นี่เห็นอยู่นี้คือหน้าเว็บ CatDumb เวอร์ชันเก่า
-
คุณแม่ยอมเสี่ยงทำผิดกฎหมาย ใช้ ‘น้ำมันกัญชา’ เพื่อรักษาลูกที่ป่วยเป็นโรคลมชัก
“ฉันเลือกที่จะยอมทำผิดกฎหมายดีกว่าที่จะต้องฝังศพลูกสาวของฉัน” Katrina Spraggon คุณแม่ใจเด็ดที่ยอมสกัดน้ำมันจากกัญชาด้วยตัวเองเพื่อนำไปใช้รักษาอาการป่วยเรื่อรังของลูกสาวเธอ หลังจากที่ยาแผนปัจจุบันนั้นใช้ไม่ได้ผล Katrina บอกว่าอาการป่วยเรื้อรังของ Kaitlyn ลูกสาวเธออย่างเช่นอาการลมชัก อัมพาตสมอง และโรคกระดูกพรุนอย่างรุนแรงนั้นค่อนข้างดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ได้ใช้สารสกัดจากกัญชา “ครั้งแรกที่ฉันเริ่มใช้น้ำมันสกัดจากกัญชา อาการของลูกสาวฉันก็เริ่มดีขึ้นหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน” Katrina กล่าว แต่ถึงแม้ว่าการใช้สารสกัดจากกัญชานั้นอาจจะทำให้เธอถูกจับในฐานทำผิดกฎหมายได้ แต่ทว่าเพื่อแลกกับอาการที่ดีขึ้นของลูกสาวเธอ คุณแม่ท่านนี้กลับยอมกล้าที่จะเสี่ยง สาวน้อย Kaitlyn ในขณะที่เข้ารับการรักษาโรคลมชักและกระดูกพรุนอย่างรุนแรง “ตอนนี้ลูกสาวของฉันยังคงอยู่ดี เธอเริ่มตอบสนองได้ดีขึ้นและอาการลมชักของเธอก็ลดลง เธอเริ่มพูดคุยกับฉันได้มาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และการได้เห็นรอยยิ้มของลูกสาวฉันอีกครั้งก็เป็นอะไรที่พิเศษสุดๆ ” คุณ Katrina กล่าว นอกจากนี้คุณแม่ยังได้กล่าวอีกว่าการใช้น้ำมันสกัดจากกัญชานั้นแทบไม่มีผลข้างเคียงใดๆ กับลูกสาวของเธอเลย สาวน้อยแค่มีอาการหิวนิดหน่อย รู้สึกกระหายน้ำ และหัวเราะบ้างเล็กน้อย Katrina นั้นเคยทำงานด้านการดูแลเด็กที่เมือง Ningi ประเทศออสเตรเลียมาก่อน เธอได้ใช้กัญชาถึง 3 สายพันธ์ในการทำสารสกัดเพื่อรักษาอาการป่วยของลูกสาวเธอ โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนของเธอที่อยู่ในรัฐที่กัญชาถูกกฎหมาย และการลักลอบซื้อจากตลาดมืด โดยในการทำสารสกัดแต่ละครั้งเธอจะต้องใช้เงินประมาณ 7,500 บาท ซึ่งสามารถผลิตสารสกัดที่ใช้ได้นานประมาณ 2 ถึง 3 เดือน Katrina เล่าว่าเธอจะหยดน้ำมันสกัดจากกัญชาลงที่เหงือกของลูกสาวเธอเพียงแค่หนึ่งหยด เวลาที่สาวน้อยมีอาการลมชักกำเริบ ซึ่งมันก็สามารถช่วยให้อาการของ Kaitlyn…
-
คุณแม่สุดแกร่งเผยภาพความเจ็บปวดในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง เพื่อความหวังในการมีชีวิต
โรคร้ายที่ยากต่อการรักษามักจะเป็นปัจจัยพรากความหวังไปจากผู้คน ทำให้คนที่เข้มแข็งกลายเป็นคนอ่อนแอ ทำให้คนมั่นใจกลายเป็นคนขี้กลัว จนแทบไม่อยากทำอะไรกับชีวิตที่เหลือ ตรงข้ามกับหญิงสาวคนนี้ ที่แม้ต้องเผชิญกับมะเร็งที่สร้างแต่ความเจ็บปวดให้ แต่เธอกลับถ่ายทอดเรื่องราวการต่อสู้กับโรคมะเร็ง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยคนอื่นๆ Ruth Naylor วัย 32 ปี เป็นคุณแม่ลูกสอง ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง Hodgkin ซึ่งเป็นมะเร็งที่เกี่ยวกับระบบน้ำเหลือง เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนจะไปเป็นมะเร็ง Naylor มีอาการเหมือนไข้หวัด เธอจึงไปหาหมอ และเมื่อเอ็กซ์เรย์ก็พบสิ่งที่ดูเหมือนก้อนเนื้ออยู่ที่ปอดข้างขวา และผลเลือดก็ผิดปกติ ซึ่งคุณหมอคาดเดาว่าน่าจะเป็นมะเร็ง จึงได้นัดมาทำ CT สแกนอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น เธอบอกว่า “นั่นคือตอนที่ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันสำหรับฉัน โลกทั้งใบของฉันเหมือนจะหยุดหมุนในทันที” Naylor กำลังต่อสู่กับความเจ็บปวด ขณะทำเคมีบำบัด ข่าวร้ายในครั้งนี้ ทำให้ Naylor หวนคิดถึงคุณแม่ที่จากไปด้วยมะเร็งตอนอายุ 47 ปี ส่วนเธอตอนนั้นอายุ 21 ปี ดังนั้นเธอจึงคิดถึงลูกๆ ว่าพวกเขาจะรับมือไหวได้อย่างไรถ้าไม่มีแม่ เพราะพวกเขายังเด็กมาก พอวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เข้ารับการตรวจด้วย CT สแกน หมอก็พบเนื้องอกอยู่ระหว่างปอดและหัวใจ เธอรู้สึกความมันคือความจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ ลูกๆ ของเธอ Eva วัย…
-
หนูน้อย 6 ขวบโชว์ความฉลาดด้านการบิน จนสายการบินต้องเชิญมาลองเป็นกัปตัน 1 วันเต็มๆ
อาชีพในฝันของเด็กๆ หลายคนหนึ่งในนั้นอาจจะมีอาชีพนักบินอยู่ด้วยก็เป็นได้ เพราะมันเป็นอาชีพที่ดูเท่และยังมีค่าตอบแทนที่ดีอีกด้วย แต่จะมีใครที่มีโอกาสที่ดีได้เท่ากับเด็กคนนี้ Adam Mohammad Amer เด็กชายวัย 6 ขวบที่มีความสนใจในอาชีพกัปตันเครื่ิองบินโดยเขาได้เรียนรู้การขับเครื่องบินเบื้องต้นผ่านทาง Youtube ครั้งหนึ่งเมื่อเขามีโอกาสได้ขึ้นเครื่องบิน เขาได้บอกกับลูกเรือของเครื่องบินลำนั้นว่าอยากที่จะเข้าไปที่ห้องกัปตันและเขาก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไป กัปตัน Samer Yakhlef จึงได้บันทึกวีดีโอความน่ารักและรอบรู้ของเด็กหนุ่มคนนี้เอาไว้และนำไปเผยแพร่จนกลายเป็นคลิปไวรัลในอินเทอร์เน็ตในเวลานี้ วีดีโอที่กัปตันคนนี้ถ่ายความน่ารักไว้ สายการบิน Etihad เห็นวีดีโอความน่ารักนี้จึงเกิดความประทับใจในความฉลาดของเด็กหนุ่มคนนี้มาก จึงเชิญเขาให้มาลองขับเครื่อง Simulator จำลองการบินด้วยเครื่องบินที่เขาชื่นชอบนั่นคือเครื่องบิน Airbus-A380 ความฝันของเด็กน้อยคนหนึ่ง และดูเหมือนว่า Adam จะรู้สึกดีใจมากจนแทบจะกระโดดโลดเต้นเลยทีเดียว ในวันที่แสนดีของเขาเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนชุดให้เป็นชุดกัปตันจิ๋วที่สั่งตัดโดยเฉพาะ จากนั้นก็ได้เข้าเครื่องจำลองการบินและได้เรียนรู้วิธีการขับเครื่องบินต่างๆ ซึ่งเขาทำได้ดีทีเดียวทั้งการนำเครื่องขึ้นและการลงจอดอย่างปลอดภัย ฉายแววแต่ยังเด็ก ระหว่างที่ Adam ควบคุมเครื่องบินอยู่ดูเหมือนเขาภูมิใจในอาชีพนี้เป็นอย่างมากและดูสนุกเหมือนได้มาเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก ไม่แน่นะว่าสักวันเราอาจจะได้นั่งบนเครื่องบินที่เขาขับอยู่ก็เป็นได้ เห็นแล้วก็ดีใจแทน มาลองชมความเฉลียวฉลาดของเด็กชายคนนี้ระหว่างบินกันเลย ที่มา: huffingtonpost, Etihad Airways
-
รวม 23 สิ่งประดิษฐ์ ที่สร้างมาพร้อมกับคำถามที่ว่า “ทำเพื่อครายยยยยย?”
สิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับตัวเองมีมากมายหลายอย่างจนนับไม่ถ้วน ซึ่งเราก็รู้ๆ กันดีอยู่ว่าสิ่งประดิษฐ์เหล่านั้นถูกสร้างมาเพื่อใช้ทำอะไร แต่ก็มีสิ่งประดิษฐ์จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่ไม่รู้ว่าสร้างมาเพื่ออะไร หรือว่ามันอาจจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเรียกความฮาเฉยๆ กันนะ? ถุงมือปีศาจ มีขนปุกปุยเพื่อเสริมความน่ารัก แว่นตาบาสเก็ตบอล ไว้ให้เพื่อนๆ ได้ปาเล่น เสื้อลายอุนจิ กิ๊บติดผม มีต้นไม้น้อยๆ งอกออกมาด้วย ปลอกสวมนิ้วรูปมือ เดี๋ยวนะ!?! หมวกสวมหู สติ๊กเกอร์ติดเปลือกตา สำหรับคนอู้งาน แมงมุมทารันทูล่าอบแห้งบรรจุกระป๋อง กางเกงเลกกิ้งลายกล้ามเนื้อ ดาบ Star Wars สวมนิ้วเพื่อต่อสู้กัน… ขวดสบู่เหลวรูปจมูก กระเป๋าหน้าท้อง แบบหน้าท้องจริงๆ เลย ลิปบาล์มกลิ่นเบค่อน…..หิวทั้งวันแน่ๆ ไขมันมนุษย์….. กระดาษชำระเรืองแสง ตู้เก็บของแบบที่ยืดหยุ่นที่สุด สิ่งประดิษฐ์สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไร ซื่งมันก็ไม่มีอะไรเลย เนื้อยูนิคอร์น…
-
ป๊าดด…ลูกพลับระดับพรีเมี่ยมในญี่ปุ่นถูกประมูลในราคาโคตรแพง!? คู่ละ 150,000 บาท
ลูกพลับเป็นผลไม้ที่เราคุ้นเคยกันดี และสามารถหาซื้อได้ทั่วไปเมื่อถึงฤดูของมัน ราคาก็ไม่แพง เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ แต่ล่าสุดมีลูกพลับระดับพรีเมี่ยม 2 ลูก ที่เก็บมาจากทางภาคกลางของญี่ปุ่น ได้รับการประมูลในราคาสูงถึง 150,000 บาท ในการประมูลครั้งแรกของฤดูกาลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา การที่ลูกพลับถูกประมูลในราคาสูงขนาดนี้ เพราะมันเป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นโดยรัฐบาลของกิฟู ซึ่งปลูกอยู่ในภาคกลางของญี่ปุ่น และจำหน่ายในตลาดขายส่งในท้องถิ่น ทั้งนี้ รัฐบาลของกิฟู ได้ใช้เวลาในการพัฒนาพลับสายพันธ์นี้นานถึง 10 ปี และวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว โดย 2 ลูกแรกที่ถูกประมูลไปมีมูลค่าสูงถึง 94,000 บาท ลูกพลับชนิดนี้มีความพิเศษที่หลากหลาย ทั้งกรอบ และมีปริมาณน้ำตาลอย่างน้อย 18% เทียบกับสายพันธ์อื่นจะมีน้ำตาล 16% สำหรับลูกพลับที่ถูกเก็บเกี่ยวในปีนี้ ได้แก่ลูกพลับที่มีปริมาณน้ำตาลมากกว่า 25% ซึ่งจะวางขายในห้างสรรพสินค้า Matsuzakaya ในนาโกย่า ส่วนลูกพลับแบบพรีเมี่ยม คาดว่าน่าจะมีอยู่ทั้งหมด 2,000 ลูก ซึ่งจะวางขายช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน และมีราคาขายปลีกอยู่ที่ลูกละ 290 บาท ในขณะที่ลูกพลับระดับไฮเอนด์จะมีราคาสูงกว่า 3,000…
-
เมื่อปลาในทะเลสาบตายนับแสน ทางการอินเดียไม่รอช้า สั่งตัดไฟโรงงานยา 14 แห่งทันที!!!
เหตุการณ์สารเคมีที่เข้าไปปนเปื้อนต่อระบบนิเวศมีให้เห็นมามากมายหลายเหตุการณ์ ซึ่งก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขสักที และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่นับว่าน่าเศร้าเพราะว่ามีสารเคมีที่ทำให้ปลาตายมากกว่า 230,000 ตัว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2017 ที่ผ่านมาบริเวณ Gandigudem Lake นอกเมือง Hyderabad ประเทศอินเดีย โดยทางการของรัฐ Telangana ได้ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุที่ปลาตายนับแสนตัวอาจจะมาจากโรงงานผลิตยาปฏิชีวนะเหล่านี้ ในเบื้องต้น Pollution Control Board (PCB) หรือศูนย์ควบคุมมลพิษได้สั่งให้โรงไฟฟ้าหยุดจ่ายไฟให้แก่โรงงานผลิตยาปฏิชีวนะ 14 แห่งรอบๆ บริเวณที่ปลาตาย ซึ่งจะสั่งจ่ายอีกครั้งเมื่อยินยอมทำตามแผนหลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัยที่ให้ไว้ สิ่งที่ตามมาหลังจากเหตุการณ์นี้ก็คือ PCB ได้สั่งให้โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ กว่า 29 แห่งให้จ่ายค่าชดเชยเป็นเงินกว่า 10 ล้านรูปี (ประมาณ 5 ล้านบาท) ให้แก่สมาคมชาวประมงสำหรับเหตุที่เกิดขึ้น โดยผู้รวบรวมเงินคือส่วนบริหารของภูมิภาค Sangareddy จะเป็นผู้รวบรวมแล้วส่งให้ชาวประมงต่อไป โรงงานอีก 29 แห่งที่ว่านี้ยังถูกเรียกให้เข้ามาประชุมเพื่อหาข้อสรุปสาเหตุที่ทำให้ปลาเหล่านี้ตายจากสมาคมชาวประมง เพราะเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของชาวประมงที่ต้องพึ่งพาทะเลสาบแห่งนี้อย่างมาก โดยส่วนใหญ่ชาวประมงที่อยู่ในบริเวณนี้จะจับปลาขึ้นมาเพื่อบริโภคหรืออาจจะจับมาเพื่อขายหาเงินจุนเจือตัวเองนั่นเอง ซึ่งจากการเก็บซากปลาที่ตายในแม่น้ำแล้วเอาขึ้นมาพิสูจน์ ตรวจสอบพบว่าสาเหตุที่ปลาตายนั้นมาจากการที่น้ำเป็นพิษนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทางการจึงได้สั่งให้โรงงานต่างๆ เขียนแผนการป้องกันสารปนเปื้อนของแต่ละโรงงานลงมาเจือปนกับน้ำในแม่น้ำอีก โดยพวกเขาให้เวลาโรงงานเขียนแผนนี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ สารพิษจากโรงงานทั้งหลายที่ไหลลงสู่น้ำนี้ได้ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัตว์ต่างๆ…
-
หนุ่มไอเดียเจ๋ง เปลี่ยน “รถโรงเรียนมือสอง” ให้กลายเป็นบาร์เบียร์เดินทางไปทั่วยุโรป
สิ่งของต่างๆ เมื่อหมดประโยชน์แล้วหาจะทิ้งไปก็คงจะเป็นที่น่าเสียดาย การนำสิ่งของเหล่านั้นมารีไซเคิลเพื่อใช้ประโยชน์ในทางอื่นก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดการใช้ทรัพยากรบนโลกได้ หนึ่งในสิ่งของที่นำมาดัดแปลงที่คงไม่มีใครคาดถึงนั่นก็คือ รถโรงเรียนเก่าๆ ที่นำมาแปลงโฉมแล้วโดนใจสายเมาสุดๆ รถโรงเรียนสีเหลืองสดใส หลังจากที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ถูกนำมาดัดแปลงให้กลายเป็นบาร์เบียร์ขนาดย่อมๆ ที่เดินทางไปได้ทุกที่ ด้วยชื่อที่เก๋ๆ ว่า Birrabus ภายในรถจะประกอบไปด้วยถังเบียร์ขนาดย่อมๆ ต่อท่อออกมาให้คุณลูกค้าได้เลือกดื่ม โดยมีเบียร์ให้เลือกถึง 17 แบบ นี่มันสวรรค์ชัดๆ นอกจากนี้ก็ยังเสริมกลิ่นอายของความเป็นโรงเรียน ด้วยการนำโต๊ะและเก้าอี้นักเรียนมาให้ลูกค้าได้นั่งรำลึกความหลังสมัยตอนเป็นเด็กอีกด้วย (แต่คงไม่มีใครดื่มเบียร์ตอนเรียนหรอกเนาะ) . . . Birrabus ได้รับรางวัลที่ 1 ในงาน Brussels Food Truck Festival 2016 ออกแบบตรงความต้องการสายเมาแบบนี้ก็เอารางวัลไปเล๊ยยยย . . รถบาร์เบียร์เคลื่อนที่นี่เดินทางไปทั่วยุโรปเพื่อให้ผู้คนได้ลิ้มลองรสชาติของเบียร์คราฟฉ่ำๆ พร้อมเสพบรรยากาศความเป็นรถโรงเรียนที่คุ้นเคย.. . . ที่มา designyoutrust
-
แบงค์โอนเงินผิด ทำให้สาวออสเตรเลีย ตื่นมาเป็นเศรษฐี มีเงินในบัญชี 650 ล้านบาท!!
ใครจะไปเชื่อว่าซักวันเมื่อเราตื่นมาจะได้เป็นเศรษฐีเหมือนกับแม่สาว Clare Wainwright ชาวออสเตรเลียคนนี้ เช้าวันที่ 26 ตุลาคม Clare ได้ตื่นขึ้นมาหลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนว่ามียอดเงินเข้าในบัญชีธนาคารของเธอจำนวน 24.5 ล้านเหรียญหรือ 650 ล้านบาท!!!! เธอได้เข้าแอพพลิเคชั่น Mobile Banking ของเธอเพื่อตรวจสอบยอดเงินนั้นทันทีซึ่งก็ได้ทราบว่ายอดเงินเหล่านั้นอยู่ในบัญชีของเธอจริงๆ เธอได้โพสต์ภาพแสดงจำนวนเงินในธนาคารของเธอ ด้วยแคปชั่นติดตลกว่า “เมื่อธนาคาร NAB อนุมัติเงินกู้และเพิ่มเงินให้ถึง 24.5 ล้านเหรียญ ฉันจะออกนอกประเทศนี้ยังไงดีนะ” หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้นำเงินจำนวนนี้ไปใช้แต่อย่างใด เพราะเธอรู้ว่ามันเป็นคงจะเป็นความผิดพลาดอย่างใดอย่างหนึ่งของธนาคาร เธอได้เปิดเผยเรื่องราวนี้ในรายการข่าวเช้า Nine Network ที่ได้เชิญเธอเข้าไปสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องเงินจำนวนมหาศาลที่อยู่ในบัญชีธนาคาร “ฉันเป็นทนายความ และฉันก็คิดว่าฉันไม่สามารถใช้เงินจำนวนนั้นได้ ฉันคิดว่ามันไม่ควรนำมาใช้เลยมากกว่า” “ตอนแรกที่เห็นยอดเงินไม่ว่าใครๆ ก็ตกใจกันทั้งนั้น โอ้พระเจ้า นี่มันเกือบ 25 ล้านเหรียญเลยนะ ฉันนำยอดเงินนี้ให้โบรกเกอร์ประจำตัวของฉันดู เขาก็พูดว่า พระเจ้า มันต้องมีเรื่องที่ต้องแก้ไขแน่ๆ” Clare กล่าว หลังจากตรวจสอบแล้วก็พบว่ายอดเงินจำนวนนี้ถูกโอนมาจากธนาคาร St.…
-
นักศึกษาชาวจีน ร่วมกันเนรมิต “ชุดราตรี” จากใบไม้กว่า 6,000 ใบ สวยจนใครๆ ก็อยากใส่
การใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนของหลายๆ คนก็อาจจะมีกิจกรรมที่แตกต่างกันไป บางคนก็ทำงาน หรือบางคนก็ใช้เวลาว่างนั้นเพื่อผ่อนคลายตัวเองด้วยกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาหรืออ่านหนังสือ ตามสไตล์ของแต่ละคน 4 นักศึกษาชั้นปีที่สองของมหาวิทยาลัย Hefei ทางตะวันออกของประเทศจีน ได้ช่วยกันเนรมิตชุดราตรีสุดสวยจากใบไม้กว่า 6,000 ใบ โดยใช้เวลาว่างหลังจากการเรียนเป็นเวลา 6 เดือน นักศึกษาทั้ง 4 คน ประกอบด้วย ชาย 2 หญิง 2 มีความคิดริเริ่มที่จะหาอะไรซักอย่างไปประกวดในโครงการ “Animal and Plant Speciment Contest” เป็นการประกวดโครงงานนักศึกษาประจำมหาวิทยาลัย Hefei ทีมนักศึกษาก็ได้ช่วยกันหาไอเดีย จนกระทั่งได้เห็นชุดราตรีที่นักแสดงหญิงชื่อดังของจีน ฟ่านปิงปิง สวมชุดราตรีในเทศกาลหนังเมืองคานส์ จึงได้ตกลงกันว่าจะทำชุดราตรีที่สวยและงดงามไม่แพ้กัน โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติ พวกเขาจึงได้ศึกษาหาวิธีที่จะทำให้ใบไม้เปลี่ยนเป็นผ้า โดยได้ทดลองนำใบไม้ชนิดต่างๆ ที่หาได้ในมหาวิทยลัยมาเปรียบเทียบกัน และก็พบว่าใบ Magnolia เป็นวัสดุที่ดีที่สุดที่เหมาะสมกับการนำมาทำเป็นเสื้อผ้า จากนั้นก็นำใบ Magnolia มาต้มกับด่างและโซเดียมคาร์บอเนตประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อให้เหลือแต่เยื่อบางๆ ของใบไม้…
-
2 ตำรวจนิวยอร์กโดนตั้งข้อหา “ข่มขืนสาววัย 18 ปี” ทั้งที่ใส่กุญแจมือ อยู่ในรถหน่วยงานด้วย!!
นายตำรวจจากสถานีตำรวจนิวยอร์ก 2 นาย ตกเป็นผู้ต้องหาคดีข่มขืนหลังจากที่ทั้งสองได้ทำการข่มขืนหญิงสาวที่ถูกใส่กุญแจมือในท้ายรถตู้ของพวกเขา เจ้าหน้าที่ Eddie Martins และ Richard Halls ถูกกล่าวหาว่าได้ทำการข่มขืนเด็กสาววัย 18 ปี หลังจากที่ได้ทำการจับกุมเธอในทางใต้ของบรูคลิน จากการรายงานของหนังสือพิมพ์ The New York Post กล่าวว่า นายตำรวจทั้งสองถูกตั้งข้อหาข่มขืนระดับ 1 ตามคำตัดสินของคณะลูกขุนเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้ต้องหาถูกจับในข้อหามีกัญชาในครอบครอง ซึ่งตามกฎหมายแล้วในเมืองนิวยอร์กนั้นอนุญาตให้ใช้เพื่อการแพทย์ได้เท่านั้น ทั้งสองพาตัวเหยื่อไปยังที่จอดรถของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน Coney Island ก่อนที่ทั้งสองจะบังคับให้เธอทำออรัลเซ็กส์ และจากนั้นนาย Martins ก็เริ่มลงมือข่มขืนเธอก่อน ทั้งสองได้ยอมรับกับเพื่อนร่วมงานว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงๆ แต่ทางผู้ต้องหานั้นเป็นฝ่ายยินยอมไม่ได้มีการใช้กำลังบังคับแต่อย่างใด ส่วนทางด้านฝ่ายทนายความของผู้เสียหาย ได้เรียกร้องให้ทางสถานีตำรวจนิวยอร์กลงโทษทางวินัยอย่างหนักกับนายตำรวจทั้งสอง “เราคาดหวังว่าทางสถานีตำรวจต้นสังกัดควรจะดำเนินการเรื่องนี้ทันที และให้พวกเขาออกจากราชการ” คุณ Michael David ทนายความของเหยื่อสาวกล่าว และนอกจากนี้ทางทนายความของเหยื่อยังได้ออกมาโต้แย้งในกรณีที่ว่าลูกความของเขายินยอมและเธอไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายใดๆ เลย และตอนนี้คดีความของนายตำรวจ 2 คนนี้กำลังอยู่ในขั้นรวบรวมหลักฐาน และพิจารณาคดีในชั้นศาลต่อไป และทั้งสองยังต้องเข้ารับการพิจารณาคดีในชั้นศาลอีกครั้งในสัปดาห์หน้าซึ่งถ้าหากมีความผิดจริงพวกเขาจะถูกจำคุกเป็นเวลา 25 ปี ที่มา independent
-
นี่คือ 19 สัญญาณตามหลักวิทย์ ที่บอกได้ว่า คุณกำลัง “เสพติดคู่รัก” ของคุณซะแล้ว
“ตอนที่คุณตกหลุมรักในช่วงแรก สมองคุณจะมีความรู้สึกเหมือนกับการดื่มแอลกอฮอล์ หรือใช้ยาเสพติดเลยทีเดียว…” ด็อคเตอร์ Femke Buisman-Pijlman แห่งมหาวิทยาลัยแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย กล่าวถึงพฤติกรรมของมนุษย์เราทุกคนต้องเคยมีช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตที่เราหลงรัก ติดแฟน ติดผัว ติดเมียแบบหัวปักหัวปำจนไม่ได้เป็นอันทำอะไร และนี่ก็คือสัญญาณที่จะบอกคุณได้ว่า ตอนนี้คุณกำลังเสพติดคู่รักของคุณมากกกกกกก มากซะจนคุณอาจจะไม่รู้ตัวเลยล่ะ 1. คุณตัวติดกันตลอดเวลา และตอนที่ไม่ได้อยู่ด้วย มันทำให้คุณรู้สึกเหมือนโลกมันช่างอ้างว้างมากๆ คุณอยากจะหิ้วแฟนไปไหนมาไหนด้วย แม้กระทั่งปาร์ตี้ที่มีแต่เพื่อนคุณทั้งหมด 2. มีเซ็กส์กันในช่วงเวลาที่แปลกๆ ในสถานที่แปลกๆ และยังทำบ่อยๆ ซะด้วย ทุกคนต้องเคยมีเซ็กกันในที่แปลกๆ แต่บางครั้งก็บ่อยเหลือเกิน เช่น มีเซ็กส์ตอนพักกลางวันจนไปเข้างานช้า และทำให้บอสหัวเสียได้ง่ายๆ 3. แม้ว่าคุณจะพยายามลดความเสพติดลง ด้วยการตั้งกฎขึ้นมากับแฟน เช่น อาจจะไม่จำเป็นต้องเจอกันทุกวัน หรือเลิกมีเซ็กส์ในที่แปลกๆ บ้าง แต่คุณก็เผลอละเมิดกฎตลอด 4. แม้ว่าคุณจะไม่มีเงินเหลือมาก แต่คุณก็ยังพอเจียดเงินเพื่อเลี้ยงข้าวแฟน หรือกระทั่งยอมขอผ่อนผันกับทางหอพักไม่จ่ายค่าห้อง เพื่อซื้อของขวัญวันเกิดให้แฟนคุณ 5. และคุณก็จะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะมีความสุขอย่างเต็มที่หากไม่มีเค้าอยู่ด้วย ซึ่งนั่นมันก็อาจจะไม่ค่อยดีเท่าไรนะ…
-
คลิปซิ๊ดๆ สาธิตการตัดจมูกเล็บออกแบบฟินๆ สำหรับคนที่เสพติดความเจ็บปวด…
อู้ววว ซิ๊ดดด จิ๊ดดด… ใครที่ชอบดูคลิปความเจ็บปวดที่เกิดกับร่างกาย คุณมาถูกทางแล้ว แต่หาคุณเป็นคนจิตใจอ่อนไหวง่าย ไม่ชอบความรุนแรง คุณสามารถข้ามบทความนี้ไปเลยนะ ความเจ็บปวดอย่างหนึ่งที่ผู้คนชอบนำมาแชร์ในโซเชียลคือ “การตัดจมูกเล็บ” ไม่ใช่เพื่อนำเสนอความเจ็บปวดนะ แต่เป็นการสอนตัดจมูกเล็บด้วยวิธีต่างๆ ใครที่เคยเป็นคงจะเข้าใจดีว่าทำไมต้องสอนเรื่องพวกนี้ ว่ากันด้วยเรื่องจมูกเล็บหรือเล็บขบ ที่เป็นพื้นผิวเล็กๆ ห้อยออกจากเนื้อบริเวณเหนือเล็บ เมื่อขาดการดูแลที่ถูกต้องมักจะเกิดความความแห้ง เจ็บปวดและอาจติดเชื้อจนทำให้เกิดอาการบวมและแดงขึ้นมา และเมื่อเข้าสู่ระยะที่บวมแล้ว ทางเดียวที่พ้นจากความเจ็บปวดนั้นคือ การตัดจมูกเล็บออกซะ พูดเหมือนง่ายแต่ทำยากเด้อ เพราะหลายคนมักจะทำให้จมูกเล็บฉีกระหว่างตัดออก เพราะใช้วิธีที่ไม่ถูก แถมยังเป็นการเพิ่มเลเวลความเจ็บปวดขึ้นไปอีก เว็บไซต์ Mayo Clinic ได้แนะนำว่าวิธีการรักษาเล็บขบอยู่สองวิธีคือ การใช้ไหมขัดฟันค่อยยกเล็บส่วนที่เป็นเล็บขบขึ้นจากเนื้อหนัง แล้วก็ตัดออก อีกวิธีหนึ่งคือให้หมอถอดเล็บออกหมดเลย เพื่อป้องกันการงอกของเล็บขบ ในกรณีที่ตัดออกไม่หมด แต่ก็มีอีกหลายคนที่มีวิธีรักษาเล็บขบในแบบฉบับของตัวเอง และได้นำวิธีเหล่านั้นมาแชร์ลงโซเชียล เผื่อจะเป็นความรู้ให้คนอื่นๆ ด้วย สำหรับใครที่อยากดูคลิปการตัดจมูกเล็บ ไม่ต้องเสียเวลาหา เพราะยูทูบช่อง IngrownLife ได้รวบรวมมาให้ส่วนหนึ่งแล้ว รับรองว่าฟินได้ใจแน่ๆ หลังจากตัดส่วนที่เป็นเล็บออกไปแล้ว ต้องดึงส่วนหนังที่เหลือออกด้วยนะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเล็บขบซ้ำอีก อื้มม มันก็จะซิ๊ดๆ หน่อยอะนะ สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะเลือกกำจัดเล็บขบด้วยตัวเอง…
-
สองสาวเล่าประสบการณ์ ติดอยู่กลางทะเล 5 เดือน ที่สุดท้ายก็รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์
จะเป็นอย่างไรหากเราจำเป็นต้องเอาชีวิตรอดอยู่กลางทะเลโดยไม่สามารถเดินทางกลับชายฝั่งได้ด้วยตัวเอง เหมือนกับเหตุการณ์ที่ผู้หญิงสองคนนี้ต้องเจอ ทั้งสองมีชื่อว่า Jennifer Appel และ Tasha Fuiava หญิงสาวจากนครโฮโนลูลู ในรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา พวกเธอได้บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางไปยังเกาะตาฮิตี ที่ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ซึ่งระหว่างการเดินทางครั้งนี้กลับเกิดปัญหาที่เหนือความคาดหมาย จนทำให้พวกเธอต้องติดอยู่กลางทะลนานกว่า 5 เดือน!! Tasha (คนซ้าย) และ Jennifer (คนขวา) พวกเธอออกทะเลกันไปตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม พอผ่านไปเป็นเวลาเกือบเดือน ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนจึงทำให้เรือของพวกเธอสูญเสียพลังงานจนไม่สามารถเดินทางต่อได้และต้องติดอยู่กลางทะเล เรื่องที่น่าเศร้ากว่านั้นก็คือโทรศัพท์มือถือของเธอที่มีกันอยู่เครื่องเดียวจมลงไปในทะเลตั้งแต่วันแรกที่ออกเดินทาง การเอาชีวิตรอดของพวกเธอจึงเริ่มต้นขึ้นและต้องเจอกับอุปสรรคอีกมาก เครื่องกรองน้ำที่มีอยู่บนเรือใช้การไม่ได้จนทำให้พวกเธอเกือบต้องตายเพราะว่าขาดน้ำ แต่โชคดีที่ Jennifer สามารถซ่อมมันได้ ในคืนหนึ่งมีฝูงฉลามเข้าโจมตีเรือลำน้อยของพวกเธอ สร้างความหวาดผวาให้กับสองสาวเป็นอย่างมาก พวกเธอบอกว่า “ฉันรู้สึกหวาดกลัวและรีบพาน้องหมาที่พามาด้วยลงไปใต้ท้องเรือ ทำตัวให้เงียบที่สุดเพื่อไม่ให้ฉลามได้ยินเสียงหรือได้กลิ่นพวกเรา” คืนนั้นพวกเธอสามารถรอดตายมาได้เพราะความแข็งแรงของเรือทำให้ฉลามไม่สามารถจมเรือพวกเธอลงได้ แต่ในวันรุ่งขึ้นเธอก็บอกว่ามีฉลามอยู่ตัวหนึ่งว่ายกลับมาหา ภาพของ Zeus หนึ่งในน้องหมาที่พวกเธอพามาด้วย ตลอดช่วงเวลาที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนเรือนานถึง 98 วัน พวกเธอพยายามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลืออยู่ตลอด แต่เพราะระยะทางที่ไกลจากฝั่งมากเกินไป รวมถึงคนที่แล่นผ่านไปมาก็ไม่อาจสังเกตเห็นได้เลย ความรู้สึกตอนนั้นพวกเธอบอกว่า…
-
เด็กหญิงชาวปากีสถานวัย 9 ขวบ ป่วยเป็นโรคประหลาด ส่งผลทำให้คองอ 90 องศา!?
ทุกวันนี้แม้เทคโนโลยีจะพัฒนามากขึ้น มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาทุกโรคที่มีอยู่บนโลกนี้ได้ เนื่องจากมีบางโรคที่เพิ่งถูกค้นพบและไม่สามารถระบุได้ว่ามันเกิดจากอะไร เหมือนกับโรคที่ Afhseen Qumbar เด็กหญิงวัย 9 ขวบคนนี้เผชิญอยู่ในตอนนี้ เป็นสภาพความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ทำให้คอของเธองอ 90 องศา และไม่สามารถยืนหรือเดินได้ปกติ นอกจากต้องนั่งเพียงอย่างเดียว เด็กหญิงคนนี้อาศัยอยู่ใน Mithi จังหวัด Singh ของปากีสถาน โดยต้องมีคนคอยช่วยเหลือเธอในเรื่องการกินและการเข้าห้องน้ำ พ่อของเด็กหญิง Allah Jurio วัย 55 ปี และแม่ Jameelan วัย 50 ปี เผยว่าพวกเขาได้ปรึกษาแพทย์มาแล้วหลายคน แต่ได้คำตอบว่าความผิดปกตินี้ไม่สามารถรักษาได้ใน Mithi Jameelan บอกว่า “มันเป็นความเจ็บปวดที่ต้องเห็นลูกมีชีวิตในสภาพแบบนั้น ฉันไม่อยากเห็นเธอต้องอยู่อย่างทรมานอีกต่อไป แต่ไม่มีหมอคนไหนวินิจฉัยความผิดปกตินี้ได้เลย” “มีคนแนะนำให้พาเธอไปที่ Jinnah Post Graduate Medical Centre ใน Karachi แต่เราไม่มีเงินพอสำหรับโรงพยาบาลขนาดใหญ่แบบนั้น” ผู้เป็นแม่บอก ย้อนกลับไปตอนที่ Afsheen เกิด เธอเป็นทารกปกติเหมือนพี่น้องอีก 6 คน แต่แล้วสภาพร่างกายของเธอก็เปลี่ยนไปเมื่ออายุได้ 8 เดือน มันเกิดขึ้นที่ตอนที่เด็กน้อยเล่นอยู่นอกบ้านแล้วเกิดหกล้ม จนทำให้เธอปวดคอ ตอนแรกพ่อแม่ไม่คิดว่าจะเป็นอะไรร้ายแรงเลยปล่อยไว้แบบนั้น…
-
ล้ำไปอีก!! จีนผุด “รถบัสอัจฉริยะ” ไร้คนขับ ที่ดูเหมือนรถไฟวิ่งบนรางเป็นครั้งแรกของโลก
วันที่ 24 ตุลาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า ผู้ผลิตรถไฟของจีนได้พัฒนารถบัสอัจฉริยะเออาร์ที (ART – Autonomous Rail Rapid Transit) แบบไม่จำเป็นต้องพึ่งคนขับเป็นครั้งแรกของโลก และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการนำออกมาทดสอบบนถนนในนครจูโจว มณฑลหูหนานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการรายงานระบุว่า รถโดยสารดังกล่าวถูกพัฒนาโดยหน่วยวิจัยของบริษัท CRRC Zhuzhou Locomotive ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย ART เป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้ารุ่นมาตรฐานที่มีความยาวราว 30 เมตร มีขนาดกว้าง 3.75 เมตร เดินทางด้วยความเร็ว 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถจุผู้โดยสารได้มากถึง 300 คนเลยทีเดียว นอกจากนี้ ART ยังมาในรูปลักษณ์ที่ผสมผสานระหว่างรสบัสและรถไฟแบบดั้งเดิมเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมถูกติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ที่สามารถวัดขนาดถนน และวางแผนเส้นทางได้ด้วยตัวเอง สุดยอดดด!! ด้าน Feng Jianghua หัวหน้าวิศวกรรถไฟได้ออกมากล่าวว่า “การสร้างรถบัส ART ขึ้นมาจะสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเมื่อเทียบกับการสร้างระบบรถไฟใต้ดิน ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 150-200…
-
เด็กนักเรียนญี่ปุ่นยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐ เพราะบังคับให้ย้อมผมสีดำ ทั้งที่ผมสีน้ำตาลโดยกำเนิด
ในโรงเรียนทุกที่ต้องมีกฎระเบียบที่เคร่งครัด เพื่อที่จะได้ทำให้เด็กมีระเบียบวินัยและสามารถออกไปสู่โลกภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่บางครั้งกฎระเบียบก็อาจจะต้องมีขอบเขตสักนิด เพราะไม่งั้นมันอาจสร้างปัญหายุ่งยากตามมาได้… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อมีหญิงสาวอายุ 18 ปีคนหนึ่ง ได้ยื่นเรื่องต่อศาลแขวง Osaka ประเทศญี่ปุ่น ฟ้องค่าเสียหายมูลค่า 2.2 ล้านเยน (ประมาณ 640,000 บาท) จากกรณีที่เธอถูกโรงเรียน Kaifukan บังคับให้ย้อมสีเป็นผมสีดำมิเช่นนั้นจะไม่ให้เธอมาเรียนอีกต่อไป โดยทางการ Osaka รวมถึงโรงเรียนมัธยมได้พยายามคัดค้านศาลให้ยกเลิกคดีนี้ กฎสีผมนักเรียน ของโรงเรียนในญี่ปุ่น โรงเรียนไฮสคูลหลายแห่งใน Osaka มีการลงทะเบียนเกี่ยวกับเรื่องสีผมตามธรรมชาติที่ไม่ใช่สีดำให้สามารถตรวจสอบได้ เมื่อถึงเวลาตรวจสอบนักเรียนประเภทนี้จะถูกตรวจสอบเส้นผม แล้วนำไปบันทึกลงข้อมูลเอาไว้ และนักเรียนประเภทนี้ยังต้องมีใบรับรองสีผมเพื่อที่จะรับรองได้ว่าพวกเขาไม่ได้โกหก หากพวกเขามีสีผมอื่นๆ ตามธรรมชาติจริงๆ โรงเรียนมีกฎห้ามย้อมผมเป็นสีอื่น เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องย้อมดำ!? ก่อนหน้าที่จะเข้าเรียนแม่ของเธอได้แจ้งกับทางโรงเรียนก่อนแล้วว่าเธอนั้นมีผลสีน้้ำตาลมาตั้งแต่กำเนิด แต่คุณครูในโรงเรียนกลับบังคับให้เธอย้อมผมเป็นสีดำหลายครั้งทำให้เธอมีผื่นขึ้นบนหนังศีรษะ รวมทั้งหนังศีรษะลอกเนื่องจากฤทธิ์ของยาย้อมผมทำให้เธอทุกข์ทรมานมาก แต่คุณครูก็บอกว่านั่นยังดำไม่พอในเวลาที่ผมงอกออกมาใหม่ และยังถามนักเรียนสาวคนนี้อีกว่าจะย้อมผมหรือจะออกจากโรงเรียนไป? ซึ่งนั่นทำให้เธอหยุดไปโรงเรียนตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว ติดแบล็คลิสต์ จนถึงขั้นไม่ได้ไปโรงเรียน มีเหตุการณ์หนึ่งที่คุณครูใช้คำพูดรุนแรงกับนักเรียนสาวคนนี้โดยเธอบอกว่า “เพราะเธอเป็นลูกไม่มีพ่อใช่ไหม ถึงชอบทำตัวเด่นที่จะเปลี่ยนสีผมให้เป็นสีน้ำตาลอยูเรื่อย” ซึ่งหลังจากเธอได้ยินคำพูดนี้ก็ทำให้เธอมีอาการ Hyperventilate หรือที่เราเรียกกันว่า โรคไฮเปอร์จนต้องรีบส่งเข้าโรงพยาบาล เมื่อกันยายนปีที่แล้วก็มีคุณครูคนหนึ่งออกมาบอกกับนักเรียนสาวรายนี้ว่า “ถ้าเธอไม่ย้อมผมเป็นสีดำ เธอก็ไม่ต้องมาโรงเรียนอีกต่อไป”…
-
วัยรุ่นสังหารเพื่อนตัวเอง เพราะลวนลามแฟนสาว หลังขอปั่มป๊ามแล้วเธอไม่ยอม!!
เพื่อนแท้คือคนที่คอยร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน ช่วยเหลือกัน แบ่งปันทุกอย่างให้กันและ แต่ไม่ว่าจะสนิทกันมากแค่ไหน บางอย่างย่อมต้องมีขอบเขต โดยเฉพาะแฟนที่เพื่อนไม่สามารถใช่ร่วมกันได้… และหากคุณคิดว่าสามารถใช้แฟนร่วมกับเพื่อนได้ มันอาจนำไปสู่โศกนาฏกรรมเหมือนกรณีนี้ เมื่อชายคนหนึ่งขอมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแฟนเพื่อน จนทำให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียในที่สุด นาย Nikita Rasskazov อายุ 16 ปี ได้ลงมือสังหารนาย Artyom Shustov วัย 19 หลังจากที่แฟนสาวของเขามาบอกว่าถูกนาย Shustov ขืนใจในงานปาร์ตี้ เพราะเธอไม่ยอมมีเซ็กส์กับเขา Olena Matsneva วัย 17 ปี แฟนสาวของ Rasskazov ได้เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นว่า Shustov และเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆ ได้จับหน้าอกและอวัยวะเพศของเธอ โดยมีเพื่อนผู้หญิงคอยช่วยล็อคตัวเธอเอาไว้ เหตุการณ์นี้ทำให้ Matsneva ทั้งอับอายและเจ็บใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่กล้าไปแจ้งตำรวจว่าตัวเองถูกข่มขืน… ทางด้าน Rasskazov อ้างว่าเขาไม่ได้ตั้งใจฆ่าหรือตัดหัวของเพื่อน แต่เขาแค่อยากให้เพื่อนคนนั้นขอโทษแฟนสาวตอนที่พวกเขามาเจอกันในวันที่ 28 ตุลาคม ปี 2016 แต่แล้วระหว่างที่พูดคุยกันดูเหมือนต่างฝ่ายต่างไม่ยอม จนเกิดการทะเลาะวิวาทและลงไม้ลงมือกัน ในที่สุด Rasskazov ในวัย 16 ปีก็ก่อเหตุแทงเพื่อนของเขาจนเสียชีวิตในสวนสาธารณะที่ Komsomolsk-on-Amur…
-
ถึงกับงง! หมาพันธุ์ Puli ตัวหนึ่งที่เจ้าของแต่งตัวให้มันเป็นไม้ม็อบ ทำเอาขโมยซีนงานทั้งงานเลย
เคยไหม เวลาเราไปงานโชว์สัตว์เลี้ยงก็จะเห็นพวกมันแต่งตัวกันแสนจะน่ารัก อย่างเป็นซุปเปอร์ฮีโร่หรือเป็นตัวละครในหนังสือการ์ตูนต่างๆ แต่ว่าในวันนี้มีหมาอยู่ตัวหนึ่งที่แหวกแนวเดิมๆ ถึงขั้นขโมยซีนทั้งงานเพราะเจ้าของมันแต่งตัวให้มันเป็นไม้ถูพื้น?? ที่เมืองหนึ่งที่อยู่ในรัฐ Kentucky ชื่อว่า Covington จะมีเทศกาลประจำปีอยู่งานหนึ่งชื่อว่า Mainstrasse Paw-Rade ซึ่งนี่เป็นงานที่ผู้คนจะนำสัตว์เลี้ยงมาแต่งตัวเป็นตัวต่างๆ แล้วนำมาประกวดกัน แต่ว่าในปีนี้มีหมาพันธุ์ Puli อยู่ตัวหนึ่งชื่อว่าเจ้า Keki ด้วยความที่หมาพันธุ์นี้จะมีขนที่ดกเป็นอย่างมากเจ้าของมันจึงมีไอเดียแปลกๆ จับมันมานั่งในถังซับน้ำแล้วเดินไปรอบๆ ทั้งงานจนสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่คนที่พบเจออย่างมาก เพราะว่ามันเหมือนกับไม้ถูพื้นจริงๆ นั่นเอง พาไม้ม็อบมาเดินเล่นได้ด้วยหรอ ไม้ม็อบอันนี้แปลกๆ นะ มีลิ้นด้วย… สงสัยพื้นสกปรกจัด ดำเชียว ฮัลโหล ไม่ต้องงง นี่หมาเอง มีคนมาเล่นด้วยแล้วว และหลังจากที่ภาพสุดน่ารักของมันได้ลงสู่โลกไซเบอร์ก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย อย่าง “มันทำให้ฉันยิ้มออกและสามารถผ่านวันยากๆ ไปได้จริงๆ” คนนี้แต่งกลอนให้มันเลยทีเดียว แหม มันช่างน่ารักน่าแกล้งอะไรขนาดนี้ ต้องให้เครดิตเจ้าของเลยนะเนี่ยที่มีไอเดียที่ทำให้คนยิ้มได้อย่างนี้ ที่มา: boredpanda
-
อย่างเจ๋ง! นักวิทยาศาสตร์จีนพัฒนาสายพันธุ์ข้าว ให้สามารถปลูกในน้ำเค็มได้แล้ว!?
ข้าวเป็นอาหารหลักของผู้คนในหลายๆ ประเทศ เมื่อมีผู้บริโภคจำนวนมากก็ทำให้ต้องหาแหล่งที่ใช้ปลูกจำนวนมากตามไปด้วย แต่ปัญหานี้จะหมดไปเพราะว่านักวิทยาศาสตร์จากประเทศจีนได้พัฒนาให้สามารถปลูกในน้ำเค็มได้แล้ว!! ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา มีข้าวมากกว่า 200 ชนิดได้ปลูกที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาข้าวแห่งเมือง Qingdao ซึ่งเป็นเมืองติดชายฝั่งแห่งหนึ่งในมณฑล Shandong ประเทศจีน โดยพวกเขาได้สูบน้ำจากทะเลเหลืองขึ้นมาทำให้เจือจางและใช้ในการทดลองปลูกข้าวจากน้ำทะเลนี้ การเจือจางสำหรับการปลูกข้าวได้นั้นจะเจือจางโดยการผสมน้ำจืดธรรมดาเพื่อลดความเค็มของน้ำทะเลลงให้เหลือ 6 กรัมต่อ 1 ลิตร ซึ่งจริงๆ แล้วน้ำทะเลมีความเค็มกว่าเกลือถึง 5 เท่า Yuan Longping ผู้นำการวิจัยในครั้งนี้กล่าวว่า การปลูกข้าวสายพันธุ์นี้จะสามารถช่วยให้ผู้คนได้มีข้าวกินได้ถึง 200 ล้านคน โดยการปลูกข้าวในน้ำเค็มนี้มีการทดลองมาแล้วหลายครั้งในประเทศจีน และในตอนนี้ข้าวที่ปลูกในน้ำเค็มเหล่านี้ก็ได้ออกสู่ตลาดให้ผู้คนได้ทดลองชิมแล้วโดยพวกเขาใช้ชื่อว่า “ํYuan Mi” ซึ่งนี่เป็นความภาคภูมิใจของนักวิทยาศาสตร์ที่ได้พัฒนามันขึ้นมาอีกด้วย สำหรับข้าวที่พวกเขานำมาขายนี้เป็นการปลูกจากปีที่แล้ว และในปีนี้ข้าวที่ปลูกไว้ก็พร้อมให้เก็บเกี่ยวในเดือนพฤศจิกายนที่จะมาถึง โดยราคาของข้าวชนิดนี้จะมีราคาที่แพงกว่าข้าวปกติถึง 8 เท่าโดยราคาขายต่อ 1 กิโลกรัมจะอยู่ที่ 250 บาท แต่ว่าข้าวชนิดนี้จะมีแคลเซียมและธาตุอาหารที่มีอยู่มากมายจากน้ำทะเลเข้ามาเสริมด้วย นอกจากนั้นเกลือจากน้ำทะเลสามารถที่จะฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่อยู่ในเม็ดข้าวได้ ทำให้ข้าวชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพนั่นเอง ที่มา: nextshark , scmp
-
ทำไปได้! สองหัวขโมยฉกกระเป๋าเงินคุณยายวัย 87 ปี ในซุปเปอร์มาเก็ตก่อนเดินออกไปหน้าตาเฉย
ขึ้นชื่อว่าหัวขโมย ก็สามารถนำสิ่งของที่เป็นของคนอื่นมาเป็นของตัวเองได้โดยง่าย แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าจะไร้หัวใจขนาดขโมยกระเป๋าตังของคุณยายแก่ๆ ได้ลงคอ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ร้าน Aldi เมือง Shropshire ประเทศอังกฤษ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่า คนร้ายทั้ง 2 คนได้เล็งคุณยายคนหนึ่งอายุ 87 ปีไว้เป็นเหยื่อจากนั้นคนแรกก็ทำทีเข้าไปพูดคุย และคนร้ายคนที่สองก็ล้วงเข้าไปที่กระเป๋าถือของคุณยายเพื่อที่จะค้นหากระเป๋าตัง รอจังหวะก่อน โดยในครั้งแรกนั้นคนร้ายเห็นว่ามีจังหวะที่ไม่ดีจึงดึงมือกลับออกมา ก่อนที่จะลงมือซ้ำในครั้งที่ 2 และได้กระเป๋าเงินไป ก่อนที่จะเดินออกไปอย่างหน้าตาเฉย หมับเข้าให้ ในตอนนี้ทางตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดและกำลังหาตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งสันนิษฐานไว้ว่าเป็นชาวยุโรปตะวันออก และมีอายุราวๆ 40-50 ปี โดยคนแรกมีผมสั้นและสวมแจ๊คเก็ตสีน้ำเงิน ส่วนคนที่สองหัวล้านสวมแว่นตาและมีรูปร่างค่อนข้างท้วม หน้าตาของผู้ร้ายทั้งสอง ลองมาชมภาพขณะก่อเหตุกันดูดีกว่า ขนาดคนแก่ยังไม่เว้นอย่างนี้ ก็ขอให้โดนจับในเร็ววันด้วยเถอะ ที่มา: dailymail
-
คุณแม่เผยภาพอันน่าเศร้าของลูกชายผู้มีบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง จนถึงกับพยายามฆ่าตัวตาย
ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่งจะมีลักษณะการแสดงออกทางอารมณ์ที่แตกต่างไปจากคนปกติ โมโหร้าย ฉุนเฉียวง่ายและแสดงออกมาเป็นการใช้ความรุนแรง หรือหนักกว่านั้นพวกเขาอาจถึงกับตัดสินใจฆ่าตัวตายเช่นเดียวกับเด็กหนุ่มคนนี้ เมื่อคุณแม่ที่ชื่อว่า Helen Barnes ได้แชร์เรื่องราวของลูกชายเธอ Jack ผู้ที่มีอาการผิดปกติดังกล่าว และได้พยายามฆ่าตัวตายในวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ความผิดปกติของเขาเริ่มต้นขึ้นในเมือง Pembrokeshire ประเทศเวลส์ ตอนที่เขาอายุได้ 13 ปี ในตอนนั้นเด็กหนุ่มต้องเข้ารับการบำบัดเพื่อให้สามารถจัดการกับความโกรธของตัวเอง Helen และลูกชายของเธอ Jack เวลาผ่านไปจนกระทั่งอายุได้ 15 ปีเขาก็เริ่มมีการแสดงออกที่ค่อนข้างรุนแรง หากรู้สึกหงุดหงิดเขาก็จะทำลายข้าวของ กรีดแขนตัวเอง ต่อยกระจกหรือกำแพง ทั้งหมดนั้นทำให้แม่ของเขารู้สึกเป็นห่วงและกังวลอย่างมาก และถึงแม้เขาจะมีเพื่อนบ้างเล็กน้อย แต่เด็กหนุ่มก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องเล่นเกม ไม่ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนเหมือนเด็กๆ ในวัยเดียวกัน ในตอนนั้นความผิดปกติของเขารุนแรงถึงขั้นตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่ช่วยเขาไว้ได้ทันก่อนที่คุณหมอจะวินิจฉัยว่าสิ่งที่เขาเป็นอยู่นี้เป็นผลมาจากความผิดปกติของบุคลิกภาพ Helen เล่าว่า “ครั้งแรกที่โรงเรียนโทรมาบอกว่าเขาต่อยกำแพง ฉันรู้สึกว่านั่นไม่ใช่เขาเพราะเขาเป็นเด็กดีมาตลอด เอาใจใส่ดูแลคนใกล้ตัวโดยเฉพาะน้องสาวฝาแฝด Lucy และ Jordan Arthur น้องชายอีกคน” หลังจากนั้นมาเด็กหนุ่มได้เข้ารับการบำบัดเกี่ยวกับพฤติกรรมและการพูดคุย รวมถึงการบำบัดกันเป็นกลุ่มทุกๆ เดือน พออายุ 18…
-
ชายหนุ่มหวังดีลงไปช่วยเหล่าลูกเป็ด ไปๆ มาๆ ได้กลายเป็นคุณพ่อของพวกมันเฉย?!
เรื่องที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่ออย่างเช่นตอนกำลังขับรถอยู่ รถอาจจะเสียหรือเกิดอุบัติเหตุก็ได้ หรือไม่อย่างนั้นบางทีเราอาจได้กลายเป็นพ่อโดยไม่รู้ตัวอย่างชายคนนี้ไปเลยก็ได้!! เมื่อยูทูบเบอร์ที่ใช้ชื่อว่า THEREALD25 ได้โพสต์คลิปลงในวันที่ 28 มีนาคม 2015 แสดงให้เห็นว่าเขาได้กลายเป็นคุณพ่อด้วยความบังเอิญ ซึ่งลูกของเขาก็ไม่ใช่เด็กทั่วไปเพราะพวกมันคือ เป็ด!! ชายหนุ่มเจ้าของแชนแนลยูทูบที่ชื่อว่า THEREALD25 เขาเล่าว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นขณะที่เขากำลังขับรถและได้ไปพบเข้ากลับกลุ่มลูกเป็ดน้อยยืนอยู่กลางถนน โดยที่ไม่มีแม่เป็ดคอยดูแล ด้วยความเป็นห่วงและไม่อยากทำร้ายพวกมัน ชายหนุ่มจึงจอดรถและลงไปผลักให้พวกมันออกไปอยู่ข้างทางแทน หลบไปข้างทางก่อนนะเด็กๆ ยืนกลางถนนมันอันตราย แต่เหตุการณ์ก็ไม่ได้จบลงแต่เพียงเท่านี้ เพราะว่าลูกเป็ดทุกตัวเหมือนจะเข้าใจว่าเขาคือพ่อหรือแม่ของมันไปแล้ว ทำให้เวลาที่ชายหนุ่มเดินไปทางไหน เป็ดน้อยก็จะคอยเดินตามด้วยความน่ารัก นั่นพ่อเดินไปไหนน่ะ?! พวกเราตามไปกันเร็ว ในคลิปชายหนุ่มถึงกับพูดออกมาว่า “ปัดโธ่ววว ผมยังไม่พร้อมจะมีลูกหรอกนะ” สุดท้ายแล้วด้วยความที่เขาทำงานให้กับ Disney จึงตัดสินใจนำพวกมันไปฝากไว้ที่โซนอาณาจักรสัตว์ภายในสวนสนุกของ Disney ซะเลย ทำให้เหล่าเป็ดน้อยไม่ต้องมาเสี่ยงอันตรายอยู่ข้างถนนและได้รับการดูแลที่ดีต่อไป คลิปความน่ารักของเหล่าเป็ดน้อยที่เข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นพ่อ นับว่าเป็นโชคดีของเจ้าเป็ดเลยนะเนี่ยที่ได้มาเจอกับชายคนนี้ ส่วนเขาเองก็เกือบได้กลายเป็นคุณพ่อไปซะแล้ว ที่มา: inspiremore
-
ช่างภาพตามถ่ายใบหน้าของลูกครึ่งญี่ปุ่นจาก 192 ประเทศ หน้าตาจะเป็นแบบไหนกันนะ??
มนุษย์แต่ละเชื้อชาตินั้นมักจะมีหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ จนทำให้เราสามารถเดาเชื้อสายคนจากใบหน้าได้ เว้นแต่คนที่เป็นลูกครึ่ง ที่อาจจะเดายากสักหน่อย ด้วยเหตุนี้ช่างภาพลูกครึ่งเบลเยียม-ญี่ปุ่น จึงได้ตามถ่ายภาพใบหน้าของผู้ที่มีเชื้อสายญี่ปุ่นในโตเกียว เพื่อแสดงให้เห็นเอกลักษณ์เฉพาะของคนเป็นลูกครึ่ง นี่คือโปรเจกต์ Hafu2Hafu ของ Tetsuro Miyazaki ที่ได้สัมภาษณ์ผู้มี่เชื่อสายญี่ปุ่น และเรียนรู้เกี่ยวกับอัตลักษณ์ของพวกเขา Miyazaki บอกว่า “ผมต้องการให้ผู้คนเข้าใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความซับซ้อนของตัวตน เมื่อพ่อแม่ของพวกเขาไม่ใช่คนเชื้อสายเดียวกัน” ส่วนตัวช่างภาพเองนั้น อายุ 39 ปี พ่อเป็นชาวญี่ปุ่น แม่เป็นชาวเบลเยี่ยม ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และล่าสุดโครงการของเขาก็ได้รับการสนับสนุนจากองค์ไม่แสวงหาผลกำไรหลายแห่งในสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ด้วย ภาพถ่ายของ Miyazaki ถูกอัพโหลดบนหน้าเว็บไซต์แล้วเรียบร้อย โดยมีคำบรรยายว่าโปรเจกต์นี้ต้องการนำเสนอภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์ของการเป็นลูกครึ่ง เขาได้จัดทำเป็นภาพพร้อมคำถามเกี่ยวกับลูกครึ่งในช่วงวัยที่แตกต่างกันทั้งเพศ ที่อยู่อาศัย และเป็นการรวบรวมลูกครึ่งเชื้อสายญี่ปุ่นจาก 192 ประเทศทั่วโลก หลังจากที่โปรเจกต์ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้รับการยกย่องจาก The New York Times เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยเขียนไว้ในบทความเรื่อง Hapa Japan Festival ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองสำหรับเชื้อสายผสม เชื่อสายผสมญี่ปุ่นและวัฒนธรรม Miyazaki ใช้เวลาในการทำโปรเจกต์ Hafu2Hafu ยาวนานถึง 2 ปีด้วยกัน เขาได้ทำการสัมภาษณ์ไปแล้ว…
-
หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคจำได้ทุกอย่าง เปิดเผยความรู้สึกแรกหลังจากที่มีความสามารถนี้
เราแทบทุกคนไม่สามารถจำได้ว่าตอนเป็นเด็กเรารู้สึกอย่างไรหรือมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สิ่งนั้นเป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์ที่เมื่อเราใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ความทรงจำเก่าๆ ก็จะยิ่งเลือนรางจางหายไปทุกที แต่สิ่งที่ว่ามานั้นกลับไม่ได้เกิดขึ้นกับหญิงสาวที่มีชื่อว่า Rebecca Sharrock ผู้ป่วยเป็นโรค Highly Superior Autobiographical Memory (หรือที่เรียกว่า HSAM) ทำให้เธอสามารถจำเหตุการณ์ในชีวิตของเธอได้แทบจะทั้งหมด แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โรค HSAM เรียกได้ว่าหายากมากๆ มีเพียงไม่ถึง 100 คนบนโลก โดยผู้ป่วยสามารถจดจำความรู้สึกหรือสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ แต่หากเป็นเรื่องอื่นๆ หรือของคนรอบข้างความจำก็จะมีความเลือนรางอยู่เหมือนคนทั่วไป ซึ่งโรคดังกล่าวยังคงไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าเกิดจากอะไร ในกรณีตัวอย่างของเธอคนนี้ที่ิอาศัยอยู่ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย แม้ว่าจะไม่สามารถจำวันแรกที่ตัวเองลืมตาดูโลกได้ แต่เธอสามารถจดจำทุกอย่าง ทั้งความรู้สึก ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือแม้กระทั่งรสชาติอาหาร ซึ่งเธอจำได้ตั้งแต่ตอนที่ตัวเองอายุเพียงแค่ 12 วันเท่านั้น เธอสามารถจำความรู้สึกของตัวเองในตอนที่อายุเพียงแค่ 12 วันได้ เธอเล่าว่า “ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันน่าจะนอนอยู่บนเปลในโรงพยาบาล และตอนที่ได้อยู่ในห้องนอนก็มีความรู้สึกหลงใหลไปกับพัดลมที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ไม่สามารถลุกออกไปดูและทำความรู้จักกับมันได้” เล่าต่ออีกว่าตอนที่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ จะพูดหรือใช้เครื่องมือต่างๆ ก็ไม่ได้ ในตอนนั้นเธอรู้สึกสนใจและสงสัยสิ่งรอบตัวมากกว่าปัจจุบันหลายเท่าเลย แสดงให้เห็นเลยว่าเธอสามารถจดจำได้กระทั่งว่าตอนนั้นเธอรู้สึกอย่างไร คนทั่วไปแค่คิดถึงตอนอายุ…
-
นางแบบสาว Plus-Sized ขอช่างมือโปรถ่ายภาพแล้วเข้าโฟโต้ช็อปให้หน่อย ออกมาอีกทีผอมพริ้วเลย
ในปัจจุบันนั้น โลกของเราแทบจะแยกความเป็นจริงกับเรื่องหลอกหลวงไม่ค่อยจะออกแล้ว เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโฟโต้ช็อปที่สามารถเปลี่ยนแปลงคนได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว สังเกตเห็นได้จากโลกอินเตอร์เน็ตหรือแม้แต่บนปกนิตยสาร เพราะเมื่อนางแบบไม่พอใจ ทีมงานก็สามารถปรับปรุงสีผิว รูปโฉมให้ออกมาสวยงามได้ดั่งใจ ด้วยเหตุนี้ Diana Sirokai และ Callie Thorpe นางแบบสาว Plus-Sized ได้ขอให้ช่างภาพมือโปรลองใช้โฟโต้ช็อปตัดต่อให้พวกเธอผอมลง จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย นางแบบสาวทั้งสองคน เดิมทีพวกเธอก็มั่นใจและสวยเป๊ะในหุ่นอยู่แล้วนะ งานนี้ Karizza ช่างภาพมือโปรก็เลยต้องรับหน้าที่มาเนรมิตรภาพให้ตามคำขอของเธอทั้งสอง ว่าแต่มันจะออกมาดีขนาดไหนนะ? เริ่มแรกด้วยภาพที่ผ่านการโฟโต้ช็อปก่อนเป็นไง ดูแล้วรู้สึกยังไงบ้าง ผอมสวยเลยใช่ไหมล่ะ? กลับมาที่ความเป็นจริงกันบ้าง เราจะเห็นว่าเธอทั้งสองก็ไม่ได้ผอมอย่างในรูปด้านบน แต่พวกเธอก็ยิ้มอย่างมีความสุขกับสิ่งที่เป็น ฉะนั้นก็ยอมรับในสิ่งที่เป็นแล้วก้าวข้ามผ่านมันไป!! ซึ่งหลังจากเธอทั้งสองได้ดูภาพแบบตัดต่อแล้ว ทั้งคู่ก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันดูดีจริงๆ นะภาพนั้น แต่ทั้งคู่ก็บอกว่าเป้าหมายจริงๆ คือ พวกเธออยากจะส่งต่อข้อความว่าการตัดต่อภาพมันเปลี่ยนแปลงให้คนดูดีขึ้นได้แค่ไหน แต่มันก็แค่เปลือกนอกเท่านั้น อย่างบนปกนิตยสารที่คนขึ้นปกจะดูดีสุดๆ แต่มันก็ผ่านการตัดแต่งมาแล้ว ฉะนั้นทั้งคู่ก็เลยบอกว่า อย่าหลงเชื่อกับภาพลวงตาอะไรพวกนั้น อยู่กับความจริงยอมรับในตัวเองแล้วก็ก้าวข้ามมันไปให้ได้!! แบบเธอทั้งสองคนที่แม้จะตัว Plus-Sized แต่พวกเธอก็มั่นใจในตัวเองและสวยได้ในแบบที่เป็น Diana ยังเคยโพตส์ภาพเทียบกับ Kim Kardashian…
-
การแต่งงานแปลกๆ ของหนุ่มอินโดนีเซีย ที่เล่นแต่งทีเดียวพร้อมกันกับเจ้าสาวถึง 2 คน!!
การมีภรรยาหลายคนเป็นเรื่องที่ผู้ชายในประเทศอินโดนีเซียสามารถทำได้อย่างถูกกฎหมาย โดยแต่งงานกับผู้หญิงทีละคน แต่จู่ๆ ในโลกโซเชียลก็เกิดกระแสฮือฮาขึ้น เมื่อมีภาพการ์ดงานแต่งถูกแชร์ออกไปอย่างมากมาย สาเหตุที่มันดังก็เพราะว่าในการ์ดระบุว่ามีเจ้าสาว 2 คน ในขณะที่เจ้าบ่าวมีเพียงคนเดียว!? ชาวเน็ตหลายคนที่ได้เห็นต่างก็คิดว่ามันอาจเป็นเพียงแค่มุขตลกทำขึ้นมาขำๆ ก็ได้ แต่ทางสำนักข่าว Detik ของอินโดนีเซียได้ออกมายืนยันแล้วว่าบัตรเชิญที่ได้เห็นกันนั้นมันคือของจริง บัตรเชิญงานแต่งของจริง ที่ประกอบด้วย 1 เจ้าบ่าว 2 เจ้าสาว การแต่งงานดังกล่าวเกิดขึ้นในหมู่บ้าน Teluk Kijing ทางตอนใต้ของเกาะสุมาตรา โดยเจ้าบ่าวของงาน Panser ได้ให้สัมภาษณ์ว่าได้แบ่งการแต่งงานออกเป็น 3 วัน วันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมาเขาแต่งงานกับเจ้าสาวคนแรกก่อน ต่อมาในวันที่ 8 ก็แต่งกับอีกคนหนึ่ง และสุดท้ายก็คือวันเฉลิมฉลองครั้งใหญ่สำหรับทั้งสามคนที่จัดขึ้นในวันที่ 9 ตุลาคม คิดแล้วก็คงหมดค่างานแต่งไปเยอะอยู่นะ ก่อนหน้านั้นเขาได้เข้าไปพูดคุยกับครอบครัวของเจ้าสาวทั้งสอง Cindra และ Indah ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคุณพ่อคุณแม่ของฝั่งผู้หญิงก็เห็นด้วยกับกำหนดการของงานนี้ ชายหนุ่มมีเจ้าสาวชื่อ Indah หญิงสาวในเมืองเดียวกัน และ Cindra สาวจากหมู่บ้านใกล้ๆ แม้ว่าเรื่องนี้จะดูแปลกตาสำหรับพวกเรา…
-
NASA เผย 10 ต้นไม้ที่ควรปลูกไว้ในห้องนอน เพื่อช่วยให้สุขภาพชีวิตของคุณดีขึ้น
หลายคนอาจมีความเชื่อว่าการปลูกต้นไม้ไว้ในบ้านเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่นั่นก็ไม่ใช่สำหรับทุกสายพันธุ์เพราะพืชบางขนิดหากปลูกเอาไว้ในห้องนอนก็จะสามารถช่วยให้สุขภาพชีวิตของเราดีขึ้นได้ เมื่อนักวิจัย Elle Decor และกลุ่ม The Joy of Plants จาก องค์กรนาซ่า และสถาบันต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องพืชและได้ออกมาบอกว่า มีต้นไม้อยู่ 10 สายพันธุ์ที่หากปลูกเอาไว้ในห้องนอนแล้วพวกมันจะช่วยให้สุขภาพของคุณดีขึ้น มีต้นอะไรกันบ้างเราไปดูกันเลย หมากเหลือง (Areca Palm) เป็นหนึ่งในตระกูลปาล์มที่มีต้นกำเนิดมาจากมาดากัสการ์ ช่วยลดมลพิษภายในห้องนอนของเราได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมันยังปล่อยความชื้นไปในอากาศทำให้สามารถหายใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เหมาะกับคนที่ป่วยเป็นไข้หวัดหรือไซนัสอย่างมาก ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) องค์กรนาซ่าได้จัดให้ว่านหางจระเข้เป็นหนึ่งในต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศได้ดีที่สุด ปล่อยออกซิเจนออกมาอยู่ตลอดแม้ในตอนกลางคืน ช่วยกำจัดสารเบนซีนและฟอร์มาลดีไฮด์ที่เป็นพิษต่อร่างกาย อากาศที่เราได้รับจึงมีความบริสุทธิ์มากอย่างแน่นอน อีกทั้งมันยังดูแลเก็บรักษาง่ายและมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย ตีนตุ๊กแกฝรั่ง (English Ivy) ต้นไม้ชนิดนี้สามารถพบเห็นได้ง่ายในช่วงวันคริสต์มาส ผู้วิจัยจากสถาบันโรคภูมิแพ้ หอบหืด และภูมิคุ้มกันในอเมริกาบอกว่ามันสามารถช่วยกำจัดฝุ่นราที่ลอยอยู่ในอากาศได้มากถึง 78 เปอร์เซนต์ในระยะเวลาเพียง 12 ชั่วโมง ปาล์มสิบสองปันนา (Dwarf Date…
-
ครอบครัวเร่งช่วยเหลือชายชาวฟิลิปปินส์ที่ขึ้นไปอยู่บนต้นมะพร้าวเป็นเวลานานกว่า 3 ปี!?
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจะมีคนที่อยู่กินบนต้นไม้นานถึง 3 ปีโดยไม่ลงมาเลย ซึ่งพอเกริ่นแบบนี้หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันโอเวอร์ แต่มันเกิดขึ้นจริงๆ ที่สำคัญยังเป็นต้นมะพร้าวอีกด้วย!? Gilbert Sanchez ชายชาวฟิลิปปินส์วัย 47 ปี จากเมือง La Paz คือชายผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ โดยเขาได้หนีจากการใช้ชีวิตบนพื้นดินขึ้นไปบนอยู่บนต้นมะพร้าวตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบันก็นับได้กว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเขาไม่เคยลงมาเหยียบพื้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนสุดท้ายทุกคนก็ตัดสินใจจะพาเขาลงมาจากที่ตรงนั้น… เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นจาก Gilbert ที่หนีออกจากบ้านหลังจากถูกทุบเข้าที่หัวอย่างรุนแรงระหว่างที่มีปากเสียงกันในครอบครัว มันส่งผลให้เขาเกิดอาการจิตหลอนจนคิดว่าถ้าเขายังอยู่บนพื้นต่อไปก็จะมีคนมาตามฆ่าเขา เมื่อความคิดดังกล่าวมันฝังลึกอยู่ในหัวและจิตใจของเขา เขาจึงตัดสินใจขึ้นไปอาศัยอยู่บนต้นมะพร้าว พร้อมกับตั้งเป้าว่าจะไม่ลงมาอีกเลยต่อให้ใครจะมากล่อมหรือจะโดนแมลงและสภาพอากาศที่รุนแรงโจมตีก็ตาม ในด้านอาหารการเป็นอยู่ของเขา ก็จะได้รับการส่งเสบียงผ่านเชือกที่ห้อยลงมา ซึ่งตัวแม่ของเขาจะเป็นคนส่งให้เสมอๆ แม้จะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม เพราะเธอได้ลองกล่อมเขาหลากหลายทางแล้วจดสุดท้ายก็ต้องยินยอมและทำแบบนี้เรื่อยมา Aldrin Sanchez น้องชายของ Gilbert เล่าว่า เขาเคยพยายามเรียกให้พี่ชายลงมาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ถูกปฏิเสธเสมอ มีครั้งหนึ่งเขาบอกให้พี่ชายลงมาแต่ตัวพี่กลับบอกให้เขาไปไกลๆ เพราะถ้าลงไปเขาจะถูกฆ่า ด้านลูกๆ สองคนของ Gilbert ที่เกิดจากภรรยาที่เสียชีวิตก็ได้รับการดูแลจากตาและยายของพวกเขา แต่น่าเศร้าที่ครอบครัวไม่สามารถส่งเด็กๆ ไปเรียนได้เพราะหัวหน้าครอบครัวก็ดันติดอยู่บนต้นไม้ ที่แปลกกว่าคือทุกคนใน La Paz รับรู้ถึงเรื่องราวของ Gilbert Sanchez…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นจัดอันดับ ตัวการ์ตูนไหนเหมาะสมที่จะมาเป็นนายกคนต่อไปมากที่สุด!!
ในขณะที่บ้านเรายังคงรอวันเลือกตั้งไปอีกเป็นปีๆ แต่ทางฝั่งญี่ปุ่นนั้นกลับใกล้เข้ามาทุกที และด้วยความเป็นประเทศมหาอำนาจแห่งการ์ตูน การจะโยงการ์ตูนเข้ากับการเมืองจึงเป็นอะไรที่ทำได้ไม่ยากเลยล่ะ แต่ถึงจะบอกว่าโยงเข้ามา มันก็ไม่ได้เป็นการโยงทีซีเรียสอะไรนัก แต่เป็นสมมุติขึ้นมาเล่นๆ ของชาวเน็ตญี่ปุ่นว่า ถ้าให้เลือกตัวการ์ตูนสักตัวมาเป็นนายก พวกเขาจะเลือกใครมาเป็นกัน ซึ่งผลที่ออกมาก็น่าสนใจทีเดียวล่ะ อันดับที่ 10 Hidetoshi Dekisugi จากเรื่อง Doraemon (240 โหวต) ไม่แปลกเลยที่ตัวละครจาการ์ตูนระดับตำนานจะถูกโหวตเข้ามา แต่คงไม่ต้องแปลกใจอะไรถ้าคนที่ถูกเลือกไม่ใช่โนบิตะ ทว่าด้านเดคิสุงิก็ถือเป็นตัวละครที่มีความเป็นผู้นำ ฉลาด และใจเย็น ถ้าเขาได้เป็นนกยกก็คงไม่ทุ่มโพเดียมแน่ๆ อันดับที่ 9 Naruto Uzumaki จากเรื่อง Naruto (310 โหวต) จากเด็กเจ้าปัญหาแห่งโคโนฮะ สู่การเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ 7 ฉะนั้นเรื่องการปกครองหรือบริหารบ้านเมืองต้องไม่เป็นสองรองใครแน่ๆ ไหนจะวิชานินจาที่เทพสุดๆ ถ้าเขาได้เป็นนายกคงจะแยกร่างเป็นพันๆ แล้วแบ่งไปทำหน้าที่ต่างๆ ได้สบายเลยล่ะ อันดับที่ 8 Koro Sensei จากเรื่อง Assassination Classroom (364 โหวต) คุณครูหนวดปลาหมึกที่สามารถบินได้เร็วสุดๆ คนนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีก็เป็นได้ เพราะถ้าเขาได้เป็นนายก เขาคงจะดันให้คนทั้งประเทศฝึกฝีมือให้เก่งขึ้นเพื่อฆ่าตัวเขาเองแน่ๆ ไม่งั้นโลกอาจจะหายไปก็ได้นะ อันดับ 7 Gintoki Sakata จากเรื่อง…
-
รวมนักแสดงเด็กชื่อดังในอดีต พอพวกเขาโตมาแล้วจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้างนะ?
การจะเป็นดาราดังได้นั้น ไม่จำเป็นจะต้องดังตอนโตเสมอไป นักแสดงบางคนก็สร้างชื่อเสียงตั้งแต่วัยเด็กด้วยบทบาทเด็กๆ ในหนังฟอร์มใหญ่ แต่พอเวลาผ่านไปพวกเขาโตขึ้นด้วยหน้าตาที่เปลี่ยนไปบทบาทชีวิตที่ไม่เหมือนเดิม บางคนก็ยังอยู่ในวงการหรือบางคนก็ห่างหายไป จนเราต้องสงสัยว่าดาราเด็กในหนังที่เราเคยดูหลายคนตอนนี้พวกเขาเป็นยังไง หน้าตาเปลี่ยนไปแค่ไหนกัน เอาเป็นว่าเราลองมาดูความเปลี่ยนแปลงของพวกเขากันเลยดีกว่า… Dakota Fanning จาก War of the Worlds ในบท Rachel Ferrier (2005) Bradley Pierce จาก Jumanji ในบท Peter Shepherd (1995) Kirsten Dunst จาก Jumanji ในบท Judy Shepherd (1995) Jake Cherry จาก Night at the Museum ในบท Nick Daley (2006) Ariana Richards จาก Jurassic Park…
-
หนุ่มโสดวัย 37 ปี เปิดเว็บไซต์เพื่อตามหาหญิงสาวในฝัน พร้อมบอกคุณสมบัติที่ไปกันได้
เราหลายๆ คนอยากพบรักกับคนในฝันหรือคนในอุดมคติกันทั้งนั้น แต่ในความจริงแล้วแทบจะเป็นไม่ได้เลยที่เราจะได้ลงเอยกับคนในฝัน อาจจะเพราะหาไม่เจอบ้าง เจอแล้วเค้าไม่ชอบเราบ้าง แต่สำหรับชายหนุ่มคนนี้ไม่ยอมละความพยายาม เขาอยากพบกับสาวในฝัน ถึงกับสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อตามหาสาวคนนั้น เอาล่ะสาวโสดทุกคน ตอนนี้เราขอแนะนำให้รู้จะกับ Alan หนุ่มโสดวัย 37 ปี จบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ขณะนี้เขากำลังอยู่ในช่วยตามหารักแท้ที่จะมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขา แต่ไม่ใช่แค่ใครก็ได้ เพราะ Alan กำลังตามหาผู้หญิงในฝัน และเพื่อเพิ่มโอกาสในการหาหญิงสาวคนนั้น เขาจึงได้สร้างเว็บไวต์ขึ้นมา เพื่อบอกให้ผู้ที่สนใจว่าต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง Alan อธิบายเกี่ยวกับตัวเองว่าเขาเป็นชาวยุโรป เกิดเมื่อปี 1980 สูง 189 เซนติเมตร เป็นคนรูปร่างดี ผอมและแข็งแรง เขาไม่ชอบการแบ่งประเภทพฤติกรรมของคนตาม INFJ (เป็นคนที่อ่อนโยน สุภาพเรียบร้อย และซับซ้อน เป็นคนที่ใช้สัญชาตญาณหรือลางสังหรณ์เข้าช่วยบ่อยมาก มีความเป็นศิลปินและมีความคิดสร้างสรรค์) ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังหาทางออกจากการแข่งขันกันในสังคมและต้องการหาผู้หญิงที่เหมาะสำหรับเขา เพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตคู่ไปด้วย คุณสนใจหรือเปล่า? Alan บอกว่า “ตอนที่ผมอายุ 30 ปีต้นๆ ผมเคยมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักกับหญิงสาวคนหนึ่ง และเป็นช่วงที่ผมไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรในชีวิต ผมก็เลยบอกตัวเองว่าให้เริ่มจากจุดเริ่มต้น และตัดสิ่งที่ไม่ต้องการออกไปจากชีวิต” ด้วยเหตุนี้เขาจึงเริ่มเขียนสิ่งที่ไม่ชอบและคอยอัพเดตข้อมูลเหล่านั้นทุกๆ ปี และเมื่อตัดสิ่งที่ไม่ชอบออกไปก็ทำให้เขาได้ค้นพบผู้หญิงในฝัน และนี่คือลักษณะผู้หญิงที่ Alan…
-
ครอบครัวในอินเดีย ข่มขืนลูกหลานตัวเองที่เป็น “เกย์” เพื่อให้หายจากอาการรักร่วมเพศ!!
ในประเทศอินเดียนั้น พ่อแม่ส่วนใหญ่จะต่อต้านเพศที่สาม หากรู้ว่าลูกตัวเองเป็นเกย์หรือเลสเบี้ย พวกเขาก็จะให้ญาติ พี่ชาย น้องชาย หรือพ่อแม่เอง ลงมือข่มขืนลูก เพื่อให้ลูกกลับคืนเพศสภาพ โดยไม่ผิดกฏหมาย ทั้งนี้ในอินเดีย การที่คนเพศเดียวกันมีเพศสัมพันธ์กันนั้นจะต้องถูกลงโทษ สูงสุดจำคุก 10 ปี จนทำให้หลาย ครอบครัวรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีทางเลือก นอกจากการข่มขืนเพื่อให้ลูกหลานของตัวเองเปลี่ยนใจมาชอบคนต่างเพศ หนึ่งในผู้ตกเป็นเหยื่อคือ Mvuleni Fana… วันที่เกิดเหตุนั้น เธอกำลังเดินกลับบ้านหลังจากซ้อมฟุตบอลเสร็จ แต่ระหว่างทางก็มีชายสี่คนมารุมข่มขืนเธอ โดยอ้างว่าจะทำให้เธอกลับมาเป็นผู้หญิงจริงๆ ที่รักเพศตรงข้าม สุดท้ายพวกเขาได้เตะ ตี และปล่อยให้เธอนอนตายอยู่ตรงนั้น นอกจากนี้ยังมีเหยื่ออีกหลายคนที่ถูกฆาตกรรมในลักษณะเดียวกัน รวมทั้งผู้หญิงสองคนที่ถูกมัด ทรมาณ และสุดท้ายถูกยิงที่หัวในแอฟริกาใต้เมื่อปี 2007 ที่น่าตกใจคือไม่มีสถิติที่แน่นอนเกี่ยวการข่มขืน ซึ่งนักรณรงค์เชื่อว่าที่มีอยู่นี้เป็นตัวเลขที่น้อยกว่าความเป็นจริงมาก ทั้งนี้เป็นเพราะส่วนใหญ่แล้วครอบครัวของเหยื่อเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและมีส่วนร่วมในการข่มขืนนั่นเอง อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ถูกเรียกว่า LGBT Collective ในรัฐทางใต้ของรัฐเตกานี ได้ทำการบันทึกการข่มขืนกระทำชำเราในช่วงห้าปีที่ผ่านมา Vyjayanti Mogli กล่าวว่า “เรามั่นใจว่ามีกรณีการข่มขืนที่มากกว่านี้ แต่แค่ไม่มีการเปิดเผย บางครั้งเราก็เจอกับกรณีที่เหยื่อเดินทางมาร้องเรียนกับเรา ไม่ใช่เพราะพวกเขาอยากแจ้งความ แต่พวกเขาอยากจะหนีไปจากครอบครัว” ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ พ่อแม่รู้ดีเกี่ยวกับเรื่องการข่มขืนและยังเป็นคนขอให้คนในครอบครัว โดยเฉพาะญาติที่เป็นพี่น้อง พ่อ…
-
นางแบบสาวยูเครนสักลายให้แมวตัวเอง ถูกชาวเน็ตวิจารณ์หนักว่าเป็นการทรมานสัตว์…
กลายเป็นประเด็นดราม่า เมื่อนางแบบสาวชาวยูเครนจับแมวตัวเองสักเพื่อให้มันมีเสน่ห์ดึงดูดเหมือนเธอ แต่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยมองว่านั่นคือการทารุณกรรมสัตว์ Elena Ivanickaya จาก Chernihiv ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศยูเครน ได้ตัดสินใจจับเจ้าแมวสฟิงซ์ของเธอมาสักลายรูปปีกของชาวอียีปต์บนหน้าอกของมัน ภาพที่ถูกเผยแพร่เป็นตอนที่เจ้าเหมียวกำลังถูกสักลาย และดูเหมือนมันจะหมดสติเนื่องจากถูกวางยาชา จากนั้นช่างสักก็ได้ลงมือสัก โดยมีนางแบบเจ้าของแมวช่วยจับแมวเอาไว้ หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ทำเอาชาวเน็ตไม่พอใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสัตว์ พวกเขาได้ประณามการกระทำของ Ivanickaya ว่าเป็นการทรมานแมว Inna Milovanova หนึ่งในชาวเน็ตได้บอกว่า “มันจะดีกว่านะถ้าจะสักบนหน้าผากของเธอ แล้วเขียนคำว่า ‘งี่เง่า’ และควรจะหักนิ้วของเธอด้วย โทษฐานทรมานสัตว์ แมวน่าสงสารมาก” ชาวเน็ตอีกคนบอกว่า “คุณไม่ควรทรมานผู้ที่อ่อนแอกว่า แล้วนั่นก็ไม่ใช่ของเล่น แต่มันคือสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกเหมือนกับเรา และมันก็คงไม่ต้องการรอยสักบนหน้าอกหรอก” หลังจากที่โดนถล่มยับ Ivanickaya ก็ได้ออกมาโต้กลับว่า “ฉันเลี้ยงแมวตัวนี้แบบตามใจทุกอย่าง มันมีเพจอินสตาแกรมของตัวเอง มันกินหอยนางรมสดเป็นอาหาร แน่นอนว่ามันมีชีวิตที่ดีกว่าคนที่บ่นเหล่านี้ซะอีก” นางแบบสาวยังได้พูดปกป้องการกระทำของตัวเองอีกว่าในการสักนี้มันไม่ได้เป็นอันตรายกับแมวแต่อย่างใด…เธอจึงมั่นใจว่าไม่ได้ทรมานสัตว์ตามที่ถูกกล่าวหา หญิงสาวย้ำอีกครั้งว่า “แมวตัวนี้มีชีวิตที่ดีกว่าพวกคุณ การสักอาจเป็นเรื่องที่พวกคุณรับไม่ได้ แต่สำหรับเจ้าเหมียวตัวนี้มันรู้สึกดี มันไม่ได้ถูกทำร้าย และจะไม่มีวันถูกทำร้ายด้วย” “ก่อนที่จะสักให้มัน ฉันได้สอบถามกับสัตวแพทย์แล้ว ซึ่งหมอก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนที่สัก แพทย์ก็อยู่ที่นั่นด้วย ดังนั้นทุกอย่างจึงอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลเป็นอย่างดี” “ฉันดูรักษามันด้วยความรักและความห่วงใย” Ivanickaya บอก “มันเป็นแมวที่ฉลาดและมีความสุขกับชีวิตของมัน…
-
หุ่นยนต์ Sophia ได้รับสิทธิการเป็นพลเมืองของประเทศซาอุฯ ตัวแรกของโลก
นับวันเทคโนโลยีของโลกเรานั้นดูเหมือนจะกลายเป็นหนังไซไฟเข้าไปทุกทีๆ แล้ว อย่างล่าสุดก็ได้เกิดเรื่องฮือฮาขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ประเทศซาอุดิอาราเบียได้มอบสถานะพลเมืองให้กับหุ่นยนต์ตัวหนึ่งเป็นที่เรียบร้อย เมื่อมันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า Sophia หุ่นยนต์ AI ที่หน้าตาคล้ายมนุษย์จากบริษัท Hanson Robotics ได้ประกาศตัวบนเวทีงาน the Future Investment Initiative ที่ผ่านมาว่าเธอเองนั้นได้รับมอบสถานะพลเมืองซาอุดิอาราเบียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางด้านบริษัทผู้ผลิตได้ออกมาเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ของพวกเขาว่า หุ่นยนต์ตัวนี้เป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์อัจฉริยะที่พวกเขาสร้างขึ้น และเธอเองก็สามารถที่จะพัฒนาระบบความคิดและจดจำเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ “ภารกิจของพวกเราคือการสร้างหุ่นยนต์แบบ Sophia เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับมนุษย์และทำให้หุ่นยนต์สามารถเข้าใจและดูแลพวกเราได้” นาย David Hanson กล่าว นี่คือส่วนระบบปฏิบัติการที่ถูกเก็บไว้ในส่วนหัวของเธอ ที่ทำหน้าที่คล้ายกับสมองของมนุษย์ และนอกจากนี้เธอยังสามารถเรียนรู้ และแสดงออกทางสีหน้าได้อีกด้วย . ขณะนี้ทางบริษัท Hanson นั้นกำลังมีแผนที่จะพา Sophia ไปเปิดตัวยังที่ต่างๆ ของโลก และในอนาคตพวกเขาวางแผนที่จะสร้างหุ่นยนต์ตัวอื่นๆ เพื่อเป็นเพื่อนกับ Sophia และหวังจะสร้างสังคมของเธอ และทาง Hanson เองก็เชื่อว่าในอนาคตนั้นหุ่นยนต์จะสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ นี่คือการให้สัมภาษณ์บนเวทีและความมารถในการแสดงออกทางอารมณ์ของเธอ ที่มา businessinsider
-
เรื่องราวหลังภาพ ‘ม้าน้ำตัวน้อย’ ที่เผยให้เห็นว่าโลกของเรากำลังถูกทำร้ายมากแค่ไหน??
บางครั้งภาพของเหล่าสัตว์ป่าที่เราได้เห็นกันในสารคดีหรือตามโลกอินเตอร์เน็ต อาจจะบ่งบอกบางสิ่งบางอย่างได้มากกว่าพฤติกรรมของมันที่พวกเรากำลังเห็นกันอยู่ เหมือนกับภาพของเจ้าม้าน้ำตัวน้อยที่กำลังใช้หางของมันพันกับแท่งคอตตอนบัดที่โด่งดังบนโลกอินเตอร์เน็ต ภาพถ่ายดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยสารคดี Our Planet หนึ่งในโปรเจคโดย BBC Earth ซึ่งเป็นผลงานการถ่ายภาพของช่างภาพสัตว์ป่าชื่อดังคุณ Justin Hofman และนี่คือภาพของเจ้าม้าน้ำตัวนั้น คุณ Hofman ได้ออกมาเปิดเผยที่มาของภาพเจ้าม้าน้ำตัวนี้ผ่านทางอินสตราแกรมของเขา โดยเขาได้โพสภาพพร้อมกับแคปชั่นว่า “นี่คือภาพที่ผมไม่อยากให้มันมีอยู่เลย แต่ตอนนี้ผมอยากให้ทุกๆ คนได้เห็น สิ่งที่น่าเศร้าใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผมกำลังจะถ่ายภาพของม้าน้ำตัวน้อย และจากนั้นก็มีขยะกับสิ่งปฏิกูลนับไม่ถ้วนตามมา ภาพนี้คงจะอธิบายถึงสถานการณ์ในปัจจุบันและอนาคตของท้องทะเลได้ พวกเราต้องการอนาคตแบบไหน?? และการกระทำของพวกเราจะเปลี่ยนแปลงดาวดวงนี้ได้อย่างไร” นอกจากก้านคอตตอนบัดแล้ว คุณ Hofman และเพื่อนช่างภาพของเขายังพบขยะอื่นๆ อย่างเช่นเศษอวน ถุงพลาสติก และเศษผ้าลอยมาพร้อมกับเจ้าม้าน้ำอีกด้วย “สิ่งที่ผมเจอ มันเป็นสภาพแวดล้อมที่แทบไม่น่าเชื่อเลย” ช่างภาพหนุ่มกล่าว และนี่คือบทสัมภาษณ์ของช่างภาพหนุ่มแบบเต็มๆ ภาพและเรื่องราวของเจ้าม้าน้ำตัวนี้ อาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าตอนนี้ท้องทะเลและพื้นที่อื่นๆ บนโลกของเรานั้นกำลังถูกทำร้ายมากแค่ไหน?? ที่มา designtaxi
-
เฉลย!! ทริคโดมิโนขั้นสุดยอด ที่หลอกลวงทั้งตาและสมองของเราได้แบบแนบเนียน
การดูคลิปล้มโดมิโนอาจเป็นหนึ่งในกิจกรรมยามว่างสุดโปรดของหลายๆ คน เพราะนอกจากได้เห็นอะไรที่มันล้มระเนระนาดแบบฟินๆ ลูกตาแล้ว ทริคต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในทำคลิปวิดีโอนั้นยังน่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย และเมื่อไม่นานมานี้นักต่อโดมิโนมืออาชีพเจ้าของช่องยูทูป Kaplamino และ Hevesh5 ได้ช่วยกันออกแบบและสร้างชุดโดมิโนที่เต็มไปด้วยเทคนิคต่างๆ มากมาย เรียกได้ว่ามีทั้งความสวยงามและน่าทึ่งสุดๆ ไปชมคลิปวิดีโอที่ว่านั้นกันได้เลย… จากคลิปวิดีโอที่เราได้ชมกันไป นอกจากการล้มของโดมิโนแบบธรรมดาๆ แล้ว ยังมีการใช้เทคนิคต่างๆ และอาศัยการคำนวนที่แม่นยำเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย โดยในช่วงหนึ่งของการล้มตัวต่อนั้นมีสิ่งที่น่าสนใจมากๆ นั่นก็คือแถวของตัวสีส้มที่มีการล้มถึง 2 ครั้ง ซึ่งทำเอาหลายๆ คนถึงกับงงกันเลยทีเดียว อ่า… มันน่าสงสัยมากเลยใช่ไหมล่ะ?? และดูเหมือนว่าทริคนี้จะไม่ได้มีแค่เซียนโดมิโนทั้งสองที่นำมาใช้เท่านั้นนะ เหล่าพี่ๆ ช่างก่อสร้างเองเค้าก็ทำได้เหมือนกันนะเออ!! อ่า… และเพื่อเป็นการคล้ายความสงสัย เราก็ได้ไปค้นหาคลิปวิดีโอที่จะมาอธิบายถึงหลักการนี้กันแบบง่ายๆ แล้ว โดยคลิปวิดีโอจากช่องยูทูปที่ชื่อว่า standupmaths นั้นได้อธิบายถึงเทคนิคการล้มแบบ 2 ต่อนี้เอาไว้ว่า มันเกี่ยวข้องกับการจัดวางโดมิโนและหลักคณิตศาสตร์นั่นเอง “ผมสามารถทำมันได้ถึงแม้ว่าพื้นที่วางก้อนอิฐนั้นจะไม่เรียบ มันเป็นหลักการของโดมิโนแบบง่ายๆ เลย” ชายหนุ่มเจ้าของคลิปวิดีโอกล่าว เขาได้สาธิตวิธีการจัดวางก้อนอิฐ โดยวางทุกๆ ชิ้นไว้ติดกันและนำมันตั้งขึ้น โดยเขาได้อธิบายว่าอิฐแต่ละก้อนนั้นจะตกลงบนขอบของอีกก้อนพอดี และเมื่อก้อนสุดท้ายหล่นลงกับพื้นขอบของมันก็จะเลื่อนออกมานิดหน่อย ทำให้อิฐทั้งหมดตกพื้นอีกครั้ง เหมือนกับทิคโดมิโนที่เราเห็น จากนั้นเขาได้อธิบายตามหลักทางคณิตศาสตร์ว่าอิฐแต่ละก้อนนั้นมีความยาว 21 เซนติเมตร และมีความกว้าง…
-
โปรเกม LOL หัวร้อน ทะเลาะกับแฟนสาวพร้อมขู่ฆ่าขณะกำลังสตรีมสด จนถูกไล่ออกจากทีม
วันที่ 27 ตุลาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Li Wei Jun หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งในเกมว่า “Vasilii” หนุ่มชาวจีนโปรเกมจากทีม Newbee ที่ลงแข่งเกม LOL (League of Legends) ได้ถูกไล่ออกจากทีมของเขา ภายหลังจากที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทะเลาะกับแฟนสาวผ่านสตรีมสดขณะที่กำลังโชว์การเล่นเกม จากการรายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เริ่มขึ้นเมื่อแฟนสาวได้ออกมาแนะนำว่า เขาดูเคร่งเครียดเวลาที่เล่นเกมมากเกินไป ซึ่งมันอาจจะทำให้แฟนๆ ที่เข้ามารับชมคอมเม้นต์ด่าได้ ด้วยคำพูดนี้เองที่ทำให้หนุ่มรายนี้ได้แสดงอาการไม่พอใจอย่างหนัก ถึงขั้นระเบิดอารมณ์ออกมาด้วยความโกรธ พร้อมกันนี้เขายังได้ทำลายโต๊ะคอมพิวเตอร์ ดึงกล้องเว็บแคมทิ้ง และทะเลาะกับแฟนสาวด้วยถ้อยคำที่หยาบคายต่อหน้าชาวเน็ตที่กำลังชมสตรีมสดอยู่ในขณะนั้น จากคลิปวีดีโอที่ถูกเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ได้แสดงให้เห็นว่า ระหว่างที่ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงแฟนสาวของเขาก็ได้กรีดร้องออกมาเพราะ Vasilii ได้เริ่มตบตีเธอ และถึงแม้ว่าเธอจะร้องไห้อย่างหนัก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้เลย มิหนำซ้ำยังพูดขู่เธอด้วยว่า “ฉันจะตีเธอให้ตาย…ฉันจะฆ่าเธอ” อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่เกิดเหตุได้ไม่นาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เรียกตัวนาย Vasilii ให้เข้าไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ ทางด้านชาวเน็ตที่อยู่ในเหตุการณ์ก็พากันตกอกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งคลิปวีดีโอตรีมสดของโปรเกมรายนี้ก็ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตหลายรายก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นต่อพฤติกรรมสุดเถื่อนของโปรเกมรายนี้กันอย่างมากมาย เช่น…
-
เด็กน้อยวัย 7 ขวบนอนหลับยาว 11 วัน โดยที่แพทย์ก็ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด
เรื่องราวสุดประหลาดนี้เกิดขึ้นกับเจ้าหนู Wyatt Shaw หนูน้อยวัย 7 ขวบจากเมือง Elizabethtown รัฐเคนทักกี หลังจากที่เขานอนหลับไปนานถึง 11 วัน!! คุณ Amy แม่ของหนุ่มน้อยเล่าว่า ลูกชายของเธอเข้านอนหลังจากที่กลับมาจากงานแต่งงานของน้าสาวของเขา แต่หลังจากนั้นเจ้าหนูก็นอนยาวถึง 11 วันเลยทีเดียว และถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะพยายามเรียกเท่าไหร่ Shaw ก็ไม่รู้สึกตัวและไม่มีการตอบสนองใดๆ เลย “เขาดูปกติมากในงานแต่ง เขาร่าเริงและเต้นรำเหมือนกับเด็กๆ ทั่วไป แต่เมื่อวันจันทร์ตอนที่ฉันไปปลุก เขาก็ไม่ยอมตื่น และถึงแม้ว่าจะเรียกนานเท่าไหร่เขาก็ยังคงนอนอยู่ ตอนนั้นมันน่ากลัวมากๆ เลย” คุณ Amy กล่าว หลังจากที่เริ่มเห็นความผิดปกติกับเจ้าตัวเล็ก คุณ Amy จึงพาลูกของเธอไปหาหมอ เด็กชายถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเด็ก Norton ในเมืองลุยส์วิลล์ แพทย์สันนิฐานว่าเจ้าหนูอาจจะโดนเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียเล่นงาน เนื่องจากเจ้าหนูบ่นว่ามีอาการปวดหัวและปวดท้องก่อนที่จะหลับยาว แต่อย่างไรก็ตามแพทย์กลับไม่พบสาเหตุใดๆ เลย คุณ Amy ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า สิ่งที่ทำให้ลูกชายของเธอนั้นนอนหลับนานถึง 11 วันนั้นก็เพราะว่าสารสื่อประสาทในสมองของเขาไม่ทำงาน แต่แพทย์ก็พยายามใช้เครื่องมือและวิธีการรักษาที่ทันสมัยจนสามารถช่วยลูกของเธอได้หลังจากที่นอนหลับไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ตอนนี้เจ้าหนู Wyatt ยังคงมีปัญหาในการพูดอยู่บ้าง และยังคงเดินไม่ได้เหมือนปกติ แต่ว่าอาการของเค้าก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด …
-
เป็นเรื่องจริงแล้วจ้า… งานวิจัยเผย เมื่อคนเราเมาแล้วจะพูดภาษาที่ 2 ได้ไหลลื่นขึ้น
ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการสังสรรค์ เชื่อแน่ว่าคุณเองจะต้องมีเพื่อนอย่างน้อยหนึ่งคนที่ชอบพูดภาษาที่สองตอนที่เมาได้ที่แล้ว บางคนอาจจะแค่พูดคุยทักทาย แต่เพื่อนของคุณบางคนอาจหนักถึงขั้นสั่งก๋วยเตี๋ยวเป็นเมนูภาษาอังกฤษเลยก็ได้!! ซึ่งอันที่จริงแล้วเมื่อไม่นานมานี้ได้มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Psychopharmacology ได้เปิดเผยว่า การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณน้อยนั้นจะช่วยให้พูดภาษาที่ 2 ได้คล่องยิ่งขึ้น ในการศึกษาครั้งนี้ได้เลือกนักศึกษาที่ใช้ภาษาเยอรมันในการสื่อสารเป็นหลักจำนวน 50 คนจากมหาวิทยาลัย Maastricht University ในประเทศเนเธอแลนด์ที่อยู่ใกล้กับชายแดนเยอรมัน ในการทดสอบทีมวิจัยได้แบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็นสองกกลุ่ม โดยกลุ่มแรกให้ทำการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนที่จะเริ่มการให้สัมภาษณ์กับผู้ใช้ภาษาดัตช์ในการสื่อสาร ส่วนกลุ่มที่สองนั้นให้ดื่มน้ำเปล่าก่อนเริ่มการให้สัมภาษณ์ โดยปริมาณของแอลกอฮอล์ที่ให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบดื่มนั้นจะแตกต่างกันตามน้ำหนักตัว ซึ่งผู้ชายที่มีน้ำหนักตัว 68 กิโลกรัมจะได้ดื่มเบียร์ประมาณ 450 มิลลิลิตร แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้ภาษาดัตช์ที่เข้าร่วมการสัมภาษณ์ครั้งนี้จะไม่ทราบมาก่อนว่ากลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มนั้นได้ดื่มอะไรเข้าไปก่อนการสัมภาษณ์ ผู้ทำการสัมภาษณ์ทั้งสองคนจะเป็นคนให้คะแนนความสามารถในการใช้ภาษาของผู้เข้าร่วมการทดสอบทั้ง 50 คน การให้คะแนนในการทดสอบนั้นจะแบ่งออกเป็นหลายหมวดหมู่ทั้งความคล่องแคล่วในการสื่อสาร ความถูกต้อง และการออกเสียง ผลจากการศึกษาพบว่าผู้สัมภาษณ์ชาวดัตช์ให้คะแนนความคล่องแคล่วในการพูดของผู้ทดสอบที่ดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่ม แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่ดื่มน้ำก่อนการทดสอบกลับได้คะแนนในการออกเสียง การเรียงประโยค และคำศัพท์ที่ดีกว่า การทดลองก่อนหน้านี้ที่ช่วยสนับสนุนว่าการทดลองดังกล่าวไม่ได้มีผลเพียงแค่การสื่อสารภาษาดัตช์เท่านั้น แต่ผลการศึกษาในปี 1972 ก็ได้แสดงให้เห็นว่าการดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณน้อยนั้นช่วยให้ชาวอเมริกันออกเสียงภาษาไทยได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการงานวิจัยที่ตีพิมพ์นั้นได้กล่าวเอาไว้ว่าการดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไปนั้นอาจจะมีผลในทางตรงกันข้าม นอกจากนี้ทางนักวิจัยก็ได้กล่าวว่าการดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณปานกลางอาจจะช่วยลดความวิตกกังวลในการสื่อสารและทำให้กล้าพูดมากขึ้น ที่มา time, nextshark
-
สาวทุ่มงบ 800,000 บาทสร้าง “ห้องลับ” หลังชั้นวางหนังสือ พร้อมกลไกการเปิดสุดคูล!!
การมีห้องลับในบ้านเหมือนในหนังสายลับอาจจะเป็นหนึ่งในความฝันของหลายๆ คน เช่นเดียวคุณ Sara Nainzadeh คนนี้ก็เช่นกัน คุณ Sara เริ่มรีโนเวทอพาร์ทเม้นท์ที่เธอซื้อมาเมื่อปี 2009 หญิงสาวคิดว่าห้องดังกล่าวน่าจะมีพื้นที่เพียงพอสำหรับห้องเล็กๆ อีกห้องหนึ่ง “ตอนที่ฉันได้ห้องนี้มา ฉันรู้ว่าฉันสามารถใช้ประโยชน์จากห้องนอน 2 ห้องจากทั้งหมด 3 ห้องได้ และฉันคิดว่าฉันอยากได้พื้นที่เพิ่มสำหรับห้องทำงาน” และแล้วในที่สุด คุณ Sara ก็ได้ห้องทำงานอย่างที่เธอตั้งใจ แถมยังเป็นห้องสำหรับสังสรรค์กับเพื่อน และเป็นห้องอ่านหนังสือและพักผ่อนได้อีกด้วย โดยผลการงานก่อสร้างครั้งนี้เป็นของบริษัท Home Engineering โดยพวกเขาได้ทำการสร้างห้องลับของเธอไว้หลังชั้นวางหนังสือในอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ ชั้นหนังสือถูกสร้างที่โรงงานของ Creative Home Engineering ที่รัฐแอริโซนา มันถูกออกแบบมาให้พอดีกับอพาร์ทเม้นท์ของคุณ Sara เธอใช้เงินในการสร้างห้องลับแห่งนี้ไปมากถึง 25,000 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 800,000 บาท!! “ผู้คนมากมายที่เห็นฉันทำแบบนี้บอกว่าฉันนั้นบ้า แต่ฉันก็ไม่สนใจเพราะว่ามันคือความชอบของฉัน” หญิงสาวกล่าว นี่คือมุมทำงานของเธอในห้องลับ ส่วนนี่ก็คือมุมผ่อนคลาย และสังสรรค์กับเพื่อนๆ ของเธอ ภายในห้องลับ สวิตซ์ที่ใช้ปิดเปิดประตูของห้องลับ แต่นอกจากนั้นมันก็ยังมีทางออกทางอื่นที่ซ่อนไว้อยู่ด้วยเช่นกัน!! …
-
15 ภาพข่าวทรงพลังที่สุดในรอบสัปดาห์นี้ จากเหตุการณ์ต่างประเทศ ที่คุณไม่ควรพลาด…
ในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ แต่ละเดือน และแต่ละปี มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งเศร้าบ้าง หดหู่บ้าง ดีบ้าง ร้ายบ้าง รวมทั้งเหตุการณ์ที่สะเทือนใจคนทั้งโลก เหมือนภาพต่อไปนี้ได้มาจากการรวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบโลก ซึ่งเป็นภาพที่ทรงพลังที่สุดในสัปดาห์นี้ ซึ่งคุณอาจจะพลาดไปหรือไม่ได้รับชมมากนัก เพราะเป็นเหตุการณ์สำคัญที่บอกให้รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง 1. ชายเสื้อขาวถูกชกโดยโดยชายนิรนามท่ามกลางฝูงชน ใกล้กับที่ Richard Spencer ผู้เผยแพร่แนวคิดคนขาวเป็นใหญ่ (White Nationalist) กำลังขึ้นปราศรัยนโยบายของเขาที่มหาวิทยาลัย University of Florida เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2. กลุ่มผู้สนับสนุนพันธมิตรคุกเข่าอยู่นอกโรงแรมที่มีการจัดประชุมลีก NFL ในวันที่ 17 ตุลาคม ที่เมืองนิวยอร์ก เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกต่อต้านการเหยียดผิวในอเมริกา 3. ป้ายที่มีข้อความเชิงบวก หลังเกิดเหตุการณ์ไฟป่าลุกลามและเกิดความเสียหายมหาศาล ถูกติดตั้งอยู่ที่ไร่ไวน์ Cline Cellars ในวันที่ 13 ตุลาคม ในโซโนมา รัฐแคลิฟอร์เนีย 4. นักดับเพลิงกำลังดับไฟที่โรงแรม Kandawgyi Palace ในย่างกุ้ง ประเทศพม่า เมื่อวันที่…
-
โถ่หมดกันความสนใสวัยเด็ก!! เกมกระดาษที่ดูน่ารัก แต่พอเปิดออกมาแล้วถึงกับร้อง
ในตอนเด็กๆ เชื่อแน่ว่าแต่ละคนย่อมจะมีตัวการ์ตูนในดวงในอย่างน้อย 1 ตัวแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ?? บางคนอาจจะชอบแฮมทาโร่ หรือบางคนก็อาจชอบโดราเอม่อน และเมื่อไม่นานมานี้ศิลปินโอรากามิจากประเทศญี่ปุ่นท่านหนึ่งจากทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า @doppen3 ได้สร้างผลงานการพับเป็นรูปหน้าเจ้า อันปังแมน ฮีโร่ขวัญใจเด็กๆ ญี่ปุ่น แต่ทว่าเมื่อเขาอัพเดทภาพผลงานดังกล่าวลงบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตกลับไม่คิดว่ามันน่ารักเหมือนในการ์ตูนซะนี่!? และนี่คือผลงานการพับกระดาษของเขา อืม… ดูยังไงก็คือเจ้าอันปังแมนธรรมดาๆ ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย?? แต่… เดี๋ยวๆ อืม… เข้าใจแล้วล่ะ ว่าทำไมชาวเน็ตถึงไม่ค่อยชอบ!! โถ่… จบกันความสดใสในวัยเด็ก ใครกันนะช่างทำกับ Anpanman ของเด็กๆ ได้ลงคอ!! ภาพของเจ้าอันปังแมนเวอร์ชั่นสยองนี้ทำเอาชาวเน็ตหลายๆ คนที่ได้ชมถึงขนลุกกันทีเดียว ก็เพราะฟันแหลมๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้รอยยิ้มของเจ้าฮีโร่ขนมปังนั้นมันทำให้ดูน่ากลัวมากเลยทีเดียว และหลังจากที่ได้เห็นผลงานของคุณ @doppen3 ชาวเน็ตหลายๆ คนก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก และนี่ก็คือหนึ่งในความคิดเห็นจากชาวเน็ต “เดี๋ยวนะ!! นี่มันทำร้ายกันชัดๆ “ “ฉันเข้าใจมาตลอดเลยนะเขาไม่มีฟัน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วว” ส่วนชาวเน็ตบางท่านก็บอกว่านี่มันไม่ใช่อันปังแมนแล้ว มันคือปรสิตชัดๆ !! อ่า… และสำหรับใครอยากลองฝึกทำเล่นๆ ที่บ้าน ก็ลองไปชมวิธีการทำแบบง่ายๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย ที่มา rocketnews24
-
รู้จักความสัมพันธ์สุดฮิต “เฟรนด์โซน” ที่ดูเหมือนซับซ้อน สับสน มีอยู่จริงหรือเราสร้างมันขึ้นมาเอง?
เฟรนด์โซน (Friend zone) เป็นคำที่หลายคนอาจรู้จักกันบ้างแล้ว ซึ่งเป็นชุดความสัมพันธ์ที่หลายคนคงไม่อยากให้เกิดกับตัวเองสักเท่าไหร่ แน่นอนว่าบางคนอาจจะไม่ค่อยเข้าใจคำว่าเฟรนด์โซน ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับคำนี้กันให้มากขึ้นว่า แท้จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่ มันอยู่จริงไหม หรือเราแค่มโนกันไปเอง? เฟรนด์โซนคืออะไร? ดิชชันนารีของเคมบริดจ์ได้ให้ความหมายของคำว่า เฟรนด์โซน ว่าคือการที่คุณต้องการเป็นเพื่อนกับใครสักคน โดยไม่หวังความโรแมนติกหรือการมีเพศสัมพันธ์กับเขาหรือเธอ ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่อยากพัฒนาความสัมพันธ์นี้มากกว่าการเป็นเพื่อน เฟรนด์โซนเกิดขึ้นได้อย่างไร? เฟรนด์โซนเกิดขึ้นเมื่อใครคนหนึ่งแอบรักคนๆ หนึ่งและต้องการให้ความสัมพันธ์ของเขาและเธอเป็นมากกว่าเพื่อน แต่กลับถูกคนที่แอบชอบมองแค่เพื่อนเท่านั้น จะเรียกว่าเป็นการปฏิเสธก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น นาย A เข้าหานางสาว B โดยหวังจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอมากกว่าความเป็นเพื่อน แต่ในทางตรงกันข้าม นางสาว B คิดกับนาย A แค่เพื่อน และขีดเส้นไว้แล้วว่าเขาเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น สิ่งที่บ่งบอกว่าตอนนี้คุณอยู่ในเฟรนด์โซนแล้ว นี่เป็นภาวะที่สำคัญเพราะหลายคนไม่รู้ตัวว่าอยู่ในเฟรนด์โซนแล้ว สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะว่าเวลาที่คุณแอบรักใครสักคน คุณจะเข้าหาเขาหรือเธอในฐานะคนรักตั้งแต่แรก โดยพยายามใช้ทั้งคำพูดและการกระทำที่บ่งบอกว่าคุณคิดกับใครคนนั้นมากกว่าเพื่อน โดยปกติแล้วหากคุณพูดดีทำดีกับใครสักคน คุณก็จะได้รับคำพูดและการกระทำเช่นเดียวกันนั้นกลับมา ด้วยเหตุนี้ทำให้คุณจะคิดเสมอว่าใครคงนั้นคงจะคิดกับคุณเหมือนกับคุณ เพียงแต่ต้องรอเวลาในการเผยความรู้สึกนั้นออกมา แต่แล้วเมื่อมาถึงจุดที่คุณเผยความรู้สึกให้อีกฝ่ายรู้ ปรากฏว่าเขาหรือเธอคนนั้นกลับไม่ได้คิดกับคุณมากกว่าเพื่อน ที่เขาพูดดีหรือทำดีด้วยก็เพราะเห็นคุณเป็นเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น จริงๆ แล้วคนที่คุณแอบชอบอาจจะพยายามบอกคุณมาตลอดว่า เขาหรือเธอคิดกับคุณแค่เพื่อนเท่านั้น เพียงแต่คุณคิดเข้าข้างตัวเองจนไม่ทันได้สังเกต…
-
เปิดเผยโฉมหน้าของเหล่านักแสดง ที่จะต้องรับบทเป็นตัวละครสุดหลอนจากหนังดังต่างๆ
ทุกครั้งที่เราดูหนังสยองขวัญ เราก็มักจะเห็นตัวละครสุดหลอนในหน้าตาน่ากลัวอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาด ปีศาจ ผี หรืออะไรก็ตาม ซึ่งเวลาเราดูตัวละครเหล่านี้เราก็จะลืมหน้าตาเดิมๆ ของนักแสดงที่ต้องมารับบทไปหรือบางทีอาจจะนึกหน้าไม่ออกเสียด้วยซ้ำไป… ด้วยเหตุนี้เราก็เลยจัดการรวบรวมตัวละครหลายๆ ตัวที่หน้าตาในหนังดูหลอนสุดๆ มาเทียบกับหน้าในชีวิตจริงของพวกเขากัน แต่เชื่อเหอะว่าพวกเขาในชีวิตจริงหน้าตาไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลยล่ะ… Pennywise the Dancing Clown แสดงโดย Bill Skarsgard ตัวตลกสุดหลอนจาก IT ที่หลายคนน่าจะได้เห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว ใครจะเชื่อว่านายแบบสุดหล่ออย่าง Bill จะสามาถรเปลี่ยนตัวเองให้หลอนแบบนั้นได้ Mama แสดงโดย Javier Botet เห็นแบบนี้ Javier ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อหนุ่มสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์เลยนะ เพราะเขาคนนี้สามารถรับบทเป็นผีหลอนๆ ในหนังหลากหลายเรื่องมาแล้วทั้ง Crimson Peak The Other Side of the Door และ The Conjuring 2 Dren แสดงโดย Delphine Chanéac สาวสวยมากความสามารถชาวฝรั่งเศส ใครจะเชื่อว่าสวยๆ แบบนี้ยอมลงทุนโกนหัวเพื่อรับบทในเรื่อง Splice เลยนะ แต่มันก็ออกมาน่ากลัวคุ้มค่าจริงๆ นั่นแหละเนอะ Samara…
-
เผยรายชื่อ 12 การ์ตูนดังวัยใส ที่ถูกทางการประเทศต่างๆ “สั่งแบน” มาแล้ว!!
ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่เราเชื่อว่าลึกๆ ในใจทุกคนก็ต้องมีรายชื่อการ์ตูนเรื่องโปรดในดวงใจกันแทบทั้งนั้น แต่เชื่อไหมว่าการ์ตูนบางเรื่องที่เราโปรดปราน ครั้งหนึ่งพวกมันก็เคยถูกรัฐบาลประเทศต่างๆ สั่งแบนมาแล้วนะ และทั้งหมดนี้ก็เป็น 12 รายชื่อการ์ตูนพร้อมเหตุผลที่ว่าทำไมถึงถูกสั่งแบน? 1. Winnie the Pooh – ประเทศจีน สาเหตุ: หน้าคล้ายประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง รูปแบบการแบน: แบนห้ามฉายในประเทศ เป็นการสั่งแบนที่อาจจะดูน่ารักที่สุดแล้วก็ว่าได้… เมื่อก่อนหน้านี้ชาวเน็ตได้นำภาพประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง มาเปรียบเทียบกับพี่หมีวินนี่เดอะพูห์ แถมมันยังดูเหมือนซะยิ่งกว่าเหมือน งานนี้ทางการจีนเลยสั่งแบนเลยจ้า 2. Peppa Pig – ประเทศออสเตรเลีย สาเหตุ: ทำให้เด็กๆ ไม่กลัวแมลงหรือสัตว์ที่มีพิษ รูปแบบการแบน: หลายตอนถูกแบนห้ามฉายในประเทศออสเตรเลีย ก่อนหน้านี้ก็ได้รับการอนุญาตให้ฉายอย่างปกตินั่นแหละ ทว่าใน Ep. หนึ่งตัวละครได้สอนเด็กๆ ให้อยู่ร่วมกับแมงมุมอย่างน่ารักสดใส ทางการออสเตรเลียเห็นเข้าจึงสั่งแบนซะเลย เหตุผลก็เพราะ… ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีแมงมุมพิษร้ายแรงมากกว่า 10,000 สายพันธุ์ และคำแนะนำให้อยู่ร่วมกับสัตว์ร้ายอย่างสงบสุขก็ดูจะเป็นอะไรที่ใช้ไม่ได้จริงกับชาวออสซี่ 3. Pokemon –…
-
เหมียวน้อยทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าตึก ทักทายผู้คนที่ผ่านไปมา แถมยังเฝ้าบ้านให้เพื่อนบ้านอีกด้วย
สุภาษิตเขาว่ากันว่า อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น เพื่อสอนให้ทุกคนได้ตระหนักว่า เวลาอยู่บ้านคนอื่นก็ควรที่จะช่วยทำประโยชน์ให้กับเจ้าของบ้านบ้างเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจ อย่างเช่น เจ้าเหมียวตัวอ้วนพีสีดำที่ชื่อว่า Minkus มันยึดถือสุภาษิตนี้ไว้เป็นคติประจำใจ แถมยังเอื้อเฟื้อความมีน้ำใจนี้ไปถึงเพื่อนบ้านอีกด้วย โดยทุกๆ เช้า เจ้า Minkus จะเดินมาที่หน้าประตูและทำหน้าที่เป็นยามคอยตรวจตรา สอดส่องทุกคนที่เดินเข้าตึก ทุกๆ วันก็จะมีคนเข้ามาทักทาย ลูบหัวเจ้า Minkus บ้างและดูเหมือนว่ามันจะชอบเอามากๆ เลยล่ะ บางทีเจ้า Minkus ก็แอบอู้งานไปเดินเล่นบ้าง มอมแมมเชียว ความน่ารักของเจ้า Minkus ถูกถ่ายทอดโดยผู้ใช้งานเว็บไซต์ Reddit ที่ชื่อว่า Kate ที่ได้ติดตามชีวิตของมันและนำเรื่องราวมาถ่ายทอดให้กับชาวเน็ตได้รับชม ง่วงจังเล๊ยยยย เจ้า Minkus เป็นแมวของคนที่อาศัยอยู่ในตึกเช่าแห่งนี้ มันได้รับฉายาจากคนที่พบเจอมันอยู่ทุกวันว่า “Stoop Cat” เนื่องจากมันจะโก้งโค้งคำนับทุกคนที่ผ่านประตู มันทำหน้าที่เป็นยามคอยอารักขาตึกแห่งนี้มานานหลายปี จนคนที่อยู่แถวนั้นต่างตกหลุมรักความอ่อนน้อมถ่อมตนของมันเนี่ยแหละ ดูความน่ารักของมันสิ ที่มา lovemeow
-
ทางการตั้งค่าหัวผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมแมวต่อเนื่อง 250 ตัว เป็นจำนวนกว่า 350,000 บาท
ปกติแล้วเรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับฆาตกรที่ก่อเหตุเกี่ยวกับคนมาตลอด แต่เคยไหมที่เราจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่องที่ก่อเหตุกับแมว…ไม่เหรอ? งั้นข่าวนี้ก็คงเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับคุณแน่ๆ ที่สำคัญมันทำร้ายทาสแมวสุดๆ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีแมวจำนวนกว่า 250 ตัวได้ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมในหลากหลายเมืองตลอดช่วงทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะอังกฤษ คดีดังกล่าวนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2015 และได้รับการสืบสวนมาเรื่อยๆ จนกระทั่งล่าสุดได้มีการค้นพบศพของเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Taz เป็นเจ้าเหมียวสายพันธุ์ Domestic Shorthair ซึ่งถูกพบเมื่อวันจันทร์ที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมาอยู่ในสวนที่บ้านของมันในสภาพตัวขาดวิ่น หลังจากที่มันหายไปนานเป็นสัปดาห์ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับคดีมาก็รู้สึกว่าการตายของ Taz จะมีความเชื่อมโยงกับการตายของแมวที่ลักษณะคล้ายกันตั้งแต่ปี 2015 เรื่อยมายิ่งล่าสุดก็พบว่ามีการตายของแมวในลักษณะเดียวกันที่เยอะมากๆ ย่านที่ Taz ถูกพบ ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 24 ก็ยังมีการพบศพแมวตายอีกหนึ่งตัวในรถคันหนึ่งบริเวณเมือง Surrey ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าคนร้ายน่าจะใช้ของเล่นและอาหารหลอกล่อแมวในเวลากลางคืนจากนั้นก็ลงมือฆ่า และเมื่อเหตุการณ์นี้มันบานปลายจนแมวได้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 250 นี่ยังไม่นับสุนัขจิ้งจอกอีกกว่า 50 ตัว ซึ่งเป็นความสูญเสียจำนวนมาก ทางการจึงตั้งค่าหัวฆาตกรดังกล่าวในราคากว่า 350,000 บาท Mimi หนึ่งในเจ้าเหมียวที่ถูกพบว่ากลายเป็นเหยื่อไปเสียแล้ว ทางด้าน The South Norwood Animal Rescue และ Liberty…
-
คุณพ่อไลฟ์สดฆ่าตัวตาย เหตุน้อยใจ หลังลูกสาวแต่งงานโดยที่ไม่ได้ถามความเห็น
เรื่องน่าเศร้าสลดใจนี้เกิดขึ้นเมื่อนาย Ayhan Uzun อายุ 54 ปีได้ทำการไลฟ์สดผ่านทาง Facebook ส่วนตัว เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจในชีวิต จนนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น นาย Ayhan ได้ถ่ายทอดสดด้วยสีหน้าที่ดูเศร้า พูดถึงเรื่องความในใจที่เขามีทั้งน้ำตา… ใจความในการถ่ายทอดสดนั้นเขาได้พูดถึงความน้อยใจที่ลูกสาวของเขาที่หมั้นกับชายคนอื่น โดยที่ไม่เคยมาปรึกษาคนเป็นพ่อแม้แต่น้อย รวมถึงการที่เขาถูกครอบครัวทิ้งให้อยู่ตามลำพังมาเป็นเวลานาน “การที่ผมมาถ่ายทอดสดในคืนนี้ ผมถ่ายด้วยความตั้งใจของผมเอง ผมไม่อยากให้คนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้มาร่วมงานศพของผม” “ในวันแห่งความสุขของลูกสาว พวกเขาโทรมาเพื่อให้ผมไปแสดงความยินดี โดยไม่มีใครถามผมเลยว่าผมคิดยังไง พ่อฝ่ายเจ้าบ่าวรับหน้าที่เองทั้งหมด เขาไม่มีสิทธิทำแบบนั้นด้วยซ้ำ ไม่มีคิดถึงผมเลย แม้ผมจะรอคำชวนของพวกเขาก็ตาม” “ภรรยาของผมเพิ่งโทรหาผม ผมก็ถามกลับไปว่า ทำไมเธอถึงไม่มาชวนผมต่อหน้า ซึ่งเธอก็ตอบกลับมาว่า พวกเธอไม่ว่างมาหาผม” “บางทีบางคนอาจบอกว่านี่เป็นแค่ละคร ผมบอกเลยว่าผมไม่อยากให้ใครมาเจออย่างที่ผมเจอ อีกไม่กี่วินาที ผมจะจบชีวิตตนเองด้วยปืนในมือของผม ลาก่อน ขอให้พวกคุณดูแลตัวเองด้วย” หลังจากนั้นคุณพ่อก็จบชีวิตของตัวเองด้วยการยิงปืนเข้าสู่ขมับของตัวเอง และการถ่ายทอดสดนั้นก็จบไปท่ามความตกอกตกใจของผู้ที่กำลังรับชมอยู่ ทางครอบครัวพอได้ทราบข่าวก็เรีบเดินทางไปยังที่บ้านทันทีแต่ก็พบว่าคุณพ่อได้เสียชีวิตลงแล้วทางตำรวจก็ได้ทำการสอบสวน และนำร่างของนาย Uzun ไปชันสูตรอีกที ที่มา metro
-
ผลงานของเหล่าพ่อบ้านตัวอย่างที่ทำให้คุณภรรยาต้องรู้สึกประทับใจไปกับความน่ารัก
หลายคนอาจคิดว่าการแต่งงานจะทำให้ความโรแมนติกของชีวิตคู่ลดลง แต่ความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป ไม่เชื่อก็ต้องลองไปดูภาพผลงานของพ่อบ้านใจกล้าเหล่านี้ เมื่อชาวเน็ตได้ร่วมกันแชร์พฤติกรรมสุดน่ารักของสามีที่ทำให้ชีวิตรักของพวกเขายังคงหวานชื่นจนทำให้เหล่าภรรยารู้สึกประทับใจ เราไปดูกันดีกว่าว่าแต่ละอย่างมันเป็นอย่างไรบ้าง เวลาที่คุณภรรยาไม่อยู่บ้าน คุณสามีก็อยากทำอะไรให้พวกเธอเซอร์ไพรส์กันซักหน่อย วาเลนไทน์วันแห่งความรัก เขาก็เลยสร้างห้องนอนสุดหวานแหววด้วยกระดาษโพสต์-อิทที่เขียนบอกความในใจไปกว่า 7,000 ใบ กระปุกนี้เพื่อเธอ กระดาษด้านในเขียนช่วงเวลาดีๆ ที่เคยมีให้กัน คำคมน่ารักๆ และเหตุผลว่าทำไมชายคนนี้ถึงรักเธอ ทั้งหมด 365 ใบ ครบปีพอดี หากเธอบอกว่าอยากได้กระเป๋าใหม่ เขาก็จะทำมันขึ้นมาด้วยมือของตัวเอง อยากซื้อดอกไม้ให้ แต่งบน้อยงั้นขอเป็นดอกไม้กระดาษไปก่อนนะ อยากได้หลายๆ ดอกหลายๆ สี คุณสามีก็จัดให้ได้ หรือถ้ากลับบ้านมาหิวๆ ก็ขอต้อนรับด้วยช่อดอกไม้เบคอน เห็นนาฬิกาแล้วสวยดี ก็เลยทำดอกไม้แบบขวดโหลซะเลย แม้จะอยู่ด้วยกันมา 28 ปีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงเติมความหวานให้กันอยู่เสมอ เห็นได้จากงานสวนหลังบ้านนี้ เพื่อให้ภรรายาได้นอนแช่อ่างแบบผ่อนคลายได้ทั้งวัน เรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อย กำไลข้อมือที่สร้างขึ้นจากไม้ท่อนเดียว อาจไม่ได้มาเป็นต้นเหมือนของบ้านอื่น แต่คุณสามีทำให้แบบนี้ก็น่าประทับใจไปอีกแบบนะ …
-
คอสเพลย์สาวรัสเซียโชว์สกิลสุดเทพ ด้วยการคอสเพลย์ที่เหมือนราวกับตัวจริงมาเอง!!
ปัจจุบันการคอสเพลย์นั้นเรียกว่าเป็นอะไรที่แพร่หลายไปทั่วโลกสุดๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้ใครหลายคนที่มีฝีมือในการแต่งหน้าเป็นทุนเดิมต่างพากันออกมาเดินทางสายนี้ และส่วนใหญ่ก็จะทำได้ดีเสียด้วย… Ilona Bugaeva คอสเพลย์สาวชาวรัสเซียก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีความสามารถดังกล่าว และเมื่อบวกกับหน้าตาที่ดูดีเป็นทุนเดิมแล้ว จึงทำให้เธอนั้นสามารถที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นตัวละครตัวไหนก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้นทุกตัวที่เธอแต่งก็ออกมาดูดีและเป๊ะมากๆ เลยด้วย ซึ่งนี่ก็คือโฉมหน้าปกติของ Ilona จากนั้นก็เข้าสู่โหมดคอสเพลย์ได้!! Wednesday Addams จาก The Addams Family (ลองดูต้นฉบับสิ เป๊ะไหมล่ะ) Daenerys Targaryen จาก Game Of Thrones ก็เหมือนไม่แพ้กันนะ Vanessa จาก The Little Mermaid Hermione Granger จาก Harry Potter Young Elizabeth จากเกม Bioshock Anna จาก Frozen ที่ดูแล้วราวกับถอดแบบมาเลย Classic…
-
ช่างภาพถ่ายทอดมุมมองผ่านเลนส์ในโปรเจกต์ “ความบังเอิญ” สะท้อนความเป๊ะบนโลกใบนี้
Denis Cherim ช่างภาพเจ้าของโปรเจ็ค “The Coincidence” เขาได้ตระเวนถ่ายภาพตามสถานที่ต่างๆ ทั้งมาดริด ลอนดอน บาเลนเซีย เป็นเวลากว่า 3 เดือน เพื่อถ่ายทอดมุมมองผ่านเลนส์ ตามที่เขาได้เห็น ภาพในโปรเจ็คที่เขาถ่ายจะเป็นภาพที่เน้นการสื่อถึงการจัดองค์ประกอบของรูปภาพที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ซึ่งดูแล้วดูกลมกลืนกับสิ่งที่อยู่รอบข้าง ต้นไม้ แสง และเงา เส้นแบ่งระหว่างท้องฟ้า ทะเล และถนน ชิงช้าสวรรค์ ต้นไม้และถนนที่บังเอิญดูเหมือนมีเส้นตัดผ่านกัน ช่องว่างระหว่างหน้าต่างที่พอดีกับตึกด้านหน้า เหมือนกับว่ามันเป็นต้นเดียวกัน การแบ่งที่ลงตัว ความบังเอิญที่ธรรมชาติสร้างไว้ ผู้ที่อยากดูผลงานสวยๆ ของเขาเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูที่อินสตาแกรม denischerim ได้เลยนะ ที่มา thisiscolossal
-
อลังการสุดๆ ปาร์ตี้ต้นไม้ในเรือนกระจก เพียงแค่แตะก็เปล่งแสงออกมาได้!!
เมื่อพูดถึงผักผลไม้ คุณอาจจะคิดถึงเรื่องการกินมันเข้าไป เพื่อลิ้มรสชาติความสดใหม่ของมันเข้าไป แต่รู้หรือไม่ว่าคุณสามารถเข้าถึงผักผลไม้เหล่านั้นได้ด้วยการสัมผัส และพวกมันก็จะส่งเสียงและสีสันออกมาทักทายคุณได้ด้วย พูดแล้วงงล่ะสิ งั้นลองไปอ่านบทความนี้กันเลย แล้วคุณจะรู้ว่าพืชเหล่านี้มันสวยงามกว่าที่คิด เรือนกระจกที่สว่างไสวจะเต็มไปด้วยพื้นสวนผักของ Tokyo Midtown ในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกได้ถึงความหลากหลายของผักที่ปลูกภายใน สิ่งมหัศจรรย์นี้ออกแบบโดย Design studio PARTY เพื่อจัดแสดงในงาน Design Touch 2017 ซึ่งเป็นงานเทศกาลที่จัดแสดงเป็นเดือนๆ กันเลยทีเดียว ความพิเศษของมันไม่ใช้แค่การจัดแสงไฟที่อลังการเท่านั้น เพราะต้นไม้แต่ละต้นสามารถส่งเสียงได้ เนื่องจากมันมี Digital Vegetables ติดตั้งอยู่ โดยการทำงานของมันนั้นจะกระตุ้นเสียงซิมโฟนีและแสงเมื่อคุณนำมือไปสัมผัส ผู้ชมสามารถเชื่อมต่อกับเจ้าพืชผักได้ในแบบที่ไม่ใช้การทาน แต่เป็นรูปแบบสีและแสง เสียงของพืชชนิดต่างๆ นั้นก็ได้มาจากเสียงธรรมชาติจริงๆ ทั้งเสียงของเมล็ดพืชที่กำลังงอกเงย เสียงใบไม้เสีดสี หรือเสียงในตอนที่เราทานผลไม้ Ray Kunimoto ผู้ออกแบบเสียงได้กล่าวว่า “ผมบันทึกเสียงที่สร้างขึ้นด้วยผักที่แท้จริง จากนั้นฉันก็ผสมผสานกับเสียงดนตรีของวงออร์เคสตราบนคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างท่วงทำนองเพลง 7 เพลงขึ้นมา” เทคนิคของ Kunimoto ทำให้แน่ใจได้ว่ามีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับพืชแต่ละชนิด เมื่อผู้เยี่ยมชมสัมผัสมะเขือเทศพวกเขาจะได้ยินเสียงของไวโอลิน ถ้าสัมผัสแครอทจะทำให้เกิดเสียงทรัมเป็ต และกะหล่ำปลีจะเป็นเสียงของปี่ ผลงานสุดอลังการนี้เปิดให้เข้าชมฟรีที่ Tokyo…
-
น้องฮัสกี้เห่าหอนไม่เป็น ต้องให้ปะป๊าที่เป็นมนุษย์สอนซะนี่!! เสียหมาจริงๆ
การเป็นสัตว์อะไรซักอย่าง สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวของตัวเองก็คงเป็นเสียงร้อง ที่ไม่ว่าจะเป็นนก ไก่ หมู หรือสิงโตที่คำรามก้องป่า แต่เหตุอะไรกันที่มีหมาน้อยไซบีเรียนฮัสกี้ ที่ยังไง๊ยังไงก็เห่าไม่เป็นซักที จนปะป๊าที่เป็นมนุษย์ต้องสอนเสียงที่ถูกต้องให้ Summer สาวน้อยน่ารัก เธอเป็นสุนัขพันธ์ุ Kolu Husky ที่เกิดจากการผสมของ Siberian Husky, American Eskimo และ Samoyed Summer มีพลังเหลือๆ ในการเล่น ไม่ว่าจะวิ่งหรือกระโดดน้องก็ซนได้ทุกที่ทุกเวลา แน่นอนว่าเธอเป็นหมาน้อยที่น่ารักของปะป๊ามะม๊า แต่สิ่งที่ทำให้มนุษย์อย่างเราต้องแปลกใจก็คือ นางเห่าหรือหอนไม่เป็นเลยนั่นเอง!! แต่เมื่อไม่นานมานี้มะม๊าของเจ้า Summer ได้โพสต์คลิปหนึ่ง ที่มีแคปชั่นว่า “Summer เห่าหอนไม่เป็น จนกว่าพ่อของเธอจะมาสอนความเป็น ‘สุนัขไซบีเรียนฮัสกี้’ ที่แท้จริงให้กับเธอ” ในคลิปแสดงให้เห็นว่าปะป๊าได้สอนให้ Summer หอน โดยปะป๊าจะเป็นคนเริ่มก่อน จากนั้นเธอก็หอนตามแบบเสียงแหลมๆ ที่ฟังแล้วฮาสุดๆ อีกไม่นาน Summer ก็น่าจะเห่าได้เป็นสุนัขทั่วไปแล้วสินะ ตั้งใจฝึกขนาดนี้ ที่มา inspiremore
-
หนุ่มอวัยวะเพศใหญ่กว่า 5 กิโลกรัม ตัดออกให้เล็กลงแล้ว ได้ใช้ชีวิตปกติกับเค้าซักที เย้!!
เราทุกคนๆ นั้นเกิดมาพร้อมร่างกายที่เพรียมพร้อมทั้ง 32 ประการ ที่สามารถเคลื่อนไหวรูปแบบต่างๆ ได้อย่างเป็นปกติ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีมากๆ แต่ต่างจากชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีผิดปกติทางร่างกาย จนไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติ Horace Owiti Opiyo หรือ Forence วัย 20 ปี คือชายผู้โชคร้ายที่มีลูกอัณฑะใหญ่กว่าขนาดเฉลี่ยกว่า 20 เท่า โดยมันมีขนาดถึง 5 กิโลกรัมเลยทีเดียว อีกทั้งเขายังมีอวัยวะเพศอีกอันซึ่งมันทำให้เขาลำบากในการสวมใส่เสื้อผ้าเอามากๆ ย้อนกลับไปในปี 2006 เขาเริ่มสังเกตเห็นว่ามีอวัยวะเพศที่ผิดปกติ ในปี 2007 จึงเริ่มมีการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหานี้ แต่อวัยวะเพศชายของเขากลับโตขึ้นเรื่อยๆ จนมีน้ำหนักรวมกว่า 5 กิโลกรัม หนุ่มคนนี้ลาออกจากโรงเรียนเพราะความลำบากในการชีวิตและแพทย์ก็ได้วินิฉัยว่าเขาเป็นโรค Scrotal Elephantiasis หรือโรคเท้าช้างนั่นเอง แต่ในเคสนี้กลับมีอาการที่อวัยวะเพศชาย สาเหตุที่ทำให้ Horace Owiti Opiyo ประสบกับภาวะนี้ อาจจะเกิดจากการที่ยุงกัด ซึ่งยุงนี้เป็นตัวอ่อนที่เจริญเติบโตมาจากท่อระบายน้ำ ที่มีความสกปรก จึงเกิดเป็นอาการบวกขึ้นมา เขาได้รับความทุกข์ทรมานมากๆ ในตอนแรกเขาพยายามที่จะรักษาด้วยสมุนไพร แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ และเมื่อเรื่องนี้เผยแพร่ออกไปในสื่อทางอินเตอร์เน็ต เข้าก็ได้รับความช่วยเหลือ…
-
ซู๊ดบะหมี่ดังๆ ไปเลย กับ “ส้อมลดเสียง” ที่คุณจะเอร็ดอร่อยไปกับการทานบะหมี่โดยไม่ต้องอายใคร
ในญี่ปุ่นนั้นการทานบะหมี่ถือว่าเป็นอาหารที่ต้องทานกันอยู่บ่อยครั้ง และเสียงที่เราคุ้นชินกันก็คือเสียงการซู๊ดบะหมี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวญี่ปุ่น แต่อย่างไรก็ตามเสียงการซู๊ดสุดอร่อยนี้อาจจะสร้างความหงุดหงิดให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมแดนอาทิตย์อุทัย ในช่วงแห่งการตระเตรียมงานโอลิมปิกครั้งยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นนั้น แน่นอนว่าต้องมีการหลั่งไหลเข้ามาของชาวต่างชาติมากมาย ดังนั้นทาง Nissin จึงขอต้อนรับอุปกรณ์การกินสุดล้ำอย่าง “Otohiko!” ที่เป็นส้อมซู๊ดบะหมี่ที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เพื่อนๆ คงรู้สึกอายกันเบาๆ ใช่ไหมล่ะ ที่ต้องซู๊ดบะหมี่เสียงดังๆ เพราะความที่ยังไม่คุ้นชินกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น งั้นต้องลองนี้เลย Otohiko ส้อมลดเสียงเวลาซดบะหมี่!! Nissin แบรนด์บะหมี่ที่เรารู้จักกันดี ได้เปิดตัวอุปกรณ์สุดล้ำที่เอาใจคอบะหมี่ นั่นก็คือส้อมสุดล้ำ Otohiko ที่มาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน โดยจะมันจะจับเสียงซู๊ดของคุณแล้วส่งไปยังสมาร์ทโฟนเพื่อให้ส่งเสียงมาลบล้างเสียงซดบะหมี่ของคุณ . ทางผู้พัฒนานั้นได้เก็บตัวอย่างเสียงซดบะหมี่อย่างจริงจัง เพราะความดังของแต่ละคนไม่เท่ากัน จากนั้นก็นำข้อมูลมาทำ Data Mining เพื่อศึกษารูปแบบเสียงที่เกิดขึ้น จึงเกิดเป็นส้อมสุดไฮเทคอันนี้ Otohiko ทำมาจากพลาสติกคุณภาพดีที่ออกแบบให้ถือได้สะดวกเมื่อคุณทานบะหมี่ น้ำหนักรวมอยู่ที่ 110 กรัม มาพร้อมแบตเตอรี่ในตัว สามารถชาร์จผ่านสาย USB ได้ และใช้งานได้ต่อเนื่อง 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว . ส้อมอัจฉริยะอันนี้ผลิตเพียงแค่ 5,000 อันเท่านั้น และวางขายแค่ในประเทศญี่ปุ่น โดยมีราคาอยู่ที่ 14,800 เยน…
-
หญิงคนหนึ่งรอคอยกว่า 40 ปี เพื่อจะได้แต่งงานกับคนรัก หลังถูกคุณพ่อกีดกันในวัยรุ่น
เชื่อว่าใครหลายๆ คนต่างก็ต้องมีคนที่เรารักแบบสุดหัวใจ แต่ด้วยเหตุผลบางประการที่ทำให้ความรักไม่สมหวัง ทำให้ความรักครั้งนั้นต้องจบลง แต่คนคนนั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวใจของเราอยู่ตลอดเวลา ขึ้นชื่อว่าความรัก ก็ต้องมีทั้งสมหวังและผิดหวัง อยู่ที่ว่าเราจะมีความอดทนและรอคอยให้โชคชะตานำพามาพบกันอีกครั้งหรือเปล่า Madeleine Coburn และ Bill Brookman เข้าพิธีวิวาห์หลังจากที่รอคอยกันมาถึง 40 ปี ท่ามกลางความยินดีของแขกที่มาร่วมงานกว่า 300 คน ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานกับความรักสุดทรหดของทั้งคู่ เรื่องราวของทั้งคู่เริ่มต้นในเมือง Loughborough ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 1978 นาย Bill หนุ่มหล่อวัย 23 ปี ได้พบรักกับ Madeleine อายุ 16 ปีที่โรงเรียนมัธยม เขาจึงรวบรวมความกล้าแล้วชวนแม่สาวน้อยไปเดท ซึ่งเธอได้ตอบตกลง Bill Brookman Madeleine Coburn แต่พอถึงเวลานัด Madeleine ไม่ได้ไปตามนัด เพราะว่าพ่อของเธอไม่อนุญาตให้ไปเดท เพราะว่าดูท่าทางเจ้าหนุ่ม Bill จะดูเจ้าชู้ไม่ใช่น้อย ทั้งสองได้นัดเดทกันหลายต่อหลายครั้ง แต่คุณพ่อของฝ่ายหญิงก็ไม่เป็นใจ จนเขาต้องยอมแพ้และถอยออกมาอยู่ห่างๆ …
-
Sophie Tanner สาวผู้แต่งงานกับตัวเอง สุดท้ายแล้วก็นอกใจตัวเองไปมีสามีซะงั้น!!!
สิ่งสำคัญในชีวิตนอกจากปัจจัยสี่แล้ว ก็เห็นจะมีคนข้างๆ กายนี้แหละที่เป็นแรงขับเคลื่อนและเป็นแรงบันดาลใจ ให้เรานั้นสร้างสิ่งมหัศจรรย์หลายอย่าง คู่รักก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ชีวิตของเราเดินหน้าหรือถอยหลังได้ ตามแต่ละเรื่องราวความรักของแต่ละคน แต่จะมีซักกี่คนที่เลือกคู่ครองที่ไม่ใช่ผู้อื่น แต่เป็นการแต่งงานกับตัวเอง ไม่รู้ว่าเธอผู้นี้มีความคิดลึกล้ำซับซ้อนอย่างไรกัน เราไปดูเหตุผลของเธอกันเลย Sophie Tanner สาวผู้เข้าพิธีแต่งงานกับตัวเองในปี 2015 เธอกล่าวว่า “การแต่งงานกับตัวเองนั้นเป็นเรื่องของการแสดงความรักและความเมตตาต่อตนเอง ฉันจะดูแลตัวเองและให้ความสำคัญกับมันเหมือนกับเป็นคู่รัก” “มันไม่ได้หมายความว่าฉันปฏิเสธความสัมพันธ์ที่มีความหมายอื่นๆ ในชีวิต แต่มันคือการถอยห่างจากความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่างหาก ถ้าเรามีความรักต่อตนเองในโลก เราก็ไม่จำเป็นจะต้องมีใคร” นี่คือคำแถลงที่จะยกระดับความรักตนเองขึ้น เธอกล่าวว่ามันมีความสำคัญเหมือนกับความรักที่โรแมนติกแบบคู่รักและเธอก็ได้จัดงานแต่งงานขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ เรียกได้ว่าเธอมีความเชื่อมั่นและมั่นใจในความคิดของเธอเอามากๆ แต่หลังจากที่เธอได้แต่งงานไปได้ไม่นาน เธอกลับ “นอกใจ” ตัวเองซะงั้น เพราะเธอได้ไปมีความสัมพันธ์กันนักจิตวิทยารายหนึ่งที่ชื่อว่า Ruari Barrett พวกเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตคู่กันฉันสามีภรรยา แต่ความักของทั้งคู่ก็จบลงภายใน 5 เดือน เนื่องจาก Ruari มีความปรารถนาที่จะนัดพบกับผู้หญิงคนอื่นๆ อยู่เรื่อยๆ Sophie จึงเลือกที่จะยุติความสัมพันธ์นั้น ในภายหลัง Ruari ได้เผยว่าเขาเพียงแต่พยายามที่จะรักผู้คนมากขึ้นเพื่อที่จะได้รับความรักมากขึ้น แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด ดังนั้น Ruari จึงเลือกที่จะแต่งงานกับตัวเองเช่นกันและเป็นผู้สนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อส่งเสริมให้ความเกิดภาคภูมิใจในตนเอง แล้วเพื่อนๆ คิดอย่างไรกับเรื่องนี้กันบ้างล่ะ ที่มา unilad
-
หนุ่มชาวอังกฤษดื่มเหล้าจนเมาแอ๋ ขอร้องให้ช่างสักคำว่า “ไต้หวัน” ลงบนหน้าผาก
การดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นสามารถทำให้คนขาดสติได้ ซึ่งในบางครั้ง มันก็นำพาไปสู่เรื่องราวที่ไม่มีวันคาดคิดถึง อย่างเช่นเรื่องราวของหนุ่มอังกฤษคนนี้ Paul Ferrell อายุ 32 ปี เป็นชาวอังกฤษที่มาอาศัยอยู่ที่ประเทศไต้หวันเป็นเวลา 13 ปี เขาใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาสาวชาวไต้หวันในทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเกาสูยง วันหนึ่งนาย Paul ได้เข้าไปแฮงเอาท์ที่บาร์ชื่อดังในเมือง เขาดื่มแบบจัดหนักจัดเต็มจนเมาแอ๋ และเขาก็ได้ถกเถียงกับเพื่อนที่นั่งดื่มด้วยกันถึงประเด็นเรื่องความรักชาติ แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาไปเถียงกันอีท่าไหน หนุ่ม Paul ถึงได้ของขึ้น แล้วเดินไปยังร้านสักที่อยู่ใกล้ที่สุดในตอนนั้น เขาได้รบเร้าให้ช่างสักที่ชื่อว่า เว่ยเฉิง สักคำว่า “ไต้หวัน” ตรงกลางหน้าผากของเขาด้วยหมึกสีดำ ถึงแม้ว่าช่างสักจะถามย้ำซ้ำๆ ว่าเขาต้องการจะสักที่หน้าผากด้วยคำๆ นี้จริงๆ หรอ ซึ่งหนุ่ม Paul ที่อยู่ในสภาพเมามากๆ ก็ยังยืนยันคำตอบเดิมว่า “ผมรักไต้หวัน สักมันลงบนหน้าของผมเลยลูกพี่” เมื่อไม่สามารถปฏิเสธลูกค้าได้ นายเว่ยก็เลยสนองความต้องการของคุณลูกค้าด้วยการสักคำว่า “ไต้หวัน” เป็นอักษรจีนขนาดใหญ่ตรงกลางหน้าผาก แถมธงสีเขียวตรงปลายคางให้อีกด้วย หลังจากที่สักเสร็จหนุ่ม Paul ก็ได้ขับรถเพื่อที่จะกลับมานอนที่บ้าน แต่ทว่าเขาถูกจับกุมในข้อหาเมาแล้วขับ พอภรรยาของเขามาถึง เธอรู้สึกโกรธมากๆ ซึ่งเขาก็สงสัยว่าภรรยาโกรธอะไรนักหนา…
-
ผู้หญิงไม่ยอมแก่ต้องดู “สไตล์ทรงผมที่จะทำให้คุณดูเด็กลง” ในแต่ละช่วงอายุ
ทรงผมนั้นสามารถที่จะเป็นบุคคลิกของคนคนหนึ่งได้เลยนะ ยิ่งถ้าเป็นสาวๆ ที่อายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การเลือกทรงผมที่เหมาะสมนั้น ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ดูเด็กลงได้ แล้วจะรออะไรอีกละ เราไปชมทรงผมที่ทำให้ดูอ่อนเยาว์ของแต่ละช่วงอายุกับดีกว่า จะแซ่บ จะเผ็ชขนาดไหน สาวๆ พลาดไม่ได้นะจ๊ะ ทรงผมเมื่อคุณอายุ 20 ปี เมื่อคุณอายุ 20 เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการทดลองทรงผมใหม่ๆ มองหาสไตล์ที่ใช่ ไม่ว่าจะเป็นสั้นประบ่าหรือยาวแล้วทำสีสวยๆ ก็ดูจะไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่สำหรับสาวๆ วัยนี้ ทำสีแบบไล่ระดับก็ดูโดดเด่น หรือจะสั้นแบบนี้ไปเลยก็ดูปราดเปรียว ทรงผมเมื่อคุณอายุ 30 ปี เมื่อคุณย่างก้าวเข้าวัย 30 ที่เป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว คุณควรมีทรงผมที่ง่ายๆ สบายๆ และยังต้องง่ายต่อการดูแลรักษาอีกด้วย สำหรับสาวๆ ที่มีบุคลลิคหวานๆ อ่อนโยน การตัดผมสั้นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้คุณดูเด็กลง หรือจะลองตัดหน้าม้าแบบบางๆ ก็ไม่ทำให้ภาพลักษณ์ดูเปลี่ยนไปมากเท่าไหร่ ดังนั้นอย่าลืมไปลองเปลี่ยนกันดูนะจ๊ะ ซอยสั้นทำสีก็ดูเป็นสาววัย 30 เปรี้ยวๆ หน้าม้าบางๆ ก็ทำให้หน้าเด็กลงแน่นอน ทรงผมเมื่อคุณอายุ 40 ปี แน่นอนว่าเมื่อคุณเข้าวัยเลข…
-
รวม 16 ภาพแห่งความบังเอิ๊ญ บังเอิญ ที่กลับมาดูเมื่อไหร่ก็เรียกรอยยิ้มได้เสมอ
มนุษย์ใช้ภาพถ่ายเป็นเครื่องมือในการบันทึกความทรงจำ ที่ไม่ว่าหยิบขึ้นมาดูเมื่อไหร่ ภาพในอดีตก็ยังคงแจ่มชัดอยู่เสมอ แต่บางครั้งการถ่ายภาพธรรมดาๆ อาจจะเกิดเหตุกาณ์ความบังเอิญที่เราคาดไม่ถึง พอย้อนกลับมาดูภาพเหล่านั้นก็สามารถเรียกรอยยิ้มนิดๆ #เหมียวบู้บี้ จึงได้รวบรวมรูปภาพที่ถ่ายได้ด้วยความบังเอิญ แต่สามารถเรียกเสียงฮาจากชาวเน็ตมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันค่ะ 1. นี่มัน ม้าลายสองหัว!?! 2. มีเจ้าถิ่นมาคอยบอกทางแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย 3. หอเอนปิซ่านี่อร่อยจริงๆ 4. หน้าจอโน๊ตบุ๊กใสแจ๋ว เหมือนกับไม่มีอะไรอยู่ในนั้น 5. กวาง 3 หัว 6. นี่มันผีหัวขาดนี่น่า 7. ฮายยยย ว่าไงเพื่อน 8. ดูเหมือนจะมีสัตว์ 3 ตัวในภาพนี้ แต่ที่จริงมีเพียงสองตัวเท่านั้น 9. เป็นแมวอยู่ดีๆ ก็กลายร่างเป็นเสือ 10. เจอแบบนี้ใกล้ๆ มีสะดุ้งกันบ้างแหละ 11. นี่มันสัญลักษณ์แห่งวันโลกแตกชัดๆ 12. อัลปาก้าในร่างมนุษย์…
-
กวางเปลี่ยนไป๋!! กวางอัธยาศัยดี ชอบเข้าไปหอมแก้มกับสัตว์นานาชนิด ตั้งแต่แมวยันจิ้งจอก
สัตว์โลกบางทีก็มีมุมตลกๆ ให้เราได้หัวเราะกันอยู่เสมอๆ เหมือนกับเหตุการณ์นี้ที่มีกวางอยู่ตัวหนึ่งไล่หอมแก้มเขาไปทั่วแต่ไม่ใช่หอมแก้มแต่กับพวกเดียวกับมันนะแต่เป็น แมว แรคคูน จิ้งจอก กลับตกเป็นเหยื่อของมันแทน Michael Cove นักชีววิทยาได้ซ่อนกล้องไว้ตามจุดต่างๆ ในเกาะ Florida Keys เพื่อศึกษาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กที่ใกล้สูญพันธุ์ แต่ภาพที่กล้องจับได้กลับเป็นภาพของกวางป่าพันธุ์ Key deer ตัวหนึ่งที่ชอบเอาปากของมันไปคลอเคลียๆ กับสัตว์ชนิดอื่นอย่างน่ารักน่าเอ็นดูเลยล่ะ โดย Cove ได้บอกไว้ว่าเขาศึกษาสัตว์อย่างแรคคูนและสัตว์กินเนื้ออื่นๆ มาเป็นเวลากว่าเกือบ10 ปี และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่าแรคคูนมีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ชนิดอื่น “เราได้ภาพจากกล้องที่ซ่อนไว้กว่า 80 ภาพที่แสดงให้เห็นว่ากวางตัวนี้คลอเคลียกับแรคคูนอีก 2 ตัว” “แรคคูนตัวหนึ่งทำความสะอาดหน้าของกวางจนเกลี้ยงโดยใช้เวลาประมาณ 1 นาที นี่ถือว่าเป็นการปฏิสัมพันธ์ที่แปลกมาก เพราะว่าเจ้ากวางดูเหมือนไม่มีความกังวลและเต็มใจที่จะให้เจ้าแรคคูนทำอย่างนั้น” Cove กล่าว และไม่ใช่ Cove คนเดียวเท่านั้นที่งุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น Chris Lowe นักวิทยาศาสตร์อีกคนหนึ่งที่ปกติจะสนใจแต่เรืองฉลาม แต่เขาได้เห็นเหตุการณ์สุดแปลกที่เกาะ Catalina เมื่อกวางตัวหนึ่งเลียหัวของสุนัขจิ้งจอกอย่างเป็นมิตร สร้างความแปลกปละหลาดใจให้เขาเป็นอย่างมาก . Cove ได้ตั้งสมมุติฐานไว้ว่ากวางที่เติบโตมาบนเกาะทั้งสองนั้น รู้สึกกลัว “นักล่า” น้อยลง หลังจากที่เหล่านักล่าค่อยๆ…
-
แม่บ้านห้ามพลาด!! “22 เครื่องครัวสุดล้ำ” ที่ทั้งช่วยย่นเวลาและปลอดภัยกับคุณสุดๆ
สำหรับบางคนนั้นการเข้าครัวถือว่าเป็นเรื่องยากสุดๆ ทั้งต้องเตรียมวัตถุดิบ การปรุงอาหาร หรือเครื่องครัวต่างๆ ที่ดูจะใช้งานยากเหลือเกิน ดีไม่ดีอาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ แต่ในวันนี้เรามีเครื่องครัวสุดล้ำสมัย มาให้คุณแม่บ้านหัวสมัยใหม่ ได้ย่นเวลาทำครัว และเสี่ยงต่อการบาดเจ็บน้อยลง ซึ่งเป็นผลงานของนักออกแบบสุดเจ๋ง ที่อยากให้การเข้าครัวของทุกบ้านนั้นเป็นเรื่องง่ายและมีความปลอดภัยสูงสุด 1. กระทะแพนเค้ก กระทะขนาดกว้างแบนราบที่คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานแพนได้ออกมาเป็นศิลปะหลากหลาย มากกว่ารูปแบบแผ่นวงกลม 2. ผ้ากันเปื้อนที่มีผ้าเช็ดมือในตัว แบบนี้ก็ไม่ต้องเดินวนไปทั่วห้องครัวแล้วล่ะ 3. ขวดทาน้ำมันหัวพู่กันซิลิโคน การทาน้ำมันลงไปบนผักก็กลายเป็นเรื่องง่ายทันที 4. เครื่องคั้นน้ำมะนาว ทั้งคั้นทั้งกรองเม็ด สะดวกสุดๆ 5. ฝาขวดซิลิโคน ใครที่ทานเครื่องดื่มไม่หมดก็ต้องใช้เจ้านี่แล้วล่ะ 6. เครื่องรักษาความสดของสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็นผักใดๆ ที่เหี่ยวง่าย ลองน้ำมาในเครื่องนี้สิ การทำงานของมันก็เหมือนกันแจกันนั่นแหละ 7. เครื่องแกะเปลือกหอยนางรม แม้ว่าคุณจะไม่เคยแกะหอยมาก่อน เครื่องนี้ก็ใช้งานง่ายเหมือนคุณเป็นมืออาชีพ 8. ตะแกรงวางของ ที่สามารถม้วนเก็บได้ ใช้ง่าย เก็บง่าย วางของได้มาก ต้องมีติดครัวไว้ซักอันแล้ว …
-
แอบดู 7 วัฒนธรรมการกินอาหารกลางวันของมนุษย์ออฟฟิศในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
หากจะพูดถึงเรื่องอาหารกลางวัน สำหรับในประเทศไทย คนส่วนใหญ่ที่ทำงานออฟฟิศก็จะมีเวลาพักประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งใน 1 ชั่วโมงที่ได้มา แต่ละคนก็จะออกไปหาร้านอร่อยๆ กิน หรือบางคนอาจห่อข้าวมาเองจากบ้าน แล้วแต่ความสะดวก แต่ถ้าลองดูในประเทศต่างๆ อาหารกลางวันสำหรับมนุษย์ออฟฟิศจะมีความแตกต่างกันออกไป โดยในแต่ละประเทศก็จะมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกันแต่จะแตกต่างกันอย่างไร ลองไปดูกันดีกว่า ประเทศ สิงคโปร์ ในประเทศสิงคโปร์จะมีสถานที่ที่เรียกว่า Hawker centers ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับศูนย์อาหารในบ้านเรา สิ่งของที่ขายก็จะมีราคาที่ไม่แพงมากนักอย่าง ลูกชิ้น ไก่ ข้าวต่างๆ รวมทั้งก๋วยเตี๋ยว ซึ่งในช่วงโมงพักเที่ยงที่นี่จะเต็มไปด้วยนักธุรกิจต่างๆ อย่างเนืองแน่นเลยทีเดียว ประเทศ สหรัฐอเมริกา ดินแดนแห่งชาวเสรีชนแห่งนี้ มนุษย์ออฟฟิศส่วนใหญ่นิยมที่จะซื้ออาหารที่ทำง่ายได้ไวๆ อย่างสลัดหรือแซนวิซมานั่งกินขณะที่ทำงานไปด้วย และถ้าไม่ออกไปพบลูกค้าข้างนอก จะไม่มีการแตะต้องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด การทานอาหารกลางวันร่วมกันดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมทางสังคมที่ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ในประเทศแห่งนี้ ประเทศ บราซิล ในประเทศนี้นิยมรับประทานอาหารกลางวันในร้านอาหาร ซึ่งที่พิเศษกว่าที่อื่นคือที่นี่เป็นอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์ สิ่งที่นิยมในร้านเหล่านี้ก็มีทั้ง ข้าว เนื้อต่างๆ ถั่วดำ และเครื่องเคียงอย่างผักต่างๆ หรือเฟรนช์ฟรายส์ ประเทศ เยอรมัน…
-
หญิงสาวช่วยเหลือหนุ่มไร้บ้าน หลายเดือนต่อมาเขานำเงินมาคืนพร้อมอุดหนุนบ้านที่เธอขาย
การช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากบางครั้งเราก็ไม่ต้องการที่จะได้รับอะไรตอบแทน เพราะว่าเราเจตนาที่จะช่วยให้เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เชื่อว่าโลกนี้หากทำความดีย่อมได้รับการตอบแทน ในเดือนมกราคมปี 2017 หญิงสาวนายหน้าค้าบ้านคนหนึ่งชื่อว่า ShelbyLynn Alexander กำลังติดไฟแดงอยู่บนถนนแห่งหนึ่งในรัฐ North Carolina และเธอก็ได้เหลือบไปเห็นชายไร้บ้านคนหนึ่งนั่งอยู่กับหมาของเขาที่ข้างถนน โดยเขาได้ถือป้ายที่มีข้อความเขียนว่า “ต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อย ผมจ่ายคืนแน่ในวันข้างหน้า” เธอได้สังเกตเห็นว่าสภาพเสื้อผ้าของเขามอมแมมอย่างมาก แถมยังไม่สามารถให้ความอบอุ่นได้เพียงพอเทียบกับอากาศในตอนนั้นด้วย แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเสียสละผ้าห่มให้แก่หมาของเขา เธอรู้ในตอนนั้นเลยว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจดีและเธอต้องลงจากรถไปช่วยเหลือเขาแล้ว “ฉันเดินตรงเข้าไปหาเขาและบอกว่า ปกติฉันจะให้แต่อาหารแทนที่จะเป็นเงิน แต่ในคราวนี้ฉันยื่นแบงค์ดอลล่าให้เขาสามใบพร้อมด้วยนามบัตรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของฉัน หากว่าเขาต้องการที่สำหรับอยู่อาศัย” ShelbyLynn ให้สัมภาษณ์ เธอยังบอกอีกว่าเขาทำหน้าเขินอายเล็กน้อยในตอนที่กำลังรับเงินจากเธอ ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นไร้บ้านจริงๆ หรือว่าเป็นคนที่กำลังดวงตกอยู่กันแน่ แต่เธอก็ได้อวยพรให้เขาโชคดีก่อนที่จะขับรถออกไป หลายเดือนต่อมา นายหน้าสาวคนนี้ก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าคนหนึ่งให้หาบ้านให้หน่อย เธอจึงนัดพบเขาในวันถัดมา เพื่อจะพาไปดูบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ในละแวกนั้น เมื่อเธอไปถึงจุดที่นัดพบกับลูกค้าคนนั้นก็มีหมาตัวหนึ่งวิ่งมาหาเธอ ซึ่งเธอจำหมาตัวนี้ได้ว่าเป็นของชายไร้บ้านเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ว่าคราวนี้หมาตัวนี้กลับมีรูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์และดูมีความสุข ทันใดนั้นเจ้าของหมาตัวนี้ก็ลงมาจากรถกระบะคันใหม่เอี่ยม ซึ่งได้สร้างความเซอไพรส์แก่เธอมากเพราะว่าชายคนดังกล่าวดูราวกับเป็นคนละคนกับคนที่เธอเคยให้ความช่วยเหลือ โดยในครั้งนี้เขาแต่งตัวสะอาดสะอ้านและมีใบหน้าที่สดใส นายหน้าสาวคนนี้ได้สารภาพว่าตอนแรกที่เจอเขา เธอคิดว่าเขาเป็นมิจฉาชีพที่แต่งตัวโทรมๆ เพื่อมาขอเงินจากคนอื่นแต่จริงๆ มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยทีเดียว “ฉันพูดไม่ออกเลยทีเดียว เขาอธิบายให้ฉันฟังว่าภรรยาเก่าของเขาเอาทุกอย่างที่เป็นของเขาไปและหนีไปอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ในตอนนั้นเขาไม่อยากได้เงินหรอกเขาแค่อยากได้ความช่วยเหลือ” “เขามีอาชีพเป็นวิศวกร และในตอนนี้เขาก็มีงานใหม่ รถใหม่ และกำลังมองหาบ้านใหม่ นอกจากนั้นเขาต้องการตอบแทนความหวังดีของฉันด้วยการอุดหนุนบ้านที่ฉันเป็นนายหน้าให้ เขาใช้คืนเหมือนอย่างที่เขียนตอนแรกจริงๆ ” แล้วเขาก็คืนแบงค์ดอลล่าร์สามใบให้เธอพร้อมกับนามบัตรของเธอเองเหมือนกับที่เขาเคยได้รับ…
-
เมื่อพาเจ้าเหมียวไปหาหมอครั้งแรก นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น… พากันซ่อนตัวในซิงค์ไม่ให้หมอเห็น
เพื่อนๆ จำได้มั้ยว่า ตอนเด็กเวลาพ่อแม่พาไปโรงพยาบาลเรามีปฏิกิริยาอย่างไร บางคนร้องห่มร้องไห้ โวยวาย เพราะกลัวจะถูกหมอฉีดยาให้ แล้วมาดูกันสิ๊ว่าถ้าพาเจ้าเหมียวไปโรงพยาบาล พวกมันเป็นอย่างไร จะมีอาการเหมือนเราตอนเด็กมั้ยนะ?? นี่เป็นแมวของชายหนุ่มคนหนึ่ง และเขาได้พาพวกมันไปหาหมอเป็นครั้งแรก ทันที่ไปถึงเจ้า Oscar ก็รีบวิ่งไปเก็บตัวที่อ่างล้างมือทันที มันคงจะคิดว่า… “อยู่ในนี้ปลอดภัยแน่นอน” ส่วนเจ้า Whiskey กำลังนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ แต่ดูมันค่อนข้างจะรู้สึกเหงาหน่อยๆ “รู้สึกไม่ปลอดภัยเลยแฮะ แล้วนี่พี่ชายไปไหนอะ?” ต่อมา Whiskey ก็เลยเดินไปหา Oscar “โห พี่หาที่ซ่อนได้เจ๋งมากอะ แต่ช่วยขยับก้นเข้าไปหน่อยได้มั้ย?” ดูเหมือน Oscar ไม่ค่อยขยับให้มันสักเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่านี่มันพอดีสำหรับหนึ่งตัวนั้น แต่ยังไม่ทันทำอะไร เจ้า Whiskey ก็พยายามยัดเยียดตัวเองเข้ามาแล้ว “Whiskey นี่มันพอดีสำหรับเราแค่ตัวเดียวนะ นายไปหาที่ซ่อนที่อื่นดีกว่ามั้ย” แต่ Whiskey มั่นใจว่ามันสามารถยัดตัวเองลงไปอยู่ในซิงค์นี้ได้อีกตัว และมันก็พยายามจนสำเร็จ “นี่มันพอดีแล้วสำหรัับเราสองตัว หมอทำอะไรเราสองตัวไม่ได้แน่นอน” Oscar เริ่มทำหน้าไม่พอใจ “ดู!! นี่เราจะปลอดภัยจริงหรอ เล่นเบียดซะขนาดนี้” …
-
เอาชีวิตจริงมาเล่าชัดๆ “18 ความเจ็บปวดของสาวๆ ” เห็นแล้วมันจี๊ดดดดด ปรอทแตก!!!
ปัญหาของสาวๆ นั้นจุบจิบ ยุบยิบ กว่าปัญหาของผู้ชายเอามากๆ ยิ่งถ้าเรื่องข้าวของเครื่องใช้ที่มันมักจะพังบ่อยๆ ทำให้เราอารมณ์เสียได้เป็นอย่างดี รู้หรือเปล่าล่ะว่าที่กล่าวมามันมีอะไรบ้าง ถ้างั้นลองมาดูทั้ง 18 ปัญหาต่อไปนี้ ที่บอกเลยว่าตรงกับชีวิตจริงผู้หญิงมากๆ 1. แป้งแตกมันคือเหตุการณ์แย่ๆ ที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากให้เกิดขึ้น 2. ใครที่ชอบดึงหูกางเกง ระวังจะเจอเหตุการณ์นี้เอานะ 3. ไซส์ที่ต้องการมันมักจะหมดที่เราเสมอ ทำไม!!!!! 4. เมื่อคุณทาลิปกรอส การกินอาหารมันจะกลายเรื่องยากทันที หน้าตาก็คุณจะเป็นอย่างที่เห็น 5. ร่องรอยของสาวๆ หลังเดินออกมาจากร้านขายเครื่องสำอาง 6. บ๊าย บาย จ่ะเล็บจ๋าาาา 7. ไม่รู้ว่าทำไมตอนอาบน้ำต้องเอาเศษผมที่ร่วงๆ มาติดไว้ที่ผนัง แต่เราก็ทำกันทุกคนนั่นแหละ จริงไหม!? 8. เมื่อเส้นผมติดแว่น T T 9. เมื่อคุณกำลังเดินสวยๆ ในงานพรอมแต่ถุงน่องเจ้ากรรมดันขาดซะงั้น 10. ตาต้องอย่ากระพริบ ปากต้องอ้าค้างไว้…
-
จากคลิปดัง “กระรอกกินหนู” แท้จริงแล้ว มันไม่ใช่สัตว์กินพืช ตามที่เราเข้าใจงั้นหรือ!?
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน] โดยปกติแล้ว เราเข้าใจว่ากระรอกเป็นสัตว์กินพืช โดยเฉพาะเมล็ดถั่่วที่ถือเป็นอาหารโปรดของพวกมัน แต่รู้มมั้ยว่าจริงๆ แล้ว กระรอกไม่ได้กินแค่พืชนะ แต่มันยังกินสัตว์เป็นอาหารด้วย และนี่คือคลิปที่ยืนยันว่ากระรอกกินแค่พืชแต่ยังกินสัตว์เป็นอาหารด้วยเช่นกัน เนื่องจากร่างกายกระรอกไม่สามารถย่อยเซลลูโลสได้ ดังนั้นพวกมันจึงต้องพึ่งพาอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมัน ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของปีสำหรับกระรอก เพราะถั่วที่ถูกฝังจะเริ่มงอกออกเป็นต้น ซึ่งนั่นทำให้กระรอกไม่สามารถกินได้ และแหล่งอาหารใหม่ๆ ก็ยังไม่สามารถกินได้ ในช่วงเวลานี้พวกมันจึงต้องพึ่งพาตาต้นไม้แทน แม้ว่ากระรอกจะกินพืชหลากหลายชนิดเป็นอาหารหลัก แต่สำหรับกระรอกบางตัวมันยังกินสัตว์เป็นอาหารด้วย โดยเฉพาะเวลาที่พวกมันต้องเผชิญกับความหิว สัตว์ที่กระรอกกินก็จะมีหลายชนิดเช่นกัน อย่างแมลง ไข่ นกขนาดเล็ก งูขนาดเล็ก และหนูที่มีขนาดเล็ก ในขณะที่กระรอกเขตร้อนบางสายพันธุ์ได้กินแมลงทุกชนิดเป็นอาหาร สำหรับพฤติกรรมการล่าสัตว์นั้น นักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตจากพฤติกรรมของกระรอกดินสายพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะ Thirteen-lined ground squirrel ยกตัวอย่างเช่น Bailey ในช่วงปี 1920 นักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตเห็นกระรอกดิน Thirteen-lined กินไก่ตัวเล็กๆ เป็นอาหาร นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ากระรอกชนิดเดียวกันนี้ได้กินซากงูขนาดเล็กด้วย ต่อมาได้มีการตรวจภายในของกระรอกที่ตายแล้ว 139 ตัว พบชิ้นส่วนของนกอยู่ในท้องของกระรอก 4 ตัว และพบเนื้อหนูหางสั้นในพวกมันอีกหนึ่งตัว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการค้นพบอีกว่า…
-
เพื่อนร่วมงานใจป้ำ ออกรถเซอร์ไพรส์ให้เธอ หลังเห็นว่าใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมง
ถือเป็นอีกหนึ่งราวดีๆ ที่จะสร้างรอยยิ้ม และความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลกออนไลน์ เมื่อเจ้านายและเพื่อนร่วมงานสุดใจป้ำ ทุ่มทุนควักเงินซื้อรถยนต์ให้กับหญิงผู้โชคดี เพื่อมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษที่เธอพยายามบากบั่นเดินทางมาทำงานไปกลับนานถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน วันที่ 26 ตุลาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์รายงานว่า Linda Walton หญิงจากรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่สามารถกลั้นน้ำตาแห่งความสุขเอาไว้อยู่ เมื่อ Krissy Marcellini Tammaro ผู้เป็นเจ้านายพร้อมกับเพื่อนร่วมงานจาก Pristine Clean & Organisation Services ในเมือง Cordova รวม 6 คน ได้โผล่เซอร์ไพรส์ด้วยรถยนต์ Pontiac Grand Prix ปี 1998 ภายหลังจากที่พวกเขารู้ว่าเธอต้องเดินทางมาทำงานวันละ 6 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ยังได้ช่วยจ่ายค่าประกันรถยนต์ในเดือนแรก และเปลี่ยนยางใหม่ให้อีกด้วย จากการรายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ Linda มีช่วงเวลาในการเดินทางไปทำงานที่แสนจะยาวนาน โดยเธอจะเริ่มจากการนั่งรสบัสเป็นเวลา 2 ชั่วโมง…
-
เมื่อเจ้าของสุดจะทน ออกโรงมาแฉพฤติกรรมของเหล่าสัตว์เลี้ยง แต่ละตัวไม่ไหวจะเคลียร์!!
แต่ก่อนมนุษย์จิ๋วอาจเป็นตัวป่วนที่สร้างความวุ่นวายภายในบ้าน แต่ในปัจจุบันดูเหมือนจะหมดยุคของพวกเขา และมีเหล่าสัตว์เลี้ยงเข้ามาแทนที่ซะแล้ว ทว่าในทางกลับกันมันก็ไม่สามารถที่จะมาช่วยหยุดยั้งความวุ่นวายได้เลย แถมบางบ้านก็ยังพบเจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิดอยู่เสมอ จนบางครั้งผู้เป็นเจ้าของก็ถึงขั้นพากันกุมขมับเพราะสัตว์เลี้ยงตัวป่วนของพวกเขา และนี่ก็เป็นภาพของสัตว์เลี้ยงแสนซนที่เจ้าของได้พากันออกมาแฉพฤติกรรมถึงวีรกรรมแสบๆ ที่พวกมันได้พากันสร้างเอาไว้ บอกเลยว่าเห็นแล้วปวดหัวแทนจริงๆ ฮร่าๆ หมดกันหมอนที่มีราคาแพงแสนแพง แฮมสเตอร์ขี้ขโมย จับได้คาหนังคาเขาแบบนี้มีอะไรจะสารภาพไหม บอกได้คำเดียวว่าเละ เจอตัวหัวขโมยแล้ว แอบมานอนตีพุงอยู่ตรงนี้นี่เอง ทำมาตีหน้าซื่อคิดจะหนีความผิดสินะ ไม่รอดหรอกเอ็ง มันกำลังทำอะไรบางอย่าง ต้องจับตาดูเอาไว้ดีๆ ซะแล้ว บางทีสัตว์ก็อยากจะอาบน้ำแร่แช่น้ำนมเหมือนกันนะงัฟ พังพินาศแบบนี้ใครจะรับผิดชอบกันละเนี่ย ช่วยผมด้วยงับ ผมผิดไปแย้ววว เจ้าเหมียวที่แอบสะสมฝาขวดแล้วเอาไปซ่อนไว้ไต้โซฟา จนวันหนึ่งเจ้านายก็สามารถจับได้ หน้าหงอยเชียวนะ ทีตอนทำล่ะไม่คิด แฮร่ๆๆๆ ยิ้มรับความผิด ทำหน้าแบบนี้ไปทำอะไรไม่ดีมาใช่ไหม ไปขโมยของใครมาอีกล่ะเนี่ย อุ๊บส์!! ซวยละเราถูกจับได้อีกแล้ว ง่ะ!! หนูแค่จะยืมไปเล่นเฉยๆ นะ …
-
นักบินอวกาศ Apollo 16 แอบทิ้งรูปถ่ายไว้บนดวงจันทร์ เพื่อเป็นการระลึกถึงครอบครัวของเขา
การได้ไปเหยียบดวงจันทร์ถือว่าเป็นความฝันของใครหลายคน แน่นอนว่าด้วยโอกาสที่หายากแบบนี้ ใครๆ ก็ต้องอยากทำอะไรพิเศษๆ บางคนอาจเก็บหินดวงจันทร์ลงมา บางคนอาจถ่ายรูปเก็บไว้ แต่จะมีใครเหมือนเขาคนนี้ที่นำรูปถ่ายของครอบครัวไปทิ้งไว้บนดวงจันทร์ซะเลย ในวันที่ 20 เมษายนปี 1972 นักบินอวกาศประจำยาน Apollo 16 ชื่อว่า Charles Duke ได้ทิ้งรอยเท้าของเขาไว้บนดวงจันทร์ ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุเพียง 36 ปีเท่านั้น เขาจึงเป็นมนุษย์ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้เดินบนผิวของดวงจันทร์ แต่เขาไม่ได้ทิ้งไว้เพียงประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่เขายังทิ้งสิ่งอื่นไว้บนดวงจันทร์ด้วย สิ่่งที่เขาทิ้งไว้นั้นก็คือรูปถ่ายครอบครัวที่มีตัวเขา ภรรยา และลูกชายแสนน่ารักทั้งสองคนของเขา ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงอยู่บนดวงจันทร์จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งข้างหลังภาพที่เขาทิ้งไว้ยังมีข้อความที่เขาเขียนเอาไว้ว่า “นี่คือภาพครอบครัวของนักบินอวกาศ Charlie Duke จากดาวโลกผู้ที่มาเยือนดวงจันทร์ในวันที่ 20 เมษายน ปี 1972″ และนี่คือภาพก็อปปี้ของรูปที่เขาทิ้งไว้บนดวงจันทร์ โดยคนซ้ายสุดคือลูกชายคนโตของเขา Charles Duke III ที่ในตอนนั้นมีอายุ 7 ขวบ และเด็กชายในชุดสีแดงก็คือลูกชายคนเล็กของเขา Thomas Duke อายุ 5 ขวบในขณะนั้น โดยมีเขาและภรรยา Dorothy Meade Claiborne เป็นฉากหลังดั่งในภาพ “ผมวางแผนที่จะทิ้งรูปไว้บนนั้นตลอด” Duke ได้ให้สัมภาษณ์ …
-
Smile Mirror กระจกยิ้มสุดวิเศษ ที่จะยอมสะท้อนใบหน้าของผู้ใช้ ก็ต่อเมื่อคุณยิ้มให้มัน…
คุณเคยเห็นกระจกแห่งความสุขที่จะไม่ยอมสะท้อนใบหน้าจนกว่าจะยิ้มให้มันหรือไม่? ฟังดูแล้วมันอาจจะออกแนวขำๆ ไปหน่อย แต่ Berk Ilhan นักออกแบบชาวตุรกีได้เนรมิต Smile Mirror กระจกยิ้มสุดวิเศษที่ช่วยตรวจจับความเคลื่อนไหวบนใบหน้าขึ้นมาแล้ว สำหรับ Smile Mirror ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และช่วยสร้างช่วงเวลาดีๆ ให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งโดยเฉพาะ ซึ่งกระจกดังกล่าวจะมีลักษณะคล้ายกับแท็บเล็ตโดยมาพร้อมกับกล้องในตัว ถูกพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีตรวจจับการเคลื่อนไหวของใบหน้า และจะสะท้อนให้เห็นใบหน้าที่เต็มใบด้วยความสุขของผู้ใช้ ก็ต่อเมื่อคุณส่งยิ้มให้กับมันเท่านั้น ภายหลังจากที่ได้เห็นผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งคนหนึ่ง Berk ก็ได้ตัดสินใจสร้างผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมสร้างความสุข และเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยมะเร็งขึ้นมา ด้าน Berk ได้ออกมาเผยว่า “เธอบอกผมว่าในวันแรกหลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง มันทำให้เธอรู้สึกแย่ทุกครั้งเวลาที่ส่องกระจก และได้รับรู้ว่าตัวเองกำลังเป็นโรคมะเร็ง การแสดงออกทางสีหน้าของเรามันมีผลต่อความรู้สึกมาก ถ้าเราเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อบนใบหน้าของเราด้วยการยิ้ม ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดี และส่งผลให้ชีวิตมีความสุขขึ้น” เมื่อเรียนจบปริญญาโทในนิวยอร์ก Berk ก็ใช้เวลานานหลายสัปดาห์ในการเข้าไปสำรวจโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยมะเร็งในตุรกี ซึ่งเขาก็ได้เข้าไปพูดคุยกับทางแพทย์พร้อมทั้งผู้ป่วยด้วย “ผมได้เรียนรู้ว่ากำลังใจ และการสนับสนุนทางสังคม เป็นปัจจัยสำคัญที่จะสามารถเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี” Berk กล่าว และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้ทุ่มเวลานานกว่า 2 ปี เพื่อออกแบบ และพัฒนา Smile Mirror กระจกวิเศษที่จะช่วยสร้างกำลังใจ…
-
ง้อววว!! 20 ภาพอันเฟี้ยวฟ้าวของเหล่าเหมียว ที่พากันกลายร่างเป็นแมวนินจา แต่ละท่าคือสวย
คุณอาจจะมองว่าแมวเป็นสัตว์เลี้ยงธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ใครจะรู้ล่ะว่าความจริงแล้วพวกมันมีความพิเศษมากกว่าที่คิด เพราะนอกจากการเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนดีแล้ว ยังมีความสามารถในการสวมบทเป็นนินจาอีกด้วย สำหรับใครที่นึกภาพว่าแมวนินจาจะมีลักษณะอย่างไร? Hisakata Hiroyuki ช่างภาพชาวญี่ปุ่นคนนี้ เขาได้บันทึกภาพถ่ายช่วงวินาทีที่พวกมันได้กลายร่างเป็นนินจามาให้เราได้ชมกันแล้ว คุณ Hiroyuki ได้ตัดสินใจที่จะสละเวลาของตัวเอง… เพื่อจับภาพวินาทีสุดอัศจรรย์ของเหล่าแมวเหมียว ในขณะที่มันกำลังสวมบทเป็นแมวนินจา และภาพที่ออกมาก็ดูสมบูรณ์แบบอย่างที่เห็น นี่ไม่ใช่การถ่ายภาพที่ง่ายเลย เพราะเขาจะต้องรอเวลา และใช้ความว่องไวในการกดชัตเตอร์ จนออกมาเป็นภาพที่ดูสวยและสมบูรณ์แบบอย่างที่เห็น ด้านล่างนี้เป็นภาพถ่ายของเหล่าแมวเหมียวที่พากันออกมาแสดงตนว่า มันเกิดมาพร้อมกับการเป็นนินจานะ ว่าแล้วก็มารับชมกันได้เลย . . . . . . . . . . . . . นี่เป็นเพียงภาพถ่ายสุดเท่ส่วนหนึ่งของเหล่าแมวนินจาเท่านั้น หากคุณอยากจะรับชมภาพเจ๋งๆ ของพวกมันอีกล่ะก็ สามารถเข้าไปดูได้เลยในอินสตาแกรม photo.accent และทวิตเตอร์ sakata_77 ที่มา : boredpanda
-
ให้ไวพี่น้อง… The Sims 3 ลดแหลก 75% ไม่ใช่แค่เกมหลัก แต่ภาคเสริมมันลดหมดเลยด้วย!!
ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม เกม The Sims ก็ยังเป็นหนึ่งในเกมโปรดของใครหลายคนเสมอ แม้ปัจจุบันจะมาถึงภาค 4 แล้ว แต่ภาคแรกก็ยังถูกหยิบมาเล่นอยู่บ่อยครั้งไม่แพ้กันเลย เพราะความสนุกอันเป็นอมตะและดูดเวลาชีวิตของมันนี่แหละ!! สำหรับใครที่ยังไม่มีภาค The Sims 4 หรือรู้สึกว่าราคาประมาณ 1,300 บาทมันแพงเกินไป ขอบอกข่าวดีเลยว่าวันนี้เกม The Sim 3 ลดกระหน่ำให้คุณเป็นเจ้าของได้อย่างสบายกระเป๋าแล้ว ก็เพราะ Steam ไอ้เจ้าเว็บขายเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก (และคอยดูดเงินเราตลอดทั้งปีนี่แหละ) ตัดสินใจหั่นราคา The Sims 3 ลง 75% คิดดูสิคุณผู้โช๊มมมมม จาก 559 บาท เหลือเพียง 139 บาท บางคนกินข้าวมื้อเดียวยังเปลืองเงินมากกว่านี้อีก ฮ่าๆ นอกจากตัวเกมหลักแล้ว งานนี้ยังขนภาคเสริมมาลดราคาอีกมากมาย รวมถึงชุดบันเดิ้ลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น The Sims 3 Plus Showtime, The Sims 3 Plus…
-
เด็กหญิงชาวเนปาล ผู้เกิดมาพร้อมกับความสามารถพิเศษ “แยกแยะสีด้วยการดม”
Deepti Regmi อายุ 11 ปี ชาวเนปาล ได้ค้นพบความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของเธอที่ไม่มีใครเหมือนคือ เธอสามารถอธิบายสีได้อย่างชัดเจน และที่น่าทึ่งไปกว่านั้น นั่นก็คือสามารถบอกสีของสิ่งของที่ถืออยู่ได้ แม้กระทั่งปิดตา ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของเธอถูกเรียกในทางการแพทย์ว่า Synaesthesia เป็นการอาการที่ตอบสนองของประสาทสัมผัสต่อสิ่งต่างๆ ที่แตกต่างกัน เช่นเห็นภาพสี ในขณะที่ได้ยินเสียงเพลง มองสิ่งต่างๆ แล้วได้กลิ่นในจมูก หรือสามารถลิ้มรสชาติได้เมื่อได้ฟังเพลง การผสมผสานแบบ Cross Wire Sensory นี้ยังไม่ได้การรับรองการที่แน่ชัดจากทางการแพทย์ อาการ Synaesthesia เกิดขึ้นได้น้อยมากแต่ไม่ส่งผลใดๆ ต่ออวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย Deepti เชื่อว่าความสามารถพิเศษของเธอได้รับมาจากพระเจ้า ที่ได้ประทานความสามารถพิเศษมาให้เธอได้ใช้เพื่อช่วยเหลือคนอื่น ความสามารถในการดมกลิ่นเพื่อแยกแยะสีของเธอจะถูกนำไปศึกษาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่บกพร่องทางการมองเห็นอีกต่อไป “ฉันได้รับการตรวจสอบด้วยการปิดตาเพื่อไม่ให้มองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่แปลกที่ฉันสามารถแยกแยะสีของสิ่งของเหล่านั้นผ่านการดมได้ มันเป็นความสามารถที่พิเศษมากๆ และไม่มีใครเหมือน” Deepti กล่าว จากการวิจัยของสมาคมจิตวิทยาอเมริกันพบว่า อาการ Synaesthesia สามารถพบได้ในผู้หญิง 1 ใน 2000 คน ซึ่งสาเหตุของการเกิดอาการและวิธีการรักษายังไม่ปรากฏแน่ชัด แต่จากการศึกษาก็พบว่าส่วนหนึ่งมีผลมาจากปัจจัยทางพันธุกรรม อาการ Synaesthesia ไม่ได้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรก ยังมีนักดนตรีอีกจำนวนหนึ่งที่ประสบกับอาการนี้ เช่น Mary…
-
19 คนว่าง 2017 นิ่งเป็นต้องขยับ กับผลงานสุดล้ำ ที่บอกได้เลยว่าไม่ว่างจริงทำไม่ได้นะเนี่ย
ในโลกนี้มีคนอยู่ประเภทหนึ่งที่ว่างเป็นไม่ได้ ต้องหาเรื่องทำโน่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา เหมือนกับภาพเหล่านี้ที่ทำให้รู้ว่าว่าคนทำนั้นคงจะว่างมาก จนต้องยกให้เป็นคนว่าง 2017 1. รถติดนานเกิน ถึงกับสร้างนำอิโมจิบนแป้นพิมพ์มาสร้างเป็นรูปแบบนี้ได้ 2. เดทครั้งแรก และนี่คือถ้วยไอติมของชายหนุ่มที่ทำให้หญิงสาวรู้จักเขามากขึ้น 3. เมื่อสตาร์ฟสวนสัตว์มีเวลาว่าง เลยชวนกันคอสเพลย์แมวน้ำ 4. สตาร์ฟสวนสัตว์อีกแล้ว คราวนี้คอสเพลย์เต่า 5. เมื่อคุณครูว่างมากๆ จนสามารถสร้างศิลปะบนกระดานอันงดงามแบบนี้ได้ 6. การทำอาหารแบบมีศิลปะ 7. ทำครีมให้เป็นหน้าอัมบราฮัม ลินคอล์น ว่างอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีฝีมือด้วย 8. เมื่อคุณยายมีเวลาว่าง… 9. ระหว่างปลดทุกข์ อย่าปล่อยให้มือว่าง 10. เมื่อปิ้งไอเดียสร้างสรรค์ตอนมีเวลาว่าง 11. ป๊าดดด ทำแบบนี้ได้ต้องว่างแค่ไหน ถามใจเธอดู 12. อาหารเดิมๆ จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป แค่เปลี่ยนรูปทรง …
-
หญิงข้ามเพศเก็บสเปิร์มของตัวเองไว้เพื่อมีลูกของตัวเองในอนาคต ก่อนที่จะกลายเป็นผู้หญิงเต็มตัว
หนึ่งชีวิตของคนเราที่ได้เกิดมา การทำตามความฝันและความชื่นชอบของตัวเองเป็นอีกหนึ่งในเป้าหมายของชีวิตที่กำหนดไว้ว่าจะต้องทำให้ได้ เพื่อที่จะได้รู้สึกว่าการเกิดมาใช้ชีวิตในโลกนี้มีความคุ้มค่า Lea Membrey อายุ 20 ปี ชาวเมือง Auckland ประเทศนิวซีแลนด์ สาวข้ามเพศผู้ที่มีร่างกายและจิตใจเป็นผู้หญิงเต็มตัว แต่เพศสภาพโดยกำเนิดนั้นเป็นชาย เธอได้เล่าประสบการณ์ชีวิตของเธอว่า เธอได้ค้นพบว่าตัวเองเป็นเกย์ตั้งแต่อยู่มัธยม แต่เธอไม่ได้ชอบผู้ชายเหมือนเกย์คนอื่น แต่เธอต้องการที่จะเป็นผู้หญิงมากกว่า Lea ในวัยเด็ก นอกจากนี้ Lea ยังโดนกลั่นแกล้งสารพัดจากเพื่อนร่วมชั้นด้วยการนำป้ายมาติดไว้ว่าเธอเป็นเกย์ และมันก็ยังฝังลึกอยู่ภายในจิตใจของเธอตลอดมา เธอต้องทุกข์ทรมานภายในจิตใจอยู่เสมอว่า เธอต้องการที่จะเป็นผู้หญิงจริงๆ หรือเปล่า ความรู้สึกของเธอเริ่มสับสนบวกกับสภาพร่างกายที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์มากขึ้น สุดท้ายเธอก็เลือกทำตามหัวใจของตัวเอง เธอได้ทุ่มเทเงินในการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อให้ตัวเองมีความคล้ายผู้หญิงที่สุดทั้งเสริมหน้าอก เสริมริมฝีปาก ฉีดโบท็อกซ์ กำจัดหนวดขนด้วยเลเซอร์ เป็นจำนวนเงินประมาณมากกว่า 228,500 บาทจนสวยเช้ง อย่างกับผู้หญิงจริงๆ นอกจากนี้ด้วยความที่มีจิตใจเป็นผู้หญิงแบบเต็มเปี่ยม เธอคิดไว้ว่าจะมีลูกตัวน้อยๆ สักคนในอนาคตและเด็กที่จะกำเนิดมานั้นก็ต้องเป็นลูกที่มี DNA ของเธอ เธอเชื่อว่าในอนาคตความก้าวหน้าทางการแพทย์จะช่วยให้เธอมีลูกได้ Lea…
-
ศิลปินญี่ปุ่น วาดภาพเหมือนสุดน่าทึ่ง!!! เหมือนจริงยันพื้นผิววัตถุ ใช้เวลาวาดกว่า 240 ชั่วโมง
งานศิลปะนั้นล้วนมีรูปแบบที่แตกต่างกันมากมาย บางคนก็รักที่ระบายสีน้ำ บางคนก็ชอบที่จะปั้น แต่มีศิลปินญี่ปุ่นอยู่คนหนึ่งที่เขารักในการวาดภาพเหมือน ซึ่งมันเหมือนชนิดที่ว่าแยกไม่ออกว่าว่านี้คือภาพถ่ายหรือภาพวาดกันแน่!! ศิลปินชาวญี่ปุ่นคนนี้มีชื่อ Kohei Ohmori เขาได้สรรค์สร้างภาพเหมือนที่น่าทึ่งเอามากๆ เพราะถ้าดูแบบเผินๆ ยังไงมันต้องตั้งเป็นรูปถ่ายจากกล่องดีๆ แน่ๆ เพราะความละเอียดสุดๆ ของมันทำให้เราจับผิดแทบไม่ได้เลยล่ะ ดูอย่างรูปภาพน็อตตัวนี้สิ มันทำให้เขาโด่งดังเอามากๆ เพราะการเก็บรายละเอียดแบบจัดเต็มที่ไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรนอกจากมันคือ “พรสวรรค์” ชัดๆ ทวิตเตอร์นามว่า おおもりしずか ได้โพสต์ภาพเหมือนเหล่านี้ และเล่าว่าเป็นฝีมือของน้องชายคนเล็กของเธอนั่นเอง โดยเธอได้กล่าวถึงวิธีการสร้างผลงานที่น่าตื่นตาตื่นใจ และในบางภาพน้องชายของเธอใช้เวลาวาดกว่า 240 ชั่วโมง เลยทีเดียว ชาวเน็ตต่างๆ ก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อภาพวาดของ Kohei Ohmori ว่า “นี่มันไม่ใช่ความบ้าของเขาหรอกนะ สิ่งที่เขาทำมันสามารถสร้างเงินจำนวนมากได้เลยทีเดียว” “ฉันว่านี่มันคือความบ้าคลั่งของเขา ที่วาดพื้นผิวของโลหะออกมาได้เนียนเป๊ะ! ขนาดนี้” “เขาต้องมีทั้งทักษะการวาด สายตาที่ดี และความอดทนมากๆ กว่าจะได้ผลงานเหล่านี้” ความเงางามและผิวของวัสดุเป็นอะไรที่สมจริงมากๆ ขนาดภาพคนยังทำออกมาได้รู้สึกถึงผิวหนังและแววตาที่เหมือนดูมีชีวิตจริงๆ แบบนี้ไม่ติดตามไม่ได้แล้วนะศิลปินคนนี้ ตามไปเลยที่ kohei6620 ที่มา en.rocketnews24
-
หมอความสวยความงามในจีน ใช้ ‘ปลิง’ มาเกาะบนใบหน้า หวังเพื่อให้มันดูดสิวออกไป
เพื่อนๆ หลายคนคงจะเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรื่องความงามกันมาบ้าง ว่าเหมือกหอยทากสามารถที่ใช้รักษาและบำรุงผิวพรรณของเราได้ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องแปลกอยู่ไม่น้อย แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าในตอนนี้ ก็ได้มีเทรนด์ความงามอันใหม่จากจีนที่ใช้เจ้าสัตว์ตัวน้อยๆ แบบนี้มาบำรุงผิวหน้าเช่นกัน ซึ่งนั้นก็คือ “ปลิง!!!!” เรื่องความงามเป็นเรื่องที่ตัดไม่ขาดจากผู้หญิงเลยก็ว่าได้ สาวๆ จึงต้องสรรหาสารพัดวิธีมาเสกผิวให้กลับมาดูกระจ่างใจ ไม่มีสิวเหมือนตอนยังเป็นวัยแรกรุ่น อย่างสาวจีนคนนี้ที่เธอได้เข้ารับการบำรุงผิวหน้า โดยการนำปลิงมาเลื้อยขึ้นๆ ลงๆ ดึ้บๆ ให้ผู้ที่พบเห็นสยิวกิ้วไม่น้อย แต่สาวๆ ก็ได้อ้างว่า วีธีนี้แหละเป็นหนทางสู่ผิวสวยไร้สิว เพราะเจ้าปลิงทั้งหลายจะช่วยดูดสิวบนใบหน้าให้หน้าใสปิ๊งๆ เลยล่ะ เขาว่ากันว่าทริคการใช้ปลิงมาเกาะบนใบหน้านั้น เป็นเคล็ดลับความงามมากว่า 1,000 ปี แล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องผลข้างเคียงหรือผลเสียใดๆ จากการเข้าคอร์สหน้าใสกับปลิงพวกนี้ นอกจากที่มันจะช่วยดูดสิวได้แล้ว ช่างเสริมสวยยังกล่าวว่ามันสามารถลบร่องรอยก่อนวัยของป้าๆ ได้ และคุณน้าในคลิปก็ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่า “มังช่วยให้อั๊วมีผิวที่นุ่งนวงขึ้นจริงๆ เลยน้า” ทางด้าน National Health Service ก็ได้ออกมายืนยันว่าไอ่เจ้าปลิงพวกนี้มันนำมาใช้ในทางการแพทย์จริงๆ และมันก็ช่วยในเรื่องการศัลยกรรมความงามต่างๆ เพื่อช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของโลหิตในบริเวณเนื้อเยื่อหรือผิวหนัง แต่อย่างไรก็ตามมันก็มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเช่นกัน ดังนั้นช่างที่ลงมือทำให้ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับศาสตร์นี้แบบลึกซึ้งด้วย ดังนั้นเด็กๆ อย่าไปจับปลิงตามคลองหลังบ้านมาแปะหน้าเองนะจ๊ะ ที่มา dailymail
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นพิสูจน์ให้เห็นว่า ‘แมวเหมียว’ กับ ‘ทีวีราคาแพง’ ควรอยู่ให้ห่างกันเป็นที่สุด
ความน่ารักของเจ้าเหมียว คงจะไม่มีใครเชื่อว่ามันมีพลังอำนาจในการทำลายล้างสูงมาก ถึงขั้นที่จะวางแผนเพื่อยึดครองโลกกันเลยทีเดียว มีกฎที่สำคัญที่สุดในการเลี้ยงแมวอยู่ข้อหนึ่งคือ อย่าปล่อยให้แมวอยู่ตามลำพังเด็ดขาด มิเช่นนั้น บ้านของคุณอาจจะพบกับจุดจบที่คาดไม่ถึง ซึ่งชาวเน็ตญี่ปุ่นก็ได้มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับแมว ซึ่งแต่ละรายนั้นก็ได้รับความเจ็บแสบจากเหล่าบรรดาคุณเหมียวทั้งหลายที่ใช้อำนาจในการทำลายล้าง ให้ทุกสิ่งในบ้านพังพินาศย่อยยับโดยเฉพาะ ทีวีขนาดใหญ่ เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นสำคัญที่ไม่ว่าบ้านไหนก็มี โดยเจ้าเหมียวจะล็อกเป้าหมายและทำการจู่โจมทันทีที่มนุษย์ไม่อยู่บ้าน ซึ่งผลที่ได้ตามมานั่นก็คือ… พวกมันคงคิดว่า ทีวีเป็นที่ฝึกประลองกรงเล็บสินะ เห็นแล้วปวดหัวแทนเจ้าของเลย ส่วนเครื่องนี้แถมฉี่ใส่เครื่องไปเลย นอกจากนี้มันก็คงคิดว่า บนทีวีเนี่ยแหละนอนสบายที่สุดแล้ว อ๊าาาาา ใครทำฮะ ไม่มี๊ . ซึ่งปัญหาเล่านี้ทำเอาเจ้าของแมวๆ ทั้งหลายปวดหัวไปตามๆ กันถึงความบ้าพลังของเจ้าเหมียวทั้งหลาย จึงต้องมีมาตรการลงโทษกันให้เข็ดหลาบ นั่งยอมรับผิดอยู่ตรงนี้ 1 ชั่วโมง จับขังคุกชั่วชีวิต แต่นี่ทำไรข้าไม่ได้หรอกเจ้ามนุษย์ ขนาดทีวีข้ายังพังมาแล้วเลย ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แมวก็คือแมวอยู่วันยังค่ำ ถึงเราจะโกรธมันมากแค่ไหน แต่เจอความมารยาของมันเข้าไปก็ใจอ่อนกันซะทุกราย สมแล้วกับการเป็นทาสแมวจริงๆ ที่มา en.rocketnews24
-
เด็กหนุ่มวัย 18 ปี กลับมาเซอร์ไพรส์วันเกิดแม่ที่แท้จริงของตัวเอง หลังถูกรับเลี้ยงไปตั้งแต่แบเบาะ
โลกเปรียบดังโรงละครขนาดใหญ่ที่มนุษย์แต่ละคนต้องได้รับบทละครของตัวเอง ชีวิตของแต่ละคนเกิดมาไม่เหมือนกัน บางคนเกิดมารวยล้นฟ้า แต่อีกคนกลับจนจนแทบไม่มีข้าวกิน แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่สามารถกำหนดทิศทางของชีวิตของเราได้นั่นก็คือตัวเรานั่นเอง เรื่องราวชีวิตที่เป็นเหมือนดั่งละครของ Tammy Oswalt คุณแม่ผู้ที่ต้องตัดสินใจยกลูกชายของตัวเองเพื่อให้ผู้อื่นนำไปอุปการะ เมื่อ 18 ปี ที่แล้วหลังจากที่คุณ Tammy รู้ตัวว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ เธอก็ประสบปัญหามรสุมชีวิต ทุกสิ่งพังทลายลงเมื่อคู่ชีวิตของได้ทิ้งไป พร้อมกับลูกสาวทั้งสอง เธอต้องสูญเสียทั้งงานและเกือบจะกลายเป็นคนไร้บ้าน “รู้ดีว่า ครอบครัวก็ต้องอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ฉันไม่สามารถรักษามันไว้ได้” Tammy กล่าว หลังจากนั้นไม่นานเธอก็คลอดลูกชายออกมาแล้วตั้งชื่อว่า Bruce คุณแม่ต้องตัดใจยกลูกของตัวเองให้คนอื่นเลี้ยงเพื่อไม่ให้ลูกน้อยต้องมาลำบากด้วยกัน เด็กชาย Bruce ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Dylan ในระยะแรกเธอก็ยังติดต่อกับแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงลูกชายเธออยู่เสมอ แต่ระยะหลังมาเธอก็เลือกจะออกจากชีวิตลูกชายของเธอไปเงียบๆ ทั้งที่ในใจก็ยังรักอยู่ เธอหวังไว้ว่า หากมีโอกาสก็คงได้กลับมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง เวลาก็ผ่านไป 17 ปี Dylan ก็ได้พบกับ Sammy Hewett พี่สาวของเขาผ่านทางโลกออนไลน์ พอได้รับรู้เรื่องราวแล้วทั้งสองก็วางแผนที่จะเซอร์ไพรส์แม่อย่างเงียบๆ ในวันเกิดของ Tammy ลูกสาวก็ได้เซอร์ไพรส์ด้วยการพาไปดินเนอร์พร้อมกับของขวัญวันเกิดที่เธอตามหามานานกว่า…
-
ชมไอเดียการถ่ายภาพแบบเก๋ๆ เก็บไว้ถ่ายกับชาวแก๊งตอนไปเที่ยว ยังไงก็ปังแน่อนอน!!
ภาพถ่าย เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถบันทึกความทรงจำ สิ่งที่เกิดขึ้น บรรยากาศ และอารมณ์ในขณะนั้น หลายๆ คนจึงใช้การถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานว่าครั้งหนึ่งเคยเกิดอะไรขึ้น ขณะที่กำลังถ่ายภาพนี้ การถ่ายภาพร่วมกับเพื่อนๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ใช้เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างมิตรภาพ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เรากับเพื่อนได้บันทึกความทรงจำด้วยกัน แต่ถ้าเป็นภาพธรรมดาๆ มันก็ดูเบสิคเกินไป จะถ่ายรูปกับเพื่อนทั้งที ก็ต้องจัดหนัก จัดเต็มกันหน่อย เรื่องแบบนี้มันน้อยหน้ากันได้ที่ไหน จับเพื่อนมาทำเป็นเบอร์เกอร์ซะเลย ปล่อยพลังคลื่นเต่า ย๊าาาา ใครมีเพื่อนหรือแฟนที่ชอบเล่นโยคะท่ายากๆ ก็จัดไป จัดไปอีกท่า กว่าจะได้รูปนี้ก็ต้องอาศัยความไวกันหน่อย แต่ก็คุ้มค่า ถ่ายรูปแปรเป็นตัวอักษรต่างๆ แบบนี้ก็เจ๋ง รูปนี้อาจจะดูฮาร์ดคอร์ไปหน่อย แต่รับรองว่าเรียกยอดไลค์ได้พุ่งกระฉูด จะกินแล้วน๊าาาา เล่นใหญ่ จัดหนัก จัดเต็มเพื่อรูปที่สวยงาม ท่ายอดฮิตตอนไปทะเล ที่หลายๆ คนชอบทำกัน เพียงปรับมุมกล้อง ก็ได้รูปเจ๋งๆ ไว้อวดชาวบ้านแล้ว บางครั้งก็ต้องขอบคุณป้าแถวนั้นช่วยเป็นองค์ประกอบในการถ่ายรูป ตั้งกล้องไว้ แล้วนับ…
-
ชมภาพ “เปลือย” สุดชิค แทนที่นางแบบจะโป๊ แต่ตากล้องกลับโป๊แทน!!
โลกเรานี้มีงานภาพถ่ายอยู่หลากหลายชนิด แต่เหมียวคิดว่าภาพที่มันดึงดูดที่สุด โดยเฉพาะผู้ชายก็คงจะเป็นภาพแนว Nude หรือ เปลือย (แบบเป็นศิลปะ) นั้นเอง เหมียวก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นหนึ่งในนั้นด้วยเหมือนกัน อิอิ แต่จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อคนที่เปลือยกลับไม่ใช่นางแบบหรือนายแบบ แต่กลับเป็นตากล้องเองที่ต้องโป๊ แล้วไปถ่ายรูปคนอื่น ช่างภาพคนนี้มีชื่อว่า Trevor Christensen ได้ทำโปรเจ็คNude Portraits นี้ขึ้นมา โดยให้คนอื่นใส่ชุดธรรมดานี่แหละ แต่เป็นตัวเขาเองที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอะไรเลย ส่วนตัวชอบปฏิกิริยาของแต่ละคนจริงๆ ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะเป็นยังไง (จากในภาพก็จะมีคนที่เป็นเพื่อน พ่อ แฟน(รูปแรก) รวมถึงผู้กำกับและโปรดิวเซอร์อีกด้วย) คนนี้เป็นแฟนนะ (ท่าทางจะชินแล้ว) คุณพ่อที่ดูเขินๆ ลองดูปฏิกิริยาของคนอื่นๆ สิ . . . . . . . ที่มา aplus
-
หมาน้อยลอยคอกลางทะเลกว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือที่บังเอิญผ่านมาพอดี
เมื่อเราไปล่องเรือกลางทะเลเราอาจจะได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่แปลกหูแปลกตามากมายอย่างโลมาขึ้นมาหายใจบนน้ำ หรือแมวน้ำที่อยากจะมาเล่นด้วย แต่ใครจะไปคิดล่ะว่ากลางทะเลจะมีหมาลอยน้ำที่รอการช่วยเหลือรออยู่! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่อ่าวเนเปิล เจ้าหมาน้อยผู้โชคร้ายตัวนี้มีชื่อว่า Noodle เกิดพลาดท่าพลัดตกลงจากเรือเฟอรี่ของนาย Mario Di Meglio ที่กำลังแล่นเรือกลับบ้าน เมื่อเขาคนนี้เห็นเจ้าหมาตกลงในทะเลก็ได้ตะโกนบอกลูกเรือว่ามีหมาตกน้ำ แต่พวกลูกเรือกลับคิดว่าเจ้า Noodle นั้นได้จมน้ำไปแล้วเลยตัดสินใจที่จะไม่หยุดเรือและเดินทางต่อไป แต่ก็เป็นโชคดีของเจ้า Noodle ที่วันนั้นบังเอิญมีสมาชิกของชมรมแล่นเรือ RYCC Savoia ได้ผ่านมาเห็นพอดีโดยนาย Massimiliano Cappa และลูกเรือของเขาได้เห็นเจ้าหมาน้อยพยายามลอยตัวเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองไว้ขณะที่กำลังอ่อนแรงลงเรื่อยๆ โดยเขาคาดว่าเจ้าลูกหมาตัวนี้น่าจะลอยคอมาแล้วเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง เมื่อเห็นดังนั้น พวกเขาจึงพยายามเรียกเจ้าหมาให้เข้ามาใกล้ๆ เรือเพื่อที่จะได้ช่วยเหลือได้ และดูเหมือนกับว่ามันจะเข้าใจในสิ่งที่มนุษย์กำลังจะช่วยเหลือมัน โดยมันก็ได้ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ๆ เรือและได้รับการช่วยเหลือในที่สุด หลังจากที่พวกเขาช่วยเจ้าลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ตัวนี้ไว้ได้ก็พบว่า ขาของมันเกือบที่จะใช้งานไม่ได้ด้วยเหตุจากความเย็นของน้ำ สมาชิกคนหนึ่งของทีมนี้จึงได้กอดมันไว้ตลอดเวลาเพื่อจะให้ความอบอุ่นแก่มันนั่นเอง และในที่สุดเจ้า Noodle ก็ได้กลับสู่อ้อมอกของเจ้าของมันอีกครั้ง โดยเจ้าของได้อธิบายว่าในตอนที่เจ้าหมาตัวนี้จะตกน้ำ เขาได้มัดมันไว้แล้วแต่ด้วยความแสนซนของมันก็ได้ดิ้นจนหลุดจากเชือกทำให้พลัดตกน้ำ “ผมขอขอบคุณผู้ช่วยเหลือหมาของผมจริงๆ ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสกอดมันอีกครั้ง” Mario เจ้าของหมาตัวนี้ได้กล่าวขอบคุณไว้ทิ้งท้าย นาทีชีวิตของเจ้า Noodle ที่ได้รับความช่วยเหลือ ที่มา: inspiremore
-
ช่างภาพใช้เวลา 4 ปี ตามถ่ายหญิงสาว 60 ประเทศ เพื่อแสดงถึงความงามในทุกรูปแบบ
ผู้หญิงทุกคนมีความงดงามอยู่ในตัวเอง ถึงแม้ว่าความงามบนใบหน้านั้นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละความนิยม แต่สิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้นั่นก็คือ ความงามในจิตใจ Mihaela Noroc ช่างภาพชาวโรมาเนีย ผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางออกไปท่องเที่ยวทั่วโลก เพื่อทำในสิ่งที่เขารักและชื่นชอบเป็นที่สุดไปพร้อมๆ กัน นั่นก็คือการออกไปถ่ายรูปรอบโลกนั่นเอง เขาเอาความฝัน ความรักเก็บใส่กระเป๋าพร้อมกล้องถ่ายรูปอีกหนึ่งตัว เดินทางไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อชื่นชมความงามของประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ หรือว่าสาวงามแต่ละประเทศ Mihaela ใช้เวลาถึง 4 ปี ในการเดินทางไปยัง 60 ประเทศ เพื่อถ่ายความงามของผู้หญิงที่แตกต่างกันไป ในโปรเจกต์ที่ชื่อว่า “The Atlas of Beauty” “สำหรับผม ความงามไม่ขึ้นอยู่กับอายุ สีผิว หรือค่าความนิยมของแต่ละสมัย ความงามนั้นสามารถหาได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นแอฟริกาหรือยุโรป ในหมู่บ้านหรือบนตึก รอยยิ้ม กิริยามารยาท สายตา ริ้วรอย และเรื่องรามของหญิงเหล่านั้น ก็สามารถบ่งบอกความงามที่มาจากภายในจิตใจ” Mihaela กล่าว โดยผลงานของเขาถูกรวบรวมไว้ในหนังสือภาพและเพจ The Atlas of Beauty สามารถเข้าไปชมความงามของหญิงสาวแต่ละประเทศที่ Mihaela ได้รวบรวมไว้กันได้เลย 1. Kathmandu ประเทศเนปาล…
-
โคตรเจ๋ง! หมู่บ้านแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นทำวีดีโอเกมซอมบี้เสมือนจริง เพื่อหาคนมาอยู่เพิ่ม
ด้วยความที่ผู้คนต่างพากันไปหางานทำในเมืองใหญ่แล้วไม่กลับมาอยู่บ้านเกิดอีกเลย จึงทำให้หมู่บ้านที่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีคนอยู่น้อยลงทุกวัน หมู่บ้านแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลยหัวใสจัดทำวีดีโอที่จำลองผู้คนในหมู่บ้านให้อยู่ในรูปแบบเกมซอมบี้ซะเลย โดยหมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อว่า Kosugemura เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัด Yamanashi โดยในหมู่บ้านแห่งนี้มีผู้อาศัยอยู่ราวๆ 700 คนได้รวบรวมคนในหมู่บ้านเพื่อจัดทำคลิปวีดีโอเกมขึ้นมาที่จำลองเหตุการณ์เกมที่ต้องเอาชีวิตรอดในหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยซอมบี้โดยมีฉากหลังเป็นพื้นที่ในหมู่บ้าน และใช้คนจริงๆ แทนตัวละครที่อยู่ในเกม ดูตัวละครซะก่อน น่ารักป่ะล่ะ ใช้เมืองเป็นฉากในเกมอย่างเท่ มีสู้กับหมีด้วยนะ น่ากลัวมากกก ซึ่งวีดีโอเกมนี้ในตอนจบตัวละครที่เราเล่นจะตายด้วยน้ำมือของซอมบี้ตัวหนึ่งและเมื่อออกไปนอกบ้านก็เจอกับซอมบี้จริงๆ และวีดีโอนี้ก็ได้เชิญชวนถึงคนดูว่าหากอยากเล่นต่อในชีวิตจริง หมู่บ้านแห่งนี้ได้จัดหมู่บ้านซอมบี้ขึ้นจริงๆ ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ หากใครอยากสัมผัสบรรยากาศที่สยดสยองล่ะก็ รับรองได้ว่าที่นี่จัดเต็มเหมือนในวีดีโออย่างแน่นอน ลองชมวีดีโอสุดน่ากลัวนี้กัน ที่มา: en.rocketnews24, こ、こすげぇー ~小菅村情報発信中!~
-
โป๊ะเช๊ะ! ตำรวจพบโรงงานผลิตโคเคนเพราะลูกชายโทรไปแจ้งว่า “พ่อไม่เหมือนปกติ”
ขึ้นชื่อว่าเป็นยาเสพติดย่อมเป็นพิษเป็นภัยต่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง แม้แต่เด็กที่ไม่ได้เสพยังทนไม่ไหวโทรไปบอกตำรวจว่า “พ่อไม่เหมือนปกติ” จนตำรวจมาค้นบ้านแล้วเจอโรงงานโคเคนเลยทีเดียว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษจากการมีหนูน้อยคนหนึ่งได้โทรศัพท์ไปหาตำรวจว่าพ่อสูดผงสีขาวๆ และดื่มเหล้าตำรวจจึงได้เข้าตรวจค้นที่บ้านของหนูน้อยคนนี้ซึ่งมีเจ้าของคือ Barry Dermott พ่อของเด็ก การตรวจค้นในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบปืนลูกโม่.38 ซ่อนอยู่ในตู้ใต้บันไดและส่วนผสมในการทำโคเคนต่างๆ อย่างกรดบอริกอีก 18 กิโลกรัม น้ำตาลซูโครส และผลจากการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่ารอยนิ้วมือบนปืนนี้เป็นของ Thomas Rowan ชายอายุ 24 ปี โดยทนายความของ Dermott ได้บอกว่าลูกความของเขาเสพติดโคเคนและมีหนี้สินมากมายและด้วยเหตุนี้เขาจึงทำบ้านของตัวเองให้เป็นโรงงานผลิตยารวมทั้งเป็นที่เก็บอาวุธซะเลย และต่อมาระหว่างให้การกับตำรวจเขาก็ได้สารภาพว่าเขามักใช้โคเคนและดื่มเหล้าในเวลาหลังเลิกงาน แต่ปฏิเสธที่จะบอกถึงชื่อลูกค้าที่มาซื้อยาจากเขา ซึ่งโทษที่ Dermott ได้รับคือจำคุกเป็นเวลากว่า 6 ปี 2 เดือนในข้อหาใช้สถานที่เป็นโรงงานผลิตยาเสพติด และ Rowen ก็โดนจำคุกเช่นกันในข้อหาครอบครองอาวุธผิดกฎหมายเป็นเวลากว่า 7 ปี เลยทีเดียว งานนี้บอกเลย เด็กเป็นพระเอกนะเนี่ย ฮ่าๆ ที่มา: mirror
-
สุดซึ้ง พี่สาวตั้งแคมเปญหาคนช่วยส่งการ์ดอวยพรวันเกิดให้น้องชายออทิสติกที่ไม่มีเพื่อนเลย
ความรักของพี่น้องดูเหมือนจะเป็นความรักที่น่าประทับใจจริงๆ เหมือนเหตุการณ์นี้ที่พี่สาวพยายามจะตั้งแคมเปญให้ผู้คนช่วยส่งการ์ดอวยพรวันเกิดให้กับน้องชายที่เป็นโรคออทิสติก เหตุการณ์สุดน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นในเมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อ James Weir ผู้ป่วยเป็นโรคออทิสติกกำลังจะมีวันเกิดมีอายุครบ 21 ปีในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ แต่ด้วยโรคที่เขาเป็นนี้ทำให้เขามีเพื่อนที่ไม่มากนักและทำให้เข้าสังคมไม่เก่งนัก โดย Lucy พี่สาวของ Jame บอกว่าเขามักจะมีความว้าเหว่เกิดขึ้นเพราะไม่มีเพื่อน และเธอก็ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าการเห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มบนวันที่แสนวิเศษของเขา Jame และพี่สาวทั้งสองคน Lucy(คนซ้ายมือ) Rachel(คนกลาง) และด้วยเหตุนี้เธอจึงโพสต์ในเฟซบุ๊กเชิญชวนให้ผู้คนช่วยส่งการ์ดอวยพรวันเกิดมาเพื่อสร้างเซอไพรส์ให้แก่น้องชายของเธอ “เขาเป็นคนขี้วิตกกังวลกับการเข้าสังคมมาก เขาจึงมีเพื่อนไม่มากนัก” “และนี่ก็ใกล้วันเกิดเขาเข้ามา ฉันจึงเกิดไอเดียนี้ขึ้นมาเพื่ออยากจะให้น้องชายของฉันมีความสุขที่สุดในวันนั้น” Lucy กล่าว “ที่ฉันตัดสินใจทำแบบนี้ก็เพราะว่าเขาเป็นน้องชายคนเล็กของบ้านและมันเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจฉันทุกวันที่ว่า เขาเป็นคนไม่มีเพื่อนซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการเป็นอย่างมากรวมทั้งการมีแฟนก็ด้วย” “ถึงแม้จะมีคนส่งการ์ดมาให้เขาเพียงน้อยนิด แต่ฉันคิดว่านั่นน่าจะทำให้น้องชายฉันดีใจจนแทบจะบินได้เลยล่ะ” Lucy กล่าวทิ้งท้าย ความรักของพี่น้องนี่มีพลังมากจริงๆ ทำเอาเหมียวซึ้งเลยนะเนี่ย ที่มา: dailymail
-
เจ้าจระเข้พยายามแหวกว่ายเข้าไปกลางฝูงฮิปโป โดนใส่ซะยับก่อนจะรอดชีวิตมาได้แบบงงๆ
ใครจะไปคิดเมื่ออยู่ๆ เราไปเที่ยวสวนสัตว์แล้วกำลังดูสัตว์ต่างๆ ไปเพลินๆ แต่อยู่ๆ ก็มีสัตว์ตัวหนึ่งกำลังโดนรุมอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนเจ้าจระเข้ตัวนี้ที่ดันหลงเข้าไปในฝูงฮิปโปกว่า 30 ตัว! โดยผู้เห็นเหตุการณ์นี้คือนาย Harish Kumar อายุ 71 ปีที่กำลังท่องเที่ยวอยู่กับกลุ่มทัวร์ชาวฮอลแลนด์อีก 18 คนโดยไกด์ได้นำเขาไปที่สระน้ำของเจ้าฮิปโป ซึ่งในตอนแรกๆ ก็ไม่มีอะไรแต่ภรรยาของเขาเห็นว่าในน้ำต้องมีอะไรที่ไม่ปกติแน่ๆ ก็เลยชี้ให้เขาดูและเขาก็ได้บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ ชาละวันโดนเข้าแล้วว ภาพที่ได้เห็นคือมีเจ้าจระเข้ตัวหนึ่งดันหลงเข้าไปในเขตของฮิปโป พวกมันเลยพยายามจะไล่เจ้าจระเข้ให้ออกไปจากพื้นที่ในส่วนของมัน โดยพวกมันเรียกได้ว่ารุมสกรัมเจ้าจระเข้แทบจะไม่มีชิ้นดีเลยทีเดียว เดี๋ยวเจอฟาดหาง แต่ในที่สุดเจ้าจระเข้ไม่รู้ใช้วิชานินจาที่ไหนพาตัวเองออกมาจากวงล้อมของเหล่าฮิปโปออกมาได้อย่างปลอดภัย สร้างเสียงฮือฮาให้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้มากทีเดียว มาดูวิธีเอาตัวรอดเต็มๆ ของเจ้าจระเข้ตัวนี้ได้ที่นี่ ที่มา: Kruger Sightings
-
18 คดีฆาตกรรมอันแสนน่ากลัวในอดีต ที่คุณอาจไม่คิดว่า มนุษย์จะโหดร้ายได้เพียงนี้!?
การฆ่าคนมีให้เห็นอยู่ในทุกยุคทุกสมัย ซึ่งบางทีอาจจะมาจากความเกลียดชังหรืออาจจะมาจากความผิดปกติทางจิตใจก็ตามแต่ และนี่คือ 18 คดีฆาตกรรมในอดีตที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรา ลองไปดูกันดีกว่าว่าจะมีความโหดร้ายอย่างไร Amelia Dyer ฆาตกรที่ชอบฆ่าเด็ก Dyer ฆาตกรผู้ที่ชอบฆ่าเด็กเป็นชีวิตจิตใจโดยเธอจะใช้เงินจ่ายให้กับสถานสงเคราะห์ต่างๆ ที่มีเด็กกำพร้า เพื่อนำเด็กเหล่านั้นมาฆ่าและไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเธอฆ่าเด็กไปทั้งหมดกี่คน แต่ประมาณการณ์กันว่าน่าจะมีถึง 400 ชีวิตเลยทีเดียว โดยเธอถูกประหารชีวิตในปี 1896 คดีระเบิดโรงเรียนในปี 1927 Andrew Kehoe ชายชาวมิชิแกนได้ทำเรื่องสะเทือนขวัญขึ้นกับโรงเรียนแห่งหนึ่ง เมื่อเขาได้วางระเบิดที่เหลือจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่โรงเรียน หลังจากนั้นเขาก็ได้ใช้ปืนไรเฟิลระดมยิงต่ออีกชุดหนึ่ง ซึ่งนี่เป็นคดีระเบิดโรงเรียนแห่งแรกในประเทศอเมริกา คดีฆาตกรรม William Desmond Taylor Taylor ผู้มีอาชีพเป็นผู้กำกับหนังถูกพบเป็นศพจากกการโดนยิง ซึ่งคดีนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครเป็นผู้ลงมือแต่ หลักฐานทั้งหมดได้ชี้ไปยัง Mary Miles Minter อดีตนักแสดงและคนรักเก่าของเขา Dr. Oliver Haugh ผู้ฆ่าครอบครัวด้วยการเผาบ้าน Oliver ฆ่าพ่อแม่พี่น้องของเขาทั้งหมดด้วยการขังทั้งหมดไว้ในบ้านและจุดไฟเผา อีกทั้งเขายังเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าผู้หญิงมาแล้วหลายศพ รัฐโอไฮโอจึงตัดสินเขาด้วยการการประหารชีวิตด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้าในปี 1905 ศพ 12 ศพที่ Cleveland…
-
ทาสแมวมาทางนี้!! สวรรค์สำหรับคนรักแมวเพราะที่นี่มีเจ้าสุดกวนให้ได้เล่นมากกว่า 600 ตัว
สำหรับคนรักสัตว์สุดกวนอย่างแมว เชื่อว่าคงไม่มีอะไรที่จะทำให้ฟินไปกว่าการที่มีเจ้าขนปุยมาเดินยั้วเยี้ยพันแข้งพันขาเต็มไปหมด และวันนี้เรามีสถานที่ที่จะทำให้กลายเป็นสวรรค์ของคนเหล่านี้เพราะที่นี่มีแมวให้เล่นได้มากกว่า 600 ตัวเลยทีเดียว ที่ที่ว่านี้ก็คือ Lanaicatsanctuary หรือสถานสงเคราะห์แมวแห่งเมือง Lanai ตั้งอยู่ที่เกาะ Hawaii ซึ่งสถานที่นี้เป็นที่รับเลี้ยงแมวที่ไม่มีเจ้าของให้มีชีวิตที่ดีขึ้นโดยที่นี่มีอาหารที่ดีให้แก่แมว รวมทั้งยังมีสัตวแพทย์คอยฉีดวัคซีนให้แก่แมวทุกตัวที่นี่ และหากใครไปเที่ยวชมแล้วถูกใจแมวตัวไหนก็สามารถรับไปเลี้ยงได้ด้วยแหละ เอ้อออ นอกจากจะเป็นสวรรค์สำหรับทาสแมวแล้ว ที่นี่ยังได้มีการช่วยเหลือนกที่ใกล้สูญพันธ์ุให้มีที่อยู่ที่เหมาะสมอีกด้วย สำหรับใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวทะเลสวยๆ ที่นี่ก็อย่าลืมแวะไปเยี่ยมชมบ้านแมวแสนน่ารักนี้ได้หรือจะช่วยบริจาคเพื่อช่ววยให้แมวทั้งหลายมีชีวิตที่ดีขึ้นก็ได้ที่ lanaicatsanctuary ว่าแล้วก็ไปดูภาพเจ้าแมวแสนน่ารักเหล่านี้กันดีกว่า . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ลองมาดูภาพเคลื่อนไหวกันบ้างดีกว่า ที่มา: boredpanda, lanaicatsanctuary
-
ลูกสาวสุดช้ำเมื่อรู้ความจริงว่า “แม่แท้ๆ” ที่เพิ่งเสียไป เป็นผู้ทำลายชีวิตของเธอจนพัง
สำหรับลูกๆ แล้ว แม่คือโลกทั้งใบพวกเขา เพราะแม่เป็นทั้งที่พักพิง ที่กำบัง ที่ปลอดภัย ที่ให้ความอบอุ่น นั่นทำให้ลูกส่วนใหญ่ไว้ใจแม่มากที่สุดชีวิต แต่สำหรับ Axton Betz-Hamilton เธอกลับถูกแม้แท้ๆ ทรยศต่อความไว้ใจที่มีให้ โดยแอบทำลายชีวิตเธออย่างลับๆ และเธอเพิ่งมารู้ความจริงตอนที่แม่ได้จากไปแล้ว เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Axton อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาปีที่สองในปี 2001 และเธอกำลังจะมีอพาร์ทเมนต์หลังแรกเป็นของตัวเอง ซึ่งอยู่ใกล้กับมหาลัย ในระหว่างที่หญิงสาวได้ดำเนินการตามขั้นตอนนั้น เธอก็พบบางอย่างผิดปกติ เมื่อเธอได้รับจดหมายจากบริษัทไฟฟ้า โดยอธิบายว่าจำเป็นต้องมีเงินฝากในบัญชีตามเงื่อนไข เนื่องจากระดับเครดิตของเธอไม่ค่อยดีนัก Axton รู้สึกงงกับจดหมายฉบับนั้นมาก เพราะเธอไม่เคยยืมเงินใคร แต่ด้วยความอยากรู้ เธอจึงได้ทำการสำเนาเอกสารประวัติการใช้งานของบัตรเครดิตของเธอทั้งหมด Axton ในวัย 35 ปี เล่าว่า “6 เดือนต่อมา ฉันก็ได้รับจดหมายที่มีความยาว 10 หน้า ในนั้นระบุคะแนนบัตรเครดิต อยู่ที่ 380 แต่ฉันจำได้ว่าเคยทดสอบใช้ไปตอนอยู่โรงเรียนเพียง 100 ครั้งเท่านั้น ต้องมีบางอย่างผิดปกติแล้วหล่ะ” ต่อมาเธอก็สังเกตเห็นบัตรเครดิตหลายร้อยใบเป็นชื่อของฉัน และทุกใบล้วนมีหนี้ติดมาด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เธอพบว่ามีเพียง…
-
แม่ที่สูญเสียลูกน้อยทำรูปภาพใบสุดท้ายของลูกหาย แต่แล้วก็มีแม่อีกคนเก็บมาคืนให้…
บางครั้งโชคชะตาก็อาจมีวิธีแปลกๆ ในการทำให้คนแปลกหน้าสองคนมาเจอกัน… เหมือนกับ Monica Taylor ที่พบรูปถ่ายตกอยู่บนพื้นที่ถูกเหยียบย่ำโดยฝูงชน ขณะที่เธอเดินออกมาจากงานคอนเสิร์ตใน Royal Melbourne Show ประเทศออสเตรเลีย Monica จึงหยิบรูปนั้นขึ้นมาดูแล้วก็พบว่าเป็นรูปทารกที่เหมือนโดนขยำมา… ภาพนี้ทำให้เธอนึกถึงประสบการณ์เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ลูกของเธอหายตัวไป เหลือเพียงแค่รูปถ่ายของเขาที่เธอหวงแหนมากกว่าอะไรในชีวิต นั่นทำให้ Monica รู้ทันทีว่ารูปที่เธอบังเอิญเจอนี้ มันคงไม่ใช่แค่รูปถ่ายธรรมดา แต่อาจจะเป็นสิ่งล้ำค่าเพียงชิ้นเดียวเกี่ยวกับลูกที่แม่คนนั้นเหลืออยู่ ดังนั้นเมื่อกลับถึงบ้าน เธอจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำ คือการโพสต์รูปนี้ลงในเฟซบุ๊ก เพื่อตามหาเจ้าของภาพนี้ เธอบอกว่า “นี่เป็นรูปลูกของใครบางคน ฉันหวังว่าจะตามหาเจ้าของรูปนี้เจอ” เพียงไม่นาน ภาพที่เธอโพสต์ก็ถูกแชร์ไปกว่า 7,000 ครั้ง และแล้วโชคชะตาก็ทำให้แม่ของทารกในรูปผู้เป็นเจ้าของภาพได้เห็นรูปนั้นในเฟซบุ๊ก คุณแม่คนนั้นจึงติดต่อไปหา Monica ทันที เธอรู้สึกซาบซึ้งมากที่มีคนเก็บรูปใบนั้นให้ และทั้งคู่ก็ได้นัดคืนรูปให้กันในวันรุ่งขึ้น Monica บอกว่าแม่ของทารกไม่ต้องการให้เปิดเผยชื่อ แต่เธอเล่าว่าได้เก็บรูปลูกน้อยไว้ในกระเป๋าเสื้อตลอดเวลา ตั้งแต่ที่ลูกน้อยเสียขีวิตไปในปี 2008 มันเป็นภาพเดียวที่เธอเหลืออยู่ และไม่มีวันไหนที่เธอจะไม่เปิดดูรูปของลูก การคิดถึงลูกคือแรงผลักดันที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้ แต่วันหนึ่ง ภาพลูกน้อยก็หล่นจากกระเป๋าเสื้อ เธอพยายามหาทุกซอกทุกมุม ทุกที่ที่ไปแต่ก็ไม่เจอ จนคิดว่ามันคงจะหายไปแล้วแน่ๆ กระทั่ง Monica เก็บรูปนี้ขึ้นมาจากท่ามกลางฝูงชนตามที่กล่าวมา เพื่อเป็นการขอบคุณ…
-
เจ้าโจรโดนจับจากการช่วยเหลือของตำรวจหญิงเกษียณวัย 90 ปี ถึงจะแก่แต่ยังฟิตปั๋งอยู่นะจ๊ะ
ขึ้นชื่อว่าเป็นตำรวจแล้ว เมื่อคุณตัดสินใจเริ่มอาชีพนี้ จะไม่สามารถเลิกเป็นได้ เพราะแม้คุณจะเกษียณไปแล้ว แต่สัญชาตญาณการเป็นตำรวจก็ยังคงมีอยู่ในตัวเสมอ เหมือนกับ Barbara McArthur อดีตตำรวจหญิงวัยเกษียณ ที่แม้จะอายุ 90 ปีแล้ว แต่ก็ยังช่วยตำรวจจับผู้ร้าย Jonathan Tawse วัย 28 ปีได้อย่างเหลือเชื่อ Barbara เริ่มทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่ออายุ 25 ปี และผลงานล่าสุดคือการจัดการกับ Tawse ได้อย่างอยู่หมัด สร้างความประหลาดใจให้ทุกคนเป็นอย่างมาก เหตุการนี้เริ่มขึ้นเมื่อ Tawse ได้มาเสนอทำความสะอาดกระจกบ้านให้ Barbara โดยคิดราคา 200 บาท แต่พอทำไปสักพัก เขาก็อ้างว่าได้ทำการซ่อมแซมรอยร้าวบนประตูให้ด้วย จึงคิดราคาเพิ่มอีก 2,000 บาท ซึ่งเธอรู้ดีว่านั่นเป็นการหลอกลวง แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนั้นเธอจำเป็นต้องทำเหมือนไม่รู้ว่าโดนหลอก ก่อนจากไป Tawse ได้ให้ใบปลิวกับเจ้าของบ้าน และบอกว่าเธอว่าจะกลับมาทำให้อีก หากมีอะไรต้องวซ่อมเรียกเขาได้เลย และใบปลิวใบนั้นที่ Barbara เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อมัดตัวเขา ต่อมา Barbara ได้เข้าพบตำรวจและแจ้งความเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วก็รู้ข้อมูลเกี่ยวกับ Tawse และพ่อของเขา Michael วัย 51 ปีว่าทั้งคู่เป็นนักต้มตุ๋น …
-
เชียร์ลีดเดอร์สาวผู้มีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ก้าวข้ามความพิการ จนเป็นนักกีฬาระดับชาติ
กิจกรรมบางชนิด อย่างเชียร์ลีดเดอร์ จำเป็นต้องอาศัยไหวพริบ การเคลื่อนไหวที่กระฉับกระเฉง และสายตาที่ว่องไว แต่มีหญิงสาวอยู่คนหนึ่งที่ได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ระดับนานาชาติ ทั้งๆ ที่มีปัญหาทางสายตา Steph เป็นส่วนหนึ่งของทีม England ParaCheer ที่แม้จะมีบางส่วนของร่างกายบกพร่อง แต่นั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของเธอ การแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์ 2017 World Cheerleading Championships ในฟลอริด้า เป็นการแข่งขันระดับนานาชาติ ที่ทีม England ParaCheer จะได้เข้าร่วมเป็นครั้งแรก แม้ในทีมจะมีคนที่มีความบกพร่องทางร่างกายอยู่ แต่พวกเขาก็ทำได้ดีและประสบความสำเร็จได้ไม่แพ้ทีมอื่นๆ… Steph บอกว่าการมีปัญหาทางสายตั้งแต่กำเนิดทำให้เธอไม่สามารถรับรู้ถึงความลึกหรือความสูงได้ แต่เธอสามารถมองเห็นได้ลางๆ ด้วยตาข้างขวา อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถบอกรายละเอียดของสิ่งที่เห็นได้ แต่ Steph จะเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ไม่ได้ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทีม เพราะเธอมองไม่เห็น เพื่อนๆ จึงต้องทำสัญลักษณะเป็นสีเพื่อให้เธอรู้ว่าควรเคลื่อนไหวไปในทิศทางไหน เมื่ออยู่ในสนามแข่ง หญิงสาวได้แสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ตามที่ซ้อมมา และเธอก็ทำได้ดีจนไม่มีใครดูออกว่าเธอมีปัญหาทางสายตา เธอยังบอกอีกว่าในการแข่งขันแต่ละครั้ง ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง เธอก็รู้สึกภูมิใจเพราะได้ทำมันอย่างเต็มที่ทุกครั้ง การเป็นนักกีฬาทั้งๆ ที่ร่างกายบกพร่อง เป็นสิ่งที่ท้าทายไม่น้อย แต่เราแค่ต้องก้าวข้ามมันไป และแสดงศักยภาพของตัวเองออกมา …
-
งานภาพถ่ายคุณตาคุณยายที่แต่งงานกันมา 68 ปี แต่ความรักก็ยังคงชื่นมื่นไม่มีเปลี่ยนแปลง
การตามหารักแท้ว่ายากแล้ว แต่การรักษารักแท้นั้นให้หวานชื่นอยู่เสมอเป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่า เพราะหลายๆ คู่เมื่ออยู่กันไปนานๆ ก็เริ่มจะรู้สึกเบื่อ ไม่ได้เติมความรักให้แก่กัน จนทำให้ความรักเริ่มจืดจางลงตามกาลเวลา แต่สำหรับตายายคู่นี้ วันเวลาไม่อาจทำลายความรักของพวกเขาได้ แม้แต่งงานกันมานานถึง 68 ปีแล้ว แต่รักก็ยังคงชื่นมื่นเหมือนตอนจีบกันใหม่ๆ นี่คือการถ่ายรูปคู่ของตายาย ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก เพื่อฉลองครอบรอบวันแต่งงานปีที่ 68 ที่หวานซะจนวัยรุ่นอย่างเรายังต้องอิจฉา ช่างภาพที่ได้ถ่ายภาพให้กับตายายคู่นี้ บอกว่าเธอรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับหน้าที่เก็บภาพความทรงจำให้กับทั้งคู่ และตลอดการทำงานเธอสัมผัสได้ถึงความรักที่พวกเขามีให้กัน ช่างภาพยังรู้มาอีกว่า ตายายยังเคยไปท่องเที่ยวมาด้วยกันในรัฐต่างๆ กว่า 50 รัฐ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมความรักของพวกเขาถึงไม่จืดจางเลย เวลาที่พวกเขาจูบกัน มันไม่ใช่แค่การจูบแต่เป็นการสื่ออารมณ์ความรู้สึกภายในให้แก่กันและกัน… พวกอธิษฐานก่อนนอนด้วยกันทุกคืน จับมือกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนนั่งดูทีวีบนโซฟา ในโบสถ์ บนถนน และในทุกๆ ที่ไม่เคยปล่อยมือกัน คุณยายเป็นรักเดียวและรักแท้ของคุณตา สายตาที่เขามองภรรยาไม่ต่างอะไรจากตอนที่วัยรุ่นมองคนที่แอบชอบเลย จนทุกวันนี้ พวกเขาก็ยังขยันมอบความรักให้กันอยู่เสมอ สำหรับใครที่เจอรักแล้ว อยากให้รักษามันไว้ให้ดี เพราะคงมีไม่กี่คนที่จะอยู่เคียงข้างคุณไม่ว่าทุกข์หรือสุขและตลอดไปเหมือนกับตายายคู่นี้ . . . . .…
-
เจ้าของร้านโพสต์คลิปทรมาน ‘หนู’ เพราะมันแอบขโมยกินอาหาร สร้างประเด็นดราม่าหนัก…
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2560 ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านทางยูทูบ เป็นคลิปวิดีโอการทารุณกรรมสัตว์ที่ดูโหดร้ายและน่าสงสารมากๆ ในคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่ามีหนูตัวหนึ่งถูกจับขึงพืดกับเหยือก และโดนมัดด้วยเชือกสีเขียวที่ขาทั้ง 4 ของมัน แล้วโดนชายคนหนึ่งเอาไม้เรียวฟาดรัวๆ หน้าตาของมันแสดง ถึงความเจ็บปวดและน่าเวทนามากๆ มันพยายามดิ้นเพื่อที่จะหลบไม้เรียวที่ฟาดลงมา แต่ก็ทำไม่ได้ ชายในคลิปวิดีโอก็ถามว่า “แกยังจะแอบกินแป้งกับข้าวสาลีของฉันอีกไหม?” คลิปวิดีโอมีความยาว 32 วินาที หลังจากจบคลิปวิดีโอนี้ก็ไม่ทราบชะตากรรมของเจ้าหนูตัวนี้ว่ามันยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ จากการสืบก็พบว่าชายในคลิปคือนาย Melahalli Ramanna เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง Mysore ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย Anthony Rubin เจ้าหน้าที่รักษาสวัสดิภาพของสัตว์ในอินเดีย ได้ออกมากล่าวต่อว่าให้กับการกระทำของเจ้าของร้านอาหารผู้นี้ว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ “นี่เป็นวิดีโอที่ดูแล้วหดหู่ใจ ผมไม่รู้ว่าโลกกำลังเกิดอะไรขึ้น คนเราสามารถทำร้ายสัตว์ได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ? “ ถึงแม้ว่าหนูจะเป็นสัตว์ที่เป็นพาหะนำเชื้อโรค แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีการสอบสวนถึงคดีการทารุณกรรมสัตว์ต่อไป คลิปวิดีโอแสดงการทารุณกรรมสัตว์ ที่มา dailymail
-
Ryan Reynolds โดนเมียเอาคืน โพสต์อวยพรวันเกิดแค่ครึ่งหน้า ชาวเน็ตสะใจมว๊ากกก!!
เจ้าพ่อโลกโซเชียลอย่าง Ryan Reynolds ต้องฮาสุดๆ เมื่อภรรยาที่รักอย่าง Blake Lively ได้ทำแสบ โดยการอวยพรวันเกิดปีที่ 41 ของเขา ด้วยการโพสต์ภาพใบหน้าของ Ryan Reynolds เพียงครึ่งเดียว ทำเอาชาวเน็ตทั้งฮาทั้งสะใจไปตามๆ กัน เพราะอะไรคุณภริยาถึงทำกับสามีสุดหล่อแบบนี้น่ะเหรอ ก็ต้องขอเล่าย้อนไปตอน 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ดาราหนุ่ม Ryan Reynolds ได้กวนโอ้ยภรรยาโดยการโพสต์ภาพอวยพรวันเกิดครบรอบ 30 ปี โดยมีแคปชั่นว่า “แฮปปี้เบริดเดย์นะ ภรรยาที่น่าทึ่งของผม” แต่รูปที่โพสต์กับมีหน้าของเมียเพียงครึ่งหน้าเท่านั้น ดังนั้นในวาระวันเกิดของสามีสุดน่ารัก เธอจึงไม่ลืมที่จะล้างแค้นโดยการโพสต์ภาพครึ่งหน้าของ Ryan Reynolds ทำให้ชาวเน็ตรีทวิตโพสต์นี้ไปกว่า 3 แสนครั้ง และมีคนกดไลค์กว่า 1.2 ล้าน คนไปแล้ว นี่คือภาพต้นเหตุที่ Ryan Reynolds แสดงความยินดีกับภรรยาของเขาในวันเกิดปีที่ 30 โดยครอปใบหน้าของเธอจนเหลือแค่ครึ่งหน้าเท่านั้น พอในวันเกิดของนักแสดงหนุ่ม เมียจึงเอาคืนรูปภาพนี้ T T นี้คือภาพต้นฉบับ ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมายเกี่ยวกันเรื่องที่ผัวๆ เมีย…
-
22 ไอเดียการออกแบบสุดเฟล ความผิดพลาดที่ทำให้เกิดเป็น “ความฮา” ขึ้นมาได้
ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์หรือเครื่องหมายต่างๆ มักจะมีการครีเอทด้วยไอเดียที่สร้างสรรค์ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ที่พบเห็น แต่บางทีในความสร้างสรรค์นั้น ก็อาจจะทำให้หลายคนมองได้มากกว่านั้น มันอาจจะดูสร้างสรรค์ก็จริง แต่ดูดีๆ เหมือนทำมาพลาดยังไงไม่รู้ เหมือนภาพต่อไปนี้ 1. บรรจุภัณฑ์ลักษณะนี้คิดมาดีแล้วใช่มั้ย?? 2. บริษัทตั้งใจทำน้ำพุสีชมพูเพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงมะเร็งเต้านม เอิ่ม…มันจะได้ผลจริงหรอ? 3. ป้ายห้องที่ชวนงงที่สุด เราควรจะเชื่ออะไรดี 4. ติดตั้งกระดาษชำระให้อยู่เหนือซิงค์ 5. หรือนี่จะเป็นการใช้เสื่อที่ถูกต้อง แล้วจะเอามาเพื่อ… 6. คนวาดคงจะเพลินไปหน่อย เพิ่มกล้วยมาให้อีกลูก เด็กๆ ไม่สับสนนะลูก 7. มิติใหม่ของการกินไอติม 8. ป้ายบอกทางไป McDonald’s แต่หมุนแบบนี้ จะรู้มั้ยว่าอยู่ทางไหนกันแน่ 9. เดี๋ยวนะ ที่หนูๆ จับอยู่คือไรอะ 10. ปราสาทโจรสลัด แต่ทางออกมันดูคุ้นๆ นะ 11. หมุนตั้งนานไม่ออกสักหยด พอออกมาเท่านั้นแหละ…
-
เจ๋งไหม ถามใจเธอดู…นิเทศฯ ม.กรุงเทพ ขนคนดังมาสอนเพียบ!! โปรดิวเซอร์ The Mask Singer ก็มา!!
ท่ามกลางมหาวิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชนจำนวนมากที่เปิดสอนคณะนิเทศศาสตร์ จะมีสักกี่แห่งที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ตัวจริง” ที่ผลิตบุคลากรป้อนวงการบันเทิงได้อย่างเป๊ะปัง ไม่น่าสงสัยถ้านิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพ จะติดอยู่ในลิสต์ เพราะที่นี่ไม่เพียงแค่มีอุปกรณ์การเรียนการสอนระดับเวิลด์คลาส แต่ยังมีหลักสูตรที่ตอบรับเทรนด์โลกมาโดยตลอด ที่สำคัญคือมักมีโครงการเจ๋งๆ คูลๆ มาให้นักศึกษาได้เข้าร่วม อย่างเช่นโครงการ “The Cutting Edge BUCA ตอน ยอดมนุษย์สุดทีน” ที่พานักศึกษาของคณะและนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากหลายสถาบัน มาฟังตัวจริงของวงการบันเทิงซึ่งยกขบวนมาแชร์ประสบการณ์และให้ความรู้กันเพียบ!! ทั้งพี่โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับหนังพันล้านแห่งค่ายจีทีเอช, พี่ปิ๊ปโป้ เปรมวิชช์ สีห์ชาติวงษ์ ผู้ก่อตั้ง “Storylog” พื้นที่แบ่งปันเรื่องราวบนโลกออนไลน์, พี่แอน ทองประสม นางเอกเบอร์ 1 ของวงการ และอีกคนที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากก็คือ พี่ดาว-ดาราราย ศรีจิตรแจ่ม โปรดิวเซอร์รายการ The Mask Singer รายการที่ดังที่สุดในพ.ศ.นี้ พี่ดาว สาวมาดเท่ เจ้าของตำแหน่ง Head Group ของบริษัทเวิร์คพอยท์…
-
26 ภาพความแห่งความสดใส ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า… โลกก็ยังมีความงดงามอยู่เสมอ~
เคยมีคนบอกไว้ว่า ‘ชีวิตเป็นสิ่งที่สวยงาม’ แม้บางทีการโหมงานหนัก หรือวิถีชีวิตที่ซ้ำซากจำเจ ที่เราต้องเจอทุกๆ วัน อาจทำให้เรากลับมาตั้งคำถามถึงความหมายของชีวิตอีกครั้งก็ตาม… ถ้าคุณกำลังเป็นแบบนั้นอยู่ละก็ ครั้งนี้เราจะขอพาไปชม 26 ภาพแห่งความสดใสจากโลกทั้งใบ ที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้บางครั้งอาจเหนื่อย อาจท้อ แต่ยังไงความงดงามของชีวิตก็ยังคงอยู่เสมอทุกครั้งที่เรามองหา เมื่อสองสายพันธุ์ได้กลายเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่แรกเจอ ไม่รู้เล๊ยยย ว่าใครแอบกินขนม สายตาแห่งความหิวที่เต็มไปด้วยความน่ารัก ว่ากันว่าความรู้สึกของมนุษย์ คือสิ่งที่สวยงามที่สุดเสมอ เจ้าตูบกอดกับเพื่อนซี้… บางทีชีวิตอาจดูยุ่งๆ หน่อย แต่ถ้ามีเพื่อนซี้ตัวป่วนมาให้กำลังใจละก็ แป๊บเดียวหายแน่นอน อะไรจะทำให้คุณรู้สึกสงบใจได้เท่าแมวนอนหลับล่ะ จริงไหม? ใบหน้าของเด็กๆ ที่ได้ยิ้มให้กับบุคคลในดวงใจของพวกเขา เหล่าลูกเจี๊ยบกับแก้วกาแฟที่มอบความอบอุ่นให้พวกมัน ความขี้สงสัยของเจ้าตูบที่ถึงกับเหยียบหัวเพื่อนเลยทีเดียว สุนัขตัวน้อยที่กำลังนอนขดอยู่ในผ้าห่ม น่ารักเชียว เจ้าเม่นน้อย เอ๊ะ!! หรือเอ็งจะเป็นแวมไพร์กันแน่น๊าา สมาชิกใหม่ของครอบครัวมักจะทำให้คนในครอบครัวตื่นเต้นตามเสมอ ผะ ผะ ผะ…
-
นักกีฬายอมเสียโอกาสชนะ เพื่อช่วยแบกเพื่อนที่เจ็บขา ให้วิ่งเข้าเส้นชัยพร้อมกัน..
นับว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ดีๆ ที่ซึ้งกินใจชาวเน็ตไปทั่วโลก จากงานแข่งขันกีฬาประจำปีที่ Sugar House Park รัฐยูทาห์ โดยเว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่า สองเพื่อนซี้จากโรงเรียนมัธยมเดียวกัน Sean Rausch และ Blake Lewis ได้เข้าร่วมการแข่งขันกรีฑาในครั้งนี้ การแข่งขันวิ่งเดี่ยวระยะ 3 ไมล์ (ราว 4.8 กิโลฯ) ได้เป็นไปอย่างราบรื่นปกติ จนกระทั่งเมื่อถึงระยะ 200 เมตรก่อนเข้าเส้นชัย อาการเจ็บที่ต้นขาก็ทำเอาพ่อหนุ่ม Blake Lewis ล้มไปกองกับพื้นอย่างดื้อๆ “ในช่วง 300 เมตรสุดท้าย จู่ๆ ผมก็รู้สึกเจ็บปวดที่ต้นขามากๆ จากนั้นพอวิ่งไปได้อีกซักระยะผมก็รู้สึกเหมือนกระดูกเคลื่อน และมันก็เจ็บมากจนผมวิ่งต่อไม่ไหว ต้องนอนกองกับพื้นอยู่ตรงนั้นเลยละครับ” Blake เล่า แต่ในเรื่องร้ายๆ ยังมีเรื่องดี เมื่อเพื่อนซี้ Sean Rausch ตัดสินใจที่จะทิ้งตำแหน่งแชมป์ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนรักที่เคยลำบากด้วยกันมา… หนุ่ม Rausch เล่าถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า…
-
คู่รักจะขอแต่งงาน ดั๊นเจอฮิปโปฯ สาว ‘Fiona’ โฟโต้บอมบ์ซะฮาเลย อย่ามาหวานกันแถวนี้นะ!!
กลายเป็นกระแสความน่ารักที่โด่งดังไปทั่วโลก เมื่อคู่รักตั้งใจจะขอแต่งงานกัน แต่ดั๊นไปทำหน้าบ่อฮิปโปฯ สุดท้ายก็เลยโดนดาวประจำสวนสัตว์โฟโต้บอมบ์ใส่ซะได้ นี่คือน้อง Fiona เธอเป็นดาวเด่นค้างฟ้าประจำสวนสัตว์ Cincinnati Zoo ความสลิดของน้องนั้นไม่ธรรมดาเลยล่ะ เพราะเมื่อไหร่ที่มีคนเอากล้องมาถ่ายภาพ น้องก็จะดี๊ด๊าอยู่หน่อยๆ บางทีก็โชว์ลีลาผาดโผนให้หนุ่มๆ ได้ใจสั่นกันเล่นๆ มาเข้าเรื่องของเรากันต่อดีกว่า… เรื่องก็มีอยู่ว่าวันหนึ่งพ่อหนุ่ม Nick Kelble ตัดสินใจที่จะเซอร์ไพรส์แฟนสาวของเขา Hayley Roll ณ ที่สวนสัตว์แห่งนี้ แต่ทั้งคู่กลับไม่ได้สังเกตเลยว่า ระหว่างที่พ่อหนุ่มคุกเข่าเซอร์ไพรส์ขอสาวแต่งงาน ได้แอบมีดวงตาอาฆาตคู่หนึ่งมองมาจากด้านหลังด้วยความอิจฉา “Will you marry me?” สังเกตให้ดีว่าด้านหลังมีคนแอบอิจฉาอยู่ ถ้าไม่เชื่อก็ดูสายตาน้องซะก่อน..!! แต่ถึงกระนั้นฝ่ายว่าที่เจ้าสาวก็เล่าว่า “พวกเรารู้สึกยินดีมากที่…
-
ชม 18 ภาพส่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันแบบ ‘ไมโครสโคป’ ที่จะทำให้โลกทั้งใบเปลี่ยนไปทันที!!
ของบางอย่างหากดูผิวเผินอาจจะสวยงาม น่าหลงใหล… แต่เมื่อได้ดูใกล้ๆ ในระดับไมโครสโคป (microscope) แล้วกลับพบว่ามันก็มีอีกมุมที่ให้ความรู้สึกที่ต่างกันออกไป และคราวนี้เราจะขอพาทุกท่านไปชม 18 ภาพซูมระยะประชิดจากสิ่งต่างๆ ที่อาจพบได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป ที่เห็นแล้วชวนให้รู้สึกพิศดารอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ!! ผิวของหอยทาก พยาธิตัวตืด หน้าจอ LCD หิมะ หัวปากกาลูกลื่น ซิลิกอนไดออกไซด์ (หรือเรียกว่า ซิลิกา) ดวงตาของแมงมุม หยดกาแฟเอสเปรสโซ่ วานิลลา ตัวอ่อนของหนู หน้าจอแลปท็อป น้ำตาล เตกีล่า ทองคำบริสุทธิ์ โพลิเอสเตอร์ (เส้นใยสำหรับใช้ทอผ้า) หัวปากกา ส่วนประกอบของเม็ดทราย และสุดท้าย… เหาบนศรีษะของมนุษย์เราเอง!! แหม๊.. อยากจะจับทุกอย่างมาส่องกล้องไมโครสโคปจริงๆ…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ หลังพบร้านอาหารใน ‘อาร์มีเนีย’ ขังหมีไว้ให้ลูกค้าดูเล่น..!?
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่องค์กรช่วยเหลือสัตว์ทั่วโลกต่างพูดถึง หลังจากที่มีการแพร่ภาพของร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศอาร์มีเนีย โดยเว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอภาพของหมีสีน้ำตาลผู้น่าสงสาร ที่ถูกกักขังไว้ภายในกรงเหล็กขนาดเล็ก เพียงเพื่อใช้มันเป็นจุดสนใจสำหรับดึงลูกค้าเข้ามารับประทานอาหาร..!? สภาพของน้องหมีที่ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่คับแคบ และนั่งดูลูกค้ารับประทานอาหาร มุมจากโต๊ะอาหารของลูกค้า จะเห็นได้ว่าหมีสีน้ำตาลถูกขังไว้อย่างน่าสงสาร และพยายามเรียกร้องขอความช่วยเหลือ แม้ว่า ‘อาร์มีเนีย’ จะเป็นประเทศที่มีประเพณีการจับหมีเพื่อเลี้ยงดูมาอย่างช้านาน ทว่าการจับหมีสีน้ำตาลออกมาจากแหล่งอาศัยตามธรรมชาติ และนำมันมาใช้หาผลประโยชน์เช่นนี้ ก็ถูกหลายองค์กรทั่วโลกโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว ทำให้กลุ่ม IAR จากอังกฤษ ได้ประกาศลดจำนวนหมีที่ถูกนำมาขังในประเทศอาร์มีเนียให้ได้มากที่สุด… “บางตัวถูกขังอยู่ในนั้นมาเกือบทั้งชีวิต ประทังชีวิตอยู่ด้วยเศษอาหารเหลือจนพวกมันมีสภาพร่างกายผอมซูบ” “อีกทั้งพวกมันยังต้องอาศัยอยู่ในน้ำที่ไม่มีการระบาย และเหม็นอับ หลายๆ ตัวพยายามหาวิธีปีนหนีออกมาแต่ก็ไม่สำเร็จ” Alan Knight หัวหน้าองค์กร IAR เล่า ซึ่งตอนนี้ทางองค์กรกำลังวางแผนและระดมเงินทุน หวังปลดปล่อยอิสรภาพให้พี่หมีกว่า 80 ชีวิตทั่วทั้งอาร์มีเนีย การจะช่วยเหลือหมีตัวหนึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายรวมแล้วสูงถึง 4,000 ยูโร (ราว 150,000 บาท) ไม่ว่าจะค่าขนส่ง ค่ารักษาพยาบาล ค่าที่อยู่พักฟื้น…
-
17 ภาพของผู้คนกับโมเม้นต์แห่งความสุข ที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
เพื่อนๆ เคยจำโมเม้นต์ตอนที่ตัวเองกำลัง ‘มีความสุข’ ได้ไหม? ตอนนั้นความรู้สึกมันเป็นอย่างไรนะ? แล้วแสดงมันออกมาอย่างไร? ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป…แต่ที่แน่ๆ ก็คือมันรู้สึกดีสุดๆ ไปเลยล่ะ เช่นเดียวกันกับพวกเขาเหล่านี้ที่ดูท่าทางกำลังมีความสุขกันสุดๆ และแน่นอนว่าเพียงแค่เพื่อนๆ ได้เห็นภาพและรับรู้เรื่องราวของพวกเขาก็จะช่วยให้ทุกคนรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว 1. ภาพของชายหนุ่มกับแฟนสาวที่กำลังมีความสุขสุดๆ หลังสายการบินทำการ Rebooking ให้พวกเขาได้ขึ้นไปนั่งยังชั้น Business Class ได้นั่งที่สบาย มีการบริการที่ยอดเยี่ยม ได้ทานอาหารเลิศรส แถมเครื่องดื่มแบบไม่อั้นอีกต่างหาก จนทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มฉีกยิ้มออกมาเหมือนกับเด็กสาวที่ได้รับของขวัญเป็นตุ๊กตาบาร์บี้เลยทีเดียว 2. คุณยายวัย 99 ปี ถูกจับเข้าห้องขัง ซึ่งเธอหวังไว้ว่าอยากจะเข้ามาอยู่ในนี้สักครั้งหนึ่งก่อนที่จะตาย 3. หญิงสาวกับโมเม้นต์แห่งความสุข เพราะในที่สุดเธอก็ได้งานทำซักทีหลังจากที่เฝ้าหามาตลอด 2 ปี 4. เด็กชายผู้ได้รับของขวัญเป็นหนังสือการ์ตูนเรื่องโปรดจากผู้สร้างมันขึ้นมา เขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของการ์ตูนเรื่องสไปเดอร์แมน และนี่คือของขวัญที่ได้รับมาจาก Brian Michael Bendis หนึ่งในทีมงานผู้สร้างมันขึ้นมา 5. เด็กสาวกำลังมีความสุขสุดๆ หลังพ่อแม่เซอร์ไพรส์จัดงานปาร์ตี้วันเกิดแบบที่เธอต้องการให้ หนูน้อย Audrey อยากได้งานวันเกิดที่ถูกประดับประดาไปด้วยลูกโป่งและเค้กรูปร่าง ‘อึ’…
-
Daphne คุณยายผู้อุทิศชีวิตช่วย ‘ช้างแอฟริกา’ มาตลอด 40 ปี สานต่อเจตนารมย์ของสามีที่เสียไป
เป็นเวลากว่าหลายปีที่สองสามีภรรยาได้ทำงานเป็นทีมร่วมทุกข์ร่วมสุขเพื่อดูแลเหล่าสัตว์ป่าในประเทศแอฟริกา อีกทั้งยังรณรงค์สร้างความตระหนักให้ทุกคนเห็นว่าการล่าช้างเพื่อเอางานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ในปี 1977 หลังจากที่คู่รักได้ย้ายมาอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Nairobi สามีของ ด็อกเตอร์ Dame Daphne Sheldrick ก็ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงสืบสานเจตนารมย์ของผู้เป็นสามีต่อไปด้วยการก่อตั้งมูลนิธิที่มีชื่อว่า David Sheldrick Wildlife Trust ขึ้นมา ซึ่งเป็นสถานสงเคราะห์ช่วยดูแลเหล่าลูกช้างป่ากำพร้าแม่ทั้งหลาย จนพวกมันเติบโตสามารถดูแลตัวเองได้จึงจะปล่อยกลับไปสู่ป่าตามเดิม เจ้าลูกช้างบางตัวก็ต้องสูญเสียแม่ของตัวเองเพราะเหยียบกับดัก บางตัวก็ตกลงไปในบ่อน้ำแล้วขึ้นไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะถูกฆ่าเพียงเพื่อเอางาไปขายเท่านั้น หากไม่มีการช่วยเหลือจากมนุษย์เหล่าลูกช้างตัวน้อยๆ กำพร้าแม่ก็จะต้องตาย เพราะอาหารของพวกมันในช่วง 2 ปี แรกก็คือน้ำนมจากแม่ และต้องใช้เวลาอีก 2 ปีสำหรับการหย่านม และคุณ Daphne ก็เป็นคนแรกที่สามารถคิดค้นและผลิตน้ำนมสูตรเฉพาะที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของลูกช้างป่าได้สำเร็จ ซึ่งส่วนประกอบของมันประกอบไปด้วยไขมันในผัก และน้ำมันมะพร้าว ลูกช้างมากมายถูกส่งมายังสถานสงเคราะห์ DSWT (David Sheldrick Wildlife Trust) จากหลากหลายที่ทั่วประเทศแอฟริกา และพวกมันก็จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีด้วยความรักและความอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ในสถานที่แห่งนี้ เมื่อเหล่าลูกช้างเติบโตและแข็งแรงดี พวกมันก็จะถูกส่งต่อไปยังอุทยานแห่งชาติ Tsavo National Park…
-
เมื่อลูกทิ้งตุ๊กตาตัวโปรดไว้ให้พ่อแก้เหงา คุณพ่อก็เลยดูแลมันตามแบบฉบับชายฉกรรจ์
การอยู่คนเดียวนั้นเป็นอะไรที่เหงาสุดๆ สำหรับคนบางคน ดังนั้นเราจึงต้องหาเพื่อน ที่มาคอยใช้ชีวิตด้วยกันเพื่อที่จะทำให้หายเหงา อย่างลูกสาวสุดน่ารักคนหนึ่ง ที่เธอเพิ่งย้ายบ้านมาหมาดๆ จึงต้องการที่จะให้บ้านดูไม่เหงาจนเกินไป เธอจึงเลือกสัตว์เลี้ยงสุดป็อบปูล่าอย่าง Mashimaro มาอยู่เป็นเพื่อนของคุณพ่อที่บ้าน แต่ก็นั่นแหละนะ เจ้า Mashimaro มันเป็นตุ๊กตา ไม่ใช่สัตว์จริงๆ จึงเกิดเป็นภาพฮาๆ แบบนี้ไงล่ะ ไม่รู้เพราะความเหงาของคุณพ่อหรือความกวนโอ๊ยกันแน่ ที่ถ่ายเซ็ตภาพเจ้า Mashimaro ออกมาได้เหมือนมีชีวิตจริงขนาดนี้ ปะป๊าผมขออ่านข่าวก่อนนอนแป๊บนะฮะ เช้าๆ แบบนี้ต้องขอออกกำลังกายซะหน่อย อ๊ากกก!!! ออกไปก่อน จะอาบน้ำ!! วันนี้หนาวจุง ใครก็ได้ช่วยทำทางลงง่ายๆ ให้ผมหน่อยฮับ โอ้ย!! ช่วยผมด้วย อยากออกไปข้างนอกบ้างจัง วันนี้มีไรกินบ้างน้าาา???? รอทานอาหารเช้าครับ ช้านักก็เข้าครัวทำเองซะเลย ผมมีเพื่อนเป็นเม่นด้วยล่ะ ตายล่ะ ทิชชู่ตก ปะป๊าช่วยผมด้วยย ผมลงไม่ได้!!!! เอาล่ะ ได้โอกาสหนีเที่ยว …
-
มาชม “เค้กป๊อบสุดสวยอลังการ” ที่ไม่น่าเชื่อว่าสร้างสรรค์ขึ้นมาจากเศษเค้ก!!!
นอกจากรสชาติที่อร่อยการขนมเบเกอรี่ต่างๆ แล้ว หน้าตาของขนมก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน ที่จะทำให้เรานั้นร้องท้องและอยากทานมันขึ้นมา ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้เลยใช่ไหมว่า ถ้าเราเห็นขนมสวยๆ น่ารักๆ ก็อยากจะซื้อกลับบ้านกันซักหน่อย อย่างขนมสุดน่ารักที่เพื่อนๆ จะได้พบต่อไปนี้ มันคือ “เค้กป๊อบ” ที่เกิดจากเศษเค้กที่เหลือจากการทำเบเกอรี่มาทำเป็นขนมแท่งๆ ที่ทานง่ายและอร่อยไม่แพ้เค้กชิ้นโต แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นเค้กป็อบเหล่านี้มันมีหน้าตาที่ชวนให้มองให้ชิมซะมากกว่า ก็ดูสิ ตกแต่งซะสวยงามขนาดนี้ใครจะกล้าทานล่ะ Raymond พ่อครัวทำขนมที่รู้จักกันในชื่อ Ray Ray แม้ว่าเขาจะจบสาขาบัญชีมา แต่นั้นก็ไม่ใช้ความชอบของเขาหรอกนะ เพราะพรสวรรค์ที่แท้จริงของเขาก็คือการสร้างสรรค์เมนูเบเกอรี่สุดสวยงาม ที่ได้รับการยอมรับจากหลายประเทศและได้ไปแสดงการเวิร์คช็อปทั้งใน สิงคโปร์ จาการ์ตา ไทเป โซลและในไทยเราอีกด้วย เค้กป๊อบเหล่านี้มีหลายรสชาติทั้งแต่แบบคลาสสิคจนไปถึงรสแปลกๆ อย่างงาดำ หรือแม้แต่รสผักโขม และรูปร่างหน้าตาของมันก็ได้แรงบันดาลใจจากสัตว์น่ารักต่างๆ ธรรมชาติ และเรื่องราวการเดินทางของเขา สัตว์ป่าหลากหลายชนิด ลายหินอ่อนสวยๆ ก็มีนะ ยูนิคอร์น!!! ทหารก็เหมือนจริงสุดๆ ความกระบองเพชร ความฮิปสเตอร์ . ดอกไม้น่ารักๆ ก็ไม่พลาด . .…
-
#คนซวย2017 หากชีวิตของคุณว่าแย่แล้วล่ะก็ ลองมาเจอพวกเขาซะก่อน หนักกว่านี้มีอีกไหม!!
เชื่อว่าใครหลายๆ คนต้องเคยเจอประสบการณ์ความซวยที่น่าอับอายสุดๆ จนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แต่พอคิดๆ ไปแล้วมันก็ฮาดีนะ เหมือน “17 เรื่องซวยๆ” ที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปเจอในวันนี้ จะฮาแค่ไหน ไปชมกันเลย!!! 1. เวรกรรมอะไรกัน มือฉันติดลำโพง…. 2. เมื่อเธอคนนี้สั่งเก้าอี้ดีไซน์สวยมาจากเว็บไซต์ Amazon แต่ต้องตกใจกับไซส์ที่ได้!!! 3. เมื่อนาย Diego ลืมวันสอบไฟนอล 4. เมื่อเธอคนนี้ถ่ายเซลฟี่ โดยไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ในห้องน้ำชาย 5. อะไรจะบังเอิญซวยขนาดนี้ เอาเตารีดไปนาบกับมาร์ชเมลโล่ซะงั้น 6. เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งติดอยู่ในห้องน้ำหญิง 7. ชายหนุ่มคนนี้ไปเจอทริคเด็ดๆ ในการปัดหิมะออกจากกระจกหน้ารถจากเฟซบุ๊ก โดยการติดกระดาษทรายไว้ตรงที่ปัดน้ำฝน….อย่าทำตามเชียวล่ะ 8. เมื่อข้างกล่องเขียนว่าล้างออกง่าย จัดไปน้องอ้าย แดงทั้งหน้า ล้างไม่ออก 9. เมื่อคุณบังเอิญไปด่าคนที่มีชื่อเหมือนกัน เจ้าตัวก็งงเลยสิทีนี้ 10. เมื่อมีคนเล่นเจ้า fidget…
-
21 ภาพนักกีฬารักบี้ ที่ทำให้เรารู้สึกว่า มันน่าเล่นซะจริง.. เล่นกีฬาเหรอ เล่นคนเนี่ย!!
สำหรับคนที่ชอบเล่นกีฬาแล้ว คงรู้ดีว่ามันส่งผลดีต่อร่างกายแค่ไหน ทั้งทำให้สุขภาพดีและยังมีรูปร่างที่ปราดเปรียวน่ามองอีกด้วย ดังนั้นวันนี้จึงจะชวนเพื่อนๆ ทุกคนไปเล่นกีฬารักบี้กัน แต่เอ๊ะ! มันจะเจ็บตัวหรือหนักไปสำหรับเรารึเปล่านะ!? อย่าได้ลังเลใจเพราะประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น ครั้งนี้เราจะไปแอบส่องนักกีฬาสุดแซ่บ ที่ทำให้อยากลุกจากที่นอนไปซอย(เท้า) เข้าสนาม ให้เหงื่อชุ่มร่างกายจนแฉะไปหมดเลยล่ะ 1. Pierre Spies (South Africa) บาร์หนักขนาดนี้ยังยกได้ แสดงว่าต้องยกเราไหวแน่นอน 2. David Pocock (Australia) เป็นนักกีฬารักบี้ที่ไหล่งามเอามากๆ 3. TJ Perenara (New Zealand) นักกีฬามีรอยสักมันโดนใจอีแม่สุดๆ 4. Sonny Bill Williams (New Zealand) กล้ามเป็นมัดๆ น่าลูบไล้เสียจริงๆ 5. Leigh Halfpenny (Wales) เปลี่ยนจากแย่งลูกรักบี้มาแย่งเราแทนได้ไหม?? 6. Israel Folau (Australia) ผิวสีแทนแบบนี้ดูเซ็กซี่สุดๆ 7. George North (Wales) อุ้มเพื่อนแบบสบายๆ แบบนี้ ต้องอุ้มเราได้แน่นอน…
-
คุณป้าบังเอิ๊ญจองตั๋วนั่งเครื่องไปเมือง Crete ปรากฏว่ามีผู้โดยสารอยู่คนเดียว บันเทิงเลยสิฮะ
การได้ไปท่องเที่ยวโดยเครื่องบินเจทส่วนตัว คงเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ ซึ่งแน่นอนว่าความฝันนี้ ต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อยเลย ถึงจะสามารถบินไปท่องเที่ยวในเครื่องบินสุดหรูพร้อมนั่งจิบไวน์เก๋ๆ บนเครื่องเพียงคนเดียว แต่ด้วยความบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ มีคุณป้าคนหนึ่งได้ตีตั๋วไปเกาะครีตซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะกรีก ในราคา 46 ปอนด์ หรือเพียง 2,000 บาท ที่ในตอนแรกคิดว่าจะมีผู้โดยสารคนอื่นๆ นั่งเครื่องไปกับเธอซะอีก แต่ภายในเที่ยวบินนี้กลับมีคุณป้าเป็นผู้โดยสารเพียงคนเดียวเท่านั้น คุณป้า Karon Grieve อายุ 57 ปี เป็นผู้โดยสารเพียงคนเดียวในเครื่องบิน Jet2 ที่เดินทางจาก Glasgow ไปยัง เกาะ Crete ภายใน 4 ชั่วโมงของการเดินทางนั้น เธอได้รับการบริการแบบวีไอพีเพียงคนเดียวจาก 189 ที่นั่ง เธอทราบว่าในเครื่องนี้มีการเช็คอินเพียง 3 คนเท่านั้น แต่อีกสองที่เหลือนั้นกลับไม่ได้มาขึ้นเครื่องมาด้วย ดังนั้นคุณป้าจึงเป็นผู้โดยสารเพียงคนเดียวของเที่ยวบินสุดหรูนี้ เรียกได้ว่าโชคหล่นทับจริงๆ เมื่อคุณป้าถึงที่หมายทางสายการบินก็ได้แจ้งว่าไม่ต้องรอโหลดกระเป๋าให้เสียเวลา คุณป้าสามารถที่จะถือกระเป๋าออกไปได้ทันที มันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกนะ ที่เที่ยวนี้จะมีผู้โดยสารน้อยแบบนี้ เพราะในปีที่แล้วเที่ยวบินนี้ก็มีผู้โดยสารเพียง 8 คนเท่านั้น เธอกล่าวว่าเที่ยวบินในครั้งนี้เป็นอะไรที่เยี่ยมยอดมาก เพราะลูกเรือคอยไถ่ถามถึงความต้องการของเธออยู่เสมอ มีอาหารฟรี และเธอก็รู้สึกสะดวกสบายและสงบเป็นอย่างมาก…
-
ป๋าเบคกับลูกสาว ใส่กางเกงตัวเดียวเล่นน้ำที่ชายหาด แม้วัย 42 แล้วแต่ก็ยังแซ่บสุดๆ
เมื่อพูดถึงคุณพ่อวัย 42 สิ่งที่สมองคิดคงเป็นคุณอาวัยกลางคนที่ยอมเสียสละหุ่นฟิตๆ เพื่อเลี้ยงดูลูกของเขา แต่เดี๋ยวก่อน!! กรุณาลบภาพเหล่านั้นไป เพราะคุณวัย 42 คนนี้เขายังแซ่บและมีรูปร่างที่เย้ายวนไม่ต่างจากหนุ่มๆ วันแรกรุ่น และนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคุณพ่อแสนอบอุ่นอย่าง “เดวิด แบคแฮม” แม้ว่าเวลาจะร่วงเลยไปและความฟิตปั๋งของนักฟุตบอลดาวเด่นที่ผันตัวมาเป็นคุณพ่อสุดน่ารักที่ใครๆ ก็อิจฉา ก็ไม่ได้ร่วงเลยไปตามเวลา เพราะถ้าดูจากภาพแล้วหุ่นห้างทุกอย่างยังดูแน่นปั้กคงเดิม อาจเป็นเพราะป๋าเบคให้ความสำคัญกับการดูแลรูปร่างอยู่เสมอ และในวันอาทิตย์สุดสัปดาห์แบบนี้ป๋าเบคก็ได้ทำหน้าที่ของพ่อที่ดี โดยการพาครอบครัวไปพักผ่อนที่ชายฝั่งของมาลิบู เผยให้เห็นรูปร่างสุดฟิตของปะป๋าที่ทำหน้าที่ดูแลลูกๆ อยู่ไม่ห่าง ช่างเป็นภาพที่น่ารักอะไรเช่นนี้ Harper ลูกสาวคนสวยของตระกูลกำลังอยู่ในอ้อมแขนของคุณพ่อ ที่กำลังจะพาเธอไปเล่นน้ำชิวๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกที่หนาวเย็น นอกจากนี้ป๋าเบคก็ยังหอบลูกชายอีก 3 คนมาด้วยทั้ง Brooklyn วัย 18 ปี Romeo วัย 15 ปี และ Cruz วัย 12 ปี ป๋าเบคมาในกางเกงสีแดง หมวกสีดำ พร้อมถือบอร์ดสีเหลือง ดูแล้วยังเป็นคุณพ่อที่เท่และทันสมัยเอามากๆ ในอินสตาแกรมของป๋าเบคก็มักลงภาพลูกๆ อยู่เสมอ ทำให้เรารู้สึกได้ว่าเขาเป็นพ่อที่รักลูกๆ เอามากๆ เป็นผู้ชายอบอุ่นตัวจริงเลยล่ะ Harper ดูสนุกกับการมาเที่ยวพักผ่อนในครั้งนี้มากๆ…
-
20 ภาพที่พิสูจน์ว่า ‘มนุษย์ลุง’ คือคนที่ฮาที่สุดในครอบครัว แบบนี้ก็ได้หราาา..!?
ถ้าให้ทายว่าใคร ‘ฮา’ สุดในครอบครัว บางคนก็อาจจะคิดถึงมนุษย์ป้า มนุษย์พ่อ หรือไม่ก็มนุษย์แม่ แต่ถ้าใครที่ไม่มีมนุษย์ลุงล่ะก็ ขอบอกเลยว่าตำแหน่งนี้แหละฮาได้อีก และทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวอย่าง 20 ภาพประสบการณ์จากชาวเน็ตเว็บไซต์ Boredpanda ที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่า มนุษย์ลุงก็เกรียนได้ไม่แพ้กัน ถึงหัวจะเริ่มล้านไปบ้างก็เถอะ..!! เมื่อคุณมีมนุษย์ลุงเป็นเชฟร้านอาหาร 5 ดาว แต่พอไปทานเท่านั้นแหละ… แหม๊คิดได้เนาะ เมื่อมนุษย์ลุงมาเป็นสักขีพยานให้คุณตอนไปจดทะเบียนสมรส แต่ลืมดูไปเลยว่านั่นมันลูกโป่งหัวกะโหลกนะลุง..!! เมื่อมนุษย์ลุงอยากครีเอทเปลนอนสุดเฟี้ยวให้ทายาท มนุษย์ลุงผู้เอาก้อนขาวๆ ไปวางไว้ทั่วฟาร์ม เพราะอยากให้มันดูเหมือนทุ่งมาร์ชเมลโล่ว!! ของขวัญสำหรับทุกคนในปีนี้ได้แก่… เสื้อ ‘ฉันรักมนุษย์ลุง’ จ้าาา เมื่อมนุษย์ลุงแอบไปแต่งหญิงเอาใจคนในบ้าน เอาซะเหมือนเชี๊ยะ!! มนุษย์ลุงจอมโหดผู้สักเต็มตัว แต่ไหงกลายเป็นทาสแมวเฉ๊ยยย มนุษย์ลุงกับพรมวิเศษ ถามจริง… เสียไปเท่าไหร่? เมื่อมนุษย์ลุงได้พบกับหลานรักเป็นครั้งแรก (หน้าน้องโคตรฮา 555+) มนุษย์ลุงผู้ใจดียอมแต่งตัวแฟนซีกับหลานสาว เมื่อสองมนุษย์ลุงเพื่อนซี้ได้เจอหลานเป็นครั้งแรก แหม๊… นึกว่าพระเอกหนังยุค…
-
เปิดตำนาน ‘Ching Shih’ จากโสเภณีสู่กัปตันโจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์…!!
หากพูดถึงตำแหน่งเจ้าราชาเจ้าสลัดแล้วละก็…บางคนอาจจะยกมอบตำแหน่งนี้ให้แจ็ค สแปร์โร่ว์ หรือไม่ก็พ่อหนุ่มโจรสลัดหมวกฟางลูฟี่ บอกเลยว่าทุกคนที่กล่าวมานั้นนับว่ายังอ่อนด๋อยนัก หากมาเทียบกับโจรสลัดหญิงชาวจีนผู้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์โลก ‘Ching Shih’ หญิงสาวผู้ไต่เต้าจากโสเภณีสู่การเป็นเจ้าแห่งท้องทะเล Ching Shih หญิงสาวผู้เป็นเจ้าแห่งโจรสลัดตั้งแต่วัย 22 ปี!! ย้อนกลับไปเมื่อปี 1785 ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในเขตมณฑลกวางตุ้ง เธอเติบโตมาในครอบครัวยากจน และต้องดิ้นรนต่อสู้ปากกัดตีนถีบเพื่อเอาชนะความแร้งแค้น ครั้นเมื่อเธอเริ่มโตเป็นสาวเป็นแซ่ ด้วยระดับการศึกษาที่ไม่ได้มากมายอะไร ทำให้เธอต้องหันไปประกอบอาชีพเป็นโสเภณีเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว… แต่ใครเล่าจะรู้ว่านี่คือจุดกำเนิดของโจรสลัดหญิงผู้ยิ่งใหญ่ มาดาม Ching Shih ที่ปรากฎในเรื่อง Pirates of the Caribbean จากการประกอบอาชีพเป็นโสเภณี ทำให้เธอได้แต่งงานกับ Zheng Yi ชายผู้เป็นกัปตันเรือของกองโจรสลัดธงแดง ทว่าต่อมาในปี 1807 ได้เกิดภัยพิบัติสึนามิครั้งใหญ่ขึ้น จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้สามีผู้เป็นกัปตันโจรสลัดของเธอเสียชีวิตลง หลังจากนั้น Ching Shih ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้ากองโจรสลัดแทนสามีของเธอที่เสียชีวิตไป แม้เธอจะเป็นสตรีเพศในยุคที่ประเทศจีนยังไม่เปิดกว้างเรื่องความเสมอภาคทางเพศ แต่ด้วยความเด็ดขาดก็ทำให้ลูกเรือไม่มีใครกล้าขัดขืนคำสั่งเธอ อีกทั้งยังมีการออกคำสั่งด้วยว่าจะไม่มีหญิงสาวคนใดถูกกระทำอย่างเลวร้ายจากลูกเรือของเธอ เธอสั่งให้มีการปล่อยตัวนักโทษหญิงจำนวนมากโดยไม่มีการลงโทษ และหากลูกเรือชายคนใดต้องการจะแต่งงานกับผู้หญิง…
-
ชมภาพประวัติศาสตร์ เผยช่วงเหตุการณ์ตอนชาวเยอรมันเลือก ‘ฮิตเลอร์’ มาเป็นผู้นำ..!!
หนึ่งในเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่กลายเป็นบทเรียนราคาแพงให้ชาวเยอรมันได้มากที่สุด คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์หลังจากที่ ‘อดอล์ฟ ฮิตเลอร์’ ถูกเลือกให้เป็นผู้นำ หลังมีการประกาศนโยบายสร้างชาติครั้งใหม่..!! แต่ใครเล่าจะรู้ว่าหลังฮิตเลอร์ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้นำ เขาได้กำจัดคู่แข่งทางการเมืองอย่างโหดเหี้ยม รวมทั้งดำเนินนโยบายทางการทหารอย่างสุดโต่ง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ในเมือง Nuremberg ปี 1928 อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ได้กล่าวคำปราศรัยเพื่อสร้างฐานเสียง พร้อมกลุ่มทหารผู้ติดตาม ‘Brownshirts’ ในช่วงแรกสมาชิกกลุ่ม ‘Brownshirts’ มักจะเข้าไปเจรจาพูดคุยกับชาวเมืองเพื่ออธิบายถึงนโยบายและความดีงามของพรรคนาซี มกราคม 1933 กลุ่มผู้สนับสนุนได้ออกมาเดินขบวนพาเหรด หลังฮิตเลอร์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีประจำเยอรมนี ย้อนกลับไปปี 1925 นี่คือภาพของผู้คนที่เดินทางมาฟังฮิตเลอร์ปราศรัยในโรงเบียร์แห่งหนึ่งในเมืองมิวนิค จากนั้นไม่นานเขาก็กลายเป็นผู้มีอิทธิพลอันสูงส่ง และมีกองกำลังทหารเป็นของตัวเอง ปี 1932 งานเลี้ยงของพรรคนาซีที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูง และมีการประดับลูกโป่งด้วยสัญลักษณ์สวัสติกะ เมษายน ปี 1931 มีการเดินขบวนพรรคนาซี และเหล่า ‘Brownshirts’ ต่างก็ยืนฟังคำปราศรัยจากฮิตเลอร์อย่างเป็นระเบียบ ภาพของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และสมาชิกพรรคนาซีในปี 1930 หลังได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์…
-
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ‘การผ่าตัด & ศัลยกรรม’ จากยุคกลาง แหม๊… มันช่างน่ารักสดใสซะจริ๊งง!!
ถ้าพูดถึงการเข้ารับการผ่าตัด & ศัลยกรรมในสมัยนี้ หลายคนอาจจะไม่รู้สึกกลัว เพราะไหนจะมีทั้งยาชา ยาสลบ แถมยังมีกรรมวิธีอีกมากมายที่ช่วยให้อะไรๆ ก็เป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 10 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการผ่าตัดทางการแพทย์ในสมัยยุคกลาง ซึ่งเป็นยุคสมัยที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ยังไม่ก้าวหน้ามากนัก และการจะรักษาโรคแต่ละอย่างมันก็ช่างแหม๊… ดูน่าลิ้มลองซะจริง!! 1. การผ่าตัดในยุคกลางมีแต่ความเจ็บปวด เจ็บปวด และเจ็บปวด ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าการผ่าตัดในยุคกลางนั้นเป็นเรื่องที่ทารุนแบบสุด (ถึงขั้นที่คุณอาจเสียชีวิตจากความเจ็บปวดได้เลย) ไม่ว่าจะสาเหตุมาจากความรู้ความเข้าใจในเรื่องกายวิภาคของมนุษย์ที่ยังไม่มากพอ หรือจะเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ต่างๆ ที่ยังไม่เอื้ออำนวย ที่สำคัญ ในสมัยนั้นผู้ที่รับหน้าที่เป็นหมอส่วนใหญ่แล้วจะมาจากอาชีพบาทหลวงมาก่อน และส่วนใหญ่จะใช้ตำราการแพทย์จากฝั่งอาหรับเป็นหลัก จนกระทั่งในปี 1215 พระสันตปาปาได้ประกาศให้บาทหลวงห้ามยุ่งเกี่ยวกับการแพทย์ และเปิดโอกาสให้เป็นพื้นที่ของคนที่ตั้งใจศึกษาด้านนี้จริงๆ แต่ถึงกระนั้นการผ่าตัดก็ยังไม่ใช่เรื่องทั่วไปเหมือนสมัยนี้อยู่ดี 2. ยาชา/ยาสลบ ในยุคกลางจะใช้สิ่งที่เรียกว่า ‘Dwale’ ชีวิตของผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดในยุคกลางค่อนข้างจะแขวนอยู่บนเส้นด้าย ในสมัยนั้นมีการใช้ยาชาที่เรียกว่า ‘Dwale’ ซึ่งเกิดจากการผสมสารต่างๆ ที่สกัดได้จากธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน แต่ก็ใช่ว่าการผ่าตัดจะเป็นไปอย่างเรียบง่าย เพราะเจ้า Dwale นี่แหละ บางทีก็สร้างปัญหาให้ตัวหมอเอง เนื่องจากบางครั้งมันก็แรงมากซะจนทำให้ผู้ป่วยหลับสนิทจนไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย… 3. วิธีการรักษาต้อกระจกสุดโหด…!! หากใครเป็นโรคต้อกระจกในช่วงยุคกลาง…
-
เจอแบบนี้มีผวา… วินาทีหมอตรวจฟันคนไข้สาว เปิดปากเจอฟันเหลือง-หนอนแมลงไชเต็มปาก!!!
เนื้อหานี้อาจจะภาพและคลิปที่มีความรุนแรง ไม่เหมาะกับผู้อ่านบางท่านนะครับ ลองคิดดูว่าหากเราเป็นหมอฟัน ที่ต้องมารักษาช่องปากให้คนไข้สาวรายนี้ วินาทีที่เราเห็นเหล่าหนอนยั้วเยี้ยอยู่ในปากของเธอ คงจะเป็นอะไรที่น่าตกใจไม่น้อย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศอินเดีย และถูกเปิดเผยออกมาเป็นคลิปวิดีโอผ่านทางเว็บไซต์ไลฟ์ลีกส์อีกต่อหนึ่ง คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (ถ้าคลิปไม่แสดง สามารถกดชมได้ที่นี่) . คนไข้ดังกล่าวมาด้วยอาการฟันผุ ฟันมีคราบหินปูน และดูเหมือนจะมีแผลติดเชื้อในช่องปาก ซึ่งนั่นทำให้มีหนอนในปากของเธออยู่จำนวนมากที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่ด่วน คนไข้คนดังกล่าวถูกวางยาสลบ ก่อนที่จะทำการรักษา โดยมีสายยางสอดเข้าทางจมูกของเธออยู่ในขณะที่ทำการถ่ายคลิปวิดีโอ ทั้งนี้ทางแพทย์สันนิษฐานเบื้องต้นว่าอาจจะเกิดจากการไม่ดูแลช่องปากของคนไข้เอง ซึ่งอาจจะถูกแมลงวางไข่ในช่องปาก (เกิดขึ้นได้ขณะหลับ) จากนั้นไข่ก็กลายเป็นตัวอ่อนแล้วกินเนื้อโดยรอบ ซึ่งก็คือในบริเวณช่องปากของเธอเอง หมอต้องทำการรักษาโดยการนำตัวอ่อนแมลงเหล่านั้นออกมาจากมากให้หมด พร้อมกับทำความสะอาดแผลและบริเวณโดยรอบ เพื่อป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติม จากนั้นจึงค่อยวางแผนรักษาฟันของคนไข้ต่อไป แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ยากมาก แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งขาดสุขอนามัยที่ดีพอของประเทศกำลังพัฒนาหลายๆ ประเทศรอบโลก ยกตัวอย่างจากในเหตุการณ์ข้างต้นซึ่งเกิดในชนบทของประเทศอินเดีย แมลงสามารถวางไข่ในปากของคนตอนเราหลับได้ และเมื่อคนไข้ขาดการดูแลรักษาช่องปากที่ดีพอ หรือทำความสะอาดแล้วก็ตาม ไข่แมลงดังกล่าวก็ยังสามารถฟักออกมาได้อย่างที่เราเห็น ที่มา: dailymail, liveleak
-
คุณสามีวาดภาพการ์ตูน ล้อชีวิตประจำวันของเขาและภรรยา ที่มันทั้งฮาและเรียลแบบสุดๆ
แรงบันดาลใจของศิลปินส่วนใหญ่แล้วมันก็มาจากสิ่งรอบข้างนั้นแหละ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ หนังสือ สัตว์เลี้ยง หรือแม้ข้างกายอย่างมนุษย์เมีย ทำให้ศิลปินนักวาดการ์ตูนคนหนึ่งได้เล่าเรื่อราวของเมียสุดที่รักผ่านการ์ตูน ที่ดูแล้วทั้งฮาและอบอุ่น Yehuda Adi Devir นัดวาดการ์ตูนชาวอิสราเอลคนนี้ ได้วาดการ์ตูนชุด “One of Those Days” เพื่อนำเสนอเรื่องราวในชีวิตประจำวันของคู่รัก ซึ่งการ์ตูนชุดดังกล่าวได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตจริงของเขากับภรรยา รับรองว่าเพื่อนๆ อ่านไปอมยิ้มไปอย่างแน่นอน 1. เส้นผมที่มันร่วงอยู่ตลอดเวลา ตามเก็บไม่ไหวแล้วนะ 2. ท่านอนเพลียๆ หลังเสร็จกิจ 3. อ้อมกอดอุ่นๆ ของสามี 4. วันครบรอบของเรา ที่มีโทรศัพท์ช่วยแจ้งเตือน… 5. การเติมพลังง่ายๆ ด้วยกอดจากภรรยา 6. เมื่อภรรยาบอกว่า “ไม่มีชุดจะใส่แล้วว!!!” 7. ตอนเช้าของวันเกิด จัดเซอร์ไพรส์หนักๆ ไปเลย 8. เมื่อคุณภรรยาดูซีรีย์ นี่เธอต้องการความเป็นส่วนตัวขนาดนั้นเลยเหรอ 9. วีธีง้อที่แตกต่างกับของสามีและภรรยา…
-
หมอฟันใจดี รู้ว่าสาวถูกแฟนเก่าซ้อมจนฟันหัก ช่วยรักษาให้ฟรีไปเลยจ้า..!!
อีกหนึ่งเรื่องราวแสนอบอุ่นที่เกิดขึ้น เมื่อทันตแพทย์ใจดีอาสาช่วยทำฟันให้สาวฟรี หลังรู้ว่ามันคือบาดแผลจากความรักห่วยๆ เมื่อ 2 ปีก่อน เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า สาววัย 28 ปี ชาวเท็กซัส Kyleigha Scott ได้ติดต่อเข้าไปขอทำฟันกับคุณหมอคลีนิค Marshall Family Dental หลังเธอต้องการไปผ่าฟันคุด แต่เมื่อได้พบทันตแพทย์ Kenny Wilstead คุณหมอก็ถามเธอทันทีว่า… “ฟันซี่หน้าไปโดนอะไรมาถึงเป็นแบบนี้?” Kyleigha ก็ได้เล่าให้คุณหมอฟังว่า มันเป็นแผลที่เกิดจากแฟนเก่าของเธอซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะจู่ๆ คืนนั้นเขาก็เข้ามาทำร้ายร่างกายเธอ จากนั้นทั้งคู่ก็ได้เลิกราต่อกันไป ซึ่งเธอก็ได้เล่าให้คุณหมอฟังเช่นกันว่า เธอมีแพลนที่จะกลับมาทำฟันซี่หน้าของเธอ เพียงแต่ว่าช่วงนี้เธอยังไม่พร้อมเนื่องด้วยปัญหารายจ่ายหลายๆ อย่าง… แต่คุณหมอใจดีมากกว่านั้น เขาตัดสินใจที่จะมอบรอยยิ้มอันสวยงามของหญิงสาวให้กลับมาอีกครั้ง “ตอนนั้นเธอบอกผมว่า เธอต้องรอให้ได้เงินภาษีประจำปีคืนมาก่อน แต่ผมคิดว่ารอยยิ้มสวยๆ ของหญิงสาวมันไม่สามารถรอให้ครบปีได้หรอกนะ ผมก็เลยตัดสินใจรักษาฟันให้เธอฟรีตอนนี้ซะเลย” คุณหมอเล่า เป็นเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้นหลังจากที่คุณหมอรักษาอาการปวดจากฟันคุดให้เธอเสร็จสิ้น เธอก็ได้รับรอยยิ้มอันสดใสแบบเดิมกลับมาอีกครั้ง ภาพความแตกต่าง Before &…
-
หญิงสาวเล่าประสบการณ์อันน่าหวาดเสียว ขณะที่เล่นเซ็กส์กันจนกระปู๋ของแฟนหนุ่มหัก
การมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่มันจะไม่ปกติก็เพราะบางครั้งเราอาจจะทำอะไรแผลงๆ อย่างการโชว์ท่วงท่าลีลาแปลกๆ หรือการบุกตะลุยสานสัมพันธ์กันอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้ผลที่ตามมามันเลวร้ายกว่าที่คิดไปเลยก็ได้ เหมือนกับที่ชายคนนี้ต้องเจอ เมื่อสาวสวยวัย 23 ปี Megan Barker จากเมือง Guildford ประเทศอังกฤษ ได้เล่าถึงประสบการณ์การมีเซ็กส์กับแฟนหนุ่มที่หนักหน่วงและพิสดาร จนถึงขนาดทำให้น้องชายของเขาต้องหักในระหว่างทำกิจกรรม จากช่วงเวลาแห่งความสุขก็ได้กลายเป็นช่วงเวลาอันแสนเจ็บปวดไปในทันที Megan และ Adam แฟนหนุ่มของเธอ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อทั้งสองได้เจอกันเป็นครั้งแรกในปี 2013 ด้วยความเท่จากหน้าตาและรูปร่างของนายแบบหนุ่มวัย 24 ปี Adam Francis ทำให้ทั้งคู่เริ่มออกเดทและคบกันในเวลาต่อมา ชีวิตคู่ของพวกเขาไม่ได้มีเพียงรักอันหวานฉ่ำ แต่ยังเต็มไปด้วยการมีเซ็กส์อันแสนร้อนแรง เติมเต็มความต้องการของกันและกันได้อย่างเต็มที่ จนกระทั่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้น เมื่อในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 พวกเขากำลังเพลิดเพลินกับค่ำคืนแห่งความเร่าร้อน ท่วงท่าลีลาความหนักหน่วงแบบจัดหนักจัดเต็ม Megan เล่าว่า “เขาพลิกตัวเข้ามาอยู่ด้านหลังฉัน ส่วนฉันก็พยายามโก่งตัวแอ่นหลังรับแรงกระแทก แต่จู่ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนกับอะไรซักอย่างหัก” เมื่อเธอหันกลับไปดูพบว่าแฟนหนุ่มได้ลงไปนอนขดตัวเอามือกุมอวัยวะเพศไว้แน่น ใบหน้าซีดเผือดและส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ขณะที่มีเลือดพุ่งออกมาจากน้องชายของเขาอย่างไม่ขาดสาย เธอเล่าต่อว่า “มันเหมือนกับฉากฆาตกรรมชัดๆ เลือดที่พุ่งออกมาเลอะเต็มเตียงไปหมด” หลังจากนั้นชายหนุ่มจึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป ก่อนที่หญิงสาวจะตามเข้าไปดูและพบว่าเธอทำให้กระปู๋ของเขาหัก ขณะที่ชายนอนลงอยู่บนพื้นห้องน้ำที่เต็มไปด้วยเลือด เธอจึงรีบโทรตามรถพยาบาลมาในทันที…
-
รวม 15 คลิปวิดีโอ ความยาวไม่เกิน 1 นาที ที่จะมาสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกคน
การนั่งดูคลิปวิดีโอบนอินเตอร์เน็ตอาจจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมโปรดของหลายๆ คน และในทุกๆ วันนี้ก็มีคลิปวิดีโอมากมายหลายประเภทที่ให้เราได้เลือกรับชมกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคลิปวิดีโอตลกนั่นเอง และสำหรับใครที่ชื่นชอบคลิปวิดีโอฮาๆ แบบขำจนท้องแข็งแล้วล่ะก็ วันนี้เราก็ได้คัดคลิปวิดีโอสุดฮาแบบสั้นๆ ที่มีความยาวไม่เกิน 1 นาทีมาฝากกัน ซึ่งแต่ละคลิปนั้นรับรองได้เลยว่าคุณจะฮากันจนหยุดไม่อยู่เลยทีเดียว!! 1. จับตาดูวินาทีที่ 4 ไว้ให้ดี ความฮามันอยู่ตรงนี้!! 2. อื้ม… ผมไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวผมขอตัวก่อนละกันนะ 3. A : หน้าฉันดูจืดๆ นะแกว่าไหม?? B: ออนแอร์แล้วเว้ย! 4. กร้าวร้าวจังเลยนะลูก!! 5. ชีวิตจริงกับในการ์ตูนมันช่างแตกต่างกันเสียจริงๆ 6. มาที่ห้างของเรา ที่นี่มีทุกอย่างสำหรับวันเปิดเทอมของเจ้าตัวเล็ก 7. โถ่… จบกันเจ้าหมา!! 8. อ่ะทุกคนพูดตามครูนะ ไม่มีทับทิมเล๊ยยย!! 9. ก่อนที่จะไลฟ์ ช่วยไปล้างห้องน้ำก่อนได้ไหมจ๊ะ!! 10.…
-
ปล้นแบบแฟนซี!! โจรสวมหน้ากาก Stormtrooper ขณะกำลังปล้นโรงแรมแห่งหนึ่งในสเปน
ในภาพยนตร์เรื่อง Star wars จะมีตัวละครตัวหนึ่งที่เป็นที่คุ้นตาของใครหลายคนอย่าง Stormtrooper ซึ่งในเรื่องก็คือกองทหารเลวประจำกองทัพฝั่งตัวร้าย แต่ว่าในเมื่อไม่นานมานี้ได้มีคนสวมหน้ากากของตัวละครนี้มาปล้นโรงแรมแห่งหนึ่งซะอย่างนั้น โดยผู้ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นชาวอังกฤษคนหนึ่งอายุ 41 ปี ได้ก่อเหตุปล้นโรงแรมแห่งหนึ่งในเมือง Mijas ประเทศสเปน โดยเขาได้เงินไปทั้งหมดกว่า 1500 ยูโร (58,673 บาท) ซึ่งตำรวจพยายามแกะรอยชายในหน้ากากสุดน่ารักนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม และจับกุมได้ในทีสุด ส่งเงินมานะเจ้ามนุษย์ ภาพจากในกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่า มีผู้ชายคนหนึ่งสวมชุดสีดำและสวมหน้ากากของตัว Stormtrooper ข่มขู่พนักงานต้อนรับของโรงแรมด้วยอาวุธปิืน และบังคับให้ส่งเงินให้เขา พนักงานคนนั้นก็ส่งเงินให้แต่โดยดี จากนั้นโจรคนนี้ก็รีบกวาดเงินทั้งหมดลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ก็ดำเดินต่อไปจนถึงจุดที่กำลังจะหนีแต่ปรากฎว่าไปผิดทาง (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนนี้เขาเข้ามาจากทางไหน) จนพนักงานคนนั้นต้องบอกทางออกที่ถูกต้องให้แก่ชายคนดังกล่าว จะหนีได้อยู่แล้วไปผิดทางซะงั้น แต่ก่อนจะออกไปนาย Stormtrooper ก็ยังมีความรอบคอบอยู่ โดยเขาได้กลับมาที่เคาน์เตอร์และดึงสายโทรศัพท์ออกเพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานคนดังกล่าวโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินนั่นเองและได้ถามถึงทางออกอีกครั้งเพราะกลัวจะไปผิดทางอีก ขณะที่ทางตำรวจของสเปนกำลังหาทางแกะรอยเจ้าทหารอวกาศคนนี้อยู่ ก็ได้รับรายงานว่ามีการปล้นในลักษณะเดียวกันนี้ เกิดขึ้นที่บ้านพักตากอากาศแห่งหนึ่งในละแวกเดียวกันกับที่โรงแรมตั้งอยู่ เพื่อความชัวร์ต้องป้องกันซะหน่อย และมาคราวนี้เจ้าโจรคนนี้เหมือนอยากจะเย้ยหยันตำรวจที่จับเขาเข้ากรงไม่ได้สักที เพราะว่าเขาสวมหน้ากากอันเดิมพร้อมกับเสื้อกั๊กที่เขียนคำว่า “Interpol” หรือองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศนั่งเอง แหมช่างกล้าซะจริงๆ แต่ว่าครั้งนี้เขาไปไม่รอดเพราะว่า คนที่อาศัยอยู่ในบ้านพักตากอากาศหลังนั้นได้ขวางไม่ให้ชายผู้นี้บุกเข้าไปในบ้าน และเขาก็ยอมแพ้ในที่สุด ตำรวจได้เปรียบเทียบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมกับคนที่จับมาได้ ปรากฎว่าคือคนเดียวกัน แต่ว่าชื่อของเขาไม่ได้รับการเผยแพร่ออกมา อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ถูกคุมขังอยู่กับตำรวจแล้วล่ะ …
-
ศิลปินชาวโรมาเนียสุดล้ำ ใช้ “เลื่อย” แกะสลักต้นไม้ จนออกมาเป็นผลงานระดับเทพ
คำว่าศิลปะ ถ้าได้ยินคำนี้หลายคนคงนึกถึงภาพวาดภาพเขียนหรือไม่ก็การปั้นอะไรซักอย่าง แต่ว่าชายคนนี้จะมาพิสูจน์ให้เห็นว่าศิลปะอยู่ในทุกสิ่งบนโลกจริงๆ เพราะว่าเขาคนนี้ได้สร้างศิลปะจากการแกะสลักลงบนต้นไม้! ชายคนที่มีฝีมือระดับปรมาจารย์คนนี้มีชื่อว่า Gabi Rizea อายุ 42 ปี ชาวโรมาเนียที่ได้มีสกิลการแกะสลักบนต้นไม้ระดับเทพ เขาบอกว่าเขาค้นพบความสามารถนี้โดยบังเอิญ โดยตอนนั้นเขาได้ซื้อเลื่อยอันใหม่มาเลยอยากจะลองของแกะสลักเป็นหน้าคนที่ต้นไม้ ปรากฎว่าผลที่ออกมามันดีเกินคาดเขาเลยสร้างศิลปะอย่างนี้มาเรื่อยๆ และเป็นโชคดีของเขาที่รัฐบาลท้องถิ่น Craiova ซึ่งเป็นที่ที่เขาอาศัยอยู่ได้มาเห็นฝีมือเข้าจึงอนุญาตให้เขาสามารถแกะสลักลงบนต้นไม้ในสวนสาธารณะได้ ผลงานทั้งหลายจึงได้ประจักษ์แก่สายตาของผู้คนมากมายและนั่นทำให้เขาเป็นคนดังในประเทศโรมาเนียเลยล่ะ เห้ย ทำได้ไงเนี่ย จากตอไม้ธรรมดาๆ กลายเป็นงานศิลปะสุดสวย แหวกออกมาทำไมเนี่ยฮะ คล้ายพ่อมดเทาใน The Lord of The Ring มาก เรียกได้ว่างานละเอียดจริงๆ เป็นหน้าผู้หญิงก็ได้ ชิวๆ เป็นที่นั่งที่คิกขุอะไรขนาดนี้เนี่ย เหมือนใครเอาสติกเกอร์ไปแปะไว้เลย หน้าตาของศิลปินผู้สร้างผลงานบนผืนไม้ ขณะทำงานก็ต้องสร้างอารมณ์นิดนึง เห็นไหมล่ะเพื่อนๆ ว่าศิลปะอยู่รอบตัวจริงๆ ว่าแล้วก็ลองหาแกะอะไรซักอย่างดีกว่า ฮ่าๆ ที่มา: boredpanda
-
เผยมุมน่ารักๆ ของ ‘อาเบะ’ ทั่นผู้นำญี่ปุ่น ได้ไอติมมากินยิ้มแฉ่งเป็นเด็กน้อยเลยน๊าา
นี่คือบทพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นพ้องต้องกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นใครถ้าคุณได้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว ยังไงคุณก็ต้องรักไอศครีมแน่น๊อนน!! เพราะคราวนี้เราจะพาไปชมภาพน่ารักๆ จาก Shinzo Abe นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศญี่ปุ่น ที่ดูเหมือนว่าพอได้กินไอติมแล้วก็ยิ้มแฉ่ง ออกอาการเป็นเด็กน้อยเอาซะน่ารักเชียว ปกติแล้วถ้าอยู่ในเวลางาน เป็นธรรมดาที่นักการเมืองจะต้องดูเคร่งขรึม จริงจัง เพราะต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบไว้มากมาย ในตอนนี้ญี่ปุ่นได้ผ่านช่วงเลือกตั้งไปแล้วและเพิ่งจะประกาศผลการเลือกตั้งไปเมื่อ 2 วันก่อนว่า Shinzo Abe สามารถเอาชนะคะแนนเสียงจากผู้ท้าชิงอย่าง Yuriko Koike ไปได้อย่างขาดลอย ทำให้เขายังคงยึดตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่นได้ในสมัยที่ 2 แต่สิ่งที่ดูจะฮือฮาในโลกออนไลน์ไม่แพ้กับผลการเลือกตั้ง ก็คือภาพขณะที่เจ้าตัวยืนถือไอศกรีมและดื่มด่ำรสชาติของมัน จนกลายเป็นกระแสถูกอกถูกใจชาวเน็ตกันยกใหญ่ บ้างก็ว่าเมื่อได้เห็นภาพผู้นำประเทศยืนทานไอติมแบบนี้แล้ว มันให้ความรู้สึกเหมือนได้ผ่อนคลายจากความเครียดยังไงไม่รู้แฮะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ามมมมม ก็คนมันชอบนี่นาา ไม่ว่าวันนั้นจะหนักหนาแค่ไหน ขอได้ลิ้มรสไอติมฉ่ำๆ ท่านผู้นำก็ดูจะยิ้มแย้มอารมณ์ดีขึ้นมาทันที เมื่อภาพดังกล่าวถูกแชร์ต่อบนโลกโซเชียลญี่ปุ่น ผลก็เป็นอย่างที่เรารู้กันดีว่า ชาวเน็ตต่างออกมาให้ความเห็นมากมายเกี่ยวกับอิริยาบถน่ารักๆ ของตัวผู้นำคนนี้ “เขาต้องทำงานหนักหลายอย่าง… ไม่แปลกเลยที่จะมีความสุขกับสิ่งที่ได้เลือกบ้าง” ชาวเน็ตคนหนึ่งให้ความเห็น ไม่ใช่แค่ไอติมเท่านั้นนะที่เขาจะดูดื่มด่ำไปกับมัน แต่ดูเหมือนว่าอะไรที่มันอร่อย ท่านผู้นำคนนี้ก็พร้อมที่จะหลับตาพริ้มไปกับมันตลอดเลย แฮร่!! ที่มา: Rocketnews24
-
คูู่รักออกเดินทางท่องเที่ยว แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มระหว่างทาง พอออกมาได้หมามาร่วมทางเฉ๊ย!!
เมื่อเราขับรถออกเดินทางท่องเที่ยวก็ต้องมีบ้างบางครั้งที่จะจอดพักหรือแวะเติมน้ำมันบ้าง แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อจอดเติมน้ำมันแปบเดียวกลับมีเพื่อนมาขอร่วมทางแต่ว่ามันกลับไม่ใช่คนน่ะสิ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ Emily Trost และแฟนหนุ่มของเธอที่ขับรถเที่ยวข้ามประเทศเป็นระยะเวลากว่า 10 สัปดาห์ ระหว่างที่พวกเขาแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในรัฐ Montana และได้เข้าไปซื้อในร้านมินิมาร์ท เมื่อกลับมาที่รถก็พบลูกหมาน่ารักตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างรถเหมือนกับว่ามันกำลังรอพวกเธออยู่ เอ้ามายังไง “ตอนแรกเราคิดว่ามันคงเป็นหมาของใครซักคนที่แวะเติมน้ำมันนี่แหละ” “เราเดินไปทั่วทั้งปั๊มน้ำมันเพื่อหาว่าใครเป็นเจ้าของมันกันแน่ แต่ก็ไม่มีใครที่มาตามหาเจ้าหมาตัวนี้เลย และดูจากสภาพมอมแมมของมันแล้วฉันก็เลยรู้ทันทีว่ามันไม่มีเจ้าของ” Emily กล่าว เห็นหน้าตาน่ารักอย่างนี้ ใครจะอดสงสารไม่ได้ ในอีกครู่ต่อมา ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งขับรถเข้ามาในปั๊มและเมื่อเห็นเจ้าหมาอยู่กับทั้งคู่จึงบอกว่า หมาตัวนี้เป็นหมาที่หลงทางมาและขอให้ทั้งคู่นำหมาตัวนี้ไปเลี้ยง เพราะว่าหมาตัวนี้เป็นหมาที่ฉลาดและควรจะได้อยู่กับคนดีๆ คู่รักทั้งคู่จึงตกลงกันว่าอย่างน้อยก็รับหมาตัวนี้ไปก่อนละกันแล้วค่อยหาองค์กรที่ช่วยเหลือสัตว์ที่หลัง แต่หลังจากที่ได้ใช้เวลาร่วมกับมัน ความน่ารักของหมาตัวนี้ก็ทำให้ทั้งคู่ใจอ่อนรับมันไปเลี้ยงที่บ้านจนได้ อ้อนเชียวนะ ทั้งสองตัดสินใจตั้งชื่อเจ้าสี่ขาตัวนี้ว่า Montana ตามรัฐที่ได้เจอมันโดยบังเอิญ ซึ่งตอนที่รับมันมาขึ้นรถมันคงหวังแค่เพียงว่าเจ้าของรถคันนี้อาจจะสงสารให้ข้าวมันกินสักนิดหน่อย แต่มันคงไม่รู้หรอกว่ามันเจอโชคครั้งใหญ่เข้าแล้ว “เช้าวันแรกหลังเรารับ Montana เป็นวันที่ดีที่สุดเลย มันตื่นขึ้นมาในเต็นท์ของเราและพยายามปีนขึ้นมาบนหัวของเราและหอมแก้มเรา มันคงตกใจที่วันหนึ่งตื่นมาแล้วมีคนอยู่ข้างกายของมันมั้ง” Emily กล่าวเพิ่ม หลับปุ๋ยเชียว ในช่วงแรก Montana ใช้เวลาในการนอนเยอะมากและมีความสุขที่มีคนดูแล และเมื่อมีความคุ้นเคยมากขึ้นกับเจ้าของใหม่ มันก็ค่อยๆ เผยนิสัยที่แท้จริงออกมา ซึ่งมันดูมีความสุขกับในการออกทริปครั้งนี้ไปพร้อมกับพ่อและแม่ใหม่ของมัน และเมื่อจบการเดินทางอันยาวนานเขาทั้ง 2 คนและอีก 1…
-
ท่าไรเนี่ย? รวม 18 ภาพของเจ้าเหมียวในท่านั่งที่สุดแปลก ที่เห็นแล้วหยุดขำไม่ได้
แมว เป็นสิ่งมีชีวิตที่จัดว่ากวนใจมนุษย์ที่สุดก็ว่าได้เพราะมันมักจะทำสิ่งที่เราคาดไม่ถึง บางทีก็ชอบสร้างความเสียหาย แต่เหล่าทาสแมวทั้งหลายก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรมัน ก็เพราะความน่ารักของพวกมันนั่นแหละ และมาคราวนี้พวกมันจะทำให้คุณต้องอมยิ้มไปกับท่านั่งแปลกๆ ของพวกมัน ซึ่งบางท่ามันก็เหมือนล้อเลียนมนุษย์เหมือนกันนะเนี่ย ชักจะเอาใหญ่แล้วเจ้าพวกนี้ ไปลองชมความน่ารักในท่านั่งแบบแปลกๆ ของพวกมันกันดีกว่า ทำไมแกทำหน้ายังงั้นล่ะฮะ เมื่อคุณถืออาหารอยู่…ดูสายตาของมันสิ แมวสายเล่นกล้ามนี่นา มันช่างพอเหมาะพอเจาะจริงๆ แหกแข้งแหกขาซะหมดเลยลูกเอ้ย เอ้าลุกนั่ง 10 ครั้ง!! ปฏิบัติ!! เหมือนลุงแก่ๆ คนนึงนะเอาจริงๆ ฮ่าา สงสัยเพิ่งกินข้าวอิ่ม อืดซะ ก็ฉันเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย มองไร หาเรื่องหรอ เหมือนนั่งอยู่ริมสระแล้วเอาขาจุ่มน้ำ ก็ทีมนุษย์ยังนั่งอย่างนี้ได้เลย ทำไมจะทำมั่งไม่ได้ หยิบรีโมทให้ฉันหน่อยซิ เจ้าทาส เซ็กซี่ไหมคะ พี่ขาา นี่เอ็งจะนั่งสมาธิหรอ ขนาดยืนยังพุงพลุ้ยขนาดนี้ ออกกำลังกายมั่งนะ …
-
นี่คือภาพของการทำงานภายใน ‘กระบอกเก็บเสียงปืน’ รู้ซักทีว่าเสียงหายไปได้ยังไง
ทุกคนรู้ว่าปืนเป็นอาวุธที่มีเสียงดังมากๆ ทำให้เกิดสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่ากระบอกเก็บเสียงขึ้น เพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว แต่เราเคยรู้มั้ยว่าการทำงานภายในกระบอกเล็กๆ นั้นมันเป็นอย่างไร ด้วยความสงสัยดังกล่าวทำให้ชายที่ชื่อว่า Destin Sandlin จากแชนแนลยูทูบ Smarter Every Day ทำการทดลองใช้กล้องสโลโมชั่นเก็บภาพการทำงานภายในของกระบอกเก็บเสียงดู เขาได้รับความร่วมมือจาก Steve ช่างฝีมือที่ทำงานอยู่ในบริษัท Soteria ผู้ผลิตอุปกรณ์และอาวุธปืนรายใหญ่ของรัฐอลาบาม่า นำอุปกรณ์มาให้ใช้ในการทดลอง ในการทดลองพวกเขาได้ใช้กระบอกเก็บเสียง 5 แบบ เราลองไปดูกันดีกว่าว่าการทำงานของมันเป็นอย่างไรกันบ้าง ด้วยวัสดุที่ทำขึ้นมาเพื่อให้สามารถมองเห็นข้างในได้ แต่มันกลับไม่สามารถทนแรงดันที่เกิดจากกระสุนได้ทำให้ปลอกหลุดออกไปหลังจากการยิง อันที่สองเราเริ่มได้เห็นการทำงานที่ชัดเจนขึ้น สังเกตได้ว่าแรงดันที่เกิดขึ้นจากการยิงจะไม่พุ่งออกไปจากปลายกระบอกเลย แบบที่สามถึงแม้ว่าจะมีลวดลายภายในต่างกัน แต่ก็ใช้หลักการเดียวกันกับแบบที่สอง กระบอกที่ 4 เองก็เช่นกัน มันจะเก็บไฟเอาไว้ไม่ให้หลุดลอดออกไปข้างนอกได้ สุดท้ายคือกระบอกที่ Destin ชื่นชอบมากที่สุดเพราะมันมีความใสเห็นข้างในได้ชัดเจน แต่เนื่องจากว่ามันทำมาจากอะคริลิค ทำให้ไม่สามารถทนรับแรงดันของกระสุนได้และแตกกระจายออกมาในที่สุด จากการทดลองทั้งหมดเขาก็ได้อธิบายหลักการการทำงานของกระบอกเก็บเสียงเอาไว้ว่า ภายในจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนที่หนึ่งมีไว้เพื่อไม่ให้แรงดันกระจายออกไปในอากาศ และส่วนที่สองมีไว้ปิดกั้นให้แรงดันดังกล่าวยังคงอยู่ภายในกระบอกจนกว่าจะหายไปเอง เสียงปืนที่ดังออกมาเกิดขึ้นจากแรงดันของกระสุนที่ออกมาด้วยความแรง เพราะฉะนั้นการที่เก็บแรงดันไว้ในกระบอกได้ก็จะช่วยให้ไม่เกิดเสียงนั่นเอง ส่วนแรกตรงโคนจะช่วยให้แรงดันที่เกิดขึ้นไม่กระจายตัวออกไปในอากาศ ส่วนที่สองจะช่วยปิดกั้นให้มันอยู่ข้างในและสลายหายไปเอง คลิปการทดลองที่ทำให้เห็นว่าภายในกระบอกเก็บเสียงเป็นอย่างไร …
-
ตำรวจอึ้งหลังชายไต้หวันเข้ามอบตัว พร้อมกับถุงขยะบรรจุศพลูกสาวที่เคยพลั้งมือฆ่าเมื่อ 12 ปีก่อน
วันที่ 20 ตุลาคม 2017 สำนักข่าวเดลีเมลได้เปิดเผยเรื่องราวชวนช็อกที่เกิดขึ้น ณ เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน เมื่อชายวัย 43 ปีรายหนึ่งได้เดินเข้าไปมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมถือถุงขยะมาด้วย 1 ใบ ซึ่งเขาได้อ้างว่า ในถุงขยะใบนั้นมีศพของลูกสาววัยเพียง 1 เดือน ที่เคยพลั้งมือฆ่าไปเมื่อ 12 ปีก่อน เหตุเพราะรู้สึกโมโหที่ลูกไม่ยอมหยุดร้องไห้ขณะเอานมให้ดื่ม ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตซานมิน เมืองเกาสง ได้ออกมาเผยว่าพวกเขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อชายที่ชื่อหลิน วัย 43 ปีรายนี้ เดินถือถุงศพเข้ามาสารภาพในสิ่งที่เคยทำไว้เมื่อปี 2005 อย่างไรก็ตามนายหลินได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ว่า หลังจากที่เขาพลั้งมือตีลูกสาวจนตาย ในเวลานั้นเขารู้สึกตกใจ และทำอะไรไม่ถูก เขาจึงนำร่างของเธอไปยัดใส่ในถุงขยะ และแอบซ่อนเอาไว้ใต้เตียงนอน นอกจากนี้เขายังโกหกภรรยาวัย 38 ปี อีกว่าผู้เป็นย่าได้มารับเอาลูกไปเลี้ยงแล้ว ซึ่งเขาก็ห้ามเอาไว้ไม่อยู่ และไม่สามารถที่จะหาทางนำตัวลูกสาวกลับมาได้เลย จากการรายงานระบุว่า อีก 2 ปีต่อมา นายหลินและภรรยาของเขาก็ได้มีลูกสาวด้วยกันอีกครั้ง โดยเขาได้ปล่อยให้ลูกนอนอยู่บนเตียงที่เคยซ่อนศพที่เน่าเปื่อยของลูกคนแรกเอาไว้นานถึง…
-
เด็กสาวตัวน้อยแสนใจบุญ ปลูกผักและสร้างบ้านให้กับ ‘คนไร้บ้าน’ ได้ถึง 11 หลัง!!
เวลาที่เจอกับคนไร้บ้าน พวกเราส่วนใหญ่ก็จะซื้ออาหารไปให้พวกเขาหรือเอาเงินให้ไปซื้อของที่จำเป็น โดยที่ไม่ได้ต่อยอดอะไร แต่สำหรับเด็กน้อยคนนี้กลับทำสิ่งที่มากกว่านั้น เมื่อเด็กสาววัย 9 ขวบที่ชื่อว่า Hailey Ford ตัดสินใจปลูกผักแจกจ่ายให้กับคนไร้บ้าน รวมทั้งพยายามสร้างบ้านให้กับพวกเขาอีกด้วย จนเรื่องราวของเธอกลายเป็นที่ชื่นชมบนโลกอินเตอร์เน็ต จะเป็นอย่างไร เราลองไปชมกันเลย สาวน้อยคนนี้อาศัยอยู่ในเมือง Bremerton รัฐวอชิงตัน วันหนึ่งเธอกับแม่ได้เจอกับชายไร้บ้านตกงานชื่อ Edward เข้า พวกเธอจึงซื้ออาหารมาให้เขา แต่ว่าการให้ในครั้งนั้นเด็กสาวเชื่อว่ามันยังไม่เพียงพอ เธอตัดสินใจปลูกผักสวนครัวเพื่อที่จะทำไปแจกจ่ายให้กับคนไร้บ้าน โดยในปีแรกที่เธอเริ่มปลูกผัก เธอสามารถแจกจ่ายไปได้ถึง 58 กิโลกรัม และเธอก็ทำมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพออีกอยู่ดี หลังจากนั้นไม่นาน เธอจึงเกิดไอเดียสร้างบ้านเคลื่อนที่ให้กับคนไร้บ้านซะเลย เธอบอกว่า “การที่ยังมีคนไร้บ้านอยู่เป็นเรื่องไม่ถูกต้องอย่างมาก ฉันคิดว่าทุกคนควรต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง” . บ้านที่เธอได้วางแผนเอาไว้คือ หลังคาจะติดตั้งด้วยแผ่นรับพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนรอบๆ ก็จะบุด้วยผ้ายีนส์เพื่อกันความร้อน แน่นอนว่าหากไม่มีเงินทุนเธอคงไม่สามารถทำให้ฝันเป็นจริงได้ Miranda แม่ของเธอจึงได้ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ให้เข้ามาบริจาคเงินผ่านองค์กรที่ชื่อว่า Together Rising เพื่อนำมาสานฝันครั้งนี้ . เธอได้รับเงินบริจาคมากถึง 100,000…
-
“ชาชีส” เครื่องดื่มสุดฮอตฮิตที่มาแรงมาก ถึงขนาดชาวจีนยอมต่อแถวซื้อนานถึง 5 ชั่วโมง
มันอาจจะฟังดูค่อนข้างแปลกสำหรับใครหลายๆ คน หากมีการนำชีสมารวมตัวกับเครื่องดื่มอย่างชาจนกลายมาเป็นชาชีส และแน่นอนว่าเมนูเครื่องดื่มสุดแหวกแนวนี้ได้ก่อกำเนิดขึ้นในทวีปเอเชียแล้ว แถมยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ชาวจีนหลายพันคนได้พากันมายืนต่อแถวเป็นเวลานานถึง 5 ชั่วโมง เพื่อรอซื้อ “ชาชีส” โดยเฉพาะ จากการายงานระบุว่า ไม่มีเดือนที่ผ่านมา Hey Tea ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังการผลิตชาชีสชื่อดังของจีน ก็ได้ทำให้วงการชากลับมาคึกคักอีกครั้ง ภายหลังจากที่ได้ออกเมนูใหม่ “ชาผสมชีส” เครื่องดื่มสุดแหวกแนว ที่สื่อจีนต่างพากันกล่าวขวัญถึงกระแสความฮอตที่ฉุดไม่อยู่ เพราะเมื่อได้เริ่มนำออกมาจำหน่ายได้ไม่ทันไร ก็ได้สร้างสถิติให้คนรอนานถึง 2 ชั่วโมงแล้ว หรือถ้าหากใครที่มาช้าหน่อยก็อาจจะได้รอนานถึง 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว สำหรับบริษัท Hey Tea แรกเริ่มเป็นร้านขายชาเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนริมถนนในมณฑลกวางตุ้ง ปัจจุบันได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทชาที่กำลังมีอัตราการเติบโตสูง โดยได้ขยายกิจการทั่วมณฑลกวางตุ้งไปมากกว่า 50 สาขา นอกจากนี้ ยังได้ไปเปิดในเมืองใหญ่ๆ อย่างเซี่ยงไฮ้ และกรุงปักกิ่งอีกด้วย “ชาชีส” ถือเป็นเมนูเครื่องดื่มใหม่ที่มาแรงมาก ประกอบไปด้วยน้ำชาหลากสีสัน หรืออาจจะเป็นชาใส่นมหรือไม่ใส่ก็ได้ แต่ส่วนสำคัญอยู่ตรงที่วิปชีสหนานุ่มที่ใส่เอาไว้ด้านบน…
-
ไอเดียสุดเจ๋งของ ‘สุสานยุคโมเดิร์น’ บอกเล่าถึงกระแสสังคมที่ตายจากเราไปตามกาลเวลา
ป้ายหลุมศพที่เราเห็นตามสุสานจะมีลักษณะที่ไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่ และบันทึกชื่อของผู้ตายหรืออื่นๆ เพียงแค่ไม่กี่ประโยค แต่วันนี้เราจะพาไปดูสุสานสุดพิสดารที่ถ้าขับรถผ่านก็คงต้องแวะจอดลงไปดูกันเลย เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2017 ได้มีการแชร์รูปของสุสานประหลาดๆ ที่เป็นไอเดียของ Michael Fry ผู้เป็นทั้งคุณพ่อและอาจารย์ศิลปะ เขาได้สร้างผลงานนี้ในลักษณะของ “สุสานยุคโมเดิร์น” เพื่อแสดงให้เห็นว่าตามสื่อหรือโลกออนไลน์ในปัจจุบันได้มีอะไรตายไปแล้วบ้าง แน่นอนว่าข้างใต้ของหลุมฝังศพก็ไม่ได้มีคนนอนตายอยู่จริงๆ หรอกนะ การทำท่า Dab หรือสร้างสไลม์ขึ้นมาเอง คือสิ่งที่เราไม่ได้เห็นกันเท่าไหร่แล้วในปัจจุบัน ทั้งๆ ที่มันเคยได้รับความนิยมอย่างมาก เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ้านผีสิงของดิสนีย์ ก่อนที่จะมาดัดแปลงหน้าบ้านของตัวเองให้กลายเป็นป้ายหลุมฝังศพที่พูดถึงกระแสในสื่อต่างๆ ที่เคยดังมาก่อน แฟชั่นของสาวๆ อย่างการทำสีผมสไตล์ Ombre หรือทำปากให้ดูอวบอิ่มก็เริ่มซาลงไป รวมถึง Taylor Swift คนเก่าที่ได้ตายจากเราไปแล้ว เห็นได้จากซิงเกิ้ลใหม่ของเธอ เด็กรุ่นใหม่ก็ไม่ได้มานั่งดูทีวีกันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว อยากดูอะไรก็หาในยูทูบไรงี้ก็ได้แหละนะ ในวันฮาโลวีนเมื่อปีที่แล้ว เขาก็ได้ตกแต่งประตูบ้านด้วยหัวกระโหลกอีกด้วย เห็นอย่างนี้แล้วจะมีเด็กคนไหนกล้าเข้าไปขอขนมลูกอมกันล่ะเนี่ย นับว่าเป็นแนวคิดเจ๋งๆ ที่ทำให้เห็นว่าโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงของกระแสต่างๆ อยู่เสมอ ที่มา: theberry
-
7 เหตุผลหลักที่บอกว่าเหตุใด ‘ความรักระยะไกล’ ถึงไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไหร่นัก
“ระยะทางพิสูจน์รักแท้” เป็นนิยามของใครหลายคนเวลาที่ต้องอยู่ไกลจากคนรักของเรา แต่ในความเป็นจริงการรักษาความรักของทั้งสองเอาไว้ให้อยู่ต่อไปได้เป็นเรื่องที่ยากมาก ไม่ใช่เรื่องแปลกเวลาที่เราเห็นคู่รักต้องแยกทางกันเพราะมีระยะทางเป็นอุปสรรค แต่เราเคยสงสัยมั้ยว่าทำไมมันถึงต้องเป็นอย่างนั้น วันนี้เราจึงมาพูดถึง 7 เหตุผลสำคัญที่ทำให้การคบกันทางไกลไม่ประสบความสำเร็จ ไปดูกันได้เลยยย ขาดความเชื่อใจซึ่งกันและกัน สิ่งสำคัญของชีวิตคู่คือการเชื่อใจและไว้ใจกันของทั้งสองฝ่าย แต่เมื่อต้องอยู่ไกลกันทำให้ไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน ความรู้สึกไม่เชื่อใจอีกฝ่ายก็จะเกิดขึ้นและกลายเป็นว่าเราคอยเช็คเรื่องของแฟนอยู่ตลอดเวลา จนอาจเป็นสาเหตุทำให้รู้สึกไม่สบายใจและเลิกรากันไป การนอกใจ ในช่วงเวลาที่เรารู้สึกอ่อนแอหรือเจอกับปัญหาจนรู้สึกต้องการใครซักคนมาอยู่ข้างๆ สิ่งนั้นอาจทำให้เกิดการนอกใจขึ้นมาได้เพราะแฟนของเราอยู่ในที่ที่ไกลออกไป นอกเสียจากว่าคุณจะเป็นคนที่แข็งแกร่งแน่วแน่อย่างมากเท่านั้น ถึงจะอดทนไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นมา ระยะทางสร้างความวิตกกังวล หงุดหงิด จนอาจเป็นสาเหตุให้ทะเลาะกัน แม้ว่าความห่างไกลจะทำให้คุณหงุดหงิด ถึงอย่างไรคุณต้องควบคุมสิ่งนั้นเอาไว้ให้ได้อย่าปล่อยให้อารมณ์พาไป ไม่อย่างนั้นคุณกับแฟนอาจต้องทะเลาะกันโดยไร้ความหมายและไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับชีวิตคู่เลย ไม่ยอมปรับความเข้าใจกัน ระยะทางไม่ใช่ปัญหาในทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เพราะฉะนั้นการพูดคุยปรับความเข้าใจกันภายหลังจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่อย่างนั้นการเลิกราก็อาจตามมาได้ในไม่ช้า การมองไม่เห็นถึงอนาคตที่จะได้อยู่ด้วยกัน ความคิดที่ว่า “อีกไม่นานเราก็จะได้กลับไปอยู่กับคนรักแล้ว” เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยรักษาความรักระยะไกลของเราเอาไว้ได้ เพราะถ้าเราไม่คิดอย่างนั้นก็อาจทำให้เกิดความรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวังในความรักได้ ไม่มีอะไรจะพูดกันอีก ลองคิดดูว่าเมื่อเราได้แต่โทรหาอยู่ทุกคืน เวลาผ่านไปนานๆ สุดท้ายไม่มีเรื่องอะไรให้คุยกันอีก และตอนนั้นคุณก็จะได้เจอกับชีวิตคู่ที่แสนทรหดและยากจะผ่านไปได้ โซนเวลาที่ต่างกันในแต่ละประเทศ เมื่อแฟนต้องไปเรียนต่อหรือไปอยู่เมืองนอก แน่นอนว่าพวกคุณจะต้องเจอกับปัญหาเวลาไม่ตรงกัน…
-
ชมความยิ่งใหญ่ของ สะพานข้ามทะเล 55 กิโล ยาวสุดในโลก เชื่อม 3 เกาะในจีนเข้าด้วยกัน
สมัยนี้เส้นทางการคมนาคมได้มีการพัฒนาเพื่อทำให้เราสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย และหากเป็นประเทศที่เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำอย่างประเทศจีน นอกจากความสะดวกสบายที่ได้มาแล้ว พวกเขายังเพิ่มเติมความยิ่งใหญ่อลังกาลให้สมกับการเป็นประเทศชั้นนำของโลกอีกด้วย วันนี้ #เหมียวตะปู จะมาชวนเพื่อนๆ ไปเจอกับสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลกของประเทศจีน มีความยาวมากถึง 55 กิโลเมตรเลยทีเดียว!! สะพานแห่งนี้มีชื่อว่าสะพาน ฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ตามชื่อเมืองที่เชื่อมหากัน สะพานแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นในเดือนธันวาคมปี 2009 จนแล้วเสร็จในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2017 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเปิดใช้งานในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ สิ่งก่อสร้างอันสวยงามและยิ่งใหญ่ต้องใช้เหล็กกว่า 420,000 ตัน เทียบเท่ากับการสร้างหอไอเฟลได้มากถึง 60 แห่ง และต้องเสียเงินไปมากกว่า 500,000 ล้านบาท ความยาวที่ถึงกับมองไม่เห็นปลายทางอีกฝั่งเลย นอกจากนั้นไม่ได้มีเพียงแค่สะพานข้ามทะเล เพราะระหว่าทางพวกเขาได้สร้างเกาะเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อใช้ในการแวะจอดพักรถกัน อีกทั้งยังมีอุโมงค์ลอดใต้ทะเลที่ยาวที่สุดประกอบเป็นส่วนหนึ่งของสะพานอีกด้วย อุโมงค์ดังกล่าวมีความลึกอยู่ใต้ผิวน้ำไป 40 เมตรและยาวถึง 6.7 กิโลเมตร จุดพักรถที่เหมือนกับเป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางทะเลเลยก็ว่าได้ อีกไม่นานเกินรอมันก็จะเปิดให้ผู้คนได้เข้าไปโลดแล่นกันแล้ว สะพานอันยิ่งใหญ่อลังการนี้ตั้งอยู่บนทะเลทางตอนใต้ของปนะเทศจีน เพื่อเชื่อมระหว่าง 3 เมืองใหญ่ได้แก่…
-
18 ภาพที่พิสูจน์ให้เห็นว่า “ยีน” ของมนุษย์ ช่างเป็นเรื่องที่ซับซ้อน และมหัศจรรย์ในเวลาเดียวกัน
“ยีน” คือหน่วยที่ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมต่างๆ ในร่างกายของสิ่งมีชีวิต ที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและน่าอัศจรรย์ ในบางครั้งลักษณะทางพันธุกรรมเหล่านี้ ก็ได้สร้างให้มนุษย์ที่ลักษณะที่โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางคนเกิดมาเป็นพี่น้องกัน แต่กลับดูต่างกันอย่างสิ้นเชิงก็มี และวันนี้เราได้นำเรื่องราวที่น่าสนใจของยีนมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน และมันก็จะพิสูจน์ให้คุณได้เห็นว่า ยีนของมนุษย์มันน่าประหลาดใจ และซับซ้อนมากขนาดไหน สาวลูกครึ่งเอเชีย-ยุโรป ที่มีผมสีแดงเหมือนฝรั่งแต่หน้าตากลับเหมือนคนเอเชีย หนุ่มผิวเข้มชาวเมลานีเซียที่มีดวงตาสีอ่อน และเส้นผมสีขาวทั้งๆ ที่ไม่ได้เกิดมาเป็นคนเผือก หนุ่มแฝดที่ดูต่างกัน เมื่อคนหนึ่งดูเหมือนชาวไอริช แต่อีกคนกลับไม่ใช่ สองพี่น้องที่มีพ่อเป็นคนยุโรป และแม่เป็นชาวอาร์เจนตินา แต่กลับดูต่างกันเพราะคนน้องกลับมีผมสีสว่าง และดวงตาสีฟ้า ในขณะที่คนพี่เป็นคนผิวเข้ม ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้หรอกว่าพวกเธอเป็นพี่น้องฝาแฝด เพราะคนหนึ่งมีผิวสีน้ำผึ้ง คนหนึ่งมีผิวสีขาว ”ตอนที่พวกเราเกิดมา แม่ของเราแทบพูดไม่ออกเลย” เธอคนนี้มีพ่อเป็นคนผิวสีและแม่เป็นคนผิวขาว แต่เธอกลับได้เชื่อแม่มาเต็มๆ คู่พ่อลูกที่ดูแตกต่างกันมาก หญิงสาวผู้เกิดมามีผมสีแดงและดวงตาสองสี “ผู้คนมักจะชอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับดวงตาของฉัน และฉันก็ได้ตอบกลับไปว่า Sectoral Heterochromia” Sectoral Heterochromia เกิดจากความผิดปกติของยีนที่ทำให้เม็ดสีเมลานินในดวงตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน และสามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นผ่านพันธุกรรม หรือบางกรณีก็อาจเกิดจากอุบัติเหตุได้ด้วยเช่นกัน…
-
แมวที่ไม่ยอมกอดเจ้านายตัวเองเลย แต่พอรู้ว่าเธอมีเบบี๋เท่านั้นแหละ เข้ามาติดแจเลยนะ!!
นี่คือเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวหนึ่ง ที่ไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตนี้จะได้เข้ามาอาศัยอยู่กับเจ้าของคนใหม่ ภายหลังจากเจ้าของคนเดิมได้ตายจากมันไป และนั่นก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ที่จะทำให้ชีวิตของมันมีความสุขไปอีกนานแสนนาน เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Lisa Kitchen และสามีของเธอกลับจากฮันนีมูน เธอพบว่าแมวสุดรักวัย 19 ปีของเธอได้จากโลกนี้ไปอย่างกะทันหัน ด้วยความคิดถึง เธอจึงรับเจ้า Max เหมียวน้อยเข้ามาเลี้ยงในทันที และตั้งแต่วันที่พวกเขาได้พา Max เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน Lisa ก็ได้สังเกตเห็นว่ามันดูเหมือนจะชอบสามีของเธอมากกว่าเธอซะอีก “ในตอนแรกมันติดสามีของฉันมากๆ เลยล่ะ แถมยังชอบมานอนขดตัวบนหน้าอกของเขาด้วย แต่กับฉันแล้วมันแทบไม่อยากเข้ามายุ่งเลย” Lisa กล่าว สำหรับ Max มันเป็นแมวที่น่ารัก และขี้เล่นมาก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้มันไม่อยากที่จะเข้าไปใกล้ ไม่เคยกอด ไม่เคยเล่น หรือให้ความสำคัญกับ Lisa เลย จนกระทั่งวันหนึ่งทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อ Lisa ได้กลับถึงบ้านหลังจากการทำงาน ดูเหมือนว่าเจ้าเหมียวต้องการความสนใจจากเธอ แถมยังชอบเข้ามาก่อกวนเป็นพิเศษ จนเธอถึงกับงงว่ามีอะไรเข้าสิงเจ้าแมวตัวนี้ ในที่สุด Lisa ก็ได้ตัดสินใจที่จะมอบความรักให้กับเจ้าเหมียว และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจมากเพราะไม่คิดว่าจะได้รับการยอมรับจากมัน แม้จะฟังดูแปลกไปหน่อย แต่ Lisa…
-
ชมภาพถ่ายของ “เจ้าหญิงดิสนีย์” ในยามที่พวกเธอกลายเป็น “ราชินี” ที่แม้แก่ตัวแต่ยังสง่างาม
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าโลกอินเตอร์เน็ตมักจะเต็มไปด้วยเรื่องราวของเจ้าหญิงดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็น การถูกศิลปินเปลี่ยนให้กลายเป็นตัวการ์ตูนอนิเมชั่นสุดน่ารัก หรือถูกจับแต่งตัวให้อยู่ในยุคสมัยปัจจุบัน และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าสนใจ เมื่อ Tony Ross ช่างภาพ และ Nephi Garcia หรือ “Design Daddy” สไตล์ลิสต์ออกแบบเครื่องแต่งกาย ได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์ภาคต่อของเจ้าหญิงดิสนีย์ โดยต้องการแสดงให้เห็นว่าหากพวกเธอแก่ตัวไปกลายเป็นราชินี จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร? งานนี้ทั้งคู่จึงได้ทำการออกแบบชุดให้กับเหล่าเจ้าหญิงขึ้นมาใหม่ พร้อมแต่งเติมรายละเอียดให้ดูมีความเป็นราชินีผู้ยิ่งใหญ่ลงไป โดยแต่ละชุดล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดเดิมของเจ้าหญิงทั้งหมด และเพื่อให้ได้ความสมจริง พร้อมกับแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละคร ดังนั้นพวกเขาจึงได้ใช้นางแบบถึง 2 รุ่นที่เป็นแม่ลูกกันมาถ่ายแบบในครั้งนี้อีกด้วย “ฉันอยากแสดงให้เห็นว่าเจ้าหญิงไม่ได้แต่งตัวสวยงามและอยู่ในวัยสาวเพียงอย่างเดียว เพราะพวกเธอแต่ละคนก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ฉันต้องการทำให้โลกได้เห็นว่าพวกเธอเป็นอิสระ และโตเป็นผู้ใหญ่” Nephi กล่าว นางแบบแต่ละคนที่ได้เข้ามาร่วมการถ่ายภาพชุดนี้ ล้วนแต่เป็นแม่ลูกกันทั้งนั้น เว้นแต่สโนว์ไวท์ที่ได้ให้แม่สามีของเธอมาเป็นแบบ . ทางด้าน Tony ได้ออกมาเผยว่า “เรามองหาเพื่อน คนรู้จัก และคนในครอบครัวที่สนใจอยากจะมารับบทเป็นเจ้าหญิงแต่ละคนอย่างจริงจัง เพื่อให้ได้ผลงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งยังเป็นการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวอีกด้วย เป้าหมายหลักของโครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์ของแม่ลูกเท่านั้น แต่ทุกคนในครอบครัวของพวกเขาก็มักจะชื่นชมเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน” …
-
19 วิถีความเพี้ยนแห่งรัสเซีย มีอะไรให้เราเซอร์ไพรส์ได้ตลอด แบบนี้ก็มีบนโลก
ถ้าหากพูดถึงประเทศรัสเซีย นอกจากจำนวนประชากรที่มากมายมหาศาล และพื้นที่ขนาดใหญ่ของประเทศแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนมักจะนึกถึงนั่นก็คือ ความโหดและความดุดันของผู้คนที่นี่นั่นเอง แต่นอกจากความโหด-ัสรัสเซียแบบที่เราเคยได้ยินกันมาบ่อยๆ แลัว ในบางมุมผู้คนจากเมืองหนาวนี้เองก็มีความฮาๆ กับเค้าด้วยเหมือนกันนะ และวันนี้เราก็มีภาพ 19 วิถีความเพี้ยนแห่งรัสเซียมาให้ได้ชมกัน แต่ละภาพจะฮาแค่ไหนไปชมกันเลย… 1. รู้แล้วจ้าว่าตู้เสีย แหม่… แค่เขียนป้ายติดก็พอมั้ง?? 2. ฝนตกแล้วหาที่หลบเร็วเจ้าหนู…ได้เลยฮะ!! 3. อื้ม…แบบนี้ก็เขินแย่เลยนะสิเจ้าหมี!? 4. จ่าเฉยก็จ่าเฉยเถอะ เจอทหารรัสเซียนายนี้เข้าไปซะก่อน!! 5. เสียงเพลงอันไพเราะ จะช่วยให้ผักเจริญเติบโตได้ดีนะ รู้รึเปล่า?? 6. นี่คือการแอบมาเจอสาวแบบชาวรัสเซียสินะ?? 7. เอิ่ม… สงสัยจะอยู่ในช่วงปรับปรุงสนามสินะ 8. ตะแกรงปิ้งมันหายาก ก็เลยใช้ด้ามปืนก็แล้วกันนะ!! 9. ชาลาลาปั๊บ ชาลาล่าปั๊บ!! 10. ถึงแม้ว่าอากาศจะหนาวเหน็บแค่ไหน แต่แค่มีกางเกงบอลกับเสื้อวอร์มบางๆ ก็พอแล้ว 11. กะจะใส่ชุดนี้ขึ้นประกวดเพื่อเรียกคะแนนสินะ??…
-
ชมให้จุใจ… 50 ภาพน่ารักของเหล่าแมวเหมียว แห่งปี 2017 ที่จะทำให้ทุกคนยิ้มแฉ่ง!!
ว่ากันว่าแมวเหมียวทั้งหลายนั้นมีความสามารถในการเยียวยาจิตใจ สามารถทำให้คนเศร้าๆ หรือพบเจอเรื่องแย่มา นั้นรู้สึกดีขึ้นได้ ราวกับว่าเป็นยาวิเศษเลยล่ะ และขอให้บุ๊คมาร์คบทความนี้เอาไว้เลย เพราะว่าเมื่อไหร่ที่เพื่อนๆ รู้สึกท้อแท้ใจ หรือพบเจอกับเรื่องแย่ๆ ในชีวิตก็ให้เข้ามาชมความน่ารักของแมวเหมียวทั้งหลาย มันจะต้องช่วยสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนได้อย่างแน่นอน 1. เดือนนี้ไล่จับหนูได้ดี อ่ะเอารางวัลนี้ไปนะเจ้าเหมียว 2. แมวเหมียวกับเครื่องประดับที่ดูดีมีสไตล์ 3. ไม้แขวนแมว 4. แมวคนตัดฟืน 5. แมวนักปรัชญา (เราเกิดมาทำไมกันนะ? มีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร?) 6. แม้แต่กินน้ำก็ยังทำท่ายาก 7. ห้ามถ่ายนะ!! 8. แมวแบทแมน 9. นั่นแมวรึเพนกวิ้น!? 10. แมวจิตแพทย์ 11. ดุ๊กดุ๋ยๆๆ 12. มาให้ชั้นรักซะดีๆ เจ้าหมา 13. แมวเซปชั่น 14.…
-
ชาวเน็ตผงะ!! สภาพห้างดังใน ‘แคนาดา’ หลังประกาศเซลส์ เละตุ้มเป๊ะไม่เป็นท่า..!?
เป็นธรรมดาอย่างที่เราทราบกันดีว่า เมื่อไหร่ที่ของแบรนด์เนมตามห้างประกาศเซลส์ลดราคาเมื่อไหร่ เหล่านักช็อปก็จะตามแห่แหนไปแย่งซื้อกันจนล้นห้าง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีชาวเน็ตออกแชร์พฤติกรรมของนักช็อปในห้าง SEARS จากประเทศแคนาดา หลังมีการประกาศเซลส์ครั้งใหญ่แบบลดล้างสต็อคก่อนที่ห้างจะปิดตัวลง และนี่คือสภาพในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น… โซนรองเท้าผ้าใบถูกรื้อกระจัดกระจาย หลังห้างประกาศลดราคาสินค้าทุกอย่างลง 20 – 50% ผู้คนก็เลือกซื้อกันอย่างบ้าคลั่ง มีการฉีกกล่องทิ้งเรี่ยราดเต็มไปหมด… ชาวเน็ตเจ้าของภาพเล่าว่า มันเต็มไปด้วยความบ้าบิ่นของมนุษย์ ทุกคนเลือกที่จะโยนของที่เลือกมาแต่ไม่ต้องการทิ้งอย่างไม่ใยดี เพียงเพราะมันลดราคา ภายในไม่กี่ชั่วโมงทั่วทั้งห้างก็เต็มไปด้วยกองขยะที่เกิดจากความเห็นแก่ตัวของผู้คน ไม่ใช่แค่โซนเครื่องแต่งตัวเท่านั้น แม้แต่ชั้นวางสินค้าอย่าง ‘หมอน’ ก็ถูกเทกระจาดเช่นกัน ชาวเน็ตบางคนเล่าว่า นักช็อปทั้งหลายแค่ต้องการจะหยิบมันมาก่อนเพียงเพราะมันลดราคา พวกเขาต่างพยายามหยิบมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่ต้องการ ชั้นวางรองเท้าผู้หญิงไม่ต้องพูดถึง เละที่สุดในห้างเลยก็ว่าได้ แต่ถึงกระนั้นเหล่านักช็อปหลายคนก็ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ยังลดราคาได้ไม่น่าพอใจ ทำให้ตัดสินใจไม่ซื้อของหลายอย่างที่หยิบมา” พฤติกรรมดังกล่าวของผู้บริโภคในห้างแคนาดา ก็ได้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตจากทั่วโลก… บ้างก็เล่าว่าเคยทำงานในห้างมาก่อน และก็ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมทุกครั้งที่มีลดราคา ผู้คนจะต้องทำนิสัยแบบนี้อยู่เสมอๆ บ้างก็เห็นใจพนักงานที่ต้องคอยรับมือกับผู้บริโภคแย่ๆ แบบนี้ แต่ชาวเน็ตบางคนก็ออกมาแซะว่า… ทีนี้ละคนแคนาดาก็อย่ามาว่าให้คนอเมริกันตอนช่วง Black Friday…
-
จากชีวิตที่เคยติดยา เปลี่ยนตัวเองให้มีคุณค่า ด้วยทักษะแห่งศิลปะกะโหลกควาย
“ผมเดาว่าทุกคนหลงใหลในความตาย” คุณ Victor ศิลปินผู้เป็นเจ้าของงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับความตาย อย่างงานแกะสลักกะโหลกสัตว์ ศิลปินจากทรานซิลเวเนีย ดินแดนทางตอนกลางของประเทศโรมาเนีย ผู้นี้เริ่มต้นงานศิลปะของเขาหลังจากที่ถูกจับกุมข้อหาครอบครองยาเสพย์ติดเมื่อ 4 ปีก่อน “ผมเริ่มต้นงานแกะสลัก ในตอนที่ผมถูกส่งตัวไปบำบัดสารเสพย์ติด มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมยังสามารถมีสติ และสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ในตอนนั้น” ศิลปินหนุ่มกล่าว ถึงแม้ว่าจะไม่เคยฝึกฝนทางด้านนี้มาก่อน แต่คุณ Victor ก็ไม่ได้ท้อถอยแต่อย่างใด ในตอนแรกนั้นเขาแทบจะทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ศิลปินหนุ่มก็พยายามและตั้งใจที่จะฝึกฝนฝีมือการแกะสลักของเขา และหลังจากผ่านไป 1 ปี ศิลปินของเราก็เริ่มลงทุนซื้อเครื่องมือชิ้นใหม่ มอเตอร์เล็กๆ ที่เขาซื้อมาใหม่นั้นช่วยในการทำงานแกะสลักของเขาได้เป็นอย่างดี และจากนั้นฝีมือของเขาก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนผลงานของเขาเป็นที่ต้องการของลูกค้าจากทั่วโลก “ผมขายมันให้กับผู้คนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นชาติหรือศาสนาไหนก็ตาม และแน่นอนว่าจุดประสงค์ของคนที่ซื้อไปแต่ละคนนั้นก็ไม่เหมือนกัน” คุณ Victor กล่าว โดยกะโหลกที่เป็นวัสดุหลักในการสร้างงานศิลปะของคุณ Victor นั้นมีที่มาจากแหล่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นจากโรงฆ่าสัตว์ หรือบางครั้งเขาก็ได้มันมาจากเกษตรกรในท้องถิ่น กะโหลกที่ได้มาจากแหล่งต่างๆ ถูกนำมาทำความสะอาดและฟอกขาวโดยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ก่อนที่จะถูกนำไปแกะสลักอย่างประณีต . . . . . . . ในขั้นตอนการแกะสลักที่ต้องใช้ความตั้งใจเป็นพิเศษ . . .…
-
ครอบครัวออกท่องเที่ยวไปพร้อมกับลูกน้อย พร้อมมอเตอร์ไซค์พ่วงคู่ใจ กลายเป็นทริปที่น่าจดจำ
หลายคนมีความฝันอยากพักจากการทำงานหรือการเรียน ขับรถออกไปเที่ยวในที่ไกลๆ สูดรับออกซิเจนให้เต็มปอดท่ามกลางธรรมชาติอันกว้างใหญ่เหมือนกับครอบครัวนี้ ครอบครัวนี้มีด้วยกันอยู่สามคนพ่อแม่ลูกผู้ที่รักการเดินทางกันอย่างมาก ในปี 2015 พวกเขาได้ใช้รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างคู่ใจพากันออกไปเที่ยวทั่วทวีปยุโรป แต่พอผ่านไปหนึ่งปีพวกเขาก็ได้ออกเดินทางในแบบที่เจ๋งกว่านั้น ปี 2016 ทั้งครอบครัวตัดสินใจนำเจ้ามอเตอร์ไซค์คันเดิมแล่นไปทางตะวันออกมุ่งหน้าสู่เทือกเขาคอเคซัส ที่ตั้งอยู่ระหว่างประเทศจอร์เจีย และอาร์เมเนีย บนเส้นทางลูกรังที่ไม่ใช่ถนนใหญ่และไม่ค่อยมีใครขับผ่าน ไปดูกันเลยว่าการเดินทางไกลของพวกเขาในครั้งนี้ต้องเจอกับอะไรมาบ้าง พวกเขาต้องนั่งพักรอเรือข้ามฟาก เพื่อเดินทางจากเมืองโอเดสซา ประเทศยูเครน ไปยังเมืองบาทูมี ประเทศจอร์เจีย ในที่สุดเรือก็มาถึงและกำลังแล่นผ่านทะเลดำไปอย่างสงบ อาจต้องเจอกับลมพายุบ้างเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรฟ้าหลังฝนก็สวยงามเสมอ พอถึงฝั่งพวกเขาก็ได้ขับเข้าหมู่บ้าน Ushgali ประเทศจอร์เจีย เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สูงที่สุดที่ยังมีคนอาศัยอยู่ คุณแม่กับลูกชายวัย 5 ขวบ ที่ชื่อ Vladimir นั่งกอดกันกลมเชียว ภาพของเด็กน้อยกำลังขี่ม้าที่พวกเขาได้เจอขณะพักกันอยู่ในหมู่บ้าน ออกลุยกันต่อด้วยเส้นทางตัดผ่านเทือกเขาไปยังหมู่บ้าน Lentekhi เทือกเขาคอเคซัส ที่กว้างไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา แวะพักกันในเมืองกอรี หายร้อนกันไปทั้งคนทั้งรถ วันหนึ่งเมื่อเด็กชายตื่นขึ้นมา เขามีไข้ขึ้นสูงมากและอาหารเป็นพิษ ทำให้คลื่นไส้จนอ้วกออกมาเต็มที่นอนไปหมด แต่ก็ไม่มีคำว่าย่อท้อหรอกนะ พวกเขาพยายามจะขับรถผ่านหนึ่งในเส้นทางที่อันตรายที่สุดเพื่อไปยังหมู่บ้าน…
-
ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนแอบเข้าไปเล่นบาสในยิม แทนที่จะไล่ออกไป กลับออกค่ายิมให้แทน
ปกติแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะทำตามกฏหมาย ผิดว่าไปตามผิดโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ก็มีเจ้าหน้าที่บางคนยอมฟังรับฟังเหตุผล ลดโทษ รวมทั้งไม่เอาโทษ ในกรณีที่เป็นการกระทำผิดที่ไม่ร้ายแรง เหมือนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา คนนี้ที่ไม่ใช่แค่ไม่ทำโทษ แต่ยังช่วยเหลือผู้กระทำผิดจนได้รับการชื่นชมจากผู้คนจำนวนมาก เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Vincent Gonzales เด็กหนุ่มวัย 15 ปี จาก Skokie ได้แอบเข้าไปเล่นบาสในโรงยิมท้องถิ่น X-Sport Fitness และโดนเจ้าหน้าที่โรงยิมเตือนไปหลายครั้งแต่เขาก็ยังทำอยู่เหมือนเดิม จริงๆ แล้วเด็กหนุ่มเคยเป็นสมาชิกของโรงยิมนี้ แต่หลังจากบัตรสมาชิกหมดอายุ ครอบครัวของเขาไม่ได้จ่ายค่าสมาชิกให้โรงยิม จึงทำให้เขาหมดสิทธิ์เข้ามาใช้ ด้วยความเป็นคนชอบเล่นบาส เด็กหนุ่มเลยแอบเข้ามาเล่นตอนที่เจ้าหน้าที่ไม่อยู่ แต่ก็มักจะถูกจับได้ทุกครั้ง จนครั้งล่าสุด เมื่อปลายเดือนสิงหาคมเขาถูกจับได้อีก เจ้าหน้าโรงยิมทนไม่ได้จึงได้โทรแจ้งตำรวจท้องถิ่นทันที ผู้ที่รับเรื่องนี้คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ Mario Valenti ที่สังกัดในกรมตำรวจ Skokie Police Department เขาจึงไปยังโรงยิมทันทีหลังจากที่วางสาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามเด็กหนุ่มว่าทำไมถึงแอบเข้าไปเล่นในนั้น? และได้คำตอบว่า Vincent กำลังฝึกซ้อมเพื่อเตรียมคัดตัวเป็นนักกีฬาของโรงเรียน Uplift Community High School Vincent บอกว่า “ผมอยากเล่นกีฬามากกว่าใช้ชีิวิตอยู่ข้างถนน เพราะนั่นอาจทำให้เกิดปัญหาสังคมได้” หลังจากได้ยินเขาพูด เจ้าหน้าที่ตำรวจ Mario…
-
ทางม้าลาย 3 มิติ ในหมู่บ้านจากประเทศไอซ์แลนด์ หวังช่วยให้ผู้คนขับช้าๆ ลดอุบัติเหตุ
ในบางครั้งการใช้รถใช้ถนนที่ผ่านในเขตชุมชนหรือหมู่บ้านเล็กๆ นั้นอาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ แต่นอกจากความระมัดระวังของผู้ขับขี่แล้ว บางครั้งการใช้สัญลักษณ์จราจรเข้าช่วยนั้นก็อาจจะเพิ่มความปลอดภัยได้ด้วยเช่นกัน เหมือนกับหมู่บ้านเล็กๆ จากประเทศไอซ์แลนด์ แห่งนี้ที่นำเทคนิคการสร้างภาพ 3 มิติมาช่วยในการลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ อย่าง Ísafjörður ในเมือง Westfjords ได้เกิดไอเดียสุดเจ๋ง โดยการสร้างทางม้าลายแบบ 3 มิติขึ้นเป็นแห่งแรกในเมือง เพื่อหวังช่วยให้ผู้ขับขี่รถยนต์ชะลอความเร็วลง และลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุภายในเมือง โครงการนี้เป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของบริษัท Vegmálun GÍH โดยสื่อท้องถิ่นได้รายงานว่าทางม้าลายแบบ 3 มิตินี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย และจากนั้นพวกเขาจึงนำมันมาปรับใช้กับที่นี่ พวกเขาใช้เวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ในการสร้างทางม้าลายแบบ 3 มิตินี้ หลังจากที่เริ่มทำการขออนุญาตกับทางกรมขนส่งและตำรวจจราจรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณ Ralf Trylla ผู้นำไอเดียทางมาลาย 3 มิติมาใช้กับที่เมืองนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่าอันที่จริงนั้นภายในหมู่บ้านเองก็ได้มีการจำกัดความเร็วอยู่ที่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่นั่นก็ยังสูงไปสำหรับหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงหาวิธีที่จะชะลอความเร็วของรถยนต์โดยการสร้างทางม้าลายที่ว่านี้ อย่างไรก็ตามหากวิธีนี้ได้ผล และสามารถลดปัญหาอุบัติเหตุทางท้องถนนได้จริง ทางสภาเทศบาลของเมืองเองก็มีแผนที่จะทำทางม้าลาย 3 มิตินี้เพิ่มยังจุดต่างๆ ของเมืองด้วยเช่นกัน . . . . ไปชมเจ้าทางม้าลาย 3 มิติแบบเต็มๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย……
-
หมู่บ้าน ‘สุนัขจิ้งจอก’ ในญี่ปุ่น มีแต่เหล่าสุนัขจิ้งจอกหน้าตาน่ารัก คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว
ในนิทานพื้้นบ้านของญี่ปุ่น สุนัขจิ้งจอกมักจะได้รับบทเป็นตัวโกงหรือตัวที่นิสัยไม่ดี จนทำให้พวกมันมักถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการหลอกลวง สำหรับคนที่เชื่อแบบนั้น ก็มักจะไม่สังเกตว่าจริงๆ แล้ว สุนัขจิ้งจอกนั้นน่ารักแค่ไหน ทั้งขนปุกปุยของมัน ทั้งนิสัยขี้เล่นที่แทบไม่ต่างจากหมาบ้านตัวหนึ่งเลย ดูพวกมันสิ น่ารักมั้ย? อย่างไรก็ตาม ใครที่กลัวสุนัขจิ้งจอกและมองว่ามันเป็นสัตว์อันตราย คุณต้องลองไปหมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกสะโอ อยู่ใกล้กับเมืองชิโรอิชิ จังหวัดมิยางิในญี่ปุ่น แล้วคุณจะเปลี่ยนความคิดแบบนั้นแน่นอน หมู่บ้านนี้เต็มไปด้วยสุนัขจิ้งจอกนับไม่ถ้วน และใครที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมที่นี่จะกลายเป็นคนรักสุนัขจิ้งจอกไปเลย จนไม่อยากกลับเลยแหละ ลองเดาสิ๊ พวกมันกำลังมองอะไรอยู่? ยิ่งอยู่ท่ามกลางหิมะ ก็ยิ่งทำให้พวกมันดูคูลสุดๆ มีจิ้งจอกสีดำด้วย โดดเด่นกว่าเพื่อนเลย อย่าเผลอจ้องตามันเชียวล่ะ เพราะเวลาเห็นมันกระพริบตามิบๆ คุณต้องไม่อยากกลับแน่ๆ ม้วนตัวแล้วงีบหลับภายใต้แดดอ่อนๆ สุนัขจิ้งจอกในหมู่บ้าน Zao Village ไม่ทำร้ายมนุษย์นะ ถ้าคุณได้ไปญี่ปุ่น หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกคือแลนด์มาร์คที่คุณไม่ควรพลาด สุนัขจิ้งจอกน้อยกำลังเล่นด้วยกัน น่ารักเชียว มาออดอ้อนถึงเนื้อถึงตัวเลย พากลับบ้านดีมั้ย? นักท่องเที่ยวที่เจอสายแบบนี้ มักอยากจะขอรับเลี้ยงพวกมันทั้งนั้น มาถึงจุดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมทุกคนถึงหลังรักสุนัขจิ้งจอกที่นี่ …
-
จิตใจทำด้วยอะไร!? วัยรุ่นใจโหด “ทำร้ายแมวอย่างรุนแรง” จนมีการเรียกร้องให้นำตัวมาลงโทษ
สัตว์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่รกโลก แต่มันคือเพื่อนร่วมโลกที่ทำให้โลกเป็นโลกอย่างทุกวันนั้น ดังนั้นเราควรจะดูแลและปฏิบัติกับมันเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง สำหรับคนที่ไม่ชอบสัตว์ ไม่เห็นความสำคัญของพวกมัน คุณไม่ต้องดูแลหรือเลี้ยงมันก็ได้ แค่ไม่ทำร้ายมันเหมือนอย่างที่ชายใจโหดคนนี้ทำก็พอ ก่อนอื่นขอเตือนคนรักสัตว์หรือคนที่มีจิตใจอ่อนไหวง่ายก่อนว่า คุณสามารถข้ามคลิปนี้ไปได้เลย เพราะมีภาพที่มีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรงและอาจกระทบกระเทือนจิตใจได้ คลิปวิดีโอด้านนี้เป็นภาพชายแปลกหน้าจับแมวดำผู้เคราะห์ร้ายตัวหนึ่งขึ้นมาแล้วเตะมันอย่างแรง จนถูกชาวเน็ตประณามว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าแมวตัวนี้เป็นของชายคนที่เตะหรือเป็นของคนอื่น แต่คลิปดังกล่าวถูกแชร์ในบัญชีอินสตาแกรมที่ชื่อ The Street Blogs จนมีคนแจ้งไปยังสมาคมสงเคราะห์สัตว์ (RSPCA) ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ ส่วนสาเหตุก็ยังระบุไม่ได้เช่นกัน แต่ทางองค์กรการกุศลด้านสวัสดิภาพสัตว์เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ มีวิดีโอเกี่ยวกับการทารุณกรรมสัตว์ที่ถูกแชร์ใน Snapchat เพิ่มขึ้นถึง 340% ต่อมา RSPCA ได้ออกมาประณามการกระทำของชายที่อยู่ในคลิป โดยเชื่อว่าน่าจะเป็นวัยรุ่นที่อายุไม่เกิน 18 ปี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบและเปิดเผยข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด Dermot Murphy จาก RSPCA กล่าวว่า “นี่เป็นการกระทำที่ทารุณเกินจะรับได้ และดูจากแรงเตะแล้ว น่าจะทำให้แมวตัวนั้นบาดเจ็บไม่น้อยเลย” “ไม่ว่าเขาจะทำเพราะสาเหตุอะไร เราอยากขอความร่วมมือจากคนที่เห็นเหตุการณ์ หรือผู้คนบริเวณนั้นแจ้งข้อมูลที่พอจะรู้มาให้เราทราบด้วย เพื่อจะได้ดำเนินการกับชายคนนั้นให้สาสมกับสิ่งที่เขาทำ” ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือ ผู้คนที่มาคอมเม้นต์ใต้คลิปนี้ต่างมองว่าเป็นเรื่องตลก ซึ่งทัศนคติแบบนี้มักจะนำไปสู่การทำร้ายสัตว์ตัวอื่นๆ อีก RSPCA ได้ย้ำอีกว่า “เราไม่สามารถทนต่อกระทำเหล่านี้ได้ เราอยากให้เยาวชนทำความเข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องตลก…
-
15 ของเหลวที่มีราคาแพงที่สุดในโลก กับส่วนประกอบพิเศษ ที่คุณอาจคิดว่าใส่มาด้วยเหรอ!?
ของเหลวอย่างเช่น น้ำหอมที่เป็นแบรนด์ดัง หลายคนอาจจะรู้อยู่แล้วมันมีราคาค่อนข้างแพง แต่คุณอาจจะไม่รู้ว่ามีของเหลวอีกหลายชนิดที่ราคาแพงจนคิดไม่ถึง เว็บไซต์ Bright Side จึงได้จัดทำรายชื่อของเหลวที่ขึ้นชื่อว่าราคาแพงที่สุดในโลก ดูสิ๊จะมีอะไรบ้าง… 15. น้ำยาลบคำผิด ราคา 4,900 บาทต่อแกลลอน น้ำยาลบคำผิดมีส่วนผสมของแนฟทา ตัวทำละลาย สารขจัดคราบน้ำมัน และน้ำหอม ซึ่งทำให้มันมีราคาแพงแม้จะแค่ขวดเล็กๆ ก็ตาม 14. เพนิซิลลิน ราคา 7,500 บาทต่อแกลลอน เพนิซิลลินเป็นกลุ่มยาปฏิชีวนะที่มีเพนิซิลลิน V เพนิซิลลิน G เบนซาทีน เพนิซิลลิน และโปรเคนเพนิซิลลิน ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในการรักษาโรคที่เกิดจากแบคทีเรียชนิดต่างๆ 13. น้ำมันหอมระเหย แพทชูรี่ ราคา 20,000 บาทต่อแกลลลอน น้ำมันหอมระเหยที่มีราคาแพงชนิดนี้ ผลิตจากส่วนใบทั้งสดและแห้งของพืชที่เรียกว่า Pogostemon สรรพคุณของน้ำมันใช้เป็นยาฆ่าเชื้อ ช่วยในการรักษาไข้ รักษาเชื้อราและนิ่วในไต และยังมีกลิ่นหอมที่ช่วยดับกลิ่นตัวได้ 12. เลือดมนุษย์ ราคา 44,000 บาทต่อแกลลอน ในร่างกายมนุษย์แต่ละคนจะมีเลือดอยู่ 1.3 แกลลอน ซึ่งประกอบด้วยพลาสมาและเซลล์ และร่างกายจะไม่สามารถทำงานได้ถ้าปราศจากเลือด…
-
รวม 12 ภาพสะพานยักษ์ใหญ่ของจีน เชื่อมการขนส่งสู่พื้นที่ห่างไกล จนความเจริญไปทั่วถึง
ประเทศจีน หนึ่งในยักษ์ใหญ่จากทวีปเอเชียที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทในด้านต่างๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นในด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือแม้แต่ในด้านเทคโนโลยีในการก่อสร้างเองก็ตาม แน่นอนว่านอกจากรถไฟความเร็วสูงแล้ว ในแดนมังกรแห่งนี้เองก็เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างขนาดยักษ์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาคารพาณิชย์ สนามกีฬา เขื่อน และรวมถึงสะพานด้วยเช่นกัน และในวันนี้เราก็ได้รวบรวม 12 สะพานยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ที่แสดงให้เห็นว่าถึงความก้าวหน้าทางด้านวิศวกรรมของที่นี่… 1. สะพานซื่อตู้เหอในเมืองเอินซือ มณฑลหูเป่ย ท่ามกลางไอหมอก 2. สะพานข้ามอ่าวเจียวโจวในเมืองชิงเต่า มณฑลซานตง สะพานที่มีระยะทางยาวกว่า 40 กิโลเมตร และใช้เงินในการก่อสร้างมากถึง 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ 3. สะพานจาหนาง ข้ามแม่น้ำยาลุงซังโปร์ ในอำเภอจาหนาง เขตซานหนาน เขตปกครองตนเองทิเบต ที่มีความยาวทั้งหมด 5.7 กิโลเมตร 4. สะพานข้ามแม่น้ำเป่ยผานเจียงที่เชื่อมมณฑลกุ้ยโจวกับมณฑลยูนนานเข้าไว้ด้วยกันมีความยาวทั้งหมด 1.24 กิโลเมตร 5. สะพานข้ามแม่น้ำต้าตู้ในเสฉวน 6. ไซต์ก่อสร้างส่วนหนึ่งของสะพานข้ามทะเลเชื่อมฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า…
-
7 เรื่องราวที่เหล่า “สาวๆ ไบเซ็กส์ชวล” อยากบอก และจะทำให้คุณเข้าใจพวกเธอมากขึ้น
ในปัจจุบันนั้นมีการเปิดกว้างทางเพศมากขึ้น และทุกวันนี้ เรามีคำที่ใช้เรียกกลุ่มผู้คนที่มีรสนิยมทางเพศที่แตกต่างกันออกไปตามรสนิยมของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเกย์ ทอม หรือหญิง-ชายข้ามเพศ และหนึ่งรสนิยมทางเพศที่เรามักจะคุ้นหูและได้ยินกันอยู่บ่อยๆ นั่นก็คือ ไบเซ็กส์ชวลนั่นเอง ซึ่งอย่างที่เข้าใจกันดีว่าไบเซ็กส์ชวลนั้นคือการหลงใหลผู้คนมากกว่า 1 เพศ แต่ผู้คนส่วนมากยังมีความเข้าใจผิดกับพวกเขาอยู่ ซึ่งวันนี้เราก็มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ 7 เรื่องราวของเหล่าสาวๆ ไบเซ็กส์ชวล ที่จะทำให้คุณเข้าใจพวกเธอมากขึ้น จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย… 1. พวกเธอไม่เคยต้องการกิจกรรมบนเตียงแบบเรา 3 คน ถึงแม้ว่าพวกเธอจะมีความสนใจในทั้งสองเพศ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเธอจะชื่นชอบกิจกรรมบนเตียงแบบ 3 คนหรอกนะ และสาวๆ ไบเซ็กส์ชวลก็มักจะชอบความสัมพันธ์แบบจริงจังมากกว่า 2. ไบเซ็กส์ชวลนั้นไม่ได้เป็นๆ หายๆ หรอกนะ!! สาวๆ ที่เป็นไบเซ็กส์ชวลนั้นจะรู้สึกหัวเสียอย่างมากที่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนบอกพวกเธอว่ารสนิยมทางเพศของพวกเธอนั้นเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งอันที่จริงแล้วความชอบทั้งสองเพศของพวกเธอนั้นเป็นเรื่องที่จริงจังและมันจะอยู่กับเธอตลอดไป ถึงแม้ว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม 3. สาวๆ ไบเซ็กส์ชวลไม่ใช่พวกชอบนอกใจนะ!! ถึงแม้ว่าจะมีความเชื่อว่าสาวๆ ไบเซ็กส์ชวลนั้นอาจจะมีแนวโน้มที่จะนอกใจสูงเนื่องจากรสนิยมทางเพศของพวกเธอ แต่อันที่จริงแล้วเรื่องดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริงเลย 4. พวกเธอมักจะเปิดเผยตัวตนกับคนที่รู้ใจ เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเธอเจอคนที่รู้ใจ เธอจะยอมบอกพวกเขาเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศของตัวเอง ซึ่งอันที่จริงนั้นสาวๆ ไบเซ็กส์ชวลไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิดตัวตนของพวกเธอหรอก แต่เธอแค่อยากที่จะบอกมันกับคนที่ยอมรับพวกเธอได้ก็เท่านั้นเอง 5. เธอไม่ได้คบใครเพียงแค่หวังเรื่องอย่างว่าเท่านั้นนะ…
-
คุณลุงป่วยโคม่า ฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์ หลังได้ฟังเพลงเชียร์ของทีมฟุตบอลสุดรัก
“ฟุตบอลมันอยู่ในสายเลือด” คำพูดสั้นๆ ที่หลายๆ คนคงจะเคยได้ผ่านหูกันมาบ้างแม้ว่าคุณเองจะไม่ใช่แฟนฟุตบอลตัวยงเองก็ตาม และเรื่องราวของชายคนนี้ก็คงจะทำให้เราเข้าใจความหมายของประโยคนี้ได้มากขึ้น คุณ Tony Kemp แฟนบอลวัย 59 ปีของทีม Plymouth Argyle FC ซึ่งกำลังแข่งขันอยู่ในลีกวันของประเทศอังกฤษ ถูกนำตัวเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนหลังจากที่เขาเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก จนต้องอยู่ในสภาวะโคม่า โดยคุณ Danna Kemp ภรรยาของชายคนดังกล่าวกล่าวว่า ทางครอบครัวมีเวลาเพียงแค่ 2 วันก่อนที่แพทย์จะทำการถอดเครื่องช่วยชีวิตของ Tony ออก แต่แล้ว Danna ก็ทำบางอย่างเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อสามีของเธอ หญิงสาวเปิดเพลงเชียร์ของทีมรักผ่าน iPad และให้สามีของเธอดู “ฉันถูกเรียกให้เข้าไปดูอาการของเขา และพูดคุยกับเขา ตอนนั้นฉันคิดว่าเขาคงจะจากไปแล้วจริงๆ ” Danna กล่าว “เราเข้าไปในห้อง ICU และพวกเขาก็บอกเราว่าถ้าหากเขาไม่มีอาการตอบสนองใดๆ เลยภายใน 48 ชั่วโมง แพทย์จำเป็นต้องถอดเครื่องช่วยชีวิต ตอนนั้นเราพยายามทำทุกอย่างทั้งบีบมือและพูดคุยกับเขา จนสุดท้ายฉันพาลูกๆ เข้ามาและเริ่มร้องเพลงเชียร์ของทีม Plymouth Argyle และจากนั้นเขาก็เริ่มลืมตา” Danna กล่าว คุณ Tony แฟนบอลตัวจริงของทีม Plymouth Argyle FC จากลีกวัน…
-
บริษัทเฟอร์นิเจอร์จากญี่ปุ่น เปิดตัวเฟอร์นิเจอร์ “แมว” แบบครบชุด ดูซิ๊จะสู้กล่องลังได้ไหม
นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องบรรณาการสำหรับท่านเหมียวที่บ้าน เพราะว่าวันนี้เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับที่นอนแมวสุดครีเอทจากประเทศญี่ปุ่นมาฝากกัน!! ผลงานการออกแบบนี้เป็นความร่วมมือของบริษัท Hiromatsu Furniture และบริษัท Tateno Wood Art Co พวกเขาได้ออกแบบที่นอนของเจ้าเหมียวที่สุดแสนจะครีเอท และถ้าหากดูเผินๆ มันก็คล้ายกับที่นอนของมนุษย์ไม่มีผิดเลย… และนี่คือภาพของที่นอนน้องเหมียวดังกล่าว เป็นไงล่ะ นึกว่าเตียงนอนกันใช่ไหม?? จากคลิปวิดีโอเปิดตัวของเจ้าผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ แสดงให้เห็นถึงเตียงนอนขนาดเล็ก พร้อมกับการตกแต่งฉากรอบๆ ที่ดูเหมือนกับห้องนอนมากกว่าที่จะเป็นเตียงของเจ้าเหมียว และแล้วหลังจากนั้นไม่นานพี่เหมียวพระเอกของเราก็เข้ามาในฉาก และทันใดนั้นดูเหมือนว่ามันกำลังจะถูกพลังดึงดูดแห่งเตียงนอนเข้าไปเต็มๆ จนเจ้าแมวลายเสือค่อยๆ ล้มตัวลงนอนและเหมือนว่ามันจะชื่นชอบเตียงนอนชิ้นนี้มากๆ เลยล่ะ ไปชมคลิปวิดีโอสาธิตการใช้งานเตียงแมวชิ้นนี้กันได้เลย… และแน่นอนว่าเฟอร์นิเจอร์สำหรับบ้านของเจ้าเหมียวนั้นก็ไม่ได้มีเพียงแค่เตียงนอนเท่านั้น แต่ยังมีโซฟาอีกด้วยนะเออ แหม่… เห็นแบบนี้แล้วเริ่มรู้สึกอิจฉาพี่เหมียวขึ้นมาทันทีเลยนะเนี่ย รายละเอียดเล็กๆ น้อยที่ทางผู้ผลิตทำออกมาได้อย่างปราณีตสุดๆ . นอกจากนี้ทางบริษัท Hiromatsu และ Tateno ยังได้อธิบายถึงที่มาที่ไปของเจ้าคลิปวิดีโอนี้ว่า “ถ้าหากพวกเราสามารถสร้างเฟอร์นิเจอร์ที่ทำให้เจ้าเหมียวรู้สึกสะบายได้แบบนี้ พวกเราก็สามารถสร้างเฟอร์นิเจอร์ที่มอบความสบายให้คุณได้เช่นกัน” ตอนนี้เฟอร์นิเจอร์สำหรับเจ้าเหมียวนี้ยังไม่ได้มีการผลิตออกมาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากคลิปวิดีโอเปิดตัวเฟอร์นิเจอร์สำหรับแมวเหมียวนี้ได้เสียงตอบรับที่ดี ทางผู้ผลิตเองก็มีแผนที่จะพัฒนาเพื่อจัดจำหน่ายต่อไป ที่มา rocketnews24
-
เมื่อคุณตายคุณจะรู้ตัวว่าคุณตาย…นักวิทย์ค้นพบว่าแม้ร่างกายจะตายไปแล้วแต่เราก็ยังรับรู้ได้
เชื่อกันไหมว่า ได้มีการศึกษาที่ทำให้ค้นพบว่าถ้าเกิดร่างกายของเราตายไปแล้วนั้น แต่จิตใต้สำนึกของเราจะยังคงทำงานต่อไปได้ สุดยอดไหมล๊าาา… ซึ่งจากผลการศึกษาดังกล่าวจึงมีข้อสรุปว่า แม้คนๆ นั้นจะตายแล้วแต่ก่อนจะไปเขายังคงรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ รวมถึงรับรู้ถึงการตายของตัวเองอีกด้วย นั่นรวมถึงบางคนอาจจะได้ยินตอนที่หมอพูดว่าเราตายไปแล้วเช่นกัน การวิจัยนี้ได้บอกเล่าโดย Dr Sam Parnia ซึ่งเขาได้บอกผ่านทาง Live Science เกี่ยวกับการศึกษาการรับรู้ความรู้สึกหลังความตายนั้นมันเกิดขึ้นจริงๆ เพราะกว่าเซลล์สมองจะตายจริงๆ นั้นจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยทีเดียว Dr. Sam Parnia ยังบอกอีกว่าโดยปกติแล้วทางการแพทย์จะตัดสินการตายผ่านการเต้นของหัวใจ ซึ่งเมื่อหัวใจหยุดเต้นแพทย์ก็จะบอกว่าคนนั้นตายทันที เพราะเมื่อหัวใจหยุดเต้นเลือดก็จะหยุดสูบฉีดเพื่อไปเลี้ยงสมอง เพียงแต่ว่านั่นเป็นวิธีการทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งเมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวมันเกิดขึ้น เลือดไม่ไปเลี้ยงสมอง สมองก็บางส่วนนั้นก็จะตายทันที ทั้งเซลล์ม่านตา เซลล์กล้ามเนื้อ ซึ่งรวมถึงเปลือกสมองที่เป็นตัวประมวลผลจากประสาทรับรู้ต่างๆ ก็เช่นกัน ในช่วงเวลา 2 ถึง 20 วินาทีคลื่นสมองจะหายไปจากจอมอนิเตอร์ทันที เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นจะส่งผลเป็นลูกโซ่และต้องใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมงกว่าสมองจะตายอย่างสมบูรณ์ แต่ยังไงก็ตามถ้าเกิดมีการทำ CPR ทันทีก็ยังคงมีโอกาสที่ทำให้สมองกลับมาทำงานได้และไม่ตายอย่างสมบูรณ์ เพราะถ้ามีเลือดไปเลี้ยงสมองต่อเพียงแค่ 15 เปอร์เซ็น สมองก็จะกลับมาทำงานได้ปกติ แต่ยังไงก็ตามเซลล์สมองก็จะยังคงค่อยๆ ตายอย่างช้าๆ อยู่ดี เพราะการที่คนเราตายไปแล้วก็ต้องตายอยู่ดี และไม่นานมานี้ก็เพิ่งจะมีหนังแนวๆ การโกงความตายด้วยเซลล์สมองแบบนี้ออกมาเช่นกัน…
-
หนุ่มเก็บกล้อง GoPro ที่จมน้ำได้แถมยังเปิดติด เขาจึงใช้พลังโซเชียลตามหาเจ้าของจนพบ!!
กล้องถ่ายรูปนั้น นอกจากเปรียบเหมือนทรัพย์สินอันล้ำค่าแล้ว มันยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ไว้บรรจุภาพความทรงจำที่เกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียวอีกด้วย และถ้าเกิดว่ากล้องถ่ายรูปหายไปนอกจากเจ้าตัวจะเสียใจแล้ว ยังต้องเสียความทรงจำอันล้ำค่าไปอีกเช่นกัน เรื่องราวในครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อ Karl Bly คุณพ่อผู้กล้าหาญกับลูกชายออกไปพายเรือเล่นกัน แล้วบังเอิญเห็นกล้อง GoPro จมอยู่ใต้น้ำ เขาจึงกระโดดลงไปและเก็บมันขึ้นมาตรวจสอบดู วัดจากสภาพของกล้องตัวดังกล่าวนั้น เป็นใครก็ต้องคิดว่ามันไม่น่าจะใช้งานได้อีกแล้ว แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะว่าตัวกล้องยังสามารถใช้ได้ปกติดีทุกอย่าง และภายในก็มีภาพของหญิงสาวคนหนึ่งกับภาพอีกกว่า 1,600 รูป Karl ไม่รอช้ารีบหยิบรูปภาพจำนวนหนึ่งออกมาพร้อมโพสต์ลงบนโชเชียลทันที เพื่อประกาศตามหาตัวเจ้าของ เพราะเขาเข้าใจได้ในทันทีว่าเจ้าของก็จะต้องคิดถึงความทรงของเขาที่ถ่ายมามากเช่นกัน เมื่อภาพที่เขาเลือกมาได้ถูกแชร์ออกไปคนมากมายก็ต่างพากันช่วยแชร์กว่า 168,000 ครั้ง จนในที่สุดเจ้าของที่แท้จริงก็มาเห็นเข้า เธอคนนั้นมีชื่อว่า Chynna Phillips ซึ่งเธอบอกว่าเธอทำกล้องตัวนี้หายตั้งแต่เดือนกรกฎาคมในช่วงที่เธอกับเพื่อนๆ กำลังเมาๆ และมีเพื่อนคนหนึ่งมาแกล้งคว่ำเรือนั่นเอง ภาพความทรงจำต่างๆ ที่นำมาแชร์เพื่อตามหาตัวเจ้าของ . . . ซึ่งถ้ามันเป็นไปตามที่เธอเล่าก็เท่ากับว่ากล้องตัวนี้นั้นได้หายไปนานแล้วกว่า 3 เดือน แต่มันก็ยังคงทำงานได้อยู่ ยังไงก็ตามกล้องนี้ก็จะกลับไปสู่เมื่อเจ้าของมันในท้ายที่สุด ต้องขอบคุณชาวเน็ตที่ช่วยกันแชร์และขอบคุณ GoPro ที่สร้างกล้องสุดอึดแบบนี้ออกมา… ดูสภาพสิ ไม่น่ารอดเลยนะเนี่ย ที่มา mirror
-
เจ้าตูบจู่ๆ ก็หายไป มาพบอีกทีก็เจอมันกลายเป็น ‘ฮีโร่’ ไปซะแล้วผ่านข้อความบนปลอกคอ
ใครมันจะไปคาดคิดว่าสุนัขของเราที่อยู่ๆ ก็ซนแอบหนีไปเที่ยวนอกบ้านในช่วงที่เราไม่อยู่ พอกลับมากะจะดุสักหน่อย มันดั๊นกลายเป็นยอดฮีโร่ไปซะได้ งงเลยล่ะสิ!? เจ้า Louie เป็นสุนัขเลี้ยงแกะที่อาศัยอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์กับครอบครัวของ Marolyn Diver ซึ่งมันเคยเป็นสุนัขที่ปราดเปรื่องและช่วยเหลืองานฟาร์มได้ดีมากๆ แต่ทว่าด้วยอายุ 12 ขวบของมันนั้นเริ่มทำให้มันเชื่องช้าและสนิมเกาะ แต่มันก็ยังได้รับความรักเป็นอย่างดี (ใช้ติดกันเกินไป)… อยู่มาวันหนึ่งเจ้า Louie ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยระหว่างที่ Marolyn เข้าไปในเมือง ซึ่งหลังจากเธอกลับมาที่บ้านก็พบว่ามันได้หายไปพร้อมกับแม่ของเธอที่กำลังตามหาเจ้าตูบเพื่อนรักของพวกเขาอยู่ Marolyn บอกว่าเธอกับแม่เป็นห่วงมันมากๆ ด้วยความที่มันเป็นสุนัขแก่มันอาจจะลืมเส้นทางกลับบ้านหลังจากออกไปวิ่งซนก็เป็นได้ ซึ่งตลอดช่วงเช้านั้นไม่มีใครหาเจ้า Louie เจอเลย แต่ใครจะรู้ว่าช่วงเวลาที่หายไปของมันนั้น มันได้ไปสร้างเรื่องราวสุดเยี่ยมยอดให้กับตัวเอง จนกระทั่งบ่ายมันถึงโผล่มาให้เห็นเอง ทุกคนต่างพากันเป็นห่วงเจ้าตูบกันใหญ่ และก็ได้สังเกตเห็นปลอกคอของมันมีป้ายที่เขียนข้อความบางอย่างไว้ว่า “Louie คือยอดฮีโร่ในวันนี้ มันได้ช่วยให้ฉันไปเจอกับเจ้า Maddy ที่ติดอยู่ในพุ่มไม้ออกไปไหนไม่ได้ ต้องขอบคุณมันจริงๆ…โดย Rob” ข้อความดังกล่าวถูกเขียนโดย Rob ซึ่งเป็นชาวสวนคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ห่างออกไปพอสมควร ส่วน Maddy ก็คือเจ้าตูบที่เขาเลี้ยงเอาไว้นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทำให้ Marolyn เดินทางไปพบกับ Rob ทันทีและได้รู้เรื่องราวว่าสุนัขของเขาก็หายไปเช่นกันระหว่างออกไปข้างนอก และตอนที่เขากลับมาเขาก็เจอ Louie กำลังนั่งรออยู่ราวกับว่าอยากให้เขาตามมันไปทันที …
-
ช่างภาพตามถ่ายคนที่เข้ามาชมงานศิลปะ และพบว่าพวกเขาแต่งตัวได้เข้ากับภาพจริงๆ
ครั้งหนึ่งในชีวิตคนเรานั้น เชื่อว่าต้องเคยถูกพาไปทัศนะศึกษาหรือถูกลากไปชมงานศิลปะในนิทรรศการต่างๆ กันบ้างใช่ไหม? แล้วทุกครั้งที่ไปถ้าเราไม่ได้รู้สึกสนใจในงานนั้นๆ เราก็จะรู้สึกเบื่ออย่างรวดเร็ว ทว่าสำหรับ Stefan Draschan ผู้ทำงานเป็นช่างภาพคนนี้กลับไม่คิดแบบนั้น แม้ว่าเขาจะเบื่อกับการไปชมงานศิลป์ แต่เขาก็สามารถหาวิธีสร้างความสนุกให้กับตัวเองได้ด้วยวิธีที่คนคาดไม่ถึงและเขาทำมันเป็นประจำ นั่นก็คือการถ่ายรูปนั่นเอง แน่นอนว่านั่นไม่ใช่การถ่ายภาพงานศิลปะธรรมดาๆ เพราะแทนที่เขาจะถ่ายงานศิลปะต่างๆ เขากลับถ่ายคนที่มาร่วมงานแทน โดยเขาจะตระเวนไปยังพิพิธภัณฑ์ต่างๆ แล้วแอบถ่ายภาพของผู้ชมที่แต่งกายคล้ายหรือมีโทนเดียวกับภาพที่พวกเขากำลังชม จนออกมาเป็นภาพศิลป์ที่ดูแล้วก็เจ๋งแบบแปลกๆ ดี พูดไปก็อาจจะคิดภาพตามไม่ออก งั้นลองมาดูผลงานของเขากันเลยดีกว่า สีของเสื้อผ้า ผม หรือสไตล์การแต่งกายอาจจะไม่ต้องเป๊ะมาก แต่แค่ให้มันดูเข้ากันก็เพียงพอแล้ว เช่นสองคนนี้ที่เสื้อผ้าดูเข้ากับธีมของภาพ ลองดูสีเสื้อผ้าของหญิงในภาพ กับคนที่มาดูสิ ไงล่ะ เหมือนไหม สีไม่เป๊ะ แต่ลายมันใช่ . . . . เขาบอกว่าต้องใช้ความอดทนพอสมควรเลยนะ กว่าจะเจอคนที่ใส่ชุดเข้ากับชิ้นงาน . แต่มันก็คุ้มค่าจริงไหม . คนที่มาดูเขาจะทันคิดไหมน้า ว่าเสื้อผ้าหน้าผมของพวกเขามันพอเหมาะพอเจาะจริงๆ แม้แต่หุ่นข้างๆ ก็ถือว่าเป็นงานศิลปะนะ…
-
ชมภาพ “ห้องควบคุมโรงไฟฟ้า” ของโซเวียต ที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากหนังไซไฟย้อนยุค
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงยุคสงครามเย็นระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต โลกตกอยู่ในความตึงเครียดเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สองมหาอำนาจจะเปิดฉากสงครามต่อกัน แต่ถึงแม้จะไม่มีสงครามจริงๆ แต่ทั้งสองประเทศก็พยายามแข่งขันกันในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของพลังงานนิวเคลียร์ที่พวกเขาก้าวล้ำกว่าใครๆ จนเราคาดไม่ถึง ยิ่งไปกว่านั้นห้องควบคุมโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ของพวกเขาก็มีแผงวงจรและไฟกระพริบต่างๆ เยอะแยะไปหมดราวกับหลุดมาจากหนังไซไฟอย่าง Star Wars หรือ Star Trek เลยทีเดียว ยิ่งพูดถึงก็ยิ่งน่าสนใจว่าสมัยก่อนที่เราจะมีคอมพิวเตอร์ล้ำๆ แบบปัจจุบัน การควมคุมสิ่งต่างๆ ผ่านหน้าปัดเล็กๆ ไฟกระพริบหลายๆ ดวงเต็มไปหมด กับเจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คน พวกเขาทำได้ยังไง แล้วห้องพวกนั้นมันจะต้องมีแผงควบคุมเยอะขนาดไหน ฉะนั้นเราก็เลยจะมาลองดูห้องควบคุมต่างๆ ในสมัยก่อนของโซเวียตกันว่าก่อนที่ประเทศอื่นจะก้าวหน้า ห้องควบคุมในโซเวียตเคยล้ำและเจ๋งแค่ไหน… เห็นแล้วคิดถึงหอควบคุมเดธสตาร์ ตอนสั่งยิงดาวอัลเดอรานในภาคนิวโฮปเลยนะเนี่ย . . แต่พอเจอลุงใส่แว่นคนนี้กลับคิดถึงด็อกเตอร์โซล่าในกัปตันอเมริกา ภาควินเธอร์โซเยอร์มากกว่า . แต่ละตู้ก็จะมีมาตรวัดอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด . พร้อมกับไฟที่กะพริบอยู่ตลอดเวลา ที่แปลกกว่าคือ หน้าปัดเยอะแบบนี้ แต่พวกเขามักจะใช้คนจำนวนไม่มากในการดูแล . . เป็นแผงควบคุมที่ดูเก่าจริงๆ แต่ถึงจะเปลี่ยนไปยังไง ในปัจจุบันก็ยังมีอะไรแบบนี้อยู่เหมือนกันนะ . …
-
หนุ่มผวา…โดน ‘โรคจิต’ ตัวขาวปุยแวะหาที่บ้านทุกวัน จนเขาจะกลายเป็นบ้าอยู่แว้วววว!!
คุณจะรู้สึกยังไงถ้าเกิดว่าทุกเช้าที่ตื่นมา จะต้องเจอโรคจิตมาเกาะหน้าบ้านทุกวัน ไล่ยังไงก็ไม่ไปสักทีจนคุณรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะสติแตกอยู่แล้ว ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะโรคจิตที่ว่าคือเจ้าเหมียวข้างบ้างนั่นเอง หนุ่มคนนี้ได้โพสต์ภาพเจ้าเหมียวโรคจิตที่มาตามรังควานเขาทุกวันๆ โดยมันมีชื่อว่าเจ้า Mama เป็นแมวสีขาวของเพื่อนบ้านใกล้ๆ และมันก็ทำแบบนี้มาเป็นปีๆ ออกมาเล่นกับข้าซะเจ้ามนุษย์!! จนสุดท้ายเขาก็ยอมที่จะให้ในสิ่งที่มันต้องการ นั่นก็คือการให้ของกินและเล่นกับมัน วินาทีที่เขายอมแพ้ต่อเจ้าเหมียวโรคจิต เขาก็ค้นพบว่าเขาน่าจะยอมมันแต่แรกแล้ว เพราะเข้า Mama มันน่ารักสุดๆ ไปเลยล่ะ ดูซิว่าเจ้าโรคจิตตัวนี้มันหลอนแค่ไหน มองมาจากมุมมืด มีแยกเขี้ยวขู่อีก ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนของสวนหลังบ้าน มันก็จะอยู่ตรงนั้นเสมอ สายตาที่ดุร้ายของมันช่างน่ากลัวยิ่งนัก บางครั้งก็แอบสอดส่องภายในบ้านเพื่อดูลาดเลา ออกมาเจอข้าเดี๋ยวนี้นะเจ้ามนุษย์ เคาะประตูอยู่นั้นแหละ ชักจะทนเจ้าโรคจิตตัวนี้ไม่ไหวแล้ว สุดท้ายเขาก็ยอมจนได้ ไหนมีอะไรว่ามาเจ้า Mama!! อยากกินอาหารนี่เอง ปั่ดโถ่ว กะกะแก ไม่ได้น่ารักหรอก โอเค ฉันยอมเป็นทาสของแกก็ได้เจ้าโรคจิต… น่ารักและง้อแบบนี้ทุกวัน ใครจะอดใจไหว ที่มา iizcat
-
23 ดาราและคนดังที่เป็นสาว ‘ไซส์มินิ’ แต่คุณอาจเข้าใจผิดมาตลอด ว่าพวกเธอน่ะตัวสูง!?
เอาจริงๆ เห็นบางชื่อแล้ว #จ่าสิบเหมียว ยังรู้สึกตกใจเองเลยนะเนี่ย เพราะว่าในทีวีหรือภาพยนตร์ที่เราเห็นนั้น พวกเธอดูตัวสูงสง่ามากเลยทีเดียว ไม่นึกว่าจะเป็นดาราสาวไซส์มินิแบบนี้ได้ ในระดับความสูงที่ 5 ฟุต 4 นิ้ว หรือราวๆ 162-164 เซนติเมตรนั้น ถ้าเทียบของบ้านเราก็คงเกินมาตรฐานมาหน่อยๆ แล้วล่ะ แต่ในต่างประเทศนั้นไม่ได้ถือว่าตัวสูงมากแต่อย่างใด และนี่ก็คือความสูงของเหล่าดาราทั้ง 23 คนนี้ล่ะ!! Lucy Hale สูง 157 ซม. Ellen Page กับความสูง 155 เซนติเมตร Lucy Liu แห่ง Lucy Liu 160 ซม. พอดี Julianne Hough 160 เซนติเมตรเช่นกัน Salma Hayek สูงเพียง 157 เท่านั้น Megan Fox หนึ่งในดาราสาวที่ได้รับการโหวตว่าเซ็กซี่ที่สุด…
-
คลิปสุดฮา เมื่อน้องเหมียวเพิ่งรู้ว่าตัวเอง ‘โดนทำหมัน’ ถึงกับช็อคจนพูดไม่ออกเลย…
เคยรู้สึกตกใจกับเรื่องอะไรมากๆ จนถึงกับต้องอ้าปากค้างพูดไม่ออกอะไรประมาณนั้น ถ้าหากคุณไม่เคยและคิดภาพตามไม่ออก ก็ต้องลองมาดูตัวอย่างพฤติกรรมแบบนั้นจากแมวตัวนี้กันล่ะนะ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาในประเทศจีน ได้มีคลิปวิดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ออกมาสู่โลกโซเชียล ในคลิปจะเห็นเจ้าแมวตัวหนึ่งกำลังเลียทำความสะอาดบริเวณหว่างขาของมันอยู่เหมือนแมวทั่วๆ ไป กลิ่นดูอับชื้นไปหน่อยแฮะ สงสัยคงต้องถูสบู่ตรงจุดซ้อนเร้นซะหน่อยแล้ว แต่จู่ๆ มันก็นิ่งไปและเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจสุดขีดถึงขนาดอ้าปากค้าง ทำตาโต พูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่น้อย เชรดดด…นี่มันไม่จริงใช่มั้ยเนี่ย…. จะไม่ให้ตกใจได้อย่างไรในเมื่อตัวมันเองเพิ่งรู้ว่าได้ถูกทำหมันไปแล้ว!! จบสิ้นวงศ์ตระกูลกันแค่รุ่นนี้แหละเจ้าเหมียวเอ๋ยยย ยังคงช็อคไม่หาย หันมองกล้องเหมือนอยากจะถามว่า “ทำไมต้องทำร้ายกันด้วย?!” ใบหน้าและท่าทางของเจ้าเหมียวทำเอาเจ้าของถึงกับหัวเราะให้กับความตกใจของมันเลย แต่เห็นแล้วก็รู้เลยแหละนะว่ามันคงช็อคมากจริงๆ คลิปสุดฮาเมื่อเจ้าเหมียวเพิ่งรู้ว่าตัวเองถูกทำหมัน คราวหลังเวลาเราจะทำอะไรกับมันคงต้องบอกมันก่อนอ่ะนะ เจ้าเหมียวจะได้เตรียมใจเอาไว้ไม่มานั่งเอ๋อแบบนี้อีก ที่มา: dailymail
-
เผยภาพจากหนังสือเรียนของ ‘ISIS’ ที่นำมาใช้ล้างสมองเด็กๆ ให้เข้าร่วมกองทัพ..!!
การล้างสมองนับว่าเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการที่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้าย หรือหน่วยงานรัฐเอง ก็มักจะนำมาใช้ผ่านสื่อต่างๆ หรือที่เราเรียกกันว่า Propaganda เพื่อสร้างแนวคิดหรือทัศนคติอะไรบางอย่าง ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งการสร้าง Propaganda เองก็ยิ่งมีความสำคัญมากเมื่อหน่วยงานนั้นเป็นกลุ่มก่อการร้ายอย่าง ISIS พวกเขาได้สร้างหนังสือเรียนขึ้นมาเพื่อสั่งสอนเด็กๆ ให้รู้สึกเชื่อตามและพร้อมจะสละชีวิตเพียงเพื่ออุดมการณ์ของผู้นำ ภาพของเด็กจับปืน กลายเป็นภาพธรรมดาที่เห็นได้ในหนังสือเรียนทั่วไปของ ISIS โดยเนื้อหาจากหนังสือที่กองทัพอิรักไปเจอมา จะมีความยาวเพียงแค่ 7 หน้า และจะมีเพียงข้อความสั้นๆ พร้อมภาพประกอบสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่ประชาชนในรัฐคาลิปต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนว่า เด็กๆ ทุกคนแห่งรัฐคาลิปต้องเข้าร่วมประกอบศาสนพิธีประจำวันอย่างเคร่งครัด ต้องเป็นเด็กดีของพ่อแม่ และต้องต่อสู้เพื่ออัลเลาะห์ ทั้งมีการระบุว่า ผู้หญิงต้องคลุมดำทั้งหมด และมีภาพของพ่อที่ถือ AK-47 ที่ดูเป็นเรื่องธรรมดา มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ‘เด็กอ้วน’ คือเด็กที่ไม่แข็งแรง เป็นเพราะความขี้เกียจ และจะสร้างปัญหาให้กับสังคมสืบต่อไป… (มีการห้ามทานของหวาน ข้าว พาสต้า และมันฝรั่ง) นอกจากนั้นยังมีหลักสูตรสอนวิธีดูแลช่องปากให้กับเด็กๆ ซึ่งระบุไว้ว่าวิธีการที่เหมาะสมที่สุดคือการใช้กิ่งของต้น Arak (เรียกอุปกรณ์ชิ้นนี้ว่า Miswak) ซึ่งเป็นภูมิปัญญาการทำความสะอาดฟันแบบดั้งเดิมของประเทศแถบอาหรับต่างๆ นอกจากนั้นยังมีการทำภาพโฆษณาชวนเชื่อ ให้เห็นว่ารัฐคาลิป…
-
งานวิจัยเผย “มลพิษ” คร่าชีวิตผู้คนมากกว่าสงครามและภัยพิบัติถึง 4.6 ล้านคนต่อปี!!
กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก หลังจากที่มีผลงานวิจัยจาก The Lancet ที่ได้ตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์ เกี่ยวกับปัญหามลพิษที่คร่าชีวิตผู้คนมากกว่าสงคราม และภัยพิบัติ..!! โดยข้อมูลส่วนหนึ่งจากงานวิจัย มีการเปิดเผยออกมาว่า เมื่อปี 2015 ผู้คนจำนวน 1 ใน 6 ของประชากรโลก มีสาเหตุต้นตอการเสียชีวิตมาจากปัญหามลพิษที่รวมไปถึงสารพิษตกค้างต่างๆ จากทั้งในอากาศและน้ำ จากการสำรวจสถิติทั่วโลกของ The Lancet พบว่าประชากรกว่า 9 ล้านคนทั่วโลกมีสาเหตุการเสียชีวิตมาจากปัญหามลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยหลัก เฉลี่ยตัวเลขการเสียชีวิตอยู่ที่ 6.5 ล้านคน และจากมลพิษทางน้ำรองลงมาอีกกว่า 1.8 ล้านคน จำนวนประชากรกว่า 9 ล้านคนที่เสียชีวิตจากมลพิษนับว่าเป็นสาเหตุหลักที่มากกว่าการเสียชีวิตจากโรคเอดส์ และโรคมาลาเรียรวมกันถึง 3 เท่า และคิดเป็น 15 เท่าของจำนวนผู้เสียชีวิตจากสงครามรวมกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ภาพแผนที่ชี้ให้เห็นว่า กว่า 92% ของปัญหามลพิษจะส่งผลกับประชากรในประเทศที่กำลังพัฒนามากกว่า ปัญหามลพิษที่ส่งผลกระทบถึงระบบเศรษฐกิจ… จากการรายงานพบว่าปัญหามลพิษที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่าปัจจัยอื่นๆ ส่งผลเกี่ยวเนื่องกันกับระบบเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ ด้วย โดยตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้วมีการคำนวนค่าความเสียหายทั้งหมดคิดเป็น 6.2% ของเศรษฐกิจโลกเลยทีเดียว (4.6…
-
เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะเครียดเรื่องสอบ จิตใจของคนเป็นแม่แทบสลาย
ในการสอบแต่ละครั้ง ผู้ที่เข้าสอบทั้งหลายก็ต้องพยายามอ่านหนังสือเพื่อให้เข้าใจในวิชานั้นๆ อย่างถ่องแท้ซึ่งบางครั้งอาจก่อให้เกิดเป็นความเครียดและความกังวลขึ้นมาจนอาจทำให้ใครบางคนคิดสั้นและตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะว่าจำเนื้อหาที่จะสอบไม่ได้ เหตุน่าเศร้านี้เกิดขึ้นที่เมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ โดยผู้ที่ออกมาเล่าเหตุการณ์นี้คือ Emma Oliver อายุ 43 ปี แม่ของ Daniel Long นักเรียนคนหนึ่งที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะเครียดกับการเตรียมสอบ GCSE ซึ่งเป็นข้อสอบที่จะนำไปใช้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย ที่มีกำหนดสอบในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ คุณแม่ใจสลายคนนี้เล่าให้ฟังว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2017 ที่ผ่านมา โดยเธอได้ลำดับเหตุการณ์ให้ฟังว่า “ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ฉันได้ขึ้นไปห้องของ Daniel ก็เห็นเขากำลังอ่านหนังสืออยู่ ฉันจึงลงไปข้างล่างเพื่อเตรียมอาหาร” “แต่อีก 20 นาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงดังลั่นมาจากข้างบน ฉันจึงรีบวิ่งขึ้นไปและพบว่าลูกชายของฉันกำลังใกล้ตายแล้ว ตอนนั้นฉันได้แต่กรี๊ดและวิ่งไปหาเพื่อนบ้านให้โทรหาโรงพยาบาล จากนั้นฉันก็ได้ CPR เบื้องต้นให้แก่ลูกชาย” โดยเธอไม่ได้บอกแหล่งข่าวว่าลูกชายของเธอตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยวิธีใด หลังจากนั้นเธอก็พบว่า Daniel ยังหายใจอยู่จึงส่งไปที่โรงพยาบาลในเมือง Leeds และเขาต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา “ฉันนั่งอยู่ข้างเตียงของเขาและหวังว่าเขาจะปลอดภัย” Emma กล่าว แต่ว่ามันกลับไม่เป็นไปอย่างที่เธอหวัง ทีมแพทย์ได้ออกมาบอกว่า Daniel ได้มีภาวะสมองตายวินาทีที่เธอได้ฟังนั้นเธอบอกว่าใจแทบสลายเลยทีเดียว และเขาได้เสียชีวิตในวันที่ 28 กุมภาพันธ์…
-
สิงโตทำรถติดกว่า 100 คัน ผู้คนก็ยินดี๊ยินดี ดูมันเล่นเสียวกัน จึ๊กกกอ่าาาาห์!!
กลายเป็นเหตุการณ์วุ่นๆ ที่เกิดขึ้นบนถนนกลางวันแสกๆ ที่อุทยานแห่งชาติ Kruger ในประเทศแอฟริกาใต้ เรื่องวุ่นๆ มันก็มีอยู่ว่า นักท่องเที่ยวต้องทำใจยอมรับชะตากรรมจากคู่รักเจ้าป่า ที่ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ถึงมาคลอเคลียนัวเนียกันกลางถนน เล่นเอารถนักท่องเที่ยวกว่า 100 คันต้องติดแหง่กอยู่กลางอุทยานนานถึง 20 นาที!! และนี่คือ 2 ผู้ต้องหาที่ทำเอานักท่องเที่ยวต้องวุ่นกันไปทั้งอุทยาน แต่กระนั้นก็ไม่ได้มีใครออกมาโวยวาย หรือขัดขวางความสุขของพวกมันทั้งสอง Catherine van Eyk นักท่องเที่ยวผู้อยู่ในเหตุการณ์วัย 27 ปี เล่าว่า “อันที่จริงมันเป็นภาพหาดูยากมากกว่า รถทุกคันต่างหยุดดูมันเล่นสยิวกันอยู่ประมาณ 20 กว่านาทีได้ ถ้านับไม่ผิดก็มีรถของนักท่องเที่ยวอยู่ 120 คันเลยล่ะ” แม้ว่าจะทำให้รถติดยาวเหยียด แต่นักท่องเที่ยวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า.. นี่แหละอเมซิ่งแอฟริกาใต้ของจริง!! ถ้าอยากรู้ว่าพี่สิงห์เราจะรู้สึกอิ่มเอมขนาดไหน ก็ขอให้ดูภาพใบหน้าของพี่เค้าประกอบ ส่วนฝั่งสาวเจ้าน่ะเหรอ หลังเสร็จกิจก็นอนแน่นิ่งไม่ไหวติง… นักท่องเที่ยวผู้อยู่ในเหตุการณ์อีกคนหนึ่งเล่าว่า “รถทุกคันต้องขยับเขยื้อนไปอย่างช้าๆ เพื่อที่จะได้ไม่ขัดจังหวะความสุขของพวกมัน เป็นวินาทีที่หาชมได้ยากจริงๆ” พอมองมุมนี้แล้วเหมือนแมวแถวบ้านยังไงยังงั้น เดี๋ยวจะหาว่าเราใจร้ายไม่ยอมเปิดวาร์ป……
-
ความสามารถอีกด้านหนึ่งของเหล่านักแสดงชื่อดังทั้ง 14 คนที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
ความสามารถพิเศษนั้นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่อาจจะซ่อนอยู่ในตัวของพวกเราทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป การเล่นดนตรีหรือแม้แต่การแสดงต่างๆ แต่บางครั้งความสามารถเหล่านี้ก็อาจจะมาจากการฝึกฝนและความสนใจที่นอกเหนือจากสิ่งที่เราทำเป็นประจำในทุกๆ วัน และแน่นอนเหล่านักแสดงดังๆ จากต่างประเทศเองนั้นก็มีความสามารถอีกด้านหนึ่งที่ซ่อนไว้นอกเหนือจากการแสดงของพวกเขาเช่นกัน และวันนี้เราก็ได้รวบรวมความสามารถอีกด้านหนึ่งของเหล่านักแสดงชื่อดังทั้ง 14 คนที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน อ่า… แต่ละคนจะมีความสามารถอะไรซ่อนอยู่นั้นไปชมกันเลย… 1. Neil Patrick Harris นอกจากจะเป็นหนุ่มนักแสดงมากความสามารถแล้ว Neil ยังชื่นชอบในการเล่นมายากล และตัวเขาเองก็เป็นเจ้าภาพในการจัดงานมอบรางวัล The Magic Awards อีกด้วย 2. Bruce Willis ก่อนหน้าที่จะผันตัวมาเป็นนักแสดงนั้น นักแสดงคิวบู๊มากความสามารถผู้นี้เคยเล่นฮาร์โมนิกาให้กับวง Loose Goose มาก่อน และตอนนี้เขาเองก็กำลังออกทัวร์คอนเสิร์ตกับวง The Accelerators อยู่!! 3. Emma Roberts หนึ่งในความสามารถพิเศษของนักแสดงและนักร้องสาวชาวอเมริกันผู้นี้ ก็คือการแกล้งร้องไห้เหมือนเด็กทารกนั่นเอง เห็นหน้าสวยๆ แบบนี้ก็ขี้เล่นเหมือนกันนะเนี่ย 4. Colin Farrell ก่อนที่จะมาเป็นนักแสดงและมีผลงานภาพยนตร์มากมายนั้น หนุ่มชาวไอริชผู้นี้เคยเป็นคุณครูสอนเต้นให้กับเหล่าเด็กๆ มาก่อนนะเออ!! 5. Jennifer Garner อีกหนึ่งนักแสดงหญิงผู้มากความสามารถ และนอกจากฝีมือการแสดงแล้ว เธอยังสามารถเล่นเครื่องดนตรีอย่างแซ็กโซโฟนได้อีกด้วย 6. Christopher Walkin ถึงแม้จะเริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่ตอนอายุน้อยๆ แต่นักแสดงใหญ่วัย…
-
ชมผลงานสุดยอดศิลปะกระดาษป๊อบอัพ จากศิลปินชาวเยอรมัน พร้อมสอนวิธีการทำแบบฟรีๆ
งานกระดาษแบบบ๊อบอัพ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานฝีมือที่ทำให้เราต้องทึ่งในความสวยงามได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะนอกจากความสร้างสรรค์ของผลงานแล้ว บางครั้งมันยังทำให้ภาพสองมิติธรรมดาๆ ที่อยู่บนหน้ากระดาษดูสมจริงขึ้นมาอีกด้วย และวันนี้เราก็มีผลงานศิลปะที่ว่านี้จากคุณ Peter Dahmen ศิลปินผู้เชี่ยวชาญทางด้านการทำงานศิลปะประเภทนี้มากที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งผลงานของเขานั้นบอกได้เลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ และนี่ก็คืออาคารขนาดใหญ่ หนึ่งในผลงานศิลปะป๊อบอัพขนาดใหญ่ของเขา ศิลปินชาวเยอรมันคนนี้ได้เริ่มต้นงานศิลปะป๊อบอัพนี้ตั้งแต่ตอนที่เขาเริ่มศึกษาด้านกราฟิกดีไซน์ เพื่อใช้ในการสร้างงานออกแบบ 3 มิติของเขาเพื่อส่งอาจารย์ และจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ นั้นมันก็ทำให้เขาเริ่มพัฒนาฝีมือการออกแบบ และกลายมาเป็นหนึ่งในศิลปินป๊อบอัพที่มีฝีมือมากที่สุดคนหนึ่งเลย นอกจากนี้ในช่องยูทูบ Peter Dahmen Papierdesign ของเขายังได้มีการสอนเทคนิคการทำป๊อบอัพกระดาษแบบสามมิติง่ายๆ ให้สำหรับผู้ที่สนใจได้ลองทำตามอีกด้วย หนึ่งในผลงานที่สวยงามและน่าทึ่งของเขา และนี่คือคลิปวิดีโอที่รวบรวมผลงานศิลปะป๊อบอัพของเขาเอาไว้ล่ะ และสำหรับใครที่อยากฝึกทำงานศิลปะป๊อบอัพแบบนี้ ทางคุณ Peter Dahmen ก็ได้เปิดเว็บไซต์เพื่อสอนวิธีการทำป๊อบอัพแบบง่ายๆ ฟรีๆ กันอีกด้วยนะ โดยสามารถเข้าไปดูวิธีการทำได้ที่เว็บไซต์ peterdahmen ของเค้ากันได้เลย ที่มา thisiscolossal
-
ชายรุ่นพ่อทำร้ายร่างกายและข่มขืนหญิงสาวอย่างหนัก ทั้งขวด ทั้งไม้คิว ถึงขั้นต้องแท้งลูก!!
เรื่องราวสุดสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ผู้หนึ่ง เธอตกเป็นเหยื่อของการข่มขืนและทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง หลังจากที่นาย Michael Banks Gray ชายวัย 50 ปีได้ใช้สิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ ไม้พูล ยัดเข้าไปในช่องคลอดเธอ จนเป็นสาเหตุให้เธอแท้งลูกในไม่กี่วันหลังจากนั้น หญิงสาวผู้โชคร้ายรายนี้เป็นหนึ่งใน 8 เหยื่อที่ถูกนาย Gray ข่มขืนและทำร้ายร่างกาย ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา นาย Gray ถูกตั้งข้อหาทั้งสิ้น 18 ข้อหาซึ่งประกอบไปด้วยการข่มขืน การทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ระหว่างปี 1987 ถึงปี 2012 และจะถูกพิพากษาในเดือนมกราคม ปีหน้า ตามการรายงานของสื่อต่างประเทศ หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อคนล่าสุดได้กล่าวว่าเธอรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมของชายคนนี้ แต่ก็รู้สึกโชคดีที่เรื่องเกี่ยวกับการเปิดโปงการล่วงละเมิดทางเพศนักแสดงหญิงของนาย Harry Weinstein นั้นทำให้เธอกล้าที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ “ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือใครก็ตามที่กำลังใช้กำลังและทารุณพวกคุณ คุณควรที่จะออกมาพูดถึงสิ่งที่พวกเขาทำ ฉันพยายามรวบรวมความกล้า ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันไม่กล้าที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด” หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อกล่าว นอกจากนี้หญิงรายนี้ยังได้เผยอีกว่า เธอถูกนาย Gray นั้นทำร้ายร่างกายมาเป็นเวลานานกว่า 7 ปีแล้ว หลังจากที่พบเขาครั้งแรกเมื่อปี 1998 ที่บ้านของเพื่อนเธอ ชายวัย 50…
-
หนุ่มมอบรองเท้า Nike Air Max มูลค่ากว่า 4,500 บาทให้คนไร้บ้าน หลังเห็นเขาต้องเดินเท้าเปล่า
เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นที่เมืองนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษหลังจากที่หนุ่มใหญ่คนหนึ่ง ได้มอบรองเท้า Nike Air Max มูลค่ากว่า 4,500 บาทให้กับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่ง หลังจากที่เห็นชายคนดังกล่าวเดินเท้าเปล่าอยู่บนถนน ในระหว่างที่ Craig Wells ชายวัย 36 ปีกำลังทานอาหารอยู่ในร้าน Wagamama ในเมืองนอตทิงแฮม พร้อมกับภรรยาและลูกๆ ทั้ง 3 คนของเขา ชายหนุ่มได้สังเกตเห็นหนุ่มไร้บ้านคนดังกล่าวเดินผ่านเขาไป Wells จำชายไร้บ้านคนนั้นได้ เขาชื่อ Mark คุณพ่อลูก 3 จึงรีบวิ่งออกไปจากร้านด้วยเท้าเปล่าพร้อมกับทักทายหนุ่มไร้บ้านคนนั้นทันที หลังจากที่ได้พูดคุยกัน คุณ Wells ก็ทราบว่าหนุ่มไร้บ้านคนนั้นใส่รองเท้าเบอร์เดียวกันกับเขา และด้วยความมีเมตตาคุณพ่อวัย 36 ปีจึงได้ถอดรองเท้าออกกำลังการคู่โปรดของเขาให้กับหนุ่มไร้บ้านทันที “นี่อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ดูหุนหันไปหน่อย แต่หลังจากที่ผมมองเห็นเขาผ่าหน้าต่าง สภาพของเขานั้นดูแย่มาก เขาสวมเพียงแค่ถุงเท้าขาดๆ เท่านั้น” คุณ Wells เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้น คุณพ่อผู้ใจดีเล่าว่าชายไร้บ้านคนดังกล่าวรู้สึกทราบซึ้งอย่างมากที่ได้รองเท้าคู่ใหม่ ” Mark ร้องไห้และบอกกับผมว่าไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้กับเขามาก่อน ผมรู้สึกว่าเขาต้องการรองเท้าคู่นั้นมากกว่าผม” Wells กล่าว ภาพของทั้งสองถูกผู้คนในร้านอาหารถ่ายเอาไว้ได้ และจากนั้นเรื่องราวของคุณพ่อลูก 3 ก็ถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ “ผมไม่ต้องการคำยกย่องอะไรสำหรับสิ่งที่ผมทำ สิ่งที่ผมอยากจะบอกทุกๆ คนก็คือ ความรักเป็นเหมือนของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด…
-
ดีไซน์เนอร์ญี่ปุ่นนำเอา “กิโมโน” มาดัดแปลงให้กลายเป็นชุดเจ้าสาวสุดสวย
กิโมโน ชุดประจำชาติญี่ปุ่นมีความงดงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นที่ถ่ายทอดออกมาผ่านทางลวดลายของผ้า และมีความสวยงามไม่แพ้ชุดประจำชาติใดๆ ในโลก ปัจจุบันก็ได้มีคนนำความงามของชุดกิโมโนมาดัดแปลงให้เข้ากับยุคกับสมัย บ้างก็นำมาทำกิโมโนแบบสำเร็จรูปที่สะดวกต่อการใส่ หรือนำมาเติมลวดลายต่างๆ ให้มีความสวยงามยิ่งขึ้น บริษัท The Oriental Wasou ของญี่ปุ่นก็เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่เล็งเห็นคุณค่าความงามของชุดกิโมโน โดยทีมดีไซน์เนอร์ของบริษัทได้นำกิโมโนมาดัดแปลงให้กลายเป็นชุดแต่งงานสุดสวยและหรูสุดๆ “ช่วยให้เจ้าสาวสุดสวยให้ได้สวยดุจดั่งเจ้าหญิงในเทพนิยาย ในวันสำคัญที่สุดในชีวิต” คำพูดที่เป็นเป้าหมายในการทำชุดของทีมดีไซน์เนอร์ โดยกิโมโนที่ทางบริษัทได้ผลิตออกมาจะสามารถใส่ได้ทั้งสองแบบ ทั้งแบบกิโมโนออริจินอล และปรับให้กลายเป็นชุดเจ้าสาวที่ไม่เหมือนใครในโลก เพียงแค่นำกิโมโนมาปรับแต่งเพียงแค่ 10 นาที ก็ได้ชุดเจ้าสาวสุดสวย สีสันสดใส นอกจากนี้เทรนด์ชุดแต่งงานที่ทำจากกิโมโนก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะรัฐฮาวาย ที่มีบริษัท Halelokahi นำชุดกิโมโนมาดัดแปลงให้กลายเป็นชุดเดรสที่สามารถใส่ไปได้ทุกงาน Mami Ogiwara เจ้าของบริษัทได้กล่าวว่า “เราต้องการจะรักษาวัฒนธรรมให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ถือว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ซื้อสุดๆ เพราะซื้อ 1 ชุดแต่ใส่ได้ถึง 2 แบบ ถึงแม้ว่ากิโมโนจะเป็นชุดประจำชาติของญี่ปุ่น แต่ก็ได้รับความนิยมจากชาวตะวันตกที่เห็นคุณค่าความงามของชุดกิโมโน .…
-
เจ้าแมวท้องแก่มาเคาะประตูบ้านชายหนุ่มเพื่อขออาหาร แถมยังคลอดลูกไว้ให้เลี้ยงอีก
เช้าวันหนึ่งในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีเจ้าแมวท้องแก่ตัวหนึ่งเดินทางเข้ามาขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่มถึงหน้าบ้าน โดยหวังเพียงแค่จะมีที่พักอาศัยที่สามารถบังแดดบังฝนได้ และมีอาหารประทังชีวิตเพียงเท่านั้น เจ้าแมวเดินอุ้ยอ้ายมาร้องเหมียวๆ อยู่หน้าบ้านของชายหนุ่ม มันคงสัมผัสได้ว่าชายผู้นี้เป็นคนที่จิตใจเมตตา รักสัตว์อย่างแน่นอน ซึ่งก็เป็นไปตามที่เจ้าเหมียวคิด ชายหนุ่มตัดสินใจรับเลี้ยงมันให้ที่พักแสนอบอุ่นและนำอาหารอย่างดีมาให้มันได้กินโดยที่ไม่รู้ว่ามันกำลังตั้งท้อง เขาคิดเพียงแต่ว่ามันอ้วนเท่านั้น ต่อมาในเดือนสิงหาคมเจ้าเหมียวได้คลอดลูกออกมาถึง 5 ตัว มันทำให้เขาประหลาดใจมาก ลูกแมวทั้งหมดอยู่ในอาการปลอดภัย สมบูรณ์ แข็งแรง แม่แมวดูแลลูกๆ ของมันอย่างดี มันหวงลูกของมันมากๆ แต่มันก็อนุญาตให้เขาได้เข้ามาช่วยเหลือมันดูแลลูกๆ ในขณะที่มันต้องการพักผ่อน “เวลาฉันอุ้มลูกแมวขึ้นมานอนบนตัก แม่แมวก็จะกระโดดขึ้นมาเอาหัวของมันมาเกยด้วย และจ้องหน้าผม เพื่อสื่อสารให้ผมดูแลลูกของมันดีดี” เจ้าของเรื่องราวที่ชื่อ Eeksy กล่าว ถึงแม้จะเหนื่อยจากการเลี้ยงลูกทั้ง 5 ตัว แม่แมวก็ยังดูแลเหล่า ลูกๆ ของมันอย่างดีเยี่ยม เลียขนทำความสะอาดลูกทุกตัว และมีน้ำนมให้กินแบบไม่อั้น ชายหนุ่มตัดสินใจรับเลี้ยงเจ้าเหมียวและลูกๆ ตลอดไป แต่ต้องมีการจัดการทำหมันแม่แมวซะก่อน จะได้ไม่มีลูกหลานเพิ่มอีก ความน่ารักของลูกแมวทั้ง 5 ทำให้น้องสาวของเขาและสามีมาช่วยรับแมว…
-
แอบส่อง Romeo ลูกชายคนรองตระกูล Beckham ยิ่งโตก็ยิ่งฉายแววความหล่อไม่แพ้พ่อกับพี่เลย
เมื่อพูดถึงบรรดาลูกชายสุดหล่อของเหล่าเซเลบคนดัง เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึงหนุ่มๆ ตระกูล Beckham อย่างแน่นอน เพราะแต่ละคนนอกจากจะเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณพ่อ David และคุณแม่ Victoria Beckham แล้ว พวกเขายังมีทั้งความเท่ และหน้าตาที่หล่อเหลาไม่แพ้พ่อเลย อารมณ์ประมาณลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นอะแกรร โดยปกติแล้วเวลาที่สาวๆ นึกถึงลูกของเฮียเบ็ค คนที่มักจะถูกกล่าวถึงมากที่สุดก็คือ Brooklyn Beckham ใช่ไหมล่ะ แต่ก็อย่างว่าล่ะนะตอนนี้หนุ่ม Brooklyn เขาก็มีสาวอยู่ในใจไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ทำให้ชะนีน้อยอย่างเราๆ อกหักดังเป๊าะไม่รู้กี่ครั้งแล้วเนี่ยยยย และเพื่อเป็นการไม่เสียเวลา ถ้าอย่างนั้นเราหยุดคนพี่เอาไว้ก่อน แล้วมายลโฉมน้องชายคนรองอย่าง Romeo Beckham ก็แล้วกัน บอกเลยว่าหนุ่มน้อยคนนี้ก็มีดีไม่แพ้พี่ชายของเขาเลยนะ แล้วคุณจะหลงรักทันทีที่ได้เห็นหน้า เชื่อเราสิ๊… สำหรับ Romeo เป็นลูกชายคนรองของ David Beckham อดีตนักฟุตบอลชื่อดังที่ใครๆ ก็รู้จัก ปัจจุบันเขาอายุ 15 ปีแล้ว เรียกได้ว่ากำลังอยู่ในช่วงวัยกำลังโตเลยล่ะ แถมนับวันก็ยิ่งฉายแววความหล่อออกมาให้สาวๆ ได้กรี๊ดกันอยู่เรื่อยๆ งานนี้ไม่ให้หลงรักไม่ได้ซะแล้ว นอกจากนี้…
-
คู่รักไว้ทรงผมยาวชาวร็อคเกือบ 30 ปี ไม่ยอมตัดซักทีพอได้เปลี่ยนปุ๊บก็แทบจะจำกันไม่ได้…
วิถีชาวร็อคนี่ช่างดูจะเต็มไปด้วยความยากลำบากจริงๆ เพราะต้องบ่งบอกความเป็นตัวเองผ่านเสื้อผ้าหน้าผม แต่จะมีใครใจได้เท่าคู่รักคู่นี้ที่ไม่ตัดผมมาเกือบ 30 ปี! Tim White และ Wendy White เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “คู่รักทรงผม Rock n’ Roll” สำหรับ Tim นั้นไม่เคยตัดผมมาตั้งแต่อายุ 18 ปีจนตอนนี้เขามีอายุกว่า 43 ปีขณะที่ Wendy นั้นก็ไม่แพ้กันโดยเธอไม่ตัดผมมาตั้งแต่อายุ 11 ปีและในตอนนี้มีอายุกว่า 39 ปีซึ่งหมายความว่าเธอไว้ผมมา 28 ปีเลยทีเดียว ผมไม่พันกันมั่งหรอเนี่ย และในตอนนี้ทั้งคู่เริ่มคิดที่จะเปลี่ยนแปลงทรงผม พวกเขาจึงเรียกรายการ Oprah Winfrey Show ให้มาช่วยออกแบบทรงผมให้หน่อย งานนี้บอกเลยว่าทีมงานของรายการจัดเต็ม ขนมาทั้งช่างแต่งหน้า ช่างทำผมมืออาชีพ เพื่อจะมาแปลงโฉมให้ทั้งคู่ ทรงผมสุดจ๊าบที่ไว้มาเกือบ 30 ปี เป็นไง ลุคใหม่ของเจ๊ ซึ่งคนแรกที่ออกมาหลังจากเปลี่ยนร่างแล้วนั้นคือ Wendy ซึ่งผลที่ออกมาน่ะหรอ เหมือนสาวฮอตในวงการฮอลลีวูดเลยล่ะ หน้าสวย ผมก็สวย…
-
ภาพถ่ายงานแต่งอันงดงามของคู่บ่าวสาว ท่ามกลางฉากท้องฟ้าสีส้มที่เกิดจากพายุเฮอร์ริเคน
อิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนโอฟีเลียที่ได้เข้าถล่มสหราชอาณาจักร นอกจากจะส่งผลกระทบทำให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย และทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายแล้ว มันยังเปลี่ยนท้องฟ้าในหลายพื้นที่กลายเป็นสีเหลืองส้มอีกด้วย และนั่นก็ทำให้ Colette Parker และ Tristan Cooper คู่บ่าวสาวจากประเทศอังกฤษ ได้ถือโอกาสใช้สภาพอากาศอันแสนประหลาดตา มาเป็นฉากหลังการถ่ายภาพแต่งงานของพวกเขาซะเลย ส่วนนี่คือผลงานที่ได้ ลองดูสิ… ว๊าวววว ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าปรากฏการณ์ธรรมชาติที่แสนร้ายแรง จะสามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นความงดงามที่แสนโรแมนติกได้ในแบบที่ใครก็คาดไม่ถึง ทางด้าน Sean Elliot ผู้เป็นช่างภาพได้ออกมาเผยว่า “เราไม่อยากพลาดโอกาสสุดพิเศษนี้” และเมื่อได้เห็นท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้ม Sean ก็รีบหยิบกล้องขึ้นมาเพื่อจับภาพคู่บ่าวสาวท่ามกลางสภาพอากาศสุดแปลกที่เต็มไปด้วยหมอกควัน และท้องฟ้าสีสันสดใส “หลังจากที่ออกจากสถานที่ทำพิธีไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ทันทีที่ท้องฟ้าได้เปลี่ยนสี ผมก็เลยตัดสินใจใช้ประโยชน์จากมัน แม้มันอาจจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่ 10 นาที แต่เราก็อยากได้อะไรที่พิเศษที่สุด” Sean กล่าว โรแมนติกที่สุดเลยยยยย อย่างไรก็ตาม Tristan ผู้เป็นเจ้าสาวได้ออกมาเผยว่าก่อนที่จะถึงวันแต่งงาน เธอได้ตรวจสอบสภาพภูมิอากาศมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้คิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แถมยังให้มันได้มาเป็นส่วนหนึ่งในภาพแต่งงานของเธอด้วย เป็นภาพถ่ายที่งดงาม และน่าทึ่งมากจริงๆ …
-
ผลงานชุดใหม่ของช่างภาพที่ตามถ่ายแมวจรในโตเกียว ที่คราวนี้ถึงกับจัดเป็นนิทรรศการ
หลายคนคงรู้จักกับช่างภาพที่ตามถ่ายแมวจรจัดอย่างนาย Masayuki Oki ที่วันนี้เขาจะมีนิทรรศการภาพถ่ายที่เกี่ยวกับแมวแล้ว ก่อนหน้านี้เขาได้มีสมุดรวมรูปภาพแมวที่ชื่อ “busanyan” หรือที่แปลได้ว่าแมวหน้าปลวก แต่มาตอนนี้เขาได้จัดนิทรรศการภาพถ่ายแมวจรจัดที่ชื่อว่า “Fiercely Cat Exhibition” (นิทรรศการแมวเถื่อน) ซึ่งตอนนี้ได้จัดขึ้นที่ตึก TOCHIBA 2 ในโตเกียวจนถึงวันที่ 22 ตุลาคมนี้และจะย้ายไปจัดต่อที่ เมืองเกียวโตในวันที่ 23-26 พฤศจิกายนนี้ ที่ Kyoto GALLERY 35 KYOTO หากใครไปญี่ปุ่นในช่วงนั้นก็ลองไปแวะชมกันได้ บัตรเข้าชมนิทรรศการ “แมวเถื่อน” นายแบบอยู่นี่เอง นอกจากนี้เขายังมีวิธีถ่ายแมวที่ไม่คุ้นเคยกับเรามาฝากเพื่อนๆ ด้วย 1. ไปให้มันเห็นหน้าบ่อยๆ และค่อยๆ สร้างความคุ้นเคยกับมันเพื่อเวลาถ่ายใกล้ๆ มันจะได้ไม่ตกใจกระโดดหายไป 2. ทำความรู้จักกับสถานที่ที่มันอยู่ เพื่อให้มันคิดว่าเราปลอดภัยเมื่อเข้าไปใกล้ 3. สังเกตพฤติกรรมของมันว่ามันชอบทำอะไรจะได้ถ่ายรูปออกมาสวย เห็นเคล็ดลับแล้วก็อยากเห็นผลงานของเขาใช่ไหมล่าา เอ้าลองดูกันดีกว่าว่าจะมีความน่ารักขนาดไหน เล่นท่ายากซะด้วย มาช่วยกันจับหน่อยเร๊ววว นี่แหนะ ต้องสั่งสอนซะบ้าง นึกว่าใครแขวนอะไรไว้ …
-
หนุ่มน้อยฝึกอ่านหนังสือ อยู่ๆ เจ้าเหมียวก็เข้ามานั่งฟัง ทั้งคู่ก็เลยกลายเป็นเพื่อนซี้กันเฉยเลย
ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับแมวมีความสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างยาวนาน มนุษย์กับแมวเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและยังเข้ากันได้ดีมากๆ และแมวก็เป็นสัตว์เลี้ยงอีกชนิดหนึ่งที่มนุษย์นิยมเลี้ยงเป็นอันดับต้นๆ อีกด้วย จากการสังเกตเหล่าเจ้าเหมียวของเรา มันเป็นสัตว์ที่ต้องการการดูแลและเอาใจใส่เป็นอย่างมาก แถมยังเอาแต่ใจสุดๆ ซึ่งมนุษย์ก็ต้องยอมใจอ่อนเพราะพ่ายแพ้กับความน่ารักของมันนั่นเอง เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอสุดน่ารักระหว่างเด็กชายคนหนึ่งกับเจ้าเหมียวขี้อ้อนผ่านทางเพจ Animal Humane Society เด็กชาย Finn ได้เดินทางมาที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ในเมืองมินิโซต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อมาเยี่ยมเยียนสัตว์ที่พักอยู่ในศูนย์ เขานั่งลงกับพื้นเพื่ออ่านหนังสือนิทาน ทันใดนั้นก็มีแมวสีเทาตัวหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ๆ มาคลอเคลียเด็กชาย Finn แถมยังแอบหอมแก้มเจ้าหนูอีกด้วย แต่หนุ่มน้อยก็สนใจหนังสือที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า เจ้าแมวจึงนอนทับหนังสือซะเลย ในที่สุดเด็กชายก็ยอมวางหนังสือเพื่อมาเล่นกับมัน และบอกให้ทางครอบครัวรับเลี้ยงเจ้าเหมียวตัวนี้ เพราะว่าทั้งสองรู้สึกถูกชะตากัน ซึ่งตอนนี้เจ้าเหมียวก็ได้ย้ายจากศูนย์ช่วยเหลือเข้าไปอยู่กับเด็กชาย Finn เป็นที่เรียบร้อย ที่เจ้าเหมียวเข้าไปออดอ้อนเขาก็คงเป็นเพราะว่าอยากให้เขารับมันไปเลี้ยงนี่เอง แผนสูงจริงๆ ที่มา lovemeow
-
10 ภาพปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์ ที่สวยงามซะจนนึกว่ามีใครมาวาดไว้
ธรรมชาติเป็นสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเราไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้ ท้องฟ้า ทะเล หรืออะไรอย่างอื่นอีกมากมาย แต่ธรรมชาติก็มักจะสร้างสิ่งที่เราไม่คาดคิดอยู่เสมอจนกลายมาเป็นภาพความสวยงามที่คุณจะได้รับชมด้านล่างนี้ และนี่คือ 10 ภาพที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ออกมาเป็นความสวยงามที่หาชมได้ยาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นครั้งเดียวและไม่เกิดขึ้นอีกเลยก็เป็นได้ สายรุ้งที่เกิดจากพระจันทร์ สายรุ้งนี้เกิดขึ้นใกล้ๆ กับน้ำตกแห่งหนึ่งในคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ชาวอินเดียวเชื่อว่าหากใครที่ได้เห็นปรากฏการณ์นี้จะสามารถเข้าใจภาษาของเหล่าวิญญาณได้และยังทำให้โชคดีอีกด้วย หลุมที่เหมือนกับกำลังดูดคนลงไปสู่นรก หลุมที่เกิดจากลาวาที่เย็นตัวลงแล้ว หรือว่ามันอาจเป็นช่องทางไปสู่นรกก็ได้ โอปอที่มีเหมือนรวมเอาจักรวาลย่อมๆ มาไว้ข้างใน โอปอเม็ดนี้มีราคา 60,000 ดอลล่าสหรัฐ(ประมาณ 2 ล้านบาท) ถึงจะไม่ใช่โอปอที่แพงที่สุดในโลกแต่มันน่าจะเป็นโอปอที่สวยที่สุด รู้หรือไม่ว่าครั้งหนึ่งโอปอเคยมีราคาเทียบเท่ากับเพชร แต่ว่านักเขียนในศตวรรษที่ 19 หลายๆ คนมักเขียนถึงโอปอว่า เป็นเครื่องหมายของความล้มเหลวจึงทำให้มันด้อยค่าลง ปรากฏการณ์ Volcanic Lightning โดยปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่าง การเกิดภูเขาไฟระเบิดจะเกิดพายุสายฟ้าขึ้นในเถ้าภูเขาไฟที่กำลังพวยพุ่งขึ้นเหนือภูเขาไฟ โดยนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถค้นพบสาเหตุนี้ได้ นี่มันคือเห็ดหรือไข่เอเลี่ยนกันเนี่ย เห็ดนี้มีชื่อว่า Clathrus archeri หรือเรียกกันง่ายๆ ว่านิ้วมือปิศาจ เป็นเห็ดที่เกิดขึ้นจากมอสและไลเคน ต้นไม้ปิศาจที่เหมือนกับไฟลุกจากข้างใน ต้นไม้ต้นนี้ดูเหมือนมีเลือดไหลออกมา แต่จริงๆ แล้วมันโดนฟ้าผ่าและค่อยๆ ไหม้โดยใช้เวลาหลายวันทำให้มันระเบิดออกมาจากข้างใน แสงจากสวรรค์…
-
หญิงสาวถ่ายภาพล้อเลียน สารพัดท่าเซลฟี่ยอดฮิตของหนุ่มๆ แหม่.. ทำไปได้!!!
การเซลฟี่เป็นอีกหนึ่งวิธีในการถ่ายภาพที่กำลังเป็นที่ยอดฮิตในปัจจุบัน แถมยังทำได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา เพียงแค่มีกล้องไม่ว่าจะเป็นกล้องมือถือ หรือกล้องถ่ายรูปก็ได้ทั้งนั้น ผู้ชายกับผู้หญิงก็มีวิธีการเซลฟี่ที่แตกต่างกันไป สาวๆ แบบเราส่วนมากก็จะถ่ายรูปออกแนวเซ็กซี่ๆ หรือว่าจะแบ๊วๆ แต่คุณผู้ชายก็จะเป็นรูปที่ออกแนวเท่ๆ หน่อย ด้วยความแตกต่างในการเซลฟี่ของผู้ชายกับผู้หญิง ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @idsedona ได้สังเกตรูปภาพที่เหล่าผู้ชายเซลฟี่ลงโซเชียล เธอจึงออกมาถ่ายรูปเลียนแบบสไตล์แบบผู้ชายๆ เรียกความฮาบนโลกทวิตเตอร์ เป็นที่ถูกอกถูกใจของชาวโลกนกสีฟ้าเป็นอย่างยิ่ง เริ่มจากการแต่งตัวให้ดูแมนๆ ก่อน หลังจากนั้นเธอก็ถ่ายรูปรัวๆ โดยที่ท่าเซลฟี่ของผู้ชายทั้งหลายจะมีท่าดังนี้ มิเร่อเซลฟี่ ถ่ายภาพตัวเองในกระจก ไม่ว่าใครก็ต้องมีแหละน่า บางทีพี่ๆ ก็ลืมปิดแฟลช สะท้อนสว่างคาตาเลย อวดกล้ามบ้าง เป็นบางคน หรือจะอวดซิกแพ็คก็ดีต่อใจ กุมเป้าเท่ๆ เขย่าใจสาวๆ ส่งยิ้มหล่อๆ ให้กับกระจก เซลฟี่แบบ Close up ท่ายกนิ้วทั้งหลาย โป้ง ชี้ กลาง นาง ก้อย มาหมด บางทีก็อวดหูฟังกับเกมที่พึ่งซื้อมาให้คนเดาเล่นๆ…
-
ผลจากการทิ้งขยะของมนุษย์ ทำให้เกาะในทะเลแคริบเบียนเต็มไปด้วยขยะนับล้านชิ้น
เราทราบกันดีว่าสภาพอากาศของโลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก อากาศเริ่มร้อนขึ้นมากทุกวันจนทำให้มนุษย์เริ่มจะดำรงชีวิตไม่ได้ อีกทั้งต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ตามที่เราได้เห็นในเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งความแปรปรวนทางสภาพอากาศนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการกระทำของมนุษย์ที่ทำลายธรรมชาติเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง จนทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ ช่างภาพที่ชื่อว่า Caroline Power ได้เดินทางไปยังเกาะ Roatan หนึ่งในหมู่เกาะของทะเลแคริบเบียนเพื่อทำการสำรวจพื้นที่ แต่เมื่อเธอเดินทางไปยังเกาะแห่งนี้ แทนที่จะได้พบกับผืนน้ำทะเลสีครามสดใส แต่กลับพบว่าทะเลที่แสนสวยงามนั้นเต็มไปด้วยขยะนับล้านชิ้นที่ลอยเกลื่อนเต็มท้องทะเล บนผืนน้ำปกคลุมไปด้วยเศษขยะเช่น ขวดพลาสติก ช้อนส้อม กล่องโฟม และเศษพลาสติกอื่นๆ ขยะเหล่านี้สันนิษฐานว่าไหลมาตามแม่น้ำของกัวเตมาลา Caroline จึงได้ถ่ายภาพท้องทะเลที่เต็มไปด้วยขยะเหล่านี้ เผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์เพื่อให้ผู้คนได้ตระหนักและดูแลรักษาธรรมชาติให้ดีกว่านี้ John Hourston จาก Blue Planet Society ได้ออกมารณรงค์เพื่อให้ผู้คนออกมาปกป้องท้องทะเลและมหาสมุทร เขาชี้ให้เห็นว่าพลาสติกทั้งหลายที่ลอยบนท้องทะเลจะปะปนกับสาหร่ายที่เป็นอาหารของพวกแพลงตอนและปลาทะเล นอกจากนี้ยังมีนกทะเล เต่าทะเล และวาฬที่เข้าใจผิดคิดว่าพลาสติกเป็นอาหาร และพวกมันก็กินเข้าไปซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ปัญหาขยะในท้องทะเลไม่ได้เกิดที่เกาะแห่งนี้เพียงที่เดียว ยังมีชายหาดทั่วโลกที่ยังมีปัญหาเรื่องขยะในท้องทะเล และก็น่าจะถึงเวลาที่มนุษย์ควรจะออกมารับผิดชอบดูแลสิ่งแวดล้อม ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้ ที่มา Dailymail
-
สายมัง! หมู่บ้านสำหรับคนรักสุขภาพในรัสเซีย ที่เปิดรับเฉพาะคนที่เป็นมังสวิรัติให้เข้าอยู่เท่านั้น
ผู้คนในทุกวันนี้เริ่มที่รักษาสุขภาพกันมากขึ้นเห็นได้จากการออกกำลังกายและกินอาหารมังสวิรัติที่ได้กลายเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เป็นมังสวิรัติแบบสุดโต่งนี่อาจเป็นหมู่บ้านที่คุณกำลังฝันหาถึงอยู่ก็ได้ เพราะนี่คือหมู่บ้านที่มีแต่มังสวิรัติ! หมู่บ้านแห่งมังสวิรัตินี้ตั้งอยู่แถวๆ ชานเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในประเทศรัสเซียโดยหมู่บ้านนี้มีชื่อว่า Veda ซึ่งหมู่บ้านนี้ได้ออกแบบมาเพื่อชาวมังสวิรัติที่รักสุขภาพจะได้อยู่กับคนที่มีความคิดเหมือนๆ กัน กฎเหล็กข้อแรกของผู้ที่ซื้อหรือเช่าบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้คือต้องเป็นมังสวิรัติเท่านั้น โดยจะต้องเข้าสัมภาษณ์กับตัวแทนขายของหมู่บ้านนี้ก่อน และถ้าไม่ผ่านการสัมภาษณ์ก็หมดสิทธิ์ที่จะซื้อบ้านที่นี่ แต่ไม่ใช่แค่เป็นมังสวิรัติก็จะเข้าอยู่ที่นี่ได้ง่ายๆ เพราะที่นี่ยังห้ามสูบบุหรี่และดื่มเหล้าอีกด้วย “ไอเดียหลักที่สร้างชุมชนแห่งนี้คือ อยากให้คนที่มีความคิดความชอบเหมือนๆ กันได้มารวมตัวกัน หากคุณเป็นมังสวิรัติ ที่นี่เปิดประตูต้อนรับคุณแน่นอน” Maya Podlipskaya ผู้จัดการของหมู่บ้านแห่งนี้ได้บอกไว้ หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นหมู่บ้านที่พึ่งพาตัวเองโดยพวกเขาได้มีการจัดการทรัพยากรอย่าง ไฟฟ้า น้ำ การบำบัดของเสียและการผลิตอาหารในชุมชนเอง อีกทั้งหมู่บ้านยังมี ฟิตเนส สถานที่สำหรับโยคะ สปา รวมทั้งร้านอาหารมังสวิรัติ ให้คนในชุมชนนี้ได้ใช้อีกด้วย โดยอพาร์ตเม้นท์ที่อยู่ในชุมชนนี้ เสร็จแล้ว 2 ตึกจาก 7 ตึกและตึกที่เหลือมีกำหนดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า และสามารถรองรับได้ถึง 210 ครอบครัวเลยล่ะ ลองมาชมความน่าอยู่ของหมู่บ้านนี้กันไหมล่ะ ที่มา: odditycentral
-
เชื่อไหมว่านี่คือ 20 ภาพที่ดูแล้วโคตรจะหงุดหงิดและไม่สบายใจ ทำเพื่อใครครับพี่น้อง??
รูปถ่ายแต่ละภาพที่ถ่ายออกมา ต่างก็สามารถสื่อความหมายและความรู้สึกได้แตกต่างกันไป อยู่ที่ว่าใครจะมองมุมไหน ในบางทีภาพใบเดียวกัน ก็อาจจะตีความหมายได้มากกว่า 1 ความรู้สึกก็ได้ แต่ภาพที่ #เหมียวบู้บี้ ได้รวบรวมมาให้เพื่อนๆ ได้ชมในวันนี้ บอกเลยว่าเป็นรูปที่ดูแล้วมันจะรู้สึกหงุดหงิด และไม่สบายใจอยู่หน่อยๆ บางรูปก็เป็นเหตุการณ์ที่น่าหงุดหงิดที่เราเจอในชีวิตประจำวันก็เป็นได้ 1. เห็นแล้วมันมวนๆ ท้อง ไม่อยากจะกินฮอทด็อกเลย 2. อยากจะเอากรรไกรตัดเหลือเกิน จะบอกพี่เขาก็เกรงใจ 3. ประสบการณ์ที่ไม่ว่าใครก็เคยเจอ มือเลอะอีกแล้วงานนี้ 4. ทำให้มันตรงจุดไม่ได้หรอ 5. อยากจะแกะเข้าไปแล้วจัดให้เหลือเกิน 6. แกะก่อนไหมพี่จ๋า 7. ใครเค้าแบ่งพายกันแบบนี้ล่ะเห้ย!! 8. มือไม้อ่อนลงในทันทีเมื่อเจอภาพนี้… 9. รองเท้าบูทครึ่งขาก็ดูสวยดีนะ แต่มันคับไปหน่อยไหม? 10. หน้าจอคอมของใครเป็นแบบนี้บ้าง เวลาหาไฟล์นี่วุ่นวายแน่นอน 11. โอเค รู้แล้วว่าห้ามจอด แต่ทำไมไม่วางให้มันตรงๆ…
-
สิ่งประดิษฐ์สุดเจ๋ง ‘เนินหลังเต่าอัจฉริยะ’ ที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามความเร็วของรถที่ขับผ่าน
สิ่งประดิษฐ์เจ๋งๆ ยังคงมีออกมาให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ และแน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นสามารถตอบโจทย์ให้กับการใช้ชีวิตของเราได้มากขึ้นอย่างแน่นอน เช่นเดียวกันกับของสิ่งนี้ มารู้จักกับเนินหลังเต่าอัจฉริยะ สิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ที่สร้างขึ้นโดยบริษัทในประเทศสเปน เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาการขับขี่บนท้องถนนให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ความพิเศษของมันก็คือมันจะเปลี่ยนสถานะไปตามความเร็วของรถที่วิ่งผ่าน ถ้าหากขับผ่านแบบช้าๆ ก็จะมีลักษณะที่อ่อนนุ่มขับผ่านไปได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าขับมาเร็วมันก็จะแข็งตัวขึ้นมาในทันที ทำให้ผู้ขับขี่ต้องตื่นตัวและจำกัดความเร็วในการขับขี่ของตัวเองอยู่เสมอ ขับมาช้าก็ผ่านไปได้แบบสบายๆ แต่ถ้าขับเร็วมันก็จะแข็งตัวเด้งดึ๋งขึ้นมา ความสามารถนั้นเกิดจากนนั่นของเหลวประเภท Non-Newtonian ที่อยู่ภายในสิ่งประดิษฐ์ เมื่อถูกกระตุ้นด้วยความเร็วของวัตถุที่เข้ามาหามันก็จะเกิดการแข็งตัวขึ้นเอง เป็นการนำของเหลวแปลกๆ นี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ ปัจจุบันเจ้าสิ่งนี้ได้ถูกนำออกมาใช้งานในเมือง Villanueva de Tapia ประเทศสเปน เป็นที่เรียบร้อย และกำลังได้รับความสนใจจากประเทศอิสราเอลกับเยอรมนี คลิปแสดงการทำงานของเนินหลังเต่าอัจฉริยะ ไม่รู้ว่าในอนาคตบ้านเราจะได้เห็นเจ้าสิ่งนี้เข้ามาใช้กันบ้างหรือเปล่านะ คงต้องทำให้เรารู้สึกแปลกตากันมากๆ แน่เลย ที่มา: businessinsider
-
เจ้าหมาทำตามคำสั่งของเจ้าของ นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ยอมขยับไปไหน เอาขนมมาล่อหรือลากไปก็ไม่ไป
เราอาจเคยเห็นน้องหมาน้องแมวถูกทิ้งไว้ข้างถนน พวกมันจะห้อยป้ายที่เขียนเอาไว้ว่า “วอนผู้ใจบุญช่วยรับมันไปดูแล?” ได้อ่านแล้วก็รู้สึกสลดใจแทนพวกมัน แต่กับเจ้าหมาตัวนี้แล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นกลับแตกต่างออกไป ถึงแม้ว่าเจ้าหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวนี้มีป้ายห้อยเอาไว้อยู่เหมือนกัน แต่ข้อความที่เขียนเอาไว้กลับต้องทำให้คนเดินผ่านไปผ่านมาต้องอมยิ้มให้กับความน่ารักของมัน น้องหมาโกลเด้นนั่งรอเฉยๆ ไม่ยอมขยับไปไหน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2011 เมื่อเจ้าหมาที่ชื่อ Jackson ได้นั่งรออยู่หน้าร้าน Target ในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ไม่ยอมขยับไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียวจนทำให้ชาวบ้านรู้สึกสนใจและเดินมาอ่านข้อความที่ห้อยไว้ตรงคอของมัน ข้อความดังกล่าวเขียนเอาไว้ว่า “พ่อผมบอกให้รอตรงนี้ ผมก็รออยู่ครับ” ทุกคนที่ได้เห็นต่างก็รู้สึกเอ็นดูในความใสซื่อของเจ้าหมาทันที ในขณะที่พ่อกำลังไปทำธุระ ผมก็จะนั่งรอตรงนี้ตามที่พ่อบอกครับ การที่มันสามารถนั่งรออยู่เฉยๆ อย่างนี้ได้นั่นเป็นเพราะว่า Steve Moore ไปรับมันมาเลี้ยงจากสถานเลี้ยงดูสัตว์เมื่อ 1 เดือนก่อน จากนั้นเขาก็ได้ฝึกให้มันได้มีเทคนิคหรือทักษะพิเศษต่างๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นนักฝึกหมามืออาชีพ แต่อย่างน้อยเขาก็สอนให้มันรู้จักรอโดยไม่ขยับไปไหนเลย แม้จะมีคนเอาขนมมาล่อหรือพยายามฉุดกระชากก็ตาม คนที่มาซื้อของที่นี่จะเข้ามาลูบหัวให้กับความน่ารักน่าเอ็นดู แม้เจอสาวๆ ผ่านสายตาไป ผมก็ไม่หวั่นไหวหรอกนะ Steve พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่า “น่าตกใจอย่างมากที่ตอนนี้ทุกคนกลับต้องการพามันกลับไปบ้าน ทั้งๆ ที่ 4 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ไม่มีใครยอมพามันกลับไปเลี้ยงเลย” น่ารักขนาดนี้ขอถ่ายรูปกลับไปให้ภรรยาที่บ้านได้เห็นหน่อยนะ …
-
อะไรจะเป๊ะเบอร์นั้น!! ภาพความเป๊ะที่ช่วยเยียวยาจิตใจของเราให้กลับมาชุ่มชื่นอีกครั้ง
ความเพอร์เฟ็กต์เป็นสิ่งที่หลายคนชื่นชอบและต้องการให้มันเกิดขึ้นกับหลายๆ สิ่ง แต่แน่นอนว่าจะให้ทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่ โดยพิสูจน์ได้จากภาพของสิ่งเหล่านี้ที่มีความเป๊ะสุดๆ จนเหมือนกับว่าพวกมันเกิดมาเพื่อคู่กัน ไปดูกันเลยว่าเมื่อมันถูกจัดวางกันอย่างลงตัวแล้ว ทำให้เรารู้สึกชุ่มชื่นหัวใจมากขนาดไหน? ถ้าตอกไข่ใส่ลงไปตรงกลางนี่เยี่ยมเลย ถ้วยชามที่วางเรียงกันจนดูเหมือนครัวซองต์ วางแบบนี้เหมือนรูปร่างของปอดเราเลยนะเนี่ย ถุงหิ้วแบบใส่ได้พอดีเป๊ะ เห็นแล้วก็รู้สึกสบายตาพกพาสะดวก ขนาดน้ำแข็งในแก้วยังทำให้เกิดรูปสามเหลี่ยมด้านเท่าได้…..อิลูมินาติ คอนเฟิร์ม อยากรู้จริงๆ ว่าตอนลงอุโมงค์มาไม่รู้สึกหวาดเสียวบ้างหรือไง หัวชาร์จไอโฟนก็ยังมีความลงตัวได้กับบางสิ่งเช่น ปฏิทิน คนละยี่ห้อนะ แต่ดูเหมือนสร้างมาเพื่อกันและกันจริงๆ แหวนคู่ที่บอกได้ว่าทั้งสองมีความเข้ากันได้มากเพียงใด ขอชื่นชมให้กับคนที่นั่งเรียงจริงๆ พอดีเกิ๊นนน สงสัยจะซื้อมาคู่กันสินะ ตอนขีดเส้นนี่ตั้งใจให้มันเป็นระนาบเดียวกันหรือเปล่า ยินดีด้วยนะครับ คุณได้ลูกแฝด เป็นการห่อของขวัญที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด อย่าลืมพกช็อกโกแลตเอาไว้กินรองท้องระหว่างขับรถด้วยนะ สบายใจไม่ต้องซื้อทีวีติดรถกันแล้ว ดูผ่านมือถือเอาเนี่ยแหละ องศาของแสงและเงา ทุกอย่างมันช่างลงตัวกันไปหมดเลย แบ่งครึ่งกันแบบเป๊ะๆ ฟูกที่เราสามารถเอามาใช้แทนประตูได้…
-
Yakiniku ภาพยนตร์ปิ้งๆ ย่างๆ ไม่มีคนแสดง มีแต่เตาถ่านและเสียงซู่ๆ ที่จะทำให้คุณน้ำลายสอ..!!
เพราะเรื่องปิ้งๆ ย่างๆ มันจริงจังซะยิ่งกว่าทุกเรื่องบนโลก เอ๊าาา… ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น!! และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบริษัทโปรดักชั่นสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Harappa LLC ได้ตัดสินใจทำภาพยนตร์ฟอร์มเกือบยักษ์ ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการปิ้งย่างล้วนๆ งานนี้ไม่มีคนแสดง ไม่มีน้ำ มีแต่เนื้อเน้นๆ จ้า ถะแด๊มมม!! และชื่อเรื่องของมันก็คือ… ‘YAKINIKU’ นั่นเอง เอง เอง (ทำเสียงแบบทีวีแชมเปี้ยน) ทางบริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ได้ออกมาเคลมถึงเรื่องราวปิ้งย่าง ที่ถูกจับมาทำเป็นภาพยนตร์อย่างจริงๆ จังๆ เอาไว้ว่า “มันไม่มีกฎในโลกของการปิ้งย่างว่าคุณควรทำแบบนั้นหรือแบบนี้ มันมีเพียงแต่สิ่งที่เรียกว่า ‘Kodawari’ เท่านั้น!!” และแน่นอนว่านี่คือภาพยนตร์เนื้อหาปิ้งย่างเรื่องแรกของโลก สิ่งที่เราจะได้เห็นจากภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ วิธีการปิ้งย่างของผู้คนในแบบที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็ชอบมีเดียมแรร์ หรือบ้างก็ชอบแบบสุกเกรียม โดยโลเคชั่นทั้งหมดในภาพยนตร์จะมีเพียงแค่ เตา ไฟจากถ่าน เนื้อย่าง ตะเกียบ และเสียงซู่ซ่าที่จะทำให้คุณรู้สึกน้ำลายสอจนต้องออกไปร้านเนื้อย่างหลังดูจบ ว่ากันว่าไม่มีความรักใดจะยิ่งใหญ่เท่ากับความรักในอาหาร อ่าาาาาห์ ไม่ได้มีแค่แผ่นลายเนื้ออันวิจิตรบรรจงเท่านั้นที่คุณจะได้เห็น แต่เสียงแตกของไส้กรอกที่ดัง เปร๊าะ!! หลังผ่านความร้อนก็ทำให้คุณรู้สึกหิวตามได้ไม่แพ้กันเลยล่ะ แม้จะยังไม่มีกำหนดการฉายอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าหนังเรื่องนี้ออกมาแล้ว รับรองว่าเราต้องหิวเนื้อย่างมากขึ้นแน่ๆ …
-
ไขปริศนาแมลงประหลาดรูปร่างหน้าตาคล้ายเอเลี่ยน แท้จริงแล้วมันคือตัวอะไรกันแน่!?
บนโลกของเราเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดที่บางครั้งเราไม่รู้เลยว่ามันคือตัวอะไร เหมือนกับเจ้าแมลงตัวนี้ที่บ้านเรายังไม่ค่อยรู้จักมันกันมากนัก สิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดตัวนี้มีชื่อว่า Creatonotos Gangis เป็นสายพันธุ์หนึ่งของผีเสื้อกลางคืนที่มีลักษณะโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด ผีเสื้อสายพันธุ์นี้มีแหล่งที่อยู่อาศัยทางตะวันออกเฉียงใต้ได้แก่ประเทศจีน อินเดีย ญี่ปุ่นและไทย รวมถึงทางตอนเหนือของออสเตรเลียก็ด้วย แม้ว่าบ้านเราจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมัน แต่ก็ไม่ได้ถูกพบกันอย่างแพร่หลายนัก ดูจากในรูปแม้ว่าสีของมันจะไม่ได้ฉูดฉาดอะไรมากมาย แต่ความพิเศษอยู่ตรงส่วนที่แยกออกมาจากท้องของมันเรียกว่า Coremata เป็นส่วนสำคัญที่จะปล่อยฟีโรโมน Hydroxydanaidal ออกมาดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้าม ขนาดพวกเราเองยังรู้สึกสนใจส่วนนั้นก่อนเป็นอย่างแรกเลย นอกจากนั้นเจ้าผีเสื้อสายพันธ์ุนี้ก็มีอาหารการกินที่แปลกออกไป โดยพวกมันจะกินสารที่พืชผลิตออกมาเรียกว่า Pyrrolizidine Alkaloids ซึ่งสารดังกล่าวนั้นมีพิษเป็นอันตรายให้กับแมลงตัวอื่นๆ นั่นจึงทำให้พวกมันไม่ถูกแย่งอาหาร อาหารที่ให้โทษกับแมลงชนิดอื่น แต่กลับเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับพวกมัน อีกทั้งสารตัวนี้ยังช่วยให้อวัยวะส่วน Coremata ของพวกมันเติบโตได้ดีขึ้นอีกด้วย ยิ่งกินมากก็จะยิ่งทำให้ปล่อยฟีโรโมนออกมาได้มาก แต่ถ้าหากกินสารนี้เข้าไปไม่มากพอก็จะทำให้อวัยวะส่วนนี้ไม่โตขึ้นมา จนทำให้ไม่สามารถเรียกหาคู่ได้ อวัยวะพิลึกๆ ที่มีความสำคัญอย่างมากในการขยายสายพันธุ์ให้มีลูกหลานสืบไป คลิปผีเสื้อกลางคืนสายพันธุ์แปลกประหลาด บนดาวดวงนี้ยังคงเต็มไปด้วยความแปลกประหลาดที่รอให้เราเข้าไปหาคำตอบอยู่เต็มไปหมดเลยจริงๆ ที่มา: lazerhorse
-
หญิงสาวใช้แอป Tinder ตามหาเจ้าเหมียวที่หายไป ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็เจอตัวจนได้
โดยปกติแล้วแอป Tinder จะเป็นที่รู้จักในฐานะแอปหาคู่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แล้วเราเคยคิดว่ามั้ยนอกจากหาคู่แล้ว เราจะหาประโยชน์อะไรได้จากแอปนี้อีก? Katie หญิงสาวจาก Northampton ประเทศอังกฤษ ปิ๊งไอเดียในการใช้แอป Tinder ได้อย่างสร้างสรรค์ ด้วยการใช้มันตามหาแมวที่หายไป นี่คือ Peanut น้องเหมียวที่หายไป Peanut เป็นแมวที่ซนมากและมันได้หนีออกจากบ้านเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่ง Katie ไม่รู้ว่ามันออกไปได้ยังไง แต่ตอนนี้เธอรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของมันมากกว่าสิ่งอื่นใด เพราะมีข่าวการฆ่าแมวออกมาให้ได้ยินบ่อยๆ ตั้งแต่ที่มันหายไป หญิงสาวไม่เคยได้อยู่อย่างสบายใจเลย เธอคิดถึงมันตลอดเวลา เธอจึงประกาศตามหามันในเพจเฟซบุ๊ก Lost Pets ขณะเดียวกันก็พยายามคิดหาหนทางอื่นไปด้วย และแล้วก็มีเหมือนมีอะไรมาดลใจทำให้นึกถึงแอป Tinder ซึ่งเป็นแอปหาคู่ที่สามารถระบุระยะของคนที่ต้องการคุยได้ เพื่อได้คู่ตามต้องการ ตอนนั้นหญิงสาวรู้ว่า Peanut คงอยู่ไม่ไกลจากแถวบ้านแน่ๆ เธอก็เลยใช้แอป Tinder เพื่อให้คนที่อยู่บริเวณใกล้กันนี้ช่วยตามหา หญิงสาวเล่าว่า “ฉันใช้รูป Peanut เป็นภาพโปรไฟล์ โดยทำให้เป็นโปสเตอร์ที่มีข้อความว่า ‘มีรางวัลสำหรับผู้พามันกลับมาอย่างปลอดภัย’ และเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงก็มีคนบอกฉันว่ามันอยู่ที่ไหน” เจ้าของได้ออกไปหาเจ้าเหมียวตามที่มีคนแจ้งมา แล้วก็พบมันอยู่ที่นั่น ซึ่งไม่ไกลจากบ้านเลย แต่เธอกลับไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมาอยู่ที่นี่ ครั้งแรกที่เข้าไปหา น้องเหมียวตกใจจนวิ่งหนีไป ดังนั้น Katie จึงต้องใช้กลิ่นที่เจ้าเหมียวชอบ จนล่อมันกลับบ้านได้ในที่สุด…
-
หญิงสาวเผย เพียงแค่โพสต์รูปภาพ ‘เท้า’ ของตัวเอง ก็ทำเงินได้ปีละเป็นล้านแล้ว!!
ในวัฒนธรรมบ้านเรา เท้าถือเป็นของต่ำที่ไม่ควรไว้บนที่สูง เช่น บนโต๊ะ บนหัวนอน หรือแม้กระทั่งบางสถานที่อย่างวัด คุณจะต้องระวังไม่ให้เท้าชี้ไปทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะอาจถือเป็นการลบหลู่ได้ นอกจากนี้ในทางโซเชียล รูปเท้ายังถือเป็นสัญลักษณ์ที่หยาบคายและเปรียบเสมือนการด่าที่รุนแรงมาก แต่ในขณะเดียวกันกลับมีหญิงสาวบางคนที่สามารถทำรายได้ปีละเป็นล้าน เพียงแค่ ‘โพสต์รูปเท้า’ ลงในโลกออนไลน์เท่านั้น Jessica Gould วัย 32 ปี อาศัยอยู่ในรัฐออนตาริโอ มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 100,000 คน หลังจากที่เธอโพสต์รูปเท้าลงไอจีทุกวัน แถมยังสร้างรายมากกว่าล้านบาทต่อปีด้วย หญิงสาวใช้นามแฝงว่า Scarlett Vixen เธอโพสต์รูปเท่าเพราะรู้ว่ามีคนบางกลุ่มที่เกิดอารมณ์ทางเพศเพียงแค่ได้มองเท้าของเธอ ผู้คนเหล่านั้นมักจะเรียกร้องให้เธอถ่ายรูปตั้งแต่ข้อเท้าลงไป แต่หญิงสาวไม่ได้ถ่ายแค่รูปเท้าเฉยๆ เธอยังหาพร็อพมาตกแต่งเท้าให้ดูเซ็กซี่ขึ้นเพื่อเอาใจแฟนๆ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำให้ฟรีๆ นะ แฟนๆ ที่ต้องการให้ Jessica ถ่ายรูปเท้าตามคำขอ ต้องจ่ายเงินให้ผ่านเพจ Paypal ของเธอด้วย ลูกค้าที่ใช้บริการเป็นประจำจะรู้จักเพจของเธอในชื่อ ‘pay pigs’ ซึ่งก็จะมีรูปเท้าให้ดูมากมาย แม้จะเคยมีคนเสนอให้เธอแก้ผ้าซะเลย แต่เธอก็ปฏิเสธข้อเสนอนั้น ในการโพสต์ภาพเท้าแต่ละครั้ง Jessica มักจะทำให้เท้าดูสะอาดที่สุด แต่บางครั้งเธอก็ทำให้สกปรกบ้าง รวมทั้งทำให้เปื้อนด้วยอาหารตามคำขอของลูกค้า …
-
สุนัขที่มีน้ำหนักเกินปกติถึง 4 เท่า ลดน้ำหนักจนกลับมาหุ่นเฟิร์ม เหมือนได้ชีวิตใหม่อีกครั้ง
สัตว์ที่มีรูปร่างอ้วนๆ กลมๆ อาจจะดูน่ารักน่ารักน่ากอด แต่รู้มั้ยว่าในความน่ารักนั้นมีความเสี่ยงอยู่ ก็เหมือนกับเรานี่แหละ หากอ้วนเกินไป มักจะมีปัญหาสุขภาพตามมา เพราะแบบนี้จึงจำเป็นต้องกำจัดน้ำหนักส่วนเกินนั้นออก เหมือนกับน้องหมา Buddy ที่พอลดความอ้วนได้ ก็เหมือนมีชีวิตใหม่เลย Buddy เป็นสุนัขพันธ์ุ Australian-shepherd มีน้ำหนักมากถึง 81 กิโลกรัม จนทำให้มันแทบเดินไม่ได้ และยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจวายเฉียบพลันด้วย ทีมช่วยเหลือ Hull’s Haven Border Collie Rescue อธิบายว่า Buddy ถูกช่วยเหลือมาจากประเทศแคนาดา ในสภาพที่อ้วนจ้ำม่ำจนเหมือนจะระเบิดออกยังไงอย่างงั้น เพราะมันมีน้ำมากกว่าสุนัขทั่วๆ ไปถึง 4 เท่าเลยทีเดียว สัตวแพทย์บอกว่าหากน้องหมายังอยู่ในสภาพนี้ต่อมันจะอยู่ได้อีกแค่ 6 เดือนเท่านั้น Angela Hand และ Samantha Gagnon ผู้ดูแลจากทีมช่วยเหลือจึงพยายามช่วยเหลือมันด้วยการลดปริมาณอาหารในแต่มื้อ จนกระทั่งมันสามารถออกกำลังกายได้ ตอนนี้น้องหมาสามารถลดน้ำหนักได้มากถึง 50 กิโลกรัม ที่ดีไปกว่านั้นคือมันได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่กับเจ้าของที่ใจดีอย่าง Alex และ Valerie Dewar Buddy กลายเป็นหมาที่โด่งดังในท้องถิ่น ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนในชุมชนในเรื่องการลดน้ำหนักด้วย สัตวแพทย์ Angela กล่าวว่า “ครั้งแรกที่เห็น…
-
Adobe เปิดตัวฟังก์ชั่น ‘Cloak’ ที่ช่วยให้คุณลบวัตถุในวิดีโอได้อย่างแนบเนียน!!
เป็นประจำทุกๆ ปี ที่ผู้นำด้านซอฟต์แวร์อย่าง ‘Adobe’ จะจัดงาน Adobe MAX ขึ้นเพื่อทดสอบฟังก์ชั่นและระบบใหม่ต่างๆ ที่จะช่วยให้การทำโปรดักชั่นต่างๆ เป็นไปได้อย่างราบเรียบยิ่งขึ้น และดูเหมือนว่าสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดในปี 2017 นี่ ก็คงเป็นเดโม่การเปิดตัวฟังก์ชั่น ‘Cloak’ สุดล้ำ ที่จะช่วยให้มือตัดต่อวิดีโอสามารถลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากวิดีโอได้!! ภาพบรรยากาศ Adobe MAX 2017 โดยทาง Adobe ได้เคลมผ่านงานประชุมครั้งล่าสุดเอาไว้ว่า “Cloak จะช่วยให้คุณสามารถลบวัตถุ เงา หรือรายละเอียดเล็กๆ ต่างๆ บนวิดีโอที่คุณไม่ต้องการให้หายไปได้อย่างง่ายดาย…” เมื่อลองเลือกวัตถุที่ต้องการลบออกในวิดีโอแล้ว ระบบจะประมวลผลภาพจุดนั้นใหม่ไล่เรียงไปทีละเฟรมๆ และนี่คือตัวอย่างผลลัพธ์อันน่าทึ่ง เห็นไหมละว่ามันเป็นประโยชน์ต่อการตัดต่อวิดีโอมากขนาดไหน ไม่ใช่แค่วัตถุเท่านั้น แต่ Cloak ยังสามารถลบบุคคลออกจากวิดีโอได้ด้วยเช่นกัน หรือแม้แต่จะลบวัตถุที่มีขนาดเล็กก็ทำได้เหมือนกัน เช่น.. สายรัดอกตรงกระเป๋าสะพายของผู้ชายจากคลิปวิดีโอนี้ วิดีโอเปิดตัว #ProjectCloak จากงาน Adobe MAX 2017 ตัวเต็ม …
-
18 ภาพสะท้อนสังคม ที่จะทำให้เราได้เห็นว่าโลกที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง
สังคมในปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ความคิดใหม่ๆ และความนิยมต่างๆ เกิดขึ้นมากมายแต่บางทีสิ่งเหล่านั้นก็ครอบงำเรามากเกินไปจนกลายเป็นเราเสพติดที่จะขาดมันไปไม่ได้ หากอยากรู้ว่าโลกของเราในปัจจุบันเป็นอย่างไรลองชมภาพวาดสะท้อนสังคมของเราว่าเหมือนอย่างที่ศิลปินต่างๆ ได้เขียนไว้ไหม สังคมในปัจจุบันมีการทำความดีเพื่อเอาหน้าแต่ไม่ได้คำนึงถึงปัญหาจริงๆ ที่มี ในภาพแสดงถึงผู้หญิงตั้งท้องคนหนึ่งที่อยู่ในคุก ลองคิดดูสิว่าหากเด็กคนนี้เกิดขึ้นมาโลกที่เขาเห็นจะเป็นยังไง สังคมในทุกวันนี้เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่อง และมีพื้นที่ให้ธรรมชาติน้อยลงเหมือนกับภาพวาดนี้ที่เปรียบเทียบกับนกไม่รู้จะนำต้นไม้ไปปลูกตรงไหนดี โลกนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชังทำให้ความรักเป็นเรื่องล้าสมัย เวลาเหมือนหยุดนิ่งเวลาที่เรารักใครสักคน คนๆ หนึ่งพยายามที่จะนำปลาลงสู่ทะเล โดยไม่รู้ว่าปลามันอาจจะตายจากความหวังดีของเขาก็ได้ เราได้กลายเป็นทาสของเทคโนโลยีโดยสมบูรณ์แบบ ดูเหมือนว่าเงินจะมีน้ำหนักมากกว่าความรักในทุกวันนี้นะ เด็กๆ ที่เกิดในยุคนี้คงลืมของเล่นต่างๆ และโลกภายนอกไปสิ้น โดยพวกเขาจดจ่อแต่กับหน้าจอเท่านั้น หลายคนคงรู้จักโมนาลิซ่าที่มีความสวยงามโดยธรรมชาติ แต่ภาพนี้กลับแต่งตัวตามกระแสแฟชั่นทั้งเสื้อผ้าหน้าผม เพราะความสวยในปัจจุบันนี้ดูได้จากสิ่งเหล่านี้ นี่คงเป็นสิ่งที่จะครองโลกในอนาคต ในอนาคตหลายคนคงต้องยอมจ่ายเงินเพื่อจะมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเอง ผู้คนมากมายเสพติดโทรศัพท์มือถือจนบางทีก็ลืมมองไปข้างหน้าว่าจะเจอกับอะไรบ้าง โลกนี้เต็มไปด้วยความรุนแรงและความโกรธเกรี้ยวจนบางทีพระเจ้าอาจจะอยากรีเซ็ตโลกนี้ก็ได้นะ Google และโทรศัพท์มือถือสามารถให้คำตอบคุณได้ทุกอย่าง ทำให้เราดูเหมือนไม่ได้ใช้สมองเลยล่ะ เงินเหมือนจะเป็นคำตอบของความสุข หลายคนจึงยอมพลีกายเพื่อให้ได้มา มนุษย์สร้างเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อเป็นเจ้านายเรา มนุษย์อาจเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ของโลกนี้ก็ได้นะ…
-
17 ‘คนดวงดี’ กับประสบการณ์ที่เราแทบจะไม่อยากเชื่อว่ามันเกิดขึ้นมาจริงๆ
ในแต่ละวันเรื่องที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเข้าใจอย่างนั้น แต่บอกเลยว่าเรื่องแปลกๆ ที่ได้เจอกันมาอาจเทียบไม่ได้กับของพวกเขาเหล่านี้เลย วันนี้เราได้นำภาพของเหล่าคนที่จะเรียกว่า “โชคดีแบบสุดๆ” ก็ว่าได้ เพราะสิ่งที่เราจะได้เห็นมันไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นมาได้ง่ายๆ หรอกนะ ว่าแล้วเราก็ไปดูกันเลยยย ก็มาไหม้ซะตรงนี้ แล้วจะดับไฟกันยังไงล่ะ ชื่อถนนมันช่างเข้ากับสถานการณ์ตอนนี้จริงๆ “น้ำช่วยหยุดหน่อยเถอะ!!” ปลูกต้นไม้ยังไงให้ล้มได้โดยที่ไม่ทำลายข้าวของ?! เกือบจะได้เก็บเงินซื้อไอโฟนแปดอยู่แล้วเชียว โผล่มาจากไหนเยอะแยะเนี่ย ลดน้ำหนักอยู่กะจะกินแค่ชิ้นเดียว เขาติดป้ายไว้เลยนะว่าซ่อมได้ทุกอย่าง แต่ถ้าจะเรียกต้องเคาะประตูเอา เพราะออดหน้าร้านมันพังอยู่ โปสเตอร์ที่ทำจากกระดาษ เขียนว่า “ช่วยกันรักษาต้นไม้เอาไว้” คนทำก็เข้าใจคิดเนาะ สบายใจได้แล้วครับเพราะไม่ว่าจะเป็นช้างม้าวัวควายก็ไม่สามารถหลุดไปไหนได้แล้ว ในเมื่อผมกั้นรั้วเอาไว้เรียบร้อย ไปทำเล็บร้านไหนมาน่ะตัวเธอ ดูเด่นขึ้นมาเชียว เจ๊เขาคงจะกลัวเปียกมากๆ เลยนะ เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่านี่คือรถส่งพิซซ่าจากร้านโดมิโน่… เข้าใจเลือกการแต่งตัวและที่จอดรถนะครับ กลมกลืนกันดีจริงๆ ตื่นนอนตอนเช้ามันก็จะเบลอๆ หน่อยแหละ สะอาดกันไปทั้งคนทั้งรถเลยนะเนี่ย แม้ว่าจะไม่รู้จักกันเลย แต่พอเดินไปไหนมาไหนคนอื่นก็คิดว่ามากันเป็นครอบครัว …
-
ชายแก่ผู้ป่วยเป็นโรคประหลาดทำให้เขาเก็บสะสมขยะและของทุกชิ้นเอาไว้จนล้นบ้าน
คนเก็บขยะเป็นเหมือนกับอาชีพที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ส่วนใหญ่พวกเขาก็จะนำไปขายเพื่อเอาเงินไปทำอย่างอื่น แต่ไม่ใช่กับชายคนนี้เพราะเขาเก็บขยะทุกชิ้นเอามาไว้ในบ้านของตัวเองซะอย่างนั้น ชายแก่วัย 60 ปีที่ชื่อว่า Jean เขาป่วยเป็นโรคที่ชื่อว่า Diogenes Syndrome ทำให้เขาไม่สนใจที่จะดูแลตัวเองเลยและยังมีพฤติกรรมประหลาดอีกอย่างคือ เขาจะออกไปเก็บขยะมาไว้ที่บ้านของตัวเองทุกวัน เพราะโรคประหลาดหายากนี้ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เหมือนใคร กองขยะที่เก็บเอาไว้จนแทบไม่เหลือพื้นที่ทางเดิน ชายคนนี้เคยเป็นช่างเทคนิคงานก่อสร้างมาก่อน จนกระทั่งปี 2002 เขาได้เกษียณตัวเองและออกมาประทังชีวิตด้วยของที่เก็บได้จากถังขยะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีเงินเลย เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้นำมรดกที่ได้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเท่านั้นเอง ในทุกคืนเขาจะออกบ้านไปเก็บขยะมาเรื่อยๆ โดยไม่สนว่าชีวิตของตัวเองจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้อะไรก็ตามเขาจะนำกลับไปด้วยเสมอ หรือแม้แต่อาหารที่ไม่ต้องเสียเงินเลยซักบาทก็อิ่มท้องได้ หากปล่อยให้เขาเก็บทุกอย่างมาไว้ในบ้านไปเรื่อยๆ แบบนี้มีหวังคงได้จมกองขยะตายแน่ๆ ทางรัฐบาลจึงบังคับให้มีการเก็บกวาดบ้านปีละหนึ่งครั้งเพื่อป้องกันในเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัย โดยการทำความสะอาดทุกครั้งชายแก่ต้องรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง เขาต้องจ่ายเงินให้คนที่เข้ามาทำความสะอาดให้ด้วยตัวเอง รัฐบาลบังคับให้ทำความสะอาดเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยในการใช้ชีวิต พฤติกรรมแปลกๆ นี้ทำให้ช่างภาพชาวฝรั่งเศส Arnaud Chochon สนใจเข้ามาเก็บภาพการใช้ชีวิตของชายแก่ ช่างภาพคนนี้ใช้เวลากว่า 3 เดือนในการขอให้ชายแก่อนุญาตให้เขาเข้าบ้าน หลังจากนั้นการตามเก็บภาพต่างๆ ก็ได้เริ่มต้นขึ้น เศษอาหารที่กินไปทุกอย่างถูกเก็บเอาไว้ ไม่ได้นำออกไปทิ้ง ประตูที่ถูกปิดตายด้วยกองขยะขนาดมหึมา…
-
เมืองหนึ่งในอิตาลีที่อยากให้คนย้ายเข้าไปอยู่ จนถึงกับยอมควักเงินจ่ายให้เลยนะเออ
เราต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากให้กับการย้ายบ้านหรือย้ายที่อยู่ ทั้งเรื่องรถขนของ ค่าเช่าบ้านใหม่ ค่าซ่อมแซมอื่นๆ แต่ถ้าคุณได้ย้ายมาที่เมืองนี้รับรองว่าไม่ได้ทำให้คุณเสียเงินเพียงอย่างเดียว เพราะคุณจะได้รับเงินค่าตอบแทนที่ย้ายเข้ามาอีกด้วย เมืองดังกล่าวมีชื่อว่า Candela ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี โดยพวกเขาได้ให้ข้อเสนอเอาไว้ว่าถ้าหากคุณย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในเมือง จะทำให้ได้รับเงินมากกว่า 78,000 บาทเลยทีเดียว . เหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้นก็เพราะจำนวนประชากรที่ลดลงไปมาก จากที่เคยมีคนอยู่กว่า 8,000 คนตอนนี้กลับเหลือเพียงแค่ 2,700 คนเท่านั้นเอง เมื่อคนหายไป ความครึกครื้นมีชีวิตชีวาของเมืองก็หายตามไปด้วย วัยรุ่นหนุ่มสาวส่วนใหญ่ก็หนีไปที่อื่น เหลือไว้เพียงแค่ผู้เฒ่าผู้แก่ เพราะอย่างนั้นหากปล่อยทิ้งไว้เมืองนี้คงกลายเป็นเมืองร้างอย่างแน่นอน Nicola Gatta นายกเทศมนตรีประจำเมืองจึงไม่อาจอยู่นิ่งเฉยได้ เขาจึงคิดข้อเสนอใหม่สำหรับดึงดูดให้คนเข้ามาอยู่กันมากขึ้น สังเกตเห็นได้ว่าในเมืองมีผู้สูงอายุอยู่กันเป็นส่วนใหญ่ ถนนที่ทอดยาวเชื่อมหาเมืองใกล้ๆ ข้อเสนอนั้นคือการมอบเงินค่าตอบแทนให้โดยแบ่งตามจำนวนคนในครอบครัว ถ้ามาแบบคนเดียวโสดๆ ก็จะได้รับ 30,000 บาท มากับแฟนได้ 46,000 บาท มาเป็นครอบครัวสามคนได้ 70,000 บาท และถ้าหากมากัน 4 – 5 คนจะได้มากกว่า 78,000 บาทกันไปเลย และยังมีเรื่องของภาษีค่าใช้จ่าย…
-
เมื่อเราต้องโตขึ้น… เปรียบเทียบชีวิตตัวเองเป็นหมา ตั้งแต่เกิดจนโต กับสิ่งที่ต้องพบเจอ
ในแต่ละช่วงของวัย ตั้งแต่เกิดจนโต ชีวิตมนุษย์เราต้องพบเจอกับสถานการณ์หลากหลายรูปแบบ มีทั้งความสุข ความทุกข์ ความลำบาก ความสบาย ปะปนกันไป และหากเราลองพิจารณาดูดีๆ การเติบโตในแต่ละวัยของเรามันไม่ได้ต่างอะไรจากชีวิตน้องหมาเลย ลองดูภาพต่อไปนี้ แล้วจะรู้ว่ามันเป็นความจริงหรือไม่? ตอนเกิดมามีแต่คนต้อนรับคนเห่อเต็มไปหมด ช่วงวัยเด็กไปที่ไหนมีแต่คนรักคนเอ็นดู คุณมีช่วงวัยแห่งการเจริญเติบโต วันหนึ่ง เริ่มอยากออกไปใช้ชีวิตข้างนอก ตอนแรกก็คิดว่าไหวนะ… แต่มาคิดอีกที ขอเป็นเด็กต่อไปดีกว่า การเป็นผู้ใหญ่ ฟังดูเหมือนง่ายนะ แต่คุณจะไม่รู้เลยจนกว่าคุณจะเข้าสู่วัยทำงานจริงๆ คุณพยายามลองอะไรใหม่ๆ หลังจากนั้นคุณก็จะได้ค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบ และจะโฟกัสอยู่กับสิ่งนั้น แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องไล่ตามความฝัน ระหว่างนั้นคุณอาจจะเจอทั้งคนที่ไม่ชอบ และคนที่ไม่น่านับถือ พวกเขามักจะข่มขู่คุณ แต่คุณก็แค่ต้องทำให้สิ่งตัวเองทำต่อไป บางวันคุณอาจจะรู้สึกเหนื่อย รู้สึกว่าชีวิตมันช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย จนคิดว่ามันยากที่จะผ่านไปได้ แล้วคุณก็จะหาเวลาดูแลตัวเอง…
-
ศิลปินเกาหลีวาดภาพการ์ตูนบอกเล่าเรื่องราวชีวิตอันแสนสนุก ที่ได้เติบโตมากับพี่สาว
ความผูกพันระหว่างพี่น้องเป็นเป็นอะไรที่วิเศษมากๆ เพราะมันเป็นความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์ เป็นมิตรภาพที่งดงาม ทั้งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและเสียงหัวเราะ เหมือนกับศิลปินคนนี้ที่จำได้การเติบโตมากับพี่สาวนั้นมีความสุขและงดงามแค่ไหน เธอจึงได้บรรยายประสบการณ์เหล่านั้นออกมาในรูปแบบการ์ตูน ศิลปินผู้ใช้นามปากกา Paper fly เป็นนักวาดการณ์ตูนชาวเกาหลี เธอได้วาดความทรงจำในวัยเด็กของตัวเอง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สดใสในระหว่างที่เธอเติบโตมากับพี่สาว เธอจำได้ว่าได้ทำกิจกรรมกับพี่สาวมากมาย ทั้งงีบหลับด้วยกันนอกบ้าน ทำความสะอาด เล่นเกม และแบ่งปันความรักเล็กๆ น้อยๆ ให้กันและกัน หากบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือหรือคำพูดคงจะสื่อประสบการณ์ในวัยเด็กได้ไม่ชัดเจนพอ เธอจึงใช้การวาดรูปเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายและสัมผัสถึงความงดงามเหล่านั้นได้อย่างลึกซึ้ง ใครที่ชื่นชอบผลงานแนวนี้ สามารถติดตามเธอได้ที่เว็บไซต์ grafolio และอินสตาแกรม paper_fly07 . วันวานที่เรามีความสุขกับการละเลงสีแบบง่ายๆ . แอบเอาเครื่องสำอางของแม่มาเล่น . มีของกินก็แบ่งกัน . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
หญิงที่รอดชีวิตจากการถูกแม่ทิ้งตั้งแต่เกิด ใช้เวลา17 ปี ตามหาแม่จนเจอ…และเรียนรู้ที่จะให้อภัย
หลายคนที่ถูกพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่เกิด มักจะกลายเป็นความโกรธแค้นจนไม่อยากเจอหน้าผู้ให้กำเนิดอีก แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่อยากเจอหน้าบุพการีสักครั้ง แม้จะรู้ว่าถูกพวกเขาทิ้ง เหมือนกับ Melissa Ohden วัย 40 ปี ที่ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งลงถังขยะตั้งแต่เกิด แต่เธอก็ยังออกตามหาแม่จนเจอ และยังได้ให้อภัยเธอด้วย Melissa เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ปี 1977 ด้วยน้ำหนักไม่ถึง 1 กิโลกรัม ทีี่ร้ายกว่านั้นเธอถูกพบอยู่ในถังขยะโดยมีสายไฟพันรอบตัว แต่ไม่มีแม้แต่เงาผู้ให้กำเนิด จริงๆ แล้ว แม่ของ Melissa พยายามจะทำแท้งตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ 8 เดือน แต่ไม่สำเร็จ จนในที่สุดแม่ก็คลอดลูกออกที่โรงพยาบาลในรัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากคลอดแล้วแม่ของ Melissa ก็หนีออกจากโรงพยาบาล พร้อมนำลูกน้อยไปทิ้งในขยะ และเธอก็คิดไม่ถึงว่าลูกจะรอดจากการถูกทิ้้ง เมื่อโตขึ้น Melissa ก็ได้รับรู้เกี่ยวกับการเริ่มต้นชีวิตที่แสนเจ็บปวดของเธอ เธอจึงใช้เวลาเกือบ 20 ปี ในการหาคำตอบว่าทำไมแม่ถึงทำกับเธอเช่นนั้น แล้วก็ได้รู้ว่าเธอเกิดจากความไม่ตั้งใจและแม่ก็ไม่อยากให้เธอเกิดมาด้วย Melissa ยังรู้อีกว่าที่ยังมีชีวิตมาจนทุกวันนี้ เป็นเพราะพยาบาลได้ยินเสียงร้องของเธอดังมาจากถังขยะ พวกเขาได้ช่วยเหลือเธอเอาไว้จนได้รับการรักษาฉุกเฉิน ความเจ็บปวดที่เธอรู้อีกอย่างหนึ่งคือ เมื่อถูกช่วยเหลือแล้วกลับมีพยาบาลคนหนึ่งบอกกับคนอื่นๆ ว่า ‘ปล่อยให้เด็กคนนี้ตายดีกว่า’ ที่ร้ายไปกว่านั้นคือเธอมารู้ที่หลังว่าพยาบาลคนนั้นคือยายแท้ๆ…
-
โรงพยาบาลในจีนให้เด็กเล่น ROV ขณะ “ขลิบกระปู๋” ได้ แถมมอบส่วนลดสุดพิเศษหากได้คะแนนสูง
เมื่อการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเป็นสิ่งที่ทำให้เด็กผู้ชายรู้สึกหวาดกลัว ด้วยเหตุนี้ ทางคลินิกบางแห่งในประเทศจีน จึงได้ปิ๊งไอเดียสุดแหวกแนวที่จะช่วยทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายนั่นก็คือ การอนุญาตให้เล่นเกมบนมือถือได้ในขณะเข้ารับการผ่าตัดขลิบจู๋!! เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า คลินิกเอกชนสามแห่งในประเทศจีนได้เสนอส่วนลดสุดพิเศษในการผ่าตัดขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเด็กชาย สำหรับคนที่สามารถเล่นเกม “King of Glory” หรือ “ROV” จนได้คะแนนสูงถึงเกณฑ์ที่คลินิกตั้งไว้ และยิ่งไปกว่านั้น หากผู้เข้ารับการผ่าตัดคนไหนสามารถทำคะแนนได้สูงสุดก็จะได้รับการผ่าตัดแบบฟรีๆ ไปเลย โดยโปรโมชั่นส่วนลดค่าผ่าตัดนี้ได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงฤดูพักร้อนของจีน ซึ่งโดยรวมแล้วกินเวลานานถึง 2 เดือนเลยทีเดียว จากการรายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ทั่วโลกออนไลน์ของจีนได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอของเด็กชายคนหนึ่ง ที่กำลังเล่นเกมสุดฮิตอย่าง ROV บนมือถือ ขณะที่เข้ารับการผ่าตัดขลิบอวัยวะเพศ ซึ่งคลิปดังกล่าวก็ได้กลายกระแสไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์ ทั้งยังถูกทางเว็บไซต์ข่าวต่างๆ ของจีนนำไปตีข่าวอย่างรวดเร็ว ภาพของหนูน้อยกำลังนอนเล่นเกมอยู่บนเตียงอย่างชิวๆ โดยในขณะนั้นทางแพทย์กำลังทำการผ่าตัดขลิบกระปู๋ให้กับเขา อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากคลินิกทั้ง 3 แห่งแล้ว ยังรวมไปถึงโรงพยาบาล Guigang Wuzhou ในมณฑลกว่างซีจ้วง, โรงพยาบาล Jiangjin Ren’ai ในฉงชิ่ง และโรงพยาบาล Baotou Jiuzhou Urology…
-
25 เหตุผลว่าทำไม “แมวเหมียว” ถึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำให้มนุษย์ทั้งรักทั้งหลงได้มากมายขนาดนี้
อย่างที่เราเคยบอกไปหลายๆ ครั้งว่า “แมว” เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความตะมุตะมี มีพฤติกรรมแปลกๆ มากมาย บางครั้งก็มีหลากหลายอารมณ์ซึ่งก็ทำให้มนุษย์ตามไม่ทันสักที แต่จริงๆ แล้วสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเสน่ห์ที่ทำให้มนุษย์หลงใหล และหลงรักแมวได้แบบง่ายๆ และนอกเหนือจากนี้ เราเชื่อว่ายังมีเหตุผลอีกมากมายที่ทำให้เราหลงรักพวกมันมากกกกกกกถึงขั้นโงหัวไม่ขึ้น ว่าแต่เหตุผลที่ว่านั้นจะมีอะไรบางมาดูกันเลย ก็เพราะว่าพวกแมวทั้งหลายมันไม่ใช่สัตว์ที่จะต้องมาแคร์ หรือสนใจอะไรมากมาย แถมบางครั้งก็ทำเรื่องแปลกๆ อยู่เสมอ แต่ถ้าหากว่าคุณไม่อยากพลาดเหตุการณ์เหล่านั้น ก็จงจับตามองพวกมันเอาไว้ให้ดี คุณสามารถมองเห็นตัวของแมวได้ทุกเวลา เพราะมันคิดมาแล้วว่าจะขอตามติดคุณไปตลอดชีวิต หากจานชามของคุณเต็มไปด้วยขน ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามาจากอะไร แมวเป็นสัตว์กล้าหาญที่มักจะกล้าเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง แต่กลับเตาผิงไม่รู้ทำไม พอเห็นทีไรเป็นแบบนี้ตลอด พร้อมจู่โจมทุกเมื่อ หากเจอศัครูที่ไม่เป็นมิตร ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าพวกมันมีพัฒนาการนะ ซุกซนเป็นที่หนึ่ง แม้แต่แมวที่เป็นสายพันธุ์เดียวกันยังต้องงุนงง คุณอาจจะนึกว่ามีหมีขั้วโลกอาศัยอยู่ในบ้าน แต่จริงๆ แล้วนั่นคือเจ้าเหมียวแสนน่ารักต่างหากล่ะ พวกมันมักจะสับสนอยู่เสมอเมื่อได้เห็นอะไรบางอย่างที่คล้ายตัวเอง และดูเหมือนว่าพี่แกจะไม่ชอบปลื้มซะด้วยสิ วิถีการดื่มน้ำฉบับแมวเหมียว ที่ทำให้มนุษย์ยิ้มได้ นอกจากนี้ แมวยังชอบทำตัวครอบครองสิ่งของทุกอย่างภายในบ้าน …
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ 19 ความป่วง เกรียน ฮา ของ “มนุษย์แม่ยาย” ที่ทำให้ชีวิตดูน่ารักขึ้นไปอี๊กก..!!
สำหรับใครที่เคยมีโอกาสได้แต่งงาน คงจะรู้ดีว่าในช่วงแรกการรับมือกับ ‘แม่ยาย’ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย บ้างก็เจอสายฮา หรือบ้างก็เจอสายเครียด ก็อยู่ที่ดวงล่ะนะงานนี้ แต่คราวนี้เราจะพาไปชม 19 ภาพจากชาวเน็ตทั่วโลก ที่ส่งกันเข้ามาแฉพฤติกรรมสุดน่ารักของแม่ยาย แหม๊.. ถ้าเจอแบบนี้แล้วสงสัยชีวิตหลังแต่งงานต้องหรรษามากแน่ๆ เมื่อแม่ยายเย็บผ้าพันคอรูปงูให้ภรรยา เป็นของขวัญวันคริสต์มาส เมื่อแม่ยายส่งรูปจากทางบ้านมาให้ดู.. “วิธีเก็บแมวให้เรียบร้อย” เมื่อแม่ยายหวังจะซื้อเสื้อเกรียนๆ มาให้ลูกเขยใส่ แต่ดูเหมือนจะทำอะไรเค้าไม่ได้..!! แก้วน้ำของที่ระลึกจากแม่ยาย… ร้ายกาจอ่ะ เมื่อแม่ยายไปเข้าเรียนคอร์สตัดต่อภาพ ร้ายกาจไม่เบานะคะคุณนาย เมื่อแม่ยายเอาภาพนี้มาติดในห้องน้ำ แล้วแบบนี้ใครจะอึ๊ออกละเนี่ย แม่ยายกับลูกแพะเพื่อนซี้ ร้ายกาจทั้งคู่เลยจะบอกให้ ดูสายตาซะก่อน เมื่อแม่ยายเอาของขวัญสุดล้ำค่ามาให้คุณ โปรดจงดีใจไว้ซะไอ้ลูกเขยเอ๊ยย แม่ยายซื้อภาพศิลปะมาจากร้านขายยา ซึ่งเธอคิดว่ามันเป็นอุกกาบาตพุ่งชนพระอาทิตย์ (โถ่วว.. นั่นมันรังไข่ไม่ใช่เร๊อะ) คุณจะไม่กล้าเจ้าชู้แน่นอน ถ้ารู้ว่ามีแม่ยายโหดขนาดนี้ เมื่อแม่ยายคุณเล่น Pokemon Go ได้เลเวล 30 เธอก็เลยเฉลิมฉลองด้วยวิธีนี้ซะเลย …
-
กองกำลังที่ถูกลืม หน่วยรบสำคัญผู้เป็นเบื้องหลังกองทัพสหรัฐฯ ที่เป็นชาวเอเชียอเมริกัน…
หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่า… หนึ่งในกองกำลังทัพสหรัฐฯ ในช่วงสงครามหลังเหตุการณ์ที่ Pearl Harbour มีกองกำลังที่ชื่อว่า ‘Nisei’ ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นผู้อาศัยในสหรัฐฯ แทบทั้งสิ้น!! ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรุ่นลูกของชาวญี่ปุ่นที่ก่อนหน้านี้ได้ย้ายมาอาศัยอยู่ก่อนแล้ว และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของ ‘Nisei’ หน่วยรบสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังชัยชนะของกองทัพสหรัฐฯ ในยุคนั้น… ภาพของกองกำลัง 442nd Regimental Combat Team เมื่อปี 1944 ถ้าจะให้สาวเรื่องราวการก่อตั้งหน่วยกองกำลังพิเศษนี้ขึ้นมา คงต้องย้อนกลับไปในช่วงปี 1941 หลังกองทัพญี่ปุ่นบินมาถล่ม Pearl Harbour แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือกระแสสังคมชาวอเมริกัน ที่หันมาเกลียดชังคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ แต่กระนั้นทางรัฐบาลก็ได้ยื่นข้อเสนอโดยให้ผู้ชายชาวญี่ปุ่นทั้งหมดเลือกว่า จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลัง หรือจะถูกจัดให้เป็น ‘ศัตรู!!’ แต่ก็ใช่ว่าทางการจะส่งตัวเหล่าชายฉกรรจ์สัญชาติญี่ปุ่นไปเป็นทหารทันที เพราะในช่วงแรกพวกเขาถูกส่งตัวมายังค่ายกักกันบนเกาะฮาวาย… ลองนึกภาพดูว่า จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มหลายพันคนย้ายมาอาศัยบนเกาะที่มีพื้นที่จำกัด แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น พวกเขามีส่วนช่วยทำให้เศรษฐกิจและแรงงานต่างๆ บนเกาะฮาวายกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง วันที่ 15 กรกฎาคม 1942 ทางการได้ออกคำสั่งให้ชายฉกรรจ์ชาวญี่ปุ่นที่ย้ายมาอยู่ในค่ายกักกันทั้งหมด ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยรบ 100th Infantry Battalion …
-
นี่คือ.. “บาร์ฮิปสเตอร์” ที่มีแต่ฮิปสเตอร์แท้ๆ เท่านั้นที่เข้าได้ แล้วคุณล่ะฮิปสเตอร์รึเปล่า?
ไม่เคยรู้กันมาก่อนใช่มั้ยล่ะ ว่าโลกนี้มันมีบาร์ที่เปิดให้บริการเฉพาะ ‘ฮิปสเตอร์’ เท่านั้น แต่คำถามคือ.. แล้วอะไรคือฮิปสเตอร์? ซึ่งอันที่จริงธุรกิจบาร์ฮิปสเตอร์ที่จะพาไปชมนี้ ไม่ได้เป็นร้านที่หวังมาสร้างกระแสเพียงอย่างเดียว แต่เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ของ Max Dovey ศิลปินผู้ต้องการเรียกร้องให้เหล่าเด็กฮิปสเตอร์ปลีกตัวออกมาจากสังคม..!! Max Dovey หวังจะสร้างระบบ A.I. ที่สามารถตรวจจับค่าความเป็นฮิปสเตอร์ในตัวคุณ (แล้วมันวัดจากอะไรเนี่ย?) ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ที่ Max Dovey ได้เดินทางไปทั่วเกาะอังกฤษ และเขาก็ได้ค้นพบที่จะอยากลองสร้างระบบปฏิบัติการณ์ที่จะช่วยคัดแยก ‘ฮิปสเตอร์’ ออกจากชาวบ้านทั่วไป “เห็นแบบนี้มันก็กลายเป็นสังคมเล็กๆ ที่อบอุ่นแห่งหนึ่งละครับ ไม่ได้มีแค่วัยรุ่นเท่านั้น มีทั้งคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ รุ่นผู้สูงวัยก็เป็นฮิปสเตอร์ได้ แต่ตอนนี้ปัญหาคือ.. เราคัดคนจากระบบซอฟท์แวร์ที่ผมสร้างขึ้น บางครั้งก็มีคนมาเป็นครอบครัวแต่ระบบ AI ให้อนุญาตแค่คุณพ่อเข้ามา ส่วนลูกๆ ก็ยังไม่นับว่าเป็นฮิปสเตอร์ก็มี” Max เล่า พื้นฐานข้อมูลส่วนหนึ่งที่นำมาใช้เป็นแหล่งอ้างอิงให้ AI ได้ตัดสินความฮิปในตัวคุณ ก็มาจากภาพวัยรุ่นฮิปสเตอร์ทั่วโลก 1,000 ภาพ และภาพคนธรรมดาทั่วไปอีก 1,000 ภาพ …
-
10 เรื่องแปลกที่ทำกันจนเป็นปกติในอดีต แต่หารู้ไม่ว่าบางอย่างอันตรายถึงชีวิตเลยนะ!!
ถ้าหากว่าคุณกำลังคิดว่าบางสิ่งบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นรอบๆ ตัวคุณนั้นมันช่างดูแปลกตา และบางครั้งคุณอาจจะตั้งคำถามกับสิ่งที่เห็นนั้นก็ได้ว่า “นี่มันบ้าไปกันใหญ่แล้วกระมัง??” แต่เชื่อแน่ๆ ว่าสิ่งแปลกๆ ที่คุณพบเห็นอยู่นั้นคงไม่เท่ากับ 10 อันดับของสิ่งที่ทำกันจนเป็นปกติในอดีต จากเว็บ brightside ที่เรานำมาฝากกันวันนี้แน่ๆ 1. การรักษาด้วยโคเคน เมื่อประมาณ 100 ปีก่อน นั้นคุณสามารถหาซื้อเจ้ายาเสพย์ติดชนิดนี้ได้ตามร้านขายยาทั่วไป และนอกจากนี้บนฉลากข้างขวดนั้นยังเขียนอธบายไว้ว่า โคเคนนั้นช่วยแก้อาการไปและปวดฟัน นอกจากนี้ยังมีการใช้โคเคนเป็นยากล่อมประสาทสำหรับเด็กอีกด้วย และมีการโฆษณาถึงสรรพคุณกันอย่างมากมายในสมัยนั้น 2. ส่งเด็กน้อยผ่านทางบริการส่งจดหมาย นี่อาจจะฟังดูเหมือนเรื่องตลก แต่มันเกิดขึ้นจริงในศตวรรษที่ 20 ในสมัยนั้นบริการส่งเด็กผ่านทางบุรุษไปรษณีนั้นเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย และมีค่าบริการที่แสนถูก โดยเริ่มต้นเพียงแค่ 4 บาทเท่านั้นเอง!! 3. กรงเลี้ยงเด็กแบบนอกบ้าน ในช่วงปี 1930 กรงเลี้ยงเด็กแบบนอกบ้านนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในครอบครัวของชาวอังกฤษ ถึงแม้ว่ามันจะดูอันตรายไม่น้อย แต่ว่ามันก็ช่วยให้เจ้าตัวน้อยได้สูดอากาศบริสุทธิ์ในระหว่างที่แม่ของพวกเขากำลังยุ่งกับการเตรียมอาหารเย็นอยู่ 4. สวนของฤๅษี สวนของฤๅษีนั้นเป็นหนึ่งในรสนิยมของเศรษฐีในช่วงศตวรรษที่ 18 การมีฤาษีส่วนตัวไว้ที่บ้านเพื่อดูเล่นนั้นเป็นเหมือนความภาคภูมิใจของเศรษฐียุคนั้น และนอกจากนี้พวกฤาษีที่อาศัยอยู่ในสวนแห่งนี้จะไม่ได้รับอนุญาติให้ตัดผมและเล็บ และนอกจากนี้ยังต้องอาศัยอยู่ในถ้ำที่ทางเจ้าของบ้านสร้างไว้ให้อีกด้วย 5. การรักษาโรคแบบแปลกๆ ในสมัยก่อนนั้นเราสามารถพบเห็นการรักษาโรคแบบแปลกๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการกรีดเลือดเพื่อเอาเชื้อโรคออก…
-
17 ภาพยนตร์ที่ดีที่สุด ในแต่ละปีแห่งศตรวรรษที่ 21 และคุณควรหามาดูให้ครบ!!
ในแต่ละปี ก็จะมีภาพยนตร์ที่ดีและน่าสนใจออกมาให้เราได้ดูกันมากมาย แต่ในนับร้อยเรื่องเหล่านั้นก็มีไม่กี่เรื่องซึ่งทำให้เรารู้สึกประทับใจจนต้องพูดถึงกันไปอีกแสนนาน เว็บไซต์ Metacritic คืออีกแหล่งของการจัดอันดับหนัง ซึ่งจะมีทั้งคะแนนรีวิวจากผู้ชมทั่วไป รวมถึงนักวิจารณ์โดยเฉพาะ แยกออกเป็นสัดส่วนให้เราได้รู้ว่าพวกเขามีความคิดเห็นต่อภาพยนตร์เรื่องนั้น เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร บางเรื่องนักวิจารณ์ชอบ แต่คนดูไม่ชอบ บางเรื่องคนดูอาจจะสนุกมาก แต่เหล่านักวิจารณ์กลับยี้… และนี่คือ 17 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในแต่ละปีของศตวรรษนี้ ที่อยากให้คุณได้รับชมครับ ปี 2000: Crouching Tiger, Hidden Dragon อีกหนึ่งภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของ Ang Lee ซึ่งพวกเขาบอกว่ายังคงฝีไม้ลายมือชั้นเยี่ยม ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างภาพยนตร์แอ็คชั่นและหนังรักโรแมนติก คว้าอันดับหนังดีที่สุดแห่งปี 2000 ของลิสต์นี้ไปครอง Critic score: 93/100 User score: 8.1/10 ปี 2001: The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring ในยุคนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักโฟรโด้ แซม กอลลัม และมหากาพย์แห่งการเอาแหวนไปทำลาย ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวคว้ารางวัลมากมาย รวมถึงคนดูต่างก็ชื่นชอบเป็นอย่างมาก และถ้าใครยังไม่เคยดูล่ะก็… คุณต้องรีบหามาดูเป็นเรื่องแรกเลยก็ว่าได้ Critic score: 92/100…
-
ปฏิวัติวงการ!! แคนาดาคิดค้น ‘Arctic Apple’ แอปเปิ้ลที่ไม่เปลี่ยนสี แม้จะถูกผ่าหรือทำให้ช้ำ!!
แอปเปิ้ลที่มีรอยช้ำสีน้ำตาล อาจจะดูไม่ค่อยน่าทานสำหรับบางคนมากเท่าไหร่ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ทางทีมค้นคว้าของบริษัท Okanagan Specialty Fruits จากประเทศแคนาดา ได้ทำการพัฒนาแอปเปิ้ลที่จะไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แม้ว่าจะอยู่ในสถาพใดก็ตาม และกำลังวางแผนจำหน่ายในร้านค้าทั่วไปเร็วๆ นี้ การเปลี่ยนสีของเนื้อแอปเปิ้ลนั้นเกิดจากเอนไซม์ที่ชื่อว่า polyphenol oxidase (PPO) ในแอปเปิ้ลเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีทำให้เนื้อของแอปเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเวลาที่คุณผ่า กัด หรือโดนลม เจ้า Arctic Apple นี้เป็นหนึ่งในผลงานการคิดค้นของทีมวิศกรรมทางพันธุศาสตร์ของบริษัทดังกล่าว มันสามารถคงความสดได้เป็นเวลานาน ซึ่งทางบริษัท Okanagan Specialty Fruits อ้างว่าการคิดค้นครั้งนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณการบริโภคแอปเปิ้ลและลดปริมาณขยะอาหารลง คุณ Neil Carter ประธานบริษัท Okanagan และ Louisa ภรรยาของเขาใช้เวลานานกว่า 20 ปีในการคิดค้นและพัฒนาเจ้า Arctic Apple นี้ ก่อนหน้านี้ทั้งสองได้ทำการทดลองปลูกแอปเปิ้ลสายพันธุ์ที่ไม่เปลี่ยนสีอย่าง Golden Delicious และ Granny Smith ในปี 2013 ทั้งสองใช้เวลาพัฒนาและทดสอบอยู่นานหลายปี เพื่อให้แน่ใจว่าผลไม้ที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมของพวกเขาจะปลอดภัยกับทุกคน Arctic Apple นั้นผ่านมาตรฐานของกรมวิชาการเกษตรของสหรัฐ “การลดลงของเอนไซม์ PPO นั้นทำให้แอปเปิ้ลไม่เปลี่ยนสี ต้นของ Arctic Apple นั้นมีการเจริญเติบโตที่เหมือนกับแอปเปิ้ลต้นอื่นๆ แอปเปิ้ลพันธุ์นี้ปลอดภัยต่อสุขภาพ และนอกจากนี้มันยังมีคุณค่าทางโภชนาการเหมือนกับแอปเปิ้ลพันธุ์ Granny Smith แต่ Arctic Apple…
-
น้องหมาที่เคยถูกรังแกมาก่อน ไม่ยอมเปิดใจรับใครเลย จนกระทั้งได้พบหนูน้อยคนนี้
เรื่องราวของเจ้า Nora น้องหมาสุดเศร้าที่โตมาพร้อมกับการถูกทำร้ายจากเจ้านายคนก่อน มันต้องอยู่กับความหวาดระแวงตลอดเวลา และกลายเป็นน้องหมาที่ไม่ไว้ใจใครเลย จนกระทั่งได้มาเจอเจ้าหนูน้อยคนนี้!! “เราพาเจ้า Nora มาจากสถานสงเคราะห์สัตว์เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว ก่อนที่เราจะมีเจ้าตัวเล็ก ถึงแม้ว่ามันจะเจอเรื่องราวเลวร้ายมาก่อน แต่เราก็มั่นใจว่ามันจะสามารถอยู่กับเราในบ้านหลังใหม่และมีความสุขได้” คุณ Elizabeth เจ้านายคนใหม่ของเจ้าตูบกล่าว ครอบครัวของคุณ Elizabeth นั้นเป็นครอบครัวใหญ่ นอกจากเจ้า Nora แล้ว สมาชิกในครอบครัวเธอนั้นยังประกอบไปด้วยเจ้าเหมียว 3 ตัว ลูกๆ 3 คน และเจ้าตูบอีก 3 ตัว และในความสัมพันธ์ของสมาชิกในบ้านทั้ง 11 ชีวิต ดูเหมือนว่าเจ้า Nora นั้นจะเข้ากับเจ้าหนูน้อย Archie ลูกชายของ Elizabeth ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เจ้าหนู Archie และเจ้า Nora “Archie เป็นเด็กที่ร่าเริง และอารมณ์ดี เขาเข้ากันได้ดีกับสัตว์ทุกตัวในบ้าน และดูเหมือนว่าเขาจะสนิทกับเจ้า Nora เป็นพิเศษ เจ้าตูบเติบโตมาพร้อมกับความรุนแรง ดังนั้นมันจึงค่อนข้างที่จะระแวงทุกๆ อย่าง แต่สำหรับลูกชายของเรานั้นมันกลับไม่มีอาการหวาดกลัวเลย” คุณ Elizabeth กล่าว…
-
เมื่อพ่อแม่พากันอวดสภาพก่อนและหลังการมีลูกของตัวเองใน IG แต่ละคนเปลี่ยนไปมากจริงๆ
สำหรับใครที่กลายเป็นพ่อแม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่คุณสามารถมองเห็นได้เลยก็คือ ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะจากที่เคยเต็มที่กับทุกอย่าง พอมีลูกแล้วก็เริ่มไม่มีเวลาดูแลตัวเองจนทำให้สภาพร่างกายทรุดโทรม บางคนก็ถึงขั้นเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยทีเดียว และเมื่อเร็วๆ นี้ บรรดาพ่อแม่ทั้งหลายก็ได้พากันมาแบ่งปันภาพถ่ายความเปลี่ยนแปลงของตัวเองลงในอินสตาแกรม เพื่อแสดงให้เห็นสภาพร่างกายก่อนและหลังการมีลูก พร้อมติดแฮชแท็ก #GotToddlered สำหรับไอเดียนี้ได้เริ่มต้นขึ้นมาจาก Mike Julianelle คุณพ่อลูกสองที่ได้เริ่มโพสต์ภาพก่อนและหลังมีลูกของตัวเองลงในโซเซียลในชื่อว่า Dad and Buried งานนี้เลยกลายเป็นกระแสฮิตติดลมบนจนทำให้ผู้ปกครองรายอื่นพากันทำตามกันเพียบ และนี่คือภาพของพวกเขา มาดูกันเลยว่าแต่ละคนจะเปลี่ยนไปขนาดไหนกัน เมื่อครั้งยังเป็นหนุ่มกับสภาพล่าสุดหลังมีลูก จากที่เคยถือแต่แก้ว ตอนนี้กลายมาเป็นอุ้มลูกแทนไปซะแล้ว เดิมทีเป็นหนุ่มหน้าใสที่สาวๆ พากันหลงใหล แต่ตอนนี้กลายเป็นคุณพ่อสุดโหดไปแล้ว ความเปลี่ยนแปลงของหญิงสาวกับสภาพก่อนและหลังการมีลูก โอ้วววว นี่คนๆ เดียวกันหรือเปล่าเนี่ย จากสาวปาร์ตี้ที่ต้องออกไปดื่มนอกบ้านกับเพื่อนทุกวัน แต่หลังจากมีลูกก็หันมาดื่มไวน์ที่บ้านแทนแล้ว ชีวิตก่อนและหลังการมีลูกมันช่างดูแตกต่างจริงๆ ภาพด้านซ้ายคือสาวสวยในวัยแรกแย้ม แต่เมื่อเข้าสู่โหมดคุณแม่เธอก็ดูเปลี่ยนไป นี่คนๆ เดียวกันใช่ไหม เขาดูเปลี่ยนไปเยอะเลย และนี่คือภาพถ่ายสุดทึ่งที่แสดงให้เห็นถึงสภาพของตัวเองก่อนและหลังการมีลูก แต่ถ้ามองอีกด้านหนึ่งนี่ถือเป็นข่าวดีที่จะทำให้พ่อแม่มือใหม่ทั้งหลาย ได้พยายามเรียนรู้ และยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นมากขึ้น ที่มา…
-
ชาวเน็ตแห่ไว้อาลัย หลังเจ้าเหมียวอ้วน Lou Lou เซเลบแมวแห่งโลกโซเชียลจีนเสียชีวิต
ไม่ว่าใครก็คงไม่อยากจะสูญเสียหรือพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รักไป ยิ่งถ้าเป็นสิ่งที่เรารักมากๆ อย่างเช่น คนหรือสัตว์เลี้ยงก็คงจะยากที่จะทำใจกับการจากไป เช่นเดียวกับการจากไปของเจ้า Lou Lou แมวอ้วนสุดน่ารักที่เป็นที่รักของชาวจีนและผู้ติดตามกว่า 690,000 คนบนเว็บไซต์ Weibo เจ้า Lou Lou ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยอาการหัวใจวาย จากการรายงานของเว็บไซต์ China Daily เจ้าแมวอ้วนตัวนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่สังคมออนไลน์ของจีนด้วยความน่ารักตุ้ยนุ้ยของมัน ภาพของมันถูกนำไปทำเป็นมีมและสติ๊กเกอร์ใช้กันอย่างแพร่หลาย และนี่ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าที่จะไม่มีภาพแมวอ้วนๆ มาเรียกเสียงหัวเราะจากชาวเน็ตอีกแล้ว . . . “ฉันไม่สามารถยอมรับความจริงกับการจากไปของเจ้า Lou Lou ได้ อิโมจิที่ฉันชื่นชอบมากที่สุดคงไม่มีวันอัพเดตอีกแล้ว” ผู้ใช้ Weibo ท่านหนึ่งกล่าว “สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉันนั่นก็คือการเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเจ้า Lou Lou มันเปรียบเหมือนกับนางฟ้าตัวน้อยๆ สำหรับฉัน แต่ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่นางฟ้าต้องกลับสู่สวรรค์แล้ว” ผู้ใช้อีกรายกล่าวแสดงความเสียใจ หลับให้สบายนะเจ้า Lou Lou… ที่มา nextshark
-
เจ้าแมวอ้วน ถูกมนุษย์ทาสช่วยเหลือ แถมไม่พอยังพาไปลดน้ำหนักอีกด้วย ดีเกินไปละ!!
เพื่อนๆ รู้กันใช่ไหม? ว่าความอ้วนนั้นเป็นอุปสรรคของอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง การเดิน การกิน อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย แต่ความอ้วนนั้นมันไม่ใช่แค่ปัญหาสำหรับมนุษย์เท่านั้น เพราะในตอนนี้มันเป็นปัญหาของ “แมว” อีกด้วย เจ้าแมวตัวตุ้ยตัวนี้ มีชื่อว่าเจ้าวัตสัน มันมีน้ำหนักตัวมากถึง 15.7 กิโลกรัมเลยทีเดียว เจ้าวัตสันเป็นแมวที่น่าสงสารมากๆ เพราะมันถูกเจ้าของเก่าทิ้ง และชื่อเก่าของมันก็คือ “Fatboy” เห็นเจ้าวัตสันดูอ้วนจ้ำม่ำแบบนี้ มันก็ไม่ได้มีความสุขหรอกนะ เพราะมันมีปัญหาเรื่องการเคลื่อนที่ไปไหนต่อไหนและยังมีปัญหาเรื่องการหายใจ แถมยังมีเนื้องอกหลายจุดอีกด้วย ดูเหมือนว่ามันกำลังรอวันลาโลก แต่แล้วก็มีนางฟ้าใจดีมาช่วยไว้ทัน Shelia สาวใจดีจาก love2foster มุ่งมั่นที่จะช่วยให้เจ้าวัตสันมีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยในช่วงแรกเธอให้อาหารพิเศษที่ช่วยลดน้ำหนักของเจ้าวัตสัน และยังพามันไปสัตวแพทย์เพื่อรักษาเนื้องอก เป็นเพราะความอ้วน เธอจึงต้องช่วยให้วัตสันขยับร่างกายอยู่เสมอ โดยการนำอาหารวางไว้ที่ชั้นล่าง เพื่อนให้วัตสันเดินลงบันไดมากินอยู่เสมอ และการออกกำลังกายนี้มันก็ช่วยให้วัตสันสุขภาพดีขึ้นจริงๆ มันสามารถเดินได้คล่องขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย . เมื่อวัตสันเริ่มหุ่นดี พฤติกรรมของมันก็เปลี่ยนไป โดยมันไม่มีท่าทีเป็นแมวขี้หงุดหงิด แถมยังชอบเล่นกับแมวตัวอื่นอีกด้วย จากแมวที่ขี้เซา ก็กลายเป็นแมวปกติที่สามารถกระโดดขึ้นเก้าอี้และเตียงได้!!! เห็นแบบนี้แล้วคิดถึงเจ้าแมวที่บ้านจริงๆ…
-
หนุ่มพบเจ้าอีกัวน่ากลางทะเล 7 กิโลห่างจากฝั่ง เลยพามันขึ้นเรือกลับไปส่งที่เกาะ
เรื่องราวของ Steve หนุ่มนักพายเรือคายัค ที่ล่องเรือออกนอกฝั่งไกลออกไปหลายกิโลฯ จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นตัวประหลาดบางอย่าง 4 ขามีลักษณะสีเขียวๆ ใช่แล้ว..!! มันคืออีกัวน่านั่นเอง “มันเป็นอะไรที่บ้ามากเลยครับ ผมล่องเรือมาก็มาก เห็นอีกัวน่าว่ายน้ำตามชายหาดมาก็เยอะ แต่ยังไม่เคยเห็นเจ้าตัวไหนปีกกล้าขาแข็งมาไกลกลางทะเลได้ขนาดนี้มาก่อน” Steve เล่า เอ๊ะ!! นั่นตัวอะไรหว่า….? Steve เล่าว่า ขณะที่เขากำลังล่องเรืออยู่เพลินๆ เขาก็สังเกตเห็นเจ้าอีกัวน่าน้อยสีเขียวมาตะเกียกตะกายบริเวณท้ายเรือ ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่แน่ใจว่ามันต้องการจะไปไหนกันแน่ “เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอีกัวน่าอยากเดินทางไปที่ไหน ผมเคยดูในสารคดี…. บางทีพวกมันก็ว่ายน้ำจากชายฝั่งสหรัฐฯ ไปโผล่ที่ประเทศคิวบานู้นเลยก็มี” แต่ดูเหมือนว่าทันทีที่เพื่อนเขียวตัวน้อยเห็น Steve มันก็รีบตะเกียกตะกายไต่ขึ้นมาบนเรือ หวังจะเข้ามาทักทายเจ้าของเรือซักหน่อย ทั้งคู่ได้ใช้เวลาดื่มด่ำช่วงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ายามเย็นด้วยกัน เรียกได้ว่าถ้าเป็นชายหนุ่มกับหญิงสาวก็คงมีฉากพลอดรักเกิดขึ้น และทันทีที่เรือแล่นเข้าใกล้ชายฝั่ง เจ้าอีกัวน่าก็ดูเหมือนจะค้นพบจุดหมายใหม่ มันหันหน้ามาบอกลาแล้วกระโดดลงน้ำไปได้อย่างหน้าตาเฉย และแน่นอนว่างานนี้ถูกอกถูกใจชาวเน็ตสุดๆ กับเรื่องราวมิตรภาพข้ามสายพันธุ์ที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ “ตัวอย่างดีๆ ที่ว่าเราควรจะปฏิบัติต่อสัตว์โลกอย่างไร” บ้างก็ว่าเป็นเรื่องดีๆ ที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ รู้สึกดีมากจริงๆ พี่สตีฟ และนี่ก็เป็นวิดีโอเรื่องราวทั้งหมดของเขาสตีฟ และน้องเขียวอีกัวน่า… ที่มา:…
-
สามีใสซื่อ ภรรยาบอกให้พาลูกไปนอนบนเตียง โอเคพ่อจัดให้ ถูกใจชาวเน็ตกันยกใหญ่..!!
ถ้าคุณผู้หญิงไม่รู้ว่าคุณสามีหรือพ่อบ้าน มีมันสมองที่ใสซื่อได้ขนาดไหนละก็… ขอบอกเลยว่านี่เป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจสุดๆ นี่คือ Ashlie Nicole Williams (ภรรยา) Aaron Cade (สามี) และลูกสาววัย 2 ขวบ London เรื่องวุ่นๆ ก็มีอยู่ว่า วันหนึ่งคุณภรรยา Williams กำลังล้างถ้วยชามอยู่ในครัว และเมื่อสามีกลับบ้านมากับลูกสาว เธอก็สังเกตเห็นว่าลูกสาวเธอกำลังหลับสนิทบนคาร์ซีท เธอก็เลยบอกว่า พาลูกไปนอนบนเตียงที “Aaron กลับมาบ้านพร้อมกับล London (ลูกสาว) ที่กำลังหลับบนคาร์ซีท ฉันเห็นแบบนั้นก็เลยบอกเขาว่า พาเธอไปที่เตียงที” ภรรยาเล่า ทันทีที่เธอพูดจบ สามีก็สวนกลับมาทันทีว่า “โอเค๊ จัดไปจ๊ะที่รัก” จากนั้นเขาก็หายไปพร้อมกับลูกสาวตัวน้อย ฝ่ายภรรยาก็รู้สึกเอะใจขึ้นมาได้ว่า ทำไมจู่ๆ สามีก็เชื่อฟังแบบว่านอนสอนง่ายซะเหลือเกิน เธอรู้สึกทะแม่งๆ จึงตามขึ้นไปดูลูกสาวบนห้อง… และนี่คือภาพที่เธอเจอ… ปั๊ดโถ่วว ยกมาทั้งคาร์ซีทแบบนี้เลยเหรอ เอาไปไว้ที่เตียงจริงๆ ฮร่าาา!! แน่นอนว่าหลังจากที่ชาวเน็ตเห็นแบบนี้แล้ว พวกเขาก็รู้สึกอดไม่ไหวกับความใสซื่อของสามี บ้างก็ว่า..…
-
นักเรียนระดมเงินให้คุณครูผู้ทุ่มเทสอนตั้งแต่วัยหนุ่ม เพื่อนำไปจ่ายค่ารักษาตัวของเขาและภรรยา
เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นกับคุณครู Walter Erickson อาจารย์ผู้ทุ่มเทให้กับการสอนอย่างเต็มเวลาและผันตัวมาเป็นอาจารย์ช่วยสอนหลังจากเกษียณอายุเป็นเวลามานานกว่า 25 ปี ชายวัย 80 ปีผู้เป็นที่รักของนักเรียนจากโรงเรียน Champlin Park High School ถึงแม้ว่าเขาจะถึงวัยเกษียณอายุไปนานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ในทุกๆ วันเขาก็ยังคงทำหน้าที่สอนหนังสืออย่างเต็มที่เพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว คุณ Erickson นั้นรักในการสอนมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาต้องการเงินจากค่าจ้างในการสอนนั้นไปเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาภรรยาของเขา และเมื่อ Kelsy Breiter และ Katie Blodgett นักเรียนของเขาทั้ง 2 คนทราบเรื่องนี้ ทั้งคู่จึงพยายามหาทางที่จะช่วยคุณครูของพวกเขา ทั้งสองได้ระดมทุนผ่านเว็บไซต์ GoFundMe โดยตอนแรกพวกเขาตั้งเป้าของยอดบริจาคไว้ที่ 500 เหรียญหรือประมาณ 16,000 บาทเท่านั้น แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 9 วันยอดบริจาคกลับเพิ่มสูงขึ้นถึง 14,000 เหรียญหรือประมาณ 460,000 บาทเลยทีเดียว . การระดมทุนได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด คุณครูวัย 80 ปีได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนมากมาย “มันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก เขาเป็นครูช่วยสอนที่สนิทกับพวกเรา เขารักในสิ่งที่เขาทำและการสอนของเขานั้นก็ทำให้เราสนใจที่จะเรียนรู้มากขึ้นด้วย” Katie กล่าว ส่วนทางด้านคุณ Erickson นั้นก็รู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณกับสิ่งที่นักเรียนทั้งสองและคนอื่นๆ ได้ทำให้เขา “ผมบอกเรื่องนี้กับภรรยาผมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เธอดีใจมากและรู้สึกชื่นชมพวกเด็กๆ จริงๆ “ คุณครูวัย 80…
-
สถานีรถไฟ Shimonada ในญี่ปุ่น ที่แม้ไม่มีอะไรเลย แต่ได้ชื่อว่า “โรแมนติก” ที่สุดในโลก
ริมชายฝั่งทะเลของจังหวัดเอฮิเมะ เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟเล็กๆ แห่งหนึ่งบนเส้นทางรถไฟสาย JR Shikoku Yosan Line ซึ่งมองเพียงผิวเผินแล้วมันก็แค่สถานีรถไฟที่มีเพียงมานั่ง 2 ตัว และหลังคากันแดดกันฝนเท่านั้น แต่สถานี Shimonada แห่งนี้ กลับถูกยกย่องจากหลายคนว่ามันคือสถานีรถไฟแสนโรแมนติก ที่คุณควรจะต้องไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง หากมีโอกาสไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ที่ตั้งของสถานีรถไฟ Shimonada ทำไมสถานีรถไฟที่มีรถไฟมาจอดทุกๆ 1-2 ชั่วโมง มีคนใช้บริการประมาณวันละ 50 คน จึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดสวยงามแสนโรแมนติกนี้ได้!? สถานี Shimonada เคยถูกยกให้เป็นสถานีรถไฟซึ่งอยู่ใกล้ทะเลมากที่สุด เนื่องจากตัวสถานีและรางนั้นอยู่ติดกับทะเลจริงๆ ซึ่งคลื่นก็กัดเซาะริมฝั่งไปเรีื่อยๆ จนหน่วยงานท้องถิ่นเกรงว่าสักวันหนึ่งสถานีนี้จะถูกน้ำเซาะไปจนหมด พวกเขาเลยทำการของบประมาณ ถมดินเพิ่มเติม เพิ่มพื้นที่ของชายหาดออกไป แล้วก่อสร้างถนนคั่นขึ้นมาอีกสายหนึ่งคือทางหลวงหมายเลข 378 อย่างที่เราเห็นในภาพ หากมองจากด้านหลังของสถานีรถไฟออกไปที่ทะเล แม้มันจะไม่ได้ใกล้ชิดทะเลเท่าเดิม แต่ก็ยังให้ความรู้สึกของความสงบ ความสุข และธรรมชาติจากลมที่พัดใส่เราทั้งวัน ม้านั่งเพียงแค่ 2 ตัว กลับกลายเป็นจุดที่สร้างบรรยากาศเหงาและอบอุ่นในคราวเดียวกัน สถานีรถไฟนี้ถูกใช้ในงานถ่ายภาพมากมาย แถมยังเป็นฉากในการ์ตูนอนิเมชั่น จนมีแฟนๆ…
-
พาไปดูการสอบข้อเขียนการเป็น “นินจา” ไม่ใช่แค่ว่าใส่ชุดและสู้เป็นเท่านั้น ต้องมีใบรับรองด้วย
บางครั้งการจะประกอบอาชีพบางอาชีพได้นั้น คุณอาจจะจำเป็นต้องผ่านการเรียนรู้และการฝึกฝนทักษะต่างๆ และที่สำคัญบางครั้งคุณเองอาจจะต้องผ่านการทดสอบเพื่อยืนยันว่าคุณมีคุณสมบัติที่พร้อมสำหรับอาชีพนั้นจริงๆ และนินจาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยการจะเป็นนินจาที่สมบูรณ์แบบได้นั้นคุณเองก็จะต้องสอบให้ผ่านข้อเขียนวัดทักษะด้วยเช่นกัน!! นินจา Koga นั้นเป็นกลุ่มนินจาที่อยู่ภายใต้การนำของ Ieyasu Tokugawa นายพลผู้ยิ่งใหญ่ในช่วงสมัย Edo โดยการทดสอบความรู้ความสามารถของนินจาครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ ที่วัด Zojo-ji วัดพุทธในกรุงโตเกียวที่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูล Tokugawa การทดสอบครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 แล้วนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดการทดสอบขึ้นมา ซึ่งในระดับแรกนั้นผู้เข้าร่วมการทดสอบนั้นจะต้องตอบคำถามทั้งหมด 50 ข้อภายในระยะเวลา 30 นาที เมื่อได้คะแนนมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปถึงจะผ่านการทดสอบ จากนั้นผู้ที่ผ่านการทดสอบจะได้เข้ารับการทดสอบในการสวมชุดนินจาและทักษะการใช้อาวุธนินจา และเมื่อผ่านระดับนี้ไปได้คุณก็จะกลายเป็นนินจาเต็มตัวแล้ว และนอกจากการทดสอบความรู้ความสามารถทางด้านนินจาแล้ว ในงานดังกล่าวยังมีการแสดงทักษะพิเศษของเหล่านินจาอีกด้วย โดยการแสดงนั้นจะจัด 2 รอบต่อวัน ในเวลา 11.00 – 11.30 และเวลา 12.00-12.30 ในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคมนี้ และสำหรับใครที่สนใจรายละเอียดงานเพิ่มเติมล่ะก็ สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ koka-kanko กันได้เลยจ้า ที่มา kotaku, moshimoshi-nippon
-
เชฟ Gordon Ramsey พาไปชมกรรมวิธีผลิต “โคเคน” ไม่ได้เอามาทำอาหาร แต่ให้รู้ถึงภัยของมัน
ถ้าหากพูดถึงชื่อของ Gordon Ramsay หลายๆ คนคงจะนึกถึงภาพของเชฟสุดโหดที่ด่าทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่ไม่น่าเชื่อว่าพ่อหนุ่มเชฟใหญ่อย่างเขาจะมาทำรายการที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมอย่างรายการ Gordon Ramsay on Cocaine โดยสารคดีดังกล่าวจะมีทั้งหมด 2 ตอนด้วยกัน ซึ่ง Gordon Ramsay on Cocaine นั้นจะเป็นหนึ่งในตอนของซีรีย์สารคดีอาชญากรรมอย่าง Crime & Punishment ที่ออกอากาศทางช่อง ITV โดยชื่อของเชฟใหญ่อย่าง Gordon Ramsay กับยาเสพติดชื่อก้องโลกอย่างโคเคนนั้นดูเหมือนจะไม่มีจุดที่เกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ทางเชฟของเรานั้นก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า เขาต้องการที่จะทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้โคเคนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านอาหาร “ผมอยากเข้าใจโลกของยาเสพติดชนิดนี้ ตั้งแต่ตอนที่ผมเสียพ่อครัวดีๆ คนหนึ่งไปเพราะมัน และผมอยากจะรู้ว่าทำไมมันถึงระบาดไปทั่วโลก และโดยเฉพาะในด้านธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร” Gordon Ramsay กล่าว โดยในรายการนี้พ่อครัวของเราจะเดินทางเข้าไปในป่า เพื่อเจาะลึกการทำยาเสพติดชนิดนี้ และเผยให้เห็นถึงความน่ากลัวของสารตั้งต้นต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการผลิตโคเคน “ผมสาบานได้เลยว่าใครที่ดูรายการนี้แล้ว คุณจะไม่อยากนึกถึงโคเคนอีกเลย” เชฟหนุ่มของเรากล่าว รายการ Gordon Ramsay on Cocaine นั้นจะออกอากาศตอนแรกในวันที่ 19 ตุลาคม และตอนที่ 2 ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ทางช่อง ITV…
-
คุณแม่ลูกเจ็ดหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง จนกลับมามีหุ่นสวยเหมือนเป็นพี่สาวของลูกเลยทีเดียว!!
กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมากบนโลกออนไลน์ หลังจากที่คุณ Jessica Enslow คุณแม่ลูก 7 ที่ใช้เวลาในการลดน้ำหนักและดูแลตัวเองอย่างเข้มงวดตลอดระยะเวลา 6 เดือน และกลับมาดูดีได้อีกครั้งพร้อมกับเผยหุ่นสุดแซบของเธอบนอินสตราแกรม คุณแม่วัย 43 ปี จากเมือง Salt Lake City รัฐยูทาห์ ได้พยายามต่อสู้กับสภาวะน้ำหนักเกินหลังการคลอดลูก หลังจากที่เธอให้กำเนิดลูกคนแรกเมื่อตอนอายุ 20 ปี โดยแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนักของเธอนั้นเริ่มจากการที่เธอสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่าไม่ได้ และรู้สึกว่าตัวเองนั้นอ้วนเกินไป หลังจากที่เริ่มลงมือศึกษาการออกกำลังกายตั้งแต่ตอนที่คลอดลูกคนแรกของเธอ แต่มันก็ไม่เป็นผลสำเร็จจนกระทั่งหลังจากที่คลอดลูกคนสุดท้ายของเธอเมื่อปี 2013 คุณแม่วัย 43 ปี จึงเริ่มกลับมาตั้งใจดูแลตัวเองอย่างจริงจังอีกครั้ง หลังจากที่ตั้งท้องลูกคนสุดท้ายคุณ Jessica มีน้ำหนักตัวประมาณ 61 กิโลกรัม แต่ตอนนี้น้ำหนักตัวของเธอนั้นเหลือเพียงแค่ 52 กิโลกรัมเท่านั้น แถมรูปร่างและหน้าตาของเธอยังดูเด็กลงอีกด้วย คุณ Jessica และครอบครัวของเธอ “ฉันรู้สึกตกใจกับร่างกายของฉันหลังจากที่ตั้งครรภ์ลูกคนแรกมาก ฉันจำได้ว่าหลังจากที่กลับมาจากโรงพยาบาลฉันพยายามที่จะใส่กางเกงยีนส์ตัวเก่า แต่มันก็ใส่ไม่ได้ มันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันปล่อยตัวเองมากเกินไปแล้วนะ” คุณ Jessica กล่าว และหลังจากคลอดลูกคนที่ 7 คุณ Jessica…
-
พาชม 32 ภาพงานแต่งงานอันแสนงดงาม สะท้อนหลากหลายอารมณ์ในวันสุดพิเศษ
จุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ของทุกคู่คือการแต่งงาน ซึ่งไม่ว่าใครๆ ก็ใฝ่ฝันที่จะมีคู่ชีวิตที่ดีกันทั้งนั้น เมื่อตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตคู่กันแล้ว ก็ต้องพร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคในการใช้ชีวิตร่วมกันให้ได้ บรรยากาศของงานแต่งงาน มักจะอบอวลไปด้วยความรู้สึกแห่งความรัก ความยินดีกับความรักของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกันในอนาคต ภาพงานแต่งงานเป็นอีกหนึ่งหลักฐานแห่งความทรงจำว่า ครั้งหนึ่งเคยมีเหตุการณ์ที่น่ายินดีที่สุดในชีวิตเกิดขึ้น โดยทางสตูดิโอ Fearless ได้ออกมาเผยภาพงานแต่งงานที่ได้รวบรวมเอาไว้มาเผยแพร่ในเว็บไซต์ Boredpanda ซึ่งในแต่ละงานก็มีความรู้สึกที่แตกต่างกันไป 1. ทำอิท่าไหนเจ้าบ่าวถึงเป็นแบบนั้นได้ 2. งานแต่งงานที่ขาดคนสำคัญที่สุดในชีวิตไป 3. ไม่ว่าจะเจออะไรก็ต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน 4. คุณตาดีใจที่เห็นหลานสาวเป็นฝั่งเป็นฝา 5. เจ้าแมวอ้วนไปเป็น กขค. เขาทำไมล่ะ 6. โดนเจ้าหมาแย่งซีนซะแล้ว 7. เตรียมพร้อมให้เจ้าสาวเป็นคนที่สวยที่สุดในงาน 8. สงสัยเด็กน้อยจะเหนื่อย หมดแรงซะแล้ว 9. Best Friend Forever 10. น้ำตาแห่งความปลื้มปิติ 11. เจ้าชายที่กำลังรอเจ้าหญิง 12. ฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน…
-
ครูสาวสามารถเอาชนะอาการ “เสพติดอาหาร” ได้ และกลับมามีรูปร่างดีได้อีกครั้ง
หลังจากที่ต้องเจอเรื่องราวร้ายๆ ในวัยเด็ก ทำให้คุณ Camila Coelho Nery ครูสาววัย 29 ปีต้องพบกับปัญหาความเครียดและนั่นเป็นหนึ่งในสาเหตุของน้ำหนักตัวที่มากกว่า 91 กิโลกรัมของเธอ แต่เมื่อหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี เพื่อนๆ ของเธอก็แทบจะตกใจ เมื่อคุณครูสาวของเราสามารถลดน้ำหนักไปได้มากกว่า 40 กิโลกรัม และตอนนี้เธอเหลือน้ำหนักเพียงแค่ 58 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจหันมาดูแลตัวเองและลดน้ำหนักนั่นก็คือร่างกายที่ใหญ่โตของเธอนั้นทำให้หาเสื้อผ้าใส่ยากนั่นเอง “ฉันไปที่ร้านขายเสื้อผ้า และเข้าไปในห้องลองเสื้อเพื่อพยายามหาเสื้อผ้าที่พอดีกับตัวฉัน แต่มันก็ไม่มีเลย ฉันเสียใจอย่างมากและคิดว่าต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว” คุณครูวัย 29 ปีกล่าว นอกจากนี้ความอ้วนนั้นยังส่งผลต่อร่างกายและจิตใจของเธออีกด้วย มันทำให้เธอหายใจลำบากและรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองไม่มีค่า Nery เล่าว่าเธอมักจะตื่นขึ้นมาตอนดึกพร้อมกับอาการเหนื่อยและหายใจแบบสั้นๆ หญิงสาวเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยเริ่มจากการควบคุมอาหาร เธอลดปริมาณพลังงานจากอาหารให้เหลือเพียงแค่ 1,400 กิโลแคลอรี่ต่อวันในวันปรกติ และเพิ่มเป็น 1,900 กิโลแคลอรี่ในวันที่เธอออกกำลังกาย Nery เล่าว่าส่วนที่ยากที่สุดในการลดน้ำหนักของเธอคือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินอาหารและควบคุมอารมณ์ของตัวเอง แต่หลังจากที่การลดน้ำหนักของเธอเริ่มประสบผลสำเร็จ สุขภาพร่างกายของเธอก็เริ่มกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง “หลังจากการลดน้ำหนัก ชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง และมีสุขภาพจิตที่ดีกว่าเดิม” หญิงสาวกล่าว นอกจากนี้ Nery ยังได้ให้คำแนะนำอีกว่าการลดน้ำหนักนั้นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องทนทานแต่อาหารที่ไม่ชอบ แต่คุณแค่ต้องปรับปรุงเมนูอาหารบ้างนิดหน่อย และรู้จักเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพ …
-
นักชีววิทยาเผย พืชสามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวมันเอง แต่ไม่อาจรู้สึกเจ็บปวดได้
เมื่อเร็วๆ นี้ทางศาสตราจารย์ Daniel Chamovitz นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัย Tel Aviv University ประเทศอิสราเอลผู้แต่งหนังสือ What a Plant Knows ได้ออกมาเปิดเผยว่าอันที่จริงแล้วพวกต้นไม้ใบหญ้าเองนั้นก็มีความรู้สึกเหมือนกันนะเออ!! โดยศาสตราจารย์ Chamovitz ได้เปิดเผยว่า จริงๆ แล้วพืชนั้นมีความรู้สึก แต่อย่างไรก็ตามความรู้สึกของพวกมันนั้นเป็นเพียงแค่การรับรู้และไม่มีอะไรที่ซับซ้อนเหมือนกับมนุษย์ “พวกไมยราบและว่านกราบหอยแครงนั้น มีอวัยวะพิเศษที่เรียกว่า pulvinus ที่จะทำหน้าที่ตอบสนองต่อการสัมผัส ซึ่งพืชชนิดอื่นๆ นั้นจะไม่มีอวัยวะที่ว่านี้” นักชีววิทยากล่าว แต่นอกจากพืชทั้งสองชนิดแล้ว ศาสตรจารย์ Chamovitz ยังได้กล่าวว่าพืชชนิดอื่นๆ ก็มีการรับรู้ได้ด้วยเช่นกัน โดยเขาได้อธิบายว่า เมื่อมีแมลงหรือศัตรูพืชที่พยายามจะกัดกินใบของพืชนั้น พวกมันจะรับรู้ได้ว่ากำลังมีบางอย่างที่ทำร้ายมันอยู่และจะส่งสัญญาณคลื่นไฟฟ้าและเริ่มสร้างกลไกลขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามพืชนั้นไม่ได้มีระบบประสาทเหมือนกับมนุษย์ และพวกมันก็ไม่มีโนซิเซ็ปเตอร์ หรือเซลล์ประสาทรับความรู้สึกที่จะตอบสนองต่อความเสียหายและแสดงความรู้สึกเจ็บปวดออกมาเหมือนกับมนุษย์ นั่นหมายความว่าเวลาที่เราตัดกิ่งต้นไม้พวกมันจะไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่พวกมันสามารถรับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่!! ถึงแม้ว่าจะไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด แต่อย่างไรก็ตามพวกมันยังคงมีวิวัฒนาการเพื่อความอยู่รอด ซึ่งเป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทั่วๆ ไป “สิ่งมีชีวิตทุกชนิดพยายามที่จะดำรงเผาพันธุ์ให้อยู่รอดให้ได้ ไม่ว่าพวกมันจะรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่ก็ตาม เหมือนกับต้นไม้ที่อยู่บนยอดเขาก็จะมีกิ่งก้านและใบที่น้อยกว่าต้นไม้ต้นอื่นๆ เพื่อลดแรงต้านของลงนั่นเอง” ศาสตราจารย์ Chamovitz กล่าว ที่มา vice
-
พนักงานมินิมาร์ทสุดเมพ ไล่โจรที่จะมาปล้นร้านสะดวกซื้อด้วยดาบไม้เคนโด้เพียงอันเดียว
เวลามีการปล้นเกิดขึ้น คนส่วนใหญ่มักจะให้ในสิ่งที่โจรนั้นต้องการ เพราะเกรงกลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ไม่ใช่กับพนักงานร้านสะดวกซื้อคนนี้ เพราะพี่แกหวดโจรยับจนต้องหนีกันจ้าละหวั่นด้วยดาบไม้อันเดียว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่จังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อมีชายคนหนึ่งใส่หมวกไอ้โม่งและถือชะแลงเข้ามาในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในเวลา 04.00 น. ของเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา หน้าตาของร้านสะดวกซื้อที่เกิดเหตุ ซึ่งพนักงานได้ถามชายคนดังกล่าวว่าจะเข้ามาปล้นหรอเขาคนนั้นก็ตอบกลับมาว่า “ก็ใช่น่ะสิ“ เขาจึงกดปุ่มฉุกเฉิน และด้วยความที่พนักงานที่เฝ้าร้านอยู่ในขณะนั้นได้ฝึกวิชาเคนโด้จนถึงขั้น 1 ดั้ง (ซึ่งเปรียบได้กับสายดำของกีฬาต่อสู้อื่นๆ ) เขาจึงรีบหยิบดาบไม้ขึ้นมาเพื่อวางท่าทางเพื่อข่มขู่โจรคนนั้น และบอกกับโจรว่า “ฉันเรียนวิชาดาบญี่ปุ่นมานะ” เมื่อโจรเห็นแอบหวั่นๆ จะสู้หรือจะหนีดี สุดท้ายโจรก็เลือกที่จะหนีและวิ่งหน้าออกร้านไปอย่างรวดเร็ว สำนักข่าวญี่ปุ่นรายงานว่า หลังจากนั้นไม่นานทางตำรวจก็สามารถจับกุมคนร้ายได้สำเร็จ ข่าวในประเทศญี่ปุ่นที่นำเสนอการปกป้องร้านของพนักงานคนนี้ เอาจริงๆ เหมียวแนะนำว่ายอมๆ โจรไปเถอะ แล้วค่อยให้ตำรวจตามจับกุมทีหลัง เกิดโจรมีอาวุธอันตราย อาจไม่จบแบบสวยๆ อย่างนี้ก็เป็นได้ ที่มา: nextshark
-
สื่อนอกจัดอันดับ 10 อันดับ “ชาวจ๊าบและแก๊งค์วัยรุ่น” กวนเมืองจากทั่วโลก เฟี้ยวๆ ทั้งนั้น!!
ชาวแก๊งค์หรือกลุ่มวัยรุ่นที่มักจะก่อความวุ่นวายในเมืองนั้น เป็นอีกมุมหนึ่งของสังคมที่เรามักจะเคยได้ยินชื่อเสียงของพวกเขาในด้านไม่ดีอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อความวุ่นวาย หรือการทำลายทรัพย์สินต่างๆ แน่นอนว่าชาวแก๊งค์แบบนี้นั้นไม่ได้มีอยู่แค่ในบ้านเราเท่านั้น แต่ในต่างประเทศเองก็มีเช่นกัน และวันนี้เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ 10 อันดับแก๊งค์วัยรุ่นกวนเมืองจากทั่วโลก จะมีแก๊งค์ไหนบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. Racaille จากประเทศฝรั่งเศส สมาชิกของแก๊งค์ Racaille นั้นเป็นชาวฝรั่งเศสทั้งหมด โดยกิจกรรมหลักๆ ของพวกเขาก็คือการออกไปเที่ยวเล่นที่สถานีรถไฟใต้ดิน ฟังเพลงจากโทรศัพท์ ลักขโมยของ และรังแกเด็กๆ นอกจากนี้พวกเขายังชื่นชอบเสื้อผ้ายี่ห้อ Lacoste อีกด้วย 2. White trash จากสหรัฐอเมริกา White trash คือกลุ่มคนระดับล่างของที่นี่ พวกเขามักจะเมากันตลอดเวลา และส่วนมากนั้นไม่มีงานทำ นอกจากนี้กิจกรรมของพวกเขาก็คือการออกไปสังสรรค์ ทะเลาะวิวาท และก่อความเดือดร้อนให้ผู้อื่น 3. Chavs จากประเทศอังกฤษ พวกเขานั้นมักจะอยู่ในเขตที่พักอาศัยของผู้มีรายได้น้อย และมักจะแต่งตัวด้วยเสื้อแจ๊กเก็ตกีฬา สวมหมวกไหมพรม และคาบบุหรี่ตลอดเวลา กิจกรรมของพวกเขาโดยส่วนมากแล้วก็การต้มตุ๋น การก่อความวุ่นวายบนถนน และออกไปมั่วสุมกันตามสถานที่ต่างๆ 4. Yankii จากประเทศญี่ปุ่น Yankii คือกลุ่มคนทำงานวัยรุ่นของประเทศญี่ปุ่น แต่พวกเขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับแก๊งค์ยากูซ่าเลย โดยพวก Yankii นั้นจะชอบก่อความวุ่นวายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขับมอเตอร์ไซค์เสียงดัง…
-
เตียงแห่งยุค! เตียงที่สามารถเก็บของไว้ได้ใต้เตียงเหมือนกับว่าเป็นตู้ใบย่อมๆ เลยทีเดียว
เคยมีกันบ้างไหม กับปัญหาเรื่องการจัดการพื้นที่ภายในห้อง ที่บางทีมันก็มีน้อยจนไม่สามารถเก็บข้าวของของเราได้หมด แต่ปัญหานี้อาจจะหมดไปเมื่อได้เจอกับเตียงที่สามารถเก็บของได้อันนี้ เตียงอันนี้มีชื่อว่า Space-Up Double Bed เป็นเตียงที่มาจากไอเดียแสนฉลาดที่เราสามารถรวบรวมของหลายๆ อย่างมาเก็บไว้ได้ โดยไม่ต้องพึ่งตู้ใบใหญ่เทอะทะเลยทีเดียว โดยเตียงนี้เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัดหรือห้องพักที่ต้องการช่องเก็บของเพิ่ม รวมถึงพ่อแม่ที่ต้องการซื้อเตียงพร้อมตู้เก็บของให้กับลูกๆ ภายในเตียงมีพื้นที่เก็บของมากมาย ใส่ได้ตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า แม้แต่กระเป๋าเดินทางก็ยัดเข้าไปได้ หรือถ้าใครจะใช้ซ่อนของจากภรรยา ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย นอกจากนี้ด้านข้างยังสามารถเป็นทั้งบันไดเพื่อปีนขึ้นเตียงหรือจะเป็นชั้นไว้สำหรับวางหนังสือก็ได้อีกเช่นกัน มีเตียงนี้อันเดียวเหมือนรวมทุกอย่างไว้เลย โดยเตียงนี้มีราคาประมาณอยู่ที่ 675 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 22,000 บาทเท่านั้นเอง หากใครสนใจก็ลองหากันได้ที่ roomtogrow แหม นับว่าเป็นไอเดียที่แสนฉลาดของผู้ผลิตจริงๆ ใครใจดีก็ซื้อให้เหมียวซักอันนึงนะ ฮ่า ที่มา: icreatived
-
ขุ่นแม่ประหยัดเงินได้เป็นล้านจากการซื้อแต่ ‘เสื้อผ้ามือสอง’ เพื่อเอาไว้ใช้เที่ยวรอบโลก
การช็อปปิ้งเสื้อผ้ามักจะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ชื่นชอบ แต่จะมีซักกี่คนที่เหมือนเธอคนนี้ที่ซื้อแต่เสื้อผ้ามือสองทุกชิ้นยกเว้นชุดชั้นใน เพื่อเก็บตังไปเที่ยวรอบโลก แทนที่เธอคนนี้จะไปเลือกซื้อของแบรนด์ดังทั้งๆ ที่มีเงินมากพอ แต่สาวในเมืองบริสเบน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของนัฐควีนแลนด์ ประเทศออสเตรเลียอย่าง Hannah Klose นักจัดรายการวิทยุสาวสวยวัย 36 ปี กลับเลือกที่จะประหยัดเงินในส่วนนี้เพื่อเอาไปใช้ฟุ่มเฟือยระหว่างการท่องเที่ยวรอบโลกกับสามีและลูกๆ ของเธอมากกว่า สาบานว่านี่คือเสื้อผ้ามือสอง เธอได้บอกไว้ว่า “ฉันสามารถเก็บเงินได้ 280,000 ดอลล่าร์ออสเตรเลีย(ประมาณ 7,300,000 บาท) จากในส่วนนี้โดยเสื้อผ้าที่ฉันซื้อแต่ละชิ้นมีราคาไม่ถึง 5ดอลลาร์เลยซักตัว ซึ่ง 99% ในตู้เสื้อผ้าของฉันเป็นแบบนั้น แต่ยกเว้นกับชุดชั้นในนะ” โดยเสื้อผ้าส่วนใหญ่ของเธอจะเป็นยี่ห้อชื่อดังแต่ว่าตกรุ่นแล้ว แต่ที่หน้าทึ่งยิ่งกว่าคือเธอสามารถแต่งตัวได้สวยขนาดไปเดินแบบได้เลยทีเดียว นางแบบมาเองเลยนะเนี่ย สำหรับเงินที่ได้จากการประหยัดการซื้อเสื้อผ้านี้เธอจะมาแบ่งออกเป็นส่วนๆ คือส่วนหนึ่งไว้สำหรับเที่ยวรอบโลก ส่วนหนึ่งไว้สำหรับการใช้หนี้ และส่วนหนึ่งบริจาคให้แก่การกุศล “ฉันมักบอกผู้คนว่า คุณอยากจะใช้เงินซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ใหม่ๆ หรืออยากจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ จากการเที่ยวรอบโลกล่ะ” ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเธอได้เดินทางไปทั้งฝรั่งเศส อิตาลี สหราชอาณาจักร รวมถึงไปอเมริกาอีกถึง 3 ครั้งซึ่งนิวยอร์คเป็นที่ๆ เธอบอกว่าเสื้อผ้ามือสองที่นั่น “แย่มาก” จัดได้ว่าเธอเป็นคนที่ตาถึงมากเลยทีเดียว โดยนิสัยประหยัดนี้เธอบอกว่าได้รับมาจากพ่อแม่ของเธอและเธอได้พยายามที่จะถ่ายทอดไปให้ลูกสาววัย…
-
นักท่องเที่ยวสุดห่าม พยายามเข้าไปถ่ายรูปแบบชิคๆ กับกวาง ทั้งที่มีป้ายเตือนถึงอันตราย
เวลาเราไปเที่ยวสวนสัตว์ เราจะเห็นป้ายเตือนที่คอยบอกว่าห้ามทำสิ่งใดบ้าง เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อตัวเองหรืออาจจะเป็นอันตรายต่อสัตว์ได้ แต่ก็มีคนบางจำพวกที่ไม่รู้ถึงความอันตรายของสัตว์เหล่านี้โดยเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ เพียงเพื่อให้ได้มาเพียงรูปภาพสวยๆ เท่านั้น Ted Shillitto ช่างภาพอายุ 70 ปี ได้เฝ้าดูนักท่องเที่ยวที่พยายามเข้าไปถ่ายภาพกับกวางอย่างใกล้ชิด ถึงแม้ว่าจะมีป้ายเตือนถึงอันตราย แต่ก็ไม่สนใจ จนเป็นภาพชินตา โดยเขาได้เฝ้าดูเหตุการณ์ที่ Wollaton Hall Park ในเมือง Nottingham ประเทศอังกฤษ “ผู้คนไม่รู้ว่าสัตว์เหล่านี้มีอันตรายมากขนาดไหน ยิ่งในช่วงฤดูผสมพันธุ์ที่พวกมันจะยิ่งมีความดุร้ายมากขึ้น เพราะมักจะมีการต่อสู้เกิดขึ้นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากตัวเมีย” Ted กล่าว เขาได้พยายามเตือนนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ก็ไม่มีใครสนใจและยังคงถ่ายรูปแบบที่พวกเขาทำกันต่อไป ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ที่กวางทำร้ายคนเกิดขึ้น ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายคือ Yuan Li อายุ 43 ปี ดีไซน์เนอร์จากเลย์ตันสโตนซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของลอนดอน เธอบอกว่า “นึกว่าตัวเองตายไปแล้ว” หลังจากเธอโดนเขากวางแทงเข้าที่ช่วงท้องและขา ระหว่างที่พยายามเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ จนเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน เมื่อรูปทั้งหลายได้ถูกเผยแพร่ออกไปชาวเน็ตก็มีความเห็นที่หลากหลายเช่นกัน อย่าง “ถึงกวางจะมีความสวยงาม แต่ก็อย่าลืมว่ายังไงมันก็เป็นสัตว์ป่าอยู่นะ” , “เมื่อมีคนบุกรุกพื้นที่ของคุณ ไม่ว่าเป็นคนหรือสัตว์ก็ต้องป้องกันตัวเองทั้งนั้นแหละ” เห็นอย่างนี้แล้วทางที่ดีหากเพื่อนๆ ไปเที่ยวสวนสัตว์หรือไปเจอสัตว์เหล่านี้ที่ไหน ก็พยายามอย่าเข้าใกล้จะเป็นการดีกว่าเนอะ เพราะยังไงพวกมันก็ยังมีสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่าอยู่ จริงไหม… ที่มา: dailymail
-
แรคคูนตาบอดพาแมวน้อยสองตัวไปหาคนที่ให้อาหารมัน ครอบครัวจึงรับทั้งสองเป็นลูกซะเลย
หลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์สัตว์หลงเข้ามาในบ้าน แล้วเราก็เกิดความสงสารให้อาหารพวกมัน จนบางทีมันก็เลยเกิดความเคยชินและเข้ามาขออาหารกินทุกวัน แต่จะเป็นอย่างไรถ้าวันหนึ่งพวกมันพาเพื่อนเข้ามาขออาหารด้วย เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อได้มีผู้ใช้อินสตาแกรมคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า @Eryn09 ได้ออกมาเผยเรื่องราวว่า เมื่อเกือบ 5 ปีก่อน ได้มีแรคคูนตาบอดตัวหนึ่งมักจะเข้ามาที่บ้านของ Eryn ที่ตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ เพื่อหาอาหารตั้งแต่ปี 2009 โดยมันมักจะเข้ามาในตอนเช้าประมาณ 6.00-9.00 น. และบางทีก็อาจจะกลับมา 2-3 ครั้งในวันเดียวกันจนเรียกได้ว่าเป็นแขกประจำของบ้านเลยทีเดียว “มันมีตาสีเขียว และดูเหมือนว่ามันจะมีอาการตาบอด นอกจากนี้มันยังกลัวต่อสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะทั้งลมพัด นก รวมทั้งหิมะด้วย” Eryn กล่าวไว้ และในช่วงปลายปี 2014 ก็มีเจ้าแมว 2 ตัวโผล่ขึ้นมาขณะที่เจ้าแรคคูนก็มาตามปกติของมัน พวกแมวได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเจ้าแรคคูนและเริ่มเดินตามมันเหมือนเป็นบอดี้การ์ดให้มันเลยล่ะ นั่นก็เป็นเพราะว่าเมื่อเจ้าแรคคูนมาหาเจ้าของบ้านนี้ แมวทั้ง 2 ตัวก็พลอยอิ่มท้องไปด้วยทำให้มันเดินตามแรคคูนต้อยๆ ตลอดทั้งวัน หลังจากพวกมันกินเสร็จ ทั้งสามตัวก็กลับเข้าไปในป่า โดยมีแมวทำหน้าที่เหมือนเป็นตาที่เจ้าแรคคูนเสียไป คอยนำทางไปยังที่พักของพวกมัน ลองชมความน่ารักเมื่อครั้งเจ้าแรคคูนพาลูกแมวทั้งสองเข้ามาในบ้านใหม่ๆ ได้ที่นี่ แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นานเจ้าแรคคูนก็ได้ตายลงไปในเดือนมิถุนายนปี 2015 ซึ่งในขณะนั้นมันมีอายุ 5 ปี ซึ่งมากกว่ากว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปของอายุแรคคูนซึ่งอยู่ที่ 2-3 ปี “ด้วยความที่มันตาบอดและพิการ…
-
20 ต้นไม้ประหลาดที่ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง เพราะดันไปเหมือนกับสิ่งอื่นซะได้
ธรรมชาติบนโลกเต็มไปด้วยความลึกลับและลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ทำให้สิ่งเหล่านั้นดูน่าสนใจ ทำให้โลกเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันกับต้นไม้เหล่านี้ที่ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่มันมาพร้อมกับความแปลกแหวกแนวที่ไม่เหมือนต้นไม้ต้นอื่น เพราะรูปร่างของมันดันไปเหมือนกับอย่างอื่นมากกว่าเนี่ยสิ… เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละต้นมันดูพิลึกมากขนาดไหน นี่มันใบหน้าของคนกำลังงีบหลับชัดๆ ปีศาจกำลังจะขึ้นมายึดครองโลกแล้ว ขับรถผ่านตอนกลางคืนเห็นอย่างนี้คงตกใจแย่ ก็แล้วใครไปเติมตาให้มันกันล่ะ?! อย่าทิ้งผมไปเลยนะที่รัก ผมทำใจไม่ได้จริงๆ ก้นนี่อวบอิ่มเชียว แต่รู้สึกผิวแห้งไปหน่อยนะ จมูกใหญ่เหมือนกลัวจะรับออกซิเจนเข้าไปได้ไม่เต็มปอด ใครบอกว่าไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปแล้ว นี่ไงเจ้า Tree-Rex เจ้านกฮูกมองมาตากลมโต แยกไม่ออกเลยว่าเป็นกระโหลกสัตว์หรือซากต้นไม้กันแน่ สงสัยเป็นหนึ่งในวิธีซ่อนตัวของนินจาเต่า หมึกยักษ์ทำไมมาโผล่ในป่าได้เนี่ยยย อย่าเศร้านักสิเจ้าต้นไม้ผู้เดียวดายเอ๋ย ก็อตซิลล่ากำลังจะหม่ำดวงจันทร์เข้าไปแล้ววว ไม่ต้องตกใจเบอร์นั้นก็ได้.. นี่คือต้นสับปะรดสินะ เพราะว่ามีตารอบตัว ใครเขาเอาหน้ากากมาฝังเอาไว้ละเนี่ย นี่แหละที่เขาเรียกว่ามีเทพคุ้มครองของจริง หน้าคุณยายดูเครียดๆ นะครับ มีรอยยิ้มที่มุมปาก เห็นแล้วก็อารมณ์ดีตามไปด้วยเลย อย่าเพิ่งงอนสิ…
-
ลงไปยังไง!! ลูกม้าน้อยหายไป เจ้าของฟาร์มระดมคนออกตามหา ปรากฎว่ามันตกไปในรังมด!!
สิ่งมีชีวิตเมื่อแรกเกิดมักจะทำให้พ่อแม่เป็นห่วงในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการกิน การเดิน หรือทุกๆ อย่าง รวมถึงในกรณีนี้ ที่มีแม่ม้ามาขอความช่วยเหลือจากมนุษย์เพราะว่าลูกที่มันเพิ่งคลอดเมื่อคืนหายไปไหนไม่รู้?? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมือง Sao Gabriel do Oeste ประเทศบราซิล เมื่อมีม้าตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Boneca ได้วิ่งรอบทุ่งเลี้ยงสัตว์อย่างผิดปกติ ทำให้เจ้าของมันเริ่มสังเกตว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ เจ้า Boneca วิ่งวุ่นอย่างไม่มีสาเหตุ อย่างนี้ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ เมื่อเจ้าของฟาร์มสังเกตดีๆ ก็พบว่า ท้องที่โย้จากการตั้งครรภ์ของเจ้า Boneca ยุบลงไปแล้ว แสดงว่ามันต้องออกลูกมาแล้วแน่ๆ ว่าแต่ลูกของมันหายไปไหนกันล่ะ? เฮ้ย นี่มันรังมดนี่หว่า พวกเขาจึงระดมคนออกตามหาลูกม้าตัวนี้ว่ามันหายไปไหน ตอนแรกเขาคิดว่าอาจถูกคนขโมยไปแล้ว เพราะถ้ามันตายก็ต้องมีศพอยู่แถวๆ นั้น หลังจากตามหาอยู่พักใหญ่ๆ หนึ่งในทีมค้นหาได้ยินเสียงร้องของอะไรบางอย่างดังมาจากใต้พื้นดิน ตอนแรกพวกเขานึกว่าหูฟาด เพราะอะไรมันจะไปอยู่ใต้ดินได้ แต่เมื่อลองฟังดีๆ นั่นมันเสียงลูกม้านี่หว่า พวกเขาจึงพยายามหาต้นเสียงว่ามาจากตรงไหน ในที่สุดพวกเขาก็เจอว่าต้นเสียงมาจากที่ไหน ปรากฎเจ้าม้าน้อยดั๊นตกไปในรังมดขนาดใหญ่ซะอย่างนั้น แหม ก็ว่าหายไปไหน มาช่วยแล้ววววว พวกเขาได้ทำการขยายปากหลุมเพื่อช่วยเจ้าม้าน้อยขึ้นมา และในที่สุดมันก็ได้โผล่ขึ้นมาเจอแม่อีกครั้ง แหม มาถ่ายรูปด้วยกันก่อน แชะ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ช่วยกันขุดลูกม้าขึ้นมา…
-
ตามส่องวิถีเน็ตไอดอลรัสเซีย จ่ายเศษเงินเช่าเครื่องบินเจ็ท เพื่อถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียล!!
สำหรับใครที่มีอินสตาแกรม คุณอาจจะเคยเข้าไปตามส่องวิถีชีวิตคนรวยจากทั่วโลกมาแล้วมากมาย โดยพวกเขามักจะอัพเดทภาพไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันของตัวเองอยู่เสมอ และนั่นก็ทำให้เราเกิดความคิดเข้ามาในหัวว่า ทำไมคนเหล่านี้ถึงเกิดมาโชคดีเหลือเกิน บางคนก็ร่ำรวยซะจนซื้อเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเลยก็มี แหม!! คิดแล้วมันน่าอิจฉาชะมัด อยากมีเครื่องบินส่วนตัวบ้างอะแกรร แต่เดี๋ยวก่อนภาพที่คุณเห็นในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น เฟสบุ๊ก หรือ อินสตาแกรมนั้น มันอาจเป็นภาพลวงตาที่ทำให้เราหลงเชื่อว่าผู้คนเหล่านั้นร่ำรวยจริงๆ ก็เป็นได้ และนี่คือภาพจากอินสตาแกรม Privatejetstudio ที่ได้แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของเหล่าเน็ตไอดอลรัสเซีย โดยการยอมจ่ายเศษเงินเช่าเครื่องบินเจ็ท เพื่อถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียล!! การที่คุณไม่ได้มีเงินมหาศาล ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีสิทธิ์ได้นั่งเครื่องบินเจ็ทเสมอไป เพราะถ้าหากคุณมีงบเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเหรียญ เท่านี้คุณก็สามารถเช่าเครื่องบิน Gulfstream G650 สุดหรู แล้วถ่ายเซลฟี่ลงในอินสตาแกรมเหมือนกับผู้คนเหล่านี้ได้แล้ว อ้อ ลืมบอกไปว่าการเช่าเครื่องบินเจ็ทที่ว่านี้ ไม่ได้มีการบินขึ้นแต่อย่างใด แต่ทางบริษัทเจ้าของเครื่องบินจะอนุญาตให้คุณเข้าไปนั่งเล่นนอนเล่นถ่ายรูปได้ตามสะดวกเท่านั้นเอง นอกเหนือจากที่คุณจะได้รับสิทธิในการเป็นเจ้าของเครื่องบินส่วนตัวในเวลา 2 ชั่วโมงภายหลังจากที่ชำระเงินเช่าแล้ว คุณยังสามารถจ้างทีมช่างภาพมืออาชีพ พร้อมกับช่างแต่งหน้ามาช่วยเสกให้คุณได้ดูเหมือน “มหาเศรษฐี” จริงๆ อีกด้วย จากนั้นก็ถ่ายรูปแบบชิคๆ แล้วอัพลงบนอินสตาแกรมให้เพื่อนๆ อิจฉาเล่นๆ สำหรับการจ้างช่างถ่ายรูปเพื่อมาถ่ายภาพบนเครื่องบินให้คุณนั้น จะมีราคา 244 เหรียญ…
-
25 ภาพ ที่จะบ่งบอกว่า “การเลี้ยงลูก” นั้นเป็นอะไรที่ยากลำบากม๊ากมากกกกกก
เชื่อว่าแม่ๆ หลายคนคงจะเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าการเลี้ยงดูเจ้าแก้วตาดวงใจของเรานั้น ถึงแม้มันจะยากมากมายแค่ไหน เราก็เต็มใจที่จะทำเพื่อลูกน้อยของเราโดยไม่มีข้อแม้ บางคนอาจจะกล่าวไว้ว่าการเป็นประธานาธิบดีนั้นเป็นงานที่ยากมากกว่างานใดๆ ในโลก แต่ Nathalie Jomard ศิลปินชาวฝรั่งเศสกลับไม่คิดเช่นนั้น เธอคิดว่าการเลี้ยงลูกนี่แหละเป็นงานที่โคตรจะยาก ยากกว่าอะไรๆ ทั้งหลายบนโลกอีก ด้วยความที่เข้าใจถึงพลังแห่งความเป็นแม่ Nathalie จึงได้วาดรูปที่สื่อถึงความจริงของเหล่าแม่ๆ ทั้งหลายกับการดูแลลูกน้อยในชีวิตประจำวัน 1. การให้นมลูกจากเต้ามันเป็นอะไรที่เจ็บสุดๆ ยิ่งถ้าเจ้าหนูกัดเข้าล่ะก็ จี๊ดถึงทรวงใน 2. คุณแม่จะไม่สามารถหาความเป็นส่วนตัวได้เลย แม้กระทั่งเวลาเข้าห้องน้ำ 3. เสื้อผ้าที่เคยใส่ได้ตอนสาวๆ ก็คับไปหมด 4. เรื่องน่าอายที่เกิดขึ้นในชีวิต ส่วนมากก็เกิดมาจากเจ้าลูกน้อยของเรานั่นแหละ 5. คุณแม่มีวิธีที่จะปราบลูกของตัวเอง ซึ่งบางทีจะเป็นวิธีที่แปลก แต่ก็ได้ผล 6. การจู๋จี๋กับคุณสามี เป็นเรื่องที่ลืมไปได้เลย 7. วันหยุดอันแสนสบายที่หวังไว้ว่าจะนอนตื่นสายๆ แต่ต้องล่มสลายลงเมื่อเจ้าตัวน้อยมาปลุกตั้งแต่ตี 5 8. เรื่องเลอะเทอะ เป็นเรื่องปกติไม่ว่าบ้านไหนก็เป็น เต็มที่เลยลูก …
-
เทรนด์ใหม่อีกแล้ว!! “คิ้วแมคโดนัลด์” ช่วยขยับคิ้วเป็นรูปตัว M ราวกับประหลาดใจตลอดเวลา
ในช่วงนี้เหล่าบล็อกเกอร์แต่ละคนเริ่มห่างหายจากการแต่งหน้าแบบแหวกๆ แปลกๆ ไปบ้าง ซึ่งในช่วงก่อนนั้นเราจะพบการเขียนคิ้วแบบงงๆ มากมาย อย่างคิ้วรูปคลื่น คิ้วสามชั้น และคิ้วต่างๆ นานา ที่ดูผิดจากธรรมชาติไป และในวันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เราจะขอเปิดตัว คิ้วรูปแบบใหม่ ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนนั่นก็คือ “คิ้วแมคโดนัลด์” ไม่รู้ว่าแรงบันดาลใจของคิ้วแบบนี้มันมาจากไหน อาจจะเป็นเพราะว่าสาวๆ เหล่านี้ชอบทานอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่างแมคโดนัลด์หรือเปล่า ถึงได้มีกะจิตกะใจเขียนคิ้วโก่งเป็ตัว M ได้ขนาดนี้ พวกเธอใช้สีเหลืองและคอนซีลเลอร์ในการวาดคิ้วแมคโดนัลด์แบบนี้ ทำให้เกิดเป็นคิ้วมหึมาคิ้วแมคโดนัลด์ที่เห็นแล้วถึงกับหิวแฮมเบอร์เกอร์ขึ้นมาเลยทีเดียว เทรนด์การเขียนคิ้วสุดแหวกนี้เริ่มมาจากอินสตาแกรมที่ชื่อ @hudabeauty ที่ได้สร้างสรรค์คิ้วแมคโดนัลด์ และมันก็กลายเป็นที่นิยมของบล็อกเกอร์อีกหลายๆ คนในอินสตาแกรม Huda Kattan บล็อกเกอร์สาวยังได้ทำคิ้ว Nike ขึ้นมาอีกด้วย ที่มองๆ ดูแล้วก็โฉบเฉียวไม่น้อยเหมือน ชาวเน็ตที่ได้เห็นคิ้วสุดแหวกอย่างคิ้วแมคโดนัลด์และคิ้ว Nike ก็ต่างแสดงความคิดเห็นกันมากมาย “ทั้งคิ้วแมคโดนัลด์ คิ้ว Nike จมูกมีขน นี่มันเป็นแฟชั่นอะไรกันแน่เนี่ย!!!!! “ ที่มา unilad
-
จากงานแต่งกลายเป็นงานศพ!! เมื่อเจ้าสาวถูกรถชนเสียชีวิตก่อนวันแต่งงาน และวันเกิดของตัวเอง
วันที่ 18 ตุลาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยเรื่องราวสุดสะเทือนใจ เมื่องานแต่งกลายเป็นงานเศร้า หลังว่าที่เจ้าสาวเกิดประสบอุบัติเหตุถูกรถบัสโรงพยาบาลชนเสียชีวิต ก่อนวันงานแต่งงานเพียง 5 วัน และอีก 1 วัน ก็จะเป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบอายุ 32 ปีของเธออีกด้วย สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2560 บริเวณสี่แยกในเขตเทศบาลเถาหยวนของไต้หวัน เมื่อ Ren An Ni ว่าที่เจ้าสาวผู้เคราะห์ร้ายกำลังเดินออกมาจากโรงพยาบาล หลังจากที่เธอได้เข้าพบแพทย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ในขณะที่เธอกำลังเดินข้ามถนนนั้น จู่ๆ ก็มีรถบัสของโรงพยาบาลได้พุ่งเข้าชนร่างของเธออย่างจัง จนเป็นเหตุให้ Ren ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ทางด้าน Lu Chun-Hsien ว่าที่เจ้าบ่าวที่กำลังหัวใจแตกสลาย ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในโลกออนไลน์ว่า “นี่ก็ 19 วันแล้ว ที่ผมไม่ได้คุยกับคุณ ในที่สุดผมก็ได้เอาแหวนมาสวมไว้ที่นิ้วของคุณสักที เราได้แต่งงานกันแล้วนะ… ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องรอนานกว่า 2 สัปดาห์ แม้ว่าคุณจะไม่สามารถสวมแหวนให้ผมได้ และแม้ว่าคุณจะไม่ได้เห็นผมใส่ชุดเจ้าบ่าวก็ตาม ถึงตอนนี้ผมจะอยู่คนเดียว…
-
เต่าแก่ที่สุดในโลก ถูกพบว่าเป็นเกย์ เยกับเต่าตัวผู้ 26 ปี เพราะเจ้าหน้าที่เอามาผิดตัว!?
แค่รู้ว่าเต่ามีอายุขัยประมาณ 250 ปีก็ทำให้เราทึ่งแล้ว แต่คุณจะต้องประหลาดยิ่งกว่าถ้ารู้ว่าเต่าที่อายุมากที่สุดในโลกขณะนี้ถูกพบว่าเป็นเกย์!? และนี่คือเรื่องราวของ Jonathan เต่าที่อายุมากที่สุดในโลก ที่เพิ่งถูกค้นพบว่าเป็นเกย์ หลังได้อยู่กับคู่รักและผสมพันธุ์กันมานานถึง 26 ปี Jonathan ในวัย 186 ปี ได้เข้ามาอยู่ที่ St Helena ดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษ ตอนอายุ 30 ปี ในฐานะของขวัญของผู้ปกครองรัฐในขณะนั้น เจ้าเต่าตัวนี้มีชีวิตอยู่หลายชั่วอายุคน ครั้งหนึ่งมันเคยถ่ายรูปร่วมเฟรมกับนักโทษที่ถูกคุมขังบนเกาะในระหว่างสงครามโบเออร์ด้วย แต่แล้วในช่วงปลายอายุ 80 ปี Jonathan เริ่มหงุดหงิดง่ายและชอบขัดขวางการเล่นกีฬาคริกเก็ตของผู้คนบนสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์จอร์เจียของผู้ปกครองรัฐ ในที่สุดสัตวแพทย์ก็ตัดสินใจหาเพื่อนสาวให้มันในปี 1991 เต่าตัวเมียนี้ชื่อว่า Frederica ตั้งแต่นั้นมา Jonathan ก็เพลิดเพลินกับช่วงเวลาสุดโรแมนติกกับตัวเมีย โดยจะผสมพันธุ์กันทุกๆ เช้าวันอาทิตย์ แต่น่าแปลกใจตรงที่ว่าทั้งคู่ไม่เคยมีลูกเลย ทำให้หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น กระทั่งตอนนี้ก็เกือบ 30 ปีที่มันได้พบกับคู่รัก จนในที่สุดข้อสงสัยก็ถูกไขให้กระจ่าง ข้อสงสัยถูกเปิดเผยเมื่อสัตวแพทย์ได้เข้าไปทำการรักษากระดองให้เจ้า Frederica แล้วก็ต้องทึ่งเมื่อรู้ว่ามันเป็นตัวผู้ไม่ใช่ตัวเมีย!! และแม้ว่าพวกมันจะรู้ว่าเป็นเพศเดียวกัน แต่ก็ยังมีอะไรกันทุกๆ เช้าวันอาทิตย์ สัตวแพทย์ Catherine Man กล่าวว่า “ทั้งคู่ชอบกินและนอนเป็นเวลา…
-
พายุ Ophelia พัดรุนแรงจนทำให้พบ ‘โครงกระดูกมนุษย์ยุคโบราณ’ ที่มีค่าทางประวัติศาสตร์
หลายๆ ครั้ง หลักฐานทางประวัติศาสตร์มักจะถูกพบหลังจากที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง เช่น พายุ น้ำท่วม และแผ่นดินไหว ครั้งนี้ก็เช่นกัน หลังจากเกิดพายุ Ophelia ที่มีความรุนแรงจนทำให้โครงกระดูกมนุษย์ยุคโบราณโผล่ออกมาให้เห็น ซึ่งนับว่าเป็นหลักฐานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่ง โครงกระดูกดังกล่าวนี้คาดว่าน่าจะมีอายุถึงพันปี ถูกค้นพบโดยนักเดินทางหลังจากเกิดพายุพัดอย่างรุนแรงและทำให้น้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งไอริช ประเทศไอร์แลนด์ สำหรับพายุ Ophelia ได้พัดผ่านประเทศอังกฤษและไอร์แลนด์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีความเร็วลมอยู่ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนเผยให้เห็นสถานที่ที่เหมือนหลุมฝังศพโบราณ นักพยาธิวิทยา Marie Cassidy ได้เดินทางมาถึงสถานที่ดังกล่าวเมื่อวานนี้ และได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าหลักฐานชิ้นนี้น่าจะมาจากยุคเหล็กที่ถูกสร้างเมื่อ 1,000 ปีที่แล้ว ตอนนี้โครงกระดูกที่พบถูกนำไปไว้ที่ Dublin เพื่อตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์หาสาเหตุการตายและอายุที่แท้จริง หลังจากที่ตรวจสอบเสร็จแล้วก็จะนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Ireland’s National ใน Dublin นักโบราณคดี Maeve Sikora ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติและเป็นผู้ช่วยขุดโครงกระดูกขึ้นมา กล่าวว่า “จากสถานที่ที่โครงกระดูกถูกพบ เราสามารถบอกได้อย่างมั่นใจว่ามันไม่ใช่ศพที่เพิ่งถูกฝัง” “ศพดังกล่าวอาจจะถูกวางไว้ในโลงศพและถูกปิดด้วยหินหลายๆ ชั้น แต่หินเหล่านั้นถูกทำลายโดยการกัดกร่อนจากน้ำทะเลเป็นเวลาหลายปี” Sikora กล่าว เขายังบอกอีกว่า “ศพถูกฝังเป็นอย่างดี โดยการจัดให้แขนศพวางอยู่ข้างลำตัว ซึ่งเราสามารถบอกได้จากตำแหน่งที่ศพถูกพบ” “ศพอาจจะมีอายุมากกว่า 1,000 ปี แต่อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถระบุปีได้ชัดเจน จนกว่าจะทำการ Radiocarbon (กัมมันตภาพรังสีในรูปของคาร์บอนที่ใช้คำนวณอายุของอินทรีย์วัตถุ)” …
-
เปิดตัว “กางเกงยีนส์สุดล้ำ” ที่ผสมผสานความหลุดโลก และฉีกกฏแฟชั่นไปไกลมากกก!!
สำหรับแฟชั่นกางเกงยีนส์ ต้องบอกเลยว่าเป็นแฟชั่นเสื้อผ้าที่ไม่มีวันตกยุคเลยจริงๆ เพราะมันมีมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่า ตายาย พ่อแม่ มาจนถึงรุ่นลูกหลาน และถ้ายิ่งได้ใส่แบบขาดๆ มันก็จะยิ่งทำให้คนใส่ดูเท่ฝุดๆ ไปเลย เราเชื่อว่าในตู้เสื้อผ้าของคุณอาจจะมีกางเกงยีนส์ขาดๆ สักตัวสองตัว ซึ่งแน่นอนว่ามันก็คงจะเป็นกางเกงแนวแฟชั่นปกติทั่วไป แต่สำหรับแฟชั่นกางเกงยีนส์ที่เราจะขอนำมาเสมอในครั้งนี้ มันช่างเป็นอะไรที่แตกต่างที่สุดในบรรดาที่เคยเห็นมา เพราะนี่ไม่ใช่แฟชั่นกางเกงยีนส์ขาดๆ ธรรมดาๆ แต่ขอย้ำดังๆ เลยนะว่ามันมีทั้งความหลุดโลก และฉีกกฎออกไปไกลมากกก ไม่เชื่อก็ดูสิ… ผ่างงง!! สำหรับกางเกงยีนส์สุดจี๊ดนี้เป็นผลงานของ Meiko Ban ดีไซน์เนอร์ชาวญี่ปุ่นเจ้าของแบรนด์ Thibaut ที่ได้เปิดตัวคอลเลกชั่นกางเกงยีนส์สำหรับฤดูกาล Autumn/Winter 2018 ณ งาน Amazon Fashion Week ในกรุง โตเกียว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคมผ่านมา และแน่นอนว่าผลงานของเธอก็ได้สร้างความตื่นตาให้กับบรรดาสื่อ รวมถึงเหล่าแฟชั่นนิสต้าเป็นอย่างมาก ก็ดูสิ…มันดูแปลกประหลาดประหนึ่งถูกหมากัดกระชากขาดกระจุยยังไงยังงั้นเลยล่ะ . ในขณะที่โลกแฟชั่นกำลังพยายามทำความเข้าใจกับความแปลกใหม่ของยีนส์ครั้งนี้ ทางด้านผู้คนบนโลกออนไลน์ก็ได้ให้ความสนใจไม่น้อยไปเช่นกัน ซึ่งหลายๆ คนก็ได้แสดงความเห็นว่า มันก็ดูสร้างสรรค์ดีนะ แต่ถึงกระนั้น ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะชื่นชอบแฟชั่นสุดแหวกแนวนี้ เพราะยังมีชาวเน็ตหลายๆ คนกลับไม่ได้รู้สึกประทับใจกับแฟชั่นกางเกงยีนส์แนวใหม่นี้เลย แล้วคุณล่ะ! คิดอย่างไรบ้าง?…
-
นักวิทย์เผยแล้วว่า สุนัขสามารถแสดงความรู้สึกผ่านทางสีหน้า เพื่อสื่อให้มนุษย์รับรู้ได้
โดยปกติแล้วสุนัขมักจะสื่อสารกับมนุษย์ผ่านเสียงหรือท่าทาง แต่ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์เผยแล้วว่าสุนัขสามารถแสดงความรู้สึกผ่านทางสีหน้าได้ นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเรื่องใบหน้าของสุนัขบอกว่า เมื่อมนุษย์ให้ความสนใจน้องหมามันจะมีการเคลื่อนไหวใบหน้ามากกว่าปกติ รวมทั้งการยกคิ้วและมันจะเปิดตาให้กว้างกว่าตอนถูกละเลยหรือตอนถูกล่อด้วยอาหาร การวิจัยยังได้โต้แย้งความเชื่อที่ว่าการแสดงออกผ่านใบหน้าของสุนัขนั้นเป็นการสะท้อนความรู้สึกภายใน ไม่ใช่วิธีการสื่อสารของมัน Bridget Waller ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาวิวัฒนาการจากมหาวิทยาลัย University of Portsmouth ในประเทศอังกฤษ กล่าวว่า “การแสดงออกทางสีหน้าของสุนัขมักถูกมองว่าเกิดจากอารมณ์ความรู้สึกที่คงที่ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สิ่งสามารถเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ได้” แต่จากการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสุนัขพบว่า สุนัขสามารถเข้าใจทั้งคำพูดและโทนเสียงของมนุษย์ ทั้งนี้มีงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports เป็นการใช้กล้องบันทึกความเคลื่อนไหวใบหน้าของสุนัข 24 ตัว โดยให้มนุษย์ให้ความสนใจมัน ละเลยมัน รวมทั้งเอาอาหารที่น่ากินให้และไม่ให้มันเลย แล้วสังเกตสีหน้าของพวกมันในแต่ละสถานการณ์ ผลการวิจัยพบกว่าเมื่อมนุษย์มองไปที่สุนัข มันจะแสดงออกทางสีหน้ามากกว่าตอนที่ถูกละเลย ที่เห็นได้ชัดคือมันจะแลบลิ้นและยกคิ้วขึ้น ในส่วนของการใช้อาหารล่อนั้น ไม่ได้มีผลต่อการแสดงออกของพวกมัน… จากผลวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าการแสดงออกของสุนัขไม่ได้เป็นเพียงแค่ความตื่นเต้นเท่านั้น แต่ยังทำให้เราสงสัยว่าสุนัขใช้การแสดงออกผ่านสีหน้าเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของหรือไม่? Waller กล่าวว่า “เราอยากรู้ว่าสุนัขจะแสดงสีหน้าออกมาได้เต็มที่หรือไม่เมื่อได้รับความสนใจและอาหาร เพราะนั่นอาจบอกเราได้ว่าพวกมันกำลังเรียกร้องความสนใจจากมนุษย์เพื่อจะได้รับอาหาร” ด้วยเหตุนี้ทีมวิจัยจึงตั้งข้อสงสัยว่าการแสดงออกของสุนัขไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงอารมณ์ แต่อาจเป็นกลไกในการสื่อสารกับมนุษย์ด้วย ทั้งนี้วิธีการฝึกสุนัขจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกมันสื่อสารกับมนุษย์ได้มากขึ้น… อย่างไรก็ตาม นักวิจัยได้เน้นย้ำว่างานวิจัยนี้ไม่ได้ชี้ชัดถึงสิ่งที่สุนัขต้องการสื่อสารหรือเจตนาในการแสดงออกของสีหน้าว่า แท้จริงแล้วมันต้องการบอกอะไรกันแน่? Juliane…
-
ลูกน้อยน้ำตาคลอ หลังได้ยินเสียงคุณแม่เป็นครั้งแรกจากการช่วยเหลือของเครื่องช่วยฟัง
เสียงที่มนุษย์ได้ยินเป็นครั้งแรกในชีวิตเมื่อลืมตาดูโลกมักจะเป็นเสียงของแม่ ซึ่งเป็นเสียงที่เปล่งออกมาด้วยความรักและมักทำให้ลูกน้อยรู้สึกอุ่นใจเสมอ อย่างหนูน้อย Charly ที่ได้ยินเสียงแม่เป็นครั้งแรก แม้จะช้ากว่าปกติ แต่เธอก็ได้แสดงความรู้สึกนั้นออกมาผ่านใบหน้า ที่ทำให้รู้ว่าเธอดีใจมากแค่ไหน โมเม้นต์ตอนที่เด็กน้อยได้ยินเสียงแม่ครั้งแรก Charly ลูกสาวของ Christy Keane เกิดเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2017 เธอเป็นเด็กที่น่ารักมากๆ แต่น่าเศร้าเธอหูหนวกตั้งแต่เกิด อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองของเด็กน้อยก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกน้อยได้ยินเสียง ในที่สุดพวกเขาก็หาเครื่องช่วยฟังให้เด็กน้อยสำเร็จ จากคลิปข้างบนเมื่อ Charly ได้ยินเสียงแม่พูดว่า “สวัสดีจ้า” ซึ่งเป็นเสียงแรกที่เธอได้ยินในชีวิต เด็กน้อยก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แม้ Charly ยังเป็นแค่ทารกที่เพิ่งเกิดไม่กี่เดือน แต่เธอก็สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และรู้ว่าควรจะแสดงออกมายังไง โดยปกติแล้ว เมื่อเด็กดีใจ พวกเขาจะยิ้มหรือหัวเราะออกมา และเมื่อเสียใจ พวกเขาจะหน้าเศร้าหรือร้องไห้ แต่สำหรับ Charly แม้ดีใจจนอยากร้องไห้แต่เธอก็กลั้นน้ำตาแห่งความสุขนั้นไว้ สักพักคุณแม่ก็พูดกับเธออีกว่า “แม่รักลูกนะ” เด็กน้อยก็เผยรอยยิ้มที่สดใสอีกครั้ง… คุณแม่ Keane บอกว่า “มันเป็นช่วงเวลามหัศจรรย์ของเราแม่ลูก เราไม่คิดว่าเธอจะได้ยินเสียงอีกแล้วในชีวิตนี้ แต่แล้วเราก็ได้เครื่องช่วยฟัง จนทำให้เธอได้ยินเสียงเป็นครั้งแรกในวันนี้” นี่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น ซึ่งต่อไปนี้ทางครอบครัวจะทำทุกทางเพื่อให้หนูน้อยได้ยินพร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพทางด้านภาษาต่อไป…
-
เจ้าหน้าที่สั่งปลด Lulu ให้พ้นการเป็น “สุนัขดมกลิ่น” หลังแสดงอาการชัด…นี่ไม่ใช่ทางของหนู!!
จากความสามารถในการรับกลิ่นชั้นยอดของสุนัข นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้มนุษย์ได้นำพวกมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในหลายๆ ด้าน เช่น การตามหาคนหาย การค้นหายาเสพติด รวมไปถึงการดมกลิ่นเพื่อค้นหาวัตถุระเบิด และเจ้า Lulu น้องหมาสายพันธุ์ลาบราดอร์ อายุ 18 เดือนตัวนี้ ก็เป็นหนึ่งในสุนัขที่ทางศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจได้คัดเลือกให้เข้ามารับการฝึกฝนอย่างเข้มงวด เพื่อให้มันได้กลายเป็นสุดยอด “สุนัขตำรวจ K9” ของกรมตำรวจในเขตแฟร์แฟกซ์ ในรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้รับการรายงานจากบัญชีทวิตเตอร์ของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIA เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่เป็นสุนัขดมกลิ่นในเวลาอันสั้นของเจ้า Lulu ว่า… เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ Lulu ได้รับการฝึกอบรม มันก็เริ่มแสดงสัญญาณบางอย่างออกมา และนั่นก็ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ได้รู้ว่าเจ้าหมาไม่สนใจที่จะรับงานนี้ และพวกเขาก็คาดว่าอาจจะต้องปลดมันออกจากตำแหน่งในเวลาก่อนกำหนด “Lulu ไม่สนใจที่จะมาทำหน้าที่เป็นสุนัขดมกลิ่นค้นหาระเบิด ถึงแม้ว่าเราจะกระตุ้นมันด้วยอาหาร หรือให้มันได้เล่น แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่แฮปปี้เอาซะเลย” ทาง CIA กล่าว ตามรายงานบอกว่าโครงการนี้เป็นการฝึกแบบเร่งรัด ใช้เวลาเพียง 10 สัปดาห์ โดยสุนัขในหน่วยนี้จะต้องดมกลิ่นวัตถุระเบิดให้ได้ทั้งหมด 19,000 ชนิด ซึ่งหลังจากฝึกจบสุนัขที่ได้คะแนนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของชั้นจะได้ไปทำหน้าที่ตรวจหาระเบิดในอาคารต่างๆ…
-
นักศึกษาป.เอก ป่วยโรคระบบประสาทเสื่อม ตัดสินใจหยุดรักษาและบริจาคหัวเพื่อให้แพทย์ได้ศึกษา
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องราวสุดน่าเศร้าของผู้หญิงที่ชื่อว่า Lou Tao อายุ 29 ปี นักศึกษาระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ที่มีความเสียสละจนกระทั่งวาระสุดท้ายในชีวิตของเธอ นางสาว Lou ได้เข้ารับการศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกทางด้านประวัติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยปักกิ่งเมื่อปี 2015 ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ป่วยอย่างหนัก ภายหลังจากการวินิจฉัยแล้วก็พบว่าเธอเป็นโรค ALS หรือ โรคเสื่อมของระบบประสาท โรค ALS คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมร่างกาย เกิดอาการเสื่อมและตายลงช้าๆ ส่งผลทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง และปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษา เดือนมกราคม ปี 2017 นางสาว Lou เริ่มสูญเสียการเคลื่อนไหวที่เท้าซ้ายของเธอ อาการก็เริ่มแย่ลงๆ จนต้องเข้ารับการรักษาตัวในห้อง ICU จนกระทั่งวันที่ 7 ตุลาคม เธอได้บอกกับคุณพ่อว่าเธอต้องการที่จะหยุดการรักษา เนื่องจากสภาพร่างกายของเธอไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้แล้ว และเธอตัดสินใจบริจาคอวัยวะเพื่อให้แพทย์ได้ใช้ในการศึกษาหลังจากที่เธอได้จากโลกใบนี้ไปแล้ว… เธอได้เขียนจดหมายไว้ว่า “หลังจากที่ฉันเสียชีวิต ฉันขอบริจาคหัวของฉันสำหรับการวินิจฉัยทางการแพทย์ หวังว่าสักวันหนึ่งเราจะค้นพบวิธีการรักษาโรค ALS มนุษย์จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการของโรคนี้” “ส่วนร่างกายของฉัน ขอให้เผาให้มอดไหม้กลายเป็นกองขี้เถ้าแล้วนำไปลอยที่แม่น้ำแยงซี ไม่ต้องฝังร่างของฉันไว้ในสุสาน โปรดปล่อยให้ฉันได้จากโลกใบนี้ไปอย่างเงียบๆ ราวกับไม่เคยมีฉันบนโลกใบนี้…” ทั้งนี้นางสาว…
-
ร้านก๋วยเตี๋ยวใจงาม แจกอาหารเช้าให้กับคนกวาดถนนกว่า 20,000 ถ้วย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
การช่วยเหลือคนที่กำลังลำบากไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ เช่นเดียวกับชายคนนี้ที่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงเจ้าของธุรกิจเล็กๆ แต่มันก็ไม่ใช่อุปสรรคในการทำสิ่งที่ดีให้แก่สังคม เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่ชื่อ Sun Zhiwen ได้ติดป้ายประกาศไว้หน้าร้านว่า “อาหารเช้าฟรีสำหรับคนกวาดถนน ทหาร และคนแก่ที่อายุมากกว่า 70 ปี” คนกวาดถนนสามารถเข้ามากินอาหารเช้ากันได้แบบฟรีๆ ร้าน Loving Heart Tofu นี้ตั้งอยู่ในเมืองจุนอี้ มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 2015 โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 2 ปี เขาได้แจกจ่ายอาหารเช้าให้กับผู้คนไปมากกว่า 20,000 ถ้วยเลยทีเดียว เขาได้ให้เหตุผลว่า “คนกวาดถนนต้องเจอกับภาระหนักเอามากๆ โดยเฉพาะในฤดูหนาว ที่พวกเขาต้องตื่นแต่เช้าและไม่ได้กินอะไรจนถึงเที่ยง ผมจึงหวังที่จะมอบอาหารเหล่านี้ให้พวกเขาได้กินกันในตอนพักระหว่างงาน” เจ้าของร้านที่ทำให้หลายๆ คนได้อิ่มทั้งกายและใจ ส่วนสำคัญที่ทำให้เขาแจกอาหารฟรีเป็นเพราะว่าตั้งแต่เด็กเขาต้องโตมากในครอบครัวที่ยากจน แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากคนรอบข้างมาตลอดจนเขาสามารถมีวันนี้ได้ จึงอยากแบ่งปันความรู้สึกดีๆ นี้ไปให้ผู้อื่นด้วย “ผมเป็นเพียงคนทำธุรกิจทั่วๆ ไป แต่ไม่จำเป็นว่ารายได้จะมากน้อยแค่ไหน ผมเพียงให้ทุกๆ คนได้รู้สึกอบอุ่นเหมือนกับที่ผมเคยได้รับมาตลอด” เขากล่าว เขาเลือกที่จะทำในสิ่งที่ไม่เกินกำลังตัวเอง เพื่อช่วยผู้อื่นให้ได้มากที่สุด ในอนาคตชายคนนี้ตั้งใจว่าอยากเพิ่มสาขาออกไปอีกหลายแห่ง เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความสุขให้ผู้คนได้มากยิ่งขึ้น…
-
การคอสเพลย์แบบจัดหนักจัดเต็มในงาน NYCC เมื่อมีเจ้า Bumblebee ตัวมหึมาเดินอยู่ในงาน
ในงาน New York Comic Con 2017 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 – 8 ตุลาคมที่ผ่านมา สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ร่วมงาน ด้วยการแต่งกายของแต่ละคนแต่ละซุ้มที่เรียกว่าจัดหนักจัดเต็ม แต่การคอสเพลย์ที่พิเศษสุดๆ ชนิดที่ว่าทุกคนในงานต้องพูดถึง คือการแต่งเป็นหุ่นยนต์ Bumblebee ผลงานของ Thomas DePetrillo หุ่นยนต์สุดเท่ หนึ่งในตัวเอกจากหนังเรื่อง Transformers ชายคนนี้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มที่ชื่อว่า Extreme Costumes โดยเขาได้กลายเป็นจุดสนใจของคนรอบข้างทันทีที่ก้าวเข้าไปภายในงาน การโชว์ตัวของเจ้าหุ่นยักษ์ Bumblebee ความเจ๋งที่สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี บวกกับขนาดอันมหึมาแต่กลับสามารถขยับ เดินไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ บอกได้เลยว่านี่คือผลงานที่เยี่ยมที่สุดของปีนี้อย่างแน่นอน ขนาดใหญ่สูงเป็นเท่าตัวของขนาดคนเลยทีเดียว ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างจริงๆ ไม่แปลกเลยที่เวลาเดินไปไหนก็จะตกเป็นเป้าสายตา ไม่รู้ว่าในงาน Comic Con บ้านเราจะมีอะไรแบบนี้ให้เห็นกันบ้างมั้ยเนี่ยยย ที่มา: cosplay.kotaku
-
22 ภาพสิ่งที่เรียงกันได้แบบพอดีเป๊ะ…ชาวเพอร์เฟคชั่นนิสต์เห็นแล้วคงจะฟินไม่น้อยเลยล่ะสิ๊?
เชื่อป่ะ!! คุณเองก็สามารถมองหาความเป๊ะ และความเพอร์เฟคได้จากสิ่งต่างๆ รอบตัว ซึ่งมันอาจเกิดขึ้นได้จากความบังเอิญ หรือความตั้งใจ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ เลยนะ เพราะในบางทีก็ต้องหาจังหวะที่เหมาะสมกว่าจะออกมาเป็นความสมบูรณ์เหล่านั้น ในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอนำภาพแห่งความเพอร์เฟคมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน หากใครที่ชื่นชอบความสมบูรณ์แบบรับรองว่าคุณจะต้องชอบ และฟินเมื่อได้เห็นอย่างแน่นอน ภูเขาน้ำแข็งที่แบ่งโลกออกเป็น 4 ส่วน มันดูสมบูรณ์แบบมาก เส้นลายขนสีขาวของเจ้าหมาที่บังเอิญไปตรงกับคลื่นเป๊ะ ความเป๊ะแบบบังเอิญๆ อาจเกิดขึ้นจากใบหน้าของมนุษย์+สันหนังสือ ภาพของเทือกเขาและต้นไม้อันสวยงามจากรถคันหนึ่งที่เล่นอยู่บนทางหลวง มันพอดีกับของจริงเป๊ะเลย เย้ย!! อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ แก้วที่นำมาต่อเรียงกันจนเกิดเป็นความเพอร์เฟค ความสมบูรณ์แบบ หรือความพอดี มันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกๆ ที่จริงๆ แม้จะเกิดขึ้นยากไปหน่อย แต่เชื่อเถอะว่าพอมันได้เกิดขึ้นแล้ว… จะต้องทำให้เราอึ้งจนอ้าปากค้างแน่นอน มีทั้งความสวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจ และนี่คือความพอดีเป๊ะที่เห็นได้จากท้องถนน ภาพลวงตาที่ต้องย้อนกลับมาดูหลายรอบ เส้นโค้งของรั้วเหล็กที่ดันพอดีเป๊ะกับชิงช้าสวรรค์ พื้นสีทูโทนที่เหมือนกับเสื้อผ้าของหญิงสาว…
-
ชายหนุ่มโดนจับเพราะถูกเข้าใจผิดคิดว่าน้ำตาลไอซิ่งคือยาไอซ์ ฟ้องกลับได้เงินกว่า 1 ล้านบาท
บางครั้งเราก็อาจเข้าใจผิดคิดว่าสิ่งนี้เป็นอีกสิ่งหนึ่ง อย่างเช่นคิดว่าน้ำตาลเป็นเกลือหรือถ้าหนักกว่านั้นหน่อยก็อาจคิดว่าน้ำตาลเป็นยาไอซ์ก็ได้ เหมือนกับที่ชายคนนี้โดนตั้งข้อหาและถูกจับในวันที่ 11 ธันวาคม 2015 นี่เป็นเรื่องราวของ Daniel Rushing วัย 65 ปี ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้วเขาถูกตรวจค้นรถขณะที่กำลังขับไปห้างสรรพสินค้า ก่อนที่เขาจะถูกจับข้อหามีอาวุธและสารเสพติดไว้ในครอบครอง เขาได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขามีใบอนุญาตครอบครองอาวุธอย่างถูกกฎหมาย ส่วนเรื่องของสารเสพติดก็ยืนยันว่าเศษผงบนพื้นรถที่ตำรวจพบเป็นน้ำตาลที่หล่นมาจากโดนัทที่เขากินไปเท่านั้นเอง Krispy Kreme โดนัทร้านโปรดของเขา ถึงอย่างนั้นเจ้าหน้าที่ Shelby Riggs-Hopkin ไม่เชื่อในคำแก้ตัวของเขาและบอกว่า “จากประสบการณ์เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกว่า 11 ปีของฉัน บอกได้เลยว่าเจ้าสิ่งนี้ต้องเป็นยาเสพติดแน่นอน” เพื่อความแน่ใจเธอจึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ ทำการทดสอบตรงด่านข้างถนนทันที เพื่อดูว่ามันใช่ยาเสพติดจริงหรือไม่ และผลลัพธ์ก็ออกมาว่ามันเป็นสารที่ใช้ในยาเสพติดจริง ทำให้ Daniel ถูกตั้งข้อหาและถูกจับกุมตัวไปขังเอาไว้นานกว่า 10 ชั่วโมงก่อนที่จะถูกประกันตัวออกมาด้วยเงินกว่า 80,000 บาท ภาพถ่ายที่ต้องการจะสื่อว่า เขาถูกจับเพียงเพราะโดนัทเนี่ยนะ?! แต่แล้วคดีก็พลิกเพราะหลังจากที่เศษผงดังกล่าวถูกส่งต่อไปตรวจในห้องแล็บที่ฟลอริด้าหลายสัปดาห์ต่อมา ผลตรวจกลับออกมาว่าสิ่งนั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสารเสพติดเลย นั่นจึงทำให้ชายหนุ่มจ้างทนายและฟ้องร้องเจ้าหน้าที่รัฐในทันที เพราะเขารับไม่ได้ที่ต้องมาถูกจับโดยไม่มีเหตุผล ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกมาบอกกับสื่อว่า ตำรวจที่ทำการตรวจสอบสารเสพติดตรงด่านตรวจไม่ได้รับการฝึกอบรมที่เพียงพอ ทำให้การใช้เครื่องมือตรวจได้ผลลัพธ์ที่คลาดเคลื่อน ส่วนเจ้าหน้าที่ Shelby ก็ได้ถูกตำหนิและลาออกไป…
-
Ines Rau นางแบบข้ามเพศในตำแหน่ง Playmate คนแรกของนิตยสารเพลย์บอย
การได้ขึ้นปกนิตยสารชื่อดังระดับโลกถือเป็นหนึ่งในความฝันนางแบบหลายๆ คน ยิ่งเป็นนิตยสาร Playboy นิตยสารสำหรับผู้ชายอันดับต้นๆ ของโลกล่ะก็ ไม่ว่าใครก็อยากที่จะเป็นส่วนหนึ่งสักครั้งในชีวิต แต่การจะมาขึ้นปกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสาวๆ ที่จะมาเป็น Playmate ขึ้นปกนิตยสาร Playboy ในแต่ละเดือนนั้นต้องได้รับการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจากทีมงาน ซึ่งหนึ่งในลักษณะที่สาวๆ Playmate ทุกคนต้องมีก็คือการเป็นสาวเซ็กซี่ ตามเอกลักษณ์ความเป็น Playboy นิตยสารฉบับล่าสุดของ Playboy ฉบับเดือน พฤศจิกายน/ธันวาคม ที่จะมาถึงนี้ มีการเปิดตัว Playmate คนใหม่ที่จะมาเขย่าวงการนิตยสารปลุกใจเสือป่าให้สะเทือนกันเลยทีเดียว โดย Playmate คนล่าสุดนี้นั่นก็คือ Ines Rau นางแบบหญิงข้ามเพศวัย 26 ปีที่มีดีกรีความสวยแซ่บ เผ็ดแบบพริกยกสวน พกความเซ็กซี่มาแบบจัดหนักจัดเต็ม นอกจากนั้นเธอยังเป็นผู้หญิงข้ามเพศคนแรกที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร Playboy อีกด้วย Ines เป็นนางแบบสาวชาวปารีสที่ประสบความสำเร็จจากการเป็นนางแบบแถวหน้าของวงการ เคยขึ้นปกนิตยสารชื่อดังแบบ Vogue Italy และการเดินแฟชั่นโชว์ระดับโลกมาแล้ว เธอเคยได้รับการสัมภาษณ์ลงในนิตยสาร Playboy ของเดือนพฤษภาคม ปี 2014…
-
น้องหมาชิบะหัวร้อน เจอตุ๊กตาหมาเห่าล้อเลียน ถึงจะโกรธแค่ไหนแต่ก็ยังน่ารักอยู่ดี
เจ้าหมาพันธุ์ชิบะอินุเป็นหนึ่งสายพันธุ์สุนัขที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ด้วยความน่ารักตะมุตะมิ แถมยังเชื่องมากๆ ทำให้มีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยเลยที่หลงใหลในความเป็นชิบะของเจ้าหมาพันธุ์นี้ แต่ด้วยความที่ชิบะอาจจะดูเป็นหมาที่ติ๊งต๊องอยู่หน่อยๆ ไม่ว่ามันจะทำอะไร ก็สามารถเรียกเสียงฮาให้กับผู้คนได้อยู่เสมอ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @daifuku_channel ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอความน่ารักของเจ้าชิบะตัวหนึ่งที่กำลังเห่าใส่ตุ๊กตารูปหมาชิบะอย่างจริงจัง ความฮาอยู่ที่เจ้าชิบะตัวนี้มันไม่รู้ว่า สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของมันนั้นคือตุ๊กตาเลียนเสียง ที่ส่งเสียงอะไรไป มันก็จะตอบกลับมาแบบนั้น เอ๊ะ นั่นอะไรอ่ะ เอ้า พูดด้วยแล้วทำไมไม่ตอบเราอ่ะ นี่ แกร๊ ตอบชั้นสิ!!!! พอเจ้าตุ๊กตาส่งเสียงกลับมาก็ถึงกับสตั๊น เห้ย ว่าไงนะพวก อ้าวเห้ย ฉันไม่ได้ทำร้ายแกนะ พิสูจน์ก่อน ยังมีลมหายใจอยู่มั้ย? ดูคลิปวิดีโอเต็มๆ คลิกลิ้งค์เลยจ้า >>> twitter.com/daifuku_channel ま、マネすんなよ〜🐶💢やめろよー💦Don't mimic me ぜひ音ありで見て笑ってください!!#笑ったら寝ろ#柴犬だいふくベストセレクション pic.twitter.com/FIMKDtSYui — 柴犬だいふく (@daifuku_channel) October 11, 2017 คลิปวิดีโอข้างต้นเป็นที่ชื่นชอบของคนในโลกทวิตเตอร์เป็นอย่างมาก จนถูกรีทวีตไปถึง…
-
หญิงสาวถูกแก๊งอันธพาลท้องถิ่นลักพาตัว แต่ถูกช่วยเหลือไว้ โดยคนขายดอกไม้…
เตือนภัยสำหรับสาวๆ ทั้งหลายเวลาไปท่องเที่ยวในสถานที่ๆ ไม่คุ้นเคย คุณไม่ควรที่จะอยู่ลำพังในที่เปลี่ยวๆ โดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นคุณอาจประสบกับเหตุการณ์ที่ตากล้องสาวคนนี้ก็เป็นได้ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Gaia Guarnotta ช่างภาพสาวจากเมือง Livorno วัย 25 ปี ได้เดินทางไปยังเมือง Tuscany ทางตอนเหนือของอิตาลีเพื่อถ่ายภาพเก็บประสบการณ์และท่องเที่ยวไปในตัว แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเธอเดินอยู่บนถนนใกล้ๆ กับ Piazza della Repubblica ช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. ทันใดนั้นก็พบกับแก๊งอันธพาลท้องถิ่นเข้ามารุมฉุดเธอไปข่มขืน Gaia เล่าให้ฟังว่าพวกแก๊งอันธพาลพาเธอไปยังจุดที่ทั้งมืดและเปลี่ยว ชายเหล่านั้นเมาและพยายามที่จะลวนลามเธอ แถมยังเรียกเธอว่า “นังโสเภณี” แล้วถ่มน้ำลายใส่เธออีกด้วย หนึ่งในชายกลุ่มนั้นก็ยังพยายามพูดแกมบังคับให้เธอมีเซ็กส์กับชาย 25 คนที่กำลังรออยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เลวร้ายเกินกว่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะรับได้ ในจังหวะที่ทุกอย่างกำลังเลวร้ายลงเรื่องๆ ทันใดนั้นเองก็มีฮีโร่เข้ามาช่วยเธอ เหตุการณ์ดูชุลมุนเล็กน้อย เธอบอกว่าไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้นบ้างตอนช่วงนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาไล่พวกแก๊งนั้นไปได้ยังไง แต่เมื่อเธอรู้ตัว เหล่าแก๊งอันธพาลเหล่านั้นได้วิ่งหนีออกไปก่อนที่จะลงมือก่อเหตุกับตัวเธอ ผู้ที่ช่วยเธอให้รอดพ้นจากเหตุกาณ์ในครั้งนี้นั่นก็คือ Hossein Alamgir คนขายดอกไม้ที่อยู่ในบริเวณนั้นนั่นเอง นาย Hossein อายุ 58 ปี เป็นชาวบังคลาเทศที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในประเทศอิตาลี เขาได้ช่วยเหลือชีวิตของเธอไว้…
-
มหาวิทยาลัยในประเทศจีนผุดไอเดีย ให้นักศึกษาลดน้ำหนักแลกเกรด เพื่อสุขภาพทที่ดี!?
Zhou Quanfu อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยการเกษตรหนานจิง ประเทศจีน ได้ผุดไอเดียในการลดน้ำหนักของเหล่านักศึกษา ด้วยวิธีที่ไม่ว่าใครก็อยากทำ ข้อเสนอที่ว่านั้นก็คือ ถ้านักศึกษาลดน้ำหนักได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ได้ก็รับคะแนนไปเลย และคะแนนเหล่านี้ก็มีผลต่อเกรดอีกด้วย โดยเงื่อนไขการรับคะแนนนั้นนักศึกษาจะต้องเข้ารับการตรวจร่างกาย หากไขมันในร่างกายมีมากกว่า 30% และดัชนีมวลกายมากกว่า 28 จะต้องเข้าคอร์สการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง รวมไปถึงการควบคุมอาหารด้วย โดยปกติแล้ว นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งนี้จะมีคาบพละศึกษาแค่หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ แต่หากใครลงวิชานี้ จะต้องเรียนคาบละ 90 นาที 3 คาบต่อสัปดาห์ โดยทุกคนจะต้องออกกำลังกายด้วยวิธีการวิ่ง ซิทอัพ แพลงกิ้ง หรือกิจกรรมอื่นๆ ตามที่ชอบ เกณฑ์การให้คะแนนคือ นักศึกษาจะต้องลดน้ำหนักให้ได้ 7% ของน้ำหนักเดิม ถึงจะได้คะแนนพิเศษในส่วนนี้ไป คะแนนกิจกรรมการออกกำลังกายคิดเป็น 60% และคะแนนในชั้นเรียนจะคิดเป็น 40% นอกจากการออกกำลังกายแล้ว นักศึกษาต้องบันทึกปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับทุกวัน และส่งรูปถ่ายอาหารที่ทานเข้ากลุ่ม Wechat ที่ตั้งขึ้น โดยจะได้รับการแนะนำจากนักโภชนาการระดับมืออาชีพ เงื่อนไขคะแนนนี้เป็นที่น่าสนใจในหมู่นักศึกษาหลายๆ คน และก็ยังประสบความสำเร็จอีกด้วย นักศึกษาคนหนึ่งได้ลดน้ำหนักจาก 110 กิโลกรัมเหลือเพียง 84.5…
-
ภารกิจตามหา iPhone ที่หายไป พบว่ามันหนีได้ด้วยว่ะแม่ม… อ๋อ มันอยู่ตรงเบาะข้างๆ ตรูนี่เอง
ปัจจุบันความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้ช่วยให้หลายอย่างในชีวิตของเราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นสมาร์ทโฟนที่เรามีกันเกือบทุกคน มันก็จะมีฟังก์ชั่นหรือแอปภายในเครื่องที่ช่วยปกป้องข้อมูลและตามหามันได้อย่างง่ายดาย แต่ในบางครั้งมันก็อาจทำให้เรื่องเล็กๆ อย่างการลืมมือถือเอาไว้ กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาก็ได้ เช่นเดียวกับกรณีของชายวัย 36 ปีคนนี้ เขามีชื่อว่า Gareth Robinson อาศัยอยู่ในเมืองแบรดฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาพบว่ามือถือไอโฟนของเขาได้หายไป และเชื่อว่ามันต้องถูกขโมยอย่างแน่นอน Gareth และภรรยา Caroline หลังจากนั้นเขาก็รีบเปิดไอแพดขึ้นมาและเข้าแอปที่ชื่อ Find My iPhone เพื่อตามหามือถือที่หายไปของเขา พบว่าจุดที่แสดงภายในแผนที่อยู่ในบริเวณบ้านนี่เอง เขาได้เขียนลงในเฟซบุ๊กว่า “ผมขับรถหาไปรอบๆ นานเป็นชั่วโมง เพราะตอนที่ใกล้จะถึงตัวโจรแล้วมันก็จะขยับหนีผมไปทุกที มันต้องรู้แล้วแน่ๆ ว่าผมกำลังไล่ตามอยู่” หนีไม่พ้นหรอกเจ้าโจรกระจอกเอ๊ยยย สุดท้ายแล้วความจริงก็ได้เผยออกมา เมื่อเขาเหลือบไปเห็นไอโฟนสุดที่รักอยู่บนที่นั่งข้างคนขับนี่เอง!! เล่นเอาซะเขินกันไปเลย สังเกตได้ว่าภายในแอปมันจะบอกเป็นวงกว้างว่ามือถืออยู่ในบริเวณไหน ไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปที่ใดที่หนึ่งทำให้เขาต้องขับรถวนหาซะทั่ว นอกจากนั้นเวลาขับรถไปหาวงมันก็จะขยับตามไปจนเหมือนกับว่าโจรมันวิ่งหนีเขานี่เอง เงิบกันมั้ยละครับคุณผู้ชม สุดท้ายเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องตลกสำหรับเขา รวมถึงภรรยา Caroline ที่เตือนแล้วว่ามันอาจไม่ได้ถูกขโมยแต่แค่ลืมไว้ก็ได้ ถ้าค่อยๆ หาแต่แรกก็คงไม่ต้องเปลืองน้ำมันแล้ววว เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าก่อนที่จะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เราต้องอย่าลืมจัดการปัญหาด้วยตัวเองอย่างรอบคอบและไตร่ตรองให้ดีเป็นอันดับแรก ที่มา: ladbible
-
เรื่องราวแสนประทับใจ เมื่อ 4 พี่น้องที่พลัดพรากจากกันมานานกว่า 30 ปี ได้เจอกันเป็นครั้งแรก
เคยคิดกันบ้างมั้ยว่าแท้จริงแล้วเราอาจมีพี่น้องที่พลัดพรากจากกันไปก็เป็นได้ เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ที่ได้ไปเจอกับพี่น้องร่วมสายเลือดถึง 3 คนเลยทีเดียว!! เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในรัฐวอชิงตัน เมื่อ Christina Housel หญิงสาวที่ถูกรับมาเลี้ยงและไม่เคยเจอหน้าหรือรู้จักแม่ที่แท้จริงของตัวเองมาก่อน จนตอนนี้เธอโตขึ้นมีครอบครัวมีลูกจึงเริ่มสงสัยและสืบหาดูว่าครอบครัวที่แท้จริงของเธอ หญิงสาวที่ต้องการตามหาครอบครัวที่แท้จริง จนกระทั่งได้พบกับน้องชายของเธอ Lyle James Berryman ที่อาศัยอยู่ในรัฐแอริโซนา เธอจึงรีบเดินทางไปหาเขาในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Lyle บอกว่า “เห็นปุ๊บผมก็รู้ปั๊บว่าเธอคือพี่สาวผม เพราะหน้าเราเหมือนกันมาก” ใบหน้าที่มีความเหมือนกันทำให้เขาสามารถรับรู้ได้ในทันทีที่เห็น ทั้งสองได้ใช้เวลาพูดคุยกัน เขาได้โชว์รูปแม่ให้เธอได้ดู แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าการได้เห็นหน้าแม่ครั้งแรกก็คือ เขาบอกกับเธอว่าแม่ได้สารภาพเอาไว้ก่อนจากโลกนี้ไปว่าความจริงแล้วทั้งคู่มีน้องสาวฝาแฝดอีกสองคน คุณแม่ที่ได้จากโลกนี้ไปแล้ว การตามหาครั้งใหม่จึงเริ่มต้นขึ้น โดนทั้งสองได้ถ่ายรูปอัพลงเฟซบุ๊กและขอให้ชาวเน็ตช่วยกันแชร์เรื่องนี้ออกไป ผลตอบรับที่ออกมาคือมีการแชร์มากกว่า 225,000 ครั้ง ทั้งสองต้องการตามหาฝาแฝดที่เกิดในฟลอริด้า เมื่อปี 1992 – 1994 ได้รับความช่วยเหลือจากชาวเน็ตอย่างท่วมท้น จากการช่วยเหลือของทุกคนบนโลกออนไลน์จึงทำให้ 1 สัปดาห์ต่อมาพวกเธอก็ได้รับการติดต่อจากแฝดสาวคู่หนึ่ง Ashley Bo และ Lauren Rutherford …
-
เปิดตำนาน 7 เมืองที่หายสาบสูญไปของโลก อารยธรรมที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองมาก่อน
โลกของเรามีอยู่มาอย่างยาวนานและเกิดการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการที่ไม่รู้จบ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าสิ่งที่เราเห็นและรับรู้ได้ในปัจจุบันยังคงไม่ใช่ทุกสิ่งที่โลกเรามีหรือเคยมี วันนี้ #เหมียวตะปู จึงชวนให้เพื่อนๆ มารู้จักกับ 7 ตำนานเมืองที่สาบสูญไปของโลก ที่ความเป็นจริงแล้วในสมัยก่อนเราอาจเคยมีอารยธรรมที่รุ่งเรืองมากกว่าตอนนี้ก็เป็นได้ เราไปดูกันเลย Lemuria จากการสันนิษฐานของนักวิชาการชาวอังกฤษเชื่อว่าดินแดนแห่งนี้เชื่อมระหว่างศรีลังกา ออสเตรเลีย และเกาะมาดากัสการ์รวมกันเป็นแผ่นดินใหญ่ก่อนที่จะจมหายไปใต้ก้นมหาสมุทร และชื่อ Lemuria ถูกตั้งมาจากชื่อของตัว ลีเมอร์ (Lemur) ซึ่งเป็นสัตว์ที่สามารถพบเห็นได้จากทั้งสามแห่ง นอกจากนั้นก็มีความเชื่อว่าดินแดนแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของชาวทมิฬ กลุ่มประชากรที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย โดยตามภาษาทมิฬแล้วที่แห่งนี้จะมีชื่อว่า Kumari Kandam Mu เป็นดินแดนที่เชื่อว่าเคยอยู่ระหว่างทวีปอเมริกาและเอเชีย คาดว่าเป็นที่อยู่อาศัยของประชากร Naacals ต้นกำเนิดของมนุษย์ที่ย้อนกลับไปเมื่อ 50,000 ปีที่แล้ว ผู้สร้างพีระมิดในอียิปต์หรือชาวมายันก็ถูกสันนิษฐานว่าจะอพยพออกมาจากดินแดนแห่งนี้ในตอนที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จนทำให้สถานที่นี้จมลงไปใต้มหาสมุทร เคยมีทฤษฎีที่บอกเอาไว้ด้วยว่าโขดหินใต้น้ำโยนากุนิ ในประเทศญี่ปุ่น เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงถึงการมีอยู่ของ Mu Beringia ดินแดนที่เปรียบได้กับสะพานขั้นกลางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกาเหนือ ก่อนที่จะจมหายพร้อมกับการสิ้นสุดยุคน้ำแข็งเมื่อ 12,000 ปีก่อน มีทฤษฎีที่เชื่อว่า 25,000 ปีก่อนมีผู้คนย้ายถิ่นฐานมาจากไซบีเรีย ผ่านไป 10,000 ปีพวกเขาได้อพยพไปอเมริกาเหนือและค่อยกระจายลงไปอเมริกาใต้ จึงเชื่อว่าพวกเขาอาจเป็นบรรพบุรุษของชาว…
-
หนุ่มขโมย “ลำโพง” แต่อยากเปลี่ยนเป็นทุน เลยเอาไปขายร้านเดิม หลังขโมยมาได้ 7 นาที?
เมื่อคนเราตกอยู่ในภาวะหน้ามืดตามัวที่ขาดทั้งเงินและขาดทั้งศีลธรรม การขโมยของเหมือนจะเป็นวิธีหาเงินที่เร็วที่สุด แต่การจะทำอะไรอย่างนี้ก็จำเป็นต้องคิดดีๆ เพราะว่ามีความเสี่ยงสูงอย่างมากที่จะได้เข้าไปนอนในตะรางเหมือนกับชายคนนี้ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา มีเด็กอายุ 19 ปีจากจังหวัดนิงาตะ ประเทศญี่ปุ่น ได้วางแผนขโมยของจากร้านขายของมือสองแห่งหนึ่ง โดยเขาจะเข้าร้านขายของมือสองในเวลา 11.40 น. และทำทีว่ามาหาซื้อของอะไรบางอย่าง จากนั้นเขาก็ฉวยโอกาสที่พนักงานในร้านเผลอ ขโมยลำโพงตัวหนึ่งมูลค่า 18,252 เยนหรือกว่า 5,340 บาท ใส่ลงไปในกระเป๋าแล้วเดินออกจากร้านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เหตุการณ์ก็น่าจะจบลงตรงที่สินค้าหายไป และเด็กชายคนนี้ก็ได้ลำโพงไปใช้ แต่เขามีความคิดที่ดีกว่านั้น นั่นคือการเปลี่ยนสินค้าเป็นเงินสด เขาจึงนำป้ายราคาออก แล้วกลับเข้าไปที่ร้านเดิมที่พึ่งขโมยของมาเมื่อ 7 นาทีก่อนเพื่อเสนอขายลำโพงตัวนี้คืน แต่ว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะว่าพนักงานคนดังกล่าวสามารถจำสินค้าชิ้นนี้ได้ เขาจึงได้หลอกล่อให้หัวขโมยอยู่ในร้านอีกซักพักและโทรเรียกตำรวจมาจับกุมในที่สุด และด้วยกฎหมายของญี่ปุ่นที่ว่า หากอายุไม่ถึง 20 ปีจะไม่เผยชื่อผู้กระทำผิดออกมา แต่เชื่อเถอะว่าเขาเดินทางสายนี้ไม่รุ่งหรอกว่าไหม ที่มา: en.rocketnews24
-
อยากให้เหมียวๆ ได้บ้านใหม่ เลยจับมาถ่ายภาพ “แมวกระโจน” สุดน่ารัก จนคนแห่รับเลี้ยง!!
สำหรับคนที่รักสัตว์ โดยเฉพาะน้องแมวแล้ว การได้ไปรับเลี้ยงแมวมาสักตัว ถือเป็นอะไรที่ดีต่อจิตใจเป็นอย่างมากๆ เพราะว่าเหมือนเป็นการให้ชีวิตใหม่แก่พวกมันเลย ดังนั้นสถานรับเลี้ยงก็เป็นอีกที่หนึ่งที่ต้องช่วยกันทำให้แมวได้บ้านใหม่ด้วย เชื่อว่าหลายคนในที่นี้ก็รักแมวเช่นเดียวกัน ช่างภาพ Seth Casteel ผู้ได้รับรางวัลมากมาย และอยู่เบื้องหลังภาพถ่ายสุนัขใต้น้ำที่โด่งดัง และครั้งนี้เขาได้มาถ่ายรูปให้เหล่าแมวเหมียว โดยตั้งชื่อโปรเจกต์ว่า “Pounce” ซึ่งแมวเหล่านี้อาศัยอยู่ในสถานรับเลี้ยงเพื่อแสดงให้เราได้เห็นว่าแมวเหล่านี้มีความน่ารักอยู่เต็มเปี่ยม นอกจากนี้เขายังแนะนำวิธีรับแมวไปเลี้ยงแบบน่ารักๆ ไว้ด้วย – รับเลี้ยงแมวจากสถานรับเลี้ยงใกล้บ้าน ไม่ต้องรับมาแค่ตัวเดียว จัดไป 2 ตัวเลย เพราะว่าแมวเป็นสัตว์ที่ชอบเข้าสังคม – ทำหมันแมว เมื่อไม่ให้จำนวนแมวมีมากเกินไป และเป็นภาระของผู้อื่น – อย่าตัดเล็บแมว เพราะเล็บของมันจะทำให้สุขภาพดีและมีความสุข – เล่นกับแมวทุกๆ วัน เป็นการช่วยมันออกกำลังกายและแก้เบื่อไปในตัว อีกทั้งสร้างความเชื่อใจว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้กับพวกมัน และนี่ก็คือผลงานที่เขาถ่ายเหล่าแมวเหมียวมา ไปดูกันเลย #1 Chicken #2 Bug-a-boo #3 Bambam #4 Jon Snow #5 Gummibear…
-
เอาฮาใช่ไหม…20 เทรนด์ในอินสตาแกรม ที่พอเอามาใช้ในชีวิตจริงแล้วมันไม่เวิร์ค
รูปภาพสวยๆ ที่เราเห็นในอินสตาแกรมนั้น ช่างเป็นภาพที่สวยงามและสมบูรณ์เอามากๆ ทำเอาเราอยากจะโพสต์ตามแบบรัวๆ แต่ปัญหามันติดที่ถ่ายออกมามันไม่เป็นแบบที่คิดเนี่ยสิ จึงเกิดเป็นภาพฮาๆ ในโลกแห่งความจริง ที่ดูยังไง๊ ยังไง ก็ไม่เหมือนรูปสวยๆ ในอินตาแกรมเลยซักนิด 1. กางเกงยีนส์รัดรูปที่ใส่แล้วดูไม่เหมือนกับต้นฉบับเอาซะเลย เอวบานไปอีกกก!!! 2. รองเท้าสายรัดสไตล์โรมันหรูๆ ใส่แล้วก็ดูสวยปังสุดๆ แต่พอถอดมาเท่านั้นแหละ…. 3. กางเกงยีนส์โชว์เนื้อเอวแบบเซ็กซี่ๆ แต่เอวกลับปลิ้นออกมาเฉยเลย… 4. เซทชุดลายตารางแบบเทย์เลอร์ ดันไปเหมือนกับกระเบื้องในห้องน้ำซะงั้น 5. เสื้อตาข่ายสุดเซ็กซี่ เผยให้เห็นเนินอกสวยๆ แต่ดันใส่ไม่ได้ อดโชว์เลยอะดิ 6. กางเกงยีนส์ขาดๆ ได้ลุคเซอร์ๆ แต่รู้รึเปล่าผ้ายีนส์ที่ขาดนั้นมันบาดขาแทบตลอดเวลา แถมโดนแดดเผาอีก T T 8. ชุดว่ายน้ำสุดชิค มีลูกเล่นโชว์ช่องเนินอกสวยๆ แต่ปัญหาหลังจากนั้น ก็เป็นอย่างที่เห็น….. …
-
อยากสวยอย่าขี้เกียจ!!! มาชม “8 สิ่งที่จะทำให้คุณสวยขึ้นแม้จะหลับอยู่ก็ตาม”
เชื่อว่าสาวๆ หลายคนนั้นมักมีกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องทำก่อนนอนกันแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมส์ ดูซีรีย์ หรือจะเป็นการกินขนม!! แต่ฟังทางนี้ก่อน จะกว่าไหมถ้าคุณเปลี่ยนเวลาเหล่านั้นเป๋็นเวลาที่ทำให้คุณสวยขึ้น ถ้าอยากมีผิวพรรณที่ดีและนุ่มนิ่มกระจ่างใส ต้องอ่านบทความนี้เลย “7 สิ่งที่จะทำให้คุณสวยขึ้นแม้จะหลับอยู่ก็ตาม” 1. มาส์กหน้าด้วยว่านหางจระเข้ วุ้นของว่านหางจระเข้นั้นจะช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส ช่วยขจัดสิวเสี้ยนและป้องกันริ้วรอย ซึ่งเหมาะกับทุกสภาพผิว สาวๆ สามารถมาส์กสูตรนี้ได้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง 2. มาส์กรอบดวงตาด้วยวิตามิน E ผิวรอบดวงตาเป็นบริเวณที่บอบบางและมีแนวโน้มหย่อนคล้อยได้ง่าย เพื่อเป็นการป้องกันริ้วรอย ควรมาสก์วิตามินอีก่อนเข้านอน สามารถหาซื้อได้ผ่านเคาน์เตอร์ที่ร้านขายยาต่างๆ หากเพิ่มน้ำมันปลาหรือน้ำมันมะกอกก็จะได้ผลดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามควรใช้วิตามินอีเพียงไม่กี่หยดเท่านั้น หากใช้ในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการบวมและระคายเคืองได้ ใช้แค่สัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอแล้ว 3. ทาน้ำมันละหุ่งที่ขนตาและคิ้ว ทำความสะอาดแปรงปัดขนตาเก่าของคุณให้สะอาด จากนั้นจุ่มลงในน้ำมันละหุ่งและปัดไปที่ขนตาและคิ้วของคุณ มันจะช่วยเพิ่มความหนา ความอุยมากขึ้น 4. ทาน้ำมันมะพร้าวที่ริมฝีปาก การทาน้ำมันมะพร้าวก่อนนอนนั้นจะช่วยซึมซาบความชุ่มชื่นลงไปบนริมฝีของคุณ ลองสังเกตริมฝีปากนุ่มๆ ในตอนเช้าดูสิ 5. หมั่นดูแลสุขภาพเส้นผม มลภาวะต่างๆ ทำให้เส้นผมของคุณนั้นแห้งเสียและแตกปลาย คุณสามารถทำเซรั่มง่ายๆ ได้ที่บ้านเพียงแค่มี น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลผสมกันน้ำเปล่าฉีดที่ผมแล้วล้างออก หรืออีกวิธีที่แก้ปัญหาผมแตกปลายก็คือ “ทาปิโตรเลี่ยมเจลลี่ที่ปลายผม” ก็จะช่วยฟื้นความชุ่มชื่นและปกป้องเส้นผม ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น 6.…
Got any book recommendations?