นี่เห็นอยู่นี้คือหน้าเว็บ CatDumb เวอร์ชันเก่า
-
สารคดี Down to Nothing พาไปสัมผัสยอดเขาคากาโบราซี ที่หนาวที่สุดในพม่า
ถ้าหากพูดถึงยอดเขาสูงๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ชื่อแรกๆ ที่หลายคนพอจะนึกออกก็คงจะหนีไม่พ้นยอดเขาเอเวอเรสต์อย่างแน่นอน แต่นอกเหนือจากยอดเขาจากเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้แล้ว ในประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ เราอย่างประเทศพม่าเองก็มียอดเขาที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างยอดเขาคากาโบราซีเช่นกัน!! ยอดเขาคากาโบราซีนั้นตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของประเทศพม่าในจังหวัดปูเตา รัฐกะฉิ่น ติดกับประเทศจีน ยอดเขาแห่งนี้เป็นหนึ่งในเทือกเขาหิมาลัยที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลมากกว่า 5,881 เมตร และมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี แน่นอนว่าด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ และความท้าทายของยอดเขาแห่งนี้จึงทำให้มันเป็นที่ดึงดูดนักปีนเขาจากทั่วโลก รวมถึงทีมสำรวจจาก North Face และ National Geographic ด้วยเช่นกัน ทีมสำรวจ 6 คนที่เกิดจากความรวมมือของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสองได้ออกเดินทางเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือนเพื่อทำการพิชิตจุดที่สูงที่สุดของยอดเขาในประเทศพม่าแห่งนี้ เส้นทางการพิชิตยอดเขาของทีมสำรวจ เส้นทางการผจญภัยที่ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมายไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ผ่านเส้นทางวิบากกว่า 130 กิโลเมตร และการเดินเท้าอีกกว่า 200 กิโลกว่าที่จะถึงตีนเขา หลังจากที่ใช้ระยะเวลาในการเดินทางนานกว่า 30 วันจากจุดเริ่มต้นที่เมืองย่างกุ้ง ในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึงจุด Base Camp ของยอดเขาแห่งนี้แล้ว ทีมพิชิตยอดเขาใช้เวลาวางแผนการปีน ก่อนที่จะเริ่มลงมือเตรียมอุปกรณ์และใช้เวลากว่า 5 วันก็ขึ้นไปถึงจุด High Camp ภาระกิจพิชิตยอดเขาคากาโบราซียังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ และแล้วตอนนี้ก็เกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อย เมื่อทีมงานจำเป็นต้องแยกออกเป็น…
-
คุณแม่รักหมายิ่งกว่าลูก เปย์ค่าของขวัญให้ถึง 44,000 บาท ชีวิตแกจะดีอะไรขนาดนั้น!!
เมื่อพูดถึงวันคริสต์มาสเราก็มักจะนึกถึงเทศกาลแห่งความสุข วันที่มีซานต้ามาแจกของขวัญหรือเราจะได้ซื้อของขวัญสุดพิเศษให้ใครสักคนหนึ่ง เช่นซื้อให้พ่อแม่พี่น้องหรือแม้แต่คนรักก็ตาม แต่นั่นไม่ใช่สำหรับ Helena Mueller คุณแม่ลูกหนึ่งจากเมืองเคมบริดจ์เชอร์ ในประเทศอังกฤษอย่างแน่นอน เพราะเธอนั้นเลือกที่จะใช้ชีวิตและเงินทั้งหมดที่หาได้มามอบของขวัญให้กับสุนัขของเธอ สุนัขที่เธอรักมากกว่าลูกแท้ๆ เสียอีก Lola สุนัขสายพันธุ์ค็อกกาพูคือเจ้าตูบผู้ที่ได้รับความรักอย่างเต็มเปี่ยมจากเจ้าของ โดยในคริสต์มาสปีนี้ Helena ได้ใช้เงินกว่า 1,300 ดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็นเงินไทยก็ราว 44,000 บาทไปกับการซื้อของขวัญให้สุนัขของเธอ ซึ่งตีจำนวนชิ้นได้มากถึง 68 ชิ้นเลยทีเดียว Helena ได้เล่าถึงความรักและความสำคัญของเจ้า Lola ว่า “Lola นั้นเป็นสุนัขที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของฉันเลยก็ว่าได้ ตอนที่ฉันได้มันมานั้นลูกชายของฉัน Harry เพิ่งจะอายุ 4 ขวบเอง แน่นอนว่าข้อดีของมันคือ มันไม่เคยโอดครวญเรื่องการบ้านหรือบ่นว่าวันนี้จะกินอะไรดีเลย จนกระทั่งผ่านไปสองปีฉันก็รู้ว่าฉันรักสุนัขมากกว่าลูกซะแล้ว” เธอยังได้บอกกับสื่อต่างประเทศอีกว่า เธอยอมรับว่าเธอนั้นสปอยล์สุนัขของเธอมากเกินไป มากกว่าลูกของตัวเองโดยเฉพาะของขวัญในปีนี้ เพราะเจ้า Lola ได้รับของขวัญเยอะกว่า Harry ลูกชายของเธอเสียอีก “ฉันพยายามจะซ่อนของขวัญของ Lola จาก Harry นะแต่มันทำไม่สำเร็จ เพราะของขวัญที่ฉันซื้อให้มันเยอะเกินไปจริงๆ” นอกจากของขวัญแล้ว Helena…
-
‘UnSpoil Me’ บริการแปลกใหม่ ช่วยให้คุณลืมเนื้อหาที่โดนสปอยล์มา โดยการสะกดจิต!!
สำหรับหลายๆ คนแล้วการถูกเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของหนังก่อนที่จะรับชมด้วยตัวเอง หรือเรียกง่ายๆ โดนสปอยล์ คงจะเป็นเรื่องที่แสนเจ็บปวดกระดองใจอย่างมากเลยทีเดียว และไอ้การเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนที่ว่านี้ก็มักจะมาในหลากหลายรูปแบบ และหนึ่งในนั้นก็คือการสปอยล์ในโลกออนไลน์นั่นเอง แต่!! ต่อไปนี้ปัญหาที่ว่าจะหมดไปเมื่อคุณได้พบกับบริการ ‘UnSpoil Me’ บริการใหม่จากซัมซุงที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียอารมณ์จากการถูกสปอยล์!! ( บริการสุดล้ำนี้เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่อย่างซัมซุงและนักสะกดจิตชื่อดังชาวสวิตเซอร์แลนด์อย่างคุณ Fredrik Praesto โดยหลักการทำงานของบริการนี้ก็คือมันจะช่วยทำให้คุณลืมเรื่องราวสำคัญๆ ของหนังเรื่องนั้นไปเพียงแค่คุณทำตามคำแนะนำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองผ่านหน้าจอโทรศัพท์ และจากนั้นเพียงแค่ 18 นาทีคุณก็จะลืมเนื้อหาที่สำคัญนั้นไป การสะกดจิตจะเริ่มจากเสียงอันนุ่มนวนของคุณ Frederik Praesto เพื่อกระตุ้นให้คุณลืมเนื้อหาที่อยากจะลืม และจากนั้นกระบวนการจะดำเนินไปเรื่อยๆ ก่อนที่นักสะกดจิตจะให้คุณนับถอยหลังจาก 300 และจากนั้นการสะกดจิตก็จะสำเร็จ โปรแกรมจะแนะนำให้คุณหายใจเข้าออกอีก 2 ถึง 3 ครั้งก็เป็นอันเสร็จพิธี “ด้วยการสะกดจิตตนเอง เราวสามารถที่จะควบคุมกระบวนการไม่มีสติของเราได้ มันมีประสิทธิภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ แต่เดิมการสะกดจิตนั้นถูกนำมาใช้ในการทำให้ลืมสิ่งต่างๆ และช่วยในการบำบัดรักษา และด้วย UnSpoil Me คุณสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ขึ้นมาแทนได้” นักสะกดจิตกล่าว ส่วนทางด้านผู้ผลิตเองก็ออกมากล่าวผ่านเว็บไซต์ว่า “มันจะช่วยมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นในการรับชมทีวีซีรีส์ให้กับคุณเหมือนชมการรับชมครั้งแรก” แต่อย่างไรตามก็ยังมีผู้คนอีกไม่น้อยที่ยังคงไม่แน่ใจว่าเจ้าโปรแกรมนี้จะสามารถใช้ได้จริงหรือไม่ และสำหรับใครที่อยากลองสัมผัสล่ะก็สามารถเข้าไปทดสอบกันได้ที่เว็บไซต์ samsung กันได้เลย… ที่มา odditycentral
-
ญี่ปุ่นเปิดบริการให้เข้าเคารพศพแบบไดร์ฟทรู เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ ‘คนแก่และคนพิการ’
การสูญเสียใครสักคนไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงหรือแม้แต่คนรู้จักผ่านๆ ไม่ว่าจะแบบไหนผลที่ตามมาก็ย่อมสร้างความเสียใจเสมอ และในบางครั้งคนที่เสียใจก็กับการจากไปก็ไม่พร้อมที่ต้องแสดงตัวในงานศพนั้นๆ ก็เป็นได้ และด้วยเหตุนี้ทางสถานที่จัดงานศพในญี่ปุ่นที่มองเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้เพิ่มตัวเลือกใหม่กับญาติๆ หรือคนรู้จักของผู้เสียชีวิตสามารถขับรถมาเคารพศพโดยที่ตัวเองไม่ต้องลงจากรถ หรือที่เราเรียกว่าการเข้าเคารพศพแบบไดรฟ์ทรูนั่นเอง โรงประกอบพิธีฌาปนกิจศพ The Ueda-Minami Aishoden ในเมืองยูดะ จังหวัดนะงะโนะ ประเทศญี่ปุ่น ได้ริเริ่มแนวคิดดังกล่าวพร้อมเปิดหน้าต่างส่วนหนึ่งเพื่อให้ญาติหรือคนรู้จักของผู้เสียชีวิต สามารถลงทะเบียนเข้าเคารพศพผ่าน iPad และเดินทางมาทำพิธีแบบญี่ปุ่นได้โดยผ่านหน้าต่างโรงประกอบพิธีและหน้าต่างรถของพวกเขา ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่เข้าใช้บริการนั้นจะเป็นกลุ่มคนที่อยากจะมาเคารพศพจริงๆ แต่พวกเขาก็มีธุระต้องไปต่อเช่นกัน การทำแบบนี้จึงเพิ่มความสะดวกสบายให้กับญาติ รวมถึงคนบางกลุ่มที่เสียใจเกินกว่าออกไปพบปะผู้มาร่วมงานศพคนอื่นๆ นั่นเอง แต่จุดประสงค์หลักของการเปิดบริการนี้จริงแล้วนั่นก็คือ การเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้สูงอายุ เพราะว่าการทำพิธีแบบญี่ปุ่นนั้นจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในการเคารพศพ และผู้คนก็จะต้องต่อแถวกันเป็นเวลานาน ฉะนั้นผู้สูงอายุที่ยากต่อการเดินทางและยืนรอนานๆ จึงจำเป็นจะต้องใช้ตัวเลือกนั่งทำพิธีกรรมในรถผ่านระบบนี้นั่นเอง Juken Takehara หัวหน้าของโรงประกอบพิธีฌาปนกิจศพ The Ueda-Minami Aishoden ได้กล่าวว่า “ในตอนแรกที่เราเริ่มระบบนี้นั้น เราก็พบว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ออกมาตอบโต้ว่าระบบของเรานั้นไม่ให้ความเคารพต่อผู้เสียชีวิต แต่พอเวลาไปสักระยะหนึ่งปัญหานั้นก็เริ่มหมดไป และพวกเราก็ได้เสียงตอบรับที่ดีมากขึ้น เพราะว่ามันส่งผลดีต่อผู้สูงอายุและคนพิการเป็นอย่างมากนั่นเอง” . อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าการเข้าเคารพศพจะเกิดขึ้นด้วยวิธีไหน แต่ถ้าคนที่มาเขามีใจอยากจะบอกลาคนรู้จักหรือคนรักจริงๆ มันก็ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นไดรฟ์ทรูหรือยืนรอหรอกจริงไหม เพราะความรู้สึกที่พวกเขาส่งออกมานั้นแหละคือตัวบ่งบอกเจตนาของพวกเขา……
-
21 ความ Chris Hemsworth หลัวเทพแห่งโลกมนุษย์ แม้แต่ใช้ชีวิตธรรมดาๆ ดูยังไงก็ยังรักอยู่ดี
Chris Hemsworth อีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถ กับหนึ่งในตัวละครที่ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดนั่นก็คือ Thor Ragnarok นั่นเอง ซึ่งพ่อหนุ่มร่างหมีคนนี้นอกจากจะมีความหล่อเป็นที่หนึ่งแล้ว พี่เขายังมีเรื่องราวดีๆ อีกมากมายที่รับรองว่าเหล่าแฟนคลับของเขาต้องเป็นอันต้องตกหลุมรักกับความ Chris แน่นอน 1. เมื่อพี่แกอยากจะแชะภาพกับชาวแก๊ง พบกับ Thor Raknarok อัลบั้ม เร็วๆ นี้ 2. อวยพรวันเกิดแก่ลุง Taika Waititi โดยมีลุง Anthony คั่นกลาง 3. เพื่อนรักอย่างป๋า Robert Downey Jr. ก็โดนกับเค้าด้วย 4. นอกจากจะเป็นฮีโร่ในจอเงินแล้วยังเป็นแดดี้ฮีโร่กับเด็กๆ ด้วย 5. เหล่าแฟนคลับตัวจิ๋วที่คอยให้กำลังใจอยู่ไม่ห่างจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ครอบครัว 6. เวลาพี่จ๋าไปเที่ยวเค้าจะจัดหนักจัดเต็ม แชะภาพมาอวดเหล่าแฟนคลับตลอดๆ 7. คนอวดเมียอันดับหนึ่งแห่งวงการ 8. อวดเมีย ครั้งแล้ว…
-
เจ้าเหมียวถูกพบใต้ระเบียงบ้าน พอช่วยมาแล้วก็มาหว่านเสน่ห์ใส่เค้า มันร้ายจริงๆ ค่ะหัวหน้า!!
สวัสดีจ้า วันนี้ #เหมียวบู้บี้ จะพาเหล่าทาสแมวทั้งหลายมารู้จักกับเจ้า molly เหมียวน้อยสามสีที่ไม่ว่าใครๆ ที่ได้ดูครั้งแรกก็เป็นอันต้องตกหลุมรักกับหน้าอ่อยๆ ของมันอย่างแน่นอน สวัสดีค่ะ ชื่อ Molly ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะจ๊ะพี่จ๋า ก่อนจะมาเป็น Molly ในทุกวันนี้มันก็ต้องผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชน โดยได้มีคนเข้าไปเจอเจ้าเหมียวน้อยถูกทิ้งไว้ที่ใต้ระเบียงบ้าน เนื้อตัวเต็มไปด้วยหมัดและหมดแรงเนื่องจากไม่ได้กินอะไร หลังจากที่ถูกช่วย จับอาบน้ำหอมๆ ให้ข้าวกินแล้วมันก็เริ่มจะกลับมาซนอีกครั้ง มันถูกส่งตัวไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ประจำท้องถิ่น FosterBabyCats เพื่อหาบ้านหลังใหม่แต่ด้วยความน่ารักของมันทำให้ใช้เวลาไม่นานก็ได้บ้านใหม่ไฉไลกว่าเดิม แม่ใหม่ของมันเป็นทาสแมวตัวยง เธอดูแลมันอย่างดี จนสุขภาพของมันค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับและคอยเอาอกเอาใจจนมันติดนิสัยแบบนี้ กลายเป็นแมวขี้เกียจไปซะงั้น ไปเลยเจ้าโรบอท!!! อย่ามาทำสายตาแบบนี้นะ มันเริ่มเข้ากับเพื่อนๆ ในบ้านได้ดี และนี่คือแก๊งแมวเหมียวในบ้านหลังนี้ นางชอบอ้อนมาก ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะเสนอหน้ามาอยู่ด้วยแบบนี้ กินเยอะเกินไป ท้องจะแตกแล้ววววว เนียนเลย เห้อ แบบนี้ใครไม่รักก็บ้าแล้วล่ะ ^^ . …
-
พนักงานธนาคารใช้เวลานานถึง 6 เดือน เพื่อนับเหรียญกว่า 1.2 ล้านเหรียญ ด้วยมือเปล่า…
ไม่รู้ว่าจะต้องดีใจหรือเสียใจดีเมื่อครอบครัวของคนขับรถบรรทุกในเมือง Bremervode ประเทศเยอรมนีได้รับมรดกจากการเสียชีวิตของคนในครอบครัว แต่ทว่ามรดกที่ได้รับทั้งหมดนั้นเป็นเหรียญทั้งหมดและเหรียญเหล่านั้นก็ได้ถูกยกเลิกการใช้งานไปแล้วเมื่อปี 2002 มรดกเหรียญทั้งหมดนี้มีจำนวนมากกว่า 1.2 ล้านเหรียญและมีน้ำหนักมากกว่า 2.5 ตัน โดยคนขับรถบรรทุกได้เก็บสะสมไว้ให้กับครอบครัวมาเป็นเวลากว่า 30 ปี เมื่อเขาเสียชีวิตลงตอนต้นปี จำนวนเงินทั้งหมดนี้ก็ได้ถูกนำมาเป็นมรดกให้กับบุคคลในครอบครัว เหรียญที่ได้สะสมนั้นเป็นเป็นเหรียญสกุลเฟนนิก เดิมทีนั้นเงินสกุลเฟนนิกมีีการใช้ภายในประเทศเยอรมนีโดยเหรียญ 1 เฟนนิกมีค่าเท่ากับ 0.01 มาร์คเยอรมัน และ 1.9 มาร์คเยอรมันเท่ากับ 1 ยูโรหรือประมาณ 38 บาท เนื่องจากว่าเหรียญเหล่านี้ไม่สามารถใช้จ่ายได้ตามท้องตลาด ทางครอบครัวจึงต้องนำเหรียญทั้งหมดนี้ไปแลกที่ Bunders Bank ธนาคารกลางของเยอรมนีซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานที่จะต้องนับเหรียญทั้งหมดนี้ ก็แค่ 1.2 ล้านเหรียญเองแก หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าทำไมธนาคารไม่ใช้เครื่องนับเหรียญล่ะ เนื่องจากว่าเหรียญเกือบทั้งหมดนี้ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ทำให้มันมีสนิมขึ้นและติดกันเป็นพรืดจึงต้องให้พนักงานเป็นคนนับด้วยตัวเองเท่านั้น Wolfgang Kemereit พนักงานนับเหรียญ เริ่มนับเงินจำนวน 1.2 ล้านเหรียญนี้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมซึ่งเขาต้องใช้เวลากว่า 6 เดือนกว่าจะนับเหรียญทั้งหมดได้ เหรียญทั้งหมดถูกนับได้ทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 8,000 ยูโรหรือประมาณ…
-
คุณตำรวจน้ำใจงาม ช่วยเหลือทหารผ่านศึกไร้บ้าน ซื้อรองเท้าคู่ใหม่แทนคู่เก่าที่ขาดจนเห็นถุงเท้า…
นอกจากที่ตำรวจจะทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎ์ที่คอยปกป้องและดูแลประชาชนแล้ว ตำรวจบางคนยังทำหน้าที่ที่นอกเหนือไปกว่านั้น ย้อนกลับไปในฤดูร้อน 2016 ตำรวจท่านหนึ่งในเมือง Nassau Bay รัฐเท็กซัส ควรได้รับการยกย่องในการกระทำของเขาเป็นอย่างมาก เมื่อคุณตำรวจท่านนี้ได้ช่วยเหลือคนแปลกหน้าโดยการซื้อรองเท้าคู่ใหม่แทนคู่เก่าที่ดูเยินสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ดีๆ ที่ทุกอ่านแล้วจะอมยิ้มไปกับความใจดีของตำรวจท่านนี้กัน ในวันที่ฝนตก ณ เมือง Nassau Bay จากรัฐเท็กซัส สิบเอก Glenn Sharp จากสถานีตำรวจ Nassau Bay ได้ออกไปลาดตระเวณแถวปั๊มน้ำมัน และเขาก็ได้พบเข้ากับคนไร้บ้านคนหนึ่งที่เพิ่งถูกปล่อยตัวจากโรงพยาบาลโดยที่ชายผู้นั้นไม่มีที่ไปและไม่มีครอบครัวหรือญาติที่ไหนเลย คุณตำรวจตัดสินใจที่จะช่วยส่งชายคนนั้นขึ้นรถไฟใต้ดินเพื่อเดินทางเข้าเมือง แต่ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นรองเท้าเทสนิสที่ชายไร้บ้านสวมใส่อยู่ ซึ่งมีสภาพเก่ายับเยินจนไม่น่าจะใช้งานได้ สิบเอกจึงพาชายไร้บ้านคนนี้เข้าร้านรองเท้า เพื่อซื้อคู่ใหม่ให้ก่อนที่จะไปส่งเขาเข้าเมือง และนี้ก็คือสภาพของเราเท้าเทนนิสคู่เก่าของชายยากไร้ ภายหลังเขาก็ทราบว่าชายไร้บ้านคนดังกล่าวเป็นทหารผ่านศึกคนหนึ่ง ที่ชีวิตล้มละลายจนชีวิตตกต่ำ เรื่องราวสุดประทับในนี้ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊กของ Kathryn Hamm เพื่อนตำรวจของสิบเอก Sharp ไม่นานนักเรื่องราวนี้ก็ถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว สิบเอก Sharp ได้กล่าวว่า “ผมเห็นโอกาสที่จะช่วยคนเหล่านั้น และผมทำในสิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันถูกต้อง” เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจและเราก็อยากให้มันเกิดขึ้นบ่อยๆ ในสังคมนะ ที่มา littlethings
-
งานศิลปะจากศิลปินชาวอิตาลี ที่ดูแล้วเหมือนภาพถ่ายแต่ดันไม่ใช่ภาพถ่าย งงไหม นี่ก็งงเหมือนกัน
ภาพที่ #เหมียวบู้บี้ จะนำมาเสนอในวันนี้ เมื่อได้เห็นอาจจะคิดว่าเจ้าภาพเหล่านี้เป็นแค่ภาพถ่ายธรรมดาๆ แน่เลย ก่อนอื่นเราก็มาดูกันเลยดีกว่า ซูมใกล้ๆ ชัดยันรูขุมขน ดูๆ แล้วเหมือนภาพถ่ายนางแบบทั่วไปใช่ไหมล่ะ แต่ว่าไม่ใช่นะ นี่คือภาพวาดจาก Marco Grassi ศิลปินชาวอิตาลี ที่ได้ใช้ฝีมือของเขาในการสร้างสรรค์ผลงานสุดน่าทึ่งนี้มาอวดให้กับชาวเน็ตได้เห็นกัน นี่แค่เบาๆ นะ . ผลงานของเขาจะเน้นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ กับผลงานซึ่งเป็นงานที่ถนัดของเขาเลยก็ว่าได้ แนวคิดในการสร้างสรรค์สุดยอดศิลปะนี้ก็คือ Hyperrealism หรือ อภิสัจนิยม คือการใช้ศิลปะที่ดูเหมือนจริงสุดๆ Empty Spaces . . เขาใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะได้ผลงานแต่ละชิ้นออกมา ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของผลงานชิ้นนั้น เขาบอกว่า มันเป็นผลงานที่ยาวนานมากเพราะเราต้องเอาใจใส่ทุกขั้นตอนจนกว่าจะมาเป็นชิ้นงานที่เราภาคภูมิใจ ไปดูผลงานของเขาดีกว่าว่าจะสุดยอดแค่ไหน …. Facal Point . La Bellezza Del Tempo เก็บทุกรายละเอียด แม้กระทั่งรอยเหี่ยวของผิว Autocorpo…
-
ลมจะจับ… ลูกชายผลาญเงินแม่หมดบัญชี เพราะดันไปซื้อของในเกมฟีฟ่าอย่างไม่ตั้งใจ!?
กลายเป็นเรื่องเป็นราวกันเลยทีเดียว เมื่อคุณแม่ชาวไอริชท่านหนึ่งได้ออกมาแชร์เรื่องราวของเธอและลูกชาย พร้อมเตือนพ่อแม่คนอื่นๆ ให้ตรวจเช็กเกมที่ลูกเล่นให้ดี เพราะลูกของเธอเพิ่งจะจ่ายเงินอย่างไม่ตั้งใจ จนตอนนี้เธอหมดตัวแล้ว เรื่องราวดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นกับคุณแม่จากเมืองคอร์ก ประเทศไอร์แลนด์ โดยเธอเล่าว่าเธอเพิ่งซื้อเกมหนึ่งให้ลูกชายวัย 14 ซึ่งเกมที่ว่านั่นก็คือ Fifa 18 แน่นอนว่ามันเป็นเกมฟุตบอลและจำกัดอายุผู้เล่นอยู่ที่ 3 ขวบขึ้นไป เธอจึงคิดว่ามันไม่มีปัญหาอะไร แต่แล้วปัญหาก็เกิด เมื่อวันหนึ่งเธอค้นพบว่าเงินในบัญชีซึ่งเป็นเงินเดือนทั้งเดือนรวมถึงโบนัสได้หายไปแล้ว เธอจึงตรวจสอบดูก็พบว่าต้นตอของเงินที่หายไปนั้นมันหายไปกับการใช้จ่ายในเกม Fifa 18 เธอจึงไปสอบถามลูกชายของเธอดู เธอก็พบว่าลูกชายของเธอก็ไม่รู้เรื่องอะไร จนเธอต้องตรวจสอบเกมด้วยตัวเองก็พบว่าตัวเกมนั้นได้ผูกบัญชีของเธอไว้แล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดของลูกชายเพราะเขาไม่ได้ร้องขอให้ผูกบัญชีไว้แต่แรก แต่เป็นเธอเองที่ผูกไว้ตอนซื้อเกมให้ลูกชาย และลูกชายก็ไม่รู้ว่าทุกๆ ครั้งที่ตัวเกมร้องขอให้ใช้แต้มพิเศษในเกมเท่ากับต้องใช้จ่ายเงินจริง ฉะนั้นลูกชายจึงกดใช้มันอย่างไม่ทันสังเกตนั่นเอง ด้านคุณแม่ชาวไอริชก็ไม่ได้ลงโทษลูกของเธอแต่อย่างใด เพราะเธอได้ให้เหตุผลว่า ลูกชายของเธอนั้นได้แต่โทษตัวเองมากพอแล้ว เขาไม่ยอมออกจากห้องเลย เขาโทษว่าที่เงินของแม่หายไปและครอบครัวไม่มีของขวัญคริสต์มาสในปีนี้มันเป็นความผิดของเขา ผู้เป็นแม่อย่างเธอจึงได้แต่บอกให้เขาเลิกโทษตัวเองและหาทางออกด้วยกัน อย่างไรก็ตามคุณแม่ได้ติดต่อไปทางบริษัท Playstation แล้ว แต่เธอก็ได้คำตอบกลับมาว่า Fifa 18 นั้นเป็นเกมสำหรับวัยรุ่นหรือคนที่โตแล้ว และพวกเขาไม่มีนโยบายคืนเงินให้ ฉะนั้นเธอจึงเหลือทางออกอีกแค่ทางเดียวคือคำตอบจากบริษัท EA ที่เป็นต้นสังกัดของเกมนั่นเอง……
-
หญิงสาวเห็นเจ้าขนปุยแวบแรกก็ตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น ก็เลยเก็บมันมาเลี้ยงที่บ้านซะเลย
เคยเจอรักแรกพบกันบ้างรึเปล่า มันคืออาการรู้สึกชอบพอใครสักคนหนึ่ง ในรูปแบบที่ว่าพอเจอหน้ากันปุ๊บ ก็ตกหลุมรักเข้าเต็มเปาเลย ฟังดูโรแมนติกเหมือนเป็นพรหมลิขิตเลยเนอะ แต่รักแรกพบไม่ได้จำกัดกับแค่มนุษย์หรอกนะ มันอาจจะเกิดขึ้นระหว่างคนและสัตว์ได้เหมือนกัน แบบที่ผู้หญิงคนนี้เจอกับสัตว์เลี้ยงขนฟูของเธอยังไงล่ะ แมวเหมียว Coco ผู้ใช้ Reddit คนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า emifasho เป็นหญิงสาวที่อาศัยอยู่ที่รัฐหลุยเซียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอได้มีโอกาสไปเยี่ยมแม่ของเธอเมื่อเร็วๆ นี้ และพบว่ามีสิ่งมีชีวิตแปลกหน้าตัวหนึ่งเดินป้วนเปี้ยน อยู่แถวบ้านของแม่เธอด้วย เมื่อเธอถามแม่ดู จึงได้ความว่าเจ้าเหมียวตัวนี้เป็นลูกของแมวจรจัดตัวหนึ่ง ที่แม่เธอให้อาหารอยู่เป็นประจำ วันนั้นคุณแม่ก็เอาอาหารไปให้แมวแถวบ้านตามปกตินั่นแหละ และก็ไปเห็นว่าแมวจนจัดได้คลอดลูกทิ้งเอาไว้ แล้วเจ้าขนปุยตัวนี้ก็เป็นตัวเดียวในคอกที่มีชีวิตรอดมาได้ เค้าชอบอยู่ในบ้านอะ มันอุ่นใจ คุณแม่ไม่ได้เก็บมันมาเลี้ยงหรอกนะ แต่ก็ยังให้อาหารและดูแลเจ้าเหมียวเป็นอย่างดี คงเป็นเพราะแบบนั้นเจ้าขนปุยตัวนี้ก็เลยไม่กลัวคนเลย แล้วยังเข้ามาอ้อนอีกด้วย น่ารักจริงๆ เธอเห็นแล้วก็เกิดรักแรกพบกับมันทันที เธอคิดว่ามันน่าจะชอบใจถ้ามีคนรับมันไปเลี้ยงในบ้าน ก็เลยขอเจ้าแมวจากคุณแม่มาเลี้ยงซะเลย ซึ่งคุณแม่ที่ไม่ได้เลี้ยงมันอยู่แล้วก็ตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดเลย “แม่ของฉันดูแลมันให้อยู่นอกบ้าน แต่ฉันว่าเจ้าตัวนี้น่าจะชอบอยู่ในบ้านมากกว่านะ” มีบ้านใหม่อยู่แล้ว เหมียวต้องรีบทำการยึดครอง พอเธอพาเจ้าเหมียวเข้ามาในบ้านได้แป๊บเดียว มันก็ดูชอบใจมากเลย มันจึงเดินสำรวจไปรอบๆ อย่างตื่นเต้นทันที ดูจากท่าทีของมันแล้วบอกได้เลยว่าเธอคิดไม่ผิดเลยว่ามันชอบอยู่ในบ้านขนาดไหน พอเดินสำรวจจนพอใจแล้ว มันคงรู้สึกปลอดภัยในบ้านที่แสนอบอุ่นหลังนี้ มันจึงนอนแผ่หราลงกลางห้องอย่างสบายใจเฉิบเลย ยังไม่พอนะ พอเข้ามาอยู่บ้านได้ไม่กี่วัน…
-
ไม่มีคือผิด “5 ไอเทมเครื่องแต่งกายสีขาวสุดคลาสสิค” ใส่ยังไงก็สวย ดูดีมีสไตล์ สาวๆ ต้องมี!!!!
เมื่อพูดถึงสีสุดคลาสสิคที่ยังดูดีมีสไตล์ทุกยุค ทุกสมัย ก็คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “สีขาว” เพียงแค่คุณมีเครื่องแต่งกายสีขาวซักชิ้น ก็สามารถแมทช์กับทุกชุดได้อย่างง่ายๆ แถมยังดูสง่าแบบเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นวันสบายหรือวันที่ต้องปัง ก็สามารถหยิบของเหล่านี้ใส่ได้เก๋ๆ ทันที.. แล้วอะไรบ้างล่ะ ที่สาวๆ ทุกคนควรมีไว้กันตาย เราไปชมกันเลย 1. เสื้อยืดสีขาว เสื้อยืดสีขาวเป็นไอเทมที่สาวๆ ทุกคนต้องมี ไม่ว่าคุณจะไปไหน ทำอะไร เสื้อยืดสีขาวจะช่วยให้คุณรอดได้ในทุกๆ สถานการณ์ จึงไม่แปลกที่เราจะเป็นดารานางแบบใส่เสื้อยืดสีขาวแมทช์กับเครื่องแต่งกายอื่นๆ แบบเก๋ๆ ที่แม้จะดูเรียบง่าย แต่กลับดูดีมีสไตล์สุดๆ เลยล่ะจ้าา ใส่กับกระโปรงก็ชิคสุดๆ ใส่กับกางเกงตัวไหนก็รอด 2. กางเกงสีขาว แม้ว่าสีขาวจะเปื้อนง่าย แต่มันก็คุ้มที่จะเสี่ยงให้กับความเท่ความชิคของมัน เพราะนอกจากที่สาวๆ จะมีเสื้อยืดสีขาวกันแล้ว การมีกางกางขาสั้นสีขาวซักตัว ก็จะช่วยให้ลุคสบายๆ ชิวๆ ปนความน่ารัก ลองหาเสื้อสีสันสดใสมาใส่ทับลงไปในกางเกงสีขาว ก็จะช่วยให้คุณดูโดดเด่นยิ่งขึ้นนะ ขาสั้นเอวสูงกับเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สวยๆ สักตัวก็สวยแล้วล่ะ หรือจะเป็นเสื้อเชิ้ตก็ได้ฟิลน่ารักไปอีกแบบ 3. แว่นกันแดดสีขาว ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน การพกแว่นสวยๆ…
-
มิตรภาพในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อนักบินเยอรมันปล่อยอีกฝ่ายให้มีชีวิตรอด และบินคุ้มกันไปส่งให้ถึงที่
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทั่วทุกมุมโลกต่างก็ทำการสู้รบกันเพื่อคว้าชัยชนะมาให้กับประเทศตนเอง หากเจอเครื่องบินรบหรือเรือรบของศัตรู ก็เป็นอันต้องทำลายให้สิ้นซากเป็นธรรมดา ศัตรูจะได้ไม่แว้งมาทำร้ายเราในภายหลัง แต่ทหารชาวเยอรมันคนหนึ่งไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย เขาไม่ต้องการฆ่าใครโดยที่ไม่ได้จำเป็น จึงเกิดเป็นเรื่องราวปาฏิหาริย์แห่งมิตรภาพระหว่างทหารเยอรมันและทหารอเมริกา ในปี 1943 นายทหาร Charlie Brown แห่งกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ขับเครื่องบิน B-17 ไปในน่านฟ้าของประเทศเยอรมัน เพื่อสู้รบกัน แต่เครื่องบินของเขาถูกยิงเสียจนสภาพร่อแร ลูกเรือกว่าครึ่งหนึ่งได้รับบาดเจ็บหนัก และเครื่องยนต์บางส่วนก็เสียหายอีกด้วย ในขณะที่เขาพยายามประคองเครื่องบินกลับไปยังประเทศอังกฤษนั้น เขาและนักบินคนอื่นๆ ก็สังเกตเห็นว่าเครื่องบินรบ ME-109 ของเยอรมัน บินเข้ามาใกล้เครื่องของเขามากแล้ว ทุกคนในเครื่องจึงทำใจไว้แล้วว่าโดนยิงเครื่องตกแน่นอน ทว่านักบินเยอรมัน Franz Stigler กลับทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เขาไม่ได้ยิงเครื่องบิน B-17 แต่อย่างใด นักบินเยอรมันกลับทำความเคารพให้พวกเขาเห็น แล้วบินคุ้มกันพวกเขาไปส่งจนสุดเขตน่านฟ้าเยอรมัน Charlie Brown Brown พาเครื่องบินกลับมาถึงฐานที่ประเทศอังกฤษได้อย่างปาฏิหาริย์ แม้ว่าเครื่องยนต์ 2 ใน 4 ของเครื่องบินจะพังไปแล้ว และน้ำมันก็แทบจะไม่เหลืออยู่เลยก็ตาม หลังจากจบสงครามแล้ว เขาก็ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกตามปกติ เขาพบรักและได้แต่งงาน มีลูกสาวสองคน จากนั้นเมื่อเขาถึงวัยเกษียณแล้ว เขาก็ย้ายไปอยู่ที่รัฐฟลอริด้า…
-
หนุ่มมาเลย์ทำตามฝัน ศัลยกรรมให้หน้าเหมือนตัวการ์ตูน ชาวเน็ตออกมาคอมเมนต์กันตรึม
การทำศัลกรรมในสมัยนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะว่าเป็นวิธีที่ช่วยเปลี่ยนแปลงหน้าตาของเราให้ดูดีขึ้นมากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ มีคนไปทำศัลกรรมกันมากมายจนการศัลกรรมนั้นกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว ชายคนหนึ่งก็มีความฝันอยากจะทำศัลกรรมให้ตัวเองหน้าตาดูดีขึ้นเช่นกัน เขาจึงได้ทำศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้าจนมีหน้าตาเป็นที่พึงพอใจ แต่สังคมรอบข้างของเขาคงจะไม่เห็นด้วยที่เขาไปทำศัลกรรมมา ภาพของ Amirul Rizwan Musa ก่อนและหลังทำศัลยกรรม Amirul Rizwan Musa หรือที่เป็นที่รู้จักกันในโลกออนไลน์ในนามว่า Miyyo Rizone เป็นชายหนุ่มอายุ 21 ปี สัญชาติมาเลเซีย เขาทำธุรกิจค้าขายเครื่องสำอางออนไลน์ และมีฐานลูกค้าเยอะ จึงนับว่ามีเงินมากในระดับหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจนำเงินจำนวนหนึ่งไปทำศัลกรรม ตามแบบที่เขาอยากทำมาตั้งนานแล้ว พอทำศัลกรรมสำเร็จเขาเลยโพสต์รูปหน้าตาใหม่ของเขา ให้ผู้ติดตามได้ดูสักหน่อย แต่กลับมีชาวเน็ตมากมายเข้าไปคอมเมนต์ในแง่ลบต่อหน้าตาใหม่ของเขา โดยคอมเมนต์ส่วนใหญ่นั้นวิจารณ์ว่าหน้าใหม่ของเขาดูเหมือนกับตัวการ์ตูนที่หลุดออกมาจากจอยังไงยังงั้นเลย และมีข่าวแว่วมาว่าเขาใช้เงินถึงประมาณ 200,000 ริงกิต คิดเป็นเงินไทยกว่า 1.5 ล้านบาทไปกับการเปลี่ยนลุคใหม่ ซึ่งคนส่วนใหญ่น่าจะไม่ชอบในส่วนนี้ จึงต่อต้านที่เขาทำศัลยกรรมมา ส่วน Amirul นั้นออกเปิดเผยว่า ที่หน้าตาของเขาออกมาเป็นแบบนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความชื่นชอบในแอนิเมะญี่ปุ่นของเขา แต่เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เขาอยากทำศัลกรรมเพราะต้องการลบรอยแผลเป็นที่ดูน่าเกลียดต่างหาก เมื่อตอนอายุ 16 ปีเขาป่วยเป็นโรคอีสุกอีใส ทำให้เกิดแผลเป็นตามหน้าและตัวของเขา ส่งผลให้เขาสูญเสียความมั่นใจในหน้าตาของตัวเอง เขาจึงได้ทำศัลกรรมตามตัวละครในอนิเมะที่ชอบ เพื่อเรียกความมั่นใจของตนเองกลับมา …
-
รุนแรงเหลือเกิน ชาวบ้านใน Norilsk จอดรถทิ้งข้างนอกแค่ 5 นาที พริบตาเดียวรถหายไปทั้งคัน
ในช่วงที่ผ่านมาพี่น้องชาวไทยในหลายๆ พื้นที่ก็ได้มีโอกาสสัมผัสกับความเย็นและอากาศหนาวกันไปบ้างแล้ว และที่ดินแดนหมีขาวอย่างประเทศรัสเซียเองเค้าก็ได้สัมผัสกับความเย็นของฤดูหนาวแล้วเช่นกัน แต่ทว่าอย่างที่เราทราบกันดีความหนาวแบบรัสเซียนั้นย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน!! ภาพของค่ำคืนแห่งขั้วโลกจากเมือง Norilsk ประเทศรัสเซียที่เผยให้เห็นปุยหิมะขาวๆ ที่ปกคลุมเมืองแห่งนี้ ซึ่งจากการรายงานของสื่อต่างประเทศเผยว่าความเย็นยะเยือกนี้จะปกคลุมนานถึง 6 สัปดาห์เลยทีเดียว ชายคนหนึ่งจากเมือง Norilsk เล่าว่าเขาจอดรถไว้ด้านนอกเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น และหลังจากที่กลับมาก็พบว่ารถของเขาถูกพายุหิมะปกคลุมมันไปเรียบร้อยแล้ว คลิปวิดีโอของชายหนุ่มคนดังกล่าวที่กำลังพยายามขุดหิมะออก เพื่อทำให้เขาสามารถนำรถออกจากหิมะได้ และไม่ได้มีเพียงแค่รถของพี่คนนี้เท่านั้นที่ถูกหิมะทับถม แต่รถยนต์คันอื่นๆ ก็มีสภาพที่ไม่ต่างกันเลยทีเดียว ไปชมคลิปวิดีโอของหนุ่มคนนี้ กับภาระกิจกอบกู้รถของเค้ากันได้เลย… งานนี้เรียกได้ว่าหิมะท่วมเมืองกันเลยทีเดียว!! ไม่ว่าจะเป็นจักรยานยนต์หรือรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านนนอก บอกได้คำเดียวเลยว่าไม่รอด!! . จะรออะไรกันอยู่ล่ะพี่ ขุดซิครับขุด!! . จากรายงานระบุว่าพายุหิมะนี้ตกลงมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา และเป็นเหตุให้ถนนหลายสายในเมืองไม่สามารถสัญจรได้ . แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ชื่นชอบหิมะ นี่อาจจะเป็นสวรรค์ของคุณเลยก็ได้!! ว้าววว แบบนี้ถ้ามีเฮลบลูบอยซักขวดล่ะก็… หวานชื่นรื่นรมย์กันแน่นอน!! ที่มา siberiantimes
-
การขับขานร้องหมู่คณะ ที่ “เผ็ดร้อน” ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ดูไปก็แสบคอตามไปด้วย
ถ้าหากเพื่อนๆ ได้ยินคำว่าการร้องเพลงที่ ‘เผ็ดร้อน’ ละก็ คงจะนึกถึงนักร้องมากความสามารถบางคน ที่สามารถร้องเพลงสะกดใจคนดูได้ชะงัก ด้วยเสียงอันทรงพลัง ราวกับกำลังพ่นไฟอยู่บนเวทีก็ไม่ปาน แต่วันนี้ ที่ประเทศเดนมาร์กได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของวงร้องประสานเสียงที่เผ็ดร้อนที่สุดในโลกออกมาแล้ว ถ้าเกิดเราเปรียบว่านักร้องมืออาชีพสามารถพ่นไฟได้ละก็ วงประสานเสียงวงนี้คงจะทำให้ร่างลุกเป็นไฟได้เลยทีเดียว Chili Klaus ยูทูบเบอร์ Chili Klaus ได้กลับไปยังบ้านเกิดของเขาที่ประเทศเดนมาร์ก เขาไปเยี่ยมเยียนวงประสานเสียงที่เขาเคยเข้าร่วมเมื่อตอนยังหนุ่ม และร่วมกันร้องเพลง Oh Come, All Ye Faithful เนื่องในโอกาสวันคริสต์มาส พวกเขาร้องประสานเสียงได้เพราะมากทีเดียว คลิปวิดีโอร้องประสานเสียงอันเผ็ดร้อน แต่เมื่อพวกเขาร้องเพลงไปได้สักพักหนึ่ง พวกเขาก็หยุดพักและหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋า เมื่อลองมองดูดีๆ แล้ว สิ่งที่พวกเขาถืออยู่ก็คือ Ghost Pepper ซึ่งเคยเป็นพริกที่นับว่าเผ็ดที่สุดโลกมาก่อน จากนั้นพวกเขาทุกคน ก็กินพริกเข้าไปทั้งอันเลย แล้วการร้องเพลงที่เร่าร้อนที่สุดจึงเริ่มต้นขึ้น พร้อมนะทุกคน หนึ่ง … สอง …สาม … กิน!! เมื่อความเร่าร้อนเพิ่มขึ้น ทุกคนก็เริ่มร้องเพลงด้วยใบหน้าที่มีสีแดงก่ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หนุ่มน้อยคนนี้รู้สึกร้อนแรง…
-
ชีวิตอันน่าอดสูของเหล่า ‘แมวยักษ์’ ถูกบังคับให้แสดงละครสัตว์ ผู้ฝึกอ้าง ‘อ้วนตามอายุ’
ภาพของเหล่าเสือและสิงโตจากคณะละครสัตว์ในเมือง Vladivostok ประเทศรัสเซีย เผยให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของพวกมันที่แตกต่างจากธรรมชาติและสภาพร่างกายที่อ้วนเกินกว่าปรกติ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของสภาพความเป็นอยู่และอาหารการกินของเหล่าเสือ ภาพของเหล่าสิงโตจากคณะละครสัตว์ Vitaly Smolyants ที่ได้ชื่อว่าเป็นคณะละครสัตว์ที่ขึ้นชื่อคณะหนึ่งของประเทศรัสเซีย ที่ถูกบันทึกและเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ถูกชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมายถึงความเหมาะสมในการดูแลพวกมัน “พวกเสือเหล่านี้ดูอ้วนกว่าปรกตินะ ฉันว่าน่าจะดีกว่าถ้าหากพามันไปพบสัตวแพทย์ ไม่ใช่ผู้ชม” หนึ่งในความคิดเห็นของชาวเน็ต “พวกเขาทำให้สัตว์ป่าดูเหมือนเป็นตัวตลก” “เมื่อไหร่จะมีการห้ามการแสดงเหล่านี้ซักทีนะ” . และนอกจากพลังแห่งโลกออนไลน์แล้ว ก็ได้มีนักเคลื่อนไหวทางด้านสิทธิสัตว์ป่า ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบความเหมาะสมของคณะละครสัตว์นี้ แต่ทางด้านคุณ Sergey Aramilev หัวหน้าศูนย์เสือ Amur ก็ได้ออกมากล่าวว่า “โดยส่วนมากพวกสัตว์ในคณะละครสัตว์มักจะถูกดูแลไม่ดีเท่าไหร่ ส่วนมากพวกมันมักจะถูกปล่อยให้ผอม แต่สำหรับกรณีนี้ยังคงเร็วไปที่เราจะสรุปว่าพวกเสือเหล่านี้สุขภาพไม่ดี แน่นอนว่าทางคณะละครสัตว์แห่งนี้ดูแลพวกเสือด้วยเนื้อสัตว์ และอย่างไรก็ตามเรายังไม่เห็นว่าโรคอ้วนนั้นจะส่งผลต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจของพวกสัตว์” ส่วนทางด้านคุณ Vitaly Smolyanets จากคณะละครสัตว์ก็ได้ออกมาพูดถึงกรณีนี้ว่า “สัตว์ของพวกเรานั้นเป็นเสือที่แก่ เมื่อเราแก่ตัวลงร่างกายของเราก็จะอ้วนขึ้นเป็นธรรมดา และพวกสัตว์เองก็เช่นกัน เราไม่ได้ให้อาหารพวกมันมากเกินไป พวกมันได้ทานอาหารแค่หนึ่งมื้อต่อวันเท่านั้น เราดูแลพวกมันอย่างดี ถ้าหากพวกเสือมีการแสดงตอนบ่าย เราจะมีของว่างให้พวกมัน และเสือแต่ละตัวจะได้รับเนื้อสัตว 6 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่เหมาะสมที่สุด” . . ที่มา siberiantimes, dailymail
-
หญิงชาวอินเดียโวย ถูกปฏิเสธวีซ่าเข้าอังกฤษ ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ภาษาของเธอดีเกินไป’ !?
Alexandria Rintoul หญิงสาวชาวอินเดีย ต้องการทำวีซ่าเพื่อขอเข้าไปอยู่กับสามีของเธอที่ประเทศอังกฤษ เธอเรียนจบด้านภาษาอังกฤษมาโดยตรง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เธอจะใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างช่ำชองทั้งด้านการพูด อ่าน เขียน Bobby และ Alexandria Rintoul เธอจึงเลือกที่จะสอบวัดระดับภาษาอังกฤษในระดับสูง เพื่อนำผลไปยื่นเป็นเกณฑ์อย่างหนึ่งในการทำวีซ่า แต่ทาง The Home Office ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการอนุญาตให้คนเข้าประเทศ ไม่อนุมัติให้วีซ่าของเธอผ่าน เพราะผลวัดระดับภาษาอังกฤษของเธอ สูงกว่าเกณ์ที่ต้องการ Bobby Rintoul สามีของเธอได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า “เรารู้ว่าขั้นตอนการทำวีซ่านั้นยาก เราเลยจ้างคนที่ชำนาญเรื่องการทำวีซ่าให้มาช่วยเรา” “เขาก็บอกให้ Alexandria ทำแบบทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษขั้นสูงที่สุด เราก็เลยทำตามนั้นและส่งเอกสารทั้งหมดไปครบถ้วนหมดแล้ว” ทว่าผลการตอบรับจากจดหมายของทาง The Home Office กลับแจ้งว่าภาษาอังกฤษของภรรยาของเขาดีเกินไป เลยปฏิเสธวีซ่าของเธอ “ในจดหมายเขียนว่าเธอน่าจะทำแบบทดสอบที่ง่ายกว่านี้แทน แต่เป็นความผิดของเธอเองที่ทำแบบทดสอบยากๆ โดยไม่จำเป็น และจะให้เราส่งเอกสารไปขอวีซ่าซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่การส่งเอกสารและเดินทางไปทำวีซ่าแต่ละรอบนั้นมันเสียเงินมากถึง 2,000 ปอนด์ (เกือบๆ 90,000 บาท) เลยนะ”…
-
ชมความงดงามที่แตกต่าง การอภิเษกของราชวงศ์ต่างๆ ทั่วโลก ที่คนทั้งประเทศร่วมกันเฉลิมฉลอง
หากพูดถึงเรื่องที่ประชาชนในสหราชอาณาจักรนั้นตื่นเต้นกันที่สุดในตอนนี้ ก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากประกาศอภิเษกสมรสของเจ้าชาย Harry และนักแสดงสาว Meghan Markle ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา การที่ทั้งคู่ออกมาเผยเรื่องที่น่ายินดีแบบนี้ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ต่างสนใจในพิธีการอภิเษกที่จะจัดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าความสวยงามอลังการของพิธี ก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของคนทั่วโลก แต่สหราชอาณาจักรไม่ใช่ประเทศเดียวที่มีระบอบกษัตริย์ เราจึงจะพาเพื่อนๆ ไปชมการอภิเษกสมรสของราชวงศ์ต่างๆ ทั่วโลก ที่ต่างก็มีความสวยงามและบรรยากาศที่น่ายินดียิ่งของทุกคน 1. Great Britain: เจ้าชาย William และ Catherine Middleton ในงานอภิเษกสมรสของเจ้าชาย William และ Catherine ได้มีการจัดพิธีเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่โดยมีแขกเข้าร่วมพิธีกว่า 1,900 คน อีกทั้งในการถ่ายทอดสดบนเว็บไซต์ YouTube ของราชวงศ์อังกฤษก็มีจำนวนผู้ชมเข้าชมกว่า 72 ล้านคน 2. Morocco: เจ้าชาย Moulay Rachid และ Oum Keltoum Boufares ในการอภิเษกสมรสของเจ้าชาย Moulay Rachid และ Oum Keltoum Boufares จัดขึ้นตามธรรมเนียมของชาวโมร็อกโคโดใช้เวลา 2 วัน ในภาพนี้คุณจะเห็นคู่บ่าวสาวและพระญาติของพวกเขาในพิธีอภิเษกสมรสที่เขียนผิวหนังเฮนน่า ซึ่งชาวโมร็อกโคมีความเชื่อว่าพิธีกรรมนี้จะนำความสุขและความมั่งคั่งมาสู่พวกเขา 3. Germany: เจ้าชาย Ernst…
-
ศิลปินสาวลงสีให้กับตัวการ์ตูนหญิงเสียใหม่ รายละเอียดมากขึ้น และสวยยิ่งกว่าที่เคยเป็น!!
สาวๆ คงจะมีการ์ตูนในดวงใจกันบ้างคนละเรื่องสองเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนจากค่ายไหนก็ตาม และสิ่งที่สะดุดตาสาวๆ มากที่สุดในเรื่องก็คงไม่พ้นนางเอกแสนสวยตัวแสดงนำของเรื่อง นั่งดูไปก็ได้แต่จินตนาการไปว่า อยากสวยอยากดูดีแบบเจ้าหญิงบ้างจังเลย ศิลปินหญิง Isabelle Staub เองก็ชื่นชอบตัวการ์ตูนหญิงเช่นกัน และเธอก็ได้ใช้ความสามารถทางศิลปะของเธอ แต่งเติมสีสันให้กับตัวการ์ตูนเหล่านี้ จนดูสวยงามขึ้นป็นกองเลย โดยเธอภาพตัวการ์ตูนของเธอ สื่อได้ถึงความเป็นตัวเองและมุมมองที่เธอมีต่อตัวละครนั่นเอง ตัวละครจากการ์ตูนเก่าๆ ที่เห็นลายเส้นไม่คม ทรวดทรงไม่สวย บัดนี้ได้ผ่านปลายปากกาของศิลปินหญิง จนกลายเป็นสาวสวยทรงเสน่ห์ไปหมดแล้ว ลองไปชมกันดู Meg จากเรื่อง Hercules Snow White จากเรื่อง Snow White Jessica Rabbit จากเรื่อง Who Censored Roger Rabbit? Penny Proud จากเรื่อง The Proud Family Belle จากเรื่อง Beauty and The Beast …
-
มาซักที!! โตเกียวเปิดบริการล็อคกระเป๋า ขี้สบายไม่ต้องกลัวหาย ปล่อยมันไปตามความรู้สึก…
ห้องน้ำในประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่ามีความสะดวกสบายอย่างมาก ทำให้เราสามารถปลดทุกข์กันได้อย่างเพลิดเพลินจนอาจเผลอหลับไปได้เลย แต่หลายคนที่เคยไปใช้บริการอาจต้องประสบกับปัญหาไม่สามารถลากกระเป๋าไปไว้ในห้องน้ำได้ จะวางทิ้งไว้ข้างนอกก็กลัวหายอีก จึงได้เกิดระบบรักษาความปลอดภัยรูปแบบใหม่ขึ้นมาแก้ปัญหานี้ นี่คือระบบล็อคกระเป๋าที่เรียกว่า Baggageport นวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยให้คุณสามารถเข้าห้องน้ำได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น นวัตกรรมที่ช่วยปกป้องกระเป๋าของคุณเอาไว้ . เจ้าสิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถล็อคกระเป๋าลากของตัวเองเอาไว้หน้าห้องน้ำ แล้วเดินตัวปลิวเข้าไปปลดทุกข์ได้แบบชิลๆ ด้วยระบบการทำงานที่ง่ายแสนง่าย ขอเพียงแค่เรามีบัตรเติมเงิน IC Card บัตรแทนเงินสดยอดนิยมที่สามารถชำระค่าบริการต่างๆ ภายในประเทศญี่ปุ่นได้อย่างง่ายดาย เชื่อว่าหลายคนที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นคงจะคุ้นเคยกับเจ้าบัตร IC Card กันบ้างแล้ว เพราะมันอำนวยความสะดวกให้เราอย่างมาก เพียงแค่เติมเงินเข้าไปในบัตร จากนั้นเวลาจะชำระค่าเดินทางหรือสินค้าตามร้านสะดวกซื้อ เราก็ใช้บัตรนี้สแกนแทนเงินสดไปได้เลย รวดเร็วทันใจเสียจริง หน้าตาตัวอย่างบัตร IC Card หากเราอยากใช้บริการ Baggageport ก็เพียงแค่ดึงสายออกมาคล้องกับหูกระเป๋า จากนั้นก็เสียบกลับไปที่เดิม กดปุ่มหนึ่งครั้ง พอมีไฟสีฟ้ากระพริบก็ใช้ IC Card สแกนจนไฟเปลี่ยนเป็นสีแดง เท่านี้กระเป๋าของเราก็จอดรออยู่หน้าห้องน้ำไม่หายไปไหนอย่างแน่นอน บางคนอาจสงสัยว่าบริการนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือเปล่า? ขอบอกว่าไม่ต้องเสียเลยแม้แต่สตางค์เดียว เราสามารถใช้มันได้ฟรีๆ ตัวอย่างการทำงานอันแสนง่ายดายของเจ้า Baggageport ไม่ต้องกลัวว่าเราจะใช้ไม่เป็น เพราะเขามีโปสเตอร์อธิบายไว้ให้ทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ปัจจุบันเจ้า…
-
ชายในร่างซานต้า ผู้ทุ่มเทบทบาทมากว่าครึ่งศตวรรษ และยังคงทำหน้าที่ส่งความสุขต่อไป…
ใกล้ถึงวันคริสต์มาสแล้ว สิ่งที่อยู่คู่กับเทศกาลนี้มาตลอดและขาดไม่ได้เลยก็คือซานตาคลอส สวมชุดคลุมสีแดงตัวใหญ่ หน้าตาใจดี คอยแจกของขวัญให้กับเด็กๆ ซึ่งชายชาวอังกฤษ Ray Hulse ได้สวมบทบาทนี้มานานกว่า 55 ปีแล้ว Ray จะแปลงร่างเป็นคุณลุงซานต้าในทุกคริสต์มาส เขาทำอย่างนี้มาตั้งแต่อายุ 18 ปี ตั้งแต่ 1962 จนถึงตอนนี้อายุเขาปาเข้าไป 73 ปีแล้ว ลุงซานต้า ผู้มอบความสุขให้กับเด็กๆ มานานกว่าครึ่งศตวรรษ ในครั้งแรกที่เขาได้รับบทซานตาคลอส เขาได้แจกของขวัญให้กับคนในอู่รถยนต์ Ford เล็กๆ จนกระทั่งเขาเริ่มได้รับความนิยมและออกไปแจกของขวัญให้กับเด็กๆ ตามห้างสรรพสินค้าหรือโรงเรียนที่ตั้งอยู่รอบๆ เขต Shropshire บ้านเกิดของเขา เขาบอกว่า “การได้มอบความสุขและความสนุกให้กับเด็กๆ เป็นสิ่งที่เยี่ยมมากจริงๆ รางวัลที่ผมได้รับก็คือใบหน้าแห่งความสุขของทุกคน” Ray เล่าอีกว่า เขาพยายามให้เด็กๆ ได้สานสัมพันธ์กับผู้ปกครอง เขาจะถามเด็กว่ารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนมีไฟหรือไม่ แล้วแสงสว่างที่เกิดขึ้นนั้นถูกจุดประกายโดยพ่อหรือแม่กันล่ะ? เพื่อให้เด็กได้คิดถึงสิ่งดีๆ ที่ได้รับจากพ่อแม่มาโดยตลอด เขาชอบที่จะแหย่เด็กๆ เล่น และมุกคลาสสิกที่เราเคยได้ยินประมาณว่าคุณลุงซานต้าจะโดดลงมาในปล่องควัน แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เขาจึงบอกกับเด็กๆ ว่าลุงซานต้ามีกุญแจวิเศษแทน…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ “นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับเสือ” ในไทย แถมบังคับคำราม ชี้เป็นการทารุณกรรม!?
แชร์กระฉ่อนทั่วโลกออนไลน์ในต่างประเทศเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Edwin Wiek โพสต์คลิปที่ถ่ายจากสวนสัตว์แห่งหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า “วันนี้ผมเห็นการท่องเที่ยวที่โหดร้ายในพัทยา เสือตัวนี้ถูกทิ่มด้วยไม้นับร้อยครั้งต่อวัน ทำให้มันอ้าปากส่งเสียงคำรามเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ภาพที่สวยงงาม…ถึงเวลาที่กฎหมายควรได้รับการเปลี่ยนแปลงสักที” สำหรับคลิปดังกล่าวนี้พบว่าถูกถ่ายที่สวนสัตว์ชื่อดังแห่งหนึ่งในพัทยา ส่วนที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติคือการจ่ายเงินเพื่อเข้าไปถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดกับเสือ แต่ประเด็นคือในระหว่างที่นักท่องเที่ยวนั่งถ่ายรูปกับเสือนั้น จะมีเจ้าหน้าที่หรือผู้ดูแลสวนสัตว์ยืนอยู่ข้างๆ คอยใช้ไม้ทิ่มเข้าไปที่แก้มเสือ ทำให้มันร้องคำรามออกมา นอกถ่ายรูปกับเสือแล้ว นักท่องเที่ยวบางส่วนยังขึ้นไปนั่งบนหลังเสือด้วย คลิปบันทึกเหตุการณ์ที่เสือโดนไม้ทิ่มแก้มให้ร้องคำราม จากคลิปดังกล่าวนี้ สร้างความไม่พอใจให้ชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้ เพราะเป็นการทารุณกรรมสัตว์เพียงเพื่อแลกกับความสุขของนักท่องเที่ยว และนี่คือความเห็นส่วนหนึ่งของชาวเน็ต… Edwin Benschop: ไม่กล้าดูเลย! ผมไม่เข้าใจว่านักท่องเที่ยวพวกนี้ภูมิใจกับภาพพวกนี้ได้อย่างไร? มันช่างโหดร้ายเหลือเกิน!! Zoe Foster: เราจะช่วยเหลือเสือผู้เคราะห์ร้ายตัวนั้นได้ยังไง? Donna Marie Tichenor: นี่เป็นการกระทำที่น่าขยะแขยงมาก ฉันอยากเอาไม้ทิ่มชายคนนั้น 100 ครั้งต่อวัน ดูสิ๊จะชอบมั้ย Natalie Coles : โอ้พระเจ้า นี่มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ เหล่านักท่องเที่ยวเค้าไม่รู้ตัวเลยเหรอว่านี่มันเป็นเรื่องที่ผิดน่ะ! Denise Dawson : ฉันอยากจะตั๊นหน้าผู้ชายคนที่ถือไม้นั่นจริงๆ เจ้าคนใจชั่ว และนักท่องเที่ยวงี่เง่า!! …
-
อ้ออ๊อย!! เจ้าเสือดาวพลัดตกลงไปในบ่อน้ำ ทำหน้าตาน่าสงสารจนมนุษย์ต้องช่วยเหลือไว้
ด้วยความไม่รู้ภาษีภาษาของสัตว์ ทำให้บางครั้งมันก็มักจะพาตัวเองไปเผชิญอันตรายต่างๆ ด้วยความไร้เดียงสาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของมัน และเมื่อเห็นสัตว์กำลังตกอยู่ในอันตรายซึ่งถ้าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือก็อาจจะเสียชีวิต มีหรือที่มนุษย์โลกผู้มีจิตใจอารีอย่างเราๆ จะไม่ช่วยเหลือแม้ว่าสัตว์ที่ต้องช่วยนั้นจะเป็นสัตว์ป่าที่ขึ้นชื่อว่าดุร้ายอย่างเสือก็ตาม แง ช่วยหนูด้วย ตามรายงานในประเทศอินเดีย มีสัตว์มากกว่า 1,500 ตัวต้องเสียชีวิตจากการพลัดตกไปในบ่อน้ำซึ่งมีมากในประเทศอินเดียเมื่อช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมืองกูวาฮาติ ในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดียและได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อมีเสือดาวตัวหนึ่งเกิดพลัดตกลงไปในบ่อน้ำที่มีความลึกมากถึง 9.1 เมตรและกำลังร้องขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน สถานที่เกิดเหตุคือรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย โดยชาวบ้านที่พบเห็นได้คาดการณ์เอาไว้ว่าเจ้าแมวยักษ์ตัวนี้ น่าจะพลัดตกลงไปในบ่อน้ำเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงแล้ว และเมื่อมาพบเสือตัวนี้อยู่ในบ่อน้ำเข้า พวกเขาก็ไม่รอช้าที่จะโทรแจ้งผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ให้มาช่วยเสือตัวนี้ออกจากบ่อน้ำนี้ทันที เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงพวกเขาก็สรรหาวิธีที่จะนำเสือดาวตัวนี้ขึ้นมาให้ได้ แต่ด้วยความที่มันเป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณเพชฌฆาตอยู่ทำให้การช่วยเหลือมันเป็นไปด้วยความลำบาก และต้องระวังตัวอยู่เสมอ ซึ่งต่างจากการช่วยแกะ ช่วยแพะที่ไม่มีภัยอันตรายเป็นอย่างมาก โดยปกติมันน่ากลัวใช่ไหมล่ะ ซึ่งหลังจากหาวิธีการช่วยเหลือมานาน พวกเขาก็ตกลงกันว่าเพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและทั้งเสือ พวกเขาจะยิงยากล่อมประสาทไปที่ตัวเสือก่อนเพื่อให้มันไม่สามารถทำอันตรายใดๆ ได้หลังจากนั้นก็จะส่งคนลงไปอุ้มมันขึ้นมา ในตอนนี้ไร้ซึ่งพิษภัยใดๆ สำหรับผู้โชคดีที่ได้ลงไปสัมผัสเสือตัวเป็นๆ ก็คือ Dr. Bijoy Gogoi สัตวแพทย์มืออาชีพ เขาลงไปด้วยการปีนบันไดลงไปพร้อมกับกำเชือกในมือเพื่อจะผูกเสือตัวนี้แล้วให้คนช่วยดึง และเมื่อลงไปด้านล่างแล้วเขาก็พบว่าเจ้าเสือได้เชื่องเป็นแมวหงอยจากฤทธิ์ของยากล่อมประสาทนั่นเอง …
-
มีซึ้ง!! เรื่องราวอบอุ่นหัวใจของคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ที่เขียนจดหมายจากซานต้าให้ลูกสาวทุกปี
ด้วยความที่เป็นพ่อคนแม่คน ก็เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขาที่อยากจะให้ลูกๆ ของพวกเขานั้น เป็นเด็กที่มีความสุขที่สุดในโลกไม่ว่าจะในเรื่องใดๆ ก็ตาม ทว่าในโลกแห่งความเป็นจริง ก็มีหลายครอบครัวที่พ่อแม่ต้องแยกทางกัน ทำให้ครอบครัวนั้นอาจเป็นครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์นัก อีกทั้งเรื่องการขาดหายไปของใครบางคนก็อาจจะกลายเป็นช่องว่างที่เกิดขึ้นในจิตใจของเด็กๆ ที่กำลังเจริญเติบโตและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ ครอบครัวที่มีเพียงสองคนพ่อลูก แต่ว่า Michael Ray ผู้เป็นพ่อไม่ต้องการให้ Charlie ลูกสาววัย 6 ปีของเขารู้สึกว่าขาดอะไรไป แม้ว่าครอบครัวของเขาจะมีเพียงสองพ่อลูกก็ตาม โดย Ray ได้พยายามสุดความสามารถ ที่จะทำให้ลูกสาวของเขารู้ว่าทั้งพ่อและแม่รักเธออย่างสุดหัวใจ เขาจึงเขียนจดหมายฉบับหนึ่งขึ้นมาและบอกลูกสาวของเขาว่านี่เป็นจดหมายจากซานต้าในทุกๆ วันคริสต์มาส และนี่คือจดหมายฉบับหนึ่งของเขาที่มีเนื้อความว่า “ถึง Charlie ฉันต้องของคุณหนูมากจริงๆ ที่ช่วยดูแลเจ้า Jingles แมวสุดน่ารักตัวนี้ มันมักบอกกับฉันว่ามันชอบไปที่บ้านหนู เพราะว่าที่บ้านหลังนั้นมีเด็กที่น่ารักมีจิตใจที่ดีอยู่คนหนึ่ง และคนๆ นั้นก็คือหนูนั่นเอง นอกจากนี้เจ้า Jingles ยังบอกอีกด้วยว่ามันสามารถเห็นได้ถึงความรัก ความภาคภูมิใจอันมากล้นที่พ่อของหนูมีต่อหนู และสุดท้ายมันก็บอกอีกด้วยว่าหนูเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับมันเลยล่ะ มากไปกว่านั้นฉันสามารถรับรู้ได้อีกด้วยว่า แม่ของหนูรักและคิดถึงหนูมากเหนือกว่าสิ่งอื่นใดในโลกใบนี้ อ่อเกือบลืมไป ฉันทิ้งของขวัญบางอย่างเอาไว้ให้นะและหวังว่าเธอจะสนุกกับมัน และสุดท้ายฉันก็หวังว่าหนูจะมีความสุขที่โรงเรียนกับ Lily เพื่อนรักของเธอนะ ฉันจะคอยเฝ้ามองดูอยู่ห่างๆ ต่อจากพ่อของเธอละกัน รักจากซานต้า “ รอยเท้าที่ซานต้าทิ้งเอาไว้ขณะเอาของขวัญมาวาง…
-
21 สุดยอดเทคนิคทางจิตวิทยา ช่วยให้คุณสามารถอ่านความคิดของ “คู่สนทนา” ได้ง่ายๆ!!
ในบางครั้ง คำพูดอาจไม่ใช่สิ่งที่สามารถอธิบายทุกอย่างได้ทั้งหมด เพราะความจริงแล้วเราสามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ผ่านอวัจนภาษา หรือภาษากายของผู้พูดได้ว่า แท้จริงแล้วในตอนนั้นเขารู้สึกหรือว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ การสังเกตภาษากายสามารถทำให้เรารับรู้ข้อมูลของคู่สนทนาได้มากขึ้นถึง 55 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชาวออสเตรเลีย Allan Pease ได้แนะนำถึงข้อสังเกตง่ายๆ ที่ทำให้เราเข้าใจฝ่ายตรงข้ามได้มากขึ้น เราลองไปดูกันเลยว่ามันมีอะไรบ้าง 1. การหลับตา ถ้าหากอีกฝ่ายกำลังพูดแล้วหลับตาไปด้วย นั่นหมายความว่าเขากำลังพยายามหลบซ่อนตัวจากโลกภายนอก หรือกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง แต่ที่ทำอย่างนั้นไม่ใช่ว่าเพราะเขากลัวคุณ ในทางตรงกันข้าม เขาอาจจะแค่เหนื่อยที่ต้องคุยกับคุณ เลยหลับตาเพื่อทำให้คุณหายไปแทน 2. ใช้มือปิดปาก วิธีนี้ก็เหมือนกับตอนยังเป็นเด็ก ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้เวลาที่เราไม่อยากบอกอะไร อาจจะใช้แค่นิ้วโป้งหรือกำหมัดขึ้นมาปิดเอาไว้ ซึ่งบางทีอาจทำเป็นไอ เพื่อปิดบังว่าเราไม่ต้องการบอกบางสิ่งบางอย่างให้อีกฝ่ายรู้ 3. กัดขาแว่น รวมถึงการคาบปากกาดินสอ คาบบุหรี่ หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง สิ่งเหล่านี้คือการแสดงออกถึงความกังวลที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ภายใน โดยพฤติกรรมในลักษณะนี้จะทำให้รู้สึกปลอดภัย นักจิตวิทยาเผยว่าพฤติกรรมดังกล่าว คล้ายกับตอนดูดนมแม่สมัยเป็นเด็กนั่นเอง 4. การยื่นหน้าออกมา การเอาคางมาเกยไว้บนมือคือท่าทางเพื่อดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้าม ให้อีกฝ่ายเชยชมใบหน้าของเราอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นหากผู้ชายคนไหนเห็นสาวๆ ทำท่านี้ก็ควรรับรู้ได้ทันที และกล่าวชมเธอไปในเวลาที่เหมาะสม 5.…
-
ไบค์เกอร์กว่า 50 ชีวิต ร่วมใจไปส่งหนุ่มน้อยถึงโรงเรียน ปกป้องการกลั่นแกล้งที่ทำให้เกือบพรากชีวิตเขา…
เรื่องการกลั่นแกล้งหรือการบูลลี่เป็นอีกหนึ่งปัญหาในสังคมที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน เพราะนับวันการบุลลี่นี้เริ่มจะทวีความรุนแรงไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งสังคมในโรงเรียนเองก็ยังมีการกระทำแบบนี้ขึ้น ซึ่งอาจไม่มีใครคิดว่าการบุลลี่กันแรงๆ นั้นอาจจะส่งผลกระทบถึงขั้นทำให้คนฆ่าตัวตายได้เลยทีเดียว เด็กชาย Phill Mick วัย 11 ปีก็เป็นคนหนึ่งได้ที่รับผลกระทบจากการบุลลี่ภายในโรงเรียน เขามักจะถูกเพื่อนๆ ร่วมชั้นล้อเลียนเรื่องน้ำหนักตัวของเขา ในบางครั้งก็ถูกเรียกว่า ‘ไอ้อ้วน ไอ้ไขมัน’ ซึ่งถ้อยคำเหล่านี้ถือว่าเป็นการล้อเลียนปมด้อยที่เขารู้สึกว่าไม่ชอบเอามากๆ พอโดนล้อเลียนหนักๆ และถูกแกล้งหนักขึ้นมันก็เริ่มทำให้เขาไม่อยากไปโรงเรียน Tammy Mick แม่ของเด็กชายคนนี้กล่าวว่าลูกชายของเธอเคยเกือบที่จะฆ่าตัวตายเพราะโดนบูลลี่จากที่โรงเรียนมาแล้ว เขาโดนเพื่อนร่วมชั้นกลั่นแกล้งต่างๆ นานา จนกระทั่งวันหนึ่งเขาทนไม่ไหวและพูดขึ้นมาว่าไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้แล้ว ปัญหาของลูกมันทำให้คนเป็นแม่แทบจะอยู่ไม่ได้ เธอจึงไปพูดคุยกับ Brent Warfield หัวหน้ากลุ่มไบเกอร์ให้ช่วยหาวิธีช่วยลูกชายของเขา Brent จึงตัดสินใจเรียกประชุมสมาชิกกลุ่มเพื่อหาทางช่วยเหลือเด็กชายคนนี้ เพราะนี่คือปณิธานหลักของกลุ่มที่ตั้งใจจะช่วยเหลือใครก็ตามที่ถูกบูลลี่ “ในฐานะกลุ่มชุมชนคนรักมอเตอร์ไซค์อย่างเรา ผมไม่ต้องการเห็นเด็กถูกรังแก ที่มีผลไปสู่การฆ่าตัวตาย” Brent กล่าว ทางกลุ่มก็ได้หาวิธีโดยการพูดคุยให้กำลังใจกับเด็กชาย และเซอร์ไพรส์ยิ่งไปกว่านั้น ชาวไบเกอร์ 50 คนได้มารอรับเขาในวันรุ่งขึ้นเพื่อที่จะส่งเขาไปโรงเรียน หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าแล้ว ชาวไบเกอร์ก็ได้ไปส่ง Phill ที่โรงเรียน Dekalb Middle School…
-
เผยสภาพอันย่ำแย่ภายในค่ายลี้ภัย Moria ต้องรองรับผู้ลี้ภัย 7,000 คน สวรรค์ที่ไม่มีจริงอีกต่อไป…
ประเทศซีเรีย ยังคงอยู่ในช่วงของภาวะสงครามมาจนถึงปัจจุบัน จนทำให้ผู้คนจำนวนมากตัดสินใจลี้ภัยออกมา เพื่อหวังจะมาอาศัยอยู่ในค่ายอพยพเพราะเชื่อว่าจะได้พบกับชีวิตที่ดีกว่าเดิม แต่ความเป็นจริงมันกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะทีเดียว หนึ่งในค่ายที่มีผู้อพยพไปเป็นจำนวนมากคือค่ายลี้ภัย Moria ตั้งอยู่บนเกาะเลสบอส ประเทศกรีซ ค่ายแห่งนี้เคยเป็นคุกมาก่อน เคยจุคนได้ 2,000 คน แต่ในปัจจุบันมันได้กลายเป็นค่ายที่มีผู้อพยพอาศัยอยู่มากกว่า 7,000 คน และได้ชื่อว่าเป็น “ค่ายอพยพที่เลวร้ายที่สุดในยุโรป” ค่ายลี้ภัย Moria สถานที่ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับผู้อพยพในยุโรป เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าการใช้ชีวิตกันอย่างแออัดและถูกล้อมด้วยกำแพงรอบด้านของคนเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรกันบ้าง เพราะภายในเขตรั้วไม่สามารถนำกล้องเข้าไปได้ สำนักข่าว BuzzFeed เคยพยายามเข้าไปบันทึกภาพภายในสถานที่นี้ แต่ก็ถูกจับกุมตัวโดยเจ้าหน้าที่เสียก่อน ซึ่งให้เหตุผลกับสื่อว่า การเข้ามาถ่ายรูปภายในค่ายอพยพถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จนกระทั่งผู้อพยพใช้วิธีการส่งต่อภาพภายในนั้นผ่าน WhatsApp ด้วยสัญญาณมือถือ เพื่อให้คนด้านนอกรับรู้ว่าการใช้ชีวิตของพวกเขาเลวร้ายมากขนาดไหน ทางเดินที่เต็มไปด้วยเต็นท์จำนวนมาก (หากดูไม่ได้ ให้กดที่ลิงก์ Twitter) This one taken after a recent rainstorm, shows the pathways of #MoriaCamp lined with ad…
-
พี่ชายนักบินแอบมาเซอร์ไพรส์น้องสาวในวันจบการศึกษา หลังจากที่บอกไว้ว่าไม่ได้มา
วันจบการศึกษาเป็นอีกหนึ่งวันที่สำคัญต่อชีวิตของหลายๆ คนเป็นอย่างมาก มันนับได้ว่าเป็นวันที่พวกประสบความสำเร็จในชีวิตอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งหลายๆ คนก็ได้ตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้มาตลอดชีวิต ในวันเรียนจบ พวกคงจะจำได้ถึงบรรยากาศของความชื่นชมยินดีที่ไม่ว่านึกถึงทีไร ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจทุกครั้ง และในวันสำคัญของเรานั้นคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่ครอบครัวได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเพื่อแสดงความยินดีในวันแห่งความสำเร็จนี้ เหมือนเช่นดั่งเรื่องราวของ Miranda Maggart จากเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกากับวันสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมของเธอ แต่วันสำเร็จการศึกษาของเธอก็มีอันต้องสะดุดเมื่อ Derrak Maggart พี่ชายของเธอที่เป็นทหารอากาศได้บอกว่าเขาไม่สามารถมาแสดงความยินดีกับเธอได้ในวันสำเร็จการศึกษา เนื่องจากเที่ยวบินที่จะบินกลับบ้านนั้นไม่มี เธอดูเสียใจเล็กน้อยแต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป พี่ชายงานดีสุดๆ แต่เธอหารู้ไม่ว่านี่เป็นแผนการเซอร์ไพรส์จากพี่ชายของเธอที่เตรียมบินกว่า 7,000 ไมล์จากเกาหลีใต้สู่ไมอามีเพื่อเซอร์ไพรส์น้องสาวสุดที่รักของเขา พี่ชายได้พูดคุยกับทางโรงเรียนในแผนการเซอร์ไพรส์น้องสาวของเขาในครั้งนี้ โดยขอให้เขาได้ขึ้นพูดอะไรสักเล็กน้อยบนเวที และเมื่อพิธีจบการศึกษาก็มาถึง พี่ชายได้ปรากฏตัวบนเวทีและกล่าวแสดงความยินดีกับน้องสาวของเขา น้ำตาแห่งความตื้นตันของเธอก็ร่วงลงทันที . . . . ช่วงเวลาสุดแสนประทับใจ ที่มา inspiremore
-
‘พ่อพระแห่งสรรพสัตว์’ ผู้ฝ่ากัมมันตรังสีสู่ฟุกุชิมะ คอยเลี้ยงดูชีวิตที่ถูกหลงลืมไว้เบื้องหลัง
เมื่อปี 2011 ได้เกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ขึ้นในจังหวัดฟุกุชิม่า ประเทศญี่ปุ่น ทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นเขตหวงห้าม ไร้คนอยู่อาศัย เนื่องมาจากอันตรายของกัมมันตรังสีที่กระจายออกมา แม้ว่าชาวบ้านในละแวกนั้นจะสามารถอพยพออกไปอยู่ที่อื่นได้ แต่สัตว์จำนวนมากกลับถูกทิ้งเอาไว้ในสถานที่แห่งนั้น ไม่มีใครเข้าไปดูแล ยกเว้นชายคนนี้ที่ยอมฝ่ากัมมันตรังสีเข้าไปอาศัยอยู่กับพวกมัน โดยไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง นี่คือ Naoto Matsumura มนุษย์เพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ในเขตกัมมันตรังสีที่ชื่อว่า 12.5-mile ในจังหวัดฟุกุชิม่า ในตอนแรกที่เขากลับมา ก็เพื่อจะมาหาสัตว์เลี้ยงของตัวเอง แต่เขาพบว่ายังมีสัตว์อีกมากที่ต้องการการดูแลเช่นเดียวกัน เขาจึงตัดสินใจดูแลสัตว์ทุกตัวที่ถูกทิ้งไว้ในบริเวณนี้ทั้งหมด ชายวัย 55 ปีคนนี้รู้ดีว่า การอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมันอันตรายมากขนาดไหน แต่เขากลับไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นซักเท่าไหร่ เขาไม่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยมานานราว 30-40 ปี และคิดว่าถ้ายังไงก็ต้องตายอยู่ดี แล้วเราจะไปสนใจเรื่องนั้นทำไมให้มากมาย เขาอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2011 และยังคงสุขภาพแข็งแรงดีมาตลอด ตอนกลับมาเขาได้เจอวัวเป็นพันๆ ตัว ที่ถูกขังและตายอยู่ในโรงนาหลายแห่ง สัตว์หลายๆ ตัวที่ถูกเจ้าของเก่ามัดเอาไว้ เขาก็เป็นคนมอบอิสระให้กับมัน รวมถึงการให้อาหารกับสัตว์ทุกชนิด และถึงแม้รัฐบาลจะห้ามไม่ให้เขาอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้ แต่นั่นไม่อาจหยุดความตั้งใจของชายคนนี้ไว้ได้ เขาอาศัยและดูแลสัตว์ทั้งหลาย ด้วยสิ่งของที่ได้รับบริจาคมา…
-
มิติใหม่แห่งการแทง นักสนุ๊กจีนเปิดอัลติ ‘สะบัดไม้คิว’ ใช้สะกิดลูกแดง เช็ดครกแบบนี้ก็ได้เหรอฟะ!?
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2017 ได้มีการแข่งขันสนุกเกอร์รายการ Scottish Open รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง Neil Robertson กับ Cao Yupeng โดย Neil สามารถพลิกกลับมาชนะได้จาก 4-8 เฟรม กลายเป็น 9-8 เฟรม แต่แทนที่คนดูจะพูดถึงการเอาชนะได้อย่างน่าทึ่งของอดีตมือวางอันดับ 1 ชาวออสเตรเลียคนนี้ หลายๆ คนกลับมุ่งประเด็นไปที่ลูกแทงของนักสนุ๊กชาวจีน Cao Yupeng เพราะมีอยู่หนึ่งไม้ที่เขาแทงลูกขาวแบบแปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน จนพากันสงสัยว่า “สนุ๊กมันแทงกันอย่างนี้ก็ได้หรอ!?” วิธีการแทงสนุ๊กแบบที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน วิธีการแทงของเขาในลักษณะนี้ เกิดจากความตั้งใจที่จะป้องกันไม่ให้ Neil สามารถแทงต่อได้ง่ายๆ ป้องกันความต่างของคะแนนเอาไว้ แต่เทคนิคการแทงแบบงงนี้ก็ทำให้นักสนุ๊กระดับตำนานอย่าง Dennis Taylor ถึงกับออกมาบอกว่า “จากที่ผมเล่นสนุกเกอร์มา 60 ปี ผมไม่เคยเห็นการแทงแบบนี้มาก่อนเลย” นักสนุ๊กระดับตำนานยังงง เพราะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย นอกจากมันจะแปลกตาแล้ว มันยังทำให้หลายๆ คนเกิดความสงสัยว่า วิธีการนี้ถือว่าผิดกติกาหรือไม่?…
-
การใช้ภาษากายเพื่อช่วยเสริมความมั่นใจ และช่วยลดความเครียดได้ภายใน 2 นาทีต่อวัน
หลายๆ คนพยายามหาวิธีการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง แต่เราอาจไม่รู้ว่าวิธีการที่ง่ายและได้ผลนั้นอยู่ใกล้ตัวเรามากจริงๆ และนอกจากจะเพิ่มความมั่นใจแล้ว มันยังช่วยลดความเครียดให้คุณได้อีกด้วย ก่อนที่จะไปพูดถึงวิธีการ เราจะมาพูดถึงหลักการทำงานของฮอร์โมนที่ส่งผลต่อความมั่นใจของเรากันก่อน ในงานวิจัยจากหลายสถาบัน เช่น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยออริกอน หรือมหาวิทยาลัยเท็กซัส พวกเขาบอกเอาไว้ว่า การเป็นผู้นำที่ดี นอกจากจะสามารถกระจายรูปแบบความคิดได้แล้ว ฮอร์โมนก็มีส่วนสำคัญเหมือนกัน ฮอร์โมนที่ส่งผลเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ เทสโทสเตอโรน และ คอร์ติซอล ซึ่งถ้าหากเรามีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอยู่มากเท่าไหร่ ความมั่นใจที่เรามีก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และถ้าเราสามารถลดการสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอลลงได้ ก็จะช่วยลดความวิตกกังวลของตัวเองและรับมือกับความเครียดได้ดียิ่งขึ้น หลักการทำงานของฮอร์โมนทั้งสองตัว สามารถส่งผลกับตัวเราได้อย่างมาก แล้วมันจะมีวิธีการไหนบ้างที่สามารถควบคุมฮอร์โมนเหล่านั้นได้? นั่นแหละคือสิ่งที่เราจะมาพูดกันในวันนี้ วิธีการดังกล่าวคือการทำท่าทางต่างๆ ใช้ภาษากายง่ายๆ ทั่วไปเท่านั้นเอง โดย Amy Cuddy นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ทำการศึกษาเรื่องของความเชื่อมโยงกันระหว่างความแตกต่างของท่าทางและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน งานวิจัย ของเธอได้จำแนกท่าทางของคนเราออกมาเป็นสองแบบ ได้แก่ “ท่าทางที่ดูมีพลัง” กับ “ท่าทางที่ดูไม่มีพลัง” ซึ่งเราสามารถเห็นความแตกต่างของท่าทางเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน “ท่าทางที่ดูมีพลัง” (ด้านบน) กับ “ท่าทางที่ดูไม่มีพลัง” (ด้านล่าง) กลุ่มตัวอย่างในครั้งนี้คือนักศึกษาจำนวน…
-
แฟนๆ ไม่ปลื้ม!! ชาวเน็ตเร่งล่ารายชื่อ เพื่อถอด The Last Jedi ออกจากจักรวาลหลัก!?
[บทความต่อไปนี้อาจมีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญจากภาพยนตร์] เข้าฉายกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ Star Wars The Last Jedi มหากาพย์หนังไซไฟอวกาศ ที่ภาคนี้ดูจะมีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของหนังหรือรูปแบบการดำเนินเรื่องที่แตกต่างไปจากภาคก่อนๆ สักเล็กน้อย ซึ่งก็มีทั้งเสียงชื่นชมและเสียงก่นด่าคละเคล้ากันไป และด้วยความเกลียดชังใน Star Wars ภาคนี้ ทำให้มีแฟนๆ กลุ่มหนึ่งถึงกับตั้งแคมเปญลงในเว็บไซต์ Change.org เพื่อให้ทาง Disney ถอดเอาภาค The Last Jedi ออกจากจักรวาลหลักของ Star Wars เพราะพวกเขาคิดว่าภาคนี้ได้ทำลายเอกลักษณ์หรือบางสิ่งที่พวกเขารักมากเกินไป Henry Walsh ผู้ก่อตั้งแคมเปญดังกล่าวได้เขียนระบายความรู้สึกของตัวเองลงในเว็บไซต์ Change.org ว่า “ภาค 8 มันคือการล้อเลียน มันคือการทำลายตัวละคร Luke Skywalker และเจไดอย่างสิ้นเชิง มันทำลายสิ่งที่แฟนๆ Star Wars รักมากที่สุดไป” นอกจากนี้นาย Henry ยังอยากให้ทางทีมงานเลื่อนการถ่ายทำภาค 9 ออกไป แล้วกลับไปถ่ายภาค 8 ใหม่ ให้ซื่อตรงต่อตัวละคร…
-
“ไปถ่ายต่างจังหวัด พี่ซัดหนูได้มั้ย!?” ช่างภาพติดต่อถ่ายรูป หวังซื้อบริการ – ชาวเน็ตร่วมแฉเพียบ!!
กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารย์กันบนโลกอินเตอร์เน็ตอย่างมาก หลังจากที่นางแบบสาวรายหนึ่งได้โพสต์ภาพข้อความของเธอหลังจากที่ถูกหนุ่มอ้างตัวเป็นช่างภาพติดต่อขอถ่ายแบบ แต่สุดท้ายกลับเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปไกลจนถึงขั้นขอดูแล นางแบบสาวคนนี้ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอว่า “เรื่องมีอยู่ว่า มีคนมาติดต่องาน เราก้อตอบตามปกติ พอดีเราไม่สะดวกพิมเพราะพิมข้อความกับแฟนอยู่เลย เราเลยให้เบอไป แล้วให้เค้าแอดไลน์มา เพราะเฟสไม่เด้ง แจ้งเตือน เราอุตส่าห์หวังดี ไม่อยากให้เสียงาน กลัวคนอื่นจะหาว่าหยิ่ง หนูอยากบอกเลยว่า หนูเปนนางแบบ รับถ่ายแต่งาน ไม่ได้รับเรื่องบนเตียงค่ะ เรื่องบนเตียงไม่ต้อง กรุณาคิดจะมาทำให้ หนูมีแฟนค่ะ แฟนหนูจัดการให้หนูได้ค่ะ ไม่ต้องสาระแน ไม่ใช่กระหรี่ มึงบอกจะให้เงินเปนหลายเดือน มึงเก็บไว้ไปทำบุญเหอะ จิตใจจะได้ดี ไม่ต้องคิดเรื่องลามกแบบนี้ #ฝากถึงพี่น้องนางแบบด้วยค่ะ #ฝากถึงพี่ตากล้องทุกคนเลย #ให้ช่วยกันแชร์ #ขอภัยถ้าพูดจาหยาบคาย” และนี่คือข้อความที่ของชายหนุ่มรายนั้นที่ส่งมาหานางแบบสาว เริ่มจากการถามเกี่ยวกับเรื่องงาน ก่อนที่จะขอเบอร์เพื่อทำการตกลงรายละเอียดส่วนที่เหลือ . จากนั้นชายหนุ่มก็เริ่มใช้ถ้อยคำหยอกล้อ ก่อนที่หัวข้อสนทนาจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น และหลังจากที่นางแบบสาวออกมาแฉพฤติกรรมของหนุ่มรายนี้ ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น และก็ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่เจอเหตุการณ์นี้ ยังมีผู้หญิงคนอื่นที่ถูกหนุ่มรายนี้เข้ามาพูดคุยด้วยเช่นกัน ซึ่งคนที่มาแฉ ก็คือคนที่ไม่ยินยอมให้เกินเลยกว่าการถ่ายรูป และรู้สึกว่าตนเองโดนลวนลาม . เรื่องดังกล่าวเป็นกระแสดัง จนมีคนกดไลค์และแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก…
-
เสียงที่ไม่มีใครได้ยิน จากเด็กหนุ่มไร้กราม สู่เวทีชีวิตนักแต่งเพลงเพื่อความสุขของผู้คน
เคยคิดไหมว่าเด็กคนหนึ่งที่เกิดมาไม่มีกราม พูดไม่ได้กินข้าวปกติก็ไม่ได้จะสามารถก้าวเข้าสู่วงการดนตรีได้? ถ้าคุณไม่เคยคิดหรือไม่รู้ว่าคนแบบนี้อยู่ เชิญพบกับ Isaiah Acosta เด็กหนุ่มผู้เกิดมาไร้กรามแต่ไม่ไร้เสียงดนตรี… Isaiah Acosta เป็นเด็กหนุ่มวัย 17 ปี จากเมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเขานั้นแตกต่างจากเด็กหนุ่มคนอื่นๆ ตรงที่เขาเกิดมาไม่มีฟันกรามข้างล่าง ซึ่งนั่นส่งผลให้เขาไม่สามารถพูดหรือกินได้ตามปกติ ในตอนแรกนั้นหมอบอกกับ Isaiah ว่าเขาไม่มีโอกาสที่จะรอดและมีชีวิตด้วยสภาพนี้ได้ แต่ถ้าเขารอดเขาก็จะเดินไม่ได้ ทว่าเด็กหนุ่มนั้นไม่ยอมแพ้และสู้กับชีวิตอันโหดร้ายของเขามาพร้อมแสดงให้หมอเห็นว่า เขาไม่ตายและเขาก็เดินได้สบายมาก แน่นอนว่าการเกิดมาในสภาพนี่้การใช้ชีวิตก็จะต้องลำบากว่าคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งจากสังคมรอบตัวของเขา หรือการใช้ชีวิตที่ยากลำบากก็ตาม ซึ่งเขาไม่ยอมแพ้ต่อมัน และด้วยความที่ Isaiah เป็นคนที่ชื่นชอบเสียงเพลงมากๆ โดยเฉพาะเพลงแรป ผนวกเข้ากับการที่เขาไม่ได้หูหนวกแต่อย่างใดทำให้เขาสามารถเข้าใจทำนองและจังหวะของเพลงได้ เขาจึงเริ่มหัดเขียนเพลง บทกวีและอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ตัวหนังสือก็เลยเป็นชีวิตของ Isaiah เขาใช้มันเพื่อบอกถึงชีวิตของเขาผ่านเพลงแรปที่เขาแต่งขึ้น แต่กลับกันในเมื่อเขาพูดไม่ได้ ก็หมายความว่าเขาร้องเพลงแรปที่แต่งขึ้นไม่ได้ ฉะนั้นเพลงที่เขาแต่งจึงไม่ถูกถ่ายทอดออกไป จนกระทั่งโชคก็นำพาให้เด็กหนุ่มผู้ไร้เสียงมาเจอกับ Trap House แรปเปอร์ชื่อดังของ West Coast ซึ่งทั้งคู่ได้ตัดสินใจทำงานร่วมกันโดยเด็กหนุ่มไร้เสียงเป็นผู้เขียนเนื้อเพลงขึ้นมา ส่วนแรปเปอร์ผู้มีเสียงเป็นเอกลักษณ์จะเป็นคนถ่ายทอดความในใจของเด็กหนุ่มออกมาเป็นบทเพลง …
-
ตำนานของ Postnik Yakovlev สถาปนิกผู้สร้างวิหารเซนต์บาซิล กับจุดจบ ‘เสร็จตึกฆ่าคนสร้าง’
St. Basil’s Cathedral คือหนึ่งในโบสถ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม สีสันสดใส ตัววิหารถูกล้อมรอบด้วยโดมรูปหัวหอมทั้ง 8 ที่มีลวดลายแตกต่างกันไป แต่เพราะความสวยงามเหล่านี้ที่ทำให้มีเรื่องราวอันโหดร้ายเกิดขึ้น ตามประวัติศาสตร์แล้ว สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวถูกสร้างขึ้นในปี 1555 หลังจากที่ พระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย สามารถขับไล่ทหารมองโกลที่มารุกรานเมืองคาซานได้สำเร็จ วิหารแห่งนี้ก็คืออนุสรณ์สถานเพื่อประกาศถึงชัยชนะในครั้งนี้ ก่อนที่การก่อสร้างจะเริ่มต้นขึ้น ด้วยความที่พระองค์ต้องการให้สิ่งก่อสร้างนี้ออกมายิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในโลก เขาจึงใช้เวลาตามหาสถาปนิกที่ดีที่สุด จนได้ไปเจอกับ Postnik Yakovlev Postnik ได้สร้างผลงานนี้ขึ้นมาด้วยระยะเวลากว่า 6 ปี จนสิ่งก่อสร้างดังกล่าวได้ออกมาประจักษ์แก่สายตาทุกคนในปี 1561 และแน่นอนว่าความสวยงามของมันกลายเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนที่พบเห็น โดยเฉพาะพระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แต่ด้วยความที่อีวานเป็นกษัตริย์ที่มีความโหดเหี้ยมอย่างมาก จนได้ฉายาว่า “อีวานจอมโหด” จึงทำให้เขาเกิดความคิดว่า ไม่อยากให้มีสิ่งปลูกสร้างไหนๆ สวยกว่าวิหารนี้อีกแล้ว เขาจึงสั่งให้ทหารควักดวงตาของ Postnik เพื่อให้สถาปนิกคนนี้ไม่สามารถไปออกแบบก่อสร้างความสวยงามใดๆ ขึ้นมาได้อีก เรียกว่าเป็นความซวยของชายคนนี้จริงๆ อีกหนึ่งเรื่องที่หลายๆ คนอาจไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ ชื่อของวิหารแห่งนี้ถูกตั้งตามสมญานามของนักบุญ Vasily Blazhenny ผู้ที่สามารถทำนายปรากฏการณ์ต่างๆ…
-
เรื่องเล่าจากผองเพื่อนเผย ‘ปูติน’ เคยเป็นสตั๊นท์แมน ในหนังสงครามช่วงปี 1970 มาก่อน
ทุกครั้งที่พูดถึงผู้นำแห่งรัสเซีย เราก็มักนึกหน้าท่าน Vladimir Putin เป็นคนแรกๆ เพราะเขาเป็นผู้นำที่เข้มแข็งและมากความสามารถ รวมทั้งยังเป็นมุขตลกจำนวนมากบนโลกอินเตอร์เน็ต แต่เรารู้กันไหมว่าท่าผู้นำ Putin นั้น นอกจากจะมีความเก่งตามที่กล่าวมา เขายังเคยไปโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงรัสเซียมาก่อนด้วยนะ โดยเพื่อนๆ ของเขาได้ออกมาบอกว่าสมัยก่อน Putin เคยเป็นสตั๊นท์แมนด้วย!! เรื่องนี้ได้รับการยืนยันผ่านเพื่อนเก่าแก่ของเขา Vasily Shestakov ซึ่งเขาบอกว่าช่วงสมัยที่ปูตินยังต้องหาเงินค่าเล่าเรียนเอง เขาได้ไปสมัครเป็นสตั๊นท์แมนให้กับหนังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อตอนปี 1970 บทที่เขาได้รับนั้นเป็นบทของนายทหารรัสเซียตัวประกอบในเรื่อง โดยเป็นช่วงที่ต้องเดินทางไปสู้กับฝ่ายนาซีนั่นเอง และนอกจากนี้ตัว Putin เองก็ยังเคยไปแสดงหนังของค่าย Lenfilm Studio อีกหลายเรื่อยเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็น Battalion ในปี 1972 และ Blockade ในปี 1974 Vasily ยังบอกอีกว่า “ผมกับเขานั้นเคยแสดงร่วมกันในหนังเรื่อง Batallion และ Blockade ซึ่งตอนนั้นนี่รายได้ดีมากๆ เลย ตอนผมทำงานเป็นวิศวะกรผมได้เงินเดือนแค่ 110 รูเบิลต่อเดือนเท่านั้น แต่พอมาแสดงหนังแล้วกลับได้วันละ 75 รูเบิลเลยทีเดียว” . อย่างไรก็ตามข้อมูลหรือภาพเกี่ยวกับการเป็นสตั๊นท์ของท่านผู้นำก็ไม่มีการเก็บบันทึกไว้แต่อย่างใด อาจจะเพราะว่าตอนนั้นเขายังเป็นแค่ตัวประกอบก็ได้ ซึ่งทาง Lenfilm…
-
รวม 20 ภาพสุดแปลกจากเว็บหาคู่ ที่จะทำให้ต้องอ้าปากค้างจนอยากจะออกเดตกับพวกเขา!!
การถ่ายรูปให้ตัวเองดูดีนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดาในปัจจุบันไปแล้ว โดยเฉพาะยิ่งเราอยากจะใช้มันบนโซเชียลมีเดียภาพโปรไฟล์ของเราจึงต้องใช้ภาพที่เราดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่นเดียวกับการใช้ภาพโปรไฟล์บนแอปหาคู่หรือเว็บไซต์เดตออนไลน์ การใช้รูปที่ดูดีก็ถือเป็นเทคนิคขั้นพื้นฐานสำหรับสร้างความประทับใจครั้งแรกและชวนให้คนอื่นอยากคุยด้วย แต่ทว่าชาวเน็ตหลายคนกลับทำให้มันเหนือไปกว่านั้นด้วยการใช้ภาพตลกๆ หรือไม่ก็แปลกๆ ซึ่งมันอาจจะดูแย่ในวินาทีแรก แต่พอคิดดีๆ เราก็จะรู้สึกได้ว่าพวกเขาเป็นคนตลกและอยากคุยด้วยในบางครั้ง ส่วนถ้าใครคิดไม่ออกนี่ก็คือตัวอย่างของชาวเน็ตประเภทที่ว่า… แม้ฉันจะไม่สวยอย่างคนอื่น แต่ฉันพิเศษกว่าใครๆ เพราะฉันคือนางเงือก!! ข้างซ้ายผมอาจจะดูโหดร้าย แต่ข้าวขวาของผมบ่งบอกว่าผมคือพ่อบ้านที่ดี!! ได้ข่าวว่าสาวๆ ชอบคนมีกล้าม แม้ผมจะเป็นยอดนักรบ แต่ภาพข้างหลังก็บอกถึงความอ่อนโยนของผมได้ ภาพโปรไฟล์ที่บ่งบอกถึงความเซ็กซี่และดิบเถื่อนในเวลาเดียวกัน ว่าแต่แสงที่สะท้อนจากดาบช่างแสบตาจริงๆ สาวๆ ชอบหนุ่มออฟฟิศที่หุ่นดี ผมก็เลยจัดให้!! บางครั้งความสวยอย่างเดียวมันก็ไม่พอ มันต้องดูดุด้วย นอกจากเธอจะได้กินฉันแล้ว เธอจะได้กินปลาที่ฉันถ่ายคู่ด้วยนะ ผมเป็นคนรักสัตว์ครับ รัสเซียนัมบาวาน สงสัยพี่คนนี้จะเป็นชาวร็อค เดี่ยวนะ Boogie นี่นายก็เอากับเขาด้วยเหรอ เบสต์รอยสักแห่งปีจริงๆ ต่อให้พี่ดูไม่หล่อในสายตาน้อง แต่รับรองว่าทรงผมพี่เด็ดสุดไม่เป็นสองรองใคร เซ็กซี่แองเจิล MAN…
-
ชีวิตในหมู่บ้านอุณหภูมิ -60 องศาฯ ความหนาวเหน็บนี้กระทบชีวิตชาวบ้านมากแค่ไหน?
ตอนนี้เข้าฤดูหนาวแล้ว หลายๆ คนอาจบ่นว่าบ้านเราไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ ซึ่งหากใครชอบอากาศแบบหนาวเย็นแล้วล่ะก็ ลองมาทำความรู้จักกับหมู่บ้าน Verkhoyansk ทางตะวันออกของรัสเซีย ในฤดูหนาวของที่นี่มีอุณหภูมิติดลบกว่า 60 องศาเลยทีเดียว ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพ Brice Portolano ผู้เข้ามาเก็บภาพการใช้ชีวิตของ Ayal เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้กับแม่ของเขา รอวันที่จะย้ายไปเรียนในเมือง Yakutsk ที่ห่างออกไปกว่า 600 กิโลเมตร ตามรอยพี่ๆ อีก 4 คนของเขา Ayal เด็กหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ . . พ่อกับแม่ของเด็กหนุ่มหย่ากัน จึงทำให้เขาอาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพังในหมู่บ้านที่ได้รับการบันทึกกินเนสเวิลด์เรคคอร์ดว่า เป็นดินแดนที่มีอุณหภูมิแตกต่างกันมากที่สุดในโลก โดยช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิจะติดลบที่ 67.8 องศาเซลเซียส ส่วนในฤดูร้อนอุณหภูมิจะเพิ่มสูงถึง 37.3 องศา ความหนาวจัดเย็นจัดของที่แห่งนี้ ทำให้การใช้ชีวิตของชาวบ้านแตกต่างออกไปจากพื้นที่อื่นๆ บนโลก น้ำที่พวกเขาใช้จะต้องไปตัดเอาน้ำแข็งจากในลำธารมาวางไว้หน้าบ้าน เมื่อไหร่ที่อยากจะใช้ก็แค่ยกมาละลายในบ้าน ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็มีน้ำประปาเหมือนกัน เพียงแต่น้ำจะมีอุณหภูมิสูงมากเพื่อป้องกันไม่ให้ท่อระเบิด และไม่สามารถนำน้ำนั้นมาดื่มกินได้ Stroganina ปลาแช่แข็งเหยาะเกลือกับพริก อาหารขึ้นชื่อของที่นี่…
-
ไม่ได้มีไว้นั่ง? พนักพิงดีไซน์แปลก ที่ชาวเน็ตญี่ปุ่นกำลังถกเถียงว่าเอาไว้ใช้ทำอะไรกันแน่?
กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากชาวเน็ตท่านหนึ่งได้โพสต์ภาพสิ่งของบางอย่างจากสวนสาธารณะที่มาพร้อมกับรูปทรงแปลกๆ จนทำเอาหลายๆ คนสงสัยว่าตกลงแล้วเราจะนิยามเจ้าสิ่งนี้ว่าอะไรกันดี?? และนี่คือรูปร่างหน้าตาของมัน!! คุณ @C_Kyoro เจ้าของภาพชวนน่าสงสัยดังกล่าว ได้พบวัตถุสีดำแปลกประหลาดนี้บริเวณสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองโตเกียว และด้วยความไม่สบายใจเขาจึงได้นำภาพดังกล่าวมาโพสต์ถามเพื่อนๆ บนโลกออนไลน์ ซึ่งนอกจากรูปทรงที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนแล้ว เจ้าแท่งดำๆ นี้ยังมีป้ายติดเอาไว้ว่าห้ามนอนอีกด้วย งานนนี้ทำเอาชาวเน็ตถึงกับปวดหัวกันเลยทีเดียว ซึ่งหลายๆ คนก็ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย บางคนก็บอกว่านี่อาจจะเป็นที่พักเท้าสำหรับคนที่เมื่อยแข้งเมื่อขาก็ได้ หรือบางคนก็บอกว่าเจ้าสิ่งนี้อาจจะเป็นเก้าอี้ก็ได้นะ “ฉันคิดว่าเจ้าแผ่นสี่เหลี่ยมที่ยื่นออกมานั้นมีไว้เพื่อป้องกันคนมาเล่นสเกตบอร์ดแน่ๆ เลย” หนึ่งในความคิดเห็นของชาวเน็ต แต่ก็ได้มีชาวเน็ตท่านหนึ่งโพสต์ภาพของเก้าอี้ในสวนสาธารณะจากแคนาดาสุดล้ำภาพนี้ พร้อมกับเปรียบเทียบการออกแบบกับเจ้าแท่งที่ว่านี้ “นี่คือเก้าอี้ในสวนสาธารณะที่แคนาดา ที่ออกแบบมาเพื่อให้คนไร้บ้านได้ใช้เป็นที่หลบฝนได้ นี่สิคือการออกแบบที่คุ้มค่ากับภาษีที่พวกเขาเสียไป” ความคิดเห็นจากเจ้าของภาพเก้าอี้ดังกล่าว แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ขณะนี้การจำกัดความหมายและการใช้งานของแท่งดำๆ นี้ยังคงเป็นปริศนาสำหรับชาวเน็ตญี่ปุ่นอยู่ และดูเหมือนว่านอกจากนกแล้วก็คงจะไม่มีใครที่สามรถนั่งตรงแท่งเหล็กนี้ได้แน่นอน เอ่!? หรือเค้าทำเอาไว้บูชาพระราหูกันนะเนี่ย ที่มา rocketnews24
-
กระบวนการผลิตน้ำบริสุทธิ์ ด้วยตาข่ายดักจับหมอก หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาขาดน้ำของชาวเปรู
ถึงแม้ว่าปัจจุบันการเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆ นั้นจะเป็นเรื่องที่ง่าย แทบจะทุกหลังคาเรือนมีอินเตอร์เน็ตใช้ และบางครั้งเราก็สามารถอัพภาพสวยๆ ได้จากยอดดอยได้แบบเรียลไทม์เลยทีเดียว แต่ถึงแม้โลกเราจะก้าวหน้าไปอย่างไรก็ตาม ในบางพื้นที่อย่างเช่นที่ประเทศเปรูนั้นการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างเช่นน้ำสะอาดนั้นกลับเป็นเรื่องยาก และมีผู้คนมากกว่า 10 ล้านคนที่ไม่มีน้ำปะปาใช้ และด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของ Fog Catchers เครื่องสร้างน้ำสะอาดจากหมอก!! คุณ Abel Cruz Gutiérrez ชายหนุ่มผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Fog Catchers เขาได้ทำคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำสะอาดในพื้นที่ย่านผู้มีรายได้น้อยของกรุงลิมา ประเทศเปรู เครื่องดักจับน้ำค้างนี้มีลักษณะคล้ายกับใบเรือขนาดใหญ่สี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ทำหน้าที่คอยดักจับไอน้ำในอากาศและเปลี่ยนเป็นน้ำสะอาดให้กับผู้คนในหมู่บ้านใช้ “Fog Catchers คือระบบที่ประกอบด้วยตาข่ายไนลอนที่จะทำหน้าที่ดักจับละอองน้ำที่มาพร้อมกับหมอก เมื่อไหร่ก็ตามที่มีกระแสลมพัดมา หมอกจะเคลื่อนผ่านเจ้าตาข่ายนี้และมันจะทำหน้าที่ดักจับน้ำ” คุณ Abel Cruz Gutiérrez ผู้ก่อตั้งองค์กร Peruvians Without Water และผู้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ คุณ Gutiérrez และ Fog Catchers เครื่องมือแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของชาวเปรู หลังจากนั้นหยดน้ำที่ถูกดักจับที่ไหลลงในท่อที่อยู่ด้านล่างและรวมกันในถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ เพื่อนำไปใช้ในการอุปโภคบริโภคภายในหมู่บ้านต่อไป คุณ Gutiérrez เล่าว่าขณะนี้โครงการดังกล่าวมีมากถึง 14 โครงการทั่วประเทศ และมีผู้คนมากกว่า 20,000-30,000 คนที่ได้รับประโยชน์จากเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ โดย Fog Catchers 1 อันสามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่า 50-100…
-
เวทย์มนต์ชัดๆ!! หนุ่มญี่ปุ่นที่สามารถใช้สิ่งของแทบทุกอย่าง ดึงผ้าออกจากเป้าได้อย่างง่ายดาย
หลายๆ คนอาจจะเคยคุ้นหน้าคุ้นตากับชายหนุ่มหน้าเหลี่ยมที่ไม่ใช่อดีตนายก ผู้มาพร้อมกับผ้าปูโต๊ะผืนสีแดงกับถ้วยน้ำชาหนึ่งใบ และกลการดึงผ้าออกอย่างรวดเร็ว ซึ่งเหลือไว้เพียงแค่ถ้วยน้ำชาที่ปิดน้องชายเอาไว้เท่านั้น และนอกจากการดึงผ้าด้วยท่านอนแบบธรรมดาๆ แล้ว พี่แกยังมีท่าดึงแบบล้ำๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการดึงผ่านหมวกกันน็อค ใช้พัดลมดึง หรือแม้แต่เครื่องนวดที่เราเห็นในหนังผู้ใหญ่หนุ่มหน้าเหลี่ยม (ย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่อดีตนายก!!) ผู้นี้ก็เคยใช้มาแล้ว!! พบกับเรื่องราวของคุณ Uekusa Kazuhisa และกายกรรมดึงผ้าสุดล้ำของเขาได้เลย… คุณ Uekusa ได้โพสต์ความสามารถพิเศษของเขาลงในทวิตเตอร์ ซึ่งหลายๆ คลิปวิดีโอนั้นก็ได้รับความนิยมจากชาวเน็ตอย่างมากซึ่งแต่ละคลิปนั้นก็มีคนดูไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนเลยทีเดียว และนอกจากความหวาดเสียวสำหรับสาวๆ แล้ว เสียงเพลงประกอบคลิปและสีหน้าของพี่แกตอนที่สามารถเอาผ้าสีแดงเลื่อมๆ ออกจากเป้าได้สำเร็จโดยที่น้องชายไม่ออกมาสวัสดีผู้ชมนั้น ยังดูฟินสุดๆ อีกด้วย พูดแล้วไม่เห็นภาพ #เหมียวเวจจี้ ว่าเราไปชมความฮาของพี่แกกันดีกว่า (ดูไม่ได้กด ที่นี่ นะ) 【巻尺を使って危険なテーブルクロス引き】 pic.twitter.com/DQkGd03X7q — ウエスP (@uespiiiiii) 9 ธันวาคม 2560 ถัดจากตลับเมตรแล้วก็มาต่อกันที่พัดลมเลย 1.. 2… 3… !! (ดูคลิปไม่ได้คลิก ที่นี่)…
-
วันเกิดทั้งทีมันต้องจัดให้พิเศษ!! งานนี้เพื่อนเลยเซอร์ไพรส์วันเกิดด้วยเค้กถั่วงอก งานนี้ขำจนตาย!!
ปกตินั้นเวลาเราจะจัดงานวันเกิดแต่ละปี เราก็อยากจะจัดงานให้มันเป็นวันพิเศษควรค่าแก่การจดจำ ซึ่งภายในงานก็จะมีทั้งการพบปะเพื่อนฝูงและญาติ รวมถึงการเซอร์ไพรส์จากคนรักหรือเพื่อนสนิทโดยมันเป็นอะไรที่สนุกมากๆ เพียงแต่ว่าบางครั้งการเซอร์ไพรส์ที่ไม่ได้มาจากครอบครัวหรือคนรัก แต่มาจากเพื่อนมันมักจะมีอะไรแปลกๆ มาทุกที เช่นเดียวกับหญิงสาวพนักงานของเว็บไซต์ Rojaklah.com ที่ถูกเพื่อนๆ เซอร์ไพรส์ในวันเกิดครบรอบ 25 ปีด้วยเค้กสุดแปลก!! เค้กที่ว่านั่นก็คือเค้กที่เต็มไปด้วยถั่วงอก…ใช่ อ่านไม่ผิดหรอกมันคือถั่วงอกกองโตพร้อมปักเทียนวันเกิดลงไป งานนี้สาวผู้เป็นเจ้าของวันเกิดถึงกับทำหน้าเซ็ง เพราะเธอเป็นคนที่ไม่ชอบถั่วงอกนั่นเอง อย่างไรก็ตามตัวเค้กถั่วงอกนั้นไม่ได้เป็นถั่วงอกกองโตตามที่เราเห็นแต่อย่างใด เพราะว่าข้างใต้ทั่วงอกนั้นได้ใช้ข้าวเป็นฐานเลยทำให้มันดูกองใหญ่นั่นเอง แต่ถึงจะรู้แบบนั้นการแกล้งในครั้งนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ฮร่าๆ ส่วนใครที่ตกใจว่า ถ้าเขาไม่ชอบแกล้งกันแบบนี้ได้ยังไงก็ไม่ต้องห่วงไป เพราะกลุ่มเพื่อนร่วมงานดังกล่าวแกล้งด้วยความรัก และหลังจากแกล้งด้วยถั่วงอกเสร็จพวกเขาก็เซอร์ไพรส์อีกรอบด้วยเค้กช็อกโกแลตก้อนโตนั่นเอง ส่วนถ้าใครรู้สึกว่าการแกล้งด้วยเค้กวันเกิดนี้มันช่างคุ้นเคยสุดๆ คำตอบนั้นก็ง่ายมากๆ เพราะกลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้ก็คือกลุ่มเดียวกับที่แกล้งเพื่อนด้วยเค้กบีบสิวนั่นเอง (สามารถไปอ่านข่าวเค้กสิวได้ที่ ‘อุบ่ะ กล้ากินไหมเนี้ย.. พาไปรู้จักร้าน “เค้กสิว” ที่บีบหนองออกมาได้ เหมือนจริงสุดๆ‘) รู้ว่ารัก แต่อย่าซ่าเอาเค้กพริกมาเซอร์ไพรส์ #เหมียวมู่ทู่ นะโว้ย!! ที่มา says
-
การ์ตูนจากจินตนาการลูก เสริมความแกร่งด้วยมือของคุณพ่อ เดินทางมาถึง Episode IV แล้ว!!
กลับมาอีกครั้งกับเซตภาพใหม่ที่สวยกว่าเดิมของคุณพ่อคนเก่ง ที่ก่อนหน้านี้เขาได้เนรมิตภาพวาดจากจินตนาการของลูกชายมาแล้วถึง 3 เซตใหญ่ และตอนนี้มันก็เดินทางมาถึงผลงานชุดที่ 4 แล้วจ้า (สามารถกลับไปอ่านผลงานชุดเก่าได้ที่ ‘จากไอเดียภาพร่างของลูก ต่อยอดสู่ปลายปากกาของพ่อ จนกลายมาเป็นตัวการ์ตูนสุดเจ๋ง!!‘) ส่วนถ้าใครไม่อยากกลับไปเสพผลงานเดิมๆ แต่อยากเสพผ่านงานครั้งนี้ งั้นก็จะขอเล่าประวัติคร่าวๆ ของคุณพ่อคนนี้สักหน่อย โดยเขามีชื่อว่า Thomas Romain เป็นคุณพ่อชาวฝรั่งเศสผู้ทำงานเป็นศิลปินและฝากผลงานอนิเมะไว้เยอะแยะมากมายในญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อเขาว่างเว้นจากงานหลัก เขาก็จะมาเสริมสร้างจินตนาการกับลูกชายของเขา โดยการเปลี่ยนรูปภาพที่มาจากไอเดียของลูกชายให้เป็นผลงานชิ้นใหม่นั่นเอง เอ้าอย่ารอช้า เชิญเสพผลงานชุดใหม่กันได้เลย!! นอกจากจะบอกว่าพ่อเก่งแล้ว ต้องยอมรับนะว่าไอเดียเริ่มต้นของลูกก็ดีไม่แพ้กัน เมื่อสองพ่อลูกร่วมมือกัน งานนี้ตัวละครเจ๋งๆ จึงถือกำเนิดมาได้ไม่หยุด อย่างตัวละครตัวนี้ คือมันดีย์อะ ดีไซน์ของคุณลูกมันเจ๋งเป็นทุนเดิม . . รับรองว่าลูกของชายคนนี้จะต้องโตมาเป็นนักออกแบบตัวละครที่เทพสุดๆ เหลือแค่ฝึกฝีมือกับพ่ออีกสักหน่อย โตมา เก่งแน่นอน!! . . จะว่าไปตัวละครหลายตัวในชุดงานนี้สามารถนำไปใช้ในนวนิยายหรือเกมสักเกมได้เลยนะเนี่ย เพราะส่วนใหญ่ตัวละครมันจะมีธีมและหน้าตาคล้ายๆ กัน ที่สำคัญหลายๆ รูปยังมีการหยิบตัวละครจากภาพเซตก่อนๆ มาใช้ เมื่อมันมีงานชุด…
-
ภารกิจช่วยชีวิตแมวบ็อบเทล ให้ความรักและเมตตา และตามหาพี่ชายที่หายไป
เรื่องราวอันน่าเศร้าของเจ้าเหมียวสายพันธุ์บ็อบเทลที่ต้องพลัดพรากจากพี่ชายของมัน หลังจากที่ต้องเผชิญกับพายุหิมะที่รุนแรง เจ้าเหมียวทั้งสองนั้นเป็นพี่น้องที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กๆ ซึ่งทางเจ้าของบ้านนั้นสามารถช่วยเหลือน้องสาวของพวกมันไว้ได้ แต่น่าเสียดายที่เขาหาพี่ชายของมันไม่เจอ แมวน้อยตัวเมียผู้น่าสงสารถูกส่งตัวมาดูแลที่ Alley Cat Rescue ในรัฐแมริแลนด์ ก่อนที่เจ้าของบ้านผู้ใจบุญจะกลับไปตามหาพี่ชายของมันอีกครั้ง และแล้วความพยายามของชายหนุ่มก็ได้ผล เขาพบกับพี่ชายของเจ้าลูกแมว แต่น่าเสียใจที่มันอยู่ในสภาพที่ไม่แข็งแรงเท่าไหร่ “เจ้าเหมียวมาที่นี่ด้วยสภาพที่เซื่องซึม ตาข้างหนึ่งของมันปิดเนื่องจากการติดเชื้อและเราพบหมัดจำนวนมากที่ตัวของมัน เราตั้งชื่อให้มันว่าเจ้า Mistletoe เพราะความน่ารักของมันนั่นเอง” คุณ Brianna Grant เจ้าหน้าที่จากสถานสงเคราะห์สัตว์กล่าว ส่วนทางด้านเจ้า Snowdrop น้องสาวของมันนั้นดูเหมือนว่าจะเข้ากับที่นี่ได้ดีมากๆ ระหว่างที่พี่ชายของมันกำลังรักษาตัวอยู่นั้นเจ้าน้องสาวจอมแสบก็ได้กลายเป็นขวัญใจของสถานสงเคราะห์สัตว์แห่งนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เธอร่าเริงมากๆ เลยทีเดียว มันมีความกล้ามากและไม่ค่อยกลัวคนแปลกหน้าเลย” เจ้าหน้าที่ของสถานสงเคราะห์พูดถึงเจ้า Snowdrop กลับมาที่เจ้า Mistletoe พี่ชายของมัน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ในที่สุดเจ้าเหมียวก็เริ่มกลับมาแข็งแรง ดวงตาที่ปิดของมันก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ และหายเป็นปรกติภายในไม่กี่สัปดาห์ ตอนนี้เจ้า Mistletoe ก็พร้อมที่จะเจอหน้าของน้องสาวที่พลัดพรากของมันแล้ว!! แต่ก่อนที่จะไปเจอน้องสาวได้ ต้องอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายของนะพี่ Mistletoe รู้ป่าว!? และแล้วในที่สุดเจ้าเหมียวทั้งสองก็ได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง ในตอนแรกดูเหมือนว่าเจ้า Mistletoe นั้นจะมีอาการเขินๆ นิดหน่อย แต่หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี “หลังจากที่เจอหน้ากันไม่ถึงชั่วโมง พวกมันก็วิ่งเล่นไล่จับกันอย่างสนุกสนาน” คุณ Brianna กล่าว และในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้พวกมันก็จะได้ฉลองวันคริสต์มาสด้วยกันเป็นครั้งแรก ตอนนี้พวกมันยังคงอยู่ด้วยกันและดูเหมือนว่าจะไม่ยอมห่างกันเลยทีเดียว …
-
MIT เผย “โรคเสพติดมือถือ” มีอยู่จริง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ร้ายแรงกว่าที่เราคิด!?
ปัจจุบัน แทบทุกคนจะต้องมีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง และการที่เล่นแต่มือถือจนแทบไม่เงยหน้าขึ้นมาเลย แบบนั้นเราอาจเรียกว่า อาการของคนติดมือถือ แต่เพื่อนๆ รู้มั้ยว่าอาการนั้นมันมีอยู่จริงและสามารถส่งผลเสียให้กับสุขภาพเราได้อย่างมาก การเสพติดมือถือจะมีความใกล้เคียงกับการเสพติดโซเชียลมีเดีย เพราะคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น มักจะเล่นโซเชียลมีเดียผ่านมือถือกันทั้งนั้น การโทรคุยกันแทบจะไม่เกิดขึ้น เพราะเราสามารถได้เห็นและสื่อสารกันผ่านโลกโซเชียลได้ นั่นจึงทำให้มีการศึกษาจำนวนมากที่พยายามศึกษาเกี่ยวกับผลเสียที่ตามมาจากสมาร์ทโฟน ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2017 สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือรู้จักกันในชื่อ MIT ได้เผยแพร่ การทดลองของอาจารย์โรงเรียนสอนธุรกิจในประเทศอิตาลี และฝรั่งเศส อาจารย์ทั้งสองคนตั้งกฎห้ามไม่ให้นักเรียนใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลาหนึ่งวัน ผลลัพธ์ที่ได้คือ นักเรียนส่วนใหญ่เกิดความกระวนวายขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่าจะเอาเวลาว่างไปทำอะไรดี เนื่องจากปกติพวกเขาจะเช็กโทรศัพท์กันอยู่เสมอ เหมือนอย่างนักเรียนคนหนึ่งที่ปกติจะเช็กมือถือของตัวเองถึง 4 ครั้งในเวลาแค่ 10 นาที การศึกษาในรูปแบบเดียวกันนั้นเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา พบว่าเด็กที่ไม่ได้เล่นมือถือจะทำงานที่ต้องใช้สภาวะทางด้านจิตใจได้แย่ลง รู้สึกสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป และยังส่งผลถึงทางร่างกาย เช่น อัตราการเต้นของหัวใจและความดันเลือดเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย มี การศึกษาหนึ่งที่พูดถึงการเพิ่มสูงขึ้นของผู้มีอาการซึมเศร้าและฆ่าตัวตายในปี 2010 – 2015 จากสถิติของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือรู้จักกันในชื่อ CDC ชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงได้รับผลกระทบค่อนข้างมากในช่วงที่สมาร์ทโฟนเริ่มเป็นที่นิยม โดยสถิติการฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้นถึง 65 เปอร์เซ็นต์ และหญิงสาวที่มีอาการซึมเศร้าก็เพิ่มอีกกว่า 58…
-
ความรักของแม่…ลิงกอริลลายอมทิ้งโอกาสเข้าฝูงใหม่ เพื่อให้ลูกน้อยได้มีชีวิตอย่างปลอดภัย
อย่างที่พวกเราหลายๆ คนทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า คงจะไม่มีความรักไหนในโลกที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความรักที่แม่มีให้ลูกอย่างแน่นอน และแม่กอลิล่าตัวนี้ก็คงจะทำให้เราได้เข้าใจถึงความหมายของความรักที่ว่านี้ได้เป็นอย่างดี แม่กอริลลา วัย 26 ปีจากเทือกเขาวีรูงกา ในประเทศระวันดา ตัดสินใจที่จะออกจากกลุ่มและอาศัยอยู่เพียงลำพังเพื่อให้ลูกน้อยของมันมีชีวิตรอด ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนั้นทางผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเป็นสิ่งที่หาชมได้ยากและน่าทึ่งมากเลยทีเดียว ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคมเจ้า Pasika ได้กลายเป็นแม่กอริลล่าอย่างเต็มตัวหลังจากที่มันให้กำเนิดลูกน้อยที่ชื่อว่า Mashami แต่ทว่าหลังจากนั้นเพียงไม่นานเจ้าลิงจ่าฝูงผู้เป็นพ่อของ Mashamai ก็ได้เสียชีวิตลง ตามปรกติแล้วเมื่อกอริลลา จ่าฝูงตาย ถ้าหากไม่สามารถหาจ่าฝูงตัวใหม่ได้ ตัวเมียที่เหลือจะต้องแยกกันออกไปหาฝูงใหม่อยู่ และถ้าหากว่าตัวใดที่มีลูกติดมาด้วย เจ้าลิงจ่าฝูงจะทำการฆ่าลูกน้อยเหล่านั้นซะ ซึ่งพฤติกรรมนี้เป็นธรรมชาติของสังคมลิงเพื่อให้จ่าฝูงสามารถที่จะปกครองลิงตัวอื่นๆ ได้ง่าย Pasika ตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมกลุ่มใหม่ มันเลือกที่จะอยู่เคียงข้างลูกน้อยของมันเพียงลำพัง ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้มักไม่ค่อยมีให้เห็นได้ทั่วไป “สิ่งที่แม่ลิงทำนั้นถือเป็นเรื่องที่น่าทึ่งและมหัศจรรย์อย่างมาก มันเห็นได้ชัดว่าเธอรับรู้ได้ถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เข้าร่วมกับฝูงใหม่ มันพยายามดูแลลูกของมันอย่างเต็มที่” เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิ Dian Fossey Gorilla Fund (DFGF) กล่าว แม่ลิงกอริลล่าและลูกน้อยของมัน แต่อย่างไรก็ตามทางทีมวิจัยของมูลนิธิก็ยังมีความกังวลในความปลอดภัยของเจ้า Pasika และลูกน้อยของมัน เนื่องพวกเขาไม่แน่ใจว่าเจ้าลิงจ่าฝูงจะทำร้ายแม่ลูกคู่นี้เมื่อไหร่ แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่และทีมวิจัยยังคงเฝ้าติดตาม 2 แม่ลูกอย่างเต็มที่ “มันยังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าลิงพวกนี้ สิ่งที่ Pasika ทำนั้นแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญที่ไม่ได้มีจำกัดอยู่เฉพาะแค่มนุษย์เท่านั้น และไม่มีอะไรที่จะยิ่งใหญ่ไปมากกว่าความรักของแม่” ดอกเตอร์ Tara Stoinski หัวหน้าจากมูลนิธิ DFGF กล่าว ถึงแม้จะยังไม่ทราบถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึง แต่เจ้า Pasika ก็พร้อมที่จะดูแลลูกน้อยของมันอย่างเต็มที่…
-
ภาพถ่ายสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกนำมาเติมสีสัน สร้างความรู้สึกสะเทือนใจยิ่งกว่าเดิม…
สงรามโลกครั้งที่ 2 เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมหาสงครามที่มีความสูญเสียมากที่สุดครั้งหนึ่งในโลก การสู้รบของฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายอักษะที่กินเวลานานกว่า 6 ปี ที่ถูกบันทึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เปรียบเสมือนบทเรียนราคาแพงที่คอยเตือนพวกเราเกี่ยวกับหายนะจากความรุนแรงเหล่านั้น และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเผยแพร่ภาพในช่วงของสงครามดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิด B-17 ที่บินอยู่เหนือเมือง Marienburg ประเทศเยอรมนีในปี 1943 หรือภาพเครื่องบิน B-25s ที่กำลังบินปฏิบัติภารกิจเหนือภูเขาไฟวิสุเวียสในประเทศอิตาลี การประทุของภูเขาไฟวิสุเวียส ประเทศอิตาลี เมื่อปี 1944 ระหว่างที่เครื่องบินของผ่ายสัมพัธมิตรกำลังปฏิบัติภารกิจ ภาพของเครื่องบินทิ้งระเบิด B-17 ที่บินอยู่เหนือเมือง Marienburg ประเทศเยอรมนีในปี 1943 นอกจากภาพของเครื่องบินรบแล้ว ยังมีภาพทางประวัติศาสตร์อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นภาพของเหล่าทหารจากหน่วย SS-Grenadiers ที่ในสนามรบที่ฮังการีเมื่อปี 1945 ภาพฟุตเทจการยกพลขึ้นบกที่ฝรั่งเศสในวันดีเดย์ รวมถึงภาพวันสุดท้ายของจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซียที่ถูกประหารเมื่ปี 1916 อีกด้วย ซึ่งภาพถ่ายและฟุตเทจประวัติศาสตร์เหล่านี้ถูกนำมาบูรณะและเติมสีสันใหม่โดยช่างภาพชาวออสเตรียวัย 53 ปี คุณ Mario Unger ภาพบางส่วนจากฟุตเทจที่เผยให้เห็นการยกพลขึ้นบกที่นอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส ของฝ่ายสัมพันธมิตร เครื่องบินทิ้งระเบิด Bristol Beaufighter จากกองพันธ์ที่ 227 ที่กำลังโจมตีเรือรบของฝ่ายเยอรมันในทะเล Aegean ใกล้กับเกาะคอส ประเทศกรีซ เมื่อเดือนตุลาคมปี 1943 ภายในภาพฟุตเทจยังได้เผยให้เห็นการกวาดต้อนทหารเยอรมันกว่า 16,000-18,000 นาย ไปที่ชายหาดหลังจากที่ฝ่ายสัมพันธมิตรได้เข้ายึดพื้นที่ใกล้ๆ กับเมือง Cherbourg ประเทศฝรั่งเศสได่สำเร็จ…
-
ตุ๊กตาเซ็กส์ดอลล์ Bieber ออกวางจำหน่ายแล้ว แฟนๆ อย่ารอช้ารีบหาซื้อมานอนกอดกันเร็ว!!
คริสต์มาสและปีใหม่ใกล้เข้ามาทุกขณะ ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะให้ของขวัญเพื่อนสาวเป็นอะไรดี งั้นลองมาดูของขวัญสุดพิเศษชิ้นนี้หน่อยเป็นไง กับตุ๊กตายางที่ใช้ Justin Bieber เป็นต้นแบบ…น่าสนใจใช่ไหมล๊าาาา ตุ๊กตาเซ็กส์ดอลล์ที่มีหน้าเหมือน Justine Bieber นั้นได้วางขายอยู่บน AliExpress ที่ราคา 1,300 ดอลลาร์สหรัฐหรือเป็นเงินไทยราว 42,000 บาท ซึ่งราคาอาจจะดูแพงพอสมควร แต่เมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่จะได้รับจากตุ๊กตา Justin มันก็คุ้มใช่ไหม นอกจากตัวตุ๊กตาที่ถูกสร้างมาให้เหมือน Bieber แล้วเรายังสามารถเลือกขนาดของปิกาจูได้ด้วยนะ ใครชอบแบบ 9 นิ้วก็สามารถสั่งทำแบบ 9 นิ้วได้ รับรองว่าไซส์ใหญ่ถูกใจสาวๆ แน่นอน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเวลามองดีๆ มันอาจจะไม่เหมือน Justin เป๊ะๆ แต่ด้านวัสดุรับรองว่าของเขาดีจริงๆ เพราะมันใช้ ‘เทอร์โมพลาสติก’ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำจากทางการแพทย์นั่นเอง ภายในตัวตุ๊กตายังมีโครงกระดูกที่ทำให้เราสามารถจัดแต่งท่าทางของหุ่นได้ตามใจอยาก ฉะนั้นถ้าเกิดอยากลองท่าไหนก็สามารถทำได้สบายมาก แต่ที่เด็ดสุดคือ เราสามารถสั่งให้ทีมงานปรับแต่งสีผิว ทรงผมและสีเล็บได้ตามที่เราพอใจด้วยนะ โดยตุ๊กตาจะมีความสูงอยู่ที่ 160 เซนติเมตร โดยตุ๊กตาจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ราวๆ 3 ปี หรืออาจจะนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับการดูแล . ฉะนั้นถ้าใครเป็นแฟนอยากได้…
-
ส่งท้ายปีเก่ากับผลงานการออกแบบสุดล้มเหลวจากปี 2017 หวังว่าชีวิตนี้คงไม่ได้พบเจอกันอีกแล้วนะ!!
ในปัจจุบันการออกแบบข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ นั้นช่วยให้ชีวิตประจำวันของเราง่ายขึ้นอย่างมาก แน่นอนว่านอกจากช่วยในเรื่องของความสะดวกสบายแล้วบางครังมันก็ยังทำให้ของใช้หรือสถานที่เหล่านั้นดูน่าใช้และน่าอยู่ขึ้นมาอีกด้วย แต่ทว่าก็ไม่ใช่ทุกครั้งที่การออกแบบนั้นจะช่วยทำให้ชีวิตของพวกเราง่ายขึ้น เพราะบางทีถ้าหากคุณเจอผลงานการออกแบบเหล่านี้ล่ะก็… คุณอาจจะต้องเอามือทาบอกแล้วพูดออกมาเบาๆ ว่า “คุณพระ” 1. สาบานได้ว่านี่คือทางจักรยาน!? 2. เอ่!? แล้วแบบนี้จะนั่งยังไงกันล่ะเนี่ย?? 3. อืม… สงสัยนายแบบจะไม่เข้าใจสินะว่าเจ้าเบาะนี้เค้าใช้ทำอะไร?? 4. หินอ่อนที่มาพร้อมกับลวดลายน่าปวดหัวสำหรับผู้ใช้!! 5. ถามหน่อยครับ!! แล้วบากกับจมูกคุณพี่หายไปไหน?? 6. แน่ใจนะว่ามันถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้จริงๆ ?? 7. เจอการนับเลขแบบนี้เด็กๆ ถึงกับงง 8. มีกระจกแล้วจะมีรูตาแมวอีกทำไมล่ะครับคุณพี๊!! 9. สไปเดอร์แมนภาคใหม่ ปล่อยใยทางตูด!! 10. ไหนลองนับกันดูซิ ว่ามีบันไดกี่ขั้น 11. ตกลงใครรู้บ้างว่าตัว T ย่อมาจากอะไร?? 12. น้ำมะนาวแท้ ที่เหมาะสำหรับทำน้ำส้ม!! …
-
เปิดประวัติ ForgetMeNot มิวแทนท์ผู้น่าสงสาร กับพลังสุดเหงาที่ทำให้ตัวเอง ‘ถูกลืม’
เมื่อพูดถึงสุดยอดพลังพิเศษ เพื่อนๆ จะคิดถึงพลังอะไรกัน จะเป็นพลังกล้ามเนื้อสุดแข็งแกร่ง ปล่อยแสงออกจากตาได้ ปล่อยไฟหรือน้ำแข็งอะไรทำนองนี้หรือเปล่า? และถ้าเพื่อนๆ คิดว่าพลังที่ยกตัวอย่างมานั้นแข็งแกร่งที่สุดแล้ว บอกเลยว่าเพื่อนๆ คิดผิด เพราะพลังที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นคือพลังของการไม่มีตัวตน ไม่เชื่อเพื่อนๆ ลองคิดสภาพดูสิว่าเราอยู่ต่อหน้าซุปเปอร์แมนที่มีพลังสุดขี้โม้ แต่เราสามารถหยิบคริปโตไนต์ไปแทงเขาได้สบายๆ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องหายังไงก็ไม่เจอ ต่อให้รู้ไม่ถึงวินาทีก็ลืมไปแล้ว จะเป็นยังไง เจ๋งใช่ไหมล่ะ? ซึ่งนี่แหละคือพลังของมิวแทนท์จาก Marvel ที่ชื่อ ForgetMeNot แต่แม้มันจะเทพขนาดไหน พลังนี้ก็มาพร้อมกับข้อเสียอันใหญ่หลวงเช่นกัน เพราะมันทำให้เจ้าตัวเหงามากๆ เหงาขนาดทุกวันนี้เจ้าตัวยังไม่มีแม้แต่ชื่อจริง ขนาดว่าคนเขียนก็น่าจะลืมเขาไปแล้วนั่นเอง นี่แหละโฉมหน้าของสุดยอดคนเหงา ForgetMeNot นั้นเริ่มแรกเดิมทีเขาปรากฏตัวครั้งแรกในคอมมิก X-Men: Legacy #300 โดยปรากฏตัวในฉากที่หญิงสาวคนหนึ่งพยายามจะบุกเข้าไปในโรงเรียน Jean Grey แต่สาวเจ้าดันไปติดกำดักเข้าและพี่คนนี้และคือคนที่มาช่วยไว้ ในตอนนั้นเองที่หญิงสาวได้ตัดพ้อว่าชีวิตเธอมันบัดซบมากๆ จนพี่ ForgetMeNot ของเราต้องเล่าว่าเขานั้นมีชีวิตที่แย่ยิ่งกว่าอีก และเรื่องราวของเขามันก็เลยเริ่มจากตรงนี้ ForgetMeNot นั้นเคยเป็นหนึ่งในกองกำลังปฏิวัติของ Magneto ซึ่งต้องทำสงครามมนุษย์กลายพันธุ์กับมนุษย์ปกติ โดยเขาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายจากเหตุการณ์นั้น ทั้งเรื่องพลังของตัวเองและวิธีการใช้ชีวิตให้ตัวเองมีค่ากับคนอื่นๆ แม้ตัวเองจะต้องถูกลืมก็ตาม ในสงครามดังกล่าวนั้นเดินอยู่กลางสงครามเดินไปมายังไม่มีใครรู้หรือจำได้เลย แถมอาวุธระยะไกลก็ยังไม่สามารถยิงเขาได้ด้วย (แน่ล่ะ จำไม่ได้ว่ามีคนอยู่ตรงนั้นแล้วมันจะยิงได้ยังไง) เดินอยู่กลางวงศัตรูก็ยังไม่มีใครรู้ว่าหมอนี้อยู่ตรงนั้น (พวกเดียวกันก็ด้วย)…
-
หนูน้อยรอไฟลท์ในสนามบิน ชวนเจ้าหน้าที่ภาคพื้นเต้นด้วยกัน น่ารักน่าชังเหลือเกิน
ใกล้เข้าสู่วันปีใหม่กันแล้ว หลายๆ คนในตอนนี้อาจกำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน เพื่อไปฉลองเทศกาลวันหยุดนี้กับครอบครัว จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นคนจำนวนมากไปรวมตัวกันตามสถานีขนส่งหรือสนามบินแต่นอกจากผู้คนมากหน้าหลายตาแล้ว เราอาจได้เห็นเหตุการณ์น่ารักๆ อะไรอย่างนี้ด้วยเหมือนกัน นี่คือความน่ารักของสองเด็กสาวและเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินในสนามบิน Dallas รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อพวกเขาได้เต้นไปพร้อมๆ กัน สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นวันที่ 15 ธันวาคม 2017 และถูกบันทึกวีดีโอเอาไว้โดย Joe Vaughn พ่อของเด็กทั้งสอง ขณะที่ทั้งครอบครัวกำลังรอขึ้นเครื่องกลับบ้านที่ตั้งอยู่ในเมือง Moore รัฐโอคลาโฮมา ภายในคลิปเราจะได้เห็นเด็กสาวพยายามเลียนแบบท่าเต้นของเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินที่เต้นไปพร้อมๆ กับเธอ และมีเสียงของแม่ที่คอยหัวเราะและเชียร์พวกเธออยู่ข้างๆ คลิปลีลาการเต้นของเด็กน้อยกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินในสนามบิน เจ้าหน้าสุดพลิ้วคนนี้วาดลวดลายออกมาอย่างเต็มที่ มีตั้งแต่ท่าขึ้นลงบันไดเลื่อน ท่าไก่ หรือกางแขนหมุนตัวไปมา ทำให้เด็กสาวสนุกสนานที่ได้เต้นไปพร้อมๆ กับเขา ซึ่งเจ้าหน้าที่เองก็คงสนุกไม่แพ้กันอย่างแน่นอน การเต้นในครั้งนี้ดูไม่มีทีท่าว่าจะจบลงได้เลย เพราะเด็กทั้งสองดูจะไม่เหนื่อยเลยแม้แต่นิดเดียว แต่สุดท้ายด้วยภาระหน้าที่ในตอนนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปลีกตัวออกไปทำงานของเขาต่อ เชื่อว่าลีลาการเต้นของทั้งสามคนจะสามารถสร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆ ได้ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความน่ารักๆ ที่แสดงให้เราเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เมื่อไหร่ หรือกับใคร ทุกคนสามารถมอบความสุขและความสนุกให้กับตัวเองได้อยู่เสมอ ที่มา: dailymail
-
จดหมายจากผู้สำนึกผิดหลังจากที่ ‘ชักดาบค่าอาหาร’ ส่งเงินกลับมาให้พร้อมคำขอโทษ
แน่นอนว่าการกินแล้วชักดาบคงทำให้เจ้าของร้านอาหารทุกคนรู้สึกไม่พอใจ ที่ตัวเองต้องสูญเสียรายได้ แต่บางครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้มาจากความตั้งใจเหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ Apollo Apollinaire เจ้าของร้าน Kilimandjaro ในประเทศอังกฤษ ได้เล่าว่าเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2017 เขาได้เจอกับลูกค้าสามคนที่เข้ามากินอาหารในร้านแล้วออกไปโดยไม่ได้จ่ายเงินเลยซักบาท ซึ่งนั่นก็ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก แม้ราคาอาหารมันจะไม่มาก แต่นั่นก็ทำให้เขาคิดว่าบนโลกนี้ยังมีคนเห็นแก่ตัวแบบนี้อยู่จริงๆ แต่ผ่านไปไม่กี่วัน ความคิดนั้นก็เปลี่ยนไป เมื่อมีจดหมายส่งมาที่ร้าน โดยภายในมีเงินและคำขอโทษจากชายสามคนนั้น Apollo เจ้าของร้านอาหารสไตล์แอฟริกัน-แคริบเบียนแห่งนี้ ในจดหมายเล่าว่า ตอนแรกทั้งสามต้องการจ่ายเงินผ่านบัตรแต่ว่าทางร้านรับแต่เงินสดเท่านั้น พวกเขาจึงเดินออกไปหาตู้ ATM ระหว่างนั้นก็คิดกันได้ว่ารถไฟขบวนสุดท้ายที่จะเดินทางไปเมืองบ้านเกิดของพวกเขากำลังจะออกจากสถานีแล้ว ทั้งสามจึงรีบไปขึ้นรถไฟจนลืมกลับมาจ่ายเงิน พวกเขาจึงส่งเงินประมาณ 1,730 บาท สำหรับจ่ายค่าอาหารที่กินไป เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ และขออภัยที่ไม่สามารถเดินทางจากเมือง Middlesbrough มาขอโทษเจ้าของร้านด้วยตัวเองได้ แต่ถึงจะไม่ได้มาขอโทษต่อหน้า แค่นี้ก็ทำให้ Apollo รู้สึกปลาบปลื้มและประทับใจกับการแสดงความรับผิดชอบ และคำขอโทษของพวกเขา เจ้าของร้านคนนี้จึงถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว และชาวเน็ตก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น “เยี่ยมไปเลย เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็รับผิดชอบและจ่ายค่าอาหาร ยังคงมีคนดีๆ อยู่บนโลกของเราจริงๆ สินะ” “ไม่บ่อยหรอกนะที่จะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นในปัจจุบัน สังคมต้องการคนอย่างพวกเขานี่แหละ” …
-
ชมตัวอย่าง Mortal Engines เมื่อลอนดอนเป็นเมืองเคลื่อนที่ ผลงานชิ้นใหม่จาก Peter Jackson
เมื่อพูดถึงผู้กำกับมากความสามารถ Peter Jackson เราก็คงจะนึกถึงหนังสุดฮิตตลอดกาลอย่าง The Lord of the Rings หรือ The Hobbit กันแน่ๆ แต่ทว่าหลังจากภาคสุดท้าย เขาก็ได้หายหน้าหายตาไปเลยนับแต่ 2014 มาตอนนี้เขากลับมาแล้วกับผลงานชิ้นใหม่ในชื่อเรื่องว่า Mortal Engines ซึ่งเป็นหนังที่ถูกสร้างจากนวนิยายชุดเรื่องเยี่ยมของนักเขียน Philip Reeve โดยผลงานชุดนี้มีอยู่หลายเล่มด้วยกันซึ่งเจ้า Mortal Engines ก็เป็นภาคแรกนั่นเอง ตัวหนังนั้นจะบอกเล่าเรื่องราวของโลกหลังการล่มสลายจากสงครามที่เรียกว่า ‘Sixty Minute War‘ ซึ่งผลกระทบของสงครามดังกล่าวทำให้เมืองต่างๆ ไม่สามารถตั้งอยู่บนพื้นดินเฉยๆ ได้อีกต่อไป ฉะนั้นเมืองทุกเมืองจึงต้องเริ่มเคลื่อนที่!? คุณอ่านไม่ผิดแล้ว เมืองทุกเมืองในเรื่องนี้จะเป็นเมืองเคลื่อนที่จริงๆ เรียกว่าตั้งแต่บ้านหลังเล็กๆ ไปจนถึงเมืองขนาดใหญ่จะเคลื่อนที่ได้ โดยเมืองใหญ่ๆ จะมีชีวิตรอดได้ก็จำเป็นจะต้องกลืนกินเมืองขนาดเล็กเป็นเชื้อเพลิงนั่นเอง (ใครคิดภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงบริการย้ายบ้านทั้งหลังในปัจจุบัน ที่จะมีบริษัทนำล้อเลื่อนขนาดใหญ่มาบรรทุกบ้านทั้งหลังแล้วย้ายไปตั้งที่อื่นนั่นเอง) ถ้าใครคิดภาพไม่ออกก็สามารถรับชมได้จากตัวอย่างแรกของหนังที่เราจะเห็นว่า London นั้นเป็นเมืองบนล้อใหญ่ยักษ์กำลังไล่กินหมู่บ้านขนาดเล็ก และนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด… ตัวหนังได้ Christian Rivers มาเป็นผู้กำกับ ส่วนตัว Peter…
-
21 ภาพเปรียบเทียบ ‘หมา’ กับ ‘แมว’ ต่างกันตรงไหน ทั้งๆ ที่เป็นสัตว์เลี้ยงเหมือนกัน
สุนัขและแมว เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอันดับต้นๆ ของโลก พวกมันสามารถเป็นเพื่อนแก้เหงาให้กับมนุษย์ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญก็คือ ความน่ารักของสุนัขและแมว จะช่วยเยียวยาจิตใจที่เหนื่อยล้าของเราได้นั่นเอง แต่สำหรับมนุษย์มือใหม่ที่ไม่เคยมีสัตว์เลี้ยง แต่อยากจะหาสัตว์เลี้ยงมาไว้ในครอบครองสักตัว คงจะมีคำถามอยู่ในหัวเป็นแน่ ว่าระหว่างสุนัขกับแมวเราจะเลือกเลี้ยงอะไรดีน้า เราจึงนำภาพเปรียบเทียบสุนัขกับแมว มาไขข้อสงสัยให้กับเพื่อนๆ ว่าเจ้าสัตว์คู่หูคู่กัดสองชนิดมันเหมือนหรือต่างกันยังไง 1. ในบางครั้ง มันก็ไม่ยอมให้จับเหมือนกัน 2. ตอนที่หมานอนตัก ไม่น่าดีใจเท่าตอนน้องแมวนอนตัก 3. สุนัขจะอยากคุยกับคุณเสมอ ในขณะที่แมว … ก็แล้วแต่อารมณ์มันน่ะนะ 4. สุนัขอ่านอารมณ์ได้ง่าย ส่วนแมวน่ะเดาใจมันเอาละกัน 5. หมาคิดว่าคุณคือพระเจ้าของมัน แต่แมวคิดว่ามันเป็นพระเจ้าของคุณ 6. หมากระตือรือร้นที่จะช่วยเจ้านายของมัน แต่แมวไม่ลังเลที่จะทิ้งทาสเลย 7. เราไม่มีวันใจว่าทั้งหมาทั้งแมวคุยอะไรกัน 8. แมวไม่ชอบให้แสดงความรักจนโอเวอร์ ส่วนหมาน่ะชอบนักชอบหนา 9. หมาเป็นเหมือนเพื่อนสนิท ส่วนแมวบางทีก็เป็นเหมือนคนรู้จัก 10. หมาตามใจง่ายเหมือนลูก แต่แมวเดาใจยากอย่างกับเจ้านาย…
-
เปิดเผยความจริงของ ‘หมาหมี’ ชะตาชีวิตอันน่าสงสาร ที่ถูกกำหนดไว้โดยมนุษย์
จากที่มีข่าวว่ามีคนพบ ‘หมาหมี’ ในประเทศรัสเซียในตอนต้นเดือนธันวาคม 2017 ก็มีคนตั้งคำถามมากมายว่าตกลงแล้วหมาหมีตัวนี้ เป็นสุนัขพันธุ์ผสม หรือว่าเป็นลูกผสมจากสุนัขและหมีกันแน่ (สามารถอ่านข่าวเก่าได้ที่นี่ ผู้คนต่างตั้งคำถาม ‘นี่หมาหรือหมี’ เอ็งคือตัวอะไร เลือกเอาดีๆ ซักอย่าง…) วันนี้สัตวแพทย์ได้ทำการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และได้พบความจริงที่น่าหดหู่เกี่ยวกับเจ้าหมาหมีตัวนี้ เจ้าหมาหมีตัวนี้มีชื่อเล่นว่า Medvebaka ซึ่งเป็นคำผสมระหว่างคำว่า Medved ที่แปลว่าหมี และคำว่า Sobaka ที่แปลว่าสุนัขนั่นเอง จากผลการตรวจเจ้าหมาหมีแล้ว ผลตรวจระบุว่ามันเป็นสุนัขพันธุ์ผสมที่มีเชื้อสายพันธุ์เชาเชาจริงๆ “มันมีลิ้นออกสีน้ำเงินซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของสุนัขเชาเชา” “ผู้เพาะพันธุ์เชาเชาในทีมของเรา ตรวจสอบและมั่นใจแล้วว่ามันเป็นสุนัขพันธุ์ผสมจากเชาเชา ส่วนอีกครึ่งหนึ่งน่าจะเป็นสุนัขจรจัดพันธุ์จมูกยาวสักพันธุ์หนึ่ง” แต่การผสมพันธุ์ครั้งนี้ คาดว่าน่าจะทำโดยพ่อค้าสัตว์ไร้จิตสำนึกสักคนหนึ่ง ที่อยากทำให้ลูกหมามีหน้าตาน่ารักแบบพันธุ์เชาเชา จะได้ขายสัตว์ได้ง่ายและได้ราคาดี แต่พ่อค้ากลับผสมพันธุ์มันอย่างลวกๆ เมื่อมันเติบโตมาแล้ว รูปร่างของมันก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็น และเมื่อหมดความน่ารักแล้ว เจ้าของก็คงจะเอามันไปทิ้งไว้ข้างทางจนมีคนไปพบเข้านั่นเอง ทางสถานพักพิงสัตว์คาดว่าเจ้าหมาหมีคงจะถูกมนุษย์รังแกมาก่อนหน้านี้ ในตอนนี้มันจึงมีนิสัยดุร้าย ระแวงผู้คน และไม่สุงสิงกับสัตว์ในสถานพักพิงสัตว์เลย ซึ่งเป็นปัญหาทำให้หาคนเลี้ยงมันไม่ได้ในภายหลัง ทางสถานพักพิงสัตว์ยังบอกอีกว่า “มันมักจะรู้สึกเครียดเวลาอยู่กับมนุษย์ มันก็เลยมีท่าทีต่อต้านและกัดคนที่พยายามเข้าหามัน เราคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาหลายอาทิตย์ หรืออาจจะเป็นเดือน ให้มันทำความคุ้นชินกับคน และลดนิสัยดุร้ายลง” ก่อนหน้านี้ก็มีคนที่สนใจมารับมันไปเลี้ยงเช่นกัน…
-
การที่พวกเราไม่เก่งคณิต ไม่ได้แปลว่าโง่ แต่จริงๆ อาจมีความ ‘อัจฉริยะ’ แฝงอยู่ในตัวก็เป็นได้!?
ในสมัยเรียน หลายๆ คนอาจเคยกังวลกับวิชาคณิตศาสตร์ เพราะมันคือหนึ่งในวิชาที่ยากที่สุดและเวลาสอบทีไรคะแนนที่ออกมามันช่างน้อยนิดเสียเหลือเกิน แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะจากการศึกษาในมหาวิทยาลัย Zurich Technical University บอกว่าการไม่เก่งคณิตศาสตร์อาจไม่ได้แปลว่าคุณไม่ฉลาด แต่คุณอาจมีความเป็นอัจฉริยะแฝงอยู่ในตัว ศาสตราจารย์ Elsbeth Stern บอกว่าความสามารถทางคณิตศาสตร์เป็นสิ่งที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด ทำให้มนุษย์ทุกคนสามารถดูออกได้ว่าอันไหนเยอะกว่า อันไหนน้อยกว่า แต่เหตุผลหลักที่ทำให้หลายๆ คนไม่เก่งคณิตศาสตร์คือความผิดพลาดของระบบการศึกษา ที่ไม่สามารถทำให้พวกเขานำคณิตศาสตร์เหล่านั้นมาใช้ในชีวิตจริงได้ Elsbeth พูดว่า “สิ่งสำคัญคือ เรามักจะขาดความเข้าใจในเรื่องของแนวความคิดโดยรวม แม้แต่นักเรียนที่ฉลาดที่สุดก็มักจะไม่สามารถถ่ายโอนข้อมูลเชิงลึกที่ควรได้รับออกไปได้ ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่แตกต่างออกไปจากในห้องเรียน” นั่นหมายความว่าการที่เราไม่สามารถทำคณิตศาสตร์ได้ อาจเป็นเพราะการศึกษาที่ไม่ดึงดูดหรือเรียกความสนใจของเรา หรือระบบการสอนที่ขาดความประสิทธิภาพ Elsbeth กล่าวเสริมอีกว่า “บ่อยครั้งที่เด็กถูกสอนให้ท่องจำการคำนวณต่างๆ และไม่สามารถที่จะเข้าใจถึงรากฐานที่แท้จริงของคณิตศาสตร์ได้” “ในการทดลองก่อนหน้านี้ยังบอกอีกว่า หากมีการสอนให้นักเรียนเรียนเรื่องการบวกและคูณไปพร้อมๆ กัน แทนที่จะเรียนทีละอย่างไป จะช่วยให้เด็กสามารถเข้าใจหลักการของการคำนวณได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหาต่างๆ ในอนาคตได้ดีมากกว่าเดิม” อย่างไรก็ตาม แม้เราจะมีความสามารถติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่สิ่งที่สำคัญคือแรงจูงใจและความพยายาม โดย Malcolm Gladwell เคยพูดถึงทฤษฎีที่เรียกว่า “กฎ 10,000 ชั่วโมงเอาไว้” อธิบายไว้ว่า…
-
นักบาสหนุ่มผู้ทุ่มเทชีวิตและความฝันจากข้างถนน กับผลตอบแทนที่ไม่สวยงามดั่งฝัน
ชีวิตที่ยังคงดำเนินต่อไป หลายๆ ครั้งเราจำเป็นต้องเลือกหนทางด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการ แต่ทางเดินที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบก็อาจทำให้เราต้องเจอกับความผิดหวังและท้อแท้บ้างในบางครั้ง เหมือนอย่างชายผู้ฝันจะเป็นนักบาสอาชีพคนนี้ สารคดี VICE SPORT ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของนักบาสหนุ่มที่ชื่อว่า Joey Haywood ผู้ใฝ่ฝันที่จะเข้า NBA มาตั้งแต่เด็ก จนทำให้เขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคและพบกับความผิดหวังในหลายๆ ครั้ง Joey ชายผู้ฝันจะเป็นนักบาสอาชีพ ชายคนนี้เล่นบาสมาตั้งแต่อายุแค่ 7 ขวบ ความสามารถอันโดดเด่นบวกกับลีลาการใช้ท่าพลิกแพลงสไตล์สตรีทบาสที่เรียกว่า AND1 เขาจึงทำผลงานได้ค่อนข้างดีในการแข่งขันให้กับทางโรงเรียนมาโดยตลอด แต่การนำสตรีทบาสมาผสมผสานก็ทำให้โค้ชของเขาหลายๆ คนไม่ค่อยชอบใจกันซักเท่าไหร่ เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในชื่อ King Handles นักบาสผู้มีลีลาแพรวพราว แต่ถึงแม้ว่าหลายๆ คนจะชอบ Joey แต่เขายังคงไม่ได้รับคัดเลือกให้เข้าไปเล่นในลีกสูงๆ อยู่ดี ถึงอย่างนั้น Joey ก็ไม่ได้ละทิ้งความฝัน ตัดสินใจเข้าร่วมทีมสตรีทบาสและออกไปแข่งตามทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ฝึกซ้อมอย่างหนัก หวังว่าซักวันหนึ่งตัวเองจะได้เข้าไปแข่งในลีกอาชีพ และหาเงินจากการเล่นบาส การฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ปัจจุบันเขาอายุ 32 ปี มีภรรยาและลูกอีก 2 คนให้ดูแล…
-
เผยเบื้องหลังชีวิต มนุษย์ผู้อยากเป็นตุ๊กตา Human Ken Doll พร้อมภาพในอดีตก่อนจะเริ่มทำศัลยกรรม
ในปัจจุบัน การทำศัลยกรรมได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ไม่ใช่แค่การทำศัลยกรรมเพื่อการแพทย์เท่านั้น แต่การทำศัลยกรรมเพื่อความงามเองก็เช่นกัน จนเราอาจพูดได้ว่าใครๆ ก็ทำศัลยกรรมกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว การทำศัลยกรรมเพื่อเสริมความงามนั้น ช่วยให้คนเรามีรูปร่างตามที่ตนเองปรารถนา ซึ่งบริเวณที่คนนิยมทำศัลยกรรมกันมากก็คือจมูก หน้าอก และปาก แต่ว่าสำหรับบางคนแล้ว การแก้ไขเพียงบางส่วนของร่างกายไม่เพียงพอจะทำให้เขาพอใจได้ เขาจึงตัดสินใจทำศัลยกรรมทั้งร่างกายมันเสียเลย Rodrigo Alves ผู้มีฉายาว่า Human Ken Doll Rodrigo Alves เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่ผ่านการศัลยกรรมมาอย่างโชกโชน โดยเขาใช้เวลามากว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตเพื่อเข้ารับการผ่าตัดและพักรักษาตัวเพื่อให้พร้อมสำหรับศัลยกรรมครั้งหน้า เขาทำศัลยกรรมจนแทบไม่เหลือเค้าของรูปร่างเดิมอยู่เลย สาเหตุที่เขาทำศัลยกรรมมากขนาดนี้ เพราะตัวเขามีความเชื่อว่าร่างกายที่มีมาตั้งแต่เกิดนั้น ไม่ใช่ร่างกายที่แท้จริงของเขา ดังนั้นเขาจึงพึ่งการทำศัลยกรรมเพื่อให้ตัวเองมีร่างกายที่ ‘สมบูรณ์แบบ’ ซึ่งเป็น ‘ร่างที่แท้จริง’ ของเขา รูปร่างของเขาก่อนเริ่มทำศัลยกรรม Rodrigo อธิบายว่า “ฉันเกิดมาอยู่ในร่างที่ผิด และฉันไม่หวั่นที่จะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อให้ได้ร่างกายที่แท้จริงมา” แพทย์ชี้แจ้งว่าเขาเป็นโรค Body Dysmorphic Disorder ซึ่งทำให้คนป่วยรู้สึกว่าร่างกายของตนไม่ใช่ร่างที่แท้จริง ส่วนร่างจริงๆ นั้นเป็นร่างที่อยู่ในจินตนาการต่างหาก “หมอบอกว่าฉันไม่ได้เป็นบ้า แค่มีปัญหาเรื่องมุมมองที่มีต่อร่างกาย ฉันมักจะฝันเสมอว่าฉันไม่ได้มีรูปร่างแบบที่เป็นอยู่ แต่พอตื่นมาแล้วลองส่องกระจก ฉันก็จะคิดว่าเสมอว่าคนในนั้นไม่ใช่ฉัน” เขาจึงได้เริ่มทำศัลยกรรมจนมีรูปร่างดังที่เห็นอยู่ทุกวันนี้…
-
ฮัสกี้น้อยฝึกหอน แต่ไหงเสียงดันไปคล้าย “ชิวแบคก้า” จาก Star Wars ล่ะเนี่ย!?
อยู่ๆ ก็เกิดเป็นกระแสไวรัล เมื่อลูกสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้แสนน่ารักตัวหนึ่งหอนออกมา แต่เสียงไม่เหมือนลูกสุนัขทั่วไปซะนี่ คนก็เลยชอบใจกันใหญ่ กดไลก์กดแชร์ความน่ารักของมันกัน ลูกหมาตัวนี้อยู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาหอนอยู่ตัวเดียว ไม่แคร์เพื่อนที่หลับกันอยู่เลย แม้จะไม่แน่ใจว่าทำไมอยู่ๆ มันถึงหอนขึ้นมา แต่พอได้ยินเสียงหอนของมันแล้ว ทำให้คนที่ได้ดูคลิปวิดีโอยิ้มออกมาตามๆ กัน ก็จะไม่ให้ยิ้มได้ยังไง มันไม่ได้หอนบรู้ว เหมือนกับสุนัขทั่วไปนี่นา แต่เสียงที่ออกมาดันไปคล้ายกับตัวละครในภาพยนตร์เรื่อง Star Wars ที่ชื่อว่า Chewbacca น่ะสิ ในภาพยนตร์นั้น ตัวละครตัวนี้เป็นนักรบของเผ่า Wookie ซึ่งการออกแบบของตัวละครเผ่านี้ ก็มีต้นแบบมาจากสุนัขพันธุ์ Alaskan Malamute ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้มากทีเดียว Chewbacca ตัวละครในภาพยนตร์เรื่อง Star Wars สำหรับความนิยมของคลิปวิดีโอนั้น ตอนนี้ในยูทูบมีคนเข้าชมคลิปนี้ไปแล้วถึงเกือบ 700,000 ครั้ง จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนชื่นชอบหมาน้อยตัวนี้มากแค่ไหน ลองไปดูคอมเมนต์จากชาวเน็ตบางส่วนกันบ้างดีกว่า “เห็นแล้วอยากเอามาเลี้ยงให้หมดเลย” “นี่มัน Chewie (Chewbacca) ชัดๆ!” “มันอาจจะเป็นน้องของ Chewie ก็ได้นะ” “งื้อออ น่ารักสุดๆ ไปเลย…
-
พัฒนาการของนายแบบรุ่นเยาว์จากอินโด Edward Candra จาก วัย 13 ถึง 17 ป๊าดดดด ยิ่งโตยิ่งหล่อ
ถ้าหากเราถามสาวๆ ว่าชอบผู้ชายแบบไหนละก็ คงจะมีคำตอบมากมายหลากหลายกันเลยทีเดียว ก็แต่ละคนมีรสนิยมไม่เหมือนกันนี่นะ แต่ถ้าแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ละก็ส่วนใหญ่พวกเธอจะชอบผู้ชายที่ ‘หล่อ’ หรือไม่ก็ ‘น่ารัก’ น่ะแหละ แต่สาวๆ ไม่ต้องเลือกแล้วละว่าผู้ชายแบบไหนดีกว่ากัน เพราะวันนี้เราพบเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งรวมทั้งสองคุณสมบัติที่หญิงสาวหมายปองไว้ด้วยกันในคนเดียวแล้ว เขาคือหนุ่มน้อย Edward Candra นั่นเอง Edward Candra เป็นนายแบบสัญชาติอินโดนีเซีย เขาเริ่มต้นเข้าสู่วงการนายแบบตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยหน้าตาที่จิ้มลิ้มน่ารัก และหุ่นลีนๆ ที่มี เขาจึงเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ และหนุ่มๆ จำนวนมาก เรามาลองติดตามกันดูว่าเขามีพัฒนาการอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ช่วงเด็กหนุ่มคิวท์บอยจนมาเป็นหนุ่มวัยรุ่นสุดคูล ตอนอายุ 13 ปีดูน่ารักน่าทะนุถนอมจังเลย คุณน้องทำไมยิ้มน่ารักขนาดนี้ ขอเอาไปกอดที่บ้านได้ม๊ายยยย พออายุ 14 ก็ดูแมนซั่มขึ้นมากทันตา แต่ยังคงไม่ทิ้งลายความน่ารักและสดใสให้ เราได้ใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ กัน มุมนี้เห็นแล้ว ถึงกับต้องกลืนน้ำลาย อึกๆๆๆ เลย ผ่านไปปีเดียว น้องเขามีกล้ามชัดมาก อยากเอามือไปลูบไล้…
-
น่าสงสาร แมวน้อย ‘หูค้างคาว’ ติดแหง็กในท่อ ครอบครัวใจดีพบเข้าเลยเก็บมาเลี้ยง
ไม่ว่าจะไปที่ไหน เราก็สามารถเห็นสัตว์จรจัดเดินเพ่นพ่านเต็มไปหมด ทั้งหมา ทั้งแมว ตัวไหนที่เป็นจ่าฝูงก็จะตัวอวบๆ หน่อยเพราะได้กินอาหารเยอะกว่าตัวอื่น แต่ก็ยังมีสัตว์จรจัดอีกส่วนหนึ่ง ที่มันไม่สามารถแย่งอาหารจากเจ้าถิ่นตัวโตทั้งหลายได้ พวกมันจึงดูผอมโซ เวลาพบเห็นแล้วก็น่าเป็นห่วงว่ามันจะหิวตายหรือเปล่า แต่บางตัวก็ยังโชคดีที่มีคนไปพบเข้าแล้วพามันไปเลี้ยงในบ้านที่แสนอบอุ่น อย่างเช่นเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ เมื่อสามปีก่อน ครอบครัวของผู้ใช้ Reddit ซึ่งใช้ชื่อว่า thomyo เคยเก็บแมวจรจัดตัวหนึ่งมาเลี้ยง เมื่อตอนนั้นพวกเขาได้ยินเสียงแมวเหมียวดังมาจากท่อระบายน้ำ พวกเขาจึงเข้าไปสำรวจดูว่ามีแมวติดอยู่ข้างในไหม แล้วก็พบกับลูกเหมียวหูค้างคาวตัวนี้ แม้ว่าหูลูกแมวจะใหญ่มากจนเหมือนค้างคาวก็ตาม แต่สภาพของมันตอนที่เขาและครอบครัวเข้าไปเจอนั้นน่าสงสารมาก นอกจากใบหูของมันแล้ว ส่วนอื่นๆ ของร่างกายเล็กแห้งไปเสียหมด มันผอมมากเสียจนเห็นหนังติดกระดูก และส่วนลำตัวของมันก็เล็กจนมีขนาดเกือบจะเท่าหัวอยู่แล้ว เห็นแล้วไม่ต้องสงสัยเลย ว่ามันคงไม่ได้กินอะไรมาเป็นเวลานานแล้วแน่ๆ ด้วยความสงสารพวกเขาจึงนำมันมาเลี้ยงไว้ที่บ้านซะเลย แต่เมื่อเก็บมาเลี้ยง พวกเขาก็พบว่ามันยังตื่นกลัวสัตว์ตัวอื่นอยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเพราะโดนสัตว์จรจัดรังแกมาก่อน “มันมีอาการหวาดกลัวสัตว์อื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ตอนที่ฉันพามันไปหาสัตวแพทย์ มันฉี่แตกตลอดเลย เพราะมันกลัวหมากับแมวตัวอื่นๆ ในนั้น” ยังดีที่มันไม่ได้กลัวคนในครอบครัวที่เก็บมาเลี้ยงเลย มันกลับเดินตามคนในบ้านต้อยๆ และคอยเรียกร้องความสนใจตลอดเวลา ทุกคนในครอบครัวก็เอาใจใส่เจ้าเหมียวหูค้างคาวเป็นอย่างดี พวกเขาให้น้ำให้อาหารมันกินเต็มที่ ให้มันได้เดินเล่นทั่วบ้านอย่างอิสระ และยังมีของเล่นให้มันเล่นเยอะแยะเลยด้วย ครอบครัวของ thomyo หวังว่ามันจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นโดยเร็ว…
-
เมืองแห่งเดียวในญี่ปุ่น เป็นแรงกำลังหลักผลิต ‘Kinpaku’ ทองคำเปลว 99% ของประเทศ
แผ่นทองบางๆ หรือที่เราเรียกกันว่าทองคำเปลวนั้นอาจจะเป็นสิ่งของที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีสำหรับใครที่ชื่นชอบการเข้าวัดทำบุญ และสำหรับในประเทศญี่ปุ่นนั้นเจ้าแผ่นทองที่ว่านี้เค้าเรียกกันว่า “Kinpaku” นั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อติดยี่ห้อเมดอินเจแปนแล้ว ย่อมจะต้องมีความพิถีพิถันในการทำอย่างไม่ต้องสงสัยกันเลยทีเดียว และวันนี้เราก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าแผ่นทองเล็กๆ และกรรมวิธีการทำของชาวญี่ปุ่นที่สืบทอดกันมากว่า 400 ปีมาฝากกัน จะน่าสนใจแค่ไหนไปชมเลย… จุดเริ่มต้นของ Kinpaku นั้นเริ่มขึ้นที่เมืองคะนะซะวะ ในเมืองแห่งนี้ถือเป็นแหล่งผลิตทองคำเปลวมากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ของทั้งประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว คุณ Kenichi Matsumura ช่างทำ Kinpaku เล่าว่าเจ้าแผ่นทองบางๆ เหมือนกระดาษนี้ถือกำเนิดมาจากวัตถุดิบ 2 อย่างนั่นก็คือทองคำและเงิน โดย Kinpaku แต่ละแผ่นนั้นจะมีความบางเพียงแค่ 0.0001 มิลลิเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าบางสุดๆ!! และนอกจากเมืองนี้จะเป็นแหล่งผลิต Kinpaku ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นแล้ว ที่นี่เองก็ยังมีงานฝีมือระดับเทพมากมายที่เกิดจากเจ้าแผ่นทองคำเปลวนี้ และมีช่างฝีมือมากกว่า 40 คนเลยทีเดียว โดยผลงานศิลปะที่ทำจาก Kinpaku ส่วนมากนั้นจะถูกวางจำหน่ายอยู่ในร้านค้าของเมือง ซึ่งมีผลงานต่างๆ ก็เช่นตุ๊กตาแมวนำโชค ตะเกียบ หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เคลือบด้วย Kinpaku และนอกจากจะนำไปใช้ในงานฝีมือแล้ว มันยังถูกใช้ในเครื่องสำอางและอาหารอีกด้วย…
-
21 ภาพที่จะทำให้เราเห็นว่า ในปีที่ผ่านมานี้ มนุษยชาติเรา มาไกลกันขนาดไหน!!?
ในหนึ่งปีมีนวัตกรรมเจ๋งๆ หรือสิ่งประดิษฐ์แบบล้ำๆ ออกมามากมาย เพราะมนุษย์เราไม่รู้จักที่จะหยุดพัฒนาอย่างก้าวกระโดด และดูเหมือนว่าหลายสิ่งอย่างที่เราเคยมองว่าเป็นจินตนาการจากในหนัง มันถูกสร้างขึ้นมาแล้วจริงๆ!! และนี่คือ 21 ภาพที่จะทำให้เรารู้สึกว่า ในปีที่ผ่านมาเนี่ย มนุษย์เราพัฒนาไปไกลมากเหลือเกิน (แอบดักแก่นิดนึง) 1. เรามีเครื่องไฮไลท์ข้อความ ที่สามารถบันทึกลงระบบดิจิตอล 2. มีแขนกลที่สามารถใช้ชาร์จแบตฯได้ 3. ประตูห้องแบบโปร่งใสเมื่อไม่ได้ล็อค เมื่อล็อคปุ๊บ ก็ทึบปั๊บ 4. คุณแม่สามารถสัมผัสลูกน้อยในครรภ์ ผ่านการอัลตร้าซาวน์แบบ 3 มิติ 5. มีเครื่องแปลภาษาแบบทันใจ 6. มีกล้องที่มาทดแทนดวงตาได้ 7. มีแขนกลสำหรับช่างสัก แบบพ่อหนุ่มคนนี้ 8. แค่ 10 ปีผ่านไป ความแตกต่างของ SD Card ช่างไปไกลเหลือเกิน 9. เช่นเดียวกับเมมโมรี่การ์ด จากขนาดใหญ่จุได้น้อย มาสู่ขนาดเล็กแต่จุได้มาก 10. มีช้อนไฮเทคที่จะช่วยให้ชีวิตผู้ป่วย ง่ายขึ้นอีกเยอะ…
-
เที่ยวชม ‘คุกญี่ปุ่น’ ดูสะดวกสบาย แต่ลึกๆ กลับให้ความรู้สึกอึดอัดและทุกข์ทรมาน!!
หากจะกล่าวถึงหนึ่งในประเทศในฝันแถบเอเชียที่มีทั้งระเบียบวินัยเป็นเลิศ ประเพณีอันงดงามเป็นเอกลักษณ์ บ้านเมืองสะอาด อัตราการเกิดอาชญากรรมน้อยถึงน้อยมาก อันเนื่องมาจากเป็นประเทศที่พัฒนาทั้งทางด้านความคิดและรูปลักษณ์ภายนอก นั่นก็คือ ‘ประเทศญี่ปุ่น’ นี่แหละ ว่ากันว่าประเทศญี่ปุ่นมีอาชญากรรมน้อยมาก การปล้นจี้แทบจะไม่มีเลย โดยเทียบอัตราส่วนของประชากร 100,000 คน จะมีเพียงแค่ 49 เท่านั้นที่เป็นนักโทษ เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างอเมริกาตัวเลขพุ่งสูงไปถึง 760 คน (อัตราเทียบในปีค.ศ. 2008) โดยระบบยุติธรรมของประเทศญี่ปุ่นเน้นในเรื่องของ ‘การสำนึกตัวให้กลับมาเป็นคนดี’ หากใครกระทำความผิดที่ไม่ร้ายแรงมากเป็นครั้งแรก ทั้งตำรวจและศาลจะว่ากล่าวตักเตือนก่อนและทำการปล่อยตัวไป พยายามติดต่อคนในครอบครัวช่วยพาผู้ที่หลงผิดกลับตัวเป็นคนดีให้ได้ แต่ถ้าหากว่ารุนแรงเกินกว่าจะเป็นคนดีได้ ก็ต้องถูกส่งตัวเข้าคุกไปตามระเบียบ ดูผิวเผินจากระบบดังกล่าวแล้ว คล้ายๆ กับการให้อภัยแก่ผู้ที่หลงผิดให้มีโอกาสกลับตัวกลับใจ และสภาพภายในของคุกญี่ปุ่นนั้นดูสะดวกสบายมากๆ มีเครื่องอำนวยความสะดวกให้เพรียบพร้อมทุกอย่าง แต่กระบวนการต่อจากนี้อาจทำให้ผู้ต้องหาภายในคุกกลับทุข์ทรมานยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก เพราะหัวใจหลักของระบบยุติธรรมของญี่ปุ่นคือ ‘การสารภาพ’ เพราะเชื่อว่าการสารภาพคือขั้นแรกของการกลับตัวกลับใจ โดยเฉพาะผู้ที่ถูกกล่าวหาในอาชญากรรมรุนแรงอย่างการฆาตกรรม ทำให้เกิดปัญหาที่ว่าผู้ต้องสงสัยหลายรายยอมรับสารภาพ เพื่อที่จะไม่ต้องเจอการสอบสวนแบบหนักหนาสาหัสอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 23 วัน โดยที่ยังไม่ถูกตั้งข้อหา โดยการสอบสวนเพื่อเค้นให้ยอมรับสารภาพของตำรวจญี่ปุ่น จะกินเวลาประมาณ…
-
พ่อแม่สุดดีใจหมอบอกได้ ‘ลูกสาว’ ทุ่มซื้อของใช้สุดหวานแหวว แต่พอคลอดออกมาได้ลูกชายซะงั้น!?
สำหรับคู่รักทุกคู่ การมีเด็กน้อยซักคนเป็นโซ่ครองใจเป็นเรื่องอะไรที่น่ายินดีสุดๆ ดังนั้นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่จึงมักเกิดอาการ “เห่อลูก” ที่ไม่ว่าจะเป็นข้างของเครื่องใช้ต่างๆ เสื้อผ้า หรือการตกแต่งห้อง ก็ต้องตระเตรียมไว้ให้ลูกน้อย ก่อนที่ทารกจะเกิดออกมาในไม่ช้า Sarah Sharples คือคุณแม่ที่กำลังพบว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรก เธอและสามีต้องการทราบเพศของทารกในท้อง เพื่อที่จะเตรียมข้าวของเครื่องใช้ก่อนที่เบบี๋ตัวน้อยจะลืมตาออกมาดูโลก ในระหว่างที่เธอตั้งครรภ์ในช่วง 20 สัปดาห์แรก แพทย์ได้บอกเธอว่าลูกน้อยในท้องนั้นเป็นเด็กผู้หญิงอย่างแน่นอน คุณแม่จึงเรียกเบบี๋ว่า “เจ้าหญิงน้อย” มาตั้งแต่นั้น แถมยังจัดหนักจัดเต็มเรื่องการซื้อข้าวของเครื่องใช้แบบหวานแหววมาให้หนูน้อย . คุณแม่วัย 25 ปี ไม่มีสิ่งใดที่เธอไม่ซื้อให้ลูกสาวคนแรกคนนี้ ตั้งแต่ตุ๊กตา ชุดลายมิกกี้เม้าส์สีชมพู เปลสีชมพู แม้กระทั่งผนังห้องก็เพ้นท์เป็นสีชมพูและชื่อของหนูน้อยลงไปด้วยว่า “Lily mae” . แน่นอนว่าสีชมพูคือสัญลักษณ์ของผู้หญิง คุณแม่เลยซื้อทุกอย่างเป็นสีชมพูหวานแหวว แบบไม่หลุดธีม ทั้งห้องของเบบี๋ถูกตกแต่งไปด้วยโทนสีหวานและสิ่งของน่ารักๆ ที่เตรียมพร้อมรอวันที่ Lilly จะลืมตาดูโลก เมื่อถึงเวลาคลอดคุณแม่ Sarah ก็สามารถคลอดได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย แต่เมื่อพยาบาลมอบทารกแรกเกิดให้กับเธอ Sarah ก็ต้องตกกะใจเป็นอย่างยิ่ง!!! “มีบางอย่างที่ต้องให้คุณดู” นางพยาบาลกล่าว.. …
-
ศิลปินชาวจีน รังสรรค์ผลงาน “รอยสักสีน้ำ” ตวัดพลิ้วไหว เหมือนใช้พู่กันจีน สวยงามแบบตะวันออก
สำหรับผู้ที่มีรอยสักบนร่างกายแล้วนั้น พวกเขาอาจจะใช้รอยสักสื่อถึงความหมายลึกซึ้งบางอย่าง ทั้งเรื่องราวในชีวิต ความทรงจำ ความชื่นชอบ และอื่นๆ อีกมาก เช่นเดียวกับช่างสักชาวจีนคนนี้ “Chen Jie” เขาได้สร้างสรรค์รอยสักที่ผสานความเป็นตะวันออกอย่างชัดเจนในอารมณ์ของลายเส้นที่พลิ้วไหวและการตีความหมายที่เกี่ยวกับธรรมชาติ อีกทั้งสร้างรอยสักยังเหมือนกับการวาดด้วยพู่กันสีน้ำ มันช่างดูงดงามราวกับไม่ได้ใช้เข็มลงสี ผลงานสุดเจ๋งของเขาเหล่านี้รวบรวมอยู่ในอินสตาแกรมที่ชื่อว่า chenjie.newtattoo ที่มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน แค่นี้ก็การันตีได้แล้วฝีมือของเขาไม่ธรรมดาจริงๆ 1. ลองดูหางปลาที่พลิ้วไหวนั้นสิ เหมือนกับว่ามันกำลังแหวกว่ายอยู่บนแผ่นหลังยังไงอย่างงั้น 2. รอยสักรูปแมวที่เหมือนกับใช้พู่กันระบายลงไป 3. จิ้งจอกน้อยสีสันสวยงามก็มีนะ 4. นกกระเรียนตัวนี้ก็ดูมีความตะวันออกอย่างเห็นได้ชัด 5. ไม่อยากจะเชื่อว่าใช้เข็มสักลงไป 6. ยังไง๊ยังไงก็ดูเหมือนปาดสีด้วยพู่กัน 7. เจ้าม้าที่ดูสง่างาม 8. ดอกไม้ในความคิด ที่ดูงดงามสุดๆ 9. ใบไม้ที่เหมือนแต้มสีด้วยพู่กัน 10. แพนกวินน้อย อุ๋งๆ 11. ดอกโบตั๋นที่แสดงออกถึงความเป็นประเทศจีนสุดๆ 12. ปลาหมึกสีสันสดใส…
-
สาวชนะสล็อตได้เงินรางวัล 1.3 พันล้าน โดนพนักงานบอกเครื่องรวนแล้วเลี้ยงอาหารหรูแทน!?
ในบรรดาการลงทุนทั้งหลาย การพนันดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด เพราะว่านอกจากบางอย่างจะต้องใช้ฝีมือแล้ว บางครั้งคุณยังต้องใช้โชคชะตาช่วยเกื้อหนุนด้วย ถึงจะได้เงินที่มาจากการเสี่ยงดวงแบบนี้ แต่ก็อย่างว่าดวงคนจะรวยทำอะไรก็รวย คนจะจนทำอะไรก็จน เหมือนกับผู้หญิงคนนี้ที่หมุนตู้สล็อตแมชชีนจนได้รางวัลใหญ่ แต่ทางคาสิโนกลับบอกว่ามันเป็นความผิดพลาดของเครื่องสล็อตแมชชีน และเสนออาหารเย็นเป็นการปลอบใจให้แทนเงินรางวัลก้อนโตซะอย่างงั้น หน้าตาของหญิงสาวผู้พลาดรางวัลก้อนโต เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2016 เมื่อ Katrina Bookman เดินทางเพื่อไปเล่นการพนันที่ Resorts World Casino ซึ่งตั้งอยู่ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมื่อเธอไปหมุนตู้สล็อตแมชชีนในคาสิโนแห่งนี้ก็ปรากฏว่าเธอได้รางวัลมูลค่ากว่าเกือบ 43 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 1.3 พันล้านบาท) เลยทีเดียว “มันขึ้นเป็นตัวใหญ่บนจอเลยบอกว่าฉันถูกรางวัลแจ็กพอตมูลค่ากว่า 43 ล้านดอลลาร์ ในตอนนั้นฉันเหน็บชากินไปทั้งตัวและแทบจะหยุดหายใจไปเลยก็ว่าได้” Bookman กล่าว แหม สบายไปทั้งชาติเลยนะเนี่ย ทว่าในตอนนั้น สาวสุดเฮงคนนี้ก็สัมผัสได้ว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ เพราะว่าเจ้าเครื่องสล็อตมันไม่ยอมออกตั๋วรางวัลขึ้นเงินให้กับเธอ และเมื่อพนักงานมาตรวจสอบให้ เธอก็ต้องได้รับข่าวร้ายจนแทบทรุด เพราะพนักงานบอกว่าสิ่งที่เธอเห็นมันเป็นความผิดพลาดของเครื่อง และเธอก็จะไม่ได้รับเงินรางวัลดังกล่าว แต่เธอก็ยังไม่ยอมแต่โดยดี เพราะเธอบอกว่าในตอนที่เธอเล่นเครื่องมีมันก็เป็นปกติดี และไม่มีอาการบ่งบอกว่ามันจะผิดพลาดใดๆ ทั้งสิ้น หน้าตาของเครื่องสล็อตแมชชีนดังกล่าว และในเวลาต่อมา เมื่อคณะกรรมการดูแลการพนันแห่งนครนิวยอร์กมาตรวจสอบ ก็พบว่าเธอถูกรางวัลจริง!! ทว่ารางวัลที่เธอถูกนั้นมีราคาเพียงแค่ 2.25 ดอลลาร์(ประมาณ…
-
เอ้าไหงงั้น!! เกาหลีเหนือเริ่มให้บริการสตรีมมิ่งคล้าย Netflix แต่ถ้าใครดูโชว์ต้องห้าม มีโทษถึงตาย
ใครๆ ต่างก็รู้กันว่าประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ ที่มีข้อจำกัดทางด้านกฎหมายมากมาย โดยประชาชนภายในประเทศส่วนใหญ่ยังไม่มีสิทธิที่จะเข้าถึงสิ่งที่เรียกว่า เวิลด์ไวด์เว็บ(www) ด้วยซ้ำ ทว่าในตอนนี้รัฐบาลเกาหลีเหนือดูเหมือนอยากจะลดความตึงเครียดให้แก่ประชาชน จึงได้สร้างแอพฯ ที่คล้ายกับแพลตฟอร์มชื่อดังระดับโลกอย่าง Netflix ขึ้นมาโดยพวกเขาได้ตั้งชื่อแอพฯ ที่สร้างขึ้นใหม่นี้ไว้ว่า My Companion 4.0 สำหรับแอพฯ ที่ทางรัฐบาลเกาหลีเหนือสร้างให้ประชาชนใช้นั้น เป็นแอพฯ อเนกประสงค์ที่สามารถทำได้หลายอย่างภายในแอพเดียว โดยมันสามารถทำได้ทั้งการอ่าน e-book ดูหนังภาพยนตร์ เล่นเกม รวมถึงการร้องคาราโอเกะก็มีให้ใช้งาน หน้าตาของแอพฯ My Companion 4.0 แต่นั่นยังไม่พอเพราะนอกจากแอพฯ นี้จะสามารถให้บริการความบันเทิงหลายๆ อย่างทั้งการแสดงและกีฬาต่างๆ ได้แล้ว ภายในแอพฯ นี้ยังสามารถดูการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศในขณะนี้ได้ด้วย ทว่าก็มีข้อแม้นิดหน่อยสำหรับแอพฯ นี้เพราะว่ามันยังบรรจุสิ่งที่เป็นความลับของรัฐบาลเกาหลีเหนือเอาไว้ด้วย ซึ่งหากใครที่เข้าชมความลับดังกล่าวจะต้องมีโทษถึงตายเลยทีเดียว เอาไปบันเทิงกันนะ สำหรับในปัจจุบัน การเชื่อมต่อเข้าสู่โลกออนไลน์ส่วนบุคคลในประเทศเกาหลีเหนือสามารถแบ่งได้ 2 ระบบคือ ระบบแรกสำหรับชนชั้นสูงที่น่าเชื่อถือในประเทศเกาหลีเหนือจะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ได้ทั่วโลกผ่านทาง www. เหมือนกับประเทศอื่นๆ บนโลก และอีกรูปแบบหนึ่งก็คือ ระบบอินทราเน็ตสำหรับประชาชนทั่วไปในประเทศที่จะสามารถเข้าได้เพียงเว็บไซต์ที่รัฐบาลกำหนดให้ไว้เพียงเท่านั้น ซึ่งเครือข่ายสำหรับชาวเกาหลีเหนือโดยทั่วไปนี้จะมีชื่อเรียกว่า Kwangmyong ซึ่งแปลว่าแสงสว่าง ซึ่งการใช้งานเครือข่ายอินทราเน็ตนี้จะต้องใช้เบราเซอร์ที่ชื่อว่า Naenara ที่ดัดแปลงมาจากเบราเซอร์ FireFox สำหรับการเปิดใช้งานเท่านั้น โทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่รัฐบาลเกาหลีเหนือเป็นผู้ผลิต…
-
จากการศึกษาและงานวิจัยบอกว่า ‘การเสพติดเซลฟี่’ อาจเป็นอาการผิดปกติของจิตใจก็ได้
ในโซเชียลมีเดีย เราอาจได้เห็นเพื่อนๆ เซลฟี่โพสต์ลงในโซเชียลมีเดียกันจนเป็นเรื่องปกติ แต่มันอาจจะไม่ปกติอีกต่อไป เมื่องานวิจัยได้ออกมาเผยว่าการเซลฟี่อาจเป็นความผิดปกติทางจิตอย่างหนึ่ง ย้อนกลับไปในปี 2014 สมาคมจิตเวชอเมริกัน หรือรู้จักกันในชื่อ APA ได้พูดถึงความผิดปกติทางจิตอย่างหนึ่งที่ชื่อว่า Selfitis คือคนที่ถูกการเซลฟี่เข้าครอบงำ ต่อมาในปี 2017 จึงได้มีงานวิจัยออกมาเพื่อยืนยันและจำแนกประเภทของอาการชนิดนี้ งานวิจัยดังกล่าวถูกตีพิมพ์ใน วารสารนานาชาติที่เกี่ยวกับสุขภาพจิตและการเสพติด เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน โดยนักวิจัยสองคนจากมหาวิทยาลัย Nottingham Trent University ในอังกฤษ และ Thiagarajar School of Management ในอินเดีย พวกเขาต้องการยืนยันว่าอาการทางจิตดังกล่าวนั้นมีอยู่จริงและต้องการแบ่งระดับความรุนแรงออกมาให้เราเห็นภาพกันได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตามเงื่อนไขต่างๆ ที่ถูกวางเอาไว้ ทั้งสองใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยจำนวนหลายร้อยคน เพื่อทำการสัมภาษณ์แบบกลุ่ม หลังจากนั้นพวกเขาก็แบ่งระดับความรุนแรงของพฤติกรรมการถูกครอบงำจากเซลฟี่ออกมาเป็น 3 ระดับดังนี้ ระดับ 1 ขั้นเริ่มต้น หมายถึงคนที่ถ่ายเซลฟี่อย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง แต่ไม่ได้โพสต์รูปเหล่านั้นลงโซเชียล ระดับ 2 ขั้นรุนแรง หมายถึงคนที่ถ่ายเซลฟี่อย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง…
-
ช่างภาพนำโมเดล “ซูเปอร์ฮีโร่” มาจัดองค์ประกอบใหม่ เพื่อเสนออีกมุมที่เราไม่เคยเห็น
เมื่อพูดถึงซูเปอร์ฮีโร่จากค่ายมาร์เวล หลายคนอาจจะนึกถึง ธอร์เทพเจ้าสายฟ้าอันน่าเกรงขาม หรือจะเป็นกัปตันอเมริกาผู้รักความยุติธรรม และอีกหลายๆ คนที่มีบุคลิกเท่ๆ อย่างเดอะฮัล์คไอ้ยักษ์ร่างเขียว ซึ่งโดยรวมซูเปอร์ฮีโร่เหล่านี้ต่างมีบุคลิกที่ดูน่าเอาเป็นแบบอย่างทั้งสิ้น แต่หากลองมาคิดดูกันเล่นๆ ว่า จะเป็นอย่างไรเมื่อซูเปอร์ฮีโร่ที่สุดจะยิ่งใหญ่เปลี่ยนไปมีนิสัยเกรียนๆ บ้าง ด้วยเหตุนี้ช่างภาพที่ใช้ชื่อว่า HrJoePhotography จึงได้ลองนำโมเดลซูเปอร์ฮีโร่ของเขามาจัดวางในท่าทางต่างๆ เพื่อให้เห็นว่าจริงๆ แล้วซูเปอร์ฮีโร่เหล่านี้ก็มีความลับบางอย่างที่พวกเขาอาจจะไม่ได้บอกกับเราในฉากหนังก็ได้นะ และนี่คือผลงานของช่างภาพคนนี้ ที่นำโมเดลซูเปอร์ฮีโร่มาทำกิจกรรมเกรียนๆ ซึ่งหากมองดูแล้วก็น่าจะลดความน่าเชื่อถือของพวกเขาไปได้เยอะเหมือนกัน โดยการถ่ายรูปเล่นของเขาครั้งนี้เขาบอกไว้ว่าไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อจะดิสเครดิตแต่อย่างใด แต่อยากจะให้ผู้คนมีรอยยิ้มแค่เพียงเท่านั้น และหากใครชื่นชอบผลงานสุดฮาเหล่านี้ก็สามารถติดตามกันได้ที่ hrjoe Photography วอนซะแล้วไอ้เดดพูล นี่มันที่ของพี่ไอ้น้อง ยอมแล้วจ้า อย่าทำอย่างนี้เลยมันเจ็บเกินทนไหว คนเดียวหัวหาย อันนี้หายทั้งสองหัว อยากได้อะเดะ ไม่ให้หรอก ฮ่าๆ ตีพลาดจะเอ็งโดนดีแน่ๆ เอาป่ะ ให้ฟรีก็ได้ ใครจะไปรู้ว่าตัวใหญ่ๆ อย่างนี้ก็กลัวเข็มเหมือนกัน ทำไมแกไม่กินข้าวฮะ อุตส่าห์เทเอาไว้ให้ ตกแต่งบ้านต้อนรับคริสต์มาสกันเถอะที่รัก นี่ตูเพื่อนเล่นหรอเนี่ย ลูบซะ …
-
มันเจ็บช้ำ!! หนุ่มตอบคำถามผิดชวดเงินมูลค่ากว่า 3.8 ล้านทั้งที่คำตอบอยู่บนเสื้อแล้วแท้ๆ
การได้พลาดอะไรไปทั้งๆ ที่มันเรื่องง่ายๆ นี่มันน่าเจ็บใจซะจริงเชียว ซึ่งหลายคนอาจจะเคยมีประสบการณ์เช่นนี้ ซึ่งมันทำให้รู้สึกเสียดายจนแทบจะร้องไห้ แต่คงไม่มีใครเสียใจเกินกว่าชายคนนี้ เพราะว่าเขาได้ไปออกเกมโชว์เกมหนึ่งแล้วตอบคำถามมูลค่าสูงสุดของรายการผิด ทำให้เขาต้องพลาดเงินรางวัลมูลค่า 3.8 ล้านบาทไปทั้งๆ ที่คำตอบอยู่บนเสื้อที่เขาใส่มาถ่ายรายการแล้วแท้ๆ เหตุการณ์สุดทึ่งนี้เกิดขึ้นกับชายที่ชื่อว่า Alberto ขณะเขาไปออกรายการเกมโชว์ชื่อว่า Ahora Caigo รายการเกมโชว์ชื่อดังในประเทศสเปน ซึ่งเป็นรายการตอบปัญหาที่คล้ายๆ กับเกมเศรษฐีที่โด่งดังเมื่อครั้งอดีตในบ้านเรา การตอบคำถามของเขาได้ผ่านมาแล้วมากมาย และเดินทางมาถึงคำถามข้อตัดสินว่าเขาจะสามารถคว้าเงินรางวัลมูลค่ากว่า 100,000 ยูโร(ประมาณ 3.8 ล้านบาท) ไปครอบครองได้หรือไม่ โดยคำถามนั้นเป็นคำถามที่ว่า ‘สตีฟ โรเจอร์ รับบทเป็นอะไรในภาพยนตร์เรื่องอเวนเจอร์‘ ซึ่งมีตัวเลือกมาให้เขาเลือกสามข้อทั้ง หมอ ท่านเซอร์ และกัปตัน ซึ่งหากเป็นคอภาพยนตร์ก็คงจะตอบได้ไม่ยาก แต่ด้วยความที่เขาไม่รู้หรือไม่ใช่คอหนังก็ไม่ทราบทำให้เขาตอบคำถามนี้ผิดโดยเขาตอบว่า ‘น่าจะเป็นหมอนะ’ แต่ความพีคของการตอบคำถามข้อนี้ผิด ไม่ได้อยู่ที่ความไม่รู้ของเขา แต่ว่ามันเป็นเสื้อที่เขาใส่ต่างหาก เพราะว่าเสื้อที่เขาใส่มามันพิมพ์คำว่า ‘กัปตันอเมริกา’ ติดเอาไว้ตัวเบ้อเร่อ ในขณะนั้นทั้งห้องอัดรายการหลังจากได้ยินคำตอบของ Alberto แล้วก็เงียบสนิทราวกับป่าช้ารวมถึงคู่แข่งอีกคนของเขาก็ยืนอึ้งไม่แพ้กัน เพราะว่าเสื้อที่เขาใส่มามันน่าจะแสดงว่าเป็นแฟนหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี และเมื่อ Arturo Valls พิธีกรดำเนินรายการได้ยินคำตอบจากปากของเขากับเสื้อที่เขาใส่มาก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่และบอกกับ Alberto ว่า “คุณไม่รู้หรอว่าเสื้อที่คุณใส่มาน่ะมันเป็นคำตอบของข้อนี้นะเนี่ย” Valls…
-
ภาพถ่ายจิ้งจอกผ่านม่านหมอกฤดูหนาว ความสวยงามของมันช่างดูสง่างามชวนให้หลงใหลยิ่งนัก
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกใบนี้ มักจะมีความงามแฝงเอาไว้ในตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ดอกไม้ มนุษย์ หรือแม้กระทั่งสัตว์ต่างๆ ซึ่งความสวยงามที่ว่านี้ แต่ใครจะไปคิดว่าสัตว์ที่ดูเป็นอันตรายอย่างสุนัขจิ้งจอก จะทำให้ช่างภาพคนหนึ่งหลงรักหัวปักหัวปำตั้งแต่ครั้งแรกเห็น และช่างภาพคนนั้นก็ใช้เวลาหลายต่อหลายปี เพื่อจะถ่ายภาพจิ้งจอกให้คนทั้งโลกได้เห็นความสง่างามที่อยู่ในตัวของมัน Roeselien Raimond ช่างภาพพรสวรรค์สูงชาวฮอลแลนด์ เป็นที่รู้จักจากการถ่ายภาพนิ่งของจิ้งจอกนานาชนิด โดยเธอเล่าว่าเธอได้มีโอกาสเห็นจิ้งจอกครั้งแรกเมื่อปี 2010 และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอก็ตกหลุมรักความน่ารักของจิ้งจอกเข้าอย่างเต็มเปา เธอจึงใช้เวลาตลอด 7 ปีที่ผ่านมาเข้าไปในป่าเพื่อจะตามถ่ายภาพจิ้งจอก ซึ่งก็มีบางวันที่ต้องเจอสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยจนไม่สามารถเก็บภาพมาได้ นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่าจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าวันนี้มันจะไปที่ไหนบ้าง ทำให้การหาตัวของมันค่อนข้างเต็มไปด้วยความยากลำบาก “คุณไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าเมื่อไหร่ที่มันจะแสดงตัวออกมาให้เราได้เห็น และถ้าคุณคิดว่าคุณรู้จักมันจริงแล้วล่ะก็ อาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็เป็นได้นะ” Roeselien กล่าว ในช่วงเวลา 7 ปีที่เธอตามถ่ายจิ้งจอก เธอบอกว่าไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวเลยที่จะรู้สึกเบื่อ เพราะว่าจิ้งจอกแต่ละตัวก็จะมีบุคลิกนิสัยเป็นของตัวเอง ซึ่งบางตัวก็มีจุดเด่นจนบางทีก็อาจจะทำให้รู้สึกประหลาดใจได้เหมือนกัน “จิ้งจอกบางตัวค่อนข้างจะขี้อายและชอบอยู่อย่างสันโดษ บางตัวก็ค่อนข้างจะโดดเด่นและมีความมั่นใจในตัวเองสูง และบางตัวก็อาจจะเป็นนักล่ากระต่ายชั้นยอด ขณะเดียวกันบางตัวก็เป็นนักว่ายน้ำที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน” และด้วยเหตุผลต่างๆ ข้างต้นเธอจึงได้ถ่ายภาพจิ้งจอกมาให้เราได้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์ที่หาดูได้ยากของมัน ซึ่งมันจะสง่างามอย่างที่เธอว่าไว้หรือไม่ก็ต้องลองตามไปดูกันด้วยสายตาตัวเอง… . . . . . . . . . .…
-
แนะนำหนัง 12 เรื่องน่าดูใน 12 เดือนแห่งปี 2018 ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!!
ทุกๆ ปี เหล่าค่ายหนังก็จะเข็นหนังดีๆ ออกมาดูดเงินในกระเป๋าเราเป็นจำนวนมาก สารภาพมาซะดีๆ ว่าปีนี้เสียเงินไปกับการดูหนังเท่าไหร่ และเมื่อปี 2018 มาถึง เหล่าคนดูอย่างเราก็จะเฝ้ารอภาคต่อภาพยนตร์เรื่องโปรด หรืออาจจะอยากรู้ว่ามีภาพยนตร์เรื่องใดที่น่าติดตามดูในปีหน้าที่กำลังจะเข้ามาถึงนี้บ้าง และในวันนี้เราก็ได้รวบรวมสุดยอดภาพยนตร์น่าดูทั้งหมดถึง 12 เรื่องใน 12 เดือน ที่จะช่วยให้เราไม่ต้องไปยืนงงหน้าโรงภาพยนตร์ ว่าเดือนนี้จะดูเรื่องไหนดีนะ.. เดือนมกราคม – The Commuter ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของป๋าเลียม นีสัน ชายผู้ที่ลูกสาวถูกลักพาตัวบ่อยเหลือเกิน แต่ว่าเรื่องนี้ไม่หายแล้ว โดยในเรื่องนี้เขารับบทเป็นไมเคิล พนักงานขายประขายประกันภัยธรรมดาๆ คนหนึ่ง ซึ่งวันหนึ่งในระหว่างการเดินทางอันแสนปกติของเขา ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง ทว่าหลังจากได้รับการติดต่อจากบุคคลลึกลับ ไมเคิลก็ถูกบังคับให้ต้องเปิดโปงตัวตนของผู้โดยสารคนหนึ่งในขบวนของเขาให้ได้ก่อนที่จะถึงป้ายต่อไป เขาต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อไขปริศนา และเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลวร้ายกว่าที่เขาคิด เขาจึงต้องจัดการปัญหาทุกอย่างให้ได้โดยมีชีวิตของตัวเองและผู้โดยสารในขบวนเป็นเดิมพัน เดือนกุมภาพันธ์ – The Black Panther อีกหนึ่งตัวละครจากโลกมาเวลที่ชื่อว่า ที ชัลล่า ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ใน Captain America: Civil War สิ้นสุดลง ที ชัลล่า ก็เดินทางกลับไปรับตำแหน่งกษัตริย์ที่วากานดา ประเทศแห่งหนึ่งในทวีปแอฟริกา…
-
หากไม่มีใครรับน้องไป วันสุดท้ายของชีวิตคงต้องมาถึง แต่แล้วแม่ใหม่ก็พาไปอยู่ด้วย…
ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ เมื่ออยู่ในวัยเตาะแตะ จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อประคับประคองชีวิตไม่ให้ตกอยู่อันตรายจนต้องจากโลกไปก่อนวัยอันควร แต่มิ้วน้อย Simon กลับถูกพบอยู่ข้างถนนเพียงลำพัง ไร้ซึ่งเงาของผู้เป็นแม่ แต่โชคดีที่มีคนมาเห็นมันซะก่อน จึงได้พาไปส่งให้ทางคลินิกสัตว์ Babybrobeans พนักงานของคลินิกเล่าว่า “ตอนที่ Simon ถูกพามาที่คลินิกสัตว์ มันอายุแค่ประมาณสัปดาห์ครึ่งเท่านั้น ที่น่าตกใจคือคนที่พามันมาบอกว่า ‘ถ้าไม่มีใครรับเลี้ยงมัน เราจำเป็นต้องให้มันตาย’ เพราะไม่อยากให้มันเผชิญชีวิตตามลำพัง” เมื่อได้ยินแบบนั้น เธอทำใจไม่ได้ที่จะปล่อยให้ชะตากรรมมันเป็นอย่างนั้นโดยไม่ทำอะไรเลย ในที่สุดเธอก็เสนอที่จะรับเลี้ยงมิ้วน้อยตัวนี้ “แมววัย 18 ปีของฉันจากไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน และตอนนี้ํฉันก็พร้อมที่จะดูแลเหมียวตัวใหม่แล้ว” เธอบอก ตอนแรก Simon เข้ามาพร้อมกับหมัดเต็มตัวเลย แต่หลังจากที่จับมันอาบน้ำ ทำความสะอาดตัว มันกลายเป็นมิ้วตัวใหม่ที่ไร้หมัด ทำให้มันรู้สึกสบายตัวมากขึ้น แม่ใหม่ของ Simon เริ่มให้อาหารมันและคอยดูแลมันทุกวันอย่างสม่ำเสมอ “มันทำทุกอย่างด้วยตัวมันเอง มันไม่ได้ร้องเสียงดังเพื่อขออาหารหรือเรียกร้องความสนใจ วันๆ มันเอาแต่นอนในทุกๆ ที่ที่มันต้องการ” ถึง Simon จะดูแข็งแรงดีแล้ว แต่แม่ใหม่ก็ยังพามันกลับไปตรวจร่างกายที่คลินิกเสมอ และให้กินยาที่จำเป็น เพื่อให้น้ำหนักของมันขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ตอนนี้น้องแมวกำลังอยู่ในช่วงวัยเจริญเติบโต มันเลยเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา แต่ที่มันชอบที่สุดคือเวลาที่แม่เกาพุงให้ พอรู้ว่าแป้นโน๊ตบุ๊กให้ความอุ่นได้ก็นอนทับซะเลยนะ แถมยังหันเหความสนใจของแม่ด้วยการกดใส่ปุ่มกลับด้านหน้าจอ ร้ายแต่เด็กเลยนะ …
-
ร้าน KFC ขนาดจิ๋วที่สุดในโลก เล๊กกกกกเล็ก แต่มันทำไก่ทอดได้จริงๆ นะเออ!!
หากพูดถึงร้านไก่ทอดที่รู้จักกันไปทั่วโลก หลายๆ คงจะนึกถึงร้าน KFC อย่างแน่นอน ด้วยเอกลักษณ์ด้านรสชาติและราคาที่ไม่แพงนัก ทำให้ไก่ทอดของผู้พันแซนเดอร์ได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา มาในครั้งนี้พวกเขาได้เปิดสาขาใหม่ที่ไม่ได้มีเพียงแค่รสชาติที่ดั้งเดิม แต่ขนาดของร้านนั้นกลับดูแปลกตามากกว่าสาขาอื่นอย่างมาก เพราะนี่คือร้าน KFC ขนาดจิ๋ว ที่ขึ้นชื่อว่า “เล็กที่สุดในโลก” ด้วยขนาดที่สูงประมาณหัวเข่าของเราเท่านั้นเอง เจ้าร้าน KFC สุดจิ๋วนี้คือผลงานล่าสุดของยูทูบเบอร์ชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อว่า Bistro Mniature ผู้สร้างผลงานอาหารจิ๋วเอาไว้เป็นจำนวนมาก และถึงแม้ว่าร้านจะมีขนาดเล็กมากก็ตาม แต่มันยังคงสามารถทอดไก่ให้พวกเรากินได้ไม่ต่างจากสาขาอื่นเลย เพียงแต่ไก่ที่เราได้จะมีขนาดเล็กกว่านิ๊สสสนึงเท่านั้นเอง หมดห่วงเรื่องกระดูกไปได้เลย เพราะถ้ามีจริงๆ มันก็คงไหลลงคอเราไปได้อย่างง่ายดาย ไก่ทอดสไตล์มินิ ขนาดประมาณเล็บนิ้วก้อย อุปกรณ์ที่จัดวางทุกอย่างภายในร่างก็ไซส์มินิหมดเลย หนึ่งเมนู เราจะได้รับไก่ทอดจิ๋วสองชิ้น มันบดจิ๋วหนึ่งถ้วย บิสกิตจิ๋วและคุกกี้จิ๋ว แถมด้วยน้ำอัดลมแก้วเล็กๆ อีกหนึ่งแก้ว เพียงเท่านี้เราก็สามารถอิ่มท้องได้นานถึง 5 นาทีอย่างแน่นอน กินอย่างนี้ทุกวัน วันละ 3 เซตพอ รับรองผอมชัวร์!! น้ำอัดลมแก้วจิ๋ว ที่ช่วยให้เราสดชื่น (แต่ไม่หายคอแห้งหรอกนะ) หากใครสนใจก็สามารถตามไปอุดหนุนร้าน KFC…
-
รู้หรือไม่ว่ามีเพียง 6 ประเทศบนโลกเท่านั้นที่ไม่มี “สนามบิน” แต่น่าเที่ยวไม่ใช่เล่นเลยนะ!!
ปัจจุบันนี้ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเลือกเดินทางด้วยเครื่องบินโดยเฉพาะเวลาไปต่างประเทศ เพราะมันทั้งสะดวกสบายและประหยัดเวลาในการเดินทาง แต่รู้มั้ยว่าสำหรับ 6 ประเทศนี้ คุณไม่สามารถเดินทางไปด้วยทางเครื่องบินได้ เพราะพวกเขาไม่มีสนามบิน ดังนั้นจึงต้องใช้ช่องทางอื่นแทน 1. นครรัฐวาติกัน แม้ว่านครรัฐวาติกันจะได้รับการยอมรับให้เป็นประเทศหนึ่งในโลก แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมีสนามบินของตนเอง แต่วิธีการเดินทางไปก็ไม่ยากหรอก แค่นั่งเครื่องบินไปลงกรุงโรม ประเทศอิตาลี แค่นั้นท่านก็ได้พบกับนครรัฐวาติกันแล้ว 2. ประเทศซานมาริโน ซานมาริโนเป็นประเทศขนาดเล็กที่โอบล้อมไปด้วยแผ่นดินอิตาลี มีประชากรประมาณ 33,000 คน และอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติ Federico Fellini ในเมือง Rimini ประเทศอิตาลี เพียง 14 กิโลเมตร 3. ประเทศโมนาโก ประเทศหรือราชรัฐโมนาโก เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก มีประชากรเพียง 38,500 คน หากจะไปที่นี่คุณจะต้องเดินทางผ่านสนามบินนานาชาติ Nice Côte d’Azur ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ห่างจากโมนาโกเพียง 25 นาทีโดยรถยนต์ 4. ประเทศลิกเตนสไตน์ ประเทศลิกเตนสไตน์มีขนาดเล็กเป็นอันดับที่…
-
บอสร่วมระดมทุน เพื่อซื้อบ้านให้เมียม่ายของลูกน้อง ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย…
เพื่อนร่วมงานไม่ใช่คนที่จะช่วยเราแค่ในการทำงาน แต่ในชีวิตจริงพวกเขาก็อาจพร้อมช่วยเหลือเราด้วยเหมือนกัน เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ เมื่อเจ้านายพบว่าลูกน้องคนหนึ่งของเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่นาน เขาจึงต้องการที่จะทำอะไรซักอย่างเพื่อตอบแทนการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมดของชายคนนั้น เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคม 2016 เมื่อ Keith Ellick วัย 42 ปี เดินเข้าไปบอกกับเจ้านายของเขา Addam Smith ว่า เขาป่วยเป็นมะเร็งช่องคอระยะสุดท้ายและจะมีชีวิตอยู่ได้แค่เพียง 12 เดือนเท่านั้น Keith (ด้านซ้าย) ผู้ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และ Addam (ด้านขวา) เจ้านายของเขา และนั่นจึงกลายเป็นเหตุผลให้ Addam ผู้อำนวยการบริษัทจัดสวนละรั้วบ้านในประเทศอังกฤษ ต้องการที่จะทำอะไรซักอย่างเพื่อช่วยเหลือลูกน้องของเขาคนนี้ เขาเล่าว่า “Keith คือคนที่ตั้งใจทำงานมานานกว่า 10 ปีที่อยู่ด้วยกัน เขาคิดถึงคนอื่นอยู่เสมอ แม้ในตอนที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย เขาก็เอาแต่ห่วงว่าภรรยาและลูกชายของเขาจะใช้ชีวิตอยู่กันยังไงเท่านั้นเอง” จากที่ Keith ยังคงห่วงภรรยาอยู่เสมอ ทำให้ Addam เปิดรับเงินบริจาคจนได้มาประมาณ 2,500,000 บาท เพื่อซื้อบ้านในเมืองลินคอล์น ประเทศอังกฤษ ให้กับครอบครัวของ Keith ภรรยาและลูกชายของ…
-
หญิงผู้รอดชีวิตจากการปลิดชีพตัวเอง เผยความรู้สึกกับการต้องมีชีวิตอยู่อีกครั้ง…
ไม่ใช่ทุกครั้งที่การตัดสินใจของเราจะต้องถูกเสมอไป เพราะในบางครั้งเราอาจได้มารู้ทีหลังว่าที่เราทำลงไปนั้นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่อย่างน้อยมันก็อาจเป็นบทเรียนให้กับชีวิตเราในการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้เหมือนอย่างหญิงสาวคนนี้.. นี่คือเรื่องราวของ Christen McGinnes วัย 46 ปีจากรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ผู้ที่พยายามฆ่าตัวตายด้วยการยิงปืนเข้าปากตัวเอง จนทำให้สูญเสียกรามขวา ลิ้น ฟันหลายซี่ ปากล่างและตาข้างขวาของเธอไป แต่อย่างน้อยเธอก็รอดมาได้จนพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต เธอเล่าว่า ในปี 2009 เธอใช้ชีวิตทุกอย่างไปได้อย่างราบรื่น มีเพื่อนมากมาย รักงานที่ทำและเธอก็ยังสนิทกับคุณย่าของตัวเองเอามากๆ แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานทุกอย่างก็กลับพินาศลงไปในพริบตา เธอตกงาน คุณย่าตายจากเธอไป พอเธอได้คบกับผู้ชายแสนดีคนหนึ่ง เขาคนนั้นกลับทิ้งเธอไปอีก เธอสูญเสียทุกอย่างแม้แต่เงินเก็บของเธอทั้งหมด ทำให้เริ่มกินเหล้าอย่างหนักและเกิดความคิดว่า ถ้าเป็นอย่างนี้เธอขอตายซะยังจะดีกว่า ในปีต่อมา หญิงสาวจัดห้องตัวเองให้สะอาดสะอ้าน ก่อนที่จะออกไปตรงระเบียงเตรียมจะยิงตัวตาย วินาทีนั้นเธอไม่ได้กลัวความตายเลย แต่สิ่งที่เธอกลัวคือ กลัวว่ากระสุนจะพุ่งไปห้องข้างๆ จนทำให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บ เธอเล่าว่า “ฉันรู้สึกสงบเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ตอนนั้นฉันไม่กลัวตายเลย จากนั้นฉันจึงเหนี่ยวไกเข้าที่ศีรษะของฉัน” ในตอนนั้นเธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนร่วมห้องของเธอก็อยู่ในห้องด้วย เมื่อเสียงปืนดังลั่น เพื่อนคนนั้นจึงรีบวิ่งมาดู ก่อนที่จะนำตัวเธอส่งโรงพยาบาล หญิงสาวอยู่ในอาการโคม่านานกว่า 3 สัปดาห์ สิ่งที่เธอจำได้เป็นอย่างแรกในตอนที่ตื่นขึ้นมาคือ…
-
โมเมนต์สุดน่ารัก เมื่อเจ้าอุ๋งๆ โอบกอดกับเต่าทะเลอย่างอบอุ่น แหม๊ อะไรจะรักกันปานน๊านน!!
มิตรภาพคือสิ่งที่ไร้ขอบเขต เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเมื่อ และกับทุกสรรพสิ่ง แม้กระทั่งสัตว์ต่างสายพันธุ์ พวกมันก็กลายเป็นเพื่อนกันได้อย่างน่าทึ่ง เช่นเดียวกับเจ้าแมวน้ำและเต่าทะเลคู่นี้ที่โอบกอดกันใต้น้ำอย่างอบอุ่น กลายเป็นภาพสุดน่ารักที่สร้างความประทับใจให้กับคนดูอย่างเราๆ โอ๋ๆๆ ไม่เป็นไรนะ อุ๋งๆ ภาพความสัมพันธ์อันน่ารักนี้ ถูกถ่ายที่ Olowalu Beach รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยช่างภาพ Beat Korner วัย 62 ปี Korner เล่าว่าตอนแรกเต่าทะเลกำลังหากินอาหารจากสาหร่ายและวัชพืชสีเขียว แต่แล้วก็มีสายเบ็ดไปพันอยู่บริเวณครีบและปากของมันจนไม่สามารถขยับหัวได้ ในระหว่างที่มันกำลังทนทุกข์กับสถานการณ์นี้ เจ้าแมวน้ำตัวหนึ่งก็ผ่านมาเห็นพอดี และดูเหมือนมันจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วย มันเลยเข้ามาโอบกอดและปลอบเต่าทะเลกว่า 20 นาที ส่วนเต่าทะเลดูมันจะไม่ค่อยสนใจแมวน้ำสักเท่าไหร่ มันพยายามว่ายหนีไปที่อื่น แต่แมวน้ำก็ยังคงว่ายตามด้วยความห่วงใย จุ๊บเหม่งเลย นี่ๆๆ โมเม้นต์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างเงียบสงบ พวกมันไม่มีอาการรีบร้อน เจ้าเต่าเองก็ดูไม่ทุกข์ทรมานอะไร เป็นไปได้ว่าสายเบ็ดอาจจะหลุดไปแล้ว นอกจากกอดแล้ว แมวน้ำยังเลียหัวเจ้าเต่าทะเลอย่างอ่อนโยนด้วย แม้เต่าจะพยายามว่ายหนีแต่ไม่ได้ผลักหรือต่อสู้เมื่อถูกกอดเลย แสดงว่ามันคงชอบการกอดจากเจ้าแมวน้ำเหมือนกันละมั้ง จะไปไหนอะ นี่เพื่อนเอง ที่มา dailymail
-
โจรย่องเข้าบาร์ผ่านปล่องไฟ แต่ดันติดไปไหนไม่ได้ จนต้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจ
คนที่ตั้งใจจะขโมยของเนี่ย พวกเขาคงต้องผ่านการวางแผนมาอย่างดี เพื่อกันการถูกจับได้ หรือความผิดพลาดอื่นๆ ระหว่างทำภารกิจ แต่อย่าคิดว่าวางแผนดีแล้วจะไม่มีผิดพลาดนะ ดูอย่างหนุ่มคนนี้สิ ขนาดคิดแผนสูงด้วยการย่องเข้าบาร์ผ่านทางปล่องไฟ สุดท้ายก็ไปไม่ได้รอด Jesse Alan Berube วัย 32 ปี ถูกจับได้เมื่อวันพุธที่ผ่านมาในเมือง Citrus Heights รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะพยายามบุกเข้าไปขโมยของในบาร์แห่งหนึ่ง ถ้าเป็นโจรทั่วไปคงจะงัดประตูหรือหน้าต่างเข้ามาในช่วงที่เจ้าของไม่อยู่ แต่ Berube เลือกที่จะเข้าทางปล่องไฟ เพราะคิดว่าคงไม่มีใครคาดคิดแน่ๆ ตอนแรกก็เหมือนจะดีนะ ค่อยหย่อนตัวลงไป แต่แล้วพอลงไปครึ่งทางเขาก็พบว่าช่องมันแคบลงจนทำให้ลงไปต่อไม่ได้ จะถอยขึ้นไปก็ไม่ได้ด้วย เลยติดอยู่อย่างนั้น เมื่อไม่สามารถทำอะไร และเขาไม่อยากให้ชีวิตต้องมาจบในสภาพนี้ด้วย ในที่สุด Berube ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาตำรวจให้มาช่วย ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Citrus Heights Police Department และกู้ภัยจาก Sacramento Metro Fire Department ก็มาถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เผยว่าพบ Berube ติดอยู่กลางปล่องไฟของบาร์แห่งหนึ่งในสภาพที่ถูกปกคลุมด้วยเขม่าควัน หน่วยกู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์พิเศษในการช่วยเหลือ จนทำให้ขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่ทันทีที่ขึ้นมาได้ ตำรวจก็ใส่กุญแจมือพร้อมตั้งข้อหาพยายามลักทรัพย์…
-
รวม 20 ภาพสแนปแชทฮาๆ ส่งท้ายปี 2017 พร้อมกับแคปชั่นภาพที่มันเหลือเกินเสียจริง..
ตอนนี้กลางเดือนธันวาคม 2017 เข้าสู่ช่วงเทศกาลต่างๆ หลายอย่าง และแน่นอนว่าที่สำคัญที่สุดและรู้จักกันทั่วโลกอย่างแน่นอนก็คือ วันปีใหม่ หนึ่งในเทศกาลจัดงานเฉลิมฉลองให้กับการส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปี 2018 ที่กำลังมาถึงนี้ ก่อนที่เราจะก้าวเข้าสู่ปีถัดไป #เหมียวตะปู อยากลองชวนเพื่อนๆ ให้ได้มาดูภาพสแนปแชทสุดฮาที่เกินขึ้นในปี 2017 เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เดินต่อไปข้างหน้าพร้อมรอยยิ้ม ว่าแล้วเราก็ไปดูกันเลยยย นี่คงเป็นตัวอย่างจากหนังเรื่อง Up ปู่ซ่าส์บ้าพลัง ภาค 2 เมื่อคืนฝนตกหนักมาก แต่ดูเหมือนจะมีคนหนึ่งไม่รู้ตัวนะ สงสัยคุณพ่อจะพาคุณลูกมาดูสถานที่ทำงาน นี่คงเป็นต้นไม้ที่หยาบคายมากที่สุดในโลกแล้ว บอกผมที ว่านี่หมี มิใช่หมู.. ไหนบอกว่าเป็นครีมบำรุงและฟื้นฟูมือไม่ใช่หรอ ไม่เห็นฟื้นฟูได้จริงเลย ประสบการณ์ดีๆ ที่ได้จากการเล่นรักบี้ของเขา ผมแค่อยากจัดปาร์ตี้ที่บ้านบ้างอ่ะแม่ ที่จอดรถสำหรับคนแก่ที่พิการ อย่างน้อยก็ช่วยปัดกิ่งไม้ออกไปก่อนได้มั้ย เป็นสติกเกอร์ยีราฟที่ดูงงๆ นะว่ามั้ย Iron Man ชิดซ้ายไปเลย เมื่อเจอกับ…
-
สมุดคู่มือพ่อมดเล่มเล็กเขียนโดยลายมือของ J.K. Rowlings ราคาเกือบ 5 ล้านบาท!?
เรากล้าพูดได้เลยว่าในโลกนี้ไม่มีใครหรอกที่ไม่รู้จัก แฮร์รี่ พอตเตอร์ นวนิยายดังของนักเขียนชื่อดัง J.K.Rowlings เพราะว่านวนิยายเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จนถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์ถึง 8 ภาคด้วยกัน แน่นอนว่าที่แฮร์รี่ พอตเตอร์มีชื่อเสียงโด่งดังขนาดนี้ เป็นเพราะนวนิยายนั้นมีเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม น่าตื่นตาตื่นใจ และไม่เหมือนใคร และด้วยความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง จึงทำให้ของสะสมจากซีรีส์แฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นที่นิยม และมีคนพร้อมจะทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อครอบครองของสะสมเหล่านี้ J.K.Rowlings ผู้แต่งนิยายชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ และในวันนี้เราจะพาแฟนๆ ทุกท่านไปดูของสะสมสุดพรีเมี่ยมจากซีรีส์นี้กัน ซึ่งไม่ใช่ของสะสมที่เคยเห็นกันแบบไม้กายสิทธิ์ หรือผ้าพันคอโรงเรียนฮอกวอตส์หรอกนะ แต่เป็นคู่มือนักเรียนฮอกวอตส์ที่เขียนมือโดย J.K.Rowlings เองต่างหาก โดยตัวสมุดก็ไม่ใช่คู่มือหนาปึ้กที่เต็มไปด้วยรายละเอียดแบบนั้นด้วย มันเป็นเพียงสมุดขนาดเท่าฝ่ามือ ขนาดเล่มกว้างแค่ 1.6 นิ้ว ยาวเพียง 2.4 นิ้ว และมีจำนวนหน้าเพียงแค่ 31 หน้าเท่านั้นเอง ข้อมูลในสมุดเล่มนี้ จะเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จากภาพยนตร์เรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ ซึ่งเป็นภาคแรกสุดของซีรีส์ เกร็ดความรู้ที่ว่านั้นก็เป็นเพียงภาพวาดและคำอธิบายง่ายๆ ของข้อควรปฏิบัติเมื่อมาเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ฮอกวอตส์ในชั้นปีที่หนึ่งเพียงเท่านั้น นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งต้องมีไม้กวาดทุกคน ผู้ปกครองโปรดทราบว่า นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งห้ามนำไม้กวาดที่หาซื้อเองมาโรงเรียน …
-
สุดยอดหญิงแกร่ง ใจสู้ทำข้อสอบปลายภาคในโรงพยาบาล แล้วคลอดลูกต่อทันที!
คำว่าผู้หญิงแกร่ง มีความหมายแตกต่างกันไปตามมุมมองของแต่ละคน บางทีก็หมายถึงผู้หญิงที่มีร่างกายแข็งแรง อาจจะหมายถึงผู้หญิงที่เก่งกว่าผู้ชาย หรือแม้แต่ผู้หญิงที่มีความอดทนอดกลั้นสูง สามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้มากมายก็ได้ แต่ใครจะแข็งแกร่งไปกว่าผู้หญิงคนนี้คงไม่มีอีกแล้ว เพราะแม้ว่าเธอจะตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม แต่เธอก็ยังเรียนหนังสือด้วย ทำงานไปด้วย และยังทำงานมากถึงสามแห่งด้วยกัน เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังเอาข้อสอบปลายภาคมานั่งทำตอนรอคลอดหน้าตาเฉย Nayzia Thomas หญิงเหล็ก ถึก อึด ทน Nayzia Thomas เป็นนักศึกษาด้านจิตวิทยาของ Johnson County Community College ในรัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอไปเข้าเรียนในชั้นเรียนตั้งแต่ตอนเธอเริ่มท้อง จนถึงตอนที่เธอมีอายุครรภ์ครบ 9 เดือนเลยทีเดียว ตอนแรกเธอวางแผนว่าเธอจะทำงานของหมดในภาคเรียนให้เสร็จ ก่อนจะถึงวันกำหนดคลอด แต่ดูเหมือนว่าลูกของเธออยากจะเจอหน้าคุณแม่ไวๆ เธอเลยจำเป็นต้องคลอดก่อนกำหนด แม้ว่าข้อสอบปลายภาคของเธอจะยังค้างอยู่ก็ตาม “ตอนนี้ยังไม่ถึงกำหนดส่งงานเลย แต่ฉันก็ตั้งใจจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนคลอดลูก เพราะฉันรู้ว่าพอคลอดแล้วก็จะมีแต่เรื่องวุ่นวายเต็มไปหมด ดังนั้นไม่ว่ายังไงก็ต้องทำงานให้เสร็จก่อน” จริงๆ แล้วเธอจะส่งงานทีหลัง แล้วรอให้เกรดออกช้ากว่าคนอื่นเล็กน้อยก็ได้ เนื่องจากเป็นการลาไปคลอดเป็นเหตุสุดวิสัย อาจารย์คงจะให้เธอสอบช้าได้ แต่ด้วยความแน่วแน่และความตั้งใจของเธอเอง เธอตัดสินใจทำมันให้เสร็จก่อนจะคลอดซะเลย บังเอิญว่าแม่ของเธอได้ถ่ายรูปตอนเธอทำงานเก็บไว้ เธอจึงได้โอกาสแชร์รูปนั้นลงในทวิตเตอร์ ชาวเน็ตที่เห็นจึงถือโอกาสเข้ามาชื่นชมความพยายามของเธอพร้อมทั้งให้กำลังใจ โดยทวีตนี้มียอดไลค์ทะลุ 130,000…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นตกหลุมรัก “เม่นทะเล” แย่งกันกินกะหล่ำปลี มันน่ารักหรือยังไงดีเนี่ย??
เป็นธรรมชาติของสัตว์ที่จะแย่งกินอาหารชิ้นเดียวกัน เหมือนกับสุนัขแย่งกระดูกกันนั่นแหละ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นการกระทำนี้จากเม่นทะเลด้วย แหม่ เม่นทะเลก็เป็นสิ่งมีชีวิตนะ มันจำเป็นต้องกินเพื่อความอยู่รอดเหมือนสัตว์ทั่วไปนั่นแหละ แต่ที่แปลกคงเป็นเพราะมนุษย์เห็นพวกมันแย่งใบกะหล่ำปลีกันละมั้ง ภาพเหล่าเม่นทะเลยื้อแย่งใบกะหล่ำปลีนี้ ถูกถ่ายได้ที่ Aburatsubo Marine Park ในจังหวัดคะนะงะวะ ประเทศญี่ปุ่น โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ Cellutane Cellutane เล่าว่า ตอนแรกเม่นทะเลจำนวนหนึ่งอยู่รวมกันในตู้กระจกใส จากนั้นผู้ดูแลก็เอาใบกะหล่ำปลีหย่อนลงไปให้พวกมันกิน โดยทันทีที่หย่อนลงไป มีเจ้าเม่นทะเลสองตัวต่างจับจ้องไปที่ใบกะหล่ำปลีใบเดียวกัน จากนั้นมันก็พุ่งไปที่เป้าหมายพร้อมกัน จนทำให้เกิดการยื้อแย่งขึ้น ต่อมา Cellutane ได้นำภาพเหล่านี้ไปแชร์ลงในทวิตเตอร์ และไม่น่าเชื่อว่ามันได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก เรื่องที่เม่นทะเลกินกะหล่ำปลีว่าแปลกแล้ว การเห็นพวกมันแย่งกันแปลกกว่าอีก เพราะเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นภาพแบบนี้กันสักเท่าไหร่ มีชาวเน็ตบางคนตัดต่อใส่อีโมชั่นที่หน้ามันด้วย ชาวเน็ตอีกคนบอกว่า “มันไม่แปลกนะ ตัวนี้ที่เราไปเห็น มันก็กินใบกะหล่ำปลีเหมือนกัน” เห็นมีแต่ขนแบบนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าปากเม่นทะเลมันอยู่ตรงไหนนะ? แล้วมันมีลักษณะยังไงน้อ? อะ ลองดูวิดีโอด้านล่างนี้ รู้เลย ที่มา rocketnews24
-
หญิงสาวหวังดีช่วยส่งหลักฐานแฟนนอกใจให้ผู้หญิงด้วยกัน ที่ไหนได้เป็นฝาแฝดซะงั้น
เวลาที่เห็นแฟนเพื่อนอยู่กับกิ๊กเนี่ย หลายๆ คนคงทนไม่ได้ที่จะเก็บไว้เป็นความลับ แต่เราส่วนใหญ่มักจะไปบอกเพื่อนทันที เพราะหวังดีไม่อยากให้เพื่อนโดนหลอก อย่างสาว Rebekah ที่เห็นแฟนหนุ่มของ Jasmine Rios อยู่กับสาวอื่นแบบสนิทแนบชิด กะหนุงกะหนิง เธอจึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานแล้วส่งให้เธอดู เพราะไม่อยากเห็นผู้หญิงด้วยกันต้องถูกหลอก จริงๆ แล้ว Jasmine กับ Rebekah ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่รู้เป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊กเท่านั้น และเมื่อเห็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น Rebekah จึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง เธอส่งรูปพร้อมข้อความให้ Jasmine ว่า “หวัดดี ฉันรู้ว่าเราไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ฉันคิดฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นแฟนของเธอกำลังอี๋อ๋อกับผู้หญิงคนอื่นในห้องสมุด พวกเขาแตะเนื้อต้องตัวกันด้วย ตอนแรกฉันไม่รู้ว่าจะบอกเธอดีมั้ย หรือจะบอกยังไงดี แต่ในฐานะผู้หญิงเคยโดนแบบนี้มาก่อน ดังนั้นเลยคิดว่าเธอควรได้รู้เรื่องนี้” “ฉันหวังว่านี่จะไม่ทำให้คุณกับเขามีปัญหากันใหญ่โตนะ ฉันรู้สึกแย่จริงๆ แต่ฉันคิดว่ามันผิดถ้าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและไม่พูดอะไร ถ้าเธออยากให้ฉันจัดการให้บอกนะ ฉันจะอยู่ที่นี่อีกสักพักหนึ่ง” ลองจินตนาการดูว่าอยู่ดีๆ ก็มีคนแปลกหน้าส่งข้อความบอกว่าแฟนคุณอยู่กับคนอื่น แถมยังเสนอตัวที่จะจัดการให้ด้วย เป็นคุณ คุณจะรู้สึกยังไง? อย่างไรก็ตาม Rebekah ไม่ได้รู้สึกอะไรกับภาพที่หญิงแปลกหน้าส่งมาให้ แถมหลุดขำด้วยซ้ำ เพราะชายในภาพที่หญิงคนนั้นคิดว่าเป็นแฟนของเธอ จริงๆ แล้วเป็นพี่ชายฝาแฝดต่างหาก และพี่ชายฝาแฝดคนนั้นก็กำลังจู๋จี๋กับแฟนของเขาอีกด้วย So my boyfriend has…
-
เรื่องมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น หลัง “ฝรั่งเศส” มีกฎหมายห้ามร้านค้าทิ้งอาหารเหลือ ต้องไปบริจาคเท่านั้น!!
ห้างสรรพสินค้าหรือตามร้านค้าหลายๆ แห่งเลือกที่จะทิ้งอาหารที่ใกล้หมดอายุหรือมีรูปร่างหน้าตาผิดเพี้ยนไป เพราะคิดว่าพวกเขาไม่ควรขายต่อไป จนทำให้เกิดปัญหาขยะอาหารจำนวนหลายล้านตันทั่วโลกในแต่ละปี รวมทั้งยังเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะโลกร้อนอีกด้วย แน่นอนว่าปัญหานี้เกิดขึ้นกับทุกประเทศ และเราไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ นั่นจึงทำให้ประเทศฝรั่งเศสเริ่มต้นคิดวิธีการแก้ปัญหาขึ้นมา 1 ใน 3 ของอาหารที่ถูกผลิตมาให้มนุษย์ทั่วโลก ถูกทิ้งไปอย่างไร้ค่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ประเทศฝรั่งเศส ออกกฎหมายขึ้นมาใหม่ ห้ามไม่ให้ห้างสรรพสินค้าทิ้งอาหารที่ยังสามารถนำมากินได้หรือว่าใกล้หมดอายุเด็ดขาด แต่ให้นำอาหารเหล่านั้นมาบริจาคให้กับธนาคารอาหาร หรือใช้ไปทำปุ๋ยหมักแทน เพื่อช่วยลดจำนวนขยะอาหารที่มีอยู่ให้ลดลง กฎหมายดังกล่าว หากใครฝ่าฝืนจะมีโทษถูกปรับเป็นจำนวนเงินกว่า 129,000 บาท ทั้งนี้เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎที่ตั้งเอาไว้อย่างเคร่งครัด นอกจากที่มันจะช่วยให้ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศที่สามารถลดจำนวนขยะจำพวกอาหารได้มากที่สุดในโลกแล้ว การแก้ไขนี้ยังเป็นประโยชน์กับคนยากไร้ให้ได้มีอะไรกินกัน เพราะปัญหาคนจนไม่มีข้าวกินก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ จากสถิติในปี 2016 มีคนกว่า 800 ล้านคนทั่วโลกที่ยังคงใช้ชีวิตด้วยความหิวโหย ก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายนี้ Intermache ซูเปอร์มาร์เก็ตในฝรั่งเศสก็ได้ช่วยเหลือในปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2014 โดยพวกเขาจะเปิดขายอาหาร ผักผลไม้ที่มีรูปร่างหน้าตาผิดเพี้ยนไปจากเดิม จนได้รับความนิยมจากหลายๆ คนทั่วโลก ภายในเดือนเดียวก็มีผู้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากถึง 13 ล้านคน แม้จะมีหน้าตาแปลกประหลาดไปบ้าง แต่มันยังคงกินได้ตามปกติ และนอกจากกฎหมายดังกล่าวแล้ว ประเทศฝรั่งเศสตั้งใจว่าจะพัฒนาการแก้ปัญหาต่อไปเรื่อยๆ…
-
มหาวิทยาลัยโตเกียวพัฒนา ‘กระจกซ่อมตัวเองได้’ อีกหนึ่งความก้าวหน้าที่คู่ควรกับสมาร์ทโฟน
เบื่อมั้ยกับปัญหาเวลามือถือตกแล้วหน้าจอแตก ทำให้ต้องเสียทั้งเงินและเวลาพามันไปเปลี่ยนที่ศูนย์หรือให้ร้านซ่อมให้ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ปัญหานั้นอาจหมดไปได้ ด้วยนวัตกรรมใหม่ “กระจกที่สามารถซ่อมแซมได้ด้วยตัวเอง” ความสามารถนี้มีอยู่ในสสารที่ชื่อว่า Polyether Thiourea ซึ่งเป็นสสารแรกของโลกที่มีคุณสมบัติผสมระหว่างความแข็งแกร่งแบบกระจกและความสามารถในการฟื้นฟูตัวเอง สสารชนิดใหม่ที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว เจ้าสิ่งนี้ถูกพัฒนาโดยศาสตราจารย์ Takuzo Aida และผู้ช่วยของเขาที่เป็นบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพวกเขาสามารถค้นพบเจ้าสิ่งนี้ได้ด้วยความบังเอิญ ในตอนที่กำลังพยายามคิดค้นกาวแบบใหม่กันอยู่ ความพิเศษของเจ้า Polyether Thiourea คือ เมื่อไหร่ที่มันแตกหักหรือแยกจากกัน เพียงแค่เราใช้มือดันส่วนที่แตกออกกลับเข้าไปให้มันอยู่ในสภาพเดิม ไม่กี่วินาทีทั้งสองส่วนนั้นจะติดกันเหมือนเดิม และปล่อยไว้ไม่กี่ชั่วโมงกระจกก็จะคืนตัวอย่างสมบูรณ์เรียบเนียน เพียงแต่จะทิ้งรอยแตกไว้ให้เห็นเท่านั้นเอง แตกเป็นเสี่ยงๆ หรือหักออกมาเป็นสองส่วนก็สามารถซ่อมแซมได้ ในตอนแรกที่พวกเขาเจอความสามารถนี้ก็ยังคงตกใจกันอยู่ เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการฟื้นฟูตัวเองในวัตถุที่มีลักษณะเป็นของแข็ง แต่เมื่อพวกเขาทดสอบมันอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้ยังคงเหมือนเดิม ทำให้สามารถยืนยันการค้นพบนี้ได้ ลองคิดดูว่าถ้าเรานำสสารตัวนี้มาใช้กับหน้าจอสมาร์ทโฟนของเรา พอจอแตกปุ๊บ เราก็แค่เก็บเศษกระจกมาดันติดกันเข้าไปใหม่เท่านั้นเอง ง่ายๆ สะดวกสบายเป็นยิ่งนัก แต่น่าเสียดายที่มันยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้เห็นเป็นขีดตรงรอยเชื่อม ซึ่งเชื่อว่าหากแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้เมื่อไหร่แล้วล่ะก็ มันจะต้องได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมหลายๆ ประเภทอย่างแน่นอน แค่นำมาประกบกันไม่กี่วินาที มันก็จะต่อกันแน่นเหมือนเดิมแล้ว ถึงแม้มันอาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ชาวเน็ตหลายๆ คนก็ยังคงทึ่งกับความสุดยอดในการฟื้นฟูตัวเองของเจ้าสิ่งนี้ “คุณพระ!? มหัศจรรย์สุดๆ ไปเลย”…
-
เปิด 5 สำนักทางปรัชญา ที่จะทำให้คุณเข้าใจโลกแห่ง ‘ปราชญ์’ มากยิ่งขึ้นอีกนิสสส
หากพูดถึงปรัชญาในบ้านเรา หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้วปรัชญามันแฝงอยู่ในชีวิตประจำวันของเรานี่แหละ เพียงแค่เราไม่รู้เท่านั้นเอง เพื่อทำความเข้าใจความเป็นปรัชญามากขึ้น #เหมียวขี้ส่อง ขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับปรัชญาจาก 5 สำนัก ที่จะทำให้เห็นว่าโลกของปรัชญานั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง? 1. สุญนิยม แนวคิดหลักของสำนักสุญนิยมคือ การไม่เชื่อหรือไม่ยอมรับระบบคุณค่าใดๆ ในทางปรัชญา ยกตัวอย่างเช่น ไม่เชื่อว่าระบบทางจริยศาสตร์นั้นมีอยู่จริง ไม่เชื่อว่าชีวิตนี้จะมีความหมายหรือคุณค่าอะไร เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ แนวคิดสุญนิยมจึงถูกยกให้เป็นแนวคิดแห่งการทำลายล้าง เพราะคนที่เชื่อในแนวคิดนี้มักจะทำลายชีวิตอื่นเพราะเห็นว่าไม่มีค่า อย่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในรัสเซียก็มีแนวคิดนี้หนุนหลังอยู่ 2. อัตถิภาวนิยม นักปรัชญาที่เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้คือ เซอเรน เคียร์เคอกอร์ โดยตั้งคำถามว่าจุดประสงค์ของชีวิตคืออะไรหากไม่มีจุดมุ่งหมาย? เราจะหาคุณค่าจากไหน หลังจากที่พระเจ้าตายแล้ว? และเราจะเผชิญหน้ากับความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นี้ได้อย่างไร? สำหรับคำตอบของคำถามนั้นขึ้นอยู่กับปัจเจกบุคคล เพราะอัตถิภาวนิยมเชื่อว่ามนุษย์ไม่ใช่วัตถุแต่มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึก มีความต้องการ ดังนั้นแนวคิดสำคัญของแนวคิดนี้ก็คือ ความมีเสรีภาพ ความรู้สึกรับผิดชอบและการเลือกตัดสินใจ 3. สุขนิยม ลัทธินี้ถือว่าความสุขสบายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรแสวงหา ไม่มีอะไรอีกนอกจากความสุขสบายของชีวิตที่มนุษย์ต้องการ การกระทำทุกอย่างในชีวิตประจำวันก็เพื่อความสุขสบาย นักปรัชญาสุขนิยมส่วนใหญ่บอกว่า คุณควรจะอ่านหนังสือมากกว่าดื่มเหล้า เพราะผลจากการอ่านหนังสือให้ความสุขมากกว่าการเมา เพราะความสุขในที่นี้ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น 4. ลัทธิมาร์กซ์ ลัทธินี้เป็นการรวบรวมแนวคิดของนักปรัชญา คาร์ล…
-
เจ้ากวางน้อยบาดเจ็บจากการถูกรถชน หญิงสาวเลยอาสารับมันมาดูแลที่บ้าน น่ารักงุ้งงิ้งเชียว
อุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งไม่ใช่แค่กับมนุษย์เท่านั้น สัตว์เองก็ตกเป็นเหยื่อในบางครั้ง น่าเศร้าที่พวกมันมักจะถูกปล่อยให้ทรมานหรือตายอยู่ข้างถนนโดยไม่ได้รับการเหลียวแล แต่สำหรับเจ้ากวางน้อยตัวนี้ นับว่ามีความโชคดีอยู่ในความโชคร้าย เพราะหลังจากที่มันถูกรถชนจนได้รับบาดเจ็บ ก็มีคนมาช่วยเหลือมันได้ทันเวลา ในวันที่เกิดเหตุนั้น ขณะที่คนขับรถตู้คนหนึ่งขับรถไปตามถนน จู่ๆ เขาก็เห็นกวางน้อยตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างถนนโดยมีเลือดไหลออกจากจมูกของมัน เขาคิดว่ามันคงถูกรถชนมาแน่ๆ เธอลงไปดูอาการมันสักพัก ก่อนจะพามันไปส่งให้กับ Emma Hickey ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า Furrows Wildlife Rescue Centre ในมาล์มสบรี มณฑลวิลท์เชอร์ สหราชอาณาจักร นับว่าโชคดีที่น้องกวางไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ Emma ก็ยังทำใจไม่ได้ที่ปล่อยมันกลับไปสู่ธรรมชาติ เพราะมันยังเด็กเกินไปที่จะใช้ชีวิตตามลำพัง ดังนั้นเธอจึงตั้งชื่อให้มันว่า Newbie ก่อนพามันกลับไปดูแลต่อที่บ้านในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และตั้งใจจะพามันกลับสู่ป่าหลังจากหมดเทศกาลแล้ว Emma บอกว่า “มีรถหลายคันที่ขับรถผ่านกวางน้อยตัวนี้โดยไม่สนใจมันเลย แต่มีชายคนหนึ่งตัดสินใจหยุดรถแล้วลงไปช่วยเหลือมันทันที” “ตอนนี้ Newbie ยังดูตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ ฉันคิดว่าไม่ควรปล่อยให้มันอยู่โดยไม่มีแม่ ดังนั้นก็เลยพามันกลับมาอยู่บ้านด้วย” เธอบอกอีกว่าในหนึ่งวัน Newbie จะกินผัก นมโค 3 ขวด น้ำมันตับปลา และไข่ ที่สำคัญมันไม่ดื้อ ไม่ซน แต่มีความน่ารักเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง …
-
รวม 18 ภาพสัตว์ขนปุย ที่มีขนตามธรรมชาติ แต่สวยอย่างกับไปทำซาลอนมายังไงยังงั้น!?
คนเราไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง ก็ต้องอยากสวยอยากหล่อกันแน่ๆ อยู่แล้วล่ะ เพราะหน้าตานั้นเป็นดั่งหน้าต่างของหัวใจ ถ้าเราดูดีก็จะมีแต่คนรักคนชอบ และนอกจากการมีหน้าตาที่ดีแล้ว การจัดแต่งทรงผมก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน บางคนถึงกับต้องตื่นแต่เช้าตรู่มาทำผมเลยทีเดียว แต่ไม่ใช่กับสัตว์พวกนี้เลย เพราะธรรมชาติได้สรรค์สร้างให้ขนตามธรรมชาติของพวกมันสวยงามอยู่แล้ว แต่ใช้คำว่าสวยงามเฉยๆ คงไม่พออธิบายภาพของพวกมัน เพราะขนของพวกมันช่างดูสวยเป็นทรงอย่างมหัศจรรย์เลยทีเดียว เจ้าไก่ Polish buff laced chicken ตื่นมาก็เป็นทรงแอฟโฟร่ ทันที นกพิราบ Goura ตีโป่งสวยแบบนี้เข้าสมาคมคุณหญิงได้สบ๊าย แกะ Racka Sheep กับทรงผมทวินเทลตั้งตรง ไม่ง้อเจล เจ้าอัลปาก้ากับทรงผมปัดข้างชิคๆ หวียังไงก็ปัดข้างอยู่ดี สุนัขพันธุ์ซามอย น้องหมาขนนุ่มฟู ฟูยิ่งกว่านางแบบโฆษณาแชมพู ฮา กระต่ายน้อย Wally กับปีกนางฟ้าสุดสวย แต่บินไม่ได้นะ กระต่ายพันธุ์แองโกล่า ขนพองฟูฟ่อง ชนะหมาซามอยขาดลอยเลย มาพบกับ อัลปาก้า กันอีกครั้ง แต่คราวนี้มาในทรงผมเซอร์ๆ เท่ๆ มีเสน่ห์ไม่เบา พบกับลิงจิ๋ว Cotton-top tamarin กับทรงผมที่เซตตัวสวยงาม…
-
หนุ่มรวบรวมความกล้า สารภาพกับแม่ว่าตัวเองเป็นเกย์ สิ่งที่เกิดขึ้นมันช่างงดงามเหลือเกิน
แม้ว่าในยุคปัจจุบันจะมีการยอมรับกลุ่มคนรักร่วมเพศมากขึ้น ให้พวกเขาสามารถอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติ แต่ก็ยังมีปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ทำให้พวกเขาไม่กล้าเปิดเผยรสนิยมส่วนตัวออกมา นั่นก็คือครอบครัวนั่นเอง เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าโดยปกติแล้ว หากบ้านไหนมีลูกชาย ก็คงจะคาดหวังให้เขาแต่งงานและมีลูกมาสืบสกุล หรือถ้ามีลูกสาวก็หวังจะได้เห็นพวกเธอมีแฟนหนุ่มที่คอยดูแลเอาใจใส่อย่างดี ดังนั้นการเปิดเผยตัวจนว่าชอบเพศเดียวกัน จึงอาจเป็นการทำลายความคาดหวังของครอบครัวตนเอง แต่ในทางกลับกัน คุณพ่อและคุณแม่อาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ เพราะพ่อแม่มักจะใส่ใจและคอยสังเกตลูกอยู่เสมอ ดังนั้นเพียงแค่รวบรวมความกล้าเข้าไปพูดคุยกับพวกเขา อาจจะพบว่าพ่อและแม่นั้นพร้อมจะคอยอยู่เคียงข้างเราทุกเมื่อ เหมือนในคลิปที่เราจะนำเสนอนี้ เพจ Humankind Stories ได้โพสต์คลิปวิดีโอหนึ่งลงในเฟซบุ๊ก เป็นเรื่องราวของลูกชายที่พยายามจะบอกให้แม่รู้ว่าตนเองชอบเพศเดียวกัน โดยคลิปวิดีโอสะท้อนถึงภาพของพ่อแม่ที่เข้าใจและเป็นกำลังใจให้ลูกได้เป็นอย่างดี ในตอนแรกนั้นลูกชายตัวลูกชายรวบรวมความกล้าที่จะบอกกับแม่ไม่ได้ ตัวคุณแม่เห็นดังนั้น จึงพยายามให้ความช่วยเหลือลูก โดยเป็นคนเปิดบทสนทนาเองเสียเลย “แม่: มีอะไรจะบอกกับแม่เหรอ” “ลูก: คือว่า … เอ่อ …” “แม่: … ลูกจะบอกแม่ว่าเป็นเกย์รึเปล่า แม่รู้อยู่แล้วล่ะ แม่เข้าใจลูกนะ” “ลูก: ฮือ แม่ผมขอโทษ” “แม่: ไม่ต้องขอโทษหรอก ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด แม่รักลูกเสมอนะ” เธอยังอธิบายให้ลูกฟังได้ดีอีกด้วยว่า ทำไมพ่อแม่ทั่วไปถึงไม่อยากให้ลูกเป็นเกย์ แน่นอนว่าไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาเกลียดเกย์หรอก แต่พวกเขาไม่อยากให้ลูกต้องมีชีวิตที่ลำบากต่างหาก “แม่แค่ไม่อยากให้ลูกต้องใช้ชีวิตลำบาก…
-
อึ้งสิพ่อหนุ่ม จู่ๆ “ซานต้าเหมียว” ก็มาคลอดลูกให้เป็นของขวัญ ใต้ต้นคริสต์มาสซะงั้น!?
วันคริสต์มาสใกล้จะวนมาถึงอีกครั้งแล้ว ผู้คนต่างก็ตกแต่งบ้านเพื่อให้พร้อมรับเทศกาลแห่งความสุขนี้กัน และแน่นอนว่าทุกบ้านย่อมไม่ลืมพระเอกของงานอย่างต้นคริสต์มาสแน่ๆ เพราะมันจะถูกใช้เป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัว ทั้งยังเป็นจุดที่ของขวัญวันคริสต์มาสของทุกคนรวมกันอยู่นั่นเอง ดังนั้นภาพที่เด็กๆ วิ่งออกมาจากห้องนอน และรีบวิ่งไปแกะของขวัญจากซานต้า ที่วางอยู่ใต้ต้นคริสต์มาสจึงเป็นเรื่องปกติของเทศกาลนี้ แต่สำหรับชายหนุ่มคนหนึ่ง ของขวัญใต้ต้นคริสต์มาสปีนี้ไม่ได้มาจากซานต้า เขากลับพบของขวัญสุดวิเศษจากแมวเหมียวที่บ้านซะงั้น แม่เหมียว Tink วันหนึ่งในช่วงคริสต์มาส Danielle Lopez ก็ทำกิจวัตรประจำวันตามปกติของเขา แต่ที่ไม่ปกติก็คือเขาได้ยินเสียงแมวร้องเมี๊ยวๆ ดังมาจากที่ไหนสักแห่งในบ้าน ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจมันมากเท่าไหร่ เพราะคิดว่าคงจะเป็นเสียงแมวที่เลี้ยงไว้นั่นแหละ ถึงเสียงมันจะแปลกกว่าปกติก็เถอะ ที่ไหนได้ เมื่อเขาเดินมาถึงบริเวณต้นคริสต์มาส เขาก็พบต้นตอของเสียงร้องที่ไม่คุ้นหูนั่นทันที เสียงมันมาจากลูกแมวเกิดใหม่ที่นอนอยู่ข้างๆ Tink แมวของเขา “ผมได้ยินเสียงแมวร้องเบาๆ มาสักพักแล้ว แต่ก็คิดว่าเป็นเจ้า Tink จนเดินไปเจอลูกแมวเกิดใหม่ตัวหนึ่งนั่นแหละ เห็นแล้วตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเลย” พอเขาตั้งสติได้ ก็วิ่งวุ่นไปทั่วบ้านเพื่อไล่ปิดประตูหน้าต่าง ลูกแมวจะได้ไม่โดนลมหนาว แล้วก็ต้องรีบหาผ้านุ่มๆ มารองให้เจ้า Tink กับลูกของมันนอนด้วย หลังจากจัดแจงให้มันนอนบนผ้านิ่มๆ เรียบร้อย ดูเหมือนว่าแมวของเขายังอยากจะให้ของขวัญเพิ่มอีก มันจึงคลอดลูกเพิ่มออกมาอีก 3 ตัวเลยทีเดียว ดีนะเนี่ยที่เจ้าของเดินผ่านมาเห็นพอดี ได้รับของขวัญแบบสดๆ ร้อนๆ เลย …
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นแชร์ ‘วิธีการสร้างความอบอุ่นให้ตัวเอง’ ของแมว แต่ละวิธีงุ้ยๆ น่ารักทุกตัวเลย…
อากาศในช่วงหน้าหนาวปีนี้เริ่มหนาวมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะครับ ถึงแม้ว่าหลายคนจะบอกว่าชอบฤดูหนาวก็เถอะ แต่จะยังชอบไหมถ้าพวกเขาต้องตื่นแต่เช้าตรู่มาสู้อากาศหนาวเย็นยะเยือก แถมยังต้องเจอกับพื้นที่เย็นเฉียบอีกต่างหาก คงไม่มีใครชอบแบบนั้นหรอก แน่นอนว่าอากาศหนาวไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับมนุษย์เราเท่านั้น พวกแมวเองก็ไม่ชอบหน้าหนาวเช่นกัน จะให้แมวที่ชอบอยู่ในที่อุ่นๆ นอนอาบแดดทั้งวัน ไปใช้ชีวิตในหน้าหนาวแบบสบายๆ ได้ยังไง แต่การใช้ชีวิตของแมวในฤดูหนาวแตกต่างกับคนอยู่อย่างหนึ่ง คือพวกมันไม่มีเสื้อผ้าใส่กันหนาวนั่นเอง แล้วพวกมันทำให้ตัวเองอบอุ่นได้ยังไงกันนะ ถ้าสงสัยเราไปดูกัน เครื่องมือที่พวกแมวใช้สู้กับความหนาวเหน็บก็คือหางของมันนั่นเอง พวกมันจะใช้หางของตัวเองพันไปรอบๆ บริเวณที่ต้องการความอบอุ่น เหมือนกับที่คนใช้ผ้าพันคอเพิ่มความอุ่นให้ร่างกันนั่นแหละครับ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ แมวส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ใช้หางมาพันตัวหรือพันคอให้ตัวเอง แต่พวกมันเลือกที่จะเพิ่มความอบอุ่นให้กับ ‘เท้า’ แทนต่างหาก ซึ่งดูๆ แล้วก็เป็นภาพที่น่ารักมากทีเดียว ผ้าพันคือส่วนตัว หยิบง่าย ใช้สะดวก มองทำไม ไม่เคยเห็นแมวหนาวเท้าเหรอ ไม่มีถุงเท้า ก็ไม่หวั่น แต่ก็มีแมวบางส่วนเช่นกันที่เลือกจะใช้หางนุ่มๆ นี้ไปเพื่อความอบอุ่นให้กับบริเวณลำคอแทน คงจะเห็นคนทำบ่อยๆ เลยทำตามละมั้ง ฮ่าๆๆๆ อุ่นกายแล้ว ก็เติมพลังกันหน่อย หางตัวเองไม่ถึงเหรอ ใช้หางเพื่อนก็ได้ ขอหางหน่อยน้า น่าจะอุ่นเพราะนอนกอดกันมากกว่านะ…
-
รู้จักกับเจ้าเหมียว Merlin แมวหน้าบึ้งที่ดูเหมือนกับโกรธอยู่ตลอดเวลา อย่ามาแหยมนะ เดี๋ยวจะโดน!!
ทาสแมวทั้งหลายคงตกหลุมรักกับแมวน่ารักๆ มาเยอะแล้ว โดยส่วนใหญ่คงเป็นแมวตัวเล็กน่าเอ็นดู แมวหน้าตาน่ารักน่าอ้อน ที่มีเสน่ห์คล้ายคลึงกับแมวทั่วๆ ไป แต่ถ้าเจอแมวหน้าบึ้งถมึงทึงล่ะ ยังจะคิดว่ามันน่ารักรึเปล่า วันนี้เราจึงขอแนะนำเจ้าเหมียวตัวนึงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ขอเชิญทุกคนพบกับเจ้า Merlin ตัวนี้นี่แหละ… แมวเหมียว Merlin เจ้าแมว Merlin มีความไม่เหมือนใครตรงที่มันมีหน้าตาเหมือนกับโกรธอะไรสักอย่างอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนที่มองมันคิดว่าแมวตัวนี้คงจะดุไม่ใช่เล่นเลย เจ้าของของมันเห็นว่ามันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีเสน่ห์ในตัวของมันเอง เขาจึงได้ทำอินสตาแกรมส่วนตัวให้กับมันในชื่อว่า merlinragdoll และโพสต์ภาพมันให้กับชาวเน็ตดู จะได้หลงรักความเจ๋งของแมวตัวนี้เหมือนกับเขา อินสตาแกรมของมันได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีคนติดตามแล้วกว่า 48,000 คน และมีคนกดไลค์รูปของมันแต่ละรูปไม่ต่ำกว่า 1,000 ไลค์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชาวเน็ตได้ตกหลุมรักมันเข้าแล้วล่ะ ลองไปชมภาพบางส่วนจากอินสตาแกรมของมันกันเลย งานคริสต์มาสมันสนุกยังไงห้ะ! ถ้าเปิดน้ำละก็ แกโดนดีแน่ ยัง ยังไม่เอาตูลงอีก . . . . นั่นใคร ทำหน้าบึ้งทำไม จะหาเรื่องใช่มะ!? (ชมคลิปได้ ที่นี่) ไม่ชอบชุดไหมพรมเหรอ…
-
ใจพี่โคตรได้!! พนักงานสนามบินเต้นเท้าไฟ โยกซะมันส์ จนคนบนเครื่องอยากลงไปแจม
คนบนโลกนับร้อยนับพันล้านคนต่างก็มีบุคลิกที่เป็นของตัวเองทั้งนั้น แต่ว่าจะมีคนอยู่ประเภทหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์จากความตึงเครียดให้กลายมาเป็นความสนุกสนาน และมีสีสันได้อย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนกับชายคนนี้ที่ทำงานเดิมๆ ทุกวันจนเขาอาจจะรู้สึกเบื่อหน่าย เขาจึงสร้างความแตกต่างให้กับงานตัวเองด้วยการเต้นไปด้วยทำงานไปด้วยซะเลย และที่สำคัญคือท่าเต้นของเขามันช่างแสนจะพลิ้วไหว ชนิดที่ใครๆ เห็นก็ต้องมองกันเป็นตาเดียว ออกมาเต้น เอ้าออกมาเต้น เรื่องราวนี้ได้รับการเปิดเผยจากคุณ Terry McBride ขณะที่เขากำลังขึ้นเครื่องบินเดินทางออกจากนครนิวยอร์กเพื่อกลับไปยังบ้านที่เมืองแนชวิลล์ แต่เมื่อเขาลองมองออกไปนอกกระจกก็พบกับคนคนหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้เขาต้องจดจำตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้ และแน่นอนว่าเมื่อพบเหตุการณ์สุกพิลึกพิลั่นอย่างนี้ เธอก็ไม่พลาดที่จะหยิบโทรศัพท์ออกมาบันทึกภาพความฮาจากพนักงานภาพพื้นคนนี้เอาไว้ มันส์อย่าบอกใคร โดยเหตุการณ์ต่างๆ ในวิดีโอนี้ จะเป็นเหตุการณ์ระหว่างที่พนักงานบนเครื่องบินกำลังบอกถึงเรื่องความปลอดภัยต่างๆ บนเครื่องบินตามธรรมเนียม ทว่าระหว่างนั้นเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง Terry ก็พบกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินคนหนึ่งที่กำลังให้สัญญาณต่างๆ แต่ว่าไม่ใช่การให้สัญญาณแบบธรรรมดา เพราะว่าเขาดันเต้นไปด้วย โดยท่าเต้นของเขามันเหมือนกับว่าเขากำลังควบม้าอยู่อย่างไงอย่างงั้นเลยก็ว่าได้ โยกให้มันหลุดโลก และจากการแสดงออกของเขาแล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่มีทักษะการเต้นที่ดี แถมยังมีดนตรีในหัวใจและนั่นทำให้ Terry ถึงกับนำความประทับใจนี้ไปลงในโซเชียลมีเดียพร้อมกับตั้งแคปชั่นให้ว่า “นี่คือสิ่งที่ฉันเจอ ขณะกำลังเดินทางออกจากนิวยอร์กเพื่อจะกลับบ้านที่แนชวิลล์เมื่อเช้านี้ ดูเขาเต้นเข้าสิ” และวิดีโอนี้ก็ได้เผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ตอนนี้ชายเอวพลิ้วคนดังกล่าว ก็ได้กลายเป็นคนดังประจำสนามบินท้องถิ่นแห่งนี้ไปแล้วเพราะมีคนเข้าชมวิดีโอนี้มากกว่าเกือบ 5 แสนวิวเลยทีเดียว มาดูความพลิ้วของพนักงานคนนี้กันดีกว่าว่าจะเด็ดแค่ไหน จ้างมาทำงาน 500 แต่พี่เต้นไป 5,000,000 เลยล่ะครับงานนี้!! ที่มา: inspiremore
-
งานวิจัยเผย… การเป็นคน ‘หัวดื้อ’ กับ ‘ทำงานหนัก’ อาจทำให้คุณมีชีวิตยืนยาวยิ่งขึ้น
เคยได้ยินกันบ้างไหมว่าคนทำงานหนักและหัวดื้อจะเป็นกลุ่มคนที่มีอายุยืนยาว? คุณอาจจะคิดว่านั่นไม่ใช่เรื่องจริงแน่ๆ แต่ว่ามันคือเรื่องจริง!! เพราะล่าสุด ทางทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยชื่อดังได้ทำการสำรวจและพบว่าคนที่อายุเยอะส่วนใหญ่ จะเป็นคนประเภทดังกล่าวจริงๆ ผลวิจัยดังกล่าวนั้นมาได้รับการยืนยันจากมหาวิทยาลัย California San Diego และมหาวิทยาลัย Sapienza โดยเผยแพร่ผ่านวารสาร International Psychogeriatics ซึ่งข้อมูลดังกล่าว เป็นผลวิจัยที่ได้มาจากการที่พวกเขาออกไปสำรวจกลุ่มผู้สูงอายุ 29 คนจากหมู่บ้านที่ห่างไกลในเขต Cilento ของประเทศอิตาลี ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผลวิจัยนี้มันเป็นไปตามที่รายงาน ก็เพราะผู้สูงอายุในผลสำรวจเป็นคนประเภททำงานหนักและหัวดื้อ แต่นั่นก็ส่งผลระยะยาวกับพวกเขาในด้านสุขภาพจิตดีกว่าคนอายุน้อยในครอบครัวเดียวกันเอง พวกเขาไม่ต้องกังวลเรื่องงานที่ไม่แน่นอนหรือความมั่นคงในอนาคต แถมยังมีบ้านเป็นของตัวเองด้วย ฉะนั้นจึงไม่ต้องมานั่งเครียดกับปัญหาในอนาคตมากเท่าคนรุ่นใหม่ๆ หรือคนที่ไม่ได้เป็นคนประเภทดังกล่าว จากผลการวิจัยด้านจิตวิทยายังพบว่า ข้อดีของการเป็นคนหัวดื้อนั้นยังส่งผลกระทบในอีกหลายๆ โดยเฉพาะในเรื่องการเอาใจใส่คนอื่น เพราะคนหัวดื้อและปากแข็งมักจะมีนิสัยในการใส่ใจและอยากดูแลคนอื่นๆ มากกว่าคนปกติ นอกจากนั้น เพื่อความแม่นยำขึ้น ทีมวิจัยระบุว่าลักษณะนิสัยของผู้สูงอายุที่ทำการสำรวจ ก็ไม่ใช่นิสัยที่ได้รับการยืนยันจากตัวผู้สูงอายุเอง แต่มาจากคนรอบข้างของพวกเขา เพราะคนเราจะไม่ค่อยบอกนิสัยเราตามจริงเท่าไรนัก Dilip V. Jeste ศาสตราจารย์จากภาควิชาประสาทวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย ก็ได้บอกว่า California San Diego “ผลวิจัยเกี่ยวกับผู้สูงอายุในปัจจุบันนั้นมีเยอะมากๆ แต่ว่าการวิจัยส่วนใหญ่ก็จะมุ่งเน้นไปที่กายภาพเสียมากกว่าการวิจัยสภาพจิตใจและลักษณะนิสัย” เขาคนนี้แหละ ศาสตราจารย์ Dilip…
-
24 ภาพโฟโต้บอมบ์ กับเรื่องราวเบื้องหลังการถ่ายสุดแสนมุ้งมิ้ง อะไรจะน่ารักกันขนาดนั้น!?
เพื่อนๆ เคยโดนโฟโต้บอมบ์กันไหมครับ เวลาที่เราถ้ารูปอยู่แล้วมีคนมาแกล้งขัดขวาง หรือว่ามีภาพแปลกๆ ติดมาแย่งซีนเรา นั่นแหละครับคือการโฟโต้บอมบ์ ถ้าใครชอบถ่ายรูปคงจะโดนโฟโต้บอมบ์กันมาบ้างแหละ แต่เวลาโดนโฟโต้บอมบ์แล้วมาดูรูปอีกที มันช่างน่าตลกและถูกใจกว่าถ่ายรูปสวยงามธรรมดาเสียอีก ในวันนี้เราเลยอยากพาเพื่อนๆ ไปดูรูปโฟโต้บอมบ์ที่มีเบื้องหลังการถ่ายน่ารักๆ และภาพโฟโต้บอมบ์เจ๋งๆ กัน คุณลุงนักบิดเห็นคู่รักหวานถ่ายรูปท่านี้แล้วชอบ เลยขอทำบ้าง หวานกันจังเลยนะ แคร์ตูบ้าง แม่สอนว่าเวลาเห็นกล้องให้ยิ้ม นั่นเมียแกรึเปล่า มองมาทางนี้แปลกๆ นะ ขอถ่ายด้วยสิตะเอง เดี๋ยวๆ พ่อหนุ่มหัวทอง เขาขอให้ถ่ายรูปให้ ไม่ใช่ให้ไปถ่ายด้วย อาจจะมองกันไม่ชัด ลองดูใกล้ๆ สิ เนียนเชียวนะพ่อหนุ่มน้อย อย่ามัวแต่ถ่ายประสาท สนใจกันบ้าง ชายหนุ่มคิดว่าหญิงสาวบอกรัก จึงทำท่าตอบกลับ แต่เขาแค่ถ่ายรูปโว้ย คู่รักขอให้คุณตาถ่ายรูปคู่ให้หน่อย คุณตาเลยถ่ายให้ เป็นภาพสะท้อนในแว่น เมื่อคู่รักข้าวใหม่ปลามันกำลังถ่ายพรีเวดดิ้งอยู่ ชาวพังค์จึงอยากมีส่วนร่วมด้วย มาถ่ายรูปคู่กันขวางทางลงบันไดแบบนี้ เพื่อนลงไม่ได้ ก็เลยถ่ายด้วยเลย ลุงแกอยากมีส่วนร่วม พอกดชัตเตอร์ปุ๊บ แกก็โดดเข้ามาปั๊บ วิ่งผ่านมาเฉยๆ…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ เรื่องราวสุดประหลาดที่พวกเขาได้พบเจอ โอ้โหมหัศจรรย์ยิ่งนัก!!
ในโลกนี้มีแต่สิ่งไม่คาดคิดซุกซ่อนอยู่เต็มไปหมด ในแต่ละวันเราไม่รู้เลยว่าเราจะบังเอิญไปพบไปเจออะไรแปลกๆ บ้าง ชาวเน็ตหลายคนที่ไปพบเจอเรื่องพิสดารและน่าประหลาดใจเหล่านี้เข้า จึงอยากแบ่งปันให้กับคนอื่นๆ รู้ว่า ‘เรื่องแบบนี้มันก็มีอยู่จริงๆ นะ ฉันเคยเห็นมาแล้ว ไม่เชื่อดูภาพนี่สิ’ เราเชื่อว่าท่านผู้อ่านไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้แน่นอน ลองไปดูกัน มือถือรุ่นดึกดำบรรพ์ของแท้ วงปีลายใบโคลเวอร์ ชั้นถนนที่ถูกถมแล้วถมเล่าจนกลายเป็นหินชั้น อะไรมาโตอยู่ในนี้เนี่ย แหวนต่างงานหายไปเป็นปี อยู่นี่นี่เอง ไม่ได้ซื้อ 1 แถม 1 แต่มันมาเอง ต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้ เคยเห็นกันไหม เฮ้ย ขึ้นไปได้ยังไง รู้สึกคันเท้าทั้งวัน พอถอดรองเท้ามาดูถึงบางอ้อเลย กระปุกออมสินหนักมาก แต่พอทุบมาเอาไปใช้ไม่ได้สักเหรียญ นั่นมันเคสจริงๆ เหรอ ใหญ่ไปไหม เอ๊ะ … ร้านขนมปังขายไข่มังกร?? ลงมาที่ครัว เพิ่งรู้ว่าที่บ้านมีแม่บ้านคนใหม่ ทำเงินหาย หาที่ไหนก็ไม่เจอสักที ที่แท้ก็…
-
รวมอาหารจาก “โลกอนิเมะ” ดูแล้วไม่น่ารับประทาน ไม่น่ากินสักนิดเลย สักนิดเล๊ยยยย!!
มีใครเบื่ออาหารที่กินกันอยู่ทุกวันบ้างไหม วันไหนคิดอะไรไม่ออกเราก็สั่งข้าวไข่ดาว ข้าวกะเพรา คะน้าหมูกรอบ มีแต่อาหารหน้าตาจืดๆ เห็นแล้วยังเบื่ออาหารแทนคนกินเลย แต่ถ้าลองไปดูอาหารในอนิเมะกันบ้างละก็ บอกได้เลยว่าอาหารที่เรากินๆ กัน กับอาหารในการ์ตูนน่ะ มันเทียบกันไม่ติดเลย เพราะว่าอาหารที่เห็นกันจากอนิเมะน่ะ ดูเวอร์วังมากๆ ไม่น่ากินเลยสักกะติ๊ดดดดด!? ตอกไข่ลงไปแล้วค่อยๆ ทอดจนสุดแบบนั้น … ไม่น่ากินสักนิ๊ดดดด อึก … คิดเหรอว่าเอาบุปเฟ่ต์หน้าตาดูดีมาล่อจะได้ผล โอ้ว ซุปราเม็งทำไมแวววาวได้ขนาดนั้น … แต่ … เรา … ไม่หลงกลหรอก! ราเม็งหมูทอดซอสเยิ้มๆ เหรอ ดูไม่น่าอร่อยเล๊ยยย . ซุปครีมข้นที่ดุละมุนลิ้นนั่นมัน … คงดีแต่หน้าตาแหละน่า! สเต๊กร้อนๆ กับซอสเดือดปุดๆ นี่ … ก็เหมือนจะน่ากินอยู่หรอก . ราเม็งที่มีควันร้อนฉุยแบบนั้นน่ะ ไม่มีจริงหรอกกก อาหารซีฟู้ดน่ะ … เกือบจะน่ากินอยู่ . …
-
เจ้าของบ้านเงิบ พบโจรแต่งเป็น “มิเนี่ยน” มาขโมยสนามหญ้าหน้าบ้าน แถมชม “หญ้าคุณดีจริงๆ”
เมื่อเราพูดถึงเหตุการณ์ขโมยขึ้นบ้าน โดยปกติเราก็คงจะรู้สึกหัวเสียหรืออยากจะจับหัวขโมยให้ได้ไวที่สุด แต่สำหรับเรื่องราวในครั้งนี้กลับไม่เป็นแบบนั้น ที่สำคัญมันยังสร้างเสียงหัวเราะให้เจ้าของบ้านสุดๆ อีกต่างหาก Bradley Nicklin ชายเจ้าของบ้านในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย ผู้ถูกโจรสุดแปลกสวมชุด “มินเนี่ยน” บุกเข้ามาขโมยหญ้าหน้าบ้านของเขาไป โดยเจ้าตัวก็บอกว่าเขาไม่รู้สึกโกรธอะไรหลังจากเห็นการกระทำของโจรผ่านกล้องวงจรปิด ออกจะตลกมากกว่าด้วยซ้ำ . Bradley ยังบอกอีกว่า เขายังถูกเจ้าโจรสวมชุดมิเนี่ยน Tag เฟซบุ๊กของเขามาด้วย โดยโจรในชุดมิเนี่ยนได้ใช้ชื่อว่า Carl Minion ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกว่าโจรคนดังกล่าวน่าจะเพื่อนเป็นคนใดคนหนึ่งของเขาแน่ๆ ที่เงิบยิ่งกว่าคือ โจรมิเนี่ยนยังมี Snapchat ของ Bradley ด้วย แถมเจ้าโจรยังส่งข้อความมาบอกเขาว่า หญ้าจากสนามหญ้าของเขามันดูดีจนเขาอดใจไม่ไหวเลยต้องขอขโมยซะเลย ไหนจะอัปโหลดคลิปรดน้ำย่อมหญ้าที่แอบขโมยมาอีก ยังไม่หมดเท่านั้น หลังจากเรื่องของ Carl Minion แพร่หลายออกไปก็เริ่มมีคนแต่งตัวเป็นมินเนี่ยนออกมาทำอะไรแปลกๆ กันบ้างแล้ว แต่พวกนี้จะแตกต่างจากตัวละตลกที่เคยเป็นข่าวตรงที่มิเนี่ยนดูเป็นมิตรกว่านั่นเอง และพวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรร้ายๆ ด้วยเด็กๆ ออกจะชอบเสียมากกว่า สุดท้ายแล้วเราก็คงต้องหวังว่าการทำอะไรเกรียนๆ แบบนี้มันจะไม่เลยเถิดไปเหมือนกับตัวตลกที่ไล่หลอกคนอื่นนะ… ที่มา buzzfeed
-
เทย์ทำอะไรก็มีแต่คนไม่ปลื้ม แค่บอกว่าปีนี้ดีขนาดไหน ชาวเน็ตก็เล่นเธอซะเละ!!
ปี 2017 กำลังจะจากไป ส่วนปี 2018 ก็กำลังจะมาถึง โดยในปีนี้แต่ละคนก็คงจะมีช่วงเวลาดีๆ และช่วงเวลาอันเลวร้ายแตกต่างกันไป ซึ่งตอนนี้เหล่าดาราคนดังมากมายก็เริ่มที่จะทยอยออกมาอวยพรพร้อมกับพูดถึงปีนี้แล้วเช่นกัน หนึ่งในคนดังที่ออกมาพูดถึงปีใหม่ในครั้งนี้นั่นก็คือนักร้องสาวสวย Taylor Swift ที่ปีนี้ก็ดูจะเป็นปีที่ดีของเธอซะเหลือเกิน เพราะนอกจากจะออกอัลบั้มใหม่มาแล้วได้เสียงตอบรับที่ดี ล่าสุดก็ยังมีการเปิดตัวแฟนคนใหม่อีก อัลบั้ม Reputation ที่เสียงตอบรับดีพอสมควร งานนี้เธอก็เลยอัปโหลดภาพพร้อมข้อความจากงาน Jingle Bell Ball ที่จัดขึ้นในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านว่า ปีนี้มันดีมากๆ และเธอก็อดใจรอไม่ไหวแล้วว่าปีหน้าจะดีกว่าขนาดไหน ซึ่งเดิมทีข้อความแบบนี้มันก็น่าจะได้ต้องได้รับผลตอบรับที่ดี แต่สำหรับเธอกลับไม่เป็นแบบนั้น เพราะชาวเน็ตที่เห็นก็พากันหัวร้อนอย่างรวดเร็วและเข้ามาด่าทอเธอกันยกใหญ่ว่าปีนี้มันไม่ได้ดี ปีนี้มันห่วย!! ชาวเน็ตคนนี้ตอบกลับว่า ปีนี้มีทั้งนาซี มีทั้งการเดินขบวนประท้วง ครอบครัวโดนยิงและอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตามมันไม่มีผลกับฉันฉะนั้่นมันก็คือปีที่ดีจริงๆ แหละ (การแซะนี่มันคืออะไร) ด้านชาวเน็ตคนนี้ก็ถาม Taylor ว่าจำได้ไหม ปีนี้นายกของอเมริกาแบนการท่องเที่ยว? เธอคนนี้ก็บอกว่า คงจะมีแค่ Taylor เท่านั้นแหละที่คิดแบบนี้…
-
เจ้าสิงโตจอมซน อยู่ดีไม่ว่าดีเอาหัวไปมุดถัง งานนี้ละหัวติดเอาออกไม่ได้เล่นเอาวุ่นวายกันยกใหญ่!!
แมวนั้นถือเป็นสัตว์จอมซนที่มีนิสัยอยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ ซึ่งด้วยนิสัยดังกล่าวก็มักจะนำพาตัวมันไปสู่ปัญหาต่างๆ อยู่บ่อยๆ และเราก็รู้กันดีว่าสิงโตกับแมวจัดอยู่ในสัตว์วงศ์เดียวกัน ฉะนั้นนิสัยดังกล่าวมันจึงรวมอยู่ในตัวสิงโตด้วย และด้วยนิสัยดังกล่าวจึงนำพาปัญหาสุดปวดหัวมาให้ฝูงสิงโตแห่งหนึ่งที่สวนสัตว์ในเมืองไอนด์โฮเวน ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพราะพวกมันดันเอาหัวเข้าไปติดอยู่ในถังขนาดใหญ่ซะได้ เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อปี 2015 โดยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้เอาถังใส่เนื้อขนาดใหญ่เข้าไปในกรงของสิงโตเพื่อให้อาหารพวกมัน แต่ทว่าเมื่อให้เสร็จพวกเขาดันไม่เอาถังออกมาด้วย ซึ่งด้วยนิสัยยอยากรู้อยากเห็นสิงโตสามตัวจึงเข้าไปสำรวจถังดังกล่าวทันทีที่พวกมันเห็น สำรวจกันยกใหญ่เลยทีเดียว พวกมันสำรวจถังดังกล่าวอย่างตั้งใจ ราวกับกำลังคิดว่าภายในจะต้องมีอาหารเหลืออยู่แน่ๆ ทว่าปัญหามันก็ดันเกิด เมื่อสิงโตตัวหนึ่งดันกัดบริเวณข้างถังจนเป็นรูเพื่อที่จะสามารถเอาหัวตัวเองมุดเข้าไปเช็คดูข้างในถังได้ ตรูว่าข้างในมันต้องมีอะไรแน่ๆ !! ทว่าปัญหามันก็ดันเกิดตามมา เพราะว่ารูดังกล่าวไม่ได้ใหญ่พอที่จะดึกเข้าออกได้สะดวก หัวของเจ้าสิงโตตัวที่มุดเข้าไปดูจึงติดแหงกออกไม่ได้ งานนี้เจ้าสิงโตถึงกับตกใจวิ่งพล่านไปทั่วเลยล่ะ อะจ๊ากกก ติด หัวติดช่วยด้วยยยย!! แต่ในขณะเดียวกันกับที่เจ้าสิงโตตัวป่วนกำลังหาทางออกให้ตัวเองจากการที่หัวติดถัง เจ้าสิงโตเพื่อนรักอีกสองตัวก็ไม่รอช้ารีบช่วยเพื่อนสิงโตทันที พวกมันพยายามหาทางออกทั้งดันถัง ยันถังให้สิงโตอีกตัวดันตัวเองออก แต่ทำยังไง๊ยังไงก็เอาไม่ออกเสียที เจ้าสิงโตทั้งสามคงจะรู้สึกอายไปอีกสักพักใหญ่ๆ เลยละมั้งเนี่ย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอยู่นานสองนาน ผู้คนที่มาดูพวกมันและบังเอิญเจอเหตุการณ์นี้ก็พากันหัวเราะในความซุกซนของพวกมัน สุดท้ายเวลาผ่านไปเจ้าสิงโตตัวดังกล่าวก็ได้รับความช่วยเหลือจากทีมแพทย์นั่นเอง ที่มา ladbible
-
ผู้คนต่างตั้งคำถาม ‘นี่หมาหรือหมี’ เอ็งคือตัวอะไร เลือกเอาดีๆ ซักอย่าง…
เคยเห็นตามเทพนิยายกันบ้างหรือเปล่า ที่มักจะมีสัตว์ผสมข้ามสายพันธุ์แปลกๆ โผล่ออกมาให้เราเห็นอยู่บ่อยครั้ง ยกตัวอย่างเช่น คิเมร่าซึ่งมีหัวเป็นสิงโต ลำตัวเป็นแพะ มีหางเป็นงู หรือตัวอย่างที่เห็นกันชัดๆ อย่างนางเงือกที่มีตัวครึ่งบนเป็นมนุษย์ ส่วนลำตัวครึ่งล่างเป็นปลา ในความเป็นจริง โลกเราก็มีสัตว์พันธุ์ผสมอยู่เช่นกัน แต่ไม่ได้แปลกประหลาดเหมือนในเทพนิยายหรอกนะ เช่น ไลเกอร์และไทกอนซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างเสือและสิงโต แพะแกะที่เป็นสัตว์ผสมจากพ่อแม่ตามชื่อของมัน หรือโฮลฟินสัตว์ผสมระหว่างวาฬและโลมา และล่าสุดที่ประเทศรัสเซีย ก็ได้พบเจอสัตว์ที่อาจจะเป็นลูกผสมข้ามสายพันธุ์ตัวใหม่ก็เป็นได้ สัตว์ตัวนี้ถูกพบในเมือง Chelyabinsk เขต Chelyabinsk Oblast ประเทศรัสเซีย หลังจากพบมันแล้ว เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจพาตัวมันไปยังสถานพักพิงสัตว์ หากมองผ่านไปเห็นในแวบแรก หน้าของมันดูคล้ายลูกหมีมากทีเดียว แต่พอมันยืนสี่ขาขึ้นมา ก็ดันมีท่าทางการเดินการยืนเหมือนสุนัขหรือหมาป่าซะงั้น นักอนุรักษ์สัตว์ถึงกับมึนงงไปตามๆ กันว่ามันเป็นสุนัขจริงๆ หรือเปล่า “มันมีนิสัยที่ทำให้เราเข้าหายาก และก็ค่อนข้างดุร้ายอยู่บ้าง กว่าจะขนส่งมันมาที่สถานพักพิงได้ก็เล่นเอาเหนื่อยอยู่เหมือนกัน เจ้าของคนใหม่คงต้องใช้เวลานานเลยกว่าจะชินและเข้าใจนิสัยของมันได้” เมื่อสัตวแพทย์หลายคนได้ทำการวิเคราะห์เจ้าหมา-หมีคร่าวๆ แล้ว พวกเขาลงความเห็นกันว่า มันอาจจะเป็นสุนัขพันธุ์ผสมระหว่างสุนัขพันธุ์เชาเชากับสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่ง ซึ่งกรรมพันธุ์ของสุนัขเชาเชาน่าจะทำให้มันมีใบหน้าที่ดูคล้ายหมี อย่างไรก็ตาม การจะทราบว่าเจ้าสัตว์ตัวนี้มันเป็นหมาพันธุ์ผสมหรือเปล่า หรือว่ามันจะเป็นผลลัพธ์จากการผสมข้ามสายพันธุ์ของสุนัขกับหมี ก็ยังต้องรอผลการตรวจอย่างละเอียดในภายหลังอยู่ดี แต่ความเป็นไปได้ที่มันจะเป็นลูกผสมระหว่างสุนัขกับหมีนั้นก็มีไม่มากนัก เพราะว่าสัตว์ผสมข้ามสายพันธุ์โดยทั่วไป จะมีพ่อและแม่จากสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกัน…
-
ชาวไร่เพาะพันธุ์ ‘วัวแคระ’ ขนาดตัวเล็กเทียบเท่ากับหมา ทดแทนเป็นสัตว์เลี้ยงได้!?
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มักจะมีกระแสนิยมในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงชนิดเล็กออกมาเป็นช่วงๆ อย่างเช่นกระแสนิยมในการเลี้ยงสุนัขกระเป๋าชีวาวา หรือจะเป็นเจ้าหมูแคระขนาดเล็กน่ารักที่เลี้ยงแทนสุนัขได้คล้ายๆ กันเลย วันนี้เราขอนำเสนอสัตว์เลี้ยงแคระอีกชนิดหนึ่งให้เพื่อนๆ รู้จัก แม้มันจะไม่ได้มีขนาดเล็กเท่าเจ้าชีวาวาหรือหมูแคระก็ตาม แต่มันก็ถือว่าเล็กจิ๋วสำหรับสายพันธุ์ของมันเลยทีเดียว สัตว์ที่เราจะมาดูกันวันนี้คือ วัวแคระ จากฟาร์ม Oxen Ridge Miniature Cattle ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา ฟาร์มนี้ถูกดูแลโดยเจ้าของซึ่งก็คือ Dustin Pillard ชายหนุ่มอายุ 46 ปี พ่อลูกสามคนนี้นี่เอง เขาได้แรงบันดาลใจในการเพาะพันธุ์พวกมันตอนที่เคยเห็นวัวแคระในงานประมูลสัตว์มาก่อน พอมีโอกาสได้มาทำฟาร์มเองในปี 1995 เขาก็เลยหาซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาจำนวน 5 ตัว และขยายพันธุ์พวกมันจนฟาร์มของเขาเป็นที่รู้จักดีในวันนี้ วัวแคระที่เขาเพาะพันธุ์นั้นมีความสูงเพียงแค่ประมาณ 33 นิ้ว หรือเทียบได้ประมาณสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่โตเต็มวัยแล้วเท่านั้นเอง วัวแคระแต่ละตัวก็จะมีสีที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ที่เขาใช้ผสม ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ Texas Longhorns, Jerseys, Dexters, Angus และพันธุ์อื่นๆ อีกมากมาย ส่วนด้านนิสัยของพวกมันนั้น ก็เหมาะจะเป็นสัตว์เลี้ยงมากทีเดียว Pillard อธิบายว่า “วัวแคระส่วนมากมีนิสัยคล้ายสุนัข ชอบให้เราดูแล ชอบวิ่งเล่นนอกบ้าน รักสงบและชอบอยู่กับผู้คน…
-
เค้กสุดฟรุ้งฟริ้ง เพื่องานหมั้นของชาว LGBT จะทำให้คุณเข้าใจใน “เพศทางเลือก” มากยิ่งขึ้น…
ขณะนี้คู่รักร่วมเพศในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็สามารถแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายได้แล้ว แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีข่าวแว่วมาอยู่บ้าง ว่าร้านเบเกอรี่หลายแห่ง กลับปฏิเสธที่จะทำเค้กให้กับคู่รักเพศเดียวกันซะอย่างนั้น คู่รักร่วมเพศจึงยังต้องดิ้นรนเพื่อสิทธิของพวกเขาในส่วนนี้ต่อไป ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่ว่าร้านเค้กทุกร้านจะปฏิเสธทำเค้กให้พวกเขาหรอกนะ บางร้านกลับรู้สึกกระตือรือร้นและเต็มใจที่จะทำเค้กให้ด้วยซ้ำไป ร้านเค้ก Cake and Loft Bakery เองก็เป็นหนึ่งในร้านค้าเหล่านั้น แถมยังทำเค้กออกมาได้อลังการงานสร้างมาก เรื่องนี้เริ่มต้นจากคู่รักร่วมเพศคู่หนึ่งในเมืองฮามิลตัน รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา พวกเขาคือ Chris Farias และ Jared Lenover ทั้งคู่ได้หมั้นกันมาหนึ่งปีแล้ว และต้องการจะฉลองวันครบรอบครั้งนี้ โดยทั้งคู่ต้องการเค้กที่แสดงถึงความเป็นกลุ่มรักร่วมเพศให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ “เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศแคนาดานั้นเปิดรับและยอมรับถึงความแตกต่างในรสนิยมอย่างเต็มที่ ผมต้องการให้เค้กของผมสื่อถึงความเป็นกลุ่มรักร่วมเพศ” จึงได้สั่งเค้กจากร้าน Cake and Loft Bakery ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทางร้านเค้กเองเมื่อได้ยินว่าพวกเขาต้องการเค้กแบบไหน ก็ตบปากตบคำรับทำให้ด้วยความเต็มใจทันที Chris Farias และ Jared Lenover Quinn Pallister พนักงานสาวที่เป็นคนรับผิดชอบทำเค้กชิ้นนี้ ก็ถูกเลี้ยงดูมาโดยคู่รักร่วมเพศหญิงเช่นกัน การได้ทำเค้กชิ้นนี้จึงรู้สึกเหมือนกับว่าเธอไม่ได้ทำเค้กให้กับแค่คู่รักที่สั่งเท่านั้น แต่เธอยังได้ทำเค้กเฉลิมฉลองให้กับแม่ทั้งสองของเธอ และสังคมคู่รักร่วมเพศทั้งหมดด้วย เธอจึงได้ทุ่มเทความสามารถทั้งหมดที่มีเพื่อทำเค้กชิ้นนี้ และสิ่งที่ได้ออกมาก็คือ เค้กเจ็ดสีแสนสดใส ประดับด้วยช่อดอกไม้หลากสี เพิ่มเติมความฟรุ้งฟริ้งด้วยเขายูนิคอร์นสูงสง่าตั้งตรงกลางเค้ก…
-
แม่พาลูกที่ไม่ได้ป่วยอะไรเลย เข้าโรงพยาบาลกว่า 323 แห่ง รับผ่าตัดอีก 13 ครั้ง
คำกล่าวที่ว่าพ่อแม่ทุกคนต่างต้องการให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ ไม่เป็นความจริงเสมอไป เนื่องจากในปัจจุบันมีพ่อแม่บางคนที่ไม่ใส่ใจลูก หรือหนักกว่านั้นคือใช้ลูกเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ เหมือนกับแม่คนนี้ Kaylene Bowen-Wright อาศัยอยู่ที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอและสามีหย่าร้างกันแล้ว ส่วนลูกชาย Christopher Bowen นั้นอยู่ในสิทธิ์เลี้ยงดูของเธอ ตอนนี้เขามีอายุได้ 8 ขวบแล้ว แต่เด็กชายไม่ได้ถูกเลี้ยงดูอย่างสุขสบายเลย เพราะคุณแม่พาเขาตระเวนเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลแล้วกว่า 323 ครั้ง และเข้ารับการผ่าตัดมาแล้วทั้งสิ้น 13 ครั้ง ทั้งๆ ที่เด็กชายไม่ได้ป่วยแต่อย่างใด Kaylene Bowen-Wright และลูกชาย Christopher ในตอนต้นนั้นคุณแม่โกหกว่าลูกเป็นโรคแพ้นมเท่านั้น แต่ต่อมาอาการที่เธอกุขึ้นมาก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบอกว่าลูกมีอาการเหนื่อยง่าย ช็อก ขาอ่อนแรงจนเดินไม่ได้ และที่ร้ายที่สุดคือเธอบอกว่าลูกชายของตัวเองเป็นโรคมะเร็งอีกด้วย จากการที่เธอโกหกมาทั้งหมด ทำให้เด็กชายต้องผ่านการผ่าตัดหลายครั้งโดยไม่มีความจำเป็น และต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือหลายอย่างเหมือนคนพิการ เช่น ท่ออาหาร หน้ากากออกซิเจน และรถเข็น เธอยังคงปั้นน้ำเป็นตัวต่อไปเรื่อยๆ เพื่อรับเงินช่วยเหลือ เธอถึงกับทำเพจโครงการรับบริจาคเงินมาช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกชาย ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองก็สบายดี โครงการรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายการรักษาของ Christopher เมื่อปี…
-
22 ภาพเหมียวอ้วนขนฟู ผู้ยึดฟาร์มในชนบทของชาวนาไซบีเรีย จนเกิดเป็นอาณาจักรแมว
สำหรับชีวิตของทาสแมวแบบเรา จะมีอะไรฟินไปกว่าการได้ไปขลุกอยู่ในคาเฟ่แมวที่รายล้อมไปด้วยแมวหลากหลายพันธุ์ หันไปทางซ้ายก็เจอแมว หันไปทางขวาก็เจอแมว แม้แต่จะหยิบแก้วกาแฟมาจิบก็ยังเจอแมว ใครที่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน คงรู้ดีว่าฟินจิกหมอนขนาดไหน แต่สำหรับ Alla Lebedeva ชาวนาจากเมือง Barnaul ประเทศไซบีเรียแล้ว แค่เอาตัวเองไปอยู่ในที่ที่รายล้อมด้วยแมวคงยังไม่พอหรอก เธอก็เลยทำให้บ้านของตัวเองกลายเป็น ‘อาณาจักรแมว’ ซะเลย แมวพันธุ์ไซบีเรียน ทนหนาว ขนนุ่ม ปุกปุย จริงๆ แล้วที่บ้านของเธอเลี้ยงแมวพันธุ์ไซบีเรียนมานานแล้ว แต่ในเวลาต่อมามันก็มีจำนวนเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องทำโรงนาหลังหนึ่งเป็นที่นอนให้พวกมันทั้งหลังเลย พอเธอเห็นว่าไหนๆ ก็มีแมวเยอะแล้ว งั้นก็เปิดเป็นอาณาจักรแมวเลยก็แล้วกัน จากนั้นเธอจัดแจงพื้นที่ที่มันอยู่ให้สวยงาม แล้วถ่ายรูปกับคลิปวิดีโอของอาณาจักรแมวไปเผยแพร่ลงในยูทูบและทวิตเตอร์ จนตอนนี้มีคนกดไลก์กดแชร์เป็นจำนวนมากกลายเป็นกระแสไวรัลไปแล้ว ลองดูความน่ารักขอดงพวกมันสิ อากาศหนาว สีทนได้ นี่คือถิ่นแห่งเราชาวแมว . ไม่ว่าจะสูงจะต่ำ ก็เป็นพื้นที่ของอาณาจักรแมว . . ยินดีต้อนรับสู่สวรรค์ของแมวเหมียว ตากหิมะฟินๆ . . แม้แต่ม้าก็เป็นทาสเรา . …
-
อาจารย์สายโหด ปลุกนักเรียนขี้เซาด้วยโมเดล ‘ปืนพลาสติก’ ที่เหมือนจริงเกิ๊น!!
อาจารย์แต่ละท่านจะมีวิธีการกระตุ้นนักเรียนที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจให้รางวัลสำหรับคนที่ตั้งใจเรียน หรือบางคนอาจใช้เรื่องเล่าสนุกๆ ทำให้นักเรียนรู้สึกสนใจ แต่สำหรับครูสอนภาษาอังกฤษในประเทศญี่ปุ่นคนนี้กลับมีวิธีการที่ต่างออกไปนิดหน่อย เพราะเขาใช้ปืนเป็นตัวกระตุ้นให้นักเรียนสนใจ ภาพเหตุการณ์นี้ถูกถ่ายและโพสต์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @komathematicsR ในวันที่ 13 ธันวาคม 2017 เมื่อครูสอนภาษาอังกฤษของเขาควักปืนพกขึ้นมาหวังจะให้นักเรียนตื่นตัวและตั้งใจเรียนมากยิ่งขึ้น ทำเอาสะดุ้งโหยงกันไปทั้งห้อง จากมุมกล้องทำให้เราเห็นเหมือนกับว่า คุณครูถือปืนจ่อหัวนักเรียน แต่ความเป็นจริงเขาแค่ถือขึ้นมายืนอยู่หน้าห้องแค่นั้น ไม่ได้ไปจ่อหัวใครแต่อย่างใด ก่อนหน้านั้นคุณครูพูดว่า “เวลานี้นักเรียนคงจะง่วงกันหมดแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้สอน นี่เป็นหน้าที่ของผมที่จะช่วยให้ทุกคนมีสมาธิกับการเรียน” แล้วจู่ๆ เขาก็ควักปืนออกมาจากกระเป๋าพร้อมทั้งยืดแขนออกไปเหมือนเล็งขู่ใครซักคน วิธีการนี้ทำให้ทุกคนในห้องรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีสมาธิตั้งใจเรียนขึ้นมาทันที และแน่นอนว่าปืนที่ครูหยิบขึ้นมานั้นเป็นเพียงแค่ปืนโมเดลพลาสติกสุดสมจริง ที่ไม่ได้บรรจุกระสุนเอาไว้เท่านั้นเอง อย่าเพิ่งหลับนะจ๊ะเด็กๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นปืนปลอม แต่ก็ได้ผลตอบรับที่ดี นักเรียนคนที่ถ่ายภาพเอาไว้เล่าว่า มันช่วยให้ทุกคนหายจากอาการง่วงนอนแล้วตั้งใจเรียนกันต่อไปได้ แม้บทเรียนในตอนนั้นจะน่าเบื่อขนาดไหนก็ตาม และวิธีการนี้อาจดูไม่เหมาะสมในสายตาของใครบางคน แต่อย่างน้อยนักเรียนคนนี้คงเป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับสิ่งที่อาจารย์ของเขาทำมากจริงๆ เขาพูดว่า “อาจารย์คนนี้เป็นคนตลก เขาไม่ได้พยายามคุกคามพวกเรา แต่นี่เป็นแค่หนึ่งในวิธีฮาๆ ที่ช่วยทำให้เรามีสมาธิกับการเรียน ผมรักครูคนนี้เพราะเขาทำให้เราสนุกอยู่เสมอ” นี่คงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนตื่นตัวอยู่เสมอ ลองคิดว่าถ้าเราเป็นนักเรียนอยู่ในห้องนั้น มีหวังเราคงช็อกไปก่อนที่ครูจะเฉลยว่าเป็นของปลอมแน่เลย ที่มา: rocketnews24 , nextshark
-
แมวเกลียดหมาเป็นทุนเดิม แต่เมื่อมาอยู่บ้านร่วมกันก็เปลี่ยนใจไปเที่ยวด้วยกันซะงั้น
หมากับแมวเป็นสัตว์ที่เป็นอริกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน โดยพวกมันมักจะขู่กันฟ่อๆ เมื่อได้เจอหน้ากันโดยไม่รู้สาเหตุ รวมถึงแมวตัวนี้ที่เกลียดสัตว์สี่ขาที่เรียกว่าหมาจนเข้ากระดูกดำ แต่ด้วยสถานการณ์บังคับทำให้มันต้องออกไปเที่ยวด้วยกัน ทำให้ในตอนนี้มันได้เปลี่ยนความคิดและยอมเป็นมิตรกับหมาชนิดที่ว่าเล่นกันเป็นเพื่อนเลยทีเดียว เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ Amber Pitcher สัตวแพทย์สาวได้ไปเจอแมวที่ได้รับบาดเจ็บเข้า เธอจึงพามันไปรักษาที่คลินิกที่เธอทำงานอยู่ และเมื่อเธอได้ดูแลเอาใจใส่มันเธอก็พบว่าตกหลุมรักแมวตัวนี้เข้าให้แล้ว “ฉันเจอเจ้าแมวตัวนี้ขณะกำลังร้องอย่างหมดแรง ฉันจึงเดินไปหามันและตรวจดูก็พบว่าขาของมันหักอย่างสิ้นเชิงจนเดินไปไหนไม่ได้ จริงๆ แล้วแมวตัวนี้มันน่ารักมาก ด้วยความสงสารฉันจึงตัดสินใจนำมันไปเลี้ยงที่บ้านและตั้งชื่อให้มันว่า Ollie” Amber กล่าว จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ Amber ได้เลี้ยงหมาตัวหนึ่งอยู่ก่อนแล้วชื่อว่า Ariel ซึ่งเธอรับอุปการะหมาตัวนี้มาจากสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่งเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว และเธอก็ได้เล่าที่มาที่ไปของเจ้าหมาตัวนี้ให้ฟัง “ในตอนนั้นฉันไปที่สถานสงเคราะห์กับพ่อแม่ ตอนนั้นฉันยังเรียนมัธยมปลายอยู่และอยากได้หมามาเลี้ยงสักตัว และสิ่งแรกที่ฉันเห็นในตัวของ Ariel ที่มีสีของตาที่แตกต่างกัน มันนั่งนิ่งๆ อยู่กรงหลังๆ” “เมื่อฉันยื่นมือไปหามัน มันก็คลานมาหาและจ้องมองที่ดวงตาของฉัน ฉันรู้ในทันทีว่าเจ้าหมาตัวนี้แหละใช่เลย” Amber เล่าเหตุการณ์ในอดีตให้ฟัง เมื่อ Amber รับหมาตัวนี้มาเลี้ยงก็ดูเหมือนว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนซี้ต่อกัน และเวลาผ่านไปไม่นานเมื่อ Ariel โตพอที่จะออกไปเที่ยวได้ Amber ก็พามันไปเล่นสกีตามที่ต่างๆ อย่างที่ภูเขาแคทสกิล และทิวเขาอดิรอนแดก…
-
หนุ่มลงทุนบินไปไกลกว่า 1,000 กิโลฯ เพื่อเจอกับสาวที่จีบออนไลน์ ดั๊นได้กินยำบาทาแทนซะงั้น
ในปัจจุบัน การนัดเดตออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียได้รับความนิยมทั่วโลก หลังจากคุยกันถูกคอแล้วก็อาจนัดเจอกันเพื่อสานความสัมพันธ์กันต่อไป เหมือนอย่างหนุ่มชาวจีนคนนี้ที่ลงทุนเดินทางไปไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร หวังจะได้เจอกับสาวที่เขานัดเอาไว้ แต่สิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลยซักนิดเดียว ชายแซ่ Liu คนนี้อาศัยอยู่เขตใจกลางประเทศจีน แม้ว่าเขาจะแต่งงานแล้ว แต่เขาก็ได้พูดคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้ในโลกออนไลน์ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาตัดสินใจที่จะเดินทางไปพบเธอคนนั้น ในวันที่ 11 ธันวาคม 2017 เขานั่งเครื่องบินเดินทางไปเมือง Fuyuan มณฑลยูนนาน ด้วยระยะทางกว่า 1,142 กิโลเมตร แต่สิ่งที่รออยู่กลับไม่ใช่สาวแซ่ Duan ที่เขาเฝ้าคุยผ่านโลกออนไลน์ เพราะคนที่ต้องการเจอเขาจริงๆ กลับกลายเป็นสามีของหญิงสาวคนนั้นแทน สามีของเธอพร้อมเพื่อนอีก 4 คนรุมทำร้าย Liu ในที่สาธารณะ ผูกเขาไว้กับต้นไม้และทุบตีด้วยแส้และเข็มขัดหนัง เนื่องจากโมโหที่จับได้ว่าภรรยาตัวเองนอกใจไปคุยกับ Liu ในโลกออนไลน์ แม้จะมีผู้คนเห็นเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก แต่แทนที่จะเข้ามาช่วยพวกเขากลับหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกเหตุการณ์นี้เอาไว้และโพสต์ลงในโลกโซเชียล และจากคลิปก็ไม่เห็นหญิงสาวแซ่ Duan อยู่บริเวณนั้นเลย คลิปสามีและเพื่อนอีก 4 คนรุมตีชู้รักออนไลน์ของภรรยาตัวเอง . แม้ว่าการใช้กำลังจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม แต่เชื่อว่าเรื่องนี้คงกลายเป็นบทเรียนให้กับ Liu…
-
เด็กสาววัย 6 ขวบผู้ไร้เดียงสา วาดภาพซานตาคลอสยื่นของขวัญ แต่ดันชวนให้คิดลึกซะได้!!
การวาดภาพเป็นการส่งเสริมจินตนาการที่ดีสำหรับเด็กๆ เพราะว่ากิจกรรมนี้สามารถช่วยให้พวกเขาได้คิด และออกแบบรูปภาพให้เป็นดั่งที่ใจต้องการ และด้วยความที่ใกล้กับเทศกาลคริสต์มาสที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี เด็กๆ หลายคนจึงชอบวาดภาพของลุงอ้วนชุดแดงที่มีชื่อว่า ‘ซานตาคลอส’ ตามความคิดของตัวเองในรูปแบบต่างๆ และเด็กหญิงคนนี้ก็เช่นเดียวกัน เพราะเธอวาดภาพซานตาคลอสขณะกำลังแจกของขวัญ แต่ว่าภาพที่เธอวาดมันดันไปคล้ายกับอะไรบางอย่างเข้าอย่างโดยไม่ตั้งใจ และเมื่อแม่เธอมาเห็นเข้าก็ถึงกับขำจนน้ำหูน้ำตาเล็ด จนเก็บไว้คนเดียวไม่ไหวต้องเอามาโพสต์แบ่งปันจินตนาการของลูกสาว ให้ชาวเน็ตได้ชมทันที หน้าตาน่ารักๆ ของ Mia สาวน้อยวัย 6 ขวบเจ้าของภาพวาดนี้ ภาพวาดสุดฮานี้ได้รับการเผยแพร่จาก Lisa Hawkins จากเมืองแฟร์อัม ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเธอได้เผยภาพวาดของลูกสาวเธอชื่อที่ว่า Mia โดยเธอได้ให้คำบรรยายภาพเอาไว้ว่า “ในตอนที่ฉันดูรูปภาพซานตาคลอสที่ลูกสาวสุดน่ารักของฉันวาดขึ้น ฉันก็ต้องพบว่ามันมีสิ่งแปลกๆ ที่ซานต้าคนนี้ถืออยู่ ในครั้งแรกฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่ามันใช่หรือเปล่า แต่เมื่อดูอีกรอบฉันก็พบว่ามันใกล้เคียงจริงๆ” Lisa เขียนกำกับเอาไว้ เอ๊ะนี่มันอะไรนะ เอ๊ะนี่มันอะไร เมื่อรูปภาพนี้ได้เผยแพร่ออกไปในโลกอินเตอร์เน็ตก็มีความเห็นเข้ามามากมาย ทั้งคนที่เป็นเพื่อนของเธอ และคนที่รู้จัก โดยเพื่อนๆ ของเธอได้แสดงความเห็นเอาอย่างหลากหลายอย่าง Wendy Keerigan “ช่างเป็นความคิดของเด็กที่ไร้เดียงสาซะจริงๆ เลย” Nicola Jones “ฮ่าๆ มันช่างเป็นรูปภาพที่ตลกจริงๆ…
-
มนุษย์ช่วยเหลือสองมิ้วขาดแม่ เปลี่ยนชีวิตของมันในทันที ไม่ต้องลำบากอีกต่อไปแล้ว
ทารกเป็นวัยที่จำเป็นต้องได้รับความรัก ความอบอุ่น และการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแม่หรือผู้ใหญ่ แต่น่าเศร้าที่มิ้วน้อยสี่พี่น้องถูกทิ้งให้เผชิญชีวิตตามลำพังตั้งแต่แบเบาะ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว Ike Osbun และเพื่อนร่วมงานของเขาเห็นมิ้วน้อยจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่บนถนน Williamsburg บรูคลิน นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และเห็นแม่ของพวกอันเดินวนเวียนอยู่ใกล้กับที่ทำงานของพวกเขา แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น Ike สังเกตเห็นว่าแม่ของเหล่ามิ้วน้อยไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว เขาพยายามตามหาแม่แมวแต่ไม่เจอ เลยคิดว่าลูกแมวพวกนี้คงถูกทิ้งแล้วแน่ๆ เมื่อรู้ว่าแม่แมวไม่กลับมาแล้ว Ike และเพื่อนร่วมงานจึงให้การช่วยเหลือลูกแมวด้วยการเอาอาหารให้ คอยเล่นกับพวกมันบ่อยๆ นั่นทำให้มิตรภาพระหว่างคนกับแมวพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มบอกว่า “เม่ื่อเราไปนั่งลงแถวๆ นั้น ลูกแมวก็จะวิ่งมาหาเรา พวกมันไม่มีแม่และมันกำลังต้องการบ้าน” จากนั้นมีพนักงานคนหนึ่งเสนอตัวที่จะรับแมวไปเลี้ยง แต่เขาสามารถเอาไปได้แค่ 2 ตัว และวันนั้น Ike รู้สึกว่าเขาคงกลับบ้านไปอย่างไม่มีความสุขถ้าไม่ได้ช่วยเหลือลูกแมวอีก 2 ตัวที่เหลือ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงโทรไปถามทางบ้านว่า ‘ขอพาแมวน้อย 2 ตัว ไปอยู่บ้านด้วยได้มั้ย?’ และโชคดีที่สมาชิกครอบครัวก็เห็นด้วยที่จะทำแบบนั้น วันต่อมาเขาพามิ้วน้อยทั้ง 2 ตัว ไปยัง Delaware ซึ่งเป็นคลินิกสัตว์ที่น้องสาวของเขา Jenny ทำงานอยู่ เพื่อตรวจสุขภาพให้เจ้าเหมียว หลังจากที่ตรวจสุขภาพเสร็จ ก็ทราบผลว่าพวกมันเป็นโรคเลือดจาง เพราะร่างกายพวกมันเต็มไปด้วยเห็บหมัดที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อและมีแผลเต็มไปหมด …
-
ยอมใจ!! 15 ตรรกะแบบแมวๆ ไม่แน่ว่าจนถึงปี 3017 มันยังเหมือนเดิม ยังไงก็ยังอย่างนั้น…
นิสัยของแมวแต่ละตัวเป็นสิ่งที่เดาได้ยากมากๆ สำหรับมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆ เพราะว่าการกระทำของมันบางอย่างมันอาจจะช่างเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง และแต่ละวันของพวกมันก็จะแสดงอิทธิฤทธิ์ที่แตกต่างกันออกมา ทำให้เหล่าทาสแมวทั้งหลายต่างมึนงงไปตามๆ กันว่าทำไมมันทำแบบนี้กันนะ และนี่คือภาพของแมวจากทั่วทุกมุมโลก ที่แสดงให้เห็นตรรกะในความคิดของพวกมัน ว่าสิ่งที่พวกมันกำลังทำอยู่เป็นสิ่งที่ถูกต้องต่างหาก และสิ่งที่คนเข้าใจเป็นสิ่งที่ผิด ซึ่งหลายครั้งที่มันก็ทำพฤติกรรมแปลกๆ จนเราอาจจะนึกว่ามันเป็นอุปนิสัยหรือว่าโดนผีเข้ากันแน่ แต่ที่รู้ๆ ก็คือพฤติกรรมอันพิสดารของมันสามารถทำให้ใครๆ ที่ได้เห็นมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าได้อย่างแน่นอน ก็มันชินอะ ทำไงได้ บางทีก็อยากลองเป็นมนุษย์ดูสักวันบ้าง แมวบางตัวอาจคาบนกคาบหนูมาให้แก่เจ้าของ แต่เจ้าแมวตัวนี้มันดันไปคาบฟองน้ำมาทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เห็นใช่ไหมล่ะเจ้ามนุษย์ เพราะชั้นคือนินจายังไงล่ะ ฮ่าๆ วิธีใช้เบาะสำหรับแมวที่ถูกต้องที่สุด ซื้อที่นอนที่เล่นมาให้ตั้งเยอะ เอ็งดันไปนอนบนกล่องถูกๆ เนี่ยนะ มันน่าโมโหจริงๆ แป๊บนะเจ้านาย กำลังอุ่นกาแฟให้อยู่ เค้ามีแต่เสือนอนกิน อันนี้แมวนอนกินซะอย่างงั้น ก็เจ้านายบอกเองนี่ว่าไม่ให้นั่งบนคีย์บอร์ดอ่ะ ที่กว้างมีตั้งเยอะแยะมายุ่งอะไรกับตูฟะเนี่ย ตูจะนอน อุตส่าห์ตั้งไว้ให้กินง่ายๆ ดันมาแย่งของข้าซะได้ วอนซะแล้วเจ้าเหมียว ไม่ใช่การแข่งยิมนาสติกลีลานะเฟ้ย จบกัน ซื้อมาตั้งแพงอดกินเลย นั่งบนนี้น่าจะอุ่นดีนะ…
-
เด็กสาวป่วยเป็นมะเร็งต้องมาอัดคลิปเต้นลงโซเชียลทุกวัน เพื่อหาเงินมารักษาค่าพยาบาล
ความเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ยิ่งเป็นโรคที่ร้ายแรงจนสามารถคร่าชีวิตได้อย่างมะเร็งด้วยแล้ว การจะรักษาให้หายสามารถเป็นไปได้ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงตามมาด้วย และนั่นจึงทำให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งหาเงินค่ารักษาพยาบาลให้กับตนเอง ด้วยการเปิดสตรีมมิ่งทำกิจกรรมต่างๆ อย่างการ เต้นโชว์ วาดรูปโชว์ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ อีกหลายอย่างเพื่อให้ผู้ชมมีความสุขที่ได้รับชม และเต็มใจจะบริจาคค่ารักษาให้แก่เธอ เด็กน้อยผู้โชคร้ายชาวจีนวัย 7 ปีชื่อว่า Liu Zinian จากมณฑลเหอหนาน ป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และด้วยความที่ครอบครัวของเธอมีฐานะยากจน ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการรักษาโรคมะเร็ง แต่ด้วยความพยายามและมีใจรักในเสียงเพลงทำให้ Liu ไม่ยอมย่อท้อต่อชะตากรรมลุกขึ้นมาสู้กับอุปสรรคที่เธอเจอ โดยเธอได้ถ่ายทอดสดตัวเองขณะกำลังร้องเพลงและเต้นลงในโซเชียลมีเดียในประเทศจีน เพื่อจะหาเงินมาเป็นค่ายาให้กับตัวเอง โดยรูปภาพเหล่านี้ได้ถูกเผยแพร่ในวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาพระหว่างที่ Liu กำลังนอนรักษาตัวอยู่บนเตียงหลังจากเธอเพิ่งเข้ารับการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดหรือที่เรียกกันว่าคีโม และครั้งล่าสุดนี้ก็เป็นการรักษาครั้งที่ 11 สำหรับเธอแล้ว โรคมะเร็งของเด็กสาวคนนี้ถูกตรวจพบเมื่อประมาณปีที่แล้ว จากการสุ่มตัวอย่างเนื้อเยื่อในคอ หลังจากที่เธอเป็นไข้ และมีอุณหภูมิในตัวสูงถึง 39.5 องศาเซลเซียสติดต่อกันเป็นเวลาถึงสองวันเต็มๆ Wei Lihong แม่ของ Liu บอกว่าเธอจะเป็นคนเฝ้าไข้ลูกของเธอในเวลากลางคืน ที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยแพทย์เจิ้งโจว และสามีของเธอจะมาดูแลลูกในตอนกลางวัน สำหรับค่ารักษาพยาบาลที่ผ่านมาของ Liu…
-
7 ด้านมืดแห่ง “บริษัทญี่ปุ่น” เพราะโลกไม่ได้มีเพียงเรื่องดี และความจริงมันโหดร้ายกว่าที่คิด…
หากพูดถึงประเทศญี่ปุ่น และสินค้าคุณภาพจากบริษัทญี่ปุ่นแล้ว เราจะนึกถึงการทำงานด้วยความเนี้ยบ คุณภาพงานเยี่ยม และเป็นอะไรที่เชื่อใจได้มากที่สุด แต่ในช่วงหลังมานี้ มีข่าวคราวที่ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับทั้งการทำงานอันกดดันภายในบริษัทแห่งแดนอาทิตอุทัย รวมถึงข่าวคราวความไม่ได้คุณภาพของสินค้าออกมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นกระแสที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เนื่องจากทั้งโลกต่างก็มีความเข้าใจว่า “สินค้าญี่ปุ่น” คือสินค้าที่มั่นใจได้ในคุณภาพ เพราะฉะนั้นเมื่อมีการผิดพลาด (ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจก็ตาม) ย่อมมีกระแสลบตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บทความนี้ไม่ได้จะทำมาเพื่อโจมตีประเทศญี่ปุ่นหรือบริษัทแห่งใดโดยเฉพาะ แต่เราจะพาไปดูกันว่าช่วงหลังมานี้ เหล่าบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นหลายแห่งนั้นต่างเผชิญภาวะปัญหารุมเร้ามากขึ้นกว่าในอดีตมากจริงๆ 1. นักข่าวสาวเสียชีวิต จากการทำงานหนัก Miwa Sado ถูกพบเสียชีวิตภายในที่พักของเธอเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2013 ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ภายหลังการสืบสวนทราบว่าเธอประสบภาวะการทำงานหนักจนเกินไป โดยเธอทำงานหนักมาก เฉพาะจำนวนชั่วโมง OT นั้นเธอทำถึง 159 ชั่วโมงในเดือนก่อนเสียชีวิต และหยุดงานแต่เดือนละ 2 วันเท่านั้น อาการ Karoshi คือชื่อเรียกของการเสียชีวิตจากการทำงานหนักจนเกินไป ซึ่งสื่อญี่ปุ่นระบุว่าเธอไม่ใช่รายแรก และด้วยสภาพการทำงานอันกดดันมากเกินไปของออฟฟิศญี่ปุ่น เธอก็ไม่ใช่รายสุดท้ายด้วย 2. ผู้บริหาร Dentsu ลาออก หลังพนักงานทำงานหนักจนฆ่าตัวตาย ทาคะฮาชิ มัตซึริ เสียชีวิตในปี 2015 ขณะที่ทำงานในตำแหน่งผู้จัดการโฆษณาให้กับบริษัท…
-
ไม่ใช่แค่ชื่อ… เปิดประวัติ Gustave โคตรไอ้เข้ตัวจริง ตำนานที่ยังคงมีลมหายใจถึงทุกวันนี้
นอกจากมนุษย์แล้ว บนโลกนี้ยังเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์มากมายหลายชนิด ซึ่งก็มีทั้งสัตว์ที่เป็นมิตรและสัตว์ที่เป็นอันตราย และหากจะพูดชื่อสัตว์ที่เป็นอันตรายแล้ว ชื่อของจระเข้ต้องติดมาเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน เพราะว่ารูปร่างหน้าที่น่ากลัวบวกกับการเป็นสัตว์กินเนื้อของมัน ทำให้ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดที่ต้องเข้าใกล้ต่างก็ต้องมีผวากันบ้าง จระเข้บนโลกนี้มีอยู่มากมายนับพันนับหมื่นตัว แต่ว่ามีจระเข้อยู่ตัวหนึ่งที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นตำนานนักฆ่า และได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญมาแล้วมากมาย และชื่อของมันก็คือ กุสตาฟ (Gustave) นั่นเอง กุสตาฟเป็นจระเข้แม่น้ำไนล์ตัวผู้ ซึ่งอาศัยอยู่ที่แม่น้ำรูซิซีในประเทศบุรุนดีในทวีปแอฟริกา ปัจจุบันมันมีอายุกว่า 60 ปีแล้ว อีกทั้งยังมีคนอ้างว่ามันเคยฆ่าคนมาแล้วมากกว่า 300 ชีวิตเลยทีเดียว ไม่ว่ากี่ปีจะผ่านไปก็ไม่เคยมีใครสามารถจับสัตว์ในตำนานตัวนี้ได้ ทำให้เราคาดเดาไม่ได้ว่ามันมีขนาดเท่าไหร่กันแน่ แต่จากการคาดการณ์ของนักวิทยาศาสตร์บวกกับพยานที่เคยเห็นมันตัวเป็นๆ พวกเขาได้คาดคะเนเอาไว้ว่า เจ้ากุสตาฟอาจมีลำตัวที่ยาวมากถึง 7.5 เมตรและมีน้ำหนักมากกว่า 900 กิโลกรัม นั่นจึงทำให้กุสตาฟกลายเป็นจระเข้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยมีผู้พบเห็นในทวีปแอฟริกา และจากขนาดของมันในตอนแรกนักวิทยาศาสตร์คาดเอาไว้ว่ามันอาจจะมีอายุมากกว่า 100 ปี แต่จากการสังเกตที่ฟันของมันแล้วทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วมันมีอายุน้อยกว่านั้นและน่าจะอยู่ราวๆ ที่ 60 ปี และจะสามารถเจริญเติบโตได้มากกว่านี้อีก แม้ว่ากุสตาฟจะไม่เคยถูกจับได้ แต่ตามร่างกายของมันก็มีร่องรอยของกระสุนหลายนัก อย่างเช่นที่ไหล่ขวาของมันมีก็แผลเป็นที่เกิดมาจากแผลที่ลึกเป็นอย่างมาก แต่ที่มาที่ไปของบาดแผลก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามันบาดเจ็บมาจากสิ่งใด แต่จากคำบอกเล่าของคนในท้องถิ่น พวกเขาเล่าว่า บาดแผลของกุสตาฟเกิดจากการที่มันพุ่งเข้าไปโจมตีทหาร ที่พยายามจะสังหารมันด้วยการสาดกระสุนปืน AK47 ใส่…
-
ฉลาดนักนะเจ้าหมา คาบเตียงนอนจากทุกที่ไปไว้ที่เดียวกัน จะได้นอนเตียงใหญ่ๆ
ใครๆ ก็อยากนอนบนเตียงใหญ่ๆ กว้างๆ กันทั้งนั้น เพราะมันสบาย จะพลิกตัวยังไงก็ไม่ต้องกลัวตกเตียง แต่ก็ไม่คิดว่าสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขเนี่ย มันจะฉลาดจนคิดได้แบบนี้เหมือนกัน นี่คือความแสนรู้ของคู่หู Eevee และ Finnick ที่ได้รับการช่วยเหลือและได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่แสนอบอุ่นเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ทั้งสองตัวรักที่จะเล่นด้วยกัน แม้ว่าพวกมันจะมีลักษณะนิสัยที่ต่างกันก็ตาม Eevee มักจะหมกมุ่นอยู่กับของเล่น ส่วน Finnick จะให้ความสนใจกับเตียงนอนเป็นพิเศษ เนื่องจาก Eevee ชอบของเล่นมากๆ ดังนั้นมันจึงเก็บของเล่นทุกชิ้นไว้ที่ที่นอนของมัน โดยไม่ยอมแบ่งให้ Finnick เล่นเลย ส่วน Finnick ดูไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่ เพราะมันสนใจแต่ที่นอน นั่นทำให้ในบ้านมีที่นอนสุนัขถึง 5 อัน วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วบ้าน ทั้งๆ ที่มีหมาแค่ 2 ตัว ถามว่าที่นอนทั้ง 5 อันเนี่ยเป็นของตัวไหนบ้าง เจ้าของเองก็ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะเจ้า Finnick เล่นครองทุกอันอะ ไม่เว้นแม้กระทั่งที่นอนของ Eevee Rachel Canfield เจ้าของน้องหมาบอกว่า…
-
อย่าลองดี… นักปั่นเจอรถมอเตอไซค์สุดกวน เลยแก้เผ็ดด้วยการจุดพลุยิงใส่ไม่ยั้งจนร่วงคาถนน
ในช่วงเวลาออกกำลังกายของเรา มันช่างเป็นเวลาแสนสุขที่ไม่อยากจะให้ใครมากวนใจจริงๆ เพราะตอนออกกำลังกายมันต้องเหนื่อยอยู่แล้ว หากมีคนมากวนจะอาจจะทำให้เราหงุดหงิดจนฟาดงวงฟาดงา เหมือนกับชายคนนี้ที่กำลังปั่นจักรยานอยู่ดีๆ แต่ดันไปเจอรถมอเตอร์ไซค์ขี่มากวนบาทา เขาเลยจัดการยิงพลุใส่ซะรถคนนั้นร่วงเลยทีเดียว เรื่องราวนี้ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมาในประเทศอิตาลี เมื่อมีนักปั่นคนหนึ่งกำลังปั่นจักรยานของเขาอยู่ในเลนสำหรับจักรยานอยู่ดีๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซต์คันหนึ่งเลี้ยวมาตัดหน้าและเบาเครื่องลงเพื่อจะพูดจาเยาะเย้ยอะไรบางอย่าง ลองของนักใช่ไหม ได้ และดูเหมือนว่าการก่อกวนครั้งนี้จะไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะว่าพวกเขายังคงป้วนเปี้ยนๆ ไม่ให้ชายคนนี้สามารถปั่นจักรยานได้อย่างเป็นสุข และนั่นได้กลายเป็นจุดเดือดให้กับนักปั่นหัวร้อนคนนี้ เมื่อเขาถูกก่อกวนอย่างไม่หยุดยั้ง เขาจึงงัดเอาพลุที่เตรียมไว้สำหรับเหตุการณ์เช่นนี้ออกมา แล้วติดมันไว้บนท่อที่เตรียมเอาไว้พร้อมกับแสยะยิ้ม เหมือนกับกระหยิ่มยิ้มย่องในใจว่าคราวนี้พวกเอ็งเจอของจริงแน่ๆ และเวลาต่อจากนั้นไม่นานสมรภูมิพลุก็ได้กำเนิดขึ้น นี่แหนะ เอาไปกินไอ้พวกก่อกวนชาวบ้าน แต่ว่าแก๊งก่อกวนนี้ยังคงไม่รู้จะรู้ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังเจอมันคือพลุไฟ ดังนั้นนักปั่นคนนี้จึงระดมยิงเข้าไปที่มอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวและมีอยู่เม็ดหนึ่งที่ไปโดนเข้าเต็มหลังของคนซ้อน เมื่อนักบิดคนดังกล่าวเห็นเพื่อนของเขาโดนเช่นนั้น เขาจึงไม่รอช้าบิดมอเตอร์ไซค์ของเขาจนหมดปลอก แต่ก็ยังไม่พ้นวิถีกระสุนของพลุดังกล่าวไปได้ เมื่อได้เห็นอันธพาลสองคนนี้ดิ้นในตอนที่โดนยิง มันยิ่งเพิ่มความยิ่งสะใจให้แก่นักปั่นจักรยานหัวร้อนคนนี้ และเขาคิดว่าหากยิงทีละดอกคงจะไม่สนุกเท่าไหร่ เขาจึงใส่ทีเดียวแบบเป็นชุดและกราดยิงแก่ชายสองคนนั้น เมย์เดย์ ร่วงไปแล้วหนึ่งราย ท่ามกลางพลุไฟที่กระหน่ำยิงยิ่งกว่าเม็ดฝน ในเวลาไม่นานนักมอเตอร์ไซค์คนนี้ก็ลงไปนอนลงกับพื้นพร้อมกับคนอีกหนึ่งคน แต่ว่านักปั่นคนนี้เหมือนกับว่ายังไม่พอใจ เขาจึงควบจักรยานตามคนที่วิ่งหนี พร้อมทั้งกระหน่ำยิงซ้ำอีกระลอกหนึ่ง แต่ว่าคราวนี้ยิงไม่โดนเลยสักนัดหนึ่ง และในที่สุดวิดีโอสุดมันส์นี้ก็สิ้นสุดลง ถึงแม้ว่าพลุไฟที่ชายคนนี้ยิงออกไปจะไม่ได้สร้างความเสียหายที่ใหญ่โตนัก และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บถึงชีวิต แต่ว่าชายอันธพาลสองคนนี้น่าจะหลาบจำว่า ไม่ควรไปก่อกวนใครในตอนที่พวกเขาออกกำลังกาย เพราะด้วยอุณหภูมิในร่างกายที่คุกรุ่นอยู่แล้วอาจทำให้อารมณ์ร้อนเกิดขึ้นได้ง่ายๆ และอาจจะไม่โชคดีเหมือนกับวันนี้ก็เป็นได้…
-
เปรียบเทียบโหมด Portrait ระหว่าง iPhone X, Note 8, Pixel 2 และกล้องโปร อย่างละเอียด
การจะซื้อโทรศัพท์มือถือดีๆ สักเครื่องหนึ่งก็ต้องพิจารณาปัจจัยหลายๆ อย่างเนื่องจากโทรศัพท์ระดับ Hi-End ในปัจจุบันก็มีราคาที่ค่อนข้างสูงดังนั้นจึงต้องตัดสินใจเลือกให้ดีก่อนที่จะต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง ซึ่งปัจจัยในการเลือกโทรศัพท์มือถือสักเครื่องให้เหมาะสมกับตัวเราก็มีหลายอย่าง เช่น ระบบปฏิบัติการ ขนาดของหน้าจอ และรวมถึงคุณภาพของกล้องถ่ายภาพ ที่ใช้กันบ่อยในแทบจะทุกวันไม่ว่าจะเป็นถ่ายเซลฟี่ ถ่ายกับเพื่อน ถ่ายรูปอาหาร ทำให้กล้องถ่ายภาพในโทรศัพท์กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักๆ ในการเลือกซื้อโทรศัพท์ใหม่ให้กับตัวเองเลยทีเดียว ดังนั้น จึงมียูทูบเบอร์ที่ใช้ชื่อว่า Marques Brownlee ได้ลองเปรียบเทียบการใช้งานโหมด Portrait หรือโหมดถ่ายภาพบุคคลในโทรศัพท์ระดับตัวท็อปจากหลายๆ ค่ายมาให้ชาวเน็ตได้ชมกัน การทำงานหลักๆ ของกล้องในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งโทรศัพท์ที่เขาใช้รีวิวนั้นก็มีทั้ง iPhone X, Samsung Note 8, Google Pixel 2 นำมาเปรียบเทียบกับกล้องสำหรับช่างภาพมืออาชีพอย่าง Hasselblad X1D ซึ่งมีราคาอยู่ราวๆ 8,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 260,000 บาท) ในปัจจุบันสมาร์ทโฟนหลายรุ่นบนโลกนี้จะใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Dual Cameras หรือว่ากล้องคู่สำหรับการถ่ายภาพในกล้องหลัง ซึ่งเซนเซอร์ส่วนใหญ่ในสมาร์ทโฟนจะมีขนาดเล็ก และถ้าภาพที่จะถ่ายมีขนาดที่กว้างกว่าเซนเซอร์ การถ่ายภาพทั้งหมดจะถูกโฟกัสร่วมกันจึงแยกไม่ได้ว่าจะให้โฟกัสที่ใดเป็นหลัก และสำหรับโหมดการถ่ายภาพบุคคล โหมดนี้จะมีความพิเศษก็คือ มันจะหาความตื้นลึกของภาพจากการตรวจสอบจากขอบภาพ…
-
ขุ่นแม่สร้างบ้านจิ๋ว เพื่อใช้ชีวิตช่วงหลังวัยเกษียณ แถมยังปล่อยเช่าในราคาเดือนละ 2,400 เอ๊ง!?
ขึ้นชื่อว่าบ้านแล้ว มันต้องมีทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว หรืออาจจะรวมห้องนั่งเล่นไปด้วยก็ได้ ซึ่งการจะมีครบทั้งหมดนี้ คุณต้องใช้พื้นที่มากพอสมควร หรือหากจะเช่าบ้านที่มีทุกอย่างครบแบบนี้ คงต้องจ่ายไม่ใช่น้อยเลยหละ แต่คุณแม่ Michelle “MJ” Boyle พิสูจน์ให้เห็นว่าการจะอยู่ในบ้านที่มีทุกอย่างที่กล่าวมานั้น มันไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะหรือต้องจ่ายเงินจำนวนมากเสมอไป Michelle ได้สร้างบ้านขนาดจิ๋ว ตั้งอยู่ที่ชุมชน Pacific Northwest ใน Sherwood รัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยปล่อยให้เช่าเพียงเดือนละ 2,400 บาท คุณแม่ตัดสินใจสร้างบ้านจิ๋วหลังนี้ก่อนที่เธอจะเกษียณ เพื่อเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตหลังเกษียณ ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือน และสามารถสร้างเงินออมจากค่าเช่าได้ด้วย เธอบอกว่าแทนที่จะเช่าบ้านจิ๋ว Tiny House ที่ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ในพื้นที่ 2.5 ไร่ ในราคา 52,000 บาทต่อเดือน สู้สร้างบ้านเองไม่ดีกว่าเหรอ อาจจะเล็กกว่าแต่มันก็ทำให้มีเงินเก็บนะ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจสร้างบ้านจิ๋วสุดน่ารักของตัวเอง ซึ่งกินพื้นที่เพียง 18 ตารางเมตร แต่มีทุกอย่างเหมือนบ้านทั่วไป ที่สำคัญราคาเช่าแค่ 2,400 บาทต่อเดือนเท่านั้น Michelle…
-
ผู้เชี่ยวชาญด้าน ‘ดาบซามูไร’ ถูกพบเสียชีวิตในห้องพัก เพราะทำพิธีกรรม ‘ฮาราคีรี’!?
มนุษย์เราเมื่อรักหรือเชื่อในสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ ก็มักจะทุ่มเทชีวิตให้สิ่งนั้น บางคนถึงกับยอมแลกชีวิตตัวเองเพื่อบรรลุเป้าหมายตามสิ่งที่เชื่อ อย่าง Alun Jones ผู้เชี่ยวชาญด้านดาบซามูไรวัย 51 ปี ที่ตัดสินใจจบชีวิตด้วยอาวุธของเขาเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในพิธีกรรมของนักรบชาวญี่ปุ่นโบราณ สื่อรายงานว่า Jones ถูกพบเสียชีวิตภายในห้องพักที่เมืองนิวพอร์ต รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ในสภาพนองเลือด หลังทำพิธีเซ็ปปุกุ หรือ ฮาราคีรี ซึ่งเป็นการฆ่าตัวตายโดยการคว้านท้องในยุคซามูไร ของประเทศญี่ปุ่น Jones เริ่มเก็บสะสมใบมีดหลังจากที่ทำงานญี่ปุ่นเป็นเวลาหลายปี แต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Margaret แม่ของเขากลับพบว่า Jones นอนเสียชีวิตบนดาบโดยมืออยู่เหนือศีรษะ Jones ทำงานอยู่ในร้านขายอาวุธที่ประเทศญี่ปุ่น และเขามักจะกลับมาอยู่กับแม่ที่ประเทศอังกฤษในช่วงวันหยุดของเขาเสมอ แต่ในการไต่สวนเกี่ยวกับการตายของเขา Margaret เผยว่าการกลับบ้านครั้งนี้ดูเหมือน Jones จะไม่เป็นตัวของตัวเอง เหมือนไม่ใช่ลูกชายที่เธอคุ้นเคย Marianne Caulfield น้องสาวของเขาบอกว่า “เขาใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี และเมื่อเขากลับมา เขามักจะออกไปหาเพื่อนๆ เสมอ แต่ครั้งนี้เขาดูผอมลงไปมากและมักจะอยู่แต่ในห้องของตัวเองเกือบตลอดเวลา” “เขามีดาบซามูไรจำนวนหนึ่งที่เก็บสะสมเอาไว้ และดูเหมือน Jones จะให้ความสนใจกับประเพณีของซามูไรญี่ปุ่นมากกว่าเดิมอีก” น้องสาวกล่าว ทั้งนี้ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เขาจะถูกพบว่าเสียชีวิต เพื่อนบ้านคนหนึ่งเห็นเขาหลับอยู่บนโซฟา โดยมีสมุดภาพครอบครัวเปิดอยู่ข้างๆ เขา ในการไต่สวนระบุอีกว่าสาเหตุที่…
-
คุณพ่อไปเที่ยววันหยุดเลยยืมกล้อง GoPro ของลูกไปใช้ แต่ดั๊นถ่ายกลับด้านเกือบทั้งทริป!!
ผู้ใหญ่หลายๆ คนอาจไม่ชำนาญเรื่องเทคโนโลยีได้เท่ากับวัยรุ่นที่เติบโตมาพร้อมๆ กับสิ่งนี้ และนั่นจึงอาจทำให้พวกเขามีข้อผิดพลาดในการใช้งานเทคโนโลยีอย่างที่เราคาดไม่ถึง ยกตัวอย่างชายวัย 69 ปีคนนี้ ที่ไม่เก่งเรื่องเทคโนโลยีจนถึงกับถ่ายรูปผิดด้านเกือบตลอดการเดินทางเลยทีเดียว ชายคนนี้มีชื่อว่า Howard Newman เขาและ Joan ภรรยาได้ไปเที่ยวกันที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่ก่อนจะไปเขาก็ตัดสินใจยืมกล้อง GoPro ของ Mark ลูกชายของเขาติดตัวไปด้วย แต่แล้วเรื่องราวฮาๆ ก็ได้เกิดขึ้น เมื่อคุณพ่อคนนี้กลับถือกล้องผิดด้านแทบตลอดทั้งทริป จากที่เขาต้องการจะเก็บภาพบรรยากาศวิวทิวทัศน์อันสวยงามระหว่างการเดินทาง มันกลายเป็นการถ่ายภาพเซลฟี่ของตัวเองแทนซะอย่างนั้น คุณพ่อถ่ายหน้าตัวเองทำไมเนี่ย!? เขาถ่ายทุกอย่างในโหมดวิดีโอ ทำให้เราได้เห็นใบหน้า รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของเขาแทบทุกคลิป แต่เรารู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ? นั่นก็เพราะคลิปแรกสุดเขาก็พูดออกมาแล้วว่า “ตอนนี้เราอยู่ที่เนเธอร์แลนด์แล้ว เห็นถึงความแตกต่างกันเลยมั้ยล่ะ” จะเห็นความแตกต่างได้ยังไงในเมื่อเห็นแต่หน้าคุณพ่อเกือบทั้งทริป!? ด้วยความที่เขายังคงงงว่าปุ่มของกล้องมันควรต้องอยู่ทิศทางไหน จึงทำให้คลิปที่สองที่เขาถ่าย ภาพที่เราเห็นก็ยังคงเป็นหน้าของชายคนนี้อีกเหมือนเดิม ในส่วนนี้เขาต้องการอวดเส้นทางรถไฟ Great European ให้ประจักษ์แก่สายตาทุกคน หากแต่ว่าคงไม่มีใครได้เห็นอย่างที่เขาเห็นแน่นอน แต่ก็ใช่ว่าเขาจะถ่ายกลับด้านตลอด เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาควักกล้องมาถ่ายเครื่องบินในด้านที่ถูกต้อง ทำให้เราได้เห็นเครื่องบินบินผ่านไปจริงๆ หลังจากที่เฝ้ารอจะชมวิวกันมานาน แต่สุดท้ายพอเริ่มคลิปใหม่ ก็กลายเป็นหน้าของเขาเหมือนเดิม…
-
น้องหมาจูงเพื่อนม้า เพื่อพาไปกินน้ำเอาชีวิตรอด แม้อากาศจะเย็นจัด -50 องศาก็ตาม…
แม้อากาศจะหนาวเย็นสักแค่ไหน แต่สัตว์ก็ยังต้องดื่มน้ำเพื่อความอยู่รอด แต่เจ้าม้า Kunduchene กลับไม่ยอมลุกไปไหนเลย จนน้องหมา Umka ต้องอาสาเข้ามาช่วย เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Dyupsya ในย่าน Ust-Aldan ของ Yakutia ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใหญ่และหนาวที่สุดในรัสเซียหรือที่เรียกว่าสาธารณรัฐซาฮา มีคำพูดหนึ่งในภาษาอังกฤษกล่าวไว้ว่า “คุณสามารถจูงม้าไปหาน้ำได้ แต่คุณไม่สามารถทำให้มันดื่มน้ำได้” แต่สำหรับเจ้า Umka แล้ว มันสามารถทำทั้งสองนี้ได้ดีกับเจ้าม้า Kunduchene แม้ว่ามันค่อนข้างดื้อก็ตาม ในแต่ละวัน Umka จะจูง Kunduchene ม้าวัย 6 ขวบ เดินฝ่าหิมะและทะเลน้ำแข็ง เพื่อไปดื่มน้ำในบ่อน้ำท่ามกลางอากาศที่หนาวจัด Semen Sivtsev เจ้าของม้าเล่าว่า “Kunduchene เป็นสัตว์ตัวเดียวที่มีปัญหามากที่สุด มันไม่ค่อยเชื่อฟังเลย แต่ตอนนี้ผมมีผู้ช่วยพิเศษที่สามารถพามันไปดื่มน้ำในบ่อน้ำแข็งได้ทุกวัน” ลูกสาวของเขา Maria Zakharova เสริมอีกว่า “ปกติแล้วเราไม่สามารถจูง Kunduchene ไปไหนมาไหนได้เลย มันจะต่อต้านเราเสมอ ดังนั้นเราจึงสอนสุนัขให้มาช่วย และดูเหมือน Umka จะสนุกกับภารกิจใหม่นี้ด้วยสิ” “ตอนแรกๆ ม้าก็ไม่เชื่อฟัง Umka เหมือนกันนั่นแหละ แต่น้องหมาพยายามดึงมันไปจนได้ ตอนนี้กลายเป็นว่าเจ้าม้าเดินตามสุนัขโดยไม่ต้องออกแรงดึงเลย” แน่นอนว่าถ้าเจ้าม้าไม่เต็มใจไป น้องหมาคงพาไปไม่ได้เหมือนกัน เพราะขณะที่ Umka มีน้ำหนัก 60…
-
อดีตประธานบริษัท Komatsu จัดงานเลี้ยง ‘ปิดฉากชีวิต’ ของตัวเอง หลังจากรู้ว่าอยู่ได้อีกไม่นาน
หากเรารู้ว่าเราเหลือเวลาใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน เราจะทำอย่างไรกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่นั้น บางคนอาจเศร้าโศกเสียใจอยู่กับคนในครอบครัว บางคนอาจออกไปเที่ยวรอบโลก หรือบางคนอาจจัดงานเลี้ยงฉลองให้ยิ่งใหญ่เหมือนกับเขาคนนี้ Satoru Anzaki ชาวญี่ปุ่นวัย 80 ปี อดีตประธานบริษัทเครื่องจักร Komatsu ได้จัดงานเลี้ยงอำลาชีวิตของตัวเองในวันที่ 11 ธันวาคม 2017 บนโรงแรมโตเกียว หลังจากที่เขารู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานหลังจากนี้ ในเดือนตุลาคมปีเดียวกันนั้น แพทย์บอกกับเขาว่า มีการตรวจพบมะเร็งถุงน้ำดีระยะสุดท้าย แต่ Satoru เลือกที่จะไม่เข้ารับการรักษา เพื่อรักษาคุณภาพของชีวิตของตัวเองให้ดีที่สุด มีความสุขกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่ Satoru อดีตประธานบริษัทเครื่องจักร Komatsu ต่อมาเดือนพฤศจิกายน ได้มีการประกาศเรื่องของงานเลี้ยงดังกล่าวลงในหนังสือพิมพ์ จนทำให้มีการพูดถึงกันเป็นวงกว้าง หลายคนชื่นชมในความกล้าที่จะเผชิญหน้าความตาย บางส่วนก็อยากให้ตัวเองได้รับเชิญไปร่วมงานฉลองนี้ จนกระทั่งในวันเลี้ยงฉลองมาถึง แขกกว่า 1,000 คนที่ได้รับเชิญต่างเดินทางมาร่วมงาน มีทั้งเพื่อนคนสนิทในปัจจุบัน เพื่อนเก่าร่วมชั้นในวัยเด็ก คู่ค้าและหุ้นส่วนทางธุรกิจ รวมถึงพนักงานบริษัทในสังกัด Komatsu ภายในงานถูกตกแต่งไปด้วยสิ่งของแห่งความทรงจำของชายคนนี้ อีกทั้งเขายังจ้างนักเต้นรำสไตล์ดั้งเดิมจากบ้านเกิดของเขาในจังหวัดโทคุชิมะ เข้ามาสร้างสีสันและความบันเทิงให้กับแขกทุกคนในงาน Satoru พยายามเดินทักทายและจับมือกับแขกทุกคนที่มาร่วมงาน เขายังคงยิ้มอย่างสดใสร่าเริง ไม่แสดงอาการเศร้าโศกใดๆ ทั้งสิ้น…
-
ชายไร้บ้านยืนตากฝนนาน 2 ชั่วโมง เฝ้าเงินจำนวน 20,000 บาทที่ตกอยู่จนเจ้าของกลับมาเอาคืน
ทุกคนสามารถทำความดีได้ ไม่เกี่ยวว่าเราจะต้องมีเงินมากมายมหาศาล เพราะแม้แต่ชายไร้บ้านคนนี้เขาก็ได้ทำความดีเอาไว้ให้กับคนแปลกหน้า ด้วยความเสียสละและทุ่มเท เรื่องราวของชายคนนี้ถูกนำเสนอผ่านสำนักข่าว Daily Mail ในวันที่ 15 ธันวาคม 2017 เมื่อชายไร้บ้าน James John McGeown ที่อาศัยอยู่ในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เขาได้ไปเจอกับกระเป๋าใบหนึ่งที่วางเอาไว้หน้ารถที่เปิดกระจกอยู่ ซึ่งมีเงินเกือบ 20,000 บ้านอยู่ในกระเป๋า James ชายไร้บ้านที่เห็นกระเป๋าพร้อมกับเงินจำนวนมากในนั้น ด้วยความที่เขากลัวว่าจะมีคนมาขโมยกระเป๋าใบนั้นไป เขาจึงยืนเฝ้าเอาไว้นานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา แต่รอไปนานขนาดนั้นเจ้าของก็ยังไม่กลับมาที่รถซักที เขาจึงนำกระเป๋าใบนั้นไปฝากไว้ที่สำนักงานกฎหมายใกล้ๆ พร้อมกับทิ้งกระดาษโน้ตเอาไว้ในรถ เมื่อ John McMonagle เจ้าของรถและ Alyshia Orford เจ้าของกระเป๋าใบนั้นกลับมาที่รถ พวกเขาเจอกับกระดาษโน้ตที่บอกว่ากระเป๋าถูกฝากเอาไว้ที่ไหน เขาจึงเดินทางไปรับคืนพร้อมกับรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด การช่วยเหลือที่น่าประทับใจนี้ ทำให้ John ตั้งรับเงินบริจาคผ่านเว็บไซต์ GoFundMe โดยตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 215,000 บาท เพื่อนำมันไปมอบให้กับ James ชายไร้บ้านที่ช่วยพวกเขาเอาไว้ John…
-
เจ้าเหมียวลายสูททักซิโด้ ร่วงลงมาจากเพดาน และตกลงสู่หัวใจมนุษย์ไปในทันที
ตอนเด็กๆ เราอาจเคยฝันให้มีลูกอมหรือของขวัญที่เราอยากได้หล่นลงมาจากฟ้า ซึ่งมันก็จะคล้ายกับเหตุการณ์ของ Ellie Haywood หญิงสาวผู้ได้รับของขวัญที่หล่นมาจากเพดานบ้านของเธอเอง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถูกบอกเล่าผ่านเว็บไซต์ LoveMeow เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2017 Ellie เล่าว่า เธอและเพื่อนรูมเมทอาศัยกันอยู่ในบ้านพักเก่าๆ หลังหนึ่งที่เต็มไปด้วยรอยแตกและรูตามกำแพง จนทำให้พวกเธอต้องหาโปสเตอร์หรือของตกแต่งเล็กๆ มาปิดรูพวกนั้นเอาไว้ ในส่วนของเพดานก็มีความเก่าไม่แพ้กัน เพราะจะมีน้ำซึมหยดลงมาและมีรอยรั่ว จนทำให้พวกเธอต้องเตรียมถังเอาไว้หลายใบ ไว้รองน้ำที่หยดลงมาในช่วงฝนตก จนกระทั่งในคืนหนึ่งพวกเธอกำลังเตรียมถังไว้รองน้ำ ป้องกันพายุที่กำลังจะมาในวันถัดๆ ไป จู่ๆ ก็มีเสียงน้องเหมียวแว่วเข้ามาจากบนเพดาน พวกเธอคิดได้ทันทีเลยว่านั่นต้องเป็นแม่แมวและลูกแมวอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่ทุกคนจะได้ตามหาว่ามันอยู่ไหน ทันใดนั้นก็มีเสียงเหมือนมีอะไรตกลงมาจากเพดาน รอยแตกที่เกิดจากบางสิ่งบางอย่างที่ตกลงมาจากเพดาน Ellie และเพื่อนได้พบกับรอยแตกบนเพดานที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ที่สงสัยคือเจ้าสิ่งที่ตกลงมาหายไปไหน แล้วพวกเธอก็ได้เจอกับเจ้าเหมียวตัวน้อยและแม่ของมัน พอแม่แมวเห็นพวกเธอปุ๊บ ก็รีบวิ่งหายออกไปจากบ้านทันที ทิ้งลูกแมวตัวน้อยน่ารักเอาไว้ให้พวกเธอ นี่จึงกลายเป็นการพบกันครั้งแรกกับสมาชิกใหม่ตัวนี้ เจ้าเหมียวน้อยที่ตกลงมาพร้อมกับแม่ของมัน . เจ้าเหมียวที่มีลายคล้ายชุดทักซิโด้ ถูกตั้งชื่อให้ว่า Asbestos ในตอนแรกมันมีท่าทีแบบกล้าๆ กลัวๆ อยู่บ้าง เพราะนี่คงเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นมนุษย์หลังจากที่อาศัยอยู่บนหลังคามาตลอด แต่พอเวลาผ่านไปเจ้าเหมียวก็สามารถปรับตัวเข้ากับบ้านหลังใหม่ได้เป็นอย่างดี…
-
ส่องไอจีที่รวบรวม ‘นาฬิกาข้อมือ’ ของเหล่าเซเลบคนดัง แต่ละคนจะใส่รุ่นอะไรกันบ้างนะ!?
สืบเนื่องมาจากภาพของหนึ่งในทั่นผู้นำของประเทศละแวกบ้านเราสวมนาฬิกาหรูแบรนด์ไฮเอนด์ที่มีราคาเหยียบหลักล้าน!! ก็เลยทำให้โลกโซเชียลหันมาให้ความสำคัญกับ ‘นาฬิกาข้อมือ’ จนกลายเป็นการเปิดหูเปิดตาจนทำให้รู้ว่าโลกของเรานั้นยังมีนาฬิกาแพงๆ อีกมากมายหลายรุ่นไม่ใช่เฉพาะแค่ Rolex เท่านั้น และล่าสุดก็ได้มีแอคเคาท์อินสตาแกรมชื่อว่า thaicelebwatchspotter เกิดขึ้นมา เป็นอินสตาแกรมที่รวบรวมนาฬิกาของเหล่าคนดังในประเทศไทย แถมระบุชื่อรุ่นและราคาไว้ให้เสร็จสรรพ ซึ่งแอคเคาท์นี้ได้เริ่มโพสต์รูปภาพแรกเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี้เอง แต่ผ่านไปแวบเดียวก็มีผู้ติดตามมากกว่า 2,100 คนแล้ว!! เราไปชมกันเลยดีกว่าว่าคนดังในบ้านเราแต่ละคนจะสวมใส่นาฬิกายี่ห้อไหนกันบ้าง และจะมีราคาเท่าไหร่กัน… 1. อั้ม พัชราภา Patek Philippe 175th Anniversary Collection World Time Moon 7175r-001 ราคาประมาณ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.2 ล้านบาท) 2. เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ Hublot MP-05 LaFerrari ราคาประมาณ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.7 ล้านบาท) 3. เฉลิม อยู่บำรุง Patek Philippe 6102p Celestial…
-
เหมียวแก่วัย 16 อาศัยในศูนย์นานกว่า 210 วัน จนเกิดเป็นเรื่องราวและได้พบกับอิสระเสียที
ทุกคนต้องการบ้าน ต้องการความอบอุ่นจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะในช่วงบั้นปลายชีวิตที่ต้องการเพียงแค่ที่ที่หนึ่งกับคนคนหนึ่งที่จะอยู่เคียงข้างเราไปจนวันสุดท้าย เจ้าเหมียวตัวนี้เองก็เช่นกัน การรอคอยอันยาวนานจนเหมือนกับว่ามันคงไม่ได้รับไออุ่นอย่างที่ฝันไว้ก็ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาในที่สุด นี่คือเรื่องราวของเจ้าเหมียว Kozal วัย 16 ปี เจ้าของเก่าของมันมีสุขภาพที่ย่ำแย่ ไม่สามารถเลี้ยงมันต่อได้ จึงพามาฝากไว้ที่สถาบันคุ้มครองน้องแมวในเขตซัสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ เพื่อรอให้เจ้าของคนใหม่พามันกลับไปเลี้ยงดู แต่มันคงไม่มีความสุขเท่าไหร่กับการต้องย้ายจากบ้านมาอยู่ในห้องเล็กๆ นี้ มันจึงพยายามจะหนีออกไปอยู่เสมอ คอยเอาเท้าหน้าเล็กๆ ถูกับกระจกเหมือนว่าจะพังออกมาให้ได้เลย เมื่อรู้ว่ามันไม่สามารถพังออกมาเองได้ ความหวังเดียวที่เหลืออยู่ก็คือรอให้มีคนมารับมันไปเลี้ยง แต่ทว่ากลับไม่มีใครมุ่งความสนใจมาที่มันเลย ทุกคนที่เข้ามาเดินไปหาและรับเลี้ยงแมวตัวอื่นๆ ไปอยู่เสมอ ความน่าสงสารของเจ้าเหมียวชรา (เทียบกับคนอายุประมาณ 80 ปี) ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนช่วยกันแชร์เรื่องราวของเจ้าเหมียว หวังว่าจะเป็นแรงผลักดันให้มีคนเข้ามาช่วยมันออกไปจากกำแพงกระจก พวกเขาต่างพูดถึงความน่ารักน่าชังของมัน แม้มันจะแก่และป่วยเป็นโรคไขข้ออยู่เล็กน้อย แต่ก็เป็นเจ้าเหมียวที่สนุกสนานได้อยู่ตลอดเวลา ตอนนี้สิ่งที่มันต้องการก็คือบ้านที่แท้จริงและคนที่จะคอยมอบความรักความเอาใจใส่ให้กับมันเท่านั้นเอง เรื่องที่น่าเศร้าของเจ้าเหมียวคือ ยังคงไม่มีใครมารับมันไปเลี้ยงเลย เจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ยังคงโดดเดี่ยวอยู่ในห้องเล็กๆ เพียงลำพังอยู่เหมือนเดิม จนกระทั่งเวลาผ่านไป 210 วันนับจากวันที่มันมาอยู่ที่สถาบัน ในช่วงเดือนธันวาคม 2017 จู่ๆ ก็มีคู่รักที่เดินเข้ามาหา Kozal และพวกเธอได้อ้าแขนรับมันกลับไปเลี้ยงเป็นหนึ่งในสมาชิกใหม่ของบ้านอันอบอุ่น ในที่สุดความฝันของเจ้าเหมียวก็ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาแล้ว…
-
หนุ่มแวะไปซื้ออาหาร แต่โดนเจ้าเหมียวกระโจนผ่านกระจก มายึดตักมนุษย์เป็นของตัวเองเฉย…
ความไร้เดียงสาของแมวเหมียวเนี่ย มีพลังทำลายล้างสูงนะ ทั้งลูกอ้อน ทั้งความน่ารัก รวมๆ กันแล้วมันสามารถยึดทุกอย่างที่มันต้องการได้ง่ายๆ เลยหละ พลังนี้มันไม่ได้ใช้ได้กับเฉพาะทาสแมวเท่านั้นนะ แต่คนทั่วไปก็ต้านทานไม่ไหวเหมือนกัน ดูอย่างพ่อหนุ่มคนนี้สิ จอดรถแวะซื้ออาหารแป๊บเดียว โดนเจ้าเหมียวมายึดรถเฉย เหตุการณ์ยึดครองในครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เมื่อชายคนหนึ่งจอดรถไว้หน้าร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ด Taco Bell ในซิลเวสเตอร์ รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อซื้ออาหาร แต่ขณะที่เขาเลื่อนกระจกลงเพื่อนำอาหารเข้ามา จู่ๆ เจ้าเหมียวแปลกหน้าตัวหนึ่งก็กระโดดเข้ามาในรถเฉย แถมยังไปนอนบนตักของชายหนุ่มอย่างสบายใจเฉิบ นั่นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจมากว่าทำไมมันถึงกล้าเข้ามาในรถของคนที่ไม่เคยเจอกันเลย แต่พอจะไล่มันลงจากรถก็กลัวว่ามันจะได้รับอันตรายอีก ชายหนุ่มเลยเข้าไปถามพนักงาน Taco Bell แต่พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าเหมียวตัวนี้มาจากไหน… ตอนนั้นการจราจรวุ่นวายมาก ทั้งผู้คน ทั้งรถรามีอยู่เต็มถนนเลย ถ้าปล่อยเจ้าเหมียวลงไปคงไม่ปลอดภัยแน่ๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจพามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจดูว่ามันมีเจ้าของหรือเปล่า หลังจากตรวจเสร็จแล้ว สัตวแพทย์ยืนยันว่าไม่มีไมโครชิปฝังอยู่ในตัวมัน และเร็วๆ นี้ก็ไม่ได้รับแจ้งว่ามีแมวหายออกไปจากบ้านด้วย สุดท้ายชายหนุ่มเลยพามันกลับบ้านด้วย เพื่อให้มันได้อยู่ในที่ที่ปลอดภัย มีอาหารมากมายให้มันกิน และตั้งชื่อให้เจ้าเหมียวว่า Jose ชายหนุ่มบอกว่า “ที่นี่มีผู้คนละทิ้งสัตว์เลี้ยงของตัวเองตลอดเวลา เนื่องจากพื้นที่ที่ไปเจอเจ้าเหมียวนั้น ผู้คนมีรายได้ค่อนข้างต่ำ” “ผมจึงไม่ค่อยแปลกใจว่าทำไมมันถึงถูกทิ้งจนกลายเป็นแมวจรจัดที่อาศัยอยู่ตามข้างถนน ตอนนี้ผมพยายามทุกวิถีทางเพื่อพามันกลับไปหาเจ้าของ ถ้ามีนะ แต่ถ้าไม่มีผมก็ยินดีที่จะรับเลี้ยงมัน” …
-
นักกีฬาจากรอบโลกร่วมสลัดผ้า เพื่อหาเงินช่วยนักกีฬาเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
องค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร เป็นองค์กรที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่มากขึ้น แต่พวกเขาจะดำเนินการไม่ได้เลยหากขาดแรงสนับสนุนจากสังคม ด้วยเหตุนี้นักกีฬาจากรอบโลกจึงเข้าร่วมโปรเจกต์ถ่ายภาพทำปฏิทิน โดยสลัดผ้าโชว์เรือนร่างอันแข็งแกร่งเพื่อระดมเงินช่วยเหลือองค์กรการกุศล Jamie Alderton อดีตทหารผ่านศึก เจ้าของยิมและครูฝึก เป็นหนึ่งใน 18 คนที่เข้าร่วมโปรเจกต์สลัดผ้า ตัวแทนนักกีฬาที่ร่วมโปรเจกต์ครั้งนี้มีทั้งหมด 18 คน ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เป็นการถ่ายภาพตามสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ หนึ่งในนั้นมี Rafal Gil อดีตนักฟุตบอลของสโมสร Ipswich Town กับทหารผ่านศึกและเจ้าของยิม Jamie Alderton เป็นตัวแทนจากประเทศอังกฤษ Patryk Rybarski รองแชมป์ Pole Dance World สำหรับปฏิทินปี 2018 นี้ เต็มไปด้วยภาพร่างกายอันงดงามของนักกีฬาที่มีมาพร้อมกับตารางฝึกซ้อมประจำวัน ตารางบันทึกผล ความสำเร็จ และผลลัพธ์ของนักกีฬาแต่ละคน โปรเจกต์นี้เป็นประโยชน์กับ One Year Fund เป็นอย่างมากในการจัดหารองเท้าและอุปกรณ์สำหรับนักกีฬาเยาวชนที่ขาดแคลนเงินทุน นักธนูโอลิมปิกชาวโปแลนด์ Karina Lipiarska-Palka Dominika Cuda ช่างภาพผู้ก่อตั้งโปรเจกต์นี้และอดีตนักกีฬา Biathlonist กล่าวว่า “เราพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้เยาวชนได้ทำตามความฝันและประสบความสำเร็จในทางที่พวกเขาเลือก” คุณอาจจะไม่ใช่ 1…
-
16 เสื้อผ้าสวมใส่จากโลกอนาคต ล้ำซะจนไม่อยากให้วันที่ต้องใส่อะไรแบบนี้มาถึง!!
ผู้คนมักสงสัยว่าชีวิตในอนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร? ต้องได้กินอาหารแบบไหน? ยานพาหนะจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ?และเสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นจะมีหน้าตาแตกต่างจากตอนนี้ยังไง? หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังกังวลเกี่ยวกับอนาคต ลองมาดูสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่ว่ากันว่าจะได้ใส่ในอนาคตที่มีความล้ำซะจนตื่นเต้นแทนคนที่อยู่ถึงวันนั้น 1. เสื้อผ้าไร้รอยต่อ นักออกแบบบางคนเชื่อว่าอนาคตเราจะสวมเสื้อผ้าที่ไร้รอยต่อ เพราะมันง่ายต่อการสวมใส่และการถอดออก แต่มีข้อสงสัยว่าเสื้อผ้าแบบนี้จะรับมือกับสภาพอากาศต่างๆ ได้เหรอ? 2. ชุดแมงมุม ถ้าคุณไม่ชอบอยู่ในพื้นที่แออัดโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน บางทีชุดแมงมุมนี้อาจช่วยคุณได้นะ และผู้ออกแบบชุดนี้ก็มั่นใจว่ามันต้องกลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงหลายๆ คนแน่ๆ 3. เสื้อเดินทาง คนที่ชอบเดินทางแต่ไม่ต้องการพกกระเป๋าไปด้วย คุณอาจจะชอบเสื้อแจ็กเก็ตตัวนี้ก็ได้ เพราะมันออกแบบมาพร้อมกระเป๋าอเนกประสงค์ที่สามารถบรรจุทุกความต้องการของคุณได้ ฟังดูดีเนาะ แค่มีเสื้อตัวเดียวก็สามารถใส่ทุกอย่างที่ต้องการได้… 4. ชุดที่ขับเคลื่อนด้วย Superflex นี่คือบอดี้สูทที่ได้รับการออกแบบด้วยเซนเซอร์และเทคโนโลยีที่เป็นสื่อกระแสไฟฟ้า ช่วยให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาด้วยกายภาพบำบัด กลับมามีร่างกายที่เข้าที่เข้าทางหรือปกติอีกครั้ง ในอนาคตแม้แต่คนไม่ได้เป็นอะไรก็ใส่ได้นะ 5. เสื้อผ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในอนาคตมนุษยชาติคงมีความต้องการพลังงานทางเลือกมากขึ้น และนี่คือเสื้อผ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมันจะกลายเป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องการชาร์จอุปกรณ์สื่อสารระหว่างเดินทางได้ 6. เสื้อผ้า 3 มิติ ผู้ออกแบบเชื่อว่าในอนาคตมนุษย์คงต้องการเสื้อผ้าที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปตามรูปร่างและการเคลื่อนไหวของร่างกาย ดังนั้นเสื้อผ้า 3 มิตินี้น่าจะตอบโจทย์ความต้องการนั้นได้มากที่สุด 7. ชุด Enflux นี่คือชุดออกกำลังกาย Enflux ที่สามารถวิเคราะห์ร่างกายของมนุษย์ได้ โดยมันจะแสดงภาพ 3…
-
โฆษณารองเท้า ของจีนทำ “เส้นผม” มาติดบังรองเท้า เพื่อให้คนปัดขึ้นเข้าหน้าซื้อ โคตรล้ำ!!
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก เมื่อมีบริษัทขายรองเท้าแห่งหนึ่งในจีนทำโฆษณาสุดกวนโอ๊ยออกมา หลอกตาผู้บริโภคมากมายให้กดเข้าไปดูสินค้าลดราคา ไม่รู้ว่าคิดได้ยังไง โฆษณาชิ้นนี้เป็นของบริษัทรองเท้า Kaiwei Ni ที่ต้องการให้คนกดเข้ามาดูรองเท้าลดราคาของตน พวกเขาจึงคิดกลอุบายลวงตาขึ้นมาในโฆษณาชิ้นนี้ นั่นก็คือการวาดเส้นผมปลอมหนึ่งเส้นติดเข้าไปในตัวโฆษณาด้วย แล้วเผยแพร่โฆษณาชิ้นในลงบนอินสตาแกรม ซึ่งคนที่ใช้มือถือทุกคนที่เห็นโฆษณาตัวนี้ ก็จะคิดว่ามีเส้นผมติดอยู่บนหน้าจอของพวกเขา และวิธีจัดการกับเส้นผมง่ายๆ ก็คือปัดมันให้พ้นจากหน้าจอโทรศัพท์แค่นั้นเอง แต่เมื่อทำการปัดเส้นผมปลอมไปแล้ว กลับกลายเป็นว่าตนเองโดนหลอกให้เปิดเข้าดูโฆษณาซะงั้น ผู้ใช้งานอินสตาแกรมคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Blake Robbins ก็หลงกลกับลูกเล่นของโฆษณาตัวนี้เช่นกัน จึงได้นำโฆษณาตัวนี้ไปแชร์เตือนภัยชาวเน็ตใน ทวิตเตอร์ของเขา ทวีตของ Blake Robbins ตัวโฆษณาถูกวิจารณ์ไปต่างๆ นานา บางส่วนก็ชื่นชมตัวโฆษณาว่าทำมาได้ดีทีเดียว เพราะว่าทั้งดึงดูดความสนใจของคน และยังมีลูกเล่นแปลกๆ ให้คนกดเข้าไปดูโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย นอกจากนี้ยังคิดว่าคนที่คิดโฆษณานี้มีความคิดล้ำหน้าไม่เบาเลย แต่อีกส่วนก็รู้สึกหัวร้อนกับโฆษณา เพราะพวกเขาไม่ได้อยากกดเข้าไปดูโฆษณาสักหน่อย แต่โดนหลอกให้กดเข้าไปต่างหาก ทำให้พวกเขาเสียเวลามานั่งดูอะไรที่พวกเขาไม่ต้องการ ซึ่งการกระทำแบบนี้เหมือนการหลอกลวงผู้บริโภคอยู่เนืองๆ นั่นเอง ทวีตนี้มีคนให้ความสนใจมากมาย และถูกแชร์ไปกว่า 2,000 ครั้ง จนในที่สุดก็ไปผ่านตาถึงอิสตาแกรมของบริษัท Kaiwei Ni เข้าจนได้ ทางบริษัทจึงก็ได้เข้าไปตอบในทวีตนั้นว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องโฆษณาตัวนี้นะ เพราะว่ามันถูกสั่งถอดถอนออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทางบริษัทยังถูกสั่งห้ามโพสต์โฆษณาอื่นใด…
-
ครอบครัวของนางงามอิรักถูกขับไล่ออกจากประเทศ หลังเจ้าตัวไปถ่ายเซลฟี่คู่กับมิสอิสราเอล!!
ภาพถ่าย คือสิ่งของที่เก็บรวบรวมความทรงจำต่างๆ เอาไว้ในนั้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนความทรงจำให้แก่เราว่า ครั้งหนึ่งเราก็เคยมีหน้าตาเช่นนี้ และเคยทำกิจกรรมอะไรเช่นนี้ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าสิ่งของแห่งความทรงจำชิ้นนี้ จะทำให้ครอบครัวหนึ่งโดนไล่ออกจากประเทศไปเลย.. โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับนางงามประเทศอิรักชื่อว่า Sarah Idan เพราะว่าเธอไปถ่ายรูปกับนางงามจากประเทศอิสราเอลชื่อว่า Adar Gandelsman เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ระหว่างการประกวดนางงามจักรวาลที่เมืองลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเธอได้โพสต์รูปดังกล่าวลงในอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ โดยมีแคปชั่นที่ไปในทางที่ว่า ‘เพื่อความสงบสุขและความรัก’ และภาพนั้นก็ได้ก่อให้เกิดผลร้ายที่ตามมาอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะว่าภาพนั้นได้ทำให้ชาวอิรักจำนวนมากรู้สึกโกรธ และก็มีผู้คนหลายคนอยากจะขับไล่ครอบครัวของเธอให้ออกไปจากประเทศอิรัก “ประชาชนหลายคนในประเทศอิรักขู่ว่า หากฉันยังไม่ลบภาพดังกล่าวออก พวกเขาจะใช้ความรุนแรงต่อฉันกับครอบครัวของฉัน และความรุนแรงที่ว่านี้ก็อันตรายจนถึงชีวิตเลย” “เพื่อความปลอดภัย ในตอนนี้ครอบครัวของฉันก็ออกจากอิรักแล้ว และจะอยู่ต่างประเทศจนกว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะสงบลง” Sarah กล่าว ภาพในอินสตาแกรมดังกล่าวของเธอมีผู้กดไลก์มากกว่า 3,600 คน แต่ก็มีคอมเมนต์เข้ามาจำนวนมากซึ่งก็มีทั้งในแง่ลบและแง่บวก โดยความเห็นในแง่ลบส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความขัดแย้งที่ทั้งสองประเทศมีต่อกันรวมถึงเรื่องของสงครามศาสนา เพราะว่าประเทศอิรักเป็นประเทศอิสลาม และอิสราเอลเป็นประเทศศาสนายิว “ในตอนนั้น Adar ถามฉันว่าอยากถ่ายรูปด้วยกันไหม ฉันก็บอกว่าได้สิไม่มีปัญหา เพราะว่าพวกเราต่างก็มีจุดมุ่งหมายคือความสันติสุขร่วมกัน และอยากจะส่งข้อความดังกล่าวออกไปในรูปภาพนี้” Idan กล่าว นี่ไม่ใช่กรณีแรกที่ภาพถ่ายของนางงามได้ก่อให้เกิดการพาดพิงเกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้ในปี 2014 ก็มีนางงามจากประเทศอิสราเอลถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ เมื่อเธอไปถ่ายรูปคู่กับนางงามตัวแทนจากประเทศเลบานอน นั่นจึงแสดงให้เห็นว่าประเทศแถบอาหรับส่วนใหญ่ ยังคงตั้งแง่อยู่กับประเทศที่นับถือศาสนายิวอย่างอิสราเอล…
-
การเปลี่ยนผ่าน “วัฒนธรรมร้านการ์ตูน” ที่กำลังหายไป และเด็กรุ่นใหม่อาจไม่ได้สัมผัสอีกแล้ว
ย้อนกลับไปในสมัยที่เราเรียนประถมหรือมัธยมเมื่อราวๆ สัก 10-20 ปีก่อน สิ่งบันเทิงในยุคนั้นก็มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการด์เกม เครื่องเล่นเกม รถบังคับ หรือจะเป็นความบันเทิงแบบง่ายๆ อย่างหนังสือการ์ตูน ปัจจุบัน #เหมียวฟิ้น เองอยู่ในช่วง 20 กลางๆ ซึ่งก็เคยสัมผัสสิ่งบันเทิงต่างๆ มาเกือบหมด แต่หนังสือการ์ตูนก็ยังคงเป็นสิ่งที่ให้ความบันเทิงที่ถูกจริตกับเรามากที่สุด และมันไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบไปเลย ต่างจากพวกเครื่องเล่นเกมที่มีการพัฒนาหน้าตาและความสวยงาม หรือจะเป็นภาพยนตร์ที่เปลี่ยนแพลตฟอร์มมาแล้วหลายรูปแบบ ก็อย่างว่าล่ะนะ หนังสือมันก็คือหนังสือ ลองนึกย้อนไปในสมัยเรียน (ในช่วงที่อินเตอร์เน็ตยังไม่แพร่หลาย) ทุกครั้งที่เราเลิกเรียน หลายๆ คนจะมุ่งตรงไปยังร้านหนังสือการ์ตูน เพื่อดูว่าหนังสือการ์ตูนเล่มใหม่ที่เราอยากอ่านมันมาหรือยัง? หรือเล่มที่คนอื่นยืมไปจะเอามาคืนแล้วหรือยัง? เพื่อที่เราจะซื้อหรือเช่าไปอ่านกันอย่างสบายอกสบายใจ โดยทิ้งการบ้านไว้ในกระเป๋า (แล้วค่อยไปทำเอาที่โรงเรียน 555+) หลายเรื่องเป็นเรื่องที่เราเองก็ไม่ได้ติดตามอ่านมาก่อน แต่หากเมื่อไหร่ก็ตามที่เพื่อนๆ ในโรงเรียนพูดถึงมากขึ้น เราก็ต้องไปขวนขวายหามาอ่าน เพื่อที่จะได้ไปโม้กับเพื่อนๆ ในวันรุ่งขึ้น หรือหากเรื่องที่เราอยากอ่านยังไม่มีเล่มใหม่ มันก็เป็นโอกาสให้เราลองเขยิบไปดูหนังสือการ์ตูนในชั้นข้างเคียงเพื่อดูว่ามีเล่มไหนน่าสนใจอีกหรือเปล่า จังหวะนั้นแหละที่ช่วยให้เราได้อ่านเรื่องใหม่ๆ ซึ่งเรื่องที่เราได้อ่านในช่วงนั้นก็จะเป็นพวก Bleach เทพมรณะ, Mar อิทธิฤทธิ์พิชิตมายา, Air Gear ขาคู่ทะลุฟ้า (เรื่องนี้บึ้มมาก), Reborn ครูพิเศษจอมป่วน, Conan…
-
นักท่องเที่ยวฉุนปึ๊ด โดนหลอกขายตั๋วนิทรรศการผีเสื้อปลอม ผู้จัดงานลั่น ‘ปลอมก็เกาะได้เหมือนกัน’
เราอาจเคยเห็นนิทรรศการจัดแสดงสิ่งมีชีวิตนานาชนิด เช่นเดียวกันกับในประเทศจีนที่ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการผีเสื้อ โดยในโฆษณายืนยันเลยว่าจะมีผีเสื้อจำนวนมากเกาะอยู่บนมือและไหล่คุณอย่างแน่นอน นิทรรศการดังกล่าวมีชื่อว่า Dinosaur and Butterfly จัดขึ้นในสวนสาธารณะ Yubai บนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งทางสวนสาธารณะดังกล่าวได้ประกาศออกไปในแอป WeChat ว่า “จะมีผีเสื้อเป็นหมื่นๆ ตัวมารวมกันในพื้นที่โล่งกว้าง และจะไปเกาะอยู่บนนิ้วและไหล่ของผู้ที่มาเยี่ยมชม” จากโฆษณา ทำให้มีผู้สนใจจำนวนมากซื้อบัตรราคาประมาณ 73 บาท เพื่อเข้าชมงานดังกล่าว แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะสิ่งที่รออยู่ด้านในมันไม่ได้เหมือนกับที่หลายๆ คนคาดคิดเอาไว้ ภายในงานคือการจัดแสดง “ผีเสื้อพลาสติก” หลากหลายสีสัน ไม่มีผีเสื้อจริงเลยแม้แต่ตัวเดียว หงายเงิบกันเลยทีนี้ นักท่องเที่ยวคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า เขาเดินทางมาไกลกว่า 100 กิโล เพื่อมาเจอกับการหลอกลวงในครั้งนี้ สำนักข่าว BBC นำเสนอเรื่องนี้เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2017 โดยทางบริษัท Yulin Beishang Exhibition Service ออกมายืนยันว่านี่ไม่ใช่ของปลอมหรือการหลอกลวงแต่อย่างใด “ผีเสื้อพลาสติกก็สามารถมาเกาะบนนิ้วเราได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?” ส่วนพนักงานของสวนสาธารณะก็บอกว่า พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันจะเป็นอย่างนี้ จนกระทั่งได้ไปเห็นด้วยตัวเองในวันจัดงาน และจัดการเคลียร์ทุกอย่างออกไปหมดแล้ว ซึ่งพวกเขาตั้งใจว่าจะไม่ปล่อยให้มีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นมาอีก…
-
สาวมะกันใช้ ‘เจลทาคิ้ว’ แบรนด์เกาหลี แต่ดันลอกไม่ออก แถมแข็งเป็นยางมะตอยเลย…
เรื่องเฟลๆ ของการแต่งหน้าเป็นเรื่องที่เกิดได้บ่อยๆ กับผู้หญิง เช่นเดียวกับสาว Charlotte Knight เธอได้เผยภาพเหตุการณ์สุดเศร้า ที่เธอไม่สามารถลอกเจลเขียนคิ้วออกได้เหมือนกับที่แบรนด์เครื่องสำอางโฆษณาไว้ โดยผลิตภัณฑ์ที่เธอใช้คือ “Tint My Brows Peel Off Gel” ทินท์สำหรับทาคิ้วแบบเจลของแบรนด์ดังจากเกาหลีอย่าง Etude House เธอซื้อมาในราคาเพียง 170 บาท ที่ลดราคาจาก 560 บาท จากเว็บไซต์ eBay คำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เขียนไว้ ก็ได้บอกว่าให้ทาทินท์ลงไปบนคิ้วเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงหรือถ้าอยากได้สีเข้มขึ้นนั้น สามารถทาทิ้งไว้ข้ามคืนได้เลย แต่หลังจากนั้นเพียง 2 ชั่วโมง Charlotte ก็ได้บอกว่าทินท์ทาคิ้วนั้นมันแห้งและแข็งเป็นหิน แถมยังมีดำเป็นยางมะตอยเลยทีเดียว!!! เธอใช้เวลาขัดๆ ถูๆ คิ้วเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง จนมีขนคิ้วบางส่วนหลุดออกไป จนเธอนึกว่าตัวเองอยู่ในฝันร้ายเลยทีเดียว “ฉันทามันทิ้งไว้กว่าสองชั่วโมง แล้วมันก็เริ่มแข็งและติดแน่นอย่างกับยางมะตอย ฉันร้องไห้และพยายามที่จะลอกมันออก ฉันกลัวว่าขนคิ้วของฉันจะหลุดออกไปจนหมดจริงๆ” เธอเคยคิดว่าผลิตภัณฑ์ที่เธอซื้อมานั้นเป็นของจริง แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เธอก็เริ่มเอะใจแล้วว่า ของปลอมแน่ๆ “ครอบครัวของฉันตกกะใจและถามฉันว่าทำไมถึงใช้มันเนี่ย!!! ในขณะที่เพื่อนของฉันก็ยืนหัวเราะคิกๆ คักๆ…
-
17 หญิงสาวที่ไม่ได้ “งดงาม” ตามค่านิยม แต่เธอก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเธอก็เป็นนางแบบได้!!
ความสวยในความหมายของแต่ละคนนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง?? บางคนอาจจะชอบผิวขาว บางคนอาจจะต้องมีจมูกเป็นสัน แต่กับผู้หญิงเหล่านี้ พวกเธอไม่เคยแคร์คำพูดที่มาต่อว่ารูปลักษณ์ของพวกเธอเลย เพราะพวกเธอภูมิใจและมั่นใจในความเป็นตัวเองแบบสุดๆ จึงไม่แปลกเลยที่จะเห็นสาวๆ เหล่านี้โลดแล่นอยู่ในสื่อต่างๆ มากมาย โดยพวกเธอได้ทำลายกำแพงของความสวยให้หมดไป แล้วสร้างสิ่งที่เรียก “ความมั่นใจ” ขึ้นมาแทนที่ ซึ่งเมื่อมองดูแล้ว พวกเธอก็ดูมีเสน่ห์แบบสุดๆ ไปเลยล่ะ 1. Ilka Brühl เธอเกิดมาพร้อมโรค Ectodermal Dysplasia หรือโรคสังข์ทอง แต่อย่างไรก็ตามความผิดปกติทางพันธุกรรมนี้ ก็ไม่สามารถทำลายจิตใจของเธอได้ เธอบอกว่าภารกิจของเธอคือการบอกผู้หญิงบนโลกว่า “พวกเธอทุกคนนั้นสวยงามเสมอ” . 2. Sophia Hadjipanteli Sophia เป็นนางแบบจากประเทศ Cyprus เรามักจะเห็นภาพของเธออยู่บนสื่อสังคมออนไลน์มากมาย เธอได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการดีไซเนอร์ เรียกได้ว่าเธอเปลี่ยนมาตรฐานความงามแบบเดิมไปเลย . . 3. Swantje Paulina Swantje ไม่เคยพยายามที่จะปกปิดกระของเธอ เธอภูมิใจที่แม่เธอให้มา และเธอมีแฟนคลับกว่า 2 แสนคนในอินสตาแกรม . 4. Dru Presta Dru Presta มีความสูงเพียง 100 เซนติเมตร นางแบบชาวอเมริกันวัย 21…
-
ชมผลงานศิลปะที่ใช้ “เกลือ” จากธรรมชาติสร้างสรรค์ เกิดเป็นวัตถุที่ดูสวยงามอย่างคาดไม่ถึง
หากคุณคิดว่าการสร้างงานศิลปะนั้นคือการวาด การปั้น หรือถ่ายภาพนั้น คุณอาจจะกำลังคิดผิด เพราะในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมงานศิลปะที่ไม่ได้ใช้ฝีมือคนในการสรรค์สร้าง แต่กลับใช้ธรรมชาติในการรังสรรค์มันขึ้นมา เกิดเป็นผลงานที่ดูแปลกตาแต่ก็สวยงามอย่างคาดไม่ถึง ศิลปินชาวอิสราเอล Sigalit Landau เธอได้สร้างสรรค์งานศิลปะที่ไม่เหมือนใครขึ้น โดยเธอได้สร้างผลงานจากทะเลเดดซี โดยใช้วัตถุต่างๆ แขวนตรึงไว้แล้วจุ่มลงไปในน้ำทะเล เพื่อสร้างประติมากรรมที่ห่อหุ้มไปด้วยเกลือที่หนาแน่น เมื่อปีที่แล้ว Landau เคยสร้างผลงานสุดพีค ที่เป็นประติมากรรมเกลือในรูปแบบของชุดเครื่องแต่งกายสุดอลังการ ทำให้เราได้เห็นถึงการศิลปะที่แปลกใหม่ และมันดูน่าทึ่งสุดๆ มาในปีนี้ผลงานล่าสุดของเธอ เรียกได้ว่ามีความสวยงามไม่แพ้กับของปีที่แล้วเลย เธอเลือกที่จะใช้วัตถุแบบง่ายๆ ที่มีพื้นผิวและรูปร่างคุ้นตา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกาย รองเท้า จักรยาน หรือแม้แต่เครื่องดนตรี “วัตถุเหล่านี้สูญเสียจิตวิญญาณแรกเริ่มของตนเองไป แต่ในขณะเดียวกันมันก็ถูกสภาพแวดล้อมแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นงานศิลปะชิ้นใหม่” Landau กล่าว . สิ่งของต่างๆ เหล่านี้เหมือนมันได้กลายเป็นสิ่งใหม่ เรียกได้ว่าเป็นการแสดงผลงานทางศิลปะอีกแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน . . . . . . Landau ได้เก็บผลงานของเธอไว้ในหนังสือที่ชื่อว่า “Salt Years” ทุกคนจะได้เข้าไปสำรวจกระบวนการสร้างงานศิลปะเหล่านี้ และคุณจะได้พบกับมุมมองใหม่ของงานประติมากรรมคริสตัลเกลือ ที่มีทั้งภาพและวิดีโอตลอด 15 ปีในการสร้างงานศิลปะของเธอ …
-
นักบินขับเครื่องบินในเยอรมนี วาดเป็นรูป “ต้นคริสต์มาส” เป็นของขวัญให้ทุกคนส่งท้ายปี
ธุรกิจการบินในทุกวันนี้เป็นเรื่องใกล้ตัว ชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นระบบขนส่งสาธารณะลำดับต้นๆ ในใจของใครหลายคนเลยก็ว่าได้ และแน่นอนว่าเมื่อเทศกาลสำคัญใกล้จะมาถึง สายการบินต่างๆ จึงอยากจะคืนความสุขให้แก่ประชาชนที่เลือกใช้บริการ รวมถึงบริษัทผลิตเครื่องบินชื่อว่า Airbus ก็มาร่วมส่งความสุขส่งท้ายปีเช่นเดียวกัน การบินส่งความสุขของเครื่องบินลำนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยบริษัท Airbus ผู้ผลิตเครื่องบินชื่อก้องโลกอยากที่จะทดสอบเครื่องบินของตนก่อนจะนำไปใช้จริง จึงมีการทดสอบการบินเกิดขึ้นที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี แต่ถ้าจะบินทดสอบเฉยๆ ก็จะเป็นการเปลืองน้ำมันโดยเปล่าประโยชน์ พวกเขาเลยจัดเส้นทางการบินให้กลายเป็นรูปต้นคริสต์มาสซะเลย โดยเครื่องบินที่ใช้สำหรับทดสอบคือเครื่องบินรุ่น Airbus A380 ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องบินพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ เส้นทางการบินของเครื่องบินลำนี้ก็คือเริ่มเดินทางออกจากเมืองฮัมบูร์กซึ่งอยู่ทางเหนือของประเทศเยอรมัน และมุ่งหน้าลงทางใต้เพื่อวาดภาพต้นไม้ที่ครอบคลุมประเทศเยอรมันทั้งหมด จากนั้นบินขึ้นสู่ทางเหนืออีกครั้งเพื่อวาดยอดของต้นไม้ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของประเทศเดนมาร์กนั่นเอง ต่อมาโฆษกของบริษัท Airbus ได้ออกมาให้สัมภาษณ์โดยเขาบอกว่าเที่ยวบินนี้กินเวลาถึง 5 ชั่วโมง 22 นาที ซึ่งถือว่า เป็นเวลาที่ปกติสำหรับการทดสอบบินภายในประเทศของเครื่องบินโดยสารลำใหญ่ที่สุดในโลก เส้นทางการบินของเครื่องบินลำนี้แบบเต็มๆ “การกำหนดเส้นทางการบินของไฟลท์นี้สามารถยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ เครื่องบินลำนี้ขึ้นบินและลงจอดในสนามบินของ Airbus ในเมืองฮัมบูร์ก ซึ่งมีไว้สำหรับการทดสอบเครื่องบินต่างๆ” “ต้องขอขอบคุณความร่วมมือจากศูนย์ควบคุมการบิน ที่ทำให้เส้นทางการบินวาดภาพต้นคริสต์มาสออกมาเป็นจริงได้ จริงๆ แล้วนี่เป็นไอเดียของนักบินที่ขับเครื่องทดสอบรวมถึงวิศวกรที่อยู่ในลำนั้น และนี่คือคำทักทายจาก Airbus ถึงแฟนๆ…
-
เพื่อนๆ ร่วมดีใจสุดขีด หลังหนุ่มน้อยวัย 16 ปี สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยฮาวาร์ดได้
หากเราอดทนทำเรื่องยากสักอย่างให้ประสบความสำเร็จ เมื่อเราสมหวังแล้วย่อมรู้สึกปลื้มปีติจนไม่สามารถอธิบายได้ว่ารู้สึกดีใจขนาดไหน เหมือนกับเด็กคนนี้ที่ก้าวผ่านอุปสรรคจนพิชิตเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้ เขาคงไม่สามารถบอกได้หรอกว่าดีใจมากแค่ไหน แต่ดูจากน้ำเสียงและท่าทางแล้ว คงรู้สึกยินดีสุดๆ ไปเลย Ayrton Little และแม่ Maureen Little Ayrton Little เป็นนักเรียนจากโรงเรียนเอกชน TM Landry College Prep ในเมือง Opelousas รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เขามีความฝันที่อยากจะเข้าเรียนใน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มาตั้งแต่เด็ก เขาจึงตั้งใจเรียนหนังสือและอ่านหนังสืออย่างหนัก จนเขาสามารถข้ามชั้นเรียนมาได้ และมีสิทธิ์ไปสอบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ตอนอายุเพียงแค่ 16 ปี เมื่อถึงวันประกาศผลสอบ เพื่อนๆ ในชั้นเรียนของเขาจึงมานั่งเป็นกำลังให้เขาด้วย ตัว Ayrton เองตื่นเต้นมากว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร และตอนที่เขาเลื่อนไปถึงส่วนที่แจ้งว่าเขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้แล้ว คนทั้งห้องก็ร้องลั่นด้วยความยินดีทันที เพื่อนๆ ทุกคนร่วมกันแสดงความยินดีกับเขาพร้อมทั้งตะโกนว่า “three-peat” เพื่อฉลองที่มีนักเรียนในโรงเรียนสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ติดต่อกันมา 3 ปีแล้ว . Ayrton ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมบอกไม่ถูกว่าตอนนั้นรู้สึกยังไง แต่มันรู้สึกสุดยอดโคตรๆ…
-
เผยผลสำรวจจาก “สาวนักอ่านการ์ตูน” ชาวญี่ปุ่น ชอบที่จะถูกกอดในแบบไหนบ้าง?
พอเข้าหน้าหนาวแล้ว เราก็ต้องหาทางรับมือกับลมหนาวที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของเรา การออกไปหาซื้อเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดี หรือถ้ามีเงินหน่อยจะหาซื้อฮีทเตอร์มาใช้ก็ได้นะ แต่คงไม่มีอะไรสู้ไออุ่นจากอ้อมกอดของคนรู้ใจได้อีกแล้ว เราทุกคนรู้ดีว่าตอนโดนกอดมันอุ่นกายอุ่นใจมากแค่ไหน แต่ว่าการกอดน่ะไม่ได้มีแค่หันหน้ากอดกันแบบเดียวนะ อาจจะอ้อมมากอดจากข้างหลัง หรือนอนกอดกันบนเตียงก็ได้ แล้วแบบไหนมันฟินที่สุดกัน ถ้าอยากรู้ละก็ เป็นโชคดีของเราพอดีที่เว็บไซต์ Mecha Comic ได้ทำแบบสอบถาม เก็บข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ให้เราแล้ว Mecha Comic เป็นเว็บไซต์สื่อสิ่งพิมพ์ออนไลน์ที่มีหนังสือการ์ตูนประเภทโชโจจำนวนมาก ซึ่งก็คือหนังสือการ์ตูนแนวน่ารักหวานๆ ที่ผู้หญิงชอบอ่านกัน แน่นอนว่ามีการ์ตูนรักโรแมนติกรวมอยู่ในนั้นเยอะมากด้วย จึงมีกลุ่มลูกค้าหญิงสาวจำนวนมากใช้เว็บไซต์นี้ ทางเว็บไซต์ก็เลยเปิดแบบสอบถามให้สาวๆ จำนวน 1,054 คน เข้ามาตอบกันว่าพวกเธอชอบที่จะถูกกอดหรือเปล่า ผลสำรวจก็เป็นที่คาดเดาได้ว่าคนส่วนมากอยากถูกกอดแน่ๆ ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นเพราะผลก็คือ หญิงที่ทำแบบสอบถาม 82 เปอร์เซ็นต์ต้องการให้กอด อีก 17 เปอร์เซ็นต์รู้สึกเฉยๆ มีก็ดีไม่มีก็ได้ และมีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ไม่ชอบให้กอด จากบนลงล่าง: กอดจากด้านหน้า, กอดจากข้างหลัง, โอบกอดกันจากด้านข้างแบบไหล่ชิดกัน, กอดให้ร่างกายทุกส่วนแนบชิดกัน, กอดและมองตากัน, กอดและเอาแก้มถูกัน, กอดโดยให้ส่วนหนึ่งของใบหน้าแนบกัน (หน้าผาก, จมูก…
-
จากคลิปสามีเกาหลีลดน้ำหนักเพื่อภรรยา ทั้งสองกลับโดนคอมเมนต์ต่อว่าจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม 2017 #เหมียวมู่ทู่ เคยนำเสนอเรื่องราวของ Hugh Gwon หนุ่มเกาหลีผู้เปลี่ยนแปลงตัวเอง พยายามลดน้ำหนักเพื่อเป็นกำลังใจให้ภรรยา Nicholas สาวชาวออสเตรเลียที่ประสบปัญหาการมีลูกยาก (อ่านข่าวเก่าได้ที่ สามีตัดสินใจลดน้ำหนักจนมีซิกแพ็ค เพื่อให้กำลังใจภรรยา ในช่วง ‘ภาวะมีบุตรยาก’) จากการออกกำลังกายและควบคุมอาหารของเขา ทำให้สามารถลดน้ำหนักลงไปได้มากถึง 22 กิโลกรัม ในระยะเวลา 23 สัปดาห์ และภรรยาก็ตั้งท้องได้สำเร็จด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว จากความพยายามของเขา ทำให้เปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ เขาและภรรยารู้สึกยินดีกับผลลัพธ์ในครั้งนี้มาก ฟิตเปรี๊ยะ จำแทบไม่ได้เลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้มีเพียงเรื่องราวดีๆ เท่านั้น เพราะหลังจากที่ทั้งคู่โพสต์คลิปความพยายามและการประสบความสำเร็จของนาย Hugh ลงในโลกโซเชียล จนทำให้ชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ในหลากหลายแง่มุม ทำให้ทั้งสองต้องเจอการโจมตีในแง่ลบจากหลายๆ ความคิดเห็น คลิปความพยายามและการเปลี่ยนแปลงของหนุ่มเกาหลีคนนี้ คอมเมนต์จากชาวเน็ตที่เข้ามาโจมตีพวกเขาในหลายๆ เรื่อง.. เมื่อ Hugh ลดน้ำหนักแล้ว นี่คงถึงตาของคุณภรรยาแล้วแหละ . ชาวเน็ตคนนี้เข้ามาบอกว่า Nicholas ดูอ้วนมากๆ และมองว่านี่คือการกดขี่เรื่องเพศที่เหมือนบังคับให้ผู้ชายต้องมาออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ผู้หญิงที่อ้วนเหมือนกันกลับไม่ต้องทำอะไร …
-
Pooja Ganatra หญิงชาวอินเดีย ที่มีผิวสีขาว ผมแดง และนัยน์ตาสีฟ้าเหมือนสาวชาวไอริช
เรื่องราวของหญิงสาวชาวอินเดียที่เกิดมาพร้อมกับรูปร่างและหน้าที่แตกต่างจากพ่อและแม่ของเธอ ผมสีแดง ผิวสีขาวและจุดกระบนใบหน้านั้นทำให้เธอถูกรังแก เพราะคนอื่นๆ คิดว่าเธอเป็นโรค Pooja Ganatra สาวน้อยวัย 24 ปีจากเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ที่เกิดมาพร้อมกับรูปร่างคล้ายๆ กับสาวชาว Gaelic จากประเทศไอซ์แลนด์ ลักษณะที่แปลกจากชาวอินเดียทั่วไปนี้คาดว่าน่าจะมีจากบรรพบุรุษของเธอ หรือที่เรียกว่า atavism Pooja และพ่อแม่ของเธอ บ่อยครั้งที่เธอมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นชาวต่างชาติ แต่อันที่จริงแล้ว Pooja เองเป็นสาวอินเดียแท้ๆ ที่เกิดมาจากพ่อแม่ที่เป็นชาวอินเดีย คุณ Rajesh พ่อของเธอเองเป็นชาวอินเดียแต่กำเนิดและมีผิวสีเข้ม ส่วน Hemaxi แม่ของเธอเองก็เป็นชาวอินเดียแต่กำเนิดเช่นกัน แต่ทางฝ่ายแม่นั้นกลับมีผิวขาวกว่าและมีกระบนใบหน้าเล็กน้อย Pooja เล่าถึงชีวิตของเธอในประเทศอินเดียบ้านเกิดว่า เธอรู้สึกแตกต่างจากคนอื่นๆ และก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้ใส่เสื้อแขนกุดขณะที่เรียนมหาวิทยาลัยอีกด้วย เนื่องจากสีผิวของเธอนั้นสะดุดตาคนอื่นมากเกินไป “ตอนที่ฉันเกิดมา ครอบครัวของฉันตกใจมาก พวกเขาไม่เคยเห็นใครแบบฉันมาก่อนเลย ทุกคนในครอบครัวฉันมีผิวสีน้ำตาลกันหมด แถมยังมีผมสีดำ และนัยน์ตาสีน้ำตาลอีกด้วย” หญิงสาวกล่าว ภาพของ Pooja ในตอนที่เธอยังเป็นเด็กสาว การเกิดมาพร้อมกับสีผิวที่ไม่เหมือนกับคนในครอบครัว ทำให้ทางครอบครัวคิดว่าเป็นโรคผิวหนัง พวกเขาต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาไปมาก และตัดสินใจว่าจะไม่มีลูกอีก “ฉันถูกส่งตัวไปรักษากับแพทย์ผิวหนัง เพราะพวกเขาคิดว่าฉันมีความผิดปรกติของร่างกายและอาจจะเป็นโรคผิวหนัง ฉันกลายเป็นตัวประหลาดในโรงเรียน พวกเด็กๆ มักจะแกล้งฉันอยู่บ่อยๆ…
-
แหวกแนว!! หนุ่มขอสาวแต่งงาน ด้วยการติดป้ายโฆษณาขนาดยักษ์กลางเมืองซะเลย
การขอแต่งงาน เป็นเรื่องสุดโรแมนติกที่ไม่ว่าใครๆ ต่างก็อยากจะได้ยินคำนี้จากปากคู่รักของตัวเองทั้งนั้น แต่ว่าหากขอแต่งงานกันแบบธรรมดาๆ ก็คงไม่เป็นที่น่าจดจำในชีวิตคู่เท่าไหร่นัก บนโลกนี้จึงได้มีการขอแต่งงานแปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหนุ่มสาวคู่นี้ เมื่อฝ่ายชายตัดสินใจขอหญิงสาวแต่งงานด้วยการติดป้ายโฆษณาขนาดยักษ์หรากลางเมืองซะเลย!! ใครไม่เห็นให้มันรู้ไป Gareth Illidge กราฟฟิกดีไซเนอร์หนุ่มวัย 29 ปีอาศัยอยู่ในเมือง Pontefract ประเทศอังกฤษ เช่นเดียวกันกับ Becci Thourgood แฟนสาวที่กำลังคบหากันอยู่ และเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม Gareth ก็คิดว่าควรจะขอ Becci แต่งงานได้แล้ว ทว่าด้วยอาชีพดีไซเนอร์สุดครีเอทบวกกับอุปนิสัยขี้อายของเขา ทำให้เขามีความคิดจะขอแฟนสาวแต่งงานด้วยป้ายโฆษณาขนาดใหญ่แทน โดยป้ายที่เขาได้ทำขึ้นมีชื่อของแฟนสาวโดดเด่นหราอยู่บนสุด แล้วก็มีคำขอแต่งงานที่มาพร้อมกับอิโมติคอนน่ารักๆ และหากหญิงสาวตกลงก็ให้ส่งข้อความไปหาเขาว่า ‘ตกลง’ นั่นเอง มาหรือจะไม่ตกลง ทำซะขนาดนี้ นอกจากนั้นบนป้ายโฆษณานี้ยังมีแฮชแท็กสุดขำขันว่า #Don’t say no, this cost a fortune ซึ่งมีความหมายว่า “อย่าปฏิเสธเลย ป้ายนี้เสียตังติดนะ” ซึ่งผู้คนที่พบเห็นป้ายนี้ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มันช่างเต็มไปด้วยความโรแมนติกและสร้างสรรค์ซะเหลือเกิน “ผมอยากจะทำสิ่งหนึ่งที่หลุดออกไปจากกรอบเดิมๆ และด้วยความที่มันที่เป็นคำขอที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม ผมจึงสร้างป้ายนี้ขึ้นมาติดไว้เมืองท้องถิ่นที่เราอาศัยอยู่” เหมาะสมกันจริงๆ “และเหตุผลหลักๆ…
-
โคตรฮา!! พ่อท้าแข่งเกมกับแฟนลูกสาววัยมัธยมต้น แต่เมื่อชนะกลับโดนงอนจนต้องหาข้าวกินเอง
เมื่อคุณพ่อทั้งหลายพบว่าลูกสาวของพวกเขานั้นมีแฟน ส่วนมากจะคะยั้นคะยอให้ลูกสาวพาแฟนมาให้ดูหน้าทำความรู้จักบ้าง แต่ว่าด้วยความเป็นผู้ชายแล้วจะมารู้จักแบบธรรมดาๆ ก็คงไม่ได้ เหล่าพ่อตาหลายคนจึงมักจะเตรียมแบบทดสอบไว้สำหรับว่าที่ลูกเขย เพื่อจะพิสูจน์ว่าไอ้หนุ่มที่มาจีบลูกสาวของพวกเขานั้นมีศักยภาพเพียงพอหรือไม่ แต่มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เมื่อว่าที่พ่อตาอยากจะทดสอบทักษะการเล่นเกมของแฟนลูกสาว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับตาลปัตร เมื่อเขาเป็นฝ่ายชนะแต่ดันถูกลูกสาวเมินใส่จนเหมือนโดนไล่ออกจากบ้านตัวเองซะอย่างงั้น… เกม Guilty Gear เรื่องราวสุดฮานี้ได้รับการเปิดเผยจากยูสเซอร์ทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า @buppa_stone โดยเขาเล่าว่าเขามีลูกสาวอยู่คนหนึ่งที่กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นและกำลังอินเลิฟกับแฟนของเธออยู่ แล้วอยู่มาวันหนึ่งลูกสาวของเขาก็พาแฟนคนนั้นเข้ามาที่บ้านเพื่อให้ทำความรู้จักกับครอบครัว แต่เมื่อมีเหยื่อมาให้รอเชือดแล้ว คุณพ่อคนนี้ก็ไม่รอช้าที่จะท้าแฟนหนุ่มของลูกสาวแข่งกันเล่นเกมที่มีชื่อว่า Guilty Gear ซึ่งเป็นเกมแนวต่อสู้ แน่นอนว่ามีหรือจะปฏิเสธว่าที่พ่อตาได้ แฟนหนุ่มคนนั้นจึงจำใจยอมรับคำท้าแต่โดยดี โดยทั้งสองได้ตั้งกติกาเอาไว้ว่า หากใครชนะถึง 10 ครั้งก่อนกันจะเป็นฝ่ายชนะ เกมที่พ่อตาคนนี้ใช้แข่งกับแฟนของลูกสาว มาลองดูกันดีกว่าว่าเป็นยังไง ซึ่งฝ่ายคุณพ่อก็ดูเหมือนจะมีความมั่นใจมากๆ เพราะว่ามันเป็นเกมที่เขาถนัดและมีอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว จึงค่อนข้างจะคุ้นมือและระบบเป็นอย่างดี งานนี้จึงเรียกได้ว่า ปอกกล้วยเข้าปากเลยก็ว่าได้ “เจ้าเด็กงั่งนั่นบอกว่าอยากจะเล่นเกม Guilty Gear กับผมมันไม่รู้ซะแล้วว่าผมเป็นใคร และในตอนนี้ผมกำลังจะสั่งสอนเจ้าตูดหมึกนั่นให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร และดูตัวละครที่มันใช้มันเลือกใช้ตัว Slayer ซะอย่างงั้น งานนี้กินหมูอีกแล้วสิ” buppa_stone ได้ทวีตก่อนที่จะมีการแข่งเกิดขึ้น ทวิตเตอร์แสดงความมั่นใจก่อนจะมีการแข่งเกิดขึ้น และเวลาผ่านไปเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากที่พ่อตาคนนี้ได้ทวีตข้อความนี้ออกไป ผลการประลองก็ออกมาและพบว่าคุณพ่อเป็นฝ่ายชนะไปด้วยสกอร์เอกฉันท์ถึง 10-6 เลยทีเดียว “ผมเล่นเกมนี้มาตั้งแต่ภาคแรกของซีรีส์ (ในปี 1998) มีหรือที่ผมจะแพ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างนี้”…
-
พบกับ Mr. Roger ที่จะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายในปี 2018 ที่จะถึงนี้
ก็เหลือเพียงอีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้นที่พวกเรากำลังจะอำลาปี 2017 และก้าวเข้าสู่ปี 2018 กันแล้ว และแน่นอนว่าหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนมักจะทำให้ช่วงวันเคาท์ดาวน์หลังจากนับถอยหลังเสร็จนั่นก็คือการประกาศความตั้งใจหรือเป้าหมายในปีที่จะมาถึงนั่นเอง และหนึ่งในเป้าหมายในช่วงปีใหม่ที่หลายๆ คนตั้งใจจะทำเมื่อถึงช่วงปีใหม่นั่นก็คือการลดน้ำหนักและออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงนั่นเอง แต่!! ถ้าหากว่าคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่มักจะหมดแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายง่ายๆ หรือยังไม่มีเป้าหมายในการลดน้ำหนักล่ะก็ วันนี้เราก็มีภาพของเจ้าจิงโจ้จากประเทศออสเตรเลียนามว่า Roger มาฝากกัน รับรองได้ว่าหุ่นอันล่ำๆ ของมันนั้นจะต้องทำให้ดัมเบลในมือคุณสั่นแน่นอน!! เอาล่ะพรรคพวก ได้เวลาลดน้ำหนักกับอาจารย์ Roger กันแล้ว!! จิงโจ้หนุ่มผู้มาพร้อมกับกล้ามเนื้อที่แทบจะไม่มีไขมันแทรกอยู่ และท่าเบ่งกล้ามอันแสนทรงพลังนี้กลายเป็นที่โด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ตอย่างมาก ซึ่งขณะนี้พี่แกก็มีคณะผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 700,000 คนแล้ว!! จ้องมองที่ตาเค้าดีๆ เพราะพ่อหนุ่ม Roger ตัวนี้กำลังบอกคุณว่า หยุดกินของทอดแล้วหันมาออกกำลังกายกันได้แล้วพวก!! ไปดูท่าทางการขยับกล้ามเนื้อแบบหนุบๆ หนับๆ ของพี่ Roger กันได้เลย (ดูไม่ได้คลิก ที่นี่) Our beautiful boy Roger when he was alpha male ? โพสต์ที่แชร์โดย The Kangaroo Sanctuary (@thekangaroosanctuary) เมื่อ ธ.ค.…
-
ภาพจำลอง สภาพการจราจรต่างๆ ที่จะทำให้เรารู้ว่าถนนก็มีหลายรูปแบบเหมือนกันนะ!!
เรื่องจราจรเป็นปัญหาที่นับได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ในประเทศของเรา เพราะไม่รู้ว่าด้วยความที่บ้านเมืองเรามีคนที่มีรถส่วนตัวเยอะเกินไป หรือว่าเป็นการจัดการจราจรที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ในเมืองใหญ่ๆ ที่อยู่ในประเทศนี้มักจะเผชิญกับภาวะที่เรียกว่า ‘รถติด’ ซึ่งก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม ซึ่งวิธีแก้ปัญหาก็มีหลายวิธี ทั้งการทำรถสาธารณะให้มีประสิทธิภาพ และรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้กันให้มากขึ้น หรือจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นั่นคือการเปลี่ยนรูปแบบการสัญจรบนถนนซะเลย เราลองมาดูวิดีโอการจำลองรูปแบบถนนรวมถึงวิธีเดินรถต่างๆ ว่าแต่ละวิธีจะสามารถรองรับจำนวนรถได้มากเพียงใด และจะมีสภาพคล่องขนาดไหน โดยรูปแบบการเดินรถตามคลิปนี้จะทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่างของการจัดการจราจรได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว มาลองดูกันดีกว่าว่าหากเปลี่ยนรูปแบบแล้วจะเป็นอย่างไรกัน โดยภาพเหล่านี้มาจาก MOD ของเกมที่ชื่อว่า Cities: Skylines ซึ่งเป็นเกมสำหรับการวางแผนผังสร้างเมืองต่างๆ ซึ่งภายในเกมจะมีทั้งการสร้างตึก การสร้างสาธารณูปโภคเช่น การไฟฟ้า การประปา รวมถึงการคมนาคมในรูปแบบต่างๆ ภาพที่เราได้เห็นจึงมาจากการคำนวณในเกม และอาจทำให้เราสามารถนำมาปรับใช้ได้จริงๆ หากสี่แยกที่ไม่มีไฟแดงจะชุลมุนกันขนาดไหนเนี่ย การจราจรที่ไร้ซึ่งไฟแดงนี้มันช่างเป็นอะไรที่ดูยุ่งเหยิงชุลมุนซะจริงๆ รถส่วนมากจะมาหยุดนิ่งที่ตรงกลางของสี่แยกและมันยังเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุรวมทั้งเจอกับคนใจร้อนได้ด้วย โดยหากสี่แยกที่ไม่มีไฟแดงนั้น จะทำให้มีรถสามารถเคลื่อนตัวได้อย่างคล่องแคล่วเพียงนาทีละ 191 คันเท่านั้น ถนนสี่เลนที่มีสี่แยกแบบมีไฟแดงที่บ้านเรานิยมใช้กันบ้าง นี่คือรูปแบบที่นิยมที่สุดในบ้านเรา โดยจะมีสี่แยกไฟแดงและปล่อยพร้อมกันทีละ 2 เลนซึ่งในบางแยกที่มีการจราจรคับคั่งก็จะมีการหยุดในเลนตรง และให้เลนขวาไปแยกเฉพาะอีกด้วยเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นนั่นเอง และการจราจรแบบนี้จะทำให้รถสามารถเคลื่อนที่ไปได้อย่างคล่องตัวอยู่ที่นาทีละ 235 คันเลยทีเดียว แล้วถ้าเป็นการใช้วงเวียนแทนการใช้สี่แยกดูล่ะ?? การใช้วงเวียนแทนการใช้สี่แยกสามารถกระทำได้ แต่ว่าเหตุที่ส่วนใหญ่รูปแบบวงเวียนไม่เป็นที่นิยมก็เพราะว่า การสร้างวงเวียนจะต้องใช้พื้นที่กว้างกว่า เพื่อให้มีจำนวนหลายเลนภายในวงเวียนนั้นๆ…
-
ภัตตาคาร ‘สายเปลือย’ จากฝรั่งเศส ปล่อยให้ลูกค้าล่อนจ้อนทานอาหาร เพิ่มอรรถรสในการชิม
โดยปรกติแล้วการทานอาหารในภัตตาคารหรูๆ คุณอาจจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม และอาจจะต้องหาชุดหล่อๆ มาใส่เพื่อเสริมบุคลิกให้กับตัวเอง แต่สำหรับที่ภัตตาคาร O’naturel ในกรุงปารีสนั้นคุณแทบจะไม่ต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้าให้ปวดหัวเลย!! ภัตตาคารนู้ดแห่งแรกในฝรั่งเศสนี้ จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับอาหารท้องถิ่นสุดคลาสสิคที่หาทานได้ยาก และที่สำคัญคุณยังสามารถเอร็ดอร่อยกับอาหารแบบไม่สวมเสื้อผ้าอีกด้วย แต่อย่างไรตามที่นี่ไม่ใช่ร้านภัตตาคารนู้ดแห่งแรกของยุโรป โดยก่อนหน้านี้ในปี 2016 ได้มีการเปิดภัตตาคารแบบนี้ขึ้นในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และดูเหมือนว่ามันจะประสบความสำเร็จมากๆ อีกด้วย คุณ Mike และคุณ Stephane Saada สองพี่น้องฝาแฝดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภัตตาคารนู้ดจากเกาะอังกฤษ และเริ่มนำมันมาให้ชาวฝรั่งเศสได้สัมผัส และมองเห็นว่าภัตตาคารแบบนี้จะสามารถเติบโตได้ที่ฝรั่งเศสเช่นกัน คุณ Strphane เจ้าของร้านวัย 42 ปีให้สัมภาษณ์ว่า “โดยส่วนมากแล้วผู้คนมักจะเปลือยกายเฉพาะช่วงหน้าร้อน แต่ว่าร้านของเราช่วยให้พวกเขาสนุกกับการเปลือยกายได้ตลอดทั้งปี” ภายในร้าน O’naturel นั้นถูกประดับตกแต่งแบบสไตล์มินิมอล และพร้อมที่บริการอาหารฝรั่งเศสหรูๆ อย่างเช่นล็อบสเตอร์ ตับห่าน และหอยทากกับครีมพาสลีย์ นอกจากนี้ยังมีเมนูสำหรับคนที่เป็นมังสวิรัติอีกด้วย โดยคอร์สอาหารแบบ 3 จานนั้นเริ่มต้นที่ราคา 57.5 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1,800 บาท ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปทานอาหารภายในร้านได้นั้นลูกค้าจะต้องถอดเสื้อผ้ารวมทั้งโทรศัพท์มือถือไว้ด้านนอกห้องก่อน โดยที่พวกเขาสามารถสวมเพียงแค่รองเท้าแตะเข้าไปในร้านได้เท่านั้น “หน้าที่ของเราคือทำให้ลูกค้าพอใจ เมื่อพวกเขาเข้ามาในส่วนของห้องอาหารแล้วหน้าที่ของเราคือทำให้พวกเขาสบายใจ และไม่รู้สึกว่ากำลังถูกแอบมองอยู่” คุณ Stephane กล่าว ร้านอาหารแห่งนี้เปิดให้บริการเฉพาะมื้อเย็นเท่านั้น และจะมีการคัดกรองลูกค้าที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมจากร้านอีกด้วย…
-
ก็อยากเท่บ้าง!! เหล่าชาวเน็ตร่วมกันถ่ายภาพเลียนแบบคุณรุ่นปู่ของตัวเองที่เฟี้ยวแบบสุดๆ
ในสมัยปู่ย่าตาทวดของเรา การจะถ่ายภาพสักใบพวกเขาต่างแต่งองค์ทรงเครื่องกันอย่างเต็มที่ ตามแบบฉบับยุคสมัยที่พวกเขาอาศัยอยู่ เพราะการถ่ายภาพแต่ละภาพไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เนื่องจากเทคโนโลยียังไม่พัฒนาเหมือนกับทุกวันนี้ และด้วยท่าทางการโพสหรือว่าการแต่งกายของพวกเขาที่จัดเต็มในอดีตนั้น มีเสน่ห์จนคนในยุคปัจจุบันบางคนอยากที่จะถ่ายรูปเช่นนั้นบ้าง พวกเขาเหล่านี้จึงได้ถ่ายภาพเลียนแบบบรรพบุรุษของเขา เผื่อว่าในวันข้างหน้าพวกเขาอาจจะมีลูกหลานที่อยากทำแบบเดียวกันบ้าง จะได้เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่เก็บไว้ในภาพถ่ายนั่นเอง ยายกับหลานหน้าแทบจะเหมือนกันเด๊ะ ทุกกระเบียดนิ้ว ในสมัยก่อน การถ่ายภาพต้องทำหน้าให้จริงจังเพื่อให้ภาพนั้นออกมาดูสวยที่สุด และไม่ทำให้เปลืองฟิล์มอีกด้วย ภาพของยายทวดในปี 1918 กับภาพถ่ายเหลนในปัจจุบัน ถอดแบบตาทวดมาเลยก็ว่าได้ ภาพถ่ายของย่าในปี 1944 ขณะที่มีอายุ 16 ปี กับภาพถ่ายของหลานในปี 2015 ถ่ายเลียนแบบยายตอนโพสท่าสุดเซ็กซี่ เชื่อละจ้า ว่าเป็นปู่กับหลานจริงๆ ภาพถ่ายเลียนแบบต้นกระกูลที่ต้องย้อนเวลาไปถึง 200 ปีก่อน เรียกได้ว่าเป็นท่าประจำตระกูลก็ยังได้ ภาพงานแต่งของตา-ยายในปี 1954 กับภาพถ่ายการแต่งงานของหลานในปัจจุบัน ดูดีไม่แพ้กันเลยทีเดียว หนวดเคราโครงหน้า นี่บอกว่าเป็นพี่น้องยังเชื่ออ่ะ ภาพของปู่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งถ่ายที่ประเทศอิตาลีกับภาพหลาน …
-
ชุดออกกำลังกายในธีม “แฮร์รี่ พอตเตอร์” สำหรับเหล่ามักเกิ้ลที่ชื่นชอบในการออกกำลังกาย
BlackMilk แบรนด์เสื้อผ้าโดยชาวออสเตรเลีย ได้เปิดตัวคอลเลคชันเสื้อผ้าเซตใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อสาวกแฮร์รี่ พอตเตอร์โดยเฉพาะกับชุดออกกำลังกายสุดเท่ที่แฟนๆ ต้องกรี๊ดกันเลยทีเดียว เสื้อผ้าในคอลเลคชันนี้มีให้เลือกมากมายตามความชื่นชอบ ใครทีมไหนก็ซื้อมาใส่ประกาศให้โลกรู้ไปเลย ไปดูกันเลยดีกว่าว่าเจ้าชุดออกกำลังกายนี้มันจะสวยน่าไปตำแค่ไหน ว่าไง เหล่ามักเกิ้ลทั้งหลาย อยากได้สักชุดไหม? ทีมฮอกวอตส์ หมวกคัดสรรจะกำหนดว่าใครจะอยู่บ้านไหน บ้านไหนดีนะ ดีหมดทุกบ้านเลยยย ทีมกริฟฟินดอร์ ทีมสลิธีริน ทีมเรเวนคลอว์ ทีมฮัฟเฟิลพัฟ เลือกไม่ถูกเลยทีนี้ เหล่าสาวกแฮร์รี่ พอตเตอร์ว่าไง อยากจะได้ไปใส่ออกกำลังกายกันไหม ราคาประมาณ 1,700-2,900 บาทแค่นั้นเอง โดยทางเจ้าของแบรนด์ออกมาคอนเฟิร์มว่าจะเปิดจำหน่ายออนไลน์พร้อมกันวันที่ 19 ธันวาคม 2017 ทางเว็บไซต์นี้ blackmilkclothing สาวกแฮร์รี่ พอตเตอร์เก็บตังรอกันได้เลยจ้า ที่มา designtaxi
-
ชมภาพถ่าย “มินิมอลสไตล์” จากฝีมือของช่างภาพสาวชาวไซปรัส ที่อัดแน่นไปด้วยความสวยงาม
ผลงานการถ่ายภาพของคุณ Helena Georgiou ช่างภาพสาวชาวไซปรัส เป็นที่รู้จักกันดีในวงการว่าผลงานของเธอนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการจัดวางองค์ประกอบ และสื่อความหมายของภาพในสไตล์มินิมอลออกมาได้เป็นอย่างดี “ผลงานภาพถ่ายของฉันมาจากความหลงใหลในรายละเอียดและความคิดสร้างสรรค์ ฉันถ่ายทอดมันผ่านความรู้สึกและพยายามที่จะสื่อสารถึงประสบการณ์ในการเดินทาง ความคิดต่างๆ ที่ได้รับอิทธิพลจากบทกวีหรือวรรณคดีที่ฉันได้อ่าน” ช่างภาพสาวกล่าว นอกจากการถ่ายภาพในสไตล์แบบมินิมอลแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ช่างภาพสาวของเราให้ความสำคัญนั่นก็คือคุณภาพของผลงานนั่นเอง “ฉันเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของภาพถ่ายและงานศิลปะทุกๆ อย่างนั่นก็คือมันสามารถกระตุ้นการตอบสนองทางด้านอารมณ์ของผู้ชมได้” เธอกล่าว . คุณ Helena Georgiou เกิดและเติบโตมาจากกรุงนิโคเซีย ประเทศไซปรัส และจบการศึกษาทางด้านบริหารธุรกิจ และด้านการออกแบบภายใน และเริ่มต้นสนใจในการถ่ายภาพตั้งแต่ปี 2009 เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกของสมาคมถ่ายภาพของไซปรัส และผลงานการถ่ายภาพของเธอนั้นก็เคยถูกจัดแสดงมาแล้วมากมายหลายที่ไม่ว่าจะเป็นประเทศกรีซ เบลเยียม เยอรมนี และออสเตรเลีย . นอกจากฝีมือทางด้านการถ่ายภาพแล้ว ล่าสุดเธอยังได้รับรางวัลจากสหภาพยุโรป เนื่องจากการถ่ายทอดเรื่องราวทางด้านสิทธิมนุษยชนผ่านทางผลงานของเธอนั่นเอง ไปชมความสวยงามผลงานภาพถ่ายของเธอกันแบบเต็มๆ ได้เลย… . . . . . . . . . . . . . ส่วนใครที่ยังไม่จุใจล่ะก็ สามารถตามเข้าไปเสพกันได้ที่เฟซบุ๊ก Helena…
-
อาจารย์มหาวิทยาลัยโอซาก้าลั่นวาจา เจ้าชายในสโนว์ไวท์เป็นพวกล่วงละเมิดทางเพศ
เราเชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักหรือเคยได้ยินเกี่ยวกับแอนิเมชั่นของ ดิสนีย์ เรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด และเรื่อง เจ้าหญิงนิทรา มาบ้าง ซึ่งฉากเด่นที่ทุกคนอาจจดจำได้ดี คงจะเป็นฉากที่เจ้าชายจูบเจ้าหญิงเพื่อปลุกเธอให้ตื่นจากนิทรานั่นเอง ฉากจูบนี้ทำเอาหลายคนเคลิ้มกับความโรแมนติกที่เจ้าชายมีต่อเจ้าหญิงจนฟินจิกหมอน แต่ศาสตราจารย์ Kazue Muta กลับเห็นต่างออกไป เธอมีความคิดเห็นว่านั่นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเลย Kazue Muta เป็นศาสตราจารย์หญิงใน มหาวิทยาลัยโอซาก้า เธอมีเชี่ยวชาญด้านสังคมศาสตร์ ประวัติศาสตร์และเพศสภาพศึกษา เธอทราบข่าวที่มีชายคนหนึ่งแอบไปจูบหญิงสาวที่กำลังหลับอยู่บนรถไฟ ในจังหวัดวากายามะ ประเทศญี่ปุ่น และเป็นกังวลเกี่ยวกับการกระทำในทำนองนี้ เธอจึงอยากสะกิดใจชาวเน็ตว่าการกระทำแบบนี้ไม่เหมาะสมเลยแม้แต่น้อย เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา เธอจึงได้ทวีตเปรียบเปรยว่าเจ้าชายในเรื่องเจ้าหญิงนิทราและสโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดนั้น กระทำการคุกคามทางเพศโดยจูบเจ้าหญิงที่หลับอยู่ “หากพิจารณาเรื่องสโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด และเจ้าหญิงนิทรากันดีๆ แล้ว ‘การปลุกเจ้าหญิงให้ตื่นด้วยจุมพิต’ นั้นเป็นการคุกคามทางเพศกับคนไม่ได้สติ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำลายฝันนะ แต่ต้องการให้ทุกคนเห็นว่าเทพนิยายพวกนี้สนับสนุนให้คนทำผิด” ทวีตของเธอนั้นได้จุดประเด็นเรื่องศีลธรรมและความถูกต้อง เกี่ยวกับการจูบคนที่หลับอยู่ได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่ามีทั้งคนที่เห็นด้วยกับเธอและคนที่เห็นต่างด้วยเช่นกัน “ในกรณีนี้น่าจะเป็นการช่วยเหลือมากกว่าการคุกคามทางเพศนะ” “เธอพูดถูก อยู่ๆ เราจะไปไล่จูบคนที่หลับอยู่ได้ไง เจ้าหญิงก็แค่บังเอิญตื่นมาเถอะ” “จะเอาตรรกะทั่วไป ไปใช้กับเทพนิยายไม่ได้หรอก” “จากมุมมองของผมที่เป็นทนาย ถ้าสโนว์ไวท์ไม่ฟ้องร้อง เจ้าชายก็ไม่ผิด” แม้จะไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่อย่างน้อยศาสตราจารย์…
-
คุณอย่ามากล่าวหากันนะ แบบนี้เขาไม่เรียกก็อบ ให้เรียกว่าแรงบันดาลใจต่างหาก!!
ปัจจุบันสินค้าหรือแบรนด์ดังต่างๆ มักจะเริ่มถูกผู้ค้ารายย่อยใช้ช่องโหว่บางอย่างเพื่อก็อปปี้มาสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อหารายได้ หรือเบาหน่อยก็อาจจะใช้เพื่อล้อเลียน แต่ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์อะไร บางครั้งเมื่อมีคนบอกว่าสินค้าของพวกเขามาจากการก็อบปี้ มันก็มักจะมีประโยคสุดฮิตที่ลอยตามมาเสมอว่า ‘ไม่ได้ก็อบ เขาเรียกแรงบันดาลใจ’ และถ้าเกิดว่าใครคิดไม่ออกงั้นลองมาดูตัวอย่างการใช้แรงบันดาลใจที่ว่ากันสักหน่อยก็แล้วกัน… เปลี่ยนจาก Super Mario ให้กลายเป็น Super Mary แทน เปลี่ยนผมกับหนวดให้เป็นสีขาวด้วยเพื่อความเนียนยิ่งขึ้น แบบนี้สิที่เรีบกว่าแรงบันดาลใจของจริง จับมันมารวมกันให้หมด!! นี่มันเป็นการเปิดจักรวาลใหม่ของแฮร์รี่พอตเตอร์หรือเปล่านะ ยักษ์จินนี่มันดูน่ากลัวมากกว่าน่ารักอีกนะเนี่ย CNUNO = China Uno ใช่ไหม ดื่มเสร็จแล้วอยากเล่น Fifa เลย ใหญ่ยาว 7 นิ้วกันเลยนะ เล่นกันง่ายๆ Dove เป็น Dave นี่คงจะเป็นรถไฟ Thomas ที่หน้าตาเบื่อโลกที่สุดตั้งแต่มี Elmo เป็นนก!? เพิ่งรู้นะเนี่ย อวดเพื่อนว่าซื้อ iPhone…
-
โฆษณา ‘ห้างเฟอร์นิเจอร์’ ในหนังสือพิมพ์แบบโคตรล้ำ ที่คุณต้องไม่เคยเห็นมาก่อนแน่ๆ!!
ใครที่อ่านหนังสือพิมพ์เป็นประจำคงจะเห็นการโฆษณาสินค้าแปะอยู่ด้วยเกือบทุกหน้า แต่โฆษณาเหล่านั้นมักถูกมองข้ามเสมอ ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ แต่สำหรับการโฆษณาของห้างเฟอร์นิเจอร์ HIPER CENTRO Corona ที่แฝงอยู่ในหนังสือพิมพ์ มีความสร้างสรรค์ซะจนคุณต้องดูแล้วดูอีก นี่เป็นการโฆษณาอันสร้างสรรค์ที่แฝงอยู่ในหนังสือพิมพ์ของประเทศโคลอมเบีย ที่ทางผู้อำนวยการ Felipe Salazar เป็นคนคิดขึ้นมา เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า Salazar ตั้งชื่อคอนเซ็ปต์ของเขาว่า Cocinas Corona หรือ Corona Kitchen ซึ่งเป็นการยกห้องครัวมาเป็นโฆษณา แต่ความพิเศษของมันคือ มันไม่ใช่ภาพห้องครัวแบบจะๆ เหมือนโฆษณาทั่วไป แต่เป็นภาพห้องครัว 3 มิติที่แฝงอยู่ในตัวหนังสือ ซึ่งถ้าไม่สังเกตดีๆ คุณอาจจะไม่รู้เลยว่ามันเป็นห้องครัว สำหรับ HIPER CENTRO Corona นั้น เป็นห้างที่ขายของใช้และอุปกรณ์ตกแต่งภายในบ้าน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโฮมโปรในบ้านเรานี่แหละ ที่นี้เวลาอ่านหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารต่างๆ ลองสังเกตดูดีๆ นะ อาจจะพบโฆษณาสุดสร้างสรรค์แบบนี้แฝงอยู่ก็เป็นได้ ที่มา designyoutrust l mymodernmet
-
Vans เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ “Vans’ Sherpa ” ที่มาพร้อมกับขนฟูๆ ให้คุณดูโดดเด่นรับลมหนาว
ในช่วงนี้หลายๆ พื้นที่ของประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงหน้าหนาวกันแล้ว และหนึ่งในแฟชั่นที่มักจะตามมาพร้อมกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือนั่นก็คือเสื้อกันหนาว และอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหมวกไหมพรม หรือผ้าพันคอนั่นเอง และวันนี้เราก็มีคอลเลคชั่นรองเท้ารุ่นใหม่ล่าสัตว์ เอ้ย!! ล่าสุด จากบริษัทสนีกเกอร์สุดโอลด์สคูลรุ่นพ่ออย่าง Vans มาฝากกัน นอกจากจะเข้ากับเสื้อกันหนาวขนเฟอร์ของเราแล้ว มันยังทำให้คุณดูเท่กว่าใครในยอดดอยอีกด้วย เจ้ารองเท้ารุ่นใหม่จาก Vans นี้เปิดตัวมาพร้อมกับขนฟูๆ อันแสนนุ่มนิ่ม โดยใช้ชื่อว่า Vans’ Sherpa ซึ่งจะมีอยู่ในสามโมเดลด้วยกันนั่นก็คือ Old Skools, Sk8 His และ Slip Ons โดยในโมเดล Old Skools นั้นจะมาพร้อมกับสีขาวครีม ส่วนในรุ่น Sk8 His นั้นจะมาพร้อมกับสีเทาอ่อนๆ และสุดท้ายในรุ่น Slip Ons นั้นก็ออกแบบในลายตารางที่สวยไม่แพ้กัน ขาวจั๊ว น่าเป็นเจ้าของจริงๆ โดย Vans Old Skool Sherpa นั้นอยู่ที่ 65 เหรียญ (ประมาณ 2,100 บาท) ส่วนในรุ่น Vans…
-
สามีหึงโหด จามขวานใส่มือภรรยาจนขาด หลังพบข้อความที่ชายอื่นส่งให้และเคยถูกขอหย่า
ความรักมักจะมาพร้อมกับความหึงหวงเสมอ ซึ่งไม่ใช่เร่ื่องผิดอะไรเพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้น แต่ถ้าความรู้สึกนั้นมันมากไป อาจทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ อย่างกรณีของ Dmitry วัย 26 ปี ที่จามขวานใส่ข้อมือของภรรยาจนขาด Margarita Grachyova วัย 25 ปี หลังพบข้อความที่ชายอื่นส่งมาให้ จนทำให้คิดว่าเธอกำลังนอกจากใจเขาอยู่ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ Margarita เคยขอหย่ากับสามีเนื่องจากเขาเคยใช้ความรุนแรงกับเธอ และทั้งสองคนก็แยกกันอยู่แล้ว ล่าสุดคุณหมอได้ทำการต่อข้อมือให้เธอข้างหนึ่งแล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะสามารถกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมหรือเปล่า ส่วนมืออีกข้างหนึ่งได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จนไม่สามารถรักษาได้ Margarita เล่าว่า “ฉันยื่นคำร้องเพื่อขอหย่ากับเขา และเมื่อเขาเห็นข้อความที่ฉันคุยกับเพื่อนร่วมงานชาย ทำให้เขาเชื่อว่าฉันกำลังเดตกับเพื่อนคนนี้ และเคยตามฉันที่โรงหนังด้วย” เธอบอกว่า “เขาหึงหวงฉัน… ขอโทษนะคะตอนนี้ฉันรู้สึกเจ็บปวดเกินที่จะจำเรื่องที่เกิดทั้งหมดได้” ทางด้านฝ่ายชายต้องถูกคุมขังในคุกจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าและต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 15 ปี หากพิจารณาคดีแล้วพบว่าเขามีความผิดจริง เขาสารภาพกับตำรวจว่าใช้ขวานจามมือภรรยาหลังจากที่ขับรถพาเธอเข้าไปในป่า โดยทิ้งลูกๆ ไว้ที่โรงเรียนอนุบาล จากนั้นก็คงมือบดขยี้นิ้วมือภรรยาด้วยขวานและจามขวานใส่สะโพกของเธอก่อนจะตัดมือทั้งสองข้างของเธอจนขาด หลังจากที่ระบายความโกรธเสร็จ เขาได้พาภรรยาไปโรงพยาบาล ก่อนจะไปมอบตัวกับตำรวจ…เมื่อถามว่ารู้สึกผิดกับสิ่งทำและคิดว่ามันเป็นการกระทำที่โง่เขลามั้ย? เขาตอบว่า “แน่นอน ผมสำนึกผิด และสิ่่งที่ทำลงไปมันโง่มากๆ” เขาบอกอีกว่าก่อนที่จะพาภรรยาเข้าไปในป่า เขาส่งข้อความไปหาแม่และน้องสาวของเขาว่า “ขอโทษนะ ผมไม่สามารถมีชีวิตแบบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะผมถูกสวมเขา” นอกจากนี้เขายังเคยบอกเพื่อนๆ ด้วยว่า “พวกคุณจะได้ยินข่าวของผมในเร็วๆ…
-
นักเรียนฮ่องกงสรรค์สร้างผลงานศิลปะสุดเจ๋งฝากไว้บน ‘กระดานดำ’ แต่พอเช้ามาก็ต้องโดนลบ
Illusdreamer เป็นกลุ่มเด็กนักเรียนจากโรงเรียนมัธยม Senegal เกาะฮ่องกง กลุ่มเด็กนักเรียนผู้ที่ได้ใช้ฝีมือและความชอบทางด้านศิลปะ โดยการนำชอล์กสีสันต่างๆ มาวาดภาพบนกระดานดำหลังเลิกเรียน แต่ทว่าภาพที่กลุ่มนักเรียนกลุ่มนี้ได้วาดขึ้นมามันสวยมากกกกกก ศิลปินน้อยกลุ่มนี้ได้เริ่มวาดภาพมาตั้งแต่ปี 2016 ภาพวาดส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาพตัวการ์ตูนจากเรื่องต่างๆ ที่พวกเขาชอบ โดยใช้เวลาหลังเลิกเรียนวาดให้เสร็จในแต่ละวัน แต่ก็น่าเสียดายที่เช้ามาก็ต้องลบกระดานอยู่ดี มิเช่นนั้นจะโดนคุณครูดุเอาน่ะ ดูผลงานของพวกเขาสิ… Your Name Alice in Wonderland โตโตโร่เพื่อนรัก มินเนียน แม่มดน้อยกิกิ . สวยงามแค่ไหน ถึงเวลาครูมาก็ต้องลบ ม่าายยยยย!! เชื่อเลยว่าเด็กนักเรียนเค้ามีฝีมือจริงๆ นะเนี่ย แต่ละภาพกว่าจะวาดได้คงต้องใช้เวลาเยอะพอสมควร ถ้าจะให้รับวาดตามสถานที่ต่างๆเลย พี่ว่ารุ่ง ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรม illusdreamer ที่มา boredpanda
-
เกิดเหตุรถไฟขัดข้องกลางสะพานนานนับชั่วโมง งานนี้ต้องพึ่งพาของวิเศษ “ห้องน้ำฉุกเฉิน”
การใช้บริการรถไฟนั้นถือเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับการเดินทางในญี่ปุ่นเลย และเมื่อเป็นหนึ่งในระบบขนส่งมวลชนที่ผู้คนนิยมใช้มากที่สุดนั้น การให้บริการและการดูแลเอาใจใส่ก็ย่อมเป็นสิ่งที่ต้องมาเป็นอันดับแรกๆ และล่าสุด พวกเขาก็ได้ยืนยันเรื่องนี้อีกครั้ง เหตุการณ์น่ารักๆ นี้เกิดขึ้นกับรถไฟสาย Joshin Dentetsu Joshin ระหว่างที่กำลังเดินทางผ่านจังหวัดกุนมะ โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคมรถไฟสายดังกล่าวได้หยุดเดินอย่างกะทันหันเนื่องจากเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า jinshin jiko เหตุการณ์ jinshin jiko นั้นหมายถึงการที่มีคนพยายามที่จะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงไปในรางรถไฟ และเป็นสาเหตุที่ทำให้รถไฟนั้นต้องหยุดการเดินรถชั่วคราว ซึ่งเป็นผู้โดยสารส่วนมาจะทราบกันดีว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้คงต้องทำใจรอกันยาวๆ เลยทีเดียว ตัดกลับมาที่รถไฟสาย Joshin Dentetsu Joshin หลังจากที่ผ่านไปกว่า 20 นาที เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีวี่แววที่จะคลี่คลายได้ง่ายๆ ในครั้งนี้ทางขบวนรถไม่สามารถที่จะเปิดประตูให้ผู้โดยสารออกไปด้านนอกเพื่อรอได้ เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำพอดี และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือบนรถเองก็ไม่มีห้องน้ำอีกด้วย แต่ก็เป็นโชคดีของผู้โดยสารที่ทางขบวนรถนั้นก็ไม่ได้ละเลยเรื่องท้องไส้ของพวกเขา ห้องน้ำแบบฉุกเฉินถูกนำมาตั้งไว้เพื่อบริการผู้โดยสาร โดราเอม่อน ตอน ห้องน้ำแบบฉุกเฉิน!! ใครจะกล้าเข้ามั้ยเนี่ย หลังจากที่ติดบนสะพานอยู่นานกว่าชั่วโมง ในที่สุดรถไฟขบวนดังกล่าวก็สามารถเดินทางต่อได้ และงานนี้ผู้โดยสารหลายๆ คนก็ต้องรู้สึกขอบคุณเจ้าห้องน้ำแบบฉุกเฉินนี้อย่างแน่นอน ถ้าเพื่อนๆ อยู่บนรถไฟขบวนนี้ เพื่อนๆ จะกล้าเข้าห้องน้ำฉุกเฉินนี้รึเปล่า ฮ่าาา ที่มา rocketnews24
-
ชายหนุ่มกอดให้กำลังใจเจ้าหมาลาบาดอร์ของเขา ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดเนื้องอกใต้หูออก…..
ในวันที่คุณท้อแท้ ในวันที่คุณเหนื่อยล้า หรือในวันที่คุณรู้สึกเจ็บปวด คงไม่มีการปลอบใจไหนที่ทำให้คุณรู้สึกดีไปกว่าการกอดอีกแล้ว ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงกอดให้กำลังใจเจ้าหมาของเขา หลังจากที่มันเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดเอาเนื้องอกเสร็จ ทำเอาหลายคนมีน้ำใสๆ รินไหลออกมาจากตาโดยไม่รู้ตัว นี่เป็นคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์ใน Reddit เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งถ่ายภายในบ้านหลังหนึ่งที่เมือง Chennai ประเทศอินเดีย ในคลิปเผยให้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังกอดเจ้าหมา Jack Daniel ด้วยความรัก เพื่อให้กำลังใจมันหลังจากที่มันเพิิ่งผ่านการผ่าตัดเอาเนื้องอกใต้หูขวาออก ชายหนุ่มรู้ว่าก่อนหน้านี้ Jack คงจะเจ็บและกลัวมาก แต่มันก็ผ่านมาจนได้ ดังนั้นสิ่งที่เขาจะทำเพื่อปลอบใจมันได้คือการกอดมันด้วยความรัก ส่วนเจ้าหมาเองดูเหมือนการกอดคือสิ่งเดียวที่มันต้องการมากที่สุดในขณะนี้ มันจึงอยู่นิ่งในอ้อมกอดเจ้าของและวางคางไว้บนไหล่ของเขา ใบหน้าของ Jack เหมือนมีคำถามว่า “มันจบแล้วใช่มั้ย? เราจะไม่กลับไปที่นั่นแล้วใช่มั้ย?”…. ชายหนุ่มเองบอกกับมันว่า “ใช่แล้วเพื่อนรัก มันจบแล้ว ฉันขอโทษที่ให้นายเผชิญความเจ็บปวดนั้น แต่ต่อไปนี้ฉันสัญญาว่าจะอยู่ข้างนายและจะคอยดูแลนายเป็นอย่างดี” ที่มา inspiremore
-
ภาพการ์ตูน ‘ความรัก’ จากกิจวัตรประจำวัน ที่คนเรามักจะทำ เมื่ออยู่ในที่ลับตาคน…
ความรักมักจะซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่เล็กๆ และช่วงเวลาอันเงียบสงบ อย่างเช่นการนอนเล่นบนเตียงหลังผ่านวันที่แสนยาวนาน นั่งดูทีวี หรือแม้แต่การบีบสิวให้กันและกัน ด้วยเหตุนี้ ศิลปิน Amanda Oleander จึงได้นำเสนอช่วงเวลาเหล่านั้นด้วยภาพประกอบที่ได้รับแรงบันดาลใจความสัมพันธ์ของเธอกับแฟน ความสัมพันธ์กับครอบครัว และความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิท Oleander บอกว่า “ทุกสถานการณ์เหล่านี้คือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับฉัน กับครอบครัวของฉัน และเพื่อนๆ เมื่อฟังพวกเขาเล่าให้ฟัง ฉันจะจดไว้อย่างรวดเร็วกันลืม” ฉันมักจะร้องไห้ในช่วงเวลานั้นของเดือน ซึ่งบางทีฉันก็สับสนว่ามันเป็นเพราะความเศร้าจริงๆ หรือเป็นเพราะฮอร์โมนเปลี่ยน แล้วสุดท้ายฉันก็รู้ว่ามันเป็นเพราะฮอร์โมน และอาการแบบนี้มักจะเกิดหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ประจำเดือนจะมา นี่คือภาพพี่สาวของฉันและแฟนของเธอ พี่สาวฉันไม่ชอบโกนหรือถอนขนตามร่างกายและแฟนของเธอก็ชอบที่เธอเป็นแบบนั้น คือฉันอยากบอกว่าคุณควรจะคบกับคนที่รับทุกอย่างที่เป็นคุณได้เพื่อความสัมพันธ์ที่ราบรื่นและยาวนาน คุณมีหนังสือที่ช่วยในการเปลี่ยนแปลงชีิวิตให้ดีขึ้นมั้ย? สำหรับฉันมีอยู่ 3 เล่ม คือ The Secret (ความลับ), The Seven Minute Solution (วิธีแก้ปัญหาภายใน 7 นาที) และ The Art of Tidying Up (ศิลปะในการจัดเก็บ) ฉันเติบโตมาในรัฐฟลอริด้า…
-
จากแมวจรจัดไร้บ้าน เมื่อมีคนรับมาเลี้ยงไว้เท่านั้นแหละ โหยยย กอดกับลูกน้อยกลมเกลียวเชียว
เป็นธรรมดาของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ที่จะพยายามโหยหาความรักและความอบอุ่นจากเพื่อนร่วมโลก และนั่นก็เป็นเหตุผลที่มนุษย์เราต้องการเพื่อนและคนรักเช่นกัน แม้แต่แมวที่เป็นสัตว์รักสันโดษ ทั้งยังมีโลกส่วนตัวสูง ก็ต้องการที่พักพิง และความใส่ใจไม่ต่างจากสัตว์อื่นๆ เลย รักกันนะเตง แมวเหมียวสีน้ำตาลตัวนี้เคยเป็นแมวจรจัดมาก่อน มันไม่เคยได้รับการดูแลหรือความห่วงใยจากใครเลย คงไม่แปลกถ้ามันจะระแวงคนหรือขี้กลัวหากต้องมาอยู่ท่ามกลางคนจำนวนมาก แต่หลังจากที่ครอบครัวหนึ่งตัดสินใจรับมันเข้ามาเลี้ยงในบ้านแล้ว กลับพบว่ามันเชื่องและขี้อ้อนอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว อ้าวเจ้าเหมียวมาอยู่ใกล้ๆ อีกแล้ว เจ้าแมวท่าทางจะติดเด็กทารกหญิงคนนี้มาก มันจะคอยเดินตามเธอต้อยๆ แล้วเข้าไปคลอเคลียราวกับว่าอ้อนขอความรักจากเด็กหญิง และมันจะไม่ยอมไปไหนจนกว่าจะได้รับอ้อมกอดจากเด็กน้อย จากนั้นไม่นานทั้งสองก็ตัวติดกันเป็นตังเม ไม่ว่าเด็กหญิงจะเดินไปไหน เจ้าเหมียวก็จะตามไปที่นั่น แล้วทั้งสองก็จะนัวเนียกันอยู่อย่างนั้น จนไปจบด้วยการกอดกันกลมเป็นประจำ หนูน้อยก็ไม่ได้รุนแรงกับเจ้าแมวแต่อย่างใด เพราะพ่อแม่ของเธอสอนเธอเสมอ ให้เธอกอดมันด้วยความอ่อนโยนและนิ่มนวล เพื่อให้เจ้าเหมียวรู้สึกถึงความรักอย่างเต็มที่ กอดเค้าแน่นๆ อย่าปล่อยนะ เมี๊ยว พ่อกับแม่ที่เป็นคนเก็บมันมาเลี้ยงคาดว่ามันคงไม่เคยได้รับความรักมาก่อน พอมันมีโอกาส ก็เลยโหยหาความรักความอบอุ่นอยู่ตลอดเวลาละมั้ง อย่างไรก็ตามคุณพ่อกับคุณแม่ก็รู้สึกอุ่นใจที่ตัดสินใจเก็บมันมาเลี้ยง เพราะพวกเขามั่นใจว่าตอนนี้ลูกสาวได้พบกับเพื่อนรัก ที่จะคอยอยู่เคียงข้างลูกของเขาทุกเมื่อแล้ว ที่มา: iizcat
-
ช่างภาพญี่ปุ่นถ่ายทอดชีวิต ‘เด็กแฝด’ แห่งไอซ์แลนด์ทุกปี เผยให้การเปลี่ยนแปลงที่แสนงดงาม
เด็กฝาแฝดบางคู่เนี่ยช่างมีความน่าสนใจอย่างบอกไม่ถูก พวกเขามีบางอย่างที่น่าค้นหาจนคุณอดใจไม่ไหวที่จะทำความรู้จักพวกเขาให้มากขึ้น เหมือนกับเด็กสาวฝาแฝดคู่นี้ที่ดูเตะตาช่างภาพชาวญี่ปุ่น Ariko Inaoka เป็นอย่างมาก จนเธอต้องกลับมาถ่ายภาพทั้งคนทุกปีเพื่อดูพัฒนาการของพวกเธอ ฝาแฝดคู่นี้คือ Erna และ Hrefna จากเมือง Reykjavik ประเทศไอซ์แลนด์ พวกเขาเป็นเด็กสาวที่มีเสน่ห์ น่าค้นหา และมีความลึกลับอย่างบอกไม่ถูก ทั้งคู่ดูน่าสนใจขึ้นไปอีก เมื่อช่างภาพ Ariko ทำให้ภาพของพวกเขาดูสงบเยือกเย็นที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนท่ามกลางหมอกจางๆ สำหรับช่างภาพ Ariko นั้น เธอเกิดในประเทศญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันเป็นชาวนิวยอร์ก ครั้งหนึ่งเธอเดินทางไปยังไอซ์แลนด์เพื่อถ่ายภาพทิวทัศน์ เพราะที่นั่นทำให้เธอนึกถึงบ้านเกิดที่โตเกียว ขณะที่อยู่ในไอซ์แลนด์ Ariko ก็คิดขึ้นได้ว่าจะทำภาพแคตตาล็อกแฟชั่นที่นั่น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เพื่อนของเธอไปเจอเด็กสาวฝาแฝดกำลังเล่นอยู่ในสระน้ำ เธอจึงได้เชิญทั้งคนมาแคสติ้งสำหรับภาพแคตตาล็อกชุดนี้ แม้ว่าตอนนั้น Erna และ Hrefna จะอายุแค่ 6 ขวบเท่านั้น แต่ทั้งคู่มีความงดงามโดยทำธรรมชาติและผ่านการแคสต์ตั้งแต่ครั้งแรก จนได้ถ่ายภาพแคตตาล็อกแฟชั่นในครั้งนั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จ Ariko ก็เดินทางกลับบ้านตัวเอง แต่เธอหยุดคิดถึงสองสาว Erna และ Hrefna ไม่ได้เลย เพราะสำหรับเธอแล้ว ทั้งสองเปรียบเสมือนศูนย์รวมความงดงามของไอซ์แลนด์เลยก็ว่าได้ ต่อมาในปี 2009 ขณะที่เด็กสาวฝาแฝดอายุ 9 ขวบ Ariko ได้เดินทางไปยังเมือง Reykjavik เพื่อถ่ายรูปทั้งสองคนอีกครั้ง…
-
ตีแผ่ชีวิตการเป็น “เน็ตไอดอลจีน” ที่ไม่ได้สวยงาม หรือสะดวกสบายอย่างที่ฝัน
ในยุคที่ผู้คนสร้างสังคมออนไลน์ขึ้นมาบนอินเตอร์เน็ต ก็มีอาชีพหนึ่งกำเนิดมาพร้อมกับสังคมออนไลน์ด้วย นั่นก็คือเน็ตไอดอลนั่นเอง พวกเขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ และหารายได้จากเงินสนับสนุนจากผู้ติดตาม หรือจากสปอนเซอร์ หากเรามองจากมุมมองคนนอกแล้ว เน็ตไอดอลดูเป็นอาชีพที่ชิวสุดๆ เพียงแค่นั่งเปิดกล้องคุยกับแฟนคลับ ไลฟ์สตรีมตอนไปร้านขนมชื่อดัง หรือนำเสนอสินค้า ก็ได้เงินอยู่บ้านสบายๆ แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว คงไม่มีใครรู้หรอกพวกเขาทำงานกันยังไงกันบ้าง เน็ตไอดอลจีนคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Fan จึงได้ออกมาเปิดเผยชีวิตเน็ตไอดอลของเธอเป็นตัวอย่างหนึ่งให้เรารู้ โดยตัวเธอเองถือว่าเป็นเน็ตไอดอลที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง ดูได้จากยอดผู้ติดตามของเธอที่มีมากถึงเกือบ 400,000 คน เธอเปิดเผยว่าจริงๆ แล้วการเป็นเน็ตไอดอลไม่ได้สบายเลยสักนิด เธอต้องทำให้ตัวเองสวยอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังต้องโกหกเรื่องอายุด้วย โดยเธอบอกแฟนๆ ว่ามีอายุเพียง 23 ปี แต่เธอไม่เคยเปิดเผยอายุจริงหรือชื่อจริงเลย “อายุ หน้าตา และรูปร่าง เป็นสามสิ่งสำคัญที่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของเน็ตไอดอลหญิง” เธอยังเคยไปทำศัลยกรรมมาแล้ว เพื่อรักษาฐานแฟนคลับของเธอ เธอจำเป็นต้องทำงานหนักประมาณวันละ 10 ชั่วโมง ทั้งใช้เวลาแต่งสวย พูดคุยกับแฟนๆ ถ่ายรูปและคลิปวิดีโอมาลงเพจ และตอบกลับคอมเมนต์ของแฟนคลับ โดยปกติแล้วเธอจะตื่น 9 โมงเช้า เพื่อใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงนั่งแต่งหน้าทำผม จากนั้นเธอจึงใช้เวลาอีกประมาณ 6…
-
ลองบรรยากาศห้องเฟิร์สคลาสใหม่สายการบิน Emirates เปรียบเหมือนโรงแรมลอยฟ้า
ในปัจจุบันการเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นการเดินทางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเดินทางในประเทศได้ด้วยแล้ว มันยังสามารถพาเราข้ามทวีปได้เลยอีกด้วย แต่ว่าการเดินทางระหว่างประเทศแน่นอนว่ามันต้องใช้ระยะเวลาเดินทางอย่างยาวนาน อย่างการบินข้ามทวีปบางทีก็อาจจะใช้เวลามากกว่า 12 ชั่วโมงขึ้นไปเลยก็ว่าได้ และจะเป็นอย่างไรถ้าหากเราได้นั่งในชั้นเฟิร์สคลาสของสายการบินระดับโลกเหมือนกับชายคนนี้ หนุ่มยูทูบเบอร์นามว่า Casey Neistat ได้มีโอกาสได้ขึ้นเครื่องบินของสายการบินระดับโลกอย่าง Emirate และที่สำคัญคือเขายังได้นั่งในชั้นเฟิร์สคลาสซึ่งมีราคาแพงมูลค่ากว่า 7,000 ปอนด์ (ประมาณ 300,000 บาท) ระหว่างการเดินทางจาก บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ไปยัง ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาเริ่มรีวิวชั้นเฟิร์สคลาสของสายการบิน Emirates กันดีกว่า โดยเขาบอกเอาไว้ตั้งแต่ก้าวแรกที่ขึ้นไปบนเครื่องบินลำนี้ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นโรงแรมย่อมๆ เลยก็ว่าได้เพราะว่ามันทั้งมีความหรูหราและสะดวกสบาย ซึ่งหากใครได้มาสัมผัสความรู้สึกแบบเขาแน่นอนว่าการเดินทางจะกลายเป็นเรื่องที่แสนจะมีความสุขขึ้นมาทันตาเห็น และแน่นอนว่าเขาย่อมไม่พลาดที่จะหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพให้ชาวเน็ตรู้สึกอิจฉากันเล่นๆ ห้องส่วนตัวที่เขาบอกเอาไว้ว่ามันกว้างจนทั้งครอบครัวย้ายมาอยู่ได้เลย และที่สำคัญคือเขามีพนักงานบริการส่วนตัวอีกด้วยนะ มาพร้อมกับจอทีวีส่วนตัวขนาด 32 นิ้ว ห้องของเขาในราคาสามแสนบาท ที่สามารถนั่งนอนหรือจะทำอะไรก็ได้ตามสบาย เพราะมันเหมือนห้องในโรงแรมเลย นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างสำหรับดูวิวทิวทัศน์ที่ไม่ต้องแย่งใครดูเลย ดูการตกแต่งอย่างหรูหราซะก่อน ไม่ได้มาเล่นๆ นะฮับ ทุกสรรพสิ่งที่มนุษย์ต้องการต่างบรรจุเอาไว้ในห้องนี้แล้ว อาหารการกินก็มีมาพร้อม และที่สำคัญคือเครื่องดื่มต่างๆ ทั้งเหล้า…
-
เรียนรู้อวัยวะของเนื้อปลาด้วยเกมต่อชิ้นส่วน ‘ทูน่า 3 มิติ’ กว่า 33 ชิ้น ดูสิ๊จะต่อได้มั้ย??
ปกติแล้วถ้าคุณอยากรู้องค์ประกอบหรือส่วนต่างๆ ของสัตว์ คุณจะต้องเรียนรู้ผ่านสัตว์ตัวเป็นๆ โดยการชำแหละชิ้นส่วนของพวกมัน แต่ตอนนี้คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นแล้ว เพราะญี่ปุ่นได้ผลิตโมเดล Maguro หรือ ปลาทูน่า 3 มิติ ให้คุณเรียนรู้อวัยวะภายในของพวกมันโดยไม่ต้องใช้ทูน่าตัวเป็นๆ และกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น ปลาทูน่า 3 มิติผลิตขึ้นโดย MegaHouse บริษัทในเครือของ Bandai Namco ซึ่งเป็นบริษัทชื่อดังของญี่ปุ่นที่สินค้าจำพวกของเล่น ปลาทูน่า 3 มิติถูกผลิตเป็นของเล่นชิ้นใหม่ภายใต้ชื่อ One Whole Fish Bluefin Tuna Disassembly Puzzle ในลักษณะของเกมตัวต่อ ที่คุณสามารถนำชิ้นส่วนต่างๆ ของมันออกมาศึกษาและใส่กลับเข้าไปเหมือนเดิมได้ ตัวต่อชิ้นนี้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เพราะมันมีความยาวเพียง 13 เซนติเมตร แต่ภายในประกอบด้วยชิ้นส่วนย่อยที่สามารถถอดออกได้ 33 ชิ้น ความน่าตื่นเต้นของปลาทูน่า 3 มิติคือ เมื่อถอดชิ้นส่วนทั้ง 33 ชิ้นออกแล้ว คุณต้องประกอบกลับเอง เหมือนกับต่อโมเดลกันพลาอย่างไงอย่างงั้น ในเกมต่อชุดนี้ยังมาพร้อมกับมีดของเล่น และเขียงรองตัด เพื่อให้คุณรู้สึกเหมือนได้หั่นหรือชำแหละชิ้นส่วนของปลาทูน่าจริงๆ หรือใครจะเล่นเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ…
-
อัลบั้มภาพ “ดวงตาเจ้าเหมียว” แบบโคลสอัพ เผยให้เห็นความงดงามที่ซ่อนอยู่…
ในตัวของสัตว์แสนน่ารักและน่าทะนุถนอมอย่างแมว จะมีอวัยวะอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่ว่าใครได้เห็นแบบใกล้ๆ เป็นอันต้องจ้องแบบเหมือนกับโดนมนตร์สะกดเอาไว้ ซึ่งอวัยวะนั้นก็คือ ‘ดวงตา’ นั่นเอง ดวงตาของแมวมีลักษณะที่เฉียบคมและสุกใสเหมือนเป็นประตูมิติที่เร้นลับ เพราะว่านัยน์ตาของมันช่างเป็นที่น่าค้นหาและดูเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ ที่ซ่อนเอาไว้อยู่ภายใน และแน่นอนว่าดวงตาของเหล่าเหมียวๆ เหล่านี้ต่างก็เคยทำให้มนุษย์ตกหลุมรักและยอมเป็นทาสแต่โดยดีมาแล้วหลายต่อหลายคน ผู้ใช้งานอินสตาแกรมที่ชื่อว่า Tinasperspective ก็เป็นอีกคนหนึ่งเช่นกันที่หลงรักในแววตาอันเร้นลับของเจ้าขนปุย โดยเธอได้ใช้กล้องยี่ห้อ Canon พร้อมกันเลนส์แบบมาโคร ตามถ่ายตาของเหล่านายแบบนางแบบแมวที่เธอเลี้ยงไว้ทั้งหมด 3 ตัว ซึ่งแต่ละตัวมีชื่อว่า Zelda, Zonic, และ Zorro มาแบ่งปันให้แก่ชาวเน็ตได้รับชมกัน ภาพที่เธอถ่ายเอาไว้แต่ละภาพต่างเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ไม่น่าเชื่อ เพราะว่าด้วยฝีมือบวกกับประสบการณ์ของเธอ ทำให้เราได้เห็นว่าจริงๆ แล้วในดวงตาของแมวมันช่างเหมือนกับแก้วกลมๆ ที่สามารถสะท้อนแสงได้ แถมยังเต็มไปด้วยเส้นใยมากมายสีสันต่างๆ นับร้อยล้านเส้น มาลองดูกันดีกว่าว่านัยน์ตาของแมวที่เธอถ่ายมาจะมีความสวยงามขนาดไหนกันนะ มองอะไรกันนะ เจ้าเหมียว เหมือนเป็นอัญมณีอะไรซักอย่าง มีอะไรซ่อนอยู่ในนั้นกันแน่นะ ใสๆ ใครก็ชอบ อันนี้ออกแนวน่ากลัวหน่อยๆ นะเนี่ย เส้นใยนับล้านเส้นซ่อนอยู่ในดวงตาเล็กๆ ดวงนี้ ใครจะอดใจไม่รักไหวล่ะ ดูใกล้ๆ แล้วมันเหมือนเสือยังไงชอบกล จับแมวมานั่งนิ่งๆ ได้ยังไงกันนะ เก่งจริงๆ…
-
สาวพบ ‘Blue Moth’ สุดหายากอีกครั้งในมาเลเซีย หลังเคยถูกวินิจฉัยว่าสูญพันธุ์ไปเมื่อ 130 ปีก่อน!
ในโลกเรานี้เคยมีสัตว์มากมายหลายชนิดอาศัยอยู่ แต่บางชนิดเราแทบไม่เคยได้เห็นเลย เนื่องจากพวกมันสูญพันธุ์ไปก่อนที่เราจะเกิดซะอีก แต่มันก็ไม่เสมอไป อย่างล่าสุดชาวมาเลเซียได้พบกับสัตว์ที่ชื่อว่า ‘Blue Moth’ อีกครั้ง ทั้งๆ ที่นักวิทยาศาสตร์เคยบอกว่ามันสูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อ 130 ปีก่อน Blue Moth ตัวสุดท้ายถูกค้นพบเมื่อปี 1887 หรือ 130 ปีก่อน ซึ่งปัจจุบันได้รับการเก็บรักษาไว้ในโหลแก้วที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย Blue Moth จัดอยู่ในผีเสื้อวงศ์ Clearwing Moths มันสามารถพัฒนาให้มีลักษณะคล้ายผึ้งหรือที่รู้จักกันว่า Batesian ซึ่งนั่นเป็นข้อดีที่ทำให้สัตว์นักล่าไม่กล้ากินพวกมัน เนื่องจากกลัวเหล็กไนที่ส่วนก้นของมัน อย่างไรก็ตามเมื่อต้นปีที่ผ่านมาขณะที่ Marta Skowron Volponi นักศึกษาปริญญาเอกและนักกีฏวิทยาจากมหาวิทยาลัย Poland’s University of Gdansk เดินผ่านป่าฝนในมาเลเซีย เธอก็ได้พบกับ Blue Moth โดยบังเอิญ Volponi บอกว่า “พวกมันเป็นสัตว์ที่หายากมากๆ และมักจะอยู่รวมกันในพื้นที่เดียวกันเป็นเวลาหลายนาที นั่นเป็นเห็นผลว่าทำไมนักกีฏวิทยาส่วนใหญ่จับพวกมันด้วยกับดักฟีโรโมนสังเคราะห์ (เป็นฟีโรโมนที่มนุษย์สังเคราะห์เลียนแบบฟีโรโมนของแมลงวันทองเพศเมียเพื่อล่อแมลงวันทองเพศผู้มาติดกับดัก)” ตอนแรก Volponi ตั้งใจค้นหา Heterosphecia Pahangensis…
-
ตรึงตาตรึงใจ!! ศิลปินหญิงกับชุดผลงาน ตอนที่ผู้หญิงดูสวยที่สุด ยิ่งดูยิ่งหลงใหล
คุณผู้ชายเคยคิดบ้างไหมว่า ทำไมแฟนของเราถึงไม่สวยเซ็กซี่แบบคนอื่นเขาบ้าง? ทำไมเธอถึงไม่ดูเย้ายวนใจเหมือนกับนางแบบวาบหวิวที่เห็นในนิตยสารบ้าง? แต่นั่นอาจจะเป็นเพราะมุมมองของคุณเองก็ได้นะ เพราะจริงๆ แล้วผู้หญิงทุกคนมีความสวยงามอยู่ในตัว แม้อาจจะเห็นชัดได้เป็นบางช่วงเวลาหรือบางช่วงขณะเท่านั้น ศิลปิน Mandy Jurgens รู้เรื่องนี้ดี เธอจึงเกิดแรงบันดาลใจที่จะเก็บภาพช่วงเวลาที่สวยงามเหล่านั้นไว้ และถ่ายทอดให้ผู้อื่นเห็น Mandy เป็นศิลปินหญิงที่วาดภาพบริบทธรรมดาในชีวิตประจำวันของหญิงสาวออกมาให้ดูสวยงามที่สุด เธอใช้พรสวรรค์ทางศิลปะของเธอเติมแต่งสีและเงา ให้ภาพหญิงธรรมดาๆ ดูตรึงตาตรึงใจได้ เราจึงได้นำผลงานบางส่วนของเธอมาแบ่งปันกับเพื่อนๆ ในวันนี้ เวลาที่เธอตั้งใจอ่านหนังสือช่างดูงดงามจริงๆ . ผู้ชายคงรู้ดีว่าสาวสวยที่นั่งอยู่ในบาร์คนเดียวน่าหลงใหลขนาดไหน . . . . หญิงสาวกับหยดน้ำฝนนี่แหละดีต่อใจ . ลองนึกภาพภรรยาของคุณในชุดเบาบาง กำลังนั่งอยู่ขอบอ่างอาบน้ำสิ ช่างเย้ายวนเหลือเกิน . แสงและเงา ช่วยขับความงามของหญิงสาวให้เด่นชัดได้เป็นอย่างดี . . จ้องมองเธอให้ลึกเข้าไปถึงข้างใน คุณจะเห็นแต่ความสวยงาม ผลงานของเธอน่าจับตามองมากเลยนะ หากใครอยากดูผลงานของ Mandy Jurgens เพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ artstation นะครับ ที่มา: brightside
-
ไปชมหนังสั้นสุดสยอง “Polaroid” ถึงแม้จะไม่มีผีโผล่มา แต่ก็รับรู้ได้ถึงความโก๊ดดดดัน!!!
เมื่อพูดถึงภาพยนตร์เราก็คงจะทราบดีว่าภาพยนตร์ที่เราดูนั้นมีหลากหลายแนวมากๆ ทั้งแฟนตาซี ไซ-ไฟ โรแมนติก คอมเมดี้ ฯลฯ แต่ประเภทหนังที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็คือหนังแนวสยองขวัญ อีกหนึ่งในแนวหนังสุดโปรดที่ใครหลายๆ คนชื่นชอบที่สุด หนังแนวสยองขวัญ อันดับแรกเลยเราก็คงจะนึกถึงหนังที่มีเลือด ผี ฆาตกร เอเลี่ยน ความตายอะไรประมาณนี้ ซึ่งความตื่นเต้นเร้าใจ เนื้อเรื่องชวนลุ้น ทำให้หนังแนวนี้มีคนนิยมมากในอันดับต้นๆ แต่บางครั้งหนังสยองขวัญก็ไม่จำเป็นต้องมีฉากเลือดสาดหรือมีผีโผล่มาแต่อย่างใด #เหมียวบู้บี้ มีหนังสั้นมาแนะนำชื่อเรื่องว่า “Polaroid” หนังสั้นอินดี้ที่มีความยาวประมาณ 3 นาทีที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีผีโผล่มาให้ตกใจ แต่เราก็สัมผัสได้ถึงความสยองและความโก๊ดดดดันที่มีอยู่ในเนื้อเรื่อง ไปรับชมแบบเต็มๆ กันเลย (แต่ขอบอกไว้เลยนะว่า ถ้าใจไม่ถึง อย่าดู) เปิดมาด้วยพ่อหนุ่มผมยาวสุดหล่อกับกล้องโพลารอยด์ตัวเก่าที่เก็บไว้มานานหลายปี ถ่ายไปแชะแรก เอ๊ะหรือว่าฟิล์มมันเสียนะ คงเป็นเพราะว่าเก็บไว้นานแล้วแหละ ฮัลโหล ทายซิใครเอ่ย สาวคนนี้ก็มีกล้องโพลารอยด์เหมือนกัน อ้าว ไม่ใช่แล้ว!! ให้ตายเถอะ หัวใจจะวาย!!! ที่มา sobadsogood
-
สุดยอดภาพถ่ายประจำปีจากการประกวดภาพธรรมชาติ National Geographic 2017
National Geographic ได้จัดการประกวดภาพถ่ายธรรมชาติประจำปี 2017 โดยในปีนี้ได้แบ่งประเภทของภาพถ่ายเป็น 4 ประเภทได้แก่ ชีวิตสัตว์ป่า ทิวทัศน์ ภาพถ่ายทางอากาศ และภาพถ่ายใต้น้ำ โดยมีช่างภาพจากทั่วโลกได้ส่งรูปภาพเข้าประกวดถึง 11,000 รูปเลยทีเดียว ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในแต่ละประเภทจะได้รับเงินรางวัลประมาณ 80,000 บาท ส่วนรางวัลภาพถ่ายชนะเลิศ Best of The Best จะได้รับเงินรางวัลประมาณ 240,000 บาทและภาพจะถูกนำไปใช้ในนิตยสาร National Geographic ฉบับล่าสุด มาดูกันเลยว่า ภาพถ่ายแห่งปี 2017 นี้จะเด็ดดวงขนาดไหน… ภาพถ่ายประเภท Wildlife ชีวิตสัตว์ป่า รางวัลชนะเลิศ อุรังอุตังแห่งเกาะบอร์เนียว โดย Jayaprakash Joghee Bojan สิงโตแห่งทะเลดอกไม้ โดย Ge Xiao เจ้าอุ๋งนอนอย่างสบายใจ โดย Lars Lykke ความสามัคคีของแพะภูเขา โดย Eivor…
-
รวมภาพความเพอร์เฟกต์สุดฟิน ที่ดูแล้วจั๊กจี้ลูกตาอยากจะเข้าไปอยู่ในภาพนั้นด้วยเหลือเกิน
ความสมบูรณ์แบบหรือว่าเพอร์เฟกต์ เป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างก็ต้องการเพราะว่ามันดูสิ่งที่ดูไร้ที่ติ และสามารถสร้างความสุขให้แก่สิ่งที่อยู่รอบๆ ได้ ซึ่งความเพอร์เฟกต์นี้สามารถแฝงตัวได้อยู่ในทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นหรืือสร้างความสร้างสรรค์จากธรรมชาติก็ตามแต่ และนี่คือภาพสุดเพอร์เฟกต์ ที่จะทำให้คนที่ได้ดูต้องรู้สึกฟินลูกตา มีความสุขอย่างหยุดไม่อยู่ และสามารถทำให้จิตใจเบิกบานได้อีกด้วย ซึ่งมันจะเป็นจริงอย่างที่ใครหลายคนว่าเอาไว้ไหมต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง.. ปั้นยังไงให้ได้กลมขนาดนี้เนี่ย โห เก่งเกิ๊นน มองเห็นกันรึเปล่าว่ามีพลาสติกคลุมคุกกี้นี้อยู่ เพราะมันตึงเปรี๊ยะ เหมือนนัดกันมา เป๊ะขนาด ขนมปังอะไรจะเนียนเหมือนตูดเด็กขนาดนี้ เต่งซะน่าบีบซะจริงๆ เอ้างงเลย นี่หัวเด็กนะไม่ใช่วังน้ำวน ลองดูเส้นที่ต่อกันสิ มันช่างตรงกันอย่างกับเอาไม้บรรทัดมาวัด เหมือนของปลอมมะ?? หลายคนอาจมองว่ามันคือไข่ แต่จริงๆ มันคือชีสต่างหาก คลื่นทะเลที่ไหนเนี่ย สวยจริงๆ กลมซะเหมือนลูกหิมะที่ดิ้นได้เลย ซุกได้แบบพอดีตัวเลย มาแอบสร้างไว้ตอนไหนกันนะ เกล็ดหิมะที่ติดอยู่บนเส้นผม เหมือนกับของที่อยู่ในการ์ตูนเลย หายากนะ พิซซ่าที่จะมีหน้าเท่าๆ กันเนี่ย …
-
เหมืองถ่านหินที่ลุกไหม้มากว่า 100 ปีในอินเดีย กำลังจะนำกลับมาใช้ แต่ก็มีเสียงคัดค้าน
เหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนี้บางอย่างก็เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา หรือกำหนดเอาไว้ว่ามันควรจะเป็นเช่นนั้น เหมือนกับเหมืองถ่านหินแห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย ที่ลุกไหม้มายาวนานกว่า 100 ปี และในปัจจุบันนี้ถ่านหินภายในเหมืองแห่งนี้ก็ยังคงมีการเผาไหม้อยู่อย่างต่อเนื่อง เหมืองแร่ที่ว่านี้มีชื่อว่า Jharia ตั้งอยู่ที่จังหวัดดันแบด รัฐฌารขัณฑ์ ประเทศอินเดีย ซึ่งเหมืองแห่งพื้นที่กว่า 258 กิโลเมตร และถือว่าเป็นเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ยังคงมีถ่านหินเผาไหม้อยู่ใต้ดินตลอดเวลา โดยเหมืองแร่แห่งนี้ได้เริ่มใช้งานในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ภายใต้การดูแลของประเทศอังกฤษ และด้วยความที่เป็นเหมืองถ่านหิน ทำให้ต่อมาในปี 1916 เหมืองถ่านหินแห่งนี้มีการเกิดไฟปะทุครั้งแรกเกิดขึ้น และในช่วงปี 1980-1990 เหมืองแห่งนี้ก็ได้มีไฟปะทุอีกกว่า 70 จุด นั่นจึงทำให้ไม่มีใครสามารถดับไฟที่เกิดขึ้นมาได้และต้องปล่อยให้มันดับเองตามธรรมชาติ ทว่าเมื่อออกสำรวจพื้นที่ชั้นใต้ดินก็ต้องพบว่าในตอนนี้ไฟเหล่านั้นยังคงไม่มีวี่แววที่จะดับลง ชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นอาจจะได้รับอันตรายตามไปด้วย มาในปีนี้บริษัท Bharat Coking Coal Ltd (BCCL) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท Coal India ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของมีแผนที่จะใช้การหาถ่านหินรูปแบบใหม่ที่จะทำให้การหาถ่านหินเป็นไปด้วยความรวดเร็วมากกว่าเดิม และมีค่าใช้จ่ายน้อยลงกว่าเดิม และนั่นทำให้นักกิจกรรมท้องถิ่นชื่อว่า Ashok Agarwal ออกมาพูดถึงประเด็นที่ บริษัทแห่งนี้จะมีวิธีการหาถ่านหินแบบใหม่ภายใต้เหมืองที่ยังคงเผาไหม้อยู่แห่งนี้ ยิ่งเปิดปากหลุมยิ่งมีการเผาไหม้มากขึ้น “พวกเขาคิดว่าจะสามารถเก็บถ่านหินได้เร็วขึ้นและมีค่าใช้จ่ายที่น้อยลง แต่พวกเขาไม่รู้ว่าใต้เหมืองแห่งนี้ถ่านหินได้ลุกไหม้ไปจนหมดแล้ว และในตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่อุโมงค์ที่เคยสร้างเอาไว้ก่อนหน้าสำหรับการคัดแยกถ่านธรรมดากับถ่านหินออกจากกัน ดังนั้นตอนนี้จึงมีเพียงถ่านหินก้อนเล็กๆ ที่สามารถเกิดไฟลุกได้ทุกเวลา และการที่พวกเขาจะเปิดหน้าของอุโมงค์แห่งนี้ขึ้นจะทำให้อากาศสามารถเข้าไปข้างในได้และอาจทำให้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่เลยทีเดียว” Ashok กล่าว…
-
พบ ‘ซากคล้ายไดโนเสาร์’ ในอินเดีย ที่ยังมีชิ้นเนื้อติดอยู่ คาดเป็นหลักฐานทางโบราณคดีชิ้นสำคัญ
ไดโนเสาร์คือสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่สูญพันธู์ไปเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว การศึกษาเกี่ยวกับพวกมันจึงหาข้อมูลได้ยาก ที่ผ่านมานั้นนักวิทยาศาสตร์ได้เพียงแต่ศึกษาข้อมูลของพวกมัน ผ่านทางเศษกระดูก รอยเท้า และฟอสซิลที่พบเท่านั้น แต่ล่าสุด มีการค้นพบซากสัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์ และถ้ามันเป็นซากไดโนเสาร์จริงๆ ละก็ มันจะกลายเป็นข้อมูลชิ้นสำคัญที่ทำให้เราได้ศึกษาไดโนเสาร์ได้ลึกซึ้งมากขึ้น เพราะซากชิ้นส่วนนี้มีความพิเศษไม่เหมือนกับสิ่งที่เคยพบมาก่อนนั่นเอง ซากลักษณะคล้ายไดโนเสาร์ที่ถูกค้นพบ ซากรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์ที่ว่านี้ถูกค้นพบโดยบังเอิญ เมื่อมีช่างไฟฟ้าคนหนึ่งเข้าไปทำงานที่สถานีรถไฟใต้ดินร้างที่ถูกปล่อยทิ้งไว้กว่า 35 ปี ในเมืองแจสเพอ รัฐอุตตราขัณฑ์ ประเทศอินเดีย แต่มันมีความพิเศษกว่าซากหรือฟอสซิลอื่นๆ ที่เคยพบมา เนื่องจากซากชิ้นนี้ ยังมีชิ้นเนื้อของสิ่งมีชีวิตติดมากับกระดูกที่มีรูปร่างค่อนข้างสมบูรณ์ด้วย นักวิทยาศาสตร์ต่างตื่นเต้นกันมากที่พบซากในลักษณะนี้ ขณะนี้ซากที่พบก็ถูกส่งไปยัง Kamuan University แล้ว เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านฟอสซิล Dr.Bahadur Kotlia ได้ทำการวิเคราะห์ จะได้รู้กันว่ามันเป็นไดโนเสาร์จริงหรือไม่ แล้วมันมีจากยุคใด ซากไดโนเสาร์นั้นมีความยาวประมาณ 28 เซนติเมตร จึงอาจจะตีความได้ว่ามันเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งระหว่าง Deinonychus, Coelophysis และ Dromaeosarus ซึ่งทั้งสามสายพันธุ์นี้เป็นไดโนเสาร์พันธุ์เล็ก จัดเป็นไดโนเสาร์ในกลุ่ม Theropod ซึ่งเป็นกลุ่มสายพันธุ์เดียวกับไดโนเสาร์ T Rex นั่นเอง อย่างไรก็ตามนักอนุรักษ์…
-
ตาแทบหลุดจากเบ้า!! สาวโพสต์ภาพให้ชาวเน็ตช่วยหาแมวที่หายังไงก็ไม่เจอสักที…..
หากจะพูดถึงสัตว์แสนซนที่เอาแต่ใจตัวเอง บนโลกนี้คงไม่น่าจะอะไรเกินไปกว่าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘แมว’ อีกแล้ว เพราะบางทีเราเรียกมันก็มันก็ไม่ยอมมา บางทีเทข้าวให้ก็ไม่ยอมกิน และบางทีมันก็หายไปดื้อๆ เลยซะอย่างงั้น ทว่ากลับมีแมวบางตัวที่มีนิสัยแปลกๆ อย่างแมวตัวนี้ที่ชอบเล่นซ่อนแอบกับเจ้าของเสมอ และล่าสุดพวกเขาก็ได้ถ่ายรูปให้ชาวเน็ตร่วมเล่นด้วยการช่วยหาแมวตัวนี้ให้หน่อยว่ามันอยู่ตรงไหนของภาพกันนะ ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งที่ใช้ชื่อยูสเซอร์ว่า Grace Spelman ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของแมวของเธอที่ชื่อว่า Pierogi โดยเธอบอกว่าแมวของเธอชอบที่จะเล่นซ่อนแอบกับเธอตลอดเวลา และดูเหมือนว่ามันจะทำได้ดีแทบจะทุกครั้งซะด้วย Pierogi แมวแสนซนที่มักชอบเล่นซ่อนแอบเสมอ Grace ได้โพสต์ภาพห้องห้องหนึ่งในบ้านของเธอโดยเธอได้ใส่แคปชั่นเอาไว้ว่า “พรุ่งนี้ก็เป็นวันทำความสะอาดแล้ว และในตอนนี้ราชินีแห่งกองขยะ Pierogi ก็ซ่อนอยู่ในภาพนี้ด้วย” ภาพที่ Grace ได้โพสต์ลงในโลกโซเชียล ในเวลาเพียงแค่ 2-3 วันรูปภาพที่เธอโพสต์ภาพนี้ลงไปก็มีคนมากดไลค์ให้เกือบ 700 คนและก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครหาแมวให้เธอพบเลยแม้แต่คนเดียว และนั่นได้สร้างความคาใจให้แก่ชาวเน็ตอย่างมากมายที่อาจจะงงว่าทำไมหาเจ้า Pierogi ไม่พบซักที เดือดร้อนจนถึง Grace ต้องออกมาบอกถึงคำใบ้ที่อาจเป็นกุญแจในการไขปริศนานี้แก่ชาวเน็ตได้ โดยเธอได้ออกมาบอกว่า “ลองเพิ่มแสงจอให้สว่างขึ้น แล้วจะพบว่าคำใบ้นี้บอกที่ซ่อนของ Pierogi แล้ว” คำใบ้ที่ Grace ได้ออกมาบอกทำให้ชาวเน็ตรู้สึกสนุกขึ้น แต่ก็ดูเหมือนกับว่ายังไม่มีใครหาเจอซักที เธอจึงออกมาบอกคำใบ้เพิ่มเติม ด้วยการแบ่งภาพออกมาเป็นสองส่วนแล้วยังบอกด้วยว่าแมวของเธออยู่ในส่วนที่สองของภาพนี้ อยู่ในส่วนที่สองนะจ๊ะ…
-
นักวิทย์สร้าง ‘พลาสติก’ ที่สามารถต่ออุปกรณ์ไร้สายได้ โดยไม่ต้องพึ่งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
การพัฒนาเทคโนโลยีของมนุษย์เราได้มีความเจริญขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายอายุคนที่ผ่านมา โดยแรกเริ่มนั้นเริ่มจากการสร้างเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ ต่อมาก็มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ และในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้สายให้เราได้ใช้กัน แต่ว่าหากนั่นยังไม่พอ ในตอนนี้นักวิทยาศาสตร์สามารถทำพลาสติกให้สามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งกระแสไฟฟ้าหรือวงจรอิเล็กทรอนิกส์แต่อย่างใดเลยด้วย??? นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้พวกเขาได้สร้างพลาสติกขึ้นมาชิ้นหนึ่งจากเครื่องพิมพ์สามมิติ ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ไร้สายชนิดต่างๆ ได้โดยไม่ต้องใช้วงจรไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงาน และภายในพลาสติกชิ้นนั้นก็มีเพียง สวิทช์สำหรับเปิดปิด เฟืองพลาสติกและเสาอากาศเพียงเท่านั้น “เป้าหมายของเราคือ เราจะสร้างบางอย่างที่มาจากเครื่องพิมพ์สามมิติที่มีอยู่ตามบ้านทั่วไป และสิ่งสิ่นนั้นต้องสามารถส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วย” “ความท้าทายของมันอยู่ที่ คุณจะทำอย่างไรให้เจ้าสิ่งนี้สามารถเชื่อมต่อกับสัญญาณไวร์เลสได้โดยใช้เพียงพลาสติกอย่างเดียว ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน” Vikram Iyer วิศวกรไฟฟ้าหนึ่งในทีมวิจัยกล่าว ลองเอาไปทดสอบกับเครื่องวัดความเร็วลม และเครื่องวัดการไหลของน้ำ สำหรับกลไกภายในพลาสติกชิ้นนี้ พวกเขาบอกว่าจะมีเส้นใยนำไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นมาจากพลาสติกและทองแดงเป็นตัวนำสัญญาณ โดยเราจะสามารถเปิดปิดมันได้ง่ายๆ แค่กดปุ่มเพียงเท่านั้น โดยพวกเขาได้ทำการทดสอบพลาสติกชิ้นนี้ ด้วยการใช้วัดกับเครื่องวัดความเร็วลม ซึ่งผลออกมาปรากฏว่าเมื่อรอบของความเร็วลมมีสูงขึ้น เส้นใยต่างๆ ภายในอุปกรณ์ตัวนี้ก็จะทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งสังเกตได้จากการที่มันสามารถส่งสัญญาณได้ถี่ขึ้น และเมื่อนำไปทดสอบกับเครื่องวัดการไหลของน้ำ ก็ได้ผลเช่นเดียว นั่นจึงหมายความว่าเจ้าพลาสติกชิ้นนี้จะสามารถทำงานได้ดีขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ อย่างลมและน้ำแรงขึ้นนั่นเอง คลิปการทดสอบและการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ พลาสติกที่ว่าในตอนนี้ยังไม่ออกมาสู่ท้องตลาดเพราะกำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่ในอนาคตเมื่อพัฒนาจนสมบูรณ์แล้ว ทางผู้พัฒนาบอกว่าอุปกรณ์นี้จะสามารถใช้สำหรับอุปกรณ์ในบ้านได้อย่างหลากหลาย เพราะในตอนนี้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านต่างๆ ก็เริ่มมีระบบไวร์เลสในตัวแล้ว พลาสติกชิ้นนี้จึงเป็นอุปกรณ์ไร้สายแห่งโลกอนาคตเลยก็เป็นได้ เทคโนโลยีก้าวไปทุกวันจริงๆ…
-
ช่างภาพถ่ายนกฮูกยืนหลับ แต่มันไม่ใช่หลับแบบธรรมดาเพราะแอดวานส์ถึงขั้นยืนขาเดียว
การได้เห็นภาพนกฮูกพันธุ์เบอร์โรวิ่ง (Burrowing Owl) ตัวเป็นๆ เป็นอะไรที่ยากอยู่แล้ว เพราะด้วยจำนวนของมันที่มีน้อยลงเรื่อยๆ และยิ่งถ้าเป็นนกที่มีหน้าตาง่วงเหงาหาวนอนแล้วล่ะก็อาจจะเป็นหนึ่งในล้านเลยก็ได้ แต่มีช่างภาพคนหนึ่งที่มีโอกาสได้เห็นและถ่ายภาพเก็บไว้ได้ โดยเขาพบนกฮูกกำลังยืนหลับอยู่บนต้นไม้ และที่สำคัญคือมันยืนแอ็คท่าขาเดียวซะด้วยสิ หาวโชว์ซะเลยนิ คนจะหลับจะนอน ภาพนกฮูกแสนกวนตัวนี้ ถูกถ่ายมาโดยช่างภาพมืออาชีพที่มีชื่อว่า Anthony Bucci ที่รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ก่อนที่จะมีโอกาสได้เก็บภาพนกตัวนี้ เขาเล่าว่าเพื่อนของเขาเป็นผู้พบเจอนกตัวนี้ก่อน และเพื่อนของเขาก็รู้ว่า Anthony อยากจะเห็นนกฮูกตัวเป็นๆ มานานแล้ว เพื่อนคนนั้นจึงโทรมาบอก และเมื่อมีสายโทรเข้ามาเขาจึงรับบึ่งไปในทันที อะไรมันมารังควานเนี่ยห่ะ “นกฮูกเบอร์โรวิ่ง เป็นสิ่งที่พบเจอได้ยากมากในละแวกนี้ เท่าที่ผมรู้เคยมีคนเห็นมันเพียงคนเดียวเท่านั้น” “เพื่อนของผมที่เป็นช่างภาพเหมือนกันส่งข้อความและโทรมาบอกผมว่า เขาได้เห็นนกฮูกตัวหนึ่ง ผมรีบกลับบ้านแล้วควบพาหนะคู่ใจขับไปที่นั่นเร็วที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้” Anthony กล่าว ยกขาข้างเดียวเท่ปะล่ะ สำหรับนกฮูกเบอร์โรวิ่งเป็นนกฮูกที่มีขนาดเล็กที่สุด แถมยังแตกต่างจากนกฮูกพันธุ์อื่นๆ ตรงที่มักจะอาศัยอยู่ตามโพรงใต้ดินที่เคยเป็นรังของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เช่น กระรอกดิน และแพร์รี่ด็อก ในปัจจุบันประชากรของนกฮูกชนิดนี้กำลังลดลงเรื่อยๆ และการที่มันยกขาข้างหนึ่งซุกเอาไว้ใต้ปีกของมัน ก็เพื่อเป็นการสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย โดยมันจะยกขาสลับข้างกันเพื่อไม่ให้มีความเมื่อยล้ามากเกินไปนั่นเอง ใกล้แล้ว ตาใกล้จะปิดแล้ว “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสได้เห็นนกฮูกเบอร์โรวิ่ง ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากๆ ที่ผมมีโอกาสได้เห็นสีหน้าต่างๆ ที่มันแสดงออกมา” Anthony กล่าวปิดท้าย สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น …
-
การออกแบบงานเลี้ยงวันคริสต์มาสสุดเฟล รอมาทั้งปี ต้องมาเจออะไรแบบนี้เหรอเนี่ย!?
วันคริสต์มาสถือเป็นหนึ่งในเทศกาลที่หลายๆ คนรอคอย เพราะมันคือช่วงเวลาที่จะได้เฉลิมฉลองอย่างสุดเหวี่ยง เราจึงคาดหวังที่จะได้เห็นต้นคริสต์มาสสูงใหญ่ ตุ๊กตาซานตาคลอสที่อบอุ่นน่ารัก หรือแสงไฟประดับที่สวยงามอลังการ ทว่าคนทุกคนไม่ได้มีหัวศิลปะเท่ากันทุกคน สิ่งที่พวกเขานำมาตกแต่งในวันคริสต์มาส จึงดูผิดเพี้ยน ไม่เข้ากับเทศกาลแห่งความสุขของเด็กๆ เอาซะเลย ลองไปดูเอาละกันว่าของที่เราเจอแต่ละอย่าง มันชวนเข้าใจผิดขนาดไหน กระดาษห่อ ‘Let it Snow’ แต่พอห่อแล้วมัน … กางเกงในมันเกี่ยวอะไรกับคริสต์มาสเนี่ย คุณย่าบอกว่านี่เป็นวิธีพับผ้าเช็ดปากแบบดั้งเดิม เด็กๆ เห็นแล้วจะยิ้มหรือร้องไห้ดีล่ะเนี่ย “ซานต้าหยุดเถอะ ฉันเป็นเด็กดีมาตลอดจริงๆ” ขายระฆัง … ที่ทำเป็นรูปเลียนแบบระฆัง?? โดดตรงนี้ไม่ได้! หลานมาชิมคุกกี้ใหม่ของยายสิ เหมือนเทียนคริสต์มาสไหม? ถ้าที่วางเทียนไม่อ้าปาก มันจะดีกว่านะ ลุงซานต้าทำหน้ากรุ้มกริ่มจังนะครับ เขาบอกว่ามันเป็นต้นคริสต์มาสอะแก แต่เราว่าไม่ใช่นะ ดูยังไงมันก็ใช่ ตอนห่อไม่เท่าไหร่ พอแกะออกมาละกินไม่ลงเลย ไฟกะพริบเคลื่อนไหวตอนกลางคืน แต่ตอนกลางวันดูอุจาดตาไปหน่อย…
-
George Clooney มอบเงินให้เพื่อนสนิท 14 คน คนละ 32 ล้านบาท เพื่อแสดงความขอบคุณ
ถ้าคุณสงสัยว่าจะมีไหมนะ เพื่อนที่ยอมมอบเงินหรืออะไรแพงๆ ให้เพื่อนแบบฟรีๆ คุณคงคิดว่ามันเป็นได้ยากแน่ๆ โดยเฉพาะกับคนดังๆ แต่เชื่อไหมกว่ามีดาราฮอลลีวูดคนหนึ่ง เขายอมทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อตอบแทนเพื่อนด้วยนะ… เรื่องดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2013 โดยดาราคนที่ว่านั่นก็คือ George Clooney ซึ่งเขาได้เรียกเพื่อนสนิทจำนวน 14 คนมารับประทานอาหารที่บ้านของเขา ทุกคนก็ไม่ได้คิดอะไรในตอนแรกจนกระทั่งเขาเฉลยถึงเหตุผลที่เรียกทุกคนมา เพื่อนทั้ง 14 คน ของ George Clooney นั้นเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาก่อนที่ตัวเขาจะเข้าสู่วงการฮอลลีวูด และทุกคนก็คือคนที่ช่วยสนับสนุนเขาในยามที่เขาลำบากเพื่อให้เดินทางมาถึงจุดนี้ จุดที่เขากลายเป็นดาราดัง โดยตัว George ได้ตอบแทนเพื่อนๆ เหล่านี้เป็นเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ 32 ล้านบาท Rande Gerber นักธุรกิจหนึ่งในเพื่อนสนิทของ George ก่อนที่เขาจะเป็นดาราดังก็ได้เล่าถึงเหตุการณ์สุดพิเศษนั้นว่า “ผมเรามีกลุ่มเพื่อนที่เรียกกันว่า The Boys อยู่ ซึ่ง George ได้โทรเรียกผมกับกลุ่ม The Boys มาแล้วบอกว่า ‘เฮ้ พวกนายต้องจดไว้เลยนะว่าวันที่ 27กันยายน ทุกคนต้องมาที่บ้านฉัน’ ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไรนะจนกระทั่งถึงวันนั้น George บอกกับกลุ่ม The Boys…
-
นักวิทย์ค้นพบ ‘ฉลามกรีนแลนด์’ ที่มีอายุ 392 ปี คาดเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุมากที่สุดในโลก!!
ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่าตัวเองแก่ มาตอนนี้คุณคงต้องย้อนกลับมาคิดใหม่แล้วล่ะ เพราะว่าล่าสุดทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบฉลามที่มีอายุยืนถึง 392 ปี และคาดว่ามันนี่แหละคือสัตว์ที่อายุยืนที่สุด! การค้นพบดังกล่าวนั้น ถูกค้นพบโดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Copenhagen และจากมหาวิทยาลัย Oxford ซึ่งพวกเขาได้ใช้วิธีจากการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสีจากฉลามกรีนแลนด์จำนวน 28 ตัว ผลที่ได้คือหนึ่งใน 28 ตัว มีฉลามตัวหนึ่งถูกค้นพบว่ามีอายุถึง 392 ปี ซึ่งมันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมากๆ เพราะว่าพวกเขาไม่เคยค้นพบฉลามกรีนแลนด์มีอายุยืนยาวขนาดนี้มาก่อน แม้ว่าจะมีการยืนยันว่าฉลามสามารถอยู่ได้เกิน 100 ปีก็ตาม Christopher Bronk Ramsey ศาสตราจารย์ภาควิชาโบราณคดีของมหาวิทยาลัย Oxford ก็ออกมาบอกว่า “พวกเราจำเป็นจะต้องตรวจสอบและเพิ่มความยืดหยุ่นในการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับฉลามให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก ซึ่งด้วยความที่พวกเราไม่มีความรู้ที่อัปเดตใหม่ พวกเราอาจจะทำการศึกษาเจ้าฉลามสายพันธุ์นี้ได้ยากขึ้นนั่นเอง” อย่างไรก็ตามจากการสำรวจของทีมนักวิทยาศาสตร์ก็ทำให้พบว่า ฉลามกรีนแลนด์จำนวน 28 ตัวนั้น มีฉลามสองตัวที่มีขนาดใหญ่และยาวที่สุดในโลก โดยมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 4.93 เมตรและอีกตัวมีความยาวอยู่ที่ 5.02 เมตร สุดท้ายแล้วทีมนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ตีช่วงเวลาอายุของฉลามกรีนแลนด์ไว้ว่า พวกมันจะมีอายุยืน โดยจะอยู่ที่ราวๆ 272 ปีเลยทีเดียว โหววว ที่มา dailymail
-
ชาวเน็ตถกเถียง ถ้า Pokemon เปลี่ยนตัวซาโตชิเป็นผู้หญิง มันจะน่าดูมากขึ้นไหม!?
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการปล่อยตัวอย่างสั้นๆ ของโปเกม่อนเวอร์ชันหนังโรงภาคใหม่ ที่จะเข้าฉายในปี 2018 ออกมาให้ทุกคนได้รับชมกัน แม้จะเป็นคลิปสั้นๆ แต่ชาวเน็ตก็ต่างพากันแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นานาเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ความเห็นจะแตกออกเป็นหลายทิศทาง แต่ก็มีคนจำนวนมากที่แสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันนั่นก็คือ ตัวละครซาโตชิที่ปรากฏออกมานั้นมีหน้าตาที่ดูหล่อขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ คลิปเปิดตัวโปเกม่อน 2018 ที่ว่า ภาพดูสวยขึ้นมากจริงๆ นะ ซึ่งเมื่อความเห็นดังกล่าวไปในทางเดียวกัน ก็มีความเห็นแตกออกมาอีก มันจะดีนะถ้าเราลองเปลี่ยนซาโตชิภาคใหม่นี้ให้เป็นผู้หญิง งานนี้ชาวเน็ตยิ่งเห็นด้วยกันเยอะมากขึ้นจนถึงขนาดลงทุนตัดต่อและเปลี่ยนหน้าซาโตชิกันเลยทีเดียว!! เริ่มกันที่ต้นฉบับกันก่อน ซึ่งก็ยังเป็นซาโตชิแบบปกติ จากนั้นแฟนๆ ก็จัดการเปลี่ยนทรงผมให้เป็นผมยาว เพิ่มแก้มแดงเข้าไป ชาวเน็ตอีกคนเห็นภาพข้างบนแล้วรู้สึกว่า ซาโตชิยังสาวไม่พอเลยจัดการเพิ่มขนตาที่ยาวขึ้นเข้าไป ยังไม่หมดเท่านั้น ชาวเน็ตคนต่อมาก็บอกว่า ผิวซาโตชิน่าจะขาวขึ้นอีกสักหน่อยนะ หลังจากเปลี่ยนสีผิวของซาโตชิ ชาวเน็ตคนต่อมากลับคิดแปลกกว่าเดิม โดยเขาเพิ่มผมให้กับปิกาจูแทน…ห๊ะ!? และเพื่อให้ซาโตชิดูสาวยิ่งขึ้น ชาวเน็ตจึงกลับมาที่โฟกัสที่ตัวละครหลักอีกครั้ง โดยครั้งนี้เพิ่มเครื่องสำอางให้เยอะขึ้น อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรหยุดความกาวของชาวเน็ตได้ เพราะเมื่อไม่รู้จะทำอะไรกับซาโตชิแล้ว พวกเขาก็เลยจัดการลองเปลี่ยนปิกาจูเป็นสีชมพูแทน!? ยัง ชาวเน็ตยังไม่หยุดพวกเขาเพิ่มเครื่องสำอางให้กับปิกาจูด้วยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังเปลี่ยนหางของปิกาจูให้เป็นรูปหัวใจด้วย…
-
20 ภาพช่วงเวลาอันแสนสุขของเหล่า ‘แฟนคลับ’ เมื่อได้พบกับเหล่าคนดังที่ชื่นชอบ
การถ่ายเซลฟี่ตัวเองหรือกับเพื่อนนั้นก็เป็นเรื่องที่ง่ายดาย จะยากก็แค่ตอนเลือกรูปลง เพราะเชื่อว่าแต่ละครั้ง เพื่อนๆ คงมีตัวเลือกนับสิบ (บางคนอาจมีนับร้อย) กลับกันเมื่อคุณถ่ายเซลฟี่กับเหล่าคนดัง คุณจะมีโอกาสแค่ครั้งเดียว ซึ่งแน่นอนว่าทุกครั้งที่เรามีโอกาสแค่ครั้งเดียวผลลัพธ์มันก็มักจะออกมาแย่เสมอ แต่ทว่ากลับไม่ใช่สำหรับเหล่าคนดังเหล่านี้ เพราะพวกเขาเป็นมิตรสุดๆ และยังเสนอโอกาสถ่ายรูปแบบใกล้ชิดแถมเป็นกันเองสุดๆ ให้กับแฟนของพวกเขา ฉะนั้นถ้าคุณเจอคนดังเหล่านี้รับรองว่าคุณจะมีความสุขและได้รูปเซลฟี่ที่ออกมาดีแน่นอน… รูปนี้ป๋า Johnny Depp แกดูอยากถ่ายรูปกับเจ้าหนูนะ แต่เจ้าหนูเนี่ยสิ เมื่อเหยี่ยวกับคนเลี้ยงขอถ่ายรูปกับพี่ Ed Sheeran ผลที่ได้กลับออกมาดีและฮากว่าที่คิด ดูหน้าพี่แกสิ ฮร่าๆ เจ้าของภาพบอกว่า เพื่อนของเขาเจอกับ Beyoncé ในงานอีเว้นท์หนึ่งที่นิวออร์ลีนส์ ซึ่งพอเข้าไปขอถ่ายรูปนักร้องดังก็บอกว่า “ไม่ว่าคุณจะทำหน้ายังไง ฉันก็จะทำตามแบบคุณ” และนี่ก็คือผลที่ได้ หนุ่มในภาพบอกว่า เขาตื่นเต้นมากๆ ตอนที่ได้ถ่ายรูปกับ Morgan Freeman ซึ่งมันก็ดูจะจริงนะ เหงื่อออกเยอะเชียว เจ้าของภาพกับเพื่อนออกไปกินอาหารกันที่บาร์แห่งหนึ่ง แล้วเพื่อนตัวแสบก็ดันหลับ ซึ่งทันใดนั้น Tom Hanks ก็โผล่มาแล้วถ่ายรูปเซลฟี่ด้วยแบบเกรียนสุดๆ ภาพเซลฟี่กับเหล่านักแสดงจาก Game of Thrones ซึ่งทุกคนดูแฮปปี้ที่ได้ถ่ายมากๆ…
-
รู้จักกับเจ้าเหมียว Nala แมวขนปุยผู้ชื่นชอบ ‘หิมะ’ เป็นชีวิตจิตใจ เห็นเป็นไม่ได้พุ่งใส่ทันที!!
ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นสัตว์ชื่นชอบในหิมะ แต่สำหรับเจ้าเหมียวนามว่า Nala กลับตรงกันข้ามสุดๆ เพราะว่าทุกครั้งที่มันเห็นหิมะ มันจะไม่รอช้าแล้วพุ่งเข้าไปทันที!! Nala เป็นเจ้าเหมียวขนฟูสุดน่ารัก สายพันธุ์ผสมระหว่างเมนคูนกับนอร์เวเจียนฟอร์เรสต์ และด้วยขนที่ปุยสุดๆ ของมันจึงทำให้เรารู้สึกได้ทันทีว่ามันเป็นแมวถูกออกแบบมาเพื่อสภาพอากาศที่หนาวเหน็บแน่ๆ ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะว่าเจ้า Nala มันคือแมววัย 7 ขวบ ที่รักหิมะและอากาศหนาวเย็นมากๆ โดยเจ้าของได้เล่าว่าทุกครั้งที่มันเห็นหิมะหรือเข้าสู่ฤดูหนาวเมื่อไหร่ มันก็จะแสดงอาการมีความสุขและตื่นเต้นออกมาอย่างเห็นได้ชัด หิมะ หิม๊าาาาาาา!!! ยิ่งถ้าเจ้าของออกไปเล่นด้วย มันก็จะดูตื่นเต้นสุดๆ งานนี้เรียกว่ามันเหมือนเด็กๆ ที่อยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยของเล่นสีขาว และของเล่นทั้งหมดก็เป็นของมัน ความน่ารักที่ไม่ปกติอีกอย่างของเจ้า Nala ก็คือมันชอบเล่นรับลูกบอลหิมะ ซึ่งปกติการวิ่งไล่งับบอลมันต้องเป็นกิจกรรมของสุนัขแท้ๆ แต่เจ้าเหมียวขนฟูตัวนี้กลับชื่นชอบกิจกรรมนี้แทนซะอย่างนั้น ที่สำคัญบอลที่โยนก็ต้องทำมาจากหิมะด้วยนะ ไม่งั้นเจ้าเหมียวจะไม่เล่นเด็ดขาด!! . ถ้าเกิดใครชื่นชอบและอยากจะติดตามเจ้า Nala ก็สามารถทำได้ง่ายมากๆ เพียงแค่เข้าไปกดติดตามอินสตาแกรมของมันได้ที่ living_with_nala เลย ตอนนี้อินสตาแกรมมันมีคนตามกว่า 22,000 คนแล้วนะ ที่มา iizcat
-
เจ้ากวางแวะมาที่ร้านขายของชำแล้วก็กลับไป ผ่านไปไม่นานพาลูกๆ มาด้วย!?
เหล่าบรรดาเพื่อนร่วมโลกของเรามักจะมีเรื่องที่มาทำให้เราประหลาดใจได้เสมอ ความน่ารักของมันมักจะทำให้เราใจละลายได้เรื่อยๆ คราวนี้ไม่ใช่เจ้าหมาหรือเจ้าเหมียวแต่กลับเป็น คุณกวางน้อยนั้นเอง เซอร์ไพรส์ไหมล่ะ Lori Jones พนักงานประจำร้านขายของชำที่ Horsetooth Inn สถานที่พักผ่อนอันแสนงดงามแห่งเทือกเขาร็อกกี้ในเมืองฟอร์ตคอลลิน รัฐโคโรลาโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีธรรมชาติรายล้อมรอบตัว เงียบสงบห่างจากผู้คน เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ผู้คนที่ชื่นชอบธรรมชาตินิยมไปเที่ยวเพื่อสัมผัสความงามแบบใกล้ๆ เรื่องสุดประหลาดใจเกิดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วในขณะที่เธอกำลังจัดข้าวของอยู่ในร้านอยู่ สัญญาณหน้าประตูดังขึ้น เธอรีบออกไปดูคิดว่ามีลูกค้าเข้าร้าน แต่กลับเป็นเจ้ากวางน้อยตัวนี้ สวัสดี เราแค่อยากจะมาชอปปิงน่ะ มันเดินเข้าร้านอย่างสบายใจ เดินไปทั้งโซนของแว่นตาและมันฝรั่งทอด เธอบอกว่าดูแล้วมันน่าตลกมาก . เจ้ากวางตัวนี้ไม่ใช้ผู้แปลกหน้าสำหรับเธอแต่อย่างใด มันอาศัยอยู่บริเวณร้านค้าแถวนั้น วันนี้มันคงจะนึกครึ้มอกครึ้มใจอยากจะไปชอปปิงซะหน่อย แต่เธอต้องหลอกล่อมันให้ออกไปนอกร้านก่อนเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าท่านอื่น พอมันได้ถั่วลิสงแล้วมันก็เลยเดินออกร้านไปอย่างง่ายดาย เวลาผ่านไป 30 นาที เจ้ากวางก็โผล่มาอีกครั้ง แต่ทว่ามันไม่ได้มาแค่ตัวเดียวน่ะสิ นางพาครอบครัวมาด้วย เอากับเขาสิ เจ้ากวางนำทีมเข้ามาเหมือนจะขออนุญาต Lori ให้ครอบครัวของมันเข้ามา มันส่งสายตาเว้าวอนเหมือนเป็นคำถามว่า “ให้ครอบครัวของเราเข้ามาในนี้ได้มั้ย?” ตกลงว่าเข้าไปได้ไหมแม่ . แน่นอนว่าเธอต้องปฏิเสธไม่ให้เจ้ากวางทั้งหลายเข้ามาในร้าน…
-
งานวิจัยเปิดเผยว่า สิ่งที่ช่วยให้คุณ ‘นอนหลับ’ อย่างสบายที่สุดก็คือ ‘การมีเซ็กส์’
คุณผู้อ่านกำลังประสบกับปัญหาการนอนไม่หลับอยู่หรือเปล่าคะ? เจ้าอาการนอนไม่หลับเนี่ยมันช่างน่าหงุดหงิดซะเหลือเกิน พอจะข่มตาหลับได้สักพักก็ต้องตื่นไปทำงานซะแล้ว พอจบวันจะนอนก็ดันนอนไม่หลับอีก วนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ ร่างกายจะพังเอานะ ซึ่งปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับนี้ก็กลายเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ นักจิตวิทยา หรือผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ก็นำประเด็นเรื่องการนอนไม่หลับมาศึกษาเพื่อหาวิธีคลายปัญหา หนึ่งในหัวข้อที่เกี่ยวกับอาการนอนไม่หลับที่ Michele Lastella จากสถาบัน Appleton Institute for Behavioral Science ของมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียได้ทำการศึกษาในหัวข้อที่ว่า “เมื่อมีเซ็กส์แล้วจะทำให้อาการนอนไม่หลับหายไป” นั่นแน่ อย่าพึ่งคิดลึกไปถึงฉากนั้นนะ จากการสำรวจข้อมูลจากประชากรชาวรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 70 ปี จำนวน 460 คน พบว่า 2 ใน 3 คนสามารถนอนหลับได้ดีขึ้นหลังจากที่ได้ขึ้นสวรรค์ก่อนนอน หัวข้อการวิจัยนี้อ้างอิงมาจากหลักฐานการวิจัยที่ถูกค้นพบว่า มนุษย์จะหลั่งฮอร์โมน ออกซิโทซิน ออกมาหลังจากที่สำเร็จความใคร่ด้วยการมีเซ็กส์หรือช่วยตัวเองจนถึงจุดสุดยอด ซึ่งเจ้าฮอร์โมนออกซิโทซินนี้เป็นฮอร์โมนแห่งความผ่อนคลาย ออกฤทธิ์คล้ายยาระงับประสาทและช่วยให้สามารถนอนหลับได้ นอกจากนี้ Michelle ก็ได้แนะนำอีกว่าควรจะนำโทรศัพท์มือถือไปไว้ไกลๆ เพื่อที่จะได้ทำกิจกรรมอย่างสะดวกไม่มีสะดุด เมื่อพร้อมแล้วก็สามารถจูงมือกันขึ้นไปสู่ประตูสวรรค์ได้เลย …
-
น้องชายวิ่งเข้าไปช่วยพี่สาว หลังเข้าใจผิดคิดว่า ‘การแข่งมวยปล้ำ’ เป็นการทะเลาะกัน
เด็กน้อยทุกคนนี่มีความไร้เดียงสาซะจริงๆ นะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูน่ารักไปซะหมด ผู้ใหญ่แบบเราดูแล้วอิจฉาเหลือเกิน โอ๊ย เห็นแล้วอยากกลับไปเป็นเด็กจังเลยวุ้ย เรื่องราวสุดน่ารักนี้เกิดขึ้นในการแข่งขันกีฬามวยปล้ำของโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในสหรัฐ Ryan Prendergast เด็กหญิงวัย 5 ขวบในชุดสีชมพูกำลังแบทเทิลกีฬามวยปล้ำรุ่นจิ๋วท่ามกลางเสียงเชียร์ของเหล่าผู้ปกครองตรงขอบสนาม สาวน้อยในชุดสีชมพูกำลังวางท่าต่อสู้กับเพื่อนร่วมชั้น ระหว่างที่แข่งขันอยู่นั้นก็มีเด็กผู้ชายวิ่งเข้ามากลางวงต่อสู้ เด็กน้อยคนนั้นคือน้องชายของเธอนั่นเอง หนูน้อยวิ่งแจ้นเข้ามาในวงเพราะคิดว่าพี่สาวของเขากำลังถูกทำร้าย และพยายามเอาตัวเองเข้าแทรกระหว่างกลางคู่ต่อสู้พร้อมกับตะโกนว่า “ออกไปจากพี่สาวฉันเดี๋ยวนี้นะ” น้องมาช่วยแล้วพี่!! อย่ามาทำร้ายพี่สาวผมนะ เด็กชายคงจะไม่รู้ว่านี่คือการแข่งขันมวยปล้ำ โถลูก คงอยากจะปกป้องพี่สาวสินะ เหล่าผู้ปกครองต่างหัวเราะชอบใจ แต่การแข่งขันก็ต้องเริ่มใหม่อีกครั้งหลังจากที่กรรมการให้พ่อของเด็กชายอุ้มเจ้าหนูออกไป ฮ่าๆ พ่อปล่อยผม ผมจะไปช่วยพี่ หลังจากจบการแข่งขัน คลิปวิดีโอเหตุการณ์ชุลมุนสุดน่ารักนี้ก็ได้เผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ จนกลายเป็นหนึ่งคลิปที่มีแต่ชาวเน็ตมาชื่นชมถึงความกล้าหาญและน่ารักของหนูน้อยคนนี้ ไม่มีอะไรแล้ว สู้ต่อได้ คลิปวิดีโอการแข่งขันมวยปล้ำรุ่นจิ๋ว ที่มา metro
-
เจ้าของรถโรลส์-รอยซ์เดือดบังคับให้คู่กรณี ‘ไปขายบ้านแกซะ!’ เพื่อเอาเงินมาจ่ายค่าเสียหายให้
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ เมืองเหลียวหนิง มณฑลเฉิ่นหยาง ประเทศจีน ได้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นการปะทะกันระหว่างรถโรลส์-รอยซ์สีดำกับคู่กรณีรถฮุนไดสีขาว รถโรลส์-รอยซ์ได้รับความเสียหายทางด้านซ้ายเป็นรอยถูกกระแทกอย่างหนักจนกันชนหน้าแตกเป็นแผลใหญ่ แต่รถคู่กรณีกลับเสียหายมากกว่า ผู้พบเห็นเหตุการณ์ได้อ้างว่า เจ้าของรถโรลส์-รอยซ์เกิดอาหารโมโหอย่างขีดสุด เขาลงมาพูดกับคู่กรณีด้วยน้ำเสียงโกรธจัด “ไปขายบ้านของแกซะ!!!” คู่กรณีก็เงียบและไม่มีการโต้เถียงใดๆ เพราะว่ารถของเขาเสียหายมากกว่า เขาไม่ทำอะไรจนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาเคลียร์เรื่องให้ สำนักข่าว Beijing Morning Post ได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้และได้เปิดเผยราคาค่าซ่อมรถโรลส์-รอยซ์ตกอยู่ที่ประมาณ 19-68 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่จัดได้ว่าสูงมาก เรื่องนี้ก็เลยกลายเป็นประเด็นให้ชาวเน็ตประเทศจีนถกเถียงกันและแบ่งความคิดเห็นออกเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายแรกคือรถโรลส์-รอยซ์ก็มีส่วนผิดเช่นกันและมันดูไม่ยุติธรรมที่ฝ่ายรถฮุนไดต้องชดใช้ค่าเสียหายมากมายขนาดนั้นและควรจะมีอัตราเพดานค่าชดใช้ค่าเสียหาย อีกฝั่งหนึ่งก็คิดว่าเจ้าของรถหรูทำถูกต้องแล้ว เพราะว่าค่าประกันอาจจะไม่เพียงพอต่อการซ่อมรถที่มีราคาแพงคันนี้ คู่กรณีจึงจำเป็นต้องขายบ้านเพื่อนำมาจ่ายเป็นค่าซ่อมรถ เรื่องนี้มันคิดได้สองแง่ทั้งฝ่ายของเจ้าของรถ และฝ่ายของคู่กรณี แต่อย่างไรก็ตามเรื่องแบบนี้ก็คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ดังนั้น #เหมียวบู้บี้ ขอให้คุณผู้อ่านทุกคนมีสติในการขับรถกันด้วยนะคะ ที่มา nextshark
-
เจ้าเหมียวถูกทิ้งต้องนอนในกล่องเก่าๆ ถึง 3 เดือน จนกระทั่งมีผู้มาช่วยเหลือให้มันมีชีวิตที่ดีขึ้น
เรื่องราวไปนี้เป็นเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่ชื่อว่าเจ้า Rocco เหมียวอ้วนผู้น่าสงสารที่ต้องมาประสบชะตากรรมชีวิตครั้งใหญ่จนกระทั่งฟ้าได้ประทานความโชคดีให้กับมันอีกครั้งหนึ่ง เรื่องราวนี้ถูกถ่ายทอดโดย Paul The Cat Guy หนุ่มผู้ชอบช่วยเหลือแมวเป็นชีวิตจิตใจ ได้เล่าถึงชีวิตของเจ้าเหมียว Rocco มันเป็นแมวจรจัดที่ถูกทิ้งไว้ในแถวตู้คอนเทนเนอร์หลังตึกก่อสร้างในย่านบรองซ์ ในนครนิวยอร์ก โดยมันต้องอาศัยอยู่ในกล่องเก่าๆ เป็นเวลาเกือบ 3 เดือน เด็กๆ ที่อยู่แถวนั้นได้ตั้งชื่อให้กับมันว่าเจ้า Rocco มันอาศัยอยู่ที่นั่นจนกระทั่งถึงช่วงฤดูหนาว ผู้ที่คอยให้อาหารมันคิดว่า การปล่อยให้มันอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเป็นเรื่องที่อันตรายเกินไป เขาจึงได้ติดต่อไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับมาสักที เขาก็เลยติดต่อไปยังหนุ่ม Paul ผู้เป็นนักช่วยเหลือแมว ให้มาช่วยเหลือเจ้าเหมียวตัวนี้ . หลังจากนั้นมันก็โชคดีที่ Paul ได้เดินทางมาช่วยเหลือมันถึงย่านบรองซ์ และเขาก็ได้พบว่ามันมีแผลติดเชื้อตรงจมูกและหูข้างขวา จึงได้ติดต่อไปยังศูนย์ช่วยเหลือ North Shore Animal leage ก่อนที่จะส่งตัวมันไปที่ศูนย์แห่งนั้น ในที่สุดมันก็ได้ย้ายจากกล่องใบเก่าๆ เป็นกรงที่เต็มไปด้วยผ้านวมอุ่นๆ และไม่ต้องกังวลที่จะอดมื้อกินมื้อต่อไปอีกแล้ว เมื่อมีชายหนุ่มเข้ามาช่วยเหลือให้มันได้ไปอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ก่อนที่จะประกาศให้มันได้บ้านใหม่หลังจากที่มันรักษาตัวจนหายดี . . ที่มา lovemeow
-
ศิลปินตัดต่อเอาภาพ 2 สิ่งที่ดูแล้วไม่น่าเข้ากันได้มาฟีทเจอริ่งกัน กลายเป็นภาพที่เจ๋งไปอีกแบบ
Randy Lewis กราฟิกดีไซเนอร์และครีเอทีฟชาวอเมริกัน อาศัยอยู่ในเมืองเออร์วิน รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้งัดสกิลการตัดต่อด้วยโปรแกรม Photoshop มาเพื่อสร้างสรรค์ผลงานสุดเจ๋งชิ้นใหม่ ด้วยแนวคิดการนำของสองสิ่งที่ดูแล้วไม่น่าจะเข้ากันเลยมาตัดต่อให้ดูเหมือนว่า เออ มันก็เข้ากันได้แฮะ เอาล่ะ ไม่รอช้าไม่พูดพร่ำทำเพลงกันแล้ว ไปดูผลงานของเขากันดีกว่า…. พิซซ่ากับสับปะรด หิวเลยนะเนี่ย ใช่เม่นหรือเปล่าเนี่ย หรือตัวอะไรทำไมมันน่ารักขนาดนี้ ปูรสแอปเปิ้ล รสชาติคงจะแปลกน่าดู ไม่ใช่แครอท แต่เป็นผักชีและไส้กรอก คุณกบ ไปอยู่ทำไมตรงนั้น ใครจะดวลก็เข้ามาเลย ข้าจะไม่ยอมตกเป็นอาหารของแกอีกต่อไป หมาพันธุ์ไส้กรอกที่แท้จริง ดูแล้วหดหู่แปลกๆ ภาพนี้ สงสัยจะเก็บไข่นานไปหน่อย ออกมาเป็นลูกเจี๊ยบเลย ต้องกลัวไหมเนี่ย โอ้โห น่ารักจนกินไม่ลง ดูยังไงให้เซ็กซี่เนี่ย ลูกโบว์ลิ่งลูกนี้มันน่ากลัวแปลกๆ มนุษย์ชีส สงสัยจะคลั่งจริง รู้สึกจริงๆ ว่าเจ้ายุงนี่เหมือนเข็มฉีดยา กัดเจ็บมาก…
-
เจ้าเหมียวหนุ่มน่าสงสัย โผล่มาหน้าบ้านเหมือนไปทำอะไรไม่ดีมา สุดท้ายก็โดนช่วยไว้จนได้
เรื่องราวของการช่วยเหลือสัตว์ที่น่าสงสารเป็นเรื่องที่น่าประทับใจเสมอ เช่นเดียวกันเรื่องราวของเจ้าแมวสีส้มตัวนี้ที่ได้รับบาดเจ็บบางอย่าง หากไม่มีใครไปพบเห็นเข้ามันก็อาจจะต้องทนทุกข์ทรมานไปกับความเจ็บปวดนี้ตลอดไปก็เป็นได้ แมวสีส้มอายุ 10 ขวบ ปรากฏตัวขึ้นที่ระเบียงบ้านที่หลังหนึ่งในเมือง Ontario ของรัฐ New York เมื่อครอบครัวของบ้านนี้ได้เห็นเข้า ก็ต้องสงสัยไปกับท่าทางของมันที่เหมือนจะซ่อนอุ้งเท้าไว้ ซึ่งเมื่อลองเข้าไปดูเจ้าแมวใกล้ๆ จึงรู้ว่ามันกำลังบาดเจ็บและต้องการความช่วยเหลือ ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของบ้านได้พบแมวตัวนี้ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เธอเห็นว่าอุ้งเท้าของมันได้รับบาดเจ็บและต้องรักษากับสัตวแพทย์โดยด่วน เธอจึงพามันไปที่ Lollypop Farm, The Humane Society of Greater Rochester ซึ่งสถานที่รับเลี้ยงแมว เพื่อให้มันมีโอกาสชีวิตที่ดีขึ้น แมวตัวนี้ได้ชื่อว่า Buster มันมีหน้าตาที่ดูไม่ค่อยสู้ดีนัก สายตาที่ดูมีความทุกข์และความวิตกกังวล อาจเป็นเพราะเท้าของมันที่ได้รับบาดเจ็บนั่นเอง “Buster ทุกข์ทรมานจาก เชื้อแบคทีเรียชนิด Plasmacytic Pododermatitis ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้อุ้งเท้าเป็นแผลทำให้มันเดินได้อย่างเจ็บปวด” Lollypop Farm เจ้าแมวสีส้มถูกเริ่มต้นการรักษาด้วยการทำความสะอาดอุ้งเท้าโดยพนักงานของ Lollypop Farm Buster เป็นแมวที่มีความอดทนและไม่เคยงอแง ในระหว่างที่พี่ๆ ทำแผลให้ “เขาเป็นแมวที่อ่อนโยนและน่ารัก และแน่นอนว่าเราดูแลและเยียวยาอุ้งเท้าน้อยๆ ของมันอย่างดี” Lollypop Farm กล่าว …
-
งานวิจัยเผย การมี “น้องสาว” จะช่วยให้คุณมีความสุขและมองโลกในแง่ดีขึ้นไปอีก
จำได้หรือเปล่าว่าใครที่วิ่งเล่นมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ใครกันที่ขี้ฟ้อง ใครที่คอยแนะนำคุณเรื่องการแต่งตัว ใครที่สนุกไปกับคุณทุกที่ไม่ว่าจะช็อปปิ้ง ทานข้าว หรือเม้าเรื่องรักๆ ที่บอกแม่ไม่ได้… เมื่อพูดถึงการมีน้องสาวแล้ว หลายๆ คนอาจจะถึงความป่วนความแสบของน้องสาวตัวดี ที่สร้างความหงุดหงิดและเรื่องปวดหัวอยู่ได้ตลอดเวลา แต่เพื่อนๆ เชื่อหรือไม่ว่ามีผลวิจัยหนึ่งได้อ้างว่าการมีน้องสาวนั้น จะทำให้คุณมีความสุขกว่าแถมยังมองโลกในแง่ดีมากขึ้นด้วย!!?? ไม่ว่าคุณจะเป็นพี่ชายหรือพี่สาว การมีน้องสาวซักคนนั้นเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย เธอจะคอยให้คำแนะนำกับพี่ชายที่ต้องเดทกับผู้หญิงที่คู่ควร และเป็นเพื่อนรู้ใจของพี่สาวในทุกๆ เรื่อง ถึงแม้ในบางครั้งพี่น้องอาจจะมีทะเลาะกับบ้าง แต่จากการศึกษาได้เผยว่าการมีน้องสาวจะทำให้คุณรู้จักการให้อภัยในข้อบกพร่องของเธอ ถึงแม้ว่าจะแอบโกรธกันอยู่หน่อยๆ ก็ตาม ศาสตราจารย์ Tony Cassidy จาก University of Ulster ได้กล่าวว่าคนที่มีน้องสาวนั้นมักมีสุขภาพจิตที่ดีกว่าคนปกติ “การมีน้องสาว จะทำให้คุณนั้นมีความคิดที่เปิดกว้าง ยอมรับในสิ่งต่างๆ และเธอยังเป็นเหมือนกาวเชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย” Tony Cassidy กล่าว แล้วหากมีน้องชายล่ะ??? โดยตามธรรมชาติของเด็กผู้ชายแล้ว มักจะไม่ค่อยพูดถึงสิ่งต่างๆ ให้ใครฟังสักเท่าไหร่ พวกเขามักจะเก็บเงียบ ผิดกับน้องสาวที่เธอจะคอยพูดคุย และทำลายกำแพงกั้นนี้ลง ในผลการวิจัยก็ได้อ้างว่า คนที่มีน้องชายนั้นมีเกณฑ์ประสบความสำเร็จต่ำกว่าบุคคลที่มีน้องสาว พวกพี่ๆ ทั้งหลายที่มีน้องสาวนั้นมีแนวโน้มที่จะมีความทะเยอทะยานมากกว่าและเป็นอิสระมากกว่าตามผลวิจัย …
-
เด็กสาววัย 8 ขวบช่วยชีวิตน้องสาวของตัวเอง ด้วยการ ‘ปฐมพยาบาล’ ที่จำมาจากในทีวี
การปฐมพยาบาลเมื่อสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายนั้น เป็นสิ่งที่คนทุกเพศทุกวัยควรที่จะรู้และปฏิบัติได้ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อไหร่ และวิธีการช่วยเหลือที่ถูกต้องนั้นสามารถต่อชีวิตของคนบางคนได้เลยทีเดียว เช่นเดียวกับเด็กน้อยคนนี้ เธอได้ช่วยชีวิตของน้องสาวจากอาการสำลักช็อกโกแลตแท่ง จากการชมวิธีปฐมพยาบาลผ่านทางโทรทัศน์ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งสำหรับเด็กที่อายุยังน้อย และน่ายกย่องเธอคนนี้เสียจริงๆ Jackie Nelson คุณแม่ลูก 3 ได้เดินขึ้นไปบนบ้านเพื่อที่จะหยิบสิ่งของบางอย่าง โดยทิ้งลูกสาวอายุ 1 ขวบ ที่ชื่อว่า Peyton ไว้กับพี่สาววัย 8 ขวบ ในห้องนั่งเล่นพร้อมขนมขบเคี้ยวต่างๆ หลังจากนั้นคุณแม่ก็ได้ยินเสียงไอแค่กๆ แต่ก็ไม่ได้ตงิดใจอะไร จนกระทั่งเธอได้ยินเสียงของลูกสาวคนโตวัย 8 ขวบ ‘Skye‘ ที่ตะโกนด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว Jackie จึงรีบวิ่งไปที่ชั้นล่างและพบว่าลูกสาวคนเล็ก Peyton กำลังสำลักและมีท่าทางหายใจไม่ออก ทันใดนั้นเอง Skye พี่สาวคนโต เธอก็ได้ยกน้องสาวขึ้นพาดที่เข่าแล้วทุบหลังซ้ำๆ ไม่นานนัก Peyton ก็อาเจียนและแท่งช็อกโกแลตของหลุดออกมา คุณแม่ได้กล่าวว่าลูกสาวคนโตของเธอนั้น ชื่นชอบรายการโทรทัศน์ที่เกี่ยวกับการแพทย์มากๆ โดยการปฐมพยาบาลที่เธอทำนั้น Skye เรียนรู้มาจากรายการ 24 Hours in A & E และ Inside The Ambulance ในโทรทัศน์นั้นเอง คุณแม่ได้เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า เธอไม่ได้ยินหรือเอะใจอะไรเลย จนได้ยินเสียงของลูกสาวคนโตที่โกนเรียก “แม่!!!…
-
เจ้าเหมียวท้องแก่เดินเข้ามาขอความช่วยเหลือมนุษย์แบบไม่เขินอาย วันต่อมาคลอดลูกให้อีก 7 ตัว!!
หากคุณเป็นหนึ่งในทาสแมว คุณย่อมรู้ดีว่าคุณน่ะไม่ได้เป็นเจ้าของพวกมันหรอก พวกแมวต่างหากที่เป็นเจ้าของคุณ และเมื่อมันอ้อนให้คุณทำอะไรคุณก็ทำให้ทั้งนั้นแหละ Rachale เองก็เป็นทาสแมวเช่นกัน เธอยอมแมวของเธอทุกอย่าง แม้ว่ามันจะขอเข้ามายึดบ้านอยู่ฟรีๆ และพาครอบครัวเข้ามาด้วยก็ตาม เธอเล่าว่าในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีแมวสีส้มตัวหนึ่งมาป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณบ้านเธอ เธอเห็นว่ามันกำลังท้องอยู่ และดูหิวโหยมาก จึงให้อาหารมันกิน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้เจ้าเหมียวตัวนี้กลายมาเป็นเจ้าของของเธอ จากนั้นมันก็เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของเธอ เธอจึงตั้งชื่อมันว่า Boots และเมื่อเจ้าเหมียวเข้ามายึดบ้านได้ มันก็เริ่มอ้อนเธอทันที โดยมันอ้อนให้เธอเติมอาหารให้มันอยู่ตลอดเวลา คงจะกินเยอะเพราะมันท้องอยู่ล่ะมั้ง Rachale เล่าว่า “มันกินเยอะมากอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ แล้วมันก็เข้ามายึดครองทุกอย่างภายในบ้านเลย” Boots มาแว้ว หลังจากนั้นเธอจึงพามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจดูว่ามันและลูกสุขภาพแข็งแรงดีรึเปล่า และพวกเขาก็ตกหลุมรักกับความเชื่องของมันอีกครั้ง เพราะมันเดินไปชั่งน้ำหนักเองได้ด้วย “เจ้าเหมียวเดินขึ้นไปนอนบนเครื่องชั่งน้ำหนักด้วยตัวของมันเอง ฉันไม่เคยเห็นแมวตัวไหนฉลาดและเชื่องแบบนี้มาก้อน” ส่วนผลการตรวจนั้นบอกว่ามันน่าจะอุ้มท้องลูกแมวสัก 4 หรือ 5 นี่แหละ และอีกไม่นานก็คงจะคลอดแล้ว ให้เธอเตรียมพร้อมรับมือกับลูกแมวได้เลย โตแล้วชั่งน้ำหนักเป็น ต่อมาในวันที่ 26 พฤษจิกายนที่ผ่านมานี้ เจ้าเหมียวก็ทำให้ Rachale ประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อมันไม่ได้คลอดลูกมาตามที่หมอคาดการณ์ แต่กลับคลอดลูกแมวมาถึง 7…
-
James Fridman หนุ่มนักตัดต่อผู้ทำตามคำขอให้ได้ทุกอย่าง แม้มันจะหินแค่ไหนก็ตาม!!
ถ้าเกิดว่าเราถ่ายรูปออกมาสักรูปหนึ่ง แล้วรู้สึกชอบใจรูปนั้น แต่ว่าดันมีจุดตำหนิติดมาด้วยซะนี่ วิธีการแก้ไขที่สามารถทำได้ง่ายๆ ก็คือการแก้ไขภาพด้วยโปรแกรม Photoshop นั่นเอง แต่โปรแกรมตัดต่อตัวนี้ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็สามารถใช้ได้ เพราะมันซับซ้อนพอสมควร นอกจากนี้จุดบกพร่องในบางภาพยังแก้ไขแทบไม่ได้อีกด้วย แต่หากท่านวานให้หนุ่ม James Fridman ตัดต่อให้ละก็ไม่ว่าคำขอจะยากแค่ไหน จะเป็นยังไง เขาก็ทำตามคำขอได้ทุกอย่าง ชายหนุ่มคนนี้เป็นคนที่ชอบนำรูปมาตัดต่อผ่านโปรแกรม Photoshop แบบตลกๆ และไม่ว่าใครจะส่งรูปมาขอให้เขาตัดต่อให้ เขาก็ทำตามคำขอหมด เพียงแต่ว่ารูปภาพที่เขาตัดต่อให้อาจจะไม่ได้เป็นดังที่คนขอคิดเท่านั้นเอง ไม่เชื่อก็ลองไปดูกัน ช่วยเอาหัวล้านของผู้ชายคนนั้นออกทีค่ะ ช่วยปิดขนรักแร้ของแฟนหน่อยได้ไหมคะ คือภาพนี้ดูเหมือนผมกับเพื่อนจับมือกันน่ะครับ ช่วยแก้ให้หน่อยนะ ช่วยทำให้ผมดูเด็กกว่านี้ได้ไหม ฉันอยากให้คุณทำให้ดูเหมือนเรากำลังจับมืออยู่ ทำให้ฉันมีผิวเรียบเนียนและดวงตาสีฟ้าเข้มกว่านี้ทีเถอะ ฉันชอบหนังเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์มากๆ ช่วยทำให้ฉันดูเหมือนตัวละครในเรื่องหน่อยสิ แฟนของผมเธอไม่ได้ใส่รองเท้าตอนถ่ายรูปน่ะครับ ช่วยตัดรองเท้าใส่ให้เธอที ตัดต่อรูปผมกับ Aaron Rodgers ให้ด้วยเถอะครับ ผมเป็นแฟนคลับตัวยงเลย อยากได้ภาพเหมือนฉันกำลังนั่งพรมแล้วบินข้ามทะเลน่ะค่ะ ขอร้องล่ะ ทำให้ผู้หญิงคนนั้นไม่มองมาที่ฉันกับสามีที…
-
พนักงานร้าน Burger King กลายเป็นฮีโร่ หลังวิ่งลงไปช่วยผู้ป่วยโรคเบาหวานที่กำลังเดือดร้อน
อาชีพพนักงานบริการตามร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด เป็นอาชีพที่มีค่าตอบแทนไม่มาก นอกจากนี้ยังเหน็ดเหนื่อยมาก เพราะว่าต้องบริการลูกค้าที่เข้ามาสั่งอาหารตลอดเวลา และคอยดูแลแทบทุกส่วนของร้านให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ จึงไม่แปลก หากจะเจอพนักงานที่ทำงานแบบขอไปทีอยู่บ่อยๆ แม้ว่าจะทำอาชีพที่ได้ค่าตอบแทนน้อย แต่ถ้าเราทำงานด้วยความเต็มใจ และทำงานอย่างเต็มที่ นึกถึงผลลัพธ์ของงานเป็นหลัก ความดีและความตั้งใจก็จะส่งผลตอบแทนให้กับเราแน่นอน แม้ว่าจะไม่ได้มาในรูปแบบของเงินก็ตาม Rebecca Boening และครอบครัว Rebecca Boening อาศัยอยู่ในเมืองอามาริลโล รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเนื่องจากเป็นโรคเบาหวาน จึงจำเป็นต้องควบคุมปริมาณน้ำตาลให้ดีอยู่เสมอ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา เธอรู้สึกว่าน้ำตาลในเลือดต่ำจนอยู่ในขั้นอันตราย เธอจึงต้องรีบเติมน้ำตาลให้ตัวเองโดยด่วน โชคดีที่ระหว่างทางนั้นมีร้าน Burger King พอดี เธอจึงรีบเลี้ยวรถเข้าไปในช่องไดร์ฟทรูทันที พอขับรถ เข้าไปพนักงานบริการ Tina Hardy ก็ออกมารับบริการทันที แต่ Rebecca คงจะขาดน้ำตาลรุนแรงจริงๆ เธอจึงสั่งอาหารด้วยน้ำเสียงสั่นเทา และพูดตะกุกตะกักอีกด้วย ดังที่เธอเล่าผ่านเฟซบุ๊กของตนว่า “ฉันบอกกับพนักงานไปว่าฉันมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และต้องการอาหารมาก” และ “ตอนมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ จะคิดจะทำอะไรก็ยากไปหมด” แต่เธอก็ได้รับความช่วยเหลือที่ไม่คาดคิด เพราะพอสั่งอาหารเสร็จปุ๊บ พนักงานที่ให้บริการเธอก็วิ่งมาหาเธออย่างรีบร้อน พร้อมยื่นไอศกรีมให้เธออย่างฉับไว แล้วบอกว่าทานได้ทันทีเลย หลังจากนั้น…
-
โรค ‘จิ๋มตายด้าน’ อาการที่เกิดจากการใช้เครื่องสั่นมากเกินไป แต่ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายจนต้องกังวล
เพื่อนๆ มีใครเคยได้ยิน “โรคจิ๋มตาย” บ้าง? นี่ไม่ใช่มุกตลกหรือคำกำกวมแต่อย่างใด แต่มันคือชื่อโรคจริงๆ ที่มีมานานหลายปีแล้ว โรคจิ๋มตาย คือผลกระทบจากการใช้เซ็กส์ทอยชนิดสั่นมากเกินไป เนื่องจากเครื่องสั่นจะสร้างความทนทานต่อการกระตุ้นคลิตอริสและช่องคลอด จนทำให้ผู้หญิงไม่สามารถไปถึงจุดสุดยอดได้ ถ้าไม่ใช่เครื่องสั่น นั่นหมายความว่าหากคุณยังใช้เครื่องสั่นในการสำเร็จความใคร่ต่อไปเรื่อยๆ ช่องคลอดของคุณจะตายด้าน ไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่มาสัมผัสได้ และทนต่อทุกอย่างที่จะทำให้ถึงจุดสุดยอด มันฟังดูน่ากลัวใช่มั้ย? แต่นี่เป็นเรื่องที่คุณต้องรู้นะ…แน่นอนว่าหากคุณสำเร็จความใคร่ด้วยวิธีใช้เครื่องสั่นมาตลอด มันยากที่จะสำเร็จความใคร่ด้วยวิธีอื่น แต่อย่าเพิ่งกังวลไป สูตินรีแพทย์ Shazia Malik กล่าวว่า “เราไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ยืนยันว่าภาวะช่องคลอดตายนี้มีอยู่จริง ดังนั้นอย่าเพิ่งกังวลว่าช่องคลอดของคุณจะไม่ตอบสนองในอนาคตถ้าไม่ใช้เครื่องสั่น” Shazia ตั้งข้อสังเกตว่า จริงอยู่ที่ช่องคลอดของผู้หญิงสามารถสูญเสียความรู้สึกได้หลังจากใช้เครื่องสั่นต่อเนื่องกันบ่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันมันก็สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากที่คลอดลูก ขณะมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น ขณะให้นมบุตร รวมทั้งการทานฮอร์โมนคุมกำเนิด ทั้งนี้ในเรื่องของการตอบสนองของช่องคลอด มีการวิจัยพบว่า หลังจากการใช้เครื่องสั่น ผลกระทบของมันมักจะหายไปภายใน 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังได้มีการวิเคราะห์ผลกระทบของการใช้เครื่องสั่นกับมือ ซึ่งปรากฏว่าไม่พบความแตกต่างใดๆ เมื่อใช้กับอวัยวะเพศ การใช้เครื่องสั่น อาจทำให้ร่างกายส่วนที่ถูกสัมผัสมีอาการชาเล็กน้อย แต่อาการนั้นจะหายไปหลังจากที่คุณหยุดใช้เครื่องสั่นสักพัก อาการจะไม่ติดค้างนาน งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง เผยว่ามีผู้หญิงเพียง 0.5% เท่านั้น…
-
เมื่อมนุษย์พยายามจับ “ไซบีเรียน ฮัสกี้” มาแต่งคอสเพลย์คริสมาสต์ ผลที่ได้คือความฮา!!
เมื่อพูดถึงเทศกาลแห่งความสุขอย่างคริสต์มาสแล้ว ทุกคนก็คงจะนึกถึงแสงสีสุดอลังการและรอยยิ้มของผู้คนที่มอบให้กันในวันของการแบ่งปันแบบนี้ การแต่งตัวแฟนซีๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสีสันที่จะทำให้งานมีความสนุกและสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนได้ แต่ไม่ใช่กับหมาตัวนี้… Anuko สุนัขไซบีเรียนที่ดูไม่ค่อยจะอินกับเทศกาลคริสต์มาสซักเท่าไหร่ ก็ดูมันทำหน้าเข้าสิ นี่มันเทศกาลแห่งความสุขนะโว้ยยย ช่วยยิ้มหน่อยได้ไหมมม!!!! Jasmine Milton สาววัย 20 ปี คือเจ้าของของสุนัขหน้าบูดตัวนี้ พวกเขาอาศัยอยู่ที่เมือง Telford เขต Shropshire ประเทศอังกฤษ เธอตกหลุมรักเจ้าไซบีเรียตัวนี้ทันทีที่ได้เห็น Jasmine จึงรับเจ้าสุนัขตัวนี้เป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่ Anuko อายุได้ 8 สัปดาห์ ถึงแม้ว่ามันจะชอบทำสีหน้าไม่พอใจอยู่บ่อยๆ ก็ตาม เธอเฝ้าดูการเติบโตของเจ้าสุนัขหน้ากวนตัวนี้ ความเบื่อหน่ายในสีหน้าของ Anuko มันทำให้เราอดขำไม่ได้จริงๆ แม้แต่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสสุขสันต์นั้น Jasmine ก็ได้แต่งตัวน่ารักๆ ให้ Anuko ทั้งใส่เขากวางเรนเดียร์และผูกผ้าพันคอให้ แต่มันก็ไม่ยอมที่จะแสยะยิ้มให้ใครทั้งสิ้น “เชื่อหรือไม่ว่าเจ้า Anuko มันเคยมีใบหน้าที่น่ารักสุดๆ ในตอนเด็ก และมันก็โตมาเป็นหมาที่สงบเงียบไม่สุ่งสิงกับใคร Anuko เป็นหมาที่ใจดีและไม่เคยโกรธใคร แต่มันก็เป็นสุนัขที่ขี้เกียจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน” เจ้า Anuko อาจจะชอบคริสต์มาสตรงที่มีอากาศหนาวเย็น แต่มันดูไม่สนุกเท่าไหร่กับการตกแต่งต้นคริสต์มาส ไม่สนุกกับการมองอาหารที่มันแตะต้องไม่ได้ แถมเจ้านายยังบังคับให้ใส่ชุดแปลกๆ อีก…
-
มาชม “26 ไอเดียรอยสัก 3D” มองแล้วสมจริงสุดๆ ช่างสักต้องมีฝีมือขนาดไหนกันเนี่ย!
บางคนเชื่อว่ารอยสักสักนั้นสามารถส่งผลต่อชีวิตในด้านต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องคุ้มครองหรือจะเป็นการเสริมดวงให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ แต่รอยสักไม่ได้เป็นรูปแบบของการแสดงออกในสัญญะต่างๆ เท่านั้น แต่มันยังเป็นงานศิลปะอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้มีช่างสักที่มีฝีมือมากมาย แต่จะมีซักกี่คนที่สามารถสักในรูปแบบ 3D ออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ครั้งนี้เราจึงรวบรวม 26 แบบรอยสัก 3D ที่คุณเห็นแล้วต้องร้องว้าวในความสมจริงที่ดูๆ แล้วคล้ายกับภาพวาดบนผืนผ้ายังไงอย่างงั้น 1. เหมือนมีเครื่องจักรอยู่ในร่างกายจริงๆ เลยแฮะ 2. เจ้าตุ๊กตานี่ดูน่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย 3. เงาของดวงตาที่ดูเหมือนจริงสุดๆ 4. เหมือนผีเสื้อบินมาเกาะจริงๆ เลยนะ 5. ดูมีความขยันขึ้นมาทันใด 6. สวยงามสมจริงมากๆ 7. หยึยยยยย มือรูดซิบได้น่ากลัวเกินไปแล้ว 8. แขนจักรกล 9. ตัวอะไรออกมานะ!!?? 10. ลวดลายและสีสันลวงตาสุดๆ 11. เหมือนภาพพิมพ์ยังไงอย่างงั้น 12. ดูเหมือนว่าแขนจักรกลจะฮิตสุดๆ เลยนะเนี่ย…
-
ศิลปินสร้างสรรค์ผลงาน บอกเล่าการเล่นโยคะสุดเปิ่นของตัวเอง VS ท่าโยคะที่ควรจะเป็น…
ว่ากันว่าร่างกายคนนั้นก็เหมือนเครื่องจักร หากไม่ดูแลเอาใส่ใจเครื่องก็อาจพังได้ เช่นเดียวกันกับมนุษย์การออกกำลังกายก็เหมือนเป็นการวอร์มเครื่องจักรให้พร้อมอยู่เสมอ หากคุณไม่ยอมที่จะลุกขึ้นมาขยับเขยื้อนร่างกาย เชื่อเลยว่าคุณต้องป่วยเข้าสักวันแน่ๆ เช่นเดียวกันกับ Adriana Rodríguez León สาวเม็กซิโกคนนี้ เธอมีอาการป่วยอย่างหนักในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 ที่ผ่านมา แพทย์จึงแนะนำให้เธอออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้ดีขึ้น แต่เธอไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรเพราะเธอมีทั้งอาการไอและมีปัญหาเล็กน้อยกับระบบหายใจ น้องสาวของเธอจึงแนะนำให้เล่น “โยคะ” โดยเริ่มเรียนจากช่องยูทูบที่ชื่อว่า Yoga with Adriene โดยปกติแล้ว Adriana มักมีอาการนอนไม่หลับจนแทบไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ ซึ่งหลังจากที่เธอฝึกโยคะ อาการของเธอก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ในตอนแรกนั้นเธอต้องหัวเราะหนักมากกับท่าทางเก้ๆ กังๆ ในการเล่นโยคะของเธอ อีกทั้งเธอยังมีปัญหาเรื่องการหายใจ ที่ต้องตั้งสติและหายใจอย่างช้าๆ อีกด้วย เธอจึงใช้ความรู้สึกนี้มาวาดล้อเลียนเป็นการ์ตูนระหว่าง “ท่าโยคะที่ควรจะเป็น VS ท่าโยคะในความเป็นจริง” . . การเล่นโยคะทำให้เธอเหงื่อออกมาจริงๆ เหมือนกำลังจะตายยังไงอย่างงั้น เธอได้วาดรูปสุดน่ารักเหล่านี้ และโพสต์ลงไปที่อินสตาแกรมของเธอ scarletadrianne “ฉันไม่ได้คิดว่าทุกคนต้องมาเจอประสบการณ์สุดฮาในการเล่นโยคะแบบฉันหรอกนะ แต่รู้ไหมว่าโยคะมันทำให้ฉันมีความสุขและสดชื่นจริงๆ” “ฉันพูดได้เลยว่า โยคะนั้นทำให้ชีวิตฉันเปลี่ยนไปมากมาย ฉันรู้สึกว่าอารมณ์ดีขึ้นและมีสุขภาพที่ดีกว่าเดิมอีกด้วย” เธอจะยังคงจะวาดภาพน่ารักๆ พร้อมๆ กับฝึกฝนโยคะไปเรื่อยๆ . . . . .…
-
10 กลยุทธ์ ‘การจีบ’ ให้ได้ผลชะงัดจากนักจิตวิทยา จนคนที่คุณหมายปองต้านทานไม่ได้
หลายๆ คนต้องสูญเสียคนที่หมายปองให้กับหนุ่มอื่นหรือสาวอื่น ทั้งๆ ที่พยายามตามจีบแล้ว นั่นอาจเป็นเพราะวิธีจีบของคุณอาจจะไม่เจ๋งพอ ด้วยเหตุนี้ทีมนักจิตวิทยาจาก Psych2Go จึงได้แนะนำ 10 กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการจีบ เพื่อให้คุณลงเอยด้วยดีกับคนที่หมายปอง 1. สบตาสื่อรัก การสบตากันที่นานกว่าปกติเป็นวิธีที่จะทำให้คุณได้ล้วงเอาข้อมูลของอีกฝ่ายผ่านสายตาว่าเค้าคิดอะไรอยู่ ซึ่งเวลาที่เหมาะสมต้องอย่างน้อย 4-5 วินาที แต่คุณต้องอ่านสายตาคู่ให้ออกภายในเวลาสั้นๆ นี้ให้ได้นะ นักจิตวิทยาบอกว่าการมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายจะทำให้คุณค้นพบความสนใจของเขา และเป็นจุดสำคัญที่จะทำให้คุณคาดเดาสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับเค้าได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น 2. จะถูกจะแพงขอแดงไว้ก่อน สีแดงมักจะถูกใช้ในข้อความสื่อสารเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี่สุก ป้ายถนน หรือสร้อยคอ ทั้งนี้นักจิตวิทยา Adam Pazda ชี้ให้เห็นว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับสัญชาตญาณธรรมชาติ เช่น ลิงบาบูนตัวเมียที่จะทำให้ก้นของมันเป็นสีแดงเพื่อสงสารสัญญาณให้ตัวผู้รู้ว่ามันพร้อมจะมีคู่แล้ว นอกจากนี้เพื่อนร่วมงานของ Adam จากมหาวิทยาลัย University of Rochester ยังได้ทำการทดลอง โดยการให้ผู้ชายดูภาพผู้หญิงในชุดสีขาวและชุดสีแดง จากการทดสอบพบว่าผู้ชายส่วนใหญ่ให้ความใจผู้หญิงในชุดสีแดง เพราะคิดว่าเธอจะเป็นคนเปิดกว้างในเรื่องโรแมนติกมากกว่าผู้หญิงชุดขาว เมื่อนำการทดลองนี้ไปใช้กับผู้หญิง ได้ผลที่คล้ายกันคือ ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงและเสื้อกันหนาวดูน่าสนใจมากขึ้นในสายตาผู้หญิง 3. คนตลกมีชัยไปกว่าครึ่ง ศาสตราจารย์ Geoffrey Miller นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย University of New Mexico…
-
กลับมาอีกครั้งกับผลงานการเรียงสิ่งของขั้นเทพของศิลปิน ที่ดูแล้วเนียนตาดีเหลือเกิน!!
การจัดเรียงสิ่งของให้เป็นระเบียบนั้นนอกจากจะง่ายต่อการหยิบใช้แล้ว มันยังทำให้ดูสบายตาด้วย จนเรียกได้ว่าเป็นภาพที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้เลยล่ะ สำหรับ Adam Hillman จากรัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่เพียงแค่จัดเรียงสิ่งของเท่านั้น แต่เขายังทำให้อาหารที่อยู่ตรงหน้าเรียงกันเป็นระเบียบแถมยังไล่สีให้ดูสดใสยิ่งขึ้นด้วย การจัดเรียงสิ่งของ นับเป็นกิจวัตรประจำวันของ Adam ที่ต้องทำเป็นประจำ เพราะนอกจากเป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่ง มันยังเป็นงานศิลปะที่ดูเพลินตาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา Adam ได้พัฒนาฝีมือขึ้นจากเดิมมาก มีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นภาพอย่างที่เห็นนี้ เขาต้องใช้ทั้งความอดทนและใช้เวลาหลายชั่วโมงในการทำให้งานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด สิ่งของแต่ชิ้นอาจมีรูปทรงต่างกัน แต่ Adam สามารถทำให้มันเป็นระเบียบได้ด้วยการจัดให้มันอยู่ตามหมวดหมู่ และรู้ด้วยว่าควรวางอะไรไว้ตรงไหน อย่างไร ผลงานแต่ละชิ้นนั้นต้องใช้เวลาจัดเรียงเป็นชั่วโมงๆ นั่นหมายความว่าแค่ความอดทนหรือฝีมืออย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องมีความคลั่งไคล้อย่างมากอีกด้วย ความสมบูรณ์แบบในอาหาร ของปลายแหลมถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ . . . สี่เหลี่ยมซ้อนสี่เหลี่ยม ว่าแต่มันมีสี่เหลี่ยมทั้งหมดกี่อันนะ? ต้องว่างแค่ไหนถึงจะทำแบบนี้ได้ ดูแล้วเพลินตาดีเนาะ .…
-
26 บุคคลตัวอย่างที่ชีวิตเปลี่ยน หลังจากมุ่งมั่น ‘ลดน้ำหนัก’ จนประสบความสำเร็จ
หากใครเคยผ่านการลดน้ำหนักมาแล้ว คงจะรู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะมันต้องใช้ทั้งความอดทน ความพยายาม และความมุ่งมั่น แต่เมื่อทำสำเร็จ คุณจะสัมผัสได้ถึงความคุ้มค่ากับการทุ่มเทเหล่านั้น และนี่คือบุคคลตัวอย่างของความพยายามในการลดน้ำหนัก พวกเขากลายเป็นที่ดูขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ในการเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วย 1. หนุ่มที่ลดน้ำหนักได้ 50 กิโล ภายใน 7 ปี จนทำให้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย 2. ความเปลี่ยนแปลงของชายหนุ่มหลังจากที่ลดน้ำหนักไปได้ 31 กิโลกรัม 3. หญิงสาวที่น้ำหนักลดลงไป 30 กิโล เธอบอกว่าสุขภาพแข็งแรงขึ้นและมีความสุขมากขึ้น 4. สาวเอาชนะโรคอ้วนได้หลังจากน้ำหนักลดลงไป 37 กิโลกรัม 5. น้ำหนักหายไป 54 กิโลกรัม กับความเปลี่ยนแปลงที่ต้องร้องว้าว 6. หญิงสาวสามารถลดน้ำหนักได้ครึ่งหนึ่งของน้ำหนักทั้งหมดภายใน 18 เดือน 7. เชื่อมั้ยว่านี่เป็นคนคนเดียวกัน? 8. หญิงสาวที่แทบจำตัวเองไม่ได้ หลังจากย้อนดูรูปในพาสปอร์ตของตัวเอง…
-
เมื่อเมียบอกให้ลดดื่มเบียร์ เหลือแค่วันละแก้วพอ พี่แกก็จัดไปเลยคร๊าบ แก้วใหญ่เท่าบ้าน!!
เรื่องของการดื่มแน่นอนว่ามันย่อมเกิดมาคู่กับชายชาตรี พวกเขาบางคนสามารถดื่มมันได้ทั้งวันทั้งคืน จนทำให้บรรดาภรรเมียของแต่ละคนเบื่อจนถึงขั้นเอือมระอา จึงได้สรรหาวิธีมาทำให้สามีตัวดีของแต่ละคนนั้นหยุดดื่มให้ได้ และก็มีแม่บ้านคนหนึ่งคิดค้นวิธีที่จะทำให้ผัวของเธอหยุดดื่ม ด้วยการท้าว่าถ้าเขาสามารถดื่มเบียร์ได้เพียงวันละแก้วจนถึงวันคริสต์มาส เธอจะให้เงินเขา แน่นอนว่าคุณสามีรับคำท้า แต่สิ่งที่สามีเธอคิดขึ้นมาต้องบอกว่าเป็นโคตรอัจฉริยะ ที่ทั้งชนะการพนัน แถมยังได้กินเบียร์ได้แบบเต็มสูบอีกด้วย ให้มันรู้ซะบ้างใครเป็นใคร เรื่องราวของผัวเมียละเหี่ยใจนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Rhondda Valley ประเทศเวลส์เมื่อ Chloe Woodland เมียของ Jamie Stokes ได้ท้าให้เขาลดจำนวนเบียร์ที่ดื่มในแต่ละวันเหลือเพียงวันละแก้ว ซึ่งหากทำได้เธอจะให้เงินแก่เขาจำนวน 100 ปอนด์(ประมาณ 4,359 บาท) ซึ่งสามีของเธอก็ยอมรับคำท้าแต่โดยดี แต่ว่าหลังจากรับคำท้าเมื่อวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา เขาก็ต้องเสียใจในทันทีที่กินเบียร์เยอะเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว Jamie จึงเริ่มหาช่องโหว่จากคำท้าดังกล่าวและดูเหมือนว่าเขาหาได้ถูกจุดจริงๆ แก้วเดียวหรอ สบ๊าย ไม่มีปัญหา เพราะว่าเมียของเขาท้าให้เขากินได้เพียง 1 แก้วต่อวันแต่ไม่ได้บอกเอาไว้ว่าเป็นแก้วขนาดไหน งานนี้เขาจึงเดินทางตามหาแก้วใบใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และก็พบกับแก้วใบเท่าโอ่งอันนี้เข้า ซึ่งแน่นอนว่ามันย่อมถูกใจเขาอย่างเป็นแน่แท้ “ผมรับคำท้าเมียไว้เมื่อวันจันทร์ว่าจะกินเหลือวันละแก้ว แต่เมื่อผมก็กลับมาคิดดีๆ ก็พบว่าจะบ้าหรือไงอีกตั้งนานกว่าจะคริสต์มาส ผมจึงไม่รอช้าบึ่งไปที่ห้าง Tesco เพื่อจะซื้อแก้วซักใบให้กับตัวเอง” สำหรับแก้วที่เขาซื้อมามันเป็นแก้วหรือถังน้ำก็ไม่รู้ เพราะมันสามารถจุเบียร์ได้ถึง 7 ไพนต์หรือว่า 3 ลิตรกว่าๆ เลยทีเดียว อาบน้ำได้เลยนะเนี่ย…
-
ทีมวิจัยประดิษฐ์ ‘แขนกลอัจฉริยะ’ ที่ช่วยให้ผู้พิการสามารถกลับมาเล่นเปียโนได้อีกครั้ง!!
ในชีวิตของคนเรามักมีจะมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสมอ รวมถึงเรื่องอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครสามารถหยั่งรู้ได้ ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหากมีการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยก็ถือว่าโชคดีไป แต่สำหรับบางคนการเกิดอุบัติเหตุอาจจะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปเลยก็ได้ และด้วยจำนวนผู้พิการมากขึ้นบนโลกใบนี้ทุกวัน ทำให้บริษัทแห่งหนึ่งได้ผลิตอวัยวะเทียมขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้พิการเหล่านี้ และสิ่งที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมาก็คือแขนเทียมอัจฉริยะที่มีชื่อสุดเท่ว่า Luke Skywalker เพราะว่าพวกเขาได้แรงบันดาลใจมาจากตัวละครในเรื่อง Star Wars นั่นเอง ซึ่งสิ่งที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมาก็ไม่ใช่แขนเทียมธรรมดาๆ ที่สามารถหยิบจับได้เท่านั้นเพราะว่ามันมีความแม่นยำถึงขนาดเล่นเปียโนได้เลยทีเดียว!! Jason Barnes ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องเสียแขนข้างขวาตั้งแต่ช่วงศอกลงไป ให้กับอุบัติเหตุไฟฟ้าดูดในระหว่างการทำงานเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน แต่ว่าในตอนนี้เขาได้เป็นผู้ทดลองแขนเทียมที่ออกแบบโดยบริษัท Georgia Tech ซึ่งผู้วิจัยกล่าวเอาไว้ว่าแขนเทียมอันนี้สามารถควบคุมได้ยันนิ้วมือของผู้สวมใส่เลยก็ว่าได้ และสิ่งที่ทำให้แขนเทียมอันนี้แตกต่างจากแขนเทียมทั่วไปที่อยู่ตามท้องตลาดก็คือ อุปกรณ์ชนิดนี้จะใช้การตรวจจับคลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อใช้ในการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของร่างกาย จึงทำให้ผู้ใช้สามารถเคลื่อนไหวนิ้วมือได้อย่างที่ใจต้องการนั่นเอง และถึงแม้ว่า Jason จะไม่มีมือและแขนช่วงล่างของเขา แต่ว่าเขาก็ยังคงมีกล้ามเนื้อและเส้นประสาทอยู่ ทำให้เขาเหมาะสมสำหรับการทดลองนี้ที่สุด ส่วนวิธีการที่จะทำให้แขนเทียมนี้กลายเป็นแขนเทียมอัจฉริยะได้ ก็คือการนำอุปกรณ์ตรวจจับคลื่นเสียงความถี่สูงไปติดไว้บนแขนเทียม จากนั้นนักวิจัยก็จะสามารถเห็นกล้ามเนื้อของ Jason ได้อย่างชัดเจนเมื่อเขาพยายามจะขยับไปในทิศทางต่างๆ จากนั้นพวกเขาก็จะป้อนการเคลื่อนไหวต่างๆ ของกล้ามเนื้อลงไปในอัลกอริทึม และมันจะส่งผลให้ Jason สามารถเคลื่อนไหวไปในทางที่เขาต้องการ รวมทั้งยังสามารถเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น “แขนเทียมของพวกเราใช้การตรวจจับคลื่นเสียงความถี่สูง และด้วยเทคโนโลยีนี้ทำให้แขนเทียมจะสามารถตรวจจับได้ว่าผู้สวมใส่ต้องการจะเคลื่อนนิ้วมือไปที่ไหน แม้ว่าเขาจะไม่มีนิ้วก็ตาม” Gil Weinberg หัวหน้าทีมวิจัยผู้พัฒนากล่าว นอกจากจะใช้การตรวจจับคลื่นเสียงความถี่สูงแล้ว นักวิจัยยังบอกอีกด้วยว่าเจ้าแขนปลอมสุดไฮเทคนี้จะมีการควบคุมโดยใช้เซนเซอร์ตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้ออีกด้วย “มันทำให้ผมถึงกับตะลึงไปเลยทีเดียว แขนใหม่ของผมนี้สามารถทำให้ผมหยิบจับสิ่งของได้ตามที่ผมต้องการ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีสิ่งนี้อยู่บนโลกนี้ด้วย” Jason กล่าว…
-
บริษัทสาเกเช่าหน้าหนังสือพิมพ์เกือบทั้งหน้า เพื่อขอร้องให้คนซื้อเลิกซื้อ ‘สาเกราคาแพง’ ของตัวเอง
โดยปกติแล้วการที่จะลงโฆษณาต่างๆ จะมีขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายของสินค้าของตัวเอง แต่ว่าได้มีกรณีสุดแปลกเกิดขึ้นกรณีหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เมื่อมีเจ้าของบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งหนึ่งลงทุนลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์เต็มหนึ่งหน้า เพื่อโน้มน้าวให้ผู้คนเลิกเสียเงินจำนวนมากเกินไปให้กับสินค้าของเขาได้แล้ว!! ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 2-3 ให้ปีหลังมานี้ สาเกยี่ห้อ Dassai ได้พุ่งขึ้นมาติดตลาดอย่างรวดเร็วและมีชื่อเสียงที่โด่งดังอย่างมากในประเทศ ทำให้ทำสาเกยี่ห้อนี้เริ่มขาดตลาดและมีราคาที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ในระบบธุรกิจแบบเสรี เพราะเมื่อมีความต้องการซื้อมากของก็จะหายากขึ้นและมีราคาแพงขึ้นนั่นเอง ทว่าราคาสาเกที่สูงขึ้นไม่เพียงแต่สร้างความทุกข์ให้แก่ลูกค้าเท่านั้น แต่ยังทำให้บริษัท Asahi Shuzo ผู้ผลิตสาเกยี่ห้อนี้ไม่มีความสุขตามไปด้วย ที่สินค้าของเขาขายดีเกินไปและมีราคาที่แพงเกินกว่าที่มันควรจะเป็น สาเกยี่ห้อ Dassai ด้วยเหตุนี้บริษัทผู้ผลิตจึงไม่รอช้าที่จะแก้ไขปัญหา โดยพวกเขาได้ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา และในหน้าโฆษณานั้นก็มีรูปของสาเกยี่ห้อนี้อยู่พร้อมกับพาดหัวตัวโตว่า “นี่คือคำขอร้อง หยุดจ่ายเงินซื้อสาเกที่มีราคาแพงของพวกเราได้แล้ว” – Kazuhiro Sakurai ประธานและ CEO แห่งบริษัท Asahi Shuzo สิ่งที่เขาทำถือว่าไม่ใช่สิ่งปกติที่บริษัทส่วนใหญ่จะทำกัน เนื่องจากราคาที่สูงขึ้นก็ยิ่งทำให้บริษัทได้กำไรมากขึ้น แต่ Sakurai เชื่อว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะต้องออกมากล่าวเช่นนี้ ลงทีเต็มหน้าเลยทีเดียว นอกจากนั้นเขายังกล่าวอีกว่าต่อไปนี้บริษัท Asahi Shuzo จะขายผลิตภัณฑ์ Dassai ให้เพียงแต่ร้านค้าปลีกและผู้ค้าส่งที่เป็นคู่ค้ากับบริษัทเท่านั้น เพื่อเป็นการควบคุมราคาไม่ให้แพงจนเกินไปนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีบางความเห็นบอกเอาไว้ว่า ถึงอย่างไรบริษัทแห่งอื่นก็สามารถซื้อสาเก Dassai จากร้านที่เป็นคู่ค้ากับบริษัทที่มีราคาถูก…
-
เรื่องราวอบอุ่นหัวใจ มิตรภาพของ “เด็กน้อยกับสุนัข” ที่เติบโตมาเป็นเพื่อนเคียงข้างกัน…
นี่คือเรื่องราวความน่ารักของหนูน้อย Buddy วัย 3 ขวบ และเพื่อนสนิทของเขา เจ้า Reagan ที่ได้อยู่ด้วยกันมานานจนแยกจากกันไม่ได้แล้ว และตอนนี้ทั้งสองกำลังจะทำหนังสือการกุศลเพื่อช่วงองค์กรเกี่ยวกับการรับเลี้ยงเด็ก คู่หูดูโอ้ทั้งสองนี้จะทำอะไรด้วยกันมาตลอด ทั้งอาบน้ำ กินอาหาร นอน หรือแม้กระทั่งเล่นชิงช้าก็ยังเล่นด้วยกันเลย Sandi Swiridoff ซึ่งเป็นคุณยายที่รับหนูน้อย Buddy มาเป็นหลานบุญธรรมเล่าว่าเรื่องราวของทั้งสองนี้ต้องถูกเล่าขานไปอัก เพราะเธอไม่สามารถเก็บความน่ารักนี้ไว้ได้คนเดียว ภาพที่ถ่ายออกมานั้นแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่าสนิทกันมาแค่ไหน ทั้งสองเข้ากันได้ดีตั้งแรกครั้งแรกที่ได้เจอกัน จนถึงตอนนี้ เป็นเวลากว่า 2 ปี แล้ว เรื่องราวของทั้งคู่เป็นสายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นและสวยงาม Reagan ก็ถูกกรับเลี้ยงมาเช่นกันตั้งแต่อายุได้ 8 เดือน เพื่อเอามาเป็นเพื่อนของลูกสาวของคุณยายหลังเธอยอมแพ้ที่จะมีลูก โดนที่หนูน้อย Buddy ก็ได้เข้ามาในชีวิตตอนที่เขาอายุได้ 11 เดือน และทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันตั้งแต่นั้นมา คุณยายเล่าอีกว่าเจ้า Reagan เป็นสุนัขที่นิสัยดีกับเด็กๆ แล้วสุนัขตัวอื่นๆ ด้วย มันยังไม่เคยแสดงความไม่พอใจกับใครเลย การรับเลี้ยงเจ้าหมาเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดแล้ว มันทำให้เราทั้งมีความสุขและมีชีวิตชีวายิ่งขึ้นกว่าเดิม . . . .…
-
คุณพ่อตัดสินใจ ‘โกนหัว’ ตัวเอง หลังลูกสาวผู้ป่วยเป็น ‘โรคผมร่วง’ และเกลียดตัวเองที่ไม่มีผม
ความรักในโลกนี้ คงไม่มีรักไหนที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความรักจากพ่อแม่อีกแล้ว เพราะพวกเขาคือคนที่รักเรามากกว่ารักตัวเองซะอีก และยังเป็นคนที่คอยปกป้องเราทั้งร่างกายและความรู้สึก อย่างเรื่องราวสุดประทับใจของครอบครัวแสนอบอุ่นนี้ ที่เป็นเผยให้เห็นความรักของพ่อที่มีต่อลูก จนคุณเองก็สัมผัสถึงความรักนั้นได้ Chelsea Sylvaria ผู้เป็นแม่เขียนในเฟสบุ๊กว่า ” Riley(ลูกสาว) ถามฉันว่า ‘แม่รักตัวเองมั้ย?’ ฉันตอบไปว่า ‘รักสิ’ แล้วฉันก็ถามเธอกลับว่า ‘แล้วลูกล่ะ รักตัวเองมั้ย?’ เธอตอบว่า ‘ไม่…หนูไม่รักตัวเอง เพราะหนูไม่มีผม’” คำตอบนั้นทำเอาผู้เป็นแม่จุกจนพูดไม่ออก เธอไม่เคยรู้เลยว่านั่นเป็นความรู้สึกจากใจของลูกสาวสุดที่รักที่ป่วยเป็นโรคผมร่วง ต่อมา Sylvaria นำเรื่องนี้ไปบอกกับสามี Dave… เขาจึงมาคุยกับลูกสาวอีกครั้ง เพราะนั่นเป็นความรู้สึกของลูกที่ไม่ควรปล่อยผ่านโดยไม่ทำอะไร Dave เข้าไปหาลูกสาวและนั่งคุยกับเธอเกี่ยวกับสิ่งที่เธอเพิ่งบอกกับแม่ไป ซึ่งช่วงเวลาพ่อลูกคุยกันนี้ ผู้เป็นแม่ได้บันทึกวิดีโอเอาไว้ คุณพ่อถามลูกสาวว่า “ลูกรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ หรือแค่พูดไปอย่างนั้น?” เธอตอบว่า “แค่พูดไปอย่างนั้นเอง” แต่เขารู้ดีว่าลูกสาวคงจะรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ไม่มีผม เขาจึงบอกกับเธอว่า “ลูกเป็นเด็กผู้หญิงที่พิเศษที่สุดในโลกนี้ ผมไม่สำคัญหรอก ใช่มั้ย? พ่อรู้ว่าลูกอยากมีผม แต่ไม่ว่าลูกจะเป็นยังไงพ่อก็ยังรักหนูเหมือนเดิมนะ” หลังจากคุยเรื่องนี้กันเสร็จ คุณพ่อก็หันไป Riley ว่า “อยากให้พ่อโกนผมด้วยมั้ย?” เด็กสาวยิ้มออกมาทันที แม้จะไม่มีคำตอบ แต่คุณพ่อก็รู้ดีว่าเธอหมายถึงอะไร แล้วพ่อลูกก็เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน จากนั้น Dave ก็เริ่มโกนผมของตัวเองออก…
-
เจ้าเหมียว Nala แมวผู้มีแผนชั่ว แอบคิดการใหญ่ จงใจจะลอบสังหารทาสเรอะ!! ไม่มีทาง!!
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอเรื่องราวความน่ารักของเจ้าเหมียวน้อยอย่างน้อง Nala กันไปแล้ว และแน่นอนว่าความซุกซนของเจ้าเหมียวก็ได้เข้าไปอยู่ในใจหลายๆ คนแล้วใช่ไหมล่ะ แต่นอกจากจะเป็นมันจะเป็นแมวเหมียวขนปุยน่ากอดน่าฟัดแล้ว เจ้า Nala แมวน้อยลูกผสมระหว่างสายพันธุ์เมนคูนกับนอร์เวเจียนฟอร์เรสต์ มันยังชอบทำพฤติกรรมฮาๆ อย่างเช่นการทำหน้าตัวชั่วร้ายแบบนี้อีกด้วย!! ฮืมม… เจ้ามานูดดด ชั้นมองแกอยู่นะ!! ถึงแม้ว่าจะมีพฤติกรรมที่ชื่นชอบหิมะ และมักจะตื่นเต้นแบบออกนอกหน้าเวลาที่มันเจอเกล็ดน้ำแข็งขาวๆ แล้ว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ว่างเว้นจากการละเล่นล่ะก็ พี่เหมียวของเราก็มักจะมาแอบซอกหลืบต่างๆ และทำตัวเหมือนกับว่ากำลังเก็บข้อมูลของพวกมนุษย์อย่างไงอย่างงั้นเลยทีเดียว!! อย่าแตะดอกไม้นะ!! ฮั่นแน่!? ทำไยอ่ะ จริงๆ แล้วข้าไม่ใช่แมว แต่ข้าคือมนุษย์ต่างดาวต่างหากล่ะ!? ยัง ยัง ยังไม่หยุดมองอีก!! สายตา.. ที่แนมา หวาน!! จ๊ะเอ๋!? ทำอะไรกันอยู่น่ะ แหม่… มองซะขนาดนี้ ยอมรับมาซะดีๆ นะว่าแกคือหัวหน้าแผนการครองโลกใช่ไหม?? ที่มา izcat
-
12 ภาพบรรยายความสุขของ “คนมัธยัสถ์” ที่เหล่ามหาเศรษฐีอาจไม่เข้าใจเท่าไหร่!!
การมีความสุขนั้น บางครั้งก็ไม่ต้องเริ่มจากการใช้ของแพงๆ หรือใช้เงินเยอะๆ ไปซะทีเดียว เพราะความสุขนั้นบางครั้งมันก็มักจะเริ่มจากสิ่งเล็กๆ เสมอ ไม่ว่าคุณจะรวยหรือจนก็ตาม… บางครั้งต่อให้เรามีเงิน แต่ถ้าเราสามารถหาทางออกที่สร้างความสนุกให้ตัวเองได้เช่นจอมือถือแตก แต่เราก็ไม่อยากซื้อใหม่แม้เงินจะเหลือ เราก็เลยจัดการสร้างวอลเปเปอร์ที่มันเข้ากับรอยแตกขึ้นมา ซึ่งมันก็เจ๋งและรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ดู แต่ถ้าใครยังคิดไม่ออกว่าจะหาความสุขเล็กๆ ที่ว่าจากไหน งั้นลองมาดูตัวอย่างการหาความสุขแบบง่ายๆ จากคนเหล่านี้ดูสิ!! บางครั้งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ก็สร้างความสุขที่ยิ่งใหญ่ได้เหมือนกันนะ ที่สำคัญมันยังเสริมความคิดสร้างสรรค์ได้ดีเลยทีเดียวล่ะ มือถือพังแต่ไม่อยากซื้อใหม่ ก็เลยแก้ปัญหากันแบบนี้เลยก็แล้วกัน แถมยังเจ๋งไม่ใช่เล่น ไม่มีรถแต่มีภาพมาติดก็สร้างความสุขเล็กๆ ได้ไม่ยาก ขอแค่มีเพื่อนสนิทมาฉลองด้วยกัน จะเป็นขนมธรรมดาก็สร้างความสุขได้ จะเซลฟี่หมู่กันทั้งทีแม้จะลำบากหน่อยๆ แต่น่าจดจำ ตกแต่งวันคริสต์มาสกันแต่พอดีแต่แฮปปี้ รองเท้าหนึ่งคู่ก็สำคัญเท่ากับจักรยานหนึ่งคัน ความสุขเล็กๆ ของการเก็บสะสมซอส คนประหยัดจะทำให้ตัวเองค้นพบว่า เห็ดที่เป็นเชื้อราเรายังกินได้ เชื้อราบนขนมปังทำไมเราจะกินไม่ได้ ความสุขเบาๆ ที่ทำให้เรารู้ว่าสบู่หนึ่งขวดมีค่าแค่ไหน แค่เปลี่ยนมุมมองต่อของบางอย่าง เราก็จะพบว่ามันแตกต่างกัร แต่จริงๆ ก็เหมือนกันนั่นแหละ …
-
นักวิ่งมาราธอนสาวยอมเสียโอกาสได้รับรางวัลชนะเลิศ และวิ่งเข้าไปช่วยนักวิ่งอีกคนที่หมดแรงล้มลง
“บางครั้งชัยชนะก็อาจจะไม่ใช่เพียงเป้าหมายเดียวของการแข่งขัน” เหตุการณ์น่าประทับใจนี้เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันวิ่งมาราธอนในรายการ Dallas Marathon หลังจากที่ผู้เข้าแข่งขันรายหนึ่งได้ตัดสินใจสละชัยชนะของเธอ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนนักกีฬาอีกคนที่กำลังล้มลุกคลุกคลานเนื่องจากหมดแรง คุณ Chandler Self นักวิ่งสาววัย 32 ปี ที่เกิดอาการบาดเจ็บอย่างกะทันหันและล้มลงก่อนถึงเส้นชัยเพียงไม่กี่เมตร และในขณะที่เธอกำลังจะพยายามจะลุกขึ้นเพื่อวิ่งต่อนั้นก็ได้เกิดภาพแห่งความประทับใจขึ้น เมื่อผู้เข้าแข่งขันอีกท่านหนึ่งได้ตัดสินใจเข้าช่วยเหลือเธอและยอมสละโอกาสที่จะทำสถิติการวิ่งของตัวเองไป Ariana Luterman สาวน้อยวัย 17 ปี อีกหนึ่งผู้เข้าแข่งขันที่วิ่งตามคุณ Chandler มา เธอสังเกตเห็นอาการบาดเจ็บของผู้เข้าแข่งขันอีกคน สาวน้อยตัดสินใจหยุดวิ่งและเข้าช่วยเหลือเพื่อนนักกีฬาที่กำลังบาดเจ็บ “ฉันพยายามที่จะผลักเธอออก แต่หัวใจของเธอนั้นเต็มไปด้วยความมีเมตตาต่อฉัน เธอทำเหมือนกับว่ายังไงก็ต้องช่วยฉันให้ได้” Chandler กล่าว ถึงแม้ว่าจะสามารถวิ่งเข้าเส้นชัยได้เลย แต่ Ariana กลับเลือกที่จะหยุดและช่วยเหลือ Chandler และพาเธอไปจนถึงเส้นชัยในที่สุด ชมเรื่องราวสุดประทับใจของทั้งคู่ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… และนี่ก็ถือเป็นหนึ่งเรื่องราวที่น่าชื่นชม และทำให้เข้าใจถึงความหมายของคำว่า “น้ำใจนักกีฬา” ได้ดีทีเดียว ที่มา littlethings
-
ชาวเน็ตเดือด!! คุณแม่นำเบี้ยผู้พิการ ซื้อของขวัญคริสต์มาสมูลค่า 70,000 บาท ให้กับลูก
เรื่องราวของคุณแม่ผู้พิการรายหนึ่งที่เก็บเงินเบี้ยช่วยเหลือจำนวน 50 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เพื่อซื้อของขวัญวันคริสต์มาสให้กับลูกๆ ของเธอ แต่ทว่าการทำเพื่อลูกของเธอครั้งนี้กลับถูกชาวเน็ตต่อว่าอย่างรุนแรง หลังจากที่เธอให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ This Morning Claire Young ลาออกจากงานของเมื่อปี 2012 หลังจากที่เธอไม่สามารถที่จะทำงานได้เนื่องจากเธอป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อล้าเรื้อรัง โดยหญิงสาวได้รับเงินในการช่วยเหลือ 850 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 37,000 บาท) เพื่อใช้ในการดูแลตัวเองและลูกๆ ทั้ง 6 คนของเธอที่มีอายุไม่เกิน 12 ปี คุณแม่ท่านนี้ใช้เงินเบี้ยผู้พิการของเธออย่างประหยัด และเมื่อปีที่ผ่านมาเธอสามารถเก็บเงินได้มากถึง 2,000 ปอนด์หรือกว่า 87,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวนั้นสามารถทำให้คุณแม่ลูก 6 สามารถมอบของขวัญคริสต์มาสชิ้นพิเศษให้กับลูกๆ ทั้ง 6 คนของเธอได้สบายๆ “ฉันไม่ได้ออกไปฉลองในช่วงหยุดสุดสัปดาห์เลย และฉันก็ได้ไม่ได้ซื้อยาอีกด้วย ฉันตั้งใจจะเก็บเงินทั้งหมดนี้เพื่อนำไปซื้อของขวัญวันคริสต์มาสให้ลูกๆ ” หญิงสาวให้สัมภาษณ์กับพิธีกรรายการ “วันคริสต์มาสนั้นมีแค่เพียงปีละครั้งเท่านั้น และถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากสวัสดิการ แต่เราก็ยังคงต้องฉลองวันสำคัญนี้” เธอให้สัมภาษณ์ Claire พูดต่ออีกว่า จริงๆ แล้วเธอไม่ได้มีความสุขมากนักที่ใช้ชีวิตโดยอาศัยสวัสดิการผู้พิการ “ฉันไม่ชอบที่ต้องคอยพึ่งสวัสดิการ ไม่มีใครชอบสิทธิประโยชน์แบบนี้หรอก แต่คุณไม่มีทางรู้เลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคุณเมื่อไหร่ ถึงแม้ว่าฉันจะอยู่ได้โดยอาศัยสวัสดิการ แต่ไม่ได้หมายความว่าลูกๆ ของฉันจะไม่สามารถมีความสุขในวันคริสต์มาสเหมือนเด็กคนอื่นๆ…
-
สาวนางแบบเล่าเรื่องราวในอดีต ที่เคยโดนกลั่นแกล้งเพราะ ‘สีผิวของเธอดำเกินไป’
เรื่องราวของนางแบบสาวผิวสีชาวซูดาน ที่กลายเป็นนางแบบชื่อดังหลังจากที่เธอย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่กว่าที่จะกลายเป็นแฟชั่นไอคอนชื่อดัง นางแบบผิวสีผู้นี้ต้องเผชิญเรื่องราวต่างๆ มากมาย และคำสบประมาทว่าผิวของเธอนั้นดำเกินไป!! Nyakim Gatwech นางแบบสาววัย 24 ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังและมีคนติดตามในอินสตาแกรมของเธอมากถึง 325,000 คน บ่อยครั้งที่เธอมักโดนดูถูกเพราะสีผิว แต่ Gatweach กลับไม่สนใจและพยายามทำหน้าที่ของเธออย่างเต็มที่ นอกจากจะเป็นนางแบบแล้ว Gatweach ยังเป็นกระบอกเสียงสนับสนุนให้ผู้คนยอมรับในสิ่งที่ตัวพวกเขาเป็น และเธอยังออกมาต่อต้านการเหยียดผิวอีกด้วย Gatwech ย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ตอนอายุ 14 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เธออาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่เคนย่าและเอธิโอเปีย เนื่องจากภาวะสงครามในประเทศบ้านเกิด “แม่ของฉันหนีออกมาจากซูดานก่อนที่ฉันจะเกิดเนื่องจากภาวะสงคราม ตอนนั้นทหารกำลังจะมาที่หมู่บ้านของเราและฆ่าทุกคนทิ้ง” นางแบบสาวเล่าเรื่องราวที่ครอบครัวของเธอต้องเผชิญ Gatwech สูญเสียพี่สาวของเธอไปในระหว่างที่แม่ของเธอเดินเท้าไปยังประเทศเอธิโอเปีย และหลังจากที่ย้ายมาอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่เคนย่าพวกเขาก็ได้มีโอกาสเข้ามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สหรัฐอเมริกา แต่ถึงอย่างไรก็ตามการใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ครอบครัวของเธอต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและเรื่องสีผิวก็เป็นหนึ่งในประเด็นที่พวกเธอถูกกลั่นแกล้ง เธอเล่าถึงประสบการณ์การถูกเหยียดผิวในโรงเรียนว่า เธอมักจะถูกเพื่อนๆ บอกว่าเธอดำเกินไป หรือบางครั้งพวกเขาก็จะหัวเราะใส่เธอและพูดว่า “นี่ Gatwech พวกเรามองไม่เห็นเธอเลย” “ยกตัวอย่างในชั้นเรียน เมื่อฉันถูกคุณครูถาม เพื่อนๆ ก็มักจะพูดว่าคุณครูถามใครหรอ พวกเรามองไม่เห็นใครเลย และจากนั้นทั้งห้องก็จะหัวเราะกัน ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งร้องไห้” นางแบบสาวเล่าถึงประสบการณ์วัยเด็กของเธอ …
-
17 บุคคลผู้เป็นอัจฉริยะในด้าน ‘การแกล้ง’ ใครโดนนี่ขอบอกเลยว่า คุณณควรภูมิใจมากกว่าโกรธ
การแกล้งเพื่อนอาจจะเป็นสิ่งที่เพื่อนสนิทนั้นชอบทำกับคุณอยู่บ่อยๆ และแน่นอนว่าในกลุ่มเพื่อนของคุณจะต้องมีอย่างน้อยซักหนึ่งคนที่น่าแกล้งสุดๆ แต่บางครั้งคนที่ถูกแกล้งเองนั้นก็อาจจะรู้สึกขำไม่ออกเลยทีเดียว แต่เชื่อเถอะว่าถ้าหากคุณเจอเพื่อนๆ ที่ลงทุนแกล้งขนาดนี้คุณอาจจะรู้สึกขำแทนก็ได้!! 1. คุณจะรู้สึกอย่างไร เมื่อกลับมาทำงานในเช้าวันจันทร์แล้วพบว่าที่โต๊ะทำงานเต็มไปด้วยดาราคนโปรดในสภาพแบบนี้!! 2. นี่สินะที่เค้าเรียกว่าตื่นมารับอากาศสดชื่นของทุ่งหญ้าในยามเช้า เดี๋ยวนะ!! หญ้าแบบนี้มันจะสดชื่นไหมเนี่ย?? 3. เจ้าหนูน้อยในบทบาทคนไข้ โถ่!? นึกว่าฟันเป็นแมงจริงๆ 4. โต๊ะทำงานจากโลกอวกาศ ทุกอย่างดูวิบวับวาว!! 5. เจอแบบนี้ตอนตื่นนอนต้องมีสะดุ้งกันบ้างล่ะน่า!! 6. แหม่เอาซะเนียน จนนึกว่าแตกจริงๆ เลยนะเนี่ย!? 7. คุณจะทำอย่างไรเมื่อเจอเจ้าสิ่งนี้อยู่หน้าห้อง หลังจากที่เปิดประตูทิ้งไว้!! 8. ว๊ายยย!! 9. โต๊ะทำงานแบบท่ามกลางธรรมชาติ แถมมีนกฟลามิงโกให้ซะด้วย!! 10. ถ้าเป็นช่วงก่อน การเจอลูกโป่งสีแดงที่ท่อระบายน้ำอาจจะไม่ใช่เรื่องตลก 11. นี่คือการแกล้งแบบเลเวล 99 !! เปิดประตูมาปุ๊บนึกว่าได้ห้องใหม่ 12. ถ้าจะขยันแบบนี้ ก็ยอมให้แล้วจ้าาา…
-
สัตวแพทย์ผู้น่าเบื่อ(จริงจริ๊ง) กับชีวิตที่ต้องเจออะไรแบบนี้ทุกวัน เฮ้อออ ไม่อยากจะคิดเลย
สำหรับหลายๆ คนแล้ว การได้ชื่นชมเหล่าสัตว์ป่า และใกล้ชิดกับพวกมันนั้นคงจะเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ และถ้าหากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการชมสารคดีแดนสนธยาล่ะก็ คุณอาจจะต้องอิจฉาชีวิตของสัตวแพทย์ผู้นี้แน่ๆ คุณ Mike Holston สัตวแพทย์หนุ่มจากไมอามี ผู้มีเจ้าพ่อสัตว์ป่าอย่าง Steve Irwin เป็นไอดอล ในแต่ละวันสัตวแพทย์หนุ่มผู้นี้ต้องคลุกคลีและดูแลเหล่าสัตว์ต่างๆ มากมายอย่างเจ้าพวกนี้…. 1. นี่ชั้นต้องเจอหน้าแกอีกแล้วใช่ไหมเนี่ยย เจ้าจิ้งจอก!? 2. เจ้าลิงคู่หูที่ชอบโผล่มาเซลฟี่บ่อยๆ 3. พอเสร็จจากลิง เดี๋ยวก็ต้องมาดูแลสิงโตอีก!! 4. กลับมาที่เจ้าจ๋อตัวเล็กอีกครั้ง!! 5. และก็กลับไปที่เจ้าสิงโตอีกครั้ง ชีวิตนี้มีแต่สัตว์จริงๆ 6. เอ๊า!! ยิ้มหน่อยเจ้าจ๋อ อย่าเพิ่งทำหน้าเบื่อ 7. แกอีกแล้วสินะเจ้าตัวเล็ก?? 8. คุณ Mike Holston หรือฉายาทาซานตัวจริง และเหล่าสัตว์ป่าของเขา 9. บางวันชายหนุ่มของเราก็ใช้เวลาทั้งวันเพื่อดูแลเหล่าลูกเสือตัวน้อยๆ 10. หรือบางครั้งก็ต้องขยับไปที่กรงพวกกิ้งก่า โอ๊ย!! อย่าจับแรงง 11.…
-
40 ภาพคอนเซ็ปต์อาร์ตของ Star Wars ก่อนที่จะมาเป็นภาพยนตร์ ควรค่าแก่การรับชม…
นับจากที่ภาพยนตร์สงครามอวกาศอย่าง Star Wars ได้ออกมาโลดแล่นบนจอแก้วให้เหล่าแฟนๆ ได้ชมครั้งแรกในปี 1977 ตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วที่เรื่องราวการผจญภัยของครอบครัวสกายวอร์กเกอร์และสงครามระหว่างฝ่ายจักรพรรดิกับฝ่ายกบฏยังเป็นที่ชื่นชอบสำหรับแฟนๆ และเพื่อต้อนรับหนังภาคล่าสุดอย่าง Star Wars: Episode VIII – The Last Jedi วันนี้เราก็มีภาพร่างอันเป็นจุดเริ่มต้นของหนังมหากาพย์เรื่องนี้มาฝากกัน… ภาพสเกตของ Star Wars นี้เป็นผลงานของนักออกแบบฝีมือเยี่ยมผู้ล่วงลับอย่าง Ralph McQuarrie เขาได้รับหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดจินตนาการของ George Lucas ให้ออกมาเป็นรูปภาพ ในปี 1975 George Lucas ได้เล่าเนื้อเรื่องให้กับ Ralph McQuarrie และจุดเริ่มต้นของภาพร่างเหล่านี้ก็เริ่มต้นตั้งแต่วันนั้น McQuarrie คือผู้ออกแบบฉากต่างๆ รวมถึงตัวละครมากมายไม่ว่าจะเป็น Darth Vader, Chewbacca, R2-D2 และ C-3PO “ผมแค่ทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบรรยายสิ่งที่หนังควรจะเป็นตามความคิดของผม ตอนนั้นผมไม่คิดหรอกว่าหนังจะได้สร้าง เพราะมันจะต้องใช้ทุนสร้างที่สูงมากๆ และเนื้อเรื่องก็ซับซ้อนเกินไปสำหรับผู้ชม แต่ George เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก เขารู้ทุกอย่างที่ผมไม่รู้” จินตนาการของ George และการออกแบบของ McQuarrie จุดกำเนิดของสงครามอวกาศที่อันยาวนาน . George จะเป็นคนตรวจสอบภาพร่างทั้งหมดว่าตรงตามจินตนาการของเขาหรือไม่…
-
หนุ่มผงะ หลังพบ ‘ขามนุษย์’ ในสภาพที่ยังใส่รองเท้าอยู่ พัดขึ้นมาเกยฝั่งที่แคนาดา
ความสวยงามของท้องทะเลเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นอย่างดี ซึ่งก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเลยทะเลช่างเป็นสถานที่ที่งดงามไม่แพ้ที่ใดบนโลก แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อวันหนึ่งเราไปเที่ยวทะเลและกำลังเดินทอดน่องอย่างอารมณ์ดีอยู่ที่ชายหาด แต่กลับไปเจอรองเท้าข้างหนึ่งถูกคลื่นพัดมาเกยหาด ซึ่งถ้าเป็นรองเท้าธรรมดาๆ มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะผู้คนต่างทิ้งขยะมากมายลงสู่ทะเล แต่สิ่งที่หนุ่มคนนี้เจอมันดันเป็นรองเท้าที่ยังมีขาของมนุษย์สวมใส่อยู่ซะนี่ ชิ้นส่วนมนุษย์ที่ติดอยู่กับรองเท้า ชายหนุ่มผู้พบเจอรองเท้าสยองขวัญดังกล่าวมีชื่อว่า Mike Johns โดยเขาเล่าว่า ได้พบรองเท้าที่ยังมีขาของคนใส่อยู่ที่ริมแม่น้ำจอร์แดนบนเกาะแวนคูเวอร์ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา และชิ้นส่วนตั้งแต่หัวเข่าลงมายังอยู่ครบถ้วนทั้งหน้าแข้งรวมถึงส่วนที่เป็นเท้า เขาเล่าว่า ในตอนแรกสุนัขของเขาวิ่งไปดมกลิ่นก้อนสาหร่ายทะเลที่เข้ามาเกยหาด และเมื่อเขาเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่ามันเป็นชิ้นส่วนของมนุษย์ “หมาของผมเข้าไปดมฟุดฟิดๆ ที่กระดูกอันหนึ่ง ดังนั้นผมจึงเห็นอะไรผิดสังเกตและได้เข้าไปดู และสิ่งที่ผมเห็นก็ทำให้ผมแทบช็อก เพราะว่ามันเป็นรองเท้าที่ยังมีขาของคนติดอยู่!!” Mike John เล่า รองเท้าชิ้นแรกที่ได้พบชิ้นส่วนของมนุษย์ติดอยู่ การค้นพบส่วนขาของคนติดอยู่กับรองเท้าชิ้นนี้ ไม่ใช่การค้นพบแรกเพราะว่าในช่วง 10 ปีมานี้ได้มีรองเท้าที่มีกรณีเดียวกันเกิดขึ้นมาก่อนถึง 12 เหตุการณ์นับตั้งแต่ปี 2007 และชิ้นที่ค้นพบล่าสุดนี้ก็เป็นชิ้นที่ 13 แล้ว รองเท้าที่มีส่วนขาของมนุษย์ชิ้นแรกเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2007 ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งยี่ห้อหนึ่งที่มีเพียงชิ้นส่วนของเท้าอยู่ข้างในรองเท้าข้างนั้น เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพจากสถาบัน The BC Coroners Service ได้บอกเอาไว้ว่ารองเท้าไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้อวัยวะของมนุษย์ที่อยู่ภายในไม่เน่าเปื่อย แต่มันยังทำให้สามารถลอยน้ำได้อีกด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงพบแต่เพียงส่วนที่เป็นเท้าของมนุษย์ โดยไม่พบร่างกายส่วนอื่นเลย มีความลับมากมายอยู่ในแม่น้ำและท้องทะเล ในตอนนี้เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพกำลังทำงานร่วมกับตำรวจในท้องถิ่น…
-
อยู่ๆ Elon Musk ก็ลั่นโพสต์ออกมาว่า 35,000 ชาวเน็ตก็เลยออกมาตีความ มันคืออะไรกันแน่!?
หลายๆ คนน่าจะรู้จัก Elon Musk ชายหนุ่มชาวอเมริกัน-แคนาดา ที่เป็นวิศวกร นักคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ และเจ้าของบริษัทใหญ่ยักษ์หลากหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นบริษัท SpaceX, Tesla, Neuralink หรือแม้แต่บริษัทที่เป็นที่รู้จักดีอย่าง Paypal จึงไม่แปลกที่จะมีคนติดตาม ทวิตเตอร์ของเขา มากมาย แต่ที่น่าสนใจก็คือชายคนนี้มักจะจุดกระแสโซเชียลด้วยการทวีตอยู่บ่อยๆ อย่างเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมานี้เขาก็ทวีตข้อความว่า “ทำไมถึงไม่มี Flat Mars Society บ้าง!?” จนสมาชิกชมรม Flat Earth Society และชาวเน็ตจำนวนมากเข้าไปถกเถียงกันยกใหญ่ ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2017 นี้เขาก็ได้จุดกระแสชาวเน็ตอีกครั้ง โดยอยู่ๆ เขาก็ทวีตตัวเลข “35,000” ขึ้นมาแบบไม่มีข้อความหรือคำอธิบายเพิ่มเติมใดๆ ชาวเน็ตจึงถกเถียงกันใหญ่ว่าตัวเลขนี้มันมีความหมายอะไรกันแน่ เราลองไปดูกันดีกว่าว่าชาวเน็ตเขาว่ายังไงกันบ้าง แต่ดูเหมือนว่าส่วนใหญ่จะพากันออกทะเลนะ ฮาาา เป็นจำนวนครั้งที่ผมทวีตไปหาคุณ แต่ไม่ได้รับการติดตามกลับรึเปล่า อีกท่านก็มาตอบชาวเน็ตด้านบนว่า ฮ่าๆๆ ทำไม Elon Musk ต้องติดตามเธอด้วย เธอมีอะไรดีเหรอ …
-
คิดได้ไง!! ไอเดียคริสต์มาสการ์ดสุดฮา ที่คุณเห็นแล้วรับรองว่าจะต้องหัวเราะจนปวดท้อง
ในวันเฉลิมฉลองของชาวคริสต์ทุกคนอย่างวันคริสต์มาส เป็นธรรมดาที่ทุกคนต่างก็มีความสุขและอยากจะส่งมอบความสุขต่อให้ทุกๆ คนที่รู้จัก พวกเขาจึงได้ประดิษฐ์สิ่งที่เรียกว่าการ์ดคริสต์มาสขึ้นมา เพื่อส่งต่อความสุขเหมือนกับการ์ด ส.ค.ส บ้านเราที่จะมอบในวันสำคัญๆ นั่นเอง ทว่าการ์ดคริสต์มาสที่พวกเขาทำส่วนใหญ่จะเป็นภาพที่จัดทำขึ้นมาเอง และแต่ละภาพก็เต็มไปด้วยความหฤหรรษ์ ซึ่งแน่นอนว่าใครที่ได้ดูการ์ดเหล่านี้มีโอกาสที่จะหัวเราะจนตกเก้าอี้ได้เลยทีเดียว มาลองดูกันดีกว่าว่าไอเดียการออกแบบการ์ดคริสต์มาสของพวกเขาเหล่านี้ จะสามารถทำให้คุณอึ้งได้ขนาดไหนกันนะ ซานต้ามาเอาคืนไป ถ้าไม่อยากให้ใครเป็นอันตราย โถลูก โดนแดดนิดเดียว เกรียมเลย ธรรมดาโลกไม่จำ โถชีวิต อะไรจะน่าเศร้าเพียงนี้ หืม อย่าลืมล็อกบ้านกันนะ มาช่วยกันจับไดโนเสาร์หน่อยเร็วว เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งถ่ายขอเช็กเฟซแปบ เอ้า ท้องเฉย ยังงี้ก็ได้หรอ ไม่ต้องกลัวไปว่าสินค้าของคุณจะเสียหาย เพราะนี่คือซูเปอร์ฮีโร่ที่จะมาปกป้องของขวัญให้แก่ทุกคน เด็กๆ หายไปไหนหมดนะ ช่างเถอะเมากันดีกว่า ไม่ถงไม่ถามสุขภาพซ้ากคำ เล่นใหญ่เชียวนะ ครอบครัวนี้ เอะ หมาของเราหายไปไหนนะที่รัก มันจะมาครองโลกแล้ว วิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันเถอะ…
-
สรุปดีล Disney ซื้อ Fox มีความหมายอะไรบ้าง และอนาคตมันจะเดินไปในทิศทางไหนกันนะ?
กลายเป็นข่าวที่ถูกพูดถึงกันยกใหญ่สุดๆ หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางบริษัท The Walt Disney Company ได้ใช้เงินจำนวนมหาศาลมากกว่า 52,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 1.7 ล้านล้านบาทฟาดลงไปที่บริษัท 21st Century Fox จนตอนนี้ทุกธุรกิจในเครือเกือบทั้งหมดได้ตกมาอยู่ในมือของ Disney ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนคนที่สงสัยว่าแล้ว Disney ได้อะไรมาบ้าง ซึ่งถ้าจะให้ร่ายมันก็จะยาวมากๆ เอาเป็นว่าหลักๆ ที่น่าสนใจก็คือเฟรนไชน์หนังต่างๆ จากค่าย Fox จะถูกเปลี่ยนมือไปยัง Disney ทั้ง X-Men, Fantastic 4, Deadpool, Avatar, Alien หรือแม้แต่ Kingsman ก็จัดอยู่ในสัญญาด้วยเช่นกัน นอกจากหนังต่างๆ แล้วรายการโทรทัศน์ต่างๆ รวมถึงระบบสตรีมมิ่งก็ตกมาอยู่ในมือ Disney เช่นกัน ฉะนั้นในอนาคตเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่มากแน่นอน แต่ก่อนที่จะถึงตอนนั้นทาง Disney จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือใช้อะไรได้จนกว่าจะครบข้อสัญญาตามกฎหมายเป็นเวลา 1 ปี นี่คือบริษัททั้งหมดในเครือของ Disney ในปัจจุบัน และนี่คือเครือทั้งหมดที่ทาง Disney ได้มาจาก Fox โดยตัวกรอบสีแดงคือเครือที่ยังคงอยู่กับทาง Fox ฉะนั้นก่อนจะถึงตอนนั้น…
-
โตเกียวขอร้องให้ออกกฎหมายใหม่ เพื่อเอาผิดกับกลุ่มคนที่ชอบขอดูรูปโป๊ของเยาวชน
ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารกันผ่านทางสื่อออนไลน์และโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นสิ่งที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย และสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย แต่อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นช่องทางที่มีความเสี่ยงที่จะถูกคุกคามง่ายเช่นกัน ในประเทศญี่ปุ่นเองก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน โดยกลุ่มวัยรุ่นมักจะถูกผู้ประสงค์ร้าย คุกคามขอดูรูปภาพโป๊เปลือยอยู่บ่อยครั้ง ทางประเทศญี่ปุ่นจึงเล็งเห็นว่าปัญหานี้ควรได้รับการป้องกันและแก้ไขโดยเร็ว ในวันที่ 12 ธันวาคม 2017 คณะกรรมการการจัดการทั่วไปแห่งเมืองโตเกียว ได้จัดการประชุมเพื่อเปลี่ยนแปลงกฎหมายคุ้มครองเยาวชนที่ใช้อยู่ โดยหัวข้อสนทนาหลักนั้นเกี่ยวกับกฎหมายที่ใช้ปกป้องเยาวชนที่ถูกบังคับให้ส่งรูปอนาจารให้คู่สนทนาทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค เดิมทีนั้นกฎหมายระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถเอาผิดผู้ที่ขอดูรูปอนาจารในลักษณะเชิงข่มขู่หรือบังคับเท่านั้น แต่บางครั้งก็ไม่สามารถเอาผิดกลุ่มคนที่ขอรูปได้ เนื่องจากพวกเขาใช้ข้อความกำกวม และดูไม่สื่อไปทางบังคับขู่เข็ญจนผิดกฎหมายนั่นเอง จึงมีข้อเสนอในการเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายดังกล่าว โดยเปลี่ยนให้เจ้าหน้าที่สามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้ หากผู้ต้องหาขอดูรูปอนาจารจากเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยที่เยาวชนได้ทำการปฏิเสธไปแล้ว โดยบทลงโทษของการผิดกฎนี้ คือโดนปรับประมาณ 3 แสนเยน หรือประมาณ 86,000 บาท ข้อเสนอนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากทางคณะกรรมการทุกคนอย่างเป็นเอกฉันท์ และจะถูกนำเสนอในที่ประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ธันวาคม 2017 โดยคาดว่าที่ประชุมจะให้การสนับสนุนและรับรองให้กฎหมายนี้ผ่านโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม หากเราลองอ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว จะเห็นได้ว่ากฎหมายนี้ยังปล่อยให้คู่สนทนา สามารถขอรูปเปลือยจากเยาวชนได้ครั้งหนึ่ง และแม้จะโดนปฏิเสธไปแล้ว แต่ถ้าไม่ได้ขอตรงๆ ก็ยังสามารถตื้อคุยกับเยาวชนได้ แต่ก็ยังดีกว่ากฎหมายเดิมที่ปล่อยให้คู่สนทนาขอดูรูปโป๊ของเยาวชนกี่ครั้งก็ได้ ขอแล้วโดนปัดก็ยังตื้อขอแล้วขออีกได้ไม่มีความผิดใดๆ ล่ะนะ ถึงแม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย อย่างน้อยก็ช่วยมากขึ้นนิดนึงก็ยังดี…
-
ครบรอบ 80 ปี เหตุการณ์ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่นานกิง” รวมภาพชาวจีนนับหมื่น ยืนสงบนิ่งไว้อาลัย
วันที่ 13 ธันวาคมของทุกปี ประชาชนชาวจีนโดยเฉพาะชาวเมืองนานกิง อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน จะจัดพิธีเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมสุดสะเทือนขวัญครั้งยิ่งใหญ่ ที่พวกเขาไม่เคยจะลืมเลือน และมันจะถูกจารึกไว้ให้เหล่าลูกหลานได้ทราบถึงความโหดร้ายที่บรรพบุรุษในแผ่นดินต้องได้รับ โศกนาฏกรรม สังหารหมู่นานกิง ย้อนอดีตเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ปี 1937 ยุคสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง เป็นวันที่ชาวนานกิงและชาวจีนในยุคนั้นจะไม่มีวันลืมเลือน วันที่เหล่าทหารญี่ปุ่นได้บุกเข้ามาในเมืองหลวงหลังจากที่ได้ฆ่าเหล่าทหารจีนที่ได้ต่อสู้เพื่อปกป้องเมืองอย่างสุดกำลัง เมืองนานกิงที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 1 ล้านคนในขณะนั้นต้องตกอยู่ในสภาวะอันตราย ไม่มีใครที่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้แม้แต่รัฐบาลจีนเอง เมืองนานกิงได้เปลี่ยนจากสภาพเมืองที่หนาแน่นไปด้วยผู้คนกลายเป็นสนามรบขนาดใหญ่ ทหารญี่ปุ่นผู้ได้รับคำสั่งให้กำจัดคนจีนทุกคนแบบไม่มีการปราณีใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดปัญหาเรื่องการเลี้ยงดูเชลยศึกที่จะตามมา ประชาชนชาวเมืองถูกล่อลวงออกไปฆ่าด้วยวิธีต่างๆ ที่สุดแสนจะโหดร้ายทารุณ เวลา 6 สัปดาห์ที่เมืองนานกิงตกอยู่ในสภาพที่เป็นราวกับขุมนรก ศพของประชาชนตายเกลื่อนเมืองส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ทหารญี่ปุ่นฆ่าประชาชนด้วยสารพัดวิธี บางคนหมดทางเลือกต้องชิงฆ่าตัวตาย เหล่าผู้หญิงตกเป็นเครื่องมือระบายอารมณ์ของทหาร ทั้งข่มขืน ฆ่า มันโหดร้ายเกินกว่าที่จะบรรยายได้ เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ประชาชนชาวนานกิงเสียชีวิตไปราว 300,000 คน นับได้ว่าเป็นโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่ต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของจีน จุดจบของสงคราม จุดเริ่มต้นของการรำลึก หลังจากจบสงคราม เวลาก็ได้ผ่านไปเป็นเวลา 80 ปีแล้ว…
-
พิธีกรสาวสปอยล์ ‘สตาร์วอร์ส’ ภาคล่าสุดผ่านรายการสด ทำเอา Boyega ถึงกับอึ้งแดร๊ก!!
(เนื้อหานี้มีการสปอยล์ Star Wars: The Last Jedi ที่หนักหน่วงมาก ใจไม่ถึงกดปิดเลย) ในที่สุดวันที่แฟนๆ Star Wars ทั่วโลกรอคอยก็มาถึงกับการสานต่อตำนานหนังไซไฟสุดยิ่งใหญ่ โดยตอนนี้ Star Wars: The Last Jedi ก็ได้เข้าฉายในโรงหนังเป็นที่เรียบร้อยเป็นวันแรก แน่นอนว่าคนที่ไปดูมาแล้วก็ให้เสียงตอบรับที่ดีมากๆ แฟนๆ ที่ยังหาเวลาไปดูไม่ได้ก็พากันใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเพื่อให้ตัวเองไม่ถูกชาวเน็ต หรือใครก็ตามมาสปอยล์ฉากในหนังเรื่องโปรด แต่ทว่าเรื่องสุดอื้อฉาวก็ดันเกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจกลางรายการ This Morning เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ซึ่งเป็นรายการสดที่มีพิธีกร Holly Willoughby และ Phillip Schofield รับหน้าที่ดำเนินรายการในครั้งนี้ ซึ่งช่วงหลักที่ทำให้กลายเป็นปัญหานั่นก็คือช่วงที่พิธีกรทั้งสองต้องสัมภาษณ์หนึ่งในนักแสดงนำ John Boyega ผู้รับบท Finn ผ่านวิดีโอคอล โดยในช่วงระหว่างสัมภาษณ์พิธีกรหลักอย่าง Holly ที่ได้ไปดูหนังรอบสื่อมาก่อนแล้วรู้สึกตื่นเต้นก็เลยเผลอหลุดปากถามคำถามที่เล่นเอาทุกคนต้องอึ้ง… (สปอยล์กำลังจะมา!! เราเตือนคุณแล้วนะ) Holly นั้นได้เผลอลั่นบทสนทนาที่เธอไม่ทันคิดขึ้นว่า “แฟนๆ จะต้องตื่นเต้นกลับการกลับมาของโยดาแน่ๆ” ประโยคเดียวเล่นเอาสะเทือนทั้งวงการ ถึงขนาดที่ John Boyega ที่ได้ยินถึงกับต้องมองผู้คนรอบข้างแล้วกระซิบผ่านวิดีโอคอลว่า “Holly…
-
WHO ผลักดันให้ “กัญชา” ถูกนำมาใช้เป็นยารักษาโรค และไม่ควรจัดเป็น “ยาเสพติดควบคุม”
สิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ล้วนแล้วก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย และพืชที่เรียกว่า ‘กัญชา’ ก็เช่นกัน หลายคนอาจจะเห็นว่ามันเป็นสารเสพติดประเภทหนึ่งที่มีแต่โทษ แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วกัญชาก็มีประโยชน์ในวงการแพทย์เช่นเดียวกัน ในตอนนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ออกมาให้คำแนะนำว่า กัญชาที่ใช้ในทางการแพทย์ไม่ควรจัดอยู่ในกลุ่มสารเสพติดควบคุมเหมือนที่กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ เพราะว่าการนำออกมาใช้เป็นไปได้ยากและต้องทำหนังสือขออนุญาต ทั้งนี้สารเสพติดควบคุมคือสารต่างๆ ที่อยู่ในยาเสพติดหลายประเภท ซึ่งก็มีทั้ง เมทแอมเฟตามีน โคเคน เมทาโดน และอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก โดยสารเหล่านี้จะถูกจำแนกตามความรุนแรงและสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ด้วยความที่ในตัวของกัญชามีสารที่ทำให้ผ่อนคลาย ทำให้มันสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านการแพทย์ได้ และควรนำออกมาจากกลุ่มสารเสพติดควบคุม แต่ควรเอาออกมาเพียงสารสกัดที่เรียกว่า Cannabidiol (CBD) เพื่อใช้ในวงการแพทย์เท่านั้น รายงานขององค์กรฉบับนี้กล่าวยืนยันเอาไว้ว่า CBD ไม่สามารถนำไปใช้งานในทางที่ไม่ดี เพราะว่าเฉพาะสารดังกล่าว มันไม่สามารถนำไปใช้เป็นสารเสพติดได้ คุณสมบัติของสารชนิดนี้จะสามารถช่วยรักษาผู้ป่วยบางโรคได้อย่างเช่น โรคลมบ้าหมู และใช้สำหรับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคองนั่นเอง “มีความสนใจเพิ่มขึ้นจากประเทศที่เป็นสมาชิก ในการใช้กัญชาเพื่อการรักษาในการแพทย์ รวมถึงใช้สำหรับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง และในตอนนี้องค์การอนามัยโลกก็มีการรวบรวมหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ ซึ่งมีความแข็งแรงมากพอเกี่ยวกับการใช้กัญชาในทางการแพทย์รวมถึงผลข้างเคียงของการใช้ด้วย” ตามข้อมูลที่กล่าวไว้ในรายงาน นอกจากนี้พวกเขายังได้กล่าวอีกว่า หลักฐานล่าสุดจากการศึกษาในสัตว์และมนุษย์แสดงให้เห็นว่าการใช้สาร CBD อาจสามารถบำบัดอาการบางอย่างของโรคลมบ้าหมู รวมถึงโรคที่ใกล้เคียงกันได้ และการใช้สารดังกล่าวจะไม่นำไปสู่การติดสาร…
-
คุณหมอเขียน “ชื่อ” และ “หน้าที่” ของตัวเองบนหมวกคลุมผม เกิดกระแสเปลี่ยนแปลงในวงการแพทย์
เมื่อเราต้องทำงานร่วมกับคนจำนวนมากที่แทบไม่รู้จักกันเลย เวลาเราต้องประสานงานหรือว่าช่วยงานกัน จึงทำให้การเรียกหรือระบุตัวคนเป็นเรื่องยาก เพราะว่าเราคงไม่สามารถจำชื่อคนทุกคนในเวลาอันสั้นได้ จากปัญหาดังกล่าว ทำให้หมอคนหนึ่งในเมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เกิดความคิดสุดประหลาดขึ้นมาว่า หากเขาเขียนชื่อและตำแหน่งงานของตนเองลงบนหมวกคลุมผม เวลาที่ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงาน คนอื่นจะได้รู้ว่าเขาชื่ออะไร ทำงานส่วนไหน Dr. Rob Hackett คุณหมอ Rob Hackett เขามักจะมีปัญหาเวลาที่ต้องทำงานกับคนอื่นในห้องผ่าตัด เพราะหมอแทบทุกคนจะใส่หน้ากากอนามัย และหมวกคลุมผม จนแยกไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร มีหน้าที่อะไรบ้าง ซึ่งเวลาที่หมอแต่ละคนต้องการให้คนช่วยงาน พวกเขาก็จะเสียเวลามานั่งคิดนั่งจำว่าหมอคนนั้นชื่ออะไร เป็นหมอเชี่ยวชาญด้านใด จนอาจทำให้การผ่าตัดล่าช้าโดยใช่เหตุ เขาบอกว่า “เมื่อคุณต้องทำงานในโรงพยาบาลหลายแห่ง ร่วมกับคนหลายร้อยคน ผมบอกเลยว่าผมไม่รู้เลยว่าคนกว่า 3 ใน 4 นั้นชื่ออะไรบ้าง และเวลาจะเรียกให้ช่วยงานกันก็จะรู้สึกกระอักกระอ่วนแปลกๆ” เขาเลยเขียนว่า “Rob วิสัญญีแพทย์” ลงบนหมวกคลุมผมของเขา ทีนี้แพทย์ทุกคนก็จะรู้แล้วว่าเขาทำหน้าที่อะไร และเรียกให้ช่วยงานได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลามาแยกว่าคนนั้นเป็นหมอด้านไหน หลังจากนั้นเพียง 6 เดือน ไม่น่าเชื่อว่าไอเดียนี้ของเขา กลายเป็นที่ยอมรับกันอย่างเป็นสากล และมีคนนำไปทำตามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ในประเทศออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร…
-
แฟนเก่าเอา “หมา” ของหญิงสาวไปทิ้ง คนใจดีเก็บได้ ขับรถไกลกว่า 2,100 กิโล พากลับมาคืน!!
เมื่อสัตว์เลี้ยงของเราหายไปจากบ้านแล้ว เราย่อมจะเป็นห่วงพวกมันมาก และการตามหาพวกมันนั้นไม่ง่ายเลย เพราะเราไม่รู้ว่าจะไปตามหาพวกมันที่ไหน จะมีใครไปพบมันเข้ารึเปล่า หรือหากมีคนพบมัน จะมีน้ำใจพากลับมาหาเราไหม จึงอาจพูดได้ว่าแทบไม่มีหวังเลยที่เราจะเจอสัตว์เลี้ยงที่หายไป แต่การตามหาสัตว์เลี้ยงก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว หากว่าโชคดีเจอคนดีมาช่วยเหลือเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักไว้ ก็อาจจะได้พวกมันคืนมาก็ได้ อย่างเรื่องราวอบอุ่นหัวใจที่เราจะพาทุกท่านไปชมนี้ เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยสถานสงเคราะห์สัตว์แห่ง Caroline County ได้พบสุนัขพิทบูลพันธุ์ผสม หลงอยู่ข้างถนนในรัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาไม่ทราบว่าสุนัขตัวนี้มีเจ้าของไหม แล้วหลงมาได้อย่างไร แต่ก็โชคดีที่มันมีชิปฝังไว้ จึงสามารถตรวจสอบข้อมูลของเจ้าของได้ แต่พวกเขาต้องประหลาดใจเมื่อทราบว่าจากข้อมูลในชิปว่า เจ้าของของสุนัขตัวนี้ อยู่ในเมืองวิชิทอ รัฐแคนซัสซึ่งอยู่ห่างออกไปจากรัฐแมริแลนด์กว่า 1,300 ไมล์หรือราวๆ 2,100 กิโลเมตร พวกเขาจึงได้ติดต่อเจ้าของของมันจากข้อมูลที่มีอยู่ และก็ได้รับการยืนยันว่าสุนัขตัวนั้นเป็นของเธอจริงๆ เธอเล่าให้สถานสงเคราะห์สัตว์ฟังว่าเจ้าหมาตัวนี้ชื่อ Zimba ซึ่งครั้งล่าสุดที่เธอได้เจอมัน คือตอนแฟนของเธอได้พามันไปด้วยตอนออกไปเที่ยวที่รัฐอื่น ส่วนตัวเธอนั้นอยู่ที่บ้านดูแลลูก แต่ระหว่างทางนั้นพวกเธอมีปากเสียงกัน จึงได้ตัดสินใจเลิกกัน ทว่าแฟนหนุ่มคงรู้สึกไม่พอใจและอยากจะแก้แค้น เขาจึงปล่อยสุนัขตัวโปรดของแฟนเก่าลงที่รัฐแมริแลนด์ซะเลย เขาคงหวังว่าเธอจะเสียใจที่ไม่มีวันได้เจอมันอีกแล้ว นี่ถือเป็นโชคดีที่มีคนพบมัน และติดต่อกลับหาเธอ . แต่ปัญหายังไม่หมดลง ถึงแม้ว่าจะพบตัวเจ้าของของ Zimba…
-
ส่องบ้านเด็กเล่นราคา 120,000 บาท ของหนูน้อย มีทั้งทีวี 50 นิ้ว-แชนเดอเลียร์คริสตัล หรูกว่าบ้านตูอี๊ก!!
แน่นอนว่าพ่อแม่ทุกคน ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของตัวเองเสมอ ต้องเลี้ยงดูให้อยู่สบายไม่ขาดตกบกพร่อง มีข้าวปลาอาหารดีๆ กินทุกมื้อ และมีเสื้อผ้ามีของเล่นให้ลูกได้ใส่ได้เล่นไม่มีเบื่อ แต่คงไม่มีใครคิดหรอกว่าจะมีพ่อแม่คนไหนรักลูกมาก จนถึงกับสร้างบ้านส่วนตัวให้กับลูกสาวซึ่งอายุเพียง 3 ขวบเท่านั้น สาวน้อยที่เรากำลังพูดถึงอยู่ เธอคือ Millie-Belle Diamond เธออาศัยอยู่กับพ่อแม่ในเมือง Noosa ประเทศออสเตรเลีย พ่อกับแม่ของเธอต้องการหาบ้านของเล่นให้กับลูกสาวของตัวเอง แต่ว่าพวกเขาหาแบบที่ต้องการตามใจเป๊ะๆ ไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจสร้างขึ้นมาเองซะเลย เธอโพสต์ในอินสตาแกรมว่า “ฉันหาบ้านของเล่นที่มีโคมไฟระย้ากับทีวีติดผนังให้ลูกไม่ได้ ฉันกับสามีเลยคิดแบบเองทำเองเลย” ดังนั้นบ้านของเด็กหญิงจึงถูกสร้างเองทั้งหมด ตัวบ้านทำขึ้นจากไม้และทาสีขาว ม่วง และชมพู ส่วนด้านหน้าบ้านก็มีต้นไม้ปลูกไว้ ประดับรอบบ้านด้วยไฟระยิบระยับสวยงาม และติดกระดิ่งไว้ให้สำหรับแขกที่มาเยือนบ้านเธอด้วย ภายในบ้านก็มีทั้งโคมไฟระย้าคริสตัลงามตา มีทีวีติดผนังขนาด 50 นิ้ว รวมไปถึงโซฟานุ่มนิ่มสีขาว และเปียโนขนาดพอดีตัวกับเด็กหญิงอีกด้วย ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ตีเป็นมูลค่ากว่า 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือตีเป็นเงินประมาณ 120,000 บาท . ภาพทั้งหมดนี้ถูกโพสต์ลงอินสตาแกรมผ่านแม่ของเธอ Schye Fox เธอยังพูดทีเล่นทีจริงอีกว่าเดี๋ยวอาจจะมีแอร์มาติดเพิ่มด้วย ส่วนชาวเน็ตที่ได้เห็นภาพบ้านหลังนี้ของเด็กสาวต่างก็ออกความคิดเห็นกันว่า หากลูกของตนมีบ้านแบบนี้บ้าง พวกเธอคงดีใจมาก แต่ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งก็อิจฉาเด็กสาวที่มีบ้านหรูหราขนาดนี้ตั้งแต่เด็ก…
-
สองพี่น้องแฝดชาย แต่งงานกับสองพี่น้องแฝดหญิง แถมจัดงานแต่งวันเดียวกัน โอ้โห เป็นไปด๊ายยย!!
ถึงจะเป็นคู่แฝดแต่ก็ไม่ได้หมายความจะมีรสนิยมเหมือนกันเสมอไป และมีน้อยมากที่เราจะเห็นคู่แฝดแต่งงานกับคู่แฝดเหมือนกัน ล่าสุดได้มีงานแต่งที่เมืองต้าชิ่ง มณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีน เป็นงานแต่งของคู่พี่น้องฝาแฝดกับสองพี่น้องฝาแฝดหญิง จนกลายเป็นที่ฮือฮาทั่วสังคมจีน นี่เป็นงานแต่งของสองพี่น้อง Zheng Dashuang และ Zheng Xiaoshuang ส่วนฝ่ายหญิงเป็นคู่แฝดเหมือนกันคือ Liang Jing และ Liang Qing ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายได้พบกันเมื่อ 10 ปีก่อน ก่อนจะกลายมาเป็นเพื่อนกัน หลังจากนั้นคุณแม่ของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงก็ได้เริ่มวางแผนที่จะให้ลูกๆ ของพวกเค้าแต่งงานกัน ตอนนี้คู่แฝดชายอายุ 26 ปี ในขณะที่แฝดหญิงอายุ 23 ปี ซึ่งจัดงานแต่งงานพร้อมกันเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากที่งานแต่งนี้กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตหลายคนได้เข้ามาแสดงความยินดีกับทั้งสองคู่ บางคนแซวพวกเขาแบบขำๆ ด้วย “ระวัง อย่าสลับคู่กันตอนฮันนีมูนนะ” การแต่งงานแบบนี้ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก ดังนั้นจึงได้มีการตั้งชื่อพิเศษสำหรับงานแต่งลักษณะนี้ว่า Quaternary Marriages ส่วนลูกที่เกิดจากคู่แฝดกับคู่แฝด ในทางเทคนิคจะถือว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาจะมี DNA ที่เกือบจะเหมือนกันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ถ้านับแค่ DNA เพียงอย่างเดียว แทบจะระบุไม่ได้เลยว่าใครคือพ่อแม่ของเด็กคนไหนกันแน่… ครอบครัวของทั้งสองฝ่าย…
-
15 ภาพฮาๆ ของเหล่าบุคคนผู้โชคดี ได้พ่อแม่เป็น ‘คนตลก’ ชีวิตก็เลยมีแต่เรื่องสนุกๆ แบบนี้!!
อารมขันนั้นถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์เราทุกๆ คน และแน่นอนว่านอกจากรายการตลกแล้ว บางครั้งคุณอาจจะพบกับเรื่องราวฮาๆ ได้ที่บ้าน ซึ่งดาราตลกที่ว่านั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย นั่นก็คือพ่อแม่ของเรานั่นเอง และบางครั้งมุกของคุณพ่อคุณแม่นั้นก็ทำให้เราอมยิ้มได้บ่อยๆ หรือบางทีก็อาจจะฮาแตกแบบนี้… 1. งานที่โรงเรียนลูกเป็นอย่างไรบ้าง?? สนุกมากเลยจ่ะที่รัก 2. นี่คือของขวัญวันเกิดสำหรับลูกๆ ที่ชอบจิ๊กซอว์ อืม… แค่ชอบไม่ได้นะ อันนี้คงต้องถึงขั้นมือโปรเลยทีเดียว!! 3. ม่ะ เดี๋ยวป๊ะป๋าเล่นเป็นเพื่อน ไม่เอ๊า!! ฮืออออ 4. วันนี้หนูขอกินน้ำส้มได้ไหมค๊ะ!? ได้เลยจ่ะลูกรัก… 5. ภาพคู่ครั้งแรกและครั้งเดียวของคุณพ่อนักตกปลา และลูกชายของเขา เพราะครั้งหน้าภรรยาอาจจะไม่ยอม ตึ่งโป๊ะ!! 6. พ่อคะมีใครอาบน้ำหรือเปล่า ไม่มีจ้าอาบเลย อุ๊ย!! ผีหลอกกก 7. คุณพ่อชาวรัสเซีย และลูกชายตัวน้อยของเขา คงได้ถ่ายเป็นภาพแรกและภาพสุดท้ายเหมือนเดิม!! 8. ออกไปฮาโลวีนกันจ่ะที่รัก!! ได้เลยย แฮกๆ 9. วิธีหลอกลูกน้อยให้กินยาแบบง่ายๆ…
-
นางแบบสาวชาวไต้หวัน ที่จะมากระชากใจชายหนุ่มด้วยเรียวขาที่ยาวถึง 110 ซม.!!!
หนุ่มๆ แต่ละคนก็ย่อมมีสเป็คสาวๆ ที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่สเป็คที่หนุ่มๆ ชื่นชอบก็คงจะเป็นขาว สวย หมวย เอ็กซ์ สูงยาวเข่าดี อะไรประมาณนี้ และอีกหนึ่งในสัดส่วนที่ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบก็คงจะเป็น เรียวขา นั่นเอง มองไปมองมา ถือได้ว่าเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เซ็กซี่ของผู้หญิงเลยนะ ถ้าพูดถึงสาวที่มีเรียวขาสวยๆ #เหมียวบู้บี้ นึกถึงนางแบบสาวเน็ตไอดอลที่ชื่อว่า Candice สาวสวยจากไต้หวัน ผู้ที่กำลังกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่หนุ่มๆ เอเชียกำลังหมายปอง ด้วยดีกรีความเซ็กซี่ขั้นสุดของสาวน้อยคนนี้ สิ่งโดดเด่นเป็นที่น่าสนใจของเธอที่นำมาฟาดใจหนุ่มๆ ได้นั่นก็คือเรียวขายาวๆ ของเธอที่ยาวกว่า 110 เซนติเมตรจากความสูงทั้งหมด 173 เซนติเมตร เฉพาะขาก็ยาวเป็น 64% ของร่างกายเธอแล้ว นอกจากความนิยมในประเทศแล้ว เธอยังได้รับความนิยมจากแฟนคลับชาวญี่ปุ่น เรียกได้ว่าโด่งดังข้ามประเทศเลยทีเดียว เทคนิคการดูแลร่างกายของเธอที่นำมาเปิดเผยนั่นก็คือ การดื่มน้ำและน้ำผลไม้สดเป็นประจำ รวมไปถึงการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง . ขายาว สูงใส่อะไรก็ดีไปหมด อิจฉาาาาา ชุดเรียบร้อยแบบนี้ยังเซ็กซี่ได้อ่ะ แครี่ได้ทุกชุดจริงๆ ชีวิตดี๊ดีจนใครๆ ก็ต้องอิจฉา ยาวไปซะทุกส่วน…
-
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี เธอจะเปลี่ยนพื้นที่มหาวิทยาลัย ให้กลายเป็นงานศิลปะสุดอาร์ต…
ใบไม้เมื่ออยู่บนต้นไม้ มันคอยให้ร่มเงา ให้ที่พักพิงกับสัตว์บางชนิด ซึ่งดูรวมๆ แล้วทำให้เกิดความรู้สึกสบายตาและสบายใจ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ใบไม้ร่วงลงสู่พื้น โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง มันกลายเป็นแค่สิ่งที่ไร้ประโยชน์ หรือเป็นแค่ขยะที่รอการกำจัดทิ้งเท่านั้น แต่สำหรับ Joanna Hedrick แล้ว เธอไม่ได้คิดแบบนี้ ทุกๆ ฤดูใบไม้ร่วงคือช่วงเวลาที่เธอชื่นชอบมากที่สุดของปี เพราะมันทำให้เธอได้หาความสุขจากใบไม้ที่ร่วงลงสู่พื้น Hedrick เป็นที่ปรึกษาของศูนย์บริการนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย Sacramento State University รัฐแคลิฟอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่ปี 2013 ที่ Hedrick รู้สึกสนุกกับการเล่นใบไม้ โดยการเปลี่ยนใบแปะก๊วยสีเหลือทองที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นให้กลายเป็นงานศิลปะที่มีความซับซ้อน เธอบอกว่า “ศิลปะของฉันคือการทำอะไรบางอย่างที่สวยงงามอยู่แล้วให้กลายเป็นบางอย่างที่ดูมีเอกลักษณ์ และบางสิ่งที่คุณไม่ใช่แค่เดินผ่านไป” จุดเริ่มต้นของการตกแต่งใบไม้ร่วง เกิดจากการที่เธอต้องการฉากหลังสวยๆ เพื่อที่จะรูปลูกๆ ทั้งสองคนคือ Sagan วัย 8 ขวบ และ Emil วัย 4 ขวบ ปรากฏว่าตั้งแต่นั้นมาเธอกลายเป็นคนที่ชื่นชอบการตกแต่งใบไม้ร่วง โดยเฉพาะการทำให้มันเป็นเขาวงกต จนได้รับการชื่นชมจากคนทั้งมหาวิทยาลัยและทั่วโซเชียลมีเดีย ปัจจุบัน เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง เธอจะสร้างผลงานราวๆ 6 แบบต่อปี…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นถกเถียงกันเรื่อง “การใช้ส้วมแบบดั้งเดิม”‘ ว่าทำยังไง ถึงจะถูกต้องกันแน่นะ!?
ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และนวัฒกรรมใหม่ๆ มักจะมีเกิดมาจากการคิดค้นของคนญี่ปุ่นนี้แหละ ด้วยการพัฒนาที่ก้าวกระโดดนี้ อาจจทำให้ชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ไม่รู้จักสิ่งของหรือเครื่องใช้ที่เคยมีในอดีตบางอย่าง โดยเฉพาะของใช้ในวงการห้องน้ำ อย่าง ‘ส้วม’ ล่าสุดในโลกออนไลน์ ได้มีการถกเถียงกันแบบขำๆ เกี่ยวกับวิธีการใช้ ‘ส้วมแบบดั้งเดิม’ ว่าจริงๆ แล้วมันต้องใช้แบบไหนกันแน่ถึงจะถูกต้อง? ไม่แปลกที่ชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่จะไม่รู้จักวิธีการใช้ส้วมแบบดั้งเดิม เพราะส้วมที่คนญี่ปุ่นใช้กันอยู่ทุกวันนี้มันทั้งล้ำ สะดวกสบาย แถมมีเสียงเพลงกลบด้วย ส้วมที่เป็นประเด็นนี้คือส้วมแบบญี่ปุ่นที่มีลักษณะคล้ายกับคอห่านบ้านเรานี่แหละ แต่ตรงหัวมีส่วนโค้งที่กันไม่ให้ปัสสาวะกระเด็น เรียกว่า “Kinkakushi” ที่นี้คนญี่ปุ่นแท้ๆ เนี่ยมาเถียงกันมันต้องนั่งแบบไหนกันนะ? ต้องนั่งหันหน้าเข้าหรือหันหน้าออก!? สมาชิกทวิเตอร์ @mikaduki_neko บอกว่า “ต้นกำเนิดของมันคือ Kinkakushi นั่นหมายความว่าคุณต้องหันหน้าออก เหมือนที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่สอนเอาไว้” ชาวเน็ตคนเดิมอธิบายเพิ่มเติมว่า “จริงๆ แล้ว Kinkakushi แบบดั้งเดิมนี่เป็นแท่นไม้ที่มีไว้เพื่อใช้งานในเรื่องของสุขอนามัยของเหล่าซามูไร โดยจะใช้เป็นแท่นวางเพื่อกันไม่ให้กางเกง Hakama เปื้อนสิ่งสกปรกเวลาที่พวกเขาทำการถ่ายหนัก” “นั่นก็เท่ากับว่าเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่การถ่ายหนักใกล้กับรูระบายน้ำจะทำให้เราสามารถทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น และทำให้เราลดความเสี่ยงในการเปื้อนได้อีกด้วย” ชาวเน็ตอีกคน ที่ใช้ชื่อว่า @snufkin_p ออกมาโต้แย้งด้วยภาพจาก Toto…
-
แมงมุมพิษร้ายแรงที่สุดในโลก กำลังบุกรุกบ้านเรือนของมนุษย์ เพราะตอนนี้เป็นช่วงผสมพันธุ์!!
ทุกวันนี้ภัยอันตรายอยู่รอบด้านและสามารถมาถึงเราได้ในหลากหลายรูปแบบ แม้แต่การอยู่ในบ้านก็อาจตกอยู่ในอันตรายโดยไม่รู้ตัว อันตรายที่ว่านี้มาจากแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแมงมุมที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก ที่กำลังอยู่ในช่วงผสมพันธุ์และมันจะกระจายกันวางไข่ตามบ้านเรือนของมนุษย์ มันคือ Sydney Funnel-web Spider เป็นสายพันธุ์แมงมุมที่มีการแพร่พันธุ์อยู่ในแถบนครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งพิษของมันสามารถทำให้มนุษย์เสียชีิวิตได้ภายในระยะเวลาเพียง 15 นาที แมงมุมชนิดนี้เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดประมาณ 1-5 เซนติเมตร สีสันนั้นแตกต่างกันออกไปทั้งดำและน้ำตาล ลำตัวเป็นเงางามไม่มีขน ชอบอาศัยอยู่กับพื้นทรายที่มีความชื้น หรือพื้นดินที่เป็นดินเหนียว และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันถูกคุกคามมันจะแสดงความก้าวร้าวออกมา ทุกๆ ปี ในช่วงฤดูร้อนของออสเตรเลีย แมงมุม Sydney funnel-web spider จะบุกเข้าไปในบ้านของมนุษย์ในตอนเย็นเพื่อหาที่ที่มีความชื้นอยู่ Paul Hare ผู้ดูแลสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในสวนสัตว์ Taronga Zoo บอกว่า “ทุกๆ ช่วงนี้ของปี แมงมุมตัวผู้จะออกตามหาตัวเมีย เพราะเป็นฤดูผสมพันธุ์ของพวกมัน” ส่วนตัวเมียนั้นมักจะพบว่าไปทำรังในบ้านมนุษย์ กรณีที่รังของมันถูกน้ำท่วม ฝนตก หรือถูกทำลาย และมันจะปล่อยให้ตัวผู้เข้ามาหาในฤดูนี้ Hare กล่าวอีกว่าแมงมุมชนิดนี้มีขนาดใหญ่ และแข็งแรงมากๆ ถึงขนาดที่ว่าสามารถเจาะทะลุเล็บมือเล็บเท้าของมนุษย์ได้ นั่นหมายความมันสามารถเจาะร่างกายส่วนอื่นของคุณได้เหมือนกัน อาการเริ่มแรกเมื่อถูกกัดคือจะมีอาการคลื่นไส้อย่างรุนแรง ปวดเกร็งตามกล้ามเนื้อ มีเหงื่อออกมาก และจะรู้สึกชาบริเวณรอบปาก อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 1981 มีการคิดค้นเซรุ่มต้านพิษ…
-
วินาทีประทับใจ เมื่อคุณปู่วัย 102 ปี ได้พบหลานชายตัวเอง เป็นครั้งแรกในชีวิต…
สำหรับคนที่เคยมีครอบครัวแสนอบอุ่นแล้วมีเหตุให้ต้องพลัดพรากจากกันไป จะมีอะไรดีไปกว่าการได้เจอกับครอบครัวแสนมีความสุขนั้นอีกครั้ง เหมือนกับเรื่องราวของคุณปู่อายุ 102 ปีคนนี้ ที่คิดว่าญาติพี่น้องของเขาได้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปหมดแล้ว แต่มาวันหนึ่งเขาก็ได้เจอญาติที่พลัดพรากจากกันราวค่อนชีวิต Eliahu Pietruszka คุณปู่วัย 102 ปีเป็นคนหนึ่งที่สามารถหลบหนีมาจากประเทศโปแลนด์ในตอนที่เกิดสงครามโลกออกครั้งที่ 2 ออกมาได้ ทว่า Eliahu วัย 24 ปีในตอนนั้นก็ถูกบีบบังคับให้ต้องละทิ้งครอบครัวของเขาหากอยากมีชีวิตรอด และนั่นรวมถึง Volf น้องชายสุดที่รักของเขาด้วย พบกันครั้งแรกในชีวิต ในขณะเดียวกัน Volf สามารถหนีรอดออกมาจากค่ายกักกันมรณะ ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่ครอบครัวของเขาเสียชีวิตไปทั้งหมด แต่ว่าในท้ายสุดเขาก็ถูกจับไปเป็นแรงงานทาสที่ค่าย Gulag เมื่อเวลาผ่านไปหลายปีและไร้ซึ่งการติดต่อใดๆ ทำให้ Eliahu คิดว่าน้องชายเขาได้เสียชีวิตที่ค่ายกักกันดังกล่าวไปแล้ว จนปัจจุบัน Eliahu ผู้เหลือตัวคนเดียว ใช้ชีวิตอยู่ในวัย 102 ปีอยู่ที่ประเทศอิสราเอล ส่วน Volf น้องชายของเขากลับรอดชีวิตมาได้ และสร้างครอบครัวอยู่ที่ชนบทแห่งหนึ่งในประเทศรัสเซีย และที่นั่นเขาก็ได้ให้กำเนิดลูกชายคนหนึ่งขึ้นมาชื่อว่า Alexandre แต่แล้วก็เหมือนมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเมื่อ Eliahu ไปพบหลักฐานว่าเขามีหลายชายคนหนึ่งที่เกิดมาจาก Volf น้องชายเขา…
-
สาวหายจากโรคคลั่งผอม เผยได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘อินสตาแกรม’ ของคนที่ป่วยเป็นโรคเดียวกัน
ข้อดีของสื่อโซเชียลคือการได้เห็นความหลากหลายบนโลกใบนี้ ทั้งดีและไม่ดี ซึ่งบางสิ่งบางอย่างมันได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง อย่าง Emelle Lewis นักศึกษาจิตวิทยาวัย 22 ปี จากมหาวิทยาลัย Huddersfield ประเทศอังกฤษ ที่หายจากการเป็นโรคคลั่งผอมด้วยแรงผลักดันจากคนในโซเชียล Emelle ป่วยเป็นโรคคลั่งผอมเมื่ออายุเพียง 15 ปีเท่านั้น เธออยากมีแฟน ตอนนั้นเธอรู้สึกว่าตัวเองอ้วนและดูน่าเกลียดที่สุดในกลุ่มเพื่อน เธอจึงทำตัวให้ผอม ผอม และผอมจนเกินควบคุมได้ อาการของหญิงสาวเริ่มรุนแรงหนักขึ้นเมื่อเธอรู้สึกเบื่ออาหาร แต่กลับเข้ายิมบ่อยมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเธอกลายเป็นคนที่เลือกกินอาหาร โดยจะกินเฉพาะ ซีเรียล เค้กข้าว และสลัด ส่วนการออกกำลังกาย เธอจะพาสุนัขเดินเล่นวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที เธอเล่นโยคะ ออกกำลังกายทุกเช้า และจะไม่นั่งลงระหว่างวันถ้ายังไม่ถึงเวลา 16.00 น. น้ำหนักของ Emelle ลดลงอย่างรวดเร็ว จนเหลือแค่ 31 กิโลกรัม เธอต้องใส่เสื้อผ้าไซต์เด็กและพยายามที่จะใช้ชีวิตอย่างปกติ หญิงสาวเล่าว่า “ฉันเริ่มลดน้ำหนักตอนเรียนมัธยม เพราะรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นตลอดเวลา ตอนนั้นเพื่อนๆ ต่างมีแฟนกันหมดแล้วแต่ฉันคนเดียวที่ไม่มี นั่นคงเป็นเพราะฉันอ้วนและน่าเกลียด” เมื่อ Emelle ผอมจนน่าเป็นห่วง…
-
อย่าคิดว่าไม่เห็น!! ภาพจับเหล่า ‘คนขี้อิจฉา’ ได้แบบคาหนังคาเขา แหม่ มองแรงเชียวนะ
ความอิจฉาตาร้อนเกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้จะเป็นเรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันอย่างเรื่องอาหารการกิน ขนมนมเนย หรือแม้แต่ดินสอแท่งเล็กๆ ก็อาจจะทำให้เราเกิดอาการหงุดหงิดฟาดงวงฟาดงา จนต้องไปขอเงินแม่มาซื้อของเท่ๆ คูลๆ อย่างนั้นบ้าง และนี่คือรูปภาพของคนขี้อิจฉาต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งจากแต่สายตาละคนที่มองของที่อยากได้แล้วต้องบอกว่า ถ้าจะมองขนาดนี้ก็เดินมาเอาไปเถอะ มาสวีทอะไรตรงนี้ฟ่ะ มันฆ่าคนโสดชัดๆ ที่สาวๆ เยอะ นี่มันเป็นเพราะหมาหรือหน้าตาของพี่คนนี้กันแน่ เกิดมาแย่งความรักฉันทำไม นี่แหนะ ทำไมมองไอติมของตัวเองแล้วมันรู้สึกเฟลหน่อยๆ ก็ไม่รู้ ก็เค้าแค่อยากไปถ่ายรูปด้วยบ้างง่ะ ไอ้นี่มันทำเยาะเย้ยเพื่อนชัดๆ เลยนี่หว่า นี่ตูตกปลาที่เดียวกับมันจริงปะเนี้ย เกินไปรึเปล่า แหมเด่นอยู่คนเดียวเลยนะตัวเธอ แม่ หนูอยากกินแบบพี่เขาบ้างอะ จะอาววววว จะอ๊าววววว กลับบ้านไปมีหัวร้างข้างแตกแน่ ไอ้ตัวดี ก็เหมือนๆ กันนี่นา ไม่เห็นจะต่างกันตรงไหนเลยจริงปะ นายเผลอเดี๋ยวเจอกัน เกินไปละไอ้แว่น เดี๋ยวมีเจ็บ ไม่น่ามายืนข้างๆ…
-
เมื่อเด็กสาวอยากเลี้ยงแมว ก็เลย “จัดบอร์ด” ร้องขอพ่อกับแม่ น่าสงสารจนต้องยอมใจอ่อน
คนรักแมวหลายๆ คน ไม่ได้รับอนุญาตจากครอบครัวให้รับแมวมาเลี้ยง พวกเขาเลยพยายามทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นการยื่นข้อเสนอต่างๆ เพื่อให้พ่อแม่ใจอ่อน ตัวอย่างเช่น จะล้างรถให้ทุกเดือน จะทำเกรดให้ดีขึ้น หรือถ้ามันไม่ได้ผลจริงๆ บางคนก็ทำกระทั่งแอบเอาเข้าบ้านโดยไม่ให้ใครรู้ แล้วก็ได้เลี้ยงในที่สุด แต่สำหรับเด็กสาวคนนี้ เธอเลือกที่จะจัดบอร์ดบนผนังบ้าน โดยเขียนแมวเหมียวให้ดูน่าสงสารสุดๆ เพื่อให้พ่อแม่รู้สึกผิดที่ไม่รับเลี้ยงพวกมัน เรื่องราวนี้ถูกโพสต์ในทวิตเตอร์โดย Danielle Grubisic จากเมืองเคลเลอร์ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอบอกว่าน้อยสาวตัวน้อยๆ ของเธอจัดบอร์ดที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า เพื่อทำให้พ่อกับแม่รู้สึกแย่ที่ไม่อนุญาตให้เธอรับแมวมาเลี้ยง ข้อความแต่ละข้อความที่เด็กสาวเขียนแปะไว้บนผนังล้วนแล้วทำให้สะเทือนใจ เช่น “คุณจะปล่อยให้มันตายโดยไม่ทำอะไรอย่างนั้นหรอ?” “คุณจะฆ่าสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้ลงหรอ?” นอกจากนี้เธอยังนำภาพแมวที่น้ำตาไหลมาแปะพร้อมข้อความว่า “ดูสิ มันกำลังเศร้า” “น้ำตานี่เป็นเพราะคุณนะ” “ทำไมคุณถึงทำแบบนี้กับฉัน” ยังมีอีกหลายข้อความอีกหลายข้อความที่เด็กสาวเขียนขึ้นมา และเธอก็ย้ำว่าให้พ่อกับแม่อ่านข้อความทั้งหมดเหล่านี้ ซึ่งบอกเลยว่าอ่านแล้วมันช่างน่าสงสารจับใจเหลือเกิน “พวกมันกำลังจะตายอย่างโดดเดี่ยว ทั้งๆ ที่มันไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ ที่เป็นแบบนี้เพราะไม่มีใครสนใจใยดีพวกมัน” ข้อความของเด็กสาว “คุณกำลังจะฆ่าชีวิตที่ไร้เดียงสา” เจอข้อความเศร้าๆ…
-
เจ้ากวางมูสตัวน้อย กลับมาเยี่ยมมนุษย์ผู้ช่วยชีวิตมันทุกวัน จนเกิดเป็นความผูกพันธ์ฉันเพื่อน…
นี่เป็นเรื่องราวความประทับใจของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับกวางมูส เปิดเผยโดย Erikas Plucas ผ่านเว็บไซต์ The Dodo เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Erikas ได้เล่าเรื่องสุดน่ารักนี้ว่าเขาได้พบกับลูกกวางตัวหนึ่ง อายุประมาณ 2 สัปดาห์ ท่าทางของมันดูหิวโหย เนื้อตัวมอมแมม ดูอ่อนแรงเกินกว่าจะเดินไปไหนต่อไหนได้ เขาสันนิษฐานว่าแม่ของมันอาจจะถูกนักล่าสัตว์ยิงไปแล้ว เจ้ากวางน้อยเลยต้องหนีตายเพื่อมาหาคนที่สามารถช่วยมันได้ และมันก็โชคดีที่ได้มาเจอกับเขา หนุ่มใจดีคนนี้ไม่รู้ว่าจะต้องช่วยเหลือกวางอย่างไร จึงได้สอบถามเพื่อนๆ ถึงวิธีการช่วยเหลือ แต่เพื่อนๆ ก็ตอบเพียงว่าเขาไม่ควรช่วยมันเพราะว่ามันอาจจะทำอันตรายกับเขาได้ ทว่าเขาก็ไม่ได้ฟังคำเตือนจากเพื่อน และยังเรียกสัตวแพทย์ให้มาดูอาการมันโดยด่วน แต่เนื่องจากว่าสัตวแพทย์ไม่สามารถเดินทางมาช่วยได้ทันที ต้องรอวันรุ่งขึ้น ในขณะที่รอคอยการช่วยเหลือ เขาก็นำใบไม้และนมมาให้เจ้ากวางเพื่อประทังชีวิต เมื่อเจ้ากวางได้รับการช่วยเหลือ ในช่วง 2 สัปดาห์แรกเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก อาการของมันต้องมีคนดูแลทุกๆ 4 ชั่วโมง มันร้องไห้อย่างหนักแต่ก็มี Erikas คอยปลอบใจอยู่ไม่ห่างและจะไม่ทิ้งมันไปไหน มันดูหวาดกลัวทุกสิ่ง ยกเว้นเขา เจ้ากวางถูกตั้งชื่อว่า Emma หลังจากการรักษาอาการของมันก็ดีขึ้นตามลำดับ และเมื่อถึงเวลาที่มันแข็งแรงพอที่จะเดินเข้าป่าไปใช้ชีวิตตามลำพังได้แล้ว ก่อนจะไป ชายหนุ่มก็ได้สอนวิธีการเอาตัวรอดและสอนวิธีการหาอาหารให้มันได้อยู่รอดปลอดภัย ในตอนแรกมันดูหวาดกลัวที่จะต้องออกไปใช้ชีวิตคนเดียว แต่มันก็สามารถขจัดความกลัวและออกไปใช้ชีวิตข้างนอกได้อย่างปกติตามวิถีของสัตว์ป่าทั่วไป …
-
19 ความบัคของเกม ที่ถึงกับทำให้เราต้องขำจนกรามค้าง แบบนี้ก็ได้เหรอฟร๊ะ!?
เกมที่เราเล่นกันอยู่ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งเราก็เล่นเพื่อความบันเทิง คลายเครียด ปัจจุบันเกมเริ่มได้รับทัศนคติที่ดีจากสังคมทำให้มีจำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่าเล่นเกมกันแทบทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว ในเมื่อมีผู้เล่นเกมมากขึ้น ทางผู้จัดหรือนักเขียนเกมก็ต้องหาเกมใหม่ๆ มาปล่อยให้กับบรรดาเกมเมอร์ทั้งหลายได้เล่น ในบางครั้งเราอาจจะเจอสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า บัค หรือความผิดพลาดของเกมที่มันดูแล้วมันฮาๆ อย่างไรไม่รู้แฮะ 1. เดี๋ยว หันมาคุยกันดีๆ สิพี่ 2. ข้ามขั้นแห่งการอัพเลเวล 3. หล่อไม่มาก แต่ท่ายากพี่เยอะ 4. มันน่าสงสัยลูกใครกันหว่า? 5. นั่งแบบเท่ๆ 6. เรื่องสยองของวันนี้ 7. เอ่อออออ 8. ไม่หมุนมาแบบนี้สิพี่ น้องกลัว 9. นัดกันใส่อย่างกับจะไปเต้นแอโรบิคหน้าหมู่บ้าน 10. เธออ้วนเกินไปแล้วนะ 11. เฮ้ นายลืมเอาผมไปด้วย!! 12. สายย่อตัวจริง ขอจังหวะสามช่าหน่อย…
-
บิทคอยน์ชิดซ้าย นี่คือ CryptoKitties เงินดิจิตอลในเกมเลี้ยงแมว แถมขายเป็นเงินจริงได้!!
ถ้าเรื่องมูลค่า มันอาจจะสู้ Bitcoin ไม่ได้ แต่เรืิ่องของความน่ารัก มันกินขาดแน่นอน!! ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา Cryptocurrency หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “สกุลเงินเงินดิจิตอล” นั้น ถือเป็นอะไรที่แพร่หลายมากๆ ซึ่งไอ้เจ้าสกุลเงินดิจิตอลที่ว่าปัจจุบันก็มีให้เลือกซื้อเลือกใช้เยอะมากๆ โดยสกุลเงินที่ฮิตและเป็นจุดเริ่มต้นจนหลายคนรู้จักกับแพร่หลายก็คือ Bitcoin นั่นเอง ทว่าโดยปกติแล้วสกุลเงินดิจิตอลนั้น เราจะเห็นมันเป็นตัวเลขเสียมากกว่าเห็นเป็นรูปร่างหน้าตาจริงๆ นั่นจึงทำให้นักพัฒนาหลายๆ คนจึงเริ่มคิดค้นสกุลเงินแบบใหม่ ที่มันน่าจะเพิ่มความสนุกในการลงทุน โดยให้เราเห็นสามารถหน้าตาของตัวเงินในแบบต่างๆ จนสุดท้ายมันก็เกิดเป็น CryptoKitties ขึ้นมา CryptoKitties นั่นถือเป็นสกุลเงินดิจิตอลในรูปร่างหน้าตาของแมว ซึ่งเราจะต้องเพาะพันธุ์แมวพวกนี้และนำไปขายต่อเหมือนการเพาะแมวจริงๆ ขายนั่นเอง CryptoKitties ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Ethereum ซึ่งถ้าใครเล่นสกุลเงินนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็สามารถเข้าถึงตลาดเพาะพันธุ์เจ้าเหมียวได้ไม่ยาก ถ้าใครสงสัยว่าทำไมต้องสร้างสกุลเงินตัวใหม่นี้ขึ้นมาเป็นแมว คำตอบนั้นง่ายมากๆ เพราะมันสบายตากว่าการเป็นตัวเลขเฉยๆ และแมวก็เป็นสัตว์ที่คนชื่นชอบเยอะแยะ โดยการทำแบบนี้จะยิ่งทำให้คนไม่เคยสนใจหันมาสนใจมากขึ้น ส่วนวิธีการเล่น CryptoKitties ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์ cryptokitties จากนั้นก็เริ่มเปิดบัญชีเพื่อผูกเข้ากับระบบ คำถามต่อมาที่หลายคนน่าจะสงสัยแน่ๆ คือ ยัดเงินจริงลงไปแล้วเราจะหาเงินจริงจากมันได้ไหม?…คำตอบคือ ได้!! ส่วนวิธีนั้น มันก็มาจากระดับความหายากของแมวที่เราซื้อมาเพาะพันธุ์ โดยแมวจะถูกจำแนกออกเป็นประเภทต่างๆ เยอะแยะมากมาย ประเภทต่างๆ ของแมวเหมียว …
-
แฟนพันธุ์แท้!! Netflix เผยสถิติ มีหนุ่มเปิดดู The Lord of the Rings ในปีนี้วนไป 361 ครั้ง
ปี 2017 นั้นได้เดินทางมาใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าย่อมเป็นธรรมเนียมของบริษัทหรือบริการต่างๆ ทั่วโลกที่เริ่มจะทำสถิติต่างๆ และเผยแพร่ออกมาสู่สาธารณะ ซึ่ง Netflix ก็เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่เลือกจะทำแบบนั้น… โดยล่าสุดทาง Netflix ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลสุดเจ๋งและน่าตกใจไปในคราวเดียวกันว่า… มีผู้ใช้ชาวแคนาดาคนหนึ่งได้เปิดดูหนังเรื่อง The Lord of the Rings: Return of the King เพียงเรื่องเดียวถึง 361 ครั้ง!! คิดง่ายๆ ถ้านับเป็นวัน ตลอดทั้งปีเขาเปิดหนังเรื่องนี้ดูอย่างน้อยๆ วันละ 1 รอบและมีเพียง 4 วันเท่านั้นที่เขาหยุดดู (ซึ่งถ้าเขาคนนี้ไม่ชอบหนังภาคนี้มากๆ ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว) แต่ถ้านับเป็นวันมันยังไม่ว้าวมากพอ งั้นถ้าเราตีเป็นชั่วโมงดูล่ะ? หนังเรื่อง The Lord of the Rings: Return of the King มีความยาวทั้งหมด 3 ชั่วโมง 21 นาที ซึ่งจากจำนวนดังกล่าวผู้ใช้คนนี้ได้ใช้เวลา 1,158 ชั่วโมง 81 นาทีไปกับหนังเรื่องดัง…
-
สายการบินของญี่ปุ่นใช้ ‘หุ่นยนต์’ สาธิตระบบความปลอดภัยบนเครื่อง ราวกับเป็นสจ๊วตเลยนี่!?
‘ญี่ปุ่น’ ประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของหุ่นยนต์ เทคโนโลยี และการเอาใจใส่ลูกค้าอย่างเต็มที่ ซึ่งเมื่อพวกเขานำทุกอย่างมารวมไว้ด้วยกันมันจึงเกิดเป็นวิดีโอสาธิตระบบความปลอดภัยบนเครื่องบินที่บ่งบอกความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว วิดีโอสาธิตดังกล่าวนั้นเป็นวิดีโอจากสายการบิน Starflyer ซึ่งเป็นสายการบินภายในประเทศแบบโลวคอสต์แต่ดูเรียบหรูจากประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินดังกล่าวต้องการจัดทำคู่มือสำหรับสาธิตระบบความปลอดภัยบนเครื่องบินของพวกเขา ทางสายการบินไม่อยากทำอะไรแบบเดิมๆ ให้ลูกค้ารู้สึกว่ามันน่าเบื่อจนเกินไป พวกเขาจึงเปิดตัว Starflyer Man ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างหน้าตามาจากรูปร่างของเครื่องบิน Airbus A320 โดยภายในคลิปก็จะมีหุ่นยนต์ตัวดังกล่าวออกมาแนะนำวิธีการเอาตัวรอดเมื่อเกิดเหตุร้ายบนเครื่องบินอย่างช้าๆ และเข้าถึงได้ไม่ยาก นอกจากนั้นการนำเสนอด้วยวิธีดังกล่าว ยังถือเป็นวิธีที่สามารถทำให้คนดูเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะเด็กๆ อาจจะชอบได้นะ อย่างไรก็ตามนี่ยังเป็นเพียงแค่การสาธิตผ่านคลิปวิดีโอเท่านั้น และด้วยความเป็นญี่ปุ่นไม่แน่เราอาจจะได้เห็นสจ๊วต ของสายการบินนี้่เป็นหุ่น Starflyer Man จริงๆ ก็ได้นะใครจะรู้ ห้ามสูบบุหรี่บนเครื่องบินนะ!! สาธิตการใส่หน้ากากออกซิเจนที่ทำออกมาได้ดูดีมากๆ ทั้งตัวหุ่นยนต์ในคลิปและการนำเสนอผ่านคนจริงๆ เสื้อชูชีพก็เช่นกัน สุดท้ายแล้วการโปรโมตด้วยวิธีดังกล่าวนั้นก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะที่มึทำ เพราะว่าย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 สายการบินของนิวซีแลนด์ก็ได้ใช้ตัวละครจาก Hobbit มาช่วยสาธิตความปลอดภัยเช่นกัน และมันก็ได้รับความสนใจเยอะมาก โดยมียอดคนดู มากถึง 13 ล้านครั้ง!! ส่วนนี่คือคลิปสาธิตความปลอดภัยบนเครื่องของสายการบินนิวซีแลนด์ที่ว่า ที่มา スターフライヤー(SFJ)
-
บริษัทเซ็กส์ทอย ที่คุณสามารถสั่งทำเซ็กส์ทอยแล้วใส่หน้า “คนรัก” แบบ 3D ได้ด้วย!?
การใช้แค่เซ็กส์ทอยหรือใช้จินตนาการอย่างเดียวนั้นอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไปสำหรับหญิงสาวขี้เหงา เพราะบางครั้งมันอาจจะเข้าไม่ถึงอารมณ์ถ้าไม่ได้เห็นหน้าของคู่รักของตัวเอง ด้วยเหตุนี้ The Wobbling Willy บริษัทสัญชาติสวีเดนจึงคิดค้นเซ็กส์ทอยที่มีออฟชั่นเสริมสุดแปลกขึ้นมา โดยการผลิตโมเดลหน้าคนแบบ 3 มิติออกมา จากนั้นพวกเขาก็นำหน้าคนดังกล่าวไปติดไว้กับเซ็กส์ทอยเพื่อเสริมสร้างจินตนาการในการช่วยตัวเองให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น!! ในส่วนของขั้นตอนการสั่งทำนั้นง่ายมากๆ โดยลูกค้าก็เพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์ของบริษัท จากนั้นก็หาภาพของคนที่เราต้องการมาทำเป็นหน้า 3 มิติ ซึ่งภาพที่ใช้จะต้องเป็นภาพทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้างเพื่อความชัดเจนในการสร้างโมเดล 3 มิตินั่นเอง อัพโหลดรูปซ้ายขวาหน้าหลัง จากนั้นก็เลือกสีผมสีตาและสีผิว พร้อมใส่รายละเอียดง่ายๆ ของแบบที่เราส่งไป วัสดุที่ทางบริษัท The Wobbling Willy ใช้นั้นเป็นซิลิโคนและดินปั้นชั้นดีโดยใช้กับทั้งตัวเซ็กส์ทอยและหน้าคน 3 มิติ ที่สำคัญราคาก็ไม่แพงมากโดยราคาอยู่ที่ 88 ดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็นไงไทยก็ราวๆ 2,800 บาทเท่านั้น แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือ เซ็กส์ทอยหน้า 3 มิติตัวนี้นั้นสามารถสั่งซื้อได้จากทั่วโลก นั่นหมายความว่าคนไทยแบบเราก็สามารถสั่งมาใช้ได้ยังไงล่ะ!! แต่จะคิดค่าส่งเพิ่มเติม 16 ดอลลาร์สหรัฐหรือเป็นเงินไทยก็ราวๆ 520 บาทนะ (อ๊ะ อย่าลืม ว่าประเทศนี้เซ็กส์ทอยผิดกฎหมาย และเราไม่สนับสนุนของผิดศีลธรรมแบบนี้เด็ดขาดเลยยยยย ไม่สักนิดเล๊ยยยยยย) …
-
ศิลปินเปลี่ยนเศษเหล็กที่ถูกทิ้งตามกองขยะ เป็น “ประติมากรรมนก” สวยงาม สร้างรายได้ดี!!
ของเก่าที่เราไม่ใช้แล้ว จะกลายสภาพจากของใช้ไปเป็นเศษขยะ และเศษขยะที่ว่านี้ส่วนหนึ่งก็จะถูกนำไปย่อยสลาย อีกส่วนก็จะถูกนำไปทิ้งและรวมกันอยู่ในที่เก็บของเก่า แม้ว่าเศษขยะจะไม่มีประโยชน์ใช้สอยอีกแล้วสำหรับคนทั่วไป แต่คนบางคนกลับยังนำมันมาเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้กลายเป็นของมีค่าใหม่ได้ หนึ่งในนั้นคือศิลปิน Matt Wilson เขาเป็นศิลปินที่ชอบนำของเก่ามารีไซเคิลให้กลายเป็นผลงานที่สวยงาม ทั้งนี้เพราะเขาคิดว่ามนุษย์ควรใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดค่าสูงสุด ผลงานของเขาเป็นชุดผลงานที่นำเศษเหล็กมาสร้างเป็นรูปนกหลากหลายชนิด ซึ่งเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติรอบๆ ตัวของเขานั่นเอง งานศิลปะของเขานั้นต้องใช้ทั้งความอดทนและทักษะชั้นสูง เพราะว่าต้องนำของเก่าที่ขึ้นรูปอยู่แล้ว มาดัดแปลงและประกอบเข้าด้วยกันจนได้รูปร่าง โดยเขาต้องใช้เวลารวบรวมชิ้นส่วนอยู่นานหลายปีเลยทีเดียวกว่าจะสร้างผลงานชุดนี้ได้ ผลงานคุณภาพระดับสูงของเขาจึงไม่สามารถหาดูได้ง่ายๆ นั่นเอง ลองไปชมผลงานบางส่วนของเขากันครับ . . . . นกสายพันธุ์ที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์ก็มีนะ นกฮูก นกแก้ว นกหัวขวาน . นกกระเรียน . . . บางตัวก็มีตาสวยเหมือนนกของจริงด้วย . . ผลงานของเขาไม่ได้มีแค่สัตว์จำพวกนกนะครับ สัตว์ชนิดอื่นๆ เช่น ปลาหมึก หรือม้าน้ำก็มีเหมือนกัน ถ้าใครชอบผลงานแบบนี้ละก็ สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ทาง อินสตาแกรมของเขา…
-
22 ผลงานภาพที่เกิดขึ้นโดยความบังเอิญ จนต้องกลับมาคิดว่า มันจะเป๊ะอะไรเบอร์นั้น!!
ชีวิตคนเรานั้นล้วนเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้ แม้ว่าบางครั้งเราอาจจะวางแผนทุกอย่างมาเป็นอย่างดี แต่บางครั้งนั้นมันก็มักจะมีเหตุการณ์ที่อยู่นอกเหนือแผนของเราตลอดเวลา เช่นเดียวกับการถ่ายรูปที่บางครั้งเราก็มักจะถ่ายมันโดยบังเอิญ โดยที่เราไม่ได้คาดหวังให้ผลมันออกมาดูดีซะทีเดียว แต่ทว่าพอเช็คดูๆ ภาพที่เราถ่ายมันกลับมีผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมายสุดๆ จนเราต้องพูดกับตัวเองว่า “เฮ้ย!! นี่มันบังเอิญขนาดนี้เลยเหรอ?” และนี่ก็คือตัวอย่างของชุดภาพแห่งความบังเอิญที่ออกมาเป๊ะอย่างเหลือเชื่อ… ภาพการออกปฏิบัติงานของพี่ดับเพลิงคนนี้ที่ปีกมันดันพอดีกับเขาสุดๆ หรือจริงๆ แล้วเขาคือเทวดาที่มาช่วยเหลือมนุษย์กันนะ เมื่อทุกอย่างมันลงตัว ภาพที่สวยงามราวกับตัดต่อนี้จึงเกิดขึ้น ดูๆ แล้วมันเหมือนเจ้าผึ้งกำลังแบกพระอาทิตย์มาเลยนะเนี่ย เข้าใจความหมายของออร่านางฟ้าก็วันนี้นี่แหละ ภาพที่เหมือนหญิงสาวกำลังช่วยเหลือใครสักคนจากการโดดตึก แต่จริงๆ แล้วเธอแค่สะบัดผ้าเท่านั้น ภาพวิวตะวันตกดินจากมุมที่หลายคนมองข้าม เมื่อช่วงเวลาการเซลฟี่ของชายคนหนึ่งดันตรงกับจังหวะที่เจ้าเหยี่ยวบินมาเกาะ สายหูฟังที่บังเอิญกลายเป็นรูปตัวโน้ต แสงที่สาดลงมา จนทำให้เรารู้สึกว่าโถส้วมนี่แหละคือพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง ความเป๊ะของท้ายรถ ที่ยาวได้พอดีกับพระอาทิตย์ตกดิน ภาพความบังเอิญของหนุ่มที่สามารถปกป้องเด็กชายไว้ได้… หรือจริงๆ แล้วมันเป็นการตอบสนองที่รวดเร็วของเขากันนะ ภาพคลื่นน้ำเล็กๆ ที่บังเอิญจับภาพไว้ได้ ภาพถ่ายที่บังเอิญถ่ายได้ในจังหวะที่ใบกังหันทุกอันไม่ตรงกัน เกิดเป็นภาพซ้อนที่เจ๋งสุดๆ จริงๆ แล้วคุณพี่คนนี้อาจจะตั้งใจให้ทรงผมมันเป๊ะกับต้นไม้ข้างหลังก็เป็นได้นะ ไม่รู้ว่ามันบังเอิญที่เจ้าลูกม้าไปเล่นขนหางของแม่ หรือจริงๆ มันต้องการอยากมีผมที่สวยกันนะ…
-
อัลบั้มภาพถ่าย “ผู้หญิงสวย” ในฝรั่งเศสยุค 70s ความงดงามที่ไม่เสื่อมไปตามกาลเวลา…
ในปัจจุบันนั้นการถ่ายภาพนั้นเป็นศาสตร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกที่จะเห็นศิลปะภาพถ่ายสวยๆ มากมายจากศิลปินช่างภาพฝีมือดี ที่ถ่ายทอดผลงานของพวกเขาออกมา แต่เมื่อย้อนไปในอดีตนั้น การถ่ายภาพไม่ได้มีเทคโนโลยีล้ำสมัยเหมือนในปัจจุบัน รูปภาพที่ออกมาจึงดูสวยงามแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่นเดียวกันเซทภาพที่เพื่อนๆ จะได้ชมต่อไปนี้มันดูเหมือนเป็นผลงานภาพถ่ายที่หลุดออกมาจากนิตยสารชื่อดังเลยทีเดียว Jonathan Charles เป็นช่างภาพในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส เขาได้เผยเซ็ทภาพของหญิงสาวที่ชื่อว่า Marie ซึ่งเธอเป็นแบบให้ถ่ายภาพเมื่อครั้งยุค 70 “ผมทำงานถ่ายภาพมากว่า 40 ปีแล้ว และทำมาทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นภาพนามธรรม ภาพถ่ายบุคคล ภาพการเต้นรำในโรงละคร ซึ่งผมจะเพิ่มมิติของสีและประสบการณ์ของผม จิตใต้สำนึกของผมลงไปในภาพด้วย” “ผมมักชอบจะถ่ายนางแบบในขณะที่เธอไม่ทันตั้งตัว เพื่อพยายามเรียนรู้ธรรมชาติของปฏิกิริยาผู้คน” “ผมโชคดีมากที่มีเพื่อนสาวๆ เหล่านี้ พวกเธาให้อิสระกับงานของผมและเป็นแบบที่สวยงาม โดยเฉพาะ Marie เธอเป็นนางแบบที่ร่วมเดินทางไปกับงานศิลปะของผมตั้งแต่เริ่มแรก” ภาพถ่ายที่สวยงามของหญิงสาวสวยคนนี้จะทำให้คุณไม่อยากเชื่อว่ามันเกิดขึ้นมากว่า 40 ปีที่แล้ว . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
พ่อบ้านโรแมนติก ขอภรรยาแต่งงานอีกครั้ง หลังหา “แหวนแต่งงาน” เจอท่ามกลางเถ้าธุลีจากไฟป่า!!
เหตุการณ์ภัยธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ยากต่อการควบคุม และบางอย่างเราก็ไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ เหมือนกับเหตุการณ์ไฟป่าที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ถึงจะเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงเพียงใดก็ยังพอจะมีเรื่องราวให้ได้ยิ้มอยู่บ้าง เพราะอัคคีภัยครั้งนั้นทำให้คู่รักคู่หนึ่งได้เห็นความสำคัญของกันและกัน และมีโอกาสขอแต่งงานกันอีกครั้งหนึ่ง!! เช่นเดียวกับผู้คนนับร้อยนับพันคนอื่นๆ ในย่านเวนทูรา Don Myers และ Julie Myers ถูกบังคับให้ต้องอพยพหนีออกจากบ้านของพวกเขา เพื่อเลี่ยงการเจอไฟป่าครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นบริเวณทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อไฟป่าสงบลงพวกเขาก็กลับไปที่บ้าน แต่ก็ต้องพบว่าบ้านที่เป็นความทรงจำมาอย่างยาวนานของพวกเขา เหลือเพียงแค่ซากเถ้าธุลีและซากปรักหักพัง ทว่าว่ามี “สิ่งหนึ่ง” ที่รอดพ้นจากความร้อนของไฟในครั้งนั้นมาได้ “บ้านของพวกเราทั้งหลังหายไปกับตา และของที่พวกเราเก็บรักษาเอาไว้อย่างดีก็กลายเป็นเพียงขี้เถ้าเท่านั้น” Julie กล่าว และเมื่อสามีของเธอลองคุ้ยหาเพื่อหาสิ่งของที่น่าจะใช้งานได้ในกองขี้เถ้านั้น เขาก็พบแหวนแต่งงานระหว่างเขาและ Julie เข้าโดยบังเอิญ การค้นพบแหวนวงนี้ก็ทำให้ทั้งคู่เหมือนย้อนเวลาไปในช่วงที่ทั้งคู่ขอแต่งงานกันใหม่ๆ ในปี 1989 เลยทีเดียว!! แม้ว่า Don จะมีแหวนวงใหม่ให้กับ Julie ในโอกาสครบรอบวันแต่งงาน 25 ปี แต่แหวนวงที่พบนี้มีความหมายต่อทั้งคู่เป็นอย่างยิ่ง เพราะว่านอกจากจะเป็นแหวนวงที่ Don ใช้ขอแต่งงานแล้ว แหวนวงนี้ยังได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของ Don ที่ทำงานเก็บตังซื้อมาขอ Julie แต่งงานอย่างยากลำบากในขณะนั้นนั่นเอง …
-
นิสิตหนุ่มเดือดถามอาจารย์ “ทำไมถึงให้ F” ตัดพ้อแค่นี้ก็ปัดให้ไม่ได้ อีกแค่ 1.2 คะแนนเอง!?
กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์บนโลกอินเตอร์เน็ตอย่างรุนแรง หลังจากที่อาจารย์ท่านหนึ่งได้โพสต์ภาพข้อความจากนิสิตท่านหนึ่งที่ถามเข้ามาถึงผลคะแนนของตัวเอง คุณ Piyapong Pukan Walker ได้โพสต์ภาพของข้อความจากนิสิตที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับคะแนนของตัวเอง แต่หลังจากที่พูดคุยไปได้ไม่นานดูเหมือนว่าจุดประสงค์ของนิสิตท่านนี้จะไม่ได้ต้องการความกระจ่างของคะแนนเท่านั้น “ถือว่าขอร้องนะครับนิสิตทุกคน อย่าทำอีกเลยครับ #แล้วเราต้องทำตัวยังไงกับเรื่องแบบนี้” ข้อความจากเฟซบุ๊กของอาจารย์ โดยหลังจากที่นิสิตคนดังกล่าวได้รัลผลการเรียนในวิชาดังกล่าวในลำดับขั้น F นิสิตท่านนี้ก็ได้ส่งข้อความส่วนตัวมายังเฟซบุ๊กของอาจารย์ “ทำไมถึง F ครับ” นิสิตถาม อาจารย์ท่านดังกล่าวได้ตอบข้อสงสัยของเขาไปว่าเพราะคะแนนไม่ถึง 50 เลยได้ F แต่นิสิตท่านนั้นยังไม่คลายข้อสงสัยเขาจึงได้ถามอีกว่าจริงๆ แล้วเขาได้เท่าไหร่ “ขาด 1.2 คะแนน ก็ไม่ปัดให้” นิสิตหนุ่มกล่าว แต่ทางด้านอาจารย์ก็ได้ชี้แจงไปว่าอันที่จริงแล้วการที่นิสิตติด F นั้นไม่ใช่ความผิดของผู้สอนแต่อย่างใด และตัวเขาเองน่าจะตั้งใจให้มากกว่านี้ และหลังจากที่ถูกตักเตือนไป นิสิตก็ดูเหมือนจะเกิดอาการไม่พอใจ จนในที่สุดอาจารย์ท่านดังกล่าวจึงได้ถามกลับไปว่าจริงๆ แล้วตัวนิสิตเองนั้นต้องการอะไรกันแน่ และแล้วนี่คือคำตอบที่ได้!! แน่นอนว่าการขอเกรดนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และงานนี้ทางอาจารย์ก็เลยอธิบายกับนิสิตกลับไปว่า… สรุป 5 ข้อจากอาจารย์คนดังกล่าว ที่เป็นแง่คิดดีๆ ให้กับทั้งอาจารย์คนอื่นๆ และนักเรียนนักศึกษาทุกคน 1. มีการแจ้งชัดเจนทางเฟสบุ๊กของภาควิชาแล้วว่า จะไม่มีการมาขอเกรด 2. การแก้เกรดนิสิต 1 คน…
-
7 เมคอัพอาร์ตติสหนุ่มที่แต่งหน้าเก่ง ฝีมือระดับเทพมาประทับ จนสาวๆ อย่างเราต้องอาย!!!
สาวๆ กับเรื่องสวยๆ งามๆ เนี่ยเป็นของคู่กัน และจัดได้ว่าเป็นสิ่งที่ขาดจากกันไม่ได้เด็ดขาด เวลาว่างของสาวๆ ส่วนใหญ่ก็จะหมดไปกับการดูเครื่องสำอางในเน็ต หรือดูคลิปการแต่งหน้าโดยเมคอัพอาร์ตติสต่างๆ แต่ทว่าเมคอัพอาร์ตติสเหล่านี้เค้าไม่ได้มีแค่สาวๆ น่ะซิ เมคอัพอาร์ตติส ใช้เป็นคำเรียกของบุคคลที่ชื่นชอบและมีฝีมือในการแต่งหน้าแบบขั้นเทพ อย่างที่บอกในตอนต้นว่าไม่ได้มีเพียงแค่ผู้หญิงแค่นั้นนะ เหล่าหนุ่มๆ เค้าก็ชื่นชอบเหมือนกัน มันเป็นศิลปะที่ไม่จำกัดเพศ แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาบางคนจะแต่งหน้าเก่งกว่าผู้หญิงแบบเราๆ อีกอ่ะ 1. Manny MUA หนุ่มหล่อดีกรีตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ชายคนแรกของเมเบอลีน มีผู้ติดตามช่องยูทูบและอินสตาแกรม mannymua733 ถึง 4 ล้านคน ฝีมือการแต่งหน้าก็เริ่ด ควรค่าแก่การติดตามจริงๆ . 2. Jeffree Star เมคอัพอาร์ตติสร่างกายชายแต่ใจเป็นหญิง ผู้มีความสามารถในการแต่งหน้าไม่เป็นสองรองใคร ด้วยความชอบและหลงใหลในเครื่องสำอาง ทำให้เธอได้สร้างแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเองโดยเฉพาะ ตอนนี้มีผู้ติดตามอินสตาแกรม jeffreestar กว่า 5.3 ล้านคน . 3. Patrick Star เมคอัพอาร์ตติสลูกครึ่งฟิลิปปินส์-อเมริกัน หลงใหลการแต่งหน้าตั้งแต่อยู่มัธยม ด้วยสไตล์ที่เป็นตัวของตัวเองทำให้เธอโด่งดังระดับโลก และมีผู้ติดตามอินสตาแกรม patrickstarrr 3.8 ล้านคน แถมเป็นเมคอัพอาร์ตติสที่หลายๆ แบรนด์กำลังจับตามอง อย่างเช่นแบรนด์ดังอย่าง MAC .…
Got any book recommendations?