Tag: ญี่ปุ่น

คุณเคยประสบปัญหาอยากเปลี่ยนช่องทีวี แต่ว่ารีโมทดันอยู่ไกลมือหรือไม่? ไม่ว่าคุณจะพยายามยังไง สุดท้ายแล้วคุณก็ต้องลุกจากที่นั่งอันแสนสบาย เพื่อเดินไปหยิบรีโมทอันนั้นมาใช้งาน   ด้วยเหตุนี้เอง บริษัทผลิตสินค้าภายในบ้านแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จึงคิดค้นผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาโลกแตกที่หลายคนเหนื่อยหน่าย นั่นก็คือ “ไม้คีบรีโมท” นั่นเอง!!   “ไม้คีบรีโมท” มีลักษณะเป็นแท่งยาวๆ และมีตัวคีบอยู่บริเวณปลายไม้ สนนราคาอยู่ที่อันละ 198 เยนหรือราว 60 บาทเท่านั้นเอง   วิธีการใช้งานก็ไม่ยาก สมมุติว่าเราอยากจะเปลี่ยนช่องทีวี แต่รีโมทดันอยู่ไกล๊ไกลแบบนี้ จะเอื้อมก็ไม่ถึง จะเดินไปก็ลำบาก   เราก็แค่หยิบไม้แล้วก็คีบมาเลย สบายๆ ไม่ต้องลุกไปไหน   นอกจากคีบรีโมทแล้ว เรายังเอาไปคีบของที่หยิบยากๆ ด้วยนะ โอ้โห สารพัดประโยชน์จริงๆ เลย   เจ๊ดดดดโด้ววววว นี่มันสุดยอดนวัตกรรมสำหรับคนขยัน (น้อย) จริงๆ แต่กับเหมียว เหมียวไม้ต้องใช้หรอก เพราะเหมียวมีพลังฟอร์ซดึงเข้ามาแบบนี้เลย ฮาาาา   ที่มา ettoday

สำหรับอาชีพเกษตรกร อาจจะเป็นอาชีพที่หลายคนมองว่าด้อยค่า หาโอกาสรวยยาก และไม่เป็นที่หมายปองของคนรุ่นใหม่…!!   แต่สำหรับในประเทศพัฒนาบางประเทศ การเกษตรกลับถูกมองว่าเป็นอาชีพแห่งอนาคต บริษัทไอทีชั้นนำในสหรัฐอเมริกาเริ่มหันมาศึกษาความเป็นไปได้ในการเกษตร เช่นเดียวกับบริษัทขายส่งผักกาดหอมแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อมั่นว่าการเกษตรในอนาคต จะใช้หุ่นยนต์เป็นผู้ผลิตแทนที่แรงงานมนุษย์นั่นเอง   ฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองเกียวโต ซึ่งทำการปลูกผัดกาดหอมในระบบปิด ระบุว่าการทำแบบนี้สามารถควบคุมสิ่งแวดล้อมให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของผักกาดหอมได้มากที่สุด การเพาะปลูกมุ่งเน้นการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า แทนที่จะปลูกในดินก็ถูกยกระดับมาเป็นบนชั้น ซึ่งช่วยให้ได้ผลผลิตต่อตารางเมตรมากขึ้น มีการใช้แสง LED แทนพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยเช่นกัน   สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ส่วนฟาร์มผักกาดหอมแปลงใหม่ของบริษัทในปี 2017 ซึ่งจะใช้หุ่นยนต์มาทำหน้าที่แทนมนุษย์ (แต่ยังคงต้องใช้แรงงานคนเล็กน้อยในการควบคุม) จะช่วยประหยัดค่าแรงงานกว่า 50% ลดการใช้พลังงาน 30% และรีไซเคิลน้ำกว่า 98% ที่ต้องสูญเสียไปในการเพาะปลูกปกติให้มีประโยชน์ขึ้นมาอีกครั้ง ปัจจุบันฟาร์มหุ่นยนต์สามารถผลิตได้วันละ 21,000 หัว แต่ตามเป้าเมื่อเปิดผลิตอย่างเต็มรูปแบบแล้ว จะสามารถทำได้ถึงวันละ 30,000 หัวเลยทีเดียว   J.J. Price โฆษกของทางบริษัทกล่าวว่า เป้าหมายคือการช่วยให้คนในรุ่นต่อไปไม่ต้องคอยกังวลว่าจะมีอาหารบริโภคเพียงพอหรือไม่ เราจะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอาหารในราคาถูก และถัดไปคือการผลิตโปรตีนที่ทุกคนเข้าถึง มันจะสร้างความแตกต่างให้เห็นได้ชัดเจน   หลายคนกังวลว่า ฟาร์มหุ่นยนต์จะมาแย่งงานเกษตรของมนุษย์หรือไม่?? ในทางกลับกันเหมียวคิดว่ามันจะช่วยให้มนุษย์ได้มีงานทำเพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมการเกษตรซะอีก อย่างที่โรงงานอุตสาหกรรมมีการใช้เครื่องจักรมาทำงาน ก็เกิดการกระจายรายได้ไปในส่วนต่างๆของประเทศ…

‘ญี่ปุ่น’ ถือเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องไอเดียสุดสร้างสรรค์อยู่แล้ว ซึ่งเราจะเห็นได้จากชิ้นงาน และสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่มีทั้งความทันสมัย ความคิดสร้างสรรค์ และความแปลกใหม่ในแบบที่แปลกไม่เหมือนใคร รวมไปถึงอาหาร และขนมต่างๆ ทางญี่ปุ่นก็สามารถสร้างสรรค์แต่ละเมนูออกมาให้ดูน่าทาน และดึงดูดความสนใจให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก     ซึ่งถ้าใครเคยไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น คุณก็จะเห็นได้ว่ามีร้านเบเกอร์รี่หลายๆ ร้าน มักจะชอบสร้างสรรค์ขนมหวานหน้าตาน่ารักออกมาอย่างมากมาย และแต่ละเมนูนั้นก็น่ากินสุดๆ เลยละ ในครั้งนี้เหมียวก็เลยขอรวมภาพขนมหวานหน้าตาดีอย่าง มาการอง จากญี่ปุ่นมาให้ได้ชมกัน เรียกได้ว่าแต่ละชิ้นที่ทำขึ้นมานั้น น่ารักมากๆ เลย ไม่ว่าจะเป็น   Tororo จากอนิเมชั่นเรื่อง My Neighbor Tororo   Mickey Mouse จาก Disney   เจ้าหมีสีน้ำตาล Jackie จากการ์ตูนเรื่อง The Bear’s School   เจ้าหมีแพนดา   Kirby และตัวการ์ตูนน่ารักๆ อีกมากมาย   โอ๊ยยย น่ารักซะจนไม่กล้ากินกันเลยทีเดียว   งานนี้ใครที่เป็นภูมิแพ้ความน่ารัก…

ในโลกยุคที่ความเจริญของตัวเมืองเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปจากแต่ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองหลวงในหลายๆ ประเทศ บรรยากาศแบบบ้านเรือนและธรรมชาติจากชนบทนั้น ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ แต่ไม่ใช่กับบริษัท Pasona Group แห่งนี้ เพราะว่าที่นี่ได้ทำการปลุกชีวิตสีเขียวขึ้นมาภายในตัวอาคารศูนย์ใหญ่ของบริษัทซะด้วย!! ซึ่งยังคงใช้เป็นตึกสำหรับการดำเนินกิจการควบคู่กับการปลูกข้าว ปลูกผัก ตั้งแต่แตงกวายันมะเขือเทศ     โดยฟาร์มสีเขียวภายในอาคารนี้ ปลูกผักมากมายกว่า 200 ชนิดกันเลยทีเดียว วัตถุดิบสดและใหม่ที่ปลูกจะถูกนำมาใช้ประกอบเป็นอาหารให้กับพนักงานที่ทำงานภายในบริษัท     รวมไปถึงการสร้างพื้นที่สีเขียวตกแต่งภายในยังช่วยกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจในเรื่องของการเกษตรมากขึ้น สืบเนื่องจากปัจจุบันผู้คนหันไปสนใจทำงานออฟฟิศซะส่วนใหญ่ อาชีพเกษตรกรภายในประเทศจึงมีจำนวนลดลงอย่างน่าใจหาย อีกทั้งยังเป็นการรณรงค์ให้ธรรมชาติอยู่คู่กับมนุษย์ได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานออฟฟิศแบบนี้ก็ตาม ที่มา : rocketnews24

ประเทศญี่ปุ่น มักจะขึ้นชื่อเรื่องไอเดียที่แปลกและสร้างสรรค์อยู่เสมอ แน่นอนว่า… 29 ภาพเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีเลยครับ (ที่มา: buzzfeed)   1. มีเทศกาลแห่รูปจำลองกระปู๋ยักษ์สีชมพูหวานแจ๋ว   2. มีการแข่งขันทำเด็กร้องไห้ โดยผู้เข้าแข่งขันต้องเป็นนักซูโม่   3. แน่นอนว่าหุ่นเสื้อผ้าก็ต้องสร้างสรรค์   4. บริการแปลกๆอย่างยอดมนุษย์ ที่คอยช่วยแม่อุ้มรถเข็นลงบันไดโดยเฉพาะ   5. และนี่คือบรรยากาศฮาโลวีนในญี่ปุ่น 6. หลายคนคงได้ยินเรื่องของโรงแรมแคปซูลมาบ้างแล้ว หน้าตาแบบนี้ล่ะ   7. ม่านรูดที่นี่ไม่ได้คิดเป็นคืนนะ คิดเป็นรายชั่วโมงเลย 8. แน่นอนว่ามีโรงแรมที่ใช้ไดโนเสาร์เป็นพนักงานต้อนรับด้วย   9. พนักงานออฟฟิศ สามารถเมาแล้วหลับได้ทุกที่   10. นอกจากนี้ ยังมีเหล่ากวางออกมาเดินตามถนนในบางเมือง   11. มีสปาสำหรับมะหมาโดยเฉพาะ   12. นอกจากที่ไทย ญี่ปุ่นก็มีสปาปลานะจ๊ะ   13. หอยทากก็เช่นกัน ไม่รู้ว่าที่ไทยหรือญี่ปุ่นมีมาก่อน   14. มีหมอนรูปตัก ไว้ให้คลายเหงาโดยเฉพาะ…

บอกเลยว่าช่วงนี้อากาศมันหนาวซะจนไม่อยากจะทำอะไรแล้ว อยากจะเอาผ้าห่มคลุมตัวไปทุกที่ ไม่อยากจะโดนลมอะไรทั้งสิ้น ยิ่งถ้าได้ฮีตเตอร์จะเป็นอะไรที่ดีมากๆ หรือไม่งั้นก็ขอโต๊ะญี่ปุ่นที่สามารถเอาขาซุกเข้าไปได้ก็พอแล้ว หนาวนี้ยังลามไปถึงบรรดาแมวทั้งหลายด้วย แต่แมวที่เหมียวจะพูดถึงในวันนี้ไม่ใช่แมวธรรมดา แต่เป็น “ลูกกวาดแมว” แสนน่ารักที่อยู่ในช่วงนอนหลับใต้โต๊ะญี่ปุ่นโททัตสึ ของหวานชิ้นนี้สร้างโดยคุณ Laura เป็นนักออกแบบเว็บไซต์ และ Caroline คุณแม่ของเธอ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลเกี่ยวกับสัตว์และขนมหวาน เราไปชมกันเลย!!     นี่มันน่ารักเกินไปแล้ว ใครที่กล้ากินถึงว่าใจเด็ดมากๆ เลยนะ ไม่กล้าทำให้มันเสียรูปเลย แต่ถ้าใครรู้สึกว่าแมวหน้าตามันคุ้นๆ ใช่แล้วล่ะ เธอเคยทำผลงานแนวๆ นี้มาก่อน เหมียวเคยนำเสนอไว้นานมาแล้ว ที่นี่เลย ไปดูการจัดเรียงเจ๋งๆ เมื่อ “ลูกอมแมว” พยายามที่จะจับปลาทองที่อยู่ในเยลลี่ ที่มา boredpanda

เรื่องราวอันน่าประทับและอบอุ่นเป็นที่สุดจากประเทศญี่ปุ่น ที่เหมียวเคยนำเสนอไปแล้วนั้น ตอนนี้ก็กลายมาเป็นกระแสที่ทุกคนต่างให้ความสนใจล้นหลามกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวญี่ปุ่นเอง ซึ่งหลายคนก็พยายามที่ค้นหาตัวตนของนักเรียนสาวผู้ใช้บริการสถานีรถไฟเพียงคนเดียว จนกลายเป็นการรบกวนชีวิตส่วนตัวของเธอในทันที!!     ก่อนอื่นเลยต้องกล่าวถึงพฤติกรรมของคนที่ตื่นรถไฟกันซักหน่อย เรียกกันว่า โอตาคุรถไฟ ซึ่งมักจะทำการถ่ายภาพรถไฟญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่ไม่สมควร รบกวนผู้อื่น และในส่วนของการพยายามถ่ายภาพนักเรียนสาวผู้โดยสารเพียงคนเดียวที่เดินทางด้วยรถไฟไปโรงเรียน ยิ่งกระตุ้นให้เหล่าโอตาคุรถไฟ อยากจะเก็บภาพของเธอที่อยู่บนรถไฟให้ได้ โดยไม่สนว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม     มีรายงานเข้ามาว่าจากสถานีที่เงียบสงบ กลับเต็มไปด้วยเหล่าโอตาคุรถไฟ ที่มารอการปรากฏตัวของนักเรียนสาวรายนี้ ดักถ่ายภาพ ‘ผู้โดยสารเพียงคนเดียวของสถานี’ รวมไปถึงการแอบติดตามตัวและครอบครัวของเด็กเพื่อที่จะถ่ายภาพมาให้ได้     Mint Jam บล็อกเกอร์ผู้ที่อาศัยอยู่ในท้องที่เดียวกันกับนักเรียนสาวคนดังกล่าว ได้ประกาศผ่านทางโลกออนไลน์ให้หยุดการกระทำแบบนี้ได้แล้ว เพราะพวกโอตาคุรถไฟเหล่านี้จะบังคับให้เธอโพสท่าถ่ายรูป ทั้งในสถานีและชานชาลา มันเป็นการรบกวนเวลาของเด็ก ทั้งๆ ที่เธอจะต้องรีบขึ้นรถไฟเพื่อไปเรียนให้ทันเวลา     เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว เหมือนจะเป็นการขอร้องอะไรที่ง่ายๆ แต่กลับเป็นการทำลายความเป็นส่วนตัวของเด็กหญิงคนหนึ่งไปเลย เธอไม่ได้เป็นนางแบบที่ถูกจ้างมาถ่ายภาพ เธอเป็นเพียงแค่นักเรียนหญิงคนหนึ่งที่พยายามไปโรงเรียนให้ทันเวลา คล้ายๆ กับสื่อที่พยายามเก็บภาพที่ดีที่สุดโดยไม่คิดถึงความเหมาะสมเลยแม้แต่นิดเดียว ที่มา : rocketnews24

สำหรับคอการ์ตูนแล้ว นอกจากหนังสือและแผ่นดีวีดีแล้ว ก็มีฟิกเกอร์อีกอย่างที่พวกเขามักจะสะสมกัน โดยเฉพะตัวการ์ตูนหญิงสาวน่ารักๆ เชื่อว่าต้องมีติดไว้อย่างน้อยๆ บ้านละหนึ่งตัวแน่นอน แต่ถ้าฟิกเกอร์ตัวเล็กๆ ยังไม่สามารถเติมเต็มความฝันของคุณได้ ลองไปชมฟิกเกอร์ขนาดเท่าตัวจริงตัวนี้ดูมั้ยละ รับรองว่าแฟนการ์ตูนเห็นแล้วต้องตาลุกวาวอย่างแน่นอน     ฟิกเกอร์ตัวนี้เป็นของตัวละครที่ชื่อว่า  Megumi Kato จากการ์ตูนเรื่อง Saenai Heroine no Sodatekata จัดทำโดยบริษัทขายของจากการ์ตูนชื่อดัง Aniplex  โดยฟิกเกอร์นี้จะอ้างอิงจากขนาดจริงๆ ของตัวละครที่ออกแบบโดย Kurehito Misaki ซึ่งมีความสูงประมาณ 158 เซนติเมตร ลองชมขนาดเปรียบเทียบกับคนจริงๆ ด้านล่างได้     ซึ่งตอนนี้ฟิกเกอร์รุ่นนี้ มีวางจำหน่ายเพียง 10 ตัวเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ตัวละประมาณ 6 แสนบาท ใครสนใจก็ลองสั่งซื้อกันได้นะจ๊ะ       แบบว่างานละเอียดมาก เห็นแล้วอยากได้ซักตัวจริงๆ แต่เอาไปตั้งในบ้าน ใครไปใครมาต้องมีสะดุ้งกันบ้างล่ะ ฮาาาา ที่มา Rocketnews24

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความคิดสร้างสรรค์มากมายเสียจนล้นออกมา ถ้าเป็นฮาร์ดดิสก็คงเต็มจนต้องซื้ออีกอันมาเพิ่มเลยทีเดียว แม้ว่าจะเป็นสิ่งของที่ต้องใช้ชีวิตประจำวัน เขาก็ทำออกมาให้มันแปลกใหม่อยู่เสมอ อย่างเช่นร่มที่เหมียวนำมาให้ดูในวันนี้ ได้มีโปรเจกต์ชื่อว่า  “Million Girls Project” ได้สานฝันให้กับหนุ่มที่ชื่นชอบสาว 2D ด้วยการผลิตร่มรุ่นหนึ่งขึ้นมา ซึ่งสิ่งที่พิเศษกว่าร่มทั่วไปขึ้นมาก็คือ เมื่อคุณเงยหน้ามองใต้ร่มเมื่อไหร่ คุณก็จะเห็นกางเกงในของตัวการ์ตูนผู้หญิงอยู่เสมอ ร่มอันนี้มีชื่อว่า “Un-burera” ซึ่งมาจากคำว่า “underpants” และ “umbrella” ที่แปลว่ากางเกงในและร่ม อีกทั้งยังผลิตภายใต้ไอเดียของ  “Crazy Japan” ซึ่งแน่นอนว่าถ้าคุณใช้ร่มนี้ในที่สาธารณะ มันต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่นอน เพราะมันจะทำให้คุณกลายเป็นคนหื่นขึ้นมาในทันที   เราไปชมหน้าตาของร่มอันนี้กันเลยดีกว่า   ที่มา rocketnews

ชีวิตของคนเรานั้นมีทางเลือกมากมาย บางครั้งเราตัดสินใจทำอะไรบางอย่างแทนที่จะทำอีกอย่าง เพราะเราไม่สามารถทำอะไรพร้อมๆกันได้ แต่จะเป็นอย่างไร หากในคุณสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้พร้อมๆกัน โดยที่ไม่ต้องเลือกอะไร อย่างเช่นผลงานศิลปะที่ตากล้องชาวญี่ปุ่น Daisuke Takakura สร้างขึ้นมาชิ้นนี้ เขาได้นำเทคนิคการถ่ายภาพแบบดั้งเดิม มาผสมกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ จนกลายมาเป็นผลงานศิลปะสุดเจ๋งชิ้นนี้ จะเป็นอย่างไร หากทั้งโลก มีแต่ “คุณ” อยู่เต็มไปหมด ว่าแล้วก็ไปชมกันเลยดีกว่า ว่าเจ๋งขนาดไหน       ถ้าเราแยกร่างได้แบบนี้ก็คงจะดีสิเนอะ ต่อไปนี้จะได้ไม่มีคำว่า “ไม่ว่าง” ซักที เพราะอันไหนอยากทำ ก็แยกร่างไปทำได้เลย คราวนี้ล่ะ เหมียวจะไป แต่งหน้า นั่งสมาธิ ดำน้ำ ปลูกปะการัง ทำอาหาร นวดสปา ปลูกป่า ดำนา ดูนิสซิ่งอะไนแลนลี่ ตีกอฟล์ ล่องเรือ ส่องสัตว์ ช็อปปิ้ง ดูงิ้ว ดูละครเวที ดูคอนเสิร์ต ดินเนอร์ ทำขนม จัดดอกไม้ ไปเที่ยวตลาดน้ำ เรียนถ่ายรูป ดูไ… ชุมนุมเก่า เข้าสัมมนา ปลูกดอกไม้ เรียนเต้น…

สำหรับคอกาแฟจะต้องชื่นชอบแน่นอนกับผลงานวิจัยชิ้นล่าสุดนี้ ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเดี๋ยวนี้มีคนชื่นชอบดื่มกาแฟกันมากขึ้น โดยเฉพาะกาแฟสดในสูตรต่างๆ ที่มีเยอะแยะมากมาย เพื่อตอบสนองความชื่นชอบแต่ละคนที่เลือกดื่มเพื่อผ่อนคลายหรือเป็นแรงกระตุ้นในการทำงาน     ทั้งในเรื่องของกาแฟร้อนและกาแฟเย็น แต่ละสูตรมีส่วนผสมที่ต่างกัน ให้กลิ่นที่ต่างกัน เนื่องจากเมล็ดกาแฟนั้นเป็นคนละชนิด บางคนอาจจะไม่ได้สังเกตเท่าไหร่ มันก็ไม่แตกต่างจนเห็นได้ชัด แต่ที่แน่ๆ ในตอนนี้มีงานวิจัยชิ้นล่าสุดจากญี่ปุ่น ออกมาเปิดเผยแล้วว่าเมล็ดกาแฟแต่ละชนิดจะส่งผลต่อคลื่นอัลฟาในสมองในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน     โดยคลื่นอัลฟาในสมองนี้จะมีอัตราส่วนที่สูงมากเมื่อเราอยู่ในสภาวะที่ผ่อนคลาย นักวิทยาศาสตร์ก็พบว่ากลิ่นจากกาแฟนี่แหละช่วยกระตุ้นได้ โดยเฉพาะการดมกลิ่นของเมล็ดกาแฟ Guatemalan และ Jamaican Blue Mountain รวมไปถึงการคั่วเมล็ดกาแฟก็มีส่วนเช่นกัน   สีน้ำตาลเข้มและสีแดงคือระดับของคลื่นอัลฟาในสมอง   ถ้าหากว่าคุณอยากมีสมาธิมากขึ้น เมล็ดกาแฟสูตร Brazilian Santos, Hawaiian Kona และ Sumatra จะมาช่วยกระตุ้นในส่วนนี้ได้ โดยจะช่วยในส่วนของการประมวลผลในสมอง (การตัดสินใจ, การจดจ่อ) โดยอ้างอิงจากผลการทดสอบในอาสาสมัครที่มีการตอบสนองต่อคลื่นความถี่สูงหลังจากที่ได้ดมกลิ่นเมล็ดกาแฟที่แตกต่างกัน   กราฟอ้างอิงผลการทดสอบการตอบสนองต่อคลื่นความถี่ ยิ่งกราฟแท่งต่ำเท่าไหร่ นั่นก็หมายถึงการประมวลผลที่รวดเร็ว   แล้วคุณล่ะ อยากจะดื่มกาแฟจากเมล็ดแบบไหนเอ่ย?   การดมกลิ่นช่วยส่งผลต่อสมองในรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างนี้ ถ้าหากว่าต้องอยู่ดึกเพื่อทำงานหรืออ่านหนังสือ เมล็ดกาแฟ…

Gudetama หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ ‘ไข่ขี้เกียจ’ เป็นหนึ่งในคาแร็กเตอร์ของซานริโอ้ ที่ผสมผสานไปด้วยความแปลก และความน่ารักปะปนกันไป     จนในที่สุดเจ้า GUDETAMA ไข่แดงจอมขี้เกียจตัวนี้ ก็ได้ถูกนำมาสร้างสรรค์ให้กลายเป็นเมนูอาหาร ที่มีทั้งของคาว และของหวาน แถมอยู่ในรูปแบบที่น่ารัก และน่ากินมากๆ อีกด้วย     และล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2558 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ก็ได้เผยภาพของน้องไข่แดงจอมขี้เกียจ ที่เข้ามาอยู่ในเมนูอาหารน่ารักๆ จากร้าน Gudetama cafe ที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่แห่งใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2015 ที่ผ่านมานี้ยังไงละ     โดยร้านคาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ HEP Five Shopping Centre ภายในร้านสามารถจุคนได้ประมาณ​ 80 คน แถมยังมีเมนูน่ารักๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากเจ้าไข่ขี้เกียจอีกมากมาย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกสั่งมาทานกันอย่างจุใจเลยทีเดียว     ดูบรรยากาศภายในร้านสิ…มีแต่เจ้าไข่ขี้เกียจเต็มไปหมด โอ๊ยๆๆๆ เห็นแล้วอยากไปบ้างจัง  …

เวลาที่เห็นผู้หญิงตัวเล็กๆ หุ่นดีๆ หลายคนก็คงจะคิดว่าพวกเธอต้องควบคุมอาหารอย่างหนัก เพื่อที่จะได้มีรูปร่างที่ผอมสวยใช่ไหมละ แต่ดูเหมือนว่าการควบคุมอาหาร มันอาจจะใช้ไม่ได้ผลกับสาวๆ บางคนเสมอไป เหมือนดังเช่นสาวร่างบางนามว่า Yuka Kinoshita คนนี้อย่างแน่นอน     จริงๆ แล้วหลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับเธอคนนี้เป็นอย่างดี เพราะเธอเป็นสาวกระเพาะยักษ์ ยอดนักกินจุแห่งแดนปลาดิบ ที่มักจะเผยคลิปวีดีโอผลงานการกินอาหารจานยักษ์ ผ่านทางเว็บไซต์ยูทูบช่องของเธอ ที่ชื่อว่า 木下ゆうか Yuka Kinoshita มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง     และในครั้งนี้เธอก็ได้สร้างความท้าทายขึ้นมาใหม่ โดยการกินขนมปัง 100 แผ่นติดต่อกันในมื้อเดียวยังไงละเหมียว โอ้วววว สุดยอดไปเลย!!     เธอเริ่มกินแล้ว โดยจะสลับกับการราดนมข้น มายองเนส น้ำผึ้ง เนย และแยมอีกมากมาย   จากนั้นก็อ้ำๆๆๆๆ ยัดเข้าปากแบบเต็มๆ คำกันไปเลย   เธอทานไปเรื่อยๆ อย่าเพลิดเพลิน เผลอแป็บเดียวจากแผ่นขนมปังกองสูง ก็ค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ จนเหลือคำสุดท้าย เธอก็ฟาดเรียบจนหมดเกลี้ยง     โดยขนมปังที่เธอได้ทานเข้าไปในครั้งนี้…

เอาเป็นว่าเรื่องนี้คงไม่มีคำพูดใดเหมาะไปกว่าคำว่า ‘ปลาเล็กกินปลาใหญ่ มีปลาที่ใหญ่กว่าเสมออยู่ในแม่น้ำ’ อีกแล้วล่ะ ฮร่าาาาาา ในขณะที่หลายๆ ประเทศมีปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวในเทคโนโลยีของโดรน หรือยานบินไร้คนขับ ทั้งขนย้ายสิ่งต่างๆ หรือแม้แต่กล้องถ่ายภาพ แถมบินไปบินมาได้อย่างเสรีกลางอากาศนั้น เหมือนว่าทางการญี่ปุ่นได้มีวิธีการจัดการ แบบล้ำหน้าชาวโลกกันอีกแล้ว   ด้วยการใช้โดรนตัวที่ใหญ่กว่า จับเจ้าโดรนสุดซ่าที่บินไปมาโดยไม่สนใจผู้อื่นซะเลย!!!   สำหรับต้นเรื่องนี้ เป็นการจัดการของทางกรมตำรวจโตเกียว แห่งประเทศญี่ปุ่น โดยจะนำโดรนตัวใหญ่พร้อมด้วยตาข่าย เข้าจัดการกับโดรนที่น่าสงสัยทันที โดยทางตำรวจเกรงว่า จะเป็นโดรนที่ถูกใช้ในการก่อการร้าย ไม่ว่าจะเป็นการสอดแนม การแฝงระเบิดไว้ในตัวโดรน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กล่าวว่า ‘เราต้องเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดด้วย’   ลองชมวิดีโอสาธิตการจับโดรนกันได้ที่นี่   แต่ไม่ใช่ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเห็นโดรนแล้วเข้าชาร์จทันทีหรอกนะจ๊ะ จะมีการใช้โทรโข่งเพื่อเตือนโดรนน่าสงสัยก่อนที่จะทำการจับกุม แหมมมม สุดยอดไปเลย เหมียวขอยกนิ้วให้เลยล่ะ!!! ที่มา: Metro

มาร์ชเมลโล่ว ถือเป็นของโปรดของใครหลายๆคนเลย โดยเฉพาะเด็กๆ เพราะด้วยความหนึบหนับของมัน บวกกับรสหวานๆ ทำให้มันกลายเป็นของหวานที่สามารถนำไปประยุกต์ทำอะไรได้หลายอย่าง วันนี้เหมียวจะพามารู้จักกับ Nyarshmallows มาร์ชเมลโล่ว์รูปแมวที่จะทำให้ใจของคุณละลายด้วยความน่ารักของพวกมัน Nyarshmallows จาก Felissimo นั้นเป็นมาร์ชเมลโล่ว์สอดไส้ช็อกโกแลต จุดเด่นของมันก็คือความน่ารักที่ทำเป็นรูปแบบนี่แหละ หลายคนจึงไม่ค่อยจะกล้ากินเท่าไหร่ เพราะกลัวว่าความน่ารักของมันจะหายไป     Nyarshmallows มาจากคำว่า “nyan” ที่เป็นเสียง “เมี๊ยว” ในภาษาญี่ปุ่น และคำว่า marshmallow เอามามารวมกัน ส่วนรสชาติของมันนั้นดูจากภาพก็รู้แล้วว่าละลายในปากแน่นอน     ภายในกล่องจะมีหน้าแมวต่างกัน 12 แบบ ราคาประมาณ 800 บาทต่อกล่อง (ยังไม่รวมค่าขนส่ง) สำหรับคนรักแมวและมาร์ชเมลโล่ว์แล้ว ต้องลองดูสักครั้ง     จริงแล้วแมวมาร์ชเมลโล่ว์นี้ขายมาครบ 1 ปี แล้ว เขาก็เลยทำชุดใหม่ออกมา เป็นแมวหน้าใหม่ที่ไม่เคยขายมาก่อน น่ารักว่าเดิมอีกนะเนี่ย     แต่ดูเหมือนว่ารุ่นใหม่นั้นจะไม่ได้วางขายแบบทั่วโลก ใครอยากกินก็ต้องไปที่ญี่ปุ่นเองนะจ๊ะ ที่มา rocketnews24

พอได้ยินข่าวคราวนี้แล้วเหมียวนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง The Amazing Spiderman ขึ้นมาเลยทีเดียว เมื่อบริษัทหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นพัฒนาเทคโนโลยล้ำยุคตัวนี้ขึ้นมา!!! บริษัทค้นคว้าวิจัยทางด้านชีววิทยาเกี่ยวกับแมงมุม ‘Spiber Inc.’ ได้เปิดเผยเทคโนโลยีชีวภาพล่าสุดแก่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรก กล่าวคือ ใยแมงมุมเทียมที่มีระดับความแข็งแรงมากกว่าเหล็กและความยืดหยุ่นมากกว่าไนลอน!!!   ใยแมงมุมสังเคราะห์   ด้วยขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางที่เท่ากัน เจ้าใยแมงมุมสังเคราะห์นี้จะมีระดับความแข็งแรงมากกว่าเหล็กและความยืดหยุ่นมากกว่าไนลอนเสียอีก   ชุดเดรสที่ถูกนำมาเปิดตัวในวันแถลงข่าวของทางบริษัท แถมนวัตกรรมใหม่นี้ยังมีข้อดีคือไม่มีการเจือปนของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค   โดยกรรมวิธีการผลิตก็คือ การดัดแปลงพันธุกรรมจุลินทรีย์และนำมาประยุกต์ใช้เข้ากับการสังเคราะห์ใยแมงมุมเทียม ทำให้สามารถสังเคราะห์ปริมาณโปรตีนที่เท่ากับปริมาณในใยแมงมุมธรรมชาติได้ในเวลาอันสั้น   แต่ปัญหาใหญ่ๆ ของเทคโนโลยีตัวใหม่นี้ก็คือ ต้นทุนการผลิตที่สูงซึ่งมีผลต่อการผลิตในจำนวนมาก ซึ่งในจุดๆ นี้ก็ต้องพัฒนากันต่อไปเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำลงนั่นเอง     ลองมาชมคลิปการนำเสนอได้ที่นี่เลย   นับเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่น่าสนใจเลยทีเดียว หวังว่าในอนาคตเราจะสามารถเห็นเส้นใยนี้ใช้กันอย่างแพร่เหลายนะจ๊ะ ^^ ที่มา: Anngle

หนึ่งในปัญหาของเหล่าทาสแมวคือ ในบางครั้งหรือบางสถานที่ พวกเขาไม่สามารถพาน้องเหมียวสุดที่รักของตนไปด้วยได้ จนทำให้ต้องห่างกันชั่วคราว   แต่จากนี้ไปไม่ต้องกังวลแล้ว เพราะว่าบริษัทหัวใสจากญี่ปุ่น ได้ผลิตสเปรย์กลิ่น “แมว” ออกมาจำหน่ายแล้ว รับรองว่าคราวนี้ไม่ว่าจะไปไหน กลิ่นน้องเหมียวก็จะติดตัวคุณไปด้วย จนเสมือนคุณได้อยู่ใกล้ๆพวกมันเลยทีเดียว     สเปรย์กลิ่นแมวนี้ผลิตโดยบริษัท Felissimo พวกเขาใช้เวลาพัฒนากว่า 4 เดือนในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมา     โดยกลิ่นที่พวกเขาสร้างขึ้นมานั้น จะเป็นกลิ่นบริเวณหลังหัวของน้องเหมียว ซึ่งพวกเขาทำการสำรวจมาแล้วว่า กลิ่นตรงนั้นคือกลิ่นที่เหล่าทาสแมวชื่นชอบมากที่สุด     โดยเจ้าสเปรย์ขวดนี้ สนนราคาอยู่ที่ขวดละ 1,293 เยน หรือราว 500 บาท     ยิ่งไปกว่านั้น บริษัท Felissimo ยังผลิตตุ๊กตาหัวแมวสุดน่ารักออกมาด้วย     ลองนึกภาพตัวเองกอดตุ๊กตาแมวแล้วดมกลิ่นน้องเหมียวสุดที่รักเข้าไปด้วยสิ จะฟินขนาดไหน     ใครสนใจ ก็ลองฝากเพื่อนๆซื้อมาจากญี่ปุ่นได้นะจ๊ะ อิอิ ที่มา Rocketnews24

เชื่อผู้ที่ชื่นชอบช็อกโกแลตหลายๆคนเหนื่อยหน่ายกับการนำช็อกโกแลตมาทาบนขนมปังหรือขนมชิ้นโปรดของคุณ เพราะกว่าจะตัก กว่าจะปาดให้ได้เท่าๆกัน ก็เล่นเอาเหนื่อย แต่ปัญหานั้นจะหมดไป เมื่อคุณมีช็อกโกแลตสไลด์แบบนี้!!   หลายคนอาจสงสยว่า ปกติเคยเห็นแต่ชีสสไลด์ แต่มันมีช็อกโกแลตสไลด์ด้วยเหรอ? ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะมันมีอยู่จริงในประเทศญี่ปุ่น   ช็อกโกแลตสไลด์นี้ผลิตโดยบริษัท Bourbon ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการผลิตช็อกโกแลตอยู่แล้ว ซึ่งเขารับประกันว่า เจ้มจ้น เหมือนช็อกโกแลตปกติแน่นอน   วิธีการกินที่ง่ายที่สุดคือ นำไปวางบนขนมปัง แล้วก็รอมันละลาย แค่นั้นแซนด์วิชช็อกโกแลตแสนอร่อย ก็มาปรากฏตรงหน้าของคุณแล้ว     หรือจะเอาไปดัดแปลงทำอย่างอื่นก็ได้ ตามใจชอบ   ใครสนใจก็ฝากเพื่อนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นซื้อมาได้ สนนราคาอยู่ที่ 60 แผ่น ( 1 ซองมี 5 แผ่น เขาขายยกแพ็ค 12 ซอง) ต่อ 3,240 เยนหรือราว 950 บาท ใครลองกินแล้ว อย่าลืมมารีวิวให้เหมียวฟังด้วยนะ อิอิ ที่มา rocketnews24

เหมียวว่าเรื่องราวน่ารักๆ แบบนี้มีที่ Japan Only จรงิๆ นะจ๊ะ อิอิ ถ้าจะพูดถึงมังงะการ์ตูนต่างๆ แล้วก็เรียกได้ว่าที่ประเทศญี่ปุ่นเนี่ย ตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะ แถมล่าสุดก็มีผลิตภัณฑ์น่ารักๆ สำหรับแฟนการ์ตูนมาให้ได้ใช้กันอีกแล้ว นั่นก็คือมาส์กหน้านั่นเอง บอกได้เลยล่ะว่าน่ารักมากๆ เพราะทำให้คล้ายคลึงกับใบหน้าตัวการ์ตูนในดวงใจของหลายๆ คนนั่นเอง ลองมาดูตัวอย่างมาส์กตัวการ์ตูนต่างๆ กันเลย   จาก Hokuto     Yatterman ก็มานะจ๊ะ   อันนี้ดูไม่ออกว่าจากเรื่องอะไร   คุ้นเคยกันดีเลยล่ะเรื่องนี้ อิอิ   โดเรม่อนนนนน   มาเป็นตัวเลยล่ะ   มารูโกะ   น่ารักน่าใช้มั้ยล่ะจ๊ะ ^^   เห็นแบบนี้แล้วแฟนๆ มังงะอยากใช้กันบ้างรึเปล่าจ๊ะ อิอิ แน่นอนตอนหาซื้อมาใช้อย่าลืมถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยล่ะ ลืมถ่ายรูปถอดทิ้งต้องไปซื้อมามาส์กกันอีกอันไม่รู้ด้วยนะจ๊ะ ฮร่าาาา ที่มา: Thaimoong

ประเทศญี่ปุ่นนี่ถือเป็นประเทศที่ดูปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก เพราะเราจะเห็นได้ว่าทุกคนใส่ใจกับทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่ความปลอดภัยของเต่าตัวเล็กตัวน้อยที่กำลังชอบเดินข้ามทางรถไฟจนบางทีก็เดินไปติดบ้าง ถูกรถไฟทับบ้าง เมื่อบริษัทรถไฟ The West Japan Railway Company และ สวนน้ำ Suma Aqualife Park ในเมืองโกเบได้ร่วมมือกันสร้างทางลอดใต้รางรถไฟสำหรับเต่าเพื่อที่จะให้มันเดินข้ามได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น     เนื่องจากว่าปัญหาเต่ามันมักจะปีนเข้าไปข้างในรางแล้วเกิดไปติดอยู่ระหว่างรางบ่อยๆ ทำให้รถไฟต้องดีเลย์ออกไปเพื่อนำเต่าออก บางครั้งเต่าก็ถูกรถไฟเหยียบจนกระดองเสียหายด้วยก็มี จึงจำเป็นต้องสร้างอะไรบางอย่างเพื่อทำให้ลดปัญหานี้ลง     อุโมงค์สำหรับเต่านี้ได้เริ่มสร้างตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา จากสถิติที่เก็บมาจนถึงเดือนสิงหาคม พบว่าได้มีเต่าที่ใช้ทางลอดนี้ 10 ตัวด้วยกัน นั่นแสดงว่าทางลอดนี้สามารถช่วยชีวิตเต่าได้ 10 ตัว และลดอุบัติเหตุทางรถไฟได้ 10 ครั้ง ถือเป็นก้าวเล็กๆที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรื่องนี้   ที่มา rocketnews24, neatorama

หน้าหนาวใกล้เข้ามาแล้ว วันนี้เหมียวก็เลยมีเสื้อกันหนาวสไตล์ญี่ปุ่นเจ๋งๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากชุดของซามูไร นักรบสุดเท่จากประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ชุดนี้เป็นการผสมผสานระหว่างยุคสมัย โดยการนำเอาชุดฮาโอริดั้งเดิมมาดัดแปลงให้กลายเป็นชุดที่สามารถกันหนาวได้ และสามารถใส่ไปไหนมาไหนได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้อยู่ ชุดนี้ผลิตโดยแบรนด์เสื้อผ้าชื่อว่า Trove เขาได้ทำชุดฮาโอริแบบใหม่นี้ขึ้นมา ที่ดั้งเดิมแล้วเราจะใส่ทับชุดกิโมโน แต่ครั้งนี้เราสามารถใส่กับชุดอย่างอื่นได้ มี 2 แบบให้เลือก     โดยที่เนื้อผ้านั้นทำมาจากขนแกะ ซึ่งจะมีลักษะเบาและนุ่ม และเหมาะสำหรับเสื้อผ้าสมัยใหม่แบบตะวันตก เพื่อที่ว่าเราจะได้นำเอาเสื้อตัวนี้ไปใส่กับชุดอื่นๆได้อย่างคู่ควร ซึ่งเขาได้ทำออกมาสองสีด้วยกัน     ราคาจะอยู่ที่ประมาณตัวละ 9,000 บาท ถ้าใครสนใจก็ลองเข้าไปดูได้ที่ trove.shop-pro ที่มา rocketnews24

เว็บไซต์ช่องทีวีสำหรับผู้ใหญ่ของญี่ปุ่น ERO24TV ได้จัดกิจกรรมดีๆขึ้นมาเพื่อนำเงินไปบริจาคให้กับผู้ป่วยเอดส์ โดยเงินนั้นจะได้มาจากการที่คุณเข้าไปในเว็บของเขา แล้วทำการอดทนไม่มองนมของสาวๆที่กำลังจะโชว์ให้คุณดู เพียงแค่นี้ก็เป็นการได้ทำบุญแล้ว กิจกรรมนี้เริ่มจัดตั้งแต่วันที่ 26 ถึง 6 ธันวาคม มีชื่อว่า “Love is Patience” ที่จะท้าทายเหล่าชายหื่นทั้งหลายว่าจะสามารถอดใจไม่ลืมตามองนมของสาวๆ โดยที่ทางเว็บจะเชื่อมต่อกับเว็บแคมของคุณเพื่อดูว่าคุณได้ลืมตาดูหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าคุณต้องมีเว็บแคมก่อนถึงจะใช้บริการเว็บนี้ได้   พอเข้าเว็บมาก็จะเจอหน้าตาประมาณนี้ ถ้าคุณไม่มีเว็บแคมจะเข้าไม่ได้นะจ๊ะ   ถ้าคุณผ่านด่านแรกมาแล้ว ก็จะมีสาวสวยมาแนะนำอะไรต่างๆ ซึ่งเขาจะทดสอบให้คุณได้ลองลืมตา หลับตา แล้วหลังจากนั้นเกมก็จะเริ่มขึ้น   ระหว่างที่คุณหลับตา เธอก็จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคเอดส์ พอผ่านไปสักพักก็จะมีสาวสวยคัพ G ออกมายั่วให้คุณอยากเปิดตา ถ้าคุณทนไม่ไหว ลืมตาขึ้นมา เว็บแคมก็จะตรวจจับได้ แล้วทุกอย่างก็จบ ไม่ได้เงินไปบริจาค   แต่ถ้าคุณมีจิตใจที่แน่วแน่พอจนจบครบ 1 นาที ทางเว็บก็จะบริจาคเงิน 5 เยน ประมาณ 1.5 บาท ต่อนาที ย้ำ!! ต่อนาที ให้กับมูลนิธิหยุดยั้งโรคเอดส์ ยิ่งถ้าคุณอดกลั้นได้นานเท่าไหร่ เงินก็จะยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ   ทั้งนี้เหมียวก็ยังไม่ได้ลองเลยว่าเป็นยังไง เพราะไม่มีเว็บแคม…

สำหรับการเป่าแก้ว ก็จัดว่าเป็นศิลปะที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่สูงมากๆ เพราะใช้ฝีมือสุดๆ กว่าจะทำให้เป็นรูปขั้นมาได้ ต้องมีการฝึกฝนมาอย่างยาวนานเลยทีเดียว Satoshi Tomizu เป็นหนึ่งในศิลปินผู้เป็นกูรูด้านการเป่าแก้วแห่งประเทศญี่ปุ่น งานของเขานั้นน่าสนใจเลยทีเดียว เพราะเขาสามารถเป่าแก้วให้ออกมาเป็นลูกแก้ว ที่ราวกับว่าบรรจุจักรวาลทั้งจักรวาลไว้ในลูกแก้วนั้นเลยทีเดียว!!!   ลองมาดูผลงานของเขากัน!!!   ราวกับว่าจักรวาลทั้งจักวาลถูกกักเก็บไว้ในลูกแก้วเลยใช่มั้ยล่ะ   โดยภายในนั้นประกอบด้วยสิ่งต่างๆ มากมาย   ทั้งฟองอากาศ แร่โอปอล และเปลวทอง   และขนาดของแต่ละลูกก็พอๆ กับลูกตาของมนุษย์นี่เอง เรียกได้ว่าต้องมีความปราณีตมากๆ   ผลงานของเขาเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไปอย่างมาก   ทำให้ตอนนี้ในร้านค้าออนไลน์ของเขา ของขาดสต็อกเลยทีเดียว   ต้องสั่งทำเลยนะจ๊ะ สำหรับตอนนี้   รูปแบบอย่างนี้ก็มีนะ   สวยมั้ยล่ะ??         สำหรับใครที่อยากติดตามผลงานของเขาเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ เฟซบุ๊ก เลยนะจ๊ะ ผลงานสุดยอดแบบนี้ถึงว่า ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียว อิอิ ที่มา: Borepanda

ญี่ปุ่นนี่เป็นประเทศแห่งศิลปะเลยก็ว่าได้ ศิลปะทุกชนิดที่เขาได้สร้างขึ้นมา ล้วนออกมาจากจิตใจซึ่งเราสามารถสัมผัสได้เลย ซึ่งวันนี้เหมียวก็ได้มีคลิปการวาดชามแบบ “คุทานิ โชเอมอน” มาให้ทุกท่านได้ดูกัน “คุทานิ โชเอมอน” ก่อตั้งครั้งแรกที่จังหวัดอิชิคาว่า ประเทศญี่ปุ่น ในปีพ.ศ. 2422 ถือเป็นบริษัทที่เก่าแก่ที่ทำเรื่องเกี่ยวกับชุดเซรามิกมานาน ซึ่งแต่ละชิ้น พวกเขาทำออกมาอย่างพิถีพิถัน     ถือแม้จะเป็นบริษัทเล็กๆ แต่ทุกชิ้นของเขานั้นวาดด้วยมือล้วน จึงการันตีได้เลยว่ามันมีคุณค่าเป็นอย่างมาก ต่างจากลวดลายที่ผลิตจากโรงงานลิบลับเลย ถ้าสนใจในเครื่องเซรามิกก็ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์ choemon.com ได้ ร่ายประวัติมาซะยาว ตอนนี้ก็ถึงเวลาดูการวาดเซรามิกของเขาแล้ว รับรองว่าาคุณจะดำดิ่งไปกับมันแน่นอน   . . . . . ที่มา KUTANI CHOEMON

ถ้าใครเคยอ่านการ์ตูนเรื่องโดราเอม่อน คงเคยเห็นของวิเศษชิ้นหนึ่งของโดราเอม่อนที่เรียกว่า “วุ้นแปลภาษา” วิธีการใช้งานก็ง่ายๆ แค่กินวุ้นเข้าไป เราก็จะสามารถเข้าใจภาษาต่างประเทศได้ง่ายๆ       แน่นอนเจ้า “วุ้นแปลภาษา” อันนี้ยังไม่มีจริงบนโลก แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าประเทศญี่ปุ่น กำลังจะมีเครื่องแปลภาษาแบบทันทีแล้ว นั่นก็คือ เจ้า “โทรโข่งแปลภาษา” ซึ่งผลิดโดยบริษัท Panasonic อันนี้นี่เอง     โดยพวกเขากำลังจะเริ่มทดสอบใช้งานในสนามบินนาริตะ วิธีการใช้งานก็ง่ายๆ แค่เจ้าหน้าที่พูดเข้าไปในโทรโข่ง จากนั้นเครื่องจะแปลเป็นอีกภาษาออกมา ซึ่งตอนนี้สามารถแปลได้สามภาษานั่นก็คือ ภาษาอังกฤษ จีน และเกาหลี แรงบันดาลใจที่ทำให้พวกเขาสร้างเจ้าเครื่องนี้ขึ้นมาก็คือ ในช่วงการเกิดเหตุน้ำท่วมเมื่อปี 2014 เจ้าหน้าที่ในสนามบินไม่สามารถสื่อสารกับผู้ใช้บริการชาวต่างชาติได้เลย     ถ้าเจ้าเครื่องนี้สามารถใช้งานได้จริงล่ะก็ มันจะต้องการเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์มากๆแน่ๆเลย ที่มา Rocketnews24

ภาพของแมว ที่เรามักจะเห็นในภาพยนตร์ หรือการ์ตูนนั้น ส่วนใหญ่พวกมันมักจะถูกให้สวมบทบาทเป็นแมวผู้ร้ายกาจ ชอบทำลายล้าง และคิดที่อยากจะครองโลกอยู่เสมอ ว่าแต่…จะมีแมวในโลกการ์ตูนสักกี่ตัวกันน้า ที่ได้รับบทเป็นแมวนิสัยดีกับเค้าบ้าง ในที่สุดทางเว็บไซต์ marumura ก็ได้ลองจัดอันดับ 10 คาแร็กเตอร์แมวนิสัยดีในการ์ตูนญี่ปุ่นมาแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกัน บอกเลยว่าแต่ละตัวนั้นนอกจากจะน่ารักมุ้งมิ้งแล้ว ยังนิสัยดี๊ดีอีกด้วย ว่าแต่ 10 ตัวนี้จะมาจากการ์ตูนเรื่องไหนกันบ้าง รับชมกัน   อันดับ 10 เทลมอน (คู่หูของฮิคาริ) จาก Digimon Adventure   อันดับ 9 สามเหมียวยอดนินจา จาก Samurai Pizza Cats   อันดับ 8 เนียนโกะ เซนเซย์ จาก Natsume Yuujinchou Shi   อันดับ 7 คุโระจัง จาก Cyborg Kuro-Chan   อันดับ 6…

หากพูดถึงรถไฟในประเทศญี่ปุ่น เราอาจนึกถึงรถไฟความเร็วสูงอย่างเช่น รถไฟชินคันเซ็นที่สามารถวิ่งได้เร็วกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ รถไฟ “Snow Turtle” สุดยอดรถไฟความเร็วต่ำ ที่เผลอๆวิ่งไปเองยังจะเร็วกว่า เพราะมันวิ่งด้วยความเร็วเพียง 14 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!!     เมื่อก่อนนี้ รถไฟชินคันเซ็นจะวิ่งทางแถบชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะฮอนชู เชื่อมต่อเมืองใหญ่ๆอย่าง โตเกียว นาโกย่า เกียวโต และโอซาก้า ส่วนทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือนั้น ไม่มีรถไฟความเร็วสูงวิ่งผ่านเลย นั่นทำให้บริษัท Hokuetsu สามารถให้บริการรถไฟ Snow Rabbit ซึ่งสามารถเดินทางด้วยความเร็วกว่า 88.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าเร็วที่สุดแล้วในบรรดารถไฟธรรมดาในญี่ปุ่นในแถบตะวันออกเฉียงเหนือได้     แต่เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เส้นทางการเดินรถชินคันเซ็นได้ขยายมาถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว รถไฟ Snow Rabbit จึงเป็นอันตกกระป๋องไป เพราะเขาไม่มีทางแข่งขันกับรถไฟความเร็วสูงได้อย่างแน่นอน พวกเขาจึงต้องหาโมเดลธุรกิจใหม่     พวกเขาจึงสร้างรถไฟ Snow Turtle ขึ้นมา ซึ่งวิ่งด้วยความเร็วเพียง 1 ใน 5 ของ Snow Rabbit เท่านั้น!! ซึ่งโดยปกติแล้ว ในระยะทาง 59 กิโลเมตร…

ศิลปะไม่เคยจำกัดตัวเองแค่บนแผ่นกระดาษหรือผืนผ้าใบเท่านั้นนะ เพราะเราสามารถที่จะครีเอทมันลงไปบนอะไรก็ได้สุดแต่จินตนาการของเราจะพาไป แม้แต่บนเปลือกกล้วยก็สามารถกลายเป็นงานศิลปะได้เช่นกัน     วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมผลงานการสักของช่างสักชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ชื่อว่านาย Daisuke Sakagami แต่การสักของเขาไม่ใช่การสักลงไปบนผิวมนุษย์แบบที่เราเข้าใจกันนะ แต่เป็นการสักลงไปบนผิวกล้วยสีเหลืองๆ ต่างหาก     ผลงานของเขามีชื่อว่า “Tattoo a Banana” เป็นการสักแบบไม่ใช้น้ำหมึก แต่เป็นการใช้ปลายเข็มจิ้มลงไปเปลือกกล้วย เพื่อให้เปลือกของมันเปลี่ยนจากสีเหลือกลายเป็นรอยช้ำสีดำๆ จากกระบวนการออกซิเดชั่น     ซึ่งการสร้างงานศิลปะของเขาแต่ละชิ้นจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพบางส่วนจากผลงานของเขากัน จะเก๋กู๊ดขนาดไหนนั้นลองไปชมกันเลยจ้า                                       แต่ละอัน สวยงามยิ่งกว่าภาพวาดอีกนะเนี๊ยะ แหม่เอาซะเหมียวไม่กล้ากินเลย ที่มา bloggang

เรียกได้ว่างานนี้สาวๆ ทั้งหลายได้ทั้งอิ่มท้อง และอิ่มอกอิ่มเอมใจกันแบบเต็มๆ แน่นอน เมื่อร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงโตเตียว ได้ผุดกลยุทธ์การตลาดสุดเด็ด โดยการจ้างหนุ่มหุ่นล่ำกล้ามเป็นมัดๆ มาเป็นพนักงานเสิร์ฟถึง 11 คน มาคอยดูแลและบริการลูกค้ากันแบบอิ่มหนำสำราญกันเลยทีเดียว     โอ้ววว เชื่อว่าสาวน้อยสาวใหญ่รวมไปถึงเก้งกวางทั้งหลาย จะต้องน้ำลายไหลกันเป็นแถวแน่ๆ เมื่อได้เห็นภาพของหนุ่มนักกล้ามพนักงานเสิร์ฟเหล่านี้     เท่านั้นยังไม่พอ เพราะนอกจากพวกเขาจะมาบริการเสิร์ฟอาหารให้กับคุณแล้ว คุณยังจะได้เห็นหนุ่มๆ เหล่านี้มาโชว์การเต้นอันเซ็กซี่ และเร่าร้อนฝุดๆ  อีกด้วย     สำหรับค่าบริการคุณสามารถเลือกจ่ายได้ถึง 2 รูปแบบด้วยกัน โดยชุดอาหารเย็นแสนอร่อย พร้อมกับพูดคุยกับพนักงานหุ่นล่ำ คุณจะได้จ่ายเพียง 145 บาทเท่านั้น แต่ถ้าอยากฟินขึ้นมาอีกนิดโดยรับบริการทั้งเสิร์ฟทั้งดูโชว์เต้นอย่างสำราญใจ คุณจะต้องจ่ายในราคา 970 บาท     ป้าดดดด คราวนี้ได้ทั้งอิ่มท้อง และอิ่มใจกันเป็นแถวแน่ๆ ส่วนเพื่อนๆ คนไหนที่อยากจะลองใช้บริการร้านอาหารแห่งนี้สักครั้งในชีวิต ก็รีบตีตั๋วบินไปญี่ปุ่นกันเลยยยยย ที่มา : dailymail

สำหรับประเทศญี่ปุ่น ก็เรียได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ประชากรมีคุณภาพสูงมาก แถมยังเป็นประเทศที่น่าอยู่ รวมถึงคุณภาพชีวิตของประชากรก็เรียกได้ว่าสูงจนหาคนเทียบยากเลยล่ะ แต่ถึงจะดีจนประชากรในหลายๆ ประเทศอื่นๆ อิจฉา ก็เหมือนกับทุกๆ คน ที่ย่อมมีปัญหา และอีกด้านที่คนไม่ค่อยได้เห็นกัน และวันนี้เหมียวขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพสะท้อนสังคมอีกด้านหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ลองมาตีความหมายจากภาพกันดูนะจ๊ะ   ผู้คนกับรถไฟ   ชาวญี่ปุ่น   ห้อง   คนทำงาน??   อาหาร   โรงงานมนุษย์   การทำงาน   โรงเรียน   สัมภาษณ์   เติมพลัง   มือถือ   แบกงาน   วิถีชีวิต     ตัวตนที่แท้จริง   ช็อปปิ้ง   พนักงานบริการ   ภาพแต่ละภาพนี่ความหมายลึกซึ้งจริงๆ เหมียวก็ตีความออกไม่หมดทุกภาพหรอกนะเนี่ย -*- แต่ดูแล้วก็รู้สึกหดหู่ใจแปลกๆ ล่ะว่ามั้ย… ที่มา: Robmy

“เค้ก” ถือเป็นของคู่งานวันเกิดทุกงานเลย ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กงานใหญ่ ก็ต้องมีเค้กไว้แจกจ่ายให้กับคนที่มาร่วมงาน เพราะมันเป็นของกินที่ดูเหมาะสำหรับงานวันเกิดที่สุดแล้ว แถมตอนนี้ก็ยังไม่มีขนมอะไรปักเทียนแล้วดูสวยเท่าเค้กแล้วล่ะ ถ้าไม่รังเกียจที่จะกินกระทงอ่ะนะ แต่วันนี้เหมียวไปเจอเค้กชนิดหนึ่งที่ถือว่าตอบโจทย์มากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ แถมยังไม่ต้องกลัวอ้วนอีกด้วย เพราะที่ญี่ปุ่นตอนนี้กำลังมีเทรนด์ใหม่ เมื่อคุณไปกินเลี้ยงวันเกิดตามร้านยากินิกุ (ปิ้งย่าง) แทนที่จะสั่งเค้กธรรมดา ทำไมเราไม่สั่งเค้กเนื้อซะเลยล่ะ     เทรนด์นี้เริ่มมาจากจุดเล็กๆ แล้วก็เริ่มขยายไปเรื่อยๆ จนก็ทั่งไปถึงภาคครัวเรือนกันเลยทีเดียว บางคนก็เสิร์ฟแบบดิบๆ ให้ไปปิ้งเอง บางครอบครัวก็เสิร์ฟสุกๆ พร้อมคีบกินได้ทันที ก็แล้วแต่ความชอบ ลองนึกภาพสิว่างานวันเกิดของเรา มีเตาอยู่ตรงกลาง แล้วเพื่อนก็ยกเนื้อเป็นก้อนๆมาให้แบบนี้ แล้วก็ทำการจับปิ้งๆๆๆๆๆๆ มันจะหอมหวนและฟินแค่ไหน ขอคาราวะคนคิดเลยจริงๆ   ที่มา sobadsogood

ในการแข่งขันกีฬา เราไม่ควรยอมแพ้ ถึงแม้จะเป็นวินาทีสุดท้ายแล้วก็ตาม เราคงเคยเห็นบ่อยๆ ที่จะมีช็อตเกมพลิกกลับมาชนะได้ ถึงแม้เวลาจะเหลือน้อยเต็มที อันนี้ก็แล้วแต่ทีมด้วย เพราะบางทีมก็อาจจะถอดใจไปแล้ว วันนี้เหมียวจะพาไปดูสปิริตแรงกล้าของบาสรุ่นเล็ก นี่คือการแข่งขันบาสฟุกุโอกะฤดูร้อนรอบสุดท้าย ระหว่างทีม โมโมชิ ชู้ตติ้งสตาร์ (สีขาว) และทีม วาจิโระฮิงาชิ (สีดำ) ซึ่งทั้งสองก็เล่นกันอย่างเต็มที่มากๆ   ทั้งสองทีมพลัดกันรุงพลัดกันรับ จนคะแนนตีคู่สูสีเป็นอย่างมาก   แต่แล้วเมื่อใกล้จะจบเกม ฝั่งโมโมชิ ชู้ตติ้งสตาร์ (สีขาว) ได้จุดโทษ ทำให้ทีมกลับมานำอีกครั้ง ซึ่งตอนนั้นเหลือเวลาแค่ 2 วินาทีเท่านั้น   แต่ทีมวาจิโระฮิงาชิ (สีดำ) ก็ยังไม่ยอมแพ้ เราไปชมลูกชู้ตปิดท้ายที่ทำให้ทีมกลับมาชนะกันเลยดีกว่า   งานนี้บอกเลยว่าเด็กญี่ปุ่นเขาสู้สุดใจจริงๆ ถึงแม้ว่าโอกาสจะชู้ตเข้ามีน้อยมากๆ แต่เขาก็ลองเสี่ยงโยนไปดู และผลที่ได้ก็ประสบความสำเร็จแบบนี้แหละ อึ้งกันทั้งสนาม… ที่มา Momochi Shootingstars

วันนี้เหมียวมีคลิปซึ้งๆ มาฝาก เป็นโฆษณารถยนต์ Toyota จากประเทศญี่ปุ่น บอกเล่าเรื่องราวของพ่อลูกคู่หนึ่ง ผ่านมุมมองของแต่ละคน โดยตัวโฆษณานั้นไม่ได้บิ้วให้เราร้องไห้แต่อย่างใด แต่ทำไมเราน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว…   วิธีการเล่าเรื่องของโฆษณาตัวนี้เจ๋งมากๆ ในครึ่งแรกนั้น จะเล่าในมุมมองของพ่อ โดยใช้กล้องแทนสิ่งที่พ่อมองเห็น ซึ่งเราก็จะได้เห็นความสัมพันธ์ของพ่อกับลูกสาวคนนี้เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เด็กจนกลายเป็นวัยรุ่น   และในครึ่งหลัง ก็ใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบเดียวกัน แต่เปลี่ยนมุมมองเป็นของลูกสาวแทน ซึ่งครั้งนี้เราก็จะได้เห็นความรู้สึกของพ่ออย่างชัดเจนแล้ว   อีกทั้งยังมีตอนจบที่งดงามเอามากๆ เหมียวอยากให้ทุกคนได้ดูจริงๆ ไปชมคลิปกันเลย   ที่มา toyotajpchannel

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่มีไอดอลเยอะที่สุดในโลก เราได้เห็นเด็กญี่ปุ่นน่ารักๆมากมายรวมตัวกันเป็นวงดนตรีหรือนักแสดง แต่หนึ่งในกฎเหล็กที่ไอดอลเหล่านี้ต้องปฏิบัติ (ไม่เฉพาะญี่ปุ่น นักร้องเกาหลีก็เช่นกัน) คือการห้ามมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้อื่น เพื่อเป็นการรักษาภาพพจน์ของไอดอล แต่ว่าเมื่อไม่นานมานี้ Harada Mayu ไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปจากวง  Keyakizaka46  ถูกมือดีปล่อยภาพหลุดสุดฉาวนัวเนียกับอาจารย์สมัยมัธยมต้นออกมา จนมีข่าวว่าเธออาจถูกปลดจากการเป็นไอดอลในเร็วๆนี้     นอกจากนี้คุณครูคนนี้อาจถูกจับกุมข้อหาพรากผู้เยาว์ด้วย เนื่องจาก Mayu เพิ่งอายุเพียง 17 ปีในตอนนี้       คิดไปก็สงสารชีวิตไอดอลนะ จะมีชีวิตของตัวเองก็ไม่ได้ ขนาดความรักยังมีไม่ได้เลย แต่ก็แลกมาด้วยชื่อเสียงละเงินทอง เพื่อนๆว่าคุ้มหรือเปล่ากับชีวิตแบบนี้ ลองแสดงความเห็นกันเข้ามานะเหมียว ที่มา asianjunkie

ถ้าเราดูหนัง หรือการ์ตูนญี่ปุ่นบ่อยๆ เราคงจะได้เห็นสิ่งประดิษฐ์ของคนญี่ปุ่นอย่างหนึ่ง เมื่อถึงหน้าหนาว เขาจะยกมาไว้กลางห้อง แล้วคนทั้งครอบครัวก็จะเอาขามาซุกเพื่อความอบอุ่น สิ่งนั้นก็คือโต๊ะโคทัตสึนั่นเอง โต๊ะโคทัตสึคือโต๊ะสี่ขาขนาดเตี้ย ซึ่งใต้โต๊ะก็จะมีฮีตเตอร์เพื่อช่วยให้ความอบอุ่นในหน้าหนาว พร้อมกับผ้าห่มที่คุลมอยู่ทั้งโต๊ะให้เราได้สอดขาเข้าไปข้างใน ซึ่งคนญี่ปุ่นบางคนก็จะใส่ชุดพื้นเมืองเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายด้วย     ประวัติของโต๊ะโคทัตสึนั้นน่าจะมาตอนศตวรรษที่ 14 โดยใช้เตาอิโรริ แล้วต่อมาในศตวรรษที่ 17 ก็ได้เอาเตาอิโรริฝังลงไปกับพื้นแล้วเรียกมันว่าโฮริโกทัตสึ แล้วก็พัฒนามาเป็นโต๊ะโคทัตสึในปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งมันสามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้     ถึงแม้ว่าบ้านเราจะไม่ได้หนาวเหมือนญี่ปุ่น แต่พอเอาเข้าจริงแล้ว การได้โต๊ะแบบนี้มาไว้ที่บ้านสักตัวก็จะเป็นอะไรที่ฟินไม่ใช่น้อยเลยนะเนี่ย แถมยังได้อยู่ด้วยกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตากันอีก   อย่างเช่นเจ้าเหมียวตัวนี้ ที่คงจะอยากได้ความอบอุ่นซะเหลือเกิน   สำหรับคนที่อยากได้ ลองเข้าชมสินค้าที่เว็บไซต์ bellemaison ราคาประมาณ 3,000 – 13,000 บาท แล้วแต่ขนาด บางอันขายแยกด้วย ลองชมภาพของสินค้านี้ เชื่อว่าหลายคนคงจะอยากได้มากแน่ๆ   ที่มา aplus, demilked

เมื่อปีก่อนหลายคนอาจได้ยินข่าวว่า ในกรุงโตเกียวกำลังจะมีโรงแรมที่ตกแต่งสไตล์ร้านหนังสือ และมีหนังสือให้ผู้ที่เข้าใช้บริการอ่านมากมาย วันนี้มันกำลังจะเกิดขึ้นจริงแล้ว     โรงแรมนี้มีชื่อว่า Book and Bed Tokyo เป็นโรงแรมแบบนอนรวมหรือที่เราเรียกอีกอย่างว่า โฮสเทล (hostel) กำลังจะเปิดในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ โดยโรงแรมนี้จะตั้งอยู่ที่ชั้นเจ็ด บนตึกสูงย่าน Ikebukuro มีการตกแต่งให้เหมือนกับร้านหนังสือหรือห้องสมุดที่หนอนหนังสือเห็นแล้ว ต้องอยากมาพักอย่างแน่นอน       ในชั้นหนังสือนี้ จะมีห้องนอนซ่อนอยู่ข้างใน 12 ห้อง ผู้ใช้บริการต้องปีนบันได เพื่อขึ้นไปยังห้องนอนเหล่านั้น         นอกจากนี้ยังมีห้องแคปซูลให้เราได้เลือกนอนอีก 18 ห้อง ใครชอบความเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ ก็มานอนในนี้ได้     ทางโรงแรมบอกว่า บนชั้นหนังสือจะมีหนังสือทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นกว่า 1,700 เล่มให้ได้เลือกอ่าน และพวกเขากำลังจะเพิ่มให้ถึง 3,000 เล่มในอนาคต     ห้องน้ำที่นี่จะเป็นห้องน้ำรวม ตามแบบฉบับของโฮสเทลทั่วไป เห็นบรรยากาศแล้ว ถ้าอ่านนิยายสยองขวัญมา คงไม่กล้ามาอาบเป็นแน่แท้     สนนราคาห้องพักที่นี่จะอยู่ที่…

หลายคนอาจะเคยได้ยินชื่อ “คุ้กกี้เสี่ยงทาย” กันมาบ้าง มันคือขนมที่ใช้แผ่นแป้งทำ แล้วข้างในก็จะมีกระดาษสอดอยู่เวลาคุณหักหรือกัดเข้าไป ซึ่งในกระดาษก็จะมีคำที่เขียนให้กำลังใจหรือเป็นคำคมต่างๆ โดยปกติและคุ้กกี้เสี่ยงทายมักจะถูกนำมาแจกในร้านอาหารตอนที่เรียกเก็บเงิน ว่ากินว่าถูกคิดค้นกันที่ภัตตาคารจีนแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา แต่วันนี้รูปแบบมันได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อบริษัทชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Felissimo ได้ทำคุ้กกี้เสี่ยงทายในรูปแบบใหม่ นั่นก็คือแทนที่จะใส่คำลงไป แต่เขากลับใส่ตุ๊กตาแมวลงไปแทน     โดยขนมนี้ขายเป็นชุด ชุดละประมาณ 700 บาท ประกอบไปด้วยขนม Karinto และคุ้กกี้เสี่ยงทายแมว 2 อัน และจะได้รับตุ๊กตาแมว 2 ตัวเหมือนกัน แต่รุปแบบของแมวนั้นทางบริษัทจะออกแบบใหม่ทุกเดือน   ที่มา boredpanda

นอกจากจะเป็นประเทศที่ชอบคิดค้นสิ่งแปลกใหม่แล้ว ‘ญี่ปุ่น’ ยังเป็นประเทศมีความครีเอท และสร้างสรรค์อีกด้วย เพราะเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2558 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพการแข่งขันกีฬาของมนุษย์เงินเดือน ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าหลายๆ ออฟฟิศนั้น ก็มีการจัดแข่งขันกีฬากันอยู่แล้ว และที่เห็นอยู่บ่อยๆ ก็คงจะเป็นการแข่งฟุตบอล หรือบาสเกตบอลกันใช่ไหมละ     แต่สำหรับสำนักงานในเขตเคียวบาชิ ของกรุงโตเกียว  เรียกได้ว่าทำการจัดแข่งกีฬาได้แปลกว่าบริษัทอื่นๆ เพราะการแข่งขันที่จัดขึ้นก็คือ ‘Isu-one Gand Prix’ หรือ ‘วิ่งเก้าอี้ทำงาน’ นั่นเอง     และการแข่งขันในครั้งนี้ มีพนักงานออฟฟิศลงแข่งขันถึง 33 ทีม ซึ่งสมาชิกในทีมทั้งหมด 3 คน จะต้องช่วยกันวิ่งเก้าอี้ให้ได้อึดที่สุดภายในเวลาถึง 2 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว     ดูน่าสนุกจัง   ทำงานอย่างเดียวมันอาจจะดูน่าเบื่อเกินไป เลยจัดแข่งขันวิ่งเก้าอี้ทำงานซะเลย   แม้เก้าอี้จะหัก และพังไปบ้าง แต่ทั้งผู้เข้าแข่งขัน และกองเชียร์ ก็ดูมีความสุข และมีแต่รอยยิ้ม เรียกได้ว่างานนี้หายเครียดจากการทำงานไปเยอะเลยทีเดียว ว่าแล้วก็…เหมียวต้องลองเสนอกิจกรรมสนุกๆ…

  ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริงๆ โดยเฉพาะการตลาดแบบญี่ปุ่นที่เขามักจะทำอะไรแปลกๆให้เราได้ประหลาดใจอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งครั้งนี้เขาก็ได้ทำร้านบะหมี่ราเม็งขึ้นมา พร้อมกับสาวเสิร์ฟที่เราคุ้นกันเป็นอย่างดี นั่นก็คือดาราเอวีนั่นเอง ในวันที่ 11 ตุลาตมที่ผ่านมา ช่อง Paradise TV ซึ่งเป็นช่องที่เกียวกับอะไรผู้ใหญ่ๆ ได้สำเสนอร้าน No Bra-men เป็นร้านราเม็งที่จะมีนักแสดงหญิง Shiori Tsukada และ Mayu Kawai เป็นาวเสิร์ฟราเม็งให้กับคุณถึงโต๊ะ พร้อมทั้งพวกเธอยังโนบราอีกด้วย     ร้านนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Ikebukuro ในโตเกียวพร้อมเสิร์ฟราเม็งในราคาชามละประมาณ 300 บาท ถ้าอยากได้เส้นเพิ่มก็เพิ่มอีก 150 บาท     “พวกเธอจะเสิร์ฟราเม็งให้ด้วยความรักและความสุขที่มีต่อลูกค้าทุกคน” คำบรรยายของโปรเจกต์นี้กล่าวไว้ว่าแบบนั้น แต่เหมียวว่าไม่จริงอ่ะ ต้องไปพิสูจน์ก่อน ว่าแต่ช่วนนี้มีโปรตั๋วเครื่องบินถูกๆบ้างมะ อิอิ ปล. เขามีคำเตือนว่าห้ามจับอะไรเด็กเสิร์ฟนะ ที่มา tokyoreporter

เหมียวเชื่อว่าใครๆก็ชอบของแฮนด์เมดหรือของทำมืออย่างแน่นอน เพราะของแฮนด์เมดคือสิ่งที่คนทำต้องใช้ทั้งความทุ่มเทและความตั้งใจในการสร้างมันขึ้นมา และมันยังมีคุณค่าพิเศษที่หาไม่ได้จากของทำโรงงานอีกด้วย อย่างเช่นกระเป๋าแมวแฮนด์เมดของชาวญี่ปุ่นอันนี้ ที่คุณเห็นแล้วคุณจะต้องหลงรักในความมุังมิ้งของกระเป๋าพวกนี้แน่นอน     คนที่ทำกระเป๋าพวกนี้ขึ้นมาคือเจ้าของทวิตเตอร์ @picopoco08 เธอบอกว่าเป็นแม่บ้านที่ชื่นชอบการสร้าง “แมว” ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นของเล่นรูปแมวหรือว่ากระเป๋ารูปแมว   และเมื่อเดือนก่อน แอคเคาท์ทวิตเตอร์ของเธอก็โด่งดังเป็นพลุแตก หลังจากเธอโพสภาพกระเป๋ารูปแมวที่เธอทำขึ้นมาเอง   ตอนที่เป็นสีขาวว่าน่ารักแล้ว เป็นเธอแต่งแต้มสีเข้าไปเท่านั้นแหละ บอกเลยว่าน่ารักสุดๆๆๆๆ   เวลาสะพายก็จะเป็นแบบนี้   พอสอบถามทางราคา เธอบอกว่าเจ้ากระเป๋าอันนี้มีราคาอยู่ที่ 83,000 เยนหรือราว 24,000 บาทเท่านั้นเอง!!!   หรือถ้าตัวบนแพงไป ลองดูตัวสีเทาตัวนี้ ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 66,000 เยน หรือราว 19,000 บาท   ตอนนี้เธอขายกระเป๋าผ่านทางเว็บประมูลสินค้าเท่านั้น ถ้าสนใจก็ลองไปเสนอราคาดูได้ ไม่แน่อาจจะโชคดีได้มากซักตัวหนึ่ง     ที่มา rocketnews24

ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มักจะชอบคิดค้น และสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์แปลกๆ ขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การทำครัวแบบแปลกๆ รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมความงามแบบแปลกๆ ที่สาวๆ หลายคนถึงกับอึ้งว่าเห้ย ของแบบนี้มันมีจริงๆ หรอเนี่ย และทั้งหมดนี้คือ 14 อุปกรณ์เสริมความงามส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ  ขอบอกเลยว่าแต่ละอย่างนั้นทั้งแปลก และพิสดารในแบบที่หลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน ถ้าอย่างนั้นเราลองมาดูสิว่า อุปกรณ์เหล่านี้จะแปลกสักแค่ไหนกันเชียว   1.ปากยางขนาดใหญ่ ที่จะช่วยบริหารใบหน้าของสาวๆ ให้ดูเรียว และอ่อนเยาว์     2.กิ๊บสำหรับดึงหนังศีรษะ เพื่อช่วยให้ผิวตึงขึ้น   3.อุปกรณ์ที่ช่วยในการลดอาการบวมของถุงใต้ตา ลดความหมองคล้ำ และลดริ้วรอยได้ใน 3 นาที   4.อุปกรณ์สำหรับหั่นผักให้บางๆ เพื่อนำมาวางโป๊ะไว้บนใบหน้า   5.เครื่องช่วยเพิ่มรอยยิ้มของคุณให้ดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น แถมยังช่วยปรับความสมดุลของใบหน้า และกล้ามเนื้ออีกด้วย   6.หน้ากากซาวน่า   7.หน้ากากปรับรูปหน้าให้เป็นรูปวีเชพ ช่วยยกกระชับผิวหน้า และช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด   8.เตารีดช่วยลบริ้วรอยบริเวณที่เป็นตีนกา และมีถุงใต้ตา   9.เครื่องช่วยดัดจมูกให้โด่งและแคบขึ้น โดยนำไปใส่ในจมูกเพียงแค่ 20 นาทีต่อวัน   10.อุปกรณ์ช่วยทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น…

ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะเจริญทางด้านเทคโนโลยีและศิลปะ แต่เขาก็ยังไม่ลืมที่จะคงความเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นไว้ และนำไปประยุกต์ใช้ให้ร่วมสมัย นั่นทำให้หลายๆสิ่งในอดีตไม่เคยจางหายไป อย่าเช่นซามูไร ซึ่งเป็นทหารที่มีทักษะการใช้ดาบขั้นสูง ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังมีคนอนุรักษ์และฝึกการใช้ดาบอยู่เรื่อยมา   ชายคนนี้มีชื่อว่า อิซาโอะ มะชิอิ หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม “ซามูไรแห่งยุคเฮเซ” ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเป็นที่โด่งดังเป็นอย่างมากจากการแสดงตัดของต่างๆด้วยการใช้ดาบที่ชื่อว่าไออิโด้ และครั้งนี้เขาจะทการตัดลูกเบสบอลที่ยิงออกมาจากเครื่องยิงลูก ด้วยความเร็วทั้งหมดประมาณ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แน่นอนว่าต้องมีประสาทที่ไวมากๆ ถึงจะฟันได้ตรงจังหวะที่บอลยิง อีกทั้งยังต้องฟันให้โดนด้วย เราไปดูคลิปกันเลยดีกว่า   บอกได้คำเดียวมันยากมากๆ เพราะการฟันที่เรียกกันว่า “อิไอ” โดยการดึงดาบออกมาจากฝักแล้วฟันทีเดียว ซึ่งผู้ใช้ดาบต้องผ่านการฝึกฝนมานานมากๆ ถึงจะทำแบบนี้ได้ ที่มา oriconofficial

ในช่วงสิบกว่าปีทีผ่านมานี้ ต้องยอมรับเลยว่า ซีรี่ย์ เพลง และหนังจากประเทศเกาหลี กลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก แต่เมื่อมีขึ้นก็ต้องมีลง หลังหนึ่งในสถานียักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นประกาศแล้วว่า จะไม่ฉายซีรี่ย์เกาหลีอีกต่อไป     โดยทางช่อง NHK ได้แถลงเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ทางช่องจะไม่นำซีรี่ย์เกาหลีมาฉายอีกต่อไปแล้ว โดยเรื่องสุดท้ายที่จะออกอากาศคือ “Empress Ki” หนึ่งในผู้คร่ำหวอดในวงการโทรทัศน์ของญี่ปุ่นกล่าวว่า “ตอนนี้คนญี่ปุ่นเริ่มรู้สึกว่า ซีรี่ย์เกาหลีเรื่องหลังๆ ไม่สามารถนำเสนอเรื่องความรักได้ดีเท่ากับเรื่อง “Winter Sonata” ที่พวกเขาเคยดู” และเขายังบอกอีกว่า ปัจจุบันแม้นักแสดงเกาหลีรุ่นใหม่จะมีชื่อเสียงมากขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่สามารถครองใจผู้ชมในญี่ปุ่นได้ เขาคิดว่าการเป็นไอดอลพร้อมๆกับเป็นนักแสดงไปด้วย คงไม่สามารถตามรอยเท้าของสี่จตุรเทพดั้งเดิมซึ่งประกอบไปด้วย เบยองจุน, ลีบยองฮุน, วอนบิน และจางดองกัน     ก่อนหน้านี้ช่อง FujiTV ก็เคยโดนประท้วงเนื่องจากนำซีรี่ย์เกาหลีมาออกอากาศมากเกินไป จนทำให้เกิดความตึงเครียดในชุมชนชาวเกาหลีในกรุงโตเกียว และมีแนวโน้มว่าจะมีการต่อต้านการบริโภคสื่อจากเกาหลีอีกด้วย   เอ เหมียวเองก็ไม่ได้ติดตามซีรี่ย์เกาหลีเท่าไหร่ เรื่องสุดท้ายที่ดูก็คือ Full House โน่นเลย ใครที่ติดตามบ่อยๆ ก็ช่วยมียืนยันทีว่ามันแย่ลงจริงๆหรือเปล่า ที่มา soompi.com

เคยเป็นกันไหม เวลากินข้าวโพดทีไร ต้องเลอะเทอะวุ่นวายตลอด บางทีก็มีเศษเข้าโพดเข้าไปติดในฟันด้วย แต่วันนี้ปัญนั้นจะหมดไปแล้ว เมื่อเรามีเจ้าของสิ่งนี้!!!   มันคือมีดปอกข้าวโพดนั่นเอง ซึ่งออกแบบโดย Fubasami Takanezawa และ Hirokai Fujita โดยเราสามารถปอกเมล็ดข้าวโพดออกมาจากแกนได้เลยทั้งแถว โดยที่ไม่เสียเนื้อไปแม้แต่นิดเดียว แถมตัวมีดก็มีน้ำหนักเบามากเพียง 18 กรัมเท่านั้น   โดยสินค้าตัวต้นแบบได้ชนะรางวัล Excellence Award ในงาน Personal Handy Tip Invention Exhibition เมื่อปี 2010 และเมื่อวางจำหน่ายปุ๊บ ก็ทำยอดขายได้ 40,000 ชิ้นภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว     วิธีการใช้งานก็ไม่ยาก แค่จับข้าวโพดให้มั่น แล้วใช้มีดปอกค่อยๆแซะจากปลายด้านที่มีก้าน แค่นั้นก็เรียบร้อยแล้ว       ใครสนใจก็สั่งซื้อได้จาก  Amazon Japan สนนราคาอยู่ที่อันละประมาณ 250 บาท รับรองว่าชีวิตการกินข้าวโพดของคุณจะง่ายขึ้นอย่างแน่นอน!!!       ที่มา Rocketnews24

โดยปกติแล้ว ร้านอาหารก็มักจะตกแต่งภายนอกให้มันดูน่าดึงดูดคนให้เข้ามาใช้บริการ ถ้าเป็นร้านขนมมก็คงจะมีรูปหรือสีสันที่มันหวานแหววเสียหน่อย คนจะได้รู้ว่านี่คือร้านขนมนะ แต่ที่ญี่ปุ่น ถ้าคุณไปเจออาคารลักษณะแบบนั้น ขอให้เผื่อใจไว้นิดนึง เพราะอาจจะไปเจอห้องน้ำเข้าจังๆ นี่คือห้องน้ำสาธารณะที่ประเทศญี่ปุ่น สร้างมาเพื่องานจัดแสดง Toilennale ที่เมืองโออิตะ มันคือห้องน้ำปกติที่คนสามารถเข้าไปใช้บริการได้ แต่ที่แปลกตาก็คือมันประดับไปด้วยของหวานนานาชนิด Toilennale เป็นชื่อที่รู้จักกันในทุกๆ 2 ปี จะมีศิลปิน 16 คนได้ทำการเปลี่ยนห้องน้ำสาธารณะ 16 แห่งให้กลายเป็นห้องน้ำที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร   ห้องน้ำของหวานแห่งนี้มีชื่อว่า Melting Dream สร้างโดยศิลปิน 3 ท่าน Minako Nishiyama, Mika Kasahara และ Yuma Haruna   เราไปดูบรรยากาศกันเลย   ญี่ปุ่นนี่เขาก็ช่างสรรหาไอเดียแปลกๆขึ้นทุกวันเนอะ แม้แต่ห้องน้ำที่เราใช้กันอย่างทุกวันก็สามารถทำให้มันน่าดูน่าเข้าได้ด้วย ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริงๆ ที่มา sobadsogood

ในปัจจุบัน แมวกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมในหมู่คนทั่วไปอย่างมาก แน่นอน ทำให้หลายบริษัทหันมาทำสินค้าเกี่ยวกับแมวมาขาย และวันนี้เหมียวจะพาไปชมที่วางปากรูปน้องเหมียว ที่คุณๆเห็นแล้วจะต้องอยากได้อย่างแน่นอน สินค้าสุดน่ารักชิ้นนี้มีชื่อว่า Hanasanainyaa เป็นที่เสียบปากกาผลงานของบริษัทขายสินค้าเกี่ยวกับแมว Felissimo    จะมองข้างหน้าหรือว่าข้างหลังก็น่ารักเกินจะห้ามใจไหว   นอกจะเอาไว้เสียบปากกาแล้วเนี่ย เรายังสามารถเสียบอะไรที่เป็นแท่งๆ เช่นแปรงแต่งหน้า หรือลิปสติกก็ได้   เจ้าที่เสียบปากกาสุดน่ารักอันนี้ จะขายเป็นชุด ชุดหนึ่งจะประกอบไปด้วยแมวหกตัวอย่างที่เราเห็น และขายในราคาประมาณ 250 บาทต่อชุด   และรายได้ส่วนหนึ่งเขาจะบริจาคให้องค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือสัตว์อีกด้วย   จะเอาไว้เสียบแผ่นกระดาษโน๊ตหรือโพสอิทก็ได้นะ     น่ารักจริงๆเลย เห็นแล้วอยากจะได้มาประดับโต๊ะเขียนหนังสือซักชุดมั้ยละเพื่อนๆ อิอิ ที่มา rocketnews24

ประเทศญี่ปุ่นมีชื่อเสียงในการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์เจ๋งๆ ไอเดียดีๆมากมาย ถึงแม้ว่าบางอันมันจะดูหลุดโลกไปหน่อยก็ตามเถอะ อย่างที่เหมียวจะพาไปชมวันนี้ นั่นก็คือ “ร่มเก้าอี้” นั่นเอง หลายคนอาจจะงงว่า ร่มกับเก้าอี้มันจะมาอยู่ด้วยกันได้ยังไง ไปดูกันเลยดีกว่า   เฮ้ย เสียบเข้าไปในรูก้นเลยเรอะ?!?!   อ่อเปล่า มันสามารถกางออกมาเป็นที่รองก้นได้นี่เอง   วิธีใช้ก็ง่ายๆ กางด้ามจับร่มออก แล้วก็ระวังไม่ให้มีเด็กที่ไหนมาเตะร่มคุณก็พอ   แน่นอน นอกจากเป็นเก้าอี้แล้ว ยังเป็นร่มได้ด้วย!!! แต่ใช้ร่มพร้อมเก้าอี้ไม่ได้นะ   เห็นแล้วอยากได้เป้นเจ้าของมั้ยละ อันละแค่ประมาณ 1500 บาทเท่านั้นเอง   หลายคนอาจนึกภาพไม่ออก ลองไปดูคลิปกัน     ถือว่าไอเดียดีนะ…แต่ใครจะซื้อละเนี่ย เหมียวคนหนึ่งละไม่ซื้อแน่ๆ แล้วเพื่อนๆละ อยากได้ซักอันอ๊ะป่าว ที่มา rocketnews24

‘หุ่นไล่กา’ ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญของเกษตรกรเลยทีเดียว เพราะพวกเขามักจะสร้างมันขึ้นมา เพื่อทำให้พวกนกทั้งหลายตกใจกลัว เวลาที่มันจะมาจิกกินพืชผลต่างๆ โดยหุ่นไล่กาส่วนใหญ่ที่เราเคยเห็นและคุ้นเคย มักจะถูกขึ้นด้วยฟาง และทำให้เป็นรูปคนใช่ไหมละ แต่สำหรับเกษตรกรชาวญี่ปุ่น พวกเขานิยมใช้ ‘หัว’ ของหุ่นลองเสื้อผ้า แล้วนำมาเสียบไม้ปักไว้กลางทุ่งนาแบบนี้…     โอ้ววว เห็บแว๊บแรกก็ทำเอาต๊กกะใจหมดเยย!!   ซึ่งภาพของหุ่นไล่กาเหล่านี้ ถูกถ่ายขึ้นมาโดย Dennis Doucet ช่างภาพชาวแคนาดา ผู้ที่ได้อาศัยอยู่ในเมือง Kobe  ประเทศญี่ปุ่นมานานกว่า 27 ปียังไงละเหมียว     ตลอดเวลาที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น Dennis ได้พบเจอเรื่องราวต่างๆ มากมาย รวมทั้งหุ่นไล่กา ‘หัวคน’ สุดแปลกของเกษตรกรชาวญี่ปุ่น ที่ดูขนลุก และสยองมากๆ เลย     ดูใกล้ๆ ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าดูไกลๆ คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ หรือนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาเห็น อาจจะเข้าใจผิด คิดว่าเป็นหัวคนจริงๆ ก็ได้นะ     และที่สำคัญเหตุที่เกษตรกรชาวญี่ปุ่น ได้นำหัวหุ่น มาทำเป็นหุ่นไล่กาก็เพราะว่า…

  ชายคนนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘Daasuke’ เขาเป็นคนนักถ่ายทอดสดผ่านเว็บแคม ซึ่งก็มีคนดูอยู่จำนวนหนึ่ง โดยปกติแล้วเขาก็จะเล่นเกมให้ดูบ้าง ทำอะไรอย่างอื่นบ้าง ซึ่งในคลิปนี้เขาพยายามที่จะโชว์ทริคบางอย่างเกี่ยวกับไม้ขีดไฟที่เพิ่งซื้อมาใหม่ แต่กลับพลาดทำไฟไหม้ เหมือนกับว่าไม้ขีดที่เขาใช้ไฟยังไม่ดับ เมื่อเขาได้เอาทิ้ง ไฟได้เริ่มลุกไปยังถุงใส่ของบางอย่างที่ติดไฟเป็นอย่างดี เขาจึงพยายาที่จะย้ายถุงนั้นออกไปไกลๆ พร้อมกับใช้กล่องกระดาษลังในการดับ แต่กลับไปเป็นไปอย่างที่คาดคิด เพราะมันกับทำให้ไฟเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปเอาน้ำมาราด แต่ก็ไม่ทันการ เพราะไฟได้ลามอย่างรวดเร็วจนเขาไม่สามารถควบคุมได้เลย สุดท้ายก็ไหม้ทั้งหลัง   เราไปชมคลิปเหตุการณ์นี้กันเลยดีกว่า เริ่มที่ประมาณนาทีที่ 4.50   ถ้าฟังดีๆแล้ว ในคลิปจะมีเสียงแจ้งเตือนของคนที่กำลังดูเขาถ่ายทอดสดอยู่ อ้างอิงจากเว็บไซต์ techly ได้ระบุว่าคนที่ชมเขาในตอนนั้นพยายามเตือนเขาเรื่องที่ไฟกำลังไหม้ถุงขยะข้างหลังเขา พร้อมทั้งสังเกตการณ์อยู่ตลอด

หากใครยังจำเธอได้กับนางฟ้านักวอลเลย์บอลทีมชาติคาซัคสถาน ซาบีนา อัลตึนเบโควา (Sabina Altynbekova) วัย 18 ปีที่ได้ขโมยหัวใจทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่จากการเข้าร่วมแข่งขันวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2014 ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน จนโด่งดังไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต         ซึ่งหลังจากการแข่งขันวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงชิงแชมป์เอเชียปี 2014 นั้น ทีมชาติคาซัคสถานได้อันดับ 7 ในการแข่งขันจากทั้งหมด 15 ทีม และด้วยฝีมือของตัวเธอก็โดนใจผู้จัดทีมวอลเลย์บอล GSS Sunbeams จากลีค V Challenge ของประเทศญี่ปุ่น ก็เลยมีการติดต่อเพื่อขอให้เธอมาเข้าร่วมทีมตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา               ปัจจุบันซาบีนาเข้าร่วมฝึกกับ GSS Sunbeams ทีมวอลเลย์บอลโตเกียว โดยมีการประกาศผ่านเว็บไซต์ทีมว่าเธอเป็นสมาชิกของทีมอย่างเป็นทางการแล้ว ส่วนในเรื่องของการทำสัญญานักกีฬานั้นยังคงอยู่ในกระบวนการ   ภาพของซาบีนาบินมาถึงโตเกียวและเที่ยวย่านชินจุกุ       นอกจากจะเป็นนักกีฬามืออาชีพแล้ว เหมียวเองก็คิดว่าเธอน่าจะเป็นนางแบบมืออาชีพได้เหมือนกันนะเนี่ย ยิ่งมาอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วย วงการนางแบบก็คงอยากจะคว้าตัวเธอมาอยู่ในสังกัดแน่นอน…

Ima Moteki นักออกแบบคู่หูชาวญี่ปุ่นได้สร้างผลงานชิ้นหนึ่งขึ้นมาชื่อว่า Nameless Paints หรือ “สีไร้ชื่อ” โดยจุดประสงค์ของเขาก็คือแทนที่การจะใช้ชื่อสีแปะลงไปบนหลอดสี เขาได้ทำการใช้เครื่องหมายสีที่ผสมกันแล้วจะได้สีนั้นออกมาแปะลงไปแทน ผู้ที่ออกแบบ “สีไร้ชื่อ” คือ Yusuke Imai และ Ayami Moteki พวกเขามองว่าการติดชื่อสีไปเลยอาจสร้างปัญหาได้ “เราไม่ได้เขียนชื่อสีลงไป เราต้องการที่จะอธิบายสีนั้นๆโดยการเขียนสีที่ผสมกันได้ลงไปแทน เด็กก็จะสามารถหาสีที่ต้องการได้จากการผสม” นอกจากนี้ยังเป็นการสอนทฤษฎีสีไปในตัวด้วย ป้ายผสมสีในแต่ละหลอดจะทำให้เด็กเข้าใจว่าแต่ละสีมีที่มาอย่างไร เวลาเราขาดสีนั้นจริงๆจะได้ทำออกมาได้เอง   ที่มา  spoontamago

เราคงคุ้นเคยกับยางรัดแกงกันเป็นอย่างดี มันอยู่คู่บ้านคู่เมืองเรามาตั้งนานนมจนเรารู้สึกไปเองว่ามันจะไม่สามารถพัฒนาอะไรไปได้มากกว่านี้แล้ว นอกจากสีของมีที่มีแต่ แดง เขียว ส้ม แต่ที่ญี่ปุ่น เขาได้ต่อยอดเจ้ายางรัดนี้ให้ดูมีมูลค่ามากยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มโบว์ลงไป เพื่อที่จะได้เอาไปใช้งานได้หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะการมัดห่อของขวัญ ก็ไม่ต้องไปเพิ่งยางรัดอย่างอื่นที่หายากแล้ว ยางรัดนี้เรียกว่า Mizuhikiband ซึ่งคำว่า mizuhiki เป็นคำเรียกการมัดของญี่ปุ่น ไอเดียนี้มาจาก Yu Aso ผู้เคยได้รับรางวัล Kokuyo Design Awards ในปี 2013 และยางเส้นนี้เขาใช้เวลาพัฒนามันนานกว่า 2 ปี และการมัดแบบนี้ที่ญี่ปุ่นเรียกกันว่า Hanamusubi ที่มีรูปร่างคล้ายกับผีเสื้อ   ภายในซองของ Mizuhikiband จะประกอบไปด้วยยางรัดจำนวน 7 เส้น มีทั้งหมด 4 สี ราคาประมาณ 140 บาท ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ kokuyo.co.jp | origami-resource-center.com ที่มา spoon&tamago

ปกติแล้วอาหารมันต้องเป็นสีธรรมชาติจากวัตถุดิบ ซึ่งต่อให้วัตถุดิบสีแปลกแค่ไหน ก็เราก็สามารถกินได้ เพราะเรารู้ว่ามันมีที่มาจากอะไร แต่วันนี้เหมียวจะพาไปดูอาหารที่หลายคนคุ้นเคยกันดี นั่นก็คือ “อุด้ง” อาหารแนวเส้นๆจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถ้าใครเคยกินก็คงรู้ว่าเส้นมันจะออกสีไข่ๆ เส้นหนาๆ อวบๆ มีเต้าหู้หรือเครื่องเคียงต่างๆอยู่ด้วย   แต่มีนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่จบจากสาขาชีวเคมีคนหนึ่งชื่อว่า “คุราเระ ราคุ” ผู้ตั้งฉายาให้ตัวเองว่านักวิทยาศาสตร์สุดบ้า ได้สร้างอุด้งจานหนึ่งขึ้นมาเพื่อใช้แสดงในงาน Science Festival ที่จัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น และอุด้งที่เขาสร้างคือ “Electrical Udon” หรืออุด้งหลากสีนั่นเอง   และนี่ก็คืออุด้งของเขา น่ากินไหมล่ะ ส่วนสีน้ำเงินนั้นคือเต้าหู้   นี่ก็เป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง   ทั้งหมาดนี้เขาย้อมสีด้วยสารเคมีที่กินได้และไม่เป็นพิษต่อร่างกาย และไม่ทำให้รสเปลี่ยนไปด้วย ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไง ไปดูคนกินจริงๆเลยดีกว่า ที่มา elitereaders

เรื่องของเสรีภาพการแสดงออกทางด้านเพศนั้นถือว่าเป็นที่ยอมรับในหลายๆ ประเทศแล้ว และดูเหมือนว่าโลกของเราจะเปลี่ยนไปเร็วมากๆ ซึ่งที่ญี่ปุ่นก็ดูเหมือนจะไม่แปลกอะไร กับการที่ผู้ชายแต่งชุดคอสเพลย์เป็นตัวละครเพศหญิงตามการ์ตูนเรื่องต่างๆ     แต่สำหรับคราวนี้มันกลับแปลกออกไป เมื่อผู้คนในย่านอะกะซะกะ ณ เมืองโตเกียวสังเกตเห็นบุคคลปริศนารายหนึ่งในชุดเจ้าสาวสีขาวสุดอลังการมาโผล่อยู่กลางเมือง และผู้ที่ใส่ชุดเจ้าสาวนี้เป็นชายมีอายุซะด้วย ใส่ชุดเดินไปเดินมาทำตัวปกติมาก ราวกับว่าไม่มีอะไรผิดปกติเลย!!   赤坂でウェディングドレスの人が歩いてる…wwwww pic.twitter.com/2t2hFVbwzv — かえでのヘアピン(CVまなみ) (@tokistar86) 19 พฤษภาคม 2015   赤坂見附にウェディングドレス姿の人が。。よくみたらおじさんやった。。なんか赤い風呂敷みたいなん持っていた。ウェディングおじさん。。しかもマスクしてた。。。 pic.twitter.com/6n3RqjoEgy — 福澤悠子 (@yun009_xyz) 19 พฤษภาคม 2015   ซึ่งก่อนหน้าที่มีคนพบเห็นผู้ชายใส่ชุดเจ้าสาวโผล่ในบริเวณเดียวกันเมื่อ 3 เดือนที่แล้วด้วย ทั้งนี้ก็ไม่ทราบได้ว่าจุดประสงค์ที่ชายมีอายุนั้นต้องมาใส่ชุดเจ้าสาวแบบนี้ทำไปเพื่ออะไรกันแน่ อาจจะเป็นความชอบส่วนตัวหรืออย่างไร? ทิ้งทวนเอาไว้ให้งงกันทั้งบางกันเลยทีเดียว ที่มา : rocketnews24

เดี๋ยวนี่การทำคาเฟ่หรือร้านกาแฟน่ารักมุ้งมิ้งมักจะนำสัตว์ต่างๆ มาเป็นจุดขายด้วยเพื่อดึงดูดลูกค้าที่มีความชื่นชอบในสัตว์แต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็นทั้งสุนัข แมว กระต่าย นกฮูก และสารพัดสัตว์ที่มีความน่ารักแทบทั้งสิ้น     จะว่าไปแล้วอาจจะไม่ถูกใจคนทั่วไปซะทั้งหมด เพราะว่าคนเรามีความชอบไม่เหมือนกัน หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบสัตว์แปลกๆ ประเภทสัตว์เลื้อยคลาน เหมียวว่าที่นี่จะเหมาะกับคุณมากๆ เลยล่ะ!!     คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองโยะโกะฮะมะ ประเทศญี่ปุ่น มีชื่อร้านว่า Hachurui Cafe แปลตรงตัวเลยก็คือคาเฟ่สัตว์เลื้อยคลานนั่นเอง ป้ายร้านก็จะมีจุดสังเกตให้เห็นเด่นชัดเลยล่ะ     เมื่อเข้ามาภายในร้านก็จะพบกับเหล่าสัตว์เลื้อยคลานตัวเล็กตัวน้อยที่อยู่ในตู้โชว์กว่า 20 สายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นทั้งงู กิ้งก่า และเต่า     ภายในร้านก็จะมีเมนูเหมือนกับคาเฟ่ทั่วๆ ไป มีขนม มีชา กาแฟต่างๆ ให้ลูกค้าเลือก และที่คาเฟ่แห่งนี้มีความแตกต่างจากคาเฟ่สัตว์อื่นๆ ก็คือเพียงแค่สั่งเครื่องดื่มแค่ 1 อย่าง ลูกค้าสามารถนั่งยาวๆ ได้โดยที่ไม่มีการจำกัดเวลา       มีทั้งบริเวณนั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม และบริเวณที่เข้าชมสัตว์เลื้อยคลานภายในร้าน ทั้งบริเวณที่ปิดและเปิดให้เข้าชมได้อย่างใกล้ชิด      …

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีงานทางด้านการให้บริการเยอะแยะมาก!! มากซะจนแบบว่ามีแทบทุกอย่างที่พร้อมจะอำนวยความสะดวกให้กับคุณ เพียงแค่มีเงินพร้อมจะจ่ายแค่นั้นเอง     และล่าสุดนี้การให้บริการในรูปแบบของที่ปรึกษาทางด้านการผ่อนคลายอารมณ์ที่เหมาะกับสาวๆ มากเลยก็คือ ‘บริการหนุ่มหล่อให้เช่า’ โดยจะเป็นในรูปแบบของการบำบัดสุขภาพจิตด้วยการร้องไห้ ให้ผู้หญิงได้ปลดปล่อยความเครียดออกมา โดยจะมีสุภาพบุรุษสุดหล่อคอยเช็ดน้ำตาให้ แถมยังมีหนุ่มหล่อแต่ละประเภทให้เลือกอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น   แนวน้องชายหน้าตาดี   แนวพี่ชาย ที่ดูมีอายุมากกว่านิดนึง แต่หล่อ!!   แนวผู้ชายสุขุม นุ่มลึก   แนวผู้ชายสมาร์ทดูฉลาดหลักแหลม   แนวแบดบอยก็มีนะเออ หล่ออีกต่างหาก   หรือจะชอบแบบแนวหมอฟัน (ใช้แปรงสีฟันเช็ดน้ำตาให้รึเปล่าเนี่ย?)   ซึ่งหากเลือกหนุ่มหล่อได้แล้ว เขาก็จะมาหาคุณที่ทำงานพร้อมกับเปิดวิดีโอที่จะชวนให้คุณน้ำตาไหลและร้องไห้ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อปลดปล่อยความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และเมื่อเขาเช็ดน้ำตาให้คุณแล้วเขาก็จะจากไปในทันที (หมดเวลาแล้ว เธอคงต้องไป!!) อย่างไรก็ตามบริการใหม่นี้จะเริ่มให้บริการในวันที่ 24 กันยายนที่จะถึงนี้ ค่าบริการเช่าต่อครั้งก็ตกอยู่ที่ประมาณ 2,349 บาท (7,900 เยน) แล้วมีสาวไทยคนไหนอยากลองเช่าหนุ่มหล่อมาเช็ดน้ำตาให้บ้างมั้ยเนี่ย? ที่มา : rocketnews24

ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “ร่ม” นั่นเอง เวลาจะออกจากบ้านเราก็ต้องพกร่มออกไปด้วยเพื่อความปลอดภัย ัวันนี้เหมียวเลยจะพาทุกท่านไปชมไอเดียร่มสุดเจ๋งจากประเทศญี่ปุ่นกัน ของแบบนี้มันก็ต้องเป็นประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นแหละที่คิดออกมาได้ ร่มชนิดนี้มีชื่อว่า “pack up” โดยจุดเด่นของมันก็คือลวดลายของมันจะปรากฏก็ต่อเมื่อมันเปียกน้ำเท่านั้น อีกทั้งลวดลายของมันก็ทำออกมาในแบบญี่ปุ่นมากๆ เราไปชมรูปกันเลยดีกว่า   มีขายใน  Amazon ด้วยนะ สนใจก็คลิกไปได้ที่ นี่ นี่ นี่ และ นี่ โดยราคาอยู่ที่ประมาณ 500 – 1,200 บาทเองจ้า ที่มา boredpanda

เห็นหน้าตาสวยน่ารักแบบนี้ หลายคนคงจะคิดว่าเธอเป็นดารา หรือไอดอลสาวใช่ไหมละ แต่จริงๆ แล้ว สาวน้อยวัย 17 ปีนามว่า Beni Taketama คนนี้ คือเซียนแห่งวงการหมากรุกในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้     สาวน้อย Beni Taketama เริ่มเข้าสู่วงการหมากรุกญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งในขณะนั้นเธอพึ่งจะอายุเพียงแค่ 10 ขวบเท่านั้นเอง และที่สำคัญเธอยังเคยคว้าชัยชนะเป็นครั้งแรกในศึก Koma-Hime Championship มาแบบเก๋ๆ อีกด้วย โอ้ว…สุดยอดไปเลย     ต้องขอบอกเลยว่านอกจากเธอจะมีหน้าตาสวย น่ารักแล้ว ฝีมือการเล่นหมากรุกของเธอก็ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เพราะจากฝีมือธรรมดาๆ เธอสามารถไต่อันดับการเล่นหมากรุกขึ้นมา จนกลายเป็นเซียนหมากรุกญี่ปุ่นได้อย่างรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อเลยละ     หนุ่มๆ อยากจะลองประลองฝีมือกับเธอดูสักครั้งมั้ยละ   หรือเพราะความน่ารัก จนทำให้หลายต่อหลายคนพ่ายแพ้เธอ อิอิ!!   ทั้งสวยและเก่งแบบนี้ เหมียวนี่ต้องขอยกนิ้วให้เธอเลยครัช ที่มา : rocketnews24

โดยตามธรรมเนียมของคนญี่ปุ่นแล้ว ฝ่ายสามีจะเป็นผู้ที่ออกไปทำงานหาเงินเพื่อเลี้ยงครอบครัว ส่วนภรรยาก็จะทำหน้าที่เป็นแม่บ้านที่ดี คอยต้อนรับและดูแลสามีที่เหนื่อยล้าจากการทำงานหนักมาทั้งวัน ซึ่งคาเฟ่เมดแห่งนี้ได้นำไอเดียดังกล่าวมาใช้แล้ว!!     คาเฟ่เมดแห่งนี้อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ณ เมืองโตเกียว โดยเหล่าเมดทั้งหลายจะมาในชุดบิกินี่และชุดผ้ากันเปื้อนแบบแม่บ้าน ที่จะมาเป็นภรรยาสุดสวยคอยต้อนรับสามีที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน (เปลี่ยนบทบาทจากสาวเมดมาเป็นภรรยานั่นแหละ)     โดยคาเฟ่แห่งนี้มีชื่อว่า Ore no Yome (แปลเป็นไทยคร่าวๆ ก็ประมาณ ‘ภรรยาของผม’) ตั้งอยู่ในย่าน Higashi Ikebukuro ของเมืองโตเกียว ซึ่งหากคุณจะมาใช้บริการคาเฟ่แห่งนี้จะต้องเปิดเผยชื่อของคุณด้วย เพราะว่าเหล่าสาวเมดจะเรียกชื่อคุณ เวลาที่คุณเข้ามาใช้บริการ และจะคอยดูแลเหมือนดั่งภรรยาที่ดี     ด้วยพันธกิจที่ต้องการให้คุณมีความรู้สึกอยากจะกลับบ้าน (คาเฟ่) ทุกวันเลย แหม่!! อะไรจะขนาดนั้นเนี่ย สำหรับหนุ่มโสดก็คงไม่มีปัญหาเท่าไหร่ แต่คนที่มีภรรยาอยู่แล้วนี่สิ จะเป็นยังไงล่ะเนี่ย? ที่มา : fooyoh

  ญี่ปุ่นนี้เป็นต้นแบบของความคิดสร้างสรรค์จริงๆ ไม่ว่าจะทำอะไร เขาก็คำนึงถึงความครีเอทีฟและความแปลกใหม่อยู่เสมอ อย่างเช่นคลิปที่เหมียวนำมาให้ดูในวันนี้ นี่คือโฆษณาตัวหนึ่งที่ให้หนุ่มญี่ปุ่นกว่า 47 คนมายืนเรียงกันแล้วโยนเหรียญลงไปในแก้ว ซึ่งในแก้วนั้นก็ได้ใส่น้ำไว้ต่างปริมาณกัน เพื่อที่ว่าเวลาเหรียญไปกระทบกับแก้วแล้วจะเกิดเป็นทำนอง สาเหตุที่พวกเขาโยนเหรียญลงในแก้วได้แม่นยำนั้นก็เพราะว่าเขาใช้ไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อให้เกิดปฏิกิริยากระตุกแขน ซึ่งทั้งหมดก็ผ่านการคำนวนมาเป็นอย่างดี เราไปดูการทำงาน รวมทั้งเพลงที่เขาสร้างกันเลย   ที่มา サントリー公式チャンネル （SUNTORY）

ที่บ้านเรามักมีความเชื่อที่ไม่ดีเกี่ยวกับ “แมวดำ” ในโบราณเขาถือว่าแมวดำเป็นแมวแห่งความโชคร้าย ด้วยขนของมันที่เป็นสีดำทำให้ดูลึกลับน่ากลัว คนส่วนใหญ่จึงไม่นิยมเลี้ยงแมวดำ แต่กลับกันที่ประเทศญี่ปุ่น เขาก็มีแมวดำเหมือนกันและไม่มีความเชื่ออะไรแบบบ้านเรา ถึงขั้นมีการสร้างคาเฟ่แมวดำเลยล่ะ     อย่างที่รู้ว่าญี่ปุ่นนั้นมีคาเฟ่แมวอยู่มากมาย แต่นี่คือคาเฟ่แมวดำแห่งแรกในญี่ปุ่น และในโลก ที่ชื่อว่า “Nekobiyaka” ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟอยู่ในเมืองฮิเมะจิ จังหวัดเฮียวโงะ   ภายในร้านจะมีเจ้าแมวดำพร้อมให้ความสุขคุณอยู่มากมาย ไม่ต้องแปลกใจเลย เพราะมันมีขนที่ดำเหมือนกันหมดจนแยกไม่ออก ทางร้านจึงนำผ้าพันคอหลากสีมาพันไว้ที่คอเจ้าแมว เพื่อที่ลูกค้าจะได้แยกออก     กฎของทางร้านก็คือ ห้ามถ่ายรูปโดยใช้แฟลช ทางร้านจะมีหนังสือที่ระบุชื่อและวันเกิดของแมวทุกตัวไว้ให้ลูกค้าอ่าน   เจ้าแมวดำที่นี่จะซนมาก       ค่าเฟ่แมวดำนี้จะแต่งเป็นสไตล์ห้องนั่งเล่น ไว้ให้ลูกค้านั่งผ่อนคลาย พร้อมเมนูเครื่องดื่มอีกมากมายไว้คอยบริการ     เล่นซนกันใหญ่เลย     เหมือนกันหมดทุกตัวแยกไม่ออกจริงๆ     หากใครได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นก็อย่าลืมลองไปแวะดูนะจ้ะ     ไม่ว่าจะแมวสีอะไร พันธุ์อะไร มันก็มีความน่ารักทุกตัว เพราะเหมียวเป็นสัตว์เล็กๆ ที่น่าร๊ากกกก ที่มา animalcafes

เหมียวเชื่อว่าหลายคนคงชอบการมาสก์หน้า เพราะมันเป็นการบำรุงผิวที่สบายและฟินสุดๆ ถ้าเกิดว่าวันไหนคุณเหนื่อยๆจากการทำงาน สีหน้าเหนื่อยล้าเป็นอย่างยิ่ง การได้ใช้แผ่นมาสก์หน้าก็เป็นทางออกที่ดีไม่ใช่น้อย และนี่คือแผ่นมาสก์หน้าไอเดียกิ๊บเก๋จากประเทศญี่ปุ่น จากบริษัท Isshin-do Honpo ซึ่งเขาทำออกมาในรูปแบบหน้าของซุปเปอร์ฮีโร่ชื่อดังอย่าง Captain America และ Ironman สรรพคุณของแผ่นมาสก์หน้านี้ก็เหมือนแผ่นมาสก์หน้าทั่วๆไป ใช้หน้าแล้วจะสดใสผุดผ่องเหมือนกับซุปเปอร์ฮีโร่เลย ถ้าสนใจก็ลองไปดูสินค้าได้ที่นี่เลย ราคาอยู่ที่ประมาณ 945 บาทเท่านั้น ที่มา sobadsogood

นิตยสารนั้นมีมากมายหลายประเภทเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นนิตยสารแต่งบ้าน แต่งรถ แฟชั่น ทำอาหาร นิตยสารสำหรับผู้หญิง สำหรับผู้ชาย เรียกได้ว่ามีทุกประเภทจริงๆ แต่นิตยสารที่เหมียวจะมานำเสนอวันนี้ พวกคุณจะต้องไม่เคยเห็นแน่นอน!! เพราะมันมีเฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นน่ะสิ จะเรียกว่าเป็นนิตยสารสำหรับผู้หญิงหรือผู้ชายดีล่ะ เพราะมันคือ “นิตยสารหัวนมผู้ชาย” ที่มีชื่อว่า “I Love Everyone! Man’s Nipple.” เนื้อหาในนิตยสารก็เป็นรูปหัวนมเน้นๆเลย โดยจะมีหัวนมมากมายหลายแบบ ของผู้ชายหลายคน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสวยงามและประโยชน์ของหัวนมผู้ชาย   หน้าปกนิตยสาร   นมเน้นๆ   โอ้ยยย เซ็กซี่มั่กๆ     มีมากมายหลายแบบ ฮ่าาาาา   เรื่องความแปลก ความครีเอทต้องยกให้ญี่ปุ่นเค้าจริงๆ ที่มา en.rocketnews24

ในยุคสมัยแบบนี้เหมียวคิดว่า คนส่วนใหญ่คงไม่มีใครนิยมอ่านหนังสือเล่มหนาๆ โตๆ กันแล้วล่ะ (แค่เล่มบางๆเห็นแล้วยังง่วงเลย) ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ชาวไอทีหลายคนคงหันมาอ่านจาก E-Books แอปพลิเคชันอ่านหนังสือในโทรศัพท์มือถือแทน ยูโตะ ยามากูชิ (Yuto Yamaguchi) ศิลปินชาวญี่ปุ่น ผู้ที่เปลี่ยนหนังสือปกหนาเล่มเก่าให้กลายเป็น สุดยอดศิลปะการพับหน้ากระดาษ หรือที่เรียกว่า “Orufun”     “Orufun” เป็นการพับกระดาษในหนังสือให้มีรูปร่างลักษณะแบบ 3 มิติ คล้ายกับการแกะสลัก   นี่เป็นงานฝีมือของ ยูโตะ ยามากูชิ (Yuto Yamaguchi) ล้วนๆ เขาบอกว่าเป็นการพับกระดาษที่ไม่มีการใช้กรรไกรตัดหรือเอามีดกรีดแต่อย่างใด   มีรายละเอียดและวิธีการพับที่ซับซ้อนมาก ต้องใช้ทักษะและฝีมือล้วนๆ   แรงบันดาลใจในการออกแแบของเขาก็มาจากภาพยนต์หรือตัวการ์ตูนที่ชื่นชอบ   การพับลักษณะนี้เมื่อคลี่กระดาษออกมาก็สามารถนำมาอ่านได้ปกติเหมือนเดิม   จุดเด่นของงานศิลปะแบบ OruFun ก็คือวิธีพับกระดาษของหนังสือแต่ละหน้าด้วยความประณีต และทำได้ออกมาเป๊ะ สวยงามตามแบบ ดูแล้วไม่ง่ายเลยจริงๆ ต้องขอคาราวะให้กับความสามารถของ ยูโตะ ยามากูชิ ศิลปินชาวญี่ปุ่นท่านนี้ และสามารถติดตามชมผลงานของเขาได้ที่ yutoyamaguchi มีผลงานเจ๋งๆอีกเพียบ ที่มา viralnova

ปัจจุบันลักษณะรูปแบบของแพนเค้กได้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ได้เป็นแค่แผ่นกลมๆเพียงอย่างเดียว ยังมีการแต่งแต้มลวดลายเข้าไปให้ดูน่ากิน ไอเดียการทำแพนแค้กลายตัวการ์ตูนนี้ ถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้ยูทูป uriah2004 ที่สาธิตวิธีการวาดลวดลายในการทำแพนเค้กรูปตัวการ์ตูนต่างให้ชมกัน หรือจะเรียกอีกอย่างว่า “Pancake Art” ก็ได้ รูปการ์ตูนที่เขาได้บรรจงสร้างบนแพนเค้กนั้น ช่างสวยงามน่าทึ่งราวกับภาพวาดบนกระดาษ มาชมฝีมือการทำแผนเค้กของเขากัน    แพนเค้กรูปโคนัน    ซากาตะ กินโทกิ ลายเส้นสวยละเอียดมาก    โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย    เอลซ่าก็มี    จากตัวการ์ตูนอันปังแมน   สวยงามใช่ไหมละ มาดูสิว่าเขาทำกันยังไง   ต้องใช้ทักษะและฝีมือในการทำสุดๆเลยล่ะ   เป็นไงบ้างจ้ะกับฝีมือการทำแพนเค้กการ์ตูน ดูแล้วเหมือนจะไม่ยากเลยใช่ไหม แต่ถ้าเหมียวได้ลองทำดูละก็… เละ!! ฮ่าๆ หากใครชื่นชอบฝีมือการทำแพนเค้กติดตามเขาได้ที่ uriah2004 เลยจ้า ที่มา rocketnews24

เชื่อว่าสาวๆ หลายคน โดยเฉพาะสาวออฟฟิต มักจะใส่ถุงน่องไปทำงานกันเป็นประทำอยู่แล้วใช่ไหมละ ซึ่งถุงน่องที่สาวๆ เลือกใส่ ก็คงจะเป็นถุงน่องสีเนื้อธรรมดาๆ ทั่วไป โดยเวลาใส่จะทำให้ขาของสาวๆ ดูเนียนขึ้นในพริบตา และในวันนี้เหมียวจึงได้นำแฟชั่นถุงน่องลายเพ้นท์เล็บ หรือ Fake Nail Stocking  ของฝากจากญี่ปุ่น มาให้สาวๆ ได้เลือกใส่กัน โดยลักษณะของถุงน่องลายเพ้นท์เล็บเหล่านี้ จะเป็นสีเนื้อเหมือนถุงน่องทั่วๆ ไป แต่ความกิ๊บเก๋ของมันอยู่ตรงที่ปลายถุงน่อง จะมีลวดลายการเพ้นท์เล็บเท้าให้เป็นสีสันต่างๆ แบบนี้…     แหม!! หลอกตาคนดูได้เนียนมากๆ เหมือนกับว่าสาวๆ ไม่ได้ใส่ถุงน่องเลยนะเนี่ย   ลวดลายคาวาอี้ฝุดๆ มีให้เลือกเยอะแยะมากมายกันเลยทีเดียว   นั่นแน่!! อยากได้กันใช่มั้ยละสาวๆ   สาวๆ คนไหนสนใจ ก็สามารถเข้าไปชมได้ในเว็บไซต์ bellemaison.jp  เลยจ้า รับรองว่ามีลวดลายสวยๆ ให้เลือกเพียบเลยล่ะ     เรียกได้ว่างานนี้สาวๆ ทั้งหลายไม่ต้องมานั่งเพ้นท์เล็บให้เสียเวลากันแล้ว แค่มีถุงน่องลายเพ้นท์เล็บ 1 คู่ ก็เอาอยู่!! ที่มา : youpouch

เรารู้กันอยู่แล้วนะคะว่า ญี่ปุ่นเป็นแหล่งกำเนิดการ์ตูนในวัยเด็กของเพื่อนๆเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เซเลอร์มูน โดราเอม่อน ชินจัง หรือแม้กระทั่งโปเกม่อน และตัวการ์ตูนที่เรารู้จักกันดี ก็คือ ปิกาจู ในงานเทศกาลฤดูร้อนที่เขตมินะโตะ มิไร (Minato Mirai) โยโกฮามา จะมีเจ้าปิกาจู ตัวละครชื่อดังจากการ์ตูนเรื่องโปเกม่อน ปรากฎอยู่มากมายแถวท่าเรือโยโกฮาม่า ในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งปีนี้เป็นการปรากฎตัวของเจ้าปิกาจู ครั้งที่ 2 แล้ว ชาวญี่ปุ่นจึงเรียกมันว่า เทศกาลปิกาจู แฟนคลับของปิกาจูจะต้องหลงใหลในความน่ารักของมัน เพราะเจ้าปิกาจูจะระบาดอยู่ทั่วเมือง ทั้งร้อง เล่น เต้นโชว์ ให้แฟนๆได้คลั่งไคล้ นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆมากมาย   1. การระบาดของปิกาจูตอนนี้กลายเป็นเทศกาลประจำปีไปแล้ว วิดีโอที่โพสต์โดย まりも (@yz_plant) เมื่อ ส.ค. 19, 2015 เวลา 5:36am PDT   2. ปิกาจูยักษ์ รูปภาพที่โพสต์โดย 煉ようかん (@neriyoukan) เมื่อ ส.ค. 19, 2015 เวลา 6:15am…

เรื่องของความรักมักจะมาพร้อมกับความหึง แต่ทว่าในกรณีนี้มันมาพร้อมกับความโหดร้ายและรุนแรงมากๆ เลยล่ะ ง และเรื่องมันเริ่มต้นขึ้น เมื่อมีหนุ่มญี่ปุ่นรายหนึ่งจับได้ว่าภรรยาของตัวเองดันไปมีชู้เป็นทนายความวัย 42 ปี!! เอาล่ะสิที่นี้….   แทนที่จะลงเอยด้วยการพูดจาดีๆ พ่อหนุ่ม Ikki Kozukai วัย 24 ปีมาพร้อมกับอารมณ์หึงรุนแรง บุกเข้าออฟฟิศชู้ของภรรยาในกรุงโตเกียวทันที รายงานข่าวบอกว่า เค้าก่อเหตุรุนแรงด้วยการรัวหมัดใส่หน้าชู้ไม่ยั้ง และพยายามถลกกางเกงคู่กรณีลง หลังจากนั้นก็ตัดน้องชายของชู้ทิ้งด้วยกรรไกรแต่งสวน!!   ภายหลังที่ตำรวจได้ทำการสอบสวน Kozukai แล้ว เขาก็ได้บอกเอาไว้ว่าได้นำชิ้นส่วนอันล้ำค่าของชู้ กดทิ้งลงชักโครกไปเรียบร้อย   โอ้ยยยย!! ทำไมถึงโหดร้ายกันได้ถึงขนาดนี้เนี่ยยยย ที่มา : japantoday, rocketnews24

ประเทศญี่ปุ่นเป็นสังคมที่มีความกดดันสูงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของหน้าที่การงานที่มีทั้งความรับผิดชอบและการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา แต่เชื่อเถอะว่าในชีวิตคนเราคงไม่มีใครยอมทำงานทั้งวันทั้งคืนตลอด 24 ชั่วโมงแน่ๆ อย่างน้อยก็ขอเวลาหาความสุขให้กับตัวเองบ้าง หลังจากที่ผ่านการทำงานอันเหน็ดเหนื่อยในแต่ละวัน ชาวญี่ปุ่นจะเผื่อเวลาเอาไว้พักผ่อน และทำในสิ่งที่ตนเองรักกับกิจกรรมต่างๆ เติมพลังชีวิตด้วยการมอบความสุขให้กับตัวเองเป็นรางวัลเล็กๆ น้อยๆ และพร้อมที่จะรับมือกับวันข้างหน้าต่อไป แต่ละบุคคลก็จะมีกิจกรรมที่ชื่นชอบแตกต่างกันไป ทั้งนี้ก็เป็นทั้งความรักและความชอบในกิจกรรมเหล่านั้น อย่างน้อยการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนแล้วล่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย? ถ้าหากรู้สึกเหนื่อยเมื่อยล้าจากการทำงาน ลองหาเวลาว่างเผื่อไว้สำหรับกิจกรรมที่ตัวเองชอบด้วย อย่างน้อยก็เพิ่มความสุขให้กับชีวิตได้นะ ที่มา : ck101

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจได้ตลอด เมื่อหลายวันเกิดเหมียวยังเสนอเรื่อง ที่เอาหนุ่มกล้ามมาดแมนมาเป็นพนักงานเสิร์ฟเอาใจสาวๆอยู่เลย และในวันนี้ที่ญี่ปุ่นเขามีคาเฟ่แปลกใหม่เกิดขึ้นอีกแล้วจ้าาาา คาเฟ่ซอมบี้นี้มีชื่อร้านว่า “Akihabara Culture Café” ตั้งอยู่ในเมืองชิโยดะ กรุงโตเกียว โดยคาเฟ่ซอมบี้นี้จะมีเฉพาะในช่วงวันที่26-28 เดือนตุลาคม ก่อนวันฮาโลวีน สาวพนักงานเสิร์ฟของร้านก็จะกลายร่างเป็นซอมบี้ และเมนูอาหารของทางร้านก็จะคิดขึ้นพิเศษเพื่อเข้ากับธีมวันฮาโลวีน ซึ่งในวันปกติพนักงานเสิร์ฟของร้านก็จะใส่ชุดฟอร์มแบบปกติต้อนรับ บริการลูกค้าด้วยหน้าตาที่สดใส   หน้าร้าน “Akihabara culture café”   พนักงานเสิร์ฟในวันปกติ   พอใกล้ฮาโลวีนเท่านั้นแหล่ะ   แปลงร่างเป็นซอมบี้…..   หลอนได้อีก   อาหารเมนูพิเศษ   เครื่องดื่มนี้มีชื่อว่า “Sangeria” หรือ “Zombi 2” ที่มาพร้อมกับลูกตาเสียบไม้ไผ่   เมนูนี้มีชื่อว่า “The Beyond” เค้กช็อคโกแลต ราสด้วยซอสราสเบอร์รี่ ให้ความรู้สึกเหมือนเลือดกระฉูด   เมนู “Let Sleeping Corpses Lie” ข้าวไข่เจียวที่แต่งด้วยไส้กรอก ทำคล้ายๆเหมือนโดนตัดนิ้วมือ อาหารก็ไม่สยองเท่าไรนะ มันสยองตรงพนักงานแต่งตัวเป็นผีนี่แหล่ะ บรึยส์…

ตอนนี้เทรนหุ่นดี กล้ามโต โชว์ซิกแพคกำลังมา หนุ่มๆสาวๆจึงพากันออกกำลังกายเพื่อที่จะได้มีหุ่นดี มีกล้ามที่สวยงาม คนญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน ร้าน “ทาเคโอะคาเฟ่”  ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นจึงเกิดไอเดียดี เอาหนุ่มนักกล้ามหน้าตาดีมาเป็นเด็กเสิร์ฟเพื่อดึงดูดลูกค้าสาวๆ บางคนก็เป็นถึงนักเพาะกายเชียวนะ นอกจากหนุ่มกล้ามจะทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารแล้ว ลูกค้าที่มาใช้บริการยังสามารถเชิญพวกเขามาพูดคุยที่โต๊ะได้เป็นเวลา 15 นาที เมนูขายดีของทางร้านก็คือ แพนเค้ก เพราะจะมีหนุ่มๆนักกล้ามมาโชว์ลีลาบีบครีมลงในแพนเค้กให้กรี๊ดกันถึงโต๊ะ มาดูสิว่าจะน่ากินขนาดไหน (หมายถึงแพนเค้กนะ)   คนต่อคิวยาวมากกกกก   ลูกค้าสามารถเลือกเด็กเสิร์ฟมาบริการส่วนตัวได้   แน่นมาก   เสิร์ฟแพนเค้กแล้วบีบครีมโชว์เลยค่ะ     บีบกระป๋องเบียร์ให้เป็นของที่ระลึกด้วย     ใหญ่มากกกกกก หมายถึงกล้าม   กรี๊ด!!! ฉันอยากไปอยู่ตรงนั้น     หิวเลย!! หิวข้าว     แต่น่าเสียดายที่ร้านนี้ไม่ได้เปิดให้บริการทุกวัน เพราะเขาเปิดเฉพาะโอกาสพิเศษวันพิเศษเท่านั้นจ้ะ ที่มา ettoday

ญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่ชอบคิดค้นสิ่งประดิษฐ์แปลกๆ ขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งประดิษฐ์แต่ละอย่างที่เขาได้คิดค้นมันขึ้นมานั้น ใครจะรู้ล่ะว่าบางทีเขาอาจไม่ได้ใช้เทคโนโลยีสูงมาช่วยเลยก็เป็นได้ เหมือนดังภาพตัวอย่างที่เราได้นำมาให้ชมในวันนี้ เป็นภาพที่เปลี่ยนกระดาษชำระภายในห้องน้ำ โดยคุณสามารถใช้เวลาในการเปลี่ยนเพียง 1 วินาทีเท่านั้น โหวววว…นี่มันเป็นเวลาที่สั้นมากเลยนะ จะทำได้จริงๆ หรอเนี่ย แต่ถ้าหากใครที่ยังไม่เชื่อ ก็ต้องดูให้เห็นกับตาตัวเองซะแล้ว   เห็นไหมล่ะว่า มันใช้เวลาในการเปลี่ยนเพียงแค่ 1 วินาทีจริงๆ เพียงแค่นี้เราก็ได้ใช้กระดาษชำระม้วนใหม่ โดยไม่ต้องมานั่งถอดใส่แกนให้เสียเวลาอีกแล้ว     แม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ที่อลังการงานสร้าง แต่มันก็สามารถช่วยประหยัดเวลาในการเปลี่ยนกระดาษชำระของคุณ ให้ไวและง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ที่มา : imgur

เรื่องความสามารถและความประณีตในการทำงานฝีมือต้องยกให้คนญี่ปุ่นจริงๆเลยเนอะ เพราะไม่ว่างานจะเล็กจะจิ๋วยังไงเขาก็ยังทำออกมาได้สวยงามแบบไม่มีที่ติเลยล่ะ อย่างการทำน้ำตาลปั้นก็เช่นกัน ชินริ เทซูกะ(Shinri Tezuka) นักปั้นน้ำตาลชาวญี่ปุ่น วัย 26 ปี ผู้รักษาศิลปะโบราณอเมไซกุ(Amezaiku) หรือการปั้นอมยิ้มน้ำตาลแบบญี่ปุ่น ปั้นออกมาเป็นอมยิ้มรูปสัตว์ที่เสมือนจริง โดยศิลปะการปั้นน้ำตาลญี่ปุ่นนี้ได้เริ่มต้นในศตวรรษที่ 8 เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความสามารถและความเพียรพยายามอย่างมากในการทำ ชินริ เทซูกะ มีความสามารถและมีฝีมือในการปั้นน้ำตาลญี่ปุ่นมาก มาดูผลงานของเขากันเลย   ปลาทอง   กบ   ปลาหมึกยักษ์   ปลาทอง   ปลาหมึกกล้วย   ปลาคาร์ฟ   งู   ลูกอ็อด   สิงโต   นกกระเรียนญี่ปุ่น   Shinri Tezuka ผู้ทำน้ำตาลปั้น   ละเอียดมาก ทำออกมาแล้วสวยงามมากจนไม่กล้ากินเลยแหล่ะ สมัยก่อนที่บ้านเราก็มีเหมือนกันเนอะ แต่ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้จะยังมีอยู่หรือเปล่า ที่มา lostininternet