นี่เห็นอยู่นี้คือหน้าเว็บ CatDumb เวอร์ชันเก่า
-
ลูกค้าถึงกับงง นั่ง Uber ประมาณ 20 นาที โดนเก็บค่าโดยสารไปกว่า 460,000 บาท!?
เหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มแคนาดาผู้หนึ่ง ที่ได้แชร์ประสบการณ์ราคาแพงของเขา หลังจากที่ถูกคิดค่าโดยสารของบริการรถแท็กซี่จาก Uber เป็นเงินกว่า 18,518.50 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 460,000 บาท!! คุณ Hisham Salama เล่าประสบการณ์ของเขาผ่านทางทวิตเตอร์โดยบอกว่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมาเขาได้ใช้บริการดังกล่าว เพื่อไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลในเมืองโทรอนโต แต่เมื่อมาถึงที่หมายเขากลับถูกคิดค่าบริการเป็นจำนวนเงินมากกว่าครึ่งล้านบาท!! เจอเก็บค่าบริการแบบนี้ แบงค์ 20 ในกระเป๋าถึงกับสั่น!! จำนวนเงินดังกล่าวถูกแจ้งเป็นยอดที่ค้างไว้ในบัตรเครดิตของเขา “ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนั่งรถแค่ 20 นาทีผมถึงต้องเสียเงินกว่า 18,518.50 เหรียญ” ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์กับสื่อของแคนาดา แต่ถึงแม้จะรู้สึกขำๆ เพราะคิดว่ามันจะต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ แต่ชายหนุ่มก็รู้สึกหวั่นๆ เพราะเขาได้รับข้อความยืนยันจาก Uber ว่าค่าโดยสารดังกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว “เราได้ยืนยันแล้วว่าจุดเริ่มต้นที่คุณเลือกและปลายที่ทางเลือกนั้นถูกต้องแล้ว กรุณาบอกเราถ้าหากว่าคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม” ส่วนท้ายของข้อความจาก Uber ถึงคุณ Hisham Salama แบบนี้ก็ยิ่งงงกว่าเดิมสิครับ ในเมื่อระบบช่วยเหลืออัตโนมัติไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับคุณ Hisham Salama ได้ งานนนี้ชายหนุ่มเลยต้องเพิ่งพาพลังแห่งโลกอินเตอร์เน็ต หลายๆ คนก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นกันต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวคนนี้ที่เอามือทาบอกพร้อมกับบอกว่า “เดี๋ยวนะ!! นี่เรื่องจริงหรือ??” ส่วนบางคนก็บอกว่าสงสัยเงินดอลล่าห์ของแคนาดาจะไม่เท่ากับของอเมริกาซะละมั้ง??…
-
นักฟุตบอลสาวทีมชาติอิหร่านถูกแบนและประกาศจับ หลังจากไม่สวม ‘ฮิญาบ’ ขณะเล่นฟุตบอล
นักฟุตบอลสาวทีมชาติอิหร่านจำเป็นต้องลี้ภัยอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเธอกำลังถูกดำเนินคดีและจับกุมตัว หลังปรากฎภาพของเธอระหว่างเล่นฟุตบอลโดยไม่สวมฮิญาบและใส่กางเกงขาสั้น Shiva Amini นักฟุตบอลสาววัย 28 ปี ถูกทางสมาคมฟุตบอลของประเทศอิหร่านตั้งข้อหาดังกล่าว ในระหว่างที่เธอกำลังพักผ่อนส่วนตัวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยกฎการสวมผ้าคลุมศีรษะสำหรับสาวอิสลามนั้นถูกบังคับใช้ในอิหร่านหลังจากที่เกิดการปฏิวัติเมื่อปี 1979 นักฟุตบอลสาวคนดังกล่าวถูกสั่งแบนจากทีมชาติ และขณะนี้กำลังลี้ภัยอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เธอได้ให้สัมภาษณ์ว่าเธอไม่สามารถที่จะกลับประเทศบ้านเกิดได้แล้ว เนื่องจากเธอกลัวที่จะถูกจับกุม “ฉันไม่สามารถกลับไปที่อิหร่านได้แล้ว ฉันจะถูกจับทันทีเมื่อถึงสนามบิน และจากนั้นก็จะถูกส่งตัวเข้าคุก” หญิงสาวกล่าว ภาพของเธอที่ถูกทางสมาคมฟุตบอลของประเทศตั้งข้อหา อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถเปิดเผยที่อยู่ของตัวเองในสวิตเซอร์แลนด์ได้ เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่ทางการอิหร่านก็ได้ทำการติดต่อกับทางครอบครัวของเธอเพื่อสืบหาที่อยู่ของนักฟุตบอลหญิง Amini อธิบายว่าเธอถูกตั้งข้อหาดังกล่าวหลังจากที่อัพภาพของตัวเองระหว่างเล่นฟุตบอลลงสื่อโซเชียลมีเดีย เธอได้พูดคุยกับคนของสมาคมและเพื่อนๆ หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ซึ่งบางคนก็เข้าใจในสิ่งที่เธอทำ แต่ขณะที่บางคนบอกว่าสิ่งที่เธอทำนั้นเป็นการต่อต้านรัฐอิสลาม “เจ้าหน้าที่ระดับสูงบอกกับฉันว่าภาพดังกล่าวนั้นมันค่อนข้างชัดเจนว่าฉันทำงานให้กับพวกกลุ่มฝ่ายค้าน และต่อต้านรัฐบาล” หญิงสาวกล่าว นักฟุตบอลสาวเริ่มกังวลในความปลอดภัยของเธอ หลังจากที่สื่อต่างๆ เริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ Voice of America ได้รายงานเรื่องของเธอในภาษาเปอร์เซีย ในทุกๆ เช้า Amini จะออกไปวิ่งและใช้เวลาเล่นฟุตบอลกับผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ เธอยังหวังจะได้กลับไปเล่นฟุตบอลอาชีพและตามหาความท้าทายในฐานะนักกีฬาอาชีพอีกครั้ง นอกจากนี้เธอยังได้พูดถึงกฎการสวมฮิญาบอีกว่ามันไม่ควรที่จะเป็นประเด็นสำคัญสำหรับนักกีฬาหญิง และเธอเองก็เสียใจมากที่ถูกตัดชื่อออกจากทีมชาติเพียงเพราะสาเหตุดังกล่าว “ฉันได้รับจดหมายจากสมาคมฟุตบอลเกี่ยวกับเรื่องสวมฮิญาบ และไม่เพียงแค่นั้นพวกเขายังบอกว่าฉันเล่นฟุตบอลกับพวกเด็กๆ ผู้ชายอีกด้วย ดังนั้นฉันจึงถูกตัดสิทธิ์จากทีมชาติ” นอกจากจะเสียใจที่ถูกตัดสิทธิ์จากทีมชาติแล้ว…
-
มุมมองอันแตกต่างของ ‘ลูกค้า’ กับ ‘ดีไซเนอร์’ ที่เห็นขัดกันตลอด จะต้องแก้งานไม่รู้จบ!!
เมื่อพูดถึงอาชีพดีไซน์เนอร์หรือว่านักออกแบบ ภาพในหัวของใครหลายๆ คนอาจจะเป็นฟรีแลนซ์ที่ทำตัวชิวๆ ไม่ต้องเข้างานตามเวลา โดยคนส่วนใหญ่มักจะพบผู้คนอาชีพเหล่านี้ในร้านกาแฟ หรือสถานที่คูลๆ นั่นจึงทำให้พวกเขาดูเหมือนจะทำงานไม่ยากเย็นนัก แต่จริงๆ แล้วรู้ไม่ว่าดีไซน์เนอร์ ต้องใช้จินตนาการอย่างสูงในการจะสร้างสรรค์งานออกมาแต่ละอย่าง และก็บ่อยครั้งที่การออกแบบของพวกเขาก็ไม่ตรงตามต้องการของลูกค้า เพราะการมองโลกที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังมีมุมมองด้านศิลปะที่ต่างกันอย่างสุดขั้วอีกด้วย และนี่คือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ดีไซน์เนอร์ทำกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ภาพเหล่านี้จะทำให้คุณเข้าใจหัวอกของดีไซน์เนอร์หลายๆ คนได้ดีมากขึ้นเลยทีเดียว หลายครั้งที่ดีไซน์เนอร์ออกแบบสีให้ตรงกับลักษณะงาน แต่ลูกค้ากลับบอกว่าไม่ชัดเจนซะอย่างงั้น คนไม่ใช่ทำอะไรก็ดูผิดไปหม๊ดดดดดดด สิ่งที่พวกเขาคิดว่านักออกแบบใช้ และสิ่งที่นักออกแบบใช้ทำงานจริงๆ ขนาดแค่ช่องว่าง ก็ยังดูใช้ไม่ได้สำหรับบอสทั้งหลาย การหาภาพต่างๆ ในสายตาของทั้งสองอาชีพ เรื่องของมุมมองก็เป็นเรื่องที่ต่างกันอีกเช่นกัน จริงๆ แล้วการใช้ Photoshop มันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่ใครนึกนะ นักออกแบบได้กำลังใจจากการสร้างผลงานให้ออกมาดีแล้วมีความสุข ส่วนลูกค้าได้กำลังใจมาจากกำไรต่างๆ การเขียนแบบแนวๆ สามารถดึงดูดสายตาของผู้คนได้ แต่นายจ้างกลับถามว่าทำไมไม่เขียนให้มันเต็มๆ ล่ะ?? เป้าหมายสำหรับนักออกแบบคึือได้รางวัล ส่วนเป้าหมายของลูกค้าก็คือยอดขาย ออกแบบตัวหนังสือมาอย่างได้สัดส่วนแล้ว แต่ลูกค้าดันอยากให้ดูสูงขึ้นอีกซะงั้น แหม ก็มุมมองมันไม่เหมือนกันนี่ครับ เจ้านายย…
-
อดีตพนักงานร้านอินเตอร์เน็ตญี่ปุ่น เผย 5 เรื่องสุดแย่ของเหล่าผู้ใช้บริการ ที่พวกเขาพบเจอ…
ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้การเข้าถึงโลกอินเตอร์เน็ตนั้นไม่ใช่เรื่องยากเหมือนกับเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว แต่ทว่าในประเทศที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ยังคงมีการเปิดให้บริการของร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่อยู่ ในประเทศญี่ปุ่นร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่นั้นเป็นมากกว่าแหล่งบริการอินเตอร์เน็ตธรรมดาๆ เพราะที่นี่เปรียบเหมือนกับศูนย์รวมความบันเทิงขนาดย่อม ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังแบบฟรี การอ่านการ์ตูนคอลเลคชั่นพิเศษ บริการเครื่องดื่มซอฟดริ๊งค์ รวมถึงเป็นห้องพักราคาถูกสำหรับบางคนที่พลาดรถไฟรอบสุดท้ายอีกด้วย แต่ทว่าภายในล็อกสี่เหลี่ยมเล็กๆ กับเครื่องคอมพิวเตอร์นี้ก็มักจะมีเหตุการณ์แปลกๆ จากเหล่าลูกค้าเกิดขึ้นบ่อยๆ และเมื่อไม่นานมานี้สื่อของประเทศญี่ปุ่นเองได้ทำการสัมภาษณ์อดีตพนักงานในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ท่านหนึ่งที่ใช้ชื่อแฝงว่า T-san เขาได้ออกมาเปิดเผย 5 ประเภทลูกค้าสุดป่วนในร้านอินเตอร์เน็ตที่เหล่าพนักงานเคยพบเจอมากับตัวเอง… 1. ลูกค้าที่ทำเหมือนกับร้านเป็นบ้านของตัวเอง ถึงแม้ว่าร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ในญี่ปุ่นนั้นจะมีบริการเครื่องดื่มและอาหารฟรีๆ หรืออนุญาติให้ลูกค้านำอาหารเข้ามากินในร้านได้ แต่ก็ยังคงมีลูกค้าบางคนที่มักจะทิ้งเศษอาหารเหล่านั้นไม่เป็นที่เป็นทาง หรือกองไว้ที่โต๊ะ และมักจะชอบสร้างความสกปรกในร้าน 2. พวกที่ชอบมาพร้อมกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ อย่างที่บอกไปตอนแรก ที่นี่อาจจะกลายเป็นโรงแรมชั่วคราวสำหรับคนที่พลาดรถไฟเที่ยวสุดท้าย แต่สำหรับบางคนร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่นั้นแทบไม่ต่างอะไรกับโรงแรมเลยทีเดียว “ทางร้านก็มีบริการฝักบัวด้วย แต่ดูเหมือนว่าลูกค้าประเภทนี้จะไม่ค่อนสนใจฝักบัวที่มีไว้บริการเท่าไหร่ และมักปล่อยกลิ่นตัวให้อบอวลอยู่ในร้าน” คุณ T-san กล่าว 3. ลูกค้าที่ชอบใช้ทิชชูเป็นชีวิตจิตใจ แน่นอนว่าทิชชูนั้นมีไว้สำหรับเช็ดคราบสกปรกต่างๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่กองกระดาษทิชชูนั้นวางอยู่มี่หน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นเราแทบจะไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันถูกใช้ไปด้วยการใด คุณ T-san ให้สัมภาษณ์ว่า “การใช้ทิชชูในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่นั้นถือเป็นปัญหาหลักเลย ผมไม่รู้หรอกนะว่าการโตกในร้านเน็ตคาเฟ่นั้นถูกกฎหมายหรือไม่ แต่พวกคุณช่วยเก็บมันไปทิ้งด้วยเถอะ” 4. ลูกค้าแบบคู่รัก นอกจากบริการที่นั่งแบบเดี่ยวแล้ว ในร้านอินเตอร์เน็ตก็ยังมีบริการที่นั่งแบบคู่อีกด้วย และแน่นอนว่ามันโซฟาแบบนั้นก็มักจะถูกนำไปใช้ในจุดประสงค์อย่างอื่น “ในร้านเน็ตคาเฟ่ที่ผมทำงาน…
-
Lee Mina นักฟุตบอลหญิงทีมชาติเกาหลีใต้ กองกลางตัวรุกที่จะมาพังประตูหนุ่มๆ !!
ถ้าหากพูดถึงสาวๆ ในทวีปเอเชียที่เป็นขวัญในหนุ่มไทยเราแล้ว นอกจากประเทศญี่ปุ่นนั้น เชื่อแน่ว่าสาวๆ จากเกาหลีใต้เองก็คงจะติดอยู่ในอันดับต้นๆ ของหนุ่มชาวไทยเราแน่ แต่ถ้าหากพูดถึงสาวสวยเกาหลีใต้แล้ว หลายคนอาจจะนึกถึงเหล่านักร้องสาวเกิร์ลกรุ๊ป หรือนางเอกจากซีรีย์ดังๆ กันใช่ไหมล่ะ แต่นอกจาก 2 วงการที่ว่านี้นักกีฬาสาวชาวเกาหลีเองก็สวยใสไม่น้อยหน้าเหมือนกันนะเออ และวันนี้เราจะขอพาหนุ่มไทยวัยกลัดมันทุกท่านไปพบกับ Lee Mina นักบอลหญิงจากทีมชาติเกาหลีใต้ ที่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเธอไม่ได้มีดีแค่ฝีเท้าเท่านั้น อืม…(ยิ้มมุมปาก) ยอมแล้วจ้าาา!! แต่ก่อนที่จะไปฟินๆ กับภาพของเธอ เรามารู้จักประวัติส่วนตัวนักฟุตบอลหญิงรายนี้กันก่อนเลยดีกว่า ประวัติของสาว Lee Mina เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนปี 1991 เป็นผู้เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุก ด้วยส่วนสูง 158 เซนติเมตร เธอติดธงรับใช้ทีมชาติเกาหลีใต้ครั้งแรกในการแข่งขัน FIFA U-17 Women’s World Cup 2008 ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ปัจจุบันเธอรับใช้ทีมชาติเกาหลีใต้ไปแล้วถึง 30 เกมและยิงประตูไปมากกว่า 5 ประตู . อ่า… และก็ถึงเวลาที่หนุ่มๆ รอคอย เราไปชมภาพของกองกลางจากทีมฟุตบอลหญิงเกาหลีใต้รายนี้พร้อมๆ กันเลย . อืม… บุคลิกดี…
-
เจ้ากระรอกน้อย ยังคงกลับมาหาครอบครัวผู้ช่วยชีวิตมันทุกๆ วัน แม้ผ่านมาแล้วกว่า 7 ปี
เจ้า Bella กระรอกน้อยที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ถูกช่วยเหลือจนมันสามารถกลับมามีชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง… ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่มันอายุได้เพียงแค่ 4 สัปดาห์ เจ้ากระรอกถูกนกฮูกทำร้ายและมันกำลังนอนบาดเจ็บเพื่อรอความตาย แต่ทว่าเจ้าหน้าพิทักษ์สัตว์ป่าคุณ Brantley Harrison บังเอิญพบมันเข้าเสียก่อนเจ้ากระรอกน้อยผู้โชคร้ายจึงสามารถมีชีวิตรอดได้ เหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนตุลาคมปี 2009 ในตอนนั้นมันต้องพักรักษาตัวอยู่กับคุณ Brantley และครอบครัวของเธอเป็นเวลาหลายเดือน จนกระทั่งมันแข็งแรงพอที่จะออกไปด้านนอกได้ และนอกจาก Bella แล้ว หญิงสาวยังได้ช่วยเหลือเพื่อนๆ อีก 3 ตัวของมันด้วยกันนั่นก็คือเจ้า Larry, Moe และ Curly กระรอกน้อยทั้ง 4 ได้รับการดูแลอย่างดี เธอปล่อยให้พวกมันหากินตามธรรมชาติรอบๆ บ้านซึ่งเต็มไปด้วยผลไม้และของโปรของเหล่ากระรอก Bella เป็นที่รักใคร่ของคนในครอบครัวมาก และเมื่อมันแข็งแรง พวกเขาก็ได้พามันกลับสู่ผืนป่าที่มันจากมา “มันเหมือนกระรอกตัวอื่นๆ ที่ฉันเคยดูแลมา พวกเราไม่ได้ดูแลมันเหมือนสัตว์เลี้ยง ความตั้งใจของพวกเราคือการดูแลมันให้แข็งแรงเพื่อพร้อมที่จะกลับสู่ป่าอีกครั้ง” คุณ Brantley กล่าว เจ้ากระรอกทั้งสี่กลับสู่ป่าด้วยความดีใจ พวกมันต่างวิ่งขึ้นต้นไม้และเริ่มสำรวจในพื้นที่ต่างๆ อย่างตื่นเต้น แต่ในขณะที่ตัวอื่นๆ พร้อมที่จะออกไปสู่โลกกว้างแล้ว แต่ดูเหมือนเจ้า Bella จะมีปัญหานิดหน่อย “Bella กลับมาที่บ้านพวกเราอีกครั้งถึงสองครั้งหลังจากที่ถูกปล่อยตัวไป ซึ่งกระรอกตัวอื่นๆ ก็กลับมาเช่นกัน แต่โดยปกติแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ให้หลังพวกมันก็ไม่โผล่มาหาคุณอีก…
-
งานวิจัยเผย ยิ่งคุณมี ‘พี่ชาย’ เยอะมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีแนวโน้มเป็น ‘เกย์’ มากยิ่งขึ้นเท่านั้น
ในบรรดาเหล่าชายรักชายหรือที่เราเรียกกันว่า เกย์ พวกเขาเหล่านี้มักจะมีจุดเปลี่ยนในชีวิต ที่ทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้วพวกเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วพฤติกรรมเบี่ยงเบนเหล่านี้มี อาจเกิดขึ้นตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ของแม่แล้ว และที่สำคัญคือมีงานวิจัยหนึ่งเปิดเผยว่าหากยิ่งมีพี่ชายเยอะมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีสิทธิ์เป็นเกย์เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น!! งานวิจัยหนึ่งจากมหาวิทยาลัยโทรอนโต ประเทศแคนาดา ได้ออกมามาเปิดเผยว่าการมีลูกผู้ชายคนหนึ่งจะทำให้ปฏิกิริยาต่างๆ ในร่างกายของผู้เป็นแม่เปลี่ยนไปทั้งภูมิคุ้มกันและปัจจัยอื่นๆ และนั่นให้เด็กผู้ชายที่เกิดหลังจากนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นเกย์มากขึ้น!!! “การศึกษาของเราเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ ในการทำความเข้าใจถึงต้นกำเนิดของการปรับเปลี่ยนเพศในเพศชาย ซึ่งเราก็พบว่า กลไกการตอบสนองภูมิคุ้มกันโปรตีนของมารดา มีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมองของทารกเพศชายในครรภ์ และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือการมีพี่ชาย” “จากการสำรวจพบว่า โดยปกติแล้วในเพศชายทุกๆ คนจะมีโอกาส 3 เปอร์เซ็นต์ที่จะเบี่ยงเบนไปเป็นเกย์ แต่ในคนที่มีพี่ชายสามคนกลับพบว่าพวกเขามีโอกาสที่จะเป็นเกย์มากขึ้นไปเป็น 6 เปอร์เซ็นต์ หรือมากขึ้นกว่า 2 เท่าเลยทีเดียว” หัวหน้าทีมวิจัยกล่าว นอกจากนี้พวกเขายังได้ให้เหตุผลเอาไว้ว่า ยีนในตัวของแต่ละคนจะเป็นสิ่งที่กำหนดเพศ โดยในเพศหญิงจะมีโครโมโซม X จำนวน 2 ตัว ในขณะเดียวกันเพศชายจะมีโครโมโซมทั้ง X และ Y และเป็นเพราะว่าโครโมโซม Y ที่มีอยู่ในเพศชาย สามารถสร้างความแตกต่างในด้านชีวภาพได้ ทำให้ทารกเพศชายในครรภ์ของมารดาสามารถเปลี่ยนแปลงภูมิคุ้มกันต่างๆ ในร่างกายของผู้เป็นแม่ อีกทั้งเมื่อเกิดการตั้งครรภ์เพศชายขึ้น ร่างกายของแม่จะสร้างแอนติบอดี้ชนิดหนึ่งขึ้นมาเพื่อเป็นการต่อต้านโครโมโซม Y ชื่อว่า anti-NLGN4Y …
-
อุทาหรณ์สอนใจพ่อแม่ คลิปพี่เลี้ยงทุบตีเด็กน้อย หลังเพิ่งโบกมือบ๊ายบายคุณแม่ ไม่ถึง 1 นาที!!!
คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายในลิฟต์จากประเทศจีน เผยให้เห็นความโหดร้ายของพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งที่ลงมือทำร้ายร่างกายเจ้าหนูน้อยอย่างรุนแรง หลังจากที่แยกจากแม่ของเด็กไม่ถึงนาที!! เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวพี่เลี้ยงเด็กวัย 42 ปี หลังจากที่คลิปวิดีโอในลิฟต์ได้เผยให้เห็นหลักฐานชิ้นสำคัญในระหว่างที่เธอกำลังทำร้ายเด็กน้อยด้วยการทุบหน้าอกและศีรษะอย่างรุนแรง เพื่อให้เจ้าหนูหยุดร้องไห้ จากการรายงานของสื่อต่างประเทศระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน พี่เลี้ยงเด็กคนดังกล่าวทราบชื่อภายหลังคือนาง Li ได้ทำร้ายเจ้าหนูน้อยเมื่อเวลา 5 โมงเย็นของวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา (แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าเพศของเด็กคนดังกล่าว) ภายในคลิปวิดีโอได้เผยให้เห็นการกระทำอันโหดร้ายของนาง Li ในตอนแรกเธอได้ใช้ฝ่ามือทุบไปที่ท้องของเด็กหลายครั้งเพื่อให้เจ้าหนูหยุดร้องได้ แต่นั่นไม่เพียงพอ ดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะยังไม่เงียบ เธอจึงได้ใช้ฝ่ามือตบไปที่ท้ายทอยของเด็กอย่างรุนแรงอีกหลายครั้ง และจากนั้นก็เขย่ารถเข็นเด็กอย่างแรง ก่อนที่จะออกจากลิฟต์ไป คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกอินเตอร์เน็ต และชาวเน็ตจำนวนมากก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อว่าการกระทำของหญิงคนดังกล่าว “เหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และทุกที่ การนำแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและการนำเสนอผ่านสื่อเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราควรทำ” หนี่งในความคิดเห็นจากชาวเน็ตใน Weibo และนี่คือสิ่งที่พี่เลี้ยงเด็กคนนี้กระทำต่อเจ้าหนูน้อยคนนี้ (คำเตือน: อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง) ที่มา nextshark
-
อธิบาย 5 ลำดับขั้นของ “ความสัมพันธ์” ตามหลักวิทยาศาสตร์ ว่าคุณอยู่ในระดับไหนกัน!?
บางครั้งความสัมพันธ์ของเรากับใครสักคนนั้นค่อนข้างซับซ้อน จนบางทีทำให้บางคนสับสนในความสัมพันธ์ว่าอยู่ในขั้นไหนแล้ว และตกลงเราเป็นอะไรกัน? ก่อนที่คุณจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ มาดูงานวิจัยใหม่จากเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์ eHarmony ที่เผยให้เห็นถึงความสำคัญของการกระทำตลอดจนความสัมพันธ์ของมนุษย์เรา ในการวิจัยนี้ ทางเว็บไซต์ขอให้ชาวออสเตรเลีย 1,000 คน เปิดความสัมพันธ์ที่สำคัญของพวกเขา ตั้งแต่จูบครั้งแรกไปจนถึงมีอะไรกัน 1. ช่วงเวลาที่เจอกัน จากผลการวิจัยพบว่าส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ทางกายอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงแรกๆ โดย 1 ใน 4 คู่จะจูบกันตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ในขณะที่ 1 ใน 10 จะรอให้ถึง 3 สัปดาห์ก่อนแล้วค่อนแลกจูบแบบดูดดื่ม นอกจากนี้ผลการวิจัยยังพบอีกว่าคู่เดทไม่เร่งรีบที่จะมีอะไรกับใครสักคน แต่ส่วนใหญ่จะรอให้ถึง 3 เดือนก่อนแล้วค่อยทำแบบนั้น ในขณะเดียวกัน ผู้คน 9% ตัดสินใจที่จะนอนกับคู่เดทตั้งแต่วันแรกหรือสัปดาห์แรกที่เจอกัน ทั้งนี้ผู้ชาย 1 ใน 4 จะมีความกระตือรือร้นที่จะมีอะไรกับคู่เดต เทียบกับผู้หญิงแล้วมีเพียง 1 ใน 10 ที่คิดจะทำสิ่งเดียวกัน โดยทั่วไปผู้หญิง 25% ชอบที่จะรออย่างน้อยหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้นก่อนที่จะตัดสินใจมีอะไรกับคู่เดต 2. ช่วงพัฒนาความสัมพันธ์ คู่เดตหลายๆ คู่มักจะมีความคิดที่แตกต่างในความสัมพันธ์ขั้นตอนนี้จนทำให้พวกเขารู้สึกสับสน เพราะ 1 ใน 3 คิดว่าคุณจำเป็นตองพูดคุยหรือถามก่อนเพื่อจะเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่พิเศษหรือเริ่มคบกันนั่นเอง ในขณะที่ 2/3 ส่วนที่เหลือเชื่อว่าควรใช้ความรู้สึกมากกว่าที่จะมาพูดคุยกันแบบนั้น การวิจัยพบว่าแม้คู่เดตจะรู้สึกดีต่อกันและตัดสินใจที่จะพัฒนาความสัมพันธ์แล้ว แต่พวกเขาจะรอให้ถึง 3 เดือนก่อนแล้วค่อยปิดการใช้งานแอปหาคู่ออนไลน์…
-
คืนชีพตำนานนักสู้ ‘Bruce Lee’ กับมังกรแห่งอัฟกัน ‘Abbas Alizada’ ที่ถอดแบบมาเป๊ะๆ!!
แม้ว่าตำนานยอดนักสู้อย่าง ‘Bruce Lee‘ จะจากโลกใบนี้ไปแล้วเกือบ 45 ปี แต่เรื่องราวของเขาก็ยังคงถูกพูดถึงเสมอไม่มีวันจางหายไป ซึ่งล่าสุดได้มีชาวอัฟกานิสถานคนหนึ่งถูกขนานนามว่าเป็น ‘Bruce Lee แห่ง อัฟกานิสถาน’ ด้วยนะ!? เขาคนนี้มีชื่อว่า ‘Abbas Alizada‘ วัย 24 ปี โดยเขาเป็นแฟนคลับตัวยงของดารานักบู๊ Bruce Lee ตัวเขานั้นได้กลายเป็นกระแสพูดถึงเมื่อหลายปีก่อนบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก หลังจากที่เขาได้โพสต์ภาพตัวเองในลักษณะคล้ายกับตำนานนักสู้คนดังกล่าว Abbas นั้นไม่ได้เพียงแค่แต่งตัวให้เหมือน Bruce Lee แต่เขายังฝึกฝนตัวเองให้มีร่างกายที่แข็งแกร่งเหมือน Bruce Lee ด้วย เรียกว่าไม่ได้ทำกันเล่นๆ และเขาก็ชื่นชอบในนักสู้คนดังกล่าวมากๆ จนล่าสุดถึงกับมีคนทำสารคดีเกี่ยวกับเขาออกมาเลยทีเดียว… เปิดตำนานมังกรแห่งอัฟกานิสถาน!! Abbas เล่าว่าชีวิตของเขาในวัยเด็กนั้นต้องอยู่อย่างยากลำบาก เขาไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยและอยู่ในยุคที่กลุ่มก่อการร้ายตาลีบันรุ่งเรือง สื่อบันเทิงทุกอย่างล้วนถูกแบนอย่างสิ้นเชิง การจะหาความสุขในตอนนั้นจึงเป็นไปได้ยาก แต่ว่าจนกระทั่งตอน 9 ขวบ เขาได้แอบดูหนังเก่าๆ ซึ่งในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ตัว Bruce Lee ยังคงมีอิทธิพลมากๆ อยู่ มันเลยทำให้เขาเกิดหลงใหลและรู้สึกว่าถ้าตัวเขาอยากมีชีวิตรอดในอัฟกานิสถาน เขาจะต้องทำให้ตัวเองแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พออายุ 14 เขาจึงเริ่มจำวิชากังฟูมาจากในหนังและทำตาม จากนั้นก็เริ่มฝึกฝนร่างกายเรื่อยมา…
-
15 ภาพบนโซเชียลสุดเจ๋งจากชาวเน็ตทั่วโลก ที่ดูแล้วถึงกับอยากมอบถ้วยเซลฟี่แห่งปีให้!!
ด้วยความที่สื่อโซเชี่ยลเข้ามามีผลกับชีวิตของมนุษย์ปัจจุบันเป็นอย่างมาก ทั้งสแนปแชท เฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรมก็ดี ซึ่งนั่นจึงส่งผลให้การถ่ายภาพแนวต่างๆ อวดกันจึงเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ว่าเมื่อมันเป็นเรื่องปกติ การถ่ายภาพลงโซเชียลจึงกลายเป็นเหมือนเกมกีฬาชนิดหนึ่งไปในทันทีตามกระแสของโลก ซึ่งใครสามารถถ่ายออกมาดูดีหรือดูเจ๋งก็จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากชาวเน็ตคนอื่นๆ เพียงแต่ว่าในตอนนี้ก็เราไม่ต้องมองหาผู้ชนะหรือผู้เข้าแข่งขันเพิ่มอีกต่อไป เพราะเราได้ 15 เจ้าของภาพสุดเจ๋ง ที่กลายเป็นผู้ชนะทันทีที่ปล่อยภาพเรียบร้อยแล้ว และคุณภาพผลงานของพวกเขาบอกเลยว่าตัวท็อป!! หนุ่มเซลฟี่ภาพไปเที่ยวบนตึกสูง บนโซเชียลเห็นคงคิดว่ามันต้องเป็นพักร้อนที่แจ่มมากแน่ๆ ที่ไหนได้… ถ่ายภาพไปเที่ยวทะเลลงโซเชียลเกร๋ๆ แต่ความจริงไม่ได้ไปไหนแถมที่เห็นก็นิ้วไม่ใช่เข่า อวดแบงก์เป็นปึกใหญ่ๆ แต่เบื้องหลังคือปกหนังสือ ไปดูแข่งกีฬาถึงสนาม มันต้องเช็คอิน!! อวดโซเชียลว่าเป็นสายเปย์ แต่เบื้องหลังกลับเจ็บปวด แดดดีแบบนี้มันต้องล้างรถ…ของเล่น หน่อยแล้ว เซลฟี่เหมือนขับรถตัวเอง ที่ไหนได้มันคือราวจับเก้าอี้ของรถโดยสาร อยากจะทำตามฮิปฮอปหลายคนที่ทำฟันทอง แต่งบมันน้อยเลยขอตีเนียนไปก่อนนะ (ใครทำตามระวังปาดฟันนะ) อวดลงโซเชียลให้ดูไม่โสด แต่ลึกๆ แล้วเหงาโสดตัวเท่าบ้านนน วิธีถ่ายรูปลงโซเชียลให้ดูไม่เป็นคนเหงา ฟันสวยๆ สร้างเองได้ง่ายมาก มีทีวีจอยักษ์รุ่นเก่า แต่อยากให้มันเป็นจอแบนรุ่นใหม่ ลงโซเชียลชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้านพร้อมแคปชันเหล้าเพียบ!! พอเพื่อนมาจริงๆ…
-
ปกอัลบั้มเพลงทำให้ดูดีขึ้นได้ด้วย ‘แมว’ เจอแบบนี้ ร้องเมี้ยวๆ ทุกท่อนเลย…
สำหรับชาวเน็ตที่รักในแมวเหมียวแล้วนั้น พวกมันสามารถเป็นอะไรก็ได้ความที่มนุษย์ต้องการ แม้แต่การแปลงร่างเป็นหน้าปกอัลบั้มของศิลปินดังทั้งหลาย แมวเหมียวก็สามารถทำได้นะ Alfra Martini ศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานแบบดิจิตอล หรือที่เรียกว่า “Aymvisuals” เขาเปลี่ยนปกอัลบั้มชื่อดังของศิลปินทั่วโลก มาเป็นเจ้าแมวสุดฮาที่ดูแล้วมันกวนโอ้ยสุดๆ ที่ล้อเลียนได้เหมือนขนาดนี้ ถ้าคุณยังคิดไม่ออกว่างานศิลปะนี้จะมีลักษณะเป็นอย่างไร เราไปชมกันเลย 1. Madonna 2. Billy Joel 3. David Bowie 4. The Strokes 5. Motorhead 6. Grace Jones 7. Pink Floyd 8. Queen 9. Nirvana 10. Bob Marley 11. Tina 12.…
-
หนุ่มแก้แค้นพวกชอบขโมยพัสดุหน้าบ้าน ด้วยการยัด “กับดักปริศนา” ไว้ในกล่องซะเลย!!
ในอเมริกา ปัญหาการขโมยกล่องพัสดุเป็นปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ เพราะว่าในบางครั้งที่พัสดุมาส่งแล้วผู้รับไม่อยู่ พนักงานก็มักจะวางกล่องพัสดุ ไว้ข้างหน้าบ้านและเมื่อคนแปลกหน้าเห็น พวกเขาก็มักจะถือวิสาสะขโมยมัน ด้วยเหตุนี้ Jaireme Barrow ชายผู้ต้องเผชิญกับปัญหาเดียวกันหลังจากที่เขาสั่งชิ้นส่วนรถ Jeep ที่เขากับเพื่อนๆ ตั้งใจจะซ่อมแซมให้กลับมาใช้ได้ ก็ดันถูกขโมยมาแอบหยิบพัสดุของเขาไปในช่วงที่ตัวเองไม่อยู่บ้าน งานนี้เขาจึงรู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้วที่ต้องเอาคืนคนพวกนี้ เขาจึงตัดสินใจสร้างกับดักขึ้นมาเพื่อดัดหลังกลุ่มคนขี้ขโมยดังกล่าว ด้วยการใช้กระสุนลูกซองเปล่ามาจุดระเบิด ซึ่งจะส่งเป็นเสียงดังมากๆ ทุกครั้งที่มีคนยกกล่องพัสดุ โฉมหน้าของเจ้าของไอเดียกล่องแก้เผ็ดในครั้งนี้ ภาพตัวอย่างผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับเหล่าโจร เตรียมพร้อม 3.2.1 วิ่งหนีกันแทบไม่ทัน กล่องดัดหลังขโมยของเขามีชื่อว่า The Blank Box ที่ใช้วัสดุในการทำที่ง่ายแสนง่าย ซึ่งประกอบด้วยปลอกกระสุนลูกซอง 12-gauge เปล่าๆ, ตะขอตกปลา, อิฐ, กล่องไม้และกล่องกระดาษ, แผ่นอลูมิเนียมหรือเหล็กให้มันดูมีน้ำหนักเวลายก, แม่เหล็กและอื่นๆ อีกนิดหน่อย โดยของส่วนใหญ่ก็หาซื้อได้ทั่วไป จากนั้นก็เอามาประกอบเข้าด้วยกัน หรือถ้าใครไม่รู้ว่าจะหาซื้อวัสดุที่ไหนยังก็สามารถสั่งซื้อจากพ่อหนุ่มคนนี้ได้ และเมื่อได้กล่องระเบิดตามที่ต้องการแล้วก็มาถึงขั้นตอนการดัดหลังโจรกันเสียที… ลองดูวิธีทำกับขั้นตอนทดสอบได้ในคลิปนี้เลย ส่วนวิธีการแก้เผ็ดเราก็แค่เอากล่องนี้ไปวางรวมกับกล่องพัสดุอื่นๆ แต่ต้องวางไว้ข้างล่างสุดนะเพื่อให้โจรยกขึ้น เท่านี้ก็รอดูผลลัพธ์ผ่านกล้องวงจรปิดได้เลย ลองดูผลลัพธ์กันดู กลัวหัวหดกันหมด!!…
-
ศิลปินชาวนิวเจอร์ซีย์ จัดเรียงสิ่งของในชีวิตประจำวัน ด้วยลวดลายและเฉดสีสุดแสนจะเป็นระเบียบ
เพื่อนๆ เคยสังเกตกันไหมว่าจะมีคนประเภทหนึ่งที่ชอบจัดเรียงสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันให้เป็นรูปร่างต่างๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเขามีศิลปะในหัวใจเช่นเดียวกับ Adam Hillman ศิลปินชาวนิวเจอร์ซีย์ ที่ได้นำเสนอแบบการจัดวางสิ่งของในชีวิตประจำวันของเขาให้มีความซับซ้อนมากขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นซีเรียล จนไปถึงอุปกรณ์ในสำนักงาน เขาก็จัดวางออกมาให้เป็นรูปแบบสมมาตรที่พอดีพอเหมาะเป๊ะๆ! ซึ่งบางชิ้นงานเขาใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะวัดขนาดและตัดชิ้นส่วน ให้มีขนาดตามที่ต้องการก่อนนำมาเรียงให้เกิดภาพที่น่าทึ่งเหล่านี้ สีเทียน คอตตอนบัด คลิปหนีบกระดาษ ไม้ขีดไฟ ไส้แม็ก เข็มหมุด หลอดพลาสติก ส้อมพลาสติกและไม้จิ้มฟัน ไม้จิ้มฟัน ตอนนี้ Hillman ได้แชร์สุดยอดผลงานของเขาลงในอินสตาแกรมมากมาย ลองไปชมกันดูสิ witenry ที่มา thisiscolossal
-
นุ้งแมวแคระของแท้ พี่น้องจากฮ่องกง อ้วนเตี้ยครบสูตรแห่งความน่ารัก!!!
คุณจะทำอย่างไรเมื่อเจออานุภาพความน่ารักของเจ้าแมวน้อย ที่จะมาอ้อนคุณด้วยคำว่า “เหมียวๆ” กับขาสั้นๆ ที่ไม่เหมือนใครของมัน โดยเจ้าแมวสองตัวนี้มีผู้ติดตามในอินสตาแกรม little_milo_munchkin เกือบหมื่นคนแล้ว เจ้าแมวคู่พี่น้องสองตัวนี้มันมาพร้อมขาเตี้ยๆ 4 ข้าง ที่เหมือนเกิดมาเพื่อแอ๊บแบ๊วโดยเฉพาะ ไม่แน่ว่าถ้าคุณได้รู้จักทั้งคู่แล้ว คุณอาจจะอยากมีสมาชิกในบ้านเพิ่มขึ้นมาก็เป็นได้นะ เจ้าเหมียวสองตัวนี้เป็นพี่น้องจากฮ่องกง . (*ฅ́˘ฅ̀*)Milo ? 討吃~♡ #LittleMilo #短い手足 #munchkincat #snoopyxkaws Instagram: little_milo_munchkin https://m.facebook.com/i.am.little.milo โพสต์ที่แชร์โดย Ming de Charmaine (@little_milo_munchkin) เมื่อ พ.ย. 30, 2017 เวลา 3:01am PST ตัวแรกชื่อเจ้า Little มันมีขนสีน้ำตาลเข้ม ส่วน Milo มีขนสีส้มอ่อน… . (*ˊᵕˋ*)੭ ੈ♥︎ Milo:Mama, play with me please ……….. moew?…
-
รู้จักเจ้าหนู Ryan เด็กน้อยอาชีพน่าอิจฉา “นักรีวิวของเล่น” ทำคลิปยูทูบ รายได้ 360 ล้าน/ปี!!
ย้อนกลับไปในวัยเด็กใครหลายๆ คน คงจะกำลังเล่นสนุกกับเพื่อนๆ ดีดลูกแก้วหรือเล่นของเล่นอะไรสักอย่างที่พ่อแม่ซื้อให้อยู่ใช่ไหมล่ะ แล้วเราเคยคิดบ้างไหมว่าเราสามารถนำกิจกรรมสนุกๆ ตอนนั้นมาใช้หาเงินได้ด้วย? Ryan เด็กน้อยวัย 6 ขวบคือเจ้าของช่องยูทูบ Ryan ToysReview ที่ถูกจัดอันดับโดย Forbes ให้เป็นช่องที่ทำรายได้สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ของปี โดยเขามีรายได้ในปี 2017 สูงถึง 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็นเงินไทยก็เกือบๆ 365 ล้านบาทเลยทีเดียว (ส่วนถ้าใครอยากรู้ว่าคนที่ได้อันดับที่ 1 เป็นใครนั้นสามารถกลับไปอ่านข่าวเก่าได้ที่ ‘เผยอันดับดาวเด่น YouTube 2017 ทำเงินสูงสุด 540 ล้าน และแชมป์ไม่ใช่ PewDiePie แล้ว‘) ซึ่งคลิปที่ทำให้เจ้าหนู Ryan กับครอบครัวทำด้วยกันนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเล่นสนุกและรีวิวของเล่นฉบับเด็กๆ โดยมันก็สนุกในแบบฉบับดูสบายๆ ย่อยง่ายไม่ต้องคิดอะไรมาก นั่นจึงส่งผลให้ช่องของเขามีคนกดติดตามมากถึง 10 ล้านเลยทีเดียว ส่วนคลิปที่มียอดวิวสูงที่สุดนั้น เป็นคลิปที่เจ้าหนูต้องตามหาไข่ขนาดยักษ์ที่ข้างในก็มีรถของเล่นอยู่เต็มไปหมด ซึ่งตัวไข่ถูกซ่อนไว้ในบ้านลมขนาดใหญ่ โดยคลิปดังกล่าวมียอดคนดูรวมแล้วมากถึง 1,000 ล้านครั้ง!! …
-
เรียนรู้ประวัติศาสตร์การแต่งหน้าสไตล์ญี่ปุ่น ผ่านการ “ระบำนิ้ว” ที่พริ้วไหวดั่งสายลม!!!
ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ควบคู่มากับประวัติศาสตร์ความงามของหญิงสาวชาวญี่ปุ่น ที่ไม่ว่าจะเป็นยุคโบราณจนถึงยุคปัจจุบัน สาวๆ ชาวญี่ปุ่นก็ไม่เคยปล่อยให้ความสวยห่างหายไปเลย แบรนด์เครื่องสำอาง Shiseido จึงได้นำเสนอประวัติศาสตร์ความงามของสาวญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคเฮอังของญี่ปุ่น จนมาถึงปัจจุบัน ผ่านการระบำที่ไม่ได้เป็นแค่การใช้ร่างกาย แต่เป็นการใช้นิ้วมือร่ายรำ… คลิปวิดีโอนี้แสดงให้เห็นถึงการแสดงแบบ “Finger Dance Makeup” ที่นำเสนอประวัติศาสตร์ความงามและความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ยุคเฮอัน (ในปีค.ศ 794-1185) ของญี่ปุ่น จนมาถึงปัจจุบัน ก็จะมีเทรนด์ความงามที่แตกต่างกันออกไป คลิปวิดีโอเริ่มต้นที่ความงามที่ทันสมัยในยุคปัจจุบัน ผ่านการระบำนิ้วมือที่มีลิปกลอสเป็นเครื่องช่วยแสดง จากนั้นเทรนด์ความงามของสาวญี่ปุ่นก็ได้ย้อนเวลาไปในอดีต ที่เป็นสาวสวมชุดกิโมโนแบบทางการ 12 ชั้น เธอมาพร้อมกับแปรงปัดหน้า ที่จะทำให้ใบหน้าขาวผ่องแบบสาวญี่ปุ่นในอดีต ความงามในช่วงเวลานี้เน้นความกระจ่างใสของผิวด้วยความโปร่งใสของผงแป้งที่ปัดลงไปบนใบหน้า ต่อมาเราก้าวไปสู่ยุคเอโดะ (ในปี ค.ศ. 1603-1868) ซึ่งเครื่องแต่งกายของเกอิชาเริ่มมีอิทธิพลต่อความงามในอุดมคติ ทำให้เกิดสีสันสดใสบนใบหน้า โดยเฉพาะที่ริมฝีปาก ตามด้วย ยุคเมจิ (ในปี ค.ศ. 1868-1912) เป็นการสวมใส่ชุดนักเรียนสีสันสดใสที่เรียกว่า Hakama-Style ในช่วงเวลานี้เทรนด์การแต่งหน้าไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นเท่าที่เคยเป็นมา เน้นเป็นการแต่งให้ดูธรรมชาติเสียมากกว่า จากนั้นก็มาถึงสาวยุคโชวะ (ในปี ค.ศ. 1926-1989) สาวๆ ญี่ปุ่นชอบเน้นความโดดเด่นด้วยขนตาปลอมและการกรีดอายไลน์เนอร์เส้นหนาๆ…
-
ศิลปินสาวชาวญี่ปุ่นสร้างงานศิลปะสุดเจ๋ง ด้วยการวาดภาพป๊อปคัลเจอร์ลงบน ‘พรม’ ของเธอเอง!?
สำหรับใครที่มีพรมแล้วชอบดูดฝุ่นบริเวณพรมบ่อยๆ เคยสังเกตกันไหมว่าบางครั้งที่เราดูฝุ่นบนพรม พรมจะมีรูปร่างหน้าตาและลวดลายที่เปลี่ยนไป จนบางครั้งเราก็รู้สึกว่าเราสามารถสร้างลายใหม่ให้กับพรมของเราได้ ด้วยเหตุนั้นศิลปินสาวชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @agito0219 ผู้มีแนวคิดแบบเดียวกัน จึงตัดสินใจสร้างผลงานศิลป์ของเธอลงบนพรมซะเลย ซึ่งเธอได้สร้างงานศิลป์เป็นภาพป๊อปคัลเจอร์ต่างๆ ในแบบที่เธอชอบ ไม่ว่าจะเป็นกันดั้ม, มาสก์ไรเดอร์ หรือแม้ตัวการ์ตูนต่างๆ เธอก็จัดให้ได้!! @agito0219 ให้เหตุผลที่ไม่เปิดเผยหน้าจริงๆ บนโลกอินเตอร์เน็ตว่า หน้าตาของเธอไม่สำคัญเท่าผลงานของเธอที่บ่งบอกความเป็นตัวเธอออกมาอยู่แล้ว Shining Gundam Shin Godzilla Evangelion 01 Spider-Man เวอร์ชั่นญี่ปุ่นกับหุ่นยนต์ Leopardon ของเขา Gon จาก Hunter x Hunter Gundam Turn A Pikachu!! Blood Stalk จาก Mask Rider Build Gundam Rx-78 คนนี้อาจจะไม่ได้มาจากญี่ปุ่น แต่รับรองว่าใครๆ…
-
29 สุดยอดตัวอย่างความสุดโต่ง ของผู้คนที่สร้างความประทับใจให้เราได้เสมอ เซอร์ไพร์ส
เมื่อคุณเบื่อกับเรื่องเดิมๆ ที่เคยทำในแต่ละวัน คุณมีวิธีการผ่อนคลายอย่างไรกันบ้าง?? เพื่อนๆ แต่ละคนก็อาจมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับคนเหล่านี้แล้วพวกเขาเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องน่าเบื่อให้เป็นเรื่องที่สนุกยิ่งขึ้น การกระทำแปลกๆ ที่ดูน่าประทับใจนั้น มักเกิดกับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ที่ถึงแม้ว่ามันจะดูฮาและสุดโต่งไปหน่อย แต่นั่นมันก็ทำให้โลกน่าเบื่อน้อยลงไม่ใช่เหรอ??? 1. เมื่อคุณเบื่อชุดเดิมๆ 2. ผิวของฉันมันไวต่อแสง ครีมกันแดดเอาไม่อยู่จริงๆ 3. เมื่อพ่อบอกว่า “หนูสามารถทำทุกอย่างได้ตามที่หนูชอบ” เธอเลยจัดทรงผมขัดใจพ่อไปเลย!!! 4. ของขวัญคริสต์มาสจากพี่ชาย สามแบบ สามลวดลาย ชอบแบบไหนล่ะ!!? 5. เมื่อคุณเปิดเทอมวันแรก แล้วไม่รู้จะใส่ชุดอะไรไปเรียนดี 6. เมื่อคุณเหนื่อยสุดใจขาดดิ้น คุณจะไม่แคร์อะไรอีกแล้ว 7. จุดจบนักดื่มในตำนาน 8. เมื่อญาติของคุณแต่งตัวมาเต็มยศ เพื่อรอเจอหน้าหลานครั้งแรก… 9. พลาสติกอันนี้เขาเอาไว้คลุมร่มไม่ใช่เหรอ??? 10. ผมตื่นขึ้นมาด้วยความสดใสในการไปเรียนวันแรก และปัตตาเลี่ยนเจ้ากรรมก็ดันแบตหมด…ฟักแดมมม 11. ชายตัวป่วนที่ใส่ชุดลิงกอลิล่าวิ่งไปบนสนาม 12.…
-
ศัลยแพทย์สมองเล่าประสบการณ์ใกล้ความตาย ที่ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงแสงและเพลงแห่งสวรรค์!!
เวลาพูดถึงความตาย เราทุกคนไม่มีใครรู้หรอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเราตายมันเป็นยังไง จะมีก็แค่ทฤษฎีต่างๆ ที่ออกมาเดากันไปต่างๆ นานาว่าพอตายแล้วเราจะไปนรกไปสวรรค์ หรืออาจจะกลายเป็นวิญญานเท่านั้น ทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้นเราไม่มีทางรู้เลยจนกว่าเราจะตาย แต่ว่าเมื่อเราตาย เราก็ไม่สามารถกลับมาบอกเล่าอะไรให้ใครฟังได้เช่นกัน ฉะนั้นเรื่องราวหลังความตายจึงเป็นเรื่องลึกลับเสมอมา…ทว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เหรอ? ล่าสุด Dr. Eben Alexander วัย 63 ปี ศัลยแพทย์สมองและผู้เขียนหนังสือ ‘Living In A Mindful Universe: A Neurosurgeon’s Journey Into The Heart Of Consciousness’ ก็ได้ออกมาเปิดเผยเขาเคยมีประสบการณ์ใกล้ชิดกับความตาย เพราะเขาเคยอยู่ในอาการโคม่านานหลายสัปดาห์เมื่อปี 2008 โฉมหน้าหนังสือของ Dr.Eben เขาได้เล่าผ่านหนังสือของเขาว่า จากอาการโคม่าดังกล่าวทำให้ตัวเขานั้นสามารถรับรู้ความหมายอันลึกซึ้งของชีวิตและสิ่งที่จะตามมาหลังจากนั้นได้… Dr. Eben เล่าว่า “ตอนนั้นผมอยู่ในอาการโคม่านานเป็นสัปดาห์ ผมต้องทรมานจากอาการเยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ สมองติดเชื้อและอื่นๆ อีกมากมาย โดยแพทย์ได้บอกกับญาติของผมว่า ผมจะมีโอกาสรอดเพียงแค่ 2% เท่านั้น ซึ่งไม่นานนัก ทีมแพทย์ก็บอกกับญาติให้ตัดใจพร้อมกับเตรียมบอกลาผมเร็วๆ นี้ได้เลย” …
-
มาชม “10 สาวไอดอลเกาหลี” เปลี่ยนรูปร่างของตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ!!!!!
กว่าที่นักร้องสาวของเกาหลี จะเดินทางเข้าสู่การเป็นไอดอลระดับประเทศได้นั้น พวกเธอต้องผ่านการฝึกฝนความสามารถและความแข็งแรงให้มีรูปร่างและบุคลิกที่ดีขึ้น ดังนั้นคงไม่แปลกที่จะเห็นรูปภาพ “การเปลี่ยนแปลง” ของพวกเธอแชร์ว่อนอยู่บนโลกโซเชียลกันบ่อยๆ เพราะก่อนที่จะสวยเป็นนางฟ้าขนาดนี้ พวกเธอก็เคยมีรูปร่างอวบอั๋นเหมือนกับสาวธรรมดาอย่างเรานี่แหละ ไม่แน่ว่าคุณชมภาพเหล่านี้้แล้ว อาจจะมีแรงฮึดเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ก็ได้นะ 1. Mina วง Gugudan จากสาวเสียงน่ารักที่เมื่อคนเธอก็เคยอวบมาก่อน แต่ตอนนี้ผอมจนหน้าตอบไปแล้ววว… . 2. Joy วง Red Velvet สาวจอยที่ไม่ว่าเดินไปไหนก็เหมือนมีออร่าออกมาจากผิว ไม่น่าเชื่อว่าเธอก็เคยเป็นสาวตุงๆ เฮ (ภาษาเกาหลีแปลว่าอ้วน) มาก่อน . 3. Wendy วง Red Velvet สาวเสียงดีเวนดี้ ก็เคยมีแก้มตุ่ยน่าหยิกด้วยนะ . 4. Umji วง GFRIEND คุ้นตากันดีกับสาวคนนี้มีที่รูปร่างตุ้นนุ้ยน่ารัก แต่ตอนนี้เธอโตเป็นสาวแล้วนะ . 5. Jihyo วง TWICE สาวดวงตากลมโตที่เคยมีรูปร่างอ้วนเบาๆ แต่ตอนนี้เธอเป็นสาวน่ารักที่ทำเอาหนุ่มๆ ขอลงทะเบียนเป็นแฟนคลับกันเพียบเลยล่ะ . 6. Chorong วง Apink สาวน่ารักจากวง Apink ที่แม้ว่าเธอจะเป็นสาวเจ้าเนื้อมาก่อน แต่ตอนนี้เธอดูแลรูปร่างจนเข้าที่ ดูดีสุดๆ .…
-
20 ภาพของเหล่าผู้ดวงซวยแห่งปี 2017 ที่ชีวิตกำลังจะเกิดหายนะในอีก 3 2 1…
ในหนึ่งชีวิตของเราจะเจอเรื่องซวยสักกี่ครั้งในชีวิตกันนะ บางครั้งเราก็อยู่ของเราดีๆ ความซวยก็มาเยือนซะจนได้ แต่ถ้าคุณคิดว่าวันนี้เป็นวันที่ซวยสุดๆ ของคุณล่ะก็ เรายังมีเหล่าคนดวงซวยแห่งปี 2017 มาให้คุณได้เห็นว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่คุณที่ซวยเพียงคนเดียว มีเพื่อนแล้วโว๊ย ฮ่าๆ แต่ว่าแต่ ภาพบางภาพเห็นแล้วมันเจ็บปวดหัวใจแทนเหลือเกิน จะมีอะไรที่ซวยไปกว่านี้ไหม…. เค้าว่ากันว่าถ้าเจอใบโคลเวอร์สี่แฉกจะได้ลาภลอย ไม่มีปัญหาเรื่องการเอาออก แต่มีปัญหาเรื่องกลิ่น เบบี้ชาร์ค จึ้ดจือดู ดู ดู หน้าเขียวกันเลยทีเดียว มือถือตกใส่แกงกระหรี่ นี่คือหนึ่งความบรรลัยในชีวิตที่ได้เจอ โดนแม่ด่าแน่แก ไม่เกี่ยวแล้วทีนี้ ยิ่งถ้าตกใส่ปากนะ มีแตกกันไปข้างหนึ่งแน่นวล บอกแล้วไงว่าเราไม่ชอบอาบน้ำ โถ เจ้าอ้วน ฮ่าๆ อะไรกันเธอ ฉันแค่จะมัดเชือกรองเท้า นี่คิดอะไรไปไกลอีกแล้วใช่มั้ย? เจ้าแพะตัวนี้ออกอาการเครื่องรวนนิดหน่อย ภาพจึงออกมาเป็นเช่นนี้ รับรู้ความเจ็บใน 5 4 3 2…. อย่าถามได้ไหมรู้สึกยังไง …
-
The Rock ประกาศกร้าว กำลังจะกลายเป็นพ่อลูก 3 หลังภรรเมียตั้งท้องเรียบร้อยแล้ว!!
หากจะพูดถึงชายผู้มีร่างอันบึกบึนอย่างกับยักษ์ ใครหลายคนคนอาจจจะนึกถึง Dwayne Johnson หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า The Rock และตอนนี้เขาก็ได้แสดงพละกำลังวังชาด้วยการเสกเด็กเข้าท้องภรรยา ทำให้เขากำลังจะกลายเป็นพ่อของเด็กถึง 3 คน!! Dwayne และ Lauren Hashian ภรรยาสาวนักร้องสุดเซ็กซี่ได้คบหากันมากว่าทศวรรษ และในเมื่อไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาก็ได้ประกาศข่าวดีแก่โลกออนไลน์ เพราะว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะมีลูกเกิดมาให้ชื่นชมอีกคนหนึ่งแล้ว ทำไงได้ของพี่มันแร๊งงส์ สำหรับ The Rock มีลูกสาวแล้ว 1 คน ชื่อว่า Simone วัย 16 ปี ซึ่งเกิดจากอดีตภรรยา Dany Garcia และได้มีลูกกับ Lauren ภรรยาปัจจุบันอีกหนึ่งคนชื่อว่า Jasmine และเด็กคนที่กำลังจะเกิดมานี้เป็นลูกคนที่ 2 ระหว่างพวกเขา Simone Johnson Jasmine Johnson กำลังตื่นเต้นที่จะได้มีน้องสาว และในตอนนี้ก็ดูเหมือนครอบครัวแห่งนี้กำลังจะตื่นเต้นกันเป็นการใหญ่โดย The Rock ได้โพสต์ภาพลูกสาว Jasmine ของเขานั่งอยู่ใต้ต้นคริสต์มาสอย่างยิ้มแย้มพร้อมกับแคปชั่นที่ว่า “ลูกสาวของเรา Jasmine อยากจะประกาศข่าวดีให้แก่ทุกคนได้รู้ว่าเรากำลังจะมีสมาชิกใหม่เป็นผู้หญิง!! ในตอนนี้พวกเราตื่นเต้นกันอย่างมาก และกำลังเตรียมพร้อมต้อนรับลูกสาวคนที่สองของเราที่กำลังจะเกิดในฤดูใบไม้ผลินี้ และที่ดูตื่นเต้นยิ่งกว่าใครก็ดูเหมือนจะเป็น Jasmine เธอบอกว่าเธอรอจะเป็นพี่สาวไม่ไหวแล้วล่ะ” …
-
16 ภาพถ่ายสวยๆ จากมุมท้องฟ้า บนโลกอันโหดร้ายยังคงไว้ซึ่งความสวยงาม
ภาพถ่ายที่เราเห็นกันบ่อยๆ อาจเป็นภาพถ่ายเซลฟี่ของคนในโลกโซเชียลหรือภาพวิวทิวทัศน์ที่มองออกไปจากพื้นโลก แต่ถ้าเราลองมองลงจากท้องฟ้าบ้างล่ะ สิ่งที่เราจะได้เห็นมันจะสวยงามและแปลกตามากขนาดไหน ภาพมุมมอง Bird’s Eye View แบบนั้นเราสามารถเห็นได้จากผลงานของช่างภาพจากสำนักข่าว Reuters ที่ออกเดินทางตามเก็บภาพความสวยงามต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก ออกมาเป็นภาพที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์และมุมมองที่หลายๆ คนอาจไม่เคยเห็นมาก่อน เราไปลองไปดูกันเลย จักรยานสีรุ้งในที่จอดนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน สถาบันสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติทดแทนของบราซิล เผาป่าเพื่อต่อต้านการตัดไม้ที่ผิดกฎหมายในรัฐอามาโซนัส เครื่องจักรพยายามเคลียร์ถนนตัดผ่านเทือกเขา Sognefjellet ประเทศนอร์เวย์ ผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยวว่ายน้ำแถวชายหาด Barra da Tijuca เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ตอนช่วงฤดูร้อน รอยวงกลมบนทะเลสาบเยือกแข็ง ใน Vanhankaupunginlahti กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ หมอกควันที่ปกคลุมเขตเทียนจิน ประเทศจีน คนราวๆ 2,000 คนจับมือลอยตัวในทะเลสาบ Epecuen ประเทศอาร์เจนตินา จนได้ลงบันทึกกินเนสบุ๊ก “คนจับมือลอยตัวเยอะที่สุดในโลก” น้ำเสียในแม่น้ำคงคา เขตคานปูร์ ประเทศอินเดีย Black Rock City กับคนประมาณ 70,000…
-
ช่างภาพสุดทุ่มเท เล่นใหญ่แก้เขินให้ลูกค้าระหว่างถ่ายงาน แถมงานก็ออกมาดีด้วย!!
เป็นเรื่องปกติที่เราจะได้เห็นช่างภาพเปลี่ยนมุมของตัวเองไปเรื่อย เพื่อเก็บความทรงจำจากหลายๆ มุมมอง แต่เชื่อว่าการเปลี่ยนมุมของช่างภาพคนนี้เป็นสิ่งที่หลายๆ คนรู้ได้เลยว่ามันไม่ปกติแน่นอน เพราะเขาเล่นใหญ่ จัดเต็ม วิ่งไปวิ่งมา กระโดดโลดเต้น หรือแม้แต่ม้วนตัว จนทำเอาคนรอบข้างกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ ช่างภาพคนนี้มีชื่อว่า Jonathan Suckling จากประเทศนิวซีแลนด์ เขาบอกว่าเขาทำอย่างนั้นลงไปเพื่อให้คู่บ่าวสาวที่เป็นแบบให้กับภาพของเขาได้หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เพื่อให้พวกเขาได้ยิ้มกันอย่างเป็นธรรมชาติ และแน่นอนว่าเขาไม่ได้กระโดดโลดเต้นไปมาแบบนี้ตลอดทั้งวันที่ถ่ายภาพงานแต่งหรอกนะ คลิปความจัดเต็มของช่างภาพสุดฮา กระโดดโลดเต้นไปมาราวกับละครเวที ความตลกของช่างภาพคนนี้อาจทำให้บางคนสงสัยว่า ดีดเป็นม้าขนาดนั้นแล้วภาพที่ออกมาจะไม่เบลอหรอ? ถ้าสงสัยเราลองไปดูผลงานที่ได้จากรอยยิ้มอันน่ารักของคู่บ่าวสาวคู่นี้กันเลย ความเป็นธรรมชาติของคู่บ่าวสาวถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่ารัก รอยยิ้มแห่งความสุขและความสนุกของพวกเขา จะเป็นที่จดจำไปตลอดกาล เชื่อว่านี่คงเป็นอีกหนึ่งความทรงจำแสนประทับใจในการแต่งงานของทั้งสอง ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่ได้กระโดดโลดเต้นเฉพาะกับการถ่ายรูปชุดนี้ เพราะก่อนหน้านั้นในการถ่ายภาพแต่งงานของคู่บ่าวสาวอีกคู่ เขาก็เล่นโอเวอร์จัดหนักเป็นละครเวทีแบบนี้เหมือนกัน และแน่นอนว่าภาพที่ออกมากลายเป็นที่พอใจของลูกค้าที่น่ารักของเขาเสมอ คลิปผลงานความฮาระหว่างการถ่ายภาพงานแต่งก่อนหน้านี้ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียน่ารักๆ ในการมอบรอยยิ้มและความสุขให้กับคนรอบข้าง อีกทั้งยังทำให้การทำงานออกมาได้ดีมากขึ้นด้วยนะเนี่ย หากใครชื่นชอบความฮาและผลงานของช่างภาพคนนี้ สามารถเข้าไปติดตามกันได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Jonathan Suckling Photography ที่มา: imgur
-
เรื่องราวของ ‘คุกโลมาดำ’ ที่ไม่ได้น่ารักเหมือนชื่อ เพราะนี่คือคุกที่โหดที่สุดในรัสเซีย
คงไม่มีใครอยากติดคุก การต้องติดอยู่ห้องขังหรือรั้วกั้นที่ทำให้เราไม่ได้รับอิสรภาพและไม่ได้เห็นสิ่งต่างๆ ภายนอกเป็นเรื่องที่น่ากลัวเกินบรรยาย แล้วยิ่งถ้าเป็นคุกที่ขึ้นชื่อว่า “โหดที่สุด” แล้ว มันก็ยิ่งเลวร้ายมากกว่านั้น เหมือนกับสถานที่แห่งนี้ นี่คือคุกที่ชื่อว่า Black Dolphin หรือแปลไทยก็คือ โลมาดำ ตั้งอยู่บนชายแดนประเทศคาซัคสถาน เป็นคุกที่เรียกได้ว่า “โหดที่สุดในรัสเซีย” และการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาเอามากๆ มันโหดขนาดไหนและนักโทษภายในนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง เราลองไปสำรวจกันผ่านภาพเหล่านี้ ชื่อของคุกถูกตั้งขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการ จากนักโทษที่ได้เห็นรูปปั้นที่ตั้งอยู่ด้านหน้า ในสถานที่แห่งนี้มีผู้ต้องขังอยู่ราวๆ 700 คน ทั้งฆาตกรต่อเนื่อง มนุษย์กินคน หรือผู้ก่อการร้าย ว่ากันว่าจำนวนของเหยื่อที่นักโทษในคุกแห่งนี้ลงมือสังหารมีประมาณ 3,500 คน เฉลี่ยแล้วเท่ากับ 5 คดีต่อหนึ่งผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังเหล่านี้ส่วนมากถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต อย่างเช่นในภาพคือนักโทษ Vladimir Nikolayev หนึ่งในมนุษย์กินคน เขาได้ฆ่าชายคนหนึ่งแล้วลากไปที่ห้องน้ำเพื่อหั่นศพออกมาเป็นชิ้นๆ เขากินศพไปบางส่วน ก่อนที่จะแบ่งไปให้คนอื่นๆ ที่คิดว่านั่นคือเนื้อจิงโจ้ เพราะอย่างนั้นเองจึงทำให้ Vladimir คืออีกหนึ่งฆาตกรสุดโหดในรัสเซีย หลังจากที่นักโทษเข้ามาอยู่ในคุกแล้ว พวกเขาจะได้รับการเฝ้าดูผ่านกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง ในแต่ละห้องขังจะถูกกั้นด้วยกรงเหล็กถึง 3 ชั้น เพื่อให้ผู้ต้องขังรู้สึกเหมือนกับการอยู่ในคุกซ้อนคุก…
-
โมเมนต์แห่งรักบริสุทธิ์ เมื่อชายหนุ่มดาวน์ซินโดรมได้กอดเด็กน้อยอย่างน่าเอ็นดู
การกอดคือหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่เราจะถ่ายทอดความรักความห่วงใยให้แก่กันและกัน ซึ่งมันอาจไม่ได้ทำให้เกิดรอยยิ้มกับแค่คนสองคน เพราะคนอื่นๆ ที่ได้มาเห็นก็อดที่จะยิ้มไม่ได้เช่นเดียวกัน เหมือนกับเรื่องราวอันแสนประทับใจของคุณอาหนุ่มผู้ได้กอดหลานชายเป็นครั้งแรก เขาคนนี้มีชื่อว่า Daniel วัย 20 ปี เขาป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรมและนั่นจึงทำให้เขาไม่ได้รับโอกาสที่จะกอดหรืออุ้มเด็กน้อยมาก่อน แม้ว่าเขาจะเป็นคนรักเด็กมากก็ตาม จนในที่สุดเขาก็ได้ทำในสิ่งที่ต้องการมาตลอด เมื่อพี่ชายของเขา Kevin เปิดโอกาสให้เขาได้อุ้ม Maysen Ava ลูกสาวตัวน้อยวัย 3 เดือนของตัวเอง สิ่งที่เห็นทำเอาคนเป็นพี่ถึงกับเกือบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ และถ่ายรูปความประทับใจนี้โพสต์ลงใน Reddit เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2017 พร้อมกับข้อความว่า “น้องผมป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม เขาต้องการอุ้มเด็กมาตลอด แต่ก็ไม่เคยได้รับโอกาสนั้น ผมและภรรยาจึงยื่นลูกน้อยของเราให้” เขาบอกอีกว่า “จากนั้นเหตุการณ์นี้ก็ได้เกิดขึ้น เขากอดลูกสาวเราอยู่นาน 5 นาที และมันก็ทำให้ผมเกือบจะร้องไห้ออกมา” นี่คือการพบกันครั้งแรกของอาหลาน และหลังจากนั้น Daniel ก็ได้เดินทางกลับบ้านของตัวเองที่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ด้วยความทรงจำอันแสนประทับใจที่เขาได้ฝากเอาไว้ให้ใครหลายๆ คน ชาวเน็ตหลายๆ คนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพที่ได้เห็นนี้ “ฉันถึงกับร้องไห้ออกมาเพราะน้องสาวของฉันก็ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรมเช่นเดียวกัน ขอบคุณที่คุณได้ทำอย่างนั้นกับน้องชายของคุณ สิ่งที่เราได้เห็นมันประเมินค่าไม่ได้เลย” “ขอบคุณที่ทำให้เราย้อนคิดได้ว่าความรักคือสิ่งที่เราทุกคนแบ่งปันให้กันอยู่เสมอและเราต้องการมันจริงๆ…
-
หญิงสาวร่ำไห้กลางศาล ระหว่างไต่สวนอดีตแฟนหนุ่ม ที่บังคับให้เธอเดินเปลือยกลางเมือง
การหึงหวงนั้นอาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ยังแสดงให้เห็นว่าคนรักของคุณนั้นยังคงแคร์และใส่ใจคุณอยู่ แต่บางครั้งความหึงหวงที่เกินกว่าเหตุก็อาจจะนำมาสู่ความรุนแรงและทำร้ายคนรักของคุณได้เช่นกัน คณะลูกขุนต้องอึ้งกันทันทีหลังจากที่ได้เห็นคลิปวิดีโอของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกบังคับให้เดินเปลือยกายทามกลางอากาศหนาวของเมืองนิวยอร์ก หลังจากที่แฟนหนุ่มของเธอจับได้ว่าเธอแอบส่งข้อความหาชายอื่น “เขาบีบคอฉัน และทรมานฉัน ในตอนนั้นฉันแทบจะหมดลมหายใจทีเดียว” หญิงสาววัย 25 ปีให้การกับศาล หลังจากที่เธอถูก Jason Melo แฟนหนุ่มทรมานนานกว่า 2 ชั่วโมงก่อนที่จะบังคับเธอออกมาด้านนอกพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียวท่ามกลางอากาศหนาว และอัดคลิปวิดีโอประจานเธอ นอกจากนี้หนุ่มวัย 26 ปียังถูกกล่าวหาอีกว่าเขาพยายามจะขว้างรูปปั้นพระพุทธรูปใส่เธอ ในขณะที่ลูกสาวตัวน้อยของพวกเขานอนห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร ภาพบางส่วนจากคลิปวิดีโอที่ชายหนุ่มถ่ายประจารแฟนสาวของเขา คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในอินสตราแกรมและ LiveLeak ก่อนที่จะถูกนำมาฉายให้คณะลูกขุนในชั้นศาลเมื่อวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ภายในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นถึงคำด่าทอของชายหนุ่มที่พูดกับแฟนสาวของเขาอย่างรุนแรง “ถอดผ้าขนหนูของเธอออก แล้วเดินไปเธอมันคือนางแพศยา หันมาสวัสดีกล้องแล้วบอกสิ ว่าทำไมเธอถึงต้องทำแบบนี้” “ถอดผ้าเช็ดตัวออกเพื่อตอบแทนกับความละอายใจที่เธอทำกับฉัน ฉันบอกว่าเธอคือผู้หญิงที่ดีที่สุดและอยากจะมีครอบครัวกับเธอ แต่เธอกลับแอบคุยกับผู้ชายมากกว่า 7 คน” คำพูดของชายหนุ่มภายในคลิปวิดีโอ หลังจากนั้นหญิงสาวก็หันมาตอบว่า “แต่ฉันไม่ได้มีเซ็กส์กับพวกเขานะ” นาย Jason ดึงผ้าขนหนูของแฟนสาวออก และปล่อยให้เธอเปลือยกายอยู่บนถนน ก่อนที่หญิงสาวจะพยายามเอามือปิดร่างกายของเธอ และเข้าไปหลบบริเวณที่จอดรถใกล้ๆ หลังจากถูกจับกุมตัว ชายหนุ่มให้การว่าเขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายเธอแต่อย่างใด และตอนนั้นคนอื่นๆ ก็เห็นว่าเธอมีความสุขดี “นักโทษคนอื่นๆ ยังบอกผมเลยว่าบางคนทำสิ่งที่เลวร้ายกว่าผมอีก”…
-
โลกอนาคตมาถึงแล้ว!! 15 ภาพการทำงานของเทคโนโลยี ที่จะทำให้คุณต้องตะลึง ตึงตึง!!
การทำงานของเหล่าเครื่องจักร และสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ นั้นมักจะทำให้เราต้องอึ้งอยู่บ่อยครั้ง และบางทีคุณอาจจะต้องอุทานออกมาว่า โอ้พระพุทธเจ้าเลยทีเดียว!! และวันนี้เราก็มีภาพเคลื่อนไหวสั้นๆ ในการทำงานของเหล่าเครื่องจักรที่ว่านั้นมาฝากกัน ซึ่งขอบอกไว้ก่อนเลยว่าแต่ละอันนั้นจะทำให้คุณตะลึง ตะลึง ตะลึง ตึง ตึง แน่นอน!! 1. แม่เหล็กจิ๋ว Micromotor ที่เอาไว้ช่วยให้เจ้าอสุจิพบกับทางสว่างได้ง่ายๆ 2. หากคุณรู้สึกว่ามดอ้วนไป ก็ต้องใช้ลู่วิ่งของเจ้ามด 3. แปรงทำความสะอาดเจ้าวัวแบบหมุน 4. เครื่องดูดผ้าม่านเพื่อเปิดการแสดง!! 5. เครื่องหมุนน๊อตแบบยืดหยุ่น 6. ต่อไปนี้การปอกแตงโม จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!! 7. รางรถไฟ ที่ไม่มีวันสิ้นสุด!! ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง 8. การสร้างทางด่วนยกระดับแบบโลกอนาคต ง่ายๆ และรวดเร็ว 9. เครื่องพับจรวดกระดาษ สิ่งประดิษฐ์ที่จะทำให้ชีวิตเด็กหลังห้องง่ายขึ้น!! 10. โต๊ะสนุ๊กที่ช่วยรักษาระดับในระหว่างการเล่นบนเรือสำราญ 11.…
-
ศิลปินสาวผู้มี “เซลล์รูปกรวย” ในดวงตามากกว่าปกติ จนมองเห็นสีได้มากกว่าคนทั่วไป 100 เท่า
หลายๆ คนรู้ว่าดวงตาของเราจะมีเซลล์หนึ่งเรียกว่า เซลล์รูปกรวย (Cone Cell) ที่มีไว้สำหรับการแยกแยะสีต่างๆ ที่เรามองเห็น โดยในคนปกติทั่วไปจะมีด้วยกันอยู่ 3 เซลล์ แต่เธอคนนี้กลับพิเศษยิ่งกว่า เพราะเธอมีอยู่ถึง 4 เซลล์เลยทีเดียว หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า Concetta Antico ศิลปินในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เธอคือคนที่มีเซลล์รูปกรวยอยู่ถึง 4 เซลล์ จึงทำให้สามารถแยกแยะสีออกได้มากกว่าคนทั่วไปเกือบ 100 เท่า ลองคิดดูว่าคนปกติมีสามเซลล์ ในหนึ่งเซลล์สามารถแยกแยะได้ 100 เฉดสี และพอมาใช้ร่วมกันก็เลยทำให้เราสามารถแยกได้ราวๆ 1,000,000 เฉดสี แต่เธอคนนี้มีมากกว่าเรา 1 เซลล์ เธอเลยสามารถเห็นสีได้มากราวๆ 99 ล้านเฉดสีเลยทีเดียว นั่นทำให้เธอคนนี้เหมือนอยู่คนละโลกกับเราเลยก็ว่าได้ อย่างเช่น เวลาเรามองสิ่งๆ หนึ่ง เราอาจเห็นแค่สีเดียว แต่สำหรับเธอมันอาจจะมากกว่านั้นและอาจเป็นสีที่เราไม่เคยคิดจินตนาการมาก่อน ถ้าใครจำได้ว่าช่วงปีก่อน เราเคยถกเถียงกันว่าชุดเดรสตัวหนึ่งว่ามันเป็นสีน้ำเงิน-ดำหรือสีขาว-ทองกันแน่ จนกลายเป็นเรื่องราวโด่งดังไปทั่วโซเชียล แต่ Concetta กลับเห็นต่างออกไปมากกว่าเดิม เพราะเธอบอกว่าเธอเห็นเป็นสีเทาเข้มจางๆ…
-
ไม่มีเงินสดไม่เป็นไร เพราะที่นี่คือไชน่า ดินแดนที่มาพร้อมกับการบริจาคเงินผ่าน ‘QR Code’
ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในคนที่ชอบทำบุญทำทานล่ะก็ บริการที่เรานำมาฝากต่อไปนี้อาจจะตอบสนองเหล่าอนาถบิณฑิกเศรษฐีผู้ใจบุญที่ไม่มีเศษเงินได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว!! เพราะที่ประเทศจีนคุณสามารถบริจาคเงินให้กับเหล่าขอทานผ่านการแสกน QR Code ได้แล้ว สื่อท้องถิ่นของจีนได้รายงานเรื่องราวของเหล่าขอทานยุค 4.0 จากมณฑลซานตง ที่กำลังนั่งขอทานอยู่ในย่านท่องเที่ยวและป้ายรับเงินบริจาคจากทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น Wechat Wallet, Alipay หรือแอพต่างๆ ที่สามารถจ่ายเงินผ่าน QR Code ได้ ชายขอทานคนหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อถ้องถิ่นว่า อันที่จริงแล้วตัวเขาเองนั้นไม่ได้เป็นคนที่ QR Code นี้ขึ้นมาเอง แต่ทางครอบครัวและลูกๆ เป็นคนจัดการให้ แต่ดูเหมือนว่าการจ่ายเงินผ่าน QR Code นั้นจะมีอะไรที่นอกเหนือจากการบริจาคเงินธรรมดาๆ แต่ทางบริษัทด้านการตลาดดิจิตอลอย่าง China Channel ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าขอทานชาวจีนนั้นได้รับเงินจากบริษัทในท้องถิ่นให้ติด QR Code ดังกล่าว และหลังจากที่ลูกค้าบริจาคเงินให้ขอทานผ่าน QR Code ทางบริษัทก็จะทำการเก็บข้อมูล และจำหน่ายให้กับบริษัทอื่นๆ เพื่อใช้ในการปล่อยโฆษณาสินค้าให้กับลูกค้า โดยเหล่าขอทานนั้นจะได้ค่าจ้างจากการสแกน QR Code ของลูกค้าประมาณ 0.7 ถึง 1.5 หยวนต่อครั้ง (ประมาณ 3.5 ถึง…
-
คู่รักถูกนินทา “เกาะผู้ชายรวย-หัวงู” เพราะอายุห่างกัน 20 ปี แต่พวกเขาหาได้แคร์ไม่
ความรักนับว่าเป็นหนึ่งความสวยงามบนโลกใบนี้ ความรักทำให้โลกใบนี้สดใสไม่ว่าความรักนั้นจะเป็นความรักในรูปแบบไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นรักครอบครัว รักแฟน รักเพื่อน รักสัตว์ ขึ้นชื่อว่าความรักไม่ว่าอะไรก็ดีไปหมด อีกหนึ่งเรื่องราวความรักของหญิงสาว Stephanie Jarvis อายุ 24 ปีกับแฟนของเธอก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าแฟนหนุ่มของเธอที่ชื่อว่า Andrew Bird จะอายุห่างจากเธอถึง 20 ปีก็ตาม แต่ช่องว่างระหว่างวัยนี้ไม่ได้ทำให้ความรักของทั้งคู่ลดน้อยลง ทั้งคู่พบกันที่ร้านกาแฟที่สาว Stephanie เป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ ทั้งคู่ก็เริ่มคุยกันบ่อยครั้งเพราะว่า Andrew มาซื้อกาแฟบ่อยครั้งและค่อยพัฒนาความสัมพันธ์กันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน และตกลงปลงใจเป็นแฟนกันในที่สุด ในตอนแรกทางครอบครัวของหญิงสาวไม่ค่อยจะยอมรับในตัวหนุ่ม Andrew มากนักเพราะว่าเขาแก่กว่าเธอมาก แต่ด้วยความดีของเขาก็สามารถเอาชนะใจทางครอบครัวของเธอได้สำเร็จ แต่อุปสรรคของทั้งคู่ก็มาเยือนอีกครั้งเมื่อทั้งคู่ไปตามสถานที่ต่างๆ ด้วยกัน เดินจับมือกันเหมือนกับคู่รักทั่วไปทำกันแต่ก็มีพวกชาวบ้านมาซุบซิบนินทาว่า เธอเป็นพวกผู้หญิงที่จ้องจะจับผู้ชายรวยๆ ส่วนฝ่ายชายก็เป็นพวก ‘เฒ่าหัวงู’ และบ่อยครั้งที่ทั้งคู่ออกไปซื้อของตามตลาดหรือห้างสรรพสินค้าก็มักจะมีคนเข้าใจผิดว่าเธอกับแฟนเป็นพ่อลูกกัน ซึ่งเรื่องนี้มันทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยดีนักกับทัศนคติแย่ๆ ที่คนอื่นๆ มีต่อความรักของเธอ เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคน และเธอก็ไม่ได้รักเขาที่เงินด้วย เขาเป็นทุกอย่างทั้งพี่ เพื่อน และแฟนที่ดี เรื่องราวของเธอถูกโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ ซึ่งชาวเน็ตส่วนหนึ่งก็ได้ออกมาให้กำลังใจกับเธออีกด้วย…
-
Sia ทวีตโต้ หลังจากถูกสื่อตั้งคำถาม การใช้แดนเซอร์เด็กไม่ถือเป็นการทารุณกรรมหรือ
ถ้าหากใครที่เป็นแฟนๆ บันเทิงต่างประเทศคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับนักร้องสาวผมปิดหน้าอย่าง Sia กันเป็นอย่างดี และถ้าหากสังเกตดีๆ พักหลังๆ มานี้ในมิวสิควิดีโอหรือการแสดงสดของเธอนั้นก็มักจะปรากฏภาพของสาวน้อยนักเต้นวัย 15 ปีอย่าง Maddie Ziegler ให้เราได้เห็นหน้าค่าตากันอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาสื่อต่างประเทศเองก็ได้ออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้เด็กเป็นสิ่งแทนตัวเองของเธอ โดยสื่อดังกล่าวได้ตั้งคำถามว่า “ความสับสนของ Sia ถ้าหากชื่อเสียงเป็นสิ่งที่อันตราย ทำไมต้องสื่อออกมาผ่านเด็ก” แน่นอนว่างานนี้ขุ่นแม่ Sia ของเราก็ได้ออกมาตอบคำถามดังกล่าว ซึ่งเธอเองก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวว่า เธอเองก็ได้ทำการสอบถามเด็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอยู่เป็นประจำว่าเธอยังคงอยากที่จะทำการแสดงอยู่หรือไม่ และเธอเองก็ยังได้ปรึกษาเรื่องราวดังกล่าวกับทางพ่อแม่ของเด็กและผู้จัดการส่วนตัวของหนูน้อยอยู่บ่อยๆ อีกด้วย “Maddie มีชื่อเสียงอย่างมากตอนที่ฉันพบเธอ ฉันได้เตรียมที่จะรับผิดชอบเมื่อนำเธอเข้ามาแสดง และเป้าหมายของฉันก็คือให้อำนาจเธอในการตัดสินใจกับสิ่งที่เธอเลือก” ข้อความบางส่วนจากทวิตเตอร์ของนักร้องสาว ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะโต้เถียงว่าเด็กวัยรุ่นนั้นอาจจะไม่มีวุฒิภาพวะพอในการเลือก แต่นักร้องสาวก็บอกว่า เธอเองพยายามที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเด็กน้อย และคอยพูดคุยกับเธออยู่เสมอๆ Sia และสาวน้อย Maddie Ziegler นอกจากนี้ Sia ยังได้กล่าวผ่านทวิตเตอร์ของเธอเพิ่มเติมอีกว่า “สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Maddie นั่นก็คือชื่อเสียงที่เกิดขึ้นนั้นมันส่งผลต่อเธอแตกต่างไปจากฉัน ฉันเชื่อทุกอย่างที่เธอพูด และเมื่อไหร่ก็ตามที่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป เราจะหยุดทันที” โดยประเด็นที่ทำให้สื่อออกมาตั้งคำถามดังกล่าวนั้นก็คือ เมื่อปี 2013 นักร้องสาวของเราได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อบันเทิงว่าตัวเธอเองนั้นไม่อยากที่จะมีชื่อเสียง…
-
7 สิ่งที่ร่างกายพยายามจะบอก ว่าสุขภาพจิตของคุณนั้นเข้าใกล้ขีดอันตรายแล้ว
ในบางทฤษฎีอาจบอกว่าร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งที่แยกจากกันโดยสมบูรณ์ แต่เราก็สามารถสังเกตสุขภาพจิตผ่านการตอบสนองของร่างกายเราได้ เพื่อตรวจสอบว่าเรากำลังมีสุขภาพจิตที่ย่ำแย่อยู่หรือเปล่า นักจิตวิทยา Jenny C.Yip จากลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแนะนำถึง 7 สัญญาณที่สามารถสังเกตตัวเราเองว่ากำลังประสบปัญหาสุขภาพจิตอยู่หรือเปล่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อการใช้ชีวิตของคุณในระยะยาว มีอะไรบ้าง เราลองไปดูกันเลย 1. หัวใจเต้นแรง อาการใจสั่นหรืออัตราการเต้นของหัวใจที่สูงผิดปกติคือสัญญาณบ่งบอกว่าคุณกำลังวิตกกังวล และมันยังหมายถึงว่าคุณกำลังตกอยู่ในปัญหาความเครียดเรื้อรัง นั่นเป็นเพราะว่าเวลาที่เรารู้สึกกระวนกระวาย สมองของเราจะปล่อยฮอร์โมนออกมาทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้น 2. มีอาการแปลกๆ เกิดขึ้นกับมือ อาการเหงื่อออกมือคืออีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังจมอยู่กับความวิตกกังวล ซึ่งอาการดังกล่าวสามารถพบบ่อยเวลาที่คุณถูกกระตุ้นให้ต้องคิดว่า “จะสู้หรือจะถอยหนี” ทำให้ระบบประสาทในร่างกายของเราตอบสนองออกมาอัตโนมัติ 3. รู้สึกว่าภายในร่างกายปั่นป่วนไปหมด การตอบสนองแบบ “จะสู้หรือจะถอยหนี” จะทำให้ร่างกายของเราปล่อยอะดรีนาลีนออกมา จนทำให้การทำงานของระบบย่อยอาหารช้าลงหรืออาจหยุดไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นหากใครตกอยู่ในความเครียดตลอดเวลา ก็จะมีอาการมวนๆ ท้อง จนอาจกลายเป็นอาการของโรคลำไส้แปรปรวน ที่ทำให้รู้สึกปวดท้องท้องผูก หรือท้องเสียได้ 4. รู้สึกปวดหัวตุบๆ อยู่เสมอ หากคุณยังคงมีความเครียดไปเรื่อยๆ อาการปวดหัวเรื้อรังก็จะตามมาอย่างง่ายดาย ซึ่งอาการนี้มักเกิดขึ้นในช่วงสายๆ เที่ยงๆ และจะเป็นอย่างนี้ไปนานหลายเดือน 5. รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา การใช้ความคิดอย่างหนักจะทำให้ร่างกายของเรารู้สึกเหนื่อยตามไปด้วย จิตใจของเราก็เปรียบได้กับจานหนึ่งใบ…
-
โลมาหลังค่อมที่มีพฤติกรรม “แอ๊วสาว” เหมือนมนุษย์ นักวิทย์ฯ สงสัยนี่แกจีบหรือข่มขู่กันแน่??
อย่างที่เรารู้กันดีว่าพวกลิงนั้นเป็นสัตว์ที่ฉลาด และมีพฤติกรรมคล้ายมนุษย์ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่นอกจากพวกลิงแล้วสัตว์อย่างโลมาสายพันธุ์หลังค่อมเองก็มีพฤติกรรมคล้ายๆ กับพวกเราด้วยเช่นกัน จากการศึกษาของมหาวิทยาลัย University of Western Australia พบว่าพวกโลมาสายพันธุ์นี้มีพฤติกรรมการแอ๊วสาวคล้ายกับมนุษย์เราอย่างมาก โดยพวกมันนั้นมักจะมีสิ่งของต่างๆ ที่นำไปมอบให้กับตัวเมียเพื่อสร้างความสัมพันธ์รักนั่นเอง จากการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเจ้าโลมาสายพันธุ์นี้มาเป็นเวลากว่า 7 ปี ทีมวิจัยพบว่าพวกมันมักจะนำฟองน้ำทะเลสีสันสดใสวางไว้บนหัวของตัวเอง ก่อนที่จะนำไปให้กับโลมาเพศเมีย ซึ่งทีมวิจัยพบพฤติกรรมดังกล่าวในสถานที่ต่างกันมากถึง 5 ครั้งเลยทีเดียว แต่ดูเหมือนว่าบางครั้งเหล่าโลมาตัวเมียนั้นจะไม่สนใจของขวัญที่หนุ่มๆ เอามาฝากเลย “เรามักจะเห็นฝ่ายโลมาเพศเมียไม่ค่อยสนใจของขวัญเหล่านั้น และบางครั้งตัวผู้ก็จะโยนฟองน้ำทะเลเหล่านั้นในพวกตัวเมีย” คุณ Simon Allen นักชีวะวิทยาผู้ทำการศึกษาพฤติกรรมของโลมาลายพันธุ์นี้กล่าว ถึงแม้ว่าการมอบฟองน้ำทะเลนี้จะดูเหมือนการเกี้ยวพาราสี แต่นักวิทยาศาสตร์กลับมองว่ามันหนักไปทางพฤติกรรมข่มขู่มากกว่า “เราสามารถอธิบายพฤติกรรมนี้ได้หลายแบบ มันดูเหมือนกับเป็นของขวัญที่ผ่ายชายมอบให้ฝ่ายหญิงเพื่อต้องการผูกมิตร หรืออาจเป็นรูปแบบของการข่มขู่เพื่อให้เธอยอมผสมพันธุ์กับเขาก็ได้” คุณ Allen กล่าว ส่วนทางด้าน Naomi Rose นักชีวะวิทยาที่ทำงานร่วมกับ Animal Welfare Institute ได้ให้สัมภาษณ์ว่าพฤติกรรมการเข้าสังคมแบบนี้เป็นเรื่องปรกติในพวกสัตว์ นอกจากนี้คุณ Allen ยังได้กล่าวอีกว่าอันที่จริงแล้วยังมีปลาโลมาสายพันธุ์อื่นที่มีการเข้าสังคมโดยการมอบกิ่งไม้หรือหินในท้องทะเลให้กับเพศเมีย แต่มีเฉพาะโลมาหลังค่อมเท่านั้นที่จะมอบฟองน้ำทะเลให้แก่กัน แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางทีมวิจัยกำกลังศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมดังกล่าวว่าโลมาที่นำฟองน้ำทะเลมอบให้แก่กันนั้นมีโอกาสที่จะผสมพันธุ์มากกว่าตัวอื่นๆ หรือไม่ ไปชมพฤติกรรมการมอบฟองน้ำทะเลให้กับสาวของเจ้าโลมาหลังค่อมกันได้เลย ที่มา thedodo
-
มือดีใช้ระบบ ‘อัลกอริทึ่ม’ เปลี่ยนใบหน้าของดาราหนังโป๊ ให้กลายเป็น Gal Gadot ได้!?
ด้วยเทคโนโลยีอันก้าวล้ำในปัจจุบัน ทำให้โปรแกรมต่างๆ ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์สามารถสร้างประโยชน์ได้อย่างมากมาย ซึ่งก็มีหลายคนที่นำโปรแกรมเหล่านี้ไปสร้างประโยชน์ให้กับสังคม แต่ก็มีอาจมีบางคนใช้ไปในทางที่ผิดเหมือนกับคนๆ นี้ได้นำใบหน้าของดาราภาพยนตร์เรื่องดังไปตัดต่อใส่ในหนังโป๊ซะอย่างงั้น และเหยื่อของการกระทำครั้งนี้ก็คือ Gal Gadot ดาราสาวสุดสวยผู้โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง Wonder Women โดยเธอถูกตัดต่อใบหน้าลงไปในวิดีโอโป๊เรื่องหนึ่ง โดยในฉากนั้นเธอต้องมีเซ็กส์กับลูกพี่ลูกน้องของเธอเอง และจากภาพวิดีโออันล่าสุดของ Gal หากลองมองดูดีๆ จะพบว่ายังมีร่องรอยของการตัดต่ออยู่ อย่างบางทีก็มีใบหน้าที่เคลื่อนหลุดออกจากตัวบ้าง และคำพูดที่ออกมาก็ยังไม่ตรงกับปากอีกด้วย Gal Gadot ในวิดีโอโป๊ที่เธอถูกตัดต่อลงไป วิดีโอโป๊นี้ได้ถูกเผยแพร่ลงในเว็บบอร์ดชื่อดังก้องโลกอย่าง Reddit ผ่านผู้ใช้ชื่อว่า deepfakes เป็นผู้โพสต์วิดีโอดังกล่าว โดยเขาได้อธิบายว่าเขาสร้างวิดีโอการตัดต่อเหล่านี้ขึ้นโดยใช้ machine learning อัลกอริทึ่มสาธารณะ ที่ใครๆ ก็สามารถใช้งานได้ที่มีชื่อว่า Tensorflow ของ Google ในการตัดต่อวิดีโอครั้งนี้ โดยในอดีต ยูสเซอร์ deepfakes ก็เคยตัดต่อดาราฮอลลีวูดลงไปในหนังโป๊แนวฮาร์ดคอร์มาแล้วหลายคนไม่ว่าเป็น Scarlett Johansson, Maisie Williams, Taylor Swift, Aubrey Plaza และเหยื่อรายล่าสุดก็คือ Gal Gadot นั่นเอง ลองดูดีๆ แล้วจะพบความไม่แนบเนียนอยู่ สำหรับ deefakes นั้นเขาได้ออกมาเผยว่าเขาไม่ใช่นักวิจัยปัญญาประดิษฐ์แต่อย่างใด เขาเป็นเพียงโปรแกรมเมอร์คนหนึ่งที่สนใจในระบบ…
-
ผู้เชี่ยวชาญเครื่องสำอางเกาหลี เผยวิธีบำรุงผิวพรรณให้ดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เรื่องความสวยความงามเป็นสิ่งที่หญิงสาวทุกคนมักจะดูแลใส่ใจเป็นพิเศษ อย่างที่ว่าผู้หญิงกับเรื่องสวยๆ งามๆ น่ะเป็นของคู่กัน เรื่องแบบนี้จะยอมน้อยหน้าคนอื่นได้ยังไงล่ะ เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า พี่ขอเปย์ ผู้หญิงแต่ละคนต่างก็มีวิธีการดูแลตัวเองที่แตกต่างกันไป แต่ในวันนี้ #เหมียวบู้บี้ ก็ได้ไปเจอบทความหนึ่งที่เกี่ยวกับการดูแลผิวหน้าของผู้หญิงโดยผู้เชี่ยวชาญในเรื่องความสวยความงามจากเกาหลีมาให้คุณผู้อ่านได้ลองทำตามกัน Miss Daisy ยูทูบเบอร์และบิวตี้บล็อกเกอร์สาวชาวเกาหลีได้ออกมาเปิดเผยวิธีการดูแลผิวหน้าที่ถูกวิธี โดยเธอได้บอกว่าที่ทุกๆ คนส่วนใหญ่ทำอยู่น่ะ มันผิดทั้งนั้น ถ้าไม่อยากหน้ามีริ้วรอยก่อนวัยอันควรเนี่ย ก็ลองทำตามวิธีของเธอได้เลย ขั้นตอนแรกก็คือการทำความสะอาดผิวหน้า สาวๆ ทั้งหลายพอกลับมาจากการไปเผชิญกับโลกภายนอก ที่ต้องเจอทั้งฝุ่นควัน แดด ฝน อะไรต่อมิไรมากมาย พอกลับบ้านปุ๊บอย่างแรกที่ทำเลยก็คือการโบกคลีนซิ่งทันที ซึ่ง Daisy บอกเลยว่ามันผิด! สาวๆ ควรจะใช้สเปร์ยน้ำแร่ฉีดเข้าไปที่หน้าเพื่อเป็นการเตรียมผิว ฉีดสเปร์ยน้ำแร่ก่อนให้ชุ่มทั้งหน้า หลังจากนั้นก็ใช้คลีนซิ่งเช็ดเอาเครื่องสำอางออกให้หมด โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นเครื่องสำอางแบบกันน้ำ เพราะถ้าล้างไม่สะอาดล่ะก็พวกคราบเครื่องสำอางจะไปอุดตันในผิวหน้าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้ หลังจากที่ล้างเครื่องสำอางออกจนหมดจดแล้ว สาวๆ คนไหนอยากจะมาส์กหน้าต่อก็สามารถทำได้เลย หลังจากที่ฉีดสเปร์ยแล้วค่อยใช้คลีนซิ่งเพื่อไม่ให้ทำร้ายผิวมากเกินไป เช็ดวนไปค่ะ มาส์กหน้าเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว แต่อย่าทิ้งไว้นานนะ แทนที่จะเพิ่มความชุ่มชื่นจะกลับกลายเป็นผิวแห้งแทนจ้า หรือจะใช้ซีรั่มบำรุงผิวก็แล้วแต่สาวๆ เลยจ้า และอีกหนึ่งความเชื่อของสาวๆ…
-
คดีแย่งแมวอีรุงตุงนัง แต่ที่น่าสนใจคือ “ของกลาง” ที่ห้ามเคลื่อนย้าย มันน่ารักเหลือเกิ๊น!!
เป็นเรื่องซะแล้วกับคดีสุดอลเวงที่งานนี้มีเจ้าเหมียวมาแจมด้วย เรื่องราวนี้ถูกเผยแพี่ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของคุณ Nutch Prasopsin เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมาหมาดๆ นี้ โพสต์ต้นฉบับ เธอได้โพสต์เรื่องราวที่มีอยู่ว่า “เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งมาก ด่ากันไม่จบ เลยต้องจบที่โรงพัก เรื่อง A ขายแมวให้ B , B ยกให้ C ทำหน้าที่หาบ้านใหม่ให้ ทีนี้ A เห็นเข้าเลยมาทวงคืน เรานี่เป็น C ทีนี้มีการทวงกันผ่าน Social D, E, F คือทีมเสือกที่แท้จริง มีโทรมาข่มขู่อ้างบุคคลไฮโซ ตำรวจนั่นนี่ เลยบันทึกเสียงไว้ ไปแจ้งความ ตอนแรกจะฟ้อง E แต่ตำรวจดูแล้ว D นี่เอ่ยชื่อเพจทำให้คนรู้ว่าผู้เสียหายเป็นใคร เลยต้องพ่วง D ไปด้วย ตอนนี้ E นี่ลบเฟซบุ๊กไปเลย แต่พลาดตรงที่โทรมาข่มขู่เลยมีเบอร์โทรมัดตัว D นี่ปากดีไม่หยุด เลยไม่จบสักที แมวเลยกลายเป็นของกลาง…
-
ชาวเน็ตแซว ‘เจ๊เทย์’ ควงหลัวใหม่ดู ‘เอ็ด’ เล่นดนตรี แถมจู๋จี๋ดู๋ดี๋กันแบบไม่เกรงใจเล้ยยยย!!
หากเพื่อนๆ ได้ติดตามข่าวคราวในวงการบันเทิงต่างประเทศ คงจะรู้ข่าวที่แฟนๆ จับเจ๊ Taylor Swift มาจิ้นกับ Ed Sheeran ที่ดูแล้วฟินกว่าคู่จริงซะอีก แต่ทั้งคู่ออกมาบอกแล้วนะว่าเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น และ Tay เองก็มีหวานใจตัวจริงแล้ว ล่าสุดเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Taylor Swift ได้เป็นหนึ่งในเซเลบที่ถูกเชิญไปร้องเพลงในงาน Capital’s Jingle Bell Ball ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และในคอนเสิร์ตครั้งนี้ Ed คู่จิ้นของเจ๊ก็ได้ขึ้นร้องเพลงด้วย แต่ที่แฟนสังเกตเห็นคือ หลังจาก Taylor ร้องเพลงเสร็จแล้ว เธอก็ลงมาอยู่กับแฟนหนุ่มตัวจริงอย่าง Joe Alwyn เพื่อดูโชว์ที่เหลือด้วยกัน ไม่ใช่แค่ยืนดูคอนเสิร์ตด้วยกันเท่านั้น แต่แฟนๆ ยังเห็นเธอและหลัวใหม่เต้นและร้องเพลง Thinking Out Loud ไปพร้อมกับๆ Ed ที่อยู่บนเวทีด้วย Taylor and Joe watching Ed Sheeran perform #CapitalJBB [IG story: stefflondon] pic.twitter.com/yA3QhqEyQt — Taylor Swift News…
-
คนงานรถไฟใต้ดิน LA บังเอิญเจอซากฟอสซิลอายุ 10,000 ปี คาดว่ามีชีวิตในช่วงยุคน้ำแข็ง
ในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา มีการขุดเจาะขยายทางรถไฟใต้ดินมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งในระหว่างนั้นได้มีการค้นพบซากฟอสซิลของชิ้นส่วนสัตว์ดึกดำบรรพ์หลายชนิด อย่างเช่น กรามกระต่าย ฟันของสัตว์ขนาดใหญ่ หรือช่วงขาของอูฐ แต่ถึงแม้ฟอสซิลเหล่านั้นจะมีอายุเก่าแก่มากขนาดไหน ก็ไม่สามารถทำให้ Ashley Leger รู้สึกพึงพอใจได้เท่าครั้งนี้เลย เมื่อลูกทีมของเธอค้นพบฟอสซิลขนาดใหญ่ที่มีอายุมานานกว่า 10,000 ปี การขุดเจาะเพื่อขยายทางรถไฟใต้ดิน . เธอคนนี้คือผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ โดยการขุดเจาะถนนจำเป็นต้องมีเธอเข้ามาร่วมทีมด้วยก็เพราะว่า เมื่อไหร่ที่มีการพบฟอสซิล เธอจะเป็นคนเข้าไปตรวจสอบผลงานดังกล่าวด้วยตัวเอง ระหว่างการขุดเจาะนานเป็นปีๆ คืนหนึ่งลูกทีมของเธอก็ติดต่อมาและบอกว่า ค้นพบฟอสซิลขนาดใหญ่ ซึ่งนั่นทำให้เธอรีบตรงไปยังไซต์งานดังกล่าวในวันต่อมา ฟอสซิลที่ถูกค้นพบในครั้งนี้ก็มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยค้นพบ เพราะมันคือส่วนกะโหลกของแมมมอธ ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่เมื่อ 10,000 ปีก่อน ในช่วงสุดท้ายของยุคน้ำแข็ง ฟอสซิลขนาดใหญ่ที่บังเอิญพบเข้าระหว่างการทำงาน Ashley หญิงสาวผู้ควบคุมปฏิบัติการการขุดฟอสซิลในครั้งนี้ จากการตรวจสอบ น่าจะเป็นกะโหลกของโคลัมเบียนแมมมอธวัยประมาณ 8-12 ปี และความพิเศษของเจ้าสิ่งนี้คือ ส่วนของงามันยังคงติดอยู่กับส่วนหัว ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่หาได้ยากมากจากฟอสซิลที่เคยค้นพบก่อนหน้านี้ Ashley บอกว่า “มันเหมือนฝันที่เป็นจริง นี่คือหนึ่งในฟอสซิลที่ฉันอยากค้นพบมากที่สุดตลอดชีวิตการทำงาน” โดยก่อนหน้านี้เธอเคยตามหาฟอสซิลแมมมอธในรัฐเซาท์ดาโคตา แต่เธอก็ไม่เคยเจอฟอสซิลที่มีความสมบูรณ์มากขนาดนี้เลย …
-
The Mountain เปิดตัวแฟนใหม่ ตัวเล็กไซส์มินิน่ารัก เอ๊ะหรือว่าพี่ตัวใหญ่เกินไปล่ะเนี่ย!?
เมื่อพูดถึงตัวละครสุดเด่นที่หลายคนจดจำจากซีรีส์ Game of Thrones ก็คงจะมีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักตัวละคร Sir Gregor หรือที่เราเรียกกันว่า The Mountain แน่ๆ ด้วยความที่ตัวละครดังกล่าวนั้นสูงใหญ่และมีบทเด่นๆ ตลอดจึงไม่แปลกเลยที่เขาจะกลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นคือตัวนักแสดงที่มารับบทนี้ Hafthor Julius Bjornsson ซึ่งมีขนาดตัวที่ใหญ่สมกับชื่อ The Mountain มากๆ ยิ่งมายืนเทียบกับ Lena Headey ที่รับบท Cersei ยิ่งเห็นชัดว่าเขาเป็นภูเขาสมชื่อจริงๆ ล่าสุด Hafthor ก็ได้เปิดตัวแฟนสาวนักแสดงชาวแคนาดา Kelsey Henson ซึ่งโดยปกติการเปิดตัวแฟนสาวของดารานักแสดงก็คงจะไม่แปลกอะไรมาก เพียงแต่ว่าคู่นี้กลับกลายเป็นกระแสกันพอสมควรเพราะขนาดตัวทั้งสองคนนั้นมีไซส์ที่แตกต่างกันสุดๆ!! นอกจากขนาดทั้งสองจะต่างกันแล้ว เสื้อของพี่ภูเขาก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน ยิ่งนั่งตักกันแบบนี้ ยิ่งเห็นความต่างของขนาดตัวเหมือนพ่อเอาลูกนั่งตักเลย ฮร่าๆ ตัว Hafthor นั้นมีขนาดตัวที่สูงถึง 212 เซนติเมตร ซึ่งเมื่อเทียบกับแฟนสาว Kalsey ที่สูง 161 เซนติเมตรแล้วชาวเน็ตก็ได้แต่สงสัยว่าแฟนสาวของเขาเตี้ยเกินไปหรือเขาตัวใหญ่เกินไปกันแน่… อย่างไรก็ตามไม่ว่าขนาดตัวของทั้งคู่จะสูงแค่ไหน หรือชาวเน็ตจะตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ของพวกเขายังไง ทั้งสองก็ไม่แคร์และใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยการไปเที่ยวชมธรรมชาติไอซ์แลนด์ แถมยังมีแผนจะไปที่อื่นต่อเมื่อมีโอกาสด้วย ภาพจากอินสตาแกรมของทั้งสองที่ไปเที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยกัน เป็นภาพที่น่ารักจริงๆ มีแฟนสูงย่อมดีเสมอ…
-
ทำไมบริษัทขายยางรถยนต์ “มิชลิน” ต้องมาทำไกด์รีวิวอาหาร “มิชลินสตาร์” ด้วยล่ะ!?
ถ้าหากพูดถึงบริษัท มิชลิน สิ่งหนึ่งที่จะผุดขึ้นมาในหัวของพวกเราเลยนั่นก็คือตุ๊กตาสีขาวหน้ารถ 10 ล้อ เฮ๊ยย!! ไม่ใช่บริษัทผลิตยางระดับโลกต่างหากล่ะ แต่ทว่าถ้าหากคุณเป็นแฟนของหนังเรื่อง Burnt หรือชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารล่ะก็ อาจจะคุ้นเคยกับหนังสือมิชลินไกด์ บุ๊ก กันเป็นอย่างดี และแน่นอนว่าชื่อที่เหมือนกันซะขนาดนี้คงไม่ใช่ความบังเอิญแน่ๆ แต่บริษัทมิชลิน และมิชลินไกด์ บุ๊ก และเรื่องยางกับอาหารนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร วันนี้ #เหมียวเวจจี้ จะพาทุกคนไปหาคำตอบเอง จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์อันยาวนาน อย่างที่เราทราบกันดีว่ามิชลินนั้นคือชื่อของบริษัทผลิตยักษ์ใหญ่ของโลกสัญชาติฝรั่งเศส ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1889 โดยจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทางมิชลินนั้นหันมาสนใจเกี่ยวกับการทำหนังสือไกด์บุ๊กแนะนำอาหารนั่นก็คือในช่วงปี 1900 ทางบริษัทผู้ผลิตมีนโยบายที่ต้องการเพิ่มปริมาณการจำหน่ายยาง จึงเลือกที่จะใช้ตัวไกด์บุ๊กเป็นสิ่งที่แนะนำให้ลูกค้าอยากที่จะขับรถออกไปนอกบ้าน มิชลินไกด์บุ๊กเล่มแรกถูกตีพิมพ์ออกมาทั้งสิน 35,000 ฉบับ โดยภายในหน้ากระดาษกว่า 400 หน้าอัดแน่นไปด้วยข้อมูลต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นการแนะนำการเปลี่ยนยาง สถานที่ตั้งจุดบริการน้ำมัน โรงแรมที่พักรวมถึงร้านอาหาร และแจกให้กับผู้ขับขี่รถยนต์ฟรีๆ แน่นอนว่านี่อาจจะฟังดูเหมือนเรื่องตลก แต่ในสมัยที่ทั่วฝรั่งเศสมีรถยนต์เพียงแค่ 3,000 คัน นี่ก็ถือเป็นแผนการกระตุ้นการใช้รถยนต์ได้ดีทีเดียว และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานหนังสือแนะนำร้านอาหารที่น่าเชื่อถือมากที่สุดเล่มหนึ่ง!! แผนโปรโมตอาจจะไม่ได้ผล!! แน่นอนว่าการที่บริษัทผลิตยางจะมาแนะนำอะไรแบบนี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว และยิ่งการแจกฟรีก็ยิ่งทำให้ไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ามากเท่าไหร่ มันถูกนำไปใช้ในจุดประสงค์อื่นๆ ที่ไม่ใช่การออกไปตามหาร้านดังๆ อย่าที่ทางบริษัทตั้งใจ ดังนั้นในปี 1920 ทางมิชลินจึงได้มีการจัดทำไกด์บุ๊คใหม่ใหม่และทำการจำหน่ายเป็นครั้งแรก!! …
-
เมื่อชาวอิตาลีเจอ ‘พิซซ่าหน้าโคตรฮาวาเอี้ยน’ แล้วชีวิตนี้ตูจะต้องทำอย่างไรต่อจากนี้…
พิซซ่าถือเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติของชาวอิตาเลี่ยน จากข้อมูลระบุว่าเจ้าแป้งโรยหน้าด้วยชีสและใบโหระพานี้ถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 700 ปี ก่อน และถ้าหากพูดถึงพิซซ่าหน้าดังเดิมอันเป็นที่ชื่นชอบของชาวอิตาเลี่ยนเลยนั่นก็คือพิซ่าหน้า Margherita นั่นเอง Margherita หรือ พิซซ่ามาเกริต้านั้นถือเป็นพิซซ่าหน้าพื้นฐานของชาวอิตาลี ซึ่งมีองค์ประกอบเพียงสี่อย่างเท่านั้นคือแป้งพิซซ่า ชีส ซอสมะเขือเทศ และ ใบโหระพา และถึงแม้ว่าปัจจุบันพิซซ่านั้นจะกลายเป็นอาหารที่คนทั่วโลกนิยมรับประทาน และมีการคิดค้นหน้าพิซซ่าขึ้นมามากมาย แต่สำหรับชาวอิตาเลี่ยนแล้วพิซซ่าแบบดังเดิมพร้อมกับซอสมารีนาร่า นั้นก็ยังถือว่าเป็นที่นิยมอยู่ โดยเฉพาะที่เมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี แฟนเพจ Fanpage.it ได้อัพเดตคลิปวิดีโอแกล้งชาวเมืองเนเปิลส์ โดยการแอบส่งพิซซ่าหน้าฮาวาเอี้ยนให้พวกเขาแทนพิซซ่าหน้า Margherita แต่แค่นั้นดูเหมือนว่าจะยังไม่สาแก่ใจพี่หนุ่มเคราดกผู้ดำเนินรายการ เพราะหน้าฮาวายเอี้ยนที่พี่แกเอาไปแกล้งชาวเมืองนั้น เป็นฮาวายเอี้ยนแบบพิเศษที่มีสัปปะรดชิ้นเท่าฝ่ามือถึง 4 แผ่นเลยทีเดียว!! และเมื่อทำการรับออเดอร์เป็นที่เรียบร้อย งานนี้พ่อหนุ่มของเราก็เริ่มปฏิบัติการแกล้งทันที เขาทำการส่งพิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยนแบบพิเศษให้กับเหล่าลูกค้าตามบ้านต่างๆ และเมื่อลูกค้าผู้หิวโหยที่ทนรอคอยพิซซ่าหน้า Margherita มานานกว่า 5 นาที ได้พบกับของฝากจากฮาวาย งานนี้พวกเขาก็ถึงกับอารมณ์บูดกันเลยทีเดียว และหนักกว่านั้นคือพวกเขาไม่ยอมแตะมันเลยแม้แต่น้อย!! ของอิตาเลี่ยนแท้ๆ มันต้อง Margherita ว้อยยย!! แต่หลังจากที่การแกล้งเริ่มกลายเป็นเรื่องไม่ฮาสำหรับเหล่าลูกค้าผู้หิวโหย ชายหนุ่มคนดังกล่าวก็รีบเฉลยว่านี่เป็นเพียงการล้อเล่นขำๆ เท่านั้นจ้าาา พร้อมกับเอาพิซซ่าหน้าที่พวกเขาต้องการให้ถึง 2 กล่องเลยทีเดียว ไปชมความฮาของคลิปวิดีโอนี้ได้ที่นี่เลย… ชาวอิตาเลี่ยนนี่เค้าช่างใส่ใจกับเรื่องอาหารการกินกันจริงๆ…
-
ชุบชีวิตภาพสีให้นางฟ้าไบเกอร์จากแก๊ง Hells Angel ความเท่ที่ไม่เป็นสองรองผู้ชาย…
ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในคนที่คลั่งไคล้มอเตอร์ไซค์ Harley Davidson หรือแฟนตัวยงของซีรีย์ Sons of Anarchy คุณคงจะคุ้นเคยกับชื่อของแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่แสบที่สุดในโลกอย่าง Hells Angels แน่นอน และนอกจากจะมีชาวแก๊งที่เป็นผู้ชายแล้ว ใน Hells Angels เองก็ยังมีเหล่าไบค์เกอร์ที่เป็นผู้หญิงด้วยเช่นกัน และเมื่อไม่นานมานี้ช่างภาพหนุ่ม Loughrey ก็ได้นำภาพถ่ายของสาวๆ จากแก๊งนางฟ้านรกจากช่วงปี 1960 ถึง 1970 มาปัดฝุ่นและแต่งแต้มสีสันเข้าไปให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น!! ช่างภาพชาวไอริชวัย 39 ปีได้ทำให้ภาพจากอดีตเหล่านี้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง “ภาพถ่ายเหล่านี้เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น เมื่อผมเห็นมันผมก็เกิดคำถามขึ้นทันทีเลยว่าทำไมภาพเหล่านี้ถึงไม่ถูกนำไปตีพิมพ์ลงในนิตยสาร มันอาจจะเป็นเพราะบรรณาธิการหรือขัดต่อหลักการเมืองผมก็ไม่ทราบ” ความหลงใหลในมอร์เตอร์ไซค์ Harley-Davidson เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของการชุบชีวิตภาพถ่ายเหล่านี้ แก๊ง Hells Angels นั้นก่อตั้งขึ้นมาจากกลุ่มชนชาวอเมริกันผิวขาว พวกเขาถือเป็นเหล่าอาชญากรของสหรัฐอเมริกา และมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ความรุนแรง โดยแต่เดิมภาพถ่ายชุดนี้เป็นฝีมือของคุณ Bill Ray ช่างภาพนิตยสาร LIFE ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตประจำวันของเหล่าชาวแก๊งไม่ว่าจะเป็นการพบปะสังสรรค์ หรือการพักผ่อนในร้านกาแฟและบนหลังมอเตอร์ไซค์ของพวกเขา แต่น่าเสียดายที่ภาพต้นฉบับนั้นไม่ได้รับการเผยแพร่ในนิตยสารแต่อย่างใด . คุณ Loughrey ใช้เทคนิคพิเศษที่เรียกว่า SMTM ในการคืนชีพให้กับภาพถ่ายเหล่านี้ ภาพของการรวมตัวกันด้านนอกร้าน Blackboard Cafe ในเมืองเบเกอร์สฟีลด์ สหรัฐอเมริกาในปี 1965 …
-
เจ้าเหมียวขัดจังหวะอิหม่ามกลางมัสยิด คัมภงคัมภีร์ไม่สนใจ เป้าหมายอยู่ที่โต๊ะอย่างเดียว!!
อย่างที่พวกเราทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า เหล่าเจ้าเหมียวนั้นมักจะมีนิสัยซุกซนและชื่นชอบการสำรวจเป็นพิเศษ บางครั้งพวกมันก็มักจะซนในเวลาที่พวกเรากำลังยุ่งๆ อยู่ไม่ว่าจะเป็นตอนที่คุณกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะ (เล่นดนตรีน่ะ อย่าคิดมาก) หรือเวลาที่คุณกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม (เย็บผ้าจ้า) พวกเจ้าเหมียวก็มักจะเข้ามาอยู่ใกล้ๆ และออดอ้อนคุณอยู่บ่อยๆ และเจ้าเหมียวตัวนี้เองก็เช่นกัน เมื่อมันกำลังเรียกร้องความสนใจจากอิหม่าม ในขณะที่เขากำลังอ่านคัมภีร์อยู่ แต่ถึงแม้ว่าจะถูกกวนใจแค่ไหน อิหม่ามก็ยังคงแน่วแน่ในพระคัมภีร์ แถมไม่ได้ไล่เจ้าเหมียวไปไกลๆ อีกด้วย คลิปวิดีโอความยาวเกือบๆ 2 นาทีจากช่องยูทูบ Ahmad Al-fahad ได้เผยให้เห็นถึงความน่ารักของเจ้าเหมียวตัวน้อยที่เข้ามาระหว่างการอ่านพระคัมภีร์ของอิหม่ามและชาวมุสลิม แต่ดูเหมือนว่าเจ้าเหมียวตัวน้อยจะไม่ได้สนใจฟังพระคัมภีร์เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะดูเหมือนกับว่ามันกำลังจ้องหาที่ปีนอยู่และเหมือนกำลังคิดว่า “นี่ฉันจะขึ้นไปข้างบนโต๊ะได้ยังไงกันนะ!?” และหลังจากที่หาช่องทางอยู่นาน ในที่สุดเจ้าเหมียวก็สามารถขึ้นไปบนโต๊ะได้สำเร็จ เอ๊า!! แบบนี้มันต้องฉลอง ชมความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้าเหมียวตัวนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… น่ารักจริงๆ เลยน๊าาา เจ้าเหมียว ที่มา iizcat
-
เทียบอดีตและปัจจุบันของ “อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์” ย้อนรำรึกเหตุการณ์ความสูญเสียที่ไม่อาจลืมเลือน
ในเช้าวันที่ 7 ธันวาคมปี 1941 เหตุการณ์โจมตีอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นเหตุให้มหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาตัดสินใจเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านไปแล้วกว่า 76 ปี เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของเหล่าทหารที่ประจำการอยู่ ณ อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ บนเกาะฮาวาย กันได้เป็นอย่างดี ซึ่งความสูญเสียเหล่านั้นก็คงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน และภาพถ่ายเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์ที่มีทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตมากกว่า 2,403 คนนี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับภาพปัจจุบันก็อาจจะให้ข้อคิดบางอย่างกับพวกเราได้… ภาพของเหล่าทหารที่กำลังอยู่ในแนวป้องกัน เพื่อเฝ้าระวังการโจมตีของเครื่องบิน . ภาพของเรือรบ USS California ที่กำลังลุกไหม้ ส่วนด้านหลังคือเรือรบ USS Arizona ที่กำลังลุกไหม้เช่นกัน เศษซากของเครื่องบินที่เกิดจากการโจมตีของฝ่ายกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ภาพหอคอยแห่งประวัติศาสตร์ ที่รอดจากการโจมตี ปัจจุบันมันถูกใช้เป็นหอบังคับการบิน ภาพการระเบิดของเรือ USS Shaw อีกหนึ่งมุมมองจากเกาะ Ford ระหว่างที่เรือ USS Arizona กำลังถูกโจมตี ซากปรักหักพังของโรงเก็บเครื่องบินที่ 6 บนเกาะ Ford การมองภาพต่างๆ เหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่จะคอยย้ำเตือนให้เรารู้ถึงความสูญเสียของเหตุการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ที่มา businessinsider
-
นางแบบโพสต์ภาพออกงานอีกครั้ง หลังจากที่สูญเสียความเป็นตัวเองให้กับมะเร็ง
Osteosarcoma (ออสทีโอซาร์โคมา) เป็นมะเร็งของกระดูกชนิดร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ยาก ตำแหน่งเกิดมักจะอยู่ที่ช่วงต่อปลายกระดูก แต่พบบ่อยที่ปลายล่างของกระดูกต้นขาใกล้ข้อเข่า และปลายบนของกระดูกต้นแขน อีกทั้งส่วนของขากรรไกรล่างอีกด้วย โดยหากเป็นมะเร็งที่ส่วนขากรรไกรล่างนั้น จะเป็นจุดที่เห็นอาการบวมได้ชัดและเจ็บปวดไปไม่น้อยกว่าบริเวณอื่นๆ ซึ่งความโชคร้ายของมะเร็งที่ขากรรไกรล่างนี้ตกเป็นของ Elizaveta Bulokhova เธอพบอาการบวมที่ขากรรไกรในเดือนพฤษภาคม ปี 2014 ขณะเดินทางไปเที่ยวกับแฟนหนุ่ม Roman Troubetskoi ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ หลังจากนั้นไม่กี่เดือนจนถึงเดือนกรกฎาคม เธอก็รู้สึกเจ็บปวดเกินกว่าจะทนรับได้และรู้ว่านี่มันเป็นมากกว่าอาการปวดฟัน หลังจากได้รับการตรวจชิ้นเนื้อและการสแกน CT แล้ว ก็พบว่าสาวอายุ 24 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Osteosarcoma และข่าวร้ายมากกว่านั้นคือเธอต้องมีชีวิตอยู่โดยการตัดขากรรไกรออก… มันเป็นเรื่องยากที่จะทำใจยอมรับ เพราะ Bulokhova เธอทำงานเป็นนางแบบมาเป็นเวลากว่า 7 ปี ที่เดินรันเวย์ไปทั่วโลก งานแฟชั่นคือชีวิตของเธอ มันทำให้เธอยังยืนอยู่ได้และมันทำให้เธอได้ท่องเที่ยวไปทั่วโลก แต่ที่ร้ายแรงกว่านั้นก็คือหลังจากการผ่าตัดเธอจำเป็นที่จะต้องทำแท้งลูกในท้อง เนื่องจากจะต้องบำบัดด้วยเคมีถึง 5 รอบ ซึ่งเด็กในท้องนั้นก็คือลูกชายคนแรกของเธอ “ลูกของฉันเขาชอบที่จะดิ้นไปมา ฉันชอบที่จะคุยกับเขาบ่อยๆ ในขณะที่เขาอยู่ในครรภ์ของฉัน” “ฉันบอกให้ลูกชายของฉันหยุดเคลื่อนไหว เพราะฉันไม่สามารถที่จะรักษาเขาไว้ได้ และเขาก็ทำอย่างนั้นทันที ลูกชายของฉันหยุดนิ่ง เหมือนเข้าใจที่ฉันพูด” แพทย์ที่มหาวิทยาลัย…
-
Tundra Lodge Rolling Hotel โรงแรมเคลื่อนที่ในดินแดนแห่งฝัน พร้อมหมีมาแวะทักทายไล่ล่าแสงเหนือ
เชื่อแน่ๆ ว่าดินแดนในเขตหนาวนั้นถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่ชื่นชอบอากาศเย็นๆ และความสวยงามของแสงแดดที่กระทบกับสีขาวของหิมะอย่างแน่นอน และคงจะดีไม่น้อยถ้าหากว่าคุณได้ท่องไปทั่วดินแดนหิมะเหล่านั้น พร้อมกับมีเจ้าถิ่นอย่างน้องหมีขาว ออกมาทักทายคุณในตอนเช้าๆ เหมือนกับการพักที่โรงแรมเคลื่อนที่ Tundra Lodge Rolling Hotel แห่งนี้!! กินข้าวกันรึยังครับบบ!? ภายในโรงแรมเคลื่อนที่จากประเทศแคนาดาแห่งนี้ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศที่เปลี่ยนไปในทุกๆ เช้า นอกจากนี้คุณยังได้พบกับพวกสัตว์ท้องถิ่นมากมายที่ออกมาทักทายคุณระหว่างการเดินทางอีกด้วย The Tundra Lodge Rolling Hotel นั้นมีห้องพักทั้งหมด 32 ห้อง รวมถึงห้องโถงขนาดใหญ่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมหมีขาวแบบใกล้ชิดอีกด้วย แต่สำหรับใครที่อยากพบปะทักทายกับเจ้าหมีแบบใกล้ชิด ก็สามารถออกมาดูพวกมันใกล้ๆ ด้านนนอกได้เช่นกัน คุณ Steve Dobson ได้ระบุรายละเอียดของโรงแรมเห่งนี้ไว้ในเว็บไซต์ว่า “คุณสามารถสัมผัสกับความสวยงามของที่นี่ไม่ว่าจะเป็นพวกหมีขาว หรือบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้จากหน้าต่างห้องนอนส่วนตัว หรือหลังคาที่สามารถเปิดปิดได้” และอีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับทริปนี้ก็คือการล่าแสงเหนือนั่นเอง . และสำหรับใครที่อยากจะลองสัมผัสความสวยงามของดินแดนหิมะ และทักทายกับเหล่าหมีขาวล่ะก็ ราคาของทริป 7 วันนั้นอยู่ที่ประมาณ 250,000 บาทเท่านั้นเอง!! แค่นี้ชาวเหมียวขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ที่มา dailymail
-
16 เรื่องราวสุดน่ารักที่พ่อหนุ่ม Chris Pratt ทำในปีนี้ แล้วจะไม่ให้เหล่าแม่ยกหลงรักได้ยังไงล่ะ!!
นับตั้งแต่พ่อหนุ่ม Chris Pratt มารับบทเป็น Star-Lord ในหนังเรื่อง Guardian of the Galaxy ก็กลายเป็นว่าหนุ่มคนนี้กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจนติดอันดับแรกๆ หนุ่มฮอตขวัญใจสาวหลายคนกันไปเรียบร้อย ยิ่งในปี 2017 ที่ใกล้จะจบนี้พ่อหนุ่มคนนี้ก็ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างไม่มีหยุดเลยทีเดียว โดยเฉพาะการกลับมาของหนังภาคต่อของเขา รวมถึงการเตรียมการโปรโมต หนังเรื่องใหม่ในปีหน้าอีกเรียกว่างานรัดตัวเลยทีเดียว แต่ว่าก่อนจะไปพูดถึงปีหน้า เรามาย้อนดูกันก่อนดีกว่าว่าพ่อหนุ่ม Chris Pratt เขาได้ทำอะไรน่ารักๆ ไปในปีนี้กันบ้างนะ ในช่วงต้นปี หนุ่ม Chris Pratt ก็เริ่มต้นทุกอย่างได้สวยงามชีวิตแฮปปี้ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปกับครอบครัวและภรรยาสุดสวย หรือจะเป็นการถ่ายรูปหล่อๆ ลงบนอินสตาแกรมของเขา นี่ยังไม่รวมถึงการไปฝังชื่อตนเองที่ฮอลลีวูดอีก ไหนจะแอบไปเยี่ยมเด็กๆ ที่โรงพยาบาลอีกต่างๆ ไปโปรโมตหนังที่โตเกียวก็ยังไม่วายทำให้แฟนๆ ได้หัวเราะเบาๆ แต่ไม่ว่าจะไปไหนเขาก็ไม่ลืมที่จะใช้เวลาและส่งความรักให้กับลูกและภรรยาของเขา Anna Faris จนกระทั่งหนังภาคต่อสุดฮิตของเขาออกฉาย พร้อมกระแสตอบรับสุดเยี่ยม ทำให้ปีนี้เป็นปีที่ดีของเขาเลยทีเดียว แต่ว่าก็เป็นเรื่องเศร้า เพราะแม้ต้นปีจะมีแต่เรื่องดีๆ ของเขา กลับกันในช่วงท้ายปีเขากับภรรยาก็ได้ตัดสินใจหย่าจากกันในท้ายที่สุด อย่างไรก็ตาม…
-
รวมภาพเหตุการณ์สุดแปลกจากชาวเน็ต ที่พวกเขาได้ไปเจอตามสนามบินต่างๆ ทั่วโลก!!
สนามบิน สถานที่สุดธรรมดาที่เต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ ทั้งดีและแย่ปนกันไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาจากการกลับมาพบกันอีกครั้งของเพื่อนหรือครอบครัวที่ไม่เจอกันนาน หรือจะเป็นเหตุการณ์ให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารด้วยกันก็ตาม แต่บางครั้งการที่ความเครียด อาการเจ็ทแล็ก หรือเครื่องบินดีเลย์ก็สร้างความลำบากให้กับเหล่าผู้โดยสารได้ไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งเมื่อผู้โดยสารหลายคนเจอกับปัญหาดังกล่าวความวุ่นวายหลากหลายรูปแบบจึงเกิดขึ้นตามมา และด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงเกิดชุดภาพสุดแปลกที่ชาวเน็ตพากันแชร์เรื่องราวสุดวุ่นวายที่แต่ละคนได้ไปเจอมาที่สนามบินทั่วโลก ซึ่งบางแห่งก็เป็นภาพความทรงจำฮาๆ แต่บางภาพก็เป็นภาพจากเหตุการณ์สุดวุ่นวายที่ดูแล้วจะต้องกุมขมับเบาๆ เลยทีเดียว ว่าแต่จะมีเหตุการณ์ป่วนๆ อะไรบ้างนั้นลองมาดูกัน… หนูน้อยที่ได้รับผลกระทบจากอาการเจ็ทแล็ก ตอนนี้หมดสภาพไม่สามารถสู้ต่อเลยต้องมาเกาะกระเป๋าลากของคุณพ่ออย่างที่เห็น ไหวไหมเนี่ยหนู… หนุ่มคนนี้อยากจะรู้การทำงานของเครื่องสแกนแบบสัมผัสด้วยตัวเอง ผลมันก็เลยตามภาพนั่นแหละ เหล่าผู้โดยสารที่ต่างพากันรอเครื่องบินอย่างตั้งใจ ว่าแต่ทำไมต้องมายืนรอกันตรงนี้ด้วยล่ะ การนอนพักที่สนามบินก็เป็นอะไรที่เราสามารถพบเห็นกันได้บ่อยๆ แต่การจะนอนแบบนี้ได้นั้นเป็นเรื่องยากมากๆ มันคือหมอนรองคอ พวกนายคิดอะไรกันอยู่!! อีกหนึ่งภาพของการนอนรอเครื่องบิน แต่พี่คนนี้ไม่ได้นอนเหยียดเต็มตัวเพราะคงเกรงว่าจะมีคนมานั่งข้างๆ เมื่อสองพี่น้องต้องจากกัน ภาพแห่งความเศร้าจึงเกิดขึ้น การแยกทางมันเศร้าทำให้ต้องมีจูบกันเพื่อบอกลาเป็นบางครั้ง ทว่าอย่าจูบนานเกิน 3 นาทีล่ะ ตกเครื่องไม่รู้ตัวนะ!! นี่อาจจะเป็นวิธีการนอนที่สบายที่สุดเวลาเครื่องดีเลย์สำหรับคนมีคู่ก็ได้นะ บางครั้งคุณแม่ก็มัววุ่นอยู่กับสัมภาระจนลืมว่าเอาลูกวางลงไปด้วย เดี๋ยวนะหนุ่ม ถ้านายเป็นราชาแห่งเหล็ก นายก็ไม่น่าจะผ่านเครื่องสแกนนั่นได้ กระจกที่สะท้อนตัวตนของเรา แม่หนูคนนี้รู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยเกินกว่าจะเดินแล้ว เลยแบกกายหยาบของตัวเองขึ้นไปบนสายพานเพื่อให้มันไหลไปยังจุดหมายซะเลย …
-
เมื่อรายการญี่ปุ่นถามชาวฟินแลนด์ เกี่ยวกับกฎระเบียบอันเข้มงวดของรร. ญี่ปุ่น เด็กฟินแลนด์ถึงกับอึ้ง!!
อย่างที่เรารู้ๆ กันดีอยู่แล้วว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของระเบียบวินัยที่ค่อนข้างเป๊ะไปซะทุกเรื่องรวมถึงกฎระเบียบต่างๆ ในโรงเรียนอีกด้วย และแน่นว่าถ้าหากพูดถึงเรื่องระบบการศึกษาล่ะก็ ประเทศฟินแลนด์เองก็ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าในด้านนี้อันดับต้นๆ ของโลก และอย่างที่เราทราบกันว่าโรงเรียนที่ฟินแลนด์มันคือสวรรค์ของเด็กๆ ชัดๆ ไม่ว่าจะเป็นการบ้านหรือการสอบที่แสนจะน้อยนิด และกฎระเบียบที่ไม่เข้มงวดมาก แต่จะเป็นอย่างไรบ้างถ้าหากเด็กๆ จากฟินแลนด์ได้ยินเกี่ยวกับกฎต่างๆ ของโรงเรียนในญี่ปุ่น?? เมื่อไม่นานมานี้ได้มีชาวเน็ตญี่ปุ่นท่านหนึ่งได้โพสต์ภาพของรายารทีวีที่ได้ได้เผยให้เห็นคำตอบของเหล่าเด็กๆ จากประเทศฟินแลนด์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ภาพจากทวิตเตอร์ของคุณ @noginoginanamai “ในญี่ปุ่นมีกฎว่าห้ามนักเรียนย้อมผมและใส่ต่างหูมาโรงเรียน พวกหนูๆ คิดว่าอย่างไร้าง??” ทางรายการถามเหล่าเด็กๆ ชาวฟินแลนด์ “เราจะไม่ไปโรงเรียนแน่นอน ถ้าหากมีกฎแบบนั้น” ทางเว็บไซต์ Rocketnews ระบุว่ากฎระเบียบในโรงเรียนที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศนั้นอาจจะมาจากจุดประสงค์ของนโยบายการศึกษา ซึ่งจุดมุ่งหมายในการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ก็คือการเรียนของพวกเด็กๆ เท่านั้น ซึ่งต่างจากบางประเทศที่ให้ความสำคัญกับด้านอื่นๆ ด้วย อย่างเช่นความเป็นระเบียบวินัยของเด็กๆ นั่นเอง และแน่นอนว่าหลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพจากรายการทีวีดังกล่าว ก็ได้มีชาวเน็ตญี่ปุ่นเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก ซึ่งบางคนก็บอกว่า “ไม่ใช่แค่โรงเรียนในฟินแลนด์เท่านั้นที่ไม่มีกฎเข้มงวด แต่ในโรงเรียนอาชีวะหรือพวกวิทยาลัยต่างๆ ก็ด้วย ฉันอิจฉาพวกเขาจริงๆ กฎเข้มงวดเหล่านี้ไม่มีทางเปลี่ยนได้เลยอย่างนั้นหรือ??” ในขณะที่บางคนก็บอกว่า “แต่ในโรงเรียนเอกชนแพงๆ ก็ไม่ได้มีกฎที่เข้มงวดเหมือนกันนะ พวกเขาทำให้เด็กๆ อยากเรียนรู้ด้วยตัวเองและกฎต่างๆ เหล่านั้นก็ไม่จำเป็น แต่น่าเสียดายที่โรงเรียนส่วนมากยังมีกฎที่เข้มงวดแบบนี้” แล้วโรงเรียนของเพื่อนๆ…
-
ระบบ AI ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น เปลี่ยนสภาพอากาศในวิดีโอ ให้หิมะกลายเป็นหน้าร้อนได้แล้ว!!
ปี 2017 คือปีแห่ง AI โดยแท้จริง ตลอดทั้งปีมีคนดังมากมายต่างพากันออกมาถกเถียงถึงภัยและประโยชน์ของมันอย่างกว้างขวาง บ้างก็สนับสนุนบ้างก็ต่อต้าน ยิ่งล่าสุดเมื่อตุลาคมที่ผ่านมาทาง Nvidia ก็ได้ออกมาเตือนถึงความสามารถของ AI ที่มีความสามารถมากพอจะบิดเบือนความจริงต่างๆ ได้อย่างไม่ยากเย็น โดยพวกเขาได้โชว์ให้โลกได้เห็นถึงความสามารถของ AI ที่พวกเขาออกแบบขึ้นมา บอกเลยว่าเป็นใครเห็นก็ต้องอึ้งตามๆ กันจนกลับมาตระหนักถีงภัยของมันแน่ๆ AI ในปัจจุบันสามารถที่จะเปลี่ยนภาพสิ่งต่างๆ ให้กลายเป็นอีกสิ่งที่ใกล้เคียงได้ด้วยนะ อย่างภาพนี้จากแมวกลายเป็นเสือชีต้า ความสามารถการบิดเบือนความจริงที่ว่านั่นก็คือ ความสามารถในการแต่งภาพคลิปต่างๆ ให้กลายเป็นอีกแบบได้เรียลไทม์ผ่านอัลกอรึทึมที่เรียกว่า GAM (generative adversarial network) ยกตัวอย่างเช่นคุณขับรถไปตามท้องถนนในหน้าหนาวที่มีหิมะอยู่เต็มไปหมด เจ้า AI ของทาง Nvidia ก็สามารถจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นหน้าร้อนที่มีต้นไม้เต็มไปหมดได้ทันที!? เปลี่ยนหิมะให้กลายเป็นหน้าร้อน ยัง ยังไม่หมดเท่านั้น มันยังสามารถเปลี่ยนกลางวันให้กลายเป็นกลางคืนได้ด้วย!? หรือแม้แต่วันที่ฝนตกก็สามารถให้ฟ้าปลอดโปร่งหรือจะสลับกันก็ได้เช่นกัน ในส่วนของกลางวันเป็นกลางคืนนั้นมันอาจจะยังไม่เนียนเท่าไหร่ เพราะเรายังสามารถแยกส่วนต่างๆ ได้ ด้าน Ming-Yu Liu หนึ่งในทีมวิจัยของ Nvidia ก็ได้บอกว่าจงเชื่อในสิ่งที่เห็นจริงๆ เท่านั้น และเขาก็ไม่รู้ว่า AI ของพวกเขาหรือของคนอื่นๆ มันจะพัฒนาไปถึงระดับไหน…
-
แม้อายุจะเยอะก็ยังทำทีมแข่งได้!! ‘The Silver Snipers’ ทีม CS:GO รุ่นใหญ่แห่งสวีเดน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันนั้น E-Sport ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกีฬาสายหลักในปัจจุบันไปเป็นที่เรียบร้อย เพราะจากสถิติผู้ที่สนใจและจำนวนการจัดแข่งขันทั่วโลกก็มีจำนวนมหาศาลสุดๆ เลยด้วย อย่างไรก็ตามหลายคนก็คงจะคิดว่าการจะเป็นนักกีฬา E-Sport ได้นั้นจำเป็นจะต้องอยู่ในช่วงวัยเด็กไปจนถึงวัยรุ่นตอนปลาย เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่มีการพัฒนาทักษะได้ดีกว่ากลุ่มวัยสูงอายุ แต่ล่าสุดในงาน DreamHack ที่ประเทศสวีเดนก็ได้มีทีมแข่งเกม CSGO (Counter-Strike: Global Offensive) ที่ชื่อว่า ‘The Silver Snipers‘ ได้ออกมายืนยันแล้วว่าการจะลงแข่ง E-Sport ได้นั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นเด็กหรือวัยรุ่นอีกต่อไป เพราะทีมนี้ล้วนมีแต่สมาชิกสูงอายุกันทุกคนโดยคนที่อ่อนที่สุดมีอายุ 62 ปี!? . สมาชิกในทีม The Silver Snipers นั้นประกอบไปด้วย Birdie, Windy, Knitting Knight, Teen Slayer และ Berra Bang โดยสมาชิกที่อ่อนที่สุดในทีมนั้นมีชื่อว่า Wanja “Knitting Knight” Godänge วัย 62 ปี ส่วนคนที่แก่ที่สุดนั่นก็คือ Bertil “Berra Bang” Englund ซึ่งเธอมีอายุถึง 81 ปี!! Berra…
-
งานประติมากรรมไม้สุดอลังการ แต่ดูดีๆ แล้วพื้นผิววัสดุกลับไม่ใช่อย่างที่เห็น…
ปกติแล้วเวลาที่เราจะทำประติมากรรมจากไม้สักชิ้น เราจะต้องหาไม้ชิ้นโตที่มีขนาดใหญ่มากพอเพื่อแกะสลักมันให้ออกมาตามแบบที่เราต้องการ หรือไม่ก็หาไม้ที่มีลักษณะเฉพาะที่เราเห็นแล้วน่าจะใช้มันต่อยอดได้อย่างไม่ยากเย็น แต่สำหรับ Christopher David ช่างทำประติมากรรมยอดฝีมือคนนี้กลับเลือกวิธีที่แตกต่างออกไป เพราะด้วยความที่เขาไม่ได้เป็นแค่ช่างประติมากรรมแต่เขายังเป็นจิตกรด้วย และเมื่อนำสกิลทั้งสองมารวมกันมันจึงทำให้การสร้างผลงานไม้ที่ไม่ต้องใช้ไม้จริงๆ จึงถือกำเนิดขึ้น ดูผ่านๆ ยังไงเราก็ต้องคิดว่ามันคือไม้แน่ๆ แม้แต่รายละเอียดต่างๆ ก็เป๊ะมากๆ ผลงานของ Christopher นั้นจะเป็นการใช้โคลนมาทำเครื่องเซรามิก ซึ่งระหว่างกระบวนการทำก็จะใช้อุปกรณ์พิเศษของเขาในการสร้างลวดลายไม้ และปิดท้ายด้วยการตกแต่งลงสีทุกอย่างให้เสมือนลายไม้เป๊ะๆ นอกจากนี้เขาได้นิยามงานของตัวเองไว้ว่า “การเปลี่ยนแปลงมันคือสิ่งที่ย้ำเตือนเราเสมอว่า ของที่คงทนสภาพเดิมๆ ไว้ ล้วนเป็นภาพลวงตา เช่นเดียวกับงานประติมากรรมของผมที่ผมค้นพบว่า งานเซรามิกของผมมันเป็นการผสมผสานกันระหว่าง มนุษย์ ธรรมชาติ และความไม่ยั่งยืน” “ที่ผมเลือกใช้โคลนแทนไม้จริงๆ นั่นก็เพราะว่ามันนุ่มง่ายต่อการเปลี่ยนรูปร่าง แต่กลับกันมันก็สามารถกลายเป็นของที่แข็งมากๆ ได้ด้วยเช่นกัน ที่สำคัญมันเป็นวัสดุที่หาง่ายมาก” . “กลับกัน แม้ว่าเซารามิกจะเป็นวัสดุที่แข็ง แต่ความจริงมันก็เปราะบางมากเช่นกันเช่นเดียวกับชีวิตของคนเรา” . . . . . . . . . . . สุดท้ายแล้วถ้าใครชื่นชอบในผลงานของ Christopher ก็สามาระเข้าไปติดตามเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ christopherdavidwhite ได้เลย…
-
15 ตัวอย่างของการเลือกชุดราตรี อยากจะดูโดดเด่นกว่าคนอื่น แต่คงจะคิดผิดมหันต์
เวลามีงานแต่งงานของเพื่อนหรือคนรู้จัก เหล่าสาวๆ อย่างเราก็ต้องมาลำบากเตรียมตัวหาชุดไปงานแต่งกันให้วุ่นเลยล่ะทีนี้ ไหนจะแต่งหน้า ทำผม ชุดใหม่ รองเท้าใหม่ นี่ยังไม่นับค่าซองที่จะต้องใส่เพื่อแสดงความยินดีอีก เป็นชะนีนี่มันลำบากจริงๆ นะ แต่เรื่องแบบนี้มันยอมกันไม่ได้ดังคำที่ว่า เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ สาวๆ อย่างเราก็เลยต้องทุ่มทุนสร้างกันซะหน่อย แต่กว่าจะหาชุดสวยๆ และเข้ากับเราได้ในแต่ละงานนะ ลำบากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาซะอีก ทำไงได้ก็เรื่องชุดออกงานมันเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับสาวๆ นี่นา แต่บางครั้งการตามหาชุดราตรีของสาวๆ ก็อาจกลายเป็นความเฟลแบบนี้ได้ 1. ไม่ว่าจะได้ชุดแบบไหน เราก็ต้องแฮปปี้และมั่นใจที่จะใส่มัน 2. บางทีชุดมันจะเด่น แย่งซีนคนอื่นไปหน่อย 3. อยากทราบถึงแนวคิดของดีไซน์เนอร์ที่ออกแบบชุดนี้ 4. มีชุดแบบนี้ไม่กังวลเรื่องของกินในงานไม่พอแล้ว พกมาเองเลย บ่าวสาวจะยืมตัดแทนเค้กแต่งงานก็ได้นะ 5. ชุดแต่งงานแห่งยุค 3018 6. ไม่ว่าใครเห็นชุดนี้เป็นอันต้องงงทั้งงาน 7. ธีมงานโลกใต้ท้องทะเลป่าวเนี่ย 8. จะเลือกแวมไพร์หรือหมาป่าดี 9. เมื่อฉันสั่งซื้อชุดไปงานพรอม ทำไมมันไม่เหมือนกับที่นางแบบใส่เลยอ่ะ เหมือนใส่เกราะเปลือกขนุน…
-
10 ไอดอลเกาหลี ที่ยังคงดูดีสวยเด่น แม้จะไม่ได้แต่งหน้าจัดจ้านก็ตาม
เมื่อพูดถึงดารานักร้องหญิงของเกาหลีแล้วนั้น เราคงจะเคยเห็นพวกเธอในมุมที่เฉิดฉายอยู่บนเวทีเท่านั้น ซึ่งนั่นคือภาพเบื้องหน้าที่พวกเธออาบไปด้วยเมคอัพทั้งหลาย ที่ทำให้ดูขาว ตาโต น่ารักในสไตล์สาวเกาหลี แต่จะมีซักกี่คนที่ยอมเผยมุมส่วนตัวที่ลบเครื่องสำอางไปจนหมด ให้แฟนๆ ได้เห็นกันบ้าง แถมแม้จะลบเมคอัพออกแล้ว พวกเธอก็ยังดูสวยน่ารัก ไม่ต่างกับนักร้องหญิงมากความสามารถที่อยู่บนเวทีเลย จะมีใครที่ถอดรูปแล้วก็ยังดูใสกิ๊กกันบ้าง เราไปชมกันเลย!!! 1. HyunA การแต่งหน้าของ HyunA ดูเหมือนจะจำเป็นเมื่อต้องขึ้นโชว์ซะมากกว่า เพราะในวันชิวๆ แล้วเธอก็ยังดูน่ารักและสวยงามโดยที่ไม่มีเมคอัพ . 2. Seolhyun วง AOA ความน่ารักสดใสแบบซื่อๆ ของเธอ ทำให้เธอดูน่ารักสมวัยแม้ในตอนที่ไม่แต่งหน้าก็ตาม . 3. Goo Hara ความน่ารักที่มาในรูปแบบใสๆ เธอไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าเลยด้วยซ้ำ ก็มีเสน่ห์ล้นเหลือมัดใจหนุ่มๆ แล้วล่ะ . 4. Nana วง After School หน้าสดของสาวเซ็กซี่คนนี้ได้เผยออกมาให้รายการสุดโหดอย่าง Real Men แม้แต่ในสภาพแวดล้อมทางทหารที่ไม่มีอะไรให้เลย เธอก็ยังดูเป็นตัวแม่เหมือนเดิิมไม่เคยเปลี่ยน . 5. Wendy วง Red Velvet แม้ในวันที่ต้องเดินทาง เธอก็ดูเหมือนจะไม่แต่งหน้าเลย เพราะมันดูเนเชอรัลจริงๆ แถมผิวพรรณของเธอยังเปล่งปลั่ง สดใส ไร้สิวอีกด้วย…
-
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ ‘ทางเดินขุรขระ’ ด้วยการออกแบบเพื่อประโยชน์สำหรับคนตาบอดอย่างแท้จริง
หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นเทางเท้ารูปร่างแปลกๆ ที่มีทั้งแบบเส้นและแบบจุด ซึ่งบางครั้งเราเองก็มักจะเกิดความสงสัยว่าแท้จริงแล้วเจ้าทางเท้าขรุขระนี้มีไว้ทำอะไรกันแน่!? เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวเวจจี้ ได้พบเรื่องราวเกี่ยวกับประโยชน์และสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเจ้าทางเดินขรุขระนี้ ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… อันที่จริงแล้วเจ้าทางเดินขรุขระนี้ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับคนตาบอดนั่นเอง โดยแผงคอนกรีตที่มาพร้อมกับรอยตะปุ่มตะปั่มนี้จะช่วยให้คนตาบอดทราบว่าพวกเขากำลังจะออกจากเขตทางเท้าเข้าสู่ถนนแล้ว!! และนอกจากนี้มันยังถูกนำไปใช้สำหรับเตือนในการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง ส่วนสีเหลืองและสีแดงที่ถูกทาไว้บนทางขรุขระเหล่านั้นก็มีไว้สำหรับเตือนผู้ที่สามารถมองเห็นได้บางส่วนนั่นเอง นอกจากนี้แผ่นทางขรุขระนี้ก็ยังมีรูปแบบต่างหัน ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็จะให้ความหมายที่ไม่เหมือนกันด้วย ว่าแล้วเราไปรู้จักรูปร่างหน้าตาของทางเดินสำหรับคนตาบอดในแต่ละรูปแบบกันดีกว่า… 1. Offset Dots แผ่นทางเดินแบบจุดที่เรียงต่อกันเป็นเส้นทแยงนี้ มีความมหายว่าสิ่งที่อยู่ถัดจากเจ้าทางเดินแบบนี้ก็คือทางรถไฟหรือเส้นทางอื่นๆ ที่ไม่ใช่ถนนปกตินั่นเอง 2. Lozenge-Shaped Bumps แผ่นทางขรุขระรูปวงรีนี้ จะคอยเตือนคนตาบอดว่าทางข้างหน้านั้นเป็นเส้นทางของรถราง หรือเส้นทางเดินของระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ 3. Stripes Across a Path เส้นทางเท้าแบบแนวขวางที่จะช่วยเตือนคนตาบอดว่าทางข้างนั้นนั้นเป็นทางต่างระดับ หรือทางเดินขึ้นบันได ซึ่งจะต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น 4. Stripes Along a Path เส้นทางขรุขระแบบตามทางยาวที่มีไว้สำหรับให้คนตาบอดเดินบนพื้นผิวขรุขระนี้เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางระหว่างทางเดิน โดยเริ่มใช้ครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อประมาณปี 1960 ก่อนที่จะกลายเป็นที่นิยมทั่วโลก ลักษณะของเส้นทางเท้าสำหรับคนตาบอดแบบยาว ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินของญี่ปุ่น ที่มา simplemost
-
ชาวเน็ตขุดคุ้ยคุณแม่น้อง Keaton กุเรื่องกลั่นแกล้งขึ้นมา เพื่อเรี่ยไรเงินมาจุนเจือตัวเอง?
ก่อนหน้านี้เราอาจได้เห็นเรื่องราวของ Keaton Jones เด็กหนุ่มที่ออกมาพูดแสดงความรู้สึกเกี่ยวกับการที่ตัวเองถูกกลั่นแกล้งมาโดยตลอด จนทำให้คนดังจำนวนมากเข้ามาพูดให้กำลังใจเขา แต่ในวันนี้ได้มีคนเริ่มพูดถึงอีกหลายๆ ประเด็นที่อาจอยู่เบื้อหลังของเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อชาวเน็ตบางคนได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ Kimberly Jones แม่ของเด็กคนดังกล่าว หลังจากมีคนไปเห็นเพจ GoFundMe ที่เรียกร้องเงินให้ช่วยเหลือ Keaton จากการถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งมีถึง 2 เพจด้วยกัน นั่นจึงทำให้มีคนสงสัยว่าเงินจะสามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้จริงหรือเปล่า? ไม่แน่ว่าความจริงแล้วคุณแม่คนนี้อาจกำลังใช้ลูกเป็นเครื่องมือหาเงินก็ได้ คุณแม่ Kimberly ที่ได้กลายมาเป็นประเด็นจากคลิปลูกของเธอ ทาง GoFundMe ออกมาบอกว่า 1 ใน 2 เพจดังกล่าวถูกตั้งขึ้นมาจากชายคนหนึ่งที่ไม่ได้รู้จักกับ Kimberly เลย ในขณะที่อีกเพจเป็นของคุณแม่ที่เรียกเงินบริจาคสำหรับของขวัญวันคริสต์มาสของ Keaton แต่พอเริ่มมีคนขุดคุ้ยเบื้องหลังของครอบครัวนี้ ทั้ง 2 เพจก็กลับปิดตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หลายๆ คนก็ยังคงสงสัยในตัวคุณแม่คนนี้อยู่ดี เมื่อ Joe Schilling นักศิลปะการต่อสู้แบบผสม (หรือเรียกว่า MMA) ได้พูดคุยกับเธอผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เขากลับรู้สึกไม่พอใจอย่างมากหลังจากที่ความหวังดีของเขาถูกปฏิเสธ เพราะ Kimberly ต้องการแต่เงินเท่านั้น ด้วยความที่เขาสงสาร…
-
รวม 6 เทคนิคป้องกันแดดของเหล่านักแสดงสาวเอเชีย เผื่อว่าใครอยากจะนำไปใช้กันบ้าง
การมีผิวที่ขาวในนั้นเป็นค่านิยมที่สาวๆ หลายคนนั้นปรารถนา แต่การจะมีผิวที่ขาวนวลเหมือนดาราดังนั้น ต้องผ่านการดูแลและปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นอย่างดี ว่าแต่ดาราสาวเอเชียที่ว่าผิวขาวนั้น พวกเธอมีวิธีปกป้องผิวอย่างไรกันนะ ถ้าอยากรู้ก็ต้องตามไปดูเคล็ดลับผิวขาวของดาราดัง ที่เชื่อว่าสาวๆ หลายคนก็สามารถทำได้ แต่ต้องอาศัยความพยายามนิสนึงง 1. ฟ่าน ปิงปิง ฟ่าน ปิงปิง เธอมักชอบหลบอยู่ใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ เพื่อที่จะช่วยปกป้องเธอจากแดด ในบางครั้งเธอก็จะสวมแว่นกันแดดและหน้ากาก หรือเสื้อแขนยาวเพื่อป้องกันผิวสวยๆ ของเธอจากแสงแดด . . 2. หยาง มี่ ระหว่างที่ถ่ายทำภาพยนต์ หยาง มี่ ชอบที่จะทาครีมกันแดดในขณะที่เธออ่านบท 3. หลิวเทา หลิวเทามีชื่อเสียงจากผิวขาวใสของเธอ ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เธอจะมีร่มตลอดเวลาเพื่อปกป้องเธอจากแสงแดด แม้ให้เวลากลางคืนก็ตาม เพื่อนๆ หลายคนอาจจะงงว่าในตอนกลางคืนมันไม่มีดวงอาทิตย์ซักหน่อย ทำไมเธอต้องกางร่มด้วย ซึ่งเหตุผลก็คือในตอนกลางคืนนั้นแม้จะไม่มีดวงอาทิตย์ แต่ก็ยังมีรังสียูวีความเข้มต่ำอยู่เช่นเดียวกัน 4. กู่ลี่นาจา กู่ลี่นาจา เธอพกพาครีมกันแดดไว้กับเธอตลอดเวลา ตลอดทั้งวันเธอจะพ่นหน้าคอและแขนอย่างน้อย 10 ครั้ง!!! 5. ดิลราบา ดิลมูรัต ในช่วงฤดูร้อน ดิลราบา ดิลมูรัต ชอบปกป้องผิวของเธอด้วยการสวมเสื้อโค้ทขนาดใหญ่ เพื่อปกคลุมผิวของเธอจากดวงอาทิตย์ ถึงแม้ว่าวันไหนจะไม่ค่อยมีแดดแต่เธอไม่เคยลืมใส่เสื้อโค้ทยาวๆ เลย…
-
รู้หรือไม่ว่า ‘การกัดเล็บ’ เผยให้เห็นถึงบุคลิกภายใน ที่ซ่อนอยู่ในตัวตนของคนเราด้วย!?
หลายๆ คนอาจคิดว่าการกัดเล็บคือพฤติกรรมของคนที่รู้สึกวิตกกังวลหรือตื่นเต้น แต่ความเป็นจริงพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ นี้ กลับสามารถเผยให้เห็นบุคลิกภาพที่ซ่อนอยู่ภายในได้เลยทีเดียว การศึกษาพฤติกรรมดังกล่าวถูกเผยออกมาผ่านงานวิจัยในปี 2015 ของมหาวิทยาลัย Montreal ประเทศแคนาดา บอกว่าการดึงผมตัวเอง การม้วนผมเล่น การกัดเล็บ หรือการทำอะไรซ้ำไปซ้ำมา สามารถบ่งบอกได้ถึงลักษณะบุคลิกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใน จากงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ใน Journal of Behavior Therapy and Experimental Psychiatry นักวิจัยบอกว่าพฤติกรรมเหล่านั้นคือการแสดงถึงความเบื่อหน่ายและผิดหวัง ซึ่งเป็นอาการของคนที่มีบุคลิกภาพแบบ Perfectionist ผู้ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ และที่น่าเป็นห่วงก็คือการมีลักษณะบุคลิกภาพแบบนั้นมากจนเกินไป อาจทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างผ่อนคลายหรือทำสิ่งต่างๆ ได้เหมือนคนทั่วไป ดอกเตอร์ Kieron O’Connor ศาสตราจารย์จิตเวชหัวหน้าการวิจัยครั้งนี้บอกว่า “คนประเภทนี้มักมีแนวโน้มที่จะรู้สึกสิ้นหวัง ขาดความอดทน และไม่พอใจเวลาที่ไปไม่ถึงเป้าหมาย และพวกเขายังจะมีความเบื่อหน่ายมากกว่าคนปกติอีกด้วย” การกัดเล็บคือพฤติกรรมหนึ่งที่สื่อให้เห็นว่า พวกเขารู้สึกเบื่อหรือผิดหวังกับบางเรื่องจนต้องทำไรซ้ำไปซ้ำมา เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่า “อย่างน้อยก็ยังมีอะไรทำ” ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย แต่สิ่งที่หลายๆ คนคิดว่าการกัดเล็บเกิดจากความเครียดก็ไม่ใช่เรื่องผิดซะทีเดียว เพียงแต่ว่าตามงานวิจัยแล้ว การกัดเล็บเพราะว่าความเครียดหรือตื่นเต้นนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก เมื่อเทียบกับเหตุผลที่พูดมาก่อนหน้านี้…
-
การ์ตูนสั้นจากศิลปินรัสเซีย กับมุมมองที่สื่อถึงชีวิตมนุษย์ บิดเบี้ยวความคิดของเราได้เลย!!
พวกเราอาจเคยชินกับมุมมองของสังคมในปัจจุบัน หลายๆ คนอาจสร้างกรอบความคิดไว้ในหัวบ้างแล้วว่าสิ่งนี้คืออะไรและมันต้องเป็นอย่างไรในสายตาเรา แต่ภาพเหล่านี้จะมาเป็นตัวทำลายและเปลี่ยนความหมายของสิ่งที่เราเคยคิดมาตลอด นี่คือภาพจากศิลปินชาวรัสเซียที่ชื่อว่า Anton Gudim กับรูปวาดการ์ตูนน่ารักๆ เรียบง่ายแต่มีความหมายไปอีกมุมมองหนึ่ง ที่เราอาจไม่เคยจินตนาการมาก่อน และแถมแอบสะท้อนถึงสังคมปัจจุบันอีกด้วย ไปดูกันว่าพอลองมองไปแต่ละภาพแล้ว เพื่อนๆ เข้าใจกันว่าอย่างไรกันบ้าง ชีวิตจริงกับการแต่งภาพที่เริ่มแยกกันไม่ออก ภาพซ้ายอาจทำให้เราคิดว่าเธอนั่งอยู่ในห้อง แต่ความจริงก็อาจไม่เป็นอย่างนั้น เคยมั้ยกับการคลิกที่ดวงตา เพื่อดูว่าพิมพ์รหัสถูกหรือเปล่า บางคนอาจรู้สึกคิดถึงแค่ในโลกโซเชียลเท่านั้นเอง การเติบโตของเรา ขึ้นอยู่กับการรับฟังผู้อื่น หรือปิดกั้นแล้วฟังแต่ตัวเอง สิ่งที่ติดอยู่ สิ่งที่เราคิดว่าน่าจะใช่ ก็อาจไม่ใช่เสมอไปหรอกนะ ก้าวข้ามคำว่าขีดจำกัด เพราะจินตนาการของเรามันไร้ขอบเขต การที่เราเห็นแค่สิ่งๆ หนึ่ง นั่นไม่ได้หมายความว่าเราเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เรารับรู้จากความเคยชิน จนอาจลืมรับรู้ความจริงไปเลยก็ได้ เอกลักษณ์ของผลงานชุดนี้อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับลายเส้นหรือการลงสีใดๆ หากแต่จินตนาการคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ผลงานของเขามีความหมาย ซึ่งถ้าใครสนใจก็สามารถตามไปดูผลงานอื่นๆ ของเขาได้ที่อินสตาแกรม gudim_public ที่มา: designtaxi
-
การถ่ายภาพคลื่นที่ซัดสาดเข้ามายังฝั่งด้วยโดรน เผยให้เห็นถึงความงดงามที่เกินบรรยาย
แพริโดเลีย (Pareidolia) คือปรากฏการณ์ทางจิตที่ทำให้เราเห็นสิ่งๆ หนึ่งที่ไม่มีรูปร่างเหมือนกับอีกสิ่งหนึ่ง ตัวอย่างที่ชัดเจนคือเวลาเรามองก้อนเมฆแล้วเห็นเป็นสัตว์หรือใบหน้า ซึ่งช่างภาพ Peter Adams-Shawn ได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่าปรากฏการณ์นี้ไม่จำเป็นต้องเห็นแค่ในท้องฟ้าแสมอไป เพราะถ้าเรามองมาบนพื้นดินก็เห็นอะไรแบบนี้ได้เหมือนกัน นี่คือผลงานชื่อว่า From The Deep โดยเขาได้ถ่ายภาพมุมสูงบนชายหาด ผ่านกล้องที่ติดอยู่กับโดรนรุ่น Blade Chroma 4K จนทำให้เขาพบว่าคลื่นที่ซัดขึ้นฝั่งมาก็สามารถมองเห็นเป็นสิ่งอื่นได้เช่นเดียวกันกับที่เราเห็นบนก้อนเมฆ ภาพของคลื่นที่ซัดขึ้นมาเพียงชั่วอึดใจเดียวจะทำให้เราเห็นเป็นอะไรได้บ้าง เราลองไปดูกันเลย เรือผีสิงที่ลอยไปท่ามกลางพายุ นกยักษ์ออกบิน พระแม่มารีแห่งภูผา ฟาโรห์คาเฟร ฟินิกซ์สยายปีก คนยืนเอามือล้วงกระเป๋า ลมหายใจมังกร ใบหน้าของเทพโพไซดอน นางฟ้ามาโปรด นกฮูก.. ใช่มั้ยนะ? ถ้าเพื่อนๆ เห็นว่ารูปไหนดูเหมือนอย่างอื่นมากกว่าที่เราว่ามา ก็มาแชร์มาคอมเมนต์กันได้ด้านล่างเลยน้าาา หากใครชื่นชอบผลงานของเขาก็สามารถเข้าไปดูได้ที่อินสตาแกรม peter_adamsshawn ที่มา: petapixel
-
สาวจีนไม่ซักปลอกหมอนมานานกว่า 5 ปี จนทำให้ใต้ขนตามีไรอาศัยอยู่กว่า 100 ตัว!!
การดูแลตนเองให้มีสุขอนามัยที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะมันคือตัวช่วยหลักที่ทำให้เรามีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยจากเชื้อโรค ดังนั้นความเป็นอยู่ทั่วๆ ไปและความสะอาดของสิ่งต่างๆ ภายในบ้านก็ควรได้รับการดูแลเอาใจใส่อยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นคุณอาจต้องเจอปัญหาเหมือนกับเธอคนนี้ได้ เรื่องราวนี้เริ่มขึ้นเมื่อปี 2015 หญิงสาวแซ่ Xu ในมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน เธอรู้สึกระคายเคืองและมีอาการตาแดง จึงไปปรึกษากับแพทย์ แต่ด้วยอาการของเธอแพทย์จึงไม่ได้แนะนำวิธีใดๆ ให้มากนัก นอกจากการให้เธอใช้ยาหยอดตาช่วยบรรเทาอาการไป พอเวลาผ่านไป ในเดือนพฤศจิกายน 2017 เธอต้องกลับไปพบแพทย์อีกครั้ง เพราะเธอรู้สึกว่าตาเธอแห้งมาก และขนตาของเธอก็เริ่มที่จะติดกันไปเป็นยวง เมื่อแพทย์ได้ตรวจอีกครั้งก็พบว่า มีไรจำนวนมากอาศัยอยู่ในรูขุมขนบริเวณขนตาของเธอ และนั่นจึงทำให้ต้องเข้ารับการรักษาที่เหมาะสม เพราะแม้มันจะไม่ได้อันตรายถึงชีวิต แต่ก็เป็นปัญหาที่ไม่ควรปล่อยผ่านไปได้ หลังจากตรวจผ่านกล้องจุลทรรศน์ ทำให้เห็นว่ามีไรกว่า 10 ตัวอาศัยอยู่ในรูขุมขนของขนตาหนึ่งเส้น นั่นหมายความว่าบริเวณขนตาของเธอมีไรมาอาศัยอยู่มากกว่า 100 ตัวเลยทีเดียว แล้วลองคิดดูว่าไรพวกนั้นอาศัยอยู่ตรงนี้มานานถึง 2 ปีอีกต่างหาก สุดท้ายเธอได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคตาแดงและ Blepharitis หมายถึงสภาพที่เปลือกตาอักเสบเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ถูกปล่อยออกมาจากตัวไร แต่หลังจากได้รับการรักษาแล้ว หญิงสาวก็กลับมาหายเป็นปกติในที่สุด หมอบอกว่ากรณีของ Xu นั้นมาจากการถ่ายเทอากาศภายในห้องของเธอที่ไม่เพียงพอ รวมถึงสุขอนามัยส่วนตัว ซึ่งนั่นหมายถึงปลอกหมอนของหญิงสาวที่ถูกใช้มากกว่า 5 ปี…
-
เอาใจเจ้านายกับ ‘กล่องวงกต 50 ใบ’ ได้ทั้งความสนุกสนาน พร้อมป้องกันโรคสมองเสื่อมในแมว
ถ้าหากว่าคุณกำลังมองหาของเล่นชิ้นใหม่สำหรับเจ้านายที่บ้านอยู่ล่ะก็ คลิปวิดีโอที่เรานำมาฝากกันวันนี้อาจจะช่วยให้คุณเอาใจท่านเหมียวที่บ้านได้ง่ายๆ คลิปวิดีโอจากช่องยูทูบ Cole and Marmalade ได้แนะนำวิธีการสร้างเขาวงกตสำหรับเจ้าเหมียวง่ายๆ พร้อมกับแนะนำการทำและอุปกรณ์ต่างๆ ให้คุณสามารถเอาไปทำกันเล่นๆ ที่บ้านได้เลย คุณ Chris ชายหนุ่มเจ้าของคลิปวิดีโอดังกล่าวได้ทำการนำกล่องกระดาษมากกว่า 50 กล่องมาต่อกันเป็นเขาวงกต โดยเขาได้ทำการเจาะรูกล่องแต่ละใบเพื่อให้มีช่องสำหรับทะลุไปมาได้ และหลังจากนั้นก็ปล่อยเจ้าเหมียว 2 ตัวของเขาอย่างเจ้า Marmalade และ Cole เข้ามาชื่นชมของเล่นชิ้นใหม่ที่ว่านี้ กล่องกระดาษมากกว่า 50 ใบ อุปกรณ์หลักในการสร้างเขาวงกตแมว!! แต่งานนี้ดูเหมือนว่า Marmalade และ Cole นั้นจะแอบขี้โกงนิดหน่อย หลังจากที่พวกมันพยายามที่จะกระโดดข้ามเขาวงกต เพื่อหาทางออกแบบลัดๆ โดยแทบจะไม่สนใจทางลอดที่คุณ Chris ทำเอาไว้เลยแม้แต่น้อย!! เอ๊าๆ อย่าแอบขี้โกงสิเจ้าเหมียว!! เฮ้อ เหนื่อยแล้ว ขอพักก่อนนะ ส่วนเจ้าตัวนี้ก็ยังคงเพลินกับการหาทางออกจากเขาวงกตนี้อยู่!! นอกจาการเล่นซ่อนหาในเขาวงกตแล้ว คุณ Chris ก็ยังได้เพิ่มเงื่อนไขสนุกๆ ให้กับเหล่าเจ้าเหมียวอีกด้วย เช่นนำอาหารไปซ่อนในเขาวงกต ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญก็ได้เผยว่าการที่เหล่าเจ้าเหมียวได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่กระตุ้นให้พวกมันเกิดความสนใจใหม่ๆ นั้นสามารถช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมในแมวได้อีกด้วย ชมคลิปวิดีโอการทำเขาวงกตแมว และความซนของเจ้า Marmalade และ Cole กันที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้ได้เลย… ที่มา shareably
-
หญิงสาวเผยความชอกช้ำในวัยเด็ก กับการถูกพ่อติดเหล้าทรมานกว่า 18 ปี เพื่อให้เธอเป็นยอดมนุษย์
ชีวิตของเราในวัยเด็กของแต่ละคนอาจไม่ต่างกันมากเท่าไหร่นัก บางคนอาจเจอกับปัญหาบางอย่างที่ตอนนั้นเราไม่มีกำลังมากพอจะแก้ไขมันได้ เช่นเดียวกันกับเธอคนนี้ที่ต้องเจอกับปัญหามาตั้งแต่เกิด และสิ่งนั้นก็ยังคงทำร้ายเธอมาจนถึงปัจจุบัน นี่คือเรื่องราวของหญิงสาวชาวฝรั่งเศส Maude Julien ปัจจุบันอายุ 60 ปี เธอถูกพ่อแท้ๆ ของเธอทรมานทั้งกายและใจมาตั้งแต่เกิด เพื่อทำการทดลองเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นยอดมนุษย์ เธอเล่าว่า Didier พ่อของเธอเป็นคนติดเหล้าหนักมากและแทบจะเรียกได้ว่าเป็นคนบ้าคนหนึ่ง เขาเชื่อว่าโลกกำลังจะถึงจุดจบ เลยจำเป็นต้องฝึกฝนลูกสาวของตัวเองให้กลายเป็นผู้รอดชีวิตและสามารถต่อกรกับปีศาจร้ายได้ ก่อนที่เธอจะเกิด พ่อของเธอได้รับเลี้ยงเด็กสาววัยเพียง 6 ขวบชื่อว่า Jeannine แล้วสองคนนี้ก็ได้แต่งงานกัน จนในปี 1957 ทั้งสองก็มีลูกด้วยกันชื่อว่า Julien ซึ่งก็คือเธอนั่นเอง หลังจากนั้นพอเธอเกิดมา พ่อของเธอจึงเริ่มแผนที่วางเอาไว้ เขาทรมานเธออย่างโหดเหี้ยมเพียงเพราะต้องการให้เธอกลายเป็นยอดมนุษย์ เธอถูกทำร้ายทั้งกายและใจ โดยที่แม่ของเธอกลับทำท่าทีห่างเหิน ไม่สนใจเธอเลย อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นที่เธอได้รับก็มาจากน้องหมาและลูกม้าที่เลี้ยงเอาไว้เท่านั้น เธอบอกว่า “ถ้าตอนนั้นฉันไม่มีสัตว์เลี้ยงพวกนี้อยู่ ฉันก็ไม่รู้เลยว่าจะใช้ชีวิตไปได้อย่างไร” ตอนเธออายุได้ 8 ขวบ พ่อของเธอบังคับให้เธอใช้สองมือเปล่าจับรั้วไฟฟ้าค้างไว้ และห้ามแสดงอาการเจ็บปวดใดๆ ออกมา เธอเคยถูกจับขังไว้ในกรงที่มีหนูติดเชื้ออยู่ด้านใน เพื่อให้เธอมองดูและสำนึกถึงความตายที่อยู่ด้านหน้า อีกทั้งยังถูกบังคับให้ดื่มเหล้าวิสกี้และต้องเดินตัวตรงหลังจากนั้น นอกจากสิ่งที่พ่อเธอทำเอาไว้นับไม่ถ้วนแล้ว เธอยังบอกอีกว่าถูกกรรมกรแถวบ้านล่วงละเมิดทางเพศมาตั้งแต่อายุ 3…
-
ไปรู้จักกับ “เออร์มิน วีเซิล” สัตว์โลกตัวน้อย ที่จะพาความงุ้ย งุ้ย งุ้ย มาทำให้คุณตกหลุมรัก
สิ่งมีชีวิตบนโลกของเรามีความหลากหลายเป็นอย่างมาก บ้างก็ดูน่ากลัว บ้างอาจจะน่ารักน่าชัง น่าฟัดน่ากอด เหมือนอย่างเจ้าสัตว์ชนิดนี้ ที่จะทำให้คุณรู้สึกหมั่นเขี้ยวเหลือเกิน เจ้าตัวที่ว่านั้นก็คือ วีเซิลหางสั้น หรือที่บางคนอาจรู้จักในชื่อ เออร์มิน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกินเนื้อตัวจิ๋ว หน้าตาจิ้มลิ้ม ซุกซน และบ๊องแบ๊ว จนทำให้เรารู้สึกหัวใจละลายได้ในพริบตา . เออร์มิน จะต่างกับวีเซิลชนิดอื่นๆ เล็กน้อย หางของมันจะสั้นในขณะที่ลำตัวยาว ปลายหางมีสีดำ ส่วนหัวยื่นออกมาจากช่วงไหล่ ดวงตามีลักษณะกลมดำทำให้ดูบ้องแบ๊วอย่างที่เห็น ขนของมันมีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ในฤดูหนาวจะมีสีขาวยกเว้นแค่ปลายหางของมัน มีความหนาและเนียนนุ่ม แต่ในฤดูร้อนขนบริเวณหลังและศีรษะจะเป็นสีน้ำตาล มีความหยาบกว่า สั้นกว่า และดูกระจัดกระจายมากกว่า เออร์มินจะไม่ค่อยย้ายถิ่นฐานซักเท่าไหร่นัก เราสามารถพบมันได้ในป่าละเมาะ เนินทราย หรือพุ่มหญ้าที่เป็นถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของมัน . ในศตวรรษที่ 15 ขนของมันได้รับความนิยมอย่างมากในการนำไปทำหมวก Mozzetta ให้กับคนใหญ่คนโตในนิกายโรมันคาทอลิก ต่อมาในศตวรรษที่ 19 เจ้าเออร์มินก็ถูกนำไปใช้ในการควบคุมจำนวนประชากรกระต่ายที่มีอยู่มากในประเทศนิวซีแลนด์ แต่ทว่าด้วยความที่มันกินไม่เลือก จึงทำให้การออกล่าของมันกระทบกับการลดลงของประชากรนกในประเทศ เนื่องจากเออร์มินไม่ได้ล่าแค่กระต่ายหรือสัตว์บนพื้นดิน แต่มันยังล่านกและไข่อีกด้วย จากที่มันกินไปซะแทบทุกอย่าง จึงทำให้มันติดในอันดับรายชื่อ 100 ผู้รุกรานที่แย่ที่สุดในโลก…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ประสบการณ์ความบังเอิ๊ญบังเอิญ ที่ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง
หากใครที่คิดว่าชีวิตของตัวเองจำเจ น่าเบื่อ ไม่มีอะไรแปลกใหม่หรือทำให้รู้สึกแปลกใจได้เลย นั่นอาจหมายความว่าคุณคงยังไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบชาวเน็ตเหล่านี้ เพราะนี่คือสิ่งที่แทบจะไม่มีใครเคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง นี่อาจเป็นดวง โชคชะตาฟ้าลิขิต หรืออาจเป็นแค่ความบังเอิญ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ชีวิตมีสีสันและน่าค้นหามากยิ่งขึ้นไปอีก สิ่งที่ชาวเน็ตเหล่านี้ไปเจอมามีอะไรบ้าง เราลองไปดูกันเลยดีกว่าาา กำลังพายเรือเล่นอยู่เพลิน จู่ๆ ก็มีเพื่อนร่วมทางขึ้นมานั่งด้วยซะงั้น เจ้านกฮูกที่บินเข้าไปอาศัยอยู่ในรถนานถึง 3 ชั่วโมง แม้ว่าเจ้าของรถจะเปิดกระจกและพยายามไล่มันออกมาแล้วก็ตาม ช่วงเวลามันจะเหมาะเจาะอะไรขนาดนี้ ตั้งใจจะถ่ายหญิงสาว แต่แถมได้รูปน้องโลมาสุดน่ารักมาเพิ่มอีก 3 ตัว ใครจะไปคิดว่า Johnny Depp จะเคยมาเล่นดนตรีให้งานแต่งญาติของเขาในปี 1982 ถ้าเจ้าหมาของเขาไม่ปลุก เขาก็คงไม่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้ ภาพของคุณพ่อที่ถูกเจ้าเสืองับแขนเข้าให้ วินาทีนั้นเขาคิดว่านี่คงเป็นภาพสุดท้ายที่จะได้เห็นมือของตัวเองแล้ว แต่ในที่สุดเขาก็สามารถรอดมาได้ ม้าลายสองตัวที่มีลายเข้ากั๊นเข้ากัน สายรุ้งอันสวยงาม บนท้องฟ้าสีชมพูจางๆ นกนางนวลบินเข้ามาจู่โจมถึงในห้องน้ำ กลัวไอติมละลายหรืออะไร ห่อซะสองชั้นเชียว ภาพนี้มีทั้งแสงออโรร่า ดาวตก และรูปหัวใจสีชมพู มารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย …
-
เด็กสาวจีนวัย 16 ปี โพสต์ภาพโชว์อุ้มท้องให้ชาวเน็ตเห็น ถูกกระแสวิจารณ์ตีกลับอย่างรุนแรง
เมื่อวัยรุ่นตั้งท้องก่อนวัยอันควร ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ มักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบเสมอ เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่าพวกเขายังไม่พร้อมที่จะเป็นแม่ เหมือนอย่างวัยรุ่นสาวชาวจีนวัย 16 ปี คนนี้ ที่ถูกกระแสวิจารณ์ตีกลับอย่างรุนแรง หลังจากที่เธอโพสต์ภาพขณะทั้งท้องบนโซเชียล เด็กสาวคนนี้มากจากมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เธอได้โพสต์ภาพตัวเองเพื่อโชว์ให้ชาวเน็ตดูครรภ์ของเธอที่อยู่ในระยะใกล้คลอดเต็มทีแล้ว แทนที่ชาวเน็ตจะร่วมยินดีกับเธอในฐานะคนที่กำลังจะได้กลายเป็นแม่คนในเร็วๆ นี้ แต่ปรากฏว่าพวกเขากลับโฟกัสที่อายุของเธอมากกว่า สื่อจีนเผยว่าเด็กหญิงคนนี้ อายุ 16 ปี เธอเกิดเมื่อปี 2000 ในขณะที่แฟนหนุ่มของเธอหรือว่าที่คุณพ่อของลูกอายุมากกว่าเพียง 1 ปีเท่านั้น ทั้งนี้หญิงสาวโพสต์ในโปรไฟล์ Weibo ของเธอว่า “เราแต่งงานกันแล้ว! เราแต่งงานกันแล้ว! เราแต่งงานกันแล้ว! แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้รับใบสมรส และนี่ก็ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดด้วย” นอกจากนี้หญิงสาวยังบอกอีกว่าถ้าลูกเป็นผู้ชาย พวกเขาจะตั้งชื่อลูกว่า Li Yunxi… อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังคงทำให้ชาวเน็ตจีนสับสนและค้างคาใจ เพราะตามกฎหมายจีนแล้วผู้หญิงที่จะแต่งงานได้นั้นต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ส่วนผู้ชายต้อง 22 ปีขึ้นไป ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้รูปภาพของเด็กสาวถูกรีโพสต์ถึง 47,000 ครั้ง และมีการแสดงความคิดเห็นอีกมากกว่า 43,000…
-
อดีตแอร์สาวเกาหลี ลาออกมานั่งกินอาหารให้ชาวเน็ตดู ทำเงินได้เฉลี่ย 800,000 บาทต่อเดือน!!
ปัจจุบันเรียกได้ว่าโลกของเราก้าวเข้าสู่ยุคของอินเตอร์เน็ตอย่างต็มตัว เราสามารถหาทุกสิ่งทุกอย่างได้จากโลกออนไลน์ เพียงแค่เราใช้ปลายนิ้วเท่านั้น หากว่าเราใช้อินเตอร์เน็ตให้ถูกทางก็จะรู้ว่ามันมีประโยชน์มากกว่าที่เราคิดอีกด้วย หนึ่งในการใช้อินเตอร์เน็ตให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นก็คือการใช้เป็นช่องทางในการหารายได้ จากที่เราเห็นได้ชัดเลยนั่นก็คือการขายของออนไลน์ที่สามารถทำรายได้รวมกันหลายล้านบาท และอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถทำรายได้อย่างสูงจากการใช้อินเตอร์เน็ตนั่นก็คือ การเป็นเน็ตไอดอลนั่นเอง อย่างเช่นกับสาวเกาหลีที่ชื่อว่า Jung Sora อดีตแอร์โฮสเตสสาวที่ยอมลาออกจากงานที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ใฝ่ฝัน มาใช้ชีวิตอิสระในแบบที่เธอเป็น โดยที่ Sora เลือกที่จะเดินตามเส้นทางที่เธอได้เลือกเองนั่นก็คือการมาเป็นเน็ตไอดอลพร้อมกับทำสิ่งที่เธอชอบไปพร้อมๆ กัน นั่นก็คือการกินนั่นเอง โอโห สุดยอดเลยอะ เธอเริ่มมาเป็นเน็ตไอดอลด้วยการจัดไลฟ์สตรีมมิ่งผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเกาหลีนั่นก็คือ AfreecaTV (คล้ายๆ Garena ในบ้านเรา หรือ Twitch ในต่างประเทศ) ด้วยหน้าตาที่สวยในฉบับสาวเกาหลี บวกกับลีลาท่าทางการพูดแบบเรียบง่าย เรียบร้อย และเป็นกันเองทำให้ Sora มีแฟนคลับติดตามและคอยสนับสนุนทุกครั้งที่เธอจัดรายการ รายการที่เธอจัดนั้นไม่ได้เป็นรายการโชว์เต้นวาบหวิวหรือครางชื่อแบบที่เราเคยเห็นตามการสตรีมมิ่งบ้านเรา แต่ทว่าสาวเกาหลีคนนี้เธอได้สร้างมิติใหม่ในการนำเสนอนั่นก็คือการโชว์กินนั่นเอง แต่ละอย่างที่เธอมากินอวดแฟนๆ นั้น ไม่ว่าใครที่ได้ดูก็ต้องออกไปหาอะไรมากินตามไปด้วยซะทุกอย่าง นอกจากจะได้จัดรายการ ได้กินของที่ชอบแล้ว เรื่องของรายได้ก็ไม่ใช่น้อยๆ นะจ๊ะ จากเดิมที่เธอได้รับเงินเดือนตอนเป็นแอร์โฮสเตสก็ประมาณ 85,000 บาท พอมาจัดรายการก็แค่เพิ่ม 0 ไปตัวเดียว…
-
ชาวญี่ปุ่นทดสอบอัพเกรดมีด 30 บาท ด้วยหินลับมีดมูลค่า 10,000 บาท จากมีดกากๆ ตอนนี้คบกริ๊บ!!
ในปัจจุบันร้านค้า 100 เยนในญี่ปุ่นอย่าง Daiso นั้นกำลังเป็นที่นิยมและกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากหาของใช้ราคาประหยัด เพราะร้านประเภทดังกล่าวจะมีสินค้าให้เลือกเยอะสุดๆ แถมราคาก็เป็นมิตรมากๆ อย่างไรก็ตามเมื่อราคาสินค้าในร้านมันถูก คุณภาพของมันก็จะต่ำลงลงมาตามราคาซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่บางครั้งคุณภาพมันก็แย่เสียจนไม่รู้จะพูดยังไง ถ้าใครคิดไม่ออกก็ยกตัวอย่างง่ายๆ กับมีดยี่ห้อ Galaxy มูลค่า 100 เยนหรือตีเป็นเงินไทยก็ 30 บาทนิดๆ ที่ถูกชาวเน็ตญี่ปุ่นเจ้าของช่อง ! 圧倒的不審者の極み เอาไปทดสอบตัดสิ่งของต่างๆ ซึ่งตัดยังไงก็ไม่ขาดเสียที แม้แต่กระดาษยังต้องออกแรงพอสมควรกระดาษถึงจะขาด… ด้วยเหตุเขาจึงต้องมองหาทางออกในการแก้ปัญหาครั้งนี้ เขาจึงจัดการออกไปซื้อหินลับมีดชนิดต่างๆ ซึ่งหินทุกอันจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2,800 ถึง 30,000 เยน ตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาทนั่นเอง ในช่วงแรกๆ หินลับมีดราคาถูกก็ช่วยได้ไม่มากนัก เขายังคงต้องใช้เวลาราวๆ 7 วินาทีกว่าโฟมชิ้นหนึ่งจะขาด แต่นั่นมันก็แค่การตีบวกครั้งแรกเท่านั้น เขายังคงนำหินลับมีดชนิดต่างๆ ที่มีมูลค่าสูงขึ้นมาลับต่อไป ผลลัพธ์ของการลับมีดทุกครั้งเรียกว่าออกมาดูดีทีเดียว เพราะทุกครั้งที่ทำการลับมีดระยะเวลาการหั่นโฟมก็ลดลงเรื่อยๆ จาก 7 วินาทีเหลือ 5 วินาที…
-
คลิปในอดีตของ ซอง เฮ เคียว และ จอน จี ฮยอน กับความสวยใสที่ยังคงไม่จางหายไป…
เมื่อพูดถึงซุป’ตาร์สาวตัวท็อปของเมืองไทย หลายคนคงนึกถึงขุ่นแม่อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ แล้วถ้าพูดถึงฝั่งเกาหลีบ้างหล่ะ เพื่อนๆ นึกถึงใคร? แน่นอนว่าอาจจะมีหลายคน แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ซอง เฮ เคียว และ จอน จี ฮยอน ที่ถือเป็นนักแสดงหญิงแนวหน้าของเกาหลีใต้ ที่สำคัญ ดูเหมือนว่าเวลาจะทำอะไรพวกเขาเค้าไม่ได้เลย ที่ต้องนำเสนอ ซอง เฮ เคียว และ จอน จี ฮยอน เพราะทั้งคู่นั้นได้เข้าพิธีสมรสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอายุก็อยู่ในช่วงเลขสามแล้ว แต่ดูความตึง ความสวยบนใบหน้าสิ เหมือนสมัยสาวๆ ไม่มีผิด สำหรับความงามในปัจจุบัน เพื่อนอาจจะเห็นตามโซเชียลเกือบทุกวันอยู่แล้ว งั้นเราลองย้อนดูทั้งสองคนผ่านวิดีโอที่เคยเผยแพร่ในยุค 90 กันดีกว่า แล้วจะรู้ว่าความสวยในวันนั้นกับวันนี้แทบไม่ต่างกันเลย เริ่มด้วยคลิปของซอง เฮ เคียว ที่ถ่ายเมื่อปี 1999 ตอนที่เธออายุ 18 ปีเท่านั้น ตอนนั้นกับตอนนี้เธอดูไม่เปลี่ยนเลย จนชาวเน็ตไม่เชื่อว่าอายุของเธอนั้นแตะเลขสามแล้ว…
-
17 ตัวอย่างแห่งความตั้งใจ ที่พิสูจน์ว่าหากเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าเสมอ
ผู้คนมักจะตัดสินเราจากรูปลักษณ์ภายนอก ทั้งที่จริงแล้วเราอาจจะไม่ใช่คนแบบนั้นก็ได้ ลองลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองดูสิ ไม่ใช่แค่ผู้คนมองคุณเปลี่ยนไป แต่มันจะทำให้คุณได้ค้นพบตัวเองและภาคภูมิใจในตัวเองด้วย เหมือนอย่างพวกเขาเหล่านี้ที่ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง จนพบกับผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนด้วย 1. “หลังจากที่รักษาสิวมาเป็นปี ฉันก็กลับมารู้สึกมั่นใจอีกครั้ง ฉันไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าทุกวัน แต่ไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาจ้องหน้าด้วย” 2. “ฉันพูดได้เลยว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ฉันรู้สึกภูมิใจในตัวเองจริงๆ” 3. จากสาวหน้าจืดวันนั้น เปลี่ยนตัวเองสู่นางงามโลก 4. “ฉันมุ่งมั่นลดน้ำหนักตั้งแต่เดือนมีนาคม ทั้งออกกำลัง ควบคุมอาหาร แล้วดูผลที่ได้สิ จากไซส์ 12 เหลือแค่ 6” 5. จากสาวแว่นผมเซอร์ สู่สาวมั่น 6. หญิงสาวที่มุ่งมั่นลดน้ำหนัก จนลดได้มากกว่า 76 กิโลกรัมใน 11 เดือน 7. นี่คือความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังการเปลี่ยนแปลงตัวเอง 8. หลายคนไม่เชื่อว่านี่คือคนคนเดียวกัน 9. พอเปลี่ยนตัวเองแล้ว ดูเหมือนพระเอกในหนังเลย 10. ตัวอย่างคู่รักที่เปลี่ยนแปลงตัวเองไปด้วยกัน…
-
แนะนำ 8 ช่องยูทูบ “สวยใสสไตล์เกาหลี” ที่สาวๆ ควรจะติดตามเอาไว้ เพื่อความงามเจิดจรัส
หากพูดถึงความงามที่กำลังเป็นที่นิยมมากๆ ในขณะนี้ ก็คงไม่พ้นเทรนด์สาวเกาหลี ที่มีทั้งผลิตภัณฑ์ความงามสุดล้ำมากมาย และการศัลยกรรมที่ดูจะล้ำหน้ามากๆ และถ้าหากสาวๆ คนไหนอยากติดตามเทรนด์ความงามสุดเจ๋งก่อนใคร ก็ต้องไปติดตามบล็อกเกอร์สาวเกาหลีที่จะมาคอยแนะนำทริคเด็ดๆ และผลิตภัณฑ์ความงามปังๆ ให้กับสาวๆ ทั่วโลกได้รู้ก่อนใคร กับทั้ง 8 ช่องยูทูบสวยใสสไตล์เกาหลี ที่สาวไทยน่าจะติดตามไว้นะ… 1. PONY PONY สาวบล็อกเกอร์หน้าสวยที่ดูเหมือนว่าจะมีชื่อเสียงที่สุดในเกาหลี เพราะเธอมีผู้ตามในช่องยูทูบกว่า 3.2 ล้านคน ความเชี่ยวชาญในด้านการแต่งหน้าทำผมของเธอเป็นอะไรที่สุดยอดมาก เธอเก็บรายละเอียดของการแต่งหน้าได้อย่างนุ่มนวลและอธิบายแต่ละขั้นตอนได้อย่างเข้าใจง่าย ซึ่งเธอจะทำให้คุณกลายเป็นสาวเกาหลีได้ง่ายๆ เลยล่ะ 2. LAMUQE Lamuqe เป็นที่รู้จักในการแต่งหน้าและความหลากหลายของเนื้อหา ตลอดทั้งวิดีโอทำให้เธอโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ คลิปวิดีโอของเธอมีสีสันสดใส ทำให้ดูได้ไม่เบื่อ ซึ่งอาจจะทำให้สาวๆ ใช้เวลาในช่องยูทูบของเธอเป็นชั่วโมงๆ ได้เลยล่ะ 3. Yooncharmi Vlogger Yooncharmi เป็นบล็อกเกอร์ที่สนุกสนานร่าเริง แต่นอกเหนือความฮาความสดใสของเธอแล้ว เธอก็ยังมีพรสวรรค์ในการแต่งหน้ามากๆ อีกด้วย 4. Daddoa ช่องยูทูบ Daddoa มีเทคนิคการแต่งหน้าขั้นพื้นฐานพร้อมด้วยคำแนะนำง่ายๆ ที่สาวๆ สามารถทำตามได้ โดยเธอเสนอความแตกต่างของการแต่งหน้าด้วยลุดสาวเฉิ่มธรรมดาๆ กลายเป็นสาวสุดเปรี้ยว ที่หนุ่มๆ เห็นแล้วของเหลียวหลังกันเลยทีเดียว 5. Calary Girl…
-
เปิดเรื่องราวของ ‘ดีเจโซดา’ สาวเกาหลีสุดฮอตกับความสวยทั้งหน้าตาและจิตใจ
เชื่อว่าใครที่เป็นสาย EDM ก็คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักกับ ‘ดีเจโซดา’ สาวเกาหลีผมสั้นตัวเล็กผู้มีดีกรีความเซ็กซี่ขยี้ใจชายทั่วโลก กับการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์นั่นก็คือการใส่สปอร์ตบราโชว์ผิวขาวๆ ผสานกับความสามารถในการจัดเพลงที่ไม่ว่าหนุ่มคนไหนได้เห็นก็ต้องเป็นอันต้องสูญเสียเหงื่อจากการแดนซ์ไปตามๆ กัน ใครหลายๆ คนอาจจะติดภาพความเซ็กซี่ของดีเจโซดาไปแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าภายใต้ความน่ารักเซ็กซี่นั้น ดีเจโซดาคนนี้ยังมีความซ่าความแซ่บที่ใครหลายๆ คนยังไม่รู้อีกด้วย ดีเจโซดาหรือชื่อจริง Hwang So Hee เห็นเอ๊าะๆ แบบนี้เธออายุ 31 ปี แล้วนะ หูยยย หน้าเด็กเวอร์ ดีเจโซดาได้รับความนิยมสุดๆ จากคลับต่างๆ ในเกาหลี ถ้าบอกว่าดีเจโซดาจะมาล่ะก็ พูดได้เลยว่าคลับแตก นอกจากในเกาหลีแล้ว เธอยังโด่งดังสุดๆ ในแถบเอเชียอีกด้วย . ความโด่งดังของดีเจโซดาทำให้เธอถูกเชิญให้เข้าร่วม 2017 MLB All-star ที่ไมอามี รัฐฟลอริดา ในฐานะตัวแทนของประเทศเกาหลี นอกจากนี้ดีเจโซดายังเป็นศิลปินเกาหลีคนแรกที่ได้รับความนิยมและติดต่อให้ไปแสดงโชว์ในรายการ BBC Radio ในสหราชอาณาจักร นอกจากเรื่องความเซ็กซี่ที่มี ดีเจโซดายังมีจิตใจที่ดีไม่แพ้น่าตาอีกด้วย เรียกได้ว่าทั้งสวยทั้งใจบุญ โดยในปี 2016…
-
ภาพถ่ายปฏิทิน 2018 สุดแซ่บ ที่ใช้ “การสาดนม” แทนเครื่องแต่งกายสวยๆ ให้กับนางแบบ
เมื่อพูดถึงศิลปะการถ่ายภาพแล้ว ช่างภาพแต่ละคนก็จะงัดเทคนิคเด็ดๆ ออกมาใช้ เพื่อที่จะสรรค์สร้างผลงานภาพถ่ายของตัวเองให้มีความพิเศษไม่เหมือนใคร เช่นเดียวกับช่างภาพสุดเจ๋งคนนี้ เขาได้ใช้ “นม” มาเป็นจุดเด่นในการสร้างผลงานของเขา ช่างภาพ Jaroslav Wieczorkiewicz ได้ใช้การสาดนมมาแทนที่เครื่องแต่งกายสวยๆ ให้กับนางแบบทั้ง 7 คน ที่ต้องเปลือยร่าง และโดนสาดนมเพื่อแต่งแต้มให้เป็นเครื่องแต่งกายสุดเก๋ Wieczorkiewicz ได้ร่วมการทำโปรเจกต์นี้กับทีม “Aurum Light” ที่ประกอบไปด้วยนางแบบ 7 คนกับช่างแต่งหน้าอีก 3 คน พวกเขากำลังสร้างภาพสุดน่าทับใจสำหรับปฏิทิน ‘Milky Pinups 2018’ ภาพในแต่จะเดือนของปฏิทิน จะเป็นภาพของนางแบบที่แต่งตัวด้วย “นม” ที่หากไม่มองดีๆ แล้ว อาจจะคิดว่าเป็นชุดสวยๆ จากเนื้อผ้าดีๆ เลยก็ได้นะ . . นางงามเดือนมกราคม – Monika Syntycz นางงามเดือนกุมภาพันธ์ – Anisa Shaken นางงามเดือนมีนาคม – Klaudia Tolloczko นางงานเดือนเมษายน –…
-
ชาวเน็ตบ่นในพันทิป “ซื้อรถคืนจากคนที่ดูแลไม่ดีได้มั้ย” ท็อปเมนท์มาตอบแทบสำลักน้ำตา…
สำหรับหลายๆ คนที่อยู่ในสมาคม ค.คนรักรถ คงจะรู้สึกเจ็บปวดแน่ๆ เวลาที่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณจำเป็นต้องขับรถลุยถนนลาดยางที่เพิ่งทำเสร็จ หรือบังเอิ๊ญขับรถทับขี้หมา!! และสำหรับชาวพันทิปท่านนี้เองก็ดูเหมือนว่าจะเป็นหนึ่งในสมาชิกสมาคมที่ว่านี้เช่นกัน หลังจากที่เขาได้ตั้งกระทู้ถามชาวเน็ตเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาหลังจากที่ขายรถคันโปรดออกไป แล้วพบว่าเจ้าของใหม่นั้นดูแลไม่ดีเอาเสียเลย “ขายรถให้กับคนที่ไม่ดูแลรถเลย จะเอารถคืนได้มั้ย?? ไม่เคยเห็นเค้าล้างรถเลย เอาไปจอดตากแดดทั้งวัน ขับลุยทางหลุมบ่อ ช่วงล่างมีแต่โคลนแดง เห็นแล้วปวดใจมาก” “ตอนรถอยู่กับเรา เราทนุถนอมแทบไม่เคยโดนอะไร เห็นสภาพรถตัวเองตอนนี้แล้วอยากร้องไห้ เหมือนเห็นคนเอาลูกเราไปเฆี่ยนตีตอนนี้เค้าผ่อนไฟแนนซ์อยู่ เราสามารถซื้อคืนกับไฟแนนซ์ได้เลยมั้ย” ข้อความจากกระทู้ของคุณ SENSEBIORA และแน่นอนว่าคนไทยไม่เคยทิ้งกันอยู่แล้ว งานนนี้เจ้าของกระทู้ของเราก็ได้รับความช่วยเหลือจากชาวเน็ตมากมายที่เข้ามาปลอบใจ พร้อมกับบอกให้เขาทำใจเสียเถอะเพื่อน มันก็แค่ของนอกกาย แต่หลังจากที่กำลังอ่านคอมเมนต์ชาวเน็ตอย่างเพลินๆ และกำลังจะเข้าสู่การบรรลุธรรม เราก็สะดุดกับความคิดเห็นของชาวเน็ตท่านหนึ่งที่บอกว่าตัวเขาเองก็เคยเจอประสบการณ์เดียวกันเหมือนกัน แถมหนักกว่าอีก!! เจ้าของใหม่บอกซื้อไปแต่ง แต่เจออีกทีมาอยู่ช่อง 7 เฉ๊ย และนี่คือโฉมหน้าของรถคันดังกล่าวจากประกาศขาย ที่มาโผล่ในละครช่อง 7…. ถ้าคุณเป็นหนุ่มจากสมาคม ค.คนรักรถ งานนี้มีหัวใจวายกันแน่ๆ และสุดท้ายก็ปิดฉากกันด้วยภาพนี้ บรึ้มมมม!! จากจะซื้อไปแต่งสุดท้ายไหงกลายเป็นเอาไประเบิดได้ซะนี่!? และแน่นอนว่าความฮาระดับมาสเตอร์พีซชิ้นนี้ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างมาก มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากกว่า 97 คอมเมนต์เลยทีเดียว และนี่คือคอมเมนต์บางส่วนจากชาวเน็ต…
-
‘แม่จัสติน’ ให้สัมภาษณ์ เผยความรู้สึกเป็นครั้งแรก คิดยังไงกับ ‘เซเลน่า’ ว่าที่สะใภ้ของเธอ!?
โอ๊ยยยย อิชั้นล่ะเหม็นกลิ่นความรักเหลือเกินกับคู่รักแห่งปี Justin Bieber นักร้องซุปเปอร์สตาร์กับหวานใจอย่าง Selena Gomez ที่ได้ออกมาประกาศคบหาดูใจกันอีกครั้งหลังจากที่เลิกรากันไป ทำเอาบรรดาเมียผู้จงรักภักดีอย่างเราต้องอกหักตามกันไปเป็นแถว ซึ่งในงานนี้เหมือนทั้งคู่จะไม่ได้คบกันเล่นๆ แล้ว ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายก็รับรู้ถึงเรื่องราวของความรักทั้งสองอย่างเช่นคุณแม่ Pattie Mallette แม่ของหนุ่มจัสตินก็ได้ออกมาพูดถึงว่าที่ลูกสะใภ้อย่าง Selena ด้วยท่าทีที่เป็นปลื้มสุดๆ “ฉันไม่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวของเจ้าหนูทั้งสองนี้สักเท่าไหร่นะ จัสตินเค้าไม่ค่อยจะเล่าให้ฉันฟังเท่าไหร่ แต่ฉันรักแม่หนูเซเลน่านะ” “ฉันจะคอยสนับสนุนทุกอย่างที่จัสตินทำ ถ้าเขารักใครฉันก็จะรักด้วย ฉันเคยเจอเธอแล้ว ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่ดีและมีค่าคู่ควรกับลูกชายของฉัน ฉันก็พูดอะไรไม่ได้มากเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ มันเป็นเรื่องของคนสองคน” แม่จัสตินกล่าว แหม่ ความรักในรอบนี้มันช่างราบรื่นซะเหลือเกินนะ ยังไงก็ยินดีด้วยกับคู่รักที่สามารถกลับมาคืนดีกันได้และดูเหมือนว่าจะหวานกันยิ่งกว่าเดิม #เหมียวบู้บี้ ก็ได้แต่ร้องเพลงว่า “ฉันมายินดีให้กับรักที่สดใส ,ไปเถิดทั้งคู่ ไปสู่ประตูสวรรค์” ที่มา people,buzzfeed
-
จากชายไร้บ้านผู้ร้องเพลงแลกกับ ‘อาหาร’ กลายมาเป็นแรปเปอร์ที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 ที่รัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีชายไร้บ้านคนหนึ่งยืนอยู่ข้างถนน ที่หน้าอกของเขามีป้ายกระดาษแข็งที่เขียนว่า ‘จะร้องเพลงเพื่ออาหาร’ ชายไร้บ้านผู้นี้ชื่อว่า Byon Artrell McCullough เขาออกมาร้องเพลงบนทางเท้าที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน และเขาก็เห็นได้ว่าไม่มีใครสนใจเขาเลยจนกระทั่งมีผู้หญิงสองคนได้เดินผ่านเข้ามา เขาเริ่มร้องเพลงขึ้นมาและผู้คนที่อยู่แถวนั้นก็เริ่มชะงักและหยุดมองเขา โดยเขาได้ร้องเพลง All of Me ของ John Legend ด้วยเสียงสุดไพเราะคล้ายกับต้นฉบับจริงๆ ระหว่างที่ร้องเพลงก็เริ่มมีคนมามุงดูและถ่ายคลิปวิดีโอ เมื่อเขาร้องเพลงจบ ก็มีหลายคนนำอาหารมาให้เขาและแบ่งปันเงินเล็กน้อยให้ เขาจึงเริ่มร้องเพลงอีกครั้ง และนั่นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขากลายมาเป็นแรปเปอร์ในทุกวันนี้ . คลิปวิดีโอที่มีผู้ถ่ายไว้ได้มีการเผยแพร่บนยูทูบเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2014 และมันก็โด่งดังจนกลายเป็นคลิปไวรัลที่มีผู้ชมมากกว่า 16 ล้านวิวในปัจจุบัน อีกทั้งยังกลายเป็นที่กล่าวถึงในสื่อต่างๆ ตอนนี้ชายหนุ่มไร้บ้านคนนั้นก็ได้หันมาเอาดีทางด้านการเป็นแรปเปอร์ในชื่อ Know Cash เขาได้ใช้ช่องทางนี้เพื่อจุดประกายความคิดให้ทุกคนมองคนไร้บ้านในทางที่ดียิ่งขึ้น “ถ้าคุณมีความสามารถ คุณควรพยายามช่วยตัวเองเป็นอันดับแรก แล้วค่อยกระจายความช่วยเหลือนั้นเผื่อแผ่ไปยังผู้อื่น คนจรจัดก็คือคนเช่นกัน ควรหยุดตัดสินคนจรจัดในทางไม่ดี ถึงแม้ว่าคุณจะไม่อยากช่วยเหลือด้วยเงิน ก็ขอให้สนับสนุนเขาด้วยสิ่งอื่นๆ” Byon กล่าว…
-
Choi Min Su นายแบบเกาหลีใสๆ ถ่ายรูปคู่กับลูกบ่อยมาก มีความเป็นหลัวตัวอย่างระดับสูง!!
เมื่อพูดถึงโอปป้าเกาหลี สาวๆ คงจะนึกถึงพระเอกในซีรีส์อย่าง ซงจุงกิ, ลีมินโฮ, ลีจงซอก, โซจีซบ หรือคนอ่ื่นๆ อีกมากมายตามแต่ใจจะใฝ่ฝัน แต่สำหรับวันนี้ #เหมียวขี้ส่อง อยากแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกับ Choi Min Su นายแบบชาวเกาหลีใต้ที่มีดีกรีความหล่อไม่เป็นรองพระเอกชื่อดังเหล่านั้นแม้แต่น้อย ก่อนที่สาวๆ จะมโนไปไกล ขอบอกก่อนเลยนะว่า Min Su หนะ ไม่ใช่หนุ่มโสดนะ แต่เขาแต่งงานและมีลูกสาวแสนน่ารักแล้วหนึ่งคน นอกจากจะเป็นนายแบบหน้าหล่อ รูปร่างดีแล้ว Min Su ยังเป็นคนที่รักครอบครัวมากๆ ด้วย สังเกตได้จากภาพที่โพสต์ลงในอินสตาแกรม ซึ่งเต็มไปภาพช่วงเวลาที่เขาอยู่กับภรรยาและลูกสาวตัวน้อย จนถูกยกให้เป็นหลัวตัวอย่าง แม้จะเป็นนายแบบที่คิวแน่น แต่ Min Su พยายามที่จะใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุด เพราะเขาอยากทำหน้าที่พ่อที่ดี ที่สำคัญเขามีความสุขเวลาที่ได้เล่นหรือทำทุกอย่างร่วมกับลูกสาว อยู่ในเวลางาน ต้องเปิดโหมดเข้มขรึมเข้าไว้ พออยู่กับลูก ก็จะมีความสุขแบบนี้แหละ โอ้ยยย ณ จุดจุดนี้จะมีใครน่าอิจฉาไปกว่าเด็กน้อยคนนี้อีก มีพ่อหล่อขนาดนี้ ไม่รักได้ไง …
-
การ์ตูนหวานๆ แบบฉบับคู่รักนักเล่นเกมที่หวานซะคนโสดอย่างเราๆ ทนดูไม่ด๊ายยยยย!!!
หน้านี้ก็หน้าหนาวแล้วอ่ะ ยิ่งเข้าใกล้ช่วงเทศกาลแล้วมันก็รู้สึกเหงาๆ เป็นพิเศษ เห็นใครเดินจับมืิอกันก็รู้สึกอิจฉา ได้แต่คิดเมื่อไหร่เราจะมีแฟนบ้างนะ นี่ #เหมียวบู้บี้ ไม่ได้โปรโมตตัวเองนะ แต่รู้ว่าหลายๆ คนก็คงจะรู้สึกเหมือนกันที่ต้องโดดเดี่ยวท่ามกลางอากาศหนาว 30 องศาแบบนี้ ฮ่าๆๆๆ ส่วนคนมีคู่ก็คงจะรู้ดีว่าการมีคนที่เรารักอยู่ข้างๆ มันดีแค่ไหน ถึงแม้ว่าจะทะเลาะกันบ้างแต่พอขาดกันไปมันก็รู้สึกว่าขาดกันไม่ได้ อย่างคำที่ว่าลิ้นกับฟัน ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้างแต่ก็ต้องอยู่ด้วยกันตลอด เอาล่ะ วันนี้ #เหมียวบู้บี้ ก็ได้เอารูปการ์ตูนจากทางเพจ Viral Buzz ที่ได้วาดเกี่ยวกับโมเมนต์ของคนมีแฟนมาให้ดูกันให้อกแตกกันไปเลย เห็นแล้วมันอิจฉาซะจริงๆ จ้าาาา เปิดมารูปแรกก็ตาร้อนผ่าวๆ แล้ว จับได้แล้วไอ้คนติดเกม ฮึ่มมมมม บอกแล้วว่าอย่ามากวนตอนเล่นเกม อยากทำตัวติดแฟนไม่อยากห่างไปไหนเลย ใครเป็นแบบนี้บ้าง คุณแฟนผู้ที่มักจะมาวอแวเราเรื่อยๆ โดยเฉพาะตอนเล่นเกม ตั้งชื่อแฟนในเกมมันเป็นอะไรที่น่ารักดีนะ ใครที่โสดก็ต้องทนดูกันต่อไปแบบนี้แหละเนาะ ส่วนคนที่มีคู่เค้าไม่รู้หรอกว่าเจ้าการ์ตูนเนี่ยมันช่างบาดใจคนโสดแบบเราขนาดไหน พูดแล้วอยากมีแฟนเลยเนี่ย วุ้ยยย ที่มา Viral Buzz
-
เจ้าเหมียวยอด “นักพูด” จะไม่ยอมนอนเด็ดขาด ถ้าไม่ได้เม้าท์มอยกับเจ้าทาสก่อนนอน…
ขึ้นชื่อว่าแมว อยู่เฉยๆ ก็มีคนแห่ขอเป็นทาสแล้ว แต่บางตัวยังเพิ่มดีกรีความน่ารักด้วยนิสัยเฉพาะตัว เล่นซะมนุษย์หลงหัวปักหัวปำเลย อย่างเจ้าเหมียวตัวนี้ที่ชอบการพูดคุยกับเจ้าของ โดยเฉพาะเวลาก่อนนอนมันต้องได้คุยกับเจ้าของ ไม่งั้นมันจะไม่ยอมนอนเด็ดขาด ไม่ว่าคืนนั้นเจ้าของจะมีเรื่องคุยด้วยหรือไม่ แต่เจ้าเหมียวขอให้ได้คุยไว้ก่อน เพราะการได้คุยกับทาสเปรียบเสมือนอาหารหลักขาดไม่ได้จริงๆ เมื่อได้เริ่มคุยกับเจ้าของแล้ว สักพักความง่วงก็จะเข้ามา ตามันจะเริ่มปรือๆ แล้วค่อยๆ หลับไปในที่สุด นี่แหละคือความสุขเล็กๆ ของแมวเหมียว ส่วนเจ้าของเองก็เข้าใจในจุดๆ นี้ดี เมื่อให้อาหารมันจนอิ่่มแล้ว เธอก็จะมานอนอยู่ข้างๆ มัน แล้วก็เริ่มคุยกัน แม้จะพูดคุยกันคนละภาษา แต่ความผูกพันที่ผ่านมา ทำให้ทั้งคู่เข้าใจกันเสมอ วันนี้ทำอะไรมาบ้าง เจ้าทาส? ง้อววว ง่วงแล้ว ฝันดีนะ เห็นมั้ยว่าแมวไม่ได้ต้องการอะไรมากมายหรอก มันขอแค่ได้อยู่กับคุณ ได้คุยกับคุณในระยะเวลาสั้นๆ แค่นี้มันก็สุขใจแล้ว ใครที่เลี้ยงแมวอยู่ ลองสังเกตดูน่าเจ้านายของคุณชอบอะไร จะได้ตามใจมันถูกยังไงหล่ะ ที่มา fluffysworld
-
ตำรวจได้รับแจ้งว่าแม่ขโมยของในร้าน พอรู้สาเหตุว่าทำเพื่อลูกที่หิวโหย 3 คน ก็ต้องสะเทือนใจ
ตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองภายใต้กฎหมายที่ระบุไว้ ดังนั้นเมื่อพบการกระทำผิดก็ต้องนำตัวคนผิดมาลงโทษเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในบางครั้ง บางสถานการณ์ ตำรวจเองคงมีความลำบากใจที่ต้องทำแบบนั้น อย่างกรณีของแม่คนหนึ่งที่ขโมยของจากร้าน Food Lion รัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ Keith Bradshaw และ Candace Spragins ได้รับแจ้งจาก Food Lion ว่าพบผู้หญิงคนหนึ่งขโมยอาหารภายในร้านไป พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านของหญิงคนดังกล่าวทันที แต่เมื่อไปถึงตำรวจก็เจอกับภาพที่ไม่คาดคิด เพราะผู้หญิงคนนั้นอยู่กับลูกบุญธรรม 3 คน และอาหารที่ขโมยมานั้นก็เพื่อลูกๆ อย่างไรก็ตาม คุณแม่คนนั้นได้คืนเงินตามมูลค่าของอาหารที่ขโมยคือ 1,170 บาท พร้อมขอโทษทั้งน้ำตาสำหรับการก่อเหตุในครั้งนี้ จากนั้นตำรวจก็เดินไปเปิดตู้เย็นในบ้านของเธอ แล้วก็ต้องเจอกับภาพสะเทือนใจอีกครั้ง เพราะในนั้นไม่มีอาหารเลยและทราบมาว่าเธอไม่มีอาหารให้ลูกๆ เกือบ 3 วันแล้ว เธอยังบอกอีกว่า “ตลอดเวลาที่ผ่ามาน เราพยายามไปขอความช่วยเหลือจากคริสตจักรและเพื่อนบ้านแต่ไม่มีใครให้อะไรเราเลย” ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจไปขโมยของในร้านขายของ เธอบอกว่ารู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นผิดและเสียใจกับสิ่งที่ทำ แต่เธอทนเห็นลูกทนหิวไม่ได้จริงๆ จากเรื่องราวต่างๆ บวกกับสภาพความเป็นอยู่ที่เห็น ตำรวจจึงลงความเห็นว่านี่ไม่ใช่การกระทำผิดที่เกิดขึ้นจากความโลภ แต่เป็นเพราะเธอยากจนมากจริงๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อทำผิดแล้วก็ต้องรับโทษตามกฎหมาย ดังนั้นคุณแม่คนนี้จึงถูกนำตัวไปขังในคุก แต่ไม่นานก็ถูกปล่อยตัวออกมา ส่วน Keith…
-
เจ้าของเล่าเรื่องสุดฮา เมื่อน้องหมาของเขาแอบเข้าไปนอนในรถส่งของ เลยได้เที่ยวไปทั่ว
ว่ากันว่าสุนัขเนี่ยมีความสามารถในรับรู้เฉลี่ยเท่ากับมนุษย์อายุ 2 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่กำลังซนพอดีเลย อยาลอง อยากรู้ไปซะทุกเรื่อง จนบางทีมันก็ได้ประสบการณ์แปลกใหม่กลับมา อย่างเรื่องราวของเจ้าหมาจอมป่วนที่ถูกแชร์ในเว็บไซต์ Reddit โดยระบุว่าน้องหมาตัวหนึ่งแอบเข้าไปนอนในรถส่งของ เลยทำให้มันได้เที่ยวไปทั่ว Dickfromaccounting ได้โพสต์ภาพน้องหมาโกลเด้นนั่งอยู่กลางหิมะที่กำลังทำหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก และมีป้ายห้อยที่คอของมัน เขียนไว้ว่า “คนส่งของลืมโยนคุกกี้ให้ผม ผมเลยแอบขึ้นไปอยู่ในรถบรรทุกของเขาจนทำให้ผมได้เที่ยวไปทั่วเลย และสุดท้ายเขาก็มาส่งผมที่บ้าน” ภาพนี้ทำสร้างความประทับให้ชาวเน็ตกันถ้วนหน้า มีคนนับร้อยเข้ามาแสดงความคิดเห็น ในขณะที่บางคนก็ร่วมแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองด้วย ผู้ใช้ชื่อ Strykrhd เล่าว่า “สุนัขของฉันก็เคยเข้าไปในรถบรรทุกเหมือนกัน เพราะในนั้นมันเงียบสงบ ทำให้มันนอนได้อย่างสบาย แถมได้เที่ยวจนหนำใจเลย” YesNoMaybe บอกว่า “มีแมวของเพื่อนบ้านตัวหนึ่ง ชอบกระโดดขึ้นรถตอนที่เราเปิดประตูทิ้งไว้ เมื่อเราเจอมัน มันก็จะร้องเมี้ยว เพื่อให้เราลูบตัวให้” ชาวเน็ตอีกคนบอกว่า “ผมเคยเจอแบบนี้กับแพะครั้งหนึ่ง มันชอบกินกระดาษ กล่อง โดยเฉพาะการเคี้ยวกล่องกระดาษแข็ง เป็นสิ่งที่มันชื่นชอบสุดๆ” “พนักงานขนส่งที่มารับของจากออฟฟิศเรารู้เรื่องเกี่ยวกับเจ้าแพะตัวนี้ดี แต่วันหนึ่งมีพนักงานใหม่มารับของ ขณะที่อยู่ในสำนักงานผมเห็นมันแอบกระโดดขึ้นท้ายรถบรรทุก ก่อนรถจะขับออกไป “โชคดีที่คนขับรถรู้ตัวหลังจากขับไปได้ประมาณ 200 เมตร ถ้าเขารู้ตัวช้ากว่านี้อีกนิด ฉันไม่อยากนึกเลยว่าข้าวของในรถจะเป็นยังไง” …
-
บังเอิ๊ญบังเอิญ เมื่อหนุ่มพบตัวเองในวัยเด็กอยู่ในรูปภาพครอบครัวของคู่หมั้นเมื่อ 10 ปีก่อน
เราหลายคนสามารถบอกได้ว่าเจอกับแฟนครั้งแรกเมื่อไหร่ ที่ไหน แล้วเคยสงสัยมั้ยว่าบางทีเราอาจจะเจอกันก่อนหน้านั้นแล้วก็ได้ เพียงแค่ตอนนั้นยังไม่รู้จักกัน เหมือนอย่างคู่รักคู่นี้ที่มีภาพมายืนยันว่าจริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้เพิ่งเจอกันตอนหนุ่มสาว แต่เคยอยู่ในที่เดียวกัน เวลาเดียวกันตั้งวัยเด็กแล้ว Verona Koliqi อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่มีพื้นเพอยู่ในสาธารณรัฐคอซอวอ และเคยไปเที่ยวกับครอบครัวที่ชายหาดในประเทศมอนเตเนโกรเมื่อ 10 ปีก่อน หญิงสาวเล่าว่าเมื่อเธอและแฟนหนุ่ม Mirand Buzaku ย้อนดูรูปภาพของเธอในวัยเด็ก แล้วเธอก็สังเกตเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังลอยบนแพยางอยู่ด้านหลังของเธอและครอบครัว ส่วนชายหนุ่มเองรู้สึกว่าเด็กคนนั้นช่างเหมือนเขาในวัยเด็กซะเหลือเกิน ทั้งเสื้อและกางเกงที่เด็กชายคนนั้นใส่ เหมือนกับของเขาไม่ผิด ทั้งคู่จึงลองไปถามครอบครัวของ Buzaku จนได้รับการยืนยันว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว พวกเขาไปเที่ยวด้วยกันที่นั่นจริงๆ… ภาพครอบครัวของ Koliqi ที่บังเอิญมี Buzaku คู่หมั้นคนปัจจุบันอยู่ในเฟรมด้วย ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าเคยเจอกันมาก่อนในวัยเด็ก เพราะทั้งคู่จำได้ว่าเจอกันครั้งแรกเมื่อช่วงฤดูร้อนของปี 2016 ในสาธารณรัฐคอซอวอ ก่อนจะตัดสินใจหมั้นกันในปีถัดมา แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากๆ หญิงสาวจึงแชร์เรื่องราวของเธอลงในอินสตาแกรม จนมีคนเข้ามาถูกใจกว่า 30,000 คนและคอมเมนต์อีกเพียบ นอกจากนี้ยังทำให้ชาวเน็ตบางคนแชร์เรื่องราวความบังเอิญในความรักของพวกเขาด้วย โดยหญิงสาวคนหนึ่งเล่าว่า “ฉันกับแฟนหนุ่มเคยไปคอนเสิร์ตเล็กๆ ที่เดียวกัน แต่นั่นมัน 4 ปีก่อนที่เราจะได้พบกัน” คู่ไหนเป็นแบบนี้บ้าง เคยอยู่ในที่เดียวกัน เวลาเดียวกัน…
-
ช่างภาพสาวสุดเซ็ง ถูกปัดงานถ่ายภาพช่วงคลอด เพราะลูกค้า ‘ไม่อยากให้ลูกคลอดมาผิดเพศ’
Faith Grace ช่างภาพสาวอายุ 21 ปี ผู้ที่มีความชื่นชอบการถ่ายรูปมาตั้งแต่เด็ก เธอได้ใช้ความชื่นชอบของเธอมาเป็นอาชีพเพื่อหารายได้นั่นก็คือการรับจ้างถ่ายรูปตามโอกาสสำคัญต่างๆ แต่ชีวิตในการทำงานของเธอก็ต้องมาเจอกับเรื่องราวที่เธอรู้สึกว่า เธอจะต้องจดจำไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว โดย Faith ได้ถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ของเธอผ่านทางทวิตเตอร์ มันเป็นเรื่องที่เธอไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต และหวังว่าหลายๆ คนอาจจะเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังจะอธิบาย เรื่องราวมันเริ่มต้นมาจากที่ช่างภาพสาวได้รับการติดต่อจากหญิงที่ชื่อว่า McKenna ติดต่อเข้ามาเพื่อจะว่าจ้างให้เธอไปถ่ายรูปช่วงเวลาสำคัญนั่นก็คือการคลอดลูก ซึ่งหลังจากที่ได้ตกลงกันเสร็จสรรพ ช่างภาพสาวก็ได้เตรียมตัวล็อกคิวไว้เพื่อจะไปบันทึกภาพในช่วงเวลาสุดแสนพิเศษของคุณแม่ท่านนี้ วันรุ่งขึ้นเธอก็ได้รับข้อความจากคุณลูกค้าคนเดิม แต่เนื้อหาข้อความทำให้เธอโมโหจนปรี๊ดแตกและยังคงสงสัยว่า นี่มันยุคไหนกันแล้วนี่ เนื้อหาข้อความบอกว่า “สวัสดี Faith ฉัน McKenna ที่ติดต่อเธอไปเมื่อคืนนะ คือว่าฉันเพิ่งจะเข้าไปค้นหาข้อมูลและดูตัวอย่างรูปภาพผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวของคุณ แต่สิ่งที่ฉันเจอคือคุณได้โพสต์รูปภาพ Pride Flag (ธงหลากสี สะท้อนความหลากหลายทางเพศ) ฉันเลยมีคำถามว่า คุณเป็นเกย์หรือว่าคุณมีคนในครอบครัวเป็นเกย์มั้ย?” ทางช่างภาพสาวก็ได้ตอบกลับไปว่า “สวัสดี McKenna ขอบคุณที่สนใจ แต่ไม่มีใครในครอบครัวของฉันที่เป็นเกย์ แต่ฉันเป็น นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงมี Pride Flag ในไอจีของฉัน” ทางคุณลูกค้าก็ได้ตอบกลับมาทันทีว่า “จ้า…
-
รวมสัตว์เลี้ยงจอมทรยศ อุตส่าห์เลี้ยงให้เฝ้าบ้าน แต่ดันมาแย่งแฟนของเราไปซะงั้น!!
ใครจะไปคิดล่ะว่าเหล่าบรรดาสัตว์เลี้ยงของเราทั้งหลายมันจะมีความแรดได้ถึงเพียงนี้ ลูกเล่นมารยาของมันแต่ละอย่างจัดได้ว่าน่าหมั่นไส้ม๊ากมาก ยิ่งตอนที่มันอยู่กับแฟนของเรานะ ทำตัวยิ่งกว่าเป็นแฟนของพวกมันซะอีก ยังไงก็ตามถึงแม้ว่ามันจะน่าหมั่นไส้ไปนิด แต่มันก็มีความน่ารักอยู่ดี เห็นแล้วยังไงก็โกรธไม่ลงหรอก ฮ่าๆ เหมือนเจ้าสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ยังไงล่ะ เจ้ากระรอกน้อยได้ขโมยแฟนของผมไปแล้ววววว ทำหน้าอ้อร้อมาก รักกันมากใช่มั้ย นี่ก็อีกตัว อย่าคิดว่ามีเจ้านายหล่อแล้วจะทำอะไรก็ได้นะ ตกลงใครมาแย่งที่ใครกันแน่เนี่ย ไม่เกรงใจกันเลยเจ้าหมา มักชักจะมากเกินไปแล้วนะ อิจฉาอ่ะ มีความสุขมากเลยใช่มั้ย นั่งฟินตัวแข็งเลย รักผม ต้องรักแมวของผมด้วย ยิ้มแป้นเลยนะ แหม่ ภรรยาแอบถ่ายเมื่อคุณสามีนอนกับแมว อยากจะเซลฟี่ด้วยก็ไม่บอก ดูสายตานั่นสิคะ ที่รัก มองอะไรนังทาส ไปเอาขนมมาให้ข้าสิ นอนตรงนี้มันอุ่นสุดๆ ไปเลย นี่ฉันมารบกวนเวลาสวีทของคุณหรอเนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม โดนขัดซะงั้น จัดมาเป็นคอลเล็คชัน รู้แล้วจ้าว่ารักกันอ่ะ เหมือนรู้งานอ่ะ…
-
เผยผลสำรวจพฤติกรรม “ช่วยตัวเอง” จากทั่วญี่ปุ่น จัดอันดับจังหวัดไม่พอ มีท่าแนะนำให้ด้วย!?
เคยสงสัยไหมว่าประเทศแห่งอุตสาหกรรมสื่อผู้ใหญ่อย่างญี่ปุ่น จะมีอัตราการช่วยตัวเองมากน้อยขนาดไหน? ไม่ใช่แค่คุณที่อยากรู้ เพราะทาง Tenga เขาก็อยากรู้เหมือนกัน!! ท่านชายหลายคนอ่านแล้วคงจะต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอนสำหรับชื่อ Tenga เพราะมันก็คือชื่อของสินค้าสำหรับท่านชาย ที่สร้างขึ้นมาเพื่อช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการช่วยตัวเอง ตัวอย่างสินค้าของทาง Tenga ล่าสุดทาง Tenga ได้ออกไปสำรวจท่านชายจำนวน 5,279 คนจากทั่วประเทศและจำกัดช่วงอายุตั้งแต่ 15 ถึง 64 ปี และนี่ก็คือผลสำรวจของที่พวกเขาได้มา!! จังหวัดที่มีการช่วยตัวเองมาที่สุด อันดับหนึ่งคือจังหวัดคะนะงะวะ มีการช่วยเหลือตัวเองเฉลี่ย 3.77 ครั้งต่อสัปดาห์ อันดับสองคือจังหวัดจังหวัดเฮียวโงะ มีการช่วยเหลือตัวเองเฉลี่ย 3.65 ครั้งต่อสัปดาห์ อันดับหนึ่งคือจังหวัดชิซุโอะกะ มีการช่วยเหลือตัวเองเฉลี่ย 3.45 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนอัตราส่วนเฉลี่ยของทั่วประเทศจะอยู่ที่ 2.94 ครั้งต่อสัปดาห์ ท่าที่ใช้ในการช่วยเหลือตัวเอง ท่านั่ง 33.6 % ท่านอนหงาย 27.9 % ท่านอนหันข้าง 12.1 % ใช้อะไรเป็นสื่อในการช่วยเหลือตัวเอง หนังผู้ใหญ่แบบดูฟรีผ่านเว็บ 79.5 % หนังผู้ใหญ่แบบเสียเงิน…
-
เมื่อป้าชั้นล่างเปิดทีวีเสียงดัง หนุ่มญี่ปุ่นเลยจัดการพังพื้นเพื่อทำลายทีวีของป้าให้สิ้นซาก!!
เรื่องราวสุดเงิบที่เหมือนจะตลกแต่เจ้าตัวกลับฮาไม่ออก เมื่อชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งได้ระบายถึงความรู้สึกแย่ๆ ของการที่ต้องทนอยู่กับเพื่อนบ้านไม่ค่อยดีในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง โดยเขาจะต้องสู้กับมลพิษรอบห้องของเขาทุกๆ วันจนในที่สุดเขาก็ทนมันไม่ไหว Kei Fujino หนุ่มวัย 33 ปี เล่าว่าทุกวันเขาต้องเจอกับชายคนหนึ่งที่ทำอาชีพปล่อยเงินกู้อยู่ชั้นล่างถัดจากเขาไป 2 ชั้น โดยชายคนนี้นั้นมักจะตะโกนใส่โทรศัพท์มือถือในช่วงเช้ามืดแทบทุกวันว่า “จ่ายเงินมาสักที” ส่วนอีกคนที่พ่อหนุ่มคนนี้ต้องเจอคือชายข้างห้องที่มีกลิ่นตัวเหม็นมากๆ เหม็นขนาดที่บางครั้งมันสามารถลอยตามลมเข้ามาในห้องของเขาได้ แต่ที่หนักที่สุด Kei เล่าว่า ป้าที่อยู่ห้องด้านล่างที่ตรงกับห้องของเขามักจะเปิดทีวีเสียงดังมากๆ จนพ่อหนุ่มเจ้าของเรื่องราวคนนี้ทนไม่ไหว จัดการทุบพื้นอพาร์ตเมนต์ โดยใช้ไม้ขนาด 120 เซนติเมตรฟาดลงไปกับพื้นจนเป็นรูกว้าง จากนั้นเขาก็ใช้ไม้ดังกล่าวโยนใส่ทีวีของป้าห้องข้างล่างต่อทันที โชคดีที่ป้าไม่เป็นอะไร คุณป้าคนนั้นได้แจ้งความไปยังตำรวจทันที หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมนาย Kei พวกเขาก็ได้รับรู้เรื่องราวร้องไห้ไม่ได้ หัวเราะไม่ออกของเขา ตำรวจบอกว่านาย Kei และป้าคนดังกล่าวนั้นไม่เคยเจอหรือคุยกันแบบตรงๆ มาก่อนเลย ฉะนั้นสาเหตุที่เขาทำไปทั้งหมดล้วนเกิดจากความโมโหที่มีแก่ทีวีที่สร้างเสียงน่ารำคาญแก่เขาเท่านั้น สุดท้ายแล้ว Kei ก็ถูกตั้งข้อหาทำลายทรัพย์สินและถูกคุมขัง ซึ่งก็หวังว่าที่คุมขังนั้นจะแข็งแรงพอจะกักขังหนุ่ม Kei ไว้ให้ไม่ทำลายมัน หรือผู้คุมจะไม่เปิดทีวีเสียงดังนะ… จริงๆ ก็น่าสงสารพ่อหนุ่มคนนี้นะ ที่มา rocketnews24
-
คนขับแท็กซี่อินเดียได้รับรางวัลเกียรติยศ ‘ไม่บีบแตร’ มาตลอด 18 ปี รออะไรล่ะ ปรบมือสิ!!
การบีบแตรในบ้านเรานั้นมักจะเกิดขึ้นจากความไม่พอใจ การให้สัญญาณ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่นานๆ จะเกิดขึ้นสักที แต่ทว่าในอินเดียการบีบแตรเป็นอะไรที่ปกติ บีบกันจนรู้สึกว่าชีวิตนี้ถ้าวันไหนไม่ได้บีบมันจะเหมือนไม่ได้ขับรถกันเลยทีเดียว แต่แล้วคนขับรถคนหนึ่งนามว่า Dipak Das ก็สามารถพิชิตนิสัยปกติของชาวอินเดียที่ชอบบีบแตรลงได้ โดยชายคนนี้นั้นไม่ได้บีบแตรระหว่างขับรถมาเป็นเวลากว่า 18 ปีแล้ว จนองค์กรเพื่อสิทธิมนุษย์ที่ชื่อว่า Manush Mela ต้องออกมาให้รางวัล Manush Sanman หรือก็คือรางวัลไม่บีบแตรแก่เขา Dipak ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น Hindustan Times ว่า “ผมคิดว่า ถ้าคนขับรถทุกคนทำตามกฎหมายไม่บีบแตร เขาจะมีสมาธิในการขับรถมากขึ้น ถ้าคนขับรถทุกคนคำนึงถึงพื้นที่ ความเร็ว และระยะเวลาระหว่างขับขี่ พวกเขาจะไม่ต้องบีบแตรเลย” การไม่บีบแตรของ Dipak นั้นล้วนเกิดขึ้นจากตัวเขาเอง เพราะแม้ว่าลูกค้าที่โดยสารรถของเขาจะบอกให้เขาบีบแตรเท่าไหร่ก็ตาม เขาก็เลือกที่จะปฏิเสธไม่บีบแตรเสมอพร้อมตอบกับลูกค้าว่า “การบีบแตรไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา” สุดท้ายแล้ว Dipak ก็หวังว่าเมืองโกลกาตาในประเทศอินเดีย จะเริ่มหันมาสนใจและกลายเป็นเมืองที่ไม่มีการบีบแตร ซึ่งอย่างไรก็ตามมันก็ดูจะเป็นเรื่องที่ยากจะเป็นไปได้อยู่ดี… จากภาพเราจะเห็นว่าการจราจรในอินเดียมันวุ่นวายแค่ไหน ที่มา odditycentral,hindustantimes
-
18 วิธีอวดปั๋วเนียนๆ ด้วยการ “ใส่ชุดคู่” ทั้งน่ารัก และมีสไตล์ บอกเป็นนัยๆ ว่า “ผัวช้านนนน!!!!!”
นอกจากการถ่ายรูปคู่และการตั้งความสัมพันธ์บนหน้าเฟสบุ๊กเราจะมีวิธีไหนอีกที่จะอวดผัวให้โลกได้รู้นอกจากการใส่ชุดคู่!!!! แต่ชุดคู่ในที่นี้เรามีความแอดวานซ์กว่านั้น ไม่ใช่การใส่เสื้อยืดสกรีนคำคู่กันแบบ “ป๊า-ม๊า” หรือ “เค้า-ตะเอง” อะไรแบบนั้นหรอกนะ แต่มันคือการใส่แมตช์ ชุดใส่ดูเข้ากัน โดยใช้สีสันและจัดสไตล์ให้เข้ากันแบบเนียนๆ แต่มีความโชว์หลัวแบบกรุบๆ สาวๆ คนไหนที่อยากอวดสามีโดยไม่ต้องเอ่ยปาก ก็ต้องลองไปใช้วิธีการแมตช์ชุดนี่แล้วล่ะ 1. หนาวๆ แบบนี้ต้องใส่เสื้อสเวตเตอร์คู่ซักหน่อย ไม่เห็นต้องอายใครอวดหลัวรัวๆ ไปเลย 2. เสื้อแหม่ม เสื้อคิง ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นอะไรกัน 3. เสื้อฮู๊ดตัวใหญ่ๆ ใส่แล้วก็ดูอบอุ่นน่ารักดีนะ 4. คู่รักนักกีฬาก็เหมาะที่จะใส่ชุดสไตล์สปอตท์ๆ ออกไปเดินเล่นกันชิวๆ 5. ธีมชุดนักเรียนย้อนวัยก็ดูน่ารักดี เหมือนได้กลับไปในวันที่เดทกันครั้งแรก 6. สาวที่สวมเสื้อผ้าแมนๆ แบบแฟนหนุ่มก็ดูน่ารักดีออก เพื่อนๆ ว่าไหมล่ะ!? 7. เสื้อโค้ท ตัวใหญ่ๆ ในวันหนาวๆ ก็ได้ฟินพระเอกนางเอกในซีรีย์สุดๆ 8. เสื้อไหมพรมสีเดียวกันก็ดูไม่จัดจ้านเกินไป ใส่เข้าได้แบบละมุนๆ นะ 9. เดินเล่นชิวๆ ในวันอากาศดีๆ…
-
เชฟมือดี เผย 5 สิ่งที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน เกี่ยวกับการทำงานในร้านอาหารสุดโหด!!!
“เชฟ” อาชีพในฝันของใครหลายๆ คน ที่มีหน้าที่สร้างสรรค์การศิลปะอาหารให้กับผู้ลิ้มรสจากทั่วโลก แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ว่าการเป็นเชฟนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แถมการทำงานอยู่หลังครัวนั้นมีความลับที่ทุกคนยังไม่เคยรู้มาก่อน และในครั้งนี้เชฟชื่อดังจะมาเผยเรื่องลับที่ทุกคนยังไม่เคยรู้ เกี่ยวกับการทำงานสุดหินเบื้องหลังการเสิร์ฟอาหารสุดหรู “งานครัวที่ไม่เคยพัก” เชฟต้องทำงานตลอดเวลาเพื่อให้ทันกับความต้องการของลูกค้า “งานครัวคืองานที่ต้องทำตลอด 24 ชั่วโมง คนอื่นคงไม่รู้หรอกว่าเราต้องเตรียมวัตถุดิบทุกอย่างไว้ก่อนที่จะทำอาหารทั้งหมด” Ashley Davis เชฟฝีมือดีที่ได้รับรางวัลเชฟและหัวหน้าเชฟ Copper Pot Seddon ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย กล่าวเอาไว้ “เราต้องทำอาหารตลอดทั้งคืนเพื่อให้ทันเวลา และเชฟทำงานมากถึง 14 ชั่วโมงต่อวันเลยล่ะ” “การควบคุมและจัดการงานในร้านอาหารเป็นเรื่องยาก” เชฟ Davis อธิบายประสบการณ์ในร้านอาหารว่า แม้ว่าภาพรวมของร้านอาหารจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและอาหารที่เสิร์ฟออกไป แต่ในความจริงแล้วมีคนที่ทำงานอยู่เบื้องหลังมากมาย “ร้านอาหารคือเรื่องของทุกคน ตั้งแต่คุณลูกค้า พนักงานเสิร์ฟ ซัพพรายเออร์ เกษตรกร การขนส่ง คนขับรถส่งของ และอีกหลายๆ อย่าง” “ดังนั้นการที่จะลงมาจัดการในทุกๆ ขั้นตอนนั้น จึงเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรเลยล่ะ” “เมนูอาหารไม่ได้หรูหราแบบนี้พวกคุณเห็น” Kathleen Schaffer อดีตเชฟผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง Schaffer อธิบายว่ารายการอาหารบางอย่างในร้านอาหารนั้นคือการ “สร้างกำไร” อาหารจานหนึ่งที่มีราคาไม่แพงมากนัก ถูกจัดแต่งให้ดูหรูหราเพื่อที่จะเพิ่มราคาให้สูงขึ้น “หากอาหารขาดส่วนผสมไปอย่างหนึ่ง จะไม่สามารถจัดเสิร์ฟได้เลย” พวกเราไม่สามารถที่จะใช้ส่วนผสมอื่นแทนส่วนผสมที่ขาดหายไปได้ ดังนั้นคนทำอาหารจะต้องจัดหาส่วนผสมนั้นมาให้ได้…
-
สรุปผลจับสลาก UEFA Champions League รอบ 16 ทีมสุดท้าย ใครเจอใครบ้าง!?
รายการฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป อย่าง UEFA Champions League ได้ผลการจับสลากในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย ในรอบ 16 ทีมนี้ ทีมใหญ่พากันตบเท้าเข้ารอบกันมากมาย โดยแบ่งเป็นทีมจากอังกฤษ 5 ทีม, สเปน 3 ทีม, อิตาลี 2 ทีม, นอกจากนั้นเป็นเยอรมนี ฝรั่งเศส ตุรกี ยูเครน โปรตุเกส และสวิตเซอร์แลนด์ ชาติละ 1 ทีม และนี่คือผลของการจับสลากล่าสุด ออกมาดังต่อไปนี้…. Juventus (อิตาลี) พบกับ Tottenham (อังกฤษ) Basel (สวิตเซอร์แลนด์) พบกับ Man City (อังกฤษ) Porto (โปรตุเกส) พบกับ Liverpool (อังกฤษ) Bayern (เยอรมนี) พบกับ Beşiktaş (ตุรกี) Chelsea (อังกฤษ) พบกับ Barcelona (สเปน) Sevilla (สเปน)…
-
เผยอันดับดาวเด่น YouTube 2017 ทำเงินสูงสุด 540 ล้าน และแชมป์ไม่ใช่ PewDiePie แล้ว
แม้ว่าปี 2016 ผู้ที่คว้าอันดับยูทูบเบอร์ที่ทำรายได้สูงสุดจะเป็น PewDiePie ยูทูบเบอร์ที่มียอดซับสไครบ์สูงที่สุดในโลก แต่มาในปี 2017 กลับไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไป เพราะ Forbes ได้เผยชื่อเจ้าของตำแหน่งคนใหม่เรียบร้อยแล้ว!! ยูทูบเบอร์ที่มาโค่นแชมป์เก่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาก็คือ Dan Middleton วัย 26 ปี หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ DanTDM นั่นเอง โดยช่องของเขามีซับสไครบ์อยู่ที่ 11 ล้านซับสไครบ์ แต่ถึงแม้เขาจะมีจำนวนซับสไครป์ที่น้อยกว่าแชมป์เก่า ทว่าเขาก็สามารถทำเงินในปีนี้ไปได้มากกว่า 16.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยก็เกือบๆ 540 ล้านบาทเลยทีเดียว เงินจำนวนนั้นทำให้ Dan แซงหน้า PewDiePie ที่ทำเงินได้สูงสุดในปีที่แล้วไป 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือเกือบๆ 490 ล้านบาทไปเรียบร้อย ยิ่งไปกว่านั้นในปีนี้ตัว PewDiePie ก็มีรายได้ลดลงจากปีที่แล้วเหลือเพียง 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น โดยเหตุผลหลักๆ ก็คงจะมาจากดราม่าเรื่องนาซี คำหยาบและคำพูดเหยียดผิวของเขาที่เป็นข้อกังขากัน อย่างไรก็ตาม เหตุผลหลักที่ทำให้ Dan สามารถทำเงินได้มหาศาลก็มาจากคุณภาพในช่องของเขาเอง โดยเขาได้กำหนดเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนว่าเขาจะมุ่งเน้นคอนเทนต์หลักไปที่กลุ่มเด็กอายุ 5 ถึง 10 ปี ฉะนั้นช่องของเขาจึงไม่มีคำหยาบเลย และนั่นก็ส่งผลให้การขอสปอนเซอร์หรืออะไรก็ตามมันเกิดขึ้นได้ง่ายมากๆ ซึ่งวิดีโอหลักของช่อง DanTDM ก็จะยังคงเป็นเกม…
-
เด็กหนุ่มระบายความในใจหลังถูกแกล้งในโรงเรียน จนเหล่าคนดังแห่มาให้กำลังใจ!!
การกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน ทำให้เหยื่อหลายคนรู้สึกไม่พอใจและอยากลุกขึ้นมาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนอย่างเด็กคนนี้ ที่ถูกกลั่นแกล้งจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข การออกมาพูดถึงเรื่องราวและความรู้สึกของตัวเขาเองจึงกลายเป็นกระแสและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม 2017 เมื่อเด็กมัธยมต้นในเมืองน็อกซ์วิลล์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา ชื่อว่า Keaton Jones ถูกกลั่นแกล้งซ้ำๆ จนเขาไม่กล้าไปกินอาหารกลางวันในโรงอาหาร แม่ของเขาจึงต้องมารับกลับบ้านไป ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นมาหลายครั้งมากแล้ว คนเป็นแม่เห็นอย่างนั้นแล้ว ก็ไม่อาจปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปเฉยๆ ได้ เธอจึงถ่ายคลิปวิดีโอ ให้ลูกชายของเธอเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อการถูกกลั่นแกล้งหรือคนที่คอยกลั่นแกล้ง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการที่ถูกกลั่นแกล้งซ้ำไปซ้ำมา Keaton เล่าว่า “ผมถูกกลั่นแกล้งมาโดยตลอด ทั้งการเทนมใส่อาหารของผมหรือถูกถอดเสื้อผ้าออกกลางโรงอาหาร ไม่เข้าใจเลยว่าคนเหล่านั้นทำแบบนี้กับผมทำไม ไม่เข้าใจว่ามันสนุกนักหรือไงที่ได้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์แบบนี้ สำหรับผม ผมรู้สึกไม่โอเคเลย” เมื่อคุณแม่โพสต์คลิปนี้ลงไป เด็กหนุ่มก็ได้รับกำลังใจจากผู้คนในโซเชียล รวมถึงเหล่าคนดังจำนวนมากที่ได้เห็นคลิปวิดีโอของเขา Captain America บอกให้เด็กหนุ่มเข้มแข็งเข้าไว้ อย่าให้คนพวกนั้นมากำหนดชีวิตเรา และเขายังถาม Keaton อีกว่า สนใจพาแม่มาร่วมงาน Avengers Premiere ในลอสแองเจลิส ที่จะจัดขึ้นปีหน้าหรือเปล่า? The Hulk…
-
เหล่าพ่อแม่ที่ฉลาดล้ำนำโลก ถ้าเรายังอยู่ในปี 2017 เค้าก็คงท่องเวลามาจาก 3017 แล้วล่ะ!!
ในปัจจุบันการจะพูดถึงนวัตกรรมต่างๆ หรือการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์แบบล้ำๆ นั้นดูเหมือนว่าจะกลายเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดาไปซะแล้ว เพราะถ้าหากใครที่ติดตามข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีนั้นก็คงจะทราบกันดีว่าตอนนี้โลกเรานั้นไปไกลแค่ไหนแล้ว แต่ถึงแม้ในปี 2017 นี้เราจะมีการคิดค้นทางด้านนวัตกรรมก้าวกระโดดมากแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่ายังไงก็ไม่เท่ากับนวัตกรรมของคุณพ่อคุณแม่ที่ประยุกต์ใช้สิ่งต่างๆ รอบๆ ตัวจนไปไกลถึงปี 3017 แบบนี้แน่ๆ 1. ลองนึกภาพสติกเกอร์ไลน์ดุ๊กดิ๊กที่มีหน้าคุณแม่ของคุณดูสิ!! อื้อหือ ยิ่งกว่าสวัสดีวันจันทร์แน่นอน!! 2. วิทยุสื่อสารของคุณพ่อที่มาจากปี 3017!! 3. นี่สินะที่เค้าเรียกว่าชุดเกราะกันรังสี (ดูคลิปไม่ได้กด ที่นี่ นะ) y’all livin in my 2017, my dad livin in 3017 pic.twitter.com/HoqRxJmZRA — Austin Roa (@AustinRoa) 17 มิถุนายน 2560 4. ดื่มไวน์แบบเย็นๆ โดยไม่ให้เสียรสชาติ ก็ต้องเอาแก้วแช่แบบนี้แหละนะ 5. การแอบซ่อนเบียร์ในตู้เย็น แบบปี 3017…
-
รวม 10 เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2017 นี้ และหวังว่าปีหน้ามนุษย์เราจะช่วยกันทำให้ดีขึ้นไปอีก
หลายคนอาจคิดว่าโลกของเราเต็มไปด้วยสิ่งเลวร้าย การดิ้นรนใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก และคนในสังคมที่ต่างคนต่างใช้ชีวิตกันไป แต่ที่คุณคิดอย่างนั้นอาจเป็นเพราะไม่เคยเห็นเรื่องราวเหล่านี้ก็เป็นได้ ทั้งหมดนี้คือ 10 เรื่องราวแสนอบอุ่นหัวใจในปี 2017 ที่จะทำให้คุณรู้ว่าบนโลกของเรายังคงมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ และเชื่อว่าในปีหน้า การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จะยิ่งทวีคูณมากขึ้นไปอีกนะ 1. คนแปลกหน้าจำนวนมากซื้อรถให้กับเด็กหนุ่มที่ทำงานร้านฟาสต์ฟู้ด เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้น เมื่อ Andy Mitchell ขับรถไปเจอพนักงานร้านฟาสต์ฟู้ดที่ชื่อ Justin Corva กำลังเดินอยู่บนทางเท้าในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา Andy จึงอาสาพาเขาไปส่งยังที่หมาย และได้รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ต้องเดินไกลเกือบ 5 กิโลเมตรทุกวันเพื่อไปทำงาน ชายหนุ่มจึงถ่ายเซลฟี่พร้อมกับโพสต์เรื่องราวของ Justin ลงในเฟซบุ๊ก ทำให้คนในโลกโซเชียลได้เห็นและช่วยกันรวบรวมเงินก้อนหนึ่งเพื่อซื้อรถให้กับเด็กหนุ่มคนนี้ จนในที่สุดเขาก็ได้มีรถเป็นของตัวเอง ประกันภัยรถยนต์ 1 ปี สามารถเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้ฟรี 2 ปี และบัตรเติมน้ำมันอีกกว่า 16,000 บาท 2. ชาวเน็ตและคนดังช่วยกันอวยพรวันเกิดให้กับเด็กคนหนึ่งที่ถูกกลั่นแกล้ง คุณพ่อเจ้าของทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @Hopenlesmyth ถามคนในโลกโซเชียลว่ามีใครรู้จักคนดังหรือดาราบ้างมั้ย เพราะเขาต้องการให้คนเหล่านั้นช่วยอวยพรวันเกิดให้กับ Ollie ลูกชายของเขา เขาเล่าว่าเด็กหนุ่มวัย 9 ขวบคนนี้ถูกกลั่นแกล้งจนทำให้รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า…
-
เด็กสาวร่ำไห้เสียใจที่หมาทำร้าย ‘ตุ๊กตาเอลฟ์’ บนชั้นวางของ แม่เลยพาไปโรงบาลซะเลย!!
เด็กๆ เป็นวัยที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่และจริงจังกับทุกอย่าง แม้แต่ตุ๊กตาที่ไม่มีชีวิต พวกเขาก็รักเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง ดังนั้นผู้ใหญ่ควรใส่ใจกับความรู้สึกเด็กให้มากๆ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างหนูน้อยผู้ไร้เดียงสาคนนี้ที่ร้องไห้หนักมากเมื่อพบตุ๊กตาตัวโปรดของเธอที่อยู่บนชั้นวางของแขนหักไปข้างหนึ่งเพราะฝีมือเจ้าหมา Jenn Thelen คุณแม่ชาวออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เล่าว่าเช้าวันที่ 5 ธันวาคม ปี 2017 เธอตื่นมาเพราะเสียงร้องไห้ของ Aubrie ลูกสาววัย 7 ขวบ เมื่อวิ่งไปดูปรากฏว่าลูกสาวไม่ได้รับบาดเจ็บหรือตกอยู่ในอันตรายเลย แต่เธอร้องไห้เพราะเจ้าหมา Zoey ฉีกเจ้า Sam ตุ๊กตาเอลฟ์ของเธอที่อยู่บนชั้นวางของออกเป็นชิ้นๆ Jenn รู้ดีว่านั่นเป็นตุ๊กตาที่ลูกสาวหวงและรักมากที่สุด เธอจึงตัดสินใจพาเจ้าตุ๊กตาเอลฟ์ไปยังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล Arnold Palmer Hospital for Children ทันที เมื่อ Jenn พา Sam พร้อมชิ้นส่วนของมันมาถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ก็ใส่ใจดูแลมันเป็นอย่างดีด้วยการพา Sam นั่งเตียงฉุกเฉินเพื่อจะทำการช่วยชีวิตต่อไป ความใส่ใจของเจ้าหน้าที่ถูกบันทึกวิดีโอเอาไว้ ก่อนที่ทางโรงพยาบาลจะแชร์ลงในหน้าเพจเฟซบุ๊กของพวกเขา จนกลายเป็นเรื่องโด่งดังในโซเชียล หวังว่าหนูน้อย Aubrie คงจะได้พา Sam กลับบ้านได้ในเร็วๆ นี้ แต่คราวนี้ต้องเก็บให้ห่างเจ้า Zoey เลยนะ เคสฉุกเฉินมาแล้ว ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมนะ…
-
เมื่อเพื่อนๆ แต่งงานกันหมด สาวโสดอยากมีคนมาขอบ้าง เลยให้หลัวมโนมาขอเองซะเลย!!
จะมีใครบ้างที่เข้าใจความรู้สึกของสาวโสด ที่เพื่อนๆ ทยอยแต่งงานไปทีละคนๆ บ้างไหม มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งกลัวและอับอาย ที่อายุป่านนี้แล้วยังไม่มีแฟนกับเขาซักที แล้วแบบนี้จะให้ไปแต่งงานกับใครเล่าาา!! เหมือนกันกับสาว Texas คนนี้ เธอเป็นสาวโสด ที่โดนเพื่อนๆ ทิ้งไปมีครอบครัวกันหมด เหลือแต่เธอที่ยังตัวคนเดียว แถมไม่มีหนุ่มไหนมาแวะเวียนข้องเกี่ยวจนหัวบันไดแห้งไปหมดแล้ว Ashley Janae Johnson สาวผิวสีที่อาศัยอยู่ในเมือง Buna รัฐ Texas ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอน่าจะรู้สึกเศร้ามากๆ ที่เพื่อนแต่ละคนมีสามีกันไปหมดแล้ว ทำให้เธอเกิดอาการอยากมีหลัวบ้าง จึงเกิดการมโนเป็นภาพสุดฮาเหล่านี้ นี่เธอขอฉันแต่งงานเหรอออ ฉันตกลง ฉันตกลง!!!! นี่แหวนเพชรจริงๆ ใช่ไหมคะ!!? โอ้พระเจ้า นี่มันเหมือนฝัน ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าคุณจะมาคุกเข่าต่อหน้าฉัน หน้าฉันร้อนผ่าวไปหมดแล้ววว แม่จ๋า หนูมีผัวแล้วว พ่อจ๋า หนูขายออกแล้ว ต้องปิดซอยเลี้ยงทั้งตำบลแล้วล่ะ ถ่ายรูปอวดชาวบ้านซักหน่อยนะที่รัก เวลามีคนอิจฉาฉัน มันทำให้รู้สึกดีจริงๆ เซตภาพสุดฮานี้มีคนแชร์ไปกว่า 22,753 ครั้ง ทำเอาสาวๆ ทั้งหลายฮาก๊ากกก แต่สำหรับสาวโสดแล้วนั้นมันเป็นมุกที่เจ็บแสบไม่น้อยเหมือนกันนะ โดยชาวเน็ตก็ได้มาแสดงความเห็นกันมากมาย “ยินดีด้วยนะจ๊ะ แต่ชั้นก็มีเหมือนกันย่ะ!!!” …
-
ถ้าคุณโดนหลอกให้ซื้อ ‘แมวแคระ’ เพราะคนขายอ้างว่าตัวไม่โตไปกว่านี้หรอก ยังจะเลี้ยงอยู่ไหม?
หลายคนอยากเลี้ยงสัตว์ แต่ติดปัญหาคือเราไม่มีพื้นที่ที่มากพอให้มันเข้ามาอยู่ด้วยได้ หรือเราอาจอยากได้สัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ มากกว่า เราจึงมักตามหาแมวแคระตัวจิ๋วและมักจะถามคนขายว่า “เลี้ยงยากมั้ย?” หรือ “มันจะตัวใหญ่ไปมากกว่านี้อีกมั้ย” คำตอบที่ได้ก็คือ “เลี้ยงไม่ยากครับ ตัวมันใหญ่สุดก็เท่านี้แหละ” แต่บางครั้งสิ่งที่เจอมันอาจไม่ได้เหมือนกับที่คนขายเขาบอกเรา พอเลี้ยงเจ้าเหมียวไปซักพัก นอกจากมันจะกินเยอะขึ้นแล้ว ขนาดตัวยังจะขยายใหญ่ขึ้นมาซะอย่างนั้น ที่แท้เราก็คงโดนหลอกให้ซื้อน้องเหมียว สายพันธุ์เมนคูน เฉยเลย!! มันมีรูปร่างที่ใหญ่มากขนาดไหน ต่างจากที่คนขายบอกอย่างไร เราลองไปดูกันเลย อยากได้แมวแคระ แต่โดนคนหลอกขายเมนคูนให้ซะอย่างนั้น นี่มันแคระตรงไหนฟะเนี่ย!? หรือจริงๆ มันก็ไม่ได้ตัวใหญ่อะไร แต่คนที่อุ้มมันอาจตัวเล็กเองหรือเปล่า แค่หางของเจ้าเหมียวนี่ก็เกินคำว่าตัวเล็กไปมากแล้วนะ ตัวเล๊กเล็กกก อยู่บนโต๊ะทีนี่หาที่วางจานข้าวไม่ได้เลย ถ้าอยู่หอพักพื้นที่ซัก 25 ตารางเมตร ก็คงพอให้เลี้ยงเจ้าเหมียวแล้วแหละ.. แต่หมายถึงให้มันอยู่ในห้องตัวเดียว เราอยู่ด้วยไม่ไหวหรอกนะ ไอ้หนูรีบๆ โตหน่อยนะ เดี๋ยวจะไม่ทันเจ้าเหมียวเอาได้ ไม่โตขึ้นแล้วจริงแหละ ถ้าโตกว่านี้ก็อย่าเรียกแมวเลย ทับทีก็มีหายใจไม่ออกกันบ้างแหละนะ ผู้หญิงหัวเล็ก หรือว่าเจ้าแมวหัวใหญ่กันหนอ.. อย่าซึมไปเลยสาวน้อย…
-
พ่อเห็นลูกในคลิปขโมยตุ๊กตาจัดงานคริสต์มาส เลยจองตั๋วเครื่องบินข้ามรัฐมาจัดการซะเลย
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2017 กล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่งสามารถจับภาพคนร้ายที่บุกรุกสนามหญ้าหน้าบ้านของเขา ทำลายไฟตกแต่งที่เตรียมไว้สำหรับคริสต์มาส และขโมยตุ๊กตาตกแต่งที่ตั้งเอาไว้ไปด้วย พวกเขาจึงนำคลิปวิดีโอดังกล่าวไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เพื่อให้คนอื่นๆ ช่วยกันตามหาคนร้าย นอกจากในโลกโซเชียลแล้ว ทางสำนักข่าว 9NEWS ก็นำเรื่องนี้ออกเผยแพร่ จนทำให้คุณพ่อท่านหนึ่งรับรู้ได้ในทันทีเลยว่า หนึ่งในผู้ร้ายที่อยู่ในคลิปคือลูกของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย เขาและคนในครอบครัวคนอื่นๆ จึงรีบเดินทางไปสถานที่เกิดเหตุในเมือง Centennial รัฐโคโลราโด ภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นคนร้ายบุกรุกเข้ามาในพื้นที่บ้าน เช้าวันต่อมา ก็ได้มีคน 8 คนจาก 2 ครอบครัวของผู้ร้ายในคดีนี้มาเคาะประตูหน้าบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อกล่าวขอโทษและแสดงความรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด คุณพ่อพูดว่า “ถ้าหากเรื่องนี้ไม่ได้ออกข่าว ผมคงไม่รู้ว่าลูกของผมทำอะไรลงไป พวกเขามีเวลาที่จะมากล่าวขอโทษพวกคุณก่อน แต่ก็เลือกที่จะไม่ทำ พวกเราในฐานะที่เป็นผู้ปกครองจึงต้องเข้ามาช่วยในเรื่องนี้” เขาพูดอีกว่า “และถึงจะไม่ได้มีการเอาความใดๆ ผมก็อยากให้นำเรื่องนี้ขึ้นศาล ให้ลูกๆ ของเรารับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย” แม้ว่าคุณพ่อและคนในครอบครัวต่างรู้สึกอับอายต่อสิ่งที่ลูกๆ ของพวกเขาทำลงไป แต่พวกเขาเข้าใจว่าทุกคนสามารถผิดพลาดกันได้ จึงให้อภัยลูกๆ และปล่อยให้พวกเขารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ เพราะถึงจะไม่ได้โกรธลูกๆ แต่พวกเขาก็อายุ 20 กว่าๆ กันแล้ว เลยวัยที่จะมองข้ามการกระทำความผิดเหล่านี้ไปได้…
-
ชาวเน็ตเห็น “มีดพกอเนกประสงค์” มูลค่า 300,000 บาท คิดว่าแพงไป เลยรวมหัวรีวิวประชดยกใหญ่!!
เวลาเราพูดถึงมีดพกอเนกประสงค์ เราก็คงจะนึกถึงเครื่องมือขนาดพอดีมือที่สามารถใช้อะไรได้หลายอย่างในอันเดียว แต่ก็ยังมีคนที่อยากจะต่อยอดมันขึ้นไปเพื่อให้อุปกรณ์ดังกล่าวให้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก เชิญพบกับ Wenger 16999 Swiss Army Knife Giant มีดพกอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีอุปกรณ์เสริมมากกว่า 87 รูปแบบ เรียกว่าพกเจ้านี้ไปแล้วเกิดอะไรขึ้นก็ตาม มันจะสามารถช่วยคุณแก้ปัญหาได้สบายๆ เลยล่ะ แต่แน่นอนว่าราคาของมันก็แรงตามคุณสมบัติของมัน Wenger 16999 นั้นมีราคาที่สูงถึง 9,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือตีเป็นเงินไทยก็เกือบๆ 300,000 บาท ซึ่งตอนนี้กำลังวางขายอยู่บนเว็บไซต์ Amazon นั่นเอง ทว่าแทนที่เจ้าเครื่องมือสุดสะดวกนี้จะได้รับการรีวิวอย่างเหมาะสม ชาวเน็ตกลับพากันเห็นว่า ไอ้เจ้าเครื่องมือตัวนี้มันใหญ่เกินความจำเป็นและมันก็แพงใช่ย่อย พวกเขาก็เลยพากันให้คะแนนรีวิว Wenger 16999 กันแบบเกรียนๆ แถมยังยกพวกกันมายกใหญ่เลยด้วย!! ผมดันลืมเจ้าเครื่องมือนี้ไว้บนรถ Chevy 67 คันเก่าของผม พอเช้ามา เจ้ามีดพกอเนกประสงค์อันนี้จัดการซ่อมรถผมจนเอี่ยม แถมยังขับรถไปพาสาวขายบริการกลับมาบ้านอีกสองคน พร้อมกับเบียร์เย็นๆ อีกเพียบ เจ้ามีดพกอเนกประสงค์มันถามผมว่า ผมรู้จัก Sarah Connor ไหม ซพอผมบอกไม่ มันก็เดินออกประตูหน้าไปเลย โชคดีที่ผมรอดมาได้…นี่มันมีดพกอเนกประสงค์หรือคนเหล็กกันแน่ ผมไม่ได้สั่งมีดนี้มานะ แต่ดูเหมือนมันจะสั่งให้ตัวเองมาส่งที่บ้านผม ตอนนี้ผมชักจะสับสนแล้วนะเนี่ย …
-
หนูน้อยเข้าใจผิดคิดว่าคุณลุงหนวดเฟิ้มเป็นลุงซานต้า ลุงเลยสวมบทเป็นซานต้าจริงๆ ซะเลย!?
เมื่อพูดถึงซานตาคลอส เราคงจะนึกถึงภาพคุณลุงแก่ๆ มีหนวดคราวเฟิ้มสีขาว มีพุง และใส่ชุดสีแดงขาว ใช่แล้ว นั่นแหละคือคุณลุงซานต้า แต่สำหรับเด็กๆ แล้ว พวกเค้าอาจจะจำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ ดังนั้นเมื่อเห็นใครก็ตามที่มีหนวดเฟิ้มสีขาวก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นลุงซานต้าไปซะหมด อย่างหนูน้อย Sophie Jo Riley ที่เดินอยู่ในห้างกับพ่อแม่เมื่อปี 2015 แล้วจู่ๆ เธอก็พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้นว่าเห็นคุณลุงซานต้า ลุงซานต้าที่เด็กหญิงหมายถึงคือ Saint Nick ซึ่งเขาไม่ได้แต่งตัวด้วยชุดซานตาคลอส ไม่ได้ใส่หมวกสีแดง แต่แต่งตัวด้วยเสื้อสีแดงธรรมดากับกางเกงยีน และบังเอิญไว้หนวดเฟิ้มเท่านั้นเอง เมื่อ Sophie Jo เห็นผู้ชายหนวดสีขาวใส่เสื้อสีแดง เธอไม่นึกถึงอะไรเลยอดจากคุณลุงซานต้าเท่านั้น แล้วเธอก็วิ่งเข้าไปหาเขา ลองชมคลิปเต็มๆ ได้ที่นี่เลย แน่นอนว่าเมื่อคุณถูกเข้าใจผิดว่าเป็นลุงซานต้า คุณก็แค่บอกเด็กไปว่าไม่ใช่ หรือเข้าใจผิดอะไรก็ว่าไป แต่ Nick ไม่ทำแบบนั้น ไหนๆ เด็กน้อยก็เข้าใจผิดว่าเป็นซานต้าแล้ว Nick เลยตีเนียนแสร้งทำตัวเหมือนซานต้าแล้วนั่งลงคุยกับ Sophie Jo เป็นเรื่องเป็นราวเลย โดยพ่อของเด็กหญิงได้บันทึกช่วงเวลานั้นเอาไว้ Nick ถามเด็กน้อยว่า “หนูพร้อมสำหรับคริสต์มาสนี้หรือยัง?” “ปีนี้หนูจะเป็นเด็กดีมั้ย?” Sophie Jo พยักหน้า แล้วก็เธอก็ตื่นเต้นมากขึ้นอีกเมื่อคุณลุงถามเธอว่าจะเตรียมอะไรให้เขากิน เด็กหญิงตอบว่าเธอจะเตรียมคุกกี้ไว้ให้ลุงซานต้า แล้ว Nick…
-
รวม 25 ภาพศิลปะเด็กในยุค ‘ฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ’ ที่ดูแปลกซะเหลือเกิน มันหลอนจริงๆ
เราอาจเคยเห็นภาพงานศิลปะกันมาอย่างหลากหลาย แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงผลงานศิลปะที่เกิดขึ้นใน ยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ (Renaissance) ที่มีความโดดเด่นในหลายๆ เรื่อง จนทำให้ผู้ใช้ Tumblr ที่ชื่อว่า Ugly Renaissance Babies หยิบเอาซีรีส์ภาพวาดอันแปลกประหลาดที่เกิดในยุคนั้นมา ภาพทั้งหมดที่เขาเลือกมา คือผลงานศิลปะเด็กทารกที่ถูกสร้างมาในยุคสมัยดังกล่าว และแต่ละภาพก็ไม่ใช่เด็กธรรมดา เพราะเราจะได้เห็นเด็กหน้าตาแปลกประหลาดบ้าง มีซิกแพ็คบ้าง หรือทำอะไรแปลกๆ ดูไปดูมารู้สึกหลอนมิใช่น้อย ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยยย วิธีการให้นมลูกแบบแปลกๆ ทารกแรกเกิดที่ดูมีความเกี่ยวข้องกับศาสนา การทำคลอดตามจินตนาการของผู้วาด เด็กคนนี้มีใบหน้าแก่เกินวัยไปหน่อยหรือเปล่า เข้าฟิตเนสตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา เกิดมาไม่กินนม แต่กินเวย์โปรตีนแทน เจ้าหนู เก็ทไฮอยู่หรอลูก ท่าทางที่ดูไม่เด็กเอาซะเลย หน้าตาแบบนี้ ใครทำอะไรให้ไม่พอใจหรือเปล่า แขนขายาวราวกับผู้ที่โตเต็มวัยแล้ว ลำบากแม่บ้านมาทำความสะอาดอีกนะ เด็กติดปีกสุดโหด อย่าทำร้ายผมเลยครับ ผมมีครอบครัวให้ต้องดูแลอยู่ ไม่เข้าใจเล๊ยยย ว่าทำไมต้องมารุมดูกันเยอะแยะขนาดนี้ จะว่าอ้วนก็ไม่ใช่ จะว่าผอมก็ไม่เชิงนะ…
-
พาทัวร์ “หมู่บ้านโลกาวินาศ” ชุมชนหลุมหลบภัยวันสิ้นโลกและที่สำคัญราคาไม่ถึงล้าน!!
ด้วยปัญหาต่างๆ ในโลกที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นมากมาย ทั้งสงครามนิวเคลียร์ ภาวะสิ่งแวดล้อมต่างๆ อีกทั้งยังต้องมาหวาดระแวงกับซอมบี้ที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่อีก ทำให้หลายคนกังวลถึงวันสิ้นโลกตามคำทำนายต่างๆ ว่าอาจมีขึ้นเร็วๆ นี้ ทำให้บริษัทแห่งหนึ่งได้สร้างบังเกอร์หลบภัยสำหรับเตรียมพร้อมกับวันสิ้นโลกขึ้นมาแล้ว บริษัทดังกล่าวมีชื่อว่า Vivos Group ซึ่งพวกเขาได้สร้างดินแดนสำหรับหลบภัยเอาไว้ภายใต้โปรเจกต์ชื่อว่า Vivo xPoint โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างขึ้นสำหรับผู้ที่หวาดระแวงและมีความเชื่อว่าวันสิ้นโลกกำลังจะมาถึงนั่นเอง นี่ต้องเป็นสถานที่ที่คุณอยากมาอยู่ที่สุด เมื่อเกิดวันโลกาวินาศขึ้น Vivo xPoint เป็นชุมชนหลบภัยขนาดใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้เลยก็ว่าได้ โดยหมู่บ้านแห่งนี้มีบ้านเพียงพอสำหรับคน 5,000 คนและด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงของมัน ทำให้บังเกอร์แต่ละหลังสามารถทนรับแรงระเบิดจากหัวจรวดนิวเคลียร์ที่มีน้ำหนัก 250 ตัน ได้แบบสบายๆ และไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด Robert Vicino เจ้าของบริษัท Vivos Group กล่าวว่าพวกเขาเปิดบังเกอร์ต่างๆ ให้เข้าเยี่ยมชมมาตั้งแต่เดือน พฤษภาคม ปี 2017 แล้วและในตอนนี้ก็มีผู้ซื้อไปแล้วจำนวนมาก ซึ่งราคาแต่ละหลังจะอยู่ที่ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 814,000 บาท) เท่านั้นเอง บังเกอร์กว่า 575 หลังที่สร้างจากคอนกรีตแข็งรวมถึงเหล็กกล้าสุดแข็งแกร่งด้วย แม้ว่าในตอนนี้ยังไม่มีใครย้ายเข้าไปอยู่ที่บังเกอร์จริงๆ แต่คนที่ซื้อไปก็เริ่มมีการตกแต่งภายในบ้านของแต่ละคน เพื่อให้มีความพร้อมเมื่อจะเข้ามาอยู่จริงๆ และยังได้สร้างความมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถมีชีวิตรอดผ่านวันโลกาวินาศไปได้นั่นเอง หลุมหลบภัยนี้ตั้งอยู่ที่รัฐเซาท์ดาโคตา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแต่เดิมนั้นใช้เป็นฐานทัพของทหาร…
-
คุณครูแอบเปิดกระเป๋าเด็กอนุบาล พบว่าเธอพกเจ้าแมวมาโรงเรียนตั้งสองตัว!?
ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในคนรักสัตว์ล่ะก็ คุณอาจจะเคยมีช่วงเวลาที่น่าจดจำเกี่ยวกับเหล่าสัตว์เลี้ยงของคุณในวัยเด็กอย่างแน่นอน และเชื่อแน่ๆ ว่าหนึ่งในวีรกรรมตอนเด็กของคุณก็คือการแอบพกน้องหมาน้องแมวใส่กระเป๋าไปโรงเรียนด้วยนั่นเอง เรื่องราวสุดน่ารักของเจ้าหนูน้อยคนนี้เกิดขึ้นหลังจากที่คุณครู Anna Kate Hood คุณครูจากโรงเรียนอนุบาล Heard Elementary รัฐจอร์เจีย หลังจากที่เธอได้ทำการตรวจค้นกระเป๋าใบสีชมพูน่ารักของหนูน้อยคนหนึ่ง และพบบางอย่างนอกเหนือจากหนังสือเรียน!! ในวันเปิดเทอมเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คุณครูสาวก็ต้องสะดุดกับกระเป๋าใบสีชมพูสดของสาวน้อยคนหนึ่งที่ดูเหมือนว่ามันจะหนักกว่ากระเป๋าของเพื่อนๆ ของเธอ คุณครู Anna ตัดสินใจเปิดกระเป๋าของหนูน้อยเพื่อตรวจดูข้างใน และทันใดนั้นเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่อยู่ด้านใน… โอ้โห!! มีแมวน้อย 2 ตัวซ่อนอยู่!! ครูสาวได้ถ่ายภาพดังกล่าวพร้อมกับอัปข้อความลงบนเฟซบุ๊กของเธอว่า “เขาบอกให้ฉันเตรียมพร้อมสำหรับบางสิ่งบางอย่าง แต่เช้านี้ฉันยังไม่พร้อมที่จะเปิดกระเป๋ามาเจอลูกแมวน้อย นักเรียนของฉันบอกว่าเธออยากเอาอาหารให้กับมัน และคอยดูแลมันใต้โต๊ะหลังจากที่เธอเรียนเสร็จ” ข้อความจากเฟซบุ๊กของคุณครูสาว เรื่องราวของหนูน้อยและเจ้าเหมียวทั้งสองได้รับความนิยมจากชาวเน็ตอย่างมาก มีคนร่วมแชร์ภาพดังกล่าวมากกว่า 15,000 ครั้ง และแสดงความคิดเห็นอีกมากกว่า 3,000 คอมเมนต์ นอกจากนี้ก็ยังมีคุณครูอนุบาลอีกท่าน ที่ได้แบ่งปันเรื่องราวสุดน่ารักของลูกศิษย์เธอ หลังจากที่เด็กน้อยได้แอบนำโหลปลาทองใส่กระเป๋ามาโรงเรียนด้วย พร้อมกับบอกคุณครูว่าถ้าไม่ให้เลี้ยงไว้ที่ห้องเจ้าปลาทองต้องตายแน่ๆ และนอกจากนี้ก็ยังมีคอมเมนต์น่ารักๆ จากชาวเน็ตอีกจำนวนมาก อย่างเช่นหนุ่มคนนี้ก็ได้เข้ามาแบ่งปันประสบการณ์การแอบเก็บเจ้าเหมียวใส่กระเป๋ามาเลี้ยงที่บ้านด้วยเช่นกัน ส่วนชาวเน็ตรายนี้ก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าเขาเองก็เคยแอบเอาเจ้าเหมียวไปโชว์ที่ห้องเรียนด้วย ถึงแม้ว่าจะถูกแม่ห้ามก็ตาม!! และสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่มีเรื่องราวน่ารักๆ…
-
ชมคลิปสุดฮาของชายหนุ่มที่พยายามถ่ายภาพหมู่ลูกแมวน้อยทั้ง 10 ตัว ปวดหัวแทนเลย..
สำหรับพวกเราพี่น้องชาวไทย คงจะคุ้นเคยกับสำนวนยอดฮิตที่เวลาผู้ใหญ่มักจะพูดกับคุณตอนเด็กๆ เวลารวมญาติอย่างสำนวนที่ว่า “จับปูใส่กระด้ง” กันเป็นอย่างดี แต่ทว่านอกจากสำนวนที่ว่าแล้ว ถ้าหากคุณได้ชมคลิปวิดีโอสุดฮาของเหล่าเจ้าเหมียวนี้ล่ะก็ เราอาจจะนิยามความวุ่นวายของเหล่าเด็กๆ เสียใหม่ว่า “จับเจ้าเหมียวเรียงแถว” อย่างแน่นอน คลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ในยูทูบในช่อง ENT TNE ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของชายหนุ่มที่กำลังพยายามที่จะจับเหล่าวายร้ายตัวน้อยๆ นับ 10 ตัวเข้าเรียงแถวกันอย่างสวยงาม แต่ทว่าดูเหมือนการถ่ายรูปหมู่ครั้งนี้จะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เสียแล้ว เพราะว่าเจ้าเหมียวน้อยเหล่านี้ไม่ยอมอยู่นิ่งๆ กันเลยนะซี้!! “การพยายามถ่ายรูปหมู่ของแมวเหมียวทั้ง 10 ตัวนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ การพยายามถ่ายรูปหมู่ของแมวเหมียวทั้ง 10 ตัวนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ การพยายามถ่ายรูปหมู่ของแมวเหมียวทั้ง 10 ตัวนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ด๊ายยยย” ข้อความจากช่องยูทูบดังกล่าว เกือบจะได้ทีไร พวกเจ้าแมวน้อยก็เป็นแบบนี้ทู้กที!! ไม่ไหวแล้ว ไปดีกว่าาาา ฮ่าๆ ชมความวุ่นวายของการถ่ายภาพหมู่เจ้าเหมียวกันได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา iizcat
-
เจ้าเหมียว ผอ. แวะไปโรงเรียนทุกเช้าเป็นประจำ เข้าไปทักนักเรียนตลอด ไม่เคยขาดเลย…
สำหรับหลายๆ คน การตื่นนอนแต่เช้า และสลัดขี้ตาแต่งตัวออกไปโรงเรียนให้ทันก่อน 8 โมงเช้าอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ!? แต่ทว่าสำหรับเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้แล้ว การมาโรงเรียนให้ทันเข้าแถวนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย แถมในทุกๆ วันมันยังมาก่อนเวลาเข้าแถวตั้ง 1 ชั่วโมงอีกด้วย!! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่คุณครูประจำชั้นได้ลืมลูกบอลเอาไว้ที่ห้องเรียนของเธอ และบังเอิญว่าเจ้าเหมียวตัวนี้ก็ดันมาเจอเข้าพอดี และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมามันก็กลายเป็นหนึ่งในนักเรียนคนสำคัญของห้องเรียนไปเลยทันที ทางโรงเรียนตั้งชื่อให้กับมันว่าแซมบ้า และในทุกๆ วันเจ้าเหมียวจะมาที่ห้องเรียนดังกล่าวในตอนเช้า มันไม่เคยขาดเรียนเลยแม้แต่ครั้งเดียวและที่สำคัญยังไม่เคยมาสายเกิน 7 โมงเช้าอีกด้วย!! “มันชอบเข้ามานั่งอยู่บนโต๊ะเรียน และขึ้นมานอนอยู่บนหนังสือของพวกเรา” หนึ่งในนักเรียนของโรงเรียนมัธยม Westbrook ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว และนอกจากความน่ารักน่าชังของเจ้าเหมียวแล้ว ซิมบ้าเองก็ยังเป็นขวัญใจของเหล่านักเรียนในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ ถึงขั้นเป็นแรงบันดาลใจในการจัดงานนิทรรศการศิลปะของทางโรงเรียนเลยทีเดียว ไปชมความน่ารักของเจ้าเหมียวได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา awwtopia
-
เบื้องหลังความกล้าหาญของสายลับหญิงแห่งฝรั่งเศส และเรื่องราวการปฏิบัติภารกิจของเธอ
เรื่องราวของทหารหญิงจากกองทัพอังกฤษที่ก้าวเข้าสู่กองทัพตั้งแต่อายุเพียงแค่ 22 ปี เธอเคยผ่านการเผชิญหน้าจากการจับกุมของทหารฝ่ายนาซี และนอกจากนี้เธอยังเคยสังหารฝ่ายศัตรูไปมากกว่า 40 คนอีกด้วย พบกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ของ Violette Szabo สายลับหญิงจากกองทัพของฝ่ายสัมพันธมิตร และเจ้าของเรื่องราวที่ถูกนำไปทำภาพยนตร์อมตะอย่างเรื่อง Carve Her Name With Pride เหรียญตรา George Cross นั้นถือเป็นเหรียญตราอันทรงเกียรติของเหล่าทหารกล้าผู้ผ่านสมรภูมิรบที่จะได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 แห่งสหราชอาณาจักร และ Violette Szabo เองก็เป็นหนึ่งในทหารหญิงที่ได้รับเหรียญตรานี้ หลังจากที่เธอผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนหน้าที่จะมาเข้ารับราชการในกองทัพ Violette ถือเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่มีความงามไม่น้อยเลยทีเดียว และเธอเองก็เคยทำงานในแผนกจำหน่ายน้ำหอมของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนมาก่อน Tania Szabo ลูกสาวของเธอ และเหรียญตราที่คุณแม่ของสาวน้อยเคยได้รับมา แม่ของ Violette เป็นสาวชาวฝรั่งเศสที่พบรักกับหนุ่มอังกฤษ ในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างที่พ่อของเธอได้ขับรถพยาบาลเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในแนวหน้า สายลับสาวลืมตาดูโลกเมื่อปี 1921 ก่อนที่เธอจะย้ายมาอาศัยอยู่ที่อังกฤษเมื่ออายุได้ 12 ปี เธอเป็นลูกสาวคนที่ 2 จากพี่น้องทั้งหมด 6 คน Violette เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวที่ชื่นชอบกิจกรรมเหมือนผู้ชาย ถึงแม้ว่าจะมีดวงตากลมโตและน่ารักเหมือนเด็ก สาวทั่วๆ ไป แต่ไม่มีท่อระบายน้ำหรือกำแพงไหนที่สาวน้อยไม่เคยปีนป่ายมาก่อน การก้าวเข้าสู่กองทัพของเธอเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่…
-
18 รูปภาพที่จะมาเปิดเผยว่า จริงๆ แล้วสิ่งของที่เราใช้อาจไม่ใช่อย่างที่เราคิดไว้ก็เป็นได้…
ชีวิตของเราในแต่ละวัน เราต้องหยิบจับสิ่งของเป็นสิบเป็นร้อยอย่างต่อวัน ซึ่งบางอย่างที่อยู่รอบตัวเราก็สามารถอำนวยความสะดวกได้ และบางอย่างก็อาจสร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิงต่อใจ แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วสิ่งของต่างๆ ที่เรารู้จักมาทั้งชีวิตของเรานั้น บางอย่างก็มีการปลอมแปลงขึ้นมา หรือกระทั่งการย้อมแมวก็ยังมี แต่โดยความไม่รู้เราก็ใช้ไปตามภาษา ซึ่งรูปภาพเหล่านี้จะมาอธิบายว่าจริงๆ แล้วของที่เราเคยหยิบจับหรือเห็นหน้าค่าตาบางอย่าง จริงๆ แล้วของที่อยู่ภายในของมันอาจจะเป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึง และเมื่อได้เห็นแล้วอาจทำให้เราต้องร้องอุทานขึ้นมาว่า ‘ชีวิตตูโดนหลอกมาทั้งชีวิตเลยใช่ไหมเนี่ย’ ที่ยิงไฟ ที่แม่ค้าส่วนใหญ่นิยมใช้จริงๆ แล้วมันเป็นแค่ไฟแช็กธรรมดาๆ ต่อเข้ากับท่อเท่านั้นเอง สายรัดข้อมือตามงานคอนเสิร์ตที่เด้งดึ๋งๆ จริงๆ แล้วมันอาจทำมาจากใบตลับเมตรเหมือนกันนะ แหม ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะว่ามันเป็นแค่ตลับเมตรห่อพลาสติกอะเนอะ ฉลากเปลี่ยน การใช้งานก็เปลี่ยนไป จากสเปรย์ดับกลิ่นกายมาเป็นสเปรย์ดับกลิ่นรองเท้าเฉยเลย บางครั้งลูกพูลก็เอามาสอดไส้ใส่ในลูกเปตอง และลูกโบว์ลิ่งอันนี้ก็ย้อมแมวมาจากลูกโบว์ลิ่งของใครสักคนที่ชื่อว่า ซาร่า Case สำหรับใส่สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของใครบางคน อาจจะทำมาจากกล่องยาสีฟันก็ได้นะ เอ้าลองตรวจดูกันหน่อยเร็ว ด้วยความที่มันแข็งเหมือนกันเลยไม่มีใครสังเกตมากนัก รู้หรือไม่ถ่านก้อนใหญ่ๆ มักจะผลิตจากการเอาถ่านก้อนเล็กๆ มารวมกัน อันนี้ก็เช่นกัน มันคือถ่านขนาด 9 โวลต์ที่ใช้ถ่านขนาด AAAA 6…
-
ชีวิตต้องสู้ของ HeeSun Lee คุณแม่แรปเปอร์ สัญชาติเกาหลี-อเมริกัน กับบทเพลงที่ไม่เหมือนใคร
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่พลเมืองชาวอเมริกันแบบเต็มตัว และการใช้ชีวิตของลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกันในเมืองลุงแซมพร้อมกับสถานะคุณแม่ลูกหนึ่งนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต HeeSun Lee แรปเปอร์สาวผู้นี้ กลับทำให้เธอเลือกที่จะลุกขึ้นมาบอกเล่าเรื่องราวของที่สร้างกำลังใจให้กับผู้คนผ่านเสียงเพลงและท่อนแรปของเธอ “ฉันเป็นผู้หญิงเอเชีย และเพลงแรปของฉันก็พูดเกี่ยวกับพระเจ้าและความคิดบวก หลายๆ เรื่องที่ฉันนำเสนอเป็นเรื่องที่ส่วนมากเรามักจะไม่ค่อยเห็นในเพลงแนวฮิปฮอป“ แรปเปอร์สาวให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ Lee เติบโตมาจากพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดชาวเกาหลีใต้ แต่ด้วยฐานะของครอบครัวทำให้พวกเขาไม่สามารถที่จะดูแลลูกสาวได้ จึงได้นำเด็กหญิงมาฝากไว้กับพ่อแม่บุญธรรมเชื้อสายจีน-อเมริกันแทน Lee เล่าว่าพ่อแม่บุญธรรมนั้นไม่เคยปิดบังเธอเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตของเธอเลย พวกเขาเปิดเผยทุกเรื่องราวที่เด็กสาวควรจะได้รู้ “ฉันรู้สึกขอบคุณพวกเขามากที่บอกทุกอย่างกับฉัน ฉันคิดว่ามันคงจะแย่แน่ๆ ถ้าหากพวกเขาโกหกฉันเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต และฉันคงจะโกรธมากที่ไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของฉันคือใคร” Lee ให้สัมภาษณ์ Lee เริ่มต้นร้องเพลงแรปครั้งแรกตอนที่เธออายุได้ 14 ปี เธอเริ่มเขียนเนื้อแรปลงในสมุดจด ก่อนที่จะเริ่มฝึกร้อง เธอเริ่มหันมาเขียนเนื้อเพลงเกี่ยวกับพระเจ้า ชีวิต หลังจากที่เธอได้มีโอกาสเข้าโบสถ์และศึกษาศาสนาจากคำแนะนำของเพื่อนเธอ และหลังจากที่ร้องเพลงแรปเกี่ยวกับศาสนาคริสต์มานานนับ 10 ปี เธอก็คิดที่จะถ่ายทอดความเป็นตัวตนละวัฒนธรรมเอเชียผ่านบาทเพลงของเธอบ้าง Lee จึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมรายการ Show Me The Money รายการเรียลิตี้เพลงแรปของเกาหลี ซึ่งทำให้เธอได้รับแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการสร้างผลงานเพลงแรปที่เล่าถึงตัวตนและวัฒนธรรมแบบเอเชีย Lee ทำได้ดีมากในรายการแข่งขันดังกล่าว เธอมีเหล่าบรรดาแฟนคลับที่คอยคิดตามผลงาน และร่วมเชียร์เธอด้วยแฮชแท็ก #BreakingStereotypes เพราะว่าการแสดงของเธอนั้นมันแตกต่างจากศิลปินแรปทั่วๆ ไป…
-
หนูน้อยแอบเอาหมาใส่กระเป๋าไปโรงเรียน แต่โดนพ่อจับได้ซะก่อน ว๊าาา อดเลย
ย้อนไปเมื่อวัยเด็ก เราคงจะจำกันได้ว่า เราชอบจะหยิบของเล่นหรือของใช้ใส่กระเป๋าไปโรงเรียน เพื่อเอาไปอวดเพื่อนๆ หรือเอาไปเล่นเวลาว่างนั่นเอง แม้ว่าโรงเรียนหลายแห่งจะไม่อนุญาตให้นำของเหล่านั้นติดตัวมาก็ตาม พฤติกรรมการพยายามแอบเอาของใส่กระเป๋าไปโรงเรียนแล้ว ดูแล้วน่ารักเสียเหลือเกิน เพราะว่าเวลาเด็กๆ จะแอบเอาของเล่นไปโรงเรียนแต่ละที มักจะมีท่าทีเลิ่กลั่ก มีท่าทางร้อนรน ทำให้ผู้ใหญ่จับได้ทุกทีไป ก็เลยอดเอาของเล่นชิ้นโปรดไปเล่นเลย ไปโรงเรียนก่อนนะคะ เด็กผู้หญิงคนนี้ก็เช่นกัน เธอก็พยายามจะเอาของรักติดตัวไปโรงเรียนด้วย พ่อของเธอที่กำลังจะส่งเธอไปโรงเรียนก็ตาดี สังเกตเห็นว่าลูกสาวรีบร้อนเก็บของจนดูผิดสังเกต เลยจับได้ว่าต้องเอาของเล่นไปโรงเรียนแน่ๆ ตามหน้าที่ของพ่อที่ดี ก็ต้องห้ามไม่ให้ลูกสาวเอาของเล่นไปด้วย แต่พอเปิดกระเป๋าดูกลับไม่มีของเล่นสักชิ้น เจอเพียงแต่เจ้าหมาน้อย สัตว์เลี้ยงของบ้านตัวเองต่างหาก อ้าวเฮ้ย ไม่ใช่ของเล่นนี่หว่า!! พอเห็นแบบนั้นคุณพ่อก็หัวเราะก๊ากทันที ก็แหมลูกสาวช่างซนเหลือเกิน คิดจะเอาเจ้าหมาไปโรงเรียนด้วย กะจะเอาไปอวดเพื่อนๆ แน่เลย คุณพ่อจึงแซวลูกสาวซะยกใหญ่ ลูกสาวคงอายที่โดนจับได้ รีบรูดซิปกระเป๋านักเรียน สะพายขึ้นหลังวิ่งไปขึ้นรถโรงเรียนทันทีเลย โถ ตอนเอาไปไม่เห็นอายเลย โดนจับได้อายทำไม ฮ่าๆๆๆ พ่อ หนูรีบไปโรงเรียนอยู่ เดี๋ยวสาย! คลิปวิดีโอที่พ่อจับผิดลูกสาวได้ เกือบจะรอดอยู่แล้วเชียว คราวหน้าลองใหม่นะน้อง ที่มา: littlethings, ViralHog
-
การถ่ายแบบในธีม ‘ฉันมา ฉันเห็น ฉันรุก!!’ จับหนุ่มล่ำมากอดรัดฟัดเหวี่ยง จนอยากเข้าไปแจมบ้าง
การที่นิตยสารต่างๆ จับเอานายแบบหุ่นหล่อล่ำมาถ่ายแบบโชว์เนื้อหนังนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งการตลาดที่จะเรียกลูกค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสาวๆ และหากสาวๆ คนไหนที่ชอบแนวนี้ เราขอแนะนำให้ดูภาพจากนิตยสาร Man About Town ที่เรียกได้ว่าร้อนแรงซะจนอยากมีส่วนร่วมด้วย นี่คือชุดภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ Veni Vidi Vici ของ Man About Town ถ่ายโดย Mario Testino สำหรับงาน Man About Town Fall 2017 เดี๋ยว จะเอาตรงนี้เลยใช่มั้ย? ส่วนคำว่า Veni Vidi Vici เป็นภาษาละติน แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “I Came I Saw I Conquered” ถ้าเป็นไทยก็ “ฉันมา ฉันเห็น ฉันรุก” เป็นคำที่ทหารของ Julius Caesar ใช้ในขณะที่เดินทัพกลับกรุงโรมในปี 46 ก่อนคริสต์ศักราช เพื่อฉลองชัยชนะที่ทัพของ Caesar มีเหนือคู่แข่ง ที่เมือง Zela…
-
ชาวเน็ตถึงกับตกหลุมรัก เมื่อชายหนุ่มตั้งอกตั้งใจเรียนแบบสุดๆ ในคาบวิชาสัตววิทยา
เป็นธรรมดาที่การเรียนจะมีความน่าเบื่อบ้าง น่าตื่นเต้นบ้างสลับกันไป บางวิชาอาจจะไม่ตรงกับความสนใจของเราเลยทำให้ไม่ตั้งใจเรียนเท่าไหร่ ในขณะที่บางวิชาโคตรตรงกับความชอบของเราเลย จนทำให้เราตั้งใจเรียนเป็นพิเศษก็มี แต่ก็ไม่คิดว่าจะตั้งอกตั้งใจขนาดนี้…เรากำลังพูดถึงความตั้งใจเรียนของพ่อหนุ่ม Jalen Brooks วัย 17 นักเรียนชั้นมัธยมจากริเวอร์ไซด์ รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2016 จริงๆ แล้วใครๆ ก็ตั้งใจเรียนทั้งนั้นแหละ แต่ Jalen ดูจะตั้งใจเกินหน้าเกินตาไปหน่อย และบังเอิญว่ามีเพื่อนที่ชื่อ Jill Lojas แอบถ่ายวิดีโอปฏิกิริยาของเขาขณะที่เรียนวิชาสัตววิทยาไว้ด้วย ใส่ใจการเรียนขนาดนี้ เอา A ไปเลยมั้ย? ก่อนที่จะเริ่มเรียนคาบนี้ Jalen รู้อยู่แล้วว่าผู้ชำนาญในเรื่องสัตว์เลื้อยคลานจะนำสัตว์จากการค้าสัตว์ผิดกฎหมายมาโชว์ให้นักศึกษาดู แต่สัตว์ที่ชายหนุ่มคิดว่าไว้กับของจริงมันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน เค้าคิดว่าคงจะเป็นสัตว์เล็กๆ หรือสัตว์ทั่วไปเท่านั้น แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้หยิบสัตว์ที่เกินความคาดหมายด้วย อย่างพวกสัตว์เลื้อยคลาน โดยเฉพาะตอนที่หยิบงูออกมา ทำเอาชายหนุ่มอ้าปากค้างไปเลย Jalen เล่าว่า “เจ้าหน้าที่เริ่มจากการนำไก่ตัวเล็กๆ ที่ถูกใช้ในการชนไก่ เห็นแบบนั้นผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร แต่แล้วเขาเริ่มนำสัตว์ขนาดใหญ่ขึ้นมา จนทำให้ผมรู้สึกทึ่งมาก” “เขาหยิบสัตว์จำพวกเลื้อยคลานออกมา ตอนนี้สิ่งที่อยู่ในหัวของผมคือ ‘นี่มันไดโนเสาร์ชัดๆ’ จากนั้นเขาก็ดึงงูหลามออกมา มันใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นเลยล่ะ ผมนี่โคตรทึ่งเลย” …
-
ชายกลายมาเป็นอัมพาต จากการก้มจ้องมองโทรศัพท์ ยาวนานต่อเนื่องเป็นเวลา 2 วันเต็มๆ
ปัจจุบันการใช้โทรศัพท์มือถือมีอัตราเพิ่มขึ้นสูงมาก ไม่ว่าใครต่างก็ต้องมีโทรศัพท์มือถือไว้ติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น อีกทั้งทั้งนวัตกรรมความทันสมัยของโทรศัพท์มือถือก็ได้พัฒนาเพิ่มขึ้นสูงจนแทบจะเรียกได้ว่า สามารถทำได้ทุกอย่างในเครื่องเดียวเลยไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมหรือแม้แต่ทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ทว่าความสะดวกสบายและความบันเทิงที่หาได้จากในมือถือทำให้มีอัตราของคนที่มีอาการติดมือถือเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งอาการติดมือจะส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่างเช่น สายตา กล้ามเนื้อและประสาท ชายวัย 29 ปี ชาวเมืองกว่างโจว ประเทศจีน ต้องประสบกับอาการอัมพาตเฉียบพลันหลังจากที่เขาได้เล่นเกมในโทรศัพท์มือถือติดต่อกันยาวนานถึง 48 ชั่วโมง เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ชายหนุ่มไม่ทราบชื่อรายนี้เขาเล่นเกมมือถือที่เขาชื่นชอบเป็นอย่างมาก ถึงขนาดปั่นแรงค์กันข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว เขาเล่นติดต่อกัน 2 วันจนกระทั่งเข้าวันที่ 3 เขาเริ่มมีอาการปวดบริเวณคอ ไหล่ และท้ายทอย คอของเขามีอาการแข็งอย่างกระทันหัน ตามมาด้วยอาการแขนและขาชาจนไม่มีแรง เขาจึงคิดว่ามันอาจจะมีอะไรบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของเขาแล้วจึงให้ครอบครัวรีบพาเขาไปส่งโรงพยาบาล Sun Yat Sen เพื่อตรวจอาการอย่างละเอียด พอมาถึงที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลเขาก็ได้รับการวินิจฉัยทันทีด้วยการส่งตัวเข้าสแกน MRI นายแพทย์ Shen Huiyong แพทย์เจ้าของไข้และเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมกระดูกได้ออกมารายงานผลการตรวจวินิจฉัย สาเหตุที่ชายคนนี้เป็นอัมพาตกะทันหันเนื่องมาจากมีลิ่มเลือดอุดตันท่อไขสันหลังและกระดูสันหลังของเขานั่นเอง สาเหตุหลักๆ ก็อันเนื่องมาจากการก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือมากเกินไปทำให้เกิดความเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ในครั้งแรกจะมีอาการปวดคอและชา และอาจรุนแรงขึ้นในเด็กซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงเช่น อัมพาตแขนและขา อีกหนึ่งอาการที่จะตามมาเนื่องจากพฤติกรรมการติดมือถือนั่นก็คือความเมื่อยล้า และปัญหาเกี่ยวกับสายตา…
-
สาวพบจิ้งจอกแปลกหน้าเข้ามาแย่งที่นอนนายท่านเหมียวของตัวเองเฉยเลย งงดิฮะ!?
เรื่องราวอันน่าประหลาดใจสามารถเกิดขึ้นกับเราได้ในทุกวัน มันเป็นสิ่งที่เราไม่สามรถจะรู้มาก่อนได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะกับเรื่องราวของสาวอังกฤษคนนี้ Meloney Blaze อายุ 47 ปี สาวชาวเมือง Pett Wood ทางตะวันออกเฉียงใต้ของลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเล่าความฮาที่เกิดขึ้นในบ้านของเธอ โดยที่เธอไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นมาก่อน เธอเล่าว่า เธอตื่นมาเวลาประมาณ ตี 4 เพื่อเปิดหน้าต่างให้เจ้าจอร์จ แมวของเธอให้ออกไปเดินเล่นแล้วกลับไปนอนต่อจนถึง 6 โมงเช้า แต่เมื่อเธอตื่นมาอีกครั้งก็ต้องพบสิ่งที่น่าประหลาดใจอยู่ภายในห้องครัวของเธอ “ฉันคิดว่าเจ้าหูโตนั่นไม่ใช่หูของแมวแน่นอน” Meloney กล่าว เจ้าสิ่งนั้นมีหูใหญ่ๆ มันกำลังนอนอยู่บนที่นอนของเจ้าจอร์จแมวของเธอ ซึ่งเธอก็ประหลาดใจเล็กน้อยที่เจ้าจอร์จมีหูที่ใหญ่ขนาดนี้ พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ต้องจ๊ะเอ๋กับเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีน้ำตาลกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนที่นอนแมวของเธอ เธอตกใจเล็กน้อย เมื่อมองไปรอบๆ ก็ได้เห็นกับเจ้าของที่นอนกำลังมองด้วยความไม่พอใจที่มีเจ้าหน้าขนมาแย่งที่นอนของมัน เจ้าเหมียวรีบฟ้องเจ้านายของมันทันทีด้วยการทำทีเป็นกระโดดไปที่หน้าต่างแล้วเดินเข้ามาที่เตียงนอนอีกรอบเหมือนจะบอกว่าเจ้าจิ้งจอกตัวนี้น่ะมันเข้ามาแบบนี้นะ และเธอยังบอกอีกว่าเจ้าจอร์จดูโกรธมากๆ ที่มีเจ้าหน้าขนบังอาจมาแย่งที่นอนสุดหวงของมัน เจ้าสุนัขจิ้งจอกก็นอนดูมันอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่ว่าเธอจะปล่อยให้เจ้าสัตว์ป่าตัวนี้อยู่ในบ้านไม่ได้เนื่องจากว่าไม่รู้ลักษณะนิสัยของมันที่แท้จริงและเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อเจ้าจอร์จแมวของเธอด้วย เจ้าจิ้งจอกมีกลิ่นที่เหม็นเล็กน้อย มันปล่อยกลิ่นไว้ทั่วห้อง เธอจึงต้องตัดสินใจเปิดหน้าต่างและประตูเพื่อให้มันออกไปดีๆ โดยใช้อาหารล่อให้มันออกไป โดยมีเจ้าเหมียวยืนคุมเชิงอยู่ไม่ห่าง “มันเป็นจิ้กจอกที่ดูเท่มาก แต่มันก็น่ากลัว เราจึงต้องให้มันออกไป และฉันคิดว่ามันน่าจะนอนอยู่บนโซฟาอีกด้วย ฉันคิดว่าคงถึงเวลาทำความสะอาดครั้งใหญ่แล้วล่ะ”…
-
นักโบราณคดีพบมัมมี่อายุ 3,500 ปี ในสุสาน คาดว่ามีความพิเศษมากกว่าที่เคยค้นพบมา
อียิปต์เป็นประเทศที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน มันจึงเปี่ยมไปด้วยอารยธรรมที่มีกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ หากมีโอกาสไปท่องเที่ยวที่ประเทศอียิปต์สักครั้ง เราจึงไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมชมอารยธรรมเหล่านี้ โบราณสถานของประเทศนี้ที่เรารู้จักกันดีนั้นคงจะเป็นพีระมิด และสุสานโบราณของคนสำคัญในสมัยก่อน เพราะนอกจากจะเป็นโบราณสถานที่ดูน่าหลงใหลแล้ว ยังเต็มไปด้วยโบราณวัตถุและศิลปะสวยงามจำนวนมาก ถึงโบราณสถานเหล่านี้จะถูกค้นพบมาเป็นเวลานานแล้วก็ตาม แต่ยังมีหลายแห่งที่ค้นพบแล้วไม่ได้รับการสำรวจจนถึงปัจจุบัน เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา รัฐมนตรีด้านประวัติศาสตร์วัฒนธรรมได้ออกมาแจ้งว่า สุสานสองแห่งที่เคยพบทางตอนใต้ของเมืองลักซอร์ในช่วงทศวรรษที่ 1990 ได้รับการสำรวจแล้ว โดยสุสานทั้งสองถูกเรียกว่า KAMPP 161 มีอายุกว่า 3,000 ปี และคาดว่าจะเป็นสุสานของราชวงศ์ที่ 18 แห่งอียิปต์ พวกมันรอการสำรวจจากนักโบราณคดีมานาน และตอนนี้พร้อมจะเผยความลับที่ซ่อนไว้แล้ว ตัวสุสานนั้นมีความกว้างขวางอย่างมาก กำแพงสุสานถูกก่อสร้างจากหินและดินโคลนเป็นแนวยาว และทางทิศใต้ของสุสานยังเชื่อมออกไปถึงห้องอื่นๆ อีกจำนวนสี่ห้อง ในสุสานแห่งหนึ่งนักโบราณคดีพบมัมมี่ ซึ่งถือว่าเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ เพราะคาดว่ามัมมี่ตัวนี้เป็นร่างของคนสำคัญคนหนึ่งในยุคนั้น แม้ว่าจะไม่ทราบแน่ชัดว่าคนคนนั้นเป็นใคร แต่มีการตั้งสมมติฐานว่าอาจจะเป็น Djehuty Mes บุคคลระดับสูงที่มีชื่อสลักอยู่บนผนังของสุสาน หรืออาจจะเป็นชายชื่อ Maati เพราะชื่อของชายคนนี้ถูกสลักลงบนป้ายสุสานที่พบในสุสานแห่งนี้กว่า 50 อันเลยทีเดียว . นอกจากมัมมี่แล้ว ยังสำรวจพบเครื่องปั้นดินเผาโบราณ หน้ากากโบราณ และรูปปั้นสลักจากไม้จำนวนมาก…
-
8 บทเรียนที่เราได้รู้ จากเกมดาร์บี้แมตช์สุดมัน Manchester United 1-2 Manchester City!!
Manchester Derby ฟุตบอลแมตช์สำคัญระหว่างสองทีมคู่อริแห่งเมืองแมน จบลงด้วยผลชนะของทีมเยือน ที่มาฝากประตูในถิ่นโอล แทรฟฟอร์ด ถึง 2 ลูก การแพ้ต่อเรือใบสีฟ้าในครั้งนี้ นับเป็นการพ่ายแพ้เกมพรีเมียร์ลีกครั้งแรกในบ้านของทีมปิศาจแดง ในรอบ 24 เกมเลยด้วย และนี่คือ 8 สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากฟุตบอลนัดสุดมันนัดนี้… 1. สไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ Pep vs Mou ไม่ว่าจะเจอกับทีมใด Pep คือคนที่เล่นกับฟุตบอล เขาให้สัมภาษณ์ว่าต้องการให้ลูกทีมได้ครอบครองลูกบอลตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นยามบุก หรือยามตั้งรับที่จะช่วยกันไล่กลับมาโดยเร็วที่สุด และไม่ว่าจะเจอกับทีมใด จะเก่งกว่าทีมเขาหรือไม่ จะเล่นในสนามตัวเองหรือออกไปเยือน เขาก็พยายามรักษาปรัชญาตรงนี้ไว้ให้มากที่สุด ขณะที่ Mourinho เขาคือคนที่เล่นกับ “พื้นที่” ทั้งการรักษาพื้นที่ในแนวรับให้มีช่องว่างน้อยที่สุด ฉกฉวยโอกาสที่อีกฝ่ายพลาดในการใช้ลูกสวนกลับเร็วโจมตีพื้นที่ว่างระหว่างแผงกองหลังกับผู้รักษาประตู รวมถึงพื้นที่ระหว่างเซ็นเตอร์ฮาล์ฟกับแบ็คซ้ายขวา เพื่อให้ปีกที่มีความเร็วจัดการ แต่ดูเหมือนว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา การออกบอลโต้กลับของทีมปิศาจแดงจะไม่ได้ผลนัก และฝั่งทีมเยือนก็ดูจะรับมือกับลูกกลางอากาศได้ดีมากในช่วงท้าย 2. Lukaku ยังไม่สามารถแก้ปัญหาของตัวเองได้ Lukaku ยังไม่สามารถทำประตูในเกมพรีเมียร์ลีกได้ติดต่อกัน 4 นัด นอกเหนือไปจากนั้น เขาก็แทบจะไม่มีส่วนร่วมกับเกมเท่าไรนัก จนแฟนบอลที่เคยตั้งความหวังไว้เริ่มออกมาวิจารณ์ถึงฟอร์มการเล่น…
-
เจ้าหมูถูกขังไว้ในโรงนามานานกว่า 11 ปี ในที่สุดก็ถูกช่วยเหลือและพบกับครอบครัวที่แสนดีแล้ว!!
การที่เราคิดจะเลี้ยงสัตว์สักตัวหนึ่ง เราก็ควรคิดว่าเรามีความพร้อมมากแค่ไหนที่จะดูแลอีกชีวิตหนึ่ง เพราะถ้าเราเอาสัตว์เหล่านั้นมาเลี้ยงแล้วทิ้งๆ ขว้างๆ ก็อาจจะสร้างความทุกข์ให้แก่เราได้ แต่ที่ทรมานยิ่งกว่าก็คือสัตว์ตัวนั้นที่ถูกทอดทิ้ง เหมือนกับหมูตัวนี้ที่ขาดการดูแลและต้องอยู่ในโรงนาอย่างโดดเดี่ยวมานานกว่า 11 ปี!! หมูตัวหนึ่งซึ่งในอดีตเคยมีชื่อว่า Hannah แต่เมื่อมาถึงศูนย์รับเลี้ยงสัตว์ Happy Tails Farm รัฐออนแทรีโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าหมูตัวนี้ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Anna เพื่อต้อนรับชีวิตใหม่ที่กำลังจะได้รับ หลังจากต้องทนทุกข์ทรมานมานานหลายปี Carla Reilly Moore ผู้ก่อตั้งศูนย์รับเลี้ยงสัตว์แห่งนี้เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของ Anna ว่า วันหนึ่งเธอได้รับโทรศัพท์จาก Ralphy’s Retreat Sanctuary ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์อีกแห่งหนึ่ง โดยมีเนื้อความว่าพวกเขาได้ช่วยเหลือหมูพ็อตเบลลี่เวียดนามมาตัวหนึ่ง ซึ่งหมูตัวนี้เป็นหมูที่น่าสงสารเพราะว่าเจ้าของไม่ได้สนใจดูแลมันเลย แต่ด้วยความที่มันมีอายุเยอะ เจ้าของจึงไม่อยากเก็บมันไว้อีกต่อไปและได้นำมาฝากไว้ที่ศูนย์ช่วยเหลือดังกล่าว และเมื่อ Moore ได้ยินอย่างนั้นก็ไม่รอช้าที่จะช่วยเหลือมัน “หมูที่น่าสงสารตัวนี้ถูกซื้อไปตั้งแต่ยังเป็นแบเบาะ มันถูกโยนเข้าโรงนาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มันต้องนั่งเศร้าอยู่ในโรงนาถึง 11 ปีเชียวนะ” Moore กล่าว เมื่อ Moore ไปรับเจ้าหมูตัวนี้มาเธอก็พบว่า มันเป็นหมูที่ขาดการดูแลใดๆ อย่างสิ้นเชิงและด้วยความที่มันมีอายุมาก เธอจึงตัดสินใจให้เจ้าหมูตัวนี้อยู่ศูนย์รับเลี้ยงสัตว์อันอบอุ่นของเธอ จนกว่าจะสิ้นอายุขัยของมันเลยทีเดียว …
-
ศิลปินสร้างสถาปัตยกรรม ที่ “มีชีวิต” และ “ตอบสนอง” ต่อผู้ชมเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ…
โดยปกติแล้วงานสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่เราเห็นในชีวิตประจำวันก็จะมีหลายรูปแบบทั้งตึกรามบ้านช่อง สะพาน กำแพงต่างๆ ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่มีที่มาจากการออกแบบของสถาปนิก ว่าจะให้สิ่งก่อสร้างนั้นๆ มีรูปแบบและความสวยงามอย่างไร แต่ว่าได้มีสถาปนิกท่านหนึ่งที่มีความคิดก้าวไกลกว่าคนทั่วไป โดยเขาได้ออกแบบสถาปัตยกรรมขึ้นมาชิ้นหนึ่ง แต่ความพิเศษของสิ่งประดิษฐ์อันนี้ก็คือ มันเป็นการรวมกันระหว่างสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะสามารถเอามารวมกันได้ และที่สำคัญคือมันกลับมีชีวิตขึ้นมา ราวกับว่าเขาได้สร้างแฟรงเกนสไตน์ขึ้นมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมก็ว่าได้ Philip Beesley ศิลปินในคราบของสถาปนิก ได้เป็นผู้สร้างโปรเจกต์ดังกล่าวขึ้น โดยเขาได้นำศาสตร์ทั้งหลายมารวมกันภายในสถาปัตยกรรมอันเดียว ซึ่งเป็นการรวมกันระหว่างเคมี ระบบปัญญาประดิษฐ์และระบบตอบโต้อัตโนมัติ สำหรับรูปแบบที่เขาตั้งใจจะให้ออกมา คือสิ่งก่อสร้างที่มีรูปร่างคล้ายกับเซลล์ของสิ่งมีชีวิต เพื่อให้ดูเหมือนว่ามันเป็นสิ่งที่มีชีวิตอย่างหนึ่ง และเขาก็ได้ตั้งชื่อโปรเจกต์นี้ว่า Astrocyte ซึ่งเป็นชื่อหนึ่งของเซลล์ที่ชื่อว่าเกลียลแอสโทรไซติคที่มีลักษณะคล้ายกับดาวที่แยกออกเป็นแฉกๆ อย่างสวยงาม และที่บอกว่ามันมีชีวิต หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันเป็นอย่างไร ในส่วนนี้เขาก็ได้อธิบายไว้ว่า สิ่งประดิษฐ์ล้ำยุคของเขาจะสามารถตอบโต้กับผู้ชมที่เข้ามาใกล้ๆ ได้โดยมันจะรับรู้ได้จากระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ติดตั้งเอาไว้ภายใน และตอบโต้ด้วยการเปลี่ยนรูปร่างของมันไปในทิศทางต่างๆ และที่เป็นไฮไลท์ก็คือมันสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ด้วย ส่วนโครงสร้างหลักๆ ที่ใช้ประกอบเป็นสิ่งนี้ขึ้นก็คือ อะคริลิกที่สร้างขึ้นจากความร้อนแล้วนำไปตัดให้เป็นรูปทรงทางเรขาคณิตต่างๆ แล้วนำมาประกอบกัน โดยใช้เส้นใยที่สามารถยืดหยุ่นได้ผูกเข้าไว้ในรูปทรงกรวย เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้ชิ้นงานของเขา นอกจากนี้เข้ายังใช้แสงไฟที่ผลิตขึ้นมาจากการพิมพ์แบบสามมิติ และยังมีชิ้นส่วนแก้วต่างๆ ที่ผิวเคลือบสารเคมีเพื่อเพิ่มความสวยงามให้แก่สิ่งสิ่งนี้ ชิ้นงานของเขาได้รับการพูดถึงในวงกว้าง ว่ามีความน่าสนใจและน่าค้นหาถึงขั้นที่บางคนก็บอกว่ามันน่าจะหลุดออกมาจากนิยายวิทยาศาสตร์เลยก็ว่าได้ และโปรเจกต์ของเขาน่าจะจะเป็นจุดสูงสุดของการออกแบบที่มีในโลกเลยทีเดียว .…
-
หนุ่มอินเดียหัวใส แต่งท่อรถกระป๋องลั่นๆ แบบ DIY อัพเกรดเสียงฟังเหมือนใบเป็นหมื่น!!
ด้วยข้าวของในปัจจุบันนั้นมีราคาสูงขึ้นทุกวันๆ ทำให้การซื้ออะไรบางอย่างที่เราอยากได้นั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก มนุษย์เราจึงมีการ ‘ดัดแปลง’ เกิดขึ้น ทั้งนี้การดัดแปลงที่ว่าก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการ และความรู้ของแต่ละคนด้วยว่าจะสามารถทำให้มันออกมาดีได้เหมือนกับของราคาแสนแพงหรือไม่ เหมือนกับชายชาวอินเดียคนนี้ ที่ดัดแปลงเสียงรถ Honda Dream Neo ของเขาด้วยการเอากระป๋องน้ำอัดลมไปมัดติดกับปลายท่อรถของเขา เพื่อจะลองทดสอบดูว่ามันจะมีเสียงที่เพราะพริ้งเหมือนกับท่อราคาแพงๆ หรือไม่ และเมื่อมีการสตาร์ทรถเกิดขึ้น ผลงานการดัดแปลงของเขาก็เป็นที่ประจักษ์ เมื่อเสียงลมที่ออกมาจากปลายท่อกระทบเข้ากับกระป๋องที่มัดติดกับมันไว้ ได้ออกมาเป็นเสียงที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น การดัดแปลงเสียงท่อที่แสนจะครีเอท ที่ไม่รู้ว่าคิดออกมาได้ยังไง ฉลาดเกิ๊นน เพราะเสียงที่ออกมานั้นมันช่างเป็นเสียงที่เหมือนกับอังกะลุงที่ดัง กรุ๊งๆ อยู่ตลอดเวลาและเมื่อมีการเร่งเครื่องขึ้น มันก็เหมือนยิ่งเพิ่มความฮาขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเสียงที่ออกมานั้นใครได้ฟังรับรองว่าต้องหัวเราะจนตัวงอ ขำจนน้ำหูน้ำตาไหลอย่างแน่นอน ขี่ด้วยความมั่นใจ ก็ทำไมอะรถตูไม่เท่ตรงไหนอะ และเมื่อเป็นมีการขี่ออกไปโดยชายอีกคนหนึ่งเพื่อลองเสียง ก็ปรากฏว่าลูกเล็กเด็กแดงในละแวกนั้นต่างก็มองตามเสียงท่อของรถคันนี้เป็นตาเดียวกัน นั่นยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้แก่คนขี่เข้าไปอีกว่าตัวเขานี่ช่างมีความเท่เสียนี่กระไร โดยในตอนนี้คลิปการดัดแปลงท่อสุดฮานี้มีผู้คลิกเข้าไปชมในเว็บไซต์ยูทูบแล้วกว่า 22 ล้านครั้งและบางความเห็นก็ชื่นชมในความคิดของคนที่ดัดแปลงรถคันนี้ บางความเห็นก็มองเป็นเรื่องขำขันกันไป แต่ที่แน่ๆ เลยคือต้องกราบไอเดียการดัดแปลงจริงๆ ของคนเหล่านี้จริงๆ ที่นอกจากจะทำให้รู้ว่าผลการทดสอบเป็นอย่างไรแล้ว ยังทำให้เราได้มีรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าอีกด้วย วิดีโอการทดสอบท่อรถกระป๋องแบบเต็มๆ แพงที่ไอเดีย แต่เห็นแล้วเพลียที่ใจ… ที่มา: Media Box
-
เด็กชายตัวน้อยได้เจอกับ ‘ซานตาคลอส’ เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต ก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไป
มนุษย์ทุกคนในโลกนี้ต่างมีความฝันเป็นของตัวเอง และไม่ว่าฝันนั้นจะเล็กหรือใหญ่ เราต่างก็อยากทำมันให้เป็นจริงสักครั้งในชีวิตนี้ ด้วยเหตุนี้ผู้ที่แต่งตัวเป็นซานตาคลอสมักจะทำให้ฝันของหลายๆ คนเป็นจริงในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เช่นเดียวกับที่หนูน้อย Miles Agnew ได้รับ Agnew เด็กชายวัย 2 ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านพักดูแลผู้ป่วยมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพและนับวันยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ Michelle Agnew คุณแม่ของเด็กชายเล่าว่า “เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อยู่ดีๆ ร่างกายของเขาก็เกิดช็อกขึ้นมาและอาการเริ่มทรุดลงอย่างหนัก โดยที่เราเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” Agnews รับเลี้ยง Miles เมื่อตอนเขาอายุ 3 เดือนเท่านั้น เขาเกิดมาพร้อมกับโรค Microcephaly (ศีรษะเล็ก) สมองอัมพาต การมองเห็นไม่ค่อยดี โรคลมชักชนิดที่ไม่สามารถรักษาได้ และแพ้อาหาร ทั้งนี้ Miles ยังมีพี่น้องอีกสองคนรักเขามากๆ คือ Hailey วัย 13 ปี และ Taveon วัย 11 ปี เรื่องราวและความทุกข์ทรมานของเด็กชายถูกแชร์ไปให้ Secret Sleigh Project ทราบ ซึ่งเป็นองค์ที่ทำงานเพื่อเด็กที่ป่วยเป็นโรคและร่างกายอ่อนแอทั่วสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5…
-
เรื่องราวของลูกสาวคนที่ 10 ที่ ‘พระราชินีวิกตอเรีย’ ทรงรับมาเลี้ยง และเธอเป็นคนผิวสี..
หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย อดีตราชินีแห่งสหราชอาณาจักร ผู้ได้รับฉายาว่า “สมเด็จย่าแห่งยุโรป” นั่นคือสิ่งที่เราเคยได้ยินมาบ้าง แต่เราเคยทราบกันมั้ยว่าพระองค์ทรงรับเลี้ยงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเป็นลูกบุญธรรม และเด็กคนนั้นก็ยังเป็นเด็กผิวสีอีกด้วย เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 1848 เมื่อตอนที่ Sarah Forbes Bonetta อายุได้เพียง 5 ขวบ เธอเป็นทาสชาวไนจีเรียที่ถูกราชาแห่งประเทศ Dahomey จับกุมพร้อมกับครอบครัวของเธอ Sarah หญิงสาวผู้ที่ได้รับการเลี้ยงดูจากราชินีวิกตอเรีย สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย อดีตราชินีแห่งสหราชอาณาจักร พ่อแม่ของเด็กสาวถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม และในขณะที่เธอกำลังจะจากโลกนี้ตามพวกเขาไป ทหารเรือชาวอังกฤษ Frederick Forbes ผู้กำลังทำภารกิจเลิกทาสในประเทศดังกล่าว ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเด็กสาวได้ทันเวลาพอดี ทหารหนุ่มตั้งใจที่จะส่งเด็กสาวไปให้ราชินีวิกตอเรีย เพื่อให้พระองค์ทรงรับเลี้ยงต่อไป เขาจึงพา Sarah เดินทางกลับประเทศอังกฤษ ด้วยเรือที่ชื่อว่า HMS Bonetta นั่นจึงกลายเป็นชื่อของเธอในภายหลัง เมื่อองค์ราชินีได้เจอกับเด็กสาวก็รู้สึกถูกชะตาอย่างมาก เธอได้กลายเป็นลูกคนที่ 10 ของพระองค์ และได้รับการเลี้ยงดูไม่ต่างกับพี่น้องคนอื่นๆ เลย เนื่องจากสภาพร่างกายที่อ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก Sarah จึงถูกส่งไปเรียนในประเทศเซียร์ราลีโอน เพราะองค์ราชินีทรงคิดว่าสภาพอากาศของที่นั่นน่าจะเหมาะกับเธอมากกว่า และเมื่อเรียนจบเด็กสาวก็กลับมาประเทศอังกฤษอีกครั้งในปี…
-
เด็กชายเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งทานข้าวอยู่คนเดียว เลยเดินเข้าไปขอกอดเพื่อให้กำลังใจ
ตอนเด็กๆ พวกเราอาจมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคือฮีโร่ในสายตาเรา เพราะพวกเขาคอยดูแลความสงบสุขและความปลอดภัยของทุกคน เด็กคนนี้เองก็เช่นกัน เมื่อเขาได้เจอกับฮีโร่ในดวงใจของตัวเองแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปแสดงความรักและให้กำลังใจ เด็กคนนี้มีชื่อว่า TJ อายุ 3 ขวบ เขาและคุณแม่ Jamie Hubbard ได้เข้าไปกินอาหารในร้าน McDonald’s เมื่อเดือนมีนาคม 2016 ทำให้เขาเจอนายตำรวจคนหนึ่งกำลังกินอาหารอยู่ในร้านเพียงลำพัง หนุ่มน้อยคลั่งไคล้ในอาชีพตำรวจและรถมอเตอร์ไซค์อย่างมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เขาเห็นมีคุณสมบัติดังกล่าวครบถ้วนเลย เด็กน้อยจึงหันไปถามแม่ของเขาว่า “ผมขอเดินไปหาคุณตำรวจคนนั้นได้มั้ยครับ” เมื่อคุณแม่อนุญาต TJ เลยเดินเข้าไปหาตำรวจคนนั้นด้วยท่าทีเขินอาย เมื่อนายตำรวจ Colter เห็นเข้า เขาก็อดยิ้มให้กับท่าทางของเด็กคนนี้ไม่ได้เลย อ้ำๆ อึ้งๆ กันอยู่ซักพัก TJ ก็หันมาขอความช่วยเหลือจากคุณแม่ เธอจึงตะโกนบอกกับคุณตำรวจว่า “เขาแค่อยากกอดคุณเท่านั้นเอง” ทั้งคู่จึงกอดกันเพื่อเป็นการแสดงความรักและมอบกำลังใจให้กับการทำงานอันแสนเหน็ดเหนื่อยในอาชีพตำรวจ ด้วยความอาย เด็กชายจึงวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ และหลังจากนั้นทั้งสองก็ได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน รักษาความสัมพันธ์เอาไว้เสมอ คลิปเหตุการณ์ที่คุณแม่เป็นคนถ่ายเอาไว้ ทุกครั้งที่ทั้งสองเจอกัน ความอบอุ่นหัวใจก็จะเกิดขึ้นมาเสมอ …
-
โซฟาที่มีแรงบันดาลใจจาก ‘ก้อนเมฆ’ ช่วยให้คุณนอนหลับฝันกลางวันได้อย่างแจ่มแมวยิ่งขึ้น!!
ปกติโซฟาจะมีรูปทรงเหมือนเก้าอี้ แต่มันจะหนา จะนุ่ม จะเด้งๆ หรือมีคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ ที่จะทำให้คนนั่งรู้สึกสบายและใช้เป็นที่พักผ่อนได้ แต่สำหรับ Cheng-Tsung Feng นักออกแบบชาวไต้หวัน ได้คิดค้นโซฟาที่มีรูปทรงแตกต่างออกไป แต่ให้ความสบายไม่ต่างกัน Tsung Feng ได้ออกแบบ Daydreamer เก้าอี้พักผ่อนหรือโซฟา ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากจินตนาการก้อนเมฆในวัยเด็ก นักออกแบบบอกว่า “ตอนเด็กๆ ผมฝันที่อยากมีโอกาสบินเหนือเมฆ เมื่อโตขึ้นเลยอยากสานฝันในวัยเด็กให้เป็นจริง” สำหรับวัสดุที่ใช้ทำโซฟาก้อนเมฆนั้น นักออกแบบเลือกใช้วัสดุที่ทำให้รูปร่างของโซฟาเปลี่ยนไปตามการเคลื่อนไหวของหรือรูปร่างของผู้นั่ง เพื่อให้รู้สึกสบายเหมือนนั่งอยู่บนก้อนเมฆ ด้วยความสบายและความลงตัวทั้งหมดเหล่านี้ จะช่วยให้หลายๆ คุณรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในวัยเด็กอีกครั้ง เมื่อนั่งหรือนอนบนโซฟาสุดพิเศษนี้ Daydreamer เรียกได้ว่าเป็นโซฟาอเนกประสงค์ เพราะคุณสามารถทำให้มันเป็นเก้าอี้สำหรับพักผ่อน หรือจะเปลี่ยนให้เป็นที่นอนก็ได้ โดยที่ยังสัมผัสได้ถึงความสบายเท่าเดิม นอนหลายคนก็ได้ ให้ความสบายเท่ากัน สำหรับใครที่สนใจเฟอร์นิเจอร์สุดสร้างสรรค์แบบนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Chengtsung นั่งอ่านหนังสือด้วยท่วงท่าสบาย จะทำให้มีสมาธิมากขึ้น หรือจะใช้เป็นที่นอนก็ได้ รองรับทุกท่วงท่าที่คุณเคลื่อนไหว กึ่งนอนกึ่งนั่งก็ดีนะ มันก็จะนุ่มๆ หน่อยอะนะ …
-
หนุ่มวัย 27 ผู้เคยติดเหล้า โชว์ใบหน้าหลังเลิกได้แล้ว 600 วัน ด้วยความรู้สึกที่สดใสกว่าเดิม
การติดเหล้านั้นไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อสุขภาพเท่านั้น แต่มันยังส่งผลต่อสภาพร่างกายนอกของคุณอีกด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดจากใบหน้าของคุณ หากใครคิดว่ามันไม่แตกต่าง ลองมาดูใบหน้าของ John DeCaux หนุ่มวัย 27 ปี ที่เผยใบหน้าก่อนและหลังเลิกเหล้าว่ามันต่างกันยังไง John เคยติดเหล้าอย่างหนัก ถึงขั้นที่ต้องดื่มเหล้าครึ่งขวดต่อวัน แต่แล้ววันหนึ่งเขาตัดสินใจเลิกอย่างเด็ดขาด จนรู้สึกเหมือนได้ชีวิตใหม่ในเวลาต่อมา ชายหนุ่มบอกว่าไม่เคยรู้สึกดีเท่ากับการเลิกเหล้าได้แล้วใน 600 วันมาก่อนเลย และเขาก็อยากแบ่งปันความเปลี่ยนแปลงให้กับคนอื่นๆ “หลังจากที่เลิกเหล้า น้ำหนักผมลดลงไปถึง 17 กิโลกรัม และตอนนี้ผมได้ไปยิมเพื่อออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน” John กล่าว John เล่าว่า “วันที่ 16 เดือนเมษายนปีที่แล้ว เป็นวันที่ผมตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะเลิกเหล้า เพราะภรรยาเป็นคนทำให้ผมรู้ตัวว่าดื่มไปมากแค่ไหน และผมควรจะพอได้แล้ว” เขาบอกอีกว่า “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมพยายามเลิกเหล้า แต่มันคือครั้งแรกที่ผมอยากเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง นอกจากนี้มันยังเป็นการทำเพื่อภรรยาด้วย” วันแรกของการเลิกเหล้า John และภรรยาช่วยกันนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และแก้วทุกใบที่เคยรินเหล้าออกจากบ้านจนหมด “ผมคิดว่านี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับการรักษาอาการติดเหล้าของผม เพราะมันทำให้ตระหนักว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ควบคุมชีวิตผม” ชายหนุ่มบอก หลังจากที่หยุดดื่มได้สักพัก John รู้สึกว่ามีพลังมากขึ้น มีเวลามากขึ้น เขาเรียนรู้ที่จะทำอาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้งโชว์การทำอาหารผ่านสื่อออนไลน์ด้วย ที่น่าประทับใจที่สุดคือตอนนี้ John…
-
เหยแกร… หลัวใหม่เจ๊เท Joe Alwyn เดินจับมือกะหนุงกะหนิงแล้วอ๊ะ แบบนี้คือชัวร์แล้วสินะ!?
หากพูดถึงนักร้องสาวแห่งยุค ที่มีเพลงฮิตมากมายที่คนทั่วโลกร้องได้ ก็คงจะมีแม่ Taylor Swift ติดโพลอยู่ในนั้นด้วย แต่นอกจากเพลงฮิตที่มีจำนวนมากแล้ว แฟนหนุ่มของแม่เทก็มีมากมายเช่นกัน ที่สลับสับเปลี่ยนไปมา จนเราๆ ตามแม่แทบไม่ทันแล้วว และในตอนนี้ต่อมเผือกก็ต้องลูกซู่อีกครั้ง เมื่อมีภาพหลุดของแม่เทและดาราหนุ่ม Joe Alwyn ที่กำลังจูงมือกันกะหนุงกะหนิง แบบนี้เขาเรียกว่าแฟนกันหรือยังน้าาา??? เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้มีภาพหลุดเป็นครั้งแรก ในเมือง Nashville รัฐ Tennessee ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งดูๆ ภาพไปแล้ว ก็ไม่ค่อยจะคมชัด HD เท่าไหร่ จึงคอนเฟิร์มไม่ได้จริงๆ ว่าแม่เทเค้าตกลงคบหากับหนุ่ม Joe Alwyn รึยัง!!? และในอีกหกเดือนถัดมาทั้งคู่ก็ปรากฏตัวอีกครั้ง ณ New York City หลังจากจบการแสดงของแม่เทในคอนเสิร์ต The Annual Jingle Ball Concert เมื่อพูดถึงว่าที่แฟนแม่เทอย่างหนุ่ม Joe Alwyn หลายๆ คนอาจสงสัยว่าแกเป็นใครมาจากไหน ซึ่งจริงๆ แล้วหนุ่มหล่อคนนี้เป็นนักแสดงที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก แต่โปรไฟล์นั้นถือว่าไม่ธรรมดาเลยล่ะ Joe จบการศึกษาจาก City of…
-
29 ภาพแห่งความเพอร์เฟกต์ ทุกอย่างลงล็อกอย่างพอดีเป๊ะ เห็นแล้วมันฟินลูกตาเหลือเกิน
การได้เห็นความเพอร์เฟกต์ ความพอดีหรือความเป๊ะนั้น ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือบังเอิญ มักจะทำให้เรารู้สึกฟินลูกตาและรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เหมือนอย่างภาพต่อไปนี้ที่เผยให้เห็นความลงล็อกอย่างพอดีเป๊ะ จนทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความสมบูรณ์แบบ 1. ดับเบิลเบสเหมือนออกแบบมาเพื่อคุณปู่คนนี้โดยเฉพาะ ดูพุงสิ ลงล็อกพอ 2. มุมของสะพานในนิวซีแลนด์ เหมือนมี 4 สถานที่ ทั้งที่มันคือที่เดียวกัน 3. การจัดเรียงสินค้าที่ทำให้ลูกค้าหาของง่ายขึ้น แถมดูแล้วสบายตาด้วย 4. เป็นการเรียงแผ่นซีดีที่เป๊ะทุกระเบียบนิ้ว 5. ใครที่มีลายมือแบบนี้โดยธรรมชาตินี่ต้องเป็นคนที่มีระเบียบมากแน่ๆ 6. นี่แค่เลคเชอร์นะ นึกว่าทำส่งอาจารย์ 7. เสื้อที่มีความลงล็อกกับลายสักเป๊ะๆ 8. นี่ก็เหมือนกัน พอดีเหมือนจับวาง 9. แหม่ ตัวเลขเรียงกันซะสวยเลย เอาไปตีเป็นเลขเด็ดได้เลยนะเนี่ย 10. ความเพอร์เฟกต์แบบไม่ได้ตั้งใจ 11. โอ๊ยยย นี่มันจะเก่งเกินไปแล้ว 12. ภาพจากที่อินสตาแกรมที่ควรค่าแก่การติดตาม …
-
หัวใส!! ญี่ปุ่นผลิตโดรนส่งเสียงเพลงเพื่อบังคับ(ไล่)พนักงานกลับบ้าน ลดปัญหาการทำงานหนัก
ในประเทศที่เป๊ะทุกระเบียบนิ้วอย่างญี่ปุ่น เรื่องของเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญมาก จะเห็นได้ว่าไม่ว่ารถไฟฟ้าหรือแม้แต่รถบัสเขาจะมาตรงทุกวินาที และหากคลาดเคลื่อนไปแม้แต่นาทีเดียวผู้บริหารหลายที่ก็ถึงขั้นลาออกเลยทีเดียว และในตอนนี้ประเทศนี้ก็มีวิธีใหม่ๆ เกี่ยวกับเรื่องของเวลา โดยพวกเขาจะใช้โดรนบอกเวลาเลิกงานให้กับพนักงาน!! โดรนบอกเวลาเลิกงานที่ว่านี้มีชื่อว่า T-Frend โดยมันจะปล่อยเสียงเพลง Auld Lang Syne เพลงสัญชาติสกอตแลนด์ ซึ่งปกติมักจะเปิดในร้านค้าของประเทศญี่ปุ่น ในเวลาที่ร้านค้าต่างๆ ใกล้จะปิดแล้ว หน้าตาของโดรน T-Frend “คนปกติมักจะไม่ค่อยมีสมาธิในตอนเวลาที่ใกล้เลิกงาน เพราะมัวแต่พะวงว่าเมื่อไหร่เวลาเลิกงานจะมาถึง พวกเราจึงได้คิดค้นโดรนที่สามารถปล่อยเพลง Auld Lang Syne ขึ้นมาอีกทั้งมันยังมีเสียงน่ารักๆ รวมอยู่ด้วย” Norihiro Kato ผู้อำนวยการบริษัท Taisei บริษัทรักษาความปลอดภัยและทำความสะอาด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบกล่าว นอกจากโดรนอันนี้จะสามารถส่งเสียงบอกเวลาได้แล้ว มันยังถูกติดตั้งพร้อมกับกล้องวงจรปิด ที่ทำให้สามารถดูภาพสดๆ จากต่างสถานที่ และเครื่องนี้ยังสามารถจดจำสถานที่ต่างๆ ภายในตึกได้โดยไม่ต้องใช้เทคโนโลยี GPS เลยด้วย สามารถจดจำสถานที่ต่างๆ ได้อัตโนมัติ บริษัท Taisei มีแผนจะปล่อย T-Frend ในเดือนเมษายนปีหน้า โดยจะร่วมมือกับ Blue Innovation บริษัทพัฒนาโดรนโดยเฉพาะ และ NTT East ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม สำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับโดรนตัวนี้ ยังไม่มีการกำหนดออกมาแน่นอน แต่พวกเขาบอกเอาไว้ว่าจะมามีราคาให้บริการอยู่ราวๆ 500,000 เยน (ประมาณ 143,000 บาท)…
-
ผัวหวังดีจะช่วยเมียหุงข้าว กลายเป็นว่าเอา “ถ้วยอนามัย” มาตวงซะงั้น แถมทิ้งหลักฐานไว้อีก!!
ผู้หญิงเป็นเพศที่ซับซ้อนและมีข้าวของเครื่องใช้จำนวนมาก ทำให้ผู้ชายหลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่าสิ่งของสารพัดอย่างของพวกเธอมันคืออะไร และเอาไว้ใช้สำหรับทำอะไรบ้าง และเหตุการณ์สุดฮานี้ก็เกิดจากความไม่รู้อีโหน่อีเหน่เช่นเดียวกัน เพราะว่าผู้ชายคนหนึ่งได้เอาถ้วยอนามัยที่ใช้สำหรับตอนที่มีประจำเดือนของเมียเขา ไปตวงข้าวเอามาหุงกินซะอย่างงั้น Cindy สาวที่ตะลึงเมื่อพบสิ่งนี้อยู่ในถุงข้าว เหตุการณ์ฮาลั่นทุ่งนี้ได้รับการบอกเล่ามาจาก Cindy Hobbs สาวในรัฐวิกทอเรีย ประเทศออสเตรเลีย โดยเธอเล่าให้ฟังว่าเธอเป็นทั้งภรรยา แม่ของเด็กๆ อีกสองคน อีกทั้งยังเปิดธุรกิจร้านเครื่องเพชรเล็กๆ ที่ชื่อว่า Breastmilk Jewellery อีกด้วย และแน่นอนว่าด้วยภาระด้านครอบครัวและการงานทำให้ Cindy ดูจะเป็นสาวที่ดูยุ่งอยู่ตลอดเวลา Malcolm Hobbs สามีที่แสนดีของเธอจึงหวังดีพยายามจะช่วยงานบ้านเธอบ้าง หน้าตาของสามีผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ว่าความหวังดีอันนั้นกลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้เธอแทบจะต้องกรี๊ด เมื่อเธอเปิดถุงข้าวดูแล้วก็พบว่า มีถ้วยอนามัยที่เธอใช้สำหรับเวลามีประจำเดือนอยู่ในนั้น นั่นจึงหมายความว่าข้าวที่เธอกินเมื่อวันก่อน ต้องผ่านกระบวนการตวงมาจากถ้วยอนามัยอันนี้ และเธอก็รู้ทันทีว่าต้องเป็นฝีมือของผัวพ่อบ้านของเธอแน่นอน ข้อความที่เธอส่งไปถามสามีของเธอ งานนี้เธอไม่รอช้ารีบถ่ายรูปแล้วส่งข้อความไปถามสามีของเธอทันที Cindy: ทำไมไอ้สิ่งนี้มันถึงเข้ามาอยู่ในถุงข้าวได้เนี่ย? สามี: ก็ฉันเอามันมาตวงข้าวเมื่อคืนไง ก็เธอบอกเองนี่ว่าให้ใช้ 3 ถ้วย เมื่อ Cindy ได้รู้ว่าข้าวที่เธอกินเมื่อคืนต้องผ่านถ้วยอนามัยที่เธอใช้เมื่อมีประจำเดือน เธอก็แทบจะอ้วกออกมาเลย และเธอก็รู้ในทันทีว่าสามีของเธอต้องไม่รู้แน่นอนว่ามันคืออะไร เธอจึงพยายามอธิบายให้สามีแสนดีของเธอได้รู้ว่ามันคืออะไร …
-
มนุษย์กำลังหาบ้านให้มิ้วน้อย แต่เจ้าอ้วนตัวส้มดันคว้าน้องเอาไว้ ไม่ต้องให้ใครพี่ดูแลเอง…
การได้ช่วยเหลือสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของนับได้ว่าเป็นบุญอันประเสริฐ และนั่นเป็นสิ่งที่ครอบครัวแห่งหนึ่งทำโดยพวกเขาได้ช่วยแมวตัวหนึ่งจากข้างถนน และได้ให้แมวมาพักที่บ้านเพื่อจะหาบ้านที่อบอุ่นให้แก่มัน แต่ปรากฏว่าแมวตัวอ้วนที่พวกเขาเลี้ยงอยู่กลับไม่ยอมปล่อยให้เจ้าแมวที่น่าสงสารไปที่อื่นซะอย่างงั้น ผู้ใช้งานเว็บไซต์ Reddit ชื่อว่า todontblink ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวสุดน่ารักนี้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเป็นเรื่องราวครอบครัวของเขา ที่พยายามจะหาบ้านใหม่ให้แก่ลูกแมวที่เก็บมาเลี้ยง นอนกอดกันเฉยเลย แต่เมื่อมันเข้ามาอยู่ในบ้านก็ดันไปพบรักกับแมวสีส้มตัวอ้วนที่อยู่มาก่อนแล้ว และดูเหมือนว่าลูกแมวที่เข้ามาใหม่จะชอบเจ้าขนปุยสีส้มนี้มากถึงขนาดเดินตามเป็นเงาตามตัวเลย นายจะเอาลูกแมวตัวนี้ไปไหน ฉันไม่ให้!! ลูกแมวตัวนี้ถูกพบกลางถนนชนบทแห่งหนึ่ง โดยการพบกับครอบครัวนี้ครั้งแรกมันดูตื่นกลัวเป็นอย่างมาก ทว่าด้วยจิตใจที่สงสารเมตตาของครอบครัวนี้ จึงได้พยายามช่วยเหลือมันได้สำเร็จ มาเล่นด้วยกันก่อนเนอะ “พวกเราพยายามหาบ้านให้กับมันทั้งการไปถามเพื่อนบ้าน และลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กแต่ก็ไม่มีใครสักคนรับมันไปเลี้ยงเลย” “วันแรกที่ลูกแมวเข้ามาในบ้านของเรามันดูเคอะเขินหน่อยๆ มันหมกตัวอยู่ที่มุมห้องตลอดเวลา แต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานมันก็เริ่มไว้ใจเราและเดินไปรอบๆ บ้านเพราะมันรู้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ปลอดภัย” ยูสเซอร์ todontblink กล่าว แม้แต่หมามันก็ยังจะผูกสัมพันธ์ด้วย เมื่อลูกแมวสีขาว-ดำ เดินไปสำรวจรอบๆ บ้านและพบกับเจ้าแมวอ้วนตัวนี้ แมวเจ้าถิ่นก็กอดมันเอาไว้ในอ้อมแขนทันที อีกทั้งมันยังมีการเลียขนให้กันและกันและในที่สุดทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนรักในเวลาแสนรวดเร็ว สมาชิกใหม่ของบ้าน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและพยายามจะทำความรู้จักกับสิ่งมีชีวิตทุกๆ อย่างภายในบ้านนี้รวมทั้งหมาในบ้านด้วย มันมักจะชอบอยู่ใกล้ๆ กับใครซักคนและแอบอิงพิงกายกับสิ่งนั้นๆ กอดกันกลมเชียว ช่างน่ารักจริงๆ แผนการหาบ้านใหม่ของครอบครัวนี้ได้พังทลายลง…
-
เจ้าเหมียวหายตัวไปจากบ้าน 7 ปี เจออีกทีอยู่หน้า “เซเว่น” สะดวกซื้อไม่พอ สะดวกหาแมวด้วย!!
หลายคนคงรู้ว่า “7-11” เป็นร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง และเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Sky ตัวนี้ก็มีนิสัยเหมือนเซเว่นนี่แหละ เพราะว่าร้องเหมียวตลอด 24 ชั่วโมง แถมมันยังไปอยู่ที่หน้าเซเว่นในเมือง Naples ในรัฐ Florida อีกด้วย มันอยู่ที่นี่มานาน จนกระทั่งได้มีคู่รักคู่หนึ่งได้มาเจอ และอดไม่ได้ที่จะทิ้งมันไป ก็เลยพามันกลับมาที่บ้านด้วย พร้อมกับอาบน้ำให้อย่างดีที่สุด เพราะว่าตัวของมันเต็มไปด้วยเห็บและหมัด หลังจากที่มันฟื้นตัวได้แล้ว ทั้งคู่ก็ได้พาเจ้าเหมียวไปที่สถานรับเลี้ยง Naples Cat Alliance เพื่อให้มันได้เจอบ้านที่แท้จริงของมัน เนื่องจากพวกเขาเลี้ยงไม่ไหว ตอนแรกก็เหมือนว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะคลี่คลายด้วยดี จนกระทั่ง… เจอไมโครชิปที่ฝังอยู่ข้างในตัวมัน นั่นหมายถึงว่ามันมีเจ้าของ!! พอได้ตรวจสอบแล้วก็พบว่า ต้นกำเนิดของมันมาจากรัฐ Missouri พร้อมกับชื่อเจ้าของเดิมและเบอร์โทร แต่ทว่าลองโทรไปแล้วกลับไม่มีหมายเลขดั่งกล่าวแล้ว หลังจากนั้นกลุ่มคนรักสัตว์ในเฟซบุ๊กต่างก็ช่วยกันตามหาเจ้าของ จนสุดท้ายก็ได้เจอเจ้าของที่แท้จริงแล้ว โดยที่เธอนั้นได้ย้ายจากบ้านเก่าไปอยู่ที่เมือง Kansas City เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และนั่นทำให้อดีตของเจ้าเหมียว Sky ถูกเปิดเผย ชายที่ออกมาอธิบายเล่าว่าลูกสาวของเขาและสามีได้ทำแมวหายไปเมื่อ 7…
-
หนูน้อยแรกเกิด มีขาติดกันคล้ายกับหางของนางเงือก แม้แต่แพทย์ก็ระบุเพศไม่ได้
เรื่องราวอันน่าประหลาดใจนี้เกิดขึ้นกับคุณแม่ชาวอินเดีย เมื่อเธอได้ให้กำเนิดลูกน้อยที่มีลักษณะผิดปรกติทางร่างกาย โดยขาทั้งสองข้างของเด็กน้อยนั้นติดกันคล้ายกับหางของนางเงือก ก่อนที่เจ้าหนูน้อยจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหนูน้อยไม่ทราบชื่อเกิดมาพร้อมกับอาการ Sirenomelia หรือ Mermaid Syndrome ที่มีขาที่ติดกันทั้งสองข้าง และนอกจากนี้การพัฒนาของกระดูกเชิงกรานที่ไม่สมบูรณ์ จึงทำให้ทีมแพทย์ไม่สามารถที่จะระบุเพศของเจ้าหนูน้อยคนนี้ได้ นาง Muskura Bibi หญิงสาววัย 23 ปี แม่ของเจ้าหนูน้อย ได้ให้กำเนิดลูกของเธอแบบแบ่งคลอดที่โรงพยาบาล Chittaranjan Deva Sadan ในเมือง Kolkata ทางตะวันออกของประเทศอินเดีย จากรายงานของสื่อต่างประเทศเผยว่า หญิงสาวคนดังกล่าวไม่ได้มีการทำอัลตราซาวด์เด็กก่อนที่เธอจะคลอด จึงทำให้แพทย์ไม่ทราบถึงสภาพของเด็กในท้องก่อนที่จะคลอดออกมา ส่วนทางด้านคุณหมอ Sudip Saha สูตินรีแพทย์ประจำโรงพยาบาลดังกล่าวได้ออกมาเปิดเผยว่าสองสามีภรรยาพ่อแม่ของเด็กน้อยคนดังกล่าวประกอบอาชีพกรรมกร และพวกเขาก็ไม่ได้รับการฝากครรภ์อย่างถูกต้องเนื่องจากไม่มีเงินพอ โรค Sirenomelia หรือที่รู้จักกันในโรค Mermaid Syndrome เป็นอาการผิดปรกติทางร่างกายของทารกที่พบได้ยากมากๆ โดยมีอัตราการพบเพียงแค่ 1 ใน 60,000 ถึง 100,000 คน โดยอาการดังกล่าวจะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนทางระบบทางเดินอาหารของเด็ก และทำให้การพัฒนาของไตทำงานผิดปรกติ ซึ่งในขณะนี้ทางวงการแพทย์ยังหาสาเหตุของโรคดังกล่าวไม่พบ ที่มา dailymail
-
7 สัญญาณอันตรายจากร่างกาย ที่คอยเตือนถึงภาวะหลอดเลือดสมอง แต่คุณเลือกที่จะมองข้าม
ในปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้รายล้อมอยู่รอบตัวเรา ซึ่งโรคบางโรคก็มีอันตรายจนอาจจะทำให้พิการหรือเสียชีวิตได้เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และมีอีกโรคหนึ่งที่ใครหลายคนเลือกที่จะมองข้ามก็คือ โรคหลอดเลือดสมอง ภัยเงียบที่เป็นสาเหตุทำให้คนเสียชีวิตสูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลกเลยทีเดียว โรคหลอดเลือดสมอง คือภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เนื่องจากหลอดเลือดตีบ หลอดเลือดอุดตัน หรือหลอดเลือดแตก ส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลายและการทำงานของสมองหยุดชะงักลงทันที และนี่คือ 7 สัญญาณเตือนจากร่างกายว่าเราอาจมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งบางทีเราก็มองข้ามอาการเหล่านี้ไปว่ามันเป็นเรื่องปกติเดี๋ยวก็หาย หากใครที่มีอาการเหล่านี้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือเข้าไปตรวจร่างกายกับแพทย์บ้าง ก่อนที่ทุกอย่างนั้นจะสายเกินไป… 1. คุณไม่เคยใส่ใจอาการของโรคหลอดเลือดสมองเลย ในแต่ละนาทีที่เราเป็นโรคหลอดเลือดสมองอยู่ สมองของเราจะสูญเสียเซลล์ประมาณ 1.9 ล้านเซลล์ และในแต่ละชั่วโมงโรคหลอดเลือดสมองจะทำให้สมองเราเสื่อมไวกว่าคนปกติถึง 3.5 ปี โดยในระยะยาวผู้ป่วยที่เป็นโรคและไม่ได้เข้ารับการรักษาที่ถูกวิธี มีโอกาสเสี่ยงที่จะพูดได้ช้ากว่าปกติและรู้สึกว่าการพูดเป็นเรื่องที่ยากขึ้น รวมถึงยังสามารถทำให้สูญเสียความทรงจำได้เลยทีเดียว 2. คุณคิดว่าการที่คุณเห็นภาพซ้อนกันมีเหตุมาจากความเหนื่อย ปัญหาในด้านการมองเห็นต่างๆ ทั้งการเห็นภาพซ้อน สายตาเบลอ หรือว่าสูญเสียการมองเห็นในดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง เป็นสัญญาณบอกว่าคุณอาจจะป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้ ใครหลายคนคิดว่าอาการเหล่านี้เป็นผลมาจากการมีอายุที่เยอะขึ้นหรือมาจากความเหน็ดเหนื่อย แต่จริงๆ แล้วมีเหตุมาจากเส้นเลือดที่ตีบมาก จนทำให้จำนวนออกซิเจนไม่เพียงพอที่จะขึ้นไปหล่อเลี้ยงดวงตาต่างหาก 3. คุณมักจะเป็นเหน็บชาหลังจากเพิ่งตื่นนอนหรืองีบหลับ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีอาการชาที่แขนหรือขาหลังจากที่เพิ่งตื่นนอน คุณอาจจะคิดว่าเป็นเพราะร่างกายเราโดนกดทับจากการนอนหลับจนเป็นเหน็บชา แต่จริงๆ แล้วนั่นเป็นเพราะว่าการไหลเวียนเลือดตามร่างกายของคุณผิดปกติ…
-
21 ภาพเมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาล การตกแต่งบ้านก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่คนมันก็ขี้เกียจป่ะว้าาา…
ตอนนี้ก็เป็นเดือนธันวาคมแล้ว ถือว่าใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสเข้าไปทุกทีแล้วนะครับ และสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยในเทศกาลคริสต์มาสคือการตกแต่งทุกสิ่งให้เต็มไปด้วยสีเขียวแดง และสายไฟสวยงามนั่นเอง หากเพื่อนๆ ไปเดินเที่ยวตามห้างสรรพสินค้าละก็จะเห็นได้ชัดเลยว่ามีการตกแต่งอย่างยิ่งใหญ่อลังการ มีการนำต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ที่มีดาวดวงเด่นอยู่บนยอดมาตั้งไว้ และมีตุ๊กตากวางเรนเดียร์มาไว้ให้ทุกคนได้ถ่ายรูปกันด้วย แม้ว่าเราจะอยากให้บ้านของเราได้รับการตกแต่งสวยงามดังที่กล่าวมาข้างต้นก็ตาม แต่เอาจริงๆ แล้วทุกคนก็ขี้เกียจจะต้องลำบากออกไปหาซื้อตกแต่งของมานั่งติดนั่งแปะกันใช่ไหมล่ะ คุณไม่ได้เป็นแบบนั้นคนเดียวหรอกนะ ใครๆ เขาก็เป็นกัน วันนี้เราจึงมานำเสนอไอเดียบางส่วนจากทางบ้าน ที่จะทำให้คุณเห็นว่าการตกแต่งแบบง่ายๆ สไตล์คนขี้เกียจ ต้องทำอย่างไร แค่นี้ก็พอ คงรู้ว่าเป็นคริสต์มาส ประยุกต์ใช้ก็พอได้อยู่ . . อยู่โรงพยาบาลงานยุ่งจะตาย ตกแต่งแค่นี้ก็ดีแล้ว . . . ขนต้นไม้เข้าออฟฟิศมันลำบาก เอาแทนๆ กันไปก่อนนะ . . จะคลี่สายไฟทำไมให้ลำบาก พันๆ ไว้มันก็สวยเหมือนกันแหละ . ก็ต้นคริสต์มาสไง ดูยังไงถึงไม่ใช่ ใช้กองผ้าค้างซักให้เป็นประโยชน์ . ของเหลือใช้จากฮัลโลวีนก็พอไหว . . ถ้าดื่มเบียร์เยอะ ก็เอากล่องมาใช้ประโยชน์ได้ คริสต์มาสเป่าลม…
-
ศิลปินตั้งใจพับนกกระเรียน 1,000 วัน ออกแบบไม่ซ้ำกันทุกตัว สะท้อนความคิดที่เกิดขึ้นทุกวัน
การพับนกพับดาว อาจจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำหรับสาวๆ ในช่วงเทศกาลสำคัญๆ อย่างวันปีใหม่หรือช่วงวันวาเลนไทน์ ที่เตรียมมอบให้กับหนุ่มๆ คนพิเศษ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าการพับนกกระดาษที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ไม่ใช่แค่การพับนกใส่ขวดโหลธรรดาๆ พร้อมกับคำกลอนหวานๆ อย่าง “ความเหงาไม่เคยฆ่าใคร ถ้าหัวใจฉันมีเธอ” อย่างแน่นอน!! Cristian Marianciuc ศิลปินหนุ่มผู้เริ่มต้นฝึกฝนทักษะการพับกระดาษหรือศิลปะโอริกามิของเขาตั้งแต่ช่วงปี 2015 ชายหนุ่มใช้กระดาษเหมือนกับผืนผ้าใบที่จะถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของเขาออกมา “ผมได้เล่าเรื่องราวของผมผ่านสี แสงเงา และทุกๆ อย่างรอบตัวผม” ศิลปินหนุ่มกล่าว เขาใช้เวลาในการฝึกฝนศิลปะโบราณของญี่ปุ่นนี้อยู่นานแรมปี จนในที่สุดก็ออกมาเป็นผลงานการพับนกกระดาษสุดอลังการกว่า 1,000 ชิ้น!! โดยผลงานแต่ละชิ้นก็ได้สะท้อนและบันทึกเรื่องราวในแต่ละวันที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของคุณ Cristian นอกจากการพับนกกระดาษธรรมดาๆ แล้ว ที่ส่วนปีกของพวกมันยังมีการตกแต่งด้วยวัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขนแกะ เศษไม้ หรือกระดาษชิ้นเล็กๆ ให้ออกมาดูสวยงามอีกด้วย . . . นกกระดาษแต่ละตัวนั้นได้บันทึกความทรงจำของศิลปินหนุ่มผู้นี้เอาไว้ มันเหมือนกับการเก็บดอกไม้ไว้ในสมุดบันทึกตอนเด็กๆ เลยทีเดียว . ไปชมความสวยงามของผลงานศิลปะนกกระดาษธรรมดา ที่ไม่ธรรมดากันได้เลย… . . . . . นอกจากประดับด้วยเศษกระดาษและเศษกิ่งไม้และดอกไม้ต่างๆ แล้ว…
-
ตำนานพลซุ่มยิงแห่งฟินแลนด์ ‘ยมทูตสีขาว’ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยปลิดชีพมากถึง 25 รายในวันเดียว
ในช่วงระหว่างปี 1939-1940 ได้เกิดสงครามที่ชื่อว่า ‘สงครามฤดูหนาว’ ขึ้น โดยเป็นการสู้กับกันระหว่างประเทศรัสเซีย-ฟินแลนด์ และในสงครามครั้งนั้นก็ได้มีผู้คนล้มตายมากมาย และส่วนหนึ่งได้มาจากน้ำมือของพลซุ่มยิงคนหนึ่งที่อ้างว่าเขาเคยฆ่าคนถึง 25 คนในวันเดียว!! ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า Simo Häyhä ชาวฟินแลนด์ที่มีความสูงเพียงแค่ 152 เซนติเมตรเท่านั้น เขาเกิดในวันที่ 17 ธันวาคม ปี 1905 และได้กลายเป็นเครื่องจักรสังหารสำหรับประเทศฟินแลนด์ ที่ในตอนนั้นกำลังสู้รบกับสหภาพโซเวียต โดยจำนวนผู้คนที่เขาฆ่าไปทั้งหมดระหว่างสงครามนี้มีถึง 505 คนเลยทีเดียว และนั่นได้ทำให้สหภาพโซเวียตตั้งฉายาให้เขาว่า ‘มัจจุราชสีขาว’ เนื่องจากเขามักจะซ่อนตัวอยู่ภายใต้หิมะได้อย่างแนบเนียน ทำให้ไม่มีใครสามารถหาตำแหน่งที่แน่นอนของเขาได้นั่นเอง อาชีพดั้งเดิมของ Simo ก่อนจะมาเป็นพลซุ่มยิงก็คือชาวนา แต่ด้วยความที่เขามีทักษะในการใช้สกีหิมะ การล่าและการยิงที่แม่นยำที่มาจากงานอดิเรกของเขา ทำให้เขาเป็นมือสไนเปอร์ที่ครบเครื่องที่สุดคนหนึ่งในโลก อีกทั้งเขายังใช้ฤดูหนาวที่เป็นอุปสรรคสำหรับใครหลายๆ คนมาเป็นจุดแข็งของตัวเอง ทำให้ Simo เป็นคนที่ทหารรัสเซียรับมือได้ยากที่สุดก็ว่าได้ ระหว่างที่สงครามกำลังลุกโชน มัจจุราชสีขาวได้ฆ่าทหารรัสเซียหลายคนด้วยความแม่นยำจากการใช้ปืน M/28-30 ยิงในระยะไกลถึง 275 เมตร โดยไม่ใช้สโคปช่วยแต่อย่างใด นั่นจึงได้เป็นเครื่องพิสูจน์ในความเป็นสัญชาตญาณความเป็นนักฆ่าในตัวเขาได้เป็นอย่างดี หลังจาก 98 วันที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในสมรภูมิรบ ก็มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นกับ Simo โดยเขาถูกยิงเข้าที่ขากรรไกรในวันที่ 6 มีนาคม 1940…
-
เจ้าหน้าที่ดัดเสียงเพื่อช่วยให้น้องแมวสงบจิตสงบใจ ไม่ให้มันกลัวจนวิ่งขึ้นถนนไป
ตอนที่เราเล่นกับเด็ก หลายๆ คนอาจใช้วิธีการดัดเสียงเพื่อช่วยให้เด็กน้อยกล้าเข้าหาคุณมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับนายตำรวจคนนี้ที่ใช้วิธีเดียวกันในการเข้าไปช่วยเหลือเจ้าแมวน้อยออกมาจากพื้นที่เสี่ยงอันตราย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ McGuire จากสถานีตำรวจ Henrico รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา กำลังตรวจตราความปลอดภัยอยู่บนท้องถนนจนไปเจอเจ้าเหมียวตัวน้อยวิ่งเข้าไปในพงหญ้าข้างทาง ถนนที่นายตำรวจ McGuire ได้เจอกับเจ้าเหมียวน้อยผู้หลงทาง ตำรวจหนุ่มไม่รอช้ารีบจอดและหยุดรถข้างหลังเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าเหมียวถูกเฉี่ยวชน จากนั้นเขาจึงเดินเข้าไปตามหาเจ้าเหมียวน้อยในพงหญ้าอย่างช้าๆ พอเจอตัวปุ๊บ เขาก็ค่อยๆ แหวกพงหญ้าอย่างแผ่วเบา เพื่อไม่ให้ลูกแมวตื่นกลัวจนวิ่งหนีออกไปกลางถนน จากนั้นจึงอุ้มมันขึ้นมาอย่างทะนุถนอม แต่ด้วยความหวาดกลัวของเจ้าเหมียวมันเลยกัดเข้าไปที่มือของนายตำรวจอย่างจัง เขาทำทุกอย่างด้วยความนุ่มนวล จนได้พบกับเจ้าเหมียวที่ซ่อนกายอยู่ใต้พงหญ้า เขาพยายามอดทนกับความเจ็บปวดและพามันกลับไปที่รถ ก่อนที่จะนำผ้าขนหนูผืนเล็กมาห่อหุ้มตัวมันเอาไว้ พร้อมกับดัดเสียงปลอบมันด้วยความเอ็นดูว่า “ไม่เป็นไรแล้วเจ้าหนู ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจนาย ไม่เป็นไรแล้ว..” เสียงสองของนายตำรวจช่วยลดความตื่นกลัวของเจ้าเหมียวลงได้ จากนั้นเขาจึงพามันไปที่ศูนย์คุ้มครองสัตว์ของเมือง เพื่อให้ลูกแมวได้รับการรักษาและตามหาบ้านหลังใหม่ให้มันต่อไป และหลังจากที่คลิปการช่วยเหลือของตำรวจหนุ่มถูกโพสต์ลงไปในเพจเฟซบุ๊กของสถานีตำรวจ ชาวเน็ตหลายคนต่างรู้สึกชื่นชอบในความน่ารักของเขาคนนี้ ภาพเหตุการณ์ถูกถ่ายโดยกล้องที่ติดอยู่กับเครื่องแบบตำรวจ ความเห็นของชาวเน็ตส่งถึงตำรวจผู้ที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม เธอคนนี้รู้สึกชื่นชมให้กับท่าทางที่เขาแสดงออกมาเมื่อเจอกับเจ้าเหมียว เห็นได้ถึงความแตกต่างในน้ำเสียงเวลาที่ตำรวจพูดกับประชาชน และในตอนที่เขาพูดกับเจ้าเหมียว…
-
ชาวบ้านด่าเทศบาล ‘ลดทอนความเป็นมนุษย์’ คนไร้บ้าน หลังพบที่กั้นพร้อมป้ายประจานติดอยู่
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย หลังจากที่ทางเทศบาลของเมืองนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษ ได้นำแผงกั้นมาล้อมรอบชายไร้บ้านคนหนึ่ง พร้อมกับมีผู้พบเห็นป้ายและข้อความที่ประณามชายคนดังกล่าว โดยข้อความในป้ายกระดาษบอกว่า “ชายคนนี้ปฏิเสธที่จะเข้าพักในโรงแรมเป็นเวลา 3 คืน” ซึ่งภายหลังข้อความดังกล่าวถูกทางเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเอาออกไป ชายวัย 27 คนดังกล่าวบอกว่าเขาจำเป็นต้องปฏิเสธข้อเสนอการเข้าพักในโรงแรมดังกล่าว เนื่องจากมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาก่อนหน้านี้ “มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดมาก พวกเขาบอกว่าผมเป็นขอทาน ซึ่งอันที่จริงแล้วผมไม่ใช่ คนอื่นๆ บอกผมว่าผมสามารถนอนหน้าร้านนี้ได้ เพราะร้านนี้ได้ปิดตัวลงแล้ว ผมถูกปฏิเสธการเข้าพักในโรงแรมดังกล่าว เพราะว่าชื่อของผมอยู่ในรายชื่อขอทาน และผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพวกเขาต้องทำแบบนี้กับผม” ส่วนทางด้านคุณ Denis Tully เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับคนไร้บ้านของเมือง Nottingham ก็ได้ออกมาประณามการกระทำดังกล่าวเช่นกัน “การนำที่กั้นมาวางไว้มันเป็นสิ่งที่ลดทอนความเป็นคนของเขามากๆ ผมคิดว่าเราควรตั้งคำถามถึงสิทธิความเป็นมนุษย์ที่ใครสักคนหนึ่งควรจะได้รับ สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเขานั้นมันคือสัญลักษณ์ของป้ายเตือน และป้ายเตือนสมควรที่จะนำมาใช้กับคนอย่างนั้นหรือ??” คุณ Denis กล่าว แต่อย่างไรก็ตามทางด้านนาย Toby Neal เจ้าหน้าที่ด้านงานบริการประชาชนก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ผมคิดว่าป้ายข้อความดังกล่าวน่าจะเป็นความเข้าใจผิด และมันก็น่าจะเป็นฝีมือของใครบางคนที่นำมาติดไว้ พวกเราตั้งใจที่จะดูแลความปลอดภัยของทุกๆ คนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองให้มีชีวิตที่ดีขึ้นมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้” นาย Toby Neal กล่าว . นอกจากนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แผงกันดังกล่าวนั้นถูกนำไปวางไว้เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของชายคนดังกล่าว พร้อมทั้งขอโทษถึงความไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการใช้ป้ายกันดังกล่าวอีกด้วย “เราขอโทษสำหรับการเลือกใช้สัญลักษณ์ดังกล่าว นี่เป็นการเริ่มใช้แผงกั้นนี้เป็นครั้งแรก แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้เราได้สั่งระงับการใช้แผนกันดังกล่าว…
-
พ่อหนุ่มจืดพยายามจีบสาว แอบตัดสายเบรกรถอีกฝ่าย อ้างว่าผมทำไปในนามของ ‘ความรัก’
เชื่อว่าสาวๆ บางคนเคยเจอกับวิธีการจีบอันแสนแปลกประหลาดจากหนุ่มที่พยายามเข้าหา แต่สาวชาวญี่ปุ่นวัย 31 ปีคนนี้กลับเจออะไรที่มันเหนือกว่าคำว่าแปลกไปซะอีก เมื่อเธอได้เจอการจีบในแบบที่เรียกว่าถ้าพลาดขึ้นมาเธออาจถึงกับเสียชีวิตเลยก็ได้ ตอนเช้าวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 เธอกำลังจะขับรถออกไปทำงาน แต่เมื่อเธอสตาร์ทรถปุ๊บ มันก็ดันไหลไปด้านหน้าจนชนเข้ากับกำแพงอิฐ และนั่นจึงทำให้เธอรู้ในทันทีว่าสายเบรกของเธอถูกตัดไปจนเกลี้ยง หญิงสาวจอดรถเอาไว้ในที่จอดรถแห่งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หญิงสาวรีบติดต่อหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสืบหาว่าคนร้ายที่หมายเอาชีวิตเธอคือใคร จนเมื่อเจ้าหน้าที่ได้เปิดเช็กภาพดูจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในที่จอดรถ จึงทำให้สามารถทราบตัวคนที่มาตัดสายเบรกได้อย่างง่ายดาย ภาพจากกล้องวงจรปิดตอนตี 3 ครึ่งของวันนั้น เผยให้เห็นว่านาย Takuya Kawamura วัย 38 ปี เข้ามาตัดสายเบรกของเธอทุกเส้น จนทำให้รถของเธอไหลไปชนกับกำแพงแบบนั้น Takuya หนุ่มวัยกลางคน ผู้ก่อเหตุตัดสายเบรกรถคันดังกล่าว เมื่อสอบถามถึงแรงจูงใจว่าทำไมชายหนุ่มถึงทำอย่างนั้นลงไป เขาก็ตอบกับเจ้าหน้าที่ว่า “ผมทำสิ่งนี้ลงไปในนามของความรัก!!” ที่แท้นาย Takuya เพียงต้องการจะจีบสาวคนนี้เท่านั้นเอง ด้วยความที่เขาอยู่ในช่วงวัยกลางคนแล้ว การจะใช้วิธีเดินเข้าไปจีบแบบตรงไปตรงมา คิดว่าคงไม่เหมาะสมซักเท่าไหร่ เขาจึงคิดหาวิธีการใหม่เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเธอ หวังให้เธอเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเขา และวิธีการของเขาก็สามารถเรียกร้องความสนใจได้ดีจริงๆ ไม่ใช่แค่กับหญิงสาวเท่านั้น แต่รวมถึงคุณตำรวจทั้งหลายอีกด้วย!! เยี่ยมไปเลย กล้องวงจรปิดที่ถ่ายภาพตอนผู้ร้ายเข้ามาตัดสายเบรกเอาไว้ได้ …
-
สื่อญี่ปุ่นตีข่าว ร้านราเม็งในไทยก็อปไอเดียแฟรนไชส์ราเม็งชื่อดังของญี่ปุ่นไปทั้งดุ้น!?
ร้านราเม็ง Ichiran หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ราเม็งข้อสอบ เป็นร้านที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องของรสชาติน้ำซุป ซอสสูตรพิเศษ และจุดที่เห็นชัดที่สุดก็คือการตกแต่งร้านหรือรูปแบบการสั่งอาหารที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่าทำข้อสอบอยู่จริงๆ ใครที่เคยลองไปกินราเม็งร้านนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น คงหวังให้ร้านดังกล่าวขยายสาขามาเปิดที่ไทยบ้าง ซึ่งนั่นก็อาจเป็นไปได้ ถ้าไม่ติดที่ว่าตอนนี้ชาวญี่ปุ่นถกเถียงกันว่าร้านราเม็งเจ้าหนึ่งในบ้านเราได้นำเอกลักษณ์ต่างๆ ของ Ichiran มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ร้าน Ichiran นั้นมีความเก่าแก่ดั้งเดิม ถือกำเนิดในประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 1993 และได้มีการขยายสาขาออกไปต่างประเทศเช่น สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน และฮ่องกง แต่ที่ไทยกลับมีร้านที่ดูเหมือนกับร้านต้นฉบับมากเหลือเกิน จึงทำให้พวกเขาส่งคนเข้ามาตรวจสอบร้านดังกล่าวดู เมื่อผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นได้เดินทางมาใช้บริการร้านที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ราเม็งข้อสอบในไทย พวกเขาก็ถึงกับบอกเลยว่า เอกลักษณ์ทุกอย่างที่เป็นของร้าน Ichiran มารวมเอาไว้อยู่ในร้านนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเว็บไซต์ของร้านดั้งเดิมได้ออกมาพูดถึง 5 เอกลักษณ์ของทางร้าน ได้แก่ 1. ซอสแดงสูตรเฉพาะ 2. ซุปกระดูกหมูไร้กลิ่นเหม็น 3. ที่นั่งกั้นฉาก 4. กระดาษข้อสอบสั่งอาหาร 5. ระบบสั่งเพิ่มเส้น ทั้งหมด 5…
-
17 ภาพของลูกแมว ‘เมนคูน’ น้องเหมียวพันธุ์ใหญ่ แต่ดูยังไงก็น่าร๊ากกกกก
ทาสแมวทั้งหลายคงชอบใช่ไหมล่ะ เวลาที่น้องแมวมาอ้อนให้เรากอด หรือเวลามันยอมให้พวกเราลูบแล้วครางออกมาอย่างสบายอารมณ์ แค่คิดก็รู้สึกฟินจนบอกไม่ถูกแล้ว แต่ถ้าน้องแมวตัวเล็กๆ ทำให้ฟินขนาดนี้แล้ว แมวตัวใหญ่ๆ จะขนาดไหน ถ้าเกิดเพื่อนๆ ชอบแมว และก็ชอบสัตว์ตัวใหญ่ๆ เหมือนเราละก็ ลองมาทำความรู้จักแมวสายพันธุ์เมนคูนกันดูสิ แมวสายพันธุ์เมนคูน เป็นแมวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสายพันธุ์แมวทั้งหมด หากโตเต็มวัยแล้วอาจจะมีขนาดใหญ่เท่าสุนัขพันธุ์ใหญ่เลย เดิมทีแล้วแมวสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศสหรัฐอเมริกา พวกมันเป็นแมวพันธุ์ที่ล่าสัตว์เล็กเก่งมากทีเดียว อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีคนจำนวนมากนำมันมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง และนอกจากขนาดที่ใหญ่โตของมันแล้ว ความน่ารักของมันก็เหมือนกับเจ้าเหมียวตัวน้อยๆ ทุกประการเลย วันนี้เราจึงขอนำเสนอความน่ารักในอีกมุมหนึ่งของแมวพันธุ์นี้ที่เพื่อนๆ ไม่ได้เห็นกันบ่อยแน่นอน เพราะสิ่งที่เราจะพาทุกคนไปดูก็คือ ลูกแมวเมนคูน ที่เป็นแมวยักษ์วัยเด็กนั่นเอง มันจะดูน่ารักน่ากอดขนาดไหนลองไปชมกันครับ กลมกลืนไปกับพรมหมดเลย . มองอะไรกันน่ะ . . . แมวพันธุ์เมนคูนสีดำดูสง่ามากเลย ขนฟูๆ เธอชอบไหมล่ะ ขอขี่หลังแม่หน่อย มาให้อุ้มหน่อยมา เดี๋ยวโตละจะอุ้มไม่ไหว . . แมวเมนคูนไม่ได้มีแต่สีลายๆ นะ ขาวจั๊วะก็มี…
-
14 อาการของคนหวงเนื้อหวงตัว ไหล่นี้อย่าให้ใคร๊…มากอด มือนี้อย่าให้ใคร…มาจับ
แน่นอนว่าโดยทั่วไปแล้วมนุษย์เรานั้นย่อมจะต้องมีระยะห่างระหว่างกัน หรือที่ศัพท์แบบทางการก็คือระยะห่างระหว่างบุคคลนั่นเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเจอคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่ได้สนิทสนมมากเจ้าระยะห่างที่ว่านี้ก็จะเริ่มทำงานทันที และคุณก็จะมีความรู้สึกอึดอึด อัดอัด งึกงึก งักงัก แน่ๆ ส่วนสำหรับเพื่อนๆ หรือคนที่สนิทสนมมากๆ แล้วช่องว่างหรือระยะห่างนั้นก็อาจจะน้อยลงไปอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากว่าคุณยังคงมีอาการต่อไปนี้เมื่ออยู่กับเพื่อนๆ หรือคนสนิทล่ะก็ ไม่แน่คุณอาจจะเข้าข่ายเป็นคนหวงเนื้อหวงตัวก็ได้นะ!! 1. ทุกๆ ครั้งที่ถ่ายรูปหมู่ คนที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวสูงมักจะทำท่าแบบนี้!! 2. พวกเขามักจะทำความรู้จักกับคนอื่น โดยเว้นระยะปลอดภัยไว้เล็กน้อย เพลงมา… เป็นช่วงเวลาดีๆ ที่เธอและฉันไม่ต้องกังวลอะไร 3. นอกจากนี้พวกเขายังชอบใส่เสื้อผ้าแบบมิดชิด ปิดหน้านิดๆ 4. แน่นอนว่าคุณจะไม่ยอมให้ใครเข้ามากอดคุณได้ง่ายๆ แน่ เพราะนั่นถือเป็นการรุกล้ำเข้ามาในระยะปลอดภัยของคุณ เอ๊า!! อีกครั้ง เป็นช่วงเวลาดีๆ…(พอแล้ว!!) 5. หรือไม่ชอบที่ใครมาเซอร์ไพรส์คุณใกล้ๆ แบบนี้แน่นอน!! 6. การถูกกอดแน่นๆ นานๆ เป็นอะไรที่คนหวงเนื้อหวงตัวไม่ช๊อบ ไม่ชอบ 7. และรวมถึงการจับมือด้วย!! 8. คุณมักจะกีดกันคนอื่นๆ ให้ออกห่างจากคุณ…
-
20 ภาพที่แสดงให้เห็นว่า ‘ฮีโร่’ มีอยู่ทุกที่บนโลกใบนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะอยู่ใกล้ตัวคุณก็ได้!!
การช่วยเหลือผู้อื่นหรือทำในสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการของเรา เราอาจเรียกคนที่ทำสิ่งเหล่านั้นว่า ฮีโร่ และหลายๆ คนเชื่อว่าพวกเขามีอยู่แค่ในจินตนาการที่พบเห็นได้ในหนังหรือการ์ตูนเท่านั้น หากแต่ว่าความเป็นจริงแล้ว คนกลุ่มนั้นอาจสามารถพบเห็นได้ทั่วไป นี่คือภาพที่จะพิสูจน์ความจริงว่า ฮีโร่มีอยู่รอบๆ ตัวเราทุกคน ไปดูกันเลยว่าพวกเขาได้ทำอะไรเอาไว้บ้าง ฮีโร่ผู้สามารถตอบสนองกับทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็ว คนคนนี้ช่วยเตือนให้ทุกคนทราบว่า จงอย่าเสียเงินไปให้กับอาหารที่ไม่อร่อยเลย ความสามารถที่เหนือชั้น จนทำให้คนรอบข้างเลิกสนใจกีฬาและหันมาดูเขาแทน หากใครชอบการเซอร์ไพรส์ ก็ขอแนะนำให้มาใช้บริการตู้กดนี้ เพราะไม่ว่าคุณจะกดเลขอะไรไป ขนมที่ได้ไม่ก็ไม่ตรงกับหมายเลขที่คุณเลือกหรอก ถ้าอยากเล่น Playstation 4 จริงๆ ก็ควรมีทีวีคุณภาพสูงเอาไว้ด้วย ส่งร้อนตรงเวลา ส่งช้ารับฟรี และชายคนนี้ก็คงทำให้ร้านของเขาไม่ต้องขาดทุน คิดไม่ออกเลยว่า เขาทำได้อย่างไร มันคงเป็นพลังพิเศษอย่างหนึ่งแน่นอน ชายผู้สามารถพาสุนัขทุกตัวของเขาเดินทางไปได้ทุกที่พร้อมๆ กัน ซูเปอร์ด็อก ที่คอยรักษาแก้วเบียร์ของเจ้านายเอาไว้เท่าชีวิต มือมืดที่หยิบยื่นการช่วยเหลือมาให้ในยามยาก อยากเห็นตอนที่เรียงขึ้นไปจริงๆ ก่อนใช้บริการห้องน้ำสาธารณะ อย่าลืมตรวจสอบกระดาษชำระให้ดีๆ เมื่อแฟนสาวอยากขี่คอถ่ายรูป คุณลุงบิ๊กไบก์เองก็อยากได้ท่าเดียวกัน …
-
บอสตัวอย่าง… ตอบแทนพนักงาน 20 ชีวิต พาไปฉลองวันหยุด โบยบินถึงสเปน ฟรี!!
ชีวิตพนักงานเงินเดือนนั้น แค่ได้ทำงานเลิกตามเวลาที่กำหนดไว้ ได้รับเงินเดือนตรงเวลา มีปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานเล็กน้อย หรือมีหัวหน้าพาไปเลี้ยงข้าวบ้างสักมื้อ ก็ถือว่าดีพอสมควรแล้ว ไม่มีใครคิดฝันมาก่อนหรอกว่า การเป็นลูกจ้างธรรมดาๆ จะได้รับการดูแลที่ดีดังแขก VIP จากหัวหน้างาน แต่บริษัท Salad Creative ได้ทำให้เราเห็นแล้วว่า พวกเขาใส่ใจพนักงานทุกคน และอยากตอบแทนที่พนักงานช่วยงานบริษัทนี้อย่างเต็มที่ . โดยเจ้าของบริษัทใจป้ำตัดสินใจที่จะพาพนักงานจำนวน 20 คนบินไปที่เมืองมาดริด ประเทศสเปน เพื่อเป็นของขวัญวันคริสต์มาสปีนี้ โดยค่าใช้จ่ายในการเดินทางบริษัทจะออกให้เองทั้งหมด พนักงานทุกคนรู้สึกซาบซึ้งมากที่หัวหน้าพาพวกเธอไปเที่ยวไกลถึงต่างประเทศ บางคนก็บอกว่า “เราทุกคนมีความสุขมากที่ได้ไปเที่ยวที่สวยๆ และกินอาหารดีๆ” “ใครๆ ก็มีความสุข มีแต่คนพูดถึงเรื่องที่ไปเที่ยวมาไม่หยุดปากเลย” “หัวหน้าเป็นคนที่เก่งในหลายๆ ด้านแต่เรื่องที่ใจดีพาไปเที่ยวนี่ยกให้เป็นที่ 1 เลย” Lewis Smith เจ้าของบริษัท Salad Creative เจ้าของบริษัทคนนี้ชื่อว่า Lewis Smith เธอตั้งบริษัทนี้มานาน 16 ปีแล้ว และตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะพาพนักงานไปเที่ยวต่างประเทศให้ได้ เธอกล่าวว่า “บริษัทของเราใส่ใจพนักงานมาก การที่ได้ดูแลพวกเขาและพาไปเที่ยวเมืองมาดริดจึงทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขเช่นกัน” และ “ปีที่แล้วพวกเราก็ไปชม West End…
-
ทดลองเทลูกเต๋า 25,000 ลูกใส่กระบอก ผ่านกระบวนการหมุนจนทำให้มันเป็นระเบียบ!?
Compaction Dynamics คือกระบวนการที่ใช้กับวัตถุดิบที่มีลักษณะโมเลกุลแบบเป็นเม็ด อย่างเช่น หิมะ ถั่ว ทราย ข้าว หรือดิน เพื่อช่วยให้สิ่งเหล่านั้นเกิดการรวมตัวกันแน่นหนามากยิ่งขึ้น จึงทำให้กระบวนการนี้เป็นประโยชน์อย่างมากในอุตสาหกรรมการเกษตรหรืออุตสาหกรรมการผลิตพลังงาน ที่ผ่านมาวิธีการดังกล่าวสามารถใช้ได้ดีกับสิ่งที่มีลักษณะเป็นทรงกลม แต่หากเราใช้กระบวนการเดียวกันกับวัตถุทรงลูกบาศก์บ้างล่ะ ผลที่ได้จะออกมาเป็นอย่างไร? จากการตั้งคำถามทำให้การทดลองนี้ถือกำเนิดขึ้น นักฟิสิกส์จากประเทศเม็กซิโก และประเทศสเปน ตัดสินใจนำกระบวนการนั้นมาทดลองกับสิ่งที่มีรูปทรงเป็นลูกบาศก์ นั่นก็คือ “ลูกเต๋า” ความกว้างด้านละครึ่งเซนติเมตร จำนวน 25,000 ลูก ผู้ทำการทดลองเทลูกเต๋าทั้งหมดใส่ลงในภาชนะทรงกระบอกเส้นผ่านศูนย์กลาง 8.7 เซนติเมตร ตั้งอยู่บนเครื่องมือที่ใช้ในการหมุน จากนั้นการหมุนก็เริ่มขึ้น เครื่องจะหมุนทั้งตามและทวนเข็มนาฬิกา หนึ่งวินาทีก็จะหมุนหนึ่งครั้ง ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ภาพที่เห็นคือลูกเต๋ากำลังเริ่มเรียงตัวกันดูลายตาไปหมด . เมื่อหมุนไปได้ประมาณ 300,000 ครั้ง ลูกเต๋าทั้งหมดกลับสามารถเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยซะอย่างนั้น!! จากนั้นพวกเขาจึงศึกษาเพิ่มเติมทำให้พบว่า ยิ่งหมุนเร็วมากเท่าไหร่ ลูกเต๋าก็สามารถเรียงตัวกันได้เร็วเท่านั้น แต่หากหมุนช้ามากๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือลูกเต๋าจะไม่มีทางเรียงตัวกันได้เลย ผลลัพธ์ดังกล่าวได้รับการอธิบายเอาไว้ว่า แรงหมุนที่เกิดขึ้นทำให้มีแรงผลักลูกเต๋าออกไปอยู่ติดกับผนังของภาชนะ และการเหวี่ยงไปแบบไร้จุดหมายของมันก็นำไปสู่การจัดเรียงโมเลกุลจนออกมาสวยงามอย่างที่เห็น เมื่อวัตถุได้รับแรงกระตุ้นที่มากพอ วัตถุก็จะถูกบีบให้ใช้พื้นที่ภายในให้ได้มากที่สุด หรือก็คือมันพยายามเก็บทุกช่องว่างจนทำให้ลูกเต๋าเรียงตัวกันอย่างแน่นหนาและเป็นระเบียบอย่างนี้…
-
ซานดีเอโกจ่าย 2.7 ล้านบาท ให้อดีตเมียนายกเทศมนตรี กรณีล้มบนทางเท้าจนนมแตก…
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2017 ได้มีการโต้เถียงเกิดขึ้นในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2015 เมื่อ Cynthia Hedgecock วัย 70 ปี ภรรยาของอดีตนายกเทศมนตรี Roger เธอเดินสะดุดล้มจนทำให้หน้าอกของกระแทกกับทางเท้า Cynthia เล่าว่า ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2015 เธอกำลังเดินอยู่บนทางเท้าริมถนน Morrell และสะดุดเข้ากับแง่งที่ยื่นออกมาจากพื้นสูงประมาณ 6 เซนติเมตร ด้วยความที่มือหนึ่งเธอถือเอกสารอยู่และอีกมือก็ถือโทรศัพท์อยู่ บวกกับการที่เธอใส่รองเท้าแตะ จึงไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ ล้มลงหน้าอกกระแทกพื้นในที่สุด Cynthia ผู้ได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณหน้าอก เธอรู้สึกเจ็บหน้าอกไปนานถึง 2 สัปดาห์ จนเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2015 แพทย์จากคลินิก Scripps พบความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหน้าอกของเธอ เต้าเทียมที่ Cynthia เคยทำเอาไว้ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง และเธอจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนใหม่หลังจากนั้น การผ่าตัดเปลี่ยนเต้าเทียมในเดือนพฤศจิกายน 2015 ทำให้เธอต้องเสียค่าใช้จ่ายไปราวๆ 650,000…
-
งานสตรีทอาร์ตสุดเจ๋ง หากวันเวลาผ่านไปเปลือกนอกก็จะค่อยๆ ย่อยสลายจนเห็นเนื้อแท้!!
อันที่จริงแล้วมนุษย์เรานั้นไม่อาจจะจะหนีความเป็นจริงข้อหนึ่งของธรรมชาติได้เลยนั่นก็คือความตายนั่นเอง และแน่นอนว่าเมื่อหมดลมหายใจแล้วแม้แต่ร่างกายหรือผิวพรรณที่เคยสวยงามก็ล้วนแล้วแต่ย่อยสลายกลายเป็นเถ้าถ่านเช่นกัน และหลักแห่งธรรมชาตินี้ก็กลายเป็นหนึ่งในคอนเซ็ปต์หลักของงานศิลปะจากฝีมือของศิลปินหนุ่มนามว่า NemO’s ที่ได้สร้างสรรค์งานสตรีทอาร์ตสวยๆ พร้อมกับเผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสวยงามเหล่านั้น ภาพวาดรูปคนอันมีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินหนุ่มที่วาดลงบนแผนกระดาษ ถูกนำไปปกปิดเอาไว้บนผลงานภาพวาดของเขา ซึ่งเมื่อวันเวลาผ่านไปภาพความสวยงามของผลงานที่อยู่บนกระดาษเหล่านั้นก็จะหลุดลอกออกไป และเผยให้เห็นโครงกระดูกของมนุษย์ที่ซ่อนอยู่ใต้นั้น “เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนจะมองเห็นผลงานที่แตกต่างกันออกไป จนในที่สุดมันก็เผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่อย่างสมบูรณ์แบบ” ศิลปินหนุ่มกล่าว และนี่คือผลงานบางส่วนจากศิลปินท่านนี้ . . . . . “มันเป็นผลงานจากฝีมือของศิลปิน ผมพยายามที่จะใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อสร้างผลงานที่ตอบสนองต่อความรับรู้ของผู้ชม” ศิลปินหนุ่มกล่าว ที่มา sobadsogood
-
คุณพ่อร่อนจดหมายถึงผอ. กรณีกีดกันเด็กจากกิจกรรมที่กำหนดเพศ จิกกัดว่าล้าหลัง..
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2017 ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้พ่อคนหนึ่งรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เพราะลูกสาวของเขาถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่านั่นเป็นกิจกรรมสำหรับเด็กผู้ชายเท่านั้น!? เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเล็กๆ ในเขต Wongarbon ประเทศออสเตรเลีย เด็กสาวที่ชื่อว่า Ruby Callghan วัย 12 ปี ถูกบีบให้ต้องทำกิจกรรมที่เธอไม่ชอบ เพราะทางโรงเรียนแบ่งแยกเอาไว้ว่านี่คือกิจกรรมสำหรับผู้หญิง ในขณะที่กิจกรรมที่เด็กสาวต้องการจะทำมีไว้ให้เด็กผู้ชายเท่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นได้สร้างความไม่พอใจให้กับ Stephen พ่อของเธออย่างมาก เขาจึงตัดสินใจส่งจดหมายไปให้ทางโรงเรียน วันต่อมาเขาส่งจดหมายและโพสต์รูปสิ่งที่เขาเขียนลงไปในโลกโซเชียล จดหมายที่พูดถึงความไม่พอใจเรื่องที่ลูกสาวตัวเองถูกแบ่งแยก และกีดกันจากการทำกิจกรรมที่โรงเรียนกำหนดให้ว่า “มีไว้สำหรับเด็กผู้ชายเท่านั้น” เนื้อความของจดหมายที่คุณพ่อเขียนแบบคร่าวๆ คือ “ถึงผู้อำนวยการโรงเรียน ผมต้องการให้คุณตระหนักถึงปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นกับลูกสาวผมที่เรียนอยู่เกรด 6 เมื่อวานเธอออกบ้านไปเป็นปี 2017 แต่ตอนเย็นเธอกลับมาเหมือนอยู่ในปี 1968 เพราะกิจกรรมที่ทางโรงเรียนกำหนดให้” “เด็กผู้หญิงต้องฝึกการแต่งหน้าทำผมอยู่ในห้องสมุด ขณะที่เด็กผู้ชายได้ออกไปดูงานและทำกิจกรรมในโรงงาน Bunnings“ “ช่วยตรวจดูในโรงเรียนให้หน่อยได้มั้ยว่ามีความบกพร่องในเรื่องของมิติเวลา หรือมีเครื่องย้อนเวลาซ่อนเอาไว้อยู่หรือเปล่า” “ผมขอให้คุณแก้ไขการแบ่งแยกเพศที่เกิดขึ้นนี้ซะ ไม่ให้มันเกิดขึ้นกับลูกสาวผมหรือเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ อีก” “ด้วยความเคารพ.. Stephen Callaghan” เขาอธิบายว่า ลูกสาวต้องการเป็นวิศวกร…
-
หนูน้อยวัย 2 ขวบรักแมวที่รับมาเลี้ยงมากๆ ก็เลยขออุทิศตัวเป็นพี่เลี้ยงแมว ดูแลอย่างดี
โดยปรกติแล้วความน่ารักของเหล่าเด็กตัวน้อยๆ นั้นก็ทำให้หัวใจของหลายๆ คนพร้อมที่จะละลายกลายเป็นของเหลวแน่ๆ และถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในทาสแมวด้วยแล้วล่ะก็ เรื่องที่เรานำมาฝากกันในวันนี้จะต้องทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว!! พบกับเรื่องราวอันแสนน่ารักของเจ้าหนู Sam วัย 2 ขวบ ที่คอยดูแลเจ้าแมวน้อยวัย 17 เดือนคู่ซี้ของเขาอย่างใกล้ชิดและอยู่ด้วยกันราวกับเป็นคู่ซี้ เมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้วครอบครัวของ Sam ได้รับเลี้ยงเจ้าเหมียวเหล่านี้มาไว้ที่บ้าน หลังจากเพื่อนที่ทำงานของเธอได้ประกาศตามหาบ้านหลังใหม่ให้กับพวกมัน “ฉันและพี่สาวเติบโตมาในบ้านที่เต็มไปด้วยสัตว์เลี้ยง เราจึงเป็นคนที่รักสัตว์มาก และฉันก็อยากให้ลูกของฉันเป็นคนที่รักสัตว์ด้วยเหมือนกัน” คุณ Lacey แม่ของ Sam กล่าว เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมาทางครอบครัวของ Sam ได้รับเลี้ยงเจ้าเหมียวตัวแรกเข้ามาในบ้าน และมันก็เป็นเพื่อนที่แสนดีกับเจ้าหนูน้อยเลยทีเดียว Sam ดูตื่นเต้นมากๆ ที่ได้พบกับเจ้าเหมียวตัวแรกของเขา เขาตื่นเต้นมากๆ และนอกจากนี้ Sam ยังดูแลเจ้าเหมียวตัวแรกของเขาอย่างดีอีกด้วย หนุ่มน้อยสร้างความประหลาดใจให้กับแม่ของเขาด้วยการดูแลเจ้าเหมียวน้อยอย่างอ่อนโยน เขาเอานิ้วมืออันน้อยๆ ลูบลงไปที่ขนเจ้าแมวน้อยตัวนั้น “เขาพยายามจะช่วยฉันดูแลเจ้าเหมียวน้อยๆ เหล่านั้น มันน่าทึ่งมาก แต่ตอนนี้ความรักสัตว์ได้เริ่มก่อตัวขึ้นในจิตใจของเด็กน้อยคนนี้แล้ว ” คุณ Lacey กล่าว และแล้วหลังจากนั้นการดูแลเจ้าเหมียวน้อยๆ เหล่านั้นก็กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของครอบครัวนี้ไปเลยทีเดียว และนอกจากนี้เจ้าหนู…
-
หนุ่มเอาผ้าโพกหัวแบบคนดำมาเซอร์ไพรส์อาจารย์ ในคาบวิชาสังคมวิทยาจนชาวเน็ตตกหลุมรัก
เรื่องราวอันแสนน่ารักนี้เกิดขึ้นในชั่วโมงเรียนวิชาสังคมวิทยา เมื่อคุณ Doug Engelman อาจารย์จากมหาวิทยาลัย University of Tampa ได้ตั้งคำถามในชั่วโมงเรียนดังกล่าว เกี่ยวกับความแตกต่างของวัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่ Dylan Romero หนึ่งในนักศึกษาในชั้นเรียนก็ถูกถามเกี่ยวกับผ้าโพกหัวแบบชาวแร็ปของเขา ซึ่งอาจารย์ Doug ก็ได้ถามหนุ่มน้อยเกี่ยวกับผ้าโพกหัวและสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร และงานนี้คำตอบที่นักศึกษาวัย 18 ปีตอบนั้นก็เรียกเสียงฮาจากเพื่อนๆ และชาวเน็ตได้ไม่น้อยเลยทีเดียว “เราพูดกันเกี่ยวกับเรื่องของวัฒนธรรมและเราจะอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้จากการแต่งกายของพวกเรา และอาจารย์ก็ยกตัวอย่างมาที่ผ้าโพกหัวของผม เขาถามผมว่า ‘นี่ Dylan ผ้าโพกหัวที่เธอสวมน่ะถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของเธอหรือเปล่า??’ ผมก็เลยตอบเขาไปว่า ‘ใช่ครับมันคือวิถีชีวิตของผม’” ชายหนุ่มเล่าถึงเรื่องราวในชั้นเรียนวิชาสังคมวิทยาของเขา และแน่นอนเมื่อวันอังคารที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ชายหนุ่มก็ได้ถ่ายทอดวัฒนธรรมของเขาให้อาจารย์ดู ชายหนุ่มขอเวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อจะทำบางอย่างให้เพื่อนๆ ในชั้นดู Dylan เดินไปที่หน้าชั้นเรียนก่อนที่จะหยิบถุงกระดาษหนึ่งใบที่เต็มไปด้วยผ้าโพกหัวหลากสี เพื่อให้อาจารย์เลือกจากนั้นเขาก็จึงสอนอาจารย์เกี่ยวกับการเป็นแร็ปเปอร์แบบง่ายๆ ด้วยผ้าโพกหัว ทำเอาเพื่อนๆ ในชั้นถึงกับฮาไปตามๆ กัน ไปชมความน่ารักของอาจารย์และหนุ่มน้อยได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… (ดูไม่ได้กด ที่นี่ นะ) So a few weeks prior, My Professor was teaching us about…
-
หญิงสาวเล่าประสบการณ์ ‘เดาะลมเล่นเสียวกับผี’ ติดใจเสียจริง แต่ก็ต้องปล่อยให้ผีไปเกิดใหม่
เราอาจเคยได้ยินข่าวการมีเซ็กซ์แบบพิสดารในหลายรูปแบบ แปลกๆ หน่อยก็คงเป็นข่าวคนมีอะไรกับสัตว์ทำนองนั้น แต่หญิงสาวคนนี้กลับจะทำให้คุณต้องตกใจมากยิ่งกว่านั้นซะอีก เพราะเธอคือคนที่ได้มีเซ็กซ์กับผี!! หญิงสาววัย 26 ปี Sian Jameson ได้ย้ายจากกรุงลอนดอน ไปอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ อันเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ในเมือง Aberystwyth ประเทศเวลส์ และนั่นก็ทำให้เธอได้เจอกับการร่วมรักในแบบที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เธอเล่าว่า เหตุผลที่ย้ายออกจากกรุงลอนดอนก็เพราะไม่สามารถลืมแฟนเก่าที่คบกันมานานกว่า 3 ปีได้ การได้ย้ายมาอยู่ในบ้านเช่าที่ห่างไกลผู้คนแบบนี้ คือสิ่งที่ตอบโจทย์เธอมากที่สุด การตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วพบว่าตนเองอยู่คนเดียว ทำให้เธอรู้สึกเหงาอยู่เสมอ เธอหวังว่าซักวันหนึ่งเธอจะได้เจอกับผู้ชายคนใหม่เดินเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง หญิงสาวใช้เวลาสำรวจไปรอบๆบ้านหลังใหม่ของเธอที่เต็มไปด้วยรูปวาดและหนังสือจากเจ้าของคนเก่า ก็ได้ไปเจอรูปรูปหนึ่งที่สะดุดตาเธออย่างมาก เป็นภาพของหนุ่มหน้าตาดี ที่ถูกวาดเอาไว้ในปี 1820 เมื่อผ่านไปไม่กี่เดือน ชายหนุ่มในรูปภาพนั้นก็กลายมาเป็นสิ่งที่ลบล้างความเหงาของหญิงสาวออกไป เมื่อวันหนึ่งเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนเช้ามืด และพบกับร่างของชายคนนั้นนอนอยู่ข้างๆ Sian อธิบายว่า “เขามีหน้าตาที่ดูดี ผมสีดำ สวมเสื้อสีขาวตัวหลวม ผ้าพันคอที่ดูเก่าแก่โบราณ ร่างของเขาดูเรืองแสงออกมาเล็กน้อย จนทำให้ฉันรู้สึกว่านี่มันคือความฝันชัดๆ จึงหมุนตัวกลับไปนอนตะแคงอีกฝั่ง หันหน้าเข้ากำแพง” ในตอนนั้นเอง เธอไม่สามารถข่มตาหลับลงไปได้เลย จู่ๆ เธอก็สัมผัสได้ถึงความกลัวที่แผ่ซ่านเข้ามา รู้สึกถึงมืออันแผ่วเบาและเย็นยะเยือกที่สัมผัสเข้ากับเอวของเธอ…
-
20 แมวที่เรียกได้ว่าตาสวยราวกับอัญมณี ถูกใจบรรดาเหล่าทาสกันแน่ๆ กับความคิวท์นี้
รู้หรือไม่ว่าสีตาของเจ้าเหมียวเกิดจากอะไร #เหมียวบู้บี้ ได้ไปศึกษาหาข้อมูลจึงได้รู้มาว่า สีของตาแมวนั้นเกิดมาจากเม็ดเมลานินที่เป็นตัวกำหนดสีตาของเจ้าแมว โดยจะแบ่งออกเป็นหลายสี เช่น สีฟ้า สีเหลือง สีเขียว สีน้ำตาล ตามกรรมพันธุ์ ลูกแมวส่วนมาแรกเกิดจะมีนัยน์ตาสีฟ้าจนเริ่มอายุประมาณ 7-12 สัปดาห์ก็เริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีที่แท้จริง ส่วนมากจะกลายเป็นสีดำ แต่ถ้าหาว่าเม็ดสีเหล่านั้นไม่ได้มีจำนวนมากพอเจ้าเหมียวก็จะมีสีตาที่ต่างจากปกติ ซึ่งในบางตัวก็อาจจะมีอาการ Heterochoromia คือความไม่สมบูรณ์ในการแบ่งเม็ดเมลานินทำให้แมวตัวนั้นมีตาสองสี ซึ่งไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายแต่อย่างใด และยังพบในแมวบางสายพันธุ์ที่มีตาสองสีโดยกรรมพันธุ์เช่น Japanese Bobtail, Turkish Angora แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรทาสแมวอย่างเราๆ ก็หลงแบบหัวปักหัวปำอยู่แล้วล่ะ 1. เจ้าเหมียวตาสองสี หน้าตาแกดูงงๆ แต่น่ารักกก 2. สายตาพิฆาต ใครมองแล้วจะตกหลุมรัก 3. ตาสีเหลืองเหมือนบุษราคัม 4. เหมือนกับมีน้ำทะเลในตาของเจ้าเหมียวตัวนี้เลยอ่ะ สวย 5. จะหาแมวตาสวยๆ แบบนี้ได้จากไหนเนี่ย 6. มองบนแป๊บ 7. ตากลมโต สีสวย ยิ่งมองยิ่งหลงรัก 8.…
-
เจ้าสิงโตผู้เหงาหงอย โผเข้ากอดผู้ช่วยชีวิตในวัยเด็ก หลังไม่ได้พบเจอกันอย่างยาวนาน
เมื่อพูดถึงสิงโต เราคงจะนึกถึงสัตว์เจ้าป่าที่มีความแข็งแกร่ง ดุร้ายและพร้อมเขมือบเหยื่อได้ทุกเมื่อ จนทำให้ใครๆ ไม่อยากเข้าใกล้มัน แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าสัตว์เจ้าป่าก็มีมุมอ่อนโยนเหมือนกัน อยู่ที่ว่ามันเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบไหน และได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างไร อย่างเจ้า Kiara ที่ถูกตั้งชื่อตามตัวละครใน Lion King มันกระโจนเข้าหาผู้ดูแลในวัยเด็ก หลังจากที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก Adolfo เคยช่วยชีวิต Kiara ตอนที่มันยังเป็นเพียงลูกสิงโตน้อย แต่ไม่นานหลังจากนั้นมันก็ถูกย้ายไปอยู่ที่มูลนิธิ Black Jaguar-White Tiger Foundation โดยอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ จนเมื่อปี 2015 ทางสถานดูแลได้โพสต์บนเพจเฟซบุ๊ก Black Jaguar-White Tiger Foundation จนมีผู้เข้าชมเกือบ 3 ล้านครั้ง ในวิดีโอนั้นเป็นการกลับมาเจอกันอีกครั้งของ Kiara และ Adolfo หลังจากที่ต้องอยู่ห่างกันมานานแสนนาน โดยทันทีที่เจ้าสิงโตเห็นผู้มีพระคุณ มันก็พุ่งเขาหาและกระโดดกอดเขาด้วยความดีใจ จนทั้งคู่ล้มลงไปกองกันพื้นด้วยกัน Kiara ไม่หยุดแค่นั้น มันนัวเนียและกลิ้งไปกลิ้งมาบนตัวของ Adolfo พร้อมทั้งเลียหน้าเขา เพื่อบอกให้รู้ว่ามันดีใจมากแค่ไหนที่ได้เจอชายหนุ่มอีกครั้ง สำหรับมูลนิธิ Black Jaguar-White Tiger Foundation ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 โดยนักธุรกิจชาวเม็กซิกัน…
-
ศิลปินสร้างงานศิลป์ระดับเด็ดดวง วาดลายละเอียดยิบ จนออกมาเหมือนพรมเปอร์เซียเด๊ะๆ
การสร้างสรรค์งานศิลปะให้ออกมาดูน่าทึ่งนั้น ศิลปินจำเป็นต้องมีความสามารถในหลากหลายด้าน ไม่ใช่แค่ฝีมือหรือพรสวรรค์ แต่มันไปรวมไปถึงความอดทน ความตั้งใจ และความประณีต ที่สำคัญคือต้องมีแรงบันดาลใจ เหมือนกับ Jason Seife ศิลปินจากเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างสรรค์ผลงานที่มีความละเอียดสูงราวกับลวดลายบนพรมเปอร์เซียจริงๆ Seife เป็นนักวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังและนักออกแบบกราฟิก เขาเริ่มฝึกทำงานศิลปะอันซับซ้อนนี้ตั้งแต่ปี 2015 โดยการแสดงความรู้สึกของตนเองผ่านงานศิลปะ ผลงานแต่ละชิ้นของเขามีความประณีตและความละเอียดสูงมาก ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้คือหมึก สีอะคริลิค สร้างให้เป็นลวดลายดอกไม้และรูปทรงเรขาคณิตที่เรามักจะเห็นบนพื้นขนาดใหญ่ ส่วนแรงบันดาลใจที่ทำให้ Seife ทำงานแนวนี้มาจากประวัติศาสตร์การออกแบบพรมคลาสสิกของช่างทอบวกสีสันที่บ่งบอกรสนิยมของชนเผ่าของพวกเขา ดังนั้น Seife จึงนำมาสร้างเป็นศิลปะในแบบของเขาด้วยการใส่ความคิดของตัวเองลงไป เขาเลือกสีและรูปแบบที่บ่งบอกถึงความคิดและอารมณ์ของเขาในขณะนั้น ศิลปินหนุ่มบอกว่าพื้นหลังบางส่วนในงานของจะมีความเป็นตะวันออกกลาง เพราะตอนเด็กๆ เขาเกิดที่นั่นและมีประสบการณ์ที่น่าจดจำอยู่ที่นั่น “การออกแบบพรมแบบดั้งเดิมที่ทำโดยช่างทอมักจะมีเอกลักษณ์ ประเพณี และธรรมเนียมต่างๆ แฝงอยู่ในลวดลายเหล่านั้น นั่นหมายความว่าทุกอย่างมันถูกสร้างขึ้นมาอย่างมีเหตุผล” Seife บอก เขาบอกอีกว่า “ไม่ว่าจะเป็นผ้าที่ใช้ สี วิธีทำ ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับสถานที่ เวลา และทำไมพวกเขาถึงสร้างมันขึ้นมา” “ผมเองก็อยากรวมสิ่งเหล่านั้นไว้งานของผม ทั้งวิธีการ ลวดลาย และสี เพื่อสะท้อนอารมณ์ ความรู้สึกที่เฉพาะเจาะจงในเวลาใดเวลาหนึ่งของผม” เขาบอก การจะสร้างสรรค์ผลงานตามที่ตั้งใจไว้นี้อาจต้องใช้เวลาสองถึงสามเดือนต่อชิ้น เพื่อที่จะทำให้มันสมบูรณ์ที่สุด…
-
20 ความมหัศจรรย์ที่จะเกิดขึ้น เมื่ออากาศหน๊าวหนาว นี่มันเกินจุดเยือกแข็งไปแล้ว!!
ขณะนี้ก็เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วนะครับ มองไปรอบตัวก็จะเห็นคนหยิบเสื้อกันหนาวออกมาใส่กันบ้างแล้ว ฤดูหนาวเป็นฤดูโปรดของใครหลายคนเลยล่ะ เนื่องจากสามารถหยิบเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ หรือหมวกมาใส่สวยงามและถ่ายรูปได้ ถ้าฤดูหนาวนี้ใครได้ไปเที่ยวดอยมาแล้ว คงจะได้พบเห็นความสวยงามของธรรมชาติที่สามารถพบเจอได้เฉพาะช่วงฤดูนี้เท่านั้น อย่างเช่น ทะเลหมอก และแม่คะนิ้งที่เกาะอยู่ตามยอดใบไม้ วันนี้เราขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพธรรมชาติอันงดงามในฤดูหนาว ที่หาดูไม่ได้ในประเทศไทย เพราะภาพเหล่านี้สามารถเห็นได้ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำมากจนติดลบนั่นเอง ไอน้ำร้อนในอากาศเยือกแข็ง รถยนต์ ฟองสบู่ รั้วขดลวด น้ำแข็งทรงดอกไม้ ผลไม้แช่แข็ง เรือเทียบฝั่ง พระอาทิตย์ทรงกลดที่สะท้อนจากคริสตัลในอากาศ คลื่นนิ่ง ตุ๊กตาหิมะยักษ์ น้ำตกเยือกแข็ง น้ำแข็งที่เคยเกาะบนกระจังหน้ารถ ฟองสบู่ใต้ผิวน้ำ จักรยานเย็นสุดขั้ว ผมสีหิมะ หนวดน้ำแข็ง ทุ่งหญ้าน้ำแข็ง ม่านน้ำแข็ง วิวจากที่สูง ดอกไม้แช่เย็น…
-
สาวโพสต์ขอบคุณแฟนหนุ่ม ที่อยู่ข้างกันเสมอแม้เธอจะอ้วน และจะเคียงข้างเธอตลอดไป
Lexi สาวพลัสไซส์ผู้ที่เคยมีน้ำหนักมากกว่า 219 กิโลกรัมได้ออกมาเปิดเผยชีวิตเรื่องราวความรักของเธอกับชายที่ชื่อว่า Danny คนที่รักเธอมากที่สุดในโลกไม่ว่าเธอจะเป็นแบบไหนก็ตาม ทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานและได้เข้าพิธีวิวาห์เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2015 ทั้งคู่ได้วางแผนที่จะมีลูกน้อยคนหนึ่งแต่ก็ต้องล้มเลิกโครงการไปเพราะว่าเนื่องจากร่างกายนั้นอ้วนเกินไปจนอาจจะทำให้เด็กเป็นอันตรายได้ การใช้ชีวิตช่วงแรกๆ Lexi เธอชื่นชอบอาหารจานด่วนและไม่ค่อยจะชอบออกกำลังกายเนื่องจากว่าเธอคุ้นชินกับความสะดวกสบายและขาดแรงจูงใจในการลดน้ำหนัก ก็เลยปล่อยให้ตัวเองอ้วนขึ้นๆ ด้วยการกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์เหล่านั้นซึ่งมันทำให้ร่างกายของเธอแย่ลงๆ แต่พอเริ่มมาใช้ชีวิตคู่เธอก็เริ่มตระหนักได้ว่าเธอจะต้องเริ่มดูแลสุขภาพเพื่อที่จะได้มีอีกหนึ่งชีวิตมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายให้กับเธอและสามี เธอจึงได้เริ่มหันกลับมาดูแลตัวเองโดยได้ฤกษ์เริ่มต้นในวันแรกของปี 2016 เธอได้บันทึกรูปภาพและวิธีการการลดน้ำหนักของเธอลงในอินตาแกรมที่ใช้ชื่อว่า Fatgirlfedup ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 477,000 คน และยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ติดตามได้หันมาดูแลสุขภาพแบบง่ายๆ ไปพร้อมกับเธอ วิธีการดูแลสุขภาพของเธอคือการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินจากอาหารจานด่วนมาเป็นผักและโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรต อีกทั้งออกกำลังกายแบบเบาๆ แบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เธอได้บอกว่าเธออยากจะขอบคุณสามีของเธอที่คอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ เขาคอยออกกำลังกายเป็นเพื่อนเธออยู่ตลอด การลดน้ำหนักทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับสามีแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ที่คู่สองต่อสู้ก็เพื่อลูกน้อยที่พวกเขารอคอย “ไม่มีเป้าหมายไหนที่มันจะเป็นไปไม่ได้ เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่จะทำเพื่อชีวิตที่จะเจริญเติบโตไปด้วยกัน โชคดีที่มีคู่ชีวิตที่คอยจะซัพพอร์ตทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก สิ่งนี้ช่วยให้ความสัมพันธ์ของเราดียิ่งขึ้นและน่าสนใจ มันทำให้เราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ฉันอยากจะขอบคุณที่เขาอยู่เคียงข้างฉันมาตลอด” Lexi โพสต์บนอินสตาแกรม …
-
คุณปู่วัย 98 ได้แต่งงานกับชายคนรัก หลังกฎหมายอนุญาตให้แต่งงานกับเพศเดียวกันได้
คู่รักเพศเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นคู่ชายรักชาย หรือจะเป็นคู่หญิงรักหญิง ต่างก็อยากใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขเหมือนกับคู่รักชายหญิงทั่วไป แต่สิ่งสิ่งหนึ่งที่เป็นอุปสรรคก็เพราะว่าคู่รักเพศเดียวกันในหลายประเทศ ไม่สามารถแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ เพราะฉะนั้นคู่รักเพศเดียวกันในประเทศเหล่านั้นจึงทำได้เพียงอยู่ร่วมกันเหมือนแฟนเท่านั้น พวกเขาไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ และไม่สามารถใช้สิทธิของคู่แต่งงานได้เช่นกัน คู่รักชายรักชายชาวซิดนีย์ก็เช่นกัน พวกเขาอยู่ร่วมกันในฐานะคู่รักมาเป็นเวลานาน จนฝ่ายหนึ่งอายุเหยียบหนึ่งร้อยปีแล้ว แต่ในปัจจุบันพวกเขาก็สามารถแต่งงานกันอย่างถูกกฎหมายได้ในที่สุด Neville Wills และ Ian Fenwicke คู่รักคู่นี้คือ Neville Wills อายุ 98 ปี และ Ian Fenwicke อายุ 74 ปี พวกเขาอาศัยอยู่ในเมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย โดย Wills ทำอาชีพเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทั้งสองพบรักกันเมื่อปี 1978 หลังจากนั้นจึงตัดสินใจอยู่ร่วมกันฉันท์สามีภรรยามาเป็นระยะเวลานานถึง 39 ปี แม้จะไม่มีกฎหมายรองรับความสัมพันธ์นี้ก็ตาม จนเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2017 ได้มีการแก้กฎหมายให้คู่รักเพศเดียวกัน สามารถแต่งงานเป็นสามีภรรยากันได้เหมือนคู่ชายหญิงทั่วไปทุกประการ พอทั้งสองคนทราบข่าวนี้ก็ดีใจกันมาก และวางแผนงานแต่งงานกันทันที Fenwicke พูดหลังจากการออกกฎหมายแต่งงานใหม่ว่า…
-
เด็กน้อยป่วยเป็นโรคประหลาด ไม่สามารถทานอะไรได้เลยนอกเสียจาก “ลูกพีช”
เมื่อเรากินอะไรสักอย่างติดต่อกันเป็นเวลานาน ย่อมจะต้องรู้สึกเบื่ออาหารเป็นธรรมดา เราจึงพยายามมองหามื้ออาหารที่แตกต่างกันในแต่ละวัน เพื่อที่จะได้ลิ้มรสอาหารที่ไม่ซ้ำซาก แต่บางคนกลับโชคร้าย เพราะเกิดมาพร้อมกับอาการแพ้อาหาร จึงไม่มีโอกาสได้ลองลิ้มรสชาติของอาหารเหล่านั้น แต่คงไม่มีใครโชคร้ายเท่ากับเด็กคนนี้แล้วล่ะ เพราะเขาไม่สามารถกินอาหารอะไรได้เลย ยกเว้นเพียงลูกพีชสดเท่านั้น Micah เด็กน้อยคนนี้ชื่อว่า Micah ขณะนี้เขาอายุเพียง 2 ปีเท่านั้น ย้อนกลับไปเมื่อเขาอายุได้ 6 เดือน แพทย์ตรวจพบว่าเขาป่วยเป็นโรค Food-protein Induced Enterocolitis Syndrome หรือเรียกสั้นๆว่า FPIEs ซึ่งทำให้เขาแพ้อาหารหลายชนิด อาการแพ้อาหารนี้รุนแรง และอาจทำให้เขาท้องเสีย อาเจียน ผิวซีด และมีเข้าสู่ภาวะช็อกได้เลย คุณแม่ของเขาเล่าให้ฟังว่า “ครั้งแรกที่เขาช็อก พวกเราทำอะไรไม่ถูกเลย ถึงเราจะขอความช่วยเหลือจาก 911 แล้ว พวกเขาก็ไม่รู้วิธีรับมือกับ FPIEs เราจึงทำได้เพียงกอดเขาไว้ และร้องไห้กันทั้งคืน” นอกจากนี้เขายังป่วยเป็นโรคอี่นๆ อีกหลายอย่างเช่น DiGeorge Syndrome และ 15Q13.3 Micro-Duplication พ่อและแม่ของเขาจึงต้องพาเขาไปพบแพทย์เฉพาะทางทุกเดือน แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายก็สูงตามไปด้วย นอกจากค่ารักษาของน้อง Micah…
-
19 ภาพที่หากคุณได้มอง รับรองว่าจะเกิดความหายนะกับสายตาอย่างแน่นอน!!
บางทีสิ่งที่น่าหงุดหงิดที่เราได้เจอในแต่ละวันก็มาจากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ซึ่งบางทีมันอาจจะเป็นเพียงแค่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่มันก็สามารถทำให้วันดีๆ ของเรานั้นหม่นหมองขึ้นมาได้ แหม่ ถึงมันจะเป็นเรื่องแค่นี้แต่มันก็ทำให้หัวร้อนได้อ่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน 1. เป็นการแกะของที่ดูแล้วฉันช่างหงุดหงิดเหลือเกิน 2. โอ้โห เคสพี่แกนี่จะใหญ่ไปไหน แบบนี้ก็บังคนข้างหลังหมดซิ 3. หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เอ๊ะ ห้านี่นา 4. อย่าแตกแถวสิ 5. เฮลโหล สวัสดีจ้า 6. ทำไมมันช่างเปราะบางเหลือเกิน… 7. ทำไมไม่สร้างให้มันเรียงๆ กันไปเห็นแล้วรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก 8. ไม่ว่าใครก็คงเคยเจอกับเหตุการณ์นี้ 9. เสียวว่าทีวีจะร่วงเหลือเกิน 10. ถึงจะยับยู่ยี่แบบนี้ แต่ก็ยังรู้สึกดีที่มีเงิน 11. อ่า ไม่รู้จะเริ่มจับจากตรงไหนก่อนเลย…
-
8 เรื่องที่คุณต้องรู้ ก่อนชมแมตช์ฟุตบอล Manchester Derby ปิศาจแดง ปะทะ เรือใบสีฟ้า!!
อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงเวลาฟาดแข้งของฟุตบอลนัดที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของมวลมหาประชาแมนเชสเตอร์ ซึ่งทาง Manchester United ทีมอันดับสองของตารางคะแนน จะต้องเปิดบ้านรับจ่าฝูง Manchester City ว่ากันว่านัดนี้ถือเป็นจุดสำคัญของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2017-2018 และอาจตัดสินแชมป์กันได้เลยหากฝ่ายปิศาจแดงพลาดท่า และนี่คือ 8 เรื่อง ที่ #ประธานเหมียว อยากให้แฟนบอลได้รู้ก่อนที่จะเปิดฉากฟาดฟันกัน 1. ช่องว่าง 8 คะแนน Manchester United ตามหลัง City อยู่ 8 คะแนน นั่นหมายความว่าหากพวกเขาเอาชนะได้ ช่องว่างจะเหลือเพียงแค่ 5 คะแนนเท่านั้น แต่หากพวกเขาพลาดท่าปราชัย คะแนนจะถูกทิ้งห่างไปที่ 11 แต้มทันที และนั่นหมายถึงการยกถ้วยให้ทีมอริร่วมเมืองไปครึ่งใบแล้ว 2. ผู้เล่นตัวหลักที่ลงสนามไม่ได้ ในส่วนของ Manchester United นั้น จากการสัมภาษณ์ก่อนเกมทางผู้จัดการทีม Mourinho ระบุว่าผู้เล่นที่บาดเจ็บไปทยอยกลับมาพร้อมหน้า โดยเฉพาะ Fellaini, Jones และ Ibrahimovic ขณะที่ทั้ง Michael…
-
ชายยูเครนสร้างชื่อจากความแกร่ง โชว์พลังแบกม้าให้โลกรู้ บางทีมันก็อยากขี่เราบ้าง!?
Dmytro Khaladzhi ชายหนุ่มชาวยูเครนผู้ที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลก ผู้สร้างสถิติชายที่แข็งแรงที่สุดถูกบันทึกโดยกินเนสส์ เวิร์ดเรคคอร์ด รวมไปถึงตำแหน่งแชมป์เปี้ยนหนุ่มหลังถึกของยูเครนอีกด้วย ซึ่งความแข็งแกร่งของเขานั้นเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีใครลบล้างได้ ชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งคนนี้ มีชื่อเสียงมาจากการอัดคลิปวิดีโอโชว์ความแข็งแกร่งของเขาในหลายๆ คลิป แต่ละอย่างนี้ถือว่าสุดยอดมาก อะไรจะแข็งแกร่งขนาดนั้นคะคุณพี่ โชว์ยกรถด้วยเท้า นอนให้รถทับร่างแต่ก็ยังไม่เป็นอะไร โชว์แบกคน 4 คนด้วยมือเปล่า ยอมแล้วจ้า และในครั้งนี้เขาได้มาสร้างความสะพรึงอีกครั้งด้วยการแบกม้าทั้งตัวด้วยมือเปล่า พี่ชักจะแข็งแกร่งเกินไปแล้วนะ สาเหตุที่นาย Dmytro ออกมาแบบม้าโชว์นี้ก็เป็นเพราะว่า เขาคิดว่าเจ้าม้ามันจะรู้สึกอย่างไรถ้าหากมันได้ขี่คนบ้าง เหมือนกับที่มันเป็นสัตว์ที่เป็นยานพาหนะให้กับมนุษย์มาหลายพันปี หน้ามันก็จะดูงงๆ หน่อย อยู่ดีๆ มาโดนแบกอย่างนี้ เขินเลย แบกคน แบกรถก็ทำมาแล้วแค่แบกม้าตัวเดียว พี่เขาบอกจิ๊บๆ ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครที่แข็งแกร่งเท่าพี่คนนี้แล้วในเวลานี้ล่ะ ฮ่าๆๆ มาดูความแข็งแกร่งของพี่เขาแบบเต็มๆ กันเลยดีกว่า ที่มา odditycentral
-
10 ไอเดีย “บ้านหลังน้อย” จากญี่ปุ่น ที่แม้พื้นที่จะแคบ แต่ก็สร้างสรรค์จนอยู่ได้อย่างสบาย!!
ในประเทศญี่ปุ่น ด้วยความที่ลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะ จึงทำให้พื้นที่ที่สามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างในประเทศนี้มีน้อย และด้วยความเจริญรุ่งเรืองต่างๆ ผสมโรงทำให้ราคาที่ดินแต่ละที่ในญี่ปุ่นมีราคาแพงยิ่งกว่าทองซะอีก หลายๆ บ้านในญี่ปุ่นจึงมีขนาดเล็ก และพวกเขาต้องใช้พื้นที่ที่พวกเขามีให้คุ้มค่ามากที่สุด ด้วยเหตุนี้ชาวญี่ปุ่นจึงได้มีไอเดียการออกบ้านแบบแปลกๆ ที่ดูแล้วต้องยกนิ้วให้กับความครีเอทของพวกเขาจริงๆ อย่างบางพื้นที่เราอาจจะไม่คิดว่าจะสามารถสร้างให้เป็นบ้านได้ เพราะว่ามีพื้นที่ที่แคบเกินไป แต่พวกเขาก็สามารถสร้างบ้านขึ้นมาและสามารถอยู่อาศัยได้จริงๆ และนี่คือ 10 บ้านที่สร้างบนพื้นที่แคบๆ แต่ด้วยการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ทำให้บ้านต่างๆ เหล่านี้ดูดีไม่แพ้บ้านหรูๆ เลยทีเดียว เราลองไปดูกันดีกว่าว่าพวกเขาจะมีการออกแบบที่ฉลาดล้ำโลกขนาดไหน 1. บ้าน Nada จังหวัด Hyogo บ้านสุดน่ารักนี้สร้างขึ้นในพื้นที่สุดแคบเพียง 36 ตารางเมตรเพียงเท่านั้น ด้วยพื้นที่แสนแคบทำให้การออกแบบบ้านนี้ออกมาในลักษณะสูงและผอม โดยชั้นล่างสุดพวกเขาทำเป็นห้องเก็บของ และที่จอดรถสำหรับรถหนึ่งคัน ส่วนห้องนั่งเล่น ห้องครัวและห้องรับประทานอาหารก็อยู่ที่ชั้นสองของบ้าน และที่สำคัญคือบ้านนี้ยังสามารถสร้างห้องนอนสุดหรูได้ถึงสองห้องในชั้นที่สาม นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างเอาไว้ถ่ายเทอากาศอยู่บริเวณด้านหน้าและด้านข้างของตัวตึกอีกด้วย . . . . . 2. บ้าน Hori no Uchi กรุงโตเกียว จะมีบ้านสักกี่หลังกันเชียวที่สามารถตั้งอยู่บนขอบถนนได้ แต่ว่าบ้าน Hori no Uchi สามารถสร้างได้ โดยรูปแบบบ้านจะเป็นรูปแบบกึ่งๆ สามเหลี่ยมและมีพื้นที่ใช้สอย…
-
27 บุคคลประหลาด ชอบทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน มันก็เลยเกิดเป็นความฮาแบบนี้แหละ
ในโลกนี้จะมีคนบางประเภทหนึ่งที่ชอบทำอะไรแปลกๆ สวนทางกับชาวบ้านชาวช่อง จะเป็นเพราะตั้งใจหรือบังเอิญไม่รู้ แต่บางทีมันกลายเป็นมหกรรมความฮา เหมือนพวกเขาเหล่านี้ 1. เตาผิงปกติมันเชยแล้ว สมัยใหม่มันต้องแบบนี้ 2. นี่คงจะหิวจัด เห็นไรใกล้มือก็ยัดใส่ปากหมด 3. จาก “Soul mate” พอมาอยู่ด้วยกันแล้วทำให้อ่านเป็น “soma ulte” มันคืออะไรหรอ?? 7. คนปกติจะกินจากข้างนอกไปข้างใน แต่คนแปลกจะเริ่มกินจากข้างในก่อน 8. ขอตั้งชื่อทรงว่า “ทรงกลัวไม่เด่น” 9. นี่คือประโยชน์ของซากรถ 10. เครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ อาจจะดูแมนๆ หน่อย แต่ดูสีสิ หวานเชียว 11. ทำไมรู้สึกสวยจัง มีแค่คนมอง อิอิ 12. ข้อดีของการเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง ไม่ต้องใช้บันไดร่วมกับใคร 13. เมื่อพ่อบอกจะเล่นด้วย… 14. ลายสักรอยเท้าน้องหมาตัวโปรด…
-
ยูทูบเบอร์เล่นพิเรนทร์เอาหัวยัดใส่ไมโครเวฟแถมเทปูนทับอีกที จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหล่าคนดังหลายๆ คน มันโด่งดังจากการทำอะไรแปลก แผลงๆ หรือพิเรนทร์ ซึ่งอย่างมันก็พอดูมีความสร้างสรรค์นะ แต่บางอย่างนอกจากจะไม่ได้ประโยชน์แล้วยังอันตรายกับชีวิตอีกด้วย เหมือนอย่างยูทูบเบอร์วัย 22 ปี ชาวอังกฤษคนนี้ที่เกือบตาย หลังจากที่ตัดสินใจถ่ายคลิปเอาหัวยัดเข้าไปในไมโครเวฟ ความพิเรนทร์นี้เกิดจาก Jay Swingler เจ้าของช่องยูทูบ TGFbro ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 3 ล้านคน พร้อมด้วยเพื่อนของเขา Romell Henry ทั้งสองคนโพสต์วิดีโอที่ทั้งตลกและเสี่ยงตายในเวลาเดียวกัน โดย Swingler บอกว่านี่คือความเป็นความผิดพลาดของเขาที่เอาหัวไปใส่ในไมโครเวฟจนเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเข้ามาช่วย …มันทำให้เขาเกือบตาย วิดีโอนี้มีผู้เข้าชมมากกว่า 1 ล้านครั้ง ในวิดีโอ Swingler บอกว่าเขากลัวมากเพราะเขาเป็นโรคกลัวที่ปิดทึบ (Claustrophobia) มันไม่ใช่แค่เอายัดใส่ในไมโครเวฟ แต่ก่อนหน้านั้นเขาใส่ปูนปลาสเตอร์เข้าไปด้วย ปรากฏว่าหลังจากนั้นเขากลับดึงหัวออกมาไม่ได้ เพื่อนอีกคนพยายามช่วยก็ไม่ได้ผล กระทั่งผ่าน 90 นาที ทั้งคู่จึงตัดสินใจเรียกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก West Midlands Fire Service ให้มาช่วยเหลือ ต่อมาทางหัวหน้าทีมกู้ภัย Simon Woodward ได้เขียนในทวิตเตอร์ว่าพวกเขาไม่ชอบการกระทำเช่นนี้เลย…
-
รวมภาพเหมียวที่ชอบไปป่วนตามเทศกาลคริสต์มาส นี่แกช่างบังอาจจริงๆ เลยนะเจ้าเหมียว
ว่ากันว่าหนึ่งในสัตว์ที่กวนตรีนที่สุดนั่นก็คือเจ้าแมวเหมียวสุดน่ารักของเรานั่นเอง ไม่ว่ามันจะทำอะไรก็ดูเหมือนจะทำเพื่อกวนประสาทเราไปซะทุกอย่าง แต่ความเป็นจริงแล้ว มันก็เป็นของมันอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว สิ่งที่มันได้ทำมักจะมาจากนิสัยของมันอยู่แล้ว นั่นก็คือการชอบไปนอนตามสถานที่แปลกๆ ซึ่งทางสมาชิกเว็บ Bored Panda ก็ได้รวบรวมภาพการนอนหลับของเจ้าเหมียว คัดมาเฉพาะสำหรับเทศกาลคริสต์มาสที่ใกล้จะเข้ามาถึงนี้แล้ว ไหนไปดูกันหน่อยซิ โอ๊ย มาแบบนี้ตกใจหมดเจ้าเหมียว ในนั้นคงจะอุ่นดีใช่ไหมจ๊ะ นี่แกไปอยู่กับเขาได้ไง ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ จู่ๆ ก็อยากจะนอนท่ามกลางธรรมชาติซะงั้น มันเล็กเกินไปแกเข้าไม่ได้หรอเจ้าเหมียว ออกม๊าาาา!! ข้าจะจองจำเจ้าไปจนตาย อย่ามาทำสายตาแบบนี้ แกมีความผิดอยู่นะ อย่ามาเนียนเจ้าเหมียว เอาเบบี๋ขึ้นเตียงเดี๋ยวนี้นะ เหมือนจะมีแกะเพิ่มอีกหนึ่งตัว นี่ก็เนียนเข้าฉากไปกับเค้าด้วย รู้สึกเคืองเล็กน้อยที่โดนปลุกตอนกำลังฝันหวานๆ มันใช่ที่นอนไหมล่ะนั่น มานั่งทำตาแป๋ว โถ่ววว น้องงงงงง นี่ไม่ได้มาตัวเดียว พาเพื่อนมาทั้งแก๊งเลย หน้านี่ไม่ได้สำนึกผิดเลยนะ เจอตัวการทำของพังแล้ว จับได้คาหนังคาเขาเลยนะ …
-
เจ้าแห่งงูเห่าชาวฟิลิปปินส์ เสียชีวิตหลังจากดื่มเลือดงูพิษ ตัวเดียวกันกับที่กัดเขา…
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญแต่ไม่ได้หมายความว่าจะผิดพลาดไม่ได้ อย่างกรณีของผู้เชี่ยวชาญด้านงูเห่าคนนี้ที่เพิ่งเสียชีวิตไปด้วยพิษของงู!? Elies ‘Peter’ Lenturio หรือที่รู้จักในนาม ‘เจ้าแห่งงูเห่าชาวฟิลิปปินส์’ ถูกงูเห่ากัดเข้า เขาเลยแก้แค้นด้วยการตัดหัวและดื่มเลือดของมัน แต่ดูเหมือน Elies จะทำพลาดที่ดื่มเลือดของมัน เพราะปกติแล้วงูเห่าถือเป็นงูที่พิษร้ายแรงมาก และเมื่อถูกมันกัดอาจตายได้ทันทีถ้าไม่รักษาภายในเวลา สำหรับ Elies นั้น เขาค้นพบความสามารถนี้ตอนอายุ 15 ปี ก่อนจะถูกยกให้เป็นเจ้าแห่งงูเห่าในเวลาต่อมา นับตั้งแต่นั้นมาหากบ้านไหนหรือชุมชนไหนเจองูเห่าก็จะเรียกเขาไปช่วยจัดการให้ และนี่ไม่ใช่การถูกงูกัดครั้งแรก แต่เขาเคยโดนกัดมาหลายครั้งแล้วในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา จนรู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อถูกงูกัด อย่างครั้งล่าสุดนี้ เมื่อเจ้าแห่งงูเห่าถูกงูกัด เขาตัดสินใจที่จะไม่ไปโรงพยาบาลแต่เลือกที่จะดื่มเลือดงูตัวนั้นแทน จากนั้นก็กลับไปบ้านไปพักผ่อน กลับกลายเป็นว่านั่นเป็นคืนสุดท้ายของเขาบนโลก…มีฟองออกจากปากของเขาจนสร้างความตกใจให้ครอบครัวเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงพา Elies ไปโรงพยาบาลในคืนนั้น แต่น่าเศร้าที่เขาเสียชีวิตลงเมื่อไปถึง จากการเสียชีวิตของ Elies ทำให้ผู้คนสงสัยว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเชี่ยวชาญเรื่องงูได้อย่างไร? สื่อเล่าว่าปกติเจ้าแห่งงูเห่าจะเก็บงูเห่าของเขาไว้ในกล่องบนรถมอเตอร์ไซค์ จนในวันที่เกิดเหตุ Elies เขาเปิดกล่องใบนั้นตามปกติ แต่กลับถูกงูกัดเข้าที่มือซ้ายของเขา แม้จะเขาจะเลี้ยงงูเห่าตัวนี้ให้เป็นสัตว์เลี้ยงมาตลอด แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รู้ว่ามันประกาศเป็นศัตรูกับเขา ซึ่งอาจเป็นเพราะส่วนหางของมันถูกขังเบียดเสียดอยู่ในกล่อง ไม่ว่าเจ้างูจะกัดด้วยเหตุผลอะไร แต่นั่นทำให้ Elies โกรธมาก เขาก็เลยตัดหัวของมันและดื่มเลือดของมันแบบสดๆ… เรื่องนี้สร้างความตกใจให้ชาวฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะครอบครัวของเขาที่ยังทำใจไม่ได้ ที่ทำให้หลายคนประหลาดใจคือในหลายประเทศอย่างจีน มาเลเซีย และไทย…
-
27 ภาพประทับใจ ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าโลกจะน่าอยู่แค่ไหน หากสังคมขับเคลื่อนด้วยความรัก
เราอาจจะพบกับความผิดหวัง ความขัดแย้ง หรือปัญหาต่างๆ มากมายที่อยู่รอบตัว จนทำให้รู้สึกว่าโลกนี้ช่างไม่น่าอยู่เอาซะเลย แต่ในอีกด้านหนึ่ง ผู้คนได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักเป็นสิ่งที่ทำให้โลกน่าอยู่มากขึ้น เราอาจจะไม่ใช่คนที่ได้รับความรักนั้น แต่การเห็นคนอื่นแสดงความรักต่อกันมันทำให้โลกดูสดใสยิ่งขึ้น 1. ยี่สิบปีแห่งรัก “ในปี 1995 คุณป้าเอาตุ๊กตาแมวให้ฉัน ฉันชอบมันมากและนอนกอดมันทุกคืนในช่วงวัยเด็ก เมื่อเธอจากไปแล้ว เราพบว่าเธอซื้อตุ๊กตาแมวอีกตัวที่เหมือนกันและเก็บมันไว้กว่า 20 ปี ทุกวันนี้ทั้งสองตัวกลายเป็นร่องรอยแห่งความรักของป้าและฉัน” 2. ทุกๆ ปี ชายคนนี้จะซื้อของเล่นแล้วแต่งตัวเป็นซานตาคลอส เพื่อไปแจกของพวกนี้ให้เด็กๆ ในโรงพยาบาล 3. คุณยายวัย 93 ปี และพี่สาวของเธอวัย 96 ปี จูงมือกันไปที่ชายหาดในวันหยุดสุดสัปดาห์ 4. คำทักทายจากอดีต “พ่อของฉันในยุค 70 เขาจากไปตั้งแต่ตอนที่ฉันอายุประมาณ 20 ปี เมื่อไม่นานมานี้เพื่อนสนิทของเขาได้ติดต่อมาหาฉัน และส่งรูปของพ่อกับแม่ฉันมาให้” 5. ช่วงแรกๆ ที่พ่อกับแม่ได้พบกัน เมื่อ 35 ปีก่อน พวกเขาชนกันตอนที่เล่นวอลเลย์บอลด้วยกัน…
-
ชมตัวอย่างของอนิเมชั่น The Spider-Verse โลกที่ไม่ได้มีสไปเดอร์แมนเพียงคนเดียว!!
หากใครเป็นแฟนคลับฮีโร่จาก Marvel ผู้มีพลังปล่อยใยแมงมุม ปีนป่ายไปมา พร้อมกับฉายาว่า สไปเดอร์แมน แล้วล่ะก็ เราเชื่อว่าคุณต้องชอบตัวอย่างหนังเรื่องใหม่ที่กำลังจะเข้านี้แน่นอน เมื่อทาง Sony Pictures และ Marvel เผยตัวอย่างหนังอนิเมชันเรื่อง Spider-Man: Into the Spider-Verse กับการได้เห็นฮีโร่อย่างสไปเดอร์แมนในรูปแบบอนิเมชันอลังการงานสร้าง ตัวอย่างนี้เปิดตัวครั้งแรกในงาน Comic Con Experience 2017 ที่จัดขึ้นในเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล โดยได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง Phil Lord และ Christopher Miller ผู้เคยสร้างผลงาน The Lego Movie และ 21 Jump Street ตัวเอกของสไปเดอร์แมนภาคอนิเมชันนี้ก็คือ Mile Morales เด็กหนุ่มในเมืองบรุคลินจากจักรวาล Marvel เวอร์ชันคอมมิค เข้ามาสร้างสีสันและถูกถ่ายทอดด้วยภาพการ์ตูนที่มีความสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ คลิปตัวอย่างหนังเรื่อง Spider-Man ในแบบอนิเมชัน ความพิเศษอีกอย่างของภาคนี้ก็คือ ในตัวอย่างได้บอกให้เราทราบว่า เราจะไม่ได้เห็นสไปเดอร์แมนแค่คนเดียวอย่างแน่นอน เพราะ Spider-Verse คือจักรวาลของเหล่าสไปเเดอร์แมนจำนวนมากนั่นเอง …
-
ฉันออกเดินทางไปรอบโลก เพื่อถ่ายภาพตามรอยฉากของ Game of Thrones ในชีวิตจริง!!
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ช่วงที่กระแสซีรีส์เกาหลีดังๆ จนเกิดเป็นกระแสให้หลายคนชื่นชอบในความสวยงามของสถานที่ในฉากและอยากจะตามรอยไปยังสถานที่เดียวกับในซีรีส์ที่ตัวเองชอบ แต่พอพูดถึงซีรีส์ฝรั่งทำไมเราถึงไม่อยากจะตามรอยแบบนั้นกันบ้างล่ะ? ด้วยเหตุนี้บล็อกเกอร์สาวนามว่า Andrea David ก็เลยจัดการตามรอยซีรีส์เรื่องโปรดของเธอบ้าง และเมื่อพูดถึงซีรีส์ที่มีฉากสวยๆ บวกกับความฮิตในช่วงที่ผ่านมาก็คงจะหนีไม่พ้น Game of Thrones อย่างแน่นอน ทว่าฉากในซีรีส์ดังกล่าวมีการถ่ายทำหลากหลายที่กระจายกันไปมาก ฉะนั้นการที่คนปกติแบบเราๆ จะไปตามรอยให้ครบจึงเป็นเรื่องยาก ฉะนั้นเราก็คงต้องตามรอยผ่านภาพที่เธอไปมาแทนก็แล้วกัน… หอคอย Minčeta Tower ในเมือง Dubrovnik ประเทศโครเอเชีย ขั้นบันไดเล็กๆ ในเมือง Carnlough ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ใครอยากจะเชม เชม ก็ให้มาที่ Jesuit Stairs ในเมือง Dubrovnik ประเทศโครเอเชีย สวนพฤกษชาติ Trsteno Arboretum ในเมือง Dubrovnik ประเทศโครเอเชีย แม้จะเป็นฉากเดียวกันกับเซอร์ซีเดินแก้ผ้า แต่ก็ไม่ได้ถ่ายที่เดียวกันหรอกนะ โดยบริเวณโบสถ์นั้นถ่ายที่ The Girona Cathedral เมือง Girona ประเทศสเปน ทะเลสาบ Mývatn ในหน้าหนา ประเทศไอซ์แลนด์ …
-
คุณตาคุณยายถ่ายรูปครบรอบแต่งงาน 47 ปีกันอย่างชื่นมื่น แม้จะต้องต่อสู้กับโรคร้ายอยู่ก็ตาม
ในปัจจุบันการคบกันดูจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าในสมัยก่อน เพียงแค่คุณมีความชอบพอกันในระดับหนึ่งก็ขอลองคบกันได้แล้ว หรือเพียงแค่ใช้แอปพลิเคชันหาคู่ก็จะเจอคนที่ถูกตาต้องใจได้อย่างไม่ยากเย็น แต่กลับกลายเป็นว่ามีคนเลิกกันและหย่าร้างมากมายเพราะว่าตกลงคบเมื่อรู้จักกันเพียงแค่ผิวเผิน จึงอาจบอกได้ว่าถึงจะคบกันง่าย แต่การจะสร้างชีวิตคู่ที่ยั่งยืนนั้นไม่ง่ายเลย ในวันนี้มีผู้ใช้อินสตาแกรมท่านหนึ่งแบ่งปันเรื่องราวความรักของคู่ชายหญิงที่คบกันมานานเกือบ 50 ปี และยังรักกันดีไม่มีเปลี่ยนแปลง เรามาดูกันว่าเขามีเคล็ดลับอะไรถึงสามารถใช้ชีวิตคู่มายาวนานขนาดนี้ Marvin Brewington และ Wanda Brewington คู่รักรุ่นใหญ่คู่ที่ว่านี้ก็คือ Marvin และ Wanda Brewington ทั้งคู่อาศัยอยู่ในเมืองราลี รัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งคู่แต่งงานกันมา 47 ปี และมีลูกสาววัยทำงานสองคน ขณะนี้ฝ่ายชายมีอายุ 70 ปี และฝ่ายหญิงก็อายุ 67 ปีแล้ว ทั้งสองคนมีโอกาสได้ถ่ายรูปฉลองครบรอบการแต่งงาน 47 ปี สามีจึงถือโอกาสใส่สูทสีน้ำเงินมาถ่ายรูปคู่กับภรรยาในชุดเดรสสีกุหลาบ จนกลายเป็นภาพชุดวันครบรอบแต่งงานที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ช่างภาพก็ไม่ใช่คนห่างคนไกลที่ไหน เธอคือ Amber Robinson ลูกสาวของทั้งสองคนซึ่งทำงานเป็นช่างภาพงานแต่งงาน ไอเดียการถ่ายรูปครั้งนี้ก็มาจากการที่เธออยากจะฉลองให้กับวันครบรอบของพ่อแม่นั่นเอง ภาพที่ออกมานั้นเปี่ยมไปด้วยความรักที่ทั้งคู่มีให้กันแม้จะคบกันมานานและยังต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งมาตลอดก็ตาม Amber จึงโพสต์ภาพชุดนี้ลงในอินสตาแกรมของเธอเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ติดตามของเธอ และเธอก็ได้การตอบรับอย่างดีจนตอนนี้คนกว่า 7,000 คนมากดไลค์และคอมเมนต์ กับภาพชุดนี้ . โดยการตอบรับจากผู้ใช้อินสตาแกรมนั้นไม่ได้มาจากรูปคู่ที่ดูหวานแหววเพียงอย่างเดียว อีกส่วนหนึ่งก็มาจากเรื่องราวความรักและการต่อสู้กับโรคภัยที่ทั้งคู่ผ่านมาด้วยกัน…
-
ชาวเน็ตคลั่งไคล้ James McAvoy ลุคใหม่ จากคนพิการเป็นหนุ่มกล้าม หล่อล่ำน้ำลายไหล!!
ยังจำกันได้ไหมกับพ่อหนุ่ม James McAvoy ในลุคผอมๆ ที่ได้มาจากการรับบท Charles Xavier ในหนังเรื่อง X-Men Apocalypse ซึ่งถ้าใครยังคงติดตาในลุคเดิมนั้น ตอนนี้คงต้องเปลี่ยนความคิดกันใหม่แล้วล่ะ… ลุคเก่าในบทของชายผู้มีพลังจิตแกร่งกล้า และดูไม่ล่ำเท่าไหร่นัก เพราะว่าล่าสุดมีมือดีสังเกตเห็นพี่แกในลุคใหม่สุดเฟิร์ม เรียกว่าสาวๆ หรือเก้งกวางเห็นแล้วจะต้องน้ำลายหกอยากจะเลียแขนกับหน้าอกแน่นๆ ของพี่ James ซะเหลือเกิน หลายคนสงสัยเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนร่างมาเป็นหนุ่มฮอตขนาดนี้ นั่นก็เพราะเขาจะต้องรับบทเป็นตัวเอกในหนังภาคต่อของ Split ที่เขาเคยแสดงก่อนหน้านี้นั่นเอง เอาล่ะอย่ามัวพล่ามกันให้เยอะ เชิญเสพภาพแอบถ่ายแว๊บๆ แต่ตื่นเต้นไม่เบาของพี่แกกันเลยดีกว่า!! มองไกลๆ ยังแน่นขนาดนี้ ถ้าได้เอามือจับสักทีจะแน่นขนาดไหน แน่นแบบไม่โอเวอร์ พอดีๆ จนน่ากัดดูสักที ง่ำๆ งานนี้สาวๆ ชาวเน็ตก็พากันตื่นเต้นกันยกใหญ่ เพราะดาราหนุ่มคนโปรดของพวกเขาเปลี่ยนจากหนุ่มแห้งกลายเป็นหนุ่มหล่อล่ำขนาดนี้ ยิ่งทำให้วารีดำเนินได้ดีกว่าเดิมเสียอีก เลิกสนใจ Armie Hammer กันได้แล้ว เพราะ James Mcavoy เด็ดกว่าเป็นไหนๆ พี่แกมีพลังจิตหรือยังไงถึงรู้ว่าถูกแอบถ่าย ดูสายตาที่มองมานั่นสิ …
-
จัดตั้งรัฐธรรมนูญแห่ง ‘Asgardia’ ส่งบรรจุไปพร้อมดาวเทียม กลายเป็นชนชาติแรกแห่งห้วงอวกาศ
ในขณะที่เรื่องการเลือกตั้งยังเป็นข้อถกเถียงกันในหลายๆ ประเทศ ล่าสุดนาย Igor Ashurbeyli ผู้ร่วมก่อตั้งอาณาจักรบนอวกาศอย่าง Asgardia ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าอาณาจักรของเขาจะเป็นประเทศแรกในห้วงอวกาศ หลังจากที่เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการส่งรัฐธรรมนูญพร้อมกับสัญลักษณ์ต่างๆ ของประเทศ รวมทั้งรายชื่อของประชาชนกว่า 150,000 คนขึ้นสู่ห้วงอวกาศพร้อมกับดาวเทียมที่ใช้ชื่อว่า Asgardia-1 เป็นเรียบร้อยแล้ว โดยในการส่งรัฐธรรมนูญพร้อมกับราชชื่อของประชากรและสัญลักษณ์ต่างๆ ในครั้งนี้ถูกส่งขึ้นไปพร้อมกับฮาร์ดดิสก์ขนาด 512 กิกะไบต์ โดยปัจจุบัน Asgardia เป็นองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเวียนา ประเทศออสเตรีย โดยทางนาย Ram Jakhu ผู้อำนวยการสถาบันกฎหมายอวกาศและอวกาศจาก McGill University หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งได้ออกมากล่าวว่า “Asgardia จะเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนอวกาศ มันจะเป็นการสร้างชาติ อารยธรรม และศาสนาของมนุษย์บนอวกาศครั้งแรก” ส่วนขั้นต่อไปสำหรับโครงการ Asgardia ก็คือการเลือกตั้งสมาชิกสภาที่เตรียมจัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมปี 2018 ซึ่งผู้ที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงได้นั้นจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป และต้องยอมรับในรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวของประเทศนี้ และนอกจากนี้นาย Ashurbeyli วิศวกรด้านอวกาศและเศรษฐีชาวรัสเซีย ยังหวังที่จะสร้างอาณานิคมบนอวกาศ ที่ผู้คนสามารถใชีวิตได้จริงๆ ในอนาคตข้างหน้า และอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจสำหรับประเทศ Asgardia นี้ก็คือที่นี่มีจำนวนประชากรเพียงพอที่จะขอพิจารณาเป็นรัฐจากสหประชาชาติ เนื่องจากมีจำนวนประชากรมากกว่า 100,000 คน แต่อย่างไรก็ตามยังมีข้อถกเถียงกันถึงความเป็นประเทศที่ชัดเจน เนื่องจากจะต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่ครบถ้วน 4…
-
ครูมาเลเซียถูกผู้ปกครองฟ้อง จากการ ‘หยิกจู๋’ เด็กวัย 4 ขวบเป็นการทำโทษที่ไม่ยอมนอน
โรงเรียนอนุบาลเป็นสถานที่ที่เหล่าพ่อแม่ผู้ปกครองไว้วางใจให้ทางโรงเรียนเป็นผู้ดูแลบุตรหลานของตัวเอง แต่ทว่ากลับมีข่าวคราวเกี่ยวกับคุณครูทำร้ายเด็กๆ อยู่บ่อยครั้ง จนทำให้เหล่าผู้ปกครองต้องคอยเป็นห่วงบุตรหลานอยู่เสมอ และอีกข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องเด็กอนุบาลในครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในเมือง Sungai Buloh ประเทศมาเลเซีย เด็กชายวัย 4 ขวบได้รับบาดเจ็บที่อวัยวะเพศ ซึ่งผู้ปกครองสังเกตเห็นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ในขณะที่กำลังอาบน้ำให้เด็กน้อย เด็กน้อยมีมีอาการบวมแดงที่บริเวณอวัยวะเพศ ทางผู้ปกครองจึงได้สอบถามไปที่โรงเรียนว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของพวกเขา ซึ่งเด็กชายได้บอกเบื้องต้นว่าโดนคุณครูหยิกที่อวัยวะเพศ คุณครูประจำชั้นผู้ถูกกล่าวหาได้บอกว่า พ่อแม่ของเด็กต้องการที่จะให้เธอยอมรับโดยการขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด โดยเธอได้บอกว่าเด็กบาดเจ็บจากการเล่นกันเท่านั้น แต่เมื่อสืบไปสืบมาความจริงก็ได้ปรากฏ คุณครูออกมายอมรับว่าเธอทำร้ายเด็กชายจริงๆ เพราะว่าเจ้าหนูไม่ยอมนอนกลางวันจึงต้องทำโทษด้วยวิธีนี้ ทางครอบครัวได้เข้าแจ้งความกับตำรวจทันทีเพื่อให้ทางตำรวจดำเนินการจัดการกับคุณครูท่านนี้โดยด่วน และทางครอบครัวก็ได้นำหนูน้อยคนนี้ไปตรวจร่างกายเพิ่มเติม แต่ก็เป็นกังวลว่าลูกจะได้รับผลกระทบทางจิตใจหรือไม่ เรื่องราวนี้ได้รับความสนใจจากเหล่าผู้ปกครองเด็กในมาเลเซียกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นาย Datuk Seri Micheal หัวหน้าแผนกบริการและการร้องเรียน ก็ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยได้ออกมาเตือนให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างเข้มงวด และอย่าไว้ใจโรงเรียนอนุบาลมากนัก “เราต้องการที่จะนำคดีนี้ไปขยายความเพื่อให้มันกระจ่าง เพราะว่าเรารู้ว่ามันเป็นเพียงแค่หนึ่งในคดีเล็กที่เป็นส่วนหนึ่งของการล่วงละเมิดเด็กที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นอีกมากมายเพียงแค่เราไม่รู้เพียงเท่านั้นเอง” Datuk กล่าว ที่มา says
-
เทรนด์แต่งคิ้วแบบต้นคริสต์มาสสุดมุ้งมิ้ง เพิ่มความฟรุ้งฟริ้งจิงเกิลเบลล์ จิงเกิลออลเดอะเวย์
ใกล้เทศกาลคริสต์มาสแล้ว สิ่งแรกที่เรานึกถึงเลยก็คือซานตาคลอส สิ่งที่รองลงมานั่นก็คือต้นคริสต์มาสที่ประดับประดาไปด้วยแสงไฟ มีของขวัญมากมายที่คอยแจกเป็นการส่งความสุขในท้ายปีที่เต็มไปด้วยความสุขยาวไปจนถึงเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะถึงนี้ เอาล่ะ วันนี้ #เหมียวบู้บี้ก็ได้ไปเห็นมาว่ามีเทรนด์การแต่งคิ้วสไตล์ใหม่ซึ่งดูแล้วเข้ากั๊นเข้ากันกับเทศกาลนี้มาก มาเพิ่มความฟรุ้งฟริ้งให้กับคิ้วเราในเทศกาลคริสต์มาสนี้เถอะ วิธีก็ง่ายๆ เพียงแค่คุณจัดแต่งทรงคิ้วของคุณด้วยวาสลีนหรือแว็กซ์ให้กลายเป็นทรงต้นคริสต์มาส จากนั้นก็ติดกากเพชรหรือลูกปัดเล็กๆ เพื่อตกแต่งแบบนี้ จัดหนักจัดเต็มไปเลยค่าาาา คริสต์มาสทั้งทีก็ต้องเล่นใหญ่หน่อยล่ะ เขียนคิ้วสีเขียวไปเลย ต้นคริสต์มาสไง ต้องสมจริงหน่อย หรือจะแต่งเบาๆ แบบนี้ก็น่ารักดีนะ ติดดาวเล็กน้อยเพิ่มความฟรุ้งฟริ้ง กรีดตาคมๆ เผื่อจะได้ซานต้าหนุ่มมาครอง แอร๊ยยย สาวๆ คนไหนใจกล้า แต่งแบบนี้เลยค่ะ รับรองว่าเกิด ฮั่นแน่ สาวๆ ทั้งหลายดูแล้วอยากทำตามกันเลยใช่ม๊าาา ลองแต่งไปเที่ยวปาร์ตี้คริสต์มาสปีนี้สิ #เหมียวบู้บี้รับรองว่าหนุ่มๆ ต้องมารุมขอเบอร์อย่างแน่นอน เอาล่ะ พร้อมกันไหม แซนตี้เกิร์ลทั้งหลาย ที่มา metro
-
ทนายอียิปต์เจ้าของวลี ‘ผู้หญิงที่สวมกางเกงยีนขาด ควรถูกข่มขืน’ โดนจับเข้าคุกแล้ว!!
หากเพื่อนๆ ยังคงจำได้ เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 ทนายชาวอียิปต์ Nabih Al-Wahsh ได้ออกมาพูดว่า “ผู้หญิงที่สวมกางเกงยีนขาด ควรถูกข่มขืน” จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ เพราะถือเป็นคำพูดที่ไม่ให้เกียรติเพศหญิงเลย ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้น การเลือกแต่งตัวถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล และถือว่าเป็นรสนิยมส่วนตัวของแต่ละคน แต่ Al-Wahsh กลับชักจูงให้คนคิดว่าการที่ผู้หญิงใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ เป็นการให้ท่าผู้ชายซะอย่างนั้น “ผู้หญิงที่สวมกางเกงยีนขาด ควรถูกข่มขืน” เขายังพูดในรายการโทรทัศน์อีกว่าการข่มขืนผู้หญิงเหล่านี้เป็น ‘หน้าที่ที่ควรกระทำ’ สำหรับชายอียิปต์ทุกคน ซึ่งตีความได้ว่าเขาคิดว่าผู้หญิงควรถูกสั่งสอนด้วยการข่มขืน เพียงเพราะว่าพวกเธอใส่เสื้อผ้าที่เขาไม่ถูกใจ จึงเป็นธรรมดาที่กลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิสตรีได้ออกมาต่อต้าน และทำให้ทนายปากร้ายคนนี้ได้รับบทเรียนอย่างสาสม โดยตัวแทนผู้ส่งเสริมสิทธิสตรีได้ยื่นฟ้องให้ทนายคนนี้ไปขึ้นศาลเนื่องจากมีความผิดฐานส่งเสริมให้คนทำการล่วงละเมิดเพศหญิง สมาชิกสภาแห่งประเทศอียิปต์ Nada Draz ยังช่วยเสริมอีกว่า Al-Wahsh ควรรับโทษเพราะสนับสนุนให้มีการข่มขืนผู้หญิงอย่างโจ่งแจ้ง แน่นอนว่าคนผิดย่อมต้องได้รับโทษ ในวันที่ 2 ธันวาคม 2017 ศาลจึงตัดสินให้เขามีความผิดฐาน ‘ชักจูงให้ผู้อื่นทำผิดกฎหมาย’ และ ‘เจตนากล่าวคำพูดที่เป็นภัยต่อสาธารณะชน’ และมีโทษจำคุก 3 ปี แต่ว่าตัวทนายเองไม่ได้มารับฟังคำตัดสินของศาลด้วยตนเอง จึงทำให้เขายังสามารถร้องขออุทรณ์ได้ วิดีโอที่เขากล่าวคุกคามทางเพศในรายการ ที่มา: Dailymail, The…
-
ชายช่วยมิ้วน้อยที่ถูกแม่มันทิ้ง ออดอ้อนเกาะขาในวันนั้น จนกระทั่งได้ดีในวันนี้
“โอกาส” เป็นคำสั้นๆ ที่ใครๆ ก็อยากได้ เพราะโอกาสมักจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้น และแม้ว่าเราจะไม่ใช่คนที่ได้รับโอกาส แต่เราสามารถมอบมันให้กับคนอื่นได้ อย่างหนุ่มใจดีคนนี้ที่ตัดสินใจมอบโอกาสให้เจ้ามิ้วน้อยได้มีชีวิตอยู่ต่อ หลังจากที่มันถูกแม่แท้ๆ ทิ้งไปตั้งแต่เกิด สุดท้ายเขาก็ได้พบว่ามันคุ้มค่าที่ทำแบบนั้น เจ้ามิ้วน้อย Sansa ถูกทิ้งให้อยู่ลำพังตั้งแต่เกิด ทำให้มันแทบไม่กินอะไรเลย จนร่างกายของมันเหลือแต่หนังและกระดูก ส่วนแม่ของมันนั้น คาดว่ามันคงคิดว่า Sansa ไม่น่ารอด เพราะมันเกิดมาอ่อนแอกว่าพี่น้องตัวอื่นๆ เลยถูกทิ้งไปตั้งแต่นั้นมา แต่โชคดีที่ Alan มาเจอเจ้าเหมียวพอดี เขาเลยตัดสินใจพามันกลับบ้านด้วย… Sansa มีขนาดเล็กกว่าฝ่าเท้าซะอีก แต่พลังในการมีชีวิตของมันนั้นน่ามหัศจรรย์มาก หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือมา เจ้า Sansa ก็เอาแต่กอด Alan ไม่ยอมปล่อยเลย แถมยังนอนหลับในอ้อมแขนของเขาด้วย และนั่นเป็นครั้งแรกที่มิ้วน้อยได้สัมผัสถึงความรัก ส่วน Alan แม้จะเป็นผู้ชาย แต่เขาทำหน้าที่แม่ให้กับเจ้าเหมียวโดยไม่มีขาดตกบกพร่องเลย นอกจากนี้ Alan ยังพามันไปเดินดูรอบๆ บ้าน เพื่อให้มันทำความคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่ ส่วนเจ้าเหมียวก็เดินตามต้อยๆ อย่างน่ารักเชียว ชายหนุ่มซื้อที่นอนนุ่มๆ ให้มันได้หลับสบาย และยังซื้อของเล่นให้อีกหลากหลายชิ้น เพื่อทำให้มันไม่รู้สึกเบื่อและมีความสุขในทุกๆ…
-
จากกรณี “แอร์จีนกินอาหารเหลือ” กลายเป็นดราม่ายกใหญ่ว่าไม่ปฏิบัติตามกฎมาตรฐาน
กฎระเบียบเป็นข้อควรปฏิบัติที่ถูกกำหนดไว้ในสังคมแต่ละแห่ง แตกต่างกันออกไป ข้อบังคับเหล่านี้มีไว้ให้ทุกคนปฏิบัติตาม เพื่อทำให้เกิดมาตรฐานที่ทัดเทียมกันทุกคน แต่ในความเป็นจริงนั้น ทุกคนไม่ได้ปฏิบัติตามกฎกันอย่างเคร่งครัด อาจมีบ้างที่ละเลยกฎเหล่านี้ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย คงไม่เป็นอะไร หากแต่กฎนั้นเป็นสิ่งที่เด็ดขาด หากกระทำผิดกฎแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ตาม อย่างไรก็ต้องถูกลงโทษเสมอ แอร์โฮสเตสจีนคนหนึ่งที่ทำงานกับสายการบิน Urumqi Air หลังจากที่เธอเก็บจานอาหารจากผู้โดยสารมาแล้ว ไม่ทราบว่าเธอรู้สึกเสียดายหรือว่าหิวมากกันแน่ เธอจึงตักอาหารที่เหลืออยู่กิน โดยมีเพื่อนคนหนึ่งถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ได้ ภาพเธอขณะกินอาหารเหลือของผู้โดยสาร ดูๆ แล้วเหมือนจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่เมื่อคลิปนี้ถูกโพสต์บน Weibo ซึ่งเปรียบเสมือนทวิตเตอร์บ้านเรา เธอจึงโดนสั่งพักงานเนื่องจากละเมิดกฎของทางสายการบิน เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮาในหมู่ชาวเน็ตจีนพอสมควรเนื่องจากพวกเขาคิดว่าเธอไม่ควรโดนโทษหนักขนาดนั้น และแม้ว่าเธอจะทำผิดกฎจริงๆ แต่ไม่มีชาวเน็ตคนไหนกล่าวว่าหรือซ้ำเติมแอร์โฮสเตสคนนี้เลย ชาวเน็ตกลับโจมตีคนที่นำคลิปวิดีโอนี้มาโพสต์เสียมากกว่า เพราะว่าทำให้เรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับแอร์โฮสเตสสาว วิดีโอตอนเธอกินอาหารเหลือจากผู้โดยสาร ที่มา: shanghaiist
-
ครอบครัวถึงกับช็อกเมื่อเห็น ‘สิงโตภูเขา’ มานอนสบายใจเฉิบอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน
ถ้ามีหมาหรือแมวมานอนอยู่หน้าบ้านทั้งๆ ที่ไม่ได้เลี้ยง จะไม่แปลกใจหรือเดือดร้อนอะไรเลย ตรงกันข้ามจะเอาข้าว เอาน้ำให้มันกินด้วยซ้ำ แต่นี่ มันคือ ‘สิงโตภูเขา’ ตัวเป็นๆ ที่ยังหายใจอยู่ มานอนไม่รู้สีไม่รู้สาอยู่หน้าบ้าน เป็นใครก็ช็อกทั้งนั้น แล้วจะออกบ้านยังไงล่ะที่นี้? เจ้าสิงโตภูเขาตัวนี้แหละ ที่มานอนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งในรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา คาดว่ามันน่าจะอายุประมาณ 2 ขวบ ก่อนหน้านี้มันคงจะออกไปวิ่งเล่นที่ไหนสักที่ พอเหนื่อยก็หาที่พักเพื่อจะงีบให้หายเหนื่อย แล้วไม่รู้อะไรดลใจให้มันเลือกไปนอนอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านของครอบครัวหนึ่ง เพื่อนบ้านเล่าว่าเมื่อเห็นสิงโตมานอนอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว พวกเขาก็รีบโทรหาผู้เชี่ยวชาญทันที เพื่อให้มาจัดการก่อนที่มันจะตื่น แต่ปรากฏว่าเจ้าสิงโตดูเหมือนจะรู้ตัว มันเลยเผ่นหนีออกไปก่อน นั่นยิ่งทำให้ผู้คนมีความเสี่ยงตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น แต่โชคดีที่ผู้เชี่ยวชาญตามหาจนเจอภายในหนึ่งชั่วโมงและจับตัวมันไว้ได้ นอนเฉยๆ คนก็ตื่นกลัวแล้ว ทำได้ไง? วันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ก็พามันไปปล่อยบนภูเขาซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของมัน และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะไม่กลับไปทำให้ผู้คนตื่นตระหนกอีก ขวัญเอ๊ยขวัญมา… ดีนะไม่มีใครได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่มา iizcat
-
18 ภาพที่คนโพสต์ไม่ได้เช็ก ‘ฉากหลัง’ ภาพว่ามีอะไร ก็เลยกลายเป็นความ EPIC แบบนี้แหละ
เวลาถ่ายรูปเรามักจะโพสท่าแบบตั้งใจเพื่อให้ภาพออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด จะได้เก็บไว้ที่ระลึกเอาไว้ดูเมื่อโตขึ้นหรือตอนอยู่ในวัยชรา แต่ก็นั่นแหละต่อให้ตั้งใจมากแค่ไหน บางครั้งมันก็มีหลุดออกมาบ้าง เช่น ดันหลับตาตอนกดชัตเตอร์พอดี โฟกัสผิดที่ รวมทั้งมีอะไรแปลกเข้ามาร่วมเฟรม เหมือนอย่างภาพเหล่านี้ที่ออกมาฮาซะจนกลั้นหัวเราะไม่ได้ 1. อยากรู้ว่าหลังจากถ่ายภาพนี้เสร็จ หนูน้อยหน้าคว่ำคนนั้นหนะ ยังโอเคมั้ย? 2. เดี๋ยวๆ นั่นพวกคุณกำลังทำอะไรกับลูกหนะ ไม่ได้หมายถึงสองคนหน้านี่นะ หมายถึงกลุ่มข้างหลังอะ 3. เห็นเงาในตาฉันไหม เห็นเธออยู่ในนั้นไหม 4. บอกทีว่าข้างหลังนั่นพ่อแค่เล่นกับลูก ไม่ใช่พลาดทำลูกตกแน่นะ? 5. อุ่ย นึกว่ามีชายจิ๋วขี่หลังหญิงคนนี้อยู่ 6. เกือบสวยแล้ว แต่ดูหน้าเธอที่กระจกอันล่างเนี่ยสิ… 7. “ขอบคุณคุณยายที่ช่วยถ่ายรูปให้ จนผมสามารถเอาไปอวดสาวๆ ได้” 8. โธ่ว กะถ่ายรูปสวยๆ คนเดียว โดนแย่งซีนซะงั้น 9. “ถ่ายไปเถอะเจ้ามนุษย์ เราแค่จะมีจิบน้ำเบาๆ เท่านั้นเอง” 10. แล้วทำไมต้องมาทำรถคว่ำตอนโพสท่าเท่ๆ เนี่ย…
-
ลูกชายเซอร์ไพรส์คุณพ่อหลังสอบวิชาคณิตฯ ผ่าน ทำเอาพ่อดีใจสุดๆ จนต้องร้องไห้ออกมา
เวลาที่เราได้รางวัล ชนะการแข่งขัน ประสบความสำเร็จหรือทำเกรดได้ดี แน่นอนว่ามันทำให้เราดีใจสุดๆ แต่คนที่ดีใจและภูมิใจไม่น้อยกว่าเราคือพ่อกับแม่นั่นเอง อย่างคุณพ่อท่านนี้ที่ถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มไว้ไม่อยู่ เมื่อถูกลูกชายเซอร์ไพรส์ด้วยผลสอบคณิตศาสตร์ของเขา… Aria คือเด็กชายที่สอบคณิตศาสตร์ผ่าน และอยากบอกให้พ่อรู้ว่าเขาทำสำเร็จแล้ว เขาจึงตัดสินใจตั้งกล้องเอาไว้เพื่อดูปฏิกิริยาของพ่อต้องรู้ข่าวดี จากคลิปจะเห็นว่าหลังจากที่ตั้งกล้องเสร็จ เด็กชายได้เรียกพ่อเข้าไปที่ห้องครัว ส่วนพ่อเมื่อได้ยินเสียงลูกเรียกเลยถามไปว่า “มีอะไรเกิดขึ้นเหรอลูก?” Aria จึงตอบไปว่า “ใช่แล้วพ่อ มีบางอย่างเกิดขึ้น และมันสำคัญมากๆ” ขณะที่พ่อมองเขาด้วยความงงงวย เด็กชายจึงพูดกับเขาว่า “มาเถอะพ่อ มาคุยกับผมหน่อย แค่เข้ามาแล้วอ่านบางอย่างเท่านั้นเอง” ว่าแล้วเด็กชายก็ยื่นกระดาษเล็กๆ ใบหนึ่งให้พ่อ เมื่อคุณพ่อคลี่กระดาษใบหน้า เขาก็เงยหน้ามาถามลูกชายเพื่อความแน่ใจว่า ‘นี่เป็นผลสอบของลูกจริงๆ เหรอ?’ เด็กชายตอบว่า ‘ใช่’ เท่านั้นแหละ คุณพ่อถึงกับตะโกน ‘โอ้มายก๊อด’ ดังลั่นบ้านพร้อมร้องไห้ด้วยความดีใจสุดขีด แล้วพ่อลูกก็โผเข้ากอดกัน กลายเป็นโมเมนต์ที่น่าประทับใจสุดๆ เด็กชายบอกว่า “คนส่วนใหญ่คาดหวังที่จะได้ A แต่สำหรับผมการทำให้ได้เกรด C นั้นก็จัดว่าเป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว นั่นทำให้ทั้งผม…
-
คุณพ่อยอมใช้ชีวิตเหมือน ‘คนไร้บ้าน’ เพื่อช่วยเหลือลูกสาวที่ติดยาให้เริ่มต้นชีวิตใหม่
ในโลกนี้คงไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ทนเห็นลูกเจ็บปวดได้โดยไม่รู้สึกอะไร และอะไรก็ตามที่พอจะบรรเทาความทุกข์ให้ลูกได้ พวกเขาก็พร้อมที่จะทำทั้งนั้น เพราะรักของพ่อแม่นั้นเป็นรักที่ไม่มีเงื่อนไข เหมือนอย่างคุณพ่อ Paul DiGiacomo ที่ยอมทำทุกทาง เพื่อช่วยลูกสาว Meghan ให้เลิกยาเสพติดและเริ่มต้นชีวิตใหม่ Meghan ติดยาเสพติดอย่างหนักและอาศัยอยู่ถามถนนในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ในสหรัฐอเมริกา ที่พักของเธออยู่ใกล้กับคลินิกเมทาโด(บำบัดป่วยติดยาเสพติด) จริงๆ แล้ว หากหญิงสาวเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือในคลินิกดังกล่าว เธอสามารถเอาชนะยาเสพติดได้ แต่ทว่าเธอขาดแรงจูงใจที่จะทำแบบนั้น แฟนหนุ่มของ Meghan เสียชีวิตเมื่อปีแล้ว เนื่องจากใช้ยาเกินขนาด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้กระทบกระเทือนใจมากพอให้หญิงสาวเลิกยา จนวันหนึ่ง พ่อของหญิงสาวตัดสินใจที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เขาไม่ได้บังคับเธอ ไม่ได้มาตรการรุนแรงใดๆ กับเธอ แต่เขานำเต็นท์มาตั้งอยู่ข้างๆ เธอเท่านั้น Paul บอกว่าเขานำเต็นท์มาตั้งใกล้กับเต็นท์ของลูกสาว เพื่อที่จะใช้ชีวิตข้างถนนกับเธอ คอยปกป้อง ให้การสนับสนุน และคอยดูแลเธอ ก่อนหน้านี้ Paul อาศัยอยู่ในบ้านกับภรรยา Julie Chandler โดยที่ไม่รู้ว่าลูกสาวไปอยู่ที่ไหน ยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว กระทั่งคืนหนึ่ง ขณะที่พ่อแม่กับดูรายการ Anderson Cooper 360 ที่กำลังรายงานเกี่ยวกับโรคระบาด และตอนนี้นักข่าวได้สัมภาษณ์กลุ่มคนจรจัด หนึ่งในนั้นคือ Meghan ลูกสาวอันเป็นที่รักของพวกเขา …
-
เรื่องเล่าแปลกๆ ของ ‘สัตว์ในตำนาน’ จากความเชื่อปรัมปราทั่วโลก หลอนจนฉี่แทบเล็ด!!
ในโลกนี้เต็มไปด้วยเรื่องแปลกๆ โดยเฉพาะเรื่องราวอันลี้ลับที่ถูกกล่าวขานผ่านตัวละครที่เป็นสัตว์ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่บางเรื่องกลายเป็นตำนานที่มีการพูดถึงจนทุกวันนี้ และนี่คือเรื่องเล่าแปลกๆ เกี่ยวกับสัตว์ เป็นความเชื่อของผู้คนจากทั่วโลก ที่ไม่ว่าจะฟังกี่ครั้งมันก็ยังทำให้เราขนลุกได้เสมอ 1. Kelpie Kelpie เป็นสัตว์ในตำนานของชาวสก็อต มันมีรูปลักษณ์คล้ายกับม้าแต่อยู่ในน้ำ มันจะล่อคนลงไปในน้ำด้วยการส่งเสียงเหมือนชายหนุ่มหรือเด็กชายที่กำลังจะจมน้ำ เมื่อเหยื่อเข้ามาใกล้พอสมควร Kelpie ก็จะคว้าตัวเหยื่อแล้วลากลงไปในน้ำลึก นั่นทำให้หลายคนกลายเป็นศพใต้น้ำไปตลอดกาล 2. Redcap Redcap มาจากตำนานของชาวสกอตเช่นกัน เล่ากันว่ามันเป็นผีที่สวมหมวกสีแดง ซ่อนตัวอยู่ในกำแพงของปราสาทโบราณ และมันจะฆ่าทุกคนที่เจอ 3. Blackannis นี่คือจอมวายร้ายที่เป็นตำนานของอังกฤษ ว่ากันว่าเธอหรือมันเป็นแม่มดที่มีผิวสีน้ำเงินซีด อาหารที่เธอโปรดปรานที่สุดคือมนุษย์ โดยเฉพาะมนุษย์เด็ก นอกจากนี้เล็บของมันเหมือนเหล็กมากกว่าเล็บคนทั่วไปซะอีก 4. Cerberus Cerberus มาจากตำนานเทพเจ้ากรีกโบราณ เป็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่มีสามหัว เล่ากันว่ามันทำหน้าที่เฝ้าประตูนรกเพื่อไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าไป และป้องกันไม่ให้ผู้ที่อยู่ข้างในออกมา 5. Lou Carcolh ชาวฝรั่งเศสเชื่อว่าสัตว์ประหลาดนี้จะล่อให้ผู้คนเข้าไปในถ้ำมืดและลึก ว่ากันว่ามันเป็นหอยยักษ์ใต้ดินที่กลืนกินคนทั้งตัว 6. Wendigo นี่คือสัตว์ร้ายจากตำนานของชาวอเมริกันพื้นเมืองบางกลุ่ม เล่ากันว่าจริงๆ แล้วมันเคยเป็นมนุษย์มาก่อน แต่ความหิวกระตุ้นให้มันบ้าคลั่งจนถึงกับจับมนุษย์มากิน 7. Yee Naaldooshiit Yee…
-
ศิลปินชาวโปแลนด์เปลี่ยน ‘เศษเหล็ก’ ให้กลายมาเป็นหุ่นยนต์ต่างๆ ได้อย่างเหลือเชื่อ
เมื่อสร้างงานเหล็กขึ้นมาชิ้นใดชิ้นหนึ่งก็มักจะมีเศษเหล็กเหลือทิ้ง หลายคนมักกำจัดสิ่งเหล่านี้ด้วยการนำไปช่างกิโลขาย เพราะไม่รู้ว่าจะเอามันไปทำอะไรดี แต่ศิลปินหัวใสคนหนึ่งนำเศษเหล็กที่เหลือจากการใช้งานของเขามาต่อยอดเป็นหุ่นยนต์ตัวละครต่างๆ ในภาพยนตร์ชื่อดังและชิ้นงานของเขาก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ เพราะมันดูละเอียดจนนึกว่าซื้อมาเลยก็ว่าได้ Sebastian Kucharski ศิลปินชาวโปแลนด์ได้สร้างสรรค์ผลงานของเขา จากเศษเหล็กชิ้นเล็กชิ้นน้อยและนำมารวมกันเป็นหุ่นยนต์จากเรื่องต่างๆ ซึ่งก็มีทั้งหุ่นยนต์ Tranformers, Wall-E รวมถึงตัวละครสุดน่ารักอย่าง Minion สำหรับแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาผลิตผลงานเหล่านี้ขึ้นมาก็เพราะว่า Sebastian เป็นผู้ที่ชื่นชอบหนังประเภท Sci-Fi เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาจึงอยากจะผลิตอะไรขึ้นมาให้ตรงกับความชอบของเขา หุ่นยนต์ที่เขาผลิตขึ้นมาส่วนใหญ่จึงเป็น ตัวละครที่อยู่ในโลกภาพยนตร์ด้วยกันทั้งสิ้น และหากอยากรู้ว่าเขาจะนำเศษเหล็กไปสร้างสรรค์ได้ถึงเพียงใด ตามไปดูกันดีกว่า Wall-E หุ่นยนต์กำจัดขยะสุดน่ารัก Bubble B หุ่นยนต์ที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนจากเรื่อง Tranformers งานละเอียดจนนึกว่าเขาซื้อโมเดลมาซะอีก ผลิตมาจากเศษเหล็กทั้งหมดเลยนะเนี่ย ดูจากท่าทางแล้วต้องเป็นตัวโกงแน่ๆ ดูแววตาเศร้าสร้อยของมันสิ ช่างน่าสงสารจริงๆ กองทัพสุดน่ารัก กำลังจะยึดครองโลกแล้ว Predator ก็พร้อมออกล่าเช่นกัน เอาไปถ่ายหนังได้สบายๆ เลยล่ะ เอาไปถ่ายคู่กับตึกสวยๆ ก็ดูดีไปอีกแบบ หน้าตาของเจ้าของผลงานเหล่านี้ …
-
คุณพ่อชาวจีนสั่งสอนลูกชาย ด้วยการคุกเข่าแล้วใช้ไม้เรียวเฆี่ยนตีไปที่หลังของตัวเอง
พ่อแม่แต่ละคนจะมีการสั่งสอนลูกๆ ที่แตกต่างกันไป ในหลายครอบครัวก็จะมีการลงโทษเข้ามาเพื่อไม่ให้เด็กทำเรื่องแย่ๆ อีก อย่างคุณพ่อชาวจีนคนนี้ที่สั่งสอนลูกด้วยการเฆี่ยนตีตัวเขาเอง การสั่งสอนในลักษณะดังกล่าวถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ Weibo เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2017 ขณะที่คุณพ่อชาวจีนท่านหนึ่งกำลังสั่งสอนลูกชายของตัวเอง และลูกสาวของเขาอีกคนก็ได้ถ่ายสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ เหตุการณ์นี้เริ่มต้นมาจากการที่ลูกชายนำมือถือไปเล่นเกมที่โรงเรียน โดยอ้างกับพ่อว่าคุณครูเป็นคนบอกให้นำมือถือติดตัวไปด้วย พ่อจึงถามเด็กหนุ่มว่า “พ่อไม่เคยสั่งสอนแกหรือไง?” เมื่อเด็กตอบว่าเคย เขาก็ถามอีกว่า “แกถูกสั่งสอน แต่ไม่เคยเรียนรู้สินะ?” เด็กหนุ่มจึงตอบพ่อด้วยสำนวนอันเก่าแก่จากบทความ Sanzijing ว่า “การสอนโดยปราศจากความเข้มงวด คือสิ่งที่เกิดจากความขี้เกียจของผู้เป็นครู” เมื่อเจอประโยคนั้นเข้าไป คนเป็นพ่อก็ยื่นไม้เรียวให้เด็กหนุ่ม พร้อมกับถอดเสื้อนอกลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น แล้วพูดว่า “ครั้งนี้ความผิดของแกเกิดขึ้นเพราะพ่อเอง พ่อไม่ได้สอนแกดีพอ จึงขอยอมรับความผิดทั้งหมดด้วยตัวเอง” เขาสั่งให้ลูกชายลงโทษเขาด้วยการใช้ไม้เรียวเฆี่ยนมาทีหลังของเขา เด็กหนุ่มปฏิเสธที่จะทำสิ่งนั้น แต่คนเป็นพ่อยังคงตะโกนเร่งให้ลูกชายตีเขาซะ จนเด็กหนุ่มถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา . เมื่อลูกชายไม่ยอมตีเขาสักที คุณพ่อจึงตัดสินใจแย่งไม้เรียวมาเฆี่ยนไปที่หลังของตัวเอง พร้อมกับตะโกนออกมาว่า “ความผิดของพ่อเอง พ่อไม่ได้สอนลูก ความผิดพ่อเอง ความผิดพ่อเอง..” ยิ่งเห็นพ่อทำอย่างนั้นลูกชายก็ยิ่งร้องไห้มากกว่าเดิม ขณะที่ลูกสาวพยายามบอกให้คุณพ่อหยุดตีหลังของตัวเอง จนคุณพ่อหยุดตีและหันไปพูดกับลูกชายว่า “พ่อสอนแกไม่ดีเอง…
-
เว็บไซต์นอกเขียนวิธีเอาตัวรอด ให้มีเงินเหลือในกรุงเทพฯ ด้วยประโยคเด็ด “Lod dai mai?”
ด้วยความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวและรอยยิ้มของผู้คนทำให้ประเทศไทยเรานั้นเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียด้วยนั่นเอง และแน่นอนว่าการที่จะออกมาผจญภัยในต่างประเทศ เหล่าผู้มาเยือนก็ต่างต้องทำการบ้านและศึกษาลักษณะของบ้านเราให้ดีก่อน เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์อย่าง Says เองก็ได้เขียนแนะนำเกี่ยวกับ 9 ทริคง่ายๆ ที่จะสามารถช่วยให้ชาวมาเลเซียสนุกและเพลิดเพลินไปในกรุงเทพเมืองฟ้าอมรได้ง่ายๆ โดยเคล็ดลับทั้ง 9 ประกอบไปด้วยการเตรียมพาสปอร์ตของตัวเองให้พร้อมตลอดเวลา หรือการเลือกซื้อซิมของเครือข่ายที่มีความเร็วอินเตอร์เน็ตสูงๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำเราอดหัวเราะไม่ได้เลยนั่นก็คือ การแนะนำภาษาไทยง่ายๆ ที่สำหรับผู้เริ่มต้นเลยนั่นก็คือคำว่า “Lod dai mai?” (ลดได้ไหม) นั่นเอง!! แน่นอนว่าสำหรับคนไทยอย่างเราแล้ว เมื่อพบหน้ากันตอนเช้าหรือเจอกันระหว่างทางคงจะไม่มีใครที่ยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวคำว่า “ลดได้ไหม” เป็นคำทักทายกันแน่ๆ โดยเว็บไซต์ดังกล่าวได้อธิบายไว้ในข้อแนะนำข้อที่ 7 ของพวกเขาว่า ถ้อยคำดังกล่าวนั้นจำเป็นอย่างมากสำหรับการเดินชอปปิงในกรุงเทพ “คำดังกล่าวนั้นมีความหมายเหมือนกับคำว่า “Can you give a discount?” และเมื่อไหร่ที่พ่อค้าแม่ค้าตกลงพวกเขาจะตอบมาว่า “dai” และถ้าหากว่าลดไม่ได้ล่ะก็คุณจะได้ยินคำว่า “mai dai” แทน” และนอกจากจะสอนการต่อราคาแล้ว ทางเว็บไซต์ดังกล่าวยังได้เสริมเพิ่มเติมอีกว่า “สิ่งสำคัญที่สุดจำไว้ว่าหลังจากการต่อราคาเสร็จให้คุณพูดว่า “kob khun krup / kha” ด้วยซึ่งมีความหมายว่าขอบคุณนั่นเอง” เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไปเที่ยวต่างประเทศ นอกจากคำกล่าวทักทายแล้วคำศัพท์ที่ใช้ซื้อของก็เป็นเรื่องที่จะมองข้ามไม่ได้เลยเหมือนกันสินะเนี่ย ฮ่าๆ…
-
เจ้าหนูน้อยที่เกิดมาแล้วผมด๊กดก จนได้รับฉายาว่าเป็น ‘วูฟเวอรีนน้อย’ ซะเลย!!
เด็กๆ เมื่อเกิดมาก็ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งกว่าที่ผมจะขึ้นสักเส้น บางคนถึงขั้นต้องนำอะไรมาทาหัวเพื่อจะให้ลูกๆ ของพวกเขามีผมดกดำ แต่ว่ามีเด็กอยู่คนหนึ่งที่เกิดมาก็มีผมออกมาเลย และผมที่ว่านี่ก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เพราะมันดกดำเหมือนเด็กโตเลยก็ว่าได้ ในช่วงก่อนที่ Rachel Carter จะคลอดเด็กคนหนึ่งออกมา Gareth Carter สามีของเธอก็ได้พาเธอไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในย่านเมอร์ซีย์ไซด์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นสถานที่ที่สองคนนี้อาศัยอยู่ หนูน้อยตอนนี้มีวัยเพียง 5 เดือนแต่ลองดูผมของเขาสิ โดยเมื่อนำไปตรวจผ่านเครื่องเอกซเรย์ ทางทีมแพทย์ก็สันนิษฐานเอาไว้ว่าเด็กคนนี้อาจจะเป็นผู้หญิง เพราะว่ามีผมที่ดูสลวยสวยเก๋ แต่ก็ยังไม่ได้ด่วนสรุปในตอนนี้ เมื่อเธอคลอดลูกออกมาก็ทำให้หลายคนต้องช็อกเพราะว่า ลูกของเธอกลับเป็นเด็กผู้ชายที่มีผมดกดำยิ่งกว่าใช้ยาปลูกผมซะอีก และหนูน้อยคนดังกล่าวก็ได้มีชื่อว่า Bobby ถึงขั้นต้องใช้ไดร์เป่าผมเลยทีเดียว หลังจากลูกของ Rachel คลอดออกมาแล้ว เธอก็บอกว่า Bobby มักจะถูกเปรียบเทียบว่าเหมือนกับตัวละครมนุษย์พังพอน (ไม่ใช่มนุษย์หมาป่านะ) Wolverine ในเรื่อง X-Men นอกจากนี่ยังคนแปลกหน้าบางคน ยังนึกว่าเขาเป็นเด็กผู้หญิงด้วยในบางที และเธอยังบอกอีกว่า ลูกชายคนโตของเธอ Frankie ก็มีผมดกเหมือนกันแต่ก็ยังไม่เท่ากับ Bobby น้องใหม่ล่าสุดในครอบครัว “ในตอนที่เราตรวจหาเพศจากเครื่องสแกน พยาบาลยืนยันว่าฉันจะได้เด็กผู้หญิงชัวร์ๆ เพราะเห็นว่าเด็กในท้องมีเส้นผมเยอะเหลือเกิน และผลที่ออกมาก็เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นเช่นกัน” “ตอนที่เขาเกิดมา เขาเหมือนกับคนดังเลยก็ว่าได้ หมอเรียกทุกคนให้มาดู และทุกๆ คนที่เห็นก็อยากจะอุ้มเขาทั้งนั้น” Rachel…
-
นิตยสาร TIME เผยโฉมหน้าปกฉบับประจำปี ที่มีนางแบบคนหนึ่งถูกตัดออกไปเหลือแต่แขน!?
การจะมีภาพแปะอยู่บนปกนิตยสาร TIME นั้น ไม่ใช่จะเป็นใครก็ได้ แต่ต้องเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลทางสังคมมากในระดับหนึ่ง และล่าสุดนิตยสาร TIME ได้ให้เกียรติกับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษที่เคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศและการทำร้ายร่างกายภายใต้ชื่อ #MeToo ให้เป็นบุคคลแห่งปี 2017 โดย TIME ได้นำภาพผู้หญิงที่มีการเคลื่อนไหวอย่างโดดเด่นมาขึ้นปกนิตยสาร ซึ่งประกอบด้วย : Ashley Judd, Taylor Swift, Susan Fowler, Adama Iwu และ Isabel Pascual ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบุคคลที่นำการเปลี่ยนแปลงในด้านการปกป้องตัวเอง อย่างไรก็ตาม หากสังเกตดูดีๆ บนภาพปกดังกล่าวจะเห็นแขนใครคนหนึ่งโผล่มาด้วย ทำให้หลายคนสงสัยว่าเกิดจากความผิดพลาดหรือเปล่า แต่ทางนิตยสารยืนยันแล้วนั่นไม่ใช่ความผิดพลาด ในการให้สัมภาษณ์ Edward Felsenthal หัวหน้าบรรณาธิการของ TIME บอกว่า “หญิงสาวที่โผล่มาแค่แขนแต่ไม่เห็นหน้า เธอคือสัญลักษณ์ของทุกคนที่ยังไม่เปิดเผยตัวเองหรือไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆ เพราะกลัวผลกระทบที่จะตามมา” Felsenthal บอกอีกว่า “นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนเหล่านี้ที่จะเข้าใจว่าพวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียว มันคือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา” “การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มาจากความกล้าหาญของผู้หญิงหลายร้อยคนและผู้ชายบางคนที่ออกมาเคลื่อนไหว โดยการบอกเล่าเรื่องราวของตนเอง” ในนิตยสาร TIME เขียนไว้ว่าหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อเลือกที่จะเก็บคนเดียวอย่างเงียบๆ บางคนอาจเก็บไว้นานเป็นเดือนๆ ปีๆ แต่ในที่สุดความโกรธแค้นที่สะสมมาเรื่อยๆ จะเป็นตัวกระตุ้นให้พวกเขาเปิดเผยมันออกมา…
-
นักสู้ UFC เติมเต็มความฝันให้กับแฟนคลับผู้ป่วย ‘ดาวน์ซินโดรม’ ให้ได้มาขึ้นสังเวียนด้วยกัน
หนึ่งในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมที่หลายๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือ UFC กับการต่อสู้กันบนสนามแปดเหลี่ยมที่ล้อมรอบไปด้วยกรงเหล็ก ด้วยความมันส์ ดุเดือดและร้อนแรงของการแข่งขันชนิดนี้ ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับชายคนหนึ่งลุกขึ้นมาสานฝันของตัวเองในการเป็นหนึ่งในนักสู้ เขาคนนี้มีชื่อว่า Isaac Marquez หรือรู้จักกันในฉายา The Shemanator วัย 32 ปี ผู้คลั่งไคล้ในการแข่งขัน UFC อย่างมาก แต่ด้วยความที่เขาป่วยเป็น โรคดาวน์ซินโดรม จึงทำให้โอกาสที่จะได้เป็นนักสู้บนสังเวียนนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย Isaac ผู้ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรมและคลั่งไคล้การแข่งขัน UFC อย่างมาก ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ยอมแพ้กับความฝันของตัวเอง เขาเข้ารับการฝึกสอนศิลปะการต่อสู้แบบผสม Jackson Wink ในเมืองแอลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และนั่นทำให้เขาเจอกับนักสู้แห่ง UFC ที่ชื่อว่า Diego Sanchez วัย 35 ปี ทั้งสองใช้เวลาฝึกฝนไปด้วยกัน จนเป็นเพื่อนรักกันในที่สุด Diego ถามเพื่อนคนนี้ว่า “นายชอบศิลปะการต่อสู้แบบผสมหรือเปล่า?” Isaac ตอบกลับในทันทีเลยว่า “ฉันชอบการต่อสู้” นักสู้หนุ่มจึงถามต่อว่า “แล้วนายมาที่นี่เพื่อดูการต่อสู้หรือเพื่อฝึกฝน?” และเขาก็ได้คำตอบกลับมาว่า “ฉันมาเพื่อฝึกฝน” เมื่อนักสู้ได้ยินแบบนั้นจึงเกิดไอเดียที่จะให้…
-
หญิงสาวเผยเคยมีเซ็กส์กับผีถึง 20 ตัว และตอนนี้ก็ติดใจจนเลิกมองผู้ชายปกติไปแล้ว
ความสุขในเรื่อง ‘เซ็กส์’ สำหรับคนเราก็มีรสนิยม ความชอบที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่าได้มีบุคคลหนึ่งในประเทศอังกฤษที่แปลกซะจนต้องถึงกับเอามาลงข่าว เพราะว่าเธอบอกว่าเธอเคยมีเซ็กส์กับผี และที่สำคัญคือมันทำให้เธอมีความสุขมากจนล้นเอ่อเลยทีเดียว Amethyst Realm ผู้ให้คำแนะนำด้านจิตวิญญาณ จากเมืองบริสตอลประเทศอังกฤษ อ้างว่าเธอเคยมีเซ็กส์กับผีต่างๆ ถึง 20 ตัว อีกทั้งเธอยังบอกอีกด้วยว่า การมีเซ็กส์กับผีทำให้เธอถึงจุดสุดยอดแทบจะทุกครั้งเลยทีเดียว หน้าตาของหญิงสาวที่บอกว่าเธอมีเซ็กส์กับผี ในตอนนี้เธอบอกว่า เธอเลิกสนใจผู้ชายคนใดๆ ในโลกแล้ว อีกทั้งยังหวังอีกว่าจะลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวกับผีสักตัวหนึ่งในโลกของวิญญาณ เธอได้เปิดเผยเรื่องราวนี้ผ่านรายการ This Morning ทางช่อง ITV Realm ว่าเธอสามารถสัมผัสได้ถึงการมีผีอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ที่เธอย้ายเข้าพร้อมกับคู่หมั้นของเธอเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ด้วยความคาใจเธอจึงได้ลองทดสอบว่ามีผีอยู่ในบ้านจริงหรือไม่ ด้วยการสวมชุดสุดเซ็กซี่เพื่อจะยั่วยวนผีขณะที่สามีเธอไม่อยู่ โดยเธอบอกว่าเมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วเธอก็นอนรออยู่ในห้องพร้อมทั้งหรี่ไฟให้สลัวๆ และในที่สุดผีตัวนั้นก็เข้ามาหาเธอ ผู้สัมภาษณ์ยังตะลึงในคำพูดของเธอ “มันเหมือนกับว่ามีน้ำหนักบางอย่างกดตัวฉันอยู่ ฉันสัมผัสได้ถึงบางอย่างอยู่ที่หน้าขาฉัน และในขณะเดียวกันก็มีลมหายใจรดต้นคออยู่ตลอดเวลาและเหมือนมันกำลังเล้าโลมฉันอยู่” Realm กล่าว ด้วยความสงสัย Holly Willoughby ได้ถามเธอว่าผีตัวนั้นได้ทำให้มีความสุขจนถึงขั้นถึงจุดสุดยอดเลยหรือไม่ เธอก็บอกว่า “สำหรับฉัน ใช่ค่ะ” ยิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุขทุกคืน หลังจากที่เธอมีเซ็กส์กับผีตัว เธอก็เลิกสนใจผู้ชายที่อยู่บนโลกนี้อย่างสิ้นเชิง ยิ่งไปกว่านั้นเธอได้แยกทางกับคู่หมั้นของเธอหลังจากที่เขาจับได้ว่าเธอมีชู้ “ในวันนั้นเขากลับบ้านมาเร็วกว่าปกติ…
-
หนุ่มล้อเลียนช่างภาพที่ถ่ายรูปในห้างตกแต่งบ้าน ด้วยการเอาหมาไปถ่ายในที่เดียวกันซะเลย
เมื่อเร็วๆ มานี้ได้มีช่างภาพชื่อว่า Jenna Martin ต้องการโชว์ฝีมือการถ่ายภาพของเธอ ด้วยการถ่ายภาพนางแบบในสถานที่่ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการถ่ายภาพ และได้ออกมาเป็นภาพสุดสวย และนั่นทำให้ชายคนหนึ่งคิดว่าการถ่ายภาพแบบนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้เขาเลยตัดสินใจถ่ายภาพล้อเลียนแบบขำๆ ซะเลย อ่านข่าวเก่า: ช่างภาพแสดงให้เห็นว่า โลเคชั่นธรรมดาๆ ก็สามารถสร้างภาพงดงามได้ มันอยู่ที่มุมมอง! ชายคนดังกล่าวจึงนำโทรศัพท์มือถือ LG V20 ของเขาพร้อมกับ Holly หมาพันธุ์ Old English Sheepdog ตัวโปรดไปยัง Lowe’s ห้างขายของตกแต่งบ้าน ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่ช่างภาพคนก่อนหน้าใช้พิสูจน์ฝีมือการถ่ายภาพนั่นเอง และด้วยความที่ Holly หมาน้อยตัวนี้เคยไปที่ห้างนี้บ่อย ทำให้พนักงานหลายคนสามารถจำเจ้าหมาขนปุยตัวนี้ได้ ทำให้นั่นเป็นเรื่องง่ายต่อการขอถ่ายภาพในมุมต่างๆ ของห้าง อีกทั้งยังมีพนักงานบางคนที่ทราบว่าเขาต้องการจะทำอะไร จึงได้ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องต่างๆ ให้อีกด้วย และนอกจากนี้การถ่ายภาพนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่ห้างใกล้ปิดทำให้เขาไม่ต้องกังวลว่าจะไม่รบกวนลูกค้าคนอื่นๆ อย่างแน่นอน และภาพของจากโทรศัพท์มือถือ LG V20 ของเขาจะเป็นอย่างไรลองมาดูกันได้เล้ยย Holly นางแบบสำหรับการถ่ายภาพครั้งนี้ ภาพของ Jenna Martin ที่ถ่ายบริเวณจุดลองสี เป็นไงเหมือนกันบ้างไหม เนี่ย มีเชิดซะด้วย ถ่ายบริเวณ แผนกไฟฟ้า ก็ออกมาสวยซะเว่อวัง ลองตัดภาพมาที่เจ้า Holly ……
-
เมื่อดาร์ธเวเดอร์และเหล่าสตรอมทรูปเปอร์ถังแตก ก็เลยต้องออกมาทำอะไรแบบนี้แหละ!!
เรารู้กันว่า Darth Vader และกองทัพของเขานั้นมีเงินมากมาย มากขนาดสามารถสร้าง Death Star ออกมาได้อย่างไม่ยากเย็นโดยไม่ต้องห่วงเรื่องเงินเลย แต่เคยคิดไหมว่าจะเป็นยังไงถ้าเขาเกิดถังแตก? ด้วยเหตุนี้ Michaël Massart ช่างภาพชาวเบลเยียมก็เลยออกมาทำโปรเจกต์ภาพของซิธลอร์ดคนโปรดของทุกคน ในสภาพที่เขาถังแตกจนต้องมาใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไป หางานทำแบบหาเช้ากินค่ำให้เราได้ตามติดชีวิตของเขา ว่าแต่ท่านลอร์ดเขาจะทำงานอะไรบ้างแล้วจะมีสภาพเป็นยังไง ต้องลองมาดูกัน!! ใช้ไลท์เซเบอร์มาเป็นอุปกรณ์เสริมสวย เป็นไลฟ์การ์ดคอยใช้พลังฟอซดึงคนขึ้นจากน้ำ ต้องไปทำงานพิเศษล้างจานอยู่ในครัว คอยเก็บเงินค่าเข้าห้องน้ำ ขับรถบัสก็ได้เหมือนกันนะ เป็นพนักงานล้างรถก็เฟี้ยวใช่ย่อย หรือจะมาอาสาช่วยเด็กๆ ข้ามถนน ส่งพิซซ่าก็ต้องทำ ทำไงได้ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีนี่เนอะ และเมื่อเขาถังแตกแต่ยังอยากได้ Death Star มันก็จบลงที่โมเดลน่ารักๆ เนี่ยแหละ เป็นพนักงานออฟฟิศก็ได้เหมือนกัน ใช้ไลท์เซเบอร์ให้เป็นประโยชน์ด้วยการเอามาแกว่งแทนไม้บาตอง มาเป็นโค้ชให้ทีมบาสก็ได้ ถ้าใครดังก์ไม่ถึงโค้ชช่วยได้!! เป็นดีเจก็ได้เช่นกัน มิกซ์เพลงประจำตัวขายได้สบายๆ เอ้าๆ พุดยัวร์แฮนด์อัพ เงินน้อยก็ต้องกินอาหารแบบประหยัดๆ …
-
คนใจดีช่วยเหลือเจ้าหมาจรตัวน้อยที่มีร่างกายผิดปกติ ‘หัวโตแถมขาสั้น’ แต่ก็น่าร๊ากกกก
เรื่องราวของเจ้า Bighead น้องหมาหัวโตวัย 6 สัปดาห์จากสถานสงเคราะห์สัตว์ Humane Society Silicon Valley ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าเจ้าตูบตัวนี้เป็นน้องหมาสายพันธุ์ไหน แต่ความน่ารักของมันก็ทำให้เจ้าหน้าที่ของสถานสงเคราะห์นั้นหลงใหล และมันก็เป็นที่รักของเจ้าหน้าที่ทุกคนในศูนย์ คุณ Lauren Gallagher เจ้าหน้าที่การเงินของทางสถานสงเคราะห์สัตว์ ได้ตัดสินใจที่จะรับเจ้า Bighead และเพื่อนๆ ตัวอื่นๆ ของมันอีก 3 ตัวไว้ในความดูแลของเธอ หญิงสาวรักเจ้าตูบตัวน้อยทั้ง 4 ตัวมากๆ แต่ดูเหมือนกับว่าเธอจะชื่นชอบเจ้า Bighead มากกว่าเพื่อนๆ ของมันนิดหน่อย ถึงแม้ว่าเจ้าตูบจะมีลักษณะที่แตกต่างจากเพื่อนๆ “เจ้าตูบทั้ง 3 ตัวที่เหลือนั้นเหมือนกับลูกหมาปรกติทั่วๆ ไป แต่เจ้า Bighead นั้นมีหัวที่โตเหมือนกับลูกแตงโมยักษ์ แต่ทุกๆ คนก็รักมัน” คุณ Lauren กล่าว อย่างไรก็ตามหญิงสาวและทีมสัตวแพทย์ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เจ้าตูบนั้นมีลักษณะหัวที่โตกว่าเพื่อนๆ ของมัน แต่ทางคุณ Lauren คาดว่าลักษณะความผิดปรกตินี้อาจจะถ่ายทอดมาจากพ่อหรือแม่ของมัน สวัสดีฮะผมมิสเตอร์ Bighead เอง!! อย่างไรก็ตามทางสถานสงเคราะห์นั้นได้ทำการตรวจหาความผิดปรกติทาง DNA ของเจ้าตูบ และเมื่อผลการตรวจ…
-
เจ้าหมาวิ่งข้ามถนนไปมา เพื่อขอความช่วยเหลือให้กับเจ้านายของมันที่กำลังป่วยหนัก….
ความรักและสายสัมพันธ์ของสัตว์เลี้ยงเจ้าของเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ และเพื่อนๆ เชื่อหรือไม่ว่าเจ้าสุนัขตัวน้อยๆ นี้มันรักเจ้าของสุดๆ จนสามารถสละชีวิตของมันแทนได้เลย เหมือนกับเหตุการณ์สุดซึ้งของสุนัขและเจ้าของที่บาดเจ็บที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ชมกันในวันนี้ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ Araya และสามีของเธอ ได้จอดรถใกล้ๆ กับโรงพยาบาลสัตว์ซึ่งเป็นที่ทำงานของเธอ ในเมือง Guapiles ประเทศคอสตาริกา แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็พบกับสุนัขตัวเล็กๆ สีบลอนด์ มันกำลังวิ่งข้ามถนนไปมาและมีอาการลุกลี้ลุกลน “มันฉันเห็นว่าสุนัขกำลังวิ่งจากด้านหนึ่งของถนนไปอีกด้านหนึ่ง ด้วยอาการลุกลี้ลุกลน เหมือนกับว่ามันกำลังพยายามจะบอกอะไรเรา” คู่สามีภรรยาจึงตัดสินใจลงจากรถและตามสุนัขตัวนั้นไปดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ เจ้าสุนัขสีบลอนด์นำพาทั้งคู่ไปพบกับชายคนหนึ่งที่นอนอยู่บนพื้นกับไม้เท้าของเขา และดูเหมือนว่าผู้ชายคนดังกล่าวจะมีอาการผิดปกติบางอย่าง “ฉันและสามีรีบวิ่งไปหาชายคนนั้นพร้อมกับเจ้าหมา โดยที่เจ้าหมาก็เลียชายที่นอนบาดเจ็บอยู่แบบไม่หยุด” จากนั้นทั้งคู่ก็โทรเรียกรถพยาบาล ไม่นานนักฝนก็เริ่มซาลงมา แต่สุนัขก็ไม่ออกห่างจากเจ้าของ เมื่อรถพยาบาลมาถึงเจ้าหน้าที่ก็ยกชายคนนั้นลงไปนอนบนเปลและพาเขาเข้าไปในรถพยาบาลและแน่นอนว่าสุนัขตัวนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนรถด้วย “เจ้าสุนัขเดินตรงขึ้นไปหาเจ้าของ และวางมือของมันลงไปบนอกของชายที่นอนเจ็บอยู่” เจ้าหน้าที่ปล่อยให้สุนัขใช้เวลากับเจ้าของ ก่อนที่ต้องพามันลงไป เพราะสุนัขไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในรถพยาบาล Araya โพสต์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวลงไปในโซเชียลมีเดีย เพื่อแชร์เรื่องราวสุดซึ้งระหว่างสุนัขและเจ้าของที่บาดเจ็บ หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น Araya เดินทางกลับไปที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อไปเยี่ยมชายที่บาดเจ็บคนดังกล่าว หลังจากออกโรงพยาบาลแล้ว “ชายคนนั้นพาฉันไปที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ ทั้งชายคนนั้นและสุนัขอาศัยอยู่ในรถตู้ พวกเขายากจนมาก” Araya แนะนำตัวและทำความรู้จักกับทั้งสอง โดยชายคนนั้นมีชื่อว่า Don Jorge และสุนัขสุดน่ารักของเขาชื่อว่า Chiquita ซึ่งแปลว่า “เด็กหญิงตัวน้อย”…
-
คลิปสั้นน่ารัก ‘คาราเต้ดิ๊ก’ การต่อสู้ของน้องจู๋กับเชื้อร้าย HIV ที่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ช่วย!!
ทุกๆ วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปีนั้น นอกจากจะเป็นวันเริ่มต้นเดือนสุดท้ายของปีแล้ว วันนี้ก็ยังถือเป็นวันเอดส์โลกอีกด้วยเช่นกัน โดยวันสำคัญดังกล่าวถูกจัดขึ้นมาเพื่อรณรงค์ยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อเอดส์ และให้ความรู้เกี่ยวกับเจ้าโรคร้ายที่คร่าชีวิตของผู้ป่วยไปกว่า 25 ล้านคนแล้วทั่วโลก และทางกลุ่มนักทำอนิเมชั่นอิสระที่ใช้ชื่อว่า Emanuele Colombo เองก็ได้ร่วมสร้างอนิเมชั่นที่ใช้ชื่อว่า Karate Dick เพื่อร่วมให้ความสำคัญในวันนี้อีกด้วย Karate Dick เป็นเรื่องราวของเจ้าจู๋หนุ่มนักสู้ ที่กำลังเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อต่อสู้กับเชื้อ HIV และได้ฝึกความแข็งแรงของเขา ก่อนที่จะสวมชุดเกราะถุงยางอนามัยและออกไปผจญโลกกว้าง สื่อให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมและทำความเข้าใจกับผู้คนว่าโรคร้ายนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการใช้ถุงยางอนามัยนั่นเอง “ขอบคุณวงการแพทย์ ที่ทำให้โรคเอดส์ไม่ใช่โรคร้ายเหมือนที่มันเคยเป็น แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าหากว่าเหล่าเยาวชนของเราขาดความรู้ในการป้องกัน เจ้าโรคร้ายนี้ก็อาจจะกลับมาระบาดอย่างหนักอีกครั้งก็ได้” คุณ Colombo หนึ่งในทีมผู้สร้างกล่าว ถึงแม้จะแข็งแรงแค่ไหนแต่ถ้าหากไม่ป้องกัน ก็อาจจะไม่รอดก็ได้นะเจ้ากระเจี๊ยว!! ไปชมความน่ารักๆ ของคลิปวิดีโอให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ได้ที่ด้านล่างนี้เลย… ที่มา designtaxi
-
พิพิธภัณฑ์ปล่อยงานศิลป์กว่า 20,000 ชิ้น ให้โหลดฟรีๆ ใช้เป็นภาพหน้าจอโทรศัพท์สวยๆ
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะเดินทางไปรอบโลกเพื่อเที่ยวชมงานศิลปะตามสถานที่ต่างๆ อันขึ้นชื่อ เพราะนอกจากค่าใช้จ่ายที่สูงแล้ว เวลาก็เป็นข้อจำกัดอันสำคัญ แต่เมื่อไม่นานมานี้ทางพิพิธภัณฑ์ศิลปะ The Los Angeles County Museum of Art (LACMA) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ผุดไอเดียใหม่นั่นก็คือพิพิธภัณฑ์แบบออนไลน์ ซึ่งสามารถให้คุณเข้าชมงานศิลป์สวยๆ ผ่านจอคอมที่บ้านได้ง่ายๆ !! นอกจากเราจะสามารถเข้าชมงานศิลปะภายในบ้านง่ายๆ แล้ว เรายังสามารถที่จะดาวน์โหลดภาพผลงานศิลป์เหล่านั้นมาเก็บไว้เป็นวอล์เปเปอร์โทรศัพท์ หรือหน้าจอคอมเอาไว้ชื่นชมเองได้ฟรีๆ อีกด้วย โดยผลงานศิลป์ที่ทางพิพิธภัณฑ์ได้ทำการปล่อยให้ไดาวน์โหลดฟรีๆ ครั้งนี้มีด้วยกันมากถึง 20,000 รูป จากผลงานทั้งหมดกว่า 80,000 ชิ้นงานที่ทางพิพิธภัณฑ์ได้ทำการจัดแสดงเอาไว้ ส่วนใครที่สนใจอยากจะเก็บผลงานศิลปะเหล่านี้เอาไว้ล่ะก็ สามารถเข้าไปชมกันได้ที่เว็บไซต์ LACMA ของทางพิพิธภัณฑ์กันได้เลย ซึ่งภายในเว็บไซต์ดังกล่าวนั้นจะมีการแบ่งหมวดหมู่ของภาพงานศิลป์เอาไว้เป็นหมวดหมู่เพื่อง่ายต่อการค้นหา และนอกจากนี้คุณยังสามารถค้นหาจากคำเฉพาะได้อีกด้วย แต่ที่สำคัญอย่าลืมเลือกเฉพาะภาพโดเมนสาธารณะเท่านั้นนะจ๊ะ!! และนี่คือภาพบางส่วนที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ . . . . ถ้าหากใครอยากได้ภาพความละเอียดสูงล่ะก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดกันได้ที่เว็บไซต์เลย… . . . . . . ที่มา mymodernmet
-
เจ้าของสุนัขทำร้ายร่างกายหมาจนตายหลังมัน “วิ่งแข่งแพ้” พร้อมขู่จะกินเนื้อของมันด้วย
สัตว์เลี้ยงมักจะรักและผูกพันกับเจ้าของของมันมาก พวกมันจะซื่อสัตว์และคอยอยู่เคียงข้างเราเสมอ การอยู่กับสัตย์เลี้ยงจึงทำให้คนเรารู้สึกอบอุ่นใจ แต่ตัวของสัตว์เลี้ยงนั้น ไม่สามารถที่จะเลือกเจ้าของได้ หากว่าพวกมันต้องไปอยู่กับเจ้าของที่ไม่ดีละคงต้องทนทุกข์ไปจนตาย สุนัขตัวหนึ่งก็กำลังประสบชะตากรรมนี้เช่นกัน ตอนนี้เรื่องของมันดังไปทั่วประเทศ เพราะมันต้องรับชะตากรรมอันโหดร้าย เนื่องจากเจ้าของใช้มันเป็นที่ระบายอารมณ์ จนมันถึงตาย ในมณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีนมักจะมีการจัดแข่งขันสุนัข เพื่อพนันเงินกันเป็นประจำ และเงินรางวัลที่ได้จากการพนันแข่งสุนัขนี้ก็สูงพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งก็แปลว่าผู้แพ้พนันนั้นจะต้องเสียเงินหนักเช่นกัน เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2017 ก็ได้มีคลิปวิดีโอคลิปหนึ่ง ซึ่งบันทึกการระบายอารมณ์ของชายที่แพ้พนันแข่งสุนัขของตนเอง โดยเขาโมโหมากที่สุนัขของตนเองทำให้ต้องเสียเงิน จึงจับมันอุ้มขึ้นมาก่อนจะเหวี่ยงมันสูงเหนือหัว และฟาดมันลงกับพื้นอย่างไร้ความปรานี ไม่เพียงเท่านั้น เขายังจับมันขึ้นมาแล้วฟาดมันซ้ำลงไปอีก เป็นจำนวนทั้งสิ้น 3 ครั้ง เจ้าสุนัขที่ไม่มีความผิดอะไรเลยตัวนี้ จึงนอนแน่นิ่งและตายในทันที ชาวเน็ตที่ได้ชมคลิปนี้ผ่านทาง Weibo ต่างก็สงสารและก็เห็นใจหมาตัวนี้ ที่ต้องมารับเคราะห์กรรมโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร และแน่นอนว่า พวกเขาได้ร่วมกันวิจารณ์เจ้าของสุนัขผู้โหดเหี้ยมคนนี้ ชาวเน็ตคนหนึ่งคอมเมนต์ว่า “คนที่ทำแบบนี้ได้ มันไม่ใช่มนุษย์” และก็มีอีกหลายคอมเมนต์ที่มีใจความเดียวกันว่าชายคนนี้ควรถูกฟาดตาย เช่นเดียวกับที่เขาทำต่อสุนัข อย่างไรก็ตาม ชายคนนี้คงไม่ได้รับโทษใดๆ จากการฆ่าสุนัขอย่างเลือดเย็น เนื่องจากในประเทศจีนนั้นไม่มีกฎหมายสำหรับคุ้มครองสัตว์เลี้ยง ดังนั้นถึงจะสืบจนหาตัวเจอ ก็เอาผิดอะไรกับเขาไม่ได้เลย นอกจากเรื่องของชายคนนี้แล้ว ในประเทศจีนยังมีข่าวการทารุณสัตว์อื่นๆ…
-
Ed Sheeran เข้ารับเครื่องราชฯ จากราชวงศ์อังกฤษ และพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์
ถ้าหากพูดถึงนักร้องชาวอังกฤษชื่อดังที่เป็นขวัญใจสาวๆ หลายๆ คนที่มาพร้อมกับบทเพลงรูปร่างของคุณ (Shape of You) คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับ Ed Sheeran อย่างแน่นอน นอกจากความสามารถในการร้องเพลงแล้ว ล่าสุดหนุ่ม Ed ของเรายังเพิ่งเข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันวิเศษยิ่งแห่งสหราชอาณาจักรในชั้น MBE จากเจ้าชายชาร์ลส์ ณ พระราชวังบัคกิ้งแฮม อีกด้วย โดยนักร้องหนุ่มของเรานั้นถือว่าเป็นผู้สร้างคุณงามความดีทางด้านศิลปะและงานการกุศล จึงทำให้เขาได้รับเครื่องราชดังกล่าวไปครอง นอกจากจะเข้ารับรางวัลเหรียญตราอันทรงเกียรติแล้ว นักร้องหนุ่มของเรายังได้ร่วมสนทนาอย่างเป็นกันเองกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์อีกด้วย “พระองค์ถามผมเกี่ยวกับเรื่องของเพลงในอัลบัม และผมก็ตอบท่านว่าวันพรุ่งนี้ผมกำลังจะมีงานคอนเสิร์ตที่นิวยอร์ก ท่านรู้สึกทึ่งมากเมื่อรู้ว่าผมจะบินทันทีหลังจากจบงานมอบเครื่องราชฯ” นักร้องหนุ่มกล่าว นอกจากนี้ Ed เองก็ยังได้พูดเกี่ยวกับเรื่องของคุณปู่เขาอีกด้วย โดยเขาบอกว่าคุณปู่ของเขานั้นเป็นรอยัลลิสต์ และท่านคงจะดีใจแน่ๆ ที่ได้เห็นหลานชายของตัวเองได้รับเหรียญตราอันทรงเกียรตินี้ “คุณปู่คงจะดีใจมากๆ เมื่อ 4 ปีที่แล้วท่านจากผมไปในวันเดียวกับที่ผมได้รับเครื่องราชฯ นี้ ผมคิดว่าเขาคงจะภูมิใจในตัวผมมากๆ” นักร้องหนุ่มกล่าว และเมื่อถูกถามถึงเคล็ดลับการประสบความสำเร็จทางด้านดนตรีของเขา นักร้องหนุ่มก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมคิดว่ามันเกี่ยวกับเรื่องของความพยายาม ตัวผมเองไม่ได้มีพรสวรรค์อะไรมากมายกว่าคนอื่นเลย ผมคิดว่าเรื่องพรสวรรค์มีผลแค่ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ที่เหลือคือเรื่องของความพยายาม มุ่งมั่น และเชื่อมันในตัวเอง” ที่มา bbc
-
Julia Mullock อดีตพระชายาแห่งเกาหลี เสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ชีวิตที่ไม่ได้สวยงามดั่งเจ้าหญิง
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2017 มีรายงานว่าอดีตเจ้าหญิง Julia Mullock ผู้เคยเป็นภรรยาของเจ้าชาย Yi Gu แห่งประเทศเกาหลี ได้เสียชีวิตลงอย่างเดียวดาย ด้วยอายุ 94 ปี ที่รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา Julia Mullock เกิดในรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอทำงานอยู่ในบริษัท IM Pei และได้พบกับเจ้าชาย Yi Gu ทายาทคนสุดท้ายของราชวงศ์ Yi ที่เพิ่งเรียนจบด้านสถาปัตยกรรมมาหมาดๆ จากนั้นทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกัน หลังจากนั้นเธอก็แต่งงานกับเจ้าชาย เมื่อเธอมีอายุ 35 ปี แต่เนื่องจากเธอเป็นชาวต่างชาติ ทางราชวงศ์ Yi กลับไม่ยอมรับให้เธอเป็นสมาชิกของราชวงศ์อย่างเป็นทางการ และไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนของราชวงศ์ เธอต้องเจอปัญหาใหญ่กว่าเดิม เมื่อทางราชวงศ์ทราบว่าเธอไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ จึงทำให้เธอถูกบังคับให้หย่ากับเจ้าชาย Yi Gu เพื่อที่พวกเขาจะได้หาภรรยาคนใหม่ที่สามารถให้กำเนิดบุตรชายมาสืบสกุลต่อได้ เธอและเจ้าชาย Yi Gu ไม่ได้ยินยอมที่จะหย่ากัน และยังพยายามคัดค้านเรื่องนี้ แต่ในที่สุดแล้วทั้งคู่ก็ต้องหย่าร้างกันในปี 1982 จนได้ …
-
แบรนด์เสื้อผ้าคิดไอเดียสุดเจ๋ง ผลิตเสื้อคู่ให้คุณกับสัตว์เลี้ยง ได้แมตช์กันในฤดูหนาว
ในฤดูหนาวนี้ นอกจากเราจะต้องหาถุงเท้าอุ่นๆ เสื้อหนาๆ มาสวมใส่แล้ว สัตว์เลี้ยงน่ารักอย่างน้องหมาบ๊อกๆ หรือแมวเหมียวๆ ก็ต้องการเครื่องแต่งกายมาใส่ให้ร่างกายอบอุ่นเหมือนกันนะ ถึงแม้ว่าพวกมันจะมีขนปุยๆ ก็ตาม ร้านค้าออนไลน์ Aldi ของประเทศอังกฤษ ได้เปิดตัวชุดสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักที่เหมาะสำหรับหน้าหนาวนี้ ไม่ใช่แค่มันจะสร้างความอบอุ่นให้กับเจ้าสัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่สีสันและลวดลายสุดแสนพรีเมียมที่ไม่เหมือนใคร แถมยังแมตช์ชุดกับเจ้าของได้แบบเก๋ๆ อีกด้วย Pet Jumpers หรือชุดสำหรับสัตว์เลี้ยงมีหลายเฉดสี โดยเจ้าชุดนี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ 170 บาท กับลวดลายการออกแบบที่เหมาะกับฤดูหนาวสุดๆ อย่างนกแพนกวินที่มาต้อนรับน้องๆ หมา แมว ในเทศกาลคริสต์มาส สำหรับเสื้ออุ่นๆ สำหรับสัตว์เลี้ยงก็มีให้เลือกอยู่ 3 ขนาด นั่นก็คือขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ เพื่อสัตว์เลี้ยงที่มีขนาดแตกต่างกันออกไป และคุณยังสามารถเลือกแมตช์ถุงเท้าลวดลายเดียวกันให้กับน้องๆ ได้อีกด้วย นอกจากเครื่องแต่งกายของน้องๆ สัตว์เลี้ยงแล้วร้านค้าออนไลน์ Aldi ยังมีชุดของพ่อแม่น้องหมาแมวอีกด้วย สำหรับเจ้าของที่อยากแมตช์ชุดกับสัตว์เลี้ยงน่ารัก โดยมีราคาอยู่ที่ 350 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และสำหรับเด็กมีราคาอยู่ที่ 260 บาท แต่อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตบางคนก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า ทำไมต้องบังคับให้หมาใส่ชุดพวกนี้ด้วย ถ้าไม่ทำจะใช้ชีวิตกันไม่เป็นสุขใช่ไหม ซึ่งทางร้านค้าออนไลน์ก็ได้ออกมาแถลงว่า “แม้ว่าสัตว์จะมีขนตามธรรมชาติอยู่แล้ว…
-
โชคชะตาของคุณตำรวจนำพามาให้พบกับเจ้าเหมียว และลิขิตให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมงานกัน
เวลาที่เราได้เจอกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่ คงต้องใช้เวลาสักพักถึงจะปรับตัวให้เขากันได้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำเมือง Tryon รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา กลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะพวกเขาสามารถปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนร่วมงานคนใหม่ได้ง่ายเสียเหลือเกิน วันที่ 5 ธันวาคม 2017 ตอนที่ตำรวจสาว Tara Atkins ตื่นแต่เช้าไปทำงานที่สถานีตำรวจ พอเธอเปิดประตูเข้าไป เธอก็ได้เจอกับเพื่อนร่วมงานใหม่ นั่นคือเจ้าเหมียวน้อยน่ารักอายุเพียง 4 เดือน จากการสอบถามเจ้าหน้าที่คนอื่นจึงทราบได้ว่า เจ้าเหมียวตัวนี้มาป้วนเปี้ยนอยู่แถวลานจอดรถในคืนที่ผ่านมา ตำรวจหนุ่มไปเจอเข้าด้วยความบังเอิญ เลยพามันเข้ามาหลบหนาวด้านในสถานีเสียก่อน หลังจากนั้นเจ้าเหมียวก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกคนในสถานีได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังทำตัวเหมือนกับว่านี่คือบ้านของมัน และคอยเดินไปเดินมาให้เจ้าหน้าที่คอยอุ้ม คอยกอดอยู่เสมอ โดยเฉพาะ Tara ด้วยความที่เจ้าเหมียวไม่มีอะไรที่ยืนยันได้ว่ามันมีเจ้าของ พวกเธอจึงดูแลมันไว้เป็นการชั่วคราว และนั่นก็ทำให้ Zach ผู้จัดการเมือง แนะนำให้เธอนำเจ้าเหมียวมาเป็นเพื่อนร่วมงานซะเลย Tara ได้ถ่ายรูปของมันตอนทำงานโพสต์ลงหน้าเพจเฟซบุ๊กประจำเมือง เพื่อช่วยตามหาเจ้าของมันอีกทางหนึ่ง ภาพการทำงานระหว่างวันของเจ้าเหมียว ที่ถูกโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊ก . เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ต่างบอกให้ Tara รับมันไปดูแลซะเลย แต่ที่บ้านของเธอก็มีน้องหมาอยู่สองตัวแล้ว จึงคิดว่าการที่ต้องเลี้ยงดูเจ้าเหมียวอีกตัวคงจะไม่ไหว หน้าที่การดูแลจึงได้ตกไปอยู่ในมือของ David…
-
หมิงนา เวน ผู้ให้เสียง “มู่หลาน” ออกมาตั้งความหวังกับหลิวอี้เฟยว่า ‘อย่าทำพังล่ะ’
หลายๆ คนคงจะพอทราบแล้วว่า Disney จะถ่ายทำแอนิเมชั่นเรื่อง Mulan ใหม่ โดยจะทำเป็นเวอร์ชันภาพยนตร์ที่ใช้คนจีนแสดง ซึ่งคนที่ได้รับบทนางเอกในครั้งนี้ก็คือสาวสวย หลิว อี้เฟย นั่นเอง แน่นอนว่ามีคนให้ความสนใจภาพยนตร์เรื่องนี้มากมาย เพราะ Disney มักจะสร้างผลงานที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ อาจพูดได้ว่าค่ายนี้แทบไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย อีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะ Mulan เป็นแอนิเมชั่นขวัญใจในวัยเด็กของคนจำนวนมากด้วย จึงไม่แปลกหากแฟนคลับจะรอชมเวอร์ชันใหม่ๆ บ้าง หลิว อี้เฟยในบทของมู่หลาน เรื่องใหญ่แบบนี้ย่อมต้องดังไปถึงหูของ Ming Na Wen ผู้ให้เสียงพากย์มู่หลานในเวอร์ชันแอนิเมชั่นอยู่แล้ว เมื่อเธอรู้ว่าจะมีเวอร์ชันคนแสดง เธอก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นมู่หลานกลับมาโลดแล่นบนจอภาพอีกครั้ง ในรายการ Heroes & Villains Fan Fest San Jose 2017 เธอได้ให้สัมภาษณ์ถึงความคิดเห็นที่มีต่อหลิว อี้เฟย ดังนี้ “เธอหน้าตาสวยมากเลย และก็ดูเหมาะกับบทนี้ด้วย ที่สำคัญคือเธอเป็นคนจีนเหมือนมู่หลานเลย” เมื่อพิธีกรอยากให้เธอให้คำแนะนำหลิว อี้เฟย ในฐานะที่ตัวเธอนั้นพากย์ให้กับมู่หลานมาก่อน เธอจึงตอบติดตลกกลับไปว่า “อย่าทำพังล่ะ” นั่นก็เพราะว่าเธอรักมู่หลานมากนั่นเอง เธอยังเสริมต่อว่า “ฉันหวังว่ามู่หลานเวอร์ชันแอนิเมชั่นจะยังติดอยู่ในใจพวกคุณเสมอ เพราะฉันและ Lea Salanga (ผู้พากย์เสียงร้องเพลงมู่หลาน) ตั้งใจสร้างมันขึ้นมาจริงๆ ฉันอยากให้มู่หลานแอนิเมชั่นยังคงเป็นตำนานเหมือนเดิม“ ที่เธอพูดมาไม่ได้ต้องการจะสื่อว่าหลิว อี้เฟยอาจจะทำได้ไม่ดีหรอกนะ เพราะเธอยังไปโพสต์ให้กำลังใจหลิว…
-
36 ภาพอันแสนน่ารัก กับสิ่งของที่พกใส่ไว้ในกระเป๋า ของนักเรียนชั้น ‘เตรียมอนุบาล’
หากอยากรู้ว่าคนแต่ละคนมีนิสัยใจคออย่างไรบ้าง เบื้องต้นเราสามารถสังเกตได้จากสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวของเขา ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย งานอดิเรก ลักษณะการเดินหรือนั่ง หรือแม้แต่วิธีพูดคุย ซึ่งแนวคิดนี้ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับเด็กได้เช่นกัน Melisa Kaseman เป็นช่างถ่ายภาพหญิงคนหนึ่ง ที่ชอบถ่ายรูปสิ่งรอบๆ ตัวไว้เป็นคอลเลคชันของตัวเอง โดยผลงานของเธอส่วนใหญ่จะเป็นรูปถ่ายเรียบๆ ที่สวยงามและแฝงไปด้วยเรื่องราวในตัวของมันเอง ในขณะนี้เธอมีลูกชายวัยกำลังซนหนึ่งคน เขากำลังเข้าเรียนในระดับชั้นเตรียมอนุบาล ซึ่งถือเป็นวัยเปลี่ยนผ่านจากช่วงเด็กทารกเข้าสู่การเป็นเด็กเล็ก Melisa จึงมีความคิดที่จะบันทึกการเจริญเติบโตของลูกชายไว้ โดยเธอทำบันทึกนี้ผ่านสิ่งของที่ติดตัวลูกชายมาในแต่ละวัน เพราะเธอเชื่อว่ามันสามารถบ่งบอกได้ว่าลูกชายมีความสนใจอะไร และจะเติบโตไปเป็นอย่างไร ลองไปชมกันนะครับว่าเด็กคนนี้เขาเก็บอะไรติดตัวมาบ้างในแต่ละวัน . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
แค่การจ่ายค่ากาแฟให้กับคนที่ไม่รู้จักกัน แต่กลับสามารถช่วยต่อพลังชีวิตให้กับอีกคนได้
บางคนอาจคิดว่าการทำความดีเล็กๆ น้อยๆ คงไม่สามารถช่วยอะไรใครได้มากนัก แต่ความเป็นจริงแล้ว นั่นอาจเป็นแรงใจที่ทำให้คนๆ สามารถใช้ชีวิตต่อไป ด้วยความช่วยเหลือเล็กๆ ที่เขาได้รับจากเรา เช่นเดียวกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2017 คนคนหนึ่งตั้งใจให้วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของชีวิต และก่อนที่จะฆ่าตัวตายเขาได้ขับรถไปใช้บริการร้านไดรฟ์ทรูชื่อว่า Tim Hortons ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เขาได้สั่งซื้อกาแฟและมัฟฟินของทางร้าน จากนั้นพอขับต่อไปยังช่องชำระเงิน พนักงานร้านกลับบอกเขาว่า “ชายนิสัยดีคนหนึ่งจ่ายค่ากาแฟให้คุณทั้งหมดแล้ว และเขาฝากมาบอกว่า ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะ” ในตอนนั้นเขารู้ทันทีเลยว่าชายคนดังกล่าวก็คือคนที่ขับรถ SUV อยู่ด้านหน้าเขานี่เอง เขาเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า “ทำไมชายคนนั้นถึงยอมซื้อกาแฟให้คนแปลกหน้า ทำไมต้องเป็นเรา? แล้วทำไมถึงต้องเป็นวันที่ฉันกำลังจะฆ่าตัวตายด้วย? ฉันรู้สึกนี้คือสัญญาณบางอย่างที่บอกกับฉันในวันนี้อย่างแน่นอน” จากนั้นความคิดก็เปลี่ยนไป เขาขับรถกลับบ้านพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา เปลี่ยนแผนทุกอย่างในวันนั้นและเลือกจะทำสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่น เมื่อถึงบ้านแทนที่จะฆ่าตัวตาย เขากลับเข้าไปช่วยเพื่อนบ้านยกของลงจากรถ และนั่นทำให้เขารับรู้ได้ถึงคุณค่าของชีวิตและก้าวเดินต่อไปได้อย่างมีความสุข ร้านไดรฟ์ทรู Tim Hortons เรื่องราวทั้งหมดนี้ถูกบอกเล่าผ่านจดหมายที่ทางสำนักข่าว Pickering News Advertiser ได้รับมา ก่อนที่พวกเขาจะนำมันออกเผยแพร่ให้กับสาธารณะ จนทำให้ชายหนุ่มผู้ช่วยชีวิตคนคนนั้นเอาไว้ปรากฏตัวขึ้นมา Glen Oliver…
-
ชายหนุ่มถูกตัดสินโทษจำคุก 15 ปี เพราะเอา ‘เบคอน’ ไปวางไว้หน้ามัสยิด
ทุกคนรู้ว่าตามหลักศาสนาอิสลาม ชาวมุสลิมนั้นไม่สามารถบริโภคหมูได้เลย แต่ชายคนนี้กลับทำในสิ่งที่คุกคามผู้นับถือศาสนาดังกล่าว โดยการนำเบคอนไปวางเอาไว้ด้านหน้าทางเข้ามัสยิดที่ตั้งอยู่ในเมือง Titusville รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา เขาคนนี้มีชื่อว่า Michael Wolfe วัย 37 ปี เขาทำสิ่งนั้นลงไปในวันที่ 2 มกราคม 2016 และถูกกล้องวงจรปิดเก็บภาพสิ่งที่ทำเอาไว้ ก่อนที่เขาจะถูกจับกุมตัวเพื่อดำเนินคดีในการก่ออาชญากรรมคุกคามสถานที่เกิดเหตุ และข้อหาการกระทำความผิดที่มีบ่อเกิดมาจากความเกลียดชัง กล้องวงจรปิดถ่ายภาพขณะที่เขากำลังก่อคดีอาชญากรรมเอาไว้ได้ ภาพชัดๆ จากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นชายคนดังกล่าวนำเบคอนไปวางเอาไว้ที่ประตูหน้าของมัสยิด และใช้มีดเล่มใหญ่ทำลายหน้าต่าง หลอดไฟ และกล้องที่ติดตั้งอยู่บริเวณดังกล่าว ล่าสุดในวันที่ 5 ธันวาคม 2017 หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นกว่า 1 ปี ตัวแทนสำนักงานเขตตุลาการปกครอง Todd Brown ได้ออกมากล่าวว่า ผู้กระทำผิดได้รับการตัดสินโทษจำคุก 15 ปี พร้อมกับคุมความประพฤติหลังจากที่ออกจากคุกมา เพื่อไม่ให้เขาทำแบบนี้อีก สภาความมั่นคงระหว่างอเมริกันกับอิสลามแห่งรัฐฟลอริด้า เห็นด้วยกับสิ่งที่ศาลตัดสินให้จำคุกนาย Michael แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาบอกว่า “ชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในรัฐต้องเจอกับอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังอยู่นับไม่ถ้วน” ปัจจุบันแนวคิดต่อต้านศาสนาอิสลามกำลังแพร่กระจายไปทั่วสหรัฐอเมริกา จนมีเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน และหลายครั้งเลยเถิดจนเป็นกลายเป็นเหตุอาชญากรรม…
-
หมอลูกครึ่งเอเชียถูกลงโทษภาคทัณฑ์ เพราะเปิดเผยเรื่องการโดนเหยียดหยามอย่างรุนแรง
ในประเทศสหรัฐอเมริกา การเหยียดเชื้อชาติยังคงมีให้เห็นอยู่บ้างและในบางครั้งมันก็รุนแรงเสียจนเกิดเป็นการกลั่นแกล้ง จนทำให้ชายหนุ่มที่ตกเป็นเหยื่อคนหนึ่งถึงกับรู้สึกไม่พอใจและยอมให้มีสิ่งนี้ต่อไปไม่ได้ เขาจึงนำเรื่องนี้ออกมาแชร์กับทุกคนและแสดงออกถึงการต่อต้านอย่างเห็นได้ชัด ชายคนนี้ใช้ชื่อว่า Gu เป็นนายแพทย์เชื้อสายเอเชีย-อเมริกัน ที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัย Vanderbilt รัฐเทนเนสซี โดยเขาได้โพสต์ทวิตเตอร์เรื่องราวการถูกเหยียดเชื้อชาติภายในที่ทำงานของตัวเองเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2017 เขาต้องเจอกับการกลั่นแกล้งภายในที่ทำงาน เขาเล่าว่าครั้งหนึ่งเขาถูกหัวหน้าทำร้ายร่างกายด้วยการใช้ศอกกระแทกจนตัวกระเด็น ระหว่างที่กำลังช่วยคนไข้ พยาบาลที่ทำงานด้วยกันก็นำกล่องนมจากถังขยะ มาวางไว้บนโต๊ะของเขา ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ เพราะพวกเขาร่ำเรียนและฝึกฝนมาเพื่อช่วยคน แต่สิ่งเหล่านี้ขัดแย้งกับสิ่งที่พวกเขาปฏิญาณโดยตรง หลังจากที่เขานำเรื่องออกมาเผยแพร่ เขาก็ถูกโรงพยาบาลส่งจดหมายเตือนอย่างรุนแรง รวมทั้งกล่าวหาว่าเขากุเรื่องทั้งหมดขึ้นมาเอง และที่สำคัญ หัวหน้างานที่ทำร้ายร่างกายเขาก็ไม่ได้รับบทลงโทษใดๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เจอกับความไม่เป็นธรรมในลักษณะเดียวกันนี้ ในวันแรกที่เขาเข้ามาทำงานในโรงพยาบาลดังกล่าว ขณะที่กำลังจอดรถเขาก็ได้เจอกับคนที่เหมือนกับต้องการความช่วยเหลือ และเมื่อ Gu หวังดีลงรถไปช่วยกลับถูกเหยียดเชื้อชาติด้วยคำหยาบคาย จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ยังตามมากระชากป้ายห้อยคอของเขา ก่อนที่จะค้นดูประวัติส่วนตัวและรายชื่อคนไข้ที่ Gu พกติดตัวมา เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุหลังจากนั้นไม่นาน ชายที่ทำผิดก็เหมือนจะรอดไปได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เขากลับไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างที่ควรจะได้รับ เขาบอกว่า “ผมรู้สึกเหมือนกับอยู่ในเกาหลีเหนือ พอพูดเรื่องความยุติธรรมก็กลับถูกลงโทษซะอย่างนั้น ผมเรียนจบและอยู่ในอันดับต้นๆ ของมหาวิทยาลัย Stanford และโรงเรียนแพทย์ Duke แต่ผมไม่เคยได้รับการช่วยเหลือใดๆ และต้องเจอกับคนในโรงพยาบาลที่ต้องการทำลายหน้าที่การงานของผม”…
-
เรารู้คุณก็งก… 15 เทคนิคแห่งการประหยัดที่คุณต้องเคยทำ ยอมรับมาซะดีๆ เลยนะ!! ฮร่า
ในยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้ หลายๆ คนจะมีวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป บางคนอาจจะหยอดออมสิน บางคนอาจตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป และนี่อาจเป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยอยากยอมรับกันซักหน่อยว่าเคยทำมาจริงๆ เวลาต้องการประหยัดเงิน อย่าปิดบังกันเลยเพราะไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกที่ทำ อย่างน้อย #เหมียวตะปู เองก็เคยทำมาหมดแล้วนะ ไปดูกันเลยว่ามีวิธีไหนกันบ้าง คว่ำขวดแชมพูหรือสบู่เหลวเอาไว้เพื่อให้สามารถใช้ได้จนหยุดสุดท้าย และพอมันหมดปุ๊บ ก็ค่อยเติมน้ำเข้าไปในขวดอีกครั้ง ใช้ได้อีกซักรอบสองรอบ ไม่ใช่แค่ของในห้องน้ำ แม้แต่น้ำยาล้างจานก็ใช้วิธีเดียวกัน ยาสีฟันที่จะค่อยๆ ถูกม้วนไปทีละนิดๆ รีดออกมาใช้ให้เกลี้ยง พวกตัวอย่างครีมที่แถมมาหรือแชมพูจากโรงแรม เราก็สามารถเอากลับมาใช้ได้เป็นเดือนๆ ไม่จำเป็นต้องมีไม้แขวนเสื้อ เพราะทุกอย่างในห้องน้ำสามารถแขวนเสื้อผ้าได้ ตอนจะตากก็ไม่จำเป็นต้องใช้ราวตากผ้า เพราะขอแค่มีเก้าอี้ซักตัวหรือเชือกฟางซักเส้นก็เกินพอ เพื่อประหยัดน้ำและน้ำยาล้างจาน ก็กินข้าวมันในกระทะซะเลย เวลาเพื่อนมาหา แน่นอนว่าเครื่องดื่มที่เราจะรินให้เพื่อนๆ ปริมาณมันย่อมต่างกับที่เราจะรินให้กับตัวเองอยู่แล้ว ของกินเล่นอย่างชีสหรือแฮม เราก็เอามาม้วนๆ แล้วค่อยๆ กินไปทีละนิดทีละหน่อย ให้กินได้นานมากที่สุด การทำแซนด์วิชที่แม้จะเหลือแค่ส่วนขนมปังแผ่นปิดท้าย คุณก็ไม่แคร์ อยากประหยัดแบตมือถือแล้วไม่มีหนังสือให้อ่านในห้องน้ำ ขวดแชมพูสบู่ทั้งหลายช่วยคุณได้ ในบางครั้งการไม่อาบน้ำคือหนทางแห่งการประหยัด…
-
งานวิจัยสำหรับหนุ่มๆ กับคำตอบที่ว่าเต้นยังไงให้ “โดนใจ” สาวๆ ในผับได้มากที่สุด
เวลาที่หนุ่มๆ ได้ออกไปท่องราตรีตามผับตามบาร์ การเต้นคือสิ่งที่พวกเขาจะได้แสดงออกมาขณะที่กำลังเพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรี แล้วเราเคยสงสัยกันมั้ยว่า การเต้นแบบไหนที่สามารถดึงดูดความสนใจของสาวๆ ได้มากที่สุด? นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของงานวิจัยชิ้นนี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Northumbria ประเทศอังกฤษ และมหาวิทยาลัย Gottingen ในเยอรมัน อยากทราบว่า “การเต้นแบบไหนที่ทำให้สาวๆ รู้สึกสนใจและเข้าหาได้มากที่สุด” โดยไม่นับในเรื่องของรูปร่างหน้าตา หรือบทบาททางสังคมของผู้ชาย พวกเขาจึงทำการทดลองให้ชายหนุ่ม 30 คน วาดลวดลายการเต้นกับจังหวะกลองเป็นเวลา 30 วินาที โดยแต่ละคนก็เต้นไปตามสไตล์ของตัวเอง จากนั้นจึงให้ผู้หญิงจำนวน 37 คนเลือกว่าการเต้นของหนุ่มๆ เหล่านั้น แต่ละคนได้คะแนนเท่าไหร่กันบ้าง ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 7 ระดับ จากดีไปแย่ ต่อมานักวิจัยก็นำผลที่ได้ไปสรุปลงในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และประมวลผลออกมาให้ได้เห็นว่า การเต้นที่สาวๆ ชอบมากที่สุดกับที่ไม่ชอบมากที่สุดนั้นแตกต่างกันอย่างไร ลักษณะการเต้นที่สามารถดึงดูดความสนใจสาวๆ ได้ ลักษณะการเต้นที่ไม่สามารถดึงดูดความสนใจสาวๆ ได้ จากที่เราเห็นผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดังกล่าว นักวิจัยได้สรุปเอาไว้ว่า สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้หญิงรู้สึกสนใจคือ การขยับร่างกายช่วงบน คอ และศีรษะ รวมถึงความเร็วในการขยับขาก็ถือว่ามีส่วนสำคัญกับเรื่องนี้ พวกเขาบอกว่าการเต้นที่สามารถดึงดูดความสนใจสาวๆ ได้ คือการขยับร่างกายด้วยท่าทางที่หลากหลาย…
-
ชายชาวซิมบับเวภาคภูมิใจ ในรางวัล ‘ชายผู้ขี้เหร่ที่สุด’ หลังจากที่เขารอคอยมานานกว่า 4 ปี
มนุษย์เราเกิดมาต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา และมนุษย์ทุกคนก็ย่อมมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หลายคนอาจจะไม่ค่อยพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่แต่ก็ควรรู้ไว้ว่า สิ่งที่อยู่กับตัวเอง สิ่งที่เป็นตัวตนของคุณน่ะมันดีที่สุดแล้ว เชื่อว่าทุกคนอยากเกิดมาสวยหล่อกันทั้งนั้น แต่ในเมื่อมันเลือกเกิดไม่ได้ก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ เช่นเดียวกับนาย William Masvinu ผู้ที่ได้รับรางวัล ชายที่ขี้เหร่ที่สุดในซิมบับเว ประจำปี 2017 ไปครอง และเขาก็ภูมิใจมากๆ กับรางวัลนี้เพราะว่าเขาได้รอคอยที่จะได้มันมา 4 ปีแล้ว การประกวดคนขี้เหร่นี้เหมือนอย่างเช่นเดียวกับการประกวดนางงามเป๊ะๆ ผู้เข้าประกวดจะต้องแข่งกันขี้เหร่ให้ชนะใจกรรมการที่คอยตัดสิน และการประกวดชายขี้เหร่นี้ได้จัดมาถึง 4 ปีแล้วและมีเฉพาะที่ซิมบับเวเท่านั้น William ผู้ที่ชนะเลิศในปีนี้บอกว่าเขาเตรียมตัวเป็นอย่างดีเพื่อที่จะเข้าประกวดในครั้งนี้ เพื่อที่จะชิงตำแหน่งชายที่ขี้เหร่ที่สุดแบบที่ไม่มีใครโต้แย้งได้เหมือนดังปีก่อนๆ รางวัลที่ผู้เข้าประกวดจะได้รับรางวัลที่ 1 เป็นเงิน 16,000 บาท และวัว ส่วนรางวัลที่ 2 ตกเป็นของ Fanuel Musekiwa ได้รับเงินรางวัล 6,500 บาท และรางวัลที่ 3 ได้แก่นาย Maison Sere ได้เงินรางวัล 3,200 บาท…
-
ยูทูบเบอร์สาวชาวฮ่องกง รู้สึกเสียใจที่ต้องลงทุนผ่านมีดหมอกว่า 30 ครั้ง เพื่อเอาใจแฟนเก่า
ปัจจุบันการศัลยกรรมเป็นหนึ่งวิธีในการเสริมความงามที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าชายหรือหญิงที่ต้องการจะปรับปรุงรูปร่างใบหน้าให้ดูดียิ่งขึ้นก็ต้องใช้การศัลยกรรมเข้าช่วย อีกทั้งเทคโนโลยีการศัลยกรรมก็พัฒนาขึ้นจนหลายคนรู้สึกวางใจที่จะใช้วิธีการศัลยกรรมในการเพิ่มความสวยความหล่อ หญิงสาวที่ชื่อว่า Berry Ng ยูทูบเบอร์สาวอายุ 22 ปี ชาวฮ่องกง เธอบอกว่าเธอกลายเป็นคนเสพติดการศัลยกรรม โดยการศัลยกรรมครั้งแรกของเธอเริ่มต้นเมื่อเธออายุ 17 ปีหลังจากที่เธอได้รับโปรโมชั่นเสริมความงามในราคานักเรียน มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอศัลยกรรมมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันเธอได้รับการศัลยกรรมไปมากกว่า 30 ครั้งแล้ว สาเหตุที่เธอศัลยกรรมมากขนาดนี้เนื่องจากว่าเธอโดนแฟนเก่าของเธอนั้นวิจารณ์เรื่องหน้าตาอยู่บ่อยครั้งและนำเธอไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนอื่นอยู่บ่อยๆ โดยเขาชอบพูดว่า เธอหน้าบาน จมูกไม่คม ซึ่งมันทำให้เธอทนไม่ไหวจนต้องไปศัลยกรรมเพื่อให้เขาพอใจ ตลอดเวลาที่คบกัน เธอศัลยกรรมทุกส่วนของใบหน้าไม่ว่าจะเป็น ตา จมูก ปาก หน้าผาก คาง และจุดแตกหักที่ทำให้เธอทนผู้ชายคนนี้ไม่ได้อีกต่อไปเมื่อเขาบอกให้เธอไปเสริมหน้าอก แต่เธอปฏิเสธ และเขาก็ได้ด่าเธอว่าเธอมันโง่ เขาไม่ได้ชอบที่เธอศัลยกรรมจนบ้าขนาดนี้ เขาชอบเบ้าหน้าเดิมมากกว่า การอกหักในครั้งนี้มันทำให้เธอเสียใจมากๆ และได้ออกมาอัดคลิปวิดีโอลงช่องยูทูบของเธอเพื่อเตือนให้หญิงสาวว่าอย่าบ้าศัลยกรรมมากเกินไป การเป็นตัวของตัวเองนั้นดีที่สุด อย่าไปฟังคำใคร . . “ถึงฉันจะหน้าปลอม แต่ฉันก็มีหัวใจที่รักจริง” Berry กล่าว ที่มา shanghaiist
-
13 สัญญาณของเหล่าหนุ่มๆ ที่บ่งบอกว่าพวกเขากำลัง “มีความรัก” เข้าแล้ว!!
ผู้ชายกับผู้หญิงนั้นมีการแสดงออกถึงความรักที่แตกต่างกัน ซึ่งในแต่ละคนต่างก็มีสไตล์ในการบอกรักที่แตกต่างกัน สาวๆ อย่างเราก็ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามนั้น เขาต้องการที่จะสื่อถึงอะไ รซึ่ง #เหมียวบู้บี้ ก็มีวิธีการสังเกตอาการของผู้ชายที่กำลังตกหลุมรักมาฝากกันค่ะ 1. เขาตั้งใจฟังในสิ่งที่คุณพูดอยู่เสมอ บางครั้งเรื่องที่เราพูดอาจจะดูไม่น่าสนใจมากนัก แต่เขากลับตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ และเขามักจะจดจำเกือบทุกคำพูดของคุณได้ นั่นหมายความว่าเขาสนใจและอยากจะเป็นผู้ฟังที่ดีกับคุณยังไงล่ะ 2. เขายอมคุณอยู่เสมอ ที่เขาทำไปก็เพราะว่าอยากให้คุณสบายใจที่สุดเมื่ออยู่กับเขา ถึงแม้ว่าบางอย่างอาจจะดูขัดใจกับวิถีลูกผู้ชายของเขาไปนิดนึง แต่เขาก็ยังยอมที่จะทำตามในสิ่งที่คุณร้องขอ 3. เขาสแตนด์บายรอช่วยเหลือคุณอยู่ตลอดเวลา วิถีชะนีอย่างเราๆ เวลาอะไรเสียขึ้นมาก็ถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะสามารถซ่อมได้เอง แต่พ่อหนุ่มคนนี้มักจะอาสามาช่วยซ่อมในทันที บางครั้งเราอาจจะไม่ได้เอ่ยปากขอด้วยซ้ำ อันนี้ในกรณีที่สามารถซ่อมได้เองเช่น เปลี่ยนหลอดไฟ ตอกตะปู เช็กรถ แบบนี้นะ ที่เขาทำไปเพราะอยากจะให้คุณรู้ว่า เขาน่ะสามารถเป็นสามีที่ดีได้น๊าาา 4. เขายอมรับและสามารถเข้ากับครอบครัวของคุณได้ดี ถึงแม้ว่าคนในครอบครัวของคุณจะดุ เข้มงวด หรือเป็นแบบไหน เขาก็ยังจะหาวิธีเอาใจคนในครอบครัวของคุณอยู่เสมอๆ แหม่ อยากเป็นลูกเขยก็ต้องเข้าทางผู้ใหญ่สิ จะได้ไม่พลาด 5. เขามักจะถามคุณเกี่ยวกับสไตล์การแต่งตัวของเขา นั่นเป็นเพราะว่าเขาอยากจะดูดีเสมอในสายตาของคุณ บางครั้งถึงกับยอมเปลี่ยนลุคเพื่อให้คุณชอบด้วยซ้ำ 6. เขาชอบที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างกับคุณในทุกๆ วัน การที่ผู้ชายคนหนึ่งยอมที่จะทำสิ่งน่าเบื่อๆ…
-
คุณลุงเฝ้ารอวันสุดท้ายของชีวิตมา 7 ปี เพิ่งจะได้รู้ความจริงของการวินิจฉัยติดเชื้อ HIV นั้นผิดพลาด
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องของคุณลุง Zhong Xiaowei อายุ 54 ปี ผู้ที่ต้องทนทุกข์กับการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความกังวลมานานกว่า 7 ปี หลังจากที่เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเขาติดเชื้อ HIV คุณลุงท่านนี้ได้ออกมาเปิดเผยประวัติชีวิตของเขาว่า เขาเกิดในปี 1963 เป็นหนึ่งในบรรดาพี่น้อง 5 คน พ่อของเขาจากไปด้วยโรคมะเร็งปอด เขาต้องใช้ชีวิตอยู่กับแม่และพี่น้อง ฐานะของเขานั้นยากจนมาก ต้องลาออกจากโรงเรียนมาเพื่อทำงานเพื่อที่จะได้มีข้าวกินในแต่ละวัน ช่วงชีวิตวัยรุ่นของเขานั้นก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เขาเริ่มหันเข้าหายาเสพติดเพราะความเบื่อหน่ายในชีวิต เขาเสพเฮโรอีนเรื่อยมาเป็นเวลากว่า 10 ปี และแล้วเขาก็ได้พบกับหญิงสาวผู้ที่จะมาเปลี่ยนชีวิตของเขา เขาจึงเลิกยาเสพติดและหันมาเปิดกิจการร้านอาหาร เมื่อทั้งสองคบหาดูใจกันมาได้ซักระยะหนึ่ง ทั้งคู่ก็ได้วางแผนที่จะแต่งงานกันในฤดูใบไม้ผลิ ปี 2009 เขาจึงได้ไปตรวจร่างกายก่อนที่จะเริ่มชีวิตคู่ โดยเขาได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเฉิงตู ซึ่งผลตรวจก็ได้ออกมาปรากฏว่า เขาติดเชื้อ HIV ซึ่งเขาก็ยอมรับโดยดีและคิดว่ามันน่าจะเป็นผลพวงมาจากการการที่เขาเสพเฮโรอีนในช่วงก่อน ผลตรวจทำให้ครอบครัวและแฟนสาวหยุดการติดต่อกับเขาในทันที เขาไม่คิดที่จะรักษาเจ้าเชื้อ HIV นี้ โดยเขาได้ออกมาใช้ชีวิตคนเดียว เก็บตัวอยู่ในอพาร์ตเมนต์และไม่ยอมกินยาเพื่อต่อต้านเชื้อใดๆ และนับวันรอความตายไปเรื่อยๆ ช่วงที่เขาเก็บตัวอยู่คนเดียว เขาจะได้รับเงินสวัสดิการเล็กน้อย ในการดำรงชีพและต้องรายงานตัวทุกปีเพื่อตรวจจำนวน CD4…
-
ช่างสักบราซิล ใช้หมึกพิเศษซ่อนรอยต่างๆ ตามร่างกายได้อย่างแนบเนียน แม้แต่ใต้ตายังทำได้!!
รอยแตกลายงา หรือร่องรอยต่างๆ ในร่างกายต่างก็ไม่เป็นที่พึงประสงค์สำหรับใครทั้งนั้น หลายบริษัทจึงได้ผลิตเครื่องแต่งหน้า ขึ้นมาเพื่อให้สาวๆ ที่รักสวยรักงามได้มาปกปิดส่วนดังกล่าว ที่นอกจากบางทีจะไม่สวยงามแล้วยังทำให้รู้สึกอายอีกด้วย แต่ว่าในวันนี้ลืมเรื่องเครื่องสำอางไปได้เลย เพราะมีช่างสักลายชาวบราซิลคนหนึ่งสามารถทำให้ร่องรอยต่างๆ ตามร่างกายของเรานั้นหายไปได้ แม้แต่ส่วนที่บอบบางที่สุดนั่นก็คือใต้ดวงตาของเรา!! Rodolpho Torres กับวิธีการสักกลบเกลื่อนร่องรอยของเขา Rodolpho Torres ช่างสักลายจากเมืองเซาเปาโล เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกลบจุดด่างดำต่างๆ ตามร่างกายมนุษย์ โดยเขาใช้น้ำหมึกที่ใกล้เคียงกับสีผิวของแต่ละคนมาซ่อนรอยแผลต่างๆ ที่แม้แต่จุดที่ระคายเคืองง่ายอย่างดวงตายังสามารถทำได้ สำหรับวิธีการกลบเกลื่อนร่องรอยของเขานั้นยังคงเก็บไว้เป็นความลับว่าเขามีขั้นตอนดำเนินการอย่างไรบ้าง แต่สิ่งที่ได้รู้ก็คือเขาจะสร้างสิ่งที่หลอกตาเราขึ้นมา โดยอาจจะเป็นการสักไล่สีผิวเพื่อให้มีความแนบเนียนก็เป็นได้ และที่สำคัญคือน้ำหมึกของเขาได้การรับรองจาก หน่วยงานตรวจตราสุขาภิบาลแห่งชาติประจำประเทศบราซิล (Anvisa) เรียบร้อยแล้วทำให้มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยอย่างแน่นอน ดูสิหายไปราวกับเวทมนตร์ น้ำหมึกสุดพิเศษของเขาจะไปกลบรอยแผลต่างๆ รวมทั้งจุดด่างดำที่เกิดบนใบหน้า และไม่ต้องห่วงว่าน้ำหมึกของเขาจะไม่เข้ากับสีผิวใบหน้าเรา เพราะว่า Rodolpho จะคัดสรรสีของน้ำหมึกให้เข้ากับสีผิวของแต่ละคน การสักด้วยหมึกพิเศษของเขาเพียงหนึ่งครั้ง ผิวที่มีรอยแตกต่างๆ ก็จะดูเรียบเนียนขึ้น และอีก 6 วันต่อมาก็จะเหมือนผิวเด็กเกิดใหม่และสามารถนอนอาบแดดได้อย่างสบายๆ เลยทีเดียว “มันไม่ใช่การแต้มสีเพื่อปกปิดแต่มันคือการสัก!! คุณสามารถใช้ชีวิตปกติและออกไปท้าชนกับแสดงแดดได้ โดยที่ผิวของคุณจะไม่เลอะอย่างแน่นอน และถ้าใครห่วงเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องกลัวเพราะว่า Anvisa ได้รับรองความปลอดภัยให้แก่เราแล้ว” Rodolpho กล่าว ใต้ตาก็ชิวๆ ไร้ปัญหา ด้วยการปฏิวัติวงการอำพรางร่องรอยต่างๆ ตามร่างกายของ…
-
เจ้าเหมียวตาละห้อย ไม่ว่าจะอารมณ์ไหนก็เศร้าตลอด ฉกชิงหัวใจมนุษย์ไปไม่รู้กี่ราย…
ในทั่วทุกมุมโลก ยังคงมีสัตว์หลายชนิดที่ยังคงรอคอยเจ้าของอยู่ ซึ่งสัตว์เหล่านั้นก็คงอยากได้โอกาสที่จะมีบ้านหรือว่ามีใครสักคนที่รักและให้ความอบอุ่นแก่มันได้อย่างไม่มีเงื่อนไข เหมือนกับแมวขี้อายตัวนี้ ที่ไม่ว่าใครเห็นแววตาของมัน ก็ไม่อาจจะสยบความรู้สึกอยากรับมันไปวิ่งเล่นที่บ้านได้ ลูกแมวพเนจรชื่อว่า Mami ถูกพบพร้อมกับครอบครัวของมันนั่นก็คือ แม่และพี่น้องของมันอีก 2 ตัวชื่อว่า Louie และ Henry ที่ถังขยะบริเวณโรงเรียน ซึ่งมันถูกพบโดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยท่ามกลางฤดูหนาวที่แสนจะเหน็บหนาว พวกเขาจึงได้นำพวกมันมายังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์แห่งหนึ่งเพื่อจะหาบ้านที่อบอุ่นให้แก่กัน Mami แมวสุดขี้อาย ในบรรดาครอบครัวของมัน Mami ดูเหมือนจะเป็นแมวที่ขี้กลัวที่สุด และบ่อยครั้งที่มันมักจะสะดุ้งเมื่อมีคนมาใกล้ๆ แต่ลึกๆ ในใจแล้ว มันก็อยากจะหาใครสักคนที่พร้อมจะมอบความรักให้แก่มันรับไปเลี้ยงดูในบ้านแสนอบอุ่นเหมือนกัน มันมีแววตาที่เศร้าสร้อยเสมอ และเหมือนโชคชะตานำพาให้ Sinead Brooks และสามีของเธอจากเมืองซาน ฟรานซิสโกได้มาพบกับลูกแมวตาหวานนี้เข้าให้ โดยเธอบอกว่าได้ตกหลุมรักเจ้า Mami ตั้งแต่แรกเห็นเลยก็ว่าได้ ไปอยู่บ้านใหม่แรกๆ ยังคงเคอะเขินอยู่ “ในตอนนั้นเราไม่ได้มองหาลูกแมวหรอก แต่เมื่อมาเจอเจ้า Mami เข้าเราก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เอามันกลับบ้าน” Sinead เล่า เริ่มเป็นมิตรกับคนมากขึ้นแล้ว ด้วยความขี้อายของเจ้า Mami ทำให้เมื่อมันย้ายไปบ้านใหม่ มันก็เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องน้ำ และมันจะส่งเสียงขู่ทุกครั้งเมื่อมีมนุษย์เข้ามาใกล้ และเมื่อมันอยู่ที่บ้านนี้ได้…
-
ชาวอังกฤษเร่งช่วยเหลือน้องหมาฮีโร่จากสงคราม ที่กำลังจะถูกการุณยฆาต ให้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องราวสุดเศร้าของน้องหมาวีรบุรุษจากอัฟกานิสถาน ที่กำลังจะถูกการุณยฆาตหลังจากที่ทางศูนย์ฝึกไม่สามารถหาบ้านหลังใหม่ให้กับมันได้ (อ่านข่าวเก่า เจ้าหมาฮีโร่จากอัฟกานิสถานกำลังจะถูกการุณยฆาต หลังปลดประจำการและไม่มีบ้านหลังใหม่) แต่ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ สามารถหาบ้านหลังใหม่หลังใหม่และไม่จำเป็นต้องทำการรุณยฆาตพวกมันแล้ว หลังจากที่มีการเรียกร้องให้ไว้ชีวิตเจ้า Kevin และ Dazz นาย Gavin Williamson สมาชิกของพรรคอนุรักษ์นิยมอังกฤษได้ทำการติดต่อไปยังกองทัพเพื่อให้ทบทวนการการุณยฆาตเจ้าตูบทั้งสองตัวหลังจากที่มีการเรียกร้องให้ไว้ชีวิตพวกมัน โดยเขาได้พยายามที่จะหาบ้านหลังใหม่ให้กับเจ้าตูบทั้ง 2 นอกจากนี้ทางด้าน Alan Duncan รัฐมนตรีต่างประเทศเองก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ทางศูนย์ฝึกไว้ชีวิตของเจ้าตูบด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้คมากถึง 368,000 คนที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนให้ไว้ชีวิตของเจ้าตูบอีกด้วย ปัจจุบันในกองทัพอังกฤษนั้นมีสุนัขที่ประจำการอยู่มากกว่า 400 ตัวด้วยกัน พวกมันล้วนถูกฝึกมาสำหรับช่วยปฏิบัติภารกิจในสนามรบที่เสี่ยงอันตราย ซึ่งหลังจากปลดประจำการแล้วสุนัขเหล่านี้จะถูกฝึกอีกครั้งเพื่อให้พร้อมที่จะออกไปอยู่กับครอบครัวใหม่ของพวกมัน อย่างไรก็ตามมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มาขอลงชื่อเพื่อรับสุนัขเหล่านี้ไปเลี้ยง แต่ทางกองทัพจะต้องทำการประเมินพฤติกรรมของพวกสุนัขอย่างเข้มวงดก่อนที่จะส่งมอบมันให้กับผู้ที่มาขอรับเพื่อความปลอดภัย โดยสุนัขที่ไม่ผ่านการประเมินและไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตด้านนอกได้นั้นทางกองทัพจำเป็นต้องทำการการุณยฆาต โดยโฆษกของทางกองทัพได้ให้สัมภาษณ์ว่า “สุนัขทุกตัวนั้นล้วนมีความหมายสำหรับพวกเรา และถ้าหากเป็นไปได้พวกเราก็อยากที่จะดูแลพวกมันให้ดีที่สุด แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่พวกเราไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย” ที่มา dailymail
-
แผนผังความยุ่งเหยิงของรถไฟโตเกียว ตอนเช้าก็ดูสบายตา แต่พอชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้นแหละ
ในตอนเช้าๆ ของวันทำงาน ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งในเมืองใหญ่ๆ ที่ต้องตื่นแต่เช้าไปทำงานล่ะก็ คงจะชินตากับภาพผู้คนนับพันที่ตื่นมาเผชิญกับช่วงเช้าที่โหดร้ายพร้อมๆ กับคุณบนสี่แยกไฟแดง แต่ไม่เพียงแค่สี่แยกไฟแดงเท่านั้น ในระบบขนส่งสาธารณะอย่างเช่นรถไฟฟ้าหรือรถไฟใต้ดินเองก็มีผู้คนหนาแน่นไม่แพ้กัน และถ้าหากว่าคุณคิดว่าชั่วโมงเร่งด่วนในกรุงเทพบ้านเรานั้นเป็นอะไรที่ดูจะวุ่นวายสุดๆ แล้วล่ะก็ คุณอาจจะเปลี่ยนความคิดเลยก็ได้ เมื่อได้เห็นขบวนรถไฟตอนชั่วโมงเร่งด่วนของกรุงโตเกียว ผ่างง!! นอกจากความแออัดของผู้โดยสารแบบที่เราเคยเห็นกันในคลิปวิดีโออื่นๆ ก่อนหน้านี้แล้ว ความหนาแน่นของขบวนรถเองก็เยอะไม่แพ้กันเลยทีเดียว ซึ่งในชั่วโมงเร่งด่วนของย่านธุรกิจแห่งนี้ จะมีรถไฟเข้าออกทุกๆ 5 นาทีเลยทีเดียว!! คลิปวิดีโอจากช่องยูทูป badger ได้เผยให้เห็นการเคลื่อนที่ของรถไฟที่เคลื่อนที่รอบเมืองหลวงแห่งนี้ โดยรถไฟขบวนแรกนั้นจะเริ่มต้นเมื่อเวลาประมาณตี 4:42 ในสาย Keihin Tohoku (สีฟ้าอ่อน) ก่อนที่จะเคลื่อนผ่านบางสถานี คล้ายกับสาย Yamanote (สีเขียวอ่อน) ซึ่งรถไฟนี้จะจอดรับผู้โดยสารหลักๆ ที่สถานีโตเกียว ชินะงะวะ ชิบุย่า ชินจุกุ และ อะกิฮะบะระ โดยสัญญาณแห่งความวุ่นวายนั้นจะเริ่มต้นขึ้นประมาณ 7 โมงเช้า ก่อนที่หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นความหนาแน่นองรถไฟในสายต่างๆ ก็เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่จะมีเวลาเข้างานประมาณ 9 โมงเช้านั่นเอง จากนั้นทุกอย่างจะเริ่มเข้าสู่สภาวะปรกติเมื่อเวลาประมาณ 10 โมงเช้า และถ้าหากว่าคุณไม่อยากจะฝ่าฝูงชนที่กำลังแออัดกันในตอนเช้าล่ะก็ ช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการนั่งรถไฟแบบสบายๆ เลยทีเดียว ตอน 8 โมงเช้าถือว่าเป็นช่วงเวลาที่รถไฟนั้นแน่นสุดๆ ไปเลย…
-
คลิปวิดีโอสั้นๆ ที่แสดงให้มนุษย์เราเห็นถึงภัยของ “ภาวะโลกร้อน” ได้อย่างน่าเศร้าใจ…
ปัญหาโลกร้อนหนึ่งในปัญหาที่กำลังลุกลามอย่างหนัก และกำลังส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิของโลก แต่นอกจากผลกระทบต่อพวกเราชาวโลกแล้ว ปัญหาดังกล่าวเองก็ยังส่งผลกระทบโดยตรงกับสัตว์ขั้วโลกอย่างพวกหมีขาวอีกด้วย คุณ Paul Nicklen ช่างภาพประจำของ National Geographic ร่วมกับทีมถ่ายภาพยนตร์จาก Sea Legacy ได้ถ่ายทอดเรื่องราวอันแสนเศร้าของเจ้าหมีขาวตัวหนึ่งจากเกาะ Baffin Islands ประเทศแคนาดา ที่กำลังพยายามเอาชีวิตรอดด้วยการหาเศษซากสัตว์จากถังขยะ เจ้าหมีตัวผอมพยายามหาเศษอาหารเพื่อให้มีชีวิตรอด เนื่องจากสภาวะโลกร้อนทำให้แหล่งอาหารของมันลดลงอย่างมาก คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ช่างภาพหนุ่มของเราให้สัมภาษณ์ว่าเขาบันทึกภาพของเจ้าหมีตัวนั้นด้วยความเศร้าและมันช่างเป็นภาพที่น่าหดหู่ใจอย่างมาก “พวกเรารู้สึกหดหู่ใจมาก เราบันทึกภาพของมันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา” คุณ Nicklen กล่าว นอกจากสภาพอันแสนน่าหดหู่ของเจ้าหมีที่ผอมเหลือแต่กระดูกแล้ว ในคลิปวิดีโอยังเผยให้เห็นถึงท่าเดินที่แปลกๆ ของมันเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ขาหน้าอีกด้วย เจ้าหมีกำลังคุ้ยหาเศษอาหารจากถังขยะที่ชาวเอสกิโมท้องถิ่นทิ้งเอาไว้ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่กำลังส่งผลกระทบต่อโลกของเรา และภาพของเจ้าหมีจากแคนาดาตัวนี้คงจะบอกเราเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกนี้จากฝีมือของพวกเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ช่างภาพหนุ่มยังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า เขาต้องการที่จะสื่อให้ทุกคนเห็นถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกของเรา และมันก็เป็นการทำใจลำบากไม่น้อยที่ต้องยืนถ่ายภาพอันแสนหดหู่นี้อยู่เฉยๆ โดยที่ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้ “การที่เราโยนอาหารให้กับมันก็เป็นเพียงแค่การยื้อความทุกข์ให้พวกหมีเท่านั้น และนอกจากนี้การเลี้ยงหมีขาวก็ยังถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในแคนาดาอีกด้วย” ช่างภาพหนุ่มกล่าว และนี่คือคลิปวิดีโอที่จะสื่อให้เราเห็นถึงผลกระทบจากการละเลยเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่มา nationalgeographic
-
“กำแพง” ที่จะมาเปิดเผยประสบการณ์อันน่าละอายใจของ ‘ผู้หญิง’ ที่พวกเขาเคยผ่านมันมาก่อน
คุณ Suzie Blake ศิลปินสาวชาวออสเตรเลีย เจ้าของผลงานศิลปะ The Wall Of Shamed งานศิลปะที่บอกเล่าถึงเรื่องราวความน่าละอายในสิ่งต่างๆ ที่ผู้หญิงต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นความอายในเรื่องรูปร่าง ความอ้วน การมีประจำเดือน หรือแม้การถูกคุกคามทางเพศ ศิลปินสาวผู้นี้ได้เล่าถึงที่มาของผลงานของเธอว่ามันเริ่มต้นมาจากประสบการณ์การถูกล้อเกี่ยวกับรูปร่างของเธอในตอนเด็กๆ เธอต้องการที่จะสร้างงานศิลปะชิ้นนี้เพื่อให้ผู้หญิงและเด็กสาวคนอื่นๆ ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความน่าอายเหล่านั้นเพราะบ่อยครั้งที่พวกเธอมักจะตกเป็นเหยื่อของการดูถูกและกล่าวโทษ “บางศาสนาเชื่อว่าประจำเดือนของผู้หญิงนั้นเป็นสิ่งที่สกปรกและเป็นสิ่งที่ไม่ดี หรือบางครั้งถ้าหากผู้หญิงอยากแต่งตัวสวยๆ หรือชุดที่เซ็กซี่ๆ พวกเธอก็มักจะถูกมองเป็นคนไม่ดี นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการให้นมลูกในที่สาธารณะ และการตัดสินพวกเธอจากรูปลักษณ์ภายนอกอีกด้วย ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้พวกผู้หญิงแบบเราเกิดความอับอาย” ศิลปินสาวกล่าว คุณ Suzie Blake ศิลปินสาวชาวออสเตรเลียเจ้าของผลงานศิลปะชุดนี้ ข้อความต่างๆ ที่อยู่บนกำแพงนั้น เป็นสิ่งที่ให้ผู้เข้าชมผลงานศิลปะ ได้แบ่งปันเรื่องราวความอายที่พวกเธอต้องเผชิญ ซึ่งพวกเธอเลือกที่จะสื่อออกมาจากการวาดภาพ หรือเขียนข้อความบอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้นก็ได้ หนึ่งในข้อความจากผู้เข้าชมผลงานศิลปะครั้งนี้ ที่บอกว่าเธอเองก็ถูกแฟนหนุ่มด่าว่าอ้วนเหมือนกัน และนอกจากการเขียนข้อความต่างๆ ลงในกำแพงที่นำมาจัดในนิทรรศการ ศิลปะ the Victorian College of the Arts Masters Graduate ที่กรุงเมลเบิล ประเทศออสเตรเลียแล้ว ศิลปินสาวยังได้เชิญชวนให้เหล่าสาวๆ ได้แบ่งปันประสบการณ์ดังกล่าว่านแฮชแท็ก #wallofshamed อีกด้วยเช่นกัน …
-
เจ้าของโวย เชลโลอายุ 210 ปี ราคาแพง พังยับบนเครื่อง แต่สายการบินเบี้ยวไม่รับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2017 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ออกมาโพสต์ถึงสายการบินที่แสนไร้ความผิดชอบ ที่ทำเชลโลของเขาแตกหัก โดยเขาไม่ได้รับการรับผิดชอบใดๆ จากทางสายการบิน ผู้โพสชื่อว่า Yu Hao Xuan มีอาชีพเป็นนักดนตรี เขาอาศัยอยู่ในปประเทศสหรัฐอเมริกา เขาจำเป็นต้องเดินทางทางอากาศจากเมืองลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ไปยังเมืองดีทรอยด์ รัฐมิชิแกน เขาจึงเลือกเดินทางกับสายการบิน Spirit Airlines โดยที่นำเชลโลคู่ใจติดไปด้วย ซึ่งเชลโลของเขามีชื่อรุ่นว่า Martin Stoss ผลิตขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ช่วงศตวรรษที่ 19 สิริอายุรวมกว่า 210 ปี จากการประเมินราคาล่าสุด มันมีมูลค่ากว่า 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยได้กว่า 2.6 ล้านบาทเลยทีเดียว!! สภาพที่แตกหักของเชลโล . . . เขานำเชลโลตัวนี้ใส่กล่องของมันอย่างดี และใส่เข้าไปในกล่องกันกระแทกพร้อมทั้งห่อด้วยแผ่นกันกระแทกอีกชั้นหนึ่ง ก่อนจะนำกระเป๋าโหลดลงไปกับเครื่องบิน แต่พอลงมาจากเครื่อง ตัวเชลโลกลับแตกเป็นรูใหญ่และมีรอยร้าวยาวตามตัวเชลโลด้วย เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงได้โวยวายกับทางสายการบิน แต่กลับไม่มีพนักงานคนไหนกล่าวขอโทษเขาหรือว่าแสดงท่าทีรู้สึกผิดเลย ซ้ำยังพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะรับผิดชอบเชลโลของเขา ทั้งๆ ที่สายการบินนั้นแหละเป็นคนทำพัง เมื่อเห็นว่าสายการบินไม่ยอมรับผิดความเรื่องความเสียหาย เขาจึงตัดสินใจโพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กของกลุ่มนักดนตรี เพื่อเตือนภัยแก่นักดนตรีท่านอื่น…
-
สาวพนันว่าหากภาพเธอถูกรีทวีตมากกว่าพันครั้ง จะใส่ชุดต้นคริสต์มาสทั้งเทอม แล้วก็ทำมันจริงๆ
วัยเรียนคือวันที่สนุกที่สุดแล้วว่ามั้ย? เพราะวันๆ หนึ่งเราไม่ใช่แค่ไปนั่งเรียนแล้วกลับบ้าน แต่มันคือการไปพบปะกับเพื่อนๆ ได้ทำกิจกรรมหลายๆ อย่างด้วย แต่สำหรับเพื่อนบางคนแค่นั้นอาจจะยังไม่พอ ก็เลยหาอะไรแปลกๆ ทำด้วยกัน อย่างหญิงสาว Kelsey Hall ที่พนันกับเพื่อนไว้ว่าหากทวีตของใครถูกทวีตมากกว่า 1,000 ครั้ง ต้องใส่ชุดต้นคริสต์มาสมาเรียนตลอดทั้งเทอม การพนันเริ่มขึ้นเมื่อหญิงสาวโพสต์ภาพตัวเองขณะใส่ชุดต้นคริสต์มาสพร้อมแคปชั่นว่า “ถ้ารูปนี้ถูกรีทวีตมากกว่า 1,000 ครั้ง ฉันจะใส่ชุดนี้ไปเรียนตลอดทั้งเทอม” ตอนแรกเธอค่อนข้างมั่นใจนะว่าตรูไม่ได้ใส่แน่ๆ แต่พอเวลาผ่านไปรีทวีตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยจนน่าใจหาย จนเธอต้องอออกมาทวีตว่า ‘เฮ้ เพื่อนๆ ฉันไม่ได้อยากใส่นะ เพราะฉะนั้นหยุดรีทวีตเถอะ’ แต่เหมือนชาวเน็ตจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ทวิตเตอร์ของเธอยังคงถูกรีทวีตไปอย่างต่อเนื่อง แม้แต่คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักก็ช่วยรีทวีตเพราะอยากเห็นเธอใส่ชุดนี้จริงๆ…และแล้วทวิตของเธอก็ถูกรีทวีตกว่า 4,600 ครั้ง เมื่อผลออกมาเป็นดแบบนี้แล้ว ก็คงต้องทำตามที่บอกไว้สินะ เพื่อเป็นการรักษาคำพูด และเพื่อเห็นแค่คนที่รีทวีตนับพันคนด้วย และนี่คือวันที่แรกที่มาเรียนด้วยชุดต้คริสต์มาส Thank you to everyone who helped my friend reach her goal!! You have…
-
เหตุเกิดเมื่อ “อุรังอุตัง” ขโมยกล้อง GoPro ของช่างถ่ายภาพไป เลยได้เป็นเซลฟี่สุดน่ารักมา…
การออกไปผจญภัยในโลกกว้าง เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดูท้าทายและน่าตื่นเต้น ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเราจะพบเจอกับอะไรหรือมีอะไรที่กำลังรออยู่ข้างหน้า ทำให้มันเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้คนนั้นอยากจะออกไปสัมผัสเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่สักครั้ง เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2017 Lan Wood ช่างภาพที่รักในการผจญภัยได้เข้าไปที่อุทยานแห่งชาติ Tanjung Puting เกาะบอร์เนียว เกาะที่ยิ่งใหญ่อันดับ 3 ของโลกซึ่งอยู่ในบริเวณใจของ 3 ประเทศได้แก่ มาเลเซีย บรูไน และอินโดนีเซีย เพื่อถ่ายทำสารคดีเล็กๆ ที่เขาตั้งใจที่จะทำมาเพื่ออวดผลงานและเก็บประสบการณ์ เขาได้ซ่อนกล้อง GoPro ไว้ในเขตพื้นที่ของลิงอุรังอุตังเพื่อศึกษาวิถีชีวิตของพวกมันในแบบธรรมชาติ และอยากจะเก็บรูปภาพในมุมที่แปลกๆ ออกไป เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วเขาก็มาอยู่ในที่ของเขาแล้วสังเกตผลงานผ่านไอโฟน และเขาก็ได้พบกับลิงอุรังอุตังอายุประมาณ 3 ปี ท่าทางขี้สงสัย มาจับกล้องที่เขาซ่อนเอาไว้ แต่มันคงนึกว่าเป็นอาหารก็เลยจับใส่ปากซะงั้น แต่มันก็ต้องผิดหวังเมื่อเจ้ากล้อง GoPro นี้มันกินไม่ได้ ก็เลยเอาออกมาพิจารณาอีกครั้งว่าสิ่งนี้มันคืออะไรกันแน่ แต่ทว่ามือของมันดันไปกดใส่ปุ่มชัตเตอร์ แถมยังไม่ได้กดแค่ภาพเดียวนะ นางกดรัวๆ จนได้ภาพมาเป็นร้อย ฮ่าๆ สวัสดีค่าาาาา หนูสวยไหมคะ ในที่สุดมันก็เลิกสนใจกล้องและทิ้งไว้บนพื้น สงสัยจะรู้ว่าเจ้ากล้องตัวนี้กินไม่ได้ สีหน้าของมันดูผิดหวังเล็กน้อย ที่สิ่งประหลาดที่มันเจอกลับไม่ใช่อาหาร…
-
นายทหารจีนยอดฮีโร่ใช้มือเปล่าแงะกระจกรถ เพื่อช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ข้างใน นี่แหละฮีโร่ตัวจริง!!
ฮีโร่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นไม่จำเป็นต้องมาจากอวกาศ มีพลังพิเศษ หรือใส่ชุดเกราะสุดล้ำแต่อย่างใด ขอแค่คุณมีจิตใจที่ดีพร้อมจะช่วยเหลือคนอื่นเสมอ เท่านี้คุณก็จะสามารถเป็นฮีโร่ได้แล้ว เช่นเดียวกับนายทหารจีนนามว่า Ma Jun-dong วัย 26 ปีคนนี้ ซึ่งเขาได้เอาตัวเอาเข้าไปเสี่ยงและช่วยเหลือชาวบ้านสองคนที่ติดอยู่ในรถให้หนีรอดออกมาอย่างปลอดภัยด้วยมือเปล่า!? เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในมณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีน เมื่อรถยนต์คันหนึ่งได้เกิดเหตุชนและพลิกคว่ำพร้อมกับมีน้ำมันรั่วไหลออกมาซึ่งอาจจะเกิดเหตุร้ายเมื่อไหร่ก็ได้ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือภายในรถคันดังกล่าวยังมีคนสองคนติดอยู่ข้างใน ไม่สามารถเปิดประตูออกมาได้ ซึ่งในขณะที่ผู้คนต่างพากันมุงดู และไม่รู้จะทำยังไง นาย Ma Jun-dong ก็ได้วิ่งเข้าไปช่วยทันทีด้วยการทุบกระจกของรถด้วยก้อนหิน พร้อมใช้มือเปล่าๆ ของเขาแหวกกระจกออกโดยไม่สนว่ามือของเขาจะเป็นอะไรหรือไม่ เขาพยายามอย่างหนักเพื่อช่วยคนข้างในออกมา ซึ่งหลังจากที่แหวกกระจกได้ชาวบ้านคนอื่นๆ ก็ได้ตัดสินใจเข้าไปร่วมวงและพาผู้บาดเจ็บออกมา ส่วนตัว Ma Jun-dong นั้นก็พยายามอดทนต่อแผลกระจกบาดที่เขาได้รับจากการช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ข้างใน สุดท้ายความพยายามของเขาก็ประสบผล ทุกคนช่วยกันพาผู้เคราะห์ร้ายออกมาจากรถได้สำเร็จและปลอดภัย . . ซึ่งหลังจากที่เรื่องราวของเขาได้ถูกเผยแพร่ออกไป คนมากมายก็ต่างพากันชื่นชมเขาว่าเป็นฮีโร่ของหมู่บ้าน ส่วนด้านสาวๆ ก็บอกว่าอยากจะแต่งงานกับเขาเหลือเกิน อย่างไรก็ตามเราก็ต้องขอบคุณความเป็นฮีโร่ของนายทหารหนุ่มคนนี้จริงๆ ถ้าดูแบบคลิปเราจะเห็นชัดๆ เลยว่าเขานั้นกล้าหาญขนาดไหน ที่มา nextshark
-
รวมภาพผลงานของเหล่าอัจฉริยะ ที่เปลี่ยนสิ่งของธรรมดาๆ ให้ล้ำขึ้นไปอีกขั้น!!
อัจฉริยะ บ้า และความขี้เกียจนั้นมักจะเป็นอะไรที่เกิดมาคู่กัน เพราะการจะเป็นคนขี้เกียจได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้นจะต้องมีความอัจฉริยะอยู่ในตัวเพื่อก้าวข้ามผ่านขั้นตอนยากๆ ไปสู่ขั้นตอนง่ายๆ นั่นเอง และเมื่อสองอย่างรวมเข้าด้วยกันบวกกับลูกบ้าที่กล้าจะทำอะไรแปลกๆ สุดยอดผลงานอันชาญฉลาดแบบบ้านๆ จึงเกิดขึ้น!! หยิบกินธรรมดามันยาก ขี้เกียจล้วงลงไป งั้นต้องใช้กระดาษมาทำถาดซะแล้ว การยกซอสขึ้นมาเท มันก็เหนื่อยและทำให้มือไม่ว่าง ฉะนั้นนี่แหละทางออก ประตูพังจะซ่อมเฉยๆ ก็คงไม่เฟี้ยว งั้นเอารูปจากหนัง The Shining มาใส่เข้าไปดูเท่กว่าเดิมเยอะ จะซ่อมก็แพง หรือจะซื้อใหม่ก็แพงเหมือนกัน งั้นจัดไปที่นั่งสุดพิเศษ!! เกียร์แบบซามูไรสไตล์ ทำไมจะต้องทำให้เหมือนคนอื่น? แก๊ซหมดต้มน้ำไม่ได้ แต่ด้วยความอัจฉริยะปัญหานี้จึงแก้ได้ง่ายๆ แตกต่างแต่ใช้ได้เหมือนกัน… ขี้เกียจซื้อเครื่องทำน้ำอุ่น? ไม่มีปัญหา ขี้เกียจเก็บก้นบุหรี่? จัดไปกับตู้โหวตสุดเจ๋งแค่ทิ้งก้นบุหรี่ก็สามารถร่วมสนุกได้ รองเท้าไม่มีส้น จัดไปส้นทีเร็กซ์เกร๋ๆ ทำน้ำอุ่นง่ายๆ แต่ต้องกล้าและบ้าพอสมควรนะ ไม่ระวังนี่ไฟดูแน่ รองเท้าแห้งช้าเหรอ ไม่ต้องห่วงคนขี้เกียจสุดอัจฉริยะเขามีทางออกเสมอ ไม่มีเครื่องปิ้งขนมปัง? เตารีดไงแตกต่างแต่ใช้ได้เหมือนกัน…
-
ดูหนังโป๊ VR แบบเหมือนทั้งในจอและนอกจอ พอถอดแว่นออกมาเท่านั้นแหละ… จึ๋งเลย!!
ในปัจจุบันนั้นเทคโนโลยี VR นั้นเป็นอะไรที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี และยังถูกนำไปใช้ในงานมากมายไม่ใช่เพียงแค่กับเกมเท่านั้น แต่ที่เด็ดกว่าคือมันถูกนำไปใช้ในการดูหนังผู้ใหญ่ด้วย งานนี้ก็เพิ่มความเสียวแบบ 360 องศาเลยทีเดียว ทว่าจะดูแบบ 360 องศาอย่างเดียวมันก็คงไม่ฟิน พ่อหนุ่มแว่นชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเลยคิดว่าแบบนี้มาดูหนังผู้ใหญ่แบบ VR พร้อมกับจ้างหมอนวดมานวดไปพร้อมๆ กันคงจะฟินกว่าจริงไหม ฉะนั้นคิดได้แล้วก็อย่ารอช้ามาลองกันเลยดีกว่า VR เนี่ยแหละจะพาคุณไปสู่โลกใบใหม่ พร้อมแล้วหรือยัง อิคุโซะ!! เริ่มแรกก่อนจะหนวดก็ต้องแก้ผ้าก่อนนะ โอเคซ้อมก่อนๆ ท่าเตรียม!! พร้อมลุย จะหมัดจะมวย หมอนวดสวยๆ อะไรก็มาเห๊อะ โอ้โห VR นี่มันแจ่มจริงๆ โว้ย อีกฟากหนึ่งในโลกแห่งความจริง… อู้ววว แจ่มจริงๆ ประสบการณ์สมจริงอะไรขนาดนี้ พี่แว่นคงคิดในใจ “เจ้าหมอนี่มันร้องอะไรของมัน…” นวดๆ ถูๆ ขอจับก้นหน่อยนะน้องสาว…ก้นน้องนี่แน่นจริงๆ ฮร่าๆ บักหำ เองเฮ็ดอิหยั่งนิ…
-
โมเมนต์แสนเศร้าปนประทับใจ เมื่อสองพี่น้องมาเยี่ยม ‘หลุมศพ’ ของพ่อตัวเองเป็นครั้งแรก
เราหลายๆ คน แม้จะโตจนมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว แต่เราก็ยังอยากได้รับความรักจากพ่อแม่ อยากใช้เวลาอยู่กับพวกเขา พูดคุยกัน และแบ่งปันความรักให้กันและกัน แต่สำหรับสองพี่น้อง Mason และ Mylan วัย 8 ขวบ กับ 5 ขวบ พวกเขาไม่มีโอกาสได้ทำแบบนั้น เพราะพ่อผู้เป็นที่รักได้จากลาทั้งคู่เร็วเกินไป Alfred Brazel คุณพ่อของเด็กชายทั้งสอง ได้จากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2017 ในวัยเพียง 37 ปี…นั่นคือวันสุดท้ายที่ลูกๆ ได้เห็นหน้าพ่อ จนเมื่อเดือนที่ผ่านมา คุณแม่ Kait วัย 29 ปี ได้พา Mason และ Mylan ไปเยี่ยมหลุมศพของพ่อครั้งแรกที่สุสาน Arlington National Cemetery รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณแม่บอกว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ มาเยี่ยมหลุมศพของพ่อ ตั้งแต่ที่เขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง… Mylan บอกว่าเขาสัมผัสได้ว่าคุณพ่ออยู่ข้างๆ เขา และเขาอยากนอนกับพ่อที่นี่” นั่นทำให้เด็กชายทั้งสองปูผ้าห่มที่หน้าหลุมศพของพ่อ แล้วก็นอนคุยกับพ่อ โดยบอกเขาว่าพวกเขาเป็นยังไง เกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงที่พ่อไม่อยู่ Mylan เล่าให้พ่อฟังว่าเขาได้รับเครื่องแบบและเข็มกลัดจากวิชาศิลปะการป้องกันตัว…
-
เจ้าเหมียวโดนห้ามไม่ให้เข้าไปในห้องสมุด ชาวเน็ตก็เลยช่วยกันทำบัตรห้องสมุดให้ซะเลย
หลายๆ สถานที่ อย่างโรงพยาบาล ร้านอาหาร ห้องสมุด และอื่นๆ อีกหลายแห่งมักจะห้ามไม่ให้พาสัตว์เลี้ยงเข้าไปเพื่อป้องกันไม่เกิดปัญหาตามมา แต่บางสถานที่อย่างห้องสมุดเนี่ย หลายคนมองว่าไม่มีเหตุผลที่จะห้ามแมวเข้าไป เพราะมันคงไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอะไร นอกจากจะรบกวนการอ่านหนังสือนิดหน่อย และบางคนเต็มใจให้มันทำแบบนั้นด้วย เจ้าเหมียว Max เป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าไปใช้บริการของห้องสมุดในมหาวิทยาลัย ทำให้มันต้องเดินเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอกเพียงลำพัง ก่อนหน้านี้ Max เป็นแมวจรจัดที่ใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน จนวันหนึ่งมันก็รับการช่วยเหลือจากกลุ่มคนรักแมว และถูก Connie Lipton รับไปอยู่ด้วยที่บ้านในเซนต์พอล รัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา Connie เป็นครูอยู่ที่วิทยาลัย Macalester College ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านของเขาเท่าไหร่นัก และเมื่อไปทำงาน เจ้าเหมียวก็จะขอตามไปด้วยทุกวัน Max เป็นแมวที่ชอบพบปะผู้คนแล้ว เจ้าของจึงปล่อยให้มันเดินเล่นในวิทยาลัยและให้อิสระมันเดินไปทักทายทุกคนที่มันอยากเจอ ภายในระยะเวลาสั้นๆ Max ก็มีเพื่อนทั่ววิทยาลัยแล้ว มันเดินเล่นกับนักเรียนในสนามหญ้า บางครั้งมันจะโผล่ไปที่หอพักของพวกเขาแล้วส่งเสียงเมี๊ยวๆ เป็นการทักทาย นั่นทำให้นักเรียนรักราวกับเป็นสัตว์เลี้ยงของตัวเอง แม้มันจะไปอยู่นักเรียนในทุกๆ ที่ของวิทยาลัย แต่มีอยู่ที่หนึ่งที่ Max ไม่สามารถเข้าไปได้ นั่นคือห้องสมุด เพราะเจ้าหน้าที่กลัวว่าจะเผลอขังมันไว้ในห้อง กรณีที่หามันไม่เจอ อีกเหตุผลหนึ่งคือมีพนักงานที่แพ้ขนแมวอย่างรุนแรง ดังนั้นจึงต้องทำให้ห้องสมุดเป็นพื้นที่ปลอดแมว แต่ถึงอย่างนั้น…
-
ไอซ์แลนด์ลดโอกาสเกิด “ดาวน์ซินโดรม” เกือบเท่ากับศูนย์ จนเกิดประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์
ในบางประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร พบว่าอันตรายของผู้ที่เกิดมาพร้อมกับโรคดาวน์ซินโดรมนั้นเพิ่มขึ้นทุกปี ในทางกลับกัน ที่ประเทศไอซ์แลนด์พบว่าโอกาสที่เด็กจะเกิดมาเป็นดาวน์ซินโดรมนั้นเกือบเท่ากับศูนย์ จากข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่โดยสำนักข่าว CBS News ระบุว่าในไอซ์แลนด์มีเด็กเกิดมาเป็นดาวน์ซินโดรม เฉลี่ยปีละแค่ 2 คนเท่านั้น จนทำให้มีการถกเถียงถึงประเด็นนี้ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง Landspítali หรือ National University Hospital of Iceland ได้ทำการทดสอบคัดกรองก่อนคลอดกับหญิงตั้งครรภ์ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000 ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการตรวจหาปัญหาของพัฒนาการของทารกในครรภ์ รวมไปถึงโรคดาวน์ซินโดรมด้วย ปกติแล้วหญิงตั้งครรภ์ในสหรัฐอเมริกา 67% จะตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ เมื่อมีการตรวจพบความผิดปกติหรือโรคดาวน์ซินโดรมในทารกที่อยู่ในครรภ์ แต่สำหรับหญิงตั้งครรภ์ในไอซ์แลนด์เกือบ 100% จะยุติการตั้งครรภ์ทันทีเมื่อได้รับการวินิจฉัยแบบนั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้แทบไม่พบกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรมในไอซ์แลนด์เลย นักพันธุศาสตร์ Kari Stefansson บอกกับสำนักข่าว CBS ว่า “ความเข้าใจของฉันคือการกำจัดกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรมให้หายไปจากสังคมของเรา” แม้ไอซ์แลนด์จะประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ แต่ทว่าในโลกออนไลน์นั้นได้เกิดประเด็นถูกเถียงกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณธรรมและจริยธรรม พวกเขาบอกว่ามันเหมือนการบีบบังคับคุณแม่ในไอซ์ทำแท้งเพื่อแลกกับการกวาดล้างกลุ่มดาวน์ซินโดรมให้หายไปจากสังคม แม้คุณแม่บางคนจะเต็มใจแต่มันก็ล้วนมาจากการคำพูดหว่านล้อมทั้งนั้น ทางหัวหน้าแผนก Prenatal Diagnosis Unit Hulda Hjartardottir ของ Landspítali ออกมาโต้แย้งว่า “เราพยายามจะให้คำปรึกษาที่เป็นกลางที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่บางคนกล่าวหาว่าเราชี้นำให้คุณแม่ทำแท้ง” …
-
ห่อของขวัญชด้วยเทคนิค “การห่อผ้าแบบญี่ปุ่น” สวยงาม หรูหรา เหมือนได้ของขวัญแบบดับเบิ้ล
ในช่วงนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นช่วงของเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคริสต์มาสหรือว่าเทศกาลปีใหม่ ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่ที่จะต้องตระเตรียมของขวัญเอาไว้ให้กับคนพิเศษ และถ้าคุณกำลังมองหาของขวัญกล่องน่ารัก ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คุณมาถูกทางแล้วล่ะ การห่อของขวัญด้วยกระดาษ มักจะจบลงด้วยการขยำๆ และทิ้งลงในถังขยะ หากคุณไม่ต้องการที่จะเห็นขยะเหล่านั้นเกลื่อนไปเต็มบ้าน เราขอเสนอการห่อของขวัญแบบ “Furoshiki” ซึ่งเป็นการใช้ผ้าของญี่ปุ่นมาห่อของขวัญหรือสิ่งของอื่นๆ ให้สวยงามน่าใช้ การห่อแบบ “Furoshiki” สามารถห่อได้ทั้งรูปแบบสี่เหลี่ยมหรือรูปแบบอื่นได้ๆ เท่าที่ขนาดผ้าจะห่อหุ้มได้พอ ซึ่งวิธีทำนั้นก็ง่ายๆ เริ่มจากการนำวัตถุสิ่งของมาวางไว้ที่ตรงกลางของผ้า และมัดมุมผ้าแบบแนวทแยงเข้าหากันเป็นโบว์ จากนั้นก็มัดมุมผ้าที่เหลือเข้าหากัน ? 안녕하세요. 메이스매거진입니다. 새로운 한주 기분 좋게 시작하셨나요? 오늘은 10월 메이스꾸러미를 소개할까해요. 오전에 잠시 무농약 도라지배즙을 소개했는데, 너무 금방 품절되었어요. 그래서 일단 게시글을 내렸다가 다시 안내드립니다. . 도라지배즙을 구매해주신 분들은 재고를 보내드리는…
-
พบกับพับกบ…ไก่ทอดรสแบล็คโฮล สีดำเมี่ยมเหมือนอุกกาบาต สนใจลองมั้ยล่ะ!?
เชื่อว่าทุกคนต้องเคยกินไก่ทอดในรูปแบบต่างๆ กันมาแล้วมากมาย และในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ข้ามฟ้าไปถึงประเทศญี่ปุ่น เพื่อที่จะไปชมและชิมไก่ทอดที่เขาว่ากันว่าแปลกสุดๆ ทำไมไก่ทอดที่ว่านี้ถึงดูแปลกนะเหรอ!? ก็เพราะว่ามันไม่ใช่ไก่ทอดสีเหลืองทองเหมือนตามที่เราเห็นในท้องตลาดทั่วไปนะสิ แต่มันกลับมีสีดำสนิท ที่ดูแล้วเหมือนกลับมันไหม้เกรียมซะงั้น ไก่ทอดกล่องนี้จำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ในย่าน Shinjuku ซึ่งมันมีชื่อว่า “Black Hole Karaage-kun” หรือ “ไก่ทอดคาราเกะสีดำ” ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากของร้านสะดวกซื้อ Lawson เพราะไก่ทอดขนาดกะทัดรัดที่สามารถทานได้ง่ายๆ ไก่ทอดขนาดพอดีคำราคา 216 เยน หรือประมาณ 62 บาท เหมาะสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศในทุกช่วงเวลา ไก่ทอดกรอบๆ หอมๆ จะช่วยเติมเต็มท้องของคุณให้อิ่มในยามรีบเร่ง กล่องที่ตกแต่งไปด้วยนักบินอวกาศ และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว อีกทั้งยังมี ตัวละครหลักของการ์ตูนเรื่อง Space Brothers ที่เป็นอนิเมะยอดนิยม มาเอาใจคนรักการ์ตูนอีกด้วย โดยปกติแล้วอาหารที่มีสีดำนั้น มักจะใช้สีธรรมชาติจากถ่านไม้ไผ่ชาโคลหรือน้ำหมึกของปลาหมึก ซึ่ง Black Hole Karaage-kun นี้ รวมสองสิ่งไว้ด้วยกัน และยังเพิ่มความหอมอร่อยอย่างพริกไทยดำลงไปในไก่ทอดอีกด้วย แม้ว่ารูปร่างของมันจะเหมือนกับอุกกาบาตที่ตกลงมายังโลก ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า “มันกินได้แน่ๆ ใช่ไหม??” แต่อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตก็เลยขอลองชิมดูสักครั้งละกัน…
-
รวมคนเบื่อแห่งปี 2017 สงสัยจะว่างมาก เลยสร้างสรรค์งานศิลปะระดับเทพขึ้นมา!?
บางคนอาจคิดว่าการตกอยู่ในภาวะที่น่าเบื่อนั้นเป็นอะไรที่ไม่ดีและไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเอาซะเลย แต่ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าอาการเบื่อหน่ายนั้นมักเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เกิดการค้นพบสิ่งใหม่ๆ และทำให้เรามีความสุขได้ ความคิดสร้างสรรค์ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสิ่งที่มีหรือเป็นประโยชน์เสมอไป แต่มันหมายถึงความตลก ความฮา อย่างภาพด้านล่างนี้ มันอาจจะดูไร้สาระแต่ก็เอาชนะความน่าเบื่อได้นะ 1. กินโอริโอ้แบบเดิมๆ ทุกวันอาจจะเบื่อ งั้นลองแบบนี้มั้ย? 2. ไหนๆ ก็โดนหิมะทับถมแล้ว ตกแต่งให้มันเป็นงานศิลปะเลยละกัน 3. นี่คือคุณค่าของลิควิดเทปที่แท้ทรู 4. เรียงกระป๋องแบบธรรมดามันซ้ำซาก มันต้องเรียงให้เป็นรูปเป็นร่างแบบนี้ 5. แปลงโฉมเจ้าแมลงสาบให้เป็นเจ้าหน้าที่รับคำร้องเรียน 6. ฤดูกาลแห่งสตาร์ วอร์ส หุ่นยนต์ต้องมา 7. นี่ไม่ใช่แค่เบื่อ แต่ต้องว่างมากๆ ด้วย 8. ระหว่างนั่งทำธุระในห้องน้ำ อย่าปล่อยให้มืออยู่ว่างๆ 9. การเข้าครัวจะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป…ว่าแต่วันนี้จะได้กินมั้ย? 10. เป็นไง มากันเป็นทีมเลย 11. เมื่อมนุษย์ออฟฟิศอยากทำลายความน่าเบื่อ… 12.…
-
ต้อนรับเจไดคนสุดท้ายด้วยเซ็กส์ทอยธีม ‘สตาร์วอร์ส’ ดิลโด้พลังฟอร์ซโดนเข้าไปทีมีขาด
เชื่อว่าความใฝ่ฝันของใครบางคน คือการได้ไปท่องอวกาศสุดแสนจะลึกลับที่ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้ว่าของเขตมันอยู่ตรงไหน แต่เชื่อหรือไม่ว่า ในตอนนี้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การวาร์ปไปกาแลกซีอื่นๆ ได้อย่างง่ายๆ แล้วล่ะ ด้วยเซ็กส์ทอยจากร้าน Geeky Sex Toys ที่วางจำหน่ายเซ็กส์ทอยคอลเลคชั่นสุดยิ่งใหญ่ไฟกะพริบ ในแบบ “Star Wars” ที่จะทำให้ทุกคนหลุดเข้าไปหลุมดำ และล่องลอยไปในดินแดนพิศวง จนอยากจะกลับไปครั้งแล้วครั้งเล่า ทางบริษัท Geeky Sex Toys ได้กล่าวว่า “มันช่วยให้คุณรู้สึกถึงแรงที่แตกต่างกัน และพาคุณเข้าสู่ด้านมืดของจักรวาล” ร้านค้าออนไลน์ Geeky Sex Toys ตั้งอยู่ที่ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ได้สร้างสรรค์เซ็กส์ทอยจำนวน 11 รายการ ไว้ในคอลเลคชั่น Dark Side Bondage, Space Gag และ Darth Vibrator Dark Side Bondage 6 ชิ้น ชิ้นนี้ก็มีชื่อว่า C3-Plug มันจะช่วยเป็นยานพาหนะพาคุณท่องอวกาศไปสู่ดาวดวงอื่นได้อย่างง่ายดาย Darth Vibrator อันสีดำอาจจะทำให้คุณนั้นขาอ่อนระทวยได้ ซึ่งไม่แพ้กับ Vibe Trooper สีขาวที่แรงสั่นของมันอาจจะทำให้คุณลืมโลกไปเก่าไปได้เลย โดยทั้งสองเครื่องสั่นนี้มีราคาอยู่ที่ 5,000…
-
รู้จักกับการ Microblade เทรนด์ความงามแบบใหม่ ที่จะช่วยให้คิ้วของคุณดูมีมิติยิ่งขึ้น!!
เพื่อนๆ คิดเหมือนกันไหมว่า เรื่องคิ้วคือเรื่องใหญ่ ไม่ว่าใครก็อยากมีคิ้วที่ดูเป็นทรงสวยงาม ดกดำ มีขนอุยอยู่อย่างชุกชุม แต่สำหรับบางคนที่เกิดมีคิ้วก็เหมือนไม่มี เพราะความบาง ความเส้นน้อย จนต้องไปสรรหาสารพัดวิธีมาทำให้คิ้วดูปังขึ้น ซึ่งวิธีเบสิคที่สุดของสาวๆ ก็น่าจะเป็นการเขียน แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่าตอนนี้มีวิธีที่ล้ำกว่านั้น นั้นก็คือ “Microblading” นวัตกรรมการเขียนคิ้วแบบเป็นเส้นๆ ให้คล้ายกับขนคิ้วจริง โดยจะไม่เน้นเขียนจนหนาเตอะ ดูเวอร์จนเกินไป แต่จะเน้นให้คิ้วมีความเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด โดยวิธีนี้ Microblading เป็นการสร้างลายเส้นโดยใช้ “เข็ม” ที่เรียงตัวเหมือนใบมีด ไม่ใช่เครื่องสักในแบบที่สาวๆ เคยเห็นทั่วไป มันจะสร้างลายเส้นคิ้วที่เรียงตัวอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนกับคิ้วดกมาตั้งแต่เกิดเลยล่ะ และนี่คือ Kane เขาตัดสินใจที่จะทดลองการสักคิ้วแบบ Microblading ด้วยตัวเอง ซึ่ง 3 เหตุผลที่ Kane ตัดสินใจสักคิ้วก็เพราะว่าเขาได้ไปเห็นคลิปของสาวบล็อกเกอร์ที่ชื่อว่า Freddie ซึ่งหลังจากที่เธอสักคิ้ว Microblading แล้วมันดูดีสุดๆ สองคือคิ้วของเขาในรูปบนไอจีมันดูไม่ค่อยปังเท่าไหร่ และสุดท้ายคือการแหกข้อห้ามของแม่ที่บอกกับเขาว่า “ห้ามทำอะไรกับคิ้วเด็ดขาดนะ!!” และนี่คือ Jonathan Paul จาก Perfect Frame Microblading ผู้ที่จะมาทำเสกให้คิ้วของเขาสวยงามดั่งใจ …
-
เด็กสาววัย 11 ปี ที่ต้องอาศัยอยู่ในคุกกับแม่ที่เป็น ‘ฆาตกรต่อเนื่อง’ ไปตลอดชีวิต
คนที่ทำผิดย่อมต้องได้รับการลงโทษ เป็นแนวคิดตามหลักจริยธรรมทั่วไปในสังคมและในแง่ของกฎหมายเช่นกัน ดังนั้นนักโทษที่ถูกจับแล้วจึงต้องรับโทษอย่างสาสมกับความผิดที่พวกเขาก่อไว้ เช่น โดนปรับ โดนยึดทรัพย์สิน ต้องจำคุก หรือแม้แต่ถูกประหารชีวิต ทว่าถ้าคนบริสุทธิ์รอบตัวของนักโทษ อย่างคนรักหรือสมาชิกในครอบครัวต้องติดร่างแหของการลงโทษนี้ไปด้วย มันยุติธรรมดีแล้วหรือ หากพวกเขาต้องลำบากเพราะขาดคนสำคัญในชีวิตไป จะมีวิธีช่วยเหลือคนเหล่านี้หรือไม่ แล้วช่วยเหลืออย่างไร เรามาลองติดตามดูตัวอย่างของปัญหาดังกล่าวกันดีกว่า ฆาตกรต่อเนื่อง Shirin Gul ในคุกประจำจังหวัดนานกาฮาร์ ประเทศอัฟกานิสถาน มีนักโทษหญิงอยู่จำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือฆาตกรต่อเนื่อง Shirin Gul เธอติดคุกเนื่องจากเธอและสมาชิกในครอบครัวร่วมทำการล่อลวงชายจำนวน 27 คนมาฆ่าเพื่อปล้นเอาทรัพย์สิน สมาชิกในครอบครัวทุกคนถูกตัดสินให้ได้รับโทษประหาร แต่ Gul ซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ถูกลดโทษลงให้เหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิต จากนั้นเธอก็ให้กำเนิดลูกสาวในคุก และตั้งชื่อว่า Meena Shirin Gul และลูกสาวของเธอ Meena คุกในอัฟกานิสถานนั้นอนุญาตให้บุตรอาศัยอยู่กับบิดามารดาได้จนบุตรมีอายุ 18 ปี Meena จึงเติบโตมาในคุกแห่งนี้ตลอดช่วงชีวิต 11 ปีของเธอ นอกจากเธอแล้วยังมีเด็กอีกจำนวนมากที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ในคุก เด็กๆ เหล่านี้ไม่ได้แตกต่างจากเด็กข้างนอกแต่อย่างใด พวกเขามีความไร้เดียงสา และสดใสสมวัยอย่างที่ควรจะเป็น Meena เองก็มีความสนใจเหมือนกับเด็กผู้หญิงนอกคุก เธอชอบเล่นตุ๊กตา ชอบพูดถึงเพื่อนสนิทวัยเดียวกัน (เด็กสาวคนอื่นในคุก)…
-
ศิลปินใช้ ‘คลิปหนีบกระดาษ’ บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์โรคทางจิตแต่ละประเภท
“คลิปหนีบกระดาษ” เป็นนวัตกรรมที่เรียบง่าย มันเป็นเพียงโลหะที่บิดเบี้ยว แต่ก็สามารถหนีบสิ่งต่างๆ ไว้ด้วยกันได้ Eisen Bernard Bernardo ศิลปินจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม จึงได้อธิบายความหมายของคลิปหนีบกระดาษ ซึ่งเขาก็สักไว้บนผิวหนังของเขาว่า “ผมมีรอยสักรูปคลิปหนีบกระดาษ เพื่อเตือนตัวเองว่าผมควรเก็บเรื่องราวทั้งหมดไว้ด้วยกัน” สัญลักษณ์ของชีวิตมีทั้งจุดเริ่มต้นและจุดจบ ด้วยแรงบันดาลใจของคลิปหนีบกระดาษนี้เขาจึงนำมันมารังสรรค์เป็นงานศิลปะ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความทรมานและอาการของโรคจิตประเภทต่างๆ “ผมอยากจะเห็นภาพของผู้ป่วยทางจิตที่ผิดปกติของคนจำนวนมากและเยาวชนที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้” 1. Depression โรคซึมเศร้า เป็นความผิดปกติของสมอง ที่มีผลกระทบต่อความนึกคิด อารมณ์ ความรู้สึก พฤติกรรมและสุขภาพกาย แต่คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าโรคซึมเศร้า เป็นผลมาจากความผิดปกติของจิตใจ สามารถแก้ไขให้หายได้ด้วยตนเอง ในความจริงแล้วโรคซึมเศร้าเป็นโรคที่เกิดจากความไม่สมดุลของสารสื่อประสาท 2. Anxiety โรควิตกกังวล เป็นความรู้สึกวิตกหรือไม่สบายใจ ซึ่งในบางครั้งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับผู้ป่วยโรคนี้จะมีความรู้สึกกลัวหรือกังวลมากเกินไป ควบคุมได้ยากและขัดขวางการใช้ชีวิตประจำวัน 3. Bipolar Disorder โรคอารมณ์สองขั้ว เป็นความผิดปกติทางอารมณ์อย่างหนึ่ง ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะมีลักษณะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมา ระหว่างอารมณ์ซึมเศร้า สลับกับช่วงที่อารมณ์ดีมากกว่าปกติ โดยอาการในแต่ละช่วงอาจเป็นอยู่นานเป็นสัปดาห์ หรือหลายๆ เดือนก็ได้ 4. Obsessive-Compulsive Disorder โรคย้ำคิดย้ำทำ เป็นความคิด ความรู้สึก หรือจินตนาการ ที่มักผุดขึ้นมาเรื่อยๆ โดยผู้ป่วยเองก็ทราบว่าเป็นความคิดที่เหลวไหล แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเกิดความรู้สึกแบบนี้ได้อย่างไรและเกิดความรู้สึกรำคาญ เช่น มีความคิดจะจุดไฟเผาบ้าน คิดว่ามือสกปรก…
-
นักออกแบบวิเคราะห์การสร้าง “กำแพงเมืองทรัมป์” ต้องใช้เวลาถึง 16 ปี และอาจเป็นไปไม่ได้!!!
มีอะไรที่ประธานาธิบดีประเทศมหาอำนาจของโลกอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ทำไม่ได้ โดยก่อนหน้านี้เขาได้มีความคิดที่จะสร้างกำแพงกั้นระหว่างชายแดนประเทศสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าประเทศแบบผิดกฎหมาย ซึ่งก็มีผู้ต่อต้านนโยบายนี้ของเขามากมาย เพราะว่ามันดูเหมือนการนำเงินภาษีไปละลายเล่น และในตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเป็นจริงน้อยลงทุกที เมื่อมีสถาปนิกออกมาบอกว่าการสร้างกำแพงอาจต้องใช้เวลาถึง 16 ปีเลยทีเดียว ภาพจำลองที่ Estudio 3.14 ได้สร้างขึ้นมา สถาปนิกชาวเม็กซิกันจาก Estudio 3.14 บริษัทออกแบบที่ตั้งอยู่ในเมือง Guadalajara ได้ทดลองทำแผนภาพจำลองกำแพงกั้นชายแดนที่ทรัมป์คิดจะสร้างขึ้น ซึ่งมันกินพื้นที่มากกว่า 3,144 กิโลเมตรเลยทีเดียว โดยเหล่าสถาปนิกถึงกับเรียกกำแพงกั้นชายแดนนี้ว่า ‘กำแพงคุก’ เพื่อเป็นการประชดการสร้างกำแพงที่มีความยาวกว่า 3,000 กิโลเมตรแห่งนี้ “ภาพจำลองดังกล่าวทำให้เห็นถึงความเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างกำแพงนี้ขึ้น และมันจะนำการประท้วงตามมาด้วย” Norberto Miranda นักออกแบบแผนภาพนี้กล่าว ดีไซเนอร์ได้สร้างกำแพงเป็นสีชมพู ซึ่งตรงกับที่ทรัมป์เคยบอกว่ามันจะทำให้กำแพงนี้สวยงาม และปัญหาอีกอย่างหนึ่งสำหรับการสร้างกำแพงนี้ก็คือ ภูมิประเทศที่เป็นแบบเทือกเขาระหว่างชายแดนของทั้งสองประเทศ ทำให้การก่อสร้างยากขึ้นไปด้วย นอกจากนี้ Miranda ยังบอกอีกด้วยว่าหากกำแพงแห่งนี้เกิดขึ้นจริง จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก ดูแย่ลงไปอีกในสายตาของประชาชนของทั้งสองประเทศ การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจาก งานของสถาปนิกที่มีชื่อเสียงของประเทศเม็กซิโกชื่อว่า Luis Barragán และด้วยความที่กำแพงนี้มีค่าใช้จ่ายจำนวนสูงมาก แต่ Enrique Peña Nieto ประธานาธิบดีของเม็กซิโกก็ออกมาบอกว่า ประเทศเม็กซิโกจะไม่ออกเงินสร้างกำแพงนี้แม้แต่แดงเดียว เพราะมันไม่ใช่ความคิดของพวกเขา Kate Drew นักวิเคราะห์ข่าวแห่งช่อง…
-
หนุ่มเสียฟันไป 4 ซี่ แถมเป็นแผลไฟไหม้ที่ปาก อ้างเพราะ ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ระเบิดตู้มมม!!
ในวงการนักสูบ บุหรี่ถือว่าเป็นของสำคัญในชีวิตของพวกเขา แต่ด้วยความเบื่อหน่ายในรสชาติ หรือต้องการจะหาสิ่งอื่นที่ดีกว่ามาเติม นวัตกรรมใหม่ล่าสุดอย่างบุหรี่ไฟฟ้าจึงได้ถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ทว่าอาจจะด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานของบุหรี่ไฟฟ้ายี่ห้อหนึ่ง ทำให้มันเกิดระเบิดขึ้นพร้อมทั้งยังได้พรากฟันจำนวน 4 ซี่ไปจากนักสูบคนหนึ่ง… Matt Yamashita ชายชาวฮาวายวัย 25 ปีเล่าให้ฟังว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งในตอนนั้นเขากำลังสูบบุหรี่ไฟฟ้ายี่ห้อ CoilART Mage อยู่และจู่ๆ มันก็เกิดระเบิดขึ้นคาปากของเขาเลย สำหรับความเสียหายของมันมีมากพอที่จะทำให้เขาต้องสูญเสียฟันไปถึง 4 ซี่พร้อมกับยังมีรอยไหม้อยู่รอบๆ ปากของเขา และมันร้ายแรงถึงขั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดเลยทีเดียว “ในตอนนี้ผมกำลังจะไปตีเบสบอลที่สนาม Palisades Park ในเมือง Pearl City เมื่อผมไปถึงและกำลังลงจากรถผมก็สูบบุหรี่ดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่าตั้งแต่ทีแรกที่ผมดูดเข้าไปมันก็ระเบิดใส่หน้าของผมเลย มือข้างขวาของผมก็โดนด้วย มันไหม้จนเนื้อเปลี่ยนไปเป็นสีดำสนิท” Matt กล่าว Matt บอกว่าเขาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวมาจากอินเทอร์เน็ต เมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้วแต่เพิ่งจะนำมาสูบเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง และเขายังบอกอีกด้วยว่า เขาใช้บุหรี่ไฟฟ้าอันนี้เพียงแค่สองครั้งเท่านั้นก่อนที่มันจะเกิดระเบิดขึ้น “ผมได้ยินเสียงดังลั่นผ่านหูทั้งสองข้างของผม ตอนนั้นตาของผมจ้าจนมองอะไรไม่เห็น ต่อจากนั้นผมก็รู้สึกได้ว่ามีเลือดไหลออกมาจากปาก และนั่นได้ทำให้ผมแทบช็อกตาย” Matt เล่าให้ฟัง ภาพถ่ายบุหรี่ไฟฟ้าระเบิดของเขาได้ถูกถ่ายมา ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงบุหรี่ไฟฟ้าอันหนึ่งที่พังพินาศรวมทั้งยังมีหยดเลือดรวมทั้งฟันของเขาอยู่ในบริเวณนั้นด้วย ด้วยอุบัติเหตุในครั้งนั้น นอกจากเขาจะสูญเสียฟันไปถึง 4…
-
ภาพ GIF สุดปั่นที่ดูแล้วจู่ๆ ก็มีเสียงเฉยเลย กับเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?
ประสาทสัมผัสของคนเรานั้นมีอยู่หลายด้าน ทั้งการมองเห็น การสัมผัส การดมกลิ่น รวมทั้งการได้ยิน ซึ่งบางคนก็อาจจะมีประสาทสัมผัสด้านการได้ยินที่ดีเกินไปจนเรียกว่าเกิดอาการ ‘หูแว่ว’ หรือว่าได้ยินสิ่งที่คนอื่นมักไม่ได้ยิน แต่มีภาพเคลื่อนไหวบางภาพ ที่หลายคนต่างยืนยันว่ามีเสียงออกมาจากภาพเหล่านั้นจริงๆ แม้ว่าจะมีการปิดเสียงไว้ก็ตาม ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่พวกเขาได้ยินกันมานั้นมันเป็นเสียงที่อยู่ในภาพหรือว่าเป็นเสียงที่พวกเขาคิดกันอยู่ในหัวกันแน่ ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ชื่อว่า @Lisa DeBruine ได้แชร์ภาพเคลื่อนไหวอันหนึ่ง ที่ไม่ว่าใครได้มาชมต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันมีเสียงออกมาภาพจริงๆ นะ และหากใครอยากทดสอบว่ามันจริงไหมนะ ก็ลองไปทดสอบกันได้เลย ภาพเคลื่อนไหวที่ว่ากันว่ามีเสียงออกมาจากภาพ Does anyone in visual perception know why you can hear this gif? pic.twitter.com/mcT22Lzfkp — @debruine@tech🐘lgbt (@LisaDeBruine) December 2, 2017 ภาพเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นภาพของเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่เล่นกระโดดเชือกกัน โดยสิ่งที่คนส่วนใหญ่ได้ยินเป็นเสียงดังที่มาจากการสั่นสะเทือนของพื้นดินระหว่างที่เสาไฟฟ้านั้นกระโดดข้ามเชือกนั่นเอง มีผู้คนกว่า 67% จาก 300,000 คนบอกว่าได้ยินเสียงดังกล่าว บางคนก็บอกว่าได้ยินเสียง ดึ๋งๆ ในภาพหลังเธอได้ออกมาอธิบายถึงสาเหตุที่คนส่วนใหญ่ได้ยินเสียงดังมาจากภาพเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยเธอบอกว่ามันเป็นผลมาจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า…
-
25 เหตุผลพิสูจน์ให้เห็นว่า ‘การไปชอปปิง’ กับเด็กๆ เหมือนไปทำภารกิจ Mission Impossible!!
กิจกรรมยามว่างของครอบครัวสุขสันต์คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการไปชอปปิง ซึ่งนั้นหมายความว่าคุณต้องนำเอาพวกเด็กตัวแสบทั้งหลายไปด้วย.. ภาพการชอปปิงแสนสุข ในวันชิลๆ จะพังทลายลงเมื่อเจอเด็กตัวเล็กๆ ที่มีพลังอาละวาดมหาศาล คุณจะไม่มีทางได้เลือกซื้อผัก หรือของใช้ในบ้านแบบปกติสุข และคุณต้องเสียเวลาไปกับแผนกของเล่นสุดน่าเบื่อ แต่สำหรับเด็กๆ แล้วมันคือสวรรค์ของพวกเขา 1. เวลาที่พ่อแม่ชอปปิงอยู่ มันเป็นอะไรที่ทรมาน 2. เด็กหัวดื้อที่ต่อต้านการชอปปิงของคุณย่า 3. แม่หนูไม่อยากไปชอปปิงง!!! 4. บางทีเด็กๆ ก็มักจะเรียกร้องความสนใจด้วยการปลอมตัวเป็นผี 5. การรอใครสักคนมันน่าเบื่อ… 6. แม่อยู่ไหน แม่ผมอยู่ไหน แม่!!!!! 7. เมื่อเด็กๆ เหงาจากการชอปปิง พวกเขาก็เลือกเล่นกับหุ่นลองเสื้อซะเลย 8. การเล่นซ่อนหาในห้างสรรพสินค้ามันสนุกใช่ไหมล่ะ… 9. เนียนเลยนะ 10. ออกมาาา!!! 11. วิธีแก้เบื่อที่ดีที่สุดก็คือ “แผนกของเล่น” 12. นี่คือชุดไปห้างของพวกเธอสินะ 13. หรือบางทีการนั่งนิ่งๆ…
-
คุณย่าเตรียมของขวัญคริสต์มาสให้หลานสาว พอเปิดออกมาเป็นกระปู๋ปลอมซะงั้น!?
ใกล้ช่วงเทศกาลคริสต์มาสแล้ว ผู้คนต่างก็เริ่มหาซื้อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้กับคนที่เป็นที่รักของตัวเอง บรรดาห้างร้านต่างๆ ก็ได้ออกมาจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า เป็นอีกหนึ่งเทศกาลแห่งความสุขที่ไม่ว่าใครต่างก็รอคอยให้มาถึง Debbie Greenhalgh ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการหาซื้อของขวัญให้กับคนที่เธอรักนั่นก็คือหลานสาวที่ชื่อว่า Millie วัย 9 ขวบ ในคริสต์มาสนี้ เธอจึงได้เข้าเว็บไซต์ Amazon เพื่อค้นหาของขวัญให้กับหลานสาวของเธอ สิ่งที่เธอวางแผนว่าจะซื้อให้กับหลานสาวนั่นก็คือชุดสติกเกอร์สีทองเพื่อให้เธอได้นำมันไปติดกับการ์ดส่งความสุขให้กับคนอื่นๆ ต่อไป หนู Millie ตื่นเต้นมากและรอคอยให้ไปรษณีย์มาส่งของที่หน้าบ้านอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อพัสดุมาถึงที่บ้านหนูน้อยก็ออกไปรับพัสดุกล่องนั้นมาทันที แต่ทันใดที่เธอเปิดกล่องออก เธอไม่พบกับชุดสติกเกอร์สีทองแบบที่เธอต้องการ แล้วคุณย่าของเธอก็ยังพูดซ้ำว่า “เซอร์ไพรส์ไหมล่ะหนู” แต่เมื่อหลานนำกล่องที่เปิดแล้วมาให้ดูแล้วถามว่านี่คืออะไร เมื่อคุณย่าเห็นแล้วก็ต้องรีบคว้าออกจากมือเธอในทันที มันคือกระปู๋ปลอมที่เอาไว้บีบคลายเครียด คุณย่าก็เกิดสงสัยในทันทีว่าทำไม Amazon ถึงได้ส่งของแบบนี้มาให้เธอและเธอคิดว่ามันอาจจะเป็นความผิดพลาดอะไรบางอย่างก็เป็นได้ เธอจึงได้สอบถามไปยังเว็บไซต์ถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทาง Amazon ได้ออกมาขอโทษถึงความผิดพลาดในครั้งนี้และยินดีคืนเงินให้กับคุณย่ารวมไปถึงการที่พวกเขาจะส่งของขวัญชิ้นใหม่เพื่อมาปลอบขวัญหนู Millie และได้บอกให้คุณย่าเก็บเจ้ากระปู๋ปลอมนี้ไว้ได้โดยไม่ต้องส่งคืนบริษัท “ฉันจะเก็บไว้ทำไม ในเมื่อฉันไม่ต้องใช้มัน” Debbie กล่าว เจอแบบนี้ใครจะไม่เซอร์ไพรส์บ้างล่ะ โชคดีที่หลานสาวไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรจริงๆ ที่มา metro
-
12 แนวคิดจิตวิทยา ที่ผู้สร้างอนิเมชั่น Pixar แฝงเอาไว้ในตัวการ์ตูนแสนน่ารักของพวกเขา
การ์ตูนอนิเมชั่นจากค่าย Pixar ได้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้คนมาแล้วมากมายหลากหลายเรื่อง โดยการ์ตูนส่วนใหญ่ของค่ายนี้จะมีเป็นการ์ตูนที่สามารถดูได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วผู้สร้างอนิเมชั่นเหล่านี้ ได้แฝงข้อคิดทางด้านจิตวิทยาเอาไว้ในการ์ตูนเรื่องต่างๆ ของพวกเขาอีกด้วย ทว่าใครหลายคนอาจจะไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่เพลิดเพลินไปกับตัวการ์ตูนแสนน่ารักน่าหยิก ในวันนี้เราจึงหยิบเอาหลักจิตวิทยาต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ มาให้ทุกคนได้รู้ว่าจริงๆ แล้วทางผู้สร้างเขาอยากจะบอกอะไรแก่เรานะ? 1. Finding Dory (2016) เราทุกคนล้วนแตกต่างกัน และเราต้องให้ความเคารพแก่ความแตกต่างของทุกคน ตัวละครหลักในเรื่องนี้คือปลาแสนน่ารักที่ชื่อว่า Dory แต่ว่าเจ้าปลาตัวนี้จะมีปัญหาอยู่ที่ความทรงจำที่ไม่สามารถจำอะไรได้เลย Dory มีความฝันที่จะตามหาครอบครัวของเธอ แต่ก็ไม่สามารถจำได้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน เพราะเรื่องความทรงจำที่เลือนรางนั้นเป็นโรคที่มีมาตั้งแต่กำเนิดของเธอ โดยในเรื่องนี้จะเห็นได้หลายครั้งว่า พ่อแม่ปลาในเรื่องพยายามสอนแก่เด็กๆ ว่า การเคารพในสิ่งที่ผู้อื่นเป็นนั้นมีความสำคัญแค่ไหน เพราะว่าพวกเขาอยากจะให้เรายอมรับในธรรมชาติของทุกคนนั่นเอง 2. The Good Dinosaur (2015) ความจริงใจในมิตรภาพเป็นพลังอำนาจมหาศาล ในอนิเมชั่นเรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงเพียงแต่มิตรภาพระหว่างเด็กชายมนุษย์กับไดโนเสาร์เท่านั้น แต่เรื่องนี้ยังบอกอีกด้วยว่าถึงอารยธรรมต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นจะมีความยิ่งใหญ่เพียงใดแต่ก็ยังต้องยอมสยบต่อธรรมชาติที่แสนเรียบง่าย และในขณะที่เด็กๆ กำลังสนุกสนานไปกับตัวการ์ตูนแสนสดใส ผู้ใหญ่หลายคนที่ได้รับชมเรื่องนี้ก็ต่างเพลิดเพลินไปกับแนวคิดและปรัชญาที่ผู้สร้างแฝงไว้ในการผจญภัยของอาร์โล 3. Inside Out (2015) อย่ากลัวอารมณ์ต่างๆ ที่มีอยู่หลากหลายในตัวคุณ การ์ตูนอนิเมชั่นเรื่อง Inside Out…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นชอบใจ เจ้าเหมียวที่มีลำตัวย๊าวววยาวว ยาวกว่าทีวีซะอีก เฮ้ย…จริงดิ!?
เรื่องของเจ้าเหมียวนี่มันมีไม่รู้จักจบจักสิ้นซะจริงๆ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าแมวทุกตัวมีสายเลือดแห่งความกวนตรีนอยู่จึงขยันสร้างแต่เรื่องฮาๆ ให้เราได้ติดตามกันตลอด และเรื่องราวแห่งความกวนตรีนของแมวประจำวันนี้ถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @amims2koz ที่ได้ออกมาทวีตวิดีโอสุดฮาของเจ้าเหมียวที่เธอเลี้ยง ชื่อว่าเจ้า Kohaku, Komugi และ Pan วิดีโอต้นฉบับ 胴体ながっ pic.twitter.com/ikFniqRbRw — すみパン@YouTubeはじめました。 (@aims2koz) 25 พฤศจิกายน 2560 จากวิดีโอจะเห็นว่าเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Komuji กำลังเดินไปยังด้านหลังโทรทัศน์ ค่อยๆ ย่องไป ย่องไป อ้าว เห้ย เห็นอะไรแว๊บๆ เดี๋ยว ไม่ใช่แล้วนิ!! ทำไมแกตัวยาวแบบนั้น คลิปวิดีโอนี้ได้รับความนิยมจากในทวิตเตอร์โดยชาวเน็ตได้รีทวีตคลิปวิดีโอนี้ไปเกือบ 55,000 ครั้งเลยทีเดียว สงสัยเค้าคงจะคิดว่าทีวีเครื่องนี้มีผีสิงแน่ๆ เลย ที่ไหนได้ความจริงนั้นเค้าเป็นแมวแฝดกันต่างหาก คิดมากอีกแล้ว เห้อ หรือว่าจริงๆ แล้วเจ้าแมวพวกนี้เป็นมนุษย์ยางกันแน่ ถึงได้ยืดยาวขนาดนี้ ที่มา en.rocketnews24
-
4 ลักษณะอาการที่บ่งบอกว่า คุณมีความเสี่ยงเป็นโรค “มะเร็งรังไข่” ผู้หญิงทุกคนควรรู้เอาไว้!!
โรคมะเร็งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้มนุษย์ทั่วโลกเสียชีวิต เหล่านักวิทยาศาสตร์และแพทย์ทั่วโลกต่างก็ได้ทำการศึกษาค้นคว้าเพื่อที่จะหาวิธีต่อสู้กับโรคมะเร็งเหล่านี้ แต่ดูเหมือนว่าเรายังห่างไกลจากจุดนั้นพอสมควร สาเหตุของมะเร็ง ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเซลล์มะเร็งเกิดจากอะไร เนื่องจากมะเร็งนั้นสามารถเป็นได้ทุกส่วนของร่างกายไม่ว่าจะเป็นสมอง ปอด กระเพาะอาหาร ลำไส้ หรือในระบบสืบพันธุ์ของทั้งชายและหญิง โรคมะเร็งจะไม่แสดงอาการจนกว่าร่างกายจะสู้ไม่ไหวจริงๆ ซึ่งกว่าที่ผู้ป่วยจะรู้ตัวว่าเป็นโรคมะเร็งก็อาจจะเข้าสู่ขั้นที่รักษายากแล้ว มะเร็งรังไข่ ภัยเงียบของผู้หญิง มะเร็งรังไข่เป็นอีกหนึ่งโรคที่สามารถพบได้เป็นอันดับสองของผู้หญิง เกิดจากที่เซลล์มะเร็งได้เข้าไปเจริญเติบโตในรังไข่ที่ทำหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมนเพศหญิง มะเร็งรังไข่มีอยู่ 3 ประเภทคือ 1.มะเร็งเยื่อบุผิวรังไข่ เกิดจากเซลล์เยื่อบุผิวรังไข่ สามารถพบได้ในหญิงที่อายุ 50 ปีขึ้นไป 2.มะเร็งเซลล์ผลิตไข่ เกิดขึ้นจากเซลล์ที่ผลิตไข่ สามารถพบได้ในเด็กและวัยรุ่น 3.มะเร็งเนื้อรังไข่ เกิดขึ้นจากเซลล์เนื้อเยื่อที่ผลิตฮอร์โมนเพศหญิง แต่พบได้น้อยมากเพียงแค่ 5 % ปัจจัยเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งรังไข่ กลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งรังไข่นั่นก็คือ ผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปหรือมีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านม หรือคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งรังไข่ 4 อาการเสี่ยงที่ส่งสัญญาณว่าคุณผู้หญิงอาจจะเป็นโรคมะเร็งรังไข่ 1. มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อนานกว่า 3 สัปดาห์ 2. ปวดท้อง ปวดสะโพกหลังหมดประจำเดือนหรือปวดท้องมากๆ ขณะที่มีประจำเดือน 3. ทานอาหารน้อยลงในช่วง 3…
-
หนุ่มตัดสินใจเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วย ‘กระต่าย’ จากกองเพลิงที่ลุกท่วมอย่างรุนแรง
จากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าที่หุบเขาในนครลอสแองเจลิสและพื้นที่ส่วนหนึ่งของรัฐแคลิฟอร์เนีย ในวันที่ 6 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมาจากที่เราได้รายงานไปก่อนหน้านี้ ชมบรรยากาศหุบเขาใน Los Angeles ที่กำลังเผชิญปัญหา ‘ไฟป่า’ ดูราวกับวันมหาวิปโยค ไฟป่าที่โหมกระหน่ำราวกับว่าจะแผดเผาให้ภูเขาทั้งลูกนี้หายไปกับตา มันได้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียงอย่างรวดเร็วทำให้บ้านเรือนที่อยู่บริเวณนั้นถูกเผาจนสิ้นซาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 125 นายได้เข้ามาในพื้นที่เพื่อทำการดับไฟป่าในครั้งนี้ เหตุการณ์ไฟไหม้ป่าในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากทั่วโลก เหล่าบรรดาสื่อทุกสำนักต่างก็ติดตามข่าวกันอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงช่างภาพจากสำนักข่าว KABC ที่ได้บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในไฟป่าในครั้งนี้ คลิปวิดีโอที่นำมาเผยแพร่เป็นคลิปของชายคนหนึ่งที่พยายามจะช่วยเจ้ากระต่ายน้อยที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าในครั้งนี้ เจ้ากระต่ายน้อยวิ่งเข้ากองไฟ เพราะว่ามันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ชายสวมเสื้อแจ็คเก็ตแดงคนนี้เห็นแล้วถึงกับต้องร้องออกมา เขาพยายามจะช่วยเหลือมัน แต่ก็ดูเหมือนว่าเจ้ากระต่ายจะหวาดกลัวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ความร้อนจากไฟที่แผดเผาทำให้เขาต้องทนอยู่ตรงนั้นเพื่อที่จะช่วยเจ้ากระต่ายน้อยให้ได้ ในที่สุดเขาก็สามารถช่วยเจ้ากระต่ายน้อยออกมาได้ เขารีบนำกระต่ายตัวนั้นเข้าสู่อ้อมอกเพื่อนำมันไปปฐมพยาบาล แม้ฮีโร่ที่แท้จริงคนนี้ไม่ยอมให้สื่อเข้าสัมภาษณ์จากเหตุการณ์ที่เขายอมเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยกระต่ายน้อย แต่เราก็ขอยกย่องในการทำความดีในครั้งนี้ และขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่คอยปฏิบัติหน้าที่ในการดับไฟป่าครั้งใหญ่ครั้งนี้อีกด้วย ที่มา dailymail
-
ญี่ปุ่นเปิดตัวมาสคอตสำหรับโอลิมปิกและพาราลิมปิกปี 2020 แต่ละตัวมันช่างน่าลั๊คอ่าส์
ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับงานแข่งขันกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิก โดยการแข่งขันเทศกาลกีฬาดังกล่าวจะมีการจัดขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2020 และหากนับนิ้วดูก็จะพบว่าเหลือเวลาอีกไม่ถึง 1,000 วันแล้ว นอกจากกีฬาโอลิมปิกแล้ว ตามธรรมเนียมปฏิบัติก็จะมีการจัดการแข่งขันกีฬาคนพิการพาราลิมปิกส์ ในเมืองที่จัดโอลิมปิกเช่นเดียวกัน ซึ่งก็คือกรุงโตเกียวนั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อมีการจัดการแข่งขันระดับโลกเกิดขึ้น เมืองที่เป็นเจ้าภาพก็จะต้องเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ให้แก่นักกีฬาและนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเยี่ยมชม และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการแข่งขันกีฬานั่นก็คือ มาสคอตประจำงานนั่นเอง เมื่อเช้าวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิก ก็ได้ออกมาเปิดเผยมาสคอตที่เข้ารอบสุดท้ายในการประกวดมาสคอตของมหกรรมกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกส์ 2020 ซึ่งมีการเปิดตัวที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในย่านชิบูย่า โดยมีการคัดเลือกจากคณะกรรมการจำนวน 15 คน และมีการเลือกตัวมาสคอตจากทั้งหมด 2,042 ตัวให้เหลือเพียง 6 ตัวเท่านั้น มาสคอตทั้งหมดที่มีการส่งเข้าประกวด จะมาจากดีไซเนอร์ทั่วประเทศทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น และในตอนนี้มาสคอตทั้ง 6 ตัวก็ได้เผยหน้าตาให้เราได้เห็นกันแล้ว ภาพด้านบนจะเป็นมาสคอตสำหรับกีฬาโอลิมปิก และด้านล่างจะเป็นมาสคอตสำหรับกีฬาพาราลิมปิก มาสคอตทั้ง 6 ตัวนี้จะมีการจับคู่บนและล่างและแบ่งออกเป็น 3 เซต โดยทั้งหมดจะมีการโหวตเพื่อเลือกคู่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานกีฬาดังกล่าว ซึ่งคะแนนโหวตจะมาจากเด็กๆ ชั้นประถมและผลโหวตจะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ปีหน้า และในตอนนี้ทางคณะกรรมการ ก็ได้ปล่อยวิดีโอแนะนำตัวมาสคอตต่างๆ มาให้ผู้คนได้ยลโฉมกันแล้ว และนอกจากนั้นในวิดีโอยังบอกบุคลิกลักษณะ และแรงบันดาลใจต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในตัวมาสคอตว่าเป็นอย่างไรบ้าง…
-
25 รูปปั้นอันแสนงดงาม ที่เหล่าศิลปินทำขึ้นมาด้วยความประณีต ราวกับเทพธิดาสรรค์สร้าง…
ความสวยงามของผู้หญิง ได้รับการยกย่องจากศิลปินในทุกๆ แขนงมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน สังเกตได้จากประติมากรรมจากการแกะสลักจากหิน หินอ่อน และงานปั้นต่างๆ ที่ศิลปินในแต่ละยุคสมัยร่วมถ่ายทอดออกมา ครั้งนี้เราจึงรวบรวมรูปปั้นของผู้หญิงที่ดูมีชีวิตชีวาและพริ้วไหว ที่สื่อความอ่อนโยนผู้หญิงออกมาได้อย่างละเอียดและอ่อนช้อย ถ้าคุณอยากมองเห็นความงดงามของผู้หญิงมากกว่าเดิมก็ต้องไปชมรูปปั้นทั้งหมดที่เรานำมาในวันนี้กันเลย.. 1.ศิลปินที่ชื่อว่า Luo Li Rong เธอได้สร้างรูปปั้นของผู้หญิงที่ผมพริ้วไหวไปกับสายลมได้อยากแนบเนียน ผลงานของเธอดูสง่างามและดูเหมือนว่ารูปปั้นเหล่านี้มีชีวิตจริงๆ . 2. Richard Stainthorp สร้างสรรค์งานประติมากรรมจากลวดโลหะมานานกว่า 20 ปี ผลงานประติมากรรมของเขาเป็นเรื่องที่น่าตื่นตา โดยเฉพาะเมื่อเขาสร้างรูปปั้นผู้หญิงด้วยการดัดโครงลวด ซึ่งมันดูสวยงามจริงๆ . 3. ประติมากรรมลึกลับและตระการตานี้ตั้งอยู่ใน Cimitero Monumentale di Staglieno สุสานที่มีชื่อเสียงในเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี . 4. Jean-Michel Bihorel เธอสร้างความประหลาดใจด้วยรูปปั้นแบบดิจิตอล ที่มีดอกไม้เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นความอ่อนโยนและความน่าอัศจจรรย์ใจของผู้หญิง . 5. ศิลปินชาวอิตาลี Vittorio Tessaro สร้างร่างของผู้หญิงออกมาด้วยความสง่างาม ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้หญิงในสมัยปัจจุบันก็ตาม . 6. ประติมากรชาวอเมริกัน Benjamin Matthew Victor รู้วิธีถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศในพื้นผิวสีบรอนซ์ ผลงานศิลปะของเขามีความงดงามและแสดงถึงความละเอียดประณีต ทำให้รูปปั้นของเขาเหมือนกับมีชีวิตอยู่จริงๆ . . 7. Philip Jackson เป็นนักประติมากรรมชาวสกอตแลนด์ เล่าเรื่องของงานศิลปะทุกชิ้นได้อย่างน่าสนใจ การสร้างสรรค์ของเขาทำให้สังเกตได้ยากจริงๆ ว่างานปั้นนี้ทำขึ้นมาจากหิน .…
-
นี่คือ “หมู่บ้านไวอากร้า” เพราะอยู่ติดกับโรงงานผลิตที่รั่วไหล ทำเอาชาวบ้านปึ๋งปั๋งกันทุกวัน
มีใครรู้จักยา Sildenafil บ้างรึเปล่า คงไม่ค่อยมีคนรู้จักหรอก แต่ถ้าหากถามว่ารู้จัก ไวอากร้า ไหมล่ะก็ ทุกคนคงจะบอกว่ารู้จักทันที ยา Sildenafi นั้นเป็นยาเสริมสร้างสมรรถภาพชนิดหนึ่ง ซึ่งถูกจำหน่ายในชื่อว่าไวอากร้า โดยบริษัทยา ไฟเซอร์ เป็นยาที่รู้จักกันดีว่าช่วยให้คุณผู้ชายมีสมรรถภาพทางเพศที่แข็งแรง ช่วยแก้ปัญหาน้องชายอ่อนแอได้เป็นอย่างดี ปกติแล้วยาตัวนี้จะต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้นจึงจะสามารถซื้อได้ จึงไม่ใช่ยาที่ใครๆ ก็สามารถหามาใช้ได้ แต่มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ว่ากันว่าทุกคนในหมู่บ้านได้รับไวอากร้าโดยไม่จำเป็นต้องซื้อเลย หมู่บ้าน Ringaskiddy หมู่บ้านที่ว่านี้คือหมู่บ้าน Ringaskiddy เมืองคอร์ก ประเทศไอร์แลนด์ เป็นเมืองที่ตั้งของโรงงานผลิตยาของบริษัทไฟเซอร์ ซึ่งเป็นที่ที่คอยผลิตยาไวอากร้านั่นเอง แต่ที่บอกว่าคนในเมืองได้รับไวอากร้าโดยที่ไม่ต้องซื้อ ไม่ได้แปลว่าบริษัทแจกจ่ายยาให้กับคนในเมืองฟรีหรอกนะ แต่ชาวเมืองเชื่อว่าไวอากร้าที่ถูกผลิตที่โรงงานแห่งนี้ ได้ปนมาทางอากาศและน้ำ ทำให้คนในเมืองได้บริโภคมันเข้าไปทางอ้อมต่างหาก โรงงานผลิตยาของไฟเซอร์ในหมู่บ้าน Ringaskiddy The Sunday Times จึงได้ลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์คนในหมู่บ้านเกี่ยวกับความเชื่อนี้ โดย Debbie O’Grady หญิงสาวในท้องถิ่นให้สัมภาษณ์ว่า “อยู่เมืองนี้ แค่สูดหายใจเข้าลึกๆ เท่านั้นก็แข็งโป๊กขึ้นมาทันที” ส่วนผู้หญิงอีกคนหนึ่ง Fiona Toomey ก็บอกว่าแม้แต่พวกสุนัขในเมืองยังแข็งโด่ทั้งวันไม่มีหดเลย ไม่ได้มีแต่คนท้องถิ่นเท่านั้นที่เชื่อเรื่องยาไวอากร้ารั่วไหล ชาวเน็ตที่ได้ยินข่าวนี้บางคนพูดติดตลกว่าอิจฉาคนเมืองนี้จริงๆ บางคนก็บอกว่าอยากลองย้ายมาอยู่เมืองนี้จัง ไม่เพียงเท่านั้นนักท่องเที่ยวที่มาพิสูจน์ว่าข่าวลือนี้จริงหรือไม่ บางคนก็มาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองนี้เลย ไม่แน่ใจว่าเพราะรู้สึกมีกำลังวังชาขึ้นรึเปล่านะ ยาไวอากร้า แน่นอนว่ามีข่าวลือออกมาแบบนี้ บริษัทไฟเซอร์ย่อมไม่อยู่เฉยๆ…
-
ทางการอินเดียเตรียมดันกฎหมาย ‘ยิงเป้า’ นักโทษข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
การข่มขืนเป็นอีกหนึ่งอาชญากรรมที่ถือว่าร้ายแรงในอันดับต้นๆ ของการก่อคดีอาชญากรรม และเป็นปัญหาร้ายแรงที่ยังไม่สามารถป้องกันและแก้ไขได้อย่างเด็ดขาด ทำให้คดีข่มขืนยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมทั่วโลก ที่ประเทศอินเดียที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับต้นๆ ก็ยังคงประสบกับปัญหาคดีข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศเกือบทุกวัน โดยเฉพาะที่รัฐ Maydha Pradesh ทางภาคกลางของอินเดียที่มีรายงานว่ามีการข่มขืนมากที่สุดในประเทศ โดยรายงานเมื่อปี 2016พบว่าในอินเดียมีผู้ถูกข่มขืนกว่า 4,900 ราย โดยเกือบครึ่งนั้นเป็นเด็กและเยาวชน นาย Shivraj Singh Chouhan หัวหน้าคณะรัฐมนตรี ได้ออกมาเสนอในที่ประชุมรัฐสภาถึงประเด็นเรื่องปัญหาของการข่มขืน โดยที่เขาเสนอให้มีการลงโทษด้วยการประหารชีวิตเพื่อที่จะได้ไม่มีคนไหนกล้ากระทำความผิดฐานข่มขืน โดยโทษประหารชีวิตจะใช้ในคดีการข่มขืนโดยเฉพาะที่ผู้เสียหายที่เป็นเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 12 ปี และเขายังกล่าวอีกว่า “คนที่ข่มขืนเด็กต่ำกว่า 12 ปีนั้นมันไม่ใช่คน มันคือปีศาจ พวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป” นอกจากนี้เขายังพยายามแก้กฎหมายให้ถือว่าการข่มขืนหญิงสาวที่อายุต่ำกว่า 20 ปีถือว่าเป็นการข่มขืนเด็กทั้งหมด จากที่เมื่อก่อนมีเพียงเหยื่อที่อายุต่ำกว่า 14 ปีเท่านั้นที่จัดเป็นการข่มขืนเด็ก ซึ่งกฎหมายในข้อนี้จะต้องได้รับการพิจารณาจากประธานาธิบดีและรัฐบาลก่อนถึงจะสามารถแก้ไขในประมวลกฎหมายได้ ในประเทศอินเดียมีการก่ออาชญากรรมหลายรูปแบบแต่กฎหมายไม่ได้ถูกบังคับใช้อย่างเคร่งครัดมากนัก เหมือนดังกรมตำรวจในประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ คดีที่จะเข้าข่ายการประหารชีวิตได้นั้นมีเพียงแค่คดีกบฏ คดีฆาตกรรม คดีเป็นส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของเยาวชน การค้ายาเสพติด และอีกหลายๆ ข้อที่มีความผิดรุนแรงจนกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ที่มา dailymail
-
รวมเหล่าบุคคลผู้มีสกิลในการขับรถติดลบ เอ็งได้ใบขับขี่มาได้ไงฟร๊ะเนี่ย!?
ในการจราจรบนท้องถนนในทุกวันนี้เราต้องประสบกับนักขับรูปแบบต่างๆ มากมาย โดยเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเรานั้นจะเจอกับคนขับรถแบบไหน บางทีเราอาจได้เจอกับคนที่มีทักษะการขับรถระดับเห่ย ที่สามารถสร้างความหงุดหงิดให้กับเราได้ตั้งแต่ออกซอย เหมือนกับบุคคลเหล่านี้ที่สกิลการขับรถเรียกได้ว่าติด 0 จนคิดว่า พวกพี่ๆ สอบผ่านใบขับขี่มาได้ไงกันเนี่ย เห็นแล้วอยากจะเข้าไปดีดหูสักทีจริงๆ สรุปรถพี่มีกี่ล้อกันแน่เนี่ย เบื่อไหมกับพวกที่ชอบขับรถฝ่าไฟแดงแบบนี้ ไม่ได้ไปซักที ยอมใจพี่แกจริงๆ สงสัยจะอยากแปลงร่างเป็นเรือดำน้ำ จอดใกล้ขนาดนี้ไม่ชนไปเลยล่ะ ติดโซเชียลขนาดนี้ เลิกขับรถก่อนไหมคุณ ควรเอื้อเฟื้อพื้นที่จอดรถคนพิการด้วยนะ จอดขวางทางม้าลายแบบนี้ไม่ดีเลยนะ อ้าว ติดท้ายรถมาเมื่อไหร่ไม่รู้ตัวเลย ความไม่ประมาทคือหัวใจสำคัญในการขับรถ รีบไปหน่อย ฮ่าๆ ขับรถไปด้วยเล่นมือถือไปด้วยแบบนี้ไม่ดีเลยนะ แอบขโมยสายเติมน้ำมันมาใช่มั้ยลุง เสียวล้อจะหลุดมาก สงสัยคงจะรีบเหมือนกันอีกคน พี่ขึ้นไปตรงนั้นได้ไง เห็นแก่ตัวไม่พอ ยังจอดในที่ไม่ควรจอดอีก รถดำน้ำที่แท้ทรู ตัดสินใจได้ยังว่าจะไปทางไหน …
-
19 ภาพเหล่าบุคคลกับวันแห่งความสุขของพวกเขา ที่จะทำให้คุณยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
สิ่งที่ทุกคนตามหาในทุกๆ วันและเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องการมากที่สุดนั่นก็คือ ความสุข มันคือสิ่งเล็กน้อยที่ไม่ว่าใครก็อยากมี ซึ่งบางครั้งความสุขก็อยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่เราคิดซะอีก ลองมองสิ่งใกล้ๆ แล้วจะได้รู้ว่าความสุขอยู่ไม่ไกลจากเรา หรือไม่ก็ลองดูความสุขของคนเหล่านี้ดูสิ #เหมียวบู้บี้ คิดว่าคุณผู้อ่านจะต้องยิ้มตามแน่ๆ 1. รอยยิ้มของเด็กหญิงหลังจากที่สามารถเอาชนะโรคมะเร็งได้ 2. ความวุ่นวายที่แสนจะน่ารัก ในขณะที่ศาลกำลังตัดสินให้สิทธิ์เลี้ยงดูเด็กเหล่านี้ 3. คุณยายวัย 92 ปีในวันที่สำคัญที่สุดของหลานสาว 4. ชายหนุ่มที่ได้เจอหิมะเป็นครั้งแรก 5. ความฝันที่เป็นจริง ชายหนุ่มคนนี้ได้เป็นนักบินหลังจากที่พยายามมาหลายปี 6. ไม่ว่าใครที่ได้ไปทะเลก็มีความสุขแบบนี้ 7. คุณปู่ได้เจอเพื่อนเก่าหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานหลายปี 8. วันแต่งงานที่แสนจะมีความสุข 9. โดนรุมจากแก๊งขาสั้นแบบนี้ ฟินเลยล่ะสิ 10. กลับบ้านมาเจอพ่อ น้ำตาของลูกผู้ชายก็ไหล 11. โมเมนต์แรกที่แฟนสาวตอบตกลงที่จะแต่งงานกัน 12. ความสุขของคนเป็นแม่ที่ได้เห็นลูกลืมตาขึ้นมาดูโลก 13. แค่แกนทิชชู่อันเดียวก็มีความสุขได้แล้ว …
-
จากเด็กหนุ่มที่เติบโตมาในย่านสลัมของอังกฤษ สู่ผู้ชนะเลิศได้ทุนไปเรียนใน Eton College
ในบรรดาสถาบันการศึกษาทั่วโลก มีหนึ่งโรงเรียนหนึ่งที่เป็นดุจโรงเรียนในฝันของใครหลายๆ คน นั่นคือ Eton College ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเรียนในฝันของหนุ่มๆ ทั่วโลก สำหรับความพิเศษของสถาบัน Eton College หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่าใครก็ตามที่จบจากที่นี่มักจะกลายเป็นผู้โด่งดังในสังคม เป็นผู้นำประเทศ และผู้ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ศิษย์เก่าของ Eton College ที่เป็นที่รู้จักกันดี เช่น เจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าชายแฮร์รี่ นักแสดงชาย Dominic West และอดีตนายกรัฐมนตรีเดวิด แคเมอรอน นั่นหมายความว่าการจะได้เข้าเรียนในสถาบันแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และนับว่าเป็นความโชคดีของ Stephen Geddes ที่ได้รับทุนมาเรียนใน Eton College Stephen หนุ่มวัย 16 ปี ชนะการสอบชิงทุนจนได้รับคัดเลือกเข้าเรียนในหลักสูตร A-Levels (คือช่วงชั้นการเรียน 2 ปีสุดท้ายของระดับมัธยมในสหราชอาณาจักร) โดยได้รับทุนค่าเล่าเรียนเป็นเงิน 1.6 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะได้เรียนคณิตศาสตร์ ชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์ สำหรับหนุ่ม Stephen นั้นมีพ่อเป็นพนักงานในเทสโก้ คุณแม่มีอาชีพเป็นผู้ดูแลผู้ป่วย ก่อนหน้านี้เขาเคยเรียนที่โรงเรียน King’s Leadership Academy ซึ่งเป็นย่านคนจนของเมืองลิเวอร์พูล…
-
จากภาพล้อเลียนการเมืองของเพจ “ไข่แมว” กลายเป็นมุกระดับโลก ที่ชาวเน็ตต่างชาติร่วมฮา!!
บอลไทยจะได้ไปบอลโลกหรือเปล่าอันนี้เราไม่รู้ แต่มีมไทยไปมีมโลกอันนี้เกิดขึ้นแล้ว!! เมื่อล่าสุดได้มีชาวเน็ตต่างชาติแอบมาหยิบมุกตลกของบ้านเราจากเพจ “ไข่แมว” ไปตัดต่อและล้อเลียนจนถูกใจต่างชาติกันยกใหญ่ ซึ่งถ้าใครไม่รู้จักเพจ “ไข่แมว” ก็จะขอนิยามง่ายๆ ว่าเป็นเพจล้อการเมืองบ้านเราผ่านการ์ตูน 4 ช่อง โดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ เลยในภาพ แต่จะให้ภาพจะเป็นตัวสื่อคำพูดออกมาแทนทั้งหมด ส่วนมุกที่กลายเป็นมีมระดับโลกนั้นก็คือ มุกล้อการเมืองที่ชายคนหนึ่งได้มาส่งหญิงสาวสภาพเมาเหล้าที่ห้อง ขณะที่ชายหนุ่มกำลังถอดกางเกงหวังว่าจะได้มีอะไรกับสาวที่เขามาส่ง แต่ทว่าเขาดันเหลือบไปเห็นภาพในอดีตของเธอที่ชื่นชมในตัวลุงกำนัน พร้อมกับความทรงจำที่ไปเป่านกหวีด งานนี้หนุ่มเลยเปลี่ยนใจไม่ยอมมีอะไรพร้อมเดินจากมาอย่างสงบ ภาพต้นฉบับของไข่แมว มุกดังกล่าวนั้นเผยแพร่เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน โดยมีคนแชร์ไปมากกว่า 1,700 ครั้ง แต่มันไม่ได้ดังในเมืองไทยเท่านั้นนะ เพราะมันดังไปจนถึงต่างประเทศเลย วันที่ 6 ธันวาคม สมาชิกเว็บไซต์ Reddit นามว่า DrizXzX ได้เอามุกดังกล่าวไปโพสต์ลงในเน็ต ซึ่งเป็นมุกที่เขาทำการตัดต่ออีกทีและมันก็ถูกใจชาวเน็ตมากๆ มีคนกดโหวตโพสต์ของเขากว่า 41,000 คะแนน งานนี้ชาวเน็ตเห็นว่ามุกนี้มันฮา เลยจัดการหยิบไปตัดต่อกันยกใหญ่จนแพร่หลายสุดๆ และนี่ก็คือตัวอย่างมุกที่ฝรั่งหยิบไปทำ… ภาพที่ชาวเน็ตเอาไปล้อ หลังเห็นหญิงสาวเล่น Battlefront 2 เกมจาก EA ที่ผู้คนต่างพากันประณาม หนุ่มหลังพบว่าหญิงสาวเชื่อว่าโลกแบน หนุ่มถึงกับต้องเผาห้องหญิงสาว หลังพบว่าเธอสนับสนุนฝ่ายทรัมป์ . . .…
Got any book recommendations?