Tag: จีน
-
ดุเดือด!! คุณครูชาวจีนถูกนักเรียนรุมเตะและต่อย หลังมีปากเสียงไม่ยอมส่งข้อสอบ
ประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนนั้นมักจะเกิดขึ้นให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งสาเหตุหลักๆ ก็มาจากการใช้ความรุนแรงนั่นแหละ อาจจะเริ่มจากฝ่ายครูก่อนหรือไม่ก็ฝ่ายนักเรียนก่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ควรที่จะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย คลิปวิดีโอสั้นๆ นี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน ณ โรงเรียนมัธยม Fanji High School มณฑลอานฮุย เป็นเหตุการณ์ที่เกิดในห้องเรียนระหว่างคุณครูสอนภาษาอังกฤษกับนักเรียนชายรายหนึ่ง เกิดมีปากเสียงกัน อันเนื่องมาจากไม่ยอมส่งข้อสอบให้ ความรุนแรงเริ่มทวีมากขึ้นหลังจากที่คุณครูจับล็อคคอของนักเรียนชายคนดังกล่าว เพื่อนร่วมชั้นเรียนจึงเกิดบันดาลโทสะเข้าปะทะกับคุณครูอย่างรุนแรง ทั้งเตะและต่อย เอาเก้าอี้ฟาดครู รวมกันแล้วประมาณ 5 คนได้!! แต่ครูท่านนี้ก็ไม่ยอม ยืนต่อว่าและเข้าไปตบหน้านักเรียนกลับ กลายเป็นว่าทำให้ความรุนแรงภายในห้องเรียนนี้ไม่มีทางจบสิ้นได้โดยง่าย หลังจากที่คลิปถูกแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ครูใหญ่ของโรงเรียนถูกสั่งพักงานทันที และทางกระทรวงศึกษาธิการจะเข้ามาสอบสวนเหตุการณ์ความรุนแรงต่อไป (#เหมียวเลเซอร์ เองว่าเหตุการณ์นี้ไม่น่าจะใช้ความรุนแรงเลย จนมันบานปลายไปได้ถึงขนาดนี้) ที่มา : ahscb, unilad
-
น่ารักอะไรขนาดนี้? นักเรียนจีนโดนครูทำโทษให้เขียน Emoji กว่า 1 พันตัวลงกระดาษ
เชื่อว่าในสมัยเรียน แต่ละคนน่าจะมีวีรกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในโรงเรียนจนโดนคุณครูทำโทษด้วยวิธีต่างๆ มาแล้วมากมาย แต่กับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศจีนกลับไม่ได้ใช้วิธีทั่วๆ ไปแบบที่เราเจอกัน เพราะพวกเขามีวิธีที่น่าร๊ากน่ารักไว้ใช้ลงโทษนักเรียนของพวกเขาล่ะ เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยวิธีการลงโทษนักศึกษาที่มาเรียนสายในมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ในมณฑลเฉิงตู ประเทศจีน ของศาสตราจารย์รายหนึ่ง ที่สั่งให้นักศึกษาไปวาดภาพอีโมจิ (สัญลักษณ์ที่แสดงอารมณ์ต่างๆ) ด้วยมือกว่า 1 พันภาพ!! ตามรายงานบอกว่านักศึกษารายนี้มาเข้าเรียนสาย ทำให้ผู้สอนต้องทำโทษ แต่แทนที่จะสั่งให้คัดลายมือ ทำการบ้านหรือหักคะแนน เขากลับสั่งให้นักศึกษาไปวาดภาพอีโมจิมาส่ง ซึ่งนักศึกษาก็สามารถวาดภาพทั้งหมดมาส่งได้ครบอย่างเหลือเชื่อเลย หลังจากนั้นไม่นานภาพวาดอีโมจิของเหล่านักศึกษาก็ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกอินเตอร์เน็ต ก็ทำให้ชาวจีนถึงกับฮาท้องแข็งเลยทีเดียว ในขณะเดียวกันบางความเห็นกลับบอกว่านี่เป็นการลงโทษที่ไม่ถูกจุด ทำให้นักศึกษาเสียเวลาเปล่านั่นเอง ทีหลังอย่ามาเรียนสายอีกล่ะนักศึกษา ที่มา shanghaiist
-
อ้างว้างเหลือเกิน หมู่บ้านจีนสุดวังเวง เหลือผู้อยู่อาศัยเพียงคนเดียวมานานกว่า 10 ปี!?
หลายๆ คนมันจะเข้าใจไปว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่แออัด แถมยังมีประชากรอยู่หนาแน่นถึง 1.3 พันล้านคน แต่ใช่ว่ามันจะเป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะยังมีพื้นที่อีกมากที่ไม่มีคนอาศัยอยู่นะ เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของหลิว เชงเจี๋ย ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน เฉินชานเชอ มณฑลกานซู ประเทศจีน แต่เนื่องจากเพื่อนบ้านของเขาได้ทยอยเสียชีวิตลงไปเรื่อยๆ และบางคนก็ย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ทำให้เขากลายเป็นชาวบ้านเพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ที่นี่ ตามรายงานบอกว่านายหลิวอาศัยอยู่คนเดียวที่หมู่บ้านแห่งนี้มานานกว่า 10 ปี ในขณะที่ชาวบ้านคนอื่นๆ ได้ย้ายออกไปกันจนหมด เนื่องจากมีทรัพยากรไม่เพียงพอต่อความต้องการ แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ต่อไปเพราะต้องดูแลแม่ที่แก่เฒ่าของเขา แต่แล้ววันหนึ่งแม่ของเขาก็จากไป ทำให้เขาต้องอยู่เพียงลำพังกับแกะอีก 2-3 ตัว นายหลิวบอกว่าเขาใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการให้อาหารแกะและออกไปตักน้ำกลับมาเก็บไว้ที่บ้าน หากเขาอยากจะออกไปซื้ออาหาร ที่นั่นก็มีร้านอาหารที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1.6 กิโลเมตร นายหลิวเลยพยายามอยู่อย่างพอเพียงเท่าที่จะทำได้ . . . ถ้า#เหมียวฟิ้นต้องอยู่ในหมู่บ้านที่ไม่มีใครเหลืออยู่เลย เราคงจะทนไม่ได้แหงๆ ที่มา shanghaiist
-
น่ากลัวมาก!! สื่อนอกรายงาน เด็กนักเรียนจีนถูกพายุหมุนพัดขึ้นไปในอากาศกว่า 4.5 เมตร!!
เคยเห็นพายุทอร์นาโดในหนังมาก็หลายเรื่อง แต่ไม่คิดว่าจะน่ากลัวได้ขนาดนี้เลยนะเนี๊ยะ!! เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมาได้ มีพายุหมุนขนาดเล็กปรากฏขึ้นที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในมณฑลกานซู ประเทศจีน ทำให้ข้าวของของเด็กนักเรียนปลิวว่อนกระจัดกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายกว่าที่คิด เพราะว่าพายุหมุนได้ทวีความรุนแรงจนทำให้เด็กนักเรียนคนหนึ่งปลิวขึ้นไปในอากาศกว่า 4.5 เมตร และตกลงมากระแทกกับพื้นด้านล่าง เมื่อเห็นดังนั้นเหล่าคุณครูก็รีบพาเจ้าตัวไปส่งยังโรงพยาบาลเป็นการด่วน โชคดีที่เมื่อตรวจสอบร่างกายแล้วพบว่าเจ้าตัวมีบาดแผลที่บริเวณศีรษะเล็กน้อยเท่านั้น ชมภาพเคลื่อนไหวของเจ้าพายุกันได้ที่ด้านล่างเลย น่าสยองมากเลยนะเนี๊ยะ เป็นภัยธรรมชาติที่เราต่อกรด้วยไม่ได้จริงๆ ที่มา shanghaiist
-
หญิงสุดซวย บังเอิญเท้าติดอยู่ใน “ส้วม” แบบนั่งยอง จนหน่วยกู้ภัยต้องมาช่วย!!
ถ้าใครคิดว่าตัวเองกำลังมีวันแย่ๆ ล่ะ ลองดูเรื่องราวของหญิงวัยกลางคนคนนี้ดูก่อน รับรองว่าจากวันร้ายๆ ของคุณ จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย เรื่องราวมีอยู่ว่า ทางหน่วยดับเพลิงของเมืองนานกิงได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินจากหอพักแห่งหนึ่ง พวกเขาจึงรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุทันที และเมื่อไปถึง พวกเขาพบว่ามีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุเท้าติดอยู่ในส้วมแบบนั่งยอง เท้าของเธอเผอิญตกลงไป แล้วบิดในมุมที่ผิดปกติ จนเธอไม่สามารถดึงออกมาได้ และยิ่งไปกว่านั้น เธอเริ่มรู้สึกชาที่เท้าเพราะเลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงได้ ซึ่งหากปล่อยไปนานกว่านี้ เธออาจต้องตัดเท้าข้างนั้นทิ้งก็เป็นได้ สุดท้ายทางหน่วยกู้ภัยได้ใช้น้ำมันพืชเป็นตัวหล่อลื่น จนในที่สุด พวกเขาก็สามารถช่วยให้เท้าของหญิงคนดังกล่าว หลุดออกมาจากส้วมได้ ดูเหมือนว่าหน่วยกู้ภัยของประเทศจีนต้องมีความสามารถหลากหลายพอสมควรเลยทีเดียว เพราะปีก่อนก็มีชายคนหนึ่งแขนติดในส้วน หลังพยายามคว้ามือถือที่ร่วงลงไป จนเดือดร้อนหน่วยกู้ภัยต้องมาช่วยออกไป ทีหลังใครเข้าห้องน้ำแบบนั่งยอง ก็ระวังๆ ให้ดีนะเหมียว ไม่งั้นอาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ รับรองว่าไม่สนุกแน่นอน ที่มา Shanghaiist
-
เศรษฐีจีนโชว์รวย พาหุ่นยนต์รับใช้ 8 ตัวออกเดินห้าง ช่วยช็อปปิ้งถือของ
เวลาไปเดินช็อปปิ้ง ใครๆ ก็อยากจะได้ใครซักคนมาช่วยถือของเวลามีข้าวของเต็มไม้เต็มมือใช่มั้ยละ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะให้สาวๆ หรือหนุ่มๆ มาช่วยถือ แต่จะเป็นอย่างไร หากคนที่มาช่วนถือของ กลายเป็นหุ่นยนต์รับใช้ล่ะ? เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในมณฑลกวางโจว ประเทศจีน เมื่อมีเศรษฐีวัยกลางคนคนหนึ่ง พาหุ่นยนต์รับใช้ 8 ตัวออกมาเดินช็อปปิ้งในห้างดังกล่าว จนกลายเป็นที่สนใจของผู้ที่พบเห็น เขาใช้ให้หุ่นยต์เหล่านั้น ช่วยถือของที่ซื้อมา รวมถึงเสื้อโค้ท น้ำดื่ม และข้าวของอื่นๆ อีกมายมาก ระหว่างที่เขากำลังจิบกาแฟในคาเฟ่แห่งหนึ่ง เมื่อภาพเหล่านี้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจีนก็ต่างแซ่ซ้องพฤติกรรมของเศรษฐีคนนี้ว่าเป็นเหมือนคนที่ร่ำรวยเพียงข้ามคืน และไร้รสนิยมในการใช้เงินเป็นอย่างมาก ในช่วงไม่ปีที่ผ่านมา ความนิยมในหุ่นยนต์รับใช้ในประเทศจีนเพิ่มขึ้นสูงเป็นอย่างมาก โดยเริ่มจากร้านอาหารแห่งหนึ่งในมณฑลกุ้ยโจว ได้นำหุ่นยนต์รับใช้ มาคอยบริการลูกค้าในร้าน ท่าทางจะสะดวกสบายดีนะเนี่ย บางทีสาเหตุที่เศรษฐีคนนี้เอาหุ่นยนต์มาช่วยถือของแทนสาวๆ เพราะหุ่นยนต์มันพูดไม่ได้ก็ได้นะ ฮาาาาาา ที่มา Mirror
-
อย่างกับทรานส์ฟอร์มเมอร์ส!! คนงานจีนขับรถตักดินเข้าห้ำหั่นกันอย่างดุเดือดกลางถนน!?
คงจะเป็นเรื่องยากหากจะบอกเพื่อนๆ ว่ามีรถตักดินกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดกลางถนนประหนึ่งฉากแอ็คชั่นในหนังเรื่อง Transformers แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะว่าเหตุการณ์แบบนั้นมันเกิดขึ้นแล้วที่ประเทศจีน… เมื่อวันที่ 19 เมษายน เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเกิดเหตุรถตักดิน 2 คันพุ่งเข้าต่อสู้กันบนถนนแห่งหนึ่งในมณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากความขัดแย้งกันระหว่างบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง 2 แห่งที่มีความเห็นไม่ตรงกัน ตามรายงานบอกว่าในการต่อสู้อย่างดุเดือดของรถตักดินทั้ง 2 คัน จู่ๆ รถคันหนึ่งก็เกิดเสียจังหวะจนถูกรถอีกคันงัดและพลิกคว่ำลงไป แต่ในขณะนั้นเองกลับมีขบวนรถตักดินอีก 3 คันพุ่งเข้ามาช่วยงัดรถที่คว่ำอยู่ให้คนขับที่ติดอยู่ด้านล่างสามารถมุดหนีออกไปได้ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย เป็นที่น่าเสียดายมากเพราะคลิปวิดีโอดันตัดจบไปเสียก่อน ทำให้เราไม่รู้ผลว่าตกลงใครแพ้หรือชนะกันแน่ และไม่ได้เห็นสีหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจตอนเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุด้วย ที่มา Shanghai Expat , shanghaiist
-
หนุ่มจีนก้มเก็บมือถือระหว่างขับรถ สุดท้ายพุ่งลงแม่น้ำข้างทาง ตกน้ำป๋อมแป๋ม
ไม่ว่าจะภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคไหนๆ ก็ออกมาพูดออกมาย้ำอยู่บ่อยๆ ว่าการเล่นมือถือขณะขับรถเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะมันทำให้คุณสนใจสิ่งที่อยู่ในมือมากกว่าสิ่งที่อยู่บนท้องถนน ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ เลย ลองดูกรณีศึกษาจากข่าวที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าชายหนุ่มคนหนึ่งจากเมืองเหวินโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ประสบอุบัติเหตุขับรถตกลงไปในแม่น้ำ ขณะก้มเก็บมือถือที่ตกลงไปยังใต้เบาะ ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มคนนี้ได้ขับรถเลียบแม่น้ำมาเรื่อยๆ แต่ในระหว่างนั้นเจ้าตัวได้ทำมือถือตกลงไปยังด้านใต้เบาะคนขับ แต่แทนที่จะจอดเจ้าตัวกลับขับต่อไปเรื่อยๆ และก้มไปเก็บพร้อมๆ กัน ทำให้เขาเผลอไปเหยียบใส่คันเร่งโดยไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นรถยนต์ของเขาเสียหลักพุ่งลงไปในแม่น้ำทันที โชคดีที่เจ้าตัวไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก ทำให้เขาสามารถออกมาจากรถและขึ้นไปยืนตะโกนขอความช่วยเหลืออยู่บนหลังคารถแบบที่เห็นในภาพ จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทราบเรื่องและนำรถเครนมาดึงรถของเขาขึ้นมาจากน้ำได้ในที่สุด การขับรถบนท้องถนนมันไม่เหมือนกับการขับรถในเกมนะ ที่จะได้ลุกไปเข้าห้องน้ำหรือหยิบของที่ตกระหว่างขับรถได้น่ะ ที่มา shanghaiist
-
ร้านอาหารจีนมาแปลก ทำโปรโมชั่นเปิดร้านใหม่ ใครอ้วนถึงเกณฑ์ทานอาหารฟรีไปเลย!!
ปกติร้านอาหารเวลาเปิดทำการใหม่ๆ มักจะทำโปรโมชั่นออกมาดึงลูกค้า บางร้านอาจทำโปรลดราคาพิเศษ บางร้านอาจจะแถมอาหารบางอย่างให้ฟรี หรืออื่นๆ อีกมากมาย แต่สำหรับร้านอาหารจีนแห่งนี้ต้องบอกเลยว่ามาแปลกจริงๆ เพราะพวกเขาจะให้ลูกค้าสามารถทานอาหารฟรีๆ ไปเลย หากอ้วนถึงเกณฑ์ที่ร้านกำหนดไว้?!?! โดยทางร้านได้ตั้งเกณฑ์เอาไว้ว่า หากผู้ใช้บริการมีน้ำหนักตัวมากกว่า 130 กิโลกรัม ก็จะได้ทานอาหารเย็นกันฟรีๆ เลยทีเดียว ซึ่งเมื่อกิจกรรมดังกล่าวได้รับการประกาศออกไป ก็มีผู้ที่ให้ความสนใจมากมาย แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคิดว่าตัวเองหนักว่าความเป็นจริงนะ อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายฝ่ายเป็นห่วงว่า นี่จะเป็นโปรโมชั่นที่ทำร้ายสุขภาพคนจีนหรือไม่ เพราะจากรายงานล่าสุด ประเทศจีนคือประเทศที่มีคนอ้วนมากที่สุดในโลก คือประมาณ 89.6 ล้านคน และยิ่งมีโปรโมชั่นนี้อีก จะเป็นการส่งเสริมให้คนอ้วน อ้วนยิ่งขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า แหม แบบนี้ก็มีด้วย หวังว่าคงไม่มีใครทำน้ำหนักเพื่อจะไปกินร้านนี้ฟรีๆ หรอกนะ บอกเลยว่าไม่คุ้มกับสุขภาพที่เสียไปแน่นอน ฮาาา ที่มา Shanghaiist
-
คุณพ่อพาลูกชายเดินทาง 500 กิโลฯ ด้วยโรลเลอร์เบลด เพื่อสอนให้รู้ว่า “ชีวิตมันลำบาก” !!
หลายคนบอกว่าการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ โดยเฉพาะเรื่องชีวิต หากไม่ได้ประสบพบเจอด้วยตนเองแล้ว บางทีก็อาจไม่เคยรู้เลยว่าชีวิตนั้นยากลำบากขนาดไหน ด้วยเหตุนี้เอง คุณพ่อวัย 39 ปีจากมณฑลเหอหนานคนนี้ จึงสร้างบทเรียนแสนสำคัญให้กับลูกชายของเขา เพื่อจะสอนให้รู้ว่าชีวิตของเรานั้นมันไม่ง่ายเลย!! เมื่อช่วงเดือนก่อน มีคุณพ่อคนหนึ่งพาลูกชายวัย 4 ขวบเดินทางกว่า 540 กิโลเมตรจากเมืองผูหยาง มณฑลเหอหนาน ไปยังกรุงปักกิ่งด้วยรองเท้าโรลเลอร์เบลด!! ทุกๆ วันพวกเขาจะออกเดินทางตั้งแต่ 8 โมงเช้าไปตามทางหลวงหมายเลข 106 ทุกๆ ชั่วโมงพวกเขาจะพักหนึ่งครั้งเพื่อดื่มน้ำและเติมพลัง และพอถึงตอนเย็น พวกเขาก็จะหาที่พักก่อนที่ฟ้าจะมืด ทุกๆ ครั้งที่พวกเขาเดินทางไปถึงเมืองใหม่ๆ พวกเขาก็จะถ่ายภาพกับป้ายของเมืองเหล่านั้น จนสุดท้ายเมื่อจบทริป พวกเขามีรูปกว่า 600 รูปเลยทีเดียว เมื่อพูดถึงส่วนที่ยากที่สุดของการเดินทาง คุณพ่อกล่าวว่าส่วนที่ยากที่สุดคือลมและถนนที่ขรุขระ “แม้ว่าลูกชายของผมจะร้องไห้หลายครั้ง แต่เขาไม่เคยยอมแพ้ นั่นคือจุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ ผมพยายามสอนให้เขามีความพยายาม” หลังจากการเดินทางกว่า 14 วัน ในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึงจุดหมาย คุณพ่อคนดังกล่าวจึงตอบแทนความพยายามของลูกชาย ด้วยการพาไปเที่ยวสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ ในกรุงปักกิ่ง …
-
แซ่บมาก!! คุณตาชาวจีนวัย 61 ฟิตร่างกายจนมีกล้ามบึ้ก ชาวเน็ตงง ทำได้ไง?
ใครว่าคนเราแก่แล้วแก่เลย? #เหมียวฟิ้นขอเถียงขาดใจ เพราะว่าหากเราดูแลตัวเองดีๆ แล้ว ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่คุณก็สามารถเป็นคนที่ดูดีได้เช่นกันนะ เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของคุณตาที่มีชื่อว่า เหลียง ยู่เซี่ยง วัย 61 ปี จากมณฑลเฉินตู ประเทศจีน ผู้ที่ชื่นชอบการขับรถแรลลี่และแม้ว่าจะมีอายุปูนนี้แล้ว เขาก็ยังคงเรียกตัวเองว่าเป็น “นักแข่งที่อายุน้อยที่สุด” คุณตายู่เซี่ยงเคยขับรถแรลลี่ไปยังหลายพื้นที่มาแล้ว ทั้งกรุงโรม หรือรอบประเทศไต้หวัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนสนใจเขานอกเหนือจากอายุก็คือเรื่องของรูปร่างนี่แหละ เพราะคุณตาแกชอบออกกำลังกายมาก จนตอนนี้มีกล้ามขึ้นไปทุกสัดส่วน ทั้งไบเซ็ปไตรเซ็ป กล้ามท้องและหน้าอก ตอนนี้มีนิตยสารมาขอถ่ายภาพแฟชั่นของคุณตา ซึ่งตอนนี้มันก็ถูกเผยแพร่ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ของจีนอย่างแพร่หลาย จนเขากลายเป็นคนดังในเวลาไม่นาน ซึ่งคุณตาก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีชื่อเสียงในอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยนี้” นอกจากนี้คุณตายู่เซี่ยงยังได้เล่าว่าเขามีกิจกรรมยามว่างคือ ช็อปปิ้ง เขียนบล็อก ขับรถดริฟท์ แถมยังให้ข้อคิดดีๆ อีกว่า “คนแก่น่ะ ไม่ควรจะใช้เวลาหมดไปกับการดูแลหลานๆ และการเต้นรำหรอกนะ” เมื่อเราแก่ตัวไป เราจะยังมีไฟแบบคุณตาคนนี้ไหมนะ? ที่มา shanghaiist
-
ไม่เนียน!! หนุ่มจีนแก้ผ้าแกล้งล้มให้โดนรถชน ตำรวจเผยเคยทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว
เมื่อวันที่ 12 เมษายน เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าชายหนุ่มในเมืองเว่นหลิง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ได้ถอดเสื้อผ้าจนล่อนจ้อน และแกล้งนอนอยู่หน้ารถเมอร์ซิเดซเบ๊นซ์คันหนึ่งเพื่อทำทีว่าตนเองถูกรถชน!? ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มได้ขี่จักรยานไปตามท้องถนนด้วยสภาพเปลือยเปล่า และล้มลงตรงหน้ารถยนต์ด้วยความรวดเร็ว จากนั้นเจ้าตัวก็เหยียดตัวและนอนลงบนพื้นยางมะตอยแบบสบายใจ โชคดีที่เจ้าของรถเมอร์ซิเดซสามารถเบรคไว้ได้ทัน ทำให้ชายหนุ่มไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เจ้าของรถจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารับตัวชายคนนี้ไปสอบสวน จึงทราบว่าชายคนนี้มาจากมณฑลเหอหนาน วัย 31 ปี และเคยทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว แถมยังเคยเข้าไปนอนในห้องขังมาแล้วด้วย แหม่ จะทำอะไรก็ให้มันเนียนๆ หน่อยซิพ่อหนุ่ม 555+ ที่มา shanghaiist
-
พนักงานบริษัทนับสิบออกมาคลานบนถนนเพื่อลงโทษตัวเอง หลังทำยอดไม่ถึงเป้า!!
กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตของประเทศจีนเลยทีเดียว เมื่อมีคลิปวีดีโอพนักงานบริษัทนับสิบออกมาคลานเข่าเพื่อเป็นการลงโทษตัวเอง หลังจากทำยอดขายไม่ถึงเป้า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริษัทรถเช่า Jilin เจ้าของบริษัทได้กล่าวว่า เขาเป็นคนสั่งให้หัวหน้าแผนกฝ่ายขายออกมาคลานเข่าไปบนถนนเอง เหตุผลคือ เขาต้องการให้หัวหน้าแผนกฝ่ายขายรับผิดชอบในการที่ทำยอดขายไม่ได้ตามเป้า ซึ่งเขาบอกว่าจริงๆ แล้วเขาสั่งแค่คนที่เป็นหัวหน้าเท่านั้น แต่พอพนักงานในแผนกที่เหลือเห็นหัวหน้าโดนลงโทษ พวกเขาก็มาร่วมคลานด้วย เพื่อเป็นการรับผิดชอบร่วมกัน เมื่อชาวเน็ตจีนได้เห็นภาพดังกล่าว ก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์มากมาย บ้างก็บอกว่านี่เป็นการลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ บางคนก็บอกว่านี่มันผิดกฎหมายชัดๆ จะมาลงโทษทางวินัยอะไรก็ว่ากันไป แต่ให้มาคลานเข่าแบบนี้ไม่ถูกต้อง ลองไปชมคลิปกันดีกว่า อย่างกับการรับน้องเลยนะเนี่ย แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง ลองเสนอกันเข้ามานะฮะ ที่มา Shanghaiist
-
ใจเย็นแม่สาวน้อย!! สาวจีนวัย 20 ปี ขู่จะกระโดดน้ำตาย หลังตกหลุมรักชายวัย 69 แต่เจ้าตัวไม่ยอมมาพบ
เรื่องความรักนี่มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ นะ แม้จะเป็นความรักระหว่างหนุ่มสาว ชาย-ชาย หญิง-หญิง ความรักต่างวัยก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า มีชาวบ้านในเมืองเซียงหยาง ประเทศจีนได้พบเห็นหญิงสาวท่าทางเศร้าโศก กำลังนั่งอยู่บริเวณแม่น้ำหาน และดูเหมือนเธอกำลังพยายามจะกระโดดลงไปในแม่น้ำ แต่โชคดีที่ชาวบ้านและผู้ที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นสามารถช่วยเธอขึ้นมาได้ทันและพาเธอไปส่งยังโรงพัก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดคุยกับหญิงสาวถึงได้ทราบว่าเธอมีชื่อว่า Xiao Yun วัย 20 ปี เธอบอกถึงสาเหตุที่นั่งอยู่ริมแม่น้ำว่าเป็นเพราะเธอเสียใจที่แฟนของเธอเปลี่ยนไปและไม่ยอมมาพบกับเธอ Xiao Yun เล่าว่าแฟนของเธอชื่อ Liu วัยประมาน 50 ปี ทั้งสองได้พบกันที่ตลาดแห่งหนึ่งที่ Xiao Yun ทำงานอยู่ ทั้งสองจึงทำความรู้จักกันมาเรื่อยๆ และแม้ว่าวัยของนาย Liu จะมากขนาดที่เป็นพ่อของเธอได้ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจว่าสังคมจะมองอย่างไร เธอคิดว่านาย Liu เข้ากันได้ดีกับเธอและทำให้เธอสบายใจเหมือนอยู่บ้าน อย่างไรก็ตาม นาย Liu ได้หย่ากับภรรยาเมื่อปีก่อน ทำให้ทั้งคู่สามารถมีความสัมพันธ์กันได้โดยไม่ติดข้องอะไร …
-
สยิวกิ้ว!! นักศึกษาจีนปิ๊งไอเดีย นำคนแปลกหน้าสองคนมาจูบกันโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่านักศึกษารายหนึ่งในมณฑลนานกิง ประเทศจีน ได้เกิดไอเดียอยากจะทำการทดลองกับกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ให้พวกเขามาปิดตาแล้วจูบคนแปลกหน้า เพื่อดูว่าพวกเขาจะมีปฏิกิริยายังไงกันบ้าง? โปรเจ็คสุดแปลกนี้เป็นของนาย Liu Ke นักศึกษาระดับป.ตรีวัย 20 ปี จากมหาวิทยาลัยการบินนานกิง เขาได้เชิญชวนนักศึกษาในมหาวิทยาลัยตั้งแต่วัย 18 ถึง 20 ปี ให้เข้ามาร่วมกิจกรรม “Hello Stranger” โปรเจ็คนี้จะเชิญชวนให้คนที่ไม่รู้จักกันมาจูบกันโดยที่จะปิดตาพวกเขาไว้ และมีกล้องวิดีโอคอยบันทึกภาพพวกเขา โดยในตอนแรก Liu จะเเป็นคนสัมภาษณ์พวกเขาก่อนว่าทำไมพวกเขาถึงอยากจะเข้าร่วมกิจกรรมการจูบกับเขา? หนึ่งในผู้เข้าร่วมการทดลองบอกว่า “ผมคิดว่ามันเหมือนกับในนิยายดีนะ และผมอยากจะมีประสบการณ์แบบนั้นในระหว่างที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ มันคงเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก” ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอีกคนบอกว่า “ฉันคิดว่าถ้าฉันแก่ตัวไปคงต้องเสียใจแน่ๆ ที่ไม่ได้ทำมันตอนนี้” จากนั้นพวกเขาก็จูบกัน หลังจากที่ภาพและคลิปกิจกรรมของนาย Liu ถูกเผยแพร่ออกไป ผู้ชมบางส่วนก็ได้แสดงความชื่นชมต่อไอเดียนี้ และคิดว่ามันมีความหมายบางอย่างแฝงอยู่ ซึ่งมันสามารถช่วยให้คนแปลกหน้าสองคนสามารถไว้วางใจซึ่งกันและกันได้ แต่ในขณะเดียวกัน กลับมีกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยและมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระด้วย แถมบางคนยัแสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับความสะอาดในระหว่างที่จูบคนแปลกหน้าด้วย…
-
พาท่องประวัติศาสตร์ “ประเทศจีน” เมื่อ 100 ปีที่แล้ว เทียบกับภาพตอนปัจจุบัน
โดยปกติเวลาเราคิดที่จะไปเที่ยวต่างแดน เราก็มักจะนึกถึงสิ่งที่เราจะเจอ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่ต่างออกไปจากที่เราเคยเห็น วัฒนธรรมใหม่ๆ ที่เราไม่รู้จักมาก่อน และจุดหมายปลายทางคือสิ่งที่เราอยากจะเห็นมากที่สุด แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปเที่ยวผ่านกาลเวลากัน!! ช่างภาพ Dheera Venkatraman ได้ทำการท่องเที่ยวไปยังประเทศจีน เพื่อไปเยือนสถานที่ต่างๆ เป็นการตามรอยภาพที่เขาเคยเจอจากหนังสือและเว็บไซต์ ซึ่งแต่ละภาพนั้นอายุก็ร่วม 100 ปีแล้ว เขาก็เลยไปตามถ่ายให้ได้มุมเดิมเหมือนในภาพเพื่อมาเปรียบเทียบกัน แต่ละภาพนั้นก็ทำให้เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงตามสภาพสังคมของประเทศจีนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ละที่ก็เปลี่ยนไปมากน้อยต่างกัน เราไปดูกันว่าจะแตกต่างกันแค่ไหน Xi’an city (1921; 2016) Xi’an ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของจีน อีกทั้งยังเป็นเส้นทางสายไหมไปยังเมืองอิสตันบูล์อีกด้วย ตอนนี้ก็ยังอนุรักษ์กำแพงและบูรณะอาคารนิดหน่อย Shanghai (1920 ; 2009) จากที่เป็นพื้นที่เรียบๆ ตอนนี้มีตึกสูงเต็มไปหมด Wuhan (1931; 2016) เคยมีน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เมืองนี้ในปี 1931 ตอนนี้กลายเป็นเมืองแห่งการค้าขายแห่งใหญ่เลยก็ว่าได้ Lanzhou (1910; 2016) จากเส้นทางเดินของอูฐ ตอนนี้ก็มีแต่คนที่เดิน Guangzhou (1980; 2016) ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองแห่งจักรยาน แต่ตอนนี้ก็ยังมีคนใช้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากเท่าเมื่อก่อน…
-
โอ้โห!! นักศึกษาในจีนบ่นอุบ มหาวิทยาลัยทิ้งขยะกองยักษ์ไว้นอกหอพัก ส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว
มหาวิทยาลัยหลายๆ แห่งมักจะสร้างหอพักไว้ภายในมหาวิทยาลัย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายแก่นักศึกษาและให้พวกเขาเดินทางไปเรียนได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่หากหอพักขาดการดูแลเอาใจใส่จนสกปรกเลอะเทอะไปทั่ว มันคงจะเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจสุดๆ เลยจริงไหม? เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shaghaiist ได้รายงานว่ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในมณฑลเจียงซี ประเทศจีน ได้ทิ้งขยะไว้ด้านนอกของหอพักนักศึกษาเป็นจำนวนมากและไม่ยอมส่งเจ้าหน้าที่มาเก็บกวาด ทำให้ส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วจนนักศึกษาแทบทนไม่ไหว ตามรายงานบอกว่าเหล่านักศึกษาเริ่มจะทนไม่ได้กับทางมหาวิทยาลัย ที่ทิ้งเศษขยะเอาไว้ใกล้ๆ กับหอพักพวกเขา เพราะมันส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และทำให้สภาพความเป็นอยู่โดยรอบดูแย่ไปด้วย จนพวกเขาต้องถ่ายภาพเอามาแฉในโลกออนไลน์เพื่อประท้วงและตีแผ่ให้ชาวเน็ตได้เห็นภาพดังกล่าว ไม่รู้ว่าหลังจากที่ข่าวนี้โด่งดังไปทั่วโลกทางมหาวิทยาลัยจะมีการแก้ไขปัญหานี้ไหมนะ แต่ยังไงขยะเหล่านี้ก็ยังดีกว่ามันอยู่ในห้องนอนแบบสาวคนนี้ล่ะนะ ที่มา shanghaiist
-
รถเมล์จีนไอเดียเก๋ ติดผ้าม่านให้เหล่าคุณแม่สามารถให้นมลูกได้ในระหว่างเดินทาง
การเป็นแม่คนว่าลำบากแล้ว แต่การเป็นแม่คนที่ต้องกระเตงลูกน้อยไปไหนมาไหนยิ่งลำบากกว่านะ เพราะเด็กๆ มักจะงอแงเสียงดัง เมื่อแม่ๆ เห็นแบบนั้นก็ต้องป้อนนมลูกน้อยเพื่อให้พวกเขาสงบลง แต่บางครั้งหากคุณเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะล่ะ จะแก้ปัญหาเหล่านี้ยังไง? ด้วยเหตุนี้รถเมล์ในจีนก็เลยผุดไอเดียแจ่มๆ ในการให้บริการแก่เหล่าคุณแม่แล้วล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมืองผิงเซียง มณฑลเจียงซี ประเทศจีน ได้ติดตั้งเก้าอี้แบบพิเศษบนรถโดยสาร ที่มีผ้าม่านปิดรอบ เพื่อให้เหล่าคุณแม่สามารถให้นมลูกๆ ได้ตามต้องการ ตามรายงานบอกว่าเจ้าที่นั่งพิเศษนี้จะถูกติดตั้งไว้ใกล้ๆ กับทางเดิน โดยจะมีผ้าม่านสีชมพูถูกติดตั้งไว้กับราว เพื่อให้คุณแม่ได้มีความเป็นส่วนตัวเมื่อต้องให้นมลูก ซึ่งเจ้าที่นั่งนี้เองหากไม่มีคุณแม่พร้อมกับลูกขึ้นมาบนรถ เหล่าผู้โดยสารทั่วๆ ไปก็สามารถนั่งได้เช่นกัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คนขับรถเห็นว่ามีคุณแม่ขึ้นมา คนขับรถจะทำหน้าที่ขอความกรุณาให้ผู้โดยสารย้ายไปนั่งที่อื่น เพื่อสงวนสิทธิ์ให้แก่คุณแม่เท่านั้น เมื่อช่วงปี 2013 ที่ผ่านมา ทางองค์การอนามัยโลกได้มีการทำผลสำรวจ พบว่ามีเพียง 28% ของคุณแม่ชาวจีนที่ให้นมลูก ในขณะที่ตัวเลขโดยเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 40% ฉะนั้นทางคณะรัฐบาลของจีนจึงต้องหาวิธีแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ทางรัฐบาลได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าภายในปี 2020 จะเพิ่มเปอร์เซ็นการให้นมลูกของคุณแม่เป็น 50%…
-
ร้านอาหารไทยเงิบ เจอลูกค้าจีนโวยหาว่าอาหารมีขี้ดิน ทั้งที่เป็นซอสพริกไทยดำ ยันจะจ่ายเท่าที่มี?!?!
เรียกว่ามีเรื่องมาให้เหนื่อยหน่ายใจกันเป็นประจำเลยทีเดียว สำหรับนักท่องเที่ยวจีน หลังจากเมื่อวาน #เหมียวอ๊อดโด้ ได้นำเรื่องราวของนักท่องเที่ยวจีน ที่ขึ้นไปกางเต็นท์นอนบนกำแพงเมืองเชียงใหม่ (ข่าวเก่า) และยังไม่ทันข้ามวันดี เราก็มีเรื่องของนักท่องเที่ยวชาวจีนมานำเสนออีกแล้ว เรื่องราวเกิดขึ้นที่ร้านอาหารเฮือนแสงหล้าซึ่งเป็นร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของเฟสบุ๊ค Bogie Beego ได้ออกมาเล่าว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามารับประทานอาหารในร้านสามคนซึ่งทั้งสามคนก็สั่งอาหารไปตามปกติ เมื่ออาหารมาถึงและนักท่องเที่ยวจีนทานไปได้ครึ่งหนึ่ง พวกเขาก็เรียกพนักงานมาและแจ้งว่ามีเศษดินในอาหาร ทางร้านแจ้งว่าที่พวกเขาเห็นนั้นไม่ใช่เศษดิน แต่เป็นซอสพริกไทยดำต่างหาก ซึ่งทางนักท่องเที่ยวจีนก็ไม่ยอมเชื่อ จนพนักงานต้องมานำอาหารจานนั้นออกไป และหลังจากที่นักท่องเที่ยวจีนทานอาหารเสร็จ พวกเขาก็เรียกพนักงานมาอีก แล้วแจ้งว่าในอาหารทุกจานมีเศษดินปนอยู่ ซึ่งทางพนักงานก็แจ้งว่าเป็นซอสพริกไทยดำกับอาริกาโน่ แต่ทางนักท่องเที่ยวจีนไม่เชื่อ และยืนยันว่าจะจ่ายค่าอาหารแค่ 350 บาทจากจำนวนเต็ม 420 บาท สุดท้ายทางร้านไม่อยากมีเรื่อง จึงยอมรับเงินแค่ 350 บาทเท่านั้น เคยเห็นแต่คลิปของร้านอื่นที่โดนคนจีนหาเรื่องไม่จ่ายเงิน วันนี้ร้านเราโดนเองซะแล้ว เหตุการณ์มีอยู่ว่า นางมากันสามคนพ่อแม… โพสต์โดย Bogie Beego บน 5 เมษายน 2016 เมื่อเรื่องราวเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย…
-
เกือบมาถึงอีกแล้ว เทศกาลสุดสะเทือนใจชาวโลก ประเพณีการกินสุนัขในมณฑลกวางสี ประเทศจีน…
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ถูกจับตามองและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก สำหรับเทศกาลกินเนื้อสุนัข ที่จัดขึ้นทุกๆ ปีในประเทศจีน และที่น่ากลัวกว่านั้น เนื้อแมวก็เช่นกัน ที่ถูกบริโภคในเทศกาลนี้!!? แม้ว่าจะมีเหล่าบรรดานักเรียกร้องสิทธิสัตว์และพิทักษ์สัตว์จากรอบโลกขอให้ทางการจีนสั่งห้ามจัดเทศกาลนี้เสียเพราะส่งผลต่อภาพลักษณ์ด้านลบกับประเทศอย่างมาก แถมการประกอบอาหารก็ไม่ถูกสุขลักษณะอีกด้วย แต่กระนั้นทางการจีนก็ไม่ได้ออกกฏสั่งห้ามอย่างเด็ดขาด และนี่คือภาพของเทศกาลนี้ โดยจะจัดขึ้นเป็นระยะเวลากว่า 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายนเป็นต้นไป ทุกๆ ปีมีจำนวนสุขัขและแมวราวๆ 10-20 ล้านตัวด้วยกัน ที่ถูกสังเวยให้กับเทศกาลนี้ ในปี 2014 ทางการจีนประกาศไม่รับรู้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเทศกาลนี้ เพราะโดนกระแสจากหลายฝ่ายกดดัน ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ออกกฏห้ามอย่างจริงจัง แต่ก็มีนโยบายควบคุมออกมาเรื่อยๆ เจ้าของร้านอาหารในเมือง Yulin หลายแห่งกล่าวว่า การกินเนื้อสุนัขเป็นประเพณีของชาวจีน และกินกันในช่วงฤดูร้อนของทุกๆ ปีมาอย่างยาวนาน แต่พอสืบสาวไปเหล่านักพิทักษ์สัตว์ก็พบว่าเป็นการกระทำที่ไม่ได้ยึดตามประเพณีแต่อย่างใด เพราะพึ่งเริ่มมาได้เมื่อราวๆ ปี 2010 นี้เอง แต่กระบวนการฆ่านั้นออกจะโหดร้ายไปหน่อย เพราะจะเอาไม้มาทุบสัตว์ให้ตายต่อหน้ากลุ่มสัตว์ที่ถูกขังไว้ และต้องให้สัตว์ตายอย่างทรมานด้วย เพราะมีความเชื่อว่าสารอะดรีนาลีนจะหลั่งและทำให้เนื้อมีรสชาติดีขึ้น หนักไปกว่านั้นก็คือ ก่อนเทศกาลนี้จะเกิดขึ้นมักมีรายงานการหายของสุนัขที่มีเจ้าของนับหมื่นๆ ตัวเลยทีเดียว และถึงแม้จะมีงานวิจัยจากทางการว่าเนื้อสุนัขมีเชื้อโรคต่างๆ อยู่ ทั้งโรคพิษสุนัขบ้าและโรคอหิวาต์…
-
แบบนี้ก็ได้เหรอ!? รวบรวมสารพัดวิธีการวัด “ความสมบูรณ์แบบ” ของร่างกายในสไตล์สาวจีน
มาอีกแล้วจ้า กับวิธีการวัดว่าใครมีรูปร่างผอมเพรียวหรือสุขภาพดีแบบที่สาวๆ ในประเทศจีนชอบทำกัน… ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เมษายนเว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า ตอนนี้สาวๆ ได้คิดค้นวิธีใหม่ที่จะวัดว่าใครมีรูปร่างที่ดี นั่นก็คือการนำเอาธนบัตรมาพันไว้รอบข้อมือแล้วดูว่ามันสามารถพันรอบข้อมือเราได้หรือไม่ ถ้าได้แปลว่ารูปมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ!? ตามรายงานบอกว่าสาวๆ นำเอาธนบัตรมูลค่า 100 หยวนมาพันไว้รอบข้อมือเพื่อดูว่าร่างกายของพวกเธอสมส่วนหรือไม่ จากนั้นพวกเธอก็จะถ่ายคลิปวิดีโอเอามาแชร์ลงในโลกออนไลน์อวดให้คนที่เป็นเพื่อน (และไม่ได้เป็นเพื่อน) ได้ดูกัน ตอนนี้เทรนด์การนำธนบัตร 100 หยวนมาพันข้อมือกำลังได้รับความนิยมในสื่อสังคมออนไลน์ของจีนอย่าง Weibo สุดๆ แต่ก็มีชาวเน็ตอีกกลุ่มหนึ่งมองว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องไร้สาระเช่นกัน หนึ่งในความเห็นจากเว็บไซต์ Weibo ได้กล่าวว่า “ตอนแรกก็ใช้กระดาษ A4 วัดเอว ต่อมาก็ใช้ iPhone 6 วัดขา ตอนนี้ยังใช้ธนบัตรวัดข้อมืออีก? ฉันภูมิใจที่จะบอกว่าในที่สุดฉันก็สามารถทำได้สำเร็จหนึ่งอย่างแล้ว ง่ายจังเลย!!” แต่การท้าทายแบบนี้ดูจะไม่เพียงพอสำหรับพวกเขา เพราะชาวเน็ตในจีนหลายๆ คนมองว่าการใช้ธนบัตร 100 หยวนเป็นอะไรที่ง่ายเกินไป จึงเริ่มใช้ธนบัตรที่เล็กกว่านั้น เช่น ธนบัตร…
-
ธนาคารอสุจิเซี่ยงไฮ้เชิญชวนคนบริจาคสเปิร์ม พร้อมรับ iPhone 6s ฟรีๆ หลังอสุจิขาดแคลน!!
ด้วยความที่ประเทศจีนเป็นประเทศที่ใหญ่โต และมีประชากรมากติดอันดับโลกทำให้ข้าวของทุกอย่างสามารถขาดแคลนได้อย่างง่ายดาย ไม่เว้นแม้กระทั่ง “อสุจิ” !!! ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าตอนนี้ในธนาคารอสุจิแห่งเซี่ยงไฮ้ได้ออกมาประกาศว่า ตอนนี้พวกเขากำลังขาดแคลนอสุจิอย่างหนัก ซึ่งถือว่าเป็นวิกฤตครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดธนาคารเมื่อปี 2003 เลยทีเดียว เหตุผลก็เพราะว่า หลังจากที่รัฐบาลจีน ผ่อนปรนนโยบายลูกคนเดียว โดยสามีภรรยาชาวจีนสามารถมีลูกเพิ่มได้อีกคน และนั่นทำให้ความต้องการอสุจิจากธนาคาคอสุจิ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และแน่นอน พวกเขาไม่สามารถหามาชดเชยได้ทัน ทางธนาคาคอสุจิ จึงออกแคมเปญเชิญชวนให้คนมาบริจาค โดยผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง สามารถบริจาคได้เต็มรูปแบบ จะได้รับค่าตอบแทนถึง 6,000 หยวนหรือราว 30,000 บาทเลยทีเดียว นั่นแปลว่าบริจาคครั้งเดียว ได้ iPhone 6s เลยนะเนี่ย!! แต่อย่าไปคิดว่าการบริจาคอสุจิจะเป็นเรื่องง่ายๆ เพราะว่าแพทย์ต้องทดสอบร่างกายหลายขั้นตอนเลยทีเดียว ต้องมีทั้งการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, โรคติดต่อทางสายเลือด, และโรคเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต ถ้าไม่ผ่านซักอย่างคือจบ หรือถ้าจำนวนอสุจิไม่พอ ก็ถือว่าจบเหมือนกัน ใครสนใจก็ลองไปบริจาคกันดูได้ แต่ต้องไปที่เซียงไฮ้นะ ถ้ามาบริจากประเทศไทยคงไม่ได้ค่าตอบแทนสูงขนาดนั้นแน่นอน เอ้า ใครสนใจไปมั่ง ยกมือขึ้น อิอิ ที่มา Shaghaiist
-
เทคโนโลยีใหม่ทำพิษ นักบินหนุ่มถูกสายการบินสั่งพักงาน หลังแพร่คลิปวิดีโอขณะขับเครื่องบิน!?
ตอนนี้โซเชียลมีเดียหลายๆ ตัวเริ่มจะมีฟังก์ชั่นการทำงานที่ให้ผู้ใช้สามารถเผยแพร่คลิปวิดีโอแบบสดๆ ให้กับผู้ติดตามหรือแฟนๆ ไดชมกันได้แบบเรียลไทม์ แต่ไม่ว่าคุณจะใช้งานมันเพื่ออะไรก็ขอให้ระวังนิดนึงล่ะ เพราะมันอาจส่งผลต่อหน้าที่การงานของคุณได้เลยทีเดียว เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่ากัปตันหนุ่มหล่อบนสายการบินแห่งหนึ่งในประเทศจีน ได้ทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอสดๆ ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องบังคับ ให้แก่เหล่าแฟนๆ ผู้ติดตามเขาบนเว็บไซต์ Weibo กว่า 64,000 คนได้ชมกัน แต่หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตคนหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “ทำไมผู้โดยสารบนเครื่องถึงได้รับการเตือนตลอดว่าต้องปิดอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด แต่นักบินกลับไม่ทำตามกฎข้อนี้ไปได้ล่ะ?” ทำให้กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันระหว่างที่นักบินกำลังแพร่ภาพอยู่ เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น นักบินหนุ่มไฟแรงก็ถูกทางสายการบินสั่งพักงานทันที เพราะคลิปดังกล่าวกลายเป็นเรื่องที่ผู้คนส่งต่อกันอย่างรวดเร็วราวกับไวรัสทางสายการบินจึงต้องมีมาตรการในการลงโทษอย่างรุนแรงกับนักบินรายนี้ สำหรับการกระทำที่ขาดการยั้งคิดนั่นเอง ก่อนหน้านี้ก็เหมือนจะมีข่าวว่ามีคู่เกย์ถ่ายคลิปวิดีโอสดๆ ขณะที่กำลังเล่นจ้ำจี้กันอยู่ด้วย ยังไงแล้วขอให้ใช้กันแบบที่ถูกที่ควรด้วยนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
สวยมาก!! พาเที่ยว “ทุ่งทิวลิป” ที่ประเทศจีน สีสันสดใส น่าไปยิ่งนัก!!
ช่วงนี้นักท่องเที่ยวจีนต่างก็มาเที่ยวที่ประเทศเรากันเยอะแยะมากมาย เดินไปที่ไหนก็เจอแต่คนจีน เห็นทีว่าเราต้องหนีจากบ้านเราไปเที่ยวที่อื่นบ้างแล้วล่ะ ไหนๆ จีนมาเที่ยวไทยละ เราก็ไปเที่ยวจีนบ้างดีกว่า แต่จะไปที่ไหนทีล่ะ ที่มันสวยๆ ธรรมชาติหน่อยๆ ..ก็นี่ไง!! ทุ่งทิวลิปสีสันสดใส ที่ไม่น่าเชื่อว่าจีนก็มีสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้ด้วย ทุ่งทิวลิปถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงหน้าร้อนแบบนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นฤดูที่ดอกไม้เริ่มจะเบ่งบาน ซึ่งที่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ Chaya Mountain ในมณฑลเหอหนาน เริ่มวันที่ 31 มีนาคมนี้ นอกจากจะมีดอกทิวลิปหลากหลายสีสันแล้ว ก็ยังมีการปลูกให้เป็นรูปต่างๆ ด้วย เช่นรูปหยินหยาง หรือจะเป็นกังหัน เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยวมา เที่ยวกลับ ไม่โกง แต่ก็คงจะร้อนน่าดู ใครจะไปก็อย่าลืมเอาร่มไปด้วยนะจ๊ะ ที่มา designyoutrust
-
ชาวบ้านในจีนยืนเป็นเกราะกำบังให้เจ้าแพนด้าหลงทาง เพราะกลัวว่าจะมีสุนัขเข้ามาทำร้ายร่างกาย
นี่คือเรื่องที่#เหมียวฟิ้นขอยกให้เป็นเรื่องน่ารักจากจีนประจำวันนี้เลย สำหรับเรื่องราวของกลุ่มชาวบ้านในเมืองจีนกลุ่มหนึ่ง ที่ดันไปเห็นเข้ากับเจ้าหมีแพนด้ายักษ์พลัดหลงออกมาจากป่ามา พวกเขาจึงเข้ามายืนรอบๆ ตัวมันเพื่อทำเป็นเกราะกำบังให้มันนั่นเอง เมื่อวันที่ 2 เมษายน สำนักข่าว CCTV ได้เผยแพร่เรื่องราวน่ารักๆ ของชาวบ้านในในเขตปกครองพิเศษเหลียงซาน ยี่ ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ที่พบเข้ากับแพนด้ายักษ์ตัวหนึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา มีการคาดการณ์ว่าเจ้าแพนด้าน่าจะพลัดหลงออกมาจากป่าและเดินโซซัดโซเซไปตามพื้นดิน ด้วยความกลัวว่าเจ้าแพนด้าจะถูกฝูงสุนัขแถวๆ นั้นทำร้ายเอา ชาวบ้านใจดีจึงรวมตัวกันเข้ามายืนล้อมเจ้าแพนด้าทำเป็นเกราะป้องกันให้กับมันและโทรเรียกให้เจ้าหน้าที่จากศูนย์อนุรักษ์แพนด้ามารับตัวมันไป ชาวบ้านต้องยืนล้อมรอบเจ้าแพนด้าเป็นเวลากว่าชั่วโมง เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ขับรถมาถึงหมู่บ้านพวกเขาและรับเจ้าแพนด้าไปตรวจร่างกาย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจเช็คอย่างละเอียดแล้วก็พบว่าเจ้าแพนด้าตัวนี้มีน้ำหนักอยู่ที่ 100 กิโลกรัม จากนั้นพวกเขาก็ปล่อยมันกลับสู่ผืนป่าไปตามเดิม ที่มา CCTVNews
-
หวาดเสียวเกิ๊น!! หนุ่มจีนขับรถออกจากบ้านไกล 15 กิโลเมตร โดยมีพ่อและพี่ชายเกาะอยู่ที่กระโปรงหน้ารถ!?
บางครั้งการทะเลาะเบาะแว้งกันภายในครอบครัวก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ทางเดียวที่พอจะแก้ไขปัญหาได้ก็คือการให้อภัยกัน และทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่การหนีปัญหานะ เพราะมันอาจจะทำให้อะไรๆ แย่ลงกว่าเดิมก็ได้… เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีนได้เรียกให้รถเก๋งคันหนึ่งจอด เพราะเนื่องจากที่กระโปรงหน้ารถมีชายสองคนนอนเกาะอยู่ ทำให้อาจเกิดอันตรายแก่ทั้งสองคนรวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย จากการสอบถามพบว่าชายทั้งสองคน เป็นพ่อและพี่ชายของคนขับรถ โดยก่อนหน้าที่พวกเขาทั้งสองจะมาเกาะอยู่แบบนี้ พวกเขาได้ทะเลาะและมีปากเสียงกันตอนอยู่ที่บ้าน ทำให้น้องชายเกิดความไม่พอใจจึงขับรถหนีออกมาจากบ้าน แต่คุณพ่อและพี่ชายพยายามตามมาขอโทษขอโพย และกระโดดขึ้นไปเกาะอยู่บนกระโปรงหน้ารถ แต่ถึงแม้จะเห็นแบบนั้นน้องชายผู้เป็นคนขับก็ไม่มีท่าทีว่าจะจอดรถ และยังขับออกไปยังเมืองดงยาง ที่อยู่ไกลออกไปถึง 15 กิโลเมตรเลยทีเดียว แต่เขาก็พยายามขับรถด้วยความเร็วเพียง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น เพื่อให้พ่อและพี่ชายของเขาหาจังหวะกระโดดออกไปได้ แต่ทั้งคู่ก็ยังคงเกาะหนึบไม่ยอมไปไหนเลย แต่สุดท้ายการตามตื้อของพวกเขาก็จบลงเมื่อเจ้าหน้าที่โบกรถให้พวกเขาจอด ทีหน้าทีหลังมีอะไรก็เคลียร์ๆ ให้จบกันที่บ้านไปเลยนะ จะได้ไม่ต้องเป็นภาระของคนบนท้องถนน ที่มา shanghaiist
-
สาวจีนป่วยเป็นมะเร็ง ขอถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกับแฟนก่อนตาย แถมอยากกลับมาเกิดเป็นลูกสาวของเขาด้วย
บางทีความรักก็ชอบเล่นตลกกับคน บางคนมีสิ่งดีๆ อยู่ในมือแล้วแท้ๆ แต่ไม่ดูแลรักษาไว้ดีๆ บางคนดูแลกันแทบตาย ยังไงก็ไม่ได้คู่กัน เหมือนกับเรื่องราวของคู่รักชาวจีนที่#เหมียวฟิ้นจะหยิบมาเล่าต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้บอกเล่าเรื่องราวของ เสี่ยว ยี่ หญิงสาววัย 21 ปี จากมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน เธอได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็วกระดูกตั้งแต่อายุได้เพียง 14 ปี เสี่ยว ยี่จึงต้องเข้ารับการรักษานานถึง 6 ปี แต่ดูเหมือนอาการของเธอจะค่อยๆ แย่ลงเรื่อยๆ ทีมแพทย์จึงตัดสินใจผ่าตัดเอาขาซ้ายของเธอออก โชคดีที่เธอมี เสี่ยว ฟู่ แฟนหนุ่มที่คบกันมา 2 ปีคอยเป็นกำลังใจให้เธอ แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะเลวร้ายลงเพราะเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา คุณหมอได้บอกกับเสี่ยว ยี่ว่า มะเร็งกระดูกของเธอได้ลุกลามไปทั่ว และเธอจำเป็นที่จะต้องหยุดการรักษา ในระหว่างที่เธอป่วยและมีอาการที่ทรุดลงเรื่อยๆ เสี่ยว ฟู่ก็ไม่ได้หายไปไหน แต่คอยอยู่เคียงข้างเธอและดูแลเธออยู่ข้างๆ เตียงตลอดเวลา เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้มีโอกาสไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งด้วยกัน เพื่อเติมเต็มให้กับความฝันของเสี่ยว ยี่ ก่อนที่เธอจะลาโลกนี้ไป…
-
คู่รักชาวจีนถ่ายภาพพรีเว้ดดิ้ง ด้วยชุดพื้นเมืองของ 56 ชนเผ่าทั่วประเทศจีน
การถ่ายภาพพรีเว้ดดิ้งหรือการถ่ายภาพก่อนแต่งงานถือว่าเป็นกิจกรรมที่สำคัญระหว่างคู่รักชาวจีนทั่วไป แต่สำหรับคู่รักหนุ่มสาวชาวจีนคู่นี้ พวกเขาต้องการจะยกระดับภาพถ่ายพรีเว้ดดิ้งขึ้นไปอีกขึ้น Ji Yutong หญิงสาวจากมณฑลเหอหนานและแฟนหนุ่มของเธอ He Tao กำลังจะแต่งงานในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ด้วยความที่พวกเขาชื่นชอบการผจญภัยทั้งคู่ (พวกเขาพบกันครั้งแรกระหว่างการแบ็คแพ็คไปทิเบต) พวกเขาตัดสินใจลาออกจากงาน และเริ่มการถ่ายภาพพรีเว้ดดิ้งด้วยชุดพื้นเมืองของชนเผ่าใหญ่ๆ ทั่วประเทศ อย่างที่เราทราบกันดีว่า ประเทศจีนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์มากที่สุดประเทศหนึ่ง โดยทั่วประเทศของจีนนั้น มีชนเผ่าใหญ่ๆ เกือบ 60 ชนเผ่า และแต่ละชนเผ่า ก็มีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง โดยพวกเขาเริ่มเดินทางตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนของปีที่แล้ว จนตอนนี้พวกเขาได้ถ่ายภาพชุดพื้นเมืองกว่า 19 เผ่าแล้ว อย่างเช่นชนเผ่ามองโกล และอื่นๆ อีกมากมาย และระหว่างการเดินทาง พวกเขาก็เขียนบล็อกบนอินเตอร์เน็ต เพื่อแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางไปด้วยพร้อมๆ กัน เป็นไอเดียการถ่ายภาพที่เจ๋งไปเลยนะเนี่ย ใครที่กำลังจะแต่งงานแล้วอยากได้ภาพถ่ายเก๋ๆ ก็ลองเอาไอเดียไปปรับใช้ได้นะเหมียวววว ที่มา Shanghaiist
-
เด็กชายวัย 5 ขวบจอมป่วน เล่นซนตอนพ่อแม่ไม่อยู่ จนหัวเข้าไปติดในข้อต่อท่อประปา!!
การปล่อยให้เด็กอยู่คนเดียวนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะพวกเขายังไม่มีวิจารณญาณเท่าไหร ทำให้บางทีก็เกิดเรื่องอันตรายขึ้นได้ อย่างเช่นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศจีนครั้งนี้ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเด็กชายวัย 5 ปีจากมลฑลเจ้อเจียง เดินทางไปงานแต่งงานกับพ่อแม่ที่เมืองเฟ่งหัว ระว่างที่พ่อแม่กำลังคุยกับแขกเหรื่อในงานนั้น เด็กน้อยก็สังเกตเห็นข้อต่อท่อประปาอันหนึ่งวางอยู่ เขาหยิบขึ้นมาเล่น พอเล่นๆ ไปนึกครึ้มยังไงไม่ทราบ เขาก็หยิบขึ้นมาสวมหัวราวกับว่ามันเป็นหมวกเก๋ๆ ใบหนึ่ง แต่ผิดเพียงอย่างเดียวคือ มันถอดออกไม่ได้… สุดท้ายพ่อแม่ต้องไปตามหน่วยกู้ภัยในเมืองมาช่วยแงะเด็กออกมาจากข้อต่อท่อประปาอันนี้ ซึ่งพวกเขาต้องใช้อุปกรณ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคีมตัดเหล็กขนาดยักษ์ เลื่อยไฟฟ้า และอื่นๆ อีกมากมาย กว่าจะช่วยเด็กคนนี้ออกมาได้ ก่อนเจ้าหน้าที่จะจากไป ได้ฝากเตือนไปยังพ่อแม่ทุกคนว่า อย่าปล่อยให้เด็กพ้นหูพ้นตา ไม่งั้นอาจเจอเรื่องเดือดร้อนแบบนี้และมันอาจไม่โชคดีแบบนี้ก็ได้!! เด็กก็คือเด็กอยู่วันยังค่ำ ยังไงถ้าบ้านไหนมีเด็กอยู่ ก็อย่าลืมสอดส่องระมัดระวังหน่อยนะฮะ จะได้ไม่เกิดอะไรแบบนี้ขึ้น ที่มา Shanghaiist
-
ความรักจะคงอยู่ตลอดไป…หนุ่มจีนขอแฟนสาวแต่งงาน หลังจากที่เธอป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
นี่คือเรื่องราวความรักของคนสองคน ที่แม้จะรู้ว่าพวกเขามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว แต่ความรักของพวกเขาก็ไม่ได้ถดถอยลงไปเลย เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่เรื่องราวของนาย เผิง ซิน ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้วเขาเป็นเพียงหนุ่มช่างซ่อมแอร์ในเมืองหวู่ฮั่น ประเทศจีน เขามีรายได้ต่อเดือนประมาณ 1,500 หยวน หรือประมาณ 8 พันกว่าบาทเท่านั้น ในตอนนั้นเองเขาก็ได้พบรักกับหญิงสาวที่ชื่อ หยาง หลิว เธอถูกเลี้ยงดูมาโดยคุณยายของเธอหลังจากที่พ่อแม่ของเธอหย่าจากกัน แต่เมื่อคุณยายของเธอได้พบเข้ากับนายเผิงเธอกลับรู้สึกไม่ถูกชะตากับเขาอย่างแรง และบอกด้วยว่าหลานสาวของเธอสมควรมีแฟนที่ดีกว่านี้ ต่อมาในปี 2010 พ่อของนางหยางและคุณยายของเธอก็จากไป แถมคุณแม่ของเธอเองก็ยังป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมด้วย เธอจึงย้ายออกไปใช้ชีวิตอยู่ในอพาร์ทเม้นกับนายเผิง ซึ่งเขาเองก็วางแผนเอาไว้ว่าหากเก็บเงินได้มากกว่านี้เขาจะซื้อบ้านในเมืองสักหลังและขอแฟนสาวแต่งงาน แต่ความฝันก็ต้องสลายไปในพริบตา เมื่อนางหยางถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเต้านมระยะสุดท้ายเมื่อเดือนที่ผ่านมา และไม่สามารถผ่าตัดได้แล้ว นายเผิงจึงลาออกจากงานมาดูแฟนสาวของเขาตั้งแต่เช้าจนค่ำ เมื่ออาการของนางหยางเริ่มคงที่ นายเผิงก็เข้าไปคุยกับคุณหมอเพื่อเตรียมแผนการขอแฟนสาวแต่งงาน นายเผิงเล่าว่า “ผมจะเป็นสามีของเธอ ไม่ว่าเธอจะมีชีวิตได้นานแค่ไหนก็ตาม” แม้ว่าชีวิตรักของพวกเขาจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่นายเผิงก็ไม่คิดถอดใจ เพราะแม้ว่าเขาจะไม่ได้ร่ำรวยเงินทองหรือดีกว่าผู้ชายคนอื่นๆ แต่แฟนสาวก็เลือกเขา ฉะนั้นเขาจึงต้องอยู่เคียงข้างเธอในเวลาที่เธอต้องการเขามากที่สุด จากนั้นนายเผิงก็ได้ขอนางหยางแต่งงาน…
-
อยู่เข้าไปได้ไงเนี๊ยะ!? พาไปชมหอพักของนักศึกษาสาวในจีน ที่ได้ชื่อว่า “รกที่สุด!!”
โดยทั่วไปแล้วผู้คนมักจะเข้าใจกันว่าหญิงสาวนั้นเป็นพวกที่รักความสะอาดมากกว่าผู้ชายใช่ไหมล่ะ แต่#เหมียวฟิ้นอยากบอกว่าไม่เสมอไป… เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากห้องพักของนักศึกษาสาวชาวจีนรายหนึ่ง ที่เศษขยะกองเรี่ยราดอยู่บนพื้น และข้าวของเครื่องใช้ที่วางแบบระเกะระกะ จนรกแบบสุดๆ และแทบไม่เหลือทางเดินให้เดินเข้าไปเลย ตามรายงานไม่ได้บอกว่าคลิปนี้ถูกถ่ายโดยใครและถ่ายขึ้นที่ไหน แต่หลังจากที่คลิปนี้เริ่มโด่งดัง สื่อต่างๆ ในจีนก็เริ่มตั้งฉายาให้กับห้องพักของหญิงสาวรายนี้ว่าเป็น “ห้องพักที่รกที่สุดตลอดกาล” และเกิดคำถามขึ้นว่าทำไมหญิงสาวถึงไม่มีเวลาเก็บกวาดห้อง? สมาชิกในโลกออนไลน์ที่ใช้ชื่อว่า @金属杯盖 ได้กล่าวไว้ว่า “อ่าฮ่า กลายเป็นว่าห้องนี้เป็นของผู้หญิง มีขยะเยอะกว่าหอพักชายอีกนะเนี๊ยะ ในที่สุดผู้ชายก็มีข้อโต้แย้งสักที” และ @风葬秋暝 บอกว่า “หลังจากที่คุณจบการศึกษาแล้ว คุณสามารถหางานได้ทันทีที่กองขยะเลยนะ” ลองชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย โอย เหมียวเห็นแล้วจะเป็นลมแทน หนุ่มๆ คนไหนได้เธอไปเป็นแฟนล่ะก็…ขอให้โชคดีนะ ที่มา shanghaiist
-
เหมียวนี่ยอมใจ!! เด็กขายดอกไม้ในจีนตื้อจะขายของแก่คนผ่านไปผ่านมา ทั้งเกาะแขน ทั้งทิ้งตัว!?
หลายๆ คนน่าจะเห็นเห็นเทคนิคการขายของอันแพรวพราวของพ่อค้าตามสี่แยกมาแล้วมากมาย บางคนอาจจะมีเทคนิคในการส่งสายตา มีลูกอ้อน ลดแลกแจกแถมอะไรก็ว่ากันไป เพื่อให้คุณยอมควักเงินในกระเป๋าให้พวกเขา แต่ขอบอกเลยว่าวิธีที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้ มันเป็นอะไรที่ชวนเหวอมาก!! เมื่อวันที่ 27 มีนาคม เว็บไซต์ Overseas.weibo ได้เผยแพร่ภาพของแม่ค้าสาวชาวจีนตัวเล็กคนหนึ่ง ที่พยายามขายดอกไม้ให้แก่ชายหนุ่มคนหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเท่าไหร่ จึงเดินผ่านแม่ค้าสาวไปเฉยๆ แต่ด้วยจิตวิญญาณอันแรงกล้าของแม่ค้าสาว เธอจึงพยายามเกาะที่แขนเสื้อของชายหนุ่มและตื้อให้เขาซื้อดอกไม้ของเธอ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ!! แม่ค้าสาวจึงทิ้งตัวลงกับพื้น ไม่ยอมปล่อยให้ชายหนุ่มเดินผ่านเธอไปง่ายๆ โดยที่ไม่ได้ซื้อดอกไม้จากเธอ โอ้วคุณพระ!! หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ของจีน ชาวเน็ตต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นาน เช่นผู้ที่ใช้นามแฝงว่า @我命已定盘 กล่าวว่า “การเป็นคนขายดอกไม้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราควรจะเห็นใจและซื้อคนละดอก” หรือคุณ @M_sir98 บอกว่า “สาวน้อยคนนี้ควรจะมีศักดิ์ศรีบ้าง” เทคนิคการขายแบบนี้ต้องบอกเลยว่าทุ่มทุนสร้างมากๆ #เหมียวฟิ้นเองยังไงเคยทำ เดี๋ยวไว้ต้องกลับไปลองทำบ้างแล้ว ที่มา overseas.weibo
-
นักวิ่งชาวจีนปวดท้องนับพันคน หลังกินสบู่องุ่นเข้าไประหว่างวิ่ง เพราะคิดว่าเป็นอาหาร!?
ในงานแข่งขันวิ่งมาราธอนแต่ละที่มักจะมีการแจกอาหาร แจกน้ำ และผลไม้บำรุงร่างกายต่างๆ ให้แก่เหล่านักวิ่ง แต่คุณอาจจะต้องสังเกตฉลากดีๆ หน่อยนะ เพราะหากคุณกินโดยไม่ทันดูล่ะก็ คุณอาจจะถูกหามส่งโรงหมอก่อนที่จะเข้าเส้นชัยก็เป็นได้… เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ปี 2016 สำนักข่าว Qingyuan Daily ได้รายงานว่ามีนักวิ่งนับพันคนมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงระหว่างการแข่งขันวิ่งมาราธอนในเมืองชิงหย่วน ทางตอนใต้ของประเทศจีน ตามรายงานบอกว่าทางทีมแพทย์และพยาบาลในงานแข่งขันมาราธอนต้องรีบเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลแก่นักวิ่งกันอย่างวุ่นวายเกือบ 12,000 ครั้ง ทั้งนี้มีการโทรเรียกรถพยาบาลกว่า 23 ครั้ง มีคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 17 คน และมีผู้ที่อยู่ในอาการปวดท้องขั้นรุนแรงอีก 5 คน เมื่อสอบถามไปยังผู้จัดงานถึงสาเหตุที่เหล่านักวิ่งเกิดอาการปวดท้องก็เป็นเพราะว่าทางผู้จัดงานได้มอบถุงของขวัญแก่นักวิ่ง โดยหนึ่งในของขวัญที่อยู่ในถุงนั้นเป็นสบู่กลิ่นองุ่น ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากเข้าใจผิดคิดว่านั่นคือขนมเพิ่มพลังงานและกินเข้าไปนั่นเอง . จะกินอะไรก็ดูกันดีๆ หน่อยซิพวกมนุษย์ ไม่ใช่ได้มาแล้วยัดเข้าปากเลย ที่มา blogs.wsj
-
สาวจีนถูกรถตู้ชนจนกลิ้งเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถ แต่ดันรอดแถมบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น!?
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้เผยแพร่คลิปวิดีโออุบัติเหตุสุดอึ้งของหญิงสาวรายหนึ่งขณะเดินข้ามถนนที่การจราจรแออัดในเมืองอันฮุย ประเทศจีน เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 มีนาคม ในระหว่างที่เธอเดินข้ามถนนอยู่นั้นเอง กลับมีรถตู้เลี้ยวมาจากถนนอีกเส้นและชนเข้ากับเธอจากด้านหลังจนเจ้าตัวล้มลงและกลิ้งไปอยู่ใต้ล้อรถอย่างสยดสยอง แถมเธอยังถูกรถตู้ลากต่อไปอีกประมาณเมตรกว่าๆ จากนั้นชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นก็รีบเข้ามาในที่เกิดเหตุเพื่อดูอาการหญิงสาว ต่อมาคนขับรถตู้ก็ลงมาช่วยยกรถตู้เพื่อดึงเอาตัวหญิงสาวออกมา และตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนที่ผ่านไปผ่านมาแถวๆ นั้น จนในที่สุดก็สามารถดึงตัวหญิงสาวออกมาจากใต้ท้องรถได้ในที่สุด ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมจากสำนักข่าว CCTV บอกว่าหญิงสาวปลอดภัยดี แถมยังได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สาเหตุที่อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะว่าคนขับรถตู้นั้นขับด้านซ้าย และคนเดินข้ามถนนเองก็อยู่ด้านซ้ายของรถตู้เช่นกัน ทำให้คนขับมองไม่เห็นคนข้ามถนน ในขณะที่น้ำหนักของรถตู้ถูกเทไปทางด้านขวา ทำให้ไม่สามารถหักหลบได้ทันนั่นเอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย โชคดีมากเลยนะเนี๊ยะที่รอดมาได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะโชคดีแบบนี้ คราวหน้าคราวหลังก็ระวังกันไว้ด้วยนะจ๊ะ ที่มา rocketnews24
-
ชาวเซี่ยงไฮ้ประดิษฐ์สไลด์เดอร์ในอาคาร เพื่อให้ผู้สูงอายุลงจากที่สูงในกรณีฉุกเฉินได้ในเวลาอันรวดเร็ว
อย่าเพิ่งคิดไปว่าที่ประเทศจีนนั้นมีแต่ข่าวแปลกๆ ข่าวในด้านลบๆ อย่างเดียวนะ เพราะงานไอเดีย งานล้ำๆ พวกเขาก็มีเหมือนกัน… เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่านาย Zhou Miaorong ชายชาวจีนวัย 70 ปี ได้คิดค้นหาทางแก้ปัญหาการเดินลงบันไดหลายๆ ชั้นของเหล่าผู้สูงอายุด้วยการสร้างสไลเดอร์ขึ้นมา เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถนั่งจากชั้นบนสุดลงไปยังชั้นล่างสุดได้ภายในเวลาเพียง 90 วินาทีเท่านั้น ตามรายงานบอกว่าสไลเดอร์ที่เห็นอยู่นี้ถูกติดตั้งอยู่ในอาคารแห่งหนึ่งที่มีความสูง 28 ชั้น ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน มันทำมาจากสแตนเลสและอลูมีเนียม ทำให้การเดินลงบันไดหลายๆ ชั้นกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลย นาย Zhou ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าสไลเดอร์นี้ถูกติดตั้งเพื่อเป็นการทดลอง โดยรางสไลดเดอร์จะถูกติดตั้งไปกับกำแพง หากจะใช้งานต้องกางมันออกมาซะก่อน และเมื่อสไลดเดอร์ชั้นบนสุดถูกกางออกแล้ว สไลดเดอร์ชั้นต่อๆ ไปก็จะกางออกมาโดยอัตโนมัติคล้ายกับโดมิโน นาย Zhou ยังตั้งชื่อเล่นให้มันว่า “บันไดวิเศษ” อีกด้วย แต่แม้ว่าสไลดเดอร์นี้จะดูน่าสนุกแค่ไหนก็ตาม แต่คุณก็ควรจะหาอะไรมาป้องกันตัวของคุณสักหน่อย เพราะเวลาใช้งานจริงจะมีการกระแทกกันน่าดู นี่ไม่ใช่ไอเดียแรกเริ่มที่มีการสร้างสไลเดอร์จงจากที่สูงหรอกนะ เพราะก่อนหน้านี้เองก็เคยมีห้างสรรพสินค้าในจีนสร้างสไลเดอร์สูง…
-
นักท่องเที่ยวผิวสีงง เจอคนจีนตื่นเต้นมาขอถ่ายรูปด้วย เพราะไม่เคยเจอคนผิวสีมาก่อน!!
นักท่องเที่ยวจีนมีอะไรที่เราประหลาดใจได้เสมอเลย โดยเฉพาะวีรกรรมต่างๆ ที่เขาทำไว้ในบ้านเราจนเป็นข่าวใหญ่โต แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาไปชมเรื่องแปลกๆ ของนักท่องเที่ยวจีนในต่างประเทศกันบ้าง หญิงสาวผิวสีกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง เธอได้ไปเที่ยวที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในตอนที่เธอกำลังชมสถานที่แห่งหนึ่งอยู่ ซึ่งที่นั่นก็มีคนมาเที่ยวเยอะเช่นเดียวกัน แต่แล้วก็ต้องเกิดอาการงง เพราะมีนักท่องเที่ยวจีนมาขอถ่ายรูปด้วย เริ่มจากฝ่ายชายถูกขอถ่ายรูปก่อน ดูจากกอาการแล้วนักท่องเที่ยวจีนดูตื่นเต้นมากๆ ที่ได้ถ่ายรูปกับคนผิวสี จากนั้นเธอก็ถูกขอถ่ายรูปด้วย เล่นเอาทั้งคู่งงไปเลยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เราไปชมคลิปเหตุการณ์การนี้กันเลยดีกว่า เป็นไงล่ะ งงเต๊กกันเลย หรือว่าคนจีนเขาคิดว่าฝรั่งผิวสีนี่คือดารารึเปล่านะ ทำไมเขาดูตื่นเต้นกันจัง ที่มา SolineSoKawaii
-
แบบนี้ก็มี!! สาวเคนย่าอยากไปจีนมาก แต่ไม่มีเงิน เลยตัดต่อภาพตัวเองไปที่จีน จนได้ไปจริงๆ
ความฝันของแต่ละคนมีไม่เหมือนกัน ซึ่งบางคนอาจจะทำให้ฝันของตัวเองเป็นจริงได้ แต่บางคนก็ทำได้แต่เพียงแค่ฝันเท่านั้น นั่นก็เป็นเพราะว่าไม่มีอำนาจทางการเงินมากพอ อย่างเช่นสาวจากประเทศเคนย่านามว่า Seve Gats ที่อยากจะไปเที่ยวที่ประเทศจีนเสียเหลือเกิน แต่อันเนื่องมาจากในเรื่องของจำนวนเงินที่ต้องใช้มากเพื่อไปเที่ยว เธอไม่มีมากถึงขนาดนั้น ก็เลยทำได้แค่เพียงขอให้ชาวเน็ตช่วยตัดต่อภาพตัวเอง เป็นทริปไปเที่ยวที่ประเทศจีนเป็นเวลา 4 วัน เริ่มต้นตั้งแต่ขึ้นเครื่องในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ราวกับว่าได้ไปเที่ยวที่ประเทศจีนจริงๆ ออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในประเทศจีน มีความสุขกับการได้ไปเที่ยวแบบจินตนาการ มีถ่ายรูปคู่กับกรุ๊ปทัวร์ด้วย จนกระทั่งชาวเน็ตทั้งหลายได้มาเห็นทริปในจินตนาการของเธอ งานมือบอนก็ตามมา ร่วมกันละเลงฝีมือตัดต่อรูปภาพเธอไปตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก พร้อมกับใช้ #WhereIsSeveGatsNow เหมือนกับว่าตอนนี้เธอไปอยู่ที่ไหนแล้วนะ!? อย่างเช่นพาไปดิ่งพสุธาที่ดูไบ แวะไปเยี่ยมชมประเทศอินเดีย หรือแม้แต่พาไปชมพีระมิดกลางทะเลทราย หากจะมองในแง่ของการหลอกตัวเองก็คงจะใช่ แต่ว่าการเล่นตลกกับความฝันของคนอื่นก็ดูจะใจร้ายไปหน่อย เพื่อไม่ให้เป็นการทำร้ายความฝันของเธอไปมากกว่านี้ นักลงทุนชาวเคนย่า Gichuru ได้เห็นภาพตัดต่อไปเที่ยวประเทศจีนของ Seve Gats เข้า เขาจึงสานฝันของเธอให้เป็นจริงด้วยการพาไปเที่ยวที่ประเทศจีนจริงๆ เขาบอกกับเธอเอาไว้ว่า ‘ถ้าเธออยากไปจริงๆ ผมก็จะพาคุณไปให้ได้จริงๆ…
-
เร็วปานเดอะแฟลช!! กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนในเวียดนาม คว้าผลไม้จากจานเกลี้ยงใน 6 วินาที!!
กลายเป็นเรื่องราวโด่งดังไปทั่วโลกทีเดียว สำหรับคลิปของเหล่านักท่องเที่ยวที่หิวโหยตักอาหารทะเลในโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศไทยจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็ว ล่าสุดดูเหมือนที่เวียดนามเองก็ต้องรับมือกับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเช่นกัน… เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนาม แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์โกลาหลเช่นเดียวกับที่อื่นๆ เพราะในระหว่างที่พนักงานโรงแรมกำลังนำจานลิ้นจี่มาเสิร์ฟบนโต๊ะนั้นเอง กลับมีชาวจีนกว่าสิบคนมายืนล้อมรอบพนักงานคนนั้นเพื่อแย่งชิงผลไม้ในท่าทางแบบหิวโหยสุดๆ เห็นได้ชัดว่าพนักงานรายนี้ดูจะหงุดหงิดสุดๆ เนื่องจากยังไม่ทันจะวางจานก็มีกลุ่มชาวจีนเอิ้อมมือมาหยิบไปซะแล้ว แถมเจ้าตัวยังไม่สามารถขยับออกไปได้ สุดท้ายเธอเลยวางมันลงบนโต๊ะจากนั้นลิ้นจี่บนจานก็หายไปในเวลาไม่กี่วินาที!! ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า Chinese tourists clear out fruit plate in under six seconds at the poolside bar of a hotel in Vietnam. READ MORE: http://shst.me/fruitplate โพสต์โดย Shanghaiist บน 24 มีนาคม 2016 #เหมียวฟิ้นกลัวแล้วจ้าาาา ที่มา shanghaiist
-
อยากลองชิมไหม? Starbucks เตรียมขาย “ชา” สูตรของตัวเองในจีนเดือนกันยายนนี้
Starbucks ถือเป็นแบรนด์กาแฟที่โด่งดังและมีสาขาไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ล่าสุดมีข่าวว่าพวกเขากำลังจะแผ่ขยายสาขาไปยังประเทศจีน แต่ไม่ใช่ร้านกาแฟแบบที่ทุกคนเข้าใจ แต่มันจะเป็นร้านขายน้ำชาแทน เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า ร้านกาแฟสัญชาติอเมริกันอย่าง Starbucks กำลังเตรียมที่จะเปิดร้านน้ำชาภายใต้แบรนด์ Teavana ที่ประเทศจีนเป็นสาขาแรก หลังจากที่เริ่มทำมาแล้วในอังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมัน ตามรายงานบอกว่าตอนนี้ชาของแบรนด์ Teavana กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์แล้วเมื่อปีที่ผ่านมา และพวกเขากำลังจะก้าวไปอีกขั้นโดยการเปิดร้านน้ำชาที่จีนในเดือนกันยายนนี้ จีนถือเป็นประเทศที่บริโภคน้ำชามามาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมีหลักฐานต่างๆ ที่ขุดพบในหลุมฝังศพของจักรพรรดิฮั่น ที่ช่วยยืนยันว่าชาวจีนนั้นมีน้ำชาดื่มมาตั้งแต่เมื่อสมัย 2737 ปีก่อนคริสต์กาลแล้ว มีแม้กระทั่งน้ำชารสยาสีฟันเลยด้วยซ้ำ แต่การที่บริษัทอเมริกันจะเข้าไปเปิดธุรกิจร้านขายชาในจีนได้นั้นก็ถือเป็นความเสี่ยงอย่างมาก เพราะจีนเป็นประเทศที่ปลูกชาเอง อาจจะต้องเจอกับคู่แข่งในท้องถิ่นก็เป็นได้ แต่ยังไงประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Starbuck อย่าง Kevin Johnson ก็ยังเชื่อมั่นว่าแบรนด์ของเขาจะแข็งแรงพอและประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับธุรกิจกาแฟที่เคยทำมา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ชาแบรด์ Teavana จะเข้าไทยบ้างนะเนี๊ยะ แล้วถ้ามาแล้วจะประสบความสำเร็จเหมือนกับกาแฟหรือเปล่า? อันนี้ต้องติดตามกันต่อไปล่ะ ที่มา shanghaiist
-
เล๊ะตุ้มเป๊ะ!! หนุ่มจีนจอดรถหรูขวางทางเข้าออกหมู่บ้าน ชาวบ้านทนไม่ไหวเอาไข่และน้ำหมึกมาปากันมันส์มือ!!
แม้ว่าคนบางคนจะขับหรู ราคาเป็นล้านๆ แต่ก็ใช่ว่าคุณภาพการขับขี่รถของคนบางคนจะเพิ่มสูงตามราคารถไปด้วยนะ และหากคุณไปทำนิสัยแย่ๆ ไว้มากเข้าล่ะก็ อาจจะถูกผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่นๆ รุมเละแบบเจ้าของรถคันนี้ก็ได้นะ… เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเจ้าของรถพอร์เช่รายหนึ่งในกรุงเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้จอดรถขวางทางเข้าออกของเพื่อนบ้านเป็นเวลานานกว่า 14 ชั่วโมง ทำให้พวกเขาหมดความอดทน จึงหยิบเอาไข่และน้ำหมึกมาสาดใส่รถหรูสะเละเทะเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่าเรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นมาจากช่วงเช้าของวันอังคารที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ถกเถียงกันระหว่างเจ้าของรถพอร์เช่แซ่หวาง และยามรักษาความปลอดภัยในละแวกนั้น โดยฝ่ายยามรักษาความปลอดภัยพยายามจะคิดค่าที่จอดรถแก่นายหวาง เนื่องจากเขาจอดรถนานเกิน 7 วัน เป็นจำนวน 70 หยวน หรือประมาณ 380 บาท แต่เจ้าของรถกลับโกรธจัด เพราะนายหวางบอกว่าเขาเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของคนในละแวกนั้นเช่นกัน จึงไม่ควรที่จะถูกปรับเป็นจำนวนเงินที่มากขนาดนี้ แถมรถคันนี้ก็ยังไม่ได้จดทะเบียนด้วย เขาจึงควรลดค่าปรับลงเหลือเพียง 10 หยวน หรือประมาณ 54 บาทเท่านั้น นอกจากนี้นายหวางยังบอกอีกว่ายามรักษาความปลอดภัยพูดจาดูถูกเขา เขาเลยอยากจะแก้แค้นโดยการจอดรถขวางทางเข้าออกของหมู่บ้าน แต่เห็นได้ชัดเลยว่านายหวางไม่ได้คิดถึงผลกระทบเกี่ยวกับเพื่อนบ้านเลย เพื่อนบ้านของเขาจึงต้องเปลี่ยนไปใช้เส้นทางฉุกเฉินแทน และนั่นก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านโกรธแค้นและต้องลงไม้ลงมือในที่สุด …
-
ตำรวจจีนโบกรถบัสนักเรียนท่าทางผิดปกติ ปรากฏมีเด็กอยู่ข้างในถึง 62 คน!!!
ปกติรถบัสคันหนึ่งต่อให้เป็นรถขนาดใหญ่ที่สุด มีผู้โดยสารซัก 30 คนก็ถือว่าแน่นแล้ว แต่ตำรวจจีนถึงกับเงิบไปเลย เมื่อเจอรถบัสนักเรียนขนาด 19 คนคันนี้ เพราะมีนักเรียนนั่งอยู่ภายในถึง 62 คน!! เรื่องราวมีอยู่ว่าตำรวจจากมณฑลอันฮุยคนหนึ่ง ได้สังเกตเห็นรถบัสนักเรียนคันหนึ่งท่าทางผิดปกติ เพราะบนรถมีเด็กนั่งอยู่เต็มไปหมด เขาจึงเข้าไปโบกรถบัสคนดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ ตอนแรกเขาคิดว่าจะมีเด็กนักเรียนประมาณ 40 คน แต่พอนับจริงๆ กลับมีเด็กถึง 62 คน!! ทั้งๆ ที่ความจุที่แท้จริงของรถมีเพียงแค่ 19 คนเท่านั้น! สุดท้ายตำรวจได้จับกุมคนขับรถ โทษฐานบรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และมีการเรียกรถบัสอีกหลายคันเพื่อมารับเด็กที่เหลือกลับบ้าน ปัญหารถนักเรียนบรรทุกนักเรียนเกินกำหนด เป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปในประเทศจีน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท อย่างเมื่อหลายปีก่อน ตำรวจสามารถจับกุมรถตู้คันหนึ่งที่บรรทุกเด็กกว่า 66 คนได้!! โอ้โห อัดกันไปได้ยังไงตั้ง 62 คน ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา จะเกิดความสูญเสียกันขนาดไหนนะ ที่มา Shanghaiist
-
ทำไมโหดกันอย่างนี้!? กลุ่มนักเรียนจีนดักทำร้ายร่างกายอาจาร์ย เพียงเพราะโดนต่อว่าในห้องเรียน!?
ถือเป็นเรื่องราวชวนอึ้งไปเลย สำหรับกรณีของกลุ่มเด็กนักเรียนชาวจีน ที่แค้นอาจารย์ผู้สอนเพียงเพราะถูกตำหนิในห้องเรียน เลยพากันยกพวกไปดักทำร้ายร่างกายเขาซะอย่างงั้น!? เมื่อวันที่ 22 มีนาคม เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของ 2 เด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมจากโรงเรียน มัธยมเป่าจี๊ ในมณฑลส่านซี ประเทศจีน ที่กำลังรุมทำร้ายร่างกายคุณครูภายในตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่ง ตามรายงานบอกว่านักเรียนทั้ง 2 คนได้เข้าทำร้ายร่างกายคุณครูสอนวิชาดนตรี ทั้งต่อยและเตะอย่างรุนแรง ในระหว่างนั้นมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ พบเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี จึงเข้าไปห้ามปราม แต่เด็กนักเรียนพยายามกันไม่ให้พวกเขาเข้าไปได้ จึงแอบถ่ายคลิปวิดีโอไว้และนำไปส่งให้ตำรวจท้องถิ่น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งก็รีบเดินทางมาที่เกิดเหตุและนำตัวคุณครูส่งโรงพยาบาลทันที และโทรเรียกให้พ่อแม่ของเด็กๆ มารับตัวพวกเขากลับบ้านหลังจากที่ได้ตำหนิและสั่งสอนทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากเด็กๆ ถูกคุณครูตำหนิในชั้นเรียนจนเกิดความแค้นส่วนตัว และเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมาแล้ว แต่เด็กนักเรียนทั้งสองกลับไม่ได้ถูกลงโทษร้านแรงอะไร มีเพียงการกล่าวตักเตือนเท่านั้น ส่วนคุณครูเมื่อทำการรักษาพยาบาลเสร็จก็กลับมาทำงานตามปกติ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า มีอะไรก็ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันดีกว่านะนักเรียน ที่คุณครูเขาตำหนิหรือตักเตือนก็เพราะว่าพวกเขาพายามสอนให้เราเป็นคนดีนั่นเอง หากไม่มีคุณครู ไม่มีกฎระเบียบ นักเรียนจะเติบโตไปเป็นคนที่มีระเบียบวินัยได้ยังไงล่ะจริงไหม? ที่มา shanghaiist
-
สาวฮ่องกงหัวใสเปิดธุรกิจ “โรงเรียนสอนมารยาททางสังคม” ในจีน จนสาวๆ แห่เรียนกันเพียบ!!
ประเทศจีนเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่า มีประชากรที่มีมารยาททางสังคมแย่ที่สุดประเทศหนึ่งในโลก ซึ่งในสมัยก่อนนั้นชาวจีนเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ แต่กระทั่งจีนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านเศรษฐกิจของโลก การติดต่อกับชาวต่างชาติถือว่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ “มารายาททางสังคม” จึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน Sara Jane Ho สาวชาวฮ่องกงผู้มีดีกรีการศึกษาจากโรงเรียนธุรกิจฮาร์วาร์ด ได้เล็งเห็นถึงจุดนี้ เธอจึงเปิดสถาบันซาริต้า Sarita Institution เพื่อเป็นโรงเรียนสอนมารยาททางสังคมให้กับสาวจีนยุคใหม่ ที่ต้องการเข้าสังคมโลกในยุคปัจจุบัน ปัจจุบัน โรงเรียนสอนมารยาทของเธอมีอยู่สองสาขานั่นก็คือที่กรุงปังกิ่งและเมืองเซียงไฮ้ในประเทศจีน โดยค่าเรียนจะอยู่ที่ 8,000 หยวนหรือราว 40,000 บาท ต่อหนึ่งคอร์ส (คอร์สละ 2 วัน) โดยในคอร์ส เธอจะสอนวิธีการเข้าสังคมแบบตะวันตกให้กับผู้เรียน ไม่ว่าจะเป็นมารยาทในการทักทาย มารยาทในการพูดคุย มารยาทบทโต๊ะอาหาร หรือมารยาทในการสังสรรค์ เพื่อให้สาวๆ เหล่านั้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้เวลามีการติดต่อการชาวต่างชาติได้ แม้ค่าเล่าเรียนของสถาบันนี้จะมีราคาสูงอยู่บ้าง แต่ก็ยังได้รับความสนใจจากสาวๆ เป็นจำนวนมาก เพราะพวกเธอคิดว่า การลงทุนครั้งนี้แม้จะราคาแพง แต่ก็สามารถนำไปใช้ได้ตลอดชีวิต แถมยังทำให้พวกเธอมีความมั่นใจมากขึ้นอีกด้วย เยี่ยมไปเลยล่ะ แต่ #เหมียวอ๊อดโด้ ว่า รัฐบาลจีนน่าจะบรรจุเรื่องมารยาทลงไปในหลักสูตรเลยนะ เผื่อคนจีนรุ่นต่อไปจะมีมารยาทที่ดีขึ้นกว่าเดิม…
-
พ่อค้าจีนโชว์ยาอายุวัฒนะจากซากสัตว์เลี้อยคลาน อ้างรักษาได้ทุกอาการเจ็บป่วย!?!?
หากจะพูดถึงประเทศที่มีอะไรแปลกๆ มาให้เราได้ชมอยู่ตลอดเวลา ชื่อของประเทศจีนต้องโผล่ขึ้นมาเป็นชื่อแรกๆ อย่างแน่นอน และวันนี้อีกครั้งกับการขายยาวิเศษของพ่อค้าชาวจีน ที่เขาเคลมว่ารักษาอาการป่วยทุกอย่างบนโลกได้ แถมมีสาธิตสรรพคุณกันให้เห็นจะๆ ด้วย จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย เรื่องราวเกิดขึ้นที่มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน มีพ่อค้าเร่คนหนึ่งนำยาวิเศษที่หมักจากซากสัตว์เลี้อยคลานหลายชนิดมาโชว์ให้กับชาวบ้านแถวนั้น ซึ่งสร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้ที่มาชมเป็นอย่างมาก โดยยาวิเศษของเขา มีส่วนผสมของสัตว์เลี้ยงคลานหลายชนิดตั้งแต่ จระเข้ งู เต่า เห็ดหายาก และสมุนไพรอีกหลายชนิด ซึ่งเขาอ้างว่ายาของเขา สามารถรักษาทุกอาการเจ็บป่วยได้ แต่มาพูดลอยๆ ใครจะเชื่อ เขาเลยโชว์สรรพคุณยาให้ทุกคนได้ชม โดยเขานำไก่ที่มีอาการบาดเจ็บที่ขาจนเดินไม่ได้ตัวหนึ่งมา แล้วจัดการทาด้วยยาของเขา ผลปรากฎว่าไก่ที่สภาพเดินไม่ได้เมื่อกี้ กลายเป็นเดินได้คล่องปร๋อในทันที สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมในทันที จนผู้เฒ่าผู้แก่หลายคน ต่างควักเงินซื้อยาวิเศษไปคนละขวดสองขวด เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้ทั่วไปในแถบชนบทของประเทศจีน พวกเขาเชื่อว่ายาแผนโบราณแบบนี้ สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยหลายๆ อย่างได้ แม้วิทยาการการแพทย์สมัยใหม่จะพัฒนาไปมากก็ตาม เห็นแล้วเหมือนยาดองของบ้านเราเลย ใครสนใจก็ลองไปซื้อมาใช้งานกันได้นะฮะ แต่ #เหมียวอ๊อดโด้ ขอบาย เจ็บป่วยแล้วขอพึ่งพาหมอ…
-
สะเทือนอารมณ์ หนุ่มจีนถูกจ้างให้ปลอมตัวเป็นหลานชายที่ตายไปแล้ว เพื่อให้คุณยายสบายใจ
นี่เป็นหนึ่งในเรื่องราวชวนให้#เหมียวฟิ้นสะเทือนใจ ที่ก้ำกึ่งระหว่างความความรัก ความถูกต้องและศีลธรรมเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าชายชาวจีน Huang Xiaoyong ว่าจ้างชายหนึ่มคนหนึ่งให้ปลอมตัวเป็นลูกชายของตัวเอง เพื่อไม่ให้คุณยายของเขาจับได้ว่าหลานชายเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2009 ตามรายงานบอกว่านาย Huang Ge ลูกชายของ Huang Xiaoyong ได้ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสื่อมพันธุกรรม และเสียชีวิตไปตั้งแต่เมื่อปี 2009 แต่เขากลับปกปิดเรื่องนี้ไม่ให้คุณแม่ของเรารู้ แถมหูตาของเธอก็เริ่มฟ่าฟาง ทำให้เธอแทบจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าหลานชายของเธอได้จากไปแล้ว นาย Huang Xiaoyong ได้บอกกับแม่ของเขาว่าหลานชายกำลังอยู่ในช่วงทำกายภาพบำบัดเพื่อกลับมาเดินได้อีกครั้ง แต่เนื่องจากลูกชายเสียชีวิตไปนานแล้ว เขาจึงจำเป็นที่จะต้องหลอกแม่ของเขาไปเรื่อยๆ เป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งวันหนึ่งแม่ของเขาก็เริ่มเฝ้าถามถึงหลานชายสุดที่รักของเธอ นาย Huang Xiaoyong จึงจำเป็นที่จำต้องพาลูกชายมาเจอกับเธอ แต่ในเมื่อเรื่องทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก เขาก็เลยต้องตามหาคนที่มีลักษณะคล้ายกับลูกชายของเขา เพื่อปลอมตัวให้แม่ของเขาได้หาสงสัย จนวันหนึ่งเขาก็ได้พบกับชายที่ชื่อ Wang Feng นาย Huang เลยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ผมต้องการชายหนุ่มอายุระหว่าง 25-28 ปี…
-
หญิงชาวจีน “ปลูกต้นไม้” กว่า 2 ล้านต้น เพื่อสานต่ออุดมคติของลูกชายที่จากไป…
ในปี 2000 คุณแม่ Yi Jiefeng ได้ศูญเสียลูกชายของเขาไปจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดในประเทศญี่ปุ่น ทำให้เธอโศกเศร้าเป็นอย่างมาก แต่มีบางสิ่งที่ทำให้เธอคิดว่านี่แหละคือการเก็บความทรงจำดีๆของลูกไว้ ในช่วงเวลาที่ลูกของเธอยังอยู่ เขามีความฝันว่าอยากจะปลูกต้นไม้ที่ทะเลทรายในมองโกเลียในเพื่อเป็นการรักษาธรรมชาติไว้ หลังจากที่เขาจากไปแล้ว คุณแม่ Yi Jiefeng ก็ได้สานต่ออุดมการณ์ของลูกด้วยการก่อตั้งมูลนิธิ Green Life เพื่อปกป้องผืนป่าในประเทศจีนขึ้นมา แม่เล่าว่า “เขาชอบธรรมชาติมาตั้งแต่เด็กแล้ว ในตอนแรกที่ฉันก่อตั้งมูลนิธินี้ขึ้นมาก็เพื่อที่จะทำตามความฝันของลูก แต่ตอนนี้ฉันตระหนักได้แล้วว่าปัญหาพื้นที่สีเขียวนั้นกำลังเพิ่มขึ้นจนจะกลายเป็นทะเลทราย แล้วประชากรกว่า 1.3 พันล้านคนในจีนจะอยู่ได้ยังไง ดังนั้นควรตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมได้แล้ว” ตั้งแต่เธอเสียลูกชายไป กลุ่มที่เธอสร้างก็ช่วยกันปลูกต้นไม้มาหลายล้านต้นแล้ว ก้าวต่อไปที่จะทำคือเปลี่ยนพื้นที่กว่า 2.6 ล้านตารางกิโลเมตรที่ร้างว่างเปล่าให้กลับมามีต้นไม้ที่งอกงาม ไม่น่าเชื่อว่าจากตอนที่ทั้งเธอและสามีผู้ไม่มีความรู้ด้านการปลูกต้นไม้มาก่อน แต่ด้วยความอดทน เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ทำให้กลายมาเป็นองค์กรที่ใหญ่ได้ขนาดนี้ ชมคลิปให้สัมภาษณ์ของเธอกันเลย ที่มา CY Xu, Women of China
-
ขนลุกขนพอง!! สาวจีนอัดคลิปขณะเปิบแมงป่องเสียบไม้เป็นๆ อย่างเอร็ดอร่อย!?
ขึ้นชื่อว่าเปิบพิสดาร หลายๆ คนก็คงจะนึกถึงเมนูแปลกๆ อย่างการกินอาหารดิบๆ เมนูสารพัดสัตว์ที่คนทั่วไปเขาไม่กินกัน…แต่บางคนกลับชอบกินซะงั้น เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Liveleak ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดอึ้งของสาวจีนรายหนึ่ง ที่กำลังถือแมงป่องเสียบไม้ตัวเป็นๆ จากนั้นเธอก็งับเข้าปากไปอย่างเอร็ดอร่อย ประหนึ่งเป็นอาหารโปรดที่เธอโหยหามานาน!? แม้ว่าแมงป่องจะเป็นสัตว์มีพิษที่คนส่วนใหญ่หวาดกลัว แต่สำหรับชาวจีนแล้ว พวกเขาเชื่อว่าการรับประทานแมงป่องแบบเป็นๆ จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง คล้ายกับการดื่มยายาอายุวัฒนะยังไงยังงั้นเลย ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย สำหรับ#เหมียวฟิ้นแล้ว แค่กินยำกุ้งเต้นก็ถือเป็นที่สุดของความแปลกแล้วล่ะ เห็นแบบนี้แล้วถึงกับจุกในลำคอเลยทีเดียว ที่มา liveleak
-
สาวจีนสั่งซื้อ Apple iPhone 6s ผ่านเน็ตเพราะราคาถูก ปรากฏว่าดันได้ Pear Phone มา 2 เครื่องซะงั้น!?
การสั่งซื้อของออนไลน์ในปัจจุบันนี้ถือเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากเลยนะ เพราะไม่ต้องเสียเวลายืนเลือกของ กว่าจะเดินทาง กว่าจะไปถงห้าง กว่าจะกลับอีก แต่มันก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่บ้างนะ เพราะหากคุณไม่เจอของที่ราคาถูก “ผิดปกติ” คุณอาจจะกลายเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหญิงสาวชาวจีนแซ่เฉาได้ทำการสั่งซื้อมือถือ iPhone 6s ผ่านเว็บไซต์ออนไลน์แห่งหนึ่ง เนื่องจากเห็นว่ามีราคาถูกเพียง 3,400 หยวน หรือประมาณ 18,317 บาทเท่านั้น แต่หลังจากที่เธอโอนเงินให้กับพ่อค้าแล้ว กลับได้รับแจ้งว่า ตอนนี้มือถือของเธอถูกศุลกากรยึดเอาไว้ เธอจำเป็นจะต้องโอนเงินให้กับพ่อค้าอีกราวๆ 5,000 หยวน หรือประมาณ 26,937 บาท และเมื่อเธอได้รับของแล้วพ่อค้าจะโอนเงินคืนให้กับเธอเอง ซึ่งเธอก็ตอบตกลงแต่โดยดี แต่แน่นอนว่ามีพิรุธแบบนี้เธอคงจะไม่ได้มือถือ Apple iPhone6s แบบปกติแน่นอน และเมื่อพัสดุมาส่งถึงบ้านเธอก็แทบลมจับ เพราะภายในนั้นคือ Pear Phone ที่มีสัญลักษณ์ด้านหลังเป็นลูกแพร์!! เมื่อเธอพยายามจะติดต่อพ่อค้าเพื่อขอคืนเงินก็สายไปซะแล้ว เพราะเขาปิดมือถือและเปิดแน่บไปแล้วเรียบร้อย จำไว้ว่าของถูกและดีไม่มีในโลกนะ อาจจะมีบ้างแต่ถ้าถูกจนเกินจริง ให้สันนิษฐานก่อนว่าอาจจะไม่จริงนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
แชร์กระจาย!! คลิปคนจีนแย่งกัน “โกยกุ้ง” เมื่อมากินบุฟเฟต์ในเมืองไทย แต่ก็กินไม่หมด
ช่วงนี้นับได้ว่าเป็นช่วงที่พีคที่สุดของนักท่องเที่ยวจีนเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ ดินแดนแห่งสโลว์ไลฟ์ ที่คนจีนโปรดปรานในการใช้ชีวิต เพราะด้วยความที่เป็นจังหวัดที่มีสถานที่เที่ยวเยอะมาก ทำให้คนจีนหลั่งไหลเข้ามามากมาย เดิมทีนั้นคนเชียงใหม่ก็อยู่กันอย่างสงบเรื่อยมา จนกระทั่งเริ่มมีคนจีนเข้ามาเที่ยวเยอะมากขึ้น ทำให้ร้านต่างๆ ก็ต้องปรับสภาพตามลูกค้าไปด้วย เราจะได้เห็นร้านเพิ่มภาษาจีนเข้าไปในเมนูหรือป้าย เพื่อให้คนจีนเข้าใจได้ง่ายขึ้น ครั้งก่อนก็เพิ่งมีข่าวไปว่าคนจีนเข้ามาทานอาหารในร้านแห่งหนึ่งแล้วไม่จ่ายเงิน เพราะอ้างว่าอาหารไม่อร่อย ก็เลยไม่จ่าย (อย่างงี้ก็มี) แต่วันนี้เหมียวจะพาไปชมพฤติกรรมคนจีนในบุฟเฟต์ที่โรงแรมกัน *แก้ไข – ล่าสุดมีรายงานว่าเป็น King Power ที่กรุ่งเทพฯ นะจ๊ะ คลิปนี้โพสต์โดยคุณ Dream’Bd Manthana ซึ่งเป็นภาพที่เล่าว่าไปเจอคนจีนที่บุฟเฟต์โรงแรมแห่งหนึ่งเมื่อตอนเที่ยงของวันที่ 18 เมษายน ซึ่งดูจากคลิปแล้วถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว ไปดูกันเลย It’s buffet time!READ MORE: http://shst.me/buffet Posted by Shanghaiist on Friday, March 18, 2016 จากภาพดูเหมือนว่ากำลังแย่งกุ้งกันอยู่ เจ๊ตรงกลางนี่ชนะเลิศไปเลย ได้ไป 3 จานด้วยตัวคนเดียว เผลอแป๊บๆ หมดถังละ…
-
พ่อลูกชาวจีนใจบุญ รับเลี้ยงหมาจรจัดกว่า 300 ตัว ตลอดเวลา 13 ปีที่ผ่านมา!!
เรื่องที่ #เหมียวฟิ้น จะนำมาเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของสองพ่อลูกสุดใจบุญคู่หนึ่งในมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ที่รับเลี้ยงสุนัขจนจัดมานานกว่า 13 ปี จนพวกเขาเปลี่ยนชีวิตของพวกมันให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พ่อลูกคู่นี้ได้รับสุนัขมาเลี้ยงแล้วกว่า 300 ตัว ซึ่งแต่ละตัวนั้นมีอาการป่วย พิกลพิการ ถูกทารุณกรรม หรือได้รับบาดเจ็บอะไรสักอย่าง โดยตัวลูกสาวอย่าง A Zi ได้เผยว่า พวกเขาเคยแม้กระทั่งไปช่วยสุนัขให้รอดพ้นจากโรงฆ่าสัตว์เลยทีเดียว ในขณะที่พวกเขาต้องพบกับความยากลำบากและสัตว์มากมายหลายรูปแบบตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะล้มเลิกการรับเลี้ยงสัตว์ แถมยังวางแผนที่จะช่วยเหลือสัตว์ให้ได้มากกว่านี้ซะอีก ตามรายงานไม่ได้ระบุจำนวนตัวเลขที่สองพ่อลูกต้องจ่ายเพื่อดูแลสุนัขกว่า 300 ตัว (แต่คาดว่าน่าจะเป็นแสนทีเดียว) คนใจบุญนี่ก็ใจบุญเหลือล้นจริงๆ ส่วนคนใจร้ายก็ร้ายได้แบบจินตนาการไม่ถึงทีเดียว ที่มา shanghaiist
-
สามีภรรยาจีนเงิบ ขนเงินเหรียญกว่าสองล้านไปฝาก สุดท้ายธนาคารไม่รับ เพราะนับไม่ไหว!!
กลายเป็นเรื่องเงิบประจำวันเลยทีเดียว สำหรับหญิงชาวจีนคนนี้ หลังจากเธอต้องการนำเงินเหรียญมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ไปฝากธนาคาร แต่กลับไม่มีธนาคารแห่งใดยอมรับเงินของเธอเลย เรื่องราวดังกล่าวของเธอสองสามีภรรยาจากประเทศจีน พวกเขาเปิดบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศจีน และล่าสุดพวกเขาก็ได้ทำธุรกิจกับบริษัทรถโดยสารแห่งหนึ่ง เมื่อถึงเวลาชำระเงิน บริษัทดังกล่าวกลับนำเงินเหรียญว่า 1.16 ล้านหยวนหรือราว 6 ล้านบาทมาจ่าย ตอนแรกสามีปฏิเสธที่จะรับ แต่ภรรยาของเขากลับยืนยันที่จะรับเงินจำนวนนี้ไว้ ต่อมาเธอตัดสินใจว่า จะนำเงินจำนวนดังกล่าวนี้ไปฝากธนาคาร แต่ถ้าเอาไปทั้งหมด ธนาคารคงไม่รับเป็นแน่แท้ เธอเลยนับเงินราว 5 แสนหยวน แล้วจ้างรถบรรทุกมาขนไปฝากธนาคาร เมื่อไปถึงธนาคารปรากฏว่าธนาคารไม่ยอมรับเงินดังกล่าว พวกเขาบอกว่า การจะนับเงินทั้งหมดนี้ ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก ซึ่งพวกเขามีไม่พอจริงๆ พอได้คำตอบเช่นนั้นสองสามีภรรยาก็ไปถามธนาคารอื่นๆ อีกหลายแห่ง แต่ก็ได้คำตอบคล้ายๆ กันแบบนี้ แต่สุดท้ายแล้ว ธนาคารเกษตรแห่งชาติจีน ก็อาสาเป็นฮีโร่รับเงินจำนวนดังกล่าวเอง พวกเขาบอกว่าลูกค้าส่วนมากของธนาคารเป็นเจ้าของร้านอาหาร และพวกเขาต้องการเงินเหรียญเพื่อใช้ในการทอนเงิน จริงๆ แล้วในหลายๆ ประเทศก็มีกฎหมายในการชำระหนี้ด้วยเหรียญกษาปณ์ อย่างในไทยเองเหรียญ 1 บาท 2 บาท 5 บาท…
-
ชายจีนพิการแขนขาดไม่ยอมแพ้โชคชะตา ประดิษฐ์แขนกลใช้เองจนสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ
แม้ชีวิตของคนเราจะสูญเสียกำลังใจและอะไรหลายๆ อย่างไป แต่ก็อย่างได้ยอมแพ้ต่อโชคชะตาเด็ดขาด เพราะหากคุณลุกขึ้นสู้แบบชายชาวจีนรายนี้ จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับคุณอย่างแน่นอน เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะหยิบมาเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของนาย ซัน จีฟ่า วัย 63 ปี จากจังหวัดจี๋หลิน ประเทศจีน เขาได้สูญเสียแขนไปทั้ง 2 ข้าง แต่ด้วยความไม่ย่อท้อ ทำให้เขาประดิษฐ์แขนเหล็กขึ้นมาใช้ด้วยตนเอง จนได้รับฉายาว่า “ซันแขนเหล็ก” นายซันเล่าว่าเขาได้เข้าร่วมกับกองทัพเมื่อปี 1974 เข้ามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับระเบิดเป็นพิเศษ หลังจากรับใช้ชาติเสร็จแล้วเขาก็ถูกปลดประจำการกลับมาอยู่ที่บ้านและแต่งงานมีครอบครัว วันหนึ่งในเดือนกันยายนปี 1980 เขาได้ออกไปจับปลานอกบ้านเพื่อนำมาทำอาหารให้กับภรรยาของเขา แต่แทนที่จะใช้เบ็ตตกปลาแบบทั่วๆ ไป เขากลับใช้ตัวจุดระเบิดเพื่อระเบิดให้ปลาลอยขึ้นมาเหนือน้ำ แต่โชคร้ายที่ระเบิดดันระเบิดใส่มือของเขาก่อนที่จะระเบิดลงในแอ่งน้ำ ทำให้เขาสูญเสียแขนตั้งแต่ช่วงข้อศอกลงไป ในตอนนั้นนายซันรู้สึกท้อแท้กับชีวิตถึงขั้นอยากจะฆ่าตัวตายเลยทีเดียว โชคดีที่เขาได้กำลังใจจากภรรยา คนรอบๆ ตัว ทำให้นายซันฮึดสู้อีกครั้ง วันหนึ่งในปี 1934 นายซันได้ประดิษฐ์แขนกลขึ้นมาใช้กับแขนที่ขาดไปของเขา มันทำมาจากพลาสติก, ยาง และเหล็ก แต่นั่นยังไม่เป็นที่พอใจสำหรับเขา เลยมีการนำเอาแชนกลมาพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ …
-
ทารกน้อยพลัดตกตึกชั้น 5 หลังคุณยายปล่อยเล่นริมระเบียงคนเดียวจนประตูล็อค
อย่างที่ #เหมียวฟิ้น มักจะบอกกับเพื่อนๆ เสมอว่าไม่ควรปล่อยลูกน้อยไว้ในห้องนอนคนเดียว เพราะเด็กๆ มักอยากรู้อยากเห็นและซนยิ่งกว่าอะไรดี พวกเขาอาจได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลยนะ เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อช่วงบ่าย 3 ของวันที่ 10 มีนาคม หนูน้อยชาวจีนวัย 1 ขวบ ได้พลัดตกลงมาจากระเบียงชั้น 5 ที่อพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่งในเมืองดองกวน ประเทศจีน แต่โชคดีที่มีคนมาช่วยชีวิตไว้ได้ทัน นางสาวซู หนึ่งในผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ที่ชั้นหนึ่งของอาคาร ตอนนั้นฉันได้ยินเสียงร้องของเด็กพอดี ฉันเลยเงยหน้าไปมอง เห็นเด็กนั่งอยู่ที่ริมระเบียงชั้น 5 โดยมีขาข้างหนึ่งยื่นออกมาจากระเบียง” จากนั้นเธอก็รีบเข้าไปที่บ้านของตัวเองเพื่อดึงเอาเตียงออกมารองรับร่างของเด็กน้อยที่กำลังจะตกลงมา แถมยังมีเพื่อนบ้านที่อยู่แถวๆ นั้นเข้ามาช่วยเธอกันยกใหญ่ ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามพังประตูเข้าไปช่วยเหลือเด็กน้อยออกมาจากระเบียง แต่เด็กน้อยดันร่วงลงมาซะก่อน แต่มีคนจำนวนมากช่วยถือที่นอนไว้ด้านล่าง ทำให้เด็กน้อยไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ตามรายงานบอกว่าสาเหตุที่เด็กน้อยตกลงมาจากระเบียงเป็นเพราะว่า ยายอุ้มหลานออกไปเล่นที่ระเบียง เล่นกันไปมาซักพัก คุณยายก็เข้าไปอยู่ฝั่งข้างในแล้วประตูดันล็อค ก็เลยทำให้เข้าไปที่ระเบียงไม่ได้ ซึ่งคุณยายเองสัญญาว่าจากนี้จะจะไม่ละสายตาจากหลานอีกเด็ดขาด ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า…
-
มันต้องไปได้ซิ!! คนขับแท็กซี่ในจีนหัวรั้น ขับรถลงพื้นซีเมนต์ที่ยังไม่แห้ง สุดท้ายติดแหงกจ้า
ทุกครั้งที่หน่วยงานของรัฐมีการปิดถนนเพื่อซ่อมบำรุง พวกเขาก็จำมีการนำเอาป้ายสัญลักษณ์หรืออุปกรณ์ต่างๆ มาวางกั้นไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน แต่ก็ยังมีคนขับรถบางคนที่ดื้อรั้นไม่ฟังใครเหมือนกันนะ… เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถนนเส้นหนึ่งในเมืองฉงฉิ่ง ประเทศจีน ได้มีการซ่อมบำรุงและเทปูนซีเมนต์ลงไปใหม่ โดยนำเอาที่กั้นมาวางไว้อย่างชัดเจน แต่ในขณะนั้นมีแท็กซี่ขับผ่านมาด้วยความเร่งรีบ เลยคิดว่าคงจะไม่เป็นอะไรหากขับผ่านไปด้วยความเร็ว จากนั้นแท็กซี่คันนี้ก็พุ่งลงไปยังพื้นซีเมนต์ที่ยังไม่แห้งดี ผลปรากฏว่าแหง็กซิครับ แท็กซี่คันนี้ไม่สามารถขับต่อไปได้ นอกจากนี้ยังมีพยานที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า รถแท็กซี่คันนี้ไม่ได้มีการชะลอแต่อย่างใด แถมยังขับทะลุสิ่งกีดขวางไปหน้าตาเฉย หลังจากที่คนขับแท็กซี่แหงกอยู่กับถนนได้ไม่นาน เขาก็ตัดสินใจได้เดินไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาเอารถของเขาออกไป ก่อนที่รถของเขาจะติดอยู่กับถนนไปตลอดกาล อยากจะขอเตือนเพื่อนๆ เลยนะว่าหากเจอถนนซีเมนต์ที่ยังไม่แห้งแถวไหน อย่าขับรถไปเหยียบเด็ดขาด (ปกติก็ไม่มีใครเขาขับไปเหยียบอยู่แล้วแหละ) ที่มา shanghaiist
-
เป็นไปได้ไง!? จีนเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ 4 คันชนกันแบบครึ่งวงกลม ตำรวจคาดเกิดจากไม่ให้ทางกัน
อุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นได้ทุกวัน แต่คงจะมีเพียงไม่กี่ครั้งหรอก ที่ทุกๆ คนจะต้องอึ้งและอุทานว่า “มันเกิดขึ้นได้ไงเนี๊ยะ!?” เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าวันที่ 9 มีนาคม ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบนถนน Yizhou ในมณฑลเสชวน ประเทศจีน ระหว่างรถยนต์ 4 คัน แต่ภาพที่เห็นไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดาๆ แต่เป็นภาพที่รถทั้ง 4 คันกำลังคันชนกันเป็นรูปครึ่งวงกลม ทำให้เกิดคำถามว่าพวกเขาขับรถยังไงถึงชนกันแบบนั้น!? เมื่อเข้ามาดูให้ชัดๆ จะเห็นว่ามีรถ 3 คันชนกันจากซ้ายไปขวา ส่วนรถสีขาวที่อยู่ขวาสุดถูกชนที่ด้านท้าย หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวเข้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการสอบสวนโดยด่วน จากอุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้รถบัสที่วิ่งตามมาจากด้านหลังต้องหยุดชะงักลง และส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นได้ยังไง ใครถูกหรือใครผิด แต่โชคดีที่คนขับรถทั้ง 4 คันไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง นี่อาจเกิดจากการที่คนขับรถทั้ง 4 คนไม่ยอมให้ทางแก่รถคันอื่นก็เป็นได้นะ เลยเกิดเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครยอมใครแบบนี้ยังไงล่ะ ที่มา dailymail
-
ผู้โดยสารจีนเปิดประตูเครื่องบินระหว่างรอเทคออฟ อ้าง “ผมจะสูดอากาศบริสุทธิ์” !?
กลายเป็นเรื่องราววุ่นๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนอีกแล้วล่ะ เพราะเมื่อผู้โดยสารเครื่องบินรายหนึ่งดันไปเปิดประตูฉุกเฉินระหว่างรอเครื่องเทคออฟ เพียงเพราะอยากจะสูดอากาศบริสุทธิ์เท่านั้น!? เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าในระหว่างที่เครื่องบินจากสายการบิน China Southern กำลังเตรียมตัวที่จะเทคออฟออกจากสนามบิน จู่ๆ กลับมีผู้โดยสารรายหนึ่งเดินไปเปิดประตูฉุกเฉินแง้มๆ ไว้ เพื่อจะได้รับอากาศบริสุทธิ์ ตามรายงานบอกว่าสายการบินดังกล่าวกำลังจะออกจากมณฑลเฉินตู ไปยังเมืองอุรุมชี ต้องออกเดินทางช้ากว่ากำหนดเกือบ 1 ชั่วโมง ในขณะที่เจ้าหน้าที่สนามบินต้องวิ่งกันวุ่นเพื่อมาปิดประตู และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ สุดท้ายเจ้าหน้าที่บนเครื่องก็พบตัวชายผู้เปิดประตูฉุกเฉินบนเครื่องได้ โดยเจ้าตัวอธิบายว่าตนเองนึกว่าคันโยกของประตูฉุกเฉินคือคันโยกสำหรับเลื่อนหน้าต่างเครื่องบินให้เปิดออก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชาวจีนมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับประตูฉุกเฉิน เพราะมีรายงานกันว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2015 มีผู้โดยสารจีนเปิดประตูฉุกเฉินไปแล้วกว่า 15 ครั้งทีเดียว!! โชคดีที่เครื่องยังคงจอดอยู่กับที่ เพราะหากเปิดประตูฉุกเฉินในระหว่างที่เครื่องกำลังบินอยู่นั้นอาจทำให้ความดันเครื่องต่ำจนผู้โดยสารหายใจไม่ออกและเสียชีวิตได้เลยทีเดียว เล่นเอาตกอกตกใจหมดเลยนะเนี๊ยะ ทีหน้าทีหลังไปสูดอากาศให้ฉ่ำปอดแล้วค่อยขึ้นเครื่องน้า ที่มา shanghaiist
-
อกอีแป้นจะแตก!! จีนจัดกิจกรรมให้คนแข่งกัน “ปลดตะขอบรา” นางแบบกลางห้างสรรพสินค้า!?
วันที่ 8 มีนาคมของทุกๆ ปี จะถือเป็นวันสตรีสากล เพื่อละลึกถึงคุณงามความดีต่อหญิงสาวใรด้านเศรษฐกิจการเมือง และบรบททางสังคมทั่วๆ ไป แต่ที่ประเทศจีนเขามีการเฉลิมฉลองวันดังกล่าวท่ “แตกต่าง” ไปจากภูมิภาคอื่นมากทีเดียว… เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองหลิ่วโจว ประเทศจีน ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองวันสตรีสากลโดยการให้นางแบบ 6 คนมายืนสวมชุดชั้นในกลางห้าง และให้เหล่าอาสาสมัครปลดตะขอที่บราของพวกเธอออกให้เร็วที่สุด!? ตามรายงานบอกว่ากิจกรรมนี้มีผู้เข้าร่วม 8 คนด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นเป็นผู้ชาย โดยกติกามีอยู่ว่า ผู้เข้าแข่งขันจะต้องใช้มือเพียงข้างเดียวในการปลดตะขอให้เร็วที่สุด ซึ่งผู้ชนะได้แก่หนึ่งในหญิงสาวผู้เข้าแข่งขัน โดยใช้เวลาในการปลดตะขอไปทั้งสิ้นเพียง 14 วินาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าผู้จัดงานและคนออกไอเดียดังกล่าวดูจะยังไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ของวันสตรีสากลเท่าไหร่นัก เพราะแทนที่พวกเขาจะสร้างความเท่าเทียมทางเพศกลับนำเอามาเป็นกิจกรรมสนุกสนาน แถมยังสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบออกมาเสียเป็นส่วนใหญ่ เหมียวนี่อึ้งไปเลย ที่มา dailymail
-
เอาอีกแล้ว!! คนจีนกินอาหารแล้วเบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงิน อ้าง เจ้าของร้านคิดเงินเกิน?!?
เรียกว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแทบทุกวันจริงๆ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เข้ามาท่องเที่ยวแล้วสร้างความเดือนร้อนให้กับผู้ประกอบการชาวไทย และวันนี้อีกครั้งกับการกินแล้วไม่จ่าย อ้างว่าแม่ค้าคิดเงินผิด จนเกือบกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เหตุเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 22.00 นาฬิกาของวันที่ 9 มีนาคม 2559 ณ ร้านอาหารของ เจ้าของร้าน นายจอห์น นพดล วศินสุนทร อาจารย์ประจำภาควิชานิเทศศาตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า มีนักท่องเที่ยวชาวจีนไม่ยอมจ่ายค่าอาหาร เพราะเจ้าของร้านคิดเงินเกิน 10 บาท เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วก็พบว่า เงิน 10 บาทที่เกินมานั้น เป็นค่าน้ำแข็ง ซึ่งนักท่องเที่ยวคิดว่า พวกเขานำน้ำเข้ามาทานเอง แล้วทำไมต้องจ่ายค่าน้ำแข็งด้วย พวกเขาจึงไม่ยอมจ่าย ซึ่งการนำน้ำแข็งมาวางบนโต๊ะเช่นนี้ ถือว่าเป็นเรื่องปกติในร้านอาหารไทยอยู่แล้ว สุดท้ายตำรวจก็เข้ามาเคลียร์สถานการณ์จนนักท่องเที่ยวยอมจ่ายเงินส่วนที่เหลือ โดยไม่คิดค่าน้ำแข็งแต่อย่างใด ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันดีกว่า นักท่องเที่ยวจีนเบี้ยวไม่ยอมจ่ายค่าอาหาร อีกแล้ว!!!! 9/3/59 เวลา 22.00 รับแจ้งจากร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ว่ามีเหตุนักท่องเที่ยวจีน กินแล้วไม่ยอมจ่ายตังค์ อ้างว่าเจ้าของร้านคิดเงินเกินควรจากราคาไป 10 บาท เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้ว ทราบว่า ส่วนเกินนั้นเป็นค่าน้ำแข็ง 1…
-
ร้านอาหารข้างถนนในจีนไอเดียแหวก จ้างพริตตี้มายืนหน้าร้านหวังเรียกความสนใจจากคนผ่านไปผ่านมา!?
หากคุณทำธุรกิจค้าขายอาหารตามข้างทาง แล้วอยากจะเรียกความสนใจจากลูกค้าให้ได้มากๆ พวกคุ้ณอาจจะทำโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมหรือสร้างเมนูใหม่ๆ มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองใช่ไหมล่ะ แต่ร้านอาหารที่จีนร้านนี้มีไอเดียที่แปลกแหวกแนวยิ่งกว่านั้น… เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าร้านอาหารตามข้างทางในเมืองเว่ยฟาง มณฑลซานตง ประเทศจีน ได้จ้างนางแบบเอวบางร่างน้อย (แถมยังนุ่งน้อยห่มน้อย) ให้มายืนประจำอยู่ที่หน้าร้าน เพื่อเรียกความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้น ทั้งนี้ไม่มีการรานงานว่าร้านค้าร้านไหนที่เป็นคนเริ่มการจัดกิจกรรมแบบนี้เป็นร้านแรก แต่หลังจากที่มันเริ่มโด่งดัง ร้านค้าอื่นๆ เช่น ร้านขายซุป ขนมปังนึ่ง และอีกมากมาย ก็หันมาจ้างนางแบบพริตตี้สวยๆ มายืนหน้าร้านกับเขาด้วย และแน่นอนว่าการจัดกิจกรรมแบบนี้จะต้องมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างแน่นอน หนึ่งในสมากชิกของโลกออนไลน์ที่ใช้นามแฝงว่า Kuaibao กล่าวว่า “นี่มันเป็นภาพโกหกที่บ่อนทำลายมณฑลซานตงชัดๆ” ส่วนอีกความเห็นหนึ่งบอกว่า “แม่สาวคนนี้ดูน่าเกลียดมาก ฉันแทบจะกลืนอาหารไม่ได้เลย” มีร้านอาหารในไทยร้านไหนสนใจอยากทำแบบนี้บ้างไหม” จ้าง#เหมียวฟิ้นได้นะ ไม่งอแง ยืนนานเท่าไหร่ก็ได้ ที่มา shanghaiist
-
เฉินหลงมาเอง!! หนุ่มจีนแอบเป็นชู้กับแฟนคนอื่น โดดหนีออกระเบียง หลังสามีของเธอกลับมาไม่ทันตั้งตัว
การที่เรารักเดียวใจเดียวนี่ถือเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะมันทำให้ความรักของคนสองคนยั่งยืน ปัญหาอะไรๆ ก็สามารถจัดการได้ง่าย (เมื่อมีน้อยคน) แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณมีอีกคน (หรือที่เราชอบเรียกว่ากิ๊ก) ปัญหาอีนุงตังนังก็จะตามมาแบบนี้แหละ เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอวุ่นๆ ของชายนิรนามชาวจีนที่แอบไปโจ๊ะพรึมๆ กับหญิงสาว ในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง แต่ระหว่างนั้นเองดูเหมือนว่าสามีของฝ่ายหญิงจะกลับมาโดยไม่ทันตั้งตัว เขาจึงรีบโดดออกจากห้องของเธอด้วยความเร็วแสง หนุ่มจีนรายนี้รีบวิ่งออกไปยังอีกห้องหนึ่งที่ไม่ได้ล็อคเอาไว้ และเปิดออกไปยังระเบียงด้านหลังในสภาพที่กำลังนุ่งกางเกงในสีแดงเพียงตัวเดียว จากนั้นเขาก็รีบสวมเสื้อผ้าอย่างว่องไวและห้อยเชือกกับระเบียงเพื่อโรยตัวลงมายังชั้นล่าง คลิปเหตุการณ์ทั้งหมดถูกถ่ายไว้ได้โดยนายหลิวและนายเฉา ทั้งสองพักอาศัยอยู่ในอาคารแห่งนี้เช่นเดียวกัน แต่เมื่อเขาเห็นชายคนหนึ่งโดดออกมาที่ระเบียงเขาก็รีบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอไว้ และเพิ่งจะรู้ตัวว่าห้องที่ชายชู้โดดออกมานั้นเป็นห้องนอนของพวกเขาเอง!? นายหลิวให้สัมภาษณ์กับนักข่าวภายหลังว่าห้องนั้นคือห้องของเขา ซึ่งอาจจะลืมล็อคห้องเอาไว้ ทำให้ชายชู้เข้าไปในห้องนั้นได้นั่นเอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย แหม่ ความกลัวนี่มันทำให้เราทำได้ทุกอย่างจริงๆ ที่มา mirror , 中大电视新闻频道
-
ลองไหม? มหาวิทยาลัยในจีนเสิร์ฟเมนู “ผัดคื่นช่ายสตรอเบอร์รี” นักศึกษาแห่ซื้อหมดภายใน 10 นาที!!
ต้องบอกเลยว่าเมนูนี้เป็นเมนูสุดฮอตจริงๆ สำหรับ “ผัดคื่นช่ายสตรอเบอร์รี” ที่เริ่มกลายเป็นกระแสไปทั่วประเทศจีน จน#เหมียวฟิ้นเองอยากจะลองเอามาชิมมั่งเลย เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่ภาพเมนูอาหารสุดแปลกที่ชื่อว่า “ผัดคื่นช่ายสตรอเบอร์รี” ที่เป็นการนำเอาผลไม้อย่างสตรอเบอร์รีมาผัดรวมกับผักแล้วราดบนข้าว เป็นเมนูแปลกใหม่จากทางมหาวิทยาลัยหูเป่ย ทางโรงอาหารของมหาวิทยาลัยได้เล็งเห็นว่าเหล่านักศึกษาเริ่มจะเบื่ออาหารหน้าตาเดิมๆ แล้ว พวกเขาเลยลองเอาผลไม้มาผสมกันจนกลายเป็นอาหารดู และนำเอาเมนูที่ว่านี้มาเสิร์ฟให้กับนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยด้วย แม้ว่าหน้าตาของมันจะดูแปลกยังไงก็ตาม แต่หลังจากที่วางขายไปได้ไม่ถึง 10 นาที เหล่านักศึกษาก็แห่กันมาซื้อไปกินจนหมดเกลี้ยง หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ของจีน ก็เกิดกระแสในด้านต่างๆ ตามมามากมาย อย่างเช่นผู้ใช้นามแฝงว่า @Manredaxigua กล่าวว่า “นี่คืออาหารที่สร้างสรรค์ที่สุดในมหาวิทยาลัยในประเทศของเราเลย” ส่วน @Lianrumin ได้หยิบเอาเรื่องนี้มาล้อเลียนขำๆ ว่า “เร็วๆ นี้คงต้องมีเมนูไข่กวนพร้อมสตรอเบอร์รีแน่ๆ” เหมียวเองก็จินตนาการไม่ออกแฮะว่ารสชาติมันจะออกมาเป็นยังไง เอาเป็นว่าเย็นนี้เพื่อนๆ ลองซื้อมาทำกินเองที่บ้านดีมะ? ที่มา shanghaiist
-
สาวจีนกว่า 2,000 คน เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อเป็นผู้ชนะได้ไปออกเดทกับเศรษฐีดูไบ!?
ปัจจุบันการที่สาวๆ ในจีนจะได้พบกับผู้ชายดีๆ ฐานะร่ำรวยสักคนจะไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอีกต่อไป เพราะตอนนี้ได้มีการจัดการแข่งขันเพื่อเป็นผู้ชนะและได้ไปเดทกับเศรษฐีในดูไบด้วย!? เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้รายงานว่า มีหญิงสาวชาวจีนกว่าเกือบ 2,000 คนเข้ามาสมัครการแข่งขันที่เมืองเฉินตู มณฑลเสชวน ประเทศจีน เพื่อที่จะได้เป็นหนึ่งในสาวผู้โชคดีไปเดทกับเศรษฐีดูไบ หญิงสาวแต่ละคนจะได้ไปเดทกับหนุ่มดูไบ ซึ่งมีการการันตีเลยว่าแต่ละคนจะมีทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 20 ล้านหยวน หรือประมาณ 250 ล้านบาท ทั้งนี้มีการคัดเลือกสาวงามเหลือเพียง 280 คน โดยจะมีอายุระหว่าง 19 ถึง 48 ปี โดยแต่ละคนมีประวัติที่แตกต่างกันไป บางคนเป็นคุณครูสอนเด็กอนุบาล พนักงานออฟฟิศไปจนถึงนางงามเลยก็มี สาวๆ จะต้องผ่านการคัดเลือกด้วยกันถึง 3 ด่าน พวกเขาถึงจะชนะการแข่งขัน รอบแรกจะเป็นการแข่งขันด้านบุคคลิกภาพ รอบที่สองจะเป็นคุณสมบัติด้านอาชีพการงาน และสุดท้ายจะเป็นการตรวจสอบความสัมพันธ์ในอดีต นอกจากนี้สาวๆ ยังจะต้องเปิดเผยรายชื่อเพื่อนๆ ในแอพฯ WeChat ให้คณะกรรมการดูด้วย โดยพวกเขาจะตรวจสอบว่าคุณมองโลกในแง่ร้ายหรือเปล่า หรือเป็นคนหยาบคายหรือเปล่า คณะกรรมการจะคัดเลือกสาวงามทั้งหมดอีกครั้งให้เหลือเพียง 50 คนจากทั่วประเทศ…
-
กล้าพอป๊ะ!?! ห้างจีนสร้างสไลเดอร์ 5 ชั้น ให้คนที่รักความเสี่ยงเล่น!!
ถ้าพูดถึงประเทศจีนแล้วเราก็คงนึกถึงสินค้าหรืออะไรก็ตามที่แต่ทำออกมาเลียนแบบได้เหมือนแบบจะเป๊ะ แม้กระทั่งเชียงใหม่ พี่จีนเขาก็ทำเมืองจำลองมาด้วยนะเออ และตอนนี้ในห้างหรู Printemps ที่เซี่ยงไฮ้ ก็ได้สร้างอะไรที่มันแปลกไม่เหมือนใคร แบบที่ประเทศไหนไม่คิดจะทำ นั่นก็คือสไลเดอร์สูงขนาด 5 ชั้น เป็นณุปมังกรคดเคี้ยว เพื่อให้คนที่มาเดินห้างได้ลองเล่นกัน ซึ่งถ้าใครถไลลงมาก็จะใช้เวลาทั้งหมด 16 วินาทีก่อนถึงพื้น ดูเหมือนจะเป็นไอเดียที่เจ๋งไปเลยใช่ป่ะ แต่รู้หรือไม่ว่าไม่มีใครกล้าที่จะลองเลย เพราะมันดูไม่ปลอดภัยสุดๆ มีบางคนถึงกับโพสต์ใน Weibo ว่า “ตั้งแต่ฉันได้เห็น ฉันก็คิดถึงหนังเรื่อง Final Destination” บางคนก็บอกว่า “ตูดไหม้แน่ๆ” เราไปดูกันว่ามันน่าหวาดเสียวแค่ไหน อันนี้ถ้ามาจ้างให้ลองเล่นก็ไม่เอาอ่ะ นึกภาพถ้าเราไปติดอยู่กลางลำแล้วมันจะโหดร้ายแค่ไหน ที่มา sobadsogood
-
หลอนหนักมาก!! สาวจีนเสียชีวิตอยู่ในลิฟท์นาน 30 วัน โดยไม่มีใครเอะใจเลยว่าเธออยู่ในนั้น!?
กลายเป็นข่าวที่ชวนให้ขนลุกทีเดียว สำหรับกรณีของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่เสียชีวิตอยู่ในลิฟท์นานกว่า 1 เดือน ภายในอพาร์ทเม้นโดยที่ไม่มีใครเอะใจเลยว่าร่างของเธอติดอยู่ในนั้น!? เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพของหญิงสาวเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่อพาร์ทเม้นในมณฑลส่านซี ประเทศจีน จึงได้ทำการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเธอไปติดอยู่ในนั้นได้อย่างไร? หญิงสาวแซ่หวัง หนึ่งในผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารนี้ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า อาคารมีลิฟท์ 2 ตัว ซึ่งคนที่อาศัยอยู่ในอาคารสามารถใช้มันได้หมด แต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมามีลิฟท์ตัวหนึ่งเกิดเสียโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่เมื่อวันที่ 1 มีนาคม เธอกลับมาจากที่ทำงานตามปกติ เธอก็เห็นรถพยาบาลมาจอดอยู่ที่หน้าอพาร์ทเม้น และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกับแพทย์ยืนอยู่ด้านนอกอาคารจำนวนมากทีเดียว “ตอนแรกฉันคิดว่าหนึ่งในผู้สูงอายุในอาคารนี้จะเจอปัญหาเข้าซะแล้ว แต่ตำรวจบอกฉันว่ามีการพบศพในลิฟท์” ทั้งนี้ผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารแห่งนี้คาดการณ์กันว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเสียชีวิตจากการอดอาหารเป็นเวลานาน มันเลยทำให้ภายในลิฟท์เกิดภาพที่ไม่น่าดูสักเท่าไหร่ ตามแหล่งข่าวไม่ได้ระบุว่าผู้ตายเข้าไปติดอยู่ในลิฟท์นานขนาดนั้นได้อย่างไรโดยที่ไม่มีครอบครัว เพื่อน หรือใครเอะใจเลยว่าเธอหายไป ทั้งนี้มีการเรียกร้องให้ทางลิฟท์ติดตั้งระบบเตือนภัยเพื่อให้คนที่อาจติดอยู่ในลิฟท์สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากคนภายนอกได้ เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุที่คาดการณ์ไม่ได้จริงๆ จะขึ้นลิฟท์ที่ไหนก็ดูลู่ทางดีๆ นะ ที่มา shanghaiist
-
นางแบบสาวชาวจีนวัย 25 ปี เสียชีวิตหลังเข้ารับศัลยกรรมเสริมหน้าอก เพราะคิดว่าอกของตัวเองเล็กไป
การพอใจในสิ่งที่ (เรือนร่าง) ตนเองมีนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะหากคุณไม่พอใจและหันหน้าเข้าหาการศัลยกรรม คุณอาจจะต้องยอมรับผลที่ตามมา ซึ่งมันอาจร้ายแรงต่อชีวิตคุณเลยก็ได้ เหมือนเช่นเรื่องราวของนางแบบสาวรายนี้ เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของนางแบบสาว Ting Ting วัย 25 ปี จากประเทศจีน ที่กังวลเกี่ยวกับขนาดหน้าอกและดวงตาของเธอที่ดูเล็กจนทำให้เธอหมดความมั่นใจ เธอจึงซื้อแพ็คเกจศัลยกรรมที่คลินิก Shenzhen Beauty มูลค่า 45,600 หยวน หรือประมาณ 248,000 บาทเพื่อเสริมหน้าอกและทำดวงตาไปพร้อมๆ กัน คลีนิคเริ่มทำศัลยกรรมให้ Ting Ting เมื่อช่วง 10 โมงครึ่งในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ได้รูปตามที่เธอต้องการ โดยขั้นแรกคุณหมอได้ให้ยาสลบแก่เธอเพื่อเริ่มทำดวงตาของเธอ ก่อนที่จะให้ยาสลบเพิ่มเพื่อทำหน้าอกของเธอในขั้นต่อไป แต่ในระหว่างนั้นเองชีพจรและความดันของ Ting Ting กลับลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว คุณหมอจึงรีบฉีดอะดรีนาลีนเพื่อกระตุ้นหัวใจของเธอ แต่หัวใจของเธอกลับหยุดเต้นลงในที่สุด แต่ถึงแม้เธอจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม ทางคลีนิคกลับไม่ได้แจ้งให้ครอบครัวของ Ting Ting ทราบในทันที กว่าจะแจ้งเวลาก็ล่วงเลยมาถึงช่วง…
-
จีนสร้างชุมชนใหม่ๆ กว่า 100 แห่งเพื่อรองรับแรงงานต่างจังหวัดกว่า 250 ล้านคนที่กรูกันไปทำงานในเมือง
อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศจีนนั้นกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาเศรษฐกิจให้เจริญรุ่งเรือง พวกเขาก็เลยวางแผนที่จะสร้างชุมชนใหญ่ๆ ขึ้นอีก 100 แห่ง เพื่อรองรับชาวเมืองกว่า 250 ล้านคน ที่จะย้ายจากชนบทหรือต่างจังหวัดเข้ามาอยู่ในตัวเมืองเพื่อทำงาน เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานทางรัฐบาลของจีนได้มีแผนจะเคลื่อนย้ายประชาชนจากชนบทเข้าไปอยู่ในเมือง จึงวางแผนสร้างเขตชุมชนใหม่ๆ ขึ้นถึง 100 แห่งด้วยกัน โดยคาดว่าโครงการทั้งหมดนี้จะสำเร็จลุล่วงภายในปี 2026 แต่ในระหว่างนี้เอง อาคารบ้านเมืองที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสวยหรู กลับยังไม่มีคนเข้ามาอาศัยอยู่แม้แต่คนเดียว อาจจะเพราะว่ายังไม่ถึงกำหนดการที่จะอนุญาตให้ชาวจีนย้ายเข้าที่พักนั่นเอง ทำให้ชุมชนและอาคารจำนวนมากกลายเป็นอาคารร้างคล้ายกับหมูบ้านผีสิงเลยก็ว่าได้ แม้อาคารเหล่านี้จะยังไม่มีคนอยู่อาศัย แต่เนื่องด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัยประหนึ่งภาพยนตร์โลกอนาคต ทำให้อาคารเหล่านี้ดูสวยงามแปลกตาจนช่างภาพชาวอเมริกันอย่างนาย Kai Caemmerer จากรัฐชิคาโกหลงไหลในความงาม จนต้องออกเดินทางไปถ่ายภาพอาคารเหล่านั้นในปี 2015 และตั้งชื่อผลงานว่า ‘Unborn Cities’ ตามรายงานบอกว่านาย Caemmerer เดินทางไปถ่ายภาพตึกรามบ้านช่องเหล่านี้ภายในระยะเวลา 80 วัน โดยจะถ่ายเฉพาะช่วง ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นและช่วงหลังพระอาทิตย์ตกเท่านั้น ลองไปชมผลงานภาพถ่ายเขาดูเลย …
-
อั้วไม่จ่าย!! นักท่องเที่ยวจีนโวยร้านอาหาร ทำไม่อร่อย ให้น้อย ประท้วงไม่จ่ายเงิน!?
แม้ว่าประเทศไทยจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวจีน จนมีกรุ๊ปทัวร์พากันมาเที่ยวที่นี่อย่างไม่ขาดสาย แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆ เสมอไปล่ะ เพราะมีข่าวคราวว่านักท่องเที่ยวจีนพากันขับรถชนชาวไทยมาแล้วหลายต่อหลายครั้งเนื่องจากไม่เข้าใจกฎหมายจราจรบ้านเรา ล่าสุดมีเรื่องราววุ่นๆ ของนักท่องเที่ยวจีนมาให้เราได้เห็นอีกแล้ว เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มหนึ่งที่เดินทางไปแวะทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ แต่กลับโวยวายขอไม่จ่ายเงิน เพราะอ้างว่าอาหารไม่อร่อยแถมยังได้น้อยอีกต่างหาก ลองชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย แก๊งจีนโวยลั่น! ขอไม่จ่าย..เพราะอาหารไม่อร่อย::–> แก๊งจีนโวยลั่น! กินไม่จ่าย..เพราะอาหารไม่อร่อย <–:: โดย@รักฟ้า เภตรา_[ได้โพสต์ไว้ว่า]: แดกแล้วไม่ยอมจ่ายคะ !! บอกอาหารไม่อร่อย ได้น้อย แพง งู้นงี้ แต่..แดกหมด !! ปล. #โปรดใช้วิจารณญาณ ~ CREDIT: @รักฟ้า เภตรา |https://goo.gl/DyBnIG ************************* ขอบคุณคลิปแนะนำจาก––@Ruttanarut Chaikaew Posted by YouLike (คลิปเด็ด) on 28 กุมภาพันธ์ 2016 หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป คุณรักฟ้า เภตรา ก็ได้ออกมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของคลิปนี้เองพร้อมทั้งให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า “หนูเป็นคนถ่ายคลิปค่ะ แย่มาก! ดูเมนูทั้งที่รู้ว่ามันแพง แต่ก็ยังสั่ง!…
-
BiWa นวัตกรรมใหม่ล้ำๆ ออกแบบมาเพื่อเอาใจคนรักความสะอาดและสุขภาพ ‘ปั่นเพื่อซักผ้า’
ไลฟ์สไตล์ของมนุษย์ในยุคปัจจุบันคงต้องยกให้กับคำว่า ‘เร็ว’ และ ‘แรง’ ฮร่าาาา นั่นก็เป็นเพราะว่าด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทำให้คนเรามีความสะดวกสบายมากขึ้น เพื่อทดแทนในเรื่องของความยุ่งเหยิงกับการทำหลายสิ่งหลายอย่างในเวลาเดียวกัน หากคุณเป็นคนที่ชอบปั่นจักรยาน รับรองว่าจะต้องชอบสิ่งนี้แน่ๆ เพราะมันคือจักรยานปั่นซักผ้า Bike Washing Machine เรียกสั้นๆ ว่า BiWa ออกแบบโดยนักศึกษาจาก Dalian Nationalities University ประเทศจีน โดยนำการซักผ้ากับการปั่นจักรยานมารวมกันให้เป็นเครื่องมืออเนกประสงค์ชิ้นนี้ได้อย่างลงตัว หลักการทำงานของมันก็ง่ายๆ โดยในส่วนล้อของจักรยานก็จะเป็นช่องปั่นซักผ้า ใส่ผ้าเข้าไปข้างในจากนั้นก็ขึ้นควบแท่นจักรยาน ปั่นไปตามแรงเพื่อให้ล้อช่องปั่นซักผ้าหมุนนั่นเอง นอกจากจะปั่นออกกำลังกายได้ ซักผ้าไปด้วยแล้ว การปั่นออกแรงจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อนำมาใช้แสดงหน้าจอสถานะต่างๆ หรือเก็บกระแสไฟเอาไว้ใช้ต่อในครั้งหน้าก็ได้ แต่น่าเสียดายที่ยังเป็นเพียงแค่คอนเซปต์อยู่ แหม่!! ว่าแต่แนวคิดดีจริง อะไรจริง #เหมียวเลเซอร์ นี่อยากได้มาใช้เองเลยนะเนี่ย ‘ปั่นเพื่อซักผ้า’ ที่มา : huffingtonpost, tuvie, mymodernmet, designyoutrust
-
เหมียวอ่าน 3 รอบแล้วงงมาก!! จีนเปิดตัวหนังใหม่เกี่ยวกับไทย “สยามตายหมอนวด” !?
ดูเหมือนว่าในระยะหลังมานี้ สื่อภาพยนตร์ในจีนจะให้ความสนใจกับเรื่องราวในประเทศไทยมากขึ้น อาจเป็นผลพวงมาจากภาพยนตร์เรื่อง Lost in Thailand เมื่อปี 2012 ทำให้ทีมผู้สร้างภาพยนตร์ในจีนเริ่มดึงเอาผู้กำกับไทยไปทำหนังให้กับพวกเขา อย่างเช่นล่าสุดสตูดิโอภาพยนตร์ในจีนได้จ้าง ทวีวัฒน์ วันทา ผู้กำกับชาวไทยที่เคยกำกับ ทองสุก 13, อสุจ๊าก และขุนกระบี่ ผีระบาด ไปทำหนังสยองขวัญเรื่องใหม่ให้ แต่ที่กลายเป็นประเด็นไปทั่วโลกออนไลน์ก็คงจะเป็นชื่อไทยของหนังเรื่องนี้นี่แหละ เพราะชื่อไทยของหนังเรื่องนี้มีชื่อว่า สยามตายหมอนวด เล่นเอาชาวไทยถึงกับงงเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะอ่านท่าไหนหรือพลิกกี่ตลบมันก็ดูงงๆ อยู่ดี แถมยังมีคำโปรยชวนงงอีกว่า “ครั้งแรกในไทยกับอาจารย์แนวสยองขวัญระทึกขวัญครั้งแรกในประเทศจีน” ทำให้งงเข้าไปใหญ่ว่าตกลงแล้วในจีนหรือในไทยกันแน่? นอกจากนี้ชาวเน็ตยังได้ตั้งข้อสังเกตกันว่าชื่อไทยที่ได้มาแบบงงๆ นี้อาจจะเกิดจากการใช้ Google Translate ก็เป็นได้ ซึ่งเมื่อนำเอาชื่อหนังภาษาจีนไปแปลแล้วก็ปรากฏว่าใช่จริงๆ !! แปลจาก Google Translate จริงๆ ด้วย ชมตัวอย่างหนังได้ที่ด้านล่างเลย ตัวหนังก็น่าสนใจดีนะ แต่#เหมียวฟิ้นว่า ลองเปลี่ยนชื่อซะหน่อยดีไหม? ที่มา ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นชีส
-
เก่งเกินไปแล้ว!! หนุ่มจีนเล่นตู้คีบตุ๊กตาได้มากถึง 3,000 ตัวใน 6 เดือน จนเจ้าของขอร้องให้หยุดเล่น!?
เพื่อนๆ คงจะเคยเห็นตู้คีบตุ๊กตาถูกวางไว้ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ใช่ไหมล่ะ บางคนอาจจะเคยคีบตุ๊กตามาได้บ้าง แต่บางคน (เช่นเหมียว) ขอบอกเลยว่ามันเป็นเรื่องยากมาก เพราะมือหุ่นยนต์มันช่างอ่อนปวกเปียกสุดๆ คีบไม่เคยจะได้ แต่นั่นไม่เป็นปัญหาสำหรับหนุ่มจีนรายนี้ เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Dailymail รายงานว่าชายหนุ่มนามว่า Chen Zhitong ทำงานอยู่ในบริษัทไอทีแห่งหนึ่ง ในมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งตู้คีบตุ๊กตา” เพราะเขาคีบตุ๊กตามาแล้วกว่า 3,000 ตัว!! ตามรายงานบอกว่านาย Chen เล่นตู้คีบตุ๊กตามาแล้วมากมาย ภายในเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น จนเจ้าของตู้คีบตุ๊กตาต้องขอร้องให้เขาหยุดเล่นตู้คีบตุ๊กตาของพวกเขา แต่นาย Chen กลับไม่สนใจคำขอร้อง และยังจะเล่นตู้คีบตุ๊กตาต่อไป นอกจากนี้ตามรายงานยังบอกอีกว่าเจ้าของตู้คีบตุ๊กตาในแถบฝูเจี้ยนนั้น รู้จักนาย Chen กันเป็นอย่างดี และพวกเขาพยายามจะติดสินบนแก่เขาเพื่อขอร้องให้หยุดเล่นตู้คีบตุ๊กตาของพวกเขาซะ เพราะสูญเงินและกำไรกับนาย Chen ไปเยอะทีเดียว นาย Chen ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเขามักจะเลี้ยงข้าวผมและขอให้ผมหยุดเล่นตู้คีบตุ๊กตา พวกเขาไม่อยากจะขาดทุนไปมากกว่านี้แล้ว” ดูจากสถานการณ์แล้ว การจะหยุดนาย Chen ได้มีวิธีเดียว…ปิดตู้คีบตุ๊กตาซะ…
-
เหงาน่าดู…โรงเรียนประถมในจีน เหลือนักเรียนเพียงคนเดียว เพราะผู้ปกครองพาลูกๆ ไปเรียนในเมืองกันหมด
เชื่อว่าในสมัยเรียน เพื่อนๆ คงเคยผ่านประสบการณ์สุดอ้างว้างอย่างเช่นเพื่อนสนิทไม่มาโรงเรียน หรือเพื่อนในห้องต้องแยกย้ายกันไปเรียนต่อ จนทำให้รู้สึกเหงาๆ กันบ้างใช่ไหมล่ะ แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีใครเหงาเท่าเด็กชายคนนี้อีกแล้ว เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยภาพสุดว้าเหว่ของเด็กชายหลิว เจียนคัง เด็กนักเรียนในโรงเรียนประถม Taohuagou ในมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ที่นักเรียนอยู่ภายในห้องเรียนเพียงคนเดียว หนำซ้ำทั้งโรงเรียนยังมีนักเรียนเพียงแค่เขาคนเดียวอีกด้วย ทางด้านคุณครู หลิว เซาหมิง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า โรงเรียนแห่งนี้เคยมีนักเรียนมากถึง 300 คน และคุณครูอีกกว่า 30 คนทีเดียว แต่เนื่องจากเหล่าผู้ปกครองต้องการให้ลูกๆ ได้เรียนในเมืองเพื่อสร้างโอกาสทางหน้าที่การงานที่ดีกว่า พวกเขาจึงทยอยพาลูกหลานออกไปจากที่นี่กันจนหมด ทั้งนี้ตามรายงานยังบอกอีกว่าสาเหตุที่เด็กชายหลิวยังคงเรียนที่นี่เพียงคนเดียวก็เพราะว่าพ่อแม่ของพวกเขาต้องปล่อยให้ลูกชายเรียนอยู่ที่ต่างจังหวัดแทนที่จะเข้าไปเรียนในเมืองกับพวกเขา เนื่องจากการเดินทางไปอยู่ในเมืองนั้นมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่า และพ่อแม่ของพวกเขาก็ต้องทำงานเพื่อหาเงินเลยไม่สะดวกที่จะพาลูดชายไปกับพวกเขาด้วย นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของการขับเคลื่อนเศษฐกิจในจีน ที่ผลักดันให้คนเข้าไปทำงานในเมืองมากกว่าที่ชนบท ทำให้เหล่าพ่อแม่หลายๆ คนต้องทิ้งให้ลูกๆ เติบโตโดยที่ไม่มีพวกเขา (หรือเพื่อนร่วมชั้น) อยู่เคียงข้างนั่นเอง น่าสงสารน้องเขาจัง หวังว่าจะมีเพื่อนใหม่มานั่งเรียนด้วยนะ ที่มา shanghaiist
-
สาวจีนขับรถไม่คล่อง ใส่เกียร์ถอยระหว่างจอด ทำรถ Volkswagen ตกลานจอดรถสูง 4 เมตร!!
นี่อาจเป็นอุทาหรณ์สอนใจสาว (หรือหนุ่มบางคนที่ขับรถไม่คล่อง) ว่าเวลาจะจอดรถ ควรจะเช็คเกียร์ของคุณให้ดีๆ ซะก่อน เพราะหากเข้าเกียร์ผิดอาจทำให้รถของคุณเจ๊งไม่มีชิ้นดีแบบนี้ เมื่อวันที 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหญิงสาววัย 38 ปี จากเมืองฉงชิ่งประเทศจีน ที่ไม่ได้ขับรถมาเป็นเวลานาน ได้พยายามจอดรถบนลานจอดรถที่ด้านหลังมีถนนต่างระดับถึง 4 เมตร และใครๆ ก็คงรู้ดีว่าเวลาจะจอดรถนั้นควรจะเข้าเกียร์ว่างและดึงเบรคมือ แต่สาวจีนรายนี้กลับใส่เกียร์ถอย ทำให้รถ Volkswagen คันงามของเธอถอยหลังและร่วงลงไปยังถนนด้านล่างจนพังยับเยินเหมือนรถของเล่น แต่โชคดีที่เจ้าตัวปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน และนี่คือสภาพรถของเธอที่ไม่ต่างอะไรกับรถของเล่นเด็กเลย ทีหน้าทีหลังเวลาจะจอดรถที่ไหนก็ตาม ลองเช็คดูนะว่ารถของคุณอยู่ในเกียร์ว่างหรือเปล่า หรือถ้าเป็นเกียร์ออโต้ ลองเช็คดูว่าอยู่ในเกียร์ P ไหม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากจอดในห้างหรือจอดซ้อนคันก็ไม่ควรดึงเบรคมือเอาไว้นะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
คนไข้สติแตกหยิบมีดจี้คอพยาบาลสาว แต่ทุกคนมัวแต่ถ่ายคลิป เจ้าตัวเลยแจ้งตำรวจเองซะเลย!?
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าพยาบาลสาวในโรงพยาบาลนานกิง ประเทศจีน ถูดผู้ป่วยสติแตกรายหนึ่งจับเป็นตัวประกันพร้อมกับใช้มีดจี้ไปที่คอของเธอ ทำให้เหล่าคนไข้คนอื่นในโรงพยาบาลพากันแตกตื่นไปตามๆ กัน ตามรายงานบอกว่าคนไข้รายนี้มีอายุราว 40 ปี เอาแต่ตะโกนโหวกเหวกว่า “ฉันไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไปแล้ว มีบางคนกำลังวางแผนจะฆ่าผมอยู่!!” จากนั้นเขาก็คว้ามีดปอกผลไม้ขึ้นมาแล้วจี้มันไปที่คอของพยาบาลสาว แต่แทนที่คนไข้คนอื่นๆ จะพยายามเรียกตำรวจหรือช่วยพูดให้ชายคนนี้สงบสติอารมณ์ลง กลับเอาแต่หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพและคลิปวิดีโอกันยกใหญ่ และก่อนที่เรื่องราวจะใหญ่โตไปกว่านั้น เขาได้บอกให้คนไข้ที่อยู่ใกล้ๆ เขาโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาจับตัวเขาด้วยตัวเอง (!?) เมื่อตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุก็สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ และช่วยตัวพยาบาลสาวออกมาได้โดยไร้รอยขีดข่วน ใครที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ให้รีบแจ้งตำรวจนะจ๊ะ ไม่ใช่เอาแต่ถ่ายคลิปจนต้องให้คนร้ายมาเตือนแบบนี้ ที่มา shanghaiist
-
ชาวนาจีบหัวใส หยิบตุ๊กตายางที่ไม่ได้ใช้แล้วทำหุ่นไล่กา แหม…ประหยัดเงินไปได้เยอะ!!
หากนึกถึงหุ่นไล่กา เราอาจนึกภาพของหุ่นฟางหน้าตาน่ากลัวหรือไม่ก็หุ่นที่ทำจากไม้ แต่สำหรับชาวนาชาวจีนคนนี้ ต้องบอกว่าเปิดมิติใหม่แห่งวงการหุ่นไล่กาเลยทีเดียว เพราะเขานำ “ตุ๊กตายาง” มาทำหุ่นไล่กานั่นเอง!! ภาพที่เราเห็นคือ มีตุ๊กตายางสภาพสะบักสะบอม ถูกนำมาทำเป็นหุ่นไล่กาพร้อมสวมหมวกสีเหลือง ตั้งอยู่ใกล้กับไซต์งานก่อสร้าง ในเมืองเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ซึ่งเจ้าหุ่นไล่กาตัวนี้ ได้สร้างความตกอกตกใจให้แก่ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะใบหน้าอันร่าเริงแต่ไม่มีชีวิตชีวาของมัน หลายคนอาจบอกว่าแปลก แต่สำหรับชาวจีนแล้ว ตุ๊กตายางนั้นเป็นสิ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย (และหลากหลาย) มาก เช่นบริษัทจีนได้นำ “ตุ๊กตายาง” มาแจกให้กับพนักงานชาย แทนเงินโบนัสปลายปี จนกลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกมาแล้ว ถ้าเหมียวเจอแบบนี้ดึกๆ เหมียวว่าต้องมีวิ่งกันเปิดเปิงกันบ้างล่ะ จะน่ากลัวไปไหนเนี่ย หุ่นไล่กาปกติยังไม่น่ากลัวขนาดนี้เลย จริงมั้ยเพื่อนๆ (ฮา) ที่มา Metro
-
จีนเตรียมสร้าง “กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุด” เพื่อตรวจหาเอเลี่ยนจากนอกโลก
สิ่งหนึ่งที่ยังเป็นคำถามมาจนถึงปัจจุบันก็คือนอกโลกยังมีสิ่งมีชีวิตอยู่หรือไม่ ถ้ามีจริงๆ มันจะมีลักษณะเหมือนคน มีความรู้ มีความคิดเหมือนกันรึเปล่า หรือว่าจะมาแบบซุปเปอร์แมนไปเลย เพื่อตอนปัญหานี้ นักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ต่างก็พยายามสร้างสิ่งประดิษฐ์เพื่อตรวจหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก แต่มาจนถึงตอนนีก็ยังไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันที่สามารถพิสูจน์ได้จริงๆ รัฐบาลจีนเล็งเห็นว่าปัญหานี้ควรได้รับการแก้ไข จึงจัดการสร้างโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อตรวจหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก โดยตั้งชื่อมันว่า Five-hundred-metre Aperture Spherical Radio Telescope (FAST) ซึ่งความกว้างของมันประมาณ 30 สนามฟุตบอลนั่นเอง ถ้ามองดีๆจะเห็นว่ามันประกอบจากสามเหลี่ยมเล็กๆ ทำเป็นรูปจานขนาดใหญ่ เพื่อที่ว่าจะสามารถรับคลื่นวิทยุได้ดี โดยจะให้วิศวกรและนักวิทยาศาสตร์หลายคนร่วมกันค้นหาสิ่งเหล่านี้ ด้วยการตรวจจับที่ไกลถึง 10,000 ล้านปีแสงเลยทีเดียว แต่การสร้างก็ต้องแลกมาด้วยการเชิญชาวบ้านในแถบนั้นให้ย้ายออกไปด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่จนที่สุดในประเทศ แต่ทางรัฐก็มีค่าชดเชยให้ประมาณ 66,000 บาท ที่มา orzzzz
-
หนุ่มจีนสุดชอกช้ำเพิ่งเลิกแฟน เลยจองตั๋วหนังทั้งโรง แบบไม่ให้คู่รักได้สวีทกันวันวาเลนไทน์!!
นี่สินะคือต้นฉบับของแฮชแท็ก #โสดแล้วพาล ของจริง เมื่อหนุ่มโปรแกรมเมอร์ชาวจีนเพิ่งเลิกกับแฟนเมื่อช่วงปีก่อน เลยพาล จองตั๋วหนังทั้งโรง แบบไม่ให้คู่รักได้นั่งคู่กัน!! โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยหนุ่มโปรแกรมเมอร์เจ้าของนามแฝง “UP” ได้ทำการระดมทุนผ่านอินเตอร์เน็ต เพื่อจัดแคมเปญต่อต้านการสวีทกันวันวาเลนไทน์ของเหล่าคู่รัก เขาเล่าว่าเขาเลิกกับแฟนไปเมื่อช่วงปลายปีก่อนหลังจากนั้น และเขาพบว่าเขาไม่อยากไปนั่งอยู่ในโรงหนัง ท่ามกลางคู่รักที่กับหวานชื่นกันอยู่ เขาจึงจัดแคมเปญระดมทุนผ่านอินเตอร์เน็ตขึ้นมา เพื่อนำเงินมาเหมาซื้อที่นั่งในโรงหนังแห่งหนึ่งในเมืองเซี่ยงไฮ้ทั้งโรง จากนั้นเขาก็ปล่อยให้เจ้าของโรงหนัง ขายตั๋วบางส่วนได้โดยไม่ให้มีเก้าอี้ว่างติดกัน ทำให้เหล่าคู่รักที่ต้องการจะดูหนังรอบนี้ ไม่สามารถนั่งด้วยกันได้ “ผมเชื่อว่าคู่รักทุกคนต้องเข้าใจผม มันเป็นแค่มุขตลกนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง ถ้าอยากดูหนังวันวาเลนไทน์เหรอ? ก็นั่งแยกกันแล้วกัน” นาย UP กล่าว แหม ทำไปได้ เรียกว่าโสดแล้วพาลจริงๆ ใครอยากเอาไปลองทำบ้างมั้ยล่ะ ฮาาา ที่มา Dailymail
-
เฮ้ย!! ชาวจีนขนไก่และเป็ดกลับบ้านหลังเทศกาลตรุษจีน ด้วยการห้อยถุงก๊อบแก๊บไว้หลังรถ!?
หลังจากที่ชาวจีนหยุดยาวในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน ก็มีอันต้องโบกมือลาวันหยุดยาวแล้วในวันนี้ และกลับไปทำงานทำการกันเสียที ชาวจีนส่วนใหญ่ก็ขับรถจากต่างจังหวัดกลับเข้าเมืองไปทำงานกันต่อในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทางบ้านของแต่ละคนก็จะต้องมีของฝากให้ลูกๆ หลานๆ เอากลับไปกินกันต่อที่บ้าน แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า “วิธีการ” ขนกลับไปมันจะชวนเหวอได้ขนาดนี้!? เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เฟซบุ๊กเพจของสำนักข่าว People’s Daily, China ได้เผยแพร่ภาพสุดแปลกที่มีคนถ่ายได้ระหว่างการเดินทางบนถนนในจีน เผยให้เห็นภาพรถเก๋งคันงามกำลังขนเป็ดและไก่ขึ้นรถไปด้วย แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือพวกเขานำเป็ดและไก่ใส่ถุงก๊อบแก๊บแล้วห้อยไว้ท้ายรถ บางคันถึงขั้นเอาสก็อตเทปมาพันไว้รอบๆ ตัวไก่เพื่อไม่ให้มันดิ้นหลุดไปไหน ทำเอาผู้ใช้รถใช้ถนนถึงกับอึ้งกิมกี่เลยทีเดียว ขนไก่กลับบ้านน่ะไม่เป็นไร แต่พี่ไม่คิดจะหากรงหากล่องอะไรใส่ให้ดีๆ หน่อยเหรอ? ที่มา People’s Daily, China
-
เล่นเสียวไม่เลิก!! กลับมาอีกครั้งกับ 3 หนุ่มรัสเซียจมปีนตึก คราวนี้บุกไปถึงเมืองจีนเลย
บางคนอาจจะเคยได้ยินหรือได้เห็นชื่อของแก๊งวัยรุ่นรัสเซีย Madkhorov และ Raskalov มาบ้าง พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ชอบท้าทายความตายด้วยการแอบขึ้นไปปีนตึกสูงๆ ตามที่ต่างๆ แล้วถ่ายคลิปมาให้ชาวเน็ตได้ชมกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า แก๊งวัยรุ่นรัสเซียกลุ่มนี้ได้พากันไปปีนตึกระฟ้าแห่งใหม่อีกแล้ว คราวนี้เป็นตึกชุนหิงสแควร์ในเมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อดูจากภาพความสูงแล้วถึงกับอ้าปากค้างเลยทีเดียว เพราะตึกแห่งนี้เป็นตึกระฟ้าที่มีความสูงถึง 384 เมตร มีทั้งหมด 69 ชั้น และสร้างเสร็จเมื่อปี 2539 และพวกเขาจะพิสูจน์ให้เห็นว่าระดับความสูงแค่นี้ไม่สามารถหยุดพวกเขาได้ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หนุ่มๆ แก๊งนี้พากันไปปีนตึกท้าตาย เพราะเมื่อปีที่แล้วพวกเขาก็เคยไปปีนตึกระฟ้าที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกที่เซิ่นเจิ้นมาแล้ว เล่นอะไรก็อย่าให้มันหวาดเสียวหรือเดือดร้อนคนอื่นเลยนะ เกิดพลาดท่าตกลงไปรับรองว่าไม่สวยแน่ๆ ที่มา shanghaiist , on the roofs
-
ชาวเชียงใหม่โอด นักท่องเที่ยวจีนแห่ขับรถมาไทย เกิดอุบัติเหตุกลับไม่จ่ายสักบาท!?
ในช่วงนี้ดูจะมีนักท่องเที่ยวจีนหลั่งไหลกันเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทยอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในแถบจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนแห่กันขับรถเข้ามาเที่ยวในตัวเมือง จนชาวเชียงใหม่หลายคนโอดครวญเกี่ยวกับปัญหารถติดและอุบัติเหตุพอสมควร และหากใครได้ติดตามข่าวคราวในช่วงนี้จะพบว่ามีรถยนต์ของนักท่องเที่ยวชาวจีนเกิดอุบัติเหตุชนกับรถของชาวไทยหลายครั้ง อันเนื่องมาจากกฎหมายจราจรและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก อินทิรา อุ๋มอิ๋ม ก็ได้บอกเล่าประสบการณ์ที่ตนเองถูกรถยนต์ของนักท่องเที่ยวจีนชนมาเหมือนกัน โดยเจ้าตัวเล่าว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณบ่าย 2 ของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เธอได้ขับรถจากลำปางไปเชียงใหม่ แต่ระหว่างทางกลับเจอรถของคนจีนพุ่งออกมาจากซอยทางด้านซ้ายมืออย่างกะทันหันและชนเข้าที่ด้านข้างของรถยนต์เธอ จากการปะทะทำให้รถของเธอได้รับความเสียหาย ทั้งยางแตก ฝาครอบไฟเลี้ยวแตก และกันชนหน้ายุบ ทั้งนี้เมื่อเธอขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่ได้รับความช่วยเหลือเท่าไหร่ เพราะเห็นว่านักท่องเที่ยวเป็นชาวจีนมีเพียงพรบ.คุ้มครองเฉพาะตัวบุคคลเท่านั้น อ่านเรื่องราวของเธอแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย เป็นแบบนี้ก็แย่เลยนะเนี๊ยะ หรือว่าเราควรจะมีมาตรการอะไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายแบบนี้ไหม? ยังไง#เหมียวฟิ้นขอฝากเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยนะจ๊ะ ที่มา อินทิรา อุ๋มอิ๋ม
-
เสียวไปยันต่อมหมวกไต!! นักท่องเที่ยวจีนนับพันแห่เดินขึ้นเขาในฉงชิ่ง ทางเดินหวาดเสียวมาก!!
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบความหวาดเสียวและมีแพลนว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศจีน คุณอาจจะอยากมาที่นี่ก็ได้ เพราะวันนี้#เหมียวฟิ้น จะพาเพื่อนๆ เดินทางไปยังเมืองฉงชิ่ง เพราะที่นั่นมีทางเดินขึ้นเขาเส้นเล็กๆ ชวนหวาดเสียวไปยันไส้ติ่งและต่อมหมวกไตเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในเมืองฉงชิ่งประเทศจีน ได้มีการเปิดตัวทางขึ้นเขาแห่งใหม่ บนภูเขา Qianjiang Guangyin ซึ่งอยู่ห่างจากระดับพื้นดินกว่า 500 เมตร ทั้งนี้มีรายงานกันว่าหลังจากที่มีการเปิดตัวสะพานไปได้ไม่นาน ก็มีนักท่องเที่ยวและชาวจีนที่แสวงหาความตื่นเต้นจำนวนมาก แห่กันไปเดินขึ้นเขากันอย่างล้นหลามทีเดียว ตามรายงานบอกว่าทางเดินแห่งนี้มีระยะทางทั้งสิ้น 8 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการสร้างไปทั้งสิ้น 600 ล้านหยวน หรือประมาณ 3.2 พันล้านบาททีเดียว!! สำหรับใครที่ชื่นชอบความหวาดเสียวก็ไปตีตั๋วไปท่องเที่ยวกันได้นะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
เป็นเรื่อง!! เกิดอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวจีนขับรถสวนเลน ชนประสานงาเข้ากับรถกระบะพังยับ
ฤดูกาลท่องเที่ยวนั้นไม่มีวันหยุดจริงๆ ทุกวันนี้จะสังเกตได้ว่าแถวๆ ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่และบริเวณจังหวัดใกล้เคียงนั้นจะเป็นจุดที่มี ‘นักท่องเที่ยวจีน’ เยอะที่สุด แห่กันมาเที่ยวแบบไม่ขาดสาย ทั้งโดยสารเครื่องบินมากับกรุ๊ปทัวร์ หรือมาท่องเที่ยวเอง รวมไปถึงการขับรถยนต์มาเอง!! สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ขับรถยนต์ส่วนตัวมาเองนี่แหละ ทะเบียนป้ายสีฟ้าแปลกๆ ที่ทำให้หลายคนรู้สึกหวั่นใจจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อไหร่ เพราะด้วยลักษณะนิสัยการขับขี่ที่อันตรายและการขับรถในต่างประเทศ (ในบ้านเรา) ที่ไม่เหมือนในจีน จนแล้วจนรอดก็เกิดอุบัติเหตุจนได้ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นเรื่องจากเฟสบุ๊คของคุณ Nattapong Yoshiro Chongkosantisuk ที่มีนักท่องเที่ยวจีนขับรถสวนเลนมาและชนประสานงาเข้าอย่างจังกับรถกระบะของเขาเองในบริเวณดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ มีการเจรจานอกรอบกับนักท่องเที่ยวและกงศุลประเทศจีน โดยจะทำการชดใช้ค่าเสียหายให้ 80,000 บาท จากยอดประเมินความเสียหาย 280,000 บาท และจะจ่ายค่าเช่ารถในระหว่างซ่อม 2 เดือน พร้อมกับค่าเสียเวลาเป็นจำนวน 90,000 บาท รวมทั้งสิ้น 170,000 บาท ซึ่งทางกงศุลเองก็ขอให้เห็นใจนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เนื่องจากเพิ่งจะมาถึงเชียงใหม่ ยังไม่ทันได้เที่ยวก็เกิดเหตุเสียก่อน…
-
เอาจริงแล้ว ทางการจีนสั่งห้ามไม่ให้มีการ “ถ่มน้ำลาย” ลงบนพื้นเด็ดขาด ใครฝ่าฝืนโดนปรับทันที
เป็นที่ทราบกันดีว่าชาวจีนนั้นมักจะมีวัฒนธรรมในการถ่มน้ำลายลงพื้น ซึ่งก็กลายเป็นเรื่องธรรมดาแล้วในปัจจุบัน เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ก็ยังคงมีพฤติกรรมแบบนี้ให้เห็นอยู่ แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าพวกเขาจะเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงแล้วล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า ทางการของมณฑลหางโจว ประเทศจีน ได้มีการขึ้นป้ายเตือนอย่างชัดเจน ว่าห้ามไม่ให้ผู้ใดถ่มน้ำลายลงพื้นเด็ดขาด เพื่อเป็นการปกป้องชื่อเสียงของเมืองที่ได้ชื่อว่า “สวยงามและหรูหราที่สุดในโลก” ทางการของมณฑลหางโจวจึงต้องออกกฎหมายเพื่อห้ามไม่ให้ชาวเมืองถ่มน้ำลายหรือทิ้งเศษขยะลงพื้น ซึ่งถือเป็นการกระทำของคนที่ “ไร้อารยธรรม” หากใครฝ่าฝืนจะมีโทษปรับอยู่ที่ 200 หยวน หรือประมาณ 1,000 บาท และภาพพฤติกรรมแย่ๆ เหล่านั้นจะถูกบันทึกไว้เป็นวิดีโอและจัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์อย่างดี ทั้งนี้กฎหมายห้ามถ่มน้ำลายและทิ้งขยะจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ จากการทำแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการถ่มน้ำลายในที่สาธารณะนั้น มีผู้คนกว่า 90% บอกว่าพวกเขาถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ และข้อกฎหมายนี้เองจะเป็นการแก้เผ็ดสำหรับคนที่มีพฤติกรรมดังกล่าว เหมียวเองก็หวังว่าพวกเขาน่าจะมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ นะ เพราะนอกจากภาพลักษณ์ของพวกเขาเองจะดีขึ้นแล้ว มันยังช่วยให้บ้านเมืองสะอาดด้วยนะเออ ที่มา shanghaiist
-
อึ้งกันทั้งขบวน ชาวจีนขนหมูขึ้นรถไฟไปขาย อ้างไม่มีเงินจ้างรถบรรทุก ผู้โดยสารโวยกันใหญ่
แม้ว่าจะเป็นระบบขนส่งสาธารณะ แต่ใช่ว่าเราจะนำพาอะไรขึ้นไปโดยสารกับเราก็ได้นะ อย่างช่นเกษตรกรชาวจีนรายนี้ ที่พาเอาหมูเกือบ 10 ตัวขึ้นรถไฟไปกับเขาด้วย!? เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTV ได้เผยแพร่ภาพของแก๊งหมูที่ขึ้นรถไฟมากับชายคนหนึ่ง สร้างความรำคาญใจแก่ผู้โดยสารคนอื่นๆ เป็นอย่างมาก จนหลายคนตั้งคำถามกันว่ารถไฟสายดังกล่าวมีการอนุญาตให้นำหมูขึ้นรถไฟได้ด้วยหรือ? หลังจากภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออน์ไลน์ นาย หม่า เจี้ยน ผู้ที่เป็นเจ้าของภาพชุดดังกล่าวก็ออกมาให้ความเห็นว่า หมูเหล่านี้เป็นหมูของเกษตรกรรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านต้าเหลียงชาน มณฑลเสฉวน ที่ห่างไกลความเจริญสุดๆ โดยเกษตรกรบอกกับนายเจี้ยนว่าหมู่บ้านของเขาอยู่ไกลจากตัวเมืองมากแถมยังไม่มีเงินมากพอจะจ้างรถให้ขนหมูเข้าไปขายในเมือง และหากจะต้องเดินเท้าก็ต้องใช้เวลาตั้ง 3 วันกว่าจะไปถึงที่หมาย เขาจึงตัดสินใจพามันขึ้นรถไฟไปด้วยเลย ทั้งนี้เมื่อช่างภาพได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด ก็ขอให้ทุกคนพยายามเข้าใจหัวอกของเกษตรกรหน่อย ซึ่งเจ้าหน้าที่บนรถไฟก็อำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรอย่างอะลุ่มอะหล่วยทีเดียว ก็เข้าใจความรู้สึกของเกษตรกรล่ะนะ แต่สงสารผู้โดยสารคนอื่นๆ มั่งจิ ที่มา CCTVNews , bbs.hupu
-
ภาพ “เณรน้อย” ทั้ง 2 ทำให้คนทั่วโลกใจละลายเพราะความน่ารักเกิดขีดจำกัด!!
กลายเป็นกระแสที่จีนไปเสียแล้วสำหรับภาพของเด็นน้อยวัย 1 ขวบและ 3 ขวบที่แต่งตัวเป็นพระเด็ก แล้วไปถ่ายรูปที่วัด ด้วยความที่ผมไม่มีและน่ารักมากๆ ทำเอาชาวเน็ตถึงกับใจละลายเพราะความน่ารัก ภาพนี้ถ่ายมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาแล้ว โดยช่างภาพชื่อว่า Zhou Lu ซึ่งเป็นพ่อของหนูน้อยทั้งสองนี่เอง ซึ่งวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตฉงชิง โดยที่คุณพ่อพยายามแต่งตัวให้ลูกเหมือนตัวละคร “หลิวเอ๋อ” ในหนังเรื่องไซอิ๋ว หลังจากที่คุณพ่อได้โพสต์ภาพลงใน WeChat ไม่นานภาพ็ถูกแชร์เป็นคำนวนมากจนเกิดเป็นกระแส เพราะความน่ารักของหนูน้อยทั้งสอง และท่าทางตอนเวลาทำกิจกรรมต่างๆก็ดูไร้เดียงสามากๆ คุณพ่อเล่าว่าเหตุผลที่เลือกถ่ายที่วัด Er Fo แห่งนี้ก็เพราะว่ามีพระพุทธรูปที่หน้าตาน่ารักอยู่ด้วย ก็เลยอยากให้ลูกมาถ่าย เราไปชมความน่าของเด็กน้อยทั้งคู่นี้กันเลย!! ใครเห็นแล้วก็คงทนไม่ไหวกับความน่ารักของเด็กทั้งสองเลยใช่มั้ยล่ะ เหมือนเด็กวัดเส้าหลินที่กำลังฝึกวิชาอยู่เลย แก้มก็แด๊งแดง ที่มา lifebuzz, Daily Mail
-
วังเวงเหลือเกิน…เพนตากอนในจีนร้างหนัก สร้างเป็นห้างแต่ไม่มีคนเดิน!?
ขึ้นชื่อว่าประเทศจีน มักจะมีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจ (!?) จากแลนด์มาร์กดังๆ ในต่างประเทศ มารวมกันไว้อยู่ในประเทศนี้มากมายทีเดียว แม้แต่อาคารเพนตากอน ที่คอยดูแลความมั่นคงของสหรัฐเอง ยังถูกนำมาสร้างไว้ที่ประเทศจีนเลย อาคารเพนตากอนของจีนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในเมืองเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2010 แต่ใช่ว่ามันจะเอาไว้ดูแลความมั่นคงของประเทศเหมือนอย่างที่สหรัฐนะ เพราะที่นี่เขาเอาไว้ทำเป็นห้างสรรพสินค้านั่นเอง โดยเพนตากอนจีนแห่งนี้มีเนื้อที่อยู่ที่ราวๆ 500,000 ตารางเมตร แต่แทนที่มันจะถูกจับจองเนื้อที่โดยพ่อค้าแม่ค้ามากมาย มันกลับถูกทิ้งร้างอย่างเปล่าประโยชน์ เพราะตัวอาคารนั้นมีความสลับซับซ้อนมากเกินไป จนสร้างความสับสนแก่ลูกค้าและพ่อค้าแม่ค้า ทำให้คนมาเดินเที่ยวที่นี่น้อยมากจนพ่อค้าแม่ค้าต้องยกเลิกสัญญาเช่าไปในที่สุด ปัจจุบันอาคารเพนตากอนในจีนนั้นกลายเป็นอาคารที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ และแถบจะกลายเป็นอาคารร้างไปเลยทีเดียว และไม่มีนักลงทุนคนไหนอยากจะนำบางส่วนของอาคารไปใช้ประโยชน์ หรือนำไปพัฒนาต่อยอดเลย ทั้งนี้ทั้งนั้น เหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในเพนตากอนแห่งนี้อาจจะมีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากกับเขาบ้าง เพราะล่าสุดมีรายงานว่าเร็วๆ นี้จะมี Disney Land มาเปิดในเมืองเซี่ยงไฮ้ใกล้ๆ กับอาคารแห่งนี้ ซึ่งนี่อาจเป็นความหวังสุดท้ายที่ช่วยต่อลมหายใจให้กับอาคารแห่งนี้ก็เป็นได้ อาคารเพนตากอนเขาเอาไว้ใช้สำหรับงานในกระทรวงกลาโหม ไม่ได้ถูกออกแบบให้เป็นห้างสรรพสินค้านะ ที่มา mirror
-
สาวจีนสุดเฮง ได้เป็น “ผู้โดยสารคนเดียว” บนเครื่องบินในวันที่คนเดินทางเยอะ!!
หลายคนคงเคยคิดว่าอยากจะมีเครื่องบินส่วนตัว เวลาทำอะไรจะได้ไม่ต้องคอยเกรงใจคนอื่น แต่มันก็คงจะเป็นไปได้ยาก เพราะแค่คิดจะซื้อเครื่องบินหรือเหมาเครื่องบินซักลำขนหน้าแข้งก็ร่วงแล้ว ตอนนี้ที่จีนเกิดพายุหิมะ ทำให้การคมนาคมทั้งรถไฟและเครื่องบินต้องดีเลย์ไปเยอะ ผู้โดยสารนับแสนคนต้องติดอยู่ที่สถานี บางส่วนก็ถอดใจไม่เดินทางแล้ว แต่สาวจีนคนนี้เธอชื่อว่า Zhang จะเรียกได้ว่าเป็นคนที่ดวงดีหรือมีความอดทนก็ว่าได้ เพราะช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้การเดินทางกลับบ้านนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากๆ คนต่างแย่งกันจนแออัด แต่เธอกลับสามารถขึ้นเครื่องบินได้ แถมเป็นผู้โดยสารคนเดียวอีกด้วย เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่เที่ยวบิน CZ2833 ที่กำลังจะมุ่งหน้าไปสู่กวางโจว แต่ด้วยสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ ทำให้เครื่องบินดีเลย์ไปนานมาก จนผู้โดยสารทั้งหมดถอดใจไม่ขึ้นแล้ว มีแต่เธอเท่านั้นที่อดทนรอ จนสุดท้ายเที่ยวบินนี้ก็เปิดให้ใช้บริการ เธอเล่าใน Weibo สังคมออนไลน์ของจีนว่ารู้สึกเหมือนเป็นดาราที่กำลังเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวเลย ซึ่งพอเธอโพสต์ไปก็ถูกแชร์เป็นอย่างมาก คงเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลยสำหรับเธอ จ่ายแค่ประมาณ 6,000 บาทก็เหมือนได้นั่งเครื่องบินส่วนตัวแล้ว แต่สุดท้ายก็เกิดดราม่าย่อมๆ ขึ้นเมื่อชาวเน็ตบางส่วนบอกว่าการทำแบบนี้มันสิ้นเปลืองเกินไป เพราะยังมีอีกหลายพันชีวิตที่ต้องการจะกลับบ้าน อย่างเช่นภาพด้านล่างเป็นการรายงานข่าวผู้คนนับแสน รอรถออกจากสถานีเพื่อกลับบ้านพร้อมกันในช่วงวันหยุด ดูแล้ววุ่นวายมากเลยเนอะ…. ที่มา shanghaiist
-
ชายสูงวัยชาวจีนเสียชีวิตในขณะที่โจ๊ะโล๊ะกับสาวขายบริการ ถูกหามออกมาตัวยังติดกันอยู่เลย!!
ถ้าให้ประเทศรัสเซียเป็นประเทศที่มีเรื่องแปลกๆ แบบฝรั่งตาน้ำข้าวเยอะ ฝั่งชาวเอเชียก็คงต้องยกให้ประเทศจีนที่อยู่ข้างๆ กันนี่แหละ เพราะว่ามักจะมีข่าวแปลกๆ ออกมาแทบจะรายวันกันเลยทีเดียว ซึ่งมาในคราวนี้ก็เป็นเรื่องของชายชาวจีนสูงวัยรายหนึ่ง ที่เกิดอยากจะออกกำลังกายคลายกล้ามเนื้อ มีการนัดแนะกับหญิงสาวขายบริการมาอะจึ๋ยๆ กันในห้อง ตามรายงานบอกว่าเขาเสียชีวิตในขณะที่กำลังปฏิบัติกิจอยู่ เจ้าหน้าจึงต้องเข้ามารับตัวและหามออกไป โดยในช่วงที่กำลังเคลื่อนเปลออกไปนั้น สิ่งที่ทำให้อึ้งไปเลยก็คือ ตัวของทั้งสองคนยังติดกันอยู่เลย มีแอบมุดอยู่ใต้ผ้าคลุม โดยที่ผู้หญิงยังมีชีวิตอยู่ มีการขยับตัวด้วย ในความเป็นจริงเหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นได้ ทั้งการเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติกิจ รวมไปถึงอาการติด แกะไม่ออก ที่เรียกกันว่า ‘จิมิล็อค’ โอกาสเกิดขึ้นได้ยากมาก เป็นอาการของกล้ามเนื้อช่องคลอดหนีบอวัยวะเพศมากกว่าปกติ จนติดล็อคเอาออกไม่ได้ คาดว่าลุงเสียชีวิตเพราะมีเจออาการแบบนี้พอดี ทำให้ต้องหามศพพร้อมกับหญิงสาวเพื่อให้แพทย์ช่วยผ่าตัดเอาออกให้ที่โรงพยาบาล ที่มา : theladbible
-
นักท่องเที่ยวจีนโชว์ป่วน อาบน้ำให้ลูกชายบนอ่างล้างหน้า เล่นเอาเดือนร้อนกันทั่ว
พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่นี่ต้องบอกว่าเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วโลกจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องมารยาทที่หลายๆ คนเจอแล้วต้องปวดหัวกันเลยทีเดียว และวันนี้อีกครั้งกับนักท่องเที่ยวจีน กับการอาบน้ำให้ลูกชายบนอ่างล้างหน้า จนผู้อื่นไม่สามารถใช้งานได้ แถมยังทำให้ห้องน้ำสกปรกอีกต่างหาก โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ห้องน้ำสาธารณะที่หาด Nanwan ในเขตอุทยานแห่งชาติ Kenting ประเทศไต้หวัน ภาพที่เราเห็นคือนักท่องเที่ยวชาวจีนพาลูกชายไปอาบน้ำบนอ่างล้างหน้า ทั้งๆที่บนอ่างมีป้ายติดไว้ว่า “ห้ามขึ้นไปยืน” ซึ่งภาพดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตในทันที ชาวเน็ตไต้หวันหลายท่านบอกว่า “พวกเราไม่ต้องการนักท่องเที่ยวแบบนี้” “น่าอับอายมาก” สำหรับในไทยเองก็เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้เช่นกัน อย่างเช่นการตากชุดชั้นในบนเก้าอี้สนามบิน จนกลายเป็นที่เอือมระอาของผู้ที่ผ่านไปผ่านมาก็ทำแล้วมา เหมียวว่ารัฐบาลจีนควรจะมีมาตรการอบรมมารยาทให้กับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางออกมานอกประเทศบ้างนะ ไม่งั้นภาพลักษณ์ของนักท่องเที่ยวจีนก็คงเป็นแบบนี้ต่อไปแน่นอน ที่มา Shanghaiist
-
ไม่คิดถึงบ้านบ้างเหรอ? หนุ่มจีนติดหวยหนัก ไม่ยอมกลับบ้านนานกว่า 13 ปี!!
อาการติดหวยนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนไทยเท่านั้นนะ แต่คนในต่างประเทศก็เป็นเหมือนกัน อย่างที่ประเทศจีนมีชายหนุ่มคนหนึ่ง ติดหวยมากจนไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องเป็นเวลากว่า 13 ปีทีเดียว!! เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า หนุ่มชาวจีนนามว่า Xie Yuecong วัย 30 ปี ได้ออกจากบ้านไปทำงานเป็นกรรมกรตั้งแต่ปี 2003 หลังจากที่เรียนจบจากการศึกษาภาคบังคับแล้ว ตามรายงานบอกว่าตลอดระยะเวลาที่นาย Xie หนีออกจากบ้านไป เขาได้กลับมาบ้านเพียง 3 ครั้งเท่านั้น ในแต่ละครั้งที่กลับมาจะเป็นช่วงสั้นๆ ที่เขาประสบปัญหาทางการเงินเท่านั้น โดยเขาตั้งใจจะออกตามหาฝันด้วยการซื้อหวยเพื่อที่จะได้ชนะรางวัล หอบเงินกลับมาบ้านเป็นกอบเป็นกำ แต่ฝันของเขาก็ดูจะเป็นเรื่องยากไปสักหน่อย เพราะตั้งแต่ซื้อหวยมาเขาแทบไม่เคยถูกรางวัลเลย วันหนึ่งในขณะที่เขาทำงานอยู่ในมณฑลหางโจว เขาก็ได้เห็นป้ายโฆษณาชวนเชื่อที่เขียนว่า “ซื้อหวย ชนะรางวัล หอบเงินกลับบ้านทันที” แต่ก็ไม่เป็นดังที่หวังไว้ แต่นาย Xie ก็ยังคงเดินหน้าเสี่ยงโชคต่อไป และยิ่งมีกำลังใจหึกเหิมขึ้น เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา เพื่อนของเขาถูกหวยจนได้เงินรางวัลก้อนโต จนซื้อรถและขับกลับบ้านอย่างคนมีอันจะกิน ทำให้เขาฮึดสู้อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ จนเมื่อไม่นานมานี้ นาย Xie…
-
ยิ่งกว่าในหนัง!! ทีมกู้ภัยเร่งช่วยคนงานเหมืองจีน 4 ชีวิต หลังติดอยู่ในถ้ำนาน 36 วัน
เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยในมณฑลซานดง ประเทศจีน ได้ทำการช่วยเหลือเหล่าคนงาน 4 คน ที่ติดอยู่ในเหมืองนานกว่า 36 วัน ได้สำเร็จแล้ว ทั้งนี้ก่อนที่ทีมกู้ภัยจะช่วยคนงานขึ้นมาจากเหมือง พวกเขาได้พยายามจะส่งเสียงพูดคุยกับคนงานด้านล่างเพื่อระบุว่ามีคนอยู่ด้านล่างทั้งหมดกี่คน จากนั้นพวกเขาก็เริ่มส่งอาหารพร้อมกับเครื่องนุ่งห่มลงไปข้างล่าง เพื่อป้องกันพวกเขาจากความหนาวเย็นในเหมือง ก่อนที่ทีมกู้ภัยจะช่วยเหลือทั้ง 4 ออกมาได้ พวกเขาได้ส่งโทรศัพท์ลงไปให้กับคนงานที่ติดอยู่ในเหมืองอีก 4 คน ทั้ง Hua Mingxi, Zhao Zhicheng, Li Qiucheng และ Guan Qinji จากนั้นพวกเขาก็ส่งข้อความกลับมาว่า “ขอบคุณมากๆ ผมรู้สึกโล่งอกและปลอดภัยแล้วตอนนี้ ขอบคุณที่ยังตามหาพวกเราแม้ว่าอากาศจะหนาวเย็นมาก เราจะจดจำพวกคุณตลอดไป” ตามรานงานบอกว่าคนงานทั้งหมดกว่า 29 ชีวิตได้ลงไปทำงานในเหมืองและเจอกับเหตุการณ์ดินถล่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ทำให้พวกเขาติดอยู่ในนั้น แต่ทีมกู้ก็สามารถช่วยพวกเขาออกมาได้ถึง 15 คน สูญหาย…
-
ปวดหัวหนักมาก แรงงานจีนประท้วงขอโบนัสเจ้านาย ด้วยการพัน “นั่งร้าน” ไว้รอบรถเจ้านาย!?
เมื่อใกล้ถึงช่วยตรุษจีน เป็นธรรมดาที่บริษัทหลายๆ แห่งจะแจกโบนัสให้แก่พนักงานเพื่อตอบแทนความเหน็ดเหนื่อยของพวกเขา แต่บางบริษัทอาจจมีกำไรน้อยหรือขี้เหนียวหน่อย พวกเขาก็เลยไม่แจกโบนัสเหมือนกับหลายๆ ที่ แต่ระวังไว้ให้ดี เพราะพนักงานหัวร้อนอาจส่งสัญญาณบางอย่างเพื่อให้คุณรู้ตัวก็ได้นะ เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า มีกลุ่มแรงงานในจีนจากบริษัท Jiangxi’s Shangrao Economic Development Zone รวมตัวกันประท้วงเจ้านายของพวกเขาที่ไม่แจกเงินโบนัส ด้วยการนำเอาท่อเหล็กมาพันรอบๆ รถของเจ้านาย คล้ายกับนั่งร้าน เพื่อส่งสัญญาณบางอย่างไปถึงเจ้านายของพวกเขาหนึ่งในพนักงานผู้โกรธเกรี้ยวจากบริษัทนี้ได้ให้ข้อมูลกับนักข่าวว่า บริษัทแห่งนี้ยังติดหนี้เขาอยู่ถึง 70,000 หยวน หรือประมาณ 381,600 บาทเลย นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา มีคนร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องไม่ได้โบนัสถึง 4,815 คนทีเดียว ที่มา shanghaiist
-
พาไปสำรวจธุรกิจเช่าแฟนในจีนที่บูมสุดๆ จะหาแฟนสักคนไม่ใช่เรื่องยาก อีกต่อไป
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับวันตรุษจีน ที่ปีนี้ตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่ชาวจีนทั่วโลกและชาวไทยเชื้อสายจีนจะร่วมเฉลิมฉลองการเริ่มต้นปีใหม่ และแน่นอนว่าเมื่อญาติๆ ทุกคนมารวมตัวกัน ก็จะมีการพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบกันไป แต่หนึ่งในคำถามที่ชวนปวดใจสำหรับหนุ่มโสดและสาวโสด นั่นก็คือ “เมื่อไหร่จะมีแฟน” ซึ่งเป็นคำถามที่อึดอัดใจจะตอบมาก (ก็ยังไม่อยากมีอะ, ยังหาไม่ได้อะ บลาๆ) แต่พวกคุณไม่ต้องกังวลไป เพราะธุรกิจ “ให้เช่าแฟน” กำลังเป็นที่เฟื่องฟูสุดๆ ในประเทศจีนตอนนี้เลย เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Shanghaiist โดยมีนักข่าวจากสำนักข่าวท้องถิ่นในมณฑลหูหนานลงทุนไปสำรวจบริษัทให้เช่าแฟน ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ด้วยตนเอง จากการสำรวจด้วยตนเองก็พบว่าบริษัทจัดหาแฟนเช่าบริษัทแรกนั้นยื่นข้อเสนอแก่เขาว่าจะให้เช่าแฟนสาวในราคา 16,300 บาท สำหรับในช่วงวันหยุด ทั้งนี้บริษัทแรกยังบอกด้วยว่าพวกเขามั่นใจในเรื่องแผนการท่องเที่ยวแถมยังมีสาวๆ น่ารักๆ ให้เลือกสำหรับเขาด้วย จากนั้นนักข่าวหนุ่มก็ออกสำรวจบริษัทที่ 2 ที่นี่ได้อวดสรรพคุณว่าจะจัดงานแต่งหลอกๆ ให้กับเขาด้วย และให้หญิงสาวคนนั้นเป็นแฟนกับคุณแบบชั่วคราว แถมยังบอกด้วยว่ามีสาวๆ ให้คุณเลือกมากถึง 20-30 คนทีเดียว ทั้งนี้จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 16,330 บาท ถึง 21,770 บาท หนึ่งในพนักงานบริษัทจัดแฟนเช่ายังอธิบายต่อไปอีกว่า “ลองคิดดูซิ ถ้าคุณพาแฟนสาวกลับไปที่บ้าน นั่นหมายความว่าคุณจะได้ใช้เวลาในยามค่ำคืนร่วมกัน” ซึ่งเป็นคำอธิบายที่ชวนให้คิดลึกพอสมควร …
-
ผู้โดยสารจีนถึงกับเงิบ หลังเห็นพวงมาลัยรถขั้นเทพ แบบนี้ก็ได้เหรอเนี่ย!!
ประเทศจีนนี่มีอะไรมาให้เราได้แปลกใจอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็เป็นเรื่องแปลกๆ บางครั้งก็เป็นเรื่องฮาๆ จนบางทีก็แอบคิดว่า พวกเขาใช้ชีวิตยังไงกันล่ะเนี่ย และวันนี้อีกครั้งกับรถประจำทางในประเทศจีน เมื่อมีคนนำภาพของพวงมาลัยรถประจำทางมาแชร์บนอินเตอร์เน็ต จนใครๆ เห็นก็ต้องอุทานว่า เย้ย แบบนี้ก็ได้เหรอเนี่ย! ภาพที่เราเห็นคือ พวงมาลัยรถเหลือเพียงแต่ก้านตรงกลาง แต่ไม่มีวงล้อแต่อย่างใด เวลาใช้งานก็จับบิดไปบิดมาอย่างที่เห็นนั่นแหละ ส่วนวงล้อน่ะเหรอ อยู่บนไหล่นั่นไง! ยังจะชูสองนิ้วอีก! แน่จริงๆ เลยฮะ == ไม่รู้จะนับถือความเก่งกาจของลุงหรือว่าจะรู้สึกสยองจริงๆ ถ้าเหมียวเจอแบบนี้นะ เหมียวขอลงป้ายหน้าแล้วขึ้นรถคันใหม่ดีกว่า รู้สึกชีวิตขาดความปลอดภัยจริงๆ ฮาา ที่มา batona
-
ภาพเซทใหม่ของ Bao Bao นางแบบจีน มาพร้อมกับน้องเหมียวขนปุย จนหนุ่มๆอยากเกิดเป็นแมว!!
เรียกว่าเอาใจทั้งหนุ่มๆ และเหล่าคนเลี้ยงแมวจริงๆ สำหรับนางแบบเน็ตไอดอลชาวจีน Bao Bao หลังจากปล่อยภาพการถ่ายแบบสุดเซ็กซี่กับน้องเหมียวของเธอออกมา เรียกว่าเห็นแล้วแทบใจละลายเลยทีเดียว โดยภาพที่เราจะได้เห็นคือ ภาพของ Bao Bao ถ่ายกับน้องเหมียวด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้น ในอารมณ์แบบเหงาๆ จะน่ารักและเซ็กซี่ขนาดไหน ไปชมกันเลย น่ารักจุงเบยย สาบานเลยว่าดูแต่น้องเหมียวอย่างเดียว แต่บางทีน้องเหมียวก็แอบเกะกะนะเนี่ย อิอิ เป็นไงล่ะ น่ารักเซ็กซี่อย่างที่เหมียวบอกจริงๆ หรือเปล่า ถ้าใครเจอภาพสวยๆ แบบนี้อย่าลืมส่งมาให้เหมียวดูบ้างล่ะ จะได้นำมาให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ชมได้ไง อิอิ ที่มา Kapook
-
หนูน้อยชาวจีนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังถูกพ่อทุบตีอาการสาหัส เหตุเพราะอึใส่กางเกง!?
เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหนูน้อยชาวจีนวัย 3 ขวบถูกทำร้ายร่างกายอาการสาหัสโดยฝีมือคุณพ่อผู้โหดเหี้ยม เพียงเพราะว่าเธออึใส่กางเกงเท่านั้น ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาในเมืองซีสี มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เมื่อคุณพ่อเห็นรอยเปื้อนที่กางเกงของเธอ เขาก็เกิดอาการโกรธจัดและตรงเข้าทำร้ายร่างกายเธอทันที จากการนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลและตรวจร่างกายอย่างละเอียดก็พบว่า หนูน้อยมีรอยร้าวที่กระโหลกศีรษะ ทำให้มีเลือดไหลออกมา และมีของเหลวไหลออกมาจากเยื้อหุ้มสมอง นอกจากนี้คุณหมอยังสงสัยด้วยว่าคุณพ่อรายนี้อาจจะจับเธอกดลงไปในน้ำเย็นอีกด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น มีสื่อจีนบางแห่งรายงานว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อาจไม่ใช่ฝีมือของผู้เป็นพ่อ แต่อาจเกิดจากแม่เลี้ยงของเธอก็เป็นได้ หากมีอะไรคืบหน้าแอดเหมียวจะรีบมารายงานทันทีจ้า ที่มา shanghaiist
-
ตำรวจรวบสาวจีน แอบถ่ายคลิป ‘สาวเปลือย’ ในโรงอาบน้ำสาธารณะ อ้างช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้สามี!!
สำหรับคู่รัก การดูแลเอาใจใส่ในคู่รักของคุณถือเป็นเรื่องสำคัญนะ ไม่ว่าจะเรื่องการใช้ชีวิต การตัดสินใจต่างๆ ไปจนถึงเรื่องสยิวๆ บนเตียง แต่อะไรที่มากเกินความพอดีมันย่อมส่งผลเสียกับเราแน่นอน อย่างเช่นสาวจีนรายนี้ เพราะเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมหญิงสาวรายหนึ่งในมณฑลอานฮุย ประเทศจีนขณะแอบใช้กล้องวิดีโอถ่ายคลิปโป๊ของสาวๆ โรงอาบน้ำสาธารณะ ทำเอาสาวๆ ที่มาใช้บริการถึงกับควันออกหูเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่าหญิงสาวได้เข้าไปใช้บริการโรงอาบน้ำเหมือนกับหญิงสาวคนอื่นๆ เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา และเมื่อเธออาบน้ำเสร็จแล้ว แทนที่เธอจะแต่งตัวและกลับบ้านไป เธอกลับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นอยู่นานสองนาน จนสาวๆ ในโรงอาบน้ำเริ่มสงสัยพฤติกรรมของเธอ เมื่อเห็นพฤติกรรมแปลกๆ หญิงสาวนาม หลิน จึงเดินเข้ามาดูว่าเธอทำอะไรกับมือถืออยู่ เมื่อถามไปถามมาจึงได้ความว่าหญิงรายนี้แอบถ่ายคลิปวิดีโอของสาวๆ ในโรงอาบน้ำกว่า 5 คลิปด้วย จากการสอบถามหญิงสาวรายนี้ถึงได้รู้ว่าเธอพยายามถ่ายคลิปโป๊ของสาวๆ ในโรงอาบน้ำเพื่อไปให้สามีของเธอดู และช่วยปลุกอารมณ์ทางเพศให้แก่เขา แต่นางหลินและหญิงสาวคนอื่นๆ กลับไม่เชื่อ และคิดว่าเธออาจจะนำมันไปขายให้กับเว็บโป๊บางแห่ง จึงนำตัวเธอส่งให้กับตำรวจเพื่อจัดการกับเธอต่อไป แหม่ คนจะมาอาบน้ำแบบสบายอารมณ์สักหน่อย ดันต้องมาเจอคนโรคจิตแบบนี้ในสังคมแบบนี้ แย่จริงๆ เลยเหมียว ที่มา shanghaiist
-
คนงานตกถังสารละลายเดือดแต่รอดตายมาได้ บริษัทขอให้ทำการุณยฆาตเพราะไม่อยากจ่าย
หนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้ลูกน้องของบริษัทอยู่ทำงานไปนานๆ ก็คือการเอาใจใส่พนักงาน การดูแลยามที่พนักงานลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เช่นในกรณีของคนงานภายในโรงงานจากยูนนานที่ประสบกับอุบัติเหตุตกลงไปในถังสารละลายเดือดจัดๆ ร่างกายถูกลวกแทบทั้งตัว แต่รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด Yuan Longhua วัย 38 ปี คนงานในโรงงานเครือ CQC Group เกิดพลัดตกลงไปในบ่อสารละลายเดือดจัดหลังจากที่ทำงานต่อเนื่องยาวนานกว่า 13 ชั่วโมง ในวันที่ 1 สิงหาคม 2558 โดยที่เขารอดชีวิตมาได้ แต่จะต้องทำการตัดขาขวาทิ้ง และเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยทางบริษัทเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่หลังจากเดือนตุลาคมเป็นต้นมาทางบริษัทเริ่มมีทีท่าที่เปลี่ยนไป จากที่เคยจ่ายค่ารักษาให้ ก็เริ่มจ่ายช้า ไม่ตรงเวลา จนถึงขั้นไม่ยอมจ่าย ทำให้อาการทรุดลงต่อเนื่อง อีกทั้งยังทำการโน้มน้าวทางครอบครัวให้ทำการหยุดรักษาและทำการุณยฆาต โดยจะชดเชยให้หลังจากที่เขาเสียชีวิตแทน ทางด้านน้องชายของนาย Yuan เปิดเผยว่าหลังจากที่พี่ชายของตนประสบอุบัติเหตุ ไม่เคยเห็นหน้าเจ้านายเลย ได้แต่ติดต่อผ่านตัวแทนบริษัท ซึ่งหลังจากที่บริษัทไม่ยอมจ่ายค่ารักษา ทางครอบครัวต้องจ่ายเองเพื่อยื้อชีวิตเขาเอาไว้ แม้แต่กระทั่งแพทย์ผู้ดูแลเองก็ยังบอกเลยว่าบริษัทนี้ กระทำในสิ่งที่แย่มากๆ ปัดปัญหาทิ้งแบบไม่ใยดีต่อชีวิตลูกน้องเลย ที่มา : shanghaiist
-
หน้าไม่อาย!? เลขาสาวจีนเปิด IG โพสต์ภาพชีวิตอันหรูหรา ที่ได้มาจากเจ้านายของเธอ
กลายเป็นเรื่องราวฉาวโฉ่ที่กำลังเป็นที่พูดถึงของโซเชียลเน็ตเวิร์คของประเทศจีนอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับเรื่องราวของเลขาสาวชาวจีน ที่ลงทุนเปิดบัญชี IG ขึ้นมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์แบบลับๆ ระหว่างเธอและเจ้านาย เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของเลขาสาวชาวจีนจากบริษัทแห่งหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ที่เปิดบัญชี IG ขึ้นมาเพื่อเผยกลยุทธในการพิชิตใจเจ้านายของตัวเอง และผลของมันก็ทำให้เธอมีเงินเดือนที่เพิ่มมากขึ้น แถมยังมีชีวิตอันหรูหรามากทีเดียว แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ เพราะแน่นอนว่าเลขาสาวรายนี้ต้องใช้เรือนร่างของเธอเพื่อแลกกับความสะดวกสบายต่างๆ นอกจากนี้เธอยังโพสต์ข้อความด้วยว่า “ฉันทำสิ่งเหล่านี้ให้บอสในตอนกลางวัน พอตกกลางคืนเขาก็ทำให้ฉันบ้าง” แม้ว่าสิ่งต่างๆ ที่เธอทำจะไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมายอะไรนัก แต่มันก็ขัดต่อศีลธรรมของคนในสังคม จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าถึงกับต้องใช้ร่างกายเข้าแลก คล้ายกับผู้หญิงขายบริการไม่มีผิด แหม่ งานนี้เหมียวต้องขอบอกเลยว่าเธอ สตรองมาก!! ที่มา shanghaiist
-
ดูไม่ออกเลยนะเนี๊ยะ!! หนุ่มจีนแกล้งทำไก่ทอดจากกระดาษ หวังแก้แค้นเพื่อนจอมตะกละ!!
สำหรับใครที่มักจะเจอกับปัญหาที่รูมเมทชอบมาแอบกินอาหารของเรา แม้ว่าจะเขียนป้ายบอกก็แล้วมัดถุงแน่นๆ ก็แล้ว แต่ของกินก็ยังหายไปอย่างไร้ร่องรอย วันนี้เหมียวมีวิธีเอาคืนแบบเจ็บแสบมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันล่ะ เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ China Xinhua News ได้เผยแพร่เรื่องราวการแก้แค้นแบบโหดมันส์ฮาของหนุ่มชาวจีนรายหนึ่ง ที่อดรนทนไม่ได้กับพฤติกรรมการกินแบบตะกละของรูมเมท ที่แอบกินของของเขาแบบไม่เลือก เขาจึงได้ประดิษฐ์ “ไก่ทอดกระดาษ” ขึ้นเพื่อมาเอาคืนรูมเมทของเขา โดยขั้นตอนก็คือการนำเอากระดาษลังมาดัดแปลงให้เป็นไก่ทอด โดยการนำกระดาษลังหนาๆ สักสองแผ่น ตัดเป็นวงกลมคล้ายไก่ทอด แล้วนำกาวสองหน้ามาติดเพื่อประกบมันเข้าด้วยกัน จากนั้นใช้ใช้มีดค่อยๆ เล็มขอบกระดาษออก เพื่อให้กระดาษมีความโค้งมนคล้ายไก่ทอดจริงๆ จากนั้นนำไปชุบแป้งทอด และนำไปทอดในน้ำมันเดือด (อย่าใช้ไฟแรงเกินไปนะ เดี๋ยวไหม้) เมื่อสุดได้ที่แล้วให้นำขึ้นจากกระทะ โรยพริกไทย จากนั้นนำใส่ถุงพลาสติก เป็นอันเรียบร้อย!! ใครมีเพื่อนตะกละแบบนี้ ลองเอาวิธีนี้ไปใช้ได้นะ รับรองว่าเข็ดไปอีกนาน ที่มา China Xinhua News
-
เทรนด์ใหม่หรือยังไง? สาวจีนแห่เอาปากกาหนีบใต้ราวนม พิสูจน์ความเป็นหญิงแท้!!
โลกเรานี่มันไปไกลจนเหมียวตามไม่ทันแล้วจ้า ล่าสุดได้มีเทรนด์ใหม่จากประเทศจีน ที่กำลังแชร์อยู่ในโซเชียลมีเดียของที่นู่น เรียกกันว่า “boob test” หรือการทดสอบนมนั่นเอง เขาว่ากันว่าการทดสอบนี้เพื่อเป็นการดูว่าคุณเป็นผู้หญิ๊งผู้หญิงรึเปล่า บ้าไปแล้ว… ไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิดกระแสนี้ขึ้นมา แต่คนก็แห่ทำตามกัน โดยพวกเธอจะเอาปากกาหรือดินสอมาหนีบไว้ใต้ราวนมแล้วก็ถ่ายรูปลงโซเชียล พร้อมกับติดแฮชแท็ก #carrypenunderbreast ซึ่งถ้าใครสามารถเอานมหนีบได้ก็ถือว่าคุณสอบผ่าน เก่งจริงๆแม่คู๊ณณณณณณ แน่นอนว่ากระแสอย่างนี้มันก็ต้องมีคนไม่เห็นด้วย อย่างเช่นได้มีสาวจีนคนหนึ่งชื่อ ‘Ai Tian Yi Sheng’ ได้เม้นว่า “ฉันทำไม่ได้ แปลว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงเหรอ?” บอกเลยว่ามันเป็นกระแสที่ค่อนข้างไม่มีสาระสักเท่าไหร่ เหมียวว่าไอ้คนที่คิดขึ้นมาคนแรกมันแค่อยากจะอวดว่ามันนมใหญ่เฉยๆ เลยคิดวิธีสร้างกระแสขึ้นมาก็ได้ แล้วคนก็ตามกันมาเอง ซึ่งบางคนก็ล้ำไปกว่านั้น โดยการเอาของที่ใหญ่กว่าปากกามาหนีบไว้ คุณพระ เชื่อแล้วจ้าว่าใหญ่จริง ถามหน่อยว่าสุดท้ายแล้วคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือใคร คำตอบก็ง่ายมาก ผู้ชายอย่างเรานี่แหละ อิอิ ที่มา distractify
-
หนูน้อยชาวจีนวัย 10 ขวบรอดตายเพราะชาวเน็ตช่วยแชร์ภาพคนร้ายผ่านแอพฯ WeChat!!
ปัญหาเด็กถูกลักพาตัวยังคงเป็นปัญหาที่พ่อแม่หลายๆ คนหวาดหวั่นว่าสักวันหนึ่งจะเกิดขึ้นกับลูกๆ ของตัวเอง อย่างที่ประเทศจีนเองก็มีคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน แต่โชคดีเหลือเกินที่เด็กน้อยรายล่าสุดถูกช่วยไว้ได้ด้วยแอพฯ โซเชียลเน็ตเวิร์คของจีนอย่าง WeChat!! เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเด็กหญิงชาวจีนวัย 10 ขวบ ถูกชายแซ่เหย่วัย 49 ปีลักพาตัวขึ้นมอเตอร์ไซค์ไป ระหว่างรอกลับบ้านหลังโรงเรียนเลิก ในช่วงเวลาบ่าย 3 โมงของวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ทางพ่อแม่ของเด็กทราบข่าวก็รีบโทรแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้พวกเขาตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากบริเวณดังกล่าว จึงพบว่ามีมอเตอร์ไซค์พาเด็กหญิงออกไป ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ ก็ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากบ้านในแหล่งชุมชนใกล้เคียงเช่นกัน เมื่อเห็นใบหน้าคนร้ายที่ลักพาตัวเด็กแล้ว ทางพ่อแม่และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้อัพโหลดภาพดังกล่าวไปยังแอพฯ WeChat และถูกชาวเน็ตส่งต่อกันอย่างรวดเร็ว จนคนร้ายได้เห็นใบหน้าของตนเองในแอพฯ และเกิดหวาดกลัวการถูกจับ จึงพาเด็กหญิงไปส่งคืนที่บริเวณป้ายรถเมล์ในเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ในขณะเดียวกัน นายเหย่ก็เตรียมที่จะหลบหนีการจับกุม แต่ก็สายไปเสียแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบที่อยู่คนร้ายและมาดักรอเขาที่อพาร์ทเมนต์แล้วเรียบร้อย ที่มา shanghaiist
-
หนุ่มจีนสุดซื่อ เจอแฟนสาวไล่ให้ “กลิ้ง” ไปให้พ้นๆ แต่กลับลงไปนอนกลิ้งกับพื้นจริงๆ ซะงั้น!?
เชื่อว่าคู่รักหลายๆ คู่ต้องเคยมีช่วงเวลาที่ทะเลาะกับแฟนจนอีกฝ่ายถึงกับต้องไล่ตะเพิดอีกฝ่ายให้ไปไกลๆ เพราะทนความรำคาญไม่ไหวแน่นอน แต่ชายหนุ่มชาวจีนรายนี้กลับไม่ได้หายไปตามที่แฟนของเขาบอก แต่กลับลงไปนอนเกลือกกลิ้งกับพื้นซะอย่างงั้น!? เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปฮาๆ ของชายหนุ่มชาวจีนรายหนึ่งที่ห้างสรรพสินค้าในเมืองหางโจว ประเทศจีน เขาได้ทะเลาะกับแฟนสาวอย่างหนัก จนฝ่ายหญิงทนไม่ได้ ตะโกนไล่ฝ่ายชายด้วยคำว่า “กุ่น” (gǔn) ที่แปลเป็นไทยว่า “กลิ้ง” ซึ่งหากใช้ในบริบทการโต้เถียงกันจะแปลว่า “ไปให้พ้นๆ” แต่เมื่อชายหนุ่มได้ยินดังนั้นเขากลับใจเย็น และลงไปนอนกลิ้งกับพื้นจริงๆ ทำให้ผู้คนที่เดินไปมาในห้างถึงกับต้องหยุดมอง และหัวเราะออกมากันเป็นแถว จนแฟนสาวยืนงงอยู่นานสองนาน ทางด้านชาวเน็ตในโลกออนไลน์ของจีนเมื่อเห็นคลิปดังกล่าวแล้ว ก็เอ่ยปากชมหนุ่มจีนรายนี้ว่าเป็นคนใจเย็น ช่างน่าอิจฉาหญิงสาวที่ได้เขาเป็นแฟนเสียจริงๆ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย งานนี้ถ้าสาวๆ เจอเข้ากับตัว จะรู้สึกโกรธได้ลงอยู่ไหมล่ะ ที่มา shanghaiist
-
แฟนๆ ฮีโร่ถึงกับซึม เมื่อทางรัฐบาลจีนประกาศห้ามฉาย Deadpool เนื่องจากฉากรุนแรง!
กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจเลยทีเดียว สำหรับทิศทางของหนัง Deadpool เพราะหนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังความหวังของทางค่าย 20th Century Fox ในการกลับมาสู่ตลาดหนังฮีโร่ ถึงแม้จะฝ่าฟันปัญหาหลายๆ อย่างได้จนสามารถถ่ายทำได้สำเร็จ แต่ยังไม่ทันได้ฉาย ก็เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว เพราะล่าสุดกระทรวงที่ดูแลเรื่องสื่อของประเทศจีน (China’s State Administration of Press, Publication, Radio, Film and Television) ได้ออกมาประกาศแบนห้ามฉายหนัง Deadpool ในประเทศ เนื่องจากฉากรุนแรง คำหยาบ และภาพโป๊เปลือยภายในเรื่อง ซึ่งข่าวนี้ถือว่าเป็นข่าวร้ายสำหรับค่ายเป็นอย่างมาก เพราะจีนได้กลายเป็นตลาดหนังที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น นั่นแปลว่า พวกเขาอาจสูญเสียรายได้หลายสิบล้านเหรียญไปจากการถูกแบนครั้งนี้ Deadpool เป็นหนึ่งในหนังฮีโร่ไม่กี่เรื่องที่ได้รับเรต R (ต่ำกว่า 18 ห้ามชม) ระหว่างการฉาย ถึงแม้จะมีการเรียกร้องให้มีการตัดต่อใหม่ และปรับเรตเป็น PG-13 (ต่ำกว่า 13 ต้องมีผู้ปกครองชมด้วย) เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนดูที่หลากหลายมากขึ้น แต่ก็ไม่เป็นผล (และก็ถูกแบนไปตามระเบียบ) …
-
ห้องน้ำสาธารณะจีนสุดเจ๋ง ส่งสัญญาณ Wi-Fi ความเร็ว 50 Mbps สบายยิ่งกว่าอยู่ในบ้าน!!
ปัจจุบัน Wi-Fi กลายเป็นมาตรฐานอย่างหนึ่ง ที่สถานที่สาธารณะหลายๆ แห่งต้องมี แต่ด้วยความที่เป็นของฟรี ทำให้คุณภาพของสัญญาณนั้น อาจไม่ได้มีคุณภาพที่สูงมากเท่าไหร่ (เรียกง่ายๆ ว่าอืดนั่นเอง) แต่สำหรับห้องน้ำสาธารณะในประเทศจีนแห่งนี้ จะทำลายทุกมาตรฐานแห่งเน็ตฟรี เพราะพวกเขาติดตั้งอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วกว่า 50 Mbps ให้ประชาชนได้ใช้ฟรี!! โว้ว เจ๋งป่ะละ ห้องน้ำแห่งนี้ เป็นแผนการของรัฐบาลท้องถิ่นมณฑลฉงชิง ซึ่งจะเริ่มสร้างในปี 2016 นี้ และนอกจากอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแล้ว พวกเขายังจะมีแท่นชาร์ตสมาร์ทโฟน, ตู้เย็น(?), ไมโครเวฟ(?), และเครื่องขายน้ำให้อีกด้วย โดยแหล่งพลังงานของห้องน้ำแห่งนี้ ส่วนมากจะมาจากแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งติดตั้งอยู่บนหลังคาของห้องน้ำ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า หากมีแดดอย่างเพียงพอ แผงโซลาร์เซลเหล่านี้สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ถึงปีละเกือบ 13,000 บาทเลยทีเดียว เยี่ยมไปเลย บ้านเราน่าจะมีอินเตอร์เน็ตฟรีๆ จากรัฐให้บริการแบบนี้บ้างนะ ปกติเจอพวก Free Wifi ทีไร แค่ขอรหัสก็รอไปครึ่งชั่วโมงละ == ที่มา Shanghaiist
-
ตำรวจจีนเจ๋ง นำรูปผู้ต้องหาประกาศจับไปพิมพ์ไว้ที่ “ไพ่” เผื่อว่าได้เบาะแสอะไรบ้าง!!
ตำรวจที่เมือง Binyang, Guangxi ประเทศจีน ได้ทำการแจกจ่ายไพ่ให้กับคนในพื้นที่นั้นฟรีๆ ซึ่งเป็นไพ่ที่สั่งทำพิเศษ ในไพ่นั้นจะมีรูปของผู้ต้องหาที่กำลังประกาศจับอยู่ เผื่อว่าคนเล่นไพ่จะจำหน้าได้ ถ้าเจอแล้วจะได้แจ้งเบาะแสให้ตำรวจได้ทราบ ไพ่ทั้งหมดจะมี 5 ชุดด้วยกัน รวมแล้วก็มีผู้ต้องหาทั้งหมด 240 รายที่มีอยู่บนหน้าไพ่ ซึ่งในนั้นก็จะมีข้อมูลของคนร้ายครบเลย ซึ่งโจรแต่ละคนก็จะสุ่มพิมพ์ไปแบบไม่เจาะจง ในไพ่แต่ละใบก็จะมีเบอร์โทรติดต่อกับตำรวจไว้เพื่อเป็นข้อมูล แถมยังมีเงินรางวัลนำจับถึง 1 หมื่นบาทเลยทีเดียว ซึ่งโจรที่อยู่ในไพ่นั้นล้วนเป็นคดีที่เกี่ยวกับคดีทางโลกไซเบอร์ทั้งสิ้น ผลตอบรับจากการผลิตไพ่นั้นอยู่ในแง่บวก หลายคนมองว่าเป็นไอเดียที่ดี เพราะมันช่วยให้สามารถจำหน้าคนร้ายได้ เพราะบางทีก็ไม่ได้สนใจใบประกาศจับเท่าไหร่ จึงต้องหาวิธีที่ทำให้คนได้มองใบหน้าของคนร้ายได้นานขึ้น ตอนนี้ก็ได้แจกจ่ายสำรับไพ่ไปกว่า 150,000 สำรับแล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ที่มา rocketnews
-
ชายหนุ่มปริศนา จู่ๆ โปรยเงินนับหมื่นไปในอากาศแล้วหนีไป ชาวเมืองช่วยกันตามเก็บจ้าล่ะหวั่น
เมื่อวันที่ 14 มกราคมเว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งโยนปึกธนบัตรจำนวนมากขึ้นไปในอากาศ ในระหว่างที่ธนบัตรกำลังลอยลงมาสู่พื้นดินนั้นเอง ชายหนุ่มปริศนาคนดังกล่าวก็หายออกไปจากที่เกิดเหตุทันที แต่แทนที่ชาวบ้านจะรุมเก็บกันอย่างชุลมุน พวกเขากลับรวมตัวกันเก็บกัมเก็บธนบัตรที่ปลิวอยู่ตามพื้นมารวบรวมไว้ โดยที่หนึ่งในนั้นเป็นตัวแทนไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและนำมันส่งให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดเลย หลังจากได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำเงินทั้งหมดออกมานับ ปรากฏว่าได้เงินสดทั้งหมด 11,000 หยวนเลยทีเดียว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามจะระบุตัวชายปริศนาผู้ปล่อยเงินลงบนถนน เพื่อสืบสวนหาสาเหตุของการกระทำต่อไป ใครว่าคนจีนไม่มีระเบียบกัน นี่ไงพวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาก็มีน้ำใจเหมือนกันนะเออ น่าชื่นชมจริงๆ ที่มา shanghaiist
-
เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟตัวจริง? เด็กหญิงชาวจีนในนครเซี่ยงไฮ้นั่งขายไม้ขีดไฟข้างถนน
เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่ภาพของสาวน้อยชาวจีนรายหนึ่งในมหานครเซี่ยงไฮ้ที่แต่งตัวคล้ายกับเด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ ในนิทานของ Hans Christian Anderson’s เพื่อเรียกความสนใจจากผู้คน ให้ซื้อไม้ขีดไฟจากเธอนั่นเอง กิจกรรมนี้สร้างสรรค์โดยองค์กรการกุศลที่ชื่อว่า Love Wardrobe เป็นองค์กรการกุศลที่ไม่หวังผลกำไร ที่มุ่งหวังจะช่วยเหลือเด็กๆ ผู้ด้อยโอกาสที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากสภาพอากาศที่หนาวจัดในช่วงฤดุหนาว ในแถบภูเขาของประเทศจีน หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปตามเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทำให้ผู้สื่อข่าวต้องลงพื้นที่เพื่อไปสอบถามเด็กน้อย และเมื่อดูจากกล่องไม้ขีดอาจจะเห็นว่าเป็นเพียงกล่องธรรมดาๆ แต่ที่ข้างกล่องมีข้อความเขียนติดไว้ว่า “ยังมีเด็กๆ จำนวนมากมายที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บนภูเขา คล้ายกับ ‘เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ’ ที่ทรมานกับอากาศหนาว และพวกเขาต้องการความอบอุ่นอยู่” ในขณะเดียวกันที่ด้านหลังกล่องมีภาพ QR Code ที่ให้ผู้ใช้สามารถส่องสมาร์ทโฟนเพื่อลิ้งไปยังเว็บไซต์ช่วยบริจาคเงินให้กับเด็กๆ เพื่อที่เด็กๆ จะได้รับความอบอุ่นมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไป กลับมีชาวเน็ตหลายรายตั้งข้อสังเกตว่าทำไมองค์กรการกุศลถึงให้เด็กๆ มานั่งขายของข้างถนนแบบนี้ซึ่งคล้ายกับการใช้แรงงานเด็กเลย ที่มา shanghaiist
-
คิดถึงอ่ะดิ! ชาวจีนนับพันโผล่ต้อนรับ Sora Aoi อดีตดารา AV ชื่อดัง จนแน่นไปทั้งตึก!
หากถามว่าใครคือดาราเอวีที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุด เชื่อว่าชื่อของ Sora Aoi ต้องโผล่เข้ามาเป็นอันดับแรกๆ แน่นอน ด้วยหุ่นอันแสนเซ็กซี่และหน้าตาสุดน่ารัก ทำให้เธอครองใจหนุ่มๆ ทั่วเอเชียอย่างอยู่หมัด และถึงแม้เธอจะประกาศเลิกเล่นหนัง AV ไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนพูดถึงเธออยู่บ่อยๆ และล่าสุด ทาง Sora Aoi ได้ไปปรากฎตัวที่ประเทศจีน ด้วยเหตุผลทางธุรกิจบางอย่าง เมื่อแฟนๆ ได้ข่าวของเธอ ก็ไปรอพบเธออย่างเนืองแน่นเต็มตึกไปหมด โดยเธอได้ไปปรากฏตัวที่สำนักงานใหญ่ ของบริษัทเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตบริษัทหนึ่ง ไม่มีการเปิดเผยว่าเธอมาทำอะไร ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลจีน ได้ประกาศห้ามไม่ให้บริษัทห้างร้านต่างๆ นำดาราเอวีจากประเทศญี่ปุ่น มาโปรโมตสินค้าหรือบริการต่างๆ แหม เห็นภาพนี้แล้วเหมียวนึกถึงภาพจากงาน Auto Salon 2015 ที่นำดาราเอวีชื่อดังอย่าง โรล่า มิซากิมาล้างรถจริงๆ ชายไทยก็ไปรุมล้อมแบบนี้แหละ ยังไงแฟนๆ ก็รอติดตามชมได้ว่า น้องอ้อยของเราจะมีผลงานอะไรหรือไม่ หรือไม่ก็ลองไปหาผลงานเก่าๆ ของเธอมาดูแก้ขัดไปก่อนก็ได้นะจ๊ะ อิอิ…
-
จีนยึดฮอลลีวูด!! กลุ่มทุน Wanda Group เข้าซื้อสตูดิโอ Legendary Entertainment ด้วยเงินกว่าแสนล้านบาท!!
หากเมื่อซักสิบปีก่อนมีคนบอกว่า กลุ่มทุนจากจีนจะเข้าฮุบกิจการสตูดิโอหนังฮอลลีวูด คงมีด่าว่าบ้าไม่มากก็น้อย แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะตอนนี้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นจริงแล้ว เมื่อกลุ่มทุนจากจีน Dalian Wanda Group Co., Ltd ได้ประกาศว่า พวกเขาได้ทุ่มเงินกว่า 3,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.2 แสนล้านบาท ในการเข้าครอบครองกิจการสตูดิโอทำหนังชื่อดัง Legendary Entertainment และมีการเซ็นสัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางซีอีโอของ Legendary ได้กล่าวว่า การร่วมทุนครั้งนี้ ถือว่าเป็นอีกก้าวสำคัญของทางสดูดิโอ พวกเขายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมงานกับ Wanda Group เพื่อผลิตให้ออกมาให้ผู้คนทั่วโลกได้ชม รวมถึงชาวจีนซึ่งกำลังจะกลายเป็นตลาดภาพยนตร์ขนาดใหญ่ในอนาคตข้างหน้านี้ Legendary เป็นสตูดิโอที่สร้างหนังดังๆ ขึ้นมามากมายเช่น Inception, Batman Trilogy, The Hangover, Pacific Rim, Man of Steel, Godzilla และล่าสุดกับ Jurassic World ส่วนทาง Wanda…
-
สาวจีนเอาคืนแฟนเก่าที่ทิ้งไปเพราะเธออ้วน ด้วยการทำสบู่จากไขมันตัวเองให้เขาใช้!?
สำหรับคู่รักแล้ว การเลิกรากันถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่เข้าใจได้ บางคู่เลิกกันด้วยดีก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ แต่กับบางคู่เลิกกันแบบไม่สวย ก็อาจจะทำให้ขุ่นข้องหมองใจ จนบางคนเกลียดไม่มองหน้ากัน หรือถึงขั้นกลับมาแก้แค้นกันเลยก็มี เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่เรื่องราวของสาว (เคยอวบ) ชาวจีนรายหนึ่งผู้ใช้นามแฝงในโลกออนไลน์ว่า “เสี้ยวเสี้ยว ผู้รักความงามและการกิน” ที่พยายามแก้แค้นอดีตแฟนหนุ่ม ที่ทิ้งเธอไปเพราะว่าเธอมีรูปร่างที่อวบอ้วน ด้วยการนำเอาไขมันในร่างกายของเธอมาทำเป็นสบู่และส่งให้ฝ่ายชายเอาไปใช้!? ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา เธอได้โพสต์ข้อความลงในเครือข่ายสังคมของจีนอย่าง Weibo ว่า “หยาง เสี่ยวเล่ย คุณยังจำเทศกาลฤดูใบไม้ผลิได้ไหม? ตั้งแต่นั้นฉันไม่ได้กลับไปที่บ้านกับคุณแล้ว ขอฝากสบู่จากไขมันของฉันก้อนนี้ไปให้แม่คุณใช้อาบน้ำด้วยนะ” “ตรุษจีนนี่มันเป็นช่วงเวลาที่จะเซอร์ไพรส์พวกผู้ชายชั้นต่ำ ที่ชอบตัดสินผู้หญิงจากรูปลักษณ์ภายนอกจริงๆ” หลังจากที่ข้อความของเธอในโซเชียลมีเดียถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก จนมีคนกดแชร์ไปกว่า 5,400 ครั้ง มีคอมเม้นเข้ามามากกว่า 4,440 คอมเม้นต์ และ กดไลค์อีกกว่า 2,700 ครั้งทีเดียว ทั้งนี้เจ้าสบู่ไขมันที่ว่านี้มีลักษณะภายนอกเหมือนสบู่ทั่วๆ ไป แต่ความจริงแล้วมันคือก้อนไขมันของเธอ…
-
พนักงานเก็บขยะจีนรอดปาฏิหาริย์ หลังถูกรถบรรทุกชนเข้าอย่างจัง
กลับมาอีกครั้งกับเรื่องราวอันน่าตื่นตาตื่นใจจากประเทศจีน ที่ครั้งนี้จะสอนให้เราตื่นตัวทุกครั้งที่อยู่บนท้องถนน โดยเฉพาะเหตุการณ์แบบนี้ โดยวีดีโอดังกล่าวเป็นภาพของพนักงานทำความสะอาดถนนคนหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังเก็บขยะอยู่กลางถนนนั้น อยู่ดีๆ ก็มีรถบรรทุกคนหนึ่ง พุ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว ด้วยความเร็วและความใกล้ขนาดนั้น หลายๆคนคงคิดว่าเธอคงถูกทับแบนแต๊ดแต๋แน่นอน แต่โชคดี ด้วยปฏิกิริยาขั้นเทพของเธอ เธอจึงเบี่ยงหลบออกมาได้ทัน โดยคนขับรถบรรทุกเล่าว่า มีรถกำลังจะเลี้ยวขวา ทำให้เขาต้องเบี่ยงออกมาที่เลนกลาง และเขาก็เห็นพนักงานคนดังกล่าว ซึ่งเขาเบรกไม่ทันแล้ว โชคดีที่พนักงานคนดังกล่าว บาดเจ็บแค่กระดูกเท้าซ้ายแตกเท่านั้น แต่ไม่มีอาการบาดเจ็บหนักๆ อย่างอื่น ตำรวจกล่าวว่า รถบรรทุกดังกล่าวไม่ยอมลดความเร็วเมื่อถึงสี่แยก ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ไปชมคลิปกันเลย อื้อหือ รอดมาได้นี่คือปาฏิหาริย์สุดๆ คราวหน้าไปทำความสะอาดถนนก็ระวังๆ กว่านี้นะ ไม่งั้นอาจไม่โชคดีแบบนี้ก็ได้ ที่มา Shanghaiist
-
น่าเล่นมาก ทะเลสาบในคุนหมิง เย็นจัดจนกลายเป็นลานไอซ์สเก็ต ชาวจีนนับพันแห่ไปเล่นเนืองแน่น
เมื่อถึงฤดูหนาว ที่อุณหภูมิในแต่ละประเทศลดลง มันก็มักจะทำให้เกิดบรรยากาศสนุกสนานและเกิดปรากฏการณ์แปลกๆ ขึ้นทั่วโลกเลยทีเดียว อย่างที่ประเทศจีน อุณหภูมิลดต่ำลงมากจนทำให้ทะเลสาบกลายเป็นลานน้ำแข็ง ผู้คนแห่กันไปเล่นไอซ์สเก็ตกันนับพันทีเดียว เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าทะเลสาบในมณฑลคุนหมิง ประเทศจีน ที่มีขนาดความกว้างกว่า 7 แสนตารางเมตร ถูกอุณหภูมิที่เย็นจัดจนกลายเป็นลานไอซ์สเก็ตสาธารณะ ที่ชาวจีนแห่กันมาเล่นกว่าพันคน ทำให้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประชาชนและนักท่องเที่ยวพากันหิ้วรองเท้าสเก็ตมาพักผ่อนกันอย่างเนืองแน่น และเปิดโอกาศให้พ่อค้าแม่ค้าหัวใสนำเอารองเท้าสเก็ตและอุปกรณ์ต่างๆ มาตั้งเพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เตรียมอุปกรณ์มา ทั้งนี้ทะเลสาบคุนหมิงถูกตั้งชื่อโดยจักรพรรดิเฉียนหลง จักรพรรดิองค์ที่ 6 ของราชวงศ์ชิง เมื่อสมัยปี 1750 ต่อมาเริ่มมีการขยับขยายและพัฒนาให้มีความใหญ่มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของเขาในสมัยนั้น จะว่าน่าเล่นมันก็น่าเล่นอยู่นะ แต่ถ้าเกิดน้ำแข็งมันละลายขึ้นมาไม่ร่วงกันไปหมดเหรอเนี๊ยะ? ที่มา shanghaiist
-
สวนสัตว์ในจีนหัวใส เปิดทัวร์ให้อาหาร “เสือ” แบบใกล้ชิดสุดๆ เห็นแล้วเสียววาบเลย!!
ในปัจจุบัน ความนิยมในการไปเที่ยวสวนสัตว์อาจไม่ได้สูงมากดั่งเช่นเมื่อก่อน หลายๆ สวนสัตว์จึงต้องมีการปรับตัว และสรรหาอะไรใหม่ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาชม อย่างเช่นสวนสัตว์จากมหานครฉงชิงแห่งนี้ พวกเขาจึงเปิดทัวร์รูปแบบใหม่ขึ้นมา โดยให้ผู้เข้าชม สามารถให้อาหารแก่เสือได้อย่างใกล้ชิด โดยพวกเขาจะให้อาหารผ่านช่องบนรถกรง ที่ทางสวนสัตว์จัดไว้ให้ โดยในสวนสัตว์มีทั้งเสือแอฟริกา เสือเบงกอล และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งแต่ละตัว ดูจะตื่นเต้นจากการกินอาหารแบบนี้มาก แบบว่าใกล้ชิดกันสุดๆ แต่บางทีก็คิดว่า ใกล้เกินไปรึเปล่าน้า หรือถ้าเบื่อเสือแล้ว จะให้อาหารหมีก็ไม่ว่ากัน แบบนี้ก็มีด้วย แต่เหมียวว่าระวังเสือมันจะพังทะลุกรงเข้ามานะ รับรองว่าได้วงแตกกันทั้งรถแน่นอน ฮาาาา ที่มา Shanghaiist
-
เหมียวเตือนภัย อย่าปล่อยเด็กไว้กับบันไดเลื่อน เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุนิ้วขาดแบบนี้ได้
ข่าวนี้อาจจะสะเทือนใจหรือโหดร้ายสักหน่อยนะ แต่เหมียวต้องหยิบมาเล่าเพราะจะได้เป็นการเตือนเหล่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ให้ปล่อยลูกๆ ไปขึ้นบันไดเลื่อนตามลำพัง เพราะมันอาจจะทำให้ลูกของคุณได้รับอันตรายแบบนี้ได้ เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหนูน้อยวัย 2 ขวบในมณฑลเจียงซี ประเทศจีน ที่ดันหกล้มลงตรงบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ทำให้มือของเธอติดอยู่ในบันไดเลื่อน และต้องสูญเสียนิ้วไปในที่สุด หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุ เธอก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองหนานชางอย่างเร่งด่วน จากการสอบถามผู้เป็นพ่อบอกว่า เจ้าตัวกำลังยุ่งอยู่กับการคุยกับเพื่อนในขณะนั้น ส่วนแม่นั่งรออยู่ที่ร้านอาหารใกล้ๆ ที่พวกเขาควรจะนั่งกินอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข ตามรายงานบอกว่าเครื่องจักรไม่ได้ตัดนิ้วของหนูน้อยไปเสียทั้งหมด เพราะเครื่องจักรตัดเอานิ้วของเธอไปเพียงนิ้วเดียว และครึ่งเดียวเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิกจึงเข้ามางัดแงะเครื่องจักรและนำนิ้วส่วนที่เหลือไปส่งโรงพยาบาล แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถต่อติดได้เหมือนเดิมหรือเปล่า ใครมีลูกเด็กเล็กแดงก็ดูแลกันดีๆ อย่าให้คลาดสายตานะ เพราะอันตรายอาจรอเราอยู่ก็เป็นได้ กันไว้ดีกว่าแก้นะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
น่ากินไหม? หนุ่มจีนสะสมก้อนหินมานานกว่า 10 ปี เมื่อรวมกันแล้วหน้าตาคล้ายอาหารมาก!!
เชื่อว่าแต่ละคนคงจะมีของสะสมที่แตกต่างกันไป เช่นบางคนชอบสะสมสแตมป์ บางคนสะสมโมเดล บางคนสะสมบัตรเติมเงิน (ยุคนี้ยังมีอีกเหรอ) หรือแปลกๆ หน่อยก็สะสมแมลง แต่ใครจะแปลกเท่าหนุ่มใหญ่ชาวจีนรายนี้ล่ะ เพราะเขาชอบสะสมก้อนหินเป็นชีวิตจิตใจเลยทีเดียว!! เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าว China Xinhua News ได้เผยแพร่เรื่องราวของนายหวาง เป่าเซิง คุณตาวัย 70 ปีที่อาศัยอยู่ในเมืองไท่หยวน มณฑลส่านซี ประเทศจีน ที่ชื่นชอบการสะสมก้อนหินมาก จนปัจจุบันเขามีก้อนหินหน้าตาแปลกๆ อยู่ในบ้านหลายหมื่นก้อนแล้ว แต่ความแปลกยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเมื่อเขานำเอาก้อนหินแต่ละแบบมาจัดเรียงกัน มันกลับมีหน้าตาละม้ายคล้ายกับอาหารบนโต๊ะจีนซะอย่างงั้น ทั้งนี้คุณตาหวางได้เผยกับสื่อว่าเขาใช้เวลากว่า 10 ปีในการเก็บรวบรวมก้อนหินแปลกๆ เหล่านี้จากทั่วทั้งประเทศจีนเลยทีเดียว โอ้โห มองไกลๆ นี่เหมียวนึกว่าอาหารจริงๆ เลยนะเนี๊ยะ คงไม่มีใครเผลอหยิบไปกินจริงๆ หรอกนะ ที่มา China Xinhua News , chinanews
-
ยิ่งกว่า V.I.P.!! เจ้าของร้านซาลาเปาขับลัมโบกินีส่งของถึงที่ หากสั่ง 100 ลูกขึ้นไป!?
เดี๋ยวนี้การแข่งขันทางด้านธุรกิจมันช่างสูงเหลือเกิน ทั้งด้านรสชาติ รูปร่างหน้าตา การบริการ หรือแม้แต่การจัดส่ง ถึงขั้นมีร้านค้าบางร้านเอารถสปอร์ตราคาหลายๆ ล้านมาใช้ส่งของด้วยนะเออ!! เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า เจ้าของร้านซาลาเปาแห่งหนึ่งในเมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ได้นำเอารถสปอร์ตส่วนตัวมาใช้ส่งซาลาเปาให้กับลูกค้าที่มีการสั่งซื้อเกิน 100 ชิ้นขึ้นไป ตามรายบอกว่าเจ้าของกิจการร้านซาลาเปาแห่งนี้เพิ่งจะเปิดร้านมาได้ไม่นานนี้เอง โดยก่อนหน้านี้เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับบาร์จนเจริญรุ่งเรืองมาก่อน หลังจากนั้นเขาก็หันมาเปิดร้านขายซาลาเปา และนำเอารถสปอร์ตมาเป็นจุดขาย เห็นได้ชัดว่าเจ้าของกิจการรายนี้ใช้รถหรูเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า และใช้เทคนิกด้านการบริการมาเป็นจุดขาย แม้ว่าจะดูสิ้นเปลืองไปหน่อยแต่มันก็สามารถสร้างความน่าเชื่อถือกับแบรนด์เกิดใหม่ของเขาได้เป็นอย่างดี เหมียวเองก็ไม่มั่นใจหรอกนะว่ารถชาติของเจ้าซาลาเปาร้านนี้จะดีเลิศขนาดไหน แต่รับรองว่าเข้าจะเป็นจุดเด่นที่คู่แข่งไม่สามารถเลียนแบบได้แน่ๆ ที่มา shanghaiist
-
แก๊งโสเภณีในจีน เนียนจัดฉากว่าเป็นคนดัง ออกขายบริการในโลกออนไลน์!?
เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเซินเจิ้นประเทศจีน ได้ติดตามและจับกุมตัวหญิงสาวขายบริการในโลกออนไลน์รายหนึ่ง ที่พยายามหลอกคนอื่นๆ ว่าตนเองคือดาราคนดัง และประกาศขายบริการในสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Weibo และ WeChat ในราคาสูงลิบลิ่ว แก๊งอาชญากรท้องถิ่นได้จัดตั้งกลุ่มขายโสเภณีออนไลน์ โดยการสร้างตัวตนปลอมๆ ของหญิงสาวอย่างแนบเนียน เพื่อขายบริการทางเพศ ทั้งนี้ได้มีภาพตัวอย่างเผยให้เห็นหญิงสาว กำลังโพสต์ท่าถ่ายภาพในขณะที่ตนเองชนะการประกวดนางงามในเวที Las Vegas ในขณะที่หญิงสาวบางคนยอมจ่ายเงินถึง 5 พันกว่าบาท เพื่อทำศัลยกรรมพลาสติกในเกาหลีใต้ เพื่อมาอัพค่าตัวของเธอจาก 2,000 หยวน เป็น 30,000 หยวน (164,764 บาท) ทีเดียว แต่ถึงแม้แก๊งนี้จะวางแผนไว้ดีแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ไม่มีทางรอดพ้นสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเซินเจิ้นไปได้ ใครเห็นแบบนี้ อย่าได้ตกหลุมพรางเด็ดขาดนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
พาเที่ยว “เทศกาลน้ำแข็ง” ในประเทศจีนที่ใหญ่ที่สุดในโลก งดงามอย่าบอกใครเชียว!!
นำแข็งหรือหิมะ ถือเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา โดยมีมนุษย์เป็นผู้สร้างสรรค์มันขึ้นมาใหม่ให้กลายเป็นงานศิลปะที่งดงาม จนกลายเป็นเทศกาลที่ดึงดูดผู้ชมหลายล้านคนให้เข้ามาเยี่ยมชมกันได้ เมื่อประมาณ 17 ปีที่แล้ว ได้มีเทศกาลประติมากรรมน้ำแข็งและหิมะเกิดขึ้นในเมือง Harbin ประเทศจีน ซึ่งมีผู้ให้ความจนใจเข้าร่วมชมหลายล้านคนในช่วงหน้าหนาว ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้งานแบบนี้กำเนิดขึ้นมาได้ ภายในงานจะประกอบไปด้วยปราสาทน้ำแข็งอันงดงามที่ประดับไปด้วยไฟหลากสีสัน ทำให้มันตระการตายิ่งกว่าเดิม บวกกับผู้เข้าชมประมาณ 10-15 ล้านคน ในแต่ละปีแล้ว ทำให้ปราสาทนำแข็งแห่งนี้กลายเป็นสิ่งที่ต้องมาสัมผัสสักครั้ง อีกทั้งมันยังเป็นปราสาทน้ำแข็งที่สูงที่สุดในโลกด้วย เพราะมันมีความสูงถึง 46 เมตรเลยทีเดียว นอกจากความยิ่งใหญ่ของปราสาทแล้ว ทุกที่ยังประดับไปด้วยประติกมากรรมที่มีแสงสีจากไฟ LED ที่ควมคุมด้วยคอมพิวเตอร์อันงดงาม ที่ใครไปแล้วก็ต้องหลงไปในโลกแห่งความมหัศจรรย์นี้ราวกับมีเวทมนตร์ อย่ารอช้า เราไปชมภาพบรรยากาศงานกันเลยดีกว่า ที่มา China Daily
-
คุ้นๆนะ!! ไปชมรูปปั้น ประธานเหมา เจ๋อตง ขนาดยักษ์สุดอลังการ มูลค่าสิบห้าล้านบาทในจีน!!
เมื่อวานในประเทศจีนเกิดเหตุการณ์สำคัญคือ มีการสั่งปิดตลาดหุ้นอย่างกะทันหัน หลังจากดัชนีหุ้นร่วงลงอย่างหนัก และในวันเดียวกันนั้นเอง ก็มีการเผยภาพของรูปปั้นขนาดยักษ์ของ ท่านประธานเหมา เจ๋อตง อดีตผู้นำคนสำคัญของจีนในช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง เหมา เจ๋อตง ถือว่าเป็นอีกคนที่มีบทบาทสำคัญในประเทศจีนระหว่างการเปลี่ยนแปลงการปกครองในประเทศจีน เขาเป็นผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน และทำให้จีนเปลี่ยนระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์มาจนถึงปัจจุบัน โดยรูปปั้นสีทองของท่านประธานเหมานี้ มีความสูงถึง 37 เมตร ตั้งอยู่ในมณฑลเหอหนาน และมีการใช้งบประมาณในการสร้างสูงถึง 3 ล้านหยวนหรือราว 15 ล้านบาทเลยทีเดียว เมื่อมีการเผยแพร่ภาพเหล่านี้ออกไป ก็มีเสียงวิจารณ์ออกมาอย่างกว้างขวาง เนื่องจากว่า ใบหน้าของรูปปั้นนั้น ดูไม่เหมือนท่านประธานเหมาซักเท่าไหร่นัก ดั่งเช่นคอมเมนต์หนึ่งที่กล่าวไว้ว่า “รูปปั้นหน้าตาเหมือนชาวบ้านแถวนั้นมากกว่า ท่านประธานเหมานะ” และยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงตำแหน่งที่ตั้งของรูปปั้น เนื่องจากมณฑลเหอหนาน เป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิวัติวัฒนธรรมของเหมา เจ๋อตงมากที่สุด ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากเหตุการณ์ครั้งนั้น โอ้โห อลังการจริงๆเลยนะเนี่ย ใครมีแผนจะไปประเทศจีน ก็ลองแวะไปชมกันได้ แล้วอย่าลืมมาเล่าให้เหมียวฟังด้วยล่ะ ว่าเป็นยังไงมั่ง อิอิ ที่มา Shanghaiist
-
นักศึกษาหญิงสองคนในจีน ถือป้ายประกาศให้ “เช่า” ตัวเอง เพื่อไปอยู่เป็นเพื่อน!!
ประเทศจีนนี่มีอะไรมาให้เราได้ประหลาดใจอยู่ตลอดเวลา และวันนี้อีกครั้งกับการประกาศ “ให้เช่า” ตัวเอง เพื่อไปเป็นเพื่อนยามเหงา หรือไปเดท!! ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการแชร์ภาพของนักศึกษามหาวิทยาลัยสองคน กำลังถือป้ายอยู่ริมทะเลสาบ West Lake ในประเทศจีน โดยบนป้ายเขียนข้อความ “ให้เช่า” ตัวของพวกเธอเอง โดยพวกเธอหวังว่า เธอจะสามารถใช้เวลาว่างของพวกเธอ เพื่อช่วยเหล่าคนเหงาให้มีเพื่อนดูหนัง กินข้าว หรือเดินเที่ยว ซึ่งการประกาศ “ให้เช่า” ครั้งนี้ของพวกเธอ เรียกความสนใจของประชาชนได้เป็นอย่างมาก อย่างที่เราเห็นในภาพว่า มีคนจำนวนมาก มารุมล้อมถ่ายภาพพวกเธอทั้งสอง ปัจจุบัน ธุรกิจ “เช่า” แฟนไปเที่ยวถือว่ากำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศจีน โดยผู้ต้องการเช่า สามารถเปิดเว็บไซต์ออนไลน์แล้วหาคนไปเที่ยวด้วยได้เลย โดยเฉพาะช่วงวันหยุด จะมีหญิงสาวจำนวนมากเสนอตัวให้ “เช่า” ไปเที่ยว แบบนี้ก็มีด้วยแฮะ เหมียวว่าอย่าเสียเงินไปเช่าเลย โทรหาเพื่อนซักคนแล้วช่วนเค้าไปเที่ยวดีกว่า แต่ถ้าจนปัญญาหาไม่ได้จริงๆ จะเช่าก็โอเคนะ ฮาา ที่มา…
-
ชาวเน็ตสุดเงิบ หลังพบวิธีทำม้าโพนี่สุดเกรียนจากประเทศจีน เห็นแล้วช็อคเลยจริงๆ
ในปัจจุบัน ประเทศที่เป็นแหล่งผลิตของเล่นหรืองานพลาสติกอันดับหนึ่งของโลก คงจะหนีไม่พ้นประเทศจีน อย่างที่เราเห็นได้เห็นป้าย Made in China อยู่ติดอยู่บนสินค้าหลายๆชิ้น และหลายๆคนก็เลือกซื้อสินค้าจากจีนเหล่านี้ เนื่องจากมีราคาถูกกว่า เช่นเดียวกับชายคนนี้ เขาได้ซื้อตุ๊กตาของเล่น ม้าโพนี่ ที่ผลิตจากประเทศจีนมา ซึ่งดูจากภายนอกแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ มีขนสลวยสวยงามดี แต่ทันทีที่เขาแกะตุ๊กตาตัวนี้ออกมาดู ถึงกับเงิบไปเลยทีเดียว เพราะไอ้ขนสวยๆงามๆที่เราเห็นเนี่ย มันมาจาก “หัว” ตุ๊กตาบาร์บี้!! เฮ่ยยยย น่ากลัวไปรึเปล่าแบบนี้ ถ้าเด็กกำลังเล่นอยู่แล้วเปิดมาเจอหัวข้างในเนี่ย เหมียวว่าต้องมีฝันร้ายไปอีกหลายวันแน่นอน เหมือนกับเคสนี้ ที่พ่อแม่ชาวอเมริกันซื้อของเล่นมาให้ลูก แต่ดันมีภาพผีอยู่ข้างใน เห็นแบบนี้แล้ว จะซื้อของเล่นอะไร ก็ขอให้เช็คให้ดีก่อน ไม่งั้นอาจเกิดเหตุการณ์เงิบๆแบบนี้ได้นะฮะ ที่มา Alfie Deyes
-
เก็บตกวันคริสต์มาส สาวจีนแต่งตัวเป็นซานตาคลอส เดินแจกของให้คนทำงานหามรุ่งหามค่ำในปักกิ่ง
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า มีหญิงสาวรายหนึ่งแต่งตัวเป็นซานตาคลอส ออกเดินไปตามถนนของกรุงปักกิ่ง ในคืนวันคริสต์มาสอีฟ เพื่อแจกของขวัญให้แก่ชาวเมืองที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ตามรายงานไม่ได้ระบุว่าหญิงสาวรายนี้เป็นใคร บอกเพียงว่าเธอน่าจะเกิดหลังปี 1990 เธอสวมถุงมือ หมวก หนวด และแต่งชุดสีแดงเหมือนซานตาคลอส พร้อมกับถุงของขวัญที่บรรจุของเล่นและของใช้ต่างๆ ไว้มากมาย ก่อนจะออกมาเดินในยามค่ำคืน ด้านนาย Wang Zhengrong วัย 106 ปี ผู้ขายแผ่นเสริมรองเท้าอยู่หน้ามหาวิทยาลัยของจีน ได้รับของขวัญจากเธอเป็นอาหารร้อนๆ กับกล้วย นี่คือภาพของหญิงสาวปริศนา ขณะมอบของขวัญให้คู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง ที่ตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาเตรียมขายของในตอนเช้า เธอไล่แจกของขวัญให้ชาวเมืองไปเรื่อย จนหนึ่งในชาวเมืองของกรุงปักกิ่งที่ได้พบกับหญิงสาว ตั้งฉายาให้เธอว่าเป็น “แม่สาวคริสต์มาส” ด้วย ใจดีมาก เหมียวล่ะซึ้งในน้ำใจของเธอเลย ชักอยากเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอซะแล้วซิ ที่มา shanghaiist
-
เรียนรู้ภาษาจีนได้ง่ายๆ จากภาพวาดตัวอักษรสุดน่ารัก เหมาะแก่การเริ่มต้นภาษาจีนที่สุด!!
การเรียนรู้ทางด้านภาษาอื่นๆ นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเนื่องจากโลกของเราเปลี่ยนแปลงไปมาก การติดต่อสื่อสารกับประเทศอื่นๆ ได้ก็จะทำให้เราสามารถทำอะไรๆ ได้สะดวกมากขึ้น แถมยังสามารถสร้างความประทับใจใช้ต้อนรับเจ้าของภาษาในประเทศของเราในฐานะเจ้าบ้านได้อีกด้วย ซึ่งนอกจากภาษาอังกฤษที่เราเรียนรู้กันเป็นภาษาที่สองแล้ว ตอนนี้ภาษาจีนก็ถือว่ามาแรงไม่แพ้กัน มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวในไทยมากมาย และมีคนไทยจำนวนไม่น้อยไปอยู่ที่ประเทศจีน ทั้งในด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจต่างๆ แต่เนื่องจากตัวอักษรจีนที่มีจำนวนมากถึง 20,000 ตัว อาจจะทำให้รู้สึกยากต่อการจำ จนถอดใจไม่เรียนเอาซะดื้อๆ เอาเป็นว่าหากใครสนใจที่อยากจะเรียนรู้ภาษาจีน ภาพการ์ตูนตัวอักษนจีนนี้ถือว่าเหมาะแก่การเริ่มต้นมากๆ เลย และใครที่กำลังเรียนอยู่ก็น่าจะช่วยให้จดจำตัวอักษรได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน ลักษณะคล้ายๆ กับภาษาญี่ปุ่นที่เหมียวเรียนมาเหมือนกันนะเนี่ย นำตัวอักษรมาวาดให้เป็นรูปที่มีลักษณะคล้ายกับสิ่งของต่างๆ ทำให้ง่ายต่อการจำนั่นเอง ที่มา : mymodernmet
-
ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผม!! เจ้าหมาในจีนเกาะเจ้าหน้าที่กูภัยแจ ประหนึ่งเป็นเจ้านายใหม่ หลังถูกช่วยให้รอดตาย
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้เผยแพร่เรื่องราวน่ารักๆ ของเจ้าหมาจรจัดตัวหนึ่ง ที่ถูกช่วยชีวิตโดยเจ้าหน้าที่กู้ภัย แต่มันกลับไม่ยอมไปไหนและทำตัวติดเจ้าหน้าที่แจเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่า 2 วันหลังจากที่เจ้าหมาถูกช่วยชีวิตออกมาจากซากปรักหักพัง จากเหตุการณ์ดินถล่มในเซินเจิ้นประเทศจีน เจ้าหมาก็ได้กลายมาเป็นเพื่อนร่วมงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปแล้วเรียบร้อย เจ้าหมาคอยเดินวนไปวนมารอบๆ เพื่อตามหาเจ้านายของมัน เจ้าหมาแทบไม่ได้กินอะไรเลย แม้คนงานจะพยายามช่วยกันดูแลมันแล้วก็ตาม เจ้าหมาเลยอยู่กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยประหนึ่งเป็นเจ้านายใหม่ของมัน หลังจากเรื่องราวของเจ้าหมาตัวนี้ถูกแชร์ออกไปในอินเตอร์เน็ต ชาวเน็ตในจีนก็รู้สึกประทับใจและคิดว่ามันมีส่วนคล้ายกับเจ้า Hachi เจ้าหมาผู้ซื่อสัตย์แห่งญี่ปุ่น ที่รอคอยเจ้านายที่สถานีรถไฟ แม้ว่าเจ้านายจะตายไปแล้วก็ตาม ใครมีบุญคุณกับตัวเองก็สามารถรับรู้ได้ น่ารักมาก ที่มา CCTVNews
-
หญิงจีนโชคร้าย ซื้อแมวพันธุ์แท้ออนไลน์ ปรากฏมาถึงได้แมวบ้านๆ แถมแมวตายคากล่อง!?!?
ปัจจุบันการซื้อของออนไลน์กลายเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยความสะดวก เพียงแค่คุณคลิกๆ แค่นั้นสินค้าก็พร้อมจะส่งมาถึงบ้านของคุณแล้ว แต่สิ่งที่มาพร้อมกับการซื้อสินค้าออนไลน์นั้น คือการหลอกลวงฉ้อโกงนั่นเอง เพราะหากเราเจอกับคนขายที่ไม่ซื่อสัตย์แล้ว อาจทำให้เราเสียเงินฟรีๆไปเลยก็ได้ อย่างเช่นเรื่องราวของหญิงสาวชาวจีนคนนี้ สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า หญิงสาวคนหนึ่งจากเมือง Huaian ได้เห็นประกาศขายลูกแมวพันธุ์ American Shorthair สีขาวจากเว็บไซต์ 58.com เธอบอกว่าเธอเป็นคนรักแมวอยู่แล้ว และเธอพยายามตามหาแมวพันธุ์แท้ของพันธุ์ American Shorthair มาเป็นปีแล้ว และเมื่อเธอติดต่อกับผู้ขายไป ผู้ขายก็ส่งรูปพร้อมวีดีโอมาให้เธอ เธอจึงโอนเงินราว 30,000 บาทไปให้ผู้ขาย เมื่อกรงแมวส่งมาถึงบ้านของเธอ เธอถึงกับช็อคเพราะเมื่อเปิดออกมาแล้ว เธอพบร่างไร้ชีวิตของแมวบ้านๆตัวหนึ่ง เธอคิดว่ามันคงตายระหว่างการขนส่ง เธอจึงติดต่อกลับไปยังผู้ขาย และแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นไป เจ้าของขอโทษเป็นการใหญ่ และจะทำการคืนเงินให้ในทันที แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ถูกบล็อกโดยผู้ขายคนดังกล่าว และไม่สามารถติดต่อกับเขาได้อีกเลย ตำรวจกล่าวว่า มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเกือบ 20 ครั้งแล้วในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โดยพวกเขาจะถูกหลอกว่าจะขายแมวพันธุ์แท้ให้ เหยื่อก็หลงเชื่อและโอนเงินไป แต่เมื่อแมวมาถึง กลับเป็นแค่แมวบ้านๆธรรมดา จิตใจเขาทำด้วยอะไรนะ แค่หลอกเอาเงินยังไม่พอ กลับทำให้น้องเหมียวตาดำๆต้องมาตายอีก ขอให้ตำรวจตามจับตัวคนร้ายได้เร็วๆนะฮะ จะได้ไม่มีใครต้องโชคร้ายอีก…
-
น่าสงสาร หนุ่มจีนของแฟนแต่งงาน แต่ถูกปฏิเสธ เพียงเพราะแหวนนั้นเล็กเกินไป!?
หลายๆ ครั้งเรามักจะได้เห็นการขอแต่งงานแบบพลาดๆ ที่ฝ่ายหญิงปฏิเสธฝ่ายชาย จนกลายเป็นเรื่องหน้าแตก เป็นข่าวดังไปทั่ว ทำเอาฝ่ายชายถึงกับเสียเซล์ฟกันเลยทีเดียว สาเหตุก็เนื่องมาจากความรักของทั้งคู่ยังไม่สุกงอมดีพอ หรือฝ่ายหญิงไม่พร้อมจะแต่งงานด้วย ล่าสุดเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้อีกแล้วล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า ชายหนุ่มในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ถึงกับหน้าแตกกลางที่สาธารณะ เมื่อเขาพยายามขอแฟนสาวแต่งงานด้วยแหวนเพชร แต่สาวเจ้ากลับปฏิเสธ ด้วยสาเหตุที่ว่าแหวนวงนั้นเล็กเกินไป!? ตามรายงานบอกว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หนุ่มจีนได้จัดแจงขอแฟนสาวแต่งงานด้วยการสร้าง “Flash Mob” ที่เป็นการนำคนจำนวนมากแฝงตัวมากับฝูงชน และช่วยกันเต้นรำเพื่อขอหญิงสาวแต่งงานให้สำเร็จ เมื่อหญิงสาวเห็นดังนั้น เธอก็ตื้นตันจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แต่เมื่อเธอเห็นแหวนวงนั้นก็ถึงกับทำให้เธอผิดหวังอย่างรุนแรง เพราะแหวนวงนั้นมีขนาดเล็กกว่า 1 กะรัต เมื่อเห็นว่าแหวนยังไม่ถูกใจเธอ เธอจึงหันหลังและเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีภาพแชทระหว่างเธอกับเพื่อนสาวหลุดออกมา จับใจความได้ว่า “เขาเคยตกลงกับฉันว่าจะซื้อแหวนใหญ่ขนาด 1 กะรัตให้ แต่ทำไมเขาถึงซื้อแหวนที่เล็กกว่านั้นมา? หรือเขาไม่แคร์ฉันเลย?” ไม่รู้ว่าที่ฝ่ายชายหนุ่มซื้อแหวนวงเล็กมาให้เธอ เป็นเพราะซื้อผิดหรือเงินไม่พอกันแน่นะ แต่ถ้าคนรักกันจริง เรื่องแหวนน่าจะพออภัยให้กันได้นา ที่มา shanghaiist
-
อู้หูววว สาวจีนรวมกลุ่มกันเต้นรูดเสาในสภาพอากาศหนาวเหน็บ เพื่อต่อต้านการใส่เสื้อผ้าจากขนสัตว์
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า กลุ่มนักเต้นรูดเสาสาวได้รวมกลุ่มกันออกมาเต้นรูปเสาในมณฑลจี๋หลิน ประเทศจีน ในอุณหภูมิอันหนาวจัด เพื่อแสดงพลังในการต่อต้านเสื้อผ้าที่ทำมาจากขนสัตว์ ตามรายงานบอกว่า Song Yao วัย 29 ปี หนึ่งในสมาชิกนักเต้นรูปเสาได้เข้าร่วมกลุ่มกับสาวๆ คนอื่นเพราะว่าเธออยากให้ผู้คนตระหนักถึงความเลวร้ายในการเลือกใช้ขนสัตว์มาเป็นเครื่องนุ่งห่ม และปฏิเสธการใส่เสื้อผ้าแบบนั้นในฤดูหนาว หลังจากที่มีการแสดง ก็เริ่มมีคนกลุ่มเล็กๆ หยุดดูพวกเธอเต้นรูปเสาในสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ พร้อมกับหยิมมือถือขึ้นมาบันทึกภาพการแสดงของพวกเธอไว้ หลังจากที่การแสดงจบลง ทีมงานก็เข้ามาช่วยหิ้วพวกเธอออกไปจากบริเวณนั้น เพราะว่าพวกเธอหนาวสั่นเกินกว่าจะเดินได้เอง แม้จะดูเป็นการรณรงค์ที่ยากจะได้ผล แต่อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นคุณค่าของสัตว์โลกและไม่อยากทำร้ายพวกมันล่ะนะ ที่มา shanghaiist
-
เป็นไปได้!! สินค้าจากแคนาดา ‘อากาศแคนาดาแท้อัดกระป๋อง’ ทางเลือกของอากาศบริสุทธิ์
ทุกวันนี้สินค้าแปลกๆ ใหม่ๆ มักจะคลอดออกมาให้เราถึงกับงงงวยกันอยู่เสมอว่า เอ!? ไอ้ที่ผลิตมาเนี่ยทำเอาขำๆ หรือว่าทำขายจริงๆ อย่างคอนเซปต์ของอากาศอัดกระป๋อง ที่ฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องตลก แต่มันก็ทำออกมาแล้วจริงๆ นะเออ สำหรับอากาศอัดกระป๋องนี้มีชื่อว่า Vitality Air ส่งตรงมาจากรัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา โดยการนำอากาศบริสุทธิ์จากอุทยานแห่งชาติแบมฟ์และทะเลสาบ Louise ที่ขึ้นชื่อว่ามีอากาศบริสุทธิ์ที่สุดในโลก โดยก่อนหน้านั้นเป็นเพียงแค่เรื่องตลกขำขันที่โผล่ขึ้นมาใน eBay แต่สุดท้ายก็คลอดออกมาจนได้จริงๆ โดยทำการอัดอากาศจากบริเวณที่กล่าวไปข้างต้น นำมาบรรจุไว้ในกระป๋องแบ่งขาย รวมไปถึงการทำออกซิเจนบริสุทธิ์ตามมาด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับการใช้งานนั้นก็ใช้งานง่ายเหมือนกับสเปรย์พ่นทั่วไป ฉีดออกมาเพื่อสร้างอากาศบริสุทธิ์หรือจะใช้หน้ากากชนิดพิเศษเพื่อสูดดมก็ทำได้ ซึ่งแต่ละกระป๋องสามารถสูดดมได้ประมาณ 150 – 200 ครั้ง เดิมทีมีเป้าหมายลูกค้าเป็นนักกีฬาชาวแคนาดาและประชาชนทั่วไปเพื่อเป็นตัวช่วยในการหายใจในระหว่างปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นภายในประเทศ แต่ตอนนี้ได้ขยายฐานลูกค้าไปไกลถึงประเทศจีนแล้ว หลังจากที่ทางการจีนได้ประกาศภาวะหมอกควันฉุกเฉิน และไม่น่าเชื่อว่าหลังจากที่ส่งไปให้ตัวแทนขายที่ประเทศจีน ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ในเว็บไซต์ต้องประกาศเลยว่าของหมด และรีบส่งของตามมาสบทบภายหลังอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็ขายในราคาประมาณกระป๋องละ 360 – 721 บาท (10 –…
-
ลูกค้าโวย ภัตตาคารจีนคิดค่า “อากาศดี” ในบิลค่าอาหาร อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์?!?!
ประเทศจีนนี่มีอะไรมาให้เราได้เงิบอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ขนาดไหน พวกเขาก็พร้อมจะทำให้เป็นข่าวดังได้ อย่างเช่นเรื่องราวของร้านอาหารสุดเคี่ยวแห่งนี้ เรื่องมีอยู่มีลูกค้าท่านหนึ่งไปทานอาหารในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง Zhangjiagang มลฑล Jiangsu ประเทศจีน ปรากฏว่าตอนเรียกเก็บเงิน ในบิลค่าอาหารดันมีค่า “ฟอกอากาศ” ด้วย ซึ่งร้านอาหารคิดค่าฟอกอากาศ 1 หยวนต่อคน โดยทางภัตตาคารอ้างว่า พวกเขาเพิ่งซื้อเครื่องฟอกอากาศอย่างดีมาใหม่ จึงต้องมีการเรียกเก็บค่าบริการซักนิดหนึ่ง ทางลูกค้าได้ยินแบบนี้ จึงร้องเรียนไปยังกรมคุ้มครองผู้บริโภคในทันที กรมคุ้มครองผู้บริโภคจึงเข้ามาจัดการร้านค้าดังกล่าวพร้อมบอกว่า อากาศในร้านถือว่าเป็นความรับผิดชอบของร้าน ไม่สามารถผลักภาระไปที่ผู้บริโภคได้ และการค้าขาย “อากาศ” ถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายอีกด้วย โดยตอนนี้ในเมือง Zhangjiagang กำลังประสบกับปัญหาฝุ่นควันอย่างรุนแรง ในทุกวันจะมีฝุ่นหนาจนสามารถมองเห็นได้เพียงในระยะ 100 เมตรเท่านั้น แบบนี้ก็โหดเกินไปเนอะ อีกหน่อยคงต้องเรียกเก็บค่าเก้าอี้ ค่าโต๊ะ อะไรแบบนี้แล้วล่ะ ฮาาาา ที่มา Shanghaiist
-
จดหมายน้อยภาษาจีนซ่อนในถุงเท้าที่ซื้อมาจากร้านค้าเสื้อผ้าราคาถูก ‘ช่วยเราด้วย เราโดนอุ้ม’
เวลาที่เราไปซื้อของหรืออะไรก็ตามแต่ สิ่งที่เราคาดหวังจากสินค้าก็คือตัวสินค้า แต่กระนั้นก็มีของแถมที่ได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างเช่นคุณพ่อของ Lucy Kirk ที่ไปซื้อถุงเท้ามาคู่หนึ่งจากร้าน Primak กลับเจอกระดาษพร้อมกับข้อความที่เขียนเป็นภาษาจีนเต็มแผ่น โดยที่มาพบกับกระดาษพร้อมข้อความภาษาจีนนี้หลังจากที่ซื้อถุงเท้ามาได้หนึ่งสัปดาห์ สำหรับใจความบนกระดาษนั้นก็ประมาณว่า ชายชาวจีนผู้เขียนข้อความชื่อว่า Ting Kun Ding ถูกอุ้มเข้ากลีบเมฆโดยเจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่นในจีน เนื่องจากเปิดโปงการทุจริตของวงใน ตอนนี้ถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ อีกทั้งภรรยาของเขาก็ถูกจับเข้าโรงพยาบาลจิตเวช โดยปีที่แล้วคุณพ่อของเขาถูกฆ่าปิดปากในโรงพยาบาลด้วย จึงได้เขียนโน๊ตนี้ขอความช่วยเหลือให้ส่งเรื่องไปให้ถึงรัฐบาลจีนเพื่อขอความเป็นธรรมกับเขา ในที่สุดโลกออนไลน์ก็ได้รับรู้พร้อมกับติด #HelpTingKunDing เพื่อเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยเหลือชายชาวจีนผู้นี้ แม้แต่ทางด้านร้านค้าเสื้อผ้า Primak เองก็ยังติดตามเรื่องนี้เช่นเดียวกัน แต่ด้วยคำขอที่ปรากฏบนกระดาษนั้นทำให้ Lucy ไม่อาจตัดสินใจได้ว่าจะส่งเรื่องนี้ไปยังสถานทูตจีนที่อยู่ใกล้เคียงหรือต้องส่งเรื่องไปยังรัฐบาลจีนโดยตรงดี แต่สุดท้ายก็ทำให้เธอตัดสินใจส่งเรื่องไปยังรัฐบาลกลางของจีนแทน ซึ่งยังไม่มีความคืบหน้าอะไรมากนัก ที่มา : unilad
-
สาวจีนตีมึน วิ่งไปล้มลงหน้ารถคนอื่น หวังเรียกเงินประกัน สุดท้ายโดนตำรวจรวบไปซิ
ไม่น่าเชื่อว่าทุกวันนี้จะยังมีคนแกล้งมึน เนียนวิ่งไปให้รถชนเพื่อเรียกร้องเอาเงินประกัน แต่เหมียวขอบอกเลยว่ามุกนี้มันเก่ามากแล้ว แถมรถสมัยนี้ยังมีกล้องติดรถอีก คงจะยากหน่อยหากจะใช้มุกหากินเดิมๆ แบบสาวจีนคนนี้ล่ะ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอของสาวจีนรายหนึ่ง ที่ตีมึนวิ่งไปล้มตัวลงนอนหน้ารถยนต์คันหนึ่งทำให้คนขับต้องเบรคทันที แต่เหมือนเธอจะรู้ตัวว่าล้มไกลไปหน่อย เธอจึงลุกขึ้นและเดินมาล้มใกล้ๆ กับตัวรถ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย แต่งานนี้ไม่หวานหมูแบบที่เธอคิดล่ะ เพราะเจ้าของรถไม่ยอมลงจากรถแม้แต่ก้าวเดียว แถมยังพยายามบีบแตรไล่เธอด้วย ซึ่งผู้ที่สัญจรไปมาแถวนั้นก็ไม่ได้มีใครให้ความสนใจหรือเข้ามาดูเธอแม้แต่น้อย จนสุดท้ายเจ้าของรถต้องโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารวบตัวหญิงสาวออกไป สุดต้องก็ต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน เพราะมีคลิปจากรถบันทึกไว้นั่นเอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย แหม่ มุกเก่าแบบนี้เหมียวว่าไม่เวิร์คนะ กลับไปคิดมาใหม่นะคุณป้า ที่มา shanghaiist
-
สำนักข่าว CCTV ออกการ์ตูนสุดน่ารัก แนะนำการใช้ชีวิตช่วงวิกฤตฝุ่นควันให้ชาวจีน
แม้วิกฤตฝุ่นควันในประเทศจีน จะเกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายต่อหลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าวิกฤตนี้จะดีขึ้นแต่อย่างใด ซ้ำร้ายยังแย่ลงทุกวันๆอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง ทางสถานีโทรทัศน์ CCTV จึงได้ทำการ์ตูนสุดน่ารัก เพื่อแนะนำวิธีการใช้ชีวิตอย่างไรให้ปลอดภัย ในช่วงวิกฤตกาลเช่นนี้ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย 1. อย่าออกไปข้างนอก โดยไม่จำเป็น (จำเป็นแค่ไหน แค่ไหนเรียกจำเป็น เจ็บเพียงหนึ่งครั้ง..จังหวะนี้ต้องห้ามแล้ว) 2. พยายามเลี่ยงสถานที่ ที่จะทำให้คุณติดอยู่ที่เดิมเป็นชั่วโมง เช่น สถานีรถไฟฟ้า 3. สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก 4. สั่งน้ำมูกซักและล้างหน้าซักที หลังจากออกไปข้างนอกมา เพราะฝุ่นควันอยู่ทุกที่จริงๆ 4. ดื่มน้ำและชาเยอะๆ แล้วก็งดสูบบุหรี่ (ถึงไม่มีวิกฤตก็เลิกเถอะ) 5. ขับรถอย่าใช้ไฟสูง ให้ใช้ไฟตัดหมอกเอา เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ และท้ายสุด สุดท้าย จงยิ้มเข้าไว้ และหวังว่าวิกฤตนี้จะผ่านไปโดยเร็ว เหมียวก็ขอเอาใจช่วยให้พี่น้องชาวเซี่ยงไฮ้ ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยเร็วนะฮะ ที่มา Shanghaiist
-
ภาพประทับใจของแอร์โฮสเตจสาวชาวจีน ป้อนข้าวชายชราที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้บนเครื่องบิน
เหมียวเชื่อคำพูดที่ว่า “อย่าหมดหวังในตัวมนุษย์” ถึงแม้บางทีเราจะได้รับข่าวสารมากมายเกี่ยวกับการกระทำที่โหดร้าย แต่อย่างน้อย ถ้าเราได้เห็นการทำดีของใครสักคนแล้ว มันก็ช่วยให้จิตใจของเราดีขึ้นได้ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนหนึ่งเธอชื่อว่า Fan Xuesong ทำงานให้กับสายการบินจีน บินจาก Zhengzhou ไปสู่ Hainan ระหว่างทาง เธอได้พบกับชายชรา Niu วัย 71 ปี ชายผู้ซึ่งประสบกับโรคลมชัก ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้บางส่วน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทานอาหารได้ด้วยตัวเอง แอร์สาวคนนี้จึงตัดสินใจที่จะช่วยผู้โดยสารท่านนี้ โดยภาพที่ออกมา ถ่ายโดยผู้โดยสารท่านอื่น เผยให้เห็นภาพความประทับใจที่เกิดขึ้น “ตอนที่ฉันป้อนอาหารเขา ชายชราคนนั้นเริ่มร้องไห้ออกมา” Fan ให้สัมภาษณ์หลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ไปอย่างมาก ภาพนี้ถูกถ่ายได้โดยผู้โดยสารใกล้ๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มอันงดงามจนกลายเป็นภาพภาพนี้ เมื่อสองปีก่อนชายชราท่านนี้ซึ่งเคยเป็นศาสตราจารย์คณะแพทย์ ประสบกับโรคลมชัก ทำให้เขากลายเป็นคนพิการบางส่วน ความจริงแล้วในเที่ยวบินนี้ภรรยาและผู้ดูแลก็นั่งมาด้วย แต่พวกเขาไม่ได้นั่งด้วยกัน จึงไม่สามารถดูแลได้ ดังนั้น Fan จึงอาสาทำหน้าที่นี้ให้แทน และเธอพยายามปลอบเขาหลังจากที่เขากำลังร้องไห้ การป้อนอาหารก็เป็นไปด้วยความยาก เพราะเขาไม่สามารถเคี้ยวหรือกลืนได้ง่าย อย่างไรก็ตาม Fan ก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุด เธอคอยดูแลจนเขาสามารถทานอาหารได้จนเสร็จ ถือเป็นเรื่องราวที่น่าจดจำเรื่องหนึ่งเลย ที่มา Daily Mail
-
แค่นี้ก็เอา?!!? เจ้าหน้าที่จีนเงิบ พบ “หน้ากากอนามัยปลอม” ท่ามกลางวิกฤตฝุ่นควัน?!?!
เป็นที่ทราบกันดีว่า ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนในตอนนี้ กำลังประสบกับวิกฤตมลพิษฝุ่นควันอย่างรุนแรง จนทางการจีนต้องออกมาประกาศเตือนเป็นพื้นที่ภัยพิบัติเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณคิดว่าแค่นั้นแย่แล้ว สิ่งที่เจ้าหน้าที่จีนพบในโกดังแห่งหนึ่ง ต้องบอกว่าแย่กว่ามากจริงๆ โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรในเมืองเซี่ยงไฮ้ ได้ตรวจพบหน้ากากอนามัยปลอม ยี่ห้อ 3M จำนวน 120,000 ชิ้น ซุกซ่อนอยู่อย่างเนียนๆ ในโกดังแห่งหนึ่ง และพร้อมที่จะนำไปจำหน่ายด้วย โดยทางบริษัท 3M ได้ออกมาเตือนว่า หน้ากากอนามัยปลอมนี้ ไม่เพียงไม่ช่วยอะไรแล้ว ยังทำให้ผู้ใช้เสี่ยงอันตรายมากกว่าเดิมเสียอีก เนื่องจากใช้วัสดุคุณภาพต่ำผลิตนั่นเอง ซึ่งสอดคล้องกับทาง คุณหมอ Wang Jian ได้กล่าวว่า หน้ากากปลอมอันนี้ สร้างทำให้ผู้ใช้ เกิดอาการแพ้และระคายเคืองได้ เมื่อข่าวนี้เผยแพร่ออกไป มีประชาชนหลายคนได้แสดงความเห็นบนสังคมออนไลน์ บางคนถึงกับบอกว่า “ฉันคงไม่ตายจากหมอกควันหรอก แต่จะตายเพราะกลิ่นของหน้ากากแทน นี่มันของปลอมหรือเปล่าเนี่ย” แหม พี่จีนของเรานี่มาเหนือความคาดหมายตลอดเลย เหมียวละสงสารบ้านเขาจริงๆ เจอฝุ่นควันว่าแย่แล้ว เจอคนหลอกนั้นแย่กว่าจริงๆ ที่มา Shanghaiist
-
นี่ก็เกินไป๊!! ผู้รับเหมาจีนตูดหมึก สร้างบ้านทับสายไฟ เดินขึ้นลงต้องข้าม-ก้ม ตลอด!?
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเจ้าของบ้านชาวจีนกลุ่มหนึ่งถึงกับตกตะลึง เมื่อเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยในบ้านตัวเองก่อนเข้าอยู่ แต่กลับพบว่าบ้านของพวกเขามีสายไฟตัดผ่านตัวบ้าน ทำให้เวลาเดินขึ้น-ลง ต้องก้มตัวหรือก้าวข้ามอยู่ตลอดเวลา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียงของจีน โดยตามรายงานระบุว่าพื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่สำหรับพัฒนาที่อยู่อาศัย แต่กลับมีสายไฟพาดผ่านบริเวณนั้น แทนที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างจะเปลี่ยนไปสร้างบ้านที่อื่น พวกเขากลับสร้างบ้านทับลงไปเลย ทำให้ต้องเจาะกำแพงไปยังห้องต่างๆ เช่นห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว เพื่อให้สายไฟสามารถผ่านตัวบ้านไปได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นชาวบ้านเองก็ได้ทราบปัญหาสายไฟอยู่ก่อนแล้ว พวกเขาคิดว่าน่าจะมีการย้ายสายไฟออกไปก่อนที่พวกเขาจะย้ายเข้า แต่เมื่อมาดูตัวบ้านจริงๆ ก็พบว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ในโครงการหมู่บ้านแห่งนี้มีด้วยกันทั้งหมด 9 หลัง แต่มีแค่ 3 หลังเท่านั้นที่ประสบปัญหานี้ ตามรายงานจากเว็บไซต์ People’s Daily บอกว่ายังไม่มีผู้ว่าจ้างรายไหนจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาเลย หลังจากที่เจ้าของบ้านได้เข้าตรวจเช็ตสภาพบ้าน คุณตาวัย 83 ปีรายหนึ่งก็ได้สะดุดสายไฟล้มและได้รับบาดเจ็บจนต้องหามส่งโรงพยาบาล เสียค่ารักษาไปกว่า 3,000 หยวน หรือประมาณ 16,709 บาท ที่มา shanghaiist
-
ผู้โดยสารเจอ “นักท่องเที่ยวคนจีน” เอาเท้าพาดมาตรงที่พิงแขนบนเครื่องบิน ทำเอากินไม่ได้ นอนไม่หลับ!!
งานนี้แม้แต่คนจีนด้วยกันก็ยังเอือนกันเอง เมื่อ Ms. Wu ได้เล่าประสบกาณณ์การนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพไปเมืองซีอาน ประเทศจีน และต้องพบกับเพื่อนผู้โดยสารข้างหลังที่ยื่นเท้ามาตรงที่พิงแขน Ms. Wu เล่าว่า ได้มีหญิงชาวจีนคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างหลังเธอ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมาในเครื่องของสายการบิน AirAisa จากกรุงเทพสู่ซีอาน ซึ่งลูกเรือก็ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย หลังจากเตือนไปครั้งหนึ่งแล้ว “ฉันตื่นมาตอนตี 4 เพื่อมาขึ้นเครื่อง ฉันตั้งใจจะมานอนบนเครื่อง แต่ก็นอนไม่ได้ เพราะเท้านี่แหละ เขายื่นมาตรงที่พิงแขน จนฉันไม่สามารถกินหรือดื่มอะไรได้เลย และเหมือนถูกบีบไปตลอดการเดินทาง” เธอให้สัมภาษณ์กับ Beijing Youth Daily และเมื่อเธอแจ้งเรื่องนี้ไปยังพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งเธอคิดว่าน่าจะเป็นคนไทย และพนักงานก็ได้บอกเธอว่าไม่สามารถทำอะไรได้ Ms. Wu บอกว่า “เธอขอโทษฉัน แต่เธอบอกว่าช่วยอะไรไม่ได้ เพราะว่าพวกเขาเป็นคนจีนทั้งหมด” นอกจากนี้เธอยังเจอการพูดคุยเสียงดังตลอด 4 ชั่วโมง 25 นาทีที่อยู่บนเครื่อง หลังจากถึงบ้านแล้ว เธอก็ได้นำเรื่องนี้ไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียของจีนว่า “ถึงแม้จะเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ แต่การบริการก็ไม่จำเป็นต้องลดลงไปตามก็ได้ ฉันมีคำถามอย่างหนึ่ง ต้องเป็นเจอเหตุการณ์แบบไหนถึงจะเปลี่ยนพฤติกรรมของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้?” ที่มา The Daily Mail
-
ไม่น้อยหน้า!! Baidu เปิดตัวรถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง คาดใช้เวลา 5-10 ปีในการเก็บเส้นทางในจีน
หากจะพูดถึงโปรแกรมกำจัดไวรัสสุดฮิต (เหรอ) อย่าง Baidu คงจะไม่มีใครไม่รู้จักล่ะนะ หากใครไม่รู้จักแอดเหมียวจะขออธิบายง่ายๆ ว่ามันคือโปรแกรมกำจัดไวรัสในคอมพิวเตอร์จากจีน ที่พร้อมจะชำแรกแทรกตัวเข้าไปอยู่ในคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยที่คุณอาจไม่รู้ตัวเลยทีเดียว ล่าสุด Baidu ได้พัฒนาไปอีกขั้น โดยการนำรถ BMW มาดัดแปลงให้กลายเป็นรถไร้คนขับ คล้ายกับของฝั่ง Google เพื่อออกสำรวจเส้นทางในจีน ซึ่งโครงการนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2013 และคาดว่าจะใช้เวลา 5-10 ปี กว่าที่จะเก็บรายละเอียดของเส้นทางต่างๆ ได้จนครบ ทางด้านโฆษกของทาง Baidu ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “การทดสอบถนนนี้ ดำเนินการภายใต้รูปแบบถนนที่ซับซ้อน และยานพาหนะของเราอย่าง BMW ซีรี่ส์ 3 ก็ผ่านการทดสอบมาแล้ว ดังนั้นรถจะตอบสนองได้กับทุกๆ สภาวะแวดล้อมเลยทีเดียว” การทำสอบสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่ารถคันนี้สามารถเลี้ยวซ้าย-ขวา ยูเทิร์นได้ สามารถตรวจจับรถคันข้างหน้าได้ ชะลอตัวเมื่อจำเป็น สามารถเปลี่ยนเลนหรือแม้แต่การแซงรถคันอื่นๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีการรายงานว่าเจ้ารถไร้คนขับคันนี้ จะสามารถวิ่งได้ดีในสภาพที่หมอกลงหนาในกรุงปักกิ่งเช่นตอนนี้ได้หรือไม่ แต่หากรถ Baidu สามารถแล่นไปบนถนนที่มีการจราจรติดขับแบบกรุงปักกิ่งได้ล่ะก็ ปัญหานั้นก็คงเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับพวกเขาแล้วล่ะ…
-
คนดีที่โลกรอ!! หมอจีนไม่ยอมแพ้ต่อความพิการ รักษาคนไข้มากว่า 12 ปี แบบไม่คิดเงิน แม้ตนเองจะมีขาเดียว
ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เหมียวอยากจะมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันในวันนี้เลยล่ะ สำหรับเรื่องราวของคุณหมอชาวจีน ผู้พิการขาเดียว แต่ยังคงทำหน้าที่รักษาคนไข้ในหมู่บ้านเล็กๆ มานานถึง 12 ปี แม้การเดินทางแต่ละครั้งจะเป็นเรื่องยากลำบากก็ตาม เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Shanghaiist เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยคุณหมอรายนี้มีชื่อว่านายฉี เซิ่งหยง วัย 36 ปี เขาได้สูญเสียขาซ้ายไปตั้งแต่อายุได้ 14 ปี เพราะถูกรถชน ทำให้เขาต้องหยุดเรียนไป 1 ปี และฝึกการใช้ชีวิตด้วยขาข้างเดียว เมื่อสภาพจิตใจและร่างกายเริ่มเข้าที่แล้วเขาก็กลับมาเรียนต่อ แม้ชีวิตจะยากลำบากแค่ไหนเขาก็ไม่เคยยอมแพ้ ทำให้เขาตั้งใจเล่าเรียนจนสอบเป็นหมอที่มหาวิทยาลัยหยูโจวได้สำเร็จ และกลับมารักษาคนไข้ผู้ยากไร้ต่อไป ตามรายงานบอกว่าชาวบ้านมักจะเห็นภาพของคุณหมอรายนี้เดินกะเผลกๆ พร้อมกับเครื่องมือการแพทย์ไปตามทางเดินในหมู่บ้านทุกวันๆ ไม่ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม คุณหมอฉีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ในตอนแรกผมล้มลงเพราะไม่คุ้นชินกับเส้นทางเดินเท่าไหร่ แต่รอยแผลทั้งหมดก็ช่วยเตือนผมว่ามีคนไข้กำลังรอผมอยู่ ไม่ว่าจะเจ็บตัวแค่ไหนแต่ก็ยังมีคนไข้ที่รอให้ผมไปช่วยอยู่” ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา หมอฉีบอกว่าเขารักษาคนไข้มานับไม่ถ้วน แถมยังไม่เคยเก็บเงินแม้แต่หยวนเดียว เพราะเขารู้ดีว่าชาวบ้านนั้นยากจนแค่ไหน…
-
ชาวจีนนำภาพแลนด์มาร์คที่เคยถ่ายไปเทียบกับปัจจุบัน เผยให้เห็นปัญหา “หมอกควัน” ที่รุนแรง
นับได้ว่าปัญหาหมอกควันในทางตอนเหนือของประเทศจีนตอนนี้รุนแรงมากๆ จนประกาศเตือนภัยสีแดง และได้ลุกลามไปยังปักกิ่งเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันอังคาร (8 ธ.ค.) ที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่ปักกิ่งประสบปัญหาหมอกควันในระดับที่สูงขนาดนี้ ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 จนทางการต้องประกาศเตือนภัยในวันต่อๆไป เกี่ยวกับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมกับกำชับการปล่อยมลพิษและควบคุมการใช้รถบนท้องถนน ทางรัฐบาลถึงกับต้องสั่งปิดโรงเรียนเพราะเป็นห่วงสุขภาพเด็กๆ ส่วนประชาชนทั่วไปก็ต้องใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นควัน และหลีกเลี่ยงการออกไปนอกบ้านเท่าที่จำเป็น และส่วนที่ก่อสร้างก็ขอให้ยุติไปก่อน จากข้อมูลของศูนย์เฝ้าสังเกตการณ์บอกว่าหมอกควันนี้น่าจะเบาลงในวันพฤหัสบดีที่กำลังจะถึง (10 ธ.ค.) เมื่อลมหนาวเข้ามา วันนี้เหมียวก็จะพามาชมภาพถ่ายชุดหนึ่ง โดยสมาชิกเว็บไซต์ Weibo ชื่อว่า @飘在英伦 ได้ทำการตระเวนไปยังสถานที่สำคัญ ที่ครั้งหนึ่งเคยสวยงามมากๆ แต่ตอนนี้ถูกปกคุลมไปด้วยหมอกและควัน จนแทบไม่เหลือความสวยงามอยู่เลย เขาได้ใช้ภาพถ่ายที่เคยถ่ายไว้ เอาใส่ในมือถือ แล้วนำไปเทียบกับของจริง เห็นแล้วทำให้รู้เลยว่าปัญหานี้มันหนักมากแค่ไหน เราไปชมภาพของเขากันเลย ปัญหานี้ก็ยังแก้ไม่ตก เพราะทางการจีนก็โทษกันไปโทษกับมา บ้างก็ว่าที่ปักกิ่งมีคนใช้รถใช้ถนนเยอะเกิน จนทำให้เกิดปัญหานี้ บ้างก็บอกว่าปัญหาเกิดจากการเผาถ่านหิน นอกจากนี้ยังมีประเทศอีกมากมายที่กำลังประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน ที่ร้ายแรงที่สุดก็คงเป็นปากีสถาน ที่ระดับหมอกควันสูงเป็น 14 เท่า เกินกว่าระดับปลอดภัย รองลงมาคืออัฟกานีสถาน ที่มา cctv-america, @飘在英伦
-
ชาวจีนสุดโหด ขโมยแก๊สหุงต้มใส่ถุงพลาสติกกลับบ้าน ผู้เชี่ยวชาญเตือน อาจระเบิดได้!!
ไม่รู้ว่าเป็นวัฒนธรรมหรือว่าเหตุอันใด แต่ประเทศจีนนี่มีอะไรแปลกๆให้เราได้ตื่นตาตื่นใจอยู่ตลอดเวลา อย่างเช่นเรื่องราวการขโมย “แก๊สหุงต้ม” ที่เหมียวนำมาเสนอวันนี้ เรื่องราวมีอยู่ว่า เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในแถบนอกเมืองตงฉิง มณฑลซานตง มีคนสังเกตเห็นมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง กำลังบรรทุกถุงพลาสติกยาวประมาณ 6 เมตร ซึ่งภายในนั้น เป็น “แก๊สหุงต้ม” ที่เธอไป “ขโมย” มา โดยผู้ที่พบเห็นเล่าว่า เหตุการณ์แบบนี้เป็นเรื่องปกติ ชาวบ้านแถวนี้มักนำถุงพลาสติกไปขโมยแก๊สหุงต้มมาจากแหล่งเก็บแก๊สเป็นประจำ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ทางด้านผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาเตือนว่า การบรรจุแก๊สแบบนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก หากมีการรั่วไหลออกมาและมีสะเก็ตไฟ ก็อาจเกิดการระเบิดได้ทันที เอากันแบบนี้เลยเหรอเนี่ย อันตรายจริงๆ เหมียวล่ะยอมใจเขาเลย เพื่อนๆเห็นแล้วอย่าไปทำแบบนี้นะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน อิอิ ที่มา Shanghaiist
-
โวยลั่น!! หนุ่มจีนร้องโวยวายเหมือนเด็ก หลังพยายามเปลี่ยนที่นั่งบนเครื่องบิน แต่ถูกปฏิเสธ
พฤติกรรมการร้องไห้งอแงเพื่อจะเอาสิ่งของอย่างใดอย่างหนึ่ง แม้จะเป็นพฤติกรรมน่าอายที่เด็กๆ ชอบทำกัน แต่เชื่อไหมว่าทุกวันนี้ก็ยังมีผู้ใหญ่บางคนทำอยู่เหมือนกันนะ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอหนึ่งที่ถูกถ่ายไว้ได้บนเครื่องบินที่กำลังจะเดินทางออกจารครเซี่ยงไฮ้ไปยังนิวยอร์คเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เผยให้เห็นผู้โดยสารชายชาวจีนรายหนึ่ง กำลังตะโกนโหวกเหวกโวยวายอยู่กับพื้น จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ สาเหตุที่เขาทำแบบนั้นก็เพราะว่าเขาพยายามจะขอเปลี่ยนที่นั่งบนเครื่องบิน เพื่อไปนั่งในชั้นที่ดีกว่า แต่ถูกพนักงานบนเครื่องปฏิเสธทำให้เขาไม่พอใจและตะโกนเสียงลั่น จนเจ้าหน้าที่ต้องลากเขาออกจากเก้าอี้ เกิดเป็นคลิปวิดีโอสุดน่าอายอย่างที่เห็นนี่แหละ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังควบคุมตัวผู้โดยสารจีน มีเสียงของผู้โดยสารคนอื่นๆ ดังขึ้นว่า “ระวังหน่อย อย่าให้เขากัดคุณได้นะ” สร้างความโกลาหลให้ผู้โดยสารทั้งลำอยู่ไม่น้อย ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ผู้โดยสารท่านไหนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ใจเย็นๆ หน่อยนะจ๊ะ ยังไงก็ถึงที่หมายเหมือนกัน ที่มา metro
-
ใจสู้ไม่ถอย!! ชาวจีนยึดมั่นไม่ยอมเวนคืนที่ดิน ทำให้รัฐต้องสร้างถนนอ้อมตัวบ้านแทน
ในบางครั้งที่รัฐพยายามจะสร้างถนนไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน หากเส้นทางนั้นไปตรงเข้ากับบ้านของผู้คน ก็อาจจะต้องมีการเวนคืน แต่หากมีคนบางคนดื้อๆ ไม่ยอมย้ายออกไปล่ะ จะเป็นยังไง? เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shaghaiist ได้รายงานว่าเจ้าของอาคารแห่งหนึ่งในมณฑลหางโจว ประเทศจีน ปฏิเสธที่จะย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งประกอบไปด้วยโรงงานผลิตยาและที่ดินโดยรอบ ทำให้รัฐต้องเปลี่ยนการวางถนนใหม่ ให้อ้อมที่ดินของเขาไปด้านข้างแทน สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเจ้าของที่ดินได้รับค่าตอบแทนที่ไม่สมเหตุสมผล ทำให้พวกเขาปฏิเสธการขายที่ดินผืนนี้ จึงทำให้เกิดเป็นถนนรูปตัว C อย่างที่เห็น ในอดีตที่ผ่านมา เคยมีเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้นในประเทศจีนอยู่หลายแห่งทีเดียว ลองไปชมภาพกันเลย แอดเหมียวขอนับถือในความใจเด็ดของพวกคุณเลย ที่มา shanghaiist
-
ไม่ดูตาม้าตาเรือ!! หนุ่มจีนขับรถประมาท ทับเด็ก 2 คน แต่ดันรอดตายอย่างปาฏิหาริย์!?
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shahaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดช็อคของคนขับรถไร้วินัยรายหนึ่ง ที่ขับรถเหยียบเด็กเล็กสองคนจนเข้าไปติดอยู่ใต้ท้องรถ แต่ทั้งสองกลับรอดตายและลุกขึ้นเดินหน้าตาเฉย!! ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในมณฑลอันหุยประเทศจีนเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา หนุ่มแซ่ซันได้เช่ารถยนต์มาขับ และขับไปไปตามท้องถนน ในระหว่างทางมีเด็กสองคนกำลังก้มเพื่อผูกเชือกรองเท้าอยู่ นายซันกลับมาจอดรถอยู่ข้างๆ เด็กทั้งสอง แต่จู่ๆ เขาก็ถอยรถและขับไปชนเด็กๆ อย่างหน้าตาเฉย เด็กทั้งสองก็กลิ้งตัวไปอยู่ใต้ท้องรถก่อนที่รถยนต์จะหยุด จากนั้นหนึ่งในนั้นก็ลุกออกมาจากใต้ท้องรถ ก่อนที่จะช่วยเด็กอีกคนที่ติดอยู่ในนั้นออกมา สร้างความตื่นตกใจให้แก่ชาวเมืองในละแวกนั้น รวมไปถึงชาวเน็ตที่ได้ชมคลิปดังกล่าวด้วย ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นก็ได้รีบเข้ามาดูอาการของเด็กทั้งสอง ปรากฏว่าทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงแต่อย่างใด มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนทางด้านคนขับนั้นจะถูกดำเนินคดีต่อไป นี่ถือเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้นะ ใครมีลูกมีหลาน โปรดดูแลพวกเขาให้ดีๆ นะ เหมียวล่ะเป็นห่วงจริงจริ๊ง ที่มา shanghaiist
-
สุดยอด!! เด็กชายวัย 11 ขวบ ต้องอุ้มน้องสาวป่วยพิการทางสมองไป-กลับ โรงเรียนทุกวัน
นี่เป็นหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่เหมียวอ่านแล้วชื่นใจมากเลยล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ People’s Daily ได้เผยแพร่ภาพของ Li Yuan เด็กชายวัย 11 ขวบจากจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะอุ้ม Li Nianying หนูน้อยวัย 6 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคสมองพิการ ไปเรียนด้วยทุกๆ วัน ตามรายงานบอกว่า Li Nianying เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่อายุได้ 1 ขวบ ทำให้เธอต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ทำให้ครอบครัวของพวกเขาเป็นหนี้มากมาย จนเมื่อเธออายุได้ 6 ขวบ ตายายก็สามารถพูดคุยกับทางโรงเรียน เพื่อขอให้หลานสาวได้เข้าเรียนที่นี่ได้สำเร็จ แต่ตายายไม่สามารถมาส่งหลานสาวได้เนื่องจากแก่มากแล้ว พี่ชายอย่าง Li Yuan จึงต้องอุ้มน้อยสาวไปเรียนด้วยทุกวันๆ และอุ้มกลับในตอนเย็น หลังจากเรื่องราวดังกล่าวเริ่มถึงหูคุณครู ทางโรงเรียนก็ช่วยกันบริจาคข้าวของเครื่องใช้มากมายให้แก่พวกเขา และถึงแม้ว่าหนูน้อย Li Nianying จะมีความพิการทางสมอง แต่เมื่อดูผลการเรียนก็ถึงกับประหลาดใจ เพราะเธอเธอทำคะแนนได้ดีทีเดียว …
-
ศิลปินจีนนำภาพวาดจีนโบราณมาผสมกับตัวละครใน Star Wars บอกได้คำเดียวว่าเจ๋งสุดๆ!!
Star Wars ถือว่าเป็นหนึ่งในหนังที่มีแฟนๆติดตามมากที่สุดในโลก และด้วยความที่หนังภาคใหม่ของ Star Wars กำลังจะมาฉายในรอบ 10 ปี ทำให้มีแฟนๆหลายคน สร้างสรรค์ศิลปะออกมาเพื่อให้รับกับกระแส และวันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆไปชมภาพผลงานของศิลปินชาวจีน ที่นำเอาภาพวาดจีนโบราณ มามิกส์กับตัวละครจาก Star Wars ได้อย่างลงตัว จะเจ๋งขนาดไหน ไปชมกันเลย Darth Maul Darth Vader Storm Trooper C3-PO Han Solo, Chewbacca, Leia Obi-Wan Luke Yoda Boba Fett Leia Rey โอ้โห เอาซะเนียนเลยนะเนี่ย เห็นแบบนี้แล้วยิ่งอยากดู Star Wars ภาคใหม่เข้าไปใหญ่เลยนะเนี่ย อดใจอีกสองสัปดาห์…
-
ไปรู้จัก “อุทยานแห่งชาติจิวไจ้” อันงดงามดุจสวรรค์บนดิน อยู่ใกล้แค่จีนนี่เอง!!
หากพูดถึงอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงบนโลก เราอาจนึกถึงอุทยานแห่งชาติเยลโลวสโตน หรือ แกรนด์ แคนยอนในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่รู้หรือไม่ ใกล้ๆกับประเทศไทยเรานี้ ก็มีอุทยานแห่งชาติที่งดงามไม่แพ้กันอยู่ จะเป็นที่ไหน ไปชมกันเลย ยินดีต้อนรับเข้าสู่อุทยานแห่งชาติจิวไจ้ ในประเทศจีน ช่วงที่เหมาะสมที่สุดที่จะไปเที่ยว คือช่วงฤดูใบไม้ผลิ ถึงจะเป็นหน้าหนาวก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่นะ อุทยานแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องทะเลสาบอันงดงามและน้ำตกที่ซับซ้อน น้ำตกนี้มีชื่อว่าน้ำตก Arrow Bamboo อย่าว่าแต่น้ำตกเลย แค่กระแสน้ำปกติ ก็สวยจนต้องทึ่งแล้ว นี่คือน้ำตก Nuorilang น้ำตาที่กว้างที่สุดในประเทศจีน ซึ่งสูง 20 เมตร ยาว 300 เมตร แน่นอนว่า นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ใช้ที่แห่งนี่เป็นโลเคชั่นถ่ายรูป ทะเลสาบ Five Flower คือหนึ่งในจุดที่คนนิยมไปเที่ยวมากที่สุด แหล่งน้ำหลากสีแห่งนี้ เป็นที่อยู่ของต้นไม้โบราณมากมาย ทะเลสาบที่ตัดผ่านหุบเขา ก็งดงามไม่แพ้กัน ทะเลสาบในอุทยานแห่งนี้ ล้วนเกิดมาจากหิมะและน้ำแข็งที่ละลาย รวมถึงลำธารนี้ก็เช่นกัน …
-
คู่รักวัย 98 ปี ได้สร้างภาพ “วันแต่งงาน” อีกรอบ หลังจากผ่านมานานกว่า 70 แล้ว!!
วันแต่งงาน ถือเป็นวันที่คู่รักหลายๆคนจำได้เป็นอย่างดี และมักจะพากันไปกินข้าวหรือฉลองกันในวันนั้น แต่ในวันครบรอบวันแต่งงานครั้งที่ 70 ของคู่รักตายายคู่นี้ กลับมีอะไรที่พิเศษกว่าคู่ไหนๆ คุณตา Wang Deyi วัย 98 ปี และคุณยาย Cao Yuehua วัย 97 ปี ชาวจีน ได้แต่งงานกันตั้งแต่ปี 1945 ในสวน Northern Hot Springs Park เมือง Chongqing และตอนนี้ทั้งคู่ก็มีลูก 4 คนด้วยกัน และตอนนี้ลูกๆ ก็มาช่วยพ่อแม่ในการถ่ายภาพชุดนี้ ทำพยายามทำให้เหมือน 70 ปีที่แล้ว Cao Pangpei ลูกชายคนสุดท้องวัย 60 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN ว่า “พ่อแม่ของผมอายุ 98 ในปีนี้ พวกเขาอยู่ด้วยกันมานานแล้ว ผ่านสงคราม ความวุ่นวายทางการเมือง และโรคภัยต่างๆ มามากมาย แต่ก็ยังอยู่ด้วยกันและรักกันเป็นอย่างดี เราจึงต้องการที่จะช่วยฉลองความรักของพ่อและแม่” “พ่อแม่พยายามจะจำเรื่องราวต่างๆในชีวิต แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยลืม นั่นก็คือกลอนที่พวกเขาเขียนให้กันในช่วงที่เกิดสงคราม”…
-
มันใหญ่มาก!! พบซากปลาวาฬหนักกว่า 3.9 ตัน นอนเกยตื้นอยู่บนชายหาดในประเทศจีน
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าพบศพปลาวาฬตัวยาวกว่า 8.5 เมตร หนัก 3.9 ตัน นอกเกยตื้นอยู่ที่บริเวณชายหาดในเมือง Rizhao มณฑลซานตง ประเทศจีน ตามรายงานบอกว่ามีชาวบ้านพบซากปลาวาฬตัวนี้เข้าที่ชายหาด จึงรีบโทรแจ้งไปยังหน่วยงานแถวนั้น เพื่อให้มารับซากของเจ้าปลาวาฬไป และด้วยขนาดตัวที่ใหญ่มากของมัน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่มาก เพื่อมาขนมันออกไป มีการประเมินเบื้องต้นว่าปลาวาฬยักษ์อาจเสียชีวิตเพราะว่ายน้ำไปชนกับตาข่ายของชาวประมงที่ใช้สำหรับหาปลา ทำให้ร่ายกายของมันไม่สามารถขยับได้และตายในที่สุด ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องนำตัวของมันกลับไปแช่แข็งและทำการสำรวจต่อไป เหตุการณ์เหล่านี้แม้จะดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ แต่ในอดีตที่ผ่านมา กลับเกิดเหตุการณ์คล้ายกันนี้หลายครั้ง บางครั้งเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์น้ำก็สามารถช่วยพวกมันไว้ได้ทัน แต่บางตัวก็ถูกฆ่าตายอย่างโหดร้ายทีเดียว น่าสงสารเจ้าวาฬมาก ที่มา shanghaiist
-
ไม่กลัวหนาวตายเรอะ!? แก๊งค์หนุ่มใหญ่ แก้ผ้าลงเล่นน้ำในจีน แม้สภาพอากาศจะหนาวเย็นสุดๆ ก็ตาม
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shangahiist ได้รายงานว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สภาพอากาศในประเทศจีนได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ทำให้อากาศหนาวเย็นขึ้น แต่ถึงแม้อากาศจะหนาวเย็นยังไงก็ไม่สามารถห้ามคนบางกลุ่มไม่ให้ออกมาทำกิจกรรมข้างนอกได้ เพราะในเมืองฉงชิ่งเอง มีกลุ่มชายสูงวัยกว่า 20 คน พากันออกมาว่ายน้ำเล่นข้างแม่น้ำยงซีอย่างไม่สะทกสะท้าน ทำให้ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาอดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพพวกเขามาเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริเวณใกล้ๆ กันนั้นจะมีซุ้มหรือแหล่งชุมนุมที่เป็นหาดเปลือย ไว้ให้ชาวเมืองที่ชอบเปลือยกายได้มาพักผ่อนกันในที่ลับหูลับตาคน แต่ที่บริเวณนั้นก็ไม่ใช่ที่สำหรับหาดเปลือย และอาจก่อให้เกิดความอุจาดตาได้ ถ้าอากาศหนาวเย็นมาก ก็นอนพักผ่อนอยู่บ้านเถ๊อะพ่อ ที่มา shanghaiist
-
หนักหนา!! จีนเจอหมอกหนาปกคุลมจนมองอะไรไม่เห็น ประหนึ่งพายุทรายบนดาวอังคาร
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่ภาพถ่ายจากเมืองฮูฮอตทางตอนเหนือของประเทศจีน ที่ถูกปกคลุมไปด้วยควันหนาจนมองอะไรไม่เห็น ประหนึ่งพายุทรายบนดาวอังคาร ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เดินทางไปยังกรุงปารีสเพื่อประชุม COP21 กับ UN เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาหมอกควัน ที่ปัจจุบันมีหมอกปกคุลมประเทศไปแล้วกว่า 530,000 ตารางกิโลเมตร เมืองนี้ถูกปกคุลมไปด้วยหมอกหนาสีน้ำตาล ซึ่งเปลี่ยนบรรยากาศของเมืองให้ดูน่าขนลุกกว่าเดิม และนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อีกด้วย อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ล่ะนะ ว่าถ้าเราย้ายไปใช้ชีวิตอยู่บนดาวอังคาร หน้าตาจะเป็นยังไง ที่มา shanghaiist
-
โหดร้ายเกินไปแล้ว!! นักเรียนนักเลงบังคับเพื่อนกิน “อึ” ในห้องน้ำ ทั้งกดหัว-กระทืบซ้ำ
โรงเรียนแม้จะเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับบ่มเพาะเด็กๆ ให้เติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ แต่ก็ไม่สามารถที่จะสั่งสอนเด็กบางคนให้กลายเป็นคนดีได้ เช่นเหล่านักเรียนนักเลงที่เหมียวจะนำเสนอต่อไปนี้ นี่เป็นคลิปที่กำลังมีการส่งต่อกันอย่างมากมายในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของจีนอย่าง Weibo เลยทีเดียว สำหรับคลิปวิดีโอการกลั่นแกล้งกันของเหล่านักเรียนนักเลง ที่จับเอาเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาขังไว้ในห้องน้ำ และบังคับให้เขากิน “อึ” ภายในโถส้วม จากคลิปจะเห็นได้ว่าเด็กหนุ่มถูกบังคับให้ก้มลงไปกับพื้น เพื่อกินอึ แต่ดูเหมือนเขาจะพยายามขัดขืน เหล่านักเลงจึงเหยียบหลังของเขาและกระทืบซ้ำๆ เพื่อให้เขาเงยหน้าขึ้นมาไม่ได้ ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ทั้งนี้ไม่มีการรายงานว่า เด็กๆ เหล่านั้นถูกตามตัวมาลงโทษหรือไม่ แต่หลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไปทั่วโลก ทำให้ชาวเน็ตต่างแสดงความเห็นกันอย่างร้อนแรง เช่นสมาชิกที่ใช้นามแฝงว่า Someaussiedude กล่าวว่า “ถ้านั่นคือลูกชายผม ผมจะออกตามล่าพวกมันและหักขาของพวกมันซะ” และ MeeLee กล่าวว่า “การกลั่นแกล้งกันเช่นนี้ มักจะจบลงด้วยการที่เด็กคนนั้นฆ่าตัวตาย ไม่ก็พยายามกลับมาล้างแค้นเด็กเลวพวกนั้นด้วยตัวเอง” ดูแล้วอารมณ์มันขึ้นจริงๆ ถ้าเป็งลูกเป็นหลานนี่จะตบหัวพุ่งเลย ที่มา D’ Ooor VideoOss
-
หนุ่มทะเลาะกับแฟนปีนเสาไฟแรงสูงประชด สุดท้ายโดนไฟช็อตอาการสาหัส!!
หลายๆคนมักเตือนว่า เวลาเราอยู่ในอารมณ์โมโห ควรอยู่ให้ห่างอาวุธและของมีคมเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย แต่ตอนนี้เหมียวว่า เราควรเพิ่มว่าให้อยู่ห่างเสาไฟด้วย เพราะไม่งั้นอาจเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมือง Jinhua จังหวัด Zhejiang ในประเทศจีน มีชายหนุ่มนาม Luo วัย 30 ปี ปีนขึ้นไปอยู่บนเสาไฟฟ้าแรงสูง หลังจากทะเลาะกับแฟนสาว โชคร้าย (เหรอ) เขาดันไปสัมผัสโดนสายไฟ พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า พวกเขาได้ยินเสียงระเบิดดังมาก แล้วร่างของนาย Luo ก็ติดไฟ แล้วก็ค่อยๆร่วงลงมา เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที แพทย์รายงานว่าเขาพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่บนร่างกายมีแผลไฟไหม้ทั่วร่างกาย แต่ยังไม่มีใครทราบว่า เขากับแฟนทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ ใครทะเลาะกับแฟนก็อย่าประชดแบบนี้ล่ะ เดี๋ยวจะได้เดือดร้อนกันหมด ฮาา ที่มา Shanghaiist
-
วิกฤตหนัก ชาวจีนว่างงานกว่า 1.3 ล้านคน แห่สมัครสอบข้าราชการ รับเพียง 27,000 ตำแหน่ง
ปัญหาคนว่างงานกลายเป็นปัญหาที่เริ่มระบาดหนักไปในหลายๆ พื้นที่เลยทีเดียว เพราะอย่างที่ประเทศจีนเองก็เกิดเหตุการณ์ที่เหล่าประชาชนกว่าล้านคน แห่กันไปสมัครงานข้าราชการ ที่รับเพียง 2 หมื่นกว่าคนเท่านั้น เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าประชาชนขาวจีนกว่า 1.39 ล้านคน ได้แห่กันไปสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการ ซึ่งเป็นตัวการันตีว่าพวกเขาจะมีงานและรายได้ที่ดี แต่ตามรายงานบอกว่าการเปิดสอบครั้งนี้เปิดรับเพียง 27,817 ตำแหน่งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลได้ออกกฎเพื่อลงโทษสำหรับผู้ที่คิดจะโกงข้อสอบ หากถูกจับได้จะต้องถูกลงโทษทางอาญา และถูกจำคุกถึง 3 ปีด้วยกัน แม้ว่าตัวเลข 1.39 ล้านคน จะดูสูงมาก แต่เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆ มาแล้ว นี่ก็ยังถือว่าไม่ใช่ตัวเลขที่สูงที่สุดอยู่ดี ที่มา shanghaiist
-
สุดยอดคุณแม่!! หญิงจีนแขนเดียว ทำงานวันละ 16 ชั่วโมง เลี้ยงลูก 2 คน หลังจากสามีเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวสู้ชีวิตของสาวแขนเดียวนามว่า Fang Wenying ที่อาศัยอยู่ในมณฑลอันหุยประเทศจีน เธอต้องสู้ชีวิตอย่างหนัก ทั้งทำงานวันละ 3 ที่ และเลี้ยงลูกสาวอีก 2 คน หลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิตไปในเหตุการณ์รถชนเมื่อ 3 ปีก่อน หลังจากที่ขาดหัวหน้าครอบครัวไป ทำให้เธอและลูกๆ ต้องมีชีวิตที่ยากลำบาก เธอจึงต้องหางานทำหลายๆ รวมแล้ว 16 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งนี้ นาง Wenying เล่าให้สื่อฟังว่า เธอต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 และกลับเข้าบ้านอีกครั้งในเวลา 4 ทุ่มครึ่ง ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา แต่นั่นก็ยังไม่เลวร้ายเท่ากับที่เธอต้องทำงานทุกอย่างด้วยแขนเพียงข้างเดียว และเพื่อที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ลูกสาวของเธออย่าง Dandan วัย 20 ปีก็ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน เพื่อมาช่วยทำงาน โดยเธอสามารถหารายได้ต่อเดือนได้ประมาณ 2,800 หยวนหรือประมาณ 15,720…
-
ชายจีนวัย 58 อาศัยอยู่ในถ้ำหิมะกว่า 10 ปี เผย ดื่มแอลกอฮอล์ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist รายงานว่า พบชายวัย 58 นามว่า Yu Fazhong อาศัยอยู่ในทางตอนเหนือมณฑลเหหลงเจียง ประเทศจีนที่มีอากาศหนาวเย็นปกคลุม โดยเขาอาศัยอยู่ในถ้ำใต้ดินที่เขาสร้างขึ้นมาเองนานกว่า 10 ปี โดยการดื่มแอลกอฮอล ตามรายงานบอกว่านาย Yu Fazhong อาศัยอยู่ห่างจากหมู่บ้านปักกิ่ง มณฑลเหหลงเจียงประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเขตที่มีอากาศหนาวเย็นของจีน จนได้รับการขนานนามว่า “หมู่บ้านอาร์กติก” ชาวเน็ตและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในระแวกนั้น รู้สึกประหลาดใจกับวิธีที่เขาเอาตัวรอดจากความเหงา พื้นที่อันคับแคบ และอากาศหนาวเย็นเพราะเขาบอกว่าเขาดื่มแอลกอฮอล์เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นนั่นเอง นาย Yu Fazhong กล่าวว่า “ผมคุ้นเคยกับสภาพความเป็นอยู่หลังจากที่ผมใช้ชีวิตอยู่ที่นี่นาน 10 ปี ถ้ามันหนาวเกินไป ผมจะจุดไฟเพื่ออบอุ่นร่างกายในช่วงกลางวัน และจิบเหล้าเพื่อให้อุ่นเข้าไว้” หมู่บ้านอาร์คติก ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1960 ปัจจุบันมีพื้นที่กว่า 16 ตารางกิโลเมตร…
-
สื่อนอกเผยภาพพ่อ-แม่ชาวจีน ออกมานั่งเฝ้าที่จอดรถให้ลูกวันละหลายชั่วโมง ให้ลูกมีที่จอดรถ!?
กลายเป็นภาพที่ชวนหดหู่จริงๆ สำหรับภาพของชาย-หญิงชราคู่หนึ่ง ขณะนั่งบนเก้าอี้บนที่จอดรถหน้าบ้านตัวเอง เพื่อรอลูกชายขับรถกลับมาจอด แม้ว่าสภาพอากาศจะหนาวเหน็บแค่ไหนก็ตาม ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Shanghaiist เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เผยให้เห็นภาพชาย-หญิงชราในเมืองนาน มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ที่ออกมานั่งเฝ้าที่จอดรถทุกวัน หลังจากช่วงบ่าย เพื่อให้เวลาที่ลูกชายกลับบ้าน จะได้มีที่จอดรถสำหรับเขา ตามรายงานบอกว่าชาย-หญิงชราคู่นี้จะผลัดกันออกมาเฝ้าที่จอดรถ เพื่อรอลูกชายกลับบ้าน เหตุเพราะว่าหลายครั้งที่ลูกชายมักจะกลับมาบ้าน และพบว่าไม่มีที่จอดรถสำหรับเขา พวกเขาเองก็เข้าใจดี และยอมมายนั่งเฝ้าที่จอดรถให้ลูกชายวันละหลายชั่วโมง ทั้งนี้ ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์บอกว่าสภาพอากาศในขณะนั้นเลวร้ายมากจนอดเป็นห่วงไม่ได้เลยทีเดียว ที่มา shanghaiist
-
อุบัติเหตุเหนือธรรมชาติ รถลอยขึ้นกลางอากาศ แท้จริงแล้วแค่สายเคเบิ้ลพันล้อรถ!?
ถือเป็นหนึ่งในคลิปฮือฮาที่มีการแชร์ให้เห็นบ่อยที่สุดในวันนี้เลยก็ได้ สำหรับคลิปอุบัติเหตุในประเทศจีน ที่จู่ๆ รถก็ลอยขึ้นไปในอากาศ จนเหมือนเป็นพลังเหนือธรรมชาติเลยทีเดียว เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Shanghaiist เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เผยให้เห็นคลิปวิดีโอของรถตู้คันหนึ่ง ขณะขับตรงมาตามทาง แต่เมื่อถึงบริเวณสี่แยก รถตู้คันดังกล่าวกลับลอยขึ้นไปในอากาศ นอกจากนี้รถที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงก็ลอยขึ้นด้วยเล็กน้อย จนทำให้ผู้ชมคลิปบางส่วนเชื่อกันว่านี่อาจเป็นเหตุการณ์ลี้ลับก็เป็นได้ แต่เหตุการณ์ทุกอย่างก็คลี่คลาย เมื่อนักข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบพื้นที่ก็พบว่า แท้จริงแล้วเป็นเพียงสายเคเบิ้ล ที่พนักงานซ่อมถนนลืมเก็บเท่านั้น ทำให้รถยนต์ที่สัญจรไปมาไปเกี่ยวกับสายไฟเข้า จนเกิดเป็นภาพชวนอึ้งที่เห็นนี่เอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย แหม่ เล่นเอาซะตกอกตกใจหมดเลย ทีนี้ก็เอาไปคุยได้แล้วนะ ว่าไม่ใช่พลังลี้ลับอะไร ที่มา shanghaiist
-
เกินไปมั้ง!? เพื่อนเจ้าสาวในจีน ถูกแขกในงานรุมจับหน้าอกยับ แถมส่งเสียงเชียร์ “จับเลยๆ”
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดช็อคภายในงานแต่งงานแห่งหนึ่งในประเทศจีน แต่แทนที่จะมีภาพเจ้าบ่าวเจ้าสาวจูบกัน กลับกลายเป็นภาพของเพื่อนเจ้าสาว ขณะถูกแขกภายในงานรุมจับหน้าอกซะอย่างงั้น ตามรายงานบอกว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกถ่ายได้ที่มณฑลไห่หนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีน เผยให้เห็นภาพของเหล่าชายหนุ่ม กำลังลูบคลำหน้าอกของหญิงสาว อย่างสนุกสนาน โดยมีแขกในงานตะโกนส่งเสียงเชียร์ว่า “จับเลย จับเลย” หลังจากที่แขกหนุ่มๆ ได้จับหน้าอกของเธอแล้ว พวกเขายังหยิบเอาโทรศัพทมือถือขึ้นมาถ่ายภาพอีก ทำให้หญิงสาวเกิดความอับอายเป็นอย่างมาก และพยายามใช้มือปัดกล้องและมือของพวกเขาออกไป อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นพฤติกรรมที่ยอมรับได้ยากในสังคมชาวจีนเช่นกัน เพราะหลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันรุมประนามการกระทำอันไม่เหมาะสมดังกล่าว แถมยังต่อว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่เป็นผู้จัดงานด้วยว่า ทำไมถึงไปห้ามปรามพวกเขา? ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง งานนี้เลยเถิดไปไกลเชียว เหมียวเห็นแล้วน่าสงสารมาก ที่มา dailymail
-
เก็บกันอุตลุด!! ชาวเมืองในฮ่องกงแย่งกันเก็บเพรชบนพื้นถนน หลังร่วงมาจากฟ้าอย่างปริศนา?
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน เว็บไซ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีชาวเมืองกว่า 50 คนบนท้องถนน กำลังแก่งแย่งกันเก็บ “เพชร” บนพื้น หลังจากที่มันร่วงลงมาอย่างปริศนาในเกาะฮ่องกง ตามรายงานบอกว่าในช่วงเวลาประมาณ 20.40 นาฬิกา ได้มีวัตถุชิ้นเล็กชิ้นน้อยมีลักษณะมันวาวตกลงมาบนพื้นคล้ายกับเม็นฝน บนถนนนาธาน ย่านจิมซาจุ่ย เกาะฮ่องกง แต่ทันใดนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้น เมื่อมีหญิงสาวตะโกนเป็นภาษาจีนว่า “เพชร!” ทำให้คนที่เดินอยู่ในบริเวณนั้นต่างพากันก้มลงไปกับพื้น และมองหาไปทุกซอกทุกมุมเพื่อหาอัญมณีดังกล่าว จนมีผู้คนเข้าร่วมวงตามหาเพชรกว่า 50 คนเลยทีเดียว หลังจากนั้นไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักข่าวรีบมาทำข่าวยังจุดเกิดเหตุ และเมื่อตรวจสอบดูจริงๆ กลับพบว่า นั่นอาจไม่ใช่เพชรของจริง แต่เป็นเพียงเศษพลาสติกเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำการสืบสวนชัดเจนขึ้นเลย เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงไม่รู้ว่าทำไมมันถึงร่วงลงมาจากฟ้ากันแน่ งานนี้ เหมียวขอแสดงความเสียใจกับเหล่าชาวเมืองด้วยนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
สาวสองพันปี!? ชมภาพ “หลิน จื้อหลิง” นางแบบสาวไต้หวัน สวยใสเหมือนวัยรุ่น ทั้งที่อายุ 41 แล้ว
ในยุคหนึ่งที่ซีรี่ย์ไต้หวันและจีนกำลังโด่งดังนั้นเอง เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักนักแสดงสาวนามว่าหลิน จื้อหลิง (Lin Zhi Ling) แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ไม่รู้จักเธอแล้ว อาจจะคิดว่าเธอคนนี้มีอายุ 20 ปลายๆ แต่หารู้ไม่ว่าหน้าเด็กๆ แบบนี้ อายุเธอปาเข้าไปหลัก 4 แล้วนะเออ หลิน จื้อหลิง วัย 40 ปี เกิดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2517 นั่นก็หมายความว่าในอีกเพียง 2 วันเธอก็จะอายุ 41 แล้ว แต่ใบหน้าของเธอยังคงดูอ่อนเยาว์เหมือนวัยรุ่นสาวๆ อยู่เลย ทั้งนี้ หลิน จื้อหลิง นั้นทำงานอยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน ซึ่งล่าสุดเธอก็เพิ่งจะไปปรากฏตัวในภาพยนตร์ Red Cliff (สามก๊ก ตอน โจโฉแตกทัพเรือ) ในบทเสี่ยวเกี้ยว แถมเมื่อปี 2009 เธอยังถูกจัดอันดับให้เป็นสาวเซ้กซี่แห่งไต้หวันจากนิตยสาร FHM อีกด้วยนะ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ …
-
ชมการจอดรถสุดโหดของมนุษย์ป้าชาวจีน ถามอย่างเดียว ขึ้นลงยังไง!?!?
ประเทศจีนเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่อง ความแปลกประหลาด ไม่แพ้ประเทศรัสเซีย และวันนี้อีกครั้งกับพฤติกรรมการจอดรถ ที่เพื่อนๆเห็นแล้วจะต้องเกาหัวแกรกๆเลยว่า ทำไปได้ยังไง รถคันนี้เป็นของคุณป้า Zhao เธอบอกว่าเธอเพิ่งหัดขับรถได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น และวันนั้นเธอกลับบ้านดึกแล้วหาที่จอดไม่ได้ ระหว่างนั้นเห็นช่องตรงนี้น่าจะจอดได้ ก็เลยเข้าไปจอด.. เธอบอกว่า เธอก็รู้แหละว่าเธอไม่ควรจอดตรงนี้ แต่มันหาไม่ได้จริงๆ ครั้งหน้าเธอสัญญาว่า จะหาที่จอดที่เหมาะสมกว่านี้ จอดได้เหมียวยังไม่สงสัยเท่าไหร่ แต่ลงยังไงเนี่ยเหมียวสงสัยกว่า แต่ยังไงก็ขอนับถือความพยายามละกัน คราวหน้าหาที่จอดดีๆนะ จะได้ไม่เดือดร้อนคนอื่นอีก! ที่มา CK101
-
สวยงามราวเทพนิยาย พาไปชมต้นแปะก๊วยอายุ 1,400 ปี ผลัดใบจนพื้นกลายเป็นสีทอง!!
เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง เหล่าต้นไม้ใบหญ้าเองก็จะเริ่มผลัดใบเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ภายใน แต่กับต้นไม้เก่าแก่ต้นนี้ สามารถทำได้มากกว่าแค่การผลัดใบล่ะ เพราะมันเนรมิตให้พื้นรอบๆ ต้นไม้กลายเป็นทะเลสีทองไปซะอย่างงั้น เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน เว็บไซต์ Boredpanda ได้เผยแพร่ภาพของต้นแปะก๊วยอายุเก่าแก่ราว 1,400 ปี จากประเทศจีน ที่ผลัดใบสีเหลืองทองลงสู่พื้น จนเปลี่ยนให้พื้นโดยรอยกลายเป็นทะเลสีทอง โดยเจ้าใบไม้พวกนี้เริ่มผลัดใบตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในวัด Gu Guanyin บนภูเขา Zhongnan ประหนึ่งเป็นการเฉลิมฉลองให้กับฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะผ่านไป เจ้าต้นแปะก๊วยถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของต้นไม้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ฟอสซิลที่มีชีวิต” เพราะมันมีอายุยืนยาว ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปแล้วกว่า 200 ล้านปี นี่จึงถือว่าเป็นสายพันธุ์ของต้นไม้ ที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์กับไดโนเสาร์เลยก็ว่าได้ ตู้หูววว กลายเป็นพื้นสีทองเหลืองอร่ามเลย อยากจะไปเก็บภาพสักครั้งเหมือนกันนะเนี๊ยะ ที่มา boredpanda
-
เป็นงง!! หญิงชราขู่โดดตึก หลังเถียงกับสามีว่าควรกินบะหมี่หรือกินข้าวเป็นมื้อเที่ยงดี!?
ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวชวนงงสำหรับเหมียวในวันนี้เลยล่ะ สำหรับกรณีของคู่สามีภรรยาสูงวัยชาวจีน ที่ทะเลาะกันจนฝ่ายภรรยานั้นต้องออกมานั่งที่ขอบหน้าต่างและขู่ว่าจะโดดตึก เหตุเพียงเพราะพวกเขาทะเลาะกันว่าจะกินบะหมี่หรือกินข้าวเป็นมื้อเที่ยงดี!? เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าคู่สามีภรรยาที่พักอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เกิดทะเลาะกันอย่างหนักหน่วง เหตุเพราะฝ่ายภรรยาอยากจะกินบะหมี่เป็นมื้อเที่ยง แต่ฝ่ายสามีกลับอยากกินข้าว จนภรรยาขู่จะโดดตึกหากสามีไม่เป็นฝ่ายยอมเธอ โชคดีที่ในระหว่างนั้นมีพยานผ่านมาเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเข้า จึงรีบโทรเรียกพนักงานดับเพลิงให้เข้ามาช่วยควบคุมสถานการณ์ ซึ่งพนักงานดับเพลิงต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง กว่าจะเกลี้ยกล่อมให้คุณป้ายอมลงมาจากหน้าต่าง กว่าจะรักกัน กว่าจะแต่งงานกัน กว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันมาถึงจุดนี้ได้ เหมียวว่ามันไม่ง่ายเลยนะ ใครที่มีครอบครัวแล้ว เหมียวอยากจะบอกว่า หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันเถอะนะ ชีวิตเราสั้นนัก ทำสิ่งดีๆ ให้กันในวันที่ยังมีเวลาดีกว่า ที่มา shanghaiist
-
ชีวิตรันทดเหลือเกิน!! หนุ่มจีนเซอร์ไพรซ์แฟนสาวด้วยตุ๊กตาหมียักษ์ แต่โดนตำรวจจับซะงั้น
แน่นอนว่าสาวๆ กับตุ๊กตาหมีนั้นเป็นของคู่กัน เมื่อรู้ดังนั้น หนุ่มๆ ก็เลยพยายามสรรหาตุ๊กตาหมีน่ารักๆ มามอบเป็นของขวัญให้สาวๆ ตัวเล็กบ้างใหญ่บ้าง ตามแต่กำลังเงินของแต่ละคน แต่ก็ขออย่าให้มันใหญ่มากนะ เพราะมันอาจจะกลายเป็นปัญหาให้กับคุณได้แบบหนุ่มจีนรายนี้ล่ะ เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าเศรษฐีหนุ่มรายหนึ่งในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน พยายามจะเซอร์ไพรซ์แฟนสาวด้วยการซื้อตุ๊กตาหมีขนาดยักษ์มามอบให้กับเธอ แต่ด้วยความใหญ่ยักษ์ของมัน ทำให้เขาไม่สามารถจะยัดมันลงไปในรถสปอร์ตของเขาได้ เขาจึงนำมันมามัดติดกับหลังคารถและขับมันไปตามท้องถนน แต่เมื่อเขาขับออกไปได้ไม่นานก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้จอด เพราะเจ้าตุ๊กตาหมีทำให้เกิดความสับสนและเป็นอันตรายแก่ผู้สัญจรไปมา ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างนายถาน เฉียว ได้สั่งปรับเศรษฐีหนุ่มในข้อหาละเมิดกฎจราจร พร้อมกับสั่งห้ามไม่ให้เขาทำแบบนี้อีก และเมื่อเขาพยายามจะเรียกให้เพื่อนมาช่วยกันขนตุ๊กตากลับ ก็ไม่มีใครมีรถที่ใหญ่พอจะขนมัน แถมเขายังถูกสั่งห้ามขับรถสปอร์ตเป็นการชั่วคราว ทำให้ต้องนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านซะอย่างงั้น ชีวิตรันทดเหลือเกินพ่อหนุ่ม… ที่มา dailymail
-
เหลือเชื่อ!! ทีมวิศวกรจีนร่วมแรงกันรื้อ-สร้างสะพานใหม่ ภายในเวลาเพียง 43 ชั่วโมง!?
แม้ว่าจีนจะมีข่าวแปลกๆ เกี่ยวกับผู้คนให้เราได้เห็นกันจนชินตาก็ตาม แต่เรื่องสิ่งปลูกสร้างและเทคโนโลยีนั้นต้องบอกเลยว่าจีนก็ไม่ได้เป็นรองใครเลย อย่างล่าสุดมีเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่าเหล่ากองทัพวิศวกรในจีน ร่วมแรงร่วมใจกันรื้อถอน-สร้างสะพานใหม่ ภายในเวลา 43 ชั่วโมงเท่านั้น!! เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า เหล่าวิศวกรในจีน ได้ระดมกำลังกันเพื่อซ่อมแซมสะพานซานหยวนในกรุงปักกิ่ง ที่ได้รับความเสียหายหนักเพราะมีรถวิ่งผ่านไม่ต่ำกว่า 2 แสนคันต่อวัน และยังเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังถนนอีกกว่า 48 เส้น ทีมวิศวกรจึงต้องซ่อมมันเพื่อให้เกิดความปลอดภัยที่สุด พวกเขาต้องวางแผนกันอย่างหนัก เพราะเนื่องจากมีรถวิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลา ทำให้พวกเขาต้องคิดแผนการขึ้นมาทั้งหมด 11 แผน และลงมือทำในที่สุด ทีมวิศวกรเริ่มลงมือในช่วงเวลา 23.00 นาฬิกาของวันที่ 13 พฤศจิกายน ทีมวิศวกรได้ลงมือทำงานอย่างรวดเร็ว โดยพวกเขาได้นำเอาคานอันเดิมที่ได้รับความเสียหายออกก่อน และแยกมันออกเป็น 27 ส่วน เพื่อให้ง่ายต่อการขนย้าย แต่ดูเหมือนว่าการทำงานของพวกเขาจะไม่ราบรื่นนัก เพราะคานเดิมได้รับความเสียหายหนักกว่าที่พวกเขาคิดไว้ ทำให้ต้องใช้เวลาในการเคลื่อนย้าย นานกว่าแผนเดิม และเมื่อนำคานเดิมออกไปแล้ว ทีมวิศวกรก็ได้นำเอาคานชิ้นใหม่ที่ถูกสร้างไว้เรียบร้อยแล้ว…
-
คู่สามีภรรยาสูงวัยทิ้งโน๊ตขอบคุณเพื่อนบ้าน ก่อนจะจับมือกันเผาตัวตายพร้อมบ้าน..
หลายคนอาจบอกว่าชีวิตนั้นมีค่าและเป็นสิ่งสำคัญ แต่เชื่อหรือไม่ บางครั้งเมื่อถึงจุดๆหนึ่ง ชีวิตนั้นอาจไม่ได้สำคัญเท่ากับสิ่งอื่นนัก อย่างเช่นคู่สามีภรรยาสูงวัยจากประเทศจีนคู่นี้ คุณตากับคุณยาย Zhu อาศัยอยู่กินกันมาหลายสิบปี และตอนนี้พวกเขาอายุ 85 ปีแล้ว วันหนึ่งพวกเขารู้สึกว่าพวกเขาเพียงพอแล้วกับการอาศัยอยู่บนโลกนี้ พวกเขาจึงทิ้งโน๊ตขอบคุณไว้ให้เพื่อนบ้านพร้อมบอกว่า “ถึงเวลาต้องไปแล้ว” ก่อนจะจุดไฟเผาบ้านตนเองและฆ่าตัวตายด้วยกันในนั้น ทันทีที่เพื่อนบ้านสังเกตเห็นว่า มีสิ่งผิดปกติ พวกเขาก็รีบโทรตามเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทันที และเขาก็พยายามจะเข้าไปช่วยคู่สามีภรรยาทั้งสองด้วย แต่ปรากฏว่าทั้งบ้านล็อก จนเขาไม่สามารถเข้าไปได้ ผ่านไปซักระยะหนึ่ง หนึ่งในเพื่อนบ้านสามารถพังประตูเข้าไปได้แล้ว แต่ไฟโหมลุกรุนแรงมาก จนพวกเขาไม่สามารถฝ่าเปลวไฟเข้าไปได้ จนกระทั่งไฟเริ่มสงบ พวกเขาสามารถเข้าไปถึงห้องนอนของตายายทั้งสองได้ ที่นั่นพวกเขาก็พบร่างไร้ชีวิตของตายายทั้งสอง “พวกเขานอนจับมือซึ่งกันและกัน” คุณยาย Zhu เป็นโรคอัมพาตเมื่อหลายปีก่อน เธอไม่สามารถลุกออกจากเตียงไปไหนได้ และเมื่อหลายวันก่อน เพื่อนบ้านเริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆของคุณตา โดยพวกเขาเห็นคุณตานำของเซ่นไหว้มาไว้ในบ้านมากมาย นอกจากนี้คุณตายังยกข้าวของหลายๆอย่างให้เพื่อนบ้านอีกด้วย แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะฆ่าตัวตาย จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์อันน่าเศร้าขึ้นมา เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ชาวเน็ตก็เริ่มตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการมีกฎหมายการุณยฆาต เพื่ออนุญาติให้ผู้ที่ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ สามารถจากไปได้โดยสงบด้วยความช่วยเหลือของแพทย์ โดยไม่ต้องฆ่าตัวตายอย่างน่าเศร้าเช่นนี้ น่าเศร้าจังเลยเนอะ ปัญหาการฆ่าตัวตายในผู้สูงวัยจริงๆแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกันนะ เหมียวว่าทางรัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้บ้างแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดเหตุการณ์น่าเศร้าแบบนี้ขึ้นอีกก็ได้…
-
เล่นผิดคนแล้วน้อง!! โจรดวงกุด ปล้นผิดคน เจอชายหนุ่มซัดกลับ ลงไปนอนหมอบกับพื้น
การที่คุณจะเป็นโจรได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะคุณต้องใช้อาวุธให้เป็น มีความกล้า (ทำชั่ว) เสี่ยงคุกเสี่ยงตารางอีก ไหนจะต้องระวังเหยื่อ ที่อาจโต้ตอบคุณจนคุณลงไปนอนหมอบกับพื้นเลยก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอของชายนิรนามรายหนึ่ง ขณะยืนกดตู้ ATM ในเมืองเต๋อหยาง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน แต่ในขณะที่กำลังทำธุระอยู่นั้น กลับมีโจรสวมเสื้อสายทางขาวดำตรงมาที่เขา โดยไม่มีอาวุธใดๆ และทำร้ายร่างกายเหยื่อทันที แต่ชายคนดังกล่าวกลับไม่ยอมแพ้ เขาจึงตอบโต้ด้วยหมัดเปล่าๆ เกิดเป็นการต่อสู้ระหว่างเหยื่อและโจรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เหยื่อจะสามารถเอาชนะโจรและซัดเขาจนลงไปนอนหมอบกับพื้น ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามารวบตัวเขาไว้ได้ ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง เรียกว่างานนี้ เงินก็ไม่ได้ เจ็บตัว แถมยังถูกดำเนินคดีด้วย ใครที่คิดจะเป็นขโมยขโจรล่ะก็ คิดให้ดีๆ หน่อยนะ ที่มา deyang , kapook , CCTV News
-
เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด!! สาวจีนนัดกันรุมตบเพื่อนสาว หลังจับได้ว่าแอบกิ๊กกับสามีตัวเอง!?
สำหรับหนุ่มๆ คนไหนที่ชอบแอบไปมีกิ๊กมีกั๊กนอกบ้าน คุณอาจจะต้องดูคลิปนี้ไว้เตือนใจหน่อยแล้ว เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ของจีนได้มีการกระหน่ำแชร์คลิปวิดีโอสุดน่าอายของหนุ่มจีนรายหนึ่ง ที่แอบไปมีอะไรกับกิ๊กนอกบ้าน ทั้งที่ตัวเองแต่งงานมีลูก 2 คนแล้ว คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านช่องยูทูบ Viral Cham เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เผยให้เห็นกลุ่มคน 3-4 คน กำลังรุมทำร้ายร่างกายชายหญิงในสภาพล่อนจ้อน โดยที่ทั้งคู่อับอายมากจึงพยายามกอดกันเพื่อปกปิดของลับของตนเอง พร้อมกับร้องไห้อ้อนวอนให้ทั้งหมดหยุดทำร้ายพวกเขาเสียที ตามรายงานบอกว่าฝ่ายชายนั้นแต่งงานกับภรรยาและมีลูกด้วยกันถึง 2 คน แต่ด้วยความไม่รู้จักพอ ทำให้ฝ่ายชายแอบคบชู้กับเพื่อนสาวของฝ่ายภรรยา และแอบนัดกันออกไปมีอะไรที่โรงแรม แต่เมื่อฝ่ายหญิงรู้เข้ากลับไม่ยอมอยู่เฉย จึงนัดเพื่อนๆ ที่เหลือตามไปถึงห้องพักของทั้งคู่และกระหน่ำตบตีทั้งคู่ในสภาพเปลือยเปล่า ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง หนุ่มเจ้าชู้ดูไว้เป็นตัวอย่างนะ ใครมีแฟนแล้วก็ขอให้รักเดียวใจเดียวล่ะ ที่มา Viral Cham
-
เงินซื้อความสุขไม่ได้ แต่ซื้อเจ้าสาวได้!? เว็บจีนประกาศขายเจ้าสาวเวียดนามในราคา 5 หมื่นบาท
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินประโยค “เงินซื้อความสุขไม่ได้” อยู่บ่อยๆ ใช่ไหมล่ะ ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ นะ แต่ถึงแม้ว่าเงินจะไม่สามารถซื้อความสุขได้ แต่เงินก็สามารถนำไปซื้อเจ้าสาวได้นะ (!?) เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า เว็บไซต์ Taobao ของจีน ได้เสนอขาย “เจ้าสาวชาวเวียดนาม” ในราคาเพียง 1,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 53,964 บาท ช่วยให้หนุ่มโสดสามารถมีครอบครัวได้ในราคาประหยัด (!?) ผู้ลงประกาศขายเจ้าสาวชาวเวียดนาม ใช้ชื่อว่า Wang Xiao Xi’s Gift Shop ได้ประกาศขายสินค้ากว่า 2,500 รายการตลอดระยะเวลา 30 วันที่ผ่านมา และเมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งจะลงประกาศขายเจ้าสาวชาวเวียดนามด้วย แต่หลังจากที่ประกาศขายได้ไม่กี่ชั่วโมง ประกาศดังกล่าวก็หายไป ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นเพราะทางเว็บไซต์ Taobao เป็นผู้นำออกไปหรือว่าเจ้าสาวได้ถูกขายไปแล้วกันแน่ แต่หนุ่มๆ ก็อย่าเพิ่งหงุดหงิดไป เพราะการหาเจ้าสาวชาวเวียดนามในเมืองจีนยังคงเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้อยู่ …
-
นางแบบสาวโกรธจัด หลังออกเดทแรกแล้วหนุ่มไม่ยอมซื้อของชาแนลให้ ขว้างโทรศัพท์คู่เดทลงน้ำ!!
ความเข้ากันได้ของคนสองคนนั้นอยู่ที่อะไร เหมียวเองก็ไม่อาจแน่ใจได้ จะเป็นเพราะความรักที่มอบให้กันหรือว่ามูลค่าสิ่งของภายนอกหว่า? แต่สำหรับกรณีนี้ของนางแบบสาวจีนที่ได้ออกไปเดทแรกกับหนุ่มที่รู้จักผ่านเพื่อน ดูท่าทางไปด้วยกันไม่รอดแล้ว เรื่องมันเกิดขึ้นก็ตอนที่นางแบบสาวชาวฮ่องกงนามว่า Yuen Ching-ching ได้ออกเดทกับหนุ่มรายหนึ่งที่รู้จักผ่านเพื่อน แล้วทั้งคู่ก็ออกไปเดินช็อปปิ้งในห้าง ซึ่งนางแบบสาวก็อยากจะได้ของขวัญวันเกิดให้กับแม่ของเธอ เลยมาหยุดอยู่ที่ร้านชาแนล หลังจากผ่านไปได้ซักพัก เธอก็หยิบกระเป๋าชาแนล ต่างหูหนึ่งคู่ และสร้อยคอหรูหรามาให้พ่อหนุ่มคู่เดทจ่าย แต่อนิจจาพ่อหนุ่มกลับปฏิเสธ เพราะราคานั้นมันแพงระยับพุ่งสูงไปถึง 25,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 902,331 บาท) เขาจ่ายไม่ไหว!! พอได้ยินคำตอบแบบนี้นางแบบสาวก็เลยขอยืมโทรศัพท์จากฝ่ายชาย ทำทีเป็นว่าจะโทรหาพี่ชายให้มาจ่ายค่าของทั้งหมดให้ แล้วก็หนีหายไปพร้อมกับโทรศัพท์ ไม่กลับมาหาอีกเลย!? จนฝ่ายชายต้องไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังเกิดเหตุได้ 2 วัน ทางด้านนางแบบสาวก็อ้างว่าฝ่ายชายยินยอมให้โทรศัพท์เอง แล้วก็จะไม่คืนโทรศัพท์ให้ด้วย เพราะว่าขว้างทิ้งลงแม่น้ำไปแล้ว!! กระเป๋าชาแนลก็ไม่ได้ โทรศัพท์ก็หายไปด้วยเช่นกัน จนในที่สุด ผลของการกระทำของเธอก็ลงเอยด้วยคำตัดสินถูกคุมประพฤติเป็นระยะเวลา 1 ปี และจะต้องชดใช้ค่าโทรศัพท์ที่หายไปเป็นมูลค่า 927 ดอลลาร์ (ราวๆ…
-
ไปเที่ยวกันไหม? จีนผุด “บาร์สระน้ำเป่าลม” ให้หนุ่มๆ ขี้เหงา ได้ผ่อนคล้ายไปกับสายน้ำ
หากคุณเป็นหนุ่มโสดขึ้เหงาและอาศัยอยู่ในประเทศจีน ที่ต้องการความสนุกสนาน ความร่าเริง เพื่อเติมเต็มชีวิตคนโสด แต่ไม่มีใครสามารถให้คุณได้ล่ะก็ ลองมาที่บาร์แห่งนี้ดูซิ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าในเมืองเซิ่นหยางประเทศจีน มีการให้บริการที่เรียกกันว่า “บาร์สระน้ำเป่าลม” ที่จะให้คุณนั่งดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมกับชมโชว์จากสาวสวยในชุดบิกินี ที่จะมาร่ายรำอยู่ในสระน้ำเป่าลมให้คุณดูแบบเพลิดเพลิน นอกจากพวกเธอจะมาเต้นโชว์ให้หนุ่มๆ และแขกในบาร์ได้ชมกันแล้ว เธอยังอนุญาตให้เราสามารถเทแอลกอฮอลราดลงไปบนตัวเธอได้ด้วย (!?) และในขณะที่บางคนกำลังสนุกสนานกับโชว์ แต่ก็มีหนุ่มๆ บางคนเหมือนกัน ที่ไม่ชอบอะไรแบบนี้และแสดงท่าทีอึดอัดออกมาด้วย หากคุณอยากจะกินอาหารอร่อยๆ ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมกับโชว์สาวเซ็กซี่ในสระน้ำเป่าลมแล้วล่ะก็ อย่าลืมแวะไปที่เมืองเซิ่นหยางนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
เหล่าชายจีนเริ่มนิยมคบหากับ ‘ตุ๊กตายาง’ แทนผู้หญิงจริง ไม่อยากเจอปัญหาความสัมพันธ์!!
เรื่องของตุ๊กตายางเพื่อปรนเปรอทางด้านอารมณ์ทางเพศนั้นมีมานานแล้ว จุดประสงค์ของการสร้างมันขึ้นมาก็เพื่อสิ่งเดียว นั่นคือการสนองความต้องการทางเพศของเหล่าชายวัยกลัดมัน แต่ทว่าตอนนี้มันไปไกลเกินกว่าจะคิดเช่นนั้นแล้วล่ะ ด้วยสภาพสังคมของจีน ความรุนแรงและหึงหวงเป็นเรื่องธรรมดาของผู้อันเป็นที่รัก เรามักจะเห็นบ่อยๆ ว่าภรรยาชาวจีนนั้นจะหึงแรงมาก มีทั้งทุบ ทั้งตี ทั้งตบ ไหนจะสิ่งของของสามี รวมไปถึงชู้ของสามีด้วย ทางออกของเหล่าชายจีนที่เหลือก็คือการหันมาคบกับตุ๊กตายางแทน!? เพราะด้วยความที่แทบจะเหมือนคนจริงๆ สวยตามสเป็คในฝันที่เลือกได้ ไม่มีบ่น อยากตอนไหนก็จัด เหล่าตุ๊กตายางจึงเป็นทางเลือกที่เหลือนั่นเอง และไม่อยากจะเจอในเรื่องของปัญหาความสัมพันธ์ การหึงหวงอันหนักหน่วง การบ่นจู้จี้จุกจิก อ่าห์!! มันก็แล้วแต่คนจะคิดเนอะ นานาจิตตัง แต่เหมียวว่ามันก็แปลกๆ อยู่ดี ที่มา : shanghaiist, fooyoh
-
แฟชั่นแปลก!? มนุษย์ป้าใส่ชุดซีทรูสุดบางแถม “โนบรา” เดินว่อนทั่วห้างในจีน
แม้ว่าแฟนชั่นทุกวันนี้จะพัฒนาไปไกลจากแต่ก่อน มีเสื้อผ้าสวยๆ งามๆ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวสวยงามและสีสันที่แปลกตา แต่เหมียวก็ไม่เคยเห็นอะไรที่มัน…สยิวกิ้วแบบนี้มาก่อนเลย เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เว็บไซต์ Ck101 ได้เผยแพร่ภาพการใส่เสื้อผ้าแฟชั่นสุดล้ำ(!?) ของมนุษย์ป้ารายหนึ่งในประเทศจีน ขณะสวมใส่ชุดซีทรู แต่แทนที่เธอจะใส่ชุดปิดด้านในให้เรียบร้อย เธอกลับใส่จีสตริง พร้อมกับโนบราด้านบน แถมยังเดินเที่ยวตามห้างแบบไม่แคร์สายตาผู้คนทั้งนั้น ทั้งนี้ มนุษย์ป้าได้เดินเข้าออกร้านต่างๆ แบบไม่อายใคร ทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านรองเท้า แถมยังมีการเซลฟี่บนถนนด้วย งานนี้ชาวบ้านอดรนทนไม่ได้ จึงต้องถ่ายภาพของเธอมาแชร์ในโลกออนไลน์เลยทีเดียว จะแฟชั่น หรือความสะดวกยังไง เหมียวก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่ถึงขนาดโนบรามาเดินแบบนี้ เหมียวว่าไม่ต่างอะไรกับการแก้ผ้าล่อนจ่อนเลยนะเออ ที่มา ck101
-
ประมวลภาพภาวะหมอกควันในประเทศจีนอยู่ในระดับหายนะ ค่า PM พุ่งทะลุ 1,000 ต่อ ลบ.เมตร!!!
ในช่วงปลายปี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนต้องประสบกับปัญหาหมอกควันอยู่แทบทุกปี และดูเหมือนเรื่องราวจะเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ค่า PM 2.5 หรือ ค่าฝุ่นละอองทีมีขนาดเล็กว่า 2.5 ไมครอน ในเมืองเซิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีนพุ่งทะยานไปถึง 1,000 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และบางส่วนพุ่งไปถึง 1,400 ไมโครกรัมเลยทีเดียว ซึ่งมากกว่าค่าปลอดภัยที่องค์การอนามัยโลกประกาศไว้ถึง 40 เท่า!!! โดยทางการจีนกลาวว่าสาเหตุของหมอกควันเกิดมาจากการ “ปิ้งย่าง” ของประชาชน ซึ่งน่าจะเป็นการเบี่ยงเบนประเด็น เพราะสาเหตุหลักๆน่าจะมาการโรงไฟฟ้าถ่านหินต่างหาก และจากสถิติแล้ว ภาวะหมอกควันครั้งนี้ ถือว่าเป็นภาวะที่รุนเริงทีสุดที่เคยมีการบันทึกมาเลยทีเดียว โอ้โห แค่ค่า PM10 ขึ้นไปแตะ 300 ในภาคเหนือบ้านเรา เหมียวว่าร้ายแรงแล้วนะ ของเขาเล่นไปถึงหลักพันเลย ยังไงเหมียวก็ขอให้มันคลี่คลายโดยเร็วนะ พี่น้องชาวจีนจะได้ไม่ต้องทนลำบากอีกต่อไป ที่มา Shanghaiist
-
น้ำใจงาม…สาวจีนยืนถือร่มกันฝนให้ตำรวจจราจรที่กำลังปฏิบัติหน้าที่นับครึ่งชั่วโมง
ทุกครั้งที่เราได้เห็นน้ำใจของเพื่อนมนุษย์ที่มอบให้ต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นในยามยากลำบาก หรือยามปกติก็ตามแต่ นั่นคือหนึ่งในสิ่งที่งดงามที่สุดในโลกและมันทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจอยู่เสมอ อย่างเช่นเรื่องราวอันน่าประทับใจที่เกิดขึ้นในเมืองชางคิว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีนครั้งนี้ มีหญิงสาวคนหนึ่ง ออกไปยืนกางร่มให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างขะมักเขม้นอยู่บนถนนท่ามกลางสายฝน เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นมีชื่อว่า Wang Zhiheng เขาเล่าว่า “ผมขอบคุณเธอแล้วบอกว่า ตรงนี้มันหนาวและอันตรายมาก คุณเข้าไปอยู่ข้างในเถอะ แต่เธอก็ไม่สนใจ ผมไม่รู้จักเธอก่อนเลย แต่ผมขอบคุณเธอมากจริงๆ” หญิงสาวคนนี้ยืนกางร่มด้วยความเต็มใจ และไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย เธอยิ้มอย่างมีความสุขและเต็มไปด้วยความอบอุ่น เธอยืนกางร่มอยู่ประมาณ 30 นาทีจนกระทั่งฝนซาลงแล้วเธอก็เดินจากไป ด้วยความที่เป็นตำรวจ Wang Zhiheng จึงสามารถสืบหาได้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน หญิงสาวใจดีคนนั้นมีชื่อว่า Wang Yanyan เธอเป็นเจ้าของร้านค้าเล็กๆแถวนั้น เธอเล่าว่า “ฉันเปิดร้านขายของแถวนี้และฉันได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะร้อน จะหนาว จะฝนก็มีเจ้าหน้าที่มาทำงานอยู่เสมอ ซึ่งมันเป็นงานที่ยากลำบากมาก” “และในวันนั้นฝนตกหนักมาก ฉันเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่และเสื้อของเขาเปียกโชกไปหมด และหัวใจของฉันมันบอกว่าไปกางร่มให้เขาเถอะ” น่ารักมากๆเลย แค่เรามีน้ำใจให้แก่กันซักเล็กน้อย โลกนี้ก็จะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะแล้วเนอะ ^^ ที่มา Shanghaiist
-
สวยงามตามท้องเรื่อง!! ชมบรรยากาศ ‘วังเหมย-หลิง‘ ประหนึ่งเป็นสร้อยคอยักษ์บนขุนเขา
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ CCTVNews ได้เผยแพร่ภาพถ่ายทางอากาศของคฤหาสน์ของประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐจีนที่ชื่อว่า ‘วังเหมย-หลิง‘ ตั้งอยู่ในมณฑลหนานจิง ประเทศจีน คฤหาสน์แห่งนี้ถูกก่อสร้างขึ้นในปี 2473 เพื่อให้ใช้เป็นที่พักสำหรับ ซง เหมย หลิง ภรรยาของภรรยาของจอมพลเจียงไคเช็ค ซึ่งเป็นผู้นำของจีนในขณะนั้น ต่อมาในปี 2492 สถานที่แห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นบ้านรับรองสำหรับแขกในประเทศและห้ามไม่ให้คนนอกเข้าชม จากภาพดังกล่าว ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันตกตะลึงในความงานและการออกแบบ และคาดการณ์กันว่านี่อาจจะเกิดจากการออกแบบของจอมพลเจียง ที่ทำขึ้นเพื่อแสดงถึงความรักที่มีต่อภรรยา แต่ทางผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปนิกกลับแย้งว่านายพลเจียงไม่ได้สั่งให้มีการออกแบบเช่นนี้ และนี้อาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติก็เป็นได้ จะเกิดขึ้นได้อย่างไรเหมียวไม่รู้ล่ะ รู้แค่ว่ามันสวยงามตามท้องเรื่องเลย ที่มา CCTVNews
-
เอาที่สบายใจ จีนผุด ‘เดิน 4 ขาออกกำลังกาย’ เชื่อมีมาตั้งแต่เมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว!?
ขึ้นชื่อว่าประเทศจีน พวกมักจะมีเทรนด์ใหม่ๆ มาให้เราได้อึ้งกันตลอดซิน่า….!? อย่างล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ news.com.au สำนักข่าวของออสเตรเลียได้เผยแพร่ภาพของกลุ่มชาวจีนในเมืองเจิ้งโจว ขณะกำลังออกกำลังกายด้วยการเดิน 4 ขา ไปรอบๆ สวนสาธารณะ ตามรายงานบอกว่าผู้ที่ออกกำลังกายด้วยท่าแบบนี้ตามข่าวระบุว่าที่พวกเค้าทำกันแบบนี้ เพราะเชื่อกันว่าเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้สุขภาพดี คนที่เข้าร่วมเทรนด์ใหม่นี้มีตั้งแต่เด็กไปยันผู้สูงวัย โดยพวกเขาบอกว่าการออกกำลังกายแบบนี้ไม่ได้ทำอันตรายกับหลังของพวกเขาแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าการออกกำลังกายแบบนี้มีมาตั้งแต่เมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ยุคราชวงศ์ฮั่นเลยทีเดียว ถ้าต้องออกกำลังกายด้วยท่านี้จริงๆ เหมียวขอนอนอยู่บ้านดีกว่า ที่มา news , kapook
-
ครูสุดโหด ลงโทษนักเรียนให้คลาน จนมือเป็นแผลเหวอะหวะ!!
กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตในทันที หลังจากมีภาพครูจีนสั่งลงโทษนักเรียนให้คลานไปกับพื้นจนมือเป็นแผลเหวอะหวะ เรื่องราวมีอยู่ว่า ในคาบวิชาพละศึกษาในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในประเทศจีน ครูได้สั่งลงโทษนักเรียนด้วยการคลานไปกับพื้น จนกระทั่งมื้อนักเรียนหลายคนเป็นแผลเหวอะวะ และมีเลือดออกจนเต็มพื้นไปหมด เมื่อภาพนี้เผยแพร่ออกไป ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย บ้างก็บอกว่าทำไมถึงทำโทษรุนแรงขนาดนี้ และมีการเรียกร้องให้ครูออกมาชี้แจงและขอโทษ โดยครูคนดังกล่าวได้ให้เหตุผลว่า ในขณะที่ทำการเรียนการสอนวิชาพละศึกษากันอยู่ เหล่านักเรียนชายไม่ยอมตั้งใจเรียน และทำการก่อกวนชั้นเรียน ตนจึงสั่งลงโทษ แต่ไม่ได้คิดว่าผลลัพธ์จะออกมาร้ายแรงขนาดนี้ และตนพร้อมจะชี้แจงและขอโทษต่อเหล่าผู้ปกครอง ส่วนทางโรงเรียนก็ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมจะทำการขอโทษต่อเหล่าผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ และลงโทษครูดังกล่าวต่อไปตามความเหมาะสม ใครผิดอะไรก็ว่ากันไปตามนั้นนะ ส่วนเหมียวไม่สนับสนุนการลงโทษด้วยความรุนแรงอยู่แล้ว จะดื้อขนาดไหน ก็อย่าให้ถึงเลือดตกยางออกเลยเนอะ ที่มา news.sina
-
ใครบอกว่าตำรวจน่ากลัว ต้องเจอกับตำรวจสาวคนนี้ รับรองว่าใจละลายแน่นอน!!!
ปกติเวลาเรานึกถึงตำรวจ เราอาจนึกถึงชายหน้าโหดๆ หรือไม่ก็หญิงสาวที่ดูบึกบึนแข็งแรง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นอย่างนั้น เพราะตำรวจสาวจบใหม่เจ้าของแอคเคาท์ Weibo สังคมออนไลน์ของประเทศจีนที่ชื่อว่า @树袋熊_cute จะมาพิสูจน์ให้คุณเห็นว่า ตำรวจน่ารักๆก็มีอยู่นะเออ จะน่ารักขนาดไหน ไปชมกันเลย น่ารักขนาดนี้ เดี๋ยวขอตัวไปทำผิดแปป จะยอมให้โดนจับแต่โดยดีเลยฮร๊าฟฟฟ ที่มา tt.mop
-
สุดล้ำ!? เด็กนักเรียนในจีนคิดค้นอุปกรณ์ “รักษาความปลอดภัย” แบบง่ายๆ ที่ดัดแปลงจากของใช้ต่างๆ
ในยุคที่ขโมยชุกชุม การจะติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยดูจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทีเดียวนะ เพราะทรัพ์สินแต่ละอย่างเมื่อถูกขโมยงัดแงะไปแล้วก็ยากที่จะตามมันกลับมา แต่การจะติดตั้งระบบความปลอดภัยแบบนั้นก็มีค่าใช้จ่ายที่แพงหูฉี่ ยิ่งกับเด็กนักเรียนนักศึกษาที่ต้องอาศัยอยู่ในหอด้วยงบจำกัดแล้วยิ่งเป็นเรื่องยากเข้าไปใหญ่ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหากับเด็กนักเรียนที่มหาวิทยาลัยจงชาน เมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เพราะด้วยไอเดียสุดสร้างสรรค์ ทำให้พวกเขานำเอาสิ่งของรอบๆ ตัวมาดัดแปลงเป็นระบบรักษาความปลอดภัยแบบง่ายๆ ที่ใช้งบไม่เยอะ แถมกันขโมยได้อย่างดีด้วย จะเป็นไงมาดูกัน 1. ลูกบิดที่ร้องทุกครั้งที่เปิด-ปิด 2. หนังยาง + ไม้ = ล็อคแน่น (เหรอ) 3. กรรไกร มี งัดมาให้หมด 4. เอาวิกผมมาตั้งไว้ ต้องมีสะดุ้งกันบ้างแหละ 5. เอาว่าเข้ามาต้องติดเชื้อกสักเส้นแน่ๆ 6. ใช้ทั้งกระเป๋า เก้าอี้ ถังน้ำ อัดมันเข้าไปเลย 7. เอาตู้มาบังเอาไว้ รับรองเข้าไม่ได้แน่ๆ เอ่อ แต่ละอันนี่เหมียวยอมใจเลย สงสัยชาตินี้คงไม่ได้ออกจากห้องแล้วล่ะ ที่มา CCTVNews
-
มนุษย์เมียโหดสึด!! ใช้ไม้ทะลวงกระจกรถพังยับ ทั้งๆ ที่ผัวนั่งอยู่กับชู้!?
อันว่ามนุษย์เมียนั้น อย่าได้คิดจะต่อกรหรือขัดขืนพวกเธอเด็ดขาดนะ เพราะหากคุณคิดไม่ซื่อกับพวกเธอแล้วล่ะก็ ชะตากรรมของพวกคุณอาจไปไม่สวยเหมือนอย่างหนุ่มจีนรายนี้ก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของหญิงสาวรายหนึ่งในเมืองเอินซือ มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ที่ดันทราบข่าวมาว่าสามีของเธอนั้นแอบคบกิ๊ก และพาขึ้นรถออกไปเที่ยวด้วยกัน เมื่อรู้ดังนั้นเธอก็ไม่รอช้า จึงพาพี่สาวมายืนล้อมรถเก๋งของสามี จากนั้นจึงตะโกนคุยกัน แต่ไม่ว่าคุยเท่าไหร่ฝ่ายชายก็ไม่ยอมลงจากรถเสียที เธอจึงไม่รอช้า หยิบไม้แถวๆนั้นมาฟาดใส่รถเก๋งแบบไม่ยั้งมือ จนกระจกหน้าแตกเป็นรู เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังพยายามใช้ไม้แหย่เข้าไปในรถจนสามีของเธอต้องลงมาคุยด้วย จนชาวบ้านแถวนั้นเข้ามามุงดูกันอย่างมากมาย ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง อย่าคิดสู้กับมนุษย์เมียเลยนะ เหมียวขอร้อง ที่มา TITANVORTEX
-
อย่างนี้ก็มี? โลกออนไลน์เผยคลิปแขกรุมจับหน้าอกเจ้าสาว งานนี้กำไรเห็นๆ !!
หากพูดถึงกิจกรรมภายในงานแต่งงาน หลายๆ คนคงจะนึกถึงการตัดเค้ก การร้องเพลง การกล่าวอวยพร หรือการโยนช่อดอกไม้หลังจากเสร็จพิธีแล้วใช่ไหมล่ะ คงไม่มีใครนึกหรอกว่าจะมีกิจกรรมแปลกๆ อย่างการจับหน้าอกเจ้าสาว โดยแขกผู้มาร่วมงาน!? เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แชแนลยูทูบ TruthTube ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ชื่อว่า Guest Plays With Bride’s Breasts At Wedding Party (แขกในงานแต่งจับหน้าอกเจ้าสาวในงานปาร์ตี้) ภายในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นภาพของหญิงสาวชาวจีนรายหนึ่งขณะถูกหนุ่มๆ รุมจับหน้าอกอย่างสนุกสนาน พร้อมกับถ่ายคลิปเก็บไว้ ทั้งนี้ไม่มีการรายงานว่าเกิดขึ้นในเขตหรือมณฑลไหนของจีนกันแน่ ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง เอ่อ เหมียวเห็นแล้วรู้สึกเสียวแว๊บบบเลย ที่มา TruthTube
-
ถึงกับเงิบ!! ตำรวจพบเครื่องนับเงินจากจีน ยิ่งใส่เงินไปเรื่อยๆ มันก็จะดูดเงินเราไปเรื่อยๆ
หลายคนคงเคยเห็นหน้าตาของเครื่องนับเงินกันมาแล้ว ส่วนมากเราจะพบได้ตามธนาคารหรือสถานที่ที่ต้องมีธุรกรรมเกี่ยวกับเงิน วิธีใช้ก็แสนจะง่าย เพียงแค่คุณมีเงินปึกนึง วางลงไปบนเครื่อง มันก็จะนับให้คุณได้อย่างแม่นยำ แต่วันหลังถ้าคุณเห็นเครื่องนับเงิน คุณต้องเช็ค 2 รอบเลยนะ เพราะไม่งั้นอาจจะเจอเจ้าเครื่องนับเงินแบบนี้ก็เป็นได้ ตำรวจนายหนึ่งในประเทศจีน ชื่อว่า Chen Qingzhou ได้โพสต์คลิปคลิปหนึ่ง เป็นครึ่งนับเงินที่ประหลาดมากๆ เพราะทุกครั้งที่เราเอาเงินไปใส่ มันจะดูดเงินเราไปทุกรอบเลย ไปชมคลิปกันเลยดีกว่า ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ อีกทั้งคนที่เป็นเจ้าของเครื่องยังสามารถใช้รีโมตในการควบคุมได้ด้วยว่าจะดูดเงินเท่าไหร่อะไรยังไง น่ากลัวจริงๆเลย ที่มา CCTV News
-
เพี้ยน? สาวจีนสุดแปลก เดินถุยน้ำลายใส่คนอื่นไปทั่ว โดนด่าก็ไม่สนใจ?!?!
ถ้าจะให้จัดอันดับว่าประเทศไหนมาข่าวแปลกๆเพี้ยนๆออกมาเยอะที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นประเทศจีนอย่างแน่นอน และวันนี้อีกครั้งที่มีข่าวประแปลกๆออกมา เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาเฟสบุ๊คของเว็บไซต์ Shanghaiist ได้แชร์คลิปวีดีโอพฤติกรรมสุดน่ารักเกียจของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่เดินถุยน้ำลายใส่ผู้โดยสารคนอื่นๆ บนรถไฟฟ้าอย่างไม่แคร์สายตผู้ใด โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บนรถไฟใต้ดินในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน แต่ไม่มีการระบุว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร มีหญิงสาวคนหนึ่งสวมเสื้อกันหนาวสีขาว กางเกงสีดำ เดินถุยน้ำลายใส่ผู้โดยสารคนอื่นๆที่นั่งอยู่ ซึ่งแม้จะถูกผู้โดยสารเหล่านั้นด่าว่า แต่เธอก็ไม่สนใจ ยังคงเดินหน้าถุยน้ำลายต่อไป ไปชมคลิปเหตุการณ์กันดีกว่า Seen on the Nanjing Metro: Woman spitting at everyone she meets. Posted by Shanghaiist on 2 พฤศจิกายน 2015 เหมียวละสงสัยจริงๆ ว่าเธอทำไปทำไม == แถมโดนด่าตลอดทางก็ไม่สนใจ หรือว่าเป็นการโฆษณาหรือการแกล้งคนอะไรหรือเปล่านะ.. ที่มา Shanghaiist
-
ห้างจีนจ้างสาวสวยใส่บิกินีเดินเสิร์ฟของ มัดใจลูกค้างานเปิดตัวห้าง!!
ประเทศจีนมักมีเรื่องมาให้เราได้ตื่นตาตกใจอยู่ตลอดเวลา และวันนี้กับอีกครั้งการสุดยอดแคมเปญเรียกลูกค้าของห้างสรรพสินค้า ที่จ้างสาวสวยใส่บิกินีมาเดินเสิร์ฟของ แคมเปญสุดเจ๋งนี้เกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งเพิ่งเปิดใหม่ในมณฑลเหอหนาน โดยเจ้าของห้างได้จ้างหญิงสาวใส่ชุดว่ายน้ำมาเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มและอาหารให้กับแขกที่เข้ามาร่วมงานเปิดตัวห้างในวันนั้น เรียกได้ว่ากลายเป็นที่ฮือฮากันเลยทีเดียว แบบนี้แขกที่มาร่วมงานคงจะลืมสนใจห้างใหม่ เพราะมัวแต่สนใจพนักงานเสิร์ฟสาวแน่ๆ แต่ทำไมเหมียวรู้สึกว่า หน้าตาสาวๆจะดูไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่เลยนะ ทุกคนดูเดินห่อๆไหล่ชอบกลๆ ถ้าห้างแถวบ้านเราทำแบบนี้นะ เหมียวว่าโดนกระทรวงวัฒนธรรมอันดีงามเข้ามาจัดการอย่างแน่นอน ที่มา Shanghaiist
-
เฟล!! สาวจีนโชว์เข้าโค้งมอเตอร์ไซค์แบบรอซซี่ สุดท้ายล้มโครม เจ็บไปแบบเซ็งๆ!!
การขี่มอเตอร์ไซค์ถือว่าเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานและตื่นเต้นอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะเวลาทีเราสามารถเข้าโค้งแบบเอียงๆได้ ต้องบอกว่าเจ๋งแบบสุดๆ แต่อย่างไรก็ตาม การจะทำแบบนั้นได้ เราต้องฝึกฝนเป็นประจำ และไม่ว่าเราจะฝึกฝนขนาดไหน สิ่งไม่คาดฝันก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ อย่างเช่นสาวจีนคนนี้ ขณะที่เธอกำลังโชว์เทคนิคการขี่มอเตอร์ไซค์ขั้นเทพให้เพื่อนๆเธอถ่ายรูป เธอกลับประสบอุบัติเหตุรถล้ม เล่นเอาเซ็งไปตามๆกัน จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย ท่าทางการขี่รถนี่ถือว่าใช้ได้เลย มีเข้าโค้งแบบเอียงๆด้วย มาแล้ววว ตุ๊ดๆๆ (เสียงสโลโมชั่น) เข้าโค้งแบบรอสซี่! เข่าแทบเช็ดพื้น!! โครม!!! อะอ่าว….ล้มไปซะแล้ว กลิ้งเลยทีนี้ แหม เพื่อนก็เก็บภาพทุกช็อตเลย ไปปลอบน้องเขาหน่อยเร็ว ไม่รู้จะขำหรือว่าสงสารผู้หญิงคนนี้เลยเนี่ย ยังไงก็ตามแต่ ขี่มอเตอร์ไซค์ปลอดภัยนะฮะทุกคน ขับช้าลงซักนิด อาจไม่เท่แต่ถึงบ้านแน่นอน อิอิ ที่มา ck101
-
คุณพ่อสุดทุ่มเท ขายบ้านขายธุรกิจ แล้วพาลูกสาววัย 2 ขวบเที่ยวรอบโลก!!
คุณพ่อจากเซี่ยงไฮ้ได้ตัดสินใจขายทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นบ้านและธุรกิจ แล้วซื้อรถบ้านเพื่อพาลูกสาววัย 2 ขวบเดินทางเที่ยวรอบโลก สำนักข่าว NetEase รายงานว่า คุณพ่อ Zhu Chunxie ได้อาศัยอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้กว่า 10 แล้ว หลังจากอพยพมาจากเกาหลี ระหว่างนั้นเขาทำธุรกิจและอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ในใจกลางเมือง และเมื่อประมาณหนึ่งปีครึ่งที่แล้วแล้ว เขาเริ่มมีความคิดที่จะขายบ้านและบริษัท เพื่อพาลูกสาวเดินทางเที่ยวรอบโลก และหลังจากที่พวกเขาใช้เวลาเตรียมตัวกว่า 3 เดือน พวกเขาก็พร้อมออกเดินทางแล้ว เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และเขาบอกว่า เขาจะใช้เวลาท่องเที่ยวประมาณ 5 ปี หลายคนอาจมองว่าเขาบ้า แต่สำหรับเขา เขาคิดว่าผู้คนในปัจจุบัน ยุ่งเกินกว่าที่จะมีเวลาให้กับลูกๆ และนั่นทำให้เด็กๆไม่มีแบบอย่างที่ดี “ในสายตาเด็กๆแล้ว การมีพ่อแม่อยู่ด้วยตลอดเวลาถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก” นาย Zhu กล่าว และแม้เขาจะยอมรับว่าการอาศัยอยู่บนรถบ้านนั้นไม่ได้สะดวกสบายอย่างกับอยู่บ้านจริงๆ แต่หากคิดถึงประสบการณ์และสิ่งที่เด็กๆจะได้รับแล้ว เขาคิดว่ามันคุ้มค่าอย่างแน่นอน สุดยอดคุณพ่อจริงๆ เพื่อสิ่งดีๆสำหรับลูกแล้ว ก็พร้อมจะทำทุกอย่างจริงๆ ว่าแต่..ถ้าครบห้าปีแล้ว กลับมาจะเอาอะไรกินละครับเนี่ย 5555 ที่มา…
-
คนขับรถโดยสารจีนสวมบทฮีโร่ ช่วยห้ามหญิงสาวคิดสั้นกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย!!
การจะเป็นฮีโร่ได้ ไม่จำเป็นต้องมีพลังพิเศษ หรือความร่ำรวยใดๆ ขอเพียงมีจิตใจที่พร้อมจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เท่านั้นคุณก็สามารถเป็นฮีโร่ได้อย่างที่ใจหวังแล้ว อย่างเช่นคนขับรถบัสชาวจีนคนนี้ วันหนึ่งขณะที่เขากำลังขับรถผ่านสะพาน Nanjing Yangtze ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีเกียง แม่น้ำที่ยาวที่สุดในทวีปเอเชีย เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังปีนขอบสะพาน แล้วทำท่าจะกระโดดลงจากสะพานที่มีความสูงกว่า 70 เมตร วินาทีนั้นเอง คนขับรถบัสก็สวมวิญญาณฮีโร่ จอดรถและวิ่งไปดึงผู้หญิงคนนั้นกลับมาเข้ามาทันที แม้เธอจะพยายามดิ้นรนให้หลุดจากการควบคุมของคนขับรถ จนผู้โดยสารคนอื่นๆต้องเข้ามาช่วยจับ สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็สามารถพาหญิงสาวคนนี้ขึ้นรถ ไปสงบสติอารมณ์ได้ ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย เลื่อนไปที่ 0.18 เลยนะจ๊ะ สุดยอดเลยฮะ บอกแล้วว่าการเป็นฮีโร่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นอะไรหรอก แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเราทำอะไรต่างหาก ขอให้ทำดีต่อไปนะฮะพี่คนขับรถ เหมียวเป็นกำลังใจให้ ที่มา 新闻 新闻
-
ผู้ปกครองจีนสุดทน แฉโรงเรียนทำอาหารสกปรกให้ของลูกๆ กิน ทั้งขึ้นรา ทั้งวางกับพื้น!!
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า เหล่าผู้ปกครองของนักเรียนชาวจีนได้ออกมาแฉภาพถ่ายการเตรียมอาหารกลางวันของบริษัทผู้ผลิตอาหารกลางวันให้โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเฉียวชาน นครหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน จากภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นชิ้นเนื้อที่ถูกวางไว้เรี่ยราดกับพื้น ภาชนะที่ใส่อาหารและเขียงที่ใช้ทำอาหารมีราขึ้นเต็มไปหมด อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษได้ แถมยังมีแมลงตกลงไปในภาชนะที่ใส่น้ำจิ้มอีกด้วย นอกจากนี้แล้วเหล่าผู้ปกครองยังพบอีกว่ามีไข่ไก่ที่ทางบริษัทผู้ผลิตอาหารกลางวันให้นักเรียน นั้นมีหลายฟองที่แตกแล้ว ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วห้อง ตามรายงานบอกว่าทางโรงเรียนแห่งนี้ ต้องการให้นักเรียนได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ จึงได้จ้างบริษัทผู้ผลิตอาหารกลางวันเพื่อให้ทำข้าวกล่องเมื่อช่วงวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ด้วยความสกปรกทำให้เหล่าผู้ปกครองไม่อาจนิ่งเฉย จึงได้ถ่ายภาพอาหารเหล่านั้นมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อเข้าตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าว ทางโฆษกของโรงเรียนได้ออกมาแสดงความเห็นว่า พวกเขาเองก็รู้สึกตกใจไม่น้อย เพราะไม่คิดว่าทางผู้ผลิตอาหารจะทำอาหารได้สกปรกขนาดนี้ ส่วนทางด้านผู้ผลิตอาหารได้แสดงความเห็นว่า ปัญหาแมลงตกลงไปในอาหารนั้นเป็นปัญหาที่พบได้บ้าง แต่ไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้งนี้ได้มีการตัดสินจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า รูปแบบในการผลิตอาหารนั้นมีความสกปรกจริง ซึ่งพวกเขามีความผิดในฐานไม่รักษาความสะอาดของอาหารและภาชนะให้ได้ตามมาตรฐาน ส่วนทางด้านโรงเรียนเองก็มีความผิดฐานปล่อยปละละเลยเช่นกัน ที่มา dailymail
-
ชื่นชมน้ำใจ รถบรรทุกไข่ไก่แหกโค้งในจีน ชาวบ้านกรูกันช่วยเก็บไข่แตก นำส่งคนขับรถ
แม้ว่าเราจะได้ยินข่าวแปลกๆ จากประเทศจีนมาเยอะ แต่ใช่ว่าประเทศนี้จะมีข่าวเสียๆ เสมอไปนะ เพราะเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม เว็บไซต์ Shaghaiist ได้รายงานว่าคนขับรถบรรทุกขนไข่ไก่มาเต็มลำรถ ได้เกิดอุบัติเหตุรถแหกโค้งในมณฑลซานตง ประเทศจีน ทำให้ไข่ไก่ทั้งหมดที่ขนมากับรถร่วงแตกลงพื้นเต็มไปหมด แต่แทนที่ชาวบ้านบริเวณนั้นจะใช้โอกาสนี้เข้าไปตักตวงแต่ไข่ไก่มาเป็นของตัวเอง เหมือนกับกรณีที่เราเคยเห็นก่อนหน้านี้ (ในไทยก็มี) แต่ด้วยความมีน้ำใจของพวกเขา ชาวบ้านจึงจัดแจงเข้าไปช่วยกันเก็บไข่ไก่ขึ้นมาใส่ภาชนะและนำไปคืนให้กับคนขับรถ แม้ว่าจะสามารถเก็บไข่ไก่บางส่วนกลับมาได้ แต่เมื่อตีมูลค่าความเสียหายของเหตุการณ์นี้แล้ว จะอยู่ที่ประมาณ 10,000 หยวน หรือประมาณ 55,000 บาทนั่นเอง แม้ว่านี่จะเป็นอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย แต่นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขายังคงมีน้ำใจ ไม่ต่างอะไรจากประเทศอื่นๆ เลยล่ะ ที่มา shanghaiist
-
แบบนี้ก็มี!? แก๊งค์ต้มตุ๋นจีนสร้างห้องสืบสวนปลอม หวังไถเงินประชาชนที่เดือดร้อน
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Scmp ได้รายงานว่า ในมณฑลเฮย์หลงเจียง ของประเทศจีน มีแก๊งค์ต้มตุ๋น 4 คนได้สร้างห้องสืบสวนสอบสวนปลอมขึ้นมาเพื่อใช้เป็นห้องสอบปากคำปลอมๆ และรีดไถเงินจากประชาชนโดยอ้างว่าจะช่วยให้คดีง่ายขึ้น ตามรายงานบอกว่าแก๊งค์ต้มตุ๋นแก๊งค์นี้ได้ลงทุนไปกว่า 200,000 หยวน หรือประมาณ 1.1 ล้านบาท เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมภายในห้อง ให้เหมือนกับห้องสืบสวนจริงๆ ภายในห้องสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่ถูกทิ้งร้าง โดยพวกเขาตั้งเป้าไว้ว่าจะใช้ห้องนี้ในการรีดไถเงินจากเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมทุจริตให้มากที่สุด ซึ่งมีหนึ่งในเหยื่อเป็นผู้จัดการหน่วยงานด้านเกษตรกรท้องถิ่นอย่างนายจางเหว่ยด้วย ตามรายงานระบุว่าแก๊งค์ต้มตุ๋นแก๊งค์นี้ได้บุกไปนำตัวนายจางเหว่ยออกมาจากที่พัก และปิดตาของเขาไว้ ในขณะที่ภรรยาของเขาก็รีบโทรแจ้งตำรวจทันที ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกนำตัวไปยังห้องสืบสวนปลอม หลังจากที่ใช้เวลาในการสืบสวนเป็นเวลานาน แก๊งค์ต้มตุ๋นได้ตัดสินใจที่จะเรีกค่าไถ่พวกเขาเป็นจำนวน 400,000 หยวน ประมาณ 2.2 ล้านบาท ซึ่งเขาก็ยอมจ่ายแต่โดยดีเพื่อให้พวกเขานั้นปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมแก๊งค์ต้มตุ๋นไว้ได้ 2 คน ในขณะที่อีก 1 คนของเข้ามอบตัวด้วยตนเอง และอีก 1 คนนั้นสามารถหลบหนีไปได้ ที่มา scmp
-
คุณตาจีนสุดโหด!! จับนักเรียนสาวมาคุกเข่า, ตบ, ด่า หลังถูกขี่จักรยานชน ชาวเน็ตวิจารณ์แซ่ด
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์อุบัติเหตุระหว่างคนแก่และนักเรียนสาวรายหนึ่งในเมืองหลิงฉิง มณฑลซานตง ประเทศจีน เป็นเหตุการณ์ในช่วงเช้าที่เด็กนักเรียนสาวรีบปั่นจักรยานไปโรงเรียน แต่ในระหว่างทางดันเกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับชายชราคนหนึ่ง หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เด็กนักเรียนสาวก็ได้กล่าวขอโทษชายชรา แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะไม่จบลงแค่นั้น เพราะชายชราเกิดโมโหจัดและด่านักเรียนสาวแบบไฟแล่บ จากนั้นเขาก็ตบหัวเธออย่างแรง ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น แต่ถึงแม้จะทำขนาดนี้ ก็ดูเหมือนว่ายังไม่เป็นที่พอใจของชายชรา เขาจึงกระชากเธอลงมาจากจักรยานและบังคับให้เธอคุกเข่าขอโทษเขา และแม้ว่าเด้กนักเรียนสาวจะขอร้องให้ปล่อยตัวเธอไปเพราะกำลังจะไปโรงเรียนสาย แต่ชายชราก็ดูจะไม่พอใจกว่าเดิม หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ลงในโลกออนไลน์ ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณืต่างๆ ตามมามากมาย โดยมีการโต้เถียงกันในหมู่ชาวเน็ตว่า ชายชรานั้นทำตัวไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่ และยังชอบทำตัวให้ได้รับบาดเจ็บเพื่อจะได้รีดไถเงินจากคนอื่น ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง Schoolboy from Shandong province gets beaten and forced to kneel in the street by the elderly man he accidentally collided with.…
-
พบชานมไข่มุกปลอมระบาดในจีน คาดทำมาจากยางรถ-หนังรองเท้า ‘อ.เจษ’ เชื่อ เป็นการเต้าข่าว
ขึ้นชื่อว่าของปลอม ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเกินหน้าเกินตาประเทศจีนจริงๆ เพราะแทบจะทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้ถูกนำไปก็อปปี้มาแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Hongkongfp ได้รายงานว่าผู้สื่อข่าวรายหนึ่งในสถานีโทรทัศน์ Shandong Television ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีโทรทัศน์ชื่อดังของจีน เปิดเผยกับสื่อว่าพวกเขาพบชานมไข่มุกปลอมในเมืองเชิงเต่า มณฑลชานตง ประเทศจีน ตามรายงานบอกว่าผู้สื่อข่าวรายนี้ได้ซื้อชานมไข่มุกมาดื่มตามปกติ แต่แล้วก็เกิดอาการประหลาดขึ้น เพราะเขาเกิดอาการป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลในเวลาต่อมา และเมื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดด้วย CT Scan แล้ว จึงพบว่ามีเม็ดไข่มุกอยู่ในกระเพาะอาหารของเขา ในสภาพที่ยังไม่ย่อยสลายอยู่เต็มท้องของเขาไปหมด หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทีมงานจึงได้ออกสำรวจตามร้านชานมไข่มุกในเมืองชิงเต่า เพื่อสอบถามว่าพวกเขาเคยเห็นไข่มุกปลอมแบบนี้หรือไม่ โดยทั้งหมดตอบคล้ายกันว่าไม่เคยเห็นหรือได้ยินข่าวเกี่ยวกับไข่มุกแบบนี้มาก่อน แต่มีเจ้าของร้านชานมแห่งหนึ่งได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจว่า ไข่มุกเหล่านั้นอาจจะผลิตมาจากโรงงานเคมี ที่ทำมาจากสันรองเท้าหนังและยางรถยนต์เก่าก็เป็นได้ ทั้งนี้ไม่มีการยืนยันว่าไข่มุกเหล่านั้นทำมาจากยางรถยนต์เก่าหรือสันรองเท้าหนังจริงหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบของนักวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยชิงเต่า ได้ให้ข้อมูลว่า เม็ดมุกเหล่านั้นมีความเหนียวหนืดกว่ามุกทั่วๆ ไปมาก แต่ล่าสุด อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า อาจเป็นการกุเรื่องของสื่อจีนเท่านั้น เพราะราคายางรถยนต์แพงกว่าแป้งสำปะหลังสำหรับใช้ทำไข่มุกหลายเท่า แถมยังตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจไว้อีกหลายข้อทีเดียว ที่มา hongkongfp , Jessada Denduangboripant
-
ผู้ปกครองชาวจีนโวย ครูอนุบาลจับเด็กๆ แก้ผ้าถ่ายนู๊ด อ้างสอนเพศศึกษา!?
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของคุณครูชาวจีนแซ่มา ในมณฑลเหอหนาน ที่จับเด็กชายชั้นอนุบาลมาแก้ผ้าล่อนจ้อนและถ่ายภาพของพวกเขาลงในแอพฯ WeChat โดยอ้างว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้นเพื่อเป็นการสอนเพศศึกษาให้กับเด็กๆ เท่านั้น หลังจากที่ภาพของเหล่าเด็ดๆ ถูกแชร์ลงในแอพฯ และกระจายออกสู่โลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ปกครองของเด็กๆ เกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงได้มีการรวมตัวกันร้องเรียนให้ทางโรงเรียนที่คุณครูรายนี้สอนอยู่ ไล่เธอออกซะ หลังจากกลายเป็นข่าว คุณครูสาวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ที่เธอทำลงไปนั้นเพื่อเป็นการสอนเพศศึกษาให้กับเด็กๆ และอยากให้นักเรียนได้เรียนรู้ความหมายของการมีชีวิต ซึ่งเธอคิดว่าการที่เด็กๆ แก้ผ้าแบบนี้ถือเป็นภาพที่น่าักดี นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่าในระหว่างที่ให้เด็กชายแก้ผ้านั้น เธอได้ขอให้เด็กผู้หญิงออกไปจากห้องก่อนด้วย ในเวลาต่อมาทางผู้อำนวยการและคุณครูสาวได้ออกมาแถลงข่าวขอโทษผ่านสื่อต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์สุดอื้อฉาวครั้งนี้ ทั้งนี้ไม่มีรายงานว่าเธอได้ถูกทางโรงเรียนคาดโทษหรือไล่ออกหรือเปล่า น่าสงสารเด็กๆ มากเลย ที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ไม่แน่ว่าการแก้ผ้าครั้งนั้นอาจเป็นภาพติดตาที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของพวกเขาในภายภาคหน้าก็ได้ ที่มา shanghaiist
-
ตำรวจมาเลเซียตามจับแก๊งค์นักท่องเที่ยวจีน หลังแก้ผ้าถ่ายรูปแชร์ลงในเน็ต!?
ยังคงเป็นที่น่าชื่นชม (!?) ได้อย่างต่อเนื่องจริงๆ สำหรับวีรกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ล่าสุดได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มหนึ่งเดินทางไปเที่ยวที่เมืองเซปปอร์นาประเทศมาเลเซีย แต่การท่องเที่ยวก็มีอันต้องสะดุด เพราะพวกเขาดันไปแก้ผ้าถ่ายรูปบนเรือ และนำมันไปแชร์ลงในอินเตอร์เน็ต ทำให้เกิดการส่งต่อกันอย่างมากมาย ทำให้ชาวเน็ตเกิดความไม่พอใจและนำภาพของพวกเขาไปร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของมาเลเซียเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ทั้งหมดถูกตามจับกุมในที่สุด ทั้งนี้ยังมีรายงานด้วยว่าตำรวจมาเลเซียได้จับกุมนักท่องเที่ยวชาวจีนรายหนึ่ง วัย 30 ปี ซึ่งคาดการณ์กันว่าเขาอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับรูปเปลือยดังกล่าว โดยมีกำหนดปล่อยตัววันที่ 25 ตุลาคมนี้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นของมาเลเซียได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า การกระทำของนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มนี้ถือเป็นพฤติกรรมที่ไร้อารยธรรมและทำลายภาพลักษณ์อันดีของสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย เหมียวก็อยากจะฝากเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทยเหมือนกันนะ หากจะไปที่ไหนก็อย่าไปทำลายหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับที่นั้นๆ นะ ไม่งั้นเราอาจสร้างชื่อเสียให้กับประเทศของเราได้ล่ะ ที่มา news.qq , kapook
-
เหลือเชื่อ!! ชาวจีนตื่นตระหนก ภาพเมืองลอยฟ้าขนาดยักษ์โผล่เหนือน่านฟ้าในจีน
กลายเป็นเรื่องที่ชวนให้ฮือฮาในประเทศจีนอยู่ตอนนี้เลยล่ะ สำหรับเรื่องราวของเมืองลอยฟ้าขนาดยักษ์ที่อยู่เหนือน่านฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน จนชาวบ้านลือกันให้แซ่ดว่านี่อาจเป็นฝีมือของสิ่งลี้ลับหรือเป็นโลกคู่ขนานก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า ชาวบ้านใรมณฑลเจียงซีและมณฑลฝูเจี้ยนประเทศจีน ได้พบวัตถุประหลาดลอยอยู่บนท้องฟ้าคล้ายกับอาคาร ทำเอาชาวเน็ตพากันตื่นตกใจและแชร์ภาพดังกล่าวออกไปอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ได้มีผู้เชี่ยวชาญออกมาแสดงความเห็นและะทฤษฎีต่างๆ มากมาย โดยบางคนเชื่อกันว่านี่อาจเป็นทฤษฎีสมคบคิดที่คาดกันว่าเป็นการทดลองของ Nasa ที่ชื่อว่า Blue Beam ที่เป็นการยิงภาพโฮโลแกรมขึ้นฟ้าเพื่อจำลองเหตุการของพระเยซู ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศออกมาแย้งว่าภาพเมืองลอยฟ้าที่เห็นนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกกันว่า Fata Morgana ตามบันทึกในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมาพบว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวมักจะโผล่ออกมาสร้างความตกใจให้แก่ผู้คนอยู่หลายครั้งทีเดียว ที่มา shanghaiist
-
หรือว่าเอเลี่ยน!?!? ชาวจีนถึงกับเหวอ หลังมีคนเห็น “เมือง” อยู่บนก้อนเมฆ!!!
เหล่านักทฤษฏีสมคบคิดต่างๆได้มีงานทำกันแล้ว หลังจากมีการปล่อยคลิปซึ่งอ้างว่า พบเห็นเงาของเมือง อยู่บนก้อนเมฆบนท้องฟ้าในประเทศจีน โดยเจ้าเมฆหน้าตาประหลาดนี้ถูกพบเห็นในเมืองโฝชาน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน และอีกครั้งในไม่กี่วันถัดมาในมณฑลเจียงซี โดยผู้ที่ถ่ายคลิปเล่าว่า เขาเห็นเมืองขนาดใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยตึก ลอยอยู่บนก้อนเมฆ และไม่ใช่เขาคนเดียวเท่านั้นที่เห็น ยังมีเพื่อนบ้านอีกนับร้อยเห็นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เคยมีคนเห็นเมือนลอยได้แล้วครั้งหนึ่ง ที่เมือง Hastings ประเทศ New Zealand ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่า เป็นอันเดียวกันหรือเปล่า ยังไม่มีรายงานแน่ชัดว่า นี่เป็นเรื่องราวใดกันแน่ บ้างก็บอกว่าเป็นโปรเจคลับของนาซ่าชื่อว่า Project Blue Beam ซึ่งเป็นการจำลองการบุกโลกของเหล่าเอเลี่ยน บ้างก็บอกว่ามีคนยิงโฮโลแกรมขึ้นไป และบ้างก็บอกว่าเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลยดีกว่า เหมียวว่ามันเหมือนจริงๆเลยนะ หรือว่าข้างบนจะเป็นดินแดนสกายเปีย??? ที่มา Metro
-
หนูน้อยชาวจีนวัย 13 หนีจากการถูกลักพาตัวสำเร็จ เพราะเลียนแบบในหนังอาชญากรรม!!
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้เปิดเผยเรื่องราวของเด้กหนุ่มชาวจีนนามว่า เสี่ยวยี่ ที่ถูกโจรลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ แต่กลับสามารถหนีรอดออกมาได้ เพราะเลียนแบบภาพยนตร์อาขญากรรมที่เคยดูมา ตามรายงานบอกว่าเสี่ยวยี่อาศัยอยู่ในมณฑลเสฉวน แต่กลับมีชายคนหนึ่งจับเขาพันเทปกาวไว้ที่ปากและใช้ผ้าปิดตา ก่อนจะจับเขาไปขังไว้ที่บ้านร้างแห่งหนึ่งเพื่อโทรศัพท์หาพ่อและแม่ของเด็กเพื่อเรียกเงินจำนวน 30,000 หยวน หรือประมาณ 723,430 บาท จากนั้นเสี่ยวยี่จึงพยายามปลดล็อคตัวเองและแอบหนีออกไปตอนที่คนร้ายไม่อยู่ แต่โชคร้ายที่คนร้ายดันรู้ตัวก่อนเขาจึงถูกจับกลับมามัดไว้อย่างแน่นหนากว่าเดิม ก่อนจะออกไปข้างนอกอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เสี่ยวยี่ระมัดระวังตัวมากขึ้น เลยทดลองตะโกนเสียงดังถึง 2 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคนอยู่บริเวณนั้น เขาจึงจัดแจงพาตัวเองออกมาจากบ้านหลังนั้นในที่สุด หลังจากนั้นเสี่ยวยี่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนแถวนั้น เสี่ยวยี่ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ภาพยนตร์สอนผมให้รู้จักการร่วมมือกับคนร้ายลักพาตัว เพื่อซื้อเวลา และรออย่างใจเย็นจนกว่าจะมีโอกาสหนี” นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังสามารถตามจับตัวคนร้ายได้ในขณะที่นั่งชิวอยู่ที่คาเฟ่แห่งหนึ่งด้วย สุดยอดไปเลยนะหนุ่มน้อย!! ที่มา CCTVNews
-
คุณครูสาวชาวจีน ‘ซู่ตงเซียง’ ดังชั่วข้ามคืน หลังมีภาพขณะออกกำลังกายหลุดออกมา
ถือเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ของจีนอยู่ในขณะนี้ สำหรับภาพของ ซู่ตงเซียง อาจารย์สาวผู้สอนวิชาศิลปะการแสดงในมหาวิทยาลัยต้าเหลียน โพลีเทคนิค ของประเทศจีน วัย 23 ปี ที่จู่ๆ ก็กลายเป็นเซเล็บในโลกออนไลน์ขึ้นมาซะอย่างงั้น หลังจากที่มีชาวเน็ตค้นพบภาพของเธอในชุดออกกำลังกายและปั่นจักรยาน ทำเอาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั่วเมืองจีนถึงกับตาลุกวาวเลยทีเดียว และเมื่อภาพของเธอถูกแชร์ออกไปในโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเว่ยป๋อ ก็ทำให้ยอดผู้ติดตามของเธอพุ่งสูงถึง 260,000 คนเลย ทั้งนี้ยังมีข้อมูลอีกว่า อาจารย์ ซู่ตงเซียง ยังทำอาชีพเสริมเป็นนางแบบอีกด้วย โอ้วววคุณพระ อ๊าคคคคคคคคคคค ที่มา dailymail
-
คู่รักชาวจีนทำตะลึง ถ่ายพรีเวดดิ้งกับรถบัส 2 ชั้น แถมยังโพสท่าสุดชิล เหมือนลอยอยู่กลางอากาศ
เวลาที่เราเห็นภาพถ่ายพรีเวดดิ้งของคู่รักหนุ่มสาว ส่วนใหญ่จะเป็นภาพถ่ายที่มีฉากสวยๆ สุดโรแมนติกกันใช่ไหมละ แต่สำหรับภาพถ่ายพรีเวดดิ้งของคู่รักหนุ่มสาวคู่นี้ ดูเหมือนว่าจะเรียกเสียงฮือฮากับผู้คนเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา จากสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพของบ่าวสาวคู่หนึ่ง ที่ได้ทำการถ่ายพรีเวดดิ้งกับรถบัส 2 ชั้น กับลีลาการโพสต์ท่าสุดหวาดเสียวบนถนนเมืองเจิ้งโจว ประเทศจีน งานนี้ทำเอาผู้ใช้รถใช้ถนนถึงกับอึ้งไปตามๆ กัน จากภาพปรากฏให้เห็นว่าในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่นั้น เจ้าสาวกำลังทำท่าทางสุดหวาดเสียว ด้วยการนั่งห้อยขาออกมานอกหน้าต่างรถชั้น 2 ส่วนเจ้าบ่าวก็ทำท่าเหมือนกำลังยืนลอยตัวอยู่กลางอากาศแบบชิวๆ โดยมีเพียงมือขวามือเดียวที่ตรึงร่างของเขาไว้กับตัวรถเท่านั้น งานนี้ทำเอาผู้คนต่างสงสัยกันว่าเขาใช้เวทย์มนต์หรือเปล่า ในขณะที่อีกหลายๆ คนต่างก็เข้ามาจับผิดว่า นี่อาจจะเป็นการเซ็ตฉากขึ้นมาก็เป็นได้ ที่มา : cctvnewschina
-
รู้จัก Jeffrey และ Celine สองเด็กจีน ที่ทำให้โลกออนไลน์ต้องคลั่งกับเสียงร้องของพวกเขา
ไม่รู้เหมียวคิดไปเองหรือเปล่า แต่ในยุคปัจจุบัน มีเด็กๆเก่งๆมากความสามารถอยู่มากมายจริงๆ จนบางทีเหมียวก็ถึงกับเงิบไปเลย อย่างเช่นนักร้องเด็กชาวจีนสองคนนี้ ถ้าเพื่อนๆได้ฟังเสียงของพวกเขา เพื่อนๆจะต้องปรบมือให้กับความสามารถอันน่าเหลือเชื่อของพวกเขาอย่างแน่นอน เด็กหนุ่มและเด็กสาวชาวจีนสองคนนี้มีชื่อว่า Jeffrey Li และ Celine Tam พวกเขามีอายุเพียง 10 และ 7 ปีเท่านั้นตามลำดับ แต่ความสามารถในการร้องเพลงของพวกเขา ต้องบอกเลยว่า อย่างกับนักร้องมืออาชีพจริงๆ ไม่เชื่อไปลองฟังกันเลย อึ้งอ่ะดิ ต้องบอกว่าเทพจริงๆเลย ไม่น่าเชื่อว่าอายุยังไม่ถึง 12 แต่ความสามารถเนี่ยเหลือล้นจริงๆ ลองไปฟังการร้องเพลงอื่นๆของพวกเขาดูบ้าง เริ่มจากของน้อง Jeffrey Li ก่อน หลายคนอาจไม่เชื่อว่า นั่นมันเทปในรายการ อาจผ่านการ Auto Tune มาก็ได้ ลองไปฟังแบบเล่นสดๆในบ้านดู สุดยอดไม่แพ้ในรายการเลยใช่มั้ยละ คราวนี้ไปดูของน้อง Celine Tam กันบ้าง ลองไปฟัง Let It Go ดูบ้าง โอ้โห สุดยอดเลยนะเนี่ย ไม่อยากนึกตอนที่พวกเขาโตขึ้นเลย…
-
แบบนี้ก็ได้เหรอ? สื่อนอกเผยภาพป้ายภาษาอังกฤษในจีน ขอบอกว่าพังมาก!!
ขอบอกเลยว่าทุกวันนี้ไม่ว่าเราจะเดินทางไปยังประเทศไหนๆ ก็มักจะได้เห็นป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ นั่นก็เพราะว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่มีคนใช้กันทั่วโลกนั่นเอง แต่บางคำ บางประโยคอาจจะยากต่อการเข้าใจ จนทำให้คนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษามีการแปลแบบผิดๆ ถูกๆ กันได้ อย่างเช่นภาพที่เหมียวนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เป็นภาพป้ายที่ถูกรวบรวมมาจากประเทศจีนโดยเว็บไซต์ Shanghaiist ขอบอกเลยว่าแต่ละอันแปลผิดเพี้ยนไปไกลเลย… 1. มันใหญ่มาก!! 2. โด้ผัก… 3. Japanese นะ ไม่ใช่ Janpanese 4. เรามีเมนูภาษาอังกริช(Engrish) 5. สงสัยคนทำป้ายเพิ่งทะเลาะกับแฟนมา 6. บริการล้างหรรม!? 7. ชั้น 9 ถูกย้ายไปชั้น 15 ชั่วคราว!? 8. ราเม็งสำหรับพวกร่าน!? 9. นี่คือระเบิดมือ!? 10. ค่อยๆ ลื่นและล้มอย่างระมัดระวัง!? 11. เนื้อสามี!? โอ้ย…
-
วิศวกรชาวจีนวัย 27 ปี ไอเดียเด็ด ลงมือสร้างรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ของตัวเองขึ้นมาได้สำเร็จ!!
หนึ่งสิ่งที่ผู้คนหลงใหลและชื่นชอบในความเร็วที่มาพร้อมกับกับความสวยงามอย่างซุปเปอร์คาร์ ใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากจะได้มาครอบครองซะเหลือเกิน แต่ด้วยปัจจัยของราคาที่ทำให้จับต้องได้ยาก จึงทำได้เพียงแค่ฝันว่าซักวันหนึ่งจะต้องซื้อมาให้ได้ แต่ในเมื่อมีความรู้ทางด้านวิศวกรเครื่องกลและคร่ำวอดอยู่ในวงการยานยนต์ ประสบการณ์ที่สั่งสมมาก็สามารถสร้างซุปเปอร์คาร์ขึ้นมาเองได้ อย่างเช่นพ่อหนุ่มวิศวกรชาวจีนวัย 27 ปี นามว่า Chen Yan Xi ผู้นี้!! ซุปเปอร์คาร์สีแดงเด่น มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวคันนี้เป็นผลงานการสร้างของเขาเอง จากการออกแบบและนำชิ้นส่วนต่างๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน จนกลายร่างมาเป็นซุปเปอร์คาร์โฮมเมด ดูจากรูปทรงแล้วก็พอที่จะเทียบเคียงซุปเปอร์คาร์ค่ายดังได้อยู่นะ วิ่งได้จริง ไม่มีปลิว!! รับงานถ่ายแบบด้วยนะจ๊ะ ซึ่งจากผลงานชิ้นเอกของเขานั้น ก็ได้เข้าไปร่วมแสดงตัวในงานนิทรรศการยานยนต์ 2015 Hainan International Automotive Industry Exhibition ด้วย สุดยอดจริงๆ แฮะ!! ที่มา : thechive
-
หลุดภาพแอร์โฮสเตสนอนในช่องเก็บสัมภาระ อ้างเป็นเพียง “การรับน้อง” เท่านั้น?!?!
กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง หลังจากมีภาพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหรือแอร์โฮสเตส ถูกบังคับให้นอนในช่องเก็บสัมภาระ โดยทางพนักงานคนอื่นๆอ้างว่า เป็นเพียงการรับน้องเท่านั้น โดยภาพที่หลุดออกมาเป็นภาพของแอร์โฮสเตสของสายการบิน Kunming Airline จากประเทศจีน โดยเธอแต่ละคนต้องเข้าไปนอนในช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ และมีพนักงานคนอื่นยืนดูอย่างชอบใจ โดยทางพนักงานได้อ้างว่า นี่เป็นพิธีการรับน้องอย่างหนึ่งของสายการบิน พนักงานใหม่ที่ปฏิบัติหน้าที่ครบ 30-50 ชั่วโมง จะต้องทำกิจกรรมนี้ เพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่พนักงาน เมื่อมีการเผยแพร่ภาพออกไป ชาวเน็ตก็ตั้งข้อสงสัยว่าสิ่งที่พวกเขาทำกันนั้น เหมาะสมและถูกต้องแล้วเหรอ เมื่อทางสายการบินรับทราบเรื่องดังกล่าว ก็ออกมาชี้แจงว่า พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าพนักงานมีกิจกรรมแบบนี้ ตอนนี้ทางบริษัทได้สั่งให้มีการยกเลิกกิจกรรมดังกล่าวแล้ว และทางบริษัทขอเน้นย้ำว่า กิจกรรมทุกอย่างในภาพนั้น เกิดขึ้นนอกเวลางานหลังจากบินเสร็จ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารแต่อย่างใด นอกจากมีการรับน้องในโรงเรียนแล้ว ยังมีการรับน้องบนเครื่องบินอีกเหรอเนี่ย ยอมใจพี่จีนแกจริงๆ ที่มา toutiaofen
-
20 ภาพอันทรงพลังที่แสดงให้เห็นว่า “ประเทศจีน” นั้นประชากรเยอะมาก!!
ใครๆต่างก็รู้ว่าประเทศจีนนั้นเป็นประเทศที่ใหญ่มากๆ และแน่นอนว่าประเทศที่ใหญ่ก็ต้องมาพร้อมกันประชาการที่มาก เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว จีนมีประชากรเกือบ 1 พันล้านคนเข้าไปแล้ว จนต้องมีกฎหมายออกมาควบคุมประชากรโดยให้ครอบครัวมีบุตรได้เพียงคนเดียว แต่เมื่อมีกฎก็ต้องมีคนแหกเป็นที่แน่นอน แต่บางครอบครัวก็ได้รับการอนุญาตให้มีบุตร 2 คนได้ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ เพราะค่านิยมที่นั่นอยากมีลูกชายกันทั้งนั้น ด้วยกฎหมายนี้ที่ทำกันมานานถึง 35 ปี ก็ยังเพิ่มประชากรในประเทศให้เพิ่มสูงถึง 1.4 พันล้านคนเข้าให้ วันนี้เหมียวก็มีภาพของประชากรในประเทศจีนสุดแสนจะแออัดมาฝาก ซึ่งเป็นภาพจากสำนักข่าวรอยเตอร์ เราไปดูกันเลยดีกว่า นักศึกษานั่งสอบกันในห้องกว้างที่เมือง Yichuan มีนักศึกษามากกว่า 1,700 เข้าร่วมการสอบครั้งนี้ เพราะเนื่องจากที่โรงเรียนไม่มีพื้นที่เพียงพอ จึงต้องย้ายมาสอบข้างนอก ภาพของนักเรียนกำลังจะเดินเข้าห้องสอบ ซึ่งเป็นช่วงสอบเข้ามหาลัยฯของที่นั่น ใช้เวลา 3 วันในการสอบ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมือง Hefei ซึ่งเคยมีสถิติได้บอกไว้ว่าในปี 2013 ได้มีผู้เข้าสอบสูงถึง 1.8 ล้านคนด้วยกัน ภาพของเสื้อผ้าที่กำลังตากอยู่ของนักศึกษาในมหาลัยที่เมือง Wuhan ส่วนผู้ปกครองที่ต้องมานอนรอลูกที่โรงยิมในมหาลัยที่เมือง Wuhan ภาพของผู้หญิงที่กำลังจอดจักรยานที่ลานจอดใกล้สถานีรถไฟใต้ดินที่ปักกิ่ง ในช่วงเวลาที่เร่งด่วน จะได้เห็นภาพผู้คนใช้ทั้งบันไดเลื่อนและบันไดธรรมดาลงไปยังสถานีรถไฟใต้ดินในเมืองปักกิ่ง ภาพผู้โดยสารมากมายกำลังแออัดอยู่ตรงหน้าสถานีรถไฟในวันแรกของ “The Golden Week” ซึ่งเป็นวันหยุดที่คนเฉลิมฉลองกัน…
-
ชายหนุ่มพยายามตัดริดสีดวงด้วยตนเอง สุดท้ายมีดปักคาก้น ต้องให้หมอช่วยเอาออก!!!
พูดถึงริดสีดวง ใครที่ไม่เคยเป็นก็คงไม่เข้าใจว่ามันทุกข์ทรมานขนาดไหน จนบางครั้ง ความทรมานนั้นได้บันดาลในผู้ป่วยทำอะไรสิ้นคิดลงไป อย่างเช่นชายชาวจีนคนนี้ เขาทุกข์ทรมานจากโรคริดสีดวงทวารมากว่า 20 ปี สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว หยิบมีดพกขึ้นมาแล้วตั้งจะตัดริดสีดวงด้วยตนเอง โชคร้าย พอเขาแหย่มีดเข้าไปแล้ว ปรากฏมีดกลับปักคาก้น เขาไม่สามารถดึงมันออกมาได้เอง สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อให้หมอดึงมีดออกมา ซึ่งทางคุณหมอบอกว่า มีดพับของชายคนนี้มีความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร และมีดก็ปักเข้าไปในก้นเขา 3-4 เซนติเมตรเลยทีเดียว ซึ่งกว่าหมอจะออกมีดออกมาได้ ก็ต้องใช้เวลานานเลยทีเดียว เป็นไงละ แทนที่จะไปหาหมอตั้งแต่แรก สุดท้ายก็ต้องไปหาหมออยู่ดี ใครที่คิดจะทำการรักษาตัวเอง เหมียวบอกเลยว่าอย่าทำ ไปให้คนที่เขาเชี่ยวชาญทำเถอะ ไม่งั้นอาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้นะจ๊ะ ที่มา ettoday
-
จีนส่งท้ายหยุดยาว ถนนเกือบ 30 เลนเต็มไปด้วยรถหนาแน่นสุดลูกหูลูกตา (แทบไม่เห็นที่ว่างเลย)
ผ่านพ้นเทศกาลสำคัญๆ ทีไร แน่นอนว่าปัญหาใหญ่ที่หลายประเทศจะต้องเจอแน่ๆ ก็คือ ปัญหาการจราจรติดขัด ซึ่งกว่าจะผ่านพ้นถนนเส้นที่มีรถติดเยอะๆ มาได้ บางทีก็ปาไปเป็นชั่วโมงเลยทีเดียวใช่ไหมละ ก็เหมือนกับภาพภาพนี้ เป็นภาพถ่ายทางอากาศจากท้องถนนทางหลวงของจีน เส้นทางมุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง ในช่วงบ่ายวันที่ 6 ตุลาคม 2558 หลังจากผ่านพ้นเทศกาลวันหยุดยาว เนื่องในวันชาติของประเทศจีนกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา โอ้โห!! รถติดขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ซึ่งจากภาพเราจะเห็นได้ว่า บนถนนเกือบ 30 เลน มีสภาพการจราจรติดขัด และเต็มไปด้วยรถที่หนาแน่นสุดลูกหูลูกตา จนแทบจะมองไม่เห็นที่ว่าง ลากยาวตั้งแต่ต้นสายยันปลายทาง ก่อนที่จะเข้าสู่ทางขึ้นทางด่วนของกรุงปักกิ่ง-ฮ่องกง-มาเก๊า จากการรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศ เผยว่า คาดว่าในเมืองขนาดใหญ่ และขนาดกลางอื่น ๆ ยังคงมีจำนวนรถเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงคืนวันที่ 7ตุลาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลวันหยุดยาวของจีน ซึ่งจำนวนประชาชนที่เดินทางในครั้งนี้ คาดว่าน่าจะมีประมาณ 750 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประชากรชาวจีน ที่ได้เดินทางออกไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล ‘สัปดาห์ทองแห่งการพักผ่อน’ ที่ผ่านมานั่นเอง ที่มา : cctvnewschina
-
หนุ่มจีนโชว์เก๋าขี่บิ๊กไบค์เร็ว 237 กม/ชม. อวดลงเน็ต ตำรวจตามรวบทันควัน
แม้ว่าจะมีเงินมากพอจะซื้อบิ๊กไบค์มาขี่แบบหล่อๆ แต่ก็ต้องเคารพกฎจราจรด้วยนะ เพราะไม่งั้นสิ่งที่คุณรักอาจย้อนกลับมาทำร้ายคุณหรือทำให้คุณเสียเงินทั้งที่ไม่จำเป็นก็ได้ เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Asiaone ของจีนได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของจีน สามารถตามจับไบค์เกอร์หนุ่มได้ หลังจากขับขี่มอเตอร์ไซค์บนถนนหลวงด้วยความเร็วกว่า 237 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเกินกว่าความเร็วที่กฎหมายอนุญาตถึง 3 เท่า!! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา บนถนนสายหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยชายหนุ่มแซ่เผิง วัย 30 ปี ได้ขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่ความเร็ว 237 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นระยะทาง 37.5 กิโลเมตร ในเวลาแค่ 13 นาทีเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้นายเผิงถูกตามตัวได้แม้จะหายไปจากถนนแล้วก็เพราะว่า หลังจากที่ทำการซิ่งเสร็จนั้น เขาได้นำเอาคลิปวิดีโอระหว่างการเดินทางมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์ ที่มีคนกดแชร์ไปกว่า 220,000 ครั้ง ทำให้ตำรวจสามรถตามตัวเขาได้ไม่ยากเลยล่ะ ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง จะขี่รถเร็วก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่แอดเหมียวว่าขี่ในที่ที่เขาจัดไว้ให้ น่าจะปลอดภัยกับตัวเองและคนบนท้องถนนมากกว่านะ ที่มา asiaone , Sina premium
-
มาได้ไง? ศิลปินชาวจีนพบอุปกรณ์ดักฟังภายในบ้านที่ปักกิ่ง หลังเตรียมปรับสภาพบ้านใหม่
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของศิลปินชาวจีนนามว่า Ai Weiwei ที่ค้นพบอุปกรณ์ดักฟังอยู่ภายในห้องทำงานในบ้านของตนเองที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน หลังพยายามปรับสภาพบ้านใหม่ นอกจากนี้แล้วนาย Ai Weiwei ยังพบอีกว่ามีอุปกรณ์ดักฟังอยู่ที่ห้องนอนอีกด้วย โดยมีการคาดว่าอุปกรณ์เหล่านี้น่าจะถูกซ่อนไว้ในบ้านของเขามาแล้วหลายปี แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะไม่ได้ทำให้เขาช็อคมากนัก เพราะเจ้าตัวได้ถ่ายคลิปวิดีโอประชดเจ้าเครื่องดักฟังนั่น ด้วยการจุดประทัดเสียงดังใส่มัน ซึ่งอาจทำให้บุคคลปริศนาที่แอบฟังอยู่หูแตกได้เลยทีเดียว 听到了么? A video posted by Ai Weiwei (@aiww) on Oct 3, 2015 at 8:59pm PDT เหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นกับบุคคลทั่วไปได้ไม่บ่อยนัก แต่หากใครรู้ตัวว่าเป็นบุคคลที่มีมีธุรกิจหรือความลับที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ก็ควรจะเช็ครอบๆ บ้านของคุณได้ดีนะ ว่าซอกหลืบไหนมีวัตถุแปลกๆ ซ่อนอยู่หรือเปล่า เพราะคุณคงไม่แฮปปี้แน่ๆ หากเรื่องส่วนตัวของคุณจะไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไป ที่มา shanghaiist
-
ผู้ดีเหวอ เจอนักท่องเที่ยวจีน อุ้มลูกอึหน้าร้าน Burberry ในประเทศอังกฤษ!?
หากใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่อังกฤษก็น่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงของร้าน Burberry มาไม่มากก็น้อยล่ะนะ เพราะมีสินค้าหลากหลายให้เลือกซื้อแถมยังปลอดภาษีอีกด้วย จึงเป็นร้านค้าที่ดึงดูดลูกค้าได้ดี โดยเฉพาะลูกค้าจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าชาวจีนบางคนจะไม่ได้เป็นแฟนของ Burberry เพราะเล่นพาลูกหลานมาอึที่หน้าร้านกับแบบไม่เกรงใจใครเลยทีเดียว!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หน้าร้าน Burberry สาขาหนึ่งในหมู่บ้าน Bicester ประเทศอังกฤษ เป็นเหตุการณ์ดูคุณยายชาวจีนคนหนึ่งกำลังอุ้มหลานชายและจัดแจงให้เขาอึลงบนถุงกระดาษที่หน้าร้านค้าชื่อดัง ทำเอานักท่องเที่ยวและชาวเมืองต่างเอือมไปตามๆ กัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวจีนหลั่งไหลกันเข้ามาเที่ยวที่ประเทศอังกฤษกันอย่างไม่ขาดสาย และตั้งแต่ปี 2013 ที่ผ่านมา ทางการของอังกฤษก็ได้ติดตั้งป้ายหรือสัญลักษณ์ต่างๆ เป็นภาษาจีนเพื่อให้พวกเขาเข้าใจง่ายมากขึ้น แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังใช้ไม่ได้ผลกับคนบางกลุ่มล่ะนะ ที่มา shanghaiist
-
เกินไป๊!! บริษัทจีนสุดโหด สั่งพนักงาน “เลื้อย” รอบบึง หลังทำยอดขายบริษัทได้ไม่ดี
หากคุณเป็นพนักขายอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งที่ทำยอดขายได้ไม่ดีนัก คุณอาจจะแค่อดโบนัสหรือค่าคอมฯ อะไรก็ว่ากันไป แต่ที่ประเทศจีน หากคุณทำยอดขายได้ไม่ถึงเป้าที่วางเอาไว้ คุณอาจจะต้องไปเลื้อย-คลานกับพื้นจนเนื้อตัวมอมแมมเลยล่ะ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊คเพจ CCTVNews ได้รายงานว่าบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ได้ลงโทษพนักงานขายด้วยการสั่งให้พวกเขาลงไปนอนเลื้อยกับพื้นรอบบึงจนเสื้อผ้าขาดวิ้นและเป็นแผลเต็มตัว หลังทำยอดขายไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ ตามรายงานไม่ได้บอกว่าบริษัทแห่งนี้มีชื่อว่าอะไร แต่หลังจากที่มีคนพบเห็นพวกเขาเข้า ก็ได้มีการนำมาเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ Weibo เครือข่ายสังคมออนไลน์ของประเทศจีน และกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัง เกี่ยวกับการลงโทษพนักงานสุดโหดร้ายแบบนี้ โดยมีชาวเน็ตประนาณสิ่งที่บริษัทแห่งนี้ทำว่า เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนมาก เป็นการลดทอนสิทธิมนุษยชน ในขณะที่บางคนสงสัยว่าพนักงานเหล่านี้ทนอยู่กับบริษัทนี้ได้ยังไง? เหมียวว่า ถ้าเจอแบบนี้กับตัว เหมียวขอลาออกดีกว่า ที่มา CCTVNews , kapook
-
นักท่องเที่ยวสาวฝรั่งเมาอาละวาด ถอดเสื้อท้าต่อยแม่ค้าชาวจีน!!!
พูดถึงคนเมาแล้ว เราคงนึกถึงคนที่ไม่มีสติ ทำอะไรโดยไม่รู้ตัวด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ อย่างที่โบราณเขาบอกว่า “อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา” ประโยคนี้นั้นแสดงให้เห็นว่า คนเมานั้นไม่ควรยุ่งด้วยขนาดไหน แต่สำหรับแม่ค้าชาวจีนนี้คน เธอก็ได้เจอกับพิษสงของคนเมาอย่างเต็มพิกัด จนเธอถึงกับหน้าเสียเลยทีเดียว เรื่องราวเกิดขึ้นที่ตลาดแห่งหนึ่งในประเทศจีน มีนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกคนหนึ่งอยู่ในสภาพเมามาย ได้ทะเลาะวิวาทกับแม่ค้าชาวจีนคนหนึ่ง โดยแม่ค้าชาวจีนอ้างว่า เธอไม่ได้จ่ายเงินให้กับแม่ค้า แต่นักท่องเที่ยวเองก็บอกว่าตนเองนั้นจ่ายไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่พอใจ พร้อมถอดเสื้อท้าต่อยตีกับแม่ค้าคนนั้น ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย เอ่ออ เมาแล้วเป็นแบบนี้ก็ไม่ไหวนะเนี่ย เหมียวว่าจิบน้ำชาร้อนๆซักแก้ว แล้วไปนอนเถอะครับ อย่ามาสร้างปัญหาแบบนี้เลย ที่มา พาอ้าย ไปขึ้นสวรรค์
-
เกือบไปแล้ว หนุ่มจีนสุดหื่นดักข่มขืนหญิงสาวระหว่างทางขึ้นบันได โชคดีหนีรอดมาได้
หากคุณเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องเดินทางตัวคนเดียวแล้วล่ะก็ หมั่นตรวจเช็ครอบข้างให้ดีๆ นะ เพราะแม้ว่าคุณจะอยู่ในสถานที่เปลี่ยวหรือภายในอาคาร ก็อาจจะเจอเข้ากับผู้ไม่หวังดีได้ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Liveleak ได้ออกมาเปิดเผยคลิปวิดีโอสุดช็อคที่ถูกถ่ายไว้ได้โดยกล้องวงจรปิดจากภายในโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศจีน เผยให้เหฌนภาพของหญิงสาวขณะเดินขึ้นบรรได แต่ในจังหวะนั้นเองกลับมีชายปริศนาพุ่งเข้ามหาเธอพร้อมกับพยายามลวนลามเพื่อหวังข่มขืน จนในที่สุดหญิงสาวก็ล้มลงไป แต่เธอดูจะไม่ยอมง่ายๆ จึงพยายามดิ้นสุดชีวิต และเมื่อชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็จึงใช้เท้าของเขากระทืบลงไปที่ใบหน้าของหญิงสาวจนเธอสลบไป แต่โชคยังดีที่หญิงสาวยังพอมีสติอยู่บ้าง จึงขัดขืนชายหนุ่มต่อไป จนในที่สุดฝ่ายชายต้องล้มเลิกและฉกกระเป๋าของหญิงสาวก่อนจะหนีหายไปทางบรรได ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ผู้หญิงคนไหนที่ชอบไปไหนมาไหนคนเดียวก็ระวังตัวหน่อยนะ หากเห็นอะไรที่ผิดสังเกต รีบออกสู่สถานที่แจ้งโดยไวเลยนะ ที่มา debet pong
-
จะแข็ง…แกร่งไปไหน!? หนุ่มจีนโชว์อึด ใช้เจ้าโลกยกลังเบียร์กว่า 3 ลัง แถมแกว่งไปมาได้ด้วย!!
ขึ้นชื่อว่าประเทศจีน มักจะมีเรื่องเหวอๆ ฮาๆ แปลกๆ ให้เราได้เห็นกันอยู่เป็นประจำเลยนะ ล่าสุดแอดเหมียวไปเจอเข้ากับคลิปหนึ่งมา รับรองว่าอาจทำให้หนุ่มๆ เสียววาบกันเป็นแถบเลยล่ะ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปของหนุ่มชาวจีนรายหนึ่ง ที่พยายามจะโชว์แกร่งด้วยการใช้เจ้าโลกผูกกับเชือกแล้วยกลังเบียร์หนักๆ ถึง 3 ลังพร้อมกัน คุณพระ!! และนอกจากยกให้ลอยเหนือพื้นแล้ว ยังพยายามแกว่งไปมาให้เราดูอีกด้วย ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง เอิ่ม รู้แหละนะว่าพี่แข็ง…แกร่งจริงๆ แต่อย่าทำบ่อยๆ เลย เดี๋ยวจะชำรุดป่าวๆ นะ… ที่มา mirror
-
ความรักสวยงามเสมอ เผยคลิปชายหนุ่มขอแฟนหนุ่มหมั้น กลางรถไฟใต้ดินในปักกิ่ง
ถือเป็นเรื่องราวน่าประทับใจ และน่ายินดีอย่างยิ่งเลยล่ะ สำหรับเรื่องราวของคู่รักเกย์คู่หนึ่งในประเทศจีน ในระหว่างที่พวกเขาเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน จู่ๆ ชายหนุ่มคนหนึ่งก็หยิบเอาแหวนหมั้นของเขาออกมา และยื่นให้กับแฟนหนุ่ม ท่ามกลางความเซอรไพรซ์ของผู้โดยสารอีกจำนวนมาก เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอของชายหนุ่มขณะนั่งคุกเข่าและยื่นแหวนให้แฟนหนุ่มเพื่อขอหมั้น กลางรถไฟใต้ดินที่มีคนพลุกพล่าน จนผู้โดยสารหลายรายอดไม่ได้ ต้องหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้เลย นับตั้งแต่ปี 1997 ที่ประเทศจีนประกาศให้การรักร่วมเพศนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และถูกถอดออกจากรายชื่อของอาการผิดปกติทางจิตจากสมาคมจิตแพทย์ ในปี 2001 นี่อาจถือได้ว่าเป็นหนึ่งในความกล้าหาญและสวยงามที่สุดในประเทศจีนเลยก็ว่าได้ หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ต่างก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งคู่ โดยหลายความเห็นบอกว่านี่คือช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดและทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสวงหาความรักเป็นของตนเอง เหมียวเองก็ขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะ และหวังไว้ว่าทุกคนจะได้เจอความรักดีๆ แบบนี้เช่นกัน ที่มา metro
-
คนมันรวย!! ไฮโซจีนเขวี้ยงเงินเป็นฟ่อนใส่หน้าพนักงานร้านทอง หลังเข้าใจผิดคิดว่าโดนดูถูก
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของไฮโซสาวชาวจีนรายหนึ่ง เขวี้ยงเงินเป็นฟ้อนใส่หน้าพนักงานร้านขายเครื่องประดับ หลังคิดว่าพนักงานสาวพูดจาดูถูกตนเอง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในมณฑลตู่เหาประเทศจีน จากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นหญิงสาวรายหนึ่งในชุดสีม่วง กำลังยืนพูดคุยกับพนักงานขายเครื่องประดับอย่างมีอารมณ์ แต่ดุเหมือนว่าพนักงานสาวจะพูดอะไรสักอย่างที่ทำให้ไฮโซสาวไม่พอใจ ทำให้เธอวีนแตกและตะโกนออกมาว่า “อะไรนะ? นี่แกคิดว่าฉันไม่มีเงินเหรอ? ที่นี่มันคือที่แบบไหน? ถนนแฟชั่นเหรอ? เชื่อไหมว่าฉันสามารถซื้อทั้งถนนนี่ยังได้?” เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เธอพูดมานั้นไม่ใช่เรื่องเกินเลย เธอจึงจัดการควักเงินจากกระเป๋าและเขวี้ยงใส่หน้าพนักงานสาวทันที พร้อมตะโกนอีกว่า “นี่มันอะไรหะ? นี่มันอะไร!” ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย หลังจากที่คลิปนี้ถูกโพสต์ลงในโลกออนไลน์ ก็กลายเป็นคลิปโด่งดังไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วและกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของไฮโซสาว ที่มา shanghaiist
-
สาวจีนได้ยินเสียงประหลาดภายในหู เชื่อเป็นเสียงปีศาจ ที่แท้เป็นแมงมุมทำรังอยู่ในหู!!
ถ้าคุณคิดว่าการพบแมงมุมในระหว่างทำความสะอาดห้องเก็บของเป็นอะไรที่น่ากลัวสุดๆ แล้วล่ะก็ คุณคิดผิดแล้วล่ะ เพราะข่าวที่เหมียวจะนำเสนอในวันนี้อาจจะทำให้คุณขนลุกไปทั้งตัวได้เลยล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Uproxx ได้เผยแพร่เรื่องราวสุดสยองของนางลี่ หมิง จากประเทศจีน ตามรายงานบอกว่าเธอได้ยินเสียง “เกา” ประหลาด อยู่ในหูตลอดเวลา เธอจึงคิดเอาเองว่าเสียที่เธอได้ยินนั้นอาจเป็นเสียงของภูตผีปีศาจ ทำให้เธอรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นนางหมิงก็ได้เดินทางไปหาหมอผี เพื่อให้ร่ายคาถาและสวดมนต์เพื่อไล่สิ่งประหลาดออกไปจากหูของเธอ แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้น เธอจึงตัดสินใจไปหาหมอหู คอ จมูก ปาก(น่าจะไปตั้งแต่แรกแล้ว) จากการตรวจสอบของหมอพบว่า มีแมงมุมกำลังชักใยทำรังอยู่ภายในแก้วหูของเธอ!! แต่สุดท้ายคุณหมอก็สามารถเอาแมงมุมตัวนั้นออกมาจากหูของเธอได้สำเร็จ สุดท้ายนี้นางหมิงได้กล่าวว่า เธอไม่อยากรู้เลยว่าแมงมุมนั่นหน้ามีหน้าตาเป็นยังไง… ที่มา uproxx
-
ยามมหาลัยฯ ในจีน แกล้งฝังสุนัขจรจัดในดินทั้งเป็น โชคดีได้นักศึกษามาช่วยไว้ทัน
ดูเหมือนว่ายามรักษาความปลอดภัยจะไม่ได้เป็นมิตรกับสุนัขจรจัดไปเสียทุกคนล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมาเว็บไซต์ Shaghaiist ได้รายงานว่ามียามรักษาความปลอดภับรายหนึ่งในมหาวิทยาลัยหลานโจว ประเทศจีน ได้พบเข้ากับสุนัขจรจัดกลุ่มหนึ่งมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวมหาลัยฯ กลุ่มยามจึงตัดสินใจฝังพวกมันลงในดินทั้งที่พวกมันยังมีชีวิตอยู่ แต่โชคดีเหลือเกินที่ในระหว่างนั้นมีกลุ่มนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่ยังมีหัวใจอยู่ได้พบเข้ากับกลุ่มลูกสุนัขโดยบังเอิญ พวกเขาจึงรีบเข้าไปยังที่เกิดเหตุเพื่อขุดพวกมันขึ้นมา ทำให้พวกมันรอดตายอย่างหวุดหวิด ปัญหาของสุนัขจรจัดถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และมันทำให้หน่วยงานต่างๆ หาวิธีในการควบคุมมัน ซึ่งบางคนก็เลือกใช้วิธีอันโหดร้ายกับพวกมัน นอกจากการฆ่าพวกมันทั้งเป็นแล้ว แอดเหมียวว่ายังมีวิธีอีกมากมายที่สามารถจำกัดการกระจายพันธุ์ของสุนัขจรจัดได้อีกเพียบเลยนะ ใครทำแบบนี้แอดเหมียวขอให้เดินสะดุดยอดหญ้าตาย ที่มา shanghaiist
-
นักศึกษาดีไซน์เนอร์ในจีนผงาด ออกแบบชุดต่างๆ ให้กลายเป็นลวดลายดอกไม้ธรรมชาติ!?
เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่ภาพงานออกแบบชุดน่ารักๆ จากกลุ่มนักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากมหาวิทยาลัยเสยฉวน ในประเทศจีน พวกเขาได้ออกแบบชุดง่ายๆ แต่แต่งเติมไอเดียล้ำๆ เข้าไป ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจชาวเน็ต จนกลายเป็นที่พูดถึงของโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย พวกเขาได้ร่วมมือกันเพื่อวางแผนที่จะจัดงานแฟชั่นโชว์ โดยการใช้เพียงแค่แผ่นกระดาษ ดินสอและกรรไกร เท่านั้น นักศึกษากลุ่มนี้กล่าวว่าพวกเขาได้แรงบันดาลใจมาจากผู้ใช้อินสตาแกรมรายหนึ่งที่ชื่อว่า Shamekhbluwi พวกเขาจึงได้ใช้กรรไกรตัดลงไปบนกระดาษที่ออกแบบชุดเอาไว้ เพื่อให้เป็นช่องตรงตามเสื้อผ้า จากนั้นก็นำไปส่องกับต้นไม้ใบหญ้า ก่อให้เกิดงานไอเดียเจ๋งๆ ขึ้นมาล่ะ หลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ของจีน ก็มีชาวเน็ตต่างพากันเขามาแสดงความชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์พวกเขา ในขณะที่บางคนยังคงมองไม่ออกว่าภาพเหล่านี้สวยงามยังไง อย่างไรก็ตามมีบางคนให้ความเห็นว่าภาพเหล่านี้อาจไม่ใช่งานสร้างสรรค์ที่แท้จริง เพราะพวกเขาเคยเห็นงานออกแบบเหล่านี้ในต่างประเทศมาแล้วนั่นเอง ที่มา shanghaiist
-
ชมภาพสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามในประเทศจีน ที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก!!
ถ้าพูดถึงประเทศจีนแล้ว เราคงไม่ได้นึกถึงอะไรที่เกี่ยกวับการท่องเที่ยวมากนัก เพราะเราอาจจะคิดไปเองก็ได้ว่าที่นั่นมีความความวุ่นวาย ถ้าจะเที่ยวก็คงเป็นกำแพงเมืองจีนเท่านั้น แต่เอาจริงๆแล้วประเทศจีนมันกว้างมากจนบางทีเราก็ลืมไปว่ามันมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่ไม่ค่อยได้ถูกนำเสนอออกมาทางสื่อต่างๆ ซึ่งวันนี้เหมียวก็จะพาทุกท่านไปเที่ยวยังสถานที่เหล่านั้นเพื่อพิสูจน์ว่าประเทศจีนก็มีอะไรน่าเที่ยวเหมือนกัน ไปดูกันเลยดีกว่า The Rainbow Mountain The Longsheng Rice Terraces Yinlianzhuitan Waterfall Heaven Lake Huanglong, Sichuan Huanglong, Sichuan The Five Fingers Peak Of Huangshizhai Hukou Falls Yangshuo The Flaming Mountains Jiǔzhàigōu – Mirror Lake ที่มา boredpanda
-
หนุ่มจีนเซอร์ไพรส์ขอแฟนแต่งงาน ด้วยการลงทุนเช่ารถหรู 11 คันมาเรียงเป็นรูปหัวใจ!!
อีกหนึ่งช่วงจังหวะของชีวิตที่ต้องลุ้นกันว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็คือการขอแฟนแต่งงานนี่แหละ หากมั่นใจแล้วว่าคนนี้คือคนที่ใช่ แล้วจะทำอย่างไรให้อีกฝ่ายตอบตกลง มันก็ต้องหาวิธีมัดใจให้ได้อยู่หมัดอย่างเช่นชายหนุ่มจีนรายนี้!! ด้วยความรักที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ในสมัยที่เรียนอยู่ในระดับมัธยม จนกระทั่งปัจจุบัน พ่อหนุ่มก็มั่นใจอยากจะขอแฟนสาวแต่งงาน ก็เลยจัดการเช่ารถหรูเป็นจำนวน 11 คันมาเรียงให้เป็นรูปหัวใจหน้าหอพักของแฟนตัวเองแบบนี้!! เมื่อได้ยินเสียงรถยนต์มาจอดอยู่หน้าหอพัก ว่าที่เจ้าสาวก็เริ่มสงสัยว่ามาทำอะไรกัน สุดท้ายก็ลงมาอยู่ข้างล่างเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และเมื่อว่าที่เจ้าสาวปรากฏตัวปุ๊บ ชายหนุ่มก็ไม่รอช้าคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอและคว้าแหวนมามอบให้เพื่อขอเธอแต่งงานทันที!! แล้วทุกอย่างก็ลงเอยได้ด้วยดี ฝ่ายแฟนสาวก็ตอบตกลง มีความสุขแฮปปี้กันถ้วนหน้าเลยล่ะ!! แหม ก็เล่นเอารถหรูมาเรียงเป็นหัวใจขนาดนี้ ไม่ตกลงก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ที่มา : fooyoh
-
ผลงานศิลปะแบบโคตรเจ๋งเกินจะบรรยายของ Hua Tunan ทั้งสาดและใส่จัดเต็มทุกรายละเอียด!!
การจะสร้างสรรค์ผลงานศิลปะนั้นมีหลากหลายวิธีการมากๆ เลยล่ะ ซึ่งศิลปินแต่ละคนก็จะมีแนวทางที่ตนเองถนัดแตกต่างกันออกไป คราวนี้เหมียวอยากจะพามาชมผลงานอันน่าทึ่งของศิลปินชาวจีนรายนี้บ้าง!! เขามีชื่อว่า Hua Tunan ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญศิลปะทางด้านภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เกิดมาจากการสาดสี ใช่แล้ว!! การสาดสีของเขานั้นสามารถสร้างออกมาเป็นรูปภาพที่ดูสวยงามและอลังการสุดๆ ไปเลยล่!! ก่อนที่จะลงมือทำก็ต้องทำการร่างภาพตัวอย่างเอาไว้เสียก่อน เมื่อพร้อมแล้วก็สาดโลด!! แม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ก็เต็มไปด้วยสีที่ถูกสาด จะว่าไปแล้วผลงานเหล่านี้ยังเป็นส่วนน้อย หากใครติดใจอยากจะดูหรือติดตามผลงานของเขาเพิ่มเติม ไปชมกันได้ที่ Instagram เลยจ้า ที่มา : thechive
-
เสียวววว!! เหมียวพาชมสะพานเชื่อมหุบเขาสุดหวาดเสียวในจีน สูงกว่า 182 เมตร!!
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบความสูงและความหวาดเสียวแล้วล่ะก็ วันนี้แอดเหมียวจะพาคุณไปในสถานที่หนึ่งในประเทศจีน เพราะเมื่อเร็วๆ นี้เขาได้มีการเปิดตัวสะพานแก้ว ที่มีความสูงจากพื้นดินถึง 180 เมตรเลยทีเดียว!! สะพานที่เหมียวพูดถึงนี้ตั้งอยู่ในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน เป็นสะพานแก้วที่มีขนาดความยาวอยู่ที่ 300 เมตร และสูงจากพื้นดิน 180 เมตร และแน่นอนว่าเราสามารถมองทะลุสะพานลงไปยังพื้นด้านล่างได้ด้วย เดิมทีแล้ว สะพานแห่งนี้ถูกสร้างด้วยไม้(ขุ่นพระ) แต่วิศวะกรได้เริ่มออกแบบและเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่แข็งแรงและสวยงามมากขึ้นอย่างกระจกใส และแล้วมันก็สำเร็จออกมาเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่เห็นนี่แหละ หลังจากที่สะพานถูกสร้างเสร็จแล้ว และมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมกัน ทุกคนก็พากันแตกตื่นกับความสูงและความหวาดเสียวของมันเลยล่ะ เราจะสังเกตเห็นได้จากสีหน้าของแต่ละคนที่ได้ไปยืนอยู่บนนั้นเลยล่ะ เอ้า ว่าแล้วก็ขอตีตั๋วไปชมเป็นบุญตาหน่อยเป็นไง ที่มา metro
-
พี่จะนิ่งไปไหน!! หนุ่มจีนสุดใจเย็น นั่งโซ้ยบะหมี่ ระหว่างที่มีคนตีกันข้างๆ โต๊ะ!?
โดยสัญชาติญาณของมนุษย์แล้ว หากเจอเหตุการณ์ที่มีคนมาทะเลาะวิวาทใส่ใกล้ๆ เรา เราก็ควรจะออกมาให้ไกลจากตรงนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนลูกหลงใช่ไหมล่ะ แต่กับหนุ่มจีนรายนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย แถมยังนั่งชิวประหนึ่งว่าไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นเลย!! เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของชายหนุ่มรายหนึ่งในเมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน ขณะกำลังนั่งโซ้ยบะหมี่อยู่ที่ร้านข้างทางแห่งหนึ่ง แต่ในระหว่างนั้นกลับเกิดเหตุการณ์การทะเลาะวิวาทกันขึ้นใกล้ๆบริเวณนั้น แต่แทนที่ชายหนุ่มคนนั้นจะลุกออกไปให้พ้นทาง เขากลับยังใจเย็นและนั่งโซ้ยบะหมี่และนั่งดูเหตุการณ์ต่อไป และเมื่อกินบะหมี่เสร็จแล้วเขาก็ลุกออกไปแบบนิ่งๆ จนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย เห็นแล้วนี่ เหมียวว่าจะยกให้เป็นหนุ่มใจเย็น 2015 เลยทีเดียว!! ที่มา cheng chen 18
-
ก็คิดได้!! หนุ่มไล่แม่ไปนั่งที่เก็บของหลังรถ เหตุเพราะอยากให้ลูกของตัวเองได้นอนบนเบาะ!!
กลายมาเป็นประเด็นเดือดในสังคมออนไลน์จีนกันเลยทีเดียว เมื่อพ่อหนุ่มที่มีนามว่า ‘หลิว’ ได้กระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับคุณแม่วัย 60 ปีของตัวเอง ด้วยการไล่ให้ไปนั่งในบริเวณที่เก็บของท้ายรถแทนที่จะได้นั่งบนเบาะดีๆ ซึ่งมีเหตุผลเอาไว้ว่าอยากจะให้ลูกได้นอนสบายๆ โดยใช้พื้นที่บนเบาะหลังทั้งหมด!! โดยที่นายหลิวและครอบครัวนั้นกำลังเดินทางจากมณฑลเจียงซีไปยังมณฑลหูเป่ย์ มีภรรยาและตัวเขานั่งอยู่เบาะหน้า และปล่อยให้ลูกชายนอนอยู่บนเบาะหลัง จนมาถึงด่านตรวจก็พบกับความจริงที่ว่าหญิงชราหรือแม่ของนายหลิวก็นั่งมาด้วย แต่อยู่ในสภาพที่นั่งอยู่ในพื้นที่เก็บของด้านหลังรถ ทางตำรวจก็เกรงว่าจะเป็นอันตรายก็เลยขอให้แม่ของนายหลิวลงมาจากท้ายรถ และจะตั้งข้อหาให้กับนายหลิว สุดท้ายแล้วแม่ของนายหลิวขอให้คุณตำรวจละเว้นโทษให้ เนื่องจากเธอคิดว่านั่งบริเวณท้ายรถก็สบายดี ไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อมารู้ความจริงที่น่าเศร้าที่สุดก็คือรถคันนี้เป็นรถที่แม่นายหลิวลงทุนซื้อให้ลูกชาย แต่กลับถูกลูกชายของตัวเองกระทำแบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก ซึ่งก็ทำเอาชาวเน็ตจีนทั้งหลายรู้สึกเดือดกับการกระทำต่อผู้มีพระคุณแบบนี้!! ที่มา : cctvnews
-
ฉันจะไม่ทน!! เมียหลวงกระหน่ำตบเมียน้อยกลางที่สาธารณะ ไร้คนเข้าห้าม
กลายเป็นคลิปที่ร้อนแรงที่สุดในจีนขณะนี้เลย สำหรับคลิปการทำร้ายร่างกายระหว่างเมียหลวงและเมียน้อยกลางที่สาธารณะในประเทศจีน แต่แทนที่จะมีคนเข้าไปห้าม กลับปล่อยให้ฝ่ายเมียหลวงตบตีเมียน้อยจนลงไปนอนกับพื้นเลยทีเดียว คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Shanghaiist เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา เผยเรื่องราวสุดดราม่าของเมียหลวงรายหนึ่งที่จับได้ว่าสามีของตัวเองแอบไปมีเมียน้อย ทำให้เธอโมโหจัดจนต้องระบายอารมณ์กับเมียน้อยอย่างไม่ยั้งมือ นอกจากการทำร้ายร่างกายที่ไม่มีใครเข้ามาห้ามแล้ว ฝ่ายเมียหลวงยังได้กล่าวต่อว่าเมียน้อยด้วยคำพูดที่เจ็บแสบทีเดียว โดยบทสนทนามีอยู่ว่า เมียหลวง: “ทำไมเธอยังสนใจสามีฉันอยู่?” เมียน้อย: “ฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับเขาเลย” เมียหลวง: “บอกฉัน บอกฉันมา!” เมียน้อย: “ทำไมคุณไม่ไปลากสามีของคุณมาแล้วถามเขาเองล่ะ?” เมียหลวง: “ฉันจะไม่ถามเขาหรอก แล้วข้อความที่เธอส่งให้เขามันคืออะไรล่ะ? นี่คุณไม่รู้เหรอว่าเขามีลูกๆ แล้ว? นี่คุณอายุเท่าไหร่แล้ว? หาสามีเองไม่เป็นเหรอ?” เมียหลวง: “ถ้าคุณยังกล้ามาหาสามีของฉันอีก ฉันจะทำลายครอบครัวของคุณให้ตายไปเลยถ้าคุณยังกล้าเป็นเมียน้อยอีก ฉันจะฆ่าคุณซะ คุณยังสาวมากนะ ถ้าคุณหาสามีไม่ได้ก็ไปเป็นโสเภณีซะ” เจอเข้าไปแบบนี้ หวังว่าหญิงสาวรายนั้นจะเลิกเป็นเมียน้อยชาวบ้านสักทีนะ มีความรักอย่างเปิดเผยมันดีกว่าร้อยเท่าเลยล่ะ ที่มา shanghaiist
-
เมื่อหมู่บ้านจีนถูกทิ้งร้างไป 23 ปี ตอนนี้ได้กลายเป็นดินแดนอันน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติไปแล้ว!!!
เมื่อ 23 ปีก่อน ผู้คนในหมู่บ้าน Yaodong ที่ตั้งบนภูเขาในจังหวัด Zhejiang ได้อพยพไปตั้งถิ่นฐานยังพื้นที่อื่น เหลือทิ้งไว้เพียงบ้านเรือนรกร้างหลายสิบหลังคาเรือน ตอนนี้หมู่บ้านแห่งนั้น กลายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติโดยสมบูรณ์ไปแล้ว และมันเป็นเหมือนดินแดนในเทพนิยาย ที่นักท่องเที่ยวหลายคนอยากมาเยือนซักครั้ง ตอนนี้ทางการของจีน กำลังเร่งดำเนินการเข้ามาปรับปรุงสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยต้องไม่กระทบกับระบบนิเวศดั้งเดิม แต่ประชาชนแถวนั้นกลับมีเสียงต่อต้าน พวกเขาบอกว่า “ทางการจะเข้ามาทำให้มันวุ่นวายมากขึ้น ปล่อยมันไว้แบบนั้นแหละ ให้มันอยู่ในความสงบ” ดูไปดูมาก็แอบน่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย เป็นไงละ เพื่อนๆอยากลองไปเที่ยวซักครั้งหรือเปล่า ส่วนเหมียวขอบายนะ เหมียวไม่ค่อยถูกกับอะไรแบบนี้เท่าไหร่ แหะๆ ที่มา shanghaiist
-
เมียหลวงอารมณ์ขึ้นกระชากเมียน้อยมาจิกหัวตบกลายสาธารณชน!!!!
ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน หากมีคนที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้ว อาจทำให้เกิดเรื่องน่าปวดหัวมากมาย และอาจทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อภรรยาหลวงได้พบกับชู้รักของสามีของเธอในที่สาธารณะ ความโกรธแค้นที่มีคนมายุ่งเกี่ยวกับคนที่รักของเธอ ทำให้เธอเข้าไปทำร้ายชู้รักคนนั้นอย่างดุเดือด!!! ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลยดีกว่า อื้อหือ โหดจริงๆ เหมียวก็พอเข้าใจนะว่าเวลาได้เห็นชู้รักของแฟน มันก็คงจะมีอารมณ์โมโหแบบนี้แหละ แต่ว่ามันก็ออกจะรุนแรงไปนิดนึงนะ ที่มา Shanghaiist
-
ภาพน่ารักๆ ของคุณหมอที่กำลังกล่อมหนูน้อยวัย 2 ขวบให้สงบก่อนเข้ารับผ่าตัดหัวใจ
หนูน้อยวัย 2 ขวบนามว่า Xin Er มีอาการบางอย่างเกี่ยวกับหัวใจ และต้องรับการผ่าตัดในโรงพยาบาล Zhejiang University Hospital ในประเทศจีน ในวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา เมื่อเธอรู้ เธอจึงเริ่มร้องไห้และขัดขืนจนใครๆก็ไม่สามารถควบคุมได้ จนกระทั่งคุณศัลยแพทย์ Shi Zhuo ได้อุ้มเธอขึ้นมาและให้เธอได้ดูการ์ตูนจากในมือถือของเขา จนวิสัญญีแพทย์ Jin Ziying ได้ถ่ายภาพสุดน่ารักเหล่านี้ไว้ และหลังจากนั้นก็ได้ผลรายงงานว่าหนูน้อย Xin Er ปลอดภัยจากการผ่าตัดแล้ว “ในวันนั้น เธอเริ่มร้องไห้ตั้งแต่เธอได้เข้าไปในห้องผ่าตัด” “เธอเอาแต่ร้องไห้แล้วพูดว่า ‘หนูอยากเจอพ่อ’ “ “ผมก็เลยพูดไปว่าดูการ์ตูนแล้วก็ค่อยไปหาพ่อ โอเคมั้ยจ๊ะ?” คุณหมอ Shi Zhuo กล่าว ถือเป็นภาพที่น่ารักของแพทย์และเทคนิคการทำเด็กรู้สึกไม่กลัวกับการเข้ารักษา ใครเคยมีประสบการณ์ร้องไห้ตอนไปโรงพยาบาลบ้าง มาเล่าให้ฟังหน่อย ที่มา boredpanda
-
โชคดีเหลือเกิน!! หนุ่มจีนขอแฟนสาวแต่งงาน แต่พ่อตากลับให้รถให้บ้านพร้อม!!
เรื่องของการแต่งงานนั้น เป็นเรื่องใหญ่ที่คู่รักต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะฝ่ายชายต้องเป็นผู้ที่มอบเงินสินสอดให้แก่ฝ่ายหญิง ซึ่งก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลยทีเดียว แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีหนุ่มบางคน ไม่แทบทรัต้องจ่ายค่าสินสอดเลย แถมยังได้ทรัพย์สินจากฝ่ายหญิงไปแบบหนักหน่วงเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Liveleak ได้เปิดเผยเรื่องราวของหนุ่มชาวจีนรายหนึ่ง ที่ตกลงปลงใจแต่งงานกับหญิงร่างท้วมฐานะดี แต่แทนที่ฝ่ายชายจะเป็นผู้มอบสินสอด เขากลับได้รับเงิน รถ และสินทรัพย์อื่นๆ มากมายจากพ่อตา จนทำให้ชาวเน็ตถึงกับอิจฉาในความโชคดีของเขาเลย ที่มา liveleak
-
วิจารณ์แซ่ด โลกออนไลน์แชร์ภาพชายชรานอนสลบอยู่กับพื้น ไร้พลเมืองดีเข้าช่วย แถมยังเอาแต่ถ่ายคลิป
เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTV ได้รายงานว่ามีชายชรารายหนึ่งนอนสลบอยู่บนพื้นถนนในทณฑลเหอหนาน ประเทศจีน แต่กลับไม่มีประชาชนยื่นมือเข้าไปช่วยเลย เพียงเพราะว่าทุกคนกลัวว่าจะโดนยัดข้อหาให้กลายเป็นผู้กระทำความผิด ตามรายงานบอกว่าเมื่อประชาชนเห็นชายชรานอนอยู่กับพื้น ก็ได้แต่เข้ามานั่งดูอยู่รอบๆ และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอเพื่อจะได้มีหลักฐานยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรกับชายชราเลย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามรายละเอียดจึงพบว่าชายชราล้มลงไปกับพื้นเพราะเดินเร็วไป ทำให้ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและมีเลือดกำเดาไหล นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า เรื่องราวของชายชราได้กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตในจีนพูดถึงกันอย่างแพร่หลายถึงความมีน้ำใจของชาวจีน ซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่าสภาพสังคมในจีนนั้นเลววร้ายและขาดความมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในจีนนั้น ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมานานแล้ว เพราะมีหลายกรณีที่พลเมืองดีถูกใส่ร้ายจนได้รับโทษทั้งๆ ที่ไม่ได้ก่อเหตุซะอย่างงั้น คนดีไม่มีที่อยู่จริงๆ นะเนี๊ยะ ที่มา CCTVNews , kapook
-
เจ๋งมาก ! คนขับสามล้อจัดฟรีไวไฟ พร้อม iPad ให้ผู้โดยสารแก้เซ็ง
เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่เรื่องราวเจ๋งๆ ของคนขับสามล้อรายหนึ่งในมณฑลเฉิงตู ประเทศจีน ที่เปลี่ยนรถสามล้อธรรมดาๆ ให้กลายเป็นสามล้อไฮเทคติด Wi-Fi ไว้ให้บริการลูกค้าแบบฟรีๆ !! คนขับสามล้อนามสกุลตันรายนี้ได้เปลี่ยนให้รถสามล้อของเขาให้เป็นรถไฮเทค โดยมีบริการ Wi-Fi ไว้ให้ใช้กันฟรีๆ นอกจากนี้ยังมี iPad และเครื่องเสียงแบบเซอร์ราวนด์ ไว้ให้ลูกค้าแก้เบื่อกันด้วย ทั้งหมดนี้นายตันต้องลงทุนไปมากถึงหลายร้อยหยวนเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่านายตันจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเหวินเจียงและชอบความสนุกสนานมาก เขาเลยอยากจะทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการกับเขาได้สัมผัสประสบการณ์ที่สนุกสนานไปด้วย แต่บางคนอาจจะกังวลว่า รถสามล้อคันนี้ให้บริการเสริมเยอะแยะขนาดนี้ จะมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่ารถสามล้อทั่วไปหรือเปล่า? นายตันขอบอกเลยว่าไม่ต้องกังวล เพราะค่าโดยสารจะเริ่มต้นเพียง 3 หยวน หรือประมาณ 17 บาทเท่านั้น ขุ่นพระ!! เอาใจลูกค้าดีแบบนี้ เหมียวขอให้มีลูกค้าแบบไม่ขาดสายเลยน้าา ที่มา shanghaiist
-
เหมียวพาไปชม ห้องสมุดที่ “อ้างว้างและโดดเดี่ยวที่สุดในโลก” ตั้งอยู่บนชายหาดประเทศจีน
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบเข้าห้องสมุด และมักจะประสบปัญหากับเสียงรบกวน ความวุ่นวายต่างๆในห้องสมุด วันนี้เหมียวมีทางออกให้ล่ะ เพราะล่าสุดแอดเหมียวไปเจอเข้ากับห้องสมุดแสนสงบแห่งหนึ่งในจีนมา สงบจนได้รับฉายาว่าเป็นห้องสมุดที่ “อ้างว้างและโดดเดี่ยวที่สุดในโลก” เลยนะเออ ห้องสมุดที่ว่านี้ตั้งอยู่บนชายหาดทรายริมทะเลเบดาฮี ในเมืองชินฮวงเต่า มณฑลเหอเป่ย ของประเทศจีน ห้องสมุดที่ว่านี้ถูกออกแบบโดยสถาปนิกหนุ่มชาวจีนนามว่านาย ตง กง โดยเขาออกแบบอาคารหลังนี้ขึ้นเพื่อให้ผู้มาใช้บริการ ได้รับความเงียบสงบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าภายนอกนั้นจะดูเรียบๆ แต่ขอบอกว่าภายในนั้นไม่ธรรมดา เพระห้องสมุดแห่งนี้มีขนาดความกว้างอยู่ที่ 450 ตารางเมตร มีการแบ่งออกเป็น 3 ชั้น มีห้องโถงที่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี แถมยังมีวิวเป็นทะเลสวยๆให้ได้มองกันเพลินตาด้วยนะ ห้องสมุดสุดอ้างว้างแห่งนี้ถูกสร้างโดยบริษัทพัฒนาที่ดิน และเพื่อให้เข้าถึงความสงบอย่างแท้จริง ห้องสมุดแห่งนี้จึงไม่มีเส้นทางสาธารณะที่จะเข้ามายังห้องสมุดนี้ได้ด้วย ตามรายงานบอกว่าห้องสมุดแห่งนี้ยังไม่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการนะ หากเปิดให้บริการแล้วจะมีการประกาศออกมาอีกทีนึงล่ะ นี่มันสวรรค์ของคนรักการอ่านชัดๆ เหมียวอยากไปปปปป ที่มา CCTV 中文 , ที่สุดในโลก
-
ปั่นประชดรัก!? หนุ่มจีนใช้การปั่นจักรยานระงับอารมณ์ทุกครั้ง หลังทะเลาะกับแฟน
เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ odditycentral ได้เปิดเผยเรื่องราวน่าทึ่งของหนุ่มจีนรายหนึ่ง ที่หาวิธีระบายอารมณ์เวลาทะเลาะกับแฟนด้วยการปั่นจักรยาน และเหลือเชื่อว่าเขาเคยทะเลาะกับแฟนจนต้องปั่นไปไกลถึงแอฟริกามาแล้ว!? หนุ่มจีนรายนี้มีนามว่านาย เหอ กันฮุย เขาเป็นคนที่ชอบปั่นจักรยานมาก และทุกๆ ครั้งที่นายเหอทะเลาะกับแฟน เขาก็มักจะหยิบจักรยานออกไปปั่นระบายอารมณ์ทุกครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 ในปีนั้นนายเหอได้ทะเลาะกับแฟนอย่างรุนแรง แต่เขาก็ไม่รู้จะจัดการกับอารมณ์นั้นยังไง เขาเลยหยิบจักรยานออกมาปั่น จากบ้านในมณฑลกวางตุ้ง ไปจนถึงกรุงปักกิ่ง เป็นระยะทางกว่า 2,200 กิโลเมตร!! ขุ่นพระ!! หลังจากที่แฟนสาวทราบเรื่องเข้า เธอก็เลยซื้อจักรยานมาไว้ปั่นคู่กับเขาด้วยซะเลย แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็มีอันต้องทะเลาะกันอีกครั้ง เพราะในปี 2014 พวกเขาก็ได้มีปากเสียงกันอีกครั้ง คราวนี้นายเหอไม่ได้ปั่นอยู่แค่ในประเทศเท่านั้น แต่ปั่นไปไกลถึงแอฟริกาเลยทีเดียว!! ปัจจุบันนายเหอกลับมาอยู่กับแฟนของเขาแล้วเรียบร้อย เขาตัดสินใจที่จะพักการปั่นจักรยานไปสักระยะ และจับเข่าคุยกับแฟนของเขาเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยแฟนสาวของเขาสัญญาว่าจะไม่ตะคอกใส่เขาอีก สุดท้ายนี้เขาได้ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า “ผมคิดว่าตอนนี้ผมเห็นโลกมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ผมจะทำบางสิ่งให้ถูกต้องที่บ้านของผมแล้วล่ะ” เหมียวขอเป็นกำลังใจให้นายเหอและแฟนสาว สามารถผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ด้วยดีนะจ๊ะ ที่มา odditycentral
-
อ่าเฮื้อออออ!! สื่อจีนเผยภาพคุณครูประถมสุดน่ารัก ไม่เป็นอันเรียนกันแล้วทีนี้
เมื่อวันก่อนแอดเหมียวเพิ่งจะนำเสนอเรื่องราวของคุณครูสาวเกาหลีสุดน่ารักไปนี่เอง ดูเหมือนว่าล่าสุดแดนมังกรจะไม่ยอมน้อยหน้าล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Ck101 ก็ได้ออกมารายงานว่า ที่จีนมีคุณครูสุดน่ารักไม่แพ้กันเลย คุณครูชาวจีนที่เหมียวพูดถึงนี่้ เธอมีชื่อว่าคุณครู ถังติงติง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศจีน ด้วยใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มขนาดนี้ ชาวเน็ตจึงนำรูปของเธอมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ Weibo ซึ่งเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ในจีน ทำเอาชาวเน็ตถึงกับตกหลุมรักเธอไปตามๆกัน และนอกจากเป็นครูแล้ว เธอยังเป็นคนรักสุขภาพที่ชอบออกกำลังกายด้วยนะ แหม่ อะไรมันจะดีขนาดนี้ >< ว๊ากกก ไปจีน ไปจีน ไปจีน!! ที่มา ck101
-
สื่อจีนเผยคลิปมนุษย์ยายสุดหื่น ไล่จูบวัยรุ่นหนุ่มในลิฟท์!?
เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shaghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายในอาคารแห่งหนึ่ง ปรากฏภาพของคุณยายชาวจีน ที่พยายามจะจูบวัยรุ่นหนุ่มภายในลิฟท์ แต่ดูเหมือนหนุ่มน้อยจะไม่เล่นด้วย จึงพยายามผลักเธอออกไป และกลายเป็นคลิปวิดีโอสุดน่าละอายนี้ขึ้นมาล่ะ แต่หลังจากที่หนุ่มน้อยพยายามผลักคุณยายออกไป ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ลดละความพยายาม และพยายามดึงตัวของเขาเข้ามาเพื่อจะจูบซ้ำอีกรอบ แต่คราวนี้หนุ่มน้อยฮึดสู้และไม่ยอมตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของเธอง่ายๆ ตามรายงานไม่ได้เปิดเผยว่าทั้งคู่มีชื่อว่าอะไรและเกิดขึ้นที่อาคารใด บอกเพียงว่าคุณยายชาวจีนรายนี้อาจจะตกหลุมรักเด็กหนุ่มในครั้งแรกที่เจอ จึงพยายามโผเข้าจูบ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอายมากสำหรับคนวัยนี้ ชมภาพเคลื่อนไหวได้ที่ด้านล่าง เอ่อ เหมียวสยองง่ะ ที่มา shanghaiist
-
สยิวกิ้ว!! สาวสุดคลั่งลงทุนแก้เสื้อผ้าประชดแฟน กลางถนนในประเทศจีน
เคยได้ยินประโยคที่ว่า ยามที่สาวๆ โมโหขึ้นมา อะไรก็เอาเธอไม่อยู่ไหมล่ะ? ประโยคที่ว่านั้นไม่ได้เกินเลยจากความเป็นจริงเลย เพราะล่าสุดได้มีเว็บไซต์ในจีนเผยแพร่ภาพของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่กำลังแก้ผ้าทะเลาะกับแฟนกลางถนน เพียงเพื่อประชดเขาเท่านั้น!! ตามรายงานบอกว่าเกิดเหตุมณฑลหนานหนิง ประเทศจีน ในขณะที่คู่รักคู่หนึ่งกำลังทะเลาะกันอยู่นั้น จู่ๆ ฝ่ายหญิงก็ถอดเสื้อผ้าออกมากลางถนน เพื่อประชดแฟนหนุ่ม โดยไม่สนใจสายตาของประชาชนที่เดินผ่า ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วการทะเลาะกันของพวกเขาจบลงด้วยวิธีใด แต่เหมียวอยากจะเตือนเพื่อนๆ ว่า…อย่าประชดกันด้วยวิธีนี้เลยนะ เดี๋ยวจะเป็นตากุ้งยิงกันซะหมด ที่มา news.qq
-
เอาอีกแล้ว วัยรุ่นจีนเกือบโดนบันไดเลื่อนดูด โชคดีกระโดดออกมาทัน!!
ยังคงมีข่าวคราวเกี่ยวกับอุบัติเหตุบันไดเลื่อนออกมาให้เราได้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ เลยนะ ซึ่งล่าสุดก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้งในประเทศจีนอีกแล้วล่ะ เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Liveleak ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในมณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน เป็นภาพเหตุการณ์ในระหว่างที่วัยรุ่นสาวรายหนึ่ง กำลังจะเดินลงบันไดเลื่อน แต่จู่ๆ ฝาปิดด้านล่างก็เปิดออกมา ทำให้วัยรุ่นสาวเกือบตกลงไป แต่โชคดีที่ในขณะนั้นเธอสามารถตั้งสติและกระโดดออกมาได้ทันเวลา ทำให้เธอไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ จากนั้นไม่นานทางเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในห้างสรรพสินค้าก็เข้ามาดูที่เกิดเหตุ และสั่งหยุดการใช้งานบันไดเลื่อนชั่วคราว ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ใครที่วางแผนว่าจะไปเที่ยวจีนเร็วๆ นี้ล่ะก็ระวังตัวกันหน่อยนะจ๊ะ ที่มา liveleak
-
สื่อจีนเผย แค่ขาย “สเปิร์ม” ก็สามารถหาเงินได้มากพอจะซื้อ iPhone 6s แล้ว!?
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวว่าหนุ่มจีนได้ขายไตแลกกับเงินเพื่อนำไปซื้อ iPhone 6s แต่หากใครคิดจะใช้วิธีนี้บ้างคงจะต้องคิดใหม่แล้วล่ะ เพราะล่าสุดมีรายงานจากเว็บไซต์ Shanghaiist ว่า เพียงแค่คุณยอมขายสเปิร์มของคุณให้กับธนาคารสเปิร์มของโรงพยาบาล Shanghai Number 1 คุณก็มีสิทธิ์ที่จะได้เงินมาพอจะไปซื้อ iPhone 6s แล้ว!! ตามรายงานบอกว่ามีชาวจีนสองคนคือนายอู๋และนายหวง ได้พยายามติดต่อพ่อค้าอวัยวะมนุษย์เพื่อขายไตของพวกเขา และหวังจะนำเงินไปซื้อ iPhone 6s แต่พอถึงวันจริงนายอู๋กลับเปลี่ยนใจไม่ผ่าตัด แต่นายหวงยืนยันที่จะเข้ารับการผ่าตัดจึงแอบหนีไปผ่าคนเดียว จากนั้นนายอู๋จึงพยายามช่วยเพื่อนด้วยการแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ช่วยตามหา แต่ก็ไม่สามารถหาตัวได้ อ่าว… ข่าวไม่บอกอีกว่าเพื่อนเค้าเสียไตไปหรือไม่ในท้ายที่สุด!! หลังจากนั้นไม่นานก็มีรายงานจากเว็บไซต์ Shanghaiist ว่ามีธนาคารสเปิร์มรับซื้อสเปิร์มโดยแลกกับเงินจำนวนหนึ่ง แต่เงื่อนไขของธนาคารมีอยู่ว่า…. ผู้ที่จะบริจาคสเปิร์มนั้นจะต้องมีส่วนสูง 165 เซนติเมตร จบป.ตรี และไม่เป็นโรคติดต่อใดๆ หากมีคุณสมบัติตามนี้และสามารถบริจาคสเปิร์มได้ คุณก็จะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน 33,600 บาท ที่มากพอจะซื้อมือถือของคุณได้แล้ว เป็นยังไงล่ะ แบบนี้ก็ไม่ต้องไปขายไตให้มันเสียแล้วนะ เพราะไตน่ะสร้างใหม่ไม่ได้ แต่น้ำนั้นน่ะมันสร้างใหม่ได้เรื่อยๆนะ!!! ที่มา shanghaiist
-
นักศึกษาจีนสู้ชีวิต สูญเสียแขน 2 ข้าง แต่ใช้เท้าในการดำรงชีวิตได้คล่องแคล่วไม่แพ้คนปกติเลย
เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของนาย เชา เผิง วัยรุ่นหนุ่มที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยสีฉวน ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีนได้สำเร็จ แม้เขาจะไม่มีแขนทั้ง 2 ข้างก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีแขนทั้ง 2 ข้าง แต่นายเผิงก็สามารถใช้เท้าทั้ง 2 ข้างในการดำเนินชีวิตได้อย่างคล่องแคล้ว รวมไปถึงการทำกิจกรรมต่างๆแบบคนทั่วไป ทั้งการใช้ตะเกียบ การแปรงฟัน การกินข้าว หรือแม้แต่การกดสมาร์ทโฟนก็สามารถทำได้เช่นกัน ในทุกๆเช้า นายเผิงต้องใช้เวลาในการอาบน้ำประมาณ 18 นาที และใช้เวลาอีก 20 นาทีเพื่อเดินจากหอพักไปยังมหาวิทยาลัยเป็นระยะทางอีกกว่า 2.1 กิโลเมตร นายเผิงตั้งใจจะเรียนพิเศษเพิ่มเติมนอกมหาวิทยาลัย เพื่อช่วยให้เขาสามารถเรียนจบปริญญาด้านกฎหมายได้ และโชคดีมากที่นายเผิงมีเพื่อนที่ดี ที่คอยช่วยให้เขาสามารถเดินทางไปยังห้องสมุดได้อย่างสะดวก หลังจากที่เรื่องราวของนายเผิงถูกเผยแพร่ลงสู่โลกออนไลน์ของจีน ก็ทำให้เกิดแรงบันดาลใจต่างๆแก่วัยรุ่นและชาวจีนอีกมากมายเลยทีเดียว เอาล่ะวัยรุ่น เห็นแบบนี้แล้วก็อย่ายอมแพ้พวกเขาเด็ดขาดนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
เกินไปม๊าง!! สามีรีบขอหย่าภรรยา หลังรู้ว่าตัวเองถูกหวยรางวัลที่ 1 มูลค่ากว่า 26 ล้าน!!
แม้จะแต่งงานอยู่กินด้วยกันแล้วก็ใช่ว่าจะไว้เนื้อเชื่อใจได้นะ เพราะเมื่อต้องมีเรื่องเงินเรื่องทองเข้ามาเกี่ยว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่สนแล้วล่ะ หากไม่เชื่อแล้วล่ะก็ งั้นเหมียวจะพาไปดูข่าวจากเมืองจีนข่าวนี้กัน เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Indiatoday ได้เปิดเผยเรื่องราวของชายหนุ่มที่ชื่อว่านาย หลิว เซียง จากเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ตามรายงานบอกว่าเขาได้ขอหย่าภรรยา และขอให้ภรรยารีบเซ็นใบหย่าทันที หลังจากที่เขารู้ตัวว่าถูกลอตเตอรี่เป็นจำนวนเงินกว่า 26 ล้านบาท!! แต่ความลับก็เป็นความลับได้ไม่นาน เพราะหลังจากที่นายหลิวได้นำเอาลอตเตอรี่ไปขึ้นเงิน ก็ทำให้ภรรยารู้ว่าเขาถูกลอตเตอรี่ 26 ล้านบาท และไม่คิดจะแบ่งให้เธอ เธอจึงยื่นฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม และสุดท้ายศาลก็ตัดสินให้นายหลิวต้องแบ่งเงินให้ภรรยาของเขาเป็นจำนวน 6.5 ล้านบาท เพราะลอตเตอรี่ที่ซื้อมานั้น เป็นลอตเตอรี่ที่ซื้อในช่วงที่พวกเขายังเป็นสามีภรรยากัน ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินที่ทั้งคู่มีร่วมกันนั่นเอง ที่มา indiatoday
-
อาหมวยแดนมังกร แข่งกันโชว์เซลฟี่อวดขนรักแร้กันแบบไม่มีใครยอมใคร (ดูท่าทางภูมิใจเชียว)
รู้สึกว่าช่วงนี้เทรนด์แฟชั่นแปลกๆ ของพี่จีนจะมาแรงแซงโค้งเหลือเกิน ตั้งแต่กิ๊บติดผมรูปแมลงสาบเอย หรือแม้กระทั่งการนำต้นอ่อนพลาสติกสุดมุ้งมิ้งมาประดับบนหัว เรียกได้ว่าทำเอาฉีกกฎทุกวงการแฟชั่นกันเลยทีเดียว และคราวนี้ดูเหมือนว่าเทรนด์แฟชั่นสุดฮิตของพี่จีนก็มาแปลกอีกเช่นเคย เพราะในตอนนี้ทางอาหมวยทั้งหลาย เขากำลังฮิตการเซลฟี่อวดขนรักแร้กันแบบไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียว ไม่เชื่อก็ลองดูเลย… สาวหน้าตาดีกับขนรักแร้อันยาวเฟื้อย ฟังแล้วมันดูแปลกพิกล การได้โชว์ขนรักแร้ เป็นสิ่งที่หน้าภูมิใจของอาหมวยแดนมังกร เซลฟี่อวดขนรักแร้กันแบบไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียว สาวไทยสนใจอยากตามเทรนด์เค้าบ้างมั้ยละ อิอิ!! โอ๊ยแต่ละคน!! ทำไปได้ 0.0 เรียกได้ว่างานนี้ทำเอาหลายคนถึงกับอึ้งกันไปเลยทีเดียว แต่ก็เอาเถอะในเมื่อเขาชอบของเขาแบบนี้ ก็เอาตามที่สบายใจก็แล้วกันโน๊ะ อิอิ!! ที่มา : zaeega
-
รวบแม่ชาวจีน หลังโยนลูกน้อยวัย 2 ขวบลงจากสะพานจนจมน้ำตาย เหตุปัญหาครอบครัว
เว็บไซต์ Shaghaiist รายงานว่า แม่ชาวจีนรายหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่เธอโยนลูกสาววัย 2 ขวบลงจากสะพานข้ามแม่น้ำ จนร่างของเธอจมน้ำเสียชีวิต ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่นของจีนรานงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งในช่วงเวลา 10.30 ว่ามีหญิงสาวโยนลูกของตัวเองลงจากสะพาน พวกเขาจึงรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ Cai ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “พวกเราเดินทางมาถึงที่สะพาน เราเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนขอบสะพานและโยนลูกน้อยลงไปในน้ำ” เจ้าหน้าที่ Cai และคนอื่นๆ จึงรีบกระโจนตัวลงไปในน้ำเพื่อช่วยเหลือเด็ก ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกคนก็พยายามจะจับกุมตัวผู้เป็นแม่เอาไว้ด้วยเช่นกัน แต่โชคร้ายที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถช่วยเหลือเด็กเอาไว้ได้ พวกเขาจึงโทรเรียกให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามารับช่วงต่อ จนพบเข้ากับร่างไร้วิญญาณของเด็กหญิง หลังจากใช้เวลาค้นหาอยู่นานถึง 20 นาที จากการสอบสวนทราบว่าผู้เป็นแม่มีนามสกุลว่า Zou วัย 20 ปี อาศัยอยู่ในในมณฑลกุ้ยโจวและเพิ่งย้ายมาอยู่มณฑลฝูเจี้ยนได้ 1 ปีเท่านั้น นอกจากลูกสาววัย 2 ขวบที่เพิ่งเสียชีวิตแล้ว เธอยังมีลูกสาววัย 5 ขวบอีกหนึ่งคนด้วย เธอรับสารภาพว่ามีปัญหาภายในครอบครัว จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว ที่มา shanghaiist
-
ลูกค้าสาวอารมณ์ร้อน ปาหม้อชาบูเดือด ใส่พนักงานเนื่องจากไม่ยอมที่จะจ่ายค่าเครื่องดื่ม!!
เรื่องเล็กน้อยที่ควรจะตกลงกันได้ด้วยดี และไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่สุดท้ายหากเราไม่ยอมทำตามกฏที่มีมันก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ อย่างเช่นในกรณีของหญิงรายหนึ่งในประเทศจีน ที่ได้เข้ามาใช้บริการร้านอาหารหม้อไฟชาบูรายนี้ ลูกค้ารายนี้เข้ามาใช้บริการตามปกติเหมือนกับลูกค้าคนอื่นๆ แต่สิ่งที่เธอจะกระทำต่อไปนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ร้ายแรงมากๆ โดยหลังจากที่เธอได้นำเครื่องดื่มมาแล้ว พนักงานจึงได้เข้ามาตักเตือนเรื่องการจ่ายค่าเครื่องดื่มแต่ไม่ยอมที่จะจ่าย จึงทำให้เกิดมีปากเสียงกัน พนักงานที่เข้ามาพูดคุย เป็นพนักงานที่ตั้งท้องด้วย ซึ่งเธอก็ได้ทำตามหน้าที่ในเมื่อลูกค้าไม่ยอมที่จะจ่ายก็จำเป็นที่จะต้องเก็บเครื่องดื่มเหล่านี้กลับไป แทนที่ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี ในจังหวะที่พนักงานกำลังเอื้อมมือเพื่อเก็บเครื่องดื่มคืน ลูกค้าที่อารมณ์ร้อนยิ่งกว่าหม้อไฟชาบูเดือด ก็ได้ปัดแขนและคว้าหม้อไฟที่มีน้ำซุปเดือดปาใส่หน้าพนักงานทันที!! นอกจากนี้ยังขัดขืนและปาหม้อไฟใส่พนักงานคนอื่นๆ อีกด้วย ที่มา : liveleak
-
ซี๊ดดดดด!! 180 สาวหมวยจบจาก ม.ปลายหมาดๆ ลงประกวดชุดว่ายน้ำ งานนี้หนุ่มๆยืนตัวงอ
เว็บไซต์ Shaghaiist ได้รายงานว่าโรงเรียนเตรียมการเป็นแอร์โฮสเตสในเมืองชิงเต่า มณฑลชานตง ประเทศจีน ได้มีการจัดกิจกรรมเข้าค่ายเพื่อฝึกฝนวัยรุ่นสาวให้กลายเป็นแอร์โฮสเตส โดยงานนี้ได้รวบรวมเอาวัยรุ่นสาวกว่า 180 จากโรงเรียนทั่วประเทศมาไว้ในการประกวดครั้งนี้ด้วย ล่าสุดทางทีมงานได้มีการปล่อยภาพกิจกรรมที่เหล่าสาวๆ กำลังเก็บตัวอยู่ในค่ายออกมาให้เราได้ชมกัน เก็บภาพการสวมชุดว่ายน้ำในชื่อธีมว่า “Oriental Beauty” ทำเอาหนุ่มๆในจีนและในโลกออนไลน์ถึงกับตะลึงไปกับความสาวสะพรั่งของพวกเธอเลยล่ะ กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้จะมีการตัดสินผู้แพ้ชนะในวันที่ 13 กันยายน ซึ่งก็คือวันนี้นี่เอง หนุ่มๆคนไหนสนใจก็ลองไปติดตามกันดูได้นะจ๊ะ แฮ่กๆๆ ที่มา shanghaiist
-
บ้าไปแล้ว!! โรงเรียนสอนการศัลยกรรมเถื่อนในจีน ให้นักเรียนฝึกศัลยกรรมกับใบหน้าเพื่อน!?
เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าในกรุงปักกิ่งประเทศจีน ได้มีการเปิดโรงเรียนสอนการศัลยกรรมเถื่อน ที่ใช้เวลาสอนแบบเร่งรัดเพียง 4 วัน โดยแลกกับค่าสอนมูลค่า 7,800 หยวน หรือประมาณ 39,000 บาท นตามรายงานบอกว่าโรงเรียนแห่งนี้มีชื่อว่า Beijing Jinghan Medical Cosmetology Training Centre เปิดรับสอนการทำศัลยกรรมให้กับผู้ที่สนใจประกอบอาชีพด้านนี้ โดยการันตีว่าหลังจากจบคอร์สแล้ว จะมีรายได้ต่อเดือนสูงถึง 100,000 หยวน หรือประมาณ 500,000 บาทเลยทีเดียว โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมการสอนศัลยกรรมครั้งนี้ไม่ได้ตระหนักเลยว่านี่เป็นการหลอกลวง ที่จะใช้พวกเขาให้เป็นหนูทดลองในชั้นเรียน ซึ่งมีความอันตรายถึงแก่ชีวิต หลังจากทราบข่าวก็ได้มีสำนักข่าวแห่งหนึ่งในจีนอย่าง Xinjing News ได้ใช้เวลาสืบสาวราวเรื่องกว่า 2 เดือน และได้ไปสัมภาษณ์กับหนึ่งในนักเรียนผู้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย เธอกล่าวว่าเธอต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแบบเร่งด่วน เพราะมีอาการติดเชื้อหลังจากที่คุณครูฉีดสารไฮยารูรอนนิคเข้าไปที่จมูกของเธอ ซึ่งสารดังกล่าวถูกใช้เพื่อคงความอ่อนวัย โดยที่นี่ยังใช้มันเป็นฟิลเลอร์สำหรับฉีดที่ริมฝีปากและใช้บริเวณตกแต่งดวงตา มีรายงานอีกว่าโรงเรียนสอนศัลยกรรมเถื่อนแห่งนี้กำลังจะขยายสาขาออกไปเพื่อให้รองรับกับนักเรียนที่จะเพิ่มขึ้นด้วย ที่มา shanghaiist
-
ร้านอาหารชื่อดังในจีน จัดพิธีให้พนักงานกราบไหว้เจ้านาย เพื่อสำนึกบุญคุณที่ให้งานทำ!!
การสำนึกบุญคุณแก่ผู้มีพระคุณนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ทั้งนี้ต้องเกิดขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกของแต่ละบุคคล ไม่ใช่เป็นการบังคับแบบนี้ ซึ่งเหตุการณ์ที่ว่าก็เกิดขึ้นในประเทศจีน โดยที่ร้านอาหารแนวหม้อไฟชาบู ได้จัดพิธีให้พนักงานร้านกราบไหว้ผู้บริหารในที่สาธารณะ เกิดเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์อย่างหนัก โดยพิธีการดังกล่าวนั้นจะให้เหล่าพนักงานมานั่งคุกเข่ากลางจัตุรัสในพื้นที่สาธารณะ และให้โค้งตัวก้มลงกราบลงพื้นพร้อมกับกล่าวคำขอบคุณเจ้านายที่ทำให้พวกเขามีงานทำ โดยมีพนักงานอีกกลุ่มคอยยินถือธงและป้ายยืนล้อมพื้นที่ และมีการบันทึกภาพพิธีการทั้งหมดเอาไว้ด้วย โดยที่ทางร้านอาหารสาขานี้ หวังว่าพิธีการที่จัดขึ้นนั้นจะนำไปใช้เป็นต้นแบบให้สาขาอื่นๆ ทำตามในอนาคตด้วย แต่ทว่ากลับได้รับเสียงตอบรับในแง่ลบจากสังคมจีนเป็นจำนวนมาก นักจิตวิทยาก็ได้วิเคราะห์ไว้ว่าพิธีการแบบนี้จะทำให้พนักงานรู้สึกอาย กลัว และกระวนกระวายในที่ทำงาน อีกทั้งยังเป็นการละเมิดสิทธิของลูกจ้างด้วย ส่วนทางด้านชาวเน็ตในประเทศจีนต่างแสดงความเห็นในเชิงลบประมาณว่า ‘แล้วใครอยากจะไปใช้บริการร้านอาหารที่มีทัศนะคติงี่เง่าแบบนี้!?’ อย่างไรก็ตามกรณีที่เจ้านายหรือผู้บริหารใช้อำนาจของตนกดขี่ข่มเหงลูกน้องในประเทศจีนนั้นเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ใช้อำนาจของตัวเองลงโทษพนักงานจนเกินขอบเขต สร้างความอึดอัดให้กับพนักงานชั้นผู้น้อยเป็นอย่างมาก ที่มา : shanghaiist
-
ตำรวจจีนจับแบงค์ปลอมได้กว่า 3 แสนหยวน หลังจับแล้วมีสีเลอะมือ!?
เมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวในจีนได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในมณฑลคุณหมิง ได้เข้าตรวจจับผู้ต้องสงสัย 3 ราย ที่คาดกันว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงแบงค์ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3 แสนหยวนเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่าเจ้าหน้าที่จับสังเกตได้เมื่อลองสัมผัสกับแบงค์เหล่านั้น แล้วเกิดมีน้ำหมึกหลุดติดมือออกมาจนเปื้อนมือกลายเป็นสีแดง ซึ่งหลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ทางการจีนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะได้มีการออกแบบธนบัตรรูปแบบใหม่ ที่มีการใช้สีสันมากขึ้น ส่งผลให้การทำซ้ำนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น เพราะในระยะหลังมานี้เริ่มมีคดีเกี่ยวกับการปลอมแปลงแบงค์มากขึ้นเรื่อยๆ และการปลอมแปลงก็เริ่มจะมีความแนบเนียนมากยิ่งขึ้นด้วย ตามรายงานยังบอกด้วยว่าเมื่อปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับแบงค์ปลอมได้มากถึง 56 ล้านหยวนเลยทีเดียว ที่มา shanghaiist
-
เหมียวนี่หอบเลย!! บาร์ในจีนผุดไอเดีย จับสาวๆสุดเซ็กซี่มาต่อยมวยโชว์ เรียกลูกค้าได้เพียบ
เมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา ในเมืองไท่หยวน มณฑลซานซี ประเทศจีนในมีการเผยแพร่ภาพของบาร์แห่งใหม่ที่จัดเอาสาวสวยในชุดบิกินี มาชกมวยบนสังเวียนผ้าใบให้เราได้ดูกันแบบเพลินตาเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าไอเดียการนำเอาสาวสวยในชุดน้อยชิ้นมาเตะต่อยกันเองนั้นจะเป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยล่ะ เพราะมันสามารถเรียกแขกได้ในแต่ละค่ำคืนได้มากมายทีเดียว โดยเจ้าของร้านให้สัมภาษณ์ว่าการที่จัดกิจกรรมแบบนี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายด้วย แต่ใช่ว่าสาวๆเหล่านี้จะขึ้นชกได้เลยนะ เพราะพวกเธอจะต้องผ่านการฝึกฝนจากครูฝึกอย่างเคร่งครัดเสียก่อน เอาเป็นว่าเหมียวขอหยุดทุกกิจกรรมแล้วออกเดินทางไปจีนกันเถอะ แฮ่กๆๆ ที่มา shanghaiist
-
ล้ำไปอีก!! เมื่อพี่จีนประดิษฐ์กิ๊บติดผม “แมลงสาบ” ขึ้นมา ใครอยากลองเอาไปใช้มั่ง??
ประเทศจีนนี่มีอะไรมาให้เราทึ่งและตื่นตะลึงกันอยู่เรื่อยๆ แม้กระทั่งสิ่งของเล็กๆ พวกเขาก็ยังสามารถทำให้มันออกมาดูน่าตื่นเต้น (หรือน่ากลัว) ได้ อย่างเช่นกิ๊บหนีบรูปแมลงสาบอันนี้ ครั้งแรกที่เหมียวเห็นถึงกับอุทานคำว่า เชรดด!! ออกมาเลยทีเดียว หน้าตาของแมลงสาบนั้นบอกเลยว่าสมจริงสุดๆ ทั้งสี ทั้งรูปร่าง ดูเผินๆต้องมีสะดุ้งกันบ้างละ ยิ่งถ้ามีใครบอกอ๊อฟชั่นเสริมอย่างเช่นหนวดขยับได้ รับรองว่าแยกไม่ออก สนนราคาอยู่ที่อันละประมาณ 10 บาทได้ ใครอยากลองหามาใช้ซักอันอ๊ะป่าว ใครอยากลองเอามาใช้หรือเอามาขาย ก็ลองสั่งมาดูนะ แต่เหมียวไม่รับประกันว่ามันจะไปรอดหรือเปล่านะ ฮาาา ที่มา MyStudentBus Hong Kong