Tag: ข่าวต่างประเทศ

มีนักท่องเที่ยวหลายคนชอบเก็บกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงฤดูหนาว เพื่อไปสัมผัสบรรยากาศหนาวเย็นและหิมะในต่างประเทศ ซึ่งมนุษย์เงินเดือนหลายคนก็ได้แต่มองตาปริบๆ เพราะไม่มีเงินจะไปเที่ยวแบบเขา     แต่วันนี้เหมียวอยากจะบอกว่าคุณไม่ต้องไปที่ไหนไกลแล้วนะ เพราะเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์เองก็มีหิมะตกเหมือนกัน แถมสวยงามไม่แพ้วิวในต่างประเทศเลยนะจะบอกให้!!     ภาพที่ทุกคนเห็นอยู่นี้ถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กเพจ Golden Myanmar เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา เป็นภาพในเมืองปังวา รัฐฉาน ประเทศเมียนมาร์ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลนบนพื้น ต้นไม้ และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ทำเอานักท่องเที่ยวชาวไทยรวมถึงเหมียว อยากจะไปเที่ยวมันซะวันนี้เลย (เพราะที่นี่ร้อนมาก)                       ป่ะ!! เราแพ็คกระเป๋ากันเดี๋ยวนี้เลยจะได้ไม่เสียเวลา ที่มา Golden Myanmar

มาอีกแล้ว สำหรับเรื่องราวน่ารักๆ ของชายหนุ่มที่พยายามคิดหาวิธีขอแต่งงานกับแฟนสาวแบบไม่เหมือนใคร ใครโดนวิธีนี้เข้าไปรับรองว่าอมยิ้ม ร้องไห้น้ำตาแตกเลยทีเดียว     นี่เป็นเรื่องราวของนาย Ray Smith วัย 38 ปี ชายหนุ่มผู้มีอาชีพขับรถขนปลาในเมือง Grimsby ประเทศอังกฤษ เขาใช้เวลานานถึง 5 เดือน เพื่อแอบถ่ายภาพข้อความ “คุณจะแต่งงานกับผมไหม?” กับแฟนสาวที่กำลังตั้งท้องอย่าง Claire Bramley วัย 33 ปี โดยที่ไม่ให้เธอรู้ตัว เป็นจำนวนทั้งสิ้นกว่า 148 ภาพ!!     ทั้งนี้นาย Ray ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ผมค้นหาวิธีการขอแต่งงานแบบแปลกๆ ในอินเตอร์เน็ต และผมก็ได้เห็นเข้ากับไอเดียหนึ่งที่คล้ายกับการทำ Flash Mob นั่นจึงเป็นที่มาของการขอแต่งงานของผม ผมเลยตัดสินใจสร้างการขอแต่งงานในแบบของตัวเอง โดยการถ่ายภาพทุกวันๆ เป็นเวลา 5 เดือน”     ส่วนทางด้านแฟนสาวอย่าง Clair เมื่อเธอรู้ว่าแฟนของเธอแอบถ่ายภาพขอแต่งงานเธอมาตลอด 5 เดือน เธอก็เซอร์ไพรซ์มาก และตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดนานเลย     หันมาทางนี้หน่อยซิ  …

เมื่อประมาณ 15.30 นาฬิกา ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าเกิดเหตุระเบิดกลางจัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด ในนครอีสตันบูล ประเทศตุรกี ทำให้มีนักท่องเที่ยวและประชาชนเสียชีวิตแล้ว 10 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 15 ราย     จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตได้รับการยืนยันโดยโฆษกของรัฐบาลตุรกี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เขาได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น และมีรถพยาบาลเข้ามายังที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาปิดล้อมที่เกิดเหตุในทันที เพื่อป้องกันการระเบิดในครั้งต่อไป     ทั้งนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าระเบิดนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ แต่ทางด้านสื่อท้องถิ่นของตุรกีคาดการณ์กันว่าน่าจะเป็นการระเบิดพลีชีพที่มีเป้าหมายเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับมัสยิดบลู         BREAKING: Turkish TV show flames n smoke after explosion in Istanbul. Unconfirmed reports of suicide attack #turkey pic.twitter.com/8iZqSJIz2W — Michel Santos (@Cibereporter) 12 มกราคม…

เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายคนไข้โดยหมอรายหนึ่งโรงพยาบาลในเมือง Belgorod ประเทศรัสเซีย   ตามรายงานบอกว่าคลิปดังกล่าวถูกถ่ายไว้ได้จากกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 29 ธันวาคมปี 2015 เผยให้เห็นภาพของคุณหมอคนหนึ่งที่เดินตรงดิ่งเข้ามายังห้องตรวจคนไข้ จากนั้นก็ลากนาย Yevgeniy Bakhtin วัย 56 ปีที่กำลังตรวจร่างกายอยู่ขึ้นมาและชกเข้าที่ใบหน้าของเขา     เมื่อพยาบาลคนอื่นๆ เห็นเหตุการณ์เข้าจึงพยายามเข้ามาห้ามปรามคุณหมอไม่ให้ทำร้ายเขามากไปกว่านี้ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเพราะเขาได้หันมาทำร้ายร่างกายของพยาบาลด้วย และหันไปซ้อมนาย Yevgeniy ต่อจนเขาเสียชีวิตในเวลาต่อมา   หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้ามาสืบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดและเมื่อเปิดกล้องวงจรปิดดู พวกเขาก็แทบจะไม่เชื่อสายตาเลยว่าคุณหมอจะทำแบบนั้น พวกเขายังเชื่อว่านี่คือการฆาตกรรมแบบ “ไม่ได้เจตนา”     ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   ส่วนสาเหตุของการทำร้ายร่างกายที่เกิดขึ้นนั้น ทางสื่อท้องถิ่นเปิดเผยว่าคนไข้เตะนางพยาบาลก่อน เมื่อคุณหมอทราบเรื่องจึงเกิดบันดาลโทสะเข้าทำร้ายคนไข้ แต่ไม่ได้มีเจตนาถึงขั้นเอาชีวิตแต่อย่างใด   ที่มา metro

เรื่องของการแอบมีกิ๊กมีชู้ยังคงเป็นปัญหาที่มีให้เห็นได้ไม่เว้นแต่ละวันนะ อย่างเช่นที่ประเทสโคลอมเบียเองก็มีเช่นกัน   เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของหญิงสาวชาวโคลอมเบียรายหนึ่ง ที่จับได้ว่าสามีตัวดีแอบขับรถไปกับหญิงอื่น เธอจึงโกรธจัดเลยวิ่งออกมาขวางหน้ารถไว้ และปีนขึ้นไปบนรถของสามี จากนั้นก็บังคับให้สามีของเธอออกมาจากรถ     โดยเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่เมือง Medellin ที่ทางตะวันตกของประเทศโคลอมเบีย ทำให้การจราจรในขณะนั้นติดขัดเป็นอย่างมาก ผู้คนจึงอดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้     แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะไม่จบลงง่ายๆ เพราะเขายังคงไม่ยอมลงจากรถ และเมื่อสามีลดกระจกลงเพื่อพูดอะไรสักอย่าง ฝ่ายภรรยาก็ไม่รอช้ารีบกระโดดเข้าหน้าต่างรถไปทันที โดยมีผู้คนที่ยืนอยู่ข้างถนนส่งเสียงเชียร์เธอกันอย่างเมามัน     ตามรายงานบอกว่าหญิงสาวสุดยัวะทำให้การจราจรเป็นอัมพาตไปนานกว่า 10 นาทีทีเดียว จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมสถานการณ์ จึงทำให้รถยนต์คันอื่นๆ สามารถไปต่อได้นั่นเอง   ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย   พวกคุณเห็นแล้วใช่ไหมล่ะว่าเธอทำอะไรได้บ้าง ฉะนั้นอย่าคิดนอกใจพวกเธอเลยนะ ลองนึกถึงช่วงที่คุณจีบเธอใหม่ๆ ซิยากลำบากแค่ไหนกว่าจะได้เธอมา?   ที่มา mirror

เมื่อไม่นานมานี้เฟซบุ๊กเพจของ BusinessInsider เผยแพร่เรื่องราวการเตรียมงานสร้างอาคาร The Jeddah Tower ของประเทศซาอุดิอาราเบีย โดยที่พวกเขาวางแผนกันไว้ว่าจะให้มันเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกเลยทีเดียว!!     ตามรายงานบอกว่าตัวอาคารจะมีความสูงทั้งหมด 200 ชั้น และมีความสูง 3,280 ฟุต หรือประมาณ 1 กิโลเมตร หรือก็คือเป็นสองเท่าของอาคาร One World Trade Center ที่มีความสูงอยู่ที่ 1,792 ฟุต เท่านั้น     โครงการนี้ต้องใช้เงินทั้งสิ้นกว่า 1.23 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 44.7 พันล้านบาท และหากอาคารแห่งนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์ มันจะครองตำแหน่งตึกที่สูงที่สุดในโลกทันที     การจะสร้างอาคาร The Jeddah Tower ขึ้นมาได้นั้น จำเป็นจะต้องใช้คอนกรีตจำนวน 5.7 ล้านตารางฟุต เหล็ก 80,000 ตัน ติดตั้งลิฟท์อีกกว่า 56 ตัว ภายในจะประกอบไปด้วยโรงแรมหรู 1 แห่ง อะพาร์ทเม้นท์และออฟฟิศอีกเพียบ  …

เป็นธรรมดาที่เมื่อวันเวลาล่วงเลยไป ร่างกายของเราก็จะเสื่อมสภาพลง ผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อย กล้ามเนื้อเริ่มไม่กระชับเหมือนสมัยตอนเป็นหนุ่มสาว แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งไม่ได้มีความคิดแบบนั้น และไม่ปล่อยให้อายุหรือความแก่ชรามาทำอะไรเธอได้เลย     นี่เป็นเรื่องราวของสาวมะกันที่ชื่อว่า Laura Gordon สาวใหญ่วัย 48 ปี จากเมืองชาร์ลอต รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา เธอได้รับความนิยมมากในโลกอินสตาแกรม เพราะเนื่องจากวัยที่เกือบจะเข้าสู่เลข 5 อยู่แล้ว แต่กลับมีหุ่นที่แซ่บลืม ทำให้ชาวเน็ตต่างกดติดตามดูเธออย่างล้นหลาม     ภายใน IG ของเธอนั้นเต็มไปด้วยภาพอวดหุ่นเซ็กซี่ของเธอ ในชุดออกกำลังกายและกางเกงขาสั้นมากมาย ทำให้ตอนนี้เธอมียอดผู้ติดตามมากถึง 4.5 แสนคนทีเดียว โดยเธอเผยว่าในตอนแรกเธอไม่ได้ชื่นชอบการออกกำลังกายเท่าไหร่ แต่เธออยากจะมีหุ่นที่ดีจึงต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ     ทั้งนี้ Laura ได้เขียนข้อความลงใน IG ของเธอว่า ตนเองเริ่มออกกำลังกายแบบจริงจังมาตั้งแต่ตอนที่เธออายุได้ 23 ปี เธอศึกษาข้อมูลการออกกำลังกายผ่าน DVD สอนออกกำลังกายจากนั้นก็ฝึกฝนมาอย่างสม่ำเสมอ     ส่วนเรื่องอาหารการกิน เธอกล่าวว่าเธอจะเลือกกินแต่ธัญพืช และอาหารพื้นๆ ไม่มีรสจัดและหลีกเลี่ยงการกินจังค์ฟู้ดด้วย     ปัจจุบัน Laura ใช้ชีวิตแต่งงานมาได้…

การที่แฟนของเรานอกใจไปมีคนอื่น ใครไม่เจอกับตัวเองคงไม่รู้หรอกนะว่ามันเจ็บแค่ไหน แล้วยิ่งมาเจอว่าแฟนเราจะสำสะบึ่มบึ๊มกับใครอีกคน เป็นเหมียวคงกระโจนเข้าฟัดเลยทีเดียว แต่เหลือเชื่อเลยว่ายังมีคนบางคนที่สามารถใจเย็นและควบคุมสติเอาไว้ได้   เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของชายหนุ่มรายหนึ่ง ที่สงสัยว่าภรรยาของเขาจะนอกใจ เลยถ่ายคลิปวิดีโอก่อนเข้าห้องและเมื่อเปิดเข้าไปก็เจอกับภาพบาดตา เพราะภรรยาของเขาอยู่ในสภาพเปลือเปล่าพร้อมกับชายอีกคน     แต่แทนที่เขาจะโมโหหรือสติแตก เขากลับใจเย็นและบอกกับทั้งคู่ว่า ” เจสัน เฮ้ นายเป็นไงบ้าง โอเคมั้ยเพื่อน นายอาจจะไม่รู้ ฉันก็ไม่แคร์ไรมากหรอก แต่ที่นายจิ้มอ่ะมันเมียฉันนะ ช่วยหย่ากับผมด้วยนะของร้อง”   “ผมไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว มันจบแล้วโอเคไหม คุณกับผมจบแล้ว ผมรักลูกสาวของผม นั่นคือสิ่งเดียวที่สำคัญสำหรับผม ผมจะไม่ตกลงอะไรกับคุณอีกต่อไปแล้ว ส่วนเจสัน นายเป็นคนดี ขอโทษที่มารบกวน ขอให้โชคดี”   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องรับมือกับมันอย่างมีสติ เหมียวขอนับถือการแก้ปัญหาอย่างเยือกเย็นของพ่อหนุ่มคนนี้เลย ที่มา mirror

หากใครมีนิสัยชอบดูหนังเถื่อนในที่สาธารณะแล้วล่ะก็ ลองเหลียวมองรอบๆ ตัวคุณหน่อยก็ดีนะ เพราะอาจมีนักแสดงในเรื่องนักอยู่ข้างๆ คุณก็เป็นได้   เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่เรื่องราวสุดเหวอของผู้โดยสารเครื่องบินหนุ่มรายหนึ่ง ที่เปิดหนังบอลลีวูดเถื่อนเรื่อง Dilwale ดูอย่างสบายใจ แต่โชคร้านที่หนึ่งในนักแสดงหนังเรื่องนี้อย่าง Kriti Sanon วัย 25 ปี นั่งอยู่ข้างๆ เขาด้วย งานนี้ทำเอานักแสดงสาวถึงกับยัวะเลยทีเดียว     นักแสดงสาวเริ่มสังเกตเห็นผู้โดยสารรายหนึ่งหยิบโปรเจ็คเตอร์ขนาดเล็กออกมาตั้ง และฉายหนังเรื่องที่เธอเล่น เธอจึงทนไม่ได้และหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพชายคนดังกล่าวไว้ พร้อมกับประจานลงในทวิตเตอร์ของเธอ ที่มีผู้ติดตามกว่า 4 แสนคน     พร้อมกันนี้เธอยังได้เขียนข้อความด้วยว่า “มีคนๆ นึงกำลังดูหนังเรื่อง Dilwale แบบผิดกฎหมายต่อหน้าต่อตาฉันบนเครื่องบิน น่ารำคาญชะมัด!!” และ “น่าเศร้าที่ได้เห็นงานที่ทำมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ถูกรับชมในคุณภาพที่ต่ำ เชิญสนุกกับหนังไปเลย”     จะดูหนังทั้งที ก็ขอให้ดูแบบที่คุณภาพเสียงและภาพที่มันดีกว่านี้หน่อยนะ แล้วก็อย่าไปดูหนังเถื่อนที่ไหนอีกล่ะ ไม่งั้นอาจจุดใต้ตำตอแบบนี้ได้นะ ที่มา metro

กำลังกลายเป็นกระแสให้หนุ่มๆ พูดถึงอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับเน็ตไอดอลสาว น้องเฮือง เล (Hương Lê) ชาวเวียดนามวัย 21 ปี ที่นอกจากหน้าตาจะน่ารักแล้ว เธอยังมีความขยันหมั่นเพียรด้วยนะ   น้องเฮือง เล เริ่มเป็นที่รู้จังของโลกออนไลน์เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา เพราะเธอได้โพสต์ภาพของตนเองลงในเฟซบุ๊ก เป็นภาพขณะที่เธอกำลังทำงานล้างจานและเครื่องครัวต่างๆ พร้อมกับบอกว่าที่ต้องมาทำงานพิเศษก็เพราะเธอกำลังเก็บเงินไปแต่งงานนั่นเอง     ด้วยความขยันบวกกับความน่ารัก ทำให้เธอกลายเป็นเน็ตไอดอล (สายสว่าง) ไปในทันที ทำให้มีแฟนคลับเข้าไปกดติดตามเธอกันกว่า 2 แสนคนเลยทีเดียว และเมื่อมีคนติดตามเธอเยอะขนาดนี้ ก็เริ่มมีงานถ่ายแบบเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้มีรายได้มากขึ้นแถมยังมีภาพสวยๆ มาให้ชาวเน็ตได้ชมกันด้วย จะน่ารักขนาดไหนต้องไปชมกัน                               หน้าตาน่ารัก แถมยังมีความคิดดีๆ แบบนี้ แอดเหมียวขอยกให้เป็นเน็ตไอดอล (สายสว่าง) ดีเด่นแห่งปีเลยจ้า ที่มา Hương…

ในยุคที่ขโมยขโจรชุมแบบนี้ หลายๆ คนอาจจะเตรียมรับมือโดยการซ่อนอาวุธต่างๆ เอาไว้ในบ้าน (สำหรับคนที่มีใบอนุญาตน่ะนะ) เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น บางคนอาจจะเก็บไว้ในลิ้นชักเพราะความเคยชิน แต่วันนี้เหมียวมีวิธีที่ดีกว่านั้นจะมาบอกล่ะ   วันนี้แอดเหมียวขอนำเสนอ 20 ที่ซ่อนปืน สำหรับป้องกันขโมยขึ้นบ้าน จะเก็บไว้ที่ไหนบ้างลองไปชมกันดูนะ   #1   #2   #3   #4   #5   #6   #7   #8   #9   #10   #11   #12   #13   #14   #15   #16   #17   #18   #19   #20  …

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ metro ได้รายงานว่านาย John Beeden หนุ่มอังกฤษวัย 53 ปี ได้กลายเป็นชายคนแรกในโลกที่สามารถพายเรือข้ามมหาสมุทรแปซิฟิคได้ และใช้เวลาอยู่บนเรือเพียงคนเดียวถึง 209 วันทีเดียว     ตามรายงานบอกว่านาย John ได้ออกเดินทางจากชายฝั่งของเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ไปยังเมืองแคนส์ ประเทศออสเตรเลีย John กล่าวว่าเขาใช้เวลาพายเรือเป็นเวลา 15 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อไปให้ถึงฝั่ง และเมื่ออยู่กลางทะเล ที่ซึ่งไม่มีร้านค้าหรือผู้คนให้สนทนา เขาจึงจำเป็นที่จะต้องหาอาหารด้วยตนเองและอยู่กับตัวเองให้ได้     และสุดท้ายนาย John ก็ทำสำเร็จ หลังจากที่พายเรือมาเป็นเวลา 209 วัน เขาก็เดินทางมาถึงฝั่งของเมืองแคนส์แล้วในช่วงเวลา 10 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นเขาก็อัพรูปตนเองขณะถือคุ๊กกี้ในมือ     ในอดีตที่ผ่านมา มีผู้คนมากมายต้องการจะพายเรือข้ามมหาสมุทรแปซิฟิคมาก่อน ซึ่งก็มีการทำสำเร็จมาบ้างแล้ว เช่นนาย John Fairfax และ Sylvia Cook ที่เคยประสบความสำเร็จเมื่อปี 1972 ในการเดินทางออกจากซานฟรานซิสโกไปยังเกาะเฮย์แมนในออสเตรเลีย…

เมื่อถึงช่วงปีใหม่ หน่วยงานแต่ละที่ก็มักจะผลิตปฏิทินขึ้นมาเพื่อแจกให้แก่ลูกค้าหรือผู้มาใช้บริการใช่ไหมล่ะ แต่จะเป็นยังไงหากคุณได้พบหน้านายกหรือประธานาธิบดีอยู่บนปฏิทินทุกๆ เดือน?     เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่ภาพปฏิทินประจำปี 2016 ของรัสเซีย ที่จัดทำโดยนิตยสาร Stars and Advice ที่นำเอาประธานาธิบดี Vladimir Putin มาถ่ายแบบในอิริยาบทสบายๆ แบบที่ประชาชนหรือชาวโลกไม่เคยเห็นมาก่อน     โดยในภาพที่มีการเผยออกมานั้น มีหลายภาพที่ปูตินกำลังยิ้ม และทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งออกกำลังกายเล่นกับสุนัขและตกปลา พร้อมทั้งมีคำพูดดีๆ จากปูตินกำกับไว้ด้านข้างด้วย เช่น “เจ้าหมาและผมรู้สึกอบอุ่นต่อกันและกันมาก” และ “ผมชอบสาวรัสเซียนะ ผมว่าสาวๆ มีพรสวรรค์และสวยที่สุด”     ตามรายงานยังบอกอีกว่า ปฏิทินชุดนี้ถูกวางขายอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดิน ในราคา 78 รูเบิล หรือประมาณ 39 บาท ซึ่งจากคำบอกเล่าของคนแถวนั้นบอกว่าปฏิทินชิ้นนี้ถูกขายหมดแผงไปในเวลาอันรวดเร็ว     แม้ว่าบางภาพจะไม่ได้ถูกถ่ายขึ้นในปี 2015 เช่นภาพตกปลานี้ ถูกถ่ายตั้งแต่เมื่อปี 2013 แล้ว แต่ประชาชนชาวรัสเซียก็ยังอยากเป็นเจ้าของมันอยู่    …

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Odditycentral ได้เผยแพร่ภาพกำแพงสุดหดหู่ใจ จากเมืองลิมา ประเทศเปรู ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งกั้นดินแดนระหว่างคนรวยและคนจน     ตามรายงานบอกว่ากำแพงแห่งนี้มีความยาวทั้งสิ้น 10 กิโลเมตร ถูกสร้างด้วยคอนกรีตและพันด้วยลวดหนาม จุดประสงค์ที่มีการสร้างมันก็เพื่อให้เหล่าคนรวยรู้สึกปลอดภัยจากคนจน ที่อาจจะรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ของพวกเขา และป้องกันอาชญากรรมต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้     ทั้งนี้ ฝั่งในกำแพงมีชื่อว่า Las Casuarinas (ลาส คาซัวรินาส์) เป็นพื้นที่ของบรรดาคนรวย ส่วนด้านนอกมีชื่อว่า Vista Hermosa (วิสต้า เฮอร์โมซา) เป็นพื้นที่ของคนจนที่แทบจะไม่มีเครื่องใช้อำนวยความสะดวกหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเลย     การสร้างกำแพงขึ้นแบบนี้ ทำให้เหล่าประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ Vista Hermosa นั้นรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะมันแบ่งแยกพวกเขาอย่างชัดเจน ทำให้พวกเขารู้สึกไม่มีความสุขเลย แต่ยังไงก็ตาม เขต Las Casuarinas รู้สึกปลอดภัยและคิดว่ากำแพงแห่งนี้มีความจำเป็นมากสำหรับพวกเขา     กำแพงแห่งความอับอายแห่งนี้เริ่มเป็นที่จับตามองของชาวโลก และถูกตั้งชื่อเล่นให้ว่า กำแพงเบอร์ลินแห่งเปรู ทำให้ชาวเมืองเริ่มรวมกลุ่มกันไปวาดภาพลงบนกำแพง เกิดเป็นจิตรกรรมฝาผนังขึ้น เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของผู้สร้างกำแพง ให้เห็นถึงผลกระทบของมัน  …

กลายเป็นข่าวโด่งดังทีเดียว สำหรับความเสียสละของเด็กหนุ่มวัย 15 ปี ในรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่พยายามยืนบังกระสุนให้เด็กๆ 3 คนจนตัวเองเสียชีวิต   เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Metro เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามรายงานบอกว่าเด็กหนุ่มมีชื่อว่านาย Zaevion Dobson วัย 15 ปี ได้อยู่ในเหตุการณ์กราดยิงในเมืองน็อกซ์วิลล์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน คนแรกเป็นมือปืน ส่วนอีกคนคือนาย Zaevion     ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ David Rausch ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า หัวหน้าแก๊งค์มือปืนมีชื่อว่านาย Brandon Perry วัย 23 ปี พร้อมด้วยเพื่อนๆ อีกไม่กี่คน ได้สุ่มยิงไปยังบ้านคนอื่นแบบมั่วๆ จนกระสุนไปโดนเข้ากับนาง Lisa Perry วัย 46 ปี ซึ่งเป็นแม่ของเขาเอง   จากนั้นนาย Brandon ก็ขับรถไปยังอพาร์ทเม้นต์ ละแวกที่นาย Zaevion อยู่ และเมื่อมือปืนเริ่มยิงอีกครั้ง  นาย…

ในทุกๆ ปี เด็กๆ ต่างประเทศจะรอคอยช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส เพื่อรอให้ซานตาคลอสมามอบของขวัญให้แก่พวกเขา ซึ่งพ่อแม่หลายๆ คนจะบอกกับเด็กๆ ว่าซานตาคลอสมีจริง (ซึ่งพวกเขาก็แอบเอาของขวัญมาให้เองนั่นแหละ)   แต่วันหนึ่งเด็กๆ ก็ต้องเติบโต และรู้ความจริงว่าซานตาคลอสไม่มีจริง แต่ใครล่ะจะเป็นคนบอกพวกเขา? และหากบอกแล้วจะเกิดอะไรขึ้น? มันก็ออกมาเลวร้ายแบบข่าวที่เหมียวจะเล่าต่อไปนี้ยังไงล่ะ     เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าเด็กหญิง Belle วัย 10 ขวบจากรัฐแมรีแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อพ่อแม่บอกความจริงกับเธอว่าซานตาคลอสไม่มีจริง ทำให้เธอใจสลายและเขียนข้อความต่อว่าพ่อแม่ของเธอลงในกระดาษ พร้อมวาดรูปนิ้วกลางให้ด้วย!!   เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านคุณแม่ของเธออย่าง Nicki Adams และคุณพ่อ Michael ที่ได้รับกระดาษข้อความสุดเกรี้ยวกราดจากลูกสาวของเธอ ที่สอดมาใต้ประตูห้องนอนของพวกเขา เธอบอกว่าสามีของเธอบอกกับลูกสาวว่าซานตาคลอสมีจริง แต่เมื่อโตขึ้นพ่อแม่ก็ไม่สามารถปิดบังความจริงต่อไปได้ จึงสารภาพกับเธอว่าซานตาคลอสไม่มีจริง     เมื่อ Belle รู้ความจริง เธอจึงจัดแจงเขียนข้อความถึงพ่อและแม่ของเธอ โดยมีข้อความว่า “คุณไม่รู้หรอกว่าทำอะไรลงไป หนูพยายามจะเชื่อที่ทุกคนบอกหนู ว่าซานต้ามีจริงทั้งที่ทุกคนบอกว่าคนที่ให้ของขวัญหนูมาตลอดก็คือพ่อกับแม่”   “หนูไม่เชื่อคุณอีกแล้ว กระต่ายอีสเตอร์มีจริงเหรอ แล้วนางฟ้าฟันน้ำนมล่ะ?…

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ข่าวชวนอึ้งผ่านเว็บไซต์ Worldnewsdailyreport เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่สวนสัตว์หื่นกามวัย 38 ปีรายหนึ่ง ในประเทศอินโดนิเซีย ที่บังคับ Marilyn ลิงอุรังอุตังเพศเมียให้มีเซ็กส์กับตัวเอง จนตั้งท้อง!?   ตามรายงานดังกล่าวบอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สวนสัตว์ Surabaya ในประเทศอินโดนีเซีย โดยมีการอ้างชื่อของนาย Abdoel Hakim ผู้อำนวยการของสวนสัตว์ ที่ออกมายืนยันว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง เพราะเจ้า Marilyn อาศัยอยู่ตัวเดียวมาเป็นเวลา 10 ปี     ซึ่งการที่มันตั้งท้องนี้ก็หมายควาว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่สวนสัตว์หื่นกามคนนั้นอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีการอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ Bachtiar Pado Panghulu ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยจาการ์ตา ที่บอกว่าลิงอุรังอุตังนั้นมี DNA ใกล้กับมนุษย์มาก ทำให้เหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นได้   แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะเป็นเพียงเรื่องที่กุขึ้นมาเท่านั้น เพราะเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา นาย Heri Purwanto ผู้จัดการสวนสัตว์ได้ออกมาแก้ข่าวผ่านเว็บไซต์ Thejakartapost ว่าเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง “ทุกๆ อย่างในข่าวที่รายงานไปนั้นเป็นเรื่องเท็จหมดเลย”     “เราไม่มีลิงอุรังอุตังที่ชื่อ Marilyn และเจ้าหน้าที่ในข่าวนั่นก็ไม่ได้เป็นลูกจ้างของสวนสัตว์นี้ด้วย แถมสวนสัตว์ของเราก็ไม่มีผู้อำนวยการที่ชื่อ Abdoel Hakim”  …

เป็นอุบัติเหตุที่ยากจะเชื่อเลยทีเดียว สำหรับกรณีของรถคันหนึ่งในรัสเซีย ที่ตกลงมาจากทางด่วนเพราะถนนลื่น แต่ที่ทำให้อึ้งก็คือทั้งคนขับและผู้โดยสารกลับไม่เป็นอะไรเลย แถมยังออกมาเดินได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วย!!   เมื่อวันที่ 16 ธีนวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโออุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นที่เมืองโซชิ ทางตอนใต้ของประเทศรัสเซีย เผยให้เห็นรถสีขาวคันหนึ่ง ที่วิ่งมาตามถนนที่เปียกแฉะ ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนขอบถนน หล่นจากทางด่วนลงไปด้านล่างกว่า 8 เมตร     ต่อมารถสีขาวคันดังกล่าวก็กระแทกพื้นอย่างจัง ทำให้รถเสียหายหนักจนล้อข้างหนึ่งกระเด็นออกมา ในระหว่างนั้นเองมีพลเมืองดีผ่านมาเห็นพอดี จึงรีบวิ่งเข้าไปช่วย แต่ปรากฏว่าทั้งคนขับและผู้โดยสารกลับไม่เป็นอะไรเลย แถมยังเดินลงจากรถมาแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ไทย เชื่อว่าหลายๆ คนต้องถามหาพระที่พ่อหนุ่มคนขับสวมอยู่แน่ๆ ที่มา dailymail

นี่ถือเป็นภาพชุดหนึ่งที่ตื่นตาตื่นใจเหมียวพอสมควรเลยล่ะ เพราะไม่กี่วันที่ผ่านมา เว็บไซต์ Boredpanda ได้เผยแพร่ภาพถ่ายของสมาชิกที่ใช้นามแฝงว่า Von Wong จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเขาเล่าว่าแฟนสาวของเขาได้พยายามโน้มน้าวให้เขาขับรถไล่ตามพายุเพื่อถ่ายภาพสุดอลังการ     งานนี้เขาก็เลยต้องทำหน้าที่แฟนที่ดี ขับรถไล่ตามพายุไปจริงๆ แต่เขาไม่ได้ไปคนเดียวนะ เพราะเขาได้พาเพื่อนๆ กลุ่มหนึ่งไปเสี่ยงอันตรายกับเขาด้วย นอกจากนี้ยังมี Kelly DeLay ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการไล่ตามพายุติดรถไปกับเขาด้วย     พวกเขารอคอยจังหวะที่พายุปรากฏตัวขึ้น จากนั้นพวกเขาก็หาที่มั่นเหมาะๆ เป็นพื้นที่ราบโล่งๆ เพื่อเซ็ทอุปกรณ์ถ่ายภาพ จัดไฟ และอุปกรณ์ประกอบฉากให้เรียบร้อย และรีบเก็บภาพด้วยความรวดเร็ว     ทั้งนี้เจ้าตัวได้เล่าว่ากว่าจะได้ภาพสวยๆ มาให้เราได้ชมกันนั้น เขาต้องเดินทางไปทั่วอเมริกา ใน 7 รัฐ โดยแต่ละครั้ง พวกเขามีเวลาเพียง 10-15 นาทีในการเก็บภาพเท่านั้น แค่ตั้งท่าถ่ายก็ว่ายากแล้ว หนำซ้ำยังมาเจอสภาพอากาศที่เลวร้ายอีก แต่ทั้งหมดก็ไม่สามารถหยุดพวกเขาได้                   แต่ละภาพนั้นสวยเกินบรรยายจริงๆ นี่ต้องถือว่าเป็นพ่อบ้านใจกล้าอีกรายหนึ่งเลยนะเนี๊ยะ ที่มา boredpanda

เรื่องของขยะที่ลอยในทะเลนั้นนับวันจะยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเจริญเติบโตของการท่องเที่ยวทั้งในไทยและในต่างประเทศ ทำให้เรามักจะเห็นภาพขยะลอยอยู่ในทะเลอยู่บ่อยครั้ง นอกจากมันจะทำให้ทะเลสกปรกแล้ว มันยังทำให้เหล่าสัตว์น้ำที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปกินมันเข้า และตายได้ในที่สุด     ด้วยปัญหานี้เอง ทำให้นาย Andrew Turton และ Pete Ceglinski สองหนุ่มชาวออสเตรเลียได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า Seabin (ถังขยะทะเล) ขึ้นมาและนำมันไปวางในทะเล เพื่อให้พวกมันดูดเอาขยะที่ลอยเท้งเต้งอยู่ในน้ำเข้ามาเก็บไว้ ทั้งขวดพลาสติก เศษกระดาษ น้ำมัน และสารเคมีที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ     ทั้งสองคนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงแนวคิดในการสร้างเจ้าถังขยะนี้ว่า “หนึ่งในเป้าหมายที่เราสร้าง Seabin ก็เพื่อเก็บเศษพลาสติกมาสร้าง Seabin อีกอันหนึ่ง เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เหมือนการล้มของโดมิโน ส่วนเป้าหมายที่สองคือสร้างโลกที่เราไม่ต้องการเจ้า Seabin แล้วนั้นเอง”     ทั้งคู่ได้ออกแบบและสร้าง Seabin ขึ้นภายในบ้านของพวกเขาเอง และกำลังเล็งที่จะส่งออกไปขายตามที่ต่างๆ ช่วงปลายปี 2016 แต่ตอนนั้นทั้งคู่ยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาและระดมทุน ผ่านเว็บไซต์ Indiegogo อยู่ล่ะ ใครสนใจอก็คลิกเข้าไปชมได้นะ       ชมคลิปการทำงานของเจ้าถังขยะได้ที่ด้านล่างเลย   นี่แหละคือนวัตกรรมที่จะมาช่วยเปลี่ยนโลกของเรา…

เฟซบุ๊กกลายเป็นสมุดบันทึกสาธารณะที่ผู้คนมักจะแสดงความรู้สึกต่างๆ ลงไป แต่ระมัดระวังหน่อยนะ เพราะความเห็นหรือความรู้สึกที่เราแชร์ออกไป มันอาจย้อนกลับมาทำร้ายเราได้เหมือนอย่างสาวคนนี้ล่ะ   เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Wittyfeed ได้เผยแพร่เรื่องราวของสาวต่างชาติสุดเงิบรายหนึ่ง ที่โพสต์ข้อความบอกเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กว่าเธอกำลังตั้งท้องกับแฟนหนุ่มที่ชื่อ Mike และขอให้ทุกๆ คนตั้งตารอข่าวคราวเพิ่มเติมของเธอผ่านเฟซบุ๊ก   ซึ่งหลังจากที่เธอแชร์ข้อความดังกล่าวออกไป ก็มีเพื่อนๆ เข้ามาแสดงความยินดีมากมาย   แต่เรื่องราวก็เริ่มพลิกผัน เมื่อมีเพื่อนคนหนึ่งถามเธอว่าเธอตั้งท้องได้นานเท่าไหร่แล้ว เธอจึงตอบไปว่า “หมอบอกว่าท้องได้ 2 เดือนแล้ว”   จากนั้น Mike แฟนหนุ่มของเธอก็เข้ามาถามเธอว่า “เดี๋ยวนะ คุณแน่ใจว่า 2 เดือนเหรอที่รัก? ผมคิดว่าไม่น่าใช่นะ” เจ้าตัวเลยบอกว่า “แน่นอน ฉันมีกระดาษข้อความของหมอวางอยู่หน้าฉันเลย ทำไมเหรอ?”   แฟนหนุ่มเลยบอกเหตุผลว่า “มันน่าสนใจมาก เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงเดียวกับช่วงที่ผมไปทำงานในเปรูพอดี ผมอยู่ที่นั่นตั้ง 4 อาทิตย์แหนะ…”   ไม่แน่ใจว่าเป็นความผิดพลาดของหมอหรือเธอเองที่นอกใจแฟนหนุ่ม แต่งานนี้เหมียวบอกเลยว่าเคลียร์กันยาว ที่มา wittyfeed

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียได้เปิดคลีนิคแห่งใหม่ที่ไว้สำหรับช่วยเหลือเหล่านักท่องราตรีที่เมาค้างโดยเฉพาะ ใช้เวลารักษาแค่เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น   เพราะอาการเมาค้างนั้นทรมานมากทีเดียว มีทั้งอาการเวียนหัวและอยากอาเจียน นาย Max Petro จึงได้ไอเดียนี้มาทำเป็นคลีนิคเพื่อคนเมาค้าง โดยที่คลีนิคแห่งนี้จะรักษาคุณด้วยการบำบัดด้วยออกซิเจน และเพิ่มความชุ่นชื่นให้กับร่างกายของคุณ ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีค่าใช้จ่าอยู่ที่ 200 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7 พันบาทนิดๆ (สามารถไปซื้อเครื่องดื่มได้อีกเพียบเลยนะนั่น)     ทางด้านนาย Max Petro เจ้าของคลีนิคแห่งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เราเจอผู้คนมากมายที่ชอบบอกว่า ‘ฉันไม่สามารถดื่มได้แบบที่เคยดื่ม, ฉันไม่สามารถฟื้นตัวเองได้เลย’ อย่างที่เรารู้กันว่านักดื่มบางคนก็อาจเลวร้ายกว่าคนอื่นๆ บางคนแม้แต่จะลุกจากเตียงยังทำไม่ได้เลย “     ทั้งนี้นาย Petro ยังบอกอีกว่าที่คลีนิคของเขานั้นเน้นรักษาอย่างเดียว ไม่มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลเพิ่มเติมแน่นอน ที่มา metro

ถือเป็นหลักสากลของโลก ที่ใครๆ ก็รู้กันว่าเมื่อเราทำผิด จะต้องถูกลงโทษด้วยการปรับหรือจำคุก แต่หากเป็นที่ประเทศนอร์เวย์แล้วล่ะก็ คุณอาจจะอยากเข้าไปนอนในคุกแบบฟรีๆ โดยที่ไม่ต้องทำอะไรผิดเลยก็ได้นะ เพราะที่นั่นเขาอยู่กินสบายมากประหนึ่งอยู่คอนโดสุดหรูเลยทีเดียว     วันนี้เหมียวจะพาไปทัวร์เรือนจำฮอลเดน ที่ตั้งอยู่กลางป่าในประเทศนอร์เวย์กัน เรือนจำแห่งนี้สามารถรองรับนักโทษได้มากถึง 250 คน กว่าครึ่งของนักโทษได้ก่อคดีร้ายแรง เช่นฆาตกรรม ทำร้ายร่างกาย และข่มขืน ในขณะที่บางส่วนมีความผิดฐานค้ายาเสพติด     แต่ที่เรือนจำฮอลเดนพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงพวกเขาให้กลายเป็นคนดีพร้อมกลับสู่สังคม โดยการสร้างสภาวะแวดล้อมให้เหมือนกับการอยู่บ้านและมีธรรมชาติรายล้อม ซึ่งสภาพวะแวดล้อมแบบนี้สามารถเอื้อต่อการหลบหนีออกจากเรือนจำแห่งนี้มาก แต่กลับไม่มีนักโทษคนไหนที่คิดจะหลบหนีออกไปเลย     จากภาพต่างๆ จะเห็นได้ว่าภายในเรือนจำนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งทีวี ตู้เย็น โต๊ะ เก้าอี้ หนังสือให้อ่าน แถมห้องนอนกับห้องน้ำก็ดูหรูหราเหมือนกับคอนโดที่หลายๆ คนอาศัยอยู่เลย     นอกจากนี้ยังมีห้องนั่งเล่น ห้องดนตรี ห้องสำหรับสวดมนต์ ห้องคอมพิวเตอร์และอีกมากมายให้เหล่านักโทษได้ผ่อนคลายกัน ส่วนทางด้านผู้คุมเรือนจำเองก็มีท่าทีผ่อนคลาย มีการพูดคุยกับนักโทษหรือแม้กระทั่งลงมากินข้าวด้วยก็ยังมี     แน่นอนว่าความหรูหราและความสะดวกสบายนั้นจะทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าเรือนจำแห่งนี้สบายเกินกว่าโทษที่พวกเขาได้ทำไว้ แต่ที่แห่งนี้มีความเชื่อกันว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมของนักโทษ จะได้ผลดีกว่าการลงโทษพวกเขา อีกทั้งยังช่วยหางานให้พวกเขาทำหลังจากที่ออกจาเรือนจำแห่งนี้ไปแล้วด้วย          …

ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องน่าเศร้าจริงๆ เกี่ยวกับกรณีของสงครามในซีเรียที่กำลังร้อนระอุ ล่าสุดมีการรายงานข่าวว่ารัสเซียได้สั่งให้กองทัพส่งเครื่องบินรบทิ้งระเบิดในซีเรีย แต่โชคร้ายที่การโจมตีครั้งนั้นทำให้เด็กหญิงชาวรัสเซียต้องเสียชีวิตไปด้วย     ตามรายงานบอกว่าเด็กหญิงชาวรัสเซียมีชื่อว่า Raghat วัย 5 ขวบ เธอได้เดินทางไปซีเรียกับแม่ของเธอเป็นเวลา 6 วัน แต่ในระหว่างนั้นกลับเกิดเหตุการณ์การโจมตีอย่างรุนแรง ทำให้เธอโดนลูกหลงไปด้วย เธอจึงถูกอุ้มขึ้นมอเตอร์ไซค์เพื่อไปยังโรงพยาบาล แต่ในระหว่างนั้นเธอกลับหมดลมหายใจไปแล้ว     ทางด้านคุณแม่ของเธอ Suheer ได้กล่าวว่าเธอวางแผนจะเดินทางไปซีเรียกับลูกของเธอเพียง 6 วันเท่านั้น ก่อนที่จะเจอเหตุการณ์ดังกล่าว “เราควรจะกลับบ้านในวันพรุ่งนี้ สามีของฉันคงจะไม่ได้เจอหน้าลูกอีกแล้ว”   ทั้งนี้ครอบครัวของ Suheer เป็นเพียงครอบครัวเดียวที่ได้รับผลกระทบจากการทิ้งระเบิดในครั้งนี้     แอดเหมียวขอแสดงความเสียใจกับทุกๆ ชีวิตที่สูญเสียไปด้วยนะ ที่มา metro

กลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในตอนนี้เลย สำหรับการเสริมความงามแบบใหม่ที่เรียกว่า “สักแก้มถาวร”     โดยทั่วไปนั้น การปัดแก้มของสาวๆ  จะช่วยให้แก้มนั้นมีสีอมชมพูระเรื่อ ช่วยให้ใบหน้าแลดูมีสุขภาพดี แต่ดูเหมือนว่าจะมีนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้สาวๆ ใช้เวลาแต่งหน้าน้อยลงแล้วล่ะ เพราะสีชมพูจะถูกสักให้ติดกับแก้มของคุณแบบถาวร ทั้งตอนหลับและตอนตื่น อยู่ได้นานถึง 6 เดือน       ตามรายงานบอกว่าการสักแก้มชมพูนั้นจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 5,000 ถึง 8,000 บาท ทั้งนี้การสักแก้มชมพูในคลีนิคบางแห่งสามารถเปลี่ยนสีได้เรื่อยๆ เพราะใช้สีจากธรรมชาติ ที่ทางร้านยืนยันว่ามีความปลอดภัยสูง     หลังจากที่มีการเผยแพร่การสักแก้มพูออกไป ทำให้สาวๆ ในอินเตอรเน็ตต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมากทีเดียว อย่างเช่นคุณ PearINWStyle กล่าวติดตลกว่า “ไม่ต้องตบหน้าตัวเองตอนตื่นให้เลือดฝาดละ” หรือคุณ Gift Marutui บอกว่า “มีสักรองพื้นไหม ทุกวันนี้ขี้เกียจลงรองพื้นมากที่สุดเลย”     เอ้าสาวๆ คนไหนสนใจก็ลองหาข้อมูลกันได้นะจ๊ะ ที่มา cosmenet , kapook , PearlNWStyle

เหลือเชื่อเลยว่าทุกวันนี้รองเท้าออกกำลังกาย จะสามารถดีไซน์ให้เบาบางจนคุณสามารถกระโดดและวิ่งได้สบายเท้ามากกว่าเมื่อก่อน แต่คุณเคยคิดไหมว่าวันหนึ่งรองเท้าจะสามารถปรับเปลี่ยนสีสันเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้?   เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่ภาพของเจ้ารองเท้าออกกำลังกาย Shiftwear สุดไฮเทค มาพร้อมกับหน้าจอแบบพิเศษที่ติดตั้งไว้รอบรองเท้าแสดงให้เห็นภาพเคลื่อนไหวแบบต่างๆ     เท่านั้นยังไม่พอ คุณสามารถเปลี่ยนลวดลายได้ตามใจ เพียงแค่กดแอพฯ บนสมาร์ทโฟนของคุณเท่านั้น!! ทำให้คุณสามารถเดินไปไหนมาไหน โดยที่มีภาพเคลื่อนไหวอยู่กับเท้าของคุณตลอดเวลา หรือจะเปลี่ยนลายแบบวันต่อวัน ทำให้คุณไม่ซ้ำซากจำเจก็ทำได้เช่นกัน     เห็นเป็นหน้าจอดิจิตอลแบบนี้แล้ว อย่าเพิ่งกลัวว่ามันจะพังง่ายนะ เพราะมันมีความสามารถในการกันน้ำ ทำให้คุณเดินได้อย่างมั่นใจในวันฝนตก แถมมันยังยืดหยุ่นพอที่จะไม่ทำให้คุณอึดอัดหรือเจ็บเท้านั่นเอง     แม้ว่าจะใช้พลังงานไฟฟ้าในการแสดงภาพเหล่านี้ แต่เจ้ารองเท้า Shiftwear คู่นี้ก็ไม่จำเป็นจะต้องเสียบปลั๊กชาร์จเหมือนกับอุปกรณ์อื่นๆ นะ และมันจะไม่ดับไปดื้อๆ ระหว่างวันด้วย แล้วมันจะชาร์จได้ยังไงน่ะเหรอ? ก็ชาร์จระหว่างที่คุณเดินอยู่นั่นไง     ตอนนี้เจ้ารองเท้า Shiftwear ยังอยู่ในระหว่างระดมทุน และคาดว่าจะส่งรองเท้าลอตแรกให้กับลูกค้าในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2016 หากไปได้สวยทางผู้ผลิตจะเริ่มขยับขยายมาทำหมวกและเสื้อผ้าต่อไป ทีนี้ล่ะได้ตาลายกันไปทั้งตัวแน่นอน   ที่มา metro

แม้ว่าเรื่องราวของซอมบี้นั้นจะเป็นเพียงเรื่องสมมติที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ใช่ว่ามันจะเกิดขึ้นไม่ได้นะ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่าทางเพนตากอนเองก็เตรียมแผนรับมือ หากเกิดเหตุการณ์ซอมบี้ระบาดทั่วโลกแล้วเช่นกัน       และหากเกิดเหตุการณ์แบบนั้นจริงก็คงจะไม่มีที่ไหนในโลกที่ปลอดภัยพอสำหรับพวกเรา ด้วยเหตุนี้เองสถาปนิกที่ชื่อว่านาย Robert Konieczny จึงได้ออกแบบบ้านที่มีระบบความปลอดภัยสูงที่ชื่อว่า “The Safe House”       The Safe House นั้นตั้งอยู่ในเมืองวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ โดยตัวบ้านจะมีกำแพงสูงและแน่นหนา สามารถเลื่อนเข้าออก เพื่อป้องกันตัวบ้านได้ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน สะพานข้างบ้านจะถูกยกขึ้น และกำแพงจะทำการปิดตัวโดยอัตโนมัติ       หากคุณเป็นกลุ่มคนที่กำลังเร่ร่อนไปตามที่ต่างๆ แล้วผลัดหลงเข้ามาที่นี่ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเบื่อกันไป เพราะที่นี่นอกจากจะมีความปลอดภัยสูงแล้ว ยังมีสระว่ายน้ำและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ให้คุณผ่อนคลายจากการถูกซอมบี้ล่าตัวนั่นเอง                 นี่คือภาพเคลื่อนไหวของกำแพงหน้าบ้านที่เหมียวพูดถึงล่ะ   ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย   รู้แบบนี้แล้ว ต้องนำข่าวนี้ไปบอกพวกริคซะแล้วล่ะ ที่มา Kanał użytkownika kwkpromes , all-that-is-interesting , dezeen

eBay ถือเป็นเว็บไซต์ที่มีสินค้าหลายแสนชิ้นให้คุณได้เลือกซื้อ ตั้งแต่ซากกระเบือยันเรือรบเลยทีเดียว แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมีสมองมนุษย์ให้เราเลือกซื้อด้วย!?   เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่านาย David Charles วัย 23 ปี ได้แอบย่องเข้าไปยังพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางการแพทย์อินดีแอนา ในโรงพยาบาลประสาทเซ็นทรัลอินเดียนา เพื่อขโมยทรัพย์สินกลายอย่าง ทั้งแต่เครื่องวัดคลื่นไฟฟ้า กล้องจุลทัศน์ ไปจนถึงสมองของมนุษย์     นาย Charles ถูกตำรวจจับกุมเมื่อเดือนธันวาคมปี 2013 หลังจากที่เขาขโมยขวดโหลที่บรรจุสมองไว้ภายในกว่า 6 โหล และขายมันในเว็บไซต์ eBay ในราคา 400 ปอนด์ หรือประมาณ 21,528 บาท ซึ่งบนสินค้านั้นมีเลขรหัสอยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถตามตัวได้อย่างไม่ยากเย็น   เจ้าหน้าที่สืบสวนบอกว่าหลักฐานอย่างหนึ่งที่ทำให้พวกเขาสามารถตามตัวนาย Charles ได้ก็เพราะว่า เขาดันทิ้งเศษกระดาษที่มีรอยนิ้วมือเปื้อนเลือดของเขาไว้ที่ด้านหลังของพิพิธภัณฑ์นั่นเอง     ทั้งนี้นาย Charles ได้ถูศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 1 ปีและแน่นอนว่าถูกสักห้ามเข้าใกล้กับพิพิธภัณฑ์ด้วยเช่นกัน   อยู่ดีไม่ว่าดี ไปเอาสมองของคนอื่นมาขายซะนี่ ที่มา metro

อย่างที่ทราบกันดีว่าซีเรียนั้นเกิดสงครามมานานกว่า 3-4 ปี เกิดความสูญเสียมากมาย ทั้งประชาชน ทรัพย์สิน และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เว็บไซต์ของสำนักข่าว aljazeera ก็ได้เผยแพร่ภาพถ่ายแลนด์มาร์คสำคัญๆ ในประเทศซีเรีย ก่อนและหลังการเกิดสงคราม ว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง   1. มหามัสยิดในดูมาร์ ที่ใหญ่ที่สุดในดาร์มัสกัต สร้างใน คศ. 1136     2. ดาบลันสตรีท ฉายาชองเอลิเซ่ชีเรีย     3. ตลาดโบราณอัลเลโป     4. โอมซิตี้เซนทรัลมอล ศูนย์กลางการค้าและเหล่าพบปะของหมู่วัยรุ่น     5. อัลมาฮัททา เมืองเดียรา ช็อปปิ้งสตรีท     6. ดาซามิร่า โรงแรมบูติดสี่ดาว สร้างในสมัยออตโตมัน     สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ล่มสลายไปอย่างน่าเสียดาย ที่มา pantip , aljazeera

นี่ถือเป็นหนึ่งในข่าวรอบสัปดาห์ที่ทำเอาเหมียวถึงกับอ้าปากค้างเลยทีเดียว เพราะเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Malaysiandigest ได้รายงานว่าหนุ่มชาวมาเลเซียวัย 35 ปี ได้บังคับให้ภรรยาสาววัย 14 ปีที่เพิ่งจะแต่งงานกัน ถ่ายคลิปวิดีโอขณะตนเองมีอะไรกับน้องสาวของภรรยาวัย 11 ปี!?   ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หาดเตลุก เกมัง ประเทศมาเลเซีย โดยชายหนุ่มได้แต่งงานกับหญิงสาวคราวลูกที่มีปัญหาบกพร่องทางสติปัญญา (Mental Retardation) แต่ด้วยตันหาทำให้เขาพยายามข่มขืนน้องสาวของภรรยา แถมยังให้ภรรยาถือกล้องถ่ายคลิปขณะที่พวกเขามีอะไรกันอีกด้วย     จากนั้นชายหนุ่มก็ได้นำเอาคลิปที่ถ่ายมาได้บุนทึกลงแผ่น VCD และขายให้เพื่อนๆ เพื่อนำเงินมาใช้ในช่วงที่ไม่มีงานทำ แต่เรื่องราวกลับไม่จบอยู่แค่นั้น เพราะคลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไปยังแอพฯ WhatsApp จนเรื่องราวดังกล่าวถึงหูพ่อของเด็กสาวในที่สุด   เขาจึงสอบถามลูกสาวจนทราบเรื่องราวทั้งหมด ว่าลูกเขยเคยข่มขืนลูกสาวของเขามาแล้วหลายต่อหลายครั้งในช่วงเดือนที่ผ่านมา สุดท้ายชายหนุ่มและภรรยาสาววัย 14 ปีของเขาก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี     ข่มขืนน้องเมียว่าอึ้งแล้ว นี่เมียกับน้องเมียยังอายุไม่ถึง 15 ด้วยนะเนี๊ยะ ที่มา malaysiandigest

การไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ ในที่ต่างๆ สิ่งหนึ่งที่ผู้คนมักจะทำก็คือการถ่ายภาพนั่นเอง เพราะในพิพิธภัณฑ์จะมีสิ่งของสำคัญๆ ที่เก็บรวบรวมไว้มากมาย และเราก็คงจะอดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกเรื่องราวเหล่านั้นไว้     แต่ดูเหมือนว่าพิพิธภันฑ์บางแห่งจะไม่เห็นด้วยและสั่งห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวนำกล้องเข้าไปถ่ายภาพ เพราะคิดว่าการ “ถ่ายภาพ” นั้นง่ายเกินไป!?     วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ The Rijksmuseum ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่นี่มีกฎห้ามไม่ให้ผู้คนนำกล้องและโทรศัพท์มือถือเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ หากนักท่องเที่ยวคนไหนอยากจะเก็บรูปไว้เป็นที่ระลึกแล้วล่ะก็ พวกคุณจะต้องวาดเอาเอง     สาเหตุที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งกฎแบบนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าต้องการให้นักท่องเที่ยวสัมผัสความงามของศิลปะด้วยตนเอง แม้ว่าภาพวาดที่ออกมานั้นจะสวยบ้าง ไม่สวยบ้าง แต่นั่นก็เกิดจากฝีมือของคุณเอง และนั่นถือเป็นประสบการณ์ความงามอันล้ำค่าที่คุณควรได้สัมผัสมันเอง     เพราะหากว่าคุณใช้การถ่ายภาพ มันจะทำให้คุณเห็นแต่ “ภาพ” ที่ประกอบไปด้วยองค์ประกอบและวัตถุมากมาย จนบางครั้งคุณก็อาจสังเกตเห็นมันได้ไม่หมด แต่การวาดจะทำให้คุณสนใจในทุกรายละเอียดและเส้นสาย จนคุณเข้าใจความงามที่แท้จริง             หากว่าคุณเดินทางมาที่แห่งนี้ แต่ดันลืมพกกระดาษและดินสอมาแล้วล่ะก็ ทางพิพิธภัณฑ์เองก็เตรียมไว้ให้แล้วเหมือนกัน หากใครอยากลองสัมผัสศิลปะที่เกิดจากศิลปะอย่างแท้จริงแล้วล่ะก็ ลองเปลี่ยนจากการถ่ายภาพเป็นการวาดภาพดูไหมล่ะ? ที่มา boredpanda

มีพืชพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดที่มีสีสันที่สวยงามและส่งกลิ่นหอม ทำให้การเดินท่องป่านั้นดูมีชีวิตชีวามากขึ้นนะ แต่เชื่อไหมว่าพืชบางชนิด ก็น่ากลัวเกินกว่าที่เราจะเข้าใกล้ล่ะ     พืชที่แอดเหมียวกำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Clathrus Archeri มันเป็นพืชที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “นิ้วมือแห่งปีศาจ” ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าเจ้าพืชชนิดนี้ถือกำเนิดออกมาจากไข่สีขาว โดยจะมีกิ่งก้านที่คล้ายกับหนวดปลาหมึกสีแดงยื่นออกมา     นอกจากความน่าเกลียดน่ากลัวของเจ้า Clathrus Archeri แล้ว มันยังส่งกลิ่นเหม็นแบบเนื้อเน่าๆ ออกมาให้เราดมอีกด้วย     พืชชนิดนี้เป็นพืชพื้นเมืองจากรัฐแทสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย แต่มันก็ยังแผ่ขยายสายพันธุ์ของมันออกมาเรื่อยๆ จนคุณสามารถพบมันได้ที่ยุโรป อเมริกาทางตอนเหนือ และแถบเอเชียด้วย     ในทางเทคนิคแล้ว ถึงจะมีหน้าตาน่ากลัวแค่ไหนก็ตาม แต่เชื่อหรือไม่ว่าเราสามารถนำมันมากินได้และไม่มีพิษมีภัยอะไรด้วยนะ แต่…รสชาติของมันอาจจะสยอดสยองหน่อยนะ (ถ้าจะให้ดีก็หลีกเลี่ยงมันเถอะ)     ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย   ดูแว๊บแรก เหมียวนี่นึกว่าปลาหมึกสีแดงเลยนะเนี๊ยะ แค่เห็นก็ขนลุกแล้วววว ที่มา jwentomologist’s channel

แม้ว่าเงินจะไม่สามารถซื้อความสุขได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเงินนั้นช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นเยอะ   วันนี้เหมียวจะพาไปพิสูจน์ว่าเงินนั้นช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นแค่ไหน ผ่านคลิปวิดีโอของนาย Sadam หนุ่มชาวโปแลนด์ ผู้ที่อยากจะทดลองทางสังคม โดยการแต่งตัวเป็นหนุ่มธรรมดาๆ เดินเข้าไปคุยกับหญิงสาว และขอนั่งข้างๆ เธอ แต่เหมือนเธอจะไม่แยแส แถมยังบอกให้เขาไปให้พ้นๆ อีก     จากนั้นนาย Sadam ก็ทำหน้าจ๋อยและหลบมุมไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้ากลายเป็นหนุ่มสปอร์ต หล่อรวย พร้อมกับควบบิ๊กไบค์กลับมายังจุดเดิมที่เขาพบหญิงสาวคนเมื่อกี้     จากนั้นเขาก็เริ่มคุยกับเธอเป็นภาษาอังกฤษ โดยบอกกับเธอว่า “ผมเพิ่งย้ายมาอยู่แถวนี้ ผมชื่อ Sadam นะ ผมเพิ่งซื้อบ้านใหม่ที่นี่ ผมมีคฤหาสน์ สระว่ายน้ำ อยู่ห่างจากที่นี่ประมาณ 100 เมตร” ต่อมาเขาก็เอ่ยปากชวนเธอไปที่บ้านของเขา จากนั้นเธอก็ตอบตกลงไปแบบไม่ลังเลย     แต่หลังจากที่เธอขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซค์ได้ไม่นาน นาย Sadam ก็หยุดรถและหันมาถามเธอว่า “เธอจำผู้ชายที่เพิ่งคุยกับเธอเมื่อ 10-15 นาทีก่อนได้ไหม?” และเขาก็ถอดหมวกออก หญิงสาวถึงกับตกใจในใบหน้าของเขาเพราะไม่คิดว่าจะเป็นคนๆ เดียวกัน     ก่อนที่นาย Sadam จะจากไป เขาได้ถามเธอว่าต้องการเงินมากนักใช่ไหม? เขาจึงล้วงไปหยิบเศษเหรียญในกระเป๋าและโยนลงไปต่อหน้าเธอ ทำเอาหน้าชาแบบบอกไม่ถูกเลยทีเดียว  …

ก่อนหน้านี้เราคงเคยเห็นข่าวถนนละลายในประเทศอินเดียกันมาแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าคุณยังไม่เคยเห็นถนน “บิดเบี้ยว” จนปูดออกมาจากพื้นและแตกแบบนี้แน่ๆ     เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่ภาพถนน Vasquez Canyon ระยะทาง 3.2 กิโลเมตร ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ถูกปิดไปอย่างไม่มีกำหนด สาเหตุเพราะถนนเกิดการบิดเบี้ยวจนปูดขึ้นมาจากพื้นดินกว่า 4.5 เมตร     ตามรายงานบอกว่าถนนสายนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนที่ถนนจะขยายตัวจนทำให้ประชาชนแตกตื่น คล้ายกับฉากในหนังวันสิ้นโลก     ทางด้านนาย Paul Funk ตัวแทนจากกรมโยธาธิการของรัฐแคลิฟอร์เนียได้กล่าวว่า ถนนนั้นเกิดการยกตัวขึ้นมาเอง ทำให้ถนนผิดรูป และนี่อาจต้องใช้เวลาแก้ไขกันเป็นเวลานานทีเดียว     เหมี่ยวเห็นแล้วสยองเลย นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนให้เราเตรียมรับมือกับอะไรสักอย่างก็เป็นได้นะ ที่มา metro

กลายเป็นคลิปสุดอึ้ง ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในต่างประเทศอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปฟ้าผ่ารถยนต์ ขณะแล่นผ่านสี่แยกไฟแดง จนทำให้ชิ้นส่วนของรถกระเด็นออกมา ประหนึ่งเหมือนเอ็ฟเฟ็คจากหนังยังไงยังงั้นเลย     เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailystar ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอสุดช็อคของรถยนต์ยี่ห้อ Range Rover ขณะขับผ่านสี่แยกไฟแดง แต่แล้วสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ มีสายฟ้าผ่าลงมาใส่รถยนต์คันดังกล่าว เกิดเป็นประกายไฟ ทำให้ชิ้นส่วนของรถกระเด็นออกมา     หลังจากฟ้าผ่า ส่งผลให้เครื่องยนต์ดับลง และรถยนต์คันดังกล่าวยังคงเคลื่อนตัวไปอีกเล็กน้อยก่อนจะหยุดนิ่งลงกลางถนน ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดถูกบันทึกไว้ได้โดยกล้องติดรถคันหนึ่งที่จอดติดไฟแดงอยู่อีกฝั่งหนึ่ง     ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   เหมียวเห็นแล้วถึงกับอึ้งเลย นึกว่าเทพเจ้าสายฟ้ามาเอง ที่มา Sharenator , dailystar

หากหนุ่มๆ คนไหนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์จูบสาวๆ มาก่อน เหมียวว่านี่อาจจะเป็นทางออกของคุณก็เป็นได้นะ?     วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมคลิปของหนุ่มชาวเวียดนามรายหนึ่งที่ชื่อว่า Quang Bek เขาได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการเล่นเกมสุดสยิว โดยการเสนอเล่นเกมจับแบงค์กับสาวๆ ตามท้องถนน หากสาวๆ คนไหนไม่สามารถจับแบงค์ได้ทันในระหว่างที่เขาปล่อยจากมือ เธอจะต้องถูกเขาจูบ     แต่หลังจากการเล่นเกมที่ว่านี้ ปรากฏว่าไม่มีหญิงสาวคนไหนที่สามารถจับแบงค์ไว้ได้ทันแม้แต่คนเดียว พวกเธอจึงต้องเสียจูบให้เขาอย่างช่วยไม่ได้ล่ะ บางคนเบาหน่อยก็จุ๊บแก้ม แต่บางคนนี่จูบอย่างดูดดื่มเลยก็มีนะ เอ้ามัวรอช้าอะไรอยู่ ลองไปชมกันเลย           ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย   หนุ่มๆ คนไหนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์จูบ ลองเอาเกมนี้ไปเล่นกับสาวๆ ดูนะ แต่เหมียวไม่รับประกันว่าพวกเธอจะจูบคุณหรือให้ฝ่ามือแก่คุณกันแน่นะ ที่มา Quang Bek

คุณเบื่อไหม เวลาที่คุณกินแฮมเบอร์เกอร์แล้วมีเศษซอสเลอะปาก แถมถ้าใส่มันเยอะเกินไปก็อาจจะหยดย้อยลงมาเลอะใส่ตัวคุณได้ด้วย     ด้วยเหตุนี้เอง เชฟมือฉมังอย่างนาย Ernesto Uchimura จากร้านอาหารใน LA ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้คิดค้นซอสมะเขือเทศแบบใหม่ ที่มีลักษณะเป็น “แผ่น” !?     โดยเจ้าซอสมะเขือเทศนี้จะมีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมแบบกระด้าง ซึ่งมันจะละลายก็ต่อเมื่อนำมันไปวางกับเนื้อเบอร์เกอร์ร้อนๆ ฉ่ำๆ เพราะเขาเบื่อซอสมะเขือเทศเยิ้มๆ ที่ทำให้แป้งเบอร์เกอร์นั้นแฉะเต็มที     ทั้งนี้เชฟ Uchimura ได้เปิดเผยถึงวิธีการทำไว้ในวิดีโอ และบอกว่าเขานั้นผสมซอสมะเขือเทศเข้ากับซอสถั่วเหลือง กระเทียม และพริกอีกหลายชนิด จากนั้นเขาก็เทมันลงไปบางๆ บนถาด จากนั้นก็นำไปอบให้แห้ง และเราก็จะได้ซอสมะเขือเทศแบบแผ่นแบบนี้นั่นเอง   เจ๋งมากเลยใช่ไหมล่ะ? แต่เหมียวไม่รู้จะไปหากินที่ไหนอะ ขอตัวไปกินเบอร์เกอร์ธรรมดาๆ แก้ขัดไปก่อนก็แล้วกันนะ ที่มา metro

นี่อาจเป็นบทเรียนอย่างดีให้กับพวกตูดหมึก ที่ชอบเนียนแซงคิวคนอื่นได้อย่างดีเลยล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายในห้าง Walmart ในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา     คลิปวิดีโอเผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะหญิงสาวร่างท้วมกำลังต่อแถวเพื่อจ่ายเงิน แต่ไม่รู้ว่าเพราะความห่างจากแถวของเธอ หรืออะไรกันแน่ ทำให้หญิงสาวที่ยืนทำธุระอยู่โต๊ะข้างๆ เนียนเข้ามาแซงคิวของเธอซะอย่างงั้น หญิงร่างท้วมจึงเดินเข้าไปอธิบายว่าเธอกำลังแซงคิวอยู่     ต่อมาหญิงสาวจอมแซงคิวก็ได้กล่าวขอโทษ พร้อมกับบอกว่าเธอไม่มีเวลาจริงๆ แต่ดูเหมือนเหตุการณ์จะเคลียร์ได้ไม่ลงตัว ทั้งสองจึงเข้าตบตีกันอย่างดุเดือด ก่อนที่หญิงสาวจอมแซงคิวจะถูกหญิงร่างท้วมกระชากผมและเหวี่ยงเธอลงไปนอนกองกับพื้น   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   งานนี้เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับสาวท้วม หากคุณคิดจะแซงคิวใครล่ะก็ ขอให้นึกถึงคลิปนี้ไว้ให้ดีๆ นะจ๊ะ ที่มา Pluto PIZZ , mirror

การที่คุณจะเป็นโจรได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะคุณต้องใช้อาวุธให้เป็น มีความกล้า (ทำชั่ว) เสี่ยงคุกเสี่ยงตารางอีก ไหนจะต้องระวังเหยื่อ ที่อาจโต้ตอบคุณจนคุณลงไปนอนหมอบกับพื้นเลยก็เป็นได้     เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอของชายนิรนามรายหนึ่ง ขณะยืนกดตู้ ATM ในเมืองเต๋อหยาง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน แต่ในขณะที่กำลังทำธุระอยู่นั้น กลับมีโจรสวมเสื้อสายทางขาวดำตรงมาที่เขา โดยไม่มีอาวุธใดๆ และทำร้ายร่างกายเหยื่อทันที   แต่ชายคนดังกล่าวกลับไม่ยอมแพ้ เขาจึงตอบโต้ด้วยหมัดเปล่าๆ เกิดเป็นการต่อสู้ระหว่างเหยื่อและโจรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เหยื่อจะสามารถเอาชนะโจรและซัดเขาจนลงไปนอนหมอบกับพื้น ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามารวบตัวเขาไว้ได้       ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   เรียกว่างานนี้ เงินก็ไม่ได้ เจ็บตัว แถมยังถูกดำเนินคดีด้วย ใครที่คิดจะเป็นขโมยขโจรล่ะก็ คิดให้ดีๆ หน่อยนะ ที่มา deyang , kapook , CCTV News

เรื่องของแฟชั่นนั้น มีอะไรใหม่ๆ แปลกๆ ให้เราได้เห็นกันตลอดเวลาจริงๆ อย่างล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในโลกออนไลน์ขณะนี้ เป็นคลิปของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ทำสีผมได้เป็นเอกลักษณ์ จนสาวๆ หลายคนอยากจะเลียนแบบกันมากมายทีเดียว   คลิปดังกล่าวเป็นของหญิงสาวนามว่า Jaye เธอได้โชว์ผมทรงบ็อบสีดำกับกล้อง แต่เมื่อเธอใช้มือค่อยๆ เสยผม จู่ๆ ผมของเธอก็เปลี่ยนจากสีดำกลายเป็นสีรุ้ง ที่ประกอบไปด้วยสีเขียว สีม่วง สีฟ้า ทันที ปัจจุบันคลิปดังกล่าวมียอดผู้เข้าชมแล้วกว่า 330,000 ครั้งทีเดียว     Jaye ได้เผยว่า หากใครอยากจะลองย้อมสีผมแบบเธอล่ะก็ คงต้องเตรียมเงินไว้ประมาณ 116 ปอนด์ หรือประมาณ 6,348 บาท แถมเธอยังเผยด้วยว่า นี่ถือเป็นราคาที่สมเหตุสมผลมาก สำหรับสีผมทีได้ และฝีมือช่างที่สุดยอดขนาดนี้   ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย   หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้สาวๆ ต่างพากันคลั่งไคล้และอยากจะทำสีผมแบบเธอบ้าง โดยหนึ่งในชาวเน็ตได้เขียนคอมเม้นไว้ที่คลิปของเธอว่า “ฉันเห็นคลิปเกี่ยวกับผมของคุณแล้ว และฉันบอกได้เลยว่าหัวของคุณเหมือนสายรุ้งมาก” ที่มา mirror

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศได้รายงานว่าเครื่องบินจากสายการบินแอร์ฟรานซ์ 2 ลำ ที่กำลังจะเดินทางออกจากสหรัฐอเมริกาไปยังฝรั่งเศสต้องเปลี่ยนเส้นทางและขอลงจอดฉุกเฉิน เหตุเพราะว่ามีคนขู่จะวางระเบิดบนเครื่องทั้ง 2 ลำ   ตามรายงานบอกว่าเครื่องบินลำแรกเป็นของเที่ยวบิน 65 ที่ออกเดินทางจากกรุงลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ไปยังสนามบินชาร์ล เดอ โกล์ด ในกรุงปารีส ประเทสฝรั่งเศส     แต่กลับต้องเปลี่ยนเส้นทางอย่างกะทันหัน และไปลงจอดที่สนามบินซอลท์ เลคซิตี้แทน รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกาแทน เพราะได้รับโทรศัพท์ขู่วางระเบิดจากภาคพื้นดิน     และในเวลาต่อมา เที่ยวบิน 55 ที่เดินทางจากวอชิงตันไปสนามบินชาร์ล เดอ โกล์ดเช่นกัน ก็ได้แจ้งขอเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่สนามบินในแฮลิแฟกซ์ รัฐโนวาสโกเชีย ประเทศแคนาดา เพราะโดนขู่วางระเบิดเช่นกัน     ทั้งนี้ผู้โดยสารทั้งหมดไม่มีใครได้รับอันตรายใดๆ แต่ไม่มีรายงานว่าสามารถตามจับคนร้ายขู่วางระเบิดได้หรือไม่ ที่มา cnn

เมื่อวันหนึ่งที่สิ่งปลูกสร้างเริ่มเข้ามารุกล้ำในพื้นที่ของธรรมชาติ ทำให้ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวนั้นน้องลงไป หลงเหลือไว้แต่ป่าคอนกรีตนับไม่ท่วน แต่สถาปนิกชาวอินตาเลี่ยนอย่างนาย Stefano Boeri ได้สร้างนคอนเซ็ปต์วัตกรรมใหม่ที่เปลี่ยนอาคารธรรมดาๆ ให้มีโครงสร้างทั้งหมดเป็นสีเขียวล่ะ     เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Boredpanda เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยระบุว่าเจ้าอาคารหลังนี้มีความสูงอยู่ที่ 117 เมตร ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นอพาร์ทเมนท์ ตั้งอยู่ในเมือง Lausanne ประเทศสวิสเซอร์แลนด์     ถ้าอาคารแห่งนี้ถูกสร้างเสร็จ นี่จะถือเป็นอาคารแห่งแรกที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ที่สูงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ โดยอาคารแห่งนี้จะประกอบไปด้วยต้นไม้กว่า 100 ต้น พุ่มไม้กว่า 6,000 พุ่ม และมีพืชอื่นๆ อีกว่า 18,000 ต้น     ต้นไม้เหล่านี้จะเป็นตัวที่คอยปกป้องตัวอาคารจากลมที่รุนแรง ฝุ่นละอองและมลพิษทางเสียง แถมยังมีวิวสีเขียวสบายตาให้คุณได้ผ่อนคลายอีกด้วย     และนี่คือผลงานการออกแบบก่อนหน้านี้ของเขาในมิลานที่สร้างเสร็จแล้ว สวยงามเลยใช่ไหมล่ะ       หากใครสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับอาคารสีเขียวแห่งนี้ล่ะก็ สามารถเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กเพจ Stefano Boeri Architetti ได้เลยนะจ๊ะ ที่มา boredpanda

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินประโยค “เงินซื้อความสุขไม่ได้” อยู่บ่อยๆ ใช่ไหมล่ะ ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ นะ แต่ถึงแม้ว่าเงินจะไม่สามารถซื้อความสุขได้ แต่เงินก็สามารถนำไปซื้อเจ้าสาวได้นะ (!?)   เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า เว็บไซต์ Taobao ของจีน ได้เสนอขาย “เจ้าสาวชาวเวียดนาม” ในราคาเพียง 1,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 53,964 บาท ช่วยให้หนุ่มโสดสามารถมีครอบครัวได้ในราคาประหยัด (!?)     ผู้ลงประกาศขายเจ้าสาวชาวเวียดนาม ใช้ชื่อว่า Wang Xiao Xi’s Gift Shop ได้ประกาศขายสินค้ากว่า 2,500 รายการตลอดระยะเวลา 30 วันที่ผ่านมา และเมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งจะลงประกาศขายเจ้าสาวชาวเวียดนามด้วย   แต่หลังจากที่ประกาศขายได้ไม่กี่ชั่วโมง ประกาศดังกล่าวก็หายไป ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นเพราะทางเว็บไซต์ Taobao เป็นผู้นำออกไปหรือว่าเจ้าสาวได้ถูกขายไปแล้วกันแน่ แต่หนุ่มๆ ก็อย่าเพิ่งหงุดหงิดไป เพราะการหาเจ้าสาวชาวเวียดนามในเมืองจีนยังคงเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้อยู่    …

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่เรื่องราวสุดโหดของนาง Ka Yang คุณแม่ลูก 4 วัน 34 ปีจากรัฐแคลิฟอร์เนียประเทศสหรัฐอเมริกา ที่จับเอาลูกสาวแท้ๆ Mirabelle Thao-Lo วัย 2 เดือนยัดเข้าไปในไมโครเวฟ และเปิดทิ้งไว้นาน 5 นาที   จนผิวหนังของลูกน้อยไหม้เกรียม อีกทั้งอวัยวะภายในก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2011 แต่เพิ่งจะมีการตัดสินเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา     โดยนาง Ka Yang ได้อ้างกับศาลว่าเธอไม่ได้ตั้งใจฆ่าลูกสาว เพียงแต่เธอไม่มีแรงจะอุ้มลูกสาว เลยนำลูกน้อยไปวางไว้ในไมโครเวฟเท่านั้น   แต่คณะลูกขุนกลับไม่เชื่อคำพูดของเธอและจับได้ว่าเธอโกหก เจ้าหน้าที่จึงเค้นเอาความจริงจากเธอ สุดท้ายจึงยอมรับในที่สุดว่าเป็นคนนำลูกน้อยไปอบไมโครเวฟจริง ส่วนทางด้านศพของลูกน้อย เจ้าหน้าที่ได้นำมาตรวจสอบดูและพบว่าอวัยวะทั้งร่างมีการเสียหายไปกว่า 60% คาดว่าถูกอบมาเป็นเวลาประมาณ 2-5 นาที     ทั้งนี้ไม่ได้มีการระบุแน่ชัดว่าเธอทำไปแบบนั้นเพื่ออะไร แต่คาดกันว่าอาจจะเกิดจากสภาวะจิตที่ไม่ปกติของเธอ ศาลจึงได้มีคำสั่งตัดสินให้นาง Ka Yang จำคุกเป็นเวลา 26 ปี…

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดช็อคของกลุ่มเด็ก 5 คน ที่รุมทำร้ายร่างกายชายนิรนามคนหนึ่งบนถนน โดยไม่ทราบสาเหตุ     ตามรายงานบอกว่าเกิดเหตุเมื่อวันอังคาร เวลาประมาณ 6.45 นาฬิกา โดยมีกลุ่มเด็ก 5 คนเดินเข้ามาหาผู้เคราะห์ร้าย ต่อมาหนึ่งในเด็กกลุ่มนั้นก็กระชากชายผู้เคราะห์ร้ายลงไปนอนกับพื้น จากนั้นทั้งหมดก็เข้ามารุมกระทืบและต่อยชายคนดังกล่าว     โดยเหตุการณ์ทั้งหมดกินเวลากว่า 20 นาทีกว่าที่ทั้งหมดจะแยกย้ายกันไป โดยผู้ที่สามารถถ่ายคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ได้คือนาย Andrew Britton เขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ผมตกใจมากเมื่อผมเห็นมัน นี่มันก็ไม่ได้ดึกอะไรมาก มันเป็นเวลาดื่มชาด้วยซ้ำ ผู้คนเพิ่งจะกลับมาจากที่ทำงานด้วย”     ทั้งนี้นาย Britton ยังกล่าวอีกว่าเด็กเหล่านี้ไม่น่าจะมีอายุเกิน 13 ปี และการทำร้ายร่างกายครั้งนี้น่าจะกินเวลาถึง 20 นาที โดยที่เขาเห็นสมควรว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องปกติและควรนำคลิปนี้มาเผยแพร่ให้สังคมได้รับรู้ จากนั้นเขาก็รีบโทรแจ้งเข้าหน้าที่ตำรวจทันที   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่จะไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าการลงบันทึกประจำวัน เพราะไม่มีผู้เคราะห์ร้ายคนไหนเข้ามาแจ้งความหรือให้ปากคำเลย เจ้าหน้าที่จึงต้องขอร้องให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ออกมาแสดงตัวด้วย ที่มา metro

ศิลปะไม่เคยจำกัดตัวเองแค่บนแผ่นกระดาษหรือผืนผ้าใบเท่านั้นนะ เพราะเราสามารถที่จะครีเอทมันลงไปบนอะไรก็ได้สุดแต่จินตนาการของเราจะพาไป แม้แต่บนเปลือกกล้วยก็สามารถกลายเป็นงานศิลปะได้เช่นกัน     วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมผลงานการสักของช่างสักชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ชื่อว่านาย Daisuke Sakagami แต่การสักของเขาไม่ใช่การสักลงไปบนผิวมนุษย์แบบที่เราเข้าใจกันนะ แต่เป็นการสักลงไปบนผิวกล้วยสีเหลืองๆ ต่างหาก     ผลงานของเขามีชื่อว่า “Tattoo a Banana” เป็นการสักแบบไม่ใช้น้ำหมึก แต่เป็นการใช้ปลายเข็มจิ้มลงไปเปลือกกล้วย เพื่อให้เปลือกของมันเปลี่ยนจากสีเหลือกลายเป็นรอยช้ำสีดำๆ จากกระบวนการออกซิเดชั่น     ซึ่งการสร้างงานศิลปะของเขาแต่ละชิ้นจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพบางส่วนจากผลงานของเขากัน จะเก๋กู๊ดขนาดไหนนั้นลองไปชมกันเลยจ้า                                       แต่ละอัน สวยงามยิ่งกว่าภาพวาดอีกนะเนี๊ยะ แหม่เอาซะเหมียวไม่กล้ากินเลย ที่มา bloggang

ในชุมชนต่างๆ เรามักจะได้เห็นการสร้างสนามเด็กเล่น เพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆ ของเด็กๆ เพื่อให้เด็กๆ ได้อยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยและเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ     แต่อย่าลืมว่าวันหนึ่ง พวกเขาเหล่านั้นก็ต้องกลายเป็นคนแก่สูงอายุ ที่ต้องเคลื่อนไหวช้าลง และต้องการสถานที่ที่ปลอดภัยต่อพวกเขาไม่แพ้กับสมัยเป็นเด็กเลย ด้วยเหตุนี้เองชุมชนแห่งหนึ่งในประเทศสเปนจึงได้สร้างสนามคนแก่เล่นขึ้นมา เพื่อให้เหล่าคนแก่ได้มาออกกำลังกายและพบปะพูดคุยกันอย่างสนุกสนานนั่นเอง     เพราะประชากรของสเปนกำลังมีอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พวกเขาต้องการการดูแลไม่แพ้พวกเด็กๆ เลย ฉะนั้นทางการของสเปนจึงออกคำสั่งให้หลายๆ ชุมชนต้องสร้างสนามผู้ใหญ่เล่นขึ้นมาเพื่อช่วยให้พวกเขามีสุขภาพที่แข็งแรง     นอกจากสุภาพร่างกายที่ดีขึ้นแล้ว สนามแห่งนี้ยังช่วยกระตุ้นจิตใจของเหล่าผู้สูงอายุให้รู้สึกมีความสุขขึ้นอีกครั้งด้วย เพราะวัยนี้เป็นวัยที่เสี่ยงต่อโรคภัยและมีอาการซึมเศร้าง่ายกว่าวัยอื่นๆ ฉะนั้นการได้มาเข้าสังคมแบบนี้จะช่วยลดภาวะเครียดไปได้อย่างแน่นอน       ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย   แม้ว่าโปรเจ็คนี้จะดูติงต๊องในตอนแรก แต่เหมียวเชื่อว่ามันจะช่วยเปลี่ยนแปลงสังคมของผู้สูงอายุไปทั่วโลกเลยล่ะ ที่มา viralnova , PRI Public Radio International

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการดูกีฬาเพราะว่าหนุ่มๆ แล้วล่ะก็ วันนี้เหมียวจะพาคุณไปรู้จักกับพ่อหนุ่มนักกรีฑาชาวรัสเซียรายหนึ่งที่ชื่อว่า Sergey Shubenkov      เขาเป็นนักกรีฑาผู้เก่งกาจที่ผ่านการแข่งขันมาแล้วมากมาย ซึ่งล่าสุดก็เพิ่งจะได้รับเหรียญบรอนซ์จากการวิ่งข้ามสิ่งกีดขวางเป็นระยะทาง 110 เมตร ที่กรุงปักกิ่งประเทศจีน     แต่นอกจากฝีมือการแข่งขันและร่ายกายสุดกำยำแล้ว นาย Sergey ยังมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้สาวๆ ต่างพากันกรี๊ดกร๊าดนั่นก็คือ…หรรมของเขานั่นเอง     และเนื่องจากความเซ็กซี่เกินเพื่อนนักกีฬาคนอื่นๆ ทำให้เขาถูกนิตยสาร Russian Vogue ทาบทามเขาให้มาถ่ายนู๊ด ซึ่งเขาก็ตอบตกลงแต่โดยดี และยังบอกอีกว่าที่เขาทำไปนั้นเป็นการเอาใจเพศที่ 3 อีกด้วย           อู้ววววว น้ำลายหก!! ที่มา bengayeuropeen , newnownext

ทุกวันนี้ผู้ผลิตมือถือยี่ห้อต่างๆ นอกจากจะต้องแข่งกันในเรื่องของปริสิทธิภาพการทำงานแล้ว ยังต้องพัฒนาเรื่องของการออกแบบด้วยนะ เพราะผู้ใช้หลายคนมักจะเบื่อง่ายและหาซื้อเคสรูปแบบแปลกๆ มาใช้กันอยู่เรื่อย   และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบอะไรแปลกๆ วันนี้เหมียวก็จะพาคุณไปชมตัวอย่างเคสมือถือแบบแปลกๆ กันดูล่ะ นี่เป็นการรวบรวมเอาเคส 9 แบบสุดแปลก จากเว็บไซต์ Bajiroo ที่เหมียวขอยืนยันเลยว่า หากใครได้ลองใช้ ถือว่า…เจ๋ง จะเป็นยังไงนั้นลองมาชมกันดูเลย   1. เคสหูยักษ์   2. เคสมิ๊กกี้เมาส์   3. เคสมืออบอุ่น (เหรอ)   4. เคสร่ม (เล่นที่ไหนก็ไม่เปียก)   5. เคสหนมปังไข่ดาว (เห็นแล้วกิวเลย)   6. เคสค้างคาว   7. เคสกล้วย…   8. เคสจอย   9. เคสนมตั้ง (มือถือ)   เอ่อ บางอันก็น่ารักดีนะ แต่บางอันนี่ แน่ใจนะว่าทำมาใช้กับมือถือน่ะ ที่มา bajiroo

กลายเป็นคลิปวิดีโอที่ต่างประเทศพากันฮือฮาพอสมควร สำหรับคลิปวิดีโอของศพประหลาด ที่มีลักษณ์คล้ายมนุษย์ผิวซีด แต่ดูยังไงก็ไม่ใช่มนุษย์ ชาวบ้านเชื่อ อาจเป็น “ชูปาคาบรา” สัตว์ในตำนานก็เป็นได้   เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่ามีการค้นพบซากศพประหลาด นอนเกยตื้นอยู่ที่บริเวณแม่น้ำแห่งหนึ่งในประเทศปารากวัย สภาพศพมีลักษณะคล้ายมนุษย์หรือลิง มีแขนขา ลำตัว และมีผิวซีด คาดกันว่าน่าจะเสียชีวิตมานานแล้ว     หลังจากที่มีการค้นพบศพ ชาวบ้านก็ได้นำศพดังกล่าวขึ้นมาจากน้ำเพื่อนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญอย่างนาย Javier Medina ตรวจสอบ โดยเขาได้ให้ความเห็นว่าสภาพของมันมีลักษณะคล้ายกับลิง แต่ก็ยากที่จะบอกว่ามันคืออะไรกันแน่ เพราะร่างกายเน่าเปื่อยไปมากแล้ว     ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนิติเวช Pablo Lemir ได้ร่วมให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “มันมีรูปร่างคล้ายลิงที่มีความเป็นมนุษย์ผสมอยู่ แต่ในความจริงแล้วบางส่วนของร่างกายของมันได้มีการเปลี่ยนแปลงจากการย่อสลายไปแล้ว”     ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในแถบนั้นได้มีการนำเอาเรื่องนี้ไปวิเคราะห์ และเชื่อกันว่าสัตว์ในตำนานที่ชื่อว่า ชูปาคาบรา แถบละตินอเมริกา เป็นที่รู้กันว่าพวกมันชอบดูดเลือดและฆ่าแกะนั่นเอง ที่มา duck , dailymail

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เปิดเผยเรื่องราวสุดเซอร์ไพรซ์ ของหญิงสาวนามว่า Cordelia Roberts จากประเทศอังกฤษ ที่เดินทางไปเรียนต่อที่เมือง Bremen ประเทศเยอรมัน     เมื่อไปถึงที่นั่น Ciara ก็ต้องตกตะลึง เมื่อเธอได้รู้จักกับ Ciara Murphy หญิงสาวชาวไอร์แลนด์ ที่เดินทางไปเรียนที่นั่นเหมือนกับเธอ สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจสุดๆ ก็เพราะว่า ทั้งคู่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกันอย่างกับฝาแฝด ทั้งที่พวกเขาทั้งสองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน     Ciara ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เมื่อตอนที่ฉันออกไปเที่ยวกลางคืน มีคนถามฉันว่ามากับพี่สาวหรือฝาแฝดหรือเปล่า? ตอนแรกฉันไม่รู้ว่าพวกเขาพูดเรื่องอะไรกัน ฉันก็เลยบอกเขาไปว่า ‘ไม่ ฉันมานี่คนเดียว’”     และเมื่อทั้งคู่ได้พบกันก็ทำให้พวกเขาช็อคเอามากๆ ต่อมาพวกเขาก็ได้ถ่ายภาพเซลฟี่และโพสต์มันลงในเฟซบุ๊ก พวกเขาถูกตั้งฉายาให้เป็น “แฝดประหลาด”      ทางด้าน Jessica ที่เป็นเพื่อนของ Ciara ได้กล่าวว่า “พวกเขาจะอยู่ด้วยกันตลอดไป พวกเขามีความผูกพันกันแล้วในตอนนี้”   ที่มา metro

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานว่ามีหนุ่มสาวจำนวนหนึ่ง รวมตัวกันที่สวนสนุก Adventure Island ในประเทศอังกฤษ เพื่อระดมทุนให้แก่มูลนิธิเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็งในโรงพยาบาล Southend Hospital     ตามรายงานระบุว่าหนุ่มสาวจำนวน 57 คนรวมตัวกันที่สวนสนุกเพื่อแก้ผ้าเล่นรถไฟเหมาะ หวังช่วยระดมทุนและสร้างสีสันให้กับงานในครั้งนี้ ทั้งนี้มีหนุ่มสาวเดินทางมาจากทั่วอังกฤษเพื่อร่วมงาน และยังมีคุณลุงคุณป้ามาร่วมสนุกด้วยเช่นกัน     หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมแล้ว กลุ่มหนุ่มสาวเปลื้องผ้าก็สามารถระดมทุนไปได้ถึง 10,000 ปอนด์ หรือประมาณ 535,000 บาท     ทางด้านหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของสวนสนุกอย่างนาย Andrew Renton ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า “มันเป็นวันที่ยอดเยี่ยมมากที่มีคนมาร่วมกันทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่น่าจดจำ ทั้งสนุกและได้ร่วมระดมทุนให้กับมูลนิธิด้วย ยอดเยี่ยมมาก”     แม้ว่านี่จะไม่ใช่การรวมตัวของหนุ่มสาวเปลือยที่เยอะที่สุด เพราะก่อนหน้านี้ Guinness World Record ได้เคยจดสถิติไว้ว่าในปี 2010 ได้เคยมีหนุ่มสาวเปลือยนั่งรถไฟเหาะมาแล้วกว่า 102 คน แต่ถึงแม้จะไม่สามารถทำลายสถิติไปได้ แต่พวกเขาก็ได้ทำอะไรดีๆ ร่วมกัน   ทางด้านตัวแทนจากโรงพยาบาลอย่าง…

เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ Metro ได้เปิดเผยเรื่องราวของนาย Steven Assanti วัย 33 ปี ผู้มีน้ำหนักมากกว่า 363 กิโลกรัม ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล Rhode Island สหรัฐอเมริกา แต่ในระหว่างที่รักษาตัวอยู่นั้นเอง เขากลับถูกโรงพยาบาลไล่ออก เหตุเพราะแอบสั่งพิซซ่ามากินในโรงพยาบาล   ตามรายงานบอกว่านาย Steven เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมาแล้วกว่า 80 วัน เพื่อลดน้ำหนักและควบคุมอาหาร เพื่อให้น้ำหนักของเขาลดลงเหลือ 250 กิโลกรัม     แต่ในระหว่างอดอาหารอยู่นั้นเองเขากลับแอบโทรสั่งพิซซ่าให้มาส่งถึงห้องผู้ป่วย ทำให้ทางโรงพยาบาลต้องไล่เขาออกมาในที่สุด ทางด้านนาย Steven Veillette ผู้เป็นพ่อ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาจะไม่พาลูกชายของเขากลับบ้าน เพราะพฤติกรรมการกินของเขาจะกลับมาเป็นอย่างเดิม   ซึ่งตอนนี้นาย Steven ต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถตู้ SUV เพื่อไปตามโรงพยาบาลต่างๆ จนกว่าจะมีที่ไหนรับเขาเข้ารักษาโรคอ้วนของเขา     แต่ดูเหมือนว่าชีวิตของนาย Steven ไม่ได้น่าสงสารเท่าไหร่ เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ก็มีชาวเน็ตพากันเข้าไปขุดคุ้ยคลิปเก่าๆ ของเขามาแฉ โดยมีคลิปหนึ่งที่เจ้าตัวประชดประชันและด่าผู้เสียภาษีในรับโรดไอแลนด์ว่า “ขอบคุณพวกผู้เสียภาษีโง่ๆ ทั้งหลาย ที่ทำให้ผมมีข้าว…

หากใครยังจำกันได้ เมื่อหลายเดือนก่อนได้เคยมีข่าวว่านักร้องชื่อดังชาวเวียดนามอย่างนาย เหงียน ตวนฮุง ได้ออกมาประกาศลั่นว่าจะโกนผม หากทีมฟุตบอลของเวียดนามแพ้ให้กับไทย ซึ่งผลออกมาว่าเวียดนามเป็นฝ่ายแพ้ และนายตวนฮุงต้องโกนผมตามสัญญา   แต่ดูเหมือนว่าการโกนผมครั้งนั้นจะไม่ได้ทำให้เขาเข็ดหรือยอมแพ้ง่ายๆ ล่ะ เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Vnexpress ได้ออกมารายงานว่านักร้องชื่อดังของเวียดนามได้ออกมาประกาศอีกครั้งว่า   ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกระหว่างไทยและเวียดนาม ที่สนาม My Dinh stadium ในวันที่ 13 ตุลาคม 2558 เวียดนามจะเฉือนเอาชนะไทยไป 2-0 ประตูแน่นอน   ทั้งนี้ตวนฮุงยังได้บอกว่าทีมชาติเวียดนามจะใช้แผนแบบ Counter Attack(รับแล้วรอสวนกลับแบบทันที) แถมยังบอกอีกว่า “ผมเชื่อมาตลอดว่า ทีมชาติเวียดนามจะมุ่งมั่นตั้งใจ เอาชนะทีมชาติไทยให้ได้”   แต่ตามรายงานไม่ได้บอกว่าการออกมาฟันธงของนายตวนฮุงนั้น จะมีเดิมพันด้วยเส้นผมเหมือนกับคราวที่แล้วหรือไม่นะ แต่ยังไงซะแอดเหมียวก็เชื่อว่านักเตะของไทยจะไม่ทำให้คนไทยผิดหวังแน่นอน เอ้า!! เรามาส่งกำลังใจไปให้พวกเขากัน ไทยแลนด์!! ที่มา vnexpress , kapook

เมื่อไม่กี่วันก่อนหากใครยังจำกันได้ แอดเหมียวได้เคยนำเสนอเรื่องราวของสะพานกระจกในจีนสุดหวาดเสียวไป ดูเหมือนว่าจะมีสะพานอีกแห่งหนึ่งในเยอรมัน ขอมาประชันความเสียวด้วยแล้วล่ะ   เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่านักท่องเที่ยวต่างพากันเดินทางไปท่องเที่ยวในหุบเขา Geierley ประเทศเยอรมัน เพื่อชมความสวยงามและหวาดเสียวของสะพานแขวน ที่มีความสูงจากพื้น 91 เมตร และมีความยาวกว่า 365 เมตร   สะพานแห่งนี้ถือเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้เข้าชมเป็นอ่างมาก โดยทางการเยอรมันคาดไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าชมกว่า 170,000 คนและสร้างเม็ดเงินได้กว่า 1.8 ล้านดอลลาร์ต่อปีเลยทีเดียว ที่มา metro

ไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียวหรอกนะ ที่ชื่นชอบการสร้างอะไรใหญ่ๆ เพราะในต่างประเทศอย่างประเทศโปรตุเกสเองก็นิยมสร้างของใหญ่ๆ เหมือนกัน   เว็บไซต์ Guinnessworldrecords ได้เปิดเผยว่า ที่ประเทศโปรตุเกสได้มีการจัดเทศกาลไข่ประจำปี เมื่อปี 2012 ในเมือง Ferreira do Zêzere โดยในปีนั้น พวกเขาได้สร้างไข่เจียวยักษ์ ที่ใช้ไข่ไก่มากถึง 145,000 ฟอง คนทำอีก 150 คน และใช้เวลาไปทั้งสิ้นกว่า 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว   และแน่นอนว่าเมื่อมีไข่และส่วนผสมทั้งหมดแล้ว ก็ต้องมีกะทะด้วย ซึ่งกะทะที่พวกเขาใช้นั้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 6.46 เมตรเลย!! จนกินเนสเวิร์ลเรคคอร์ดต้องมาบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เลยล่ะ ว่าครั้งหนึ่งเคยมีไข่เจียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก     โอ้โห กินทีเดียว อิ่มกันยันชาติหน้าแหงๆ ที่มา guinnessworldrecords , clipmass

เพื่อนๆ เคยได้ยินคำพูดที่ว่า “อายุเป็นเพียงตัวเลข” ไหมล่ะ? ซึ่งคำพูดนั้นไม่ใช่เรื่องที่เหนือความจริงเลยนะ เพราะเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่เรื่องราวความรักสุดซึ้ง ที่ไม่มีพรมแดนของอายุมาเกี่ยวข้องล่ะ   นี่เป็นเรื่องราวของนาง Kasey Bergh วัย 53 ปี เธอบอกกับตัวเองว่าชาาตินี้คงไม่สามารถหารักแท้ได้อีกแล้ว หลังจากที่เธอเพิ่งจะหย่ากับสามีไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่แล้วดูเหมือนว่าโชคชะตาจะเล่นตลกกับเธอ เพราะวันหนึ่งเธอตั้งใจจะเดินทางไปเที่ยวในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด   แต่เธอกลับส่งข้อความหาเพื่อนผิดคน เป็นชายหนุ่มที่มีชื่อว่านาย Henry Glendening วัย 23 ปี ในขณะที่คนทั่วไป อาจจะทำเป็นเพิกเฉยต่อข้อความดังกล่าว แต่นาย Henry กลับตอบกลับข้อความของเธอ และบอกเธอว่า “โทษที คุณส่งหาผิดเบอร์แล้วล่ะ ถ้าไม่ติดว่าต้องไปทำงานในวันนี้ ผมอาจจะไปเที่ยวกับคุณได้”   หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มติดต่อกันมากขึ้น และออกไปเที่ยวไหนต่อไหนด้วยกัน พวกเขาเริ่มพุดคุยกันว่า ด้วยอายุที่ห่างกัน ถึง 30 ปี จะมีผลอะไรต่อความรักของพวกเขาไหม? คำตอบก็คือไม่แม้แต่นิดเดียว   ปัจจุบันความรักของทั้งคู่ได้ดำเนินมาถึงปีที่ 3 แล้ว และเร็วๆ นี้พวกเขาก็จะเข้าพิธีแต่งงานกันด้วย แอดเหมียวขอให้ความรักของทั้งคู่ยั่งยืนตราบนานเท่านานนะ ที่มา metro

หากคุณขับรถบนท้องถนนได้งี่เง่าสุดๆ และต้องเจอกับมนุษย์กล้องแล้วล่ะก็ อย่าได้ไปเผลอพูดชื่อตัวเองเชียวล่ะ เพราะคุณจะกลายเป็นคนดังในโลกอินเตอร์เน็ตแบบข้ามคืนเลยทีเดียว ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของหนุ่มมะกันรายหนึ่ง ที่ขับรถกร่างบนท้องถนนในเมืองคิงส์ตันอะพอนฮัลล์ ประเทศอังกฤษ และได้โต้เถียงกับคนขับมอเตอร์ไซค์ที่ขับตามเขามา ชายหนุ่มจึงลดกระจกลงและถามคนขี่มอเตอร์ไซค์ว่า “มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร!” จากนั้นเขาก็พูดชื่อตัวเองออกมาว่า “Ronnie Pickering” หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกแชร์ลงในโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตต่างพากันเอาชื่อของเขาไปค้นหาข้อมูลอย่างมากมาย จนรู้ว่า…   1. เขามีอายุ 51 ปี 2. แต่งงานแล้ว 3. อาศัยอยู่ในเมืองนั้น 4. เคยไปบัลแกเรียเมื่อปีที่แล้ว และถ่ายคลิปลงยูทูบประมาณ 19 คลิป 5. ชอบตกปลา 6. เล่นโป๊กเกอร์และล่องเรือ ขับรถ Citroen 7. ไม่ชอบมอเตอร์ไซค์สุดๆ เอาเป็นว่าถ้าใครอยากอยู่อย่างสงบล่ะก็ อย่าเผยชื่อให้คนอื่นรู้เด็ดขาดนะจ๊ะ ที่มา metro

ปัญหาเกี่ยวกับน้ำท่วมขังในกรุงเทพ ยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากมีระบบการระบายน้ำที่ไม่ดีพอ แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป หากเรานำวัสดุชนิดใหม่อย่าง Topmix Pemeable คอนกรีตที่มีความสามารถในการซึมซับน้ำได้มากถึง 3,330 ลิตรเลยทีเดียว!!   คอนกรีตชนิดนี้สามารถดูดซึมน้ำได้มากถึง 3,330 ลิตรใน 1 นาที ผิวหน้าของมันทำมาจากวัสดุชนิดใหม่ที่เรียกกันว่า Topmix Pemeable มันมีรูพรุนอยู่ที่ผิวหน้า ช่วยให้สามารถอุ้มน้ำไว้ได้   โดยผู้ผลิตเจ้าวัสดุนี้มีชื่อว่าบริษัท “Lafarge Tarmac” พวกเขาหวังว่ามันจะช่วยลดการเกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลัน ช่วยลดการเกิดแอ่งน้ำตามถนนให้น้อยลง และทำให้การใช้รถใช้ถนนยิ่งปลอดภัยมากขึ้นนั่นเอง   ทั้งนี้น้ำฝนสามารถไหลผ่านรูพรุนของคอนกรีตลงไปสู่แหล่งน้ำใต้ดิน ในขณะเดียวกันยางมะตอยก็จะทำหน้าที่เป็นอ่างเก็บน้ำในช่วงที่เกิดน้ำท่วมหรือฝนตกหนัก   เจ้า Topmix Pemeable ถูกพัฒนามาจากสิ่งที่คล้ายคลึงกับคอนกรีตที่ใช้กันมาตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว และหลังจากผ่านการพัฒนา เจ้าวัสดุชนิดใหม่นี้ก็จะสามารถรองรับน้ำหนังของรถยนต์ได้มากขึ้นและเย็นมากกว่าคอนกรีตชนิดเดิม   ชมคลิปการทำงานของเจ้าคอนกรีตที่ว่านี่กันเลย   อย่างไรก็ตาม Topmix Pemeable ก็ยังคงไม่ได้ผลดีเท่าไหร่ในภูมิประเทศที่มีอากาศที่หนาวเย็น เพราะน้ำเย็นจะทำให้ตัวคอนกรีตขยายตัวและศึกกร่อนได้ง่ายนั่นเอง ที่มา DailyMail Online