นี่เห็นอยู่นี้คือหน้าเว็บ CatDumb เวอร์ชันเก่า

บางครั้งเพียงแค่ความรู้ทางด้านการเกษตรอาจจะไม่พียงพอสำหรับการทำให้ได้กำไรจากการทำไร่ทำสวน และแน่นอนว่าในแถบเอเชียอย่างพวกเรานั้นก็จะต้องมีการใช้เรื่องของความเชื่อเพื่อทำให้การปลูกพืชนั้นได้ผลดียิ่งขึ้น อย่างที่เราเคยเห็นกัน และชาวนาหลายๆ ท่านก็อาจจะมีวิธีการใช้หลักความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการทำขวัญข้าวหรือการหาหุ่นที่เปรียบเหมือนเทพมาว่างไว้ที่ท้องไร่ท้องนาเพื่อปัดเป่าความชั่วร้าย คุณ Chenchu Reddy ชาวไร่จากประเทศอินเดียผู้นี้ก็เป็นชาวไร่อีกหนึ่งคน ที่เลือกใช้ไสยศาสตร์ในการช่วยให้ได้ผลกำไรจากการปลูกพืชที่ดีขึ้น แต่ดูเหมือนว่าวิธีการที่เขาใช้นั้นจะแหวกแนวไปหน่อนนะ!!   คุณ Chenchu Reddy ชาวไร่จากประเทศอินเดีย เจ้าของไอเดียการบูชาเทพแห่งท้องทุ่งแบบใหม่   คุณ Chenchu เองก็เป็นหนึ่งในชาวไร่ที่ได้รับความเดือนร้อนเนื่องจากผลผลิตในไร่ของเขาขายไม่ได้ราคาดีสักเท่าไหร่ แต่แทนที่เลือกบูชาเทพแห่งท้องทุ่งเหมือนกับชาวไร่คนอื่นๆ ชายคนนี้กลับเลือกที่จะใช้ภาพของดาราหนังผู้ใหญ่อย่าง Sunny Leone (ห้ามก๊อปชื่อไปค้นหานะ!!) แทน และดูเหมือนว่างานนนี้ดาราหนังโป๊ชื่อดังจะทำหน้าที่ของเธอได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว คุณ Chenchu ให้สัมภาษณ์ว่าตั้งแต่มีภาพของ Sunny ที่ใส่บิกินี่สีแดงมาตั้งที่ไร่ของเขา ผลผลิตทางการเกษตรก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียว!!     “ใช่แล้ว มันเริ่มต้นหลังจากที่ผมขาดทุนจากการทำไร่ ทั้งๆ ที่ผลผลิตของผมก็สวยงามและสมบูรณ์ดี ไร่ของผมอยู่ติดกับถนน และในปีนี้ผมเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกอีกกว่า 25 ไร่ และเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา ผมเริ่มใช้ภาพของ Sunny เพื่อปัดเป่าความชั่วร้าย” ชายเจ้าของไร่กะหล่ำปลี พริก และกระเจี๊ยบให้สัมภาษณ์ การมีภาพของดาราหนังผู้ใหญ่ ทำให้ “ดวงตาปิศาจ” เลิกสนใจผลผลิตในไร่ของคุณ Chenchu และเอาแต่จ้องมองภาพของเธอ ซึ่งเขาให้สัมภาษณ์ว่าตั้งแต่ที่มีภาพของ Sunny นั้นทุกๆ อย่างก็เริ่มดีขึ้น    …

หนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับงานแต่งงานก็คือช่างภาพ พวกเขาคือคนที่จะเข้ามาช่วยเก็บบรรยากาศที่น่าจะเป็นครั้งเดียวของชีวิตคนสองคนเอาไว้ ทำให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวหวังที่จะได้เห็นภาพสวยๆ และบรรยากาศที่น่าจดจำภายในงาน แต่สิ่งที่คู่รัก Steph และ Paul Unwin ได้กลับเป็นไปคนละทิศคนละทางกันเลย เรื่องราวของพวกเขาทั้งสองได้ถูกรายงานผ่านเว็บไซต์ Lad Bible ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2018 เมื่อทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน และได้จ้างช่างภาพ David Kilcourse มาเก็บภาพความทรงจำต่างๆ ของพวกเขาเอาไว้   คู่รัก Steph และ Paul   แล้วช่างภาพคนนี้ก็ทำให้ทั้งคู่หัวเสียอย่างมาก เพราะในวันจริงเขากลับมาสาย แต่ถึงอย่างนั้นคู่รักก็ยังปล่อยให้เขาทำหน้าที่ต่อไป แต่สุดท้ายผลลัพธ์กลับทำให้คู่บ่าวสาวเข้าใจเลยว่าการตัดสินใจของพวกเขานั้นมันถือว่าผิดอย่างร้ายแรง หลังจากวันงาน ทั้งสองได้รับแผ่นซีดีที่เต็มไปด้วยรูปภาพจำนวน 1,636 รูป ซึ่งแต่ละรูปนั้นถึงกับทำให้พวกเขาเงิบรับประทาน     กว่า 1 ใน 3 ของรูปทั้งหมดเป็นภาพเบลอ ซึ่ง David อ้างว่ามันเกิดจากการที่กดชัตเตอร์กล้องไม่ลง แต่ที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือมีภาพหลุดของแขกที่เหมือนกับการแอบถ่ายใต้กระโปรงหรือหน้าอกอีกเพียบ David ถ่ายภาพของเพื่อนเจ้าสาวภายในงานราวๆ 100 รูป ในขณะที่มีภาพของฝั่งเพื่อนเจ้าบ่าวแค่ 11 รูป…

14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์วันแห่งความรักก็ได้ผ่านมาแล้ว ซึ่งความรักก็มีอะไรให้กับเราได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความหวาน ความสุข หรือจะเป็นความทุกข์ และสำหรับคนที่ไม่อินในความรัก เพิ่งอกหักมาหรือแฟนเก่าทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ อยากที่จะหาที่ระบายหรือหรือวิธีแก้แค้นอยู่ วันนี้เราขอเสนอวิธีที่เพื่อนๆ จะได้ระบายความแค้นโดยที่ไม่มีใครต้องเลือดตกยางออก นั่นคือพื้นรองเท้าที่จะถูกออกแบบมาเป็นหน้าแฟนเก่า ทีนี้ในทุกก้าวของเพื่อนๆ ก็จะได้เหยียบไปบนใบหน้าของแฟนเก่าตลอดแล้ว     บริษัท Bompas & Parr ผู้ออกแบบได้ให้คำนิยามของผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ว่า “โอกาสที่คุณจะได้เอาคืนแฟนเก่า ความรักที่ไม่สมหวัง ความโหดร้ายของการอกหัก โดยการเหยียบย่ำบนพวกเขา” ใครที่อยากล้างแค้นแฟนเก่าล่ะก็ โอกาสของคุณได้มาถึงแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำก็ไม่มีไรมาก เพียงแค่ส่งรูปของแฟนเก่าไปให้ Bompas & Parr พวกเขาก็จะพิมพ์รูปดังกล่าวลงไปในพื้นรองเท้า และส่งมันมาให้ที่บ้านของคุณ แล้วทีนี้คุณก็จะได้เหยียบย่ำหน้าพวกเขาตลอดทุกก้าว มันคงเป็นยาระบายที่ดีอย่างหนึ่งในชีวิตของคนเจ็บช้ำเรื่องความรักเลยล่ะ     ไอเดียพิมพ์รูปแฟนเก่าลงพื้นรองเท้านี้มันดูเหมือนบ้า แต่เอาเข้าจริงมันได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมอียิปต์โบราณเชียวนะ โดยที่อียิปต์โบราณจะนำเอาสัญลักษณ์ของศัตรูมาวางไว้ตรงพื้นรองเท้า เปรียบเทียบเหมือนกับการได้บดขยี้เหล่าศัตรูให้อยู่แทบเท้านั่นเอง จริงๆ แล้ว Bompas & Parr จะเปิดรับออเดอร์แค่ 25 คู่และรับจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2018 เท่านั้น แต่ว่าพวกเขาได้รับเสียงตอบรับเชิงบวกมาก จึงขยายเวลารับออเดอร์ไปจนถึง 14…

ทุกวินาทีนี้ต้องมีที่ใดในโลกสักที่หนึ่งที่กำลังเกิดอุบัติเหตุขึ้น ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุ แน่นอนว่ามันคือสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะมันมีแต่จะทำความเสียหายให้แก่ตัวเองไม่ก็คนรอบข้าง แต่หลายๆ ครั้ง เราไม่สามารถเลี่ยงอุบัติเหตุได้ เหมือนอย่างผู้หญิงคนนี้ ที่ต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลหลังจากที่ป้ายของห้าง Sainsbury ที่สูง 12 เมตรตกใส่จังๆ ขณะที่เธอกำลังเดินอยู่ข้างนอกห้าง     ผู้หญิงคนนี้กำลังเดินอยู่ในอัปแลนด์ เมืองสวอนซี ประเทศเวลส์ ตอนที่ป้ายใหญ่ยักษ์ตกใส่ตัวเธอเต็มๆ แต่มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก ที่เธอไม่เจ็บอะไรมาก แต่ผู้อยู่ในเหตุการณ์บอกว่ามันควรจะร้ายแรงกว่านี้มากจริงๆ Noah Redfern เจ้าของร้านค้าฝั่งตรงข้าม ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ถ่ายรูปและแชร์มันลงโซเชียลมีเดีย พร้อมกับคำอธิบายว่า “สโลแกนของ Sainsbury คือชีวิตดีแต่จ่ายน้อยลง แต่มันคงไม่ดีแล้วล่ะ เมื่อป้ายห้างหล่นใส่หัวคุณ หวังว่าคุณผู้หญิงคงยังโอเคอยู่นะ มันอันตรายถึงชีวิตเลยล่ะ”     เขากล่าวว่า “ผมเดินอยู่ห่างจากห้างตอนผมได้ยินเสียงดัง โครงสร้างจุดยึดของป้ายมันคงชำรุดหรือขึ้นสนิมแล้วมันถึงได้ร่วงลงมา คุณผู้หญิงคนนั้นไม่ได้บาดเจ็บหนักมาก ผมคิดว่าป้ายน่าจะแฉลบหัวของเธอไป แต่รถพยาบาลก็มารับเธอได้ทันเวลา” หลังจากที่เขาได้โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊ก เหล่าชาวเน็ตต่างก็พากันแสดงความเห็นไปทางเดียวกันว่ามันน่ากลัวมากๆความเห็นหนึ่งบอกว่า “นั่นมันน่ากลัวมากๆ มันสามารถฆ่าคนได้เลยนะนั่น” อีกความเห็นหนึ่งก็บอกว่า “ลองคิดว่ามันตกใส่เด็กสิ… ฉันหวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่เป็นไรนะ”     ภายหลังทางตัวแทน Sainsbury ก็ได้ออกมาขอโทษคุณผู้หญิง และได้ปิดปรับปรุงห้างชั่วคราวเนื่องจากอุบัติเหตุด้วย โดยเขาได้กล่าวว่า “เรายืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน อัปแลนด์ เป็นอุบัติเหตุ เราต้องขอโทษคุณลูกค้าอย่างใจจริง และขอขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่ได้ให้ความช่วยเหลือเธอ”…

การออกแบบเสื้อผ้าดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ยากและไกลตัวพวกเราไปสักหน่อยนะว่าไหม!? แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบและมีความสนใจทางด้านนี้ล่ะก็ กิจกรรมที่ว่านี้อาจจะเปรียบเหมือนกับงานอดิเรกของคุณเลยก็ว่าได้ แถมเทคโนโลยีในปัจจุบันอย่างเครื่องพิมพ์สามมิติ ยังช่วยให้คุณสามารถสร้างชุดที่ออกแบบขึ้นมาได้ด้วยตัวเองอีกด้วย และ Shami Oshun สาวน้อยวัย 18 ปีจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้นี้เองก็ได้ใช้ความสามารถทางด้านการออกแบบ และเครื่องพิมพ์ 3 มิติ สร้างชุดสวยๆ ด้วยตัวเธอเอง!!     Oshun เริ่มต้นการสร้างเสื้อผ้าที่เธอออกแบบด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติเมื่อประมาณปี 2017 ที่ผ่านมา เธอให้สัมภาษณ์ว่าเธอเริ่มใช้เครื่องพิมพ์สามมิติ หลังจากที่พบว่างานออกแบบของเธอนั้นไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ด้วยผ้า “เมื่อตอนที่ฉันรู้จักเครื่องพิมพ์สามมิติครั้งแรก มันเปิดโลกของฉันมากๆ มันทำให้สิ่งใหม่ๆ ในโลกสามารถเกิดขึ้นได้” หญิงสาวให้สัมภาษณ์กับ BuzzFeed     หญิงสาวเล่าว่าอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอคือคนที่ทำให้เธอรู้จักกับเครื่องพิมพ์สามมิติ และให้ความช่วยเหลือเธอในการทำงาน โดยผลงานการออกแบบของเธอนั้นมาจากสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเธอ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งก่อสร้าง ธรรมชาติ และความทรงจำในวัยเด็กของเธอ Oshun อยากจะให้ผลงานการออกแบบของเธอได้รับการยอมรับมากขึ้น และดีไซน์เนอร์สาวหวังว่าการออกแบบเสื้อผ้าของเธอนั้นจะได้รับความสนใจจากแบรนด์แฟชั่นใหญ่ๆ      นอกจากนี้เธอเองยังหวังอีกว่า ผลงานของเธอและความสามารถในการออกแบบเสื้อผ้านี้ จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงผิวสีคนอื่นๆ ได้ “ฉันเริ่มเรียนรู้การใช้เครื่องพิมพ์สามมิติด้วยตัวเองเมื่อเดือนสิงหาคม 2017 ที่ผ่านมา และในทุกวันนี้ฉันคือเด็กหญิงผิวสีคนแรกที่ใช้เครื่องพิมพ์สามมิติสร้างผลงานแฟชั่น ฉันหวังว่าสิ่งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงผิวสีคนอื่นๆ ที่มีความมุ่งมั่นในด้านแฟชั่นและเทคโนโลยี #BlackHistoryMonth” ข้อความจากทวิตเตอร์ของ Oshun  …

กล่องช็อกโกแลต นอกจากจะเป็นของหวานที่มักจะถูกใช้มอบแทนความรักในวันวาเลนไทน์แล้ว มันยังเป็นขนมแสนอร่อยสำหรับหลายๆ คนอีกด้วย แต่ทว่า!! บางครั้งความวุ่นวายในชีวิตของคุณ ก็อาจจะมาพร้อมกับเจ้าขนมหวานแสนอร่อยเหมือนกับหนุ่มชาวญี่ปุ่นรายนี้ ที่เกือบไม่ได้ขึ้นเครื่องเพราะช็อกโกแลตเจ้ากรรมที่มีลักษณะเหมือนกับอุปกรณ์เครื่องมือช่างซะนี่!!   อืม… เหมือนจริงๆ ล่ะนะ ว่าไหม??   การเปิดกล่องช็อกโกแลตวันวาเลนไทน์ด้วยตัวเอง คงจะเป็นวินาทีแห่งความประทับใจของหลายๆ คน และน่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียวที่เราจะได้มีโอกาสเห็นของขวัญสุดพิเศษนั้นเป็นคนแรก แต่น่าเศร้าที่หนุ่มชาวญี่ปุ่นรายนี้กลับไม่ได้รับโอกาสนั้น จากเจ้าหน้าที่ของสนามบิน “วันนี้ผมมีประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นจะมาเล่าให้ทุกคนฟัง มันเกิดขึ้นที่ขั้นตอนตรวจสอบความปลอดภัยของสนามบินนานาชาติโอซะกะ พวกเขาเอากระเป๋าถือของผมไปตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น แน่นอนว่าผมก็ยอมให้พวกเขาตรวจสอบแต่โดยดี พวกเขาแกะห่อช็อกโกแลตออก มันเลยทำให้ผมรู้ว่าผมได้รับช็อกโกแลตรูปเครื่องมือช่างมา” คุณ @rr250r_smr เล่าประสบการณ์ของเขาผ่านทวิตเตอร์     โชคดีที่เครื่องมือช่างเหล่านั้นเป็นเพียงแค่ช็อกโกแลต งานนนี้หนุ่มญี่ปุ่นของเราจึงได้ไปต่อ และกลับไปเพลิดเพลินกับช็อกโกแลตที่บ้านของเขา นี่อาจจะเป็นของขวัญชิ้นพิเศษที่คุณ @rr250r_smr ไม่มีวันลืมเลยทีเดียว เพราะครั้งหนึ่งมันเกือบทำให้เขาไม่ได้ขึ้นเครื่องกลับบ้าน “และแล้วในที่สุดผมก็จัดการกับช็อกโกแลตเจ้าปัญหานี่ซะที เห็นไหมล่ะมันคือช็อกโกแลตจริงๆ” ข้อความจากทวิตเตอร์ของชายหนุ่มพร้อมกับภาพเครื่องมือช่างอันแสนอร่อย     แหม่… ยังถือดีนะเนี่ยที่เป็นช็อกโกแลตรูปเครื่องมือช่าง ถ้าหากเป็นรูปดาบซามูไร หรือว่าอาวุธอื่นๆ ล่ะก็ งานนนี้พ่อหนุ่มหน้ามนคนญี่ปุ่นของเรา มีหวังได้คุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยาวเลยทีเดียว ฮ่าๆ   ที่มา rocketnews24

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หนึ่งในข่าวใหญ่และเป็นที่เป็นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวนั่นก็คือข่าวการกราดยิงที่โรงเรียนมัธยม Marjory Stoneman Douglas เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 17 รายด้วยกัน และเพียงแค่ไม่กี่วันหลังจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าว มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนาย Alwin Chen เด็กนักเรียนชายชาวเอเชียรายหนึ่ง จากโรงเรียนมัธยม Clarksburg รัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากพบว่าเด็กหนุ่มคนดังกล่าวได้พกปืนพร้อมลูกกระสุนขนาด 9 มม. ไว้ในกระเป๋าเป้ พร้อมกับมีดพกที่กระเป๋าเสื้อด้านหน้าของเขา   นาย Alwin Chen เด็กหนุ่มวัย 18 ปี ผู้ต้องหา   เด็กหนุ่มคนดังกล่าวถูกควบคุมตัวเมื่อประมาณบ่าย 2 โมงของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา โดยทางด้านเจ้าหน้าตำรวจที่ได้รับแจ้งจากหน่วยรักษาความปลอดภัยของทางโรงเรียนว่านาย Chen นั้นอาจจะพกพาอาวุธปืนมาโรงเรียน หลังจากที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่พาตัวเด็กหนุ่มออกจากชั้นเรียน ก่อนที่เขาจะยอมรับว่ามีปืนสั้นขนาด 9 มม. ที่บรรจุกระสุนเรียบร้อยอยู่ในกระเป๋าเป้ และมีดพกอีก 1 ด้ามที่กระเป๋าเสื้อด้านหน้า     เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวเด็กหนุ่มพร้อมกับตั้งข้อหา 3 ข้อหาด้วยกันคือ มีอาวุธปืนในครอบครอง ครอบครองอาวุธปืนในขณะที่อายุไม่ถึง 21 ปี…

ทุกๆ คนย่อมมีวิธีที่จะช่วยพลักดันชีวิตไปข้างหน้าที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจใช้วิธีเปลี่ยนความคิดตัวเอง หรือบางคนอาจจะเปลี่ยนการดำเนินชีวิตของตัวเองก็มี แต่อาจารย์ท่านที่เราจะกล่าวถึงในข่าวนี้ เขาใช้วิธีตะโกนว่า “ฮัลโหล” ทุกครั้งที่เขาเข้าสอนเพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักเรียนสนใจ และเป็นการสร้างพลังบวกให้กับชีวิตตัวเองด้วย เรื่องนี้มีมันเริ่มมาจาก Evan Dennis นักศึกษาหนุ่มอายุ 19 ปี จากมหาวิทยาลัย East Tennessee State University ได้ทวีตข้อความและวิดีโอรวบรวมการตะโกน “ฮัลโหล” ในแต่ละวันของ Dr.Chris Dula อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเขานั่นเอง   วิดีโอรวบรวมการตะโกน “ฮัลโหล” ของ Dr.Chris Dula This is how @kryssdula my psychology professor, begins every class and I love it. He has a very inspiring story! Everyone RT this to get him…

ถ้าหากใครที่เป็นแฟนๆ กีฬาฟุตบอล ก็อยาจจะคุ้นชินกับภาพของความดุเดือดและเข้มข้นของเกมการแข่งขันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในการแข่งขันนัดสำคัญๆ อย่างการชิงแชมป์ และในนัดสำคัญแบบนี้ การได้รับโทษใบเหลือหรือใบแดงนั้นย่อมส่งผลกับทีมไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่จำนวนผู้เล่นเหลือน้อยกว่า นั่นอาจจะหมายถึงชัยชนะของอีกฝ่ายได้เลย     แต่ถึงแม้ผู้เล่นทั้งสองทีมจะเล่นอย่างระมัดระวังแค่ไหน บางครั้งการได้รับโทษใบเหลืองแดงนี้ก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย และบางทีมันอาจจะมาเป็นชุด เหมือนกับศึกระหว่างสโมสร Vitoria และ Bahia ที่ผู้เล่นทั้งสองทีมโดนใบแดงแบบรัวๆ ไปถึง 7 ใบ!!   ปาบ ปาบ ปาบ!!   เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดระหว่างศึกคัมปิโอนาโต บราซิเลียโร ซีรีเอ หรือลีคฟุตบอลสูงสุดของประเทศบราซิล ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกันระหว่าคู่อริร่วมเมืองอย่าง Vitoria และ Bahia โดยสำนักข่าวของบราซิลอ้างว่า จุดเริ่มต้นของความโกลาหลครั้งนี้เกิดขึ้นจากลูกจุดโทษตีเสมอของฝ่ายทีมเยือน ที่มาพร้อมกับท่าดีใจแบบขัดหูขัดตา ก่อนที่จะเปลี่ยนให้สนามฟุตบอลกลายเป็นลานต่อสู้   ไปชมความชุลมุนวุ่นวายในสนามได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย    เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้เล่นของทั้งสองทีมต้องได้รับใบแดงไปถึง 7 รายด้วยกัน โดยเป็นฝ่ายของทีม Vitoria ที่ได้ใบแดงไปถึง 5 คน ก่อนที่ผู้ตัดสินจะสั่งยุติเกม     ตามกฎการแข่งขันของทาง FIFA นั้นได้กำหนดให้แต่ละฝ่ายต้องมีผู้เล่นอย่างน้อย…

หลายๆ ประเทศในโลกนี้ล้วนมีมุมมองที่สามารถถ่ายทอดออกมาให้เห็นได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองมันจากมุมไหน เช่นกันกับเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น อย่างมหานครโตเกียว หลายๆ คนมองว่าเป็นเมืองที่มีระเบียบ การเดินทางสาธารณะดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ในอีกมุมหนึ่งด้วยประชากรกว่า 13 ล้านคนในชั่วโมงเร่งด่วน มันทำให้โตเกียวกลายเป็นมหานครที่แสดงถึงความวุ่นวายไปเลย และด้วยความที่เมืองๆ หนึ่งมีหลายด้านให้มอง ช่างภาพชาวญี่ปุ่น Hiro Goto จึงได้ตัดสินใจใช้โอกาสนี้นำเสนอโตเกียวในมุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสีสัน ความเจริญ ความวุ่นวายหรือจะเป็นวัฒนธรรมต่างๆ ที่สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว   ประตูสายรุ้ง   กำแพงหนังสือ   เงาสะท้อนยามพลบค่ำ .   ความสวยงามของวัฒนธรรม .   โตเกียวยามฝนตก .   บรรยากาศชาวเมือง   ที่นี่ชินจูกุ   โตเกียวยามสนธยา   บางทีชีวิตก็ดูเหงาหงอย   ภาพชีวิต   แสงสีและความวุ่นวาย   ณ กินซ่า   คาบุกิโจว   แสงไฟยามค่ำคืนที่อาเมะโยโกะ  …

ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวพย็องชัง 2018 ณ เมืองพย็องชัง ประเทศเกาหลีใต้ เหล่านักกีฬาจากหลากหลายประเทศทั่วโลกได้ร่วมกันเข้าชิงชัยเพื่อหาสุดยอดนักกีฬาในแต่ละประเภท และการแข่งขันในครั้งนี้ก็มีผู้ชมทั่วโลกติดตามการแข่งขันอยู่เช่นกัน เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2018 ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอการแข่งขันสเก็ตความเร็วรอบชิงแชมป์ ประเภทสเก็ตความเร็ว 500 เมตรหญิง Nao Kodaira นักสเก็ตหญิงตัวแทนประเทศญี่ปุ่นได้คว้ารางวัลเหรียญทองในการแข่งขัน พอการแข่งขันจบลง ความเป็นนักกีฬาของเธอก็ไม่ได้จบตาม แทนที่เธอจะฉลองกับเหรียญทองโอลิมปิก แต่เธอกลับแสดงความมีน้ำใจนักกีฬาด้วยการเข้าไปปลอบ Lee Sang hwa นักสเก็ตตัวแทนประเทศเกาหลีใต้คู่แข่งของเธอ     นักสเก็ตชาวเกาหลีประทับใจที่คู่แข่งของเธอเข้ามาดูว่าเธอโอเคหรือไม่ จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ จนฝ่ายนักกีฬาจากญี่ปุ่นต้องมาปลอบเธออีกครั้ง     ภาพความประทับใจนี้ถูกเผยแพร่ออกไป และมีผู้ที่นำไปชื่นชมบนบนทวิตเตอร์ เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดประทับใจในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ ทั้งสองเป็นคู่แข่งกีฬาสเก็ตกันมานานกว่า 10 ปี ทั้งสองมีความทรงจำร่วมกันมากมายถึงแม้ว่าจะต่างเชื้อชาติ แต่ทั้งคู่ก็ยังเป็นเพื่อนกันเสมอมา     Nao Kodaira กล่าวว่า “เราแข่งขันกันมาหลายปีแล้ว ฉันเคารพเธอและฉันก็มองว่าเธอเป็นนักสเก็ตและเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง” ภาพความประทับใจนี้ได้รับการชื่นชมจากผู้คนมากมายทั้งในทวิตเตอร์และคอมเมนต์รูปภาพในอินสตาแกรม ต่างก็กล่าวชื่นชมความมีน้ำใจนักกีฬาของนักสเก็ตชาวญี่ปุ่นท่านนี้     ตัวอย่างความคิดเห็นจากผู้ที่ได้รับชมเรื่องดังกล่าว… @Danphuntington “ช่วงเวลาที่สวยงามของนักกีฬาสเก็ตความเร็ว Kodaira…

เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า Tess Aboughoushe ได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาว ที่เพิ่งถูกชิงกระเป๋าสตางค์ไป เธอจึงไล่ตามโจรที่ฉกชิงกระเป๋าสตางค์นั้นไปในตรอกซอกซอยแห่งหนึ่งในเมืองเอ็ดมันตัน รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา สุดท้ายเธอพบว่าคนร้ายกำลังซ่อนตัวอยู่หลังถังขยะ แต่สิ่งที่เธอทำหลังจากพบตัวคนร้าย กลับเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน นั่นคือการให้โอกาสกลับตัวกลับใจ     เหตุการณ์เริ่มขึ้นหลังจากที่ Tess เพิ่งเสร็จธุระจากการเข้ารักษากระดูกสันหลังในช่วงกลางวันของวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับออฟฟิศ เธอก็สังเกตเห็นว่ามีเรื่องเกิดขึ้นใกล้ๆ เธอเล่าว่า “ฉันกำลังเดินทางกลับออฟฟิศ ขณะที่ฉันกำลังข้ามถนนนั่นเองฉันก็ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนว่า ‘หยุดนะ เจ้าหัวขโมย มันเอากระเป๋าสตางค์ของฉันไปแล้ว’ มันเหมือนกับในหนังเลย หญิงคนนั้นกรีดร้อง หัวขโมยก็เริ่มวิ่งหนี ฉันไม่ได้คิดอะไรมากนักนอกจากวิ่งตามชายหัวขโมยคนนั้นไป” Tess ไล่ตามชายคนดังกล่าวไปราวสองช่วงตึกก่อนที่จะถึงมุมและหันไปเห็นว่าชายคนนั้นกำลังยืนก้มหน้าเหมือนกับกำลังกลัวอยู่ใกล้ๆ กับอาคารจอดรถ ใบหน้าของเขาเป็นมีรอยข่วนเป็นเส้นๆ ภายใต้ศีรษะที่โกนจนเหี้ยนเตียน ทำให้จิตใจของ Tess สั่นเครือด้วยความเวทนา มือข้างหนึ่งของชายดังกล่าวจกกระเป๋าอยู่ ทำให้ Tess กลัวว่าเขาจะมีมีด แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเลย เขากลับโค้งตัวลงในเสื้อคลุมของเขาและก็ร้องไห้ Tess เล่าต่อว่า “เขาออกมาจากหลังถังขยะนั่น และพยายามพูดจาอย่างไมตรีว่า ‘นี่เป็นกระเป๋าสตางค์ของหญิงคนนั้น ผมไม่อยากทำแบบนี้อีกแล้ว รับไปซะสิ’ จากนั้นฉันก็รับกระเป๋าสตางค์นั้นไว้ และหญิงผู้เสียหายก็มาถึงพอดี ฉันจึงคืนกระเป๋าสตางค์ให้กับเธอ ชายคนนั้นก็อยู่ด้วย…

เราอาจเคยได้ยินว่าน้องหมามีความจงรักภักดีกับเจ้าของมันอย่างมาก จนถึงขนาดที่ว่ามันจะยังคงรอคอยเจ้าของที่มันรักให้กลับมาหาอยู่เสมอ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้คือสิ่งที่จะสามารถช่วยยืนยันความคิดนั้นได้เป็นอย่างดี นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศบราซิล เป็นความรักและความผูกพันกันของน้องหมา Belinha และ Telma Maria เจ้านายที่เปรียบเหมือนกับเพื่อนแท้ของมัน โดยทั้งสองอยู่ด้วยกันมานานกว่า 4 ปี   Maria และน้องหมา Belinha ที่อยู่ด้วยกันมาตลอดระยะเวลา 4 ปี   แต่แล้วเรื่องที่น่าเศร้าก็เกิดขึ้นเมื่อ Maria ป่วยเป็นมะเร็ง จนทำให้เธอต้องอดทนต่อสู้กับโรคร้ายมานานหลายเดือน ซึ่งในระหว่างนั้น Belinha ก็ยังคอยอยู่กับเธอไม่ห่าง ราวกับเป็นพยาบาลประจำตัวของเธอ วันเวลาผ่านไป สุดท้ายหญิงสาวก็ต้องจากโลกนี้ไปตอนช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2018 สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับทุกคนในครอบครัว รวมถึงหมาน้อยที่ยังคงรอคอยเธออยู่   สุขภาพร่างกายที่แย่ลงเรื่อยๆ ทำให้เธอต้องจากโลกนี้ไปในที่สุด   Dionísio Neto ลูกชายของ Maria รู้ดีว่าเจ้าหมามีความสำคัญต่อแม่ของเขามากขนาดไหน เขาจึงเลือกที่จะพามันไปร่วมบอกลาผู้ตายในงานศพ ท่ามกลางเหล่าญาติสนิทมิตรสหาย ในวันนั้น Belinha ดูเศร้าโศกราวกับรู้ว่าทุกคนมาด้วยจุดประสงค์อะไร   มันนั่งทำตาละห้อย เหมือนว่ากำลังเสียใจไม่ต่างกับคนอื่นๆ   ทุกคนนั่งรออยู่ข้างนอก จนกระทั่งโลงศพของ Maria มาถึงที่งานก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำเอาหลายๆ คนถึงกับหลั่งน้ำตา…

ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา หลายคนคงจะได้ดูคลิปไวรัลที่มีเด็กถือสเก็ตบอร์ดสองคน พยายามจะขโมยขนมในร้านสะดวกซื้อและจบด้วยการช่วยจับโจรผ่านตากันบ้างใช่ไหม? คุณคิดเห็นยังไง คุณคิดว่ามันเจ๋ง หรือคุณเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงๆ?   คำตอบของคลิปดังกล่าวนั่นก็คือ ไม่ได้เกิดขึ้นจริง!!   ชมคลิปตัวเต็มได้ที่นี่เลย   คลิปดังกล่าวนั้นแรกเริ่มเดิมทีมันถูกปล่อยโดยซีรีส์เรื่องใหม่ของทาง Facebook ที่ชื่อเรื่องว่า Fivepoint ซึ่งได้โพสต์ไว้ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2018 แล้ว เพียงแต่ว่ามีชาวเน็ตมือดีดันไปดูดมาแล้วตัดบางส่วนออก ซึ่งมันก็เลยทำให้คลิปนั้นดูเหมือนเหตุการณ์จริง จนตอนนี้ตัวที่ถูกตัดนั้นมีคนดูไปแล้วกว่า 6 ล้านครั้ง!!     หลายคนอ่านมาแล้วอาจจะบอกว่า พี่ Mark เล่นทำคลิปไวรัลมาหลอกกันแบบนี้ได้ยังไง ต่อให้มีเครดิตมันก็ยังดูหลอกอยู่ดี แต่จริงๆ แล้วตัวต้นทางก็ได้บอกอย่างชัดเจนว่าเด็กสองคนในคลิปเป็นตัวละครที่ชอบสร้างปัญหาจากในเรื่อง Fivepoint     ฉะนั้นเรื่องนี้พี่ Mark แกก็ไม่ได้ผิดซะทีเดียว อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วซีรีส์เรื่อง Fivepoint ของพี่ Mark เนี่ยมันเกี่ยวกับอะไรกันแน่ เผื่อจะได้ไปหาดูบ้าง!? คำตอบคือ ตัวซีรีส์นั้นจะเกี่ยวกับเด็กมีปัญหา 5 คนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยม Fivepoint ซึ่งพวกเขาก็มีปัญหาต่างๆ ของตน…

เวลาที่เราเจอผู้ชายมีอายุไปไหนมาไหนกับเด็กวัยแรกรุ่น บางครั้งเราอาจจะมองว่าเขาต้องเป็น เฒ่าหัวงู หรือคนที่มีอาการรักเด็ก (Paedophile) และอาจจะพาเด็กสาวคนนั้นไปทำมิดีมิร้าย แต่แท้จริงแล้วมันก็อาจจะไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป ทั้งสองคนอาจจะเป็นแค่พ่อลูกกันเหมือนกับสองคนนี้ก็ได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2018 เมื่อคุณพ่อวัย 46 ปีที่ชื่อว่า Karl Pollard ได้พา Stephanie ลูกสาววัย 14 ปี เดินทางจากบ้านในเขต South Wales ประเทศเวลส์ ไปยังเมือง Macclesfield ประเทศอังกฤษ เพื่อไปหาคุณแม่ของเขา (คุณย่าของเด็กสาว) ที่ป่วยเป็นมะเร็งปอด   Karl และลูกสาววัย 14 ปี   ทั้งสองต้องการที่จะเดินทางไปทำหน้าที่ของหลานสาวและลูกชายที่ดีก่อนที่คุณแม่ของเขาจะเข้ารับการรักษา เมื่อไปถึงยังที่หมาย เขาและลูกจึงเลือกที่จะพักในโรงแรม Travelodge ที่อยู่ใกล้กับโรงพยาบาล Karl เปิดห้องเตียงเดี่ยวหนึ่งเตียงสำหรับเขาและลูก เพราะว่าที่นี่มีเหลือแค่ห้องแบบนี้เท่านั้น แต่แล้วจู่ๆ เขาก็สัมผัสได้ถึงสายตาแปลกๆ ที่มองมาจากพนักงานต้อนรับ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดอะไรและเข้าไปพักในห้องกับลูกสาว แต่พอเวลาผ่านไปไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำการบุกเข้ามาในห้องโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว   โรงแรม Travelodge ที่ทั้งสองตัดสินใจเข้าพัก…

การขลิบอวัยวะเพศชาย คือหนึ่งในวัฒนธรรมของชาวอิสลาม ชาวยิว และอีกหลายชนชาติเชื่อว่าเป็นการรักษาความสะอาดของอวัยวะเพศ แต่สำหรับประเทศไอซ์แลนด์นั้น คนส่วนมากไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ จึงทำให้เกิดร่างกฎหมายที่เป็นข้อพิพาทกันของคนจากสองฝ่าย ประเทศไอซ์แลนด์อาจจะกลายเป็นประเทศแรกในทวีปยุโรปที่จะสั่งห้ามไม่ให้มีการขลิบ เพราะตอนนี้ได้มีการยื่นร่างกฎหมายใหม่ที่บอกว่า หากใครที่ทำการขลิบโดยไม่ใช่วัตถุประสงค์ทางการแพทย์จะต้องถูกจำคุก 6 ปี     ร่างกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นมาเพราะพวกเขามองว่า การขลิบอวัยวะเพศชายก็ไม่ต่างกับการขลิบอวัยวะเพศหญิง (FGM) ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในหลายๆ ประเทศของยุโรป รวมถึงไอซ์แลนด์ที่แบนสิ่งนี้มาตั้งแต่ปี 2005 สิ่งนี้ได้รับความสนใจและแรงสนับสนุนจากหลายๆ ฝ่าย มีการพูดถึงว่าการขลิบคือการละเมิดสิทธิของเด็ก ซึ่งสอดคล้องกับบทบัญญัติข้อที่ 12 ของสหประชาชาติ (UN) อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของเด็กที่จะมีผลต่อการใช้ชีวิต อีกทั้งยังมีการพูดถึงเรื่องสุขภาพเอาไว้จากผู้ที่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายนี้ว่า “การขลิบอวัยวะเพศชายมักจะทำขึ้นที่บ้าน ซึ่งมันไม่ได้ปลอดเชื้อโรค และไม่ได้ทำโดยหมอแต่เป็นฝีมือของผู้นำศาสนา จึงมีความเสี่ยงอย่างมากที่เด็กอาจจะติดเชื้อหลายๆ อย่าง จนอาจเสียชีวิตได้เลย” ในโลกโซเชียลก็มีหลายๆ คนที่รู้สึกเห็นด้วยกับเรื่องนี้   “สิทธิของเด็กควรอยู่เหนือเสรีภาพทางศาสนาเสมอ”   “ผมคิดว่าก่อนหน้านี้มีสิทธิมนุษยชนบางอย่างที่อยู่เหนือสิทธิทางด้านศาสนา ความเป็นมนุษย์คือสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรก การคงอยู่ของศาสนาสำหรับคนที่นับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งคือสิ่งที่ตามมาเป็นอันดับสอง”   “ผมเห็นด้วยกับเรื่องนี้จริงๆ ถ้าคุณเลือกจะทำสิ่งนี้ตอนที่โตแล้ว คุณก็ไปทำเถอะ แต่ไม่ใช่การมาตัดมันออกไปโดยไม่ได้เกิดจากความยินยอม”   อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งชาวมุสลิมและชาวยิวรู้สึกว่านี่อาจเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงการต่อต้านพวกเขา ทำให้ชีวิตของพวกเขาที่อาศัยอยู่ในไอซ์แลนด์ต้องเปลี่ยนไปอย่างมาก อีกทั้งยังมีการโต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องของเสรีภาพทางศาสนา กลุ่มการประชุมผู้นำศาสนายิวในยุโรป…

นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2018 บนเรือที่กำลังล่องห่างออกไปจากอ่าว Jervis Bay ประเทศออสเตรเลีย ราวๆ 220 กิโลเมตร แต่แล้วจู่ๆ ก็เกิดเหตุความวุ่นวายระหว่างคนกลุ่มหนึ่งกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนเรือ แต่โชคดีที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรร้ายแรงมากนัก   การทะเลาะวิวาทของคนจากครอบครัวหนึ่งกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย    จนกระทั่งในตอนที่ทุกคนบนเรือกำลังสนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศการพักผ่อนหย่อนใจ จู่ๆ ก็มีเหตุทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่ทันตั้งตัวตอนเวลาประมาณตี 1 ทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายระหว่างสองครอบครัวซึ่งหนึ่งในนั้นคือคนกลุ่มเดิมที่มีปัญหามาก่อนหน้านี้ Zac หนึ่งในพยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า การตีกันในครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะมีชายคนหนึ่งดันไป ‘เหยียบโดนรองเท้าแตะ‘ ของชายอีกคนจนเกิดความไม่พอใจ โต้เถียงกันได้ไม่นานแล้วความชุลมุนก็เกิดขึ้น คนจากสองฝ่ายจำนวนกว่า 30 คนวิ่งเข้าใส่กัน มีทั้งต่อย ทั้งเตะ ทั้งตบ สารพัดวิธี ความรุนแรงดังกล่าวทำให้มีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก     นอกจากทั้งสองครอบครัวจะเจ็บกันเองแล้ว ยังมีพยานผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่ต้องโดนลูกหลงจากเหตุการณ์นี้ไปด้วย หลายคนรีบวิ่งเข้าห้องพักของตัวเอง บางคนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิป และบางส่วนก็รีบไปตามให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาช่วยห้ามการนองเลือดครั้งนี้เอาไว้ เจ้าหน้าที่บนเรือรีบเข้ามาแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน โดยในคลิปที่มีพยานคนหนึ่งถ่ายเอาไว้จะเห็นว่า พวกเขาถึงกับต้องทั้งเตะและต่อยชายหนุ่มสองคน เพื่อให้ยอมแยกตัวออกมาในที่สุด ผู้หญิงสองคนที่มีส่วนกับเหตุทะเลาะวิวาทก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกดลงไปกับพื้น เพื่อให้พวกเธอยอมสงบลง   การทะเลาะวิวาทขั้นรุนแรงของสองครอบครัว ที่ไม่พอใจกันเพียงเพราะเหยียบรองเท้าแตะ   …

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมาได้เกิดการสังหารหมู่ ณ บริเวณโบสถ์แห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานบูชาของชาวคริสเตียนออร์ทอดอกซ์ ในเมือง Kizlyar ของสาธารณรัฐ จวนพิลที่อยู่ภายใต้การปกครองของประเทศรัสเซีย โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย พร้อมทั้งประชาชนอีก 5 รายได้รับความบาดเจ็บ นักบวชในโบสถ์กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุขณะที่ใช้อาวุธปืนกราดยิงได้ตะโกนออกมาว่า “อัลลอหุ อักบัร” ที่แปลว่า “พระเจ้ายิ่งใหญ่ที่สุด”     ผู้ก่อเหตุถูกระบุตัวว่าเป็นชายวัย 22 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง อ้างอิงจากคณะกรรมการสืบสวนทำให้ทราบว่า ชายผู้ก่อนเหตุได้เสียชีวิตลงแล้ว เขาถูกยิงโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เมื่อตรวจสอบศพของชายผู้เหตุ ทำให้พบปืนล่าสัตว์ กระสุนปืน และมีด     ทางกระทรวงราชการภายในภูมิภาคกล่าวว่า “ชายนิรนามได้ก่อเหตุกราดยิงด้วยปืนล่าสัตว์บริเวณเมือง Kizlyar ทำให้มีหญิง 4 รายบาดเจ็บสาหัสจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ” ขณะที่หญิงคนที่ 5 เสียชีวิตภายหลังที่โรงพยาบาล Russian News Agencies กล่าวว่าการกราดยิงได้เกิดขึ้นขณะที่สมาชิกในโบสถ์กำลังประกอบพิธีเฉลิมฉลอง Maslenitsa ซึ่งเป็นวันหยุดวันสุดท้ายก่อนจะเข้าวันเทศกาลมหาพรต     มีรายงานว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีก 2 รายเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และ…

จนถึงตอนนี้ได้มีการรณรงค์ต่อต้านการล่าสัตว์อย่างผิดกฎหมายเกิดขึ้นไปทั่วทั้งโลก ทุกๆ คนพยายามกันอย่างมากที่จะหยุดยั้งการฆ่าสัตว์ป่าผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นกับสัตว์ป่าทั่วไป หรือสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์อย่าง ช้าง ละมั่ง เสือโคร่ง หรือเสือดำ แน่นอนว่าความพยายามของผู้คนประสบความสำเร็จอยู่บ่อยครั้ง แต่ใช่ว่าการล่าสัตว์ผิดกฎหมายจะหายไปในเร็วๆ นี้     มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ ยังมีการล่าสัตว์ที่ผิดกฎหมายอีกเป็นจำนวนมากที่ยังดำเนินการอยู่ แต่ก็โชคดีที่จากบัดนี้ไป การต่อต้านการล่าสัตว์จะได้ขุมกำลังกลุ่มใหม่เข้ามาช่วยเหลือ พวกเขาคือกองทหารแห่งประเทศอังกฤษนั่นเอง จากการรายงานของสำนักข่าว BBC หน่วยทหารได้ถูกสั่งให้ลงพื้นที่ในแอฟริกาเพื่อการฝึกทหารพรานในการแกะรอย ทักษะทหารราบ ทักษะการเอาตัวรอดในป่า และทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล     การฝึกอบรมการปราบปรามการล่าสัตว์จะเกิดขึ้นที่สวนสัตว์ป่าสองแห่งในประเทศมาลาวี และจะมีทหารพราน 120 คนเข้ารับการฝึกคำแนะนำจากหน่วยทหาร เลขาธิการกลาโหม Gavin Williamson ออกมากล่าวว่าการล่าสัตว์ผิดกฎหมายนั้นมัน ‘โหดร้าย’ และหน่วยทหารอังกฤษจะมีส่วนร่วมในการยุติอุตสาหกรรมที่ผิดกฎหมายนี้ Williamson บอกว่า “การให้การฝึกอบรมและการให้คำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่อุทยานทำให้เกิดเครือข่ายที่มีทักษะ สามารถดูแลสัตว์สายพันธุ์ที่มีค่าของโลกให้คงอยู่กับคนรุ่นหลังสืบไป” แผนการในครั้งนี้จะใช้รูปแบบเดียวกับ แผนการต้นแบบที่มีการใช้ใน อุทยานแห่งชาติ Liwonde เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมานั่นเอง อย่างไรก็ตามจาก แรดในแอฟริกาถูกล่าอย่างผิดกฎหมายไปมากกว่า 7,245 ตัวในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และในขณะนี้เองก็ยังไม่อาจทราบได้ว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะส่งผลอย่างไรบ้างต่อตัวเลขการล่าสัตว์ผิดกฎหมายที่น่าเศร้าเหล่านี้   ที่มา ladbible

จากเหตุการณ์กราดยิงที่โรงเรียนใน รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้มีกลุ่มคนจำนวนมากออกมาแสดงความเป็นเกี่ยวกับกฎหมายการพกพาอาวุธของอเมริกากันอย่างมากหน้าหลายตา อย่างไรก็ดีด้วยความที่ว่าทางรัฐบาลสหรัฐ ยังไม่มีแผนการในการเปลี่ยนแปลงกฎหมายข้อที่ว่าทำให้มีชาวเน็ตมากมายไม่พอใจในเรื่องนี้ แต่ในบรรดาความเห็นเหล่านั้นมีความเห็นหนึ่งอันที่โดดเด่นกว่าคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด   Let’s rename ‘school’ as ‘uterus’ so maybe Republican lawmakers will want to do something about the children dying inside them. — Nathan G (@nwg83) 15 กุมภาพันธ์ 2561   นี่คือความเห็นของผู้ใช้ทวิตเตอร์ Nathan G ที่มีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขากล่าวว่า “เราน่าจะเปลี่ยนคำว่า ‘โรงเรียน’ เป็น ‘มดลูก’ เสียนะ เผื่อว่าบางทีฝ่ายนิติบัญญัติของพรรครีพับลิคกันจะอยากออกมาทำอะไรสักอย่างกับเด็กที่ตายข้างในนั้น” ที่มาของข้อความด้านบนนี้มีที่มาจากกฎหมายเกี่ยวการห้ามทำแท้งที่มีผลบังคับใช้ในหลายๆ รัฐในสหรัฐอเมริกาแล้ว เพราะว่าเป็นกฎหมายที่มีความเกี่ยวข้องกับเด็กเช่นกันกับโรงเรียน แน่นอนว่าข้อความอันทรงพลังของเขาก็ได้กลายเป็นกระแสในโลกอินเตอร์เน็ตไปอย่างรวดเร็ว และมีคนมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อความของเขาเป็นจำนวนมาก   ผู้ใช้ทวิตเตอร์ RCD ตอบข้อความของเขาด้วยภาพที่สะท้อนหลายๆ…

เรื่องของการ ‘ตด’ เป็นเรื่องธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกๆ คน ทว่าเมื่อมีการตดออกมาแล้ว สิ่งที่จะตามมาก็อาจจะมีทั้งกลิ่นและเสียงที่ลอยมากระแทกประสาทสัมผัสของเราได้ เรื่องของการตดในบ้านเราจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวสักนิด แล้วถ้าหากบังเอิญทนไม่ไหวตดออกมาท่ามกลางผู้คนล่ะก็ บางทีมันอาจจะเป็นวินาทีแห่งหายนะของความเขินอายก็เป็นได้ แต่ถ้าใครที่มีรสนิยมแปลกๆ ชอบในเรื่องกลิ่นและเสียงแล้วล่ะก็นี่อาจเป็นสวรรค์สำหรับพวกเขาเลยทีเดียว เพราะว่าในประเทศญี่ปุ่นกำลังจะมีการจัดงาน “ตดของสาวงาม” ขึ้นในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้แล้ว!!     โดยในวันที่ 3 มีนาคม ประเทศญี่ปุ่นจะมีการจัดเทศกาลชื่อว่า Hina Matsuri ขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้แก่เด็กสาวที่กำลังจะก้าวข้ามไปสู่การวัยผู้ใหญ่ ซึ่งกิจกรรมในงานนี้ก็จะมีทั้ง การจัดแสดงตุ๊กตาญี่ปุ่นอันสวยงาม เทศกาลซูชิ รวมถึงขนมนมเนยต่างๆ ด้วย ทว่าก็มีอีกสิ่งหนึ่งนอกจากเหนือจาก ดนตรี อาหาร ที่อยู่ภายในงานนี้ และสิ่งๆ นั้นก็คือการตด ที่เราจะได้เห็นการตดจำนวนมากของผู้คนที่เข้ามาร่วมงาน เพราะว่าในเทศกาลนี้การตดจะถือว่าเป็นสิ่่งที่ถูกต้อง มากไปกว่านั้นยังมีปาร์ตี้การแสดงสาวงามตด ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 อีกด้วย     นอกจากนี้ยังมีการตั้งสมมุติด้วยว่ากว่า 94% ของประชาชนญี่ปุ่นทั้งหมดเป็นผู้ที่ชื่นชอบการตด เพราะพวกเขาถือว่าเป็นการสัมผัสที่ดีอีกรูปแบบหนึ่ง และที่นับได้ว่าเป็นไฮไลต์ของงานนี้ก็คือ จะมีดาราหนังผู้ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นมาร่วมงานด้วยจำนวนสามคนนั่นก็คือ Miu Akemi, Tomoka Akari และ Saiko Yatsuhashi ซึ่งหากใครที่เป็นแฟนคลับของพวกเธอแล้วล่ะก็ ในงานนี้พวกเขาอาจจะได้กลิ่นที่ออกมาจากลำไส้ใหญ่ของพวกเธอก็เป็นได้     หากใครที่สนใจจะเข้าร่วมงานนี้ ก็มีกฎอยู่ง่ายๆ…

ไม่ว่าใครๆ ต่างก็รักชีวิตตัวเองกันทั้งนั้นไม่ว่าเป็นคนหรือสัตว์ และถ้าหากรู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะตกอยู่ในอันตรายล่ะก็ มีหรือที่จะยอมอยู่เฉยๆ ได้ เหมือนกับเจ้าวัวตัวนี้ที่รู้ตัวว่ากำลังจะต้องเดินทางไปโรงฆ่าสัตว์ มันเลยกระโดดออกจากรถแล้วว่ายน้ำหนีเข้าไปอยู่บนเกาะ แล้วยึดเอาเป็นของมันแต่เพียงผู้เดียวซะเลย โดยการหลบหนีของวัวแสนรู้ตัวนี้เกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2018 ที่ผ่านมา เมื่อรถบรรทุกขนวัวคันหนึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังโรงฆ่าสัตว์ แต่ว่าในระหว่างทางนั้นเองก็มีวัวตัวหนึ่งที่เหมือนจะรู้ชะตากรรมของตัวเองว่า กำลังจะกลายเป็นเนื้อสเต็กแสนอร่อยให้คนกินกัน ด้วยความรักตัวเองมันจึงตัดสินใจกระโดดลงจากรถทั้งๆ ที่รถยังแล่นอยู่     จากนั้นเมื่อลงจากรถสำเร็จ มันก็ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำ Nysa ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศโปแลนด์ เพื่อจะหนีเอาชีวิตรอดจากการตามจับ และในที่สุดแล้วมันก็ไปพบกับเกาะแห่งหนึ่งเข้า เลยตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะที่ว่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อเรื่องนี้ไปถึงหูของนาย Lukasz เจ้าของวัวดังกล่าว เขาก็พยายามที่จะนำตัววัวตัวนี้กลับมาให้ได้ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงหรือวิธีการไหนก็ไม่สามารถเอาตัวมันกลับมาจากเกาะได้ เขาเลยยอมแพ้และเลือกที่จะเอาอาหารไปให้มันแทน เพื่อเห็นแก่ความรักชีวิตของเจ้าวัวมหัศจรรย์ตัวนี้ หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งพวกเขาบอกว่าระยะทางจากฝั่งไปยังเกาะที่วัวอาศัยอยู่นั้นเป็นระยะทางถึง 50 เมตรเลยทีเดียว     เมื่อเข้าไปตรวจดูแล้วก็พบว่าวัวตัวดังกล่าวมีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการหลบหนี จากการบอกเล่าของ Pawel Gotowski รองผู้บัญชาการหน่วยดับเพลิงประจำเมือง และเหมือนกับว่าจะเป็นบุญของวัวตัวนี้ ที่นอกจากจะหนีรอดออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว ในตอนนี้ก็ยังมีนักการเมืองชื่อว่า Pawel Kukiz ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กบอกว่า เขาจะเป็นผู้ส่งเสียเงินเพื่อเลี้ยงดูวัวตัวนี้เอง “ผมก็ไม่ใช่มังสวิรัติหรอกนะ ผมก็กินเนื้อเหมือนคนทั่วๆ ไปนี่แหละ แต่ผมเห็นถึงความอดทนและความตั้งใจในการหนีเอาชีวิตรอดของมัน ทั้งหนีลงจากรถ ว่ายน้ำไปอยู่บนเกาะ ผมเลยคิดเอาไว้ว่าควรจะทำอะไรให้เป็นรางวัลสำหรับมันสักหน่อย” Pawel เขียนเอาไว้ในเฟซบุ๊กของเขา  …

“ที่ที่อันตรายที่สุด คือที่ที่ปลอดภัยมากที่สุด” ประโยคสุดคลาสสิคตั้งแต่ครั้งเรายังเป็นเด็ก เวลาเล่นซ่อนแอบหรือคิดหาที่ซ่อนสำหรับของเล่นชิ้นโปรดไว้เล่นคนเดียว เราก็อาจจะเคยคิดอย่างนี้กัน และนั่นก็คงเป็นความคิดของหัวขโมยหนุ่มชาวจีนคนหนึ่งที่ดันเดินเข้าไปให้ตำรวจจับคาสถานีเลยทีเดียว เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเมืองกุ้ยหยาง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานว่ามีโทรศัพท์มือถือถูกขโมยไปจากร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ภายในเมือง   วิวทิวทัศน์ของเมืองกุ้ยหยาง สถานที่เกิดเหตุ   เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบ ก่อนที่จะชี้ตัวผู้ต้องสงสัยว่าเป็นชายแซ่ Wang พวกเขาจึงกระจายรูปของหัวขโมยหนุ่มคนนี้ออกไปให้กับตำรวจของสถานี ไม่กี่วันต่อมา ตำรวจยังคงตามหาผู้ต้องสงสัยรายนี้อยู่ แล้วจู่ๆ ชายแซ่ Wang ก็เดินเข้ามาภายในสถานีตำรวจหน้าตาเฉย เพื่อจะมาขอยืมใช้โทรศัพท์ติดต่อกลับไปหาที่บ้านว่าตนเองจะไม่ได้กลับไปในช่วงเทศกาลตรุษจีน   ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสถานี จับภาพให้เห็นหัวขโมยที่เดินเข้ามา   นายตำรวจแซ่ Zhou ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า “หัวขโมยคนนี้เร่ร่อนไปทั่ว ไม่มีเงินติดตัวเลยซักบาท เขาเดินเข้ามาในสถานีเพื่อขอยืมใช้โทรศัพท์ติดต่อบอกครอบครัวว่าตนเองจะไม่ได้กลับไปในเทศกาลตรุษจีน สงสัยเขาคงคิดว่าคดีเล็กๆ อย่างกรณีมือถือถูกขโมยคงจะไม่มีการแจ้งความ โดยไม่รู้เลยว่าตำรวจกำลังมองหาตัวเขาอยู่พอดี” หลังจากที่หัวขโมยมาขอความช่วยเหลือเพียงไม่กี่นาที ตำรวจนายหนึ่งก็ดันจำได้ว่าเขาคือคนร้ายที่ทุกคนกำลังตามหาอยู่ จึงไม่รอช้ารีบคว้ากุญแจมือไปล็อคตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้เอาไว้   ตำรวจไม่รอช้า รีบเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยคนนี้ทันที   จากการสอบปากคำ สรุปว่านายคนนี้เป็นคนขโมยมือถือไปจริงๆ แล้วนำไปแลกเป็นเงินได้มาประมาณ 900 บาท และต้องถูกคุมขังเอาไว้ชดใช้การโจรกรรมของเขาเอง   คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น…

ในหน้าจอทีวียุคปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่ามีเกมโชว์หรือซีรีส์แปลกๆ มากมายมาให้เราได้ชมกัน แต่รู้หรือไม่ว่าบนโลกนี้มีรายการหนึ่งที่มีแนวคิดสุดแปลกแหวกแนว ด้วยการนำคนสองคนมาแต่งงานกันตั้งแต่ครั้งแรกพบ และก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องบอกเลยว่าสุดแสนจะโชคดี เพราะว่าเธอได้เข้าร่วมรายการที่ว่านี้ แล้วดันได้แต่งงานกับหนุ่มรูปหล่อและที่สำคัญคือรวยโคตรๆ อีกด้วย!!     รายการดังกล่าวมีชื่อว่า Married At First Sight ซึ่งเป็นรายการเรียลลิตี้ที่ออกอากาศทางช่อง Channel 4 ซึ่งรายการนี้เป็นรายการที่จะจับคู่ให้กับผู้ที่สมัครเข้ามาแข่งขันได้มาแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน โดยจะมีการวิเคราะห์การจับคู่ว่าใครที่เหมาะสมกันบ้าง จากเหล่าทีมผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาแขนงต่างๆ รายการนี้ได้เดินทางมาถึงซีซั่นที่ 3 แล้ว และคู่รักคู่ล่าสุดที่ได้สร้างกระแสฮือฮาบนโลกอินเทอร์เน็ตก็คือคู่ของ Stephanie กับ Ben ที่ได้เข้าพิธีวิวาห์กันไปเรียบร้อย แต่สิ่งที่สร้างความอิจฉาตาร้อนให้กับสาวๆ ที่ดูรายการก็คือ Stephanie จะได้ใช้ชีวิตร่วมกับมหาเศรษฐี โดยที่เธอไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน     สำหรับสาวผู้โชคดีรายนี้ เธอเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจวัย 32 ปี จากเมืองเซอรีย์ ประเทศอังกฤษ ที่ใช้ชีวิตเป็นโสดมาเป็นหนึ่งปีเต็มๆ ซึ่งเธอก็ได้บอกว่าจริงๆ แล้วก่อนหน้าที่จะพบกับ Ben เธอได้เคยเข้าพิธีหมั้นมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้แต่งงานกับใครจริงๆ สักที จึงได้สมัครเข้ามาร่วมรายการนี้ “มันเป็นเรื่องตลกมากที่ฉันชอบล้อเล่นกับเพื่อนๆ ว่า ฉันเป็นคนที่เฉียดเข้าใกล้การแต่งงานที่สุดแต่ก็ยังไม่ได้แต่งกับเขาซักที” Stephanie กล่าว ดังนั้น Jo Coker นักจิตวิทยาประจำรายการ จึงพยายามหาคู่ที่เหมาะสมให้กับเธอ…

ช่างภาพหลายๆ คนที่มีชื่อเสียงมักจะมีแนวการถ่ายรูปที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ผู้คนสามารถจดจำลักษณะเด่นของเขาได้ เช่นเดียวกับ Loreal Prystaj เธอมีแนวการถ่ายรูปที่แหวกแนวสุดๆ โดยที่เธอชอบที่จะถ่ายรูปของตัวเองเวลาที่อยู่ในอ่างอาบน้ำในชื่อ “Body in Bathworks” โดยที่ภาพแต่ละชุดก็จะมีองค์ประกอบในอ่างไม่เหมือนกัน แต่ละภาพเรียกได้ว่าความคิดสร้างสรรค์ดีจริงๆ     เธอพูดถึงจุดเริ่มต้นของภาพชุดนี้ว่า “ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 ขณะที่ฉันอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก ฉันได้ค้นหาสารพัดวิธีที่จะเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปในตอนเด็ก โดยในครั้งแรกฉันเริ่มจากการสร้างฉากในห้องน้ำ” “ฉันใส่ลูกบอลเข้าไปในห้องน้ำจนเต็มไปหมด จากนั้นตั้งกล้องและตั้งเวลา และมุดตัวเองเข้าไปอยู่ในอ่างน้ำ สุดท้ายก็ถ่ายรูปตัวเองที่กำลังหลับตาและยิ้มอย่างสดใส” และเมื่อมีรูปแรกมันก็ย่อมมีรูปต่อไปตามมาเสมอๆ จนการถ่ายภาพซีรีส์นี้กลายเป็นชีวิตประจำวันของเธอไปแล้ว อ่างอาบน้ำกลายเป็นที่ที่เธอจะระเบิดความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองออกมา และผู้หญิงที่อยู่ในอ่างอาบน้ำจะแปรเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ และวันนี้เราก็ได้รวบรวมตัวอย่างภาพชุด “Body in Bathworks” มาให้เพื่อๆ ได้ชมกันแล้ว แต่หากใครที่ยังไม่จุใจ สามารถตามไปชมผลงานของเธอโดยการคลิกที่นี่เลยครับ   . . . . . . . .   ความคิดสร้างสรรค์ของเธอสุดยอดจริงๆ ที่มา Sobadsogood

นอกจากอาหารหมาแล้ว หลายคนคงให้สุนัขกินหมูดิบ เนื้อดิบ หรือไก่ดิบ แต่ล่าสุด นักวิจัยจากเมลเบิร์น ออกมาเผยว่าการให้สุนัขกินไก่ดิบนั้นอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของพวกมันได้ จากการวิจัยในโรงพยาบาลสัตว์ Werribee Animal Hospital เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เผยว่าการให้สุนัขบริโภคไก่ดิบเสี่ยงต่อการเกิดภาวะอัมพาตเฉียบพลัน (APM) ก่อนหน้านี้สาเหตุการเกิดภาวะอัมพาตเฉียบพลันในสุนัข ยังเป็นที่คลุมเครือในวงการสัตวแพทย์ จนกระทั่งผลการวิจัยใหม่ออกมาระบุว่ามันมีสาเหตุจากไก่ดิบ โดยเฉพาะส่วนคอของไก่ เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ     ทีมวิจัยบอกว่าการเลี้ยงสุนัขด้วยไก่ดิบมีความเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงของภาวะดังกล่าว 70% เพราะในไก่ดิบมีเชื้อแบคทีเรีย Campylobacter (เป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในลำไส้) ที่เป็นตัวนำ 40% ที่ทำให้เกิดกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เรในมนุษย์ ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่สอดคล้องกับภาวะอัมพาตเฉียบพลันในสัตว์ ในระหว่างการศึกษา ผู้นำการวิจัย ดอกเตอร์ Matthias le Chevoir และทีมจาก U-Vet Werribee Animal Hospital ของมหาวิทยาลัย University of Melbourne ได้ตรวจสอบอาหารของสุนัข 27 ตัว ที่มีอาการ AMP     เมื่อเปรียบเทียบกับสุนัขกลุ่มที่ไม่มีอาการ AMP พวกเขาได้ข้อสรุปว่า Campylobacter อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องและเป็นอัมพาต AMP อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตของสุนัข…

ถ้าอยู่มาวันหนึ่งเราบังเอิญไปเจอเงินก้อนโตเข้าโดยบังเอิญ เราก็อาจจะเกิดความคิดในหัวที่อยากจะเก็บเงินก้อนนั้นเอาไว้เอง ทว่าถ้าหากทำเช่นนั้นมันก็อาจจะทำให้ไม่สบายใจ เพราะกลัวว่าสักวันหนึ่งอาจจะมีคนมาตามคืนได้ ทางที่ดีจึงควรทำเหมือนกับชายคนนี้ดีกว่า เนื่องจากว่าเขาได้นำเงินที่เจอโดยบังเอิญส่งคืนให้กับตำรวจเพื่อรอเจ้าของที่แท้จริงมารับมันคืน!!     โดยเหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นกับชายจิตใจดีชาวอังกฤษชื่อว่า Kevin Ball เขาทำงานเป็นคนเก็บขยะอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง และในวันที่ 4 มกราคม 2018 ขณะกำลังปฏิบัติงานอยู่นั้นเขาก็ไปค้นเจอเงินจำนวนกว่า 7,000 ปอนด์ (ประมาณ 307,000 บาท) ถูกทิ้งอยู่ในกองขยะอย่างไม่มีใครเหลียวแล ทว่าด้วยความเป็นคนดี เขาจึงได้นำเงินจำนวนดังกล่าวส่งให้แก่สถานีตำรวจแลงคาเชอร์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อที่ตำรวจจะได้ตามหาเจ้าของเงินมารับคืน ทว่าก็เป็นเวลาผ่านไปเดือนกว่าๆ แต่ก็ยังไม่สามารถตามหาเจ้าของที่แท้จริงได้สักที     ซึ่ง Ball ก็ได้บอกอีกด้วยว่าถ้าในที่สุดแล้วไม่สามารถตามหาผู้ที่มีหลักฐานเพียงพอว่าเป็นเจ้าของเงิน เงินจำนวนนี้ก็จะถูกส่งมาให้บริษัท Quicker Skips ในเมืองเบิร์นลี่ย์ ที่เขาทำงานอยู่นั่นเอง ในตอนนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ Ball แอบหวังเอาไว้ว่าเงินก้อนนั้นอาจจะเป็นโชคของตัวเขา และหวังเอาไว้ว่าตัวเขาที่เป็นผู้พบเจอจะสามารถเก็บเงินเอาไว้เองได้ เรื่องนี้ได้กลายเป็นที่ฮือฮาในบริษัทที่ Ball ทำงานอยู่ และดูเหมือนว่าทุกคนจะดูตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก รวมถึง Mark Hanson ผู้จัดการของบริษัทก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ด้วย “พวกเรานำเงินทั้งหมดมารวมกันก็ปรากฏว่ามันมีจำนวนมากถึง 7,000 ปอนด์ ซึ่งมากกว่าในตอนแรกที่พวกเราคาดกันไว้ว่าน่าจะมีประมาณ 2,000 ปอนด์ (ประมาณ 87,000…

หากใครได้ไปเที่ยวในเขต Banaue ประเทศฟิลิปปินส์ คุณจะได้เจอกับของขึ้นชื่อทั้งสองอย่างของที่นี่ หนึ่งคือลานนาข้าวทอดยาวท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันสวยงาม สองคือสกู๊ตเตอร์ไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ สกู๊ตเตอรที่ทำมาจากไม้นี้ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ชาวบ้านคิดค้นกันขึ้นมาเอง เพื่อช่วยแก้ปัญหาการเดินขึ้นลงดอยไปเก็บผลผลิตหรือตัดฟืนที่ล่าช้าและยากลำบาก   แว๊นซ์แบบไร้เสียงท่อ ด้วยสกู๊ตเตอร์ไม้สุดคูล   เนินทุ่งนาอันสวยงาม กับวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ปรับตัวให้เข้ากับภูมิประเทศ   แน่นอนว่ามันเป็นเพียงแค่สกู๊ตเตอร์ที่ไม่ได้ติดเครื่องยนต์ แต่ด้วยภูมิประเทศของที่นี่ พวกเขาจึงสามารถใช้มันได้อย่างสะดวกสบาย ไหลลงเนินกันอย่างสนุกสนาน ด้วยความเร็วประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว เจ้าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากชาวบ้านเองและนักท่องเที่ยวจากต่างแดน นั่นจึงทำให้เดือนเมษายนของทุกๆ ปีจะมีการแข่งขันที่เรียกว่าเทศกาล Imbayah ซึ่งจะมีเหล่านักแข่งสกู๊ตเตอร์ไม้จำนวนมากเข้าร่วมการแข่งขันไหลลงเนินสุดมันส์   การแข่งขันประจำปีที่สร้างความสนุกให้ทั้งคนแข่งและคนดู   Robert Duyugen ช่างสลักไม้หนึ่งในผู้คลั่งไคล้การขี่สกู๊ตเตอร์ไม้ แชมป์การแข่งสามสมัย เขาบอกว่าเทศกาลดังกล่าวคือสิ่งที่ช่วยแสดงให้ทุกคนได้เห็นรูปแบบวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตของคนที่นี่ ทำให้มันเป็นสิ่งที่สร้างความสุขและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เขายังเล่าอีกว่าเขาเป็นคนสร้างสกู๊ตเตอร์ที่ขี่ขึ้นมาเองกับมือ รวมถึงการสลักรูปของเสือลงไป ทำให้รถของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน มีเอกลักษณ์และลวดลายตามจินตนาการของใครของมัน โดยการทำขึ้นมานี้เขาก็ใช้เวลาทั้งหมดแค่ 5 วันเท่านั้นเอง   Robert ชาวบ้านผู้คลั่งไคล้ในสิ่งนี้   คลิปเรื่องราวของประเพณีนี้ และการให้สัมภาษณ์ของแชมป์สามสมัย    นับว่าเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมจากต่างแดนที่มีความเฟี้ยวและความคิดสร้างสรรค์ที่ดี สามารถสร้างสิ่งที่เติมเต็มทั้งความสะดวกสบายและความสุขให้กับทุกคน แถมยังเป็นการแว๊นซ์โดยที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครด้วยนะ…

มีหลายสถานที่ทั่วโลกที่ถูกมนุษย์ทิ้งให้รกร้างและที่ที่ถูกย่ำยีโดยธรรมชาติจนดูราวกับว่ามันหลุดมาจากโลกของเทพนิยายหรือจากฉากหนังสยองขวัญ บางสถานที่เหล่านั้นเคยมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับความสนใจจากมนุษย์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันกลายเป็นเพียงสถานที่รกร้างและถูกหลงลืม อย่างไรก็ตาม แม้จะอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม แต่มันก็ยังมีความงามในความเสื่อมโทรม และกลายเป็นแหล่งดึงดูดให้ช่างภาพหรือนักเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมอยู่เสมอ   1. ที่ลี้ภัยที่ถูกทิ้งร้างในประเทศอิตาลี   2. โบสถ์ร้างในประเทศฝรั่งเศส   3. ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์   4. รถรางร้างในเมือง Cape Charles รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา   5. ที่นี่เคยเป็นโรงหนังในทะเลทรายอียิปต์ แต่ตอนนี้เหลือแค่เก้าอี้เท่านั้น   6. โรงเก็บเครื่องบิน Yugoslavian Aircraft Hangar ใน Mostar ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา   7. ห้องเต้นรำที่อยู่ภายในโรงแรมที่ถูกทิ้งร้าง   8. โบสถ์ที่ถูกทิ้งร้าง เหลือเพียงบรรยากาศที่ดูวังเวง   9. ห้องที่ถูกทิ้งร้างจนค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยตะไคร่น้ำ   10. หลังจากที่ผู้คนต้องอพยพเพราะภัยพิบัติเชอร์โนบิล เมืองพริเพียต ของยูเครน ก็กลายเป็นเมืองร้างจนทุกวันนี้   11. โรงภาพยนตร์ที่ถูกไฟไหม้จนไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป   12. นี่คือที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ในบัลแกเรีย  …

ด้วยความที่จิงโจ้เป็นสัตว์ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศออสเตรเลีย ทำให้บ่อยครั้งที่พวกมันมักจะถูกล่าเป็นอาหาร แต่ว่ามีอยู่เหตุกาณณ์หนึ่งที่มันไม่ยอมตกเป็นฝ่ายถูกกระทำอีกต่อไป แถมยังทำสิ่งตรงกันข้ามนั่นก็โจมตีนายพรานคนหนึ่งที่ไปล่าพวกของมันด้วยการ ‘เฮดบัต’ จนกรามของนายพรานคนนั้นร้าวเลยทีเดียว โดยเหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อหนุ่มนามว่า Joshua Hayden ได้ออกไปเดินทางล่าสัตว์กับพี่น้องของเขาที่รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย   เจอกันได้นะเจ้ามนุษย์   หนุ่มวัย 19 ปีคนนี้เล่าให้ฟังว่า ในตอนแรกเขาได้สังเกตเห็นกลุ่มจิงโจ้ที่อยู่ด้วยกัน 3 ตัว แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างก็ทำให้มีจิงโจ้ตัวหนึ่งได้อันตรธานหายไปจากสายตาของเขาอย่างไร้ร่องรอย แต่เขาก็ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่ามันคงหนีเข้าป่าไปยังทิศทางอื่น ต่อมาเมื่อ Joshua เห็นว่ายังมีจิงโจ้เหลืออีกตั้ง 2 ตัวรอให้เอาไปเป็นอาหาร เขาจึงเบี่ยงตัวออกนอกหน้าต่างรถเพื่อหวังจะยิงจิงโจ้สองตัวนั้นให้แน่นิ่งให้จงได้ แต่ทันใดนั้นเองเขาก็ได้พบกับจิงโจ้ตัวที่หายไปอีกครั้ง และคราวนี้เห็นเต็มสองตาเลย เพราะว่ามันพุ่งเข้าใส่รถของพวกเขา แม้ว่ากำลังจะวิ่งอยู่ก็ตาม   โดนซะหนักเลยนะคุณพี่   “มันพุ่งเข้าชนที่ด้านข้างรถของพวกเรา จากนั้นมันก็ทุบกระจกหน้าของรถเราจนแตก แล้วมันก็เด้งกลับมาโจมตีผมด้วยการเฮดบัตเข้าเต็มๆ กรามเลย” “ตอนนั้นผมสลบไปประมาณ 30 วินาที พอผมตื่นขึ้นมาพี่น้องของผมก็เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฟัง” Joshua กล่าว เมื่อเห็นการโจมตีดังกล่าวได้ทำร้าย Joshua จนสลบ พวกพี่น้องจึงพาเขาไปรักษาที่โรงพยาบาล Kellerberrin Memorial จากนั้นเขาก็ถูกส่งตรงไปที่แผนกฉุกเฉินเป็นการด่วนเลย   โดนซะแล้วล่ะ ตูมใหญ่เลยด้วย…

ในวันสำคัญของชีวิต เช่น วันรับปริญญา หรือวันแต่งงาน เราหลายๆ คนคงอยากให้คนที่เรารักร่วมเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลานั้นด้วย คนที่เรารักในที่นี่อาจจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย เพื่อน ญาติๆ หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง เหมือนกับบัณฑิตสาวคนนี้ที่เลือกถ่ายรูปกับน้องหมาสุดที่รักในวันที่เธอสำเร็จการศึกษา     เรื่องราวนี้ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก Tle Bloom เป็นภาพบัณฑิตสาวกับน้องหมาพร้อมข้อความระบุว่า “เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาโดนจ้างไปถ่ายรูปนอกรอบ บัณฑิตบอกรับปีหน้า แต่อยากถ่ายไว้ก่อน อยากจะถ่ายคู่กับหมามันชื่อ เต่า บัณฑิตบอกเจ้าเต่า อยู่มา 15-16 ปี มันแก่มากแล้ว ไม่กินข้าว แม้จะเดินยังทำไม่ไหว มันก็เป็นเช่นนั้นจริง บัณฑิตกลัวว่ามันจะไม่อยู่รอวันรับจริง ก็อยากมีภาพเก็บไว้ก่อน หลังจากถ่ายเสร็จแค่ 1-2 วัน มันก็จากไป เหลือเพียงความรักและความทรงจำ ขอบคุณที่ให้เราเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำ เสียใจด้วยครับ”     เรื่องราวนี้สร้างความประทับใจให้ผู้อ่านเป็นจำนวนมาก เราจึงได้ติดต่อไปหาบัณฑิตเจ้าของน้องเต่าน้อย เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม บัณฑิตคนนี้คือคุณแป้ง เธอได้เรื่องราวของเต่าน้อยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า น้องเต่าได้เข้ามาในชีวิตช่วงที่เรียนระดับมัธยม กระทั่งเรียนจบปริญญาตรีในปี 2560 และจะรับใบปริญญาในปี 2562 โดยตั้งใจว่าจะให้น้องหมาที่เลี้ยงไว้นับ 10 ตัว ไปถ่ายรูปด้วย  …

อย่างที่หลายคนรู้กันอยู่แล้วว่าประชากรผึ้งบนโลกนี้มีน้อยลงไปทุกที สาเหตุหลักมาจากวิธีการทำฟาร์มอุตสาหกรรมสมัยใหม่และการสูญเสียที่อยู่อาศัย นั่นถือเป็นข่าวร้ายสำหรับเราทุกคน เนื่องจากผึ้งทำหน้าที่สำคัญในการผสมเกสรของพืชหลายชนิด อันเป็นแหล่งอาหารสำคัญของมนุษย์   BEEcosystem วิธีใหม่ที่จะช่วยประชากรผึ้งไม่ให้ลดลง   ดังนั้นเพื่อไม่ให้ผึ้งหมดไปจากโลก เราในฐานะมนุษย์จึงต้องช่วยกันแก้ปัญหานี้ แต่อย่างที่เรารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำแบบนั้น อย่างไรก็ตาม BEEcosystem มากับไอเดียการสร้างกล้องติดผนังบ้าน ซึ่งเป็นรูปรังผึ้งหกเหลี่ยม เป็นการช่วยให้ผึ้งเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับมนุษย์ได้   ผึ้งทำหน้าที่สำคัญในการผสมเกสรของพืช อันเป็นแหล่งอาหารของเรา   แนวคิดนี้ทำให้ผึ้งได้ใกล้ชิดกับมนุษย์ในสิ่งแวดล้อมแบบสังคมเมือง ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อประชากรผึ้งแล้ว ยังทำให้มนุษย์ได้เข้าใจความสำคัญของผึ้ง บทบาทของมัน และทำให้เราได้เรียนรู้ทีจะอยู่เคียงข้างมันอย่างเป็นมิตร กล่องรังผึ้งดังกล่าวได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เพื่อให้ทุกคนรวมทั้งผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์กับผึ้งได้อยู่ร่วมกับมันอย่างสบายใจ และไม่ต้องกังวลว่าจะถูกผึ้งต่อย เพราะจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน   ดังนั้นการให้ผึ้งอยู่ใกล้เรามากขึ้นและให้พื้นที่กับมันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องตระหนัก   การติดตั้งกล่องรังผึ้งในบ้าน จะทำให้คุณได้เห็นการทำงานของผึ้งอย่างใกล้ชิด ได้เห็นการสร้างรัง รวมทั้งการผลิตน้ำผึ้งที่อาจทำให้คุณน้ำลายหกได้   กล่องรังผึ้งหกเหลี่ยมที่เราสามารถติดตั้งในบ้านได้   หรือจะติดบนผนังนอกบ้านก็ได้   เราสามารถเฝ้าดูการทำงานของมันได้อย่างชัดเจน   กล่องนี้ง่ายต่อการสร้างรังของผึ้ง   ผึ้งจะเข้ามาในกล่องผ่านท่อใสๆ ที่มีความปลอดภัย และเป็นท่อที่เหมาะกับหน้าต่างทุกรูปแบบ   การติดตั้งกล่องแบบนี้ มันก็เหมือนกับคุณทำช่องด้านล่างประตูให้หมาแมวเข้าออกนั่นแหละ   อยู่ในบ้าน คุณก็สามารถเฝ้าดูการทำงานของผึ้งได้   การที่จำนวนประชากรผึ้งเติบโตขึ้น…

การทำอะไรอย่างไม่รีบร้อนนั้นเป็นเรื่องที่ดี และยังสามารถลดความเครียดได้ดี แต่บางทีก็มีบางคนที่ใช้ความไม่รีบร้อนนี้อย่างไม่ถูกวิธี ซึ่งอาจเป็นเรื่องผิดกฎหมายและยังน่าอายอีกด้วย ซึ่งมีชายหนุ่มหัวขโมยสุดชิลคนหนึ่งได้งัดเข้าไปในบ้านผ่านช่องระบายอากาศ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 ที่เมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และใช้เวลาในการสูบบุหรี่ ชาร์จโทรศัพท์ของเขา แถมยังแวะดูหนังโป๊ราวกับว่าเป็นบ้านของตัวเอง     Lisa และ Steve Mirizzi คู่รักที่อาศัยอยู่อพาร์ตเมนต์ชั้นบนกับครอบครัวได้พบกับชายหนุ่มที่ภายหลังได้มีการระบุตัวตนว่าชื่อ Alan Estrada อายุ 28 ปี หลังจากที่ Lisa เดินลงมาชั้นล่างเพื่อชงชา และพบกับชายผู้นี้กำลังดูหนังโป๊และช่วยตัวเองอยู่ เธอตกใจร้องตะโกนออกมาเพื่อเรียกให้สามีและลูกชายของเธอลงมาที่ชั้นล่าง หลังจากนั้นสามีและลูกชายของเธอก็วิ่งไล่จับเขาโดยดักทางกันคนละทิศ     Estrada พยายามจะหนีผ่านประตูหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถผ่านไปได้เนื่องจากประตูนั้นถูกล็อกด้วยแม่กุญแจอยู่ หลังจากที่เขาพยายามหนีอีกครั้ง Giovanni ลูกชายของเธอก็จับเขาและทุ่มลงกับพื้น เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานก็ได้มีการโทรศัพท์แจ้งตำรวจข้อหาบุกรุก Lisa กล่าวว่า “มันเหมือนกับว่าเป็นความฝัน นี่มันเกิดขึ้นจริงๆ หรือ?” ผู้บุกรุกได้งัดเข้ามาพร้อมกับซีดีหนังโป๊ งัดเอาเงินและบัตรเครดิตในร้านไป เดินสำรวจไปมาก่อนที่จะนั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์และสูบบุหรี่   .   หลังจากที่เงินและบัตรเครดิตทั้งหมดได้ถูกนำส่งคืนเจ้าของเรียบร้อย ทางครอบครัวจึงไม่เอาความผิดกับชายหนุ่มผู้นั้นกับเหตุการณ์อันแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น…

เมื่อถึงหน้าเทศกาลสำคัญ ก็อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ใครหลายคนกลับไปหาพ่อแม่ที่อยู่ต่างจังหวัด หรือบางคนก็อาศัยจังหวะหยุดยาวนี้เดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทว่าก็เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อเทศกาลมาถึง ปัญหาที่จะเกิดขึ้นอย่างหนึ่งอย่างแน่นอนก็ปัญหาเรื่องการจราจรหรือรถติดนั่นเอง ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแต่เฉพาะกับประเทศไทยเพียงอย่างเดียว แต่กับประเทศใหญ่ๆ อย่างประเทศจีน ก็ต้องประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีนที่ส่วนใหญ่จะเป็นวันพักผ่อนใหญ่ของปี สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางกันไปอย่างล้นหลาม จนรถติดเหมือนกับตังเมเลยก็ว่าได้!!     โดยนี่คือภาพของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในมณฑลส่านซี ที่มีนักท่องเที่ยวนับพันไปกระจุกกันอยู่ที่นั่นจนทำให้ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปทางไหนได้เลย ซึ่งเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องมาจากว่าหมู่บ้านแห่งนี้ มีวิวทิวทัศน์อันสวยงามแถมยังเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว จึงทำให้เกิดการจราจรติดขัดอย่างหนักขึ้นเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมาตั้งแต่มีการเริ่มเทศกาลตรุษจีนขึ้น     นอกจากนี้ยังมีภาพจากมุมสูงที่ได้แพร่หลายเป็นอย่างมากในสังคมอินเทอร์เน็ตในประเทศจีน โดยภาพที่ว่านี้จะแสดงให้เห็นว่าจำนวนรถที่อยู่ในหมู่บ้านชื่อว่า Yuanjia นั้นมันมากซะจนนับกันไม่หวาดไม่ไหว สำนักข่าวท้องถิ่นได้รายงานว่าในวันนั้นมีรถที่กำลังต่อคิวกันตามท้องถนนยาวถึง 4 กิโลเมตร และบริเวณทางแยกก็ได้กลายเป็นลานจอดรถไปโดยปริยาย เพราะว่ามันไม่สามารถสวนทางกันได้เหมือนกับที่ควรจะเป็นนั่นเอง   เห็นภาพอย่างนี้แล้ว นอนตีพุงอยู่บ้านน่าจะดีกว่า   สำหรับหมู่บ้าน Yuanjia เป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามภายในประเทศจีน ซึ่งหมู่บ้านนี้ได้ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับเมืองซีอานกับเมืองเสียนหยาง โดยตำนานเล่าเอาไว้ว่าบริเวณเชิงเขาของหมู่บ้านแห่งนี้ได้เป็นที่กำเนิดของ จักรพรรดิถังไท่จงแห่งราชวงศ์ถัง นอกจากนี้หมู่บ้านแห่งนี้ ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมอีกด้วย   สภาพนี้ ถ้าเป็นเราคงจะหัวร้อนน่าดูเลย   ที่มา: medium

เซ็กส์เป็นเรื่องธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แต่ว่าเมื่อเรายินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่ายแล้ว ก็จะต้องยอมรับผลที่ตามมาให้ได้และต้องช่วยกันรับผิดชอบ ทว่าหากมีใครคนหนึ่งที่ไม่สนใจและปล่อยให้เป็นภาระของอีกฝ่ายเพียงอย่างเดียว อย่างนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นคนที่ใช้ไม่ได้คนหนึ่งเลย ดั่งเช่นเหตุการณ์ของสาวคนนี้ที่ได้ตั้งท้องกับชายคนหนึ่ง แต่หลังจากที่เธอตั้งท้องแล้วก็ปรากฏว่า ชายคนนั้นกลับตัดทุกช่องทางการติดต่อเพราะต้องการจะหนีความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น สาวคนนี้เลยคิดไอเดียดีๆ ออกด้วยการใช้ป้ายโฆษณาขนาดยักษ์ติดหราไว้กลางเมืองเพื่อพยายามจะติดต่อกับเขา พร้อมทั้งประจานไปในตัวด้วยเลย   ป้ายโฆษณาตามหาพ่อของเด็กในท้อง   สำหรับป้ายโฆษณาที่ว่านี้ได้ทำขึ้นโดยผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ประสงค์จะออกนาม โดยมันเป็นป้ายยักษ์ที่ตั้งอยู่บนถนน Mariano Jiménez กับถนน Salvador Nava Avenue ในเมือง San Luis Polosi ประเทศเม็กซิโก ซึ่งรายละเอียดภายในป้ายนี้ ก็จะมีรูปของชายคนหนึ่งที่ใส่หมวกคาวบอย พร้อมด้วยชื่อจริงของเขาแบบเต็มๆ นามว่า Carlos Orozco และสิ่งที่สำคัญที่เป็นทีเด็ดที่สุดของสาวคนนี้ก็คือข้อความกึ่งต้องการความรับผิดชอบกับการต้องการประจาน ที่ว่า “ประกาศตามหา Carlos Orozco ตอนนี้ฉันกำลังตั้งท้อง แล้วนายก็บล็อกฉันทุกวิถีทางทั้ง เฟซบุ๊ก โทรศัพท์ ขนาดเพื่อนคนที่เคยแนะนำเราให้รู้จักกันนายยังเลิกคบเลย นี่จึงเป็นวิธีเดียวที่ฉันจะบอกข่าวนี้กับนายได้”   เด่นหราเห็นแต่ไกลเลย   แน่นอนว่าป้ายของหญิงสาวขนาดยักษ์คนนี้ ได้กลายเป็นกระแสไวรัลในสังคมโซเชียลมีเดียของประเทศเม็กซิโก โดยมีการแชร์นับพันผ่านทั้งเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ รวมถึงเว็บไซต์ข่าวต่างๆ ด้วย ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็เห็นว่ามันเป็นป้ายที่น่าขำขันดี แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะหัวเราะกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันคือชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งเลย “ประชาชนบางคนเห็นว่าเมืองนี้เป็นเสมือนกับหน้าวอลบนเฟสบุ๊ก และทำการโพสต์สิ่งต่างๆ ลงในนั้น แต่นี่คือโลกจริงที่อาจมีผลกระทบที่ตามมาอีกมาก” Juan…

ลองจินตนาการดูว่ามันจะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถกิน นอน ทำงาน และเที่ยวไปพร้อมๆ กัน ทั้งที่อยู่ในบ้าน มันดูเหมือนเป็นการเพ้อฝันใช่มั้ย? แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฝันนั้นจะไม่ได้อยู่แค่ในจินตนาการอีกต่อไปแล้วสำหรับศิลปินชาวเยอรมัน Maciej Markowicz และ Claudius Schulze  ทั้งสองคนเดินทางไปทั่วยุโรปด้วยโปรเจกต์ 2Boats ซึ่งเป็นทั้งเรือและบ้าน พวกเขาเพลิดเพลินไปกับการอยู่ในห้องที่สว่างไสวด้วยแสงไฟ ภายใต้ผ้าห่มอุ่นๆ พร้อมชมความงามของทิวทัศน์ข้างนอกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขณะลอยอยู่บนน้ำ     เรือลำนี้ดูเหมือนจะเป็นที่ที่เจ๋งที่สุดในการใช้ชีวิตและการท่องเที่ยว เพราะมันจะพาคุณไปเปิดประสบการณ์สุดมหัศจรรย์ที่คุณอาจไม่เคยได้รับมาก่อน ส่วนที่น่าสนใจของเรือลำนี้คือมันไม่เหมือนเรือทั่วไป เพราะมันถูกออกแบบให้มีลักษณะเหมือนบ้านหลังเล็กๆ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน Maciej และ Schulze เป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ และทั้งคู่ก็ได้ระดมความคิดกัน จนออกมาเป็นโปรเจกต์ 2boats ที่ทำให้พวกเขาและคนอื่นๆ ได้สัมผัสกับเมืองที่สวยที่สุดทั่วยุโรป     การที่เรือลำนี้ล่องลอยอยู่บนน้ำ ทำให้ Schulze ผู้เป็นเจ้าของรู้สึกเป็นอิสระ…จริงๆ แล้วเขาอาศัยอยู่บนเรือนี้ก่อนที่เขากับ Maciej จะเริ่มทำโปรเจกต์ด้วยกัน     เรือของ Schulze มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดที่บ้านควรจะมี นอกจากนี้ยังสิ่งตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ตามที่คุณคาดหวังเช่น ต้นไม้ โคมไฟสวยๆ และแน่นอน ที่นอนอันแสนสบาย คุณสามารถมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อเพลิดเพลินไปกับสายน้ำและชมความงามของเมืองทั่วทุกทิศ โอ้วว พวกเขาพาน้องแมวมาด้วยนะ     เมื่อไหร่ก็ตามที่เรือหยุดจอด…

เมื่อวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา Kayden Fleck เด็กชายอายุ 5 ขวบ ถูกกระแสน้ำพัดไปตามแม่น้ำ Braid River ในเมือง Ballymena ประเทศไอร์แลนด์ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา   Kayden Fleck ผู้เสียชีวิต   และด้วยความที่เด็กน้อยชอบ สไปเดอร์แมน ซุปเปอร์ฮีโร่ของ Marvel มาก ทางครอบครัวของเขาจึงได้ตัดสินใจจัดงานศพของเขาเป็นธีม สไปเดอร์แมน นั่นเอง โดยที่มีการตกแต่งโลงศพด้วยภาพของซุปเปอร์ฮีโร่คนนี้ และยังมีคนใส่ชุดสไปเดอร์แมนเข้าร่วมในงานอีกด้วย   พิธีศพของ Kayden ถูกจัดขึ้นที่โบสถ์ Elim Pentecostal โบสถ์ในเมืองซึ่ง Kayden เดินทางไปเรียนในวันอาทิตย์เป็นประจำ โดยที่คุณพ่อของเขา Darrel Fleck ทำได้เพียงแต่โศกเศร้าเสียใจกับการจากไปอย่างกะทันหันของลูกชายของเขา   เขาและภรรยา Leanne Fleck ได้ทำการบอกลาลูกชายของเขาเป็นครั้งสุดท้าย ในขณะที่ Jayden Fleck พี่น้องฝาแฝดของ Kayden ยืนอยู่ที่ข้างๆ โลงศพ   งานศพของ Kayden ดำเนินไปด้วยความร่วมมือของคนในงานผู้อาสาแต่งตัวเป็นสไปเดอร์แมน และช่วยเหลือในการแบกโลงศพไปยังสถานที่จัดฝัง   ซุปเปอร์ฮีโร่ในชุดสีแดงคนนี้ยังช่วยปลอบโยน Jayden ที่ต้องสูญเสียพี่น้องไปอีกด้วย   “เราจะโอบกอดเธอในความฝันนะ” Leanne กล่าวกับร่างไร้วิญญาณของลูกชายเธอ โดยที่พยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ก่อนที่จะประทับรอยจูบลงไปบนโลงศพ… เป็นครั้งสุดท้าย   ที่มา dailymail

เพราะคิ้วคือมงกุฎของหน้า จึงไม่แปลกใจว่าทำไมสาวๆ ถึงยอมลงทุนเป็นพันเป็นหมื่นเพื่อคิ้วที่สวยเป๊ะเป็นธรรมชาติ แถมยังใช้เวลาน๊านนานในการตกแต่งก่อนออกจากบ้านทุกเช้า แต่สำหรับนางแบบ Sophia Hadjipanteli เรื่องคิ้วไม่ใช่ปัญหาเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเธอเกิดมาพร้อมกับคิ้วที่ดกเป็นธรรมชาติ     Sophia วัย 21 ปี เติบโตมาในรัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณพ่อเป็นชาวไซปรัส และคุณแม่เป็นชาวอังกฤษ แต่รู้มั้ยว่ากว่าหญิงสาวจะประสบความสำเร็จในวันนี้ได้เธอต้องผ่านอะไรมามากมาย เธอเคยถูกเพื่อนแกล้งในโรงเรียน และได้รับประสบการณ์ที่เลวร้ายเป็นประจำ แต่การหัวเราะทีหลังดังกว่าเสมอ…     Hadjipanteli ปรากฏตัวในเว็บไซต์ของ Vogue ครั้งแรกตอนอายุ 15 ปี และอีกครั้งหนึ่งใน 3 ปีถัดจากนั้น ตอนนี้เธอกลายเป็นนางแบบผู้โด่งดังในโลกออนไลน์และมีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 152,000 ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าแม้เธอจะถูกรังแกในวัยเด็กจนเกือบจะยอมแพ้ และสุดท้ายเธอเลือกที่จะเติบโตขึ้นด้วยการเป็นตัวของตัวเอง     หญิงสาวบอกว่า “ตั้งแต่โตมา ฉันเป็นคนที่ดูแตกต่างเสมอ ฉันเป็นที่รู้จักเพราะมีรูปลักษณ์แปลกๆ และนั่นมันทำให้ฉันถูกกลั่นแกล้ง” “ฉันเกลียดทุกอย่างเกี่ยวกับการกลั่นแกล้ง เพราะแม้ว่ามันจะไม่ค่อยเกิดขึ้นกับฉันในวันนี้แล้ว แต่มันเป็นสิ่งที่น่ากลัวเสมอในโรงเรียนมัธยม” “แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังอยากอยู่กับรูปลักษณ์แปลกๆ นี้ เพราะมันทำให้ฉันมีวันนี้ได้ ฉันตัดสินใจปล่อยให้คิ้วเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น แล้วฉันก็ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้”     Hadjipanteli ปล่อยให้คิ้วเป็นไปอย่างธรรมชาติเมื่อ 2…

การเสียชีวิตของใครสักคนไม่ใช่เรื่องแปลก แตมีเพียงไม่กี่คนที่การเสียชีวิตของพวกเขากลายเป็นเหตุการณ์เขย่าโลก และทุกคนให้ความสนใจ บุคคลเหล่านั้นมักจะเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อโลกไม่ทางก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักเคลื่อนไหวทางสังคม รวมไปถึงศิลปินที่มีชื่อเสียง มากไปกว่านั้น การตายของพวกเขาบางคนไม่ได้มาจากสาเหตุธรรมชาติ แต่เป็นการฆาตกรรม โดยมีบทบาททางสังคมของพวกเขาอยู่เบื้องหลังการเสียชีวิต   1. John Lennon “ลองจินตนาการดูว่าทุกคนมีชีวิตอย่างสงบ คุณอาจจะพูดว่าผมเป็นคนช่างฝัน แต่ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว…” บทเพลงที่มีเนื้อหางดงามนี้คงจะเขียนโดยใครไปไม่ได้นอกจาก John Lennon จากวง The Beatles ซึ่งอุดมการณ์ของเขาเกี่ยวกับความสงบสุขคือสิ่งที่ยังคงเป็นที่นับถือจนทุกวันนี้ แต่แล้ว เขาก็ถูกสังหารโดย Mark David Chapman   Chapman เป็นแฟนคลับของ The Beatles และมี Lennon เป็นไอดอล แต่เขารู้สึกโกรธที่ไอดอลของเขามีชื่อเสียงมากกว่าพระเยซู ดังนั้นเขาจึงวางแผนเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อจะฆ่านักร้องคนนี้ เขามีหนังสือ The Catcher in the Rye ที่เขียนโดย J.D. Salinger ในครอบครอง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการคำแถลงของเขา สุดท้ายการตายของ Lennon กลายเป็นเหตุการณ์ช็อกโลกที่ทุกคนไม่มีวันลืม   Mark David Chapman   2. Martin…

เทศกาลดนตรี Creamfields คืองานคอนเสิร์ตในสหราชอาณาจักรที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่น ซึ่งครั้งล่าสุดถูกจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2017 แต่ภายในงานกลับไม่ได้มีแค่เหล่าคนที่หลงใหลในเสียงดนตรีเพียงอย่างเดียว เพราะยังมีกลุ่มค้ายาที่แอบแฝงเข้าไปใช้สารพัดวิธีในการส่งมอบสารเสพติดจำนวนมาก การส่งมอบผิดกฎหมายดังกล่าวไม่อาจรอดสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ จึงทำให้สมาชิกกลุ่มค้ายาที่มีอายุตั้งแต่ 18-24 ปีจำนวน 13 คน ถูกจับกุมไปดำเนินคดีในที่สุด พบของกลางเป็นโคเคน ยาอี และเคตามีน (หรือที่รู้จักกันในชื่อยาเค) ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในร่างกายของผู้ต้องหา     กลุ่มค้ายาที่ถูกจับในครั้งนี้ใช้วิธีการซุกยาไว้ในกระป๋องเบียร์เพื่อแอบเอาเข้าไปในงาน อีกทั้งยังมีการใส่เอาไว้ในถุงยางหรือกระปุกขนมรูปไข่ยี่ห้อ Kinder ก่อนที่จะยัดเข้าไปไว้ในร่างกาย แล้วพอเข้างานได้สำเร็จจึงค่อยนำไปขายหรือแจกจ่ายให้เพื่อน ต่อมาในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2018 ศาลของเมือง Warrington ประเทศอังกฤษ ได้ทำการตัดสินโทษจำคุกให้กับผู้ต้องหาทุกคน รวมแล้วเป็นเวลากว่า 31 ปี   กระปุกรูปไข่ Kinder   Hannah Lewis วัย 21 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาหญิงจากเมือง Edinburgh ประเทศสกอตแลนด์ ให้การกับตำรวจว่าเธอถูกขอให้นำยาเข้าไปในงานเพื่อแลกกับยาเสพติดที่เธอจะได้รับเป็นของตอบแทน จึงทำให้เจ้าหน้าที่พบสิ่งเสพติดที่ซ่อนไว้ที่กระปุกขนมภายในร่างกายของเธอ ยาเสพติดที่เธอซ่อนไว้ได้แก่ โคเคนที่สามารถตีเป็นมูลค่ากว่า 150,000 บาท…

ปกติในทุกๆ ปี พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา จะมีงานเลี้ยงที่เรียกว่า Ugly Sweater Party เพื่อให้ทุกๆ คนได้มาสนุกสนานกันภายใต้ชุดเสื้อถักเก๋ๆ สไตล์ใครสไตล์มัน แต่แล้วมันก็ได้เกิดเหตุโจรกรรมขึ้นท่ามกลางงานรื่นเริงในปี 2017 ที่ผ่านมา เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคม 2017 ระหว่างที่ทุกคนกำลังเพลิดเพลินไปกับงานเลี้ยง Michael Rohana หนุ่มวัย 24 ปี ก็หาจังหวะแอบเข้าไปในพื้นที่จัดแสดงชั่วคราว รูปปั้นทหารแห่งองค์จักรพรรดิที่หนึ่ง ซึ่งเป็นชุดผลงานศิลปะที่ถูกยืมมาจากประเทศจีน   พื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะรูปปั้นดินเผาอันเก่าแก่   ภายในพื้นที่จัดแสดงเต็มไปด้วยรูปปั้นนักรบรวมมูลค่ากว่าหลายร้อยล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มทหารที่ถูกปั้นขึ้นมาไว้สำหรับคุ้มครององค์จักรพรรดิคนแรกของจีน Qin Shi Huang (จิ๋นซีฮ่องเต้) หลังจากที่เขาจากโลกนี้ไป แต่อาจจะเป็นเพราะความชะล่าใจ จึงทำให้ทางพิพิธภัณฑ์ยังคงป้องกันพื้นที่ที่ถูกปิดเอาไว้ไม่เพียงพอ Michael เลยสามารถแอบเข้าไปได้อย่างง่ายดาย ลอดผ่านเชือกสีดำที่ถูกผูกเอาไว้กับเสาสองต้นเท่านั้นเอง หลังจากที่เขาเข้าไปในเขตหวงห้าม ชายหนุ่มก็ควักสมาร์ตโฟนขึ้นมาเซลฟี่ภาพของตัวเองที่กำลังโอบไหล่รูปปั้นทหารเอาไว้หนึ่งรูป ก่อนที่เขาจะตัดสินใจขโมยนิ้วโป้งมือด้านซ้ายของรูปปั้นดินเผาชิ้นนั้นกลับบ้าน ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 140 ล้านบาท   นิ้วโป้งซ้ายของรูปปั้นที่ชายหนุ่มขโมยไป   การโจรกรรมของเขาถูกบันทึกเอาไว้ผ่านกล้องวงจรปิดของทางพิพิธภัณฑ์ พร้อมด้วยหลักฐานอีกชิ้นใน Snapchat (แอปพลิเคชั่นโซเชียลเน็ตเวิร์กรูปแบบหนึ่ง)…

ร้านพิซซ่าส่วนใหญ่มักจะมีบริการจัดส่งสินค้าให้คุณถึงที่บ้าน ทำให้เราไม่ต้องออกไปซื้อเอง ตอบโจทย์ความต้องการของใครหลายๆ คน แต่สำหรับเขาคนนี้คงอาจจะไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีซักเท่าไหร่ เมื่อเขาต้องเจอกับพิซซ่ากว่า 100 ถาดที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนสั่ง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Guido Grolle ทนายความในเมือง Dortmund ประเทศเยอรมนี หนุ่มโชคร้ายที่โดนสะกดรอยตามจากบุคคลนิรนาม ผู้สั่งพิซซ่าให้เขามากกว่า 100 ถาด ในระยะเวลาแค่ประมาณ 2 สัปดาห์     เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคม 2018 เมื่อเช้าวันหนึ่งเขาได้รับอีเมลจำนวนมากที่บอกว่าเขาจะได้รับพิซซ่าที่สั่งเอาไว้ในตอนกลางวัน โดยที่เขาไม่ได้เป็นคนสั่งเองเลย หลังจากนั้นจึงทำให้มีพนักงานส่งพิซซ่าจากหลายๆ ร้านบึ่งรถมาหาเขาในที่ทำงาน พร้อมกับพิซซ่าอีกหลายถาดที่ตัวเขาไม่ได้เป็นคนสั่ง จนกลายเป็นสิ่งที่รบกวนการใช้ชีวิตปกติของทนายหนุ่มคนนี้ ชายหนุ่มต้องเจอกับข้อความทางโทรศัพท์หรือการโทรเข้ามายืนยันออเดอร์พิซซ่าที่สั่งเอาไว้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นตัวที่สร้างความรำคาญใจ จนเขาไม่อาจสามารถทำงานได้เหมือนอย่างปกติ Guido บอกว่า “มันเป็นอะไรที่น่ารำคาญมาก เป็นใครก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างเคยหรอก”   ภาพของเมือง Dortmund   ทนายหนุ่มไม่สามารถเดาได้เลยว่าใครคือตัวการของเรื่องนี้ เพราะเขาไม่มีศัตรูหรือลูกค้าที่โกรธเกลียดเขาเลย และไม่ใช่เพียงแค่จำนวนที่มากมายมหาศาลของพิซซ่าที่ถูกส่งมา แต่ความแปลกของเรื่องนี้อีกอย่างก็คือความเร็วในการสั่งพิซซ่า เพราะเขาเล่าว่ามีวันหนึ่งตอนเวลา 9.20 ถึง 9.47 มีข้อความการสั่งพิซซ่าส่งเข้ามามากถึง 15 ข้อความ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนคนเดียวสั่งได้ไวขนาดนั้น ตอนแรกเขาก็สงสัยว่ามันอาจจะเป็นเพราะไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ทำให้มีการสั่งพิซซ่าไปมากขนาดนั้น…

เมื่อไม่กี่วันก่อนเพื่อนๆ คงจะได้อ่านข่าวเด็กร้องเส่ียงดังบนเครื่องบินตลอดการเดินทาง ทำให้ผู้โดยสารต้องทนฟังด้วยความรำคาญนานถึง 8 ชั่วโมง (อ่านข่าวเก่า ผู้โดยสารหัวเสีย หลังต้องทนฟังเด็กร้องเสียงดังบนเครื่องบินนาน 8 ชั่วโมง) แม้เหตุการณ์นั้นจะสร้างความรำคาญให้แก่ผู้โดยสาร แต่ทุกคนก็อดทนอย่างเงียบๆ จนถึงปลายทาง แต่ดูเหมือนเหตุการณ์ต่อไปนี้จะเกินความอดทน จนทำให้ผู้โดยสารก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันบนเครื่องบิน การทะเลาะวิวาทบนเครื่องบินระหว่างผู้โดยสารเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้โดยสารคนหนึ่ง ‘ตดเสียงดังไม่หยุด’ ทำให้สายการบิน Transavia Airlines เที่ยวบิน HV690 ต้องลงจอดฉุกเฉินระหว่างเดินทางจากนครดูไบไปยังกรุงอัมสเตอร์ดัม     ตามรายงานระบุว่าเที่ยวบินดังกล่าวต้องลงจอดที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังผู้โดยสารชายสองคนทะเลาะวิวาทกัน โดยเหตุเกิดจากผู้โดยสารคนหนึ่งตดเสียงไม่ยอมหยุด ด้วยเหตุนี้ นักบินจึงตัดสินใจลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนา จากนั้นตำรวจได้ขึ้นมาเชิญผู้โดยสาร 4 คนลงจากเครื่อง     โฆษกตำรวจยืนยันว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อผู้โดยสารคนหนึ่งตดเสียงดังบนเครื่องโดยไม่พยายามควบคุมตัวเอง ซึ่งสร้างความรำคาญให้ผู้โดยสารอีกคนจนกลายเป็นการทะเลาะวิวาท ตำรวจได้เชิญตัวผู้โดยสารทั้งสองคนลงจากเครื่อง พร้อมด้วยผู้โดยสารหญิงอีก 2 คน Nora L วัย 25 ปี หนึ่งหญิงสาวที่ถูกเชิญลงกล่าวว่า “มันไม่ยุติธรรม มันบ้ามากที่เราถูกเหมารวมกับชาย 2 คนนั้น เราไม่รู้จักพวกเขา เราแค่นั่งแถวเดียวกับพวกเขาและเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย”     ในขณะที่ทางโฆษกสายการบิน Transavia Airlines…

วันวาเลนไทน์อาจจะเป็นวันพิเศษสำหรับคู่รักหลายๆ คน และถึงแม้ว่าจะผ่านพ้นช่วงวันพิเศษที่ว่านั้นไปแล้ว แต่เรื่องราวความรักของคุณตาคุณยายคู่นี้ ก็ทำให้เราอดที่จะนำมาฝากเพื่อนๆ ไม่ได้ วันแห่งความรักครั้งแรกของคุณ Ron Kramer และภรรยาของเขา Donna เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1979 และตลอด 39 ปีที่ผ่านมา คุณยายวัย 74 ปีของเราก็ยังคงได้รับดอกไม้และช็อกโกแลตจากสามีของเธอทุกปี     คู่สามีภรรยาจากเมือง Albuquerque รัฐนิวเม็กซิโก พบรักกันครั้งแรกในเดือนมกราคมปี 1979 ชายหนุ่มปรากฏตัวหน้าบ้านของฝ่ายหญิงเพื่อชวนเธอและน้องสาวออกไปเที่ยวลานสเกตน้ำแข็ง คุณ Donna เปิดประตูออกมาทักทายเขาพร้อมกับชุดคลุม การพบกันครั้งแรกทำให้คุณ Ron ตกหลุมรักเธอทันที หลังจากวันนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นความรักของทั้งคู่     ในวันวาเลนไทน์ครั้งแรกของทั้งสอง Ron ซื้อช็อกโกแลตจากร้าน Buffet’s Candies ร้านขนมเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1950 เป็นของขวัญสุดพิเศษให้กับแฟนสาวของเขา Donna เองชื่นชอบขนมจากร้านนี้มาก ดังนั้นของขวัญชิ้นนี้จึงมีพิเศษสำหรับเธอมาก และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ในทุกๆ ปี คุณตาท่านนี้จะมอบช็อกโกแลตจากร้าน Buffet’s Candies เป็นของขวัญให้กับภรรยาของเขา และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณตาท่านนี้ปรากฏตัวพร้อมกับกล่องเปล่า ก็เป็นอันรู้กันในหมู่พนักงานของร้านว่าจะต้องเตรียมของขวัญวันวาเลนไทน์ไว้ให้กับเขา     แต่แล้ววันที่น่าเศร้าก็มาถึง ในปี 2014 คุณ…

พวกเราทุกคนล้วนมีความฝันหรือเป้าหมายในชีวิตแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการสร้างครอบครัว ได้เจอกับดาราที่ชอบ หรือการเดินทางรอบโลก แต่บางทีการทำตามความฝันนั้นอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่เราหวังไว้ ซึ่งมีคู่รักคู่หนึ่งได้ตัดสินใจขายทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะทำตามความฝันโดยการเดินทางรอบโลก แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด สิ่งที่เหลืออยู่ในชีวิตก็หายไปในพริบตา     Tanner Broadwell และ Nikki Walsh ได้ตัดสินใจเริ่มการเดินทางผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตเมื่อวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 แต่ดวงพวกเขาไม่ได้ดีอย่างที่คิดไว้ เมื่อมีการโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินเมื่อวันพุธ 2 วันถัดมาว่ามีเหตุเรือล่มที่อ่าวเม็กซิโกใกล้ๆ กับชายหาดมาเดรา รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเรือขนาด 28 ฟุตหรือประมาณ 8.5 เมตรได้ชนเข้ากับอะไรบางอย่าทำให้เรือจม   .   แม้ว่าทั้งคู่และสุนัขพันธุ์ปั๊กของพวกเขาจะรอดออกมาได้โดยไม่ได้รับบาดแผลอันตรายใดๆ แต่ข้าวของของพวกเขาที่เหลืออยู่บนเรือได้ลอยหายไปกับทะเลเรียบร้อยแล้ว จากการสัมภาษณ์ คู่รักดวงซวยคู่นี้ได้เล่าให้ฟังว่าพวกเขาได้วางแผนที่จะหนีจากชีวิตที่ทันสมัยโดยการเดินเรือออกจากเมืองเบร็คเกนริดจ์ รัฐโคโลราโด เมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้พวกเขาได้ลาออกจากงาน ไม่มีเงินเก็บและไม่มีที่ให้ไป     กัปตันเรือในพื้นที่ได้กล่าวว่าในบริเวณช่องทางเดินเรือที่เรือของพวกเขาล่มนั้นมักจะมีหาดสันดอน ที่เกิดขึ้นจากคลื่นทะเล บางครั้งหากมีเรือไปชนอาจจะทำให้เรือล่มได้ “ผมขายทุกอย่างในชีวิตเพื่อการเดินทางครั้งนี้ และผมก็สูญเสียทุกอย่างภายใน 20 นาที” Broadwell กล่าว “ผมจะไม่ยอมแพ้ตอนนี้ ผมจะไปหาเรือลำอื่นเอาข้างหน้า…

ว่ากันว่าความรักนั้นสามารถจุดประกายความฝันและสร้างเป้าหมายให้กับมนุษย์ได้ เช่นเดียวกับหนุ่มที่หนักที่สุดในมณฑลหูหนานคนนี้ ซึ่งเขามีน้ำหนักที่มากถึง 170 กิโลกรัม ที่ตัดสินใจอยากจะเปลี่ยนตัวเอง     หนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Liu Ping ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 เขานั้นได้รับฉายาว่าเป็นคนที่อ้วนที่สุดในมณฑลดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาอ้วนมาได้ขนาดนี้นั่นก็เพราะ เขามักจะกินหม่าล่าถ้วยโตพร้อมกับเป๊ปซี่อีกสองขวดและขนมอีกชุดใหญ่เป็นประจำทุกวัน จนสุดท้ายเวลาผ่านไปผลลัพธ์ก็จึงออกมาอย่างที่เห็น     จนกระทั่งเมื่อมกราคมปี 2017 เขาได้ตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการเข้ารับการผ่าตัดลดน้ำหนัก ซึ่งมันก็ได้ผลดีเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อการผ่าตัดสำเร็จบวกเข้ากับการเปลี่ยนวิธีการกินและออกกำลังขังเขา ทำให้น้ำหนักลดลงไปถึง 75 กิโลกรัมภายในระยะเวลาแค่ 1 ปี     นอกจากนี้เขายังตั้งเป้าหมายไว้อีกว่าในปี 2018 นั้นเขาจะลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายให้ได้อีก 15 กิโลกรัม จากนั้นเขาก็จะมองแฟนสาวสักคนและมอบความรักให้กับเธอ     อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะมองว่าที่ Liu Ping นั้นสามารถลดน้ำหนักได้ก็เพราะการผ่าตัด แต่ถ้าเรามองอีกด้านเราก็จะพบว่าเขาไม่ได้ผ่าตัดแล้วหยุดอยู่แค่ตรงนั้น แต่เขายังคงพยายามออกกำลังและเปลี่ยนตัวเองซึ่งถ้าเขาผ่าตัดแล้วหยุดอยู่ที่เดิม ผลที่ออกมามันคงไม่ดีอย่างที่เห็น ยังไงก็เอาใจช่วยให้หาแฟนได้ไวๆ นะ   สู้โว้ย!!   ที่มา shanghaiist

คู่แฝดนั้นแม้จะมีลักษณะภายนอกเหมือนกันจนแทบแยกไม่ออก แต่ด้านความคิด พฤติกรรม รวมไปถึงค่านิยมของพวกเขาไม่ได้เหมือนกันเสมอไป อย่างไรก็ตาม คู่แฝดชายและคู่แฝดหญิง 2 คู่นี้ ดูเหมือนพวกเขาจะมีรสนิยมเหมือนกัน และลงเอยด้วยการขอแต่งงาน แถมยังใช้แหวนเหมือนกันเป๊ะด้วย     Josh และ Jeremy Salyers พี่น้องฝาแฝดวัย 34 ปี จากรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พบกับคู่หมั้นของพวกเขา Brittany และ Briana Deane วัย 31 ปี ซึ่งเป็นฝาแฝดเหมือนกัน ที่เทศกาล Twins Days Festival ในรัฐโอไฮโอ เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2017     ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็พัฒนาความสัมพันธ์อย่างรวดเร็วก่อนจะที่ฝ่ายชายจะขอแฟนสาวแต่งงานพร้อมกัน พร้อมทั้งวางแผนที่จะงานแต่งร่วมกันและอยู่บ้านหลังเดียวกันทั้ง 4 คน ฝาแฝดสาวบอกว่า “เราเป็นพี่น้องฝาแฝดที่โชคดีที่สุดในโลก”     Brittany แฝดหญิงคนพี่เป็นคนแรกที่เจอสองพี่น้องฝาแฝดในงาน Twins Days Festival เมื่อปีที่แล้ว จากนั้นก็ได้พูดคุยกับพวกเขาในแรมของพวกเขาในวันถัดมา Josh แฝดชายคนน้อง…

สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2018 นี้ การเข้าร่วมของประเทศเกาหลีเหนือ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมาก และไม่ได้โดดเด่นแค่เพียงแต่ตัวของนักกีฬาเพียงอย่างเดียว เพราะแม้แต่กองเชียร์จำนวน 230 คนของประเทศนี้ ก็เรียกได้ว่ามีความสามารถจนกลายเป็นหนึ่งเรื่องที่น่าจดจำของการแข่งขัน   สาวๆ กองเชียร์จากประเทศเกาหลีเหนือ   สำนักข่าว CNN เรียกกองเชียร์เหล่านั้นว่า “ความแปลกตาที่น่าหลงใหล” ในขณะที่สำนักข่าว Vox มองว่าพวกเธอได้กลายเป็น “ดาวเด่นแห่งโลกโซเชียลมีเดีย” ส่วนวารสาร The Wall Street Journal ก็ใช้คำเรียกพวกเธอว่า “อาวุธแห่งการเบี่ยงเบนความสนใจ” ไม่ว่าสำนักข่าวต่างๆ จะเรียกกองเชียร์เหล่านี้ว่าอะไร แต่คนส่วนใหญ่ก็เชื่อว่านี่คือแผนของผู้นำคิม จอง อึน ที่ต้องการจะสร้างภาพให้กับประเทศของตัวเอง และมันก็ดูเหมือนกับว่าจะสำเร็จไปบ้างอยู่พอสมควร   พวกเธอส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่เปียงยาง หรือไม่ก็ชนชั้นสูง   แต่พวกเราอาจจะไม่ได้สังเกตว่ารอบๆ ตัวของกองเชียร์เหล่านี้ มีกลุ่มชายปริศนาสวมผ้าปิดปากคอยอยู่ติดกับพวกเธอไม่เคยห่าง ซึ่งนั่นก็คือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากเกาหลีใต้ที่ถูกส่งมาดูแลความเรียบร้อยของสาวๆ กองเชียร์ เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยเหล่านี้ได้รับการยินยอมจากทางผู้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอย่างเป็นทางการ   เจ้าหน้าที่ของประเทศเกาหลีเหนือ ที่คอยควบคุมและดูแลทุกอย่าง   พวกเขาจะแฝงตัวมา ปิดกั้นอิสระของกองเชียร์เหล่านี้   พวกเขาเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นคนคอยดูแลความปลอดภัยให้กับกองเชียร์ รวมถึงการปิดกั้นอิสระของพวกเธออย่างเต็มที่…

ปัจจุบันมีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยที่ต้องใช้ชีวิตกันอย่างเดียวดาย ไม่มีลูกหลานหรือคู่ชีวิตคอยอยู่ดูแลเคียงข้าง ก่อนที่จะจากโลกนี้ไปเพียงลำพัง เหมือนอย่างชายแก่คนนี้ ข่าวของชายคนดังกล่าวถูกรายงานเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2018 ผ่านเว็บไซต์ LAD Bible หลังจากที่ตำรวจได้รับแจ้งเกี่ยวกับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ จนทำให้พบศพของชายคนนี้นอนตายอยู่ภายในห้องของตัวเอง เคียงข้างกับตุ๊กตายางทำมือ   ซากศพที่พบภายในห้องพัก ข้างๆ คือตุ๊กตายางที่ทำขึ้นมาเอง   นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในเขต Moskovsky เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย โดยชายคนดังกล่าวทราบแค่ว่าชื่อ Valery M วัย 66 ปี เป็นหนึ่งในคนที่ต้องอยู่อย่างเดียวดาย และดำรงชีวิตด้วยเงินที่รัฐบาลแจกให้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเขาตายมานานหลายเดือนแล้ว โดยที่ซากศพของเขาอยู่ในสภาพที่แทบจะไม่ต่างกับมัมมี่ ร่างกายใส่เสื้อผ้าครบทุกชิ้นนอนอยู่ใต้ผ้าห่มบนโซฟา   เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก   ข้างกายมีตุ๊กตายางที่ไม่ได้ทำจากยางแต่อย่างใด มันเป็นสิ่งที่คาดว่าเขาน่าจะทำขึ้นมาเองจากส่วนประกอบที่สามารถหาได้ตามถังขยะ ส่วนหัวเหมือนน่าจะเป็นส่วนของหุ่นลองเสื้อ และส่วนอื่นๆ ก็ทำจากเศษผ้าหรือเชือก บริเวณหน้าอกของตุ๊กตาตัวนี้ทำจากผ้าขนหนูเก่าๆ สีชมพู ซึ่งตุ๊กตาทำมือคงจะเป็นเพื่อนคนเดียวของชายคนนี้ที่ต้องอยู่ด้วยตัวเองมาโดยตลอด จากการตรวจสอบเบื้องต้นทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าชายแก่น่าจะเสียชีวิตตามธรรมชาติ เพราะไม่มีการพบร่องรอยถูกทำร้ายหรือการบุกรุก ตอนนี้จึงอยู่ในช่วงของการเตรียมชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุของการตายอย่างแน่ชัด     นับว่าเป็นการจากไปอย่างน่าเศร้าของหนึ่งชีวิตที่เดียวดาย จนทำให้เขาต้องสร้างเพื่อนเสมือนจริงขึ้นมาด้วยตัวเอง และจากโลกนี้ไปเพียงลำพัง   ที่มา: ladbible

จะว่าไปแล้ว #เหมียวฝึกหัด โตขึ้นมากับชุดแฮปปี้มีลเลยก็ว่าได้ ยิ่งสมัยที่แถมของเล่นด้วยนะ แหมๆ ร้องไห้จะกินๆ แทบทุกครั้งที่ผ่านร้านแมคโดนัลด์เลยล่ะ แต่ไม่ได้อยากซื้อเพราะแค่ของเล่นหรอกนะ เพราะจำได้เลยว่าตอนนั้นชอบชุดเบอร์เกอร์มาก อะไรนะ? กินแล้วอ้วนเหรอ? ตอนนั้นยังเด็กอยู่ไม่มีเวลาไปสนใจหรอก ถ้าอยากกินอะไรเฮลตี้ก็ไม่มาที่แมคโดนัลด์หรอก ใช่ไหมล่ะ แต่ตอนนี้แมคโดนัลด์ที่อเมริกาได้ออกมาประกาศ เอาชีสเบอร์เกอร์กับนมช็อกโกเล็ตออกจากชุดแฮปปี้มีลแล้ว โดยให้เหตุผลว่าพวกเขาต้องการให้อาหารในชุดแฮปปี้มีล ดีต่อสุขภาพมากขึ้นนั่นเอง     การตัดสินใจในครั้งนี้จะทำให้อาหารในชุดนี้มีปริมาณ แคลอรี โซเดียม ไขมันอิ่มตัว และน้ำตาล ลดลงอย่างมากจนเรียกได้ว่าดีต่อสุขภาพมากขึ้นจริงๆ ตามที่ทางแมคโดนัลด์หวังไว้ แต่ก็อย่าลืมนะว่า ด้วยความที่เป็นร้านฟาสต์ฟู้ด ถ้าลูกค้าต้องการจริงๆ ก็สามารถสั่งชีสเบอร์เกอร์กับนมช็อกโกเล็ตกับพนักงานได้อยู่ดี โดยดูเหมือนว่าการตัดสินใจในครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ในเดือนมิถุนายนปี 2018 ที่จะถึงนี้     ไม่แน่ว่าที่มาของการตัดสินใจนี้อาจจะมาจากการที่รัฐซานฟรานซิสโกได้ออกข้อกำหนดให้ร้านอาหารต้องให้พลังงานต่ำกว่า 600 แคลอรี และมีโซเดียมต่ำกว่า 640 มิลลิกรัมในการขายคู่กับของเล่น ซึ่งแน่นอนว่าแมคโดนัลด์อเมริกานั้นพยายามให้มีร้านอย่างน้อยๆ ครึ่งหนึ่งในประเทศที่สามารถทำตามกฎข้อที่ว่านั้นได้ภายในปี 2022 ส่วนประเทศบางประเทศอย่างชิลีนั้นได้มีการสั่งห้ามการขายอาหารที่แจกของเล่นเพื่อดึงดูดเด็กวัยเยาว์ทั้งหมดอย่างเด็ดขาด และประเทศอังกฤษเองก็ได้หาเมนูอื่นๆ มาแทนที่เมนูเจ้าปัญหาของแฮปปี้มีลแล้วอีกด้วย     ส่วนใครที่อยากกินชีสเบอร์เกอร์แต่กลัวว่าจะไม่ได้ของเล่นก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะคุณยังสามารถสั่งชุดแฮปปี้มีลพร้อมกับชีสเบอร์เกอร์ได้อยู่ เพียงแค่มันไม่ได้อยู่ในเมนูแล้วก็เท่านั้นเอง   ที่มา ladbible

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 10 เมษายน ปี 2012 การสู้รบที่ประเทศอัฟกานิสถาน ทำให้ชีวิตของ Travis Mills นายทหารหนุ่มจากกองทัพสหรัฐต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล ในการปฏิบัติภารกิจครั้งนั้น นายทหารหนุ่มบังเอิญเหยียบโดนกับระเบิด อาวุธร้ายจากฝ่ายข้าศึกทำให้แขนและขาของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หนึ่งวันหลังจากเหตุสะเทือนใจ Kelsey ภรรยาของเขาได้เซ็นยินยอมให้แพทย์ตัดแขนและขาของสามีเธอเพื่อยื้อชีวิตเขาไว้     การสูญเสียอวัยวะจากสงคราม ทำให้เขามองไม่เห็นหนทางที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า Travis ไม่รู้ว่าเขาจะรับผิดชอบชีวิตครอบครัวได้อย่างไร ในเมื่อร่างกายที่เคยแข็งแรงของเขา ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว การขอร้องให้ภรรยาพาลูกน้อยวัยแบเบาะ ทิ้งเขาไปดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่นายทหารหนุ่มผู้นี้คิดออก แต่เมื่อเขาบอกความคิดนี้ให้กับภรรยา เธอกลับเลือกที่จะยอมอยู่ข้างๆ เขา     “คุณควรจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ตอนนี้ผมไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว” นายทหารผ่านศึกพูดกับภรรยาของเขา “ใช่ ฉันก็คิดอยู่ แต่เป็นเรื่องที่จอดรถสำหรับผู้พิการนะ” ฝ่ายหญิงแกล้งหยอก แต่ถึงอย่างนั้นเธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะทิ้งเขาไปไหนเลย กำลังใจจากคนในคนรอบข้างเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งทำให้นายทหารผ่านศึกผู้นี้มีกกำลังใจที่จะสู้ต่อ แต่เหนื่อสิ่งอื่นใดนั่นก็คือความรักจากภรรยาและลูกสาวของเขานั่นเอง “เมื่อผมมองมาที่ภรรยาและลูกสาวของผม ผมคิดกับตัวเองว่า เมื่อพวกเขายอมที่จะอยู่ข้างผมแล้ว ผมจะต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด นั่นคือสิ่งเดียวที่มีค่ามากที่สุดสำหรับภรรยาของผม”     หลังจากที่เริ่มทำกายภาพบำบัด และติดตั้งแขนขาเทียม Travis ก็ได้เรียนรู้ว่า ไม่มีอะไรบนโลกนี้เป็นไปไม่ได้ เขาเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกับอวัยวะใหม่ “ผมหัดเดิน ขับรถ และฝึกทำทุกๆ อย่างที่พอทำได้ “ การฝึกฝนผ่านไปเรื่อยๆ…

การเสียชีวิต เป็นวงจรตามธรรมชาติที่ต้องเกิดขึ้นกับทุกชีวิต แต่ว่าเมื่อมีการตายเกิดขึ้น ก็อาจทำให้บรรดา เพื่อนฝูง พี่น้อง หรือบรรดาญาติๆ ต้องเศร้าโศกเสียใจกันยกใหญ่ และผู้ที่น่าจะเป็นผู้ที่เสียใจมากที่สุดก็คือ พ่อ-แม่ ที่อาจแทบใจสลายเมื่อได้เห็นการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของลูกๆ ถึงแม้ว่าเรื่องการตายจะเป็นเรื่องธรรมชาติ ทว่าก็มีแม่ชาวอินเดียคนหนึ่งที่พยายามจะหาตัวแทนของลูกชายที่ป่วยหนักและกำลังจะลาโลกไป เธอจึงตัดสินใจนำสเปิร์มของเขามาทำการผสมเทียม จนในที่สุดเธอก็ได้ลูกชายของเธอกลับคืนมาและที่สำคัญคือยังได้เป็นลูกแฝดอีกด้วย     โดยคุณแม่คนที่ว่านี้มีชื่อว่า Rajashree Patil ชาวอินเดียวัย 49 ปี ที่ต้องการจะหาตัวแทนให้กับ Prathamesh ลูกชายของเธอที่เสียชีวิตไปด้วยโรคเนื้องอกในสมอง ในตอนแรกนั้นเธอต้องการที่จะนำสเปิร์มของลูกเธอมาทำการผสมเทียม และเธอจะเป็นผู้ที่อุ้มท้องเอง แต่ทางแพทย์ได้บอกกับเธอว่าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เพราะว่าเธอได้เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนแล้ว จึงไม่สามารถมีไข่ที่จะนำมาผสมได้นั่นเอง     แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว ความฝันของเธอก็เป็นจริงในที่สุด เมื่อมีหญิงผู้ไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่งตัดสินใจยอมบริจาคไข่ให้ โดยเธอผู้นี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับครอบครัวของเธอแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อนำสเปิร์มมาปฏิสนธิกับไข่ แพทย์ก็ได้นำตัวอ่อนนี้มาให้ญาติสนิทเป็นผู้อุ้มบุญให้ การอุ้มบุญครั้งนี้ผ่านไปอย่างไม่มีปัญหาใดๆ และเมื่อถึงช่วงเวลาแห่งการรอคอยก็ปรากฏว่า การผสมเทียมในครั้งนี้ได้ให้กำเนิดลูกแฝดสอง แถมยังเป็นแฝดชายหญิงอีกต่างหาก โดยเด็กแฝดที่กำเนิดขึ้นมานี้ ทาง Rajashree ก็บอกเอาไว้ว่าเธอจะเป็นผู้เลี้ยงดูเด็กชายหญิงคู่นี้ให้เติบใหญ่ราวกับว่าเป็นลูกของเธอเองเลย เธอตั้งชื่อให้เด็กชายว่า Prathamesh เหมือนกับลูกชายของเธอที่เสียชีวิตไป และเด็กหญิงก็ได้รับชื่อว่า Prisha ตามชื่อน้องสาวของเธอที่จะมาเป็นผู้ช่วยในการเลี้ยงดูเด็กทั้งสองให้เติบโตขึ้นนั่นเอง   หน้าตาของ Prathamesh   “คุณหมอได้เก็บสเปิร์มของลูกชายฉันไว้ ก่อนที่พวกเขาจะทำการรักษาโรคมะเร็ง เพราะตัวยาอาจจะส่งผลเสียต่อเสปิร์มได้ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฉันสามารถนำจิตวิญญาณของลูกชายฉันกลับมาได้” Rajashree…

สำหรับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายและต้องไปรับโทษในคุกนั้น พวกเขาเหล่านี้ต่างก็เฝ้าถวิลหาถึงโลกอันสวยงามที่เคยใช้ชีวิตอยู่ รวมถึงสิ่งที่เรียกว่า ‘อิสรภาพ’ ที่ได้หายไปหลังจากเข้ามาในรั้วหนามกั้นแห่งนี้ ซึ่งบางคนก็ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้กลับไปใช้ชีวิตดั้งเดิมทั้งต่อสู้ในชั้นศาล หรือบางคนอาจใช้วิธีการนอกกฎหมาย อย่างเช่นการแหกคุก!! และก็มีนักโทษคนหนึ่งที่คิดค้นวิธีสุดแยบยลขึ้นมาในการแหกคุก เพราะสิ่งที่เขาทำก็คือการวางยาฝาแฝดของตัวเอง ที่มาเยี่ยม จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าสลับกับเขาซะ แล้วเดินออกไปอย่างหน้าตาเฉย ที่สำคัญคือมันสำเร็จซะด้วย!!   โฉมหน้าของ Alexander ผู้ก่อเหตุแหกคุกในครั้งนี้   โดยนี่คือเหตุการณ์จริงๆ ของนาย Alexander Jheferson Delgado นักโทษคดีล่วงละเมิดทางเพศรวมถึงลักขโมยในประเทศเปรู ที่ถูกจับกุมเข้าคุกได้เพียงปีเดียวเท่านั้น เพราะว่าในปีต่อมาเขาได้ทำการแหกคุกด้วยการปลอมตัวเป็นฝาแฝดที่มาเยี่ยม และปล่อยให้เขาต้องติดคุกแทนตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในวันที่ 10 มกราคม 2017 ชื่อของ Alexander ได้ถูกจารึกเอาไว้ว่าเป็นนักโทษที่สามารถแหกคุกได้ด้วยวิธีสุดแปลกประหลาดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นการแหกคุก Piedras Gordas หนึ่งในคุกที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดในเปรูได้เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีอีกด้วย ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นเริ่มต้นจากการที่ Giancarlo พี่น้องฝาแฝดของ Alexander ได้เดินทางมาเยี่ยมพร้อมทั้งนำอาหารกับจดหมายจากเพื่อนๆ มามอบให้   คุก Piedras Gordas   หลังจากพบเขาในพื้นที่ส่วนกลางของคุกแล้ว ชายฝาแฝดคนนี้ก็เข้าเยี่ยมผู้ต้องหาแบบเป็นการส่วนตัวภายในห้องขัง ซึ่งที่นี้เองที่ทำให้ Giancarlo ต้องติดคุกแทนฝาแฝดของเขา เพราะว่า Alexander ได้ให้น้ำอัดลมผสมยากล่อมประสาทแก่เขากิน หลังจากนั้นเขาก็หมดสติไปแล้วก็บว่าตื่นมาอีกที…

กลายเป็นเรื่องฮือฮาที่สหรัฐอเมริกาอีกครั้ง หลังจากที่ร้านค้าชื่อดังได้ยกเลิกการจำหน่ายอาหารสุนัขมากกว่า 31 ชนิดภายใต้ผู้ผลิต Smucker หลังจากที่พบว่าอาหารของพวกเขานั้นมีการปนเปื้อนสาร Pentobarbital ยาที่ใช้ในการฆ่าสัตว์ชนิดต่างๆ อย่างเช่นสุนัข แมว และม้า โดยผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Smucker นั้นประกอบไปด้วย Gravy Train, Kibbles ‘N Bits, Skippy, and Ol’ Roy ซึ่งหลังจากที่มีการตรวจสอบพบการปนเปื้อนดังกล่าว ทำให้มีการยกเลิกจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล่านี้     ขณะนี้ทางร้านค้าปลีกชื่อดังอย่าง Walmart ได้ยกเลิกการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Smucker จากร้านค้ากว่า 4,000 แห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจุดเริ่มต้นของการสืบสวนข้อเท็จจริงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่คุณ Nikki Mael หญิงสาวจากรัฐวอร์ชิงตัน พบว่าสุนัขตัวโปรดทั้ง 3 ตัวของเธอมีอาการผิดปรกติหลังจากที่มันทานผลิตภัณฑ์ Evanger’s Hunk of Beef เข้าไปเมื่อช่วงวันขึ้นไปใหม่ปี 2016 ที่ผ่านมา “ฉันให้อาหารมันไปแค่ 1 กระป๋อง แต่หลังจากนั้นแค่ 15 นาที มันก็มีอาการผิดปรกติ มันเดินเหมือนกับคนเมาก่อนที่จะล้มลงกับพื้น ฉันรีบพามันไปห้องฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน” หญิงสาวให้สัมภาษณ์ถึงอาการสุนัขของเธอ     น่าเสียดายที่เจ้าแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตของเจ้า Talula หนึ่งในน้องหมาทั้ง 3 ไว้ได้ และคุณ Nikki…

(บทความนี้อาจมีภาพที่มีเนื้อหารุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม)   กว่าที่เราจะมีทรัพย์สินเงินทองให้เหลือเก็บนั้น บางคนก็ต้องผ่านอะไรมามากมายและต่อสู้มาจนเลือดตาแทบกระเด็น ดังนั้นการที่เราจะต้องสูญเสียมันไปจากการชุบมือเปิบของเหล่าโจรขโมยจึงอาจเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เจ้าของบ้านคนหนึ่งต่อสู้กับโจรที่มางัดบ้านถึง 5 คน เพื่อจะปกป้องสินทรัพย์ของตัวเอง!! โดยนี่เป็นเหตุการณ์จริงๆ ที่เกิดขึ้นกับ David Pugh ชายวัย 55 ปีที่อาศัยอยู่ที่ย่าน West Midlands ประเทศอังกฤษ     ซึ่งเขาเล่าให้ฟังว่าในเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตัวเขาเองกำลังนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้าน แต่ในทันใดนั้นก็มีกลุ่มโจรพังบ้านราคา 400,000 ปอนด์(ประมาณ 17 ล้านบาท) ของเขา เพื่อหวังที่จะมาขโมยของรวมถึงเงินสด เมื่อเขารู้ว่าบ้านของเขากำลังมีภัยคุกคามมาเยือน เขาจึงเดินลงมาข้างล่างของบ้าน แล้วก็ต้องพบว่ามีกลุ่มโจรกลุ่มหนึ่งกำลังข่มขู่ลูกชายวัย 17 ปีของเขาพร้อมกับลูกหมาพันธุ์ร็อตไวเลอร์อีกตัวหนึ่งด้วยอาวุธอย่าง มีดดาบด้ามยาว ไม้เบสบอล และไม้กอล์ฟ     แต่ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อ David ตัดสินใจที่จะต่อสู้กับพวกกลุ่มโจรดังกล่าว แม้จะต้องโดนรุมถึง 5-1 ก็ตาม แต่ในตอนสุดท้ายกลุ่มโจรเหล่านั้นก็ต้องยอมแพ้กลับไปโดยไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือไปสักอย่าง ทว่าก็ได้ฝากรอยแผลเอาไว้บนร่างกายของชายใจนักสู้คนนี้ โดยสิ่งที่เขาได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้ครั้งนี้ก็มีทั้ง จมูกหัก มีบาดแผลบริเวณใบหน้า…

Tom Daley นักประดาน้ำโอลิมปิกพร้อมกับคู่ชีวิต Dustin Lance ผู้กำกับภาพยนตร์ โพสต์รูปภาพสุดหวานต้อนรับวันวาเลนไทน์ กับของขวัญสุดล้ำค่าที่พวกเขาใฝ่ฝันมาตลอด ทั้งสองได้แต่งงานกันเมื่อเดือนพฤษภาคม 2017 หลังจากที่ได้คบหาดูใจกันมาตั้งแต่ปี 2015 โดยงานแต่งงานสุดโรแมนติกและยิ่งใหญ่ของทั้งคู่เกิดขึ้นท่ามกลางความยินดีของเหล่าแขกผู้มาร่วมงาน     ทั้งคู่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายกว่าที่จะมาถึงจุดๆ นี้ได้ เนื่องจากว่า Tom เป็นนักกีฬาและเขาเลือกที่จะปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเขาไว้ แต่พอทั้งคู่ได้มาเจอกันก็เริ่มเปิดเผยความรู้สึกและตัวตนออกมา ทั้งคู่ต้องพบเจอกับอีกปัญหามากมายเช่น เวลาไม่ตรงกัน อยู่ห่างกัน แต่ทั้งคู่ก็ใช้เวลาเพื่อพิสูจน์ความรัก แล้วแต่งงานกันในที่สุด     หลังจากการแต่งงานทั้งสองก็ได้วางแผนกันไว้ว่าอยากจะมีลูกเพื่อสร้างคำว่า ‘ครอบครัว’ ของพวกเขา โชคดีที่ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของทั้งคู่ ยินยอมให้ทั้งคู่มีบุตรด้วยการอุ้มบุญ     และในวาเลนไทน์นี้ทั้งคู่ก็ได้รับของขวัญที่พวกเขารอคอยมานาน นั่นก็คือภาพอัลตราซาวน์ของลูกในอนาคต ที่กำลังมีอายุครรภ์ประมาณ 20 สัปดาห์     ลูกของทั้งคู่จะถือกำเนิดขึ้นและพวกเขาตั้งใจไว้ว่าจะเลี้ยงดูให้ลูกมีความสุขในวัยเด็ก และใช้ชีวิตอย่างที่ลูกชอบ พวกเขาหวังว่าจะเป็นพ่อแม่ที่ดีได้     การอุ้มบุญในสหราชอาณาจักร ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคู่รักที่ประสงค์อยากจะมีบุตร โดยเฉพาะคู่รักร่วมเพศที่ต้องการสร้างครอบครัว แต่ทั้งนี้จะไม่ใช่การตั้งครรภ์เพื่อการค้ามนุษย์ แม่อุ้มบุญมีสิทธิ์ที่จะได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมและการดูแลอย่างดีจากผู้ประสงค์ให้อุ้มบุญ แต่ทั้งนี้เมื่อเด็กคลอดออกมา แม่อุ้มบุญยังจะมีสิทธิที่เป็นแม่ตามกฎหมายของเด็กคนนั้นจนกว่าจะมีการยื่นคำร้องต่อศาลระงับสิทธิการเป็นแม่ และยกลูกให้กับพ่อแม่บุญธรรม  …

เส้นทางสู่การเป็นไอดอลว่ายากแล้ว แต่การใช้ชีวิตในฐานะไอดอลนั้นดูเหมือนจะยากกว่าซะอีก เพราะคุณอาจจะต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ที่อยากทำก็ทำไม่ได้ ไหนจะต้องรับมือกับแฟนคลับรูปแบบต่างๆ ด้วย อย่างล่าสุด วงไอดอลชายของญี่ปุ่นถูกติดตามด้วยของขวัญตุ๊กตาหมีสอดไส้ที่แฟนคลับให้มา…     วง Anatashia ไม่ได้เป็นนักร้อง แต่เป็นหนุ่มหล่อ 6 คนที่มารวมกันเพื่อเต้นและมีการวางตลาดคล้ายๆ กับนักร้องไอดอล สิ่งที่พวกเขาทำคือออกแบบท่าเต้น เป็นผู้นำแฟชั่น และหน้าตาดี เรียกได้ว่าการดูดีและหล่ออย่างไร้ที่ติคือจุดขายที่สำคัญของพวกเขา แม้จะไม่ใช่นักร้อง แต่พวกเขาได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่านักร้องหรือดาราดังในประเทศ และบางครั้งแฟนคลับก็จะส่งของขวัญมาให้ รวมตั้งตุ๊กตาสัตว์น่ารักๆ แต่มีของขวัญชิ้นหนึ่งที่ไม่ได้เป็นแค่การมอบให้เพื่อแสดงความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อไอดอล เพราะภายในของของชิ้นนั้นมีเครื่องติดตามอยู่ด้วย     จากเหตุการ์นี้ ทวิตเตอร์ของวงได้ออกมาแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า ‘ขอบคุณทุกคนที่ส่งของขวัญมาให้เรา แต่เราเสียใจที่ต้องบอกว่าภายในตุ๊กตาสัตว์ตัวหนึ่งที่เราได้มา มีสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นเครื่องติดตาม มันดูเป็นการประสงค์ร้ายและอันตราย ดังนั้น จากนี้เราขอให้แฟนๆ อย่าเอาตุ๊กตาสัตว์มาให้เราอีก ขอบคุณที่เข้าใจ’ สื่อรายงานว่าตุ๊กตาที่ดูเหมือนจะมีใครเจตนาใส่เครื่องติดตามนั้น น่าจะถูกเก็บในสตูดิโอซ้อมของวง หรือที่บ้านของสมาชิกคนใดคนหนึ่ง นั่นทำให้แฟนๆ สามารถหารู้ตำแหน่งของไอดอลและสร้างความประหลาดใจให้สมาชิก  Anatashia     ความคืบหน้าล่าสุด เผยว่าแฟนคลับของวง Anatashia ที่รู้เรื่องนี้ออกมาพูดว่าใครก็ตามที่ใส่ GPS ในตุ๊กตา คนนั้นควรถูกแบล็กลิสต์ไม่ให้ชมการแสดงของไอดอลรวมทั้งห้ามเข้าร่วมแฟนมีตในอนาคตด้วย อย่างไรก็ตาม…

บางคนอาจไม่ชอบการที่เราเป็นคนช่างสังเกตและช่างสงสัย แต่บางเวลา ไอ้การช่างสงสัยและช่างสังเกตนี่แหละที่ทำให้ชีวิตของคนบางคนหรือว่าสัตว์บางตัวสามารถรอดตายได้เลยทีเดียวเชียวล่ะ อย่างเช่นเรื่องราวของคุณลุง Wayne Rowley คนนี้ที่ดั๊นนนนสังเกตไปเห็นอะไรบางอย่างผิดปกติที่เนินหิมะ และเมื่อลุงแกเข้าไปดูก็พบว่ามีหนึ่งชีวิตติดอยู่ข้างใน     คุณลุง Wayne เป็นคนขับรถบรรทุกของบริษัทเกี่ยวกับไม้ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ซึ่งเมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสที่ 8 กุมภาพันธ์ 2018 คุณลุง Wayne ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติที่ดูเหมือนติดอยู่ภายในกองหิมะข้างทาง เขาขับผ่านไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันเขาก็กำลังคิดว่าที่เขาเห็นเมื่อครู่มันคืออะไร จากนั้นเขาจึงหยุด “ฉันไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่” คุณลุงกล่าว “ฉันคิดว่าฉันน่าจะกลับไปดูอีกทีให้แน่ใจ” และเมื่อคุณลงกลับมาที่กองหิมะ สิ่งที่เขาเห็นก็คือ “ขา” ของสัตว์ที่ติดอยู่ในหิมะนั่นเอง     ในสภาพแบบนี้ เจ้าสัตว์ตัวดังกล่าวคงมีชีวิตได้อีกไม่นาน แต่คุณลุง Wayne ก็ยังคงกล้าๆ กลัวๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อดูให้แน่ใจ “มันคือลูกกวางมูสที่นอนหงายเก๋งอยู่” คุณลุงกล่าว “ฉันลงไปดูว่ามันยังมีชีวิตอยู่ไหม และมันก็หันกลับมามองที่ฉันด้วยล่ะ” ในเมื่อนึกได้ว่ามีเวลาช่วยเจ้ากวางมูสตัวนี้น้อยลงเรื่อยๆ คุณลุงจึงพยายามหาวิธีช่วยเหลือมันอย่างสุดความสามารถ “ฉันไม่สามารถปล่อยมันไว้อย่างนี้ได้” เขากล่าว “ฉันคิดว่าฉันต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้มันรอดออกมาให้ได้” จากนั้นคุณลุง Wayne จึงหยิบพลั่วอันเล็กๆ ออกมาจากรถบรรทุกเพื่อขุดหิมะ     คุณลุงบอกว่าเขาได้ใช้พลั่วขุดไปที่รอบๆ…

หญิงกลางคนวัย 45 ปีั Michelle Myers จากเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ป่วยเป็นโรค Foreign Accent Syndrome ที่ทำให้การพูดของเธอมีสำเนียงเพี้ยนไปเป็นสำเนียงต่างชาติ เช่น บริติช ออสเตรเลียน และไอริช ทั้งที่เธอไม่เคยออกจากสหรัฐอเมริกาเลย ในปี 2015 เธอเข้ารับการวินิจฉัยด้วยอาการที่แปลกประหลาด หลังจากที่เธอเข้านอนพร้อมอาการ “ปวดหัวรุนแรง” และเมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอกลับไม่สามารถพูดได้รวมไปถึงรู้สึกชาไปทั้งด้านซ้ายของร่างกาย เธอจึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในละแวกใกล้เคียง ซึ่งก็คือโรงพยาบาล West Valley ในเมืองกู๊ดเยียร์ ที่นั่นแพทย์บอกว่าเธอมีอาการของ ภาวะเสียการสื่อความ (Aphasia) ที่ทำให้เธอสื่อสารไม่ได้ เป็นอาการที่เกิดจากสมองได้รับความบาดเจ็บหรือการกระทบกระเทือน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลการวินิจฉัยจะออกมาดังกล่าว เธอก็สามารถกลับมาพูดได้อีกครั้ง     “ฉันต้องการจะพูดว่า ‘ฉันชื่อ Michelle นะ’ แต่มันกลายเป็นว่าฉันพูดว่า ‘กระต่าย หมาป่า…’” Myers กล่าว “ไม่มีใครเข้าใจฉันได้เลย ฉันเลยสงสัยเกิดอะไรขึ้นกับสมองฉันกันแน่” แต่สุดท้ายคำพูดของเธอก็เรียงเป็นประโยคได้อีกครั้ง ทว่ากลับมีบางอย่างแปลกไป นั่นก็คือ “สำเนียง” ของเธอนั่นเอง Michelle ถึงแม้ว่าเธอจะเกิดในโอกลาโฮมา แต่สำเนียงของเธอขณะนั้นกลับฟังดูเหมือนเธอมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งทำให้แพทย์ต้องตกใจ นักจิตวิทยาจึงเข้ามาทำการทดสอบเธอเพื่อวินิจฉัยอาการ…

ความรักเมื่อเกิดขึ้นกับใครแล้วเราก็ควรดูแลให้ดี หากว่าเรามีคนรักอยู่แล้วก็ไม่ควรแอบไปคบหาใครอื่น เพราะมิฉะนั้น คนรักของเราอาจจะเสียใจ หรืออาจจะรู้สึกโกรธแค้นก็ได้ อย่างเช่นหญิงวัยกลางคนผู้นี้ที่จับได้ว่าคู่หมั้นของตน “แอบมีชู้” ทำให้เธอต้องถึงกับลงมือ นำแหวนหมั้นเพชรของเธอกรีดเข้าที่ “ลูกอันฑะ” ของฝ่ายชาย Rachael Biscoe วัย 44 ปี เกิดความรู้สึกเดือดดาลขึ้นมา เมื่อเธอกลับถึงบ้านแล้วต้องพบว่า Trevor Camp คู่หมั้นของเธอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับหญิงสาวชาวจีนคนหนึ่ง     เธอกล่าวหาฝ่ายชายว่าแอบมีชู้ และขณะทั้งคู่มีปากเสียงกัน ต่างฝ่ายต่างก็แย่งโทรศัพท์มือถือจนกระทั่งมันกระเด็นเข้าไปในห้องครัว ขณะนั้น Trevor Camp ที่กำลังเปลือยช่วงล่างอยู่ รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดบริเวณอวัยวะเพศ และพบว่าเขามีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก ส่วนหญิงสาวชาวจีนที่อยู่ในสายตลอดการทะเลาะวิวาท์ของสองคู่หมั้นนี้ ภายหลังให้การกับตำรวจว่า Trevor ตะโกนใส่เธอผ่านโทรศัพท์ว่า “เธอมีมีด เและเธอก็กรีดฉัน!” ทว่าไม่พบอาวุธใดๆ ที่เป็นหลักฐานในที่พักของพวกเขา ณ หมู่บ้านหนึ่ง ในมณฑลดอร์เซ็ท ประเทศอังกฤษ ส่วน Trevor ก็สารภาพว่าขณะนั้นตนเมาจึงไม่ทราบว่าอันฑะของเขาบาดเจ็บจากอะไรกันแน่ Rachael ปล่อยให้ Trevor นอนโอดครวญอยู่กับความเจ็บปวด ส่วนตนนั้นออกจากบ้านเพื่อพาสุนัขของ Trevor ไปเดินเล่น ผู้บาดเจ็บได้โทรเรียกรถพยาบาลเวลาประมาณ 14.20 น. ของวันที่่…

ความรักนั้นเป็นเรื่องของคนสองคนก็จริง แต่ถ้าเกิดพ่อแม่ของคุณไม่เห็นด้วย พร้อมยืนกรานว่าถ้าคุณคบคนนี้ต่อไป คุณจะต้องออกจากบ้านละ คุณจะทำอย่างไร? สำหรับ Tereza Hatlas สาวสวยวัย 20 ปีที่กำลังคบกับ George Sekanina วัย 51 ปีได้ตันสินใจขั้นเด็ดขาดว่าเธอจะออกจากบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าพ่อแม่ของเธอไม่เห็นด้วยที่ลูกจะไปคบกับชายที่อายุมากกว่าถึง 31 ปี!!     เรื่องราวความรักของทั้งคู่นั้นเริ่มขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้น Teraza ยังมีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น โดยทั้งคู่ได้เจอกันผ่านแอปเดทออนไลน์ และทั้งคู่ก็ใช้เวลาร่วมกันเรื่อยๆ ผ่านการแชทคุยแลกเปลี่ยนความชอบวันละไม่กี่คำ หลังจากการพูดคุยกันจนเป็นเวลากว่า 5 เดือนเต็มๆ ทั้งสองตัดสินใจมาเจอกันแบบตัวเป็นๆ Tereza เล่าว่าเดิมทีเธอชอบคนอายุมากกว่าอยู่แล้ว ฉะนั้นตอนที่ไปเจอกันเธอก็มั่นใจได้ทันทีว่า George คือคนที่ใช่และยิ่งพูดคุย ทั้งสองก็ยิ่งอยากจะสานต่อความสัมพันธ์ ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่าเมื่อตอน Teraza ตัดสินใจบอกกับครอบครัว เธอก็ถูกครอบครัวตัดขาดและไล่ออกจากบ้านทันที ซึ่งเธอก็เสียใจมากๆ แต่เธอก็ยังคงจะเลือก George โดยต่อมาเธอได้ไปอาศัยอยู่ที่ครอบครัวของฝ่ายชาย     เธอบอกว่าที่นั้นทุกคนให้ความต้อนรับเธอเป็นอย่างดี ทั้งพ่อแม่และญาติๆ ของ…

งานก่อสร้างถือเป็นงานที่มีความเสี่ยงสูง แม้ว่าช่างหลายๆ คนจะระมัดระวังอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้เสมอ แล้วช่างเหล่านี้ล่ะ คิดว่าพวกเขาจะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุกี่เปอร์เซนต์? เพราะจากปกติที่มีความเสี่ยงอยู่แล้ว พวกเขายังทำในสิ่งที่โคตรอันตรายมากขึ้นอีก นี่ขนาดแค่ดูยังเสียวแทนเลย   1. หวังว่าคนค้ำจะไม่อ่อนแรงซะก่อนนะ   2. ขอใครสักคนมาช่วยมั้ย   3. หวิวๆ   4. ฝนตกน้ำท่วมขนาดนี้ ยังตั้งใจทำงานได้อีก แล้วนั่นเอาไม้ทำอะไรกับสายไฟหนะ ช่างไม่กลัวอะไรบ้างเลย   5. นี่คงจะเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ชายอายุสั้นกว่าผู้หญิง   6. หวังว่าจะไม่มีเหตุให้รถต้องเบรคกะทันหันนะ   7. เพื่อนร่วมงานแบบนี้จะหาที่ไหนได้อีก   8. ต่อบันไดไม่พอ ทำคนเดียวด้วย   9. เมื่อช่างอยากอู้งานบ้าง   10. ความปลอดภัยไว้ทีหลัง งานต้องมาก่อนเสมอ   11. สงสัยอยากสัมผัสอากาศข้างบน   12. ทำแบบนี้ คิดดีแล้วใช่มั้ยคุณพี่?   13. ไม่รู้ใครเสี่ยงกว่ากัน ระหว่างคนจับกับคนปีน…

เป็นที่รู้กันดีว่าที่ประเทศจีนนั้นถือเป็นศูนย์รวมสิ่งแปลกๆ ทั้งอาหารการกิน การใช้ชีวิตและอื่นๆ อีกมากมายเรียกว่าถ้าไปคือได้เปิดโลกใหม่แน่นอน ล่าสุดได้มีสื่อจีนรายงานว่าเมืองฉงชิ่ง ได้เปิดตัวสถานที่สุดแปลกที่การันตีว่ามันจะจะมอบความรู้สึกใหม่ๆ เวลาถ่ายหนักและเบาให้กับคุณอย่างแน่นอน สถานที่ที่ว่านั่นก็คือห้องน้ำสาธารณะบนสะพานลอยยังไงละ!!     อ่านๆ แล้วอาจจะงงว่าทำไมไปสร้างห้องน้ำไว้บนสะพานลอย แต่เชื่อเหอะว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ และมันก็ใช้งานได้จริงด้วย ที่สำคัญคือมันเป็นห้องน้ำรวมด้วยนะ ฉะนั้นใครผ่านไปมาก็ใช้ได้เลยอยู่ข้างบนอากาศเย็นดีด้วย     จากรายงานของ ChinaNews ได้ระบุว่า ที่ต้องสร้างห้องน้ำดังกล่าวบนสะพานลอยก็เพราะ ตอนนี้กำลังมีงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิเกิดขึ้น และนักท่องเที่ยวจากหลากหลายที่ก็พากันเดินทางมายังงานดังกล่าวกันอย่างคับคั่ง เพียงแต่ว่า ถ้าเกิดพวกเขากำลังข้ามสะพานลอยอยู่แล้วข้าศึกดันบุกมาโจมตีพอดี ห้องน้ำลอยฟ้าแห่งนี้ก็จะกลายเป็นตัวเลือกหลักที่ช่วยให้เหล่านักท่องเที่ยวชนะข้าศึกได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง     ส่วนถ้าใครกลัวว่ามันจะไม่ปลอดภัยหรือจะไม่สะอาดก็หายห่วงได้เลย เพราะมีคนคอยทำความสะอาดอยู่เกือบตลอด และห้องน้ำก็ปิดมิดชิด รับรองว่าใครก็แอบดูไม่ได้จะมีก็แต่ลมเท่านั้นที่ทำให้คุณเย็นวาบไปทั้งตัวเวลาสู้ศึกอยู่     ฉะนั้นถ้าใครสนใจอยากจะเปิดประสบการณ์ใหม่บนห้องน้ำสูง ก็เชิญไปเยี่ยมเยือนกันได้เลยที่สะพานลอยเมืองฉงชิ่ง โลกใหม่รอคุณอยู่!!   ที่มา shanghaiist

โดยทั่วไปแล้ว การจะเปิดร้านหรือทำธุรกิจอะไรสักอย่าง คุณจำเป็นต้องมีใบอนุญาตซะก่อน ไม่เช่นนั้นจะถือเป็นเป็นการทำธุรกิจอย่างผิดกฎหมายทันที อย่างร้านกาแฟชื่อดังที่เพิ่งจะไปเปิดสาขาใหม่ในประเทศจีน แต่เพียงแค่ 5 ชั่วโมงหลังจากเปิด ร้านก็ต้องปิดตัวลงเพราะไม่ได้ทำตามกฎหมาย ร้านดังกล่าวนี้คือสาขาย่อยของ % Arabica ซึ่งเป็นร้านกาแฟชื่อดังของญี่ปุ่นที่ไปเปิดสาขาในจีนเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ปี 2018 บนถนน Wukang โดยมีผู้คนมาต่อแถวซื้อกันแต่เช้า     ช่องทีวี ICS ของจีนรายงานว่าเจ้าหน้าที่จากเขต Xuhui ปรากฏตัวที่ร้าน % Arabica สาขาดังกล่าวในเวลา 15.00 น. และไม่นานหลังจากนั้นทางร้านก็ต้องหยุดให้บริการ โดยอ้างว่าดำเนินการโดยไม่มีใบอนุญาต ทางด้านตัวแทนของร้านได้โพสต์ลงในอินสตาแกรมว่า “เราไม่สามารถให้บริการกาแฟได้อีกต่อไป เนื่องจากสถานการณ์ไม่คาดฝัน”     แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาเผยว่า % Arabica ดำเนินการโดยไม่มีใบอนุญาติที่จดทะเบียนเป็นร้านอาหาร ความจริงแล้วทางร้านอยู่ระหว่างดำเนินการขอใบอนุญาตแต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ   Crazy start. Thank you all for coming and so sorry for the long…

การสักเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่จะประทับบนเรือนร่างของเราไปตลอดกาล บางคนอาจจะสักเพราะความสวยงาม หรือบางคนอาจจะสักเพื่อปกปิดรอยแผลเป็น แต่รอยสักของบุคคลเหล่านี้มีความหมายลึกซึ้งกว่านั้น มันมีเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันทรงพลัง มีทั้งการสักเพื่อระลึกถึงสมาชิกครอบครัวผู้ล่วงลับ สักเพื่อย้ำเตือนในเรื่องสำคัญในชีวิตที่ผ่านมา และแรงบันดาลใจที่ทำให้ชีวิตขับเคลื่อน   1. หญิงสาวตัดสินใจสักรูปพ่อแม่ น้องหมา และบ้านที่เธอเติบโตมา หลังจากที่เกิดไฟไหม้เมื่อ 7 เดือนก่อน ที่พรากทั้งพ่อแม่และน้องหมาไปจากเธอ   2. หญิงสาวสักรูปแว่นและหนวดของเพื่อระลึกถึงพ่อที่จากไปเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ปี 2016   3. สามีสักรูปนี้เพื่อเพื่อเป็นกำลังใจให้ภรรยาในการต่อสู้กับภาวะซึมเศร้า   4. พ่อสักเป็นรูปเครื่องช่วยฟัง เพื่อทำให้ลูกน้อยไม่รู้สึกแตกต่าง   5. ลูกชายมีรอยแผลเป็นจากการผ่าตัดมะเร็ง คุณพ่อเลยสักรอยแผลเป็นแบบเดียวกันเพื่อให้ลูกชายมีความมั่นใจขึ้น   6. คุณแม่จากไปไม่กี่เดือนก่อนและได้ทิ้งโน๊ตเล็กๆ เอาไว้ ลูกสาวเลยก๊อปปี้โน๊ตนั้นบนร่างกายของตัวเอง   7. แผนภูมิแบบเรียบง่ายที่คุณตาวาดให้เพื่อชี้ให้เห็นว่าบ้านของชายหนุ่มตั้งอยู่ส่วนไหนของโลก   8. ลูกชายของเขาเสียชีวิตเมื่อปีก่อน เขาเลยสักเป็นคลื่นเสียงหัวเราะของลูก   9. พ่อจากไปเมื่อปี 2009 และนี่คือข้อความที่เขาเขียนไว้ในสมุดพกของลูก ตอนป.2   10.…

ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์นั้นถือว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่ในระดับโลก โดยเฉพาะปัญหาการอ่านการ์ตูนเถื่อนที่เริ่มจะสร้างความเดือดร้อนให้กับนักวาดและสำนักพิมพ์ทั่วโลก จนตอนนี้ทางญี่ปุ่นเองก็เริ่มได้รับผลกระทบหนักขึ้น และถึงกับต้องออกมาเตือนนักอ่าน ปัญหาการอ่านการ์ตูนเถื่อนในปัจจุบันนั้นเกิดขึ้นจากสาเหตุหลักๆ เลยก็คือการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและค่านิยมของนักอ่านที่เปลี่ยนไป เนื่องจากการอ่านบนเว็บนั้นรวดเร็วกว่าการรอซื้อจากร้านหนังสือ ที่สำคัญคือมันฟรี     ทางสมาคมนักวาดมังงะหรือ JCA (Japan Cartoonists Association) ก็ได้ออกมาพูดถึงผลกระทบที่ตอนนี้ทางนักวาดและผู้ผลิตผลงานประเภทต่างๆ ได้รับว่า “ด้วยเทคโนโลยีอย่างโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์นั้น มันเริ่มส่งผลให้นิสัยในการอ่านของผู้คนค่อยๆ เปลี่ยนไป ซึ่งนั่นรวมถึงการเข้าถึงสื่อต่างๆ ด้วย แน่นอนว่าพวกเราเชื่อว่ามันคือสิ่งที่ดีงามมากๆ เพราะมันไม่ได้ช่วยให้แค่เข้าถึงงานของนักวาดมังงะเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้คนสร้างผลงานประเภทอื่นๆ ได้เผยแพร่งานตัวเองที่ง่ายขึ้นด้วย ซึ่งนั่นก็จะทำให้ผู้ที่มาเสพงานของเราได้มีความสุขทั้งการอ่าน การฟัง และการดู อย่างไรก็ตามผลมันจะออกมาดีหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ผลิตและผู้เสพนั้นยังคงเกื้อหนุนกันอย่างถูกต้องตามหลักและทำกันเป็นลูปอยู่แบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ผลมันดันไม่ออกมาเป็นอย่างที่คิด เพราะปัจจุบันเว็บไซต์เถื่อนต่างๆ เริ่มที่จะทำให้ผู้เสพออกจาลูปที่ว่าและหันมาละเมิดลิขสิทธิ์แทน ซึ่งนั่นถือเป็นการตัดรายได้ที่ตัวผู้สร้างควรจะได้รับไปในทันที และนั่นอาจจะหมายถึงจุดสิ้นสุดของลูปที่ช่วยเกื้อหนุนกันจนทำให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานต้องหยุดและเลิกไปในท้ายที่สุด พวกคุณที่เป็นคนเสพผลงานลองคิดมุมกลับดูสิ ไม่ใช่แค่กับมังงะเท่านั้นแต่กับสื่อทุกอย่าง ว่าถ้าเรายังคงพากันออกจากลูปเดิมที่คอยเกื้อหนุนกัน จนสุดท้ายเหล่านักวาดและคนที่สร้างผลงานอื่นๆ ไม่ได้อะไรจากตรงนั้นจนพวกเขาก็พากันออกมาจากลูปที่ว่าเช่นกัน จนถึงวันนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้น ถึงตอนนั้นหนึ่งในวัฒนธรรมหลักของญี่ปุ่นอาจจะต้องถึงคราวล่มสลายและสูญหายไปตลอดกาล”     เราอาจจะคิดว่าคำพูดของทาง JCA คือการพูดเพื่อให้ดูดี แต่ปัญหานี้มันเกิดขึ้นจริงและเกิดขึ้นกับทุกวงการ ฉะนั้นเราก็คงต้องย้อนกลับมาดูที่ตัวเองแล้วว่า เราพอที่จะกลับเข้าไปอยู่ในลูปที่ว่าได้หรืิอ กลับไปช่วยเหลือกันและกันเหมือนวันเก่าๆ   ที่มา rocketnews24

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ได้เกิดเหตุสลดใจขึ้นในโรงเรียนมัธยมปลาย Marjory Stoneman Douglas รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งบุกเข้าไปพร้อมกับอาวุธปืนและระเบิดควัน กราดยิงนักเรียนจนทำให้มีเด็กเสียชีวิตไป 17 คน และบาดเจ็บอีก 50 คน ภายหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบเข้าจับกุมตัวนาย Nikolas Cruz วัย 19 ปี ผู้ก่อเหตุในคดีดังกล่าว อดีตนักเรียนที่ถูกไล่ออกไปจากโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งนับว่าคือการพรากชีวิตคนไปเยอะมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศอเมริกา   การเข้าจับกุมตัวเด็กหนุ่ม Nikolas ผู้ต้องหาในคดีที่เกิดขึ้น   Scott Israel นายอำเภอประจำเขต Broward เล่าว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวเด็กหนุ่มผู้ก่อเหตุได้ หลังจากที่เขาแอบหนีออกมาพร้อมๆ กับเด็กคนอื่นๆ ที่หนีตายออกมาจากโรงเรียน ก่อนที่จะไปแวะร้าน Wal-Mart ต่อด้วยซื้อเครื่องดื่มในร้าน Subway แล้วก็ไปกินอาหารในร้าน McDonald’s พอเขาออกจากร้านสุดท้ายมาได้ประมาณ 40 นาที ตำรวจก็ได้เข้าจับกุมเขาและพาไปสอบปากคำแทบตลอดทั้งคืน ก่อนที่เขาจะได้ไปขึ้นศาลในวันต่อไป  …

สังเกตมั้ยว่าเดี๋ยวนี้สาวๆ หันมาให้ความสนใจกับเรื่องกีฬามากพอๆ กับผู้ชายเลย เหตุผลน่ะหรอ? ก็เพราะกีฬาเป็นยาวิเศษยังไงล่ะ อิอิ กีฬาเป็นยาวิเศษจริงๆ นะ ขนาดนั่งดูเฉยๆ ยังทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยเลย โดยเฉพาะกีฬาสเกตในโอลิมปิกฤดูหนาว ปี 2018 นี้ อื้อหือ เจอยาดีเข้าให้แล้ว     ยาดีที่ว่านี้คือ Shaolin “Sándor” Liu นักกีฬาสเกตหนุ่มลูกครึ่งจีน-ฮังการี วัย 23 ปี คุณพ่อเป็นชาวจีน แม่เป็นชาวฮังการี Liu เกิดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ปี 1995 เขาเป็นนักกีฬาสปีดสเกตติง สัญชาติฮังการี ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง แถมสไลด์เก๊งงงเก่ง ดีต่อใจมากค่ะขุ่นแม่ขาาาา     สามี เฮ้ย!! หนุ่ม Liu เริ่มเข้าสู่วงการกีฬาสปีดสเกตติงเมื่อปี 2006 และได้ฝึกซ้อมในประเทศจีนเป็นเวลา 1 ปี ก่อนจะได้เป็นตัวแทนของฮังการีในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ปี 2014 ที่ผ่านมา เขาได้รับรางวัลชนะเลิศหลายครั้งจากการแข่งขัน World Junior Short…