Tag: หมา

ถ้าหากว่าคุณกำลังอยู่ในความเศร้าหรือทุกข์ใจ เชื่อหรือไม่ว่าน้องหมาน่ารักๆ นั้นจะช่วยพาคุณอกจากอาการหดหู่นี้ได้ เรื่องนี้หลายๆ คนที่มีน้องหมาคงเข้าใจกันดี ขนอันฟูฟ่องและแก้มที่หนานุ่มของเหล่าเจ้าตูบ จะช่วยทำให้คุณเผลอยิ้มออกมาได้อย่างแน่นอน และวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพน้องหมาแก้มยุ้ยน่ารัก มาฝากทุกๆ คนกัน ถ้าหากใครอยากผ่อนคลายจากความเคลียดล่ะก็ไปชมกันได้เลย…   แบร่!!   เอาตาไปซ่อนไว้ที่ไหนบอกมานะ!!   ทำไมทำตาอย่างนั้นล่ะเจ้าตูบ   เอ้า!! ยิ้มม   1.. 2.. 3.. แชะ   ตาลอยๆ นะแกน่ะ ฮ่าๆ   สวัสดีฮะ…   แหม่… ทำตาแป๋วเชียวนะ   แฮร่!! อย่ามายุ่งนะ เดี๋ยวแลบลิ้นเลย นี่แน่ะ   ว่าไงเจ้าอ้วน!!   ยิ้มหน่อยครับ   ไม่เอาแล้ว อย่าแกล้งผม   จ๊ะเอ๋!?   พอแล้วว จะนอน   ผมน่ารักไหมฮะ??   ว่าไงเจ้าตัวเล็ก…

นับว่าเป็นอีกเหตุการณ์การช่วยเหลือสุนัขผู้ตกทุกข์ได้ยากที่นาย Adam Parascandola จะต้องจดจำวินาทีที่เขาได้เห็นภาพมันครั้งแรกไปตลอดชีวิต… เจ้า Camo เป็นหนึ่งในสุนัขผู้โชคร้ายที่ต้องมาอยู่ในฟาร์มเนื้อสุนัขแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวชีวิตที่พลิกผันของเจ้า Camo แต่หลังจากที่เจ้าของฟาร์มเนื้อสุนัขที่ทำมานานกว่า 20 ปี คิดที่จะล้มเลิกการขายเนื้อสุนัขให้กับโรงฆ่าสัตว์ไป แต่ไม่สามารถพาน้องหมาที่อยู่ภายในฟาร์มหาที่อยู่ที่เหมาะสมได้ องค์กร Humane Society of the United States ก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือพวกมันเป็นการด่วน   มันถูกขังไว้ในกรงที่มีสภาพสกปรก เต็มไปด้วยโคลน และไม่มีการทำความสะอาดมานานหลายปี   มันถูกทิ้งอย่างไร้เยื่อใย ถึงขนาดที่ขนของมันเต็มไปด้วยโคลนจับตัวกันเป็นกระจุก และนี่คือสภาพเมื่อเจ้าหน้าที่จาก Humane Society International ได้เข้าไปช่วยเหลือมัน   ช่วงแรกที่เจ้าหน้าที่ไปถึง ดูเหมือนว่าเจ้า Camo จะฝังใจจากความทรงจำร้ายๆ มันจึงส่งเสียงขู่ใส่ทุกคนที่เข้าใกล้ตัวมัน   แต่สำหรับ Parascandola เขารู้สึกว่า… เจ้าสุนัขผู้โชคร้ายตัวนี้ต้องการจะสื่อสารอะไรบางอย่างกับเค้า และเค้าตัดสินใจที่จะรับมันมาดูแลแทน   “มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก เหมือนว่ามันก็แอบเกร็งๆ เพราะมันถูกมนุษย์ทำร้ายมาโดยตลอด แต่หลังจากที่ได้อุ้มมันแล้วมันก็ไม่ขู่ และเหมือนมันจะรู้ว่าเรามาเพื่อช่วยเหลือ”   น่าเศร้าสำหรับสุนัขจรจัดในเกาหลีใต้…

สำหรับสาวๆ หลายคน ช่วงเวลาที่รู้ตัวว่ากำลังจะกลายเป็นคุณแม่ครั้งแรกนั้นคงจะเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สุดพิเศษในชีวิตเลยก็ว่าได้ การฉลองกับข่าวดีนี้หลายๆ ครอบครัวอาจจะพากันออกไปเตรียมของสำหรับเจ้าตัวเล็ก หรือถ่ายรูปของคุณแม่ระหว่างอุ้มท้องก็ได้ แต่เรื่องที่น่าดีใจนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับมนุษย์เท่านั้น สำหรับเจ้าของน้องหมาน้องแมวหลายๆ ท่านก็คงรู้สึกตื่นเต้นเช่นเดียวกันเมื่อเหล่าสัตว์เลี้ยงของคุณตั้งท้องใช่ไหมล่ะ??     คุณ Elsa เจ้านายของเจ้า Fusee น้องหมาปั๊กพันธ์ผสมที่ตื่นเต้นกับการตั้งท้องของสุนัขเธอมาก หลังจากที่สุนัขของเธอตั้งท้องได้ 8 สัปดาห์ หญิงสาวได้ขอร้องให้เพื่อนช่างภาพของเธอมาช่วยเก็บภาพความน่ายินดีนี้ไว้ก่อนที่น้องหมาตัวน้อยจะออกมาดูโลก คุณ Clayton Foshaug เพื่อนของคุณ Elsa ได้บันทึกภาพของเจ้าหมาระหว่างที่มันกำลังตั้งท้องท่ามกลางทุ่งดอกไม้และเจ้านายของมัน ภาพแต่ละช็อตที่ผ่านฝีมือการกดชัตเตอร์ของเขานั้นดูสวยงามมากๆ     Fusee น้องหมาว่าที่คุณแม่มือใหม่   ระหว่างการถ่ายภาพ เจ้าตูบดูมีความสุขอย่างมาก มันสวมมงกุฎดอกไม้ที่เจ้านายทำให้และยิ้มอย่างดีใจเหมือนกับว่ามันตื่นเต้นที่กำลังจะกลายเป็นคุณแม่มือใหม่เร็วๆ นี้ ปกติแล้วสุนัขจะตั้งท้องประมาณ 9 สัปดาห์ นั่นหมายความว่าอีกไม่กี่วันแล้วที่เจ้า Fusee จะกลายเป็นคุณแม่ป้ายแดง   สีหน้าและแววตาดูมีความสุขจริงๆ นะเนี่ยเจ้าตูบ…   แหม่.. ช่างเป็นภาพที่น่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ย ที่มา mymodernmet

กระแสเกี่ยวกับสัตว์นั้นในช่วงนี้เรียกว่ามีมาเรื่อยๆ ไม่หยุดไม่หย่อนเลยจริงๆ โดยล่าสุดได้มีกระแสชาวเน็ตเกี่ยวกับการโพสต์ภาพชาวเน็ตทาเล็บของสัตว์เลี้ยงอย่างหมาแมวให้มีสีเล็บเช่นเดียวกันตน จนตอนนี้กระแสวิจารณ์ก็ออกมาโจมตีกันอย่างหนักหน่วงสุดๆ เลยก็ว่าได้ เริ่มแรกนั้น กระแสนี้มันเริ่มมาจากสมาชิกทวิตเตอร์คนหนึ่งที่ชื่อว่า cristi cupcake ได้โพสต์ภาพที่โชว์ให้เห็นเล็บของเธอและแมวของเธอเห็นที่มีสีเล็บเหมือนกันเป๊ะๆ ด้วยเวลาเพียงไม่นานกระแสชาวเน็ตก็หลังไหลเข้ามารีทวีตกันเพียบเลยทีเดียว      เมื่องานนี้มีคนเปิด มันก็ต้องมีคนตาม ทีนี้และงานอวดเล็บระหว่างคนกับสัตว์ก็หลั่งไหลเข้ามากันไม่หยุด เรียกว่ามีทั้งหมาทั้งแมวเลยทีเดียว   น้ำเงินมาแต่ไกลเป็นแพ็คคู่   ไม่ได้มีแต่เจ้าของผู้หญิงนะที่ทำ เจ้าของผู้ชายก็มาเช่นกัน ที่สำคัญเป็นสุนัขด้วย (ดูทรงไม่บูลด็อกก็อเมริกันพิทบูลแน่ๆ)   ซึ่งยิ่งเยอะเข้าๆ ดูเหมือนว่าผู้คนจะชอบกับแนวทางการทำแบบนี้สุดๆ เพราะยังมีภาพคู่กับสัตว์เลี้ยงแนวนี้มาไม่ขาดสาย   สำหรับางคนแค่เล็กน้อยก็เอา   สำหรับสาวคนนี้หลังจากโพสต์ภาพแล้ว ก็มีคนมาถามว่าสีที่ใช้มันไม่เป็นภัยต่อสัตว์ใช่ไหม เจ้าของทวิตก็บอกว่าไม่เป็นภัยแน่นอน   กระแสความสนุกในการทวีตภาพแนวนี้ยังมีมาเรื่อยๆ แต่ว่าในที่สุดก็มีผู้เชี่ยวชาญออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เสียที ซึ่งผู้เชี่ยวชาญที่ว่านั้นก็เป็นคนจาก RSPCA Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals (RSPCA ) ซึ่งทาง RSPCA ได้ออกมาพูดว่าการทำแบบนี้มันเป็นภัยต่อสัตว์ได้ แม้ว่าการใช้เวลาร่วมกับสัตว์ของตัวเองจะเป็นเรื่องที่ดีก็ตาม แต่การตกแต่งประดับประดาสัตว์เพื่อสร้างความพอใจให้แก่ตนเอง อาจจะทำให้เกิดความสับสนให้แก่ตัวสัตว์ได้ ยังไงก็ตามไม่ว่าการกระทำแบบนี้จะเป็นภัยหรือไม่ก็ยังเป็นเรื่องเป็นน่าห่วงและควรศึกษาให้ดีก่อนจะทำอะไรนั่นเอง ที่มา metro

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีกระแสโซเชียลที่ดังมากๆ ในโลกอินเตอร์เน็ตทางฝั่งอเมริกาเกี่ยวกับเจ้าหมาตัวหนึ่ง ซึ่งล่าสุดมียอดคนดู 15 ล้านเข้าไปแล้ว!! ความแปลกที่ทำให้มันกลายเป็นที่พูดถึงก็คงเป็นเพราะ ตัวของมันนั้นดูผ่านๆ แล้วยังไงก็ม้าลายแคระชัดๆ ถ้ามันไม่เห่าออกมาเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันคือหมา โดยเจ้าหมาลายตัวนี้มันมีชื่อว่า “ซุส”     เจ้าซุสเป็นสุนัขของ Katrina Short ช่างเสริมสวยสุนัขจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเจ้าตัวก็เพิ่งจะโพสต์คลิปเกี่ยวกับมันได้ไม่นานนัก หลังจากที่เธอได้เสริมสวยให้มันจนเสร็จ และคลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงก็ได้มีการแชร์ต่อๆ กันไปอย่างแพร่หลาย แน่นอนว่าการทำแบบนี้กับสุนัขก็จะต้องเกิดกระแสสังคมตีกลับมาอย่างแน่นอน   ลองชมคลิปของเจ้าสุนัขตัวนี้กันก่อน   ซึ่งในส่วนของกระแสที่ตีกลับมานั้นก็มีทั้งด้านที่ดีและไม่ดีเยอะแยะเลยทีเดียว เอาเป็นว่าเราลองมาดูกันดีกว่าว่าชาวเน็ตจะว่ายังไงกันบ้าง   เริ่มกันในแง่ลบก่อนเลย โดยชาวเน็ตคนนี้บอกแนวๆ ว่ามันตลกตรงไหนที่ย้อมคนในครอบครัวให้กลายเป็นม้าลายแบบนั้น งี้ลองย้อมสีแม่เธอเป็นม้าลายดูบ้างไหม   ฉันอยากจะเห็นเจ้าของย้อมสีตัวเองแบบเดียวกับสุนัขของเธอบ้าง แล้วให้เธอใช้ชีวิตแบบนั้นจนกว่าจะสีจะจางหายไปเอง   ในด้านดีๆ ก็จะเป็นเหล่าช่างเสริมสวยสัตว์ออกมาชื่นชมเสียส่วนใหญ่ อย่างหญิงสาวคนนี้ที่ทำอาชีพเดียวกันก็ออกปากชมว่า งานของเธอสุดยอดมากๆ และรู้สึกอิจฉาในความสามารถของ Katarina สุดๆ   ในสายตาคนทั่วไปก็ชื่นชมในความน่ารักของเจ้าซุสเช่นกัน โดยเธอคนนี้บอกว่า “สำหรับคนที่ออกมาบ่นๆ เกี่ยวกับการย้อมสีขนเจ้าหมาตัวนี้นะ ลองใช้ความคิดดูสักนิดว่าเจ้าของเขาเป็นช่างเสริมสวยมืออาชีพฉะนั้นเขาก็ต้องรู้ว่าเขาทำอะไรอยู่และเขาก็คงดูแลมันอย่างดีที่สุด ที่สำคัญเจ้าหมาก็ดูจะมีความสุขและสุขภาพดีจะตายไป ฉะนั้นเลิกโวยวายกันได้แล้ว” (มองบน)   จะยังไงก็ดี ไม่ว่าสิ่งที่เจ้าของทำจะร้ายหรือดี…

สัตว์ต่างสายพันธุ์มักจะอยู่ร่วมกันไม่ได้ โดยเฉพาะสัตว์นักล่าอย่างเสือที่มันมักจะมองสัตว์ชนิดอื่นเป็นเหยื่อเสมอ แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้ามันเติบโตมากับสัตว์ที่เป็นเหยื่อ มันอาจจะมีจิตใจอ่อนโยนกว่าที่คิดก็ได้ เหมือนกับเสือน้อง Kinwah และพี่หมา Rumble ผู้เป็นเพื่อนกันมา 7 ปีแล้ว โดยที่ทั้งสองตัวอาศัยอยู่ในสวนสัตว์ Mogo Zoo บนชายฝั่งทางตอนใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย     Kinwah เกิดในสวนสัตว์ Mogo Zoo ได้รับการเลี้ยงดูโดย  Sally ผู้เป็นเจ้าของของ Rumble พวกมันเติบโตมาในสนามหลังบ้านเดียวกัน จนกลายเป็นเพื่อนซี้ที่ไม่อาจแยกจากกันได้   นี่ไม่ได้ทะเลาะกันนะ แค่เล่นด้วยกันเฉยๆ   เพราะพวกมันถูกเลี้ยงโดยเจ้าของคนเดียวกัน ในสถานที่เดียวกัน จึงไม่ทำให้พวกมันรู้สึกถึงความแตกต่าง แต่กลับเติบโตเคียงข้างกันด้วยความเข้าใจ     Sally เจ้าของน้องหมาที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูเสือตั้งแต่เด็ก   มิตรภาพอันตะมุตะมิของเพื่อนต่างสายพันธุ์   เพื่อนต่างสายพันธุ์เค้าเล่นกันหนะ   บางทีเสืออาจจะยอมทิ้งการเป็นนักล่าเพื่อรักษามิตรภาพเอาไว้ก็เป็นได้ ที่มา dailymail

นี่เป็นเรื่องราวของ Kila น้องหมาตาบอดพันธุ์ผสมตัวหนึ่ง ที่ชีวิตต้องพบเจอแต่เรื่องราวอันเลวร้ายมาตั้งแต่สมัยที่มันยังเด็ก โดยในตอนนั้นมันเป็นเพียงลูกสุนัขตัวหนึ่งที่ถูกเด็กๆ และคนเมาขว้างปาก้อนหินใส่ แต่ถึงกระนั้น มันก็ไม่ได้เจอเรื่องราวอันแสนเลวร้ายเสมอไป เพราะอย่างน้อยชีวิตของมันก็มีเรื่องดีๆ เข้ามา หลังจากที่ทางมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ Forever Home Pet Rescue เข้ามาช่วยเอาไว้ หลังจากทางมูลนิธิก็ได้นำรูปของเจ้า Kila ไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์ ซึ่งก็ทำให้ Alexis Magoo แม่ในอนาคตของมันตกหลุมรักเจ้าหมาน้อยตั้งแต่แรกเห็น     ก่อนหน้านี้ Alexis กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากของชีวิต และเธอก็คิดว่าการที่ได้รับสุนัขอย่างเจ้า Kila มาเลี้ยง อาจจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น และแน่นอนว่าเธอก็คิดถูกจริงๆ “ฉันกำลังมีปัญหาส่วนตัว ฉันรู้สึกเศร้ามาตลอด และมีความวิตกกังวลเอามากๆ มันรู้สึกเป็นทุกข์ และลำบากใจมากเลยละ แต่เจ้าหมาก็สามารถนำความสุขกลับมาให้ฉัน และคนรอบข้าง มันมีแต่ความรักที่ส่งมอบออกมาจากดวงตาของมัน” Alexis กล่าว     Alexis ได้รับเจ้า Kila มาเลี้ยง เมื่อตอนที่มันมีอายุได้เพียง 9 เดือนเท่านั้น และครั้งแรกที่เธอได้พบกับมัน Alexis ก็รู้ว่าเจ้าหมาตัวนี้ต้องมีอะไรที่พิเศษแน่ๆ…

บ่อยครั้งเมื่อเวลาที่เรากำลังทำกิจกรรมต่างๆ อยู่ก็มักจะมีเหล่ามะหมาที่คอยเข้ามารวมแจมอยู่บ่อยๆ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยเจอมาแล้วเช่นกัน และไม่นานมานี้ได้มีเหตุการณ์สุดฮาเกิดขึ้นระหว่างการแสดงคอนเสิร์ตของวง Vienna Chamber Orchestra ที่โรงละคร Ephesus Antique Theater ในประเทศตุรกี เมื่อจู่ๆ น้องหมาตัวหนึ่งก็ได้หลุดขึ้นมาบนเวทีหน้าตาเฉย     ระหว่างที่ทางวงกำลังบรรเลงเพลงอยู่นั้น เจ้าตูบสีครีมตัวหนึ่งได้เดินเข้ามาบนเวที แบบเนิบๆ ด้วยสีหน้าแบบมึนๆ พร้อมกับเข้าไปนั่งข้างๆ กับนักไวโอลินท่านหนึ่ง การปรากฏตัวของมันสร้างเสียงหัวเราและทำเอาผู้ชมในโรงละครดังกล่าวต้องฮาไปตามๆ กัน และดูเหมือนว่าน้องหมาจะรู้งาน เจ้ามันไม่ส่งเสียงเห่าหรือรบกวนการแสดงแต่อย่างไรมันได้แต่นั่งมองเหล่านักดนตรีอย่างเรียบร้อย   น้องหมาค่อยๆ นั่งในที่พิเศษแบบซุปเปอร์วีไอพี   ชมโมเมนต์น่ารักๆ ของมันได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… แหม่ สงสัยจะชอบฟังเพลงมากเลยสินะเจ้าตูบ เอาซะหน้าเวทีสุดๆ  เลยนะเนี่ย ฮ่าๆ ที่มา thedodo

การโคลนนิ่งในยุคนี้เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นเรื่องธรรมดาแล้วก็ว่าได้ เพราะการโคลนนิ่งสัตว์ได้สำเร็จเราก็สามารถเห็นกันได้อยู่บ่อยๆ แต่ว่าการโคลนนิ่งแล้วให้ตัวต้นแบบกับตัวโคลนมาเจอกันนั่นไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยๆ นั่นเอง เรื่องราวในครั้งนี้จึงเป็นการพบกันระหว่างสุนัขที่เป็นร่างต้นจากรัสเซีย กับสุนัขร่างโคลนที่เกิดจากใบหูของร่างต้นที่เกาหลีใต้ และแน่นอนว่าทั้งคู่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าตนมีลูกหรือมีแม่อยู่     ส่วนสาเหตุที่ลูกสุนัขถูกโคลนนิ่งขึ้นมานั้นก็เพื่อเป็นการรักษาพันธุ์สุนัขลากเลื่อนที่เริ่มหายไปทุกๆ วันไว้ ส่วนวิธีการนั้นพวกเขาก็ใช้ชิ้นส่วนเล็กๆ จากใบหูของตัวแม่สุนัขจากนั้นก็ส่งต่อไปให้ทีมนักวิจัยเพื่อทำการโคลนนิ่งที่ประเทศเกาหลีใต้ Dr. Hwang Woo Suk คือหัวหน้าทีมวิจัยจาก Sooam Biotech Research Foundation ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่วิจัยและโคลนนิ่งลูกสุนัขขึ้นมาจนสำเร็จและตั้งชื่อมันว่า Belekh เมื่อลูกสุนัขโคลนนิ่งมีสุขภาพที่แข็งแรงจนมีอายุครบ 3 เดือน พวกเขาก็ตัดสินพามันกลับไปหาตัวแม่สุนัขผู้เป็นร่างต้นแบบที่ประเทศรัสเซีย     ทางด้านของ Dimitry ผู้เป็นเจ้าของแม่สุนัขเมื่อพบว่าทีมแพทย์ได้พาลูกสุนัขกลับมาเจอแม่มันอีกครั้ง เขาก็พูดขึ้นว่า “ผมไม่อยากเชื่อเลยว่า ลูกสุนัขตัวนั้นเป็นสุนัขที่เกิดขึ้นจากการโคลนนิ่ง มันดูเหมือนกันมากๆ ราวกับว่าเกิดมาจากท้องจริงๆ เลย” สุดท้ายแล้วเมื่อทั้งคู่ได้เจอกัน พวกมันก็ได้ใช้เวลาด้วยกันหลายวันเลยทีเดียว และพวกมันก็ดูจะมีความสุขมากๆ เลยล่ะ     ที่มา mirror

เป็นประจำทุกปีที่จะมีการจัดงานประกวด ‘World’s Ugliest Dog’ ขึ้นที่ Sonoma-Marin Fair รัฐแคลิฟอร์เนีย และคราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับเจ้าของแชมป์ประจำปี 2017 ซึ่งแชมป์นี้จะเป็นของใครไปไม่ได้เลยนอกจากเจ้า ‘Martha’ ตูบหน้าย่นไข่ยาน ที่อยู่คู่วงการแข่งขันสุนัขน่าเกลียดมานานหลายต่อหลายปี     ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมปีนี้แชมป์จะตกเป็นของเจ้ามาร์ธ่า เพราะด้วยน้ำหนักตัวที่มากถึง 57 กิโลกรัม บวกกับลักษณะความย่นบนใบหน้าที่ไม่เหมือนใคร ทำให้มันกลายเป็นไฮไลต์เด่นของงานไปโดยปริยาย “ทั้งอ้วน กินเยอะ กรนดัง ขี้เกียจ และไม่เคยทำตามคำสั่งเราเลย นี่แหละคือนิสัยของเจ้ามาร์ธ่า อีกทั้งหน้าตาของมันยังมีดวงตาที่เหี่ยวย่น ผิวหนังก็ยานซะอย่างกับไข่ย้อย แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะได้แชมป์กับเค้าด้วย” Jessica Burkard เจ้าของเล่า     หลังจากที่เจ้ามาร์ธ่าเอาชนะคู่แข่งไปอย่างขาดลอย ทำให้มันได้รับเงินรางวัลไปนอนกอดที่บ้านสูงถึง 1,500 เหรียญ หรือประมาณ 50,000 บาท ถ้วยรางวัลสูง 150 ซม. พร้อมตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวนิวยอร์กฟรีกับครอบครัว   “ดิฉันก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยค่ะว่ามันจะกลายเป็นข่าวได้ แถมยังเดินสายออกรายการทีวีตามช่องต่างๆ อีกด้วย” เจ้าของให้สัมภาษณ์   แต่ก่อนหน้านี้มาร์ธ่าก็มีชีวิตที่ค่อนข้างจะลำบากและต้องอาศัยอยู่ตามข้างถนนเฉกเช่นสุนัขจรจัด จนกระทั่งวันหนึ่งมันได้รับการช่วยเหลือจากศูนย์พักพิง ทำให้มันได้มาเจอกับครอบครัวของ Jessica Burkard…

เจ้าตูบนั้นถือเป็นสัตว์ที่มีนิสัยซุกซน และมันก็ชอบที่จะวิ่งเล่นไปยังที่ต่างๆ ข้างนอกบ้านอยู่เสมอ เมื่อมันเป็นแบบนั้นปัญหาก็มักจะเกิดขึ้นเสมอ นั่นรวมถึงการถูกผึ้งต่อยก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยเช่นกัน แต่ว่าพอปัญหาเกิดขึ้นจริงๆ หลายคนก็ไม่รู้ว่าจะหาทางออกยังไงให้กับเจ้าเพื่อนสี่ขาของตัวเอง จนปล่อยให้มันลุกลามไปกันใหญ่ ฉะนั้นในครั้งนี้เราก็เลยจะมาดู 5 วิธีแก้ไขปัญหาเวลาเจ้าตูบโดนผึ้งหรือแมลงอื่นๆ กัดต่อยกัน รับรองง่ายๆ สบายหายห่วง   1 . ยืนยันให้แน่ใจว่าสุนัขของเราถูกต่อยจริงๆ นี่ถือเป็นขั้นตอนแรก หลังจากที่เราเกิดความสงสัยว่าเจ้าตูบมันมีอาการบวมหรืออะไรทำนองนี้ ซึ่งเราต้องเป็นคนเช็คให้ชัวร์ว่าสุนัขของเราโดนผึ้งต่อยจริงๆ โดยวิธีสังเกตให้ดูเวลาที่พวกมันพยายามกัดหรือเคี้ยวจุดไหนเป็นพิเศษและมีลักษณะที่บวมๆ ตรงจุดนั้นๆ ก็มั่นใจได้เลยว่ามันโดนต่อยจริงๆ   2.  หาจุดที่มันถูกต่อย จังหวะนั้นถ้าเรามั่นใจว่าเจ้าตูบโดนต่อยจริงๆ และเราก็พอจะรู้ว่าตรงไหนที่โดนต่อย ให้เช็คให้ชัดเจนและสังเกตเหล็กในของผึ้ง ที่สำคัญพยายามจับตัวเพื่อนสี่ขาให้นิ่งมากที่สุด   3. ดึงเหล็กในออกจากจุดที่ถูกต่อย ถ้าเราเจอเหล็กในและจุดที่ถูกต่อยแล้วให้หาคีมนีบหรือใช้กระดาษแข็งกดลงไปบริเวณดังกล่าว จากนั้นให้นำส่วนที่เป็นเหล็กในดำๆ ออกมาและทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างแผลต่อทันที ที่สำคัญอย่าให้สุนัขเลียในที่จุดที่รักษามันไปเด็ดขาด!!   4. สังเกตุอาหารหลังจากการรักษา หลังจากที่เรานำเหล็กในออกมาแล้ว ให้หมั่นสังเกตอาการของเจ้าตูบอย่างใกล้ชิด ว่ามันรู้สึกดีขึ้นหรือว่าแย่ลง เพราะถ้าเกิดว่าสุนัขของคุณแพ้เหล็กในของแมลงแล้วจัดการปัญหาช้าอาจจะเกิดเป็นเรื่องใหญ่ได้   5. เตรียมพร้อมรับมือเสมอ ถ้าเกิดว่าสุนัขของเราแพ้ขึ้นมาจริงๆ จงเตรียมพร้อมเพื่อที่จะพามันไปหาสัตวแพทย์ทุกเมื่อ เพราะถ้าเราปล่อยไว้นานๆ แล้วสุนัขอาจแพ้พิษของผึ้ง สุนัขของเราจะป่วยหนักมากทั้งอาเจียน ปวดหัวอย่างหนัก ฉะนั้นช่วงเราจึงต้องดูแลให้ดีอย่าปล่อยให้ห่างไปไหน  …

เรื่องราวของน้องหมาตัวน้อย ที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายอันแสนบอบบาง มันได้รับการดูแลจากเจ้าของอย่างดีเพื่อให้เจ้าหมาน้อยสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้ พบกับเรื่องราวของเจ้าหมาจากอังกฤษนามว่า Tim สุนัขที่มีขนาดเล็กเท่ากระป๋องถั่ว!!     เจ้า Tim สุนัขตัวเล็กที่เกิดมาพร้อมกับน้ำหนักเพียงแค่ 70 กรัม และในตอนที่มันลืมตาออกมาดูโลครั้งแรกนั้นเจ้าหมาน้อยไม่หายใจด้วย!! Andrea McGowan ผู้เป็นเจ้าของต้องพยายามยื้อชีวิตสัตว์เลี้ยงของเธอไว้ ด้วยการนำผ้าเช็ดตัวมาห่อมันเอาไว้ และคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หมาน้อยต้องทานอาหารจากขวดนมทุกๆ 2 ชั่วโมง จนกระทั่งมันกลับมามีร่างกายที่แข็งแรง และสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ “ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากมาก ฉันกังวลสุดๆ เจ้าหมาอาจจะตายได้ถ้าหากฉันลืมให้อาหารมัน” คุณ Andrea กล่าว     คุณ Andrea บอกว่าการเลี้ยงสุนัขที่ป่วยนั้นมีความยากกว่าเลี้ยงสุนัขทั้ง 3 ตัวของเธอมาก เนื่อจากหญิงสาวไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเจ้า Tim นั้นต้องการอะไร “เราคิดว่าเจ้า Tim อาจจะไม่รอดแล้ว แต่ในที่สุดเราก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มากๆ เพราะว่ามันสามารถยืนยัดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ มันค่อยๆ มีอาการที่ดีขึ้นตามลำดับและมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และถึงแม้จะเป็นสุนัขตัวเล็กๆ แต่มันก็มีความกล้าที่มากกว่าสุนัขตัวอื่นๆ หลายเท่าเลยล่ะ” หญิงสาวเล่าถึงพัฒนาการเจ้าหมาตัวน้อยของเธอ     Tim สุนัขตัวน้อยที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายที่บอบบาง  …

เป็นเวลากว่า 7 เดือนที่ David Herrera และ Kash นายทหารและสุนัขสงครามร่วมต่อสู้ด้วยกันในสถานที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก จนทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่หูที่เข้าขาและผูกพันกันอย่างหาอะไรมาเทียบไม่ได้ David เป็นนาวิกโยธินประจำอยู่ที่สมรภูมิในอัฟกานิสถาน และเขาก็มีหน้าที่ต้องดูแลเจ้า Kash สุนัขศึกที่รับหน้าที่ตรวจหาระเบิด ทั้งคู่มีหน้าที่ในการเฝ้าระวังให้กับเพื่อนร่วมหน่วย รวมถึงการเฝ้าระวังกันและกันให้ปลอดภัยอยู่เสมอ สายสัมพันธ์ของทั้งคู่แปรเปลี่ยนจากเพื่อนร่วมงานจนกลายเป็นเพื่อนซี้     David ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ The Dodo ว่า “Kash ถือเป็นตัวช่วยให้กำลังใจกับผมมากๆ มันเป็นเพื่อนที่อยู่กับผมตลอด 24 ชั่วโมง กินด้วยกัน นอนด้วยกัน สู้ด้วยกัน ผ่านทุกๆ อย่างมาด้วยกัน” แต่ตั้งแต่ทั้งคู่ปลดประจำการในปี 2011 ทั้งคู่ก็ต้องแยกจากกันเพื่อไปทำหน้าที่ของตน David ได้ถูกส่งไปประจำการอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ส่วน Kash ได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ยังสถานที่ต่างๆ     David ยังเล่าว่าเพิ่มอีกว่า “นับแต่พวกเราปลดประจำการ ผมก็ไม่ได้เจอ Kash อีกเลย ผมอยากเจอมันมากๆ ผมพยายามที่จะหาวิธีเพื่อรับเลี้ยงมัน แต่ติดต่อหาข้อมูลยังไงก็ไม่คืบหน้าเลย ตั้งแต่ไม่มีมันในชีวิต ผมก็รู้สึกว่างเปล่ามากๆ ถือเป็นช่วงที่ลำบากในชีวิตเลยก็ว่าได้…

เจ้า Walrus สุนัขพิทบลูผู้น่าสงสาร ได้มีโอกาสพบกับความสุขอีกครั้งหลังจากที่มันถูกนำไปเลี้ยงในบ้านหลังใหม่ที่แสนอบอุ่น… คุณ Anya Kopchinsky ได้พบกับเจ้าพิทบูลน้อยตัวนี้ในสถานพักพิงสัตว์แห่งหนึ่งในรัฐ Connecticut ประเทศสหรัฐอเมริกา แววตาของเจ้าหมานั้นช่างสดใสและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม     “ฉันรู้สึกชอบมันทันทีในครั้งแรกที่พบกัน แต่ดูเหมือนมันจะตื่นกลัวมากอยู่เหมือนกันนะ” คุณ Kopchinsky ผู้ก่อตั้ง Pit Stop องค์กรช่วยเหลือสุนัขพันธุ์พิทบูลและสุนัขตัวอื่นๆ กล่าว ร่างกายของเจ้าหมาบ่งบอกถึงเรื่องราวร้ายๆ ที่มันเคยผ่านมาได้เป็นอย่างดี ฟันของเจ้าตูบดูห่างๆ แต่นั่นอาจจะไม่ชัดเจนเท่ากับรอยแผลเป็นต่างๆ บนลำตัวและผิวหนังแข็งๆ ที่แสดงถึงความเจ็บปวดที่มันเคยได้รับมา     นอกจากนี้เจ้า Walrus ยังมีขาด้านหน้าที่คดงอมาตั้งแต่เกิด และไม่ได้รับการรักษาจนทำให้ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ คุณ Kopchinsky กล่าวว่า “มันเหมือนจะไม่มีข้อเท้าด้านหน้าข้างขวา ดังนั้นจึงทำให้มันเดินไปไหนมาไหนได้ลำบาก นอกจากนี้ผิวหนังส่วนหัวของมันยังเต็มไปด้วยโรคเรื้อนอีกด้วย” ทางสถานสงเคราะห์ต้องการให้มีคนมารับเจ้า Walrus ไปโดยด่วน เนื่องจากมันเริ่มมีอาการหวาดหลัวและต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน ดังนั้นหญิงสาวเจ้าขององค์การ Pit Stop จึงรีบมารับตัวของมันไปดูแล     ตอนนี้เรื่องเรื่องร้ายๆ ที่เจ้าหมาต้องเจอนั้นได้ผ่านไปแล้ว และดูเหมือนว่ามันจะมีความสุขอย่างมากในบ้านหลังใหม่กับคุณ Kopchinsky “มันเป็นเด็กดีมาก มันเป็นที่รักของหมาตัวอื่นๆ ของที่นี่” หญิงสาวผู้ดูแลเจ้าตูบกล่าว ถึงแม้ว่าจะลุกนั่ง ลงบันไดและวิ่งได้ลำบาก แต่เจ้า Walrus ก็พยายามได้ดีมาก มันค่อยๆ เดินเหมือนสุนัขตัวอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะช้าบ้างแต่กิจกรรมเหล่านั้นก็ดูจะไม่เป็นปัญหาสำหรับมันแต่อย่างใด…

ปกติแล้วคนเลี้ยงสุนัขทุกคนย่อมทำสิ่งที่เหมือนๆ กันก็คือการพาหมาออกไปเดินเล่น เพื่อให้มันได้ออกกำลังกาย ได้พบปะกับเพื่อนฝูงและผู้คนอื่นๆ แต่รู้หรือไม่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่เป็นความลับสำหรับมันก็คือมันไม่ได้เกิดมาเพื่อเดินนะ แต่มันเกิดมาเพื่ออยู่ในกระเป๋า ใครจะรู้ว่าหมาเหล่านี้เวลามันถูกหิ้วนั้นเป็นอะไรที่น่ารักเกินคำบรรยายเลยล่ะ และวันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปพบกับความน่ารักแบบไร้ขีดจำกัดของหมากระเป๋า เห็นแล้วอยากทำตามเลย   นี่คือสิ่งที่สำคัญที่โลกต้องรับรู้ไว้ เพราะมันสามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนเลี้ยงหมาไปตลอดกาล   สิ่งนี้ก็คือหมาในกระเป๋านั่นเอง   หมาบางตัวก็ชอบที่จะอยู่ในกระเป๋าที่มีรูปหมาอีกที   และหมาบางตัวก็ชอบแบกหมาที่อยู่ในกระเป๋า   กระเป๋าบางใบก็จะเต็มไปด้วยลูกหมาน้อยมากมาย   แต่บางตัวก็ชอบการอยู่ในกระเป๋าคนเดียว   และนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่คนจะแอบเอาหมาขี้นรถไฟใต้ดิน เพราะว่าเขาไม่อนุญาตให้พวกมันขึ้นได้ ดังนั้นการอยู่ในกระเป๋าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด   ถึงแม้บางตัวมันจะตัวใหญ่เกินไปก็ตาม   ช่างน่าสงสารจริงๆ ทำไมมันถึงถูกแบนนะ   โชคยังดีที่ยังมีถุงคอยช่วยปิดบังมันได้   ถึงกับต้องมีอินสตาแกรมที่ชื่อว่า Dogs in Bags เอาไว้อวดรูปน้องหมาในกระเป๋าเลย   บอกเลยว่านี่แหละคือสิ่งที่ดีงามสำหรับโลกใบนี้   พวกเราต้องการหมากระเป๋า!!!   มันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการซ่อนตัวจากโลกภายนอก   ต้องขอบคุณสุนัขเหล่านี้   และกระเป๋าอีกหลายใบ   ที่ทำให้การเดินทางของเราเป็นสิ่งที่งดงาม…   ถึงแม้ว่ามันจะน่ารักสักแค่ไหน แต่อย่าลืมพามันออกไปเดินบ้างก็ดีเหมือนกันนะ เดี๋ยวเป็นง่อยกันพอดี อิอิ…

สำหรับสัตว์เลี้ยงผู้น่ารักทั้งหลายแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีตัวไหนที่อยากจะให้ชะตาชีวิตของตัวเองลงเอยด้วยการถูกทิ้ง และมาจบที่ศูนย์พักพิงสัตว์ เช่นเดียวกับเจ้าสุนัขวัย 10 ขวบ Annabelle ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่มันอาศัยอยู่ที่ Baldwin Park Animal Shelter มันก็ได้แต่เฝ้ารอว่าจะมีมนุษย์คนไหนใจดีมามอบความรักให้มันอีกครั้ง   หนึ่งในภาพที่ชวนให้ชาวเน็ตรู้สึกสะเทือนใจมากที่สุด เมื่อ Annabelle เฝ้ารออย่างไร้ความหวัง จนถึงกับทำคอตกกันเลยทีเดียว   ใช่ว่าเรื่องร้ายๆ จะอยู่กับเราไปตลอด… หลังเจ้าหน้าที่โพสต์ภาพสุนัขคอตกลงบนเฟซบุ๊กได้ไม่นาน ก็มีกลุ่มอาสาสมัครรับช่วยเหลือดูแลสัตว์เลี้ยงจรจัด มารับมันไปดูแลทันที   ทันทีที่มันรู้ตัวว่าจะได้ไปอยู่กับครอบครัวใหม่ เจ้า Annabelle ก็ถึงกับยิ้มแก้มปริทันที   “มันดูตื่นเต้นมากเลยค่ะ ปกติมันจะเซื่องซึมตลอดไม่เคยมีใครเห็นมันร่าเริงได้เท่านี้มาก่อน” เจ้าของคนใหม่ให้สัมภาษณ์   หลังจากที่ Annabelle ได้ย้ายออกมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ที่มันอาศัยมาอย่างโดดเดี่ยว เจ้าของคนใหม่ก็พามันไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ   ถึงจะเป็นสุนัขอายุ 10 ปี แต่ความแข็งแรงของ Annabelle ไม่เคยลดลงตามวัยเลย   “ครั้งแรกที่มันเข้ามาอยู่ในบ้านเรา มันก็ดูจะกล้าๆ กลัวๆ อยู่พอสมควร แต่หลังจากนั้นได้ซักประมาณอาทิตย์พอมันเริ่มชิน ความร่าเริงของมันก็กลับมาให้เราเห็นกันอีกครั้ง มันเป็นสุนัขที่น่ารักมากๆ เลยล่ะ พวกเราดีใจสุดๆ…

เรื่องราวความผูกพันธ์ของเจ้า Hansel และ Gretel สุนัขจากสถานสงเคราะห์สัตว์ ที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ ถึงแม้ว่าในกรงจะมีเตียง 2 เตียงสำหรับพวกมัน แต่เจ้าตูบกลับไม่ยอมที่จะนอนแยกกันเลย คุณ Rick Tunison ผู้จัดการของสถานสงเคราะห์สัตว์จากเมือง Youngstown รัฐโอไฮโอ ได้รับเจ้าสองตัวนี้เข้ามาดูแลเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา     คุณ Tunison เล่าถึงตอนที่พาพวกมันทั้งคู่มายังสถานสงเคราะห์แห่งนี้ว่า “พวกมันวิ่งไปทั่ว กว่าเราจะพาทั้งคู่ขึ้นรถได้ก็เหนื่อยเหมือนกัน Hansel (ตัวสีน้ำตาล) ยอมขึ้นรถอย่างง่ายดายหลังจากที่มันเห็นอาหาร ส่วน Gretel นั้นไม่เหมือนกัน ต้องต้อนอยู่นานแสนนาน แต่สดท้ายมันก็ยอมหลังจากที่เห็นพี่ชายของมันขึ้นไปบนรถตู้ ”  จากนั้นพวกเจาจึงพาเจ้าตูบทั้งสองมาดูแลยังสถานสงเคราาะห์เพื่อรอหาบ้านหลังใหม่ให้กับพวกมัน แต่ดูเหมือนว่าการหาบ้านที่ยอมรับพวกมันทั้งคู่ไปดูแลนั้นจะค่อนข้างยากลำบากนิดหน่อย     และแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาความพยายามในการหาบ้านให้กับเจ้าตูบก็ประสบผลสำเร็จ หลังจากที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้ถ่ายภาพของทั้งคู่ที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกันและประกาศลงในอินเตอร์เน็ต คุณ Rachel Harris ตัดสินใจที่จะรับเจ้า Hansel และ Gretel ไปเลี้ยงดูแต่ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่พร้อมที่จะรับพวกมันไปดูแลในทันทีทันใดเนื่องจากเธอเพิ่งย้ายมาจากชิคาโก ดังนั้นเธอจึงบอกให้เพื่อนของเธอที่รับมันไปดูแลแทน     เพื่อนของคุณ Harris พาเจ้าตูบทั้งสองไปยังบ้านหลังใหม่ พวกมันดูมีความสุขมากและปรับตัวเข้ากับที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว “พวกมันฉลาด น่ารัก และอยากรู้อยากเห็นทุกเรื่อง มันทำให้ทุกคนที่มาที่นี่ตกหลุมรักมัน” คุณ Harris กล่าว เจ้านายใหม่ของ  Hansel…

ถึงแม้จะไม่ใช่สัตว์ชนิดเดียวกัน และไม่ได้อยู่ใกล้ๆ กัน แต่เจ้าหมาน้อยตัวหนึ่งที่อาศัยอยู่กับครอบครัวของเจ้านายมันในเมือง Dublin ประเทศไอร์แลนด์ ก็ได้ทำสานสัมพันธ์และกลายมาเป็นเพื่อนซี้กับเจ้าลาในที่สุด เรื่องราวของทั้งคู่เกิดขึ้นในปี 2013 ระหว่างที่เจ้า Buster ได้ออกไปเที่ยวกับเจ้านายของมัน ในเมืองแห่งหนึ่งใกล้ๆ ท่า Dingle ระหว่างที่มันและเจ้านายกำลังเดินอยู่ริมชายหาด จู่ๆ เจ้าหมาก็ได้พบกับเพื่อนซี้ของมันเข้าโดยบังเอิญ     เจ้าลา Jack กำลังออกมาเที่ยวเล่นอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้นพอดี และทันใดนั้นเจ้าหมาก็วิ่งเข้าไปหา Jack ทันที “ในตอนแรกที่ทั้งคู่พบกัน พวกมันดูเป็นมิตรกันมาก” คุณ Buachalla ผู้ใช้งานทวิตเตอร์เจ้าของเจ้า Buster กล่าว การพบกันครั้งแรกของทั้งคู่เป็นไปได้ด้วยดี แต่นั่นไม่ใช่เพียงครั้งเดียว คุณ Buachalla จะเดินทางมาเที่ยวที่ชายหาดนี้ทุกปีในช่วงวันหยุด และพวกเขาก็ไม่ลืมที่จะพาเจ้าหมามาพบกับเพื่อนลาของมันด้วย     Buster และ Jack ดูสนิทสนมกันมากเหมือนกับพี่ชายและน้องชาย พวกมันดูเหมือนจะได้พบกับเพื่อนรักที่ตามหากันมานาน “ทั้งคู่น่ารักมาก ผมไม่รู้ว่าเจ้าลาจะรู้สึกอย่างไรนะ แต่หมาของผมดูตื่นเต้นและดีใจทุกครั้งที่เรามาที่นี่” คุณ Buachalla กล่าว และในปีนี้เจ้า Jack ก็ทำให้เพื่อนหมาของมันต้องประหลาดใจ เมื่อมันได้พาเพื่อนลาตัวใหม่ที่ชื่อว่า Jil มาทำความรู้จักกับเจ้า Buster ด้วย     โมเม้นต์น่ารักๆ ของเจ้า Buster และ Jack (หากดูคลิปวิดีโอไม่ได้กด ที่นี่ )…

“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ประโยคสุดแสนจะคลาสสิคที่คงจะเคยผ่านหูพวกเรามาบ้างแน่ๆ ตอนสอบวิชาที่ยากๆ ที่ไรเจ้าประโยคนี้ก็มักจะวนขึ้นมาในหัวทุกที และไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเจ้าพวกสัตว์เลี้ยงมันจะเข้าใจความหมายของข้อความสุดคลาสสิคนี้รึเปล่านะ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตูบเหล่านี้กำลังทำสิ่งที่คล้ายๆ กันนี้อยู่แน่ๆ ไปชมภาพความน่ารักๆ ของเหล่าน้องหมาที่มีความพยายามสุดๆ แต่ละตัวจะทำให้คุณต้องอมยิ้มอย่างแน่นอน!!   1. เอ้า!! กัดเข้าไปพวก ซักวันมันต้องหักละน่า   2. คาบที่ละอันก็ได้ โถ่เอ้ย.. น่าสงสารจัง   3. ผมกำลังพยายามฝึกให้กล้าเผชิญหน้ากับเจ้าเหมียวอยู่ครับ แต่บทเรียนแรกเริ่มจากลูกมันก่อนก็แล้วกัน   4. งับอะไรน่ะ ปัดโถ่!! มันเป็นแสงไฟว้อยย   5. ผมพยายามเข้ามาชั่วโมงนึงแล้วฮะ ยังไงก็เข้าไม่ได้!?   6. ผมก็เหมือนกัน ขึ้นไม่ได้ ไม่รู้ติดอะไร??   7. พยายามยิ้มให้มีความสุขมากที่สุดอยู่สินะ โดนยาเข้าไปหนักมากกก   8. พร้อมออกปฏิบัติการแล้วฮะ!!   9. เฮ้อ.. พี่ก็จะมุดอย่างเดียวเลยนะ ไม่ดูอะไรเล๊ย!?   10. เจ้านายไปไหน ผมไปด้วยฮะ…

ถ้าพูดถึงความน่ารัก นอกจากเด็กๆ ตัวน้อยๆ แล้วอีกหนึ่งสิ่งที่เราจะคิดถึงก็คงจะหนีไม่พ้นพวกสัตว์อย่างแน่นอน และยิ่งเป็นลูกสัตว์ตัวเล็กๆ ไร้เดียงสาหน่อยๆ ความน่ารักของพวกมันก็จะทวีคุณพุ่งจนถึงจุดพีคเลยก็ว่าได้ แถมถ้าพวกมันส่งสายตาหวานๆ อ้อดอ้อนซะเหลือเกิน อย่างเช่นเจ้า 15 ตัวนี้ รับรองว่าให้ใครมาเห็นจะต้องยอมสยบต่อความน่ารักของพวกมันอย่างแน่นอน…   อิ๋งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง   ส่งสายตาวิ้งๆ แบบแพคคู่ เป็นใครก็ต้องยอมแพ้   แม้แต่เต่าก็น่ารักก็ยังส่งสายตาออดอ้อน   เจ้าตูบทำหน้าตาเศร้าศร้อย เห็นแล้วอยากอุ้มเลย   พ่อๆ อ่านหนังสือให้หนูฟังหน่อย   ดูเหมือนมันกำลังมองหาเหยือคนต่อไปเลยนะเนี่ย ใครจะตกเป็นทาสความน่ารักของเจ้าตูบตัวนี้กันนะ   ลูกแมวก็อยากจะเข้ามาแจมด้วยเช่นกัน…   ไม่รู้เป็นอะไรพอเห็นเจ้าตูบทั้งหลายทำคอเอียงหน่อยๆ พร้อมตาใสๆ ทีไรต้องละลายทุกที   ใครจะต้านทานสายตาพวกนี้ไหมกัน #เหมียวมู่ทู่ คนหนึ่งแหละที่ขอยอมแพ้   พวกสัตว์เวลาส่งสายตาหวานๆ มานี่ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหนก็ดาเมจมหาศาลจริงๆ   มานู๊ดดดด พวกมุงจงมาอุ้มข้าซะ!!   แต่เจ้ากระต่ายตัวนี้ดูจะกินแบบไม่แคร์รอบข้างเลยนะ   อรัํย ตัวเล็กน่ารักน่าชังสุดๆ เลย   เจ้ากระรอกตัวนี้ก็โชว์ความน่ารัก ด้วยการทำแก้มตุ่ย…

ถ้าคุณเป็นคนชอบหาดทรายสวยๆ ทะเลสีครามบวกเข้ากับเหล่าสุนัขที่แสนน่ารักๆ แล้วยังหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้ากับความชอบดังกล่าวไม่ได้ซักที เราก็ขอนำเสนอหมู่เกาะแสนสวยที่มีทุกสิ่งที่กล่าวไปมาให้คุณได้ฉ่ำหัวใจกัน!! เกาะที่ว่านี้มีชื่อว่าหมู่เกาะเติกส์และเคคอสตั้งอยู่ใน เป็นอาณานิคมโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร ประกอบไปด้วยหมู่เกาะย่อยในเขตร้อน 2 หมู่เกาะ ได้แก่ หมู่เกาะเคคอสและหมู่เกาะเติกส์ ซึ่งที่แห่งนี้ล้วนมีครบทุกอย่างที่คุณต้องการ ทั้งหาดทรายสีขาว ทะเลสีคราม และที่สำคัญก็ยังมีศูนย์พักพิงสุนัขที่มีเหล่าสุนัขน่ารักๆ เพียบ   .   Potcake Place เป็นศูนย์พักพิงสัตว์ที่สร้างโดยการรวมต่อของอาสาสมัครหลากหลายคน และที่แห่งนี้มีสุนัขในการเลี้ยงดูมากกว่า 50 ถึง 70 ตัว!! แถมนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาก็สามารถขอรับพวกมันไปเลี้ยงได้อีกด้วย แถมในหนึ่งปีที่นี่ยังเลี้ยงดูสุนัขมากกว่า 500 ตัวเลยทีเดียว   .   สุนัขสายพันธุ์หลักๆ ที่ศูนย์เลี้ยงดูอยู่ก็จะประกอบด้วย แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์,เยอรมันเชเพิร์ด และอิงลิชฟอกซ์เทอร์เรีย แน่นอนว่าพวกมันเป็นสุนัขที่น่ารักๆ ทั้งนั้นเลยละ ถ้าใครสนใจและได้แวะไปที่เกาะแห่งนี้ก็อย่าลืมแวะไปที่ Potcake Place ล่ะ เผื่อถ้าถูกใจน้องหมาตัวไหนจะได้รับมาเลี้ยงซักตัวสองตัว   . ที่มา ladbible

หากเพื่อนๆ คนไหนที่เป็นแฟนของซีรีย์ใน Netflix เรื่อง Love แล้วจะต้องรู้จักกับ Paul Rust กันอยู่แล้วล่ะ สำหรับใครที่ติดตามอินสตาแกรมส่วนตัวของพี่แกก็มักจะเห็นเขาอัพรูปกับเจ้าหมาตัวเบิ้มลงให้เห็นอยู่บ่อยๆ แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยกันมั้ยว่าหมาอะไรจะตัวโตได้ขนาดนั้น มันเป็นหมาจริงๆ รึเปล่า? รึแค่เป็นการตัดต่อภาพแบบธรรมดาๆ     ขอแนะนำให้ทุกรู้จักกับ Judy เจ้าหมาตัวเบ้งที่มีขนาดตัวพอๆ กับคน ที่เป็นเพื่อนซี้คู่ขาของดาราหนุ่ม Paul เอง     ซึ่งขนาดตัวที่บะลักกั๊กของมันนั้นไม่ได้มาจากการตัดต่อแต่อย่างใด เพราะมันเป็นหมาที่มีตัวโตมากๆ ตามที่เราเห็นนั่นแหละ!!   ลองไปดูขนาดของมันเมื่อเทียบกับอ่างอาบน้ำของคนสิ นอนได้เกือบเต็มอ่างเลยนะนั่น   มันเป็นหมาขนปุยที่ดูน่ากอดมากที่สุดในโลกเลยล่ะ ><   หรือจะเป็นตอนแต่งตัวสวยๆ ก็ดูน่ารักยิ่งกว่าเดิมซะอีก!!   ลองจินตนาการดูว่าหากเราได้นอนข้างๆ มัน หมอนข้างจะเป็นสิ่งที่ไร้ค่าไปโดยปริยาย   และพอตื่นมาก็จะได้เห็นใบหน้าติงต๊องแบบนี้!!   แม้ว่าจะตัวใหญ่ แต่ก็มีนิสัยที่เป็นมิตรเข้าได้กับสัตว์ทุกชนิดโดยเฉพาะเจ้าเหมียว ><   เห็นได้ชัดเลยว่าเจ้า Judy นั้นไม่ใช่หมาแล้วล่ะ มันคือตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ที่มีชีวิตชัดๆ!!   เพื่อนๆ สามารถเข้าไปติดตามความน่ารักของเจ้า Judy…

ลองสังเกตแถวละแวกบ้านตัวเอง หรือไม่ก็เพื่อนในกลุ่มตัวเองดูซิว่ามีคนไหนเป็นขี้เมาบ้างรึเปล่า? ไม่ว่าจะเมาอะไรก็ตามแต่ สำหรับพวกเขาแล้วก็พร้อมที่จะเมาได้เสมอตั้งแต่หัววันยันเที่ยงคืน ไม่ใช่แค่กับลุงแถวบ้านเท่านั้นนะที่ชอบทำตัวขี้เมาแต่หัววัน เพราะทั้ง 16 ภาพของพวกเจ้าตูบทั้งหลายนี้แหละ จะมาพิสูจน์ให้เราเห็นว่า พวกมันขี้เมามากขนาดไหน   1. เมื่อคุณไปเจอเพื่อนสายเขียว (ตาเยิ้มเลยนะเอ็ง)   2. สภาพของคุณตอนตื่นเช้ามาทำงาน แต่เมื่อคืนหนักไปหน่อย   3. เมื่อคุณเมาแอ๋ไม่ไหวแล้ว แต่ยังบอกว่าตัวเองไหวอยู่…   4. สภาพของคุณตอนภาพตัด แล้วก็ตื่นมาแบบจำอะไรไม่ได้   5. เมื่อคุณเมาแอ๋จนพูดไม่รู้เรื่อง แต่ยังอยากจะถ่ายเซลฟี่   6. เมื่อคุณเมาอิ๊บอ๋าย และกลับบ้านมาพบว่ามีอาหารรออยู่   7. สภาพของคุณเมื่อแฮงโอเว่อร์ไปทำงาน   8. เมื่อคุณออกมาจากผับแล้วพบว่า… มันเช้าแล้ว!!   9. เมื่อคุณเมาอิ๊บอ๋ายจนหลับใน…   10. สีหน้าของคุณเมื่อรู้ว่า… ข้างหน้ามีด่าน!!   11. สภาพของคุณในเช้าวันเสาร์ หลังปาร์ตี้คืนวันศุกร์หนักเกินไป   12. เมื่อคุณผู้หญิงเมาจนไม่ล้างเครื่องสำอางค์…

สำหรับชีวิตการเป็นนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยนั้น คงไม่มีวันไหนที่จะสำคัญเท่ากับวันรับปริญญา ในบางประเทศถือเป็นพิธีกรรมแสนวิเศษ ขณะที่วัฒนธรรมบางประเทศคือการเฉลิมฉลองการเรียนจบ และอาจจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่จะเป็นยังไงละถ้างานนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับเฉพาะนักศึกษาเท่านั้น!? เพราะที่สถาบัน Eckerd College จากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกไอเดียสุดน่ารักเอาใจนักศึกษา ด้วยการจัดงานรับปริญญาให้แก่สัตว์เลี้ยงซะเลย   เม่นน้อยก็ได้รับปริญญากับเค้าบ้างแล้ว เย้!!   ซึ่งงานรับปริญญาบัตรครั้งนี้เพิ่งจัดไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยภายในงานมีสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นหมา แมว เม่น หรือแม้แต่กิ้งก่า มาร่วมรับปริญญาบัตร นักศึกษาที่จบรุ่นนี้ สามารถนำพวกมันมาเข้าร่วมงานรับปริญญาพิเศษนี้ได้ทุกตัว   ภายในงานมีการต้อนรับผู้สำเร็จการศึกษา (สัตว์เลี้ยง) ด้วยคุ๊กกี้รสนมจากบริษัทอาหารสัตว์เลี้ยง และมีการกล่าวสุนทรพจน์เล็กๆ น้อยๆ ให้กับสัตว์เลี้ยงทุกตัว   แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงทุกตัวต้องใส่ชุดครุย และหมวกบัณฑิตให้ถูกต้องตามประเพณี   อันที่จริงแล้วสถาบันแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงของนักศึกษามากที่สุด เพราะนักศึกษาสามารถเอาพวกมันมาเข้าเรียนด้วยได้ หรือแม้แต่เลี้ยงสัตว์ในหอพักมหาวิทยาลัยได้   ‘เพราะที่นี่คือสถาบันที่มุ่งเน้นให้เราเข้าใจ ถึงการอยู่ร่วมกันกับทุกสิ่งมีชีวิต’ James Annarelli ประธานนักศึกษากล่าว   นอกจากนั้นแล้วทางสถาบันยังมุ่งเน้นที่จะให้นักศึกษาเข้าใจถึงการอยู่ร่วมกัน และการดูแลสิ่งแวดล้อมในสังคม จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ให้นักศึกษาสามารถนำสัตว์เลี้ยงมาด้วยได้   หลายๆ ตัวเคยอยู่อย่างอดๆ อยากๆ และเสี่ยงตายอยู่ข้างถนน และนโยบายของทางมหาวิทยาลัยก็ช่วยทำให้มีสัตว์เลี้ยงได้รับการอุปการะเพิ่มมากขึ้น  …

เกิดเรื่องน่าเศร้ากับเจ้าตูบตัวหนึ่ง ซึ่งไม่มีใครทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับมันนั้นเป็นอุบัติเหตุหรือการถูกมนุษย์ทำร้าย เจ้าหมาผู้น่าสงสารถูกพบบริเวณถนนในสภาพที่แย่มาก แทบจะทุกส่วนของร่างกายมันถูกเคลือบด้วยน้ำมันที่เหนียวและหนาอย่างมาก แต่ด้วยความรักและความอดทนของผู้ใจบุญ ก็สามารถช่วยให้เจ้าตูบกลับมาสะอาดและมีความสุขได้อีกครั้ง     ชายหนุ่มผู้ใจดี 2 คนพบเจ้าสุนัขหลงทางตัวนี้เข้าระหว่างที่พวกเขากำลังเดินอยู่บนถนนสายหนึ่งใกล้กับสนามกีฬา Lanus ในประเทศอาร์เจนตินา เจ้าหมาอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มาก ตัวของมันนั้นเต็มไปด้วยน้ำมัน ชายหนุ่มทั้งสองจึงขอความช่วยเหลือจากคุณตำรวจเพื่อหาทางช่วยเจ้าสุนัขเคราะห์ร้ายตัวนี้ ไม่นานอาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์จากกลุ่ม Zoonosis Lanus ก็ได้เข้ามาช่วยเหลือเจ้าตูบ ถึงแม้ว่าสภาพของมันจะดูแย่ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะช่วยเหลือมัน     เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงในการล้างทำความสะอาดคราบน้ำมันที่อยู่บนตัวเจ้าตูบ ถึงแม้พวกเขาจะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แต่เจ้าหน้าที่ก็พยายามที่จะช่วยมันอย่างเต็มความสามารถ และด้วยความตั้งใจของพวกเขาเจ้าตูบก็เริ่มกลับมามีสภาพเหมือนเดิมอีกครั้ง พวกเขาตั้งชื่อให้กับมันว่า Petro แต่ภารกิจช่วยชีวิตของเจ้าตูบยังไม่สิ้นสุดพวกเขายังคงต้องทำความสะอาดให้มันอีกเล็กน้อยในวันรุ่งขึ้น     เจ้าหน้าที่หลายคนใช้เวลาอย่างยาวนานเพื่อช่วยกันทำความสะอาดให้เจ้า Petro .   คราบของน้ำมันยังคงหลงเหลืออยู่บ้างตามขนของเจ้าตูบ   Petro กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง เรื่องราวการช่วยชีวิตของมันถูกพูดถึงอย่างมากในประเทศอาร์เจนตินา ตอนนี้มันยังคงต้องพักรักษาตัวอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เพื่อให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์เหมือนเดิมอีกครั้ง แต่ด้วยความรักและความห่วงใยของอาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์จากกลุ่ม Zoonosis Lanus คงจะทำให้ Petro กลับมามีความสุขได้เร็วๆ นี้อย่างแน่นอน   ที่มา thedodo

Tyler McCready เด็กชายจากรัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ประสบกับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และต้องพึ่งพาเครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดตลอดเวลาแต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า ช่วงเวลาใดที่น้ำตาลในเลือดของเขาจะต่ำลง จนวันหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนเขาเข้าสู่อาการโคม่าอย่างเฉียบพลัน ทำให้ครอบครัวของเขาต้องหาผู้ช่วยมาดูแลเขา นั่นก็คือเจ้า Sinatra สุนัขที่ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อตรวจเช็คอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัว Tyler     นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มาทั้งคู่ก็กลายเป็นคู่หูที่ไม่เคยห่างจากกันเลย Tyler ได้เล่ากับว่า “Sinatra จะคอยบอกผมตลอดว่าเวลาไหนที่น้ำตาลในเลือดของผมลดลงต่ำ ทำให้เขากลายเป็นผู้ช่วยชีวิตผมมากกว่าพันๆ ครั้งเลยล่ะ” นอกจากนั้นก่อนที่ Tyler จะได้เจอกับ Sinatra เขาเคยอยู่ในจุดที่ต่ำสุดของชีวิตเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากโรคที่เขาเป็น หรือจะเป็นการถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อนที่โรงเรียน จนรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอก ทำให้เขาเคยคิดเกือบจะฆ่าตัวตายเลยทีเดียว     แต่นับตั้งแต่พวกเขาได้เจอกัน ชีวิตของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปกลายเป็นเพื่อนที่ขาดกันไม่ได้ การมีตัวตนอยู่ของ Sinatra นั้นทำให้ Tyler มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีตลอดเวลา จนในที่สุดเรื่องราวของเขาก็เป็นที่รู้กันไปทั่วโรงเรียน และทุกคนก็เหมือนจะเข้าใจพร้อมกับเลิกแกล้งเขาในที่สุด นอกจากนั้นทั้งคู่ยังขาดกันไม่ได้เลย เพราะขนาดในหนังสือรุ่น รูปของ Tyler ยังต้องมี Sinatra ด้วย     ดูแล้ว Tyler จะรักเพื่อนของเขามากๆ เลยนะเนี่ย   เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี…

ถ้าให้เปรียบเทียบสุนัขกับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น พวกมันก็คงจะถูกเปรียบเทียบกับเด็กๆ อย่างแน่นอน ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะสุนัขส่วนใหญ่จะชอบที่ออกไปวิ่งเล่นสนุกสนานในสถานที่กว้างใหญ่ หรืออาจจะชอบเล่นอะไรสกปรกๆ เป็นบางครั้ง แน่นอนว่ามันก็เด็กๆ เลยใช่ไหมล่ะที่ชอบไปเล่นในสวนสาธารณะ หรือไปเล่นเครื่องเล่นต่างๆ วันนี้เราก็เลยจะมาดูภาพในอิริยาบทต่างๆ ของเจ้าตูบทั้งหลายกันว่า พวกมันจะแสดงออกยังไงกันบ้าง เวลาที่พวกมันไปสวนสาธารณะหรือสถานที่เปิดกว้างกัน จะน่ารักขนาดไหนลองมาดูกันเลยดีกว่า   เปิดมาภาพแรกกับการถ่ายรูปเก๋ๆ ในทุ่งหิมะ ที่ดูแล้วมันจะชิวซะเหลือเกิน   แต่ใช่ว่าสุนัขทุกตัวจะชอบอยู่ข้างนอกนะ   ทว่าบางตัวก็ดูจะเก็บอาการไม่อยู่เมื่อเห็นน้ำ   บางตัวก็ดูกลัวๆ กับการออกไปที่สวนสาธารณะเป็นครั้งแรก   หรือบางครั้งก็อาจจะได้เจอเพื่อนสายพันธ์ุใหม่ จนต้องเกิดอาการสงสัย   เจ้าตัวนี้ช่างเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด เจอน้ำเป็นไม่ได้เลอะตลอด   ส่วนถ้าสวนสาธารณะไหนมีของเล่น ก็ไม่พลาดที่จะไปเล่นซะหน่อย   ส่วนเจ้าตัวนี้ก็ดูจะเศร้าที่โดนกักบริเวณ แต่พ่อหนุ่มคนนี้ดูสะใจที่ได้เยาะเย้ยมากกว่านะ   แต่อย่างน้อยไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ถ้ามีเจ้าของอยู่ด้วย พวกมันก็มีความสุขที่สุดแล้วล่ะ   เจ้าสองตัวนี้อาจไม่ชอบวิ่งเล่น แต่คงชอบรับลมเย็นๆ เสียมากกว่า   ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ กับแสงแดดอ่อนๆ   ทะ ทะ ทุ่งหญ้า!!   นี่คือรูปปั้นสุนัขยอดฮีโร่ผู้ช่วยสวนแห่งนี้ไว้แน่ๆ…

สำหรับใครที่เลี้ยงสุนัขไว้ที่บ้าน คงจะรู้กันดีว่าเจ้าเพื่อนซี้สี่ขาพวกนี้ บางครั้งมันก็เป็นสัตว์ที่ขี้เล่น และบางตัวก็จะชอบเล่นซ่อนหากับเราอยู่บ่อยๆ แต่ใช่ว่าพวกมันจะมีความสามารถในด้านนี้ทุกตัว เพราะบางตัวก็ดูจะห่วยในการเล่นซ่อนแอบเสียเหลือเกิน แต่ถึงห่วยพวกมันก็ยังอยากจะเล่นกับเจ้าของผู้เป็นที่รักของมัน จนเกิดเป็นภาพน่ารักๆ เหล่านี้ ว่าแต่จะเป็นยังไงนั้นลองมาดูกันเลยดีกว่า   เปิดมาตัวแรกก็รู้แล้วว่า พวกมันซ่อนหาเก่งกันขนาดไหน…   ส่วนเจ้าตัวนี้ก็เนียนใช้ได้เลยนะเนี่ย   บางทีมันก็คิดว่าหลบในตู้เย็น จะเนียนมากๆ   จะทำทีว่าไม่เห็นก็แล้วกัน   คราวนี้มาเป็นแพคคู่เลย   ส่วนเจ้าตัวนี้อาจจะไม่ตั้งใจซ่อน แต่ต้องบอกว่าเนียนสุดๆ   ถ้าไม่สังเกตที่ลูกตานี่หาไม่เจอเลยนะ พูดจริงๆ   ปิดหน้าแล้วเจ้านายหาไม่เจอหรอก จริงๆ นะ   นี่ก็อีกตัว ปิดทำไมต้องปิดตัวเองด้วยเล่า ปั๊ดโถ่ว เจ้าหมาบ๊อง   ถ้าเปลี่ยนสีโซฟาอีกสักหน่อยนี้เข้ากันเป๊ะเลยนะเนี่ย   ความสามารถในการมุดโซฟาอยู่ในระดับสูงเลยทีเดียวนะเนี่ย   ถ้ามองจากอีกมุมก็อาจจะเนียนก็ได้   ตัวแกกับหมอนมันคนละไซส์เลยนะเจ้าตูบ   โอเค ไม่เห็นก็ไม่เห็น..   ก้นของใครกันเอ่ยยย   เจ้าตัวนี้ซ่อนได้เฉียบสุดๆ แต่ดูแล้วไซส์ของเสื้อน่าจะขยายขึ้นแน่ๆ   ถึงว่าเห็นเงาตะคุ่มๆ…

คำเตือน: เนื้อหานี้อาจจะมีภาพที่รุนแรง ภาพของแผลบนร่างกายสุนัข ซึ่งอาจจะทำให้บางคนหดหู่ได้ กลายเป็นเรื่องชวนให้เศร้า หลังจากที่เช้าวันอังคาร บริเวณริมถนนสาย A20 ของเมืองเคนท์ ในประเทศอังกฤษ มีพลเมืองดีบังเอิญไปพบเจ้าหมาสเปเนียลสีขาวดำ กำลังนอนรอความตายอย่างน่าสงสาร ร่างกายของมันอยู่ในสภาพแย่ มีบาดแผล และเล็บของมันก็ถูกถอนไปหมด ด้วยเหตุนั้น เขาจึงรีบพามันไปที่ศูนย์ดูแลสัตว์ RSPCA ทันทีและตั้งชื่อเล่นให้กับเจ้าหมาว่า Flick     เมื่อมันไปถึงศูนย์ดูแล เจ้าหน้าที่ก็ไม่รอช้า รีบตรวจและช่วยเหลือมันทันที เพราะสภาพและอาหารของมันตอนนั้นถือเป็นเคสเร่งด่วน โฆษกของ RSPCA ออกมาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า Flick ว่า “การถอนเล็บของสุนัขออกอย่างไม่เต็มใจถือว่าเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจและผิดกดหมายภายใต้กฎหมายในการคุ้มครองสัตว์ภายในประเทศอังกฤษ ที่สำคัญยังไม่รับรวมการทิ้งสุนัขของตนทำเหมือนกับว่ามันเป็นขยะ”   สภาพร่างกายของมัน ที่ต้องบอกว่าหนักมาก   มีบาดแผลเต็มตัว ซึ่งถ้าไม่ได้คนใจดีช่วย มันคงจะไม่รอด   เจ้า Flick เเป็นสุนัขที่ไม่ได้รับการตรวจสอบและลงทะเบียนรวมถึงมีได้ฝังไมโครชิพไว้ ทำให้การตามหาตัวเจ้าของจริงๆ เป็นไปได้ยากมากๆ แต่ถ้าเกิดว่าหลังจากที่ทางศูนย์รักษามันเรียบร้อยแล้วยังไม่มีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของ ทางศูนย์ก็จะทำการหาบ้านหลังใหม่ให้แก่มัน ซึ่งสัตวแพทย์จากทางโรงพยาบาลสัตว์จะเป็นคนรับมันไปดูแลแทนนั่นเอง…   ใครกันนะช่างโหดร้ายกับเจ้า Flick ได้ ทิ้งมันยังไม่พอยังถอนเล็บมันอีก อย่าให้เจอนะ ที่มา metro

ใครบอกว่าชีวิตของสัตว์เลี้ยงช่างน่าอิจฉา เพราะวันๆ นอกจากจะไม่เห็นมันทำอะไรแล้ว ก็คงมีแต่การกิน กับนอนเนี่ยแหละที่ดูจะเป็นหน้าที่หลักของมัน แต่จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูกเสมอไป เพราะเราได้ไปทำการรวบรวมคำร้องทุกข์จากมะหมาทางบ้านมาแล้ว และทั้งหมดนี้คือ 16 เหตุผลที่อยากจะบอกว่า.. มันไม่ง่ายเลย ที่่คุณจะเกิดเป็นหมาได้อย่างสงบสุข   1. เพราะบางทีพวกมันก็มักจะเผลอทำลายข้าวของโดยไม่รู้ตัว… (แถมทำหน้าไม่รับผิดด้วยนะ)   2. บางทีพวกมันก็ต้องมาคอยรับความจริงที่ว่า… ตูฟังภาษาคนไม่ออก ฮือๆๆ T^T   3. แต่บางทีพวกมันก็ต้องมีโมเม้นท์ทำหยิ่งใส่มนุษย์บ้างเหมือนกัน   4. ใครว่าเป็นหมาแล้วจะสบาย ดูอย่างนี่สิ.. ต้องมาฝึกเป็นพลสไนเปอร์เห็นไหม?   5. หรือบางทีก็ต้องมารู้สึกเซ็งไปทั้งวัน กับพฤติกรรมบ้าๆ ของมนุษย์   6. หนักหน่อยก็จับใส่สูทผูกไท ราวกับว่าจะเป็นนักธุรกิจยังงั้นแหละ   7. พวกเราเกิดมาในตระกูลที่สูงศักดิ์ แต่มนุษย์มักจะเอาเราไปแต่งตัวเล่นเป็นเรื่องตลกอยู่เสมอ   8. ช่วงฤดูผสมพันธุ์พวกมันต้องต่อสู้กับความเหงา และความกำหนัด ที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ   9. บางทีก็ต้องคอยหลบซ่อนตัวเอง จากการถูกฝูงผึ้งทำร้าย (ช่วยไม่ได้ก็ไปยุ่งกับเค้าทำไมล่ะ)   10.…

สำหรับใครที่เลี้ยงสุนัขอยู่ คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าพวกมันกับสัตว์สองเท้า อย่าง เป็ด หรือ ไก่ เป็นของไม่ถูกกันเป็นที่สุด ถ้าหากเผลอเปิดประตูบ้านทิ้งไว้เมื่อไหร่ละก็ คุณอาจจะต้องกลับบ้านมาแล้วพบกับสงครามขนาดย่อมเลยก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าเจ้าสุนัขตัวนี้สูญเสียกรรมพันธุ์ชอบไล่เป็ดไปหรืออย่างไร เมื่อมันสามารถใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนซี้สองขามันได้อย่างไม่มีปัญหา แถมทั้งคู่ยังรักกันสุดๆ     เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์เดลีเมล์ได้รายงานเรื่องของมิตรภาพต่างสายพันธุ์สุดแปลกนี้ เมื่อเจ้าเป็ดอายุ 4 ปีนามว่า Pekin Andy สามารถที่จะเป็นเพื่อนกับ Barclay สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ได้อย่างน่ารัก คุณ Pam Ishiguro จากออเรนจ์เคาน์ตี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้เป็นเจ้าของสัตว์ทั้งสองบอกว่า “เวลาที่อยู่ด้วยกันพวกมันชอบเล่นวิ่งไล่กัน แต่ถ้าหากว่าแยกจากกันทั้งคู่ก็จะร้องเรียกหากัน พวกมันเหมือนกับเด็กๆ เจ้า Pekin และ Barclay ดูน่ารักน่าชังมาก”     ความสัมพันธุ์ของทั้งคู่ในครั้งแรกนั้นไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เจ้าเป็ดชอบที่จะวิ่งไล่ Barclay ทุกครั้งที่เจ้าหมาพยามจะเข้าใกล้ฝูงเป็ด  “เจ้า Pekin เป็นเป็ดพันธุ์ Alpha มันชอบที่จะจู่โจมทุกคนและทุกสิ่งที่ขวางหน้ามัน” เจ้า Barclay เป็นหมาขี้เล่นและชอบกินมาก เจ้าหมาชอบแอบไปกินน้ำของพวกเป็ดที่คุณ Ishiguro เลี้ยงเอาไว้นอกจากนี้มันยังชอบเข้าไปดมก้นของเป็ดตัวอื่นๆ อีกด้วย และเมื่อเจ้า Pekin เห็นเข้าก็จะมาวิ่งไล่มันทุกครั้งจนเจ้าหมากลัวและวิ่งหนีไปเลยทีเดียว แต่ทว่าเป็นเพราะความกล้าของเจ้าหมาที่มากขึ้นหรือเพราะเจ้าเป็ดเบื่อที่จะไล่จิกมันแล้วก็ไม่ทราบ…

ความมีน้ำใจและเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่เป็นสิ่งที่ดี นอกจากจะทำให้เรากลายเป็นที่รักของผู้อื่นแล้วยังทำให้เรามีเพื่อนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย การให้ความช่วยเหลือและแบ่งปันนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของความมีน้ำใจ #เหมียวเวจจี้ จะขอพาทุกคนไปรู้จักกับอีกตัวอย่างของสัตว์ที่มีน้ำใจมาก พบกับเจ้า Maggie สุนัขลาบราดอร์ที่แสนจะใจกว้าง มันยอมให้สุนัขตัวอื่นๆ ใช้ร่างกายของมันเป็นเตียงแบบไม่โวยวายสักแอะ   เจ้า Maggie และเพื่อนตัวน้อยของมัน   หลังจากที่เคยมีโอกาสเป็นเจ้าของสุนัขพันธุ์ชิวาวาตัวหนึ่ง ทำให้ Michelle Calicchio รู้สึกผูกพันและอยากที่จะเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เป็นอย่างมาก เธอได้ตัดสินใจที่จะอุปถัมถ์พวกมันและสุนัขพันธุ์เล็กตัวอื่นๆ ร่วมกับสถานสงเคราะห์สัตว์แห่งหนึ่ง ในปี 2005 เธอได้รับเจ้า Maggie สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์เพศเมียเข้ามาในสถานรับเลี้ยงสัตว์ของเธอจนกระทั่งตอนนี้ ผ่านไปกว่า 12 ปีแล้ว เธอมีสุนัขที่อยู่ในความดูแลกว่า 60 ตัว!! ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทำให้น่าประหลาดใจ นั่นก็คือความสัมพันธุ์ของเจ้า Maggie กับเพื่อนๆ ของมัน     ทุกวันนี้เจ้า Maggie มีขนาดร่างกายที่ใหญ่กว่าเพื่อนๆ ตัวอื่นของมันมาก วันหนึ่งเจ้า Jasper หนึ่งในสุนัขของศูนย์ดูแลสัตว์แห่งนี้ได้ทำเรื่องที่แปลกมาก มันเข้ามาใกล้ๆ Maggie และขึ้นไปนอนอยู่บนหลัง ทางด้านนาง Michelle บอกว่า “นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก เรากำลังคิดอยู่ว่าทำไมเจ้า Jasper ถึงทำแบบนั้น” แต่เจ้าหมาน้อยตัวนี้ไม่ใช่ตัวเดียวที่ใช้หลังของ Maggie เป็นที่นอน แต่ยังมีสุนัขตัวเล็กๆ กว่า 25 ตัวในศูนย์แห่งนี้ ที่ชื่นชอบการนอนบนหลังของ Maggie…

แม้ในช่วงเวลาอันโหดร้าย ขอแค่กอดเพื่อนข้างๆ ไว้ให้แน่น แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี… Adonis และ Apollo เจ้าตูบสองตัวถูกพบอยู่ข้างหน้าศูนย์พักพิงสัตว์ A-Team Elite Rescue Dogs ในรัฐเท็กซัส เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าพวกมันทั้งคุ่น่าจะถูกเจ้าของเก่าทอดทิ้ง     จากรายงานของ Cindy Droogmans ผู้ก่อตั้งศูนย์พักพิงดังกล่าวได้เล่าว่าพวกเขาเจอทั้งสองตัวอยู่ข้างหน้าศูนย์ในสภาพที่สั่นด้วยความกลัว เหมือนกับว่าพวกมันเพิ่งผ่านอะไรร้ายแรงมาไม่นาน แต่โชคดีที่พวกมันไม่ต้องทนอยู่กับความกลัวเป็นเวลานานเกินทน เพราะ Cindy ได้พาพวกมันไปรับการรักษากับสัตวแพทย์ของเธอในเมืองนิวยอร์ค และตอนนี้พวกมันก็ได้การดูแลเป็นอย่างดี     เจ้าตูบทั้งคู่ดูจะเป็นห่วงและรักกันมาก ขนาดตอนที่อยู่โรงพยาบาลสัตว์พวกมันยังตัวติดกันไม่ห่างเลย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับทั้งคู่ที่อย่างน้อยก็ไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยว การหาบ้านให้หมาตัวเดียวว่าเป็นเรื่องยากแล้ว แต่มันก็จะทำให้ยากในการหาคนมารับเลี้ยงดูมันทั้งคู่พร้อมๆ กัน อย่างไรก็ตาม Cindy บอกว่าเธอจะหาบ้านใหม่ที่ดีที่สุดให้กับเพื่อนรักทั้งสองนี้ให้ได้     Cindy บอกว่า “การหาบ้านที่พร้อมจะรับเลี้ยงสุนัขสองตัวพร้อมกันมันยากมากๆ แต่ดูพวกมันสิคุณยังกล้าที่จะแยกมันออกจากกันไหม” หวังว่าพวกมันจะมีคนมารับไปเลี้ยงไวๆ ที่สำคัญขอให้ใครก็ตามแต่ที่มารับเลี้ยง พามันไปด้วยทั้งคู่ อย่าต้องให้มันแยกออกจากกันเลยนะ   .     ที่มา thedodo

ค่ำคืนหนึ่งในรัฐเวอร์มอนต์อันเงียบสงบ ชายคนหนึ่งได้เดินเรียบถนนและบังเอิญสะดุดตาเข้ากับกล่องบางอย่างข้างทาง เมื่อเปิดออกมาเขาก็ต้องตกใจทันที เพราะข้างในมีลูกสุนัขตัวเล็กๆ ถึง 9 ตัวนอนกอดกันอยู่เต็มกล่อง และเขาก็ขาดว่าพวกมันน่าจะคลอดเมื่อไม่นานนี้อย่างแน่นอน เห็นได้จากสายสะดือที่ยังคงติดอยู่กับตัวลูกสุนัข     โชคยังดีที่ชายคนนั้นไม่ได้เมินพวกลูกสุนัข เขารู้ว่าพวกมันต้องการความช่วยเหลือ จึงแบกกล่องดังกล่าวไปที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ใกล้ๆ กับจุดนั้นทันที แต่โชคร้ายที่ศูนย์ดังกล่าวไม่มีเครื่องมือและทรัพยากรมากพอที่จะดูแล พวกเขาจึงทำขอส่งต่อลูกสุนัขไปที่ Central Vermont Humane Society (CVHS) Erika Holm ผู้อำนวยการของ CVHS ได้บอกกับ TheDoDo ว่า “หลังจากไม่กี่ชั่วโมงที่พวกเราได้รับแจ้งว่าจะมีการขนย้ายลูกสุนัขดังกล่าว พวกเราก็เตรียมการให้พร้อมทันทีก่อนที่พวกมันจะมาถึง ทั้งจัดแจงพื้นที่และเตรียมอาหารให้พวกมัน ซึ่งเมื่อพวกมันมาถึงพวกเราก็จัดการดูแลพร้อมกับป้อนอาหารพวกมันทันที”     โชคร้ายที่พวกเขาไม่รู้ว่าสุนัขตัวไหนคือแม่ของพวกมัน จึงทำให้ทาง CVHS ได้ประกาศและออกตามหาสุนัขที่คาดว่าจะเป็นแม่ของเด็กๆ พวกนี้ทันที Erika พูดว่า “ไม่มีใครเห็นตอนที่ลูกสุนัขพวกนี้ถูกทิ้ง รวมถึงข้อมูลและเบาะแสต่างๆ ที่พอจะช่วยให้ตามหาแม่ของพวกมันเจอ ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงหวังว่าแม่ของพวกมันจะยังมีชีวิตอยู่และปลอดภัย พวกเราเข้าใจถึงความรู้สึกที่ต้องสูญเสียลูกๆ ไป”   . .   Erika บอกปิดท้ายว่า “ตอนนี้พวกลูกสุนัขก็อยู่ในสภาพที่แข็งแรงดีแล้วยกเว้นตัวหนึ่งที่สภาพย่ำแย่และจากไปในที่สุด ทำให้พวกเราก็ยังคงเป็นห่วงสุขภาพของตัวอื่นๆ อีกทั้งยังต้องดูแลพวกมันอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการหาคนมารับเลี้ยงคงต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อให้พวกมันโตกว่านี้อีกสักหน่อย”…

เชื่อว่าหลายคนที่มีอายุหน่อยๆ น่าจะเคยเล่นเกมหนังสือภาพที่ชื่อ “Where’s Waldo?” กันมาก่อนใช่ไหมละ ส่วนถ้าใครไม่เคยก็จะบอกให้ฟังง่ายๆ ว่ามันคือเกมที่ต้องหาตัวละคร Waldo ที่ซ่อนอยู่ในภาพนั่นเอง ถือว่าเป็นอะไรที่สนุกมากเลยในสมัยก่อน แต่ในวันนี้เราก็ไม่ได้จะมาพูดถึงหรือตามหา Waldo กันหรอกนะ แต่สิ่งที่เราจะมาตามหากันในวันนี้มันคือเจ้าหมา Franklin สุนัขพันธุ์คอร์กี้วัย 8 ปีต่างหาก     เรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากตอนที่เจ้า Franklin ยังเป็นเพียงลูกสุนัข และมันก็ชอบที่จะออกไปวิ่งเล่นข้างนอกบ้านกับ Melissa Looney ผู้เป็นเจ้านาย จนวันหนึ่งมันรู้สึกไม่อยากกลับบ้าน มันก็เลยเริ่มซ่อนจากสายตาของเจ้านาย บ่อยขึ้นๆ จนติดเป็นนิสัย และนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเกมตามหาคอร์กี้นั่นเอง Melissa พูดถึงสุนัขของเธอว่า “ฉันกับ Franklin พวกเราจะเล่นซ่อนหากันทุกครั้งที่ออกไปเดินเล่น และฉันก็จะถ่ายภาพพร้อมกับโพสต์ลงแฟนเพจ Where’s Franklin? เพื่อที่คนอื่นๆ จะได้มาเล่นเกมตามหาเจ้า Franklin ไปด้วยกัน” เกริ่นกันมาขนาดนี้แล้ว เรามาเริ่มเล่นเกมตามหาเจ้าคอร์กี้แสนซุกซนกันเลยดีกว่า 3..2..1 เริ่ม!!   เริ่มที่อันแรกแบบง่ายๆ กันก่อน   เริ่มยากขึ้นมานิดหนึ่งแล้วนะ หาเจอกันไหม?   ส่วนภาพนี้ก็กลืนสุดๆ   ทุ่งดอกไม้ภาพนี้น่าจะหาเจ้า Franklin…

Balthazar คือชื่อของเจ้าหมาแพทเทอร์เดลเทอร์เรีย ที่มีขนาดตัว 2 เมตร (วัดจากความสูงเมื่อยืนเต็มที่) และหนักถึง 95 กิโลกรัม จะเรียกว่ามันคือลูกช้างขนาดย่อมเลยก็ไม่ผิดซะทีเดียว แม้แต่ Vinnie วัย 46 ปี และ Dixie Monte Irvine วัย 39 ปีจากประเทศอังกฤษ สามีภรรยาผู้เป็นเจ้าของมันยังต้องตกใจเมื่อครั้งล่าสุดที่พวกเขาเพิ่งสังเกตตอนไปออกทริปเที่ยวกับครอบครัวและลูกๆ อีกสามคน  ว่าสุนัขของพวกเขาตัวใหญ่แค่ไหนเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ ของคนอื่นนั่นเอง     Vinnie  ได้เล่าว่า “พวกเราเพิ่งจะสังเกตเห็นเมื่อไม่นานว่าเมื่อก่อนมันเคยตัวเล็กกว่านี้ แต่ตอนนี้ขนาดตัวของมันเรียกว่ามหึมาเลยก็ว่าได้ แถมมันก็ไม่ได้เป็นสุนัขที่อ้วนด้วยนะ สังเกตได้จากการที่ยังสามารถมองเห็นซี่โครงมันได้อยู่” “หลังจากนั้นไม่นานเราก็พามันไปตรวจดูว่ามันมีความผิดปกติอะไรไหม จนเราคาดว่าเราอาจจะต้องเพิ่มน้ำหนักส่วนขาของมันเพื่อรองรับร่างกายขนาดใหญ่ นอกจากนั้นทีมแพทย์ยังอยากจะลองชั่งน้ำหนักมันเพื่อดูว่ามันจะเป็นสุนัขที่หนักที่สุดในโลกด้วยรึเปล่า”     แม้ว่าเจ้า Balthazar จะเป็นสุนัขตัวใหญ่ยักษ์ขนาดไหน มันก็เป็นสุนัขที่จิตใจดีมากๆ มันชอบเล่นกับลูกๆ ของ Vinnie บ่อยๆ แถมยังเป็นเพื่อนซี้กับเจ้าเหมียวอีกสามตัวในบ้านอีกต่างหาก Vinnie ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า “นอกจาก Balthazar แล้วพวกเรายังมีแมวอีกสามตัวชื่อว่า Magic Buffy และ Leo พวกมันทั้งสามชอบที่นอนจะคลุกอยู่กับเจ้าหมาบ่อยๆ เวลาที่มันนอนในที่นอนของมัน”…

หากคุณรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว อยากจะได้รับความผ่อนคลาย จรรโลงจิตใจ เราก็ขออาสาพาไปรู้จักกับคู่หูแมวหมา ที่มาแรงสุดแห่งปี จากอินสตาแกรม @anniepaddington ที่มีผู้ติดตามแล้วมากกว่าแสนคน ที่ทำเอาชาวเน็ตแทบไม่น่าเชื่อว่า.. แมว & หมา จะรักใคร่กลมเกลียวกันได้ดีขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!?   เจ้าตูบมีชื่อว่า Paddington ส่วนเจ้าเหมียวมีชื่อว่า Annie   เดิมทีเจ้าของเลี้ยงดูแค่เจ้าตูบเท่านั้น   ทว่าอยู่ดีๆ วันหนึ่งเจ้าเหมียวก็มาเยี่ยมเยียนถึงหน้าประตูบ้าน   ตอนนั้นเจ้าเหมียว Annie ยังเป็นแค่แมวเด็กที่ต้องการๆ ดูแลอย่างดีเป็นพิเศษ   และดูเหมือนว่าเจ้า Paddington ก็ไม่ได้รังเกียจที่จะต้องเลี้ยงดูน้องต่างสายพันธุ์   เมื่อเวลาผ่านไปพวกมันก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น   จากพี่น้องกลายมาเป็นเพื่อนซี้   จากเพื่อนซี้แน่นปึ๊ก กลายเป็นคู่หูคู่ฮาประจำบ้าน   เมื่อไม่มีใครอยู่บ้าน ทั้งคู่ก็จะคอยดูแลกันและกันอยู่เสมอ   เจ้าของเล่าว่า เคยมีครั้งหนึ่งที่เจ้าเหมียวต้องไปหาหมอทั้งวัน เล่นเอาเจ้าตูบซึมไม่เป็นอันกิน อันนอนเลยทีเดียว   แต่หลังจากที่เจ้าเหมียวกลับมา มันก็ดูร่าเริงดีใจสุดๆ   เท่านี้ก็น่าจะพอเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เราเห็นได้แล้วว่า พวกมันรักกันมากขนาดไหน   อ้อ……

Miracle เจ้าสุนัขสีดำที่อาศัยอยู่ในโรงงานร้างแห่งหนึ่งของรัฐเซาท์แคโรไลนา แต่แล้วโรงงานที่มันพักพิงก็เกิดเหตุไฟไหม้ทำให้มันต้องหนีตายจากอย่างสุดชีวิต แต่มันก็ไม่ยอมจากไปไหนจนกระทั่งมีคนไปพบเจอกับมันเข้าแล้วช่วยมันกลับมา และพาไปศูนย์พักพิงสัตว์ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ได้พบว่าเจ้า Miracle มีอาการบาดเจ็บที่ขาของมัน ทำให้ใช้การไม่ได้ และที่สำคัญเต้านมของมันก็ดูจะพร้อมให้น้ำนมด้วย ซึ่งนั่นก็เป็นเบาะแสว่ามันจะต้องมีลูกน้อยอย่างแน่นอน…     แต่ถึงจะรู้อย่างนั้นก็ตาม ทางศูนย์ก็ต้องตรวจเช็คร่างกายและดูแลมันสักพักเสียก่อน ทางศูนย์ก็เลยแจ้งทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเพื่อขอให้ช่วยตามหาลูกของมันล่วงหน้า ก่อนที่จะพาเจ้า Miracle ไปช่วยหาด้วยตัวเอง สี่วันหลังจากที่มันมาถึงศูนย์และได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ก็ถึงเวลาแล้วที่มันจะต้องกลับไปยังที่เกิดเหตุเพื่อตามหาลูกๆ ของมันกับเหล่าเจ้าหน้าที่ เมื่อไปถึงมันไม่รอช้ารีบวิ่งนำทางเข้าไปในป่าทันที เพื่อนำทางไปสู่ที่ซ่อนตัวของัมนพร้อมกับลูกๆ ทั้ง 6 ตัว     ทางเจ้าหน้าที่คาดว่า มันน่าจะขนย้ายลูกๆ ของมันทีละตัวออกมาจากโรงงานในตอนที่เกิดเหตุไฟไหม้ และหวังว่าจะมาดูแลลูกๆ ทีหลังหรือหากมีคนใจดีมาพบเข้าแล้วก็ช่วยเหลือพวกมัน ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บที่ขาประจวบกับเจ้า Miracle ได้รับการช่วยเหลือไปยังศูนย์พอดี ทำให้มันไม่สามารถกลับมาดูแลลูกได้ แต่ตอนนี้มันก็ได้เจอกับลูกๆ ของมันแล้ว แถมพวกมันก็ดูจะดีใจที่ได้เจอแม่อีกครั้ง     หลังจากที่เจ้า Miracle และลูกของมันได้รับการช่วยเหลือกลับมา ทางศูนย์ก็จัดการทำเรื่องขอส่งต่อพวกมันไปยัง Dóchas N Grá Animal Rescue and Sanctuary เพื่อให้พวกเขาช่วยดูแล รวมถึงหาครอบครัวที่สามารถรับอุปถัมภ์พวกมันทั้งหมด Victoria…

Xavier Hernandez หนุ่มวัย 18 ปี ผู้เป็นเจ้าของทวิตเตอร์ xXx ได้แชร์ภาพและเรื่องราวสุนัขของเขาให้แก่ชาวเน็ตได้อ่านกัน แถมเรื่องที่ว่ายังเศร้าจนทุกคนต่างพากันแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมายกับเรื่องราวนี้ Twinkle คือชื่อของสุนัขที่เป็นเจ้าของเรื่องทั้งหมด โดยมันและ Xavier อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่ง Xavier ได้เล่าผ่านเว็บไซต์ Buzzfeed ว่าวันหนึ่งเขาได้รู้ว่าสุนัขของเขากำลังตั้งท้องและคลอดออกมาเป็นลูกสุนัข 3 ตัวด้วยกัน     แต่หลังจากพวกมันคลอดได้ไม่นานลูกสุนัขทั้งสามก็ต้องตายจากไป ทิ้งไว้แต่ความเศร้าศร้อยให้กับเจ้า Twinkle ด้วยเหตุนี้แม่ของ Xavier ก็เลยนำตุ๊กตาสัตว์ต่างๆ 3 ตัวมาให้กับมัน เพื่ออยู่เป็นเพื่อนและช่วยเยียวยาความเศร้า     หลังจากนั้นมันก็ไม่ปล่อยตุ๊กตาอีกเลย แถมไม่ยอมให้ใครแตะต้องตุ๊กตาของมันอีกด้วย   และมันก็ยังดูแลเหล่าตุ๊กตาดีมากๆ เหมือนมันกำลังดูแลลูกของตัวเองเลย   ลองมาดูความรู้สึกและเสียงตอบรับของชาวเน็ตกันบ้างดีกว่า ว่าพวกเขารู้สึกยังไงกับเรื่องของเจ้า Twinkle?   สำหรับชาวเน็ตคนนี้แสดงความรู้สึกด้วยภาพ ที่ดูก็รู้ว่าเศร้าแค่ไหน   รวมถึงคนนี้ก็เช่นกัน นี่สินะที่เรียกว่าภาพสามารถแทนคำพูดได้มากมาย     ส่วนชาวเน็ตสองคนนี้ก็แสดงความรู้สึกไปในทางเดียวกันว่า เรื่องราวของมันแทบจะทำให้ความรู้สึกของพวกเธอแตกเป็นเสี่ยงๆ   หรือจะเป็นเธอคนนี้ที่ถึงกับตั้งคำถามว่า ทำไมเรื่องร้ายๆ มักเกิดกับสุนัขดีๆ เสมอ  …

ทุกสิ่งบนโลกล้วนมีหลายด้าน หากเราเลือกที่จะมองในมุมที่แตกต่างจากเดิม แน่นอนว่าเราจะได้พบกับสิ่งใหม่ๆ และเข้าใจมันมากขึ้น ซึ่งบางครั้งความสวยงามของสิ่งนั้นอาจจะซ่อนอยู่ในอีกด้านที่เราคิดไม่ถึงก็เป็นได้ แหม่ เปิดหัวมาแบบนี้คิดว่าจะเป็นเรื่องที่ซีเรียสใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ แต่ไม่เลย เรื่องที่เรากำลังจะพูดถึงนี้ เป็นการปรับมุมมองอีกแบบที่จะทำให้เราได้พบกับความสวยงามและความน่ารักในอีกด้านของสัตว์เลี้ยง ช่างภาพ Andrius Burba ได้เริ่มทำการถ่ายภาพสัตว์ต่างๆ ในมุมที่แตกต่างจากการถ่ายภาพทั่วๆ ไป นั่นก็คือการถ่ายภาพพวกมันจากด้านล่าง!! โดยเขาใช้ชื่อโปรเจคสุดครีเอทนี้ว่า Under-look จนนำมาสู่อัลบั้มผลงานชื่อว่า Under-dogs ที่เป็นการถ่ายภาพน้องหมาจากมุมล่างมาให้ชมกัน   ภาพน้องหมาจากมุมด้านล่าง ดูเหมือนพวกมันจะไม่ค่อยคุ้นกับการถ่ายภาพแบบนี้นะ ฮ่าๆ   โดยการถ่ายภาพเหล่าสัตว์จากมุมมองด้านล่างถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของงานศิลปะของเค้าเลยทีเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้เค้าเคยมีผลงานภาพถ่ายชุด Under-cats, Under-rabbits และ Under-horse ที่ได้ตีพิมพ์ไปแล้ว โปรเจค Under-dogs นี้ได้เริ่มทำการถ่ายเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว และตอนนี้ช่างภาพหนุ่มของเราได้ทำการรวบรวมภาพถ่ายใต้ท้องหมาไว้เป็นรูปเล่มแล้ว ซึ่งคุณสามารถเข้าไปเลือกซื้อได้แล้วในอเมซอน แต่ตอนนี้ลองไปชมบางส่วนของผลงานในโปรเจคนี้กันก่อนเลยดีกว่า   .   ดูท่าน้องหมาจะกลัวๆ นะเนี่ยฮ่าๆ . .   แต่เจ้าตัวนี้ท่าทางจะเป็นนายแบบมืออาชีพนะเนี่ย . . . แหม่ เขินกล้องเหรอจ๊ะเจ้าหมาน้อย .…

นี่คือเรื่องราวของเจ้า Spirit Golden Heart (มันชื่อนี้จริงๆ นะ) พิตบูลผู้น่าสงสารที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ข้างถนนอย่างไม่ใยดี และมันก็ขาดสารอาหารซะจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่ท่ามกลางความวุ่นวายของโลก ก็ยังคงมีเรื่องราวดีๆ ให้เราได้สัมผัสกัน เมื่อตำรวจจาก Los Angeles ได้เข้ามาช่วยเหลือมัน และทำให้มันกลับมามีชีวิตที่ดีเหมือนเดิมได้อีกครั้ง   นี่คือเจ้า Spirit Golden Heart ไม่มีใครรู้ว่าเดิมทีมันมาจากไหน แล้วทำไมถึงถูกปล่อยให้น่าสงสารขนาดนี้   ‘ถ้าเราไปพบมันช้ากว่านี้มันคงตายไปแล้วแน่ๆ มันมีเห็บเต็มตัวไปหมด ร่างกายขาดสารอาหาร ขาหลังใช้การไม่ได้ และมีบาดแผลเน่าเละที่เสี่ยต่อการติดเชื้อ’ ตำรวจเล่า   พวกเขารีบนำตัวมันไปส่งยังโรงพยาบาลสัตว์โดยด่วน และคุณหมอก็วินิจฉัยพบว่ามันเป็นโรคข้อเสื่อม   มันต้องรับการบำบัดฟื้นฟูอยู่นานหลายวัน ในระหว่างนั้นน้ำหนักตัว และผลเลือดของมันก็ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย   จนในที่สุดก็มีหญิงสาวใจดีผู้ไม่ประสงค์ออกนาม มารับมันไปอุปการะ โดยเธอเล่าว่าทุกวันนี้มันกลายเป็น ‘ไอ้หมูอ้วนประจำโซฟา’ ไปซะแล้ว   และนี่ก็คือสภาพปัจจุบันของมัน มันสามารถวิ่งเล่นได้เหมือนเดิม อีกทั้งยังมีเจ้านายที่คอยมอบความรัก ความห่วงใยให้ด้วย ชีวิตดี๊ดี   ดีใจด้วยนะ ในที่สุดก็ได้มีครอบครัวที่อบอุ่นกับเค้าซักที ที่มา: Boredpanda

เหล่าสัตว์เลี้ยงนอกจากช่วงเวลาปกติที่มันจะน่ารักอยู่แล้ว บางครั้งพวกมันก็จะมีโมเมนต์เปิ่นๆ พังๆ เหมือนเอาสมองไปโยนไว้ไหนไม่รู้เหมือนกันในบางครั้ง แถมเวลาที่พวกมันทำแบบนั้นมันน่ารักจนอดขำไม่ได้เลยล่ะ วันนี้เราเลยจะมาดูภาพของเหล่าสัตว์ที่สมองเออเร่อชั่วคราวมาให้ดูกัน รับรองว่ามันจะทำให้พวกคุณกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว เอาล่ะ อย่ามัวเสียเวลากันเลย เราไปดูกันดีกว่า   โดนล้างสมองจนคิดว่าเป็นพวกเดียวกันไปซะแล้ว   Error 404 brain not found!!   เมื่อเจ้าเหมียวสมองเออเร่อ ลืมว่าตัวเองเป็นแมว   ไรอะ?!! ใคร!! ใครอยู่ตรงนั้น !!   3..2..1 จ๊ากกกกก   สงสัยระบบการคำนวนจะเออเร่อ ถึงได้โดดพลาด   อันนี้ดูจะ Get High มากกว่าสมองเออเร่อนะเนี่ย   เจ้านายเกาพุงให้หนูหน่อย..เดี๋ยว เฮ้ย ใครดึง ใคร!!   จะออกตัวแล้วนะ 3 2 1 แอ๊ก..เหนื่อย แล้วอะ   กระดู๊กกกก ลาภปากล่ะ…เดี๋ยวนะ ทำไมมันไม่มีล่ะ ก็เห็นอยู่ตรงหน้าแท้ๆ กระโดดๆ ฮึบๆ…

Charley Desrochers ชายหนุ่มผู้ได้รับความกระทบกระเทือนต่อสมอง จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้เขาและแฟนสาวตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงลูกหมาสักตัว นั่นจึงทำให้ทั้งคู่ได้เจอกับเจ้า Bradley Bradley เป็นหมาจรจัดที่ถูกช่วยไว้ หลังจากที่มันถูกรถชนในช่วงที่มันยังใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน ตอนที่เจอมันขาของมันกลายเป็นอัมพาตไปเสียแล้ว และด้วยตอนที่มันถูกชนมันถูกรถลากไปด้วยทำให้กระดูกของมันเริ่มเสื่อมสภาพลงจนต้องตัดขาหน้าไปข้างหนึ่ง     Charley บอกว่า “ตอนแรกที่พวกเราเจอกับ Bradley มันพยายามที่จะเดินด้วยขาข้างที่เป็นอัมพาต และด้วยความเสียหายที่ได้รับทำให้มันไม่สามารถที่จะใช้งานขาข้างนั้นได้อีกเลย มันจึงทำให้พวกเรารู้ดีว่า เราควรจะทำการผ่าตัดขาให้แก่มันซะ” เพราะว่ามันใช้ชีวิตกับขาที่อัมพาตมาตลอด มันจึงใช้เวลาไม่นานนักในการทำควมเคยชินกับการมีขาแค่ 3 ข้าง  แต่มันต้องใช้เวลาสักพักกับการปรับตัวเข้ากับบ้านหลังใหม่ของมัน แต่ปรับตัวแค่ไม่นานนักมันก็กลายเป็นหมาที่มีความสุขและน่ารักมากที่สุดตั้งแต่ครอบครัวของมันเคยเจอเลยล่ะ     “ความน่ารักของ Bradley ก็คือความหนักแน่นที่มันมี มันเป็นหมาที่น่ารักและฉลาด มันรู้ว่าวันไหนที่พวกเราต้องเจอกับเรื่องแย่ๆ มันจะเข้ามากอดกับพวกเราเสมอ เพื่อให้กำลังใจแก่ครอบครัวของมัน” หลังจากนั้นไม่นานพวกเรารู้สึกว่าอยากจะแชร์ความน่ารักของมันให้กับคนอื่นๆ ดู พวกเราก็เลยตัดสินใจที่จะวาดรูปขาที่ 4 เป็นภาพการ์ตูนตลกๆ ให้กับมัน     “Marianne และผมมักจะมีมุขตลกๆ กับเจ้า Bradley เสมอพวกเราก็เลยคิดว่าเราน่าจะทำอะไรกับความน่ารักและมุขตลกพวกนี้ดู เราเลยเริ่มวาดแขนมิกกี้เมาส์ตรงบริเวณขาที่หายไปของมัน ส่วนสาเหตุที่จะต้องเป็นมิกกี้เมาส์เพราะว่า มันชอบที่จะทำเสียงคล้ายๆ กับมิกกี้เมาส์บ่อยๆ นั่นเอง”  …

การเลี้ยงสุนัขตัวหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะว่าเจ้าตูบพวกนี้มันก็เหมือนการมีลูกคนหนึ่ง พวกมันไม่ค่อยจะเชื่อฟังอะไรเท่าไหร่หรอก บางทีก็วิ่งไปอยู่กลางถนนเพียงเพราะต้องการจะวิ่งตามลูกบอลก็มี มันเลยยากที่จะทำให้พวกมันปลอดภัยตลอดเวลา Lisa DeLong หญิงสาวชาวแคนาดาคนหนึ่งก็ประสบปัญหานั่นเช่นกัน เมื่อเธอกำลังไปเดินเล่นอยู่ริมทะเลสาบในนครแฮลิแฟกซ์ ประเทศแคนาดา ไม่รู้มันคิดอะไร อยู่ดีๆ เจ้าตูบของเธอ Nellie ก็วิ่งพรวดพราดออกไปว่ายไปอยู่กลางทะเลสาบซะงั้น แถมพอว่ายออกไปไกลกว่าที่ตัวเองจะกลับไหว ก็ทำท่าว่าจะจมอีกด้วย     เธอตื่นตระหนกจนไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือ แต่แล้วก็มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินผ่านมา ชายคนนั้นสังเกตุเห็นเจ้าตูบและสีหน้าของ Lisa เขารู้ได้ทันทีว่าต้องไปช่วยเจ้าหมาของเธอ แม้เธอจะเป็นคนแปลกหน้าก็ตาม เขาบอกกับเธอว่าไม่ต้องห่วง เขาจะช่วยมันเอง จากนั้นเขาก็ว่ายน้ำออกไปเพื่อช่วยพาเจ้าตูบกลับเข้าฝั่งอีกครั้ง เขาต้องว่ายออกไปไกลราวๆ 300 เมตรเลยทีเดียวเพื่อพามันกลับมา   โฉมหน้าของเจ้า Nellie ต้นเหตุของเรื่อง   แต่แล้วเมื่อเขาไปถึงตัวเจ้าตูบ เขาก็ต้องตกใจเพราะว่าเจ้าตูบคาบลูกบอลไว้ไม่ปล่อยเลย และมันก็ดูจะภูมิใจมากๆ ที่เก็บลูกบอลกลางน้ำนี่ได้ จากนั้นทั้งคู่ก็กลับเข้าสู่ฝั่ง Lisa ขอบคุณชายแปลกหน้ายกใหญ่ที่ช่วยสุนัขของเธอ หลังจากพูดคุยกันได้สักพักเธอก็รู้ว่าชายแปลกหน้าคนนี้มีชื่อว่า Adam Parker ก่อนจากเขาได้จูบกับเจ้า Nellie เพื่อเป็นการบอกลา และได้ถ่ายรูปกับ Lisa เป็นที่ระลึก     ถ่ายรูปก่อนจากสักหน่อย แต่ดูทั้งสองจะลืม Nellie เรียบร้อย   ส่วนเจ้า Nellie…

ปกติแล้วเรามักจะเลี้ยงแมว หมา หรือสัตว์เลี้ยงอะไรก็ตามกันตัวเดียว บางครั้งเราก็รู้สึกว่าเรากลัวพวกมันจะเหงา ไม่มีเพื่อนเล่นเวลาที่เราไม่อยู่ เราก็เลยหาเพื่อนให้มัน หรือไม่บางคนก็อยากจะเลี้ยงเยอะๆ สัก 3-4 ตัว เพราะมันดูอบอุ่นดี เมื่อมีเสียงเรียกร้องให้ชาวเน็ตทั้งหลาย ร่วมกันส่งภาพของเจ้าตูบในบ้านของตัวเอง โดยจะต้องเป็นบ้านที่เลี้ยงมากกว่า 1 ตัว งานนี้มาดูกันว่าจะมีภาพน่ารักแค่ไหนให้เราได้ชมบ้าง…   เปิดด้วยเจ้าตูบแบบเรียงไซส์กันมาเลย มองผ่านๆ นึกว่าตัดต่อนะเนี่ย   เจ้าตูบกับครอบครัวใหญ่ของพวกมัน ยัดกันมาเต็มคันรถ?   ครบไซส์ ตัวใหญ่ก็กลายเป็นหมอนให้ตัวเล็กไป   ยึดโซฟากันเต็มพื้นที่เลยนะ ไม่กะแบ่งเจ้าของเลยทีเดียว   จะเข้าครัวมาทำอาหาร ก็มีผู้ช่วยตามมาเพียบ   เดินชายหาดคนเดียวไม่ต้องกลัวอัตราย บอดี้การ์ดเพียบ   งานแต่งของเจ้าตูบ พร้อมกับเพื่อนเจ้าบ่าว   แต่ละตัว โพสท่าสวยงามดุจดั่งรู้ว่าจะต้องถ่ายรูป   และเมื่อเราต้องพามันไปเดินเล่นพร้อมกัน ปัญหาการแย่งนำทางก็จะเกิดขึ้น   ไปออกทริปถ่ายรูปคนเดียวได้ไม่เหงา เพราะมีเจ้าตูบตามไปเป็นเพื่อน   คุณชายทั้งสาม   เช่นเดียวกับการออกทริปถ่ายรูป ทริปปีนเขาพวกมันก็ไปเป็นเพื่อนได้สบายๆ   แวะปลดทุกข์?ข้างทางสักหน่อย…

ปกติทั่วไปเราจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า แมว – หนู ไม่ถูกกัน หมา – แมว ก็ไม่ถูกกันเหมือนกัน ถ้าพวกนี้มาอยู่ใกล้กันเมื่อไหร่มีอันต้องเกิดความวินาศสันตะโรแน่นอน แต่กับสำหรับทั้ง 3 ตัวนี้อันประกอบไปด้วยพี่หมา Sasha เหมียว Jack และน้องหนู Tweaks กลับอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ดูแลกันและกันใครเห็นเป็นต้องรู้สึกว่าน่ารักเหลือเกิ๊นนน   โฉมหน้าของพวกเรา 3 พี่น้องต่างสายพันธุ์   เดิมทีพวกมันอาศัยร่วมกันในบ้านหลังหนึ่ง แต่ด้วยเหตุผลทางการเงินทำให้เจ้าของบ้านต้องย้ายออกไป และนำพวกมันมาฝากไว้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์   เจ้าหน้าที่คนไหนได้เห็นพวกมันทั้ง 3 อยู่ร่วมกัน ก็ถึงกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปตามๆ กัน แหม่.. ภาพแบบนี้มีให้เห็นบ่อยๆ ซะที่ไหนละ   ‘ตอนแรกเราก็กลัวอยู่ว่าจะให้พวกมัน 3 ตัวอยู่ร่วมกันได้จริงๆ เหรอ? ปรากฏว่ามันอยู่กันได้จริง แถมดูเหมือนพวกมันจะสนิทกันมากอีกด้วย’ เจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือเล่า   พวกมันจะคอยดูแลกันและกันเสมอ มีอย่างที่ไหนล่ะ… แมวเหมียวนอนกอดกับหนูแบบนี้ โถ่ววไอ้เมี๊ยวว!!   บางทีพวกมันก็สลับเลียขนให้กัน เพราะเรามีกันอยู่ 3 หน่อ…

การช่วยเหลือและแบ่งปันน้ำใจให้กับผู้อื่นย่อมเป็นเรื่องที่ดี เพราะผลลัพธ์ของการปันนั้นจะทำให้โลกนี้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น การช่วยเหลือซึ่งกันและกันนั้นไม่ได้ทำได้เฉพาะมนุษย์เราเท่านั้น แต่พวกสัตว์ก็สามารถทำเรื่องดีๆ แบบนี้ได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าจะต่างสายพันธ์ุกันหรือเป็นสัตว์ที่เคยเป็นคู่อริกัน ก็สามารที่จะมอบความช่วยเหลือให้กันได้เหมือนเรื่องต่อไปนี้ รับรองว่าอ่านจบแล้วจะทำให้คุณรู้สึกหัวใจเบิกบานแน่ๆ   นี่คือโฉมหน้าของเจ้า Diamond หมาน้อยหัวใจโต   เรื่องราวดีๆ นี้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าสุนัขพันธุ์ Jack Russell ชื่อว่า Diamond ที่อาศัยอยู่กับเจ้านายของมัน ได้สังเกต เห็นอะไรบางอย่างด้านนอกหน้าต่างและพยามพาเจ้านายของมันไปดู คุณ Gunnar เจ้านายของมันบอกว่า “ในขณะที่กำลังทำงานอยู่เจ้า Diamond ก็เอาแต่สะกิดเรียกผมให้ตามมันไปที่ระเบียง และเมื่อผมตามมันไปก็ได้พบกับเจ้านกตัวหนึ่งนอนหมดสติอยู่ตรงนั้น ในตอนแรกผมคิดว่ามันตายแล้ว แต่ก็ต้องตกใจเมื่อมันกระพิบตา”   การพบกันครั้งแรกของเพื่อนต่างสายพันธุ์   หลังจากที่พบเจ้านกที่บาดเจ็บและอ่อนแอนั้น Gunnar ก็ได้ดูแลให้อาหารและรักษามันอย่างดี เขาบอกว่า “หลังจากที่ผมให้อาหารนกน้อยตัวนั้นและปล่อยมันพักผ่อน ผมก็ได้หันหลังเพื่อไปหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปนกน้อยตัวนั้น แต่ก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น เมื่อเจ้านกที่เพิ่งจะบาดเจ็บ ขึ้นไปเกาะอยู่บนหัวของเจ้า Diamond และมันก็พยามบินอีกครั้ง” และหลังจากนั้นในระหว่างที่เขาอุ้มเจ้านกที่พยามจะบินไว้ในมือ สุนัขของเขาก็ได้เข้ามาใกล้ๆ และใช้จมูกกับลิ้นเลียมันเหมือนกับพยามจะให้กำลังใจ และ Gunnar ก็ตั้งชื่อให้เจ้านกตัวนี้ว่า Bíbí   จังหวะที่เจ้านกบินมาเกาะหัว Diamond   เจ้าหมาเข้ามาให้กำลังใจ Bibi   หลังจากที่มันได้พักรักษาตัวมาซักพักแล้ว Gunnar ก็ได้ปล่อยเจ้านกตัวนี้ไว้ที่ระเบียงที่เขาพบมันครั้งแรก เพื่อที่จะให้มันได้บินไปยังที่ของมัน แต่ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่พร้อมที่จะออกสู่โลกภายนอก…

เราน่าจะรู้กันดีว่า สุนัขคือสัตว์ที่ชาวเกาหลีชื่นชอบนำมากินเป็นอาหารอยู่บ่อยๆ ซึ่งนอกจากการเอาไปทำอาหารแล้วสุนัขในเกาหลียังถูกนำไปทำเป็นยาชูกำลังอีกด้วย ด้วยเหตุนี้จึงก่อให้เกิดการค้าสุนัขเพื่อใช้ในการกินขึ้นมา ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Jiyoon Yi หญิงสาวชาวเกาหลีได้… เธอได้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับตลาด Daegu ในเกาหลีใต้ ว่าคำร่ำลือแห่งแหล่งขายเนื้อสุนัขแห่งนี้มันเป็นจริงหรือไม่!? เมื่อเธอไปถึง เธอได้มองเห็นบางอย่างที่บาดหัวใจเธอเป็นอย่างมาก ซึ่งมันเป็นภาพหน้าร้านขายสุนัขแห่งหนึ่ง ที่มีแม่สุนัขและลูกของมันอีก 5 ตัว กำลังอยู่ในกรงเหล็กหน้าร้าน ซึ่งเต็มไปด้วยสนิมเขรอะ     แล้วเธอก็ต้องตกใจเมื่อรู้ที่ร้านแห่งนี้ไม่ได้ขายสุนัขเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง ทว่าเพื่อนำมันมาเป็นยาชูกำลังต่างหาก ชาวเกาหลีเชื่อว่าสุนัขมีสรรพคุณทางยาที่ดีมากๆ แน่นอนว่าพวกมันต้องถูกฆ่า หลังจากนั้นเนื้อสุนัขจะถูกต้มเป็นเวลาเกือบชั่วโมงพร้อมสมุนไพร จนกระทั่งกลายเป็นน้ำซุปสุนัขสำหรับขายให้ลูกค้าต่อไป   ภาพของเจ้าหมาที่ทำให้เธอรู้สึกว่าต้องยื่นมือเข้าไป   Ek Park เป็นผู้ก่อตั้ง Free Korean Dogs องค์กรช่วยเหลือจากการค้าสุนัขบอกว่า “มันคงจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน แม้ว่าจะพูดภาษาอังกฤษหรือเกาหลีไม่ได้ แต่พวกมันก็รู้ว่าพวกมันอยู่ที่ไหน” “สุนัขเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนไหวและทั้งสั่นกลัวเกิดความหวาดกลัวอย่างมากเนื่องจากอาจจะเห็นสุนัขตัวๆ อื่นๆ รับชะตากรรมอันโหดร้าย”   เมื่อ Yi กลับมาถึงบ้านเธอไม่สามารถที่จะหยุดคิดภาพที่เธอเห็นได้ ด้วยเหตุนั้นเธอก็เลยกลับไปที่ร้านและยอมที่จะจ่ายเงินเพื่อให้เจ้าสุนัขทั้งหลายได้เป็นอิสระ แต่เมื่อเธอไปถึงสิ่งที่พบคือแม่สุนับที่อยู่ในกรงได้หายไปเรียบร้อยแล้ว อาจจะเป็นไปได้ว่ามันถูกฆ่าตายไปแล้วก็ได้ แต่ก็ยังโชคดีที่ลูกสุนัขยังอยู่   ยังไงก็ตามการซื้อลูกสุนัขออกมาก็ไม่ได้ช่วยให้เจ้าของร้านหยุดการกระทำเหล่านี้ได้ เพราะถ้าลูกสุนัขตัวหนึ่งหายไป เจ้าของร้านก้จะไปตามหาสุนัขตัวอื่นเพื่อเอามาทำเป็นยาอยู่ดี Yi…

อย่างที่เรารู้ว่า สุนัขที่กำพร้าหรือถูกทิ้งไว้ที่สถานรับเลี้ยง พอมันเจอเจ้าของใหม่เมื่อไหร่ มันก็จะรักเจ้าของใหม่มากๆ เพราะพวกมันกลัวที่จะถูกทิ้งไปอีกครั้งนั่นเอง Kylo Ren คือชื่อของหมาเจ้าของเรื่องราวทั้งหมดนี้ มันเป็นหมาที่ถูกทิ้งไว้ที่ West Memphis Animal Shelter เมื่อตอนที่มันยังอายุแค่ 10 เดือนเท่านั้น  มันเป็นหมาที่น่ารักและนิสัยดี จนกระทั่งความน่ารักของมันไปดึงดูดองค์กรช่วยเหลือสัตว์ ALIVE Rescue Memphis เข้าให้อย่างจัง ซึ่งนี่จะเป็นก้าวแรกของการได้พบกับเจ้าของคนใหม่ของมัน     แต่เวลาผ่านไปนานแสนนาน ก็ยังไม่มีใครสนใจที่จะมารับเลี้ยงมันเสียที ซึ่งก็ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไม มันถึงยังไม่ถูกรับไปเลี้ยง แต่แล้วแสงแห่งความหวังของมันก็ส่องสว่างขึ้น มีครอบครัวหนึ่งได้เดินทางมาเพื่อติดต่อขอรับมันไปเลี้ยง โดยพวกเขาเล่าว่า “พวกเราเห็นภาพของเขาบนเฟสบุ๊ค และฉันคิดว่าเขาน่าจะรอวันที่จะได้เจอพวกเรามานานแล้ว เพียงแต่มันอาจจะใช้เวลาไปนานหน่อยเท่านั้นเอง”     Meghan Sweers คือชื่อเจ้าของใหม่ของมัน เธออาศัยอยู่กับสามีและสุนัขพันธุ์คอกี้อีกหนึ่งตัวที่ชื่อว่า Nellie พวกเขาก็กล้าๆ กลัวๆ ว่าถ้าเขารับเจ้า Kylo มาแล้วมันจะเข้ากันได้ไหม แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังจะรับมันมาเลี้ยงอยู่ดี และด้วยเหตุนี้ทางอาสาสมัครจึงนำเจ้า Kylo มาส่งถึงบ้านแล้วจากไป ช่วงเวลาที่มันมาถึงมันรู้ได้ทันทีว่านี่และคือบ้านใหม่ของมัน “หลังจากที่เจ้าหน้าที่กลับไป มันก็วิ่งเข้ามานั่งตักฉันทันที พร้อมกับเช้ามาคลอเคลียไม่ห่างเลยล่ะ ช่วงเวลานั้นฉันกับสามีรู้ได้ทันทีเลยว่า…

สำหรับใครที่เคยเลี้ยงสัตว์ ก็คงเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะหาเรื่องแกล้งมันสักครั้ง แล้วก็ถ่ายรูปเก็บไว้ประจานตามโซเชียล ถ้าถามว่าสัตว์เลี้ยงของเรามันจะอายมั้ย.. ก็ไม่นะ การจะแกล้งนั้นมันก็เกิดจากปัจจัยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเกิดจากการหมั่นไส้ หรือคันไม้คันมือ หรือบางทีก็อยากจะลงโทษมันที่มันชอบมารังควานเรา ก็เลยจัดไปให้สักดอกสองดอก และวันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมภาพของ #คนเหงา2017 ที่ไม่รู้ว่าจะเอาไปลงที่ไหน ก็เลยเอามาลงกับเหล่าสัตว์เลี้ยงแสนรักเหล่านี้ แล้วดูสีหน้ามันแต่ละตัว เหมือนอยากเล่นกับเราสุดๆ   ได้เสื้อใหม่ อุ่นไหมล่ะ   อย่าทำสายตาอาฆาตอย่างนั้นสิ   แปะป้ายให้ กันลืม   สงสัยจะชอบเสื้อใหม่   มองแรง   อย่าทำตาเลเซอร์สิ   หน้าตาแบบว่า “เอาที่สบายใจ” ชอบแบบไหนก็เอาเลย   ตลกมากนักเหรอ   ยกบ้านทั้งหลังมาวางเลยก็ได้จะ ถ้าจะขนาดนี้   เคยถามความสมัครใจบ้างป่ะ   จะให้กินได้รึยัง   เห็นฉันเป็นใคร   มันบังโว้ยยยยย   นี่คิดว่าเท่เหรอ?   นี่คิดว่าฉันชอบเธอเหรอ?   บรื้นนนนนนนนน  …

ผู้หญิงมักจะมีช่วงเวลาที่รักพี่เสียดายน้องอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะตอนไปซื้อของ อยากได้ลิปสีนี้ แต่สีนั้นก็สวย จะเอาสีอะไรดี จะซื้อสองสีก็กลัวใช้ไม่หมด สุดท้ายก็มักจะจบด้วยซื้อมาทั้งสอง (ถ้าเงินพอซื่อน่ะนะ) แต่ถ้าสิ่งนั้นไม่ใช่เครื่องสำอางล่ะ แต่เป็นชายหนุ่มรูปงามกับน้องหมาน่ารักๆ คุณผู้หญิงทั้งหลายจะเลือกกันได้ไหมว่าถ้าจะให้กอด จะกอดใครดีเอ่ย? แต่ถ้าจะให้หามากอดก็คงจะยากเกินไป #เหมียวสามสี ก็เลยจะเปิดวาร์ปให้ทุกท่านได้ไปฟินกับอินสตาแกรมที่ชื่อว่า Hot Dudes With Dogs ซึ่งที่นี่จะรวบรวมเอารูปผู้ชายรูปงาม ที่ถ่ายคู่กับน้องหมาน่ารักๆ มาให้ทุกท่านได้ชมกัน   ดูซิว่าสาวๆ จะเลือกได้ไหมว่าอยากกอดใคร   . . . . . . . . . . . . . . . . . . .   แต่ดูก็รู้ว่าคนส่วนใหญ่เลือกหมากันอยู่แล้ว ผู้ชายหาง่ายจะตาย แต่หมาน่ารักๆ นี่มันหายากนะ ใช่มะ? อิอิ แต่ถ้าใครยังไม่จุใจก็ไปติดตามกันต่อได้ที่อินสตาแกรม Hot Dudes With Dogs นะจ๊ะ ที่มา boredpanda

ปกติแล้วเรามักจะชอบเล่นกับสัตว์เลี้ยงของเราพวกแมวหรือหมา ด้วยวิธีการทั่วๆ ไปเช่นเกาท้องเกาคาง ซึ่งมันก็รู้สึกดีในระดับหนึ่ง แต่เชื่อว่าหลายคนน่าจะยังไม่เคยสัมผัสประสบการณ์หยิกแก้มหมาพันธุ์ชิบะอย่างแน่นอน ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องเป็นหมาชิบะล่ะ เป็นพันธุ์อื่นได้ไหม คำตอบก็คือได้ แต่ว่าหมาพันธุ์นี้จะมีแก้มที่เยอะกว่าพันธุ์อื่นๆ ทำให้เวลาที่เราดึงแก้มของมันเราจะรู้สึก นุ่มมมมมม สุดๆ เลยนั่นเอง พูดอย่างเดียวคงคิดภาพไม่ออก ว่ามันนุ่มมมม ขนาดไหนลองดูภาพการหยิกแก้มของพวกมันกันเลยดีกว่า   เริ่มกันจากเบาๆ กันก่อน   เริ่มเห็นความนุ่มมมม แล้วหรือยัง   หน้ามันเริ่มบ่งบอกแล้วว่า “พอใจหรือยังเจ้ามนุษย์”   ดูหนังของมันสิ หู้วววว   นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานการเข้าประกวดในเทรนด์นี้   ตัวนี้แก้มมันใหญ่มากๆ เลยนะเนี่ย อยากจะหยิกมากๆ   ดูท่ามันจะสนุกกับมนุษย์ด้วย (รึเปล่านะ!?)   หน้ามันบ่งบอกถึงความสนุกที่โดนหยิกสุดๆ   เอาที่สบายใจเลย   “หยุดนะเจ้ามนุษย์”   ไม่มีใครรู้ว่าการประกวดนี้ใครจะเป็นผู้ชนะ แต่ดูเหมือนที่สุดแล้วมันคงเป็นการตอบสนองต่อความสนุกของมนุษย์ ที่ได้จับเจ้าหมาของตัวเองมาลงโทษด้วยการหยิกแก้มให้มันดูหน้าตาตลกเล่นๆ ฮ่าาาาาา เห็นความนุ่มนิ่มของแก้มชิบะกันหรือยัง ดูแล้วมันน่ายิกสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ สงสัยต้องไปหาหมาชิบะมาเลี้ยงไว้สักตัวมั่งดีกว่า จะได้ยิกแก้มนุ่มๆ ของมันทุกวันเลย  …

ถ่อวววววว #จ่าสิบเหมียว เห็นละอยากจะหัวเราะเป็นภาษาแมว ฮ่าๆๆๆ จะให้ช่วยเหรอจ๊ะ?? ได้สิ แต่ขอไปหยิบกล้องก่อนน้าาา อิอิ และนี่ก็คือ 18 ภาพน่ารักๆ ของเหล่าสัตว์เลี้ยงตัวจ้อยของคุณ ที่กำลังได้รับบทเรียนอย่างเจ็บแสบเลยที่จะทำให้พวกมันรู้ว่าชีวิตนี้ไม่ควรจะไปแหยมกับผึ้งไม่งั้นจะเจอแบบนี้ ฮร่าาา ลองมาดูกันเลย!!!   นี่นึกว่าไปขึ้นสังเวียนเดือดกับบัวขาวมานะเนี่ยเจ้าตูบ -*-   ก๊ากกกกกกก ว่าจะไม่ตลกแล้วเชียว ><   นี่มันตูบหรือปลาน้ำลึกเนี่ย!!?   ขอร้อง อย่าเอาภาพไปโพสต์ลงเน็ทนะครัชชชช   ไม่ต้องมามองบน แกทำตัวแกเองนะ ฮ่าๆๆ   คิดว่าเนียนเหรอ!?   จะกินข้าวได้มั้ยเนี่ย…   ผมไม่ใช่หม่ำนะ เจ้านายอย่าหัวเราะผมสิ   ไปเล่นกล้ามมาเหรอจ๊ะช่วงนี้ อิอิ   ถถถถถถถถถถถ ลั่นเลย   ชัดเจน หึหึ   เป็นสิงโตไปซะละ   บวมขนาดนี้ซดน้ำก็พอเนาะตูบ   แหมๆๆ เก็บอาการๆ  …

ใครจะคิดว่าตำแหน่งพนักงานดีเด่นจะสามารถมอบให้กับหมาได้ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว เจ้าตูบตัวนี้ฟาดรางวัลพนักงานดีเด่นตัวเดียวตลอดทั้งปี!! Meeka คือชื่อของเจ้าตูบหนึ่งในสามพนักงานของ Accuride International Inc สาขาตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นสำนักงานขายที่มี Michael Reeg เป็นเจ้านายอยู่ แต่ทว่าเอาเข้าจริงๆ มันก็มีแค่ตัวเขา และเจ้าหมา Meeka และเจ้าหมา Kya รวมเป็นหนึ่งคนสองตัวเท่านั้นและที่ทำงานอยู่ที่สำนักงานแห่งนี้     เรื่องมันเริ่มจากการที่ Michael มาเป็นผู้จัดการฝ่ายขายแล้วเขาพบว่าเจ้าตูบทั้งสองเนี่ย มันสามารถจะเป็นลูกจ้างที่ดีให้กับเขาได้ ถึงแม้พวกมันจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับธุรกิจที่เขาทำอยู่เลยก็ตาม โดยเขาให้เหตุผลว่า “มันยากนะการที่เปลี่ยนมาทำงานอยู่ที่บ้าน ซึ่งมันเงียบมากๆ การจะหาอะไรสักอย่างมาช่วยให้คุณมีกำลังใจในการทำงานมันก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เจ้าพวกนี้จึงกลายมาเป็นลูกจ้างของผมที่ทำในตำแหน่งนั้น”     ถึงแม้พวกมันจะช่วยไรเขาไม่ได้มาก และเวลาที่เขาพูดอะไรให้พวกมันฟังเขาก็เชื่อว่าพวกมันคงได้ยินแค่ว่าเขากำลังพล่ามอะไรสักอย่างอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น Meeka ยังตั้งใจฟังและเหมือนจะดีใจทุกครั้งที่ได้ยินเสียงของเขา ซึ่งเขายังบอกอีกว่าเขาดีใจที่มันให้ความสนใจกับเขามากๆ ซึ่งมันเป็นกำลังใจชั้นดีเลยล่ะ ส่วนอีกด้านหนึ่ง Kya คือเจ้าหมาอีกตัวที่ดูแล้วมันไม่ค่อยจะให้ตั้งใจและให้ความร่วมมือเสียเท่าไหร่ เขาบอกว่ามันเป็นหมาของภรรยาเขา มันจะโผล่มาก็ต่อเมื่อภรรยาของเขาไม่อยู่เท่านั้น สำนักงานนี้จึงเป็นทางเลือกที่สองที่มันจะอยู่ (และนั่นอาจจะเป็นเหตุผลให้มันพลาดรางวัลไปในทุกเดือน)     Meeka เป็นพนักงานที่ตั้งใจมากๆ แม้เวลาผมจะออกไปดูงานข้างนอกมันก็จะมานอนเฝ้าอยู่ที่สำนักงานเสมอ “ถ้าวันไหนผมไม่อยู่แล้วประตูของสำนักงานปิดอยู่ Meeka จะใช้เวลาทั้งวันในการนอนเฝ้าอยู่ข้างหน้าประตูสำนักงาน ซึ่งมันคิดเสมอว่าตัวผมอยู่ในสำนักงาน”    …

สำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์แล้ว เราย่อมมีความผูกพันธ์กับสัตว์ที่เราเลี้ยงไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นแมว หมา กระต่าย หรือกระทั่งจิ้งจกที่เราเห็นหน้าอยู่ทุกๆ วัน ก็อาจจะผูกพันธ์ไม่รู้ตัว แล้วลองคิดสิว่า หากอยู่ด้วยกันตั้ง 9 ปี มันจะเป็นความรักที่มากขนาดไหน…   เมื่อสมาชิกเว็ปไซต์ Imgur ที่มีชื่อว่า Thedoctorsmistress ได้ออกมาแชร์ภาพและความทรงจำสุนัขตัวโปรดของเธอที่ชื่อว่า Cash ก่อนที่มันจะจากไปอย่างสงบหลังจากที่ทั้งคู่ใช้เวลาอยุ่ด้วยกันมานานถึง 9 ปี เธอเล่าว่ามันป่วยด้วยสภาวะตับและไตล้มเหลว ซึ่งทำให้มันใช้ชีวิตอย่างทรมานมากๆ จนกระทั่งถึงขั้นสุดท้ายของการรักษา ครอบครัวของพวกเธอไม่อยากให้มันทรมานอีกต่อไป จึงตัดสินใจให้มันได้จากไปอย่างสงบ     ย้อนกลับไปตอนเริ่มแรก เธอขอร้องให้พ่อแม่ของเธอรับเลี้ยงมันจากสถานพักพิงแห่งหนึ่งตั้งแต่ตอนที่มันยังอายุเพียงแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น จนสุดท้ายมันโตเป็นสุนัขขนาด 60 กิโลกรัม จนกระทั่งมาถึงวันสุดท้ายของชีวิต เธออยากจะให้ทุกคนได้รับรู้ภาพความน่ารักของมัน ก็เลยทำการถ่ายภาพมันและเล่าเรื่องในโลกออนไลน์ “มันเป็นหมาขนาด 60 กิโลกรัมที่พวกเรารัก ฉันและมันเรียกได้ว่าโตมาด้วยกันเลยก็ว่าได้” เธอกล่าวถึงเจ้า Cash อย่างเอ็นดู   ในภาพชุดนี้จะเห็นได้ว่า เธอถ่ายทอดพฤติกรรมต่างๆ ที่มันชอบทำ อย่างเช่นมาแอบคอยกินอาหาร ชอบคุ้ยขยะ และถ่ายมันคู่กับของเล่นที่มันรัก รวมถึงคนที่รักมันที่สุดอย่างตัวเธอเอง…   มันมีนิสัยที่ชอบนอนมากๆ   จึงทำให้ที่บ้านมีที่นอนของมันเต็มไปหมดเลยล่ะ  …

เรื่องราวของ Envy และ Zain สองพี่น้องคู่หูที่ถูกช่วยเหลือมาไว้ที่บ้านของเจ้านายของมัน และดูเหมือนว่าทั้งคู่จะสนิทกันมาก ไม่ว่าจะทำอะไร จะไปที่ไหนก็ไปด้วยกันตลอด และพวกมันก็ชอบกอดกันมากๆ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามา เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องไปติดตามชมกันแล้วล่ะ…   เจ้านายของมันมักจะถ่ายรูปของพวกมันอยู่บ่อยๆ จนเกิดเป็นอินสตาแกรมส่วนตัวของทั้งคู่ขึ้นมา ด้วยสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งคู่ และความน่ารักที่จะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ทำให้อินสตาแกรมของพวกมันมีคนติดตามากกว่า 260,000 คนเลยทีเดียว     ทั้งเจ้า Zain และเจ้า Envy ล้วนแล้วแต่เป็นหมาที่ถ่ายรูปขึ้นแบบสุดๆ และไม่ได้มีเพียงแค่นั้นเจ้านายของมันยังสอนให้กอดกันขณะถ่ายรูปอีกด้วย     หลังจากนั้นไม่ว่าจะไปไหนจะทำอะไร พวกมันก็มักจะกอดกันอยู่เสมอ   มาแสดงความรักด้วยการกอดกันเถอะ ><   แต่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาคุณ Bove เจ้าของของสองคู่หูพี่น้องและสามีของเธอก็ได้ตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงเจ้าหมาตัวหนึ่งเข้ามาสู่ครอบครัว   ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้า Trek   “แม่ของเจ้า Trek ตายไปก่อนที่จะคลอดประมาณ 2 สัปดาห์ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องผ่าคลอดออกมา และดูแลเหล่าลูกหมาเป็นอย่างดีจนพวกมันสามารถรอดมาได้ทั้งหมด” คุณ Dove เล่า     เจ้า…

สำหรับหลายๆ คนคงจะคิดว่า ‘หมาตัวใหญ่’ นั้นเป็นอะไรที่ดูแล้วน่ากลัว เพราะด้วยความที่ตัวใหญ่ทำให้เรี่ยวแรงของมันมากตามไปด้วย หากเกิดมันอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาก็อาจทำให้เกิดอันตรายกับเราได้ แต่สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว อยากจะมาบอกเพื่อนๆ ว่าอย่าไปตัดสินความน่ากลัวของเจ้าหมาตัวใหญ่ด้วย ‘ขนาด’ ของมัน เพราะจริงๆ แล้วความตัวใหญ่ของมันก็มีประโยชน์มากมายก่ายกองด้วยเช่นกัน จะมีอะไรบ้างลองไปชมกันได้เลยจ้า…   1. หมาตัวใหญ่ๆ นั้นทำหน้าที่เป็นเตียงนอนที่นุ่มสบาย   2. แต่เอาจริงๆ มันเหมาะที่จะเป็นเตียงของหมาตัวที่เล็กกว่าน่ะ ฮร่าๆ   3. และทุกคนก็จะกลายเป็นเก้าอี้ที่แสนสบายให้กับพวกมัน   4. นอกจากนี้มันก็ยังเป็นผ้าห่มที่ดีเยี่ยมให้กับเราได้อีกด้วย   5. บางครั้งตัวของพวกมันก็ตัวใหญ่เกินขนาดเฟอร์นิเจอร์   6. อาจจะดูน่ากลัว แต่พวกมันก็เป็นยักษ์ที่แสนใจดี   7. ข้อดีของเจ้าหมาตัวใหญ่คือพวกมันสามารถกอดมนุษย์ได้ทีละสองคน!!   8. ส่วนใหญ่แล้วหมาตัวใหญ่ยักษ์กว่า 50% จะมีขนหนานุ่ม   9. ทำให้รู้สึกว่าเท่าเทียมกัน (ขนาดมือยังเท่ากันเลย)   10. และพวกมันก็เป็นเพื่อนกอดที่ยอดเยี่ยมที่สุด!!   11. เป็นองครักษ์คอยปกป้องลูกๆ…

วันนี้จะพาไปชมเรื่องราวที่แสนอบอุ่นจากเจ้าแมวที่ชื่อว่า Jasper และสุนัข Coco ผู้เป็นเพื่อนซี้กันมานาน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มีความพิเศษตรงที่เจ้า Coco นั้นเป็นสุนัขตาบอด นั่นหมายความว่าเจ้าเหมียวตัวนี้นอกจากจะเป็นเพื่อนที่ดีแล้ว มันยังเป็นดวงตาให้กับเจ้าสุนัขอีกด้วย ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน มันก็จะเดินตามไปตลอด   แต่แล้วก็ต้องมีเรื่องให้ต้องห่างกัน เพราะว่าเจ้านายต้องออกไปทำงาน เธอจึงเลือก Coco ให้ไปด้วย เพราะว่าจะได้ดูแลง่ายๆ ส่วนเจ้าเหมียว Jasper ก็ต้องอยู่กับลูกสาวที่บ้าน และกิจวัตรที่มันต้องทำทุกวันก็คือการมานั่งรอเพื่อนซี้กลับบ้านอยู่หน้าประตู   แบบนี้แหละ…   มันทำแบบนี้อยู่เป็นเดือน จนวันหนึ่ง เจ้านายได้พาเจ้า Coco กลับมาที่บ้าน เพื่อที่จะได้มาเจอเพื่อนซี้ที่จากกันมานาน เมื่อเจ้าหมามาถึงประตูหน้าบ้านแล้ว ดูเหมือน Jasper จะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่คุ้นหู และสิ่งที่เดินออกมาจากประตูก็คือเพื่อนหมาตาบอดที่จากมันไปนาน   ทันทีที่เห็น มันก็วิ่งเข้าไปหาอย่างร่าเริง พร้อมกับทักทายด้วยการดมกลิ่นกัน แล้วก็เดินตามกันไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่า Coco จะมองไม่เห็น แต่มันก็ยังได้กลิ่นเพื่อนของมันอยู่   ทั้งคู่ทั้งกอด ทั้งดม แล้วก็ไปเดินเล่นด้วยกันเหมือนวันเก่าๆ เราไปชมคลิปความประทับใจตอนทั้งสองได้มาเจอกันเลย   ตอนมันได้มาเจอกันอีกครั้ง เป็นอะไรที่ดูน่ารักอบอุ่นมากๆ เหมือนไม่ได้เจอกันนาน แล้วพอมาเจอกันอีกครั้งก็เขินกัน เป็นมิตรภาพที่บรรยายไม่ได้จริงๆ…

พ่อของ Sarah Lewis เลี้ยงแกะดอร์เปอร์ไว้ที่บ้านฝูงหนึ่ง จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ มีแพะตัวหนึ่งตั้งท้องและออกลูกมาสองตัว โชคร้ายตัวแม่กลับตายในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ลูกแกะทั้งสองจึงกลายเป็นเด็กกำพร้า แคว้งคว้างไร้ที่ยึดเหนี่ยว วันต่อมามีแกะอีกตัวออกลูกเช่นกัน แต่เจ้าแกะตัวนี้เมื่อคลอดลูกออกมาแล้ว มันกลับไม่สนใจลูก ปล่อยให้ลูกน้อยต้องอยู่เพียงลำพัง ทำให้ตอนนี้ครอบครัว Lewis มีลูกแกะ 3 ตัวที่กำลังต้องการความรักจากแม่ ขณะที่ครอบครัว Lewis กำลังไม่รู้จะทำอะไรนั้นเอง Beau สุนัขวัย 8 ขวบของที่บ้านก็เข้ามาช่วยเหลือ     “ลูกแกะทั้งสามตัวชอบเขามาก พวกมันพยายามตามเขาตลอดเวลา แรกๆ เขาดูจะรำคาญเหมือนกัน แต่ด้วยความใจดี ในที่สุดเขาก็กลายเป็นผู้ดูแลลูกแกะตัวน้อยในที่สุด”     “พวกมันจะอยู่รอบๆ ตัวเขาเสมอ และดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้า Beau ก็รักพวกมันมากขึ้นด้วย ฉันเห็นเขาพยายามทำความสะอาดหน้าให้กับลูกแกะทั้งหลาย เขากลายเป็นเหมือนพ่อบุญธรรมสำหรับพวกมัน”  Lewis กล่าว     ทุกวันนี้เจ้าแกะน้อยก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งโตเท่าไหร่ พวกมันก็ยิ่งขี้เล่นเท่านั้น พวกมันชอบวิ่งเล่นกับพ่อบุญธรรมของตนเอง แม้ครั้งหนึ่งพวกเขาจะเคยเป็นเด็กกำพร้ามาก่อน แต่ตอนนี้พวกมันมีครอบครัวของตนเองแล้ว     ขอเพียงพวกเขามีกันและกัน จะเรื่องอะไรก็ไม่หวั่นหรอกจริงมั้ย ^^…

โดยปกติแล้วสุนัขทั่วๆ ไปนั้นจะมีความชื่นชอบในการออกไปวิ่งเล่นในสนามเด็กเล่นซะมากกว่า แต่สำหรับเจ้า Rani สุนัขพันธุ์ Golden Retriever แล้วต้องขอบอกเลยว่ามันช่างเป็นหมาที่มีรสนิยมแปลกซะเหลือเกิน ก็เพราะว่ามันชื่นชอบ ‘การจับปลา’ เป็นชีวิตจิตใจ และมันไม่ได้เป็นแค่มือสมัครเล่นแบบธรรมดาๆ ทั่วไปนะ เพราะด้วยความเก่งกาจสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นมืออาชีพเลยทีเดียว     เจ้า Rani อาศัยอยู่ร่วมกับเจ้าของของมัน คุณ Patty Aguirre ในรัฐ Mississippi หลังจากที่เธอโพสต์คลิปวิดีโอขณะที่เจ้า Rani จับปลาลงบนโซเชียล ก็ทำให้มันมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก     คุณ Patty เล่าว่าเจ้า Rani นั้นเป็นหมาที่อยู่ในแก๊ง ‘Goldden Gang’ อันประกอบไปด้วยสมาชิกอีกสองตัวซึ่งก็คือเจ้า Shai และ เจ้า Finn พวกมันทั้งหมดถูกฝึกไว้เพื่อเป็น Service Dog (สุนัขที่คอยช่วยเหลือผู้พิการ)     โดยวิธีการในการจับปลาของมันก็ง่ายๆ ไม่มีอะไรเลย ยืนอยู่นิ่งๆ ในน้ำ คอยจ้องมองปลาที่ว่ายผ่านไปมา พอตัวไหนที่ว่ายเข้ามาในระยะทำการของ…

เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ต่อให้เรื่องมันแย่แค่ไหน… “รอยยิ้ม” ก็ทำให้เรื่องเหล่านั้นทุเลาลงได้ พบกับ Buffy  สุนัขวัย 13 ปี ที่ยิ้มตลอดเวลา ไม่ว่าจะเวลาไหนมันก็จะยิ้มอยู่เสมอ แถมมันยังเป็นขวัญใจของทุกคนในละแวกบ้านที่อ๊อกซฟอร์ดเชอร์ ในประเทศอังกฤษอีกด้วย Jill Cox เจ้าของได้เล่าว่า เธอพึ่งจะรู้ตัวว่าสุนัขของตัวเองสามารถยิ้มได้ก็เมื่อ 4 ปีที่แล้วแถมยังบอกอีกว่าสุนัขของเธอส่งยิ้มให้แทบจะตลอดเวลาเลย จนเธอมีรูปของมันมากเป็นพันๆ รูปเลยก็ว่าได้     เธอยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า “จริงๆ แล้วมันคงยิ้มามาตลอดเป็นเวลานานแล้วล่ะ เพียงแต่ว่าพวกเราไม่ได้สังเกตเท่านั่นเอง จนเมื่อฉันรู้เลยย้อนกลับไปดูรูปสมัยก่อน มันก็ยิ้มตั้งแต่ตอนนั้นแล้วจริงๆ” หลังจากภาพของเธอถูกเผยแพร่ออกไปทางอินเตอร์เน็ตก็มีคนจำนวนมากที่ชอบในรอยยิ้มของมัน แต่ว่าก็มีคนจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่คิดว่าภาพรอยยิ้มของมันถูกตัดต่อ ซึ่งพวกเขาก็พยามเรียกร้องให้ส่งภาพของมันเพื่อยืนยันในจุดนั้น หลายคนที่ได้เจอกับมัน ก็จะถ่ายรูปมันเก็บไว้ แถมบางครั้งมันก็จะถูกขอถ่ายเซลฟี่เพื่อใช้ในการให้กำลังใจกับใครสักคนอีกจะหาก      แต่ว่าจากที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่มักจะขอภาพของมัน เพื่อที่จะช่วยให้พวกเขากลับมายิ้มได้อีกครั้ง ในวันที่พวกเขารู้สึกแย่และต้องการกำลังใจจากใครสักคน แน่นอนว่าภาพของ Buffy ก็ช่วยพวกเขาได้มากๆ เลยล่ะ “บางคนก็บอกกับฉันว่ามันคงมีความผิดปกติอะไรที่หน้าของมัน แต่ฉันว่ามันคงจะยิ้มเพราะมีความสุขเหมือนกับที่คนทำนั้นและ”     สุดท้ายเธอก็บอกว่าเธอภูมิใจและดีใจมาก ที่มีมันเข้ามาอยู่ในครอบครัว เจ้า Buffy เปรียบเหมือนดั่งดาวดวงน้อยที่ส่องประกายตลอดเวลาให้กับครอบครัว   . .…

ในยุคนี้มักจะมีคนที่เลี้ยงสัตว์เพียงเพราะแฟชั่นหรือเพราะความอยากชั่วครู่ จนท้ายที่สุดก็ไม่ได้ดูแลดีเท่าที่ควร จนต้องนำมันไปปล่อยทิ้งหรือประกาศหาเจ้าของใหม่ ซึ่งนั่นก็เป็นชะตาเดียวกับเจ้าเหมียวพันธุ์สฟิงซ์ตัวนี้ที่ทั้งบาดเจ็บและถูกปล่อยทิ้ง Phoebe Gill ที่รับเลี้ยงเจ้าเหมียว Stitch มา ได้เล่าว่าเธอไปเจอรูปของมันที่กำลังประกาศหาคนรับเลี้ยงต่อ ซึ่งครั้งแรกที่เธอเห็นเธอก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าจะต้องรับเลี้ยงเจ้าเหมียวตัวนี้     แต่ว่าก็อย่างที่เห็น มันมีตาที่บาดเจ็บอยู่หนึ่งข้างนั่นเอง ตาข้างที่เจ็บเป็นแผลที่เรื้อรังมานานแล้ว ซึ่งเจ้าของเก่าของมันไม่แม้แต่จะพามันไปหาหมอเลยสักนิด จนสุดท้ายตาข้างที่เจ็บก็บอดและช่วยอะไรไม่ได้ หลังจากเธอรับอุปการะ เธอเลยพามันเพื่อไปผ่าตัดเอาตาที่บอดและเรื้อรังนั่นออก จนสุดท้ายมันก็กลับมามีสุขภาพที่ดีเหมือนเดิม พร้อมกับเข้ามาเป็นครอบครัวใหม่กับเธอ     แต่ว่าในตอนแรกเธอออกจะกลัวว่ามันจะไม่สามารถเข้ากับเจ้า Alaska หมาบูลเทอร์เรียเพศเมียที่เธอเลี้ยงไว้ก่อนหน้านี้ได้ เธอกังวลว่าเจ้าเหมียวจะกลัวหมาของเธอ หรือเลวร้ายกว่านั้นคือมันเข้ากันไม่ได้เลย และเจ้าหมาจะทำร้ายแมวเหมียว แต่เรื่องกลับผิดคาดเพราะมันทั้งคู่เข้ากันได้ดีมากๆ เลยล่ะแถมยังดูรักกันสุดๆ ห่างกันไม่ได้เลยทีเดียว…     ภาพของ Phoebe และ Stitch หลังจากผ่าตัดเสร็จ ดูมันสิหลับสบายเชียว   นอนหลับมีความสุขเชียวนะ   ตอนแรกเธอก็สงสัยว่าทั้งคู่จะไปด้วยกันได้ไหม   แต่ว่าปัญหานั้น ก็หมดไปหลังจากที่เห็นพวกมันเข้ากันได้ดีขนาดนี้ นี่คือหมากลายเป็นทาสแมวไปแล้วสินะ!?   ตัวติดกันตลอดเวลาเลยล่ะ   นอนด้วยกันไม่ห่างไปไหนเลย น่ารักจริงๆ เชียว…

ปกติแล้วพวกสัตว์เลี้ยงถ้ามีหน้าตาที่น่าเกลียด พวกมันมักจะถูกรังเกียจโดยเจ้าของเสียส่วนมาก และแน่นอนว่าเรื่องนี้มันก็เกิดขึ้นกับสุนัขตัวที่เรากำลังจะพูดถึงนี้เช่นกัน Bandit คือชื่อของเจ้าหมาพุดเดิลที่ดันเกิดออกมาหน้าตาแต่งต่างจากพุดเดิ้ลตัวอื่นๆ  มันเกิดในครอบครัวที่เป็นนักเพาะเลี้ยงสุนัขขายเป็นอาชีพ และด้วยความที่พิการมันเลยถูกทอดทิ้ง     โดยพวกเขาขาดหวังว่าเจ้าหมาตัวนี้มันจะโตขึ้นมาแล้วมีหน้าตาที่ปกติเหมือนกับตัวอื่นๆ แต่สุดท้ายเมื่อไม่เป็นแบบที่หวาดหวังไว้ พวกเขาก็ทำการเขี่ยมันทิ้งทันที เจ้า Bandit เป็นพุดเดิ้ลที่มีตัวเป็นสีขาวทั้งตัวเหมือนกับพุดเดิ้ลทั่วไป เพียงแต่าว่าส่วนหัวของมันปนเปไปด้วยสีขาวดำและเทา เหมือนกับว่ามันพรางหน้าของมันไว้เหมือนกับโจร ทำให้มันได้ชื่อ Bandit ที่แปลว่าโจรมานั่นเอง ซึ่งยังไงก็ตามดูเหมือนเจ้าของเก่าของมันจะอยากจะกำจัดมันออกไปจากบ้านของเธอให้ไวที่สุด โดยเธอได้โพสผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คว่า ใครก็ได้มาเอาเจ้าหมานี้ไปให้เร็วที่สุด   โชคดีของมันที่เวลาผ่านไปไม่นาน มีคนได้เห็นข้อความและส่งต่อไปให้ใครสักคนที่คิดว่าน่าจะช่วยมันได้ แน่นอนว่าเหมือนเจ้าของใหม่จะตกหลุมรักมันเข้าเต็มๆ ทำให้เธอรีบเดินทางมารับมันไปทันที ซึ่งเจ้าของใหม่ของมันมีชื่อว่า Stephanie Marinelli เธอได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ในตอนแรกที่ฉันเห็นข้อความเกี่ยวกับเจ้า Bandit ฉันก็รีบติดต่อกลับไปยังเจ้าของมันทันที โดยคำถามส่วนใหญ้่ที่ฉันถามก็จะเป็นสุขภาพของมันรวมถึงให้พวกเขาส่งรูปมาให้ดู” “เจ้าของเก่าของมันยังพูดอีกหมา หมาที่เธอเพาะเลี้ยงทุกตัวมีสีสันและรูปร่างที่สวยงาม สามารถทำเงินให้เธอได้มากกว่า 7,000 บาทต่อตัว แต่เจ้าตัวนี้มันมีหน้าตาที่หน้าเกลียดเขาเลยไล่ให้ฉันรีบมารับมันแล้วกลับไปให้ไวๆ ซะ”   .   ตอนแรกเมื่อเจ้าหมากลับมาถึงบ้านใหม่ของมัน มันก็ยังคงมีรอาการกล้ากลัวๆ อยู่บ้างแต่เมื่อมันเริ่มคุ้นชินมันก็กลายเป็นหมาที่ขี้เล่นและร่าเริงมากๆ แถม Stephanie ก็มีพุดเดิ้ลอยู่ก่อนหน้าแล้วหนึ่งตัวชื่อว่าเจ้า Gracie ซึ่งพอมีเจ้า Bandit มาอยู่ด้วยอีก ทั้งคู่ก็ดูจะกลายเป็นเพื่อนซี้กันทันที  …

สำหรับสุนัขไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหนก็ตามแต่ ถ้าหากมันถูกเลี้ยงด้วยความรัก และความเอาใจใส่จากมนุษย์ เชื่อมั้ยล่ะว่าคนที่เลี้ยงมันมาเปรียบได้กับโลกทั้งใบของมันเลยทีเดียว แม้ยามที่เราลำบากพวกมันก็พร้อมที่จะอยู่เป็นกำลังใจเคียงข้างเราเสมอ แต่ก่อนที่เรื่องราวมิตรภาพของทั้งสองจะเริ่มขึ้นได้ ก็ต้องมีวันแรกที่ทั้งคู่ได้เจอกันก่อน เราจะพาไปชม 17 ภาพแห่งควมน่ารัก ที่ส่งผ่านออกมาจากใบหน้า และแววตาของเจ้าตูบน้อย เมื่อพวกมันกำลังจะมีเพื่อนซี้เป็นมนุษย์ใจดี และอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวอันแสนสุข   1. ดูแววตาของเจ้าตัวน้อย ที่กำลังมองพ่อของมันสิ   2. บางทีพวกมันก็ปลื้มปิติซะจนหยุดยิ้มไม่ได้เลย   3. เจ้าตัวเล็กดูท่าทางจะควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นไว้ไม่อยู่นะเนี่ย   4. สำหรับเจ้าตัวนี้ การได้อยู่กับมนุษย์ผู้เป็นที่รัก คือความสุขที่สุดในโลกแล้วล่ะ   5. บางทีก็แอบมาจุ๊บกันตอนเผลอ ไม่ค่อยจะรักเราเท่าไหร่เล๊ยยย   6. ดูแววตา และใบหน้าของมันสิ เปี่ยมล้นไปด้วยความสุขสุดๆ   7. ‘ป๋มรักเจ้านายมากเลย เพราะเจ้านายมีขนหยิกๆ เหมือนกันเลย’   8. เมื่อเจ้าตัวเล็กได้กอดมนุษย์เป็นครั้งแรก   9. แข่งกันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยนะเจ้าหมาน้อย   10. เจ้าตัวนี้ท่าทางดูไม่ค่อยชินกับการนั่งรถ ถึงกับต้องไปอ้อนแม่เลยเหรอลูก   11. ไม่มีที่ไหนจะปลอดภัย…

อย่างที่ทราบกันดีว่าสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความรักและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของเป็นอย่างมาก และทุกๆ ครั้งที่เราจากบ้านไปนาน ไม่ว่าจะไปทำงานหรือว่าจะไปเที่ยว พอได้เจอกันอีกครั้ง พวกมันจะแสดงความดีใจเสมอ ไม่เชื่อลองไปชมสุนัขทั้ง 18 ตัวที่ #เหมียวอ๊อดโด้ นำมาให้ชมวันนี้สิ รับรองเพื่อนๆ เห็นแล้วจะรู้ทันทีเลยว่า มันคิดถึงเจ้าของของมันมากแค่ไหน   เย้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้านายกลับมาแล้ว!!   รอมาหลายชั่วโมงแล้วเนี่ย!!   นึกว่าจะไม่กลับมาแล้วซะอีก   คิดถึงจังเลย ไม่มีใครน่ารักเท่าเจ้านายอีกแล้ววว   มาให้กอดซะดีๆ เลย   มาเล่นกันเถอะๆ   เจ้านายกลับมาแล้ว บ้านจะต้องสนุกแน่ๆ เลย   ขอกระโดดใส่ซักหน่อยเถอะ คิดถึงจะแย่แล้ว!!   ไปเที่ยวกันเถอะ   แค่ได้เห็นหน้าเจ้านายอีกครั้ง ผมก็มีความสุขแล้ว   ดูสิ เจ้านายจริงๆ ด้วย!!   รู้มั้ยว่าผมคิดถึงเจ้านายขนาดไหน   วันนี้เล่นอะไรกันดีฮะ   นี่ตัวจริงใช่มั้ย ขอจับหน่อย   นี่ไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย  …

กลายเป็นเรื่องอันน่าประทับใจเลยทีเดียว หลังจากเจ้าหมาตัวหนึ่งคอยมอบความอบอุ่นให้กับเด็กน้อยที่ถูกทิ้ง ท่านกลางความหนาวเหน็บ จนเขาสามารถมีชีวิตรอดไปได้ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่เขต Altai ในประเทศ Russia เมื่อเด็กชายคนหนึ่งถูกแม่แท้ๆ ของตนเองปล่อยทิ้งไว้นอกบ้านจนเด็กชายคนนั้นต้องเผชิญกับอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียลเพียงลำพัง   พื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว…   โชคดีที่เจ้าสุนัขแสนรู้ของเขา บังเอิญเข้ามาเห็นพอดี มันจึงเข้ามาโอบกอดและคอยมอบความอบอุ่นให้กับเด็กชายคนนั้น     เด็กชายต้องทนทุกข์ทรมาณกว่าสองวัน จนเพื่อนบ้านสังเกตุเห็น เขาจึงช่วยออกไป ต้องขอบคุณเจ้าหมาน้อยตัวนั้น ไม่อย่างนั้น เด็กชายคงไม่สามารถรอดจากอุณหภูมิติดลบไปได้อย่างแน่นอน เพื่อนบ้านได้นำตัวเด็กชายคนดังกล่าวส่งโรงพยาบาล เขามีอาการอุณหภูมิในร่างกายลดลงผิดปกติ เพราะต้องอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวมาอย่างยาวนาน จนตอนนี้เขาก็ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล     ส่วนแม่ของเด็กคนดังกล่าว ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในเวลาต่อมา ด้วยข้อหาทารุณกรรมเด็ก และจะมีการสืบสวนและลงโทษในภายหลัง   โชคดีจริงๆ เลยที่มีเจ้าหมาตัวนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่รอดแน่ๆ ที่มา metro, siberiantimes

นี่คือเรื่องราวของ ‘Morgan’ สุนัขสายพันธุ์ดัชชุน ที่ตอนนี้มีอายุได้ 18 ปีแล้วล่ะ ในอดีตมันก็คือเจ้าตูบที่ได้อาศัยอยู่ในบ้านกับครอบครัวอันอบอุ่น ทว่าวันหนึ่งเมื่อเจ้านายมันจากโลกนี้ไป ทำให้มันต้องถูกย้ายมาอาศัยอยู่ที่มูลนิธิสัตว์เลี้ยง ในรัฐ ฟลอริด้าแทน เมื่อเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือ ได้ทราบว่าอายุของมันเริ่มแก่เต็มทีแล้ว พวกเขาจึงช่วยกันประสานงานกับองค์กร ‘Senior Paw Sanctuary’ โดยหวังว่ามันจะได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกตามความฝันของมัน   Morgan   หลังจากนั้นไม่นานนักเจ้าตูบเฒ่าก็ได้ย้ายไปอาศัยอยู่กับครอบครัวของ ‘Reidy’ ถึงแม้ว่ามอร์แกนจะเชื่องช้า และเอาเอาแต่หลับทั้งวัน แต่ก็ดูเหมือนว่าเวลาตื่นมันยังรักการผจญภัยอยู่เหมือนกันนะ ‘ฉันว่ามันต้องเป็นเหมือน Benjamin Button แน่เลยค่ะ เพราะนอกจากอายุจะเยอะแล้ว ความซนของมันก็เยอะตามตัวไปด้วย ไม่มีใครเชื่อด้วยซ้ำว่ามันอายุได้ 18 ปีแล้ว’   และด้วยนิสัยที่ขี้อ้อนของมัน เธอจึงจัดการพามันออกไปทำตามความฝัน ซึ่งอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตมันก็ว่าได้   มันได้ขึ้นเครื่องบิน   ได้ออกไปช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปฏิบัติหน้าที่   ได้ไปชมการแข่งขันเบสบอล   แถมยังได้เจอซานต้าอีกด้วย   บางทีก็ได้ออกไปซิ่งกับแก๊งค์ช็อปเปอร์สุดเฟี้ยว   เห็นแบบนี้มันได้ไปฝึกโยคะที่ริมชายหาดด้วยนะ   ‘มันชอบที่จะได้พบเจอผู้คนใหม่ๆ หรือได้กลิ่นอะไรใหม่ๆ…

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา  เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งจากเมืองโนโวฮอริซอนเต้ ประเทศบราซิล กำลังออกไปวิ่งช่วงเช้าเพื่อออกกำลังกาย ทันใดนั้นเอง เขาเห็นหมาของเพื่อนบ้านกำลังขุดคุ้ยกองขนะอยู่ ซึ่งตอนแรกเขาก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร เพราะมันเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว หลังจากเขาวิ่งเสร็จ เขาก็ย้อนกลับมาทางเดิม คราวนี้เขาถึงกับตกตะลึงเลยทีเดียว เพราะในปากของเจ้าหมาตัวนั้นไม่ได้คาบอาหารอยู่ แต่มันกลับคาบลูกหมาตัวน้อยเอาไว้!!     ตอนแรกเขาคิดว่ามันคาบซากลูกแมวออกมา แต่เมื่อดูดีๆ แล้วกลับเป็นลูกหมาตัวน้อย และที่สำคัญ มันยังมีชีวิตอยู่     เขาจึงนำเจ้าหมาน้อยตัวนี้ไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Marco Antonio Rodrigues ซึ่งคุณตำรวจเล่าว่า ตอนที่นำลูกหมาตัวน้อยไป เจ้าหมาตัวที่ช่วยมันออกมา มีท่าทีเศร้าหมองเป็นอย่างมาก     “เจ้าหมาตัวนี้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือลูกสุนัขตัวนี้ออกมา” Marco Antonio Rodrigues กล่าวมา     ด้วยความที่มันยังเด็กมากและต้องการนมแม่ ทางสถานดูแลสัตว์จึงประกาศหาแม่หมาที่สามารถให้นมมันได้ สุดท้ายลูกหมาตัวน้อยก็ได้ครอบครัวใหม่ และได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข     สุดยอดไปเลยเจ้าหมา ยินดีด้วยที่ลูกๆ รอดพ้นมาได้อย่างปลอดภัย ที่มา thedodo

เชื่อว่าหลายๆ คน เติบโตมาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงของตนเองตั้งแต่มันยังตัวเล็กๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราได้เฝ้ามองพวกมันเติบโตจากลูกหมาตัวน้อยๆ จนกลายเป็นเจ้าหมาตัวโตเต็มวัยอันแสนน่ารัก และเมื่อวันหนึ่งที่เราได้มองย้อนถึงเส้นทางการเติบโตของพวกมันแล้วล่ะก็ บางครั้งก็ทำให้พวกเรารู้สึกโชคดีจริงๆ ที่มีพวกมันอยู่ด้วย   เจ้าหมาตัวเดิมกับที่นั่งเดิมๆ   เพื่อนซี้ที่สุภาพตั้งแต่เล็กยันโต   หลายปีผ่านไป ตัวฟูขึ้นเยอะ   โตเป็นหนุ่มแล้วนะ   ไม่ว่าจะตอนไหน ก็ชอบผจญภัยเสมอ   แววตายังเหมือนเดิมเลยนะ   จากหมาน้อย ตอนนี้รู้วิธีที่จะอ้อนคนอื่นแล้ว   โตแล้วหน้าดุจริงๆ   ในที่สุดเขาก็มีหูที่ตั้งตรงซักที   เชื่อว่าคงไม่มีใครคิดว่าเขาจะฟูได้ขนาดนี้   อุ้มแทบไม่ไหวแล้ววว   บางทีก็ดูจะเกะกะไปนะ   ไม่ว่าจะตอนไหน ก็มีมุมฮาๆ มาให้ดูเสมอ   ในที่สุดก็ได้รู้ซักทีว่ามุมมองตรงนี้เป็นยังไง   จะอายุเท่าไหร่ โตแค่ไหนก็ไม่เลิกอ้อน   ท่านอนเหมือนเดิมเด๊ะ   อันนี้เหมือนไม่โตขึ้นเลย       ยิ่งอยู่ด้วยกันนานเท่าไหร่ มิตรภาพก็แย่งแน่นแฟ้นขึ้นเท่านั้น  …

เมื่อสามปีก่อน เจ้า Weezy ถูกเจ้าของเก่านำมาทิ้งไว้ที่สถานรับเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่ง ในรัฐแอลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดา ไม่มีใครรู้ว่ามันเผชิญกับเรื่องราวใดมาบ้าง แต่มันกลับมีอาการหวาดระแวงอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นคน ของเล่น หรือแม้กระทั่งแมลงวัน     หลังจากมันเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน ก็มีครอบครัวหนึ่งตัดสินใจรับมันไปเลี้ยง แต่เพียงแค่วันเดียว พวกเขาก็นำเจ้า Weezy กลับมาคืน เพราะว่ามันมีอาการหวาดระแวงและหวาดกลัวทุกสิ่งเกินไป     โชคดี ครอบครัวของ Sarah Mavro ได้ยินเรื่องราวของเจ้า Weezy จากบนอินเตอร์เน็ต เธอรู้ว่าเธอสามารถช่วยเหลือเจ้าหมาน้อยตัวนี้ได้ เธอจึงขับรถเป็นเวลากว่าสองชั่วโมง เพื่อมารับตัวมันไปจากสถานรับเลี้ยงสัตว์     และวิธีการที่ Sarah ใช้ในการรักษาอาการของเจ้า Weezy คือ “ความอดทน” “มันค่อนข้างจะขี้คลาดเลยล่ะ โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า มันจะเงียบกริบไม่ยอมส่งเสียงหรือทำอะไรซักอย่าง ครั้งหนึ่งมันเคยตกใจซากแมลงวันในกรงของตัวเองด้วยนะ” Sarah กล่าว     หลายปีผ่าน เจ้า Weezy ก็อาการดีขึ้นเรื่อยๆ มันชอบคลุกคลีกับสองสามีภรรยา Mavro และมันมีเพื่อนสนิทคือเจ้าเหมียวตัวนี้ ซึ่งมันเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่วันแรก แต่ถึงอย่างนั้น…

บนโลกของเรานั้นยังมีเรื่องราวน่ารักๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เรื่องราวของชายหนุ่มกับเจ้าหมาพิตบูลตัวนี้เองก็เช่นกัน…   คุณ Ernie Altamirano ตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงเจ้าหมาพิตบูลที่มีอาการป่วยและถูกวินิจฉัยว่าอาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน โดยคาดว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินวันครบรอบวันเกิด 3 ปีของมัน แต่ตอนนี้มันมีอายุ 4 ปีแล้ว และร่างกายก็ยังแข็งแรงดีอยู่     เจ้า Sassy เป็นสุนัขพันธุ์พิตบูลที่มีความพิการติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด มันมีเขี้ยวที่เล็ก และขนาดตัวเพียง 1 ใน 4 เมื่อเทียบกับพิตบูลตัวอื่นๆ     เท่านั้นยังไม่พอเจ้า Sassy ยังมีปัญหากับการเดิน นั่นเพราะว่าขาหน้าของมันงอหักขึ้นมาด้านหน้าคล้ายว่าเป็นเท้าของมัน ลิ้นของมันเองก็มีขนาดที่ใหญ่เกินไป ส่งผลถึงปัญหาเกี่ยวกับการหายใจที่ยากลำบาก “เวลาที่มันเดินนั้นจะเหมือนกับว่ามันส่ายสะโพกอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นเพราะโรคไขข้อเสื่อม สัตวแพทย์พยายามที่จะทำให้ขาของมันตรง แต่เพราะขาหน้าของมันที่งอยื่นออกมาข้างหน้าทำให้ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ มันจะใช้ขาที่งอขึ้นมานั้นเป็นเสมือนอุ้งเท้าในการเดิน ฉะนั้นการทำให้ขาของมันตรงนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะหากตั้งตรงแล้วจะทำให้มันต้องใช้ปลายกระดูกในการเดิน จนอาจทำให้สุขภาพของมันย่ำแย่ลงไปอีก เพราะอุ้งเท้าของมันนั้นไม่สามารถใช้งานทำอะไรได้เลย” คุณ Altamirano เล่า     ยังไม่หมดแค่นี้ เจ้า Sassy นั้นไม่สามารถเห่าได้เหมือนกับหมาทั่วๆ ไป เพราะกรรมวิธีในการรักษา แต่สำหรับคุณ Altamirano…

ตลอดช่วงชีวิตของเจ้า Suzie นั้นถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าแมวเหมียว เพราะที่บ้านเจ้านายของมันนั้นถูกใช้เป็นศูนย์ช่วยเหลือและบ้านอุปถัมป์เหล่าแมวเหมียวไปด้วยนั่นเอง!!     คุณ Kelly Hartman เจ้าของน้องหมา Suzie นั้นได้ทำการเปิดบ้านตัวเองเป็นสถานสงเคราะห์เพื่อให้ความช่วยเหลือหาบ้านใหม่แก่เหล่ามิ้วน้อย และเจ้า Suzie หมาวัย 7 ขวบครึ่งเองบางครั้งก็ช่วยเจ้านายของมันเป็นพี่เลี้ยงช่วยดูแลแมวเหมียวด้วย     “แมวแต่ละตัวจะมีความสุขและรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ที่นี่ เพราะเจ้า Suzie นั้นคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ราวกับเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเองเลย” คุณ Kelly เล่า แต่หลายๆ ครั้งหลังจากที่เหล่าแมวเหมียวทั้งหลายได้บ้านใหม่แล้ว เจ้า Suzie ก็จะมีอาการเหงาๆ มากกว่าปกติ ราวกับว่ามันไม่อยากให้เจ้าตัวเล็กที่เคยดูแลจากไปเลย คุณ Kelly ก็เลยตัดสินใจที่จะรับเจ้าเหมียวมาเลี้ยง 1 ตัว ชื่อว่า Kushi เป็นแมวเหมียวตาเดียวที่ถูกพามาไว้ที่สถานสงเคราะห์แห่งนี้เมื่อช่วงปีก่อน ตาของมันข้างที่บอดไปนั้นมีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรง จึงจำเป็นต้องสละทิ้งไป     เจ้า Kushi นั้นต้องอยู่รักษาตัวร่วมกับเจ้า Suzie จนมันหายดีและพร้อมที่กลับไปยังสถานสงเคราะห์เพื่อหาบ้านใหม่ แต่ทั้งคู่ต่างก็รู้ดีว่าได้ตกหลุมรักมันเข้าให้แล้ว จึงตัดสินใจที่จะให้มันอยู่ด้วยกันที่นี่ตลอดไปซะเลย…

ปกติเราก็จะเห็นภาพที่คุณผู้ชายทั้งหลายแสดงสีหน้าต่างๆเวลารอแฟนกันไปเยอะแล้ว ซึ่งภาพส่วนใหญ่ก็จะเป็นสีหน้าของเหล่าผู้ชายที่ต้องอดทนรอเหล่าแฟนสาว แน่นอนว่าความรู้สึกของการรอเนี่ยมันทรมานมากๆ เลยทีเดียวล่ะ (ฮ่าาาาาา) แน่นอนสำหรับเจ้าตูบก็เช่นกัน วันนี้เราเลยจะพาไปรู้จักกับแอคเคาน์อินสตาแกรมอันหนึ่ง ซึ่งทำการรวมภาพเจ้าหมากำลังรอคุณอยู่หน้าร้าน ในชื่อ saddogsoutsideshops ด้วยความที่ว่าร้านค้าส่วนมาก โดยเฉพาะร้านอาหารก็จะไม่ค่อยอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปเจ้าตูบพวกนี้จึงทำได้แค่รอข้างนอก เขาก็เลยตามถ่ายมาว่าเจ้าตูบพวกนี้มันจะทำหน้าอย่างไร!?   เจ้าโกลเด้นตัวนี้ดูหน้าตาละห้อยเลยทีเดียว ว่าแต่เจ้านายเมื่อไหร่จะกลับมากันนะ   เจ้าบีเกิ้ลตัวนี้คงคิดถึงเจ้าของมากๆ ถึงกับต้องชะโงกหัวเข้าไปดูในร้านเลย   เจ้าบลูด็อกผู้น่าสงสารได้แต่นั่งรอเจ้านายโดยมีเสาเป็นเพื่อน (เจ้านายนี้คนที่นั่งติดกระจกนั่นป่ะ?)   บางครั้งพวกมันก็อาจจะได้ตั้งสมาคมใหม่อยู่หน้าร้าน   ดูหน้ากับตาเจ้าหมาตัวนี้สิ สงสัยมันคงคิดถึงเจ้านายมากๆ   เจ้าตูบทั้งสองนี้คงรอมานานพอสมควรเยนะเนี่ย ดูตัวซ้ายสิตาละห้อยเชียว   เจ้านายเข้าไปนานจัง มืดแล้วเมื่อไหร่จะได้กลับบ้าน   สุดท้ายแล้วด้วยกฏของทางร้านค้าต่างๆที่ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้นั้นก็ยังเป็นข้อบังคับที่เลี่ยงไม่ได้อยู่ดีสำหรับเจ้าตูบพวกนี้ เพราะฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่าเจ้าหมาของตัวเองจะคิดถึงมากๆ ก็อย่าปล่อยมันทิ้งไว้นานนักล่ะ เดี๋ยวมันจะเหงาแย่นะ ฮ่าาาาาา!! ที่มา rocketnews24

ตอนแรกพ่อหนุ่มก็คิดว่ามันหลงทาง แต่พอได้เห็นแท็กป้ายที่ติดมาด้วยเท่านั้นแหละ ถึงกับต้องเอามาเล่าสู่กันฟัง… เรื่องราวน่ารักๆนี้เกิดขึ้นที่รัฐเคนทักกี ประเทศสหรัฐฯ เรื่องมันมีอยู่ว่าวันหนึ่ง ‘เทเลอร์ วิลสัน’ หนุ่มหล่อชาวอเมริกัน ได้เข้าไปเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง แล้วไปเจอกับเจ้าตูบพันธุ์ลาบราดอร์สีน้ำตาลอ่อนตัวหนึ่งเข้า เขาเห็นแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่า มันมีปลอกคออยู่แล้วแต่ทำไมถึงออกมาเดินเล่นโดยลำพังแบบนี้กันนะ?   พ่อหนุ่มวิลสัน ถ่ายรูปคู่กับเจ้าหมานักเดินทาง   หลังจากที่เขายืนสังเกต และครุ่นคิดอยู่ได้ไม่นาน เจ้าตูบตัวนี้ก็เดินเข้ามาหาทันที ราวกับมันต้องการขอความช่วยเหลือ ให้วิลสันช่วยพามันกลับคืนสู่อ้อมอกเจ้าของ   ทันใดนั้นวิลสันตัดสินใจที่จะช่วยพามันกลับบ้าน เขาได้ลองดูที่ปลอกคอของมัน เผื่อว่าจะมีที่อยู่ หรือข้อมูลติดต่อเจ้าของสุนัขตัวนี้ แต่เขาถึงกับต้องร้อง อ๋ออออ หลังจากที่ได้เห็นข้อความบนปลอกคอของมัน   “สวัสดีฮับผมชื่อดิว ผมไม่ได้หลงทาง ผมแค่ชอบที่จะออกมาเที่ยวนอกบ้านเฉยๆ แค่บอกให้ผมกลับบ้านก็ได้ฮับ” ข้อความบนปลอกคอ   หลังจากที่ได้เห็นแท็กป้ายแล้ว เขารู้ทันทีว่าเจ้าดิวต้องชื่นชอบที่จะออกมาเดินเล่นนอกบ้านมากแน่ๆ เจ้าของถึงกับต้องสลักข้อความนี้เอาไว้ แต่ก่อนที่เขาจะบอกให้เจ้าดิวกลับบ้าน พ่อหนุ่มวิลสันก็อดใจที่จะไม่เล่นกับมันไม่ได้ เขาเลยเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับมันซักหน่อย   “จริงๆผมเห็นมันมาหลายอาทิตย์แล้วล่ะบริเวณนี้ แต่ถึงแม้ตัวมันจะเปียกฝนไปบ้าง ยังไงมันก็ยังน่ารักอยู่ดี” วิลสันให้สัมภาษณ์   หลังจากนั้นวิลสันถึงได้รู้ว่า เจ้าดิวน่ะเป็นหมาเจ้าถิ่นประจำย่านนี้ ใครๆแถวนั้นก็ต่างรู้จักมันดี ทุกวันมันจะออกจากบ้านมาเดินเล่นทั่วทั้งบริเวณนั้น และเมื่อไหร่ที่มันสนุกจนพอใจแล้ว มันก็จะเดินกลับบ้านไปเองนั่นแหละ…

พวกเราต่างได้ยินและเป็นเชื่อกันมานานว่า หมาและแมว เนี่ยมันไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราส่วนใหญ่ก็เราก็ล้วนรู้อยู่แล้วว่ามันไม่จริงอย่างที่เขาว่ากัน หมากับแมวนั้นไปด้วยกันไปเสมอถ้าคุณไม่เชื่อละก็ลองดูข่าวนี้เสียก่อน   เรื่องราวถูกเปิดเผยผ่านทางแชแนลยูทูป Voodooman จากชื่อคลิปเป็นภาษารัสเซีย เรื่องนี้จึงสันนิษฐานได้ว่าเกิดในประเทศรัสเซียนั่นเอง เมื่อมีแมวลายขาวดำตกลงไปในแม่น้ำ แมวตัวนี้ก็เกิดอาการวิตกกังวลทันที (ใครจะไม่วิตกล่ะตัวเองกำลังจะจมน้ำนะ!!)   แต่ก็โชคดีสำหรับเจ้าแมวตัวนี้เพราะว่ามีหมาตัวนึงอยู่แถวนั้นพอดี ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าหมาตัวนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าจะต้องไปช่วยมัน   เจ้าหมากระโดดลงไปช่วยเจ้าแมวตัวนี้ จากนั้นก็ให้เจ้าเหมียวขึ้นขี่หลังทันที!! จากนั้นเจ้าหมาก็ว่ายมาถึงฝั่ง พร้อมกับพยายามปีนขึ้นมา   นั่นไง ถึงจะทุลักทุเลไปหน่อย แต่ก็ช่วยได้สำเร็จ   ถึงแม้ว่าในตอนจบเจ้าเหมียวจะขึ้นฝั่งอย่างทุลักทุเลแถมกระเด็นตกจากหลังของเจ้าหมา แต่สิ่งสำคัญก็คือเจ้าแมวนั้นรอดชีวิตอย่างปลอดภัย และหมากับแมวก็ไปด้วยกันได้อย่างแน่นอน     เอาล่ะ อย่างไรก็ตามแม้จะมีคนชื่นชมเรื่องความแสนรู้ของเจ้าหมาที่ช่วยแมวได้ แต่ก็ยังมีชาวเน็ตที่ตั้งข้อสงสัยเรื่องที่มาของคลิป และวิจารณ์ถึงความน่าสงสัยบางจุด ตัวอย่างคอมเม้นท์เช่น คุณ E Smith บอกว่าอาจจะเป็นคนถ่ายเองรึเปล่า ที่โยนแมวลงน้ำให้หมาไปช่วย   ส่วนคุณ javelin jav ก็บอกว่าพวกคุณนั้นและที่โยนเจ้าแมวลงไปเพื่อจะโชว์ให้เห็นว่าหมาของคุณตอบสนองคำสั่งที่คุณสอนมันได้   บ้างก็ว่าแมวนั้นว่ายน้ำเป็นเช่นกัน หรือบางก็คอมเม้นท์ในทางชื่นชมและตลกกับท่าทางของทั้งสองตัว อย่างเช่นคอมเม้นท์ของคุณ vobb nobb  ก็บอกว่าในตอนสุดท้ายแมวก็พยายามจะข่วนตาเจ้าหมาเหมือนที่หมาแมวปกติทำกัน   หรือของคุณ Mr. Toolsofrenewal ที่บอกว่าจริงๆแล้วแมวต่างหากที่บังคับให้หมามารับมันกลับฝั่ง   ไม่ว่ามันจะลงเอยอย่างไร แต่ก็อยากให้มองในแง่ดีว่าเขาอาจจะบังเอิญไปเจอแมวตกน้ำ…

ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคหรือกี่สมัย ก็มักจะมีความเชื่ออยู่เสมอว่า แมวต้องเกลียดหนู และหมาก็ต้องเกลียดแมวอีกที สำหรับแมวกับหนูนั้นพอจะเข้าใจกันอยู่ เพราะแมวเป็นสัตว์ที่มีความสงสัยและตอบสนองต่อสิ่งที่เคลื่อนไหวได้ไวเป็นพิเศษ แต่หมากับแมวล่ะ พวกมันเกลียดกันจริงๆ เหรอ!?   หมากับแมว คู่แค้นตลอดกาล!?   คำตอบที่แท้จริงคือ ‘ไม่’ เพราะที่จริงหมาและแมวไม่ได้เกลียดกันจริงๆ หรอกนะ สำหรับหมาและแมวส่วนมากนั้นเป็นความสัมพันธ์ทางด้านการเป็นนักล่าและการสื่อสารกันเสียมากกว่า เพราะแรกเริ่มเดิมทีสุนัขสายพันธุ์แรกๆ ที่ถูกนำมาเลี้ยงเป็นสุนัขบ้านนั้นยังติดนิสัยการไล่ล่าสัตว์ตัวเล็กอยู่   Dr. Jill Sackman ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลี้ยงกล่าวว่า ‘เมื่อสุนัขเห็นแมววิ่งหนีตัวเองไป สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของมันก็คือต้องไล่ตามเจ้าแมวนั้นไป ทำให้เกิดเป็นความกลัวของแมวต่อสุนัขในที่สุด’ ‘โดยเฉพาะสิ่งที่มีขนและสามารถวิ่งไปมาได้รวดเร็วนั้น จะดึงดูดความสนใจของสุนัขเป็นพิเศษ และนั่นเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ และอยู่ในยีนส์ของพวกมันเลยทีเดียว แต่เจ้าตูบที่ถูกเลี้ยงดูมากับแมวจะสามารถหักห้ามใจของพวกมันได้’   เป็นเรื่องเกี่ยวกับสัญชาตญาณของหมาและแมว   เพราะเมื่อเจ้าตูบถูกเลี้ยงดูขึ้นมากับเหล่าแมวเหมียว มันจะไม่รู้สึกว่าแมวเป็นเหยื่อของพวกมัน ‘การที่เลี้ยงดูเจ้าตูบกับแมวเหมียวภายในบ้านนั้นเป็นการสร้างสถานการณ์ที่จะไม่เป็นศัตรูและเหยื่อให้กับพวกมัน และจะไม่มีการไล่ล่าแมวเกิดขึ้น’ ศาสตราจารย์กล่าวต่อ แต่เหตุผลหนึ่งที่พวกมันเข้ากันไม่ค่อยได้ นั่นก็เป็นเพราะพวกมันเป็นสัตว์ที่มีลักษณะนิสัยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อย่างเช่นสุนัขจะชอบดมตูดกันเพื่อทักทาย แต่ถ้าสุนัขไปทำแบบนั้นกับแมวล่ะก็ แมวอาจจะเห็นว่าเป็นการขู่ และเข้าทำร้ายได้   เข้ากันได้ดีจะตายยยย!!   ‘เพราะที่จริงแล้ว โดยสัญชาตญาณนั้น พวกมันไม่ได้เกลียดกันหรอกนะ เรื่องของเรื่องก็คือการสื่อสารที่ไม่สามารถสื่อถึงกันได้ของพวกมันนี่แหละ’ ศาสตราจารย์กล่าวปิด เพราะฉะนั้นหากต้องการที่จะนำหมามาเลี้ยงกับแมว…

สัญชาติญาณความเป็นแม่ถือว่าเป็นสิ่งที่สถิตอย่างแรงกล้าในตัวสิ่งมีชีวิตหลายๆ ชนิด จนหลายๆ ครั้ง มันก็ทำให้เกิดเหตุการณ์อันไม่น่าเชื่อให้เกิดขึ้นจริงได้ อย่างเช่นเรื่องราวของเจ้าหมาพันธุ์เกรย์ฮาวด์ตัวนี้ เรื่องราวเกิดขึ้นที่คลีนิกสัตว์แห่งหนึ่งในเมืองเวล่า ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศสเปน เมื่อ Lianne Powell สังเกตเห็นสุนัขพันธุ์เกรย์ฮาวด์ตัวหนึ่งมาเดินวนเวียนอยู่หน้าบ้านของเธอ สภาพของมันดูผอมแห้ง แถมยังขาหักข้างหนึ่ง เธอจึงพามันไปยังคลีนิกสัตว์ที่อยู่ใกล้ๆ     เมื่อไปถึงคลีนิก สัตว์แพทย์ Ellen Sobry  สังเกตเห็นว่าเจ้าสุนัขตัวนี้มีร่องรอยการให้นม แสดงว่ามันมีลูกน้อยอยู่ไม่ไกลนี้ เธอและ Lianne ตัดสินใจออกตามหาลูกน้อยของมันทันที “ฉันเห็นขามันหัก มีรอยเลือดบนหลัง แถมเต้านมของมันยังมีน้ำนมอยู่เต็มไปหมดด้วย ฉันจึงสงสัยว่า แล้วลูกๆ ของมันล่ะหายไปไหน?” Ellen กล่าว     เธอให้เจ้าสุนัขตัวนี้เดินนำ และพวกเธอก็เดินตาม หลังจากเดินกว่า 4 กิโลเมตร ในที่สุดพวกเธอก็มาถึงรถที่ถูกทิ้งร้างคันหนึ่ง และเมื่อพวกเธอเข้าไปดูใกล้ๆ พวกเธอก็ต้องตกตะลึงเลยทีเดียว เพราะในรถคันนั้น มีลูกสุนัขเกิดใหม่กว่า 10 ตัว นอนรอความช่วยเหลืออยู่!!     “มันนำพวกเราไป ฉันแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็นเลยล่ะ เจ้าหมาตัวนี้แทบไม่รู้จักพวกเราด้วยซ้ำ เราเพิ่งเจอกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนี้เอง แต่มันกลับไว้ใจเราและพาเรามาหาลูกๆ ของมัน” Ellen กล่าว…

ใครที่เลี้ยงหมาไว้ที่บ้านคงรู้ดีว่า เมื่อไหร่ที่เราออกไปพักผ่อนต่างจังหวัด หรือไปเที่ยวต่างประเทศหลายๆวัน พอได้กลับมาเจอเพื่อนซี้สี่ขารู้ใจที่บ้านเมื่อไหร่ พวกมันก็มักจะออกอาการดีใจสุดๆ กับการกลับมาของเรา ราวกับว่าจากกันไปนานเป็นสิบปีได้ เช่นเดียวกับหนุ่มผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า ‘Edison Fontanilla’ เมื่อวันหยุดประจำปีมาถึง เขาและครอบครัวก็ได้เดินทางไปเที่ยวต่างเมือง ส่วนน้องหมาที่บ้านก็คงต้องปล่อยให้ญาติสนิทมิตรสหายมาช่วยดูแลไว้ก่อน แต่ด้วยความที่เขากลัวว่าเจ้าหมามันจะคิดถึงจนอยู่ไม่สุขใจ เลยพยายามคอลเฟซไทม์ไปหา ภาพที่ได้ออกมาเล่นเอาชาวเน็ตใจชื้นไปตามๆกันเลยล่ะ   ทวิตเตอร์ต้นฉบับของเจ้าตัว ที่นำเอาภาพของเจ้าหมายิ้มร่าจากทางบ้านมาให้ดูกัน   “เฮลโหล จำกันได้มั้ยเพื่อน!!” ตอนแรกดูเหมือนมันจะมีอาการงงเล็กน้อย   ซักแป๊ป เหมือนมันจะเริ่มรู้เรื่อง เอ๊ะ…!! นั่นใช่ลูกพี่เรามั้ยหว่า ทำไมมาแต่หัว ตัวก็ไม่มี แต่เสียงเหมือนเป๊ะเลย   แต่พอโชว์คนอื่นๆในครอบครัว มันก็ถึงกับร้องอ๋อทันที “เก๊าาจำได้แล้ว ทุกคนเป็นยังไงกันบ้าง โฮ่ง โฮ่งง”   ด้วยความคิดถึง เมื่อมันได้เจอหน้า และได้ยินเสียงของคนรัก มันก็อดไม่ไหวที่จะยิ้มแฉ่งออกมาแบบนี้ ช่างเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขจริงๆนะ   งานนี้เล่นเอาชาวเน็ตอิจฉาแรงไปตามๆกัน เราตามไปดูปฏิกริยาจากชาวเน็ตบนทวิตเตอร์กันบ้างดีกว่า…   “นี่เราต้องทำอะไรถึงจะได้เลี้ยงหมาแบบนี้บ้าง”   “ชวนให้นึกถึงหมาของฉัน และยิ่งทำให้รู้สึกว่าฉันไม่เหมาะจะเลี้ยงหมาเลย T_T”   “โอ๊ยยน่ารักเหลือเกิ๊นน รักหมาจริงอะไรจริง”…

เพราะการรับเอาเหล่าสัตว์มาเลี้ยงนั้น นอกจากเป็นการช่วยเหลือพวกมันแล้ว ยังเป็นการมอบโอกาสในการใช้ชีวิตอีกครั้งให้กับพวกมันอีกด้วย!!   วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มี 20 ภาพประทับใจของเหล่าสุนัขจรจัด ที่มีชีวิตน่าสงสารสุดๆ และเกือบเอาชีวิตตัวเองไม่รอดจนกระทั่งมีคนใจดัมาช่วยเหลือพวกมันไว้ รักษามัน มอบชีวิตใหม่ให้กับมัน จนมันกลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้ง   เจ้าหมาที่ถูกไฟคลอก จนมีคนใจดีไปเจอ นำมันมารักษาและมอบชีวิตใหม่ให้กับมันอีกครั้ง   เจ้าหมาตัวนี้ไม่มีอาหารกิน แต่หลังจากที่ได้รับการรักษา 7 สัปดาห์ มันก็เริ่มกลับมาสมบูรณ์ขึ้นอีกครั้ง   เจ้าหมาที่เคยถูกทิ้งให้อยู่สถานที่ทิ้งขยะมาตลอด   เจ้าหมาที่เคยถูกทิ้ง และถูกทำร้ายเสมอ ก่อนที่ภายหลังจะถูกรับเลี้ยงโดยคนใจดี   เจ้าหมาจรจัดที่เป็นโรคผิวหนังรุนแรง และไม่มีใครเคยจะเหลียวแลสักครั้ง   และอีกหลากหลายภาพที่ล้วนแต่มีเรื่องราวสุดประทับใจ มาชมกันต่อได้เลย…                               แต่ละภาพล้วนแต่บอกเล่าเรื่องราวสุดประทับใจทั้งนั้นเลยนะเนี่ย แค่คุณให้โอกาส พวกมันก็มีชีวิตใหม่ๆ ที่ดีแล้วล่ะ…

เรื่องราวความสัมพันธ์ของคู่ซี้ต่างสายพันธุ์ระหว่างเจ้าหมา Pitbull สุดโหด กับเหล่าหนูตะเภาสุดมุ้งมิ้ง ที่กลายเป็นเพื่อนรักกันแบบขนาดที่ว่าเจ้าของยังงง คุณ Kristy Gamayo เล่าว่าในตอนแรกนั้นเธอเลี้ยงเจ้าหนูตะเภาอยู่แล้วสองตัวชื่อว่าเจ้า Frida และ Pandora ก่อนที่จะรับเจ้าหมา Pitbull เข้ามาเลี้ยง ตั้งชื่อให้ว่า Moki  และเธอก็พยายามแยกเจ้าหมาไว้ให้ห่างจากหนูตะเภาทั้งสองตัวเพราะกลัวว่ามันจะถูกทำร้าย แต่สุดท้ายคุณ Kristy ก็ตัดสินใจที่จะพาพวกมันมาทำความรู้จักกันเพราะไหนๆ ก็อยู่บ้านหลังเดียวกันแล้ว และก็ต้องตกใจว่าแทนที่จะเป็นอย่างที่คิดไว้กลับกลายเป็นว่าพวกมันสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วจนน่าแปลกใจ   ในตอนแรกนั้นไม่มีใครรู้เลยว่าเจ้า Moki จะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อพบกันกับสองพี่น้องหนูตะเภา Frida กับ Pandora   แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าหนูสองพี่น้องดันได้พี่ใหญ่เพิ่มเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัวซะงั้น และทั้งสามตัวก็กลายเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่นั้นมา   คุณ Kristy เล่าว่า “ฉันมีความเข้าใจมาตลอดว่าสุนัขพันธุ์ Pitbull นั้นเป็นพันธุ์ที่ค่อนข้างจะใจแข็ง และไม่ยอมรับอะไรง่ายๆ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก”     จากที่เคยกลัวว่าเจ้า Moki จะทำร้ายสองพี่น้องหนูตะเภาจนถึงแก่ชีวิต แต่กลับกลายเป็นว่าเรื่องที่รุนแรงที่สุดที่มันทำก็คือเพียงแค่นอนหนุนเท่านั้นเอง   “เหล่าหนูๆ ทั้งหลายมักจะปีนขึ้นไปบนตัวของเจ้า Moki พร้อมกับดมๆ ด้อมๆ บนตัวของมัน…

เจ้าหมาตัวนี้ชื่อว่า Casey โดยเมื่อสองเดือนก่อน Carole Fossett เจ้าของ ได้นำมันไปฝากไว้ที่บ้านเพื่อนที่เมือง Spilsby, Lincolnshire ประเทศอังกฤษ ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากบ้านของเธอประมาณ 80 กิโลเมตร เนื่องจากช่วงนั้นเธอต้องย้ายบ้าน ทำให้ไม่สะดวกในการดูแลมัน     แต่หลังจากนั้นไม่นาน Carole ก็ต้องพบกับข่าวอันน่าเศร้า เมื่อเจ้า Casey หายออกไปจากบ้านเพื่อนของเธอและไม่กลับมาอีกเลย แม้จะตามหาอยู่นานนับสัปดาห์ แต่พวกเขาก็ล้มเหลว ในตอนนั้น Carole คิดว่าเธอคงไม่ได้เจอกับเจ้าหมาตัวนี้อีกแล้ว “ฉันไม่ได้ยินข่าวคราวของมันอีกเลย ตอนนั้นฉันคิดว่ามันคงตายแล้วแน่ๆ” Carole กล่าว     แต่ด้วยความผูกพัน เธอตัดสินใจพยายามตามหามันอีกครั้ง ด้วยการโพสเรื่องราวลงบนเฟสบุ๊ก โดยเธอหวังว่าจะมีใครซักคนพบเจอเจ้า Casey… อย่างน้อยๆ พบร่างของมันก็ยังดี หลังจากโพสลงไปไม่นาน เธอก็ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีหลายคนพบเห็นเจ้า Casey กำลังร่อนเร่อยู่บนถนน แต่ไม่มีใครสามารถจับมันได้ เพราะเมื่อพวกเขาพยายามเข้าใกล้ มันก็จะหนีตลอด     จนในที่สุดวันหนึ่งก็มีคนโทรเข้ามาบอกเธอว่า มีการพบเห็นเจ้า Casey อยู่ในลานจอดรถแห่งหนึ่งในเขตชุมชน Nottinghamshire เธอจึงรีบไปยังสถานที่แห่งนั้นในทันที หลังจากสองเดือนแห่งการพลัดพราก ในที่สุดพวกเขาทั้งสอง ก็ได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง…

Furkids Animal Rescue and Shelters คือหน่วยงานช่วยเหลือสัตว์ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2002 ใน Atlanta รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และตลอดระยะเวลากว่า 15 ปีที่ผ่านมา พวกเขาได้ช่วยเหลือเหล่าสัตว์เลี้ยงไปกว่า 20,000 ชีวิตเข้าไปแล้ว สำหรับตอนนี้ทางศูนย์ดูแลสัตว์แห่งนี้ก็มีน้องเหมียวราวๆ 500 ตัว และเจ้าตูบอีกเกือบ 40 ชีวิตที่กำลังหาบ้านใหม่อยู่ Paul Preston และเพื่อนๆ ของเขา เลยเกิดไอเดียขึ้นมาว่า ‘เราลองมาทำโฆษณาเชิญชวนผู้คนมารับสัตว์ไปเลี้ยงแบบ TV Direct กันเถอะ!!’   โดยวิดีโอของพวกเขานั้นนำเสนอออกมาในมุมมองที่น่ารักมากๆ   และถึงจะเป็นวิดีโอที่ทำออกมาแบบบ้านๆ ก็สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้มากมายเลยทีเดียวกับยอดวิวที่ปาเข้าไปเกือบ 1 ล้านแล้วล่ะ!!   คลิปโฆษณาหาบ้านให้น้องหมาน้องแมว   มีการบอกสรรพคุณแต่ละตัวด้วยนะจ๊ะ เช่น… Salt และ Pepper ชอบเดินตามผู้คนไปเรื่อยเปื่อย คอยดูแลคุณอยู่เสมอเพื่อดูว่าทุกๆ อย่างนั้นโอเคสำหรับคุณ มีนิสัยร่าเริง ชอบเล่นของเล่นที่เป็นหนูอย่างมาก   Little Jerry และ Peanut นั้นเข้ากันได้ดีและขาดกันไม่ได้…

ถ้าให้เลือกหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขที่มีคนเลี้ยงดูมากที่สุดในโลก เชื่อว่า “ดัชชุน” หรือ “หมาไส้กรอก” ต้องเป็นหนึ่งในชื่อแรกๆ ที่ทุกคนคิดถึงอย่างแน่นอน ด้วยนิสัยติ๊งๆ ต๊องๆ ขี้เล่น แถมกินจุ ทำให้เหล่ามันกลายเป็นที่รักของเหล่าคนทั่วโลก ไม่เชื่อลองไปชม 19 ภาพ “หมาไส้กรอก” ที่ #เหมียวอ๊อดโด้ รวบรวมมาให้ชม แล้วเพื่อนๆ จะรู้ทันทีว่า ยิ่งยาว ยิ่งน่ารัก ยิ่งดีต่อใจจริงๆ   ว่ากันว่าเวลาได้เห็นหมาไส้กรอก จะทำให้ทำงานได้ดีขึ้น   โดยเฉพาะหมาไส้กรอกที่สวมเน็กไทด์   หรือหมาไส้กรอกที่รู้จักแต่งตัว   และกล้าจะบอกให้โลกรู้ว่าพวกมันชอบอะไร   หมาไส้กรอกบางตัวก็ยาวอย่างน่าตกใจ   สันหลังยาวจริงๆ   ใครๆ ก็รักหมาไส้กรอก ขนาดคุ๊กกี้ยังออกมาหน้าตาเหมือนกันเลย   เท่ซะไม่มี   ดูก็รู้ว่ากร้านโลกขนาดไหน   แหม พอดีช่องเป๊ะ   ลองนึกภาพเจ้าดัชชุนที่แต่งตัวธีมเดียวกับคุณสิ มันจะน่ารักขนาดไหน   ลองมองพวกมันดีๆ สิ แล้วคุณจะต้องหลงรักพวกมันอย่างแน่นอน   น่ารักขนาดนี้…

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา Brenton Sutton ได้ยินเสียงคนเคาะประตูบ้าน ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นเพื่อนมาหา แต่เมื่อเปิดไป เขาพบกับชายติดอาวุธปิดหน้าปิดตาจำนวนประมาณ 3-4 คน เมื่อเห็นดังนั้น Roxy เจ้าหมาร็อตไวเลอร์ที่เขาเลี้ยงไว้ จึงเข้าไปขู่ในทันที     ด้วยความตกใจ หนึ่งในกลุ่มคนร้ายก็ได้ยิงปืนหนึ่งนัดใส่เจ้า Roxy จากนั้นก็วิ่งหนีไป ส่วน Sutton ได้พยายามวิ่งไปบ้านข้างๆ เพื่อยืมอาวุธเพื่อป้องกันตัวเองจากคนร้าย เมื่อเขากลับมา เขาพบว่าคนร้ายได้จากไปหมดแล้ว และเจ้า Roxy แม้จะไม่ถึงตาย แต่ก็ได้รับบาดเจ็บจากแผลถูกยิงและเสียเลือดเป็นจำนวนมาก เขาจึงรีบนำตัวมันส่งโรงพยาบาลในทันที     เมื่อถึงโรงพยาบาล สัตว์แพทย์ได้วินิจฉัยว่ากระสุนได้ทำลายเส้นเอ็นและกระดูกขาหน้าด้านขวาอย่างหนัก ทางเดียวที่มันจะมีชีวิตรอดได้คือต้องตัดขาข้างนั้นทิ้งเท่านั้น   หลังจากเข้ารับการผ่าตัดหลายชั่วโมง ในที่สุดเจ้า Roxy ก็ปลอดภัย แม้จะเสียขาไปข้างหนึ่งก็เถอะ   ดูเหมือนว่าเจ้า Roxy เองก็ไม่ได้เครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น และมันก็ยังรักพ่อของมันเหมือนเดิม “Roxy กำลังแสดงความเข้มแข็งออกมา ความเข้มแข็งที่ผมอยากมีให้ได้เหมือนกับเธอ”  Hutton กล่าว   ตอนนี้ Sutton กำลังเปิดแคมเปญรับบริจากค่ารักษาพยาบาลและกายภาพบำบัดให้กับเจ้า…

หลังขี้เกียจสันหลังยาว จากการได้หยุดยาวในช่วงปีใหม่มาหลายวันแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วล่ะที่ทุกคนต้องกลับมาทำงานกันต่อ เพื่อต้อนรอบปีใหม่ที่ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง และด้วยความที่เราไม่อยากให้ทุกคน รู้สึกเครียด หรือท้อแท้ ที่ต้องกลับมาทำงานอีกครั้ง เราเลยขอพาไปชม 21 มะหมาดาวเด่นแห่งวงการ ‘หมาน่ารักของโลก’ ที่เราตั้งกันขึ้นมาเอง เรียกได้ว่าเพิ่งจะต้นปี แต่พวกมันก็รีบสร้างวีรกรรมให้เรารู้สึกใจชื้นขึ้นมาได้อย่างไม่หยุดหย่อนเลยจริงๆ   1. เจ้าหมาที่ดีใจเหลือเกิน เมื่อเจ้าของหนุ่มของมัน กำลังจะได้แต่งงานกับเธอคนนี้   2. เจ้าหมาที่ดูสบายเหลือเกิน เมื่อมันได้หลับในโต๊ะทำงานข้างๆเจ้านาย   3. ทุกเช้าเมื่อตื่นขึ้นมา พวกมันมักจะคิดว่า ‘วันนี้เป็นวันดี’ อยู่เสมอ   4. เจ้าหมาน้อยอดใจรอไม่ไหวแล้ว จะได้เจอหน้าน้องของมัน ที่เป็นมนุษย์   5. และไม่ว่าเราจะป่วยแค่ไหน มันก็พร้อมจะให้กำลังใจเคียงข้างเราเสมอเช่นกัน   6. ถึงแม้ว่าเจ้าตัวนี้จะเป็นหมาหูหนวก แต่ทุกครั้งที่มันเห็นสัญลักษณ์ ‘เด็กดี’ จากเจ้าของ มันก็มีความสุขที่ซู๊ดดด   7. นี่ก็ดีใจสุดๆ ได้ของขวัญวันคริสต์มาส   8. เจ้าหมาที่รู้ตัวว่าควรจะโยนความผิดให้ใคร เอ้าาแบบนี้ก็ได้เหรอ? ฮ่าๆๆ…

กลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้คนทั้งโลกได้อบอุ่นหัวใจเลยทีเดียว สำหรับมิตรภาพและความรักที่มีให้กันระหว่างสุนัขสองตัว ที่แม้อีกตัวจะบาดเจ็บเคลื่อนไหวไม่ได้ แถมยังอยู่กลางรางรถไฟอันแสนอันตราย แต่อีกตัวก็ไม่ทิ้งไปไหน เรื่องราวเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Tseglovka ประเทศยูเครน เมื่อ Denis Malafeyev ได้ข่าวจากเพื่อนว่า มีสุนัขสองตัวนอนอยู่แถวๆ รางรถไฟในหมู่บ้าน Tseglovka มาสองวันแล้ว   เมื่อพวกเขาไปถึง ก็พบว่ามีสุนัขตัวเมียตัวหนึ่งได้รับบาดเจ็บ และนอนขยับไม่ได้อยู่บนรางรถไฟ ภายหลังทราบชื่อว่า “ลูซี่”   ข้างๆ ยังมีสุนัขตัวผู้อีกตัว “แพนด้า” คอยป้องกันไม่ให้คนแปลกหน้าหรือสัตว์อื่นๆ เข้าไปไกล้ลูซี่  พวกเขาเลยไม่สามารถช่วยมันออกมาได้ เพราะจะถูกเจ้าแพนด้าทำร้ายคนที่เข้าไปใกล้ตัวเมียของมัน ทันใดนั้นเอง Denis ก็ได้ยินเสียงรถไฟ เธอตกใจมาก เพราะคิดว่าเจ้าลูซี่คงไม่แคล้วคลาดจากอันตรายครั้งนี้แน่ๆ ในขณะที่ไม่มีใครคาดคิด เจ้าแพนด้าได้วิ่งเข้าไปหาลูซี่ แล้วพยายามกดหัวเจ้าลูซี่ลง สุดท้ายรถไฟก็ผ่านไป โดยที่ทั้งสองไม่ได้รับอันตรายแม้แต่นิดเดียว   คลิปที่พวกเขาบันทึกเอาไว้   ภาพจังหวะรถไฟวิ่งผ่าน   “เจ้าแพนด้าทำแบบนี้มาสองวันแล้ว และมันยังคอยมอบไออุ่นให้กับเจ้าลูซี่อีกด้วย ฉันไม่รู้ว่าเราเรียกสิ่งนี้ว่าอะไร อาจเป็นสัญชาตญาณหรืออาจเป็นความรัก” Denis กล่าว   เมื่อผ่านไปหลายวัน เจ้าหมาก็คงคิดได้ว่ามนุษย์พวกนี้จะมาช่วยชีวิตมัน มันก็เลยยอมให้เข้าไปใกล้ รวมถึงยอมให้คนช่วยออกมา ซึ่งพวกเขาก็เอามันขึ้นรถ ให้ความอบอุ่น และยังให้นอนใกล้กันเพื่อพวกมันจะได้รู้สึกสบายใจ สุดท้ายแล้ว เจ้าลูซี่ก็ไม่ได้บาดเจ็บหนักอะไร…