อไป เพื่อผลประโยชน์ของชาวบ้าน” ด้วยเหตุนี้เองคุณหมออู๋ จึงยืนหยัดทำอาชีพแพทย์ในชนบทเสมอมา เพื่อให้ชาวบ้านได้รับผลประโยชน์มากที่สุด โดยเขาจะเก็บเงินคนไข้ที่มาทำการรักษาเป็นจำนวนน้อยมากๆ ไม่ว่าอาการที่พวกเขามารักษานั้นจะหนักหนาสาหัสแค่ไหนก็ตาม “ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไร หรือจะใช้วิธีการรักษาแบบไหน ทั้งฝังเข็ม นวด ถอนฟัน หรือผ่าตัด ผมก็จะเก็บเงินแค่ราคาเดียว ไม่ได้เก็บเพิ่มแต่อย่างใด เพราะพวกเขาต้องการการรักษาจากผม” ในช่วงปี 1960-1979 คุณหมออู๋เล่าว่าเขาเก็บค่ารักษาจากชาวบ้านแค่ครั้งละ 5 เฟินเท่านั้น…
-
ทหารองค์รักษ์บรรเลงเพลง Bohemian Rhapsody หลังหนังคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ
ขอบอกเลยว่าหนังเรื่อง Bohemian Rhapsody กลายเป็นหนึ่งในหนังที่น่าจับตามองที่สุดในช่วงปลายปี 2018 เพราะได้รับความนิยมจากแฟนๆ และทำออกมาได้ดีชนิดที่ว่าเกินคาดเอาไว้มากเลยทีเดียว หลายคนต่างก็คาดหวังว่าหนังเรื่องนี้จะกวาดรางวัลไปมากมายในเวทีประกาศรางวัลที่มีชื่อเสียง หนังเรื่อง Bohemian Rhapsody เป็นหนังบอกเล่าชีวประวัติของ Freddie Mercury ฟรอนต์แมนของวง Queen ตั้งแต่จุดเริ่มต้นถึงจุดสูงสุดในชีวิตนักดนตรีของเขา ล่าสุดจากงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globe) ในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หนังเรื่อง Bohemian Rhapsody กวาดรางวัลไปมากมายทั้งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) และ Rami Malek เองก็ได้รับรางวัลในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมอีกด้วยเช่นกัน ในช่วงรับรางวัล Rami ได้กล่าวอุทิศรางวัลนี้ให้กับ Freddie Mercury อีกด้วย “ขอขอบคุณ Freddie Mercury ที่มอบความสุขที่สุดในชีวิตให้กับผม ผมรักคุณ คุณคือบุคคลที่งดงาม ผมขออุทิศรางวัลนี้ให้แก่คุณ” จากความสำเร็จในครั้งนี้ ทางด้านทหารรักษาพระองค์ของพระราชินี ก็ได้ทำการเล่นเพลง Bohemian Rhapsody บริเวณหน้าพระราชวัง Buckingham เพื่อเฉลิมฉลองและแสดงความยินดีให้กับชายผู้เป็นตำนาน…
-
15 ภาพวีรกรรมชวนปวดกบาลสำหรับคุณพ่อคุณแม่ กับตรรกะแบบ “เด็กก็คือเด็ก”
สำหรับเด็กทั้งหลายๆ ที่กำลังอยู่ในวัยไร้เดียงสา พวกเขาเปรียบเสมือนผ้าขาวที่ยังบริสุทธิ์ทั้งความคิตและจิตใจ ซึ่งความคิดของเด็กๆ เหล่านี้จะไม่มีความซับซ้อนใดๆ เลย คิดแบบไหนก็ลงมือทำ แต่บางทีตรรกะความคิดแบบเด็กๆ ที่ซื่อถึงซื่อมาก อาจทำให้เหล่าคุณพ่อคุณแม่ถึงกับต้องกุมขมับ กับความคิดตรรกะแบบเด็กๆ ที่ในบางที คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ไหวจะเคลียร์เหมือนกันนะลูกรัก ลูกสาวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเวลา 06.15 น. พร้อมถุงมันฝรั่งทอดและสภาพแบบนี้ นี่แหละรีสอร์ทส่วนตัวที่ดีที่สุดของป๊ะป๋า ตอบแบบนี้เอา A ไปเลยไอ้หนู จัดไปลูกรัก แมคบุคแบบลิมิเต็ดมีเครื่องเดียวในโลก เมื่อปล่อยให้ลูกอยู่กับพ่อ ลูกร้องไห้จ้า เพียงเพราะห้ามเขาเลียรถเข็น ดูท่าลูกชายจะชอบหนังสือเล่มนี้มากๆ จับทำความสะอาดให้ด้วย พ่อฮะ ผมเก่งไหมฮะ อ…อัจฉริยะ ก๊อปเกรด A แทบแยกแยะไม่ออกว่าอันไหนของจริง แม่ มาเล่นซ่อนหากันเถอะ /แม่กำลังเข้าห้องน้ำอยู่ มาแบบนี้แม่ใจคอไม่ดีเลยลูกเอ๊ย พ่อฮะ ผมพาเพื่อนเข้าบ้านแหละ ลูกชอบสตอเบอร์รี่มากแค่ไหน…
-
สาวฝึกน้องหมาให้เป็นนักเรียนฮอกวอตส์ เรียนรู้คำสั่ง ด้วยคาถาจาก ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์’
การจะฝึกสัตว์เลี้ยงของเราให้เชื่องนั้นต้องใช้ทั้งเวลา และแรงกายมหาศาล บอกให้นั่ง ขอมือซ้ายที ขวาทีมันช่างลำบากจนบางทีต้องกลยุทธ์และท่างัดท่าไม้ตายนานาชนิด ครั้นจะเอาแต่ขนมมาล่อ บางทีรสชาติไม่ถูกใจยังบิดหน้าหนีกันอีกต่างหาก บางทีเราอาจะต้องหาเคล็ดลับบางอย่างที่เหมาะกับสัตว์เลี้ยงของเรา เช่น ศึกษาการฝึกสุนัขฉบับ Anna Brisbin นักแสดงและยูทูบเบอร์สาว จากเมืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอมีวิธีฝึกสุนัขอย่างชาญฉลาดแตกต่างจากทั่วไป แทนที่จะสอนให้สุนัขรู้ภาษาอังกฤษ เธอกลับสอนให้มันให้เชื่องด้วยคาถาจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ แทน แถมยังได้ผลดีซะด้วย!! วิงการ์เดียม เลวิโอซา!! https://www.instagram.com/p/BsWKHeEgxkj/ “ฉันเป็นแฟนตัวยงของแฮร์รี่พอตเตอร์ เพราะเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันอยากเป็นนักแสดง บางทีมันก็ทำให้ฉันดูทึ่มในสายตาคนอื่น… แต่ก็จุดประกายความคิดของฉัน ทำให้ฉันเป็นคนจิตใจดี เป็นเพื่อนยามเหงา หรือเรียกได้ว่า Harry Potter เป็นชีวิตของฉันเลยก็ได้” Anna Brisbin ให้สัมภาษณ์ นอกจากนั้นเธอยังเล่าต่ออีกว่าเธอมีรอยสักบนแขนที่เขียนเป็นคำว่า “Lumos” ซึ่งเป็นคาถาในแฮร์รี่พอตเตอร์ โดยเป็นรอยสักจากลายมือของ JK Rowling ที่เขียนให้เธอตอนพบกัน และเธอได้ตั้งชื่อสุนัขของเธอว่าเจ้า Remus เราจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเธอถึงเลือกที่จะฝึกสุนัขของด้วยคาถาจากแฮร์รี่ พอตเตอร์!! Anna รับเจ้า Remus มาเลี้ยงหลังจากเธอสูญเสียสัตว์เลี้ยงตัวก่อน หลังจากนั้นเธอจึงเริ่มฝึกสุนัขตอนมันอายุครบ…
-
13 สุดยอดอาหารแห่งปี 2018 ถึงมันจะดูแปลกๆ แต่มันก็ได้รับความนิยมอยู่นะเออ
ในปีที่ผ่านมา วงการอาหารถือว่ามีการปรับเปลี่ยนมากที่สุด กระแสของอาหารชนิดไหนที่ว่ามาแรงก็มาแรงสุดๆ หยุดไม่อยู่ อย่างเช่นปรากฏการณ์ชานมไข่มุกที่ฮิตระเบิดไปทั้งโลกและยังคงได้รับความนิยมจนถึงตอนนี้ และไม่ได้มีเพียงแค่ชานมไข่มุกที่ได้รับความนิยม ยังมีอาหารแบบแปลกๆ ใหม่ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาและฮอตฮิตสุดๆ ในปี 2018 มาดูกันเลยว่า จากรายการทั้ง 13 อย่างนี้ คุณเคยทานอะไรบ้าง (ถ้าบอกว่าเคยกินทั้งหมดนี้ คุณคือสุดยอดนักชิมอาหารตัวจริงเลยล่ะ) 1. เบียร์ราเมน ราเมนที่คุ้นเคยกันดี เปลี่ยนมาเสิร์ฟในแก้วเบียร์แบบเกร๋ๆ 2. มันฝรั่งทอดรสชาติแปลกๆ มันฝรั่งทอดรสโยเกิร์ต โคล่า เชอร์รี่บลอสซัม หรืออื่นๆ ที่ถูกผลิตมาสร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภค 3. ซอสรสเผ็ดผสมกุ้งและปลา อารมณ์คงคล้ายๆ กับน้ำพริกบ้านเรา 4. สาหร่ายพวงองุ่น ถูกเรียกว่าเป็นคาเวียร์เขียวหรือองุ่นแห่งท้องทะเล ฮอตสุดๆ 5. ไส้กรอกปลาสอดไส้ชีส 6. Savory Blueberry การผสมผสานระหว่างบลูเบอร์รี่และพิซซ่า 7. ขนมปังกระป๋อง 8. ราเมนสีฟ้า…
-
ไขความจริงภาพ “เด็กตกบ่อโคลน” ตัวดำปิ๊ด แท้จริงแล้วเรื่องราวเป็นมาอย่างไร!?
กำลังกลายเป็นภาพที่ได้รับการแชร์มากมายในโลกโซเชียลอยู่ ณ ขณะนี้กันเลยทีเดียว กับภาพของเด็กคนหนึ่งที่ตัวดำมะเมื่อมกำลังถูกจับอาบน้ำอยู่นั้น #เหมียวหง่าว ก็เลยไปสืบมาว่าเหตุการณ์ในภาพนั้นมันเกิดขึ้นที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น มาให้เพื่อนๆ ชาวเหมียวได้อ่านกันครับ ชุดภาพดังกล่าวนั้นมาจากเว็บไซต์ SAOstar เป็นสื่อในประเทศเวียดนาม ได้ทำการโพสต์เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา จากการแปลภาษาโดยนักเขียนลูกครึ่งไทย-เวียดนามในออฟฟิศเหมียวของเรา (ล้อเล่นนะครับ ใช้โปรแกรมแปลเป็นภาษาอังกฤษนั่นแหละจ้า) ก็พบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในจังหวัดท้ายบิ่ญ (Thai Binh) ซึ่งเป็นจังหวัดที่ทำการเกษตรเป็นหลัก และในช่วงนี้เองก็เป็นฤดูเพาะปลูกอีกด้วย บรรดาเกษตรกรก็เลยเตรียมที่เพื่อทำการเพาะปลูกกันเป็นจำนวนมาก และเด็กคนในภาพนั้นเองก็เดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกตัวบ้าน แต่ทว่าด้วยความมืดในตอนกลางคืนทำให้เด็กชายพลัดตกลงไปในบ่อโคลนที่เตรียมไว้สำหรับการเพาะปลูกจนตัวดำมะเมื่อมไปหมด โชคดีที่พ่อของเขารีบวิ่งออกไปดูและช่วยไว้ได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่ได้เกิดอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด หลังจากนั้นก็พาตัวของเด็กชายมาอาบน้ำล้างตัวที่ห้องน้ำ พร้อมกับเสียงร้องไห้จ้าละหวั่น Du Nguyen ญาติของเด็กชายที่เป็นคนโพสต์ภาพลงบนโซเชียลมีเดียเล่าว่า “ในช่วงฤดูเพาะปลูกในบ้านของผมจะมีการเตรียมแปลงเอาไว้สำหรับเพาะปลูก และโคลนมันก็ลึกมากๆ จนบางครั้งเราต้องเอาเรือพายไปเลยล่ะครับ” “เหตุการณ์เกิดขึ้นตอนประมาณ 20.00 น. เขาเดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วบังเอิญลื่นตกลงไปในแปลงที่เต็มไปด้วยโคลน โชคดีที่ไม่ได้รับอันตรายอะไร” นาย Du เล่าเสริม แหม่…
-
“เสือชีตาห์” ทรีซัมกัน โดยมี “ยีราฟ” แอบมองอยู่ด้านหลัง ผู้เชี่ยวชาญบอก เป็นภาพที่หาดูได้ยาก!!
บางครั้งบรรดาสัตว์โลกทั้งหลาย ก็อาจจะมีพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกับมนุษย์ จนทำให้มนุษย์อย่างเราๆ ถึงกับงงไปตามๆ กัน เช่นเดียวกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ เมื่อเจ้าเสือชีตาห์ 3 ตัว กำลังมีเซ็กส์กันแบบ ‘ทรีซัม’ ในศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่า Tswalu Kalahari ตั้งอยู่ที่ประเทศแอฟริกาใต้ จากการพบเห็นของนักท่องเที่ยว พบว่าเจ้าเสือชีตาห์สามตัว เป็นเพศผู้สอง และเพศเมียหนึ่งตัว กำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะพร้อมๆ กัน ขณะเดียวกันก็มีเจ้ายีราฟ 3 ตัวแอบดูอยู่ด้านหลัง ลองไปชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์แบบเต็มๆ กันก่อนได้เลยจ้า… คลิปวิดีโอเผยให้เห็นว่าเจ้าตัวผู้กำลังบังคับให้เพศเมียทำการผสมพันธุ์ โดยที่ตัวเมียก็ต่อสู้ขัดขืน และพยายามที่จะหนีออกมา นาย Juan Vente เจ้าหน้าที่ในศูนย์อนุรักษ์และเป็นผู้บันทึกเหตุการณ์ถึงเหตุการณ์ว่า “เมื่อเราไปถึงสถานที่เกิดเหตุ เราได้ยินเสียงร้องของเสือชีตาห์ราวกับว่าพวกมันกำลังต่อสู้กันอยู่ แต่ทว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่เสือชีตาห์ตัวผู้สองตัวกำลังร่วมมือกันเพื่อบังคับให้เพศเมียผสมพันธุ์กับพวกมันพร้อมๆ กันในคราวเดียว” “มันคือที่มาของเสียงนั้น และพอผมรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น หัวใจของผมก็เต้นแรงราวกับว่าจะพุ่งทะลุออกมาจากหน้าอกเลยทีเดียว” “ถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว ได้แต่บอกให้นักท่องเที่ยวทุกคนถ่ายคลิปเหตุการณ์เก็บเอาไว้ เพราะนี่เป็นสิ่งที่หาชมได้ยากมากๆ และเราอาจจะไม่ได้เห็นอีกแล้วก็เป็นได้” “สัตว์จำพวกแมวนั้นเป็นสัตว์ที่ขี้อายมากๆ เวลาสืบพันธุ์ โดยเฉพาะเสือชีตาห์ เวลาที่พวกมันผสมพันธุ์กันจะทำกันเป็นคู่ๆ เท่านั้น แต่ทว่าในครั้งนี้มันช่างแตกต่างออกไป” …
-
อัปเดตซีรีส์เกาหลีน่าดู ช่วงครึ่งปีแรก 2019 ทั้ง 5 เรื่อง 5 รสชาติกลมกล่อม ไม่ดูไม่ได้แล้ว!
ไหนใครเป็นแฟนซีรีส์เกาหลียกมือขึ้น!! ในปีที่ปีที่ผ่านมาเราอาจจะใช้เวลาในการทำงานหนัก แถมหลังเลิกงานยังเผชิญกับฝนตก รถติด ปัญหาร้อยแปดชวนปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน เอาล่ะ ไหนๆก็ขึ้นต้นปีใหม่แล้ว อะไรแย่ๆ ก็ทิ้งไป มาเริ่มต้นใหม่กันดีกว่า ฉลองปีใหม่ 2019 ด้วยอะไรเฟรชๆ วันนี้เราขอเสนอซีรีส์เกาหลีที่น่าจับตามองในครึ่งปีแรกที่ยกขบวนนักแสดงดังที่คุ้นหน้าคุ้นตาเฝ้ารอวันให้กลับคืนจออีกครั้ง แต่จะมีใครและเรื่องอะไรบ้างนั้น มาติดตามกันได้เลยจ้า!! “The Crowned Clown” เอาใจแฟนซีรีส์แนวพีเรียดด้วย “The Crowned Clown” แสดงนำโดยนักแสดงหนุ่ม Yeo Jin Goo ที่ฝากผลงานมาแล้วหลายเรื่อง โดยเรื่องนี้เขาได้รับบทกษัตริย์ที่สลับตัวกับคนหน้าเหมือนกันเพื่อหนีจากการลอบสังหาร ซีรีส์เรื่องนี้มีเนื้อหามาจากภาพยนตร์ “Masquerade” ในปี 2012 ออกอากาศแล้วในขณะนี้ที่ช่อง tvN “Touch Your Heart” ใครที่เคยดูซีรีส์เรื่อง “Goblin” ที่ดังเป็นพลุแตกในช่วงต้นปี 2017 แล้ว ต้องบอกเลยว่านอกจากพระนางในเรื่องแล้ว คู่ที่เราเอาใจช่วยจนตัวเกร็งคงจะเป็นคู่ของ Lee Dong Wook และ Yoo In Na ที่เคมีเข้ากั๊น…
-
‘Arthur Chatto’ เชื้อพระวงศ์รูปงามแห่งสหราชอาณาจักร หล่อล่ำจนสาวๆ เห็นแล้วใจ๋บ่ดี
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งชายหนุ่มสุดเพอร์เฟกต์ราวกับว่าหลุดออกมาจากจินตนาการของสาวๆ บางคนเลยก็ว่าได้ สำหรับ ‘Arthur Chatto’ เชื้อพระวงศ์รูปงามแห่งสหราชอาณาจักร กับความหล่อล่ำที่ใครเห็นเป็นต้องคลั่งไคล้!! ซึ่งในตอนนี้ในโลกโซเชียลของต่างประเทศกำลังพูดถึงหนุ่มหล่อวัย 19 ปีผู้นี้กันจนแทบจะลุกเป็นไฟ และถ้าอยากรู้ว่าเขาเป็นใคร และจะสมาร์ทขนาดไหนล่ะก็ ตามมาทางนี้เลยดีกว่า… เบาๆ ก่อนละกัน https://www.instagram.com/p/5mxkPiRzji/ จุดเริ่มต้นความฮอตฮิตของเขาในตอนนี้ เริ่มขึ้นมาจากความที่พ่อหนุ่ม Arthur ได้โพสต์ภาพขณะกำลังถอดเสื้อโชว์หุ่นกล้ามเป็นมัดๆ และซิกแพคแบบจัดเต็มสุดเซ็กซี่ใน IG นั่นก็คือภาพนี้ โง้ยยย…. https://www.instagram.com/p/BsTB8yOhvgr/ ภาพนี้เองได้กลายเป็นกระแสไวรัลที่สาวๆ พากันกดไลก์กดแชร์กันอย่างอุตลุด จนกลายเป็นพ่อคุณทูนหัวของใครหลายคนเป็นที่เรียบร้อย รวมทั้งมีคอมเมนต์ขำๆ จากสาวๆ กันเข้ามาอย่างเช่น “สกอตแลนด์ไม่เคยดูร้อนแรงขนาดนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย” “แต่งงานกับฉันเถอะนะ” เอาซี่ ปาดน้ำลายแพพ https://www.instagram.com/p/Bb9RfTfggqM/ สำหรับนาย Arthur Chatto นั้นเขาเป็นบุตรชายของ ‘เลดีซาราห์ แชตโท’ พระธิดาในเจ้าหญิงมาร์กาเรต เคาน์เตสแห่งสโนว์ดอน ซึ่งเป็นพระขนิษฐา (น้องสาว) ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระประมุขแห่งอังกฤษองค์ปัจจุบัน และถึงแม้ว่า Arthur จะไม่มีคำนำหน้าชื่อเหมือนกับเชื้อพระวงศ์คนอื่นๆ แต่เขาก็ถูกจัดว่าเป็นรัชทายาทอันดับที่ 25…
-
เศรษฐีญี่ปุ่นแจกเงิน 1 ล้านเยนสุ่มให้ 100 คนที่ติดตามและรีทวีต ยอดรีทะลุ 5.4 ล้านครั้ง!!
กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สร้างความตื่นเต้นให้กับชาวเน็ตทั้งในญี่ปุ่น และลามไปทั่วโลกกันเลยทีเดียว หลังจากที่นาย Yusaku Maezawa เจ้าของธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้า Zozotown และผู้ซื้อตั๋วไปเที่ยวดวงจันทร์คนแรกของโลก ประกาศผ่านทวีตส่วนตัวว่าจะแจกเงินให้กับผู้โชคดี 100 คน ที่ติดตามและรีทวีตออกไป เป็นจำนวนคนละ 1 ล้านเยน (ประมาณ 294,000 บาท) ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิด 100 คน คนละ 1 ล้านเยน!! ZOZOTOWN新春セールが史上最速で取扱高100億円を先ほど突破!!日頃の感謝を込め、僕個人から100名様に100万円【総額1億円のお年玉】を現金でプレゼントします。応募方法は、僕をフォローいただいた上、このツイートをRTするだけ。受付は1/7まで。当選者には僕から直接DMします! #月に行くならお年玉 pic.twitter.com/cKQfPPbOI3 — 前澤友作@MZDAO (@yousuck2020) January 5, 2019 นาย Maezawa ทวีตไว้เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2019 ที่ผ่านมา โดยประกาศว่า เขาจะแจกเงินโดยรวมทั้งหมด 100 ล้านเยน ให้กับผู้โชคดี 100 คนที่ติดตามเขาและรีทวีตก่อนหมดเขตในวันที่ 7 มกราคม 2019 (ใครที่จะรีทวีตตอนนี้อดแล้วจ้า) …
-
สมาชิกวง NGT48 สุดอัดอั้น ถูกเพื่อนในวงแทงข้างหลัง เผยข้อมูลส่วนตัว-โดนคนดักทำร้าย
เมื่อคืนวานได้มีประเด็นหนึ่งขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เมื่อ Yamaguchi Maho สมาชิกวงไอดอล NGT48 ได้ไลฟ์เพื่อเล่าประสบการณ์ที่เธอต้องเจอมาผ่านแอปพลิเคชั่น Showroom ซึ่งเป็นเรื่องที่เธอถูกเพื่อนสมาชิกในวงเดียวกันปล่อยข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่หรือเวลากลับจากการทำงาน หลังจากนั้นเธอก็ถูกชายแปลกหน้าสองคนดักรอทำร้ายทันทีที่กลับถึงที่พักหลังจากจบการแสดงในเดือนธันวาคม แต่ไม่ทันจะได้เล่าเรื่องจบ ไลฟ์ของเธอก็ถูกระงับและไม่ให้ไลฟ์อีก ซึ่งหลังจากที่เธอถูกแบนไม่ให้ไลฟ์ใน Showroom เธอใช้ทวิตเตอร์ของเธอเพื่อจะบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยได้ใจความว่า “ฉันไม่อยากจะพูดเรื่องนี้เลยค่ะ ฉันไม่อยากให้คนที่แคร์พวกเราต้องกังวล ฉันไม่อยากให้ใครมาเกลียด NGT ฉันก็เลยปิดเรื่องนี้มาเป็นเดือนๆ ฉันไม่อยากให้นักข่าวเอาชื่อของ NGT ไปเขียนเสียๆ หายๆ ทั้งหมดก็เป็นเพราะฉันรักวงนี้มากๆ ฉันคิดว่าพวกเขา (ทีมงาน) คงจะจัดการทุกๆ อย่างได้ แต่หลังจากเชื่ออย่างนั้นและปกป้องวงมาตลอดเดือนก่อน มันกลายเป็นว่าพวกไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อฉันเลย แม้ว่าคุณ Imamura (ผู้จัดการเธียร์เตอร์) จะได้ยินเรื่องทุกอย่างจากปากของตำรวจ แม้ว่าเขาจะพูดว่าเขาจะจัดเรื่องนี้ให้ แต่ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังจะถูกโทษเรื่องดังกล่าวมาที่ฉัน ฉันเป็นเหมือนกับอากาศ แม้จะเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นและฉันก็ยอมปิดปากเงียบ แต่ทำไมกลับรู้สึกเหมือนถูกทรยศ ฉันไม่อยากให้ใครมาเกลียด NGT เพราะในวงมีเด็กผู้หญิงอีกหลายคนที่พยายามอย่างเต็มที่ ฉันไม่อยากให้พวกเธอต้องมาเจอเหตุการณ์แย่ๆ เหมือนกับฉัน ฉันไม่อยากให้เด็กผู้หญิงคนอื่นต้องมาเครียดเพราะสิ่งที่ฉันเจอ คนที่ร้องไห้น่ะ มีแค่ฉันคนเดียวก็พอแล้ว…
-
เพลินจัด!! หนุ่มมะกันยืนเลีย ‘กริ่ง’ หน้าบ้านคนอื่นนานกว่า 3 ชั่วโมง นี่มันสายเลียชัดๆ
นี่อาจเป็นเรื่องแปลกๆ ที่เกิดขึ้นจาก ‘สายเลีย’ เมื่อภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านแห่งหนึ่ง ได้จับภาพชายคนหนึ่งเอาไว้ได้ขณะที่เขากำลังปฏิบัติภารกิจเลียกริ่งหน้าบ้านอยู่เป็นเวลาถึง 3 ชั่วโมงเต็มๆ!! เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเมือง Salinas รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ปล่อยภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านดังกล่าวมาให้เราได้ดูกัน โดยภาพจากกล้องวงจรปิดนี้คือภาพของชายคนคนหนึ่งที่ยืนเลียกริ่งหน้าบ้าน (อุปกรณ์แจ้งเตือนเมื่อกด) อย่างสุดมันส์เป็นเวลาถึง 3 ชั่วโมงด้วย วิดีโอขณะเลียของเจ้าหนุ่มคนนี้ ในภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบแล้วก็พบว่าชายคนนี้มีชื่อว่านาย Roberto Daniel Arroyo วัย 33 ปี ซึ่งพวกเขากำลังควานหาตัวหนุ่มคนนี้อยู่ในตอนนี้ “เราประหลาดใจมากกับภาพอันสุดแสนจะชัดเจนที่ว่านี้ มันทำให้เราไม่ต้องใช้เวลานานเลยกับการระบุตัวว่าเป็นใครกัน” โฆษกของหน่วยงานตำรวจกล่าว โดยบ้านที่ถูกเขาลงมือนี้เป็นบ้านของครอบครัว Dungan ซึ่งในเวลานั้นผู้ใหญ่ในบ้านออกไปข้างนอกกันหมด เหลือเพียงเด็กๆ ที่กำลังนอนหลับอยู่ภายในบ้านเพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรนาย Arroyo ก็ไม่ได้ลงลิ้นแรงจนทำให้เกิดเสียงออดและปลุกเด็กๆ แต่อย่างใด แต่ทางพ่อแม่ของเด็กมาเห็นภาพในกล้องวงจรปิดดังกล่าว เลยโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมา “เราอาจจะหัวเราะกับเรื่องนี้ในภายหลังก็ได้เพราะในทางเทคนิคแล้ว เขาไม่ได้ทำร้ายใครหรือไม่ได้พังข้าวของใดๆ เลย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไมเราถึงมีกล้องวงจรปิดเอาไว้ที่หน้าบ้าน” Sylvia Dungan กล่าว ที่มา: mirror,…
-
เพื่อนร่วมบ้านจากนรก ซุกห้องรกไม่ยอมบอกใคร พอเปิดเข้าไป กลายเป็นรังแมลงสาบ!!
การอาศัยบ้านเช่าอยู่ร่วมกันถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นวัยนักศึกษาหรือวัยทำงาน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายของที่พักอาศัย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าคนที่จะต้องอยู่ด้วยกัน จะมีนิสัยเป็นอย่างไร… แน่นอนว่าถ้าเป็นเพื่อนสนิทคงจะรู้นิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี แต่ถ้าหากจำเป็นจะต้องอาศัยอยู่กับเพื่อนใหม่ และเป็นชาวต่างชาติ ก็อาจจะออกอาการแสบสนิทศิษย์ส่ายหน้ากันได้เลยทีเดียว กรณีตัวอย่างสุดจะทนไหวนี้มาจาก Micho Teh ที่โพสต์เรื่องราวผ่านเฟสบุ๊กของตัวเอง โดยเล่าเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนร่วมบ้านที่ชื่อ Isabelle ชาวมาเลเซีย อาศัยอยู่ในหลังเดียวกัน แต่ห้องของเธอจะอยู่ชั้นบน ซึ่งเริ่มส่อแววน่าสงสัยว่า ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เธอมานั่งกินข้าวที่ชั้นล่างแทน ผิดวิสัยตามปกติที่จะกินในห้อง อีกทั้งยังมีข้อสงสัยที่ว่า เธอมีกลิ่นตัวที่แรงมากและผมเผ้ามันเยิ้ม ในทุกๆ ครั้งที่เห็น ด้าน Teh และเพื่อนอีกคนที่ชื่อ Nobu จึงตั้งข้อสงสัยว่า เธอน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความสะอาด จินตนาการไปถึงสภาพภายในห้องของ Isabelle ว่าน่าจะเละตุ้มเปะได้มากขนาดไหน แต่ทว่าพวกเขาได้วางแผนจะย้ายออกในไม่ช้านี้ ก็เลยเลือกที่จะอยู่นิ่งเฉยไม่เคลื่อนไหวหรือเตือนอะไร เวลาผ่านไปได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ปัญหาเริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่สังเกตเห็นแมลงสาบอยู่ในบ้านเป็นจำนวนมาก ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเพราะฤดูฝนในช่วงที่ผ่านมา เป็นปกติที่จะมีแมลงสาบชุกในช่วงนี้ พบเจอได้ตามปกติในชั้นแรกของบ้านเพราะมีส่วนของห้องครัว แต่กลับผิดคาด เพราะแหล่งที่มาของแมลงสาบไม่ได้มาจากชั้นล่าง…
-
ภาพล่าสุดของ Chris Pratt กับ ‘หุ่นหมี’ ที่กลับมาอีกครั้ง แฟนๆ ถึงกับคลั่ง!!
ขอบอกเลยว่าในยุคนี้ ‘ผู้ชายหุ่นหมี’ กำลังมาแรง สาวๆ ทั้งหลายต่างก็หันมาคลั่งไคล้ผู้ชายพุงย้วยกันทั้งนั้น ถ้าไม่เชื่อลองไปอ่านข่าวนี้กันดูครับ เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนมีภาพหลุดของ Chris Pratt ออกมา ขณะที่เขาไปเที่ยวกับแฟนสาวที่ชายหาดในเมือง Cabo San Lucas ประเทศเม็กซิโก ปรากฏว่าหุ่นของพี่แกอยู่ๆ ก็กลับเป็น ‘หุ่นหมี’ เหมือนเดิม ทีนี้แฟนๆ ก็เลยคลั่งแบบสุดๆ!! ต้องขอบอกเลยว่าในช่วงปีสองปีที่ผ่านมานี้หนุ่ม Chris Pratt ของเรางานชุมมากๆ ก็เลยทำให้เขาต้องฟิตหุ่นจนกล้ามแน่นเปรี๊ยะ โดยเฉพาะกับบทบาทของ Star Lord จนหลายๆ คนอาจจะลืมไปแล้วว่า ความน่าดึงดูดที่แท้ทรูของพ่อหนุ่มคนนี้ คือพุงที่ย้วยออกมาหน่อยๆ พร้อมกับเคราบางๆ ที่ดูแล้วเหมือนหมียังไงยังงั้นนั่นเอง!! ในที่สุดมันก็กลับมาซักที ช่างเป็นการเริ่มต้นปี 2019 ที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!! แฟนๆ ทั้งหลายต่างก็คอมเมนต์กันไปต่างๆ นานา หลายคนต่างก็ยินดียิ่งนักกับการกลับมาของ ‘พุง’ ของ Chris Pratt …
-
คู่หูหมาอ้วน ถูกช่วยมาจากเจ้าของที่ดูแลมันได้ไม่ดี และมีคนช่วยดูแลจนพวกมันผอม
การดูแลสัตว์เลี้ยงให้ดีเป็นความรับผิดชอบที่เจ้าของทุกคนควรมี แม้ว่าคุณจะบอกว่าคนทุกคนมีวิธีดูแลสัตว์เลี้ยงในแบบของตัวเอง แต่คนรอบข้างก็เป็นอีกส่วนที่ช่วยตัดสินได้ว่าคุณเลี้ยงดูพวกมันดีจริงหรือไม่ ในประเทศไทยเราอาจทำได้แค่ช่วยให้คำแนะนำเจ้าของที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ดี แต่ถ้าเป็นในต่างประเทศ การดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ดีอาจทำให้คุณถูกเชิญขึ้นศาล และไม่ได้อยู่กับสัตว์เลี้ยงอีก เหมือนอย่างนาย Martin Harrison จากเขตดอร์เซต ประเทศอังกฤษ เขาเป็นเจ้าของของ Brucie และ Lucy ซึ่งอยู่ด้วยกันมา 2 ปีแล้ว คนในท้องที่ที่เคยเห็นเขากับเจ้าหมา แจ้งไปยังกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA ว่าเขาดูแลเจ้าหมาได้ไม่ดี เพราะมันอ้วนเหมือนกับถังน้ำเลย ทำให้มันสุขภาพย่ำแย่และเหนื่อยง่ายมาก เมื่อมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ ก็พบว่าเจ้าหมาทั้ง 2 ตัวอ้วนตั๊บอย่างที่ได้ยินจริงๆ จึงทำการตักเตือนเขาไปพร้อมแนะนำวิธีลดน้ำหนักพวกให้ เจ้า Brucie กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ชี้แจงว่าก่อนที่พวกมันจะไปอยู่กับ Harrison พวกมันน้ำหนักแค่ประมาณ 21 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งเป็นน้ำหนักที่ดีสำหรับสุนัขสตัฟฟอร์ดชายร์บูลล์เทอร์เรีย แต่ตอนที่พวกเธอได้รับแจ้งไปไปตรวจสุขภาพเจ้าหมาอีกที พวกมันก็น้ำหนักเกินเกณฑ์ไปจนถึงประมาณ 33.5 กิโลกรัมแน่ะ อ้วนเกินไปจนน่าเป็นห่วง Harrison ให้เหตุผลที่พวกมันอ้วนว่าแม่ของเขาที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ชอบให้ข้าวพวกมันกินเยอะ รวมทั้งของที่ทำให้พวกมันอ้วนอย่างชีสและพุดดิ้งข้าวด้วย แม้ว่าเขาจะพยายามซ่อนอาหารหมาจากเธอแล้วก็ตาม แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น หลังจากที่ RSPCA มาตรวจสอบเขาดูซ้ำอีก 2 ครั้งในรอบหลายเดือนต่อมา เจ้า Brucie…
-
เมื่อคุณลูกชอบเมินข้อความพ่อ คุณป๋าเบื่อก็เลยเลยสร้างแอปฯ ที่บังคับให้ลูกตอบซะเลย
ในเขต West Wickham ชานเมืองของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษได้มีคุณพ่อคนหนึ่งนามว่า Nick Herbert ที่ต้องพบเจอปัญหาลูกชายสุดที่รักมักเมินและไม่ตอบข้อความของเขา เมื่อทนกับพฤติกรรมนั้นไม่ไหว คุณพ่อเลยลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการสร้างแอปพลิเคชั่นที่จะทำให้ลูกชายของเขาต้องตอบไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือเวลาใดก็ตาม!! โดยแอปพลิเคชั่นที่คุณพ่อสร้างขึ้นชื่อว่า ReplyASAP (ตอบกลับโดยด่วน) แอปพลิเคชั่นแชทที่เมื่อผู้ปกครองส่งข้อความไปหาลูกๆ แอปฯ ตัวนี้จะทำการยึดหน้าจอโทรศัพท์และส่งเสียงดังสุดน่ารำคาญ ซึ่งเสียงดังกล่าวจะดังอยู่ตลอดแม้ผู้รับจะปิดเสียงโทรศัพท์ก็ตาม และก็จะดังไปเรื่อยๆ จนกว่าคนที่ได้รับข้อความตอบกลับข้อความมาเท่านั้น “นี่คือแอปฯ ที่เกิดมาจากบุคคลที่ผิดหวังกับเหล่าแอปฯ แชทในปัจจุบัน ผมมีลูกชายชื่อ Ben เรียนอยู่โรงเรียนมัธยม ผมซื้อสมาร์ทโฟนให้เขาเพื่อที่ผมจะได้ติดต่อเขาและเขาจะได้ติดต่อผมได้อย่างสะดวก แต่แน่นอนว่าเด็กๆ ไม่ค่อยใช้สมาร์ทเพื่อติดต่อกับพ่อแม่หรอก เมื่อผมพยายามจะติดต่อเขา เขาแทบจะไม่ตอบผมเลยอาจจะเป็นเพราะเขาไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์หรือจะเป็นเพราะเขาอายที่จะคุยกับพ่อต่อหน้าเพื่อนๆ บางครั้งผมก็ต้องการได้ให้เขารู้ข้อความที่ส่งไป แต่เขาก็ไม่มีทางรู้ข้อความที่เขาไม่สนใจหรือไม่เห็น แม้ว่าบางทีมันอาจจะเป็นเรื่องสำคัญ ผมจึงสร้าง ReplyASAP ขึ้นเพื่อที่จะทำให้เขาเห็นข้อความดังกล่าว” Nick กล่าว ปัจจุบันเจ้าแอปฯ ReplyASAP มีให้ดาวน์โหลดผ่าน Google Store เท่านั้น แต่สำหรับผู้ใช้ iOS ที่สนใจก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะ…
-
Nakamura Sumire หนูน้อยวัย 10 ขวบผู้ทำลายสถิติกลายเป็นนักเล่นโกะอาชีพที่อายุน้อยที่สุด
ตอนเด็กๆ เพื่อนๆ เคยอ่านหนังสือการ์ตูนเรื่อง “ฮิคารุเซียนโกะ” กันบ้างหรือเปล่า? สำหรับคนที่เคยอ่านก็คงรู้ดีว่าการ์ตูรเรื่องนี้สามารถทำให้เราอินไปกับการเล่นโกะได้ แม้จะเป็นคนที่ไม่เคยเล่นโกะมาก่อนเลยก็ตาม ซึ่งหากเพื่อนๆ ตะลึงกับความฝันและฝีมือของตัวเอกที่ยังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 วัย 12 ปีที่จับพลัดจับผลูได้ไปเล่นโกะจนหลงรักเสน่ห์ของกีฬาชนิดนี้เข้าเต็มเปา วันนี้เรื่องของหนูน้อยที่เราจะนำมาให้ดูจะทำให้เพื่อนๆ ตะลึงยิ่งกว่า เมื่อเธอกลายเป็นนักเล่นโกะมืออาชีพที่อายุน้อยที่สุด ด้วยวัยเพียง 10 ขวบเท่านั้น!! โดยทางสมาคมโกะแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Go Association) ได้ทำการประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2019 เป็นต้นไป Nakamura Sumire หนูน้อยอายุ 10 ขวบจะกลายเป็นนักเล่นโกะมืออาชีพ (Shodan) การประกาศครั้งนี้ทำให้หนูน้อย Sumire กลายเป็นนักเล่นโกะมืออาชีพอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เอาชนะสถิติเดิมของน้อง Fujisawa Rina ที่เคยทำไวเมื่อ 9 ปีก่อนขณะอายุได้ 11 ปีกับอีก 6 เดือน ทั่วญี่ปุ่นได้ประจักษ์ถึงฝีมือของ Sumire เมื่อหนูน้อยได้ลงแข่งและเสมอกับ Iyama Yuta…
-
พนักงานไอที โชคดีรับของขวัญปีใหม่จาก Bill Gates ที่ของขวัญแบบว่าโคตรลิมิเต็ด
Bill Gates ผู้ก่อตั้งและเจ้าของซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft ที่เราได้ใช้และคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งรายได้ในแต่ละปีของเขานั้นนับว่าเป็นรายได้ที่มหาศาลมากๆ จึงไม่แปลกใจที่จะกลายเป็นเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลก ถึงแม้ว่าจะมีรายได้ที่มากมายขนาดไหน แต่คุณลุง Bill ก็ยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายธรรมดา เป็นกันเองกับคนอื่นๆ เป็นอีกคนหนึ่งที่มีความน่ารักขี้เล่นมากๆ ในทุกๆ ปี เว็บไซต์ reddit.com แหล่งชุมชนออนไลน์ที่นิยมในต่างประเทศจะมีการจัดกิจกรรมการแลกของขวัญออนไลน์ ที่เหมือนกับกิจกรรมแลกของขวัญที่นิยมทำกันตอนปีใหม่นั่นแหละ ลุง Bill ก็เป็นอีกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมแลกของขวัญทุกๆ ปี ซึ่งแน่นอนว่าใครๆ ต่างก็หวังว่าจะโชคดีได้ของขวัญจากมหาเศรษฐีคนนี้ไปครอง ซึ่งในปี 2018 ผู้โชคดีที่ได้รับของขวัญจากคุณลุงไปก็คือ Bobbi Collyer อายุ 49 ปี พนักงานไอทีจากรัฐเวอร์จิเนีย เธอได้เข้าร่วมลงชื่อในเว็บไซต์ Reddit ในชื่อผู้ใช้ Moondazed เพื่อหาซีเคร็ทซานต้า ผู้ที่จะมาประทานของขวัญให้เธอในปีนี้ แต่เธอก็ไม่คิดว่าเธอจะโชคดีที่ได้รับของขวัญจากมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลก ของขวัญที่ว่าไม่ใช่เงินจำนวนมหาศาลแต่อย่างใด แต่รับรองว่าลิมิเต็ดสุดๆ ของขวัญกล่องยักษ์ถูกส่งตรงไปยังหน้าบ้านของเธอ ซึ่งประกอบไปด้วยของขวัญน่ารักๆ อย่างเช่น ผ้าห่มพิมพ์ลายตัวละครจากอะนิเมะชื่อดัง Totoro ที่ลูกสาวของเธอชื่นชอบ…
-
‘เจ้าตูบขี้อิจฉา’ เห็นพ่ออุ้มน้องโยนขึ้นกลางอากาศ นางเลยอ้อนให้พ่อโยนมันขึ้นด้วย
ถ้าคุณมีลูกแฝดหรือลูกที่อยู่ในวัยไล่เลี่ย ควรมั่นใจว่าให้ความรักกับพวกเขาเท่าเทียมกัน ไม่รักใครคนใดคนหนึ่งมากกว่า หรือสนใจแค่ใครคนใดคนหนึ่ง เพราะจะทำให้อีกคนน้อยใจเอาได้ พี่น้องในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่มนุษย์เท่านั้น แต่สัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขเอง พวกมันก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกคนหนึ่งเหมือนกัน ดังนั้นพ่อแม่รักลูกยังไง มันก็หวังที่จะได้รับความรักแบบนั้นด้วยเหมือนกัน และนี่คือคลิปน่ารักๆ เมื่อคุณพ่อคนหนึ่งเล่นกับลูกน้อย โดยการอุ้มลูกโยนขึ้นกลางอากาศ เด็กน้อยดูจะชอบมาก หัวเราะใหญ่เลย เดี๋ยว… อย่าลืมว่าในบ้านนี้ไม่ได้มีลูกน้อยแค่คนเดียวนะ แต่มีลูกอีกตัวซึ่งมี 4 ขา และมีขนปุย มันเฝ้ามองพ่อเล่นกับน้อง มันเห็นน้องมีความสุขตอนที่ลอยอยู่กลางอากาศ เท่านั้นแหละ มันเกิดความรู้สึกอิจฉาจนอยากให้พ่อทำกับมันแบบนั้นบ้าง เจ้าหมาเลยยืนขึ้นแล้วยื่นมือขึ้นไปหาพ่อ ราวกับจะบอกว่า “ตาหนูบ้าง ตาหนูบ้าง” อุ้มหนูด้วยพ่อ หนูอยากลอยได้เหมือนน้อง นี่ก็ลูกเหมือนกัน พ่อจึงไม่ปฏิเสธ และได้อุ้มลูกน้อย 4 ขา จับโยนเหมือนลูกคนเล็กเมื่อกี้ ทำเอาเจ้าตูบมีความสุขใหญ่เลย ไม่รู้ว่าแฮปปี้ที่พ่ออุ้มโยน หรือแฮปปี้ที่ได้เท่าเทียมน้องกันแน่ แหม่ ถือว่าเป็นหมาที่อยู่เป็นนะเนี่ย น้องได้อะไร มันต้องได้ด้วย พ่อรักน้องยังไง พ่อต้องรักมันแบบนั้นด้วย เอิ่มม แล้วก็หวังว่าแกจะเป็นพี่ที่รักน้องด้วยนะ เจ้าตูบ วู้วว…
-
‘3 แพะจอมแสบ’ ไปเล่นบนตัวพี่ม้าที่กำลังพักผ่อน เห็นพี่ไม่บ่นยิ่งสนุกกันใหญ่เลย
ชาวเกษตรกรทั่วโลกสามารถบอกได้ว่าสัตว์ในฟาร์มนั้นสร้างความบันเทิงได้มากกว่าที่คิด เพราะพวกมันเป็นสัตว์ตลก ซึ่งส่วนใหญ่ยอมรับว่าไม่มีสัตว์ชนิดไหนที่ฮาได้เหมือนแพะ อย่างคลิปวิดีโอข้างล่างนี้ เผยให้เห็นลูกแพะน้อย 3 ตัว กำลังไปรบกวนพี่ม้าที่กำลังพักผ่อนอยู่ เมื่อเจ้าของเห็นความซุกซนของเหล่าแพะน้อย เขาแทบจะกลั้นหัวเราะไม่ได้ และไม่อยากเข้าไปห้ามด้วย เลยหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายช่วงเวลาสุดน่ารักนั้นเอาไว้ เพื่อเอามาเผยแพร่ให้เราได้ดูกันนี่แหละ ม้าที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นี้คือ Mr. G มันกำลังนอนลงเพื่อพักผ่อนระหว่างวัน แต่ดูเหมือนว่าลูกแพะน้อยที่อยู่ข้างๆ จะมีแผนการที่ต่างออกไป พวกมันกระโดดไปมารอบๆ ตัวพี่ม้า แถมเตะฝุ่นจนคลุ้งไปหมด เท่านั้นยังไม่พอ พวกมันยังพยายามปีนขึ้นหลังพี่ม้าด้วย แต่ตอนนั้น Mr. G กำลังง่วงไงและมันไม่คิดถือสาเด็กๆ ด้วย เลยนอนนิ่งให้ลูกแพะเล่นบนตัวตามใจชอบ น่าจะเป็นเพราะพฤติกรรมที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงนี่แหละ ที่ทำให้คลิปนี้เป็นคลิปที่ตลกมากๆ พี่ม้านิ่งแบบนิ่งเกิ๊น ขณะที่ลูกแพะก็ซนเกิ๊น พอเห็นว่า Mr. G ไม่บ่น น้องๆ เลยเล่นกันใหญ่เลย เกรงใจสักนิดก็ไม่มี แม้แพะน้อยจะขึ้นไปวิ่งเล่นบนตัว Mr. G ก็ไม่มีท่าทีตอบสนองใดๆ หรือบางทีมันอาจจะกำลังรู้สึกดีที่แพะเหยียบหลัง เพราะรู้สึกเหมือนกำลังถูกนวดเบาๆ หลังจากคลิปน่ารักๆ นี้ถูกอัปโหลดใน Rumble ปรากฏว่ามีคนเข้าไปดูมากกว่า…
-
‘แมวจรจัด’ วิ่งเข้าไปหาผู้ช่วยเหลือ แล้วอ้อนขอความรัก เพราะมันไม่อยากเร่ร่อนอีกต่อไป
ทุกๆ วัน Will Zweigart ผู้ก่อตั้ง Flatbush Cats ศูนย์จับแมวไปทำหมันในบรู๊คลิน นิวยอร์ก กับอาสาสมัครจะไปให้อาหารแมวจรจัดและแมวที่พวกเขาทำหมันแล้ว เพื่อติดตามและดูแลพวกมัน ถ้าวันไหนเจอแมวที่เป็นมิตร พวกเขาก็จะพามันออกจากชีวิตข้างถนนและหาบ้านที่แสนอบอุ่นให้พวกมัน ล่าสุด แมวเฟรนด์ลี่ตัวหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นในย่านที่พวกเขาไปให้อาหาร ทันทีที่พวกเขาไปถึง เจ้าเหมียวตัวนั้นก็วิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น จากนั้นมันก็ร้องเมี๊ยวๆ พร้อมยื่นหัวเข้าไปหามือผู้ช่วยเหลือเพื่ออ้อนขอความรักและความสนใจ Will บอกว่า “ผมเห็นขนของมันสกปรกมาก ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะอย่างที่รู้ว่าแมวที่ถูกทิ้งจะมีความเครียดสูง จนละเลยการทำงานความสะอาดตัวเอง” เจ้าเหมียวไม่มีปลอกคอและกำลังหิวโหย ที่สำคัญตอนนั้นสภาพอากาศในนิวยอร์กค่อนข้างเย็น ดังนั้น Will จึงอยากพามันออกจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นนี้ ขณะเดียวกัน เพื่อบ้านในละแวกนั้นบอกว่าเจ้าเหมียวตัวนี้อยู่ข้างนอกมาหลายสัปดาห์แล้ว มันต้องเผชิญกับความหนาว ไม่มีอาหาร และไม่มีที่พักที่ปลอดภัย จริงๆ แล้ว ต่อให้อากาศไม่หนาว Will ก็จะช่วยมัน เพราะที่มันวิ่งมาหาเพราะมันต้องการความช่วยเหลือ เมื่อมันอ้อนขอขนาดนี้ มันก็สมควรได้ในสิ่งที่ต้องการ Will ตัดสินใจวางกับดักให้เจ้าเหมียวเหมือนที่ทำกับแมวตัวอื่นๆ คือปกติแล้ว แมวจะไม่ยอมเข้ามาในกรงง่ายๆ เพราะพวกมันกลัว แต่สำหรับเจ้าเหมียวเฟรนด์ลี่ตัวนี้ มันวิ่งเข้ามาหา Will และอาสาสมัครด้วยตัวเอง ดังนั้น เมื่อมันเห็นกับดัก…
-
หมาแก่กำลังจะโดนเจาะเลือด แต่นางคิดว่าคุณหมอจะกอด เลยยอมให้จับแต่โดยดี
Kayleen Campbell ต้องเผชิญหน้ากับวันที่ยากลำบากเป็นประจำในฐานะสัตวแพทย์ในห้องฉุกเฉิน แต่เธอมีความสุขในการทำงานเสมอเพราะเหล่าคนไข้ขนปุยทั้งหลาย สุนัขหรือแมวที่ Campbell เจอ ส่วนใหญ่อยู่ในภาวะเสี่ยง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกมันไม่ต้องการความรักหรือความสนใจ ล่าสุด Campbell ต้องเจาะเลือดให้หมาชราตัวหนึ่ง เธอเล่าว่า “เราต้องระงับการไหลของเลือดจากหลอดเลือดดำหลังจากทำการเจาะเลือด” “แต่เจ้าหมาแก่ผู้น่ารักตัวนี้คิดว่าฉันมาหามันเพื่อกอด มันเลยดูไม่กลัวและตื่นเต้นเมื่อฉันเดินเข้าไปหา นี่คือเหตุผลที่ทำไมฉันถึงรักงานของฉัน” Campbell อธิบายเพิ่มเติมว่า “เส้นเลือดที่อยู่ในส่วนคอเป็นบริเวณที่เราสามารถเจาะเลือดได้อย่างรวดเร็วและแน่นอน” “อย่างไรก็ตาม ตอนที่ฉันเข้าไปจับคอของเจ้าหมาวัย 12-13 ปีตัวนี้ มันไม่เข้าว่าฉันทำแบบนั้นเพื่อปิดหลอดเลือด มันเลยเอนหลังมาพิงฉัน เพื่ออ้อนขอความรักและความสนใจ ซึ่งฉันเองก็ยินดีจะให้สิ่งที่มันต้องการด้วยความเต็มใจ” นี่ไม่ใช่พฤติกรรมที่พบได้บ่อย เพราะอย่างที่เรารู้ว่าสัตว์เลี้ยงไม่ชอบไปโรงพยาบาล ยิ่งถ้าได้อยู่ในมือหมอแล้ว มันจะไม่ยอมอยู่นิ่งๆ แน่นอน จริงๆ แล้ว นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ Campbell กอดสัตว์ระหว่างทำงาน แต่เพื่อนร่วมงานได้แอบถ่ายรูปขณะที่เธอทำแบบนั้นกับคนไข้ทุกเกือบทุกตัว เพื่อนๆ บอกว่าเธอมักจะมีความสุขกับการกอดสัตว์เสมอ และเหล่าสัตว์เองก็ต้องการอ้อมกอดของเธอเหมือนกัน Campbell “สัตว์ที่มาโรงพยาบาลมักจะมาพร้อมกับความหวาดกลัว ดังนั้น ฉันจึงให้ในสิ่งที่พวกมันต้องการเท่าที่จะให้ได้ โดยหนึ่งในสิ่งที่พวกมันต้องการคือการกอดเพื่อปลอบใจ” “แม้ว่าตอนแรกฉันแค่จะกอดปลอบใจ แต่เวลาเห็นพวกมันมีความนสุข…
-
พบกับ ‘Kazou’ แมวผู้ไม่มีดวงตา แต่มันสามารถมองเห็นได้ด้วยใจ เลยใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ทำให้เราประหลาดใจได้เสมอ ไม่ว่าพวกมันจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม อย่าง Kazou เหมียวที่ตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง แต่มันกลับมีพฤติกรรมที่ตรงข้ามกับสภาพร่างกายอย่างสิ่้นเชิง Kazou ถูกพบตอนที่เป็นเพียงลูกแมวตัวน้อย ในสภาพที่ตาติดเชื้ออย่างรุนแรงจากโรคไข้หวัดแมว น่าเศร้าที่คุณหมอไม่สามารถรักษาตามันไว้ได้ เลยต้องผ่าตัดตาออกทั้ง 2 ข้าง การเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่มีตาไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับ Kazou แต่มันไม่ยอมให้ความบกพร่องนี้มาหยุดมันได้ มันเลือกที่จะก้าวข้ามทุกอุปสรรคและใช้ชีวิตเหมือนแมวปกติทุกอย่าง Kazou เป็นแมวที่มีความมั่นใจ ขี้สงสัย และกล้าหาญมาก นอกจากชอบไล่ล่าผึ้งแล้ว มันยังชอบออกไปนอนแผ่พุงในสนามหญ้า และสัมผัสแดดอ่อนๆ ที่ส่องลงบนท้องของมัน Kazou ใช้ชีวิตได้ปกติโดยไม่มีปัญหาอะไรเลย แม้จะมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่รอบตัว แต่มันรับทุกอย่างได้ผ่านความรู้สึกและการสัมผัส ทุกคนที่ได้พบ Kazou ต่างรู้สึกทึ่งกับพฤติกรรมของมัน ในขณะที่ครอบครัวเจ้าเหมียวเองก็ปฏิบัติกับมันเหมือนเหมียวทั่วไป เพื่อไม่ให้มันรู้สึกถึงความแตกต่าง การที่เหมียวตาบอกได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกวันนี้ ต้องขอบคุณครอบครัวของน้องที่ให้โอกาสมันในวันนั้น และเลี้ยงมันด้วยความเข้าใจ เพื่อนๆ สามารถติดตามชีวิตนุ้งแมวไร้ตาตัวนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก Kazou – das Blindkatzi . ดอกไม้โปรดของพี่เค้าเลยล่ะ…
-
ช่างภาพบราซิล ถ่ายภาพตึกรามบ้านช่องในฮ่องกง สะท้อนความเจริญและความแออัดของเมือง
เมืองหลวงที่รวมทุกอย่างเข้าไว้ในพื้นที่เดียวกัน มีความสะดวกสบายอันเนื่องจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และยังมีโอกาสก้าวหน้าทางการงานหรือการศึกษามากกว่า เป็นเหตุผลที่ทำให้หลายๆ คนเลือกจะอาศัยอยู่ในเขตเมืองใหญ่มากกว่าชนบท ไม่ใช่แค่เพียงกรุงเทพมหานครหรือมหานครนิวยอร์กที่เราสามารถมองเห็นตึกสูงๆ ถูกสร้างขึ้นอย่างแน่นขนัด เมืองใหญ่อื่นๆ ก็มีการใช้พื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อรองรับการอยู่อาศัยของประชากรเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ฮ่องกง Dietrich Herlan ช่าวภาพชาวบราซิลที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงกล่าวว่า ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่น มีตึกรามบ้านช่องมากมายที่สร้างเป็นรูปทรงเลขาคณิต จนยากที่จะจินตนาการได้ว่าผู้คนที่นี่อาศัยอยู่กันแบบใด อย่างไรก็ตามภาพที่เธอถ่ายไว้จากการสำรวจพื้นที่ในชุมชนเมืองของฮ่องกงและมาเก๊า ทำให้เห็นถึงความหนาแน่นของประชากรในพื้นที่ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ภาพรวมของฮ่องกงตอนกลางวัน ความสวยงามของฮ่องกงยามราตรี ภาพที่มองจากด้านหน้าตึก . เปลี่ยนมุมโดยมองจากด้านล่างขึ้นข้างบน . . . . ประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีจำกัดเป็นปัญหาที่พบทั่วไปในฮ่องกง ดังนั้นชาวฮ่องกงจึงให้ความสำคัญในการจัดสรรพื้นที่เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงออกมาในรูปแบบของการวางผังเมืองอย่างชาญฉลาด ยกตัวอย่างเช่นการสร้างสนามบาสเก็ตบอลบนตึกจอดรถ เป็นต้น ที่มา: dietrichherlanphotography.com Boredpanda
-
เด็กชาย Wang ที่เดินไปโรงเรียนจนน้ำแข็งเกาะหัว มาดูกันว่าผ่านไป 1 ปีเขาเป็นอย่างไรบ้าง!
มีใครยังจำหนูน้อยคนนี้ได้บ้าง? เมื่อต้นเดือนมกราคมปีที่แล้ว ได้มีการเผยแพร่ภาพหนูน้อยชาวจีนหรือ หนูน้อย Wang ที่อายุเพียง 8 ขวบแต่ไม่ละความเพียรพยายามในการเรียน เดินไปโรงเรียนซึ่งไกลกว่า 4.5 กิโลเมตรในทุกๆ วัน ท่ามกลางอากาศหนาวจัด จึงทำให้หิมะเกาะผมจนสภาพเป็นอย่างที่เห็น หลังจากสังคมออนไลน์ได้เห็นถึงความตั้งใจนี้ ได้มีการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือหนูน้อยคนดังกล่าวและเพื่อนคนอื่นๆ ในโรงเรียน ซึ่งมียอดบริจาคมากกว่า 10.6 ล้านบาท หลังจาก 1 ปีผ่านไป หนูน้อย Wang เป็นอย่างไรบ้างนะ? ปัจจุบัน หนูน้อย Wang ไม่ต้องเดินไปโรงเรียนแล้ว เนื่องจากครอบครัวของเขาได้ย้ายมาอยู่หมู่บ้าน Zhuanshanbao ใกล้กับโรงเรียน ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 10 นาที พ่อของเขาให้สัมภาษณ์อีกว่า “ชีวิตของเราดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับแต่ก่อน เรามีที่พักที่พอจะกันลมและกันฝนได้” ตอนนี้เขาทำงานที่ไซต์ก่อสร้างในเขตคุนหมิง มีรายได้ประมาณ 200 หยวนต่อวัน ถือว่าเป็นรายได้ที่สูงสำหรับคนในพื้นที่นั้น ส่วนหนูน้อยหวังยังคงโด่งดังและได้รับของขวัญมากมาย เขาได้รับเชิญให้เข้าเยี่ยมโรงเรียน People’s Public Security University of China ในปักกิ่งซึ่งเป็นโรงเรียนที่เขาไฝ่ฝันอยากจะเข้าเรียน…
-
หนุ่มสุดเฟล สั่ง “ไข่เบเนดิก” ในห้าง แต่สิ่งที่ได้มา กลับกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้!?
เมื่อเปิดเมนูร้านอาหารหรือตามคาเฟ่ต่างๆ สิ่งที่พบมักจะเป็นอาหารเช้าแบบอเมริกัน, แซนด์วิช, วาฟเฟิล หรือแพนเค้ก แต่มีอีกหนึ่งเมนูที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาคงและหนีไม่พ้น คือเมนูไข่เบเนดิกอาหารเช้าสุดคลาสสิค โดยปกติแล้วเมนูนี้จะประกอบไปด้วย ขนมปัง แฮม โปะด้วยไข่ลวก พร้อมกับราดซอสฮอลันเดส หากตอนนี้เราวาดภาพเมนูดังกล่าวไว้ในหัวแล้ว เห็นทีจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะสิ่งที่ชายคนหนึ่งได้ หลังจากสั่งเมนูไข่เบเนดิก เป็นแบบนี้!!!! Diner Thomas Hesketh ค่อนข้างผิดหวังเมื่อสั่งเมนูดังกล่าวที่ Tesco สาขา Wigan ด้วยความไม่พอใจเขาจึงโพสต์รูปภาพอาหารเขาได้รับลงบนทวิตเตอร์พร้อมกับคำบรรยายว่า “สั่งไข่เบเนดิก ที่ Tesco แต่กลับได้สัตว์ประหลาดนี่มาแทน” รูปภาพและข้อความดังกล่าวได้ถูกรีทวีตถึง 3,124 ครั้งและมีคนกดชื่นชอบถึง 17,000 ครั้ง โดยทาง Tesco ได้ตอบกลับเบื้องต้นเพื่อขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามชาวเน็ตต่างร่วมแสดงความคิดเห็นและแนะนำให้ Tesco แสดงความรับผิดชอบโดยการให้ Thomas ทานอาหารเช้าฟรี 1 ปี ทั้งนี้ฝ่ายโฆษกของ Tesco ได้ออกมาขอโทษที่เสิร์ฟอาหารต่ำกว่ามาตรฐานที่วางไว้และยินดีเจรจากับ Thomas เพื่อหาข้อตกลงจากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่มา: Mirror
-
นักจิตวิทยาเผย มนุษย์ควรรู้สึกเห็นใจผู้อื่น เมื่อพวกเขาสูญเสีย “สัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รัก”
ว่ากันว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ดังนั้นความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นนั้นเป็นที่สิ่งสำคัญที่มนุษย์ทุกคนพึงมี เพื่อที่จะได้อยู่รวมกันอย่างสงบสุข อย่างไรก็ตามพื้นฐาน สภาพแวดล้อมหรือปัจจัยอื่นๆ ของแต่ละคนนั้นทำให้เกิดความแตกต่าง จนบางครั้งยากที่จะเข้าอกเข้าใจผู้อื่น นักจิตวิทยาท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า การเราควรเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เมื่อพวกเขาเหล่านั้นสูญเสียสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รัก เพราะสำหรับหลายคนการสูญเสียสัตว์เลี้ยงเทียบเท่ากับการสูญเสียบุคคลสำคัญในชีวิตไป ดังนั้นเราจึงควรให้แสดงความเข้าอกเข้าใจและกำลังใจพวกเขา นอกจากนั้นนักประพันธ์ Guy Winch เจ้าของผลงานหนังสือ How to Fix a Broken Heart ได้อธิบายในงานเขียนของเขาบน Scientific American ไว้ว่า ความเสียใจหลังจากสูญเสียสัตว์เลี้ยงแสนรัก อาจจะหายไปเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว 1-2 เดือน แต่สำหรับบางคนอาจจะต้องใจเวลาเกือบปีถึงจะทำใจได้ ถึงแม้ว่าความเสียใจจะทำให้เกิดผลเสียมากมาย Winch กล่าวว่า คนเรามักจะมองการสูญเสียสัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องเล็กน้อยกว่าเรื่องอื่น การสูญเสียดังกล่าวจึงไม่มีน้ำหนักมากเพียงพอที่จะขอลางานจากนายจ้างเพื่อใช้เวลาทำใจได้ บางคนมีความเครียดและแรงกดดันมากเพิ่มมากขึ้นเมื่อไม่มีสัตว์แสนรักอยู่ข้างกาย กำลังใจจากคนรอบข้างนับเป็นสิ่งสำคัญที่จะคลายความเศร้าหลังจากการสูญเสีย เราจึงอย่าลืมที่จะให้กำลังใจพวกเขาเหล่านั้นกันด้วยนะ ที่มา: Ladbible
-
‘Jack Daniel’s’ ผลิตกาแฟรสชาติวิสกี้ ให้เช้าวันใหม่ของคุณสดใสขึ้นกว่าเดิม!!
สำหรับนักดื่มหลายคนคงจะคุ้นหูคุ้นคอกันดีกับชื่อของ “Jack Daniel’s” วิสกี้รสหวานหอมจากแดนมะกัน ที่ไม่ว่าหยิบมาดื่มเมื่อไหร่ก็ชื่นใจกับรสชาติอันหอมนุ่มละมุนลิ้น (แหม เปรี้ยวปากจริงๆ) แต่ว่านี่อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่อยากจะลิ้มลองกับอะไรใหม่ๆ เมื่อในตอนนี้ทาง Jack Daniel’s ได้รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของพวกเขาขึ้นมา ซึ่งก็ไม่แน่เหมือนกันว่าคุณอาจจะหลงรักมันเลยก็เป็นได้… หน้าตาของกาแฟชนิดใหม่ โดยเจ้าสิ่งที่ว่านี้คือ ‘กาแฟผสมวอดก้า’ ที่ทาง Jack Daniel’s ได้ร่วมมือกับ World Of Coffee รังสรรค์มันขึ้นมาเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับคอกาแฟได้ลิ้มรสกาแฟที่มีกลิ่นและรสชาติคล้ายคลึงกับวิสกี้ กาแฟนี้เป็นอราบิก้า 100% เต็มๆ และผ่านกระบวนการคั่วด้วยระดับกลาง ทว่าก็จะมีกลิ่นและรสชาติที่แตกต่างออกไปจากกาแฟรูปแบบเดิมๆ แน่ๆ เพราะอย่าลืมว่านี่คือ Jack Daniel’s!! แต่ถึงอย่างนั้นก็อาจจะมีเรื่องที่เซอร์ไพรส์เล็กน้อยเกี่ยวกับกาแฟตัวใหม่นี้ เพราะว่ามันปลอดแอลกอฮอล์อย่างสิ้นเชิง แถมยังไม่พอยังให้เลือกแบบมีคาเฟอีนปกติกับไม่มีคาเฟอีนอีกด้วย (Decaffeinated Coffee) “เอกลักษณ์ในกาแฟรสเยี่ยมของเรานี้เป็นอราบิก้า 100% มาผสมเข้ากับความเป็นวิสกี้ของ Jack Daniels แล้วนำมาคั่วกลางให้รสชาติเข้มข้นเต็มรูปแบบ” “รสสัมผัสแห่งรสชาติคาราเมลและวานิลลา ที่อยู่ในวิสกี้ชนิดนี้จะมาอย่างเต็มๆ ในทุกๆ จิบของคุณอย่างแน่นอน” “พวกเรา World of Coffee มีหลักการเดียวกับทาง Jack…
-
ศิลปินหนุ่มวาดภาพการ์ตูน เมื่อสาวพลัสไซส์กลายมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ มันก็จะน่ารักประมาณนี้
ผู้หญิงทุกคนมีความงามในฉบับของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสาวร่างผอมบาง สาวร่างอวบ สาวผมสั้น สาวผมยาว มันคือความหลากหลายที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความสวยงามในโลกใบนี้ Eduardo Santos ศิลปินหนุ่มชาวบราซิล ผู้ที่เชื่อว่าทุกคนนั้นสามารถแข็งแกร่งได้เหมือนกับเหล่าซูเปอร์ฮีโร่จากภาพยนตร์ดังที่เราคุ้นเคยกันดี โดยเขาตั้งใจที่จะวาดภาพความงามของสาวพลัสไซส์บวกกับความเท่ของซูเปอร์ฮีโร่ออกมา ไอรอนแมนสาวเท่ แบบว่ามีดนตรีในหัวใจ วูฟเวอรีนก็เท่เหมือนกัน เอ๊ะ สักรูปใครเอ่ย ซูเปอร์เกิร์ลอวบอึ๋ม ลั้นลาสุดๆ แบทวูแมนกับชุดไปเที่ยวเก๋ๆ กัปตันอเมริกา เปลี่ยนจากโล่มาเป็นถุงชอปปิงแทน แคทวูแมน สวย เซ็กซี่ สตอร์ม ขี่พายุทะลุฟ้า (เอ๊ยยยยย ไม่ใช่) เทพธอร์ เปลี่ยนจากควงค้อนมาควงกระเป๋าแบบสวยๆ วันเดอร์ วูแมน ปิดท้ายด้วยสไปเดอร์เกิร์ล เด็กสเก็ต ใครที่ชื่นชอบผลงานของศิลปินหนุ่มคนนี้ล่ะก็ ไปรับชมกันเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรมตามลิงก์นี้ได้เลยจ้า edull.ardo ที่มา boredpanda
-
ตำนานเครื่องฟังเพลงพกพา’ Walkman’ นวัตกรรมเปลี่ยนโลก ด้วยไอเดียของการเคลื่อนที่
เมื่อโลกยังไม่เคยได้รู้จักเครื่องฟังเพลงพกพามาก่อน ไม่มีอินเทอร์เน็ตที่ทั่วถึง ไม่มีระบบสตรีมมิ่งเพลง การที่ชาวบ้านคนธรรมดาทั่วไป จะหาเพลงฟังได้ ก็ต้องพึ่งวิทยุทรานซิสเตอร์ หมุนหาคลื่นที่ถูกใจและฟังไปตามโปรแกรมที่สถานีจัดไว้ หรือถ้ามีเงินหน่อยก็ซื้อเทปเพลงของศิลปินที่ชื่นชอบ เปิดกับเครื่องเล่นเทปฟังวนซ้ำๆ ได้ไม่มีเบื่อ ยังไม่รวมการกรอหมุนเทปเพื่อข้ามเพลง… นวัตกรรมการฟังเพลงเปลี่ยนโลกสู่ท้องถนน Sony Walkman ถ้ามองกลับไปในยุคนั้น หากใครใส่หูฟังฟังเพลงจะดูเป็นคนเพี้ยนในสายตาคนอื่น เนื่องจากเทคโนโลยีเครื่องฟังเพลงพกพายังใหม่มาก และหูฟังส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเก็บเสียงได้ดี รวมไปถึงอินเนอร์กับเพลงที่กำลังฟังอยู่ Walkman รุ่นแรก TPS-L2 ซึ่งแน่นอนว่า ในปัจจุบันโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ผู้คนหันมาฟังเพลงผ่านสมาร์ทโฟนกันหมด เพราะด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้น ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของคนมากขึ้น ซึ่งไอเดียที่เปลี่ยนพฤติกรรมการฟังเพลงของทั้งโลก ไม่ใช่ iPod แต่เป็น Walkman จากบริษัท Sony ตั้งแต่ช่วงปี 1950 วิทยุทรานซิสเตอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เรียกได้ว่า ‘ของมันต้องมี’ ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง ใครๆ ต่างก็ชอบฟังเพลงกันทั้งนั้น แต่มันมีข้อจำกัดตรงที่ต้องฟังเพลงตามที่สถานีจัดรายการเอาไว้ พกไปไหนมาไหนลำบาก หรือไม่ก็เปิดวิทยุในรถยนต์แทน Masaru Ibuka เช่นเดียวกับผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท…
-
ตำรวจบุกจับวงไพ่ในบ้าน คดีพลิก ที่แท้ “เล่นเกมเศรษฐี” เขินจนต้องนวดไหล่ให้แทน!!
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และคนที่อยู่ในคลิปก็เป็นคนจริงๆ!! เรามักจะได้เห็นข่าวการซุ่มจับวงไพ่กันอยู่บ่อยๆ แต่การจับกุมครั้งนี้กลายเป็นเรื่องพลิกความคาดหมาย และได้กลายมาเป็นคลิปวิดีโอที่แชร์กันไปทั่วโลกออนไลน์ คลิปจากกล้องวงจรปิดที่โพสต์โดยคุณ Supamongkol The-Bankja พร้อมกับแคปชั่นสุดฮาว่า… “เพราะเกมเศรษฐี เกือบเกมแล้วไอ้สัตว์ 55555 ตำรวจเข้ามาเช็ค 5555” จากคลิปแสดงให้เห็นถึงกลุ่มวัยรุ่นตั้งวงเล่นเกมเศรษฐีกันอยู่บริเวณหน้าบ้าน จากนั้นก็มีชายแต่งกายแบบเจ้าหน้าที่เดินเข้ามา พวกน้องทำอะไรกันอ่ะ เล่นไพ่กันอยู่เหรอ!? ป่าวครับ พวกผมเล่นเกมเศรษฐี ตึ่งโป๊ะ!! เล่นเมื่อยไหมน้อง พี่นวดไหล่ให้นะ อุ๊อิ๊!! แน่นอนว่าคลิปการบุกจับวงเกมเศรษฐีสุดโป๊ะตึงตึงในครั้งนี้ ได้รับเสียงตอบรับจากชาวเน็ตอย่างล้นหลาม มีการกดถูกใจกว่า 10,000 ครั้ง แชร์อีกกว่า 9,000 ครั้ง แถมยังเข้ามาคอมเมนต์แท็กเพื่อนมาดู พร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน “ใครเหวอ กว่า ระหว่างคนเล่น กับ คนจับ 5555” – ชาวเน็ตคนหนึ่ง “จะฮาหนักกว่านี้ถ้าพวกที่นั่งเล่นอยู่ลุกแล้ววิ่งหนีด้วย ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด ตำรวจเองก็ยืนงงสักพักแล้วก็วิ่งตาม เห็นเขาวิ่งก็วิ่งจับ” – ชาวเน็ตอีกคน กลายเป็นอะไรที่แบบว่า..…
-
พบกับหมาน้อยพ่อมด ฟังคาถาแฮร์รี่ พอตเตอร์รู้เรื่องทุกอย่าง แถมยังทำตามได้ด้วย!!
แฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นภาพยนตร์ที่โด่งดังและได้รับความนิยมมาก จึงไม่แปลกเลยที่คุณจะมีแฟนคลับแฮร์รี่ พอตเตอร์อยู่แทบทุกที่ แต่รับรองว่าคุณต้องยังไม่เคยเจอแฟนคลับที่เป็นหมาแน่ๆ เจ้าหมาที่ว่าก็คือเจ้า Remus หมาที่สามารถเข้าใจคาถาต่างๆ จากหนังเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ และสามารถทำตามได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งฉลาดและน่ารักเลยล่ะ นี่คือเจ้า Remus เปิดตัวมาคู่กับไม้กายสิทธิ์เลยทีเดียว https://www.instagram.com/p/Bir1yZ9BP4D/?utm_source=ig_embed อันที่จริงแล้ว Remus ไม่ได้เริ่มชอบแฮร์รี่ พอตเตอร์ด้วยตัวเองหรอก Anna Brisbin เจ้าของของมันต่างหากที่เป็นแฟนคลับแฮร์รี่ พอตเตอร์ตัวยง และมีของสะสมมากมาย พอมาอยู่กับเธอแล้ว เจ้าหมาก็เลยได้รับการฝึกสอนให้ทำตามคำสั่งเป็นคาถาแฮร์รี่ พอตเตอร์แทน แถมดูมันจะชอบซะด้วย เพราะมันทำตามคำสั่งอย่างคล่องแคล่วเชียวล่ะ ผมเป็นหมาบ้านกริฟฟินดอร์ครับ https://www.instagram.com/p/BsMEYG_gsr8/?utm_source=ig_embed เวลาร่ายคาถา Avada Kedavra ซึ่งเป็นคาถาแห่งความตายใส่ เจ้าหมาจะแกล้งตายทันที หากร่ายค่า Engorgio ซึ่งทำให้ตัวของคนที่ถูกคาถาพองใหญ่ขึ้น Remus ก็จะกินข้าวจนพุงกาง ถ้าลองร่ายคาถา Relashio ที่ใช้ผลักของออกไป เจ้าหมาจะวิ่งหนีโดยไม่หันหลังกลับมามองเลย และถ้าร่ายคาถา Lumos ซึ่งสร้างแสงไฟที่ไม้กายสิทธิ…
-
แมวเหมียวหลงทาง กลายเป็นผู้ปกครองปราสาทโบราณในญี่ปุ่น มีทาสรอรับใช้เพียบ
ต้องบอกเลยว่าเจ้าแมวเหมียวตัวนี้เกิดมาเพื่อปกครองมนุษย์จริงๆ ใช้เวลาไม่นานมันก็เลื่อนขั้นตัวเองด้วยการมัดใจมนุษย์ จนกลายเป็นผู้ปกครองปราสาทโบราณไปซะแล้ว เจ้าแมวเหมียว Sanjuro เดิมทีเป็นแมวของ Megumi Namba ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองทากาฮาชิ จังหวัดโอกายาม่า ประเทศญี่ปุ่น แต่มันพลัดหลงออกมาจากบ้านเธอตอนที่เกิดเหตุน่ำท่วมและดินถล่มเมื่อกลางปี 2018 คนที่ทำงานดูแลปราสาท Bitchu Matsuyama ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ ไปเจอตัวมันเข้าและเก็บมาดูแล จากนั้นไม่นานเจ้าแมวก็โปรยเสน่ห์ใส่คนที่ทำงานในประสาททุกคน ลามไปจนถึง Hideo Aihara ผู้อำนวยการสมาคมท่องเที่ยวที่มีอำนาจดูแลปราสาทสูงสุดเลยทีเดียว ต่อมาเขาจึงแต่งตั้งให้มันเป็นผู้ปกครองปราสาทแห่งนี้ เจ้าแมวมัดใจทุกคนรวมไปถึงผู้มีอำนาจดูแลสูงสุดจนอยู่หมัด มนุษย์จึงมอบตำแหน่งผู้ปกครองปราสาทให้กับมัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Sanjuro ก็สามารถเดินไปได้ทุกซอกทุกมุมของปราสาท ตั้งแต่ลานด้านหน้าจนถึงชั้นสูงสุดตามใจชอบ และยังมีคนคอยตามดูแลเกือบตลอดด้วย แต่มันก็ไม่ได้มานั่งกินนอนกินฟรีๆ หรอกนะ หลังจากที่มันได้รับตำแหน่ง ทางปราสาทก็ทำพิธีมอบตำแหน่งให้มันอย่างเป็นทางการ และแนะนำมันให้คนที่มาท่องเที่ยวรู้จักด้วย ตอนนี้เจ้าแมวจึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดขายของปราสาท Bitchu Matsuyama ซึ่งช่วยเรียกนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี บางทีก็มีนักท่องเที่ยวที่แวะมาเพื่อเจอมันโดยเฉพาะด้วยนะ มันเป็นที่นิยมมากๆ จนพอลองเทียบรายรับช่วงก่อนที่มันเป็นผู้ปกครองปราสาท กับหลังจากมันมาช่วยเรียกแขกแล้ว มีกำไรสูงกว่ากันลิบลับเลยทีเดียว มาเพื่อเจอเจ้าแมวเลยสินะหนุ่มน้อย แน่นอนว่าการที่ Sanjuro ดังแบบนี้ ทำให้ Namba ซึ่งเป็นทาสคนเก่าที่กำลังตามหามันอยู่…
-
เมื่อ Captain America ทวีตว่าไม่ถูกกับเทคโนโลยี งานนี้ Tony กับ Bruce ไม่พลาดที่จะเข้ามาแซว
เราคงรู้กันอยู่แล้วว่าหากนับอายุจริงๆ ของ Captain America เขาก็จะมีอายุพอๆ กับคุณทวดของเราเลย ซึ่งในปัจจุบันอายุของเขาก็อยู่ที่ 100 ปีเท่านั้นเอง ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยจะถูกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่เสียเท่าไหร่จนมักถูก Tony Stark แซวบ่อยๆ และประเด็นที่เราจะนำมาพูดในวันนี้ก็คือ ไม่รู้ว่าเพราะอินกับบทบาทหรือว่าอะไร เมื่อ Chris Evans ผู้รับบทเป็น Captain America ออกมาทวีตบอกไม่ชอบเทคโนโลยีซะงั้น โดยในวันที่ 8 มกราคม 2019 พี่ Chris Evans ของเราได้ทวีตข้อความว่า “ถึงเทคโนโลยีทั้งหมด จำช่วงยุค 90 ได้มั้ย ช่วงที่พวกนายเพิ่งจะออกมาทำงาน ฉันไม่ต้องการสมาร์ทฟีเจอร์ในทีวี เครื่องควบคุมอุณภูมิ ไฟ เพลง ตู้เย็น กล้องวงจรปิดหรือในรถยนต์บ้าบอนี่ พวกนายมันโคตรน่ารำคาญ ไม่คู่ควรสักนิด” https://twitter.com/ChrisEvans/status/1082338680885235713?ref_src=twsrc%5Etfw หลังจากที่เขาโพสต์ข้อความดังกล่าวลงโซเชียลมีเดีย โพสต์ก็ถูกแชร์ต่อกันไปอย่างรวดเร็ว ชาวเน็ตเข้ามาแซว Captain ของเราอย่างมากมาย รวมถึงคู่ซี้อย่างป๋า Robert Downey Jr. ผู้รับบทเป็น…
-
17 ภาพแห่งความผิดหวังเห็นแล้วเศร้าแทนเสียนี่กระไร มันน่าน้อยใจโชคชะตายิ่งนักคุณเอ้ย!!
ในชีวิตของคนเรานอกจากความสมหวังในสิ่งต่างๆ ที่จะได้เจอแล้ว เรื่องของ ‘ความผิดหวัง’ ก็เป็นสิ่งที่ควบคู่กันมาอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะเราคงไม่สามารถควบคุมทุกๆ อย่างบนโลกได้อย่างที่ใจเรานึกหรอกจริงไหม… แต่ว่าบางทีมันก็น่าน้อยใจโชคชะตาจริงๆ ที่ทำไมมักจะมีเรื่องน่าผิดหวังเกิดขึ้นกับเราอยู่บ่อยๆ หรือไม่ก็ไม่ใช่เรื่องที่มันควรจะเกิดขึ้นเลยให้ตายสิ และพวกเขาเหล่านี้ก็คือบุคคลที่ประสบกับประสบการณ์ดังกล่าว ซึ่งหากดูจากภาพแล้วบางทีเราคงไม่อยากจะเจอเหมือนกับพวกเขาแน่ๆ บอกเลยว่าขอให้โชคดีกว่านี้ในวันหน้านะตัวเธอ!! ใครจะคิดว่าจู่ๆ เหยียบลงไปมันจะ โบ้มม!! เอาวะ อย่างน้อยก็ยังมีประโยชน์ ถ้าหากว่ามื้ออาหารในวันดีๆ ของคุณต้องจบลงด้วยภาพแบบนี้ล่ะ ดูสิ่งที่เพื่อนได้ แล้วดูสิ่งที่ตูได้สิ แล้วในที่สุดวันนี้แม่ก็รู้แล้วว่า ฉันเจาะหัวนม… ม่ายยยย โน่วว ไม่แน่เหมือนกันนะว่าผู้ร้ายอาจจะอยู่ในภาพนี้ก็เป็นได้ ซานต้าไหว้ล่ะ มาช่วยผมลงไปทีเหอะ เมื่อจะซื้อปฏิทินขนมน่ารักๆ มาเซอร์ไพรส์น้องหมา แต่มันกลับเซอร์ไพรส์เราซะก่อน ตื่นเช้ามาแล้วเจอกับรถสภาพเป็นอย่างนี้… มันเข้าไปได้ยังไงกันวะเนี่ยเห้ย ก็เค้ากลัวเธอทำหลุดมือง่ะ ให้มันรู้ว่านี่มันถิ่นของใคร แล้วฉันก็พ่ายแพ้ แค่ลืมทิ้งกระป๋องน้ำอัดลมไว้ในรถคืนเดียวเอง ไหงมันเป็นฉะนี้ …
-
โอ๊ต ปราโมทย์ โดนคอมเมนต์เชิงเหยียด คนหล่อขอทำดี ลั่นทวีต #อย่าเหยียดกันเลย
จากข่าวดราม่าบนโลกออนไลน์ที่เราเห็นในทุกวันนี้ ในเรื่องของการเหยียดคนอื่น ทั้งเหยียดเชื้อชาติ เหยียดผิวพรรณ เหยียดหน้าตา หรือเหยียดปมด้อยของร่างกาย ยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมออนไลน์ที่ยังไม่มีทางแก้ และไม่มีใครรู้ว่าเรื่องของการเหยียดคนอื่นนั้นจะจบลงวันไหน ประเด็นล่าสุดที่เกิดขึ้นและกำลังกลายเป็นดราม่าในวงการบันเทิงไทยวันนี้ เป็นประเด็นของศิลปินหนุ่ม โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน ที่เจ้าตัวถึงกับต้องออกมาทวีตบนทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “ผมไม่หล่อและก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองหล่อ แต่ผมแค่อยากทำดีให้คนอื่นบ้างเท่านั้นเองอะครับ… #อย่าเหยียดกันเลย ☺✨” จากข้อความที่ศิลปินคนนี้ออกกล่าวออกมาบนทวิตเตอร์ส่วนตัวนั้น ที่มาที่ไปแบบนี้ 1. นิตยสารสุดสัปดาห์ได้ออกแคมเปญ ‘คนหล่อขอทำดี ปี 12’ โดยมีการนำศิลปินหนุ่มหล่อมาร่วมกัยถ่ายรูปขึ้นปกนิตยสาร ซึ่งภาพนี้กลายเป็นไวรัลในสังคมออนไลน์ไทยในทันที 2. คอนเซ็ปต์การถ่ายภาพปกในครั้งนี้ กลายเป็นที่กล่าวถึงในโลกออนไลน์ กับการนำหนุ่มหล่อมาทำผมทรงเดียวกัน แต่งชุดเหมือนกันขึ้นปก 3. เหล่าคนหล่อขอทำดีที่มาร่วมขึ้นปกในฉบับนี้มีดาราหนุ่มมากมายเช่น เจเจ ต่อ กัปตัน เป๊ก เจมส์ บอย รวมถึงโอ๊ต ปราโมทย์ด้วย 4. ที่โอ๊ต ปราโมทย์ออกมาทวีต มาจากโพสต์ของเพจดังเพจหนึ่ง ที่ได้นำภาพนี้ไปลง และมีการครอบเฉพาะภาพของโอ๊ต ปราโมทย์มา แล้วเขียนแคปชั่นในคอมเมนต์ว่า “คือ?” โพสต์ต้นฉบับ .…
-
เทียบช็อตต่อช็อต “Nissan March” เวอร์ชั่นไทย vs ต่างประเทศ (รออีกนิด อาจจะได้แบบนี้??)
Nissan March รถอีโคคาร์รุ่นยอดนิยมรุ่นที่ไม่ได้มีจำหน่ายแค่ในบ้านเราเท่านั้น โดยในตลาดต่างประเทศนั้นจะใช้ชื่อว่า Nissan Micra หลายคนที่ติดตามข่าวก็อาจจะพอทราบกันแล้วว่า Nissan Micra หรือ Nissan March นั้นได้เปิดตัวและวางจำหน่ายรถรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเจเนอร์เรชั่นที่ 5 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในหลายประเทศ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ก็มีข่าวแว่วๆ ว่าเจเนอร์เรชั่นใหม่นี้อาจจะถูกนำเข้ามาทำตลาดบ้านเราในปี 2019 นี้ก็เป็นได้ หลังจากที่ช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่ภาพรถรุ่นใหม่ที่เอามาวิ่งทดสอบในบ้านเรา ทำเอาแฟนๆ แอบหวังกันอยู่นิดๆ Nissan Micra 2019 ที่วางจำหน่ายในต่างประเทศ และในครั้งนี้ #เหมียวเวจจี้ ก็มีภาพเปรียบเทียบระหว่าง Nissan Micra และ Nissan March ที่จำหน่ายในบ้านเรามาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน เพื่อเป็นการกระตุ้นความอยากกันสักเล็กน้อย ส่วนจะสวยกระชากใจแค่ไหนนั้น ไปชมกันได้เลย… เริ่มจากดีไซน์ภายนอด Nissan March ที่วางจำหน่ายในตลาดยุโรปนั้นจะมีมิติตัวถังที่ใหญ่กว่ารุ่นที่จำหน่ายในบ้านเราเล็กน้อย และมีการปรับโฉมรอบคันที่เรียกได้ว่าแทบจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า ไฟส่องสว่างด้านหน้า และไฟท้ายแบบบูมเมอแรง โฉมภายนอก ที่แตกต่างจากเดิม .…
-
อยากไปอยู่ไหม!? “ไอซ์แลนด์” ประเทศที่ “ไม่มียุง” อาศัยอยู่แม้แต่ตัวเดียว เฮ้ย… นี่พูดจริง
รู้จัก “ยุง” มั้ย?? ถ้านายไม่รู้จัก นายก็ออกจากแก๊งค์เราไปเลย!! (อ่ะ หยอกๆๆ) #เหมียวตะปู เชื่อว่าทุกคนก็คงจะต้องรู้จักกับเจ้ายุงกันอยู่แล้ว อย่างน้อยคงต้องเคยโดนยุงกัดกันมาบ้างแหละนะ แต่รู้หรือไม่ว่ามีประเทศหนึ่งที่ “ไม่มียุงอาศัย” อยู่เลย… ใช่แล้ว คือไม่มียุงมาคอยบินอยู่ข้างหู ไม่มีมาคอยดูดเลือด คือไม่มียุงอาศัยอยู่จริงๆ และที่แห่งนั้นก็คือ “ประเทศไอซ์แลนด์” ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ยืนยันแล้วว่าไม่มีประชากรของยุงเลยแม้แต่น้อย ที่มีอยู่ก็มีแค่ยุงตัวหนึ่งที่นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัย University of Iceland ไปเก็บกลับมาได้จากบนเครื่องบินในช่วงปี 1980 เท่านั้นเอง Gisli Mar Gislason นักวิจัยคนดังกล่าว บอกว่า “ผมวิ่งไล่ไปทั่วห้องโดยสารเพื่อจับเจ้ายุงตัวนี้ มันคือยุงเพียงตัวเดียวที่คุณสามารถพบเห็นได้ในประเทศไอซ์แลนด์” ปัจจุบันยุงตัวนั้นถูกแช่ไว้ในขวดโหลแอลกอฮอล์ เก็บไว้ที่มหาวิทยาลัย สรุปแล้ว ประเทศนี้ก็คือไม่มียุงอาศัยอยู่จริงๆ เลยสักตัว แต่แล้วทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้นได้กันล่ะ?? ถ้าพูดง่ายๆ ก็เป็นเพราะ “ความหนาวเย็น” ที่ทำให้ยุงไม่สามารถเจริญเติบโตได้ แต่ว่าสำหรับประเทศไอซ์แลนด์นั้นจะมีความพิเศษที่มากกว่าประเทศอื่นๆ ประเทศไอซ์แลนด์ Lauren Culler ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัย…
-
ญี่ปุ่นเปิดคอร์ส “ฟันดาบลดน้ำหนัก” คลายเครียดแถมสกิลป้องกันตัว ที่สำคัญ.. ครูฝึกงานดี!!
เดี๋ยวนี้เทรนด์คนรักสุขภาพกำลังมาแรงสุดๆ จากการสังเกตเห็นว่าคนรอบตัวเริ่มสนใจในกิจกรรมการออกกำลังกายมากขึ้นทั้งวิ่ง เข้ายิม หรือกิจกรรมอื่นๆ ตามความถนัดของแต่ละคน การหันกลับมาออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังสามารถช่วยลดน้ำหนักหรือไขมันในร่างกายด้วย แต่จะดีแค่ไหนถ้าการออกกำลังกาย สามารถใช้ป้องกันตัวได้ด้วย ช่างเป็นเรื่องที่น่าสนใจและอาจมีประโยชน์กับสาวๆ ด้วย และคอร์สที่ว่านี้มีชื่อว่า Adidas Shindo เพื่อเป็นการทดสอบว่าคอร์สนี้มันเป็นประโยชน์ต่อสาวๆ จริงๆ เว็บไซต์ Soranews24.com จึงได้ส่ง Yayoi Saginomiya นักข่าวสาวไปร่วมทดลองเรียนคอร์สนี้ คอร์ส Adidas Shindo เป็นการนำเอาเอกลักษณ์ของซามูไรญี่ปุ่นมาใช้ แต่เปลี่ยนจากดาบทั่วไปเป็นดาบไม้ Takumi Okura คุณครูผู้สอนคอร์สนี้ เริ่มที่ Yayoi เลือกดาบไม้ของตัวเอง โดยดาบไม้นี้จะมีสายคล้องข้อมือเพื่อความปลอดภัย เผื่อเกิดข้อผิดพลาดหลุดมือไปโดนหัวเพื่อนร่วมคลาส หลังจากนั้นก็เริ่มเรียนการกล่าวคำทักทายสวัสดี เนื่องจากเป็นศิลปะในการต่อสู้ ต้องมีความงดงามด้วย ดาบน้ำหนัก 240 กรัมถูกกวัดแกว่งตามจังหวะเสียงเพลงและคำแนะนำของครูผู้สอน ดูเหมือนว่าไม่มีอะไร แค่แกว่งดาบไม้ แต่นี่มันคือการออกกำลังทั้งไหล่และแขน แขน ไหล่…
-
15 ภาพ GIF การเปิดขวดแชมเปญที่ทำเซียนเหมือนเรียนมา แต่ลงเอยด้วยความเฟล
ที่ใดที่มีการเฉลิมฉลอง เรามักจะเห็นการเปิดขวดแชมเปญเพื่อฉลองกันอยู่บ่อยๆ วันนี้เอง #เหมียวโคบี้ ก็ได้ทำการรวบรวมภาพเคลื่อนไหวของการเปิดขวดแชมเปญมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน แต่ไม่ใช่เป็นการเปิดแบบปกตินะ แต่เป็นการเปิดขวดแชมเปญสุดเฟล ที่ดันไปทำเซียนเหมือนเรียนมา เทคนิคการเปิดขวดแชมเปญของแต่ละคน จะเป็นอย่างไรนั้น เราไปรับชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า 1. ดูนี่ ไม่ต้องใช้เครื่องมือหรอก กะอีแค่ขวดแชมเป— เอิ่ม… 2. วันนี้เจ๊จะมาสอนวิธีเปิดขวดแชมเปญที่ถูกต้องนะคะ (หน้าเหวอไปเลย) 3. อุ้ย อีแม่ร่วง!! 4. ดูนี่นะที่รัก เอาไฟลนก้นขวดแบบนี้ เดี๋ยวฝามันก็จะพุ่งออกมาแบบง่ายๆ เลยล่- 5. เอามีดเปิดมันเล็กไป วันนี้อั๊วจะมาสอนการใช้ดาบเปิดขวดแชมเปญเอง 6. ข…. แข็งแกร่ง!! (หมายถึงแก้วอ่ะนะ) 7. ตู้ม!! กลายเป็นโกโก้ครั้นช์ 8. แค่ลองเปิดแชมเปญครั้งเดียวได้เลย!… ได้กิน!?… ได้แตก!! 9. สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นนนน…
-
22 ภาพหาดูยาก เหตุการณ์จู่โจม Pearl Harbor จุดเปลี่ยนสำคัญ สงครามโลกครั้งที่ 2
จากเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1941 ที่กองทัพญี่ปุ่นเข้าจู่โจมเพิร์ลฮาร์เบอร์อย่างฉับพลัน จนทำให้สหรัฐอเมริกา เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สองอย่างเป็นทางการเวลาก็ได้ผ่านล่วงเลยมา 77 ปีแล้ว ดังนั้นช่วงเวลาแบบนี้จึงเป็นเวลาที่ดีที่เราจะย้อนไปชมภาพความหลังในวันนั้นกันอีกครั้ง เพื่อรำลึกถึงหนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในช่วงสงครามโลกที่ทำให้โลกของเรากลายเป็นโลกที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน เริ่มกันจากภาพเพิร์ลฮาร์เบอร์ 1 ปีก่อนการจู่โจมของญี่ปุ่น เครื่องบินทิ้งระเบิดของญี่ปุ่นระหว่างเตรียมการบุก โดยมีเรือบรรทุกเครื่องบินโซริวอยู่ในฉากหลัง นายทหารญี่ปุ่นบนเรือบรรทุกเครื่องบินโชคาคุ ในวันที่ 7 ธันวาคม เครื่องบิน Type 97 ของญี่ปุ่นออกบิน เพิร์ลฮาร์เบอร์ 1 นาทีก่อนการโจมตี เครื่องบินญี่ปุ่นใระหว่างการปฏิบัติการ สมาชิกลูกเรือชาวญี่ปุ่นตะโกน “บันไซ” ก่อนเครื่องบินญี่ปุ่นออก ภาพเครื่องบิน Type 99 ที่ถูกถ่ายไว้โดยทางสหรัฐฯ เรือ USS Arizona ลุกเป็นไฟ เครื่องบิน Type 00 (ซีโร่) ทิ้งควันเป็นทางยาวหลังถูกยิงเข้าโดยปืนต่อต้านอากาศยาน USS Shaw ระเบิด กองกำลังทหารในหลุมปืนกล หลังจากการโจมตีจบลง …
-
ย้อนรอย “Rafael Caro Quintero” พ่อค้ายาเสพติด หนึ่งในบุคคลที่สหรัฐฯ ต้องการตัวที่สุด
ในเดือนเมษายนปี ค.ศ. 2018 เจ้าหน้าที่ FBI ของสหรัฐอเมริกาได้นำชื่อของ “Rafael Caro Quintero” พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ขึ้นบนบัญชี 10 บุคคลที่สหรัฐฯ ต้องการตัวมากที่สุด พวกเขาพร้อมมอบเงินรางวัลนำจับถึง 640 ล้านบาทให้แก่ใครก็ตามที่สามารถให้ข้อมูลนำจับชายผู้นี้ได้ และทำให้ชายคนนี้กลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีค่าหัวมากที่สุดคนหนึ่งของสหรัฐฯ ไป ว่าแต่ชายคนนี้จริงๆ แล้วเป็นใครกัน? Rafael Caro Quintero เมื่อปี 1985 Rafael Caro Quintero เชื่อกันว่าเกิดในเดือนมีนาคม ตุลาคม หรือไม่ก็พฤศจิกายนปี ค.ศ. 1952 ที่รัฐซีนาโลอา ประเทศเม็กซิโก โดยเป็นลูกชายคนโตจากบรรดาพี่น้อง 12 คน เขาสูญเสียผู้เป็นพ่อไปในตอนที่อายุได้เพียง 14 ปี และต้องช่วยเลี้ยงดูที่บ้านด้วยการทำงานในไร่ถั่ว แต่แทนที่จะทำงานในไร่อย่างสุจริต Rafael กลับเลือกจะจะปลูกกัญชาขายให้กับ Pedro Avilés Pérez พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ของเม็กซิโกแทน Pedro Avilés Pérez พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ของเม็กซิโก…
-
คู่ตายายฉลองรักครั้งที่สอง แต่งงานอีกครั้งครบรอบ 50 ปี อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า
คำสัญญาที่ให้กันให้วันแต่งงานว่าจะรักกันไปจนแก่เฒ่าเป็นไปได้มากแค่ไหน คู่รักตายายชาวมาเลเซียได้พิสูจน์แล้ว ว่าความรักสำหรับบางคู่นั้น ไม่ได้ลดลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน เจ้าบ่าวนามว่า Siong และเจ้าสาว Kim ได้จัดงานแต่งงานขึ้นอีกครั้งเมื่อวันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมาเพื่อเป็นการฉลองวันครบรอบ 50 ปี ของทั้งคู่โดยมีครอบครัวและเพื่อนสนิทร่วมแสดงความยินดี หลังจากการแต่งงานในครั้งแรกนั้นยังต้องคุณตาเจ้าบ่าวต้องยืมรถของคนอื่นเพื่อมารับคุณยายซึ่งเป็นเจ้าสาว ครั้งนี้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้นั่งรถของตัวเองในงานฉลองครบรอบ โดยมีลูกหลานร่วมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ในงานยังคงพิธียกน้ำชา และมีประตูเงินประตูทองกั้นก่อนจะพบเจ้าสาว โดยเจ้าบ่าวต้องทำภารกิจอย่างเช่น ทาลิปสติกให้กับเหล่าหลานชาย เล่นเกมบีบลูกโป่งให้แตก หรือบอกรักหลายๆภาษาเป็นการเพิ่มสีสันภายในงาน . ภารกิจสุดท้ายเป็นการตอบคำถามว่าอะไรที่ทำให้เจ้าบ่าวตกหลุมรักเจ้าสาว และได้คำตอบที่ทำให้หลายคนอิจฉาว่าเขาหลงเสน่ห์สาวผมยาวและชอบนิสัยของเธอ หลังจากฝ่าฟันอุปสรรคต่างเพื่อพบเจ้าสาว เจ้าบ่าวได้มอบจูบให้กับเจ้าสาวเป็นโชว์ความหวานในงานแต่งครั้งนี้ นอกจากนั้นรูปถายพรีเวดดิ้งของแสดงถึงความรักอันยาวนานของทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี . ปิดท้ายงานด้วยพิธีแต่งงานแบบตะวันตกโดยเจ้าบ่าวและเจ้าสาวสวมชุดสีขาว ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ในปัจจุบันยังมีความคนรักกันจนแก่เฒ่าเหมือนที่คำที่สัญญาที่ให้ไว้ในตอนต้นของความรักเหมือนดังตายายคู่นี้ ที่มา: worldofbuzz
-
ฝรั่งสาวงงเลย!? รถจอดอยู่ริมถนน มีคนมาทา “สีขาว-แดง” เพิ่ม ทาเสร็จปุ๊บ ตำรวจมาจับปั๊บ!!
คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ… คุณ Valeriya Finogenova ร้องเรียนผ่านเฟซบุ๊กของเธอเอง ถึงการออกใบสั่งจอดรถในที่ห้ามจอด ซึ่งเธอรู้สึกว่ามันไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไร ในโพสต์เฟซบุ๊กซึ่งมีการลงข้อความเป็นภาษาอังกฤษ เธอเล่าว่า.. “ว็อดเดอะฟัก ฉันเจอกับอะไรเนี่ย… คือมีคนงานมาทาสีขาว-แดง สำหรับการห้ามจอดรถริมถนน โดยทาขยายจากรอยเก่า (บริเวณถนนทัพพระยา) หลังจากที่คนงานทาสีเสร็จปุ๊บ ตำรวจก็มาทันที แล้วออกใบสั่งให้กับรถทุกคันที่จอดผิดกฎหมาย ทั้งๆ ที่เมื่อเช้ามันยังถูกกฎหมายอยู่ แล้วสียังไม่ทันแห้งด้วยซ้ำ!?” พร้อมกับแนบภาพให้เห็นว่าสียังเพิ่งทาใหม่จริงๆ นะ หลังจากที่เธอโพสต์ลงไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นและแชร์ต่อออกไปพอสมควร เมื่อมีคนสงสัยว่า พื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นส่วนที่สามารถจอดได้จริงหรือไม่ เธอก็ยืนยันว่าเมื่อเช้านี้ยังไม่มีเครื่องหมายห้ามจอดจริงๆ พร้อมกับแนบรูปภาพจาก Google Maps ภาพนี้มายืนยัน นั่นทำให้โพสต์ดังกล่าว ถูกวิจารณ์จากชาวเน็ตที่ได้เห็นเป็นอย่างมาก ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเลยทีเดียว… ตัวอย่างเช่น… “Welcome to Pattaya ?” “Typical lazy police, an easy opportunity to make money! ?…
-
20 ภาพเปรียบเทียบในสิ่งเดียวกัน แต่พอเวลาผ่านกลับแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว
มุมมองของเราต่อสิ่งๆ หนึ่งอีกสิ่งหนึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ หลายครั้งที่เรามองสิ่งเดียวกันแต่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ซึ่งบางครั้งเราจะสามารถชื่นชมความงามของบางสิ่งโดยเปรียบเทียบจากสิ่งเดิม โดยความเปลี่ยนแปลงของสถานที่ อายุ และระยะเวลา เป็นปัจจัยที่มีผลทำให้เกิดการรับรู้ที่ต่างไปจากเดิม จึงไม่แปลกถ้าเราจะมองภาพในมุมไม่สวยเท่าวันก่อน หรือมองภาพในปัจจุบันงดงามกว่าในอดีต ดังเช่นรูปภาพดังต่อไปนี้ สัปดาห์ก่อน เทียบกับสัปดาห์นี้ ความแตกต่างของแสงในเวลาเดียวกัน ภาพวาดดอกทานตะวันดอกเดียวกันของลูกชาย 4 ตอนอายุ 5 ขวบ ขั้วโลกเหนือเมื่อ 103 ปีที่แล้วเทียบกับปัจจุบัน ภาพวัวตัวเดียวกันที่ถูกถ่ายที่ Texas เมื่อ 5 ปีที่แล้วและปัจจุบัน เปรียบเทียบภาพที่มนุษย์มองเห็นและภาพที่นกมองเห็น ถนนเดียวกันเทียบกับเมื่อ 71 ที่แล้ว มะเขือเทศปัจจุบันเทียบกับมะเขือเทศที่ปลูกจากเมล็ดเมื่อ 150 ที่แล้ว ตอนเริ่มเข้านอนเทียบกับตอนหลับสนิท ไก่ทอดกับวิสกี้ เทียบกับ ดอกทิวลิปสีชมพู 12 ดอกกับคัพเค้ก ในคืนวันวาเลนไทน์ โลกของผู้หญิงและโลกของผู้ชาย ไปโรงเรียนวันแรก และวันสุดท้ายของการฝึกสอน…
-
Volvo Polestar 2 รถไฟฟ้าคันแรกของโลก ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Google Android
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน สมาร์ทโฟนคือเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าของระบบการสื่อสาร และทำให้เราได้เห็นแล้วว่า โทรศัพท์แค่เครื่องเดียวนั้นสามารถทำอะไรได้มากกว่าการโทรเข้าโทรออก และในอนาคตอันใกล้นี้ คำว่าสมาร์ทก็อาจจะเปลี่ยนโฉมของวงการรถยนต์ด้วยก็เป็นได้ หลังจากที่ล่าสุดทาง Volvo ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Google Android HMI ซึ่งถือว่าเป็นรถรุ่นแรกของโลกที่จะใช้ระบบ Google Android ควบคุมระบบอินโฟนเทนเมนต์ทั้งหมด ย้อนกลับไปในงาน Google I/O เมื่อปี 2017 ทาง Google ได้ประกาศว่ารถยนต์ของทาง Volvo และ Audi จะเป็นค่ายรถค่ายแรกๆ ที่จะถูกติดตั้งระบบ Android Auto เข้าไปในรถ เพื่อเชื่อมสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอที่คอนโซลรถยนต์ และล่าสุดในงาน Google I/O 2018 ที่ผ่านมาทางบริษัทยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ก็ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Android ตัวเต็มภายในรถยนต์ ตัวต้นแบบที่ได้ร่วมกับทาง Volvo เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระบบดังกล่าวจะถูกติดตั้งในรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ของทางค่ายอย่าง Polestar 2 ซึ่งจะแสดงผลในหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ของรถ มาพร้อมกับ Google Play Store, Google Map และยังมีระบบสั่งการด้วยเสียง โดยจะทำงานร่วมกับปุ่ม Google Assistant…
-
อ้อนเมียให้ไว!! บิ๊กไบค์ไฟฟ้า Harley-Davidson เปิดพรีออเดอร์แล้ว เตรียมขายจริงสิงหาคมนี้
นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับแฟนๆ มอเตอร์ไซค์จากฝั่งอเมริกันอย่าง Harley-Davidson ก็ว่าได้ หลังจากที่ล่าสุดทางค่ายได้ออกมาประกาศยืนยันแล้วว่า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง LiveWire จะถูกผลิตจำหน่ายอย่างเป็นทางการแน่นอน แถมยังเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว!! มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Consumer Electronics Show 2019 โดยทางค่ายได้ตั้งราคาค่าตัวของมันเอาไว้ที่ 29,799 ดอลลาร์ หรือประมาณ 955,000 บาทด้วยกัน LiveWire มีให้เลือกด้วยกัน 3 สีคือสีดำ และอีก 2 สีพิเศษคือสีเหลือง Yellow Fuse และสีส้ม Orange Fuse . ส่วนรายสะเอียดของมิติรถ และเครื่องยนต์นั้นทางค่ายยังไม่ได้มีการเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด ซึ่งจากข้อมูลในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Harley-Davidson ระบุว่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันนี้สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน3.5 วินาที และสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 177 กม./การชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง นอกจากนี้อีกหนึ่งความพิเศษของ LiveWire คันนี้ก็คือระบบชาร์จไฟที่แบบ 2 ระบบ ที่ทำให้การใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยจะผู้ใช้งานสามารถใช้ไฟบ้านในการชาร์จ หรือจะชาร์จไฟจากสถานีชาร์จไฟ แบบรถยนต์ไฟฟ้าก็ได้ และอย่างที่บอกไปตอนต้น ตอนนี้ทาง Harley-Davidson…
-
หนุ่มมะกัน เหยียบคันเร่งพลาด ขับรถตกตึก 3 ชั้น รถหงายล้อชี้ขึ้นฟ้า แต่คนขับรอดตาย
เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2019 สื่อต่างประเทศรายงานเหตุการณ์รถยนต์ตกจากตึกสูง 3 ชั้น แต่โชคดีที่คนขับภายในรถรอดชีวิต แถมยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา ณ ที่จอดรถแห่งหนึ่งในย่าน North Hollywood เมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย รถที่ร่วงลงมาจากอาคารจอดรถในครั้งนี้คือ Mercedes-Benz G-Class โดยตามรายงานเผยว่า เจ้าของรถคันดังกล่าวนั้นเกิดเหยียบคันเร่งพลาด ทำให้รถพุ่งทะลุกำแพง ตกลงมาด้านล่าง และมีสภาพอย่างที่เห็น ซึ่งคนขับรถที่อยู่ภายในไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต และนอกจากนี้เขายังมีสติสามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลใกล้ๆ All NEW Mercedes-Benz G-Class เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมา โดยจุดขายหนึ่งของเจ้ารถ SUV คันนี้ที่ทางผู้ผลิตตั้งใจนำเสนอก็คือก็คือความแข็งแรงของตัวถังนั่นเอง ที่มา thedrive, rushlane
-
รวมชุดคู่ในงานลูกโลกทองคำ 2019 งานใหญ่ระดับนี้ ฉายเดี่ยวไม่ได้ เท่เกิ๊นนน
เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2019 งานประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำประจำปีเพิ่งจะผ่านพ้นไป มีนักแสดงระดับฮอลลีวูดมากมายหลายท่านที่ตบเท้าเข้าร่วมงานประกาศผลรางวัลในครั้งนี้ด้วย ตามธรรมเนียมแล้วนักแสดงหรือผู้ที่ได้รับเชิญให้มาร่วมงานจะต้องมาร่วมเดินเปิดตัวบนพรมแดงก่อนเข้างานเพื่อให้ช่างภาพและสื่อต่างๆ ร่วมถ่ายภาพ และในปีนี้แฟชั่นพรมแดงก็ไม่ได้น้อยหน้าปีก่อนๆ เลย เรียกได้ว่าแต่ละคนคือจัดเต็มสุดๆ เรามาดูกันเลยว่าในปีนี้ นักแสดงคนไหนจะแต่งตัวเข้าตาคุณผู้อ่านบ้าง แต่ขอคัดเฉพาะคนที่มาเป็นคู่ให้อิจฉาตาร้อนเล่นๆ นะ Nicole Kidman และ Keith Urban Catherine Zeta-Jones และ Michael Douglas ผู้ชนะรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทซีรีส์โทรทัศน์ (ดนตรีหรือคอมเมดี้) Sabrina Dhowre และ Idris Elba Irina Shayk และ Bradley Cooper ผู้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (ดราม่า) และรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม Sacha Baron Cohen และ Isla Fisher Emily Blunt ผู้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ดนตรีและคอมเมดี้ และ Krasinski Billy…
-
หนุ่มถูกสาวชวนไปเดต แต่สาวเลือกสั่งของแพง พอหนุ่มไม่จ่ายค่าอาหารให้ ก็ถูกด่าเละ
สำหรับเพื่อนๆ แล้วเวลาที่ออกไปทานข้าวครั้งแรกกับคนที่ชอบหรือคุยๆ กันอยู่ เมื่อต้องถึงเวลาคิดเงินเพื่อนๆ มีวิธีจ่ายเงินอย่างไร? จะเลี้ยงอีกฝ่าย ให้อีกฝ่ายเลี้ยงหรือจะหารค่าอาหารของใครของมัน? แน่นอนว่าแต่ละคนก็มีตัวเลือกที่ไม่เหมือนกัน แต่สำหรับหนุ่มคนที่เราจะนำมากล่าวถึงนี้ ในเดตแรกของเขากับสาวคนหนึ่ง เขาเลือกจ่ายค่าอาหารของใครของมัน ซึ่งหลังจากจบเดตครั้งนั้น เขาก็โดนฝ่ายหญิงด่าซะเละ เขาจึงตัดสินใจนำประสบการณ์การเดตที่หารค่าอาหารมาให้ชาวเน็ตได้ชมกัน เรื่องราวของเขาจะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเล้ย (ขอแทน A แทนผู้หญิงและ B แทนผู้ชาย) B: เฮ้ อยากออกไปด้วยกันอีกมั้ยคืนนี้? A: หลังจากที่นายทำกับฉันเมื่อครั้งก่อน นายยังคาดหวังให้ฉันออกไปกับนายอีกเหรอ? ว้าววว B: ผมทำอะไรไปเหรอ?? A: นายปล่อยให้ฉันต้องจ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มของตัวเอง ขณะที่ตัวนายจ่ายแค่อาหารของนายเท่านั้น WTF B: ก็คุณชวนผมไปเองไม่ใช่เหรอ ดีแล้วนะที่คุณไม่ต้องมาจ่ายค่าอาหารของผมด้วย แล้วก็ผมกินแค่คาร์โบนารากับเบียร์เท่านั้น ขณะที่คุณสั่งล็อบสเตอร์กับไวน์อีก 80 ยูโร (3,000 บาท) ค่าอาหารของผมแค่ 17.50 ยูโร (642 บาท) ส่วนของคุณ 110 ยูโร (4,000 บาท) และคุณยังคาดหวังให้ผมจ่ายค่าอาหารขนาดนั้นเหรอ? ผมยังเป็นนักศึกษาอยู่นะ…
-
Four Generations กระแสการถ่ายรูปครอบครัวแบบใหม่ ที่จะทำให้คุณต้องคิดถึงคุณตา คุณยาย
เมื่อเร็วๆ มานี้ ได้มีกระแสใหม่เกิดขึ้นในประเทศจีน นั่นคือกระแสการถ่ายภาพครอบครัวสุดน่ารัก ที่จะนำเอาสมาชิกในครอบครัวมายืนเรียงต่อกันทั้งหมด 4 รุ่น โดยจะให้สมาชิกครอบครัวเรียกผู้ให้กำเนิดตัวเองออกมา เริ่มจากสมาชิกอายุน้อยที่สุดของบ้านและผลัดกันเรียกสมาชิกรุ่นต่อไปเรื่อยๆ จนสมาชิกครบทั้งสี่รุ่นของตระกูล ซึ่งเมื่อกระแสดังกล่าวถูกโพสต์ไปในโซเชียลมีเดีย ด้วยความน่ารักน่าชังของหลายๆ ครอบครัวคนจีน ผู้คนจากนานาชาติที่เข้ามาเห็นก็อยากที่จะนำวิธีดังกล่าวไปทำกับครอบครัวบ้าง จึงได้เกิดเป็น “Four Generations Challenge” ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและก็มีชาวเน็ตหลายๆ คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ไม่ใช่มีแต่คนจีนเท่านั้นที่อยากจะทำ Four Generations Challenge We're visiting my grandmother this weekend and used the opportunity to make a Norwegian version 😄 #FourGenerations #Mamma pic.twitter.com/He8gMyCkhO — Jannicke (@JannickesArt) January 5, 2019 ครอบครัวจากฟิลิปปินส์ก็แชร์มาให้ชาวเน็ตได้ชมเช่นกัน…
-
หนุ่มลดน้ำหนักได้เกือบ 100 กิโลฯ เผยตัวช่วยสำคัญนั่นคือ.. “การกิน KitKat” ทุกวัน
หากใครต้องการที่จะ “ลดน้ำหนัก” แต่ยังไม่รู้ว่าควรจะใช้วิธีการใด หรือสร้างแรงจูงใจอย่างไรดี ในวันนี้ #เหมียวตะปู ก็ได้นำเรื่องราวการลดน้ำหนักที่น่าสนใจของชายคนหนึ่งมาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน นี่คือเรื่องราวของ Matthew Hughes ชายหนุ่มวัย 39 ปีจากเมือง Widnes ประเทศอังกฤษ ผู้สามารถลดน้ำหนักลงไปได้เกือบ 100 กิโลกรัม ในระยะเวลา 15 เดือน โดยบอกว่าเคล็ดลับที่ใช้คือการกิน KitKat ทุกวัน Matthew ก่อนลดน้ำหนัก หลังลดน้ำหนักไปได้ 15 เดือน ก่อนหน้าที่เขาจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ Matthew เคยเป็นเด็กที่อ้วนมากมาก่อน เขามักจะถูกเพื่อนๆ กลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยายามที่จะไม่กังวลถึงเรื่องนั้น ตั้งใจมองหาแต่ความสุขใส่ตัว Matthew ตอนเด็ก หนึ่งในสิ่งที่สร้างความสุขให้กับเขาเป็นอย่างมากก็คือการกิน โดยเฉพาะพวกของกินเล่นที่เขาสามารถนั่งกินมันได้ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยวจำนวนมาก ช็อกโกแลตวันละหลายแท่ง ในแต่ละวัน อาหารหลักที่เขารับประทานจะเต็มไปด้วยไขมันและน้ำตาล ของหวาน แซนด์วิชชิ้นใหญ่ ดื่มชาผสมน้ำตาล 3 ช้อน…
-
คุณจะทำได้ป๊ะ!? ท้าอยู่ห้องมืด 30 วัน ไร้แสงไฟ ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า ถ้าได้เอา 3,000,000 ไปเลย!!
หากพูดถึงเรื่องของ “การพนัน” มันคือสิ่งที่สามารถเกิดได้จากหลายๆ สถานการณ์ ยกตัวอย่างเช่นตอนที่ “ความเห็นไม่ตรงกัน” (การพนันจึงเกิดขึ้น) หรืออาจเกิดจาก “การท้าทาย” ว่าจะทำได้มั้ย (ทำได้หรือเปล่า ชะชะช่า) แต่เมื่อช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา หนึ่งในการท้าทายกันที่ทำให้คนทั้งโลกต้องจับตามองก็คือ คำท้าของนักเล่นโปกเกอร์มืออาชีพ 2 คน Rich Alati หนุ่มชาวอเมริกัน และ Rory Young ชาวออสเตรเลีย Rich Alati Rory Young การท้าทายของทั้งสองคนนั้นถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง เมื่อ Rory ยื่นคำท้า หาก Rich สามารถทนอยู่ในห้องเล็กๆ มืดๆ ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าได้นาน 30 วัน รับเงินไปเลย 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 3.2 ล้านบาท) ขึ้นชื่อว่าเป็นถึงเซียนโปกเกอร์แล้ว มีหรือที่พ่อหนุ่ม Rich ของเราจะพลาดการพนันในครั้งนี้ ทั้งสองคนได้เช่าบ้านหลังเล็กๆ…
-
หนุ่มญี่ปุ่นประดิษฐ์แฟลชไดรฟ์แนวใหม่ ระบุใช้ “สมองปลา” ช่วยเก็บข้อมูลได้ถึง 32 GB !?
ย้อนไปในสมัยมีแฟลชไดรฟ์แรกๆ เราก็จะคุ้นเคยกับแท่งสี่เหลี่ยม สีเรียบๆ ดูไม่ค่อยมีอะไรมาก ไว้ใช้งานเก็บข้อมูลอย่างเดียว จนภายหลังเมื่อคนนิยมใช้ จึงเริ่มมีการดัดแปลงแบรนด์ของตัวเองให้แตกต่าง บ้างก็ทำให้สีสันสดใส บ้างก็ทำให้น่ารักมุ้งมิ้ง จนลูกค้าสนใจมาซื้อไปใช้ แต่ล่าสุดสำนักข่าว JapanSauce รายงานผลิตภัณฑ์สุดแปลกจากเจ้าของไอเดียชาวญี่ปุ่น เมื่อเขาจับ “แฟลชไดรฟ์” และ “ปลา” เข้ามาอยู่ในสินค้าชิ้นเดียวกัน!! ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @ni28_xp อัปโหลดภาพผลงานแฟลชไดรฟ์ที่เขาระบุว่า นี่คือการพัฒนาให้สามารถใช้สมองของปลา ในการช่วยจัดเก็บข้อมูลได้สำเร็จ 技術はさらに進歩し、ついに死んだ生物の脳を記憶媒体に用いるデバイスが開発された。小魚の脳には32GB程度の情報が書き込めるという。 pic.twitter.com/uAcHyGDGSD — ニケルxp (@ni28_xp) December 28, 2018 เมื่อเสียบใช้งาน ก็จะมีไฟติดขึ้นมาด้วย この"生体メモリ"も、かつての鉱石メモリと同様、データの出入力時に紅く点滅するギミックがついている。 pic.twitter.com/ZicBULp3OP — ニケルxp (@ni28_xp) December 28, 2018 แฟลชไดรฟ์ดังกล่าวมีลักษณะใส เผยให้เห็นภายในซึ่งมีการต่อสายเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ และตัวปลาขนาดเล็ก (ที่เขาระบุว่าซื้อปลาตายแล้วมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตแถวบ้าน) ไม่มีการระบุถึงการรับประกัน หรือการทำงานจัดเก็บข้อมูล มีเพียงคำอธิบายว่าเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ซึ่งสมองของปลาตัวเล็กๆ นี้ จะช่วยเก็บข้อมูลให้เราได้มากถึง…
-
สุนัขที่เคยถูกช่วยเหลือ มอบความรักให้ ‘ลูกแมวใกล้ตาย’ จนมันรอดอย่างปฏิหาริย์
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ถูกโพสต์โดย Erin Crowley ที่เว็บไซต์ The Animal Rescue ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่บทเรียนเกี่ยวกับชีวิตให้เราว่า ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ทุกชีวิตคุ้มค่ากับการช่วยเหลือเสมอ นี่เป็นเรื่องราวลูกแมวตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง มันแทบจะไม่มีโอกาสรอด แต่มันได้รับโอกาสให้เอาชนะทุกความท้าทาย จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวมนุษย์และอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นอย่างเป็นมิตร ย้อนกลับไปในเดินสิงหาคม วันที่อากาศร้อนอบอ้าว ลูกแมวตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งถูกพบโดย Erin ในสภาพป่วยหนัก ไม่ลืมตา และแทบจะไม่หายใจ ร่างกายเล็กๆ ของมันถูกปกคลุมด้วยเห็บหมัดเกือบทุกส่วน Erin และสามีคิดว่ามันอาจจะไม่รอดจนถึงพรุ่งนี้เช้า อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้มันตายโดยไม่ลงมือทำอะไร Erin ห่อหุ้มมิ้วน้อยด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ และพามันกลับบ้าน โดยวางมันไว้ในกระถางต้นไม้ จากนั้นพวกเขาก็เฝ้าดูว่าปาฏิหาริย์จะช่วยมันได้หรือไม่ Erin เฝ้ามิ้วน้อยตลอดทั้งคืน ป้อนอาหารให้มัน และพยายามทำให้ร่างกายของมันแข็งแรงขึ้น กระทั่ง 7 โมงเช้า พวกเขาพบว่ามิ้วน้อยยังมีชีวิตอยู่ จึงได้รีบพามันไปหาสัตวแพทย์ที่ใกล้เคียงทันที เมื่ออยู่ในการดูแลของสัตวแพทย์ มิ้วน้อยได้รับยาปฏิชีวนะทั้งที่ตาและปอดตามเวลาที่กำหนด พ่นไอน้ำวันละ 3-4 เพื่อช่วยทำความสะอาดทางเดินหายใจ โอกาสรอดของมิ้วน้อยยังต่ำมาก แต่ Erin กับสามีคิดไว้แล้วว่ายังไงลูกแมวตัวนี้ก็ต้องมีชีวิตรอดให้ได้…
-
ทราบหรือไม่ ในศตวรรษที่ 18 “คัมภีร์อัลกุรอาน” เคยขายดีในหมู่ชาวคริสต์โปรเตสแตนต์
เป็นเรื่องที่ทราบกันว่าประชากรของสหรัฐฯ ส่วนมากนั้นจะนับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ และในสมัยก่อนศาสนาคริสต์ ก็ไม่ค่อยจะถูกกับศาสนาอิสลามสักเท่าไหร่ ว่าแต่รู้หรือไม่ว่าในช่วงศตวรรษที่ 18 “คัมภีร์อัลกุรอาน” ของศาสนาอิสลาม กลับเคยเป็นหนังสือที่ขายดีที่สุด ในหมู่ชาวคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ที่สหรัฐอเมริกาเสียอย่างนั้น การที่คัมภีร์ของศาสนาหนึ่งกลายเป็น ที่นิยมของอีกศาสนาอาจจะฟังดูเป็นเรื่องแปลกอยู่บ้าง แต่จากคำบอกเล่าของ Denise A. Spellberg ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเท็กซัส การที่ คัมภีร์อัลกุรอานโด่งดังในสหรัฐอเมริกาที่เข้าใจได้อยู่ ดูเหมือนว่าเหตุผลที่ทำให้คัมภีร์อัลกุรอานโด่งดังขึ้นในสหรัฐฯ แรกเริ่มเดิมทีจะมาจากการที่คนในสมัยนั้นมองว่าคัมภีร์นี้เป็นเหมือนหนังสือกฎหมายของชาวมุสลิม และพยายามใช้มันเรียนรู้เกี่ยวกับจักรวรรดิออตโตมันอย่างในกรณีของ Thomas Jefferson ประธานาธิบดีคนที่ 3 ของอเมริกา คัมภีร์อัลกุรอานที่โด่งดังในช่วงนั้น จะเป็นฉบับที่แปลโดยนักกฎหมายชาวอังกฤษชื่อ George Sale ซึ่งเป็นคัมภีร์อัลกุรอานฉบับเดียวที่มีการแปลจากภาษาอาหรับโดยตรง ผิดจากฉบับอื่นๆ ที่แปลมาจากภาษาฝรั่งเศส จากที่ George เขียนไว้ในหน้าแนะนำตัวผู้แปล เหตุผลที่เขาแปลคัมภีร์อัลกุรอานโดยตรงก็เพื่อให้ ข้อมูลที่ถูกต้องกับผู้อ่านจะได้นำความรู้ไปโต้แย้งความน่าเชื่อถือของศาสนาอิสลามได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ตามการแปลคัมภีร์เหล่านี้กลับไม่ได้ถูกใช้ไปอย่างที่เขาคิดเท่าไหร่ เพราะหากดูจากยอดขายหนังสือของเขาแล้ว คงมีชาวคริสต์ไม่น้อยเลยที่สนใจศาสนาอิสลามขึ้นมา จากหนังสือที่เขาแปล และต่อมาคัมภีร์ที่เขาแปลก็จะกลายเป็น คัมภีร์ที่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ สองคน (ซึ่งเป็นชาวมุสลิม) เลือกใช้ ในพิธีสาบานตน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าศาสนาอิสลามก็เป็นหนึ่งในศาสนาที่ได้รับการยอมรับของสหรัฐอเมริกา ที่มา history
-
นักวิทย์ไขปริศนา เสียงที่ทำเจ้าหน้าที่ทูตในคิวบาป่วยเมื่อปี 2016 แท้จริงแล้วเป็นเสียงจิ้งหรีด
ในช่วงปลายปี 2016 เจ้าหน้าที่ของสถานทูตสหรัฐอเมริกาในประเทศคิวบาหลายสิบคนเกิดรู้สึกป่วยด้วยอาการวิงเวียน ปวดหัว ปวดหู และแม้กระทั่งการสูญเสียการได้ยิน หลังจากที่ได้ยินเสียงประหลาดที่บ้านหรือโรงแรมซึ่งพวกเขาพักอยู่ ในเวลานั้นไม่มีใครบอกได้ว่าตัวตนที่แท้จริงของ “เสียงประหลาด” ที่เหล่าเจ้าหน้าที่ได้ยินนั้น แท้จริงแล้วมาจากไหน จนทำให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดมากมายเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เมื่อวันที่ 4 มกราคม ค.ศ. 2019 ได้มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งถูกนำมาเผยแพร่ที่การประชุมสังคมบูรณาการและชีววิทยาเปรียบเทียบที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา และบอกว่าที่เจ้าหน้าที่ของสถานทูตมีอาการเช่นนี้ เกิดขึ้นเพราะเสียงของ “จิ้งหรีด” นี่เป็นผลการวิจัยที่เกิดจากการวัดคลื่นเสียงที่เจ้าหน้าที่ของสถานทูตรายหนึ่งได้มีการบันทึกไว้ในคิวบา และพบว่าเสียงที่อัดไว้ มีความใกล้เคียงกับจิ้งหรีดสายพันธุ์ “Anurogryllus muticus” หรือจิ้งหรีดหางสั้นมาก ในตอนที่มีการค้นพบครั้งแรก เสียงที่พบนั้นจะไม่ได้เหมือนกับที่บันทึกไว้เท่าไหร่นัก เนื่องจากเสียงที่ได้รับการบันทึกมานั้นมีจังหวะที่ประหลาดและไม่เป็นธรรมชาติอย่างมาก แต่หลังจากที่การทดลองดำเนินไป นักวิทยาศาสตร์ก็พบว่าที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากเสียงที่บันทึกไว้เป็นเสียงมีการสะท้อนผ่านกำแพง พื้น หรือเพดานของที่อยู่อาศัยจนมีความผิดเพี้ยนไปจากเสียงต้นฉบับ นั่นหมายความว่าแม้ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จะยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าเพราะอะไรเสียงสะท้อนของจิ้งหรีดจึงทำให้เจ้าหน้าที่ของสถานทูตมีอาการป่วยได้ แต่อย่างน้อยๆ พวกเขาก็มั่นใจว่าอาการของเจ้าหน้าที่สถานทูตไม่ได้เกิดขึ้นจาก “อาวุธคลื่นเสียง” อย่างที่ทฤษฎีสมคบคิดกล่าวไว้แน่นอน ที่มา livescience
-
เปิดตำนาน “การฝังม้าแบบไวกิ้ง” เมื่อตัวผู้ถูกฝังพร้อมคนตาย ตัวเมียกลับถูกทำอาหาร!?
ตลอดสิบปีที่ผ่านมา มีนักโบราณคดีหลากหลายชนชาติได้ทำการศึกษาสุสานของชาวไวกิ้งกว่า 335 แห่งในประเทศไอซ์แลนด์ จนทำให้มีการค้นพบความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับชาวไวกิ้งเป็นจำนวนมาก พวกเขาพบว่าในบรรดาสุสานเหล่านี้ เกือบๆ ครึ่งหนึ่งจะมีการฝังกระดูกม้าที่มีอายุกว่า 1,000 ปีเอาไว้ด้วย และแม้ว่ากระดูกบางส่วนจะเก่าแก่เกินกว่าที่จะสามารถทำการตรวจสอบได้ แต่จากการตรวจสอบกระดูกม้า 19 ตัว พวกเขาก็พบว่าม้าที่พบนั้นมีถึง 18 ตัวที่เป็นตัวผู้ เท่านั้นยังไม่พอเพราะจากการตรวจสอบ DNA ของกระดูกท้าที่เคยมีการค้นพบมา นักวิทยาศาสตร์ก็ยังพบอีกว่าม้าที่ถูกฝังไว้ในสุสาน ทั้งหมดล้วนแต่เสียชีวิตในขณะที่มีสุขภาพดี การค้นพบในครั้งนี้เป็นที่สนใจของเหล่านักโบราณคดีมาก เพราะการที่ม้าถูกนำไปฝังทั้งๆ ที่สุขภาพดี เป็นหลักฐานอย่างดีว่าสาเหตุการเสียชีวิตของม้าเหล่านี้ ล้วนเกิดจากการถูกฆ่าโดยชาวไวกิ้งเอง ม้าของไอซ์แลนด์ในปัจจุบัน เชื่อกันว่าเป็นลูกหลานของม้าไวกิ้ง นี่แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ว่าเมื่อชาวไวกิ้ง (ที่มีฐานะสูง) เสียชีวิต ญาติๆ จะทำการฝังม้าตัวโปรดของพวกเขาไปพร้อมๆ กัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง การที่ปริมาณม้าตัวผู้ที่ถูกฝังมีมากกว่าม้าตัวเมียอย่างเห็นได้ชัดก็ช่วยบ่งบอกค่านิยมของคนในสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี เป็นไปได้ว่าที่ม้าตัวผู้เป็นที่นิยมกว่าม้าตัวเมีย (ในการนำไปฝัง) จะมาจากแนวคิดที่ว่าม้าตัวผู้เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแรง กล้าหาญ เหมาะสมกับการใช้บรรยายผู้ซึ่งถูกฝังในสุสาน (ที่มักจะเป็นผู้ชาย) กลับกันกระดูกของมาที่เป็นเพศเมีย มักจะมีการถูกค้นพบในสถานที่อื่นๆ นอกจากตัวสุสานเอง และมีสภาพถูกสังหารด้วยการทุบที่หัวหรือตัดคอ ซึ่งแตกต่างจากม้าในสุสานที่ถูกสังหารในรูปแบบที่เห็นกันบ่อยๆ ใน “พิธีกรรม”…
-
กาแล็กซีทางช้างเผือกจะชนกับกาแล็กซีบริวาร และอาจทำให้หลุมดำกลายเป็น “ควาซาร์”
หากเป็นคนที่ได้มีโอกาสติดตามข่าววงการดาราศาสตร์ เพื่อนๆ อาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าในราวๆ 4,000 ล้านปีข้างหน้า กาแล็กซีทางช้างเผือกของเราจะชนเข้ากับกาแล็กซีอันโดรเมดา และอาจนำไปสู่จุดจบของกาแล็กซีอันเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ก็เป็นได้ แต่แล้วเมื่อวันที่ 4 มกราคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา ทีมนักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเดอแรมในอังกฤษ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าก่อนที่กาแล็กซีที่กล่าวไว้ข้างต้นจะชนกัน กาแล็กซีทางช้างเผือกของเราจะต้องชนกับกาแล็กซีบริวาร (Satellite Galaxy) ที่ชื่อว่า “เมฆแมเจลแลนใหญ่” ก่อน ภาพการรวมตัวของกาแล็กซี M51a และ M51b ที่มีมวลใกล้เคียงกับกาแล็กซีทางช้างเผือก และกาแล็กซีบริวารเมฆแมเจลแลนใหญ่ จริงอยู่ว่ากาแล็กซีบริวารเมฆแมเจลแลนใหญ่จะมีมวลเพียงแค่ 1 ใน 20 ของกาแล็กซีทางช้างเผือก แต่หากการชนกันเกิดขึ้นจริง ปริมาณมวลนี้ก็มากเพียงพอที่จะทำให้หลุมดำที่บริเวณใจกลางกาแล็กซีทางช้างเผือกเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เลย นั่นเพราะการชนกันจะทำให้หลุมดำดูดดวงดาวเข้าไปเป็นจำนวนมากจนมีขนาดใหญ่ขึ้นราวๆ 8 เท่า และอาจถึงขึ้นที่กลายเป็น “ควาซาร์” หนึ่งในวัตถุที่สว่างที่สุดในจักรวาลเลยก็ได้ เท่านั้นยังไม่พอเพราะการชนในครั้งนี้ยังจะทำให้ตำแหน่งของดาวต่างๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกด้วย เพราะดาวจากเมฆแมเจลแลนใหญ่บางส่วน จะถูกร่วมเข้ากับกาแล็กซีทางช้างเผือกต่อไป นับว่าโชคดีมาที่กว่าจะเกิดการชนกันดังกล่าวขึ้นจริงๆ มันก็ในอีกราวๆ 2,000 ล้านปีข้างหน้า และต่อให้เรามีลูกหลานรอดชีวิตไปถึงสมัยนั้นจริงๆ…
-
9 ภาพยนตร์จากดิสนีย์ที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในปี 2019 ปักหมุดรอเลยจ้า!
ดิสนีย์ เจ้าของแหล่งรวมความบันเทิงขนาดใหญ่ที่มีทั้งสวนสนุกและภาพยนตร์ มีแฟนคลับมากมายที่คอยติดตามผลงานและสนับสนุนอยู่เรื่อยมาตลอดระยะเวลากว่า 95 ปี ด้วยผลงานที่เต็มไปด้วยคุณภาพ โดยเฉพาะภาพยนตร์ทำให้ค่ายดิสนีย์มีแฟนคลับคอยติดตามผลงานภาพยนตร์ทั่วโลก และในปี 2019 นี้ ก็ยังคงมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นอยู่ เพื่อเป็นการตอบแทนที่แฟนๆ อยู่เคียงข้างตลอดมา ในปี 2019 ทางดิสนีย์ ก็ได้เผยรายชื่อของภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายภายในปีนี้ออกมาแล้ว จะมีเรื่องอะไรบ้างไปดูกันเลย Captain Marvel วันที่เข้าฉาย: 08 มีนาคม 2019 Dumbo วันที่เข้าฉาย: 29 มีนาคม 2019 The Avengers 4 / Avengers: Endgame วันที่เข้าฉาย: 26 เมษายน 2019 เศร้าเลย Aladdin (2019) วันที่เข้าฉาย: 24 พฤษภาคม2019 Toy Story 4 วันที่เข้าฉาย:…
-
โจรดวงซวย จะปล้นมือถือ แต่ปล้นใครไม่ปล้น ดันปล้นสาวนักสู้ UFC สุดท้ายโดนอัดเละ!!
อาชีพไม่สุจริตอย่างอาชญากร เช่นพ่อค้ายาเสพติดหรือโจรถือว่าเป็นอาชีพที่สร้างความเสียหายให้กับสังคม ไม่ว่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินหรือจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติก็ด้วย แต่สำหรับโจรที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ชมกันในวันนี้ ดูเหมือนจะดวงไม่ดี เพราะยังไม่ทันได้ก่อความเสียหายใดๆ ก็ถูกเหยื่ออัดซะน่วมก่อน เพราะดันไปปล้นสาวนักสู้ UFC ด้วย “ปืนที่ทำจากกล่องกระดาษ” ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว Polyana Viana นักสู้สาวชื่อดังประจำเวที Ultimate Fighting Championship (UFC) กำลังรออูเบอร์อยู่หน้าอพาร์ตเมนต์ของเธอในเมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ขณะที่รอรถอยู่นั้น เจ้าโจรที่เรากล่าวถึงก็โผล่ออกมาหาเธอ โดยขู่ให้เธอส่งโทรศัพท์มือถือของเธอมาให้เขา พร้อมกับอ้างว่าตัวเขามีปืนนะ แต่นั่นก็หาได้ทำให้นักสู้สาวหวาดกลัวไม่ เธอจัดการปล่อยทั้งหมัดทั้งลูกเตะใส่โจรร้ายไม่ยั้ง ก่อนจะเข้าไปล็อคคอโจรจากด้านหลังและรอจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุและทำการจับกุมโจรคนดังกล่าว ปืนของโจรร้าย Viana ได้ให้สัมภาษณ์กับ MMA Junkie ว่า “ตอนที่ฉันเห็นเขา เขาเข้ามานั่งข้างๆ ฉัน ก่อนจะถามฉันว่านี่กี่โมงแล้ว ฉันก็ตอบเขาไป แต่เขาก็ยังไม่ไปไหน ฉันก็เลยเอาโทรศัพท์ซ่อนไว้ที่เอว จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาว่า ‘ส่งโทรศัพท์มาให้ฉันซะ อย่าพยายามเล่นตุกติก เพราะฉันมีปืน’ ก่อนที่เขาจะควักปืนออกมา แต่ฉันตระหนักได้ว่าปืนดังกล่าวมันอ่อนเกินไป” . …
-
ดราม่า Sakura วง IZ*ONE แฟนคลับแบ่งฮอทดอกให้กิน แต่กลับถูกชาวเน็ตบอกไร้มารยาท
วันที่ 7 มกราคม 2019 ถือเป็นวันที่มีการถ่ายทำรายการ ISAC (Idol Star Athletics Championships) หรืองานกีฬาสีไอดอลประจำปี 2019 ซึ่งก็มีแฟนคลับไปตามเชียร์ตามหวีดวงไอดอลตามปกติ แต่ในคืนวันดังกล่าวทางทวิตเตอร์ได้เกิดดราม่าเกี่ยวกับ Miyawaki Sakura สมาชิกวงไอดอล AKB48, HKT48 และ IZ*ONE เมื่อมีกะรัต (แฟนคลับวง Seventeen) คนหนึ่งที่นั่งอยู่แถวหลังของวง IZ*ONE รู้สึกเอ็นดูและแบ่งฮอทดอกให้กับสมาชิกในวง IZ*ONE ได้ทานกันคำหนึ่ง ซึ่ง Sakura ก็ทานเข้าไป วินาทีที่กะรัตป้อนน้องๆ IZ*ONE 190107 아육대타팬분이 주신 바로 그 핫도그 한입 🌭너무 귀여워 ㅠㅠ 우리꾸라 심장에 해로운 아이돌이야 ㅠㅠㅠㅠㅠㅠ#宮脇咲良 #MiyawakiSakura #사쿠라 #미야와키사쿠라…
-
พ่อแอบรับเลี้ยงสุนัขที่ลูกสาวตกหลุมรัก และให้เป็นของขวัญเธอในวันคริสต์มาส
วันแรกที่ Hallee Fuqua ไปเป็นอาสาสมัครในศูนย์พักพิงสัตว์ก่อนวันขอบคุณพระเจ้า เธอได้พบกับสุนัขผู้น่ารักและขี้เล่นที่ชื่อ Rambo Fuqua บอกว่า “ฉันชอบออกไปเที่ยวกับมัน” การได้พาสุนัขเดินเล่นถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับ Fuqua แล้ว เพราะทุกๆ ปี เธอได้ขอพ่อแม่เลี้ยงสุนัข แต่พวกเขาปฏิเสธตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยบอกว่าจะให้เลี้ยงต่อเมื่อเธอจบการศึกษาในวิทยาลัยแล้ว ต่อมาในปลายปี 2018 ที่ผ่าน Lance พ่อของ Fuqua ได้แอบติดต่อกับทางศูนย์พักพิงเกี่ยวกับการรับเลี้ยง Rambo ให้ลูกสาว ทางด้านศูนย์พักพิงเองก็เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เพราะรู้ว่าพ่อจะเซอร์ไพรส์ลูก กระทั่งวันที่ 16 ธันวาคม ปี 2018 Lance พา Rambo กลับบ้าน โดยสวมหูกวางให้เจ้าหมาด้วย จากนั้นทั้งคู่ก็นั่งรออยู่ที่หน้าประตูบ้าน เหตุการณ์ต่อจากนี้บันทึกเป็นคลิปวิดีโอ ซึ่งเป็นตอนที่ Fuqua เปิดประตูออกมา แล้วก็พบว่า Rambo มารออยู่ที่หน้าบ้าน และนี่คือปฏิกิริยาของ Fuqua หญิงสาวเล่าว่า “ตอนที่เปิดประตูออกมา ฉันรู้สึกสับสนมาก แต่ฉันรู้ทันทีว่านั่นคือ Rambo แล้วฉันก็รู้ด้วยว่ามันถูกรับเลี้ยง จากนั้นฉันก็เดินไปหามันแล้วนั่งกอดมันด้วยความดีใจจนไม่รู้จะพูดคำไหนออกมา นอกจากร้องไห้” Rambo…
-
ลูกวัวคลอดก่อนกำหนด ได้รับการช่วยเหลือทันเวลา จนกลายเป็นวัวที่ตัวเล็กที่สุดในโลก
ปกติเมื่อพูดถึงสัตว์น่ารัก เหมียวจะนึกแมวน้อยหรือไม่ก็ลูกหมา แต่หลังจากลูกวัวน้อยที่ชื่อ Lil’ Bill ปรากฏตัวขึ้นและโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียล ความคิดเหมียวก็เปลี่ยนไป ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้ คู่รักนักเพาะพันธุ์โคพันธุ์ซิมเมนทอล ผ่านไปเห็นลูกวัวตัวน้อยนอนอ่อนแรงอยู่ในทุ่งหญ้า พวกเขาจึงช่วยมันเอาไว้ หลังจากดูแลลูกวัยน้อยได้ 2-3 วัน พวกเขาก็พามันไปยัง Mississippi State University College of Veterinary Medicine (MSU-CVM) เพื่อรับการรักษาขั้นต่อไป สิ่งที่ทาง MSU-CVM ตรวจพบคือ Lil’ Bill คลอดก่อนกำหนดประมาณ 1 เดือน มันจึงมีปัญหาในการหายใจ เพราะปอดของมันยังไม่ทำงานไม่สมบูรณ์ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Lil’ Bill เป็นลูกวัวที่พิเศษมากๆ นั่นก็คือ มันมีน้ำหนักแค่ 3.5 กิโลกรัม พูดง่ายๆ คือ มันเป็นวัวที่ตัวเล็กที่สุดในโลก สัตวแพทย์ได้ทำการทดสอบ เพื่อตรวจดูว่ามันเป็นวัวแคระหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าพวกเขาหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมมันถึงตัวเล็ก นอกจากเรื่องระบบทางเดินหายใจแล้ว อย่างอื่นดูเหมือน Lil’ Bill จะไม่มีปัญหาอะไร มันชอบนอนหลับ ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับสัตว์ชนิดนี้…
-
‘หนุ่มช่วยลูกแมว’ ที่ถูกทิ้งบนกองขยะสูง แถมยังให้มันยืมไหล่เป็นที่โปรดด้วย
เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงลูกแมวร้องดังมาจากกองขยะที่สูง 2 เมตร เขาตัดสินใจพามันออกมายังที่ปลอดภัย แม้ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงก็ตาม เขาบอกว่า “เราไม่ยอมปล่อยลูกแมวไว้ที่นั่นลำพัง เพราะเรารู้ว่าถ้าทำแบบนั้น ชะตาชีวิตมันจะจบอย่างไร” ชายคนที่ว่านี้คือสามีของ Nikki Martinez ทั้งคู่เป็นผู้อุปถัมภ์และผู้ช่วยเหลือในลาสเวกัส Nikki เจอลูกแมวตัวเล็กๆ อยู่ท่ามกลางลูกแมว 3 ตัวที่ตายแล้ว แต่เขาไม่สามารถเข้าถึงตัวมิ้วน้อยตัวนั้นได้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ทุ่มสุดตัวเพื่อพาเหมียวออกมาได้ แม้ต้องคลานขึ้นกองขยะสูง 2 เมตรก็ตาม หลังจากพยายามมาหลายชั่วโมง ในที่สุด เขาก็สามารถไปถึงที่เหมียวอยู่ มันไม่ใช่แค่เนื้อตัวสกปรกมอมแมม แต่มันยังผอมมากๆ ด้วย ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา พวกเขาได้ตั้งชื่อมิ้วน้อยว่า Jolly มันไม่โตขึ้นเลย ในขณะที่ลูกแมวตัวอื่นๆ ที่ถูกช่วยในเวลาเดียวกัน โตขึ้นถึง 2 เท่าตัว เมื่อพาไปหาสัตวแพทย์ 2 คนแรกบอกว่ามันมีสุขภาพดี แต่หลังจากพาไปหาสัตวแพทย์คนที่ 3 ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษในด้านการดูแลแมวกลับพูดต่างออกไป คุณหมอบอกว่าการเจริญเติบโตของ Jolly มีปัญหาก่อนที่มันจะได้รับการช่วยเหลือ เนื่องจากมันถูกทิ้งในสิ่งแวดล้อมที่น่ากลัวและขาดสารอาหารอย่างรุนแรงในช่วงที่ร่างกายต้องการอาหารมากที่สุด ตอนนี้ร่างกายของ Jolly จึงไม่ดูดซับอาหารที่กินเข้าไป สัตวแพทย์จึงให้มิ้วน้อยกินเอนไซม์และวิตามินทุกวัน…
-
‘กระต่าย’ ถูกทิ้งเพราะน่ารักเกินไป หญิงสาวจึงรับเลี้ยงและให้ทุกอย่างที่มันต้องการ
เมื่อ Ryann Sadler เห็นกระต่ายน้อย 2 ตัว ถูกทิ้งไว้ที่ศูนย์พักพิง SPCA of Texas ในเดือนธันวาคม ปี 2017 เธอรีบไปหาพวกมันทันที สำหรับ Sadler นั้น เธอเป็นอาสาสมัครในศูนย์พักพิงและเป็นแม่บุญธรรมให้กระต่ายมานานแล้ว ดังนั้น เธอจึงรู้สึกแย่มากเมื่อไปเห็นภาพของกระต่ายน้อยที่เพิ่งถูกพาเข้ามา เพราะพวกมันตัวเล็กและเล็บยาวมาก Sadler จึงอุ้มกระต่ายน้อยตัวผู้ขึ้นมา และเริ่มตัดเล็บให้มัน แต่แล้วเธอก็รู้สึกเซอร์ไพรส์ เมื่อเจ้ากระต่ายน้อยเริ่มจุ๊บเธอด้วยลิ้นน้อยๆ ของมัน แม้จะดูแลกระต่ายมามากแล้ว แต่ Sadler ไม่เคยรู้เลยว่ากระต่ายก็ชอบจุ๊บด้วยเหมือนกัน ขนาดเจ้า Pepper กระต่ายของเธอเอง มันยังไม่เคยทำแบบนี้กับเธอเลย Sadler แทบจะละลายไปกับความเป็นมิตรและความอ่อนโยนของกระต่ายน้อยตัวนี้ แน่นอนว่า Sadler ตกหลุมรักเจ้ากระต่ายน้อยทันที และเมื่อเธอได้ทราบเหตุผลที่มันถูกนำมาทิ้งที่นี่ เธอก็ตัดสินใจรับเลี้ยงมันอย่างเป็นทางการและพามันกลับบ้าน พร้อมทั้งตั้งชื่อให้มันว่า Peter หญิงสาวบอกว่า “เจ้าของเก่าบอกว่า Peter น่ารักและต้องการความสนใจมากเกินไป ซึ่งฉันก็คิดแบบนี้ แต่มันเป็นกระต่ายที่น่ารักที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา ฉันจึงไม่คิดว่าจะมีใครทิ้งมันได้ลง” แม้ว่าทางครอบครัวไม่ได้ต้องการกระต่ายเพิ่ม แต่ Sadler กับ…
-
รถ Tesla โหมดไร้คนขับ เฉี่ยวชนหุ่นยนต์ที่กำลังยืนอยู่ข้างถนน คู่กรณีตายคาที่
เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2019 ที่ผ่านมาสื่อต่างประเทศรายงานข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนนสายหนึ่ง หน้าสถานที่จัดงาน CES 2019 -Consumer Electronics Show ในเมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าจะเป็นเหตุการณ์นี้จะเป็นเรื่องไม่คาดฝันที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ต้องบอกเลยว่า ถ้าหากคุณได้ทราบว่าคู่กรณีเป็นใครแล้ว คุณอาจจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่เลยก็ได้ คลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายเอาไว้บริเวณหน้าสถานที่จัดงาน CES สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้ โดยคู่กรณีครั้งนี้คือเจ้าหุ่นยนต์ Promobot กับระบบไร้คนขับของรถ Tesla ซึ่งภาพในคลิปวิดีโอได้เผยให้เห็นรถ Model S เข้าโค้งมาด้วยความเร็ว ก่อนจะเฉี่ยวชนทำเจ้าหุ่นยนต์ล้มลงกับพื้น และหายตัวไป โดยไม่สนใจคู่กรณีเลยสักนิด ตามรายงานเผยว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาราวๆ 1 ทุ่มของวันอาทิตย์ที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา ในระหว่างที่ทางทีมงานของ Promobot กำลังจะนำเจ้าหุ่นยนต์ไปตั้งไว้บริเวณหน้าที่จัดงาน แต่ทว่าไม่ทันไรก็ถูกรถยนต์ของทาง Tesla ที่วิ่งมาด้วยระบบไร้คนขับเฉี่ยวชนซะก่อน ซึ่งทางทีมงานของ Promobot ระบุว่าการเฉี่ยวชนครั้งนี้ทำให้หุ่นยนต์ของพวกเขาเสียหายอย่างมาก โดยระบบการทำงานของมันได้รับความเสียหาย และไม่สามารถแสดงผลได้ตามปรกติ พูดง่ายๆ ก็คือตายไปเลยนั่นเอง อย่างไรก็ตามหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุรถของทาง Tesla ยังคงวิ่งต่อไปอีกประมาณ…
-
หญิงสาวเห็นสุนัขจรจัดนอนสั่นด้วยความหนาว เธอจึงถอดผ้าพันคอตัวเองห่มให้มัน
รอบๆ ตัวเรามีสุนัขจรจัดมากมาย บางตัวนอนหน้าเซเว่น บางตัวนอนข้างถนน และผู้คนส่วนใหญ่ก็เดินผ่านสุนัขเหล่านี้ ราวกับไม่เห็นพวกมัน แต่นั่นไม่ใช่สำหรับหญิงสาวคนนี้ โดยขณะที่เดินผ่านประตู เธอสังเกตเห็นสุนัขจรจัดตัวหนึ่งนอนขดตัวอยู่บนพื้น ในเมือง Zonguldak ประเทศตุรกี แทนที่หญิงสาวจะเดินสุนัขจรจัดตัวนี้ไปเหมือนคนอื่นๆ แต่เธอกลับตัดสินใจให้ความอบอุ่นมันด้วยการถอดผ้าพันคอตัวเอง แล้วห่มให้เจ้าหมา ในขณะที่เจ้าหมาเองคงไม่คิดว่าจะได้รับความเมตตาจากคนแปลกหน้า เมื่อหญิงสาวคลุมผ้าให้มัน มันตื่นมาด้วยความรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่มันก็รับไว้ด้วยความซาบซึ้งใจ หญิงสาวแค่ทำในสิ่งที่สมควรทำ โดยไม่ได้หวังให้ใครเห็นหรือมาชื่นชม และเธอไม่รู้ด้วยว่าจุดที่เธออยู่นั้น มีกล้องวงจรปิด และสิ่งที่เธอทำให้สุนัขจรจัดตัวนั้น ก็ถูกบันทึกไว้ทั้งหมด หลังจากคลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไป มีชาวเน็ตมากมายแห่ชื่นชมหญิงสาวคนนี้ จนต่อมาได้ทราบว่าเธอคนนั้นคือ Duygu Elma Elma ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ฉันไม่คิดเลยว่าการกระทำของฉันจะได้รับความสนใจ ตอนนั้นอากาศหนาวมาก ฉันเห็นเจ้าหมานอนสั่นอยู่ และฉันไม่สามารถเดินผ่านมันไปได้ ถ้าไม่ทำอะไรเลย” หวังว่าความเมตตาที่มีต่อสัตว์ของ Elma จะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายๆ คนทำแบบเธอนะคะ เพราะสุนัขจรจัดไม่ใช่ใครที่ไหน แต่มันคือเพื่อนร่วมโลกและเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ ที่มา thedodo
-
ช่วงเวลาอันแสนวิเศษของเหล่า “สัตว์เลี้ยงน่ารัก” เมื่อร่างกายได้ปะทะกับหิมะ
ว่ากันว่าฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่วิเศษที่สุดของปี ซึ่งไม่ใช่สำหรับมนุษย์เราเท่านั้น สัตว์โลกเองก็ชอบฤดูนี้เช่นกัน เพราะนอกจากเทศกาลในฤดูนี้แล้ว พวกมันยังได้สนุกกับการเล่นหิมะด้วย ด้วยความที่สัตว์เลี้ยงมีอายุขัยสั้นกว่าเราไง จึงไม่บ่อยนักที่พวกมันจะได้เห็นและได้สัมผัสหิมะ ดังนั้น ทุกครั้งที่ได้เห็นหิมะ พวกมันจะมีปฏิกิริยาที่น่ารักสุดๆ จะเป็นยังไงกันบ้าง ไปดูกัน 1. ช่วงเวลาอันแสนสุขของ Bruno เมื่อมันเห็นหิมะครั้งแรก 2. เดี๋ยวนะ ที่นี่ไม่ใช่ทะเลทรายหรอกหรอ ทำไมหนาวๆ 3. หิมะตกหรอ ยอดไปเล้ยย ชอบ ชอบจริงจริ๊ง (เช็กหน้าตรูด้วย…) 4. เก็บอาการหน่อยลูก เรามันชาวหิมะอยู่แล้ว อย่าทำเหมือนไม่เคยเห็นสิ 5. เอาเลยหิมะ คลุมฉันเลย คลุมให้มิด ฉันชอบบ 6. นี่ถ้าใครแตกแถว คือหลงเลยนะ 7. นี่เป็นครั้งแรกที่น้องได้สัมผัสหิมะ ดูเหมือนมันจะชอบนะ 8. ดันอีกๆ เพื่อน ฉันเกือบขึ้นได้แล้ว 9. เมื่อคืนนอนอยู่ดีๆ…
-
แม่ถ่ายคลิปตัวเองใช้ “มือปิดทางเดินหายใจ” ลูกน้อย หวังทำให้สามีที่ทิ้งไปกลับมา
ปัญหาของสามีภรรยาอาจนำไปสู่การใช้กำลังในการแก้ปัญหา แต่สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือการนำความโกรธไประบายกับ “ลูกน้อย” ที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วย การกระทำในลักษณะนั้นเกิดขึ้นในเมืองเหินหยาง มณฑลหูหนาน ประเทศจีน เมื่อคุณแม่ผู้ใช้ชื่อว่า Wei Juan วัย 22 ปี โพสต์คลิปลงโลกออนไลน์ เผยให้เห็นว่าเธอได้ใช้ความรุนแรงกับทารกน้อยลูกของเธอ ในคลิปที่ถูกลบไปแล้วนั้น เผยให้เห็นว่าเธอตีลูกตัวเองไปมากถึง 15 ครั้ง โดยไม่สนเลยว่าเด็กจะกำลังร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดมากขนาดไหน หลังจากนั้น Wei ก็ใช้มือข้างหนึ่งกดปิดหน้าลูกเอาไว้ ทำให้เด็กหายใจไม่ออกและไม่สามารถส่งเสียงร้องไห้ออกมาได้ คลิปวิดีโอดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสโด่งดังในโลกโซเชียลของจีน หลังจากที่ถูกโพสต์ลงไปในวันที่ 5 มกราคม 2019 ด้วยเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งพยายามตามหาตัวคุณแม่คนดังกล่าว แต่ผ่านไปเพียงไม่นาน Wei ก็ได้เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ปากคำเกี่ยวกับสิ่งที่เธอทำลงไป Wei บอกว่าเหตุผลที่ทำอย่างนั้นเพราะหวังจะเรียกร้องความสนใจจากสามีที่ทิ้งเธอไป คิดว่าการทำร้ายลูกของตัวเองจะช่วยให้เขากลับมาอยู่กับเธอได้ ท้ายที่สุดแล้ว เธอผู้เป็นแม่ก็ถูกตัดสินให้จำคุก 5 วัน และต้องเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันไม่ให้เธอทำอะไรแบบนี้อีก ส่วนทารกน้อยลูกชายของเธอนั้น ปัจจุบันก็อยู่ในอาการคงที่ มีสุขภาพที่ปกติ และได้รับการดูแลจากญาติๆ…
-
สาวฝรั่งจัดเทรนด์ ‘Januhairy’ โชว์ขนดกต้อนรับเดือนมกรา แบบว่า Who care?
สำหรับสาวๆ แล้ว การที่ต้องมานั่งกำจัดขนในส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทั้งขนขา ขนแขน โดยเฉพาะขนรักแร้เนี่ยมันช่างเป็นกิจกรรมที่น่าเบื่อมากๆ ซึ่งถ้าหากกำจัดขนแบบไม่ถูกวิธีก็อาจส่งผลต่อผิวหนัง ทั้งขนขึ้นเป็นตอ หรือผิวไม่เรียบเป็นหนังไก่ แล้วก็ต้องมาเสียเงินเลเซอร์กันอีก เกิดเป็นน้องนีนี่มันยุ่งยากจริงๆ นะ จากปัญหาเรื่องขนที่กลายมาเป็นปัญหาของผู้หญิงทั่วโลก ทำให้เกิดความคิดที่ว่า แล้วทำไมผู้หญิงเราจะโชว์ขนแบบผู้ชายบ้างไม่ได้ล่ะ ความคิดนี้ กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘Januhairy’ หรือที่แปลกันน่ารักๆ ว่า ขนดกมกรา (!?!) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของคำว่า January (เดือนมกราคม) กับคำว่า Hair (ขน,ผม) เทรนด์ Januhairy เป็นแคมเปญที่ชวนให้สาวๆ ทั้งหลายมาร่วมโชว์ขนตามธรรมชาติที่ถูกปล่อยให้ขึ้นตามอิสระ โดยที่ไม่ต้องกังวลถึงการกำจัดขน บอกลาแหนบ หรือเครื่องโกนต่างๆ ไปเลยหนึ่งเดือน Laura Jackson นักศึกษาสาวชาวอังกฤษ ผู้ที่เป็นคนริเริ่มความคิดนี้กล่าวว่า “นี่ไม่ใช่การรณรงค์เพื่อให้คนเห็นว่าการมีขนตามปกตินั้นเป็นเช่นไร แต่เป็นการแสดงให้เห็นและเข้าใจเกี่ยวกับมุมมองของตัวเองและคนอื่นๆ มากขึ้น” . สาวๆ ทั้งหลายที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของแคมเปญนี้ จึงได้เข้าร่วมกิจกรรม Januhairy กันมากมาย ต่างก็ได้อวดขน โชว์ขนที่ขึ้นตามร่างกายกันอย่างคึกคัก…
-
Atlis XT กระบะไฟฟ้า สำหรับการใช้งานตัวจริง ลากจูงน้ำหนักได้มากกว่า 15 ตัน
ก่อนหน้านี้ #เหมียวเวจจี้ ได้นำเสนอเรื่องราวของรถกระบะไฟฟ้าดีไซน์สุดเท่อย่าง Rivian R1T กันไปแล้ว (อ่านข่าวเก่า Rivian R1T รถกระบะแห่งอนาคต เปิดตัวอย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ ราคาเริ่มต้น 2 ล้าน) กลับมาครั้งนี้เราก็ขอเอาใจแฟนๆ รถกระบะกันอีกครั้ง โดยการพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ Atlis XT รถกระบะไฟฟ้าที่ทางผู้ผลิตเคลมว่า มันถูกออกแบบมาสำหรับการบรรทุกหนักโดยเฉพาะ รถกระบะไฟฟ้าคันนี้มาพร้อมกับหน้าตาอันหล่อเหลา (ดูๆ ไปก็คล้าย Mitsubishi Triton เหมือนกันนะ ฮ่าๆ ) และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการลากจูงน้ำหนักได้มากกว่า 15 ตัน และสามารถวิ่งได้ไกลเกือบ 1,000 กิโลเมตร/การชาร์จไฟหนึ่งครั้ง ช่องเก็บของทางด้านหน้า . ถึงแม้ว่าจะถูกวางให้เป็นรถกระบะสำหรับการใช้งานหนักๆ แต่การตกแต่งภายในก็ยังมีความหรู และดูดีไม่น้อยเลยทีเดียวนะ . Atlis XT ใช้แพลตฟอร์มเครื่องยนต์ที่ทางค่ายเรียกว่า XP แพลตฟอร์ม ซึ่งจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอิสระ 4 ตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และยังมีระบบขับเคลื่อน…
-
หนุ่มน้อยขอทำงานเพื่อแลกกับชีวิตแมว แม้น้องเป็นไข้หัดก็ยินดีจะรักและดูแลตลอดไป
เรื่องน่ารักๆ เรื่องนี้ แชร์มาจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tix Wipa หรือ คุณแม่หมอ ได้โพสต์เรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีจิตใจงดงาม ที่กำลังเป็นที่ชื่นชมจากชาวเน็ตในโลกออนไลน์ขณะนี้ โดยคุณแม่หมอได้โพสต์ว่า “?สัญญาทาส(แมว)? น้องอู้ด ได้ตกหลุมรักบูบู้ตั้งแต่เจ้าของเดิมซื้อมา ตอนที่บูบู้อยู่กับเจ้าของเดิมได้ไปเล่นกับแมวตลอด ก่อนหน้านี้ได้ยินข่าวว่าเจ้าของเดิมจะขายเพราะไม่มีเงินรักษาไข้หัดแมว แต่ไม่ทันคุณแมว ที่ซื้อชีวิตมาให้แม่หมอรักษา อู้ดได้ตามมาที่คลินิก มาดู มาถามแม่หมอว่า อู้ด: หมอครับ หมอเลือกเจ้าของใหม่ให้บูบู้ยังไง ถ้าจะรับบูบู้ไปเลี้ยงต้องใช้เงินเท่าไหร่ แม่หมอ : หมอจะเลือกคนที่รักบูบู้ และมีเงินจ่ายค่าอาหาร ทราย วัคซีน ยารักษาเวลาบูบู้ป่วย เพราะบูบู้ต้องมีชีวิตอีก 10 ปีครับ อู้ด : (ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ???) แม่หมอ: หนูเป็นใคร หนูอยากได้บูบู้เหรอ??” น้องอู้ด บูบู้ “อู้ด: ครับ ผมรักบูบู้ ผมเล่นกับเค้าตั้งแต่ลุงยามซื้อมาใหม่ๆ ปีกว่าแล้วครับ ผมไปเล่นทุกวัน ผมจะซื้อตอนลุงบอกขาย แต่ไม่ทันครับ แม่หมอ…
-
อดีตชายไร้บ้านติดยา สู่การเป็น “คนขับรถเมล์ที่มีความสุขที่สุด” แห่งกรุงลอนดอน
ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เดินบนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ หลายๆ คนยังคงต้องเจอกับอุปสรรคมากมายในชีวิตที่ถาโถมเข้ามา การตัดสินใจเดินในทางที่ผิด จนไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรต่อไปกับชีวิตของตัวเองดี Patrick Lawson หนุ่มอังกฤษวัย 50 ปี คือหนึ่งคนที่เคยต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความเลวร้ายในลักษณะนั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้รับโอกาสให้กลายมาเป็นคนที่ถูกมองว่าเขาคือ “คนขับรถเมล์ที่มีความสุขที่สุด” ในลอนดอน Patrick จากชายไร้บ้านติดยา สู่การเป็น “คนขับรถเมล์ที่มีความสุขที่สุด” ชีวิตของชายคนนี้เติบโตขึ้นมาท่ามกลางสังคมและการเลือกเดินบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนาม ตั้งแต่ตอนที่เขายังเป็นวัยรุ่น เขาได้ก่ออาชญากรรมเอาไว้มากมาย ถูกจับเข้าคุกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เมื่อพ้นโทษออกมาก็หันไปพึ่งพายาเสพติดและทำให้หลายๆ อย่างยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม เขาได้กลายเป็นคนไร้บ้านที่ต้องนอนอยู่ตามริมทางเดินหรือม้านั่งในสวนสาธารณะ ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ปล่อยให้แต่ละวันผ่านเลยไปอย่างไร้จุดหมาย เขาใช้ชีวิตในลักษณะนั้นอยู่นานกว่า 20 ปี จนกระทั่งในวันหนึ่งเขาต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจากอาการป่วย และนั่นคือช่วงเวลาของจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตของเขา Patrick ได้เข้าร่วมในองค์กรการกุศล Single Homeless Project ของเขต Islington ในกรุงลอนดอน ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อต้องการช่วยเหลือกลุ่มคนไร้บ้าน เขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทขนส่งสาธารณะที่ชื่อว่า HCT Group บริษัทที่ช่วยให้เขาได้เรียนรู้และฝึกฝนสู่การเป็น “คนขับรถเมล์” ชายหนุ่มบอกว่า… “ผมไม่เคยคิดเลยว่าองค์กรการกุศลจะสามารถช่วยเหลือผมได้จริง แต่ตอนนี้ผมกลับสนับสนุนในสิ่งเหล่านั้น” “ผมอยากให้คนที่เคยหลงผิดและคนไร้บ้านทั้งหลายรู้ว่าพวกเขาทำตัวเองให้มีประโยชน์ได้…
-
สรุปผลรางวัลลูกโลกทองคำ Golden Globes ประจำปี 2019 (ภาพยนตร์)
ทุกๆ ปี วงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ต่างประเทศ จะมีการประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globe Award) โดยผลของการตัดสินจะมาจากการโหวตของนักข่าวและสื่อมวลชนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรางวัลที่สามารถการันตีคุณภาพของทั้งภาพยนตร์และผู้ที่เกี่ยวข้องในแต่ละด้าน ในปีนี้ งานลูกโลกทองคำ จัดขึ้นเป็นครั้ง 76 แล้วโดยได้จัดไปเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา เรามาดูกันเลยว่าในปีนี้ ภาพยนตร์เรื่องไหนจะได้รางวัลไปครองบ้าง สาขา ภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม ชนะเลิศ: Bohemian Rhapsody ชิงรางวัล: – Black Panther -BlacKkKlansman -If Beale Street Could Talk -A Star Is Born สาขา ภาพยนตร์ดนตรีหรือคอมเมดี้ยอดเยี่ยม ชนะเลิศ: Green Book ชิงรางวัล: -Vice -Crazy Rich Asians -The Favourite -Mary Poppins Returns…
-
ยูทูบเบอร์สาววัย 24 ปี ขอแฟนสาววัย 61 ปีแต่งงาน อายุที่ต่างกันไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใด
เหมือนอย่างที่หลายๆ คนคิดเสมอว่า “ความรัก” คือสิ่งที่ไม่มีขอบเขต ไม่มีความตายตัว คืออิสระที่ไม่อาจมีพรมแดนใดมาขวางกั้นความรู้สึกนี้ได้ เช่นเดียวกันกับยูทูบเบอร์สาวชาวบราซิลวัย 24 ปี Julia Zelg ผู้ตกหลุมรักกับ Eileen de Freest แฟนสาวชาวอเมริกันวัย 61 ปี กับความต่างของอายุที่มากขนาดนี้ แต่พวกเธอกลับไม่เคยมองว่ามันคืออุปสรรคแต่อย่างใด Julia และ Eileen คนรักของเธอ Julia มีโอกาสได้รู้จักกับ Eileen ผ่านแอปฯ หาคู่ชื่อดังอย่าง Tinder พวกเธอใช้เวลานานหลายเดือนในการทำความรู้จักกันให้มากยิ่งขึ้น ความรักได้ก่อตัวขึ้นมาและยูทูบเบอร์สาวก็ได้เปิดตัวคนรักของตัวเองให้ผู้ติดตามทุกคนได้รับรู้ในช่วงเดือนกันยายน 2018 Julia บอกกับแฟนๆ ทุกคนว่า “ฉันได้เจอกับผู้หญิงคนนี้และเธอคือคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา เธอคือคู่แท้ของฉัน” “ก่อนหน้านี้ฉันแค่วางแผนที่จะเพลิดเพลินไปกับชีวิตโสด สนุกกับสิ่งต่างๆ และในระหว่างนั้นฉันก็ได้เจอเธอ ตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง” หลังจากที่ทั้งคู่ได้เปิดตัวการคบหากันสู่สาธารณชนเพียงไม่ถึงเดือน พวกเขากันตัดสินใจย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันในห้องเช่าที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และรับเลี้ยงแมวน้อยตัวหนึ่ง ตั้งชื่อมันว่า Brittney …
-
หนุ่มแชร์ประสบการณ์รักคุด ชีวิตพัง โดนจับเข้าคุก แต่คิดทบทวนเริ่มชีวิตใหม่จนประสบความสำเร็จ
“ชีวิตก็ต้องมีขึ้นก็ต้องมีลง” คงเป็นประโยคที่หลายๆ คนเคยได้ยิน ซึ่งหมายความว่าในชีวิตของมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้จะต้องมีจุดสูงสุดและต่ำสุดเสมอ เหมือนเรื่องของ nonyabiness หนุ่มจากสหรัฐอเมริกาที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เขาได้เล่าประสบการณ์ของตัวเองลงในเว็บ Imgur เกี่ยวกับชีวิตของเขา จากคนที่มีงานมีการทำ มีคู่รักดีๆ และมีอนาคตที่สดใสรออยู่ แต่หลังจากที่มีปัญหาทะเลาะกับคนรักและเลิกรากันไปได้ไม่สวย เขาสูญเสียตัวตนและจมปลักอยู่กับความโศกเศร้า ต้องตกงาน ถูกไล่ออกจากที่พักและสุดท้ายก็ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน เขาพยายามที่จะฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่อาจทำได้และก็ลงเอยด้วยการก่ออาชญากรรม ถูกจับกุม และถูกลงโทษเป็นการจำคุก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าที่ประวัติของเขาใสสะอาดมาโดยตลอด แต่ในโชคร้ายก็ยังมีโชคดี ระหว่างที่อยู่ในคุกเขาได้เปิดรับมุมใหม่ๆ ได้ทบทวนตัวเองและหาวิธีแก้ไขปัญหา (แม้ว่าข้างในจะรายล้อมไปด้วยพวกกากเดนก็ตาม) และเมื่อออกจากคุก เขาก็ได้รับโอกาสจากบริษัทจัดหางาน ให้เข้าร่วมกับบริษัทที่มีอัตราเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังขาดพนักงานอยู่ เขาอุทิศตนให้กับการทำงานครั้งนั้น จนในที่สุดความพยายามก็ไม่เคยทำร้ายใคร ทางบริษัทเห็นถึงความพยายามและเลื่อนขั้นให้เขาเป็นผู้จัดการ ทั้งๆ ที่มีคนอื่นๆ ที่มีประสบการณ์มากกว่าเขาก็ตาม ตอนนี้เขาได้ตำแหน่งที่สูงกว่าที่เขาคิด มีทั้งนามบัตรประจำตัว มีทั้งคอมพิวเตอร์ของบริษัท แถมยังมีเพื่อนร่วมงานที่ให้ความเคารพซึ่งกันและกันและเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ทั้งหมดนี้อยู่รวมอยู่ในบริษัทที่เขาเคารพและรู้สึกเพลิดเพลินไปกับการทำงาน สุดท้ายนี้เขาได้กล่าวเอาไว้ว่า “9 เดือนที่แล้วผมคิดว่าชีวิตของผมคงจบสิ้นแล้ว แต่ตอนนี้ชีวิตบทใหม่อันหอมหวานของผมกำลังเริ่มขึ้นแล้ว มันต้องมีทางออกอยู่เสมอ นั่นแหละคือเหตุผลที่ทำให้เรายังสู้อยู่” …
-
Rolls-Royce Phantom Vs รถหรูสีเจ็บ ของฮิปปี้ตัวพ่ออย่าง จอห์น เลนนอน
Rolls-Royce Phantom รถหรูสัญชาติอังกฤษที่มักจะถูกใช้เป็นพาหนะสำหรับเหล่าผู้มีชื่อเสียงมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 รวมไปถึงนักดนตรีชื่อดังอย่างจอห์น เลนนอนด้วย และในครั้งนี้ #เหมียวเวจจี้ ก็จะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับรถหรูที่ถูกครอบครองโดยสมาชิกวงสี่เต่าทองรายนี้ ซึ่งบอกเลยว่าถึงแม้จะ Rolls-Royce Phantom จะเป็นรถที่ดีไซน์เรียบหรู แต่เมื่อมันอยู่ในการครอบครองของศิลปินสุดติสรายนี้ ก็ย่อมเป็นรถที่ไม่ธรรมดาแน่นอน รถที่ตกแต่งด้วยลวดลายหลากสีคันนี้คือ Rolls-Royce Phantom Vs ที่ถูกผลิตออกมาเพียงแค่ 517 คันเท่านั้น เดิมทีรถหรูคันนี้คือรุ่นพิเศษที่ถูกออกแบบโดย Mulliner Park Ward โทนสีดำทั้งคันยกเว้นส่วนของเครื่องยนต์ และล้อ ซึ่งหลังจากที่เลนนอนได้เป็นเจ้าของรถคันนี้เมื่อปี 1964 เขาจึงขอให้ทางผู้ผลิตทำให้มันเป็นสีดำทั้งคัน แต่ถูกทางค่ายรถปฏิเสธ มีการคาดการณ์ว่าเลนนอนอาจซื้อเจ้ารถคันนี้มาด้วยราคาประมาณ 14,000 ดอลลาร์ (450,000 บาท ในขณะนั้น) ก่อนที่จะใช้เงินอีก 2,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 77,000 บาท) ในการตกแต่งภายในห้องโดยสารใหม่แบบยกชุด เมื่อปี 1965 โดยนักดนตรีหนุ่ม(ณ ขณะนั้น) ได้ปรับเบาะที่นั่งด้านหลังให้กลายเป็นเตียงคู่ ติดตั้งเครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบพกพา และลำโพงเพื่อสื่อสารระหว่างคนขับกับผู้โดยสารด้านหลัง . …
-
มารู้จัก “สาวเสิร์ฟน้ำสุดน่ารัก” ที่แย่งซีนกลางพรมแดง แท้จริงมีดีกรีเป็นนางแบบ
จากข่าวงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ (Gloden Globes Awards) ประจำปี 2019 นี้ ที่ควรจะเป็นเวทีให้ดาราดังฉายแสงโดดเด่น กลับไม่เด่นอย่างที่คิด เนื่องจากถูก “สาวเสิร์ฟน้ำสุดน่ารัก” แย่งซีนไปเต็มๆ ข่าวเก่า: งานนี้เหล่าดาราดังต้องสะดุด เมื่อถูก “เด็กเสิร์ฟน้ำสุดน่ารัก” แย่งซีนกลางงานลูกโลกทองคำ จากกระแสของสาวปริศนาคนดังกล่าว ทำให้มีชาวเน็ตหลายคนอยากจะทราบว่าแท้จริงๆ แล้วเธอเป็นใครกันแน่ วันนี้เราจึงทำการรวบรวมข้อมูลมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน เธอคนนี้ชื่อว่า Kelleth Cuthbert สาวสวยที่เพิ่งประกาศว่าตัวเองคือ Fiji Water Girl ลงอินสตาแกรมไม่นานมานี้ ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงนางแบบจากประเทศแคนาดา ที่ขณะนี้อาศัยอยู่ในลอสแอนเจลิส https://www.instagram.com/p/BsUJfMbn3cS/ เธอกล่าวยอมรับกับหนังสือพิมพ์ Los Angeles Times ว่าการโฟโต้บอมบ์ที่ชาวเน็ตเห็นในหลายๆ รูปจากงานลูกโลกทองคำนั้น “ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นสิ่งที่ถูกคำนวณมาแล้ว” “ฉันชอบมีมดีๆ ดังนั้นฉันเลยคิดว่ามันตลกและน่าสนุกมากๆ ที่ตอนนี้ฉันได้กลายเป็นหนึ่งในพวกมัน มีมแรกของปี 2019 มาแล้วจ้า!” เธอให้สัมภาษณ์กับ Glamour นอกจากนี้หลายๆ คนก็ชื่นชมเรื่องของการแต่งหน้าและทำผมของเธอ ซึ่งเธอก็บอกอีกด้วยว่าทั้งหมดนั้นเธอทำโดยตัวเอง แหม……
-
ชม 18 ภาพโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลในสมัยที่ยังคงมีการก่อสร้าง ในช่วงปี 1979-1980
โรงไฟฟ้าพลังงานที่นิวเคลียร์เชอร์โนบิล นับว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเป็นอย่างมาก เพราะที่แห่งนี้เป็นต้นเหตุของภัยพิบัติเกี่ยวกับกัมมันตรังสีที่ร้ายแรงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ ว่าแต่เคยสังเกตหรือไม่ว่าภาพที่เราเห็นกันบ่อยๆ ของสถานที่แห่งนี้ กลับเป็นภาพตอนที่เหตุภัยพิบัติเกิดขึ้นแล้วทั้งนั้น และไม่ค่อยมีภาพในยุคสมัยที่โรงไฟฟ้าเพิ่งจะสร้างเสร็จเสียเท่าไหร่เลย ดังนั้นในวันนี้ #เหมียวศรัทธา จึงจะพาเพื่อนๆ ไปชม 18 ภาพโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลในสมัยที่กำลังก่อสร้าง ไปดูกันว่าในสมัยนั้นโรงงานไฟฟ้านี้มีสภาพประมาณไหนกัน นี่เป็นภาพที่ถูกถ่ายเก็บไว้โดยทีมงานก่อสร้างในช่วงปี 1979-1980 อย่างไรก็ตามแผ่นพิมพ์ที่มีภาพถ่ายอยู่กลับถูกทิ้งไว้เป็นเวลานาน และกว่าที่จะมีการเอามาเผยแพร่จริงๆ ก็ในปี 2017 ขนาดของท่อระบายอากาศเทียบกับคน ชายสองคนบนทางเดินเหนือโรงไฟฟ้า จะสังเกตได้ว่าพวกเขาแทบไม่มีเครื่องป้องกันเลย การเชื่อมเหล็กในระหว่างการสร้าง คนงานที่เกาะเสาสูบบุหรี่โดยที่ไม่มีระบบความปลอดภัยใดๆ เลย ภาพโดยรวมของส่วนผลิตไฟฟ้าที่ 3 การประกอบชิ้นส่วนโรงไฟฟ้าที่ละส่วน อุปกรณ์แบบแขวนที่ใช้ในการทำงานในบางพื้นที่ การทำงานเชื่อมบนเสาสูง การทำงานเชื่อมบนที่สูงแบบใกล้ๆ การไต่บันไดขึ้นไปทำงานในที่สูง รูปถ่ายหมู่ที่มีส่วนหนึ่งของโรงไฟฟ้าเป็นฉากหลัง เหล่าคนงานในระหว่างการทานอาหาร อาหารของพวกเขามักจะประกอบตัวเป็นเบเกอรี่ ซุป และนม…
-
20 ภาพของคนซวยๆ กับวันซวยๆ ที่ทำให้รู้ว่าถึงคุณจะซวย แต่ก็ยังมีคนที่ซวยกว่าคุณ!!
ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่บนโลกใบนี้ ย่อมมีวันซวยๆ ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง เช่นเดินอยู่ในที่โล่งๆ ก็ดันสะดุดกับอะไรสักอย่างจนล้มหรือนั่งเก้าอี้อยู่เฉยๆ ขาเก้าอี้ก็หักเองเฉยเลยก็มี แต่หากเพื่อนๆ คิดว่าพวกวันซวยๆ ดังกล่าวของเพื่อนๆ นั้นซวยสุดๆ ไปแล้ว วันนี้ #เหมียวโคบี้ เลยเอาภาพของวันซวยๆ ที่ชาวเน็ตช่วยกันแชร์มาให้เพื่อนๆ ได้ชม และเมื่อเพื่อนๆ ได้ชมภาพดังกล่าวก็จะรู้ในทันทีว่านี่คือคนซวยๆ กับวันซวยๆ ที่ทำให้รู้ว่าถึงคุณจะซวย แต่ก็ยังมีคนที่ซวยกว่าคุณ!! 1. ฝนจะตกงั้นเหรอ? ดีนะเราเตรียมล่มมา… ชะอุ้ย ร่มหาย! 2. รถยางรั่วก็เลยโทรเรียกรถมายก แต่รถที่มายกรถยางรั่วก็ดันยางรั่ว ก็เลยต้องเอารถมายกรถยกรถที่ยางรั่วอีกที (งงล่ะสิๆ) 3. อีหนูนั่นไม่ใช่ปิ่นปักผมนะลูก เละเต็มคอแล้วนั่น 4. ไม่อยากจะคิดถึงสภาพของเจ้าของกางเกงที่เจ้าหมาคาบมา 5. จะใช้ทิชชูอันนี้ก็ต้องใช้ฝีมือหน่อยล่ะ 6. เมื่อมุมห้องของคุณต้องเห็นภาพเพื่อนบ้านช่วยตัวเองทุกวัน… 7. ตัวไปก่อนไม่รอแล้วนะ 8. มุมดีเหมาะแก่ถ่ายรูป… 9. นกอะไร เกรี้ยวกราดจังงง…
-
ตำนานรัก Mario Kart!! คู่รักวัยชรา นั่งเล่นเกมแข่งรถด้วยกันทุกวัน เป็นเวลาเกือบ 20 ปี
คุณมีแฟนรึเปล่า!? คุณชอบเล่นเกมกับแฟนไหม!? แล้วคิดว่าจะเล่นด้วยกันไปได้นานเพียงใด!? นี่คือเรื่องราวของคู่รักเกมเมอร์สูงวัย ที่นั่งเล่นเกมแข่งรถชื่อดังอย่าง Mario Kart มาเกือบ 20 ปีแล้ว เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยโดยชาวเน็ตต่างชาติที่ชื่อ bork1138 เขาระบุว่านี่คือภาพของพ่อแม่ตน นั่งเล่นเกม Mario Kart ของเครื่อง Nintendo 64 ด้วยกันทุกวันมาตั้งแต่ปี 2001 สาเหตุที่ต้องเล่นนั้นก็ยิ่งเป็นเรื่องน่ารักๆ เพราะพวกเขาใช้การแข่งรถ เป็นตัวแทนการประลองยุทธเพื่อหาผู้ชนะ แล้วผู้แพ้ก็จะโดนลงโทษด้วยการ “เป็นคนชงชา” ให้อีกคนดื่มในวันนั้น โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม มีการโหวตให้ถึง 124,000 ครั้ง จากชาวเน็ตที่ต่างก็ประทับใจในความน่ารักของพ่อแม่เขา อย่างไรก็ตาม… มีการตั้งข้อสงสัยว่าโพสต์ดังกล่าวเป็นเรื่องจริงหรือไม่!? ก็เลยมีการขุดหาหลักฐานกันเกิดขึ้น และพบว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ในปี 2014 ก็เคยมีการอัปโหลตภาพคู่รักวัยชรานี้ลงบนอินสตาแกรม ด้วยบัญชีผู้ใช้ที่คาดว่าน่าจะเป็นลูกชายคนนี้นี่เอง https://www.instagram.com/p/xRmDsksPd1 จากรูปดังกล่าว ผ่านมา 4 ปีจนถึงปี 2019 ทั้งคู่ก็ยังเล่นกันอยู่ทุกวัน และเขาเชื่อว่าพ่อแม่ของตนนั้นจะเล่นเกมแข่งรถด้วยกันเพื่อตัดสินหาคนชงชา ไปจนกว่าจะถึงวันที่เล่นไม่ไหวนู่นเลย…
-
แคมเปญเปิดตัวรถครอบครัวรุ่นใหม่ เพิ่มสัญลักษณ์ในที่จอดรถ แสดงถึงความหลากหลาย
โดยปรกติทั่วไปแล้ว ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ มักจะมีการแยกประเภทที่จอดรถเอาไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นที่จอดรถสำหรับคุณผู้หญิง ที่จอดรถสำหรับผู้พิการ แต่ที่ห้างฯ ที่ประเทศอังกฤษนั้น กลับไปไกลกว่านั้นเพราะนอกจากที่จอดรถสำหรับคุณผู้หญิง ที่จอดรถสำหรับผู้พิการแล้ว พวกเขายังแยกประเภทย่อยๆ ลงไปอีก ห้างสรรพสินค้า Westfield จากกรุงลอนดอนได้จัดการทำสัญลักษณ์ต่างๆ ลงไปบนพื้นที่จอดรถของพวกเขา เพื่อแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของสังคมครอบครัวสมัยใหม่ โดยสัญลักษณ์ที่ถูกวาดลงไปนั้นมีทั้งภาพของชาย 2 คนและเด็ก 1 คน ภาพของคุณแม่เพียงคนเดียวที่เลี้ยงลูกถึง 2 คน ภาพของผู้สูงอายุและเด็ก หรือภาพของครอบครัวที่มีพ่อและแม่มากกว่า 1 คน ตามรายงานระบุว่า ที่จอดรถของทางห้างฯ เป็นส่วนหนึ่งในการโฆษณาของบริษัทรถยนต์ ที่ต้องการแสดงออกถึงสโลแกนที่ว่า “ไม่เคยหยุดนิ่ง” Joseph Ernst จากบริษัทเอเจนซี่ที่รับผิดชอบในการโฆษณาครั้งนี้ระบุว่า เขาต้องการให้โฆษณาชิ้นนี้สะท้อนให้เห็นว่ารถยนต์รุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายนั้น เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว “จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษระบุว่า มีครอบครัวชาวอังกฤษมากกว่า 65% ที่เป็นครอบครัวรูปแบบใหม่ (ไม่ได้มีพ่อ-แม่เป็นคนเลี้ยงดูเท่านั้น) และเพื่อเป็นการเปิดตัวรถครอบครัวรุ่นใหม่ของทาง Volvo นั้น ที่เป็นมากกว่ารถครอบครัวทั่วไป เราต้องการนำแสดงให้เห็นว่ายังมีครอบครัวอีกหลายแบบ และรถรุ่นใหม่คันนี้ก็เหมาะสำหรับทุกๆ ครอบครัว” Joseph ให้สัมภาษณ์…
-
15 ศิลปินผู้ฉีกทุกกฎเกณฑ์ สู่หนทาง “ทำตามใจ ไม่ใช่ทำตามใคร” เฮาบ่ใจ้สน!!
การจับกลุ่มวาดรูปกันเป็นหมู่คณะ หากมีการกำหนดสิ่งที่ต้องวาดเอาไว้อยู่แล้ว ผลงานของแต่ละคนก็จะดูคล้ายๆ กันไปซะหมด แต่ยามใดที่มี “ศิลปินผู้ไม่สนความเป็นไป” มารวมกลุ่มด้วยแล้ว บอกเลยว่าพวกเขาอาจเติมจินตนาการเข้าไปจนฉีกทุกกฎเกณฑ์ และผลงานที่ได้ก็จะดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เหมือนอย่างภาพวาดเหล่านี้ จงทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย บางครั้งก็อาจมีไฟป่าเกิดขึ้นบ้างเป็นธรรมดา แอม อะ แบทแมน คือไม่ชอบโอลาฟ หรืออะไรยังไงฮะเจ้าหนู มังกรพ่นไฟ อัคคีสาดแสง (ยอมตายให้ดินกลบหน้า ดีกว่าอยู่อย่างเสียศักดิ์ศรี) โลกาวินาศคืบคลานเข้ามา แบทแมน ช่วยด้วยยยย!! ดอกไม้เหรอ เฮอะ แล้วไงใครแคร์?! สนามนี้เหมือนจะไม่ยอมให้ใครเล่น หอไอจ้อน… จงหาความแตกต่าง (5 คะแนน) นกนี่ยังพอเข้าใจได้ แต่ชมพูๆ ที่ลอยอยู่นั่นสิ… วาดสวยนะ วาดสวยจริงๆ จังหวะกระดกเบาๆ คือเริ่ด!! จินตนาการชักจะต่างกันเกินไปแล้ววว …
-
บริการใหม่จากบริษัทในเนเธอแลนด์ ให้คุณระบายความเครียด ด้วยการทำลายรถยนต์ทั้งคัน
การจัดการและรับมือกับความเครียดสำหรับแต่ละคนนั้นก็อาจจะมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป แต่ในบางครั้งถ้าหากว่าความเครียดที่ว่านี้มันมีมากจนเกินไปล่ะก็ คุณอาจจำเป็นที่จะต้องมีตัวช่วย และด้วยเหตุนี้เองเป็นที่มาของ CarSmash บริษัทจัดการความเครียดจากเนเธอแลนด์ ที่จะทำให้ผู้ใช้บริการได้ปลดปล่อยความอัดอั้นด้วยการทำลายรถยนต์!! บริษัทจากเนเธอแลนด์รายนี้มีประสบการณ์ในด้านนี้มากว่า 15 ปี ซึ่งพวกเขารับประกันในเรื่องความปลอดภัยของลูกค้า และที่สำคัญมันยังเป็นการคลายเครียดแบบถูกกฎหมายอีกด้วย “ที่ CarSmash คุณจะพบแต่ความสนุก ด้วยประสบการณ์มากกว่า 15 ปี เราสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่าคุณจะได้รับความปลอดภัยอย่างแน่นอนเป้าหมายของเราคืออยากให้คุณกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม นอกจากนี้เรายังมีใบอนุญาตอย่างถูกกฎหมายและมีประกันอุบัติเหตุให้กับลูกค้าของเรา เรายังสามารถให้บริการลูกค้าแบบกลุ่มตั้งแต่ 8 คนขึ้นไปได้อีกด้วย” ข้อความจากทางเว็บไซต์ของบริษัท ทางบริษัทได้เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้เบสบอล ไม้กอล์ฟ หรือเครื่องไม้เครื่องมือให้คุณได้จัดการซากรถเพื่อระบายความเครียด พร้อมกับเตรียมอุปกรณ์ป้องกันไว้อย่างเพียบพร้อม เรียกว่ามาแต่ตัวก็มันได้แล้ว และนี่คือบริการจาก CarSmash แต่อย่างไรก็ตามนักจิตวิทยาได้ให้คำแนะนำว่า วิธีการที่จะจัดการกับความเครียดได้ดีกว่าก็คือการเรียนรู้วิธีควบคุมมัน และมีสติเท่าทัน “พูดตามตรงการระบายความเครียดแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกกลัว และในครั้งต่อไปถ้าหากว่าคุณรู้สึกเครียด คุณอาจจะไม่ได้ระบายอารมณ์กับรถ แต่อาจจะเป็นอย่างอื่นแทน คุณกำลังบอกตัวเองว่า คุณระบายออกแบบนี้ได้ แทนที่จะเรียนรู้วิธีการอื่น ในการควบคุมอารมณ์ให้มีสติเท่าทันสิ่งที่เกิดขึ้น หรือการหยุดพัก” Joanna Pantazi นักจิตวิทยา ให้สัมภาษณ์กับ BBC…
-
คุณแม่ลืมลูกวัย 4 ขวบไว้บนหลังคารถ ก่อนขับออกไป กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านไป 15 นาที
อาการหลงลืม เรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกๆ คน บางครั้งอาการที่ว่านี้อาจจะไม่ค่อยหนักหนาสาหัสสักเท่าไหร่ อย่างเช่นการลืมหยิบของนู่นนั่นนี่ แต่ในบางกรณีมันก็อาจจะทำให้เกิดภาพที่สร้างความหวาดเสียวให้แก่ผู้พบเห็นได้ แบบเหตุการณ์นี้… ภาพที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นี้เป็นภาพเพียงบางส่วนจากคลิปวิดีโอของรถคันหนึ่งที่ถูกบันทึกเอาไว้บนถนนในเมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย ตามรายงานระบุว่าเด็กน้อยที่สวมเพียงแค่ผ้าอ้อมรายนี้นั่งอยู่บนหลังคารถที่วิ่งไปบนถนนนานกว่า 15 นาที ก่อนที่แม่ของเขาจะจอดรถ และพาลูกน้อยกลับเข้าไปนั่งด้านใน หลังจากที่ได้รับสัญญาณเตือนจากรถคันอื่นๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบคลิปวิดีโอดังกล่าว หลังจากที่มันกลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ ซึ่งทางโฆษกของทางสถานีได้ออกมาเปิดเผยว่า เด็กน้อยรายดังกล่าวมีอายุเพียงแค่ 4 ขวบเท่านั้น “เราเห็นเด็ก 3 คนในรถคันนั้น ซึ่ง 2 คนนั่งด้านในรถกับแม่ของเขา ส่วนเด็กวัย 4 ขวบอีกคนนั่งอยู่ด้านบน” เจ้าหน้าที่ให้สัมภาษณ์ คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มา 9news, mirror
-
ย้อนรอย “Joe Metheny” ฆาตกรต่อเนื่องสุดสยอง ผู้เอาเนื้อมนุษย์มาทำอาหารให้ลูกค้ากิน
“คุณรู้รึเปล่าว่าเนื้อมนุษย์มีรสชาติคล้ายๆ กับเนื้อหมู ถ้าคุณผสมมันเข้าด้วยกันจะไม่มีใครรู้ถึงความแตกต่างเลย” นี่เป็นคำพูดของ Joe Metheny ฆาตกรต่อเนื่องร่างอ้วน ในตอนที่เขาสารภาพความผิดกับตำรวจ เรื่องราวของ Joe Metheny ถูกเปิดเผยกับโลกครั้งแรกในธันวาคมปี ค.ศ. 1996 เมื่อหญิงสาวชื่อ Rita Kemper เข้าแจ้งความกับตำรวจว่าเธอถูกชายร่างท้วมคนหนึ่งจับไปยังในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา สภาพของเธอในตอนนั้นดูบอบช้ำเป็นอย่างมาก ดังนั้นทางตำรวจจึงตัดสินใจส่งกองกำลังเข้าจับกุมชายคนดังกล่าว โดยเตรียมใจไว้เป็นอย่างดีว่าผู้ต้องหาจะต้องขัดขืนเป็นอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ทางตำรวจไม่เคยคิดเอาไว้เลย คือ Joe Metheny นั้นกลับไม่ใช่เพียงโจรลักพาตัวธรรมดาๆ เพราะหลังจากที่การจับกุมตัวของ Joe Metheny แล้ว ทางตำรวจก็ได้ทราบจากการสอบปากคำและคำสารภาพของชายร่างท้วมว่า Rita Kemper นั้นไม่ใช่เหยื่อคนแรกของเขา และจริงๆ แล้วเขาเคยฆ่าคนมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ราย จากคำให้การของ Joe ในปี 1994 ภรรยาที่ติดยาของเขาพาลูกชายเพียงคนเดียวหนีจากเขาไป ซึ่งทำให้เขาในเวลานั้นโมโหมาก และออกตามหาภรรยากับลูกชาย โดยฆ่าหญิงขายบริการ คนไร้บ้าน และนักตกปลาที่เขาพบระหว่างทางไปด้วย ผลของการกระทำให้ครั้งนี้ทำให้เขาถูกจำคุกเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่ง แต่สุดท้ายก็รอดจากการรับโทษเต็มๆ มาได้ เพราะตำรวจหาศพไม่พบ (เนื่องจากเขาเอาศพโยนทิ้งลงน้ำไป) …
-
งานนี้เหล่าดาราดังต้องสะดุด เมื่อถูก “เด็กเสิร์ฟน้ำสุดน่ารัก” แย่งซีนกลางงานลูกโลกทองคำ
ในวันนี้ (7 มกราคม 2019) ที่สหรัฐอเมริกาได้มีการประกาศหนึ่งในรางวัลที่สำคัญกับวงการภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์อย่างรางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globes Awards) ประจำปี 2019 ซึ่งแน่นอนว่าในงานต้องมีพรมแดงให้ดาราชื่อดังหลายๆ คนมาเดินโชว์ตัวและโชว์แฟชั่นให้บรรดาช่างภาพทั้งหลายได้ถ่ายรูปกัน เหล่าแก๊ง Black Panther ก็มานะ หนุ่มที่เซ็กซี่ที่สุดปี 2018 อย่าง Idris Elba ก็ไม่พลาด ควงภรรยาและลูกๆ มาพร้อม Rami Malek กับ Julia Roberts Emily Blunt Emma Stone แม้ว่าดาราและคนดังจะมาร่วมงานกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แต่สิ่งที่โดดเด่นของงานนี้กลับไม่ใช่พวกเขาเสียอย่างนั้น เมื่อมีดาวดวงใหม่เจิดจรัสขึ้นมาคอยโฟโต้บอมบ์อยู่ข้างหลังดาราดังทั้งหลาย นั่นคือ “สาวเสิร์ฟน้ำยี่ห้อ Fiji” ที่เพียงแค่ยืนถือถาดน้ำอยู่เฉยๆ อยู่ในฉากหลัง แต่ด้วยความสดใสของหน้าตาและผิวพรรณที่ผ่องกระจายทำให้ผู้ชมไม่อาจจะละสายตาจากเธอได้และกลายเป็นไวรัลในชื่อ Fiji Water Girl อย่างรวดเร็ว . Sooooon…
-
‘Watson’ น้องหมาผู้ชอบใส่รองเท้ามนุษย์ แต่มันจะใส่เมื่อเจ้าของอนุญาตเท่านั้น
สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัข พวกมันสามารถทำตามคำสั่งเราได้ทุกอย่าง ขอแค่ฝึกมันเถอะ นอกจากคำสั่งแล้ว พวกมันยังสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง จนมีพฤติกรรมบางอย่างที่ดูฉลาดอย่างน่าทึ่ง และบางทีก็ดูแปลกในเวลาเดียวกัน เหมือนกับ Watson เจ้าหมาบ๊อกเซอร์ที่มีความสามารถไม่เหมือนใคร ซึ่งมันอาจจะดูเป็นพฤติกรรมโง่ๆ สำหรับบางคน แต่จริงๆ มันยอดเยี่ยมมากเลยแหละ ความฉลาดของ Watson ถูกบันทึกไว้ในคลิปสั้นๆ ด้านล่างนี้ โดยตอนแรกของคลิป เจ้าหมานั่งอยู่หน้ารองเท้าคู่หนึ่ง จนกระทั่งคุณแม่สั่งให้ก้าวออกมา 1 ก้าว แล้วสไลด์อุ้งเท้าเข้าไปในรองเท้าครอส สิ่งที่เกิดขึ้นคือ Watson สไลด์อุ้งเท้าเข้าไปในรองเท้า จากนั้นก็เดินใส่รองเท้าคู่นั้นออกมาหาแม่ที่อยู่ข้างหน้ามัน ดูเหมือนจะจดจ่อกับการใส่รองเท้านี้มาก เพราะตอนที่เดินไปหาแม่ มันเอาแต่ก้มดูเท้าตัวเองตลอดเวลา จนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าแม่ คือ ปกติแล้วหมาไม่ชอบใส่รองเท้าหรอก หรือแม้แต่ถุงเท้าพวกมันก็ไม่ชอบ ลองให้ใส่ดูสิ ท่าเดินของพวกมันจะแปลกไปทันที แต่สำหรับ Watson แล้ว มันเดินใส่รองเท้า ดูเป็นธรรมชาติมากๆ นั่นเป็นเพราะครอบครัวฝึกให้มันทำแบบนี้ ส่วนรองเท้าที่มันใส่นั้น ตอนแรกก็เป็นรองเท้าเจ้าของนี่แหละ แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่ามันชอบ เลยยกให้มัน แม้น้องหมาจะชอบใส่รองเท้ามากแค่ไหน มันก็ไม่เคยใส่ตามใจตัวเอง…
-
‘นากกำพร้าทั้ง 7’ ได้เล่นกับใบไม้ร่วงครั้งแรก เพลินจนไม่รู้จักเหนื่อยกันเลยทีเดียว
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2107 ศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ป่า ในเท็กซัสตะวันออก ได้รับลูกนากกำพร้า 7 ตัว มาอยู่ในการดูแล พวกมันมีอายุตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์จนถึง 2 เดือน ทางศูนย์ได้ตั้งชื่อให้พวกมันว่า Chubby, Screamer, Mean Little Girl, Chubby Girl, Sweet Little Girl, Slasher และ Bruce the Shark หรือเรียกรวมๆ ว่า Magnificent 7 ลูกนากทั้ง 7 ตัว ได้มีช่วงเวลาดีในศูนย์ช่วยเหลือแห่งนี้ ตอนที่เข้ามาในศูนย์ครั้งแรก พวกมันถูกตัวต้องกินนมจากขวดนม และพวกมันต่างไม่ได้รับการดูแลจากแม่เหมือนกัน เมื่อลูกนากโตขึ้นในระดับหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้ย้ายพวกมันไปอยู่ในกรงกลางแจ้ง ที่นั่นมีแหล่งน้ำและมีพื้นที่กว้างขวางให้พวกมันได้วิ่งเล่นเต็มที่ นากทุกตัวมีความสุขมากๆ ในการใช้พื้นที่ทั้งหมดนี้ แล้วพวกมันทุกตัวก็เริ่มเล่นด้วยกัน เจ้าหน้าที่เองก็ชอบดูพวกมันเติบโตด้วยกัน พวกมันไม่ใช่แค่เล่นด้วยกันไปวันๆ แต่นากน้อยทุกตัวได้เรียนรู้วิธีการตกปลาและล่าสัตว์ตามสัญชาตญาณของนากทั่วไป กระทั่งเดือนธันวาคม ปี 2017…
-
‘ลูกแมวใกล้ตาย’ ถูกช่วยเหลือเอาไว้ มันจึงฮึดสู้ จนมีชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความสุข
ไม่มีใครรู้ว่าแมวน้อยตัวนี้จะผ่านคืนแรกไปได้ หลังจากที่มันถูกพบเพียงลำพัง และสถานการณ์ของมันค่อนข้างมีความท้าทาย แต่แมวน้อยเลือกที่จะสู้สุดความสามารถ เรื่องนี้เริ่มเมื่อหญิงจากมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เห็นลูกแมวตัวเล็กตัวหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนทางเท้า เมื่อเธอเข้าไปเช็คเจ้าเหมียว ก็พบว่ามันยังเคลื่อนไหวได้เล็กน้อยและหายใจแผ่วเบามาก Celine Crom จาก Chatons Orphelins Montréal บอกว่า “หญิงคนนั้นไม่สามารถทิ้งแมวน้อยไว้ที่นั่นลำพังได้ เธอจึงพามันไปยังคลินิกสัตว์ในท้องถิ่นทันที” เมื่อไปถึง คุณหมอพบว่ามิ้วน้อยมีแค่กระดูกและผิวหนังหุ้มกระดูกเท่านั้น ร่างกายมันเย็นมากและเต็มไปด้วยเห็บหมัด มันจึงต้องได้รับการความอบอุ่น เพื่อมีชีวิตรอด นอกจากนี้ มันอายุ 4 สัปดาห์แล้ว แต่มีน้ำหนักแค่ 300 กรัมเท่านั้น แต่ด้วยความช่วยเหลือของสัตวแพทย์ ในที่สุด อุณหภูมิของมิ้วน้อยก็กลับมาอยู่ในภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม พวกเขายังต้องให้ยาเพื่อรักษาแผลของมัน ร่างกายมิ้วน้อยบอบบางและอ่อนแอมาก แต่มันยังรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีร้องเมี๊ยวๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจเมื่อมีคนเข้าไปใกล้มัน ต่อมา Nathalie หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของคลินิก ได้ติดต่อไปยัง Chatons Orphelins Montréal และขอให้ช่วยหาบ้านอุปถัมภ์ให้แมวน้อย Celine บอกว่า “เธอทำทุกอย่างเพื่อช่วยแมวน้อยตัวนั้น แถมยังพามิ้วน้อยไปส่งยังบ้านอุปถัมภ์ในช่วงกลางดึกด้วย มิ้วน้อยจึงมีที่พักที่ปลอดภัยในคืนนั้น” …
-
“แมวน้อยจรจัด” ถูกพบบนถนน กระโดดขึ้นตักคุณตำรวจ แล้วอ้อนให้พากลับบ้านด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ Jason Smith เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก North Kansas City Police Department ในรัฐมิสซูรี่ ได้รับแจ้งเกี่ยวกับลูกแมวที่อยู่ข้างทาง เขาจึงรีบไปยังที่นั่นทันที ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังขับรถไปตามที่ได้รับแจ้ง เขาเห็นแมวเหมียวตัวหนึ่งกำลังยืนอยู่บนขอบที่กั้นทาง โดยมีถุงมือยางอยู่ข้างๆ หลังจากจอดรถ Jason กับเจ้าหน้าที่อีกคนจึงพยายามเข้าหาเจ้าเหมียวอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ทำให้มันตกใจและวิ่งหนีไป จากนั้น Jason ก็เรียกเจ้าเหมียวเหมือนกับที่เขาเรียกแมวตัวเอง “มานี่มา เมี๊ยว เมี๊ยว เมี๊ยว เฮ้ เมี๊ยว” เขาใช้เสียงที่อ่อนนุ่มคุยกับมัน เมื่อได้ยินเสียงมนุษย์เรียก หางเจ้าเหมียวก็ชี้ตั้งกลางอากาศ จากนั้นมันก็เริ่มร้องเมี๊ยวตอบกลับ ราวกับจะบอกว่ามันพร้อมที่จะให้พาตัวไปที่สักแห่งที่ปลอดภัย ใสที่สุด Jason ก็สามารถเข้าไปอุ้มเจ้าเหมียวมาได้ ก่อนจะไปกลับยังรถสายตรวจของเขา เมื่อเข้ามานั่งในรถ เจ้าเหมียวรู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่มาก มันจึงทำเสียงเพอร์และโอบกอดรอบคอของ Jason เพื่อขอบคุณ แม้รถจะเคลื่อนออกไปแล้ว เจ้าเหมียวก็ยังยืนกรานจะนัวเนียเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป Jason จึงอุ้มมันไปนั่งบนเบาะหลัง แต่เจ้าเหมียวได้กระโดดกลับมานั่งที่ตักของเขาและกอดเขาอีกครั้ง ตอนนั้นเองที่ Jason รู้สึกตกหลุมรักเจ้าเหมียวตัวนี้ และรู้สึกผูกพันกับมันอย่างบอกไม่ถูก ที่แน่ๆ เขาก็พามันกลับบ้านและให้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว …
-
นักเปียโนหนุ่มช่วยแมวน้อยขาเจ็บ และอยู่ดูแลมันจนกระทั่งมันกลับมาวิ่งเล่นได้
ขณะที่กำลังเดินผ่านถนนเส้นหนึ่งในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกีอยู่ Sarper Duman ซึ่งเป็นนักเปียโนหนุ่มและนักช่วยเหลือแมว ก็เจอเข้ากับลูกแมวน้อยเข้า มันกำลังใช้ขาหน้าลากร่างของตัวเองไปตามทาง และร้องเหมือนกำลังขอความช่วยเหลือ เขาจึงพาตัวมันไปหาสัตวแพทย์ด้วยตัวเอง เขาตั้งชื่อลูกแมวน้อยว่า Piti หลังจากตรวจดูแล้วสัตวแพทย์บอกเขาว่ามันถูกรถทับมา ขาหลังทั้ง 2 ข้างของมันกระดูกแตก และขาหน้าก็หักไปข้างหนึ่ง เหลือขาที่ใช้ได้เพียงข้างเดียวเท่านั้น ที่น่าเป็นห่วงกว่าก็คือร่างกายของมันในตอนนี้ยังอ่อนแอมาก ไม่สามารถจะให้รับการผ่าตัดในสภาพนี้ได้ พวกเขาจึงได้แต่หวังว่ามันจะอาการดีขึ้นโดยเร็ว แต่ระหว่างที่คุณหมอและ Duman กำลังเป็นห่วงสุขภาพของมัน สิ่งที่ Piti โหยหาไม่ใช่การรักษาเลย มันต้องการความรักจากพวกเขา มิ้วน้อยเอาแต่ส่งเสียงร้องอ้อนให้นักเปียโนหนุ่มเล่นด้วยตลอดเลย โดยที่ไม่สนใจว่าตัวเองกำลังเจ็บอยู่ แค่มีคนสนใจให้ความรักมัน เจ้าแมวก็พอใจแล้ว เจ็บช่างมันก่อน ขอแค่มีคนเล่นด้วยก็พอ สัตวแพทย์ให้ Piti อยู่ที่คลินิกไปก่อนเพื่อรอดูอาการมันต่อไป เพราะการที่ขายังใช้การไม่ได้เลยนั้นน่าเป็นห่วงมาก แต่ก็โชคดีที่กำลังใจเจ้าเหมียวดีไม่มีตก ใช้เวลาแค่ 5 วันมันก็แข็งแรงพอจะเข้ารับการผ่าตัดได้แล้ว หลังจากรับการผ่าตัดเสร็จ Duman ก็ไปเยี่ยมมันเหมือนที่ทำทุกวัน และเจ้าเหมียวก็ยังคงให้ความสำคัญกับการอ้อนให้เขาเล่นด้วยเหมือนเคย แม้ว่าตอนแรกขาของ Piti จะฟื้นตัวได้ไม่ดีตามที่พวกเขาคาดไว้ แต่ไม่นานนักเจ้าแมวก็อาการดีขึ้นอย่างช้าๆ…
-
3 งานวิจัยใหม่เผย AI สามารถถอดรหัสสิ่งที่มนุษย์กำลังจะพูดจากคลื่นสมองได้แล้ว
เมื่อช่วงปลายปี ค.ศ. 2018 ที่ผ่านมาที่เว็บไซต์ “bioRxiv” คลังเก็บงานวิจัยที่ยังไม่ได้รับการตีพิมพ์เกี่ยวกับชีววิทยา ได้มีผลงานวิจัย 3 ชิ้นถูกนำมาเผยแพร่โดยนักวิทยาศาสตร์สามกลุ่ม โดยงานวิจัยทั้งสามนี้ แม้จะมีการทดลองที่ต่างกันอยู่บ้าง แต่ก็มีจุดร่วมที่น่าสนใจอยู่หนึ่งจุด นั่นคือการที่พวกเขาใช้ระบบ AI ในการอ่านระบบเซลล์ประสาท และถอดรหัสคำพูดของมนุษย์ออกมาได้จากคลื่นความคิด จุดร่วมของงานวิจัยทั้งสามถูกรายงานเป็นครั้งแรกโดย Kelly Servick ผู้เป็นนักเขียนของนิตยสารออนไลน์ Science และมีเนื้อความโดยสรุปดังนี้ งานวิจัยชิ้นแรกที่มีการกล่าวถึง ถูกเผยแพร่เป็นครั้งแรกในวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 2018 โดยเกี่ยวข้องกับความพยายามในการทดลองช่วยเหลือผู้ป่วยโรคลมชักที่กำลังอยู่ในระหว่างการผ่าตัดสมอง โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ให้ผู้ป่วยจำนวน 11 คนฟังเสียงการอ่านคำศัพท์ต่างๆ และใช้ระบบ “deep learning” ของคอมพิวเตอร์ในการอ่านการประมวลผลของสมองคนไข้ก่อนจะแสดงออกมาในรูปแบบเสียงสังเคราะห์ ผลการทดลองนั้นพบว่า AI สามารถตีความคำศัพท์ได้ถูกต้องราวๆ 75% (อ่านงานวิจัยได้ ที่นี่) งานวิจัยชิ้นที่สองถูกเผยแพร่เป็นครั้งแรกในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2018 เป็นการทดลองกับผู้ป่วยเนื้องอกในสมอง โดยการให้พวกเขาอ่านคำศัพท์หนึ่งพยางค์ และทำการบันทึกคลื่นประสาทในตอนที่อ่านมาให้ AI วิเคราะห์ ผลการทดลองของงานวิจัยชิ้นนี้พบว่า AI สามารถสร้างคำคำศัพท์จากคลื่นประสาทได้ถูกต้องอย่างน่าพึงพอใจ (อ่านงานวิจัยได้…
-
ย้อนรอย “ออดี ลีออน เมอร์ฟี” จากฮีโร่แห่งกองทัพสหรัฐฯ สู่นักแสดงมีชื่อแห่งฮอลลีวูด
เคยได้ยินชื่อของ ออดี ลีออน เมอร์ฟี (Audie Leon Murphy) กันมาก่อนไหม? เขาคือฮีโร่แห่งกองทัพสหรัฐฯ เจ้าของเหรียญเกียรติยศมากที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สอง และเขาก็เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงของฮอลลีวูดอีกด้วย ออดี ลีออน เมอร์ฟี เกิดในครอบครัวชาวไร่ที่เท็กซัสเมื่อปีค.ศ. 1924 และต้องทำงานช่วยเหลือครอบครัวมาตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมอร์ฟีจึงสมัครเป็นทหารเพื่อหาเงิน ด้วยความที่ตัวเล็ก ทำให้เขาไม่ได้รับการยอมรับจากกองทัพเท่าไหร่ แต่ด้วยผลงานในกองทัพที่ดีมาก ทำให้เมอร์ฟีได้รับการเลื่อนยศอย่างรวดเร็ว เขาได้ไปรบที่แอฟริกาเหนือในปี 1943 และมีโอกาสเข้าร่วมการต่อสู้มากมายในอิตาลี และฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมอร์ฟีมาจากการรบที่ Colmar Pocket ในฝรั่งเศส เมื่อช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ปี ค.ศ. 1945 มากกว่า นั่นเพราะในเวลานั้นเมอร์ฟีที่อายุได้เพียง 19 ปี ได้บุกยิงถล่มกองทัพเยอรมันที่มีจำนวนมากกว่ามาก ด้วยปืนกลเพียงลำพังในขณะที่เพื่อนๆ ทหารถอยทัพเพื่อไปตั้งหลัก ว่ากันว่าในเหตุการณ์ครั้งนั้น เมอร์ฟีสังหารทหารนาซีไปถึง 40 นาย และแม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บที่ขา เขาก็ไม่ยอมถอยจนในที่สุดทหารที่เหลือก็ได้โอกาสโจมตีโต้กลับจนทำให้สหรัฐฯ สามารถเขายึดพื้นที่ได้สำเร็จในที่สุด หลังจากจบสงครามโลกครั้งที่ 2 เมอร์ฟี ออกจากกองทัพไป…
-
“The HU” วงดนตรีเชื้อสายมองโกเลีย ที่ผสมบทเพลงเก่าแก่เข้ากับดนตรีร็อกสมัยใหม่
ในช่วงยุคที่หลายๆ ประเทศเริ่มเปิดรับวัฒนธรรมจากตะวันตก เครื่องดนตรีโบราณประจำชาติ หรือบทเพลงเก่าแก่ที่ร้องกันมาตั้งแต่โบราณก็มักจะมีบทบาทน้อยลงไปเพื่อเปิดทางให้กับแนวดนตรีที่มีความเป็นสากลมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นบนโลกใบนี้ก็ยังมีคนจำนวนมากที่พยายามอนุรักษ์ดนตรีประจำชาติเอาไว้ และในหมู่คนเหล่านั้นเองก็มีไม่น้อยที่นำเครื่องดนตรีและวิธีการร้องเพลงเก่าๆ มาประยุกต์ให้เขากับยุคสมัยจนเกิดเป็นดนตรีในรูปแบบใหม่ วงดนตรีเชื้อสายมองโกเลียอย่าง “The HU” เองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้น เพราะพวกเขาได้ทำการผสมผสานดนตรีร็อกสมัยใหม่เข้ากับการร้องเพลงแบบเปล่งเสียงจากลำคอ (ที่เรียกว่า “Throat singing”) และกำลังเป็นที่สนใจของโลกออนไลน์อยู่ในปัจจุบัน แต่การร้องเพลงแบบเปล่งเสียงจากลำคอไม่ใช่จุดเด่นเพียงแค่เรื่องเดียวของวงดนตรีวงนี้ เพราะพวกเขายังมีการใช้เครื่องดนตรีดั้งเดิมของชาวมองโกเลียอย่าง “Morin Khuur” ซึ่งมีลักษณะเป็นซอหัวม้า “Tumur Khuur” ที่คล้ายกับพิณของชาวยิว และกีตาร์มองโกเลียอย่าง “Tovshuur” อีกด้วย วง The HU เรียกแนวดนตรีของตัวเองว่า “Hunnu Rock” ซึ่งมาจากคำว่า “มนุษย์” ในภาษามองโกเลีย และแม้พวกเขาจะมีเพลงในยูทูบเพียงแค่สองเพลง แต่ทั้งสองเพลงก็เรียกได้ว่ามีผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก Wolf Totem หนึ่งในสองบทเพลงจากวง The HU นั่นเพราะสำหรับวงดนตรีกึ่งร็อกกึ่งโบราณของประเทศมองโกเลียที่มีประชากรเพียง 4 ล้านคน การที่บทเพลงทั้งสองเพลงของพวกเขามีผู้เข้าชมรวมแล้วถึง 8 ล้านครั้งก็นับเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง …
-
ช้างถูกใช้แรงงานเอาใจนักท่องเที่ยวมานาน 50 ปี ได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระครบ 1 ปีเต็ม
ไม่ได้มีแต่เฉพาะในประเทศไทยเราเท่านั้นที่มีคนเคยเอาช้างมาใช้แรงงานเพื่อหาเงิน ที่ประเทศอื่นก็มีช้างถูกเอาเปรียบแบบเดียวกันด้วย แต่เรื่องที่น่ายินดีก็คือมีช้างตัวหนึ่งที่ทนลำบากมานานได้รับอิสระแล้ว Gajraj เป็นช้างจากประเทศอินเดีย ซึ่งเคยถูกเจ้าของจับล่ามโซ่ไว้กับที่ แล้วให้มันมอบความเพลิดเพลินให้กับนักท่องเที่ยวโดยการให้ขี่หลังหรือถ่ายรูป ซ้ำมันยังเคยถูกทำร้ายและตัดงาออกไปด้วย มันถูกใช้งานมานานกว่า 50 ปีที่วัด Yamai Devi และพิพิธภัณฑ์ Shri Bhavani Museum ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมในรัฐ Aundh จนเมื่อปี 2017 ก็มีกลุ่มช่วยเหลือสัตว์เข้าไปช่วยนำตัวมันออกมา และพามันไปใช้ชีวิตอย่างอิสระในพื้นที่อนุรักษ์ขององค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่า NGO Wildlife SOS ในบ้านใหม่หลังนี้ Gajraj ได้ใช้ชีวิตทุกวันไปกับการเดินเล่นในพื้นที่ป่า มีอาหารให้กินทุกเมื่อที่ต้องการ และจะนอนหลับพักผ่อนเท่าไหร่ก็ได้ สบายผิดกับชีวิตที่ถูกทารุณมาก่อนหน้านี้ลิบลับเลย เมื่อสิ้นปี 2018 ที่ผ่านมาก็เป็นเวลาครบรอบ 1 ปีที่เจ้าช้างได้รับอิสระ จึงมีคนมากมายที่พยายามช่วยเหลือมันมานาน ร่วมกันแสดงความยินดีกับชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นของมัน นอกจากนี้ Gajraj ก็ได้รับเกียรติให้เป็นลูกค้ารายแรกของโรงพยาบาลช้าง Wildlife SOS Elephant Hospital ที่เพิ่งเปิดตัวด้วย เนื่องจากพวกเขาคิดว่ามันสมควรได้รับการรักษาที่สุด ตอนนี้นอกจากจะมีอิสระแล้ว มันจึงได้รับการตรวจและรักษาที่ทันสมัย ที่จะช่วยเยียวยาร่างกายของมันซึ่งถูกใช้งานมานานโดยไม่ได้รับการดูแลจากเจ้าของเก่าเลย…
-
มาเริ่มต้นปีใหม่ฉบับทาสแมว ด้วยปฏิทินน้องแมวน่ารัก ที่มาพร้อมกับคำคมมากมาย
ตอนนี้ก็วนมาถึงปี 2019 แล้ว ถึงเวลาที่แต่ละบ้านจะต้องเปลี่ยนเอาปฏิทินอันเก่าทิ้งออกไป และหาอันใหม่มาให้พร้อมรับกับปีใหม่ที่มาถึงสักที แต่ไหนๆ เราก็จะเปลี่ยนปฏิทินทั้งที ในฐานะทาสแมวเราลองมาใช้ปฏิทินที่มีเจ้าแมวน่ารักๆ ให้เราพลิกดูกันทั้งปีดีกว่า อย่างเช่นปฏิทิน Social Justice Kittens แบบนี้ไง ปฏิทิน Social Justice Kittens เป็นปฏิทินที่รวมเอาแมวน้อยกว่า 20 ตัวไว้ เพื่อให้ทาสแมวได้เพลิดเพลินไปกับความน่ารักของพวกมันเวลาพลิกเปลี่ยนหน้าปฏิทินแต่ละเดือน นอกจากนี้แต่ละรูปก็มีข้อความคำคมติดมาให้เราอ่านด้วย โดยแต่ละอันจะเป็นข้อความเกี่ยวกับแนวคิดความเป็นธรรมทางสังคม ที่คนส่วนมากต้องพบเจอนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นปฏิทินที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมและความน่ารักเลย เพศไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดแปลกอะไร รสนิยมของคนต่างหากที่ทำให้เกิดวัฒนธรรมทางสังคมที่กีดกันเพศ การแสดงความแมนแบบผิดๆ ทำลายบรรยากาศเสมอ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ‘ความรุนแรงแบบไม่มีเหตุผล’ ต่อพวกฟาสซิสต์หรอก ทุกอย่างนับเป็นการป้องกันตัวทั้งนั้นแหละ เอาทุนนิยมออกไปไกลๆ เลย ฉันไม่คุยกับพวกฟาสซิสต์หรอก ถ้าเจอจะข่วนให้เละเลย ร่างกายเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นเท่านั้น ความโกรธของเธอเกิดจากความกลัวและความเกลียดชัง แต่ความโกรธของเราเกิดจากความรักทั้งนั้น ‘ความเห็น’ ของคุณเป็นแนวคิดอันตรายที่ทำร้ายฉันได้ ถึงจะคุยกันแล้ว…
-
แฟชั่นชุดใหม่สไตล์ “โปเกมอน” บุกงาน London Fashion Week Men’s 2019
แน่นอนว่าในงาน London Fashion Week Men’s ของแต่ละปี เราก็จะได้เปิดหูเปิดตาไปกับการเดินแบบเปิดตัวแฟชั่นเครื่องแต่งกายสุดเท่ หรืออาจจะแหวกแนวไม่ซ้ำใคร และในปี 2019 นี้เอง หนึ่งในโชว์ที่สามารถดึงดูดสายตาของผู้ร่วมงานทุกคนได้เป็นอย่างดีก็คือ ชุดแฟชั่น “โปเกมอน”… อ่านถูกแล้วนะเพื่อนๆ มันคือเครื่องแต่งกายในสไตล์ของการ์ตูนชื่อดังจากแดนอาทิตย์อุทัยจริงๆ แฟชั่นโชว์ “โปเกมอน” . ด้วยเหตุที่ว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น กระแสของเหล่าตัวการ์ตูนโปเกมอนทั้งหลายได้รับความนิยมและถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้า “ปิกาจู” เพราะงั้นมันจึงได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับดีไซเนอร์ชั้นนำของโลก Bobby Abley คือดีไซเนอร์หนุ่มชาวอังกฤษผู้ออกแบบแฟชั่นชุดนี้ให้ออกมาเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร โดยเน้นจุดเด่นไปที่ตัวละครจากการ์ตูนที่คนทั่วโลกรู้จัก นำไปสู่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหลากหลายแนวที่ไม่เหมือนใคร Bobby ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษ เจ้าของผลงาน แฟชั่นโชว์ชุดฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ธีมโปเกมอนของเขา . . แฟชั่นโชว์ชุดนี้ได้เปิดตัวบนแคทวอล์กในวันที่ 5 มกราคม 2019 ที่ผ่านมา สร้างเสียงฮือฮาให้กับทุกคน เราจะได้เห็นตัวละครเด่นๆ ของการ์ตูนเรื่องดังกล่าวกลายเป็นลวดลายอยู่บนเสื้อผ้าของเหล่านายแบบ นอกจากนั้น นี่ยังไม่ใช่ครั้งแรกที่ดีไซเนอร์หนุ่มได้นำเอาตัวละครการ์ตูนที่โด่งดัง…
-
“1 วัน กับ Samson” เรื่องราวการใช้ชีวิตของ “ทัพพี” เกิดมาเป็นเครื่องครัวนี่ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน
เพื่อนๆ เคยคิดกันมั้ยว่า ถ้าเราเกิดมาเป็น “ทัพพี” แล้ว เราจะต้องใช้ชีวิตอย่างไรกันบ้าง?? ถ้าใครเคยคิดอย่างนั้น… แนะนำให้ไปรับยาช่อง 2 เลยครับ (อ่ะหยอกๆๆ) คือคิดเล่นๆ กันขึ้นมามันก็ไม่แปลกอะไรเท่าไหร่หรอก แต่ถ้าถึงขั้นถ่ายเรื่องราวการใช้ชีวิตของทัพพีแบบจริงจังนี่ก็… เรากำลังพูดถึง Samson เจ้าทัพพีหน้าตาน่ารักน่าชัง และนี่คือเรื่องราว “1 วัน กับ Samson” ไปดูกันดีกว่าว่าวันๆ นึงมันจะทำอะไรบ้างนะ นี่คือ Samson เขาคือทัพพีของผมเอง เขาใช้ชีวิตอยู่ในโถผสมอาหาร แต่เขาก็สนุกไปกับ Henry ต้นไม่ในบ้านเราด้วยเหมือนกัน เขาชอบดูรายการทีวี Parks and Recreation เอาล่ะ Samson อันนี้คือซุปที่เหลือเมื่อคืน ได้เวลาทำงานที่นายรักแล้ว (เติมเองนิดหน่อย เพราะการทำงานที่เรารักนี่ #เหมียวตะปู ก็กำลังทำอยู่เหมือนกัน อุอุ) Samson นี่นายทำเลอะเทอะนะ…
-
หนุ่มจีนเฟล ได้ทรงผมแหว่งเป็นเครื่องหมายเพลย์ หลังกดหยุดวิดีโอและให้ช่างดูก่อนตัดผม
หากเราไม่รู้ว่าจะตัดผมทรงอะไรดี สิ่งที่เรามักทำเป็นประจำก็คือเข้าไปหารูปภาพหรือวิดีโอทรงผมจากอินเตอร์เน็ต แล้วนำไปเปิดให้ช่างตัดผมดู แต่ก่อนจะนำรูปไปให้ช่างตัดผมดู เพื่อนจะต้องดูรูปให้ดีๆ และอธิบายให้ช่างตัดผมเข้าในใจทรงผมที่เราต้องการ มิเช่นนั้นอาจจะได้ทรงผมที่ไม่ต้องการมา เหมือนกับหนุ่มที่เราจะนำมากล่าวถึงในวันนี้ 中国である男性が美容師に画像を見せ「こういうような髪型にして」とお願いしたら、なぜか三角ハゲにされた。 美容師に見せた画像は三枚目のとおり。 真面目すぎる美容師wwwwww pic.twitter.com/zp7oDqw0Ju — Qin↑↑↑向前冲鸭↑↑↑ (@qin_tokyo) January 3, 2019 วันที่ 3 มกราคม 2019 ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นนามว่า @qin_tokyo ได้โพสต์ภาพพร้อมกับแคปชั่นว่า “ชายจีนคนนี้ไปร้านตัดผมและเปิดรูปทรงที่เขาอยากได้ให้ช่างตัดผมดู แต่เพราะเหตุผลบางอย่างกลายเป็นว่าช่างตัดผมตัดเป็นรูปสามเหลี่ยมให้เขาเฉยเลย ช่างตัดผมนี่จริงจังไปนะ 55555″ ส่วนอันนี้เป็นต้นทางที่ชายจีนนำเรื่องราวมาแชร์ เห็นรูปสามเหลี่ยมนั่นมั้ย มันต้องเป็นแฟชั่นใหม่แน่ๆ เลยอ่ะแกร ซึ่งจริงๆ แล้วนั่นไม่ใช่ทรงผมที่เขาต้องการ เพราะรูปที่เขานำไปให้ช่างตัดผมดูเป็นรูปที่แคปมาจากวิดีโอแล้วมีเครื่องหมายเพลย์ (สามเหลี่ยม) อยู่กลางหัวพอดิบพอดี ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้!! (ซูมให้ดูกันชัดๆ ไปเลยจ้า) หลังจากที่เรื่องราวของหนุ่มจีนคนนี้ถูกโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ก็มีถูกแชร์ต่อกันอย่างรวดเร็วและชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย บ้างก็ว่า “เหล่าผู้คนที่ได้เห็นทรงผมของเขาจะต้องอยากที่จะกดสามเหลี่ยมบนหัวของเขาแน่ๆ” หรือจะเป็น “น่าเศร้าที่เขาไม่เอาปุ่มย้อนกลับ (rewind) มาอยู่ในทรงผมของเขาด้วย” บางคนก็ชื่นชมทรงผมใหม่ของเขาว่า “ฉันคิดว่าทรงผมใหม่ของเขานี่ดูดีสุดๆ…
-
สาวแชร์ เพื่อนเมาหนักมาก ฝากซื้อก๋วยเตี๋ยว แต่ได้น้องหมาของใครไม่รู้แถมมาด้วย
“แอลกอฮอล์” เราคงรู้กันอยู่ว่ามันคือน้ำเปลี่ยนนิสัย ที่หากดื่มในปริมาณมากๆ จนเมาแล้วล่ะก็ อาจจะได้เห็นนิสัยและการกระทำแปลกๆ ที่ไม่เคยเห็นในตัวของคนคนนั้นมาก่อนเลยก็เป็นได้ แล้วเพื่อนเคยสังเกตคนรอบตัวหรือตัวเองบ้างรึเปล่าว่าตอนที่เมาแล้วจะเป็นอย่างไร บางคนอาจจะเมาแล้วหลับ เมาแล้วโวยวาย เมาแล้วพูดมาก แต่คงไม่มีใครหนักเท่าเคสนี้แน่นอน เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Panida Sapanklang ได้แชร์ภาพน้องพร้อมกับแคปชั่นว่า “ตามหาเจ้าของหมาค่ะ เมื่อคืนเพื่อนเมา ไม่รู้ว่าไปอุ้มเอาหมาใครกลับมาด้วยยย ???“ เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกโพสต์ลงไปในโซเชียลมีเดีย ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ก่อนอื่นขอผู้โพสต์รีวิวก๋วยเตี๋ยวแถมน้องหมาก่อนนะ จะเอาแค่ก๋วยเตี๋ยว มันดันเอาน้องหมามาให้เลี้ยงด้วย จะเมาเหมือนหมาก็ได้ แต่จะอุ้มหมากลับมาไม่ได้นะ แถมแบบนี้คุ้มเลย หนูโดนลักพาตัวนะลูก จะมานอนชิลแบบนี้ไม่ได้ แต่ก่อนหิ้วผู้ชาย ตอนนี้อัปเลเวลหิ้วน้องหมาแทน ขโมยหมามาแบบนี้เจ้าของลำบากเลยสิ อัปเดตสุดท้าย ผู้โพสต์ได้นำตัวน้องหมาส่งคืนเจ้าของเป็นที่เรียบร้อยแล้วเน้อ . น้องถึงบ้านแล้วนะครับ หายห่วงแล้ว ปล.น้องกินเก่งมากกกก pic.twitter.com/ye99DjwFlw — อ้ายจอนนี่ 𝕏 (@blackxryker) January 6, 2019 . …
-
มหากาพย์ความรักใสๆ ของ “แม่บ้านสาวพม่า” กับ “บุรุษไปรษณีย์ไทย” ที่ทำเอาเราเขินตาม
บนโลกนี้มีความรักอยู่ด้วยกันหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบปั๊ปปี้เลิฟ ใสๆ ที่เกิดกับวัยรุ่น ความรักที่เข้าใจกันแบบผู้ใหญ่หรือจะเป็นความรักที่เรามอบให้แก่กันแบบเพื่อนแบบครอบครัว วันนี้เราก็ได้นำเรื่องราวของความรักแบบใสๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ในวันที่ 5 มกราคม 2018 มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @JpKhunpan โพสต์เรื่องราวความรักสุดมุ้งมิ้งของแม่บ้านของครอบครัวเธอมาให้เพื่อนชาวเน็ตได้รับชม เรื่องราวความรักของแม่บ้านและบุรุษไปรษณีย์ครั้งนี้จะเป็นอย่างไร เราต้องไปติดตามกัน!! เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นขึ้น จากการสั่งของออนไลน์บ่อยๆ (ฮ่า) https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081517008162742272 เจ้าของโพสต์รักและห่วงแม่บ้านคนนี้เหมือนกับน้องสาวเลยนะ https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081560299885350913 แอบช็อคเมื่อน้องมาสารภาพแบบนี้ https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081561276910788608 อนุญาตนะ แต่ไม่ให้ไปสองคน ต้องมีคนไปด้วยและต้องให้ฝ่ายชายโทรมาขออนุญาตเอง https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081561831137632258 . https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081562893663891458 ในไม่ช้าฝ่ายชายก็โทรมาให้เจ้าของโพสต์จริงๆ https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081602558584471552 พร้อมกับแนะนำตัวอย่างละเอียดเลยทีเดียว https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081603027792932864 เจ้าของโพสต์ก็เริ่มซักถามข้อมูลต่างๆ ว่าจีบน้องตั้งแต่เมื่อไหร่ https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081604031942815745 . https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081604290643353606 ถามต่อว่าตอนนี้พักอยู่แถวไหนและมีครอบครัวรึยัง https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081605937473802240 พร้อมกับถามยืนยันความแน่ใจ https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081606930068467713 ซักคำถามพื้นฐานกันเสร็จแล้วก็ขอเข้าประเด็นหลักที่ให้โทรมาในวันนี้เลยก็แล้วกัน https://twitter.com/JpKhunpan/status/1081609684077883392 รู้ว่าไม่ใช่คนไทย…
-
สาวแชร์การออมเงิน “แบงก์ 50” ทำตามโซเชียล ครบปีมีเงิน 60,000 บาท ทำได้แค่ตั้งใจ!!
เคยคิดจะออมเงินกันรึเปล่า!? เชื่อว่าใครหลายๆ คน คงจะเคยใช้สูตรออมเงินแบบต่างๆ ที่มีการส่งต่อมาบนโลกโซเชียลหลากหลายสูตร หนึ่งในนั้นก็มี “สูตรแบงก์ 50 บาท” เนื่องจากธนบัตรใบละ 50 นั้นจะหาได้ยากกว่าใบละ 20 หรือ 100 บาท จึงก่อกำเนิดเป็นสูตรว่า ถ้ามีโอกาสได้แลกเปลี่ยนหรือซื้อของ แล้วมีเงินทอนเป็นธนบัตร 50 บาท ก็ให้เก็บเอาไว้ ซึ่งวิธีนี้จะไม่ลำบากเงินในกระเป๋า แถมยังเก็บเงินให้กลายเป็นหลักหมื่นได้ จนมีการแชร์ต่อกันอย่างมากมาย!! ล่าสุดคุณปริณตรา โพสต์เฟซบุ๊กของตัวเอง เพื่อยืนยันว่าสูตรดังกล่าว สามารถเก็บเงินจาก 50 บาท ให้กลายเป็นเงินหลักหมื่นได้จริงๆ เธอเป็นแม่ค้าร้านขายไก่ และมีการกำหนดกับตัวเองว่า หากลูกค้าจ่ายเงินเป็นธนบัตรใบละ 50 บาท แล้วเป็นธนบัตรที่สภาพไม่แย่จนเกินไป ก็จะเก็บไว้ . ส่วนกระปุกออมสินของเธอ ก็ดูแนวไม่ซ้ำใคร เพราะดัดแปลงจากขวดน้ำเก่าๆ ที่ไม่สามารถบรรจุน้ำดื่มได้แล้ว ให้กลายมาเป็นหีบทองคำของตัวเธอเอง เงินที่เธอเก็บเข้ากระปุก แม้บางวันจะได้มากได้น้อย แต่มีกฎสำคัญที่บังคับตัวเองว่า “เธอจะต้องหยอดมันทุกวัน” …
-
เด็กหญิง 6 ขวบ ใช้โซเชียลช่วยชีวิตตัวเอง หลังพ่อเสพยาเกินขนาด จนพิทบูลที่เลี้ยงมาแทะร่าง!!
เรื่องราวอันน่าเศร้าและฟังดูสยดสยองนี้เกิดขึ้นในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา เมื่อเด็กหญิงวัย 6 ขวบต้องทนมอง “หมาพิทบูล” กำลังแทะใบหน้าของพ่อที่นอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน อยู่อย่างนั้นนานกว่า 24 ชั่วโมง เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 3 มกราคม 2019 เด็กหญิงเห็นว่าพ่อของเธอนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านและโดนหมาพิทบูลที่เลี้ยงไว้กำลังแทะกินใบหน้า ในขณะที่แม่เลี้ยงวัย 36 ปีของเธอก็นอนหมดสติอยู่ข้างๆ ไม่มีการระบุชื่อของเด็กและผู้ตาย เธอจึงตัดสินใจใช้สมาร์ทโฟนถ่ายรูปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโพสต์ลงโซเชียล จนทำให้คุณตาคุณยายของเธอที่อาศัยอยู่อีกเมืองรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปยังสถานที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่ก็ได้ยินเสียงของเด็กหญิงตะโกนออกมาบอกว่า “มีคนกำลังถูกหมาแทะใบหน้าอยู่ภายในบ้าน” ทำให้พวกเขาตัดสินใจพังประตูเข้าไปเพื่อทำการช่วยเหลือ จากการที่เธอโพสต์ภาพสิ่งที่เกิดขึ้นลงไปในโซเชียล ทำให้ญาติของเธอเห็นและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เธอและแม่เลี้ยงจึงสามารถรอดชีวิตมาได้ สถานที่เกิดเหตุ สารวัตร Terence Green กล่าวว่าเธอคือเด็กฉลาด รู้จักที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดีเยี่ยม จนสามารถช่วยชีวิตตัวเองและแม่เลี้ยงของเธออีกคนให้รอดผ่านสถานการณ์อันโหดร้ายมาได้ โดยจากการรายงานล่าสุดในวันที่ 6 มกราคม 2019 เด็กหญิงเล่าว่าเธอตื่นมาในตอนเช้าของวันนั้น พยายามปลุกพ่อและแม่เลี้ยง แต่ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น เอาน้ำสาดหน้าก็ไม่ตื่น หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์หมาพิทบูลที่เลี้ยงไว้เข้ามาแทะหน้าของพ่อเธอ โดยที่เด็กหญิงก็ไม่รู้ว่าควรต้องทำอย่างไรในตอนแรก จากการตรวจสอบ สารวัตร Terrence…
-
นักวิทย์งง หลังพบตัวอ่อนฉลาม ว่ายไปกินไข่ที่ยังไม่ผสมในมดลูกอีกข้างของมารดาได้
ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนว่าฉลามเป็นสัตว์ที่มีระบบการขยายพันธุ์ที่แปลก เนื่องจากฉลามบางชนิดออกลูกเป็นไข่ ในขณะที่บางชนิดออกลูกเป็นตัว แถมฉลามหลายๆ สายพันธุ์ยังมีมดลูกถึงสองอันอีกด้วย นั่นทำให้บางครั้งเมื่อต้องดูแลครรภ์ให้กับฉลาม เจ้าหน้าที่ก็อาจจะพบกับเรื่องแปลกๆ ที่ไม่น่าเชื่อ และไม่มีทางเกิดขึ้นกับมนุษย์ได้เลยเหมือนกัน อย่างในช่วงปลายเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2018 ที่ผ่านมา ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ใต้น้ำรุ่นใหม่ล่าสุดในการสำรวจครรภ์ฉลามพยาบาลสีน้ำตาล (Tawny nurse shark) พวกเขาก็พบว่า ตัวอ่อนฉลามในครรภ์มีการว่ายน้ำจากมดลูกข้างหนึ่งของมารดา ไปยังมดลูกอีกข้างหนึ่งอย่างน่าประหลาด พฤติกรรมที่สุดแสนจะประหลาดของตัวอ่อนฉลามนี้ แม้ว่าจะยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไรก็ตาม แต่เหล่านักวิทยาศาสตร์ก็เชื่อกันว่าน่าจะเกิดขึ้นจากการที่ลูกฉลามพยายามไปกินไข่ของพี่น้องที่ยังไม่ได้รับการผสมกับน้ำเชื้อที่มดลูกอีกข้างหนึ่ง เป็นไปได้ว่าเพราะฉลามสายพันธุ์นี้มีมดลูกสองข้าง พวกมันจึงสามารถปฏิสนธิอีกครั้งได้ แม้จะมีลูกในครรภ์อยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้มารดามีลูกมากกว่าหนึ่งตัว และเพิ่มโอกาสรอดของตัวเองให้มากขึ้น ลูกฉลามจึงพยายามลดโอกาสการปฏิสนธิอีกครั้งด้วยการลดจำนวนไข่ที่ยังไม่ได้รับการผสมในมดลูกลง เอาเข้าจริงๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการรายงานว่าลูกฉลามว่ายน้ำข้ามไปยังมดลูกอีกข้าง เพราะในปี 1993 เองก็เคยมีบันทึกของช่อง Discovery ที่บอกว่าพบลูกฉลามว่ายน้ำข้ามไปยังมดลูกอีกข้างมาแล้ว เพียงแต่ว่าในเวลานั้นการค้นพบนี้ทำโดยการเจาะรูส่องกล้องทำให้ หลักฐานที่ว่าไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควรเนื่องจาก “ไม่ได้เกิดขึ้นในระหว่างการสังเกตการณ์ตามธรรมชาติ” และมีความเป็นไปได้ที่ลูกฉลามจะเพียงแค่ว่ายหนีกล้องเท่านั้น อย่างไรก็ตามการว่ายน้ำข้ามมดลูกนั้นไม่ใช่ความแปลกเพียงอย่างเดียวของฉลามชนิดนี้ เพราะจากข้อมูลที่เคยมีการบันทึกไว้ ดูเหมือนว่าตัวอ่อนของฉลามยังสามารถโผล่หัวออกไปดูโลกภายนอกได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องคลอดออกจากครรภ์มารดาด้วย ที่มา livescience
-
หนุ่มน้อยโตมากับพี่เหมียว ทั้งคู่กลายจึงเป็นพี่น้องต่างสายพันธุ์ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
พ่อแม่มือใหม่ส่วนใหญ่มักจะให้ลูกอยู่ห่างจากสัตว์ เพราะห่วงความปลอดภัยของลูก แต่คุณจะไม่รู้เลยว่าเด็กกับสัตว์เลี้ยงเข้ากันได้ดีแค่ไหน จนกว่าคุณจะปล่อยให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน คุณพ่อและคุณแม่ของน้องกัปตันเป็นหนึ่งในพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกมากับแมวเหมียว และพวกเขาก็ได้แชร์เรื่องราวของลูกน้อยกับเจ้าเหมียวลงในโซเชียล เพื่อให้เห็นว่ามันเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าแค่ไหน เรื่องราวของครอบครัวนี้น่าประทับใจตั้งแต่เริ่มเลยละค่ะ โดยก่อนที่พ่อแม่จะแต่งงานกันและมีน้องกัปตัน คุณแม่สิริพร ศิริลักษณ์ ได้พบกับแมวเหมียวตัวหนึ่งที่ถูกทิ้งที่บันไดหนีไฟของคอนโดที่พวกเขาอยู่ คุณสิริพรเห็นแม่บ้านเอาอาหารไปให้เจ้าเหมียวตัวนั้น จึงได้สอบถามแม่บ้านว่ามันเป็นแมวใคร มาจากไหน? จนได้ทราบว่าเจ้าเหมียวเป็นของคนที่เคยอยู่ในคอนโดนี้ แต่พอเจ้าของย้ายออกไป พวกเขาไม่ได้เอามันไปด้วย คุณสิริพรรู้สึกสงสารเจ้าเหมียวมาก จึงได้ตัดสินใจรับมาเลี้ยง และตั้งชื่อให้มันว่า ชาคริต… ชาคริตเป็นแมวตัวแรกที่เธอเลี้ยง หลังจากที่ไปรับเจ้าเหมียวมา คุณสิริพรก็อาบน้ำให้มัน และพาไปฉีดยา… เนื่องจากคุณสิริพรทำธุรกิจด้านความงาม เธอจึงพาเจ้าชาคริตไปอยู่ที่ร้านด้วย เพียงไม่นานมันก็กลายเป็นขวัญใจสาวๆ ที่มาใช้บริการ พี่ชาคริตอยู่กับคุณสิริพรจนกระทั่งเธอแต่งงานกับคุณพ่อน้องกัปตันคือคุณธนวิชช ยายี และทั้งคู่ก็มีลูกด้วยกันใน 2 ปีต่อมา นั่นก็คือ น้องกัปตันนั่นเอง ในช่วงระหว่างตั้งท้องน้องกัปตัน คุณแม่เล่าว่าเธอได้อุ้มเจ้าชาคริตมาแนบท้อง และพูดกับมันว่า “พี่ชาคริตจะมีน้องแล้วนะ ชื่อพี่กัปตันนะลูก พี่ชาคริตต้องรักน้อง อย่าแกล้งน้องนะ ยอมน้องนะลูก” คุณแม่พูดแบบนี้ทุกวันและทุกครั้งที่อุ้มพี่ชาคริต ที่สำคัญ แม้ว่าแม่จะมีลูกน้อย แต่เธอไม่เคยให้ความสำคัญกับเจ้าเหมียวน้อยลงเลย…
-
สาวฉีด “สเปรย์พริกไทย” ป้องกันตัวเองจากสุนัข ก่อนโดน “เจ้าของหมา” พุ่งเข้ามากัด!!
แน่นอนว่าเราคงไม่พอใจหากมีใครมาทำร้ายสัตว์เลี้ยงของเรา แต่การตอบโต้ด้วยการทำร้ายร่างกายคนคนนั้นคืนก็อาจไม่ใช่ทางออกที่ดี ตัวอย่างของเหตุการณ์ในลักษณะนั้นเกิดขึ้นในอุทยาน Anthony Chabot Regional Park เมืองโอ๊กแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา หญิงสาวเจ้าของหมาถูกจับกุมตัว หลังจากเธอได้พุ่งเข้าไปทำร้ายร่างกายหญิงสาวอีกคน และกัดเข้าไปที่แขนจนกลายเป็นแผลฉกรรจ์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 3 มกราคม 2019 เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในตอนที่ Alma Cadwalader หญิงสาววัย 19 ปี ได้พาสุนัข 2 ตัวออกไปเดินเล่นบริเวณอุทยานดังกล่าว โดยหมาสองตัวนั้นเป็นพันธุ์ผสมร็อตไวเลอร์ที่มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ จากการรายงานกล่าวว่า หมาทั้งสองตัวของเธอนั้นพยายามจะเข้าจู่โจมหญิงสาวอีกคนที่กำลังวิ่งจ็อกกิ้งอยู่ ด้วยความตกใจ จึงทำให้เธอคนนั้นป้องกันตัวเองด้วยการใช้ “สเปรย์พริกไทย” ฉีดใส่หมาตัวหนึ่งและฉีดไปรอบๆ Alma เจ้าของหมา เมื่อเห็นอย่างนั้น Alma จึงพุ่งเข้าไปผลักหญิงสาวคนดังกล่าว ชกต่อยตบตี ก่อนที่จะกัดเข้าไปที่แขนของเธอจนกลายเป็นแผลลึกอย่างที่เห็นนี้ รอยแผลที่ถูกกัด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงลงมาสำรวจพื้นที่เกิดเหตุ สอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์และเหยื่อที่ถูกทำร้ายร่างกาย จนสามารถระบุผู้ต้องสงสัยและเข้าจับกุมตัวได้ในวัดถัดมา Alma โดนแจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส” และ “ขโมยขวดสเปรย์พริกไทย”…
-
“เด็กทารก” นอนดิ้นทุรนทุราย หลังมีคนเอา “เทปกาว” ปิดทับจุกหลอก จนเอาออกไม่ได้
คลิปนี้กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียล เมื่อเด็กน้อยวัย 12 สัปดาห์ ถูกพบว่านอนดูด “จุกหลอก” โดยที่มี “เทปกาว” ปิดทับเอาไว้ ไม่สามารถเอาออกมาด้วยตัวเองได้ นอนดิ้นไปมาอย่างน่าสงสาร คลิปดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ลงอินสตาแกรมในช่วงต้นเดือนมกราคม 2019 ที่ผ่านมา เมื่อมีคนไปถ่ายคลิปและโพสต์บอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสถานพยาบาลแห่งหนึ่งของประเทศรัสเซีย เจ้าของคลิปบอกว่าเด็กต้องทนอยู่ท่ามกลางความหนาวเย็น ไม่มีฮีทเตอร์ทำความร้อนภายในห้อง มองไม่เห็นแม่ของเด็ก โดยที่ทารกน้อยต้องตกอยู่ในสภาพนี้ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปอดของเขาได้ สถานพยาบาลที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น อย่างไรก็ตาม หัวหน้าแพทย์ของทางสถานพยาบาล The Republican Perinatal Center Khadi Ugurchieva ในเมืองแนซราน ผู้รับผิดชอบดูแลเด็กคนดังกล่าว บอกว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่บุคลากรภายในเป็นคนทำ “พยาบาลของทางเราหายไปจากห้องนั้นเพียงแค่ราวๆ 3-5 นาที โดยในช่วงเวลานั้นก็เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และถูกถ่ายคลิปเก็บเอาไว้” เธอกล่าว หัวหน้าแพทย์ของสถานพยาบาล หัวหน้าแพทย์อธิบายต่อไปว่า “การถ่ายคลิปนั้นไม่ได้เป็นภัยต่อสุขภาพร่างกายของเด็ก แต่มันส่งผลกระทบต่อหลักศีลธรรม เป็นภัยต่อบุคลากรของสถานพยาบาลและคนไข้” โดยทางสถานพยาบาลยังเชื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็นฝีมือของคนที่ถ่ายคลิปเสียเอง ทางด้านแม่ของเด็กนั้น พวกเขาก็บอกว่าเธอมักจะอยู่ข้างๆ…
-
สื่อต่างชาติจับตามอง “สาวซาอุ” โดนกักตัวที่ไทย – ไม่อยากถูกส่งกลับไป “ตาย” ที่บ้านเกิด
ชื่อของ Rahaf Mohammed Alqunun หญิงสาววัย 18 ปีชาวซาอุดีอาระเบีย กำลังเป็นประเด็นที่สื่อมวลชนทั่วโลกจับมามองในช่วงรอบวันที่ผ่านมา เธอระบุว่าหนีจากการแต่งงานที่ประเทศบ้านเกิด มาต่อเครื่องที่ประเทศไทยเพื่อจะลี้ภัยในออสเตรเลีย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศไทยกักตัวไว้ที่สนามบิน นอกจากนั้นยังโดนยึดพาสปอร์ตโดยเจ้าหน้าที่ซาอุฯ และเตรียมถูกส่งตัวกลับประเทศ ซึ่งเธอยืนยันว่าถ้ากลับไปครอบครัวจะต้องฆ่าเธอแน่ๆ เรื่องราวดังกล่าวมีความเป็นมาอย่างไร ขอสรุปให้เข้าใจเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ… – สำนักข่าวต่างประเทศรายงานตรงกันว่า เมื่อวานนี้ (6 มกราคม 2019) หญิงสาวซาอุวัย 18 ปี Rahaf Mohammed Alqunun ถูกทางการไทยกักตัวไว้เมื่อถึงสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมกับยึดเอกสารประจำตัวไปทั้งหมด – เธอให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า เธอหนีจากครอบครัวในประเทศซาอุฯ ด้วยสายการบินคูเวตแอร์ไลน์ มาต่อเครื่องที่ประเทศไทย ก่อนจะลี้ภัยในออสเตรเลีย – สาเหตุที่ต้องหนี เพราะครอบครัวเธอบังคับให้แต่งงาน เมื่อเธอไม่ยินยอมก็ทำร้ายร่างกาย กักขังเธอไว้ถึง 6 เดือน – เมื่อครอบครัวและตัวเธอมาเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศคูเวต เธอจึงใช้โอกาสนี้ในการหลบหนีจากครอบครัว – เมื่อถามไปยังเจ้าหน้าที่ไทย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล (รักษาการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ระบุว่าได้จับกุมเธอจริง…
-
ชาวเน็ตเสียงแตก หลังได้ชมคลิปรถส่งของขับทับน้องหมาที่กำลังนอนอยู่บนถนน
กลายเป็นประเด็นดราม่าบนโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์รถส่งของขับทับสุนัขในซอยแห่งหนึ่ง โดยภายในคลิปวิดีโอดังกล่าว ได้เผยให้เห็นรถส่งของของบริษัทหนึ่งที่ขับเข้ามาในซอย ซึ่งมีสุนัข 4 ตัวนอนอยู่ ก่อนที่จะขับทับสุนัขตัวหนึ่ง และขับออกไปโดยไม่จอดลงมาดู “ใครเจอรถปลากระป๋องXXบอกด้วยนะครับในแก่งคอยหรือตาลเดี่ยว คือมึงวิ่งในซอยมึงก็เบรคชะรอบ้างเถอะก็รู้ว่ามีหมานอนอยู่. หรือมึงตั้งใจก็ไม่รู้นะ ใครเจอช่วยแจ้งทีครับ จอดดูซักหน่อยก็ไม่มี” ข้อความจากเจ้าของโพสต์ โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ต่อมากกว่า 548 ครั้ง และมีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งก็มีทั้งฝั่งที่คิดว่ารถส่งของคันดังกล่าวผิด ในขณะที่อีกฝั่งก็บอกว่าเจ้าของโพสต์น่าจะดูแลหมาตัวเองให้ดีกว่านี้ ชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ที่นี่ เลย ความคิดเห็นของชาวเน็ตต่อเหตุการณ์นี้ . . บางคนก็คิดว่าน่าจะเลี้ยงน้องหมาไว้ในบ้าน แล้วถ้าเกิดไม่ใช่รถยนต์แต่เป็นมอเตอร์ไซค์ หรือรถคันเล็กล่ะ?? . ถนนนะไม่ใช่ที่นอน ส่วนรายนี้ก็เห็นใจทั้งสองฝั่ง อืม… แล้วเพื่อนๆ ล่ะ คิดอย่างไรกันบ้างกับเรื่องนี้ ที่มา เฮียปื๊ด รับจบ
-
14 ภาพเหตุการณ์สุดน่ารัก ที่ทำให้รู้ว่า Disneyland คือสถานที่มหัศจรรย์จริงๆ
Disneyland คือสวนสนุกที่มีการออกแบบและสร้างขึ้นภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงจาก Walt Disney ซึ่งภายในสวนสนุกจะมีเครื่องเล่นและกิจกรรมต่างๆ ในธีมของ Disney ไม่ว่าจะเป็น Toy Story, Tomorrowland, Avengers และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งพนักงานที่ให้บริการเรานั้นก็ถูกคัดสรรมาอย่างดีและสวมบทบาทเป็นตัวละครต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ หากไม่เชื่อล่ะก็ วันนี้เราเลยจะนำเหตุการณ์สุดน่ารักที่เกิดขึ้นใน Disneyland ซึ่งมีชาวเน็ตแชร์มาให้ได้ดูกันครับ จะน่ารักและตลกขนาดไหน เราไปรับชมกันเลย 1. เมื่อ Donald Duck เจอครอบครัวของตัวเอง 2. เมื่อสุนัขนำทางได้เจอกับ Pluto 3. โมเมนต์ที่ Minnie ตระหนักได้ว่าเด็กชายคนนี้หูหนวก เธอจึงใช้ภาษามือสื่อสารกับเขาแทน 4. “เพื่อนของฉันไป Disneyland โดยแต่งตัวเป็น Anna และนี่คือรีแอคชั่นของ Anna เมื่อเห็นเพื่อนของฉัน” 5. เมื่อ Bert กับ Mary (จากเรื่อง แมร์รี่…
-
ชาวเน็ตรวมพลังตามหาสาวขี้กังวล ที่ทิ้งโน้ตระบายว่าจะไปบอกชอบเพื่อนเอาไว้บนเครื่องบิน
หากคุณรู้สึกเบื่อและกังวลเอามากๆ คุณจะระบายมันออกมาอย่างไร? บางคนอาจจะกัดเล็บ กัดปาก แต่สำหรับสาวคนที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ เธอเลือกที่จะเขียนข้อความเพื่อระบายแทน โดยสาวคนดังกล่าวคือ Andrea เธอกำลังจะเดินทางไปเพื่อบอกชอบเพื่อนสนิทของเธอ ซึ่งเธอกังวลเป็นอย่างมาก จึงเขียนระบายเป็นข้อความลงในถุงอาเจียนบนเครื่องบิน ก่อนที่เธอจะลงจากเครื่องไป จนกระทั่งวันหนึ่งมีพนักงานมาทำความสะอาดที่นั่งของเธอและพบข้อความสุดแสนโรแมนติก จึงนำไปตั้งกระทู้ใน Reddit ในหัวข้อ “เจอสิ่งนี้ในกระเป๋าหลังที่นั่งเครื่องบินที่ฉันทำความสะอาด ไม่ว่าคุณจะอยู่ไหน ฉันขอให้มันผ่านไปได้ด้วยดีนะ” โดยข้อความที่เธอเขียนใส่กระดาษมีใจความว่า “หากคุณอ่านนี่อยู่ สวัสดี 🙂 ฉันชื่อ Andrea อายุ 21 ตอนนี้ฉันรู้สึกเบื่อมาก และกำลังอยู่บนเครื่องที่เดินทางจากไมอามีเพื่อไปดีซี ฉันซื้อตั๋วเมื่อตอนตี 4 เพราะว่าฉันแอบชอบเพื่อนสนิท ซึ่งเขากำลังบินจากบอสตันมานิวออร์ลีนส์และจะแวะเปลี่ยนเครื่องที่ดีซี ซึ่งจริงๆ แล้วฉันอาศัยอยู่ในดีซีและกำลังจะกลับไปอยู่แล้ว ฉันก็เลยคิดว่าทำไมฉันไม่ไปเซอร์ไพรส์เขาที่สนามบินขณะที่กำลังรอเปลี่ยนเครื่องอยู่ล่ะ ฉันจะบอกเขาว่าฉันชอบเขา ดูเหมือนฉันกล้าหาญมากเลยใช่มั้ย? แต่ฉันต้องบินไปเรียนที่ออสเตรเลียหนึ่งเทอมในอีก 4 วันข้างหน้าและฉันก็จะไม่ได้เจอเขาอีกเป็นเวลา 5 เดือน ดังนั้นนี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่ฉันมี” “ฉันก็ไม่รู้ว่าจะพูดว่าอะไร แต่ฉันจะพูดมันออกไป ทำไมฉันจะไม่ทำล่ะ แบบว่าฉันกำลังจะออกไปบอกเขาแล้ว จะให้สนอะไรอีกล่ะ ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าคุณเป็นใคร แต่ก็ช่วยอวยพรให้ฉันด้วยนะ…
-
Porsche เผยความลับของรถต้นแบบทั้ง 5 รุ่น ที่ไม่เคยเข้าสู่กระบวนการผลิต
ก่อนที่จะกลายเป็นรถยนต์หนึ่งคันออกมาให้พวกเราได้ใช้งานกันนั้น มันจะต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ การผลิตรถต้นแบบอย่างเป็นต้น ซึ่งรถต้นแบบที่ว่านี้ บางคันก็มาพร้อมกับการออกแบบที่โดดเด่น ในขณะที่บางคันก็ถูกเก็บเข้ากรุไปพร้อมกับเทคโนโลยีลับของทางค่ายเลยก็มี แต่ในครั้งนี้ ค่ายรถชื่อดังจากเยอรมนีอย่าง Porsche ได้นำความลับของรถต้นแบบทั้ง 5 คันที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน เอามาให้แฟนๆ ได้ชมกัน… 5. Porsche 984 มันคือรถที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในช่วงระหว่างปี 1984-1987 เพื่อให้เป็นรถเปิดประทุนขนาดเล็กน้ำหนักเบา ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบขนาด 2.0 ลิตรให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ทางค่ายตั้งราคาของมันเอาไว้ที่ 14,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 440,000 บาท) แต่น่าเสียดายที่พิษเศรษฐกิจ ทำให้รถคันนี้ไม่ได้ไปต่อ . . . . 4. Porsche Cayenne Cabrio มันคือรถเปิดประทุนต้นแบบของทางค่ายที่พยายามผสมผสานกันระหว่างรถเปิดประทุนและ SUV ซึ่งทำให้มันมีรูปร่างหน้าตาแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นหลังคาแบบ targa และท้ายรถที่เป็นการผสมผสานของรถต้นแบบ 2 คันในคันเดียว เนื่องจากทีมออกแบบต้องการเห็นด้านท้ายของจริง แบบไม่ต้องทำรถต้นแบบออกมา 2…
-
คอนเซปต์สมาร์ทคีย์สุดล้ำของ Nissan GT-R มองเผินๆ นึกว่าสมาร์ทโฟนเครื่องเล็ก
ในอนาคตข้างหน้า โลกของเราอาจจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อาจจะมีหน้าตาเปลี่ยนไป จนบางครั้งมันอาจจะทำให้คุณทึ่งได้ ตัวอย่างเช่นกุญแจรถยนต์สุดล้ำชิ้นนี้ คอนเซปต์สมาร์ทคีย์ที่เพื่อนๆ กำลังจะได้ชมกันต่อไปนี้ เป็นผลงานการออกแบบของ Danny Burnside นักออกแบบจาก Square Circle Media ซึ่งอย่างที่ได้เกริ่นไป ถ้าหากได้เห็นหน้าตาและฟังก์ชั่นการทำงานของมันล่ะก็ หลายอาจจะเกิดความสับสนได้ว่า ตกลงเจ้าสิ่งนี้คือกุญแจรถยนต์ หรือสมาร์ทโฟนกันแน่?? ปัจจุบันกุญแจแบบสมาร์ทคีย์นั้น ได้ถูกนำมาใช้กับรถยนต์จากค่ายหรูต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นรถของทาง BMW ที่หลายคนคงจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งคอนเซปต์การออกแบบที่ถูกหยิบมาใช้กับกุญแจรถสปอร์ตตัวชูโรงของทางค่าย Nissan ซึ่งมันมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลต่างๆ และฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายเรียกได้ว่าลืมกุญแจรีโมทแบบเดิมไปได้เลย… กุญแจตัวต้นแบบของ Nissan GT-R ชิ้นนี้ยังเป็นเพียงแค่คอนเซปต์การออกแบบเท่านั้น โดยมันจะประกอบด้วยหน้าจอ TFT ทัชกรีนไร้ขอบที่จะแสดงข้อมูลต่างๆ ของรถ ไม่ว่าจะเป็น ระดับน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมระยะทางสูงสุดที่รถสามารถวิ่งได้ ระยะเวลาที่จะต้องนำรถเข้าเช็ค การสตาร์-ดับเครื่องยนต์ และการเปิดปิดระบบปรับอากาศภายในรถ ระบบล็อค จะปลดล็อคทั้งหมด หรือทีละจุดก็ได้ . ระดับน้ำมันเครื่อง สตาร์ทเครื่องก็ได้…
-
จักรยานปั่นย้อนศร ชนรถเก๋งที่ขับสวนมา คนขับไม่เป็นอะไร แต่รถเก๋งบอกเลยว่าหนัก
ถ้าหากถามว่ารถยนต์กับรถจักรยาน รถคันไหนที่มีขนาดใหญ่กว่ากัน คงจะไม่ใช่คำถามที่ตอบยาก หรือต้องใช้ตัวช่วยโทรถามคนทางบ้านอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากเราขอถามต่ออีกนิดว่า แล้วถ้ารถทั้งสองคันพุ่งชนกันล่ะ คันไหนจะได้รับความเสียหายมากกว่ากัน?? อ่า… เก็บคำตอบของคุณเอาไว้ในใจแล้วลองไปพบกับเรื่องราวเหนือความคาดหมายเรื่องนี้ก่อนดีกว่า ภาพที่เพื่อนๆ ได้ชมกันไปนั้นคือภาพเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ โดยตามรายงานของสำนักข่าว CGTN ระบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าจองรถจักรยาน ได้ปั่นย้อนศรเข้ามาในถนนและเกิดพุ่งชนกับรถเก๋งคันสีขาวที่เห็นในภาพ จนทำให้กันชนหน้ารถยุบเข้าไปอย่างที่เห็น ส่วนรถจักรยานนั้นกลับไม่เป็นอะไรเลย แถมคนขับรถยังได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตบางส่วนเกิดความสงสัยว่านี่อาจจะไม่ใช่ภาพจริง และเป็นเพียงการจัดฉาก หรือการถ่ายโฆษณาเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมืองเซินเจิ้นได้ออกมายืนยันว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริง พร้อมกับโพสต์คลิปวิดีโอยืนยันอีกด้วย อ่ะ… ใครไม่เชื่อไปดูกันได้ แหม่… อยากรู้เลยนะเนี่ยว่ารถยี่ห้ออะไร ฮ่าๆ ที่มา China Xinhua News, ndtv
-
1938 Bugatti Type 57SC รถคลาสสิคระดับตำนาน มีคันเดียวในโลก ราคา 1,270 ล้าน
ความสวยงามของรถคลาสสิค คือสิ่งที่ทำให้หลายคนเกิดความหลงใหลและชื่นชอบยานยนต์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวเหล่านี้ บางคันอาจจะเป็นรถที่มีประวัติอันยาวนาน ในขณะที่บางคันอาจจะเป็นหนึ่งในคอลแลคชั่นหายากของเหล่าคนดัง ซึ่งสำหรับใครที่ชื่นชอบรถแบบนี้ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่ขอแค่เพียงได้เห็นก็ชื่นใจแล้วใช่ไหมล่ะ และในครั้งนี้เอง #เหมียวเวจจี้ ก็มีรถคลาสสิคอีกหนึ่งคันที่สวยโดดเด่น จากคอลเลคชั่นของนักออกแบบชื่อดังอย่าง Ralph Lauren มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน รถสีดำดีไซน์โดดเด่นคันนี้คือ 1938 Bugatti Type 57SC Atlantic Coupe ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรถหายากอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ Bugatti Type 57SC Atlantic Coupe ถูกออกแบบโดย Jean Bugatti และลูกชายของเขา Ettore ซึ่งถูกผลิตออกมาเพียงแค่ 3 คันเท่านั้น และในปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 1 คันบนโลก!! แน่นอนว่าด้วยความหายากระดับนี้ ทำให้มันมีค่าตัวสูงเกือบ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,270 ล้านบาทเลยทีเดียว Bugatti Type 57SC Atlantic Coupe ตกเป็นของ Ralph Lauren เมื่อปี 1988 และปัจจุบันมันถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีที่พิพิธภัณฑ์ Mullin Automotive Museum ในนครลอสแอนเจลิส…
-
Suzuki Lapin Mode รถคันเล็กขวัญใจสาวๆ ญี่ปุ่น ค่าตัวสุดน่ารักเริ่ม 390,000 บาท
Suzuki Lapin ถือได้ว่าเป็นรถ Kei car อีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และด้วยดีไซน์บวกกับความน่ารักของมันนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ลูกค้ามากกว่า 90% ที่เป็นเจ้าของรถคันนี้จะเป็นคุณผู้หญิง และล่าสุดทางค่าย Suzuki เองก็ได้เผยโฉม Lapin รุ่นพิเศษที่มาในชื่อ Suzuki Lapin Mode โฉมใหม่สุดน่ารักทั้งดีไซน์และราคา Suzuki Lapin Mode 2019 คันนี้คือรถรุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับแต่งดีไซน์ด้านนอกนิดหน่อยจาก Suzuki Lapin โดยทางค่ายจะเน้นความเท่ และหรูหราขึ้นมาอีกนิด แต่ยังคงคอนเซปต์ความน่ารักไว้เหมือนเดิม โดยส่วนที่จะแตกต่างจาก Lapin รุ่นธรรมดาก็คือกระจังหน้า ห้องโดยสารภายในตกแต่งใหม่ด้วยผ้าสีน้ำเงิน ฝาครอบกระทะล้อทรูโทนสีเงิน-ขาว กระจังหน้ารูปกระต่ายและฝาครอบล้อทูโทนสีเงิน-ขาว ห้องโดยสารภายในสีครีม-น้ำเงิน Suzuki Lapin Mode ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบความจุ 0.66 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 52 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 63 นิวตัน-เมตร ที่…
-
หนุ่มถูกเพื่อนหลอกว่าจะมาฉลองวันเกิดในโรงแรมหรูด้วย สุดท้ายไม่มาบิลเกือบแสนหนีสิครับ!!
ในโอกาสพิเศษๆ อย่างการฉลองวันเกิด เราก็อาจจะมีมื้อพิเศษสักมื้อเป็นของขวัญให้กับตัวเอง แต่ถึงอย่างไรแล้วก็ต้องดูกำลังเราด้วยเพราะบางทีถ้าเลือกอะไรที่เกินตัวเกินไปก็อาจจะเกิดความเดือดร้อนขึ้นได้ อย่างเช่นในกรณีของนักศึกษาคนนี้ ที่เลือกจะฉลองวันเกิดตัวเองด้วยการเข้าไปเปิดไวน์จิบในโรงแรมหรู ทั้งๆ ที่เขามีเงินเพียงแค่ 20 ปอนด์ (ประมาณ 800 บาท) ในกระเป๋าเท่านั้น Yahya Egeh ถึงกับกุมขมับ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมาเมื่อ Yahya Egeh นักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้รับเงินเป็นของขวัญจากคุณแม่เป็นจำนวน 20 ปอนด์ และตั้งใจเอาไว้ว่าจะนำเงินนี้ไปซื้อเบอร์เกอร์อร่อยๆ กินฉลองวันเกิดอายุครบ 20 ปีสักหน่อย แต่ว่าเพื่อนของเขาที่ชื่อว่า Tallulah ก็โทรศัพท์มาหาแล้วชวนว่าโอกาสพิเศษๆ อย่างนี้ไปกินอาหารบนโรงแรมหรูกันดีกว่า แล้วเขาก็ยอมเชื่อด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบได้ ระหว่างรอเพื่อนคนนี้ให้มาถึงโรงแรม The Savoy กลางกรุงลอนดอนที่นัดหมายกันไว้ Yahya ก็เริ่มฉลองด้วยการเปิดไวน์ Chateau Mouton Rothschild ปี 2004 ซึ่งเป็นไวน์ระดับโลกและมีราคาแพงระยับถึง 1,750 ปอนด์ (ประมาณ 71,000 บาท) มาดื่ม พร้อมทั้งสั่งอาหารอื่นๆ มากินด้วย จนในที่สุดแล้วมื้อนี้เขาก็ฟาดไปทั้งสิ้นเป็นเงินกว่า 2,146 ปอนด์ (ราวๆ 87,000 บาท)…
-
มารู้จัก ‘สปิกซ์มาคอว์’ นกสวยงามและหายาก จนแทบไม่มีเหลืออยู่บนโลกใบนี้แล้ว
ภายในโลกที่สัตว์มีสีสันสวยงามในแบบของตัวเองอยู่มากมาย นก ‘สปิกซ์มาคอว์’ ก็ยังโดดเด่นในสายตาของคนที่ได้เห็นเสมอ ด้วยสีสันสีน้ำเงิน-ฟ้าสดใสไม่มีใครเหมือน แต่พวกมันเกือบจะไม่เหลือให้เราเห็นแล้ว เจ้าสปิกซ์มาคอว์ หรือนกมาคอว์สีน้ำเงิน ถูกค้นพบครั้งแรกในแถบประเทศบราซิล ตั้งแต่ตอนที่พวกมันถูกค้นพบ พวกมันก็เป็นสัตว์ที่มีจำนวนเหลือน้อยแล้ว จึงมีคนพบเห็นพวกมันไม่มาก https://www.instagram.com/p/BfMSZ75nzTT/?utm_source=ig_embed พวกมันเพิ่งเป็นที่รู้จักมากในปี 2011 เนื่องจากถูกนำไปใช้เป็นต้นแบบสำหรับตัวละครในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Rio ซึ่งได้รับความนิยมจากคนดูพอสมควร ถึงพวกมันจะเริ่มได้รับความสนใจจากคนมากขึ้น แต่จำนวนของพวกมันก็ยังคงมีน้อยเหมือนเดิม และดูเหมือนจะลดลงไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงปี 2,000 เป็นต้นมา นักอนุรักษ์ก็เริ่มสงสัยว่านกมาคอว์สีน้ำเงินในธรรมชาตินั้นสูญพันธุ์ไปแล้ว เนื่องจากนานมากแล้วที่ไม่มีคนเห็นพวกมันเลย จนเมื่อปี 2018 องค์กรที่เฝ้าดูแลสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่านกสปิกซ์มาคอว์ตามธรรมชาติ ถูกจัดว่าสูญพันธุ์ไปเรียบร้อยแล้ว https://www.instagram.com/p/Bh-CkMTADee/?utm_source=ig_embed ปัจจุบันนกมาคอว์สีน้ำเงินหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัว และอยู่ในความดูแลของนักอนุรักษ์สัตว์เท่านั้น โดยพวกเขาหวังว่าจะสามารถขยายพันธุ์มันได้สำเร็จ และนำพวกมันกลับคืนสู่ธรรมชาติเพื่อให้ขยายพันธุ์ต่อไปอีก ดังนั้นนกชนิดนี้จึงถือเป็นนกที่หาดูได้ยากมากๆ ใครที่เคยเห็นพวกมันตัวเป็นๆ ตามธรรมชาติถือว่าโชคดีมากๆ เลยล่ะ แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้ามนุษย์ช่วยดูแลและขยายพันธุ์พวกมันสำเร็จจริงๆ เราอาจจะได้เห็นพวกมันอยู่ตามธรรมชาติอีกครั้งก็ได้ ที่มา: BRIGHT SIDE, Act-Parrot, Al…
-
หมีถูกขังนาน 7 ปี และถูกบังคับให้เต้นเพื่อเงิน ได้รับอิสระหลังรอคนมาช่วยอยู่นาน
ในขณะที่หมีในป่าได้ใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ และมีอิสระที่จะใช้ชีวิตตามวิถีของหมี มีหมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ถูกคนจับไปฝึกเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้ตัวเอง พวกมันส่วนมากโดนทรมาน เพื่อบังคับให้พวกมันทำการแสดงตามที่เจ้าของต้องการ บางตัวก็ถูกถอนเขี้ยวเล็บออกเพื่อไม่ให้ทำอันตรายคนได้ Raju ก็เป็นหนึ่งในหมีจำนวนนั้นเช่นกัน ตั้งแต่เด็กมันก็ถูกคนฝึกให้ทำท่าเต้นอยู่ข้างถนนของประเทศอินเดีย เพื่อให้คนที่ผ่านไปมามอบเงินให้คนที่ดูแลมัน และหากไม่ทำตาม คนที่ฝึกมันก็จะดึงเชือกที่ผูกกับตัวมันอยู่ ทำให้เจ้าหมีรู้สึกเจ็บจนต้องยอมเต้นต่อไป มันถูกใช้เหมือนเป็นเครื่องมือหาเงินที่แสดงความต้องการของตัวเองไม่ได้ แน่นอนว่ามีคนที่ต้องการใช้ประโยชน์จากพวกหมีแล้ว ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการช่วยพวกมันให้เป็นอิสระเช่นกัน พวกเขาเป็นกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ที่พยายามช่วยเหลือหมีไปเรื่อยๆ แต่ก็ทำได้อย่างมีข้อจำกัด กว่าที่พวกเขาจะมาเจอ Raju ในปี 2009 มันก็ถูกบังคับให้เต้นมานาน 7 ปีแล้ว แต่พอมันถูกพบโดยกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Wildlife SOS มันก็ได้รับอิสระและไม่ถูกบังคับให้เต้นอีก Raju เป็นหมีสลอธที่หายากและใกล้สูญพันธุ์แล้ว เมื่ออาสาสมัครไปพบจึงอยากดูแลมันให้ดีที่สุด เจ้าหมีจึงถูกส่งตัวไปอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ซึ่งเป็นผืนป่าที่มันจะได้รับอิสระ แต่ก็มีมนุษย์คอยช่วยดูแลอีกแรงหนึ่งด้วย ถึงแม้ตลอดเวลาที่ผ่านมา การฝึกของมนุษย์จะสร้างแผลเป็นไว้บนร่างกายมันหลายแห่ง แต่ตอนนี้เจ้าหมีก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีรอยแผลเพิ่มแล้ว แถมยังได้ใช้ชีวิตตามใจชอบในนั้นด้วย ไม่ต้องโดนบังคับทำงานอีกต่อไปแล้ว ปัจจุบัน Raju ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์มานาน 9 ปีแล้ว ชีวิตประจำวันของมันมีแค่ตื่นมาเล่นกับเพื่อน เดินเล่นในป่า และเล่นซนกับเพื่อนๆ…
-
เชิญชม 10 อันดับสัตว์ที่จัดว่าขี้เกียจที่สุดในโลก ใครเป็นตัวไหนไปเทียบเอาเอง
ถ้าคุณเห็นเจ้าแมวเจ้าหมาที่บ้านมันนอนสบายทั้งวันแล้วรู้สึกว่ามันขี้เกียจล่ะก็ เราขอบอกคุณว่ามีสัตว์ที่ขี้เกียจกว่ามันเยอะเลย สัตว์พวกนี้นอกจากจะนอนเก่งแล้ว มันยังไม่ใช้พลังงานเปลืองแบบเจ้าหมาเจ้าแมวด้วย จะมีตัวอะไรบ้างลองไปดูกันเลย 10. กิ้งก่าปิ๊กมี่ลิ้นน้ำเงิน ความขี้เกียจของเจ้ากิ้งก่าตัวนี้ ก็คือมันแทบไม่ออกไปทำอะไรข้างนอกหลุมของตัวเองเลย มันจะอ้าปากรออยู่ที่ปากหลุมรอให้เหยื่อผู้โชคร้ายสักตัวตกลงมาในปากเอง และก็จะรอกินน้ำจากหยาดน้ำและน้ำฝนด้วยวิธีเดียวกัน 9. นกกาเหว่า ความขี้เกียจของนกกาเหว่านั้นหลายคนเคยได้ยินกันมาแล้ว นั่นก็คือการที่พวกมันแอบไปฟักไข่ไว้ในรังของนกอื่น แล้วให้พวกมันเลี้ยงลูกแทนนั่นเอง 8. ปลาฉลามพยาบาล ในขณะที่ฉลามตัวอื่นๆ ต้องว่ายน้ำเพื่อหายใจและล่าเหยื่อ ฉลามพยายามนั้นต่างออกไปโดยสิ้นเชิง พวกมันใช้เวลาแทบทั้งวันนอนอยู่กับที่ แล้วดูดเหยื่อตัวเล็กเข้ามาในปากเพื่อกิน 7. แพนด้ายักษ์ เจ้าแพนด้าตัวโตพวกนี้นอนหลับวันละประมาณ 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว แล้วก็นอนที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น พอตื่นมาก็จะเอาแต่กิน กินเสร็จก็นอน ใช้ชีวิตสไตล์ขี้เกียจโดยแท้ 6. ตัวกินมดหนาม เจ้าตัวกินมดสายพันธุ์นี้นอนหลับประมาณวันละ 12 ชั่วโมง หรือก็คือนอนหลับตลอดช่วงที่มีแสงแดดเลยทีเดียว และจะออกมาใช้ชีวิตแค่ช่วงกลางคืนเท่านั้น 5. งูหลาม งูหลามนั้นทั้งเคลื่อนที่เชื่องช้า แถมยังนอนเยอะถึงวันละ…
-
หญิงสาวแปลกใจ หมาใหญ่ปกป้องเธอจากเจ้าของตัวเอง เพื่อไม่ให้เขาลวนลามเธอ
ในสถานการณ์ที่บีบบังคับและไม่มีใครสามารถช่วยได้ หญิงสาวต้องพยายามป้องกันตัวเองจากชายที่กำลังคุกคามเธอมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอก็ไม่คิดเลยว่าหมาของเขาจะปกป้องเธอแทนที่จะเข้าข้างเจ้านายตัวเอง หญิงสาวคนหนึ่งอยากเผยประสบการณ์รอดจากการถูกลวนลามของหัวหน้าอย่างฉิวเฉียดให้พวกเราได้ฟังกัน โดยเธอบอกว่าถ้าไม่ได้เจ้าหมาเข้ามาช่วย เธอต้องแย่แน่ๆ หญิงสาวเล่าว่าเธอเพิ่งจะร่วมงานกับชายคนหนึ่งไม่นาน พ่อของเธอซึ่งถูกเขาจ้างงานบ่อยๆ เป็นคนแนะนำงานให้ งานนี้มีสวัสดิการที่ดีและได้เงินดี รวมถึงเวลาที่เธอเจอเขาตอนที่มีพ่ออยู่ด้วย เขาก็ดูไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไร โดยงานของเธอหลักๆ แล้วจะเป็นการดูแลเจ้าหมาสายพันธุ์เคนคอร์โซ่ของเขา ระหว่างที่เขากำลังทำงาน เธอจึงต้องไปทำงานอยู่ที่บ้านของเขา แต่เธอก็มีความสุขเนื่องจากเธอรักหมาและมันก็ดูจะชอบเธอมากเช่นกัน หลังจากเริ่มงานได้ไม่นาน เธอสังเกตว่าเจ้านายของเธอชอบทักทายทุกคนที่เจอด้วยการกอด ตอนแรกเธอจึงไม่ได้คิดอะไร แต่สักพักเธอก็รู้สึกได้ว่าเขาเริ่มจับเนื้อต้องตัวเธอมากขึ้น หรือบางครั้งเวลาที่กอดเขาก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ แม้ว่าเธอจะปฏิเสธไปแล้วก็ตาม วันหนึ่งขณะที่เธอกำลังนั่งอยู่กับเจ้าหมาบนโซฟา จู่ๆ หัวหน้าของเธอก็เข้ามาจับเอวเธอจากทางด้านหลัง เธอจึงรีบขยับตัวหนีและบอกเขาว่าเธอไม่ชอบทันที แต่เขาก็วนมาหาเธอทางด้านหน้าแทน ทำท่าทีว่าจะจักจี้เธอเล่นๆ แต่เธอรู้สึกว่าท่าทางจะไม่ดีซะแล้ว เลยเรียกเจ้าหมาให้ช่วย เผื่อว่ามันจะเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของเขาได้ และทำให้เธอรอดจากสถานการณ์นี้ ทว่าสิ่งที่เธอไม่คาดคิดเลยก็คือ เจ้าหมาลุกเข้ามาปกป้องเธอจริงๆ มันทั้งเห่าและขู่เจ้าของของตัวเอง แล้วก็เอาตัวเข้ามาคั่นกลางระหว่างพวกเขาไว้ เธอจำเป็นต้องบอกให้มันนั่งลง มันถึงจะหยุดเห่าชายคนนั้น แต่เจ้าหมาก็ยังนั่งอยู่ข้างๆ เธอเพื่อปกป้องอยู่ดี วันนั้นเธอรอดจากการถูกลวนลามมาได้เพราะมันแท้ๆ เลย หญิงสาวเล่าว่า “ฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์…
-
รวม 18 สัตว์เลี้ยงผู้น่ารัก ที่นอกจากจะซื่อสัตย์แล้ว ก็ยังคอยอยู่เคียงข้างมนุษย์เสมอ
เจ้าของสัตว์เลี้ยงบางคนอาจจะเคยมีช่วงที่คิดว่าตัวเองนั้นเดียวดาย ไม่มีใครคอยอยู่เคียงข้างเลย แต่ก็มองข้ามไปว่าจริงๆ แล้วถึงจะไม่มีคนอยู่ด้วย สัตว์เลี้ยง 4 ขาก็ยังคงอยู่เคียงข้างคุณเสมอ แม้แต่เจ้าแมวเหมียวที่เขาบอกกันว่าชอบเมินทาส ลึกๆ แล้วมันก็รักเรานั่นแหละ วันนี้เราได้รวบรวมรูปภาพของสัตว์เลี้ยงและมนุษย์หลายคู่มาให้คุณดู แล้วคุณจะรู้ว่าพวกมันไม่เคยทิ้งเราเลย เจ้าพวกแมวตามติดภรรยาผมตลอดเวลา มันคงห่วงเธอกับลูกที่อยู่ในท้อง พี่ทหารอุ่นใจเพราะมีเจ้าหมายิ้มให้ทุกวัน https://www.instagram.com/p/pFw4jYDeiY/ เจ้าเหมียวพยายามปลอบทาส เพราะเธอเพิ่งเลิกกับแฟนมา มาคอยเติมกำลังใจให้คุณแม่ระหว่างวิ่งมาราธอนซะด้วย https://www.instagram.com/p/BoXJwW6gZ-Q/ คุณแม่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัด เจ้าหมาแมวเลยยกพวกกันมาเติมกำลังใจให้ ไม่ต้องห่วงว่าจะเหงาตอนฝึก เพราะคู่หูจะลำบากไปพร้อมกันเสมอ https://www.instagram.com/p/uEKlYJjeoY/ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกไม่สบาย พวกมันจะมองดูคุณอยู่ไม่ห่าง ผู้ช่วยคนดีของฉัน ช่วยให้ทั้งฉันและผู้ป่วยรู้สึกดีกว่าเดิม https://www.instagram.com/p/BrVyFAznhcZ/ เจ้าหมาอยากเล่นกับน้องตั้งแต่น้องยังไม่เกิด เราจะคอยเดินอยู่ข้างๆ เธอเอง ไม่ต้องห่วง https://www.instagram.com/p/BreOO2mnek2/ ไม่ต้องเศร้านะมนุษย์ เราอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกังวลนะมนุษย์ เดี๋ยวสักแป๊บก็หายดีแล้ว ค่อยมาวิ่งเล่นกัน https://www.instagram.com/p/BrceybFnfbz/ ที่เจ้านายมักไม่เห็น…
-
หญิงสาวโดน “ลักพาตัว” ตอนอายุ 19 ปี ถูกบังคับให้ขายบริการ เหยื่อ “ขบวนการค้ามนุษย์”
นี่คือเรื่องจริงอันน่าสลดที่ยังคงมีอยู่บนโลกของเรา ถูกบอกเล่าโดยหญิงสาวคนหนึ่งผู้สามารถรอดชีวิตมาได้ จากการที่เธอโดนลักพาตัว และถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศ Sarah Forsyth ปัจจุบันอายุ 42 ปี ผู้ผ่านประสบการณ์ที่ถูกเรียกว่า “นรกบนดิน” กับสิ่งที่หลายๆ คนอาจไม่เคยคิดมาก่อนว่าความโหดร้ายป่าเถื่อนขนาดนี้จะเกิดขึ้นจริงบนโลกของเรา Sarah หญิงสาวผู้รอดจากการโดนลักพาตัว และการค้ามนุษย์ เรื่องราวของเธอเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนที่เธออายุเพียง 19 ปี เธอได้เดินทางจากบ้านเกิดในเมือง Gateshead ประเทศอังกฤษ เข้ามายังกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ หลังจากเห็นประกาศรับสมัครพยาบาล แต่ทันทีที่เธอเดินทางมาถึงยังสนามบิน Schipol ในกรุงอัมสเตอร์ดัม จู่ๆ ก็มีชายที่ชื่อว่า John Reece ขโมยพาสปอร์ตของเธอไป หลอกล่อเธอไปในที่ลับตาคน ก่อนที่จะใช้ปืนยัดปากเธอแล้วพูดว่า “หากขยับเธอตาย” เธอถูกชายคนดังกล่าวลักพาตัวไป ผ่านไปไม่ถึง 1 สัปดาห์ เธอก็ถูกบังคับให้ไปขายตัวอยู่ในซ่องแห่งหนึ่งภายในเมือง โดยต้องคอยให้บริการทางเพศกับผู้ชายไม่ต่ำกว่าวันละ 20 คน เธอเล่าว่าหญิงสาวทุกคนได้รับการดูแลแบบอดอยาก มีชีวิตรอดด้วยอาหารเพียงแค่ 1 กำมือ โดยอาหารที่ว่านั้นก็มักจะมีแค่ช็อกโกแลต M&Ms เท่านั้น…
-
ชม 22 รูปภาพการฮันนีมูนในช่วงปี 1900-1980 การฮันนีมูนแต่ละยุคมันต่างกันขนาดไหนนะ
หลังจากที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว โดยมากพวกเขาก็จะเดินทางไปฮันนีมูนกันต่อในสถานที่ที่พวกเขาคิดว่าเหมาะสมและโรแมนติก เพียงแต่ในแต่ละยุคสมัยความนิยมของผู้คนก็จะต่างกันตามไปด้วย ดังนั้นการฮันนีมูนในสมัยก่อนจึงอาจจะแตกต่างไปจากในสมัยนี้มากก็เป็นได้ และแน่นอนว่าอารมณ์ของภาพที่ถูกถ่ายเก็บไว้ ก็อาจจะไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ด้วยเหตุนี้เองในวันนี้เราจะไม่ชม 22 รูปภาพการฮันนีมูนตั้งแต่ในช่วงปี 1900-1980 ไปดูกันดีกว่าว่าการฮันนีมูนในแต่ละยุค มันโรแมนติกต่างกันมากน้อยเพียงไหน เริ่มกันจากการฮันนีมูนของคู่รัก Hughes ระหว่างอยู่บนเรือไปเกาะคานารี เมื่อปี 1904 George Joseph Clautice กับ Janet Wellmore ในระหว่างการฮันนีมูนที่แอตแลนติกซิตี เมื่อปี 1909 คู่รักข้าวใหม่ปลามันกับการฮันนีมูนที่เวนิส เมื่อปี 1911 คู่รักรุ่นคลาสสิคกับการฮันนีมูนที่หาดในบอร์นมัธ เมื่อปี 1920 คู่รักอีกคู่กับการฮันนีมูนที่อ่าวเม็กซิโกเมื่อราวๆ ยุค 1920 อันนี้การฮันนีมูนที่โอเชียนซิตี้เมื่อในยุค 1920 เช่นกัน คู่สามีภรรยา McCormick ที่ยอดเขาไพค์ส ในโคโลรา 1922 Gregory และ Edie ในการฮันนีมูนที่นีซ เมื่อปี 1932 การฮันนีมูนของคู่รัก…
-
ชิวาว่าตัวน้อย ตายจากไปเพราะวิ่งกลับเข้าไปช่วยเจ้าของในรถที่ไฟลุกท่วม
ในสถานการณ์ที่ครอบครัวตกอยู่ในอันตราย หมาน้อยพยายามจะช่วยชีวิตเจ้านายของมัน แต่น่าเสียดายที่ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นมันเองที่ตายในอุบัติเหตุ ครอบครัว Farrant เป็นครอบครัวอบอุ่นที่ประกอบไปด้วย คุณพ่อ Dan คุณแม่ Cara และลูกๆ ตัวน้อยของพวกเขาอีก 4 คน นอกจากสมาชิกที่เป็นมนุษย์แล้ว ครอบครัวของเขายังมีเจ้าหมาชิวาว่า Coco อีกตัวด้วย คนในครอบครัวรักเจ้าหมามาก และเจ้าหมาเองก็รักครอบครัวเช่นกัน Dan เล่าว่า “เจ้า Coco เป็นกาวที่ยึดครอบครัวของเราเอาไว้ด้วยกัน ถ้าเกิดมีใครคนใดคนหนึ่งในครอบครัวกำลังเศร้าหรือป่วย มันจะไปให้กำลังใจคนคนนั้นเสมอ” ในวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมา ทั้งครอบครัวตัดสินใจขับรถไปเที่ยวด้วยกัน โดยมีจุดหมายปลายทางคือประเทศสกอตแลนด์ แต่ระหว่างที่กำลังเดินทางกันอยู จู่ๆ เครื่องยนต์ของพวกเขาก็ลุกเป็นไฟ และไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว มีรถคันหนึ่งที่อยู่แถวนั้นพอดีจอดลงมาเพื่อช่วยพวกเขา Dan พาลูกๆ 3 คนหนีออกมาได้ แต่ก่อนที่ Cara กับลูกสาวที่ชื่อ Thea และ Coco จะหนีออกมาได้ ประตูรถก็โดนความร้อนหลอมจนเปิดไม่ออกแล้ว Cara โยน Coco ออกมาทางหน้าต่างก่อนเป็นตัวแรก จากนั้นเธอและลูกสาวก็พยายามหาทางออกจากรถโดยใช้ทางอีกด้านหนึ่งโดยที่มีสามีช่วยอยู่ …
-
เชิญชม ฉากเบื้องหลังภาพยนตร์ดังประจำปี 2018 ที่จะมาเปิดหูเปิดตาเราได้อย่างดี
ในการถ่ายทำภาพยนตร์สักเรื่องหนึ่ง เป็นที่เรารู้กันว่า ต้องผ่านขั้นตอนมาอย่างมากมายที่อยู่เบื้องหลังของการถ่ายทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแคสนักแสดง การเลือกสถานที่ถ่ายทำ โฆษณาหรือการใช้เอฟเฟกต์พิเศษเข้ามาช่วย วันนี้เราก็เลยเอาฉากเบื้องหลังการถ่ายทำของภาพยนตร์หลายๆ เรื่องในปี 2018 มาให้ได้ชมกัน ซึ่งเบื้องหลังหลายๆ ฉากนี่ทำให้เราเปิดหูเปิดตาได้ดีนักแล จะมีภาพยนตร์เรื่องใดบ้างที่เราจะนำเบื้องหลังมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน เอาเป็นว่าไปรับชมกันเลยดีกว่า!! Josh Brolin จะต้องใช้เซนเซอร์กี่จุดล่ะนี่กว่าออกมาเป็น Thanos ให้เราได้เห็นกัน https://www.instagram.com/p/BVAzUSDB0cF/?utm_source=ig_embed นอกจากจะต้องใส่เซนเซอร์มากมายแล้ว ขั้นตอนนี้ก็ดูน่าจะทรมานพอตัวเลยนะเนี่ย https://www.instagram.com/p/BTCgUrThFmx/?utm_source=ig_embed ไม่ใช่หนังในปี 2018 แต่ป๋า RDJ เอาเบื้องหลังมาโพสต์ในปี 2018 จากกองถ่าย Iron Man 3 https://www.instagram.com/p/BldiHixDvFq/?utm_source=ig_embed ก่อนจะเป็นเจไดก็ต้องมีการฝึกซ้อมแบบนี้แหละ ดูหน้าของ Daisy Ridley สิ อินเนอร์นี่มาเต็ม! https://www.instagram.com/p/BTcf_9klT5Z/?utm_source=ig_embed เพื่อนๆ รู้มั้ยว่าเครื่องนี้เขาเอาไว้ทำอะไรกัน มันคือเครื่องที่จะช่วยสร้างโมเดล 3D ของนักแสดงขึ้นบนคอมพิวเตอร์ได้ยังไงล่ะ https://www.instagram.com/p/BRADSbnApFZ/?utm_source=ig_embed จากกองถ่าย…
-
Studio Ghibli ออกของสะสมใหม่ “ตราประทับสุดคาวาอี้” ที่จะทำให้เงินในมือของคุณสั่น
หากเป็นคนที่ชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ คงเป็นไปไม่ได้ที่เพื่อนๆ จะไม่รู้จักชื่อของ Studio Ghibli ค่ายอนิเมะชั้นยอดที่ผลิตผลงานคุณภาพมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น My Neighbor Totoro หรือ Spirited Away และสำหรับเพื่อนๆ ที่เป็นแฟนตัวยงของค่ายนี้ล่ะก็ วันนี้เรามีของสะสมสุดพิเศษจาก Studio Ghibli มาฝากด้วยนะ นั่นคือ “ตราประทับลายเซ็น” 5 แบบสุดน่ารักที่จะต้องทำให้เงินในกระเป๋าสั่นคลอน โดยจะมีกี่ลาย ลายอะไรมั่งนั้นเราไปรับชมกันเลยดีกว่า แบบแรกเลยคือเจ้า Totoro ขนฟูฟ่อง ตัวกลมน่ากอด ขวัญใจของใครหลายคน ถัดมาแบบที่สองก็คือเจ้า Totoro จิ๋วช่างน่ารักเสียจริง แบบที่สามเจ้า Nekobasu หรือรถบัสแมวจากเรื่องเดียวกันกับ Totoro ข้างบนนั่นเอง แบบที่สี่เจ้าเหมียว Jiji แมวของ Kiki จากเรื่อง Kiki’s Delivery Service และแบบสุดท้ายกับ Kaonashi หรือภูตไร้หน้าจากเรื่อง Spirited Away อันโด่งดังนั่นเอง . ความกว้างของตราประทับ…
-
ชมทุ่งจอมปลวกแห่งบราซิล อายุร่วม 4,000 ปี และมองเห็นได้จากดาวเทียม
ในช่วงเวลาเดียวกับที่ชาวอียิปต์สร้างพีระมิด นางพญาปลวกกลุ่มหนึ่งก็ขุดลงไปในดินและสร้างอาณาจักรขนาดใหญ่ ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล และยังคงอยู่แม้ในปัจจุบัน นี่เป็นทุ่งจอมปลวก ที่มีจอมปลวกอยู่กว่า 200 ล้านกอง ซึ่งรวมปริมาณทรายได้ถึง 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่ามหาพีระมิดแห่งกีซาถึง 4,000 เท่า และมีขนาดใหญ่พอที่จะสามารถมองเห็นได้จากดาวเทียมได้เลย ภายในจอมปลวกเหล่านี้มีทางเดินที่นับไม่ถ้วนของปลวกสายพันธุ์เดียวกัน ที่ทำขึ้นมาเพื่อเดินทางไปกินซากไม้ที่อยู่ในป่าคาทิงกา โดยที่ไม่จำเป็นต้องพบกับอันตรายใกล้เคียงกับตัวตุ่น และมีลักษณะเส้นทางที่ซับซ้อนมาก นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ปลวกเหล่านี้น่าจะอาศัยฟีโรโมนในการใช้เส้นทางใต้ดินที่พบ ทำให้พวกมันสามารถเดินทางไปยังสถานที่ที่มันต้องการได้อย่างเม่นยำแม้ว่าทางจะซับซ้อนเท่าไหร่ก็ตาม เท่านั้นยังไม่พอเพราะจากการตรวจสอบจอมปลวกจำนวน 11 แห่งในพื้นที่ นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่าจอมปลวกเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นด้วยดินที่มีอายุตั้งแต่ 690 ปีเรื่อยไปยันดินที่เก่าแก่ถึง 3,820 ปีซึ่งใกล้เคียงกับจอมปลวกที่เก่าแก่ที่สุดในโลกของแอฟริกา นั่นหมายความว่าอาณาจักรของปลวกที่เห็นนี้จะต้องมีอายุมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาล และอาจจะมีอายุใกล้เคียงหรือมากกว่าสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอารยะธรรมที่เก่าแก่ของมนุษย์อย่างพีระมิดเลยก็ว่าได้อีก ความใหญ่โตนี้เองทำให้ผู้เชี่ยวชาญทางระบบนิเวศถึงกับยกย่องว่า ทุ่งจอมปลวกเหล่านี้ เป็นตัวอย่างระบบระบบนิเวศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นจากแมลงสปีชีส์เดียว และเป็นความงดงามมหัศจรรย์ทางชีววิทยาที่เก่าแก่มากๆ และยังคงถูกใช้อาศัยอยู่ชิ้นหนึ่งของโลกใบนี้เลยทีเดียว ที่มา livescience, foxnews, sciencedaily
-
ย้อนรอย “ภัยพิบัติแห่งเมืองอะเบอร์ฟาน” ที่ทำให้ราชินีเอลิซาเบธเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้
ในวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 1966 ที่เมืองอะเบอร์ฟาน ประเทศเวลส์ 1 ใน 4 ประเทศองค์ประกอบของสหราชอาณาจักร ได้เกิดเหตุภัยพิบัติ สารละลายของเสียจากการขุดถ่านหิน ไหลลงมาจากภูเขาจนทำให้มีเด็กๆ ร่วม 116 รายต้องเสียชีวิต ภัยพิบัติในครั้งนี้รู้ไปถึงหูของราชินีเอลิซาเบธที่ 2 แต่น่าแปลกที่ในช่วงเวลาแรกๆ ท่านกลับปฏิเสธที่จะไปเยี่ยมประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอยู่ช่วงหนึ่ง กว่าที่ราชินีเอลิซาเบธที่ 2 จะไปเยี่ยมผู้ประสบภัยมันก็หลังจากเรื่องราวจบลงจริงๆ ถึง 8 วัน และแม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายสิบปีแล้วก็ตามแต่ราชินีเอลิซาเบธที่ 2 เองก็ยังคงบอกว่าท่านเสียใจมากที่ท่านปฏิเสธที่จะมาเยี่ยมผู้ประสบภัยตั้งแต่วันแรกที่รู้ข่าว (อ้างอิงจากที่ท่านกล่าวไว้ในปี 2002) นั่นเพราะไม่เพียงแต่ภัยพิบัติในครั้งนี้ จะเป็นเหตุการณ์สุดสลดที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก (เด็ก 116 รายกับผู้ใหญ่ 28 ราย) แต่มันยังเป็นเหตุการณ์ที่จริงๆ แล้วสามารถหลีกเลี่ยงได้อีกด้วย เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อเหมืองถ่านหิน “Merthyr Vale Colliery” มาเปิดที่เมืองนี้ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อปี 1920 และด้วยระบบกำจัดของเสียซึ่งเกิดจากการขุดเหมืองที่ไม่ดีในสมัยนั้น คนงานของเหมืองถ่านหินจึงเอาของเสียไปทิ้งไว้ที่บนเขาสูงชันข้างหมู่บ้าน แน่นอนว่าของเสียจากเหมืองเริ่มทับถมกันหลังจากนั้น จนประชากรในหมู่บ้านเริ่มที่จะไม่สบายใจ เนื่องจากพื้นที่ที่มีการทิ้งของเสีย อยู่ใกล้ๆ กับโรงเรียนที่มีเด็กๆ…
-
นักวิทย์ตอบคำถาม ในทางวิทยาศาสตร์เราควร “ถอดรองเท้า” ในบ้านหรือไม่?
สำหรับคนไทยแล้วการถอดรองเท้าในบ้านหรือในอาคารอาจจะเป็นภาพที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกันเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงรู้ว่ามีชาวตะวันตกจำนวนมากเช่นกันที่จะไม่ถอดรองเท้าในอาคารหรือบ้าน ถ้าอย่างนั้น ในทางวิทยาศาสตร์แล้วเราควรถอดรองเท้าในบ้านรึเปล่านะ? เหตุผลหลักๆ ที่คนเราถอดรองเท้าในบ้านมาจากความคิดที่ว่ารองเท้านั้นสกปรก ซึ่งอาจนำมาซึ่งเชื้อแบคทีเรียไม่พึงประสงค์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องพอสมควรเลย เนื่องจากทุกๆ 1 ตารางนิ้วของรองเท้าสามารถมีแบคทีเรียได้เป็นแสนๆ ตัว และไม่ว่าเราจะเดินไปที่ไหนก็ตาม รองเท้าของเราก็จะมีแบคทีเรียติดกลับมาได้แทบทั้งนั้น จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ ในรองเท้ากว่า 96% จะมีแบคทีเรียที่ชื่อว่า “Escherichia coli” หรือเชื้ออีโคไล ซึ่งแม้ว่าหลายๆ ชนิดจะไม่เป็นอันตรายกับมนุษย์ (บางตัวก็ช่วยในการย่อยอาหารด้วยซ้ำ) แต่บางชนิดก็สามารถทำให้เราป่วยได้เหมือนกัน เท่านั้นยังไม่พอเพราะบนรองเท้าบางส่วนยังมีแบคทีเรีย Staphylococcus aureus อยู่ด้วย ซึ่งอาจจะนำไปสู่อาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วงได้ในบางกรณี แบคทีเรีย Staphylococcus aureus มีชื่อแปลว่า “องุ่นสีทอง” ถึงอย่างนั้นก็ตามนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่แนะนำให้เราหวาดกลัวกับการที่ถูกคนเผลอใส่รองเท้าเข้าบ้านมากจนเกินไป เพราะแม้แบคทีเรียที่กล่าวมาอาจจะฟังดูน่ากลัว แต่โดยปกติแล้ว แบคทีเรียเหล่านี้จะไม่เป็นพิษภัยต่อคนที่ร่างกายแข็งแรง กลับกันแบคทีเรียที่ดีบางตัวยังสามารถช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้อีกด้วย ดังนั้นหากจะให้สรุป นักวิทยาศาสตร์ก็บอกว่าคนเรา “ควรจะถอดรองเท้า” หากในบ้านมีคนที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเด็กเล็ก ส่วนบ้านของคนธรรมดาทั่วไป จะถอดรองเท้าหรือไม่ก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันขนาดนั้น …
-
ชม 4 การค้นหาและตรวจสอบในวงการโบราณคดี ที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2019
การค้นหาและตรวจสอบในทางโบราณคดี ในหลายๆ ครั้งมักกินเวลาแรมปี และไม่รู้ว่าจะสำเร็จเมื่อไหร่ ถึงอย่างนั้นก็ตามหากการค้นหาเหล่านี้สำเร็จลุล่วง เราก็อาจจะได้ความรู้ใหม่ๆ ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเลยก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้เองในช่วงเวลาต้นปี 2019 เช่นนี้ #เหมียวศรัทธา จึงจะพาเพื่อนๆ ไปชม 4 เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการค้นหาและตรวจสอบในวงการโบราณคดี ที่น่าจับตามองที่สุดในปีนี้กัน เริ่มกันที่ช่องว่างปริศนาในมหาพีระมิด เมื่อเดือนธันวาคมปี 2017 ที่ผ่านมา นักโบราณคดีได้ ตรวจสอบมหาพีระมิดแห่งกีซาด้วยเทคโนโลยีรังสีมิวออน และได้ค้นพบช่องว่างที่ถูกปิดตายในโครงสร้างของตัวพีระมิดที่มีความกว้างมากกว่า 30 เมตร ในเวลานี้ยังไม่มีใครทราบว่าช่องว่างที่ว่านี้ถูกสร้าง หรือว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร แต่ในปี 2018 นักโบราณคดีก็ได้ดำเนินการตรวจสอบมหาพีระมิดแห่งกีซาด้วยมิวออน และหุ่นสำรวจขนาดเล็กอีกครั้งแล้ว และพวกเขาก็คาดว่าจะได้รับผลผลสำรวจที่น่าสนใจภายในปี 2019 นี้เอง ถ้ำโบราณสองแห่งที่เมืองคุมราน ที่อาจมีม้วนหนังสือเดดซีอยู่ภายใน ตั้งแต่ปี 1947-2017 ม้วนหนังสือเดดซีจะมีการค้นพบในถ้ำร่วม 12 แห่ง ในประเทศอิสราเอล แต่เมื่อปี 2018 นี้เองนักโบราณคดีก็ได้ค้นพบถ้ำเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง จริงอยู่ว่าหนึ่งในสองถ้ำที่พบจะมีร่องรอยการถูกโจรเข้ามาขโมยในสมัยก่อน แต่ในอีกถ้ำหนึ่งนักโบราณคดีก็พบกับร่องรอยของอุปกรณ์ซึ่งคาดว่าใช้ใส่ม้วนหนังสือเดดซีในอดีตอยู่ ดังนั้นภายในปีนี้ เราอาจจะได้เห็นม้วนหนังสือเดดซีชิ้นใหม่ปรากฏขึ้นมาก็เป็นได้ ศิลาจารึกจากเมืองโบราณไอริซากริกถูกยึดได้ที่สหรัฐอเมริกา ในช่วงปี 2017…
-
“มาร์เซล มาร์โซ” ยอดนักแสดง “ละครใบ้” ชาวฝรั่งเศส ผู้ช่วยชีวิตเด็กชาวยิวกว่า 70 ชีวิต
เมื่อพูดถึง “มาร์เซล มาร์โซ” เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะนึกถึงผลงานในด้านการแสดงละครใบ้เป็นสิ่งแรก เพราะเขาคือ นักแสดงชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านนี้มากที่สุดคนหนึ่งของโลกเลย ว่าแต่รู้กันหรือไม่ว่านักแสดงมากฝีมือคนนี้ ยังเคยมีผลงานช่วยเหลือเด็กๆ ชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองด้วย ในสมัยที่ฝรั่งเศสถูกปกครองโดยนาซีเยอรมัน มาร์เซล มาร์โซ ได้เข้าร่วมกลุ่มต่อต้านภายใต้คำชวนของ จอร์จ ลอริงเกอร์ (Georges Loinger) ทหารชาวฝรั่งเศสผู้เป็นญาติกับเขา (และมีผลงานช่วยเหลือชาวยิวราวๆ 350 คน) หน้าที่ของพวกเขาคือการพาเด็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไปส่งที่ชายแดนสวิตเซอร์แลนด์ แต่การเดินทางกับเด็กๆ จำนวนมากมันกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเหล่าทหารกลุ่มต่อต้าน ดังนั้นจึงนับว่าเป็นโชคดีมากๆ ที่กลุ่มต่อต้านพาตัวมาร์เซลมาด้วย นั่นเพราะแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความสามารถในการต่อสู้เหมือนคนอื่นๆ แถมยังไม่ได้มีผลงานช่วยเหลือชาวยิวเป็นจำนวนมากๆ เหมือนญาติของเขา แต่มาร์เซลเองก็มีสิ่งที่กลุ่มต่อต้านคนอื่นๆ ไม่มีอย่าง “ละครใบ้” จากคำบอกเล่าของจอร์จผู้เป็นญาติ มาร์เซลแสดงละครใบ้ให้เด็กๆ ดูเพื่อปลอบขวัญให้กำลังใจตั้งแต่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เรื่อยไปจนถึงชายแดนสวิตเซอร์แลนด์ เขาทำให้แทนที่เด็กๆ จะรู้สึกว่ากำลังหนี พวกเขากลับรู้สึกเหมือนกำลังไปเที่ยวเล่นแทน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เด็กๆ จะรักมาร์เซลมากๆ และรู้สึกปลอดภัยเวลาที่อยู่กับเขา ละครใบ้ของมาร์เซลไม่เพียงแต่ทำให้เด็กๆ สบายใจในการเดินทางเท่านั้น แต่มาร์เซลยังถูกประยุกต์ใช้มันในการทำให้เด็กๆ เงียบในเวลาที่เขาต้องการ และใช้หลอกทหารฝั่งศัตรูด้วยการปลอมตัวเป็นหัวหน้าหมู่ลูกเสือที่กำลังออกแคมป์ได้อีกด้วย…
-
เมื่อ “ลิซ่า BLACKPINK” โดนชาวเกาหลีเหยียด แฟนคลับทั่วโลกลุกขึ้นมาปกป้องผ่าน #RespectLisa
อย่างที่ทราบกันว่า “ลิซ่า” คือสาวไทยซึ่งไปโด่งดังเป็นศิลปินในวงดังของทางเกาหลีใต้อย่าง BLACKPINK ซึ่งมีแฟนคลับในหลายประเทศทั่วโลก ขณะที่ตัวเธอเอง ก็เพิ่งกลายเป็นคนไทยที่มีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งนั่นก็น่าจะการันตีความมีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง แต่ก็หนีไม่พ้นการถูกโจมตีบนโลกออนไลน์ อย่างเช่นที่ชาวเกาหลีบางส่วนเข้ามาคอมเมนต์ในเชิงดูถูก จนกลายเป็นประเด็นในครั้งนี้ เกิดอะไรขึ้นกับ ลิซ่า BLACKPINK!? เรื่องเริ่มจากชาวเกาหลีบางส่วน คอมเมนต์ในโซเชียลด้วยเนื้อหาประมาณว่า “ลิซ่า” คือคนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศเกาหลีใต้ ก็เพื่อหาเงินทองเท่านั้น บ้างก็บอกว่าเธอมาจากประเทศด้อยพัฒนา ไม่เหมาะกับการอยู่ในเกาหลีใต้ หรือบางส่วนก็โยงไปยังเหล่า “ผีน้อย” ซึ่งตกเป็นข่าวถูกจับกุมตัว และส่งกลับประเทศไทยไปหลายราย (ผีน้อย คือชื่อเรียกกลุ่มคนไทยที่เข้าไปทำงานในต่างประเทศแบบผิดกฎหมาย จนต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ และมักจะถูกจับได้จนส่งตัวกลับบ่อยครั้ง) ตัวอย่างคอมเมนต์ที่วิพากษ์วิจารณ์เธอ (ขอยกตัวอย่างมาแค่อันเดียวพอเนอะ ^^) นั่นทำให้เหล่าแฟนคลับของวง BLACKPINK และของลิซ่าเองซึ่งมีอยู่ทั่วโลก เห็นคอมเมนต์เหล่านั้นก็ทนไม่ไหว พากันออกมาปกป้องเธอผ่านแฮชแท็ก #RespectLisa จนกลายเป็นกระแสไวรัลทันที มีข้อมูลว่า กลุ่มแฟนคลับที่ออกมากลุ่มแรกๆ คือเหล่าแฟนคลับชาวบราซิล ก่อนที่จะส่งต่อกระแสไปยังอีกหลายประเทศ… ข้อมูลจาก @_810N ระบุว่ากระแสปกป้องเริ่มมาจากชาว BLINK (ชื่อแฟนคลับ BLACKPINK) ในบราซิล https://twitter.com/_810N/status/1081769755957092352 …
-
คุณพ่อใช้ “เครื่องปรินท์ 3 มิติ” สร้าง “แขนเทียมสุดเท่” ให้ลูกชายวัย 11 ปี ขยับนิ้วได้ด้วย?!
อีกหนึ่งเรื่องราวแสนอบอุ่นหัวใจ ของคุณพ่อนักประดิษฐ์มือใหม่ผู้สร้าง “แขนเทียม” ให้กับลูกชายที่พิการแขนซ้ายตั้งแต่กำเนิด คุณพ่อคนนี้มีชื่อว่า Callum Miller ชายผู้ตัดสินใจซื้อ “เครื่องปรินท์ 3 มิติ” โดยที่ไม่มีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับเจ้าเครื่องนี้มาก่อนเลย เขาหวังแต่เพียงว่ามันจะสามารถช่วยสร้างแขนเทียมให้กับ Jamie ลูกชายวัย 11 ปีได้ Callum อาศัยอยู่กับลูกชายและ Molly ลูกสาววัย 14 ปี ในเมือง Stockton-on-Tees สหราชอาณาจักร หลังจากที่แยกทางกับ Suzanne ภรรยาของเขา Jamie ลูกชายของเขา Jamie จำเป็นที่จะต้องรอนานกว่า 18 เดือนเพื่อที่จะได้รับแขนเทียมที่จองคิวกับทางโรงพยาบาลเอาไว้ โดยแม้ว่าเด็กชายจะไม่มีปัญหาใดๆ กับเรื่องนั้น แต่ดูเหมือนว่าคุณพ่อจะอดใจรอไม่ไหวจริงๆ Callum ตัดสินใจซื้อเครื่องปรินท์ 3 มิติกลับมาบ้าน และเริ่มเรียนรู้วิธีการใช้งาน การสร้างแขนเทียมผ่านทางยูทูบ และในบอร์ดสนทนาต่างๆ ตามหน้าเว็บไซต์ พอเริ่มจับจุดได้ว่าต้องทำอะไรยังไงบ้าง เขาและลูกชายก็ได้ช่วยเหลือกันในการออกแบบแขนเทียมที่จะสร้างขึ้นมาให้มีลักษณะที่โดดเด่น ดูเท่กว่าแขนเทียมแบบปกติทั่วๆ ไป…
-
โอกาสของโอตะสายเปย์! ไอดอลญี่ปุ่นโพสต์หาคนแต่งงานด้วย เพียงให้เงินเธอใช้เดือนละแสน
เรียกได้ว่าช่วงนี้เป็นยุคทองแห่งไอดอลในบ้านเราจริงๆ ตั้งแต่ BNK48 โด่งดัง ก็มีวงไอดอลหน้าใหม่ก่อตั้งขึ้นมาอีกมากมาย วันนี้เราเลยจะมาพูดถึงเรื่องของไอดอลกัน เพื่อนๆ คงรู้กันทีอยู่แล้วว่าวงไอดอลนั้นจะอยู่ได้ด้วยการสนับสนุน (การเปย์) ของโอตะ (แฟนคลับ) ซึ่งโอตะบางคนก็พยายามเปย์ให้หนักเพื่อให้ไอดอลจำได้ รวมไปถึงบางคนอาจเปย์เพื่อหวังพัฒนาความสัมพันธ์กับไอดอลอีกด้วย ซึ่งสำหรับโอตะคนนี้ที่อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์กับไอดอลให้เป็นมากกว่าไอดอลกับแฟนคลับแล้วล่ะก็ วันนี้เราเอาเรื่องของ Haruka Aikawa ไอดอลวง Ten6 ของญี่ปุ่นที่เปิดรับสมัครสามีมาให้ได้ดูกัน โดยในวันที่ 1 มกราคม 2019 Haruka ได้โพสต์ภาพทะเบียนสมรสลงทวิตเตอร์พร้อมกับข้อความว่า “ฉันคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างไอดอลกับโอตะสามารถกลายเป็นหนทางในการหาคู่แท้แสนโรแมนติกได้ค่ะ ดังนั้นฉันพยายามที่จะหาคนบางคนที่จะแต่งงานกับฉันโดยอยู่แยกกันและสามารถให้เงินฉันได้ประมาณ 400,000 เยน (115,000 บาท) ต่อเดือน กรอกทะเบียนสมรสให้เรียบร้อยและแนบสเตทเมนต์เงินเดือนพร้อมกับผังครอบครัวส่งกลับมาหาฉันได้เลยค่ะ เพราะหัวหน้าตระกูลฉันกำลังจะเสียชีวิตในปีนี้ ฉันเลยอยากให้เขาเห็นฉันเป็นเจ้าสาวก่อนจากไปค่ะ” 【戸籍上の夫募集】アイドルとヲタクの繋がりは、出会いのきっかけの1つで本気ならありやと思うのです🙆♀️なので、別居婚可・生活費40万/月くれる方は物販に、記入済みの婚姻届・給与明細・釣書を持ってきてください🐰我が家の長老が今年中に死ぬつもりなので、晴れ姿を見せてあげたいのです👰 pic.twitter.com/NPPUeuFU6X — 藍川はるか🙏プロレスをする不適切アイドル (@HarupyonTen6) January 1, 2019 เมื่อเธอโพสต์ข้อความดังกล่าวลงในทวิตเตอร์ ชาวเน็ตและแฟนคลับของเธอก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย บ้างก็ว่า “แล้วงี้วง Ten6 จะมาแสดงในงานแต่งของเราด้วยรึเปล่า?” หรือจะว่า “นี่เป็นโอกาสของเหล่าโอตะแล้วที่จะได้เป็นฝั่งเป็นฝาเสียที!”…
-
สาวโพสต์เตือน อยู่หน้าบ้านตัวเองแท้ๆ ยังเจอโรคจิตถอดกางเกงโชว์-พยายามเปิดประตูรถ!!
เดี๋ยวนี้ภัยอันตรายเรียกได้ว่ามีอยู่รอบๆ ตัวจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ทำงาน ออฟฟิศหรือแม้แต่หน้าบ้านของตัวเองเหมือนกับในกรณีนี้ หญิงสาวคนหนึ่งต้องเผชิญกับชายโรคจิตพยายามจะเข้ามาเปิดประตูรถที่เธอขับอยู่ รวมทั้งเขายังดึงกางเกงลงแก้ผ้าโชว์เธอด้วย เฟซบุ๊กชื่อว่า May Tunyason ได้นำเรื่องดังกล่าวมาแชร์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้สาวๆ ได้ระวังตัวกันมากยิ่งขึ้น โดยเธอได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ให้ฟังว่า “ใครจะไปคิดว่าวันนึงจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับตัวเอง… ขอลงเอาไว้เผื่อที่เตือนสติตัวเองและทุกคนๆ รอบตัวนะคะ ในขณะที่เมย์กำลังถอยรถเข้าจอดในบริเวณถนนย่อยส่วนบุคคล ซึ่งอยู่บริเวณรั้วหน้าบ้านตัวเองนั้น ได้มีชายในคลิปไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงสีดำไม่สวมรองเท้าเดินเข้ามา แล้วอ้อมไปบริเวณด้านหลังรถแล้วเดินไปอีกฝั่ง จากนั้นเขาถอดกางเกงลงแล้วพยายามดึงประตูรถด้านหลัง แต่โชคดีที่เมย์เห็นเค้าแต่แรกและเอะใจเพราะไม่เคยเห็นหน้าและท่าทางไม่น่าไว้วางใจ จึงล็อครถและยังไม่ลงจากรถ เพื่อสังเกตพฤติกรรม ตอนแรกยังคิดว่าเป็นคนที่พักอยู่ที่หอพักข้างๆ บ้าน ถ้าใช่เขาต้องเดินตรงขึ้นหอไปเลย แต่ไม่ใช่ สิ่งที่คิดได้และทำในตอนนั้นคือบีบแตรรถยนต์เพื่อให้คนในบ้านหรือคนแถวนั้นได้ยิน มันได้ผลเพราะชายคนดังกล่าวพยายามนุ่งกางเกงกลับแล้วเดินออกไป แต่ถ้าเห็นจากในคลิปจะเห็นว่าเค้าไม่ได้หนีไปทันที ยังคงวนกลับมาอีกรอบ จนเมย์บีบแตรซ้ำ เปิดไฟสูง ซึ่งขณะนั้นพ่อกับแม่ได้เดินออกมาแล้ว คลิปวิดีโอเหตุการณ์อันน่ากลัวนี้ เหตุการณ์นี้มันน่ากลัวจริงๆ ตอนนั้นยังงงๆ ไม่กล้าลงจากรถจนพ่อเดินออกมาปิดประตูรั้ว คิดไม่ออกเลยว่าถ้าตอนนั้นชายคนดังกล่าวเข้ามาหาเราในขณะที่เราลงไปปิดประตูรั้วอยู่จะเกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์นี้ทำให้รู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “สติ” และถ้าเราต้องไปอยู่ในสถานที่หรือเวลาที่มันสุ่มเสี่ยง เราต้องคอยสังเกตสิ่งรอบตัวตลอดเวลา เมย์เป็นคนนึงที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้กับตัวเองเลย คิดว่าตัวเองค่อนข้างระวังตัว และที่สำคัญนั่นคือหน้าบ้านเราเอง… สำหรับความรู้สึกตอนนี้ ยอมรับว่ายังกลัว หลอน และยังงงๆ กับเหตุที่เกิดกับตัวเอง…
-
ภรรยาจับได้ว่าสามีนอกใจ เลยให้เขา “สักข้อความ” ไว้กลางหน้าอก ผู้คนมองว่ารุนแรงเกินไป
“การนอกใจคนที่เรารัก” เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น และสำหรับบางคนมันอาจเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับหรือให้อภัยได้ กลายเป็นว่าอาจหมดความเชื่อใจในตัวคนข้างๆ เราไปเลย เพื่อจะเรียกความเชื่อใจของอีกฝ่ายให้กลับมาอีกครั้ง ชายหนุ่มคนหนึ่งจึงต้องยอมทำตามคำขอของภรรยา สักข้อความที่หลายๆ คนมองว่าเป็นการ “ประจานตัวเอง” ลงไปที่ร่างกายบริเวณหน้าอกแบบนี้ โพสต์ในอินสตาแกรมของช่างสักที่ชื่อว่า Jorge ข้อความที่เราเห็นนั้นเขียนว่า… “ผม Jose L. Torres อาสาที่จะมาสักลายในวันที่ 2 มกราคม 2019 เพื่อให้ภรรยากลับมาไว้ใจผมอีกครั้ง จากความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานที่ผมก่อเอาไว้ในช่วงเวลาที่เราแต่งงานกันมา” “ผมคือ: คนโกหก, สิบแปดมงกุฎ, จอมบงการ, คนหลอกลวง, พวกชอบไปยุ่งกับโสเภณี, ไม่ซื่อสัตย์และไม่ให้เกียรติ” เรียกว่าเป็นรอยสักที่เต็มไปด้วยคำพูดที่ต่อว่าตัวเขาเอง ตามคำขอเพื่อให้ภรรยากลับมาไว้ใจอีกครั้ง แต่นั่นก็ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนรู้สึกว่ามันไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกต้องสักเท่าไหร่นัก เพราะรอยสักจะต้องอยู่กับเขาไปตลอด เหมือนภรรยาเขาต้องการทำเอาไว้เพื่อเตือนใจสามี แต่นี่มันคือการบังคับให้ชายหนุ่มต้องปู้ยี่ปู้ยำผิวหนังของตัวเองชัดๆ นี่คือสิ่งที่เลวร้ายเอามากๆ หย่าเถอะ มันเลวร้ายจริงๆ ภรรยาต้องสักด้วยหรือเปล่า ถ้าหากว่าเธอนอกใจสามี F หายไปตัวหนึ่ง ตรงคำว่า…
-
คุณครูทนไม่ไหว เห็นเด็กนร. ใช้ชุดต่อจากพี่แล้วมันใหญ่เกิน เลยพาไปซื้อใหม่แทบทั้งชุด!!
หากถามถึงเมื่อครั้งยังเป็นเด็กนักเรียน ใครหลายคนอาจต้องเคยประสบกับประสบการณ์ที่ว่าใช้ชุดนักเรียนต่อจากพี่ๆ ญาติๆ เพื่อเป็นการประหยัดเงินของพ่อแม่ให้ได้มากที่สุด แต่ว่าบางทีชุดที่ได้รับมานี้มันก็ไม่พอดีกับตัวของเราซะจริงๆ ใหญ่เกินบ้าง บางทีก็เล็กเกินบ้าง จนเกิดเป็นปัญหาต้องคอยมาพะวงกับเรื่องเสื้อผ้ากันไปตามๆ กัน ดังเช่นในกรณีของเด็กนักเรียนคนนี้ที่ใช้เสื้อผ้าต่อจากพี่ชาย ซึ่งมันมีขนาดใหญ่เกินกว่าตัวของเขาไปมาก เลยทำให้คุณครูคนหนึ่งตัดสินใจซื้อชุดนักเรียนใหม่ให้กับเด็กคนนี้ซะเลย!! เรื่องราวดีๆ ที่ทำให้โลกดูสวยงามขึ้นนี้เกิดขึ้นจากความที่ Mohd Nasir Mohd Zain คุณครูของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองซูไงเปอตานี ประเทศมาเลเซีย สังเกตเห็นว่ามีเด็กนักเรียนคนหนึ่งในโรงเรียนมีท่าเดินที่แปลกๆ “ผมมองดูเขาแล้วเห็นว่าเขาใช้การลากรองเท้าแทนการเดินแบบปกติ แถมยังต้องเอามาคอยดึงกางเกงเอาไว้ ด้วยความสงสัยผมเลยเรียกเขามาแล้วเดินไปหาเขาซะ” “ผมถามว่าทำไมถึงเดินแบบนี้ล่ะ เขาก็ตอบกลับมาว่าเป็นเพราะรองเท้านี้มันใหญ่เกินไปเลยต้องใช้การลากแทนการยกมัน แถมกางเกงก็หลวมโพรกซะจนต้องใช้มือดึงเอาไว้” “จำได้เลยว่าผมลองเอานิ้วแหย่เข้าไปในรองเท้าของเด็กคนนี้ ซึ่งผมสามารถเอานิ้วมือเข้าไปได้ถึง 3 นิ้วเลยแหละ” คุณครูกล่าว ดูความหลวมของชุดเด็กนักเรียนคนนี้ซะก่อน และแล้วคำตอบของเรื่องนี้ก็กระจ่างออก เมื่อทางเด็กนักเรียนบอกว่าเสื้อผ้าเหล่านี้เขาได้ใช้ต่อจากพี่ชายของเขานั่นเอง เมื่อเห็นดังนี้แล้วทางคุณครูก็อดไม่ได้ที่จะช่วยเหลือ เขาเดินไปที่ห้องครูใหญ่โดยทันทีเพื่อจะขออนุญาตนำตัวเด็กคนนี้ออกนอกโรงเรียนไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ซึ่งทางครูใหญ่ก็ไฟเขียวให้อนุญาต จากนั้นคุณครูจึงพาเด็กชายคนนี้ออกไปชอปปิงกันอย่างเต็มที่ เลือกซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่กันอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส เอาให้มันพอดีๆ ดีกว่า “ผมพาเด็กคนนี้ไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ซื้อให้แทบทุกอย่างเลย จำได้ตอนนั้นเรานั่งกันในรถระหว่างเดินทาง ผมเห็นเขายิ้ม เขามีความสุขเอามากๆ” Mohd กล่าว ส่วนถ้าถามถึงเหตุผลในการทำเช่นนี้ คุณครูก็อธิบายให้ฟังว่าถ้าเขาปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปโดยไม่สนใจ…
-
ชายโทรเข้าสายหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน บอกมาช่วยตรวจ DNA ให้หน่อย เพราะสงสัยว่าแฟนนอกใจ!!
เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นสิ่งๆ แรกที่เราควรจะทำในตอนนั้น ก็อาจจะเป็นการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหากมีคนบาดเจ็บก็โทรเรียกหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเพื่อให้ทุกๆ อย่างทันท่วงที แต่ว่ามีเหตุการณ์แปลกๆ อยู่เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมา เมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งโทรแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเพื่อที่จะมาให้พิสูจน์ DNA ว่าแฟนเขามีชู้จริงไหม!? เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา โอเปอเรเตอร์ของหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน North West Ambulance Service ประเทศอังกฤษ ได้รับสายจากชายคนหนึ่งที่โทรเข้ามา ทันทีที่รับสายเจ้าหน้าที่รับสายทางปลายสายก็ถามว่านี่ใช่หน่วยแพทย์ฉุกเฉินใช่ไหม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ตอบว่าใช่ แล้วถามกลับไปว่าตอนนี้ผู้ป่วยยังหายใจอยู่หรือไม่ เพราะอาจเป็นเหตุด่วนเหตุร้ายหรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น แต่แล้วก็มีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อในเวลาต่อมาทางปลายสายบอกว่า ‘ฟังนะที่ผมโทรมาเนี่ย เพราะแฟนของผมเขากำลังนอกใจผมน่ะ’!! ประโยคแปลกๆ อย่างนี้เจ้าหน้าที่คิดว่าพวกเขาฟังอะไรผิดไปหรือเปล่า เลยถามกลับไปอีกทีเพื่อให้แน่ใจ โดยบอกให้ชายคนนั้นว่า ‘โอเคฟังฉันนะ ตอนนี้ผู้ป่วยยังหายใจอยู่ใช่ไหม?’ ถึง 2 รอบด้วยกัน ซึ่งทางชายคนนั้นก็ตอบกลับมาด้วยประโยคสุดพีคว่า ‘ทุกๆ คนโอเค ปลอดภัยดี แต่ผมอยากจะให้หน่วยแพทย์ฉุกเฉินมาที่บ้านผมเพื่อทำการตรวจ DNA ให้หน่อย’ คลิปเสียงของสายสนทนานี้ FFS – Friday fact share ‼️ So we…
-
โจรทำร้ายคนแก่หวังโทรศัพท์ เจอของจริงอดีตแชมป์โลกคิกบอกซิ่ง 5 สมัย ต่อยซี่โครงหัก!!
ด้วยความที่สิ่งของเป็นที่ล่อหน้าล่อตารวมทั้งเจ้าของเป็นแค่คนแก่ๆ คนหนึ่ง จึงทำให้โจรหวังจะไปขโมยเอาสิ่งสิ่งนั้นให้ได้ แต่ว่าเขาคิดผิดเสียแล้วเพราะหารู้ไม่ว่าชายคนนั้นคืออดีตแชมป์ ‘คิกบอกซิ่ง’ ถึง 5 สมัยด้วยกัน!! Steve Shepherd เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมานาย Steve Shepherd วัย 68 ปีกำลังเดินมุ่งหน้าไปที่รถของเขาที่จอดอยู่แถวๆ ร้านอาหาร Anita’s Mexican Restaurant ในเมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริด้าบ้านของเขา แต่แล้วระหว่างกำลังเดินอยู่นั้นเอง จู่ๆ เขาก็ถูกชายคนหนึ่งเข้าทำร้ายด้วยการนำขวดแก้วมาตีใส่เต็มๆ หัว ซึ่งนาย Steve บอกว่าจุดประสงค์ของโจรคนนี้คือจะเอาโทรศัพท์มือถือของเขาไปนั่นเอง “ในตอนนั้นจู่ๆ ก็ บ้ามม ผมหน้ามืดไปสักพักเลยแต่แค่แป๊บเดียวนะ” ขณะนั้นคนที่ทำร้ายเขาไม่รู้หรอกว่านาย Steve ในอดีตเป็นถึงแชมป์โลกคิกบอกซิ่งถึง 5 สมัยด้วยกัน รวมทั้งได้รับการเสนอชื่อเข้าหอเกียรติยศของเมืองด้วย งานนี้เขาจึงต้องไว้ลายสักนิดสอนให้โจรรู้จักว่าใครเป็นใครกันแน่ “ถามถึงชื่อเสียงของผมน่ะหรือ ก็แค่เอาชนะคนที่น็อกไมค์ ไทสันมาได้แค่นั้นเอง” Steve เล่าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม หลังจากหายมึนจากการโดนขวดตีแล้ว Steve ก็สำแดงฤทธิ์นักมวยเก่า ด้วยการสั่งกำปั้นขวาเข้าใส่ใบหน้าโจร แต่เขาก็ป้องกันตัวด้วยการยกมือมาบังเอาไว้ และนี่เองที่สายตาของอดีตแชมป์โลกคนนี้ได้เห็นว่าช่องว่างเกิดขึ้นนั่นคือช่วงท้องเขา…
-
เจ้าสาวร่ำไห้ หลังถูกบริษัทรับจัดเลี้ยงพังงานแต่ง นำ “เค้กแต่งงานที่ทำจากโฟม” มาให้ตัด
เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2018 ในประเทศฟิลิปปินส์ได้คู่บ่าวสาวคู่หนึ่งแต่งงานกัน โดยฝ่ายชายคือ Jhon Chen วัย 40 ปี และฝ่ายหญิงคือ Shine Tamayo วัย 26 ปี คู่บ่าวสาวได้ใช้จ่ายเงินในเรื่องของอาหารและการตกแต่งงานแต่งไปมากกว่า 140,000 เปโซหรือประมาณ 90,000 บาท แต่ในวันงานที่ควรจะเป็นวันที่มีแต่ความทรงจำดีๆ ที่พวกเขาลืมไม่ลง กลับกลายเป็นวันที่ต้องหลั่งน้ำตา ก่อนที่ในงานแต่งดังกล่าวจะจบลงด้วยน้ำตา ทุกๆ อย่างเป็นไปได้ด้วยดี และมันเหมือนกับจะเป็นวันดีๆ ที่พวกเขาได้วาดฝันเอาไว้ แต่เมื่อทั้งคู่เดินทางมาที่โรงแรมที่ของไว้จัดพิธีเฉลิมฉลองก็พบว่าบริษัทรับจัดเลี้ยงไม่ได้เตรียมอาหารมาให้แขกของพวกเขา พวกเขาเลยต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยการไปซื้ออาหารจากร้านอาหารใกล้ๆ โรงแรมมาให้แขกแทน เมื่อปัญหาดังกล่าวถูกแก้ไขแล้ว ก็มาถึงช่วงบ่าวสาวตัดเค้กแต่งงาน คราวนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ บริษัทจัดเลี้ยงนำเค้กที่พวกเขาเตรียมเอาออกมาให้บ่าวสาว ซึ่งการตัดเค้กชั้นแขกเป็นไปด้วยดี แต่ทันทีที่ตัดเค้กถึงชั้นที่ 2 ทั้งคู่ก็พบกับความผิดปกติ เมื่อทำการตรวจสอบก็พบว่าเค้กดังกล่าวทำมาจาก “โฟม” และเคลือบด้วยน้ำตาลไอซิ่งเพียงเท่านั้น เมื่อพบว่าเค้กของตนถูกสอดไส้ดังกล่าว ทางแขกและญาติๆ ก็พาบ่าวสาวไปแจ้งความกับตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบก็พบว่าเค้กดังกล่าวทำมาจากโฟมจริงๆ และทำการจับกุมบริษัทรับจัดเลี้ยง Shine ให้สัมภาษณ์พร้อมกับน้ำตาว่า “ผู้หญิงที่เราจ่ายเงินค่าอาหารให้ พวกเธอพังงานแต่งงานของฉัน…
-
Brooklyn Beckham เปิดตัวแฟนใหม่ ชาวเน็ตอุทานเสียงเดียวกัน “นี่มันคุณแม่ Victoria ชัดๆ”
เขาว่ากันว่าผู้ชายมักจะเลือกคู่ชีวิตที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับคุณแม่ของตัวเอง เพื่อนๆ คิดว่าแนวคิดดังกล่าวเป็นเรื่องจริงหรือไม่? ซึ่งจะจริงไม่จริงก็ไม่รู้ล่ะ แต่ล่าสุด Brooklyn Beckham ลูกชายคนโตของตระกูล Beckham ได้เปิดตัว Hana Cross แฟนคนใหม่ และชาวเน็ตก็เห็นตรงกันว่านี่มันคุณแม่ Victoria ตอนสาวๆ ชัดๆ https://www.instagram.com/p/Brf4mb-Hulm/ เท้าความกลับไปในปีก่อนมีข่าวว่า Brooklyn ได้กลับมาคบกับ Chloe Grace Moretz ดาราสาวชื่อดัง ก่อนที่ทั้งคู่จะเลิกรากันอีกคราและ Brooklyn ก็ตัดสินใจพักการเรียนที่นิวยอร์กและบินกลับมาอยู่กับครอบครัว ซึ่งไม่นานนักก่อนจะถึงเทศกาลคริสต์มาส พ่อหนุ่มเสน่ห์แรงของเราก็ได้ประกาศยืนยันในความสัมพันธ์ครั้งใหม่ระหว่างเขากับ Hana Cross นางแบบสาวอังกฤษ และไม่กี่วันก่อนนี้หนุ่ม Brooklyn ก็ได้อัปรูปภาพแฟนสาวของตนขึ้นบนอินสตาแกรม เมื่อชาวเน็ตและแฟนคลับได้เห็นภาพดังกล่าว ต่างก็ต้องคิดแบบเดียวกันว่านี่มันคือคุณแม่ Victoria Beckham สมัยสาวๆ ชัดๆ “พระเจ้าช่วย ฉันคิดว่านี่คือแม่ของคุณซะอีก” ชาวเน็ตคนหนึ่งแสดงความเห็นเอาไว้ “ทำไมเธอถึงดูคล้ายกับแม่ของคุณขนาดนี้?” ชาวเน็ตอีกคนเสริม “เธอเหมือนแม่ของคุณตอนที่ยังสาวๆ เลยอ่ะ” อีกคนพูดต่อ เหมือนขนาดไหนก็ลองดูกันเล้ย …
-
ภรรยาลังเลว่าควรหย่าดีมั้ย เมื่อสามีจะตั้ง “ชื่อลูก” คนแรกด้วย “ชื่อแฟนเก่า” ของเขา
การที่พ่อหรือแม่จะเป็นคนตั้งชื่อให้กับลูกน้อยที่กำลังจะคลอดออกมานั้นคือเรื่องปกติที่หลายๆ ครอบครัวก็ทำกัน แต่ชื่อที่สามีคนนี้จะตั้งให้กับลูกสาวนั้นมันกลับเป็นการสร้างความปวดร้าวให้กับภรรยาได้มากเหลือเกิน นี่เป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงอย่างมากในเว็บไซต์ Reddit หลังจากที่ในวันที่ 4 มกราคม 2019 ผู้ใช้คนหนึ่งได้เข้ามาขอความคิดเห็นในหัวข้อว่า “ลังเลที่จะหย่าร้าง เพราะสามีและฉันไม่สามารถตกลงกันเรื่องตั้งชื่อลูกได้” เจ้าของโพสต์เล่าว่า… “สวัสดีทุกคน หัวข้อมันอาจจะดูตลกแต่มันคือปัญหาที่เกิดขึ้นจริงระหว่างฉัน (สาววัย 23 ปี) และสามี (ชายวัย 24 ปี)” “เราคบหากันได้ปีหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงานกันเมื่อ 2 ปีก่อน ฉันพบว่าตัวเองตั้งครรภ์เมื่อ 7 เดือนก่อนหน้านี้ และเราก็เริ่มที่จะพูดคุยกันเรื่องชื่อของลูกน้อยที่จะคลอดออกมา” “ตั้งแต่ที่เราได้รู้ว่ากำลังจะมีลูกสาว สามีของฉันก็บอกว่าเขาอยากตั้งชื่อเธอให้เหมือนกับชื่อแฟนเก่าของเขา” โพสต์ของเธอ เธออธิบายต่อไปว่า… “นี่ไม่ใช่แค่แฟนเก่า แต่เธอคือคนที่คบอยู่กับสามีของฉันนานมากๆ และเป็นคนที่สามีบอกว่ารักมากที่สุดแล้ว” “ความสัมพันธ์ของเราในตอนแรกก็เคยมีปัญหาเพราะเธอคนนี้ แต่เธอได้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วและคิดว่าปัญหาคงหมดไปเสียที” “ตอนนี้สามีของฉันบอกอย่างชัดเจนเลยว่าเขาต้องการตั้งชื่อลูกด้วยชื่อของแฟนเก่าคนนั้น และฉันจะได้ตั้งชื่อลูกคนที่สอง” “เมื่อฉันถามเขาว่าทำไมถึงอยากตั้งเป็นชื่อนี้มากขนาดนั้น เขาก็ตอบกลับมาว่าการที่เขาและแฟนเก่าไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่อยากสร้างบางสิ่งบางอย่างเอาไว้เพื่อให้ได้กลับไปคิดถึงเธอคนนั้นหรอกนะ” “เขาไม่เข้าใจเลยว่าสร้างความเจ็บปวดให้กับความรู้สึกของฉันมากขนาดไหน และคอยแต่จะบอกว่าที่ฉันหงุดหงิดตอนนี้ก็เป็นผลจากฮอร์โมนแค่นั้น” “นี่เขายังรักแฟนเก่าอยู่หรือเปล่า หรือมันเป็นเรื่องปกติทั่วไปกับการที่เขาต้องการตั้งชื่อ “ลูกของเรา” ว่าอย่างนั้น…
-
อุปกรณ์ที่จะทำให้ ‘ไข่ของคุณผู้ชาย’ เย็นอยู่ตลอดเวลา เผยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สเปิร์ม!!
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘ไข่’ นั้นเป็นอะไรที่บอบบางมาก ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่ ไข่เป็ด ไข่ห่าน ไข่จิ้งจก รวมไปถึงไข่ของ ‘คน’ ด้วย ไข่ของหนุ่มๆ ทั้งหลายนั้นเป็นอวัยวะที่บอบบางมากๆ หากโดนกระทบกระแทก แม้ว่าจะเบาแค่ไหนก็ตาม มันก็ทำให้รู้สึกจุกได้ราวกับว่าโลกทั้งใบแหลกสลายได้เลยทีเดียว แถมเจ้าไข่นี้ยังเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพื่อผลิตสเปิร์มที่แข็งแรงออกมา ด้วยเหตุนี้เองบริษัทสัญชาติโปแลนด์ที่ชื่อว่า Cooltec ก็เลยทำการวิจัยและสร้างอุปกรณ์เพื่อช่วยทำให้ ‘ไข่เย็น’!! ซึ่งทางบริษัทเค้าเคลมว่าการสร้างสเปิร์มให้ออกมาแข็งแรงหรือไม่นั้น มีความเกี่ยวข้องกับ ‘อุณหภูมิของไข่’ “อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เซลล์ตาย รวมไปถึงกระบวนการสร้างสเปิร์มในอัณฑะเองก็เช่นกัน หากอยู่ในอุณหภูมิที่สูงก็อาจทำให้กระบวนการดังกล่าวมีประสิทธิภาพน้อยลง หรือตัวอสุจิที่อ่อนแอ” ก็เลยออกแบบเจ้าผลิตภัณฑ์นี้ออกมาเพื่อช่วยให้ไข่ของคุณเย็นอยู่ตลอดเวลา อันจะส่งผลดีต่อสเปิร์มของคุณผู้ชายทั้งหลาย เจ้าอุปกรณ์ชนิดนี้ก็จะมีการใช้งานโดยเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนของเราสำหรับการเช็กอุณหภูมิของไข่ด้วยนะเออ!! ลองไปชมวิธีการใช้งานสักเล็กน้อยที่ข้างล่างนี้ได้เลยครับ ราคาของมันจะอยู่ที่อันละ 305 เหรียญสหรัฐ (9,750 บาท) โดยการใช้งานก็คือจะต้องสวมวันละ 12-16 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเวลา 3-4 สัปดาห์ถึงจะเห็นผลชัดเจน หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจก็สามารถเข้าไปศึกษาต่อได้ที่เว็บไซต์ Cooltec ได้เลย …
-
ภรรยาทนไม่ไหว เมื่อสามีออกไปดื่มกับเพื่อนบ่อยเกินไป พอกลับถึงบ้านเลยแทงซะ!!
เข้าใจดีว่าตามความชื่นชอบของผู้ชายหลายๆ คน มักจะออกไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนเป็นประจำ และมักจะเป็นสาเหตุหลักๆ ของความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัว เนื่องจากสนใจเพื่อนมากกว่าคนที่อยู่ใกล้ชิด ไม่ใช่เรื่องผิดร้ายแรงอะไร หากจะออกไปกินดื่มกับเพื่อนประจำ แต่ความอดทนของแต่ละคนมีขีดจำกัด อย่างเช่นภรรยาชาวฟิลิปปินส์รายนี้ ที่หมดความอดทนกับสามีตัวเอง ที่มักจะควบรถมอเตอร์ไซค์ออกไปเมาที่บ้านเพื่อน ติดเหล้าติดเพื่อนหนักจนโดนแทง… จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า ฝ่ายสามีแวะไปหาเพื่อนในช่วงกลางคืนของวันที่ 2 มกราคม 2019 แม้ว่าภรรยาจะสั่งให้กลับบ้านทันทีหลังจากทำงานเสร็จ ซึ่งหลังจากที่ดื่มกับเพื่อนจนเมาแล้ว เขาก็ตัดสินใจขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ภาพจำจากการ์ตูนช่องที่ภรรยาถือสากดักตีหัวสามีกลับบ้านดึก กลับกลายเป็นภรรยาต้อนรับเขาด้วยการคว้ามีดมาแทง จนเกิดเป็นบาดแผลลึก 2 แผลบนแขนสามี ด้วยเหตุที่เขาติดเหล้าเมายากับเพื่อนอย่างหนัก ภายหลังก็ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเป็นการด่วน จนกระทั่งพ้นขีดอันตราย ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนและกักขังฝ่ายภรรยาไว้ ด้านสามี เมื่อได้ยินข่าวของภรรยาก็รีบไปหาถึงสถานีตำรวจ ขอร้องไม่ให้เจ้าหน้าที่ขังภรรยาเอาไว้ในห้องขัง และยอมรับความผิดทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว อีกทั้งยังขอภรรยาให้อภัยกับสิ่งที่เขาทำ และที่ภรรยาเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะนิสัยของเขาเอง ซึ่งฝ่ายสามีก็ไม่ติดใจเอาความใดๆ กับภรรยา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยภรรยาออกมาจากห้องขัง ท้ายที่สุดแล้ว ฝ่ายสามีได้ยื่นคำมั่นสัญญากับภรรยาไว้ว่า จะไม่ออกไปเมาหัวราน้ำกับเพื่อนอีกต่อไปแล้ว… ที่มา: news.abs-cbn, worldofbuzz
-
สตอล์กเกอร์สาวถูกจับ หลังส่งข้อความคุกคามเหยื่อกว่า 159,000 ข้อความ เหตุเหยื่อไม่รับรัก
“สตอล์กเกอร์” คือคำที่เราเอาไว้ใช้เรียกบุคคลโรคจิต ที่คอยติดตามคนที่พวกเขารักและคลั่งไคล้ไปทุกที่ทุกหนแห่ง รู้ความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายตลอดเวลา หลายครั้งก็มีการคุกคามเหยื่อด้วยวิธีต่างๆ ร่วมด้วย เช่นเดียวกับกรณีที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เมื่อสาวคนหนึ่งถูกจับหลังเป็นสตอล์กเกอร์ตามหนุ่มคนหนึ่งอยู่นาน แถมพยายามส่งข้อความไปหาเขากว่า 159,000 ข้อความและยังบุกรุกบ้านของเขาอีกด้วย สตอล์กเกอร์สาวคนนั้นคือ Jacqueline Ades จากเมือง Phoenix รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เธอเจอหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกใจเธอเป็นอย่างมากผ่านแอปพลิเคชั่นหาคู่ เธอได้ลองคุยกับเขาผ่านแอปฯดังกล่าว ก่อนที่ทั้งคู่จะตัดสินใจเดตกันเป็นครั้งแรก แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้ไม่ดีสักเท่าไหร่ หนุ่มคนดังกล่าวบอกว่า เขาไม่อยากจะเดตกับเธออีกต่อไป หลังจากถูกบอกอย่างนั้น เธอก็ยังไม่ยอมแพ้ พยายามตามตื๊อชายหนุ่มดังกล่าวอย่างไม่หยุดยั้ง ภายใน 10 เดือนถัดมา เธอส่งข้อความไปหาเขามากกว่า 159,000 ข้อความ ซึ่งรบกวนชายหนุ่มเป็นอย่างมาก ในเดือนกรกฎาคม2017 ชายหนุ่มก็ทนไม่ไหวและตัดสินใจแจ้งตำรวจหลังพบว่าเธอมาจอดรถรอเขาอยู่ที่นอกบ้านและในเดือนธันวาคม 2017 เขาก็แจ้งตำรวจอีกครั้งเมื่อพบว่าเธอมาจอดรอเขาอยู่ที่บ้านอีกครั้ง จนในที่สุด ณ เดือนพฤษภาคม 2018 เธอก็ถูกตำรวจจับ หลังพบว่าเธอแอบเข้ามาอาบน้ำในบ้านของเหยื่อและเมื่อทำการค้นในรถก็พบมีดหั่นเนื้ออยู่ภายในอีกด้วย หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนเธอก็พบว่าเธอน่าจะเป็นคนที่มีปัญหาทางจิต โดยข้อความที่เธอส่งไปมีหลายข้อความที่เป็นเชิงข่มขู่ ไม่ว่าจะเป็น “ฉันจะทำซูชิที่ทำมาจากไตของคุณและเอากระดูกมือมาเป็นตะเกียบ”, “โอ้ ฉันจะทำอะไรกับเลือดของคุณดีนะ…
-
สาวไปเที่ยวเชียงใหม่ชิลๆ เจอเจ้าแมวอ้อนนอนเต็นท์ด้วย กลายเป็นทาสมันทั้งทริป
หญิงสาวตั้งใจว่าจะไปสัมผัสธรรมชาติ โดยการนอนเต็นท์ช่วงวันหยุดสักหน่อย เธอตั้งใจไว้แค่นั้นจริงๆ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าเธอได้เจอของแถมเป็นแมวเหมียวเจ้าถิ่นมานอนเป็นเพื่อนด้วย คุณ Sirikarn Tanyapimonroj เป็นคนกรุงเทพฯ ที่ชอบท่องเที่ยว ในวันหยุดช่วงปีใหม่นี้เธอจึงตัดสินใจไปกางเต็นท์นอนท่ามกลางธรรมชาติที่ อุ้มฮุ่ม Homestay&Organic Farm จังหวัดเชียงใหม่ ทว่าพอไปถึงแล้วสิ่งแรกที่เธอเจอพร้อมๆ กับความสวยงามของธรรมชาติ ก็คือเจ้าแมวสีส้มตัวหนึ่งที่เข้ามาอ้อนเธอตั้งแต่ถึงที่พักเลย พอถามดูเธอจึงได้รู้ว่ามันชื่อ ผลิตโชค (สงสัยคนตั้งจะเป็นแฟนคลับเป๊ก ผลิตโชค) เป็นแมวที่ทางบ้านพักรับเลี้ยงเอาไว้ ดูเหมือนเจ้าผลิตโชคมันจะถูกใจเธอมาก เจอหน้ากันได้ไม่ทันไร มันก็เดินตามเธอมายังเต็นท์ที่เธอนอนด้วยกันซะแล้ว ตามมาถึงเต็นท์เลยเหรอเจ้าอ้วน เอาขนมมากินหน่อยสิมนุษย์ เท่านั้นยังไม่พอนะ พอเห็นว่าคุณ Sirikarn ตามใจเข้าหน่อย หลังจากที่เธอกางเต็นท์เสร็จไม่ทันไร มันก็บุกเข้ามาข้างในเต็นท์เธอด้วยเลย แล้วคืนนั้นเจ้าแมวก็นอนอยู่เป็นเพื่อนเธอทั้งคืนเลยด้วย เรียกได้ว่าทั้งได้สัมผัสธรรมชาติตามที่ตั้งใจ แล้วก็ได้เพื่อนใหม่มาอยู่เคียงข้างเป็นของแถมอีกต่างหาก เดินตามเข้าเต็นท์มาแบบเนียนๆ ขอสำรวจพื้นที่หน่อยซิ ฮึ่มๆ ในนี้น่านอนดีหนิเจ้ามนุษย์ โอเค งั้นคืนนี้ขอนอนด้วยคนนะ ดูเจ้าอ้วนมาขอนอนด้วย ตรงหว่างขานี่มันอุ่นดีจริงๆ การได้เจอเจ้าผลิตโชคตามมาดูแลแขกถึงที่แบบ VIP ขนาดนี้…
-
นักเทควันโดสาวทีมชาติ เล่าประสบการณ์ “ถูกกลั่นแกล้ง” หาแฟนไม่ได้ เพราะ “สูงเกินไป”
การกลั่นแกล้งมักเกิดขึ้นกับคนที่มีความพิเศษ ความโดดเด่น หรือแตกต่างออกไปจากคนส่วนใหญ่ เหมือนอย่างหญิงสาวคนนี้ที่เธอต้องทนทุกข์กับการกลั่นแกล้งมานานหลายปี เพียงเพราะว่าเธอ “สูงเกินไป” Jade Slavin หญิงสาวชาวอังกฤษวัย 26 ปี เธอคือ “นักกีฬาเทควันโดทีมชาติ” สังกัดทีมชาติบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (Team GB) ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เธอได้เล่าประสบการณ์ของตัวเองที่ถูกกลั่นแกล้งมาตั้งแต่สมัยเรียน เพียงเพราะเธอสูง 193 เซนติเมตร Jade นักเทควันโดสาวที่ถูกแกล้ง เพราะว่าสูงเกินไป เธอเล่าว่าตนเองต้องได้เจอกับการกลั่นแกล้งมาอย่างยาวนานหลายปี นับตั้งแต่ตอนที่เธอเริ่มตัวสูงขึ้นมาเรื่อยๆ จนเพื่อนๆ ในโรงเรียนมักจะแอบซุบซิบนินทาลับหลัง และเรียกเธอว่า “ยัยอัปลักษณ์” หรือ “ตัวประหลาด” “ฉันต้องเจอกับคำพูดอันเลวร้ายมานานหลายปีจากพวกผู้หญิงที่มักจะซุบซิบนินทา นั่นทำให้ตอนนั้นฉันเกลียดความสูงของตัวเองมากๆ” เธอกล่าว “พวกเขาล้อเลียนเกี่ยวกับความสูงของฉัน เมื่อไหร่ที่ฉันได้ออกไปเที่ยวตามคลับตามบาร์แล้วมันก็เหมือนจะดีขึ้น แต่ฉันก็จะรู้สึกไม่ชอบทุกทีที่อยู่ดีๆ ก็จะมีคนมาเล่นตลกในแบบเดียวกันนั้นอีก มันน่ารำคาญเอามากๆ” . แม้การกลั่นแกล้งที่เธอต้องเจอจะไม่ได้เป็นในลักษณะทางกายภาพ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นในลักษณะของคำพูด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้เธอรู้สึกว่าการใช้ชีวิตในโรงเรียนเป็นอะไรที่ยากลำบากมากเหลือเกิน สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจฝึกฝนเทควันโด ตามคำแนะนำของพ่อที่รู้สึกเป็นห่วง อยากให้เธอได้เรียนรู้การป้องกันตัวเอง การตัดสินใจเล่นเทควันโดในครั้งนั้นก็ดูเหมือนว่าจะสร้างความสุขให้เธอได้อีกครั้ง และเธอก็ทำมันได้ดีมากๆ…
-
เรียนกฎหมายคนดียวมันน่าเบื่อ เจ้าของเลยพาตูบมานั่งด้วย จะได้ฉลาดไปพร้อมกัน
ต้องยอมรับจริงๆ นะว่าการเรียนบางวิชามันแน่นไปด้วยเนื้อหาจนดูน่าเบื่อจริงๆ วิชากฎหมายก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน นักเรียนกฎหมายคนหนึ่งจึงมีวิธีกันไม่ให้ตัวเองเบื่อโดยการ พาน้องหมามานั่งอ่านหนังสือด้วยกัน เขาจะได้มีเพื่อนระหว่างอ่านหนังสือ แล้วก็เผื่อว่ามันจะรู้กฎหมายไปด้วยกันซะเลย คุณ กิตติศักดิ์ ภาโว เป็นทหารที่รักสุนัข บางครั้งเขาก็ไปให้อาหารและช่วยเหลือสุนัขอื่นๆ ที่เจอ และก็ยังมีสุนัขที่เลี้ยงเองไว้หลายตัวด้วย นอกจากจะเป็นทหารแล้ว ตอนนี้เขากำลังศึกษาเนติบัณฑิตไทยอยู่ด้วย และก็ต้องอ่านหนังสือคนเดียวบ่อยครั้ง ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาแน่นๆ คนเดียวมันน่าเบื่อจริงๆ ทว่าเขาก็มีวิธีแก้ปัญหาในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือการพาเจ้าหมาที่เลี้ยงไว้มานั่งอยู่ด้วยเวลาเขาอ่านหนังสือ โดยส่วนมากเจ้าตัวที่จะมาอยู่เป็นเพื่อนเขาก็จะเป็น น้องครีม ผมชื่อน้องครีมฮะ ซึ่งพอมีเจ้าหมามานั่งอยู่ด้วยกันแล้ว ก็ทำให้เขาหายเหงาและอ่านหนังสือได้คล่องขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ถึงแม้ว่าบางทีน้องครีมจะดูง่วงกับเนื้อหาไปด้วยก็ตาม อ้าว น้องครีม อย่าเพิ่งสัปหงกสิครับ เดี๋ยวเจ้าของง่วงตามนะ น้องครีมไม่ใช่สุนัขตัวเดียวที่มานั่งอยู่เป็นเพื่อนคุณกิตติศักดิ์ ในบางครั้ง พี่ด่าง ก็จะมานั่งเป็นเพื่อนเพิ่มอีกตัวหนึ่งด้วยเช่นกัน แต่ด้วยความน่าเบื่อของเนื้อหาที่คุณกิตติศักดิ์อ่าน บางทีแม้แต่เจ้าหมาทั้งหลายก็ถ่างตาฟังต่อไม่ไหว แล้วหลับไปก่อนก็มี พี่ด่างทำหน้าหงอยทำไม นึกว่าโดนพิจารณาคดีอยู่เหรอ?? บางทีเจ้าหมาก็อยู่เป็นเพื่อนไม่ไหวแล้ว ขอหลับก่อนละกัน ปล่อยพ่ออ่านหนังสือสอบต่อไป การเอาเจ้าหมามานั่งอ่านหนังสือด้วยกันแบบคุณกิตติศักดิ์ ก็ดูเป็นเทคนิคแก้เบื่อในการอ่านหนังสือที่ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ นอกจากนี้ถ้าเขาอ่านหนังสือให้น้องครีมกับพี่ด่างฟังบ่อยๆ อีกหน่อยพวกมันอาจจะเป็นหมาที่รู้กฎหมายไปด้วยเลยก็ได้…
-
สุดเซอร์ไพรส์!! หนุ่มขอแฟนแต่งงาน ด้วย “รอยสักรูปน้องเหมียว” ตรงบั้นท้าย
หลายๆ ครั้งที่ชายหนุ่มมักจะขอแฟนสาวแต่งงานด้วยวิธีการสุดเซอร์ไพรส์ แต่เพื่อนๆ อาจจะไม่เคยเห็นวิธีการไหนที่จะสร้างความประหลาดใจ และรอยยิ้มปนคราบน้ำตาได้มากเท่ากับวิธีการของชายคนนี้ เรากำลังพูดถึง Dustin Marshall ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่กับ Lindsey แฟนสาวของเขาในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กับวิธีการขอแต่งงานที่ทั้งโรแมนติกและพิสดารในเวลาเดียวกัน Dustin และ Lindsey สิ่งที่เขาทำก็คือ “การสักรูปน้องเหมียวและข้อความขอแต่งงาน” ลงไปตรงบริเวณบั้นท้ายของตัวเอง?! Dustin เล่าว่า “แฟนสาวของผมพยายามบอกใบ้ ถามว่าเมื่อไหร่ผมจะขอเธอแต่งงานเสียที ซึ่งผมก็มักจะบอกเธออยู่เสมอว่าผมจะทำอย่างนั้นเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม” “ผมเลือกที่จะให้มันดูน่าตกใจมากที่สุด และวางแผนที่จะขอเธอแต่งงานในวันคริสต์มาสปี 2018” รอยสักของเขา กับข้อความว่า “Will You Marry Meow?” หน้าน้องเหมียวที่เห็นก็คือเจ้า Pinky แมวที่ทั้งสองรับมาเลี้ยงก่อนหน้านี้ แล้วเขามีโอกาสได้โชว์รอยสักตรงก้นให้แฟนสาวได้เห็นตอนไหนกันล่ะ?? Dustin ทำทีชวนแฟนสาวและเพื่อนๆ ไปแทงพูลกันที่บริเวณสวนหลังบ้านเพื่อน โดยหากใครแพ้ก็จะต้องถอดกางเกงออก โดยตามปกติแล้ว เขาเป็นคนที่แทงพูลเก่งเอามากๆ แต่แน่นอนว่าในเกมนั้นเขาก็ต้องทำเนียนเป็นฝ่ายแพ้ ซึ่งมันก็สร้างความประหลาดใจให้กับเพื่อนๆ รวมถึงแฟนสาวของเขาอยู่เหมือนกัน พอแพ้ปุ๊บ เขาก็ดึงกางเกงลงในช่วงเวลาที่เพื่อนๆ…
-
ทุบสถิติ!! เจ้าของร้านซูชิประมูลปลาทูน่าครีบน้ำเงินตัวเดียว ไปด้วยเงินเฉียดๆ ร้อยล้านบาท
กลายเป็นเรื่องที่ฮือฮากันอย่างมากในโซเชียลมีเดียของต่างประเทศ ถึงกรณีของการประมูลปลาทูน่าครีบน้ำเงินครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้น เพราะมันได้เกิดสถิติใหม่ขึ้นมานั่นคือการประมูลปลาตัวหนึ่งด้วยเงินเกือบๆ ร้อยล้านบาท!! ในเรื่องนี้สื่อต่างประเทศรายงานว่า การประมูลที่ว่านี้จัดขึ้นที่ตลาดปลาสึกิจิแห่งใหม่ที่ย้ายไปอยู่ในเขตโตโยสุ กรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 5 มกราคม ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของตลาดแห่งใหม่นี้ด้วยที่มีการจัดประมูลปลาเกิดขึ้น Kiyoshi Kimura กับปลาสุดแพงของเขา สถิติใหม่ที่เกิดขึ้นนี้ผู้ประมูลไปคือนาย Kiyoshi Kimura เจ้าของฉายา ‘Tuna King’ เขาเป็นเจ้าของซูชิ Sushi-Zanmai ที่มีสาขาหลายแห่งทั่วประเทศ โดยเจ้าปลาทูน่าครีบน้ำเงินตัวที่กลายเป็นสถิตินี้ ถูกจับได้ที่ชายฝั่งทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น และมีน้ำหนักตัวถึง 278 กิโลกรัมเลยทีเดียว ส่วนราคาก็ไม่ใช่ธรรมดาชายคนนี้ต้องควักเงินประมูลไปถึง 333.6 ล้านเยน (ราวๆ 98 ล้านบาท) ซึ่งมันได้กลายเป็นการทุบสถิติเก่าของตัวเองในปี 2013 ที่ครั้งนั้นประมูลปลาไปด้วยเงิน 155 ล้านเยน (ราวๆ 45 ล้านบาท) “ปลาตัวนี้เป็นทูน่าที่ยอดเยี่ยมเอามากๆ ราคามันสูงกว่าที่ผมคิดเอาไว้ตอนแรก แต่ผมก็หวังว่าลูกค้าของผมจะมีโอกาสได้ลิ้มรสเนื้ออันสุดยอดของปลาตัวนี้” นาย Kimura กล่าว อย่างไรก็ตามปลาทูน่าครีบน้ำเงินจัดว่าเป็นปลาที่อยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ แต่ก็เป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่นเอามากๆ โดนส่วนที่แพงที่สุดคือช่วงท้องของปลา หรือที่เรียกว่า…
-
คุณแม่หุ่นเป๊ะ สามีดูแลดี แถมลูกชายก็น่ารักมากๆ นี่มันครอบครัวในฝันชัดๆ
ชีวิตของคนคนหนึ่ง คงไม่ต้องการอะไรไปมากกว่า การที่มีครอบครัวอบอุ่น มีสามีหรือมีภรรยาที่อยู่เคียงข้างเสมอ มีลูกที่น่ารัก แค่ไหนก็มีความสุขมากแล้ว เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของสาวคนหนึ่งที่ชีวิตของเธอนั้น สมบูรณ์แบบราวกับชีวิตของเจ้าหญิงในนิยาย…. Sonya Davison Sanchez สาวลูกเสี้ยวจีน-ไทย-อังกฤษ ความสวยของเธอนั้นทำเอาเศรษฐีหนุ่มชาวฟิลิปปินส์-อเมริกัน ตกหลุมรักและร่วมสร้างครอบครัวกับเธอ ความงามที่เกิดจากการผสมผสานอย่างลงตัวของฝั่งเอเชียและยุโรปทำให้คุณแม่คนนี้ได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์มากๆ เธอมีอาชีพเป็นนางแบบ เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าหลายตัวของสิงคโปร์ด้วย . หลังจากที่แต่งงานกับชายผู้นี้ เธอกับเขาก็ได้ร่วมกันสร้างครอบครัวที่แสนอบอุ่นด้วยกัน Sonya ตั้งครรภ์ลูกฝาแฝด แถมเป็นลูกชายด้วย เป็นคุณแม่ที่สวยและมีออร่าจริงๆ สิ่งหนึ่งที่น่าอิจฉามากๆ เลย ก็คือมีสามีที่ดีและรักเธอมาก ตอนคลอดยังสวย นี่เพิ่งคลอดจริงๆ เหรอเนี่ย ช่วยกันดูแลลูก น่ารักมาก . ฝาแฝดหนุ่มน้อย น่ารักมาก น้อง Tristan Eduardo Sanchez และ Raiden Jodel Sanchez อ้อนคุณแม่หนักมาก …
-
15 ภาพบรรยาย “ความขัดใจ” ของคุณผู้หญิง กับสิ่งที่เหล่าคุณผู้ชายชอบทำให้เห็น
เพื่อนๆ ทุกคนคงต้องเคยประสบพบเจอกับบางสิ่งบางอย่างที่สร้างความรำคาญใจให้เราได้มากเหลือเกิน เราลองมายกตัวอย่างกันในหัวข้อ “สิ่งที่ผู้ชายทำแล้วช่างขัดหูขัดตาสาวๆ เหลือเกิน” ภาพเหล่านี้จะสามารถอธิบายความรู้สึกนั้นได้เป็นอย่างดี เมื่อนี่คือสิ่งที่คุณแฟนหรือคุณฝาละมีของเราชอบทำอยู่เสมอมา โดยหารู้ไม่ว่ามันช่างขัดใจขัดหูขัดตาเหล่านารีเสียจริงนะเออ มันไม่มีวิธีการเปิดที่ดีกว่านี้แล้วเหรอคะคุณ ไม่เข้าใจว่ากินหมดแล้ว ทำไมยังต้องเอาไปแช่ตู้เย็นอี๊กกก ขอบคุณสำหรับครีมชีสที่เหลือไว้ให้นะคุณสามี เมื่อบอกให้ปั๋วออกไปตากผ้าลูกให้หน่อย เปลี่ยนแกนกระดาษทิชชูมันคงยากไปสินะ ความบ้าพลังกับทุกสิ่งอย่างบนโลกใบนี้ เห็นฝาบนขวดนั่นมั้ย เห็นเกลียวหมุนที่มีมาให้บ้างมั้ย เทน้ำใส่แก้วใส่ถ้วยทีไร ยังไงก็ต้องมีเปื้อนออกมาแบบนี้ทุกที ทำไม ทำไม ทำม๊ายยยย “ที่รักคะ คนน้ำในแก้วให้ฉันหน่อยสิ” การฉีกทิชชูในตำนาน เปิดตะกร้า โยนไว้ข้างใน แค่นั้น… ลำไย สามีคงกลัวเธอหิว เลยเหลือแฮมเอาไว้ให้เธอทำแซนด์วิช การจัดเก็บของเอาไว้ในลิ้นชัก นี่คือเทออกจากถุงแค่นั้นสินะ เมื่อบอกให้สามีแต่งตัวให้ลูกน้อยเหมือนคนแก่ เรียบร้อย ผมหายไปแถบ ดูเหมื๊อนเหมือนเลยจริงๆ ที่มา: brightside
-
ภาพหลุด? โปสเตอร์แรกของภาพยนตร์เรื่อง FROZEN 2 กำหนดฉายปลายปีนี้
ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Frozen จากดิสนีย์ หลังจากที่ออกฉายไปในปี 2013 ก็กวาดความนิยมจากเด็กๆ และผู้ใหญ่ทั่วโลก โดยสามารถทำรายได้ไปมากกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 38,363 ล้านบาทเลยทีเดียว ด้วยความนิยมที่พุ่งสูงและครองใจคนทั้งโลกนี้ ทางดิสนีย์ ผู้ผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Frozen ได้ตัดสินใจที่จะสานต่อเรื่องราวของเมืองแอเรนเดลในชื่อของ Frozen 2 แต่การผลิตภาพยนตร์เรื่อง Frozen 2 ทางดิสนีย์ได้เก็บเอาไว้เป็นความลับมากๆ และยังไม่มีการเปิดเผยภาพเกี่ยวกับการถ่ายทำออกมาจริงๆ จังๆ สักที สงสัยจะต้องมีอะไรเซอร์ไพรส์แฟนๆ แน่นอน จากการรายงานข่าวของเว็บไซต์ That Hashtag Show รายงานว่า มีการแห่แชร์รูปภาพของโปสเตอร์ที่คาดว่าน่าจะเป็นแบบร่างของภาพยนตร์เรื่อง Frozen 2 บนโปสเตอร์ของภาพนี้เป็นรูปของสองเจ้าหญิงแห่งเมืองแอเรนเดล นั่นก็คือเจ้าหญิงเอลซ่าและเจ้าหญิงอันนา พร้อมกับข้อความภาษารัสเซียที่แปลว่า Frozen Heart 2 https://www.instagram.com/p/Br6bRjjg-LP/?utm_source=ig_embed แต่ว่า ยังไม่มีการยืนยันว่านี่เป็นภาพโปสเตอร์แรกของ Frozen 2 แต่อย่างใด ยังไงก็ต้องติดตามตอนต่อไป เชื่อว่าไม่นานเกินรอแน่นอนจ้า…
-
สาวตั้งกระทู้น้อยใจ ‘แฟนไม่ตอกไข่ให้’ งานนี้เจอชาวพันทิปปั่นซะละเอียดยิบเลยนิ
เว็บไซต์พันทิป แหล่งชุมชนออนไลน์ที่ชาวไทยนิยมใช้มาเป็นอันดับต้นๆ ในแต่ละวันก็จะมีผู้ใช้เว็บไซต์คอยมาแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ชาวโลกออนไลน์ได้รับรู้กัน ซึ่งบางทีก็มีสาระบ้าง เป็นกระทู้ร้องทุกข์ กระทู้เตือนภัยบ้างปะปนกันไป แต่กระทู้ต่อไปนี้กำลังได้รับความนิยมสุดๆ ไม่รู้ว่าจะเป็นกระทู้ดักหรือเปล่า แต่ว่าความฮามันอยู่ตรงนี้!!! เรื่องมันมีอยู่ว่า ผู้ใช้เว็บพันทิปชื่อ สมาชิกหมายเลข 5040768 มาตั้งกระทู้เชิงระบายความน้อยใจว่า ไปกินหมูกระทะด้วยกัน แต่แฟนของเธอไม่ตอกไข่ให้ ซึ่งปกติแล้วแฟนจะเป็นคนตอกให้ตลอด หรือนี่จะเป็นสัญญาณของการหมดรักกันแน่ ใครจะไปเชื่อว่า แค่เรื่องการตอกไข่จะกลายมาเป็นปัญหาคู่รักได้ หลังจากที่สาวปริศนาคนนี้ได้โพสต์กระทู้ออกไป ชาวพันทิปจึงได้เข้ามาให้กำลังใจเธอแบบนี้ ใช่ๆๆ แฟนเธอไม่รักเธอแล้วนะ อ่ออ๊อย แม่สาวน้อย งอนแฟนซะน่ารักเลย มาแรงมากแม่ พูดตรงมาก แฟนอาจจะขี้เกียจเช็ดมืออ่ะ อย่าคิดมากนะหนู พล็อตภาพยนตร์เลยนะ สาวคนหนึ่งตามหาความจริงว่าแฟนหนุ่มหมดรักแล้วหรือไม่ เหตุมาจาก ไม่ตอกไข่ให้ เป็นแฟนพี่หนูไม่ต้องทำอะไร พี่จะปิ้งหมูให้ พี่จะเคี้ยว และกลืนมันลงไปเพื่อหนูด้วย มีใหม่แน่นอน ถ้าไม่ตักน้ำจิ้มให้อ่ะ หมดรักแน่นอน ร้อยทั้งร้อย หาแฟนใหม่ได้เลยอิหนู …
-
หมาโกลเด้นช่วยชีวิตลูกโคอาล่าหลงทาง ด้วยการนอนกอดกัน ทำให้มันไม่หนาวตาย
ลูกโคอาล่าเป็นสัตว์น้อยที่บอบบาง ปกติมันจะซุกตัวอยู่ในถุงหน้าท้องของแม่ตลอด แม่ของมันจะได้ปกป้องมันจากภัยอันตรายได้ แต่ถ้ามันเกิดพลัดหลงกับแม่ขึ้นมา ก็คงจะปกป้องตัวเองไม่ได้เลย โชคดีที่ลูกโคอาล่าหลงทางตัวนี้ไปเจอพี่หมาโกลเด้น มันเลยรอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด ลูกโคอาล่าตัวน้อยตัวนี้ถูกพบอยู่กับเจ้าหมาโกลเด่นรีทรีฟเวอร์ Asha โดยคาดว่ามันน่าจะหล่นจากถุงหน้าท้องของแม่ในตอนกลางคืน พอเจ้าหมาไปเจอมันเข้า มันก็เลยเกาะติดเจ้าหมาเหมือนกับที่มันเคยเกาะแม่ Kerry McKinnon ซึ่งเป็นเจ้าของของเจ้าหมาไปเจอพวกมันนอนกอดกันในช่วงเช้า ตอนที่เธอกำลังจะออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าน McKinnon เล่าว่าลูกโคอาล่าโชคดีมากที่เจอเจ้าหมาทันเวลา เนื่องจากคืนนั้นอากาศหนาวเย็นจนอุณภูมิต่ำถึง 5 องศาเซลเซียส หากมันไม่ได้ไออุ่นจาก Asha มันก็คงจะหนาวตายไปแล้ว หรือถึงมันจะรอดจากอากาศหนาวเหน็บมาได้ มันก็น่าจะถูกสัตว์ป่าอื่นอย่างสุนัขจิ้งจอกทำร้ายเพราะไม่มีคนคอยปกป้องอยู่ดี เธอบอกว่า “Asha ช่วยชีวิตเจ้าโคอาล่าเอาไว้ได้โดยการมอบความอบอุ่นจากร่างกายให้มัน ถ้ามันถูกทิ้งไว้ตามลำพังทั้งคืนมันคงตายไปแล้วแน่ๆ” แถมดูเหมือนว่าลูกโคอาล่าจะรู้สึกชอบเจ้า Asha เอามากๆ เลยล่ะ ตอนที่เธอพยายามอุ้มมันออกมาจากตัวเจ้าหมา มันเอาแต่เกาะขนเจ้าหมาแน่น แล้วส่งเสียงขู่เธอตลอดทางเลย อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดเธอก็แยกลูกโคอาล่าออกมาจากเจ้าหมาได้ และส่งมันไปให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์อย่าง RSPCA ดูแลต่อ เพื่อที่พอมันแข็งแรงมากพอแล้ว พวกเขาจะได้ช่วยปล่อยมันกลับไปอยู่ตามธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น ที่มา: 9gag
-
ชายจีนทำป่วน สูบบุหรี่บนรถไฟความเร็วสูง ทำความเร็วตกฮวบเพราะสัญญาณจับควันทำงาน!!
สำหรับบางสถานที่ ‘การสูบบุหรี่’ ก็เป็นข้อห้ามเพราะจะด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยหรือด้านสุขภาพก็ตามแต่ และทางที่ดีที่สุดก็คือการปฏิบัติตามข้อบังคับที่กำหนด เพื่อไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นในภายหลัง มิฉะนั้นแล้วอาจถูกลงโทษเหมือนกับชายคนนี้ ที่เขาไปสูบบุหรี่บนรถไฟความเร็วสูง ทั้งที่เป็นสถานที่ห้ามสูบบุหรี่ เลยทำให้สัญญาณตรวจจับควันทำงานและรถไฟต้องลดความเร็วลงอย่างเร่งด่วน!! เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมาบนรถไฟความเร็วสูงขบวนที่ G1538 ซึ่งรถคันนี้ได้วิ่งออกจากสถานีข่ายหลี่ใต้ มณฑลกุ้ยโจว ไปตามเส้นทางที่กำหนด แต่ว่าเมื่อวิ่งไปถึงประมาณสถานีถงเหรินใต้ ก็มีเหตุฉุกเฉินขึ้นเมื่อมีเสียงสัญญาณตรวจจับควันดังมาจากห้องน้ำของตู้โดยสารตู้ที่ 7 ทำไมทำอะไรอย่างนั้นล่ะนาย ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ขบวนรถไฟลดความเร็วลงโดยระบบอัตโนมัติ จาก 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหลือเพียง 83 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบห้องน้ำห้องที่เกิดเหตุ ก็พบกับต้นตอของเรื่องนี้เมื่อพบผู้โดยสารชายคนหนึ่งเพิ่งจะสูบบุหรี่เสร็จใหม่ๆ เลย เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำ คลิปเหตุการณ์ทั้งหมด ชายคนนี้ได้ให้ปากคำว่าเขาเป็นคนแซ่จาง และเพิ่งจะเคยขึ้นรถไฟความเร็วสูงเป็นครั้งแรก เลยไม่รู้ว่าห้ามสูบบุหรี่บนรถคันนี้ เลยทำให้เขาจุดบุหรี่ขึ้นสูบอย่างสบายใจนั่นเอง โดนรวบเรียบร้อย แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อนายจางคนนี้ลงรถไฟที่สถานีเจิ้งโจวตะวันออก เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนคอยอยู่แล้วก็มารับตัวไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งโทษที่เขาโดนก็คือถูกปรับเงินเป็นจำนวน 600 หยวน (ประมาณ 2,800) สำหรับความไม่รู้ครั้งนี้……
-
คู่รักรับ “มิ้วจร” มาอยู่เป็นเพื่อน “กะลาสีเหมียว” กลายเป็นคู่หูที่ผจญภัยด้วยกันทุกที่
ในโลกนี้ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ ไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบหรือมีพร้อมทุกอย่าง เราจึงต้องการใครสักคนหรืออะไรสักอย่างมาเติมเต็มที่ส่วนที่ขาด เช่นเดียวกับ Zissou มิ้วน้อยที่ได้รับการช่วยเหลือโดยครูอาสาสมัครสอนภาษาอังกฤษใน El Javillar สาธารณรัฐโดมินิกัน เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ครูอาสาสมัครพบลูกแมวเพราะเสียงร้องของมันพาพวกเขาหาตัวมันจนเจอ จากนั้นพวกเขาก็พามันไปอยู่ในที่ปลอดภัย แต่ก็ยังไม่สามารถหาที่พักพิงให้มันได้อยู่ดี มิ้วน้อยอายุแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น สภาพของมันดูแย่มากๆ และสิ่งที่มันต้องการมากที่สุดในตอนนั้นคือ บ้าน ขณะเดียวกัน Kach Howe และสามีของเธอ Jonathan คู่รักที่ออกเดินทางรอบโลกด้วยเรือใบ ได้ทราบเกี่ยวกับชะตากรรมของมิ้วน้อย และบังเอิญมิ้วน้อยดันคล้าย Captain Ahab แมวเหมียวของพวกเขา เมื่อไม่มีใครสนใจรับเลี้ยงมิ้วน้อยตัวนี้ คู่รักจึงรู้ได้ทันทีว่านี่อาจเป็นโชคชะตาของพวกเขา เพราะตอนนั้นพวกเขากำลังคิดที่จะหาแมวอีกตัวมาอยู่เป็นเพื่อน Captain Ahab พอดี Kach บอกว่า “ตอนที่ฉันไปรับมันมา มันน่ารักมากๆ และต้องการความสนใจจากมนุษย์ตลอดเวลา แต่มันเล็กและกำลังป่วยหนัก” คู่รักได้ดูแลมิ้วให้กลับมามีสุขภาพดีและตั้งชื่อให้มันว่า Zissou… Zissou ต้องอาบน้ำหลายรอบและรักษาหลายขั้นตอน แต่มันอยู่นิ่งและไม่บ่นสักคำ ราวกับรู้ว่ามนุษย์กำลังช่วยเหลือมัน และเมื่อมิ้วน้อยได้พบกับพี่ชายเหมียว Captain Ahab มันก็กลายเป็นแฟนคลับตัวยงของพี่เหมียวทันที มันเอาแต่ตามพี่ไปทุกที่และพยายามจะเอาชนะใจพี่ชายให้ได้ ตอนแรก Captain Ahab ดูสับสนเล็กน้อยเกี่ยวกับเพื่อนตัวน้อย มันไม่รู้จะรับมืออย่างไรเมื่อเจ้าตัวเล็กต้องการความสนใจ และไม่รู้จะตอบสนองความรักเล็กๆ…
-
นักเรียนหนุ่มควง ‘เหมียวคู่ใจ’ ไปงานพรอม เลยกลายเป็นคู่ที่แย่งซีนทุกคนในงาน
คุณไม่มีวันรู้หรอกว่าแมวมีพลังทำลายล้างมากแค่ไหน จนกว่าคุณจะมีแมวเข้ามาอยู่ในชีวิต เหมือนกับ Sam Steingard และเจ้าเหมียว Ruby ที่มีความผูกพันแน่นแฟ้นอย่างเหลือเชื่อ Sam กับครอบครัวได้พบ Ruby อยู่หลัง Ruby Tuesday เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เห็นได้ชัดว่ามันเป็นแมวจรจัดที่กำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก ครอบครัวของ Sam จึงพานุ้งแมวกลับดูแลจนมันแข็งแรงขึ้น Ruby รักครอบครัวใหม่มาก มันเดินไปส่ง Sam กับน้องสาวของเขา Caroline ไปโรงเรียนทุกวัน และขดตัวนอนกับพวกเขาในเวลากลางคืน Ruby รักทุกคนในครอบครัวก็จริง แต่มันสนิทกับ Sam มากเป็นพิเศษ เพราะชายหนุ่มมักจะพูดกับมันด้วยน้ำเสียงแบบเด็กๆ ซึ่งเจ้าเหมียวชอบเสียงแบบนั้นมาก นอกจากนี้ Sam ยังชอบเอาขนมมากมายให้เจ้าเหมียวกินด้วย Ruby จึงตอบแทนด้วยการกอดชายหนุ่มอย่างไม่มีที่สิ้นสุด กระทั่งปี 2016 Sam ได้เป็นรุ่นพี่ของโรงเรียน แน่นอน เขาเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไปที่คิดเรื่องการหาคู่เดทที่จะควงไปในงานพรอม เวลาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่ Sam ยังหาคู่เดทไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะเขามีทางออกที่สมบูรณ์แบบ นั่นคือ การพาคู่หูที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่าง Ruby ไป เมื่อได้ข้อสรุปว่าจะพาเพื่อนเหมียวไปงานพรอม แม่ของ…
-
เหล่าช่างภาพถูก “สัตว์ป่า” คุกคามขณะทำงาน กลายเป็นโฟโต้บอมพ์สุดเพอร์เฟ็กต์
ช่างภาพสัตว์ป่ามักจะถูกโฟโต้บอมพ์โดยสัตว์ป่าเสมอ ซึ่งบางครั้งมันก็ดูน่ากลัวจนเสียวแทน แต่บางทีมันก็ออกมาน่ารักจนอยากผันตัวเป็นช่างภาพบ้าง และนี่คือเหล่าช่างภาพสัตว์ป่าที่ถูกคุกคามโดยสัตว์มากมายหลายชนิด ทั้งสัตว์น่ารักและจนถึงสัตว์อันตราย แต่ดูเหมือนเหล่าช่างภาพจะไม่กลัวเลยสักนิด กลับรู้สึกชอบซะด้วยซ้ำ เสือชีตาร์ตัวน้อยเดินเข้าไปหาช่างภาพ Stu Porter แล้วก็ขึ้นไปนั่งบนไหล่เขา ราวกับว่าเขาเป็นแค่ก้อนหินก้อนหนึ่งเท่านั้น ช่างภาพ Dave Riggs ถือกล้องให้อยู่หน้าขากรรไกรฉลามที่กำลังอ้าปาก เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบ Christophe Vasselin มุ่งมั่นที่จะถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบ แม้จะถูกกอริลลาน้อยผลัก แต่ก็ยังไม่ถ่ายรูปต่อ Russell Mclaughlin กับเสือดาวใกล้ชิดกันมากราวกับรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ขณะอยู่ที่ Tshukudu Game Reserve ในแอฟริกาใต้ เหล่าลีเมอร์ผู้น่ารักในมาดากัสการ์ แอฟริกา กำลังทักทายช่างภาพสาวแบบถึงเนื้อถึงตัว ช่างภาพ Petr Bambousek กำลังพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ภาพลิงที่สมบูรณ์ แม้จะโดนรบกวนไม่หยุดก็ตาม Roman Rusin เข้าไปถ่ายรูปเจ้ากวางในระยะใกล้ แต่ดูเหมือนเจ้ากวางอยากเล่นกับเขามากกว่านะ เหมือนเจ้าอุ๋งๆ จะบอกว่า “เดี๋ยวสิเพื่อน เดี๋ยวค่อยถ่าย ไม่ได้เจอกันนาน เรามาคุยกันก่อนดิ” Richard Schneider…
-
วัวหนีตาย โดดลงจากรถขนสัตว์ขณะอยู่บนทางด่วน ได้เจอคนมาช่วยให้รอดชีวิตจริงๆ
คุณเคยเห็นฉากที่ตัวเอกถูกบีบบังคับให้ต้องเลือกโดดลงรถเพื่อเสี่ยงตาย หรืออยู่นิ่งๆ ต่อไปเพื่อรอคอยความตายบ้างไหม? เจ้าวัวตัวนี้ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน…และมันเลือกที่จะโดดลงจากรถ เมื่อกลางดึกวันหนึ่งขณะที่รถขนวัวกำลังพาพวกวัวไปยังโรงฆ่าสัตว์ มีวัวตัวหนึ่งตัดสินใจโดดจากชั้น 2 ของรถ ลงมาสู่ถนนข้างล่าง มันอาจกำลังคิดว่ายอมเสี่ยงดีกว่าต้องรอความตายข้างหน้า โชคดีที่มันรอดชีวิตมาได้ แต่มันก็ยังไม่ปลอดภัยดีนักเนื่องจากมันยังอยู่บนถนนที่มีรถวิ่งด้วยความเร็วสูงอยู่ ตำรวจจึงพากันออกมาควบคุมตัวเจ้าวัวไว้ มันจะได้ไปสร้างความปั่นป่วนให้กับคนใช้ถนนคนอื่น และก็เป็นโชคดีของมันอีกเช่นกัน ที่มันไม่ถูกจับไปส่งคืนให้โรงฆ่าสัตว์หรือเจ้าของเก่า แต่มันถูก Mike Stura ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Skylands Animal Sanctuary and Rescue พาไปอยู่ด้วยแทน มันจึงได้ใช้ชีวิตต่อสมใจ คลิปวิดีโอตอนที่ตำรวจและ Mike ไปจับเจ้าวัวบนถนน Mike ตั้งชื่อเจ้าวัวว่า Brianna เขาพามันไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในฟาร์ม โดยให้มันเดินเล่นไปมาได้ตามใจทั้งวัน และไม่ต้องกังวลว่าจะถูกส่งไปโรงฆ่าสัตว์อีกเลย แม้จะเพิ่งโดดลงรถมา แต่มันก็ดูไม่เจ็บอะไรมาก และมีความสุขดี หลังจากที่ Brianna มาอยู่ในฟาร์มของ Mike ได้ไม่นาน มันก็เซอร์ไพรส์ทุกคนด้วยการคลอดลูกตัวน้อยออกมา ทั้งที่ตอนแรกไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่ามันท้อง นั่นทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า จริงๆ แล้วมันอาจไม่ได้ตัดสินใจโดดจากรถเพื่อช่วยชีวิตตัวเองอย่างเดียว แต่เพื่อทำให้ลูกตัวน้อยได้มีโอกาสลืมตาดูโลกด้วย …
-
ตำรวจพากันเหวอ เจอกระรอกห้าวบุกเข้าสถานีตำรวจ ร้องวี้ดว้ายกลัวมันใหญ่
คนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นต้องเจอสิ่งอันตรายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับคนร้าย และการควบคุมความไม่สงบที่เกิดขึ้นในชุมชน พวกเขาจึงนับได้ว่าเป็นคนที่มีความกล้าหาญมาก ทว่าบางครั้งก็มีสิ่งที่ทำให้พวกเขากลัวได้เหมือนกัน แม้ว่าเราจะไม่คิดเลยว่าสิ่งที่ว่านั้นจะเป็นแค่กระรอกตัวเล็กๆ ดูไม่มีพิษไม่มีภัยตัวหนึ่ง… ภาพสเก็ตช์คร่าวๆ ของคนร้ายขนปุย เมื่อไม่นานมานี้ที่สถานีตำรวจในเมืองแม็คเฮนรี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีกระรอกน้อยตัวหนึ่งบุกเข้ามาหน้าประตูทางเข้าโรงพัก ตอนที่มีนายตำรวจกำลังจะเปิดประตูออกไปเพื่อกลับบ้าน แม้ว่าเราจะไม่เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ยังไง แต่นายตำรวจหลายคนในคลิปวิดีโอมีท่าทีชัดเจนเลยว่าพวกเขาเกรงกลัวมัน ราวกับว่ากระรอกน้อยตัวนี้เป็นอันตรายมากๆ นายตำรวจเล่าว่า “เจ้ากระรอกตัวนี้มันวนเวียนอยู่แถวนี้เป็นประจำแหละ มันไม่ค่อยกลัวอะไรหรอก ตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจของเรากำลังจะออกจากสถานี มันยังเข้ามาทำให้เขากลัวแทนเลย” เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามช่วยกันอย่างหนัก เพื่อที่จะไล่ให้มันออกไปข้างนอกเหมือนเดิม คนที่กลัวมันจะได้เดินเข้าออกได้ตามปกติ ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากเจ้ากระรอกติดอยู่ระหว่างประตูทางเข้าชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ซึ่งประตูทั้ง 2 บานนี้มีกลไกเปิดและปิดพร้อมๆ กัน นั่นหมายความว่าถ้าจะเปิดประตูให้เจ้ากระรอกออกไป ก็ต้องเสี่ยงให้มันวิ่งเข้ามาด้วยนั่นเอง งานนี้การไล่เจ้ากระรอกออกไปจึงดูเครียดมากๆ ราวกับการต้อนผู้ร้ายเลยทีเดียว สุดท้ายแล้วพวกเขาก็สามารถไล่เจ้ากระรอกน้อยออกไปได้สำเร็จ แต่ตำรวจสาวที่ถ่ายคลิปวิดีโออยู่กลัวเจ้ากระรอกจนไม่สามารถถ่ายคลิปถึงตอนนั้นได้ และทำให้เราไม่ได้เห็นว่าพวกเขาทำให้มันออกไปได้โดยไม่มีตำรวจร้องไห้รึเปล่า ถึงจะเห็นว่ากระรอกตัวเล็กแค่นี้ แต่ดูจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละคนระแวงมันมากแล้ว คาดว่ามันน่าจะเคยก่อเรื่องไว้เยอะพอควรเลย ถือว่ามันเจ๋งมากที่กล้าหือกับตำรวจทั้งสถานี ที่มา: the dodo, McHenry Police Department
-
ศิลปินชาวญี่ปุ่น ผู้เปลี่ยนให้ ‘กระดาษ A2 แผ่นเดียว’ กลายเป็น ‘หมึกยักษ์’ ที่ดูมีชีวิต!!
ใครเล่าจะคิดว่า ‘กระดาษเปล่า’ จะกลายมาเป็น ‘หมึกยักษ์’ ที่ดูราวกับว่ามีชีวิตจริงๆ ได้!! นี่คือผลงานศิลปะจากกระดาษโดยศิลปินชาวญี่ปุ่นชื่อว่า Masayo Fukuda ผู้มีประสบการณ์ในการ ‘ตัดกระดาษ’ มานานกว่า 25 ปี “สำหรับฉันแล้วการตัดกระดาษให้เป็นรูปต่างๆ เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันผ่อนคลาย และลืมความเครียดในชีวิตไปได้อย่างสิ้นเชิง” Fukuda กล่าว “วิธีการทำมันก็ไม่ยากหรอกนะ แค่มีกระดาษ มีดคัตเตอร์ ไฟฉาย หรืออุปกรณ์ให้แสงสว่าง ที่เหลือก็เป็นเรื่องสมาธิ และประสบการณ์ล้วนๆ” เธอกล่าวเพิ่มเติม และหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของเธอก็คือเจ้า ‘หมึกยักษ์’ ตัวนี้ ที่เธอใช้กระดาษขนาด A2 แค่แผ่นเดียว ในการสร้างสรรค์มันออกมาให้ดูราวกับว่ามีชีวิตอยู่จริงๆ!! “งานชิ้นนี้ฉันใช้เวลานานกว่า 2 เดือนในการสร้างมันขึ้นมาเลยล่ะ” Fukuda เล่า รายละเอียดยิบย่อยที่เก็บหมดทุกเม็ด . . . ทุกอย่างเธอทำมันด้วยมือ นอกจากนี้ก็ยังมีผลงานชิ้นอื่นๆ…
-
บริษัทเทคโนโลยีจ้างเฉพาะผู้ป่วยโรค ‘ออทิซึม’ เพียงอย่างเดียว เพราะมองเห็นถึงศักยภาพ!!
โดยปกติแล้วบริษัทส่วนใหญ่ จะทำการรับพนักงานที่เก่ง และมีความสามารถ ตรงตามเป้าหมายของธุรกิจที่ทำอยู่ แต่มีบริษัทเทคโนโลยีบริษัทหนึ่ง ที่มีสาขาอยู่ในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, อิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์ ชื่อว่า Auticon กำลังตั้งเป้าที่จะเลือกจ้างแต่คนที่ป่วยเป็นโรค ‘ออทิซึม’ (Autism) เท่านั้น!! จากข้อมูลของหน่วยงาน National Autistic Society พบว่ามีผู้ป่วยออทิสติกผู้ใหญ่เพียง 16 เปอร์เซ็นต์ ที่ถูกจ้างงานแบบเต็มเวลา และสถานการณ์ก็เป็นแบบนี้มานานนับ 10 ปีแล้ว และข้อมูลที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ กว่า 85 เปอร์เซ็นต์จากพนักงานใน Auticon สาขาสหราชอาณาจักร ล้วนแล้วแต่ถูกเลิกจ้างงานก่อนเข้ามาทำงานที่บริษัทนี้ แม้ว่าพวกเขาจะมีใบปริญญาก็ตาม มันแสดงให้เห็นว่า ‘ความสามารถอันล้นหลามของบรรดาผู้ป่วยเป็นออทิสติก กับอัตราการจ้างงานสำหรับพวกเขา’ มันช่างขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง Viola Sommer หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Auticon ในสหราชอาณาจักรกล่าวว่า “มีผู้คนที่ป่วยเป็นโรคออทิซึมจำนวนมากมักถูกเหมารวมว่าไม่สามารถทำงานได้ พวกเขาจึงรู้สึกว่ามันยากมากที่จะได้รับการพิจารณาในการสมัครงานแบบทั่วๆ ไป แม้จะสามารถเข้าไปรับตำแหน่งงานได้…
-
23 ภาพความงดงามของ ‘การเปรียบเทียบ’ สิ่งเดียวกันต่างเวลา/สิ่งสองสิ่งที่แตกต่างกัน!!
บางครั้ง ‘การเปรียบเทียบ’ ให้เห็นถึงความแตกต่างของสิ่งสองสิ่ง หรือสิ่งเดียวกันแต่เป็นคนละช่วงเวลา มันก็อาจจะนำมาซึ่งความน่าหลงใหล และความงดงามอย่างน่าประหลาดใจ หากเพื่อนๆ ยังไม่เห็นภาพล่ะก็ #เหมียวหง่าว จะขอหยิบภาพเหล่านี้มาให้ชมกันครับ เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว เลื่อนลงไปได้เลย!! 1. เมื่อสัปดาห์ก่อน Vs. สัปดาห์นี้ 2. ระหว่างทางไปเที่ยวทะเลสาบ Vs. ระหว่างทางกลับจากทะเลสาบ 3. ตัดภาพของตัวเองครึ่งหน้าไปเทียบกับลูกสาว 4. วันแรกของการไปโรงเรียนอนุบาล Vs. วันสุดท้ายของการฝึกสอน 5. ภาพวาดดอกทานตะวันดอกเดียวกัน โดยฝีมือของลูก 4 คน ทุกภาพวาดตอนที่พวกเขาอายุได้ 5 ขวบเหมือนกัน 6. ทวีปอาร์กติกเมื่อ 103 ปีก่อน เทียบกับปัจจุบัน 7. เปลวไฟบนเทียน ที่จุดบนโลก เทียบกับเปลวไฟบนเทียน ที่จุดบนสถานีอวกาศนานาชาติ 8. 1990…
-
หนุ่มหนัก 300 กิโลฯ ผู้รักการกินและเล่นเกม เป็นชีวิตจิตใจ เผย…จะทำแบบนี้ไปจนตาย
เป้าหมายในชีวิตของคนเรามีความแตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มคนนี้ ที่รู้ทั้งรู้ว่า ‘ความสุข’ ของตัวเองจะนำมาซึ่งอันตรายถึงชีวิต แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะทำมันต่อไป… นี่คือเรื่องราวชีวิตของ Casey King ชายผู้รักการกิน และเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ เขารักรูปแบบชีวิตแบบนี้ ได้นั่งเล่นเกมและกินมันทั้งวัน จนมีน้ำหนักตัวมากถึง 317.5 กิโลกรัม Casey อาศัยอยู่ที่บ้านกับคุณพ่อ ในรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ทำให้เขาต้องลาออกจากงานพนักงานร้านอาหาร เพราะปัญหาน้ำหนักตัวมันทำให้การทำงานของเขาเป็นเรื่องที่ยาก มิหนำซ้ำยังถูกคุณแม่ที่แยกทางกับพ่อไล่ออกจากบ้าน เขาจึงตัดสินใจที่จะย้ายเข้ามาอยู่กับพ่อ เพราะพ่อมักจะตามใจเขาในทุกๆ เรื่อง ในทุกๆ วัน Casey จะทานอาหารเป็นจำนวนมากทั้งพิซซ่า เบอร์เกอร์ ไก่ทอด และอาหารญี่ปุ่น โดยสั่งมาทานที่บ้าน นอกจากเรื่องการกินแล้ว เขายังมีความสุขกับ ‘การเล่นเกม’ ในทุกๆ วัน Casey จะตื่นมาประมาณเที่ยงวัน พอตื่นมาเขาก็จะหาอะไรกินก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็เปิด Xbox เล่น ซึ่งทุกอย่างเขาทำมันบนเตียงหมดเลย “ในโลกเสมือนที่อยู่ในเกม ผมได้รับการยอมรับ…
-
ตำรวจสวยเยอรมนี ตัดสินใจ ‘กลับมาเป็นตำรวจอีกครั้ง’ หลังเจ้านายบอกให้เลือก!!
เมื่อช่วงปลายปีก่อน #เหมียวหง่าว ได้นำเสนอข่าวของตำรวจหญิงสุดเซ็กซี่ในประเทศเยอรมนี ที่ขอหยุดลางานยาว 6 เดือน โดยไม่รับเงินเดือน เพื่อไปทำงานเป็น ‘เน็ตไอดอล’ เดินทางเที่ยวทั่วโลก ลงภาพเซ็กซี่ และภาพออกกำลังกาย จนเป็นเหตุให้ผู้บังคับบัญชาต้องเรียกตัวกลับมาถาม และยื่นคำขาดให้เลือกทางเดินชีวิตอย่างเด็ดขาดว่าจะเอาแบบไหนกันแน่!? อ่านข่าวเก่าที่ได้ที่นี่ : ตำรวจสวยงานเข้า หลังเจ้านายไม่ปลื้ม ถูกเรียกพบ ให้เลือกงานหรือ ‘จะไปเป็นนางแบบ’!? Adrienne Koleszar ตำรวจสาววัย 34 ปี ประจำอยู่ในเมือง Dresden รัฐ Saxony ประเทศเยอรมนี จากความสวยแซ่บของเธอ ทำให้บรรดาชาวเน็ตทั้งหลายต่างยกให้เป็น ‘ตำรวจที่สวยที่สุดในเยอรมนี’ ในอินสตาแกรมของ Adrienne มีผู้ติดตามมากกว่า 643,000 คน ในช่วงกลางปี 2018 เธอจึงตัดสินใจลางาน และไปทำอาชีพเป็นเน็ตไอดอลแบบเต็มตัว แต่ทว่าในช่วงปลายปี ในรัฐ Saxony ประสบกับปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างหนัก ทำให้เธอถูกผู้บังคับบัญชาเรียกตัวกลับมาก่อนกำหนดวันกลับมาทำงาน (คือวันที่ 1 มกราคม…
-
ชมภาพอุปกรณ์ตรวจจับเสียงในอดีต เครื่องมือเก่าแก่ที่เราเคยใช้ก่อนเรดาร์จะเป็นที่นิยม
เป็นเรื่องที่ทราบกันดีว่าเรดาร์เป็นเทคโนโลยีตรวจจับที่สำคัญต่อโลกขนาดไหน แต่รู้หรือไม่ว่ากว่าที่มนุษย์เราจะเริ่มมีการใช้เรดาร์ในทางทหารในปี 1941 คนเราเคยใช้เครื่องมือแบบไหนในการตรวจจับของแบบเครื่องบิน คำตอบของคำถามนี้คือ “Acoustic location” หรือเครื่องตรวจตำแหน่งเสียง เครื่องมือที่อาศัยเครื่องของเครื่องยนต์จากเครื่องบินในการบอกตำแหน่งของยานบินในบริเวณ แต่ส่วนมากแล้วเครื่องมือเหล่านี้ มักจะเป็นเพียงเครื่องเสริมความสามารถในการได้ยินของมนุษย์เท่านั้น จำเป็นที่จะต้องมีมนุษย์คอยเป็นผู้ฟังเสียงอีกทีหนึ่ง แถมมักจะมีรูปร่างที่แปลกมากเลยด้วย ไม่เชื่อก็ลองไปชมภาพของเครื่องตรวจตำแหน่งเสียงในอดีตทั้ง 14 เครื่องต่อไปนี้ดูสิ เริ่มกันจากเครื่องจับเสียงรูปร่างแตรคู่ของสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1921 (บางแหล่งข้อมูลก็บอกว่าปี 1925) เครื่องจับเสียงของเยอรมนีในปี 1917 ที่ใส่แล้วจะคล้ายๆ มิกกี้เม้าส์หน่อยๆ “Personal Parabola” อุปกรณ์ตรวจจับเสียงของชาวฮอลันดาในช่วงยุค 1930 มีรูปร่างคล้ายจานผ่าครึ่ง อุปกรณ์ตรวจจับเสียงของชาวฮอลันดาในยุค 1930 อีกชิ้นหนึ่ง มีประสิทธิภาพมากกว่าชิ้นด้านบน แต่ในขณะเดียวกันขนาดและน้ำหนักก็มากตามๆ กันไปด้วย อุปกรณ์ตรวจจับเสียงของสาธารณรัฐเช็กในยุค 1920 มีจุดเด่น ที่ท่อยาวไปสู่จาน การทดสอบเครื่อง “Perrin acoustic locator” ของฝรั่งเศสในยุค 1930 เครื่องนี้มีจุดเด่นที่แผง 4 แผงที่เห็น…
-
ชมเครื่องประดับของ “มารี อ็องตัวแน็ต” ที่ถูกนำออกแสดงเป็นครั้งแรกในรอบ 200 ปี
ในช่วงที่การปฏิวัติฝรั่งเศสเกิดขึ้น (แถวๆ ปี 1789) ในคืนก่อนที่ “มารี อ็องตัวแน็ต” จะถูกจับ เธอได้เอาเครื่องประดับจำนวนหนึ่งของตัวเองห่อเก็บเอาไว้ในกล่องไม้ และส่งไปยังเวียนนา ประเทศออสเตรีย ด้วยความพยายามนี่เองทำให้เครื่องเพชรแสนรักของเธอส่วนหนึ่งสามารถรอดพ้นเงื้อมมือของฝั่งปฏิวัติ และกลับไปสู่มือของลูกหลานยาวนานกว่า 200 ปี แม้ว่าตัวเธอจะเสียชีวิตไปแล้ว และเมื่อช่วงปลายปี ค.ศ. 2018 ที่ผ่านมานี้เอง ในที่สุดเครื่องเพชรของมารี อ็องตัวแน็ตในวันนั้นก็ได้รับอนุญาตให้นำออกสู่สายตาประชาชนจนได้ ภายในงานแสดงเครื่องประดับแห่งราชวงศ์บูร์บง-ปาร์มาในโรงประมูล “Sotheby” ในสหรัฐฯ นั่นหมายความว่าหากคุณมีเงินมากพอ เครื่องประดับเหล่านี้ก็ได้รับอนุญาตให้ออกประมูลอย่างเป็นทางการเลยนั่นเอง ว่าแต่เครื่องประดับที่ว่ามันจะงดงามขนาดไหนนั้น วันนี้ #เหมียวศรัทธา จะนำเพื่อนๆ ไปชมกันที่ข้างล่างนี้เลย เริ่มกันจากสร้อยคอเพชร พร้อมเพชรอีกห้าเม็ดของมารี อ็องตัวแน็ต ตุ้มหู (หรือไม่ก็ส่วนหนึ่งของสร้อยคอ) ที่ทำจากไข่มุกธรรมชาติ และเพชร แหวนประดับผม 2 วงที่ทำจากเพชรในสไตล์ศตวรรษที่ 18 กับเครื่องประดับผมอีกชิ้นหนึ่ง สร้อยคอที่ทำจากไข่มุก 331 เม็ด และประดับไว้ด้วยเครื่องประดับเพชรอีกที ตุ้มหูไข่มุกแท้ประดับเพชร ริบบิ้นเพชรที่มีมูลค่าราวๆ 1.6-2.5…
-
ชม 23 ภาพสุดแปลกของแฟชั่นหนุ่มๆ ยุค 70 ที่ในสมัยก่อนอาจจะถูกมองว่าเท่มากๆ ก็ได้
ยุค 70 นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างแปลกสำหรับวงการแฟชั่นเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ หากไปเดินบนถนนในช่วงปีนี้ก็คงจะได้เห็นคนแต่งตัวแบบแปลกๆ กันไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะสำหรับเหล่าหนุ่มๆ แล้วด้วย อาจจะเพราะได้รับอิทธิพลมาจากเอลวิสก็เป็นได้ ในสมัยนั้นหลายๆ คนจึงชอบแต่งตัวให้เด่นที่สุดเท่าที่ตัวเองจะเป็นได้ ว่าแต่มันจะเป็นแบบไหนอย่างนั้นเหรอ? ก็ประมาณภาพทั้ง 23 ภาพต่อไปนี้ไง เริ่มกันจากใส่เสื้อยาวๆ (และไม่ใส่กางเกง) แบบนี้ กางเกงก็จะขาบานๆ นิดนึง บางทีก็จะมีโชว์อก ถ้ามีขนหน้าอกด้วยจะยิ่งเท่….? บางคนก็ใส่กางเกงสูงๆ แต่ต้องเอาชายเสื้อใส่ในกางเกงนะ เสื้ออย่างหรูกางเกงลายโต๊เต๊ รู้สึกอยากพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับซิป… แบบผสมผสานกับแฟชั่นโบราณ (ความแปลก +10) ด้านซ้ายสีหนึ่ง ด้านขวาอีกสีหนึ่ง ดูเผินๆ นึกว่าใส่กางเกงกลับข้าง ขาบานๆ ไม่พอต้องมีจีบด้วย ใส่ขาสั้นแล้วจะรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง อือหือ ตาแทบระเบิด กางเกงจำเป็นต้องเว้าข้างด้วยเหรอ …
-
นักศึกษาพลัดตกหน้าผาเสียชีวิต ขณะที่ถือโทรศัพท์ ‘เซลฟี่’ ตัวเองอยู่!!
ใครจะไปเชื่อว่าการที่เราทำอะไรที่คุ้นๆ ชินๆ อย่างการ ‘เซลฟี่’ ที่เราทำอยู่ทุกๆ วันจะทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ แต่ว่าก็มีเหตุการณ์ร้ายแรงเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นแล้วจริงๆ จากการถ่ายรูปตัวเองเช่นนี้ แล้วมันรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตเลยด้วย Cliffs of Moher สถานที่เกิดเหตุ เว็บไซต์ Metro ได้รายงานเรื่องนี้ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 ม.ค.) นักศึกษาวัย 20 ต้นๆ คนหนึ่งได้พลัดตกหน้าผา Cliffs of Moher สถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อของประเทศไอร์แลนด์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือนักศึกษาคนนี้ได้ไปยืนเซลฟี่อยู่ริมหน้าผา แต่ว่าด้วยความบังเอิญอะไรสักอย่างทำให้เขาเกิดลื่นจนเสียการทรงตัว และพลัดตกหน้าผาไปในที่สุด ซึ่งนักศึกษาคนที่เสียชีวิตนี้เป็นชาวต่างชาติที่พักและเรียนหนังสืออยู่ที่เมืองดับลิน ภายในประเทศไอร์แลนด์นั่นเอง ในภายหลังได้มีการเก็บกู้ศพของเขาโดยหน่วยยามชายฝั่งของไอร์แลนด์ และได้นำศพส่งยังโรงพยาบาล University Hospital Limerick เพื่อชันสูตรต่อไป นี่อาจเป็นเหตุการณ์น่าเศร้าที่จะมาเป็นอุทาหรณ์ให้เราได้เป็นอย่างดี ว่าการเซลฟี่นั้นควรทำให้ถูกสถานที่ และไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับอันตรายต่างๆ จะได้ไม่เกิดเรื่องสลดเช่นนี้ขึ้น… ที่มา: metro, news.sky
-
เปิดเรื่องราวของถ้ำ “Davelis” ถ้ำลึกลับแห่งกรีก ที่รวบรวมเรื่องประหลาดเอาไว้กว่า 1,000 ปี
เคยได้ยินเรื่องราวของถ้ำ Davelis (บางทีก็เรียกว่าถ้ำ Penteli) กันมาก่อนไหม? นี่เป็นถ้ำที่อยู่บนภูเขา Penteli ใกล้ๆ เมืองเอเธนส์ ประเทศกรีซ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อภูเขานี้ในฐานะทางผ่านการวิ่งมาราธอน หรือไม่ก็สถานที่ที่มีเหมืองเก่าแก่ซึ่งใช้ขุดหินอ่อนที่นำมาทำวิหารพาร์เธนอน แต่นอกจากเรื่องเหล่านั้นแล้ว ที่แห่งนี้ ยังมีเรื่องราวแปลกๆ ซ่อนอยู่อีกมากเลย นั่นเพราะถ้ำ Davelis ในอดีตเคยเป็นสถานที่ที่เชื่อกันว่าเป็นที่อยู่อาศัยของเทพแพน ผู้เป็นเจ้าแห่งป่าเขา กับเหล่านางไม้ จากหลักฐานโบราณวัตถุของชาวกรีกโบราณที่พบในถ้ำ และต่อมาก็ยังกลายเป็นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับวิญญาณและความเชื่อเรื่อยมาอีกด้วย ที่ปากถ้ำ Davelis มีโบสถ์เก่าแก่รูปร่างประหลาดอยู่ ซึ่งเชื่อกันว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในศตวรรษที่ 11 ว่ากันว่าใครคนที่เข้าไปในถ้ำนี้จะได้ยินเสียงประหลาดดังมาจากส่วนลึกของถ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเสียงคน หรือแม้กระทั่งเสียงเครื่องดนตรีที่ไม่สามารถหาที่ไปที่มาได้ แถมตั้งแต่ที่มีการค้นพบในต้นศตวรรษที่ 19 ทางรัฐก็ได้รับการรายงานว่ามีผู้พบเห็นสิ่งแปลกๆ ทั้ง เงาประหลาด ยูเอฟโอ หรือแม้กระทั่งวิญญาณคนตาย ชื่อเสียงของถ้ำนี้โด่งดังมากในปี 1977 เมื่อกลุ่มคนจำนวนมากที่อ้างตัวว่ามาจาก “องค์กรลับ” เข้ามายึดที่แห่งนี้พร้อมๆ กับล้อมลวดหนาม แถมยังมีการ “ดำเนินงาน” กับตัวถ้ำด้วยการใช้งานเครื่องมืออย่างระเบิด และรถตักดิน การกระทำเหล่านี้ทำให้เกิดข่าวลือว่าหน่วยงานอย่าง NATO หรือรัฐบาลสหรัฐฯ…
-
เจออีกแล้ว!! เจ้าของร้านขายของชำสุดภูมิใจ มีหน้าตาเหมือน ‘แจ็ค หม่า’ แห่งอาลีบาบา!!
กลายเป็นคนดังขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวเลยก็ว่าได้สำหรับชายเจ้าของร้านขายของคนหนึ่ง ที่บังเอิ๊ญบังเอิญว่าดันมีหน้าตาเหมือนกับ ‘แจ็ค หม่า’ มหาเศรษฐีแห่งอาณาจักรอาลีบาบาเข้าให้ซะอย่างงั้น!! Wu Xuelin เจ้าของร้านขายของชำเล็กๆ แห่งมณฑลเจ้อเจียง วัย 39 ปี ตอนคุยโม้ว่าตอนนี้แอคเคานต์โซเชียลมีเดียของเขามีผู้ติดตามมากถึง 1.35 ล้านคน จากการที่เขาตั้งฉายาให้ตัวเองว่า “Litte Jack Ma” เหมือนป่ะล่ะ เขาเล่าให้ฟังว่าผู้คนมักจะทักเขาผิดบ่อยๆ ว่าเป็นนายแจ็ค หม่า และสิ่งสิ่งนี้มันก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขรวมทั้งมีความภูมิใจในตัวเองเกิดขึ้นด้วย กับการเป็นร่างแยกของมหาเศรษฐีเช่นนี้ นอกจากนี้เรื่องนี้ยังมีส่วนช่วยในธุรกิจของ Wu ด้วย เพราะผู้คนมักจะเข้ามาที่ร้านของที่ร้านของเขาแล้วเอาไปคุยโม้ต่อว่า นี่ข้าซื้อบุหรี่มาจากร้านของแจ็ค หม่าเลยนะเฟ้ย!! ลองพิสูจน์ด้วยสายตาของคุณเอง แต่ถึงอย่างไรแล้วนาย Wu ก็บอกว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เขาจะยังคงทำงานเป็นเจ้าของร้านขายของชำนี้ต่อไป แม้สมมุติว่านายแจ็ค หม่าจะมีความอนุเคราะห์ให้การดูแลเขาก็ตามที แต่ว่านอกจากเจ้าของร้านคนนี้แล้ว ในอดีตก็เคยมีข่าวของคนที่หน้าตาเหมือนกับมหาเศรษฐีคนนี้หลายคนเหมือนกัน ดั่งเช่น คนขายเห็ดคนหนึ่งก็มีหน้าตาเหมือนแจ็ค หม่า ยามคนหนึ่งก็มีหน้าตาเหมือนกับแจ็ค หม่า เด็กวัย 8 ขวบคนหนึ่งก็มีหน้าตาเหมือนกับแจ็ค หม่า… …
-
รูปสลักอายุ 1,700 ปี ถูกค้นพบโดยบังเอิญ โดยหญิงสาวที่เดินผ่านสุสานในวันที่ฝนตก
เป็นเรื่องที่รู้กันว่าบางครั้งการค้นพบที่สำคัญๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องเกิดขึ้นโดยมือของนักโบราณคดีเสมอไป เพราะในบางครั้งคนธรรมดาๆ ก็ค้นพบสิ่งที่ไม่น่าเชื่อจากความบังเอิญล้วนๆ ได้เช่นกัน เรื่องในคราวนี้เกิดขึ้นเมื่อหญิงสาวผู้ไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่งเดินผ่านสุสานใกล้ๆ เมืองโบราณชื่อ Beit She’an ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิสราเอล ในวันที่ฝนตก ในตอนนั้นเองเธอก็บังเอิญเหลือบไปเห็นส่วนบนของก้อนหินประหลาด ที่มีรูปร่างคล้ายศีรษะมนุษย์ โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินที่ถูกน้ำฝนชะ จึงได้ตัดสินใจแจ้งการค้นพบให้กับเจ้าหน้าที่กระทรวงโบราณวัตถุของอิสราเอล พวกเขาส่งทีมเข้าขุดค้นพื้นที่สุสานที่ Beit She’an หลังจากนั้น และพบว่าก้อนหินที่หญิงสาวผู้ไม่ประสงค์พบนั้น แท้จริงแล้วมีอยู่ถึงสองอัน แถมยังเป็นรูปสลักโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,700 ปีอีกด้วย นี่เป็นรูปสลักที่แกะขึ้นจากหินปูน ที่มีน้ำหนักมากถึงชิ้นละ 30 กิโลกรัมจากสมัยโรมันโบราณ โดยเป็นรูปของชายหญิงคู่หนึ่ง และคาดกันว่าเป็นรูปสลักที่ทำให้ผู้ที่เสียชีวิตตามประเพณีของเมืองโรมันโบราณบางแห่ง รูปสลักในรูปแบบนี้ มักจะถูกเรียกกันว่า “Protomae” ซึ่งตามปกติแล้วที่รูปสลักจะมีชื่อของผู้ตายสลักเอาไว้ด้วย แต่น่าแปลกที่รูปสลักที่มีการค้นพบในครั้งนี้ไม่ได้มีการสลักชื่อไว้แต่อย่างใด การค้นพบเหล่านี้ทำให้นักโบราณคดีตั้งข้อสันนิษฐานว่าชาวเมือง Beit She’an ในสมัยก่อนอาจจะไม่ได้มีเชื่อสายมาจากชาวยิวหรือสุเมเรียนเหมือนกับคนในพื้นที่ใกล้เคียงก็เป็นได้ เพราะการตกแต่งภาพของคนตายไว้ที่หลุมศพเป็นหนึ่งในข้อห้ามของฮีบรูไบเบิล อย่างไรก็ตามรูปสลักที่มีการค้นพบในครั้งนี้นั้น ไม่ใช่รูปสลักแบบ Protomae ชิ้นแรกที่มีการค้นพบในประเทศ เพราะตั้งแต่ในศตวรรษที่ 19 มาที่อิสราเอลก็มีการค้นพบรูปสลัก Protomae มากมายหลายแบบจากผู้สร้างที่ต่างกันมาแล้ว …
-
ย้อนรอย “มาร์กาเร็ต โฮว์ โลแว็ตต์” เรื่องราวสุดแปลก ของหญิงสาวผู้เคยมีเซ็กส์กับโลมา
ในช่วงยุคปี 60 นักประสาทวิทยาจอห์น ลิลลี่ และนักดาราศาสตร์แฟรงก์ เดรกได้ร่วมมือกันขอทุนทำการวิจัยเกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างคนและปลาโลมา พวกเขาได้รับทุนจากนาซา สร้างห้องปฏิบัติการในการทดลอง และว่าจ้าง “มาร์กาเร็ต โฮว์ โลแว็ตต์” หญิงสาววัย 23 ปีมาเป็นคนฝึกสอนโลมา มาร์กาเร็ตได้รับมอบหมายให้ฝึกฝนโลมาตัวผู้ชื่อ “ปีเตอร์” ในการทำเสียงเลียนแบบมนุษย์ ซึ่งแม้ว่าจะดูเป็นเรื่องธรรมดาๆ ในการทำงานวิจัย แต่ในเวลานั้นคงไม่มีใครทราบหรอกว่าหลังจากนี้ความสัมพันธ์และระหว่างปีเตอร์และมาร์กาเร็ตจะเปลี่ยนไปเช่นไร ด้วยความที่โลมาเป็นสัตว์ที่มีความต้องการทางเพศค่อนข้างมากอยู่แล้วทำให้บ่อยครั้ง ปีเตอร์ก็พยายามที่จะลูบตัวของมันกับมาร์กาเร็ตอยู่บ่อยๆ จนมาร์กาเร็ตต้องส่งมันกลับไปหาโลมาตัวเมียหลายครั้งต่อสัปดาห์ ทำให้การฝึกออกมาไม่ดีเท่าที่ควร จนกระทั่งในที่สุดมาร์กาเร็ตก็เริ่มเบื่อที่จะส่งโลมาไปมา ดังนั้นเธอจึงเริ่มเติมเต็มความต้องการให้กับปีเตอร์ด้วยตัวของเธอเอง ระดับความสัมพันธ์ทางเพศของทั้งสองถูกรายงานแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามอ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ของตัวมาร์กาเร็ต อย่างน้อยๆ เธอก็มีการ “ช่วยเหลือ” ปีเตอร์ในการสำเร็จความใคร่ในช่วงเวลานี้ น่าเสียดายที่การวิจัยในครั้งนี้ต้องปิดตัวลงเร็วกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากผู้สนับสนุนหลายรายถอนทุนออกไปด้วยเหตุผลทางภาพลักษณ์ (เป็นไปได้ว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ว่าในการวิจัยมีการใช้ยา LSD ที่มีฤทธิ์หลอนประสาทกับสัตว์) การปิดตัวลงนี้ทำให้ปีเตอร์ต้องแยกจากมาร์กาเร็ตและย้ายไปอยู่ที่ห้องทดลองในไมอามี่ ซึ่งจากคำบอกเล่าของผู้เกี่ยวข้องในการวิจัย ปีเตอร์มีอาการโศกเศร้ามากจนถึงขนาดที่มันฆ่าตัวตายเลย นั่นเพราะปลาโลมาไม่ได้มีระบบการหายใจแบบอัตโนมัติเช่นคน ดังนั้นหากมันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป สิ่งที่พวกมันต้องทำก็เพียงแค่จมลงสู่ท้องทะเลเท่านั้น มาร์กาเร็ตเก็บเรื่องราวของเธอและปีเตอร์ไว้กับเจ้าตัวเองเรื่อยมาเกือบ 50 ปี (ถึงแม้ว่าจะมีข่าวเกี่ยวกับเธอออกมาเป็นช่วงๆ ก็ตาม) และแม้ว่าอาจจะฟังดูเหมือนเรื่องราวความรักที่เจ็บปวดอยู่บ้าง…
-
นักดาราศาสตร์พบแสงประหลาด จากกาแล็กซีห่างไกล เชื่ออาจเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก
ในวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2017 นักดาราศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้ลงทุนร่วม 3,200 ล้านบาท ในความพยายามที่จะตามหาสิ่งมีชีวิตต่างดาวซึ่งมีภูมิปัญญา การลงทุนในครั้งนั้น ทำให้พวกเขาได้พบกับแสงกะพริบอย่างต่อเนื่อง 21 ครั้ง ส่องสว่างออกมาจากกาแล็กซี FRB 121102 ซึ่งห่างจากโลกไปราวๆ 3 พันล้านปีแสง ภายในระยะเวลาหนึ่งชั่วโมง ในเวลานั้นนักดาราศาสตร์ได้วิเคราะห์แสงที่พวกเขาเห็น และพบว่านี่เป็นแสงที่เกิดจากการลุกจ้าอย่างฉับพลันในช่วงคลื่นวิทยุ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Fast Radio Burst (FRB) ซึ่งเป็นลักษณะสัญญาณวิทยุประหลาดที่เป็นปริศนามาเป็นเวลานานแล้ว สาเหตุของ FRB นั้นเชื่อว่าเกิดจากดาวนิวตรอนที่หมุนเร็วมาก (เรียกกันว่าพัลซาร์) หรือไม่ก็โนวาของดาวนิวตรอนที่เกิดการระเบิดขึ้น อย่างไรก็ตามในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานใดๆ มายืนยันข้อสันนิษฐานนี้ พัลซาร์ในเนบิวลา M1 แถมที่แปลกคือ ตามส่วนมาก FRB จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ไม่ใช่การกะพริบถี่ๆ เช่นนี้ ดังนั้นการค้นพบในครั้งนี้ กลายเป็นการค้นพบที่มีผู้คนสนใจกันเป็นจำนวนมาก และว่ากันตามตรงแล้ว ในอดีต FRB 121102 เอง ก็เคยมีการพบ FRB มาก่อนแล้วในปี 2012 เช่นกัน เพียงแต่ในเวลานั้น การกะพริบของแสงไม่ได้เกิดขึ้นอย่างถี่ๆ…
-
พนักงานโรงภาพยนตร์ดังขอตรวจมือถือ-ค้นสตอรี่อินสตาแกรม สาวงงจัด แบบนี้ก็ได้เหรอ?
เกิดเป็นกระทู้ที่กลายเป็นเรื่องราวขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่ ผู้ใช้เว็บไซต์ pantip.com หมายเลขสมาชิก 4449265 ได้ตั้งกระทู้ร้องเรียนไปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเธอได้สอบถามกับชาวพันทิปว่า “ตอนนี้โรงภาพยนตร์ xxxxx มีนโยบายให้พนักงานตรวจค้นโทรศัพท์มือถือของลูกค้าได้แล้วเหรอคะ?” เจ้าของกระทู้ได้อธิบายว่า เมื่อวาน (30 ธันวาคม 2561) เธอกับเพื่อนได้ไปดูหนังด้วยกัน โดยได้ใช้บัตร M Gen Students เพื่อเอาส่วนลดสำหรับนักศึกษา โดยมีการตรวจบัตรประชาชนด้วย อันนี้เธอเข้าใจว่าต้องมีการตรวจเพื่อยืนยัน แต่พอหลังจากที่ดูหนังจบแล้ว เธอกับเพื่อกำลังจะออกจากโรงหนัง มีพนักงานชาย 2 คนเดินเข้ามาหาเพื่อขอตรวจค้นโทรศัพท์ พนักงานชายที่เข้ามาค้นมือถือได้ทำการตรวจค้นรูปภาพที่ถ่ายไว้ แต่ว่าไม่มีอะไรจึงขอดูรูปภาพในสตอรี่อินสตาแกรมต่อ ซึ่งเจ้าของกระทู้ก็ยินยอมให้ค้นเพราะเห็นท่าทางของพนักงานว่าอาจจะไม่ยอมให้เธอออกจากโรงหนังแน่ๆ เจ้าของกระทู้อธิบายเพิ่มเติมว่า ตอนช่วง End Credit เธอเอามือถือออกมาเพื่อจะดูเวลาเท่านั้น อาจจะทำให้พนักงานคิดว่าเธออาจแอบถ่ายภาพยนตร์เอาไว้ เจ้าของกระทู้จึงมาขอความเห็นชาวพันทิปว่า 1. ตกลงแล้วทางโรงภาพยนตร์มีสิทธิ์ที่จะขอค้นมือถือของลูกค้าหรือไม่? 2. หากว่าพนักงานค้นมือถือแล้วเห็นรูปถ่ายส่วนตัวแล้วเจ้าของรู้สึกไม่สะดวกใจ แบบนี้สมควรแล้วหรือไม่? 3. ถ้าไม่อยากให้ค้นโทรศัพท์มือถือ สามารถปฏิเสธได้หรือไม่? หลังจากที่กระทู้ถูกเผยแพร่ออกไป…
-
นักฟุตบอล Man City รวมเงินซื้อนาฬิกา Rolex เรือนละ 300,000 ให้ทีมงานสโมสรได้ใช้
หลังจากชัยชนะเหนือทีมจ่าฝูงอย่าง “ลิเวอร์พูล” เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นักฟุตบอลทีม “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ก็ร่วมทำเรื่องประทับใจ ให้กับเหล่าเจ้าหน้าที่ของทีมตนเอง สำนักข่าวอังกฤษรายงานว่า นักฟุตบอลรวมตัวกันแบ่งเงินส่วนหนึ่งจากค่าจ้าง มาซื้อนาฬิกา Rolex ซึ่งมีมูลค่าเรือนละกว่า 7,000 ปอนด์ (หรือประมาณ 290,000 บาท) นาฬิกาเหล่านั้นถูกซื้อตามจำนวนเจ้าหน้าที่ของทีมซึ่งทำงานอยู่เบื้องหลังสโมสร ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายครัว ฝ่ายประสานงาน ฝ่ายโค้ช หรือผู้ดูแลในแผนกอื่นๆ ของสโมสรด้วยเช่นกัน นอกจากผู้ฝึกสอนแล้ว… ก็มีทีมฝ่ายอื่นๆ เช่น ช่างภาพสาวคนสวย แหล่งข่าวรายงานว่า “พวกเขาปรึกษากัน และได้มติว่านาฬิกาดังกล่าว คือของขวัญที่จะตอบแทนการทำงานอันเหน็ดเหนื่อยของเหล่าทีมงานเบื้องหลัง เพื่อให้ชีวิตนักฟุตบอลสะดวก และโฟกัสไปที่การแข่งขันได้มากที่สุด” คาดว่าทีมงานที่ได้นาฬิกานั้นน่าจะมีนับ 100 คน และมูลค่าของนาฬิกาที่ซื้อให้ครั้งนี้จะรวมกันถึง 30 ล้านบาท แต่ก็ยังเป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น หากเทียบกับเหล่านักฟุตบอลระดับซูเปอร์สตาร์ ซึ่งรายได้พวกเขาอาจจะสูงถึงเดือนละ 12-30 ล้านบาท ทั้งนี้ ไม่มีรายงานว่ายอดโค้ชอย่าง “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า”…
-
ซูเปอร์ฮีโร่ขอโชว์แบ๊ว สองนิ้วสู้ตาย แฟนอาร์ตจากศิลปินหนุ่มไทยที่ดังไกลถึงต่างชาติ
ในยุคที่หนังซูเปอร์ฮีโร่มาแรงสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่จากจักรวาลมาร์เวลหรือจักรวาล DC ก็ได้รับความนิยมมากทั้งนั้น เนื่องจากว่าหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่นั้นเข้าไปครองใจของเหล่าแฟนคลับทั่วโลก จึงทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าเป็นแฟนอาร์ตหรือผลงานศิลปะจากแฟนๆ มาให้เราเห็นอยู่บ่อยๆ สำหรับแฟนอาร์ตในบทความนี้ เป็นแฟนอาร์ตผลงานของ Spider Wee ศิลปินหนุ่มไทยผู้หลงรักในการวาดภาพและหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ เขาได้ทำการวาดแฟนอาร์ตเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ออกมาในเวอร์ชั่นน่ารักและลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ พี่ฮัล์ค สองนิ้ว จากการทักแชตไปสัมภาษณ์คุณ Spider Wee หนุ่มไทยเจ้าของผลงาน #เหมียวบู้บี้ ก็ได้สอบถามเกี่ยวกับแรงบันดาลใจของผลงานชุดนี้ ซึ่งเจ้าของผลงานก็ตอบกลับมาว่า “แรงบันดาลใจมาจากการที่เป็นคนชอบซุปเปอร์ฮีโร่ครับ เวลาดูซุปเปอร์ฮีโร่ในภาพยนตร์แล้วจะได้เห็นฉากต่อสู้เท่ๆ แอ็คชั่นมันส์ๆ ทำให้เกิดอยากวาดแฟนอาร์ตขึ้นมา โดยอยากลองวาดซุปเปอร์ฮีโร่ในท่าทางหรือแอ็คชั่นที่แตกต่างจากบทตัวละครในหนังบ้าง น่าจะสนุกและน่ารักดีครับ” เจ้ามันม่วงธานอส ทำมาเป็นแบ๊ววว แหม่ กัปตันสุดหล่อขอแบ๊วบ้างไรบ้าง หมอแปลก หมดกันความคูลที่สั่งสมมา โคลอสซัส + เดดพูล อุ้มตุ๊กตายูนิคอร์นมาด้วย นิก ฟิวรีและเจ้าเหมียวจากเรื่อง Captain Marvel ไอรอนสไปเดอร์ ยิงใยปิ๊วๆ จากเสือดำกลายมาเป็นแมวดำเลย มินิฮาร์ทจากไอรอนแมน…
-
โจรลักพาตัวไล่ตามหญิงสาวไปถึง “โรงฝึกคาราเต้” โดนครูฝึกปราบ หามตัวส่งโรงพยาบาล
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่มของวันที่ 3 มกราคม 2019 ในตอนนั้น Randall Ephraim “หัวหน้าครูฝึกสอนคาราเต้” ของโรงฝึก Bushiken Karate Charlotte Dojo กำลังทำความสะอาดโรงฝึกของตัวเองอยู่ แล้วจู่ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือ Randall หัวหน้าครูฝึกคาราเต้ Randall เล่าว่า “ในตอนนั้นผู้ปกครองกำลังมารับเด็กๆ ที่เป็นลูกศิษย์ของโรงฝึก และมีลูกศิษย์ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วอยู่ด้วยอีกสองคนกำลังช่วยกันทำความสะอาด” “จู่ๆ ก็มีหญิงสาววิ่งเข้าประตูมา บอกกับเราว่ามีคนพยายามที่จะทำอันตรายกับเธอ แล้วหลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้ชายร่างใหญ่ตามเข้ามาในโรงฝึกของเรา โดยตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาทำไม คิดว่าอาจมาสอบถามเรื่องคอร์สเรียน” “ผมถามเขาไปว่าต้องการให้ช่วยเหลืออะไรหรือเปล่า แล้วเขาก็บอกกับผมว่าเขามาตามตัวหญิงสาวคนนั้น ซึ่งเธอก็ยืนยันและบอกกับผมว่าไม่รู้จักชายคนนี้เลยแม้แต่น้อย และเขาพยายามที่จะลักพาตัวเธอ” จากการรายงานในภายหลัง จึงทราบว่าชายหลังใหญ่ที่บุกเข้ามานั้นมีชื่อว่า August Williams วัย 47 ปี โดยเขาพยายามบังคับให้หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อเข้าไปในรถของตัวเอง แต่โชคดีที่เธอสามารถหนีรอดมาได้ ก่อนที่จะรีบวิ่งตรงมาขอความช่วยเหลือที่โรงฝึกแห่งนี้ August ชายผู้ก่อเหตุ Randall…
-
ร้านอาหารมิชลินสตาร์ในอิตาลี กับเมนู “อากาศทอด” ความสดชื่นในราคาจานละเกือบพัน
อีกหนึ่งอาหารแปลกๆ ที่ถ้าเราอ่านแค่ชื่อก็คงคิดไม่ออกเลยว่าหน้าตาของมันจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะนี่คือเมนูที่มีชื่อว่า “อากาศทอด”.. !! ร้านอาหาร Feva Restaurant ในเมือง Castelfranco Veneto ประเทศอิตาลี ได้นำเสนอเมนูสุดพิเศษที่มีชื่อว่า Aria Fritta แปลว่าอากาศทอด คือเชฟเอาอากาศที่เราหายใจกันอยู่ไปทอดมาขายอย่างนั้นหรือ?? หน้าตาของอาหารจานนี้ Nicola Dinato หัวหน้าเชฟของทางร้านได้อธิบายว่า เขาต้องการให้ลูกค้าทุกคนได้สัมผัสถึงความสดชื่น ราวกับการที่เราได้ออกไปยื่นอยู่บนภูเขาแล้วสูดเอาออกซิเจนเข้าไปให้เต็มปอด แต่เอ๊ะ แล้วที่เราเห็นนี่คือมีแต่อากาศเลยหรือเปล่า?? เอาเข้าจริงๆ ต้องบอกว่าอากาศนั้นเป็นเพียงหนึ่งในวัตถุดิบจะดีกว่านะ เชฟ Nicola อาหารจานนี้แท้จริงแล้วคือการใช้แป้งมันสำปะหลังทำให้มันแห้ง ก่อนที่จะนำมันลงไปทอดในน้ำมัน หลังจากนั้นจึงค่อยนำไปทิ้งไว้ใน “ก๊าซโอโซน” จนกลิ่นของมันมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ท้ายที่สุดแล้วเชฟก็จะนำมันไปวางไว้บนสายไหมที่มีลักษณะคล้ายกับก้อนเมฆ ก่อนที่จะนำมาเสิร์ฟให้ลูกค้าได้ทานกัน โดยที่เมนูนี้นั้นมีราคาสูงถึงจานละ 30 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 959 บาทเลยทีเดียว อาหารสุดแหวกจานนี้ยังได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ร้านอาหารดังกล่าวได้รับรางวัลมิชลินสตาร์อีกด้วย บทสัมภาษณ์เกี่ยวกับอาหารจานดังกล่าว หากใครอยากไปลองก็คงต้องจองตั๋วเดินทางไปประเทศอิตาลีกันแล้วล่ะนะ ยังไงก็อย่าลืมกลับมารีวิวรสชาติกันด้วยเน้อววว ที่มา: odditycentral
-
เมื่อชาวเน็ตเถียงกันเดือด เรื่อง “อาหาร” กินแบบไหน เรียกแบบไหน โอ๊ย ทั้งฮาและงง!?
จากประเด็นเรื่องของการถกเถียงกันเรื่อง บะหมี่หยก MK ควรลวกหรือไม่ลวก กลายเป็นวาระระดับชาติที่มีผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งก็เป็นข้อพิสูจน์ว่า สำหรับคนไทยแล้ว เรื่องกินมันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหน (เรื่องบะหมี่หยกนี่ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ระดับโลกเลยนะ) #เหมียวบู้บี้ ก็เห็นว่าเรื่องของอาหารนั้นมันกลายเป็นปัญหาระดับชาติมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ก็เลยรวบรวมหัวข้อเด็ดๆ ที่คนไทยเคยเถียงกันในเรื่องของอาหารมาให้ดูกัน มาดูเลยว่า คนไทยเราเถียงกันเรื่องอะไรบ้าง ไข่นกกระทา VS ไข่เต่า สรุปว่ามันคือ ไข่เต่า หรือ ไข่นกกระทา ชานม กับชาเย็น (ชาสีส้ม) ชาสีส้มแบบนี้คุณเรียกว่าอะไร ชานมเย็น หรือชาเย็น หรือชาไทย . นมเย็น VS นมชมพู นมเย็นหรือนมชมพู เรื่องน้ำปลาพริก หรือพริกน้ำปลาก็เรื่องใหญ่ เถียงกันไม่จบไม่สิ้นจริงๆ เรื่องนี้ ข้าวเหนียวมะม่วง ราดกะทิบนข้าว หรือ ราดบนมะม่วง ราดบนไหนไม่สำคัญ แต่หิวแล้ว …
-
เมื่อถ่ายรูปขายของ แล้วลูกค้าต้องการ “ภาพหลายๆ มุม” จัดไป แถมมุมหน้าบ้านให้ด้วย!!
เราอาจเคยเห็น “การขายของออนไลน์” เมื่อเหล่าพ่อค้าแม่ค้าถ่ายรูปสินค้าแล้วโพสต์ขายในโลกโซเชียล พร้อมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และช่องทางการติดต่อ ตัวอย่างการขายของในลักษณะนั้น สามารถหาชมได้จากโพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ชาญยุทธ งดยืมตังค์ กูใช้ตังค์หมุน เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2019 โพสต์ขายของของเขา แต่ประเด็นหลักมันไม่ได้อยู่ที่โพสต์ขายของของพี่เขาหรอก ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่ตอนมีคนทักมาถามสินค้ากับเขามากกว่า ไม่เชื่อเราลองไปดูข้อความที่เขาคุยกับลูกค้ากันดูเลยจ้า ลูกค้าทักมาให้ความสนใจ แต่อยากได้ “รูปหลายๆ มุม” หน่อย งานนี้คุณพ่อค้าเขาก็เลยจัดให้ตามคำขอ ไม่มีรีรออิดออดใดๆ ทั้งสิ้น มุมนี้ก็จะแอบหนาวหน่อยๆ นะ ดีไม่ถ่ายตอนอาบน้ำไปด้วย ยัง ยังอีก ฮั่นแน่ ลูกค้ามีรีเควสขอมุมหน้าบ้านซะด้วย พ่อค้าแกก็เลยจัดไป คงไม่ต้องอธิบายหรอกเนาะว่าคุณลูกค้าเขารู้สึกอย่างไร เรียกได้ว่าเป็นมิติใหม่แห่งการรีวิวขายของจริงๆ เลยนะเนี่ย แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าเป็นอย่างนี้คุณพ่อค้าจะขายของแกออกได้เมื่อไหร่เหมือนกันนะ แหะๆ ที่มา: ชาญยุทธ งดยืมตังค์ กูใช้ตังค์หมุน
-
สามียิงภรรยา-พ่อแม่ของเธอต่อหน้าลูก หลังพบวิดีโอเซ็กส์ ที่เธอเล่นชู้กับเพื่อนรักเขา!!
บางครั้งความโมโหหรืออารมณ์ที่คุกรุ่น ก็อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกินกว่าใครจะคาดคิดขึ้นมาได้ ดั่งเช่นในเหตุการณ์ต่อไปนี้ ที่สามีคนหนึ่งไปพบเซ็กส์เทปของภรรยาเขากับเพื่อนรักของเขาเข้าให้ เลยเกิดบันดาลโทสะชักปืนขึ้นมายิงเธอรวมถึงพ่อแม่ของเธอต่อหน้าลูกๆ เลย!! William Brian Stillwell กับภรรยาของเขา William Brian Stillwell ชายวัย 39 ปีชาวฟลอริด้า ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมจากความที่เขาได้ก่อเหตุร้ายแรงขึ้นในวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณก่อน 17.00 น. ไม่นานนัก ที่บ้านของครอบครัวเขาในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในวันนั้นนาย William ได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ Mona Stillwell ภรรยาของเขาพร้อมกับพ่อแม่ของเธอด้วย หลังพบวิดีโอของเธอที่กำลังมีเซ็กส์กับเพื่อนรักของเขาในโทรศัพท์มือถือ ทว่าในขณะนั้นก็มีลูกๆ ทั้งสองของเขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดด้วย… พ่อแม่ของฝ่ายสาวก็ถูกยิงด้วยเช่นกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ 911 ถือสายรับการแจ้งเหตุพวกเขาได้ยินเสียงของฝาแฝดสองคนนี้เข้ามาในสาย โดยเสียงที่ว่านี้คือคำขอร้องให้พ่อของเขาไม่ยิงแม่ และเสียงแม่ที่ตะโกนขึ้นมาว่า ‘หนีไปลูก หนีไป’!! แต่แล้วคำขอร้องของเด็กๆ ทั้งสองก็ไม่ได้ผล นาย William ได้ใช้ปืนยิงใส่ภรรยารวมทั้งพ่อแม่ของเธอ ทว่าเด็กทั้งสองปลอดภัยดีโดยหนีไปอยู่กับเพื่อนบ้านที่คุ้มครองพวกเขาเป็นอย่างดี จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ …
-
คู่รักต่างภาษาใช้ ‘Google Translate’ สื่อสารกันตั้งแต่พบกันครั้งแรก จนอยู่กันมาถึงทุกวันนี้!!
เคยเป็นกันบ้างไหม ที่เวลาเจอคนคนหนึ่งแล้วรู้สึกว่าคนคนนี้นี่แหละคือคู่ชีวิตที่เราตามหามานานแสนนานจนเรียกได้ว่า ‘คลิก’ ตั้งแต่แรกเห็นเลยก็ว่าได้ แต่บางครั้งคนในฝันของเราก็อาจจะไม่ได้เป็นคนที่พูดภาษาเดียวกับเรา จนทำให้เราเกิดความกลัวว่าถ้าเข้าไปทักทายจะสื่อสารกับเขารู้เรื่องรึเปล่านะ ขอบอกเลยว่าเรื่องของภาษาไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย ดั่งเช่นตัวอย่างของคู่รักคู่นี้!! เรื่องนี้มีอยู่ว่า Chloe Smith หญิงสาวแสนสวยจากเมืองวุลเวอร์แฮมป์ตัน ประเทศอังกฤษได้ไปพบกับหนุ่มรูปงามคนหนึ่งที่ไนท์คลับบนเกาะอิบิซา ประเทศสเปน แล้วเธอก็ตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น ด้วยความที่เธอรู้ตั้งแต่สบตากันว่าคนคนนี้แหละใช่เลย สาววัย 23 ปีคนนี้จึงไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปหาชายในฝัน ซึ่งเขามีชื่อว่า Daniele Marisco แต่แล้วทั้งสองก็พบว่าพวกเขาไม่สามารถสื่อสารกันได้รู้เรื่อง เพราะเขาเป็นคนอิตาลี ทว่านั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่มาขีดกั้นความรักทั้งสองไม่ให้มีต่อกันได้ พวกเขาสื่อสารกันโดยใช้ตัวช่วยที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่อย่าง Google Translate ในโทรศัพท์มือถือสื่อสารระหว่างกัน จนที่สุดก็เข้าใจกันได้ หนึ่งสัปดาห์หลังจากการพบกันครั้งนั้น พวกเขาได้ออกเดินทางเที่ยวเมืองบาเซโลน่าด้วยกัน และนับตั้งแต่นั้นมาหนุ่มชาวอิตาลีรายนี้ก็ไม่สามารถแยกจากเธอได้ และย้ายมาอยู่ทางตอนใต้กรุงลอนดอนจนถึงตอนนี้เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว “มันมีบางสิ่งที่น่าตื่นเต้นเอามากๆ เกี่ยวกับเขาคนนี้ อย่างการที่เราคุยกันไม่รู้เรื่องตั้งแต่ครั้งแรกแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอก เพราะเรารู้สึกคลิกกันอย่างบอกไม่ถูก” “ฉันเป็นฝ่ายเข้าไปหาเขาก่อนแล้วจัดการขอเบอร์เขา เพราะนั่นเป็นเพราะเขาดูมีเสน่ห์ดึงดูดเอามากๆ เลยแหละ” “บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องบ้ามากๆ ที่ไปเที่ยวบาเซโลน่ากับเขาหลังจากรู้จักกันได้สัปดาห์เดียว ทว่าภายหลังฉันก็รู้ว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยแหละ” “บางครั้งคุณต้องอะไรอย่างนี้เพื่อความรักบ้าง” Chloe กล่าว ตอนนี้…
-
ทันตแพทย์สาวลาออกงาน มาเป็นศิลปินสร้างผลงานด้วยกลิตเตอร์เพราะใจรักล้วนๆ
หากคุณกำลังรู้สึกว่าเริ่มจะหมดไฟในการทำงาน หรืออยากจะเปลี่ยนงานใหม่ แต่ยังไม่กล้าที่จะออกไปเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ล่ะก็ บทความนี้อาจจะช่วยทำให้คุณตัดสินใจออกไปทำตามความฝันก็ได้นะ เรื่องราวของ Sara Shakeel สาวชาวปากีสถาน เดิมที เธอมีอาชีพเป็นทันตแพทย์ที่สามารถทำรายได้ได้มหาศาลอย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ แต่ทว่า วันหนึ่งทันตแพทย์สาวคนนี้กลับค้นพบว่าสิ่งที่เธอชื่นชอบนั้นไม่ใช่การทำฟัน แต่มันเป็นการสร้างผลงานศิลปะต่างหาก เธอเริ่มที่จะเรียนรู้และสร้างผลงานโดยนำกลิตเตอร์และความระยิบระยับที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ชื่นชอบ ใส่ลงไปในภาพต่างๆ จนเธอเริ่มสนุกกับการนำเอาความวิ้งวับเหล่านี้ลงไปในภาพ และเธอไม่ได้สิ่งตั้งใจให้มันเป็นแค่งานอดิเรก เธอตัดสินใจทิ้งงานทันตแพทย์ของเธอเพื่อมาทำอาชีพเป็นศิลปินอย่างเต็มตัว โดยได้เปิดอินสตาแกรมชื่อ Sarashakeel เป็นแกลอรี่สำหรับโชว์ผลงานของเธอโดยเฉพาะ ที่น่าทึ่งไปกว่านั้น ผลงานของเธอได้รับความนิยมเกินคาด มีผู้ติดตามผลงานทางอินสตาแกรมของเธอสูงถึง 595,000 คนเลยทีเดียว และนี่คือตัวอย่างผลงานของเธอ เบอร์เกอร์ที่วิ้งวับ ภาพวาดโบราณเธอก็สามารถนำกลิตเตอร์มาใส่ได้ เฟรนช์ฟรายส์ก็วิ้งได้ แต่ไม่ค่อยน่าทานเท่าไหร่ ผลงานชิ้นโบว์แดง เปลี่ยนเครื่องบินทั้งลำให้เป็นกลิตเตอร์จนคนงงทั้งโลกออนไลน์ น้องแมววิ้งๆ แบบนี้ไม่กล้าฟัดเลย รถไฟสายระยิบระยับ ปราสาทเธอก็ยังใส่ความระยิบระยับลงไป แม้แต่ภาพเอกซเรย์ฟันก็ยังมีความวิ้ง เปลี่ยนทั้งตึกให้วิบวับด้วยปลายนิ้ว แฟชั่นแบบนี้สาวๆ ต้องไม่พลาดค่ะ อันนี้คือปราสาททั้งหลังเลย…
-
หยุดก่อนพี่ ขอติดไปด้วย!! ฝูงคางคกพากันเกาะหลังงู เพื่อให้มันช่วยพาหนีน้ำท่วม!!
ในช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ มักจะมีภาพอะไรแปลกๆ ออกมาให้เราได้เห็นเสมอ และครั้งนี้ก็มีภาพความสัมพันธ์สุดประหลาดของงูและคางคก จากประเทศออสเตรเลียหลุดออกมาสู่สายตาชาวเน็ตเช่นกัน ภาพนี้ถูกถ่ายไว้โดยนาย Paul Mock ซึ่งอาศัยอยู่ในเมือง Kununurra ประเทศออสเตรเลีย เขาเล่าว่าเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2018 มีฝนตกหนักบริเวณบ้านของเขา ซึ่งตกหนักมากจนอาจเกิดน้ำท่วมย่อมๆ ได้เลย และเมื่อเขาเปิดประตูออกไปดูใกล้ๆ บ้าน เขาก็ประหลาดใจมากเมื่อพบกับงูหลามยาวกว่า 3.5 เมตร ที่มีคางคกพิษจำนวนมากเกาะอยู่บนหลังด้วย เหมือนเจ้างูกำลังช่วยพวกคางคกให้อพยพหนีฝนได้เร็วขึ้นยังไงยังงั้น https://twitter.com/MrMeMock/status/1079448894981828608 แน่นอนว่า Mock ไม่พลาดโอกาสที่จะถ่ายรูปสุดหายากนี้ไว้ ต่อมาภาพของเจ้างูและพวกคางคกจึงถูกนำมาเผยแพร่ลงบนทวิตเตอร์ของน้องชายเขา โดยน้องชายเขาเขียนแคปชั่นไว้ว่า “ฝน 68mm เพิ่งตกถล่มที่ Kununurra เมื่อชั่วโมงที่แล้ว มันพัดเอาคางคกอ้อยในเขื่อนของพี่ชายผมออกมา พวกมันบางตัวเจอวิธีหนีที่สะดวกสบาย นั่นคือการโดดขึ้นไปขี่หลังงูหลามยาว 3.5 เมตร” A WA snake has become a global sensation after video emerged…
-
การ์ตูน “อุบัติเหตุในชีวิตประจำวัน” โหดสลัด เลือดพุ่งกระฉูด เห็นแล้วรู้สึกเจ็บตาม
ว่าด้วยเรื่องของ “อุบัติเหตุในชีวิตประจำวัน” คือสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อโดยที่เราอาจไม่ทันตั้งตัว ตัวอย่างของหัวข้อนั้นถูกนำเสนอออกมาผ่านลายเส้นการ์ตูนของศิลปินชาวอินโดนีเซียที่ใช้ชื่อว่า Ciri Ciri Makhluk Hidup ผู้สร้างผลงานการ์ตูนเลือดสาด สุดโหด แต่เข้าถึงได้จริง เห็นแล้วทำเอารู้สึกเจ็บแทน พูดไปไม่มีทางเห็นภาพ แนะนำให้ลองชมตัวอย่างกันสัก 7 เรื่อง ซึ่งต้องบอกว่า #เหมียวตะปู พยายามเลือกอันที่เบาๆ มาแล้วนะ เปิดกระป๋อง . . . ยิงหนังสติ๊ก . . . เสียบไม้ . . . . . . . . ไม้ตำเข้าเล็บ . . . . . . . . . สไลเดอร์ . .…
-
IKEA พลาดฉาย “หนังโป๊” ออกจอใหญ่ ลูกเด็กเล็กแดงหันไปดู หนูๆ บอก “น่ากลัวจัง”
วันที่ 1 มกราคม 2019 วันแรกของปีใหม่ที่หลายๆ คนได้หยุดงานออกไปเที่ยวกับครอบครัว เพื่อนๆ บางคนก็อาจพาลูกน้อยไปเดินห้างสรรพสินค้า ไปเลือกดูเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้านกันอย่างเพลิดเพลิน แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าการจูงมือลูกไปเดินห้างอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็ดันมี “หนังโป๊” ฉายออกจอใหญ่มาให้ดูกันซะอย่างนั้น?! เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ IKEA ร้านขายเฟอร์นิเจอร์สาขาหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเขต Causeway Bay ฮ่องกง เมื่อจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าร้านดันฉายหนังผู้ใหญ่ออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ในจอจะเห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งยืนช่วยตัวเองอยู่นานหลายนาที โดยที่ในตอนแรกไม่มีพนักงานคนไหนรับรู้ถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเลย เหตุเกิด ณ ช่วงเวลาบ่ายโมง ในวันแรกของปีใหม่ คลิปถูกฉายออกไปโดยที่หลายๆ ครอบครัวที่พาลูกมาเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์กันอยู่นั้นก็เดินผ่านไปผ่านมา เด็กๆ เหล่านั้นก็หันไปมองโดยที่ไม่ทราบว่าผู้ชายบนจอนั้นกำลังทำในสิ่งที่ไม่ควรแสดงออกมาให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ Chan หนึ่งในลูกค้าผู้เห็นเหตุการณ์บอกกับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า เขายืนดูคลิปบนจอนั้นอยู่นานกว่า 3 นาที ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปบอกกับพนักงานภายในร้านเกี่ยวกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นก็มีพนักงานหญิงวิ่งออกมาใช้กระดาษปิดมันเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใหญ่พอจะปิดได้หมด ท้ายที่สุดแล้ว พนักงานจึงตัดสินใจถอดปลั๊กมอนิเตอร์เครื่องนั้นออก ในขณะที่จอมอนิเตอร์อีกกว่า 25 ตัวภายในร้านนั้นยังคงทำงานได้ตามปกติ Chan ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า “วันนี้เป็นวันหยุดของทุกคน มีผู้คนจำนวนมากรอบๆ…
-
‘หมี่หยก MK’ กลายเป็นปัญหาระดับชาติ ชาวเน็ตเถียงกันยาว ลวก หรือ ไม่ลวก
จากค่ำคืนวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ชาวเน็ตก็ได้ต้อนรับปีหมูด้วยการเปิดประเด็นเถียงกันเรื่อง “หมี่หยก MK ควรลวก หรือ ไม่ลวก” แน่นอนว่าสำหรับคนไทยแล้ว เรื่องกิน เรื่องใหญ่ จากการเถียงเรื่อง หมี่หยก MK ลวก หรือไม่ลวก กลายเป็นติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ไปซะแล้ววว เมื่อความเห็นไม่ตรงกัน การพนันก็เกิดขึ้น (ไม่ใช่แล้ว!!) เกิดเป็นการแบ่งทีม 2 ฝั่ง ก็คือทีมลวกหมี่หยก และ ทีมไม่ลวกหมี่หยก ฝ่ายทาง #ทีมลวกหมี่หยก ก็ให้เหตุผลว่า หมี่หยกมันต้องลวก!!! ไม่งั้นมันก็ไม่นิ่มสิฟร๊ะ!! ก็อยากทำเหมือนขายก๋วยเตี๋ยวอ่ะ ทุกคนต้องมีความฝันเว้ย ต้องลวกสิ มันเย็นอ่ะ หมี่หยกต้องลวกสิ คนลวกหมี่หยกไม่ใช่อาชญากร ใจเย็นครับพี่!! ฝ่าย #ทีมไม่ลวกหมี่หยก ก็ให้เหตุผลว่า หมี่หยกมันกินได้เลย ไม่ต้องลวก ให้เกียรติกระเทียมเจียวที่โรยมาด้วยสิคุ๊ณณณณ!!! พนักงานเอ็มเคเก่าขอยืนยันว่าไม่ต้องลวกนะคะ…
-
คุณตาอพยพหนี “พายุปาบึก” พร้อมอุ้มเหมียวคู่ใจมาด้วย เพราะเพื่อนแท้ไม่ทิ้งกัน
เหตุการณ์ที่น่าเป็นห่วงที่สุดในบ้านเราตอนนี้ คงหนีไม่พ้น “พายุปาบึก” โดยมีผู้คนจำนวนต้องอพยพออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และไม่รู้ว่าภัยพิบัตินี้จะผ่านพ้นไปเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความหวาดกลัวนี้ ยังมีภาพที่ทำให้เห็นว่าต่อให้สถานการณ์จะเป็นอย่างไรเพื่อนแท้ย่อมไม่ทิ้งกัน แม้จะเป็นเพื่อนต่างสายพันธุ์ก็ตาม โดยคุณเล็ก หรือ ฝันเด่น หนึ่งในผู้ที่ลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้บันทึกภาพความประทับใจเอาไว้มากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ภาพเจ้าของที่พาสัตว์เลี้ยงคู่ใจอพยพไปด้วยกัน คุณเล็กได้โพสต์ภาพชุดคุณตาท่านนี้ ที่ห่อหุ้มเจ้าเหมียวด้วยผ้าขาวม้าและกอดมันไว้ในอ้อมแขน พร้อมแคปชั่นสั้นๆ ว่า “เราจะไม่ทิ้งกัน ความรัก ความผูกพัน ณ.ศูนย์อพยพปากพนัง” ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าคุณตามีแค่กระเป๋าใบเล็กๆ ที่ห้อยแขนไว้เท่านั้น เพราะมือทั้งสองข้างต้องใช้อุ้มเจ้าเหมียว จึงไม่สามารถนำอะไรติดตัวมาได้มากกว่านี้ นี่คงจะเป็นภาพที่พูดแทนทุกความรู้สึกเกี่ยวกับมิตรภาพ ความรัก และความผูกพันระหว่างมนุษย์และสัตว์เลี้ยง แม้ว่าเราจะไม่ทราบเรื่องราวของคุณตาท่านนี้ แต่เราก็พอเดาออกว่าเจ้าเหมียวตัวนี้สำคัญกับคุณตามากแค่ไหน นอกจากคุณตาท่านนี้แล้ว ยังมีคนอื่นๆ อีกหลายคนที่สัตว์เลี้ยงคู่ใจหนีมาด้วย อย่างคุณน้องท่านนี้ เธอก็ได้พาเจ้าเหมียวอพยพมาด้วย โดยอุ้มมันไว้ในเสื้อของเธอ แม้สถานการณ์จะตึงเครียด แต่พวกเขายังมีรอยยิ้มแห่งความสุข เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็ยังได้อยู่พร้อมหน้าทั้งครอบครัว รวมทั้งเจ้าเหมียวด้วย ส่วนเจ้าเหมียวเอง มันอาจจะสับสนเล็กน้อย…
-
ปั้นมนุษย์หิมะด้วยกันมั้ย?? 10 สุดยอดตุ๊กตาหิมะของคนสร้างสรรค์ ที่เอลซ่าก็สร้างไม่ได้
ตอนนี้ที่หลายๆ ประเทศยังคงอยู่ในฤดูหนาว และสำหรับประเทศที่หนาวมากๆ (ไม่ใช่ไทย) และสภาพอากาศเอื้ออำนวย ก็จะมีปุยน้ำแข็งสีขาวเย็นๆ โปรยปรายลงมาทำให้ทุกอย่างกลายเป็นสีขาว แม้ว่าการใช้ชีวิตในสถานที่ที่หนาวจนมีหิมะตกลงมาจะลำบากและทรมาน แต่ก็ยังมีคนอีกหลายคนที่ทนต่ออากาศหนาวและรักการเล่นหิมะเป็นชีวิตจิตใจ และสำหรับภาพที่จะได้เห็นต่อไปนี้ ชอบเล่นหิมะอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศด้วย #1 เลโก้ก็มา #2 เอ่อ…สยองขวัญวันคริสต์มาสหรืออะไร #3 ตุ๊กตาหิมะ The Simpsons #4 สนุกกันใหญ่ #5 “ทำไงดี อีกไม่กี่เดือนก็ต้องละลายซะแล้ว” #6 แอ่ แฮร่!! #7 อันนี้พี่ก็โหดไป๊ #8 มืดๆ มานึกว่าของจริงเลยนะนั่น #9 ตุ๊กตาหิมะสายเฮลตี้ #10 ………อันนี้ขอ No Comment ละกัน ที่มา lolwot
-
เลี้ยงลูกมันเหนื่อย!! มาพบกับสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ที่จะช่วยให้คุณพ่อ-คุณแม่ยิ้มออก
การเป็นพ่อ-แม่คนนั้นต้องใช้ความรับผิดชอบและความใจเย็นระดับพระอรหันต์ถึงจะสามารถรับมือกับความซน ความแสบของเด็กน้อยที่ยังไม่ได้เรียนรู้เรื่องเหตุและผลแบบผู้ใหญ่โดยไม่อารมณ์เสียไปซะก่อน แต่ก็เลือกที่จะมีเองแล้วนี่นะ ก็ต้องรับมือกันให้ได้ตลอดรอดฝั่ง และเป็นโชคดีที่มีคนเข้าอกเข้าใจหัวอกคนมีลูกน้อย สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ที่จะช่วยแก้ปัญหาชวนปวดหัวให้กับเหล่านี้ Saddle Baby: คนขี่ก็สบาย คนให้ขี่ก็ไม่ปวดไหล่ แถมด้านหน้ามีที่ล็อกขาลูกน้อยด้วยนะ อันนี้จีเนียสมาก https://www.instagram.com/p/Bk0XPWcFlns/?utm_source=ig_embed ดึงยาวกว่านี้อดกินหนมแน่ ไอ้หนู เสื้อฮูดดี้พร้อมกระเป๋าหน้าท้อง ไม่หลับคอพับจนปวดคอกันอีกต่อไป เครื่องครอบหัวก๊อกในอ่างอาบน้ำ ทำให้น้ำราดหัวลูกน้อยพอดี แถมใส่สบู่ลงไปให้ผสมกับน้ำก็ยังได้ ถ้วยใส่อาหารที่ไม่มีวันหก แผ่นรองเขียนแบบพกพาสำหรับเด็กๆ ที่ชอบศิลปะ ที่มา Brightside
-
รายชื่อพร้อมอันดับ คนดังที่อยู่ในลิสต์ หนุ่มหล่อแห่งปี 2018 โดย TC Canler
หลังจากที่มีการเปิดให้ชาวเน็ตทั่วโลกออนไลน์ร่วมกันโหวตเพื่อค้นหาผู้ครองตำแหน่ง หนุ่มหล่อที่สุดในโลกประจำปี 2018 โดย TC Candler ไปเมื่อประมาณกลางปี 2018 ชาวเน็ตทั่วโลก ต่างก็ได้ร่วมลงคะแนนกันมากมาย จนถึงตอนนี้การโหวตก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว และนี่คือรายชื่อและอันดับของ 100 หนุ่มหล่อแห่งปี 2018 มาดูกันว่าคนดังหนุ่มหล่อที่คุณชื่นชอบจะได้อันดับที่เท่าไหร่กัน 31. Leonardo Decaprio 30. Lionel Messi 29. Chris Evans 28. Timithee Chalamet 27. Anthony Joshua 26. Cole Sprouse 25. Dwayne Johnson 24. Tom Hiddleston 23. Chris Hemsworth 22. Christiano…
-
นางแบบสาวผิวสี ลูกครึ่งซูดาน-ออสเตรเลีย ยืนหนึ่งตำแหน่งนางแบบแห่งปี 2018!!
เว็บไซต์ Model.com เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับนางแบบระดับโลก ได้มีการเปิดให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแฟชั่นโชว์ทั้ง นางแบบ นายแบบ ช่างภาพ สไตล์ลิสและผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับสายนี้โดยเฉพาะร่วมกันลงคะแนนเสียงเพื่อหาผู้ที่ได้รางวัลที่สุดแห่งปีในแต่ละสาขา และหนึ่งในสาขารางวัลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมแฟชั่นที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือ รางวัลนางแบบแห่งปี ซึ่งในปีนี้ผู้ที่ได้รับการโหวตให้เป็นนางแบบแห่งปีจากผู้ที่อยู่ในสายแฟชั่นโชว์อันดับหนึ่งก็คือ Adut Akech Adut Akech เธอคือสาวลูกครึ่งซูดาน-ออสเตรเลียที่มีประวัติน่าสนใจมากๆ แม้จะอายุเพียง 19 ปีแต่ก็สามารถไต่เต้าขึ้นมาเป็นนางแบบที่ปังที่สุดแห่งปี 2018 ได้ แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้นั้น เธอบอกว่ามันไม่ง่ายเลย ชีวิตของเธอเริ่มต้นในค่ายผู้ลี้ภัยในซูดาน ก่อนที่เธอจะอพยพเข้ามาอาศัยในเมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลียตอนอายุ 7 ขวบ แต่ด้วยความสวยและความพยายามของเธอ ทำให้เธอไปสะดุดตาของโมเดลลิ่งและได้เริ่มงานเป็นนางแบบตอนอายุ 16 ปี เธอเปิดเผยว่า เธอนั้นเคยตกอยู่ในอาการวิตกกังวลและอาการซึมเศร้ามาแล้ว แต่เธอก็เรียนรู้และเปลี่ยนให้มันกลายเป็นพลังเพื่อสู้ต่อไป “ชีวิตของฉันในปี 2018 มีแต่สิ่งที่ท้าทายและเต็มไปด้วยอุปสรรคที่ฉันจะต้องเอาชนะมันให้ได้” “ฉันตื่นขึ้นมาร้องไห้ในทุกๆ เช้า แต่พอร้องไห้เสร็จฉันก็จะยิ้มให้กว้างที่สุดให้กับตัวเองเพื่อผลักดันให้ตัวเองใช้ชีวิตตลอดทั้งวัน ฉันทำเหมือนกับว่าฉันนั้นโอเค ฉันสบายดีทั้งวัน แต่พอกลับบ้านมาฉันก็ร้องไห้แล้วก็หลับไป” https://www.instagram.com/p/BrgRN5lnNHl/ เธอกล่าวปิดท้ายว่า เธอพยายามที่จะเรียนรู้และจัดการอาการซึมเศร้าเหล่านี้ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ดีมาก แต่เธอก็จะพยายามทำมันให้ดีขึ้นในทุกๆ วัน…
-
BMW 1600 GT รถสปอร์ตคลาสสิก “คันเดียวในโลก” ที่ถูกบูรณะขึ้นมาอีกครั้ง
ต้องบอกก่อนเลยว่าเจ้ารถที่ #เหมียวเวจจี้ กำลังจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกันในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในรถสปอร์ตสุดพิเศษจากค่ายรถของทางฝั่งเยอรมันอย่าง BMW ซึ่งความพิเศษของมันนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ความเก่า และความสวยงามตามแบบฉบับของรถคลาสสิคเท่านั้น แต่สปอร์ตคันนี้ยังเป็นรถคลาสสิคจากค่ายใบพัด ที่มีเพียงแค่คันเดียวเท่านั้น!! รถสีฟ้าอ่อนหน้าตาหล่อเหล่าที่เพื่อนๆ กำลังจะได้ชมกันต่อไปนี้คือ BMW 1600 GT รถสปอร์ตที่ถูกผลิตขึ้นเมื่อปี 1967 มันคือรถสปอร์ตที่ทางค่ายเตรียมที่จะผลิตเพื่อบุกตลาดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนที่จะเปิดตัวทางค่ายได้ผลิตตัวต้นแบบของรถรุ่นนี้ออกมา 2 คันด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่เพื่อนของมันคันหนึ่งพังไประหว่างการทดสอบในโรงงาน และเหลือเพียงคันเดียวเท่านั้น ก่อนที่แผนการผลิตจะถูกยกเลิกไปเมื่อสิ้นปี 1967 BMW 1600 GT ถูกผลิตขึ้นมาหลังจากที่ทางค่ายใบพัดได้เข้าเทคโอเวอร์โรงงานผลิตรถสปอร์ตที่มีชื่อว่า Glas และได้นำเครื่องยนต์ 1600 Ti ของพวกเขา ผสมผสานเข้ากับรูปทรงอันสวยงามที่ได้รับการออกแบบจากนักออกแบบรถชาวอิตาเลี่ยน จนกลายมาเป็นรถคันนี้ . ภารกิจคืนชีพให้รถระดับตำนานของทางค่ายครั้งนี้ ตกอยู่ในมือของเหล่าช่างจาก BMW . พวกเขาใช้เวลานานหลายปี กว่าจะคืนชีพให้คุณปู่คันนี้กลับมาหล่อเหมือนเดิมอีกครั้ง และตอนนี้มันก็ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว . ไปชมความสวยงามของรถสปอร์ตสุดคลาสสิคคันนี้ได้เลย… ชิ้นส่วนบางชิ้นเป็นของเก่าจากปี 1967 บางชิ้นก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเก่าเหมือนเดิม…
-
คุณแม่กะพริบตา ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเด็กปั๊ม ระหว่างถูกลักพาตัวพร้อมลูกสาว
เมื่อวันที่ 4 มกราคมสำนักข่าว China Xinhua News รายงานข่าวคดีลักพาตัวที่เกิดขึ้นในประเทศจีน แต่ทว่าในเหตุการณ์ดังกล่าว คุณแม่ที่ตกเป็นเหยื่อกลับรวบรวมสติ และใช้ไหวพริบของเธอเพื่อเอาตัวรอดจากคนร้ายได้สำเร็จ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างที่หญิงสาวแซ่หวังจากเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียงกำลังขับรถไปรับลูกสาวของเธอที่ถนนหลินผิงในเขตหยูว์หาง ซึ่งในขณะที่เด็กหญิงเดินขึ้นรถมานั้น ได้มีชายคนหนึ่งเดินตามลูกสาวของเธอขึ้นมาบนรถด้วย ชายคนดังกล่าวสั่งให้เธอขับรถมุ่งหน้าสู่อำเภอสวี่ชุนในเมืองไห่หนิง แต่คุณแม่ตอบกลับไปว่าเธอเองไม่รู้ทาง คนร้ายจึงส่งให้เธอขับรถไปตามคำสั่งของเขา เมื่อรถขับออกมาได้สักพัก คุณแม่รายดังกล่าวอ้างว่ารถของเธอน้ำมันใกล้จะหมด เลยขอแวะปั๊มเพื่อเติมน้ำมันก่อน ในระหว่างที่กำลังเติมน้ำมันนั้น หญิงผู้เสียหายได้พยายามกะพริบตาพร้อมทำสีหน้าขอความช่วยเหลือไปยังพนักงานของทางปั๊มถึง 2 ครั้ง จนพนักงานหญิงคนดังกล่าวเห็นผิดสังเกต จึงได้เข้าไปบอกเพื่อนของเธอโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับจดทะเบียนรถเอาไว้ นางหวังค่อยๆ ขับรถออกจากปั๊มน้ำมันช้าๆ ก่อนที่จะหันไปบอกคนร้ายว่าเธอเองมือสั่นและรู้สึกหวาดกลัวจนไม่สามารถขับรถต่อไปได้ เมื่อเห็นดังนั้นคนร้ายจึงเปลี่ยนเป็นการบังคับให้หญิงสาวส่งเงินจำนวน 25,000 หยวน (ประมาณ 125,000 บาท) ให้แทน แต่เธอบอกว่าตนไม่ได้พกเงินสด จนในที่สุดลูกสาวของเธอจึงได้โอนเงินในวีแชทของคุณแม่จำนวน 455 หยวน (ประมาณ 2,200 บาท) แทน ซึ่งในระหว่างที่กำลังต่อรองกันอยู่นั้น รถตำรวจจำนวน 6 คันก็ได้ขับมาถึงบริเวณปั๊มน้ำมันพอดี…
-
16 เซเลบฯ ฮอลลีวูดทายาทแวมไพร์ ที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ก็ยังดูเหมือนเดิม ใส่สูตรโกงแน่ๆ!!
เป็นเรื่องธรรมชาติที่เมื่อเวลาเดินไปเรื่อยๆ อายุอานามของเราก็เดินตามไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และอย่างที่รู้ๆ กันดีว่าสิ่งที่จะตามมากับอายุที่มากขึ้น คือเรื่องของรูปร่างหน้าตาของเราที่เปลี่ยนไป… แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบุคคลอยู่กลุ่มหนึ่งที่เรียกว่ากาลเวลาแทบจะทำอะไรพวกเขาไม่ได้เลย เพราะพวกเขายังคงดูดีอยู่เหมือนเดิมไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีต่อกี่ปีก็ตาม อย่างเช่นเหล่าเซเลบริตี้แห่งวงการฮอลลีวูดเหล่านี้ ที่ทางเว็บไซต์ Brightside ได้นำมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ เลยว่ารูปในอดีตช่วงเอ๊าะๆ ของพวกเขาเป็นอย่างไร และอีกหลายปีต่อมาเป็นอย่างไร นี่มันแวมไพร์ชัดๆ เลยนะเนี่ย!! Jessica Alba Reese Witherspoon Gwyneth Paltrow Christy Turlington Jared Leto Eva Mendes Gabrielle Union Liv Tyler Kate Winslet Pharrell Williams Elijah Wood Keanu Reeves Adam Levine …
-
ก็มันรักอ่ะ!! หนุ่มสุดใจ รักทีมเชียร์จัดสักลายบนตัวเป็นรูป ‘เสื้อแข่งทีมโปรด’ ซะให้รู้แล้วรู้รอด
สำหรับบางคนแล้วเมื่อมีความชอบหรือว่าคลั่งไคล้อะไรสักอย่าง ก็จะทุ่มให้กับมันอย่างสุดตัว และสำหรับผู้ชายหลายคนแล้ว ‘ฟุตบอล’ ก็เปรียบเสมือนกับลมหายใจเลยก็ว่าได้ แต่ว่าบางทีอาจจะไม่มีใครบ้าระห่ำเกินชายคนนี้อีกแล้ว เพราะว่าเขาลงทุนใช้เวลาถึง 60 ชั่วโมง สักลาย ‘เสื้อแข่งทีมโปรด’ ลงบนตัวของเขาเอง!! โดนชายชาวเปรูที่ไม่เปิดเผยชื่อนี้ ได้รับความสนใจจากโลกโซเชียลเมื่อประมาณปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อ Jean Pierre Salinas ช่างสักของร้าน Lima 13 tattoo studio ในกรุงลิมาได้โพสต์วิดีโอขณะสักลงในโลกออนไลน์ ชายคนที่ว่านี้ได้มาที่ร้านและสักเป็นรูปเสื้อแข่งของทีม Alianza Lima ทีมฟุตบอลทีมโปรดในบ้านเกิดของเขา ซึ่งสีเสื้อประจำทีมก็คือสีฟ้า – ขาว นั่นเอง ลายสักของชายคนนี้ “นี่มันไม่ใช่ความบ้าอะไรหรอก แต่เป็นความหลงใหลต่างหาก จริงๆ แล้วเขารอที่จะให้ลายสักนี้จะอยู่บนตัวตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งจะมีความกล้าเมื่อไม่นานมานี้เอง” Jean Pierre เขียนลงในเฟซบุ๊ก แต่ว่าอันที่จริงแล้วแฟนพันธุ์แท้ของทีม Alianza Lima คนนี้ไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองลิม่าแต่อย่างใด ทว่าเขาอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ และกลับมาบ้านในช่วงวันหยุดเท่านั้น งานนี้ทางช่างสักจึงมีเวลาไม่นานนักก่อนที่เขาจะกลับประเทศอังกฤษ การสักจึงเริ่มต้นขึ้นและจบลงด้วยการใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 60 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ใจพี่โคตรได้!! ที่มา: odditycentral, lima 13…
-
พบวิหารเทพ “ซิเป ตอเท็ค” เทพผู้ถูกถลกหนังในเม็กซิโก เชื่อเคยใช้งานเมื่อราวๆ พันปีก่อน
เมื่อวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมานักโบราณคดีของประเทศเม็กซิโกได้ออกมาประกาศการค้นพบวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อถวายให้แก่เทพ “ซิเป ตอเท็ค” (Xipe Totec) หนึ่งในเทพที่สำคัญที่สุดของอารยธรรมโบราณก่อนสมัยแอซเท็ก การค้นพบในครั้งนี้เกิดขึ้นที่แหล่งโบราณคดี Ndachjian-Tehuacán ในรัฐปวยบลา รัฐทางทิศใต้ตอนกลางของประเทศเม็กซิโก โดยโบราณสถานที่พบนั้นเป็นส่วนซากของสิ่งก่อสร้างที่คาดว่าเคยมีรูปร่างคล้ายพีระมิด และเชื่อกันว่าถูกใช้งานในช่วง ค.ศ. 1000-1260 โดยชาวพื้นเมืองเผ่า Popoloca ซึ่งในเวลาต่อมาได้ถูกปราบไปโดยเผ่าแอซเท็กอีกที ตัววิหารที่พบมีขนาด 12 x 3.5 เมตร มีหินรูปหน้าคนขนาดใหญ่สองก้อนอยู่ภายใน พร้อมๆ กับมือสามข้าง และรูปสลักร่างมนุษย์อีกหนึ่งชิ้น นักโบราณคดีเชื่อว่าโบราณวัตถุเหล่านี้น่าจะถูกใช้เป็นตัวแทนของเทพซิเป ตอเท็คในอดีต และที่รูปปั้นแลดูน่ากลัวอย่างน่าประหลาดเองก็อาจจะมาจากความพยายามในการสร้างเทพให้ออกมาน่าเกรงขามของช่างฝีมือในสมัยก่อน นั่นเพราะเทพซิเป ตอเท็คนั้นแม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นเทพแห่งเกษตรกรรมและพืชผลก็ตาม แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเทพแห่งโรคภัย ที่ได้ชื่อว่า “เทพผู้ถูกถลกหนัง” (จากการที่ถลกหนังตัวเองเพื่อให้มนุษย์กิน) และมักจะถูกบรรยายออกมาว่าสวมหนังมนุษย์แทนเสื้อเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เทพองค์นี้จะได้รับการบูชายัญโดยคนสมัยก่อน และมือ 3 ข้างที่พบ ก็น่าเป็นตัวแทนของหนังมนุษย์ที่ซิเป ตอเท็คสวม และแม้ว่าเผ่า Popoloca จะถูกปราบไปแล้วก็ตาม แต่ความเชื่อของพวกเขากลับถูกส่งต่อไปยังเผ่าแอซเท็กจนทำให้ ซิเป ตอเท็คกลายเป็นเทพองค์สำคัญของแอซเท็กต่อไปในช่วงศตวรรษที่ 15…
-
นักโบราณคดีหัวใส ใช้ภาพจากอดีตดาวเทียมสปาย ตามหาโบราณสถานที่หายไป
จากเอกสารที่ได้รับการนำมาเปิดเผยของทาง CIA ดูเหมือนว่าในช่วงปี 1959-1972 สหรัฐอเมริกาจะมีการใช้ดาวเทียมที่มีโค้ดเนมว่า “Corona” ในการแอบสอดส่องความเคลื่อนไหวของประเทศต่างๆ ในโลกด้วย โดยดาวเทียมนี้จะทำการแอบถ่ายภาพสถานที่ต่างๆ ในโลกคล้ายๆ Google Map และตลอดเวลาการทำงานของมันก็มีรูปสถานที่ต่างๆ ของโลกถูกถ่ายเก็บไว้เป็นจำนวนมาก ตัวอย่างภาพที่ดาวเทียม Corona ถ่ายเอาไว้ จริงอยู่ว่าในสมัยก่อนรูปเหล่านั้นอาจถูกใช้ไปในการสืบความลับของประเทศต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป นักโบราณคดีก็ได้นำภาพเหล่านี้กลับมาใช้งานอีกครั้งในด้านที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือแทนที่จะให้ภาพในการสืบความลับ นักโบราณคดีกลับนำภาพเหล่านี้มาเพื่อตามหาโบราณสถานที่อาจถูกทำลาย หรือหายไปในช่วงยุคการพัฒนาประเทศแทน นั่นเพราะเดิมทีแล้วการตามหาโบราณสถานสามารถทำได้ด้วยการเปรียบเทียบภาพของพื้นที่ในปัจจุบันเข้ากับภาพในสมัยก่อน ดังนั้นคลังภาพถ่ายโบราณของดาวเทียม Corona จึงกลายเป็นข้อมูลชิ้นสำคัญที่เก็บภาพพื้นที่ในสมัยก่อนเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เลนส์จากกล้องของดาวเทียม Corona นี่เป็นโปรเจกต์ที่มีการนำเสนอไปเมื่อเดือนธันวาคมปีค.ศ. 2018 ที่งานสหภาพธรณีฟิสิกส์อเมริกัน (AGU) และเริ่มมีการทดลองใช้งานกับพื้นที่ตะวันออกกลางเป็นที่แรก โดยนักโบราณคดีได้ทำการออกแบบโปรแกรมพิเศษชื่อ “Sunspot” ที่จะสามารถใช้เปลี่ยนข้อมูลภาพของดาวเทียม Corona ให้เข้าถึงได้ง่ายในทางดิจิตอล และสามารถใช้กับโปรแกรมสร้างแผนที่ทั่วไปได้ง่ายขึ้น Jackson Cothren ศาสตราจารย์กับภาควิชาธรณีศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยอาร์คันซอ บอกกับสื่อต่างประเทศ โปรแกรมนี้ทำให้ภาพจากดาวเทียม Corona สามารถเข้าชมแบบออนไลน์ได้ฟรี และทำให้การเทียบรูปภาพทำได้ง่ายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และแน่นอนว่าหลังจากที่มีโปรแกรมนี้ออกมานักโบราณคดีก็สามารถระบุตำแหน่งของแหล่งโบราณที่หายไปได้มากขึ้นเกือบๆ 100 เท่า ทั้งที่เป็นโบราณสถานจากยุคโรมัน หรือกระทั่งยุคสำริด จริงอยู่ที่ว่าโบราณสถานบางส่วนจะไม่สามารถเข้าไปสำรวจได้แล้ว แต่อย่างน้อยๆ นักโบราณคดีก็สามารถทราบได้ว่าสถานที่ใดบ้างที่เคยมีแหล่งโบราณคดีตั้งอยู่ …
-
ชมป้อมปราการเก่าแก่อายุ 2,300 ปี ที่ประเทศอียิปต์ กับหน้าที่ปกป้องเมืองท่าแห่งทะเลแดง
ในพื้นที่ฝั่งทะเลแดง ทางตะวันออกของประเทศอียิปต์ ทีมนักโบราณคดีร่วมระหว่างโปแลนด์และสหรัฐอเมริกา ได้ทำการค้นพบป้อมปราการเก่าแก่ที่มีอายุร่วม 2,300 ปี นี่เป็นป้อมปราการ ที่สร้างขึ้นในสมัยของราชวงศ์ทอเลมี ราชวงศ์ซึ่งเป็นลูกหลานของหนึ่งในเจ็ดนายพลของอเล็กซานเดอร์มหาราช และคาดกันว่าในอดีตถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องเมืองท่า “Berenike” ป้อมปราการที่พบนี้มีขนาด 160 x 80 เมตรสร้างขึ้นจากหิน มีกำแพงสองชั้นหันไปทางตะวันตก และกำแพงหนึ่งชั้นหันไปทางทิศตะวันออก และทิศเหนือ ลักษณะของกำแพงที่หันเขาไปในทางแผ่นดินนี้ทำให้นักโบราณคดีคาดว่าป้อมปราการนี้น่าจะมีหน้าที่ป้องกันข้าศึกไม่ให้เข้ามายังเมืองท่า มากกว่าป้องกันข้าศึกที่อาจจะเข้ามาในเมืองท่าทางทะเล นอกจากนี้ในป้อมเองยังประกอบไปด้วยลักษณะสิ่งก่อสร้างที่ซับซ้อน โดยมีทั้งร้านค้าและโรงงานอยู่ในตัว แถมยังมีบ่อน้ำและสระน้ำอีกหลายแห่งซึ่งออกแบบมาให้เก็บน้ำจากน้ำใต้ดินและน้ำฝนในเวลาเดียวกัน เรียกได้ว่าพร้อมในการรับมือกับศึกยืดเยื้อเป็นอย่างดี Marek Woźniak หนึ่งในทีมนักโบราณคดีบอกว่าสระน้ำสองแห่งในป้อมนี้สามารถจุน้ำได้รวมๆ ถึง 17,000 ลิตร ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่าในอดีตพื้นที่ในเขตนี้น่าจะมีความชื้นมากกว่าในปัจจุบัน นอกจากนี้ในตัวป้อมปราการ นักโบราณคดียังพบกับชิ้นส่วนกะโหลกของลูกช้าง เหรียญทอง และเครื่องดินเผาเทอราคอตตาด้วย ซึ่งนับว่าน่าสนใจมากเพราะสิ่งเหล่านี้บอกให้เราทราบว่าป้อมปราการนี้อาจมีชีวิตที่สงบสุขกว่าที่เราคิด เพราะนอกจากเมือง Berenike จะไม่มีประวัติถูกโจมตีแล้ว สิ่งที่พบยังบอกให้เราทราบว่าตัวเมืองนี้ น่าจะมีหน้าที่สนับสนุนสงครามอย่างการส่งช้างไปให้กองทัพ มากกว่าที่จะเป็นสถานที่รบเสียเอง ทำให้เมืองนี้สามารถค้าขายได้อย่างเต็มที่ จริงอยู่ว่าป้อมปราการนี้จะมีการค้นพบมาตั้งแต่ในปี 2013 แล้ว แต่การขุดค้นสถานที่แห่งนี้ก็ยังคงนำมาซึ่งการค้นพบใหม่ๆ เรื่อยมา…
-
พบโครงกระดูกอายุ 5,900 ปี เก่าแก่ที่สุดในอเมริกากลาง เป็นของหญิงสาวผู้มีแขนใหญ่
ข่าวการค้นพบมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดนั้น ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็มักจะเป็นข่าวที่น่าสนใจอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้นพบในยุโรป เอเชีย หรือแอฟริกา และเมื่อล่าสุดนี้เอง ก็เป็นคราวของอเมริกากลางที่จะเป็นผู้ค้นพบมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดของตัวเองบ้างแล้ว เมื่อไม่นานมานี้เอง นักโบราณคดีก็ได้มีการค้นพบโครงกระดูกของหญิงสาวผู้ซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่เมื่อ 5,900 ปีก่อน ที่ประเทศนิการากัว ทางตอนใต้ของอเมริกากลาง จากการตรวจสอบของนักวิทยาศาสตร์ โครงกระดูกที่พบเป็นของหญิงสาวผู้มีอายุอยู่ในช่วง 25-40 ปีในตอนที่เสียชีวิต สูงราวๆ 150 เซนติเมตร และมีแขนที่ค่อนข้างใหญ่ทั้งๆ ที่ตัวเล็กและรูปร่างบอบบาง Mirjana Roksandic ศาสตราจารย์วิชามานุษยวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยวินนิเพกในแคนาดาอธิบายว่า ที่แขนของเธอมีลักษณะเช่นนี้น่าจะมาจากการใช้แรงแขนอย่างหนักในตอนที่มีชีวิต เช่นการพายเรือหรือแบกของเป็นประจำ นอกจากนี้ฟันของหญิงสาวเองยังมีร่องรอยการสึกหรออย่างมาก ซึ่งเป็นลักษณ์ของคนโบราณที่ทานสัตว์น้ำจำพวกมีเปลือกเป็นจำนวนมากอีกด้วย Roksandic ยังบอกอีกว่าการค้นพบกระดูกของเธอเองก็นับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกเลยทีเดียว เนื่องจากตามปกติสภาพภูมิประเทศเขตร้อนนั้นมักจะไม่เหมาะกับการเก็บรักษาโครงกระดูกมนุษย์เป็นเวลานานๆ เป็นไปได้ว่าที่โครงกระดูกมนุษย์ของเธอยังคงมีสภาพดีอย่างที่เห็นนั้น น่าจะมาจากสถานที่ และวิธีการฝัง โดยในกรณีนี้ ร่างของหญิงสาวถูกฝังในกองเปลือกหอย ซึ่งช่วยลดความเป็นกรดของดินได้ จริงอยู่ที่ว่ากระดูกที่พบนั้นเป็นโครงกระดูกที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกากลางก็ตาม แต่ก็น่าเสียดายที่โครงกระดูกมนุษย์โบราณของแถบนี้นั้นไม่ค่อยจะหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันมากนัก ทำให้บอกได้ยากว่าคนในแถบนี้นั้นในสมัยก่อนมีการใช้ชีวิตและประเพณีอย่างไร สิ่งที่เราพอจะบอกได้จากสิ่งที่พบนั้นก็มีเพียงพวกเขาน่าจะเป็นนักตกปลา เก็บของป่า และชำนาญในการทำสวนก็เท่านั้น ในปัจจุบันโครงกระดูกของหญิงสาวค้นนี้ถูกนำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมประวัติศาสตร์ CIDCA แห่งชายฝั่งทะเลแคริบเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะมีการศึกษาโครงกระดูกที่พบนี้ต่อไป …
-
รู้จักกับ Thalassophobia หรือ “โรคกลัวทะเล” มาดูกันว่าเพื่อนๆ มีอาการที่ว่านี้หรือไม่
“โฟเบีย” คือความกลัวที่รุนแรงมากจนเกินไป มากเกินกว่าเหตุและผลที่สมควรเป็น ยกตัวอย่างเช่น โรคกลัวความสูง (Acrophobia) โรคกลัวแมงมุม (Arachnophobia) เป็นต้น หลายๆ คนอาจไม่ทราบถึงที่มาที่ไปในความกลัวลักษณะนี้ของตัวเอง บางคนอาจเกิดจากความหลังฝังใจที่เลวร้าย ส่งผลกระทบมาจนถึงปัจจุบัน ในวันนี้ #เหมียวตะปู ก็อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกับ Thalassophobia หรือ “โรคกลัวทะเล” หนึ่งในความกลัวที่หลายๆ คนเป็นแต่อาจไม่เคยสังเกตกันมาก่อน โรคนี้ก็คือตามชื่อของมัน หากใครที่เป็นก็จะมีความกลัว “ทะเล” ไม่กล้าลงไปเล่นในน้ำทะเล อาจไม่กล้าแม้แต่การล่องเรือออกไป หนักๆ เข้าก็อาจไม่กล้าที่จะเข้าไปเฉียดหรือหันไปมองทะเลได้เลย รวมถึงไม่กล้าลงไปเล่นในน้ำลึกแม้จะเป็นสระว่ายน้ำก็ตาม วิตกกังวลกลัวว่าจะมีอะไรอยู่ข้างใต้นั้น และที่ส่งผลกระทบมากที่สุดก็อาจเป็นไม่กล้าแม้แต่มองภาพถ่าย ชื่อโรคมาจากภาษากรีก คำว่า Thalassa หมายถึงภูติผีในทะเลตามความเชื่อโบราณ สำหรับอาการที่เกิดขึ้นก็จะเหมือนกับความกลัวในโฟเบียอื่นๆ ใจสั่น มือสั่น เหงื่อออก หวาดระแวง อาจไม่สามารถควบคุมตัวเองหรือเป็นตัวของตัวเองได้ แนวทางการรักษาความกลัวในลักษณะนี้ได้ดีที่สุดก็คือการปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อหาวิธีการรักษาร่วมกัน โดยอาจใช้วิธีการบำบัดจิต หรือการจัดระเบียบพฤติกรรมของสมองและจิตใต้สำนึกใหม่ ให้เราค่อยๆ มองว่าสิ่งนั้นไม่น่ากลัวอีก และหากใครอยากรู้ว่าตนเองมีอาการของโรคนี้หรือไม่ และมันรุนแรงมากน้อยแค่ไหน อาจลองพิสูจน์กันดูได้จากภาพที่นำมาให้ชมกันด้านล่างนี้ …
-
ศิลปินแปลงโฉมเหล่า “สาวสวยคนดัง” ให้กลายเป็นตัวการ์ตูน “เจ้าหญิงดิสนีย์”
เชื่อว่าทุกคนจะต้องรู้จักกับตัวละคร “เจ้าหญิงจากค่ายดิสนีย์” เป็นแน่แท้ อย่างน้อยๆ ก็คงเคยได้ยินชื่อ “ซินเดอเรลลา” กันมาบ้างแหละนะ ตัวละครแห่งเทพนิยายเหล่านั้นก็ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินสาวชาวรัสเซีย Helen Morgun ผู้เนรมิตเหล่าสาวสวยเซเลบริตี้คนดัง ให้พวกเธอกลายเป็นตัวละครเหล่านั้น ผสมผสานกันด้วยลายเส้นอันสวยงาม แต่ละคนจะกลายเป็นตัวละครไหน และมีหน้าตาอย่างไรกันบ้าง เพื่อนๆ ก็ลองไปชมกันเลยจ้า Cara Delevingne กลายเป็น Anna . Blake Lively กลายเป็น Aurora . Ariana Grande กลายเป็น Vanellope . Emilia Clarke กลายเป็น Belle . Amanda Seyfried กลายเป็น Rapunzel . Margot Robbie กลายเป็น Elsa . Lily Collins กลายเป็น…
-
โจรสาว “ขโมยแหวนเพชร” เก็บใส่กระเป๋าไม่ได้ เลยยัดเข้าปากกลืนลงท้องไปซะเลย!!
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ “ร้านเพชร” แห่งหนึ่งในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ตำรวจได้เข้าจับกุมตัวโจรสาวที่พยายามจะขโมยแหวนที่มีเพชร 5 เม็ดเรียงกันอย่างสวยงาม ด้วยการกลืนมันเข้าไป?! จากการรายงานในวันที่ 3 มกราคม 2019 ได้มีการเปิดเผยคลิปจากกล้องวงจรปิดของทางร้าน เป็นหลักฐานที่ทำให้พ่อค้าเพชรทราบได้ว่าจู่ๆ แหวนของเขานั้นหายไปได้อย่างไร นาย Mehmet Erdogan พ่อค้าเพชรดังกล่าวเล่าว่า หญิงสาวที่ชื่อ M.A (ตามกฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยชื่อได้เพียงเท่านี้) ได้เข้ามาภายในร้าน ทำทีต้องการดูแหวนเพชรวงหนึ่งในตู้กระจก Mehmet จึงทำการปลดล็อกและนำแหวนออกมาให้เธอได้ดูใกล้ๆ ก่อนที่เขาจะรับโทรศัพท์ที่โทรเข้ามา และนั่นก็เป็นจังหวะที่ทำให้เธอสบโอกาสจะนำแหวนวงนั้นใส่เข้าไปในกระเป๋าของตัวเอง แต่โชคดีที่พ่อค้าเพชรเหลือบไปเห็นว่าแหวนของเขาหายไปจากบนตู้ จึงถามเธอไปว่า “แหวนหายไปไหน?” แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ตอบอะไร เมื่อพ่อค้าหนุ่มละสายตาไปอีกครั้ง เธอจึงตัดสินใจหยิบขวดน้ำออกมาจากกระเป๋า ก่อนที่จะตบแหวนเพชรในมือซ้ายเข้าปากไปแล้วกลืนน้ำตามในทันที เหลือเพียงความสงสัยให้กับ Mehmet ว่าแหวนของเขามันหายไปไหนกันแน่ พ่อค้าหนุ่มจึงเปิดกล้องวงจรปิดดูในระหว่างที่หญิงสาวยังคงอยู่ภายในร้าน เขาได้เห็นทุกอย่างที่เธอทำและโทรแจ้งตำรวจให้มาที่ร้านในทันที เมื่อพาหญิงสาวไปเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาลก็พบว่ามีแหวนเพชรอยู่ในท้องของเธอจริงๆ คลิปจากกล้องวงจรปิด หญิงสาวถูกจับกุมตัวในข้อหาขโมยแหวนเพชร โดยเธอได้ถูกประกันตัวออกมาแล้ว ถึงแม้ว่าแหวนจะยังคงอยู่ในท้องของเธอก็ตาม โดยต้องรอให้มันออกมาเองตามธรรมชาติแล้วส่งคืนให้กับร้าน หรือไม่ก็อาจต้องจ่ายค่าเสียหายไป แต่ที่แน่ๆ คือหลังจากนี้เธอจะต้องได้รับโทษตามกฎหมายอย่างแน่นอน…
-
สวัสดีปีหมู ๒๕๖๒ มาดูหลากหลายเมนูจากน้องหมู ที่จะทำให้เรารู้ว่า “เนื้อหมูอร่อยมาก”
สวัสดีปีใหม่ 2562 พวกเราชาวไทยก้าวเข้าสู่ปีกุน หรือ ปีหมูกันเต็มตัวแล้ว และหากพูดถึงหมูแล้วล่ะก็เราคงจะคิดเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจาก “ความอร่อย” วันนี้เลยจะมาแนะนำเมนูเนื้อหมูให้เพื่อนๆ ได้น้ำลายสอกัน เอาเป็นว่าแค่เห็นชื่อเมนูแล้วก็ตระหนักทันทีเลยว่า “หมูมันอร่อยจริงๆ เว้ยแก!!!” เบคอน เมนูนี้ถือเป็นของโปรดใครหลายคนเลยทีเดียว เอามาทำอาหารได้หลากหลายอีกด้วย ทั้งทอด ทั้งอบ ทั้งปิ้ง ผัดประยุกต์กับเมนูอื่นๆ ก็อร่อยทั้งนั้น ถึงจะอ้วนไปหน่อยแต่นานๆ กินทีก็ไม่เป็นไรหรอกคุณ แถมหากินง่ายด้วย เอาเป็นว่าร้านหมูกระทะหลายๆ ร้านเองก็มีให้สั่ง บาร์บีคิว เมนูนี้ก็หากินได้ตามตลาดนัด หรือร้านโลคอลทั้งหลาย ถ้าอยากได้คุณภาพดีหน่อยก็อาจจะต้องไปตามร้านที่ราคาแพงขึ้น แต่เมนูนี้ทำเองก็ดูไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก ขอแค่หมักหมูให้นุ่มๆ ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ วันหยุด อร่อยเหาะเด้อ กากหมูทอด เมนูนี้ดูจะเป็นเครื่องเคียงที่ดี ใส่ก๋วยเตี๋ยวก็อร่อย ทำเป็นน้ำพริกก็ดี หรือเอาข้าวเหนียวจิ้มกินเพียวๆ ก็ยังได้ วิธีทำก็ไม่มีอะไรยุ่งยากแค่ซื้อหมูติดมันมา หั่นส่วนมันเป็นชิ้นเล็กๆ ปรุงด้วยเกลือและพริกไทยแล้วลงทอดในไฟกลาง 1 รอบ ไฟแรงอีก 1 รอบ ก็จะได้กากหมูกรอบๆ หอมๆ มาทานแล้ว …
-
เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด…? 5 ศาสนา “อีหยังวะ” แต่มีคนนับถือเป็นจริงเป็นจังด้วยนะ
คนเราต่างก็มีสิทธิ์ในการเลือกนับถือสิ่งใด หรือศาสนาใดก็ได้ ตราบใดที่ไม่สร้างความเดือดร้อน หรือเบียดเบียนความสงบสุขของใคร หรือหากจะเลือกไม่นับถือสิ่งใดก็ไม่ผิดเช่นกัน แต่ตามปกติผู้คนก็จะรู้จักศาสนาหลักๆ ในโลกไม่กี่ศาสนา เช่นพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู ขงจื๊อ แล้วแต่ละศาสนาก็ยังแยกย่อยเป็นอีกหลากหลายนิกาย ที่มีข้อกำหนดและความเชื่อแตกต่างกันออกไปอีก ตามปกติการจะสร้างศาสนาขึ้นมาใหม่ (และทำให้ถูกต้อง) นั้นมีองค์ประกอบที่ต้องมีเป็นหลักสากลอยู่ แต่ศาสนาที่เราจะยกมาให้ดูต่อไปนี้นั้นจะมีองค์ประกอบครบหรือไม่…ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มัน “อีหยังวะ” จริงๆ นะพวกคุณ 1. Jediism (ศาสนาเจได) หนังไซไฟระดับตำนานอย่าง Star Wars นั้นย่อมมีแฟนคลับอยู่ทั่วโลก แต่แฟนคลับเหล่านี้อาจจะรักมั่นคงในหนังเรื่องนี้มากกว่าคนอื่นๆ ไปหน่อยนึงเท่านั้นเอง แต่ว่าไม่ได้เพราะเหล่าสาวกแห่งเจไดเขาปฏิบัติตนตามวิถีแห่งพลังกันอย่างจริงจัง แถมมีวิหารแห่งเจไดตั้งอยู่ที่รัฐเท็กซัสด้วย 2. Universe People (ชาวจักรวาล) เป็นศาสนาที่เชื่อในเรื่องสิ่งมีชีวิตนอกโลกนามว่า Ashtar ที่เฝ้ามองโลกของเราจากเบื้องบน หากใครทำดีและจงรักภักดี Ashtar จะมารับไปตัวยังอีกมิติหนึ่ง 3. Panawave (คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) อันนี้จะเรียกว่าเป็นศาสนาก็เรียกได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่ แต่กลุ่มคนเหล่านี้หวาดกลัวต่อคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอย่างมาก พวกเขามีความเชื่อว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นสาเหตุทำให้โลกร้อน และจะนำพาหายนะมาสู่โลกของเรา 4. The Church…
-
รู้จักวัฒนธรรม “เผารถ” ช่วงเทศกาลในฝรั่งเศส เผาทำไม? เผากันตั้งแต่เมื่อไหร่?
การเผารถในช่วงเทศกาลนั้นดูจะเป็นประเพณีประจำประเทศฝรั่งเศสไปเสียแล้ว ไม่ว่าการเฉลิมฉลองด้วยการทำลายข้าวของดังกล่าวนี้จะสร้างความไม่พอใจให้ใครหลายคน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ต้องคอยรักษาความสงบเรียบร้อยและเจ้าของรถที่ถูกเผา แต่การกระทำนี้ก็ยังดำเนินมาถึงปัจจุบัน หลายคนอาจจะคิดในใจว่า คนที่ทำแบบนั้นได้ต้องรวยมากแน่ๆ ถึงเอารถมาเผาเล่นเพื่อความสะใจช่วงเทศกาลแบบนี้ แต่แท้จริงแล้วประเพณีนี้ในฝรั่งเศสเป็นการสุ่มเอารถใครก็ตามที่โชคร้ายตามท้องถนนมาจุดไฟเผาต่างหาก ช่วงวันสิ้นปีคนปกติคงอธิษฐานขอให้ตนเองพบแต่ความสุขในปีหน้า สุขภาพแข็งแรง แต่ในฝรั่งเศสนั้นประชาชนผู้มีรถยนต์อยู่ในครอบครองต้องเพิ่มคำอธิษฐานเข้าไปอีกข้อคือ ขอให้รถของตนรอดพ้นจากการถูกเหล่าวัยรุ่นคึกคะนองจุดไฟเผาเล่น นอกจากนี้วันที่มีการเผารถมากที่สุดอีกวันคือวันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันชาติของประเทศฝรั่งเศส ในปีที่แล้วจำนวนรถที่ถูกเผานั้นมีไม่ต่ำกว่า 1,000 คัน ส่วนผู้ต้องหาทำลายทรัพย์สินก็ถูกจับกุมตัวราวๆ 500 คดี ถึงแม้ว่าตัวเลขนี้จะลดลงจากปี 2010-1013 ถึง 20% แต่การที่มีรถโดนเผาเล่นโดยเจ้าของไม่เต็มใจนั้นก็ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีนัก สาเหตุที่ตัวเลขความเสียหายลดลงนั้นทาง ONDRP (หอสังเกตการณ์อาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา) ระบุว่า เมื่อสื่อต่างๆ ให้ความสนใจในประเพณีนี้น้อยลง ก็อาจทำให้ความน่าตื่นเต้นของการเผารถลดน้อยลงไปด้วย ประเพณีการสุ่มเผารถนี้เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกช่วงยุค 90 ในการประท้วงทางภาคตะวันออกของประเทศ จากนั้นก็กลายเป็นกระแสลามไปทั่วประเทศที่ผู้คนจะออกมาเผารถเพื่อแสดงออกทางสังคม ต่อมาในยุคหลังก็เกิดเป็นการแข่งขันกันระหว่างแก๊งวัยรุ่นคู่อริในแต่ละพื้นที่ว่าแก๊งไหนเผาได้มากกว่ากัน ส่วนของปีล่าสุดนี้ก็คาดว่าจะมีการเผารวมอยู่ในเหตุการณ์ประท้วงการปรับขึ้นภาษีน้ำมันของรัฐบาลฝรั่งเศส และการประท้วงเรื่องอื่นๆ ที่สืบเนื่องต่อกันมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่มา thelocal.fr
-
เด็กหนุ่มออทิสติกสมัครงานที่ไหนไม่มีใครรับ เลยสร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมาฟันเงินไปร่วมแสน!!
เพราะด้วยความที่เด็กหนุ่มคนนี้ป่วยเป็นโรคออทิสติก ทำให้เขาไม่สามารถหางานทำได้เหมือนดั่งคนทั่วๆ ไป แต่ถึงอย่างนั้นแล้วเขาก็เปลี่ยนความผิดหวังนี้ให้กลายเป็นโอกาสขึ้นมา ด้วยการสร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมาและมันก็เวิร์คแบบสุดๆ!! Clay Lewis เด็กหนุ่มออทิสติก ผู้สร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง Clay Lewis เด็กหนุ่มวัย 16 ปีจากเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลียได้รับการวินิจฉัยจากทางแพทย์ว่าป่วยเป็นโรคออทิสซึมตั้งแต่เมื่อมีอายุได้เพียงแค่ 2 ขวบ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อปีที่แล้วเขาก็พยายามจะหางานทำเพื่อหารายได้เพิ่มเติม แต่ก็ไม่มีที่ไหนรับบุคคลเช่นเขาเข้าทำงานเลยแม้แต่ที่เดียว เขาจึงปิ๊งไอเดียและสร้างธุรกิจชื่อว่า ‘Clay’s Bin Cleaning’ ขึ้นมา ซึ่งธุรกิจนี้คือการรับจ้างทำความสะอาดถังขยะตามบ้าน นับตั้งแต่วันแรกที่เขาเริ่มธุรกิจ เขาสามารถทำเงินไปได้แล้วกว่า 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 190,000 บาท) เลยทีเดียว อีกทั้งยังมีลูกค้ากว่า 70 คนและมีลูกจ้างอีก 3 คนนั่นคือเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกับเขา “ผมแค่อยากได้เงินแค่นั้นเอง” Clay ตอบแบบขำๆ เมื่อถามถึงแรงบันดาลใจของเขา สำหรับราคาค่าใช้บริการล้างถังขยะของเขานั้นก็ไม่แพงแต่อย่างใด โดยเขาจะคิดราคาเริ่มต้นที่ 10 ดอลลาร์ (ราวๆ 320 บาท) ต่อหนึ่งถัง และ…
-
ประมวลภาพความเสียหายจากพายุ ‘ปาบึก’ หลังเข้าถล่มภาคใต้ น้ำท่วมศูนย์ฯ – เสาไฟล้ม!!
อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าตอนนี้ภาคใต้ของประเทศไทยเรา กำลังเผชิญกับพายุโซนร้อน ‘ปาบึก’ (PABUK) ซึ่งทางเว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยาได้ระบุว่า พายุลูกนี้ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณระหว่างอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชแล้วเมื่อเวลา 12.45 น. ของวันนี้ (4 ม.ค.) โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และนี่คือความเสียหายบางส่วนที่เกิดขึ้นแล้วจากความรุนแรงของพายุลูกนี้!! ประกาศจากทางเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา เมื่อเวลา 13.40 น. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กชื่อว่า Rungrot Kongpiban ได้โพสต์รายงานถึงความเสียหายล่าสุดที่เกิดขึ้น โดยมีแคปชั่นว่า “แรงลมดันประตูเหล็ก ศูนย์พักพิง บิดงอแล้ว !! การไฟฟ้าตัดไฟแล้ว #ปากพนัง #พายุปาบึก ความเร็วลมตอนนี้ 60 กม./ชม. ยังมาจากทิศเหนือ ทำให้น้ำไหลเข้าศูนย์พักพิง (มีชาวบ้านกว่า 300 คน) ที่ อ.ปากพนัง…ทหารและชาวบ้าน ต้องช่วยกันระบายน้ำออกจากศูนย์ฯ เร่งด่วน !! #นครศรีธรรมราช #PPTVHD36“ ภาพภายในโพสต์ . . . . นี่เป็นเพียงความเสียหายบางส่วนที่เกิดขึ้นเท่านั้น!! ในตอนนี้ทุกสายการบินได้ยกเลิกเที่ยวบินไปยังนครศรีธรรมราชทั้งหมดแล้ว เนื่องจากผลกระทบของพายุลูกนี้…
-
แฟนเพจขอให้ชาวเน็ตตั้งชื่อหนังจากภาพ “สาวน้อยกับคุณตำรวจ” งานนี้ความฮาจึงบังเกิด
ไม่ว่าคุณจะขับรถมอเตอร์ไซค์กี่ซีซี. หรือเจ้าสองล้อของคุณจะเท่มากแค่ไหน ถ้าหากว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณลืมสวมหมวกกันน็อคระหว่างที่กำลังขับรถล่ะก็ ถ้าหากจ๊ะเอ๋กับคุณพี่ตำรวจจราจรละก็ คุณไม่ทางรอดตัวไปได้ง่ายๆ แน่ และสาวน้อยรายนี้เองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน แต่ทว่าในระหว่างที่เธอกำลังถูกคุณตำรวจเรียกตัวนั้น กลับกลายเป็นเรื่องที่เรียกความฮาจากชาวเน็ตได้ไม่น้อยเลยทีเดียว…. หลายคนที่ได้เห็นภาพของเธออาจจะคิดว่า ความฮาครั้งนี้คงจะเป็นท่าซารางเฮโยของเธอที่ยืนคู่กับพี่ตำรวจใช่ไหมล่ะ แต่ #เหมียวเวจจี้ ขอบอกเลยว่านั่นเป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น เพราะภาพของเธอกลายเป็นจุดกำเนิดความฮา หลังจากที่แฟนเพจหวานหมู นำไปโพสต์พร้อม ขอร้องให้ชาวเน็ตเข้ามาเปลี่ยนภาพฮาๆ นี้ ให้กลายเป็นชื่อหนังกันหน่อย และงานนี้เมื่อมีคนเสนอ ชาวเน็ตก็ไม่ขัดข้องรีบสนองให้อย่างไว โดยมีคนเข้ามาร่วมตั้งชื่อหนังเรื่องใหม่ตามคำเรียกร้องพร้อมแสดงความคิดเห็นมากถึง 2,600 ความเห็นหลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกโพสต์ไปเพียงแค่ 6 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นลองไปชมความฮากันได้เลย… มีการหนี มีการไล่จับ ออกแนวหนังอินเดียนิดๆ ออกแนวหนังวัยรุ่น ท่าซารางเฮโยมาแบบนี้ ชื่อเกาหลีจะไม่มีได้ไง เป็นเพลงก็มา เอ๊าะ เดี๋ยว!! ซิงเกิ้ลสองไปไหน?? จับหนูไมอ่าาา สั้นๆ ไม่เน้นสัมผัส แต่ชัดเจน ฮ่า …
-
เว็บหางานญี่ปุ่น ปล่อยคลิปโปรโมทด้วยตัวละคร One Piece เป๊ะเวอร์จนนึกว่าหนังจริง!
กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางชื่อกระฉ่อนวงการการ์ตูนมังงะญี่ปุ่น คงไม่มีใครไม่รู้จักเป็นแน่แท้ เพราะพวกเขาตั้งเป้าจะเป็นราชาโจรสลัดให้ได้เลยยยย จนป่านนี้ก็ยังไม่มีท่าทีจะจบเสียที ด้านอาจารย์โอดะเองยังคงเขียนอยู่อย่างต่อเนื่อง สำหรับการ์ตูน One Piece นอกเหนือจากจะเป็นมังงะ อนิเมะ และภาคเดอะมูฟวี่ ออกมาหลายตอนหลายภาคแล้ว ก็คงจะมีหลายคนเริ่มนึกถึงว่า จะมีภาคไลฟ์แอคชั่นหรือภาคคนแสดงเมื่อไหร่? เพราะการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ที่ฮิตไปทั่วโลกก็ฉายแวว(เจ๊งบางราย) ออกมากันหมดแล้ว แต่ One Piece ยังไม่มีวี่แววสักที โดยก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวมาว่ากลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง One Piece จะกลายมาเป็นทีวีซีรีส์ที่ใช้ทุนเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์การสร้าง ในแบบฉบับอเมริกัน จนมาถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีตัวอย่างภาพหรือคลิปใดๆ ออกมาให้เห็นเลย เพราะแฟนๆ ต่างก็รอลุ้นเหลือเกินว่าจะเจ๋งหรือจะเจ๊ง… ทุกครั้งที่มีการ์ตูนกลายมาเป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่น ความคาดหวังในเรื่องความใกล้เคียงกับการ์ตูนต้นฉบับจะมีสูงมากๆ ทั้งในเรื่องของแคสติ้ง คอสตูม เมคอัพ และบุคลิกอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวละคร ซึ่งหากไม่อยากเสี่ยงกับแฟนบอยของการ์ตูนยอดฮิตเรื่องนี้ ก็นับว่าเป็นความท้าทายที่ยากอยู่พอสมควร แต่ทว่าทาง Indeed บริษัทเว็บไซต์หางานที่ร่วมสร้างกับทีมแอนิเมชั่น One Piece กลับสามารถถ่ายทอดตัวละครจากเรื่อง One Piece ได้ใกล้เคียงกับต้นฉบับมากๆ ปล่อยออกมาเป็นโฆษณาสั้นๆ เฉลิมฉลองครบรอบการออกอากาศ…
-
นางแบบบิกีนี่ลงทุน ‘นวดนม 10,000 ครั้ง’ ในระยะ 2 สัปดาห์ พิสูจน์ว่าจะใหญ่ขึ้นรึเปล่า?
ขนาดของหน้าอกหน้าใจที่มีตามธรรมชาติ หากรู้สึกยังไม่พอใจกับสิ่งที่มี เดี๋ยวนี้ทางเลือกของการเสริมหน้าอกก็มาช่วยทดแทนในส่วนที่ขาดได้ แต่ว่าหากวิธีเสริมหน้าอก ที่ไม่ได้ทำให้ใหญ่ขึ้นตามธรรมชาติยังไม่ตอบโจทย์ เนื่องจากมีความเสี่ยงอื่นๆ อีกมากมาย แล้ววิธีทางธรรมชาติแบบไหนจะทำให้มันใหญ่ขึ้นมาได้บ้างล่ะ? Nana Yasuda ด้วยพื้นฐานความสงสัยแคลงใจนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ TV Tokyo จึงจัดรายการพิเศษขึ้นมา โดยมีแขกรับเชิญเป็นนางแบบบิกินี่และเรซควีน Nana Yasuda มาร่วมกันค้นหาคำตอบว่า จะเกิดอะไรขึ้นหากหน้าอกของหญิงสาวชาวโตเกียววัย 27 ปี ถูกนวดไปทั้งหมด 10,000 ครั้ง? โดยก่อนหน้านี้ทางรายการก็ได้ทำการทดลองจำนวน 10,000 ครั้ง ในหลากหลายรูปแบบมาแล้ว ยกตัวอย่างเช่น การตวัดพู่กัน การเหวี่ยงดาบเคนโด แต่การทดลองนวดหน้าอกครั้งนี้กลับได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นพิเศษ อย่างไรก็ดี ทางรายการได้พิจารณาแล้วว่าหากนวดแบบสุ่มสี่สุ่มห้าอาจส่งผลอันตรายต่อหน้าอกของ Yasuda ได้ ทางสถานีจึงจัดแจงที่ปรึกษาพัฒนาการหน้าอกมาโดยเฉพาะ เพื่อติดตามกระบวนการนวดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นวิธีการจับให้กระชับใต้ราวนม และกระบวนท่าจัดฝ่ามือและกระบวนนวดหมุนหน้าอก ทั้งนี้ การนวดทีเดียว 10,000 ครั้ง ก็อาจจะหนักเกินกว่าที่หน้าอกของ Yasuda จะรับมือได้ไหว เพราะฉะนั้นจะแบ่งการทดสอบเป็นคอร์สในระยะ 12 วันแทน…
-
เจ้านายถามชาวเน็ต ‘จะไล่ออกดีมั้ย’ กรณีพนักงานทำงานเสร็จไว ที่เหลือคือเปิดเกมเล่น
วัฒนธรรมการทำงานภายในแต่ละองค์กรนั้นไม่เหมือนกัน โดยในทางปฏิบัติจริงๆ แล้ว นโยบายการดำเนินงาน กฎและข้อระเบียบต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมขององค์กร รวมไปถึงวิสัยทัศน์ของผู้นำองค์กรด้วย เมื่อพูดถึงกรณีนี้แล้ว เมื่อพนักงานทำงานที่ต้องรับผิดชอบเสร็จก่อนเวลาเลิกงาน แล้วเวลาที่เหลือพนักงานควรจะทำอะไร? จะไปช่วยงานคนอื่น หางานให้ตัวเองเพิ่ม หรือควรจะหาความบันเทิงใส่ตัว เพื่อเป็นการพักผ่อนให้กับตัวเอง ในขณะที่แนวคิดของนายจ้าง คือการจ่ายเงินจ้างพนักงานเพื่อมา ‘ทำงาน’ ท่ามกลางความสับสนของเจ้านายรายหนึ่ง ก็หย่อนคำถามมาให้ชาวเน็ตร่วมแสดงความคิดเห็นบนเว็บไซต์ Quora ในกรณีที่ว่า… มีพนักงานคนหนึ่ง มักจะทำงานเสร็จไวกว่าคนอื่นในทีม และเวลาที่เหลือทั้งวันก็มักจะเปิดเกมเล่น ไม่ยอมช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน คิดว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะไล่พนักงานคนนี้ออก? หนึ่งในคำตอบที่ดีที่สุดจาก Anna Civolani เกี่ยวกับประเด็นนี้ กล่าวไว้ว่า… “ตอนนี้ คุณกำลังคิดจะไล่หนึ่งในพนักงานเพียงคนเดียว ที่มีประสิทธิภาพและความซื่อสัตย์อย่างงั้นรึ?” “พนักงานคนอื่นๆ อาจจะไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือก็ได้ สิ่งที่ควรจะเป็นคือพวกเขามีประสบการณ์มากกว่าพนักงานที่ทำงานเสร็จไว และอาจจะได้เรียนรู้แล้วว่า หากปล่อยให้เจ้านายรู้ว่าทำงานเสร็จทันก่อนเวลา จะนำไปสู่การถูกลงโทษด้วยการมอบงานเพิ่มหรือถูกไล่ออก เพราะฉะนั้นพวกเขาก็แกล้งทำเป็นทำงานตลอดทั้งวัน” “พนักงานที่ทำงานเสร็จไว ก็ทำงานในส่วนของวันนั้นได้ไวและเสร็จสิ้นไปแล้ว เขาก็แบ่งเวลาที่เหลือได้เพราะเขาทำงานได้ดีและเร็ว มันผิดอะไรกับการทำแบบนั้นล่ะ?” …
-
ครอบครัวแตกตื่นกลางดึก เมื่อพบ “สุนัขจิ้งจอก” มานอนขดตัวบนไมโครเวฟ…
เมื่อคืนวันที่ 15 เดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา Kim Fryer ต้องรีบลุกจากเตียงเมื่อมีเสียงตะโกนดังจากชั้นล่าง ทันทีที่ลงไปถึง เธอก็พบว่าลูกสาวของเธอกำลังเผชิญหน้ากับแขกไม่ได้รับเชิญที่มานอนชิลล์บนไมโครเวฟ แขกแปลกหน้าตัวนั้นมีขนาดและรูปร่างคล้ายแมวหนึ่งในห้าของ Fryer แต่มันมีขนเป็นแดงและมีขนหางที่ฟูฟ่องเป็นพวงอย่างเห็นได้ชัด Fryer เล่าว่า “ฉันลงมาและเห็นสุนัขจิ้งจอกนอกขดตัวอยู่บนไมโครเวฟ ฉันเลี้ยงแมว 5 ตัว และสุนัขอีกตัว ดังนั้น ฉันคิดว่ามันน่าจะเข้ามาทางประตูแมว” ดูเหมือนเจ้าหมาจิ้งจอกจะเข้ามาในบ้านและหาจุดที่อุ่นที่สุดเพื่อที่มันจะได้งีบอย่างสบาย แต่ทางเจ้าของบ้านเป็นห่วงเรื่องปลอดภัย เลยปล่อยให้มันนอนแบบนั้นต่อไปไม่ได้ ต้นไม้ 2 ต้นของ Fryer ถูกถอนออกจากกระถางและพื้นก็เปื้อนไปด้วยโคลน เมื่อลูกสาวของเธอเปิดไฟ พวกเขาพบว่าตาเจ้าหมาจิ้งจอกเปิดอยู่ข้างเดียว และมันไม่ขยับตัวเลย Fryer จึงคิดว่าน่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับมัน Fryer จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ RSPCA แล้วพวกเขาก็รีบมารับเจ้าหมาจิ้งจอก ก่อนจะพามันไปส่งโรงพยาบาลสัตว์เพื่อเช็คอาการ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งชื่อให้เจ้าหมาจิ้งจอกว่า Mr. Fox… มันดูเซื่องซึมจนน่าเป็นห่วง และเมื่อมาถึงโรงพยาบาล มันรีบเข้าไปหลบอยู่ที่มุมห้องทันที เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลบอกว่า “มันดูมีความสุขมากที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพ แต่มันไม่ค่อยพอใจที่ต้องอยู่ในกรง โชคดีที่สุขภาพมันดีทุกอย่างและมันยังมีขนที่สวยงามเช่นเดิม” หลังจากที่เจ้าหน้าที่เช็คอาการและร่างกายของ Mr. Fox แล้ว พบว่ามันไม่เป็นอะไร พวกเขาจึงพามันไปปล่อยในป่าที่ใกล้กับบ้านของ Fryer…
-
เหมียวแอบหนีออกจากบ้าน กะไปผจญภัย แต่ฝนดันตกซะงั้น จะเข้าบ้านก็กลัวแม่ด่า…
เรารู้กันอยู่แล้วว่าแมวเป็นสัตว์ที่มีความอยากรู้อยากเห็นสูงมาก จนหลายๆ ตัวต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เช่นเดียวกับเจ้าเหมียว Henry แม้ความอยากรู้จะไม่ทำให้มันถึงตาย แต่มันก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าสังเวชเล็กน้อย เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อ Katherine Fogg เจ้าของของ Henry สั่งพิซซ่ามาที่บ้าน ช่วงเวลานั้นเองที่เจ้าเหมียวมองเห็นโอกาสที่มันจะแอบหนีออกจากบ้านได้ ขณะที่ Fogg กำลังจ่ายเงินให้คนส่งพิซซ่าที่หน้าประตู Henry ก็ได้พุ่งตัวออกไปทันทีโดยไม่มีใครทันสังเกต แต่เจ้าเหมียวไม่รู้ตัวหรอกว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมาก เพราะหลังจากที่มันออกไปได้สักพัก ปรากฏว่าอยู่ดีๆ ฝนก็ตกและอากาศข้างนอกก็หนาวมากๆ แถมรอบตัวมีแต่ความมืด มองไปทางไหนก็ดูน่ากลัวไปหมด สิ่งที่ Henry ต้องทำคือการกลับเข้าบ้านให้เร็วที่สุด แต่มันทำผิดและตัวมันเองก็รู้ดี ดังนั้น เจ้าเหมียวจึงค่อยๆ ย่องเข้าบ้านช้าๆ โดยมีกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้ เจ้าเหมียวพยายามหาทางเข้าบ้าน แต่ทั้งประตูและหน้าต่างดันถูกล็อกหมดทุกทาง มันจะเดินวนเวียนรอบบ้านๆ พร้อมร้องเรียกให้แม่มาเปิดประตูให้ แต่ตอนนั้นด้วยเสียงฝนที่เทมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ครอบครัวที่อยู่ข้างในไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย Henry เลยต้องทนหนาวอยู่ข้างนอกหลายชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เมื่อแม่เริ่มตระหนักได้ว่า Henry ไม่อยู่บ้าน เธอจึงรู้ว่ามันคงแอบออกไปข้างนอก นั่นเธอยิ่งเป็นห่วงมันมากขึ้น เพราะตอนนี้ฝนตกและเจ้าเหมียวคงไม่มีที่ไปแน่ สุดท้ายเธอจึงตัดสินออกไปตามหาเจ้าเหมียว แต่โชคดีตอนที่เปิดประตูออกไป…
-
เจ้าม้าพลาดตกลงไปในสระว่ายน้ำ แต่ตัวหนักเกินจนขึ้นเองไม่ได้ เลยต้องรอคนมาช่วย
ปีใหม่นี้ หลายคนคงอยากเริ่มต้นชีวิตด้วยเรื่องดีๆ เรื่องที่ทำให้ใจเบิกบาน เจ้าม้าตัวนี้ก็เช่นกัน แต่บังเอิญว่ามันดันก้าวพลาดไปนิด เลยซวยตั้งแต่ต้นปีเลย เรื่องนี้เกิดขึ้นในบ้านของชายคนหนึ่งใน Kent ประเทศอังกฤษ เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่เขากำลังทำกิจวัตรประจำวันอยู่นั้น เขาเหลือบไปเห็นบางอย่างนอกหน้าต่าง บางอย่างที่ว่านั้นคือ ม้าผู้น่าสงสารกำลังติดอยู่ในสระน้ำของเขา และมันไม่สามารถขึ้นมาเองได้ เจ้าม้าพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายมันก็ลื่นไถลไปอยู่ที่ก้นสระ ชายเจ้าของเริ่มเป็นห่วงเจ้าม้า เพราะบางทีมันอาจจะอยู่ที่นั่นมาแล้วทั้งคืน เขาโทรไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA เพื่อขอความช่วยเหลือ ต่อมาผู้ตรวจการ Rosie Russon และเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ Brian Milligan จึงรีบไปยังบ้านของชายคนนั้น เพื่อประเมินสถานการณ์และหาทางช่วยพาเจ้าม้าออกมา เมื่อไปถึง Russon บอกว่า “เห็นได้ชัดว่ามันหนาวมาก แม้น้ำจะลึกเพียง 1 เมตร ซึ่งอยู่ในระดับท้องของเจ้าม้า แต่มันไม่สามารถขึ้นจากสระเองได้ ตอนนั้นผมกังวลว่าอุณหภูมิร่างกายมันจะอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง” น่าเสียดายที่ทั้ง Russon และ Milligan ไม่มีอุปกรณ์เพียงพอที่จะช่วยพาเจ้าม้าขึ้นมา พวกเขาจึงติดต่อไปยัง Kent Fire & Rescue Service เมื่อทีมจาก Kent Fire & Rescue…
Got any book recommendations?