นี่เห็นอยู่นี้คือหน้าเว็บ CatDumb เวอร์ชันเก่า
-
20 ภาพการผสมผสานระหว่าง ‘การ์ตูน’ และ ‘โลกแห่งความจริง’ ผลงานจากศิลปินรัสเซีย
การ์ตูนและแอนิเมชั่นหลายเรื่องได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมจนเปรียบได้กับโลกอีกโลกหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยจินตนาการที่ไม่ต้องรับความเครียดและแรงกดดันเหมือนดั่งชีวิตจริง ผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนและแอนิเมชั่นมากๆ บางครั้งก็ไม่อยากให้มันเป็นเพียงโลกจำลองที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยทีมงาน แต่กลับอยากให้มันกลายเป็นโลกที่เราสัมผัสได้จริงๆ เลยต่างหาก ศิลปินรัสเซียนามว่า Vlad Kapichay จึงได้เนรมิตภาพจากแอนิเมชั่นและการ์ตูนหลายๆ เรื่องเข้ามารวมกับโลกแห่งความจริงได้อย่างลงตัวราวกับว่าทั้งสอง “คือโลกเดียวกัน” เลยทีเดียว ว่าแล้วก็ไปชมผลงานของเขากันเลยดีกว่า… #1 #2 #3 #4 #5 #6 #7 #8 #9 #10 #11 #12 #13 #14 #15 #16 #17 #18 #19 #20 เชื่อว่าแฟนๆ การ์ตูนและแอนิเมชั่นหลายๆ…
-
18 การกระทำสิ่งต่างๆ ในแบบที่ “ไม่เหมือนใคร” และให้ตายยังไงก็คงไม่มีใครอยากเหมือน!!
แน่นอนว่าพวกเราสามารถกำหนดการกระทำของตัวเองได้ แม้ว่าคนส่วนใหญ่อาจทำบางสิ่งบางอย่างไปในรูปแบบเดิมๆ ดูไม่ต่างอะไรกันมากนัก แต่จริงๆ เราอาจทำอะไรให้มันแตกต่างออกไปเหมือนอย่างคนเหล่านี้ก็ได้ ถึงอย่างนั้น แม้ว่าพวกเขาจะดูมีไอเดียแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครดี แต่ถามว่าอยากจะทำเหมือนพวกเขาใหม่ #เหมียวตะปู บอกได้เลยว่า “ไม่!!” ซึ่งเพื่อนๆ ก็คงต้องลองไปดูกันเอาเองนะว่าจะคิดเหมือนกันหรือเปล่า… การพายเรือคายัค การสัมภาษณ์ การใส่ใจในเรื่องความปลอดภัย การวิ่ง การนอนหลับ การตัดเค้ก การกินข้าวโพด การเล่นสไลเดอร์ การคาบลูกบอล การเล่นซ่อนแอบ การซ่อมไฟหน้ารถยนต์ การติดป้าย (เขียนว่า: ศูนย์พลเมืองอาวุโส) (อาวุโสจริงๆ) การใช้เก้าอี้ การถ่ายรูปครอบครัว การทำแซนด์วิช การป้องกันแสงแดด การจอดรถ การเติมน้ำมัน ที่มา: list25
-
ศิลปินวาด ‘เจ้าหญิงดิสนีย์’ ให้กลายเป็นตัวละครจาก “หนังสยองขวัญ” อำมหิตแบบน่ารัก…
ในโลกของวรรณกรรมสื่อบันเทิงไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือการ์ตูน มักจะมีตัวละครที่มีบุคลิกลักษณะอันน่าจดจำอยู่เสมอ บ้างก็อาจจะสดใสน่ารัก บ้างก็แข็งแกร่ง บ้างก็ชั่วร้ายจนน่าจดจำสุดๆ ไปเลยล่ะ เคยนึกกันหรือไม่ว่าหากเมื่อตัวละครสุดขาวสะอาดอย่างเช่น เจ้าหญิงดิสนีย์ หากเปลี่ยนบทบาทให้กลายเป็นตัวละครสายสยองขวัญสุดอำมหิตมันจะออกมาเป็นยังไงกันนะ วันนี้ศิลปินนามว่า Andrew Tarusov ได้ทำจินตนาการเหล่านั้นออกมาเป็นภาพวาด ลองไปชมกันเลยว่า เมื่อเจ้าหญิงดิสนีย์กลายเป็นตัวละครสุดสยอง มันจะออกมามีหน้าตาแบบที่เราคิดไว้หรือเปล่า!! 1. เมื่อ เจ้าหญิงแอเรียล กลายเป็น Pennywise จากเรื่อง It (เจอแบบนี้คงไม่กลัวแน่ๆ) 2. เมื่อ โพคาฮอนทัส กลายเป็น Carrie (แอบน่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย) 3. เมื่อ มู่หลาน กลายเป็น Jason จากเรื่อง The Friday 13th (อ้าว กลายเป็นเท่เฉยเลย!) 4. เมื่อ สโนว์ไวท์ กลายเป็น Billy The Puppet จากเรื่อง Saw (หลอนกันไปสิงานนี้) 5. เมื่อ ราพันเซล กลายเป็น Sadako Yamamura จากเรื่อง The…
-
ชาวบ้านเห็นเด็กน้อยขี่จักรยานตามแม่มาจอดที่เดิมทุกวัน เลยทำที่จอดรถส่วนตัวให้ซะเลย
ความใจดี แบ่งปันหรือความมีน้ำใจนั้นถือว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีอย่างหนึ่งของมนุษย์ ซึ่งสามารถทำให้โลกใบนี้ของเราน่าอยู่ขึ้นอีกมาก รวมถึงเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งความใจดีมีน้ำใจที่มนุษย์โลกมอบให้แก่กันจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในเมือง Wiesbaden ประเทศเยอรมนี เมื่อหนุ่มน้อยคนหนึ่งปั่นจักรยานตามคุณแม่มาจอดในที่เดิมทุกๆ วันเป็นเวลาปีกว่า จนชาวบ้านหรือผู้คนแถวนั้นจำได้ จึงได้จัดการทำที่ที่นั้นให้เป็นที่จอดเฉพาะจักรยานของหนุ่มน้อยซะเลย!! My son has parked his bike by this lamppost just about every day for the last year. This morning, this sticker had appeared. Absolutely made our day. People can be so brilliant. Thank you, whoever did it 😊 pic.twitter.com/rYC8jCTD5L — Christie Dietz…
-
ผู้ประกาศข่าวถูกแฟนคลับวง BTS จวก กล่าวไม่ให้เกียรติศิลปิน ‘ก็แค่บอยแบนด์เกาหลี’
ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับโลกกับกลุ่มบอยแบนด์ BTS จากประเทศเกาหลีใต้ ที่สามารถตีตลาดเพลงในกลุ่มประเทศตะวันตกได้ จนสามารถขึ้นชาร์ตบิลบอร์ด และล่าสุดก็ได้ร่วมทำงานกับสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติแล้ว โดยเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2018 กลุ่มบอยแบนด์ BTS ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยในสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หลังจากได้รับหน้าที่เป็นทูตสันถวไมตรี ร่วมแก้ไขปัญหาเยาวชนในระดับโลก การกล่าวปราศรัยในครั้งนี้ นำโดย คิม นัม-จุน หรือ อาร์เอ็ม หัวหน้าวง BTS ในหัวข้อแคมเปญ Love Myself ร่วมกับทาง Unicef โดยมีเป้าหมายเพื่อหยุดยั้งปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเยาวชนทั่วโลก จากการเลือกเส้นทางทำตามความฝันที่มีของเหล่าวัยรุ่น ทั้งนี้ในรายการข่าว World News Now ของสถานี ABC ผู้ประกาศข่าวชาย Kendis Gibson ได้รายงานในเรื่องดังกล่าว แต่กลับมีท่าทีไม่ให้เกียรติกับทางศิลปินเท่าที่ควร… เมื่อขึ้นสกูปข่าวขึ้นมานาย Kendis กล่าวว่า ‘แฟนคลับมักจะเห็นพวกเขายืนถ่างขาบนเวทีต่อหน้าฝูงชน’ และกล่าวถึงการเข้าพบกับองค์กรสหประชาชาติว่าเป็นอีกกลุ่มผู้ชมที่ต้องลดโทนลง (พูดแบบติดตลก) …
-
รวม 18 ภาพความแปลกประหลาด ที่เกิดขึ้นบนรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงลอนดอน
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นกับชีวิตของพวกเราได้เสมอ บางครั้งเรื่องราวที่ไม่คาดฝันที่ว่านี้อาจจะมาในรูปแบบของโชคดี โชคร้าย อุบัติเหตุ หรือแม้กระทั่งการได้พบเห็นสิ่งที่คุณไม่คิดว่าจะได้เห็นบนรถไฟฟ้าใต้ดิน แบบภาพเหล่านี้…. 1. ถ้าหากคุณกำลังจะไปปาร์ตี้พร้อมชุดแฟนซี การเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ 2. ก็มันเมื่อยขาอ่าาาา… 3. สังเกตที่จั๊กแร้ของเขาดีๆ ถ้าพี่คนนี้ไม่ใช่เจ้าของร้าน ก็อาจจะเป็นหัวขโมยแน่ๆ 4. ถ้าใจเราสงบ ทุกอย่างก็สงบ 5. แหม่… ชอบท่าหมาก็ไม่บอกนะ 6. หลับ 1 7. หลับ 2 8. หลับ 3 9. ส่วนสาวคนนี้ไม่ได้หลับ แต่อาจจะเพิ่งตื่น!! 10. ถ้าเจอกลางคืนต้องมีเหวอกันบ้างอ่ะ 11. การเอาตูดหนีบเสา ไม่ได้มีแค่ในบ้านเราเท่านั้น 12. ถึงคุณจะเป็นคนรักการออกกำลังกาย แต่ขอร้องหล่ะ อย่าทำแบบนี้เลยนะ!!…
-
ภาพปัจจุบัน 5 ศิลปินเด็กที่เคยเป็นไอดอลในดวงใจวัยรุ่นยุค 90/2000 วันนี้เป็นไงกันบ้าง!!?
สำหรับเด็กๆ ที่เติบโตมาในช่วงปลายยุค 90s และช่วงต้นของยุค 2000s นั้นแน่นอนว่าจะต้องมีศิลปินเด็กสักคนเป็นไอดอลอย่างแน่นอน เพราะสมัยนั้นเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของเหล่านักร้องวัยเยาว์เลยเชียวล่ะ ย้อนกลับไปในยุคนั้นไม่ว่าจะเพลงแนวสตริงหรือลูกทุ่งก็เรียกได้ว่าปั้นศิลปินเด็กมาดึงดูดผู้ฟังกันมากมายทีเดียว แต่น่าเสียดายที่ศิลปินเด็กบางคนก็จบเส้นทางศิลปินลงเพียงไม่กี่อัลบั้มและได้หายหน้าไปจากวงการ วันนี้เราจะพาทุกท่านย้อนกลับไปชม 5 ศิลปินเด็ก ผู้เคยโด่งดังสุดๆ ให้หายคิดถึงแล้วลองมาส่องดูกันหน่อยว่าปัจจุบันพวกเขาทำอะไรกันอยู่บ้าง… 1. อนัน อันวา เจ้าของผลงานเพลงดัง เช่น Ding Dong, ตะลึง และ คิกคาปู้ เป็นต้น ออกอัลบั้มแรกเมื่อปี พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) ปัจจุบันกลายเป็นนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมสุดเท่ นักออกแบบเสื้อผ้า และเป็นนักเต้นอีกด้วย . ที่มา: เฟซบุ๊ก Anan Anwar 2. นาตาลี สติเบิร์ท (หรือ นาตาลี มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์) เจ้าของผลงานเพลงดัง มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์ และ อาคันตุกะ ที่ติดหูเด็กๆ ทั้งประเทศ ออกอัลบั้มแรกเมื่อปี พ.ศ. 2544 (ค.ศ. 2001) ปัจจุบันนาตาลีเพิ่งกลับมาไทย เธอก็จะรับงานถ่ายแบบบ้าง…
-
โชว์หน้าไฟร้านอาหาร ‘Salt Bae’ เกิดผิดพลาด ลามเข้าใส่หน้าลูกค้า บาดแผลไหม้สาหัส!
เพิ่งจะเกิดเรื่องระดับชาติไปได้ไม่นาน หลังจากที่ Salt Bae หรือนาย Nusret Gökçe เจ้าของร้ายสเต๊กชื่อดังจากประเทศตุรกี โดนกระแสตีกลับจากชาวเน็ตคว่ำบาตรร้าน จากการต้อนรับประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ล่าสุดก็เกิดเรื่องจากโชว์ที่ทางร้านได้จัดแสดงให้ลูกค้าได้ชม ในขณะที่ลูกค้ากำลังนั่งรายล้อมบาร์ที่ลุกโชนไปด้วยไฟ และแล้วหนึ่งในพนักงานร้านได้ทำการเทของเหลวบางอย่างลงไปในนั้น จนเกิดเป็นอุบัติเหตุทำให้ลูกค้าได้รับบาดเจ็บ… คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในร้าน ลูกค้าหนีจ้าละหวั่น https://www.instagram.com/p/BoWvhMglXTo/ หนึ่งในนักท่องเที่ยวชาวเช็ก Krisryna Tresnakova ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟไหม้ หลังจากที่ชุดของเธอติดไฟระหว่างการแสดงโชว์ดังกล่าว พยานในเหตุการณ์เล่าถึงรายละเอียดที่ Krisryna และนาย Viktor Hajicek ได้อันตรายระหว่างการแสดง Krisryna เธอมีบาดแผลไหม้อย่างรุนแรง ส่วนทางด้านนาย Viktor นั้นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบนใบหน้าและร่างกาย สภาพของนาย Viktor Hajicek หลังเกิดเหตุ นักท่องเที่ยวชาวกรีก Alexandros Severıs และนักท่องเที่ยวชาวโอมาน Mohammed Khamıs ก็ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เช่นเดียวกัน โดยที่นาง Tresnakova ต้องได้รับการผ่าตัดศัลยกรรมเป็นการด่วน เพื่อรับการรักษาบาดแผลไฟไหม้ที่ลุกลาม และทางด้านพนักงานร้านที่จัดแสดงนี้…
-
ภาพน่าสลดใจ ‘ปลาฉลามหัวค้อน’ ถูกดักด้วยตะขอทุ่นลอยน้ำ แลกความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ตามแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของต่างประเทศ มักจะมีข่าวคราวเกี่ยวกับความอันตรายของฉลามที่อาศัยอยู่ในแต่ละพื้นที่ อย่างเช่นบริเวณเกรตแบร์ริเออร์รีฟ พืดหินปะการังที่ยาวที่สุดในโลกของประเทศออสเตรเลีย ทั้งนี้เริ่มเกิดเป็นข้อกังขาขึ้นมา หลังจากกระทำของมนุษย์ที่กล่าวว่าทำเพื่อปกป้องมนุษย์ด้วยกัน (นักท่องเที่ยว) กลับกำลังทำร้ายสัตว์ทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ในอีกไม่ช้า… โดยในช่วงที่ผ่านมา ปลาจำนวนหลายหมื่นชีวิตถูกดักด้วยตะขอยักษ์จากทุ่นลอยน้ำ ที่ตั้งอยู่ในเขตเกรตแบร์ริเออร์รีฟ แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลยอดนิยมของออสเตรเลีย เพื่อปกป้องชีวิตของนักว่ายน้ำและนักท่องเที่ยว และเรื่องราวดังกล่าวกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนและไร้ประสิทธิภาพ ปลาฉลามหัวค้อน ถูกดักด้วยทุ่นตะขอบริเวณเกาะ Magnetic Island ปลาฉลามจำนวนไม่ต่ำกว่า 10,400 ตัวถูกดักจับและฆ่ามาตั้งแต่ปี 2001 โดยสถิตินี้เป็นเพียงแค่ในออสเตรเลียเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นปลาฉลามที่ไม่มีอันตรายต่อมนุษย์ นักรณรงค์ด้านสวัสดิภาพสัตว์กล่าว นอกจากนี้ พวกเขายังปล่อยภาพของปลาฉลามที่ถูกดักด้วยทุ่นลอยน้ำ พร้อมกับจะทำการฟ้องรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลแนวปะการังเพื่อหยุดยั้งการกระทำดังกล่าวนี้ . ทางด้านนักรณรงค์กล่าวว่า มีจำนวนทุ่นดักปลาฉลามไม่ต่ำกว่า 200 ทุ่น ใช้วิธีการทอดสมอลงไปใต้ทะเล ติดตะขอยักษ์พร้อมกับเหยื่อล่อให้สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลมาติดกับดัก ไม่ว่าจะเป็นทั้งปลาทั่วไป ปลาฉลาม ปลากระเบน เต่าและโลมา จำนวนกว่า 10,000 ชีวิต ถูกฆ่าจากการดักจับด้วยทุ่นตะขอ ซึ่งถ้าหากเป็นปลาฉลามที่ยังไม่ตายจะถูกยิงให้ตายก่อนปลดจากตะขอ . ทั้งนี้…
-
เกมเมอร์นัดพบกันครั้งแรกหลังรู้จักมาหลายปี เพื่อให้กำลังใจเพื่อนที่ป่วยระยะสุดท้าย
“มิตรภาพ” ถือว่าเป็นความสัมพันธ์หรือความชอบซึ่งกันและกันระหว่างสิ่งมีชีวิต ซึ่งเราก็จะเห็นได้ทั่วไปไม่ว่าจะจากทั้งเพื่อน ครอบครัวหรือแม้กระทั่งคนแปลกหน้า และเรื่องราวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆในวันนี้ก็เป็นเรื่องราวของมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มเพื่อนเช่นกัน แต่มิตรภาพที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นผ่าน “หน้าจอ” คอมพิวเตอร์ เมื่อกลุ่มเพื่อนสนิทที่ร่วมเล่นเกมออนไลน์ด้วยกันตัดสินใจที่จะรวมตัวกันครั้งแรกตั้งแต่ที่รู้จักกันมาหลายปี เพื่อเข้าเยี่ยมเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่กำลังเผชิญกับโรคมะเร็งและร่วมให้กำลังให้เขาฝ่าฟันมันไปได้ โดยที่หนุ่มคนที่ป่วยนั้นชื่อว่า Joe หนุ่มอายุ 23 ปี เขาป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกที่พบเจอได้ยากหรือที่บางคนเรียกว่า Ewing’s Sarcoma และนั่นทำให้เขาเหลือเวลาอยู่อีกไม่มาก เมื่อเหล่าเพื่อนๆ 5 คนที่ร่วมเล่นเกมออนไลน์ด้วยกันมา 5 ปีได้ยินเรื่องอาการป่วยของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม พวกเขาก็ได้ตัดสินใจรวมตัวกันเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจกับ Joe David Miller หนึ่งในกลุ่มได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เราเล่นเกมด้วยกันตลอดเวลา ถึงแม้จะไม่ได้เล่นเกมเราก็ยังคุยกันเรื่องต่างๆ เสมอ “เรามีความคิดที่จะนัดเจอกันอยู่ตลอด แต่เราว่างไม่ค่อยตรงกันเลย แต่เมื่อรู้ว่ามีสมาชิกคนหนึ่งเหลือเวลาอีกไม่มาก เรารู้ทันทีว่าเราต้องนัดเจอกันแล้ว” และแม้ว่าจะไม่เคยเจอตัวจริงกันมาก่อนหน้านี้เลยก็ตาม แต่เพื่อนสนิทจากเกมออนไลน์ทั้ง 6 คนกลับพูดคุยกันได้อย่างไม่เขินอายแต่อย่างใด แถมยังมีสมาชิกกลุ่มบางคนดีใจถึงขั้นหลั่งน้ำตา หลังจากวันนั้น David Miller เด็กหนุ่มในกลุ่มก็ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของพวกเขาลงในเว็บ Reddit ว่า “สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ผมเจอกับเพื่อน 5 คนที่ผมไม่เคยเจอมาก่อนเลยแม้ว่าจะรู้จักพวกเขามาแล้วมากกว่า…
-
ลูกบ้านขึ้นป้ายโวย!! บ้านจัดสรรไร้คุณภาพ เหมือน “ซื้อมาซ่อม” เดือดร้อนกว่า 100 หลังคาเรือน
ผู้อาศัยของบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในย่านรามอินทรา กรุงเทพฯ จำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน ตัดสินใจติดป้ายแสดงความไม่พอใจกับทางเจ้าของโครงการ หลังซื้อบ้านอยู่ได้ไม่ถึงปีแต่กลับมีปัญหาสารพัดอย่าง จากป้ายนั้นเราจะเห็นว่าลูกบ้านทุกคนต่างมีปัญหาเดียวกันนั่นคือ “ความไร้คุณภาพ” ของบ้าน ซึ่งทำให้เกิดปัญหาหลังคารั่ว ผนังร้าว น้ำซึม ปลวกขึ้น เหมือนซื้อบ้านมาซ่อมยังไงยังงั้น บ้านจัดสรรในย่านรามอินมรา กม.8 ซอยคู้บอนเลียบวงแหวน ที่ได้รับความเดือดร้อน ผ่านไปจะเป็นปี ปัญหาเหล่านี้ยังคงไม่สามารถแก้ไขได้ ลูกบ้านทุกคนจึงตัดสินใจขึ้นป้ายเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากเจ้าของโครงการ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้มีผู้สื่อข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ผู้อยู่อาศัยหลายๆ คน ได้ความว่าก่อนหน้านี้พวกเขาเคยเข้าไปร้องเรียนพูดคุยกับทางโครงการแล้ว โดยทางโครงการก็เคยจัดส่งช่างมาซ่อมแซมปัญหาต่างๆ แต่กลับทำแบบผ่านๆ ขอไปที แก้ปัญหาไม่ตรงจุด สุดท้ายก็เงียบหายไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติม ทำให้ยังคงเกิดปัญหาซ้ำไปมา . นางสาวปภาวี ภู่งาม หนึ่งในลูกบ้านเล่าว่าตนเองตั้งใจซื้อบ้านเป็นเรือนหอ เข้ามาอาศัยหลังแต่งงาน แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ บ้านพังจนต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ส่วนหนึ่งด้วยว่าตัวเองเป็นโรคหอบ ภูมิแพ้ เธอจึงคาดหวังให้ทางโครงการเข้ามาแก้ไขปัญหา และซ่อมแซมให้ได้คุณภาพเหมือนอย่างที่โฆษณาเอาไว้ในตอนแรก เช่นเดียวกันกับอีกหลายๆ คนที่ก่อนจะซื้อบ้านของโครงการ พวกเขาได้เห็นโฆษณาที่น่าเชื่อถือ อ้างว่าใช้วัสดุที่ดีมีมาตรฐาน ทำเลดี (ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าผ่าน) แต่ไม่คิดว่าจะต้องเจอปัญหาแบบนี้ ลูกบ้านทุกคนจึงวอนขอให้ทางโครงการเร่งส่งวิศวกรมาซ่อมแซมให้ได้มาตรฐาน…
-
19 ภาพบรรยายเรื่องราว “สิ่งสวยงาม” ที่เกิดจากจิตใจของมนุษย์ สังคมที่ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป
เชื่อว่าเพื่อนๆ บางคนอาจเริ่มรู้สึกเหนื่อยกับการใช้ชีวิต ท้อแท้กับสิ่งที่ต้องเจอ บทบาทที่ต้องทำ หรือมองว่าทุกคนในสังคมนั้นเลวร้าย จ้องแต่จะทำร้ายกันอยู่เสมอ แต่แน่นอนว่าเราไม่อาจเหมารวมทุกอย่างว่ามันต้องแย่เสมอไปได้ เพราะ “สิ่งสวยงาม” ของจิตใจคนนั้น แท้จริงแล้วมันอาจอยู่รอบๆ ตัวเรามาตลอด โดยที่เราแค่อาจไม่เคยสังเกตกันมาก่อน นี่จึงเป็นเหมือนเรื่องราวตัวอย่างความสวยงามที่ว่านั้น และหวังว่ามันจะช่วยให้หลายๆ คนยิ้มออกมาได้นะ ซูเปอร์ฮีโร่เขาทักทายกันอยู่ เด็กคนนี้ได้อมยิ้มไป 2 อัน และเขาเลือกที่จะแบ่งมันให้กับช่างถ่ายภาพ ตำรวจจราจรในประเทศอินเดียช่วยป้อนอาหารให้กับคุณยายไร้บ้าน เพราะเธอไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะกินด้วยตัวเองได้ ชายผู้สละรองเท้าของเขาให้กับหญิงสาวที่ทำส้นสูงพัง ชายชราเกิดหัวใจวายในตอนที่กำลังเคลียร์ถนนหน้าบ้านของตัวเองอยู่ เมื่อกู้ภัยนำตัวไปส่งโรงพยาบาลแล้ว พวกเขาจึงกลับมาช่วยเคลียร์งานนั้นให้เสร็จสิ้น กำแพงสำหรับแขวนเสื้อผ้าที่เราต้องการบริจาคให้กับผู้ด้อยโอกาส ช่างตัดผมผู้ใช้เวลาทุกวันอาทิตย์ ออกเดินทางตัดผมให้กับคนไร้บ้านทั่วนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ชิงช้าสำหรับเด็กๆ ที่ต้องนั่งวีลแชร์ สุนัขตัวนี้เคยถูกทิ้งไว้ในบ้านที่เกิดเหตุไฟไหม้ ปัจจุบันมันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมนักดับเพลิงไปแล้ว นักดับเพลิงช่วยให้ออกซิเจนกับแมวที่รอดชีวิตมาได้ ผู้อพยพชาวซีเรียคนนี้ ทำอาหารแจกคนไร้บ้านในประเทศเยอรมนี ตอบแทนในสิ่งที่เขาได้รับ เด็กหนุ่มวัย 20 ปี ผู้ประดิษฐ์เครื่องซักผ้าเคลื่อนที่…
-
คุณแม่ปล่อยให้ “แฟนใหม่” ข่มขืนลูกสาววัย 10 ขวบจนตั้งครรภ์ สุดท้ายแม่เลยต้องติดคุกไปด้วย
นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในรัฐอินดีแอนา สหรัฐอเมริกา เมื่อคุณแม่วัย 33 ปี ปล่อยให้แฟนใหม่ของตัวเองมีเซ็กส์กับลูกสาววัย 10 ขวบของเธอ โดยที่ไม่ว่าอะไร อาศัยอยู่ร่วมกันไปเรื่อยๆ Nicholas Deon Thrash คือชายหนุ่มวัย 34 ปีที่ตัดสินใจคบหา อยู่กินกับคุณแม่ลูกติด (ไม่มีการเอ่ยชื่อแม่และลูกสาว) โดยจากการรายงานบอกว่าชายคนนี้ได้ทำการข่มขืนเด็กหญิงมาตั้งแต่ตอนที่เธอยังอายุแค่ 10 ขวบ เพื่อคุ้มครองเด็กหญิง การรายงานข่าวจึงไม่เปิดเผยชื่อแม่และชื่อเธอ การข่มขืนนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว จากการรายงานบอกว่าเด็กหญิงถูกข่มขืนซ้ำไปซ้ำมา และแม้ว่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับแม่ของเธอ แต่กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ เลย จนกระทั่งเด็กหญิงตั้งครรภ์และให้กำเนิดลูกชายตัวน้อยๆ ออกมาในปี 2017 ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 11 ขวบ เรื่องราวนี้จึงได้ถูกดำเนินคดีในที่สุด Thrash ผู้ก่อเหตุ คุณแม่ของเด็กหญิงยอมรับว่าเธอรู้ว่าแฟนใหม่ของตัวเองขืนใจลูกสาว แต่เธอกลับเลือกที่จะไม่ทำอะไรและอยู่กินกันมาจนถึงวันนี้ นอกจากนั้น เธอยังยอมรับอีกว่าเคยบอกให้ลูกสาวโกหกคนอื่นๆ ไปว่าท้องกับเพื่อนร่วมชั้น ในตอนที่เด็กหญิงต้องไปโรงเรียนสอนเต้น ทางด้าน Thrash ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ เขาได้โกหกต่อศาลว่าตนเองไม่เคยมีอะไรกับเด็กหญิงเลย แม้ฝ่ายเด็กหญิงจะบอกกับศาลด้วยความสั่นกลัวว่าเคยถูกชายคนนี้ขืนใจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 15…
-
“X Japan” โชว์สปิริตแสดงคอนเสิร์ตในฮอลล์ไร้คนดู หลัง “พายุจ่ามี” กระหน่ำเข้าญี่ปุ่น
X Japan ถือว่าเป็นวงร็อกในตำนานจากประเทศญี่ปุ่น ที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก เรียกได้ว่าช่วงยุค 90 นี่คงไม่มีใครไม่รู้จักวงนี้เป็นอย่างแน่แท้ และในวันที่ 28-30 กันยายน 2018 ที่ผ่านมาทาง X Japan ก็ได้มีคอนเสิร์ตครั้งใหญ่อย่าง X JAPAN LIVE IN JAPAN 2018 “Three Deep Red Nights” ขึ้นที่ฮอลล์ 1-3 Makuhari Messe จังหวัดจิบะประเทศญี่ปุ่น แต่เนื่องจากในขณะนั้นประเทศญี่ปุ่นได้ถูกพายุจ่ามีเข้ากระหน่ำ ทำให้การจราจรหรือคมนาคมหลายแห่งต้องหยุดชะงักจนแฟนๆ ไม่สามารถเดินทางมาชมได้ ทำให้พวกเขาตัดสินใจประกาศยกเลิกคอนเสิร์ตเพื่อความปลอดภัยและจะมีการแจ้งรายละเอียดคืนเงินในภายหลัง ซึ่งหลังจากที่ประกาศยกเลิกคอนเสิร์ตไปแล้ว แต่จากกำหนดการเดิมคอนเสิร์ตในวันสุดท้ายจะมีการถ่ายทอดทางช่อง WOWOW ทางวงจึงได้ตัดสินใจที่จะทำการแสดงตามกำหนดการเดิม “ในฮอลล์ที่ไม่มีผู้ชมแม้แต่คนเดียว” และเปลี่ยนมาถ่ายทอดสดใน Channel ของสมาชิกวงอย่าง YOSHIKI ผ่านทางเว็บ Nicovideo แทน และแม้ว่าในฮอลล์นั้นจะไร้ผู้ชมคอนเสิร์ตของพวกเขา แต่ X Japan ก็ยังโชว์สปิริตและแสดงอย่างสุดความสามารถ มีทั้งการเล่นกับมุมกล้องหรือโพสต์ท่าถ่ายภาพกับคนดูหลังจบการแสดง 悔しくて涙が止まらない。。でもみんなの身の安全が第一です。くれぐれも気をつけてご帰宅なさって下さい。 まもなく代替え案の発表を行う予定です。https://t.co/meprsQlfl1…
-
หญิงโร่ให้แบน ‘แมว’ กลางรายการทีวี ชี้เป็นสัตว์นักล่า ทำให้ประชากร ‘นก’ ลดลง!
สัตว์เลี้ยงยอดนิยมครองใจมนุษย์อย่าง ‘แมว’ ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นถกเถียงกลางรายการ This Morning ของอังกฤษ (โทนรายการเรื่องเล่าเช้านี้) โดยชี้ว่าเป็นภัยอันตรายต่อสัตว์ปีกที่อยู่ตามธรรมชาติ เป็นเหตุทำให้ประชากรนกลดลง… Sally Jones นักข่าวผู้มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ เธอได้กล่าวว่า ควรจะทำการสั่งห้ามไม่ให้เลี้ยงแมวเป็นสัตว์เลี้ยงในประเทศอังกฤษ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ควรให้แมวเลี้ยงอยู่แต่ภายในบ้านเท่านั้น Sally Jones ทั้งนี้ เธอได้หยิบยกสถิติที่นกได้กลายมาเป็นเหยื่อของสัตว์หน้าขน โดยเฉลี่ยแล้วนกจะถูกฆ่าโดยแมวที่เลี้ยงไว้ เป็นจำนวน 55 ล้านตัวต่อปีกันเลยทีเดียว เนื่องจากสัญชาตญาณนักล่าภายในตัวของแมว นอกเหนือจากนี้ Sally ยังยกตัวอย่างจากเมืองแห่งหนึ่งในนิวซีแลนด์ กล่าวว่าที่นั่นมีระบบจัดกลุ่มแมวให้อยู่ในประเภทสัตว์รบกวน เพราะพวกมันฆ่านกในท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก ทางด้านพิธีกรหญิง Holly Willoughby ผู้เป็นทาสแมวตัวยงอยู่แล้ว มีเจ้า Bluebell เลี้ยงอยู่ที่บ้าน เธอรู้สึกไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของนาง Sally เท่าไหร่นัก โดยเธอยกเหตุผลปกป้องแมวไว้ว่า มนุษย์มีความสัมพันธ์กับแมวในฐานะสัตว์เลี้ยง ผู้คนส่วนใหญ่เลี้ยงแมวเพื่อช่วยในเรื่องของความจรรโลงใจ ช่วยบรรเทาความวิตกกังวลได้ รวมไปถึงข้อดีที่ส่งพลังบวกด้านอื่นด้วย แต่แล้วก็ยังไม่จบประเด็นแบนแมวง่ายๆ นาง Sally ชี้ว่า…
-
สรุปข้อเท็จจริง จากข่าว CP ALL ชนะคดีก๊อปปี้ขนม “บานาน่า” ให้คุณเข้าใจแบบถูกต้อง
ตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมา เราน่าจะเคยเห็นบทความเกี่ยวกับ “ซีพี ออลล์” กับดราม่าเรื่องก็อปปี้สินค้าขนมบานาน่า จนเกิดดราม่าในโลกออนไลน์ เรื่องราวที่ดำเนินมาตลอด 3 ปี เหมือนจะได้ข้อยุติในปี 2561 นี้ ท่ามกลางข่าวที่ออกมาว่า “ซีพี ออลล์ ชนะคดี” แท้จริงแล้วคดีความดังกล่าวเกี่ยวข้องกับอะไร?? แล้วเรื่องทั้งหมดมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?? ทางแคทดั๊มบ์จึงอยากจะสรุปเนื้อหาเพื่อให้ผู้รับข่าวสารเกิดความเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ไม่ให้คลาดเคลื่อนไปตามกระแสสังคมอีก ไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ – ย้อนกลับไปในปี 2558 คุณชิน เขียนบทความในทำนองว่า บริษัทเป็นบริษัทใหญ่รังแกผู้ค้ารายย่อยที่เอาขนมไปขายในร้าน 7-Eleven ด้วยการคัดลอกสูตรไปทำเอง – บทความดังกล่าวกลายเป็นกระแสทันทีตั้งแต่วันแรกที่โพสต์ – ต่อมาบริษัทซีพี ออลล์ แจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทแก่คุณชิน ฐานทำให้ภาพลักษณ์บริษัทเสื่อมเสีย – คุณชิน ให้การสารภาพในชั้นศาลว่ารับข้อมูลมาจากนางสาว พ. อีกที แล้วเขียนลงไปโดยไม่ได้ตรวจสอบว่าจริงเท็จแค่ไหน – บริษัทซีพี ออลล์ ก็แสดงหลักฐานในชั้นศาลว่าไม่ได้มีการเอาเปรียบผู้ค้ารายย่อยตามที่เขียนไว้ในบทความ – คุณชิน จึงทำหนังสือขอโทษบริษัทซีพี ออลล์ต่อหน้าศาล –…
-
แฟนพันธุ์แท้คนรักรถ ตอบได้ไหมว่า พวงมาลัยทั้ง 5 ภาพนี้เป็นของรถรุ่นอะไร ยี่ห้ออะไร!?
พวงมาลัย ส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ เจ้าอุปกรณ์ที่ช่วยควบคุมรถนี้ ถือเป็นชิ้นส่วนของรถที่พวกเราคุ้นเคยกันแทบจะทุกคน บางคนจับมันบ่อยกว่าจับมือคนข้างๆ ซะอีก!! และถึงแม้ว่าบางคนจะคุ้นเคยกับเจ้าสิ่งนี้เป็นอย่างดี แต่เชื่อแน่ว่าน้อยคนนักที่จะรู้จักกับพวงมาลัยอย่างแท้จริง และคงจะมีบางคนเท่านั้นที่รู้ว่าพวงมาลัยทั้ง 5 ภาพนี้ มาจากรถยนต์ยี่ห้ออะไร และรุ่นอะไร เริ่มกันที่คันแรก บอกใบ้ให้สักนิด คันนี้เป็นรถอีโคคาร์ คันไหนเอ่ย!? 1. MG 3 2. McLaren P1 3. Suzuki Swift 4. Nissan March มาต่อคันที่ 2 เลย คำใบ้คือ: เป็นรถที่เหมาะสำหรับการใช้ในเมือง คันไหนเอ่ย!? 1. Honda City 2. Honda Jazz 3. Suzuki Ciaz 4. Nissan Almera คันที่ 3…
-
11 โฆษณาชวนเชื่อ ของสหรัฐฯ ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่โน้มน้าวคนได้เป็นอย่างดี
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งเป็นสงครามที่ชาวสหรัฐอเมริกาไม่ได้มีเหตุผลที่จะเข้าร่วมสงครามที่รุนแรงเหมือนกับสงครามโลกครั้งที่สอง ถึงอย่างนั้นก็ยังมีทหารมากมายที่ตัดสินใจเดินทางไปรบที่ยุโรปเป็นจำนวนมาก ว่ากันว่าหนึ่งในเหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเกิดจากการที่สหรัฐอเมริกามีการโฆษณาชวนเชื่อที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถโน้มน้าวใจคนจำนวนมากได้นั่นเอง ด้วยเหตุนี้เอง ในวันนี้เราจะไปชม 11 ภาพโฆษณาชวนเชื่อของสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งกัน ไปดูกันว่าโฆษณาที่โน้มน้าวใจคนให้เข้าร่วมสงครามได้นั้น มันเป็นอย่างไรกัน เริ่มกันจากโปสเตอร์ชื่อดังอย่าง “ฉันต้องการคุณ!! สำหรับกองทัพสหรัฐฯ” โดย James Montgomery Flagg “เดินไปสู่ที่ของคุณ” ภาพโฆษณาชวนเชื่อที่ออกมาในปี 1915 “ตื่นเถิดอเมริกา! อารยธรรมเรียกหาทุกคนไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง หรือเด็ก” จากปี 1917 โดย James Montgomery Flagg “เกณฑ์ทหาร / คุณอยู่ฝั่งไหนของหน้าต่างกัน?” จากปี 1917 โดย Laura Brey “คุณ!! ไปซื้อพันธบัตรเสรีภาพ ไม่งั้นฉันจะตาย” เมื่อปี 1917 โดย Charles Raymond Macauley “ช่วยกาชาด” โดย Herman Roeg…
-
หนุ่มโมโห กระทืบคุณยายวัย 87 จนกระดูกหัก เพียงเพราะเธอเตือนว่า “ระวังจักรยานพังนะ”
ข่าวต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง ว่ากันว่าจิตสำนึกและการมีสติ คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์อย่างพวกเราแตกต่างจากสัตว์เดรัจฉาน และแน่นอนว่าไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน หรืออยู่ในอารมณ์ที่โกรธมากแค่ไหน การความคุมตัวเองให้ดีก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย ภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดในย่านชุมชนแห่งหนึ่งในเมืองไห่หนิง มณฑลเจ้อเจียง ได้แสดงให้เห็นพฤติกรรมของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ใช้ความรุนแรงกับหญิงชรา เพียงเพราะเธอเตือนเขาว่า “ระวังจักรยานพัง” เท่านั้น!! จากรายงานระบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา โดยในขณะที่คุณยายจางวัย 87 ปีกำลังถือไม้เท้าเดินอยู่บนถนน เธอสังเกตเห็นหนุ่มรายหนึ่งกำลังจอดจักรยานข้างทางอย่างรุนแรง และด้วยความหวังดีจึงพูดเตือนออกไป แต่ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มคนดังกล่าวไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะรับคำแนะนำจากใคร หลังจากที่เขาได้ยินคำพูดที่หวังดีจากคุณยาย จึงได้วิ่งเข้าไปทำร้ายเธอด้วยความโกรธทันที ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภายในคลิปวิดีโอได้เผยให้เห็นว่า ชายหนุ่มปาสิ่งของบางอย่างใส่เธอ ก่อนที่จะวิ่งกระโดดถีบเธอ พร้อมกับเตะและใช้ไม้เท้ากระหน่ำตีไปที่คุณยายผู้เคราะห์ร้ายหลายครั้ง ก่อนที่จะมีพลเมืองดีเข้ามาห้าม อย่างไรก็ตามมีการเปิดเผยว่าเด็กหนุ่มคนดังกล่าวใช้แซ่ซ่าง อายุ 18 ปี และขณะนี้เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนอาการของคุณยายนั้นแพทย์พบว่าเธอมีกระดูกหักหลายแห่ง และขณะนี้กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกับต่อว่าการกระทำของเด็กหนุ่มแซ่ซ่าง และเรียกร้องให้มีการลงโทษเขา ที่มา China Xinhua News
-
9 อันดับแบรนด์รถยนต์ บริการหลังการขายดีที่สุดในไทย ประจำปี 2018 โดย J.D.Power
ถ้าหากว่าคุณเคยชมโฆษณาของรถกระบะยี่ห้อหนึ่ง ชื่อของบริษัทจัดอันดับความคิดเห็นของผู้บริโภคอย่าง J.D.Power อาจจะเคยผ่านหูของคุณมาบ้างอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากไม่คุ้นล่ะก็ #เหมียวเวจจี้ ก็อยากจะขอแนะนำให้รู้จักกับบริษัทนี้กันสักเล็กน้อย ก่อนที่จะไปชมข้อมูลการจัดอันดับที่น่าสนใจ ที่เรานำมาฝากกัน J.D.Power คือบริษัทสัญชาติอเมริกันที่ทำหน้าที่สำรวจข้อมูลทางการตลาด ซึ่งก่อตั้งโดยนาย James David Power III เมื่อปี 1968 โดยบริษัทดังกล่าวจะให้บริการข้อมูลที่น่าสนใจแก่ลูกค้าเพื่อประโยชน์ทางด้านการตลาด ไม่ว่าจะเป็นความพึงพอใจของลูกค้าต่อผลิตภัณฑ์ พฤติกรรมของผู้ซื้อ แต่สิ่งที่ทำให้ J.D.Power เป็นที่รู้จักก็คือข้อมูลเกี่ยวกับความพึงพอใจของลูกค้าต่อคุณภาพของรถยนต์และการให้บริการระยะยาวนั่นเอง James David Power III ผู้ก่อตั้ง อ่า… รู้จักกับ J.D.Power กันไปคร่าวๆ แล้ว ทีนี้ก็มาถึงโผการจัดอันดับที่น่าสนใจที่เรานำมาฝากกัน อย่าง 9 อันดับยี่ห้อรถในประเทศไทยที่มีบริการหลังการขายดีที่สุดประจำปี 2018 นั่นเอง!! โดยการประเมินครั้งนี้จัดอยู่ในหัวข้อ J.D. Power 2018 Thailand Customer Service Index (CSI) Study ซึ่งได้ทำการสำรวจความพึงพอใจจากเจ้าของรถยนต์จำนวน 2,658 ราย…
-
20 อันดับตัวละคร “หัวแดง” จากอนิเมะญี่ปุ่นที่แฟนๆ บอกว่า “มีเสน่ห์” มากที่สุด
แอนิเมชั่นญี่ปุ่นหรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “อนิเมะ” นี้ถือว่าเป็นสิ่งที่หลายๆ คนต้องเคยรับชมกันมาไม่มากก็น้อย โดยที่ในอนิเมะแต่ละเรื่องก็จะมีตัวละครอยู่หลากหลายรูปแบบไม่ว่าเพศหญิง เพศชาย หรือจะแฟนซีกว่านั้นอย่างปิศาจหรือเผ่าพันธุ์อื่นๆ รวมถึงสีผมที่แตกต่างกันหลายสี ในวันนี้เราเลยจะมาพูดถึงเรื่องสีผมของตัวละครกันบ้าง เมื่อเว็บไซต์ Charapedia ได้ทำการจัดอันดับตัวละคร “ผมแดง” ที่แฟนๆ กว่า 10,000 คน (แบ่งเป็นผู้ชาย 40.4% ผู้หญิง 49.6%) นั้นคิดว่ามีเสน่ห์มากที่สุด โดยเราจะนำ 20 อันดับแรกที่แฟนๆ นึกถึงเมื่อพูดถึงตัวละครหัวแดงมาให้ได้ชมกันครับ 20. Kamui (Gintama) 19. Riku Nanase (iDOLISH7) 18. Kurama (Yu Yu Hakusho) 17. Gaara (Naruto) 16. Morgiana (Magi) 15. Chise Hatori (The Ancient Magus…
-
16 ภาพสุดเสียดแทง ของเด็กๆ ที่ไปอยู่ใน “ด้านที่ไม่ดีเท่าไหร่” ของประวัติศาสตร์
ว่ากันว่าเด็กๆ ก็เหมือนผ้าขาวที่ผู้ใหญ่และสังคมจะแต่งเติมสีสันลงไปจนกลายเป็นตัวต้นของเขาในอนาคต นั่นทำให้เราสามารถเห็นเด็กๆ ถูกพาไปอยู่ได้ในทุกๆ ที่ที่พ่อแม่จะอยากให้ลูกเป็นในอนาคต จริงอยู่ที่ว่าโดยมากแล้วจะเป็นสถานที่ที่ดี แต่ในบางครั้งเด็กๆ ก็ถูกพาไปอยู่ในด้านที่ไม่ดีเท่าไหร่ของประวัติศาสตร์เช่นกัน เหมือนกับภาพเด็กๆ ต่อไปนี้ เด็กน้อยในชุด KKK (กลุ่มองค์กรเหยียดผิวของสหรัฐอเมริกา) ทักทายกับตำรวจที่เป็นคนผิวสี เด็กๆ ที่ถือป้ายประท้วงให้กับโบสถ์ Westboro ที่รังเกียจพวกรักร่วมเพศ เด็กชายผู้ถือป้ายเหยียดชนชาติในการประท้วงของ “กลุ่มน้ำชา” กลุ่มอนุรักษนิยมเชิงเสรีนิยมที่ต่อต้านโอบามา ทหารเด็กของนาซีเยอรมนีหลังจากยอมจำนนมีนาคม 1945 เด็กๆ ในการประท้วงต่อต้านการแต่งงานเพศเดียวกันของฝรั่งเศส เด็กๆ ที่เป็นพวกชุดดำ (Blackshirts) กองกำลังอาสาที่สนับสนุนระบบฟาสซิสต์ในอิตาลี เด็กๆ บนรถของฝ่ายต่อต้านการรวมกลุ่มทางเชื้อชาติ (ว่าง่ายๆ ก็เหยียดชนชาตินั่นล่ะ) เด็กๆ ถือป้ายประท้วงในการรวมตัวของกลุ่มน้ำชา เด็กๆ ที่ค่ายฝึกของ Sons of Confederate Veterans ชูธง KKK ฮิตเลอร์กับ Hitlerjugend กองกำลังเด็กแห่งนาซีเยอรมัน ทหารเด็กของเวียดกง …
-
มีจริงหรือไม่ “Starlite” เทคโนโลยีปริศนาที่อ้างว่าทนความร้อนได้กว่า 10,000 องศาเซลเซียส
ถ้ามีคนมาบอกเรื่องวัสดุประหลาดที่ทนความร้อนได้กว่า 10,000 องศาเซลเซียส ซึ่งเท่ากับว่าสามารถทนความร้อนของพื้นผิวดวงอาทิตย์ได้เพื่อนๆ จะเชื่อกันไหม เพราะนี่เป็นสรรพคุณของ Starlite พลาสติกพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นโดย Maurice Ward เมื่อปี 1986 นั่นเอง Starlite นั่นนอกจากจะถูกอ้างโดย Maurice Ward ว่าทนความร้อนได้กว่า 10,000 องศาเซลเซียสแล้ว เจ้าตัวยังบอกว่าพลาสติกชนิดนี้ยังสามารถป้องกันนิวเคลียร์ได้อีกด้วย เรื่องแบบนี้แน่นอนว่ายอมเป็นสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อเป็นธรรมดา และนอกจากสรรพคุณของ Starlite จะดูเกินจริงแบบสุดๆ แล้ว ตัว Maurice Ward เองยังไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์แต่เป็นเพียงช่างตัดผมด้วย ปัญหาคือเมื่อทางรายการ Tomorrow’s World ของ BBC ลองเอา Starlite ไปทดลองจริงๆ เมื่อปี 1990 พวกเขากลับพบว่า Starlite นั้นสามารถป้องกันไข่จากไฟที่มีอุณหภูมิสูงถึง 1,200 องศาเซลเซียสได้จริงๆ และไม่ใช่แค่ว่าที่เปลือกไข่จะไม่มีรอยไหม้เท่านั้น แต่ไข่ข้างในเองก็ยังมีสภาพดิบเหมือนไม่ได้โดนความร้อนเลยด้วย รายการ Tomorrow’s World ที่มีการทดลอง Starlite จากช่อง mauricewardstarlite หลังจากการทดลองที่ BBC จบลงสถาบันอาวุธปรมาณูของอังกฤษหรือ “AWE” ก็เชิญตัว Maurice Ward ไปทำเพื่อจัดแสดงความสามารถของ Starlite…
-
เปิดเรื่องราว “ทิทูบา” จากทาสอินเดียนแดงสู่ “แม่มดร้าย” ผู้ให้ความร่วมมือแห่งซาเลม
“คดีล่าแม่มดแห่งซาเลม” ว่ากันว่าเป็นการล่าแม่มดที่มีชื่อเสียงที่สุดของสหรัฐฯ ในอดีต โดยเป็นการกล่าวหาเด็กๆ ในหมู่บ้านว่าถูกปีศาจสิง และเหล่าผู้หญิงในหมู่บ้านเป็นแม่มด (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เปิด “คดีล่าแม่มดแห่งซาเลม” ตัวอย่างความเลวร้ายจากความเชื่อและการกล่าวหาผู้อื่น) แต่เพื่อนๆ รู้กันหรือไม่ว่าในบรรดาคนในหมู่บ้านที่โดนจับไปขัง ไม่ก็โดนประหารไปนั้น ยังมีทาสคนหนึ่งที่สามารถปลดปล่อยตัวเองจากการเป็นทาส โดยอาศัยการล่าแม่มดที่ไม่เป็นธรรมครั้งนี้อยู่ด้วย ชื่อของเธอคือ “ทิทูบา” หญิงสาวสายเลือดอินเดียนแดงที่เดินทางมายังบอสตัน ในฐานะทาสของ ซามูเอล ฟาริส นักธุรกิจที่ร่ำรวยและรัฐมนตรีของซาเลม เมื่อปี 1680 ทิทูบา รับหน้าที่ดูแลลูกสาววัยเก้าขวบของซามูเอลที่ชื่อ อลิซาเบธ แพร์ริส หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เบ็ตตี้” หนึ่งในสองเด็กสาวที่เป็นจุดเริ่มต้นของคดีล่าแม่มดแห่งซาเลมนั่นเอง เรื่องราวมันเกิดขึ้นในปี 1692 ในตอนที่เด็กๆ ในหมู่บ้านซึ่งเป็นเพื่อนของเบ็ตตี้ได้กล่าวหาว่าเธอและหญิงสาวอีกสามคนเป็นแม่มด โดยอ้างว่าเธออบ “เค้กแม่มด” ให้เบ็ตตี้ทาน แต่แทนที่จะเอาความเจ็บแค้นไปลงกับเด็กๆ ทิทูบากลับมองเห็นการกล่าวหาในครั้งนี้ว่าเป็นโอกาส ทำให้ในบรรดาผู้หญิงที่โดนสอบสวน มีเพียงทิทูบาเท่านั้นมียอมรับว่าตัวเองเป็นแม่มด “มีปีศาจมาหาฉันและความคุมให้ฉันทำงานให้” หญิงสาวกล่าว ก่อนที่จะเล่าเรื่องราวที่สมจริงมากจนทุกคนเชื่อจริงๆ ว่าเธอเป็นแม่มด โดยอ้างว่าถ้าเธอไม่ทำตามที่ปีศาจ (ที่เป็นชายผมขาว) สั่งเธอจะต้องตาย หญิงสาวถึงกับอ้างชื่อของผู้ถูกกล่าวหาที่เหลือด้วย โดยบอกว่าเธอนั้นมี “หนังสือ” ที่ระบุชื่อของคนที่ร่วมมือกับปีศาจอยู่ จนชาวบ้านหวาดกลัวเป็นอย่างมากและถามหาแม่มดคนอื่นๆ…
-
สัตวแพทย์สารภาพ แอบขนเฮโรอีนเหลวด้วยการยัดใส่ ‘ช่องท้องสุนัข’ ลูกขุนสั่งติดคุกยาว!!
เพราะด้วย ‘ยาเสพติด’ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย จึงทำให้เหล่าพ่อค้ายาต้องสรรหาวิธีใหม่ๆ ในการขนยาอยู่เสมออย่างที่เราเห็นเป็นข่าวอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการยัดยาใส่ช่องคลอด ซ่อนตามชิ้นส่วนรถหรืออะไรอีกต่างๆ นานา แต่ว่าในกรณีของนักขนยาคนนี้คุณเคยไม่เคยได้ยินที่ไหนเป็นแน่ เพราะว่าเขาใช้ตัว ‘สุนัข’ เป็นเครื่องมือสำหรับการส่งยา!? เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นาย Andres Lopez Elorez ผู้ต้องหาวัย 39 ปี ถูกส่งตัวจากประเทศสเปน ซึ่งเป็นประเทศที่เขาอยู่มาตลอด 12 ปี มายังประเทศสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เขาเป็นผู้ต้องหาในข้อหาลักลอบนำเข้ายาเสพติดมายังประเทศสหรัฐฯ และในที่สุดแล้ววันศุกร์ที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา เขาก็ให้การรับสารภาพถึงความผิดทั้งหมดกับทางคณะลูกขุนในนครนิวยอร์ก Elorez ชายชาวเวเนซุเอล่า กล่าวว่าเหตุการณ์การขนยาของเขาเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยยังเป็นนักศึกษาสัตวแพทย์อยู่… “ผมร่วมมือกับสัตวแพทย์มืออาชีพอีกคนหนึ่งลักลอบขนเฮโรอีนเหลวเข้ามาในสหรัฐฯ และวิธีที่ผมใช้ก็คือการผ่าตัดยัดมันเข้าใส่ในตัวของสุนัข” Elorez กล่าวสารภาพ ทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่า Elorez กับคู่หูของเขาได้ลักลอบนำเฮโรอีนเหลวเข้าสหรัฐฯ ด้วยวิธีอันหลากหลาย และหนึ่งในนั้นก็คือการยัดเฮโรอีนเหลวห่อพลาสติก ยัดใส่ท้องของสุนัขตามที่เขาสารภาพด้วย สำหรับวิธีการผ่าตัดของเขานั้นก็ง่ายๆ เพียงแค่ผ่าตัดเปิดช่องท้องของสุนัขและก็ยัดห่อเฮโรอีนเหลวเข้าไป จากนั้นเย็บปิดแล้วจึงส่งจากประเทศโคลอมเบียไปยังประเทศสหรัฐฯ โดยหลังจากถึงที่หมายแล้วสุนัขเหล่านั้นก็จะถูกผ่าตัดเปิดช่องท้องอีกครั้งเพื่อเอายาออก ทั้งนี้ก็มีรายงานว่ามีสุนัขหลายตัวต้องตายด้วยสาเหตุการติดเชื้อจากแผลการผ่าตัด… เหตุการณ์อันน่าสยดสยองนี้เกิดขึ้นระหว่างเดือนกันยายนปี…
-
ต้นเพื่อนรัก!! เมื่อต้นไปเที่ยวไม่ได้เพราะเมียไม่ให้มา ชาวแก๊งเลยทำสแตนดี้เป็นตัวแทน ฮาครืน…
สำหรับชายใดที่มีครอบครัวหรือผู้ปกครอง (ศรีภรรยา) แล้ว ก็อาจจะเป็นอันรู้กันดีว่าบางครั้งอาจต้องอดไปสังสรรค์เที่ยวสนุกกับหมู่เพื่อนเพราะถูกผู้ปกครองสั่งห้าม งานนี้ก็เลยกลายเป็นที่น่าเสียดายของเพื่อนๆ ที่จะไปเที่ยวครบแก๊งซะทีกลับพลาดไปได้… แต่ว่าด้วยความรักเพื่อนนี้เอง เลยทำให้มีเรื่องสุดฮาบังเกิดขึ้นจนกลายเป็นกระแสไวรัลในตอนนี้!! ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Werawat Chomput ได้แชร์เรื่องสุดฮาที่ว่านี้ ซึ่งก็คือการที่เขาไปเที่ยวทะเลกับชาวแก๊ง แต่ว่าหนุ่มนามว่า ‘ต้น’ กลับไม่ได้มาด้วยเพราะสาเหตุตามแคปชั่นว่า… “ถึงเมียจะไม่ให้มึงมา แต่พวกกูก็จะพามึงมาเที่ยวให้ได้ สนุกเกินคนอื่นเลยนะมึงเนี่ย…. #ต้นเพื่อนรัก” ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะงงว่าในเมื่อต้นมาเที่ยวกับเพื่อนๆ ไม่ได้เพราะเมียสั่งห้าม แล้วกลุ่มเพื่อนนี้จะพาไปเที่ยวได้เยี่ยงไร ถ้าอย่างงั้นไปดูเองด้วยสายตาดีกว่าว่าพวกเขาทำได้ยังไงกัน… ว่าไงต้นเพื่อนรัก ว่ายน้ำไม่ถอดชุดซะหน่อยเหรอ แหม่ ยื่นปิ้งกุ้งให้เพื่อนๆ ด้วยใจดีจริงๆ ต้นอาบน้ำ ต้นซื้อกับแกล้ม ต้นนั่งบนแพยางเป็ด ต้นนั่งชิลๆ ริมชายหาด ต้นแวะจิบกาแฟ ต้นสังสรรค์ ต้นว่ายน้ำ (ใส่เสื้อชูชีพให้ด้วยน่ารักจริมๆ) ลองชิมหน่อยไหมเพื่อน เมาหนักแน่เลยต้น ยืนซะเกร็งเชียว มาเที่ยวกับเพื่อนสนุกจังเล้ย!!…
-
ศิลปินสุดครีเอตเปลี่ยนสายพันธุ์ “น้องหมา” ให้กลายเป็น “นักรบ” สุดเท่ราวกับหลุดมาจากเกม
หากพูดถึงเพื่อนรักสี่ขาขนปุกปุยของมนุษย์แล้ว คงไม่มีใครที่จะไม่คิดถึง “เจ้าหมา” เป็นอย่างแน่นอน หลายๆ คนที่เคยเลี้ยงมันมาก็จะรู้ความน่ารักแสนซนของเจ้าตูบต่างๆ ซึ่งอย่างที่เรารู้ก็คือเจ้าตูบพวกนี้มีมากมายหลายสายพันธุ์ แต่ละพันธุ์ก็ย่อมที่จะมีรูปลักษณ์หรืออุปนิสัยที่ไม่เหมือนกัน วันนี้จึงได้มีศิลปินได้สร้างสรรค์นำเอาเจ้าหมาแต่ละสายพันธุ์ให้กลายมาเป็น “นักรบ” ในยุคกลางได้อย่างเท่และสวยงามราวกับหลุดออกมาจากนวนิยายหรือเกม RPG เลยทีเดียว จะสวยงามขนาดไหนนั้นเราไปชมกันครับ เจ้าเตี้ย Corgi มาเป็นทหารเฝ้ายามซะแล้ว เจ้าหมาสุดดีดอย่าง Siberian Husky ก็กลายมาเป็น Barbarian คนเถื่อน Poodle ขนฟูมาเป็น Warlock ผู้ใช้เวทมนตร์ เจ้าหมี Chow Chow มารับบทเป็นเจ้าของโรงแรม Doberman มาเป็นอัศวินผู้ทรงเกียรติ แน่นอนว่าสายพันธุ์จากญี่ปุ่นอย่าง Shiba Inu ต้องมาเป็น Samurai แน่นอน!! เจ้าจิ๋ว Chihuahua ในลุคของพ่อค้านี่ก็เข้ากั๊นเข้ากัน ด้วยรูปร่างปราดเปรียวอย่าง Greyhound แล้วนักธนูนี่แหละเข้าสุดๆ และสำหรับน้องหมาใจดีอย่าง…
-
วินาทีเฉียดตาย!! นักข่าวภาคสนามถูกสไนเปอร์ ISIS ซุ่มยิง ดีที่ได้ GoPro ช่วยเบนกระสุน
“นักข่าว” ถือเป็นอาชีพที่คอยรายงานข่าวสารทั้งในประเทศและนอกประเทศให้แก่เราฟัง ซึ่งตามปกติแล้วนักข่าวก็ถือว่าเป็นสายอาชีพที่มีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นนักข่าวที่อยู่ในห้องส่ง นักข่าวที่คอยอัปเดตข่าวขึ้นเว็บไซต์หรือหนังสือพิมพ์หรือจะเป็นนักข่าวภาคสนาม โดยที่นักข่าวภาคสนามนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในอาชีพที่ต้องลงพื้นที่จริงๆ และต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติหรือเหตุการณ์ความไม่สงบและบ่อยครั้งก็อาจจะเกิดอันตรายขึ้นกับตัวพวกเขาเอง เหมือนกับเหตุการณ์ที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ครับ เมื่อนักข่าวกลุ่มหนึ่งกำลังลงพื้นที่ถ่ายทำข่าวในเมือง Mosul ประเทศอิรัก ประเทศที่กำลังมีสงครามกลางเมือง ก่อนที่นักข่าวคนหนึ่งจะถูกสไนเปอร์ของฝ่าย ISIS ยิงเข้าใส่เขา แต่…โชคดีที่ถูกกล้อง Go Pro เสียก่อน วินาทีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น คลิปวิดีโอสุดระทึกคลิปนี้ถูกบันทึกภาพไว้ได้โดย Owen Holdaway นักข่าวของสำนักข่าว The Sun เขาได้กล่าวว่าในเหตุการณ์นี้กำลังคุยกับ Ammar (คนที่ถูกยิงใส่) ว่าจะพักสักหน่อย แต่ทันใดนั้นเอง กล้อง Go Pro ของ Ammar ก็ระเบิดขึ้น พวกเขารู้ได้ทันทีว่าถูกซุ่มยิง จึงเรียบวิ่งเข้าหาที่กำบังกันอย่างตื่นตระหนก ก่อนที่ Owen จะตะโกนบอก Ammar ว่า “Ammar นั่นมันเกือบไปแล้ว เชี่ยเอ๊ย” 20…
-
ทหารผ่านศึกวัยชราป่วยเป็นมะเร็ง หาเงิน ‘ฝังศพตัวเอง’ ด้วยการเลหลังขายข้าวของในบ้าน!!
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องสะเทือนใจมากจริงๆ เมื่อมีคุณลุงคนหนึ่งนำข้าวของในบ้านของตัวเองมาวางขายหน้าบ้าน ทั้งนี้เงินที่ได้ทั้งหมดก็เพื่อจะนำเงินไป ‘จัดงานศพ’ ให้กับตัวเองเมื่อลาโลกนี้ไปแล้ว… เรื่องเศร้าเรื่องนี้ได้กลายเป็นที่โจษจันกันในโลกโซเชียลจากความที่ David Dunkleberger ได้สังเกตเห็นว่าที่หน้าบ้านหลังหนึ่งมีชายแก่นำทรัพย์สินต่างๆ มาวางขายเต็มหน้าบ้านของเขาที่ย่าน Brownstown รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาจึงได้เข้าไปสอบถามว่าทำไมถึงเอาของใช้แทบจะทั้งบ้านมาขายอย่างนี้ ชายแก่คนดังกล่าวก็เล่าให้ฟังว่าเขามีชื่อว่า Willie Davis อายุ 66 ปี เขากำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งผิวหนังอยู่ในขณะนี้และรู้ว่าสักวันหนึ่งต้องลาโลกนี้ไป จึงได้เอาทรัพย์สินมาวางขายเพื่อที่จะได้นำเงินในส่วนนี้มาใช้ฝังตัวเองในสุสานเดียวกับพ่อแม่ โดยเขาคาดว่าต้องใช้เงินประมาณ 15,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 484,000 บาท) เมื่อได้ยินคำตอบสะเทือนใจดังกล่าว David เลยรีบควักเงินซื้อของไป 2 – 3 อย่างพร้อมกับเดินกลับไปที่รถเรียกเพื่อนเขาชื่อว่า Ed Sheets มารับรู้เรื่องราว “มันทำใจผมแทบสลายเมื่อได้ยินเรื่องราวนี้ เราต้องทำบางอย่างเพื่อช่วยเขา มันอาจทำให้ชีวิตเขาเป็นเรื่องง่ายขึ้นอีกสักนิดก็ยังดี” Ed กล่าว หลังจากการซื้อของในครั้งนั้น สองหนุ่มก็ตั้งระดมทุนบนเว็บ GoFundMe โดยตั้งเป้าเอาไว้ 5,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 161,000 บาท) สำหรับการช่วยเหลือชายชราอดีตทหารผ่านศึกในสงครามเวียดนามคนนี้ “เขาทำหลายอย่างเพื่อประเทศของเรามามากดังนั้นพวกเราจึงอยากจะตอบแทนให้กับเขา ให้เขาได้ใช้ช่วงท้ายของชีวิตอย่างสงบสุข” ในเวลาเพียงไม่นานนักก็ปรากฏว่ามียอดบริจาคเข้ามาอย่างถล่มทลายถึง…
-
20 ภาพเหล่าคนดังในสมัยอดีต หาชมได้ยากยิ่ง จำกันแทบไม่ได้ (หรืออาจเกิดกันไม่ทัน)
เชื่อว่าหลายๆ คนอาจต้องเคยคิดว่า ศิลปิน ดารา คนดังที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน เมื่อก่อนนั้นพวกเขาดูเป็นอย่างไรกันบ้าง? หรือบางทีเราอาจแค่เคยได้ยินแต่ชื่อ เพราะเกิดไม่ทันในยุคของพวกเขาเหล่านั้น บทความนี้จะเป็นตัวช่วยให้เพื่อนๆ ได้ย้อนเวลากลับไปเห็นคนดังเหล่านั้นเมื่อครั้งอดีต ช่วงเวลาที่ #เหมียวตะปู เองก็เกิดไม่ทัน มีทั้งคนดังที่ยังมีชีวิตอยู่และผู้ที่จากโลกนี้ไปแล้ว เราลองไปย้อนอดีตดูพร้อมๆ กันเลย งานแต่งงานของ Britney Spears และ Kevin Federline (2004) Michael Jackson และ Milla Jovovich ถ่ายโฆษณาร่วมกัน (1990) Drew Barrymore ในงานแฟชั่นโชว์แม่-ลูก (1983) . Jim Carrey ในวัย 19 ปี (1981) เจ้าหญิง Diana และเจ้าชาย Harry ณ สวนสนุก (1992) Daniel Radcliffe ในการแสดงมายากลของ…
-
World War Tea เริ่ม!! เมื่อชาวเน็ตอังกฤษท้วงชาเย็นอ่ะปลอม ของจริงต้องกินร้อนเท่านั้น!!
บนโลกใบนี้มีผู้คนอยู่มากมายหลายล้านคน แน่นอนว่าแต่ละคนมีชาติพันธุ์ที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงทั้งภาษาและวัฒนธรรมอีกด้วย ซึ่งเรื่องของวัฒนธรรมนี่แหละที่จะกลายมาเป็นประเด็นที่เราจะพูดถึงในวันนี้ เมื่อโลกเกือบต้องเข้าสู่ World War Tea (สงครามน้ำชา) กันเสียแล้วเพราะวัฒนธรรมชาของแต่ละประเทศไม่เหมือนกันนี่แหละ!! เริ่มโดยที่มีคนนำรูปโฆษณาเซตนักเก็ตของทาง McDonald มาลงใน Tumblr ก็มีชาวเน็ต A เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า “ทำไมผู้คนยังมีคำถามเกี่ยวกับโรคอ้วนในคนอเมริกา?” ส่วนชาวเน็ต B ก็เข้ามาแสดงความเห็นว่า “ทำไมชาถึงเป็นของเหลวไปได้ฟระ” ชาวเน็ต A ก็เลยถามตอบไปว่า “นายอยู่ที่ไหน ที่ชาไม่ได้เป็นของเหลวฟระ!?” นาย B เลยตอบมาว่า “อยู่อังกฤษไง ที่ซึ่งชาจะอยู่ในถุงและนายต้องทำมันเอง แล้วพวกนายทำยังไงกับชาที่มันเป็นของเหลวอยู่แล้วอ่ะ อุ่นมันในไมโครเวฟเรอะ!?” ชาวเน็ต A: ไม่ๆ มันเป็นชาหวาน ต้องดื่มตอนเย็นๆ *ชาวเน็ต C โผล่มา*: ใครเขาดื่มชาแบบเย็นๆ กัน??? *ชาวเน็ต D โผล่มาด้วย*: นี่พวกนายไม่เคยดื่มชาเย็นหรือชาหวานกันมาก่อนเลยหรือ? *ชาวเน็ต E…
-
ผู้โดยสารร้องเรียน เจอกระเป๋าโหลดตกรางกองเป็นภูเขา หันไปรอบๆ เจอเจ้าหน้าที่นั่งเล่นมือถือ!?
กลายเป็นภาพแห่งความสยองของผู้โดยสารจากท่าอากาศยานแมนเชสเตอร์กันเลยทีเดียว หลังจากที่พวกเขาลงเครื่องบินมา และได้พบกับกองสัมภาระที่ถูกโหลดไว้ใต้เครื่อง ที่กองกันอยู่ คลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยผู้โดยสารรายหนึ่ง ซึ่งจากรายงานระบุว่าเขาได้ถ่ายคลิปวิดีโอนี้หลังจากเห็นกระเป๋าเหล่านี้ได้รับความเสียหายจากบริการของบริษัท Swissport บริษัทการจัดการภาคพื้นสายการบินและขนส่งสวิส “มีพนักงานคนหนึ่งสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขากลับเดินหนีไป ในขณะที่อีกคนหนึ่งกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์และไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้น” หนุ่มเจ้าของคลิปวิดีโอให้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่ของสนามบินได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากการขัดข้องของสายพานลำเลียง จนทำให้กระเป๋าออกมากองอย่างที่เห็น “กระเป๋าเหล่านี้ถูกโหลดโดยบริษัทผู้รับเหมา โชคร้ายที่สายพานเกิดมีปัญหา ซึ่งทางเราได้ทำการติดต่อกับผู้รับผิดชอบเพื่อให้แน่ใจว่าเหตุการณ์นี้จะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว” โฆษกของทางสนามบินกล่าว คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามบิน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เกี่ยวกับสัมภาระของผู้โดยสารในสนามบินแมนเชสเตอร์ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เมื่อไม่นานมานี้สัมภาระมูลค่าเกือบ 10,000 บาทของผู้โดยสารรายหนึ่งก็ได้รับความเสียหายจากสายพานลำเลียงด้วยเช่นกัน ที่มา ladbible
-
หญิงสาวใช้ “มีดทำครัว” แทงใบหน้าของแฟนหนุ่ม เพราะโมโหที่เขา “ไม่ยอมมีเซ็กส์ด้วย”
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา หญิงสาวคนหนึ่งเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นอย่างมาก หลังแฟนหนุ่มไม่ยอมมีอะไรกับเธอ ในเมื่อเธอไม่โดนแทง(…) เธอจึงใช้มีดแทงเข้าไปที่หน้าแฟนหนุ่มแทน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในบ้านของ Katherine Tavarez หญิงสาววัย 27 ปีผู้ก่อเหตุ จากการรายงานบอกว่าเธอได้ดื่มสุราเข้าไปก่อนที่จะเกิดความโมโหในช่วงเวลาตี 3 ครึ่งของวันที่ 27 กันยายน 2018 Katherine หญิงสาวผู้ก่อเหตุ ความโมโหที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการที่แฟนหนุ่มของเธอ (ไม่เอ่ยนาม) ปฏิเสธซ้ำๆ ไม่ยอมที่จะมีอะไรกับเธอในตอนนั้น สร้างความไม่พอใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก ในจังหวะที่ชายหนุ่มกำลังเผลอ Katherine จึงเดินเข้าไปหยิบมีดในครัวแล้วแทงเข้าไปที่ใบหน้าของใบหนุ่มทันที ก่อนจะปล่อยให้เขานอนจมกองเลือด และโทรแจ้งตำรวจในเวลาต่อมา ตำรวจได้เดินทางมาถึงสถานที่เกิดเหตุ พบว่ามีเลือดติดอยู่มือและเสื้อผ้าของหญิงสาว รวมถึงอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ และได้นำตัวชายหนุ่มไปรักษาตัวในโรงพยาบาล Indian River Medical Centre Katherine ถูกจับกุมและตำรวจได้ตั้งค่าประกันตัวเอาไว้ที่ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 484,000 บาท) โดยหลังจากนี้หญิงสาวยังคงต้องเข้าให้ปากคำและรอศาลตัดสินต่อไปในช่วงเดือนตุลาคม 2018 ที่มา: mirror
-
พบภาพวาดยุคโรมันโบราณที่วาดขึ้นแบบ “การ์ตูนคอมมิค” และมี “กรอบคำพูด”
เมื่อพูดถึงการ์ตูนที่เป็นภาพในปัจจุบันเชื่อว่าสิ่งที่คนส่วนใหญ่นึกถึงก็คงไม่พ้น “มังงะ” ที่ใช้เรียกหนังสือการ์ตูนของฝั่งญี่ปุ่น หรือไม่ก็ “คอมมิค” ที่มักใช้สื่อถึงการ์ตูนของฝั่งตะวันตก แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากมีคนมาบอกว่าการ์ตูนในรูปแบบนี้มีมานานกว่าที่เราคิด เพราะล่าสุดนี้ได้มีการค้นพบภาพวาดโบราณที่มีลักษณะคล้ายการ์ตูนคอมมิคขึ้นมานั่นเอง นี่เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณ ที่ถูกค้นพบในสุสานจากยุคโรมันโบราณ ที่ประเทศจอร์แดน ซึ่งเป็นภาพของเมือง Capitolias เมื่อราวๆ พันปีก่อน ในภาพดังกล่าวมีชาวเมืองนับร้อยใช้ชีวิตประจำวัน โดยได้รับความช่วยเหลือจากเทพต่างๆ โดยเฉพาะ Dionysus เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ และการเก็บเกี่ยว อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ภาพที่พบในครั้งนี้มีความแตกต่างจากภาพที่เคยถูกพบมาก่อนหน้า กลับอยู่ที่รูปแบบของภาพวาดที่ออกมา เพราะนี่เป็นภาพวาดที่มีการเขียนตัวอักษบรรยายการกระทำของคนในภาพด้วยคำพูดของคนในภาพเอง นี่เป็นเทคนิคที่คล้ายกับการใช้ “กรอบคำพูด” ที่พบกันบ่อยๆ ในปัจจุบัน โดยตัวอักษรที่ปรากฏในภาพจะเขียนด้วยตัวอักษรกรีก แต่อ่านด้วยภาษาท้องถิ่นของอราเมอิก “ข้อความที่จารึกไว้มีความคล้ายคลึงกับ กรอบคำพูดในการ์ตูนคอมมิคมาก” Jean-Baptiste Yon นักวิจัยของห้องวิจัยประวัติศาสตร์และโลกโบราณในฝรั่งเศส หรือ “HiSoMA” กล่าว เธอยังอธิบายต่อด้วยว่า พวกเขา (คนโบราณ) บรรยายการกระทำของคนในภาพวาด ด้วยข้อความที่เป็นการพูดของตัวละครเองเช่น “ฉันกำลังตัดหิน” หรือ “อนิจจา!! ฉันตายแน่!!” ซึ่งนับว่าแปลกมากในสมัยนั้น แม้ว่าสุสานโรมันโบราณแห่งนี้จะมีการค้นพบมาตั้งแต่ช่วงปี 2016 แล้วแต่การค้นพบในครั้งนี้ก็อาจจะเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการศิลปะและวรรณกรรมเลยก็เป็นได้ ในเวลานี้ยังไม่มีข้อมูลอย่างระเอียดของการค้นพบทั้งหมดในสุสานโบราณแห่งนี้ อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญได้วางกำหนดการเปิดเผยสิ่งที่พวกเขาพบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง…
-
ฮีโร่หอบังคับการบิน ยอมตายในหน้าที่ ส่งเครื่องบินลำสุดท้าย ในเหตุการแผ่นดินไหวที่อินโดฯ
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 7.5 และคลื่นสึนามิที่ซัดถล่มพื้นที่เมืองปาลู เกาะสุราเวสี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อศุกร์ที่ 28 กันยายน เป็นเหตุให้บ้านเมืองได้รับความเสียหายอย่างมาก และเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนี้มียอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงกว่า 400 คน และหนึ่งในนั้นก็คือ อันโตนิอัส กูนาวาน อากุง เจ้าหน้าที่หอบังคับการบิน ยอมสละชีพปฏิบัติหน้าที่จนนาทีสุดท้าย เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2018 สื่อต่างประเทศรายงาน วีรกรรมของหนุ่มชาวอินโดนีเซียวัย 21 ปี เจ้าหน้าที่หอบังคับการบินสนามบินมูติเอรา ซิส อัล จูฟรี สนามบินหลักของเมืองปาลู ที่ยอมอยู่ในหอการบินจนวินาทีสุดท้าย เพื่อช่วยให้เครื่องบินออกจากสนามบินได้จนทำให้ลูกเรือและผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวกว่าร้อยชีวิตหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย จากรายงานเผยว่า ในระหว่างที่เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงอากุง คือคนสุดท้ายที่ยืนยันจะทำหน้าที่ของเขาในหอบังคับการบิน เพื่อช่วยให้เครื่องบินลำสุดท้ายของสายการบินบาติก แอร์ เที่ยวบิน 6321 ขึ้นบินได้สำเร็จ ซึ่งหลังจากที่เครื่องบินลำดังกล่าวพร้อมผู้โดยสารปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย หนุ่มวัย 21 ปีพยายามหนีออกมาจากอาคาร แต่ด้วยความรุนแรงของแผ่นดินไหว และกลัวจะต้องติดอยู่ในอาคาร เขาจึงตัดสินใจกระโดดลงมาจากชั้น 4 ของหอควบคุม . …
-
รวม 18 ภาพบนเครื่องบินสมัย ‘1940s – 1970s’ ยุคที่จัดว่าเป็นยุคทองของการบิน!!
เดี๋ยวนี้ ‘เครื่องบิน’ เป็นการเดินทางที่ใครๆ ก็สามารถเลือกใช้ได้ ทว่าก็แน่นอนเพื่อความปลอดภัยจึงทำให้มีระเบียบข้อบังคับต่างๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย แต่ก่อนที่เราจะมาถึงตรงนี้กันได้เคยสงสัยไหมว่าหน้าตาของการบินในสมัยก่อนมันเป็นเช่นไร?? หลายคนอาจสงสัยแต่ยังไม่เคยเห็นภาพจริงๆ ใช่ไหมล่ะว่ามันมีหน้าตายังไงกันนะ ถ้าอย่างนั้นวันนี้หลายคนจะได้หายสงสัยกันแล้ว เพราะภาพต่อไปนี้คือภาพของการบินในช่วงยุค 1946 – 1970 ที่จัดได้ว่าเป็นยุคทองของการบินเลยก็ว่าได้ และแน่นอนในสมัยนั้นสิ่งต่างๆ ยังเป็นเรื่องปกติอยู่อย่างเช่นการดูดบุหรี่บนเครื่อง หรือแม้กระทั่งการเล่นไพ่ก็ตาม เอาล่ะไม่พูดมากเจ็บคอไปดูกันเลยดีกว่า!! การสูบบุหรี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ (แต่ในภาพชายคนนี้ดูคูลจริงๆ เลย) อ่ะดูเตียงนอนของพวกเขาซะก่อน รับกาแฟหรือชาเพิ่มไหมคะ?? งานเตียงสองชั้นก็มา นึกว่ารถไฟนะเนี่ย พนักงานบริการสามารถเป็นทุกอย่างให้ได้จริงๆ เสริมหมอนเพิ่มเพื่อความสบายที่สุดของผู้โดยสาร สอนวิชาภูมิศาสตร์กันบนเครื่องนี่แหละ มีให้เลือกกันสดๆ อย่างนี้แหละ แถมมีเชฟมาเสิร์ฟด้วยตัวเองด้วยนะ พนักงานต้อนรับมาเสิร์ฟแฮมแก่ผู้โดยสาร (มันเรียลแบบสุดๆ) กินอะไรก็ชี้ๆ เอา ง่ายดี มากกว่าเสิร์ฟก็คือหั่นให้เห็นสดๆ ถึงความฉ่ำของเนื้อ แทบจะยกบาร์มาลอยฟ้าเลยแหละ มีส่วนกลางให้ผู้โดยสารสามารถพูดคุยกันได้ …
-
ทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนเป็นมีม!! ไม่เว้นแม้แต่เจ้า “มอธ” ที่ถูกชาวเน็ตจับนำมาเรียกเสียงฮา
“Meme” หรือ “มีม” คือรูปแบบหนึ่งของความคิด สัญลักษณ์ ที่เรามักจะเห็นออกมาให้รูปภาพตลกๆ เฮฮาหรือรูปภาพในเชิงล้อเลียน ซึ่งในปัจจุบันนั้นเราสามารถเห็นมีมที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นคนดังอย่าง Yao Ming สัตว์อย่างพวก Grumpy Cat หรือสิ่งของต่างๆ ไม่แน่นะรูปของเพื่อนๆ อาจกลายเป็นมีมในสักวันหนึ่งก็ได้ (ฮา) และวันนี้เราก็มีมีมใหม่มาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันอีกแล้ว เมื่อผีเสื้อกลางคืนหรือที่ต่างประเทศเรียกกันว่า “มอธ” ได้กลายมาเป็นมีมแบบงงๆ เฉยเลย ย้อนกลับไปวันที่ 14 กรกฎาคม 2018 ได้มีสมาชิก Reddit ชื่อว่า No_Reason27 ได้โพสต์รูปของเจ้ามอธที่มาเกาะหน้าต่างบ้านของเขาพร้อมกับแคปชั่นว่า “ภาพมุมของเจ้ามอธที่เกาะอยู่นอกหน้าต่างของผม” ซึ่งดูๆ แล้วก็เป็นเหมือนกับกระทู้โพสต์รูปสัตว์ปกติทั่วไป แต่มันไม่ทั่วไปเมื่อมีคนเข้ามาเล่นมุกเกี่ยวกับเจ้ามอธตัวนี้เต็มไปหมดนี่สิบ้างก็เข้ามาคอมเมนต์ว่า “เฮ้เพื่อน นายมีโคมไฟรึเปล่า?” (ล้อเลียนที่มอธชอบแสงไฟ) หรือจะเป็นเพราะหน้าตาของมันก็เลยมีคนมาล้อว่า “แม่บอกว่านี่มันตาของฉันที่จะได้เล่น Xbox แล้ว” สุดท้ายนี้ไปๆ มาๆ ก็เลยมีคนนำภาพของเจ้ามอธตัวนี้ไปทำเป็นมีมเฉยเลย จะเป็นอย่างไรไปชมกันครับ พวกนายมี เอิ่ม… โคมไฟหมายยยยยย? เจอทินเดอร์ของเจ้ามอธซะหน่อย No Lamp…
-
หนุ่มจะขอสาว ‘แต่งงานบนเครื่อง’ เลยขอผู้โดยสารคนอื่นถ่ายรูปให้ กลายเป็นไวรัลน่าร๊าก!!
การขอแต่งงาน ถือได้ว่าเป็นโมเมนต์อันสุดวิเศษระหว่างคนสองคน ซึ่งก็แน่นอนว่าวินาทีสำคัญในชีวิตมาถึง ก็จะต้องสร้างความทรงจำให้มันดูมีเรื่องราวซะหน่อย อย่างบางคนก็ขอแต่งงานกลางงานโชว์ หรือคุกเข่าท่ามกลางฝูงชนก็มีให้เห็นมาไม่น้อย แต่ว่าสำหรับชายคนนี้แล้ว เขามามุกใหม่ชนิดที่ไม่ว่าใครๆ ก็คงเดาทางไม่ออก เพราะเขาคนนี้วางแผนเอาไว้ว่าจะขอแฟนสาวแต่งงานบนเครื่องบิน แต่ว่าดันไม่มีช่างกล้องถ่ายเก็บภาพความประทับใจเอาไว้ เลยส่งการ์ดขอความร่วมมือผู้โดยสารคนอื่นสวมวิญญาณเป็นช่างภาพถ่ายรูปส่งให้หน่อย!! ตื่นเต้นๆ เรื่องราวที่ว่านี้ได้เปิดเผยมาจากผู้ใช้เว็บบอร์ด Reddit ชื่อว่า ‘pezmonkey’ โดยเขาเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งเขาได้โดยสารเครื่องบินของสายการบิน Delta Airlines (แต่ไม่บอกเที่ยวบินและวันที่) แล้วบังเอิญได้ไปเจอกับเรื่องน่ารักๆ นี้เข้าให้เลยอยากแชร์มาให้ได้ดู ภาพที่เขาโพสต์ในกระทู้ดังกล่าวคือภาพของการ์ดใบหนึ่งที่ทางหนุ่มชื่อว่า Andrew บนเครื่องลำนั้นส่งมาให้ โดยมีเนื้อความว่า การ์ดใบดังกล่าว “สวัสดีครับ ผมชื่อ Andrew ผมจะขอแฟนแต่งงานบนไฟลท์นี้ ผมมีแหวนและเตรียมบทพูดมาแล้ว แต่ว่าผมยังไม่มีช่างภาพเลย ผมเลยอยากจะขอ… ให้ทุกๆ คนช่วยถ่ายรูปหรือวิดีโอการขอแต่งงานของผมส่งมาให้หน่อยเถอะ แล้วถ้าเห็นใจผมล่ะก็รบกวนส่งมาให้ที่เบอร์นี้หน่อยนะ” แล้วก็ไม่รู้ว่าด้วยความบังเอิญหรือว่าเหตุการณ์มันเป็นใจ ถึงทำให้คนโพสต์คนนี้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับการถ่ายภาพอย่างพอดิบพอดี เขาเลยจัดให้ตามคำขอแชะภาพให้หนุ่ม Andrew เป็นที่เรียบร้อย เย้ เธอเซย์เยสด้วย!! “ก่อนที่เครื่องจะลง เขาก็ทำอย่างที่เขาว่าจริงๆ พวกเราไม่รู้จะทำตัวยังไงกันเลยมันสับสนไปหมด (ตื่นเต้น)” “แน่นอน เธอเซย์เยส!!” “แต่ว่าไฟลท์บินนี้มันสั้นเหลือเกินเลยไม่ได้ฉลองอะไร พวกเราทำได้แค่สั่ง…
-
นักดำน้ำสำรวจซากเรือนักสำรวจอาร์ติกที่เคยสูญหายของ “แฟรงคลิน” พบวัตถุโบราณ 9 ชิ้น
ว่ากันว่าใต้ท้องทะเลบนโลกของเราเต็มไปด้วยซากเรืออับปางจากหลากหลายยุคสมัย และภายในเรือเหล่านั้น ก็มีเรือจำนวนมากเช่นกันที่มีสมบัติ และบันทึกที่มีประวัติศาสตร์สำคัญในอดีตซ่อนเอาไว้เต็มไปหมด HMS Erebus คือหนึ่งในซากเรืออับปางเหล่านั้น โดยนี่เป็นหนึ่งในเรือของคณะนักสำรวจแห่งราชนาวีอังกฤษ ที่เดินทางไปสำรวจทวีปอาร์กติกภายใต้การนำของ John Franklin ก่อนที่ทั้งคณะจะหายไปอย่างลึกลับเมื่อราวๆ 170 ปีก่อน และเรือ HMS Erebus ถูกพบอยู่ที่ก้นสมุทร ตลอดเวลาหลังจากที่เรือลำนี้ถูกพบว่าจมลงไปใต้ทะเลก็ได้มีการพยายามดำน้ำสำรวจเรือลำนี้อยู่หลายครั้ง นำมาซึ่งวัตถุโบราณมากมาย และล่าสุดนี้เองการดำน้ำสำรวจซากเรือ HMS Erebus ก็เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ในครั้งนี้นักโบราณคดีก็ได้พบกับวัตถุโบราณเพิ่มเติมอีก 9 ชิ้นซึ่งหนึ่งในนั้นคือเหยือกเซรามิก และ Artificial Horizon หรือ “ขอบฟ้าจำลอง” อุปกรณ์ที่ใช้บอกว่าเรือเอียงหรือโคลงไปเท่าใดนั่นเอง แต่นอกจากวัตถุโบราณที่มีการค้นพบแล้ว นักดำน้ำกลับไม่สามารถเข้าไปในห้องของ John Franklin เนื่องจากสภาพอากาศหนาวจัด ทำให้ไม่สามารถ เก็บกู้เอกสารหรือบันทึกการเดินเรือของ HMS Erebus ออกมาได้ นี่นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะโบราณคดีหลายๆ คนเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่าหากมีการพบบันทึกการเดินเรือ พวกเขาอาจจะไขปริศนาการหายตัวไปอย่างลึกลับของคณะสำรวจที่นำโดยนาย John Franklin ในสมัยก่อนก็เป็นได้ ที่มา livescience, brinkwire, theturtleislandnews
-
ที่มาของ #fallingstars เทรนด์การถ่ายรูปที่กำลังฮิต ดูกระจัดกระจาย เท่ได้แบบไม่ต้องเห็นหน้า
โลกโซเชียลมักจะมีอะไรเจ๋งๆ แปลกๆ มาให้เราได้ดู ได้ลองทำอยู่เสมอ อย่างเช่น Kiki Challenge หรือ Dele Alli Challenge อย่างที่เราเห็นกันไปก่อนหน้านี้ และล่าสุดก็ได้มีเทรนด์ยอดฮิตที่กำลังเริ่มแพร่กระจายออกไป กับการถ่ายรูปในแบบที่ชาวเน็ตเรียกว่า #fallingstars การถ่ายรูปแบบไม่ต้องเห็นหน้า ทำท่าเหมือนล้มลงไป ข้าวของกระจัดกระจาย ตัวอย่างการถ่ายรูปแบบที่เรียกกันว่า #fallingstars . . ตอนนี้บางคนอาจเริ่มสงสัยกันแล้วว่าเทรนด์ดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นมาจากไหนกัน ใครเป็นคนคิด? วันนี้เราจึงจะพาไปรู้จักและชมผลงานต้นฉบับของการถ่ายรูปในลักษณะนี้ โดยฝีมือช่างภาพชาวอิตาลีที่ชื่อว่า Sandro Giordano ผู้ให้กำเนิดการถ่ายภาพในแบบดังกล่าว Sandro ผู้คิดค้นการถ่ายภาพในลักษณะนั้น เขาได้อธิบายเอาไว้ว่าตนเองได้คิดการถ่ายภาพในลักษณะนี้ขึ้นเพื่อเป็นเหมือนกับการถ่ายทอดให้เห็นถึงการใช้ชีวิตอันยากลำบากในปัจจุบัน จนทำให้เราอยากจะภาพตัด ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ล้มลงไปซะตอนนั้นเลย ภาพที่เห็นแสดงถึงความเหนื่อยล้ากับชีวิตความเป็นอยู่ ถ่ายทอดออกมาอย่างเรียบง่ายแต่ทรงพลัง โดยเขามองว่า “ความสมบูรณ์แบบ” ก็คือ “ความไม่สมบูรณ์แบบ” นั่นเอง ผลงานของเขา ในหัวข้อที่ชื่อว่า IN EXTREMIS และเหตุผลที่เขาไม่ถ่ายให้เห็นใบหน้าของนายแบบนางแบบก็เพราะเขาคิดว่า “มันไม่จำเป็น เพราะในแต่ละภาพ…
-
ตำรวจพบ 1 ใน “ไร่กัญชา” ใหญ่สุดในสหราชอาณาจักร ซ่อนอยู่ “ใต้ดิน” เดินทั้งวันก็ยังไม่ทั่ว
“กัญชา” ยังคงเป็นพืชผิดกฎหมายในหลายๆ ประเทศ ในสหราชอาณาจักรเองก็เช่นกัน ประชาชนไม่สามารถปลูก ครอบครอง หรือว่าซื้อขายพืชชนิดนี้ได้อย่างถูกต้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจำเป็นที่จะต้องสอดส่องหาต้นตอว่ามันมีการขายกัญชาภายในประเทศได้อย่างไร จนกระทั่งล่าสุดพวกเขาได้ไปเจอกับ 1 ใน “ไร่กัญชา” ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ซึ่งถูกซ่อนไว้ใต้ดิน?! ภาพจากการรายงานในวันที่ 29 ก.ย. 2018 ไร่กัญชาที่ว่านั้นถูกซ่อนเอาไว้อยู่ภายในอุโมงค์เหมืองหินแห่งหนึ่ง ณ เมืองแบรดฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นอุโมงค์ใต้ดินขนาดใหญ่ ตำรวจใช้เวลาเกือบ 24 ชั่วโมงก็ยังไม่สามารถตรวจค้นได้จนทั่ว สำหรับอุโมงค์เหมืองดังกล่าวนั้นในตอนแรกได้ถูกหยุดใช้งานไปแล้วในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ก่อนที่จะมีการนำไปใช้เป็นปราการสงครามตั้งแต่ปี 1939 เพื่อเก็บอุปกรณ์ของกองทัพเรือ จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 บริษัท Heinz (ซอสมะเขือเทศ) ได้ใช้พื้นที่ดังกล่าวในการปลูกเห็ดสำหรับใส่ลงไปซุปของพวกเขา ต่อมาในปี 2011 อุโมงค์แห่งนี้ได้ถูกขายออกไปให้กับบุคคลนิรนาม โดยอ้างว่ามันเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การให้เช่าทำกิจการแปลกๆ อะไรทำนองนั้น (ก็จริงของเขาแหละนะ) . แล้วในปี 2015 ก็มีนักสำรวจภายในเมืองไปพบเข้าว่าอุโมงค์ที่ควรถูกปิดมานานหลายปี กลับมีคนเข้าไปใช้งานสถานที่แห่งนั้น ใช้ไฟฟ้าราวกับว่าเป็นเรื่องปกติ…
-
หนุ่มวัยรุ่น “ข่มขืน” เด็กหญิงวัย 6 ขวบในห้องน้ำร้านอาหาร ก่อนจะโดนรุมกระทืบเลือดอาบ
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอันน่าเศร้าที่ “เด็ก” ต้องตกเป็นเหยื่อของกามารมณ์ เมื่อชายคนหนึ่งลากเด็กหญิงวัย 6 ขวบเข้าไปข่มขืนในห้องน้ำของร้านอาหาร เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ ชายวัย 20 ปี (ไม่เอ่ยนาม) แอบสะกดรอยตามเด็กหญิงวัย 6 ขวบมาตั้งแต่ตอนที่เธอกำลังเล่นอยู่ในสนามเด็กเล่น ภาพของชายผู้ก่อเหตุ จากการรายงานในวันที่ 29 ก.ย. 2018 หลังจากนั้นเด็กหญิงก็ได้เข้าไปใช้ห้องน้ำของร้านอาหารใกล้ๆ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามีชายคนหนึ่งแอบสะกดรอยตามเธอไปด้วย และได้ฉุดกระชากเธอเข้าไปในห้องน้ำชายแทน ก่อนที่จะปิดประตูล็อกแล้วเข้าจู่โจม เมื่อแม่ของเด็กหญิงเริ่มสังเกตเห็นว่าเธอหายตัวไป แม่จึงรีบตามหาเธอเป็นการด่วน โดยได้รับความช่วยเหลือจากลูกค้าในร้านอาหารคนอื่นๆ รวมถึงพนักงานและเจ้าของร้านเองก็ด้วย ร้านอาหารที่เป็นจุดเกิดเหตุ จนกระทั่งมีคนไปพบกับเด็กหญิงและชายผู้ก่อเหตุที่เปิดประตูออกมาหลังได้ยินเสียงความวุ่นวาย เมื่อนั้นเองความชุลมุนก็เกิดขึ้น พยานผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าชายคนดังกล่าวอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ล่อนจ้อน ในขณะที่เด็กหญิงเองก็มีเลือดไหลออกมาจากบริเวณอวัยวะเพศ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์จึงเข้ารุมประชาทัณฑ์ชายคนนั้นในทันที ก่อนที่จะมีคนเข้ามาห้ามเอาไว้ได้ ชายผู้ก่อเหตุก็อยู่ในสภาพเลือดอาบไปเสียแล้ว (ถึงอย่างไรก็ยังไม่ยืนยันว่านั่นคือเลือดของเขา หรือเลือดของเด็กหญิง) คงไม่แปลกที่แทบทุกคนในขณะนั้นจะเกิดความไม่พอใจชายคนดังกล่าวอย่างมาก แต่ทางเจ้าของร้านก็จำเป็นที่จะต้องพาชายคนนั้นหลบออกไป เพื่อไม่ให้สถานการณ์มันเลวร้ายยิ่งกว่านี้ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมตัวชายคนดังกล่าว โดยเบื้องต้นเขายังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ ยังคงต้องรอการสืบสวนเพิ่มเติม และคำตัดสินของศาลในวันที่ 2…
-
หญิงสาวถูกห้ามขึ้นรถไฟนาน 6 เดือน หลังแสดงความเกรี้ยวกราด ทั้งๆ ที่นั่งผิดที่
ถ้าหากว่าคุณเกิดทำเรื่องผิดพลาดขึ้นมาล่ะก็ การกล่าวคำขอโทษเพียงสั้นๆ อาจจะเป็นเรื่องง่ายกว่าการยืนเถียงคอเป็นเอ็น เพราะนอกจากมันจะทำให้คุณหน้าแตกเวลาถูกจับได้แล้ว ในระหว่างนั้นคุณอาจกระหายน้ำอีกด้วย!! แต่การหน้าแตก หรือหิวน้ำอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ เมื่อเทียบกับการได้รับคำชื่นชมจากชาวเน็ตเหมือนกับเหตุการณ์นี้ เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมาสื่อต่างประเทศได้รายงานเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นบนขบวนรถไฟทางไกลที่กำลังเดินทางจากมณฑลหูหนาน ไปยังมณฑลกวางตุ้ง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาเตือนหญิงสาวรายหนึ่งที่นั่งผิดที่ พร้อมกับขอให้เธอย้ายไปยังที่นั่งที่ได้จองเอาไว้ เจ้าหน้าที่ได้ทำขอดูตั๋วของหญิงสาวรายดังกล่าว พร้อมกับบอกว่าเธอเองนั่งผิดที่ แต่ทว่าเขากลับถูกตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจังและน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรของหญิงสาวว่า “มีปัญหาอะไร” ก่อนที่เธอจะร่ายยาวว่าตัวเธอเองนั่งถูกที่แล้ว และตรงนี้มันก็คือที่ 10D ของเธอ แต่งานนี้ดูเหมือนว่าหญิงสาวรายดังกล่าวจะผิดเต็มๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ชี้ไปยังสัญลักษณ์บนที่นั่งของเธอ พร้อมบอกว่าจริงแล้วที่นั่งของเธอคือที่นั่งริมทางเดินต่างหาก แต่แทนที่จะย้ายไปยังที่ของตน หญิงสาวรายดังกล่าวกลับโทษว่าจริงๆ แล้วตั๋วน่าจะระบุให้ชัดมากกว่านี้ และนี่มันไม่ใช่ความผิดเธอ พร้อมกับนั่งชมวิวริมหน้าต่างไปจนกระทั่งรถไฟถึงสถานีปลายทาง อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้เธอย้ายที่ได้สำเร็จ แต่หญิงสาวรายนี้ก็ถูกลงโทษเนื่องจากพฤติกรรมของเธอ โดยจากรายงานเผยว่า เธอถูกปรับเงินจำนวน 200 หยวน (ประมาณ 1,000 บาท) และถูกห้ามซื้อตั๋วและไม่สามารถใช้บริการรถไฟได้อีก 180 วันด้วยกัน และนี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนรถไฟ ที่มา nextshark, South…
-
พิธีกรรายการดัง ทดลองขับรถสำรวจดาวอังคารคันใหม่ของ NASA บนถนนกลางเมืองแมนฮัตตัน
ถ้าหากใครที่ติดตามข่าวสารของแวดวงวิทยาศาสตร์ ก็พอจะทราบกันเป็นอย่างดีว่าทาง NASA กำลังซุ่มพัฒนาโปรเจกต์สุดยอดอีกหนึ่งชิ้นอย่าง Mars Rover รถสำรวจดาวอังคารที่คาดว่าจะเตรียมนำไปใช้ปฏิบัติภารกิจบนดาวเคราะห์สีแดงในปี 2020 นี้ แต่ล่าสุดทาง NASA ก็ได้นำเจ้ารถสำรวจคันนี้ออกมาวิ่งบนถนน ให้ประชาชนได้ชมกันแบบใกล้ชิดกันเลยทีเดียว!! รถสำรวจดาวอังคารคันต้นแบบนี้ได้ออกมาอวดโฉมบนถนนเป็นครั้งแรกในรายการ The Late Show with Stephen Colbert โดยมันได้ออกมาวิ่งกลางถนนในย่าน Midtown Manhattan ในมหานครนิวยอร์ก โดยมี Stephen Colbert เจ้าของรายการเป็นคนขับ และ Neil deGrasse Tyson นักดาราศาสตร์จาก NASA คอยนั่งไปด้วย เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเจ้ารถคันนี้ Mars Rover ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์พลังงานไฟฟ้า พร้อมกับแผงพลังงานแสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ 700 โวลต์ นอกจากนี้ยังมีระบบนำทาง และห้องควบคุมที่สามารถติดต่อกับศูนย์ควบคุมภาคพื้นดินได้อีกด้วย นอกจากนี้มันยังสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตามมันถูกออกแบบมาเพื่อวิ่งแค่ 15-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ลองไปชมการขับทดสอบรถต้นแบบคันนี้กันเลย… ที่มา businessinsider, dupontregistry
-
11 คำพูดทำนายอนาคตในอดีต ที่เมื่อมองย้อนกลับไปแล้ว “พังสุดๆ” ผิดไปคนละโลก…
ตลอดช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีความพยายามในการทำนายอนาคตออกมามากมาย บางครั้งคำพูดของพวกเขาก็อาจจะตรงมากอย่างน่ากลัว แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายๆ คนที่ทำนายอนาคตได้ผิด ลองนึกภาพคุณไปบอกเพื่อนๆ ไว้ว่าหน้าอย่างคนนั้นคนนี้คงหาแฟนไม่ได้หรอกแล้ววันต่อมาคนที่ด่าก็ดันหาแฟนได้เสียอย่างนั้นสิ เชื่อว่าความรู้สึกมันก็คงประมาณนั้นล่ะ “การเคลื่อนที่บนราง (รถไฟ) ด้วยความเร็วสูงมันเป็นไปไม่ได้ เพราะผู้โดยสารจะหายใจไม่ออกและตาย” Dr. Dionysy Larder ศาสตราจารย์ปรัชญาธรรมชาติและดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยลอนดอน เคยกล่าวไว้ ในปี 1800 “เจาะหาน้ำมัน? หมายถึงคุณจะเจาะดินหาน้ำมันเหรอ? บ้าไปแล้ว!!” สมาคมปฏิเสธความคิดในการเจาะหาน้ำมันของ Edwin Drake ในปี 1859 “โทรศัพท์มีข้อด้อยมากเกินไปที่จะเรียกว่าสื่อการสื่อสารจริงๆ” บันทึกภายในของสหภาพตะวันตก จากปี 1876 “ทุกๆ คนที่คุ้นเคยกับหัวข้อนี้จะบอกว่ามันจะล้มเหลวแน่นอน” Henry Morton ประธานสถาบันเทคโนโลยี Stevens กล่าวเกี่ยวกับหลอดไฟของ Edison ในปี 1880 “การบินด้วยเครื่องยนต์ที่หนักกว่าอากาศมันใช้งานไม่ได้จริง และไม่มีนัยสําคัญ ไม่งั้นก็เป็นไปไม่ได้ไปเลย” Simon Newcomb นักดาราศาสตร์และนักคณิตศาสตร์มีชื่อ กล่าวไว้ 18 เดือนก่อนสองพี่น้อง Wright จะบิน…
-
เจ้าของเซอร์ไพรส์…หมาโกลเดนพา ‘คนแปลกหน้า’ เข้าบ้าน ส่งสายตาแป๋วแหววทักทาย!!
ประเทศออสเตรเลียถือเป็นประเทศที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลกเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นจึงไม่แปลกนักหากจะมีสัตว์ป่า อย่างหมี จิงโจ้ หรือแม้แต่จระเข้ แวะเวียนมาเยี่ยมหาที่บ้านของผู้คน เช่นเดียวกันกับหญิงสาวชาวออสเตรเลียคนนี้ ที่จู่ๆ เจ้าหมาของตัวเอง บังเอิญไปช่วยชีวิตของ ‘ลูกโคอาล่า’ ตัวน้อย แล้วพากลับมาที่บ้านของเธอ!? Kerry McKinnon วัย 47 จากเมือง Strathdownie รัฐ Western Victoria ได้รับการเซอร์ไพรส์จากเจ้าหมา Golden Retriever ของเธอที่ชื่อว่า Asha เพราะจู่ๆ มันดันไปพา ‘ลูกโคอาล่า’ มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ แถมยังเอามาดูแลประคบประหงม ราวกับว่าเป็นลูกในไส้ของมันอีกต่างหาก จ๊ะเอ๋!! “ตอนนั้นเป็นช่วงเช้า สามีของฉันจู่ๆ ก็ตะโกนเรียกฉัน บอกว่า ‘ให้มาดูอะไรนี่สิ’ ฉันก็ยังงงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่พอเดินเข้าไปดูก็พบว่ามีโคอาล่าตัวน้อยนอนกอดซุกอยู่บนตัวของเจ้า Asha” “พอเห็นแล้วฉันถึงกับขำก๊ากออกมาเลย เจ้า Asha มองมาที่ฉันราวกับว่าตัวเองได้ทำเรื่องผิดลงไป และกลัวว่าจะถูกลงโทษ เพราะดันไปเอาสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในบ้าน” …
-
เจ้าบ่าวสละเวลาอันมีค่าใน ‘คืนวันแต่งงาน’ เพื่อไปดูแล ‘หมู’ อันเป็นที่รัก!!
ในช่วงพิเศษอย่างวันแต่งงาน การได้อยู่กับ ‘คู่รัก’ ของตัวเองนั้นถือเป็นเรื่องที่อยู่ในฝันของใครหลายๆ คน แต่สำหรับเจ้าบ่าวรายนี้แล้ว เขาเลือกที่จะไปอยู่กับ ‘หมู’ แสนรักของตัวเองเสียมากกว่า!? Joanna Durkin เจ้าสาววัย 37 ปี เพิ่งจะแต่งงานกับนาย Lee Durkin วัย 37 ปีไปหมาดๆ แต่ฝ่ายเจ้าบ่าวดันสละเวลาไม่กี่ชั่วโมงในค่ำคืนของวันแต่งงานไปอยู่กับเจ้าหมูที่มีชื่อว่า Parsnip ที่เป็นหมูสายพันธุ์ Kunekune จากเวียดนามที่มีน้ำหนักถึง 196 กิโลกรัม Joanna เล่าว่าสามีของเธอนั้นเป็นคนที่รักสัตว์เลี้ยงตัวนี้เอาซะมากๆ เขาเลี้ยงเจ้า Parsnip เป็นอย่างดี มีสวนหลังบ้านที่มีความกว้างกว่า 25 ตารางเมตรให้วิ่งเล่น ให้มันเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน บางครั้งก็นอนดู Netflix ด้วยกัน กลับมาที่งานแต่งงานอีกครั้งหนึ่ง งานแต่งงานของทั้งคู่ถูกจัดขึ้นที่โบสถ์ Southport’s Holy Trinity Church ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา แต่ก่อนที่งานแต่งงานจะจบลง นาย Lee กลับขอตัวกลับบ้านเพื่อไปดูแลเจ้า Parsnip เพราะไม่อยากทิ้งให้มันต้องอยู่คนเดียว…
-
มันส์สุดโคน!! หนุ่มเพิ่มความหฤหรรษ์ทางเพศใช้สายไฟยัด ‘ไอ้จ้อน’ วุ่นวายหมอช่วยเอาออก…
แน่นอนว่าเรื่องของ ‘ความมันส์’ อาจเป็นเรื่องที่มันสนุกเกินจะห้ามใจได้ แต่ว่าบางทีถ้าหากมันส์เกินไปหน่อยจนต้องทำให้ตัวเองบาดเจ็บหรือว่าลำบากคนอื่น ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ อย่างเช่นในกรณีของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่เอาสายไฟยัดเข้าไปใน ‘ไอ้จ้อน’ เพื่อเพิ่มอรรถรสในเรื่องอารมณ์ทางเพศ ทว่าในท้ายที่สุดแล้วมันก็ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บจนต้องไปให้หมอเอาออก เรื่องราวอันแปลกประหลาดที่ว่านี้เกิดขึ้นที่เกิดขึ้นที่รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย เมื่อมีหนุ่มวัย 18 ปีคนหนึ่งรีบวิ่งแจ้นเข้ามาที่โรงพยาบาลหลังจากที่เขารู้สึกเจ็บปวดบริเวณอวัยวะเพศรวมถึงหน้าท้องอย่างรุนแรง ในเบื้องต้นชายหนุ่มคนดังกล่าวไม่ได้บอกถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นเพราะอะไร ทว่าเมื่อทางแพทย์เปิดประวัติการรักษาดู ก็พบว่าก่อนหน้านี้เขาเคยใช้สิ่งของยัดเข้าไปในอวัยวะเพศของตัวเองเพื่อเพิ่มความสำราญในเรื่องอารมณ์ทางเพศ แพทย์จึงสันนิษฐานว่าในครั้งนี้ก็คงเช่นเดียวกัน พวกเขาจึงได้นำตัวชายคนผู้ไม่เปิดเผยชื่อคนนี้ไปทำการสแกนร่างกาย แล้วก็เป็นจริงอย่างที่คาด!! เมื่อพบว่าในบริเวณกระเพาะปัสสาวะของเขามีขดลวดสายไฟจำนวนหนึ่งอยู่ ขั้นแรกทางแพทย์พยายามจะช่วยเหลือเขา ด้วยการพยายามดึงขดลวดเหล่านี้ออกมาทางอวัยวะเพศโดยตรง แต่ปรากฏว่าไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากมันเกิดไปติดที่กระเพาะปัสสาวะ ทางแพทย์จึงต้องหาหนทางอื่นในการเอาออกแทน ในที่สุดแล้วพวกเขาก็เลือกใช้ ‘เลเซอร์’ ที่มีชื่อว่า ‘Holmium Lasers’ แทน ซึ่งนี่เป็นเครื่องมือที่แพทย์ทางด้านท่อปัสสาวะใช้แก้ปัญหาต่อมลูกหมากโต แต่ว่านอกจากรักษาโรคนี้มันก็สามารถตัดวัตถุชิ้นใหญ่ๆ ในร่างกายเราได้ด้วยเช่นเดียวกัน ทางแพทย์จึงได้นำคุณสมบัติข้อนี้มาใช้สำหรับกรณีนี้ พวกเขาใช้เลเซอร์ตัดขดลวดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนกระทั่งสามารถนำมันออกมาจากร่างกายชายคนนี้ได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งชายหนุ่มก็มีอาการปลอดภัยดีไม่ได้รับอันตรายอะไร จากรายงานของทางแพทย์ระบุว่า นอกจากการรักษาตัวครั้งนี้ยังได้ทดสอบอาการทางจิตของเขาด้วย ซึ่งผลที่ออกมาก็ปรากฏว่าเขาไม่ได้มีความผิดปกติอะไร แต่ทั้งนี้ก็ไม่มีรายงานว่าวัตถุก่อนหน้าที่เขาใช้ยัดใส่อวัยวะเพศเป็นสิ่งใดกันแน่ จะเอามันส์อะไรขนาดน้านน ที่มา: dailymail, thesun
-
ยูทูบเบอร์หนุ่ม โชว์ฝีมือการขัด การตัด เปลี่ยน “รางรถไฟ” ให้กลายเป็นขวาน
ถ้าหากพูดถึงสุภาษิตไทยที่เกี่ยวกับความพยายาม ภาษิตแรกที่หลายคนอาจจะนึกออกคงจะเป็นภาษิตที่ว่า “ฝนทั่งให้เป็นเข็ม” ใช่ไหม?? แต่ถึงจะนึกออกหลายคนอาจจะงงว่า แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องของยูทูบเบอร์หนุ่มรายนี้ล่ะ?? จริงๆ แล้วต้องขอบอกก่อนเลยว่า ถึงแม้มันจะไม่ใช่การทำเข็มจากทั่ง แต่เรื่องราวของหนุ่มรายนี้ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของเขา แถมวัสดุที่ใช้ก็ยังเป็นเหล็กคล้ายๆ กันอีกด้วย!! ฮ่าๆ Tuomas Soikkeli หนุ่มหน้ามนที่ได้ทำการเปลี่ยนชิ้นส่วนของรางรถไฟ ให้กลายเป็นขวานสำหรับการต่อสู้ ที่แสนน่าทึ่ง!! โดยขั้นแรกยูทูบเบอร์หนุ่มของเราได้ทำการตัดชิ้นส่วนของรางรถไฟ ออกตามแบบร่างก่อน จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ใช้กระดาษทรายและเครื่องมือในการขัดตกแต่งให้เข้ารูปสวยงาม อ่า… เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว จากนั้นจึงทำการแบ่งมันออกเป็น 2 ส่วน ก่อนที่จะนำมาประกอบร่างกันใหม่ และในที่สุด จากชิ้นส่วนของรางรถไฟ ก็กลายเป็นขวานในที่สุด!! ไปชมเส้นทางก่อนที่รางรถไฟ จะกลายเป็นขวานกันได้ที่คลิปด้านล่างนี้เลย… ที่มา Tuomas Soikkeli
-
ล้มทฤษฎี!! สโตนเฮนจ์ไม่ได้สร้างขึ้นมาในปี 1954 ภาพที่เห็นเป็นการ “บูรณะ” ต่างหาก
เนื่องจากช่วงนี้มีข่าวลือออกมาในโลกอินเตอร์เน็ตว่า แท้จริงแล้วสโตนเฮนจ์นั้นสร้างขึ้นมาในปี 1954 และมีการให้ภาพหลักฐานเป็นการก่อสร้างด้วยอุปกรณ์ทันสมัย ซึ่งแท้จริงแล้วมาจากการบูรณะสโตนเฮนจ์ในปี 1958 ด้วยเหตุนี้เองในวันนี้ #เหมียวศรัทธา เลยจะมาพูดถึงการ “บูรณะ” ของสโตนเฮนจ์กันเสียหน่อย หนึ่งในรูปที่มีการถูกแอบอ้าง คาดว่าน่าจะมาจากการบูรณะในปี 1958 สโตนเฮนจ์เป็นอนุสรณ์สถาน ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นจากแท่งหินขนาดยักษ์ และจากการตรวจสอบด้วยคาร์บอนกัมมันตรังสี ก็พบว่าก้อนหินชิ้นที่เก่าแก่ที่สุดนั้นมีอายุมากถึง 2,400-2,200 ปีก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว อย่าว่าแต่ตัวสโตนเฮนจ์เองเลย เพราะแม้แต่ประวัติการบูรณะของสโตนเฮนจ์ก็มีการพูดถึงกันมาตั้งแต่ในศตวรรษที่ 18 แล้ว เนื่องจากในปี 1797 มีก้อนหินก้อนหนึ่งตกลงมาจากที่ที่ควรจะเป็น ทำให้มีการพูดคุยถึงการบูรณะอนุสรณ์สถานแห่งนี้มาตั้งแต่ตอนนั้น อย่างไรก็ตามกว่าจะมีการนำหินก้อนดังกล่าวกลับไปวางไว้ทีเดิมมันก็หลังจากนั้นอีกนานเลย ภาพถ่ายของสโตนเฮนจ์ก่อนการบูรณะ จากปี 1877 จะสังเกตเห็นว่าก้อนหินหลายอันตกลงมาจากที่ที่ควร การบูรณะครั้งใหญ่ของสโตนเฮนจ์เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1901 และมีการพยายามบูรณะเพิ่มเติมอีกครั้งในปี 1920 อย่างไรก็ตาม ภาพงานบูรณะที่มีชื่อเสียง (และถูกนำไปแอบอ้าง) มากที่สุดคือภาพการบูรณะในปี 1958 นั่นเอง เพราะในการบูรณะเมื่อปี 1958 มีการนำก้อนหินขนาดใหญ่กลับไปวางในที่ที่มันตกลงมา และเป็นที่มาของรถเครนที่มีการอ้างถึงในภาพบ่อยๆ นั่นเอง ภาพการบูรณะสโตนเฮนจ์ในหนังสือพิมพ์เมื่อปี 1920…
-
“กลุ่มอาการลาซารัส” อาการประหลาดที่ทำให้คนเรา “คืนชีพ” จากความตายได้เอง
เคยได้ยินเรื่องราวของคนที่ตายแล้วจู่ๆ กลับฟื้นขึ้นมาไหม จริงอยู่ว่าเรื่องเหล่านั้นอาจจะมีที่มาที่หลากหลาย แต่หนึ่งในเหตุผลของอาการเหล่านี้คือปรากฏการณ์ที่มีชื่อในทางวิทยาศาสตร์ว่า “กลุ่มอาการลาซารัส” นั่นเอง กลุ่มอาการลาซารัส หรือ Lazarus syndrome เป็นปรากฏการณ์ที่การไหลเวียนโลหิตกลับมาทำงานได้เอง หลังจากที่ความพยายามในการช่วยฟื้นคืนชีพ (ปั๊มหัวใจ) ล้มเหลว ว่าง่ายๆ ว่าผู้ป่วยจะมีภาวะหัวใจหยุดเต้น “เหมือนกับว่าตาย” อยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งต่อให้มีการปั๊มหัวใจก็ไม่พื้น แต่ต่อมากลับ “คืนชีพ” ขึ้นมาได้เอง กลุ่มอาการลาซารัส ได้ชื่อมาจาก “นักบุญลาซารัส” ผู้ที่คืนชีพจากความตายด้วยพรของพระเยซู โดยตั้งแต่ปี 1982 มีการบันทึกปรากฏการณ์เช่นนี้อยู่ที่ราวๆ 25 เหตุการณ์ ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่น้อยมาก นั่นทำให้กลุ่มอาการลาซารัสยังไม่มีการทราบสาเหตุที่แน่ชัด บ้างก็ว่าอาจเกิดจากการที่แรงกดตอนปั๊มหัวใจทำให้มีแรงดันในช่องอกสูง ดังนั้นเมื่อหยุดปั๊มหัวใจเลือดจึงค่อยๆ เข้าไปในช่องอกมากขึ้น ทำให้หัวใจกลับมาเต้น นอกจากนี้ยังมีทฤษฎีที่ว่ากลุ่มอาการลาซารัสอาจจะเกิดขึ้นได้จากการออกฤทธิ์ที่ล่าช้าของยาที่ใช้ในการกู้ชีพเช่นอะดรีนาลีนก็เป็นได้ นอกจากนี้ก็ยังมีภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง หรือการได้รับยาเอพิเนฟรีนในปริมาณมากเป็นต้น คนไข้ที่มีกลุ่มอาการลาซารัสและเป็นที่รู้จักได้แก่ชายวัย 66 ปี ที่หัวใจหยุดเต้นระหว่างผ่าตัดจนทีมแพทย์ลงความเห็นว่าตาย แต่กลับมามีชีวิตใน 10 นาทีหลังจากการลงความเห็น เมื่อปี 2001 และชายวัย…
-
6 กระดูกและฟอสซิลในอดีต ที่จะตายทั้งที ก็ดันมาตายในตอนที่ไม่เท่สุดๆ เสียอย่างนั้น
สิ่งมีชีวิตบนโลกไม่สามารถดูดีได้ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้นคนส่วนมากก็มักจะอยากถูกจดจำในด้านดีๆ ของตัวเอง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะเป็นไปได้สำหรับทุกๆ คน เพราะความตายไม่ใช่สิ่งที่แน่นอน ดังนั้นในบางครั้งความตายก็จะมาเยือนเราในเวลาที่เราดูแย่ที่สุดก็เป็นได้ เหมือนกับเหล่าโครงกระดูกและฟอสซิลในประวัติศาสตร์เหล่านี้ ฟอสซิลแมงมุมขายาว นี่คือฟอสซิลของแมงมุมขายาวโบราณที่ว่ากันว่าเป็นบรรพบุรุษของแมงโหย่งที่ถูกค้นพบในประเทศพม่า อย่างไรก็ตามฟอสซิลชิ้นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ติ่งน้อยๆ (ที่มีความยาวครึ่งหนึ่งของขนาดลำตัว) ของเจ้าแมงมุมมากกว่า เพราะไม่ใช่แค่เจ้าแมงมุมตายกลายเป็นฟอสซิลในระหว่างที่กำลังแข็งตัวเท่านั้น แต่เจ้าตัวน้อยของมันยังแข็งตัวอยู่แบบนั้นมานานกว่า 99 ล้านปีเลยทีเดียว การต่อสู้ของไดโนเสาร์ นี่เป็นฟอสซิลที่ถูกพบในปี 1971 โดยเป็นการล่าเหยื่อของ Velociraptor ที่กำลังพยายามจะปลิดชีพ Protoceratops อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ Velociraptor จะใช้เล็บแทงคอ Protoceratops เหยื่อของมันกลับเอาคืนด้วยการหักแขนขวาของ Velociraptor เสียก่อนทำให้ผู้ล่าตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบกว่าที่คิด ปัญหาคือก่อนที่ผลการต่อสู้จะออกมาทั้งคู่ก็ต้องตายไปเสียก่อนจากคลื่นทราย และกลายเป็นฟอสซิลอย่างที่เราเห็นไป ซึ่งไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ท่าทางของ Velociraptor มันไม่เหลือความน่าเกรงขามเลยสักนิด ฟอสซิลเห็บติดใยแมงมุม คิดว่าวันนี้เป็นวันที่ไม่ดีเท่าไหร่หรือเปล่า มองมาดูเห็บตัวนี้กันดีกว่า เพราะนี่คือเห็บอายุ 99 ล้านปีที่โชคร้ายไปติดอยู่ในใยแมงมุม และในขณะที่มันกำลังพยายามจะออกจากใยอยู่นี่เอง มันก็โดนยางไม้เขาซ้ำจนกลายเป็นอำพันสุดงามอย่างที่เห็น การปะทะกันของกวางมูซ นี่เป็นการต่อสู้คล้ายๆ กรณีของไดโนเสาร์ด้านบน มันเป็นการพุ่งเขาชนกันเพื่อต่อสู้ของกวางมูซหนุ่มสองตัวเพื่อแย่งอาณาเขต (ไม่ก็ตัวเมีย) ปัญหาคือระหว่างที่สู้กันอยู่พวกมันก็โดนภัยธรรมชาติกลืนหายไปเสียก่อน ทิ้งไว้เพียงร่างที่แช่อยู่ในน้ำแข็งเท่านั้น โครงกระดูกแห่งปอมเปอี นี่เป็นโครงกระดูกของชายที่ว่ากันว่าโชคร้ายที่สุดในโลกที่ถูกค้นพบในเมืองปอมเปอี และกลายเป็นมีมบนโลกอินเตอร์เน็ตอยู่ช่วงหนึ่ง เขาถูกทับโดยบล็อกหินขนาดใหญ่ในระหว่างวิ่งหนีจากการปะทุของภูเขาไฟวิสุเวียส และเสียชีวิตลงในสภาพอย่างที่เห็น …
-
The Origin of the World ภาพวาด “ของลับ” สุดอื้อฉาว กับปริศนานางแบบที่เพิ่งถูกไข
ในปี 1866 Gustave Courbet จิตรกรชาวฝรั่งเศสได้ฝากผลงานสุดอื้อฉาวภาพหนึ่งไว้กับโลก และกลายเป็นผลงานที่มีการโต้เถียงกันมาอย่างยาวนานในหมู่นักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ชื่อของผลงานชิ้นนี้คือ “The Origin of the World” แปลว่า “จุดเริ่มต้นของโลก” โดยเป็นภาพวาด “ของลับ” ของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากในสังคมฝรั่งเศสเมื่อศตวรรษที่ 19 อย่างที่เห็นว่าภาพดังกล่าวนี้มีความล่อแหลม จนในปี 2011 ทาง Facebook เคยเซนเซอร์โปรไฟล์ที่ใช้ภาพดังกล่าวจนเกิดเป็นคดีความมาแล้วเลยด้วย ตั้งแต่สมัยก่อนแล้วที่มีหลายๆ คนสงสัยว่าใครกันแน่ที่เป็นนางแบบของภาพอันอื้อฉาวนี้ โดยในสมัยก่อนคนส่วนมากเชื่อกันว่านางแบบของภาพภาพนี้น่าจะเป็นนางแบบชาวไอริช Joanna Hiffernan ผู้เป็นคนรักของ Courbet ภาพวาดของ Joanna Hiffernan คนรักของ Courbet อย่างไรก็ตาม Hiffernan นั้นมีผมสีแดงทำให้หลายๆ คนสงสัยว่าทำไมหญิงสาวในภาพของ Courbet จึงมีเส้นขนสีดำกันแน่ นั่นทำให้มีแนวคิดที่ว่าผู้หญิงในภาพน่าจะเป็นหญิงสาวคนอื่น และล่าสุดนี้เองจากทฤษฎีของนักประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส Claude Schopp เขาคาดว่านางแบบของภาพภาพนี้น่าจะเป็นนักเต้นบัลเล่ต์ที่ชื่อ Constance Queniaux เสียมากกว่า Constance Queniaux หญิงที่อาจเป็นนางแบบของ The Origin of the World นี่เป็นทฤษฎีที่อ้างอิงจากจดหมายของ Alexandre…
-
6+1 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ “เรื่องเพศ” ในอียิปต์โบราณ เอกลักษณ์ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
วัฒนธรรมของโลกนั้นเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัยสิ่งที่เราเห็นเป็นเรื่องธรรมดาในปัจจุบันอาจจะถูกมองเป็นเรื่องแปลกในอนาคตก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน ภาษา ความเป็นอยู่ และแน่นอนว่าเรื่องเพศก็ด้วย ชื่อว่าหลายๆ คนคงพอจะรู้เรื่องความเป็นเอกลักษณ์ของเรื่องเพศในสมัยก่อนอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะไม่เคยได้ยินเรื่องเพศของคนอียิปต์โบราณมาก่อนเลยก็ได้ และนั่นคือสิ่งที่เราจะไปชมกันในวันนี้ นี่คือ 6+1 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องเพศในสมัยอียิปต์โบราณที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน การสมสู่กับศพเป็นที่กังวลมากของคนอียิปต์ เราทราบกันดีกว่าคนอียิปต์มีการรักษาศพที่ดีมากๆ แต่คนที่เป็นผู้ทำมัมมี่กลับไม่ใช่ว่าจะเป็นคนดีทุกคน เพราะมีข่าวลือที่ถูกบันทึกไว้อย่างน้อยๆ หนึ่งคดีที่มีความเกี่ยวข้องกับการที่คนทำมัมมี่สมสู่กับศพของหญิงสาวรูปงาม นั่นทำให้หลังจากนั้นมาคนอียิปต์จะไม่มอบร่างคนสวยให้ช่างทำมัมมี่ในทันที และทางช่างทำมัมมี่เองก็จะช่วยกันดูแลสอดส่องเพื่อนร่วมงานด้วย หากเห็นใครสมสู่กับศพ ชายคนนั้นจะถูกประณาม พวกเขาใช้มูลจระเข้และยางไม้ในการคุมกำเนิด จากที่บันทึกไว้ในปาปิรุส คนอียิปต์จะนำ “กัมอะราบิก” ยางที่ได้จากต้นไม้สกุลอะคาเซียมา “ปกปากมดลูก” ระหว่างร่วมเพศซึ่งได้ผล “ในระดับหนึ่ง” นอกจากนี้ยังมีการนำมูลของจระเข้ไปผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ยัดใส่ในของลับผู้หญิงเพื่อคุมกำเนิดด้วย การมีเซ็กส์กับสัตว์เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คิด เป็นไปได้ว่านี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากการที่คนอียิปต์นับถือในพระเจ้าที่มีหัวเป็นสัตว์ ทำให้มีการกล่าวถึงการสมสู่ระหว่างคนและสัตว์ในผลงานศิลป์ของอียิปต์อยู่บ่อยครั้ง และแม้จะมีข้อห้ามในเรื่องนี้อยู่แต่ก็ยังมีคนที่ฝ่าฝืนทำมันอยู่ดี ไม่มีใครใส่ใจเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ สำหรับชาวโรมันสาวพรหมจรรย์อาจจะถือเป็นอะไรที่มีค่ามากๆ แต่สำหรับชาวอียิปต์แล้ว พรหมจรรย์ไม่ใช่อะไรที่มีค่าขนาดนั้น แถมตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้แต่งงานทั้งคู่การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดเสียด้วย การนอกใจถือเป็นความผิดมหันต์ แม้ว่าการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานจะไม่ใช่เรื่องผิด แต่หากไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่ครองหลังแต่งงานในอียิปต์กลับเป็นอะไรที่มีความผิดรุนแรงมากๆ ถึงขั้นมีว่าการมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาคนอื่นอาจจะนำไปสู่การที่ทั้งคู่โดนเฆี่ยน โดนตัดแขนตัดขา หรือว่ารุนแรงถึงขั้นประหารเลยทีเดียว น่าแปลกที่ในกรณีที่ชายแต่งงานแล้วไปมีชู้กับหญิงสาวซึ่งยังไม่ได้แต่งงาน ชายที่แต่งงานแล้วกลับโดนลงโทษเพียงแค่การประณามจากสังคมเท่านั้น การแต่งงานกันเองในหมู่พี่น้องเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ในหมู่คนชั้นสูง…
-
นี่คือ 18 มนุษย์ที่น่าจะเรียกได้ว่า ‘กลายพันธุ์’ เพราะการกระทำของพวกเขามันฮาจนน้ำตาแทบเล็ด!!
เมื่อไหร่ที่ ‘ความเบื่อ’ เข้ามาเยือน ด้วยสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดของมนุษย์เราก็มักจะหาวิธีมากำจัดให้ความเบื่อเหล่านั้นหมดไปได้อยู่เสมอ แม้ว่าบางครั้งมันอาจจะดูแปลกแหวกจะซะจนคิดว่าอย่างนี้มันคือสิ่งที่คนทำจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย ถ้ายังนึกไม่ออกว่าเป็นยังไงถ้าอย่างนั้นลองมาดูตัวอย่างของพวกเขาเหล่านี้ แล้วจะรู้ว่าความฮาที่แท้ทรูนั้นเป็นเช่นไร… พี่ๆ หายใจทางไหนบอกหน่อย เค้าเรียกว่าปลอดภัยไว้ก่อน เดินธรรมดามันน่าเบื่อ เอาเท้ามาเคี้ยวเล่นดีกว่า บอกพ่อสิลูก ข้างหน้ามีอะไรบ้างไหม ห่านดินกินหญ้า ห่านฟ้ากินยุง แต่เรากินไม้!! นี่มันสนามรบ ไม่รู้หรอ นี่คือวิธีรับมือกับสัตว์ประหลาด รองเต้าแตะ!! เก่งไหมล่ะ ใครจะทำอย่างผมได้ เอาสิ ก็คนมันหน้าตาดีจะทำอะไรก็ได้ คอสเพลย์อะไรเนี่ย เมื่อโลกใบนี้มันร้อนเกินไปสำหรับเรา แต่งตัวไปฮัลโลวีน ใครไม่กลัวให้รู้ๆ กันไป ลองนึกภาพเขามาอยู่บนรถขบวนเดียวกับคุณดูสิ ร็อคแมน V.5 (แอบดักแก่ อิอิ) รถซูเปอร์ฮีโร่ ก็ต้องเติมน้ำมันเหมือนกัน ไอติมรสที่ฉันหามันหายไปไหนฟะเนี่ย…
-
19 เหตุการณ์จากฝีมือมนุษย์ กับความคิดแบบเหนือมนุษย์ เห็นแล้วอยากยกธงบอกล้ำหน้า
บทความนี้ไม่มีอะไรมาก ไม่จำเป็นต้องเกริ่นอะไรเยอะ เพราะภาพที่เรากำลังจะได้เห็นกันนี้มันเป็นอะไรที่พิสดาร ล้ำหน้าความคิดเราไปไกลหลายต่อหลายขุม โดยที่มันเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นกันเองทั้งนั้น เอาเป็นว่าเกริ่นนำแค่นี้พอดีกว่า เราลองไปชมภาพแปลกๆ ที่ไม่อาจหาดูได้ง่ายๆ พร้อมๆ กันเลย ผมว่าวันนี้มาโนชเขาดูแปลกๆ ไปนะครับ เขาบอกว่ากล้วยให้พลังงานสูง หิวน้ำมั้ยเพื่อน… เชื่อสิ เราว่ามันดีกว่าขวดโค้กแน่นอน… ผมเชื่อว่าสามารถขนไปได้ในรอบเดียวครับ ยืนแล้วมันเมื่อยง่ะ การใช้งานตู้โทรศัพท์ในปี 2018 บริการรับ-ส่ง ที่ผมขอไม่ยุ่งนะครับ ถึงขั้นฟ้าเหลือง ผอมซูบกันไปเลยทีเดียวเชียว ก็หิวนี่นา จะให้ทำไงได้ ช่างซ่อมบำรุงที่มาช่วยงานเราในวันนี้ เป็นรถที่ไม่สามารถกดปุ่มใดๆ ได้เลย เอาซะหิวเลยนะ อะไรเอ่ย?? มีคอมเครื่องเดียวมันไม่พอใช้จริงๆ ถ้าผิวยังไม่ดีอีกก็ให้มันรู้ไป!! ใช้ให้ถูกนะ ข้างล่างสำหรับเด็ก ถ้าผู้ใหญ่ต้องใช้อันข้างบน… จะแบกให้มันเมื่อยไปทำไม…
-
หมวกกันน็อกถุงลมนิรภัย หมวกกันน็อกรูปแบบใหม่ สำหรับคนที่ไม่ชอบให้อะไร “หนักหัว”
เรื่องราวที่ #เหมียวเวจจี้ นำมาฝากเพื่อนๆ กันในครั้งนี้ อาจจะทำให้กระเป๋าสตางค์ของเหล่านักปั่นหลายๆ คนอยู่ไม่เป็นสุขอย่างแน่นอน เพราะเรากำลังจะพาไปรู้จักกับหมวกกันน็อกสุดล้ำจากประเทศสวีเดน ที่สามารถพองตัวออกมาได้เองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ!! เรียกว่าเหมาะสำหรับใครที่ไม่ค่อยชอบใส่หมวกกันน็อกเวลาปั่นจักรยาน หรือไม่ชอบให้หมวกมาบดบังความสวยความหล่อกันเลยทีเดียว แบบนี้… หมวกกันน็อกสุดล้ำนี้เป็นผลงานการออกแบบของบริษัท Hövding Sverige AB บริษัทสัญชาติสวีเดนอย่างที่บอกไปตอนต้น มันจะทำให้คุณลืมหมวกกันน็อกแบบเดิมๆ เพราะไม่ต้องสวมไว้ที่ศีรษะ แต่มันมีลักษณะคล้ายกับผ้าพันคอนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นความปลอดภัยที่แฝงไปด้วยแฟชั่นเลยก็ว่าได้ หลักการทำงานของหมวกกันน็อกใบนี้ก็คล้ายๆ กับการทำงานของถุงลมนิรภัย โดยเซนเซอร์ที่ติดอยู่จะทำการตรวจจับการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้สวมใส่ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น ภายในระยะเวลาแค่ 0.1 วินาที ถุงลมนิรภัยที่ซ่อนอยู่จะเด้งออกมารองรับศีรษะของผู้สวมใส่ และป้องกันหัวของคุณให้ปลอดภัยจากแรงกระแทก เซนเซอร์ที่คอยตรวจจับการเคลื่อนไหวของเรา และนอกจากจะทำจากวัสดุอย่างเส้นใยคุณภาพสูงแล้ว หมวกกันน็อกใบนี้ยังรับแรงกระแทกได้ดีกว่าหมวกกันน็อกแบบธรรมดาถึง 3 เท่า ไปชมคลิปวิดีโอการทดสอบกันเลย… และสำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของหมวกกันน็อกใบนี้ล่ะก็ สามารถเข้าไปเช็กราคา และดูการสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ shop.hovding กันได้เลย แต่จากที่ #เหมียวเวจจี้ ลองเขาไปสำรวจมา ราคาเบาๆ แค่ใบละ 11,000 บาทเท่านั้นเองนะ ที่มา hovding
-
เปิดเมนูพิสดาร ‘นิ้วมือลูซิเฟอร์’ สมญานาม ‘เห็ดทรัฟเฟิลแห่งท้องทะเล’ กับราคามหาโหด!!
ถ้าจะพูดถึงเมนู ‘เปิบพิสดาร’ เราๆ ก็คงจะนึกว่าเมนูอย่าง ยำไข่มดแดง กุ้งเต้น ลาบดิบอะไรต่างๆ นานา แต่ถ้าลองให้นึกถึงอาหารต่างประเทศที่เป็นเมนูแปลกๆ มันก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ วันนี้เราไปรู้จักกับอีกหนึ่งเมนูแปลกๆ แต่มีราคาแพงสุดๆ กันเลยดีกว่า โดยเมนูที่ #เหมียวจิวยี่ จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกันนั้นมีชื่อเรียกแสนน่ากลัวว่า ‘นิ้วมือลูซิเฟอร์’ (Lucifer’s Fingers)!! โดยเจ้านิ้วมือลูซิเฟอร์ที่ว่านี้จัดได้ว่าเป็นอาหารอันโอชะของประเทศแถบๆ โปรตุเกสหรือสเปน ซึ่งบางร้านนั้นมันมีราคาต่อจานสูงถึง 115 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,700 บาท) แถมมันยังมีรสชาติอร่อยจนถึงขั้นที่บางคนเปรียบว่าเมนูนี้นี่แหละคือ ‘เห็ดทรัฟเฟิลแห่งท้องทะเล’ เลยทีเดียว ก่อนอื่นนั้นต้องขออธิบายก่อนว่า เมนูนี้มันคือตัว ‘เพรียงคอห่าน’ สัตว์ลึกลับแห่งท้องทะเล และก็เพราะความหายากและวิธีการจับอันเสี่ยงตายของผู้ล่าตัวมันนี้เอง จึงทำให้มันมีราคาแพงได้ถึงเพียงนี้ โดยเจ้าเพรียงที่ว่านี้จะไม่สามารถนำมาเลี้ยงเพาะพันธุ์ได้ มันจะอยู่ตามท่อนไม้ที่ลอยอยู่ในทะเลหรือโขดหินที่อยู่ในบริเวณรอยต่อระหว่างน้ำขึ้นกับน้ำลง (Intertidal Zone) เท่านั้น ซึ่งในโซนที่ว่านี้มีความอันตรายเป็นอย่างมากจากคลื่นที่แรง จนเคยทำให้มีผู้ล่าเสียชีวิตหรือแข้งขาหักมาแล้วก็มีมาไม่น้อย ไปดูวิธีการจับมันซะก่อน “อย่าหันหลังกลับมามองพระเจ้า…
-
นศ. สาวราดผงฟอกขาวใส่ ‘เป้า’ ผู้ชาย โดนชาวเน็ตโต้ที่นั่งแบบนั้น เพราะธรรมชาติโว้ย!!
เหตุการณ์ต่อเนื่องมาจาก “นักศึกษาสาว ทำคลิปนำน้ำผสมผงฟอกขาว เทราด “เป้า” ผู้ชาย เพราะไม่พอใจที่นั่งขาอ้าซ่า” จนกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียลของประเทศรัสเซีย อ่านข่าวเก่าได้ที่ : นักศึกษาสาว ทำคลิปนำน้ำผสมผงฟอกขาว เทราด “เป้า” ผู้ชาย เพราะไม่พอใจนั่งขาอ้าซ่า อย่างที่รู้กันดีว่า ‘การนั่งอ้าขา’ ของผู้ชายในที่สาธารณะนั้น ถูกมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีมารยาท เพราะนอกจากจะตกเป็นเป้าสายตารบกวนผู้อื่นแล้ว ยังเป็นการ ‘กินที่’ ไม่ให้ผู้อื่นมาใช้งานที่นั่งร่วมได้อีกด้วย จากการกระทำของหญิงสาวนักกิจกรรมเพื่อสิทธิสตรีทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย บางส่วนก็มองว่าเป็นกระทำที่เกินกว่าเหตุ บางส่วนก็มองว่านักกิจกรรมเรียกร้องความเท่าเทียม ของให้ผู้ชายมีมารยาท แต่ตัวเองกลับไร้มารยาทซะเอง คลิปวิดีโอดังกล่าว บางส่วนก็ออกมาให้ข้อมูลว่า “ที่ผู้ชายต้องนั่งอ้าขานั้น เป็นเพราะว่ามันไม่สบายเนื้อสบายตัว เพราะการหนีบขามันทำให้ ‘ลูกอัณฑะ’ ถูกบีบนั่นเอง” แล้วการยกคำกล่าวนี้มาอ้าง มันจริงแท้หรือไม่อย่างไร? เราลองไปฟังข้อมูลจากศัลยแพทย์เกี่ยวกับประสาทกระดูกสันหลังกันดูครับ ดอกเตอร์ John Sutcliffe กล่าวว่า “ความกว้างโดยเฉลี่ยของ ‘กระดูกเชิงกราน’ ในผู้หญิงนั้นจะ มีมากกว่าผู้ชาย และสามารถขยับคอกระดูกต้นขาได้เร็วกว่าผู้ชาย นั่นทำให้ท่าทางในการนั่งหัวเข่าของผู้หญิงจะอยู่ชิดติดกัน ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาของผู้หญิง” “กลับกันผู้ชายที่ต้องนั่งอ้าขาเพราะต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้…
-
ใจบางไปหมดแล้ว เอ็นดูเหลือเกิน “ไอซ์ พาริส” หรือ ฉี จาก #เลือดข้นคนจาง
ละครที่มาแรงที่สุดที่มีคนกล่าวถึงทั่วโลกออนไลน์ ณ ขณะนี้ คงไม่มีเรื่องไหนที่จะกลายเป็นที่กล่าวถึงไปมากกว่าละครเรื่อง ‘เลือดข้นคนจาง’ ละครที่จะมาปลุกความเป็นนักสืบในตัวคุณกับประเด็นเด็ดในตอนนี้ “ใครฆ่าประเสริฐ?” ละครเรื่องนี้ นอกจากเนื้อเรื่องที่น่าติดตามแล้ว เรื่องของนักแสดงที่คัดมานั้น เรีบกได้ว่าแต่ละคนนั้นงานดีสุดๆ แต่จากการกล่าวถึงในโลกออนไลน์ คนที่ดูท่าว่าจะมาแรงที่สุดก็คือนักแสดงใหม่ที่มารับบท ฉี ลูกชายลับๆ ของคุณประเสริฐ ที่แสดงโดย ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต (แค่ชื่อก็เท่แล้วอ่า) สำหรับคนที่ได้ติดตามละคร ตอนแรกเราอาจจะเห็นว่า ฉี เป็นคนที่ดูไม่ค่อยจะสนใจใคร ดูห้าวๆ เป็นหนุ่มติสต์ แต่เป็นคนที่รักแม่มากๆ แต่จากตอนล่าสุดทำให้เราได้มองฉีเปลี่ยนไป จากหนุ่มที่ดูเหมือนจะพร้อมบวกทุกอย่างที่ขวางหน้ากลายเป็นหนุ่มน้อยที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อแม่ของเขาเอง ยิ่งพอได้เจอกับพีท ลูกอีกคนของพ่อแล้วดูอ่อนโยนไปเลย น้องงงง เอ็นดูเหลือเกิน พ่อคุณ นอกจอก็งานดีมากค่ะคุณขา จะขึ้นแท่นว่าที่สามีแห่งชาติคนต่อไปไหม ผู้ชายแต่งตัวแบบนี้คือดีย์ ไอซ์ พาริส อายุ 20 ปี เป็นนักแสดงใหม่สังกัดนาดาวบางกอก เคยมีผลงานซีรีส์ S the…
-
“โถอ้วก” ตอบโจทย์นักดื่มคอปุยนุ่น คุณจะได้ไม่ต้องไปนั่งกอดชักโครกกันอีกต่อไป…
ว่าด้วยเรื่องของ “การร่ำสุรา” สิ่งที่จะตามมาในยามที่เราดื่มหนักเมามาย คงมิวายหนีไม่พันกับการ “อ้วกแตก” เพื่อนๆ บางคนอาจคิดว่างั้นก็ไม่ต้องกินให้มันหนักจนถึงขั้นอ้วกแตกสิ!! แต่อะไรๆ มันก็เกิดขึ้นได้ (ถ้ามีปาปริก้า??) บางทีเราอาจเมามันไปกับปาร์ตี้ เมาให้สุดแล้วไปหยุดตอนนั่งกอดชักโครก…. แต่ภาพอันน่าอนาถอย่างนั้นอาจไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป ถ้าเรามีโอกาสได้เจอกับ “โถอ้วก” สิ่งประดิษฐ์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อนักดื่มสายแข็ง (บ่แต้) โดยเฉพาะ ทำให้การอ้วกของคุณดูดีเป็นที่เป็นทางขึ้นอีกเป็นกอง แท่น แท่น แท่น แท๊นนนน!! เจ้าสิ่งนี้กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในโซเชียลมีเดียที่ชื่อว่า Reddit เมื่อมีคนไปพบกับมันเข้าในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ณ ประเทศเยอรมนี นับว่าเป็นอะไรที่ตอบโจทย์อย่างมาก ด้วยดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อการอ้วกโดยเฉพาะ ในยามที่รู้สึกเคว้งคว้างมิอาจหาจุดยืนในชีวิต เขาก็มีราวจับให้เราสามารถทรงตัว เพลิดเพลินไปกับการอ้วกได้อย่างเต็มที่ สิ่งที่จะทำให้เราไม่ต้องเป็นแบบนี้อีกต่อไป และเจ้าสิ่งนี้ก็ไม่ได้มีแค่ในประเทศเยอรมนีแค่ที่เดียว เพราะล่าสุดได้มีคนเข้ามาตอบคอมเมนต์ เผยให้เห็นภาพว่าเขานั้นได้ไปเจอสิ่งประดิษฐ์แบบเดียวกันในกรุงปราก (ช่อง??) สาธารณรัฐเช็ก ด้วย แถมยังมีคู่มือการใช้งานติดอยู่ข้างๆ ด้วยนะ (ตอนนั้นคงไม่อ่านละแหละ) หวังว่าในอนาคตเราจะได้เห็นเจ้าสิ่งประดิษฐ์หน้าตาแบบนี้ในบ้านเราบ้างนะ เพราะอย่างน้อยเราก็จะได้ไม่ต้องเข้าห้องน้ำไปแล้วเห็นใครนั่งกอดกับชักโครกราวกับเป็นสามีภรรยากันอะไรทำนองนั้นอีกแล้ว ที่มา: ladbible
-
หมดกันทริปในฝัน…. สาวดันไปบอกว่าตัวเองเป็น “ผู้ก่อการร้าย” อดไปเที่ยวนิวยอร์กตามที่วางแผนไว้
เราอาจเคยคิดว่าความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในการกรอกแบบฟอร์มบางอย่าง อาจสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ แต่บางครั้งมันกลับตรงกันข้ามกับที่เราคิดเอาไว้เลย เรื่องอะไรในลักษณะนั้นได้เกิดขึ้นกับ Mandie Stevenson หญิงสาวชาวอังกฤษผู้ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม เธอวางแผนจะเดินทางไปนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แต่เธอกลับทำพลาดซะจนกลายเป็นปัญหาใหญ่กว่าที่คิด Mandie หญิงสาวผู้โชคร้าย หญิงสาววัย 29 ปีคนนี้ได้เข้าไปกรอกแบบฟอร์มยื่นคำร้องละเว้นวีซ่า ของระบบออนไลน์ที่เรียกว่า ESTA (Electronic System for Travel Authorization) เพื่อไปเที่ยวกับ Ross แฟนหนุ่มของเธอ แล้วเธอก็ได้เจอกับคำถามที่ว่า “คุณพยายามที่จะเข้าร่วมหรือเคยเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการก่อการร้าย การโจรกรรม การก่อวินาศกรรม หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่?” แน่นอนว่าในข้อนี้เธอก็จะต้องตอบว่า “ไม่” อย่างแน่นอน แต่มันอาจเป็นเพราะเธอเบลอจนกดผิด หรือไม่แท็บเล็ตของเธอก็อาจจะพังอย่างที่เธออ้างในภายหลัง จนทำให้คำตอบที่เธอส่งไปมันกลายเป็นคำว่า “ใช่” แทน บรรลัยละทีนี้ อยู่ดีๆ เธอก็กลายเป็นผู้ก่อการร้ายซะอย่างนั้น ตอนแรกเธอก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร คำตอบแค่นี้น่าจะแก้ได้ง่ายๆ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นเนี่ยสิ Mandie ได้เดินทางไปติดต่อกับสถานทูตสหรัฐอเมริกา ในกรุงลอนดอน โดยพวกเขาได้บอกกับเธอว่าไม่สามารถแก้ไขคำตอบของเธอได้ และการยื่นคำร้องขอละเว้นวีซ่าของเธอนั้นก็ไม่ผ่านไปโดยปริยาย…
-
หนุ่มตกเครื่อง พยายามวิ่งไล่ตาม พร้อมตะโกนขอให้กัปตันหยุดเครื่องรอ
ถ้าหากว่าคุณกำลังจะพลาดรถทัวร์เที่ยวที่ซื้อตั๋วเอาไว้ การตะโกนเรียกคนขับอาจจะช่วยให้คุณรอดได้ แต่สำหรับการเดินทางด้วยเครื่องบินแล้ว การวิ่งพร้อมกับตะโกนเรียกกัปตันให้จอดนั้นอาจจะทำให้คุณถูกจับได้ Patrick Kehoe หนุ่มวัย 23 ปีพยายามวิ่งเรียกเครื่องบินจากสายการบิน Ryanair หลังจากที่เขามาช้าและกำลังจะพลาดเที่ยวบินดังกล่าว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติดับลิน กรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งเที่ยวบินดังกล่าวกำลังจะออกเดินทางไปยังกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ลูกเรือภาคพื้นรายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า หนุ่มวัย 23 ปีรายนี้วิ่งออกจากอาคารผู้โดยสาร และตรงเข้าไปที่เครื่องบินที่กำลังวิ่งอยู่บนรันเวย์ หนึ่งในพยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า หนุ่มไอริชรายนี้พลาดเที่ยวบินของเขา ก่อนที่จะวิ่งตามไปพร้อมกับสัมภาระที่หนีบเอาไว้ตรงแขน Declan Harvey หนึ่งในผู้สื่อข่าวของ BBC News NI ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้โพสต์ภาพในสนามบินดังกล่าว พร้อมข้อความบอกว่า ชายคนดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับทันทีที่เขาวิ่งออกมาตรงรันเวย์ “สุดท้ายเขาก็ถูกจับลงที่พื้นโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจของสนามบิน หลังจากที่วิ่งออกจากตึกไปที่เครื่องบิน พร้อมตะโกนให้นักบินรอก่อน” ข้อความจากทางทวิตเตอร์ของผู้สื่อข่าว A late passenger has been pinned to the ground by @DublinAirport police after running out of the terminal towards…
-
สาวชาวนาสุดเจ๋ง ใช้กระสอบปูน 40 กระสอบ ถักทอขึ้นมากลายเป็น ‘ชุดเจ้าสาว’ แสนสวย!!
นับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียทางเลือกในการทำ ‘ชุดเจ้าสาว’ ด้วยตัวเองสำหรับใครที่อยากแปลกแหวกแนวและไม่เหมือนคนอื่น เพราะตอนนี้มีสาวคนหนึ่งผลิตชุดเจ้าสาวสุดอินดี้ขึ้นมา และกำลังได้รับการตอบรับที่ดีในโลกโซเชียลแล้วเป็นล้านๆ คน Lili Tan หญิงสาวชาวนาวัย 28 ปีแห่งหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับเมืองหลงหนาน มณฑลกานซู่ ประเทศจีน คือคนที่สร้างปรากฏการณ์ดังกล่าว ซึ่งอันที่จริงแล้วเธอไม่เคยเข้าเรียนวิชาแฟชั่นดีไซน์ที่ไหนๆ แต่เธอก็สามารถผลิตชุดเจ้าสาวแสนสวยที่ทำมาจากกระสอบปูนได้ เธอกล่าวว่าเธอใช้เวลาว่างหลังจากที่กลับจากท้องไร่ท้องนาหรือในวันที่ฝนตกถักทอชุดดังกล่าวขึ้น ซึ่งกว่าจะสำเร็จเป็นชุดอย่างที่เห็นก็ใช้กระสอบไปมากกว่า 40 กระสอบ และโดยส่วนมากแล้วกระสอบเหล่านี้จะเป็นกระสอบของเพื่อนบ้านในหมู่บ้านที่ใช้ปรับปรุงบ้านของพวกเขานั่นเอง ส่วนในเรื่องของแรงบันดาลใจหรือแบบชุด Tan ก็บอกว่าครั้งหนึ่งเธอเคยเห็นชุดสวยๆ ในหนังสือแมกาซีนเธอเลยนำมาเป็นต้นแบบผลิตชุดเจ้าสาวจากกระสอบปูน และนอกจากชุดแล้วเธอก็ยังมีหมวกเก๋ๆ ที่ทำมาจากกระสอบด้วยเช่นเดียวกัน “ฉันไม่นึกมาก่อนเลยว่าจะได้รับความสนใจจากผู้คนในโซเชียลอย่างล้นหลามขนาดนี้ มันเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์สุดๆ บางทีถ้าฉันสวยกว่านี้อาจจะดังกว่านี้อีกก็ได้นะ ฮ่าๆ” แฟชั่นดีไซเนอร์มือสมัครเล่นกล่าว วิดีโอน่ารักๆ ของเธอ ในตอนนี้วิดีโอของเธอได้ออกประจักษ์สู่สายตาโซเชียลชาวจีนแล้วกว่า 5 ล้านวิวและก็มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้อีกในอนาคต ส่วนใครที่สงสัยว่าเธอใช้ชุดนี้ในงานแต่งงานของเธอจริงๆ หรือไม่ ขอบอกเลยว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะว่าเธอได้ตกลงปลงใจแต่งงานกับสามีของเธอตั้งแต่ปี 2012 แล้ว และในตอนนี้ก็มีลูกชายน่ารักๆ มาเป็นสักขีพยานแล้ว 1 คนด้วยกัน ไอเดียแจ่มแมวมากๆ เลยนะเนี่ย ที่มา:…
-
เจ้าหน้าที่พบซาก ‘เสือโคร่งสุมาตรา’ พร้อมกับลูกในท้อง หลังเหยียบโดน ‘กับดักหมู’
เรื่องราวอันน่าสงสารของ ‘แม่เสือ’ ที่กำลังตั้งท้องอ่อนๆ แต่กลับพลาดท่า ‘โดนกับดักหมู’ ที่มนุษย์วางเอาไว้เล่นงาน จนนำไปสู่การเสียชีวิต เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานว่าพบซากของแม่เสือโคร่งสุมาตราวัย 4 ปี ในจังหวัด Riau ประเทศอินโดนีเซีย หลังจากที่มันดันไปติดกับดักหมู และพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด จนไปสิ้นใจห่างจากจุดวางกับดักถึง 150 เมตร!! จากการชันสูตรพบว่าแม่เสือเสียชีวิตจาก ‘ไตฉีกขาด’ เป็นเพราะมันพยายามดิ้นพรวดพราดเพื่อให้รอดจากกับดักนั่นเอง ที่ลำตัวของแม่เสือยังคงมีบ่วงกับดักรัดที่ตัวของมันอย่างแน่นหนา เท่านั้นยังไม่พอ ในท้องของมันยังมีลูกน้อยอีก 2 ตัว ที่ยังไม่ได้ลืมตาออกมาดูโลกใบนี้ ทำให้พวกมันเสียชีวิตไปพร้อมๆ กัน นาย Suharyono หัวหน้าหน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่าท้องถิ่น กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า “เรารู้สึกเสียใจกับการตายของมันเป็นอย่างมาก เป็นอีกครั้งที่การปกป้องสัตว์ป่าสงวนกลายเป็นเรื่องที่ล้มเหลว” “เจ้าเสือตัวนั้นมันกำลังตั้งท้องลูกตัวผู้ และตัวเมียอย่างละตัว ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมผู้วางกับดักเอาไว้แล้ว และจะดำเนินคดีกับเขาจนถึงที่สุด” เสือโคร่งสุมาตราถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ย่อยของ ‘เสือโคร่ง’ และเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่เหลืออยู่น้อยมากๆ ในโลกของเรา ในแต่ละปีจะมีรายงานการเสียชีวิตของเสือโคร่งสุมาตรามากกว่า 40 ครั้ง เพื่อนำหนังหรือขนของมันไปใช้งาน จนตอนนี้ประชากรของพวกมันเหลืออยู่เพียงน้อยนิดเพียง 400 ตัวบนโลกเท่านั้น …
-
เด็ก ป.2 ปะทะแอดมิน ‘รบกวนตัดต่อภาพนี้ให้หน่อยสิ’ อีกแล้ว คราวนี้มาในโจทย์คณิตคิดเร็ว
หากใครยังจำเรื่องราวของเด็ก ป.2 ที่เคยส่งข้อความไปพูดคุยกับแอดมินเพจ ‘รบกวนตัดต่อภาพนี้ให้หน่อยสิ’ คราวนี้ น้องกลับมาอีกแล้วนะ แถมเรื่องของน้องยังชวนอมยิ้มได้มากกว่าเดิมด้วย ข่าวเก่า: เด็กป.2 ส่งข้อความไปหาแอดมิน ‘รบกวนตัดต่อภาพนี้ให้หน่อยสิ’ คุยไปคุยมาเป็นเพื่อนกันเฉย เรื่องจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Phubest Thanathammajaree แอดมินเพจ รบกวนตัดต่อภาพนี้ให้หน่อยสิ ได้ออกมาเปิดเผยข้อความการสนทนากับ ‘น้องกราฟ’ เด็ก ป.2 ที่น้องเคยมาขอให้ตัดต่อภาพให้กับน้องไปเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งแอดมินก็ได้ตัดต่อภาพให้น้องเรียบร้อยแล้วนะ ตอนนี้ น้องกราฟปิดเทอมแล้วน้องจึงได้ส่งข้อความมาคุยกับแอดมินอีกครั้ง น้องกราฟปิดเทอมแล้ว น้องสอบเสร็จแล้ว น้องบอกน้องชอบวิชาคณิต แต่มันยาก คณิตศาสตร์ไม่ยากหรอก แต่ 12+8 น้องใช้เวลาคิด 3 ชั่วโมง (หยอกๆๆๆ) มาเรื่องจอยโจ้บ้าง น้องเก่งอ่ะ เรื่องคูณเรียนแล้ว คิดเลขไวปานสายฟ้าแลบ เรื่องหารน้องก็เก่งเด้อ แอบใช้เครื่องคิดเลขป่าวเนี่ย เก่งแบบนี้ เอาไปเลยโจทย์ข้อสุดท้าย น้องกราฟถึงกับเงียบไปเลย ใครช่วยน้องคิดเลขได้สอนน้องหน่อย แอดมินนี่นะ แกล้งน้องอ่ะ ที่มา Phubest…
-
17 ภาพจากศิลปิน เผยให้เห็น ‘ความจริง’ ที่ซ่อนอยู่ในตัวและสังคมบนโลกใบนี้ว่าเป็นเช่นไร!!
บางครั้งบางที ‘ความจริง’ ก็เป็นสิ่งที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ไม่ให้เห็นด้วยเหตุผลบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางด้านสังคม เหตุผลทางด้านอารมณ์ต่างๆ แต่ถึงอย่างไรแล้วความจริงก็เป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ ด้วยเหตุนี้แล้วศิลปินชื่อว่า Mimi N จึงสร้างโปรเจกต์ชื่อว่า The SUN Project ขึ้นมาเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่อยู่ในใจของใครหลายคนว่าเป็นเช่นไร ซึ่งบางทีมันอาจจะตรงกับความรู้สึกลึกๆ ที่คุณกำลังเป็นอยู่ก็เป็นได้ เบื้องหน้าและเบื้องหลัง คำพูดเล็กๆ น้อยๆ บางครั้งก็เป็นสิ่งที่ทำร้ายคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อมีงานกลุ่มมาถึง จะมีอยู่คนหนึ่งที่ทำทุกๆ อย่างจนกลายเป็นงานเดี่ยวไป พวกเรา 4 คน… เบื้องหน้าในโลกโซเชียล กับอีกมุมที่ไม่มีใครมองเห็น ผู้ใหญ่หลายคนถูกสังคมหล่อหลอม จนลืมความสดใสในวัยเด็กไปโดยหมดสิ้น หากจะว่าตามประสาเด็กๆ การช่วยเหลือของพวกเขาเป็นอะไรที่บริสุทธิ์จริงๆ คำพูดบางครั้งก็เปรียบเสมือนอาวุธร้าย พันธนาการ ความคิดต่าง มาแสดงความยินดีด้วย ภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงการศึกษาในสมัยนี้ ครอบครัวของฉัน พยายามจะเติมช่องว่างที่ขาดหายให้ตัวเองอยู่ ความฝัน ออกนอกกรอบ อาจไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป การรังแก…
-
คดีนี้งงยิ่งกว่าใครฆ่าประเสริฐ เมื่อมีคนพบศพ ‘ปีเตอร์’ นอนตายเดียวดายในปาร์ตี้วันเกิด
ถ้าจะให้พูดถึงสัตว์ที่มีคนไม่ค่อยชอบมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ เลย สิ่งแรกที่เรานึกถึงจะคงจะเป็นแมลงสาบหรือที่เราเรียกให้ดูน่ารักๆ ว่า ‘ปีเตอร์’ มันเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยมีใครปลื้มสักเท่าไหร่ แต่ในวันนี้เรื่องราวของมันอาจจะชวนให้คุณต้องอ่านจนจบก็ได้นะ เริ่มต้นที่ว่าผู้ใช้สมาชิกเว็บไซต์ Imgur ชื่อว่า TheDisney Dad ได้พบกับปีเตอร์ตัวหนึ่งที่บันไดหนีไฟของออฟฟิศ มหากาพย์เรื่องของน้องก็เริ่มขึ้น เห็นอะไรอยู่ตรงมุมนั้นไหม ง่ายๆ แต่เหงา โดดเดี่ยวเดียวดาย และเขาก็ได้ให้ของขวัญน้องเป็นเค้กวันเกิด แต่ดูเจ้าของวันเกิดจะขี้เซาไปหน่อย มีเค้ก มีของขวัญ แต่เจ้าภาพก็ยังไม่ตื่น เมาแอ๋ อ้วกแตกเลย แต่ แต่ แต่ เรื่องนี้มันเริ่มชักจะท่าไม่ค่อยดีแล้ว ถึงกับต้องเรียกรถพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือ แต่ทว่าทุกอย่างมันกลับสายไปแล้ว น้องเสียชีวิตเรียบร้อย งานนี้จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาจัดการ นี่มันไม่ใช่คดีแมลงสาบเมาแอ๋แล้วเสียชีวิตแบบปกติ มันเป็นคดีฆาตกรรม!!! ก่อนอื่นก็ต้องทำพิธีศพให้ก่อน มีโลง มีรูปผู้เสียชีวิต และพวงหรีด ซึ่งก็จัดตรงชั้นถัดไปจากที่เกิดเหตุนั่นแหละ เนื่องจากว่านี่คือคดีอุกฉกรรจ์ จึงต้องให้ทีม SVU (Special Victims…
-
นักดับเพลิงใช้ “เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง” ช่วยหญิงสาวที่จะ “โดดตึกฆ่าตัวตาย” เอาไว้ได้สำเร็จ!!
นี่อาจเป็นวิธีการช่วยเหลือ “ไม่ให้คนฆ่าตัวตาย” ในแบบที่เราอาจไม่เคยเห็นกันมาก่อน แต่อาจบอกได้ว่ามันคือวิธีหนึ่งที่สามารถใช้ได้ผลดีจริงๆ ในบางสถานการณ์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2018 มีเหตุการณ์หญิงสาวคนหนึ่งพยายามจะฆ่าตัวตายด้วยการโดดลงมาจากห้องของตัวเอง บริเวณชั้น 3 ของตึกที่พักอาศัยในเมือง Wenzhou มณฑลอานฮุย ประเทศจีน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าช่วยเหลือหญิงสาวคนดังกล่าว พยายามพูดคุยกล่อมให้เธอเปลี่ยนใจอยู่นานกว่า 30 นาทีแต่ก็ไม่สำเร็จ พวกเขาจึงให้คนปีนออกมาจากหน้าต่างห้องข้างๆ และใช้ไม้ดันตัวเธอเข้าไปในห้อง แม้เธอจะถูกดันเข้าไปในห้องแล้ว แต่เธอกลับพยายามที่จะปีนออกมาจากหน้าต่างอีกครั้ง และกำลังจะโดดลงไป ในขณะนั้นเอง พนักงานดับเพลิงที่รออยู่ด้านล่างจึงตัดสินใจใช้ “เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง” ฉีดใส่ร่างของหญิงสาว วิธีการดังกล่าวทำให้เธอถูกแรงน้ำดันกลับเข้าไปภายในห้องได้สำเร็จ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเร่งเข้าไปรั้งตัวเธอเอาไว้ นำตัวเธอส่งโรงพยาบาลเพื่อเช็กอาการบาดเจ็บเบื้องต้นที่อาจได้รับ คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว คลิปที่ถูกถ่ายเอาไว้ได้กลายเป็นที่สนใจของโลกโซเชียล เผยวิธีการช่วยชีวิตคนที่คิดจะฆ่าตัวตาย ซึ่งผลลัพธ์ของมันนั้นก็ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจจริงๆ แหละนะ ที่มา: dailymail , nextshark , weibo
-
ฮีโร่ในชีวิตจริง!! หนุ่มช่วยชีวิตเด็กแบเบาะ คว้าตัวเอาไว้ได้ ในวินาทีที่เด็กตกลงมาจากตึก 10 ชั้น!!
“ฮีโร่” หนุ่มคนนี้อาจไม่ได้มีพลังที่เหนือธรรมชาติ แต่เขามีใจที่กล้าหาญ เข้มแข็ง ไม่หวั่นแม้ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่น่าตื่นเต้นมากแค่ไหน จนสามารถช่วยชีวิตของเด็กคนหนึ่งเอาไว้ได้สำเร็จ Artem Karev คือชื่อของฮีโร่หนุ่มวัย 28 ที่เรากำลังพูดถึง เมื่อวินาทีที่เด็กน้อยกำลังจะร่วงลงมาจากตึกชั้น 10 ในตอนนั้นเองที่ชายคนนี้ตัดสินใจยื่นแขนออกไปและคว้าร่างของเด็กไว้ได้สำเร็จ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นช่วงปลายเดือนกันยายน 2018 ที่ผ่านมา ในเมือง Astana ประเทศคาซัคสถาน เด็กน้อยวัยแบเบาะคนหนึ่งปีนออกมาจากหน้าต่างบริเวณชั้น 10 ของอาคารที่อยู่อาศัย ในตอนที่แม่ของเขาไม่อยู่ในบ้าน ผู้เห็นเหตุการณ์หลายๆ คนต่างส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัว เพราะเด็กน้อยอยู่ในท่าที่จะสามารถร่วงลงมาเมื่อไหร่ก็ได้ และคงไม่ต้องบอกว่าหากร่วงลงไปแล้วเด็กคนนี้จะเป็นอย่างไร เมื่อนั้นเองที่นาย Karev ได้ยินเสียงของหลายๆ คนจนทำให้เขาต้องยื่นหน้าออกไปดูบริเวณหน้าต่าง พอเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นว่ามีเด็กคนหนึ่งกำลังจะร่วงลงมาพอดี Karev เล่าว่าในตอนนั้นเขาพยายามคิดหาทางช่วยที่ดีที่สุด ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด เขาจึงตัดสินใจยื่นมือออกไปรอรับร่างของเด็กที่จะตกลงมาเอาไว้ เขาบอกว่าตนเองรู้สึกกลัวและหวาดเสียวเอามากๆ เพราะนี่คือการตัดสินชีวิตของเด็กคนหนึ่งเลย ถ้าเขาพลาดก็คือจบ แต่แล้วในจังหวะที่เด็กร่วงลงมา Karev ก็สามารถคว้าเอาไว้ได้สำเร็จ ทำให้หลายๆ คนที่เห็นเหตุการณ์นั้นถึงกับโล่งอกกันไป ก่อนที่เด็กจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เช็กอาการดูแล้วไม่พบความผิดปกติหรืออาการบาดเจ็บใดๆ เลย คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ที่มีคนถ่ายเอาไว้ได้…
-
หนุ่มงง กลับบ้านมาเจอใบสั่ง สุดท้ายเช็กดูดีๆ อ้าว!! นี่มันรถคนละคันนี่ครับคุณตำรวจ
ถ้าหากว่าคุณขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด การกลับบ้านมาพบกับใบสั่งพร้อมกับภาพรถของคุณเองล่ะก็ คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ถ้าหากว่ารถที่ถูกถ่ายในจังหวะที่กำลังพุ่งทะยานอยู่นั่นไม่ใช่รถของคุณล่ะ!? งานนี้คงจะต้องมีใครเตรียมตัวตอบคำถามแน่นอน เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ บ่าวกอร์ฟ ปั้นข้าวเหนียว หลังจากที่เขาได้รับใบสั่งที่ส่งมาที่บ้าน แต่ทว่าเมื่อตรวจสอบดูดีๆ กลับพบว่ารถคันที่กระทำผิด กับรถของเขานั้นเป็นคนละคันกัน “แบบนี้ก็ได้เหรอ อยู่ดีๆ ใบสั่งมาถึงบ้านเฉย มันใช่รถผมไหมคุณตำรวจ มันคันเดียวกันไหม ลูกศรที่ชี้รถมันคันเดียวกันไหมชัดขนาดนี้ สักแต่จะส่งๆ มาปรับยอมตำรวจไทยจริงๆ งึดคัก” รถคันที่ลูกศรชี้คือรถคันที่ทำผิดกฎ (แซงเส้นทึบ) แต่แล้วลูกศรกลับไปชี้ที่รถของเจ้าของโพสต์ และสุดท้ายใบสั่งก็มาถึงบ้านเขา หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ซึ่งส่วนมากก็ได้ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ ในขณะที่บางคนก็บอกให้เจ้าของโพสต์โทรแจ้งร้องเรียนไปยังทางสถานีตำรวจ “มั่วได้ใจจริงๆ…เอาคนตาบอดไปทำเอกสาร มีเยอะมากแบบนี้” Tom Chevro Let “เอกสารเยอะ อาจเกิดความผิดพลาดได้ครับ” Prem Pra Cha ที่มา บ่าวกอร์ฟ ปั้นข้าวเหนียว
-
บันเทิงกันเลยทีเดียวกับ AR Emoji สายโจ๊ะ ฉบับรวมพลคนลูกทุ่งขนมาเกือบทั้งวงการ
นับวันเทคโนโลยีเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือก็ก้าวเข้าสู่ความล้ำเข้าไปเรื่อยๆ จากเดิมที่ในอดีต โทรศัพท์มือถือมีไว้เพียงแค่ติดต่อสื่อสาร โทรเข้า-ออก หรือส่งข้อความเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้พัฒนาก้าวไปสู่ยุคของสมาร์ทโฟนกันแล้ว แต่ละบริษัทก็แข่งขันกันว่าสมาร์ทโฟนของค่ายไหนจะเจ๋งกว่ากัน ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้มนุษย์เรามีเทคโนโลยีใหม่ มาใช้กันตลอด ล่าสุดที่นิยมกันเลยนั่นก็คือเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้กล้อง เดี๋ยวนี้มีการพัฒนาไปถึงขั้นที่ว่า นอกจากจะชัดสุดๆ แล้วยังเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ ที่เรียกว่า AR Emoji สามารถสร้างสติกเกอร์ภาพเคลื่อนไหวแบบการ์ตูนได้ โคตรเจ๋ง แน่นอนว่าคนไทยนั้นมีความสนุกสนานอยู่ในเส้นเลือด ไม่ว่าอะไรก็สามารถนำมาเป็นเรื่องบันเทิงได้เสมอ ล่าสุดลามไปสายโจ๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Sittidach Suesatsak ที่ได้มาแชร์ความฮาให้เราได้ดูกัน สาวบางโพธิ์นี่มันโก้จริงๆ หญิงลีก็มา สาวเต่างอยรอคอยอ้าย เฮ้ะ ซอบเบิ่งอยู่เด้อ ถ้าหากว่าเธอนั้นเลิกกันกับเขา ระดับพี่ก๊อท จักรพันธ์ก็มานะ แหม่ ขนกันมาทั้งวงการบันเทิงแบบนี้ ยอดแชร์ตอนนี้ก็ทะลุไปมากกว่า 18,000 แชร์แล้ว มันช่างน่าทำตามซะเหลือเกิน ฮ่าาาาาาาาาา ถือซะว่าคลายเครียดกันไปเนาะ ที่มา Sittidach Suesatsak
-
10 วงเกิร์ลกรุ๊ป K-Pop ที่ได้รับความนิยมมากในปี 2018 ชอบวงไหน มาโหวตกัน
วงการบันเทิงเกาหลีถือว่าเป็นอีกหนึ่งวงการที่มีอิทธิพลและได้รับความนิยมมากๆ ในปัจจุบัน ไม่ใช่เพียงแค่ในเกาหลีเองหรือแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังได้รับความนิยมไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ หนึ่งสิ่งที่น่าสนใจที่ที่สุดของวงการบันเทิงเกาหลีนั่นก็คือความน่ารักของเหล่าเกิร์ลกรุ๊ปที่ทยอยผลิตผลงานมาไม่ขาดสาย เรามาดูกันดีกว่าว่าในปี 2018 นี้มีเกิร์ลกรุ๊ปวงไหนที่ได้รับความสนใจเยอะที่สุด ผลโหวตโดยเว็บไซต์ Ranker.com เว็บไซต์จัดอันดับยอดนิยมจากสหรัฐอเมริกา 10. CLC Cube Entertainment 9. Mamamoo LOEN Entertainment 8. EXID Banana Culture Entertainment 7. Girls’Generation SM Entertainment 6. (G)I-DLE Cube Entertainment 5. Momoland Dublekick Company 4. GFriend Source Music 3. Red Velvet S.M. Entertainment 2. Twice JYP Entertainment 1. BLACKPINK…
-
คนขับก็เกร็ง คนดูก็เกร็ง!! ลุ้นหญิงสาวใช้เวลาเกือบ 10 นาทีถอยรถออกจากที่จอด
การไปห้างสรรพสินค้าเพียงลำพังด้วยรถยนต์นั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคุณผู้หญิงเลยก็ว่าได้ และยิ่งถ้าบังเอิญเป็นวันที่มีสินค้าลดราคาด้วยแล้วล่ะก็ งานนี้บอกเลยว่าเหนื่อย!! เพราะอะไรนะหรือ ก็เพราะการเอารถเข้าออกช่องจอดที่แสนจะยากลำบากเหมือนเหตุการณ์นี้ไงล่ะ ตวบ!! คลิปวิดีโอการเอารถออกจากช่องจอดของหญิงสาวรายหนึ่งกลายเป็นที่ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์อย่างมาก หลังจากที่เธอใช้เวลาเกือบๆ 10 นาทีในการถอยรถของเธอ หญิงสาวคนดังกล่าวพยายามถอยรถเข้าออกอยู่หลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้วเจ้ารถของเธอก็ไม่ยอมออกไปไหนสักที แถมยังถูกับรถคันด้านข้างซะเป็นรอยเลยทีเดียว หักซ้ายไม่ได้ ไหนลองหักขวาดูซิ อ่าว!! กลับมาที่เดิม แถมไปเบียดคันด้านข้างอีก จากรายงานสื่อต่างประเทศเผยว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวน่าจะถูกถ่ายขึ้นบริเวณที่จอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา หลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตจำนวนมากที่ให้ความสนใจและพยายามเอาใจช่วยเธอ รวมทั้งเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย พร้อมตั้งคำถามว่า ใครเป็นคนให้ใบขับขี่เธอกันแน่!? อ่า.. ลองไปเอาใจช่วยเธอกันเลยดีกว่า ที่มา unilad
-
เจ้านายหมั่นไส้ ลูกน้องลางานไป ‘ฮันนีมูน’ เลยแกล้ง ‘ห่อบ้านทั้งหลัง’ ให้กลายเป็นสีชมพู!!
อย่างที่รู้กันดีว่าสำหรับคนที่มีความรัก โลกทั้งใบมักจะกลายเป็นสีชมพู เช่นเดียวกันกับคู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามันคู่นี้ ที่ขอลางานไปเที่ยวฮันนีมูนกัน แน่นอนว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ทั้งคู่ต่างก็มีความสุข ความรักที่เติมเต็มให้แก่กันทำให้โลกของพวกเขากลายเป็น ‘สีชมพู’ แม้กระทั่ง ‘บ้านและรถ’ ก็กลายเป็นสีชมพูด้วย!? Jenny และ Jonathan Minger กลับมาจากการไปฮันนีมูนที่ประเทศเม็กซิโก และพอถึงบ้านที่อยู่ในเมือง Alsager เขต Cheshire ประเทศอังกฤษ ก็พบว่าบ้านของตัวเองนั้น ‘กลายเป็นสีชมพูทั้งหลัง รวมไปถึงรถด้วย!!’ Jenny กล่าวว่า “เราถึงกับช็อกไปเลย มันเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มากๆ ไม่คิดว่าจะกลับบ้านมาแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้ โอ้พระเจ้า!!” กลายเป็นว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการแกล้งในครั้งนี้ก็คือเจ้านายของ Jonathan นั่นเอง รวมไปถึงเพื่อนๆ ของเขาอีกหลายคนที่ให้ความร่วมมือ เนื่องจาก ‘ความหมั่นไส้’ ล้วนๆ “พวกเราใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงในการห่อบ้านของเขาด้วยพลาสติก เราต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะตอนที่เริ่มลงมือ ห่างจากเวลาที่พวกเขาจะกลับมาถึงบ้านอย่างฉิวเฉียดเลยล่ะ” James และภรรยา Dawn Oulton ผู้เป็นเจ้านายของ Jonathan กล่าว Jonathan…
-
สาวเล่า ‘วินาทีชีวิต’ หลังเดินกลับหอพักถูก ‘ชายแปลกหน้า’ เดินตามมาติดๆ ดีที่ไหวตัวทัน!!
บางครั้งการใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่แสนโหดร้ายนี้มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิดเสมอไป เรื่องราวของ Alexa หญิงสาวชาวนิวยอร์กวัย 30 ปี ที่ถูกชายแปลกหน้าเดินตามเข้ามาถึง ‘หอพัก’ ในมหาวิทยาลัย University Heights เธอโพสต์เล่าเหตุการณ์วินาทีชีวิตของเธอผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “หลังจากลงมาจาก Uber เวลาประมาณตี 3.50 น. ก็เดินเข้าไปที่ล็อบบี้ของหอพักตามปกติ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่าตอนนี้ ‘เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว’” เหตุการณ์ตอนที่ Alexa กำลังเดินเข้ามาในล็อบบี้ของหอพัก The following footage is me walking up into my building. You’ll notice a man walk behind me moments later. I did not see or hear him. pic.twitter.com/oxCtNvcstN…
-
ป๋า Arnold โพสต์ภาพ Before & After อวยพรวันเกิด Linda ผ่านมา 34 ปี ที่ร่วมงานด้วยกัน!!
เป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้วที่ภาพยนตร์ชุด Terminator ได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ จนทำให้ Arnold Schwarzenegger กลายเป็นดาราที่ถูกจดจำในฐานะ ‘คนเหล็ก’ มาโดยตลอด และเชื่อเลยว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะเคยผ่านหูผ่านตาหนังเรื่องนี้กันมาไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะภาคสองที่ประสบความสำเร็จดังเปรี้ยงปร้าง กับวลีเด็ดที่เป็นเอกลักษณ์ ที่จู่ๆ Arnold ก็โผล่มาหาสองแม่ลูกตระกูล Connor โดยไม่มีเสื้อผ้าแล้วบอกว่า “เอาเสื้อผ้า รองเท้า มอเตอร์ไซค์ของเอ็งมา แล้วก็ตามตรูมาถ้าหากว่ายังอยากมีชีวิตรอด” ซึ่งตัวเอกในตอนนั้นนอกจากจะมีคนเหล็กที่รับบทโดยป๋า Arnold แล้ว ก็ยังมี John Connor และแม่ของเขา Sarah Connor ซึ่งรับบทโดย Linda Hamilton โดยเฉพาะฝ่ายแม่นี่ขอบอกเลยว่าบู๊ระห่ำได้ใจจริงๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขาทำงานด้วยกันก็ตั้งแต่ปี 1984 จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมากว่า 34 ปีแล้ว!! และในวันที่ 27 กันยายน ถือเป็นวันครบรอบวันเกิดของ Linda ป๋า Arnold ก็เลยโพสต์ภาพ Before & After ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำงานด้วยกัน…
-
คุณครูถูกไล่ออก หลังแจก 0 ให้เด็กไม่ส่งงาน ขัดกับนโยบายโรงเรียนคุณภาพ ‘ห้ามให้ 0’
ถ้าเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นกับตัวคุณเอง จะจัดการปัญหา ‘เด็กไม่ยอมส่งงาน’ อย่างไร เมื่อถึงเวลาที่จะต้องตัดเกรดส่งให้กับทางโรงเรียน เลือกที่จะให้ 0 หรือปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆ ซึ่งกรณีแบบนี้เกิดขึ้นกับคุณครู Diana Tirado หลังจากที่มอบหมายงานในชั้นเรียนให้กับนักเรียนภายใต้การดูแล แต่กลับกลายเป็นว่ามีเด็กหลายคน ‘ไม่ยอมส่งงาน’ เธอจึงตัดสินใจให้ 0 ไป แต่กลับส่งผลทำให้เธอถูกไล่ออกจากงาน… คุณครู Diana Tirado Diana เป็นคุณครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ ชั้นเกรด 8 (เทียบเท่า ม.2) ของโรงเรียน West Gate ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่เธอได้มอบหมายงานให้นักเรียนทำรายงานมาส่ง ซึ่งเป็นชิ้นงานสำคัญจะมีส่วนในการตัดเกรดปลายเทอม ผลปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดส่งงาน เด็กนักเรียนจำนวนหลายคนไม่มีงานส่ง เธอจึงตัดเกรดให้ 0 คือหมายความว่าตกวิชาประวัติศาสตร์ไปในเทอมนี้ และทางโรงเรียนได้ทราบเรื่องการตัดเกรด 0 ของเธอ ทำให้เธอถูกไล่ออกจากการทำหน้าที่เป็นครู เนื่องจากขัดกับนโยบายไร้ 0 ของทางโรงเรียน ซึ่งปรากฏอยู่ในหนังสือคู่มือของนักเรียนและผู้ปกครอง เน้นเป็นตัวสีแดงชัดเจนว่า ‘ห้ามมี…
-
สาวใช้แอปฯ เรียกรถเพื่อไปโรงแรมกับชู้ แต่โดนจับได้ เพราะคนที่เธอเรียกมาคือสามี!!
แอปพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่อย่าง Grab หรือ Uber อาจจะช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคได้ไม่น้อย แต่ในบางครั้งมันก็อาจจะสร้างความลำบากให้คุณได้เช่นกัน เหมือนกับเหตุการณ์ของคู่รักชาวโคลอมเบียคู่นี้ Yeimy หญิงชาวโคลอมเบียที่แอบคบกับชู้รักมาเป็นเวลานานกว่า 1 ปี ถูกสามีของเธอจับได้หลังจากที่ใช้บริการเรียกรถแท็กซี่ของ Uber เพื่อไปยังโรงแรมแห่งหนึ่ง เรื่องราวของ Yeimy กับ Jesús Barrios ชู้รักของเธออาจจะกลายเป็นความลับไปอีกนานถ้าหากว่า สามีของเธอไม่ใช่คนขับ Uber ที่ทั้งคู่เรียกมาเพื่อกำลังจะไปที่โรงแรมดังกล่าว เหตุการณ์โป๊ะแตกของเธอเกิดขึ้นหลังจากที่ Yeimy และชู้รักขึ้นไปบนรถที่สามีของเธอเป็นคนขับ และเมื่อทั้ง 3 เจอหน้ากัน Yeimy กับ Jesús ก็ต่างรีบลงจากรถทันที จากรายงานของสื่อต่างประเทศเผยว่าสามีของ Yeimy นั้นได้ยืมบัญชีของเพื่อนมาขับเพื่อเป็นการหารายได้ จึงทำให้ภรรยาของเขาและชู้รักไม่ทันได้เอะใจ อย่างไรก็เรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่ Yeimy และครอบครัวของเธอเท่านั้น แต่ Leonardo เพื่อนของสามีเธอที่ให้ยืมบัญชีก็ถูกทาง Uber ลงโทษด้วย เนื่องจากเป็นการละเมิดมาตรฐานบริการและการรักษาความปลอดภัยของแอปพลิเคชันดังกล่าว Lyn Ayrton นักกฎหมายชาวอังกฤษเคยให้สัมภาษณ์กับ Daily Mail ไว้ว่าการใช้แอปพลิเคชันเรียกรถ อาจจะช่วยให้คู่สมรสติดตามความเคลื่อนไหวของแต่ละคนได้ และอาจช่วยเปิดโปงการนอกใจได้ “แอปพลิเคชันเหล่านี้จะมีการบันทึกสถานที่…
-
15 ภาพถ่าย “การเดินแถวมรณะบาตาอาน” การเคลื่อนย้ายเชลยที่ราวกับเดินทางในนรก
การเดินแถวมรณะแห่งบาตาอาน หรือ “Bataan Death March” เป็นการเคลื่อนย้ายเชลยศึกชาวฟิลิปปินส์และอเมริกัน 60,000–80,000 คนจากบาตาอานไปยังค่ายโอดอนเนลในประเทศฟิลิปปินส์ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อปี 1943 นี่เป็นการเดินแถวย้ายเชลยศึกที่กินเวลาราวๆ 3 เดือนและมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เกิดเป็นภาพสุดเศร้าของการเดินทางในนรก เหมือนดังเช่นที่เห็นได้ในภาพถ่ายทั้ง 15 ภาพต่อไปนี้ การเดินแถวมรณะแห่งบาตาอาน เกิดจากการที่มีนักโทษสงครามมากกว่าที่ญี่ปุ่นคิด นั่นทำให้ทางญี่ปุ่นต้องบังคับให้นักโทษเดินไปค่ายกักกันเอง ทหารสหรัฐฯ ที่ยืนเรียงแถวหน้ากระดานยอมจำนนแก่ทางญี่ปุ่น ทหารญี่ปุ่นเฝ้าการเดินขบวนอยู่ห่างๆ นักโทษที่โดนผูกมือไว้ที่หลัง นักโทษที่เดินไม่ไหวแล้วจะโดนหิ้วไปใน “หาบทำมือ” นักโทษที่เสียชีวิตระหว่างการเดินถูกนำมาเรียงไว้ข้างทาง การแบกเพื่อนๆ ที่บาดเจ็บและเจ็บป่วยของนักโทษสหรัฐฯ ภาพการหยุดพักข้างทางระหว่างการเดิน นักโทษอเมริกันและฟิลิปปินส์ขณะก้าวไปบนหนทางอันโหดร้าย ทหารญี่ปุ่นที่จำนวนหนึ่งป้องกันนักโทษหนีระหว่างพักจากการเดินที่ยาวนาน การคัดแยกอุปกรณ์ของทหารที่ยึดได้จากทหารสหรัฐฯ ทหารญี่ปุ่นที่ยืนเฝ้าทหารสหรัฐฯ ระหว่างพักจากการเดิน โฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับการเดินเท้าที่บาตาอาน เหล่านักโทษผู้รอดชีวิตจากการเดินจะต้องเข้าไปอยู่ในค่ายกักกันต่อไป และกว่าที่พวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือจากค่ายก็ในปี 1945 เลยทีเดียว …
-
6 นักบิด Motor GP สุดหล่อทะลุหมวกกันน็อก ที่จะทำให้คุณสาวๆ หันมาสนเรื่องรถกันบ้าง
เรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสที่คึกคักในบ้านเรากันเลยทีเดียว สำหรับการแข่งจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลกอย่าง Motor GP ในปี 2018 นี้ เพราะอย่างที่หลายคนอาจจะทราบกันดีแล้วว่า ประเทศไทยบ้านเราก็จะได้มีโอกาสต้อนรับเหล่านักบิดระดับโลกที่จะมาดวลความเร็วกันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ในระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคมนี้ด้วย และเพื่อเป็นการแอบเกาะกระแสกันสักนิดหน่อย วันนี้ #เหมียวเวจจี้ จึงได้รวบรวมเอาหนุ่มๆ นักบิดที่น่าจับตามองมาแนะนำให้สาวๆ ได้รู้จักกัน 1. มาร์ค มาร์เกวซ (Marc Marquez), เบอร์ 93 จาก Repsol Honda Team หนุ่มสเปนเจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย ผู้มาพร้อมกับรอยยิ้มกระชากใจสาว และเป็นที่น่าสนใจอย่างมากว่าปีนี้เขาจะสามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ได้สำเร็จหรือไม่ 2. อันเดรีย เอียนโนเน่ (Andrea Iannone), เบอร์ 29 จาก Team SUZUKI ECSTAR นักบิดสัญชาติอิตาเลี่ยนหน้าคมวัย 29 ปี ที่นอกจากดีกรีในเรื่องความเร็วแล้ว หุ่นและกล้ามของพี่แกก็ยังดูดุดันไม่แพ้กันเลยนะ ไม่เชื่อลองตามไปส่องใน ig ดูสิ!! .…
-
5 หลุมศพในอดีตที่แค่ตัวหลุมก็น่ากลัวแล้ว แต่หากได้รู้ความเป็นมาจะยิ่งสยองขนหัวลุก
หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดในวัฒนธรรมการฝังศพแน่นอนว่าคงจะไม่พ้นหลุมศพ บางครั้งแม้ว่าเราไม่รู้ว่าคนที่อยู่ในหลุมศพนั้นเป็นใคร แต่เพียงแค่ตัวหลุมศพเองก็สร้างเรื่องเล่าสยองขวัญออกมาได้มากมาย นั่นเพราะหลุมศพมักจะมีบรรยากาศที่ชวนขนหัวลุกเฉพาะตัวของมันที่จะจุดประกายความกลัวของผู้คน และยิ่งถ้าได้รู้ความเป็นมาของมัน ความน่ากลัวก็จะยิ่งมากขึ้นอย่างเป็นทวีคูณ เหมือนกับหลุมศพทั้ง 5 อันต่อไปนี้ที่แค่ตัวหลุมศพก็น่ากลัวแล้ว แต่หากได้รู้ความเป็นมาของมันคุณจะยิ่งสยองขนหัวลุกสุดๆ อย่างแน่นอน หลุมศพของ Kitty Jay Kitty Jay เป็นหญิงสาวที่แขวนคอตายในช่วงปี 1700 ในโรงนาที่อังกฤษ และสาเหตุการตายของเธอก็หายไปตามกาลเวลา ว่ากันว่าเธออาจจะโดนข่มขืน หรือไม่ก็มีลูกนอกสมรส อย่างไรก็ตามการฆ่าตัวตายในยุคนั้นจัดว่าเป็นบาปมาก ทำให้คนที่ฆ่าตัวตายจะโดนฝังแบบอาชญากรที่ถูกประหาร ซึ่งเป็นการฝังที่สี่แยกเพื่อไม่ให้วิญญาณกลับมาหลอกหลอนคนได้นั่นเอง แต่จุดที่น่าสนใจของหลุมศพอันนี้อยู่ที่มีใครบางคนเอาดอกไม้มาวางที่หลุมศพนี้เสมอๆ แถมยังมีคนเห็นเงาดำอยู่ที่หลุมที่ว่า และบางครั้งก็เห็นหญิงสาวปริศนาในกระจกหลังเวลาขับรถผ่านอีกด้วย หลุมศพของ Inez Clark นี่เป็นหลุมศพที่มีรูปปั้นเด็กหญิงอยู่ในตู้กระจก เชื่อกันว่าเธอมีชื่อว่า Inez Clark อย่างไรก็ตามจากบันทึกของสุสานกลับไม่มีเด็กหรือคนชื่อนี้อยู่ในสุสานเลย มีข่าวลือที่ว่าเธอถูกทิ้งโดยแม่ และถูกรับเลี้ยงโดยปู่ย่าตายายก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อไป ชื่อศพกับบนสุสานเลยไม่ตรงกัน ตำนานเกี่ยวกับหลุมศพนี้มีอยู่ว่า Inez ตายในพายุฝนฟ้าคะนองจากการถูกขังไม่ให้เข้าบ้าน ดังนั้นเวลามีพายุ รูปปั้นเด็กหญิงจะหายไปอย่างลึกลับสร้างความหวาดกลัวแก่คนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี Lilly E. Gray หลุมศพนี้มีชื่อเสียงเรื่องคำจารึก ที่เขียนว่าเธอเป็น “เหยื่อของสัตว์ร้าย 666” นำมาซึ่งข่าวลือน่ากลัวมากมายของปีศาจและซาตาน อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเรื่องราวจริงๆ จะไม่ใช่อย่างนั้น ความเป็นจริงของเรื่องที่เกิดขึ้นคือ…
-
เปิดตำนาน “Gloomy Sunday” บทเพลงจากฮังการี ที่ว่ากันว่าทำให้คนฟัง “ฆ่าตัวตาย”
ตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว บทเพลงเป็นหนึ่งในสื่อที่เข้าถึงจิตใจของผู้คนได้ดีที่สุด บางบทเพลงทำให้ผู้ฟังรู้สึกฮึกเหิม บางบทเพลงทำให้ผู้ฟังรู้สึกสนุก และบางบทเพลงทำให้ผู้ฟังรู้สึกมีความสุข แต่ในบรรดาเพลงเหล่านั้นเองก็ยังมีบทเพลงที่สื่อถึงความรู้สึกด้านลบอยู่เช่นกัน แม้โดยมากแล้วจะเป็นความรู้สึก เหงา เศร้า หรืออกหัก แต่บางครั้งความรู้สึกด้านลบพวกนั้นก็เป็นอะไรที่รุนแรงมากๆ อย่าง “ความอยากตาย” และเพลงที่ว่ากันว่าสื่อถึง “ความอยากตาย” ที่โด่งดังที่สุดก็คงไม่พ้น “Gloomy Sunday” นั่นเอง คำเตือน : นี่คือบทเพลง Gloomy Sunday ของแท้จากปี 1932 โดยช่อง Historic Mysteries Gloomy Sunday หรือ “วันอาทิตย์มืดมน” เป็นบทเพลงของ Rezső Seress นักเปียโนและนักแต่งเพลงชาวฮังการี ที่แต่งขึ้นเมื่อปี 1932 เพลงนี้ถูกเรียกด้วยชื่อเล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “บทเพลงแห่งความตาย” “บทเพลงสังหาร” หรือ “บทเพลงฆ่าตัวตายแห่งฮังการี” จากข่าวลือที่ว่าใครก็ตามที่ฟังเพลงนี้จะต้องฆ่าตัวตาย Rezső Seress เจ้าของเพลง Gloomy Sunday เนื้อร้องของ Gloomy Sunday แท้จริงแล้วมาจากบทกลอนของ László Jávor โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับชายที่ขอให้คนรักที่ตายไปมาร่วมงานศพของตน…
-
สถานีโทรทัศน์สวีเดนแถลงขอโทษ กรณีเผยแพร่เนื้อหาเหยียด และล้อเลียนพฤติกรรมชาวจีน
หลังจากที่เกิดเป็นประเด็นใหญ่โต เมื่อรายการโทรทัศน์สัญชาติสวีเดน ได้ทำการเผยแพร่เนื้อหาล้อเลียนพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยมองว่าเป็นเพียงตลกขำขันเท่านั้น แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้กับชาวจีนเป็นจำนวนมาก (อ่านข่าวเก่า : รายการทีวีสวีเดน กล่าวและล้อพฤติกรรมแย่ๆ ของ ‘คนจีน’ เหมารวมเหยียดไปทั้งแผ่นดิน!) รายการทีวี Svenska Nyheter ออกอากาศภายในประเทศสวีเดน และถูกนำไปเผยแพร่ผ่าน YouKu และ Weibo แพลทฟอร์มโซเชียลของจีน ภายในวิดีโอของรายการนั้น มีพิธีกรหญิงได้ออกมากล่าวถึงพฤติกรรมที่ไม่ควรทำของชาวจีน (พากย์ทับเป็นเสียงภาษาจีน) ออกมาเป็นเชิงมุกตลกล้อเลียนมากกว่า แต่ชาวจีนกลับรู้สึกไม่พอใจเนื่องจากเป็นการเหยียดและเหมารวมชาวจีนทั้งหมด… ปัญหาดังกล่าวรุนแรงเพิ่มมากยิ่งขึ้น ถึงขั้นแรปเปอร์จีนทำเพลงประชดประเทศสวีเดนด้วย ทั้งนี้ เมื่อวันพุธที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวได้รายงานว่า ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์แห่งชาติสวีเดน (SVT) ได้ออกมาแถลงขอโทษแล้ว หลังจากที่เนื้อหาในรายการดังกล่าวมุ่งไปที่นักท่องเที่ยวชาวจีนในประเด็นเสียดสีประชดประชัน และการเหยียดเชื้อชาติ นายมิคเก้ ลินด์เกรน ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ เข้าร่วมพูดคุยกับตัวแทนชุมชนจีนในสวีเดน โดยยอมรับว่าทางสถานีไม่ได้คำนึงถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมและทำร้ายความรู้สึกบุคคลอื่น ‘โดยเฉพาะกับลูกหลานชาวจีนที่พลัดถิ่นฐานมาจากแผ่นดินใหญ่’ “เรารู้สึกเสียใจกับเรื่องดังกล่าว สิ่งที่เราตั้งใจจะสื่อคือหยอกล้อชาวสวีเดนที่มีอคติกับชาวจีน…
-
นักวิทย์กล่าว รอยสักมัมมี่โบราณ 5,300 ปี แท้จริงแล้วอาจเป็นการ “ฝังเข็ม” เพื่อรักษา
เดิมทีแล้วเมื่อพูดถึงเหตุผลในการสักของคนสมัยโบราณ หลายๆ คนก็คงจะบอกว่าเป็นการกระทำเพื่อพิธีกรรมอะไรบางอย่าง คล้ายกับการที่คนไทยในอดีตสักยันต์ด้วยความเชื่อที่ว่าจะทำให้มีพลังอำนาจอาคมต่างๆ แต่แล้วความคิดที่ว่าการสักนั้นเกิดขึ้นเพราะความเชื่อและพิธีกรรมเท่านั้นอาจจะไม่ถูกต้องเสมอไปก็ได้ เพราะล่าสุดนี้เองนักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาบอกว่า รอยสักในอดีตนั้นอาจจะเป็นผลมาจากการรักษาก็เป็นได้ นี่เป็นผลมาจากการศึกษาร่างของ Ötzi มัมมี่เก่าแก่จากเมื่อ 5,300 ปีก่อน ที่มีการค้นพบเมื่อปี 1991 ในอิตาลี โดยบนร่างของมัมมี่เก่าแก่นี้มีรอยสักอยู่ 61 แห่ง แต่ละแห่งล้วนเป็นรูปร่างง่ายๆ อย่างเส้นตรงหลายๆ ขีดหรือรูปเครื่องหมายบวกในบางจุด อย่างไรก็ตามรอยสักเหล่านี้กลับมีที่ไปที่มากว่าที่คิด จากการตรวจสอบร่างของ Ötzi นักวิทยาศาสตร์พบว่าเขาเป็นโรคร้ายหลายชนิด และเคยได้รับการรักษาด้วยสมุนไพรกับวิธีการบางอย่างที่คล้ายคลึงกับการ “ฝังเข็ม” ในปัจจุบัน พวกเขาเชื่อว่าการฝังเข็มเหล่านี้เองที่ทำให้เกิดลวดลายบนร่างกายของ Ötzi เนื่องจากรอยสักที่พบนั้นนอกจากจะมีรูปร่างที่ค่อนข้าง “ธรรมดา” แล้ว ลวดลายส่วนมากยังอยู่ในจุดที่ใกล้เคียงกับจุดฝังเข็มในปัจจุบันอีกด้วย Albert Zink หัวหน้าสถาบันวิจัยเพื่อการศึกษามัมมี่ในโบลซาโน ประเทศอิตาลีกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่ารอยสักที่อกจะมาจากการรักษาอาการปวดท้อง ซึ่งแม้ว่าเราจะเคยเชื่อว่าการฝังเข็มเกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศจีนเมื่อ 2,200 ปีก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้ที่ว่าการฝังเข็มจะมีมาก่อนหน้านั้น นอกจากนี้ในตอนที่เสียชีวิตในกระเพาะของ Ötzi ยังมีเห็ดสายพันธุ์ Birch Polypore อยู่ด้วย ซึ่งเห็นสายพันธุ์นี้มีชื่อเสียงเรื่องการลดไข้ และลดอาการผื่นคัน นั่นทำให้แนวคิดที่ว่ามัมมี่ร่างนี้เป็นของชายที่ได้รับการรักษาหลากหลายรูปแบบมีน้ำหนักมากพอสมควร…
-
เทโอทิวาคาน “เมืองแห่งพีระมิด” ที่มีผู้สร้างสุดลึกลับ จนเชื่อกันว่าสร้างโดยมนุษย์ต่างดาว
เทโอทิวาคาน (Teotihuacan) เป็นเมืองโบราณที่มีชื่อเล่นว่า “เมืองแห่งพีระมิด” ตั้งอยู่ห่างจากเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโกไปทางเหนือราวๆ 50 กิโลเมตร เมืองแห่งนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อราวๆ 2,100 ปีก่อน ในช่วงเวลาประมาณ 150 ปีก่อนคริสตกาล อย่างไรก็ตามในปัจจุบันยังมีการถกเถียงกันอยู่ว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้สร้างเมืองแห่งนี้ ดูเหมือนว่าผู้ที่สร้างเมืองแห่งนี้ขึ้นจะทิ้งเมืองไปอย่างมีปริศนา ก่อนที่ตัวเมืองจะถูกใช้โดยชาวแอซเท็ก และถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 1987 ชื่อของเมืองเทโอทิวาคาน (และสิ่งก่อสร้างหลายๆ อย่างในเมือง) ถูกตั้งขึ้นโดยชาวแอซเท็กที่เข้ามาอยู่ที่นี่ในภายหลังแปลว่า “เมืองที่พระเจ้าเป็นผู้สร้าง” ว่ากันว่าเทโอทิวาคานเคยมีคนอาศัยอยู่กว่า 100,000 คนซึ่งถือว่าเยอะมากในสมัยนั้น มีพีระมิดที่มีชื่อเสียงอยู่สองแห่งคือ “พีระมิดแห่งพระอาทิตย์ “และ “พีระมิดแห่งพระจันทร์” และถนนขนาดใหญ่ที่เรียกกันว่าถนนแห่งความตาย (Avenue of the Dead) นอกจากนี้เทโอทิวาคานยังมีโครงสร้างเมืองที่มีแบบแผน โดยคนมีฐานะจะอยู่สูงกว่าคนทั่วๆ ไปทำให้เชื่อกันว่าอดีตผู้ที่อยู่อาศัยในเมืองแห่งนี้ น่าจะมีระบบชนชั้นที่ค่อนข้างชัดเจนเลยทีเดียว ในเมืองมีร่องรอยของการทำพิธีบูชายัญทั้งคนและสัตว์ มีรูปปั้นของเทพงูมีปีกอย่าง “เควท์ซาลโคท์ล” (Quetzalcoatl) เทพที่เป็นที่นับถือของชาวแอซเท็ก และมีระบบการเขียนที่ซับซ้อนบันทึกเอาไว้ เรื่องเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์และลึกลับผิดกับยุคสมัยของเมืองแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี (แม้ว่าพิธีบูชายัญอาจจะมาจากชาวแอซเท็กในภายหลังก็ตาม) นั่นทำให้เทโอทิวาคานมักถูกมองว่าสร้างขึ้นโดยมนุษย์ต่างดาว หรือไม่ก็คนโบราณที่ได้รับความรู้มาจาก…
-
พบแขนเทียมโบราณจากยุคสำริด อายุราว 3,500 ปี เชื่ออาจเคยถูกใช้ในพิธีกรรม
อวัยวะเทียมเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนพิการสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น แถมยังพัฒนาขึ้นตามเทคโนโลยีจนมีความทันสมัยขึ้นทุกวัน จนในปัจจุบันแทบจะแยกระหว่างอวัยวะเทียมกับของจริงไม่ออกแล้วด้วยซ้ำ ว่าแต่เชื่อหรือไม่ว่าอวัยวะเทียมมันมีความเก่าแก่กว่าที่เราคิดเยอะ นี่คือมือเทียมโบราณอายุกว่า 3,500 ปีจากยุคสำริด ที่ถูกค้นพบโดยนักล่าสมบัติในสวิตเซอร์แลนด์ และเปิดเผยออกมาโดยทางนักโบราณคดีเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน 2018 ที่ผ่านมา จากข้อมูลของทางนักโบราณคดี มือเทียมพบที่มีขนาดเล็กกว่ามือคนจริงๆ เล็กน้อย ทำจากทองแดงกับดีบุก ประดับประดาด้วยทองคำ และเชื่อกันว่าเป็นอวัยวะเทียมที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบในยุโรป เป็นไปได้ว่าช่างฝีมือสมัยก่อนจะติดมือเทียมนี้เข้ากับส่วนปลายของแขน โดยจากรูปร่างที่เหมือนกับว่าเคยมีอะไรวางอยู่บนนั้นมาก่อน โดยสิ่งที่ว่าอาจจะเป็นรูปปั้นหรือคทา นั่นทำให้เชื่อกันว่ามือที่พบอาจจะมีการใช้งานในฐานะมือเทียมสำหรับคนพิการจริงๆ หรืออาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของพิธีกรรมในสมัยนั้นก็เป็นได้ นอกจากนี้ในบริเวณที่มีการค้นพบมือเทียมในครั้งนี้ยังมีการค้นพบมีดสั้นสำริด หมุดสำริด เศษทองสองชิ้นที่เชื่อว่าหลุดออกมาจากมือเทียม และเครื่องประดับผมอีกด้วย ดูเหมือนว่าการค้นพบในครั้งนี้จะเกิดขึ้นจากการที่นักล่าสมบัตินำเครื่องตรวจจับโลหะไปค้นหาที่ใกล้ๆ ทะเลสาบ Biel ในกรุงเบิร์น สวิตเซอร์แลนด์ และนำไปสู่การค้นพบหลุมฝังศพโบราณในเวลาต่อมา “เขา (เจ้าของมือเทียม) จะต้องเป็นคนระดับสูงอย่างแน่นอน เพราะการที่มือประดับด้วยทองคือสัญลักษณ์ของพลัง เป็นเครื่องหมายพิเศษของชนชั้นสูง หรือแม้กระทั่งเทพ” นักโบราณคดีกล่าว หลุมฝังศพโบราณที่ถูกพบใกล้ๆ สถานที่ค้นพบมือเทียม ในขณะนี้ทางนักวิทยาศาสตร์ได้วางแผนที่จะตรวจสอบทางเคมีกับมือที่พบเพื่อตรวจสอบว่ามือที่พบนั้นทำขึ้นในพื้นที่หรือนำเข้ามาจากสถานที่อันห่างไกลกันแน่ เนื่องจากมือเทียมที่เก่าแก่ขนาดนี้ ไม่เคยมีการพบมาก่อนในยุโรปนั่นเอง ในขณะนี้มือเทียมที่ถูกค้นพบได้มีการนำไปจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ New Biel เป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของมือที่พบก็ยังคงเป็นปริศนาในปัจจุบัน ที่มา livescience, express, foxnews
-
ชายผู้ “ร่วมรัก” กับผู้หญิงมามากกว่า 6,000 คน สิ้นใจด้วยวัย 63 ปี ในขณะที่กำลังมีเซ็กส์อยู่
นี่คือข่าวของชายที่ไม่รู้ว่าควรจะจำกัดความเขาว่าอย่างไรดี จะบอกว่าเป็น “นักรัก” ก็คงไม่ใช่ เพราะถ้าจะเรียกให้ถูกจริงๆ คงต้องบอกว่าเขาเป็น “นักร่วมรัก” ซะมากกว่า Maurizio Zanfanti คือชายหนุ่มผู้ได้ฉายาว่า “สุดยอดเพลย์บอยแห่งอิตาลี” ถูกขนานนามว่าเป็นถึง “โรมิโอแห่งเมืองริมินี” ด้วยสถิติเคยมีอะไรกับผู้หญิงมาแล้วมากกว่า 6,000 คน Maurizio “นักร่วมรัก” ชาวอิตาลีผู้เลื่องชื่อ ความโด่งดังมีชื่อเสียงแบบเปรี้ยงปร้างของเขานั้น เริ่มมาตั้งแต่สมัยที่เขาเปิดร้านเหล้าเป็นของตัวเองในช่วง 1970s ตอนนั้นเขาอายุเพียงแค่ 17 ปี แต่ด้วยความที่ร้านติดริมชายหาดจึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากการคลุกคลีอยู่กับร้านเหล้าของตัวเองที่ชื่อว่า Blow Up จึงไม่แปลกที่เขาจะได้พบปะผู้คนมากมาย ได้พูดคุยกับหญิงสาวทั้งในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจากต่างแดน Maurizio เคยเล่าเอาไว้ว่าช่วงฤดูร้อนของแต่ละปี (ไฮซีซั่น) เขาจะมีอะไรกับผู้หญิงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 200 คน โดยสถิติสูงสุดที่เขาทำเอาไว้คือ 207 คน (เวลาแค่ประมาณ 3-4 เดือน ยิ่งกว่าวันละคนอีกนะ) เขาเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ในปี 2016 ว่า “ผมคิดว่าตัวผมเองสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีกว่าบริษัทเอเจนซี่หลายร้อยบริษัทภายในเมืองนี้ซะอีก” …
-
ภาพที่ดันบังเอิ๊ญ บังเอิญ มีอะไรบางอย่างติดมาด้วย จะถ่ายรูปให้ดูตาม้าตาเรือก่อนเซ่
สมัยนี้เรื่องเทคโนโลยีแห่งการถ่ายรูปนั้นถูกพัฒนาไปไกลมาก จากเดิมที่รูปภาพที่ถ่ายออกมานั้นมักจะไม่ค่อยมีความละเอียดมากมายเท่าไหร่ ปัจจุบันกล้องถ่ายภาพก็ได้พัฒนาไปไกลถึงขั้นสามารถถ่ายได้สวยกว่าที่ตาเห็น ไม่ว่าจะไกลแค่ไหนก็สามารถซูมถ่ายได้ออกมาชัดแจ๋ว แต่บางครั้งภาพที่ได้ออกมาเมื่อลองดูดีๆ แล้วอาจจะได้ภาพที่มีมุมมองแปลกใหม่ก็ได้นะ อย่างเช่นภาพต่อไปนี้ที่ถูกบันทึกเอาไว้ หากมองดูแรกๆ ก็อาจจะไม่มีอะไร แต่พอกดซูมดูเท่านั้นแหละ ฮาเลย แหะๆ มาขัดจังหวะของบ่าวสาวหรอเนี่ย ตัวผม พีระมิด และคนหกล้ม โฟโต้บอมบ์นี้มีมาทุกยุคทุกสมัย เหมือนได้ยินเสียงว่า โห!!! น่ากินอ่ะมาจากน้องข้างหลัง พร้อมจู่โจมใน 3 2 1… เมียสั่งมา ห้ามมอง กะจะหล่อๆ ซะหน่อย เจออีตาข้างหลังแย่งซีนซะ รองเท้าสวยมากนะ ลุกได้แล้วนังทาส มัวแต่เซลฟี่อยู่นั่นแหละ น้อง และน้องงงงง ป๋มออกไปเล่นกับพี่ได้ยังฮะแม่ บางบ้านพี่น้องก็ไม่ค่อยจะถูกกันเท่าไหร่ ออกไปนะ หลบแบบดิจิตอล อยากมีส่วนร่วมบ้างง่า ชะตาขาดแล้วเจ้าปลาเอ๊ย …
-
พี่เหมียว 4 หู ได้เจอน้องชายต่างครอกที่มี 4 หูเหมือนกัน ดีใจจนไม่ยอมอยู่ห่างเลย
ลูกแมว 4 หูตัวหนึ่ง ถูกพบอยู่ใต้ถุนบ้าน และได้รับการช่วยเหลือโดยเจ้าของบ้าน ไม่กี่เดือนต่อมา มันก็ได้พบกับน้องชายครั้งแรก ซึ่งมี 4 หูเหมือนกัน นี่เป็นเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่มีชื่อว่า Frankie หลังจากที่เจ้าของบ้านได้ช่วยเอาไว้ มันก็ถูกส่งไปยัง Geelong Animal Welfare Society (GAWS) Georgi อาสาสมัครใน GAWS บอกว่า “เราพบว่ามันติดเชื้อที่ตาและได้รับความเสียหายรุนแรงมาก แต่มันมีความพิเศษอย่างหนึ่งคือ มันมี 4 หู” สำหรับหูที่มีมากกว่าแมวทั่วไปนั้น เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมอย่างหนึ่ง ทาง GAWS ได้ให้การช่วยเหลือมันในด้านค่าใช้จ่ายในการรักษา ค่าผ่าตัด และดูแลมันในช่วยพักฟื้น เพื่อให้มันมีร่างกายแข็งแรงและมีความสุข Georgi ได้พา Frankie กลับไปดูแลที่บ้าน และได้ดูแลมันจนมันกลับมามีสุขภาพแข็งแรง ก่อนจะตกหลุมรักมันโดยไม่ทันตั้งตัว เธอบอกว่า “ปีที่ผ่านมา ฉันรับแมวมาอุปถัมภ์เกือบ 80 ตัว แต่ Frankie เป็นตัวแรกที่ทำให้ฉันมีปัญหาในการส่งมันคืนให้ศูนย์พักพิง ฉันจึงตัดสินใจรับเลี้ยงมันซะเลย” ระหว่างนั้น ผู้ช่วยเหลือก็พยายามจะวางกับดักให้แม่ของ Frankie เพื่อที่จะเอามันมาทำหมัน ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา…
-
หญิงร้องไห้เมื่อเห็นรูป ‘ฮัสกี้ป่วย’ ในศูนย์พักพิง เธอจึงตัดสินใจมอบชีวิตใหม่ให้มัน
ปกติเวลาเห็นรูปฮัสกี้ เรามักยิ้มกับความน่ารัก ความสง่างาม และความเกรียนของพวกมัน แต่เมื่อ Shari Baillargeon ได้เห็นภาพของฮัสกี้ เธอกลับร้องไห้ออกมา Baillargeon บอกว่า “ผิวของมันดูแย่มาก และแววตาของมันก็ดูเศร้ามาก จนฉันร้องไห้หนักถึง 2 วัน แล้วฉันก็คิดว่า ‘ถ้าฉันไปรับมันมา ฉันสามารถช่วยมันได้’” ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม มีคนเห็นสุนัขฮัสกี้ตัวหนึ่ง ชื่อ Wally มันเป็นหมาจรจัดที่เร่ร่อนไปตามถนนในย่านภาคเหนือของจอร์เจีย เพื่อหาน้ำ อาหาร และที่พักพิง Wally มักจะเดินเข้าไปในบ้านพวกเขา ในที่จอดรถ และซุ้มประตูหน้าบ้าน ของผู้คนในละแวกนั้น พวกเขาจึงไล่มันพร้อมกับโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ให้มาจัดการ เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์จึงพา Wally ไปไว้ในศูนย์พักพิง หลังจากอยู่ที่นั่นได้สองวัน Baillargeon ก็ตัดสินใจติดต่อไปยัง MUSH Rescue ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้การช่วยเหลือฮัสกี้ จากนั้นเธอก็พามันไปหาสัตวแพทย์ Baillargeon บอกว่า “สภาพของมันดูแย่มาก ร่างกายของมันแทบจะไม่กล้ามเนื้อ แต่มีก้อนเนื้อที่ก่อตัวขึ้นอยู่ที่ข้างลำตัวของมัน นอกจากนี้ Wally ยังเป็นโรคไรขี้เรื้อน ผิวหนังติดเชื้อ ซึ่งมีสาเหตุจากการถูกไรกัด เป็นพยาธิหนอนหัวใจ และติดเชื้อในหู ตา และกระเพาะปัสสาวะ แต่ปัญหาเรื่องสุขภาพเหล่านี้ไม่ได้หยุดยั้ง…
-
ทหารกับคู่หู 4 ขา ได้รับบาดเจ็บจนต้องพรากจากกัน แต่แล้วทั้งคู่ก็ได้มาเจอกันอีกครั้ง
ไม่มีใครสนิทกับ Alec Alcoser มากไปกว่าคู่หูของเขาเมื่อตอนที่ประจำการอยู่ในอัฟกานิสถาน และทั้งคู่ต่างได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีด้วยระเบิดพลีชีพเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม เหตุการณ์ในวันนั้น Alcoser กับคู่หูเดินไปตามมุมแคบๆ บนถนน Bagram Airfield จากนั้นก็เห็นคนอัฟกานิสถานคนหนึ่งเดินเข้ามาหา ก่อนจะเกิดเหตุร้ายขึ้น… รู้ตัวอีกที Alcoser รู้สึกเหมือนกระดูกหักหลายจุด และมีเศษกระสุนแทรกเข้าไปในตัวประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย นอกจากนี้เขายังได้รับบาดเจ็บที่หัวด้วย ขณะที่คู่หูของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเหมือนกัน จนสูญเสียขาไปข้างหนึ่ง โชคดีที่คู่หูของ Alcoser ยังสามารถเดินได้ด้วย 3 ขา และขอแนะนำคู่หูตัวนี้อย่างเป็นทางการ มันคือ Alex สุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดวัย 8 ปี ย้อนกลับในช่วงก่อนที่จะถูกโจมตี Alcoser กับ Alex เป็นคู่หูที่แทบจะแยกจากกันไม่ได้ พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนนอน พวกเขาก็นอนเตียงเดียวกัน และเมื่อออกไปทำภารกิจ พวกเขาก็ไปด้วยกัน Alcoser เล่าว่า “ในวันที่เราต้องทำภารกิจ เมื่อตื่นขึ้นมา ผมจะเล่นกับมัน ให้อาหารมัน จากนั้นผมก็กินไอศกรีมก่อนจะออกไปทำภารกิจด้วยกัน เมื่อกลับมา เรามักจะนอนเป็นส่วนใหญ่” เขาเล่าต่อว่า “สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผมกับ Alex เมื่อประจำการอยู่ที่นั่น ที่ผมต้องกินไอศกรีม…
-
แก๊งลาได้รับการช่วยเหลือและได้มาเจอเพื่อนสาวตัวน้อย พวกมันจึงติดเธองอมแงม
สัตว์หลายชนิดไม่ได้มีโอกาสเติบโตตามธรรมชาติที่มันควรจะเป็น เพียงเพราะความเชื่อ และค่านิยมที่ไม่เป็นธรรมสำหรับพวกมัน หนึ่งในสัตว์ที่น่าสงสารเหล่านั้นคือ ลา พวกมันมักจะถูกนำมาเลี้ยงสำหรับใช้งาน ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว พวกมันก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักสำหรับครอบครัวได้เหมือนกัน โชคดีที่มีบางคนเห็นคุณค่าของลาในฐานะสัตว์เลี้ยง และดูแลมันให้เหมือนสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว เพื่อให้โอกาสพวกมันได้แสดงความเป็นลาในแบบที่หลายคนมองข้ามไป หนึ่งในคนที่ให้โอกาสลาคือเด็กหญิงตัวน้อยที่ชื่อ Honor… ครอบครัวของเธอได้เปิดศูนย์ลี้ภัยสำหรับสัตว์ Sycamore Tree Ranch ในเมือง Springtown รัฐเท็กซัส เด็กหญิงจึงได้เติบโตท่ามกลางสัตว์มากมาย เมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่ครอบครัวพากันไปเดินเล่นในตอนเย็น และแวะเล่นกับลาที่พวกเขาได้ช่วยเอาไว้ ตอนนั้นเองที่พ่อแม่สังเกตเห็นว่าพวกเขาดูสนใจ Honor มาก เด็กหญิงเองก็ไม่มีท่าทีกลัวพวกมันเลย Koby Wegge ผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์ลี้ภัยบอกว่า “Honor มีความสุขกับการได้ใช้เวลากับลา” ความสัมพันธ์แบบนี้แหละ ที่เป็นเหตุผลให้ Wegge กับสามี Chad ตัดสินใจเปิดศูนย์ลี้ภัยสัตว์ตั้งแต่แรก พวกเขาต้องการให้สัตว์ช่วยบำบัดผู้ที่กำลังทุกข์ใจและผู้ที่กำลังป่วย ดังนั้น สิ่งที่ครอบครัวทำจึงไม่ใช่แค่การช่วยเหลือสัตว์ แต่เป็นการมอบสิ่งที่ล้ำค่าให้กับมนุษย์ด้วย สำหรับลาใน Sycamore Tree Ranch ส่วนใหญ่ได้รับการช่วยเหลือมาจาก “kill pens” ซึ่งเป็นฟาร์มสัตว์ที่เลี้ยงไว้เพื่อส่งไปยังแคนาดาหรือเม็กซิโก ก่อนที่พวกมันจะถูกฆ่าในที่สุด Wegge…
-
พี่บีเกิ้ลไม่เคยถูกสอนให้รักน้อง แต่เมื่อมีน้อง มันทำหน้าที่พี่ชายไม่ขาดตกบกพร่องเลย
สุนัขหลายๆ ตัว สามารถทำตามคำสั่งได้อย่างคล่องแคล่ว นั่นเป็นเพราะว่าพวกมันถูกฝึกมา แต่บางอย่างบางเรื่อง แม้จะไม่เคยถูกสอน พวกมันก็สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ เหมือนกับ Charlie สุนัขพันธุ์บีเกิ้ลตัวนี้ มันเป็นหมาที่ฉลาด เรียนรู้ได้รวดเร็ว ทำตามคำสั่งได้ดี และมีความคิดเป็นของตัวเองด้วย ตั้งแต่มันมาอยู่กับครอบครัวมนุษย์ มันถูกสอนให้เล่นคีย์บอร์ดของเล่น สอนวิธีการกดเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจรที่ทางข้าม้าลาย สอนให้เอาผ้าคลุมให้ทารก รวมไปถึงวิธีการแกว่งเปล แต่สิ่งหนึ่งที่ครอบครัวไม่เคยสอน Charlie เลย คือการรักเด็กหรือการแสดงความรักต่อเด็ก ดังนั้น เมื่อคุณแม่มีลูกน้อย เธอคิดว่าเจ้าบีเกิ้ลคงจะทำในสิ่งที่ถูกสอนมาเท่านั้น ซึ่งถ้ามันทำได้ก็ถือว่าดีเพียงพอแล้ว ปรากฏว่าเมื่อ Charlie ได้พบกับน้องสาว Laura มันได้ปฏิบัติกับน้องสาวมากกว่าที่ครอบครัวเคยสอนมันมา มันทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดี ทั้งๆ ที่คุณแม่ไม่ได้บอก พี่หมาทำให้น้องสาวยิ้มได้ทุกวัน มันกอดน้องสาว จูบเธอ และเล่นกับเธออย่างอ่อนโยน เมื่อไหร่ก็ตามที่น้องร้องไห้ มันจะคาบตุ๊กตามาให้ และเป็นเพื่อนเล่นกับเธอ จนน้องหยุดร้อง เมื่อถึงเวลาที่ Laura รู้สึกง่วง พี่หมาจะอยู่ข้างน้องจนกว่าเธอจะหลับ และมันจะคอยเป็นผู้ปกป้องเธอ แต่บางที ถ้าหนังตาหนักๆ หน่วงๆ มันก็จะผล็อยหลับไปข้างๆ เธอ เวลาเล่นด้วยกัน…
-
เจ้าพิตบูลล์ถูกทิ้งลำพังใต้ต้นไม้ แต่มันกลับยิ้มสู้ จนมีคนมาเห็นและช่วยเหลือมัน
เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ขณะที่ Eric Maus จากบรุ๊คลินพา Gouda และ Lily ซึ่งเป็นหมาของลูกค้า ไปเดินทางไกล โดยผ่าน Prospect Park เขาก็ได้เจอกับสิ่งที่คาดไม่ถึง Maus เล่าว่า “ตอนที่ผมกำลังเดินขึ้นไปที่น้ำตก และข้ามสะพาน ผมเห็นสุนัขพิตบูลล์ตัวโตถูกผูกไว้กับต้นไม้ ผมมองไปรอบๆ และตะโกนหามันว่า ‘เฮ้ เจ้าของแกอยู่ไหน?’” อย่างไรก็ตาม Maus ไม่เห็นใครอยู่แถวนั้นเลย เขาจึงรู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงเดินเข้าไปใกล้มันอย่างระมัดระวัง พร้อมกับสุนัขของลูกค้าอีก 2 ตัว แต่น่าแปลกที่พิตบูลล์ตัวนั้นไม่ได้ขยับหนีเลย เขาบอกว่า “พิตบูลล์ตัวนี้น่ารักและอ่อนโยนมากๆ มันแค่นั่งอยู่ตรงนั้น และทำลิ้นห้อย มันโคตรน่ารักเลย” เมื่อเงยหน้าขึ้น Maus เห็นกระดาษที่ห้อยติดกับใบไม้ ในกระดาษแผ่นนั้นมีข้อความสั้นๆ ไม่กี่ประโยค โดยระบุว่าพิตบูลล์ตัวนี้ชื่อ Mamas อายุ 7 ปี รูปลักษณ์ของมันอาจดูน่ากลัวแต่จริงๆ มันน่ารักมาก นอกจากนี้ก็มีข้อความ ‘พาผมกลับบ้านด้วย’ ‘ผมเป็นหมาที่ยอดเยี่ยม’ ‘อย่ากลัว เพียงเพราะขนาดตัวของผม เพราะผมน่ารักมาก’ …
-
มิตรภาพของ ‘หมี’ กับ ‘สุนัขจิ้งจอก’ ได้ก่อตัวขึ้น โดยมีแอปเปิ้ลเป็นทางผ่าน
ไม่มีใครคาดคิดว่าหมีที่ได้รับการช่วยเหลือจากการถูกทารุณกรรม จนได้รับความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ จะกลายเป็นหมีที่มีจิตใจอ่อนโยนและยอมแบ่งแอปเปิ้ลให้สัตว์ตัวอื่น นี่คือเรื่องราวของหมีจาก Four Paws’ Dancing Bear Park Belitsa ที่ได้รับการช่วยเหลือจากการถูกบังคับให้เต้นเพื่อแลกกับเงินให้กับคนบางกลุ่ม หมีเหล่านี้จะถูกพรากจากแม่ตั้งแต่ยังเป็นลูกหมีตัวน้อย จากนั้นพวกมันก็จะถูกฝึกโดยการให้ยืนบนเหล็กร้อนๆ จนมันต้องยกอุ้งเท้าขึ้น ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังเต้น นอกจากนี้ พวกมันจะถูกเจาะจมูกทุกตัว แล้วก็เอาโซ่ร้อยเข้าไปในรููที่เจาะนั้น เพื่อที่คนพวกนั้นจะควบคุมพวกมันได้ตอนฝึกหรือตอนแสดง แน่นอนว่าหมีเหล่านี้มมักจะลืมสัญชาตญาณตามธรรมชาติของพวกมัน พวกมันได้กินแต่อาหารขยะจนเป็นโรคขาดสารอาหาร และลืมแม้กระทั่งวิธีการจำศีลในฤดูหนาว โชคดีที่ Four Paws International และ Brigitte Bardot Foundation ได้ก่อตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือหมีเหล่านี้ และก่อนหน้านี้ พวกเขาก็เพิ่งช่วยหมีที่ขาดสารอาหารตัวหนึ่ง หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือ เจ้าหมีก็เหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง มันได้อยู่ในที่ปลอดภัย ได้เรียนรู้การเป็นหมีตามธรรมชาติ ได้กินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และมันเองก็ชอบกินผลไม้มาก แถมยังเรียนรู้ที่จะแบ่งให้เพื่อนด้วย ขณะที่เจ้าหมีตัวนั้นอยู่ในเขตคุ้มครองสัตว์ป่า มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งชอบมาวนเวียนรอบๆ ตัวมัน คงเป็นเพราะว่ามันอยากินแอปเปิ้ลของเจ้าหมี ตอนแรก สุนัขจิ้งจอกตัวนั้นย่องเข้าไปใกล้หมี ก่อนจะคว้าแอปเปิ้ลและวิ่งหนีไป โดยมีสุนัขจิ้งจอกตัวอื่นๆ คอยเฝ้าดูในระยะไกล แต่ต่อมา หมาจิ้งจอกตัวนั้นก็ตัดสินใจที่จะวิ่งหนีอีก มันเข้าไปกินแอปเปิ้ลกับเจ้าหมีแถมเอาไปแบ่งให้เพื่อนๆ ด้วย…
-
23 ภาพของเหล่าสัตว์โลกที่ ‘แสดงความรักได้น่าอิจฉามาก’ จนคนโสดทนดูไม่ได้
จริงๆ แล้วสัตว์มีความรู้สึกและพฤติิกรรมที่แทบจะไม่ต่างจากมนุษย์เรา โดยเฉพาะอาการตกหลุมรัก พวกมันจะแสดงออกโดยการจูบ หรือกอด ที่ทำเอาหลายคนใจละลายเมื่อได้เห็น และนี่คือภาพการแสดงความรักของเหล่าสัตว์โลกผู้น่ารัก แม้ไม่เปล่งวาจาใดๆ ก็รู้ว่ากันมาก แต่ขอแนะนำให้คนโสดข้ามไปดีกว่า เพราะถ้าดูแล้วคุณอาจจะเกิดความอิจฉาขึ้นโดยไม่รู้ตัว 1. นอนกอดสามีอุ่นที่สุ๊ดดด 2. ที่รัก รอให้ถึงบ้านก่อนก็ได้ นี่มันที่โจ่งแจ้ง อายเค้า 3. กอดกันไว้ จะได้ไม่มีใครมาพรากเราจากกัน 4. เดินแบบนี้มันอึดอัดนะ แต่มีความสุขมากกว่าเพราะเรารักกัน 5. ช่วงมีความรัก ที่แคบคือที่ที่ดีที่สุดเสมอ เพราะยิ่งแคบยิ่งได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น 6. ที่รัก เราต้องทำโลกรู้ว่าเราเป็นครอบครัวที่อบอุ่น 7. เป็นเด็กเป็นเล็ก แก่แดดนะเราอะ 8. ซ้อน 5 แบบนี้ ตำรวจจะจับมั้ยนะ 9. โตขึ้น เราจะแต่งงานกัน สัญญานะ 10. กอด…
-
‘ลูกหมา’ หวาดกลัวทุกอย่างในศูนย์พักพิง มันจึงต้องการอยู่กับแม่เพื่อความอุ่นใจ
สุนัขบางตัวอาจจะหวาดระแวงเมื่อถูกพาเข้ามาในศูนย์พักพิง เช่นเดียวกับ Dino มันเป็นลูกหมาที่กลัวทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสายตา เสียง กลิ่น แต่โชคดีที่มีแม่หมา Sookie อยู่ในกรงเดียวกับมัน แม่หมาเข้าไปกอดลูกชายและพยายามปลอบโยนมันให้หายกลัว Edi Kelley ผู้อำนวยการ Paws Crossed Dog Rescue บอกว่า “พวกมันแยกออกจากกันไม่ได้เลย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่น่าประทับใจและพึ่งพิงกันได้” ย้อนกลับไปเมื่อเดือนก่อนหน้านี้ Dino กับ Sookie ได้รับการช่วเหลือจากมอนโรวิลล์ รัฐแอละแบมา และถูกพาไปยังศูนย์พักพิงที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย Kelly บอกว่า “ผู้คนจะเห็นสุนัขทั้งสองตัววิ่งไปมา พวกมันกำลังจะตายด้วยความหิวโหยและมีตัวหนึ่งหวาดกลัวแบบไม่มีสาเหตุ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์จึงพาพวกมันไปยังศูนย์พักพิง” เมื่อมาถึง เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงถือว่าพวกมันเป็นแม่ลูกกัน เพราะพวกมันอายุห่างกันมาก และจากพฤติกรรมของ Dino แล้ว มันไม่น่าจะเป็นคู่หูของหมาตัวเมียตัวนี้แต่น่าจะเป็นลูกมากกว่า Kelley บอกว่า “Dino เอนตัวเข้าไปหาแม่แล้วเอาหัวไว้ใต้คอแม่ มันอยากให้ตัวสัมผัสกับแม่ตลอดเวลา เมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวไม่ได้ติดกับแม่ มันจะดูสับสนทันที” นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสังเกตเห็นว่า Sookie กำลังตั้งท้องอยู่และพร้อมที่จะคลอดทุกวัน ดังนั้น ทุกคืนก่อนปิดศูนย์ พวกเขาจะจับ Dino แยกออกจาก Sookie เพื่อความปลอดภัย…
-
หมูว่ายน้ำหนีเอาตัวรอดจนไปโผล่ที่บ้านหนุ่มใจดี ทำให้มันได้รับชีวิตใหม่ที่มีแต่ความสุข
ในช่วงที่พายุเฮอริเคนเข้า ผู้คนคงจะได้เห็นสิ่งของหรือสัตว์แปลกหน้าลอยมาติดที่บ้านมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงู จระเข้ หรือแม่แต่หมู Josh Walls เองเป็นหนึ่งในคนที่ได้ประสบกับเหตุการณ์เช่นนั้น เมื่อเขาเดินออกจากบ้านในเช้าวันหนึ่ง และเห็นหมูเล็ดลอดออกไปตามถนน ตอนนั้นมีคำถามเกิิดขึ้นในหัวของเขา ‘หมูตัวนี้มาจากไหน?’ ‘มันมีมากกว่า 1 ตัวหรือเปล่า?’ ขณะเดียวกัน เจ้าหมูเดินตรงมาที่ Walls จนเขาไม่รู้ว่าต้องรับมือยังไง ชายหนุ่มบอกว่า “ผมไม่แน่ใจว่ามันมาอย่างเป็นมิตรหรือเปล่า แต่มันไม่ได้ทำอะไรนะ แค่กระโดดและวิ่งเหยาะมา พร้อมกับแหว่งหางน้อยๆ ของมัน” “มันทำเสียงอู๊ดๆ ผมว่ามันเป็นเสียงอู๊ดที่ฟังดูน่ารักมากๆ” Walls เสริม นั่นทำให้ Walls ตระหนักได้ว่าหมูตัวนี้เป็นมิตรกับมนุษย์และมันเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่น่ากลัวมา ผิวของมันถูกแดดเผาและในปอดของมันก็คงจะเต็มไปด้วยน้ำ เขาคาดว่าหมูตัวนี้น่ามาจากฟาร์มที่อยู่ใกล้เคียง เพราะฟาร์มเหล่านั้นถูกน้ำท่วม แน่นอนว่ามันคงว่ายน้ำหนีอย่างยากลำบากเพื่อเอาตัวรอด Walls ได้ตั้งชื่อให้เจ้าหมูว่า Flo จากนั้นก็พามันไปอยู่ในที่ปลอดภัยที่หลังบ้านของเขา ก่อนจะเอาน้ำและอาหารให้มันกิน นอกจากนี้เขายังได้เอาโคลนทาทั่วตัวมัน เพื่อบรรเทาความเจ็บแสบจากการโดดแดดเผา ชายหนุ่มบอกว่า “ผมเป็นคนรักสัตว์ และถ้าเจอสัตว์ที่กำลังทุกข์ทรมาน ผมจะไม่ปล่อยพวกมันไว้แบบนั้นแน่นอน ดังนั้น ผมจึงพยายามอย่างดีที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าหมูตัวนี้ปลอดภัย” …
-
คิดว่าโดนสาววัย 19 เรียกว่า “หมา” เลยลักพาตัวเธอไปทรมาน แล้วจับโยนลงสะพาน
Kayla Kendrigen คือหญิงสาววัย 19 ปีผู้เกิดมาพร้อมกับความพิการ ไม่มีมือข้างซ้าย อาศัยอยู่ในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย กับครอบครัวของเธอ จนกระทั่งในคืนวันที่ 22 กันยายน 2018 ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับหญิงสาวคนนี้ เมื่อจู่ๆ เธอถูกวัยรุ่น 4 คนลักพาตัว พาเธอไปทรมานอย่างแสนสาหัส ก่อนที่จะจับเธอโยนลงสะพานสูง 20 เมตร Kayla เหยื่อสาววัย 19 ปี จากการบอกเล่าและคลิปที่ผู้ก่อเหตุได้ถ่ายเอาไว้ เผยให้เห็นว่าในช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่งขอวันนั้น Kayla ถูกกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงบังคับให้ขึ้นไปบนรถ เมื่อหญิงสาวปฏิเสธ เธอจึงถูกอุ้มเข้าไปไว้ที่กระโปรงหลังของรถ แล้ววัยรุ่นกลุ่มนั้นก็ขับรถออกไปจากจุดเกิดเหตุ ไกลออกไปกว่า 64 กิโลเมตร เข้าไปในบ้านหลังหนึ่งที่เมือง Whalan ภาพจากคลิปที่ผู้ต้องหาถ่ายเอาไว้ เมื่อไปถึงที่หมาย Kayla ก็ถูกจับมัดติดกับเก้าอี้ ถูกฟาดด้วยสายชาร์จไอโฟน ถูกตีด้วยไม้ ศีรษะและใบหน้าถูกเผาอย่างโหดเหี้ยม และมีการใช้มีดแทงเข้าไปที่ขาของเธออย่างน้อย 2 ครั้ง เธอถูกทรมานอยู่อย่างนั้นนานกว่า…
-
เด็กอินเดียถูกรถทับร่าง ลากไปไกลเกือบ 1 เมตร แต่สุดท้ายเจ้าตัวลุกมาวิ่งปร๋อ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง คลิปวิดีโอสุดสะเทือนขวัญ ได้เผยให้เห็นภาพของรถคันหนึ่งที่วิ่งทับร่างเด็กชายวัย 8 ขวบที่กำลังนั่งเล่นอยู่ใกล้ๆ แต่ทว่าเด็กน้อยคนดังกล่าว กลับรอดตายอย่างปาฏิหาริย์!! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมาในนครมุมไบ ประเทศอินเดีย ระหว่างที่ Rahesiya Amit Mathur เด็กชายผู้เคราะห์ร้ายกำลังเล่นกับเพื่อนอยู่ใกล้ๆ รถ ในระหว่างเกิดเหตุ Rahesiya กำลังนั่งผูกเชือกรองเท้าใกล้ๆ กับรถ ก่อนที่หญิงสาวเจ้าของรถจะขับรถออกไปโดยที่ไม่ทันสังเกตเด็กชาย จนเป็นเหตุให้รถเหยียบทับร่างของเขาไป ดูเหมือนว่าหญิงคนขับรถจะไม่ทราบว่ารถของเธอกำลังเหยียบเด็กน้อยวัย 8 ขวบอยู่ เธอลากร่างของเขาไปเกือบ 1 เมตรก่อนที่ Rahesiya จะหลุดออกมาจากใต้ท้องรถเอง หลังจากที่หลุดออกมาได้ แทบไม่น่าเชื่อว่า Rahesiya สามารถลุกขึ้นได้ด้วยตัวเอง ก่อนที่จะวิ่งไปเล่นกับเพื่อนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถตามตัวคนขับรถได้เป็นที่เรียบร้อย ทราบชื่อภายหลังคือนาง Shraddha Manoj Chandrakar วัย 42 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเธอในข้อหาขับรถโดยประมาท ก่อนที่เธอจะได้รับการประกันตัวในอีกไม่กี่วันต่อมา จากรายงานเผย หญิงสาวรายดังกล่าวให้การว่าเธอไม่ได้สังเกตเห็นเด็กชาย และในระหว่างที่ขับรถทับไปบนร่างของเขาก็ไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องหรือตะโกนแต่อย่างใด …
-
โชว์รูมถึงกับงง เจอรถเปิดประทุนรุ่นพิเศษจาก Land Rover ที่ได้มาโดยความบังเอิญจากการขนส่ง
เรื่องราวที่ #เหมียวเวจจี้ นำมาฝากเพื่อนๆ คราวนี้ ไม่ใช่ข่าวการเปิดตัวรถรุ่นใหม่จากทางค่าย Land Rover แต่มันคืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการขนส่งรถ จนทำให้รถธรรมดาๆ กลายเป็นรถเปิดประทุนกันเลยทีเดียว!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในระหว่างการขนส่งรถของบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ ซึ่งในขณะที่กำลังจะนำรถไปส่งที่โชว์รูมนั้น คนขับรถบรรทุกดันลืมไปว่ารถที่ขนมานั้นมีขนาดสูงกว่าสะพาน คนขับรถให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า เขาจอดรถขนส่งไว้ที่ด้านนอกโชว์รูม และหลังจากนั้นพนักงานรายหนึ่งได้เดินมาบอกให้เขาย้ายรถเข้ามาด้านใน แต่ทว่าเขากลับลืมปรับระดับรถลงจนทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว รถยนต์ที่อยู่ทางด้านบนทั้งสองคันได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือรถ Land Rover สีแดงมูลค่ากว่า 1.7 ล้านบาท ทางสถานีตำรวจ GMP Traffic ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านทวิตเตอร์ พร้อมโพสต์ข้อความแอบติดตลกว่า บริษัท Land Rover ไม่เคยผลิตรถเปิดประทุนแต่อย่างใด “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนมอเตอร์เวย์เมื่อวานนี้ คนขับรถขนส่งขับรถชนกับสะพาน จนเป็นเหตุให้รถ Land Rover คันนี้กลายเป็นรถเปิดประทุนที่ไม่ได้ผลิตจากโรงงาน ส่วนคนขับปลอดภัย” ข้อความจากทวิตเตอร์ของตำรวจ One from yesterday – #M61 Motorway, car transporter driver fails…
-
ดราม่าวงการแฟชั่น ‘Moschino’ ถูกดีไซเนอร์กล่าวหาว่าก๊อบปี้ผลงาน จริงเหรอ?
เป็นเรื่องเด่นเรื่องดังแห่งวงการแฟชั่นไปเลยตอนนี้ กับการที่แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังอย่าง Moschino ถูกกล่าวหาว่าก๊อบปี้ผลงานของดีไซเนอร์สาวที่ชื่อว่า Edda Gimnes หลังจากที่ทาง Moshino ได้มีการเปิดตัวเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากชาวเน็ตได้ไปไม่น้อยเลย การเปิดตัวเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดจาก Moshino เรื่องที่กลายเป็นประเด็นร้อนในครั้งนี้ก็คือ ดีไซเนอร์สาว Edda Gimnes ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กต่อว่าแบรนด์ Moschino ว่ามีการก๊อปปี้ผลงานของเธอไปใช้ในคอลเลคชั่นล่าสุด “วันนี้ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความผิดหวังสุดๆ และได้รับอินบ็อกซ์ข้อความจากผู้คนมากมายที่รู้จักผลงานของฉันและได้เห็นคอลเลคชั่นของ Moshino ในเมื่อวานนี้ ฉันเข้าใจว่า เราอยู่ในอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาแรงบันดาลใจซึ่งกันและกัน ดังคำที่กล่าวไว้ว่า การลอกเลียนแบบคือคำสรรเสริญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” “แต่มันน่าท้อแท้ที่ได้เห็นภาพนี้ หลังจากที่ได้พบเจอคนจาก Moshino ที่นิวยอร์กเมื่อเดือนพฤศจิกาปีที่แล้ว ฉันได้แสดงผลงานของฉันทั้งหมดให้เขาดู รวมถึงต้นฉบับการออกแบบและไอเดียต่างๆ พอได้เห็นสิ่งที่ Moschino ทำเมื่อวานนี้แล้วฉันรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดที่มีใครบางคนใช้คอลเลคชั่น SS16 และ SS17 ของฉันเป็นแรงบันดาลใจ แถมยังไม่ให้เครดิตอีกด้วย” และเธอยังแนบรูปภาพผลงานของเธอเองเปรียบเทียบกับเสื้อผ้าคอลเลคชั่นล่าสุดของ Moschino มาด้วย (ผลงานของเธออยู่ด้านซ้าย ของ Moschino อยู่ด้านขวา) . . . …
-
Aston Martin เปิดตัวเครื่องบินส่วนตัวพลังงานไฟฟ้า เปลี่ยนโฉมการเดินทางแห่งโลกอนาคต
เรียกได้ว่าเป็นอีกขั้นหนึ่งของนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนโฉมการคมนาคมในอนาคตเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ทาง Aston Martin บริษัทผลิตรถหรูจากอังกฤษ ได้เปิดตัว Volante Vision คอนเซปต์เครื่องบินส่วนตัวพลังงานไฟฟ้าเมื่อไม่นานมานี้ เครื่องบินส่วนตัวสุดหรูนี้ถูกออกแบบโดย Marek Reichman นักออกแบบระดับโลกที่เคยฝากผลงานการออกแบบบอดี้สวยๆ ของรถ Aston Martin มาหลายต่อหลายคันแล้ว ทางด้านค่ายรถจากอังกฤษกล่าวว่า ในอนาคตที่จะถึงนี้จะมีการใช้เครื่องบินแบบไร้คนขับในการคมนาคมมากมายทั้งการท่องเที่ยว การเดินทางในเมือง และจะมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทางด้านนาย Simon Sproule รองประธานบริษัทและหัวหน้าฝ่ายการตลาดได้ให้สัมภาษณ์ว่า โครงการดังกล่าวเริ่มต้นมานานกว่า 18 ปีแล้ว และขณะนี้ทางค่ายรถหรูอื่นๆ ก็หันมาให้ความสนใจในการพัฒนาการเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวแบบนี้ด้วย เครื่องบินส่วนตัวจากทาง Aston Martin ลำนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และนอกจากนี้มันยังสามารถบินและลงจอดได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งรันเวย์ และที่สำคัญเครื่องบินลำนี้ยังไม่สร้างมลภาวะเนื่องจากมันใช้พลังงานไฟฟ้านั่นเอง ลองไปชมความสวยงามของเครื่องบินส่วนตัวลำนี้กันเลย… . . . หน้าจอแสดงผลสุดล้ำ ห้องโดยสารแบบ 3 ที่นั่ง . อืม… สุดล้ำจริงๆ เลยนะเนี่ยยย…
-
23 ภาพเหล่าสัตว์ที่ใช้ในสงคราม อีกหนึ่งพลังที่นำชัยชนะแห่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
มนุษย์เราใช้สัตว์ในการทำสงครามมาตั้งแต่สมัยก่อน โชคดีที่ในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีมากมายเข้ามาทดแทนสัตว์เหล่านั้น แต่บางครั้งเราก็ยังได้เห็นสัตว์บางอย่างในสงครามอยู่เป็นบางครั้งบางคราวอยู่ดี ว่ากันว่าจุดเปลี่ยนของการใช้สัตว์ในสงครามอยู่ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เพราะนั่นเป็นสงครามใหญ่โตครั้งสุดท้ายที่เรายังพอเห็นการใช้สรรพสัตว์จำนวนมากในสงคราม ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรนานาชนิด ดังนั้นในวันนี้ #เหมียวศรัทธา จะพาเพื่อนๆ ไปชม 23 ภาพเหล่าสรรพสัตว์แห่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่งกัน ไปชมกันดีกว่าว่าในสงครามครั้งนี้มีสัตว์ประเภทไหนบ้างที่มีบทบาทในการนำมาซึ่งชัยชนะของเหล่าทหาร นี่คือภาพของทหารเยอรมัน ที่ปล่อยสุนัขส่งข้อความ หลังจากมีการโจมตีด้วยแก๊สในปี 1918 ม้าศึกของเยอรมันที่แบกปืนกล Maxim M1910 ที่ยึดมาจากทางโซเวียตเอาไว้ สุนัขพยาบาลของอังกฤษนำผ้าพันแผลมาส่งให้ทหารในช่วงปี 1915 นกพิราบที่มีกล้องขนาดเล็กติดตั้งไว้ของเยอรมัน การขนย้ายล่อลงจากเรือในเมืองอเล็กซานเดรียประเทศอียิปต์เมื่อปี 1915 สิบเอก Stubby สุนัขที่มีการติดยศมากที่สุดในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สมาชิกหน่วยทหารม้าของอังกฤษ กับการปล่อยม้าพักผ่อนในฝรั่งเศส หน่วยพยาบาลเยอรมันหลังถูกถล่มด้วยปืนใหญ่ในเดือน พฤษภาคม 1918 หน่วยพยาบาลเสี้ยววงเดือนแดง (คล้ายๆ หน่วยพยาบาลกาชาด) กับพาหนะคู่กาย 1916 ทหารประจำโรงพยาบาลกับหมีโคอาล่าใน ไคโร 1915 …
-
Wojtek จากหมีที่ถูกรับเลี้ยงโดยทหาร สู่ฮีโร่ “หมีแบกกระสุน” แห่งสงครามโลกครั้งที่สอง
เมื่อพูดถึงสัตว์ที่ถูกใช้ไปในสงคราม หลายๆ คนอาจจะคิดถึงสุนัขหรือม้าขึ้นมาเป็นอย่างแรก อย่างไรก็ตามด้วยอิทธิพลของเกมๆ หนึ่ง เชื่อว่าคงมีหลายคนเหมือนกันที่นึกถึงสัตว์ตัวใหญ่อย่าง “หมี” ว่าแต่รู้กันหรือไม่ว่าในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ยังมีหมีที่เป็นฮีโร่ของสงครามอยู่จริงๆ ด้วย!! ชื่อของมันคือ Wojtek หมีสีน้ำตาลน้ำหนักราวๆ 250 กิโลกรัม ที่ถูกรับเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็กโดยหน่วยปืนใหญ่ของโปแลนด์ในเดือนเมษายน 1942 มันถูกเลี้ยงมาด้วยนมในขวดวอดก้า และเติบโตขึ้นท่ามกลางผู้คนและทหารกล้า ว่ากันว่าเจ้าหมีตัวนี้กินเบียร์ และสูบบุหรี่ด้วย แถมยังถูกฝึกโดยคนในหน่วยให้จับขาทหารใหม่ห้อยหัวเพื่อข่มขวัญเด็กใหม่ และสร้างเสียงหัวเราะในเหล่าทหาร แถมยังเข้าไปอาบน้ำได้เองอีกด้วย เจ้า Wojtek กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำหน่วยไปตั้งแต่ในตอนนั้น มันวิ่งตามผลส้มที่ทหารใช้ในการฝึกขว้างระเบิด ช่วยเหลือในการขนส่งกระสุนปืน แถมยังมีทหารหลายคนที่เชื่อว่าเจ้าหมีสามารถช่วยใส่กระสุนปืนใหญ่ได้ (ในความเป็นจริงมันแค่ถือกระสุนเปล่าเล่นเท่านั้น) เรียกขวัญกำลังใจให้กับทหารได้เป็นอย่างดี จริงอยู่ว่าเจ้าหมีจะไม่ได้ทำอะไรมากมายเหมือนกับที่เป็นฮีโร่สัตว์ตัวอื่นๆ แต่ชื่อเสียงของมันก็โด่งดังมากพอที่จะทำให้หน่วยทหารของมันมีตราประจำหน่วยเป็นรูปหมีถือกระสุนปืนเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นฮีโร่ในด้านความเชื่อเลยก็ไม่ผิด อย่างไรก็ตามในตอนที่สงครามจบลง ทหารที่รับเลี้ยงเจ้าหมีกลับไม่อยากพามันกลับโปแลนด์เท่าไหร่นัก เพราะกังวลว่าหมีแบบ Wojtek อาจถูกทางรัฐบาลที่ถูกควบคุมโดยโซเวียตนำไปใช้เป็นสัญลักษณ์ของคอมมิวนิสต์ก็เป็นได้ ท้ายที่สุด Wojtek ก็ถูกรับไปเลี้ยงไว้ที่ฟาร์มในสกอตแลนด์กับอดีตทหารชาวโปแลนด์อีกคนหนึ่ง และถึงแม้จะมีการย้ายที่อยู่ไปมาบ้างหลังจากนั้น แต่ Wojtek ก็มีชีวิตอย่างสงบสุขตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา …
-
ชาวเน็ตโหวต 10 อันดับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 20
ในช่วงศตวรรษที่ 20 มีเหตุการณ์มากมายที่ติดตรึงอยู่ในความทรงจำของหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นสงครามโลกหรือการพัฒนาของเทคโนโลยี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ศตวรรษนี้จะเป็นช่วงที่มนุษย์พัฒนาไปมากที่สุด และในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงที่มีคนสนใจมากที่สุดเช่นกัน นั่นทำให้เกิดคำถามที่ว่าในศตวรรษที่น่าสนใจนี้ เหตุการณ์ใดกันที่ผู้คนคิดว่าสำคัญที่สุด นำไปสู่การลงคะแนนเสียงของชาวอินเตอร์เน็ตในเว็บไซต์ Ranker และมีการเข้าไปโหวตแล้วมากกว่าหนึ่งแสนครั้ง และในวันนี้ #เหมียวศรัทธา ก็จะพาเพื่อนๆ ไปชม 10 อันดับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่มีคนโหวตให้มีความสำคัญมากที่สุดกัน อันดับที่ 10 : การทำลายกำแพงเบอร์ลิน เกิดขึ้นเมื่อปี 1990 โดยเป็นการทำลายกำแพงที่สร้างขึ้นช่วงสงครามเย็นเพื่อปิดกั้นพรมแดนระหว่างเบอร์ลินตะวันตกของเยอรมนีตะวันตก (สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี) ออกจากเยอรมนีตะวันออก (สาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี รัฐบริวารของสหภาพโซเวียต) ที่โอบอยู่โดยรอบ อันดับที่ 9 : ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ มีอีกชื่อว่า Great Depression เป็นเหตุการณ์เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ที่เกิดในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรปในปี 1929 ก่อนจะขยายตัวไปทั่วโลก โดยมีหนึ่งในเหตุผลมาจากการเก็งกำไรในตลาดหุ้นนิวยอร์ค อันดับที่ 8 : การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ภาษาอังกฤษเขียนว่า Holocaust นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในยุโรปที่โหดร้ายและยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาโดยฝีมือของนาซีเยอรมันนั่นเอง อันดับที่ 7 : สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง นี่เป็นสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเรียกตั้งแต่ “มหาสงคราม” เรื่อยไปจนถึง “สงครามที่จะหยุดสงครามทั้งหมด” กินเวลาในช่วงปี 1914-1918…
-
พ่อใจโหดคว้ามีด บุกแทงเด็กนักเรียนชายดับคาโรงเรียน เหตุแกล้งลูกสาวจนบาดเจ็บที่ดวงตา…
* เนื้อหาข่าวมีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน * เกิดเป็นเหตุสลดภายในประเทศจีน จากเหตุการถูกกลั่นแกล้งภายในโรงเรียน สู่การสูญเสียชีวิตของเด็กโดยมีผู้ก่อเหตุเป็นพ่อที่ยอมไม่ได้กับการที่ลูกสาวถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตา… ชายวัย 36 ปีถูกจับกุม ณ จุดเกิดเหตุในห้องน้ำของโรงเรียนประถม Longshan Experimental Primary School มณฑลเจ้อเจียง ในช่วงวันศุกร์ของช่วงสัปดาห์ที่แล้ว (21 กันยายน 2018) เขาได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้เดินทางมายังโรงเรียนแห่งนี้พร้อมกับมีดปอกผลไม้เพื่อตามหาเด็กชายรายหนึ่ง เพื่อที่จะแก้แค้นให้กับลูกสาวหลังจากทราบว่า ถูกเด็กชายกลั่นแกล้งจนได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาระหว่างเรียน หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ พบกับร่างของเด็กนักเรียนชายนอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น โดยมีพ่อผู้ก่อเหตุนั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างๆ พร้อมกับมีดปอกผลไม้เป็นหลักฐาน เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวเด็กชายไปยังโรงพยาบาล พบบาดแผลถูกมีดแทงหลายแห่งและรอยมีดปาดบริเวณคอ ผลสุดท้ายแล้วเด็กชายก็เสียชีวิตลง ทางด้านพ่อของเด็กชายผู้เสียชีวิต Ye Wanhuan กล่าวขอร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชายของตน เนื่องจากยอมรับไม่ได้กับการกระทำเกินกว่าเหตุของพ่อคู่กรณี “ความหวังเดียวของผม คืออยากให้กฎหมายลงโทษฆาตกรรายนี้ให้สาสม ลูกของผมตายอย่างไม่เป็นธรรม” นาย Ye กล่าวกับสื่อท้องถิ่น โดยที่ไม่อยากเชื่อว่าเหตุเล็กน้อยในโรงเรียนจะกลายมาเป็นการฆาตกรรม …
-
พ่อเลี้ยงลูกด้วย ‘น้ำกระท่อม’ ถามย้อนผิดตรงไหน หมอแล็บฯ เตือนอันตรายกดประสาทเด็ก…
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า น้ำกระท่อมหรือน้ำท่อม คือการนำใบกระท่อมมาต้มเพื่อไว้ใช้ดื่มสร้างความมึนเมา แต่น้ำดังกล่าวส่งผลถึงระบบประสาท จึงถูกระบุไว้เป็นยาเสพติดและมีอันตรายอย่างมาก ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า จะมีผู้เป็นพ่อนำน้ำกระท่อมมาป้อนให้ลูกวัยทารกแบบนี้ด้วย โดยให้เหตุผลว่าลูกร้องอยากกินน้ำ อีกทั้งยังมีการถามย้อนกลับในโลกออนไลน์ ระหว่างท่อมกับยาบ้า อันไหนจะดีกว่ากัน? ข้อความจากฝั่งพ่อที่ให้ลูกดื่มน้ำกระท่อม ความคิดของผู้เป็นพ่อที่ผ่านตัวอักษรนั้น ถามถึงในเรื่องประเด็นว่า น้ำกระท่อมผิดตรงไหน สามารถฆ่าคนได้จริงๆ หรือไม่ โดยยกเปรียบเทียบกับ ‘ยาบ้า’ ว่าการดื่มน้ำกระท่อม อย่างมากก็แค่นอนหลับต่อแต่ดันถูกตำรวจจับ ส่วนการดูดยาบ้าไปฆ่าหั่นศพกลับไม่จับ . ซึ่งภายหลังจากโพสต์ของผู้เป็นพ่อให้ลูกดื่มน้ำกระท่อมถูกแชร์ออกไป ทางด้าน หมอแล็บแพนด้า จึงได้ออกมาโพสต์เตือนให้ผู้เป็นพ่อได้รับรู้ว่า น้ำกระท่อมอันตรายต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะมันมีสารเสพติดมีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลางทำให้เห็นภาพหลอน นอนไม่หลับ กระวนกระวาย ความดันสูง อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ปวดเมื่อยตัว ปวดกระดูก ซึมเศร้า หรืออาจจะก้าวร้าวไปเลยก็ได้ รายละเอียดโพสต์จากเพจ หมอแล็บแพนด้า “เฮ้ย! อันตรายนะคุณ ให้เด็กกินน้ำท่อมแบบนี้แบบนี้ไม่ได้นะครับ มันมีสารเสพติดไมทราไจนีน (Mitragynine) ที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง หลังจากดื่มไปประมาณ 10 นาที ช่วงแรกๆลูกอาจจะดูร่าเริง สดใส กระปรี้กระเปร่า…
-
หมอพยาบาลเกือบ 30 คน ช่วยทำ CPR ให้เด็กวัย 8 ขวบ นาน 5 ชั่วโมง จนต่อชีวิตเขาได้สำเร็จ
เป็นอีกเรื่องราวดีๆ กับความพยายามอย่างสุดความสามารถของแพทย์และพยาบาล เพื่อช่วยชีวิตเด็กวัย 8 ขวบ ให้รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด Xiao Yu คือเด็กชายคนดังกล่าวที่เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ก่อนที่พ่อแม่ของเขาจะรีบส่งตัวไปโรงพยาบาล Changzhou Municipal Children’s Hospital เมืองฉางโจว ประเทศจีน แพทย์บอกว่าอาการของเด็กนั้นทรุดตัวลงเรื่อยๆ จำเป็นที่จะต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในนครเซี่ยงไฮ้ เพราะว่าโรงพยาบาลในเมืองใหญ่นั้นจะมีอุปกรณ์ที่ครบกว่าและดีกว่านี้ Xiao Yu จะต้องได้รับการรักษาที่เรียกว่า ECMO ซึ่งเป็นขั้นตอนพิเศษสำหรับแทนที่การของหัวใจและปอดในเวลาที่อวัยวะอ่อนแอเกินไป ในขณะที่ทีมแพทย์วางแผนทุกอย่างเอาไว้ รอส่งตัวเด็กไปรักษาในเมืองใหญ่ จู่ๆ อาการของเขาก็ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงสัปดาห์ก่อน (17-23 ก.ย. 2018) ความดันโลหิตลดลงอย่างรวดเร็ว หัวใจหยุดเต้นไปในทันที ซึ่งนั่นอาจเป็นผลมาจากการอักเสบของหัวใจ หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ในวันที่ 20 กันยายน 2018 แพทย์และพยาบาลเกือบ 30 คนจึงจำเป็นที่จะต้องต่อแถวกันทำ CPR ให้กับเด็กชายคนนี้ พยายามกระตุ้นหัวใจของเด็กกว่า 30,000 ครั้ง ต่อเนื่องกันนานกว่า 5 ชั่วโมง …
-
มันได้จริงๆ หรือ?! เมื่อแม่นั่งยิ้ม ปล่อยให้ลูกชายวัย 9 ขวบ “สักแขน” ทำเป็นเรื่องปกติ
เพื่อนๆ หลายคนอาจต้องการมี “รอยสัก” คิดเอาไว้ว่าเมื่อโตขึ้นไปเป็นวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ ก็อยากจะทำตามความต้องการนั้นๆ ของตัวเอง แต่เด็กชายวัย 10 ขวบคนนี้เลือกที่จะไม่รอให้ตัวเองโตก่อนและลงมือทำมันซะเลย คลิปของเด็กชายคนดังกล่าวได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากเผยให้เห็นเขากำลังนั่งอยู่บนตักของคนเป็นแม่ ในขณะที่ช่างสักก็กำลังสักลงไปบนแขนของเขา ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Storm Harrington ได้โพสต์คลิปดังกล่าวและแคปชั่นว่า “Skylar อายุเท่าไหร่เอง แค่ 9 ป่ะ? เขาไม่โตพอที่จะรู้ความต้องการหรือตัดสินใจอะไรแบบนี้ เธอคือพ่อแม่ที่ทำตัวได้ไร้ค่ามากจริงๆ !!! ” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา แล้วคลิปดังกล่าวก็ได้กลายเป็นเรื่องที่ถูกต่อว่าอย่างหนักในโลกโซเชียล มองว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่สมควรกับเด็กวัยเพียงเท่านี้ “เรื่องบ้าๆ นี่มันผิดกฎหมายเห็นๆ” “น่าสะอิดสะเอียนจริงๆ” “มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเลยนะ” คลิปที่ถูกถ่ายเอาไว้ในวันที่ 24 ก.ย. 2018 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ได้ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงเดินทางไปยังบ้านของสองแม่ลูกที่เราเห็นกันในคลิป ซึ่งเป็นตอนกลางคืนของวันที่คลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊ก จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า “เด็กชายเป็นคนบอกเองว่าเขาต้องการมีรอยสัก แม่ของเขาจึงยอมให้สัก” โดยตามกฎหมายของรัฐโอไฮโอแล้ว เด็กอายุต่ำกว่า 18…
-
โผล่อีกแล้ว สิงคโปร์จัด Parody ‘นายฮ้อยชวนชิม’ แต่รอบนี้ชาวเน็ตไม่ขำด้วย!?
ขอบอกเลยว่าดังจนฉุดไม่อยู่จริงๆ กับ ‘นายฮ้อยซาลาห์และล่ามส่วนตัว’ หลังจากที่โด่งดังจนถึงกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ‘มาเลเซีย’ เอาไปทำเป็นคลิปวิดีโอ Parody ไปแล้วเมื่อช่วงต้นเดือน ล่าสุดก็โผล่มาอีกคลิปหนึ่ง แต่คราวนี้เป็นของประเทศ ‘สิงคโปร์’ ที่ทำคลิปวิดีโอแบบ Parody ของช่วง ‘นายฮ้อยชวนชิม’ ที่กำลังฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองไทย แต่รอบนี้กลับกลายเป็นว่า ชาวเน็ตไม่ขำด้วย!? เรื่องมีอยู่ว่าเพจเฟซบุ๊ก SingaporeBeauty ได้ทำการอัปโหลดคลิปวิดีโอรีวิวร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ทะเลในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งทำเป็น Parody ของช่วงนายฮ้อยชวนชิมอันโด่งดังของเว็บไซต์ Wongnai ในคลิปวิดีโอก็จะมี คู่หู 2 คน (เพิ่มหญิงมาอีก 1) เป็นคนมานั่งรีวิวร้านอาหาร ท่าทางขึงขังและเงียบงัน เหมือนกับนายฮ้อย+ล่าม ไม่มีผิด . มีทั้งท่าตบโต๊ะ ตัดซีนไปที่ฉากฟินๆ แบบสโลว์โมชัน พร้อมกับเปลี่ยนทำนองเพลง เวรี่กู้ด ลองไปชมคลิปวิดีโอแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… แต่รอบนี้แทนที่ชาวเน็ตจะขำและตลกกับคลิป Parody นี้ กลับกลายเป็นว่ามันไม่ขำซะงั้น และมีชาวเน็ตที่เป็นคนไทยมากมายที่เข้าคอมเมนต์ด่าทอในเพจดังกล่าวว่า ‘ขี้ก๊อบ’ “ก๊อบปี้จาก wongnai…
-
สรุปประเด็นร้อนโลกโซเชียล #พีอาร์ยืนหนึ่ง ดราม่ากล่าวหาซูเปอร์สตาร์ดัง
หลังจากที่กลายเป็นประเด็นให้พูดถึงกันชั่วข้ามคืนกับเรื่องของแฮชแท็กดังในทวิตเตอร์ #พีอาร์ยืนหนึ่ง ที่กลายเป็นดราม่าเดือดไปในเมื่อวานนี้ (27 กันยายน 2018) สุดท้ายก็ได้บทสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าเกิดว่าใครที่ยังงงว่า #พีอาร์ยืนหนึ่ง คืออะไร #เหมียวบู้บี้ ก็ได้รวบรวมข้อมูลจากการตามเผือกทั้งในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กมาสรุปให้คุณผู้อ่านได้รู้กัน 1. เพจเมาท์ดาราเพจดังที่มีผู้ติดตามกว่า 2 ล้านคน แชร์ข่าวจากไทยรัฐ ประเด็น “ซูเปอร์สตาร์ที่เพิ่งจะดัง แต่เรื่องเยอะ ออกกฎเหล็กที่ทุกคนต้องทำตาม” และกฎเหล็กที่ว่ามีอยู่ 4 ข้อคือ -ไปไหนต้องมีคนคอยติดตาม 25 คน -จะทานอาหารต้องมีคนชิมให้ก่อน -หากลูกค้าอยากจะเซลฟี่ร่วมด้วย ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 50,000 บาท ต่อคน โดยผู้ติดตาม 25 คนนั้นจะคอยดูอยู่ตลอด -เลิกงานช้าเก็บเงินนาทีละ 50,000 บาท อ้างอิง กางกฎเหล็ก ‘ซุป’ตาร์เพิ่งดัง’ ข้อแม้เยอะเว่อร์ ใครจะจ้างอ่านก่อนนะจ๊ะ 2. มีคนเข้าไปกระหน่ำคอมเมนต์โพสต์ที่เพจดังแชร์ ตีความไปว่า “ซูเปอร์สตาร์ที่เพิ่งจะดัง” มีรายชื่อดาราที่เข้าข่าย 3 คน คือ พี่โป๊บ เป็ก ผลิตโชค…
-
นักศึกษา 500 คนถึงกับเหวอ พากันเดินออกห้องเรียน หลังอาจารย์เปิด “หนังโป๊” ขึ้นจอใหญ่!!
เชื่อว่าสมัยเรียนของใครหลายๆ คนอาจต้องเคยเจอกับความผิดพลาดบางอย่าง เช่น อาจารย์ของเราอาจเผลอเปิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นมา ไม่ตรงกับสิ่งที่กำลังสอนอยู่ เช่นเดียวกับอาจารย์วิชาจิตวิทยาเบื้องต้น ในมหาวิทยาลัยโตรอนโต ประเทศแคนาดา ระหว่างที่กำลังสอนนักศึกษาราวๆ 500 คน จู่ๆ เขาก็ดันเปิด “หนังโป๊สุดฮาร์ดคอร์” ขึ้นจอโปรเจกเตอร์ซะอย่างนั้น!! สิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.ย. 2018 นักศึกษาจำนวนมากถึงกับช็อกไปเลยทีเดียว งงว่าเรียนเรื่องจิตวิทยาอยู่ๆ ดีดันมีคลิปอะไรแบบนี้มาให้ดูได้อย่างไร หลายๆ คนถึงกับส่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสนุกสนาน ตลกกับสิ่งที่ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในขณะที่บางคนไม่โอเคกับเรื่องนี้ เก็บของใส่กระเป๋าและเดินออกไปจากห้องเรียนในทันที คลิปจากนักศึกษาคนหนึ่ง ถ่ายและอัพลงโซเชียลมีเดีย ทางมหาวิทยาลัยบอกว่าพวกเขาไม่อาจถกเถียงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ก็ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น โดยหากนักเรียนคนไหนไม่โอเคจริงๆ ก็สามารถเข้าไปปรึกษาพูดคุยกับทางศูนย์สุขภาพของทางมหาลัยได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดก็ได้ เมื่อมีผู้ใช้ Reddit คนหนึ่งออกมาบอกว่าเขาเคยเรียนกับอาจารย์คนนี้มาก่อนในปี 2008 โดยอาจารย์ได้ใช้วิธีเดียวกันเพื่อแกล้งนักเรียนเล่นขำๆ ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจสรุปว่าสิ่งนี้เกิดจากความตั้งใจได้ แล้วเพื่อนๆ ล่ะมีเรื่องอะไรในลักษณะนี้มาเล่าสู่กันฟังบ้างหรือเปล่า ลองเอามาแชร์กันดูก็ได้นะ ที่มา: thesun , ladbible , toronto.citynews
-
20+1 เรื่องราวของ “คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว” ช่วงเวลาอันน่าจดจำ ความสุขที่ไม่อาจอธิบายด้วยคำพูด
การเป็น “คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว” ต้องเลี้ยงลูกน้อยเองด้วยตัวคนเดียว แน่นอนว่ามันคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไหร่ แต่ถึงยังไงมันก็ยังคงเป็นช่วงเวลาอันแสนสำคัญที่อยากจะจดจำเอาไว้ไปตราบนานเท่านั้น ด้วยเหตุนั้นเอง ศิลปินชาวจีนที่ใช้ชื่อว่า BLUE流 จึงเลือกที่จะถ่ายทอดเรื่องราวความน่ารักในการเป็นคุณพ่อ เก็บมันเอาไว้ในรูปแบบของภาพวาดสุดน่ารัก ความสุขที่จะทำให้ทั้งเขาและคนอื่นๆ ยิ้มได้อยู่เสมอ แรกเริ่ม ตั้งแต่ตอนที่ลูกยังกินข้าวเองไม่ได้ อ่างน้อยๆ ที่เปี่ยมไปด้วยความสนุกสนาน การทำงานทั้งในบทบาทของศิลปิน และการเป็นพ่อ มุมสบายๆ งานบ้านที่ไม่ได้ทำเพื่อใคร แต่ทำเพื่อลูก ขอให้เธอจงหลับฝันดี หนักหนาเพียงใดก็ไม่ใช่ปัญหา ฝนที่ตกลงมา กลัวแต่เพียงว่าเธอจะเปียกปอน เมื่อถึงเวลาพักผ่อน ออกมาเจอเพื่อนๆ คนแปลกหน้าหน่อย เรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน เล่นกับสาวๆ อยู่ตลอดเลยนะเราเนี่ย ชิ้งฉ่องแม้ในตอนเปลี่ยนผ้าอ้อม ไม่ร้องนะ เดี๋ยวพ่อตัดเล็บให้เอง หลับใหลไปกับความเหนื่อยล้า ไม่เอานะ มันสกปรก โอ๋เอ๋…
-
หนุ่มงง…พายเรือเล่นอยู่ดีๆ จู่ๆ ‘อุ๋ง’ ก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำ แล้วเอา ‘หมึก’ ตบหน้าดังผั๊วะ!!
สำหรับใครที่คิดว่า ‘เจ้าอุ๋ง’ เป็นสัตว์ที่มีความน่ารักแล้วล่ะก็ หากได้อ่านบทความต่อไปนี้แล้ว ความคิดของคุณอาจจะเปลี่ยนไปก็เป็นได้ เมื่อนักท่องเที่ยวรายหนึ่งถูก ‘แมวน้ำ’ กระโจนจากในน้ำแล้วก็เอา ‘หมึก’ ตบหน้าเขาอย่างเกรี้ยวกราด ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย!? เรื่องมีอยู่ว่านาย Taiyo Matsuda นักท่องเที่ยว กำลังพายเรือคายัคชมความงดงามของท้องทะเล ที่อ่าว Kaikoura บนเกาะทางใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ ขณะที่กำลังพายเรืออยู่นั้นเขาก็สวมกล้อง GoPro เพื่อบันทึกความประทับใจนี้เอาไว้ แต่ใครจะไปรู้เล่าว่า นาย Kyle Mulinder เพื่อนร่วมทริปที่มาด้วยกัน จะถูกแมวน้ำกระโดดขึ้นมา เพื่อเอา ‘หมึก’ ตบหน้าของเขาอย่างเกรี้ยวกราด และเหตุการณ์นี้ก็ถูกบันทึกเอาไว้อย่างถูกที่ถูกเวลา!! ผั๊วะ!! เข้าให้ “เรากำลังนั่งอยู่บนเรือกลางมหาสมุทร และจู่ๆ เจ้าแมวน้ำตัวผู้ตัวนี้ก็โผล่เข้ามา พร้อมกับคาบหมึกไว้ในปาก ก่อนที่จะกระโดดเอามันมาตบหน้าเพื่อนของผมราวกับว่ามีความแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน” Taiyo เล่า “ตอนนั้นผมรู้สึกแบบว่า ‘เฮ้ เพื่อน มันเกิดอะไรขึ้นกันฟร๊ะ!?’ มันแปลกมากๆ เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเหลือเกิน แต่อย่างเดียวที่ผมรู้สึกได้คือ เหมือนมีส่วนแข็งๆ ของหมึกกระแทกมาที่หน้าของผม…
-
สนามบินทุ่มงบ 52 ล้านบาท ใช้ ‘หมา’ ตรวจจับสิ่งผิดกฎหมาย แต่มันพบแค่ไส้กรอกเท่านั้น!?
ปัจจุบันมีองค์กรต่างๆ มากหมายที่หันมาใช้ ‘สุนัข’ เพื่อทำงานที่เกี่ยวข้องกับ ‘อาชญากรรม’ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ หรือแม้แต่ ‘สนามบิน’ เองก็ใช้สุนัขในการดมกลิ่นเพื่อตรวจจับ ‘วัตถุผิดกฎหมาย’ ไม่ให้ถูกนำเข้ามาในประเทศ และที่สนามบิน Manchester เองก็ทุ่มงบประมาณกว่า 1.25 ล้านปอนด์หรือราวๆ 52.5 ล้านบาท เพื่อใช้เจ้าหมามาตรวจจับสิ่งของผิดกฎหมายในด่านตรวจคนเข้าเมือง แน่นอนว่าจำนวนเงินมหาศาลนี้ไม่ได้เป็นเพราะค่าตัวของพวกมัน แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่รวมเบ็ดเสร็จทั้งหมด คือการจ้างเจ้าหน้าที่ในการฝึกพวกมัน อาหารการกิน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานร่วมกับพวกมัน ด้วยราคาที่แพงขนาดนี้ แต่แลกกับการที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมได้ ก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าไม่เบา แต่กลับกลายเป็นว่า ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการนี้ไปได้ 7 เดือน เจ้าหมากลับไม่สามารถตรวจพบยาเสพติด หรือวัตถุผิดกฎหมายได้เลยแม้แต่น้อย จากรายงานของหัวหน้าหน่วยตรวจคนเข้าเมือง ได้กล่าวว่า “แม้ว่าเจ้าหมาทั้งหลายจะทำการตรวจจับวัตถุต่างๆ ได้ แต่มันก็ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์กับ กลยุทธ์การควบคุมสิ่งผิดกฎหมาย เท่าไหร่นัก” “ทั้งเฮโรอีน โคเคน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งผิดกฎหมายที่ถูกขนส่งกันผ่านทางการโดยสารโดยเครื่องบินแทบทั้งสิ้น แต่จากข้อมูลที่ได้บันทึกเอาไว้ในศูนย์ตรวจคนเข้าเมือง ก็ยังไม่มีการรายงานว่าพวกมันค้นพบยาเสพติดได้เลยตลอดระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา” จากรายงานระบุเอาไว้ว่าสิ่งที่มันพบเป็นส่วนใหญ่มีเพียงแค่…
-
คนขับรถบัสใช้ ‘เงินเหรียญล้วน’ หนักเกือบตัน ซื้อรถหรูมูลค่า 2.2 ล้าน นั่งนับกันจนเมื่อยนิ้ว…
สำหรับเงินที่เป็น ‘เหรียญ’ ใครหลายคนอาจจะมองว่าไม่มีค่า แต่ว่าเมื่อเร็วๆ นี่มีเหตุการณ์หนึ่งที่อาจทำให้ความคิดนี้เปลี่ยนไป เพราะว่ามีชายคนหนึ่งใช้เหรียญล้วนๆ เป็นเงินกว่า 70,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.2 ล้านบาท) เพื่อซื้อรถหรูค่าย BMW !! หน้าตาของชายคนดังกล่าว โดยชายผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม ชาวเมืองตงเรน มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีนคนนี้ มีอาชีพเป็นคนขับรถบัส ซึ่งในระยะเวลาหลายปีที่เขาทำงานมา เขาก็เริ่มเก็บเล็กผสมน้อยทีละนิดๆ ด้วยเงินเหรียญที่ได้มาในแต่ละวัน แต่ว่าแทนที่เขาจะนำเหรียญที่เก็บเหล่านี้ไปแลกเป็น ‘ธนบัตร’ เพื่อความง่ายในการใช้จ่าย เขากลับเก็บเหรียญเหล่านี้ไว้ที่บ้านของตัวเอง มาเป็นคันรถเลย ชายคนนี้เล่าให้ฟังว่าเงินเหรียญที่อดออมมาจากการทำงาน ก็เพื่อจะเก็บเอาไว้ซื้อรถในฝันเป็นรางวัลให้กับตัวเอง ซึ่งพอดีว่าวันหนึ่งได้เห็นรถ BMW รุ่นใหม่เข้า เลยตัดสินใจว่าจะใช้เงินทั้งหมดเพื่อซื้อรถคันนี้ให้จนได้ แต่แล้วก็มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะด้วยความที่เขาไม่เคยนับเงินที่เก็บไว้ว่ามีเท่าไหร่ เลยทำให้ลำบากต้องโทรเรียกเพื่อนๆ จำนวนหลายคนมาช่วยนับ ซึ่งก็ปรากฏว่าพวกเขาต้องใช้เวลานับเงินเป็นเวลา 4 วันเต็มๆ ถึงจะสามารถยกใส่หลังกระบะขับไปโชว์รูมเพื่อซื้อรถได้… เซอร์ไพรส์ไหมล่ะ!! แน่นอนเมื่อพนักงานได้เห็นดังนั้นก็ยิ้มอ่อนทันที เพราะด้วยเงินมูลค่ากว่า 70,000 ดอลลาร์แต่กลับเป็นเหรียญล้วนๆ จะไม่นับก็ไม่ได้ พวกเขาจึงต้องติดต่อทางธนาคารให้มาช่วยนับเงินจำนวนนี้หน่อย…
-
นักท่องเที่ยวจีน ‘ถ่ายรูปหงส์ไม่ทัน’ เลยเอามือคว้าคอบีบเอาไว้ กลายเป็นดราม่าใหญ่โต
มักจะเป็นสิ่งที่ถูกนำเอามาพูดถึงกันอยู่ตลอดบนโลกออนไลน์ ด้วยพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะออกไปในทาง ‘ชื่อเสีย’ มากกว่า ‘ชื่อเสียง’ ตั้งแต่มารยาทการพูดจา ไปจนถึงพฤติกรรมแย่ๆ ในการมาเที่ยวต่างประเทศ ถ้าหากว่าเกิดขึ้นกับคนว่าแย่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับสัตว์อาจจะทำให้รู้สึกแย่มากกว่า เนื่องจากธรรมชาติของสัตว์สมควรแล้วหรือไม่ที่จะถูกกระทำแบบนี้? คลิปวิดีโอดังกล่าว ถูกเผยแพร่และส่งต่อกันอย่างมากในโซเชียลจีนในช่วงวันอังคารที่ผ่านมา เผยให้เห็นเป็นภาพของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มหนึ่ง ในขณะท่องเที่ยวในบริเวณสวนสาธารณะ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยนักท่องเที่ยวหญิงสองรายนั้น พยายามหลอกล่อหงส์ด้วยกระดาษเช็ดปาด ก่อนที่หญิงอีกรายจะเดินขยับไปหามุมเพื่อถ่ายภาพหงส์ตัวนี้ แต่ด้วยเวลาเพียงเสี้ยววินาที หงส์ได้คว้ากระดาษเช็ดปากออกจากมืออย่างรวดเร็ว ทำให้นักท่องเที่ยวหญิงในเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำเงินไม่พอใจ คว้ากระชากคอหงส์พยายามจะเอากระดาษออก ทางด้านสื่อจีนรายงานว่า ที่เธอทำลงไปนั้นเป็นเพราะยังไม่ทันได้ถ่ายรูป เพราะหลังจากที่หงส์คาบกระดาษเช็ดปากไป นักท่องเที่ยวด้านหลังพูดเป็นภาษาจีนว่า ‘ถ่ายรูปไม่ทัน’ อีกทั้งยังมีป้ายคำเตือนเป็นภาษาอังกฤษพร้อมกับภาพหงส์กำชับไว้ว่า ‘กรุณาอย่าให้อาหารพวกเรา’ อย่างเห็นได้ชัดในคลิป ภาพการกระทำของนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มนี้ ทำให้ชาวเน็ตจีนรู้สึกขยะแขยงอย่างรุนแรง เพราะเป็นการสร้างภาพลักษณ์แย่ๆ ให้กับชาวจีนเมื่อออกไปเที่ยวต่างประเทศ “คนพวกนี้ควรลงบัญชีดำเอาไว้ ห้ามไม่ให้ออกนอกประเทศหรือกลับเข้ามาอีก โครตน่าละอายเลย” หนึ่งในความคิดเห็นใต้คลิปวิดีโอบนเว็บไซต์จีน ชาวเน็ตบางส่วนกลับออกมาปกป้องนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เนื่องจากว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจทำร้ายมัน และ ‘เห็นได้ชัดว่า’ พยายามจะช่วยไม่ให้มันกลืนกระดาษเช็ดปาก ที่มา: sina, shanghai.ist
-
เพนกวินคู่เกย์ลักพาตัวเพนกวินน้อยจากพ่อแม่ เกิดดราม่าจนสวนสัตว์ต้องเข้ามาเคลียร์
สัตว์ที่เป็นเพื่อนร่วมโลกสุดน่ารักอย่าง เพนกวิน คุณผู้อ่านคงอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวน่ารักๆ หรือความกวนของพวกมันมานักต่อนักแล้ว วันนี้ #เหมียวบู้บี้ ก็มีอีกหนึ่งเรื่องราวของพวกมันมานำเสนอ ที่อ่านแล้วคุณอาจจะยิ้มตามหรือน้ำตาคลอกับความน่ารักของมันก็ได้นะ เรื่องนี้เกิดขึ้นที่สวนสัตว์โอเดนเซ ประเทศเดนมาร์ก เกิดดราม่าเล็กน้อยที่กรงเพนกวินหลังจากที่ Sandie Hedegard Munck เจ้าหน้าที่พบว่ามีการลักพาตัวลูกเพนกวินน้อยเกิดขึ้น เจ้าเพนกวินน้อยถูกคู่หูเพนกวินชาย 2 ตัว (เจ้าหน้าที่คิดว่ามันน่าจะเป็นแฟนกัน) แอบนำตัวมาเลี้ยง เนื่องจากพวกมันคิดว่าเจ้าเพนกวินน้อยตัวนี้อาจจะถูกพ่อแม่ปล่อยเอาไว้ไม่สนใจใยดีแล้ว จึงเก็บมาเลี้ยงด้วยกัน แต่ความจริงเจ้าเพนกวินน้อยนั้นมันไม่ได้ถูกพ่อแม่ทิ้งหรอก เพียงแต่พ่อแม่ของมันนั้นเลี้ยงลูกแบบฟรีสไตล์ แม่เพนกวินได้ปล่อยให้พ่อพาน้องได้ไปฝึกว่ายน้ำ แต่อิตัวพ่อดันสะเพร่า ปล่อยลูกเอาไว้ เผลอแปปเดียวก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ Sandie ผู้ที่ดูแลเพนกวินสังเกตเห็นว่า เพนกวินน้อยที่โดนคู่เพนกวินเกย์นำมาเลี้ยงไว้ไม่ใช่ลูกของพวกมันอย่างแน่นอน และพ่อแม่ที่แท้จริงของมันก็ยืนดูอยู่ไม่ห่าง พอแม่เพนกวินเข้าไปทวงลูกของมันก็โดนไล่ตะเพิด เกิดเรื่องไปซะยกหนึ่ง Sandie จึงต้องเข้ามาเคลียร์สถานการณ์เพื่อให้เจ้าเพนกวินน้อยได้กลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่แท้ของมัน ส่วนคู่เพนกวินเกย์ก็ต้องมีวิธีการจัดการที่เหมาะสม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางสวนสัตว์เห็นว่า พวกมันอาจจะอยากมีลูกก็เป็นได้ พวกเขาจึงได้นำไข่เพนกวินที่โดนแม่ทอดทิ้งจริงๆ เอามาให้ทั้งคู่ได้ดูแล และฟักให้เจ้าเพนกวินน้อยลืมตาขึ้นมาดูโลก และเคารพมันในฐานะพ่อแม่ที่เลี้ยงดู และแล้วความสงบก็กลับมาสู่กรงเพนกวินในสวนสัตว์แห่งนี้อีกครั้ง จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งไปเลยจ้า ที่มา unilad
-
20 ภาพแห่งความอิจฉา อยากได้อยากมีบ้าง เพียงแค่สายตามันก็บ่งบอก!!
ความอิจฉาคือคำที่เอาไว้เรียกความรู้สึกที่อยากได้อยากมีเหมือนกับคนอื่นๆ เขาบ้าง อย่างเช่นเราเห็นคนอื่นโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ เราก็อยากได้เครื่องใหม่เหมือนกับเขาบ้าง และวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพของคนและสัตว์ต่างๆ ที่เพียงแค่ได้เห็นก็รู้ทันทีว่าพวกเขากำลังอิจฉาใครสักคนที่อยู่ในรูปเป็นอย่างแน่นอน จะตลก เฮฮาขนาดไหน ไปรับชมพร้อมๆ กับ #เหมียวโคบี้ เลยดีกว่า 1. ดูสีหน้าของผู้หญิงคนด้านขวาเราก็คงรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ 2. ทำไมมนุษย์ไม่มาถ่ายรูปกับเค้าบ้างเลยง่ะ 3. ทำไมที่ตรงนั้นมันไม่เป็นตูฟระ!? 4. ไม่สนใจเราเลยใช่มั้ยมนุษย์!! เดี๋ยวเจอดี!! 5. กอดเดียว ตาร้อนกันทั้งหาด 6. อ้อมกอดนั้นมันเคยเป็นของฉัน แต่เขากำลังจะหยิบมันไป~ 7. ไม่มีอย่างเขา ขอลูบหน่อยก็ยังดี 8. อ่อยมนุษย์ดีนักเหรอเจ้านก เดี๋ยวคืนนี้เอ็งเสร็จแน่ 9. ไม่น่ามายืนตรงนี้เลยตู 10. ในขณะที่คุณกำลังอิจฉาคนอื่น ก็อาจจะมีคนอื่นที่กำลังอิจฉาคุณอยู่ ดังนั้นจงพอใจในสิ่งที่ตนมี 11. ทำไมเล่นแต่กับเจ้าหมาล่ะมนุษย์ สนใจเราบ้างงง 12. ถ้าคุณสังเกตดีๆ ภาพนี้ไม่ได้มีคนส่งสายตาอิจฉาเพียงคนเดียว… …
-
หาดูยาก!! เปิดคลังภาพเก่าของดาราไทยยุค 90 สมัยเอ๊าะๆ แต่ละคนอย่างจ๊าบ
วงการบันเทิงนั้นก็อยู่คู่กับคนไทยมานานแสนนาน ไม่ว่าจะเป็นดารา นักแสดง นักร้อง กาลเวลาผ่านไปก็มีหนุ่มสาวรุ่นใหม่ทยอยเข้าสู่วงการบันเทิงเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย ทำให้วงการบันเทิงไทยนั้นมีสีสันอยู่ตลอดและสามารถสร้างความสุขให้กับชาวไทยได้เรื่อยๆ ในยุคก่อนๆ ถ้าหากว่าดาราคนไหนมีแฟนคลับเยอะๆ ก็จะถือว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ประจำยุคนั้นเลยก็ว่าได้ ซึ่งมันก็จะส่งผลมาถึงปัจจุบัน แฟนคลับที่จงรักภักดีก็จะยังคอยติดตามผลงานอยู่เสมอ แต่ก็เป็นธรรมดาที่เวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยนตามไป อดีตซูเปอร์สตาร์ในยุคเก่าก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง เรามาดูกันดีกว่าว่า ในอดีตนั้นซูเปอร์สตาร์ที่เรายังคงรู้จักอยู่ สมัยนั้นพวกเขาจะสวย หล่อ เท่กันแค่ไหน ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ทำไมยิ่งแก่ยิ่งหล่อคะคุณพี่ เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ ฉันคงไม่อาจทำให้เธอเปลี่ยนใจ ฉันคงไม่อาจทำให้เธอกลับมารักฉัน ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง และ กบ สุวนันท์ หนุ่ม สันติสุข และ แหม่ม จินตหรา เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ปัจจุบันอายุ 59 ปีแล้ว แต่เราก็ยังเรียกพี่เบิร์ดอยู่ดี แอนดริว เกร็กสัน…
-
Meghan Markle ปิดประตูรถด้วยตัวเอง แค่ปึ้งเดียว คนออกมาชื่นชมไปทั่วอินเตอร์เน็ต
ในช่วงต้นถึงกลางปีที่ผ่านมานี้ ได้มีข่าวใหญ่เกิดขึ้นอย่างมากมายในโลก แต่ถ้าให้เรายกตัวอย่างข่าวที่เป็นที่ฮือฮากันจริงๆ ก็คงไม่พ้นพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชาย Harry แห่งราชวงศ์อังกฤษกับ Meghan Markle นักแสดงและนางแบบสาวชาวอเมริกันอย่างแน่นอน การที่ Meghan ได้เข้ามาส่วนหนึ่งของราชวงศ์อังกฤษ หลายๆ คนคงคิดว่าชีวิตเธอคงเต็มไปด้วยความหรูหรา แทบจะไม่ต้องทำอะไรด้วยตัวเองหรือไปที่ไหนก็มีคนรับใช้คอยทำให้ตลอดเวลา แต่จริงๆ แล้วเธอก็ยังคงเป็นผู้หญิงคนเก่าคนเดิม คนที่เป็นผู้หญิงธรรมดาอยู่ อย่างในคลิปที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันข้างล่างนี้ เธอก็ปิดประตูรถเองโดยไม่ต้องรอให้ใครมาปิดให้วุ่นวายและนั่นก็ทำให้ชาวเน็ตมากมายรู้สึกชื่นชมท่าทีของเธอ วิดีโอดังกล่าวถูกบันทึกในวันที่ Meghan ออกงานด้วยตัวคนเดียวเป็นครั้งแรกหลังจากที่แต่งเข้าราชวงศ์อังกฤษ รถของเธอได้มาถึงราชบัณฑิตยสถานศิลปะในกรุงลอนดอน ประตูรถของเธอถูกเปิดออกและเธอก็เดินลงมาจากรถเพื่อทักทายกับเจ้าภาพงานของเธอ และทันใดนั้นเองเธอก็ใช้มือของเธอปิดประตูรถเอง ซึ่งดูแล้วก็อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้มีอะไรมาก แต่เพียงแค่วินาทีเดียวในเหตุการณ์นี้ ก็ได้ส่งเสริมภาพลักษณ์ของเธอเป็นอย่างมาก ชาวเน็ตที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียกันอย่างมากมาย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้เห็นเจ้าหญิงที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ปิดประตูรถเอง… First time I've seen an on-duty princess shut her own car door… https://t.co/5Mg9TOi6lo — Christopher Wilson (@TheWislon) September 25, 2018…
-
ผุดหลุมศพ ‘ไอโฟนยักษ์’ กลางสุสาน รายละเอียดเป๊ะทุกอย่าง คาดว่าชอบหนักมาก!
การเสียชีวิตที่โลกจะจดจำได้ คงจะต้องทิ้งทวนอะไรไว้ให้คนอื่นได้รู้สึกแปลกใจ ตัวอย่างของสาวชาวรัสเซียรายนี้ ที่จู่ๆ กได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ประจำสุสานไปซะแล้ว ป้ายหลุมศพขนาดยักษ์ใหญ่ทรงโทรศัพท์ไอโฟน เป็นของนาง Rita Shameeva วัย 25 ปี ที่ถูกฝังเอาไว้ในสุสาน Yuzhnoye บริเวณเมือง Ufa ของประเทศรัสเซีย จากรายงานของสื่อท้องถื่นกล่าวว่า ป้ายหลุมศพหินบะซอลต์สีดำดังกล่าว ถูกสั่งให้จัดทำและติดตั้งโดยนาย Rais Shameev หลังจากที่เขาสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รักไปในปี 2016 โดยไม่ระบุสาเหตุ ทั้งนี้ผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับป้ายหลุมศพนี้ด้วย ด้านช่างหินท้องถิ่น Ilgam Galliulin ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนรับงานและออกแบบงานชิ้นนี้ “ผมกับพ่อรับทำอนุสรณ์รำลึกตามสั่ง แต่สำหรับงานชิ้นนี้ผมเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก” ญาติของผู้ตาย Nikolay Yevdokimov ก็งงเหมือนกัน หลังจากที่แวะมาเคารพศพกลับพบป้ายหลุมศพไอโฟนนี้อยู่ด้วย “ฉันคิดว่าฉันเห็นภาพหลอนซะอีก สมาร์ทโฟนอเมริกันมาโผล่อยู่ในสุสานได้ยังไง แถมยังอันเบ้อเร้อด้วย พอเข้ามาดูใกล้ๆ ก็ตกใจเหมือนกัน เพราะเห็นป้ายหลุมศพมามากมาย มีแต่อันนี้นี่แหละมาเป็นทรงไอโฟนชิ้นแรก” มีแถบคิวอาร์โค้ดให้ด้วยนะ ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะเป็นผลงานของดีไซน์เนอร์…
-
มาเลเซียเริ่มพิจารณา ร่างกฎหมาย ‘กัญชา’ เพื่อใช้ทางการแพทย์ เป็นที่แรกในเอเชีย
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเสรีกัญชา มักจะเห็นได้จากฝั่งตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งล่าสุดแอฟริกาใต้ก็ได้ผ่านกฎหมายปลดล็อคกัญชาไปแล้ว ให้สามารถครอบครองและใช้ได้เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ในส่วนของประเทศไทยเราเอง ก็มีความเคลื่อนไหวในเรื่องของการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ แต่ทว่าตอนนี้มีอีกหนึ่งประเทศใกล้เคียงที่เล็งผลักดันปลดล็อคกัญชา เพื่อเป็นที่แรกในเอเชียเช่นเดียวกันด้วย โดยภายหลังจากที่ศาลมาเลเซียมีคำสั่งตัดสินประหารชีวิต Muhamad Lukman วัย 29 ปี ผู้ครอบครองและจำหน่ายสารสกัดน้ำมันกัญชา เพื่อใช้บรรเทาและรักษาอาการเจ็บปวด เกิดเป็นข้อถกเถียงในสังคมมาเลเซีย ว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายกัญชา เนื่องจากจุดประสงค์ของชายคนนี้ ไม่ได้นำมาใช้เสพ แต่เพื่อรักษาชีวิตผู้อื่นด้วยสิ่งที่ถูกระบุให้เป็นยาเสพติด Muhamad Lukman ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมาเลเซียได้ทำการเปิดสภาถกเถียงในประเด็นดังกล่าวเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพื่อหามูลค่าทางการแพทย์ของกัญชา โดยที่ยังไม่ได้ตั้งขึ้นมาเป็นประเด็นหลักในการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย Xavier Jayakumar รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำ ที่ดิน และทรัพยากรธรรมชาติมาเลเซีย Xavier Jayakumar รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำ ที่ดิน และทรัพยากรธรรมชาติ ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg ว่า… “กฎหมายกัญชาเริ่มเปลี่ยนแปลงในหลายประเทศแล้ว รวมถึงบางรัฐในสหรัฐอเมริกา ถ้าหากว่าจะนำมาใช้ในจุดประสงค์ทางการแพทย์ ก็เห็นควรว่าสามารถนำมาใช้ได้ แต่ไม่ใช่เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม” Mahathir Mohamad นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แม้แต่นาย Mahathir Mohamad นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย…
-
คุณแม่ขอแชร์ ลูกสาวสุดซน เก็บอะไรไม่เก็บ ดั๊นเก็บ “ฟันปลอม” ของครูกลับมาบ้านซะงั้น
เด็กหรือเยาวชนนั้นเปรียบเหมือนกับอนาคตของชาติ เพราะเยาวชนในวันนี้ เมื่อโตขึ้นก็จะกลายเป็นกำลังสำคัญที่คอยขับเคลื่อนประเทศ ดังนั้นจึงเด็กเก่งๆ ฉลาดๆ จึงถือว่าสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และถ้าว่าตามที่โบราณได้กล่าวเอาไว้ว่า “เด็กซนคือเด็กฉลาด” ดังนั้นแล้วเรื่องของเด็กสาวตัวน้อยที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้แล้วคงต้องเป็นเด็กที่ฉลาดเป็นอย่างยิ่งแน่แท้เลย เพราะหนูน้อยหยิบอะไรกลับมาบ้านไม่หยิบ ดั๊นไปหยิบ “ฟันปลอม” ของคุณครูกลับมานี่ โอ๊ยยย ซนจริงๆ ลูกเอ๊ย วันที่ 27 กันยายน 2018 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งชื่อว่า พี่ออมสิน กับน้องโฟกัส ได้กับการโพสต์รูปลูกของตนเองลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก HerKid รวมพลคนเห่อลูก พร้อมกับข้อความว่า “มีใครซนแบบนี้มั้ยคะ เอาฟันปลอมคุณครูกลับมาบ้าน มันหล่นจากโต๊ะน้องคงนึกว่าของเล่นค่ะ” หนีไม่รอด!! ผู้ร้ายยอมต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน (555) ไหนมาดูฟันปลอม หลักฐานในคราวนี้กันหน่อยซิ หลังจากที่เธอโพสต์ภาพพร้อมกับเรื่องราวดังกล่าวขึ้นไปบนโซเชียลมีเดีย ด้วยความน่ารักน่าชังเป็นที่ถูกใจของชาวเน็ตเป็นอย่างมากและพวกเขาก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย โถๆๆๆ ลูกกกก ป่านนี้คุณครูหากันให้ควักแล้วมั้งเนี่ย หลายตังนะหนู คุณครูจะเคี้ยวข้าวไงเนี่ย หนูคิดว่าของเล่นใช่มั้ยยย สุดท้ายแล้วคุณแม่ก็ได้ให้เด็กซนคนนี้นำของกลางไปคืนคุณครูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อนๆ ไม่ต้องห่วงสุขภาพปากของคุณครูอีกต่อไป ที่มา พี่ออมสิน กับน้องโฟกัส
-
ศิลปินจับตัวละคร “ดิสนีย์” มาออกแบบใหม่เป็น “โปเกมอน” สุดเฟี้ยว จนอยากให้มีในเกมเลย
Pocket Monster หรือที่เรารูจักกันในชื่อ Pokemon ถือว่าเป็นหนึ่งในวิดีโอเกมชื่อดังของญี่ปุ่น ที่ฮิตติดกระแสไปทั้งทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย ด้วยระบบการจับโปเกมอนทั้งหลายมาสู้กัน ระบบฝึกและดูแลโปเกมอน รวมถึงการที่ได้วิวัฒนาการร่างของโปเกมอนนานาสายพันธุ์ จึงได้กลายเป็นเสน่ห์ที่ต้องเล่นโปเกมอนเท่านั้นถึงจะได้รับประสบการณ์แบบนี้!! ด้วยจุดเด่นดังกล่าว ทำให้มีศิลปินเกิดปิ๊งไอเดีย จับตัวละครดังจากค่าย Disney มาสร้างสรรค์เป็น “โปเกมอน’ สายพันธุ์ใหม่ซะเลย จะน่ารัก จะเจ๋งขนาดไหน เราไปชมพร้อมๆ กันดีกว่าครับ แหม… Eeyore พัฒนาร่างขั้นสูงสุดกลายเป็นสายดาร์กเลยนะ ขอบตานี่คล้ำเชียว ฉันขอใช้การ์ดเวทมนตร์ Thunderbolt!! อุ่ย… ผิดเรื่อง Sully กลายเป็นโปเกมนอที่เหมือนออคไปซะแล้ว ส่วน Winnie the Pooh นายโตขึ้นมานี่ผอมลงเยอะ ส่วน Owl นายโตขึ้นละดูดุใช้ได้เลยนะ สำหรับ Rabbit นายได้สอนให้เราได้รู้ว่า การทานแครอทมากๆ ทำให้คลั่งได้ ร่างสุดท้ายนี่ Minnie ใช้เวทมนตร์ได้ใช่มั้ย?…
-
พี่พิตบูลล์มาดเข้ม เอาไปผสมกับอะไรก็ดูลงตัว มีทั้งแบบเท่และมุ้งมิ้ง น่าเลี้ยงมาก
หมาพันธุ์พิตบูลล์ส่วนใหญ่แล้วตัวบึกบึน ประกอบกับที่คนบอกกันว่ามันดุร้าย ก็เลยทำให้พวกมันดูไม่น่ารักสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับหมาพันธุ์อื่นที่นิยมเลี้ยงกัน แต่พอเราลองเอามันไปผสมกับพันธุ์อื่นดูแล้ว จริงๆ พวกมันก็ดูน่ารักเหมือนกันนะ บางพันธุ์ผสมไปแล้วก็ดูคูลมากๆ เปลี่ยนลุคไปเยอะเลย บีเกิ้ลบูลล์ (พิตบูลล์ + บีเกิ้ล) ยิ้มแฉ่ง น่ารักที่สุด ด็อกซ์บูลล์ (พิตบูลล์ + ดัชชุนด์) ดูอ่อนโยน พิตตาดอร์ (พิตบูลล์ + ลาบราดอร์) ดูยังไงก็น่าเอ็นดู พิตวาว่า (พิตบูลล์ + ชิวาว่า) เป็นพิตบูลล์จิ๋วน่ากอด ออซซี่แคทเทิลพิต (พิตบูลล์ + ออสเตรเลียนแคทเทิล) โกลเด้นพิต (พิตบูลล์ + โกลเด้นรีทรีฟเวอร์) รับประกันเรื่องความซน พิตสกี้ (พิตบูลล์ + ไซบีเรียนฮัสกี้) หล่อๆ แนวไซ ปั๊กพิต (พิตบูลล์+ปั๊ก) …
-
ลูกเสือดาวหิมะในสวนสัตว์ตกใจกล้องใหม่ ดิ้นดุ๊กดิ๊กให้กล้องน่ารักน่าเชียว
เคยสงสัยไหมว่าสัตว์ป่าที่ต้องมาใช้ชีวิตในสวนสัตว์ มีวิถีชีวิตยังไง แล้วพวกมันมีความสุขมากน้อยแค่ไหนที่ได้ไปอยู่ในนั้น จริงๆ แล้วคำตอบมันก็ขึ้นอยู่กับการดูแลสัตว์ของสวนสัตว์แต่ละแห่งนั่นแหละ ถ้าสวนสัตว์ไหนดูแลสัตว์ดี พวกมันก็จะร่าเริงและมีความสุข เหมือนกับที่ที่เจ้า Jessie อยู่ยังไงล่ะ Jessie เป็นลูกเสือดาวหิมะที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์ Paradise Wildlife Park เจ้าหน้าที่ที่นั่นดูแลมันอย่างดี มันก็เลยดูมีชีวิตชีวามาก เมื่อไม่นานมานี้ทางสวนสัตว์เพิ่งติดกล้องวงจรปิดตัวใหม่ในกรงของ Jessie พอมันหันไปเห็นแสงที่กระพริบอยู่ตรงตัวกล้อง มันก็หันมาดิ้นดุ๊กดิ๊กใหญ่เลย สงสัยจะตกใจที่มีคนจ้องมองอยู่โดยไม่รู้ตัว คลิปวิดีโอของมันน่ารักถูกใจชาวเน็ตมาก ใครได้เข้าไปดูก็ต้องตกหลุมรักกับท่าทางขี้เล่นของ Jessie กันหมด ตอนนี้วิดีโอของมันมีคนดูเกินหนึ่งล้านครั้งแล้วนะ จากนั้นมาเจ้า Jessie ก็กลายเป็นจุดสนใจของคนที่ได้มาเห็นวิดีโอ ส่วนมากก็จะชมว่ามันน่ารักจ้ำม่ำดีเหลือเกิน แต่ถึงจะเห็นแบบนี้มันก็ไม่ได้อ้วนเกิดเกณฑ์หรอกนะ เสือดาวหิมะมีขนหนาอยู่แล้วต่างหาก แต่ไม่ต้องห่วงลูกเสือต้วน้อยหรอก มันตกใจอยู่ได้ไม่นานมันก็กลับไปเล่นซนเหมือนดิมแล้วล่ะ โดยสิ่งที่มันเล่นด้วยก็คือตุ๊กตาม้าลาย 3 มิติของโปรดที่ทางสวนสัตว์ทำให้เป็นพิเศษ เห็นไหมว่าทางสวนสัตว์ใส่ใจเจ้า Jessie จริงๆ มันเลยดูมีความสุขมากขนาดนี้ ถ้าใครหลงรักลูกเสือดาวหิมะตัวนี้แล้วล่ะก็ ติดตามความน่ารักของมันและเพื่อนสัตว์ตัวอื่นได้ทางเพจ Paradise Wildlife Park เลยนะ ที่มา: Unilad
-
คุณยายตกใจ นึกว่าพิตบูลล์ทำร้ายหลาน แต่จริงๆ มันกำลังช่วยพวกเขาให้ปลอดภัย
หมาพิตบูลล์ถูกคนเข้าใจว่าเป็นหมาที่ดุร้ายมาตั้งแต่อดีต บางคนเลี่ยงที่จะเลี้ยงหมาพันธุ์นี้เพราะกลัวถูกมันทำร้าย แต่จริงๆ แล้วนิสัยของมันจะเป็นยังไง อาจจะอยู่ที่การเลี้ยงดูมันก็ได้ ที่บ้านของคุณยาย Melissa Butt ก็เลี้ยงหมาพิตบูลล์ไว้ตั้ง 2 ตัว แต่มันทั้งคู่ไม่คิดจะทำร้ายเจ้าของเลย และหลังจากเจอเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ เธอก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าพวกมันกตัญญูจนกล้าเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเจ้าของไว้ ตอนนั้น Melissa กำลังนั่งอยู่ในสวนข้างนอกบ้าน ส่วน Zayden และ Mallory หลานๆ ของเธอก็กำลังนั่งเล่นกันอยู่บนสนามหญ้า ในขณะที่ทุกคนกำลังพักผ่อน จู่ๆ Paco กับ Slayer หมาพิตบูลล์ทั้ง 2 ตัวของเธอก็เห่าเสียงดัง แล้วทำท่าทางขู่ไปทางหลานของเธอ ด้วยความตกใจลูกของเธอก็เลยรีบไปอุ่มหลานทั้ง 2 คนกลับเข้ามาในบ้าน ส่วนตัวเธอยังพยายามมองหาสาเหตุอยู่ว่าทำไมเจ้าหมาทั้ง 2 ตัวถึงดุร้ายขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เมื่อมองดูดีๆ เธอก็เห็นว่าในหญ้าใกล้ๆ กับตรงที่หลานของเธอนั่งเล่นกันอยู่เมื่อสักครู่มีงูพิษตัวหนึ่งอยู่ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เจ้าหมาทั้ง 2 ตัวกำลังพยายามต่อสู้ด้วยเพื่อปกป้องเด็กๆ นั่นเอง หลังจาก Paco กับ Slayer เข้าไปฟัดกับงูพิษอยู่สักครู่ ในที่สุด Slayer ก็กัดงูตัวนั้นตาย แต่หมาทั้ง 2 ตัวเองก็ถูกงูพิษกัดด้วย อาการของพวกมันดูไม่ค่อยดีเลย Melissa…
-
เจ้าเหมียวถึงกับงง เมื่อเห็นตัวเองในกระจกครั้งแรก… เอ๋ นั่นใครหนะ น่ารักจุง!??
ประสบการณ์ที่เราทุกคนน่าจะประสบมาเหมือนกันคือ ความงงเมื่อเห็นตัวเองในกระจกครั้งแรก ด้วยความไม่รู้ไงและไม่เคยเห็นว่าหน้าตัวเองเป็นยังไง เราเลยคิดว่ามีอีกคนที่พยายามเลียนแบบเรา ไม่ใช่แค่มนุษย์เรานะ สัตว์เลี้ยงก็มีประสบการณ์แบบนี้เหมือนกัน แล้วมันก็ออกมาฮาซะด้วยสิ โดยเฉพาะตอนที่พวกมันทำหน้าเอ๋อด้วยความงุนงง หนึ่งในนั้นคือ เจ้าเหมียว Mimo เจ้าตัวนี้แหละ Mimo Mimo เป็นแมวสก๊อตทิชผู้น่ารักที่อาศัยอยู่ในบรู๊คลิน นิวยอร์ก เช่นเดียวกับแมวทั่วไป มันรักการนอนมาก แต่เมื่อไม่นานมานี้ ดูเหมือน Mimo จะได้เห็นหน้าตาตัวเองเป็นครั้งแรก มันเลยเกิดการมึนงงแบบนี้… เหยนั่นมันตัวอะไรหนะ มันมีหูเหมือนเรา หน้าตาเหมือนเรา แถมเลียนแบบเราด้วยอะ ในโลกนี้ยังมีแมวหน้าตาน่ารักเหมือนเราอยู่อีกหรอ?? ไม่จริงใช่มั้ยแม่ ไหนบอกไม่มีใครเหมือนหนู แค่คลิปเดียว ทำเอาคนหลงรักเกือบทั้งโลก แต่ต่อให้ไม่มีคลิปนั้นออกมา มันก็น่ารักน่าหลงใหลอยู่ดี ไม่เชื่อลองดูคลิปด้านล่างนี่สิ ซูมไปที่อุ้งเท้าอวบๆ ของมัน และหน้าตาที่บ้องแบ๊ว งื้อออ น้องงงงง ที่มา buzzfeed
-
หมาน้อยใจสลายหลังเจ้าของจากไป ได้แค่กอดเสื้อผ้าและดมกลิ่นที่คุ้นเมื่อยามคิดถึง
เราหลายๆ คนอาจผ่านการสูญเสียคนที่รักไป แต่สิ่งที่ไม่เคยหายไปคือความทรงจำที่เราเคยมีร่วมกับคนคนนั้น…หมาน้อย Paquito ก็เช่นกัน เพื่อนรักของน้องหมา Paquito ได้จากมันไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา แต่ความทรงจำที่เต็มไปด้วยความรัก ยังคงอยู่ในใจของเจ้าหมาเสมอ Evlyn Castro หลานของผู้ตายเล่าว่าลุงของเขากับ Paquito เป็นเพื่อนรักที่แยกจากกันไม่ได้ พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยมาหลายปี และมิตรภาพของทั้งคู่พิเศษมาก พวกเขาไม่ใช่แค่เพื่อนแต่เป็นพ่อลูกด้วย Castro บอกว่า “ลุงของผมจะพามันไปด้วยทุกหนทุกแห่งเสมอ พวกเขาตัวติดกันตลอดเวลา แต่น่าเศร้าที่ช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันมาถึงจุดจบ” เมื่อ 6 ปีก่อน ลุงของ Castro ป่วยหนักและอาการไม่ดีขึ้นจนเสียชีวิตในที่สุด ความสูญเสียในครั้งนี้ทำให้ Paquito หัวใจแตกสลาย และแทบจะไม่เหลือความเป็นตัวเอง ในช่วงเวลานั้น ทางครอบครัวพยายามเยียวยาสภาพจิตใจของเจ้าหมาอย่างสุดความสามารถ แต่ Paquito ไม่เคยลบเพื่อนรักออกจากใจและความทรงจำได้เลย และเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ยิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่ามันคิดถึงเพื่อนรักผู้ล่วงลับมากแค่ไหน… วันนั้น Castro เข้าไปช่วยป้าย้ายกล่องเสื้อผ้าของคุณลุงที่เปียกฝนออกมา แต่แล้วก็มีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ Castro เล่าว่า “เราเอาเสื้อผ้าทั้งหมดออกจากกล่องแล้ววางไว้บนพื้นจนกว่าจะแห้ง แต่ทันทีเราเริ่มทำแบบนั้น Paquito ก็วิ่งเข้ามา” “จากนั้น Paquito ก็นอนลงบนกองเสื้อผ้าของคุณลุง มันทั้งดมกลิ่นเสื้อผ้า กอดเสื้อผ้าพวกนั้นไว้ และอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานมาก” ดูเหมือนว่า Paquito…
-
เด็กชายเข้าไปช่วยเหลือแมวที่โดนรังแก ทำให้ชีวิตเจ้าเหมียวเปลี่ยนไปตลอดกาล
Wendell Overton เด็กชายวัย 10 ขวบและเป็นคนรักสัตว์จาก Manteo รัฐนอร์ทแคโรไลนา เมื่อปี 2013 ขณะที่เขาเดินผ่านละแวกบ้าน เขาเห็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจมาก Wendell เห็นเด็กกลุ่มหนึ่ง อายุระหว่าง 5-13 ปี กำลังรังแกแมวที่ไม่มีทางสู้ พวกเขาจับแมวโยนขึ้นกลางอากาศ จากนั้นก็รุมเตะมัน ต่อด้วยการปั่นจักรยานไล่ตามมัน เด็กชายรู้ดีว่าหากเขาไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง แมวตัวนั้นต้องตายแน่ๆ ดังนั้น เขาจึงวิ่งเขาไปหาเด็กกลุ่มนั้น และบอกให้พวกเขาหยุดรังแกแมว ตอนแรกเด็กกลุ่มนั้นไม่ยอมหยุด แต่ Wendell ก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน เด็กชายเล่าว่า “ผมไม่ยอมไปไหน ถ้าไม่ได้พาแมวตัวนั้นไปด้วย” ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจไปอุ้มแมวตัวนั้นและวิ่งกลับบ้านทันที หลังจากที่ปลอดภัยแล้ว เด็กชายกับแม่ก็ได้โทรแจ้ง Outer Banks SPCA จากนั้น สองแม่ลูกก็พาเจ้าเหมียวไป SPCA ที่นั่นมันได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้พวกเขายังได้ตั้งชื่อให้มันว่า Jackson พวกเขารู้สึกซาบซึ้งมากกับการกระทำที่กล้าหาญของ Wendell เลยโพสต์รูปของเด็กชายพร้อมเรื่องราวที่เขาทำลงในเพจเฟซบุ๊กของ SPCA ภาพและเรื่องราวของ Wendell กลายเป็นกระแสในโซเชียลอย่างรวดเร็ว ซึ่งชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างชื่นชมในความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของเขา หลายคนส่งจดหมายไปให้เด็กชายเพื่อขอบคุณสำหรับสิ่งที่เขาทำ 2 สัปดาห์ต่อมา Jackson ก็เริ่มฟื้นตัวจากการบาดเจ็บ…
-
ลูกแมวไม่มีแม่กับแม่หมาที่เสียลูก กลายเป็นแม่ลูกต่างสายพันธุ์ ที่เติมเต็มให้กันและกัน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พนักงานจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Cassie’s Place เห็นโพสต์เกี่ยวกับหมาพุดเดิ้ลที่ชื่อ Eve ซึ่งได้รับการช่วยเหลือมา Michelle Zrubek ผู้อำนวยการของ Cassie’s Place บอกว่า “มันได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะขาหลังของมันหักทั้ง 2 ข้าง หลังจากถูกรถชน เราจึงตัดสินใจช่วยเหลือมันทันที” Michelle ได้ติดต่อไปยัง Kelsey Kuhrt อาสาสมัครใน MASA Rescue และ Linda Posey จาก City of Midland Animal Services เพื่อร่วมกันช่วยเหลือเจ้าหมาตัวนั้น ทั้ง 3 หน่วยได้ทำงานและวางแผนกันเป็นทีม เพื่อที่จะย้าย Eve ไปสถานบำบัดพักฟื้นของพวกเขาในซานแองเจโล รัฐเท็กซัส แต่ตามกฏหมายของเท็กซัสแล้ว สัตว์เลี้ยงที่จะย้ายมานั้นต้องมีเจ้าของรับรองก่อน นั่นทำให้ Eve ไม่สามารถย้ายไปไหนได้ จนกระทั่งวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา เมื่อ Kelsey มาถึงศูนย์พักพิง เพื่อรับตัว Eve เธอก็ต้องเซอร์ไพรส์กับภาพที่เห็น เพราะ Eve กำลังเลี้ยงดูลูกแมวกำพร้า Michelle บอกว่า…
-
พาส่องสัตว์ตอนนอน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าป่าหรือลูกหมา หลับแล้วดูน่ารักเหมือนกันทั้งนั้น
ปกติเราจะไม่ค่อยให้ความสนใจเวลาที่สัตว์หลับหรอก เพราะดูไม่มีน่าสนใจ พวกมันแค่หลับตา อยู่นิ่งๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันตื่น วิ่งเล่น ล่าเหยื่อ หรือทำอะไรแปลก มันจะดูน่าสนใจทันที แต่ถ้าลองสังเกตสัตว์ตอนหลับดีๆ จะเห็นว่าพวกมันแทบจะไม่ต่างกันเลย ไม่ว่าจะเป็นลูกหมา ลิง หรือสิงโต ทุกตัวดูน่ารัก น่าลูบไปหมด 1. ล่าเหยื่อมาเหนื่อยๆ ขอพักแป๊บนะสาจ๋า 2. หลับธรรมดามันเชย ต้องยืนหลับแบบนี้ สาวเห็นเป็นต้องกริ๊ด 3. นอนอาบแดดวนไปจ้า 4. นอนในป่ามันน่าเบื่อ เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง 5. การนอนเป็นโรคติดต่อตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ?? พร้อมใจกันหลับเชียว 6. ใครก็ห้ามมาปลุกมากวนนะ 7. น้องนก พี่สิงโตทะเลขอนอนเงียบๆ สัก 5 ทีได้มั้ย? 8. เรื่องการนอนนิ่ง ต้องยกให้โคอาล่าเค้าเลย 9. นอนท่านี้ อย่าเผลอฝันร้ายเชียวล่ะ ไม่งั้นตกแน่…
-
โลกไม่ได้สวยงามเสมอไป…เด็กชาย ‘ดาวน์ซินโดรม’ ถูกโค้ชแบนไม่ให้เป็นเชียร์ลีดเดอร์
บางครั้งโลกของเรามันก็ไม่ได้สวยงามเสมอไป… เมื่อเด็กชายชั้นไฮสคูลที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม ถูกโรงเรียน ‘แบน’ ออกจากการเป็น ‘เชียร์ลีดเดอร์’ ทั้งๆ ที่เขาซ้อมกับทีมมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์!! Glenn Wilson ถูกแบนออกจากทีมเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียน West High School ที่อยู่ในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้เขาร่วมกันฝึกซ้อมกับเพื่อนๆ ในทีมเชียร์ลีดเดอร์มาโดยตลอด จนสามารถขยับร่างกายตามจังหวะ และเข้ากันได้ดีกับทีมแล้ว ทางครอบครัวเองก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะมันคือสิ่งที่เขาชื่นชอบ ทั้งการซื้อยูนิฟอร์ม และทำตารางการฝึกฝนให้ แต่กลับกลายเป็นว่าถูกถอดชื่อออกจากทีมซะงั้น!? ทางด้านนาย Ray Valentine วัย 47 ปี คุณลุงของ Glenn ก็เลยติดต่อไปยังโรงเรียน และอ้างว่าโค้ชของทีมได้ตัดชื่อหลานของเขาออกจากทีมด้วยเหตุผลที่ว่า “Glenn ไม่เหมาะกับ ‘ภาพลักษณ์ของทีม’ และโค้ชเองก็ไม่มีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับเด็กพิเศษ” “หลานของผมไม่เหมาะกับ ‘ภาพลักษณ์ของทีม’ ก็เลยต้องตัดเขาออกจากทีม มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ เลยล่ะ” คุณลุง Ray กล่าว ทางด้านคุณย่าของ Glenn คุณย่า…
-
เปิดผลโหวต 10 นักแสดงสาวชาวญี่ปุ่นที่ได้รับการโหวตว่า ‘สวยที่สุด’ ประจำปี 2018
#เหมียวบู้บี้ เชื่อว่ามีชาวไทยจำนวนไม่น้อยเลยที่ชื่นชอบและคอยติดตามนักร้อง นักแสดงวงการบันเทิงของญี่ปุ่น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะเรื่องของการติดตามวงการบันเทิงญี่ปุ่นนั้นก็มีมานานมากๆ แล้ว ไม่ว่าจะรุ่นเล็ก หรือ รุ่นใหญ่ หลังจากที่ #เหมียวบู้บี้ ได้นำเสนอเรื่องของ 10 ดาราหนุ่มญี่ปุ่นที่ได้รับผลโหวตว่า ‘หล่อที่สุด’ ในแดนอาทิตย์อุทัย 2018 ที่ได้สำรวจโดย SKY PerfecTV! จากชาวญี่ปุ่นกว่า 1,000 คนไปแล้ว วันนี้ก็ถึงคิวของนักแสดงสาวกันบ้าง มาดูกันเลยว่า นักแสดงสาวคนไหนจะได้รับตำแหน่งผู้ที่สวยที่สุดประจำปี 2018 ไปครอง 10.Tsuchiya Tao 9. Sasaki Nozomi 8. Yonekura Ryoko 7. Hirose Suzu 6. Kiritani Mirei 5. Fukada Kyoko 4. Ayase Haruka 3. Aragaki…
-
โปรเจกต์ถ่ายภาพ ‘คนแก่’ กับ ‘รอยสัก’ ของพวกเขา ยังคงเฟี้ยวไม่เปลี่ยนแปลง!!
สำหรับคนที่กำลังคิดอยู่ว่า ‘รอยสัก’ หากอยู่บนตัวเรา แล้วในวันหนึ่งที่เราแก่ตัวไป มีผิวหนังที่เหี่ยวย่น มันจะยังคงดูสวยงดงามเหมือนตอนวัยรุ่นอยู่หรือไม่!? ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชม รอยสักเหล่านั้น บนตัวของเหล่าคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยายทั้งหลาย ที่จะขอบอกเลยว่า ‘ความเฟี้ยว’ มันยังคงไม่ลดน้อยลงไปเลยแม้แต่น้อย!! เป็นโปรเจกต์ที่มีชื่อว่า TattooAge. Never too old หรือแปลเป็นไทยได้ว่า ‘อายุของรอยสัก มันไม่เคยแก่ลงไปเลยแม้แต่น้อย’ Jan โดยช่างภาพได้ทำการถ่ายภาพของผู้สูงอายุทั้งหมดกว่า 25 คนที่มีรอยสัก ซึ่งขอบอกเลยว่ารอยสักแต่ละรอยนั้นก็มีเรื่องราวของช่วงชีวิตที่แอบซ่อนอยู่เบื้องหลัง ทั้งของขวัญที่ได้รับจากหลาน ความทรงจำเกี่ยวกับความรัก หรือจะเป็นประสบการณ์ช่วงหนึ่งของชีวิตของพวกเขา ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจว่ารอยสักนั้นจะมีแค่เหล่าวัยรุ่น วัยคึกคะนองที่คิดจะมีมัน แต่ในโปรเจกต์นี้ก็มีบางคนที่เพิ่งจะสักรอยแรกตอนอายุ 80 ปี เสียด้วยซ้ำ!? Chris Cor Albertina Jack Riek Jan Thomas Rebha…
-
เด็กชายเกลียดกล้อง แม่เลยซื้อชุด T-Rex ให้ใส่ เพื่อถ่าย ‘ภาพครอบครัว’ อินจัดไปแล้วน้อง
พ่อแม่หลายคนคงจะอยากถ่ายภาพเด็กๆ เก็บเอาไว้เพื่อเป็นความทรงจำดีๆ แต่ถ้าหากว่าลูกของคุณเป็นขี้อาย ไม่กล้าเข้ากล้องล่ะ จะทำอย่างไรดี? เช่นเดียวกันกับเด็กชายคนนี้ที่ป่วยเป็นโรคออทิสซึม และเขากลัวการถ่ายภาพเอามากๆ คุณแม่ก็เลยปิ๊งไอเดีย ‘จับใส่ชุดไดโนเสาร์’ เพื่อเพิ่มความกล้าให้กับเขาเวลาถ่ายภาพ แต่กลายเป็นว่าเด็กชายกลับ ‘อินจัด’ จนกลายเป็นชุดภาพที่แสนงดงาม และสดใส คุณแม่ Samantha Lu ช่างภาพผู้ประสบปัญหากับการถ่ายภาพเจ้าหนู Levi ลูกของตัวเองที่ป่วยเป็นโรคออทิสซึม และเขาเป็นคนที่กลัวกล้องเอาซะมากๆ ซึ่งโดยปกติแล้วเด็กที่ป่วยเป็นออทิสซึมนั้นจะมีปัญหาที่เกี่ยวกับ ‘การเข้าสังคม’ เพราะฉะนั้น การถ่ายภาพสำหรับเขาแล้วคือการท้าทายที่ใหญ่มากพอสมควรเลยทีเดียว “เขามีปัญหาเกี่ยวกับการสบตากับคนอื่น และควบคุมการยิ้มไม่ได้ เขาบอกกับฉันว่า ‘ผมไม่สามารถควบคุมใบหน้าของตัวเองได้เลย’” คุณแม่เล่า เธอก็เลยปิ๊งไอเดียซื้อชุด T-Rex มาให้เขาสวมใส่ เพื่อช่วยลดคามเขินอายเวลาถ่ายภาพ และมันก็คุ้มค่าจริงๆ!! เธอเล่าถึงผลงานการถ่ายภาพในครั้งนี้ว่า “Levi และ Lola ชื่นชอบจูราสสิกพาร์ก มากๆ แต่ Levi นั้นเป็นออทิสซึมและเขาเกลียดการถ่ายภาพ ทุกครั้งที่จะถ่ายภาพเขามักจะพูดว่า “ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับหน้าของผมดี ผมบังคับมันไม่ได้” ฉันก็เลยซื้อชุด T-Rex มาให้เขา เพื่อที่จะถ่าย…
-
สองวัยรุ่นใช้ไม้เขี่ย ‘แมว’ ที่อยู่ใต้ท้องรถออกมาให้หมากัด แมวโดนขย้ำตาย เจ้าของหัวใจสลาย…
(คำเตือน: ในบทความนี้มีเนื้อหาที่ค่อนข้างรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม) สำหรับเด็กวัยรุ่น ด้วยวัยของพวกเขาที่อยากรู้อยากลองอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ รวมถึงยังขาดความยั้งคิดยั้งทำในบางเรื่อง จึงทำให้บ่อยครั้งที่มักจะมีข่าวไม่ค่อยดีนักเกิดขึ้น และในกรณีนี้อีกก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่ามีวัยรุ่นสองคน พยายามจะเอาตัวแมวออกจากใต้ท้องรถเพื่อให้หมากัด ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วแมวตัวนั้นก็เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า วิดีโอของเหตุการณ์นี้ แมวโชคร้ายตัวดังกล่าวมีชื่อว่า Sully แมวพันธุ์เบงกอลวัย 13 ปี มันมักจะออกมาวิ่งเล่นบนท้องถนนในเขตเมือง Merthyr Tydfil ประเทศอังกฤษ บ้านของมันอยู่บ่อยๆ แต่ว่ามีอยู่วันหนึ่งมันหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทางด้านเจ้าของบอกว่าโดยปกติแล้วเจ้า Sully มักจะกลับมาที่บ้านแม้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนมาก็ตาม แต่การหายไปครั้งนี้มันดูผิดสังเกต เขาจึงไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ แล้วสิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้หัวใจแทบสลาย… เพราะวิดีโอจากกล้องวงจรปิดได้ฟ้องว่ามันได้ตายไปแล้ว จากการถูกเด็กวัยรุ่นสองคน (ภายหลังทราบว่ามีอายุ 15 ปีกับ 17 ปี) พยายามเอาตัวมันออกมาจากใต้ท้องรถด้วยการใช้ไม้เขี่ย จากนั้นก็ปล่อยหมาของพวกเขาให้กัดจนตาย โดยในท้ายที่สุดแล้วศพของมันถูกพบอยู่ใกล้ๆ กับพุ่มไม้บริเวณนั้น จากการถูกหนึ่งในสองวัยรุ่นนำไปโยนทิ้ง เหตุการณ์สลดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งในตอนนี้วัยรุ่นทั้งสองก็ถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าสำหรับทางเจ้าของเขาบอกว่ามันยังเป็นเรื่องที่ทำใจไม่ได้สักที “เราใจสลายเลยล่ะ มันเป็นแมวที่น่ารักมากๆ เป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวเรา…
-
ลูกชายที่ถูกคนอื่นรับเลี้ยง 35 ปี ออกตามหาพ่อแม่แท้ๆ ก่อนที่ทำให้พวกเขาได้รักกันอีกครั้ง
ความรัก ถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สามารถแปรเปลี่ยนความห่างไกลมาเป็นใกล้ ความเกลียดชังมาเป็นรักได้และเรื่องราวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ นี้ก็เรื่องราวมหัศจรรย์ความรัก เมื่อหนุ่มคนหนึ่งซึ่งถูกรับเลี้ยงไปตั้งแต่เกิด กลับมาตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงที่เลิกรากันไปจนเจอและยังรับบทเป็นกามเทพ ช่วยให้พวกเขาทั้งสองคนกลับมารู้สึกดีและรักกันเหมือนอย่างเก่าได้อีกด้วย https://www.instagram.com/p/BnJznEzHGJe/?utm_source=ig_embed ย้อนกลับไปเมื่อ 36 ปีที่แล้ว มีผู้หญิงชื่อ Michele Newman จากรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกาได้ตั้งท้องโดยไม่เจตนา ในขณะที่อายุได้เพียง 16 ปีเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องราวใหญ่โตของเธอเป็นอย่างมาก เนื่องจากเธอกับ Dave Lindgren พ่อของเด็กได้เลิกกันไปก่อนที่เธอจะรู้ว่าตั้งท้อง บวกกับไม่มีการสนับสนุนจากครอบครัว Michele จึงปรึกษาหารือกับ Dave ว่าตัวเธอจะนำลูกชายไปให้รับเลี้ยงแทน ถือว่าเป็นโชคดีของเด็กน้อยคนนั้น เมื่อเขาได้เจอกับ William และ Cynthia Schmidt สองสามีภรรยาที่ดีมารับเลี้ยงไว้และได้ตั้งชื่อว่า Martin W. Schmidt Martin เติบโตมาท่ามกลางครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่น ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าตัวเองถูกรับเลี้ยงมา แต่ก็ไม่เคยที่จะอยากออกตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงเลย เพราะว่ารู้สึกว่าครอบครัวของเขาในตอนนี้มันดีที่สุดแล้ว ในที่สุด Martin ก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาย้ายออกจากไปบ้านไปอยู่รัฐโคโลราโดและได้พบรักกับผู้หญิงคนหนึ่งนามว่า Carin พวกเขาได้ตกลงที่จะแต่งงานกัน จากนั้น…
-
หนุ่มโชว์สด เปลือยล่อนจ้อน ‘สบั๊มกั๊ม’ กับตุ๊กตายางข้างถนน ก็คนมันชอบกลางแจ้งง่ะ…
จริงอยู่ที่ว่าเรื่องของ ‘เซ็กส์’ จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างส่วนตัว แต่ว่าสำหรับบางคนแล้วการได้เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนผู้ร่วมกิจกรรม ก็อาจจะช่วยเพิ่มความตื่นเต้นให้มันถึงใจมากยิ่งไปกว่าเดิม หรือบางทีการเปลี่ยนสถานที่ก็อาจได้ผลเช่นเดียวกัน แต่ทางที่ดีแล้วอย่าทำเหมือนกับชายคนนี้จะดีกว่า เพราะมีภาพฟ้องว่าชายคนนี้ได้ฟัดอยู่กับตุ๊กตายางแถวข้างถนนจนเป็นภาพอุจาดตา!! คลิปวิดีโอดังกล่าว เรื่องราวสุดแสนพิสดารนี้เกิดขึ้นจากความที่คนขับรถบรรทุกคนหนึ่ง ได้ขับรถของเขาไปใกล้ๆ กับเมืองนอร์ทแฮมพ์ตันในประเทศอังกฤษ เมื่อเวลาประมาณ 11 นาฬิกา วันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา คนขับรถคันนี้ก็ขับรถอย่างปกติไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น แต่ว่าเมื่อเขากลับมาดูกล้องติดรถก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะสิ่งที่เขาเห็นนั้นคือภาพของชายคนหนึ่งที่เปลือยล่อนจ้อน ทำท่าทางมีเซ็กส์กับคู่ของเขานั่นคือตุ๊กตายางซะอย่างงั้น “คนบางคนมักจะมีกิจกรรมยามว่างหรือรสนิยมทางเพศแปลกๆ อยู่เสมอ” คนขับรถกล่าว ตรงนี้เลยหรอพี่ ในเวลาต่อมาเขาได้นำเรื่องนี้ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทว่าเมื่อตำรวจไปตรวจสอบดูก็พบว่าตรงนั้นไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่แล้ว วิดีโอนี้ได้กลายเป็นปริศนาว่าใครกันนะที่มาทำอุตริกลางแจ้งแบบนี้ ขณะเดียวกันชาวเน็ตเมื่อได้เห็นคลิปก็มาร่วมสร้างสีสันปั่นให้สนุกมากยิ่งขึ้นไปอีก “มันอาจจะอยู่บน Pornhub ก็ได้นะ” “นี่มันบนไหล่เขาเลยนะเนี่ย” “เราทุกคนมีรสนิยมของตัวเอง แต่บางคนแค่แปลกกว่าชาวบ้านเขานิดหน่อยเอง” ชาวเน็ตกล่าว ดีนะพี่ไม่เล่นท่ายากโชว์เลยเนี่ย ที่มา: metro
-
ร้านขายเนื้อตั้งป้ายโฆษณาสุดดราม่า “เรามีเนื้อที่กินหญ้าของพวกคุณนะ” แซะชาววีแกน
บนโลกใบนี้มีผู้คนอยู่มากมายหลายล้านคน แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีวิถีการดำเนินชีวิตและมุมมองที่มองโลกใบนี้ไม่เหมือนกัน รวมถึงทัศนคติที่มีต่อการทานอาหารด้วย และที่ผ่านมาเราก็มักจะเห็นการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ที่มีทัศนคติในการเลือกทานอาหารที่ไม่เหมือนกัน อย่างคนที่ทานเนื้อและวีแกนอยู่ตลอดเวลา รวมถึงเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ก็เช่นกัน เมื่อร้านขายเนื้อร้านหนึ่งในมณฑล Derbyshire ประเทศอังกฤษ ได้ตั้งป้ายหน้าร้านเพื่อหวังจะดึงดูดลูกค้าโดยข้อความที่หยอกล้อชาววีแกนว่า “ถึงชาววีแกน ทางร้านเรามีเนื้อวัวกินหญ้าของพวกคุณมาโดยตลอดด้วยนะ ด้วยความยินดี!“ ต่อมาได้มาคนๆ หนึ่งเดินผ่านไปทางร้านขายเนื้อดังกล่าว เขาเห็นว่าข้อความนี้เป็นเหมือนกับยุให้คนแตกคอกัน เลยถ่ายรูปและนำมาโพสต์ลงโซเชียลมีเดียว่า “ถึง Anthony Andrew (เจ้าของร้าน) ตอนแรกที่ผมได้เห็นข้อความบนป้ายของคุณ ผมก็ตื่นเต้นนึกว่าคุณจะมีอะไรพิเศษนำเสนอ แต่ช่างน่าผิดหวังจริงๆ หลังจากที่อ่านข้อความจบก็พบว่าคุณมีแต่ความเกลียดชัง แถมยังใช้ไวยากรณ์ที่ไม่เหมาะสมอีก เทคนิคคือ: อย่าทำให้ลูกค้าแตกคอกัน ด้วยความยินดี” ในร้านยังมีข้อความชวนคนมาทานเนื้อด้วยนะ โดยมีใจความว่า “เนื้อของเรามาจากฟาร์มท้องถิ่นที่มีคุณภาพ // ทุกๆ วันจะต้องมีพืชนับพันต้องตายเพราะคนทานมังสวิรัติ ช่วยกันหยุดความรุนแรงนี้ มากินเนื้อสิ!” เมื่อมีกระแสไม่ดีเกี่ยวข้อความโฆษณาชวนชวนของทานร้าน Anthony Andrew เจ้าของร้านจึงได้ออกมาตอบกลับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย เป็นเพียงเรื่องตลกๆ และเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายจิตใจใคร โดยเขาได้กล่าวว่า “เรารู้ดีว่าป้ายของเรามันบ้าบอ รวมถึงโฆษณาที่เราโพสต์ออนไลน์ด้วย แต่ทั้งหมดมันก็เป็นเรื่องตลก เฮฮาเท่านั้น เราไม่ได้ต้องการที่จะสร้างความเกลียดชัง แค่อยากให้ลูกค้ามีอารมณ์ขันและมีช่วงเวลาดีๆเท่านั้นเอง พวกเรามีข้อความเกี่ยวกับคนกินมังสวิรัติก็จริง แต่ผมคิดว่าคนบางคนก็อ่อนไหวกับเรื่องนี้มากกว่าคนอื่นเกินไปนะ และถ้าผมทำให้คนอื่นไม่พอใจ ผมก็ขออภัยด้วยและพวกเขาก็มาทานร้านผมได้นะ ผมจะแถมสเต๊กให้เป็นพิเศษเลย” …
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ จะเป็นอย่างไร #ถ้าโรงเรียนเวทมนตร์อยู่ไทย แบบว่าฮอกวอตส์ยังต้องอาย
กระแสแห่งโลกเวทมนตร์นั้นได้กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Fantastic Beasts 2 ได้ถูกปล่อยออกมา แฮร์รี่ พอตเตอร์ ผลงานของ J.K. Rowling ก็กลับมาเป็นที่กล่าวถึงอีกครั้ง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ถูกกลับมาเป็นที่กล่าวถึงเนื่องจากว่าเนื้อหาของสองเรื่องผูกเข้าด้วยกัน ยิ่งมีกระแสของ นากินี ที่มีนักแสดงชาวเอเชียได้รับบทแสดงเข้ามาตามที่ทางเพจของเราได้นำเสนอข่าวออกไป #เหมียวบู้บี้ ก็ได้อ่านคอมเมนต์หนึ่งของชาวเพจ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจเลยกับการตั้งสมมติฐานว่า ถ้าเกิดว่าถ้าไทยได้หนังเรื่องเกี่ยวกับงูและเวทมนตร์ล่ะก็ คงไม่แพ้ต่างชาติอย่างแน่นอน #เหมียวบู้บี้ ก็เลยนึกขึ้นได้ว่า ช่วงไม่กี่ปีก่อนมีการตั้งแฮชแท็กหนึ่งในทวิตเตอร์ชื่อแฮชแท็กว่า #ถ้าโรงเรียนเวทมนตร์อยู่ไทย เป็นการรวบรวมความเห็นจากชาวทวิตเตอร์ที่น่าสนใจและน่าจะเข้ากับกระแสโลกเวทมนตร์ตอนนี้อย่างแน่นอน มาดูกันดีกว่าว่า ถ้าโรงเรียนเวทมตร์ตั้งอยู่ในประเทศไทย จะเป็นอย่างไรบ้างนะ บรรจุวิชาการสื่อสารกับภูติผีเป็นวิชาบังคับ นักเรียนปี 1 ต้องได้เรียนทุกคน ควิดดิซมันยากไป โดดยางแล้วกัน อีแพนเค้กจากหอแต๋วแตก ที่หัวโขกกับชักโครกตาย อยากได้แบบดอกหญ้าเบาหวิว หรือแข็งแรงแบบทางมะพร้าวล่ะ ขนไก่ก็มีนะ นากินี = เจ้าแม่นาคี นักเรียนโรงเรียนฮอกวอร์ต = ชาวบ้านดอนไม้ป่า ลอร์ดโวล์เดอมอร์ ฮอกวอร์ตนี่เล็กไปเลย …
-
นักเรียนแพทย์บริจาค 67% ของตับให้กับครูประถมของเขา แม้เคย ‘เกลียด’ เพราะถูกตีตอนเด็ก!!
แม้ว่าบางครั้ง ‘คุณครู’ ในวัยเด็กของเราจะมีวิธีการสอนที่แตกต่างกัน แต่จุดประสงค์ส่วนใหญ่ของคนเป็นครูก็ล้วนแล้วแต่อยากให้ลูกศิษย์สามารถเติบโตมีชีวิตที่ดีได้ และเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณอันใหญ่หลวงนี้ จึงทำให้หนุ่มวัย 25 ปีคนหนึ่งตัดสินใจบริจาค 67% ของตับตัวเองให้แก่คุณครูชั้นประถมของเขา แม้ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาจะเคยบอกว่าเกลียดคุณครูคนนี้ก็ตาม… Jerome Chin นักศึกษาวิชาแพทย์คือคนดังกล่าว เขาอาสาที่จะมอบตับให้กับ Leong Fong Peng อดีตคุณครูวัยประถม สมัยที่เขายังเรียนอยู่ที่โรงเรียน Kong Min Primary School ประเทศมาเลเซีย วิดีโอของเรื่องราวอบอุ่นหัวใจนี้ ในเวลานั้น Chin กล่าวเอาไว้ว่าคุณครูคนนี้ เป็นครูที่เจ้าระเบียบเอามากๆ และมักจะชอบตามลงโทษเขาเป็นประจำเมื่อเขาทำผิดระเบียบ “ครูถือไม้เรียวของเธอไปด้วยทุกๆ ที่ และแน่นอนผมโดนบ่อยมากๆ (หัวเราะ) ผมยอมรับนะว่าตอนนั้นผมเข้าขั้นเกลียดคุณครูคนนี้เลยล่ะ แต่พอผมจบจากโรงเรียนนี้ไปผมก็เริ่มรู้ว่าที่ครูทำอย่างนั้น เพราะครูใส่ใจกับผมมากๆ” Chin กล่าว ชายหนุ่มคนนี้ได้ทราบอาการเจ็บป่วยของคุณครูในเดือนกรกฎาคม จากลูกสาวของเธอซึ่งเป็นเพื่อนกับเขา โดยในตอนแรกก็มีอาสาสมัครจะมอบตับให้ถึง 8 คนด้วยกัน แต่ว่าเมื่อตรวจสอบก็พบว่าตับของพวกเขาเหล่านี้ไม่สามารถเข้ากับร่างกายของคุณครูได้ ด้วยเหตุนี้ Chin จึงได้ลองทดสอบดูแล้วก็พบว่าตับของเขาสามารถเข้ากับคุณครูได้ ทว่าก็ติดปัญหาอยู่ที่คุณพ่อของเขาไม่อยากจะให้บริจาคนั่นเอง แต่แล้วก็ด้วยความที่เขาเป็นนักศึกษาแพทย์และได้เรียนเรื่องนี้มาอย่างละเอียด…
-
หนุ่มตั้งใจเปิดตัวแฟนสาว พาไปทานข้าวพบพ่อแม่ โป๊ะแตก ‘แฟนเป็นเมียน้อยพ่อ’
การได้กลับไปกินข้าวกับพ่อแม่ในยามโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงามสำหรับชาวเอเชียอย่างเราๆ เพราะการได้มานั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง ก็จะช่วยเสริมความสุขในสถาบันครอบครัวเป็นอย่างดี แต่ไม่รู้ว่าการพาคนนอกครอบครัวที่เป็นแฟนพาไปให้พ่อแม่รู้จัก ในระหว่างทานมื้ออาหารร่วมกัน จะกลายมาเป็นผลดีหรือผลร้ายที่ไม่อาจคาดเดาได้ กรณีดังกล่าว เป็นเรื่องเล่าที่ถูกแชร์โดยชาวเน็ตมาเลเซียนามว่า Ashraf จากประสบการณ์ตรงของเพื่อนชาวเน็ตรายหนึ่ง กล่าวถึงเหตุการณ์แห่งความกระอักกระอ่วนใจ ที่หวังว่าจะเปิดตัวแฟนให้พ่อแม่ได้รู้จัก กลับได้รู้ความจริงว่าแฟนสาวเป็นเมียน้อยของพ่อตัวเอง… ท่ามกลางโลกโซเชียลแนวถามตอบ Curious Cat ของนาย Ashraf ชาวเน็ตรายนี้เล่าว่า… “วันหนึ่ง เธอได้รู้จักกับหนุ่มหล่อน่ารักคนนี้ คบกันมานานจนอยากยกระดับความสัมพันธ์ แฟนหนุ่มก็เลยพาเธอไปทานข้าวร่วมกับครอบครัว… แต่รู้อะไรมั้ย พ่อของแฟนหนุ่มน่ะเป็นพ่อเลี้ยงหล่อนด้วย ท่ามกลางวงดินเนอร์ เพื่อนผมรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก้มหน้าอยู่อย่างนั้นตลอดไม่พูดอะไร กลายเป็นว่าหล่อนได้สองในครอบครัวเดียว” https://twitter.com/AshrafAriff/status/1043414649234964481 แน่นอนว่า คุณพ่อรายนี้ก็อยู่ในช่วงวัย 50 ปีแล้ว คอยนัดไปหลับนอนและเปย์อยู่ทุกสัปดาห์ และเธอก็ได้เงินจากพ่อแฟนไปหลายตังค์เลยทีเดียว นี่ไม่อยากจะนึกสภาพเลย เจอความจริงแบบนี้จะทำยังไงต่อล่ะเนี่ย? ที่มา: @AshrafAriff, thereporter, worldofbuzz
-
ชาวเน็ตดราม่าหนัก Fantastic Beasts 2 ทำไมถึงใช้นักแสดงเอเชียมารับบท ‘นากินี’ ?
หลังจากที่ได้มีการปล่อยเทรลเลอร์สุดท้ายของภาพยนตร์ที่หลายๆ คนกำลังรอคอยนั่นก็คือเรื่อง Fantastic Beasts 2 ไปเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2018 ก็ได้กระแสตอบรับจากชาวเน็ตเป็นอย่างดีมากๆ เรียกได้ว่า แค่ปล่อยมาไม่กี่นาทีก็เป็นประเด็นที่ทำให้คนพูดถึงทั่วโลกออนไลน์ในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง ประเด็นเด็ดๆ หลังจากที่เทรลเลอร์สุดท้ายถูกปล่อยออกมาที่ทำให้ชาวเน็ตได้เซอร์ไพรส์สุดๆ เลยก็คือเรื่องของ ‘นากินี’ ความลับที่ J.K. Rowling ผู้ประพันธ์บทได้เก็บเอาไว้มานานเกือบ 20 ปี และได้เผยออกมาว่า ความจริงแล้วนากินีเคยเป็นสาวสวยมากก่อน!! นากินี คืออีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่อยู่คู่กับเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ นากินี เป็นปีศาจงูตัวใหญ่ หนึ่งในวัตถุฮอร์ครักซ์ ที่ ลอร์ดโวเดอมอร์ ได้แบ่งเสี้ยววิญญาณ 1 ใน 7 ของเขาเอาไว้ในร่างของนากินีและได้เลี้ยงมันเอาไว้ข้างกายตลอดมา เวลาที่โวล์เดอมอร์อ่อนแอก็ได้นมของนากินีประทังชีวิต โดยเส้นเวลาของ Fantastic Beasts คือเรื่องราวที่เกิดในปี 1926-1945 ในขณะที่เรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ เกิดในช่วงปี 1980 เป็นต้นมานั่นเอง แต่ดราม่าจริงๆ…
-
ชาวเน็ตจวกดาวไอจีฮ่องกง นำไฟประดับขึ้นเครื่องไปถ่ายรูป ทั้งที่เอาขึ้นได้ หรือแค่อิจฉา?
ทุกวันนี้มีผู้สร้างชื่อให้กับตัวเองบนโลกออนไลน์นับไม่ถ้วน และกลายมาเป็นบุคคลสาธารณะที่มีผู้ติดตามชีวิตมากมาย ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม จะมีทั้งเสียงชื่นชมและก่นด่าตามมาด้วยเช่นกัน บลอกเกอร์สายท่องเที่ยวชาวฮ่องกง Harimao Lee คือหนึ่งในผู้มีชื่อเสียงบนแพลทฟอร์มอินสตาแกรม ได้กลายมาเป็นประเด็นถกเถียงของชาวเน็ต หลังจากที่เธอแชร์ภาพถ่ายเซลฟี่พร้อมกับไฟประดับ บนเที่ยวบินชั้นธุรกิจของสายการบิน Cathay Pacific จากฮ่องกงไปยังกรุงโรม… ภาพถ่ายที่ตกเป็นประเด็น เธอได้ให้แคปชั่นประกอบว่า “มันเป็นค่ำคืนที่ยาวนาน ระหว่างเที่ยวบินจากฮ่องกงไปกรุงโรม การมองดูดาวก็คือหนึ่งสิ่งที่พอจะทำได้ในห้องโดยสาร” แต่ด้วยภาพถ่ายที่จัดฉากพร้อมกับอุปกรณ์ประกอบที่ดูขัดกับความเป็นจริง ทำให้เกิดข้อสงสัยในเรื่องของการนำไฟประดับขึ้นเครื่องเป็นสิ่งที่เหมาะสมและทำได้หรือไม่? เอาเข้าจริงๆ ใครมันจะเอาไฟประดับพรรค์นี้ขึ้นเครื่อง งง? มีชาวเน็ตอยากลองทำตาม ด้วยการพกแบตเตอร์รี่ สายไฟ แต่อาจจะทำไม่ได้อย่างเธอ… พยายามหวนสร้างบรรยากาศโรแมนติกบนเที่ยวบินเฟิร์สคลาส? น่าทึ่งที่ทำลงไปก็เพื่อ ‘ยอดถูกใจ’ แถมนางยังนั่งฝั่งตรงข้ามที่นั่งด้วยนะ ชาวเน็ตบางรายถึงขั้นบอกว่า ไฟประดับเหล่านี้คือสิ่งต้องห้ามนำขึ้นเครื่องที่ถูกระบุโดย TSA (หน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐอเมริกา) แต่หลังจากที่ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์โดยตรงแล้ว ทั้งไฟประดับ ไฟ LED ไฟฉาย รวมไปถึงดาบไลท์เซเบอร์ของเล่น ก็สามารถนำขึ้นเครื่องได้ สามารถนำขึ้นเครื่องได้ทั้งกระเป๋าถือขึ้นเครื่องและโหลดใต้ท้องเครื่อง . ทั้งนี้…
-
หนาวนี้ต้องโดน!! ‘โรงแรมน้ำแข็ง’ แห่งฮอกไกโด ไปแช่ออนเซ็นท่ามกลางอากาศเย็นๆ กันเถอะ
เมื่อหน้าหนาวมาถึง ใครหลายคนก็คงจะดี๊ด๊าคิดหาที่เที่ยวกันว่าหนาวนี้จะไปไหนกันดี แต่ว่าถ้าหากยังคิดไม่ออกล่ะก็ ‘ญี่ปุ่น’ ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่ใช่น้อย เพราะอย่างที่ใครๆ รู้กันว่าประเทศนี้ดีงามขนาดไหน และบางทีคุณอาจจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ กับความเย็นแบบสุดขั้ว เพราะมี ‘โรงแรมน้ำแข็ง’ เปิดให้คุณสามารถไปนอนเล่นได้แล้ว!! ‘โรงแรมน้ำแข็ง’ ที่ว่านี้ตั้งอยู่บริเวณท้ายสุดของรีสอร์ต Hoshino Resort Tomamu ในหมู่บ้านชิมุกัปปุ-มูระ จังหวัดฮอกไกโด ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ความพิเศษของโรงแรมนี้ก็คือ มันเป็นเหมือนกับสวรรค์ของคนรักความเย็นเลยก็ว่าได้!! เพราะในช่วงเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์ ที่นี่จะสามารถมีอุณหภูมิหนาวสะท้านได้ถึง – 30 องศาเซลเซียส (คุณพระ..) มาดูในส่วนของห้องพักกันบ้าง ห้องพักของโรงแรมแห่งนี้จะมีลักษณะเป็นโดมน้ำแข็ง และนอกจากตัวโดมที่เป็นน้ำแข็งแล้ว ทุกๆ อย่างภายในห้องพักแห่งนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทำมาจากน้ำแข็งทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เตียง เก้าอี้ต่างๆ (แต่มีที่ถุงนอนที่อุ่นมากๆๆๆ เตรียมเอาไว้ให้) แต่ถ้าใครที่รู้สึกว่ามันช่างหนาวเย็นเกินไปล่ะก็ ที่นี่ก็มีบริการเตรียมพร้อมให้อย่างเสร็จสรรพไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มร้อนที่จัดไว้ให้บริเวณเล้านจ์ที่มีเครื่องดื่มให้เลือกถึง 50 แบบด้วยกัน ทว่าถ้ายังไม่พอ ขอแนะนำไฮไลก์ของทีนี่นั่นคือการแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง ลองนึกภาพดูว่ามันจะเป็นอะไรที่วิเศษขนาดไหนที่คุณได้แช่น้ำร้อนๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำแข็งทั้งหมด!! (หลังจากอาบน้ำจะมีชุดพิเศษให้ไม่ต้องหนาวจนเกินไป)…
-
ชายลงทุนปลอมเป็นหญิง อ้างผัวไม่อยู่ ชวนหนุ่มมาเล่นเสียว แอบถ่ายคลิปไปขายรายได้อื้อ!!
เรียกได้ว่าตั้งแต่ที่โลกของเราเข้าสู่ยุคออนไลน์ ก็ได้เกิดวิธีการทำเงินแบบใหม่ขึ้นไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาหรือค้าขายออนไลน์ และเรื่องที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สร้างรายได้แบบใหม่ที่คุณต้องนึกไม่ถึง (ถึงนึกถึงก็คงไม่อยากทำตาม) เมื่อชายวัย 32 ปีลุกขึ้นมาแต่งตัวเป็นผู้หญิง อ้างเหงา สามีไม่อยู่และชวนชวนแปลกหน้ามาเล่นเสียวกัน ก่อนที่จะแอบอัดวิดีโอและนำไปขายในเว็บโป๊ออนไลน์ ชายคนนั้นคือ Bryan Deneumostier เขายอมรับสารภาพว่าเคยหลอกผู้ชายกว่า 150 คนมามีเซกส์ด้วยผ่านทางเว็บไซต์ Craigslist ที่เป็นศูนย์กลางในการประกาศขายของ หางาน สมัครงานหรือแม้กระทั่งหาคู่ พร้อมกับยังเป็นเว็บบอร์ดที่สามารถพูดคุยได้ในหลายๆ ด้าน โดยที่มากกว่าครึ่งที่เขาหลอกมาไม่รู้ว่าถูกถ่ายคลิป ในโลกออนไลน์ Bryan รับบทเป็น “Susan” แม่บ้านสาวขี้เหงาและได้ใช้แอคเคาต์ชื่อ “susanleon33326” โพสต์ในฐานะผู้หญิงอยากจะหาคนมาเล่นสนุกด้วยกันที่บ้านพักทหารในฐานทัพอากาศที่เมือง Miami รัฐฟลอริดา โดยที่เวลาผู้ชายที่โดนหลอกมา ได้มาตามที่นัดเจอกัน พวกเขาจะถูก Susan ใส่ผ้าปิดตาก่อนทุกครั้งเพื่อที่จะได้ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วนางฟ้าข้างๆ เขานั้นคือผู้ชาย… และอ้างตามที่สื่อรายงาน เวลาผู้ชายที่ถูกหลอกมาถามว่าเธอไม่ได้ถ่ายวิดีโอไว้ใช่มั้ย Bryan ก็จะตอบไปว่า “เธอ” ถ่ายวิดีโอไม่ได้หรอก เพราะตัวเองแต่งงานกับทหารในกองทัพนี้ หากถ่ายไว้แล้วเขามารู้เข้าเดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ที่ไหนได้ เขาแอบถ่ายวิดีโอระหว่างทำอะไรกับผู้ที่ถูกหลอกมาทุกคน แถมยังนำขายต่อให้บุคคลที่สามเพื่อที่จะอัปโหลดขึ้นเว็บโป๊อีกด้วย สุดท้ายนี้ เนื่องจาก Bryan ได้รับสารภาพความผิด เขาจึงได้รับละเว้นข้อหาสามกระทง แต่กระนั้นก็ยังต้องเจอกับข้อหาล่อลวงและมีเพศสัมพันธ์กับเด็กชายซึ่งยังเป็นเยาวชนอยู่ และคดีของเขาจะถูกตัดสินในเดือนพฤศจิกายนนี้และมีการคาดว่าเขาน่าจะต้องถูกจำคุกสูงสุดเป็นเวลา…
-
สาวหงุดหงิดจัด ถูกแฟนสั่งห้ามกินทุเรียนในห้อง โทรแจ้งตำรวจมาจับข้อหา ‘ข่มขืน’
เรื่องกินเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงแล้วห้ามขัดใจเด็ดขาด เพราะอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมายแบบไม่รู้จบก็เป็นได้… กรณีนี้เกิดขึ้นกับ นาง Zhang วัย 29 ปี จากมณฑลเจ้อเจียง ที่รู้สึกหงุดหงิดและฉุนแฟนหนุ่ม Luo ที่คบหาดูใจกันมานาน สั่งห้ามไม่ให้กิน ‘ทุเรียน’ ผลไม้สุดโปรดของเธอภายในห้องโรงแรม จนเกิดการทะเลาะมีปากเสียงกัน จากรายงานของเว็บไซต์ ET Today กล่าวว่า คู่รักเปิดห้องในโรงแรมแห่งหนึ่ง ณ วันที่ 11 กันยายน โดยมีจุดประสงค์ใช้เวลาร่วมกันเพื่อเล่นจ้ำจี้ ซึ่งหลังจากเสร็จกิจแล้วนาง Zhang รู้สึกหิวขึ้นมา ก็เลยควักทุเรียนที่พกติดไว้ในกระเป๋าขึ้นมากิน แต่ด้วยความเหนื่อยหรือไม่ชอบของแฟนหนุ่ม เขาห้ามเธอไว้และขอร้องให้เอาไปกินที่บ้านแทน เมื่อนาง Zhang ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกโมโหเลือดเดือด ปาทุเรียนใส่แฟนหนุ่มแถมถีบซ้ำทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่บนเตียง ด้านแฟนหนุ่มสวนกลับด้วยการตบหน้าหนึ่งฉาด นาง Zhang จึงยอมไม่ได้ โทรแจ้งตำรวจว่าถูกข่มขืน และต้องการให้มาจับกุมตัวแฟนหนุ่มของเธอ… พอตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ กลับไม่พบร่องรอยของการข่มขืนใดๆ อีกทั้งนาง Zhang ก็ไม่ได้มีร่องรอยได้รับบาดเจ็บที่เห็นได้ชัด สภาพห้องก็ดูเรียบร้อยไม่น่าจะมีปัญหาอะไร …
-
23 ภาพแห่งความเพอร์เฟกต์สุดฟิน ที่จะช่วยให้สมองของคุณผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า
ในยุคที่ทุกอย่างรอบตัวเราดำเนินไปอย่างรวดเร็ว การแข่งขัน การแก่งแย่งชิงดี ทำให้มนุษย์เราต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่มอบความเครียดให้อยู่ตลอดเวลา แต่เพื่อนๆ รู้กันมั้ยว่าเราสามารถลดความเครียดและทำให้สมองเรารู้สึกผ่อนคลายได้ด้วยการดูรูปสวยๆ งามๆ นะ และวันนี้เองเราก็ได้ทำการรวบรวมรูปสวยๆ งามๆ ฟินๆ สุดเพอร์เฟกต์มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ #เหมียวโคบี้ มั่นใจเลยหากเพื่อนๆ ได้ดูล่ะก็สมองต้องผ่อนคลายอย่างแน่น๊อน!! 1. กราบคนที่เรียงขนมหวานเหล่านี้ ทั้งสวยงามและน่ากินจริงๆ 2. นี่แหละที่เป็นเหตุผลที่ทำให้คนเราชอบเข้าร้านเครื่องเขียน 3. มองท้องฟ้าจากพื้นที่แบบนี้ก็ฟินไปอีกแบบ 4. กราบในความพยายามแยกสี 5. อื้อหือ!! แพคของได้แบบเพอร์เฟกต์!! 6. นี่สิวิธีการเรียงเสื้อผ้าที่ดีย์ 7. วงกลมที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ ซึ่งถูกวาดโดย “หญ้าแห้ง” และ “สายลม” 8. เครื่องชั่งน้ำหนักที่ขนาดพอดีกับกระเบื้องเป๊ะๆ 9. เมื่อเงาพอทีกับขอบถนน 10. การเรียงสีที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติ 11. การแบ่งชิ้นส่วนเลโก้ให้ส่วนที่เหมือนกันอยู่ด้วยกัน …
-
พบกับ Lioz Shem ชายผู้มี ‘สุดยอดพลังจิต’ สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุได้ดั่งใจนึก!!
ต้องขอเกริ่นไว้แต่เนิ่นๆ เลยว่าเพื่อนๆ ทุกคนจะต้องไม่เคยเห็นการแสดงโชว์พลังจิตแบบนี้ที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน!! มีชายคนหนึ่งนามว่า Lioz Shem ชาวอิสราเอล ได้ทำการโชว์สุดยอดพลังจิต ที่สามารถบังคับสิ่งของให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ให้ชาวโลกได้ประจักษ์แก่สายตาในรายการ America’s Got Talent เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมานี้เอง เขากล่าวกับกรรมการว่าตนเป็นผู้ใช้พลังจิต และสามารถใช้พลังที่มีชื่อว่า Telekinesis ซึ่งผู้ใช้จะสามารถบังคับ เคลื่อนย้ายสิ่งของได้เพียงใช้แค่ความคิด เดี๋ยวจะหาว่าโม้…ก่อนจะไปชมคลิปเต็มๆ ลองไปดูเป็นแซมเปิลกันสักหน่อยว่าเขาสามารถขยับอะไรได้บ้าง… บังคับไอศกรีมโคนให้เด้งออกมาได้!? ทำให้ฟองน้ำหายไป!? ขยับกากเพชรในลูกแก้ว!? ทำให้ทิชชู่ตั้งตรงได้ ทำได้ไง!? ลองไปชมคลิปเต็มๆ ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า…. กรรมการทั้ง 4 คนต่างก็อึ้งไปตามๆ กัน โดยเฉพาะ Mel B และ Howie ที่ดูจะชอบโชว์นี้เป็นพิเศษ ทั้งคู่ต่างก็ชื่นชม Lioz ว่าเขาทำได้ ‘แจ่มแมว’ มากๆ แต่ขณะเดียวกัน Heidi กลับมองว่ามันไม่เจ๋ง เลยให้ ‘ไม่ผ่านไป’…
-
ตำรวจนั่ง ‘รถบัสสองชั้น’ เพื่อตรวจจับคน ‘ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ’ ใครทำผิด โดน!!
ใครเล่าจะคิดว่า ‘ระบบขนส่งสาธารณะ’ จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการจับตัวผู้กระทำผิดเกี่ยวกับ ‘กฎจราจร’!? เจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมืองเวสต์ มิดแลนด์ ประเทศอังกฤษ ได้ทำการ ‘นั่งรถบัสสองชั้น’ เพื่อสอดส่องความเรียบร้อยบนท้องถนน และจับผู้กระทำผิดกฎจราจรที่ ‘ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ’ ที่เป็นสาเหตุหลักในการเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่จะประจำอยู่บนรถบัสสองชั้น พร้อมกับ ‘วิทยุสื่อสาร’ เมื่อเห็นว่ามีใครใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ก็จะทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างล่างเพื่อจดเลขป้ายทะเบียน จากนั้นก็จะส่งใบสั่งตามไปที่บ้าน จากรายงานของเว็บไซต์ BBC ระบุว่าค่าปรับของการทำผิดกฎจราจรในการใช่โทรศัพท์ขณะขับรถจะถูกปรับเป็นเงิน 200 ปอนด์ หรือรา่วๆ 8,500 บาท และหักคะแนนการขับขี่ถึง 6 แต้มเลยทีเดียว ซึ่งทางด้านโฆษกของสถานีตำรวจประจำเขตเวสต์ มิดแลนด์ ก็ออกมาประกาศว่าจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทำแบบนี้ต่อไป เพราะมีแนวโน้มที่จะช่วยให้คนหันมาใส่ใจกับการขับขี่มากยิ่งขึ้น ลองมาฟังทางด้านคนที่ถูกจับกันบ้างว่าเขาคิดอย่างไรกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาบอกว่า ‘ตอนแรกเขาเป็นคนที่ระมัดระวังในการทำผิดกฎจราจรตลอด พอมีหมายมาถึงบ้านก็งงเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น’ ซึ่งเขาก็บอกอีกว่า “มันก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะผมทำมันจริงๆ แต่พวกเขา (ตำรวจ) ไปเห็นตอนไหน!? และต่อไปผมก็จะไม่ทำมันอีก เพราะผมรู้แล้วว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตาเราอยู่ตลอดเวลา” .…
-
Kristina Pimenova อดีตเด็กหน้าสวยที่สุดในโลก ยิ่งโตเป็นสาวก็ยิ่งสวยไปอีก
เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน อาจจะมีคนคุ้นเคยกับข่าวของสาวน้อยผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นเด็กที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งในตอนนั้นเธอมีอายุเพียง 10 ขวบเท่านั้น เธอมีชื่อว่า Kristina Pimenova วันเวลาผ่านล่วงเลยไป จากสาวน้อยหน้าตาสวยที่สุดในโลกก็เริ่มเปลี่ยนไป เธอโตขึ้นตามวัย แต่สิ่งที่ยังคงเหมือนเดิมก็คือความสวยของเธอที่ยังคงเหมือนเดิม หรืออาจจะสวยขึ้นกว่าเดิมด้วย รูปตอนเธออายุ 10 ขวบ พระเจ้า แม่ของเธอให้ทานอะไรเป็นอาหารเนี่ย Kristina เป็นเด็กสาวชาวรัสเซียที่ใน 3 ปีก่อนนั้นได้รับการขนานนามจากสื่อต่างๆ ว่าเป็นเด็กหญิงที่สวยที่สุด ใบหน้าเพอร์เฟกต์ราวกับเจ้าหญิงหรือนางฟ้าในเทพนิยาย เธอได้รับการทาบทามให้เป็นนางแบบเสื้อผ้าเด็กให้กับแบรนด์ดังหลายแบรนด์ ปัจจุบันยิ่งเวลาผ่านไป เธอยิ่งฉายแววความสวยออกมา ยิ่งเริ่มโตเป็นสาว ก็ยิ่งสวยๆๆๆๆ จนหยุดไม่ได้แล้ว ร้อยทั้งร้อยที่ได้สบตาก็เป็นอันต้องสยบ ดวงตาสวย มีเสน่ห์มากๆ เป๊ะแบบไม่ต้องทำไรมาก นี่แค่เริ่มเป็นสาวนะ รับรองว่าอีก 4-5 ปี จะสวยกว่านี้แน่นอน แค่นี้ก็สวยมาแล้วนะ พอเถอะแม่คุณ สวยเกิ๊นนนน …
-
21 ภาพน่าทึ่งส่งตรงจากญี่ปุ่น ที่ได้ดูแล้วต้องคิดว่า “ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริงจริ๊งงง”
ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่เราๆ รู้กันดีว่ามีความสุดโต่งในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมารยาทและการรักษากฎระเบียบวินัย รวมถึงเรื่องที่คอยสร้างสรรค์อะไรที่แปลกใหม่ออกมาให้เราได้เห็นอยู่เสมอ วันนี้ #เหมียวโคบี้ เลยได้ทำการรวบรวมรูปภาพที่เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นมาให้ดูกัน และเมื่อเพื่อนๆ ได้ดูรูปพวกนี้เสร็จแล้วคงต้องคิดในใจว่า “ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริงจริ๊งงงง” เป็นอย่างแน่นอน เอาล่ะ เอามาไปลองดูภาพพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ โกๆ 1. ในฟุตบอลโลก 2018 ทีมงานของทีมชาติญี่ปุ่น ทำการเก็บห้องแต่งตัวนักกีฬาให้สะอาดหมดจด พร้อมกับทิ้งโน๊ตที่มีข้อความเป็นภาษารัสเซียว่า “ขอบคุณ” เอาไว้ด้วย 2. สั่งของมาจากร้านญี่ปุ่นยังได้โน๊ตน่ารักๆ ที่มีข้อความว่า “ขอบคุณที่ซื้อของครั้งนี้ คุณรู้จักคำว่า Origami มั้ย? นี่คือนกกระเรียนที่เราพับมาเป็นของขวัญให้คุณ คุณคือ Tomodachi(เพื่อน) ของเรา ครั้งหน้าคุณจะได้รับ Origami ที่ต่างออกไป ด้วยความเคารพ” 3. โรงแรมแห่งหนึ่งในโตเกียวที่ใช้พนักงานต้อนรับเป็นหุ่นยนต์ไดโนเสาร์ 4. “เมื่อไปถามทางไปที่ๆ ห่างจากนี่ 3 ซอยกับป้อมตำรวจในโตเกียว เจ้าหน้าที่ลงทุนวาดแผนที่ให้เพื่อที่จะทำให้แน่ใจว่าฉันจะเจอที่นั่นแน่ๆ สุดยอดไปเลย!” 5.…
-
หนุ่มร้องจะเช่าบูชาเหรียญ ‘เชียงรายเกมส์’ ไปถึงงานแค่นิดเดียว ‘ผู้มีพระคุณ’ เช่าไปหมดแล้ว!?
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องตรวจสอบถึงข้อเท็จจริงเกิดขึ้น เมื่อมีชายคนหนึ่งโพสต์ในโซเชียลมีเดียว่า ได้เดินทางไปจองเหรียญ ‘เชียงรายเกมส์’ แต่พอไปต่อคิวกลับได้ยินประกาศว่าเหรียญที่เอามาให้เช่าบูชากลับเหลือเพียงนิดเดียวเท่านั้น!? เรื่องดังกล่าวนี้ได้รับการเปิดเผยจากเฟซบุ๊ก Boy Anupong โดยเขาได้ใส่แคปชั่นพร้อมกับภาพต่างๆ เอาไว้ดังนี้ “ความน่าอับอายของวงการราชการไทย … 26 ก.ย. วันนี้เป็นวันเปิดให้บูชาเหรียญที่ระลึก ‘เชียงรายเกมส์’ ผลงานศิลปะของ ท่านอาจารย์เฉลิมชัย ศิลปินแห่งชาติผู้สร้างวัดร่องขุ่น ซึ่งท่านอาจารย์ได้จัดสร้างเพื่อมอบให้แก่โรงพยาบาลของรัฐ 18 โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงราย โรงพยาบาลละ 2,000 เหรียญ ซึ่งรายได้จากการทำบุญเหรียญละ 1,000 บาท (หนึ่งคน=หนึ่งสิทธิ์) ถ้าจำหน่ายหมดแต่ละโรงพยาบาลจะได้เงินที่ละ 2,000,000 บาท โดยแบ่งเงินหนึ่งล้านบาทแรกร่วมสมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลนั้นๆ ส่วนอีกหนึ่งล้านบาทร่วมสมทบการจัดงานกีฬาแห่งชาติเชียงรายเกมส์ที่กำลังจะจัดในอนาคตอันใกล้ ปัญหามันเกิดตอนนี้ … คือตามกติกาแล้วทุกคนจะมารอคิวพร้อมกันก่อนเวลาแปดโมง ตามโรงพยาบาลต่างๆทั้ง 18 แห่ง ทั่วจังหวัดเพื่อรอเช่าเหรียญ รูปภาพจากโพสต์ดังกล่าว ซึ่งพวกผมก็ไม่พลาดไปต่อคิวกะเขาด้วย โดยไปถึงโรงพยาบาลเกือบๆ เจ็ดโมงเช้า กะด้วยสายตายังไงคนก็ไม่ถึงสองพันคนแน่นอน ยังไงพวกเราก็ได้แน่ๆ พอใกล้เวลาเปิดบูชา เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินออกมาพร้อมไมค์ต่อลำโพง กล่าวพูดขอบคุณทุกคนที่สนใจแห่กันมาทำบุญมากมาย และบอกถึงวัตถุประสงค์การเปิดบูชาในครั้งนี้เหมือนที่ผมบอกไว้ข้างต้น แต่ทุกคนก็ต้องตะลึง เมื่อเจ้าหน้าที่พูดว่า ‘เนื่องจากทางโรงพยาบาลไม่คาดคิดว่าจะมีคนสนใจมากขนาดนี้…
-
ภาพการ์ตูนฮาๆ เมื่อคนเรามี ‘วิธีหาคู่’ แบบเหล่าสัตว์มันจะออกมาเป็นอย่างไรกัน!?
ปัจจุบันนี้กว่าจะหาแฟนได้สักคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหม? กว่าจะเพิ่มเพื่อน ขอไลน์ อะไรต่างๆ แล้วไหนจะต้องมีการแชตจีบ ทำคุยตลกโปกฮาสารพัด สุดท้ายก็ไม่ได้แม้แต่จับมือ ฮ่าๆ เมื่อเทียบกับเหล่าสรรพสัตว์แล้วมันช่างต่างกันนัก ดูแล้วเหมือนเหล่าสัตว์จะหาคู่กันได้ง่ายดาย เช่น สัตว์บางชนิดเพียงเต้นให้ดูก็สามารถมัดใจเพศตรงข้ามได้แล้ว แต่มันจะเป็นเช่นนั้นจริงเหรอ? ศิลปินนามว่า Ben Hed จึงลองวาดภาพการ์ตูนสมมติดูว่าหากคนเรามี “กระบวนการเลือกคู่” แบบสัตว์ชนิดต่างๆ มันจะออกมาง่ายดายอย่างที่เราคิดไว้หรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย… ถ้มนุษย์มีการเลือกคู่แบบ “นก” นกหลายชนิดมีการดึงดูดเพศตรงข้ามด้วย ‘ท่าเต้น’ สุดครีเอท (ถ้าคนเป็นแบบนี้จริงล่ะก็รับรองว่าเข้าทางสายย่อเลยล่ะ) เต่ายักษ์กาลาปาโกส เต่าเพศเมียจะเลือกคู่เพศตรงข้ามจากความสามารถในการ ‘ยืดคอ’ นั่นเอง (หน้าเป๊ะหุ่นปังขนาดไหนก็ไม่มีค่า ถ้าคอไม่ยาวน่ะนะ) . แมงมุมแม่ม่ายดำ เพศผู้จะเข้าหาแมงมุมเพศเมียที่ตัวใหญ่กว่าเสมอ จากนั้นก็จะเป็นฝ่ายเพศเมียที่ต้องเลือกว่าจะ ‘ยอมรับ’ เพศผู้ตัวนั้นหรือ… เลือกที่จะปฏิเสธและ ‘กิน’ เพศผู้ตัวนั้นเสีย (ขอจีบแบบคนน่ะดีแล้ว) เพนกวิน เพนกวินหลายประเภท ฝ่ายเพศผู้จะมีการจีบเพนกวินเพศเมียด้วยการหา ‘เศษหิน’ มามอบให้ ถ้าหากว่าเพศเมียยอมรับหินก้อนนั้นล่ะก็ ทั้งคู่จะเป็นคู่รักกันทันที…
-
16 ภาพการ์ตูนเล่น “มุกควาย” สไตล์ฝรั่ง แถมได้ฝึกจำคำศัพท์กันด้วยนะเอ้อ!!
นับวันคนไทยเราจะยิ่งมีอารมณ์ขันกันมากขึ้น สังเกตได้จากการเล่นมุกกันบนโลกโซเชียลที่เรียกได้ว่า ปู ชง ตบ กันได้อย่างไม่มีติดขัด ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะนอกจากจะได้เสียงหัวเราะแล้วยังเหมือนเป็นการบริหารสมองไปด้วย สำหรับภาษาอังกฤษเองก็มีการเล่นมุกตลก (มุกควาย) เหมือนกันนะ แต่วันนี้จะเป็นมุกที่เกี่ยวกับคำศัพท์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้อ่านได้ชมมุกควายแล้วยังได้จดจำคำศัพท์เพิ่มขึ้นอีกด้วย เอาล่ะ ไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่ากับ 16 คำศัพท์ที่มาพร้อมมุกควาย ผลงานสุดฮาสุดน่ารักจาก HandsOffMyDinosaur ซึ่งจะช่วยให้จำศัพท์ได้ดีขึ้น! 1. Planet = ดาวเคราะห์ Plan = แผน, วางแผน Screw *แสลง* = พัง, ยุ่งเหยิง 2. Parking = ที่จอดรถ King = ราชา Queen = ราชินี 3. Robot = หุ่นยนต์ Robe = ผ้าคลุมอาบน้ำ Nude = เปลือยกาย 4. Tyrannosaurus =…
-
จิตรกรหนุ่ม “ให้บทเรียน” กับกลุ่มคนที่ชอบมาขอให้วาดรูป ‘แบบฟรีๆ’ ให้ ฮาเลยงานนี้!
จิตรกร เป็นหนึ่งอาชีพที่ออกมาบ่นว่าถูกขอให้ทำงานให้ “แบบฟรีๆ” บ่อยที่สุด เพราะหลายคนคิดว่าคนที่วาดรูปเก่งแล้วจะวาดให้ใครสักกี่รูปก็ได้ ศิลปินและนักวาดภาพจากอังกฤษนามว่า Jon Arton เองก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน ด้วยฝีมือการวาดภาพอันเยี่ยมยอดของเขา ทำให้มีผู้คนติดต่อเขามาหาเขา เพื่อขอให้วาดรูปให้พวกเขา “แบบฟรีๆ” ให้หน่อย แน่นอนว่า การวาดภาพนั้นยิ่งงานละเอียดก็จะเป็นต้องลงทุนลงแรงเป็นอย่างมาก แต่แทนที่ Jon จะปฏิเสธคนเหล่านั้นไป เขากลับตอบตกลงพร้อม ให้บทเรียน กับคนเหล่านั้น ลองชมผลงานฝีมือของ Jon Arton กันก่อน สวยมาก!!! คนแรกที่จะได้เรียนรู้ว่าของดีและฟรีมันไม่มีในโลก ก็คือหญิงสาวคนนี้ที่มาขอให้ Jon วาดรูปให้ Jon ก็เลยจัดให้ วาดรูปให้ฉันแบบฟรีๆ หน่อยสิ Jon จัดไปครับคุณผู้หญิง วาดพวกเราให้หน่อยนะ Jon ขอคนหน้าเด่นๆ ได้เลยครับ! Jon วาดรูปคู่ของพวกเราให้หน่อยสิ เป๊ะไหมล่ะ ฉันอยากให้วาดรูป…
-
10 ดาราหนุ่มญี่ปุ่นที่ได้รับผลโหวตว่า ‘หล่อที่สุด’ ในแดนอาทิตย์อุทัย 2018
วงการบันเทิงจากต่างประเทศที่ได้รับความนิยมในไทยนอกจากฝั่งทางตะวันตกแล้ว ฝั่งทางตะวันออกก็มีหลายประเทศที่ชาวไทยให้ความสนใจ เช่น วงการบันเทิงเกาหลี วงการบันเทิงจีน และวงการบันเทิงญี่ปุ่น ถ้าพูดถึงวงการบันเทิงญี่ปุ่นก็ได้รับความนิยมจากสาวๆ หนุ่มๆ ชาวไทยไปไม่น้อยเลย (อย่าเพิ่งคิดลึก) แต่ในวันนี้เราจะมาพูดถึงดารานักแสดงหนุ่มที่ได้รับผลโหวตมาว่าหล่อสุดๆ ประจำปี 2018 โดย SKY PerfecTV! จะมีใครบ้างนั้นไปดูกันเลย 10. Fukushi Sota 9.Oguri Shun 8. Yamashita Tomohisa 7. Arata Mackenyu 6.Takenouchi Yutaka 5. Satoh Takeru 4.Kimura Takuya 3. Fukuyama Masaharu 2. Takeuchi Ryoma 1. Yamazaki Kento ที่มา…
-
Stone Cold และ The Rock โพสต์คิดถึงยุค 90s แฟนๆ เรียกร้องกลับมาจัดกันซักแมตช์!!
สำหรับเด็กๆ ยุค 90s อย่างเราๆ แล้ว คงต้องเคยผ่านการชมกีฬา ‘มวยปล้ำ’ กันมาบ้างล่ะ!! และในยุคนั้นก็มีสุดยอดนักมวยปล้ำอยู่มากมาย และหนึ่งในคนที่ดังที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น The Rock หรือ Dwayne Johnson นั่นเอง นอกจากนี้ก็มีคู่ปรับตลอดกาลที่ผลัดกันถือเข็มขัดแชมป์ของ WWE อยู่ก็คือ Stone Cold Steve Austin กับท่าไม้ตาย Stone Cold Stunner เตะท้อง ชูนิ้วกลาง แล้วก็จับล็อกคอฟาดลงไปที่หัวไหล่!! ทั้งสองคนนี้ถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการมวยปล้ำมากที่สุดในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ นัดไหนที่มีการปล้ำกันจะมีคนเข้ามาดูเยอะเป็นพิเศษ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ทั้ง Stone Cold และ The Rock เองก็ห่างหายจากวงการมวยปล้ำไปแล้ว ทำให้เหล่าแฟนๆ ต่างก็คิดถึงช่วงเวลาอันแสนสนุกที่ทั้งสองคนสร้างเอาไว้บนสังเวียนของ WWE ล่าสุดทางด้าน Stone Cold ก็ได้ทำการโพสต์สเตตัสทวิตเตอร์เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่เคยผ่านมา ว่า “นี่แหละคือสัญลักษณ์ของยุค 90s’” พร้อมกับภาพของเขากับ The…
-
หนุ่มน้ำหนัก 190 กิโลฯ ถูกภรรยาทิ้งเพราะ ‘ไม่มีแรงขับทางเพศ’ เลยตัดสินใจลดจนหล่อเฟี้ยว!!
เชื่อเลยว่าสำหรับหลายๆ คนแล้ว คงมีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไปเพื่อเป็นแรงจูงใจในการลดน้ำหนัก บ้างก็อยากให้ตัวเองดูดี บ้างก็อยากให้สุขภาพดี แต่สำหรับชายหนุ่มคนนี้แล้ว เขาลดน้ำหนักเพราะว่าตัวเอง ‘ขาดแรงขับทางเพศ’ จนทำให้ถูกภรรยาทิ้ง!? เรื่องราวของนาย Stephen Ringo จากรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสมัยอายุได้ 30 ปี คือจุดพีกที่สุดของน้ำหนักในชีวิตของเขา อยู่ที่ประมาณ 186 กิโลกรัม!! นั่นทำให้นาย Stephen ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาก ทั้งการเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ต้องมีรอบเอวยาวถึง 60 นิ้ว หรือราวๆ 152 เซนติเมตรเลยทีเดียว รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันอื่นๆ โดยเฉพาะ ‘ชีวิตรัก’ ของเขา ในปี 2016 Stephen ต้องหย่ากับภรรยา เพราะน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เขาเล่าว่า “มันก็แฟร์ดีนะที่น้ำหนักของผม เป็นสาเหตุที่ทำให้ชีวิตการแต่งงานของผมจบลง และตอนนี้ผมกลายเป็นคนโสดที่ตัวใหญ่ที่สุด” “ความสัมพันธ์ของผมกับภรรยาถูกทำลายลงไปเพราะการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวของผม มันทำให้ผมมีแรงขับทางเพศน้อยลง และนั่นทำให้เธอต้องจากผมไป” “และมันทำให้ผมคิดว่า ถ้าผมทำหน้าที่เป็นสามีที่ดีกว่านี้ เอาใจใส่ความรู้สึกของเธอ เธอคงจะไม่จากผมไป” …
-
นักท่องเที่ยวช่วย ‘หมาใกล้ตายที่ถูกทิ้งบนเกาะร้าง’ และมอบชีวิตใหม่ให้กับมัน
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สร้างความประทับใจให้ผู้คนมากมาย เมื่อชายคนหนึ่งตัดสินใจช่วยสุนัขที่ถูกทิ้งบนเกาะร้าง และทำให้ชีวิตมันเปลี่ยนไปตลอดกาล เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ David Foster ไปนั่งเรือพักผ่อนที่ Amazon River ระหว่างนั้นเขาได้เห็นภาพที่แทบจะไม่อยากเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง นักท่องเที่ยวมักจะไปยังเกาะเล็กๆ หรือเกาะร้างเป็นประจำ แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป เพราะเมื่อมาถึงเกาะร้างแหงหนึ่ง อยู่ๆ ก็มีหมาดำวิ่งมาหานักท่องเที่ยว Foster จึงรีบเดินเข้าไปหาหมาตัวนั้นและลูบตัวมัน หมาตัวนั้นผอมมาก จนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก และเห็นได้ชัดว่ามีคนมาทิ้งมันไว้ที่นี่เพื่อให้มันตายในที่สุด แม้จะอยู่อย่างยากลำบากแต่เจ้าหมารอดมาได้ ที่สำคัญมันยังเป็นมิตรกับผู้คนอย่างไม่น่าเชื่อ และกระดิกหางไม่หยุดเมื่อ Foster เริ่มลูบตัวให้ Foster รู้สึกดีกับหมาตัวนี้อย่างบอกไม่ถูก เขาจึงตั้งชื่อให้มันว่า Negrita และตั้งใจจะพามันกลับไปกับเขา ซึ่งผู้โดยสารก็เห็นด้วย นั่นทำให้เรือที่เขานั่งมามีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ตัว ขณะที่จอดเรือไว้บนเกาะเพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาที่นั่น Negrita นั่งอยู่บนเรือตลอดทั้งวัน โดยมี Foster และลูกเรือให้อาหารและเล่นกับมัน เจ้าหมาแทบจะไม่หยุดส่ายหางเลย มันดูมีความสุขมากที่ได้อยู่กับคนที่ห่วงใยมัน อย่างไรก็ตาม มีผู้โดยสารบางคนที่ไม่พอใจกับการพาหมาจรจัดขึ้นเรือด้วย คืนนั้นก่อนเรือจะออกเพื่อกลับไปยังที่พัก ผู้โดยสารบางคนได้ไล่ Negrita ลงจากเรือ และปล่อยให้มันอยู่บนเกาะร้างต่อไป Foster กับลูกเรือไม่รู้จะทำยังไง พวกเขาจึงมุ่งหน้ากลับไปยังที่พัก โดยไม่ได้พาเจ้าหมากลับไปด้วย และในคืนเดียวกันนั้น…
-
ชายใจดีเห็น ‘แม่วัว’ ยืนทำท่าทางแปลกๆ เมื่อดูดีๆ เลยรู้ว่ามันต้องการความช่วยเหลือ
วันหนึ่งขณะที่ Dave ขับรถผ่าน Millbrook Ontario เมืองขนาดเล็ก ของประเทศแคนาดา ซึ่งมีประชากรเพียง 8,000 คนเท่านั้น ระหว่างทาง เขาได้เห็นความงดงามของภูมิประเทศภายใต้ท้องฟ้าที่สดใส และเห็นวัวสีน้ำตาลกลุ่มหนึ่งกำลังรวมตัวกันที่บ่อน้ำเพื่อคลายร้อน ในฐานะที่เป็นคนรักสัตว์ Dave จึงตัดสินใจจอดรถและหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายวิดีโอฝูงวัวเหล่านั้น แต่เมื่อเปิดกล้อง เขาก็ได้รับการทักทายที่น่าประหลาดใจ มีวัวตัวหนึ่ง ซึ่งทราบภายหลังว่าชื่อว่า Flo ยืนอยู่ใกล้กับรั้วไฟฟ้า มันใช้เท้าขุดดิน และร้องมอๆ ด้วยความทุกข์ทรมาน ตอนแรก Dave รู้สึกงงกับการกระทำของมัน แต่แล้วเขาก็รู้ว่า Flo กำลังต้องการความช่วยเหลือ เมื่อ Dave เดินเข้าไปดูใกล้ๆ เขาก็เห็นลูกวัวกลางดงหญ้าใกล้กับแนวรั้ว เขาบอกว่า “แม่วัวพาลูกมาเดินใกล้รั้วไฟฟ้า แต่ลูกวัวลื่นล้มจนไปติดอยู่ใต้รั้ว” แมววัวพยายามช่วยลูกวัว แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากติดรั้วไฟฟ้า ทำให้ลูกวัวเริ่มอ่อนแรงเพราะอากาศร้อนและไม่ได้กินนม Dave รู้ว่าต้องทำบางอย่างเพื่อช่วยมัน แต่ขณะเดียวกัน เขาก็กังวลเกี่ยวกับปฏิกิริยาของ Flo เพราะแมววัวอาจไม่เข้าใจว่าเขากำลังจะช่วยของมัน อย่างไรก็ตาม Dave ไม่อยากให้แม่วัวพบกับการสูญเสีย และไม่อยากทำให้มันเสียใจ เขาจึงเดินเข้าไปช้าๆ และใช้กิ่งไม้ยกลวดไฟฟ้า…
-
12 ‘สุนัขบริการ’ ที่ได้รับการยอมรับว่าน่ารัก ฉลาด และทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมที่สุด
คุณสมบัติของสุนัขบริการไม่ใช่แค่เป็นเด็กดีเท่านั้น แต่พวกมันต้องมีความสามารถในการช่วยเหลือคนอื่น มีความอยากรู้อยากเห็น และสร้างรอยยิ้มให้ผู้คนได้เสมอ และนี่คือเหล่าน้องหมาบริการที่มีคุณสมบัติตามที่ได้กล่าวมา พวกมันช่วยเจ้าของในสถานการณ์คับขันต่างๆ เตือนให้เจ้าของรู้โรคร้ายก่อนจะสายเกินแก้ และทำให้พวกเขาสบายใจเมื่อเจอเรื่องร้ายๆ 1. Rangers สุนัขบริการออทิสติก Ranger ได้เข้าฝึกการเป็นสุนัขบริการตั้งแต่อายุ 6 เดือน มันได้ฝึกเป็นเวลา 1 ปี เพื่อเรียนรู้ทักษะทั้งหมดเกี่ยวกับการช่วยเหลือเด็กออทิสติก Ranger ชอบอยู่กับเพื่อนร่วมงานและชอบทำงานการกุศล ตอนนี้มันทำงานกับ BluePath องค์กรไม่แสดงหากำไรที่ช่วยเหลือผู้ที่เป็นโรคออทิสติก และเพราะน่ารักนี้ ทำให้มันมีอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 24,000 คนแล้ว 2. Bandit ผู้ช่วยเตือนเกี่ยวกับโรคเบาหวาน งานที่ Bandit ทำตอนนี้ถือว่าสำคัญมาก มันมีความสามารถบอกระดับของอินซูลินในร่างกายเจ้าของว่าลดลงหรือเพิ่มขึ้นด้วยการดมกลิ่น นั่นทำให้มันแจ้งเตือนเจ้าของเกี่ยวกับโรคเบาหวานได้ 3. Chester ช่วยเด็กออทิสติก Chester ไม่ใช่สุนัขทั่วไป แต่เป็นหมาที่ช่วยเหลือเด็กออทิสติก เพราะแบบนี้ เด็กชาย Max จึงอยู่กับมันเกือบทุกวินาที เพราะมันช่วยเขาจัดการกับอารมณ์ต่างๆ ได้ 4. Marni หมาฝึกหัดเพื่อเป็นสุนัขบริการ หลายคนคงจะเคยเจอ Marni ในดิสนีย์แลนด์ มันไปที่นั่นเพราะเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกเข้าสังคม และฝึกปฏิบัติกับผู้คนอย่างถูกต้อง…
-
สุนัขถูกส่งไปฆ่าเพราะเป็นมะเร็ง แต่หมอได้ช่วยไว้ และทำให้มันมีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม
นี่คือเจ้าหมาน้อย Roxy มันเคยผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต เพราะมันเคยถูกส่งไปยัง Sidewalk Specials เพื่อการุณยฆาต เนื่องจากเป็นมะเร็ง เมื่อผู้ช่วยเหลืออุ้มมันขึ้นมา พวกเขาพบว่ามันมีเลือดออกและสภาพก็ดูแย่มาก แต่พวกเขารู้ว่าไม่สามารถทำให้มันหลับไปตลอดกาลได้ เพราะ Roxy ยังสามารถมีชีวิตอย่างมีความสุขได้ โดยเฉพาะตอนที่พวกเขาเห็นมันกระดิกหาง โชคดีที่เนื้องอกของมันสามารถรักษาได้ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจที่จะเริ่มรักษามันด้วยการทำเคมีบำบัด ขณะที่ Roxy ดูหดหู่มาก เพราะครอบครัวที่มันรักเอามันมาทิ้งไว้ที่นี่ มันดูสับสนและรู้สึกโดดเดี่ยว แต่มีสิ่งหนึ่งที่มันรู้คือ สิ่งที่มันจะได้รับต่อจากนี้เป็นสิ่งที่ดีกว่ามาก และในระหว่างที่รักษานี้ มันได้ไปอยู่กับผู้อุปถัมภ์ ส่งผลให้สภาพจิตใจของมันดีขึ้นทุกวัน สามเดือนต่อมา การทำเคมีบำบัดของ Roxy ก็เสร็จสิ้นลง และไม่มีมะเร็งในตัวมันแล้ว แต่นั่นยังไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับมัน เพราะนอกจากมะเร็งหายแล้ว มันยังถูกรับเลี้ยงโดยครอบครัวที่รักมันมากด้วย ตอนนี้มันจึงกลายเป็นน้องหมาที่มีความสุขมากที่สุด มันได้วิ่งเล่นอย่างสนุกสนานกับพี่น้องหมาตัวใหม่ แถมยังได้ทำทุกอย่างที่อยากทำ และได้รับความรักในแบบที่สุนัขอย่างมันสมควรได้รับ การที่ Roxy มีความสุขได้ในวันนี้ ต้องขอบคุณทาง Sidewalk Specials ที่ตัดสินใจไว้ชีวิตมัน และช่วยมันต่อสู้กับโรคร้าย และทำให้มันได้รับชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม ที่มา animalsheltersnearme
-
สาวเจอบ้านสัตว์ในสวนสาธารณะ ก่อนจะพบลูกหมาถูกทิ้งที่กำลังรอความช่วยเหลือ
มันยากที่จะเชื่อ แต่นี่เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นใน Echo Lake Park เมืองฟอร์ตเวิร์ธ รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นที่ที่ทุกคนสามารถนำสัตว์เลี้ยงมาทิ้งกลางสวนสาธารณะได้ Judy Obregon ผู้ก่อตั้งองค์กรช่วยเหลือสัตว์ The Abandoned Ones (TAO) มักจะเห็นสัตว์ถูกทิ้งในสวนสาธารณะแห่งนี้บ่อยครั้ง จนตอนนี้เธอมาที่นี่ทุกวัน เพื่อหาสัตว์เลี้ยงที่ถูกทิ้ง วันหนึ่ง ขณะที่เธอมาสวนสาธารณะเหมือนเช่นเคย เธอสะดุดตากับบ้านสัตว์เลี้ยงสีฟ้าที่วางอยู่กลางสวนสาธารณะ ซึ่งดูเหมือนกับว่าไม่มีอะไรอยู่ข้างใน อย่างไรก็ตาม เธอตัดสินใจเข้าไปเช็กให้แน่ใจว่าไม่มีสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่ในนั้นจริงๆ แต่เมื่อเปิดออกมา สิ่งที่เห็น ทำให้เธอไม่สามารถเดินผ่านไปได้ ในบ้านสัตว์เลี้ยงนั้น มีผ้าห่มหลายฝืน Obregon จึงค่อยๆ ดึงผ้าห่มออกมาช้าๆ แล้วเธอก็เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในได้ชัดเจน มันคือลูกหมาตัวน้อยที่กำลังจ้องมองมาที่เธอ ผ้าห่มที่อยู่ในนั้นทั้งเปียกและเย็น ไม่มีน้ำหรืออาหารวางอยู่ข้างมันเลย Obregon จึงรีบพาลูกหมาออกมาอย่างรวดเร็วและพามันไปหาสัตวแพทย์ทันที เมื่อตรวจเสร็จพบว่าน้องหมามีอายุ 10 เดือน และป่วยเป็นโรคขี้เรื้อนแห้ง จากนั้น Obregon ได้ตั้งชื่อให้มันว่า Najila ซึ่งเป็นภาษาอาหรับ แปลว่า ‘ดวงตาที่ส่องประกาย’ มันเป็นชื่อที่เธอคิดว่าเหมาะกับมันมาก เพราะดวงตาที่ส่องประกายเป็นสิ่งแรกที่เธอเห็นเมื่อพบมัน Najila ไปพักฟื้นอยู่ในบ้านของ Obregon…
-
มิ้วน้อยพิการ แม้แต่ยืนก็ทำไม่ได้ พ่อบุญธรรมจึงช่วยเหลือ จนมันสามารถวิ่งได้
บางครั้ง เรื่องราวของสัตว์ให้บทเรียนกับเราหลายๆ คน โดยเฉพาะสัตว์ที่สู้ชีวิตและไม่ยอมให้ปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ มาขัดขวางการมีชีวิตอยู่ของพวกมัน ลูกแมว Jasper ก็เช่นกัน ตอนที่มันถูกพาเข้ามาในบ้านอุปถัมภ์ มันแทบจะยืนไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้น มันไม่เคยยอมให้สิ่งเหล่านี้มาหยุดมัน และเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ Jasper อายุได้ 6 สัปดาห์ ตอนที่ถูกพาไปยัง Saving Grace Rescue ในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อโอกาสในการมีชีวิตที่ดีขึ้น มันเกิดในฟาร์มและถูกพบโดยพลเมืองดี มิ้วน้อยเกิดมาพร้อมบกพร่องที่เรียกว่า Cerebellar Hypoplasia (CH) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสมองที่ควบคุมการทำงานของร่างกาย โชคดีที่มันมีอาการปวดหรือป่วยใดๆ ตอนที่ Jasper มาถึงศูนย์ช่วยเหลือ สิ่งที่มันต้องการคือการเล่น และการกอด Amber Rose ผู้ก่อตั้ง Saving Grace Rescue บอกว่า “มันมีความสุข บ้าพลัง และชอบเข้าสังคม จนทุกคนถึงกับมุ่งความสนใจไปที่มัน” ต่อมา Josh Norem จาก The Furrtographer ตัดสินใจรับมิ้วน้อยบ้าพลังตัวนี้มาอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ของเขา เขาบอกว่า “ตอนแรก มิ้วน้อยทำไม่ได้แม้แต่การยืน ผมต้องอุ้มมันไปที่กระบะทราย แล้วมันก็จะนอนทำธุระ…
-
ขุ่นแม่ ‘เลดี้ กาก้า’ รับมือกับสื่อแบบโคตรโปร หันหามุมให้กล้องได้เพียงเสี้ยววินาที…
ดาวเด่นตัวแม่ในวงการฮอลลีวูด ทั้งด้านผลงานเพลงและงานแสดง คงจะต้องยกให้กับขุ่นแม่เลดี้ กาก้า จริงๆ เพราะในระหว่างที่นางกำลังเดินสายโปรโมทภาพยนตร์ A Star Is Born ที่กำลังจะเข้าฉายในช่วงตุลาคมนี้ เธอก็งัดสกิลการรับหน้าสื่อให้เห็นแบบมืออาชีพมาก!! https://www.instagram.com/p/BoKnqMXnU9f/ โดยในช่วงคืนพรีเมียร์รอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ ขุ่นแม่เลดี้ กาก้า ได้เดินทางไปร่วมงานพร้อมกับชุดเดรสสยายอลังการ แน่นอนว่าระหว่างงานต้องให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายสาย… ให้สัมภาษณ์เสร็จ แจกกอดแจกหอมไปด้วย และมันเด็ดตรงที่นาง หันหน้าเข้ามุมโพสต์ให้กล้องทันที ใช้เวลารวมแค่ 3 วินาที ใช่ 3 วินาทีเท่านั้น!! lady gaga found her angle in 3 seconds. ugh LEGEND. https://t.co/VkNjd6Pl8Z — jack (@fkajack) September 25, 2018 หนึ่ง สอง… ปังงงงงง!! รับหน้าสื่อได้แบบเฉียบขาดจริงค่ะ!…
-
นักศึกษาสาว ทำคลิปนำน้ำผสมผงฟอกขาว เทราด “เป้า” ผู้ชาย เพราะไม่พอใจนั่งขาอ้าซ่า
“มารยาททางสังคม” เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรจะศึกษาและปฏิบัติตาม ไม่ควรที่จะละเลยมันเพราะอาจจะมีคนเดือดร้อนจากการกระทำที่ไม่เข้าท่านั้นได้ โดยเฉพาะการนั่งอ้าขาของเหล่าสุภาพบุรุษบนระบบขนส่งสาธารณะ ที่นอกจากจะไม่สุภาพแล้ว ยังรบกวนผู้อื่นอีกต่างหาก ด้วยเหตุนี้ Anna Dovgalyuk นักศึกษากฎหมายสาวแห่งเมือง St Petersburg ประเทศรัสเซีย จึงได้ทำการแก้เผ็ด ด้วยการเผยคลิปวิดีโอที่เธอนำน้ำผสมกับผงฟอกขาวขึ้นไปราดใส่เป้าของผู้ชายที่นั่งอ้าขาอยู่ในรถไฟใต้ดิน ในวิดีโอเธอยังมีการเตือนกลุ่มเป้าหมายของเธออีกว่า “ผงฟอกขาวที่ฉันผสมลงในน้ำนี้ มีความรุนแรงมากกว่าที่ใช้ซักรีดตามบ้านทั่วไปถึง 30 เท่า มันจะกัดสีจนหายในเวลาไม่กี่นาที รวมถึงจะทิ้งคราบที่ลบไม่ออกไว้ด้วย” Anna ยังพูดถึงเป้าหมายของเธอต่อว่า “ในนามของตัวแทนบุคคนที่ต้องคอยอดทนแก่พฤติกรรมการนั่งอ้าขาอ้าซ่าของผู้ชายในบริการขนส่งสาธารณะ เราไม่เพียงแต่จัดการพวกที่นั่งอ้าซ่าได้ แต่เรายังสร้างร่องรอยให้รู้ด้วยว่าพวกเขาเคยทำแบบนี้! ทุกคนจะรู้ได้ในทันทีถึงพฤติกรรมการควบคุมอวัยวะในร่างกายของผู้ชายเหล่านี้“ Anna เธอเรียกตัวเองว่า “นักกิจกรรมสังคม” ก่อนหน้านี้เธอก็ได้ “เปิดกระโปรง” ตัวเองและถ่ายรูปให้เห็น “กางเกงใน” ในที่สาธารณะเพื่อให้คนตระหนักถึงการแอบถ่ายใต้กระโปรงและเพื่อเรียกร้องกฎหมายการแอบถ่ายใต้กระโปรงในรัสเซียอีกด้วย เมื่อเธอเผยวิดีโอการกระทำให้ครั้งนี้ลงในโลกออนไลน์ ก็ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น “เธอเรียกร้องให้ผู้ชายมีมารยาททางสังคม แต่ตัวเธอกลับไม่ปฏิบัติตามระเบียบของสังคมเลย” หรือจะเป็น “มันเป็นถือว่าเป็นการลวนลามชัดๆ” รวมถึงนักข่าวชาวรัสเซียก็กล่าวว่าวิดีโอของเธอนั้นเป็นของเตี๊ยมกันมาอย่างแน่นอน เธอต้องมีการใช้นักแสดงแน่ๆ แต่ Anna ก็ออกมาตอบโต้ว่า “การกระทำของฉันคือของจริง…
-
จีนสร้างตึกใหม่สไตล์ล้ำ แต่ชาวเน็ตบอกเหมือน “ไอ้จ้อน” อันโตตั้งอยู่กลางเมือง…
การออกแบบโครงสร้างและรูปลักษณ์ของอาคารของสถาปนิกนั้นก็จะมีแรงบันดาลใจมาจากสิ่งต่างๆ แตกต่างกันไป นั่นทำให้ตึกรามบ้านช่องแต่ละแห่งจึงมีความสวยงามอันเป็นเอกลัษณ์ที่ต่างกันไปนั่นเอง แต่ตึกสูงแห่งใหม่ในมณฑลกวางสี ประเทศจีน ที่เปิดตัวออกมาล่าสุดนั้นถึงแม้ว่าจะมีดีไซน์ล้ำสมัยสวยงามแต่กลับถูกชาวเน็ตวิจารณ์แง่ลบกันอย่างแพร่หลายเพราะรูปร่างของมันดันไปคล้ายกับ “อวัยวะเพศชาย” เสียนี่ ตึกชื่อว่า Guangxi New Media Center นี้ก่อสร้างเสร็จในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาหลังจากใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 2 ปี แต่เมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยกลับกลายเป็นว่า ตึกแห่งนี้เป็นที่ค้านสายตาของชาวเน็ต เนื่องด้วยรูปลักษณ์อันคล้ายคลึงกับอวัยวะเพศชายอันมหึมาที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินมณฑลกวางสี โดยเฉพาะเมื่อคืนวันที่ 24 กันยายน 2018 ที่มีการจุดพลุยิงออกมาจากยอดตึก Guangxi New Media Center มันยิ่งทำให้ดูคล้ายกับอวัยวะดังกล่าวจนไม่สามารถคิดเป็นอย่างอื่นได้ ชมคลิปการจุดพลุของตึกแห่งนี้… ขณะที่ชาวเน็ตกำลังวิจารณ์ถึงรูปลักษณ์ของตึกแห่งนี้กันอย่างสนุกปาก ทางสื่อชุมชนก็ได้ออกมาเผยว่าแรงบันดาลใจของดีไซน์สำหรับตึกแห่งนี้ก็คือ “นาขั้นบันได” ที่สามารถพบเห็นจนเป็นเอกลักษณ์ของมณฑลกวางสีนั่นเอง เปลือกของตัวตึกจึงทำออกมาเป็นขั้นๆ ตั้งแต่ฐานและไล่ระดับขึ้นไปจนถึงส่วนที่เป็นยอดของอาคาร แต่ถึงกระนั้น หลายคนก็ยังคงลบภาพที่ว่า ตึกแห่งนี้มีรูปลักษณ์คล้ายองคชาตไม่ได้อยู่ดี ตึก Guangxi New Media Center และนาขั้นบันได น่าสงสารสถาปนิกผู้ออกแบบจริงๆ ที่ตั้งใจดีไซน์ออกมาแล้วดันทำให้ผู้คนมองเห็นเป็นรูปอย่างอื่นเสียได้… ที่มา: nextshark, twitter และ shanghaiist
-
Kiki Challenge มันเอ้าท์แล้ว จัดไปเทรนด์ใหม่ FallingStars Challenge ล้มกันทั้งไทม์ไลน์
ในโลกออนไลน์มักจะมีเทรนด์ต่างๆ มาให้ชาวเน็ตได้ทำตามกันอยู่เสมอ เรียกได้ว่ามีมาทุกยุคทุกสมัยเลยทีเดียว โดยเฉพาะการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอในชาเลนจ์ต่างๆ ที่นิยมทำตามมา เช่น แพลงก์ พับเพียบไทยแลนด์ ไอซ์บัคเก็ต เป็นต้น เทรนด์ล่าสุดที่เราเพิ่งจะผ่านพ้นไป นั่นก็คือ Kiki Challenge แดนซ์กันกระจายทั่วบ้านทั่วเมืองเลยทีเดียว แน่นอนว่าโลกออนไลน์มันไม่หยุดหมุนเพียงเท่านั้น เทรนด์ใหม่ที่น่าลองทำตาม (มั้ง) มาอีกแล้วกับการถ่ายภาพในหัวข้อ FallingStars Challenge การถ่ายภาพก็ไม่มีไรมาก เพียงแค่ทำตัวของคุณให้เหมือนกับของเหลว ไหลออกมาจากรถ หรือสถานที่ต่างๆ ตามสะดวก ประหนึ่งว่าหกล้มแล้วข้าวของกระจัดกระจาย เหมือนดังตัวอย่างรูปภาพต่อไปนี้ ชุดสวยนะแม่คุณ นี่คือสภาพของเราตอนเลิกงาน ขอเสนอคำว่า “อด แดรก” เงยหน้าขึ้นมาอีกที เงินอาจจะหายไปแล้ว รถสวยๆ ทั้งนั้นเลย มีของอะไรในกระเป๋า เทออกมาให้หมด เก็บเงินให้หมดแล้ววิ่ง ดีนะที่น้ำอัดลมไม่หก เสียดายแย่เลย เจ้าหนูคนนี้ก็ขอร่วมชาเลนจ์ด้วย ไหลกันเป็นหมู่คณะ…
-
หนุ่มไอร์แลนด์ใช้บัตรเดบิตของ ‘คนตาย’ ซื้อพิซซ่าและใช้จ่ายเป็นเงินหลายแสนบาท…
เรื่องราวเกิดขึ้นจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า Marie Conlon เสียชีวิตคาที่พักเมื่อราวเดือนตุลาคมปี 2017 ไม่มีใครทราบเรื่องนี้เพราะ Marie ไม่มีครอบครัวเลย เพื่อนบ้านเองก็เจอเธอครั้งสุดท้ายเมื่อราวปี 2015 การตายของ Marie Conlon ไม่มีใครทราบเรื่องเลยนอกจาก Robert Sharkey เพื่อนบ้านที่เข้าไปพบว่า Marie ได้เสียชีวิต แต่แทนที่เขาจะแจ้งตำรจ เขากลับทำสิ่งที่เห็นแก่ตัวอย่างมาก Robert ในวัย 24 ปี ได้บุกเข้าไปยังบ้านของ Marie ผู้เสียชีวิต จากนั้นก็เข้าไปขโมยบัตร Debit เพื่อนำมาใช้จ่ายอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และอื่นๆ ให้กับตนเอง เขาใช้เงินในธนาคารของ Marie ไปกับการซื้อพิซซ่าจากร้าน Domino เป็นจำนวนเงินราว 254,000 บาท และใช้จ่ายสำหรับค่าอาหารในร้าน Sainsbury ไปราว 139,000 บาท นอกจากนี้ยังมี การซื้อโทรศัพท์มืออีก 43,600 บาท รวมถึงค่าน้ำค่าไฟรวมแล้วเป็นจำนวนเงินราว 12,000 บาท Robert จึงถูกกล่าวหาว่าขโมยบัตร Debit…
-
Nintendo เติมเต็มความปรารถนาของหนุ่มเกมเมอร์ ก่อนที่จะจากโลกนี้ไปพร้อมกับความสุข
“วิดีโอเกม” ถือว่าเป็นสื่อบันเทิงที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อที่จะมอบความบันเทิง ความสนุกสนานและจินตนาการให้แก่เรา ซึ่งก็มีหลายๆ คนที่มีช่วงเวลาและความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับการเล่นเกม เช่นเดียวกันกับ Chris Taylor หนุ่มวัย 21 ปีคนที่เราจะนำเรื่องราวของเขามาให้ได้ชมกันในวันนี้ครับ เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เติมโตมาพร้อมกับวิดีโอเกม มาความทรงจำร่วมกับมันอย่างมากมายและหวังจะเล่นมันไปอย่างเรื่อยๆ จนกว่าชีวิตจะหาไม่ แต่… ข่าวร้ายก็ได้มาถึง เขาป่วยเป็นโรคมะเร็งและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 3 ถึง 6 เดือน Im really scared i won't be able to play ultimate — Chris Taylor (@SpookyWoobler) September 13, 2018 ในวันที่ 14 กันยายน 2018 Chris ได้โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ของเขาที่แสดงถึงความท้อใจและกลัวว่าวันที่ตัวเองจะได้เล่นเกมที่อยากเล่นมากที่สุดจะมาไม่ถึงว่า “ผมกลัวว่าผมจะไม่มีโอกาสได้เล่นเกม (Super Smash Bros.) Ultimate จริงๆ” โดย Super Smash Bros.…
-
‘Gucci’ เปิดมิติใหม่วางขาย ‘ชุดว่ายน้ำที่ไม่ควรใส่ลงน้ำ’ ด้วยราคาชิลๆ แค่หมื่นกว่าเท่านั้น!!
สิ่งแรกๆ ที่เราคิดเอาไว้ในหัวเวลาที่เดินเลือกซื้อ ‘ชุดว่ายน้ำ’ ก็คือการเอาไว้ใส่เล่นน้ำแบบสวยๆ ใช่ไหมล่ะ?? แต่ว่าความคิดนี้อาจจะใช้ไม่ได้กับชุดว่ายน้ำภายใต้แบรนด์ Gucci ชุดนี้ ที่จะทำให้คุณต้องอึ้ง!! เรียกได้ว่าเป็นการฉีกกฎชุดว่ายน้ำแบบเดิมซะจริงๆ สำหรับชุดว่ายน้ำชุดใหม่ของทาง Gucci ที่มาพร้อมกับความงามระดับ Hi – End ซึ่งทางบริษัทเคลมมาว่าเป็น ‘ชุดว่ายน้ำที่ไม่ควรใส่ลงน้ำ’ ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าเนื้อผ้าของชุดว่ายน้ำชุดนี้ ถูกทำขึ้นมาจากผ้าไนลอน 80% และเส้นด้ายอีลาสเทนอีก 20% เพื่อให้ความกระชับเมื่อสวมใส่ โดยทั้งนี้วัสดุทั้งสองไม่สามารถรองรับคุณสมบัติของ ‘คลอรีน’ ที่อยู่ในน้ำได้นั่นเอง “เพราะด้วยคุณสมบัติทางธรรมชาติของเนื้อผ้าทั้งสอง ชุดว่ายน้ำชุดนี้จึงไม่ควรนำไปสัมผัสกับคลอรีน” Gucci เขียนไว้บนเว็บไซต์ คุณสมบัติที่เขียนไว้ (ปล. ราคาในภาพแพงกว่าบนเว็บ Gucci ที่จริงๆ แล้วแค่ 380 ดอลลาร์เท่านั้น) แน่นอนว่ามีหลายสำนักในวงการแฟชั่นออกมาคอมเมนต์กันอย่างจ้าละหวั่น อย่างเช่น Whimn แมกกาซีนออนไลน์สัญชาติออสเตรเลีย บอกว่านี่มันไม่ใช่ชุดว่ายน้ำแต่เป็นเสื้อผ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดว่ายน้ำต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้น ใครจะไปคิดว่าชุดว่ายน้ำชุดนี้กลับขายดีอย่างเทน้ำเทท่า จนหมดสต๊อกของทางเว็บไปแล้ว… สำหรับเรื่องราคาของเจ้าชุดว่ายน้ำชุดนี้ ก็เบาๆ ตกอยู่ที่…
-
รวม 17 ภาพสุดฮาที่จะมาทำให้คุณรู้ว่า สิ่งมีชีวิตบนโลกสามารถ ‘หลับ’ ได้ทุกที่จริงๆ
เวลาที่เราเจอเตียงนุ่มๆ หมอนสบายๆ เป็นใครก็ยังไม่อยากลุกจากที่นอนกันเลยใช่ไหมล่ะ แต่ว่าบางครั้งก็ไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป เพราะบางทีเตียงอาจจะไม่ใช่คำตอบของความสบายในการ ‘หลับ’ เสมอไป แต่ถ้าคุณยังไม่เชื่อล่ะก็ ลองมาดูภาพของพวกเขาเหล่านี้แล้วจะรู้ในทันทีว่า ไม่ต้องมีเตียง ไม่ต้องมีหมอน สิ่งมีชีวิตอย่างเราๆ ก็สามารถนอนแอ้งแม้งได้ทุกที่แม้ว่าบางทีอาจจะเป็นเรื่องสุดฮาของผู้พบเห็นไปบ้างก็เหอะ นี่คือภาพของเด็กน้อยคนหนึ่งที่หลับอยู่บนเครื่องบิน แอบทำหลอนเหมือนกันนะหล่อน!! นอนคอยาวซะเป็นยีราฟเลยนะเอ็ง น่าจับเอาไปเป็นพรีเซนเตอร์ที่นอนจริงๆ “เขาแค่ล้มอยู่ตรงนั้น เลยนอนซะเลย” แม้แต่ในงานอีเว้นต์ต่างๆ ก็ยังไม่พ้นมีพวกเขาเช่นกัน อ่า กำลังสบายแถมได้ปล่อยพุงด้วย จะมาหลับอย่างนี้ไม่ได้นะลู๊ก ไปนอนดีๆ สิ สงสัยกำลังฝันหวานว่าปีนต้นไม้จับนกอยู่ เมื่อเพื่อนของคุณมีท่านอนหลับแบบฮาๆ เลยแกล้งเอามาใส่โฟโต้ช็อปซะ เกมคงจืดชืดมากเลยสินะ เธอถึงได้ทำกันแบบนี้ หลับลึกของจริง ขอแค่ที่ซบบางๆ เพียงเท่านั้นก็พอแล้ว เมื่อเบื่อเกินไปที่จะทำงาน เลยมาแอบงีบซะหน่อย เมื่อบอกหลานที่กำลังหลับอยู่ในรถให้ออกมา เขาเลยออกมาจริงๆ แล้วนอนตรงนี้ซะ หลับแต่ยังยิ้มได้…
-
น้ำเย็นเข้าลูบ… หนุ่มทะเลาะกับเมีย ใช้ ‘การจูบ’ แก้ปัญหา สุดท้ายโดนกัดลิ้นขาดพูดไม่ได้!!
หลายคนที่มีแฟนคงจะเข้าใจกันดีว่า บางครั้งการใช้ชีวิตร่วมกันก็เป็นเสมือนกับ ‘ลิ้นกับฟัน’ ที่ต้องมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ใดๆ ก็ตาม แต่ถ้าคุณคิดว่าระหว่างที่มีการทะเลาะกันเกิดขึ้น ‘การจูบ’ จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยผ่อนคลายอารมณ์ บางทีกรณีของคู่รักคู่นี้อาจทำให้ความคิดของคุณเปลี่ยนไปเลยก็เป็นได้… เมื่อไม่นานมานี้ชายวัย 22 ปีคนหนึ่งจากรัฐเดลี ประเทศอินเดีย ต้องรีบบึ่งไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาบาดแผลที่ลิ้น หลังถูกภรรยากัดจนขาด!! ในเวลาต่อมาภรรยาคนที่บรรจงใช้ฟันเป็นเครื่องตัดอันโหดเหี้ยมก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม เธอสารภาพว่าที่ทำอย่างนี้ก็เพราะว่าไม่ค่อยมีความสุขกับการใช้ชีวิตคู่ของเธอนัก รวมถึงเรื่องรูปลักษณ์ของสามีเธอที่มันช่างไม่น่าดึงดูดเอาซะเลย เธอเลยทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว วิดีโอของเหตุการณ์นี้ “พวกเขาทะเลาะกันเป็นปีๆ แล้ว เธอเคยเรียกเขาว่า ‘เจ้าหมา’ และบางครั้งก็ทุบตีเขารวมถึงใช้รองเท้าเป็นอาวุธด้วย” แม่ของหนุ่มคนนี้กล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสอบสวนแล้วก็พบว่า เหตุรุนแรงในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 22 กันยายนที่บ้านของทั้งคู่ โดยในช่วงเย็นวันดังกล่าวนาย Karan ได้เข้าบ้านตามปกติ ซึ่งก็อีกตามเคยทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่ด้วยความที่อยากจะทำให้อารมณ์ของภรรยาเย็นลง นาย Karan จึงได้เลือกวิธีการจูบเข้าใช้ ซึ่งในช่วงแรกๆ ภรรยาของเขาก็เหมือนจะมีอารมณ์ดีขึ้นและจูบกลับ ทว่าไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นเธอกลับกัดเข้าไปที่ลิ้นของชายคนนี้เต็มๆ จนทำให้ลิ้นขาดออกมากองอยู่ตรงนั้น… เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นที่แน่ชัดว่าใครเป็นคนแจ้งตำรวจกันแน่ แต่ที่รู้ๆ ในตอนนี้นาย Karan ยังไม่สามารถพูดได้…
-
เสือล้มลงและชักกระตุกจนหมดสติ หลังถูกคณะละครสัตว์บังคับให้กระโดดลอดห่วงไฟ
“คณะละครสัตว์” คือกลุ่มคนที่ทำออกตระเวนโชว์การแสดงไม่ว่าจะเป็นกายกรรม ละครตลก ดนตรีหรือโชว์การฝึกสัตว์อีกด้วย โดยสัตว์ที่พวกเขานำมาฝึกก็มีมากมายหลายชนิดตั้งแต่สัตว์ที่เป็นมิตรกับมนุษย์เช่นช้างหรือลิง ไปจนสัตว์ที่ดุร้ายอย่างเสือหรือสิงโต ซึ่งก็มีหลายครั้งที่เกิดการแสดงผิดพลาดขึ้นมา รวมถึงครั้งที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันในวันนี้ด้วย เมื่อเจ้าเสือประจำคณะละครแห่งหนึ่งล้มลงและชักกระตุกอย่างไม่หยุด หลังถูกบังคับให้กระโดดลอดห่วงไฟ เจ้าเสือตัวนั้นอายุได้ 6 ปี มีชื่อว่า Zena ซึ่งกำลังทำการแสดงคู่กับนักแสดงหลักพี่ชายและน้องสาว Artur และ Karina Bagdasarov อยู่ในคณะละครสัตว์แห่งเมือง Magnitogorsk ประเทศรัสเซีย การแสดงเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหมือนปกติ จนถึงฉากที่ต้องโชว์กระโดดลอดห่วงไฟ เจ้า Zena กลับมีท่าทีกลัวการกระโดดเป็นอย่างมากและดูเหมือนว่ามันจะปฏิเสธที่จะกระโดดลอดห่วง เมื่อเห็นท่าไม่ดี Artur จึงได้เข้าไปตีด้วยไม้เพื่อกระตุ้นให้เจ้าเสือแสดงโชว์ต่อไป แต่นั่นกลับยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงและยิ่งทำให้ Zena กลัวจนล้มตัวลงและชักกระตุกไม่หยุดกระทั่งหมดสติไป เมื่อเกิดเรื่องดังกล่าว Artur จึงได้ลาก Zena ลงมาจากเวทีการแสดงให้มาอยู่ในพื้นที่โล่ง ซึ่งภายหลังเข้าก็สามารถเรียกสติของ Zena กลับมาได้โดยการราดน้ำใส่ จากเหตุการณ์นี้เองกลุ่มคณะละครสัตว์ถูกโจมตีเรื่องทารุณกรรมสัตว์อย่างมากมาย แต่พวกเขาก็ยังบอกว่าแท่งไม้เป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะว่าพวกเขากลัวที่เสือตัวอื่นจะมาทำร้าย Zena จึงต้องใช้มันเพื่อป้องกันให้แก่มัน Karina ให้สัมภาษณ์ว่า “Artur ทำดีที่สุดในการนำสติของ Zena กลับมา…
-
หมาได้แม่ที่ช่วยชีวิตมันไว้ สอนให้เล่นไอซ์สเก็ต เพิ่มความเท่และน่ารักยิ่งขึ้น
ความแสนรู้ของสุนัขดูจะไม่มีที่สิ้นสุด พวกมันมักทำในสิ่งที่เหนือความคาดหมายเราเสมอ และครั้งนี้เองก็เช่นกัน คงไม่มีใครคาดคิดหรอกว่าหมาจะเล่นไอซ์สเก็ตได้ เจ้าหมา Benny พันธุ์ลาบราดอร์อายุ 5 ขวบตัวนี้ไม่ธรรมดาเลย มันสามารถวิ่งไปบนลานไอซ์สเก็ตได้ด้วยรองเท้าแฮนด์เมด 2 ข้าง แถมยังชอบตามเก็บลูกฮอกกี้มากกว่าบอลซะอีก ถึงท่าสเก็ตของมันจะไม่ได้ดูสง่างามสักเท่าไหร่ แต่ความน่ารักสดใสของมันก็ดึงดูดสายตาของคนที่มาเล่นไอซ์สเก็ตทุกครั้ง ใครได้มองมันก็เป็นต้องยิ้มออกมาทุกที Benny ได้พบกับ Cheryl Del Sangro ซึ่งเป็นเจ้าของคนปัจจุบันตอนมันเป็นลูกหมา เธอช่วยรับเลี้ยงมันเอาไว้ก่อนจะถึงกำหนดการุณฆาต ทำให้มันได้ใช้ชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ เธอกับเจ้าหมาเข้ากันได้ดีตั้งแต่แรกเจอ มันกลายเป็นครอบครัวคนสำคัญของเธอ ทำให้มันได้ไปไหนมาไหนกับเธออยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นทำให้มันได้มาเล่นไอซ์สเก็ตกับเธอนั่นเอง Cheryl เคยเป็นนักไอซ์สเก็ตกึ่งมืออาชีพมาก่อน จากนั้นเธอก็ทำงานเป็นโค้ชไอซ์สเก็ตมานานกว่า 20 ปี พอเธอมาลานไอซ์สเก็ตเจ้าหมาก็เลยได้ติดมาด้วยบ่อยๆ ครั้งแรกที่มันได้เดินเข้ามาบนพื้นน้ำแข็ง เจ้าหมาก็เกลือกกลิ้งตัวลงไปด้วยความร่าเริง มันชอบที่นี่มากๆ สาเหตุอาจจะเป็นเพราะแถบที่เธออาศัยอยู่ค่อนข้างร้อน อากาศในนี้เลยอาจทำให้มันรู้สึกสบายตัวก็ได้ เมื่อเห็นว่ามันชอบที่นี่ เธอก็เลยอยากลองฝึกให้มันเล่นไอซ์สเก็ตกับเธอดู เพราะเธอคิดว่าเด็กอายุแค่ขวบกว่าๆ เธอก็สอนจนเป็นมาแล้ว สอนเจ้าหมาให้ไอซ์สเก็ตเป็นก็คงไม่ยากเกินความสามารถเหมือนกัน เธอทำรองเท้าให้มันโดยใช้รองเท้าสุนัขที่มีอยู่ เอามาดัดแปลงติดใบมีดเข้าไป จนกลายเป็นรองเท้าไอซ์สเก็ตเฉพาะตัวที่เจ้า Benny ใช้อยู่ทุกวันนี้ …
-
หมาตาบอดมองไม่เห็นทาง ไปได้ทุกทีเพราะมีเพื่อนหมาบริการคอยนำทางให้
เรารู้อยู่แล้วว่ามีหมาบริการคอยช่วยนำทางคนตาบอดอยู่ แต่หมานำทางี่ช่วยนำทางหมาตาบอดอีกทีหนึ่ง เพิ่งจะเคยได้ยินก็วันนี้นี่แหละ เจ้า Ginger หมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ช่วยทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้กับเพื่อนหมา Kimchi ตัวเล็กซึ่งตาบอดสนิท ตั้งแต่มันเริ่มนำทางให้จนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลา 3 ปีแล้ว พวกมันตัวติดกันตลอดเวลาจริงๆ หมาทั้ง 2 ตัวอาศัยอยู่กับ Eric และ Thea คู่รักซึ่งเป็นเจ้าของของมันในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดย Ginger อยู่กับคู่รักมาก่อนแล้ว ส่วน Kimchi ถูกรับเลี้ยงมาทีหลัง คู่รักรับเลี้ยง Kimchi มาจากศูนย์พักพิงสัตว์ตั้งแต่ปี 2012 ตอนนั้นทางศูนย์พักพิงบอกว่าเจ้าหมาเข้ากับหมาอื่นไม่ได้ แต่เมื่อทั้งคู่ให้มันเจอกับ Ginger แล้วกลับเข้ากันได้ดี ทำให้ทั้งคู่คิดว่ามันถูกกำหนดมาให้อยู่กับพวกเขา ตอนแรกที่ Kimchi มาอยู่ด้วยมันยังมองเห็นอยู่นิดหน่อย แต่เมื่อปี 2015 ตาของมันก็บอดสนิท ทำให้เริ่มมีปัญหาในการเดินทาง พวกเขาก็เลยพา Ginger ไปเข้ารับการฝึกเป็นหมาบริการ เพื่อให้มันช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับ Kimchi และตั้งแต่มันจบการฝึกมาทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันมาตลอด ฉลองวันเกิดก็ต้องอยู่ด้วยกัน ช่วยนำทางให้เพื่อนเวลาออกไปนอกบ้าน …
-
ว๊อทเดอะดั๊ก!? การจราจรติดขัดกลางกรุง เหตุท่อร้อยสายไฟโผล่บนถนน ‘งานลวกเหมือนต้มไข่’
กลายเป็นข้อสงสัยของชาวเน็ตขึ้นมาทันที เมื่อท่อร้อยสายไฟโผล่ออกมาบนถนนเพชรบุรี ขาออก ตรงข้ามเพชรบุรี 6 เอาซะนึกว่าเป็นขอมดำดิน… จากรายงานของเพจ ข่าวจราจร สวพ. FM91 Trafficpro ในช่วงเวลาประมาณ 8.15 น. ของวันนี้ 26 กันยายน 2561 กล่าวว่า “โอ้โห !! ท่อร้อยสายไฟโผล่ ถนนเพชรบุรี ขาออก ตรงข้ามเพชรบุรี 6 การจราจรติดขัด ..หน่วยงานเกี่ยวข้องทราบแล้ว” โชคดีตรงที่ ไม่มีรายงานเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจากท่อร้อยสายไฟโผล่ออกจากปากท่อในครั้งนี้ แต่หลังจากที่ภาพถูกโพสต์ออกไป ชาวเน็ตต่างแคลงใจในการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำไมถึงปล่อยละเลยให้เกิดขึ้นได้ขนาดนี้… . . . . . . . . ที่มา: @fm91trafficpro
-
ความลับที่ปิดมาเกือบ 20 ปี เจ.เค. เผยความจริงแล้ว “นากินี” ไม่ใช่ปีศาจงูแต่เป็น “สาวสวย” !
ถ้าใครเป็นแฟนนวนิยายแฟนตาซีผลงานระดับโลกจากสุดยอดนักเขียน J.K. Rowling อย่าง “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ล่ะก็ จะต้องตื่นเต้นและอดใจรอไม่ไหวกับภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง Fantastic Beasts อย่างแน่นอน หลังจากที่มีการปล่อยทีเซอร์สุดท้ายจากภาพยนตร์เรื่อง Fantastic Beasts ออกมา สิ่งที่ชาวเน็ตมุ่งความสนใจไปก็คือการเฉลยความลับที่เก็บงำเอาไว้มานานหลายปีของนักเขียนผู้นี้ ที่บอกว่า ความจริงแล้ว “นากินี” เป็น หญิงสาวสวย!!! นากินี เป็น 1 ใน 7 ฮอร์ครักซ์ ที่โวลเดอมอร์ได้แบ่งวิญญาณเก็บไว้ในร่างของงูที่คอยอยู่เคียงข้างกายของเขามาตลอด ในภาคสุดท้ายของแฮร์รี่พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต เราก็คงจะได้เห็นฉากการทำลายนากินีโดยเนวิล ลองบอททอมใช้ดาบกริฟฟินดอร์ฟันหัวขาด เมื่อชาวโลกได้รู้ความจริงอีกหนึ่งอย่างที่ JK. ได้เก็บงำมันมานานหลายปีเพื่อปล่อยมันในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำเอาทุกคนตกตะลึงไปเลย เพราะจากเดิมที่คิดว่า นากินี เป็น ‘แอนิเมจัส’ (พ่อมดแม่มดที่สามารถกลายร่างเป็นสัตว์ได้ แต่ยังคงใช้เวทมนต์ได้เหมือนเดิม) แต่ความจริง นากินีคือ ‘มาเลดิกตัส’ มาเลดิกตัส คือ แม่มดที่โดนคำสาป และคำสาปจะถูกส่งต่อทางสายเลือดจากแม่สู่ลูกสาวเท่านั้น ซึ่งนากินี ก็คือหนึ่งในมาเลดิกตัส…
-
คาซัคสถานผ่านร่างกฎหมาย อนุมัติใช้ ‘ยาฝ่อ’ เพื่อลงโทษผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก
ปัญหาการกระทำความผิดทางเพศต่อผู้เยาว์ ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลากหลายประเทศ และบทลงโทษของผู้กระทำความผิดนั้น ไม่มีวี่แววจะช่วยลดปัญหาให้น้อยลงได้ ซึ่งหากพูดถึงแนวทางการลงโทษ การฉีดยาฝ่อเพื่อให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายๆ ประเทศสนใจ และล่าสุดคาซัคสถานก็เริ่มนำบทลงโทษดังกล่าวมาใช้แล้ว คาซัคสถานเริ่มบังคับใช้บทลงโทษฉีดยาฝ่อ กับผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก แหล่งข่าวระบุว่า ชายไม่ระบุชื่อผู้กระทำความผิดในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเยาวชนในปี 2016 จากภูมิภาคเตอร์กิสถาน จะเป็นรายแรกที่ถูกฉีดยาฝ่อจากนาง Lyazzat Aktaeva รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคาซัคสถาน อีกทั้งยังเปิดเผยว่า Nursultan Nazarbayev ประธานาธิบดีของคาซัคสถาน ได้อนุมัติงบประมาณกว่า 870,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการฉีดยาฝ่อให้กับผู้กระทำความผิดกว่า 2,000 ราย ที่ก่อคดีในปีนี้ Nursultan Nazarbayev ประธานาธิบดีของคาซัคสถาน “ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2018 คำสั่งของกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยกฎและการใช้สารเคมีลดสมรรถภาพทางเพศ ได้ถูกนำมาบังคับใช้แล้ว… ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคำตัดสินของศาลด้วย งบประมาณได้ถูกจัดเตรียมบางส่วน และวันนี้ หนึ่งในผู้กระทำผิดได้รับคำตัดสินจากศาลให้รับโทษด้วยการฉีดยาฝ่อเรียบร้อยแล้ว” นาง Lyazzat Aktaeva กล่าวแถลงกับสื่อท้องถิ่น Lyazzat Aktaeva รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคาซัคสถาน …
-
20 รูปภาพสุดงดงามของ “ธรรมชาติ” ที่สวยจนทำให้คุณต้องคิดว่ามันมีอยู่จริงด้วยเหรอเนี่ย!?
ย้อนกลับไปในอดีตกาล โลกใบนี้ถือว่ามีสิ่งงดงามอย่างธรรมชาติอยู่รายล้อมตามที่ต่างๆ เต็มไปหมด แต่เมื่อประชากรของมนุษย์มีเพิ่มมากขึ้น จึงได้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนธรรมชาติเสื่อมโทรมลง แต่กระนั้นแล้วก็ยังมีธรรมชาติหลายๆ แห่ง ที่ยังคงความสวยงามให้เราได้ค้นหาอยู่ วันนี้เอง #เหมียวโคบี้ จึงได้รวบรวมรูปภาพของเหล่าธรรมชาติแสนสวย ที่สวยขนาดเพื่อนๆ อาจไม่คาดคิดว่ามันจะมีอยู่บนโลกนี้จริงๆ เลยล่ะ จะสวยงามขนาดไหนนั้นเราไปรับชมพร้อมๆ กันเลยครับ 1. ฟองน้ำในน้ำแข็งที่เกิดจากการสลายตัวของพืชที่อยู่ใต้น้ำแข็งในทะเลสาบ Spray ประเทศแคนาดา https://www.instagram.com/p/BaMA5QjBBjf/?utm_source=ig_embed 2. ภาพของฝูงนกสตาร์ลิ่งที่รวมตัวกันจนเหมือนกับภาพเคลื่อนไหว https://www.instagram.com/p/Bn35uvegqrX/?utm_source=ig_embed 3. เมฆจานบินที่เหมือนกับ UFO บินอยู่บนฟ้าจริงๆ เลย https://www.instagram.com/p/Bmy_3Z8Hi0A/?utm_source=ig_embed 4. เมื่อลาวามาบรรจบกับทะเล 5. ปรากฏการณ์หายากที่เรียกว่า “เสาแสง ” ซึ่งเกิดจากกระทบกันระหว่างแสงกับผลึกน้ำแข็ง https://www.instagram.com/p/Bfq57hBljk9/?utm_source=ig_embed 6. คุณเคยเห็นสายรุ้งสีขาวมาก่อนหรือไม่? https://www.instagram.com/p/BntrNqcHX3O/?utm_source=ig_embed 7. ที่เห็นนี่ไม่ใช่พืชนะ แต่เป็นกองทัพปูแดงนับล้านตัวต่างหากล่ะ https://www.instagram.com/p/BOW3D02AFwe/?utm_source=ig_embed 8. การรั่วไหลของก๊าซธรรมชาติ…
-
คุณแม่ชาวญี่ปุ่นถูกจับกุม หลังสารภาพผิด ‘ทิ้งลูกแรกเกิดไว้ในล็อคเกอร์’ นานกว่า 5 ปี…
กลายเป็นข่าวที่สร้างความรู้สึกช็อคอย่างบอกไม่ถูก ด้วยพฤติกรรมของบุคคลผู้เป็นแม่หลังให้กำเนิดลูกน้อยได้ไม่นาน กลับปิดบังและฆ่าลูกในไส้ของตัวเองทั้งเป็น… เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงโตเกียว ทำการจับกุม Emiri Suzaki หญิงวัย 49 ปี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่เธอเดินทางมามอบตัว พร้อมกับรับสารภาพว่าทิ้งลูกวัยแรกเกิดไว้ในตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญเอาไว้นานหลายปี ในช่วงวันจันทร์ก่อนวันจับกุม เจ้าหน้าที่พบร่างของเด็กทารกสภาพเน่าเปื่อยถูกห่อด้วยถุงพลาสติก ในตู้ล็อคเกอร์ของสถานีรถไฟฟ้า Uguisudani แขวงไทโต จนกระทั่งนาง Suzaki ได้เดินทางมายังสถานีตำรวจในแขวงอารากาวะ เพื่อแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าเธอทิ้งร่างลูกของตัวเองเอาไว้ในล็อคเกอร์ ประมาณ 4 – 5 ปีก่อน โดยจ่ายค่าตู้หยอดเหรียญและสลับตู้ไปเรื่อยๆ “ฉันรู้สึกกลัวหลังจากที่คลอดลูกออกมาแล้ว แต่เด็กไม่รอดชีวิต เลยตัดสินใจเก็บร่างเอาไว้แทนเพราะไม่รู้จะทำยังไง” หนึ่งในคำให้การของนาง Suzaki แก่เจ้าพนักงาน เธอตัดสินใจเข้ามอบตัว หลังจากมีปากเสียงกับชายที่คบหากันและต้องหนีออกจากบ้านมา ซึ่งหลังจากที่ออกมาแล้ว กลับลืมกุญแจตู้ล็อคเกอร์ที่เก็บร่างเด็กเอาไว้ เธอคิดว่าเขาอาจจะหากุญแจเจอ และนำไปเปิดตู้ล็อคเกอร์และเจอกับศพของเด็กเข้า ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า ร่างของเด็กทารกถูกทิ้งภายหลังจากคลอดมาได้ไม่นานนัก และกำลังทำการสืบสวนหาสาเหตุของการเสียชีวิตต่อไป ที่มา: japantimes, dailymail, scmp
-
สาวแชร์เรื่องน่าอาย เมื่อเธอลืมแก้ชื่ออาจารย์ก่อนส่งรายงาน เล่นเอาจารย์น้ำแทบพุ่ง!!
ช่วงที่เรียนอยู่ ถือว่าเป็นช่วงสนุกๆ ช่วงหนึ่งของชีวิต ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่ผ่านช่วงนี้ต้องเคยได้รับมอบหมายให้ทำรายงานสักเรื่องจากอาจารย์เป็นอย่างแน่นอน ซึ่งเวลาส่งเราก็ต้องเขียนชื่ออาจารย์ที่เราจะส่งถึงอยู่ด้วย และนี่แหละที่จะกลายมาประเด็นฮาๆ ให้เราได้พูดถึงกันในวันนี้ เมื่อ Zoey Oxley นักศึกษาสาวสายปาร์ตี้ เธอได้ส่งรายงานให้อาจารย์ที่มหาวิทยาลัย แต่ดั๊นไม่ได้เปลี่ยนชื่ออาจารย์ให้ถูกต้อง… และเพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าเธอตั้งชื่ออาจารย์ว่าอะไร? เธอพิมพ์ชื่ออาจารย์ว่า “ศาสตราจารย์จวยไรวะ” เอ้า!! หากอาจารย์ได้เห็นคงบันเทิงอย่างแน่นอน https://twitter.com/Hendyhendel/status/1042475666678198272 และก็เป็นอย่างที่เราคาดการณ์กัน เมื่ออาจารย์คนดังกล่าวได้รับรายงานจากนักศึกษาสาว แม้ว่า Zoey จะส่งอีเมลมาบอกว่าขอโทษอาจารย์ด้วยหนูลืมใส่ชื่ออาจารย์ผิดไป เขาก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรมากเลยตอบไปว่าไม่เป็นไร แต่เมื่อเปิดรายงานดูก็ได้เรื่องเซอร์ไพรส์ทันที จุดพีคคือในวันที่ 20 กันยายน 2018 อาจารย์ท่านนี้ได้แชร์เรื่องดังกล่าวลงในทวิตเตอร์ว่า “นักศึกษาส่งอีเมลมาหาผมว่าเธอใส่ชื่อผมผิดบนหัวกระดาษ ผมก็ตอบกลับไปว่า ‘ขอบคุณนะ แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก’ ก่อนที่ผมจะเปิดดูงานและพบว่าชื่ออาจารย์ผู้สอนคือ ‘ศาสตราจารย์จวยไรวะ’” ที่พีคกว่านั้นคือเขาถึงกับเปลี่ยนชื่อแอคเคาต์ทวิตเตอร์ของตัวเองให้เป็น “ศาสตราจารย์จวยไรวะ” เหมือนอย่างในรายงานของนักศึกษาด้วย (555) A series of unfortunate events: pic.twitter.com/xSnT0JTYPV — zo (@Zoeyoxley) September 20, 2018…
-
เปิดรายละเอียดเสื้อผ้าหน้าผม คอสตูมเจ้าหญิงดิสนีย์ ใน Ralph Breaks Internet
ภาพยนตร์แอนิเมชั่นแห่งปีที่หลังจากปล่อยตัวอย่างออกมาก็ได้รับกระแสตอบรับดีเยี่ยมจากชาวเน็ตในปีนี้ ก็คงเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่อง Ralph Breaks Internet ที่ได้ปล่อยทีเซอร์เรียกเสียงกรี๊ดทำให้คนตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้รับชมกันเสียที แว๊บๆ มาว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นการรวมตัวเจ้าหญิงดิสนีย์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ เอาใจแฟนคลับเจ้าหญิงดิสนีย์สุดๆ ไปเลยพี่จ๋าาาา แถมยังมีการปรับตัวละครเจ้าหญิงดิสนีย์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้นให้เข้ากับยุคกับสมัยอีกด้วย แน่นอนว่า นอกจากรูปลักษณ์ของเจ้าหญิงดิสนีย์แล้ว เรื่องเสื้อผ้าการแต่งตัวของเจ้าหญิงทั้งหลายก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปด้วย จึงได้มีการแอบเปิดเผยรายละเอียดเล็กๆ ที่ทางทีมผู้ผลิตภาพยนตร์ได้ใส่ใจ สมกับเป็นดิสนีย์ซะจริงๆ มาดูดีกว่าว่า รายละเอียดเล็กๆ ที่ว่าเหล่านี้ จะมีอะไรบ้าง สโนไวท์: สวมเสื้อยืดที่มีลายแอปเปิ้ลพิษ พร้อมกับสกรีนคำว่า Poison ที่แปลว่าพิษเอาไว้ด่วย ซินเดอเรลล่า: สวมกางเกงขายาวสีฟ้าที่เป็นสีประจำตัวของเธอพร้อมกับเสื้อแขนยาวที่มีลายรถฟักทอง ในเรื่องนี้เราจะได้เห็นหูของซินเดอเรลล่าแล้วด้วยนะ แอเรียล: สวมเสื้อยืดสีม่วงที่คล้ายคลึงกับชุดราตรีของเธอเอง โพคาฮอนทัส: สวมเสื้อแขนยาวสีม่วงเข้มที่มีคำว่า “Blue Moon Corn” มู่หลาน: สาวเท่ สวมแจ็คเก็ตสีแดงปักลายมังกร สวมกางเกงยีนส์และรองเท้าคอนเวิร์สสีแดง ออโรร่า: เสื้อลาย สกรีนคำว่า Nap Queen นี่แหละเจ้าหญิงนิทราของแท้ เทียน่า: สวมชุดนอนสีเขียวสีประจำตัว ราพันเซล: สวมชุดสีสันสดใสลายโคมไฟ…
-
นักศึกษาวิศวะฯ จีนโดน ‘ไล่ออก’ กรณีโพสต์ลงโซเชียล ‘ไม่เคยรักชาติตัวเอง’
ว่ากันว่าโซเชียลคือพื้นที่สาธารณะ ไม่ว่าใครก็ตามสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ได้ แต่ทว่าก็ไม่ใช่ทั้งหมด เนื่องจากความคิดเห็นบางส่วนที่ไม่ควรเผยออกมา ก็กลายเป็นดาบสองคมหวนกลับมาทำร้ายตัวเราเอง กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับนักศึกษาวิศวกรรมโยธา ชั้นปีที่ 1 เพิ่งได้เริ่มเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย Hunan City University กลับถูกปลดให้พ้นสภาพนักศึกษา เนื่องจากปฏิบัติตนขัดกับนโยบายมหาวิทยาลัยภายใต้แนวทางพรรคคอมมิวนิสต์ Wang Dong อายุ 18 ปี ลงทะเบียนเรียนระดับปริญญาตรีในสาขาวิศวกรรมโยธา กับทางมหาวิทยาลัย Hunan City University เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นเพียง 10 วัน เขาถูกสอบสวนจากทางมหาวิทยาลัยเนื่องจากได้รับร้องเรียนว่า เขาโพสต์ข้อความลงในโซเชียลมีเดียด้วยลักษณะโจมตีชาติตัวเอง หนึ่งในคอมเมนต์ของเขาบน Weibo เขียนเอาไว้ว่า ‘การรักประเทศของผมเป็นไปไม่ได้ ผมไม่อาจรักประเทศชาติตัวเองได้’ รวมไปถึงโพสต์อื่นๆ ที่แสดงความคิดเห็นในเชิงรุนแรง เกี่ยวกับการให้ร้ายประเทศจีนที่ถูกระบุว่าเป็นการปลุกปั่นและยั่วยุ ผลที่ตามมาก็คือนาย Wang ถูกตัดชื่อออกจากทางมหาวิทยาลัย ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์จีนบนโพสต์ประกาศทางการของมหาวิทยาลัยกว่า 19,000 คอมเมนต์ ซึ่งมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย “ถ้าใครสักคนถูกลงโทษจากความไม่รักชาติ…
-
เผยเบื้องหลังคอนเซ็ปต์ Murakami Flower รอยยิ้มจากความเจ็บปวด ‘ระเบิดปรมาณู’
ช่วงนี้ยังคงวนเวียนอยู่กับผลงานพวงกุญแจติดห้อยรูปดอกไม้หน้ายิ้มแป้น Murakami Flower ผลงานการออกแบบชิ้นเอกของเจ้าพ่อป๊อปอาร์ทฝั่งญี่ปุ่น Takashi Murakami ทั้งนี้กว่าจะมาเป็นดอกไม้ยิ้มแป้นอย่างที่เราเห็นกัน เบื้องหลังของดอกไม้กลับไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากสิ่งที่สวยงาม แต่เป็นความเจ็บปวดและความสูญเสียจากเหตุการณ์ระเบิดปรมาณู Fat Man ลงถล่มเมืองนางาซากิ https://www.instagram.com/p/Bai65qTAo98/ โดยในวันนั้นระเบิด Fat Man จะลงเป้าหมายที่เมืองโคคุระอันเป็นบ้านเกิดของนาย Murakami แต่ด้วยสภาพอากาศที่ย่ำแย่ ทหารอเมริกันจึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นนางาซากิแทน “‘โตได้แล้ว’ นี่คือคำพูดของคุณแม่ของคุณ Murakami ที่คอยย้ำเตือนเขาว่า ดีแค่ไหนที่อยู่ภายในเมืองโคคุระในวันนั้น เธออาจจะไม่มีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ รวมถึงตัวเขาด้วย” กล่าวโดย Nick Simunovic ผู้จัดการแกลอรี่ในฮ่องกงที่เคยจัดงานแสดงศิลปะให้กับเขา และ Murakami เองเคยเปิดเผยผ่านสารคดีของทาง BBC Four ในตอน Takashi Murakami – Birth of Super flat ไว้ว่า… “พวกเราชาวญี่ปุ่น คือผู้ที่ประสบกับเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูจริงๆ โดยที่ทุกอย่างหายไปในพริบตา ต้องขอบคุณสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นกลับมีพลังรุนแรงมากกว่าพระเจ้า……
-
ฮา!! พ่อหนุ่มตกใจสุดขีดเมื่อเห็น “คนหัวหาย” ต่อหน้าต่อตา ใครจะไม่ตกใจล่ะเนอะ!?
จะเป็นอย่างไรหากคุณต้องมาพบเห็นคนถูก “ตัดศีรษะ” ในที่สาธารณะ? แน่นอนว่าหลายคนจะเกิดอาการตกใจและหวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก จังหวะนั้นใครจะไปมีสติได้ล่ะเนอะ… ล่าสุดคลิปวิดีโอหนึ่งที่กำลังกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์ เป็นคลิปที่มีชายคนหนึ่ง “ดึงศีรษะ” ของหญิงคนหนึ่งให้หลุดออกหลังทั้งคู่มีปากเสียงกันในที่สาธารณะ เรียกได้ว่าทำเอาคนที่พบเห็นถึงกับผวา ในทีแรกฝ่ายชายจะพูดกับฝ่ายหญิงประมาณว่า “กลับไปกับฉันเดี๋ยวนี้” แล้วฝ่ายหญิงก็จะปฏิเสธพร้อมไล่ให้ฝ่ายชายไปไกลๆ จากนั้น ฝ่ายชายก็จะเข้ามาใช้ผ้าคลุมที่ศีรษะฝ่ายหญิงและดึงออกจนกลายเป็นผีหัวขาดกันไปเลย ชมคลิป จริงๆ แล้วคลิปนี้เป็นคลิปแกล้งคนโดยใช้มายากล เพื่อให้คนคิดว่าผู้หญิงในวิดีโอหัวหายไปอย่างน่าพิศวง จุดที่น่าสนใจก็คือ ปฏิกิริยา ของผู้พบเห็นที่มีท่าทางตกใจซึ่งแตกต่างกันออกไปนั่นเอง ที่ฮาและเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนก็คือชายผืวสีที่สวมเสื้อสีขาวในช่วงต้นของคลิป ผู้ที่มีท่าตกใจชนิดที่ว่าตกใจสุดขีดจริงๆ อาการแดดิ้นของเขานั้นทำให้ผู้ชมหลายๆ คนต่างปล่อยเสียงหัวเราะออกมา พี่คนนี้แหละ เอ๊ะ มาทะเลาะอะไรกันบนรถเนี่ยหนุ่มสาวคู่นี้ อ้าวเฮ้ย…ตาเถร!!! *ดูท่าพี่แกจะกลัวสุดขีดเลยนะเนี่ย* แกล้งกันเป็นสีสันก็โอเค แต่แกล้งแรงแบบนี้ระวังจะมีคนหัวใจวายเอาได้นะ ที่มา: TooT趣味影片 และ ck101
-
“บ้านหลังใหญ่ทำให้เราไม่มีเวลา” คู่รักตัดสินใจขายบ้าน ก่อนหอบลูกออกไปใช้ชีวิตในรถบ้าน
การออกเดินทางท่องเที่ยวเป็นระยะเวลานาน พร้อมกับดูแลลูกๆ ไปด้วย อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับหลายครอบครัว แต่สำหรับ Jacob และ Tiffany กลับมีความคิดที่แตกต่างออกไป และเลือกใช้รถบ้านเป็นสถานที่เลี้ยงดูลูกๆ ของพวกเขา พร้อมกับออกเดินทางไปทั่วสหรัฐอเมริกา จุดเริ่มต้นการเดินทางของครอบครัวนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณเดือนมีนาคมปีที่แล้ว หลังจากที่พวกเขาซื้อรถบ้านจากค่าย Airstream พร้อมตกแต่งภายในใหม่สำหรับสมาชิกภายในครอบครัว “เรามีเด็กๆ 2 คนอยู่ในรถกับพวกเรา เราชื่นชอบการผจญภัยและสิ่งท้าทายใหม่ๆ ” นักเดินทางทั้งสองให้สัมภาษณ์ ลูกชายตัวน้อยที่ร่วมเดินทางไปกับพวกเขาด้วย ทั้งสองเล่าว่าก่อนการออกเดินทางด้วยรถตู้แบบนี้ พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ แต่ถึงแม้ว่ามันจะมีพื้นที่มากมาย แต่มันกลับทำให้ทั้งสองรู้สึกว่าไม่มีเวลาได้อยู่กับมันจริงๆ เลย เนื่องจากต้องเสียเวลาส่วนใหญ่ไปกับการดูแลและทำความสะอาดบ้าน “ก่อนที่จะออกมา เราต้องเสียเวลาอย่างมากในแต่ละวันเพื่อทำความสะอาด ทั้งๆ ที่หลังจากเลิกงานพวกเราอยากจะใช้เวลาอยู่ด้วยกัน แต่เวลาและพลังงานทั้งหมดของเรากลับหมดไปกับสิ่งของภายในบ้าน ถึงแม้ว่ามันจะมีพื้นที่กว้างขวาง แต่เรากลับไม่รู้สึกว่ามันมอบเวลาให้เราได้สักเท่าไหร่” เนื่องจากลักษณะการทำงานของทั้งคู่เป็นงานที่สามารถทำได้ที่บ้าน ทำให้ไม่เป็นปัญหาสำหรับการย้ายบ้านไปในหลายๆ รัฐ และนอกจากนี้ทั้งสองยังเลือกวิธีเลี้ยงลูกแบบโฮล์มสคูลอีกด้วย “มันเป็นโอกาสดีที่เราจะมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้กับลูกของเรา ลูกคนโตของฉันอายุแค่ 3 ขวบและเขาได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากมายจากการเดินทาง” ไลฟ์สไตล์ภายในรถบ้านหลังนี้ . ถึงแม้ว่าภาพที่เผยแพร่ออกมานั้นอาจจะดูสวยงาม แต่ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ การตัดสินใจขายบ้านพร้อมกับหอบลูกน้อยวัย 3…
-
เด็กเฟรชชี่รัสเซียลงทุนแก้ผ้า โชว์ท่วงท่ายั่วยวนบนเวที หวังชิงรางวัลมูลค่า 490 บาท!!
หลายๆ มหาวิทยาลัยอาจมีการประกวดดาวเดือน เฟ้นหาหนุ่มหล่อสาวสวยประจำของแต่ละคณะ หรืออาจมีการแข่งขันกีฬาของนักศึกษาใหม่ชั้นปีที่ 1 อะไรทำนองนั้น แต่ในประเทศรัสเซีย กลับมีการแข่งขันสำหรับน้องใหม่ในแบบที่เราอาจไม่เคยเห็นกันมาก่อน และไม่คาดคิดว่าจะมีได้ เมื่อเด็กเฟรชชี่ชายหญิงต่างพากันถอดเสื้อผ้าบนเวที โชว์ความวาบหวิว เพื่อชิงของรางวัลมูลค่า 490 บาท?! นี่คือภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในผับ Baikonur เมือง Tyumen นักศึกษาปี 1 จากหลายๆ มหาวิทยาลัยท้องถิ่นต่างพามารวมตัวกันเข้าแข่งขันโชว์สุดพิสดาร ติดเรท 18+ บนเวทีจะมีการประกวดมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันโกนหัว การให้ชายหญิงทำท่าเหมือนกับมีเพศสัมพันธ์กันทางปาก หรือแม้แต่การแก้ผ้าโชว์ลีลาวาบหวิว การทำท่าเสมือนว่ามีเพศสัมพันธ์กันทางปาก จากการรายงานบอกว่านักศึกษาเข้าแข่งขันกันเพื่อชิงบัตรกำนัลร้านรอยสักมูลค่า 11.50 ปอนด์ (ราวๆ 490 บาท) ภาพจากการรายงานในวันที่ 25 ก.ย. 2018 . หลังจากคลิปดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสในโลโซเชียล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งทำการสอบสวนตรวจสอบหาต้นตอของสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป ทางด้านมหาวิทยาลัยเองก็แจ้งเตือนกับนักศึกษาใหม่ว่า หากใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้อาจต้องโดนลงโทษ พักการเรียน หรืออาจถูกไล่ออกได้เลย คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว (หากดูไม่ได้กดที่ลิงก์…
-
ชาวเน็ตแชร์ภาพตัวเองตอนเป็น ลูกเป็ดขี้เหร่กับปัจจุบัน นี่คนเดียวกันจริงๆ ป่าวเนี่ย
หลายคนอาจจะเคยได้ยินนิทานเรื่อง ลูกเป็ดขี้เหร่ ลูกหงส์น้อยที่ดันหลงไปอยู่ในฝูงเป็ด เมื่อมันเติบโตมาในฝูงเป็ด มันมีลักษณะที่ไม่เหมือนกับลูกเป็ดน้อยตัวอื่นๆ เลยโดนเรียกว่าเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ แต่พอเมื่อมันโตขึ้นกลับรู้ว่าตัวเองนั้นไม่ใช่ลูกเป็ดแต่อย่างใด มันคือหงส์ที่ต้องรอเวลาที่เหมาะสมถึงจะฉายความงามออกมา วลี “ลูกเป็ดขี้เหร่” จึงถูกนำมาใช้เปรียบเปรยกับคนที่ตอนเป็นเด็กนั้นขี้เหร่ แต่พอโตขึ้นมาแล้วกลับสวย หล่อขึ้นมา ชาวเน็ตได้มีการร่วมกันแชร์รูปภาพของตัวเองแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของตัวเองทั้งก่อนและหลัง เมื่อดูๆ แล้ว น่าจะเข้ากับคำว่า “ลูกเป็ดขี้เหร่” มากๆ เลย เชื่อเถอะว่าการดัดฟันนั้นสามารถเปลี่ยนใบหน้าคนได้จริงๆ ไม่มากก็น้อยเลยล่ะ การเปลี่ยนแปลงในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปี อย่าดูถูกเด็กอ้วนข้างบ้าน โตมาอาจจะหล่อเหลาแบบนี้ก็ได้ ตอนเด็กก็มีเค้าความสวยอยู่นะ ยิ่งโตยิ่งสวย นอกเรื่องแป๊บ ทรงผมตอนเด็กนายจ๊าบจริงๆ อายุ 17 กับ 25 คือมันดี๊ดีจริงๆ นี่คนเดียวกันเปล่าค้าบบบบ พอโตปุ๊บ ฉายความหล่อมาเลย ดูกล้ามนั่น ให้ตายสิ >< สวยไม่สวย ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ คนเราก็ต้องมีช่วงเวลาบ้าๆ บ๊อง…
-
16 สไตล์การแต่งรถสุดแหวก คำว่า “แปลก” อาจไม่เพียงพอสำหรับพวกเขาเหล่านี้
รถยนต์อาจเปรียบเหมือนกับของเล่นของคุณผู้ชาย และการได้โมดิฟายรถคันโปรดให้ออกมาในสไตล์ที่เราชื่นชอบนั้น ก็ถือเป็นหนึ่งในความสุขเล็กๆ เลยก็ว่าได้ และถ้าหากใครที่ชื่นชอบการตกแต่งรถ แต่ยังไม่มีไอเดียดีๆ ล่ะก็ เรามีสไตล์การแต่งสุดแหวกแนวมาให้ได้ชมกัน บอกเลยว่าแต่ละคันเจ็บๆ ทั้งนั้น 1. นี่คือการแต่งรถแบบแฟนคลับแบทแมน 2. ถ้าชุดสเกิร์ตมันแพงไป ลองใช้แบบนี้ก็ได้นะ 3. การแต่งรถอาจจะต้องใช้หลักแอโร่ไดนามิคเข้ามาช่วย แต่บางครั้งก็อย่าลืมใส่ใจเรื่องดีไซน์ 4. แค่สติ๊กเกอร์ว่าเท่แล้ว ดูที่ปลายท่อซะก่อน บอกเลยท่อไทเทเนียมยังอาย!! 5. ชาวพังก์ก็มา!! 6. เราก็อย่างเนี๊ยะ!! รถทำยังไม่เสร็จแต่อยากเอาออกมาวิ่งก่อนอ่ะ 7. ลองนับกันดูว่ารถคันนี้มีปลายท่อกี่อัน!? 8. ไม่เน้นฟังก์ชั่น ขอแค่แฟชั่นก็พอ!! 9. น้ำท่วมไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจ้าคันนี้ 10. การแต่งรถสไตล์นี้ใจรักอาจจะไม่พอ แต่ต้องขออนุญาตคนที่บ้านด้วย 11. ขอเดาว่าเจ้าของรถคันนี้ถ้าไม่กลัวความมืดก็ต้องกลัวผี!! 12. ล้อใหญ่ดีน่อออ 13.…
-
5+1 ภาพยนตร์ในอดีต ที่เกิดอุบัติเหตุจนนักแสดงนำเสียชีวิต แต่สุดท้ายก็ยังได้ออกฉาย
ในการถ่ายทำภาพยนตร์อาจมีอยู่หลายครั้งที่นักแสดงได้รับบาดเจ็บ แต่ถึงอย่างการที่จะเห็นนักแสดงบาดเจ็บจนเสียชีวิต ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะได้เห็นกันบ่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลยเช่นกัน ว่าแต่ในอดีตเคยมีภาพยนตร์เรื่องไหนบางที่มีนักแสดงเสียชีวิต? ในวันนี้ #เหมียวศรัทธา จะพาเพื่อนๆ ไปชม 5 ตัวอย่างภาพยนตร์ในอดีตที่เกิดอุบัติเหตุจนนักแสดงตาย แต่สุดท้ายก็ยังได้ออกฉาย The Crow นี่เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี 1994 โดยมีต้นฉบับมาจากการ์ตูนชื่อเดียวกันที่เขียนโดย James O’Barr นี่เป็นหนังที่ตั้งใจไว้ว่าจะทำให้ Brandon Lee ลูกชายของ Bruce Lee โด่งดัง อย่างไรก็ตามระหว่างการถ่ายทำกลับเกิดความผิดพลาดกับกระสุนของปืนที่ใช้ในฉาก ทำให้ Brandon ถูกยิง จนเสียชีวิตในระหว่างการถ่ายทำนั่นเอง Twilight Zone: The Movie นี่เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี 1983 และมีหนึ่งในนักแสดงหลักคือ Vic Morrow อย่างไรก็ตามในฉากหนึ่งของเรื่องซึ่งตัวละครของ Vic ถูกโจมตีโดยทหารทหารอเมริกันในเวียดนาม กลับเกิดเหตุไม่คาดฝันทำให้เฮลิคอปเตอร์ในฉากตก จนทำให้ไปพัดตัดร่างของ Vic พร้อมกับเด็กๆ ที่เข้าฉากอีกสองคนจนถึงแก่ความตาย Top Gun Top Gun เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี 1986 เกี่ยวกับนักบินในกองทัพเรือ…
-
นึกว่าเป็นเอฟเฟกต์ ที่ไหนได้ระเบิด!! เด็กชาวจีนวิ่งหนีหัวซุก หลัง Hoverboard มีควันออกมา
ภาพเหตุการณ์ที่เพื่อนๆ จะได้เห็นต่อไปนี้ อาจจะช่วยยืนยันวลีสุดคลาสสิคที่ว่า “อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่” ได้เป็นอย่างดี และไอ่ที่เค้าว่า “ทุกที่” นั้น รวมถึงห้องนั่งเล่นด้วย!! คลิปวิดีโอวินาทีระทึกขวัญที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ได้เผยให้เห็นภาพของเด็กๆ 2 คนต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หลังจากเครื่องเล่น Hoverboard เกิดระเบิดขึ้น!! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างที่เด็กชายคนหนึ่งขับเครื่องเล่นดังกล่าวเข้ามาในห้อง ก่อนที่จะหยอกล้อกับน้องสาวของเขา สักพักเครื่องเล่นของเด็กชายเกิดมีควันพุ่งออกมาจากล้อ เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ปรกติ เด็กชายคนดังกล่าวได้วิ่งหนีออกไปอีกห้องหนึ่ง ทิ้งน้องสาวของเขาไว้ ก่อนที่ Hoverboard จะระเบิด สร้างความตกใจให้กับเด็กหญิงอย่างมาก . . โชคดีที่เด็กทั้งสองคนไม่ได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดครั้งนี้ จากรายงานเผยว่าสาเหตุของการระเบิดอาจเกิดจากแบตเตอรี่ของเครื่องเล่น อย่างไรก็ตามการระเบิดของเครื่องเล่น Hoverboard ที่ไม่ได้มาตรฐานนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในกรุงปักกิ่ง แต่ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มรายหนึ่ง และลูกสาวของเขาก็ต้องหนีตายจากเหตุการณ์ในลักษณะคล้ายกันนี้ด้วย ซึ่งภายหลังทางการจีนได้ออกประกาศเตือนประชาชนเกี่ยวกับการซื้อของเล่นชนิดนี้ รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มา dailymai, ladbible
-
คุณพ่อปั่นจักรยานของลูกสาวที่เสียชีวิต ระยะทางกว่า 300 กม. ระดมทุนช่วยผู้ป่วยมะเร็ง
การเดินทางไกลกว่า 300 กิโลเมตรคงไม่เป็นปัญหาสำหรับรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ แต่มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับการเดินทางด้วยจักรยานเด็ก แบบคุณพ่อรายนี้… จุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณ Peter Williams หยิบจักรยานของลูกสาวออกมาเดินทางไกลกว่า 320 กิโลเมตรครั้งนี้เกิดจาก การสูญเสียลูกสาวไปด้วยโรคมะเร็งสมองเมื่อปี 2015 การปั่นจักรยานของคุณพ่อวัย 46 ปีครั้งนี้เป็นการระดมทุนเพื่อการกุศลสำหรับผู้ป่วยด้วยโรคเนื้องอกในสมอง เขาเริ่มต้นจากโรงพยาบาลในเมืองบริสตอล ที่ลูกสาวพักรักษาตัว ก่อนจะไปสิ้นสุดที่คอร์นวอลล์ “Ellie ชอบการปั่นจักรยานมากและผมเริ่มหัดให้เธอปั่นจักรยานตั้งแต่ตอน 3 ขวบ ผมไม่เคยลืมภาพที่เห็นเธอมีความสุขได้ มันเป็นหนึ่งในความภูมิใจของคนเป็นพ่อเลย” Williams เล่าถึงลูกสาว Ellie ป่วยด้วยโรคมะเร็งสมอง Diffuse Intrinsic Pontine Glioma (DIPG) เมื่อเดือนตุลาคมปี 2014 หลังจากที่เธอเริ่มมีอาการผิดปรกติที่ตาขวา “ก่อนหน้านั้นเรามักจะเล่นกันเหมือนเด็กๆ และเธอก็ชอบทำหน้าตลกๆ แต่หลังจากที่เธอป่วย เธอก็ไม่สามารถทำหน้าแบบนั้นได้อีกเลย เนื่องจากโรคร้ายเล่นงานสมองของเธอ ตอนนั้นเหมือนกับโลกของเราเปลี่ยนไปเลย” Ellie จากโลกนี้ไปหลังจากพักรักษาตัวได้เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น และไอเดียการหาเงินเพื่อการกุศลครั้งนี้ก็เกิดจากการที่คุณ Williams ได้เห็นรถจักรยานของลูกสาวที่จอดทิ้งไว้ในห้องเก็บของ Williams และ Joe ลูกชายวัย 13 ปีของเขาเริ่มออกเดินทางเมื่อวันศุกร์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา…
-
Ruth Snyder กับภาพความตายบนเก้าอี้ไฟฟ้า ที่เปลี่ยนคดีธรรมดาๆ ให้กลายเป็นไม่ธรรมดา
Ruth Snyder เป็นนักโทษประหารชีวิตหญิงที่แม้ว่าจะก่อคดีที่แปลก แต่เดิมทีแล้วคดีของเธอก็ไม่ใช่คดีที่คนในสหรัฐฯ สนใจกันมากนัก แต่แล้วเรื่องราวก็เปลี่ยนไป เมื่อภาพความตายบนเก้าอี้ไฟฟ้าของเธอหลุดออกสู่สายตาประชาชนและเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างไป ในวันที่ 20 มีนาคม 1927 Ruth ได้อ้างกับทางตำรวจว่ามีชาวอิตาเลียนตัวใหญ่สองคนบุกเข้ามาในบ้านและทุบเธอจนหมดสติ ก่อนที่จะสังหารสามีของเธอและหนีไปพร้อมกับเพชรพลอยในบ้าน มันเป็นคดีที่จัดฉากได้แย่สุดๆ เพราะนอกจากตัวเธอจะดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งถูกทุบหมดสติแล้ว ตำรวจยังพบเพชรพลอยที่ Ruth บอกว่าถูก “ขโมย” อยู่ใต้ฟูกของเตียงของเธอเองด้วย ภาพของ Ruth Snyder ในสมัยที่ยังมีชีวิต นั่นทำให้สุดท้าย Ruth ก็จนมุมจนต้องสารภาพความจริงว่าแท้จริงแล้วเธอร่วมมือกับ Henry Judd Gray ชู้รักของเธอในการฆ่าสามีเพื่อเอาเงินประกัน แถมยังมีการปลอมแปลงเอกสารประกันไว้ด้วย Henry Judd Gray พนักงานขายชุดคอร์เซตชู้รักของ Ruth นี่เป็นคดีที่ดูงี่เง่ามากๆ สำหรับคนที่รู้เรื่องถึงขนาดว่านักข่าวพาดหัวว่า “Dumbbell Murder” เพื่อล้อเลียนความงี่เง่าของแผนฆาตกรรมในครั้งนี้เลย (Dumbbell ล้อมาจากคำว่า Dumb ที่แปลว่าโง่) อย่างไรก็ตามด้วยวิธีการฆ่าที่ค่อนข้างโหดร้ายบวกกับโทษอื่นๆ ทำให้สุดท้าย Ruth กับ Henry ถูกสั่งประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้าในเดือน มกราคม…
-
21 เสน่ห์ของผู้ชาย “ขนเยอะ” เปลี่ยนจากรุงรัง เป็นความน่ารัก น่าชัง และลวดลายฮาๆ
เชื่อว่าคงมีสาวๆ อยู่ไม่น้อยที่ไม่ชอบผู้ชายที่มี “ขน” เยอะ แบบหนวดคราวยาวรุงรัง ขนหน้าอกอีกเพียบอะไรทำนองนั้น แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อหนุ่มๆ ทำให้มันไม่ดูรกรุงรังอย่างที่เคยเป็นกันมาก่อน นี่คือตัวอย่างของการสร้างเสน่ห์และลวดลายเจ๋งๆ ผ่านเส้นขนบนร่างกาย ทำให้มันน่าดึงดูดมากยิ่งกว่าเดิม แม้บางคนอาจยังคงไม่ชอบ แต่จะต้องเพลิดเพลินไปกับเซนส์แห่งความฮาของพวกเขาอย่าแน่นอน… คิดว่างั้นอ่ะนะ ว่าแล้วก็พากันไปเชยชมเส้นขนของพวกเขากันเลย เหมาะสำหรับผู้ชายมีนม อย่างกับเป็นคนละคนกัน มีหนวดบนแล้วต้องมีหนวดกลางด้วย (ไม่รู้ว่ามีหนวดล่างด้วยหรือเปล่านะ) จงมองตามปลายลูกศร แล้วคุณจะเจอกับหัว…. เข็มขัด จงมองตามปลายลูกศร V.2 สนใจรับไปดื่มสักแก้วมั้ยฮะ เรียกว่าลามมาตั้งแต่เคราแล้วแหละ ถ้าเป็นของไทยก็เปลี่ยนเป็นตัว B เอา ติดหูกระต่าย พร้อมออกงานรื่นเริง ชายผู้อยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้อยู่เสมอ ขนเราต้องรู้จักคิดบวกเข้าไว้ หนุ่มรุ่นใหญ่ หัวใจโต๊โตตต สันติภาพ ความรัก และร็อคแอนด์โรล รู้เลยว่าเป็นคนประเทศอะไร ขามันจะไปเกี่ยวโดนหัวนมอยู่แล้วนะ…
-
เปิดคดี Mary Kay Letourneau ครูสาวผู้หลงรัก “นักเรียน” ของตัวเองมากว่า 20 ปี!!
กลายเป็นคดีสุดโด่งดังและเป็นต้นแบบให้กับวรรณกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนิยาย ละคร หรือภาพยนตร์ สำหรับ Mary Kay Letourneau (แมรี เคย์ ลิทัวโน) คุณครูสาวสวยที่ “หลงรัก” นักเรียนชายของตัวเอง ในปี 1995 Mary Kay Letourneau ครูสาวชาวอเมริกันวัย 34 ปี ได้พบเจอกับ Vili Fualaau นักเรียนชายวัย 12 ปีของเธอ และเกิดหลงรักเข้าอย่างจริงจังทั้งที่เธอเองก็แต่งงานและมีลูกแล้วถึง 4 คน Mary Kay Letourneau Mary ตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์กับ Vili นั่นทำให้เธอได้รับความผิดฐานพรากผู้เยาว์เพราะถือเป็นการข่มขืนเด็กชายที่ยังเป็นเยาวชน จากเหตุการณ์นี้เองทำให้เธอตั้งครรภ์ลูกคนแรกกับ Vili ภายใต้การรับสารภาพของ Mary ทำให้โทษของเธอลดลงเหลือเพียงจำคุก 6 เดือน รอลงอาญาอีก 3 เดือน และห้ามติดต่อกับ Vili อีกตลอดชีวิต แต่นี่ความรักคงห้ามกันไม่ได้ หลังจากที่ติดคุกได้ 3 เดือน เธอก็ถูกจับได้ว่าแอบไปมีเพศสัมพันธ์กับ Vili…
-
ผู้ใช้ท้องถนนต้องตะลึง หลังเจอหนุ่มใหญ่ร่างท้วมขับ “รถบั๊ม” ออกมาวิ่งหน้าตาเฉย
สมัยเด็กๆ เพื่อนๆ เคยมีโอกาสได้ไปเดินเที่ยวเล่นตามงานวัดหรืองานกาชาดอะไรแบบนี้กันบ้างมั้ย? หากเคยไปเดินล่ะก็เรามักจะเห็นของเล่นมากมายที่เขาตั้งเอาไว้รอให้เราไปจ่ายเงินเล่นอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน ปราสาทลม แต่ที่ฮิตสุดๆ ในหมู่วัยรุ่นก็คงไม่พ้นกับของเล่นที่เรียกว่า “รถบั๊ม” ที่เราสามารถขึ้นไปขับเจ้ารถที่เขาเตรียมเอาไว้ให้ พุ่งเข้าชนใส่ผู้ขับรถคันอื่นๆ ในลานกว้างๆ พร้อมกับดีเจและเสียงเพลงสุดเร้าใจยิ่งทำให้เราสนุกสุดเหวี่ยงไปกับมันมากขึ้นไปอีก ซึ่งปกติแล้วเราจะเห็นรถบั๊มได้แค่ตามในงานวัดหรือสวนสนุกเท่านั้น แต่ข่าวที่จะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ต้องทำให้ประหลาดใจกันอย่างแน่นอน เพราะว่ามีคนนำเอาเจ้ารถบั๊มออกมาวิ่งในถนนจริง!! โดยเรื่องราวเกิดขึ้นช่วงเย็นของวันที่ 19 กันยายน 2018 ณ เมือง Harlow มณฑลเอสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ เมื่อผู้ใช้รถยนต์ท่านหนึ่งได้สังเกตเห็น ชายรูปร่วมท้วมกำลังขับยานพาหนะชนิดหนึ่งกำลังรอที่จะข้ามถนน ใช่แล้ว…พาหนะชนิดนั้นคือรถบั๊มนั่นเอง เมื่อเรื่องวิดีโอดังกล่าวถูก Telematics Pro อัปโหลดขึ้นไปบนโลกออนไลน์พร้อมกับแคปชั่นว่า “นี่ไม่ใช่อะไรที่เราจะได้เห็นอยู่บนถนนในทุกๆ วัน” ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอมเมนต์ว่า “นี่มันรถตำรวจรุ่นใหม่แน่ๆ แบบประหยัดงบอ่ะ” หรือจะเป็น “เขาต้องแอบไปทำอาชญากรรมอะไรมาแล้วทิ้งรถเก่าและมาเอารถคันใหม่ที่เน้นความเงียบแน่ๆ” แต่เมื่อเราลองค้นหาข้อมูลต่อไปแล้ว ก็พบว่าเขาคือเจ้าของกลุ่มและเพจ Abused mobility scooters And More กลุ่มที่ชื่นชอบรถขับเคลื่อนโดยมอเตอร์อย่างสกู๊ตเตอร์หรืออื่นๆ (ที่ไม่ใช่รถยนต์แบบปกติ) ก็เรียกได้ว่าเป็นสีสันที่แปลกประหลาดเวลาที่ไม่ค่อยได้เห็นจากบนท้องถนนสักเท่าไหร่ ไม่รู้ในไทยถ้านำรถบั๊มมาขับบ้างจะถูกพี่ตำรวจจับมั้ยน้าาาา? …
-
น่าทึ่ง!! หนุ่มอินโดพร้อมกับแพถูกพายุพัดออกไปอยู่กลางทะเล ลอยคออยู่ 49 วันยังรอด
สภาพอากาศถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่นักเดินเรือหรือชาวประมงต้องทำการศึกษาและเรียนรู้อยู่เสมอ เพราะหากคุณออกไปหาปลาขณะที่เกิดพายุอยู่อาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ขนาดไม่ได้ออกไปหาปลาถึงกลางทะเลก็ยังอาจจะเจอเหตุร้ายจากพายุได้ เหมือนอย่างหนุ่มคนที่เราจะนำมาพูดถึงวันนี้ เขากำลังใช้แสงไฟเพื่อล่อปลาอยู่บนแพกระท่อมที่เรียกว่า “Rompong” ขณะที่เกิดพายุขึ้นและพายุก็ได้พัดเอาแพของเขาลอยไปไกลเกือบ 2,000 กิโลเมตรและใช้เวลาถึง 49 วันกว่าจะมีคนพบตัว คนคนนั้นคือ Aldi Novel Adilang หนุ่มวัย 19 ปีจากเกาะ Sulawesi ของประเทศอินโดนีเซีย ในขณะที่แพกระท่อมของเขาถูกพายุพัดพาออกจากถิ่นไปไกลประมาณ 1,900 กิโลเมตร แพของเขานั้นมีอาหารติดอยู่เพียงพอสำหรับวันสองวันเท่านั้น แถมยังไม่มีไม้พายหรือเครื่องยนต์ที่จะทำให้เขาสามารถนำมันกลับเข้าฝั่งได้ด้วย ตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมานี้ Aldi ได้ต้องเอาตัวรอดโดยการพยายามจับปลาและเผาเศษไม้บนแพเพื่อทำให้มันสุก ส่วนเรื่องของน้ำดื่มเขาก็อาศัยดื่มน้ำทะเลที่กรองเอาเกลือออกผ่านเสื้อของเขา วันแล้ววันเล่าที่เจ้าหนุ่มต้องลอยคออยู่กลางทะเลที่ไม่รู้อยู่จัดไหนของโลก เขาได้บอกว่าเขาเจอเรือเป็นสิบๆ ลำและมีความหวังเสมอเมื่อเห็นเรือลำใหญ่ๆ เข้ามา แต่เรือเหล่านั้นกลับมองไม่เห็นเขาและแล่นผ่านเขาไปโดยไม่สนใจเลยสักนิด จนผ่านมา 49 วัน ในวันที่ 31 สิงหาคม ในที่สุดลูกเรือของเรือของชาวปานามาก็ได้สังเกตเห็นเขาและช่วยเขา จากนั้นเขาจึงรู้ว่าตัวเองในบนน่านน้ำของเกาะกวม ซึ่งห่างจากประเทศอินโดนีเซียถึง 1,900 กิโลเมตร!! พวกลูกเรือชาวปานามาได้พาเขาส่งไปที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ซึ่งเขาได้รับการดูแลอย่างดีจาก Mirza ตัวแทนกงสุลอินโดนีเซียในประเทศญี่ปุ่น พวกเขาพา Aldi ไปตรวจสุขภาพและพบว่าสุขภาพของเขาดีมากๆ…
-
นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำ!! Andy Murray ทำโล่รางวัลที่เพิ่งได้รับมาไม่กี่วินาทีตกพื้น…
หากพูดถึงกีฬาเทนนิสแล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักนักเทนนิสชื่อดังอย่าง Andy Murray นักเทนนิสชาวสกอตแลนด์ผู้เล่นได้อย่างรวดเร็วและมีพลัง อดีตเจ้าของตำแหน่งนักเทนนิสอันดับหนึ่งของโลก ล่าสุด Andy ก็ได้เดินทางไปยังประเทศจีนเพื่อเตรียมตัวแข่งขัน Shenzhen Open แน่นอนว่านักเทนนิสชื่อดังอย่างเขามาเยือนจีนขนาดนี้ จึงมีองค์กรอยากจะมอบโล่รางวัลเป็นที่ระลึกให้แก่เขา แต่ประเด็นที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ชมกันในวันนี้เองคือจังหวะที่ Andy กำลังจะถ่ายรูปกับโล่ที่ระลึก จู่ๆ ไม่รู้อีท่าไหน เขาดันไปทำเจ้าโล่รางวัลดังกล่าวร่วงพื้นทั้งๆ ที่เพิ่งจะได้รับมันมาเดี๋ยวเดียวเอง… Whoops! Andy Murray drops a commemorative plate in China 😂 pic.twitter.com/JIapbpTDDA — ESPN UK (@ESPNUK) September 24, 2018 วันที่ 24 กันยายน 2018 Andy Murray ได้อัปโหลดสตอรี่ขึ้นบนอินสตาแกรมพร้อมกับแคปชั่นว่า “อุ๊ปส์” สั้นๆ แต่คนดูน่าจะรู้ว่าช่วงนั้นเขารู้สึกอย่างไร (ฮา) โดยในวิดีโอเราจะเห็นได้ว่า Andy กำลังถ่ายรูปคู่กับถ้วยรางวัลที่ระลึกของเขาอยู่และทันทีที่เขาทำมันหล่นลง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขายิ้มแบบเขินๆ พร้อมพูดขอโทษอย่างรวดเร็ว…
-
17 ความเฟลที่ไม่น่าให้อภัย ทำไมพวกเอ็งไม่ทำงานกันให้ดีๆ เละขนาดนี้เดี๋ยวก็ไม่ได้ค่าจ้างหรอก!!
เพื่อนๆ บางคนอาจเคยมีประสบการณ์ว่าจ้างให้คนอื่นๆ มาช่วยดูแลทำโน่นทำนี่ให้ อย่างเช่นการจ้างกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หรือการจ้างพนักงานมาช่วยดูแลธุรกิจส่วนตัว แต่แน่นอนว่าบางคนที่เราจ้างมาอาจก่อความผิดพลาดขึ้นมาได้เป็นเรื่องปกติ ถึงอย่างนั้นก็ขอให้อย่าพลาดซะจนเหมือนอย่างในภาพเหล่านี้ก็พอ เพราะเห็นแล้วรู้สึกไม่อยากจะให้อภัยเลยจริงๆ ไม่เชื่อก็ลองไปดูกันสิ ถ้าไม่เอาโดรนบินขึ้นมาดู ก็คงไม่รู้หรอกนะเนี่ย คือหุ่นลองเสื้อผิดอะไร?? อันนี้นี่คือแปลชื่ออาหารมาให้แล้วใช่มั้ย สายไฟแบบกันน้ำ รถขับผ่านได้ แต่จะใช้นานหรือเปล่าไม่รู้นะ หญ้าก็ขึ้นมาตรงเส้นพอดีเลยนะ รู้สึกเหมือนทำมาให้ลำบากกว่าเดิม อยากรู้จริงๆ ว่าเขาทำไว้ทำไม ไม่ทราบว่าต้องเลือกผักตรงไหนครับเนี่ย ถ้ามันจะติดแบบนี้ คงล้างได้แค่ปลายเล็บแหละนะ งบหมดพอดี ใช้อย่างนี้ไปก่อนแล้วกัน อ้างล่างมือในห้องน้ำชาย เชื่อว่าต้องมีคนสับสนกันบ้างแหละ บันไดหนีไฟ รับรองว่าจะไม่โดนไฟคลอกตาย แต่อาจตกตึกแทน ใช้ยังไงล่ะทีนี้ สรุปจะเอาเลขอะไรกันแน่ อึยังไงให้ปวดหลัง ก็ตรงตามแบบที่วาดเอาไว้นะ ที่มา: brightside
-
หมดยุคศัยกรรม! เป็น ‘สาวอึ๋ม’ ได้ง่ายๆ ด้วย “ซิลิโคนคอสเพลย์” หน้า ผม นม มาครบจ้า!!
ต้องยอมรับเลยว่า การคอสเพลย์ กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งประเทศไทยและต่างประเทศต่างก็มีจำนวนผู้แต่งกายตามตัวละครในวรรณกรรมจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้น การคอสเพลย์ยังเปิดโอกาสให้ผู้คนได้แต่งกายตามใจชอบ ไม่ว่าคุณจะเป็นวัยหรือเพศใด ก็สามารถแต่งกายเป็นตัวละครต่างวัยและต่างเพศได้เสมอ เช่น หนุ่มที่อยากแต่งเป็นตัวละครสาว เป็นต้น ปัจจุบันร้านขายของออนไลน์จากประเทศจีนได้จับทางของตัวเองได้ จึงมีการขายสินค้าสำหรับผู้ที่อยากแต่งคอสเพลย์เป็นตัวละครที่ข้ามเพศและข้ามอายุกับตนเอง สินค้านั้นก็คือ หน้ากากและชุดซิลิโคนเสมือนจริง Eyung Crossdressing Store เป็นร้านขายของบน AliExpress ซึ่งสินค้าภายในจะเป็นหน้ากากซิลิโคน (ที่เหมือนคนมากๆ) พร้อมทั้งชุดซิลิโคนครึ่งตัวและเต็มตัวที่สามารถเลือกหน้าอกได้หลายขนาด ลูกค้าสามารถเลือกได้ 3 แบบ ได้แก่ 1) หน้ากากชิ้นเดียว 2) หน้ากากแบบเต็มศีรษะ และ 3) หน้ากากเต็มศีรษะพร้อมด้วยหน้าอก ส่วนราคาก็แตกต่างกันไปตามลักษณะของสินค้า ถ้าเป็นหน้ากากแบบชิ้นเดียว ก็จะเริ่มต้นที่ 98 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราวๆ 3,200 บาท) แต่ถ้าเป็นชุดซิลิโคนเต็มตัวพร้อมศีรษะก็จะอยู่ที่ราวๆ 21,000 บาท นับว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลทีเดียว สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นที่จดจำในการแต่งคอสเพลย์เป็นเพศตรงข้ามชนิดที่ว่าแนบเนียนสุดๆ ลองชมตัวอย่างสินค้าต่างๆ จากทางร้านได้เลย . . . นอกจากชุดเพศหญิงแล้วยังมีชุดซิลิโคนโมเดลผู้ชายให้เลือกสรรกันด้วย…
-
ครูฝึกชุบเลี้ยง ‘พิตบูลล์ถูกทิ้ง’ และทำให้มันกลายเป็น ‘สุนัข 9K’ ตัวแรกของนิวยอร์ก
ไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์อะไร นิสัยเป็นยังไง แต่ละตัวย่อมมีทั้งจุดดีและไม่ดีใจตัว อยู่ที่ว่าเราจะเลือกมองมันแบบไหน และจะปฏิบัติยังไงกับพวกมัน เหมือนกับเรื่องราวของ Kiah สุนัขพิตบูลล์ที่ถูกทิ้งบริเวณร้านขายของชำ มันจึงต้องกลายเป็นหมาจรจัดผู้น่าสงสาร แถมมีแผลที่หัวด้วย ไม่มีใครรู้ว่าพิตบูลล์ตัวนี้เป็นของใคร ดังนั้น พลเมืองดีจึงพามันไปศูนย์พักพิงสัตว์ และที่นั่นทำให้มันได้เจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะถูกรับเลี้ยงในที่สุด โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิ Animal Farm Foundation มูลนิธิดังกล่าวนี้ทำงานร่วมกับ Austin Pets Alive และ Universal K9 ของ Brad Croft ซึ่งเป็นครูฝึกสุนัขสำหรับเป็นสุนัขบริการ หลังจากที่ได้เห็นลักษณะของ Kiah แล้ว Croft รู้ว่ามันต้องกลายเป็นสุนัขตำรวจที่สมบูรณ์แบบแน่ๆ… สำหรับสุนัขตำรวจนั้น ต้องมีคุณสมบัติหลายอย่างที่ทำให้พวกมันสมบูรณ์ ที่สำคัญที่สุดคือ พวกมันต้องมีความมั่นใจ นอกจากนี้พวกมันต้องไม่มีความกลัว มีอยากรู้อยากเห็น และรักที่จะฝึกฝน ซึ่ง Kiah เป็นหนึ่งสุนัขที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ดังนั้น Croft จึงมุ่งมั่นที่จะฝึกมันให้เป็นสุนัขตำรวจ ตลอดระยะเวลาการฝึก สิ่งที่ทำให้ Croft ประทับใจมากที่สุดคือ Kiah สามารถจดจ่ออยู่กับของเล่นที่ใช้สำหรับฝึกได้เป็นระยะเวลานานและไม่วอกแวกเลย อย่างไรก็ตาม แม้ Kiah จะได้รับการฝึกแล้ว ไม่ได้หมายความว่าตำรวจจะนำตัวมันไปใช้งานได้ทันที เพราะอย่างที่รู้กันว่าผู้คนมักจะมีทัศนคติเชิงลบต่อพิตบูลล์เสมอ…
-
น้องหมานอนตดแถมยิ้มอีกต่างหาก พี่เหมียวที่อยู่ข้างๆ เลยป๊าบเข้าให้เพื่อสอนมารยาท
หากคุณเลี้ยงทั้งหมาและแมวไว้ในบ้าน จะรู้ว่าพวกมันเข้ากันไม่ค่อยได้หรอก โดยเฉพาะแมว มันพร้อมที่จะทำร้ายน้องหมาเสมอ ถ้าเห็นพวกมันเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ ถ้าว่าแต่เรียกร้องความสนใจเลย บางทีน้องหมาอยู่เฉยๆ ยังโดนเหมียวรังแกเลย เหมือนกับคลิปนี้ที่ทำเอาเจ้าของหัวเราะค้างนานเป็นปีเลย (เวอร์ได้อีก แต่ฮาจริง) เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนแรกหมากับแมวก็นอนด้วยกันบนเตียงปกตินี่แหละ และดูเหมือนพวกมันจะนอนเตียงเดียวกันได้โดยไม่มีความขัดแย้งใดๆ แต่สักพัก น้องหมาก็ดันผายลมออกมาซะงั้น แถมยิ้มกรุ้มกริ่มอีกต่างหาก หารู้ว่าไม่ว่ากลิ่นตดของมันสร้างความไม่พอใจให้เจ้าเหมียวเป็นอย่างมาก ตดแล้วยังมีหน้ามายิ้มอีก แบบนี้ต้องสั่งสอนสักหน่อยแล้ว เมื่อเห็นน้องหมาทำท่าไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด เจ้าเหมียวเลยตัดสินใจสอนมารยาทให้น้องหมา เพื่อให้มันรู้ว่าไม่ควรตดในที่สาธารณะ ว่าแล้วพี่เจ้าเหมียวก็ตบเข้าที่หัวของน้องหมาอย่างแรง 2 ที แต่บทเรียนครั้งนี้คงแฝงไปด้วยความแค้นส่วนตัว ทำเอาน้องหมาตื่นพร้อมความงงงวย เมื่อกี้เหมือนมีอะไรหล่นทับหัวเลย เอ๊ะ หรือเราฝันไป หลังจากที่โดนตบ น้องหมาผู้น่าสงสารก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะหาตัวการแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะมันรู้ว่าเป็นฝีมือเจ้าเหมียว และมันคงชินกับการโดนกระทำแบบนี้แล้วละมั้ง ไปดูคลิปเหตุการณ์กันสักหน่อย ที่มา theanimalspage
-
ผู้เชี่ยวชาญถอดรหัสปาปิรุสโบราณอายุ 1,300 ปี เชื่อมาจากคาถา “เวทมนตร์ แห่งความรัก”
เมื่อความรู้และเทคโนโลยีในการถอดรหัสของมนุษย์พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จึงมีความพยายามในการถอดรหัสข้อความบนกระดาษปาปิรุสจากยุคโบราณ และทุกๆ ครั้งที่มีการถอดรหัส ก็จะทำให้เราได้ทราบเรื่องราวใหม่ๆ เกี่ยวกับอียิปต์โบราณ และในครั้งนี้เองก็ถึงคราวของกระดาษปาปิรุสโบราณอายุกว่า 1,300 ปีที่จะถูกนำมาถอดรหัสบ้างแล้ว นี่เป็นกระดาษปาปิรุสที่มีภาพของสัตว์ที่รูปร่างคล้ายนกสองตัวที่มีส่วนลำตัวช่วงล่าง “เชื่อมกัน” ด้วยสิ่งที่อาจเป็น “อวัยวะเพศ” เบื้องต้นเชื่อกันว่านกด้านซ้ายเป็นตัวผู้และนกด้านขวาเป็นตัวเมีย โดยนี่เป็นอาจการพยายามที่จะแสดงความแตกต่างทางเพศอยู่ก็ได้ นอกจากนี้ในกระดาษยังมีข้อความที่เขียนไว้ด้วยอักษรคอปติก รูปแบบหนึ่งของอักษรกรีกที่มีการใช้กันในภาษาอียิปต์ โดยข้อความที่ยังพอหลงเหลืออยู่ของส่วน “คาถา” สามารถแปลได้ว่า “ข้าพเจ้าขออัญเชิญ… ผู้ซึ่งเป็นพระคริสต์ เทพแห่งอิสราเอล” นอกจากนี้ก็มีประโยคสั้นๆ ที่ว่า “ท่านจะสูญสลาย” และมีการพูดถึง “บุตรของอาดัมทุกคน” ดูเหมือนว่านี่จะเป็นส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มใหญ่กว่านี้ และถูกใช้โดย “จอมเวท” เพื่อประกอบพิธีอะไรสักอย่างในยุคสมัยที่คริสต์ศาสนาเพิ่งเข้ามาในอียิปต์ได้ไม่นาน ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นเวทมนตร์หรือพิธีกรรมแห่งความรัก และมีความเกี่ยวข้องกับรักต้องห้าม “ตำราคริสเตียนในอียิปต์ที่มีการพูดถึงเวทมนตร์แห่งความรักมักมีเรื่องราวเกี่ยวกับความรักต้องห้ามของชายที่ไปหลงรักผู้หญิงที่เขาไม่อาจเอื้อม เช่นผู้หญิงที่เด็กเกินไป หรือหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว” Korshi Dosoo อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยสตราสบูร์กในประเทศฝรั่งเศส ผู้ร่วมแปลกระดาษปาปิรุสแผ่นนี้กล่าว อย่างไรก็ตามจากความไม่สมบูรณ์ของแผ่นกระดาษ บวกกับที่มาของกระดาษปาปิรุสที่ยังเป็นปริศนา ทำให้การถอดรหัสในครั้งนี้ไม่สามารถทำได้อย่างราบรื่นเท่าที่ควรจะเป็น เพราะการที่ไม่สามารถหาคนที่บริจาค หรือ ชื่อหนังสือที่เป็นต้นฉบับได้ ก็ทำให้โอกาสที่จะค้นพบเนื้อหาส่วนที่เหลือของหนังสือเวทมนตร์เล่มนี้หดหายไปด้วยนั่นเอง ที่มา livescience, technologybreakingnews
-
‘หมาจรจัด’ ได้รับการช่วยเหลือและได้อาบน้ำเป็นครั้งแรก รู้สึกดีจนไม่ยอมออกจากอ่าง
สำหรับสุนัขจรจัดแล้ว พวกมันแทบจะไม่รู้จักความรัก ความอบอุ่น หรือความรู้สึกของการรับได้รับความเอาใจใส่ เพราะพวกมันไม่เคยได้สัมผัสสิ่งเหล่านี้ เจ้าหมา Blossom ก็เช่นกัน มันถูกพบอยู่ที่หน้าระเบียงของบ้านร้างหลังหนึ่ง พลเมืองดีบางคนพยายามจะจับมันเพื่อช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สำเร็จ ในที่สุด หญิงสาวที่ชื่อ Erika ก็ตัดสินใจโทรแจ้ง WOOF Pet Rescue พวกเขาจึงมายังบ้านดังกล่าวทันที จากนั้นทีมช่วยเหลือก็พยายามจับตัว Blossom แต่มันไม่ง่ายเลย เพราะเจ้าหมาไม่อยากโดนจับ และพยายามต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตลอด แต่เมื่อทีมงานเอากรงมาวาง Blossom กลับเข้าไปนั่งในนั้นอย่างง่ายดาย จากนั้น พวกเขาก็พามันไปยังศูนย์ช่วยเหลือ WOOF แม้ว่าเจ้าหมาจะดูหวาดระแวง แต่มันก็ดูมีความสุขมากเช่นกันที่ได้อยู่ใกล้ผู้ช่วยเหลือ มันดูผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับการที่มีคนมาพูดด้วย หลังจากที่เจ้าหมารู้สึกปลอดภัยภายใต้การดูแลของ WOOF พวกเขาก็พามันไปหาสัตวแพทย์ ซึ่งคุณหมอแจ้งว่ามันเป็นโรคเรื้อนชนิดที่ค่อนข้างร้ายแรง แต่ก็นับว่าโชคดีที่มันไม่มีความเจ็บปวดอื่นๆ ที่ร้ายแรงถึงชีวิต และด้วยความรักและการเอาใจใส่จากผู้ดูแล ทำให้มันฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อตรวจสุขภาพเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ของ WOOF ก็พา Blossom ไปอาบน้ำ และดูเหมือนว่านี่จะเป็นการอาบน้ำครั้งแรกในชีวิตของมัน Blossom หงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อพนักงานเริ่มบีมน้ำยาอาบน้ำลงบนตัวและถูของมัน แต่สักพัก มันก็เริ่มผ่อนคลายและไว้ใจคนที่ตั้งใจจะช่วยมัน ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนมันจะชอบที่ถูกเอาใจใส่แบบนี้ด้วย หลังจากอาบน้ำเสร็จ Blossom…
-
เจ้าของพา ‘หมาแก่’ มาอาบน้ำตัดขน แต่สุดท้าย เธอไม่กลับมารับมันอีกเลย…
ในปลายเดือนที่ผ่านมา หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่มีผมสีแดงและใส่ปิดตาขวาเอาไว้ ได้เดินเข้ามาใน The Secret Garden Pet Resort พร้อมกับสุนัขบูลด็อกวัยแก่ของเธอเพื่อมาอาบน้ำตัดขนให้ หลังจากนั้น หญิงคนดังกล่าวก็ยืนกรอกแบบฟอร์ม โดยระบุชื่อว่า Melanie Wichester ส่วนชื่อสุนัข เธอเขียนว่า William Katz เมื่อพนักงานอุ้มเจ้าบูลด็อกเข้าไปข้างในเพื่ออาบน้ำ พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าสุนัขตัวนี้กำลังเจ็บปวดอยู่ ลำตัวของมันเต็มไปด้วยแผลกดทับ ซึ่งเป็นไปได้ว่ามันอาจจะลูกขังอยู่ในลัง นอกจากนี้มันยังทรมานจากการติดเชื้อที่ผิวหนัง ตา และหู พนักงานพยายามทำความสะอาดมันอย่างอ่อนโยนและทำให้มันรู้สึกสบายขึ้น พวกเขาใช้แชมพูชนิดพิเศษอาบน้ำให้มัน จากนั้นก็รอให้เจ้าของกลับมารับ 3 ชั่วโมงต่อมา ซึ่งเกินเวลาที่เจ้าของต้องกลับมารับน้องหมาแล้ว แต่หญิงสาวคนนั้นก็ยังไม่มา ส่วนเจ้าหมาได้แต่รอแล้วรอแล้วรออีก กระทั่งพระอาทิตย์ตก พนักงานจึงเริ่มตระหนักแล้วว่าน้องหมาตัวนี้คงไม่ได้กลับบ้านอีก Katie Ross ผู้จัดการของ Secret Garden Pet Resort บอกว่า “คืนนั้นมันนอนในร้านของเรา ในวันรุ่งขึ้น เราก็ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ เราจึงติดต่อไปยังกรมควบคุมสัตว์ ไม่นาน ก็มีคนมารับตัวมันไป” สำหรับชื่อและเลขประจำตัวที่หญิงคนนั้นได้กรอกไว้ พบว่าเป็นข้อมูลปลอมทั้งหมด นักวิจัยจาก MSPCA จึงได้ทำการสืบหาตัวหญิงคนนั้นทันที ทั้งสอบถามจากคนในละแวกนั้นและตรวจสอบจากฐานของข้อมูลของตำรวจ หลายวันผ่านไป…
-
หนุ่มได้ยินเสียงเมี๊ยวจากหลังบ้าน พอไปดูก็พบลูกแมว 3 ตัว ที่กำลังอ้อนให้ช่วยเหลือ
เมื่อ Nathan Kehn จากลอสแอนเจลิส กลับมาที่บ้านหลังจากที่อาหารแมวจรจัดในท้องถิ่นเสร็จ เขาก็ได้ยินเสียงเมี๊ยวๆ ดังมาจากสวนหลังบ้าน เมื่อตามเสียงนั้นไป เขาก็ต้องเซอร์ไพรส์ที่เจอกับลูกแมว 3 ตัวที่นั่น จากนั้นแม่แมวก็เดินจากไป เห็นได้ชัดว่าพวกมันต้องการความช่วยเหลือ ตาของลูกแมวติดเชื้อ มีหมัดอยู่เต็มตัว และพวกมันกำลังทรมานจากความหิว Nathan จึงรีบกลับไปเอาอาหารมาให้พวกมัน พร้อมให้การรักษา และทำกับดักไว้สำหรับแม่แมว ด้วยความช่วยเหลือจาก Ashley ผู้ช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่น ทำให้ลูกแมว 2 ตัว ออกจากที่ซ่อนได้อย่างปลอดภัย แต่ลูกแมวตัวที่สาม เอาแต่หลบอยู่ในซ่อนและไม่ยอมออกมาเลย ต่อมา เมื่อ Nikki Martinez ได้รับการติดต่อเกี่ยวกับลูกแมวทั้ง 3 ตัว เธอจึงขอความช่วยเหลือผ่านทางอินสตาแกรม ปรากฏว่ามีผู้คนมากมายยินดีให้ความช่วยเหลือ ในไม่ช้า พวกเขาก็สามารถพามิ้วน้อยตัวที่ 3 ออกจากที่ซ่อนได้สำเร็จ . Ashley ได้พาลูกแมวทั้ง 3 ไปหา Nikki เพื่อให้เธอช่วยหาบ้านอุปถัมภ์ให้พวกมัน นอกจากนี้ เธอยังได้ตั้งชื่อให้ลูกแมวด้วยว่า Bompie Sardu และ Sprinkleboat ตอนแรกลูกแมวมีอาการหวาดกลัวเล็กน้อย แต่หลังจากที่ได้กินอาหารแบบเต็มอิ่ม…
-
คนใจร้ายจับหมาใส่ถุงดำแล้วนำไปทิ้ง โชคดีที่มีคนมาเห็นและช่วยมันไว้ได้ทันเวลา
เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน มีคนไปเจอสุนัขถูกห่อด้วยถุงดำ ก่อนจะพามันไปยังศูนย์พักพิง Richmond Animal Care and Control (RACC) สภาพของสุนัขตัวนั้นดูน่ากลัวมาก ขนมันร่วงจนเกือบหมด และผิวหนังของมันมีแผลติดเชื้อที่ไม่ได้รับการรักษามาเป็นเวลาหลายปี Christie Chipps Peters ผู้อำนวยการของ RACC บอกว่า “เราโมโหมากเมื่อรู้ว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น แต่ตอนนี้เรารู้สึกโล่งใจที่มันถูกพามาที่นี่ เพราะเราสามารถรักษามันและทำให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปได้” หลังจากนั้น พนักงานก็เริ่มดูแลรักษาเจ้าหมาตามขั้นตอน และตั้งชื่อให้มันว่า Annabelle… นอกจากแผลติดเชื้อที่ผิวหนังแล้ว มันยังติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน เป็นโรคตาแดง และมีปัญหาเกี่ยวกับฟัน หลังจากที่ได้รับการรักษา เมื่อเวลาผ่าน ขนของมันก็เริ่มงอกขึ้นใหม่จนดูเหมือนสุนัขมากขึ้น และแม้ว่ามันจะผ่านเรื่องร้ายๆ มา แต่ Annabelle กลับเป็นสุนัขที่น่ารักและมีความสุขมากที่สุด คุณหมอคิดว่าเจ้าหมาน่าจะอายุประมาณ 5 ปี มันจะส่ายหางเวลาพนักงานเข้ามาดูแล มันชอบเดินเล่น และชอบพบปะผู้คนใหม่ๆ เสมอ Peters บอกว่า “มันมีความสุข มีจิตใจอ่อนโยน มันไม่ได้เศร้าหรือมีอาการหวาดกลัวเลย แต่มันมีความสุขกับทุกอย่างรอบๆ ตัว” Annabelle…
-
สุนัขถูกทิ้งเพราะ ‘ปากแหว่งเพดานโหว่ง’ แต่แล้วพ่อใหม่ก็ทำให้มันยิ้มได้อีกครั้ง
นี่คือน้องหมา Clefford มันเกิดมาพร้อมสภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ส่งผลให้มันถูกครอบครัวนำมันไปทิ้งในศูนย์พักพิงสัตว์ โดยไม่พยายามดูแลหรือรักษามันเลย แน่นอนว่ามันเป็นการตัดสินใจที่น่าเศร้ามากสำหรับเจ้าเหมา แต่หลังจากที่ครอบครัวทิ้งมันไว้กับ Angell Animal Medical Center เจ้าหน้าที่ก็พยายามหาบ้านใหม่ให้มันอย่างรวดเร็ว การที่ Clefford เป็นปากแหว่งเพดานโหว่ ทำให้มันมีปัญหาในการกิน ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงต้องจัดอาหารพิเศษให้มัน เพื่อไม่ได้มันบาดเจ็บระหว่างกิน อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าหมาจะถูกทิ้งและมีปัญหากับการกิน แต่มันไม่เคยเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นอุปสรรคในชีวิตเลย มันยังคงร่าเริงสดใส และมีความน่ารัก จนกลายเป็นขวัญใจของพนักงานและอาสาสมัครของศูนย์พักพิง ที่น่ายินดีมากที่สุดคือ มันได้พบกับพ่อคนใหม่ คนคนนั้นคือ Will Stoltenberg เขาเริ่มเข้ามาเป็นอาสาสมัครปีเดียวกับที่ Clefford ถูกพามาที่นี่ และเมื่อเห็นหน้าเจ้าหมา เขาก็ตกหลุมรักมันทันที Stoltenberg เริ่มใช้เวลากับเจ้าหมาปากแหว่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเพียงไม่นาน เขาก็ตัดสินใจรับเลี้ยง Clefford เมื่อพาเจ้าหมากลับมาบ้านครั้งแรก เขารู้เลยว่า Clefford ต้องผ่านเรื่องร้ายๆ มาเยอะมาก เพราะมันหวาดกลัวทุกอย่างรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นรถ สเกตบอร์ด ผู้หญิง รถจักรยานยนต์ รถตู้ นักวิ่ง และสุนัขตัวอื่นๆ อย่างไรก็ตาม Stoltenberg พยายามใจเย็นและอดทนกับมัน เมื่อเวลาผ่านไป เขาได้สอนให้เจ้าหมารู้ว่าโลกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่มันคิดเสมอไป …
-
20 ภาพสัตว์โลกกับโมเมนต์พลาดพลั้ง ทำเอาเหล่ามนุษย์ถึงกับขำแรงจนหยุดไม่ได้
ใครที่อยู่กับสัตว์เลี้ยงหรือชอบสังเกตพฤติกรรมของสัตว์ จะเห็นว่าจริงๆ แล้วพวกมันไม่ต่างจากมนุษย์เราเลย พวกมันดูฉลาดและโง่ในบางครั้ง บางทีก็ซุ่มซ่าม โกรธง่าย ดีใจแรง และทำท่าทางแปลกๆ เช่นเดียวกับสัตว์เหล่านี้ที่พลาดจนเกิดเป็นโมเมนต์ฮาๆ สำหรับมนุษย์ แต่จะฮาสำหรับพวกมันหรือเปล่านั้น ก็เป็นอีกเรื่องนะ 1. ว่ากันว่าฟลามิงโก้คือนกที่สง่างามที่สุดในโลก เอิ่มมมม 2. ใครปิดไฟว่ะ เปิดเดี๋ยวนี้เลยนะ 3. เล่นซ่อนแอบมันต้องแบบนี้ แค่เราไม่เห็นเค้า เค้าก็ไม่เห็นเราแล้ว 4. ตูไม่ขำนะมนุษย์ มาช่วยเอาออกให้หน่อยเด้ 5. หัวติดขนมปังไม่ใช่ปัญหา เพราะอย่างน้อยเราก็ยังกินต่อได้ 6. วิ่งธรรมดา ม้าที่ไหนก็ทำได้ เราเลยต้องสร้างความแตกต่าง 7. เมื่อคุณเป็นเพื่อนใหม่ในกลุ่ม ทำอะไรก็เกร็งไปหมด 8. อ่าว ตอนมนุษย์นอน มันไม่ได้เป็นแบบนี้นี่นา 9. มองไรกันหรอ เค้าก็แค่อยากมีปลอกขาบ้างเท่านั้นเอง 10. เมื่อบอกเพื่อนว่าถ่ายสวยๆ นะ…
-
ที่มาของ “สต็อกโฮล์มซินโดรม” อาการทางจิตสุดแปลกที่ “ตัวประกัน” หลงรัก “คนร้าย”
เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยรู้จักกับอาการทางจิตที่มีชื่อว่า “สต็อกโฮล์มซินโดรม” (Stockholm syndrome) มันเป็นกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นในบางครั้งกับคนที่ถูกคนร้ายจับเป็นตัวประกัน โดยเฉพาะในกรณีที่คนร้ายปฏิบัติตัวค่อนข้างดีกับเหยื่อ ลักษณะของสต็อกโฮล์มซินโดรมสามารถอธิบายง่ายๆ ว่าคือการ “หลงรัก” ในตัวคนร้าย จนในบางครั้งเหยื่อก็รู้สึกว่าสิ่งที่คนร้ายทำไม่ใช่เรื่องผิดอะไร หรือแม้กระทั่งเข้าข้างคนร้ายในบางกรณีเลยด้วย ชื่อของอาการสต็อกโฮล์มซินโดรม กลายเป็นที่รู้จักครั้งแรกจากคดีปล้นธนาคารโดยนาย Jan-Erik Olsson ในวันที่ 23 สิงหาคม 1973 ที่กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เขาจับเจ้าหน้าที่ของธนาคาร 4 คนเป็นตัวประกัน และเจรจาต่อรองขอเงินกว่า 2 ล้านบาท รถยนต์สำหรับหนี และการปล่อยตัวนักโทษคนหนึ่ง Jan-Erik Olsson (คนกลาง) ในตอนที่ถูกตำรวจที่ใส่หน้ากากกันแก๊สควบคุมตัว การเจรจาเหมือนว่าจะเป็นไปได้ดีสำหรับ Olsson ในตอนแรก อย่างไรก็ตามทางตำรวจปฏิเสธที่จะให้เขาพาตัวประกันออกไปด้วย ดังนั้นการปล้นธนาคารในครั้งนี้จึงกลายเป็นเรื่องยืดเยื้อยาวนานถึงห้าวัน และถูกเสนอข่าวไปทั่วประเทศ หน่วยซุ่มยิงที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ น่าแปลกที่ Olsson ดูแลตัวประกันของเขาเป็นอย่างดี เขาเอาเสื้อคลุมให้ตัวประกันหญิงเมื่อเห็นว่าเธอตัวสั่น ปลอบโยนตัวประกันตอนที่ฝันร้าย บอกตัวประกันให้อย่ายอมแพ้ตอนที่ติดต่อที่บ้านไม่ได้ มอบกระสุนปืนให้ตัวประกันเป็นเครื่องราง หรือแม้กระทั่งให้ตัวประกันออกไปเดินคลายเครียด (โดยผูกเชือกไว้) ในตอนที่มีอาการโรคกลัวที่แคบ …
-
เป็นไปได้ไง? เด็กเวียดนาม 5 ขวบ “พูดภาษาอังกฤษ” คล่องเป๊ะ แต่พูดเวียดนามไม่ได้…
ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันที่ใครๆ ก็อยากมีติดตัวกันทั้งนั้น ยิ่งสำหรับคนที่เติบโตมาในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักแล้ว กว่าจะใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วก็ต้องฝึกฝนกันยาวนาน แต่เรื่องราวในวันนี้เกี่ยวกับหนูน้อยเพศชายวัย 5 ขวบชาวเวียดนามที่สามารถ พูดภาษาอังกฤษ ได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งที่ตนเองยังพูดภาษาเวียดนามได้ไม่แข็งแรงแท้ๆ Le Nguyen Bao Trung หรือฉายาว่า Bin หนูน้อยวัย 5 ขวบชาวเวียดนาม วันนี้เขาสามารถพูดและอ่านภาษาอังกฤษได้อย่างดีเยี่ยม แต่ขณะเดียวกันสำหรับภาษาเวียดนามซึ่งควรจะเป็นภาษาหลัก เขากลับใช้ได้ไม่คล่องแคล่ว Le Nguyen Bao Trung หรือ Bin วัย 5 ขวบ ขณะที่หนูน้อย Bin มีอายุได้ 2 ขวบเขาก็เริ่มพูดคำแรกได้ Le Thi Lien ผู้เป็นแม่จำความได้ว่าในช่วงแรก Bin มักชี้นิ้วไปยังปฏิทินพูดออกมาว่า “Eleven (อิเลฟเวน)” ที่แปลว่าเลขสิบเอ็ด โดยที่ฝ่ายแม่ยังไม่เคยพูดภาษาอังกฤษให้เขาได้ยินเลยสักครั้ง จากนั้น แม่ของ Bin ก็ต้องตกใจมากขึ้นอีกเมื่อเจ้าหนูสามารถนับเลข 1-30 เป็นภาษาอังกฤษได้อย่างแม่นยำ จนปัจจุบัน Bin ในวัย 5 ขวบนั้นสามารถอ่านภาษาอังกฤษได้…
-
แฟนหนุ่มหลอกแฟน จะพาไปกินหมูกระทะ แต่ดันพามาฟิตเนส จำไว้ทีหลังอย่าขัดใจ
#เหมียวบู้บี้ เข้าใจดีว่าสำหรับผู้หญิงอย่างเราแล้ว เมื่อถึงช่วงเวลานั้นของเดือน อารมณ์ของสาวๆ ก็จะแปรปรวน อยากกินนั่นอยากกินนี่ เอาแต่ใจ ภาระหนักก็เลยต้องไปตกอยู่ที่แฟนหนุ่มหรือคนใกล้ชิดที่ต้องคอยเอาอกเอาใจ มิเช่นนั้นรับรองว่าดราม่าบ้านแตกแน่นอน เชื่อเถอะ กรณีตัวอย่างนั้นมีให้เห็นมากมายทั้งในโซเชียลและเรื่องจริงจากคนใกล้ตัว เราคงอาจจะเคยได้ยินข่าวที่แฟนสาวอาละวาดแฟนอย่างหนักเพราะแฟนไม่ซื้อชานมไข่มุกมาให้ นั่นแหละ อาการของผู้หญิงของแท้ ฮ่าาาาาา และเรื่องราวต่อไปนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่คุณผู้ชายทั้งหลายควรจดจำเอาไว้ การแกล้งแฟนสาวในช่วงอารมณ์อ่อนไหวนั้น มันไม่ใช่เรื่องเล่นเลยนะ!! ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Ponpipat Sirimongkol Chumnan ได้โพสต์ภาพและคลิปวิดีโอ พร้อมแคปชั่นสั้นๆ ว่า “อาการของคนอยากกินหมูกะทะ แต่แฟนพาไปฟิตเนส” นี่มันหายนะชัดๆ เลยรู้ไหมพี่ 55555555 ไม่เข้าใจคนที่อยากกินหมูกระทะหรอ พามาฟิตเนสทำมายยย คุณแฟนหนุ่มบอกว่าจะพาไปกินหมูกระทะ แต่ดันหลอกมาออกกำลังกายที่ฟิตเนส งานนี้ถึงกับต้องมีหลั่งน้ำตา ก็ตัวเองบอกจะพาไปกินหมูกระทะ ทำไมพาเค้ามาที่นี่อ่า ร้องไห้ แต่ก็ต้องปั่นต่อไป เค้าอยากกินหมูกระทะจริงๆ นะ ไปสองทุ่ม ปูมันก็หมดแล้วอ่ะ สุดท้ายสิ่งที่คุณผู้ชายไม่สามารถต่อต้านได้เลยก็คือผู้หญิง ยอมพามากินตั้งแต่แรกก็จบแล้ว ฮ่าๆ ที่มา Ponpipat Sirimongkol Chumnan
-
Chris Hemsworth หมดสัญญากับมาร์เวล บ๊าย บาย บทเทพเจ้าสายฟ้า อย่างเป็นทางการ
ไม่มีใครที่จะอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปได้ตลอดกาล งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อมีจุดเริ่มต้น สักวันก็ต้องสิ้นสุดเหมือนกัน….. นี่ #เหมียวบู้บี้ ไม่ได้เพ้อเพราะว่าโดนผู้ชายเทหรอกนะ (ระดับนี้ ^^) แต่เป็นเพียงแค่เสียใจที่ชายในฝันของ #เหมียวบู้บี้ กับใครอีกหลายๆ คนที่ต้องอำลาจักรวาลและบทบาทที่เขารักไปเนื่องจากว่าหมดสัญญาแล้ว ชายในฝันผู้นั้นไม่ใช่ใคร เขาคือ Chris Hemsworth ผู้รับบท Thor เทพเจ้าสายฟ้าผู้มากับค้อนและแขนล่ำๆ น่ากัด >< แต่น่าเสียดายที่เราอาจจะไม่ได้เห็นพี่ Chris ในบทเทพเจ้าสายฟ้าอีกต่อไปเนื่องจากว่า Chris ได้หมดสัญญากับทางค่ายมาร์เวลเป็นที่เรียบร้อย หลังจากการถ่ายทำฉากซ่อม Avengers 4 สิ้นสุดลงไป ล่าสุด Chris ได้เดินทางไปยังแอตแลนต้าเพื่อถ่ายทำฉากสุดท้าย พร้อมเป็นการโบกมืออำลาบท Thor เป็นครั้งสุดท้าย ส่วนคนที่อยากติดตามผลงานของพ่อหนุ่มกล้ามโตของเราต่อ ตามที่เขาได้โพสต์ลงในอินสตาแกรมส่วนตัวว่าตอนนี้เขากำลังกลับไปการถ่ายทำหนังเรื่องใหม่ Men in Black จักรวาลนี้จะขาดคุณพี่ไปไม่ได้นะ อย่าไปน๊าาาา ก็เป็นหน้าที่ของแฟนคลับแล้วที่ต้องมาลุ้นกันว่าทางมาร์เวลจะเซอร์ไพรส์อะไรเราอีกหรือไม่ เทพ Thor ตายหรือเปล่า…
-
รายการทีวีสวีเดน กล่าวและล้อพฤติกรรมแย่ๆ ของ ‘คนจีน’ เหมารวมเหยียดไปทั้งแผ่นดิน!
เป็นที่ทราบชื่อเสียงเรียงนามในเรื่องของพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มักจะมีข่าวและภาพแง่ลบออกมาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสียงดัง การถ่มน้ำลาย และพฤติกรรมแย่แบบอื่นๆ ที่ไม่ควรทำ ทว่ารายการทีวี Svenska Nyheter จากประเทศสวีเดน ได้หยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาเล่าอีกครั้ง ในหัวข้อยินดีต้อนรับชาวจีนสู่สวีเดน และกล่าวถึงสิ่งที่ควรและไม่ควรกระทำ โดยระบุเจาะจงไปที่นักท่องเที่ยวชาวจีน ภายในวิดีโอของรายการนั้น มีพิธีกรหญิงได้ออกมากล่าวถึงพฤติกรรมที่ไม่ควรทำของชาวจีน (พากย์ทับเป็นเสียงภาษาจีน) ออกมาเป็นเชิงมุกตลกล้อเลียนมากกว่า แต่ชาวจีนกลับรู้สึกไม่พอใจเนื่องจากเป็นการเหยียดและเหมารวมชาวจีนทั้งหมด เปิดมาทางรายการได้ยกตัวอย่างพฤติกรรมแรก กล่าวว่า ‘ในสวีเดน เราไม่อุจจาระเรี่ยราดตามสถานที่ทางประวัติศาสตร์’ “ถ้าเห็นคนเดินจูงสุนัขบนท้องถนน ไม่ได้หมายความว่า ‘สุนัข’ เป็นมื้อกลางวันของพวกเขานะ” “เราใช้ส้อมกับมีดรับประทานอาหารในสวีเดน และเราก็ไม่อุจจาระกลางคันระหว่างทานด้วย” “อีกหนึ่งความแตกต่างทางวัฒนธรรม คือชาวจีนนั้นเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติ” “แต่ในสวีเดน เรามีทั้งคนผิวสี ชาวยิว ชาวอาหรับ และคนรักร่วมเพศ” “นั่นเป็นเพราะพวกเราสนับสนุนสิทธิของทุกคนในเรื่องของความเท่าเทียม” “อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ใช้หลักการนั้นกับชาวจีน” ซึ่งภายหลังจากที่เนื้อหาภายในรายการออนแอร์ไปแล้ว วิดีโอคลิปตัวดังกล่าวก็ถูกแพร่กระจายต่อไปยัง Weibo ซื่อโซเชียลของชาวจีน และกลายมาเป็นหัวข้อติดอันดับการค้นหาด้วย…
-
“One Cut of The Dead” หนังแนวอินดี้ซอมบี้ ต้นทุนแค่เกือบล้าน แต่รายได้ทะลุ 200 ล้านบาท!!
One Cut of The Dead คือหนังอินดี้สัญชาติญี่ปุ่นที่มีการผสมผสานเรื่องราวของซอมบี้เข้าไป และเป็นหนังต้นทุนต่ำที่ใช้เงินทุนในการสร้างเพียงแค่ 27,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือราวๆ 876,000 บาท) One Cut of The Dead หนังแนวอินดี้-ซอมบี้ ต้นทุนต่ำ ไม่มีใครคิดว่าหนังเรื่องนี้จะได้รับความนิยมชนิดที่ว่าเปรี้ยงปร้างเอามากๆ เพราะล่าสุดจากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เพียงแค่ 3 แห่งในกรุงโตเกียว กลับทำรายได้ได้มากถึง 7.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราวๆ 233 ล้านบาท)!! รายได้นั่นเท่ากับ 250 เท่าของต้นทุนเลยทีเดียว!! (เข้าฉายในญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2018) One Cut of The Dead คือหนังที่ว่าด้วยเรื่องของ “การทำหนังซอมบี้ขึ้นมาสักเรื่อง” โดยฉากแรกนั้นคือการถ่ายทำหนังซอมบี้แบบที่ไม่มีการสั่งคัท ถ่ายติดต่อกันไปเรื่อยๆ ด้วยความยาวกว่า 37 นาที นั่นจึงอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน สังเกตได้จากคะแนนรีวิวในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes…
-
พนักงานขับรถของโรงเรียน ถูกไล่ออกจากงานหลังปล่อยให้เด็กๆ ขับรถกลับบ้านเอง
การสอนขับรถให้กับเด็กๆ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณดันทะลึ่งสอนกันบนท้องถนนจริงๆ ล่ะก็ งานนี้อาจจะทำให้เปลี่ยนสถานะจากผู้ปกครอง กลายเป็นผู้ต้องหาได้!! Joandrea McAtee คนขับรถโรงเรียนวัย 27 ปีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว หลังจากที่มีหลักฐานยืนยันว่าเธอปล่อยให้เด็กอายุ 11 และ 13 ปีขับรถโรงเรียนด้วยตัวเอง จากคลิปวิดีโอที่ถูกปล่อยออกไปในโลกออนไลน์ ได้เผยให้เห็นตอนที่คนขับรถหญิงรายดังกล่าว กำลังพูดกับหนูน้อยรายหนึ่งว่า “เธอจะไม่บอกผู้ใหญ่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ” พร้อมกับสอนเธอจับพวงมาลัยและเหยียบเบรก และในอีกคลิปวิดีโอ McAtee ยืนอยู่หลังเด็กน้อยรายหนึ่ง และปล่อยให้เธอขับรถโรงเรียนไปเรื่อยๆ พร้อมบอกว่า “ดี ดีมาก ฉันจะให้เธอหยุดตรงนี้” หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พี่สาวของเด็กหญิงรายหนึ่งที่อยู่บนรถบัสได้ให้สัมภาษณ์ว่า เธอรู้เรื่องทั้งหมดจากน้องสาวที่อยู่บนรถคันนั้น และได้ส่งอีเมลไปยังทางโรงเรียนเพื่อรายงานพฤติกรรมของคนขับรถ ทางด้านเจ้าหน้าที่ David Reynolds ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เราได้รับข้อมูลทั้งหมดจากเด็กๆ และผู้ปกครอง การสอบสวนมีขึ้นทันทีหลังจากที่เราได้รับแจ้ง” คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนรถ welcome to Boone grove where we let 6th graders drive a bus with children…
-
ไบเกอร์สาวตัดสินใจหยุดรถกลาง 4 แยก เพื่อช่วยชีวิตเจ้าลูกแมวหลงทาง
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ #เหมียวเวจจี้ ได้นำเสนอเรื่องราวของหนุ่มฟิลิปปินส์รายหนึ่งที่หยุดรถเพื่อช่วยเหลือน้องเหมียวผู้น่าสงสาร (อ่านข่าวเก่า หนุ่มพบลูกแมวน้อยบนถนนโดยบังเอิญ งานนี้ต้องหยุด “การจราจร” ชั่วคราว เพื่อช่วยเลยทีเดียว) ล่าสุดได้เกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้ขึ้นที่ต่างประเทศอีกครั้ง หลังจากที่ไบเกอร์สาวรายหนึ่งตัดสินใจเข้าช่วยเหลือเจ้าลูกแมวที่กำลังหลงทางอยู่กลาง 4 แยก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนสายหนึ่งในระหว่างที่การจราจรกำลังคับคั่ง ไบเกอร์สาวรายหนึ่งกำลังจอดรอไปแดง แต่ทว่าทันใดนั้นเธอกลับสังเกตเห็นเจ้าลูกแมวผู้น่าสงสารกำลังเดินหลงทางอยู่กลาง 4 แยก พร้อมกับรถหลายๆ คันที่วิ่งผ่านมันไป เมื่อเห็นดังนั้นฮีโร่สาวของเราไม่รอช้า เธอให้สัญญาณรถที่กำลังแล่นมาให้จอด พร้อมกับเคลื่อนรถของตัวเองเข้าไปใกล้ๆ เพื่อช่วยเหลือเจ้าลูกแมว ก่อนที่จะพามันออกไปสู่ที่ปลอดภัยได้สำเร็จ “เจ้าลูกแมวตัวนั้นไม่ได้ถูกโยนออกมาจากรถคันไหน แต่ดูเหมือนกับว่ามันจะหล่นมาจากใต้ท้องรถสักคันหนึ่ง ต้องขอบคุณผู้หญิงนิรนามรายนั้นและทุกๆ คนที่ช่วยมันไว้ ตอนนี้มันกำลังพักผ่อนและปลอดภัยแล้ว” ข้อความจากเฟซบุ๊กของหญิงสาว และนี่คือคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โชคดีจริงๆ เลยนะเจ้าเหมียว!! ที่มา unilad
-
เมื่อช่างภาพระดับรางวัล มาถ่าย “ภาพเน้นฮา” ใช้สำหรับการโฆษณา มันก็จะประมาณนี้!!
ช่างถ่ายภาพผู้ชำนาญการอย่าง Arthur Mesbius นั้นทำอาชีพนักถ่ายภาพมากว่า 15 ปีแล้ว และเขาเคยได้รับรางวัลต่างๆ มากมายอาทิเช่น Cannes, NY Festivals, Color Awards และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ที่ทำงานภาพเบื้องหลังให้กับบริษัทโฆษณาอีกหลายแห่ง แต่จะเป็นอย่างไรหากช่างภาพฝีมือเยี่ยมต้องมาทำภาพฮาๆ มาดูกันหน่อยว่าจะออกมาเป็นเช่นไร ขอเชิญทุกท่านไปชม 20 ภาพถ่ายเน้นฮา จากช่างภาพระดับรางวัลอย่าง Arthur Mesbius 1. หนูจะกินนม! 2. ว้าว ฉันกำลังท้องล่ะ!! (ป่องขนาดนี้ ไม่บอกไม่รู้เลยนะเนี่ย) 3. เราไม่ได้อ้วน เราแค่พกถุงปูนไปทุกที่เท่านั้นเอง 4. บุคลิกพี่คือต้องขี่ Harley Davidson เท่านั้นอะไม่ใช่ Vespa!! 5. ท่านครับผมเห็นบาซูก้า… 6. หรือนี่จะเป็นการนัดบอด… (คนละสไตล์กันสุดๆ ไปเลย) 7. ยืนตรงจนเมื่อยแล้วอะ 8.…
-
ชาวเน็ตฮือฮา สาวผู้มารายการหาคู่ ตัดสินใจสารภาพรักกับผู้เข้าแข่งขันหญิงด้วยกันเอง
“ความรัก” เป็นอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน ซึ่งอาจจะหมายถึงความรู้สึกในเชิงชู้สาวหรือความสัมพันธ์ในครอบครัวก็เป็นได้ แต่ที่แน่ๆ คือความรู้สึกนี้มันไม่เลือกเวลาเกิด… แม้แต่ในรายการเรียลลิตี้โชว์ชื่อดังอย่าง The Bachelor ก็ตาม เมื่อผู้เข้าแข่งขัน “หญิง” สองคน ทำสิ่งที่ทำให้ผู้ชมและผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ต้องตกตะลึง เมื่อเธอสองคนเกิดความรู้สึกรักแก่กันและกัน และเลือกที่จะยอมตกรอบไปพร้อมๆ กับอีกฝ่าย ต้องบอกก่อนว่า The Bachelor นี้เป็นรายการที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกาและได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จนมีหลายประเทศซื้อลิขสิทธิ์ไปทำตามๆ กัน โดยวัตถุประสงค์หลักตามเดิมของรายการนี้ก็คือการหาคู่แท้อยู่ เพียงแต่ว่าปกติแล้วผู้เข้าแข่งขันหญิงจะถูกเลือกโดยหนุ่มโสดที่รายการคัดเลือกมา ในคราวนี้ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นใน The Bachelor ของประเทศเวียดนาม ในช่วงพิธีมอบกุหลาบ (Rose Ceremony) หรือก็คือพิธีที่ฝ่ายชายจะมอบดอกไม้ให้กับผู้เข้าแข่งขันหญิงและคนที่ได้รับกุหลาบก็จะสามารถเข้ารอบต่อไปได้นั่นเอง Minh Thu ไม่ได้รับดอกไม้จาก Nguyen Quoc Trung ผู้เข้าแข่งขันฝ่ายชายในคราวนี้ (ซึ่งแปลว่าเธอตกรอบและต้องออกจากรายการไป) เธอจึงได้ตัดสินใจที่จะเปิดเผยความรู้สึกที่เธอมีต่อหน้ากล้องและผู้ชม เธอกล่าวว่า “ฉันมาเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้เพื่อที่จะหารักแท้และตอนนี้ฉันก็เจอรักแท้ของฉันแล้ว แต่นั่นไม่ใช่คุณ (ฝ่ายชาย) แต่เป็นคนอื่น” จากนั้นเธอก็เดินเข้ามาหาผู้เข้าแข่งขันหญิงอีกคนหนึ่งที่ชื่อ Truc Nhu และกอดเธอก่อนที่จะพูดกับเธอว่า “กลับบ้านกับฉันเถอะนะ” ท่ามกลางความตะลึงของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นและผู้ชม …
-
คลิปไวรัล พนักงานร้านอาหาร ‘ถ่มน้ำลายใส่พิซซ่า’ ของลูกค้า ก่อนราดซอสทับลงไป…
ยามที่เราไปรับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารต่างๆ เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าภายในห้องครัวหลังร้านนั้น มีการเตรียมอาหารกันอย่างไรบ้าง อย่างเช่นตัวอย่างจากวิดีโอหนึ่งที่กำลังโด่งดังบนโลกออนไลน์ ที่หนุ่มทำพิซซ่าคนหนึ่งมีการ ถ่มน้ำลาย ลงบนแป้งพิซซ่าก่อนจะราดซอสปิดทับลงไป Jaylon Kerley หนุ่มพนักงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ขณะที่เขากำลังเตรียมพิซซ่าให้กับลูกค้า วิดีโอก็ถ่ายติดจังหวะที่เขากำลังถ่มน้ำลายลงไปบนแป้งพิซซ่าถอดหนึ่งที่เขากำลังเตรียม เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 21 กันยายน 2018 และเขาก็ถูกไล่ออกจากงานพร้อมกับถูกจับกุมหลังจากที่พฤติกรรมของเขาครั้งนี้ถูกเผยแพร่ออกไป Quinelle May เพื่อนร่วมงานที่ถ่ายวิดีโอนี้และนำไปโพสต์ลงอินเทอร์เน็ตก็ถูกไล่ออกเช่นเดียวกัน คลิปวิดีโอ May เพื่อนร่วมงานของ Kerley กล่าวว่าวันนั้นเป็นวันที่แย่ของ Kerley จริงๆ เขาก็เลยถ่มน้ำลายใส่พิซซ่าแบบนั้น ซ้ำยังกล่าวต่ออีกว่า การกระทำครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก Kerley เคยถ่มน้ำลายใส่พิซซ่ามาก่อนหน้านี้แล้ว May บอกว่าที่นำวิดีโอมาเผยแพร่เพราะคิดว่าควรทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ทางเจ้านายของเขากลับพยายามไม่ให้นำไปเผยแพร่ Quinelle May โพสต์วิดีโอดังกล่าวลงบน อินสตาแกรม ของตัวเองพร้อมเล่าประกอบว่า วันที่เกิดเหตุเขาถูกไล่กลับบ้านเนื่องจากไม่ได้สวมเสื้อตามที่ทางร้านกำหนดมา และเขาใช้ห้องน้ำนานเกินไป จากนั้นเขาก็คิดว่าลูกค้าควรรู้ว่าในพิซซ่าของพวกเขามีน้ำลายอยู่ เพราะไม่มีลูกค้าคนไหนสมควรได้รับสิ่งที่น่าขยะแขยงแบบนี้ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าจากการกระทำครั้งนี้ Kerley…
-
คนจริง!! หนุ่มวิ่งมาราธอนเข้าเส้นชัยได้ฉิวเฉียด ทั้งที่ไม่เคยซ้อม เหตุแค่แพ้เกมโดนลงโทษ
ภาพวินาทีของชายหนุ่มผู้วิ่งเข้าเส้นชัยการแข่งขันวิ่งมาราธอน 6 ชั่วโมง ด้วยเวลาฉิวเฉียดอีกเพียงแค่ 2 นาทีก่อนจะปิดการแข่งขัน คือหนึ่งในความภูมิใจแบบบ้าบิ่นสุดพลังของนาย Ian McNamara วัย 26 ปี ผู้ที่ไม่เคยซ้อมวิ่งมาราธอนเลยแม้แต่ครั้งเดียว Ian McNamara วิ่งเข้าเส้นชัยมาราธอนได้สำเร็จ ทั้งที่ไม่ได้ซ้อมเลย การเอาชนะขีดจำกัดของตัวเขาเองนั้น ไม่ได้มาจากลูกบ้าฮึดอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่เป็นไปด้วยบทลงโทษ จากการที่แพ้เกม NFL Fantasy Football (เกมจัดการทีมอเมริกันฟุตบอลอ้างอิงของจริง) โดยที่มีเพื่อนๆ คอยติดตามผลงานว่าเขาจะทำได้สำเร็จหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ในระหว่างกลุ่มเพื่อนก็ร่วมเล่นเกมดังกล่าวด้วยกันมาโดยตลอด 4 ปี โดยในทุกๆ ปี เพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กก็ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ โดยผู้ที่แพ้มักจะต้องลงเอยด้วยการทำอะไรห่ามๆ เช่น เล่นตลกเดี่ยวไมโครโฟน หรือ ไปอุจจาระในที่สาธารณะ แต่ปีนี้เป็นดวงซวยของ Ian ที่เป็นผู้พ่ายแพ้ และบทลงโทษคือการไปแข่งวิ่งมาราธอน โดยที่ไม่มีเวลาเตรียมตัวเลยแม้แต่น้อยกับระยะ 42 กิโลเมตรในรายการแข่งวิ่ง 2018 Hamilton Nightglow…
-
เรือนจำได้รับบริจาค “กล้วย” ก่อนพบว่ามี “โคเคน” มูลค่ากว่า 500 ล้านติดมาด้วย!!
เราอาจเคยได้ยินว่าเคยมีเหตุการณ์ซุกซ่อนของบางอย่างส่งไปให้นักโทษในเรือนจำ อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ หรือสารเสพติด แต่เชื่อว่าที่เคยได้ยินกันมานั้นมันคงไม่มีปริมาณเยอะมากขนาดนี้อย่างแน่นอน ล่าสุดช่วงกลางเดือนกันยายน 2018 ที่ผ่านมา เรือนจำในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ได้รับบริจาคกล้วยจำนวนมากโดยไม่ทราบแหล่งที่มา ซึ่งบอกแค่เพียงว่ากล้วยมันสุกแล้วเลยจะจัดส่งไปให้นักโทษได้กินกัน จนกระทั่งเมื่อพัสดุเดินทางมาถึงในวันที่ 21 กันยายน 2018 เจ้าหน้าที่เรือนจำ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของกรมยุติธรรมอาญาของรัฐ ก็ได้พยายามเคลื่อนย้ายเพื่อที่จะส่งต่อไปแจกจ่ายให้กับเหล่านักโทษ แต่แล้วเจ้าหน้าที่ก็สัมผัสได้ว่ามีอยู่กล่องนึงที่รู้สึกแปลกๆ แตกต่างจากกล่องอื่นๆ พวกเขาจึงทำการเปิดดูภายใน พบกล้วยอยู่เกือบเต็มกล่อง โดยที่ข้างใต้ของกล้วยนั้นมี “ผงสีขาว” ซ่อนอยู่ จากการตรวจสอบพบว่าผงสีขาวดังกล่าวก็คือ “โคเคน” นั่นเอง และเมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบกล้วยทั้ง 45 ลังก็พบว่ามีโคเคนถูกซุกซ่อนเข้ามาอยู่มากถึง 540 ห่อเลยทีเดียว!! เจ้าหน้าที่บอกว่าโคเคนจำนวนมหาศาลขนาดนั้นมีมูลค่าสูงถึง 17,820,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือราวๆ 578 ล้านบาท) . หลังจากนี้จึงอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนต่อไป ผ่านการสอบถามจากบริษัท Ports of America ซึ่งเป็นผู้จัดส่งพัสดุดังกล่าวมาให้ เพื่อตามหาต้นตอที่มาของลังกล้วยทั้งหมด …
-
“บ้านที่แพงที่สุดในโลก” ราคากว่า 4 หมื่นล้านบาท อยู่กันแค่ 5 คน จ้างคนดูแลกว่า 600 คน!!
ที่เพื่อนๆ กำลังดูอยู่นี้ คือบ้านที่ได้ชื่อว่า “มีมูลค่ามากที่สุดในโลก” ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย มาตั้งแต่ปี 2010 บ้านหลังใหญ่ สูงเสียดฟ้า บ้านหลังนี้มีทั้งหมด 27 ชั้น สูงกว่า 173 เมตร มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 37,161 ตารางเมตร มีสระว่ายน้ำ สนามหญ้าลอยฟ้า หรือแม้แต่ที่จอดเฮลิคอปเตอร์ถึง 3 จุด อ่านสรรพคุณกันไปคร่าวๆ แล้ว คราวนี้เรามาลองเดาเรื่องราคาของมันกันดีกว่า เอาจริงๆ ก็ไม่ได้แพงอะไรมากหรอกนะ แค่ราวๆ 42,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง!! เจ้าของบ้านหลังนี้คืออภิมหึมามหาเศรษฐี Mukesh Ambani นักธุรกิจชาวอินเดียวัย 61 ปี เจ้าของบริษัทค้าน้ำมันและพลังงาน Reliance Industries Mukesh ตั้งชื่อบ้านหลังนี้ว่า Antilia มีความหมายถึงการสักการบูชาสถานที่อันเป็นตำนาน ชายคนนี้ได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes ว่าเป็นผู้ที่ร่ำรวยมากที่สุดในประเทศอินเดียเมื่อปี 2017 มีทรัพย์สินอยู่มากกว่า 1.4…
-
เด็ก 5 ขวบขึ้นเล่น “ชิงช้าสวรรค์” เพียงลำพัง หันดูอีกทีหัวติด ตัวห้อยเกือบตกมาตาย
เครื่องเล่นในสวนสนุกหลายๆ ชิ้นไม่สามารถปล่อยให้เด็กเล่นกันเองเพียงลำพังได้ แต่จำเป็นที่จะต้องมีผู้ปกครองขึ้นไปเล่นด้วยเสมอ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดอันตรายที่ไม่คาดคิดตามมาเหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในสวนสนุก Yuhuan Park มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เด็กชายวัย 5 ขวบคนหนึ่งขึ้นไปเล่น “ชิงช้าสวรรค์” เพียงลำพัง แล้วจู่ๆ เขาก็เกือบต้องตายเพราะความซนของตัวเอง จากการรายงานบอกว่าเด็กชายคนดังกล่าวได้เข้าไปเล่นในสวนสนุกแห่งนี้กับแม่ของเขา แต่เมื่อต้องเล่นชิงช้าสวรรค์ คุณแม่กลับไม่ยอมขึ้นไปเล่นด้วย ปล่อยให้เด็กชายขึ้นไปนั่งเล่นเองคนเดียว อาจเป็นเพราะความตื่นเต้น น่าระทึกใจบนชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงกว่า 40 เมตร เด็กชายคนดังกล่าวจึงเกิดความคิดอยากเล่นสนุก ลองปีนขึ้นไปนั่งบริเวณราวเหล็กที่กั้นหน้าต่างเอาไว้ เพราะเหตุนั้นเองที่ทำให้ร่างเล็กๆ ของเขาไหลผ่านช่องกั้นของราวเหล็กไป แต่โชคดีที่เขาไม่ตกลงมาตาย เพราะส่วนหัวได้ไปติดอยู่กับช่องว่างนั้น ห้อยไปมาอย่างที่เราเห็นกันในภาพ เมื่อแม่ของเขาหันไปดูและเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ รวมถึงผู้เห็นเหตุการณ์หลายๆ คนที่พยายามช่วยกันคิดหาทางแก้ปัญหาดังกล่าว เด็กชายจำเป็นต้องห้อยไปมาอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งชิงช้าวนมาถึงด้านล่าง ก่อนที่ผู้คนจำนวนมากจะรีบแห่เข้าช่วยเขาและนำตัวส่งโรงพยาบาล First People คลิปจากการรายงานในวันที่ 24 ก.ย. 2018 สวนสนุกถูกปิดทำการชั่วคราว เพื่อทำการสืบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด โชคดีที่เด็กไม่ได้เป็นอะไรมาก มีเพียงรอยฟกช้ำบริเวณคอของเขา…
-
บ้าน Kardashians ประกาศรับเด็กฝึกงานตำแหน่ง ‘เป็นทุกอย่าง’ ทั้งเลี้ยงหมา เลี้ยงเด็กและซื้อของ
ถ้าจะให้พูดถึงครอบครัวแห่งวงการบันเทิงต่างประเทศที่มีคนให้ความสนใจมากๆ ครอบครัวแรกที่เรานึกถึงก็คือ ครอบครัว Kardashians ที่มีแฟนคลับติดตามวิถีชีวิตของพวกเธอมากมายหลายล้านคน และด้วยความเป็น Kardashians ที่มีคนคอยติดตามมาก ๆทุกๆ เรื่อง ทุกๆ ประเด็นก็ย่อมมีคนสนใจและคอยขุดคุ้ยสิ่งต่างๆ จากบ้านนี้เสมอ ล่าสุดมีดราม่าร้อนๆ หลังจากที่บ้านนี้ได้ประกาศรับเด็กฝึกงานที่จะมาร่วมทำงานในระยะสั้นๆ ตำแหน่งที่รับ เด็กฝึกงาน-การจัดการความสามารถ รายละเอียดอื่นๆ: ฝึกงานแบบไม่ได้รับค่าแรง (ตัวโตๆ) ภาระงานก็คือ ทำธุระสัพเพเหระ จัดการสิ่งต่างๆ ในบ้าน ห่อของขวัญ ช่วยดูแลเด็ก ขับรถ ฯลฯ ไม่ต้องสมัคร ถ้าคุณไม่มีคุณสมบัติตามนี้ -ต้องเป็นนักศึกษาเท่านั้น การฝึกงานในครั้งนี้ เป็นการฝึกงานแบบไม่ได้รับค่าแรง (ย้ำ) และต้องได้รับการรับรองจากทางโรงเรียนมาเท่านั้น -ต้องมีรถยนต์ -อาศัยอยู่ในลอสแองเจลิสตลอดเวลา ไม่ใช่แค่มาซัมเมอร์เท่านั้น -ทำงานวันจันทร์กับวันพุธ 9.30 น. – 18.00 น. อีกหนึ่งตำแหน่งก็คือ ฝึกงานเป็นผู้ประสานงาน หน้าที่ก็คล้ายๆ กัน แต่จะมีให้ไปชอปปิง แล้วก็ช่วยดูแลหมา ทำงานวันจันทร์ พุธ…
-
แฟนบอลสวิตฯ ไม่พอใจ ประท้วงการแข่ง ‘อีสปอร์ต’ ปาลูกเทนนิสและจอยเกมลงสนาม!!
การนิยามคำว่า ‘อีสปอร์ต’ ให้เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ในหลายๆ ประเทศ อาจจะยังเป็นเรื่องที่ห่างไกล เนื่องจากความนิยมที่ยังไม่มากพอ หรือมองว่าการเล่นเกมนั้นยังไงก็ไม่ใช่กีฬา เช่นเดียวกันกับสโมสรฟุตบอลจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้มีการจัดตั้งทีมอีสปอร์ตในสังกัดของตนเองขึ้นมา แต่กลับกลายเป็นว่าสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลของทีมแทน ปาจอยลงสนาม! ในการแข่งขันรายการ สวิสซูเปอร์ลีก ระหว่างทีม BSC Young Boys และ FC Basel ต้องหยุดกลางคันในนาทีที่ 15 เนื่องจากถูกแฟนบอล Young Boys (กลุ่มชุดสีดำ) ประท้วงปาลูกเทนนิสและจอยเกมลงสู่สนาม ที่เขียนคำว่า ‘อีสปอร์ตระยำ’ ติดไว้ด้วย https://twitter.com/ScottSlocombe/status/1044160118693273600 เท่านั้นยังไม่พอ แฟนบอลก็นำป้ายผ้าและธงสีดำขนาดใหญ่มากางออกเพื่อแสดงสัญลักษณ์ ‘หยุดชั่วคราว’ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการที่ทีมฟุตบอลในสวิตฯ เริ่มนำเงินไปลงทุนจัดตั้งทีมอีสปอร์ตอย่างจริงจัง ทั้งนี้จากแหล่งข่าว รายงานว่าสโมสร FC Basel มีการจัดตั้งทีมอีสปอร์ตเพื่อแข่งเกม FIFA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนสโมสร Young Boys ยังไม่ได้จัดตั้งทีมอย่างเป็นทางการ… แต่ทางลีกแข่งขันกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการจัดการแข่งขันเกม…
-
Sao Ville Tractor คอนเซปต์รถแทรกเตอร์แห่งอนาคต รูปทรงสวยงามอย่างกับหลุดมาจากหนังเรื่อง Car
ในการเกษตรยุคปัจจุบัน เครื่องจักรถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกษตรกรสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตได้เป็นจำนวนมาก และหนึ่งในเครื่องจักรที่เราอาจจะนึกถึงเป็นอย่างแรกสำหรับการทำไร่นั่นก็คือ รถแทรกเตอร์นั่นเอง และในครั้งนี้ #เหมียวเวจจี้ ก็มีคอนเซปต์การออกแบบรถแทรกเตอร์สวยๆ จากสตูดิโอ Stefan Radev มาให้ได้ชมกัน ทางทีมออกแบบได้ใช้ชื่อผลงานของพวกเขาว่า Sao Ville tractor รถแทรกเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อเกษตรกรแห่งอนาคต รูปทรงภายนอกดูเรียบง่าย และสิ่งที่พิเศษของรถแทรกเตอร์คันนี้ก็คือจอแสดงผลที่ติดตั้งอยู่ด้านใน ที่สามารถแสดงค่าต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการจัดการไร่นาได้เป็นอย่างดี “Sao Ville tractor ถูกออกแบบมาจากการศึกษาค้นคว้าหลายขึ้นตอน เพื่อให้เหมาะกับการเกษตรสมัยใหม่ และสามารถจัดการพื้นที่ได้ง่ายด้วยจอแสดงผลที่สามารถอัปเกรดฟังก์ชันต่างๆ ได้” ทีมออกแบบเล่าถึงผลงานของพวกเขา ลองไปชมภาพของรถแทรกเตอร์แห่งอนาคตคันนี้ ในมุมอื่นๆ กันเลย… . จอแสดงผลที่ทีมออกแบบภูมิใจนำเสนอ จะอยู่ทางด้านขวามือของคนขับ . แหม่… คงจะถูกใจชาวสวนหลายๆ คนเลยใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ ที่มา tuvie
-
6 โรงเรียนสุดแปลกแหวกแนว ที่ไม่อยากเชื่อว่าจะมีจริง…!!
“โรงเรียน” คือสิ่งที่เราเอาไว้ใช้เรียกสถานที่ที่คอยมอบความรู้และสอนการใช้ชีวิตพื้นฐานให้กับเด็กๆ รุ่นใหม่ตั้งแต่ชั้นบริบาลจนถึงระดับดุษฎีบัณฑิต โดยธรรมดาแล้วโรงเรียนก็จะเป็นสถานที่เราสามารถกันได้บ่อยๆ แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าในโลกนี้ยังมีโรงเรียนอีกหลายแห่งที่ “ไม่ธรรมดา” และคุณจะไม่สามารถพบเจอได้บ่อยๆ แน่ๆ เหมือนอย่างโรงเรียนสุดแปลกแหวกแนวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันในวันนี้ครับ 1. โรงเรียนบนเรือ จากประเทศบังกลาเทศ ประเทศบังกลาเทศ เป็นประเทศที่ถือว่าเจออุทกภัยอยู่บ่อยครั้ง นั่นก่อให้เกิดปัญหาแก่ทุกๆ คนไม่เว้นแต่นักเรียนที่ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ เพื่อแก้ปัญหานี้ Swanirvar Sangstha องค์กรไม่แสวงหากำไรจึงได้ทำการสร้างโรงเรียนบนเรือขึ้นมา โดยโรงเรียนบนเรือถูกสร้างขึ้นทั้งหมด 100 ลำและในนี้จะเป็นที่ที่มีอุปกรณ์การเรียนรู้อย่างครบครันไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต แถมยังมีห้องสมุดเล็กๆ ให้อีกด้วย และแม้ว่าปัญหาน้ำท่วมจะหายไปแล้ว แต่โรงเรียนบนเรือก็ยืนยันเปิดให้บริการอยู่ 2. โรงเรียนประถมและหลุมหลบภัย Abo โรงเรียน Abo ตั้งอยู่ในเมือง Artesia รัฐนิวเม็กซิโก ในช่วงสงครามเย็นมีแนวโน้มว่าเมืองจะเกิดสงครามอาวุธนิวเคลียร์เกิดขึ้น ประธานาธิบดี John F. Kennedy จึงได้ตัดสินใจสร้างที่โรงเรียน Abo ขึ้นเพื่อทำเป็นทั้งสถานที่มอบความรู้แก่เด็กๆ และใช้เป็นหลุมหลบภัยยามจำเป็น 3. โรงเรียนมัธยม Harvey Milk ในโรงเรียนที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1985…
-
5 ปริศนา “กระตุ้นไหวพริบ” ฝึกสมองให้ได้ขบคิดก่อน แล้วค่อยอ่านเฉลยนะจ๊ะ~
การทำงานมันต้องใช้สมองและความคิดเป็นอย่างมาก แต่บางครั้งสมองของเราก็ไม่ได้พร้อมที่จะใช้งานตลอดเวลา มันต้องมีการกระตุ้นกันบ้างจริงไหม? การฝึกให้สมองได้ขบคิดอะไรเล็กๆ น้อยๆ ดูท่าจะเป็นแบบฝึกของสมองที่ได้ผลดีทีเดียว วันนี้เราเลยนำแบบฝึกมาให้สมองของท่านได้รับการกระตุ้นกันสักหน่อย ขอเชิญเหล่าผู้มีปัญญาและไหวพริบทั้งหลายมาพบกับ 5 ปริศนาประลองไหวพริบ จะยากจะง่ายไม่สำคัญ แต่อย่างน้อยขอให้สมองได้ขบคิดบ้างก็ถือว่าได้ประโยชน์แล้ว!! ข้อแรก ห้องห้องหนึ่งมีพี่น้องหญิงสาวอยู่ด้วยกัน 5 คน: เอมิลี กำลังอ่านหนังสืออยู่, บาร์บารา กำลังทำอาหาร, เคที กำลังเล่นหมากรุก ส่วน เจมี กำลังซักผ้า คำถาม: คนสุดท้ายที่เหลือ ทำอะไรอยู่? ข้อที่สอง มีชายสองคนอยู่ในห้องเดียวกัน คนหนึ่งหันหน้ามองไปทางทิศใต้ คนหนึ่งหันหน้ามองไปทางทิศเหนือ คำถาม: ทั้งสองคนสามารถมองเห็นกันได้อย่างไรโดยไม่ใช้กระจก? ข้อที่สาม คุณติดอยู่ในห้องใต้ดินของบ้านหลังหนึ่งที่มีสวิตช์ไฟอยู่ 3 อันสำหรับเปิดไฟ 3 ดวงของชั้นบน คุณต้องหาให้พบว่าสวิตช์ไฟอันไหนใช้กับไฟดวงไหน โดยก่อนจะตอบคุณสามารถขึ้นไปดูที่ชั้นบนได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น คำถาม: คุณจะตอบให้ถูกได้อย่างไร? ข้อที่สี่ พ่อ 2 คนกับลูก 2 คนออกไปล่าสัตว์ในป่า แต่ละคนยิงกระต่ายได้คนละ…
-
หัวใจจะวาย!! สาวโบกวินไปส่งหน้าคอนโด พี่คนขับก็ใจดี ให้แมลงสาบนั่งไปเป็นเพื่อน
สำหรับบางคนแล้ว แมลงสาบอาจจะไม่ใช่เพื่อนร่วมโลก หรือสิ่งมีชีวิตที่คุณอยากจะให้มันเกิดมาสักเท่าไหร่ (อันนี้คงต้องขออภัยสำหรับคนรักสัตว์ด้วย) และอย่างที่เขาว่ากัน เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเกลียดบางสิ่งบางอย่าง สิ่งที่ว่านั้นก็มักจะผ่านเข้ามาหาเราอยู่บ่อยๆ รวมถึงเจ้าแมลงสาบที่ออกมาทักทายสาวรายนี้… แอแฮร่!! เรื่องราวสุดสยองนี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง หลังจากที่เธอบังเอิญเจอแขกที่ไม่อยากเจอสักเท่าไหร่ ในระหว่างที่กำลังนั่งวินมอเตอร์ไซค์กลับที่พัก เธอเองเล่าวว่าประสบการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับเธอมากๆ เพราะจะหนีไปไหนก็ไม่ได้ซะด้วย!! “เพิ่งรู้สึกว่าการนั่งวินมอไซจากปากซอยเข้าคอนโดมันนานก็วันนี้! คือวันเนี้ยฝนตกหนักมาก น้ำท่วมประปราย ก่อนขึ้นวิน พี่วินบ่นว่า ฝนตกน้ำท่วมขนาดนี้แมงสาบเยอะแน่ ยึ้ยยย (นางทำเสียงด้วยความขนลุก) เราก็ขำเบาๆ พร้อมมองน้ำบนถนน ขณะที่กำลังเงยหน้ามองไปข้างหน้าก็เจอสิ่งนี้!!!!!” “กรี้ด(ด. เด็ก 29 ตัว)!!!!! เสียงกรี้ดดังอยู่ในใจ หัวใจเต้นแรงมาก เอาไงดีวะๆๆๆ เหี้ย เกร็งไปหมดทั้งตัว จนพี่วินตะโกนสู้ฝนมาบอกว่า น้องนั่งดีๆหน่อย อย่าเกร็ง พี่ขับลำบาก ใจกูตะโกนสู้ไปว่า ไอเหี้ยยย กุจะลง กุไม่ไปแล้ว จอดเดี๋ยวนี้ โอ้ยยย น้องมองหน้าเราเหมือนรู้จักกัน เรามองหน้ากันนาน นานจนถ้าเป็นปลากัดก็คงท้องไปแล้ว ในขณะที่ใจนึงอยากให้ถึงคอนโดเร็วๆ แต่อีกใจกลัวน้องปลิวมาโดนเรา คือน้องปีนป่ายไปมา จนไปหยุดที่หัวพี่วิน…
-
9 อันดับสุดยอดรถตำรวจสมถรรณะสูง ตามจับได้หมด ถ้าโจรไม่ได้ขับเครื่องบิน
รถตำรวจยานพาหนะในการติดตามผู้กระทำผิด แน่นอนว่าถ้าหากคุณเคยเล่นเกม GTA ก็อาจจะพอทราบกันดีว่าการไล่ล่าของรถตำรวจนั้นมันเป็นอย่างไร และถ้ายิ่งถ้าหากเจอรถตำรวจเหล่านี้เข้าไปอีกล่ะก็ งานนี้บอกได้เลยว่าใครที่กำลังคิดจะเป็นโจร(ในประเทศเหล่านี้) กลับใจตอนนี้ยังทัน (ฮา) 1. McLaren MP4-12C, จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รถสปอร์ตจากค่ายที่คร่ำหวอดในวงการรถสูตร 1 มานานกว่า 50 ปี และเจ้า MP4-12C คันนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดรถของค่าย ที่สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกด้วย บอกเลยงานนี้โจรมีหนาว 2. Porsche 911 Carrera, จากประเทศออสเตรีย นี่คือรถสปอร์ตอีกรุ่นหนึ่งที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของค่ายจากเยอรมนีค่ายนี้เลยก็ว่าได้ Porsche 911 คือรถที่สามารถทำความเร็วจาก 0-100 ได้ภายใน 4.6 วินาทีและมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 294 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 3. Ford F-150, สหรัฐอเมริกา นี่คือรถกระบะสุดแกร่งสายพันธ์ุอเมริกันที่ชายหนุ่มหลายๆ คนใฝ่ฝัน ทั้งเครื่องยนต์ 3.5 ลิตร 375 แรงม้าและรูปร่างอันบึกบึนของมันที่พร้อมบุกไปทุกที่ บอกเลยว่าจะหนีเข้าป่ายังคิดหนัก 4. Ford Mustang Saleen,…
-
9 คอร์สเรียนแปลกๆ ล้ำๆ ที่จะไม่ทำให้คุณต้องไป “นั่งหลับระหว่างคาบ” อย่างแน่นอน
หลายๆ คนอาจรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเรียน บางครั้งแม้ว่าเราจะสามารถเลือกตัวที่เรียนได้ แต่ก็มักจะไม่ค่อยมีวิชาไหนน่าสนใจหรือกระตุ้นให้เราใฝ่รู้ได้มากพอๆ กับ “ความง่วง” ที่เก็บสะสมมา แต่ถ้าเป็นคลาสเรียนวิชาเหล่านี้ เพื่อนๆ อาจไม่ต้องไปนั่งหลับในห้องกันอีกต่อไป เพราะดูๆ แล้วมันมีทั้งเรื่องที่น่าสนใจ แถมยังอาจเป็นไปตามความชอบของเราอย่างชัดเจนอีกด้วย จะมีวิชาเกี่ยวกับอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันเลยยย 1. สังคมวิทยาเกี่ยวกับ Miley Cyrus Miley Cyrus คือศิลปินสาวผู้ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งใน “คนดังที่ทำตัวแปลกแบบสุดๆ” และการใช้ชีวิตของเธอนั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่ธรรมดาสักเท่าไหร่ สถาบัน Skidmore ในสหรัฐอเมริกา จึงจัดคลาสสอนวิเคราะห์การใช้ชีวิตของเธอคนนี้ซะเลย แหล่งที่มา: nme 2. หลักฟิสิกส์ตามแบบฉบับของหนัง Star Trek จะเป็นอย่างไรเมื่อเราสามารถเรียนรู้เรื่องของกฎทางฟิสิกส์ผ่านภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Star Trek เหมือนอย่างวิชาหนึ่งในมหาวิทยาลัย Santa Clara สหรัฐอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่ามันคงจะมีอะไรให้พูดกันไม่น้อยเลยทีเดียว แหล่งที่มา: coursehero 3. หลักสูตร The Hunger Games นี่คือหลักสูตรจากมหาวิทยาลัย American โดยเป็นการเรียนเกี่ยวกับหนังสือนิยายและหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะมุ่งประเด็นไปในเรื่องของชนชั้น การเมือง…
-
ตำรวจอังกฤษจับคนร้ายขับรถเกินกฎหมายกำหนด แต่ถึงกับอึ้ง เมื่อพบว่าผู้ต้องหาอายุแค่ 13 ปี
ว่ากันว่าข้าวของเครื่องใช้บางอย่างนั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องวางเอาไว้ให้ห่างๆ จากมือของเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นสารเคมี ของใช้ในครัวที่อาจจะเกิดอันตรายได้ หรือแม้แต่กุญแจรถเองก็ตาม!! เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2016 สื่อต่างประเทศรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Yorkshire ประเทศอังกฤษ สามารถจับกุมเด็กวัย 13 ปีและเพื่อนๆ ที่ขโมยรถมาจากบริษัทแห่งหนึ่งในเขต Keighley การขโมยรถของเจ้าหนูน้อยรายนี้ไม่เพียงแค่ผิดกฎหมายเท่านั้น แต่อายุของเขายังไม่ถึงเกณฑ์เท่านั้น แถมยังขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดอีกด้วย โดยจากรายงานเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถต้องสงสัยคันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็วกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนที่จะสั่งให้จอด และพบว่าในรถมีชายอีกหนึ่งคนในรถ ในขณะที่เจ้าหนูวัย 13 ปีเป็นคนขับ “หัวขโมยรถจากบริษัท Shipley ใน Keighley และกำลังมุ่งหน้าไปยัง Bingley ด้วยความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เราพบผู้ต้องหา 2 ราย และสิ่งที่น่าตกใจคือคนขับอายุแค่ 13 ปีเท่านั้น ” ข้อความจากทางทวิตเตอร์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ https://twitter.com/WYP_1965/status/1044079397635076096 บางคนได้เรียกร้องให้มีการลงโทษอย่างจริงจังกับผู้ต้องหารายนี้ ในขณะที่ชาวเน็ตรายหนึ่งบอกว่า “นี่เหมือนฝันร้ายเลย แต่โชคดีแล้วที่จับพวกเขาได้” ที่มา metro, bbc
-
5 โศกนาฏกรรมทางลิฟต์ ซึ่งเกิดขึ้นจริงในอดีต ที่อ่านแล้วจะทำให้คุณอยากใช้บันไดขึ้นตึก
สำหรับคนที่ต้องใช้ชีวิตขึ้นลงลิฟต์อยู่เป็นประจำ เชื่อว่าคงมีอยู่บ้างที่จู่ๆ ก็มักความคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากลิฟต์ที่เราขึ้นมีปัญหา โดยเฉพาะเวลาที่จู่ๆ ลิฟต์ก็สั่นอย่างไม่มีเหตุผล จริงอยู่ว่าลิฟต์ส่วนมากนั้นมักจะมีการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี แต่ในประวัติศาสตร์โลกเองก็มีคดีน่ากลัวๆ เกี่ยวกับลิฟต์ที่ถูกนำเสนอออกมาเช่นกัน เหมือนกับคดีโศกนาฏกรรมและอุบัติเหตุทางลิฟต์ทั้งห้าอันต่อไปนี้ เหตุการณ์ในท้องที่มินาโตะ นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2006 โดยเด็กชายวัย 16 ปีที่ชื่อฮิโรสุเกะ อิจิคาวะได้ถูกลิฟต์ในที่อยู่อาศัย “ดีดขึ้น” ในขณะที่เขากำลังเดินออกจากลิฟต์ได้ครึ่งตัว จนทำให้เขาถูกหนีบกับขอบประตูลิฟต์จนขาดอากาศหายใจในเวลาต่อมา เรื่องในครั้งนี้ทำให้ที่ญี่ปุ่นมีการตรวจสอบลิฟต์แทบทั้งประเทศขึ้นทันที และพบว่ามีลิฟต์อย่างน้อยๆ 41 ที่ซึ่งจะมีปัญหา “ดีดขึ้นเอง” แม้ว่าจะไม่มีการจ่ายไฟฟ้าก็ตาม คดีของสามีภรรยา Wadsworth พวกเขาเป็นคู่รักที่อยู่ด้วยกันมากว่า 60 ปี อย่างไรก็ตามวันหนึ่งพวกเขากลับต้องไปติดในลิฟต์ของบ้านสามชั้นที่พวกเขาอาศัยอยู่ ปัญหาคือที่รัฐจอร์เจียในช่วงยุค 80 ยังไม่มีกฎหมายการตรวจสอบลิฟต์และไม่ได้มีข้อบังคับให้ในลิฟต์มีโทรศัพท์ฉุกเฉิน ส่งผลให้ทั้งคู่เสียชีวิตอยู่ในลิฟต์โดยที่ไม่มีใครทราบไป กว่าที่เพื่อนบ้านจะสงสัยว่าพวกเขาหายไปไหนมันก็เป็นเวลาหลังจากนั้นหลายวันเลยทีเดียว ความโชคดีของ Betty Lou Oliver ในวันที่ 28 กรกฎาคม 1945 เกิดอุบัติเหตุเครื่องบิน B-25 พุ่งชนตึกเอ็มไพร์สเตท จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หญิงสาวนาม Betty Lou Oliver คือหนึ่งในผู้ที่โชคดีรอดชีวิตมาได้ โดยหน่วยกู้ภัยพบเธออยู่ที่ชั้น 75…
-
16 ภาพของเด็กข้างบ้านหน้าตาธรรมดา ที่โตมากลายเป็นซูเปอร์สตาร์สุดฮอต!!
มนุษย์ในโลกเรา ไม่ว่าใครก็ตาม ต้องเคยผ่านวัยเด็กกันมาหมดทั้งนั้น แม้แต่ดาราหรือศิลปินชื่อดังที่เราๆ รู้จักกันในปัจจุบัน วันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆ กลับไปย้อนความหลังส่องเราดาราสาวสุดสวย สุดฮอต ว่าก่อนที่เธอจะกลายมาเป็นคนดังมีชื่อเสียงสุดแซ่บแบบทุกวันนี้ วัยเด็กของเธอนั้นสุดแสนธรรมดา… จะมีใครบ้างนั้นเราไปรับชมพร้อมๆ กันเลยครับ โกๆ 1. Kate Hudson ตอนเด็กทำหน้าอะไรน่ะ 2. Megan Fox อู้ววว คนเดียวกันแน่รึเนี่ย!? 3. ขุ่นแม่ Victoria Beckham 4. Jennifer Lopez 5. Kristen Stewart อันนี้คล้ายอยู่นา 6. Sarah Jessica Parker จากสาวหวานมาเป็นผู้หญิงมาดมั่น 7. Taylor Swift อย่าดูถูกเด็กตุ้ยข้างบ้านคุณ!! 8. ขุ่นแม่ Nicole Kidman สมัยหัวฟู 9. Kate Moss เปลี่ยนไปเย้อออ 10. Demi Moore…
-
5 ความเชื่อเกี่ยวกับ “ความตาย” จากในอดีตทั่วโลก ที่จะทำให้คุณอึ้งกับความแปลกของมัน
ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันโลกของเรามีความเชื่อเรื่องความตายมาหลากหลายรู้แบบ ตั้งแต่เรื่องธรรมดาๆ อย่างการฝังศพ เรื่อยไปยังความเชื่อเรื่องการเกิดใหม่ในหลายๆ ศาสนา แต่เชื่อหรือไม่ว่าในโลกใบนี้เองยังมีความเชื่อแปลกๆ เกี่ยวกับความตายที่น่าสนใจมากกว่านั้น เหมือนกับความเชื่อทั้ง 5 ข้อ ที่เพื่อนๆ จะได้ชมกันต่อไปนี้ ความเชื่อเรื่อง “ไวน์จากศพ” ในบอร์เนียว เกาะบอร์เนียวเป็นเกาะที่อยู่บริเวณใจกลางกลุ่มเกาะมลายู และแบ่งพื้นที่ออกเป็นสามประเทศได้แก่ มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย อย่างไรก็ตามที่นี่มีประเพณีการจัดงานศพที่แปลกสุดๆ ไปเลย ร่างของคนตายจะถูกทำความสะอาดและนำไปเก็บไว้เพื่อเอา “ไวน์จากศพ” ซึ่งเป็นน้ำจากการย่อยสลายก่อนที่จะนำศพไปฝัง โดยน้ำเหล่านี้จะถูกนำไปชโลมร่างกาย หรือผสมในอาหารต่อไปนั่นเอง การกินศพผู้เสียชีวิตของชนเผ่าอเมซอน เผ่าวารีเป็นหนึ่งในชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในป่าอเมซอน ซึ่งในเผ่านี้จะมีความเชื่อในการกินศพของญาติๆ ผู้ที่จากไป นั่นเป็นเพราะ พื้นดินถือว่าเป็นสิ่งสกปรก และศพไม่ควรที่จะถูกฝังลงดิน แต่ในขณะเดียวกันการปล่อยศพของคนรู้จักไว้โดยไม่ทำอะไรเลย ก็อาจจะทำให้คนที่รู้จักเสียใจทุกครั้งที่เห็นเห็นศพด้วยเช่นกัน นั่นทำให้ทางออกที่ดีของปัญหาเหล่านี้อยู่ที่การกินศพของญาติที่จากไปเสียเลย เพราะนอกจากจะเป็นการกำจัดศพแล้ว นี่ยังเป็นวิธีที่จะทำให้คนเป็นได้ตัดขาดจากคนตายอย่างสมบูรณ์นั่นเอง การควบคุมตัวภรรยาผู้ตายเพราะกลัวเธอกัดศพของชาว LoDagaa ชาว LoDagaa ในอดีตมีความเชื่อว่าการสัมผัสสิ่งสกปรกบนตัวคนตายอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนั้น พวกเขาจึงมีพิธีล้างศพที่จะกระทำโดยหญิงชรา โดยพิธีที่ว่านี้อาจกินระยะเวลานานเป็นเดือนเพื่อให้คนรู้จักได้มีโอกาสมาพบศพเป็นครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตามในกรณีที่คนตายเป็นผู้ชาย ระหว่างทำพิธีพวกเขาจะมีการควบคุมตัวภรรยาของผู้ตายไว้ เนื่องจากความกลัวที่ว่าหญิงสาวจะ “กัดศพสามี” เพื่อฆ่าตัวตายตามคนรักไปนั่นเอง นอกจากนี้ญาติๆ คนไหนที่แสดงท่าทางเสียใจมากจนเกินไปก็อาจจะโดนพาไปกักตัวเช่นกัน …
-
6 โปสเตอร์แอบเฟลแบบฮาๆ จากภาพยนตร์ชื่อดัง ที่คุณอาจจะไม่เคยสังเกตมาก่อนด้วยซ้ำ!!
การที่ละครดีหรือภาพยนตร์ดังทั้งหลายนั้นจะสามารถสร้างรายได้มากๆ นอกจากเรื่องของเนื้อเรื่องและคุณภาพของภาพยนตร์แล้ว ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องของการตลาดก็มีส่วนเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นการทำโฆษณาในสื่อต่างๆ หรือการทำโปสเตอร์ภาพยนตร์ให้น่าสนใจ วันนี้เราเลยถือโอกาสมากล่าวถึงเรื่องของโปสเตอร์ภาพยนตร์กันสักหน่อย เมื่อสี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้งฉันใด มืออาชีพในวงการฮอลลีวูดก็ย่อมจะเคยทำโปสเตอร์ผิดพลาดฉันนั้น นั่นคือภาพที่เราจะนำมาให้ได้ดูกันในวันนี้เอง เป็นภาพโปสเตอร์จากหนังดังที่ “แอบเฟล” อยู่เล็กๆ ซึ่งบางทีถ้าไม่สังเกตก็คงไม่รู้หรอก แต่เราดันสังเกตกันแล้ว ก็เลยนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันครับ 1. The Dark Knight ดูเผินๆ แล้วมันช่างเป็นภาพที่สวยงามและทรงพลังเหลือเกิน กับการที่ได้เห็นฮีโร่อย่าง Batman เฝ้ามองดูอันตรายในเมืองที่อัตราอาชญากรรมสูงลิ่วและวายร้ายเกิดขึ้นทุกวี่วัน แต่หากเราสังเกตจริงๆ แล้วคุณจะรู้ว่า Batman มองไม่เห็นเหตุร้ายที่เกิดขึ้นหรอก เพราะเขาดันไปยืนมองอยู่ตรงกรอบหน้าต่างพอดี!! 2. Harry Potter and the Deathly Hallows: Part I สำหรับพ่อมดน้อย Harry Potter ในภาคก่อนสุดท้าย ในโปสเตอร์เราจะเห็นว่าพวกเขาอยู่ในรถไฟที่ประตูกำลังจะเลื่อนปิด แต่ถ้าเป็นตามในโปสเตอร์ล่ะก็ เราคงไม่ได้เห็นภาคจบเสียแล้ว เพราะหัวของ Harry มันยื่นออกมาอยู่นอกรถนี่สิ 3. Logan นี่ก็เป็นอีกหนึ่งโปสเตอร์ที่ดูเผินๆ แล้วก็ไม่เห็นความผิดปกติใดๆ…
-
15 ความจริงอัน ‘น่าสะเทือนขวัญ’ ของโลกมนุษย์ แล้วเราจะรู้จักโลกใบนี้มากขึ้น…
โลกเรานี้มีความจริงหลายประการที่น่ากลัวเกินกว่าจะเชื่อได้ แต่ได้ชื่อว่าเป็น ความจริง แล้วแสดงว่ามันจะต้องเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแล้วได้รับการบันทึกไว้ให้ผู้คนได้ประจักษ์ ความจริงหลายๆ อย่างก็เป็นเรื่องใกล้ตัว ที่เราไม่เคยสังเกตมาก่อน เช่น เรื่องของหัวใจที่มีแรงดันมากพอจะฉีดเลือดให้พุ่งไปไกลได้ถึง 9 เมตร เป็นต้น ยังมีความจริงที่ไม่จรรโลงใจแบบนี้อีกมากมาย ขอเชิญทุกท่านไปชมกันเลยกับ 15 ความจริงสะเทือนขวัญ ที่ฟังแล้วอาจทำให้ขนลุกได้… 1. หัวใจของคุณสามารถฉีด เลือด ให้พุ่งออกมาได้ไกลถึง 9 เมตรเลยล่ะ จาก The Physiology of Faith 2. Gaslighting คือการคุกคามทางจิตใจ ที่บุคคลจะได้รับข้อมูลปลอมมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดข้อ สงสัย ในความทรงจำของตนเอง (คล้ายๆ ว่าล้างสมองด้วยจิตวิทยา) จาก Gaslighting 3. ในปี 1977 มนุษย์ได้รับคลื่นวิทยุจาก นอกโลก คลื่นสัญญาณมีความยาว 72 วินาที ปัจจุบันยังไม่มีใครทราบที่มาของสัญญาณนี้ จาก Wow! signal 4. ประเทศสหรัฐอเมริกา มีคนตายราว 6,000 คนต่อปีเนื่องจากการใช้…
-
เมื่อโลกอินเทอร์เน็ตแซะ ‘กัปตันมาร์เวล์’ ไม่ยิ้มเลย ‘บรี ลาร์สัน’ โต้เงียบเล่นคนในค่ายแทน!!
หน้าตาดูจริงจังขึงขัง ไม่เหมือนตอน… ประโยคประมาณนี้น่าจะพอใช้กับบริบทที่ บรี ลาร์สัน ‘กัปตันมาร์เวล’ ผู้รับบทตัวละครฮีโร่ตัวล่าสุดของค่ายมาร์เวล พร้อมกันนี้ จากกรณีที่ทางค่ายได้ปล่อยเทรลเลอร์ล่าสุดออกไป จะสังเกตได้ว่าหน้าตาของกัปตันช่างดูดุดัน เป็นเสือยิ้มยากเสียเหลือเกิน มันก็ไม่วายที่โลกออนไลน์จะปั่นแซะเธอ แถมยังจัดการให้แบบเรียบร้อยเสร็จสรรพกันเลย… https://twitter.com/TFMonkeyYouTube/status/1042171852221763584 ผมจัดการแก้ไขให้ กัปตันมาร์เวล์ เรียบร้อย ต้องขอบคุณ Faceapp Ai จริงๆ ผ่างงงงง! หน้าตาเจ๊สดใสขึ้นเยอะ ยิ้มเหมือนไปโดนตัวไหนมา… เมื่อโลกที่ไร้พรมแดนขนาดนี้ การเข้าถึงก็ง่ายยิ่งนัก ขุ่นแม่บรีน่าจะได้เห็นภาพตัดต่อยิ้มแป้นของตัวเองแล้ว แทนที่จะโมโหโกรธา เดินไปต่อยคุณยายบนรถเมล์ระบายความแค้น เธอโต้ตอบกลับแบบเงียบๆ ผ่านไอจีสตอรี่ของตัวเองเช่นนี้… เล่นกับกัปตันมาร์เวล งั้นกัปตันอเมริกาก็ต้องไม่รอดด้วยสิ! เจ๊ดาวขวัญใจมหาชน ยังยิ้มได้แม้วันมามาก สตีเฟ่น นายไปโดนตัวไหนมา ทั้งโลกกำลังฉิบหายอยู่นะว้อย อาจจะเป็นด้วยกระแสที่เงียบๆ จางๆ ของขุ่นแม่บรี ลาร์สัน ในชุดกัปตันมาร์เวล…
-
วลาดิเมียร์ โคมารอฟ ชายผู้สละชีวิต “ตกลงมาจากอวกาศ” เพื่อช่วย “ยูริ กาการิน”
หากพูดถึงนักบินอวกาศที่มีชื่อเสียงคงมีหลายคนไม่น้อยที่นึกถึงยูริ กาการินนักบินอวกาศคนแรกของโลกที่สามารถเดินทางกลับโลกอย่างปลอดภัย แต่รู้กันหรือไม่ว่าเบื้องหลังความสำเร็จของยูริ กาการิน ยังมีชายผู้ซึ่งที่สละชีวิตของตัวเองเพื่อให้กาการินมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหนึ่งคน เขาคือวลาดิเมียร์ โคมารอฟ นักบินหลักของยานอวกาศ Soyuz 1 และเพื่อนที่ดีของยูริ กาการิน ภาพของ วลาดิเมียร์ โคมารอฟ เรื่องในครั้งนี้เกิดขึ้นในปี 1967 ราวๆ 6 ปี หลังจากที่ยูริ กาการินกลายเป็นมนุษย์คนแรกของโลกขึ้นไปบนอวกาศได้สำเร็จ ทางสหภาพโซเวียตได้มีกำหนดการปล่อยยานอวกาศ Soyuz 1 ขึ้นสู่อวกาศอีกครั้ง อย่างไรก็ตามกำหนดการของ Soyuz 1 ค่อนข้างมีปัญหามากจนกินเวลานานกว่าที่ควรเป็น ทำให้ผู้บริหารระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์เริ่มจะทนไม่ไหว จนมีการกำหนดเส้นตายของการปล่อยจรวดขึ้น ยูริ กาการินวีรบุรุษของประชาชน และเพื่อนสนิทของ วลาดิเมียร์ โคมารอฟ นั้นทำให้การทำงานในโปรเจกต์นี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด แต่ถึงแม้จะพยายามแค่ไหน ยานอวกาศก็ไม่พร้อมมากพอจะขึ้นบินอยู่ดี จนทางวิศวกรอยากให้มีการเลื่อนกำหนดการปล่อยยานออกไปก่อน ถึงขั้นที่กาการินเคยพยายามฝากข้อความ 10 หน้าที่เกี่ยวข้องกับการขอเลื่อนกำหนดการให้กับเพื่อนใน KGB เลยทีเดียว โชคร้ายของพวกเขาที่ไม่มีใครกล้าพอที่จะส่งข้อความของกาการินไปให้กับเบื้องสูง สุดท้าย Soyuz 1 จึงต้องดำเนินการปล่อยตามกำหนดการทั้งๆ ที่ยังไม่พร้อม ในตอนนั้นมีเพื่อนของ…
-
20 เหตุการณ์ที่มีคนตายเป็นจำนวนมาก ในระยะเวลาไม่กี่ปี ไม่กี่เดือน จนถึงไม่กี่วินาที
ตลอดช่วงประวัติศาสตร์ของมนุษย์ มีเหตุการณ์มากมายที่ถูกบันทึกไว้ให้เป็นเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่มีคนตายเป็นจำนวนมาก นั่นทำให้บางครั้งคนเราก็สงสัยกันว่าช่วงเวลาสั้นๆ ในเหตุการณ์ไหนกันบ้างในโลกที่มีคนตายมากที่สุด ด้วยเหตุนี้เอง ในคราวนี้เราจะไปดูที่สุดของเหตุการณ์ที่มีคนตายเป็นจำนวนมาก ภายในเวลาเพียง ไม่กี่วินาที ไม่กี่ชั่วโมง ไม่กี่วัน และไม่กี่ปี อ้างอิงจากข้อมูลที่มีการรวบรวมไว้ในหนังสือ Lapham’s Quarterly เมื่อปี 2013 คนตายเป็นจำนวนมากใน 5 ปี : “แบล็กเดท” จำนวนผู้เสียชีวิต 30 ล้านคน มีอีกชื่อว่า “กาฬมรณะ” เป็นการระบาดของกาฬโรคในยุโรปเมื่อปี 1347-1351 เฉลี่ยแล้วมีคนเสียชีวิตราวๆ 16,427 คนต่อวัน คนตายเป็นจำนวนมากใน 5 ปี : “โรคระบาดใหญ่ในเอเธนส์” จำนวนผู้เสียชีวิต 15,000 คน นี่เป็นเหตุการณ์โรคระบาดในกรีกโบราณเมื่อช่วง 430-426 ปีก่อนคริสตกาล เฉลี่ยแล้วมีคนเสียชีวิตราวๆ 78 คนต่อวัน คนตายเป็นจำนวนมากใน 4 ปี : “การก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่” จำนวนผู้เสียชีวิต 30 ล้านคน นี่เป็นความอดอยากในจีนจากนโยบายของเหมาเจ๋อตุงในปี 1959-1962…
-
พบแท่นบูชาหินสลักอายุกว่า 1,500 ปีในซากเมืองมายา เชื่อบอกเล่าเรื่องราว “ราชาโบราณ”
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2018 ที่ผ่านมาพิพิธภัณฑ์โบราณคดีและชาติพันธุ์วิทยาแห่งชาติในกัวเตมาลาได้ออกมาประกาศการค้นพบแท่นบูชาหินสลักอายุกว่า 1,500 ปีในซากเมืองมายาโบราณ La Corona ที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าทางตอนเหนือของประเทศกัวเตมาลา มันเป็นการค้นพบวัตถุโบราณที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยพบมาในซากเมืองแห่งนี้ และเชื่อว่ามาจากยุคคลาสสิกของเผ่ามายา ซึ่งอยู่ในช่วงปีคริสต์ศักราชที่ 250 – 900 จากการตรวจสอบรูปสลักบนแท่นบูชาที่พบ ดูเหมือนว่าแท่นบูชาอันนี้จะมีการบันทึกเรื่องราวของอำนาจแห่งราชวงศ์ Kaanul ซึ่งปกครองที่พื้นที่ในบริเวณนั้นมากเป็นเวลายาวนานกว่า 200 ปี Marcello Canuto ผู้อำนวยการร่วมของโครงการโบราณคดีในพื้นที่ La Corona เล่าว่า การค้นพบในครั้งนี้จะช่วยให้เราเข้าใจราชาของพื้นที่ La Corona ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีความเกี่ยวข้องทางการเมืองกับทาง Kaanul ราชาคนดังกล่าวจะมีชื่อว่า Chak Took Ich’aak ซึ่งจากภาพที่สลักไว้ในแท่นบูชา เขากำลังถืองูสองหัวที่มีเทพโผล่ออกมาเอาไว้ ดูเหมือนว่าการใช้งูเหมือนสื่อในภาพจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะราชาแห่ง Kaanul ก็ถูกรู้จักกันในฐานะราชาแห่งงูเช่นกัน นอกจากนี้บนแท่นบูชายังมีอักขระปฏิทินมายาสลักไว้ด้วย โดยหากเทียบกับปฏิทินแบบปัจจุบัน เวลาที่สลักไว้จะเป็นวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 544 เป็นไปได้ว่าแท่นบูชาที่พบนั้นจะบันทึกเรื่องราวการขึ้นเป็นใหญ่ของราชวงศ์ Kaanul เอาไว้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันโครงการโบราณคดีในพื้นที่…
-
หนุ่มไต้หวันแต้มบุญหมด ได้ซื้อ iPhone Xs Max เป็นคนแรก ทำแตกสวยๆ ในวันเดียวกัน…
ไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรดีกับการที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคเหล่าแฟนคลับระดับฮาร์ดคอร์ เพื่อมาเป็นบุคคลแรกของวันเปิดขายโทรศัพท์รุ่นใหม่ของแอปเปิล ซึ่งล่าสุดก็ออกมาเป็นรุ่น Xr Xs และ Xs Max โดยที่ก่อนหน้านี้ พอจะทราบกันมาแล้วคร่าวๆ ว่า ราคาเปิดตัวของแต่ละรุ่นก็แรงเอาเรื่องพอสมควร ถ้าหากมีความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวเครื่องเมื่อไหร่ ค่าซ่อมแซมก็คงไม่ต้องพูดถึงว่าจะคุ้มหรือไม่ เผลอๆ ซื้อใหม่อีกเครื่องคงจะรู้สึกดีกว่า พ่อหนุ่มไต้หวันรายนี้ มีบุญมากที่ไม่ต้องไปต่อแถวแคมป์ข้ามคืนเหมือนใครเขา ซึ่งก่อนจะเปิดขายวันแรกอย่างเป็นทางการ ก็จะมีคนมารอต่อแถวซื้อเครื่องแบบยาวเหยียด แต่ตาคนนี้นี่สิ ดันได้สิทธิพิเศษคว้าเครื่อง Xs และ Xs Max ไปได้ก่อนใคร เครื่องที่จอแตกคามือคือ Xs Max แต่แล้วอนิจจา เมื่อคว้าเครื่องใหม่มาได้แล้วพี่แกก็ดั๊นทำเครื่องหลุดจากมือ ตกลงไปกระแทกกับพื้นโหม่งโลกได้อย่างสวยงาม ซึ่งเครื่องที่ตกก็ดันเป็นรุ่นเรือธงตัวท็อป Xs Max ซะด้วยยยยย! หลังจากที่เกิดเหตุอันน่าสลดใจไปแล้ว ชาวเน็ตต่างก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าวอยู่บนหน้าจอและในใจ เพราะด้วยราคาค่าตัวคร่าวๆ ของ Xs Max นั้นอยู่ที่ 50,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ถ้าตีเป็นเงินไทยก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 53,000 บาทไทย…
-
คนรักสัตว์โจมตีบริษัทผลิต ‘เคสหนังสัตว์’ โยงหมา-แมว-ม้า ทวีตตอกกลับ ‘มันหนังวัว’ โว้ย
ผลิตภัณฑ์หนังสัตว์ ตามต้นกำเนิดแล้วมีประวัติมาอย่างยาวนานหลายร้อยพันปี โดยเฉพาะหนังวัวที่นิยมนำมาทำเป็นวัตถุดิบหลักของผลิตภัณฑ์หนัง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋าสะพาย กระเป๋าตังค์ รองเท้า เบาะหนัง ฯลฯ ที่มักจะเห็นกันได้บ่อยๆ ซึ่งในช่วงหลังๆ มานี้ เริ่มมีกระแสการต่อต้านผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์ เนื่องจากเป็นการทารุณ ทรมาน และฆ่าสัตว์เพื่อสนองความต้องการของมนุษย์เท่านั้น ซึ่งจุดที่เป็นที่น่าสนใจสำหรับกรณีเกิดขึ้นกับ ‘เคสโทรศัพท์หนังสัตว์’ ภายใต้วิดีโอคลิปกระบวนการผลิต… บริษัท Saddleback Leather ได้ออกผลิตภัณฑ์เคสที่ทำมาจากหนังสัตว์ (หนังวัว) โดยที่ทางบริษัทก็ออกผลิตภัณฑ์หนังชนิดอื่นๆ ด้วย แต่แล้วคนรักสัตว์ก็ออกมาโจมตีในโลกออนไลน์ – สัตว์ถูกฆ่าแน่นอน 100% สินะ ทั้งหมา ทั้งม้า ทั้งแมว ถูกฆ่าเพื่อเอามาเป็นของตกแต่ง iPhone งั้นเหรอ ไม่เอาหรอก… บริษัทก็ตอบกลับไป – ไม่มีหมาถูกฆ่าเพื่อเอามาทำเคสนะ เป็นวัวต่างหาก จะบอกให้ว่าไม่ได้ฆ่าถลกหนังเพื่อเอาทำเคสนะ หนังที่เอามาทำเป็นส่วนที่ไม่ใช้แล้วต่างหาก ‘ก็ยังเป็นสัตว์ที่น่าสงสารถูกฆ่าเป็นจำนวนมาก เพื่อแค่ทำให้โทรศัพท์ดูดีขึ้น ไม่ล่ะ ขอบคุณ’ ถ้าคุณจะมาวิจารณ์เคสหนัง คุณก็ไม่ควรจะซื้อสมาร์ทโฟนนะ…
Got any book recommendations?