นี่เห็นอยู่นี้คือหน้าเว็บ CatDumb เวอร์ชันเก่า
-
เปิดความลับ “20 วิธีผิวกระจ่างแบบเรียลๆ” ที่สาวๆ ควรสละเวลาซักนิดมาดูแลกัน
สาวๆ หลายคนคงอยากมีผิวพรรณที่ที่กระจ่างให้และดูสุขภาพดี และด้วยชีวิตประจำวันที่เร่งรีบอีกทั้งต้องเจอกับมลพิษหลากหลายเป็นตัวขัดขวางความงามของผิวจริงๆ ดังนั้นเราจึงมี 20 วิธีที่จำทำให้ผิวกระจ่างใสอย่างแท้จริง ที่สาวๆ น่าจะสละเวลาซักนิดมาดูแลผิว เพราะยังไงก็ตามแต่ ตัวเรามีแค่เราที่ดูแลมันได้นะจ๊ะ 1. การสครับผิวนั้นก็สำคัญนะ คุณควรที่จะใช้บวบหรือไหมขัดตามบริเวณร่างกาย ถูๆ เป็นวงกลมเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป 2. ควรให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวของคุณทุกวันด้วยโลชั่นหลังอาบน้ำ 3. ทุกๆ 15 วัน คุณควรขจัดสิวเสี้ยนด้วยแผ่นลอกสิวเสี้ยนหรือจะให้แผ่นเจลาตินและนม 2 ช้อนโต๊ะ เข้าไมโครเวฟ 10 วินาที รอเย็นสักครู่จากนนั้นก็นำมาทาบริเวณจมูก รอให้แห้ง จากนั้นลอกออก ก็พบว่าสิวเสี้ยนหลุดออกมามากมายเลยล่ะ 4. ล้างหน้าด้วนคลีนเซอร์หรือน้ำอุ่นก่อนนอนเพื่อขจัดมลพิษน้ำมันและแบคทีเรียออกจากรูขุมขนของผิว 5. คุณควรใช้ครีมกันแดดเป็นประจำเพื่อป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างต่างๆ และโรคมะเร็งผิวหนัง 6. ดื่มน้ำปริมาณมากๆ เพื่อช่วยให้ผิวของคุณทำงานได้ดี เมื่อคุณขาดน้ำความยืดหยุ่นและความกระจ่างใสของผิวจะลดลง 7. ใช้เจลว่านหางจระเข้บริสุทธิ์เล็กน้อยใต้ตาและรอบปากประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก่อนนอน สูตรธรรมชาตินี้ช่วยป้องกันริ้วรอยได้ดี 8. กำจัดความเครียดและความวิตกกังวล…
-
สาวน้อยยอมเสียสละเงินในกระปุกออมสินทั้งหมด เพื่อซื้อนมแบ่งให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียน
นมถือว่าหนึ่งในอาหารสำคัญที่เด็กๆ ควรจะได้ทานเพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ทว่าเด็กทุกคนก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะดื่มนม เพราะนมนั้นก็มีราคาที่สูงพอสมควรสำหรับเด็กเล็กๆ Sunshine Oelfke เด็กสาววัย 5 ขวบคนนี้ก็รู้สึกเช่นเดียวกันว่า นมนั้นมีราคาที่สูงมากสำหรับเด็กๆ 5 ขวบอย่างเธอ โดยเฉพาะกับเพื่อนๆ ร่วมชั้นที่ไม่ค่อยจะได้เงินมาโรงเรียนเยอะมากนัก จนไม่มีโอกาสได้ดื่มนมแสนอร่อย หนูน้อยจึงเริ่มนับเงินเก็บจากกระปุกออมสินของเธอแล้วใส่ลงไปในถุงพลาสติก จากนั้นก็ยัดใส่กระเป๋าเป้เพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน ด้านคุณย่า Jackie Oelfke ตอนแรกก็คิดว่าหลานสาวกำลังเล่นอยู่ เลยลองถามหนูน้อยว่าจะเอาเงินพวกนี้ไปทำอะไรเหรอ เงินเก็บของหนูน้อยที่จริงๆ แล้วสามารถนำไปซื้อของที่เธออยากได้สบายๆ แต่เธอก็ไม่คิดถึงเรื่องตัวเองเป็นอันดับแรก หนูน้อย Sunshine ก็ตอบกลับมา “หนูจะเอามันไปโรงเรียน” พร้อมกับอธิบายให้คุณย่าของเธอฟังว่า เธอจะเอาเงินไปซื้อนมให้กับ Layla เพื่อนของเธอที่โรงเรียนซึ่งไม่มีโอกาสได้ดื่มนมเลยเพราะคุณแม่ของเธอนั้นไม่มีเงินพอให้ลูกสาวมาโรงเรียนแล้วซื้อนมเพิ่ม วินาทีนั้น คุณย่าถึงกับตื้นตันใจในความไร้เดียงสาของหลานสาวอันแสนบริสุทธิ์ที่อยากช่วยเหลือเพื่อนๆ แม้ตัวเองจะไม่ได้ถูกเลี้ยงดูจากแม่ก็ตาม เพราะแม่ของเธอมีปัญหาเรื่องยาเสพติดและต้องอยู่ในคุก แต่ถึงจะไม่มีแม่ คุณย่า Jackie ก็พร้อมจะช่วยพลักดันหลานเสมอ เธอเดินทางไปยังโรงเรียนพร้อมกับเงินเก็บของหนูน้อยจำนวนเกือบๆ 1,000 บาท พร้อมมอบเงินนี้ให้กับครูประจำชั้นเพื่อซื้อนมให้เพื่อนทุกคนในห้อง นมหนึ่งกล่องนั้นจะมีราคาอยู่ที่ราวๆ 15 บาท ด้วยเงินจำนวนดังกล่าว เพื่อนๆ 20 คนในชั้นเรียนของเธอจะมีนมดื่มได้ทั้งสัปดาห์เลยล่ะ คุณย่ากับหนูน้อยที่พากันไปบริจาคเงินให้อาจารย์ประจำชั้น …
-
ญี่ปุ่นเปิดตัวไก่ทอดรสชาติ ‘เหงื่อไอดอลหญิงสาว’ ลองชิมซักอันมั้ยล่ะคู๊ณณณณ
ถ้าพูดถึงไก่ทอดล่ะก็ ใครๆ ก็คงจะคิดถึงเนื้อไก่ชุบแป้งทอดกรอบนอกนุ่มใน ที่ไม่ว่าได้กินเมื่อไหร่ก็มีความสุขเมื่อนั้น ทานเล่นก็ได้หรือจะทานกับข้าวก็เข้ากันสุดๆ ไก่ทอดในแต่ละประเทศก็มีความแตกต่างกันไป อย่างของบ้านเราไก่ทอดแบบต้นตำหรับที่ถูกปากก็คือการนำไก่ไปหมักกับเครื่องเทศรสชาติออกจะเผ็ดๆ นิดหน่อย เคล้ากับแป้งบางๆ แล้วทอดจนกลายเป็นสีน้ำตาล ทานคู่กับน้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยวหวานหรือจะทานคู่กับข้าวเหนียวก็ลำแต๊ๆ ส่วนที่ญี่ปุ่นนั้นไก่ทอดที่ได้รับความนิยมไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ นั่นก็คือไก่ทอดคาราเกะ ไก่ทอดเนื้อนุ่ม ชิ้นเล็กๆ พอดีคำ จิ้มกับซอสรสชาติต่างๆ ตามใจชอบ แต่การกินไก่ทอดคาราเกะรสชาติเดิมๆ มันอาจจะน่าเบื่อเกินไป ร้านไก่ทอดญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Tenka Torimasu ได้ผลิตซอสรสชาติใหม่ เพื่อมาเอาใจหนุ่มๆ โดยเฉพาะ นั่นก็คือซอสรสเหงื่อของไอดอลหญิงสาวนั่นเอง!!! โดยตัวซอสจะทำมาจากเกลือ มะนาว ชีส และส่วนประกอบที่สำคัญ เหงื่อของแม่สาวน้อย คลุกเคล้ารวมกันแล้วราดลงบนไก่คาราเกะ เหงื่อที่ได้จะมาจากสาวๆ กลุ่ม Kamen Joshi ที่มีแฟนๆ ชาวญี่ปุ่นคอยให้การสนับสนุนอยู่ Anna Tachibana ไอดอลสาวแห่งกลุ่ม Kame Joshi ก็ได้ออกมาโปรโมทไก่ทอดนี้ด้วยตัวเองว่า “อะไรจะดีไปกว่าการได้เติมความสดชื่นจากเหงื่อของเหล่าสาวๆ ด้วยการกินไก่ทอดที่เกิดจากการร่วมมือระหว่าง Kamen Joshi…
-
ฝันเป็นจริง…ในที่สุดคุณแม่ก็สามารถมีลูกคนแรกได้ในวัย 48 ปี หลังต้องแท้งมาถึง 18 ครั้ง
การมีบุตรอาจเป็นอีกหนึ่งความใฝ่ฝันของคู่รักทั้งหลาย ทายาทตัวน้อยๆ ที่จะลืมตาขึ้นมาดูโลกเป็นสิ่งที่จะมาเติมเต็มชีวิตคู่ให้กลายเป็นครอบครัวที่อบอุ่น Louise Warneford วัย 48 ปี และ Mark สามีวัย 55 ปี แต่งงานกันเมื่อปี 1999 ทั้งสองใช้ชีวิตร่วมกันมาโดยวางแผนไว้ว่าจะมีลูกน่ารักๆ สักคนไว้สืบสกุลและสร้างครอบครัวที่อบอุ่นอยู่ด้วยกันตลอดไป แต่โชคชะตาดันไม่เข้าข้างทั้งคู่สักเท่าไหร่ Louise และ Mark พยายามที่จะมีบุตรกันอยู่หลายครั้ง แต่ทว่าเด็กในครรภ์ก็ไม่แข็งแรงพอที่จะมีชีวิตอยู่ ทำให้แท้งไปถึง 18 ครั้ง!!! ร่างกายของ Louise ปฏิเสธการตั้งครรภ์อยู่เสมอ เมื่อตั้งท้องทีไรก็ต้องมีเหตุอันใดอันหนึ่งที่ทำให้เด็กในท้องไม่อยู่กับเธอ ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งคู่ก็สรรหาวิธีต่างๆ ที่จะมีลูกให้ได้ถึงแม้จะต้องเสียเงินมากเท่าไหร่ก็ยอม แต่การแท้งครั้งที่ 18 นั้นก็ทำให้ Louise เจ็บปวดเป็นอย่างมาก ทั้งคู่จึงมีความคิดที่จะล้มเลิกการมีบุตร คุณ Mark ก็เลยทำหมันเพื่อไม่อยากให้ภรรยาของเขาต้องเจ็บปวดการการแท้งลูกอีก จากการตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุในการแท้งลูกของเธอก็พบว่า ในร่างกายของเธอมีเซลล์ต่อต้านที่หาพบได้ยาก โดยเจ้าเซลล์นี้จะปฏิเสธการมีตัวอ่อนในร่างกาย ทำให้เด็กที่อยู่ในครรภ์ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้และแท้งในที่สุด แต่ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ก็ทำให้ความฝันของทั้งคู่กลายเป็นจริงอีกครั้ง…
-
รวมภาพสุดอลังกาลจากธรรมชาติที่ สวยงามราวกับใช้ Photoshop ในการแต่งรูป
ความงดงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาบนโลกใบนี้ เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้โลกสวยงามและน่าอยู่ยิ่งขึ้น และเป็นความสุขเล็กๆ ที่เราสามารถมองเห็นได้ เพียงแค่หันไปมองก็รู้สึกดีแล้ว เมื่อสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นให้กับโลกมีความสวยงามมากขนาดนี้ มนุษย์จึงเก็บความงามเหล่านั้นให้กลายเป็นภาพถ่ายที่ดูแล้วบางครั้งก็คิดว่า บนโลกนี้มีความสวยแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่า หรือเพียงสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกตาเท่านั้น เขื่อน Three Gorges บนแม่น้ำแยงซี ประเทศจีน เจ้า Darius กระต่ายที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก มุมมองจากเบื้องล่างของ Times Square นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กำแพงอิฐของมหาวิหารในเมือง Madrid สเปน วัดที่ปกคลุมไปด้วยเถ้าภูเขาไฟ Ontake ประเทศญี่ปุ่น ความแตกต่างระหว่างสองข้างถนนในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังใกล้เข้ามา พระจันทร์ขึ้นเหนือกรุงมาดริด ประเทศสเปน ภาพของฟองสบู่แบบใกล้สุดๆ ภูเขา Tianzi ในประเทศจีน แรงบรรดาลใจของ James Cameron ในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง อวตาร หมอกควันที่เข้าปกคลุมเมือง…
-
‘ผู้นำหญิง’ ที่อายุน้อยที่สุดในโลก!! Jacinda Ardern ขึ้นแท่นนายกฯ คนล่าสุดของนิวซีแลนด์
โดยปกติแล้วผู้นำประเทศมักจะเป็นผู้ชายและมีอายุพอสมควร มีน้อยมากที่จะเป็นผู้หญิง แต่ล่าสุดนิวซีแลนด์ได้ผู้นำเป็นผู้หญิงที่มีอายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ตอนนี้นิวซีแลนด์กำลังจะมีรัฐบาลชุดใหม่ โดยมีผู้นำเป็น Jacinda Ardern จากพรรค Labour ที่เคยเป็นฝ่ายค้านในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา Ardern ในวัย 37 ปี ได้กลายเป็นผู้นำหญิงที่มีน้อยที่สุดในโประเทศ นับตั้งแต่ปี 1856 โดยพรรค Labour ของเธอมีคะแนนมาเป็นอันดับสองในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่ 26 วัน หลังจากการเจรจา พรรค New Zealand First ที่ชนะการเลือกตั้งประกาศร่วมมือกับพรรค Labour ในการเป็นรัฐบาล โดยรัฐบาลชุดใหม่นี้ได้รับการสนับสนุนจากพรรค Green แม้การเลือกตั้งที่ผ่านมา Ardern ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอสามารถทำงานในด้านการเมืองได้ แต่ที่สำคัญคือหลังจากนี้ เพราะเธอต้องเผชิญกับบทบาทและหน้าที่ท้าทาย อันดับแรกคือชาวนิวซีแลนด์ส่วนใหญ่ไม่ได้ลงคะแนนเสียงให้เธอ (นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพรรคของเธอจึงมีคะแนนเป็นอันดับสองในการเลือกตั้ง) แต่หลังจากนี้ เธอจะต้องทำหน้าที่ให้ประชาชนส่วนใหญ่พึงพอใจให้ได้ และที่สำคัญ เธอต้องนำไปรัฐบาลผสมชุดใหม่นี้ ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างราบรื่นตลอดลอดฝั่ง รัฐบาลชุดนี้ประกอบด้วยสมาชิกพรรค New Zealand First จำนวน 9 ที่นั่ง พรรค Labour…
-
30 เรื่องราวฮาๆ ที่เหล่าชาวเน็ตมาร่วมกันแชร์ถึงความกวนบาทาของเหล่าสัตว์เลี้ยง
เหล่าบรรดาสัตว์เลี้ยงเพื่อนรักของเราทั้งหลายมักจะมีวิถีการใช้ชีวิตแบบที่เราคาดไม่ถึงอยู่เสมอ ความซนของพวกมันมักจะทำให้เราต้องปวดหัวกันอยู่บ่อยครั้ง แต่ในความซนของพวกมันนั้นก็ยังแฝงความน่ารักไว้อย่างเต็มเปี่ยม ชาวโลกออนไลน์ต่างก็ได้รวบรวมภาพสัตว์เลี้ยงของตัวเองมาร่วมกันแชร์ผ่านทางเว็บไซต์ Bored Panda มาดูกันเลยว่าบรรดาสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ นั้น มันมีความกวนไม่แพ้กับสัตว์เลี้ยงของเรากันหรือเปล่า 1. เจ้าเหมียวได้ทำการยึดพื้นที่ไว้แล้ว ออกไปเจ้าเด็กน้อย 2. ว่ากันว่าหมากับแมวคือคู่อริกันตลอดกาล 3. ภาพนี้คงจะอธิบายได้ดี 4. ไม่มีฝ่ายไหนยอมกันเลย ฮ่าๆ 5. เจ้าแมวตัวนี้แอบแกล้งไปนั่งทับอาหารหมาแบบเนียนๆ 6. แม้แต่แมวด้วยกัน มันก็ยังแกล้งกันได้ลงคอ 7. หรือการนอนทับเพื่อนจะเป็นอะไรที่สบายตรูดกันแน่นะ 8. ชั้นจะขังแกไว้ที่ไปตลอดกาล 9. เค้าแค่จะช่วยถอดปลั๊กแค่นั้นเอง 10. เห็นว่าพ่อเจ็บขา เลยจะช่วยนวดซะหน่อย สบายขึ้นไหมฮับ 11. เล่นโยคะด้วยคนสิ 12. นายเห็นอะไรไหม B1 13. เรื่องการพังข้าวของนี่ขอให้บอก 14.…
-
สาวน้อยวัย 11 ขวบ ยื่นฟ้อง ‘รัฐบาลสหรัฐฯ’ ข้อหาพยายามทำให้กัญชาผิดกฎหมาย..!!
อีกหนึ่งเรื่องราวการต่อสู้ของ Alexis Bortell สาวน้อยชาวเท็กซัสวัย 11 ขวบ ที่ออกมายื่นเรื่องฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเข้าถึงยารักษาโรคที่สกัดจาก ‘กัญชา’ เรื่องราวทั้งหมดมีอยู่ว่า… เมื่อ 3 ปีก่อน Alexis ป่วยเป็นโรคลมชักขั้นรุนแรง ส่งผลให้เธอไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เฉกเช่นเดียวกับเด็กคนอื่นๆ Alexis Bortell และคุณพ่อของเธอ อาการโรคลมชักขั้นรุนแรงของเธอไม่สามารถหายาชนิดไหนมารักษาได้ จนกระทั่งครอบครัวของเธอมีโอกาสได้รู้จักกับวิธีการรักษาด้วย CBD Oil (เป็นน้ำมันสกัดจากกัญชาชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์) แต่ด้วยความที่กฎหมายของรัฐเท็กซัสยังไม่มีการประกาศให้สามารถใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้ ทำให้ครอบครัวของเธอตัดสินใจย้ายไปอาศัยอยู่ที่รัฐโคโลราโดแทน และการรักษาด้วย CBD Oil ก็ทำให้เธอไม่มีอาการชักมาแล้วกว่า 2 ปี ทว่าการเคลื่อนไหวของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ภายใต้การสนับสนุนของอัยการสูงสุด Jeff Sessions ดูจะเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม มีการเสนอผลักดันให้กัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 1 ซึ่งไม่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษา หรือแม้แต่จะทำการทดลองใดๆ ได้ จากประเด็นนี้เองที่ทำให้ครอบครัวของ Alexis Bortell ตัดสินใจร่วมมือกับอีก 4 ครอบครัว ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องร้องรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพื่อเป็นการต่อต้านความพยายามออกกฎหมายมาปิดกั้นการเข้าถึงยารักษาที่สกัดจากกัญชาโดยตรง …
-
สาวแชร์ความน่ารักของแฟนหนุ่ม กับท่าบอกลาที่ไม่ซ้ำกันเลยซักวัน ฮริ๊ววว..!!
เวลาเราคบใครซักคน.. ลึกๆ แล้วเราต่างก็หวังอยากจะไปให้ถึงจุดหมายหรือความคาดหวังที่ตั้งไว้ และเรื่องราวของคู่รักหนุ่มสาวคู่นี้จะทำให้คุณรู้สึกอิจฉา โดยนี่เป็นเรื่องราวของยูทูบเบอร์คู่รักชาวเกาหลีใต้ Min-Su และ Lala ที่จะมาทำให้เราเห็นความน่ารักของแฟนหนุ่ม ผู้มีลีลาท่าทางการบอกลาที่ไม่ซ้ำกันเล๊ยยแม้แต่วันเดียว..!! นี่คือ Min-Su และ Lala จากแชนแนล Enjoycouple ทุกครั้งที่ทั้งคู่ไปออกเดท ฝ่ายสาวก็จะแอบเก็บภาพน่ารักๆ ของฝั่งหนุ่มมาแบบนี้ แต่บางทีฝ่ายพ่อหนุ่มก็แอบทำให้ฝ่ายสาวเขินกลางที่สาธารณะอยู่ไม่น้อย… ทุกครั้งที่ทั้งคู่ต้องแยกทาง พ่อหนุ่ม Min-Su ก็ไม่ลืมที่จะบอกรักฝ่ายสาวให้โลกได้รับรู้โดยทั่วกัน เจ้าตัวเล่นได้ทุกวันไม่เว้นวันพระ วันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือแม้แต่วันแดงเดือด เรื่องราวของทั้งคู่ในแต่ละวิดีโอจะทำให้เรารู้สึกว่า ช่างเป็นคู่รักที่น่าอิจฉาจริงจริ๊งง..!! บางครั้งที่ดูเหมือนว่าจะจากกันจริงๆ แต่จู่ๆ Min-Su กลับมาปรากฏตัวบนรถไฟฟ้าอีกก็มีให้เห็นเหมือนกัน แต่เห็นอย่างนี้ทั้งคู่ก็ไม่ได้มาขายความหวานอย่างเดียวนะ เพราะหลายๆ คลิปวิดีโอทั้งสองคนก็ร่วมกันแกล้งปั่นหัวชาวบ้านเช่นกัน… นี่อาจจะเป็นจุดหมายชีวิตคู่ของใครหลายคนก็ได้นะ คือการมีคนรู้ใจซักคนไว้เกรียนในทุกๆ ที่ๆ ไปด้วยกัน ที่มา: NextShark
-
17 เหล่าสัตว์ที่ทำตัวเป็นลูกแหง่ ไม่ยอมห่างจากมนุษย์เลยแม้แต่วินาทีเดียว ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม
สัตว์เลี้ยงถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีของมนุษย์ เพราะความน่ารักของพวกมัน สามารถสิ่งที่ทำให้จิตใจของเราเบิกบานได้ แต่จะเป็นอย่างไรถ้าหากพวกมันติดเราแจ จนไม่อยากจะให้คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว และนี่คือ 17 ตัวอย่างเหตุการณ์ที่พวกมันแสดงความรักออกมาว่ารักเราแค่ไหน จนบางทีก็รักเกินไป กลายมาเป็นความฮาที่แบบว่า เฮ้อนี่จะไม่ปล่อยตูไปไหนเลยใช่ไหมเนี่ย เมื่อแมวดูทีวีอยู่ แต่มันหันมาเช็คตลอดเวลาว่าคุณอยู่ด้วยไหม เมื่อแฟนคุณหลับแล้วคุณแอบหอมแก้มแฟน หมาของเธอก็มองหน้าคุณอย่างนี้… เมื่อมันคิดว่าคุณจมน้ำไปแล้ว ขอบใจมากนะเจ้ามนุษย์ เมื่อเข้าห้องน้ำทุกครั้งแล้วต้องเจอกับเจ้าพวกนี้ ลืมงานไปซะ ฉันสำคัญกว่านะ เมื่อหมาตัวอื่นไปวิ่งเล่นในสนาม แต่หมาของคุณ… เมื่อมันอยากอ้อน ก็เลยดึงมือคุณไปทำอย่างนี้ ต้องหาที่นอนให้มันเพื่อให้มันไม่มานอนบนคีย์บอร์ด เมื่อคุณกำลังมีความสุขกับการแช่น้ำ แต่ม่ายยย ดูไร ขอดูหน่อย ใครอยู่ตรงนั้น มันใช่ที่ไหมล่ะ มองตาซะเคลิ้มเลย เขินแย่ แม้แต่ตอนอาบน้ำก็ยังจะตามเข้าไปด้วย นี่คือ Lennu สุนัขของประธานาธิบดีฟินแลนด์ที่มักพามันไปออกงานด้วย โอ้โห เห็นอย่างนี้แล้วก็อาจจะมีรำคาญกันบ้างบางที…
-
“ความยากจน-ยาเสพติด-เซ็กส์” ชีวิตของคนจรจัดในสถานีรถไฟ Kamalapur แห่งบังกลาเทศ
Kamalapur เป็นสถานีรถไฟที่ใหญที่สุดในบังกลาเทศ และยังเป็นสถานีขนส่งทางรถไฟที่สำคัญที่เชื่อมระหว่างกรุงธากา เมืองหลวงของประเทศและส่วนที่เหลือของบังกลาเทศด้วย เด็กข้างถนนจำนวกมากมาอาศัยอยู่ที่สถานีแห่งนี้ และส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน ที่สำคัญที่นี่เป็นทั้งสถานที่เกิดและสถานที่ตายสำหรับพวกเขาบางคน ช่างภาพถ่ายรูปขณะที่เด็กชายคนนี้สูบบุหรี่ที่รางรถไฟ แม้ว่าเด็กจะรู้ว่าช่างภาพมองอยู่แต่เขาก็ยังคงสูบบุหรี่ต่อไป ช่างภาพพยายามถามชื่อเขาหลายครั้ง แต่เขาไม่ยอมบอก ที่รู้ๆ คือเขาอายุแค่ 9 ขวบเท่านั้น สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กๆ ถูกทิ้งตั้งแต่เกิดเพราะพวกเขาเป็นลูกนอกสมรสบ้าง เกิดมาในครอบครัวที่ยากจนบ้าง จนทำให้ถูกนำตัวมาทิ้งไว้ที่นี่ เด็กหลายคนโตมาเป็นขโมย วิ่งราวสัมภาระของผู้โดยสารในสถานี แต่ก็มีอีกหลายคนที่ช่วยเหลือตัวเองด้วยการเก็บขวดพลาสติกไปขาย ช่างพยายามถามชื่อเด็กชายที่มีแขนข้างเดียวนี้ แต่เขาก็ไม่ยอมบอกอีกเหมือนกัน เขาอายุ 9 ขวบ ที่น่าตกใจคือ เขาบอกว่ายอมให้เพื่อนๆ ตัดแขนออกข้างหนึ่ง เพื่อที่จะได้กลายเป็นขอทานข้างถนน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้เด็กผู้หญิงที่โตขึ้นต้องทำอาชีพโสเภณีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนเด็กผู้ชายโตก็จะอยู่ในแวดวงยาเสพติด แม้จะมีองค์พัฒนาสังคมหลายแห่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านี้ แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอสำหรับจำนวนคนจรจัดในสถานี Kamalapur ภาพเหล่าและเรื่องราวเหล่านี้บันทึกโดย Nasif Imtiaz เด็กชายคนนี้ชื่อ Nishad เป็นหนึ่งในคนจรจัดที่สถานี Kamalapur เด็กชายพยายามกระโดดลงมาจากหลังคารถไฟ ขอทานผู้ไม่มีขากำลังสูบกัญชา เขากำลังผสมบุหรี่กับกัญชา …
-
ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สร้างชุดเดรสจากน้ำ ใช้ความอดทนและความพยายาม จนสำเร็จในที่สุด
ในการถ่ายภาพคนให้ออกมาสวยงามสมบูรณ์แบบนั้นจำเป็นต้องมีปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น เสื้อผ้าหน้าผม มุมกล้อง แสงเงา ที่สำคัญต้องมีความคิดสร้างสรรค์และความอดทนด้วย เหมือนกับ Kappa Ryu กับโปรเจกต์ล่าสุดของเขาที่แหวกแนวโดยการนำน้ำมาทำเป็นชุดเดรส จนออกมาเป็นภาพที่สวยงามอย่างน่าทึ่ง โดยปกติแล้วชุดนางแบบหรือนายแบบต้องทำจากผ้าหรือสิ่งของที่จับต้องได้ เพื่อจัดให้อยู่ในทรงที่ต้องการ แต่สิ่งที่ Kappa Ryu ต้องการคือการเครื่องแต่งกายจากน้ำ ในการถ่ายนั้นนางแบบ Eri ต้องกระโดดให้ลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้น Souya ก็จะนำน้ำจากถังน้ำสาดไปที่ตัวเธอ ส่วน Kappa Ryu หาจังหวะ หามุม เพื่อให้ถ่ายภาพให้ออกมาเหมือนนางแบบสวมชุดน้ำอยู่ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทั้งสามคนต้องใช้ทั้งความอดทนและความพยายามหลายครั้งมาก กว่าจะได้ภาพตามที่วางแผนเอาไว้ จนในที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ทีมงานรู้สึกภูมิใจเท่านั้น แต่ยังได้รับคำชื่นชมจากผู้คนไม่ขาดสายเลย “มันเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก ฉันไม่รู้จะพูดว่าไงดี แต่มันสมบูรณ์แบบ” “เหมือนน้ำมีชีวิตเลย” “นี่เป็นอะไรที่เหลือเชื่อมาก เขาทำได้ยังไง?” “มันต้องยากมากแน่ๆ กว่าจะได้ภาพนี้มา” ภายหลัง Kappa Ryu ได้มากล่าวเพิ่มเติมว่า “กว่าผมจะได้ภาพนี้มา เราต้องถ่ายรูปมากกว่า 100 ครั้ง แต่มันจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มี Eri นางแบบที่มีความสามารถในการโพสต์ท่า และทักษะการสาดน้ำของ Souya”…
-
19 ภาพประวัติศาสตร์แห่ง “โตเกียว” ก่อนจะกลายมาเป็นเมืองหลวงแห่งประเทศญี่ปุ่น
กว่าที่ ‘โตเกียว’ จะถูกพัฒนาให้กลายเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก น้อยคนนักที่จะรู้ถึงที่มาที่ไปของเมืองหลวงแห่งนี้ ด้วยเหตุนี้เองเราจึงอยากจะพาไปชม 19 ภาพพร้อมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ ‘โตเกียว’ ก่อนที่จะกลายมาเป็นเมืองหลวงแห่งประเทศญี่ปุ่น… พื้นที่ทั้งหมดของโตเกียว ในช่วงศตวรรษที่ 12 จะถูกเรียกว่า ‘เอโดะ’ ภายใต้การปกครองของตระกูลเอโดะ เดิมที ‘เอโดะ’ เป็นหมู่บ้านคนหาปลาขนาดเล็ก จนถึงปี 1630s จำนวนประชากรก็เพิ่มมากขึ้นเป็น 150,000 คน จากศตวรรษสู่ศตวรรษ… ปี 1721 มีการบันทึกว่าหมู่บ้านหาปลาขนาดเล็กแห่งนี้ ได้พัฒนาเป็นมหานครแห่งหนึ่งที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกในช่วงนั้น ต่อมาช่วงศตวรรษที่ 18 เมืองเอโดะ ได้กลายเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ชาวเมืองอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ในปี 1853 ก็ได้เกิดการประท้วงและความขัดแย้งเล็กๆ ขึ้น เมื่อพลเรือชาวอเมริกัน Matthew C. Perry ได้เข้ามาเทียบท่าบนดินแดนอาทิตย์อุทัยเป็นครั้งแรก การเข้ามาเจรจาเพื่อเปิดท่าเรือการค้ากับรัฐบาลญี่ปุ่น ทำให้เกิดปัญหาค่าเงินเฟ้อมากขึ้นในยุคนั้น และสิ่งที่ตามมาก็คือการลุกฮือขึ้นมาประท้วงของประชาชน โตกุงาวะ โยชิโนบุ คือโชกุนคนสุดท้ายของญี่ปุ่น…
-
พ่อหนุ่มของขาด… เมมเบอร์มือถือของ ‘ตำรวจ’ เป็นเบอร์ ‘ดีลเลอร์’ สุดท้ายโดนจับเลยจ้า!!
กลายเป็นเหตุการณ์ที่ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี แถมยังเกิดขึ้นแบบงงๆ กับกลุ่มตำรวจกองปราบปรามยาเสพติดประจำรัฐฟลอริด้า..!! เรื่องมันก็มีอยู่ว่า.. เช้าวันหนึ่งของเดือนสิงหาคม William Lamberson วัย 29 ปี เกิดความรู้สึกของขาดอยากเติมให้เต็มอิ่ม แน่นอนว่าเมื่อความเสี้ยนเข้ามาเจ้าตัวก็ไม่รีรอที่จะติดต่อ ‘ดีลเลอร์’ ทันที แต่ดูเหมือนพ่อหนุ่มจะเมมเบอร์ผิด กลายเป็นส่งข้อความหาตำรวจแทน… และนี่คือบทสนทนาทั้งหมด หนุ่ม: “วิล… เฮ้นาย!!” ตำรวจ: “แล้วนี่ใครอ่ะ?” หนุ่ม: “เราวิลเอง ที่เราเจอกันที่ 7-11 ไงจำได้ป่ะ?” ซึ่งทางตำรวจชี้แจงว่า ในตอนแรกที่พ่อหนุ่ม William พยายามทักมา ฝ่ายตำรวจเองก็พยายามที่จะบอกว่าเขาทักผิดคน แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่เชื่อและดื้อดึงจะเอาของให้ได้ ตำรวจ: “เอ้ออ… ว่าไง มีอะไร?” หนุ่ม: “ไม่มีไรมากเพื่อน.. ตอนนี้โคตรอยากเติมเลยว่ะ นายมีของแบ่งขายหน่อยมั้ย? (กัญชา)” ตำรวจ: “เอ่อ.. เราไม่รู้จักนายว่ะ ช่วยส่งรูปมาให้ดูก่อนได้ป่ะ?” จนถึงตอนนี้พ่อหนุ่ม William ก็ยังไม่รู้สึกตะขิดตะควงใจเลยแม้แต่น้อยว่าเขากำลังสนทนากับตำรวจอยู่ งานนี้ผู้หมวดเลยขอจัดการสืบสาวอีกซักหน่อยดีกว่า …
-
ภาพของสาวๆ ก่อน ระหว่าง และหลัง “ถึงจุดสุดยอด” กับความรู้สึกที่ไม่ควรถูกซ่อน…
มนุษย์เรามักจะแสดงอารมณ์ความรู้สึกผ่านใบหน้า โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีเพศสัมพันธ์ มนุษย์จะแสดงสีหน้าหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับขณะนั้นพวกเขาอยู่ในขั้นตอนไหน และเพื่อนำเสนอความรู้สึกขณะมีเพศสัมพันธ์ ช่างภาพ Marcos Alberti จึงได้ถ่ายภาพผู้หญิงก่อน ระหว่าง และหลังถึงจุดสุดยอด ว่าพวกเขาจะทำหน้ายังไงกันบ้าง สำหรับชุดเหล่านี้อยู่ภายใต้โปรเจกต์ The O Project ซึ่งเป็นการนำเสนอเรื่องเพศของผู้หญิงในแบบที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก Alberti ได้ถ่ายใบหน้าของผู้หญิงมากกว่า 20 คน โดยไม่ระบุชื่อ ซึ่งเป็นการแสดงออกก่อน ระหว่าง และหลังถึงจุดสุดยอด โดยใช้เซ็กส์ทอย โปรเจกต์นี้ได้ทำร่วมกับ Smile Makers ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องเพศ โดยเผยให้เห็นใบหน้าของผู้หญิงในแต่ชั่วขณะอย่างชัดเจน แม้จะเป็นการถ่ายใบหน้า แต่หญิงสาวแต่ละคนจะอยู่ในมุมที่ลับตาคน แล้วช่วยตัวเองด้วยเครื่องสั่น แม้แต่ช่างภาพเองก็ไม่เห็นเช่นกัน อีกหนึ่งความโดดเด่นของโปรเจกต์คือ ช่างภาพได้เลือกผู้หญิงจากหลายๆ เชื้อชาติเท่าที่จะหามาได้ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส จีน และสิงคโปร์ Fan Yang ผู้จัดการแบรนด์ระดับโลกของ Smile Makers กล่าวว่า “ผู้หญิงมักจะซ่อนสีหน้าขณะมีเพศสัมพันธ์ เพราะรู้สึกอาย แต่ในภาพชุดนี้เราได้เผยให้สังคมเห็นถึงสีหน้าที่ถูกซ่อนเอาไว้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้หญิงได้แสดงสีหน้าแห่งความสุขโดยไม่ต้องรู้สึกอาย”…
-
ใครว่าชาวนาไม่เท่!? รู้จักกับ ‘Kiyoto Saito’ ชาวนาผู้แต่งตัวได้โคตรคูลที่สุดในโลก..!!
ในยุคที่เศรษฐกิจบ้านเราดูจะลุ่มๆ ดอนๆ เหล่าผู้ทำการเกษตรต่างก็ต้องคอยรับมือกับปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ลดตัวลงอย่างฮวบฮาบ แต่ครั้งนี้เราจะพาไปรู้จักกับหนุ่มทำนาชาวญี่ปุ่น Kiyoto Saito ผู้ที่จะทำให้เรารู้สึกว่า… การทำเกษตรไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าเก่าๆ อย่างเดียวนะ จะแต่งตัวให้โคตรคูลเหมือนเดินออกมาจากรันเวย์แฟชั่นวีคส์ก็ได้เหมือนกัน..!! Kiyoto Saito ชาวนาที่น่าจะเท่ที่สุดในสามโลก Kiyoto Saito หนุ่มวัย 29 ปี ผู้เป็นเจ้าของผืนนาข้าวหลายสิบไร่ ได้กลายเป็นเซเลบริตี้ประจำจังหวัดยามากาตะ ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยจุดประสงค์ส่วนหนึ่งของการออกมาแต่งตัวสุดเนี๊ยบ ใส่ของแบรนด์ดังตั้งแต่หัวจรดเท้า เจ้าตัวเล่าว่าเขาไม่ได้อยากจะอวดรวย หากแต่เขาต้องการนำเสนอให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นว่า การทำนาไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออย่างที่หลายคนคิด แต่ก่อนจะหันมาใช้ชีวิตคูลๆ เจ้าตัวก็เคยเป็นมนุษย์เงินเดือนในเมืองใหญ่มาแล้วเหมือนกัน ในช่วงแรกหลังเรียนจบ เจ้าตัวเคยเป็นมนุษย์เงินเดือนให้กับบริษัทสถาปนิก และใช้ชีวิตอยู่ในกรุงโตเกียวเฉกเช่นคนอื่นๆ ทว่าวันหนึ่งเขากลับรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่ว่าจะด้วยปัญหาจากงาน หรือความแออัดของการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ จนในที่สุดเจ้าตัวก็ได้ตัดสินใจกลับมายังบ้านเกิดเพื่อทำนาสืบสานปณิธานของครอบครัวต่อไป Kiyoto Saito เล่าว่า ต้นตระกูลของเขายึดอาชีพทำนาข้าวมานานกว่า 400 ปี!! และสำหรับตัวเขาเองก็อยู่ในรุ่นที่ 16 ของครอบครัวเข้าให้แล้วล่ะ “ช่วงแรกหลังกลับมาอยู่บ้าน ผมมักจะโดนพี่ชายล้ออยู่เสมอว่า.. เป็นไงไปอยู่ในเมืองได้ใส่แต่สูทละสิ!! อะไรทำนองนั้น จนมันทำให้ผมปิ๊งไอเดียที่จะเอาสองอย่างนี้มายำรวมกันซะเลย” Kiyoto…
-
หญิงสาวจำใจต้องทิ้งเจ้าเหมียวไปเพราะไฟป่า แต่โชคชะตาก็พาให้กลับมาพบกันอีกครั้ง
เหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาสร้างความเสียหายมหาศาล ผู้คนต้องจำใจทิ้งของมีของทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดจากเปลวไฟนรกที่พร้อมเผาผลาญทุกอย่าง รวมทั้งสัตว์เลี้ยงของพวกเขา เช่นเดียวกับ Laura Ringenberger ขณะที่เธออยู่ในบ้านกับสามีพร้อมลูกอีก 2 คน จู่ๆ เธอก็ได้รับแจ้งให้อพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากไฟป่าได้ลามมาถึงเขตบ้านเรือนแล้ว ตอนแรกที่ได้รับโทรศัพท์ พวกเขาคิดว่าคงไม่มีอะไรร้ายแรงมาก แต่เมื่อเดินออกไปดูนอกบ้าน ก็เห็นทุกอย่างเป็นสีส้มพร้อมไฟป่าที่ลุกลามอย่างน่ากลัว Ringenberge และสามีจึงพาลูกๆ หนีออกจากบ้านและส่งพวกเขาไปอยู่กับญาติในที่ปลอดภัย แม้ทุกอย่างจะกะทันหันและวุ่นวาย แต่เธอก็ไม่ลืมเจ้าเหมียว Kitty Kitty Star ผู้เปรียบเสมือนคนในครอบครัว สามีวิ่งไปเคาะประตูเพื่อนบ้าน เพื่อเช็คให้แน่ใจว่าพวกเขาออกจากไปแล้ว ทางด้าน Ringenberge เดินร้องเรียกแมวของเธอ ผ่านไปประมาณ 15-20 นาที ก็ไม่มีวี่แววของ Kitty Kitty Star เลย ขณะที่ไฟก็ลุกลามเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที หญิงสาวบอกว่า “ฉันไม่อยากทิ้งมันไว้ที่นั่น แต่สถานการณ์ตอนนั้นเราต้องเลือกระหว่างชีวิตหรือความตาย ที่สำคัญมีผู้คนมากมายตายในกองเพลิงนั่น” ในที่สุดเธอก็ต้องหนีออกมาด้วยความจำใจ แม้จะรู้ดีว่า Kitty Kitty Star เป็นแมวที่เข้มแข็งและฉลาด แต่เธอก็อดเป็นห่วงมันไม่ได้ และคิดว่าคงจะไม่ได้เจอมันอีกแล้ว วันรุ่งขึ้น Ringenberger พร้อมด้วยครอบครัวและผู้อพยพคนอื่นๆ ต่างอยู่ในอาการซึมเศร้าและรอฟังข่าวจากเจ้าหน้าที่ จนวันต่อมา ทุกคนก็ได้รับแจ้งว่าบ้านเรือนของพวกเขาถูกไฟไหม้จนหมด…
-
นักวิทย์เผยเหตุผลสำคัญ อะไรคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์ “งมงาย” เชื่อแต่เรื่องเหนือธรรมชาติ??
เราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมปัจจุบันยังมีผู้ที่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ ทั้งๆ มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและไม่อาจพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ ตาม Merriam-Webster ระบุว่า ความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติเป็นความเชื่อที่ไร้สาระ เพราะมันคือความงมงาย กลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น และให้ความศรัทธาต่อเวทมนตร์ “กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความเชื่อสิ่งเหนือธรรมชาติคือการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์” Stuart Vyse นักจิตวิทยาและศาสตราจารย์จาก Connecticut College กล่าว แม้วิทยาศาสตร์จะได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งจริงสูงสุดในขณะนี้ แต่จำนวนผู้ที่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติก็ยังคงมีมากอย่างน่าแปลกใจ ยกตัวอย่างเช่น มีชาวอเมริกันมากถึง 17-21 ล้านคนเชื่อเรื่องวันศุกร์ที่ 13 และมีชาวสหราชอาณาจักรร้อยละ 74 ทำพิธีเคาะไม้เพื่อเป็นการปัดเป่าความโชคร้าย และชาวอเมริกัน 13% ให้แมวดำเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้าย ทั้งนี้ผลสำรวจล่าสุดของ Gallop พบว่า ได้ตอบคำถามว่าทำไมผู้คนมากกว่า 50% จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังคงเชื่อเรื่องโชคลาง? แล้วคนที่ไม่เชื่อล่ะ โชคลางจะส่งผลกระทบต่อชีวิตพวกเขาหรือไม่? Vyse นักเขียนเรื่อง Believing in Magic : The Psychology of Superstition กล่าวว่า “เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะผู้คนถูกปลูกฝังให้เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และเป็นกระบวนการพื้นฐานของการขัดเกลาทางสังคม” “ประการที่สองคือ เราอยู่ในโลกที่ควบคุมผลลัพธ์ไม่ได้ แต่ดูเหมือนความเชื่อสิ่งเหนือธรรมชาติอยู่เหนือกฎเกณฑ์…
-
เจ้าของร้านเสริมสวยสุนัข ต้องเปิดร้านกลางดึกเพื่อแต่งสวยให้กับเจ้าหมาจรจัดขนพะรุงพะรัง
โดยปกติแล้วร้านเสริมสวย ทั้งสำหรับคนและสำหรับสัตว์ มักจะเปิดในช่วงเวลากลางวัน แต่เจ้าของร้านเสริมสวยสุนัขคนนี้ยอมตื่นมาเปิดร้านกลางดึก เพื่อน้องหมาจรจัดตัวหนึ่งเท่านั้น ทุกอย่างเริ่มขึ้นในกลางดึกคืนหนึ่งเมื่อคู่รักคู่ขับรถผ่านเมืองโอเวียโด้ รัฐฟลอริด้า แล้วพวกเขาก็สังเกตเห็นสุนัขถูกทิ้งไว้บนถนนในสภาพมอมแมม ขนของน้องหมาทั้งยาวและสกปรก ที่สำคัญมันเกาะกันเป็นก้อนแข็งๆ ทั่วร่างกาย จากสภาพนี้พอเดาได้ว่ามันไม่เคยได้รับการดูแลมานานมาก แน่นอนว่าช่วงกลางดึกแบบนี้คงไม่มีร้านตัดขนสุนัขที่ไหนเปิดแล้ว ทั้งคู่จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือผ่านโซเชียล เพราะพวกเขาไม่อยากให้น้องหมารอนานกว่านี้อีกแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ได้รับการตอบรับจากช่างเสริมสวยสุนัข Kari Falla แม้ว่าเวลานั้นร้านของเธอจะปิดไปนานแล้วก็ตาม ดังนั้นคู่รักจึงได้พาสุนัขผู้น่าสงสารไปส่งที่นั่นทันที Falla บอกว่า “การที่ขนสุนัขเกาะกันเป็นก้อนแข็งขนาดนี้ อาจทำให้เลือดไม่ไหลเวียนได้ และอาจทำให้มันมีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย” หลังจากที่เห็นภาพแล้ว Falla คิดว่าสุนัขจรจัดตัวนี้ต้องได้รับการรักษาโดยด่วน เธอจึงรีบไปยังร้านเสริมสวยของเธอ BGE Grooming และเปิดร้านกลางดึกเพื่อน้องหมาตัวนั้น “ฉันรู้ว่ามันแย่มาก ฉันไม่ได้เตรียมใจว่าต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ มันมีกลิ่นเหม็นเหมือนสุนัขที่ตายแล้ว ที่แย่กว่านั้นคือมันไม่สามารถเดินได้” ช่างเสริมสวยบอก แต่ไม่ว่าสภาพของมันจะเลวร้ายแค่ไหน Falla ก็ทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้มันพ้นจากความทรมานนี้ให้เร็วที่สุด และแล้วเธอก็โกนขนให้มันจนเสร็จในเวลาประมาณตี 3 ก่อนจะอาบน้ำให้และพาไปหาสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อไปถึงแพทย์พบว่ามันหูหนวกและตาบอด อย่างไรก็ตามมันก็ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด ได้ชื่อใหม่คือ Lucky และตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ เพื่อนๆ สามารถติดตามเจ้า Lucky ได้ที่เพจ BGE Grooming …
-
สามีเพิ่งเสียภรรยาไปต้องมาช้ำใจ หลังเห็นบุรุษพยาบาลกำลังมีอะไรกับศพของภรรยา
การที่คนๆ หนึ่งต้องสูญเสียคนรักไปก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและเศร้าสลดอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์นี้กลับยิ่งทำให้ใจของคนๆ หนึ่งสลายเพราะนอกจากเขาจะสูญเสียภรรยาไปแล้ว เขายังต้องมาเห็นบุรุษพยาบาลกระทำชำเราศพของภรรยาเขาอีก! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศโบลิเวีย เมื่อชายคนหนึ่งได้เดินทางไปที่ห้องเก็บศพเพื่อจะกล่าวคำอำลาสุดท้ายแก่ภรรยาของเขาที่เสียชีวิตไปด้วยโรคที่เกี่ยวกับปอด แต่ว่าเขากลับไปเห็นบุรุษพยาบาลคนหนึ่งที่ทราบชื่อภายหลังว่า Grover Macuchapi อายุ 27 ปีกำลังมีเพศสัมพันธ์กับศพของภรรยาของเขาอยู่ โดนจับกุมจากการก่อเหตุวิปริต Douglas Uzquiano นายตำรวจผู้จับกุมเล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์อัปยศนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากผู้หญิงคนหนึ่งได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล Hospital de Clinicas ที่เมือง Lapaz และถูกส่งมาที่ห้องเก็บศพของโรงพยาบาล โดยญาติทั้งหมดของผู้เสียชีวิตได้กลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อชำระค่ารักษาของผู้เสียชีวิตคนนี้ เหลือเพียงสามีของเธอเพียงคนเดียวที่จะเข้าไปอำลาเธอและเห็นสิ่งที่เขากำลังทำ หลังจากนั้นเขาจึงไล่ตีบุรุษพยาบาลที่พยายามวิ่งหนีโดยที่กางเกงยังกองอยู่ที่ข้อเท้าอยู่ และจับส่งตำรวจในที่สุด หน้าตาของบุรุษพยาบาลที่ลงมือก่อเหตุวิปริต บุรุษพยาบาลคนนี้ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “มีบางอย่างเกิดขึ้นเหมือนมันเป็นความฝัน ตอนนั้นผมรู้สึกได้ว่ามีลมพัดเข้ามาจากข้างหลังหลังจากนั้นผมก็โดนสามีของผู้หญิงคนนี้ทำร้าย” โดยศพของผู้หญิงคนนี้มีอายุ 28 ปีและพึ่งเสียชีวิตก่อนหน้านั้นเพียง 1 ชั่วโมงเดียวก่อนที่จะถูกกระทำชำเราโดยบุรุษพยาบาลวิปริต อย่างไรก็ตามอัยการกล่าวว่า เขาอาจถูกปล่อยตัวและไม่สามารถเอาผิดได้ เนื่องจากการสมสู่กับศพนั้นไม่ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายใดๆ ของโบลิเวีย ที่มา: dailymail
-
หญิงสาวถูกเจ้านายคุกคามทางเพศ แต่กลับถูกเมินเฉย และซ้ำเติมโดยเพื่อนร่วมงาน…
การคุกคามทางเพศสำหรับผู้หญิงดูเหมือนจะเป็นภัยเงียบที่เกิดขึ้นมานานในสังคมของทุกประเทศ แต่ว่าก็มีทั้งผู้คนที่ออกมาพูดเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ตัวเองและผู้ที่เลือกที่จะเก็บเงียบ และนี่คือเหตุการณ์ที่มีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาพูดเรื่องนี้ แต่ว่าปฏิกิริยาที่เธอได้รับหลังจากนั้นทำให้รู้ว่าทำไมหลายคนเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ Emily Houser เด็กสาวอายุ 18 ปีที่ถูกผู้จัดการคุกคาม Emily Houser เด็กสาวอายุ 16 ปีเมื่อตอนเริ่มทำงานที่ร้านอาหาร Chili ซึ่งเป็นร้านอาหารแฟรนไชส์ที่รัฐเพนซิลเวเนีย เธอบอกว่า Josh Davidson ผู้จัดการร้านอาหารที่เธอทำงานอยู่มีความสนใจในตัวเธอ โดยเขามักจะมาหาเธอทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนและยังให้ของขวัญที่เธอไม่ต้องการอีกจำนวนมาก แต่เมื่อเธอไม่ได้สนใจในตัวเขาและได้ปฏิเสธเขา เขาจึงเริ่มที่จะกลั่นแกล้งเธอเกี่ยวกับเรื่องงาน และยังมีเด็กสาวอีกหลายคนที่เขาทำพฤติกรรมอย่างนี้ใส่อีกด้วย นี่จึงเป็นจุดที่ทำให้เธอรายงานเรื่องนี้ไปที่สำนักงานใหญ่ของ Chili นั่นทำให้ผู้จัดการสาขาคนนี้ถูกย้ายไปที่สาขาอื่นแทน และเธอก็ได้ลาออกจากร้านอาหารแห่งนี้ โพสต์ที่เธอโพสหลังจากลาออกจากงาน “นี่คือสิ่งที่ได้รับเมื่อคุณรายงานว่า มีผู้ใหญ่ได้บีบบังคับในเรื่องความสัมพันธ์กับคุณเป็นเวลามากกว่า 1 ปี ผู้จัดการเก่าได้เล่าเรื่องนี้ให้กับอดีตเพื่อนร่วมงานของฉันฟังทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นความลับ พร้อมใส่ความฉันมากมาย” “จากนั้นพวกเขาจัดปาร์ตี้ ‘อีสารเลว Emily Houser’ ขึ้นมา โลกนี้มันช่างเลวร้ายน่ารังเกียจเหลือเกิน “ Emily Houser ได้กล่าวไว้บน Facebook ของเธอ ภาพงานปาร์ตี้ดังกล่าว แคปชั่นของอดีตเพื่อนร่วมงานของเธอ “กินเค้กของแกซะนังโสเภณี” ทุกคนต่างติดแท็ก…
-
แล้วไงใครแคร์…เจ้าเหมียวทำป่วน เข้าไป “ฝากรอยเท้า” ไว้ในเขตหวงห้ามในบ้านซามูไร
ทุกวันนี้ “แมว” กลายเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของมนุษย์จำนวนมาก มนุษย์หลายคนถึงกับยอมเป็นทาสให้กับความน่ารักของมัน และดูเหมือนว่ามันกำลังได้ใจแบบสุดๆ เพราะมนุษย์ไม่กล้าทำอะไร มาคราวนี้มันสร้างวีรกรรมไว้ให้ชาวเน็ตถกเถียงกันอีกแล้ว เรื่องราวเกิดขึ้นที่บ้านซามูไรในเมือง Fukushima ประเทศญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม แต่ก็มีบางพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าไปได้ บ้านซามูไร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวญี่ปุ่น โดยคนญี่ปุ่นจะเรียกที่นี่ว่า “buke yashiki” หรือว่าบ้านซามูไร ซึ่งมีความงดงามเหมือนย้อนยุคไปในยุคก่อนเลยทีเดียว แต่ก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งชื่อว่า @rivesm ที่ไปพบรอยเท้าของเจ้าแมวที่เข้าไปในสถานที่ที่ไม่ให้เข้าไปโดยมีป้ายเขียนไว้ว่า “โปรดละเว้นการเข้าห้องนี้” เขาตั้งแคปชั่นอย่างติดตลกว่า “เฮ้ เขาบอกไม่ให้เข้าไปนี่” หลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย “แต่แมวอ่านหนังสือไม่ออกนะ” “โปรดให้อภัยแก่รอยเท้าอันแสนน่ารักนี้เถอะ” “ดูเหมือนแมวจะลังเลเล็กน้อยตอนอยู่หน้าป้ายนะ ฮ่า” และความเห็นอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหมียวก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเขาโกรธเจ้าแมวตัวนี้จริงไหม หรือแซวเล่นขำๆ แต่ถึงอย่างไรแมวน้อยตัวนี้ก็น่าจะโดนเขกกะโหลกสักทีเหมือนกันนะ ฮ่า ที่มา: en.rocketnews24
-
22 ภาพที่บังเอิญเหมือนอะไรบางอย่าง จนต้องมองซ้ำอีกรอบ เห้ย!! แบบนี้ก็ได้เหรอ?
วัตถุหรือสิ่งของที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน บางทีมันก็ดูแปลกหูแปลกตา เท่านั้นยังไม่พอมันดันไปเหมือนบางอย่างที่เราก็รู้จักดี จนต้องหันไปดูอีกรอบว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ เหมือนกับสิ่งของต่อไปนี้ ที่เรารู้อยู่แล้วว่ามันคืออะไร แต่ความผิดปกติที่เกิดจากการจัดวางบ้าง มุมกล้องบ้าง จนทำให้มันดูเป็นสิ่งที่แปลกไปเลย 1. แตงกวาที่ไม่รู้ไปรู้อะไรมา เลยทำหน้าหวาดกลัวกันซะอย่างนั้น 2. ราวกับว่าสองอาคารนี้กำลังกอดกันเลย 3. แสงไฟสะท้อนเก้าอี้ ที่ดูเหมือนมีการเกิดดวงดาวใหม่ 4. เป็นการจัดวางสิ่งของจนออกมาเหมือนตัวการ์ตูนที่เราคุ้นเคย 5. ลายไม้ที่บังเอิ๊ญบังเอิญเหมือนหน้าสุนัข 6. กลัวจะโดนเสียบขนาดเลยหรอ? 7. ก๊อกน้ำที่ดูเหมือนคนหน้าตื่น 8. มองแว๊บแรกนึกว่านกแก้วสีเขียว 9. นี่กระรอกจาก Ice Age ไง 10. มีคนตาดีเห็นหัวเข่าเหมือนหน้าเด็ก 11. มาเป็นทรงรองเท้าเชียว 12. พุงที่ย้อยทับกันซะจนเหมือนหน้าคน 13. มาแยกนี้ทีไร เหมือนโดนจ้องอยู่ตลอดเวลา …
-
รวมของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ ที่แม้แต่คนรับก็ไม่คิดว่าจะได้อะไรแบบนี้ จนไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี…
เวลาเราได้รับของขวัญนั้น เราก็จะคิดเสมอว่าผู้ให้จะต้องคิดและเลือกมาอย่างดี ว่าเราชอบอะไรอยากได้อะไร และทุกครั้งที่เปิดดูก็จะรู้สึกดีใจไปเสียทุกครั้ง (ไม่นับคุกกี้อาเซนอลนะ) แต่ก็ยังมีชาวเน็ตอีกหลายคนที่มักจะได้ของขวัญสุดแปลก ที่เหมือนจะดีแต่จริงๆ มันกลับให้ความรู้สึกแปลกๆ จะเซอร์ไพรส์แบบดีใจก็ไม่ใช่ จะเสียใจก็ไม่ใช่เพราะได้รับของ งานนี้พวกเขาก็เลยมาแชร์ภาพของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ให้เราดูกัน ของขวัญใบอนุญาตให้มาสายได้ 30 นาที แปลกแต่ปลื้ม แม่เจ้าของภาพอ้อนว้อนให้คุณพ่ออนุญาตเลี้ยงหมา ผ่านไปนานแสนนานก็ไม่ได้สักที จนได้สร้อยเส้นนี้มา พร้อมคำตอบข้างใน แฟนซื้อกับข้าวมาให้ เปิดมาเซอร์ไพรส์สุดๆ ดีใจมากๆ รีบเปิดข้างในดูเซอร์ไพรส์กว่าเดิมอีก… แฟนบอกว่าซื้อคีย์บอร์ดใหม่มาให้ ไอ้เราก็บอกไหนล่ะ จนเธอบอกนี่ไง…โอเค๊ เพื่อนให้ของขวัญเป็นรูปก็อตซิลล่ามา แต่คำอธิบายมันยังไงอยู่นะ พ่อบอกเรียนจบเดี๋ยวให้เงินรางวัล ตอนเห็นป้ายก็ดีใจคิดว่าจะได้เยอะ พอเห็นตัวเลขถึงกับร้องเชรี่ยดังๆ แหวนฉลองเรียนจบสุดเกร๋ คุณยายซื้อเสื้อมาให้ใหม่ พอลองใส่ดูเท่านั้นแหละ มึนหัวเลย อยู่กับพ่อแม่มาจนอายุ 24 ไม่อยากไปไหน พอคริสต์มาสพ่อแม่เลยให้ของขวัญสุดพิเศษเป็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่…ว่าแต่จะให้ไปไหน พอถามจะเอาไรเป็นของขวัญวันเกิด แล้วตอบมาอะไรก็ได้ ฉะนั้นก็เอานี่ไปก็แล้วกัน เมียให้เหล้ามาเป็นของขวัญ แต่ป้ายที่ติดมาเหมือนบอกนัยๆ…
-
รวมฮาโลวีนของ Harrison Ford ที่แต่ละปีพี่แกก็ช่างกล้าแต่งซะจริงๆ อดทนรอดูปีนี้ไม่ไหวแล้ว!!
เมื่อพูดถึงดารารุ่นใหญ่ชั้นแนวหน้า เราก็คงจะนึกถึง Harrison Ford ผู้โด่งดังจากการเป็น Han Solo และ Indiana Jones แต่เชื่อไหมว่าพระเอกรุ่นเก๋าคนนี้ที่ดูเท่ ดูเก๋า ตัวตนจริงๆ ของเขานั้นเป็นคนที่กวนบาทาสุดๆ เพราะถ้าใครที่เป็นแฟนแล้วติดตามการไปออกงานต่างๆ ของลุงแก เราจะทราบว่า Harrison Ford มักจะกวนคนให้สัมภาษณ์หรือป่วนงานที่ไปเข้าร่วมเสมอ โดยเฉพาะกับเทศกาลฮาโลวีนที่ลุงแกจะชอบใจซะเหลือเกิน โดยปกติแล้วในเทศกาลนี้คนก็มักจะแต่งตัวแปลกๆ เด็กๆ ก็จะแต่งเป็นผีไปเคาะตามบ้าน แน่นอนว่าปกติเซเลปก็จะรักษาภาพพจน์ให้ดูดี แต่ลุงแกไม่เลย ลุงแกเล่นแต่งเป็นอะไรก็ไม่รู้ในงานนี้ทุกๆ ปี หลุดโลกจนลืมว่านี่ลุงแกอายุปาไป 75 แล้วด้วย หลายคนอาจจะไม่เห็นภาพว่าลุงแกนั้นเกรียนแตกยังไง เอาเป็นว่าเราลองมาดูชุดในปีที่ผ่านๆ มาของลุง Harrison Ford กันดูแล้วกัน ภาพจากปี 2012 ของลุงแกที่มาเป็นเซตคู่กับภรรยา นึกว่าหลุดมาจากยุค 80 บางปีก็แต่งเป็นชาวร็อครุ่นเก๋า …เดี่ยวนะ เมียลุงก็มาธีมเดียวกันเหรอ พอมาเจอรูปนี้ สงสัยไม่ใช่แค่ลุงแกแล้วล่ะที่เป็นสายฮา ภรรยาแกก็น่าจะพอกันเลย หนักสุดคือตอนปี 2008 ลุงแกเล่นแต่งเป็นถั่ว…
-
14 ความสำราญใจ ของทั้งผู้ใช้บริการและคนขับอูเบอร์ แบบนี้ก็มีด้วยหรือนี่!?
แท็กซี่อูเบอร์ นั้นอาจจะเป็นบริการที่ไม่ถูกกฎหมายในบางประเทศ แต่สำหรับในหลายประเทศนั้นการให้บริการดังกล่าวนั้นป็นเรื่องถูกกฎหมาย และได้รับความนิยมอย่างมากอีกด้วย แน่นอนว่าการให้บริการอูเบอร์นั้นเป็นการนำรถยนต์ส่วนตัวมาให้บริการแทนรถแท็กซี่ ซึ่งคนขับแต่ละคนนั้นก็จะมีเทคนิคการให้บริการที่แตกต่างกันออกไป และวันนี้เราก็มีภาพฮาๆ จากทั้งคนขับและผู้โดยสารรถแท็กซี่นี้จะต่างประเทศมาฝากกัน จะฮาแค่ไหนไปชมกันเลย… 1. น้องหมาของคนขับอูเบอร์ ที่คอยนั่งเป็นเพื่อนเจ้านาย และผู้โดยสาร เอ่อ… หวังว่าคุณคงจะไม่แพ้ขนหมานะ!? 2. ขึ้นรถคันนี้มีแต่อิ่มกับอิ่ม!! 3. อืม… จะนั่งไปด้วยดีไหมเนี่ย?? 4. ไม่ว่าคุณจะใช้โทรศัพท์รุ่นไหน เราก็เตรียมสายชาร์จไฟไว้บริการคุณทุกแบบ!! 5. แหม่… ดีจังเลยนะ มีเกมให้เล่นด้วย 6. เจอผู้โดยสารแบบนี้ ก็ขอหน่อยสักรูป ฮ่าๆ 7. ในรถอูเบอร์คันนี้ เค้ามีบริการไวไฟฟรีด้วยนะเออ!! 8. ส่วนคันนี้ก็มีตั้งแต่พาสเตอร์ปิดแผล ไปจนถึงที่แคะหูเลยทีเดียว 9. เจอลูกค้าแบบนี้ ตอนดึกๆ แบบนี้ บอกได้คำเดียวว่าขนลุก!! 10. คันนี้เองก็มีแจกอาหารรอบดึกด้วยนะเออ!! 11. เดี๋ยวพี่ขอแวะไปส่งลูกก่อนนะพ่อหนุ่ม…
-
ลูกแมวกำพร้าแต่ได้กระต่ายเป็นผู้เลี้ยงดู จนตอนนี้มันคิดว่าตัวเองกลายเป็น “กระแต่ว” ไปซะแล้ว!!!
การที่ลูกสัตว์ตัวหนึ่งถูกทิ้งให้อ้างว้างเดียวดายเป็นเรื่องที่น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่ามันไม่สามารถดูแลตัวเองให้อยู่บนโลกที่กว้างใหญ่อย่างนี้ได้ ในหลายๆ ครั้ง สัตว์กำพร้าเหล่านั้นก็ถูกรับเลี้ยงโดยผู้ใจบุญ แต่บางครั้ง สัตว์ที่มาช่วยรับเลี้ยง โดนเป็นคนละสายพันธุ์ซะอย่างนั้น อย่างเช่นเรื่องราวของเจ้าแมวตัวนี้ เจ้าแมวน้อยตัวนี้มีชื่อว่า Mia ได้ถูกเลี้ยงดูโดยกระต่ายสองตัวชื่อว่า Marlowe และ Melba โดยกระต่ายทั้งสองตัวดูแลเอาใจใส่เจ้าลูกแมวตัวนี้เป็นอย่างดี ทั้งการกอดให้ความอบอุ่น จน Liz เจ้าของกระต่ายทั้ง 2 ตัวนี้ต้องยอมรับลูกแมวมาเลี้ยงด้วย เพราะไม่สามารถแยกพวกมันออกจากกันได้ จนในตอนนี้เจ้าแมวได้คิดว่ามันกลายเป็นลูกกระต่ายไปแล้ว Marlowe และ Melba ขณะนอนกอดเจ้าแมวน้อย เจ้าแมวได้มีครอบครัวที่มันไม่เคยมีมาก่อน Mia รักกระต่ายทั้ง 2 ตัวนี้มาก จนมันเริ่มทำตัวเหมือนกระต่ายไม่ว่าจะทั้งการนอนหลับ หรือแม้กระทั่งลองกินฟางข้าว จนตอนนี้เจ้าลูกแมวโตแล้ว แต่ก็ยังตัวติดกับทั้งคู่ในบ้านอันอบอุ่นอยู่ดี มันคิดว่ามันเป็นกระต่ายไปแล้วล่ะ มันช่างน่ารักไปหมดไม่ว่าจะทั้งแมว หรือกระต่าย ถ้าจะให้เลือกเลี้ยงอย่างใดอย่างหนึ่งก็เลือกไม่ถูกเหมือนกันเนอะ ที่มา: lovemeow
-
สื่อนอกเผย 15 อันดับ “คนรุ่นใหม่” ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก เอางี้จริงๆ นะ!!
หลังจากที่ Sebastian Kurz ได้ชนะการเลือกตั้งและกำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของประเทศออสเตรียในเร็วๆ นี้ เขาเปรียบเหมือนหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของโลก แต่นอกจากว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของออสเตรียแล้ว ในโลกเรานั้นยังมีคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ทรงอิทธิพลในโลกอีกจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว และวันนี้เราก็ได้นำ 15 อันดับคนรุ่นใหม่ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกจากเว็บไซต์ Business Insider มาฝากกัน แต่ละคนจะเป็นใครบ้างนั้นไปชมกันเลย.. 15. Enrico Carattoni หนุ่มวัย 32 ปี หนึ่งในผู้นำสูงสุดจากประเทศซานมารีโน 14. Oyo Nyimba Kabamba Iguru Rukidi IV กษัตริย์วัย 25 ปีของอณาจักร Toro หนึ่งในราชอาณาจักในประเทศยูกันดา พระองค์ขึ้นครองราชครั้งแรกตั้งตอนอายุ 3 ขวบหลังจากที่พระบิดาสวรรคตในปี 1995 13. Malala Yousafzai หญิงสาววัย 20 ปี เจ้าของรางวัลโนเบลทางด้านสิทธิสตรีที่อายุน้อยที่สุด เธอทำงานอย่างหนักเพื่อต่อสู้เรียกร้องสิทธิในด้านการศึกษาของสตรีในปากีสถานภายใต้การปกครองของกลุ่มตาลีบัน 12. Beyoncé Knowles-Carter นักร้องสาวชื่อดังวัย 36 ปี ผู้เป็นเจ้าของเพลงฮิตมากมาย 11. LeBron James นักบาสเก็ตบอลวัย 32 ปี หนึ่งในดาวดังจากวงการ…
-
20 ภาพของพ่อแม่ที่เคยยื่นคำขาดออกมาว่า “ไม่เลี้ยงสัตว์แน่ๆ” แต่กลับติดซะยิ่งกว่าเราซะอีก
ในสมัยเด็กของใครหลายคนคงเคยขอพ่อแม่เลี้ยงสัตว์แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาต เมื่อเราโตขึ้นก็เลยเลี้ยงสัตว์ที่เราชอบเพื่อทดแทนความต้องการในวัยเด็ก แต่ทว่ากลับไม่ใช่เราที่ติดเจ้าขนปุยเหล่านั้น แต่กลับกลายเป็นพ่อแม่ของเรานั่นแหละที่ติดยิ่งกว่าซะงั้น และนี่คือตัวอย่างของพ่อแม่ที่ครั้งหนึ่งเคยห้ามเรา แต่มาในวันนี้พวกเขาเห็นเจ้าสัตว์เหล่านั้นสำคัญกว่าเราอีก กอดแน่นซะยิ่งกว่าลูกอีก ถึงกับลงพื้นไปเล่นกับแมวเลยหรอพ่อ สามช่า จัดไป ไหนมามองตากันหน่อยสิ โอะโอ๋ หลับซะนะลูก ก็มีแต่เอ็งล่ะนะที่เข้าใจข้า ถึงกับให้มานั่งร่วมโต๊ะเดียวกันเลย ฟังเพลงด้วยกันไหม เดี๋ยวพ่อเปิดให้ฟัง อย่ามายุ่งกับหมาของพ่อนะ มีการเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนด้วย ถ่ายเก็บไว้เร็วเดี๋ยวมันหนี ทาสแมวอย่างสมบูรณ์แบบ นั่งดูหนังกับแฟน ยอมลำบากเพื่อให้เหมียวสบาย กับเมียนี่เคยนอนกอดขนาดนี้ไหมเนี่ย มาเล่นกันเถอะ มาเล่นกันเถอะ ยอมใจในความพยายาม วันๆ ไม่ทำอะไรนั่งเล่นนอนเล่นกับมันนี่แหละ ดูหน้าแมวซะก่อนเต็มใจมาก… ไม่ว่าจะไปไหน ต้องตัวติดกันตลอด แหม ทีตอนเด็กขอเลี้ยงล่ะไม่ให้เลี้ยง พอทีนี้ล่ะ…
-
ญี่ปุ่นรณรงค์ให้คน “ขอบคุณ” รถที่จอดให้ข้าม กลายเป็นคลิปไวรัลที่ชาวเน็ตหลงรัก
การโค้งคำนับ ถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการทักทายของชาวญี่ปุ่นที่ดูอ่อนช้อยและสวยงาม นอกจากจะใช้แทนการกล่าวทักทายกันแล้ว การโค้งคำนับยังยังเป็นการแสดงความขอบคุณอีกด้วยเช่นกัน และเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีหนึ่งในแคมเปญรณรงค์อันสุดแสนจะน่ารักของที่นี่ นั่นก็คือการสนับสนุนให้ทุกคนโค้งคำนับให้กับรถที่จอดให้ข้ามถนนเพื่อเป็นการแสดงถึงความขอบคุณน้ำใจของผู้ใช้รถนั่นเอง คลิปวิดีโอไวรัลจาก จังหวัด Iwate ทางต้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น ได้ทำเอาหลายๆ คนรู้สึกดีไปตามๆ กัน หลังจากที่เห็นการแสดงวัฒนธรรมนี้ระหว่างผู้ใช้รถและคนเดินเท้า บริเวณสี่แยกในจังหวัด Iwate เด็กๆ ในเมืองนี้จะได้รับการสอนให้โค้งคำนับแก่ผู้ที่มีน้ำใจบนท้องถนนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ซึ่งการโค้งคำนับนี้ถูกจัดอยู่ในวิชามารยาทของเด็กๆ ในจังหวัดนี้เลยทีเดียว และถึงแม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะไม่ได้มีข้อกำหนดทางกฎหมาย แต่นิสัยนี้ก็ติดตัวผู้คนในจังหวัดนี้ และกลายเป็นเหมือนวัฒนธรรมของที่นี่ไปเลยทีเดียว เด็กๆ ที่แสดงการโค้งคำนับเพื่อขอบคุณ คนขับรถที่ยอมให้พวกเขาข้ามถนนก่อน แหม่.. ดูน่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ย และเมื่อคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้รับคำชื่นชมจากชาวเน็ตอย่างมาก หลายๆ คนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย “ฉันเห็นการโค้งคำนับนี้ทุกๆ ครั้งที่ฉันจอดให้คนข้ามถนนในตอนที่ไม่มีสัญญาณไฟ และถึงแม้ว่าฉันจอดเพราะติดไฟแดง พวกเขาก็ยังคงโค้งคำนับเช่นกัน” หนึ่งในความคิดเห็นของชาวเน็ต “ฉันมาจากจังหวัด Iwate ฉันคิดว่าทุกคนที่นี่ทำแบบนี้ แต่ทำแบบเดียวกันนี้ที่ Yokohama เมื่อ 40 ปีที่แล้ว มันกลับเป็นเรื่องแปลกมากสำหรับคนที่นั่น” “นี่เป็นสิ่งที่เราควรจะเริ่มทำกันไม่ว่าจะที่ใดก็ตามในประเทศ” นอกจากมารยาทในการใช้รถใช้ถนนแล้ว ที่จังหวัดแห่งนี้ยังมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนที่ต่ำมากๆ อีกด้วย โดยจากการศึกษาในปี…
-
ศิลปินวาดภาพแลนด์สเคปเมืองนิวยอร์คทั้งเมืองจากความทรงจำ หลังนั่งเฮลิคอปเตอร์แค่ 45 นาที
การวาดรูปแต่ละรูปต้องใช้จินตนาการอันสูง ซึ่งถือว่าเป็นความสามารถพิเศษของแต่ละคนที่จะมีพรสวรรค์ในด้านนี้ แต่คงไม่มีใครเหมือนเขาคนนี้ที่วาดรูปเมืองได้ทั้งเมืองจากความทรงจำเพียง 45 นาที Stephen Wiltshire ศิลปินชาวอังกฤษผู้เป็นป่วยเป็นโรคออทิสติก ได้วาดภาพเมือง New York ทั้งเมืองจากการนั่งชมเมืองบนเครื่องเฮลิคอปเตอร์เพียง 45 นาที เขาใช้เวลาทั้งหมด 5 วันในการวาดเมืองโดยแทบจะไม่หยุดพักเลยทีเดียว ซึ่งการที่เขามาวาดภาพเมือง New York ในครั้งนี้เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบการสร้างตึก Empire State “Stephen เป็นของขวัญอย่างแท้จริง เขามีพรสวรรค์ที่สุดยอด” “การมีเขาอยู่ที่ตึก Empire State นับว่าเป็นเกียรติอย่างแท้จริง และการมีโอกาสได้ชมเขาวาดแบบสดๆ คือความโชคดีอย่างหาที่เปรียบไม่ได้” Anthony E Malkin ประธานบริษัท Empire State Realty Trust กล่าว Stephen Wiltshire เป็นศิลปินที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย โดยรางวัลแรกที่เขาได้รับมาจากนายกรัฐมนตรีของอังกฤษในวัยเพียง 8 ปีเท่านั้น โดยเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคออทิสติกตั้งแต่อายุ 3 ปี และเขาไม่สามารถพูดได้จนกระทั่งอายุ 5 ปี เขาเคยวาดภาพเมืองทั้งเมืองแบบนี้มาแล้วทั่วโลก ทั้งโตเกียว มาดริด ดูไบ…
-
“Azuki” เม่นน้อยจากญี่ปุ่น ผู้รักการออกไปแคมป์ปิ้งนอกบ้าน จะทำให้คุณยิ้มตามแน่ๆ
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่าหรือสัตว์เลี้ยง หากมันถูกเลี้ยงหรือเติบโตมากับมนุษย์ พวกมันก็คงมีการเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ รวมทั้งชอบทำอะไรเหมือนมนุษย์ด้วย เหมือนกับเม่นน้อยจากญี่ปุ่น ผู้รักการผจญภัยเป็นชีวิตจิตใจ จนล่าสุดมันได้ออกไปตั้งแคมป์ด้วยตัวเองแล้ว นี่คงเป็นเพราะเจ้าของเคยทำให้ดูแน่ๆ Azuki เป็นเม่นที่มีใบหูแหลม จมูกมนๆ ดูรวมๆ แล้วมันช่างน่ารักจนลืมไม่ลงจริงๆ มันได้ออกไปตั้งแคมป์นอกบ้านพร้อมอุปกรณ์ตั้งแคมป์ขนาดจิ๋ว ที่ออกแบบมาเพื่อมันโดยเฉพาะ ในบรรดาอุปกรณ์จิ๋วเหล่านั้นมีทั้งเต็นท์ส่วนตัว เรือคายัค และเซ็ตย่างบาร์บีคิว นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์พักผ่อนอื่นๆ อย่างครบครัน เรียกได้ว่าชีวิตดีสุดๆ ไปเลย แล้วลองดูภาพพวกนี้สิ มันชวนให้เราอยากไปตั้งแคมป์บ้าง ที่สำคัญหลายคนถึงกับอยากรับเม่นมาเลี้ยงเป็นของตัวเองซะเลย พายเรือเล่นกันป่าว? เต็นท์สำหรับแคมป์นี้ มันก็จะมินิๆ หน่อยอะนะ อย่าลืมหาฟืนสำหรับก่อไฟคืนนี้นะ เกิดเป็นเม่นน่ารัก ชีวิตมันก็ดีแบบนี้แหละ ติดตามชีวิตของเจ้าเม่นน้อยได้ที่อินสตาแกรม hedgehog_azuki ที่มา boredpanda
-
เรื่องราวของหญิงสาวที่กลายเป็น ‘เจ้าหญิง’ หลังพบรักกับเจ้าชายแห่งอาณาจักรเอธิโอเปียที่ไนท์คลับ
ตอนเด็กๆ เราคงจะเคยอ่านนิทานที่เป็นเรื่องราวของเจ้าชายที่เดินทางตามหารักแท้ โดยเจ้าชายปลอมแปลงตัวเป็นคนธรรมดา จนกระทั่งได้พบหญิงสาวธรรมดาที่รักในตัวของพระองค์ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์จนกระทั่งได้แต่งงานกันในที่สุด เรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อว่า Ariana Austin เปรียบดั่งกับเทพนิยายที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ที่สุด เรื่องราวเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2005 ที่ไนท์คลับแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน เจ้าชาย Joel Makonnen ได้มาเที่ยวตามปกติเหมือนดังสามัญชนคนธรรมดาแล้วได้พบกับ Ariana ที่เดินเข้ามาในไนท์คลับแห่งนี้อย่างสง่างาม เจ้าชายก็ได้สะดุดกับความงามของ Ariana ในทันที และกล่าวว่าเธอเหมือนดั่งนางแบบโฆษณาแอลกอฮอล์ที่หลุดออกมาในชีวิตจริง แถมยังรู้สึกถูกชะตาแม่สาวคนนี้ยิ่งนัก อีกทั้งยังคิดไว้ว่าจะต้องกลายมาเป็นคู่รักกันอย่างแน่นอน หลังจากนั้นเจ้าชายก็เดินเข้าไปหา Ariana แล้วทำความรู้จักในทันที โดยที่ปกปิดสถานะที่แท้จริงของตัวเองไว้ บอกไปเพียงว่าเขาเป็นทนายความธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น หลังจากนั้นทั้งคู่ก็คบหาดูใจกันเรื่อยมาเป็นเวลาเกือบ 12 ปี ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคในการที่ต้องแยกจากกันไปบ้าง แต่ทั้งสองก็ยังคุยกันอยู่ตลอด จนกระทั่งวันวาเลนไทน์ปี 2014 เจ้าชาย Joel ได้ซื้อแหวนเพชรและลูกโป่ง เดินทางไปยังบ้านของ Ariana เพื่อพบพ่อแม่ของเธอและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของพระองค์ให้หญิงสาวได้ทราบ ซึ่งเธอก็ตกใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่คิดว่าคนที่คบอยู่ด้วยนั้นเป็นเจ้าชายแห่งเอธิโอเปีย …
-
ผมไม่ไหวแล้วนะ!! คุณลุงหนีไปใช้ชีวิตในป่านาน 5 ปี ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียว ‘เบื่อเมีย’
เรื่องราวของคุณลุงวัย 62 ปี จากเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษผู้นี้ กลายเป็นข่าวดังในต่างประเทศทันที หลังจากที่เขาได้หนีเข้าไปใช้ชีวิตในป่านานถึง 5 ปี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในที่พักอาศัยสำหรับคนไร้บ้าน ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้มาจากสาเหตุเดียวเท่านั้นคือ “เบื่อเมีย” ก่อนหน้าที่จะแต่งงานคุณ Malcolm Applegate เป็นคนที่ชื่นชอบในการทำสวน และมักจะสอนคนอื่นๆ เกี่ยวกับเทคนิคการทำสวนของเขา แต่หลังจากที่เริ่มต้นชีวิตแต่งงาน เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว คุณลุงก็เริ่มพบว่าชีวิตของเขานั้นเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ คุณลุงเล่าว่าในช่วงแรกของการแต่งงานนนั้นทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี และภรรยาของเขาก็เป็นคนดีมากด้วย แต่หลังจากนั้นเธอก็เริ่มเข้ามาควบคุมชีวิตของเขา บางครั้งเขาต้องงดกิจกรรมโปรดเพื่อเอาใจเธอ และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความอดทนถึงขีดสุดเขาจึงตัดสินใจที่จะเก็บข้าวของหนีมาแบบดื้อๆ โดยไม่ได้ทำการหย่าร้างหรือบอกเธอเลย “ผมแต่งงานอยู่กับเธอประมาณ 3 ปี และจากนั้นทุกอย่างก็เริ่มแย่ลง และหลังจากนั้นผมก็เริ่มเบื่อที่เรามักจะทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ ” คุณลุงเล่าถึงชีวิตคู่ของเขา ในตอนที่หนีออกมา คุณลุงวางแผนที่จะขับรถมอเตอร์ไซค์ไปรอบๆ กรุงลอนดอน แต่ทว่าระหว่างทางรถมอเตอร์ไซค์ของเขากลับถูกขโมยไป คุณ Malcolm จึงต้องเดินเท้าเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ จนกระทั่งมาถึงป่าแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับเมืองคิงส์ตัน ทางตอนใต้ของลอนดอน คุณลุงตัดสินใจค้างคืนที่นั่นและออกมาทำงานเกี่ยวกับการดูแลสวนให้กับศูนย์ชุมชนใกล้ๆ ในตอนเช้า “มีพวกเรา 3 คนค้างคืนอยู่ตรงนั้น เราไปทำงานที่ศูนย์ชุมชนใกล้ๆ…
-
โหดสัสรัสเซีย… ช่างตัดผมถูกแทงเสียชีวิต หลังตัดให้ผมไม่ถูกใจลูกค้า ได้ทรงคล้ายนักโทษ
บางครั้งคำว่า “เอาออกนิดเดียว” ของเราและช่างตัดผมนั้นมักจะไม่เท่ากัน และบางครั้งคุณอาจจะเกิดอาการเขินนิดหน่อยหลังจากที่ออกมาจากร้านตัดผม แต่ถึงแม้ว่าช่างจะตัดได้ขัดใจแค่ไหน ก็คงไม่มีใครที่จะโกรธถึงขั้นลงไม้ลงมือกับช่างตัดผมเหมือนหนุ่มรัสเซียคนนี้แน่ ภาพจากคลิปวิดีโอของกล้องวงจรปิดบนถนนสายหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงมอสโคได้เผยให้เห็นวินาทีที่นาย Pavel Luzyanin ได้ใช้อาวุธแทงเข้าที่หน้าอกของคุณ Dastan Adkhamov ช่างตัดผมวัย 24 ปี จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต หลังจากที่เขาเพิ่งใช้บริการช่างตัดผมผู้โชคร้ายไปหมาดๆ นาย Pavel Luzyanin ลูกค้าผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าตำรวจกล่าวว่า หลังจากที่แทงหน้าอกเหยื่อถึง 3 ครั้ง นาย Luzyanin ได้เดินหนีไปอย่างช้าๆ แต่ทว่าหลังจากที่เขาเห็นว่าคุณ Adkhamov นั้นยังมีลมหายใจอยู่ ชายหนุ่มจึงได้กลับมาทำร้ายเขาอีกครั้ง โดยการใช้เหล็กเสียบบาบีคิวแทงเข้าที่คอจนเสียชีวิตในที่สุด จากคำให้การของเพื่อนผู้ตาย ช่างตัดผมผู้นี้เป็นชาวอุซเบกิสถาน ที่หลบหนีเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมาย และเริ่มต้นอาชีพช่างตัดผมของเขาที่เมืองนี้ และนี่คือวินาทีที่คุณ Adkhamov ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต นาย Luzyanin ได้มาใช้บริการตัดผมเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ในตอนแรกหลังจากที่กลับออกจากร้านตัดผมไป เขามีความสุขกับผมทรงใหม่อย่างมาก แต่ในวันต่อมา ชายหนุ่มกลับมาที่ร้านตัดผมหลังจากที่เขาถูกเพื่อนบอกว่าผมทรงใหม่นั้นเหมือนกับนักโทษเลย Luzyanin บอกกับเพื่อนของเขาว่าเขาไม่สามารถทนต่อคำเยาะเย้ยได้ และจะกลับไปหาช่างตัดผมคนนั้น ถึงแม้ว่าคุณ Adkhamov จะยอมแก้ไขทรงผมให้ใหม่ แต่ชายหนุ่มกลับไล่ทำร้ายเขาจนเสียชีวิต Luzyanin ถูกจับกุมตัวได้ไม่นานหลังจากที่เกิดเหตุ…
-
9 เรื่องที่ทำให้วันเปิด Disney Land ในปี 1955 กลายเป็น “ฝันร้าย” สำหรับหลายคนที่ไปเที่ยว!?
Disney Land หนึ่งในสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่นี่มีการเปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อ วันที่ 17 กรกฎาคม ปี 1955 และแน่นอนว่าในการเปิดตัวครั้งแรกนั้นก็ย่อมมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นเป็นธรรมดา และวันนี้เราก็ได้รวบรวม 9 เหตุการณ์ที่ทำให้สวนสนุกแห่งนี้กลายเป็นฝันร้ายสำหรับใครหลายๆ คนในวันเปิดตัว Disney Land แห่งแรกจาก BuzzFeed มาฝากกัน ซึ่งแต่ละเหตุการณ์จะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. การก่อสร้างบางส่วนของสวนสนุกแห่งนี้ยังไม่เสร็จเรียบร้อย ในวันเปิดทำการวันแรกนั้น การก่อสร้างต่างๆ ภายในสวนสนุกแห่งแรกของ Disney นี้แล้วเสร็จไปเพียงแค่ 3 ใน 4 เท่านั้น และแน่นอนว่าในพื้นที่ส่วนที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จนั้นก็เต็มไปด้วยกองวัสดุและถูกห้ามไม่ให้เข้าชมอีกด้วย 2. และแน่นอนว่า เครื่องเล่นบางอย่างเองก็ยังไม่เปิดให้บริการเช่นกัน เจ้าหนู Jonathan Carr หนูน้อยวัย 9 ขวบหนึ่งในคนที่ได้เข้าร่วมในงานวันเปิดตัวของ Disney Land ในวันนั้นได้เล่าว่า มีเครื่องเล่นหลายเครื่องที่ยังไม่เปิดให้เล่น และใช้เวลาอีกกว่า 1 เดือนหลังจากนั้นถึงจะพร้อมให้บริการ “คุณไม่สามารถทำอะไรได้เลย ไม่มีแม้แต่ที่ให้คุณนั่ง และร้านค้าก็เต็มไปด้วยผู้คน” Jonathan กล่าว…
-
หญิงสาวตอกหน้าทุกคน ที่เคยดูถูกเธอว่า ‘โง่’ ด้วยการคว้าปริญญาตรีเกียรตินิยม
บางครั้งคำดูถูกก็อาจจะเป็นแรงผลักดันให้เราลุกขึ้นมาพิสูจน์ตัวเอง เพื่อเอาชนะคำสบประมาทเหล่านั้นให้ได้ และหญิงสาวชาวออสเตรเลียผู้นี้เองก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของคนที่สามารถเอาชนะคำดูถูกและตอกหน้าคนที่เคยทำร้ายจิตใจของเธอ “เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ฉันโดนดูถูกมานานหลายปี แต่ฉันใช้มันเป็นแรงผลักดัน” หญิงสาวที่ชื่อว่า Phoebe ได้เขียนผ่านเฟซบุ๊กของเธอ หญิงสาวต้องทนต่อความอับอายที่หลายๆ คนบอกว่าเธอนั้นไม่ฉลาด เธอมีปัญหาด้านการเรียนรู้หลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นความบกพร่องในการอ่านหนังสือ (Dyslexia) ความบกพร่องทางการคำนวน (Dyscalculia) ความบกพร่องทางการเขียน (Dysgraphia) และโรคสมาธิสั้น หลังจากที่สามารถคว้าใบปริญญาพร้อมเกรียรตินิยมมาครองได้สำเร็จ Phoebe ก็เขียนระบายความในใจของเธอผ่านเฟซบุ๊กว่า “ถึงครูที่เคยบอกกับพ่อแม่ของฉันว่าให้ควรให้ฉันเลิกเรียนเพราะฉันจะทำให้เกรดของเด็กคนอื่นๆ ตกไปด้วย ถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ด่าฉันหน้าชั้นเรียนจนฉันแทบร้องไห้ เพียงเพราะว่าฉันสะกดคำผิด ถึงพ่อแม่ของนักเรียนคนอื่นที่เคยบอกครูประจำชั้นว่าอย่าให้ลูกๆ ของพวกเขานั่งใกล้ฉัน เพราะกลัวจะทำให้พวกเขาติดเชื้อโง่ไปด้วย ถึงระบบการศึกษาสุดห่วย ที่บอกว่าฉันมีคะแนน ATAR แค่ 49 (คะแนน ATAR เป็นระบบวัดความรู้ของเด็กนักเรียนออสเตรเลีย คนที่ได้คะแนนเยอะที่สุดในชั้นปีจะมีคะแนน 100 ถ้าได้ 49 คะแนน แปลว่าคุณได้คะแนน 49 เปอร์เซ็นของคนที่ได้เยอะที่สุด) หลังจากที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ฉันก็พบว่าตัวเองป่วยด้วยโรคหลายโรค แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็สามารถจบการศึกษาด้วยเกรดที่สูงที่สุดคนหนึ่งของคณะ สำหรับใครก็ตามที่ทำให้ฉันอับอาย เพราะฉันไม่เหมือนพวกคุณ ระวังให้ดีล่ะ เด็กพิการอย่างพวกเราก็สามารถเอาชนะพวกคุณได้ด้วยวิธีการของพวกเรา” และแน่นอนว่าเรื่องราวของเธอนั้น กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วอินเตอร์เน็ต และหลังจากที่เธอโพสต์ข้อความดังกล่าวลงบนโลกออนไลน์…
-
ครอบครัว Irwin พร้อมจะสานต่อรายการอีกครั้ง หลังคุณพ่อ Steve จากไปนานกว่า 11 ปี
เมื่อพูดถึงพิธีกรสารคดีสัตว์ระดับตำนานก่อนจะมาเป็น Bear gryll ที่เรารู้จักนั้น Steve Irwin ถือว่าเป็นบุคคลที่ทำรายการแนวนี้ยุคแรกและโด่งดังสุดๆ จนกลายเป็นตำนานเลยก็ว่าได้ ทว่ากลับน่าเสียดายที่เราต้องเสียเขาไปอย่างรวดเร็ว… นับเป็นเวลากว่า 11 ปีแล้วที่ครอบครัว Irwin ได้สูญเสียเสาหลักของครับครัว Steve Irwin ผู้ดำเนินรายการสารคดีเกี่ยวกับสัตว์มากฝีมือแห่งช่อง Animal Planet จากการถูกแทงโดยปลากระเบนขณะถ่ายทำสารคดีชุด Ocean’s Deadliest แต่ล่าสุดด้านภรรยาของเขา Terri Irwin ได้ตัดสินใจเตรียมพร้อมจะกลับมาสานต่อรายการของสามีบนช่อง Animal Planet พร้อมกับลูกสาว Bindi วัย 19 และลูกชาย Robert วัย 14 ปี ในปี 2018 ซึ่งก่อนหน้าที่พวกเขาจะตัดสินใจกลับมาทำรายการต่อ พวกเขาก็ยังคงสานต่องานเชิงอนุรักษ์ต่างๆ ที่ Steve ได้ทิ้งไว้ให้อย่างเช่นดูแลสวนสัตว์ ดูแลสัตว์ป่าสงวน และสนับสนุนโครงการที่พยายามช่วยสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ทั่วโลกเป็นต้น แม้ว่าจะมีการบอกว่าครอบครัวนี้จะกลับมาสานต่อและทำรายการใหม่บน Animal Planet แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าทิศทางของรายการใหม่ของครอบครัวจะเป็นยังไง เพราะเดิมทีที่ตัว Steve ทำนั้นจะเป็นแนวเฮฮาสร้างความสุขนั่นเอง . ส่วนถ้าใครคิดว่าแล้วลูกๆ สองคนจะทำหน้าที่ได้ดีเท่าพ่อของพวกเขาไหม ก็ต้องบอกเลยว่าพวกเขาเนี่ยลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเลยล่ะ ลูกสาว Bindi นั้นก็มีผลงานทางทีวีบ่อยๆ ล่าสุดพึ่งคว้าแชม์ปแข่งเต้น Dancing With the…
-
บริษัทผ้าอนามัย หันมาใช้ของเหลว ‘สีแดง’ แทน ‘สีน้ำเงิน’ แสดงให้เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมด๊าา!!
กำลังเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกชาวเน็ตพูดถึงอย่างร้อนแรง เมื่อบริษัทผ้าอนามัย ‘Bodyform’ ได้เปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ ที่หันมาใช้ของเหลวสีแดงแทน..!! โดยปกติแล้วตามโฆษณาผ้าอนามัยที่เราเห็นกันทั่วไป มักจะเลือกใช้ของเหลวสีน้ำเงิน แทนภาพของประจำเดือนสีแดงใช่ไหมล่ะ? แต่วิดีโอแคมเปญ #bloodnormal ของ Bodyform ได้เลือกทำสิ่งที่ต่างออกไป นั่นคือการใช้น้ำสีแดงเป็นภาพสะท้อนประจำเดือนของสาวๆ เอาเป็นว่าลองไปชมคลิปโฆษณาความยาวแค่ 20 วินาที กันก่อนเลย… จากผลงานวิจัยของสถาบันแห่งหนึ่งในอังกฤษ มีการระบุตัวเลขชี้ชัดว่ากว่า 74% ของผู้บริโภค ต้องการเห็นภาพโฆษณาตามสื่อต่างๆ ที่นำเสนอความจริงอย่างตรงไปตรงมามากกว่า และดูเหมือนว่างานโฆษณาชิ้นนี้ของ ‘Bodyform’ จะถูกอกถูกใจชาวเน็ตไปทั่วโลก ซึ่งตัวโฆษณาชิ้นนี้ทางบริษัทผู้ผลิตอ้างว่า เป็นภาคต่อจากโฆษณาสปอร์ตเกิร์ลเมื่อปี 2016 ที่มีการนำเสนอภาพของประจำเดือนสีแดงที่เกิดขึ้นกับการเล่นกีฬาของสาวๆ เช่นเดียวกัน และด้วยสโลแกน “No Blood Should Hold Us Back” นี่เอง ที่ทำให้ยอดขายผ้าอนามัยของ Bodyform เพิ่มขึ้นอย่างน่าติดตาม Tanja Grubna หนึ่งในพนักงานของบริษัทผู้อยู่เบื้องหลังไอเดียภาพโฆษณา ได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC…
-
ย้อนชม.. แมวเหมียวยุค 1950 ในกรุงลอนดอน โดย Thurston Hopkins ช่างภาพชื่อดัง!!
ถ้าจะพูดถึงประวัติศาสตร์และความเป็นมาของความสัมพันธ์มนุษย์และแมวเหมียวนั้น ก็ต้องไล่กันยาวถึงคราวบรรพบุรุษในยุคบรรพกาลกันเลย แต่วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ย่อนกลับไปแค่ช่วงปี 1950 ก็พอนะ Thurston Hopkins หนึ่งในช่างภาพสำนักข่าวที่ทำงานให้หนังสือพิมพ์ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ช่วงเวลานั้นเขาได้ถ่ายภาพไว้มากมายซึ่งแสดงให้เห็นฝีไม้ลายมือของเขา และหนึ่งในอัลบั้มที่ทำให้เขาโด่งดังก็คือภาพของเหล่าแมวเหมียวในลอนดอนนี่แหละ ในขณะที่เขาเดินไปตามท้องถนนของกรุงลอนดอนนั้น เขาได้พบกับเหล่าแมวเหมียวจรจัดมากมาย คุ้ยเขี่ยหาอาหารกินเพื่อดำรงชีวิตตามสถานที่ต่างๆ ในสมัยนั้นชาวลอนดอนจะมีธรรมเนียมที่ไม่ค่อยเหมือนที่อื่นเกี่ยวกับการเลี้ยงแมวนั่นก็คือการปล่อยแมวให้ออกนอกบ้านเพื่อไปเดินเล่นกันบ้าง โดยเฉพาะช่วงเวลาก่อนเข้านอนทุกๆ คืน ราวกับเป็นประเพณีเลยทีเดียว การมีชีวิตรอดของพวกมันนั้นขึ้นอยู่กับว่าจะมีคนใจดีนำเศษอาหารเล็กๆ น้อยๆ มาให้พอประทังไปได้หรือเปล่า หรือแม้กระทั่งแมวบ้านก็ตาม เป็นธรรมเนียมของชาวลอนดอนที่จะปล่อยแมวออกมาก่อนเข้านอนเสมอ เพราะฉะนั้นท้องถนนจะเต็มไปด้วยแมวเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังเป็นการถ่ายภาพบรรยากาศของเมือง และผู้คนในตอนนั้นไว้ในเวลาเดียวกันด้วย… เห็นภาพเหมียวยุคเก่าแบบนี้แล้วรู้สึกว่าพวกมันเก๋ามาตั้งแต่รุ่นพ่อจริงๆ เลยว่าไหม!? ที่มา: Boredpanda
-
ลิงแก่อายุ 59 ปี ป่วยหนักกินอาหารไม่ได้ พอได้เจอเจ้านายเก่า กลับมีแรงดีใจน้ำตาแทบไหล
สัตว์ที่เคยใกล้ชิดกับมนุษย์แทบจะทุกชนิด มักจะมีสายใยบางอย่างที่เชื่อมโยงกันอยู่ เช่น การจดจำเสียงของคนดูแลได้ การจำกลิ่นได้ และในวาระสุดท้ายชีวิตของพวกมันก็คงอยากให้มนุษย์ที่ดูแลพวกมันอยู่ด้วยเหมือนกับเจ้าลิงตัวนี้ ลิงชิมแปนซีตัวนี้มีชื่อว่า Mama อายุ 59 ปี เพศเมีย มันนับได้ว่าเป็นลิงที่เป็นผู้อาวุโสที่สวนสัตว์ Royal Burgers Zoo ในเมือง Arnhem ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งที่นี่มีชื่อเสียงจากการศึกษาวิจัยพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ย้อนกลับไปในเดือน เมษายน ปี 2016 เจ้าลิงตัวนี้ได้เข้าสู่ช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต มันทั้งเผชิญทั้งความเจ็บป่วยและไม่สามารถที่จะกินอาหารได้ หลังจากนั้นข่าวนี้ก็ไปเข้าหูของ Jan van Hooff ผู้ก่อตั้งอาณาจักรแห่งลิงที่นี่ เธอจึงตัดสินใจกลับมาที่นี่เพื่อให้ดูแลเจ้า Mama ในช่วงสุดท้ายของชีวิตซึ่งทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่ปี 1972 ทำให้ทั้งคู่มีสายใยที่ผูกพันกันอย่างเหนียวแน่น นอนป่วยอย่างน่าสงสาร ในตอนแรก Mama นั้นมีอาการอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดและเมื่อ Jan เข้ามาใกล้มันก็จำเธอไม่ได้ แต่หลังจากเธอเปล่งเสียงพูดออกมาก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นกับเจ้าลิงตัวนี้ แววตาของมันมีประกายแห่งความสุขและมันก็จำเธอได้ในที่สุด เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงสายใยระหว่างมนุษย์และสัตว์ตัวหนึ่งที่มีให้กัน ซึ่งสามารถสร้างความสุขให้แก่คนรอบข้างได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว แววตาเศร้าสลดเนื่องจากอาการป่วย เมื่อรู้ข่าว เพื่อนเก่าก็กลับมาเยี่ยมเยือน ดูหน้าตาแห่งความสุขของมันสิ แต่ทว่าหลังจากนั้น 1 สัปดาห์เจ้าลิงตัวนี้ก็ได้จากไปอย่างสงบในวัย…
-
ความรู้ทางประวัติศาสตร์ ทำไมชาวเวียดนามถึงมีแต่คนนามสกุล ‘Nguyen’ เต็มไปโหม้ดดด..!!
หนึ่งในคำถามที่เรามั่นใจว่าหลายคนเคยสงสัย แต่ไม่ได้ออกไปหาคำตอบ.. เราเชื่อว่าหนึ่งในนั้นต้องมีคำถามที่ว่า ทำไมชาวเวียดนามถึงนามสกุลเหมือนกันหมดเลยนะ? ด้วยเหตุนี้เราจะพาไปหาคำตอบพร้อมๆ กันว่า เพราะเหตุใดชาวเวียดนามทุกคนแทบจะมีนามสกุล ‘Nguyen’ เหมือนกันหมด (อ่านว่า ‘เหงียน’ นะ ไม่ใช่ ‘งูเย็น’) ต้องบอกก่อนว่าเดิมทีสกุล ‘Nguyen’ เป็นชื่อที่ได้อิทธิพลมาจากประเทศจีนอีกทีหนึ่ง ซึ่งในภาษาจีนกลาง (แมนดาริน) มีการเรียกคำนี้ว่า ‘Ruan’ หรือ ‘Yuen’ ในภาษาจีนกวางตุ้ง ย้อนกลับไปเมื่อสมัยปี 1232 เจ้าชาย Trần Thủ Độ ได้แย่งชิงอำนาจมาจากราชวงศ์ Lý และมีการบังคับให้ลูกหลานในวงศ์ตระกูลของตัวเองเปลี่ยนมาใช้นามสกุล ‘Nguyen’ ต่อมาในยุคสมัยที่ Hồ Quý Ly ขึ้นครองราชย์แทนราชวงศ์ Trần ได้มีการกวาดล้างคนในตระกูลเดิมที่ใช้นามสกุล Nguyen เหมือนกันทั้งหมด ทำให้ในช่วงเวลานั้นเหล่าลูกหลานของราชวงศ์ Trần ต้องอพยพเอาตัวรอดระหกระเหินกันไปคนละทิศคนละทาง กระทั่งในปี 1407 ราชวงศ์ Hồ ได้ล่มสลายลง ทำให้ลูกหลานของราชวงศ์หลายคนหันไปเปลี่ยนมาใช้นามสกุล Nguyen อีกครั้ง เพราะกลัวว่าจะถูกตามล่าเหมือนในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ต่อมาในปี 1592 จากการล่มสลายของราชวงศ์ Mạc ก็ทำให้เหล่าลูกหลานสืบเชื้อสายทั้งหลายต้องระหกระเหินเปลี่ยนชื่อแซ่มาใช้เป็น Nguyen…
-
เพียงภาพเดียว.. กับเหตุผลที่ว่าทำไมไม่ควร “ปล่อยโคมลอย” เพราะส่งผลเสียมากกว่าที่คิด!?
จริงอยู่ที่การ ‘ปล่อยโคมลอย’ จะกลายมาเป็นหนึ่งในประเพณีประจำปีของไทยเรา โดยเฉพาะในช่วงลอยกระทง ทว่าสิ่งที่มาพร้อมกับความหวังในคำอธิษฐาน กลับเป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับชีวิตอื่นไปซะได้!? เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2017 เว็บไซต์ Metro ได้รายงานเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษ กับนกฮูกสายพันธุ์หายากตัวหนึ่งที่บินไปติดโคมลอยและกลายเป็นภาพสุดเศร้าให้เราต้องมาตระหนักถึงประเพณีการปล่อยโคมลอยกันอีกครั้ง สภาพของนกฮูกที่เสียชีวิตเพราะบินไปติดกับโคมลอย เรียกได้ว่าจากเหตุการณ์นี้… ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายในประเทศอังกฤษ ต้องกลับมาตั้งคำถามถึงการปล่อยโคมลอย ที่อาจนำมาซึ่งผลเสียมากกว่าผลดีทางจิตใจ โดยในแต่ละปี จะมีการปล่อยโคมลอยประมาณ 200,000 ลูกในประเทศอังกฤษ ข้อมูลจากองค์กร RSPCA เผยว่า ‘โคมลอย’ ที่เป็นประเพณีดั้งเดิมจากประเทศจีน ได้สร้างผลกระทบมากมายให้แก่สิ่งแวดล้อมทั่วโลก ไม่ว่าจะกับผืนป่า หรือสัตว์ป่าก็ตาม แล้วโคมลอยมันอันตรายยังไง? ด้วยความที่ประเพณีไทยเรามีการฝังความเชื่อเรื่องการอธิษฐานถึงสิ่งดีๆ และเชื่อว่าการปล่อยโคมจะช่วยสะเดาะเคราะห์กรรมได้ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังปล่อยไปแล้ว.. โคมลอยที่มีความร้อนสูงได้สร้างปัญหามากมายให้กับทั้งธรรมชาติ และชาวบ้านด้วยกันเอง RSPCA รายงานว่า มีสัตว์ปีกหลายชนิดที่มักจะเห็นแสงไฟบนท้องฟ้าแล้วบินเข้าหา บ้างก็คิดว่าเป็นอาหารจึงใช้ปากจิกกิน และสิ่งที่ตามมาก็คือลวดของโคมลอยมักจะไปเกี่ยวติดกับขาของสัตว์ปีกและทำให้พวกมันเสียชีวิตในที่สุด ไม่ใช่แค่กับสัตว์ปีกเท่านั้น แม้แต่สัตว์เดินดินหลายชนิดก็ต้องเผชิญปัญหานี้เช่นกัน เมื่อโคมลอยตกสู่พื้นบางครั้งไฟที่ยังมอดไม่สนิทก็อาจทำให้เกิดไฟป่าลุกลามจนกลายเป็นเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ก็มีมาแล้ว นอกจากนั้นผู้เชี่ยวชาญยังชี้ว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่สารเคมีในโคมลอยตกสู่พื้นดิน คราบน้ำมันและการเผาไหม้ต่างๆ จะกลายเป็นสารพิษตกค้างสู่ผืนดิน และส่งผลต่อการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศน์อีกด้วย..!!…
-
รู้จักกับ @RockWalkLondon ที่จะพาคุณไปตามรอยปกอัลบั้มวงดนตรีในตำนาน..!!
สำหรับใครที่เป็นแฟนศิลปินร็อคอันโด่งดังในอดีต ไม่ว่าจะ Pink Floyd, Bob Dylan, The Beatles หรือแม้แต่ยุคใหม่ไฟแรงอย่าง Oasis (ก็ถือว่าเด็กสุดในลิสต์นี้แล้วอ่ะนะ) เราจะพาไปรู้จักกับทวิตเตอร์ @RockWalkLondon ที่จะพาชาวเน็ตทั่วโลกไปตามรอยปกอัลบั้มเพลงในตำนานทั้งหลายที่เคยเกิดขึ้นบนเกาะอังกฤษ จะเป็นยังไงบ้างเราตามไปชมกันเลย… Oasis กับอัลบั้ม (What’s the story) Morning Glory? PJ Harveys นักร้องสาวที่ครั้งหนึ่งเคยโด่งดังไปทั่วโลก The Beatles กับอัลบั้ม Abbey Road ที่ใครหลายคนรู้จักกันดี ปกอัลบั้มของวง Led Zeppelin ยิ่งพูดยิ่งคิดถึง… ต้องเปิดเพลงฟังหน่อยแล้วล่ะ ปกอัลบั้ม The Animals จากวง Pink Floyd (ปัจจุบันโรงงานในภาพได้กลายเป็นตึกสำนักงานไปที่เรียบร้อยแล้ว) ปกอัลบั้ม CCR หนึ่งในตำนานที่ไม่ได้มีดีแค่เพลง Have you ever…
-
นักศึกษาแลกเปลี่ยน โดนวัยรุ่นเอาขวดไวน์ฟาดหน้า เหตุเพราะเขาเป็น ‘ชาวเอเชีย’
กลายเป็นประเด็นที่เป็นที่ฮือฮาบนโลกอินเทอร์เน็ต เมื่อมีนักศึกษาแลกเปลี่ยนชาวเกาหลีใต้คนหนึ่ง ถูกขวดแชมเปญฟาดเข้าไปที่ใบหน้าเหตุผลเพราะเพียงว่าเขาเป็นชาวเอเชีย โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองไบรท์ตัน ประเทศอังกฤษ เริ่มต้นขึ้นที่ Yesung Kim ผู้ตกเป็นเหยื่อถูกขวดไวน์ปาเข้าที่หลังก่อน และเขาก็ถามผู้ลงมือว่า ปาขวดไวน์ใส่เขาทำไม และพวกนั้นก็ได้ตอบกลับมาว่า “เพราะนายเป็นคนเอเชียไง” หลังจากได้ยินอย่างนั้น Kim ก็ทำเป็นไม่สนใจและพยายามที่จะเดินกลับบ้าน แต่พวกเขาก็ยังคงทำหน้าตาล้อเลียน รวมทั้งพูดจาถากถางและในที่สุดก็เอาขวดแชมเปญที่ถือไว้ฟาดเข้าที่ใบหน้าของนาย Kim ซึ่งเพื่อนของเขาได้ถ่ายเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ วีดีโอที่นักศึกษาถูกทำร้ายจากเหตุผลเพราะเป็นชาวเอเชีย หลังจากเขาถูกทำร้ายก็ทำให้เขาต้องสูญเสียฟันไป 1 ซี่และทำให้ฟันโยกอีก 10 ซี่ ซึ่งหมายความว่าผู้ลงมือนี้ต้องการที่จะทำร้ายเขาถึงกับชีวิตเลยทีเดียว โดยเพื่อนๆ ของ Kim ได้จัดทำกองทุนเพื่อหาเงินสำหรับช่วยเหลือ Kim ในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการทำฟันที่เสียหายของเขาในครั้งนี้ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1,000£ หรือกว่า 43,735 บาท เลยทีเดียว ในตอนนี้ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจและติดต่อไปยังสถานฑูตเกาหลีใต้ในประเทศอังกฤษแล้ว และผู้ร้ายยังคงลอยนวลอยู่ในขณะนี้ ที่มา: nextshark
-
รวม 8 เรื่องจริงสุด “สยอง” ที่เป็นต้นกำเนิดของหนังดัง เคยดูเรื่องไหนกันบ้าง!?
ในปัจจุบัน หนังที่สร้างมาจากเรื่องจริงนั้นเรียกว่ามีอยู่มากมายให้เราเลือกชมเลยทีเดียว บ้างก็มีการดัดแปลง บ้างก็ใช้เรื่องจริงล้วนๆ และประเภทของหนังจากเรื่องจริงก็มีอยู่หลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นแนวชีวะประวัติ แอคชั่น หรือแม้กระทั่งโรแมนติกก็มี แต่หนังที่ดัดแปลงจากเรื่องจริงแนวสยองขวัญ ถือเป็นหนึ่งในหนังที่น่าสนใจมากๆ เพราะการที่เรารู้ว่าเรื่องราวเหล่านั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ มันยิ่งทำให้เรารู้สึกสยองขึ้นไปอีก ฉะนั้นในครั้งนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆ ไปดู 8 หนังที่ได้พลอตมาจากเรื่องจริงกัน รับรองว่าเพื่อนๆ อ่านจบแล้วต้องอยากหามาดูแน่นอน Primeval หนัง: หนังว่าด้วยเรื่องของจระเข้ตัวเขื่อง ที่ฆ่าชีวิตคนไปเป็นจำนวนมาก และไม่ว่าใครจะพยายามล่ามันเท่าไหร่ ก็จะกลายเป็นผู้ถูกล่าแทนอยู่เสมอ เรื่องจริง: Gustave จระเข้อายุราวๆ 65 ปี ที่ถูกเล่ากันมาเป็นเวลานานและมีขนาดยาวกว่า 6 เมตร พร้อมกับมีการคาดเดาว่ามันฆ่าคนไปแล้วกว่า 300 ศพ ไม่ว่าจะพยายามฆ่าเท่าไหร่มันก็ไม่ตาย The Nightmare หนัง: ว่าด้วยเรื่องฝันร้ายของคน 8 คน ผ่านการสัมภาษณ์ ซึ่งทุกคนจะมีรูปแบบการฝันร้ายที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาจะเห็นเหมือนกันคือ ชายแปลกหน้าในเงามืด เรื่องจริง: หนังหยิบยกเรื่อง sleep paralysis phenomenon มาเป็นพลอตหลัก ด้วยได้รับความช่วยเหลือจากคน 8 คน ที่มาบรรยายถึงความรู้สึกและสิ่งที่พวกเขาเห็นก่อนนอน ทั้งที่ยังตื่นอยู่แต่ไม่สามารถขยับไปไหนได้ราวกับถูกมัดไว้และก็ควบคุมร่างกายไม่ได้เลย…
-
สมเป็นญี่ปุ่น! เมื่อรัฐบาลใช้ “การ์ตูน” ที่เป็นจุดเด่นมาสอนการรับมือจรวดจากเกาหลีเหนือ
สำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้ว การ์ตูนถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมของชาติเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อพูดถึงอนิเมะหรือมังงะแล้วล่ะก็ เราก็มักจะนึกถึงชาตินี้กันอยู่เสมอๆ และเมื่อคนทั่วโลกต่างพากันคิดเช่นนั้น ประจวบกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดจากจรวดเกาหลีเหนือ ทางรัฐบาลฮอกไกโดในญี่ปุ่น จึงหาทางออกด้วยการทำการ์ตูนที่เข้าถึงคนทุกวัยของชาติออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ การ์ตูนดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 6 หน้า 6 ตัวอย่างเหตุการณ์ผ่าน 6 ตัวละครหลักด้วยกัน ซึ่งการ์ตูนดังกล่าวจะเป็นภาพสีสดใสทั้งหมด เพื่อช่วยดึงดูดให้คนทุกเพศทุกวัยหันมาสนใจนั่นเอง ซึ่งก็นับว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ การ์ตูนตัวกล่าวนั้นวาดโดย Manabu Yamamoto ซึ่งเป็นนักวาดการ์ตูนที่เกิดในฮอกไกโด โดยปกติเขาก็จะรับวาดการ์ตูนให้กับรัฐบาลอยู่แล้ว ยกตัวอย่างแรกกันก่อน โดยในตัวอย่างนี้ได้อธิบายไว้ว่า ถ้าเกิดเหตุจรวดขึ้นจริงๆ ให้หาที่จอดรถให้ไวที่สุด จากนั้นก็ออกให้ห่างจากตัวรถอย่าอยู่ใกล้เด็ดขาด เพราะว่าน้ำมันอาจจะทำให้รถเกิดระเบิดแล้วเราถูกลูกหลงก็เป็นไปได้ (อย่าลืมว่าต้องอ่านจากขวามาซ้ายนะ) ถ้าเกิดว่าเรากำลังทำกิจกรรมอยู่ภายนอกแล้วเกิดเหตุ ให้หาที่กำบังใกล้เคียงอย่างอาคารบ้านเรือนที่ดูแข็งแรงทันที พร้อมกับเอามือปิดหัวไว้ให้ดี หรือถ้าคุณอยู่ในทุ่งนาหรือที่โล่ง พร้อมกับกำลังใช้เครื่องจักรกลอยู่ ให้ออกห่างจากเครื่องจักรและก้มลงเอามือกุมหัวทันที ถ้าอยู่ในบ้านแล้วเห็นข่าวจรวดเมื่อไหร่ ให้หลบอยู่ใต้โต๊ะ อยู่ห่างจากกระจกให้ไกลที่สุด หาหมอนหรืออะไรมาบังส่วนหัวเอาไว้ ถ้าอยู่กลางทะเลหรือบนเรือ ก็พยายามหาจุดกำบังใส่เสื้อชูชีพให้พร้อม จากนั้นก็เอามือบังส่วนสำคัญของร่างกายไว้ เรียกว่าเป็นวิธีหาทางออกให้ชาวเมืองด้วยจุดแข็งของประเทศได้ดีมากๆ ถ้าเป็นบ้านเราล่ะ ใช้อะไรดีนะ? ที่มา rocketnews24
-
นักปีนเขาพบ ‘เจ้าไก่ป่าสุดเท่’ สหายใหม่ร่วมเดินทาง ไม่มีงอแงจนสุดการผจญภัย
Heather Bolint ผู้ที่มีความใฝ่ฝันที่จะพิชิตเส้นทางเดินป่าเทือกเขาแอปพาเลเชียน ที่มีระยะทางทั้งหมดกว่า 3,500 กิโลเมตรครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่รัฐเมนจนถึงรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แน่นอนว่าระยะทางขนาดนี้ นอกจากร่างกายที่แข็งแรงแล้ว จิตใจที่เข้มแข็งก็สำคัญไม่แพ้กัน และเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เธอได้เริ่มต้นทริปในฝัน โดยเธอค่อยๆ เดินผ่านรัฐนิวแฮมเชียร์ เวอร์มอนต์ แมสซาชูเซตส์ คอนเน็กติคัตท์ นิวยอร์ค นิวเจอร์ซีย์ สามเดือนผ่านไปเธอได้เดินทางมาถึงรัฐเพนซิลเวอร์เนียร์ และใครจะไปคิดว่าที่นั่น เธอจะได้พบกับเพื่อนร่วมทางเป็นไก่ป่าสุดเท่ตัวนี้!! ทรงผมพี่นี่กินขาดไปเลย!! ด้วยความที่ Bolint เป็นคนที่รักสัตว์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอได้มาเจอกับเจ้าไก่ป่าตัวนี้ก็รู้สึกถูกชะตาทันที และด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าไก่ตัวนี้จะถูกหมาป่าหรือเหยี่ยวมาคาบไปกิน เธอจึงตัดสินใจพาเจ้าไก่ตัวนี้ออกเดินทางด้วยซะเลย และตั้งชื่อมันว่า Eddy สภาพอากาศระหว่างการเดินป่านั้นทั้งร้อนและชื้น แต่เพื่อนร่วมเดินทางขอบเธอก็ยังสู้ ไปไหนไปกัน ระหว่างทางถ้าเกิดมันเดินไม่ไหว Bolint ก็จะอุ้มมันขึ้นมาซุกไว้ในเสื้อ มันก็จะโผล่หัวออกมาเพื่อดูวิวข้างทาง . เรื่องอาหารการกินของ Eddy ได้มีเพื่อนที่มาตั้งแคมป์แถวนั้นมอบข้าวโอ๊ต ถั่ว และแอปเปิ้ลเพื่อเป็นอาหารให้กับมัน . ทั้งสองได้เดินทางด้วยกันเป็นระยะทางถึง 74 กิโลเมตรจากรัฐเพนซิลวาเนียมาจนถึงรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย .…
-
สามีมาดเข้มสลัดผ้า ถ่ายรูปในธีมฟักทอง เพื่อแสดงความรักต่อภรรยาที่เป็นช่างภาพ
การจะให้ความรักยืนยาว ไม่เพียงแต่บอกรักกันไปวันๆ แต่คู่รักควรจะหากิจกรรมทำด้วยกันบ้าง เช่น ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว แคมป์ปิ้ง หรือแม้แต่ทำสวนด้วยกันในวันหยุด แต่ดูเหมือนคู่รักคู่นี้จะทำกิจกรรมที่แหวกแนวนิดนึง นั่นคือ การถ่ายรูป ถ้าถ่ายรูปปกติคงไม่แปลกหรอก แต่นี่คุณสามีถึงกับทิ้งคราบหนุ่มมาดเข้ม แล้วผันตัวหนุ่มสายฮาเพื่อเอาใจภรรยาโดยเฉพาะ จริงๆ แล้วนี่เป็นแนวคิดของคุณสามีที่อยากแสดงความรักต่อภรรยาในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการถ่ายรูปในธีมฟักทอง ส่วนคนถ่ายน่ะหรอ ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคือภรรยาของเขาเองนั่นเอง Gayla Thompson เป็นช่างภาพที่ GT Photography แม้จะมีประสบการณ์การถ่ายรูปมานาน แต่การได้ถ่ายภาพสามีถือเป็นอีกหนึ่งความใฝ่ฝันของเธอ ภรรยาอาจจะเคยถ่ายภาพสามีมาบ้างแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการถ่ายเล่นๆ ไม่เป็นทางการ กระทั่งปลายเดือนกันยายน ทั้งคู่ก็ได้คุยกันเพื่อถ่ายรูปเป็นจริงเป็นจังสักที ที่ทำให้ภรรยาประทับใจคือ สามียอมเปลือยทั้งตัวเหลือแต่กางเกงในตัวเดียวและโพสต์ตามที่ภรรยาบอกด้วยความเต็มใจ นี่สิถึงจะเรียกว่ารักแท้ แล้วดูภาพของสามีแต่ละรูปสิ คงมีผู้ชายไม่กี่คนหรอกที่จะยอมให้ผู้หญิงถึงขนาดนี้ แต่การที่คุณไม่ทำแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่รักภรรยา เพราะแต่ละคนแต่ละคู่ย่อมมีวิธีแสดงความรักต่างกัน ภรรยาคงอยากบอกเป็นนัยๆ ว่า ‘สามีฉันนี่แหละ เซ็กซี่ที่สุด’ ดูสิ พ่อคุณทูนหัว หล่อระเบิดระเบ้ออะไรเบอร์นั้น ถึงไม่มีซิกแพ็ค แต่พุงหมีๆ…
-
รู้จักกับเจ้าเหมียว Meepo แมวอ้วนจอมขี้เกียจ แต่ขยันอาบน้ำมากที่สู๊ดดดดด
เหล่าทาสแมวทั้งหลายคงจะทราบกันดีว่า การที่จะอาบน้ำให้กับเจ้านายเหมียวของเราในแต่ละครั้งนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากๆ ซึ่งปกติแมวมักจะเลียขนตัวเองเพื่อทำความสะอาดอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามเราก็อยากดมกลิ่นแมวตัวหอมๆ จึงต้องยอมเสียเงินเพื่อจ้างช่างอาบน้ำแมวซะทุกที แต่เรื่องการอาบน้ำแมวนี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับเจ้า Meepo แมวอ้วนพันธุ์บริติชขนยาวตัวนี้เลย ด้วยความที่ขนของมันยาวและหนามากๆ จึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ แต่เจ้าของที่ชื่อว่า Krad ก็ได้ออกมาเผยว่า การอาบน้ำให้เจ้า Meepo ไม่ใช่เรื่องยากเลย แถมมันยังรู้สึกฟินซะอีกที่ได้อาบน้ำหอมๆ คุณ Krad ยังบอกอีกว่า เดิมทีเจ้า Meepo ก็ไม่ชอบอาบน้ำเหมือนกับแมวตัวอื่นๆ นั่นแหละ แถมยังชอบข่วนทุกครั้งที่จับอาบน้ำ แต่พอต้องอาบน้ำบ่อยๆ มันก็เริ่มชินกับการปล่อยให้น้ำอุ่นไหลผ่านขนของมัน อีกทั้งช่วยให้มันทั้งหล่อทั้งหอมอีกด้วย สวัสดีฮะ ผมชื่อ Meepo ถึงผมจะอ้วนแต่ผมก็น่ารักนะ เจ้ามนุษย์ชอบจับผมอาบน้ำอยู่เรื่อยเลย แต่ผมก็ชอบนะ ไม่เท่เลย เอาออกไปจากหัวข้าเดี๋ยวนี้นะมนุษย์ ดูหน้าก็รู้ว่าพร้อมอาบน้ำขนาดไหน ลั้นลา ลั้น ลันลา อาบน้ำกัน อาบน้ำกัน ลั้นลา ลันลันลา อาบน้ำเลย อาบน้ำเลย พออาบน้ำแล้วมันจะหมดหล่อแบบนี้ ผมอายนิดหน่อย…
-
ครอบครัวจะพาสุนัขหนีไฟป่า แต่เจ้าหมาไม่ยอมไป เพราะไม่อยากทิ้งเพื่อนแพะไว้ลำพัง
เพื่อนแท้คือคนที่จะอยู่เคียงข้างคุณในวันที่เลวร้ายที่สุด และจะไม่ยอมทิ้งคุณไว้ลำพังจนกว่าคุณจะผ่านวันเวลาอันโหดร้ายนั้นไปได้ นั่นคือมิตรภาพที่แท้จริง ซึ่งไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้น สัตว์เลี้ยงก็แสดงความรักต่อเพื่อนของมันในลักษณะนั้นเช่นกัน เหมือนสุนัขตัวนี้ที่ไม่ยอมทิ้งเพื่อนแพะไป แม้รู้ดีว่าอาจจะถูกไฟคลอกตายก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ เกิดไฟไหม้ป่าที่รัฐแคลิฟอร์เนียและลามไปถึงบ้านเรือนของประชาชนในละแวกนั้น มีการประกาศให้ทุกคนอพยพออกมาให้ด่วนที่สุด จึงทำให้หลายคคนต้องทิ้งสิ่งมีค่าไว้ที่นั่น ครอบครัวของ Roland Tembo Hendel เป็นหนึ่งในคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ พวกเขาจึงได้หนีออกมาและตั้งใจจะพาสุนัขทั้งสองไปด้วยคือ Odin และ Tessa แต่มันไม่ยอมตามมา เพราะไม่ต้องการทอดทิ้งฝูงแพะไว้ที่นั่น Tembol เขียนเล่าเหตุการณ์นี้ในเฟซบุ๊กว่า “เมื่อเวลาประมาณ 11.11 น. เราเห็นเปลวไฟที่ภูเขา อีก 5 นาทีต่อมามันก็ลุกเป็นไฟขนาดใหญ่ ก่อนจะถูกลมพัดมายังที่พักอาศัยอย่างรวดเร็ว” “เราได้พาสุนัขและแมวเพื่ออพยพออกจากพื้นที่ แต่ Odin ปฏิเสธที่จะตามเรามา มันไปอยู่เคียงข้างฝูงแพะโดยไม่กลัวไฟที่กำลังใกล้เข้ามาทุกที” หลังจากที่พยายามโน้มน้าวมันทุกวิถีทาง แต่ไม่สำเร็จ พวกเขาเลยจำเป็นหนีออกมาและทิ้งมันไว้ที่นั่น เพราะตอนนั้นไฟได้เผาทำลายบ้านเรือนและรถไปหลายคันแล้ว หากไม่หนีคงไม่รอดแล้วแน่ๆ วันรุ่งขึ้น แม้ครอบครัวจะอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว แต่ Tembo กลับนั่งร้องไห้ เพราะคิดว่า Odin และฝูงแพะที่เขาเลี้ยงมาคงตายหมดแล้วแน่ๆ ในที่สุด ครอบครัว Hendel ก็ตัดสินใจกลับไปที่นั่น…
-
หนุ่มโสดถูกยกให้เป็นยอดคุณพ่อ หลังรับเลี้ยงเด็กผู้พิการเป็นลูกถึง 4 คนด้วยกัน
การเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากต้องทุ่มเทดูแลพวกเขาตั้งแต่ตื่นจนกระทั่งเข้านอนแล้ว คุณยังต้องมีเงินจำนวนหนึ่งสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละวันด้วย เลี้ยงลูกคนเดียวว่าเหนื่อยแล้ว แต่หนุ่มโสดคนนี้กลับรับเด็กมาเป็นลูกถึง 4 ยิ่งไปกว่านั้นคือทั้งหมดนี้เป็นเด็กพิการ ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ Ben Carpenter วัย 33 ปี ได้รับเลี้ยง Jack วัย 10 ขวบ Ruby 7 ขวบ Lily 5 ขวบ และ Joseph วัย 2 ขวบ ทั้งหมดนี้เป็นเด็กพิการ จนทำให้เขาได้รับรางวัลสุดยอดผู้รับเลี้ยงแห่งปี Ben เริ่มรับเลี้ยงเด็กคนแรกเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน เมื่อเขากลายเป็นเกย์ที่อายุน้อยที่สุดในยอร์กเชียร์ที่รับเลี้ยงเด็ก แต่การที่ชายโสดจะรับเลี้ยงเด็กนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขาต้องใช้เวลาถึง 3 ปี ในการโน้มน้าวเจ้าหน้าที่ว่าเขามีความจริงใจที่จะรับเลี้ยงเด็กจริงๆ ที่สำคัญไปกว่านั้นเขามีทักษะในการเลี้ยงและพร้อมที่จะเป็นพ่อที่ดี ก่อนที่ตัดสินใจรับเลี้ยงเด็ก Ben เคยทำงานกับหน่วยงานที่ให้การดูแลผู้ใหญ่และเด็กหลายรูปแบบ เขาบอกว่า “ครั้งแรกผมตั้งใจรับเลี้ยงแค่คนเดียว ผมเป็นคนที่เชื่อในโชคชะตา และนี่คือสิ่งที่ผมต้องการ” หลังจากที่มุ่งมั่นต่อสู้มาเป็นเวลาหลายปี ในที่สุด ไม่เพียงแต่จะได้รับเลี้ยงเด็กคนเดียวตามที่ตั้งแต่ใจแต่แรก แต่ตอนนี้เขาได้กลายเป็นพ่อของเด็กๆ ถึง 4 คน…
-
พ่อกลับมาแย้วววว… หนูน้อยดีใจหนักมาก เจ้าหมาไม่อยากน้อยหน้า เลียนแบบตามซะเลย!!
ว่ากันว่าเด็กกับหมามีนิสัยที่คล้ายกันเป็นอย่างมาก สิ่งหนึ่งที่สามารถยืนยันว่าคำๆ นี้เป็นความจริงนั่นก็คือความน่ารักของทั้งเด็กและหมาอย่างที่เราเห็นๆ กันนั่นแหละ คุณ Natalie G ได้อัพโหลดคลิปวิดีโอสุดน่ารักของเด็กกับหมากำลังที่รอพ่อกลับบ้าน ความคิวท์ของทั้งคู่ทำให้มีคนรับชมคลิปวิดีโอนี้กว่า 3 ล้านวิว พ่อกลับบ้าน พ่อกลับบ้าน ในทุกๆ วันคุณพ่อจะออกไปทำงานนอกบ้านตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับบ้านมาก็ค่ำพอดี ปล่อยให้คุณแม่เลี้ยงลูกน้อยอยู่บ้านพร้อมกับเจ้าหมาเพื่อนรักอีกหนึ่งตัว แต่วันนี้คุณพ่อคงจะทำงานเสร็จเร็ว เลยกลับบ้านไวกว่าเดิม เพื่อมาหาลูกรักที่บ้านอันแสนอบอุ่นแห่งนี้ หนูน้อยที่พึ่งตื่นจากการนอนกลางวันก็ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ สงสัยจะรู้แน่ๆ เลยว่าพ่อจะกลับบ้านไวในวันนี้จึงมาเกาะประตูรอต้อนรับถึงหน้าบ้าน นั่นพ่อกลับมาแล้ว พ่อจ๋าาาาา!! รถยนต์ได้เคลื่อนเข้ามาใกล้บ้านเรื่อยๆ เด็กน้อยและเจ้าหมาก็ดีใจอย่างเก็บอาการไม่อยู่ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหมานั้นจะคอยมองเด็กน้อยอย่างสงสัย และทำตามเจ้าหนูทุกอย่าง พอหนูน้อยร้องกรี๊ดและกระทืบเท้าด้วยความดีใจมันก็ตะกุยกระจกเลียนแบบ ดุ๊กดิ๊ก ดุ๊กดิ๊ก คุณพ่อคงจะชื่นใจมากๆ เลยนะเนี่ย มีสมาชิกครอบครัวมาต้อนรับแบบน่ารักๆ แบบนี้ ที่มา inspiremore
-
น้ำตาแห่งการจากลา.. Justin Trudeau หลั่งน้ำตาหลังนักร้องดังเสียชีวิต จนผู้คนแห่ให้กำลังใจ
ดูเหมือนว่าคนหล่อไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหนก็จะยังดูหล่อเสมอ เช่นเดียวกับ Justin Trudeau ที่แม้แต่ร้องไห้ก็ยังดูหล่อได้อีก..!! โดยเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานการออกมาแสดงความเสียใจของ Justin Trudeau ที่มีต่อนักร้องชื่อดังชาวแคนาดา Gord Downie น้ำตาลูกผู้ชาย… Gord Downie คือนักร้องและนักแต่งเพลงชาวแคนาดา ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนหนุ่มสาวมาแล้วหลายรุ่นด้วยเสียงเพลงและถ้อยคำจากปลายปากกาของเขาเอง และเมื่อวันอังคารที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมาก็ได้มีการรายงานการเสียชีวิตของ Gord Downie ด้วยวัย 53 ปี จากอาการร้ายของมะเร็งสมองที่เจ้าตัวพยายามต่อสู้มาตั้งแต่ปี 2015 “เช้านี้เราได้สูญเสียหนึ่งในบุคคลที่สำคัญต่อประเทศของเรา Gord เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของผม และ Gord จะยังคงอยู่ในใจพวกเราทุกคน” Justin กล่าว นอกจากนั้นในฐานะของนายกรัฐมนตรีของประเทศ ยังได้ออกมากล่าวว่า Gord Downie ก็เป็นเพื่อนสนิทของเขาอีกคนหนึ่งที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันกับชาวแคนาดาทุกคน นั่นคือการทำให้ประเทศของพวกเขาเป็นที่ๆ ดีกว่า “Gord Downie ไม่ได้จากเราไปไหน… แม้ว่าร่างของเขาจะได้พักผ่อนอย่างสงบสุขตลอดกาล…
-
การผสมผสานสองวัฒนธรรม ดัดแปลงชุดกิโมโนญี่ปุ่น ด้วยดีไซน์ที่มีกลิ่นอายของแอฟริกา
กิโมโน เป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น เป็นชุดคลุมยาว ลวดลายสวยงาม โดยสามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิง ในปัจจุบันก็ยังมีคนใส่กิโมโนอยู่โดยเฉพาะในงานเทศกาลสำคัญต่างๆ Wafrica’s Kimono Collection เป็นการออกแบบลวดลายของกิโมโนเครื่องแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น ผสมผสานกับความโดดเด่นของความเป็นแอฟริกัน การออกแบบกิโมโนในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของ Kururi ดีไซน์เนอร์กิโมโนชาวญี่ปุ่นและ Serge Mouangue ดีไซน์เนอร์ชาวแคเมอร์รูน โดยการออกแบบนั้นก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของกิโมโนเป็นอย่างดี และมีการนำผ้าภูมิปัญญาท้องถิ่นจากประเทศเซเนกัลและประเทศไนจีเรีย Serge ได้พูดถึงการออกแบบกิโมโนในการสร้างสรรค์กิโมโนลายแอฟริกาในครั้งนี้ว่า เขาไม่ได้สร้างกิโมโนนี้ขึ้นมาเพื่อทำเป็นธุรกิจ เพียงแต่ว่าอยากจะนำความงดงามของสองประเทศนั้นมารวมกันเป็นหนึ่งเท่านั้น “การตอบสนองต่อยุคโลกาภิวัตน์ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก แต่การรวมเอกลักษณ์และวัฒนธรรมนั้นจะเป็นสิ่งที่จะยังคงรักษาความทรงคุณค่าของแต่ละวัฒนธรรมนั้นได้ ผ่านการสื่อสารทางความงามที่ได้ผลิตขึ้น” Serge กล่าว ที่มา nextshark
-
จราจรจีนทำงานท่ามกลางสายฝนหลายชั่วโมง ผู้ใช้ถนนรู้สึกสงสารเลยโยนร่มให้กลางถนน
ท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำในเมืองอู่หู มลฑลอันหุย ประเทศจีน เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคนหนึ่งได้ทำหน้าที่ของเขาอย่างขยันขันแข็ง นั่นคือการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนภายในเมือง ฝนที่เทลงมาอย่างหนักหลายชั่วโมงจนร่างกายของเขาเปียกโชกไปทั้งตัว แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาละหน้าที่ในการปฏิบัติเลยแม้แต่นาทีเดียว และเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมก็ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอบนช่องยูทูบของ People’s Daily สำนักข่าวของประเทศจีน แสดงให้เห็นว่าตำรวจราจรผู้นี้ทำงานด้วยความขยันขันแข็งอยู่ท่ามกลางสายฝน และแล้วก็มีผู้ใช้รถใช้ถนนคนหนึ่งขับมาใกล้ๆ ที่เขายืนอยู่ จากนั้นก็โยนร่มออกจากทางหน้าต่างรถยนต์ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรผู้นั้น . หลังจากการตรวจสอบป้ายทะเบียนแล้วก็พบว่าเป็นชายวัย 50 ปีท่านหนึ่ง ที่เป็นผู้โยนร่มออกมาจากรถ ทางตำรวจจึงได้โทรไปสอบถามว่าทำไมเขาจึงทำเช่นนั้น และชายผู้โยนร่มออกมาก็บอกว่า เขารู้สึกสงสารเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้ที่ยืนตากฝนมาเป็นเวลานานหลายชั่วโมงแล้ว และบอกอีกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้นั้นก็มีรูปร่างคล้ายกับลูกชายของเขา เขาจึงโยนร่มออกไปให้จราจรได้นำไปใช้กันฝน ความจริงนั้นเขาอยากจะยื่นร่มคันนั้นให้กับมือแต่ว่ามีรถขับตามมาจึงไม่สามารถจอดได้ คลิปวิดีโอขณะที่เกิดเหตุการณ์ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ปฏิบัติงานอย่างแข็งขัน และขอบคุณชายผู้ให้ร่มกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำให้เรารู้สึกว่าบนโลกใบนี้ยังมีคนที่มีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมโลกอยู่ ที่มา shanghaiist
-
นักศึกษาสาวร่างกายพัง หลังจากสูด ‘แก๊สหัวเราะ’ มากถึง 360 กระป๋องในสัปดาห์เดียว
แก๊สหัวเราะ หรือ ไนตรัสออกไซด์ เป็นแก๊สสารพัดประโยชน์ ที่ทางการแพทย์ใช้ในการผ่าตัดและการทันตกรรม โดยผู้ที่สูดดมแก๊สหัวเราะเข้าไปจะรู้สึกเคลิบเคลิ้ม มีความสุขจนหัวเราะออกมา ซึ่งในปัจจุบันนั้นได้ถูกนำมาใช้อย่างผิดวิธี โดยนำแก๊สหัวเราะมาสูดดมเพื่อทำให้อารมณ์ดี ผ่อนคลายและกำลังเป็นที่นิยมกันในชื่อ Nungs หมู่วัยรุ่นในออสเตรเลีย เนื่องจากมีการซื้อขายกันอย่างง่ายดายจึงทำให้มีการแพร่ระบาดของกิจกรรมปาร์ตี้แก๊สหัวเราะในหมู่นักศึกษา โดยการสูดแก๊สหัวเราะนั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่อัดแก๊สหัวเราะเข้าไปในลูกโป่งหรือกระป๋องวิปครีมแล้วสูดดม แต่ไม่มีใครตระหนักเลยว่าการสูดดมแก๊สหัวเราะในปริมาณมากๆ จะส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไร นักศึกษาสาววัย 20 ปีของมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียคนหนึ่งไม่สามารถกลับมาเดินแบบปกติได้เนื่องจากการสูดดมแก๊สหัวเราะเกินปริมาณ โดยเธอสูดแก๊สหัวเราะมากกว่า 360 กระป๋องภายใน 1 สัปดาห์!!! แก๊สหัวเราะได้ทำลายเส้นประสาทบริเวณไขสันหลังของเธอ ทำให้ไม่สามารถทรงตัวได้และทำลายสมองเทียบเท่ากับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ติดต่อกัน 40 ปีเลยทีเดียว Dr.Andrew Dawson ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องยาพิษของโรงพยาบาล Westmead ได้เปิดเผยว่าผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากการสูดดมแก๊สหัวเราะ มีจำนวนเพิ่มขึ้นสูงมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา “เรามีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ส่วนมากเป็นวัยรุ่นที่ได้สูดดมแก๊สหัวเราะเข้าไปในปริมาณมาก ซึ่งมันส่งผลโดยตรงกับเส้นประสาทและสมอง มันจะไม่ทำให้ตายในทันทีแต่จะค่อยๆ ทำลายร่างกายและสมองไปเรื่อยๆ การสูดดมหนึ่งครั้งก็จะทำให้สมองขาดออกซิเจนไปชั่วขณะ” Dr.Dawson กล่าว .…
-
โมเม้นท์น่ารักๆ ของแมวป่ากับมนุษย์ หลงใหลการแปรงขนมาก ถึงขั้นไม่อยากให้หยุดเลย
เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหล่า “แมวเหมียว” ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวมนุษย์เป็นเวลานานนับหลายพันปี เพราะมันถือส่วนประกอบสำคัญที่จะช่วยเพิ่มสีสัน และสร้างความสุขอย่างลงตัวให้กับบ้านหลังนั้นๆ ได้ดีเชียวล่ะ และที่บ้านของคุณอาจจะเลี้ยงแมวสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เช่น สก๊อชติชโฟลด์ มัชกิน หรือแมวบ้านทั่วๆ ไปอยู่ใช่ไหมล่ะ แต่จะมีสักกี่คนกันน้าที่จะยอมเปิดใจรับแมวป่ามาเลี้ยงบ้าง!! อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่า แมวป่าอาจจะไม่ใช่สัตว์ที่ผู้คนทั่วๆ ไปนิยมนำมาเลี้ยง เนื่องด้วยนิสัยที่ดุร้าย และไม่เหมือนกับแมวบ้านทั่วๆ ไป (บางประเทศเขามีกฎหมายห้ามเลี้ยงด้วยนะ ถือว่าเป็นสัตว์ป่า) แต่ในทางกลับกัน Max ลิงซ์แคนาดาตัวนี้ มันเป็นแมวป่าที่มีนิสัยขี้เล่น และน่ารักมากๆ ภายหลังจากที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยมนุษย์ สำหรับ Max มันไม่ได้เป็นเพียงแค่แมวป่าโนเนมทั่วๆ ไปนะจ๊ะ แต่คุณน้องเขายังเคยทำให้ชาวเน็ตทั่วโลกโซเชียลหัวใจพองโตมาแล้ว ด้วยคลิปวีดีโอสุดคิ้วท์ในขณะที่กำลังได้รับการเอาใจใส่จากผู้ดูแล ซึ่งคลิปดังกล่าวก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ถึงขั้นมีคนเข้ามารับชมมากกว่า 4 ล้านคนเลยทีเดียว อีกทั้งในคลิปยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความรักที่มนุษย์ใจดีมีเมตตาได้มอบให้กับแมวตัวหนึ่ง และถ้าหากคุณได้ลองรับชมจะต้องแอบยิ้มไปตามๆ กันอย่างแน่นอน มันชอบให้มนุษย์แปรงขนให้ที่สุด เรียกได้ว่าถึงขั้นหลงใหลการแปรงขนเลยก็ว่าได้ นอนชิวๆ ให้พวกมนุษย์ดูแลนี่มันเป็นอะไรที่แฮปปี้ฝุดๆ (Max ไม่ได้กล่าว แต่เราดูจากทรงแล้ว คิดว่ามันก็น่าจะประทับใจอยู่นะ) …
-
เมื่อเหล่าพนักงานส่งของ พากันเก็บภาพถ่ายมะหมาตามสถานที่ต่างๆ มันก็จะดูมุ้งมิ้งเหมือนกันหมด
ก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอเรื่องราวน่ารักๆ ที่กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อหญิงสาวจากรัฐหลุยเซียน่า ได้แอบถ่ายภาพโมเม้นต์ชวนยิ้มระหว่างพนักงานส่งของ UPS และเจ้าหมาของเธอ ที่ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะสนิทสนมกันเป็นพิเศษ ซึ่งภายหลังจากที่เธอได้นำภาพดังกล่าวไปโพสต์ลงบนสื่อโซเชียลมีเดีย ก็ได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก และพอมีคนไปสืบค้นหาความจริงก็ได้รู้ว่า พนักงานส่งของ UPS และเจ้าหมาที่เขาเล่นด้วยนั้นเคยเจอกันมาก่อน ไม่เพียงแต่หญิงสาวจะแอบถ่ายภาพของพนักงานส่งของกับเจ้าตูบของเธอเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะหยิบมือถือมาเซลฟี่กับมันด้วยเช่นกัน ย้อนเวลากลับไปในตอนที่ทั้งคู่ยังไม่รู้จักกัน ชายพนักงานส่งของรายนี้ได้พบกับเจ้าตูบที่หนีออกจากบ้าน และนั่นก็ทำให้เขาได้พามันกลับมาส่งคืนเจ้านายได้อย่างปลอดภัย และที่สำคัญไม่ใช่เพียงแค่จะเล่นกับเจ้าตูบตัวนี้เพียงตัวเดียว แต่เขายังหยุดเล่นกับน้องหมาทุกตัวที่เจออีกด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องราวน่ารักๆ ที่เกิดขึ้นนี้ ก็ได้กลายเป็นสิ่งที่ช่วยจุดประกายให้ชาวเน็ตได้สร้างเพจบนเฟซบุ๊กที่ชื่อ UPS Dog ขึ้นมา และเมื่อคุณได้คลิกเข้าไปยังเพจนี้ สิ่งที่จะได้เห็นก็คือภาพน่ารักๆ ของเหล่ามะหมาที่พนักงานคนส่งของทั้งหลายได้ไปพบเจอระหว่างทาง หรือตามสถานที่ต่างๆ ที่ได้ไปเยือนเต็มไปหมด ว่าแล้วก็มารับชมภาพน่ารักๆ เหล่านี้กันเลย ยินดีต้อนรับเข้าสู่ UPS Dog …. . . . . . . . . . . .…
-
ถุงมือแมวสำหรับเล่นสมาร์ทโฟน ที่แม้จะทำให้ตะกุกตะกักกว่าเดิม แต่ก็ยอมเพื่อความน่าร๊ากกก
สินค้าน่ารักๆ ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่นที่เราจะนำมาเสนอในวันนี้ ต้องกลายเป็นที่ถูกอกถูกใจของบรรดาผู้คน โดยเฉพาะทาสแมวทั้งหลายอย่างแน่นอน เพราะนี่คือ ถุงมือแมว Nuisance Cat สุดน่ารักที่ถูกเนรมิตขึ้นมาเพื่อเอาไว้เล่นสมาร์ทโฟน แม้เวลาใช้จะไม่ค่อยๆ ลื่นปรื้ดดดเท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมใช้เพราะความตะมุตะมิของมันนนน >< สำหรับถุงมือแมวดังกล่าว ถูกผลิตขึ้นมาจากเส้นใยผ้าโพลีเอสเตอร์ ที่มีคุณสมบัติไม่ยับง่าย สวมใส่สบาย และยังสะดวกในการดูแลรักษาอีกด้วย นอกจากนี้ ยังได้รับการออกแบบขึ้นมาโดย Felissimo ร้านค้าออนไลน์ชื่อดังของญี่ปุ่น ที่ได้รวบรวมสินค้าสุดคิ้วท์สำหรับคนรักเจ้าเหมียวเอาไว้มากมาย และแน่นอนว่าเจ้าถุงมือแมวนี้ ก็เป็นหนึ่งในนั้น… ก่อนหน้านี้ทาง Felissimo ก็เคยมีการนำเอาถุงมือแมวเหมียวออกมาวางจำหน่ายไปแล้ว ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างมากจนต้องนำกลับมาขายกันอีกครั้ง ซึ่งความน่ารักก็ยังคงเดิม เพิ่มเติมคือสามารถเปิดบริเวณฝ่ามือได้ เพื่อการสัมผัสกับสมาร์ทโฟนได้ง่ายยิ่งขึ้น ที่สำคัญสินค้าดังกล่าวยังถูกผลิตขึ้นมาถึง 3 รูปแบบ โดยคุณสามารถเลือกลวดลายเจ้าเหมียวตามต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็น… ลายแต้มสีเงินและขาว ลายแต้มสีเงินและสีน้ำตาล หรือจะเป็นลายเจ้าเหมียวสามสีก็น่ารักดีน้า โอ๊ยยย เลือกไม่ถูก สำหรับเพื่อนๆ…
-
บรรณารักษ์ถ่ายภาพถ่ายเลียนแบบสาวๆ ตระกูล Kardashian แถมดูดีไม่แพ้ต้นฉบับเลย
“Keeping Up with the Kardashians” เป็นหนึ่งในรายการเรียลลิตี้ที่โด่งดังของอเมริกา ที่ดำเนินรายการโดยสาวๆ แห่งบ้าน Kardashian และ Jenner สำหรับรายการดังกล่าวได้เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2007 และในเดือนตุลาคมปี 2017 นี้ ก็ได้ถือวาระครบรอบ 10 ปี ของ Keeping Up with the Kardashians เป็นที่เรียบร้อยแล้ว… และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของรายการนี้ ทางเหล่าบรรณารักษ์ห้องสมุด Invercargill City Archives ใน South Island ประเทศนิวซีแลนด์ จึงได้ปิ๊งไอเดียสุดแจ่มโดยการถ่ายภาพเลียนแบบสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล Kardashians ซะเลย นอกจากนี้ พวกเขายังได้นำภาพถ่ายผลงานของตัวเองไปเผยแพร่ลงบนสื่อโซเชียลมีเดียด้วย ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก จนได้กลายเป็นกระแสไวรัลที่โด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ในเวลาอันรวดเร็ว ภาพคอลเล็คชั่นชุดใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสาวๆ ตระกูล Kardashians ส่วนนี่เป็นภาพต้นฉบับนะจ๊ะ เหมือนแค่ไหนถามใจเธอดูวววว์ ทางด้านเจ้าหน้าที่ห้องสมุดก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า…
-
Dr. Kitty หมอเถื่อนวัย 19 ถูกตำรวจจับ หลังแอบเปิดคลินิกศัลยกรรมโดยไม่มีใบอนุญาต
ทุกวันนี้ใครที่รู้สึกไม่พอใจในรูปลักษณ์หรือหน้าตาของตนเอง ก็สามารถเดินเข้าคลินิกความงามเพื่อแต่งเติมส่วนที่เหลือที่ขาดได้ แต่ก่อนจะลงมือทำอะไร โปรดตรวจสอบคลินิกเหล่านั้นให้ดีเสียก่อน ไม่อย่างนั้นท่านอาจจ๊ะเอ๋กับหมอเถื่อนก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้ออกมาตีแผ่เรื่องราวสุดฉาวของวงการศัลยกรรมเถื่อน เมื่อ Jingyi Wang หรือ Dr. Kitty (นามแฝง) หญิงสาววัย 19 ปี จากโตรอนโต ประเทศแคนาดา ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมในวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2560 หลังจากที่เธอถูกกล่าวหาว่าเป็นหมอเถื่อน แอบเปิดคลินิกศัลยกรรมโดยไม่มีใบอนุญาต… จากการรายงานระบุว่า ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา Dr. Kitty ได้อ้างว่าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามทั้งที่ไม่ได้เป็นแพทย์จริง โดยเธอได้ทำการเปิดคลินิกเสริมความงามที่ชั้นใต้ดินภายในบ้าน และที่น่าตกใจก็คือมีเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายได้หลงเข้ามาทำศัลยกรรมที่คลินิกเถื่อนแห่งนี้ ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่มักจะมีอายุที่ใกล้เคียงกับเธอ อย่างไรก็ตาม Dr. Kitty ได้ทำการฉีดฟิลเลอร์บนใบหน้าให้กับหญิงสาวรายหนึ่ง แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ ใบหน้าของหญิงรายดังกล่าวก็ได้รับการติดเชื้ออย่างรุนแรง และจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากศัลยแพทย์ตกแต่งตัวจริงที่มีใบอนุญาตอย่างเร่งด่วน ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาเผยว่า อาจมีผู้ตกเป็นเหยื่ออีกหลายรายที่ได้เข้ามาใช้บริการเสริมความงามจากคลินิกเถื่อนแห่งนี้ ทั้งนี้ Dr. Kitty ได้ออกมาปรากฏตัวต่อศาลในวันเสาร์ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมในวันวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเธอก็มีกำหนดให้ขึ้นศาลอีกครั้งในเดือนหน้า ที่มา…
-
พ่อแม่เล่นซ่อนแอบกับลูกน้อย หนูน้อยหายังไงก็หาไม่เจอ จนกระทั่งมีคนทรยศ!?
ตั้งแต่ที่มนุษยชาติได้รู้จักกับกล้อง GoPro นั้น เราได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างที่เราไม่เคยเห็น เช่นภาพจากมุมมองของสัตว์หรือมุมมองบุคคลที่ 1 อะไรทำนองนี้เป็นต้น มาคราวนี้มันถูกนำมาใช้กับลูกตัวน้อยของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งได้อัพโหลดคลิปลงที่ช่อง Dan โดยพวกเขาได้เล่นซ่อนหากับลูกโดยผูกกล้อง GoPro ติดไว้ ด้วยเหตุนี้เราจึงจะได้เห็นการออกตามหาพ่อแม่ของลูกน้อยที่วิ่งไปทั่วบ้าน เป็นภาพความประทับใจน่ารักๆ เกมตามหาพ่อแม่เริ่มขึ้นแล้ว!! หนูน้อยพยายามวิ่งไปเช็คยังห้องต่างๆ ที่เขาคุ้นเคย ไปหาถึงในห้องซักผ้าก็ไม่เจอ มาถึงจุดนี้เจ้าหนูก็หยุดและทำทีเหมือนคิดว่าจะไปหาที่ไหนต่อดู แน่นอนว่าพ่อกับแม่กำลังดูถ่ายทอดสดผ่านตัวกล้องอยู่ด้วย เด็กน้อยยังคงมองหาต่อไป จนกระทั่งตัวแปรสำคัญของเกมนี้ก็มาถึง เจ้า Ollie หมาที่พวกเขาเลี้ยงเอาไว้ได้มาเป็นพี่เลี้ยงช่วยเจ้าหนูเล่นเกมนี้นั่นเอง เจ้าหนูยังคงติดตามเจ้าตูบพี่เลี้ยง ตามหาพ่อแม่ต่อไป เอ๊ะ เหมือนเจ้าตูบจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างนะ แล้วแบบนี้เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป… ติดตามชมได้ที่คลิปตัวเต็มเลยจร้า ดูจนจบแล้วต้องอุทานขึ้นมาทันทีว่า ไอ้ทรยศ!! ที่มา boredomtherapy
-
สองครอบครัว สองฐานะ… สลับบ้านกันอยู่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ กับบทเรียนที่เงินไม่อาจทดแทนได้
เคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าอยู่ดีๆ เราที่เคยร่ำรวยสุดๆ สามารถใช้เงินโดยไม่คิดอะไรมากใช้ยังไงก็ไม่มีวันหมด ต้องมาสลับบ้านไปอยู่ในบ้านราคาถูก ส่วนคนที่เคยจนต้องใช้เงินอย่างประหยัดทำอะไรก็ต้องคิด อยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนไปรวยจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณคิดไม่ออก รายการ Rich House, Poor House จากช่อง Channel 5 ในอเมริกาจัดให้!! โดยพวกเขาได้นำครอบครัวของ Matt และ Moniqe Fiddes ที่เป็นคนรวย สลับกันใช้ชีวิตกับ Andy และภรรยาพิการ ของเขา Kim Leamon ทั้งหมดจะต้องแลกความเป็นอยู่ รวมถึงฐานะกันเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์เต็มๆ จากนั้นก็รอดูสิ่งที่พวกเขาได้จากการสลับสับเปลี่ยนในครั้งนี้ ซึ่งแค่ฟังดูมันก็น่าสนใจแล้ว เริ่มกันที่ครอบครัวของ Andy Leamon กันก่อน โดยเขาได้รับการเพิ่มรายรับจากเดิมอยู่ที่ราวๆ 7,400 บาทต่อสัปดาห์ ให้กลายเป็นเท่ากับรายรับของ Matt Fiddes ซึ่งมีรายรับอยู่ที่ 65,000 บาทต่อสัปดาห์ ซึ่งมากกว่าหลายเท่าเลยล่ะ และเช่นเดียวกันด้าน Matt ก็ต้องไปอยู่ในฐานะเดียวกับที่ Andy เคยเป็น ด้าน Andy ที่ได้กลายเป็นคนรวย ก็ค้นพบว่าครอบครัวของ Matt นั่นใช้เงินมากกว่า…
-
10 อันดับอาชีพที่รายได้ดีสุดๆ ในสหรัฐอเมริกา โดยไม่จำเป็นต้องจบปริญญาตรี…
คำนิยามที่ว่าไม่ต้องเรียนจบจนมีใบปริญญาก็ทำงานหรือรวยได้นั้น ดูจะเป็นคำโฆษณาที่ปลุกใจคนได้ดีเสียเหลือเกิน ทว่าในความเป็นจริงมันกลับหาอาชีพที่จะทำแบบนั้นจริงๆ โดยขาดประสบการณ์ยากซะเหลือเกิน แต่ถ้าใครยังคงปักใจว่า ตัวเองทำได้แม้จะไม่มีใบปริญญาก็ตาม ขาดแค่อาชีพที่จะทำ งั้นราลองมาดูอาชีพจากเมืองอเมริกาที่ไม่ต้องการใบปริญญาหรืออาจจะต้องการแค่จบ ปวส. หรือประกาศนียบัตรความเชี่ยวชาญสาขานั้นๆ ก็พอแล้วมาให้ดูกัน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดพวกเขาอ้างอิงจากหน่วยงานด้านสถิติของสหรัฐอเมริกา US Bureau of Labor Statistics โดยระบุว่าทุกอาชีพนั้นมีรายรับต่อปีที่สูงถึง 2,500,000 เลยทีเดียว นักบินสายการพาณิชย์ รายรับต่อปีอยู่ที่ราวๆ 2,500,000 บาท การจะมาทำอาชีพนักบินนี้ได้ก่อนอื่นคุณจะต้องมีวุฒิการศึกษาระดับม6. หรือเทียบเท่าเสียก่อน จากนั้นจะต้องได้รับการฝึกบินในระดับหนึ่งเสียก่อน แต่ที่สำคัญที่สุดคือคุณจะต้องมีใบอนุญาตขับเครื่องบินพาณิชย์ ไม่งั้นคุณจะไม่สามารถทำงานในอาชีพนี้ได้ แค่อาชีพเดียวก็ดูน่าสนใจแล้ว งั้นเราลองมาดูอาชีพอื่นๆ กันเลย… นักสืบ รายรับต่อปีอยู่ที่ราวๆ 2,600,000 บาท จะเป็นอาชีพนี้ได้นั้นคุณจำเป็นจะต้องจบการศึกษาระดับม.6 และฝึกอบรบจนชำนาญ พร้อมกับต้องมีประสบการณ์ทำงานมามากกว่า 5 ปี ซึ่งหน้าที่ในการทำงานก็จะเป็นการสืบสวนคดีต่างๆ รวมถึงจัดการปัญหาความวุ่นวายต่างๆ ช่างซ่อมติดตั้งและซ่อมลิฟท์ รายรับต่อปีอยู่ที่ราวๆ 2,600,000 บาท การจะทำอาชีพนี้นั้น คุณไม่ต้องมีวุฒิที่สูงมาก เพียงแค่วุฒิป6. ก็เพียงพอแล้ว ทว่าคุณจะต้องมีความรู้เรื่องเครื่องกลและช่างพอสมควร เพื่อใช้ในการติดตั้งและซ่อมแซมลิฟ์ นอกจากนั้นต้องได้รับการฝึกงานมาก่อนจึงจะสามารถทำได้ ช่างเทคนิคเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์ รายรับต่อปีอยู่ที่ราวๆ…
-
ภารกิจสำคัญ เมื่อทีมงานญี่ปุ่น 1,200 คน ต้องย้ายรางรถไฟบนดิน ให้ลงใต้ดินภายใน 4 ชั่วโมง!!
บ้านเรานั้น เวลาต้องการจะสร้างอะไรสักอย่างหรือซ่อมทางสักทาง เราก็คงต้องปิดถนนแล้วใช้เวลากันเป็นสัปดาห์ เป็นเดือนหรืออาจจะเป็นปีในการสร้าง หนักหน่อยอาจจะสร้างไม่สำเร็จและทิ้งไว้แต่เสาก็เป็นได้ ทว่าในหลายประเทศการซ่อมถนนหรือสร้างอะไรสักอย่างที่อาจจะกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน พวกเขาจะเร่งทำมันให้ไว้ที่สุด พูดให้เห็นตัวอย่างง่ายๆ ก็คงหนีไม่พ้นญี่ปุ่นที่ล่าสุดมีเหตุการณ์ดินถล่ม แต่ในเวลาเพียงไม่กี่วันพวกเขาก็ซ่อมมันจนเสร็จ มาคราวนี้สถานีรถไฟญี่ปุ่นต้องการจะย้ายเส้นทางรถ พวกคุณคิดว่าพวกเขาจะใช้เวลากี่ชั่วโมง? กี่วัน? หรือกี่เดือนกันนะ? . ความท้าทายนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2013 ซึ่งเป็นผลงานของบริษัท Tokyu railway โดยพวกเขาจะเปลี่ยนเส้นทางรถไฟของสายโตเกียวใหม่ โดยสถานีไดกันยามาต้องปรับระดับของรางเพื่อเชื่อมกับเส้นทางใต้ดินของสถานีชิบุยะ ด้วยเหตุนี้ทางบริษัทจึงหาวิศวกรกว่า 1,200 มาช่วยกันจัดการโปรเจคนี้ การก่อสร้างใหญ่ๆ แบบนี้โดยปกติใครก็ต้องสังเกตเห็นแน่นอน แต่ในครั้งนี้แทบไม่มีประชาชนคนไหนรู้เลย ต่อให้คุณอาศัยอยู่ในกรุงโตเกียวก็ตาม เพราะเขาใช้เวลากันแค่ 3 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น!! พวกเขาเริ่มก่อสร้างตอนตีหนึ่งหลังจากที่ขบวนรถไฟสุดท้ายออกจากสถานีไป และเสร็จตอนประมาณตีสี่ครึ่งซึึ่งทันเวลารถไฟรอบแรกของอีกวันพอดี เอ้า เริ่มได้ ลุยๆ !! พูดไปก็จะหาว่าอวย งั้นลองมาดูคลิปการเปลี่ยนรางในครั้งนี้กัน แล้วเราจะรู้ว่าพวกเขานี่ของจริง!! มันจะโหดเกินไปแล้วนะลูกพี่!! ที่มา rocketnews24
-
ยลโฉม 14 เจ้าชายและเจ้าหญิงองค์น้อย จากราชวงศ์ต่างๆ ของแต่ละประเทศทั่วโลก
เจ้าชายจอร์จ อาจเป็นรัชทายาทของดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลก แต่ถึงกระนั้นพระองค์ก็ไม่ได้เป็นรัชทายาทในราชวงศ์เพียงพระองค์เดียว เพราะยังมีรัชทายามจากราชวงศ์ต่างๆ จากหลายๆ ประเทศ ที่กำลังถูกจับตามอง และได้รับความสนใจจากสาธารณชนเช่นกัน และนี่คือ 24 พระฉายาลักษณ์ของเจ้าชายเจ้าหญิงจากราชวงศทั่วโลกที่อายุน้อยที่สุดในตอนนี้ และจะได้ขึ้นครองราชบัลลังก์ในอนาคต ว่าแล้วก็มารับชมไปพร้อมๆ กันเลย 1.เจ้าชายจอร์จแห่งเคมบริดจ์ พระชนมายุ 4 พรรษา พระโอรสพระองค์แรกในเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ กับแคเธอริน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ และอยู่ในลำดับที่สามของการสืบสันตติวงศ์อังกฤษ 2.เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเคมบริดจ์ พระชนมายุ 2 พรรษา เป็นพระขนิษฐาของเจ้าชายจอร์จแห่งเคมบริดจ์ อยู่ในลำดับที่สี่ของการสืบสันตติวงศ์สหราชอาณาจักร 3.เจ้าหญิงเอสเตลล์ ดัชเชสแห่งเอิสเตร์เยิตลันด์ พระชนมายุ 5 พรรษา อยู่ในลำดับที่สองของการสืบสันติวงศ์สวีเดน 4.เจ้าชายออสการ์ ดยุกแห่งสกอเน พระชนมายุ 1 พรรษา เป็นพระอนุชาของเจ้าหญิงเอสเตลล์ ทรงประสูติในเดือนเมษายน 2016 5.เจ้าชายฌัก รัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงองค์ปัจจุบันของโมนาโก และ เจ้าหญิงกาเบรียลา เคาน์เตสแห่งการ์ลาแด็ส ทรงเป็นผู้สืบราชสมบัติลำดับที่สองของโมนาโก…
-
25 ภาพหลอนสยองวินเทจที่จะทำให้คุณนอนไม่หลับ กระสับกระส่ายคล้ายจะโดนเข้าสิง!!
ความสยดสยองบางครั้งเราไม่จำเป็นต้องเจอด้วยตาของตัวเองตรงๆ เพราะเพียงแค่ฟังเรื่องเล่าหรือเห็นรูปภาพบางอย่างก็สามารถทำให้คุณรู้สึกขนหัวลุกแล้ว เช่นเดียวกับภาพวินเทจเหล่านี้ที่ไม่ต้องมีคำบรรยายอะไรมันก็ทำให้คุณรู้สึกกลัวการอยู่คนเดียวได้อย่างง่ายดาย ไม่เชื่อลองไปชมกันเลย โครงกระดูกและหัวกระโหลกที่เรียงไว้อย่างสวยงามในที่ฝังศพใต้โบสถ์ Capuchin ในกรุงโรม ตอนประมาณปี 1900 ช่วงศตวรรษที่ 19 นักมานุษยวิทยาเผยภาพหัวมนุษย์ที่ถูกล่าในประเทศเอกวาดอร์ ผลงานของนักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศส สร้างชีวิตให้กับตุ๊กตาเด็กในช่วงศตวรรษที่ 18 ภาพของเด็กน้อยเล่นกับปีศาจ Krampus โดยไม่รู้สึกกลัวอะไร ตอนประมาณปี 1900 การมาเยือนของแขกไม่ได้รับเชิญที่มาอย่างเงียบเชียบ ในปี 1860 ภาพถ่ายของ “Lionel เด็กชายหน้าสิงโต” ที่กำลังมีชื่อเสียงในปี 1907 Lon Chaney ตัวตลกผู้เป็นมิตรที่ได้แสดงในละครใบ้ชื่อ He Who Gets Slapped ปี 1924 ภาพของผู้หญิงไร้หัวหนึ่งในการแสดงบนเกาะ Coney Island สหรัฐอเมริกา ปี 1945 สถานที่เกิดเหตุคดีฆาตกรรมในยามค่ำคืน วันที่ 11…
-
ความน่ารักของคุณหมอ ช่วยผ่อนคลายให้กับหนูน้อย พาเต้นจนหายกลัวและยิ้มได้อีกครั้ง…
เมื่อพูดถึงโรงพยาบาลนั้น หมอก็คงจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่เราจะนึกถึงสถานที่แห่งนี้ แน่นอนว่าไม่มีอยากไป เพราะเมื่อไปทีไรก็จะต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเสมอๆ เช่นเดียวกับหนูน้อยสามคนจากรัฐฟลอริด้า เมื่อหนูน้อย Autum Moses จะต้องเดินทางไปที่โรงพยาบาล Wolfson เพื่อรักษาอาการป่วยจากโรคสเตรปโธรท ด้วยความกลัวหนูน้อยจึงมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก จนส่งผลไปถึงน้องสาวอีกสองคนกลัวไปด้วย ทว่าเมื่อ Dr. Chima Matthew ที่เห็นสีหน้าของทั้งสามดูไม่ค่อยจะดี เขาจึงตัดสินใจที่จะช่วยคลายความเครียดของเด็กสาวทั้หมด โดยการเปิดเพลงจากมือถือขึ้นมาแล้วออกลีลาท่าทางเท้าไฟของเขาให้หนูน้อยทั้งสามดูและเต้นตาม วินาทีที่เขาเริ่มเต้น หนูน้อย Autum ก็เริ่มจะคลายความตึงเครียดลงไปได้ระดับนึงจนถึงขั้นผ่อนคลาย และเริ่มเต้นตามในท้ายที่สุด ไม่พอเท่านั้นน้องสาวอีกสองคน Winter และ Kristlynn พอเห็นพี่สาวหายเครียด ทั้งหมดก็เริ่มเต้นตามคุณหมอ เอ้า อย่าเครียดนะหนูๆ เต้นตามหมอเร็ว ฮั๊ดฉึบๆ ดูๆ หมอแด๊บด้วย ฮั๊ดโช๊ะ ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดได้ถุูกบันทึกไว้ และเผยแพร่สู่โลกโซเชี่ยลมีเดียจนมีคนมากมายพากันพูดถึงคุณหมอ Chima ว่าเขาเป็นหมอที่ใจดีมากๆ แถมยังสร้างรอยยิ้มให้หนูๆ ได้อีก ลองชมคลิปเต็มๆ ของคุณหมอดูกัน ลีลาจะเด็ดจริงไหม (ลิ้งดูวีดีโอ) ด้านแม่ของ…
-
โรงเรียนแนวใหม่ในญี่ปุ่น เปิดสอนหญิงข้ามเพศ ให้กลายมาเป็นหญิงโดยสมบูรณ์!!
สังคมญี่ปุ่นในปัจจุบันนั้นการเป็นผู้ชายข้ามเพศ หรือการเป็นผู้ชายที่ชื่นชอบแต่งตัวแบบคอสเดรสนั้นเป็นอะไรที่แพร่หลายมากๆ ซึ่งเหตุผลของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ในเขตชินจุกุนั้นก็มีย่านหนึ่งที่ชื่อว่า Nichome ซึ่งเป็นย่านที่คนในพื้นที่จะรู้จักกันดีว่าเป็นศูนย์กลางของชาวญี่ปุ่นที่เป็นเกย์หรือคนข้ามเพศ ที่ประกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้าและอื่นๆ อีกมามาย แต่เร็วๆ นี้จะมีธุรกิจเปิดใหม่ที่สร้างมาเพื่อเอาใจสายนี้โดยเฉพาะ!! ธุรกิจที่ว่านั่นก็คือ Otome Juku หรือแปลได้ว่า Maiden School ซึ่งจุดประสงค์หลักของโรงเรียนแห่งนี้นั้นก็เปิดขึ้นเพื่อสอนเหล่าชายคอสเดรสที่อยากจะเข้าถึงความเป็นผู้หญิงเวลาแต่งตัว หรือคนที่เป็นข้ามเพศแต่ยังแสดงความเป็นหญิงได้ไม่ดีนั่นเอง ด้าน Satsuki Nishihara ผู้ก่อตั้งนั้นก็แน่นอนว่าต้องเป็นข้ามเพศด้วยเช่นกัน ซึ่งเธอต้องการจะสอนถึงการเข้าถึงความน่ารักแบบผู้หญิงๆ โดยบอกว่า “ฉันต้องการสอนให้ผู้คนที่เพิ่งหัดซื้อกระโปรงหรือชุดน่ารักๆ มาแต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงให้ดูน่ารักเวลาใส่ในที่สาธารณะ” . ในเรื่องของหลักสูตรก็มีหลากหลายเลยล่ะ โดยจะมีตั้งแต่การเดิน การแสดงออก หรือแม้แต่การดัดเสียงที่นี้ก็จะสอนให้จนชำนาญ และถ้าใครไม่เคยแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางผู้หญิง ที่นี่ก็มีผู้เชี่ยวชาญมาสอนให้ ฉะนั้นรับรองว่าเข้าเรียนปุ๊บแล้วจบมาจะเหมือนผู้หญิงทุกอย่างเลยล่ะ . . ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ยังเปิดสอนให้ผู้หญิงจริงๆ ด้วยนะไม่ใช่ว่าต้องเป็นข้ามเพศเท่านั้น ถ้าใครสนใจก็ลองเดินทางไปและสมัครเรียนดูกันได้ ค่าเรียนต่อหนึ่งหลักสูตรนั้นจะอยู่ที่ราวๆ 1,800 บาทต่อหนึ่งหลักสูตร แถมยังมีส่วนลดอีกเพียบสำหรับผู้ที่สนใจ . Otome Juku จะเปิดให้บริการรอบพิเศษในวันที่ 5 พฤศจิกายน และเปิดจริงๆ ในวันที่ 17…
-
20 ภาพบนโลกโซเชียล กับเบื้องหลังที่ทำให้เราได้รู้ว่า โลกเรามีสองด้านเสมอ…
บนโลกโซเชียล ทุกคนสามารถนำเสนอสิ่งต่างๆ ได้อย่างอิสระเพื่อให้เพื่อนในสังคมออนไลน์รู้จักเราได้มากขึ้น (เท่าที่เราต้องการ) แต่สิ่งที่แสดงออกมาก็ไม่ได้เป็นเรื่องจริงทั้งหมดเสมอไปหรอกนะ เพราะหลายคนที่ต้องการให้มียอดไลก์เยอะๆ พวกเขาก็พร้อมที่จะใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูเพอร์เฟคท์มากที่สุด ด้วยวิธีการที่บางทีเราอาจคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เราลองไปดูตัวอย่างเหล่านี้กันว่าความจริงกับสิ่งที่เราเห็นมันต่างกันมากเพียงใด มีความเซ็กซี่ที่ใบหน้า บางทีก็อยากจะมีไม้เซลฟี่เป็นของตัวเองบ้าง ต้นไม้ในหน้าร้อนนี่มันช่างน่าหลงใหลเสียเหลือเกิน เก็บตังมาทั้งปี ในที่สุดผมก็ได้มาเที่ยวดูไบแล้ววว ความอึ๋มที่ไม่ต้องผ่านมีดหมอ แต่ขอแค่ผ่านมือเพื่อน แล่นเรือออกไปยามอาทิตย์อัสดงช่างโรแมนติกเสียจริง ห้องครัวใหม่ไฉไลกว่าเดิม แต่จะทำกับข้าวทีนึงก็ต้องขับรถมาห้างก่อนนะ เขาคงมีความสุขมากที่ได้ออกไปเที่ยวกับสุดที่รัก แฮมเบอร์เกอร์ใหญ่ขนาดนี้ ใครจะไปกินหมดกันละ โต๊ะทำงานใหม่ริมชายหาด ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะ ถ้าตกลงไปนี่พิการแน่นอน เป็นบั้นท้ายที่เนียนสวยอย่างกับตูดเด็ก เจ้าหมาตัวนี้เก่งจริงสามารถลงไปเดินบนหน้าผาสูงชันได้ด้วย น้องหมาที่ได้รับรางวัลมา 4 สมัยติดต่อกันแล้ว บางครั้งก็อยากจะออกไปนอนเล่นท่ามกลางธรรมชาติบ้าง การเป็นบล็อกเกอร์อาหารไม่ใช่เรื่องง่ายเลย วันนี้ผมได้นั่งเครื่องกับสาวผมบลอนด์มัดจุกด้วยแหละ เธอน่ารักมากเลย จู่ๆ เธอก็อารมณ์ดีเดินไปสูดความเขียวขจีอยู่ริมรั้ว มัลดีฟ…
-
Let it Go!! วิทยาศาสตร์อธิบายถึงสาเหตุว่าทำไมเราถึงไม่ควรอั้น “ตด” เอาไว้
การตดนั้น ปกติเราคงจะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอายหรือน่ารังเกลียด ซึ่งมันก็ไม่ได้ผิดอะไรเพราะทั้งเสียงและกลิ่นของมันเวลาที่ถูกปล่อยออกมามักจะสร้างบรรยากาศที่กระอักกระอ่วนกันพอสมควรเลยทีเดียว และเมื่อผลลัพธ์ของการตดมักจะออกมาไม่ค่อยดีนัก เราจึงพยายามที่จะอั้นและไม่ตดออกมาอยู่เสมอ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการทำแบบนั้นมันไม่ดีเอาซะเลย…งง แล้วละสิว่ามันไม่ดียังไง วิทยาศาสตร์นั้นมีคำตอบ!! โดยคำตอบนั้นมาจาก Dr Satish S.C Rao แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทางเดินอาหารได้ให้เหตุผลว่า ภายในตดนั้นมีอะไรต่อมิอะไรอยู่มากมายทั้ง ไนโตรเจน, ไฮโดรเจน, ออกซิเจน, คาร์บอนไดออกไซด์, มีเทน และก๊าซย่อยๆ อีกเพียบ และมันก็ไม่ส่งผลดีต่อลำไส้ของเราเลย นอกจากนี้ Dr Satish ยังแนะนำอีกว่าการอั้นไว้นั้นจะมีแต่สะสมแก๊ซมากขึ้นๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความเสียหายต่างๆ เช่นกลิ่น เมื่อมันสะสมมากขึ้น กลิ่นก็จะเหม็นสุดๆ จนอาจจะฆ่าคนตายได้เลยนะ ไม่ได้โม้!! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือไม่ว่ายังไงตดก็จะต้องถูกปล่อยออกมาแม้เราจะอั้นยังไง เพราะตอนเรานอนหลับ ตดก็จะถูกปล่อยออกมาโดยที่เราควบคุมมันไม่ได้นั่นเอง ฉะนั้นการหาทางออกที่ดีที่สุดคือ หาจังหวะคนน้อยๆ หรือที่ลับตาแล้วปล่อยมันออกมาซะ ปล่อยมันไปอย่างที่เป็น เลทอิทโก…. ในการ์ตูนเรื่อง Family Guy ได้บอกไว้ว่า ถ้าผู้หญิงสามารถดมตดของผู้ชายได้ แสดงว่าเธอคนนั้นได้แสดงความรักออกมาแล้ว ฉะนั้นถ้าชอบใครก็ดมตดของเขาซะ!! หรือถ้าใครหาวิธีการตดแบบเนียนๆ ไม่ได้ คลิปนี้มีคำตอบ… เอ่อ…
-
หนุ่มโดนสุนัขฉี่ใส่ เขาเลยกลับไปแก้แค้นมันด้วยการรับมันมาเลี้ยงซะเลย นี่สินะ ฉี่สร้างเพื่อน…
ถ้าเกิดว่าเพื่อนๆ นั่งอยู่ข้างถนนกดมือถือเล่นชิวๆ โดยไม่คิดอะไรแล้วจู่ๆ ก็มีหมาจรจัดที่ไหนไม่รู้เดินมาฉี่ใส่กลางหลังเต็มๆ พร้อมเดินจากไปอย่างชิวๆ เป็นเราจะทำยังไงกับสถานการณ์นี้กัน? โอเคถ้าคิดไม่ออก ให้พ่อหนุ่มผิวสีจากบราซิลคนนี้เป็นกรณีตัวอย่างก็แล้วกัน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณในเมืองริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล โดยพ่อหนุ่มคนที่ว่ากำลังเล่นโทรศัพท์มือถือสบายใจอยู่ข้างทาง จนกระทั่งเพื่อนสี่ขาตัวหนึ่งก็เดินเข้ามาใกล้ๆ กับเขา… สร้างแลนด์มาร์ก.. จากนั้นเจ้าตูบก็เริ่มดมๆ หลังของชายคนดังกล่าว ในใจคงคิดว่าโอเคตรงนี้แหละน่าจะดี จากนั้นมันก็ฉี่อย่างสบายใจใส่หลังของชายคนดังกล่าว พอพี่ชายคนนั้นรู้ตัวว่ามีน้ำอะไรไม่รู้รดลงบนแผ่นหลังของเขา พี่แกก็เลยลุกขึ้นไล่เจ้าหมาด้วยความโมโหทันที แน่นอนว่าเจ้าหมาตัวแสบไม่ได้บาดเจ็บอะไรพร้อมหนีไปได้อย่างปลอดภัย ทิ้งไว้ก็เพียงแต่ความโมโหและเสื้อที่ถูกแสดงความเป็นเจ้าของผ่านฉี่นั่นเอง . หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เรื่องราวของเขาก็ถูกเผยแพร่ออกไปเป็นวงกว้าง คนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ทั้งตลกบ้าง ด่าว่าเขาจะทำร้ายหมาบ้าง เห็นใจบ้างต่างกันไป ลองชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวดูก่อนเป็นไง… จนในที่สุดเราได้รู้ว่าชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า Heinze Sánchez อายุ 27 ปี ซึ่งทีเด็ดต่อไปของเรื่องก็คือ ในวันต่อมาหลังจากเหตุการณ์นั้นเขาบอกว่าเขาไปรับเจ้าหมาตัวแสบมาเลี้ยงแล้วด้วย ห๊ะ!? เขาได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กของเขาว่าเขาได้ตื่นขึ้นมาในเช้าอีกวันแล้วออกไปตามหาเจ้าหมาตัวแสบทันที ซึ่งเมื่อเขาเจอเขาก็รับมันมาเลี้ยง ป้อนข้าวป้อนน้ำ ให้ที่พักเป็นอย่างดีและมันก็ดูมีความสุขมากๆ แม้มันจะก่อวีกรรมสุดแสบใส่เขาไปก็ตาม แกล้งฉี่ใส่แบบนี้ ต้องแกล้งกลับด้วยการให้มาอยู่ที่บ้านด้วยซะเลย นอกจากนี้ Heinze ยังตอบโต้กระแสสังคมที่ว่าเขาทำท่าจะเตะมันอีก…
-
เมื่อ ‘เจ้าหมึกยักษ์’ จำใบหน้าของคนที่ช่วยมันไว้ได้ วันรุ่งขึ้นมันจึงกลับมาขอบคุณพวกเธอ
แทบทุกคนจะรู้จักสัตว์ที่มีชื่อว่า หมึกยักษ์ กันอยู่ก่อนแล้ว แต่เคยรู้มั้ยว่าเจ้าสัตว์ชนิดนี้มีความสามารถพิเศษในการจดจำใบหน้าของคนได้ด้วย!! ในปี 2010 ได้มีการทดลองให้ผู้ชายคนหนึ่งไปแหย่มันเล่นเบาๆ และอีกคนหนึ่งไปคอยให้อาหารพวกมัน พอผ่านไป 2 สัปดาห์เจ้าหมึกยักษ์สามารถจดจำได้ว่าใครเป็นใคร ทำให้มันหนีชายคนแรกและว่ายน้ำเข้าหาชายคนที่สองเท่านั้น หากคุณยังไม่เชื่อว่าพวกมันสามารถจำหน้าเราได้จริงๆ ก็ต้องลองมาดูเหตุการณ์นี้ เมื่อผู้ใช้ยูทูปชื่อว่า Helena ได้โพสต์คลิปบอกเล่าเรื่องราวความประทับใจที่มีให้กับเจ้าหมึกยักษ์ตัวหนึ่งเอาไว้ ในวันที่ 2 ธันวาคม 2014 เธอได้เผยแพร่วิดีโอโดยเล่าว่า “ฉันและเพื่อนได้ไปเที่ยวทะเลแดงในมหาสมุทรอินเดียช่วงวันหยุด ขณะที่เดินเล่นริมชายหาดกันตามลำพังก็เจอกับเจ้าหมึกยักษ์ตัวหนึ่งมานอนเกยฝั่งอยู่” พวกเธอไม่แน่ใจว่ามันตายแล้วหรือยัง เลยดันมันลงน้ำเผื่อว่าอาการจะดีขึ้น จากนั้นไม่กี่นาทีมันก็กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งก่อนจะว่ายจากไป บ๊ายบายนะเจ้าหมึก ในวันต่อมาพวกเธอมาเดินเล่นชายหาดแห่งนี้อีกครั้งและเห็นว่ามีบางอย่างว่ายเข้ามาหาพวกเธอ พอดูดีๆ ทำให้รู้ว่ามันคือเจ้าหมึกยักษ์ตัวเดิมนี่เอง “ฉันรู้เลยว่ามันจำพวกเราได้เพราะมันพยายามเข้ามาแตะตัวฉันและเพื่อน เราเดินไปไหนมันก็จะว่ายตามไปด้วย อยู่กับเรานานกว่าชั่วโมงนึงเลย” เธอได้บอกเอาไว้ในคลิป ไม่ยอมไปไหน อยากจะอยู่กับคนที่ช่วยมันไว้อย่างเดียวเลย คลิปเจ้าหมึกว่ายน้ำกลับมาขอบคุณผู้ช่วยชีวิต พวกเธอเชื่อว่ามันว่ายกลับมาเพื่อขอบคุณที่ได้ช่วยชีวิตมันเอาไว้แน่นอน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมากเพราะไม่คิดว่ามันจะฉลาดขนาดนี้ สุดท้ายแล้วพวกเธอก็ได้ตั้งชื่อให้มันว่า Kurt และตั้งใจที่จะไม่กินหมึกยักษ์อีกต่อไป ทำตัวน่ารักซะขนาดนี้ก็ไม่แปลกที่เธอคงจะกินเพื่อนๆ มันไม่ลงละนะ ก็น่ารักซะขนาดนี้ ใครจะไปใจจืดใจดำกินพวกมันได้ลงคอ…
-
หนุ่มพยายามจะฆ่าแมงมุมด้วย ‘เครื่องพ่นไฟ’ แต่กลายเป็นว่าบ้านทั้งหลังถูกไฟไหม้เฉ๊ยย!!
โดยปกติแล้วถ้าเจอแมลงหรือสัตว์ร้ายที่เรารู้สึกเกลียดเข้ามาเดินเพ่นพ่นในบ้าน คนส่วนใหญ่อาจจะใช้รองเท้าตบ จับมันไปปล่อย หรือฉีดยาฆ่าแมลง… ทว่าพ่อหนุ่มเจ้าของบ้านผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม ชาวรัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐฯ รู้สึกว่าการเอารองเท้ามาตบตีแมงมุมร้ายที่แอบเข้ามาในบ้านมันเป็นเรื่องเบสิคเกินไป เขาจึงหยิบ ‘เครื่องพ่นไฟ’ ออกมาเพื่อพิฆาตแมงมุมร้ายให้ด่าวดิ้น แต่ใครจะไปคิดละว่า… แค่การไล่แมงมุมก็ทำให้บ้านไฟไหม้ได้ทั้งหลังเช่นกัน!! พ่อหนุ่มเจ้าของบ้านรับสารภาพว่า เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เขาได้สังเกตเห็นแมงมุมผู้ต้องสงสัยท่าทางดูมีพิษสงร้ายกาจ มาเกาะอยู่บนเสาบ้านของเขา… แต่ถ้าจะให้ใช้ของแข็งตบให้ตาย เจ้าตัวก็เกรงว่าลูกๆ ของมันจะยั๊วเยี๊ยะกันออกมาเหมือนที่เคยเห็นจากบนโลกอินเตอร์เน็ต เจ้าตัวจึงใช้อุปกรณ์ที่ผลิตขึ้นมาเองโดยใส่ก๊าสโพรเพนลงไป จากนั้นก็บู้มมมมม…!! กลายเป็นปัญหาของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ที่ต้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือโดยด่วน ทางด้านของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากสถานี Tucson ได้เล่าว่า.. เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม 2017 ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ฉุกเฉินเกิดขึ้นในเมือง และต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 23 นาย ถึงจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แต่ก็นับว่ายังโชคดีที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ภายในเวลาแค่ 11 นาทีเท่านั้น และไม่มีการรายงานของผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ไม่รู้ว่างานนี้ควรโทษใครดีระหว่าง.. แมงมุม vs เจ้าของบ้าน ที่มา: Mirror
-
20 แผนภาพของโลก แสดงสิ่งต่างๆ ที่เปิดหูเปิดตา ให้เรากระจ่างแจ้งถึงอะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อน!!
โลกใบนี้มีเรื่องราวมากมายให้ค้นหา บางเรื่องเป็นเรื่องใกล้ตัว บางเรื่องเป็นเรื่องไกลตัวที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน แต่วันนี้มีหนังสือที่รวบรวมความจริงบนโลกนี้มาให้เราดูแล้ว หนังสือนี้มีชื่อว่า New Views: The World Mapped Like Never Before ที่เขียนโดย Alastair Bonnett ศาสตราจารย์ด้านสังคมและภูมิศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ได้ใช้ข้อมูลต่างๆ จากดาวเทียมที่แสดงให้เห็นถึงเรื่องที่โลกกำลังเป็นไปในปัจจุบันอย่างแม่นยำ อาทิ ระดับน้ำทะเล อัตราการบริโภคน้ำตาล หรือกระทั่งการจัดระดับความสุข และนี่คือข้อมูลบางส่วนจากหนังสือเล่มนี้ เส้นทางการเดินเรือต่างๆ ในมหาสมุทร เส้นสีฟ้าที่ปรากฎในแผนภาพ แสดงให้เห็นถึงเส้นทางการเดินเรือต่างๆในมหาสมุทร ผ่านมหาสมุทรแปซิฟิคเหนือ มหาสมุทรแอนแลนติกเหนือ รวมทั้งมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งมีเรือจำนวนมากที่ใช้ข้อมูลนี้ในการเดินเรือ จุดที่ดาวเคราะห์ขนาดเล็กตกสู่โลก แผนภาพนี้ถูกเผยแพร่ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 จากองค์การนาซ่า เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงจุดที่ดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่มีขนาดตั้งแต่ 1 เมตรไปจนถึง 20 เมตร ที่ตกลงมาบนโลกระหว่างปี 1994-2013 โดยจุดสีส้มคือดาวเคราะห์ที่ตกลงมาในเวลากลางวัน สีน้ำเงินคือ ดาวเคราะห์ที่ตกลงมาในเวลากลางคืน และขนาดที่แตกต่างกันคือผลกระทบจากการตกของดาวเคราะห์ ในภาพแสดงให้เห็นว่ามันกระจายไปทั่วโลก ซึ่งไม่มีที่ไหนที่สามารถจะหลบได้บนโลกใบนี้ ทะเลที่โลกยังไม่รู้จัก นักวิทยาศาสตร์กว่า 2,700 คนและนักสำรวจทะเลกว่า 540 คน…
-
พ่อแม่ที่มีแต่ลูกสาว จับลูกสาวของเพื่อนบ้านมาทำพิธีบูชายัญ ให้พวกเขาได้ลูกชาย
ปัจจุบันนี้หลายประเทศในโลกเขาเรายังมีวัฒนธรรมที่เชื่อว่าการมีลูกผู้ชายนั้นดีว่ามีลูกผู้หญิง เพราะพวกเขาคิดว่าเพศชายสามารถทำประโยชน์ได้มากกว่า รวมทั้งมีโอกาสทางสังคมมากกว่าผู้หญิง แม้ปัจจุบันประเทศส่วนใหญ่จะเปิดโอกาสให้เพศหญิงมีบทบาทเท่าเทียมผู้ชายแล้ว แต่ที่ประเทศอินเดีย ประชากรบางส่วนยังคงยืดติดกับความเชื่อดั้งเดิม ด้วยความเชื่อนี้ทำให้สามีภรรยาคู่หนึ่งถึงกับจับลูกสาวของเพื่อนบ้านมาฆ่าเพื่อเป็นการบูชายัญ เพราะเชื่อว่าการเสียสละของเธอจะทำให้พวกเขาได้ลูกชาย สามีภรรยาคู่นี้คือ Satish Singh วัย 35 ปี และภรรยาของเขา Namita วัย 30 ปี มาจาก Sahranpur รัฐ Uttar Pradesh ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 4 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด จริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้พวกเขามีลูกชายคนหนึ่ง แต่ก็เสียชีวิตไปในวัยเพียง 18 เดือนเท่านั้น ทั้งคู่จึงได้ไปปรึกษาหมอผี ทราบชื่อคือ Vriksh Pal วัย 50 ปี จนได้รับคำแนะนำให้ฆ่าเด็กผู้หญิงมาทำพิธีบูชายัญ เพื่อที่จะได้ลูกชาย ด้วยความอยากมีลูกชายมาก พวกเขาจึึงยอมเชื่อคำแนะนำของหมอผีแล้วจับตัวลูกสาวเพื่อนบ้านวัย 4 ขวบ มาตัดแขน ตัดขา ตัดหู ก่อนจะตัดคอของเธอ!! ในการลงมือก่อเหตุครั้งนี้ ไม่ได้ทำแค่สองคนสามีภรรยาเท่านั้น แต่ Kabool Singh วัย…
-
กลายเป็นไวรัลดัง กับภาพ ‘เจ้าตุ๊กแกเสือดาว’ ที่ทำท่าเหมือนกำลังเต้น จนชาวเน็ตตัดต่อกันเพียบ!!
เรียกว่ากลายเป็นเรื่องปกติกันไปแล้ว เวลาที่มีภาพอะไรเจ๋งๆ ออกมาจนกลายเป็นไวรัล ชาวเน็ตผู้มีสกิลในการทำโฟโต้ช็อปก็มักจะไม่รอช้า หยิบพวกมันมาแสดงฝีไม้ลายมือกันให้เพียบ มาคราวนี้ก็เป็นทีของเจ้าตุ๊กแกเสือดาวของสมาชิกเว็บไซต์ Reddit คนหนึ่ง ได้โพตส์ภาพสัตว์เลี้ยงแสนรักของเขา ซึ่งมันกำลังทำท่าเกาะกระจกที่ดูแล้วเหมือนกำลังเต้นอยู่ ซึ่งจริงๆ เจ้าของอยากจะสื่อว่าเวลาตุ๊กแกของเขามองตรงมันจะดูเหมือนยิ้มเท่านั้น แต่ดูท่างานนี้มันคงจะหยุดแค่นั้นไม่ได้แล้วล่ะ ยิ่งชาวเน็ตชื่นชอบและแชร์ออกไป งานนี้มหกรรมตัดต่อจึงเริ่มขึ้น ภาพต้นฉบับ ตามด้วยภาพตัดต่อภาพแรก ที่ทำให้ตรงตามคอนเซ็ปท่าของมัน ตุ๊กแกเท้าไฟ โจ๊วๆ สวทบทเป็นพ่อมดน้อยยิงพลังสู้กัน ปิ๊วๆ อะวาดา เคดาฟ-รา!! รวมกันเป็นสามเกลอเท้าไฟ น่ารักสุดๆ แม้แต่เพลง Thriller ในตำนานเจ้านี้ก็ไม่พลาด นอกจากนี้เจ้าตุ๊กแกก็มีคู่แข่งเช่นกัน มาเต้นกับพี่ไหมน้อง แท่ดๆ รวมพลังปราบปีศาจร้าย ย๊าากก เอนเฉยๆ กระจอก พี่เนี่ยเอนด้วยเล่นแบบไม่ดูด้วย เทพป๊ะล๊าา วิญญานบรูซลี เข้าสิงแล้ว ฮั๊ดโจ่ววว สาวๆ ยังต้องชิดซ้าย เมื่อเจอพี่ตุ๊กแก…
-
ปฏิกิริยาสุดฮาของ “ทั่นปูติน” หลังรัฐมนตรีเกษตรแนะนำให้ส่งหมูไปขายอินโด…..
กลายเป็นกระแสโลกอินเตอร์เน็ตกันอย่างรวดเร็ว เมื่อมีคลิปจากงานประชุมสภารัสเซียที่ท่านผู้นำรัสเซีย ‘Vladimir Putin‘ ขำจนหยุดไม่อยู่ แสดงให้เห็นภาพน่ารักๆ ของเขาจนชาวเน็ตสงสัยว่าเขาขำอะไรกันนะ? เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2017 ระหว่างประชุมสภา ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่รัฐมนตรีเกษตรของรัสเซียได้เสนอแนวทางบริหารประเทศ ด้วยการส่งออกเนื้อหมูไปยังประเทศอินโดนีเซีย!? โดยรายละเอียดเนื้อหาจากทาง Alarabiya บอกว่ารัฐมนตรีเกษตร Alexander Tkachev บอกว่าเขามีแผนจะเพิ่มกำลังการส่งออกของรัสเซียไปยังประเทศอื่นๆ ด้วยการส่งเนื้อหมู พร้อมยกตัวอย่างว่าประเทศเยอรมันยังส่งออกหมูไปในหลายๆ ประเทศทางเอเชียเลย เช่น จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซียเป็นต้น และหลังจากที่ท่านผู้นำ Vladimir Putin ได้ยินเช่นนั้น เขาจึงอดขำไม่ได้ พร้อมถามกลับ Alexander ว่า “นี่นายรู้ใช่ไหมว่าอินโดนีเซียเขาไม่กินหมู” พร้อมยืนยันกับรัฐมนตรีดังกล่าวว่าประเทศอินโดนั้นเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุด เพราะฉะนั้นพวกเขาไม่กินหมู (และถ้าเน้นส่งออกหมูอย่างเป็นทางการ นอกจากจะรายได้น้อยแล้ว อาจจะโดนอินโดด่ากลับมาแน่ๆ) ด้าน Alexander Tkachev ก็ดันตอบกลับท่านผู้นำของเราว่า “พวกเขาจะกินแน่ๆ” ด้วยคำตอบดังกล่าวท่านผู้นำจึงอดใจไม่ไหว พร้อมหัวเราะออกมาแล้วตอบกลับไปว่า “ไม่ พวกเขาจะไม่กินแน่ๆ” พร้อมขำต่อยกใหญ่ . สุดท้ายนาย Alexander…
-
หากโลโก้แบรนด์ดัง ขยับไปมาได้ จะดึงดูดผู้คนและสื่อความหมายได้มากแค่ไหน…
สิ่งที่ทำในเรานั้นจำผลิตภัณฑ์และการใช้การของแบรนด์ต่างๆ ได้ ก็คงจะเป็นตัวโลโก้นี่แหละ ซึ่งในปกตินั้นแบรนด์ต่างๆ ก็จะมีโลกโก้ที่เป็นภาพนิ่งอย่างที่เราเห็นกันบนผลิตภัณฑ์ต่างๆ แต่มันจะดีแค่ไหนถ้าเกิดว่ามันขยับได้และสามารถแสดงออกถึงตัวตนของแบรนด์มากขึ้น อย่างเช่น 9 โลโก้ที่ #เหมียวหน่า นำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมวันนี้ รับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องชอบอย่างแน่นอน จะเป็นอย่างไร เราไปชมกันเลย 1. Mozilla Firefox โลโก้ของ Firefox มีรูปสุนัขจิ้งจอกที่เป็นสัญลักษณ์ล้อมรอบแผ่นดินซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการขยายตัวทั่วโลกของแบรนด์และความเร็วที่เห็นได้ชัด 2. Burger King ลองเพิ่มมิติให้กับโลโก้ซักหน่อย ดูแล้วหิวกันบ้างไหม?? 3. FedEx ลูกศรที่แสดงถึงการเดินทางที่รวดเร็วในบริการ 4. Uber ภาพเคลื่อนไหวของ Uber ประกอบด้วยจุดแผนที่นำไปสู่ปลายทางของคุณ 5. LinkedIn 6. Instagram Instagram ได้เน้นย้ำถึงจุดเด่นของกล้อง โดยใช้กล้องถ่ายรูปและโพลารอยด์แบบดั้งเดิมในโลโก้ที่มีชีวิตชีวา 7. Mastercard แสดงให้เห็นว่ามาสเตอร์การ์ดสามารถใช้ทำอะไรต่างๆ ได้มากมาย 8. Pinterest การค้นหารูปภาพ และปักหมุด เป็นจุดเด่นของ Pinterest 9. Nike สีนีออนสดใสที่เป็เอกลักษณ์…
-
อย่าได้แคร์ คู่รักชาวเวียดนาม ไม่สนคำครหาจากชาวเน็ตว่า “ไม่เหมาะสมกันเอาซะเลย!!!”
เพื่อนๆ เคยสังเกตกันไหมว่า เวลาที่มีคู่รักที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหน้าตาดีกว่า สังคมมักจะมีอคติที่ว่า “นี่เป็นแฟนกันจริงๆ เหรอ!!!?” ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องของความรู้สึก ไม่ได้เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาเลย อย่างคู่รักชาวเวียดนามคู่หนึ่ง ที่ได้รับคำครหาจากชาวเน็ตว่าไม่เหมาะกันเอาซะเลย แต่พวกเขาก็ไม่แคร์สิ่งเหล่านั้น สื่อสังคมออนไลน์อาจเป็นสถานที่ที่โหดร้ายที่สุดสำหรับคู่รักที่มีความต่างทางด้านรูปลักษณ์ภายนอก เช่นกรณี Linh Nguyen และ Hai Nguyen คู่รักจากประเทศเวียดนามที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทางออนไลน์เนื่องจากรูปลักษณ์อวบอ้วนของแฟนหนุ่ม ทุกครั้งที่ Linh โพสต์ภาพของตัวเองกับแฟนหนุ่มของเธอ Hai ความคิดเห็นส่วนใหญ่ใน Facebook ของเธอ มักเต็มไปด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ต ที่กล่าวถึงแฟนหนุ่มที่มีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป Linh ดูเหมือนจะเป็นที่นิยมมากในโลกออนไลน์มีผู้ติดตามเธอมากกว่า 39,000 คน ในขณะที่แฟนหนุ่มของเธอก็ได้รับคำติจากชาวเน็ตเสมอ ตรงกันข้ามกับแฟนสาวที่ชาวเน็ตชื่นชมในความงามของเธอ “คุณดูสวยมากๆ ผิดกับแฟนของคุณที่ดูน่าเกลียด” ชาวเน็ตคนหนึ่งได้แสดงความคิดเห็น บางคนก็ให้ฉายาพวกเขาว่าเป็น “Beauty and the Beast” และก็อดสงสัยไม่ได้ว่าคู่รักคู่นี้เป็นแฟนกันจริงๆ หรือไม่??? พวกเขาเปิดเผยความสัมพันธ์ต่อสาธารณะชนมาเกือบ 2 ปีแล้ว และแน่นอนว่าความคิดเห็นด้านลบของชาวเน็ตก็มีมาอย่างเรื่อยๆ แต่ความคิดเห็นเชิงลบเหล่านั้นก็ไม่ได้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่บาดหมาง…
-
สาวสวยปิ๊งไอเดีย “ทดลองใส่ชุดของสามี 10 วัน” จะปังหรือพัง ต้องไปดูกันเอาเอง!!
ดูเหมือนว่าสาวๆ ทุกคนนั้นชอบที่สวมใส่ชุดสีสันสดใสและดีไซน์สุดหวานแหววหรือเปรี้ยวจี๊ดตามแต่สไตล์ของแต่ละคน ซึ่งน้อยนักที่สาวๆ จะหยิบเสื้อผ้าของหนุ่มๆ มาใส่ ดังนั้นสตาฟสาวสวยของ Bright Side จึงทำการทดลองใส่ชุดของสามีเป็นเวลา 10 วัน โดยใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ เธอจะสามารถสวมใส่มันได้หรือไม่อย่างไร ไปชมกันเลย!! Day 1 แม้ว่า Elmira จะรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นฮิปฮอปไปหน่อย แต่กางเกงสีเขียวขี้ม้าทหารตัวนี้กลับดูเท่สุดๆ เมื่ออยู่คู่กับเข็มขัดสีดำ การใช้เสื้อผ้าของสามีก็ไม่เลวเหมือนกันนะเนี้ย Day 2 เชื่อแล้วว่าความชิคหาได้จากตู้เสื้อผ้าสามี วันที่สองขอเป็นเสื้อฮู๊ดตัวใหญ่ที่เข้ากับรองเท้าแมนๆ ดูแล้วสะบัดความหวานออกไปจนหมด เหลือแต่ความเท่ที่สาวๆ สามารถใส่ได้ ครีเอตสุดๆ ไปเลยนะเนี้ย Day 3 เสื้อยีนส์ที่สามีไม่ค่อยได้ใส่แล้ว Elmira ก็ขุดออกมาแมทช์กับกระโปรงรัดรูป ใส่แล้วก็ดูเรียบร้อย แต่ก็แฝงความน่ารักไว้เหมือนกันนะ ไอเทมเสื้อยีนส์แบบนี้คิดว่าแฟนของใครหลายๆ คนน่าจะมี ลองไปขโมยกันมาใส่ดูนะ Day 4 ช่วงเย็นหลังจากเลิกงาน เธอเลือกที่จะแมทช์เสื้อแขนยาวสีกากีและมัดชายเสื้อไว้ที่เอว เพิ่มความเปรี้ยวด้วยแว่นแบบนักบิน ทำให้วันนี้เธอมีลุคแมนสุดๆ แต่ก็ดูเซ็กซี่ไม่น้อยเช่นกัน Day 5 วันที่ 5 กับการใส่เสื้อคลุมตัวโคร่งของคุณสามี…
-
แพทย์ต่างประเทศบอก การใส่ “รองเท้าแตะหูคีบ” บ่อยๆ เป็นอันตรายต่อเท้าของคุณ
เชื่อว่าในวันสบายๆ หลายๆ คนเลือกที่จะใส่รองเท้าแตะที่ทั้งสวมง่ายถอดง่าย ใส่ไปเดินที่ไหนก็สะดวก ไม่ว่าจะขึ้นรถลงเรือ แต่จะมีซักกี่คนที่จะรู้ว่าเจ้ารองเท้าแตะนั้นก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพเท้าได้เหมือนกัน มันจะส่งผลเสียขนาดไหนเราไปชมคำเตือนจากคุณหมอ Zachary Vaupel กันเลยดีกว่า ในช่วงหน้าร้องที่ผ่านมาทั้งหนุ่มๆ และสาวๆ ต้องไปค้นชั้นรองเท้าเพื่อเพื่อไอเทมสุดจ๊าบ อย่างรองเท้าแตะหูคีบที่สามารถใส่ได้สบายๆ ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม จึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่มันจะเป็นรองเท้ายอดฮิตที่ผู้คนใส่ไปทะเลกัน เพราะมันสะดวกเหลือเกินเวลาเจอทรายร่วนๆ แถมยังมีสีสันสดใสแมทช์กับชุดว่ายน้ำได้เป็นอย่างดี แต่คุณรู้หรือไม่ว่ามีแพทย์ชาวมิชิแกนรายหนึ่ง ได้จัดเกรดของรองเท้าแตะหูคีบให้อยู่ในเกรด F ซึ่งบางทีคุณต้องเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับรองเท้าแตะซะใหม่แล้วล่ะ Dr. Zachary Vaupel ศัลยแพทย์ที่เท้าและข้อเท้ากล่าวว่า รองแตะเหล่านั้นอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพเท้าและข้อเท้าของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปสู่โรคเอ็นข้อเท้าอักเสบ โรคกระดูก และอาการเจ็บหน้าแข้ง และรองเท้าแตะอาจนำไปสู่อาการเคล็ดขัดยอกเมื่อคุณใส่เดินทางไปที่ต่างๆ . เมื่อลองถามเด็กๆ ดูว่า เธอเคยใส่รองเท้าแตะวิ่งเล่นในช่วงฤดูร้อนหรือไม่ เธอก็ตอบได้อย่างฉะฉานว่า “ไม่หรอก เพราะมันอาจจะทำให้คุณหกล้ม” เห็นไหมล่ะ ว่าขนาดเด็กยังรู้เลย Dr. Vaupel ได้เตือนๆ ทุกๆ คนว่า การใส่รองเท้าแตะอาจทำให้ลื่นล้มได้ง่าย และมันไม่ใช่รองเท้าที่ดีที่สุดสำหรับเท้าของเรา ทางที่ดีรองเท้าหุ้มส้นก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่านะ …
-
เปิดตัววัตถุดิบลับ “กุ้งจ่อม” ที่นำมาทำเมนูสุดเบสิค “ไข่เจียวกุ้งจ่อม” หอมอร่อยม้วกก!!!!
เมื่อได้ยินคำว่า “กุ้งจ่อม” หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันคืออะไรกันนะ เพราะว่ามันคืออาหารที่หาซื้อได้ยากมากๆ เพราะมีแค่ขายบางพื้นที่เท่านั้น คุณ MarioTheCat เจ้าของกระทู้เมนูเด็ด “ไข่เจียวกุ้งจ่อม” ในครั้งนี้ได้เดินทางกลับบ้านเกิด อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ และไม่ลืมที่จะนำวัตถุดิบสูตรเด็ดอย่างกุ้งจ่อมมาฝากเพื่อนๆ กุ้งจ่อม คือกุ้งฝอยที่หมักในน้ำปลาและข้าวคั่ว รสชาติก็จะออกเค็มๆ หน่อย มีกลิ่นหอมข้าวคั่ว แถวบ้านบุรีรัมย์มักจะเอามาบีบมะนาว แล้วก็ทานกะผักสดง่ายๆ เลย หรือจะเอามาปรุงเป็นยำใส่พริก ใบมะกรูด หอมแดง ตะไคร้ ปรุงรส ก็อร่อยเช่นกัน วันนี้เราจึงมีเมนูเด็ดจากกุ้งจ่อมมาฝากทุกคน นั้นก็คือ “ไข่เจียวกุ้งจ่อม” ส่วนผสม – ไข่ไก่ – กุ้งจ่อม – พริก – หอมแดง – กระเทียม – ใบมะกรูด – น้ำตาล . วิธีทำ 1. อย่างแรกเราก็ต้องซอยพริก หอมแดง กระเทียม และใบมะกรูดไว้ก่อน …
-
รีวิวกินแบบเล็กๆ ไปหาอะไรกินแบบจัดเต็มที่ไต้หวันกันเถอะ อาหารฉ่ำๆ เพียบ น้ำลายไหลจริงจัง
ไต้หวัน แดนสวรรค์ของนักชิม ที่ใครหลายๆ คนไปก็อดใจไม่ได้ที่จะต้องไปรีวิวอาหารหลากชนิดที่มีอยู่มากมายในเมืองเมืองนี้ เช่นเดียวกับคุณ Eat Lek Lek ที่มีโอกาสไปเยือนไต้หวัน และก็ไม่ลืมที่จะเก็บภาพอาหารน่าทานๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน อาหารของไต้หวันจะมีมากมายขนาดไหน และจะน่ากินอยากที่เขาว่าไหม เราไปชมกันให้ชัดๆ ไปเลย ร้านแรกที่ คุณ Eat Lek Lek จะพาไปชิมก็คือ ร้าน Din Tai Fung เป็นอาหารไต้หวันที่มีสาขาที่ไทยด้วย โดยสาขาที่ไปชิมนี้เป็นสาขา Sogo และถ้าบอกว่าเป็นคนไทย ทางร้านก็จะมีเมนูภาษาไทยให้ด้วย บอกเลยว่าอาหารรวมๆ อร่อยมาก ถ้าไปไต้หวันแนะนำว่าให้ลองแบบออริจินัล แล้วจะติดใจ . เต้าหู้ผัดพะโล้หอมรสชาติเข้าเนื้อ (ราคา 60 NT ราวๆ 70 บาทไทย) ไก่แช่เหล้าเนื้อนุ่ม แน่น เด้ง กลิ่นเหล้าค่อนข้างแรงเลยล่ะ เสี่ยวหลงเปา 126 NT หรือราวๆ 140 บาทไทย แป้งบางนุ่ม น้ำซุปหอม ข้าวผัดก็อร่อยค่ะ ผัดมาหอมๆ…
-
คุณพ่อชาวจีนใช้เท้าปกป้องลูกสาวจากโจรลักพาตัวเด็ก ในตอนกลางวันแสกๆ
อันตรายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาเพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ควรจะต้องสังเกตและระวังภัยรอบข้างอยู่เสมอ เหมือนกับคุณพ่อชาวจีนคนนี้ เมื่อในวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมากล้องวงจรปิดในประเทศจีนได้จับภาพโจรพยายามลักพาตัวเด็กผู้หญิงวัยแบเบาะ ก่อนที่พ่อของเด็กคนนั้นจะเตะเข้าไปที่บริเวณท้องน้อยจนทำให้โจรต้องรีบหนีออกไปในที่สุด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนในเมือง Fujin มณฑลเฮย์หลงเจียง ในขณะที่คุณพ่อและเด็กน้อยกำลังเลือกสินค้ากันอยู่ได้มีผู้ชายสวมเสื้อแขนยาวเอาฮู้ดคลุมหัวทำตัวมีพิรุธอยู่ด้านหลังของทั้งสอง คนขายในร้านได้เข้ามาเตือนคุณพ่อเอาไว้แล้วว่าให้ระวังชายคนนี้ และดูแลลูกสาวของตนเองไว้ให้ดี ยืนมองมาอย่างมีพิรุธ คนขายของจึงได้เดินเข้าไปเตือน หลังจากนั้นเมื่อพ่อลูกเดินออกจากบริเวณหน้าร้านไป ชายคนดังกล่าวก็เดินตามไปด้วยและพยายามฉุดกระชากแขนของสาวน้อยให้หลุดออกจากมือของผู้เป็นพ่อ เมื่อเห็นอย่างนั้นคุณพ่อจึงกุมมือลูกสาวเอาไว้แน่นก่อนที่จะเตะเข้าไปที่บริเวณท้องน้อยชองโจรหนุ่มอย่างแรง ทำให้เขาต้องยอมแพ้ปล่อยมือเด็กและรีบหนีไป เมื่อพ่อลูกออกจากร้านไปชายคนนี้ก็รีบเดินตามทั้งสองไปในทันที พยายามที่จะกระชากลูกสาวออกไปอย่างแรง คุณพ่อที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วรีบปกป้องลูกสาว จนทำให้โจรหนุ่มรีบหนีไป คลิปคุณพ่อปกป้องลูกสาวจากโจรลักพาตัว ต่อมาได้มีการสอบถามพ่อค้าที่เห็นเหตุการณ์จึงทำให้รู้ว่าชายสวมฮู้ดคนนี้เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันเมื่อ 3 หรือ 4 วันก่อน โดยพยายามที่จะกระชากเด็กสาวออกมาจากแม่ของเธอ นอกจากนั้นคนขายก็บอกอีกว่าชายคนดังกล่าวดูเหมือนว่าจะมีอาการป่วยทางจิต คนขายที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดและเชื่อว่าชายสวมฮู้ดมีอาการป่วยทางจิต อย่างไรก็ตามตำรวจประจำเมือง Fujin บอกว่าไม่เคยได้ยินว่ามีคนแจ้งข้อกล่าวหาในลักษณะนี้มาก่อนและย้ำกับชาวบ้านทุกคนว่า “หากมีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน” กล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ตามร้านต่างๆ ช่วยระวังภัยเราได้เพียงส่วนเดียว สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้เหมือนๆ กันคือการระวังตัวเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องร้ายๆ ได้…
-
รวม 10 ข้อห้ามสุดแปลกจากทั่วโลก ที่ทั่วโลกทำได้ แต่ถ้ามาประเทศนี้ห้ามทำเด็ดขาด!!
ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหนของโลก เราก็พอจะเข้าใจได้ว่าหลายๆ อย่างนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมายที่ห้ามทำกันโดยสากลโดยที่เราไม่ต้องถาม ทว่าก็ยังมีข้อห้ามอีกหลายอย่างที่มีเฉพาะเจาะจงในบางประเทศเท่านั้น… บางอย่างนั้นก็ผิดกฎหมาย บางอย่างก็เป็นแค่ข้อห้ามที่ไม่ได้บังคับแต่ก็ไม่ควรทำด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง เช่นเพื่อให้เกียรติ หรืออะไรก็ว่าไป อ่านแล้วดูน่าสนใจใช่ไหมล่ะ เราลองมาดูกันดีกว่าจะมีข้อห้ามอะไรแปลกๆ บ้าง เวลาเราไปจะได้ไม่ทำพลาด… ห้ามกินบิสกิตในวันคริสต์มาส แต่วันปกติกินได้ ข้อห้ามจากปี 1644 จากประเทศอังกฤษ ประกาศใช้โดย Oliver Cromwell ด้วยเหตุผลหลักว่ามันผิดศีลธรรม โดยทำการห้ามกินบิสกิตรวมถึงขนมปังหวานต่างๆ ในวันคริสต์มาส ทว่าในความเป็นจริงแล้วก็ไม่ค่อยมีใครจะแคร์สักเท่าไหร่… ห้ามแตะหรือเอามือจับวาฬ กฎหมายนี้ก็ออกจะแปลกหน่อยๆ ซึ่งมาจากอังกฤษเช่นเดียวกัน โดยมีกฎว่าวาฬหรือโลมาที่อยู่ในรัศมี 3 ไมล์ รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ล้วนเป็นทรัพยสินของราชินีทันที ฉะนั้นจึงอย่าคิดได้ลองแตะมันเป็นอันขาด ห้ามช่วยคนจมน้ำ กฏหมายแปลกๆ จากประเทศจีน ที่ห้ามให้เราลงไปช่วยคนที่จมน้ำเด็ดขาด ซึ่งมันอาจจะฟังดูงี่เง่า ทว่าทาง Eastern philosophy ได้บอกว่ากฎนี้มีไว้เพื่อควบคุมประชากรชาวจีนที่มีมากเกินไปแบบเนียนๆ ด้วยเหตุผลว่าถ้าเข้าไปช่วยคนจมน้ำเท่ากับไปยุ่งกับชะตากรรมของชาวบ้าน ห้ามจูบที่สถานีรถไฟ อีกหนึ่งกฏหมายสุดแปลกจากประเทศฝรั่งเศส และบางสถานีในอังกฤษ ซึ่งบังคับใช้ในปี 1910 โดยมีข้อห้ามว่าห้ามจูบกันระหว่างรอรถไฟ แต่จะมีพื้นที่พิเศษไว้ให้ ฟังดูอาจจะแปลกสักหน่อย แต่กฎนี้มันมีเพื่อให้รถไฟไม่ต้องมามัวรอผู้โดยสารที่จูบลาเป็นเวลานานนั่นเอง ห้ามให้อาหารนก…
-
สาวนักรักบี้ดาวรุ่งวัย 16 ปีตัดสินใจดับชีวิตตัวเอง เพราะตกเป็นเหยื่อการกลั่นแกล้งในโรงเรียน
การกลั่นแกล้งในโรงเรียนเป็นสิ่งที่ยังคงมีอยู่ในทุกสังคมและดูเหมือนว่ามันจะเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้ง่ายๆ โดยเฉพาะวัยรุ่นที่บางครั้งพวกเขาอาจทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายจนคาดไม่ถึง เช่นเดียวกับกรณีของเธอคนนี้ เมื่อเด็กสาวนักกีฬารักบี้และกีฬาเนตบอลวัย 16 ปีที่ชื่อว่า Brooke Firth กำลังศึกษาอยู่กฎหมายในวิทยาลัย Sixth Form เมือง Wakefield ประเทศอังกฤษ ตัดสินใจฆ่าตัวตายในวันที่ 12 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา ภายหลังการจากไปอย่างน่าเศร้าของเธอเพื่อนๆ ใน Sandal Girls RUFC ทีมรักบี้ที่เธอเล่นอยู่รวมถึงเพื่อนในทีมอื่นได้โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจลงโซเชียลมีเดีย และพูดว่าเหตุผลที่เธอทำอย่างนั้นเพราะถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก Ellie Smith “เป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างมากที่มีการกลั่นแกล้งคนคนหนึ่งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเธอตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลง ขอให้ไปสู่สุขตินะเพื่อน” Tori-lea Harrison “ลาก่อนเพื่อนผู้เป็นที่รักและนักกีฬาเนตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุด หยุดการกลั่นแกล้งกันซักที!!” Paige Priestley “เลิกกลั่นแกล้งกันได้แล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยที่ต้องทำให้หลายคนต้องพบกับจุดจบแบบนี้” โค้ชในทีมที่ชื่อว่า John Ledger ก็ได้พูดถึงเธอเอาไว้ว่า “Brooke เป็นเด็กดี สดใสร่าเริงและมีความสามารถเป็นที่รักของทุกคนที่รู้จัก เธอคือหนึ่งในสมาชิกกลุ่มแรกของทีมตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อนที่มีกันอยู่แค่ 9 คน จนตอนนี้มีเกือบ 80 คนแล้ว และเธอเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับทีมมากกว่าใครๆ”…
-
หนุ่มกลับบ้านมาเจอแมวตาบอด ‘ติด’ อยู่บนกระเป๋ากล้องลงไม่ได้ มันจึงเป็นหน้าที่เขาต้องช่วยมันลง!!
บางครั้งความซุกซนของเจ้าเหมียวนั้น ก็มักจะเป็นต้นเหตุของเหตุการไม่คาดฝันอยู่เสมอ อย่างเจ้าเหมียวตาบอดในครั้งนี้ก็ดันเล่นซุกซนแล้วไปติดอยู่ในกระเป๋ากล้องโดยบังเอิญ ออกก็ออกไม่ได้ซะอย่างนั้น ชาวเน็ตที่ชื่อ someshooter ได้แชร์เรื่องราวน่ารักๆ ของเขากับแมวที่มันดันซนไปติดอยู่บนกระเป๋ากล้องช่วงที่เจ้าของไม่อยู่หนึ่งวัน ด้วยความที่มันตาบอดจึงทำให้มันไม่รู้จะหาทางแก้ยังไง ไม่รู้ว่าตรงที่อยู่สูงหรือเปล่าหรือติดอยู่ที่ไหน มันจึงได้แต่ติดอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งเจ้าของกลับมาเจอเจ้าเหมียว ยืนงงอยู่บนกระเป๋ากล้องลงยังไงก็ลงไม่ได้ เขาจึงช่วยพามันลงจากตรงนั้น ซึ่งวินาทีที่เขาช่วยมันได้ เจ้าเหมียวก็ดูจะกลัวกระเป๋ากล้องไปสักพักเลยล่ะ แต่นอกเหนือจากนั้นมันก็ดูจะคิดถึงเจ้าของมากๆ someshooter บอกว่าหลังจากช่วยให้มันลงมาได้ เจ้าเหมียวก็ไม่ยอมห่างเขาไปไหนเลย แม้ยามจะนอนก็ยังขึ้นไปนอนบนไหล่ตลอดเวลา สงสัยจะกลัวหลงไปติดอยู่บนกระเป๋าอีกรอบมั้งเนี่ย ฮร่าๆ ยังไงก็ตามหลังจากเรื่องราวของเจ้าเหมียวตาบอดตัวนี้ได้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็พากันสงสัยว่ามันตาบอดแบบนี้และปล่อยมันทิ้งไว้บ่อยๆ จะไม่เป็นอะไรเหรอ someshooter ก็บอกว่าเจ้าเหมียวเนี่ยมันโอเคดี มันเชี่ยวชาญพื้นที่รอบบ้านแล้ว ขนาดกล่องที่มันนอนบ่อยๆ พอย้ายจุดปุ๊บมันก็ยังตามหาเจอ ส่วนเรื่องที่มันไปติดอยู่บนกระเป๋ากล้องแล้วลงไม่ได้นั้น นานๆ จะเกิดขึ้นทีไม่มีปัญหาอะไร สุดท้ายชาวเน็ตคนดังกล่าวก็บอกว่า แมวของเขานั้น แม้จะตาบอดและอายุเยอะมากแล้ว แต่ถ้าให้ความรักมันดีๆ มันก็จะติดคนจนเดินตามไม่ห่างเลยล่ะ ฉะนั้นถ้าใครมีสัตว์เลี้ยงที่พิการก็อย่าพึ่งทิ้งมันล่ะ ให้ความรักมันเยอะๆ ที่มา iizcat
-
เมื่อหนุ่มๆ ได้พบกับทรงผมที่ใช่ สิ่งที่ได้คือความดูดี มองกี่ทีๆ ก็หล่อกว่าเดิมหลายเท่า
ผู้ชายบางคนพยายามทำให้ตัวเองดูดีโดยการทุ่มเวลาส่วนใหญ่ไปกับการฟิตเนสอย่างหนัก หรือบางคนก็พยายามที่จะแต่งตัวให้ดูดีที่สุดเท่าที่จะทำให้ อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งความลับที่จะทำให้หนุ่มๆ ทั้งหลายดูดีขึ้นนั้น มันอาจจะมีอะไรที่ง่ายกว่าสิ่งที่กล่าวมาเยอะ เพียงแค่คุณมุ่งตรงไปยังร้านตัดผมเท่านี้ชีวิตก็เปลี่ยนแล้ววววว หลายคนอาจไม่ให้ความสนใจกับทรงผมสักเท่าไหร่ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการเปลี่ยนทรงผมจะช่วยทำให้คุณดูดีขึ้นอย่างแน่นอน ไม่เชื่อก็ลองพิสูจน์จากภาพของหนุ่มๆ เหล่านี้ ที่ได้แปลงโฉมตัวเองโดยการทำผมทรงใหม่ งานนี้พวกเขาจะหล่อจะเท่ขึ้นมากขนาดไหนมาดูกันเลย เปลี่ยนจากหนุ่มเซอร์ให้กลายเป็นหนุ่มมาดเนี๊ยบได้แบบเก๋ๆ ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นในทันที แถมยังช่วยให้ดูเด็กขึ้นด้วยน้า ทรงผมเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนจริงๆ อยากหล่ออยากดูดี อาจไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในห้องฟิตเนส เพียงแค่เดินไปหาช่างทำผม เท่านี้คุณก็จะกลายเป็นหนุ่มหล่อได้ในเวลาอันรวดเร็ว เห็นไหมว่าเปลี่ยนทรงผมแล้วดูดีขึ้นมากขนาดไหน ดูเซ็กซี่ขึ้นเยอะ ว๊าว ว๊าว ว๊าว มันก็จะดูหล่อขึ้นมาก กลายเป็นหนุ่มที่ดูสะอาดไปเลย ถ้าเปลี่ยนทรงผมแล้วจะช่วยให้ดูดีขึ้นขนาดนี้ แล้วคุณยังจะรออะไรอีกล่ะ เพียงค้นหาทรงผมที่ใช่ แล้วเดินไปร้านทำผมโลดดดด ภาพก่อนและหลังการเปลี่ยนทรงผม มันดูน่าทึ่งมากๆ เลยใช่ไหมล่ะ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นคนๆ เดียวกัน…
-
โจรใช้อุปกรณ์ไฮเทค ทำการขโมยรถ BMW ได้ง่ายๆ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 60 วินาที
คนทั่วไปอย่างเราๆ การที่จะได้ครอบครองรถยนต์คันหรูสักคันเป็นเรื่องที่ใหญ่พอตัวเลยทีเดียว แต่จะรู้สึกอย่างไรถ้ารถยนต์ที่เราเก็บเงินซื้อมาทั้งชีวิต กลับถูกขโมยไปในเวลาไม่ถึง 1 นาที!!! เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นที่ทางเหนือของเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อมีโจรสองคนมาขโมยรถ BMW คันหรูราคากว่า 50,000 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 1.6 ล้านบาท ในเวลาไม่ถึง1 นาที ด้วยเครื่องมือพิเศษชนิดหนึ่งที่หาซื้อได้ในเว็บไซต์ ภาพขณะโจรเข้ามาขโมยรถ ซึ่งเห็นหน้าได้ชัดเจน โดยวิธีการของพวกเขาคือการใช้เครื่องมือส่งสัญญาณบางอย่างเพื่อให้ประตูปลดล็อค โดยเหยื่อที่โดนโจรกรรมครั้งนี้ได้เปิดเผยว่า “ตอนนั้นผมกำลังนอนอยู่ในบ้าน รถที่จอดอยู่หน้าบ้านพวกเรานั่นเพิ่งซื้อมาเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เอง” “หลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ผมมั่นใจว่านั่นเป็นเสียงรถของผม ผมเลยเดินไปที่หน้าต่างและพุ่งลงจากตรงนั้นเลย แต่ก็ไม่ทันพวกมันอยู่ดี” เขาแกว่งเครื่องส่งสัญญาณบางอย่างไปมาหน้าบ้านของเหยื่อ นอกจากนี้เขายังบอกอีกด้วยว่า เพื่อนบ้านคนหนึ่งของเขาก็เคยก็เคยโดนขโมยรถด้วยวิธีนีี้เหมือนกัน ขับรถออกไปอย่างง่ายดาย ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้กล่าวไว้ว่าผู้ร้ายน่าจะใช้จุดอ่อนของรถที่เป็นระบบไม่ใช้กุญแจเสียบ (Key fobs) ที่ส่วนมากติดตั้งในรถที่มีราคาแพง และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการขโมยสามารถหาซื้อได้ตามอินเทอร์เน็ตทั่วๆ ไปในราคา 1,000 ปอนด์ (ราวๆ 4 หมื่นบาท) เท่านั้น โดยเครื่องนี้ถูกเรียกว่า HackRF One ซึ่งวิธีการทำงานของมันก็คือ มันจะดึงสัญญาณจากรีโมทของเจ้าของมาไว้ แล้วนำไปโหลดลงอุปกรณ์แล็ปท็อปแล้วทีนี้ก็สามารถเริ่มโจรกรรมได้ทันที เห็นข่าวแบบนี้แล้วก็น่ากลัวแทนเจ้าของรถราคาแพงๆ เหมือนกัน…
-
ชายหูหนวกประทับใจ การบริการของพนักงานร้านสตาร์บัคส์ ที่แอบเรียนรู้ภาษามือเพื่อสื่อสารกับเขา
การบริการให้แก่ลูกค้านับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากทีเดียวสำหรับการขายสินค้าต่างๆ แต่จะมีใครที่มีจิตใจสวยงามได้เท่าเธอคนนี้ ที่พยายามเรียนรู้ภาษามือเพื่อที่จะได้ให้บริการชายหูหนวกคนหนึ่งอย่างเต็มที่ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ร้าน StarBucks สาขา Leeburg รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อมีชายคนหนึ่งชื่อว่า Ibby Piracha ซึ่งเป็นคนหูหนวกเนื่องจากอุบัติเหตุในวัยเด็ก มักจะเข้ามาใช้บริการที่ร้านกาแฟแห่งนี้ประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้ง โดยวิธีการสั่งกาแฟของเขาคือ เขียนเป็นตัวอักษรลงในโทรศัพท์เพื่อสื่อสารกับคนรับออเดอร์ และวันหนึ่งเขาได้เจอเข้ากับ Krystal Payne หญิงสาวคนหนึ่งที่เพิ่งจะเริ่มทำงานที่ร้านกาแฟแห่งนี้ และเธอก็ทำให้เขาประทับใจด้วยการรับออเดอร์ด้วยภาษามือที่เธอแอบร่ำเรียนมา “เขาก็เป็นลูกค้าธรรมดาคนหนึ่ง ฉันก็อยากให้บริการเขาแบบคนธรรมดา อย่างน้อยก็ให้ฉันได้ถามเขาบ้างว่า วันนี้เขาอยากที่จะดื่มอะไรดี” Krystal กล่าว เธอเล่าว่าเธอใช้เวลาหลังเลิกงานที่บ้านเรียนรู้ภาษามือผ่าน Youtube เพราะอยากสื่อสารพูดคุยกับเขา วันต่อมา Ibby ก็มาสั่งกาแฟตามปกติ เธอก็ได้ถามเขาว่า “วันนี้ดื่มอะไรดีคะ” ด้วยภาษามือ หลังจากนั้นเธอก็ได้ยื่นกระดาษบางอย่างให้แก่เขา ซึ่งเขาเข้าใจว่าเธอมีคำถามบางอย่าง แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงข้อความที่เธออยากบอกกับเขาเท่านั้นเอง “ฉันเรียนรู้ภาษามือเพื่อสื่อสารกับคุณ เพราะฉะนั้นคุณมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้รับบริการอย่างเท่าเทียมเหมือนกับทุกคนอย่างแน่นอน” นั่นคือข้อความที่เขาได้รับ ข้อความที่แสนสั้นมีคำพูดเพียงไม่กี่คำ กลับมีพลังทำให้โลกของเขาดูสดใสขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ซึ่งเขาดีใจที่มีคนเห็นความสำคัญของการสื่อสารกับคนหูหนวกอย่างเขา ถึงขั้นนำกระดาษใบนี้ไปใส่กรอบเลยทีเดียว ลองชมวีดีโอ ความมีจิตใจดีของเธอที่มีต่อคนหูหนวกได้ที่นี่ ที่มา: inspiremore, CBS Evening News
-
ผู้พัฒนาเกม ‘Cuphead’ ลาออกจากงานเดิม นำบ้านไปจำนอง เดิมพันชะตาชีวิตเพื่อพัฒนาเกม…
เรียกได้ว่ากำฮิตติดลมบนเลยก็ว่าได้สำหรับเกมที่มีชื่อว่า Cuphead เกมสุดน่ารักสไตล์ดิสนีย์ แต่รู้หรือไม่ว่ากว่าที่จะมาเป็นเกมให้เราเล่นได้อย่างสนุกสนานอย่างนี้ ผูู้ผลิตเกมต้องยอมออกจากงาน รวมทั้งจำนองบ้านเพื่อสร้างเกมเลยทีเดียว!! เกม Cuphead เป็นเกมแนว Run and Gun นั่นก็คือเดินๆ ยิงๆ หลบๆ แต่ว่าเกมนี้จุดเด่นคืองานศิลป์สไตล์การ์ตูนยุค 1930s โดย StudioMDHR ทีมผู้พัฒนาเกมออกมาบอกว่ากว่าเกมนี้จะสำเร็จได้พวกเขาต้องยอมอุทิศตัวสุดๆ เรียกได้ว่าแทบจะทั้งหมดของชีวิตให้กับเกมนี้เลย สำหรับผู้ก่อตั้ง StudioMDHR มีชื่อว่า Chad Moldenhauer และ Jared Moldenhauer บอกว่าเริ่มแรกนั้นเกมนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2010 โดยพวกเขาทำเป็นงานอดิเรกในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ พวกเขารู้ว่าด้วยทุนอันน้อยนิด พวกเขาต้องทำตัวเกมให้มีขนาดเล็กเข้าไว้ ยกตัวอย่าง เช่น ในแต่เดิมนั้นมีบอสเพียงสองสามตัวเท่านั้นในเกม และมีอาวุธอีกเล็กน้อย แต่เมื่อลองนำตัวเกมไปออกงาน Electronic Entertainment Expo 2015 หรือที่หลายๆ คนรู้จักในนาม E3 กลับได้รับการตอบรับแบบเกินคาด ทำให้ต้องเปลี่ยนระบบในเกมใหม่ทั้งหมด “งานในครั้งนั้นมันทำให้เราเห็นว่า มีผู้คนมากมายรอคอยและต้องการสิ่งที่พวกเรากำลังทำกันอยู่ ผมกับน้องชายจึง ออกจากงาน นำบ้านไปจำนอง เพื่อขยายทีมพัฒนาเกมให้ใหญ่ขึ้น” “นี่จึงเป็นโอกาสที่เราจะทำเกมนี้ให้เป็นจริง และเป็นเกมที่มีสเกลใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ที่ตอนนั้นในทีมพัฒนามีเพียงแค่ 3 คน” Chad กล่าว พวกเขาใช้เวลาพัฒนาเกมมากว่า…
-
เปรียบเทียบภาพจากกล้อง iPhone 8 vs. iPhone 6s อายุ 2 ปี ช่วยตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนรึเปล่า?
เมื่อโทรศัพท์ที่เป็นที่ 1 ในใจของใครหลายคนอย่าง iPhone มีรุ่นใหม่ออกมาอย่าง iPhone 8 ทำให้หลายคนลังเลว่า จะเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ดีไหมนะ??? สิ่งหนึ่งที่ทุกคนน่าจะตั้งความหวังไว้ว่า iPhone 8 จะมีกล้องถ่ายภาพเป็นอย่างไร เพราะกล้องโทรศัพท์ในปัจจุบันก็นิยมใช้เพื่อถ่ายกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน จึงเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งของ Smartphone วันนี้เรามีภาพความแตกต่างระหว่าง iPhone 8 ใหม่แกะกล่องและ iPhone 6s ที่มีอายุการใช้งานมากว่า 2 ปีมาให้ชมกัน ซึ่งจะให้ความแตกต่างกันมากหรือไม่ ต้องตัดสินด้วยสายตาของคุณเอง ภาพดอกไม้ปลอมจาก iPhone6s มีการโฟกัสที่ยาก และดูเหมือนแตกเป็นจุดเล็กๆ ขณะที่ภาพจาก iPhone 8 กลับดูสดใสมากกว่า และมีระบบการโฟกัสที่ดีกว่า โดยโฟกัสไปที่จุเสีเหลืองและเบลอฉากหลังอื่นๆ ออกหมด ต่อไปเป็นการทดสอบเรื่องสี โดยใช้แสงจากธรรมชาติผ่านสิ่งของที่โปร่งแสง การโฟกัสของทั้งสองเครื่องทำงานได้เป็นอย่างดี แต่หากดูให้ดีจะพบว่าภาพจาก iPhone 8 มีความคมชัดมากกว่าเล็กน้อย การทดสอบเรื่องแสงสีต่างๆ จะเห็นได้ว่า iPhone 6s…
-
ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ‘การนอนหลับ’ ให้ครบ 8 ชั่วโมงไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดเสมอไป
การนอนหลับให้ครบ 8 ชั่วโมงก่อนตื่นมาพบเช้าวันใหม่เป็นเรื่องที่เราทุกคนเข้าใจกันมาตั้งแต่เด็กว่าจะทำให้ร่างกายของเราสดชื่น และถือว่าเป็นการพักผ่อนที่เพียงพอ แต่ความเป็นจริงมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เมื่อ Nick Littlehales ที่ปรึกษาเรื่องการนอนหลับของนักฟุตบอลชื่อก้องโลกอย่าง Christiano Ronaldo ได้ออกมาบอกว่าแท้จริงแล้วการนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดที่เขาแนะนำ วิธีที่เขาบอกว่าดีที่สุดก็คือการแบ่งเวลานอนเป็น 5 ครั้ง ครั้งละ 90 นาที จะทำให้รู้สึกสดชื่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แน่นอนว่าการจะแบ่งเวลานอนเป็นช่วงๆ คือสิ่งที่เราไม่เคยชินกับมันมาก่อน แต่สิ่งนี้เขาก็ยืนยันว่าจะทำให้การตื่นนอนของเราเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ถ้าหากบางคนไม่อยากไปรับการปรึกษาเพื่อบริหารเวลานอนให้ลงตัว เขาก็ได้แนะนำวิธีการแบ่งเวลานอนง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ที่ชื่อว่า web-blinds เพียงแค่ใส่เวลาที่คุณต้องตื่นมันก็จะคำนวนเวลาการการหลับ การตื่นนอนที่เหมาะสมให้ทันที แต่นอกเหนือจากเรื่องของเวลาก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะทำให้เราหลับสบายมากยิ่งขึ้น อย่างแรกคือเรื่องของเตียงนอนที่เราใช้ ไม่จำเป็นต้องมีความหรูหราหรือฟูกหนาๆ แต่อย่างใด เพราะเขาบอกว่าการนอนให้สบายขอแค่ฟูกที่ด้านในเป็นแผ่นโฟมหนา 10 เซนติเมตรก็พอและถ้าผ้าปู ปลอกหมอนหรือผ้าห่มเพิ่งซักมาใหม่ๆ ก็จะยิ่งดีกับเรามากขึ้นอีก โดยผลลัพธ์นี้เขาได้มาจากการทำงานอยู่ในกลุ่ม Team Sky ที่ตามเก็บข้อมูลจากนักกีฬาในการแข่งขันปั่นจักรยานชื่อดังหลายแห่งเช่น Tour de France ที่จัดในฝรั่งเศส เขาบอกว่า “ลองคิดถึงฟูกเล็กๆ ที่เราใช้เวลาไปนอนเต้นท์หรือตั้งแคมป์ดูสิ ความหนาเพียง 10 เซนติเมตรก็สามารถทำให้เราตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นแล้วจริงมั้ย?” …
-
ฝรั่งเขียนบทความ 15 เรื่องแปลกๆ ในประเทศญี่ปุ่น จากมุมมองของคนชาติตะวันตก…
เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า ประเทศญี่ปุ่น เคร่งครัดในเรื่องของวัฒนธรรมประเพณีอย่างมากและบางสิ่งก็มีความแตกต่างกับประเทศอื่นอย่างสิ้นเชิง แต่เพราะความไม่เหมือนใครของประเทศนี้บางครั้งก็อาจทำให้นักท่องเที่ยวต่างถิ่นรู้สึกใช้ชีวิตลำบากกันซะหน่อย โดยเฉพาะชาวตะวันตกทั้งหลายที่กับบางเรื่องพวกเขาถึงกับตกใจในความแปลกเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวเหล่านั้นจึงได้รวบรวมความจริงที่พวกเขาคิดว่าไม่มีใครเหมือนของประเทศนี้ เราไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง โรงเรียนเปิดเทอมช่วงเดือนเมษายน . . ที่ญี่ปุ่นสถานศึกษาจะเปิดเทอมแรกในเดือนเมษายนและทุกคนก็ต้องเรียนปีละ 3 เทอมด้วยกัน นอกจากนั้นทุกๆ ปีพวกเขาก็จะได้ย้ายห้องคละคนกันไปเรื่อยๆ เพื่อให้ได้เจอกับเพื่อนใหม่ สอนให้เด็กรู้ว่าเราไม่สามารถอยู่กับสังคมเดิมไปได้ตลอดแต่ต้องรู้จักเข้าสังคมเหมือนกับที่ต้องไปเจอในโลกภายนอก ตุ๊กตาหิมะใช้บอลหิมะ 2 ลูก . เกือบทั้งโลกตุ๊กตาหิมะจะมี 3 ลูกแตกต่างกับญี่ปุ่นที่มีแค่ 2 ลูกตั้งเรียงกัน วัฒนธรรมการตีระฆัง 108 ครั้ง ตามความเชื่อของศาสนาพุทธในญี่ปุ่นตัวเลข 108 คือจำนวนความปรารถนาของผู้คนที่แบ่งออกมาในรูปของสัตว์ต่างๆ ทุกปีตอนเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคมจะมีการตีระฆังเกิดขึ้นตามศาลเจ้าจนครบ 108 ครั้ง เพื่อปลดปล่อยความโชคร้ายและบาปของปีที่ผ่านมาให้หมดไป ผู้พัน Sanders เป็นสัญลักษณ์ประจำวันคริสมาสต์ ผู้พันชื่อดังแห่งร้าน KFC คนนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ในวันคริสมาสต์ของญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลที่ว่าหลายครอบครัวจะชอบไปกินไก่ร้านนี้ในวันคริสมาสต์อีฟ ยิ่งไปกว่านั้นหากใครต้องการไปกินในช่วงวันหยุดปีใหม่ พวกเขาอาจต้องจองล่วงหน้านานอย่างต่ำ…
-
แหกคอกมาหาเธอ… 2 นักโทษหนีคุกไปดูดบ้องกับแฟน ก่อนรีบกลับมาที่ห้องขังเหมือนเดิม!?
เพราะความคิดถึงมันห้ามกันไม่ไหว… กลายเป็นว่า 2 หนุ่มถึงกับลงทุนแหกคุกไปหาเธอ แถมยังมีน้ำใจนักกีฬากลับมาอยู่ในคุกเนียนๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!? กลายเป็นข่าวที่เหมือนจะจริงจังแต่ก็ชวนให้ชาวเน็ตขำแตกกันได้ทั่วโลก เมื่อเว็บไซต์ Mirror ได้รายงานเรื่องราวการหลบหนีออกจากเรือนจำแห่งหนึ่งในรัฐโอคลาโฮม่าของ 2 ผู้ต้องขังที่ไม่มีใครคิดว่าหนีออกไปได้แล้ว.. ยังจะกลับมาอยู่อีก!! Harley Davidson และ Rakem Lennox โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำได้รายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 11 ตุลาคม เวลาประมาณ 22.30 น. ผู้ต้องขังทั้ง 2 คน (ถูกขังในห้องเดียวกัน) ได้ฉวยโอกาสจังหวะตอนที่ผู้คุมอยู่ห่างออกจากห้องขัง หนีไปทางห้องซักรีด จากนั้นได้ขโมยกุญแจจากห้องนั้นเพื่อหนีกลับไปหาแฟนสาวของทั้งคู่ แต่ดูเหมือนว่า 2 นักโทษต่างก็ยังมีความดีหลงเหลืออยู่ เพราะแม้พวกเขาจะหนีออกไปได้ แต่ทั้งคู่ก็ยังตัดสินใจที่จะกลับมาอยู่ในห้องขังแบบเนียนๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าสุดท้ายพวกเขาก็ถูกผู้คุมจับได้อยู่ดี… Rakem Lennox โดยทั้งคู่ได้ให้การสารภาพว่า ได้แอบขโมยกุญแจจากห้องซักรีดเพื่อใช้หลบหนีไปหาแฟนสาวจริง ส่วนเหตุจูงใจก็เป็นเพราะ ‘ความคิดถึง’ และช่วงเวลาที่หนีออกไป ทั้งคู่แค่ไปดูดบ้องพี้กัญชากับแฟนสาวอย่างเพลิดเพลินใจเฉยๆ Terry Park เจ้าหน้าที่เรือนจำได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กตนเองว่า “เกิดเหตุ 2…
-
รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศ สั่งแบนการซื้อ-ขาย สัตว์เลี้ยงจากโรงเพาะพันธุ์เป็นรัฐแรก..!!
นับว่าเป็นอีกหนึ่งการประกาศใช้กฎหมายจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่กลายเป็นที่จับตามองจากทั่วโลก รวมทั้งรัฐอื่นๆ ในสหรัฐฯ โดยเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2017 เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า แคลิฟอร์เนียจะเป็น ‘รัฐ’ แรกในสหรัฐฯ ที่มีการประกาศใช้กฎหมายสั่งแบนการซื้อ – ขาย สัตว์เลี้ยงจากโรงเพาะพันธุ์อย่างเด็ดขาด!! เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย Jerry Brown ได้ออกมาประกาศยืนยันบังคับใช้กฎหมายข้อดังกล่าวให้มีผลกับร้านค้าสัตว์เลี้ยงทุกชนิด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 เป็นต้นไป… โดยเนื้อหาในตัวกฎหมายมีการระบุไว้ว่า ร้านค้าสัตว์เลี้ยงจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขายสัตว์เลี้ยงจากฟาร์มเพาะพันธุ์ แต่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงจากศูนย์พักพิง หรือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์มาขายได้ (ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงเพาะพันธุ์เองภายในครัวเรือนก็ยังสามารถขายได้อยู่เช่นกัน) หากเจ้าหน้าที่พบว่าร้านไหนฝ่าฝืนกฎหมาย จะถูกสั่งปรับเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 17,000 บาท) นอกจากนั้นทางกลุ่ม The Humane Society และ American Society for the Prevention of Cruelty…
-
ทัศนคติความงามของสาว 4 ประเทศ ไทย-จีน-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น สรุปสั้นๆ ได้ในประโยคเดียว
เมื่อมีการโพสต์ลงบนเว็บเว่ยโบ๋ โซเชียลมีเดียชื่อดังของจีน เพื่อสรุปความงามของสาวๆ เอเชีย 4 ประเทศออกมาในประโยคเดียว ประเทศเหล่านั้นได้แก่ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไทยของเราด้วย ซึ่งผู้โพสต์ก็ได้รับความนิยมอย่างสูง จนมีคนติดตามนับล้าน กระทั่งเจ้าตัวก็บอกเองว่า “นี่คือความเห็นส่วนตัว และสามารถโต้แย้งได้ถ้าใครเห็นไม่ตรงกัน” เราลองมาดูดีกว่าว่าจะจริงแค่ไหน ประเทศจีน – สวยเซลฟี่ ผู้เขียนให้ความเห็นว่าสาวจีนนั้นขึ้นชื่อว่าสวยเซลฟี่ เพราะพวกเธอมีความสามารถที่จะใช้ทั้งกล้องโปรและกล้องมือถือ หามุมเซลฟี่ที่สวยที่สุดของตัวเองได้เก่งกว่าชาติอื่น แถมยังใช้แอพแต่งภาพได้โปรมากๆ ประเทศญี่ปุ่น – สวยเครื่องสำอาง เราต่างรู้ดีว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อเรื่องเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ซึ่งดูเหมือนว่าในตลาดเครื่องสำอางญี่ปุ่นจะมีผลิตภัณฑ์แต่งเสริมเติมแต่งเฉพาะจุด ตั้งแต่หางคิวไปจนกระทั่งติ่งหู นั่นจึงไม่แปลกที่สาวๆ ญี่ปุ่นจะเก่งเรื่องใช้เครื่องสำอางเป็นพิเศษ ประเทศเกาหลีใต้ – สวยศัลยกรรม ข้อนี้คงตรงกับความคิดของใครหลายๆ คน และประเทศเกาหลีใต้ก็ขึ้นชื่อเรื่องศัลยกรรมเป็นอย่างมาก ถึงขั้นมีชาวเอเชียหลายๆ ชาติยอมลงทุนบินไปเกาหลีใต้เพื่อทำศัลยกรรมโดยเฉพาะ และค่านิยมการศัลยกรรมเพื่อความงาม ก็เป็นเรื่องปกติที่ยอมรับได้ในสังคมเกาหลีเช่นกัน ประเทศไทย – สวยข้ามเพศ นอกจากอาหารอร่อยและชายหาดสวยงามแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต่างชาติพูดถึงประเทศเรา(ในทางที่ดี) ก็คือเหล่าสาวๆ ข้ามเพศของประเทศเรานั้นสวยไม่แพ้ชาติอื่นบนโลก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงสวยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายมาก่อนอย่างที่ผู้ชายต่างชาติหลายคนเข้าใจหรอกนะ เพราะสาวแท้ๆ…
-
รู้จักกับ.. Toshio ผู้ชิมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาแล้ว 6,000 แบบ จาก 40 ประเทศ นานกว่า 20 ปี..!!
ใครที่ชอบประทังชีวิตในช่วงสิ้นเดือนด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปละก็ ขอบอกเลยว่าคุณ Toshio Yamamoto วัย 55 ปี คนนี้จะทำให้คุณอิจฉา!! ก็แหม๊… ถ้าหากคุณคิดว่าตัวเองได้รับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมามากพอ ก็อาจจะต้องแพ้ให้หนุ่มใหญ่คนนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเขาคือนักรีวิวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตัวจริงที่อยู่คู่วงการมานานกว่า 20 ปี Toshio Yamamoto ชายผู้ลิ้มรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาแล้ว 6,000 รสชาติ แม้เจ้าตัวจะไม่ได้บอกว่าความหลงใหลที่มีในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มันเริ่มก่อตัวมาจากวันที่เค้าไม่มีเงินซื้ออาหาร หรือเป็นความสนใจในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจริงๆ แต่บนเว็บไซต์ i-ramen.net ของเขา จะคอยอธิบายข้อมูลรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เค้าเคยลองมา ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ ความนุ่มของเส้น ประเทศที่ผลิต คุณค่าทางโภชนาการ เนื้อสัมผัส หรือแม้แต่ระยะเวลาที่ดีที่สุดในการต้ม… เห็นมาเรียบง่ายแบบนี้ แต่เว็บไซต์เขาเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1996 แล้วล่ะ!! “เมื่อไหร่ที่คุณทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหมด นัั่นก็เท่ากับว่าเนื้อหาทั้งหมดของมันก็ได้หายตามไปด้วย สิ่งที่ผมทำก็คือ.. การนำเสนอเนื้อหาที่อาจจะถูกหลายคนทิ้งไป และทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” คุณ Toshio ให้สัมภาษณ์ นอกจากนั้นคุณลุงยังเล่าว่าความรู้สึกคลั่งไคล้ที่มีต่อเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มันเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่ตอนเป็นเด็กอยู่ในชั้นวัยประถมศึกษา และครั้นเขาเติบโตขึ้น ความรักที่มีต่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ไม่ได้ลดน้อยลงไป ถึงขนาดที่ว่าในโปรเจกต์ตัวจบตอนเรียนมหาวิทยาลัย เขาก็ทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเช่นกัน ด้วยความที่เขาเป็นวิศวกรไฟฟ้า…
-
หนังฆาตกรรมสยองขวัญ The Poughkeepsie Tapes ที่ไม่อาจฉายในโรงได้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว…
ในแต่ละปีมักจะมีหนังสยองขวัญออกมาสร้างความหลอนให้เราได้อย่างไม่หวาดไม่หวั่น ไม่ว่าจะผีไทย ผีฝรั่ง ผีจีน หรือแม้แต่ผีเล่นหัว!? ทว่าวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ The Pughkeepsie Tapes ผลงานภาพยนตร์ของผู้กำกับ John Erick Dowdle จากปี 2007 ที่น่ากลัวซะจนถูกแบนห้ามเผยแพร่สู่ที่สาธารณะมานานนับ 10 ปี!! ลองไปชมตัวอย่างกันก่อนเลย.. หลังจากที่ได้ชมตัวอย่างหนังแล้ว แม้ไม่ใช่เรื่องจริงแต่เราก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกันว่า ภาพยนตร์ชุดนี้เป็นหนังสยองขวัญถ่ายทำเชิงสารคดี ที่มีความคล้ายคลึงกับ The Blair Witch Project (สอดรู้ สอดเห็น สอดเป็น สอดตาย) โดยทั้งหมดจะเป็นเรื่องราวของตำรวจในนิวยอร์ก ที่ได้ค้นพบเทปวิดีโอบันทึกลับกว่า 800 ม้วนของฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาในวิดีโอจะเผยให้เห็นถึงเรื่องราวของเหยื่อแต่ละคนก่อนจะถูกล่อลวงมาฆาตกรรมอย่างโหดร้ายทารุณ นอกจากนั้นทางผู้กำกับเองก็ได้ชี้แจงว่าเรื่องราวในภาพยนตร์ทั้งหมดอ้างอิงจากเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นที่ Poughkeepsie ในช่วงปี 1996 – 1998 ซึ่งเป็นช่วงที่มีเหตุฆาตกรรมและการลักพาตัวหญิงสาวทั้งหมด 8 คน ก่อนจะสืบทราบว่าเป็นฝีมือของ Kendall Francois ฆาตกรโรคจิตที่ลวงเหยื่อมาทารุณกรรมอย่างโหดร้าย ทว่าในที่สุดเจ้าตัวก็ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และเสียชีวิตไปเมื่อปี…
-
มาดูทรงผมของวัยรุ่นในยุค 1980s ที่เป็นยุคทองของวงการแฟชั่น โคตรล้ำไปเลยคุณพี่!!
ว่ากันว่ายุค 80 เป็นยุคทองของแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว ดนตรี ศิลปะ ที่เป็นยุคที่มีเอกลักษณ์สุดๆ จนวัยรุ่นสมัยนี้นำเอาแฟชั่นเหล่านั้นกลับมาอีกครั้งในปัจจุบันนี้ แต่สิ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของยุค 80 จริงๆ นั้นคงเป็นอะไรไม่ได้นอกจากทรงผมของวัยรุ่น ที่แม้ว่าในตอนนี้มันอาจจะดูแปลกไปหน่อย แต่รู้หรือไม่ว่าในตอนนี้มันเรียกว่าคูลสุดๆ งั้นเราไปดูกันหน่อยดีไหม ว่าวัยรุ่นยุค 80 เขามีทรงผมสุดโต่งกันขนาดไหน ผมด้านบนหยิกๆ ด้านล่างปล่อยยาว เป็นอะไรที่เท่สุดๆ ในสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายครอบครัวหรือภาพถ่ายของโรงเรียนไฮสคูลก็ต้องมีทรงผมแบบอลังการๆ ไว้ก่อน ทรงนี้ต้องใช้เวลาทำกี่ชั่วโมง??? เมื่อคนเหล่านี้มองย้อนกลับไปในตอนนี้ที่ตัวเองนั้นมีทรงผมเหล่านี้ คงเป็นความทรงจำที่ทั้งฮาและน่ารักสุดๆ ไปเลยนะเนี้ย . เทผมมาข้างหนึ่งก็เท่ไม่เบานะ ก่อนที่สาวๆ สมัยนี้จะชอบเครื่องหนีบผมให้ตรงสวย สาวๆ สมันก่อยก็เคยชอบการเซ็ทผมหยิกๆ ด้วยเจลอย่างหนักเช่นกัน แบบนี้เรียกว่า “โครตคูลลลลล!!” ทรงนี้ก็พีคอยู่นะ . จะว่าไปสาวๆ สมัยนั้นก็มีความสุดโต่งเรื่องทรงผมมากๆ เลยนะ . . เป็นทรงที่ต้องเซ็ทให้แข็งสุดๆ…
-
มาชม “9 ปัญหาแหยะๆ ของสาว เวลาไปว่ายน้ำ” ที่ทุกคนล้วนต้องประสบ พบเจอกันทั้งนั้น!!!!
การว่ายน้ำเป็นทั้งการออกกำลังการและการคลายเคลียดที่ดีอย่างหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามาถที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงสระไปว่ายน้ำอย่างสนุกสนานได้ทันที แต่ในความสนุกนั้นก็มีเรื่อแหยะๆ ที่พวกเราไม่ค่อยโอเคกับมันเท่าไหร่เหมือนกันนะ อาจเป็นเพราะว่าสระว่ายน้ำเป็นสถานที่ส่วมรวมนะสิ ปัญหาฮาๆ จึงเกิดขึ้นแบบนี้ 1. คุณขยะแขยงที่ต้องเหยียบน้ำที่นองอยู่เต็มพื้นห้องน้ำพร้อมกับเส้นผมของใครก็ไม่รู้ มันทำให้คุณต้องเขย่งเท้าไปทั่วห้องน้ำ เพื่อหามุมที่สะอาดพอที่จะเปลี่ยนชุด.. 2. เมื่อคุณอาบน้ำเสร็จแล้วต้องเจอกับผ้าขนหนูเหม็นอับ ผ้าขนหนูที่ยังไม่แห้งดีนั้นมันมีกลิ่นตุๆ จนไม่อยากเอามาเช็ดตัว แต่ทำยังไงได้ คุณก็ต้องมาเช็ดด้วยผ้าผืนนั้นอยู่ดี 3. เมื่อมีคนแซงคุณเวลาว่ายน้ำ คุณมักกวาดมือไปปัดขาที่มีขนหน้าแข็งอุยๆ เสมอเลย ก็มันมองไม่เห็นนี่หน่า หนูขอโทษที่บางครั้งก็หยิกมันติดมือมาด้วย…. 4. คุณต้องสะดุ้งโหยง เมื่อเห็นเด็กบางคนใส่ถุงเท้าลงสระ มันอดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าเชื้อโรคที่ถุงเท้าจะลอยมากระทบกับเรา 5. คุณมักจะสำลักออกมาเสมอเมื่อพยายามหายใจในน้ำ มันเป็นแบบนั้นเสมอกับคนที่ว่ายน้ำแบบงูๆ ปลาๆ อย่างเรา แล้วก็มานั่งสำนึกผิดว่าในน้ำนั้นมีอะไรบ้าง 6. เมื่อคุณจามในสระน้ำ น้ำมูกเจ้ากรรมมักจะออกมาด้วยเสมอ สังเกตได้ง่ายๆ จากผู้คนในสระที่เริ่มตีตัวออกห่างจากคน และเสียใจที่คุณไม่มีกระจกไว้ดูสารรูปตัวเองตอนนั้นซะด้วย 7. การถอดหมวกว่ายน้ำเป็นเรื่องยากลำบาก มันเหมือนกับจะถอนผมออกทั้งหัว ยิ่งเจ้าไรผมด้านหน้ามันแทบจะติดไปกับหมวกว่ายน้ำจนหมด 8. เมื่อคุณว่ายๆ น้ำอยู่มักจะพบพลาสเตอร์ปะแผลเก่าๆ ลอยมา…
-
“ก็เลี้ยงมันมาเหมือนลูก…” เหตุผลน่ารักๆ กับเรื่องที่ว่า ‘ในหลวง ร.9’ ไม่โปรดเสวยปลานิล
เรื่องสั้นเกี่ยวกับ ‘เหตุใดในหลวงจึงไม่โปรดการเสวยปลานิล?’ ทั้งๆ ที่เราก็รู้กันว่าพระองค์ทรงพระราชทานให้กับกรมประมงเพื่อให้แจกจ่ายให้ประชาชนไปขยายพันธุ์กัน… พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่โปรดเสวยปลานิล ปลานิล ก่อนอื่นเลยเรามาดูที่มาที่ไปของเรื่องนี้กัน หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยว่าปลานิลนั้นเป็นปลาดั้งเดิมของไทย แต่ที่จริงแล้วแรกเริ่มเดิมทีนั้น ปลานิลมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่แถบแอฟริกาซึ่งสามารถพบได้ตามแหล่งน้ำทั่วๆ ไป เข้าสู่ประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 2508 สาเหตุที่เขาสู่ประเทศไทยได้นั้นก็เพราะว่าสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ (เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่น) ทรงเลือกสรรลูกพันธุ์ปลานิลแท้ 50 ตัว เข้ามาทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ระหว่างการขนส่งโดยเครื่องบินนั้น ปลานิลมีชีวิตรอดมาเพียง 10 ตัวเท่านั้น… จากนั้นท่านจึงทรงรับสั่งให้ทดลองเลี้ยงปลานิลที่เหลือไว้ที่บ่อภายในสวนจิตรลดาอย่างดีที่สุดเพื่อให้รอดชีวิต ผลปรากฎว่าปลานิลสามารถเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ได้เป็นอย่างดี แถมยังเลี้ยงง่ายกินอะไรก็ได้ที่ว่ายไปเจอ ต่อมาจึงได้พระราชทานชื่อปลาชนิดนี้ว่า ‘ปลานิล’ จากชื่อแม่น่ำไนล์ (Nile) ที่เป็นแหล่งอาศัยดั้งเดิมของปลาชนิดนี้ หลังจากนั้นได้พระราชทานปลานิลให้กรมประมงใน เพื่อไปเพาะพันธุ์และแจกจ่ายให้กับพสกนิกรชาวไทยต่อไป จนกลายมาเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ปลาที่เลี้ยงปากท้องและสร้างอาชีพให้ชาวไทยทั้งประเทศเรื่อยมา วกกลับมาเข้าเรื่อง หลายๆ คงก็คงจะพอทราบกันว่า ในหลวงนั้นไม่โปรดเสวยปลานิล ทุกๆ ครั้งที่มีผู้นำปลานิลไปตั้งเป็นเคื่องเสวย ก็จะทรงโบกประหัตถ์ให้ย้ายไปไว้ที่อื่นทุกๆ ครั้งไป โดยไม่ได้รับสั่งอะไรเพิ่มเติมแต่อย่างใด… จนวันหนึ่งมีผู้สงสัย ใช้ความกล้าไปกราบบังคมทูลเพื่อถามว่า ‘เหตุใดพระองค์จึงไม่โปรดเสวยปลานิล?’ ซึ่งพระองค์ก็ได้มีกระแสรับสั่งตอบกลับมาว่า ‘ก็เลี้ยงมันมาเหมือนลูก…
-
รวม 20 เรื่องราวสุดเงิบ ที่เกิดขึ้นในเกม The Sims คนเคยเล่นจะเข้าใจอย่างดีเลยล่ะ…
The Sims เกมจำลองการใช้ชีวิต ที่ให้เราควบคุมตัวละครไปทำสิ่งต่างๆ ที่เราต้องการ ถือเป็นเกมที่หลายคนน่าจะเคยสัมผัส และเมื่อพูดถึงสิ่งที่เคยทำ ทุกคนก็คงจะบอกว่าเคยจับซิมส์ของคุณขังไว้ในบ้านพร้อมจุดไฟเผาแน่ๆ ซึ่งมันก็สนุกทั้งครั้งที่ได้ทำอะไรเงิบๆ แบบนั้น ด้วยเหตุนี้เราก็เลยหยิบเรื่องราวต่างๆ จากชาวเน็ตที่เล่นเกมนี้มาแชร์กัน ซึ่งเรื่องราวแต่ละอย่างของพวกเขานี่บอกเลยว่าเงิบสุดๆ ว่าแต่จะเป็นยังไงแล้วเราเคยเจอเหมือนกันไหม มาดูกัน… อย่างซิมส์ของตาคนนี้ก็เสียเวลาไปกว่า 16 ชั่วโมงในเกมเพื่อดับไฟ สาเหตุก็มาจากมันดันหยุดดับไฟ เพราะตรงกับวันเกิดพอดี ซิมส์ของเขาเลยมัวฉลองวันเกิด ไฟก็ไม่ได้ดับ บ้านนี่พังยับ ชาวเน็ตคนนี้เล่าว่าซิมส์ของเธอตายกระทันหัน ยมฑูตก็เลยจะมาทำหน้าที่รับวิญญาน ทันใดนั้นซิมส์เพื่อนบ้านที่มาเที่ยวบ้านซิสม์ของเธอ ก็ทำท่าจะคลอดต่อหน้ายมฑูต งานนี้พี่แกทำตัวไม่ถูกเลย ปกติมารับแต่คนตาย แต่ไม่เคยให้กำเนิดมาก่อน เป็นใครก็สงสัย ซิมส์ของเราเล่นแค่หมากรุก ก็สามารถเป็นหมอผ่าตัดได้ ทำไมชีวิตจริงทำไม่ได้บ้างนะ อีกเรื่องสุดงงของยมฑูตที่มารับคนตายแท้ๆ กลายเป็นว่าต้องเจอซิมส์อีกคนขอไปถ่ายเซลฟี่ซะงั้น ปกติเรามักจะสร้างซิมส์ให้นิสัยดีๆ แต่ถ้าเราลองสร้างซิมส์นิสัยแย่ๆ แบบนี้ดูจะเป็นไงนะ เมื่อคุณแค่อยากให้ซิมวู้ฮู้ขำๆ แต่ผลลัพท์ดันเกินคาด ก่อนเล่นซิมส์ คุณคงคิดว่าวู้ฮู้คือการส่งเสียงดีใจ แต่หลังเล่นซิมส์คำว่าวู้ฮู้ของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อคุณตั้งชื่อตัวละครว่าหรรมส์ โดยไม่ได้คิดอะไรจนกระทั่งรู้ว่า คำสั่งมันจะขึ้นชื่อตัวละครปิดท้าย เล่นเอาเงิบไปหลายวินาทีเลยล่ะ…เล่นกับหรรมส์…
-
10 สถานที่ปลอดภัย ถ้าเกิดไวรัสซอมบี้ล้างโลกขึ้นมา มาหลบที่นี่สิ มันช่วยคุณได้!!
จะเป็นยังไงเมื่อคุณนอนหลับแล้วตื่นขึ้นมาพบว่าโลกใบนี้มันได้ติดเชื้อในกระแสเลือด…เอ้ย เชื้อไวรัสซอมบี้กันจนหมด คนรอบข้างก็กลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ บ้านที่เราอยู่ก็ดูจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป แล้วที่ไหนล่ะที่เราจะมีชีวิตรอดได้? ด้วยเหตุนี้ทาง boredomtherapy ก็เลยรวบรวมสถานที่ต่างๆ จากรอบโลกมาให้เราดูกันว่า ถ้าเกิดเป็นดังที่เกริ่นจริงๆ ควรจะไปอยู่ที่ไหนดีถึงจะปลอดภัย ว่าแต่จะมีที่ไหนอยู่ใกล้เราบ้างนั้นลองมาดูกัน… Wiltshire’s Secret Underground City หลุมหลบภัยในเมือง Corsham ประเทศอังกฤษที่มีพื้นที่กว้างขวางสามารถจุคนได้มากถึง 4,000 คนนี้ถือเป็นสถานที่หลบภัยซอมบี้อย่างดี แม้จะสร้างไว้ตั้งแต่ปี 1950s สถานที่แห่งนี้ก็พร้อมไปด้วยไฟและน้ำฉะนั้นอยู่ได้ยาวๆ Lawson Tower หอคอยสูงแห่งนี้ตั้งอยู่ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเดิมทีมันเป็นหอสำหรับกักเก็บน้ำและสร้างโดย Thomas Lawson ทว่าตอนที่สร้างเสร็จภรรยาของเขาก็ไม่ปลื้มเท่าไหร่เพราะมันบดบังวิว แต่ตัวเขาไม่อยากพังมันลงจึงให้ช่างสร้างหอคอยทรงยุคกลางขึ้นมาครอบไว้ เพื่อให้ดูสวยงามแทนที่นั่นเอง ฉะนั้นใช้หลบภัยได้ยาวๆ Alcatraz Island คุกบนเกาะกลางน้ำบริเวณรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ครั้งหนึ่งเคยดำเนินการคุมขังเหล่านักโทษคดีอุกฉกรรจ์เพราะบรเวณโดยรอบมีแต่ละเทและคลื่นลมแรง แต่เนื่องจากลมทะเลมักจะมาพร้อมกับไอเกลือทำให้มันกัดเซาะเหล็กและโครงสร้างต่างๆ จนยากเกินที่จะดูแล ทำให้มันถูกทิ้งร้างไปอย่างน่าเสียดาย ที่แห่งนี้จัดว่าเป็นสถานที่หลบภัยชั้นดีเลยล่ะ เมื่อต้องสู้กับกองทัพซอมบี้ เพราะว่าโดยปกติแล้วซอมบี้มักจะกลัวน้ำ และด้วยความที่ที่แห่งนี้เป็นคุกอยู่แล้ว หาอาหารการกินจึงหมดห่วง Scotland’s Secret Bunker ถ้าการอยู่ที่สูงหรือเกาะกลางน้ำยังไม่ใช่คำตอบ งั้นหลบไปอยู่ใต้ดินเป็นไง กับอีกหนึ่งหลุ่มหลบภัยในประเทศสกอตแลนด์ที่ใช้ในการหลบนิวเคลียร์และตั้งอยู่ในชนบทห่างไกลผู้คน แถมยังอยู่ใต้บ้านฟาร์มอีกรับรองว่าซอมบี้หาไม่เจอแน่นอน…
-
คุณแม่ลูกสองกำลังจะลาโลกไปด้วยโรคมะเร็ง แต่สุดท้ายก็ได้ยูนิคอร์นมาช่วยเยียวยาจิตใจ
Sammi Fox คุณแม่ลูกสองวัย 29 ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต แต่ก่อนจะจากไปเธอก็อยากจะบอกลาลูกน้อยของเธอด้วยตัวเอง ทว่ามันก็เป็นการยากเพราะลูกของเธอนั้นป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม เธอได้บอกเล่าเรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กของเธอก่อนจากไปว่า อาการของเธอลุกลามไปไวสุดๆ และเธอก็รักลูกๆ ทั้งสอง Bobby วัย 5 ขวบ กับ Kai วัย 13 ขวบ มากขนาดไหน… ข้อความของเธอได้ไปโดนใจกับ Lisa Walker คุณแม่ลูกสองวัย 41 ปี เข้า ทำให้เธอรู้สึกเห็นใจและอยากจะช่วย Sammi เธอจึงเดินทางตรงมายังโรงพยาบาลที่คุณแม่วัย 29 อยู่ทันทีพร้อมกับสัตว์ในตำนานที่ไม่มีใครคิดว่าจะเจอ สัตว์ที่ว่านั้นคือม้าแคระที่แต่งตัวเป็นยูนิคอร์นนั่นเอง ซึ่ง Lisa นั้นทำไงานอยู่ที่ Mini Pony Hire เป็นบริษัทที่ให้เช่าม้าแคระ หลังจากได้อ่านเรื่องราวของ Sammi และรู้ว่าเธอชอบยูนิคอร์นมากแค่ไหน เธอจึงพาม้าแคระจากบริษัทของเธอมาเพื่อให้กำลังใจเธอนั่นเอง . Lisa บอกว่าตอนที่เธอเห็นข้อความของ Sammi บนหน้าเฟซบุ๊กของเธอ เธอก็สะเทือนใจเป็นอย่างมากจนรู้สึกว่าต้องมาช่วยให้ได้ และวินาทีที่ Sammi เห็นเจ้ายูนิคอร์นเธอก็ดูมีความสุขมากๆ ฉะนั้นมันจึงคุ้มค่าแล้วที่เดินทางมาแม้จะเป็นคนแปลกหน้ากันก็ตาม และหลังจากเหตุการณ์นั้นจึงทำให้ Sammi มีกำลังใจที่มากขึ้นพร้อมกับต่อสู้โรคร้ายได้ดีขึ้น…
-
รวม 5 ทฤษฎีน่าสนใจจากแฟน Star Wars ร่วมค้นหาตัวตนที่แท้จริงของ ‘Rey’ เตรียมกาวให้พร้อม!!
แม้ว่าตัวอย่างใหม่ล่าสุดของ Star Wars: The Last Jedi จะถูกปล่อยออกมาแล้ว แต่กระแสการพูดถึงตัวละครหลักอย่าง Rey ก็ยังเป็นที่พูดถึงไม่เปลี่ยนแปลง แฟนๆ ต่างไม่ลดละที่จะค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเธอ และด้วยเหตุนั้น ทาง This is Insider เลยรวบรวมทฤษฎีน่าสนใจมากมายจากแฟนๆ Star War เกี่ยวกับความน่าจะเป็นของ Rey มาให้เราได้อ่านกัน ซึ่งขอย้ำว่าเป็นเพียงการเดาและเป็นทฤษฎีที่แฟนๆ คิด ฉะนั้นมันไม่มีอะไรแน่นอน ที่สำคัญอย่าซีเรียสกับมันล่ะ ฉะนั้นถ้าคุณพร้อมแล้วก็ยกถุงกาวขึ้นมาสูดลึกๆ แล้วก็เชิญเสพความกาวกันให้เต็มที่… Rey เป็นลูกของ Luke Skywalker เริ่มกันที่ทฤษฎีสุดฮิตที่คนพูดถึงกันมากที่สุดกันก่อน โดยเรื่องนี้นั้นเริ่มมาจากการที่ตัว Luke นั้นได้หายหัวไปนานถึง 30 ปี ซึ่งโอเคว่าเราอาจจะเห็นพี่แกในคอมมิกส์บ้าง แต่ในฉบับหนังระหว่าง 6 ไป 7 เราไม่รู้เลยว่าพี่แกหายไปไหนทำอะไรที่ไหน นอกเหนือจากฝึกเบน โซโลไม่สำเร็จ แล้วทำไมทฤษฎีนี้ถึงน่าจะเป็นไปได้? คำตอบนั้นก็คือเธอมีอะไรหลายอย่างคล้ายกับพวก Skywalker เช่นมีพลังที่แข็งแกร่ง เป็นนักบินแต่กำเนิด ไลท์เซเบอร์ของ Luke…
-
เรื่องราวของคู่รักวัยชรา ใช้ชีวิตเรียบง่ายเพียงสองคนภายในหมู่บ้านร้างที่สเปน
นับเป็นเวลากว่า 45 ปีแล้วที่คุณตา Martin และคุณยาย Sinforosa Colomer ได้เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง 2 คนใกล้กับเมือง La Estrella ประเทศสเปน ทั้งสองใช้ชีวิตด้วยกันอยู่ในบ้านร้างแห่งนี้ มีเพียงสุนัข 3 ตัว ไก่ 5 ตัว และแมวอีก 25 ตัว อยู่อาศัยด้วย และไม่มีเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่แถวนั้นแม้แต่คนเดียว บ้านคนที่อยู่ใกล้ที่สุดก็อยู่ห่างไป 25 กิโลเมตร คุณตา Martin ได้เล่าให้ฟังว่าเดิมทีหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ตอนนี้ไม่ใช่หมู่บ้านร้างแต่อย่างใด เคยมีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 150-200 หลังคาเรือน มีคริสตจักร มีบาร์ดื่มกิน และโรงเรียน ชาวบ้านก็อยู่อาศัยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งปี 1883 ได้เกิดพายุโหมกระหน่ำคร่าชีวิตและพังบ้านเรือนของชาวบ้าน เหลือเพียง 17 หลังคาเรือนที่สามารถอยู่รอดได้ ความสูญเสียในคราวนั้นนับได้ว่าเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในหมู่บ้าน ผู้คนก็เริ่มทะยอยออกจากหมู่บ้านไปใช้ชีวิตที่อื่น แต่ฟางเส้นสุดท้ายจริงๆ คือช่วงที่เกิดสงครามกลางเมืองสเปนช่วงยุค 1930 ด้วยพิษเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ชาวบ้านส่วนมากตัดสินใจย้ายถิ่นฐานเข้าไปในเมืองใหญ่ เพื่อหาอาชีพและชีวิตที่ดีกว่า แต่พ่อแม่ของคุณตากับคุณยายก็ยังคงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ คุณตาได้เล่าให้ฟังว่า…
-
หล่อล่ำทำกับข้าวเก่ง!! เมื่อ Gordon Ramsay ถอดเสื้อลงบนไอจี โลกออนไลน์ก็ร้อนฉ่า
หากให้พูดถึงภาพลักษณ์ของเชฟชื่อดัง Gordon Ramsay เรามักจะติดภาพของเขาที่กำลังโกรธจัด หน้าแดง พูดจาดุด่าผู้เข้าแข่งขันในรายการครัวนรก จนกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของเขาไปแล้ว อันนี้คือภาพลักษณ์ที่เราเห็นกันประจำ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง เขาคือหนุ่มแสนโรแมนติกผู้รักในการทำอาหารอร่อยให้กับทุกคนได้ทาน และที่เขาด่าก็เพราะอยากจะให้อาหารเหล่านั้นออกมาคุณภาพเยี่ยมที่สุดใช่ไหม!?? แต่เราคงจะนึกไม่ถึงว่าเขาก็ยังมีอีกมุม.. นั่นก็คือมุมของหนุ่มผู้รักสุขภาพและการออกกำลังกาย จนสามารถมีหุ่นที่เฟิร์มได้ แม้จะอายุปาเข้าไป 50 ปีแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะเพิ่งแข่งวิ่งไตรกีฬามาหมาด เพราะแคปชั่นภาพที่เขาโพสต์สื่อถึงการขอบคุณทุกคนที่เข้าร่วม ขอบคุณคนที่ให้กำลังใจ และหวังว่าในการวิ่งครั้งถัดไป เขาจะได้กลับมาร่วมอีกครั้งในปีหน้า แค่นั้นแหละ เพียงแค่ภาพหนึ่งภาพ ก็สามารถทำให้โลกออนไลน์ร้อนฉ่าได้.. เพราะเขาเป็นเซเล็บที่มีแฟนๆ รู้จักกันดี แต่คงไม่คิดว่าเชฟที่ต้องกินและชิมอาหารแทบจะตลอด ก็ยังสามารถรักษาหุ่นดีๆ และชอบออกกำลังกายไปพร้อมกันได้ เชร๊ดโด้ววว ลุงกอร์ดอนหุ่นฟิตขนาดนี้เลยเหรอ หรือบางคนก็บอกว่า… “ไม่คิดเลยว่าเขาจะฮอทได้ขนาดนี้” “หุ่นดีอิ๊บอ๋าย ชอบกอร์ดอนในลุคนี้อ่ะ” “อยากให้มาทำอาหารให้กินทุกวันเลยพ่ออออออออ” แม้กระทั่งนิตยสาร Men’s Health ก็ยังร่วมแจมกับเค้าด้วย ถ้าคิดว่ารูปลุง Gordon เพียงภาพเดียวยังไม่เต็มอิ่มพอ งั้นเราก็ขอจัดให้กันไปยาวๆ นานๆ จะได้เขียนคอนเท้นท์เกี่ยวกับลุงแต่ไม่เกี่ยวข้องกับอาหารสักที…
-
พาชม 5 สถานีรถไฟในญี่ปุ่นที่ถูก “แมวเหมียว” ยึดครองเป็นเจ้าของสถานีซะแล้ว โถ้ววววว
การเดินทางในญี่ปุ่น ประชากรส่วนมากในประเทศนิยมใช้รถไฟในการเดินทาง เพราะมีความสะดวก ปลอดภัย และรวดเร็ว แถมยังประหยัดค่าใช้จ่าย เมืองทุกเมืองจะเชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางรถไฟ แถมการเดินทางด้วยรถไฟของประเทศญี่ปุ่นนั้นมีความล้ำเป็นอย่างมาก ทั้งตรงต่อเวลาและรวดเร็วสุดๆ ในแต่ละสถานีก็ต้องมีเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน แต่ว่าสถานี 5 สถานีที่ #เหมียวบู้บี้ จะมานำเสนอนั้นเค้ามี “แมว” เป็นเจ้าหน้าที่คอยคุมอยู่ล่ะ หรือนี่จะเป็นหนึ่งในแผนการยึดครองโลกของพวกมันนะ? 1. สถานี Kishi จังหวัด Wakayama สถานีแห่งนี้มีเจ้าถิ่นชื่อว่าเจ้า Nitama คอยควบคุมมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะป่วยแต่มันก็ยังทำหน้าที่ในการดูแลสถานีรถไฟแห่งนี้เป็นอย่างดี . . นี่ไม่ได้อู้งานนะ แค่พักสายตาเฉยๆ นอกจากนี้ก็ยังมีรุ่นพี่แมวอย่างเจ้า Tama ที่คอยคุมสถานีอยู่ด้วย . 2. สถานี Shiwaguchi จังหวัดฮิโรชิม่า เจ้าหน้าที่ Ryoma คอยปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันไม่น้อยหน้ากว่าสถานีอื่นๆ แถมยังมีเครื่องแบบเฉพาะตัวให้ใส่อีกด้วย เห็นแบบนี้พี่แกก็ฮอตใช่เล่นนะ มีแฟนคลับติดตามเกือบ 10,000 คนเชียวล่ะ พี่ไม่ได้ขยันอย่างเดียวนะ พี่หล่อด้วย สนใจไหมจ๊ะสาวๆ 3. สถานี…
-
หนุ่ม “ดับเบิ้ลดิ๊กส์” เปิดกระทู้คลายปม ตอบทุกความสงสัย กับชีวิตที่มี “ปิก๊ะจู” สองอัน…
เราเคยเห็นคนที่เกิดมามีสองหัว สัตว์ที่เกิดมามีสองหาง แต่เราเคยเห็นคนที่มีอวัยวะเพศสองอันบ้างไหม? ถ้าคุณไม่เคยเห็นแล้วอยากจะเห็น คุณมาถูกที่แล้วล่ะ!! บนโลกของเรานั้นมีชายที่มีอวัยวะเพศสองอันจริงๆ และสองอันที่ว่าก็สามารถใช้งานได้จริงราวกับมีอันเดียวเป๊ะๆ ไม่แตกต่าง และเขาก็เคยตั้งกระทู้ยืนยันว่าเขามีหรรมส์สองอันจริงๆ บนเว็บไซต์ Reddit พร้อมกับใช้ชื่อว่า DoubleDickDude (DDD) จนคนให้ความสนใจกันเยอะสุดๆ เวลาผ่านไป เขาเห็นว่ามีคนให้ความสนใจกระปู๋ส์แฝดของเขามาก เขาก็เลยตั้งกระทู้ AMA หรือที่เรียกว่ากระทู้ถามตอบให้กับแฟนๆ ซึ่งเขาได้อธิบายถึงตัวเขาโดยย่อๆ ว่า น้องชายฝาแฝดของเขาใช้งานได้ 100 เปอร์เซ็น สามารถขับถ่ายได้ มีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ และโรคนี้มีชื่อว่า Diphallia หรือก็คือโรคที่มีอวัยเพศสองอัน สองอันจริงๆ นะ ยังไม่เชื่ออีกเหรอ? ถ้าใครยังไม่เชื่ออยากรู้ว่าสองอันจริงไหมสามารถเข้าไปดูแบบภาพเต็มๆ ได้ที่ ดับเบิ้ลปิกาจู vol 1 หรือ ดับเบิ้ลปิกาจู vol 2 นอกจากนั้นชายคนนี้ยังบอกว่าเขานั้นเป็นไบเซ็กส์ชวล หรือก็คือจะชอบผู้หญิงก็ได้ผู้ชายก็ดีอีกด้วย งานนี้คนยิ่งสนใจที่จะถามคำถามต่างๆ เขามากยิ่งกว่าเดิมไปอีก และวันนี้เราก็เลยรวบรวมคำถามเด็ดๆ มาให้อ่านกัน บอกเลยว่าแต่ละอันเด็ดสุดๆ เริ่มจากคำถามแรกที่ถามเขาว่า “นายเคยรู้สึกว่าตัวเองอยากจะมีหรรมส์แค่อันเดียวบ้างไหม?” เจ้าตัวก็บอกว่าเคยสิ “ตอนไฮสคูลไง…
-
บรรยากาศในเครื่องบินเจ็ทสุดหรู ที่ค่าตั๋วเริ่มต้น 600,000 บาท บริการทุกระดับประทับใจ!!
ขอต้อนรับเข้าสู่การเปิดตัวบริการการเดินทางสุดหรูจากทางสายการบิน The Crystal Skye ที่จะทำให้ผู้โดยสารทุกท่านได้รับการบริการยิ่งกว่าระดับเฟิร์สคลาส ในปัจจุบันการเดินทางโดยเครื่องบินเป็นการเดินทางที่ได้รับการยืนยันว่ามีความปลอดภัยเป็นสูง สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย มันจึงเป็นการเดินทางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งหลายสายการบินก็ได้มีการแข่งขันกันในด้านต่างๆ ทั้งในเรื่องของราคาและการบริการที่เยี่ยมยอด แถมยังขยันออกโปรโมชั่นมาล่อตาล่อใจให้กับนักเดินทาง เช่นเดียวกับสายการบิน The Crystal Skye ที่นำการบริการสุดพิเศษนี้มานำเสนอให้ผู้ที่ชอบการเดินทางบนเครื่องบินโดยเฉพาะ การเดินทางสุดหรูนั้นใช้เครื่องบิน Boeing 777-200LR ลำใหญ่ตกแต่งภายในด้วยการออกแบบสุดหรู รองรับผู้โดยสารเพียง 88 ท่าน ราคาเริ่มต้นก็อยู่ที่ 600,000 บาทต่อท่าน ในด้านการบริการผู้โดยสารจะได้รับการดูแลอย่างพิเศษจากทางลูกเรือทั้งหลายที่จะคอยดูแลคุณแบบ VIP ตั้งแต่ขึ้นเครื่อง ห้องอาหารถูกออกแบบด้วยโทนสีเงินและสีขาว แสดงให้เห็นความหรูหรา ผู้โดยสารสามารถเข้ามาใช้บริการได้อย่างไม่อั้น ทั้งเครื่องดื่มเลิศรส ไวน์ชั้นดีจากทั่วโลก และยิ่งไปกว่านั้นก็อาหารทั้งหมดจะถูกรังสรรค์โดยพ่อครัวระดับมิชลินสตาร์ เก้าอี้แต่ละตัวก็เป็นเก้าอี้นวมอย่างดี สามารถปรับเป็นเตียงนอนให้ท่านผู้โดยสารได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ . . ในส่วนของห้องน้ำก็กว้างขวางมากๆ ผู้โดยสารสามารถอาบน้ำและเพิ่มความสดชื่นด้วยผลิตภัณฑ์ชั้นดีที่ได้คัดสรรมาแล้วว่าหอมสุดๆ . สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ นั่นก็คือ โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ Wi-Fi ความเร็วสูง และหูฟังแบบ Bose ตัดเสียงรบกวนภายนอก เที่ยวบินสุดพิเศษนี้จะเดินทางทุกวันที่…
-
ชายไร้บ้านชาวบราซิล เลือกนอนอยู่กับหลุมฝังของเพื่อนในสุสานมานานกว่า 10 ปี
เชื่อว่ามนุษย์เราเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง โชคชะตาอาจไม่ได้เป็นผู้กำหนดชีวิต แต่การกระทำของตัวเรานั่นแหละที่เป็นคนกำหนดว่าชีวิตของเราจะไปในทิศทางไหน จะดีหรือจะร้ายก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของเราเอง นาย Fabio Beraldo Rigol อายุ 47 ปี ชาวบราซิล ในอดีตเคยเป็นพนักงานออฟฟิศ แต่มีเหตุที่ต้องถูกไล่ออกจากงานเนื่องจากติดยาเสพติด และถูกครอบครัวตัดหางปล่อยวัดจนกลายเป็นคนไร้บ้านในที่สุด เขากลายเป็นคนที่ไม่เหลืออะไรเลยในชีวิต นั่นก็เพราะว่าเขาเลือกทางเดินที่ผิด นาย Fabio ไร้ที่พึ่งไม่มีแม้แต่บ้านที่จะให้อาศัย เขาจึงไปอาศัยในสุสาน Brotas ในย่าน Santa Isabel เมือง Sao Paulo โดยนาย Fabio ได้เข้าไปอยู่ในสุสานแห่งนี้กับเพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว 13 ปี กินนอนอยู่ร่วมกับศพทุกๆ คืน ความจริงเขาก็ยังอยากที่จะมีบ้านดีๆ ไว้อาศัยอยู่ แต่เมื่อไม่มีทางเลือกมากนักก็ต้องทนอยู่ในที่แห่งนี้ เขาใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย ถึงแม้ว่าจะต้องอาศัยอยู่ร่วมกับศพ เขาก็ไม่กลัวและยังบอกอีกว่า เขาไม่เคยเห็นวิญญาณใดๆ เลยตลอด 13 ปีที่อยู่ในสุสานแห่งนี้ “ผมไม่กลัวคนตาย แต่ผมกลัวการมีชีวิตอยู่” Fabio กล่าว ปัจจุบันนาย Fabio ก็ยังคงอาศัยอยู่ในสุสานแห่งนั้น คอยดูแลทำความสะอาดให้กับผู้ที่มาเยือน…
-
20 ภาพของเหล่าเพื่อนตูบ แสดงให้เห็นว่าพวกเอ็งน่ะ อยู่กับมนุษย์มากเกินไปแล้ว
สุนัขเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่มนุษย์นิยมเลี้ยงมากที่สุด ความน่ารักและความซื่อสัตย์ของมันทำให้มนุษย์รู้สึกสบายใจ มีความสุขทุกครั้งที่ได้เล่นกับมัน นับได้ว่าสุนัขกับมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันไม่ได้เลยทีเดียว โดยทั่วไปลักษณะนิสัยของสุนัขคือขี้เล่น ซนเหมือนเด็ก สิ่งที่มันชอบที่สุดคือการกินและนอนแบบสบายๆ มันชอบมาอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าของ ราวกับว่าไม่อยากให้เจ้าของหายไปไหน จนบางครั้งซึมซับนิสัยหรือพฤติกรรมของมนุษย์โดยไม่รู้ตัว และนี่คือภาพของเหล่าเจ้าหมาที่มันชอบเลียนแบบพฤติกรรมของคน จนสร้างเสียงฮาให้กับผู้พบเห็นได้โดยไม่รู้ตัว 1. ว่าไง มีปัญหาอะไรเหรอมนุษย์? 2. เตรียมตัวอาบน้ำแพร๊บบบบ 3. กู๊ดไนท์ฮับ 4. นอนผึ่งพุง โชว์ไข่สบายใจ 5. ดูบอลกับเพื่อนๆ 6. คาดเข็มขัดนิรภัยด้วยสิ 7. อากาศข้างนอกมันหนาว ต้องใส่เสื้อหลายๆ ชั้น 8. กลายเป็นหมาขี้เมาไปซะแล้ว 9. พักผ่อนดูทีวีในวันหยุดสบายๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน 10. อย่าพึ่งเปลี่ยนช่องนะฮับพ่อ 11. นั่งให้มันเรียบร้อยๆ หน่อย 12. ชั้นได้ใกล้ชิดเจ้านายขนาดนี้ อิจฉาล่ะสิ…
-
แฟนเพลง ‘Craig David’ อยากให้เขามาร้องเพลงในงานแต่ง ทวีตหาทุกวัน จนเจ้าตัวยอมไปร่วมงาน!!
จะเป็นยังไงถ้าคุณส่งข้อความไปตื้อนักร้องชื่อดังให้เขามาร่วมงานแต่งของคุณทุกๆ วัน คุณคิดว่าเขาจะรำคาญหรือว่าจะรับรู้ถึงความต้องการที่แท้จริงจนยอมมาร่วมงานกัน? แต่เชื่อเถอะว่าความพยายามของแฟนพันธุ์แท้ย่อมชนะใจเสมอ Sophie McEvoy สาวชาวอังกฤษจากเมืองเบอร์มิงแฮมนั้น ได้สร้างประกฏการณ์ทวีตข้อความหา ‘Craig David‘ นักร้องดังเจ้าของเพลง 7 Days ทุกๆ วัน จนสุดท้ายเขาก็ใจอ่อนและยอมมาร่วมงานจนได้ เชร่ดดด!! เรื่องราวทั้งหมดมันเริ่มจากการที่คู่หมั้นของเธอได้ขอเธอแต่งงานเมื่อเดือนกุมพาพันธ์ 2016 แน่นอนว่าทั้งคู่ตกลงจะแต่งงาน ในระหว่างที่เตรียมงานนั้นเอง หญิงสาวได้บอกว่า เธอชอบ Craig David มาก จนอยากให้เขามาร้องเพลงให้ในงานแต่ง ด้านแฟนหนุ่มได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่งเต๊ก เพราะคนธรรมดาอย่างพวกเขาจะพา Craig David มาร่วมงานแต่งได้ยังไง Sophie จึงรู้สึกว่ามันอาจจะ…ไม่ดิมันต้องได้!! เธอจึงจะพิสูจน์ให้แฟนหนุ่มเห็นว่าเขาจะมาจริงๆ เธอเลยจัดการทวีตข้อความหานักร้องคนดังกล่าวพร้อมข้อความว่า “คุณคิดว่าถ้าฉันทวีตข้อความหา Craig David ทุกวันติดกัน 480 วัน เขาจะมางานแต่งฉันไหม?” แน่นอนว่าตอนแรกมันก็ไม่มีอะไร คุณอาจจะคิดว่าเธอล้อเล่น แต่ไม่เลย เธอจัดเริ่มภารกิจของเธอโดยการทวีตข้อความหาเขาทุกๆ วันตามที่เธอได้ลั่นวาจาไว้ นอกจากนั้นเธอก็ไม่ได้ทำเล่นๆ บางครั้งเธอถึงกับทำป้ายมาบอกให้นักร้องรู้ว่าเธอชอบและอยากให้เขามามากๆ ขนาดไปโดดร่มเธอก็ยังไม่วายเขียนติดมือว่าอยากให้เขามาเลย ฮร่าๆ …
-
คุณยายผู้พิการรู้สึกเหงา โพสต์อยากไปดินเนอร์ ชาวเน็ตเลยจัดให้ไปกินปิ้งย่างแบบฟรีๆ
ผู้สูงอายุในสังคมปัจจุบันนี้มีอัตราการเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก การจัดการและดูแลผู้สูงอายุยังเป็นอีกปัญหาหนึ่งในแต่ละประเทศที่ต้องได้รับการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน คุณยาย Pat Obyrne ชาวเมือง Brighton ประเทศอังกฤษได้โพสต์ลงในเพจ Brighton’s Sunday Roastclub ว่า “ฉันเป็นคนพิการ ฉันรักในการกินปิ้งย่าง แต่ว่าฉันอยู่คนเดียว ไม่มีรถ เหงามากๆ แต่ไม่ค่อยอยากทานอาหารซักเท่าไหร่” หลังจากนั้นก็มีชาวเมืองที่เห็นโพสต์ของคุณยายขี้เหงาคนนี้มาแสดงความคิดเห็นหลายคน และยังมีสาวสวยที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า Kefi Chadwick ได้อาสาเข้ามาพาเธอไปทานอาหารปิ้งย่างตามที่คุณยายต้องการแถมยังไปรับไปส่งถึงบ้านอีกด้วย Kefi ได้บอกกับเธออีกว่าถ้าไม่รังเกียจที่จะร่วมทานอาหารกับลูกของเธอที่อยู่ในวัยหัดเดินก็ขอให้ตอบรับคำขอของเธอ คุณยายจึงตอบกลับไปว่าเธอไม่มีปัญหากับการทานอาหารร่วมกับเด็ก แถมยังดีใจด้วยซ้ำที่ได้ใกล้ชิดเด็กๆ เพราะว่าเธอโดนลูกหลานกีดกันไม่ให้เข้าใกล้มานานแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่โพสต์ของคุณยายคนหนึ่งจะทำให้ชาวเมืองนั้นออกมาแสดงความคิดเห็นและแสดงน้ำใจที่จะช่วยเหลือคุณยายอย่างล้นหลาม นอกจากนี้ก็ยังมีเจ้าของร้านอาหารปิ้งย่าง Rob Elgood มาอาสาที่จะเลี้ยงอาหารค่ำให้กับคุณยาย Pat แบบฟรีๆ พร้อมทั้งรับส่งถึงประตูบ้านอีกด้วย . เรื่องราวดีๆ ในสังคมแห่งการแบ่งปันนี้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในทวิตเตอร์และมีผู้รีทวีตถึง 20,000 ครั้ง ดีใจแทนคุณยาย Pat จริงๆ ที่มีคนสนใจที่จะช่วยเหลือเธอมากขนาดนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นโดย Jo Cox…
-
ผลงานของศิลปินญี่ปุ่น สรรค์สร้างแมลงขนาดเท่าตัวจริง จาก ‘ไม้ไผ่’ ธรรมด๊าธรรมดา
ผลงานศิลปะนั้นอาจจะไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพีงแค่ภาพวาดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงงานภาพพิมพ์ และงานปฏิมากรรมอื่นๆ อีกเช่นกัน และวันนี้เราก็มีผลงานปฏิมากรรมสวยๆ จากฝีมือของศิลปินชาวญี่ปุ่นนามว่าคุณ Noriyuki Saitoh มาให้ได้ชมกัน ศิลปินจากแดนปลาดิบท่านนี้และทีมงานของเขา ได้สร้างสรรค์ผลงานหุ่นจำลองของเหล่าแมลงต่างๆ โดยใช้วัสดุหลักในการทำนั้นเป็นไม้ไผ่ธรรมดาๆ และนอกจากความสวยงามแล้ว ผลงานขนาดเท่ากับแมลงของจริงเหล่านี้ยังเต็มไปด้วยความละเอียดและประณีตอีกด้วย และนี่ก็คือผลงานบางส่วนของเขา “เราได้ทำการวัดขนาดของแต่ละสัดส่วนของส่วนประกอบแต่ละชิ้นอย่างละเอียด ก่อนที่จะนำมันมาประกอบเป็นผลงานเหล่านี้ เราชดเชยสีสันด้วยความรู้ ประสบการณ์ และจินตนาการ” ศิลปินจากเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น กล่าวผ่านเว็บไซต์ของเขา ผลงานของศิลปินท่านนี้เป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้ชมอย่างมาก และด้วยความประณีตบรรจงในการสร้างสรรค์ผลงาน จึงทำให้ปฏิมากรรมเหล่านี้ดูมีคุณค่ามากๆ ตั๊กแตนตัวน้อย ขนาดเท่าของจริงที่ถูกสร้างมาจากไม้ไผ่ . . แม้แต่ลายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ คุณ Noriyuki Saitoh ก็ใส่ใจและทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว . ลองสังเกตุที่ส่วนปีกของด้วงตัวนี้สิ เหมือนของจริงมากๆ เลยนะเนี่ย . . ผลงานเหล่านี้ถูกนำเสนอไว้ในเว็บไซต์ take64 ของเขา และนอกจากนี้ยังมีการอธิบายถึงรายละเอียดของผลงานแต่ละชิ้นไว้อีกด้วย . . . ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นของตั๊กแตน ก่อนที่จะถูกนำมาประกอบเข้าด้วยกัน . . .…
-
McDonald ผุด “ส้อมเฟรนช์ฟรายด์” ผลิตภัณฑ์แปลกใหม่สำหรับคนที่อยากมีสไตล์ในการกิน
เป็นที่รู้กันดีว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นสุดยอดแห่งการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่แปลกประหลาดขึ้นมามากมาย แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ดูเหมือนว่าอเมริกาได้พยายามที่จะแย่งชิงตำแหน่งดังกล่าวไปซะแล้ว เพราะไม่กี่เดือนที่ผ่านมา McDonald สหรัฐอเมริกาได้ปล่อยผลิตภัณฑ์ “ส้อมเฟรนช์ฟรายด์” ของเล่นรูปแบบใหม่ เพื่อคนอยากมีสไตล์การกินไม่เหมือนใครโดยเฉพาะ!! สำหรับส้อมเฟรนช์ฟรายด์ มาในชื่อว่า “Frork” มีลักษณะเป็นพลาสติกสีแดงที่มีด้ามจับ แถมยังมาพร้อมกับช่องสำหรับใส่เฟรนช์ฟรายส์ลงไป 3 ชิ้น (เพื่อทำเป็นซี่ของส้อม) จนกลายเป็นส้อมที่กินได้แบบนี้… อย่างไรก็ตามทาง McDonald ได้ทำการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ขึ้นมา ก็เพื่อเป็นการโปรโมตเมนูซิกเนเจอร์ใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องแบบเต็มๆ คำ หากกัดเข้าไปอาจจะล้นทะลักออกมาได้ ดังนั้น เจ้าอุปกรณ์สีส้มสุดแหวกแนวนี้ก็จะถูกนำมาใช้เป็นส้อมช่วยตักอาหารขึ้นมาทานใหม่เวลาที่เรากินเลอะ โดยการนำเฟรนช์ฟรายส์เสียบเข้าไป และพอกินเสร็จแล้วคุณก็สามารถกินส้อมต่อไปได้เลย แม้ว่าจะมีการสร้างผลิตภัณฑ์สุดแปลกนี้ขึ้นในอเมริกา แต่ทางด้าน McDonald กลับเห็นว่าสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำนี้น่าจะเหมาะกับประเทศญี่ปุ่น ที่เลื่องชื่อลือชาในด้านการสร้างสรรค์สิ่งของสุดแหวกแนวด้วยเช่นกัน และนั่นจึงทำให้ทางผู้คิดค้นได้เล็งเห็นว่าจะนำอุปกรณ์ดังกล่าว มาวางจำหน่ายในร้าน McDonald ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป ด้านชาวเน็ตญี่ปุ่นเมื่อได้รับทราบข่าวดังกล่าว ต่างก็พากันออกมาแสดงความเห็นที่แตกต่างกันออกไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น… “คุณไม่สามารถใช้มันเป็นส้อมปกติได้ และคุณจะทำอะไรต่อหากคุณกินมันฝรั่งสามชิ้นนั้นไป?…
-
2 แม่ลูกหลงป่านาน 10 วัน แต่รอดมาได้เพราะอาศัยวิธีเอาตัวรอดจากสารคดีของ “แบร์ กริล”
วันที่ 14 ตุลาคม 2560 เว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Michelle Pittman และ Dylan ลูกชายวัย 9 ขวบ ได้หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อวันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ทั้งคู่ได้พากันออกไปเดินเที่ยวป่าที่อุทยานแห่งชาติ Mount Royal National Park ทางเหนือของเมือง Singleton ประเทศออสเตรเลีย ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยบริการเหตุฉุกเฉินต่างๆ จึงได้ช่วยกันออกตามหา จนกระทั่ง 10 วันต่อมา พวกเขาก็ได้พบกับสองแม่ลูกที่อยู่ในสภาพย่ำแย่และขนาดน้ำ อีกทั้งร่างกายก็เต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและแมลงกัดต่อย แต่น่าแปลกที่ทั้งคู่กลับอยู่ในสภาพจิตใจที่เข้มแข็ง ทางด้าน Rob Post รักษาการผู้บังคับการตำรวจพื้นที่ Hunter Valley ได้ออกมากล่าวว่า “มันเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากที่พวกเขาสามารถรอดมาได้ทั้งๆ ที่หายตัวไปเป็นเวลานานขนาดนั้น… แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าก็คือเด็กชาย Dylan อายุ 9 ขวบดูเหมือนจะแข็งแรงดี ในขณะที่ Michelle ผู้เป็นแม่อยู่ในสภาพที่อ่อนแอ ซึ่งเธอก็ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อพักรักษาตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” “Michelle…
-
เอาใจทาสแมวด้วย “ปฏิทินแมว 2018” สุดน่ารัก ที่จะมาส่งมอบความสุขตั้งแต่ต้นปีจนถึงท้ายปี
วันเวลามันช่างผ่านพ้นไปเร็วซะเหลือเกิน…เผลอแป๊บๆ ก็จะถึงสิ้นปีกันอีกครั้งแล้วสินะ!! และถ้าหากใครที่เป็นคนชื่นชอบการเก็บสะสมปฏิทิน เราเชื่อว่าคุณคงกำลังมองหาปฏิทินของปี 2018 กันอยู่ใช่ไหมละ ถ้าอย่างนั้นเราจะขอแนะนำปฏิทินแมวน่ารักๆ ของศิลปินบนอินเตอร์เน็ตอย่าง Lingvistov ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานภาพวาดน่ารักๆ ของแมวเหมียวกับเจ้านายจากความคิดของเขาเอง ซึ่งคุณสามารถซื้อไปเก็บสะสม หรือจะนำไปมอบเป็นของขวัญชิ้นพิเศษให้กับทุกคนที่ชื่นชอบแมวในวันคริสต์มาสและวันปีใหม่ได้ รับรองว่างานนี้จะต้องถูกใจทั้งคนมอบและคนรับอย่างแน่นอน แถมยังได้เริ่มต้นปีใหม่ด้วยเรื่องราวกวนๆ ของเจ้าเหมียวอีกด้วย 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 สำหรับเพื่อนๆ หรือทาสแมวคนไหนที่อยากจะได้ปฏิทินแมว 2018 นี้ คุณสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Lingvistov เลยจ้า ที่มา : boredpanda
-
เจ้าหมาตาบอด Smiley ผู้ช่วยบำบัดรักษาเด็กๆ ได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง
หลายคนอาจต้องเกิดมามีความผิดปกติทางร่างกายจนรู้สึกไม่อยากก้าวเดินต่อไป ถึงอย่างไรเราก็ต้องไม่ย่อท้อและใช้ทั้งชีวิตให้มีความสุขเหมือนกับเจ้าหมาตัวนี้ นี่เป็นเรื่องราวอันน่าเศร้าของสุนัขที่ชื่อว่า Smiley ที่ได้จากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2017 หลังจากที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งมาอย่างยาวนาน น้องหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวนี้ต้องเกิดมาพร้อมกับความพิการไม่มีดวงตาทั้งสองข้าง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงมีความสุขได้จากความผิดปกติหายากที่ทำให้ฟันมีขนาดใหญ่กว่าปกติจนเหมือนกับว่ามันยิ้มอยู่ตลอดเวลา แม้เกิดมาไม่มีดวงตาจนต้องถูกเย็บปิดเอาไว้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่เจ้า Smiley ก็ยังคงยิ้มอยู่เสมอ ชีวิตของมันเริ่มขึ้นในศูนย์ดูแลลูกสัตว์ก่อนที่ Joanne George จะมารับมันไปเลี้ยงในตอนที่อายุได้ 2 ขวบ หลังจากนั้นมันก็ได้ออกช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก เจ้าหมาจะเดินทางไปตามโรงพยาบาล สถานพักฟื้นหรือโรงเรียนเพื่อไปให้กำลังใจเหล่าคนไข้ที่ต้องอยู่ในช่วงเวลาอันย่ำแย่ ให้พวกเขาสามารถกลับมายิ้มได้อีกครั้ง Joanne ที่มอบความรักให้กับมันมาโดยตลอด ด้วยการที่มันต้องเกิดมาผิดปกติแต่ใบหน้าก็ยังคงเต็มไปด้วยความสุข ทำให้ทุกคนที่ได้เจอกับมันกลับมามีกำลังใจกล้าเผชิญกับปัญหากันต่อไป โดยเฉพาะกับเด็กที่ต้องพิการแต่กำเนิดซึ่งน้องหมาสามารถเข้าไปเยียวยาจิตใจพวกเขาได้เป็นอย่างดี คนไข้ที่ชื่อว่า Teddy ผู้ป่วยที่ไม่พูดไม่จาและไม่สื่อสารอะไรกับใครเลยก็ถึงกับทำให้ทุกคนแปลกใจเมื่อเขายิ้มออกมาเป็นครั้งแรกขณะที่ได้เจอกับ Smiley เหมือนกับว่ามันเกิดมาเพื่อมอบความสุขให้กับทุกคนเลยจริงๆ ใบหน้าที่ช่วยเยียวยาจิตใจให้กับทุกคน แต่เมื่อเดือนกรกฎาคมเจ้าของของมันก็ได้โพสต์ข่าวร้ายลงไปในเฟซบุ๊ก เมื่อมีการตรวจพบมะเร็งในตับและกระเพาะของเจ้าหมา นั่นหมายความว่ามันจะใช้ชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน การเดินทางเพื่อช่วยเหลือผู้คนมาตลอด 12 ปีกำลังจะจบลงอย่างน่าเศร้า ในตอนนี้อินสตาแกรมของมันมีคนติดตามมากกว่า 200,000 คนแล้ว ซึ่งล่าสุดเจ้าของได้โพสต์ภาพขอณะที่เขากำลังจับมือมันเอาไว้พร้อมกับแคปชั่นที่แสนสะเทือนใจว่า “นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่พอจะตอบแทนทุกอย่างที่มันทำมาตลอดได้ พรุ่งนี้คงต้องปล่อยให้มันจากไปอย่างสงบหลังจากที่ต่อสู้มาอย่างยากลำบาก”…
-
งานวิจัยเผย แนวโน้มของผู้ชายนั้นชอบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายด้วยกันมากกว่า!!
ผู้ชายแทบทุกคนจะต้องมีเพื่อนเพศเดียวกันที่สนิทกันมากจนเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่เรียกว่า โบรแมนซ์ (Bromance) ซึ่งหมายความว่าพวกคุณรักกันมากจนเหมือนกับเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกันเลยทีเดียว จนกระทั่งในปัจจุบันได้มีการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Winchester และ Bedfordshire ที่ออกมาบอกว่าวัยรุ่นชายจะรู้สึกพึงพอใจกับความสัมพันธ์แบบนั้นมากกว่าความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเพศตรงข้ามซะอีก สนิทกันชนิดที่ว่าตัดกันยังไงก็ไม่ขาด ผลลัพธ์นี้เกิดจากการเก็บข้อมูลของนักเรียนชายในสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาจำนวน 30 คนที่ต้องมีความสัมพันธ์แบบโบรแมนซ์และมีแฟนสาวอยู่แล้วหรือเคยมีมาก่อน ผลที่ได้คือ 28 คนจากทั้งหมดรู้สึกสบายใจกับการพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทเพศเดียวกันมากกว่าเรื่องของแฟนสาว เพื่อนกับแฟนมันแทนกันไม่ได้จริงๆ จากการตีพิมพ์ใน Men and Masculinities ได้บอกเอาไว้อีกว่า “ความสัมพันธ์แบบโบรแมนซ์ช่วยเพิ่มความมั่นคงในอารมณ์ เพิ่มความพึงพอใจในสังคม ช่วยให้พวกเขาเปิดเผยอารมณ์มากกว่าเดิม และทำให้พวกเขาแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ดีกว่าความสัมพันธ์แบบคู่รักกับแฟนสาว” นอกจากนั้นเวลาที่ใช้ร่วมกับเพื่อนสนิทเพศเดียวกันจะช่วยให้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ลดความตึงเครียดปลดปล่อยความเจ็บปวด และมีความใจกว้างมากกว่าเดิม เราก็เหมือนกับพี่น้องที่โตมาด้วยกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องของความรักที่ต้องมีเรื่องเพศสัมพันธ์อะไรเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ถึงอย่างนั้นความสัมพันธ์แบบนี้ก็อาจส่งผลกระทบกับผู้หญิงทั้งหลายได้ ลองคิดดูว่าถ้าหนุ่มๆ รู้สึกพึงพอใจกับความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทมากพออยู่แล้ว สิ่งที่พวกเขาจะต้องการจากกผู้หญิงก็เหลือแค่เรื่องเพศเพียงอย่างเดียว นั่นหมายความว่าพวกเขาอาจไม่ใส่ใจกับพฤติกรรมอื่นที่ทำกับพวกเธอแล้วก็ได้ แค่มองตาก็รู้ใจเพราะมีอะไรก็พูดคุยกันอยู่ตลอด แต่ว่าการศึกษานี้ก็ยังเจาะจงไปที่กลุ่มวัยรุ่นเพียงอย่างเดียว นั่นหมายความว่าคนที่อยู่ในช่วงวัยผู้ใหญ่อาจไม่ได้เป็นอย่างที่อธิบายมาก็ได้ ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เราเข้าใจเลยว่าเพื่อนแท้นั้นมีความสำคัญกับเรามากขนาดไหน เพื่อนแท้คือคนที่จะอยู่เคียงข้างเราเสมอ ที่มา: unilad
-
รู้จักกับ ‘ไลคอย’ อีกหนึ่งสายพันธุ์ของแมวแปลก ที่มีลักษณะขนสั้นคล้ายกับมนุษย์หมาป่า
น้องแมวมีหลากหลายสายพันธุ์ที่บางคนอาจยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เช่นเจ้า ไลคอย (Lykoi) หนึ่งในสายพันธุ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก หน้าตาของเจ้าแมวสายพันธุ์ Lykoi เจ้าเหมียวชนิดนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 2010 ที่รัฐเวอร์จิเนีย ก่อนที่จะมีการทดสอบในมหาวิทยาลัย Davis ในรัฐแคลิฟอร์เนีย พบว่าพวกมันเกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมของแมวบ้านขนสั้น และถึงแม้มันจะหน้าตาคล้ายแมวสฟิงส์ แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามันไม่ได้มีลักษณะพันธุกรรมที่ใกล้เคียงกันเลย ดูเหมือนสฟิงซ์แต่ก็ไม่ได้รับพันธุกรรมมาหรอกนะ เพิ่งถูกค้นพบได้ไม่นานทำให้น้อยคนที่จะรู้จักพวกมัน เจ้าของที่ได้ไปเจอมันเข้าก็ได้ตั้งชื่อให้ว่า ไลคอย ที่มาจากภาษากรีกแปลว่าหมาป่า ด้วยหน้าตาที่มีลักษณะคล้ายกับมนุษย์หมาป่านั่นเอง ลักษณะพิเศษที่เห็นได้ชัดของมันก็คือเรื่องของขนที่มีความแข็งและดูเหมือนกับขนของ โอพอสซัม สัตว์ที่มีลักษณะคล้ายกับหนู นี่คือเจ้าโอพอสซัมที่มีลักษณะของขนคล้ายกับเจ้าเหมียว . นอกจากนั้นขนของมันจะมีความไม่สม่ำเสมอแหว่งไปบางจุดอย่างเช่นบริเวณใบหน้า รวมถึงเมื่อเวลาผ่านไปก็มีการหลุดร่วงออกมาเยอะมาก แม้ว่าจะขึ้นมาใหม่ในภายหลังแต่มันก็ไม่ได้ดูสมบูรณ์อะไร ซึ่งเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะความพิเศษของรูขุมขน แหน่ะ!! ยืนดูอะไรกันอยู่น่ะ . ถึงแม้ว่ามันจะมีหน้าตาคล้ายกับสิ่งมีชีวิตที่ดูดุร้ายแต่ในความเป็นจริงพวกมันสามารถเข้ากับคนได้ง่ายมาก มีความเป็นมิตรจนเจ้าของทุกคนต้องหลงรัก หน้าตาอาจจะดูดุไปบ้าง แต่จริงๆ แล้วมันก็น่ารักนะ.. . ปัจจุบันสมาคมแมวนานาชาติได้บัญญัติให้มันเป็นแมวสายพันธุ์ใหม่เรียบร้อย . …
-
ลูกหมีขั้วโลกเดินโต๋เต๋มาไกลกว่า 724 กม. ผู้เชี่ยวชาญถึงกับงง รอดมาได้ไงไกลขนาดนี้?!
เราทุกคนรู้ว่าหมีขั้วโลกจะอาศัยอยู่บนน้ำแข็งหรือในพื้นที่หนาวเย็นเท่านั้น แต่ใครจะไปคิดว่าจะเจอมันมายืนอยู่ริมแม่น้ำแบบชิลล์ๆ ซะอย่างนั้น เมื่อไม่นานมานี้มีคนไปพบหมีขั้วโลกมายืนอยู่ริมแม่น้ำ Kolyma ในประเทศรัสเซีย ที่อยู่ห่างจากแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมันถึง 724 กิโลเมตร!! มาได้ยังไงล่ะเนี่ย! หลงมาไกลขนาดนี้ไม่ได้มีความกลมกลืนกับพื้นที่โดยรอบเลยนะ จากการรายงานของเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมาบอกว่าเจ้าหมีตัวนี้มีชื่อ Umka มันใช้ชีวิตกินเศษซากอาหารจากโรงงานปลาใกล้ๆ หรือบางครั้งชาวบ้านแถวนั้นก็จะตกปลามาให้มันกิน เพราะพวกเขาคิดว่ามันยังเด็กอยู่จนไม่สามารถหาอาหารได้เอง บวกกับความน่ารักเวลาที่เล่นกับน้องหมาแถวนั้นทำให้ทุกคนรู้สึกเอ็นดู แม้ว่ามันจะอยู่ในช่วงจำศีลที่ดูจะมีความดุร้ายอยู่บ้าง ได้เพื่อนใหม่ที่ไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกัน หลังจากนั้นเมื่อมันเริ่มสงบลงได้ผู้เชี่ยวชาญได้เข้ามาช่วยเหลือพามันไปหาสัตวแพทย์ จากตอนแรกพวกเขาคิดว่ามันอายุประมาณ 2 ปีแต่เมื่อมีการตรวจสอบดูก็พบว่ามันมีอายุไม่เกิน 9 เดือนเท่านั้น จากความเป็นเด็กและระยะทางที่มันเดินทางมาจากบ้านเกิด ผู้เชี่ยวชาญหลายคนถึงกับสงสัยว่ามันมาได้ไกลขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?! มีการสันนิษฐานอยู่ข้อหนึ่งที่เชื่อว่าแม่ของเจ้าหมีถูกคนฆ่าอย่างผิดกฎหมายก่อนที่จะจับลูกน้อยมาเพื่อไปขายในตลาดมืด แต่เจ้าหมีก็สามารถหนีรอดมาได้จนมาโผล่ให้เห็นที่แม่น้ำแห่งนี้ ไม่ต้องกลัวพวกเรามาช่วยแล้ว อย่างไรก็ตามแม้จะยังหาคำตอบการมาของเจ้าหมีตัวนี้ไม่ได้ แต่ตอนนี้มันก็ได้ไปใช้ชีวิตที่ดีในสวนสัตว์ Orto Doidu เมือง Yakutsk เพราะผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่ามันไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยตัวเอง ออกเดินทางไปพบกับชีวิตใหม่กัน ด้วยความน่ารักและไม่กลัวคนทำให้มันได้กลายเป็นดาวเด่นประจำสวนสัตว์ สร้างรอยยิ้มและดึงดูดผู้คนเป็นจำนวนมาก แม้ก่อนหน้านี้เจ้า Umka อาจต้องเจออุปสรรคมาบ้างแต่ตอนนี้มันก็ได้ไปมีชีวิตที่ดีแล้ว …
-
การทดลองของหนุ่มรัสเซียปลีกวิเวกไปใช้ชีวิตเพียงลำพังเหมือนอาศัยอยู่ในยุคกลางปี 1100
การใช้ชีวิตของเราในยุคนี้เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในทุกเรื่อง จนเราคิดภาพกันแทบไม่ออกแล้วว่าหากต้องไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในป่าโดยที่ไม่มีไฟฟ้าใช้มันจะให้ความรู้สึกอย่างไร จนกระทั่งได้มีการทดลองเกิดขึ้นในประเทศรัสเซีย เมื่อหนุ่มวัย 24 ปีที่ชื่อว่า Pavel Sapozhnikov ปลีกวิเวกเข้าไปใช้ชีวิตในป่าด้วยตัวคนเดียวนานถึง 8 เดือน บ้านไม้ที่ไม่มีรั้วคือที่อยู่อาศัยของชายคนนี้ตลอดการทดลอง โปรเจกต์ดังกล่าวมีชื่อว่า Project Hero จากไอเดียของ Alexei Ovcharenko ซึ่งการทดลองในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานบริหารงานอีเว้นท์ที่มีชื่อว่า Ratobor เป็นบริษัทที่จัดอีเว้นท์หรือโปรเจกต์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้ามารับประสบการณ์แบบย้อนยุค นำผ้ามาพันไว้เพื่อให้สามารถผ่านคืนอันหนาวเหน็บไปได้ ทั้งสองคนนี้ได้ทำการปรึกษากันนานเป็นปีจนกระทั่งกลายเป็นการทดลองชิ้นนี้ มีเป้าหมายเพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและจิตใจที่จะแสดงออกมาผ่านบุคลิกภาพ และต้องการทราบว่าการได้รับแรงสนับสนุนจากสิ่งรอบตัวในปัจจุบันมีความสำคัญขนาดไหน เพื่อให้การทดลองเห็นผลลัพธ์มากที่สุด พวกเขาจึงเลือกช่วงเวลาในฤดูหนาวตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2013 ถึงพฤษภาคมปี 2014 เพื่อให้ Pavel ต้องเจอกับสภาพแวดล้อมอันยากลำบากและความท้าทายในการเอาชีวิตรอด เขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังกลางป่าในบ้านไม้และมีฟาร์มหลังเล็กๆ บ่อน้ำ โรงเก็บฟาง โรงเก็บอาหาร และห้องน้ำที่แยกออกมาให้ใช้ในการดำรงชีพ พร้อมกับเครื่องมือที่มีอยู่ในศตวรรษที่ 10 เท่านั้น การทดลองนี้จะอนุญาตให้ชายหนุ่มออกมานอกเขตบ้านได้ก็ต่อเมื่อออกไปล่าสัตว์หรือตกปลามาเป็นอาหารเท่านั้น ไม่สามารถออกบ้านไปเพื่อเหตุผลอื่นได้ ฟาร์มที่เขาสามารถเลี้ยงไก่ไว้กินหรือให้พวกมันออกไข่ การรักษาสภาพของบ้านเอาไว้เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนั้นเขายังถูกห้ามไม่ให้ติดต่อกับใครยกเว้นผู้สังเกตการณ์ที่จะเข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเขาผ่านกระดาษโน้ตเดือนละหนึ่งครั้ง…
-
Gordon Ramsey มอบโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันหนุ่มใน MasterChef ให้ได้เรียนทำอาหารแบบฟรีๆ
หากใครเป็นแฟนคลับรายการทำอาหารชื่อดังอย่าง MasterChef ที่จัดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็จะต้องรู้จักกับเชฟชื่อดังอย่าง Gordon Ramsey แน่นอน ชายผู้ที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการคนนี้ได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก เมื่อเขามอบโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันวัย 19 ปีที่ชื่อว่า Gabriel Lewis ได้เข้าไปเรียนทำอาหารอย่างจริงจังในมหาวิทยาลัย Johnson & Wales ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังด้านการสอนทำอาหาร และเขาจะเป็นคนรับผิดชอบค่าเล่าเรียนทั้งหมด เชฟจากรายการดังผู้มอบโอกาสให้กับเด็กหนุ่ม เรื่องราวนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนเดือนมีนาคมปี 2017 ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กหนุ่มได้เริ่มเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย Johnson & Wales ในเมืองเดนเวอร์ แต่เทปบันทึกภาพการแข่งขันได้ถูกนำออกมาฉายในช่วงหลังเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เด็กที่มีความพยายามและทักษะที่ดีควรได้รับการฝึกฝนที่ดีเช่นเดียวกัน คลิปสัมภาษณ์เชฟชื่อดังหลังจากที่เขามอบโอกาสให้กับผู้เข้าแข่งขัน ในรายการ Gordon ได้พูดถึงความสามารถอันน่าทึ่งที่เด็กคนนี้มีและเขาเชื่อว่าหากได้รับการฝึกฝนเด็กหนุ่มจะต้องมีอนาคตที่ก้าวไกลอย่างมากแน่นอน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขามอบข้อเสนอนี้ให้ เพื่อแลกกับการได้เรียนฟรี Lewis จะต้องติดต่อกลับมาเพื่อคุยเรื่องเกรดกับผู้ที่มอบโอกาสให้อยู่เรื่อยๆ Lewis ได้พูดถึงการได้เข้าไปแข่งขันในรายการว่า “กรรมการทุกคนคือครูที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของผม ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่มีค่า ได้เรียนรู้ และสามารถนำมาพัฒนาตัวเองต่อไปได้” หลังจากรายการในตอนนี้ได้ออกอากาศไป ทุกคนที่เรียนด้วยกันก็ถึงกับตกใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าเพื่อนร่วมห้องเคยออกรายการทำอาหารและได้รับโอกาสอันสุดวิเศษ Lewis เล่าว่าตอนที่เขาเรียนมัธยมปลาย เขาเคยไปทัศนศึกษาที่มหาวิทยาลัย Johnson & Wales มาแล้วครั้งหนึ่ง…
-
“ผมบินมา 3 ปี นี่เป็นวันแรกที่จะได้พาพ่อแม่บิน” คำพูดซึ้งจากนักบิน ทำให้ผู้โดยสารทั้งลำน้ำตาซึม
เวลาขึ้นเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไป การได้เจอนักบินเป็นเรื่องที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นเพราะเราจะได้ยินแต่เสียงของพวกเขาเท่านั้นเอง แต่เที่ยวบินนี้กลับแตกต่างออกไปเมื่อนักบินหนุ่มเดินออกมาจากห้องควบคุมด้วยตัวเอง การได้เจอกับนักบินไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจอะไรเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาประกาศออกมาจนทำให้ผู้โดยสารกว่า 200 คนบนเครื่องถึงกับน้ำตาซึม ใบหน้าที่บอกได้ว่าเขารู้สึกมีความสุขกับการได้บังคับเที่ยวบินนี้มากแค่ไหน นักบินหนุ่ม Joe Woolings ผู้บังคับเครื่องในเที่ยวบินที่ออกเดินทางสู่เมืองเตเน่ริเฟ่ ประเทศสเปน ได้ออกมาพูดกับผู้โดยสารอย่างมีความสุขว่า “วันนี้เป็นวันที่พิเศษมากสำหรับผม มันคือวันแรกที่ผมได้มาขับเครื่องบิน!! ผมล้อเล่นนะ” ติดตลกซะด้วยนะพ่อหนุ่ม เขาพูดต่อว่า “ที่มันพิเศษก็เพราะวันนี้เป็นวันครบรอบ 3 ปีตั้งแต่ที่ผมได้ออกบินครั้งแรก และที่สำคัญมันคือวันแรกที่ผมได้พาพ่อกับแม่ออกบินในช่วงวันหยุดของพวกเขา ทั้งคู่นั่งอยู่ตรงแถวที่ 17 ขอเสียงปรบมือให้กับพวกเขาหน่อยครับ” การเซอร์ไพรส์ที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน โดยเฉพาะพ่อแม่ของเขา เมื่อเขาได้พูดอย่างนั้นออกไปก็ทำให้ผู้โดยสารทุกคนรวมถึงพ่อแม่ของเขาที่ไม่ได้รู้เรื่องนี้มาก่อนรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินไปหาคนทั้งสองท่ามกลางรอยยิ้มของทุกคนและได้รับอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของคนเป็นแม่ เขาพูดกับทุกคนว่า “ผมรู้สึกขอบคุณพ่อแม่ของผมอย่างมาก เพราะถ้าหากทั้งสองไม่ได้เจอกันก็คงจะไม่มีผมมายืนอยู่ตรงนี้” ด้วยความสุขที่มากจนไหลออกมาเป็นน้ำตาแห่งความยินดีของผู้เป็นแม่ คลิปเหตุการณ์อันแสนประทับใจของนักบินหนุ่ม หลังจากคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์ของบริษัท Thomas Cook เจ้าของเที่ยวบินดังกล่าว ก็กลายเป็นกระแสให้ชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมและปลาบปลื้มกับสิ่งที่เขาทำ Robert Valentine “เยี่ยมมากเลยพ่อหนุ่ม พ่อแม่ต้องภูมิใจกับนายมากแน่ๆ และฉันก็รู้สึกดีที่ได้เห็นน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความสุขของคนเป็นแม่” Sandi Baxter “เป็นเรื่องที่น่ารักมากกก มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ เห็นแล้วรักเลย” …
-
หนุ่มเกลียดยุง ลงทุนสร้างไม้ช็อตยุงแรงดันไฟสูง 50,000 โวลต์ ถือสองอันนี่นึกว่าปิกาจูมาเอง!!
ยุงและแมลงตัวเล็กๆ อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญใจสำหรับใครหลายๆ คน และแน่นอนว่าปัจจุบันนั้นก็มีอุปกรณ์ต่างๆ มากมายให้คุณได้เลือกใช้กำจัดเจ้าแมลงสุดน่ารำคาญนี้ และไม้ตียุงเองก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ว่านี้ แต่ปัญหาที่พวกเราส่วนใหญ่มักจะเจอกันก็คือไม้ช็อตยุงเจ้าปัญหานี้มันทำให้ยุงแค่สลบเท่านั้น หรือบางทีเจ้าแมลงต่างๆ ยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ากำลังถูกช็อตอยู่ ยูทูบเบอร์หนุ่มที่ใช้ชื่อว่า styropyro ผู้นี้เองก็กำลังประสบปัญหาเดียวกับพวกเราๆ เหมือนกัน ดังนั้นงานนนี้เขาเลยจัดการสร้างไม้ช็อตยุงที่มีแรงดันไฟฟ้ามากถึง 50,000 โวลต์ขึ้นมาเลย เรียกได้ว่าเอากันให้ตายหอมฉุยในไม่กี่วินาทีเลยทีเดียว!! ชายหนุ่มผู้เบื่อหน่ายกับไม้ช็อตยุงแบบเดิมๆ ที่มีแรงดันไฟแค่เพียง 2,750 โวลต์ เขาได้ทำการออกแบบซุปเปอร์ไม้ช็อตที่มีพลังทำลายล้างรุนแรง เพื่อจัดการกับเหล่าแมลงเจ้าปัญหาที่ชอบกวนใจเขา เขาได้ทำการดัดแปลงวงจรไฟฟ้าแบบเดิมของไม้ช็อตยุงที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป โดยทำการเพิ่มตัวเก็บประจุขนาดใหญ่เข้าไปถึง 2 ตัว และได้นำตัวจุดระเบิดจากรถยนต์ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้าขนาดมหาศาลในครั้งนี้ เขาอธิบายถึงหลักการสร้างพลังงานของเครื่องกำเหนิดไฟฟ้า ก่อนที่จะออกแบบแผงวงจรและเริ่มลงมือสร้างอาวุธสังหารชนิดนี้ นี่คือไฟฟ้าที่ออกมาจากตัวจุดระเบิดจากรถยนต์ และนี่ก็คือโฉมหน้าของเจ้าไม้ช็อตยุงที่ว่านี้!! ไปชมขั้นตอนการทำไม้ช็อตยุงขนาด 50,000 โวลต์กันที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… เจอแบบนี้อย่าว่าแต่ยุงเลยคุณเอ๊ย!! คนเองก็ไม่น่ารอดเหมือนกันนะฮ่าๆ แต่อย่างไรก็ตามขั้นตอนการประดิษฐ์เจ้าไม้ช็อตยุงนี้ค่อนข้างอันตราย ทางที่ดีคุณหนูๆ ไม่ควรลองทำเองที่บ้านนะจ๊ะ ที่มา styropyro
-
เมื่อชาวเน็ตญี่ปุ่น มีเวลาว่างและสกิลวาดภาพมากเกินไป จึงเปลี่ยปิกาจูของเด็กๆ ให้มีกล้ามแน่น…
สำหรับบางคนที่ชื่นชอบการวาดภาพนั้น การมีเวลาว่างที่มากเกินไปนั้นอาจจะทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเจ๋งๆ ออกมาได้ และดูเหมือนว่าชาวเน็ตท่านนี้เองก็จะเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่ว่าคุณ @bankokukun ได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เรียกเสียงฮาจากชาวเน็ตได้อย่างมาก หลังจากที่เขาอัพเดทภาพผลงาน “ปิกาจูเวอร์ชั่นฤทธิ์หมัดดาวเหนือ” ลงบนโลกออนไลน์ โดยชาวเน็ตท่านนี้ได้ทำการเพิ่มกล้ามให้เจ้าหนูสายฟ้า ให้ล่ำบึกขึ้นมาจนหลายๆ คนชักไม่แน่ในว่าตกลงนี่คือปิกาจูหรือเคนชิโร่ จากฤทธิ์หมัดดาวเหนือกันแน่ เจ้าตายแล้ว!! ภาพวาดดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมากบนโลกออนไลน์ โดยมียอดไลก์มากถึง 200,000 ครั้งภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน หลายๆ คนที่ได้ชมผลงานปิกาจูนักกล้ามนั้นก็ต่างพากันชอบใจ และดูเหมือนว่าเหล่าแฟนคลับของค่ายเกมอย่างนินเท็นโดจะโล่งใจที่ไม่ได้เห็นเจ้าหนูไฟฟ้าตัวนี้ออกไปโลดแล่นในเกม ภาพปิกาจูเวอร์ชั่นธรรมดาๆ น่ารักใสๆ แต่หลังจากที่เจอฝีมือการวาดภาพของคุณ @bankokukun ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป และก็ไม่ได้มีแค่ผลงานเดียวเท่านั้น แต่งานนี้ปิกาจูยังได้พาเจ้าเดเด็นเนะมาด้วยอีกตัว!! ส่วนนี้ก็เป็นผลงานอีกชิ้นหนึ่งของเขา แต่รูปนี้ดูเหมือนผ่าพิภพไททัน มากกว่านะ!? ชาวเน็ตท่านหนึ่ง ที่เห็นว่าผลงานของคุณ @bankokukun นั้นยังไม่ค่อยสมบูรณ์แบบเท่าไหร่ งานนี้เขาจึงจัดการเติมสีลงไป อื้ม… แบบนี้สิค่อยดูเหมือนปิกาจูขึ้นมาหน่อย โถ่… หมดกันความน่ารักในวัยเด็ก ทำแบบนี้มันแกล้งซาโตชิชัดๆ !! ที่มา rocketnews24
-
เผยภาพของ ‘ทางแยกมหามึน’ จากประเทศจีน ดูจากภาพแล้วจะเข้า จะออกยังไง!?
ทางแยกสุดมึนในมลฑลเหอเป่ย์จากทางตอนเหนือของประเทศจีนแห่งนี้ อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเมารถสักเท่าไหร่ เพราะด้วยช่องจราจรที่มีหลายช่องแถมยังดูวกวนน่าสับสนอย่างมาก เรียกได้ว่าถ้าหากคุณไม่ใช่คนในพื้นที่แล้วล่ะก็ต้องเกิดอาการปวดหัวบ้างแน่ๆ และนอกจากทางแยกที่จะดูงงๆ แล้ว ถนนสายนี้ยังไม่มีป้ายกำกับอีกด้วยว่าช่องไหนเป็นทางเข้า หรือว่าช่องไหนเป็นทางออก ซึ่งทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในสถนนที่มีความซับซ้อนมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ถนนสายนี้ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์แสดงนิทรรศการของเมืองจางเจี๋ยโกวใกล้กับกรุงปักกิ่ง โดยก่อนหน้านี้ทางเทศบาลของเมืองเองได้มีการปรับปรุงถนนเส้นนี้ แต่ว่าหลังจากการปรับปรุงเรียบร้อยแล้วกลับสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนในเมืองอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีเส้นสีขาวที่ทำไว้เพื่อแบ่งช่องทางการจราจรแบบดูงงๆ แล้ว ถนนเส้นนี้ยังไม่มีไฟสัญญาณจราจรอีกด้วย ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมืองจางเจี๋ยโกวได้อธิบายถึงเรื่องนี้ว่า ตอนนี้ถนนสายดังกล่าวยังทำการปรับปรุงไม่เสร็จ พร้อมทั้งได้บอกให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกกับเรื่องนี้ และขอให้ขับรถตามช่องจราจรที่ได้มีการกำหนดไว้ และเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ใช้งานถนนคนอื่นๆ ชาวเน็ตท่านหนึ่งจึงได้ทำแผนผังเพื่ออธิบายการใช้งานของถนนเส้นนี้ พร้อมทั้งทำลูกศรแสดงเส้นทางเข้าออกของรถยนต์เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น แถมยังบอกเส้นทางของรถสาธารณะและทางเดินเท้าด้วยลูกศรสีขาวอีกด้วย และหลังจากที่ภาพของถนนเส้นนี้ถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก jiege1123 “คนแก่ที่ใช้ถนนเส้นนี้จะต้องปวดหัวแน่ๆ ” nejoujeshe “เดี๋ยวนะ ถ้าเกิดเป็นช่วงที่จัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวล่ะ นักท่องเที่ยวจะไม่งงกันใช่ไหม??” Fisherman53 “นักออกแบบทำให้งงสุดๆ ต้องมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ้างแหละ” ลองจินตนาการดูว่าคุณเพิ่งหัดขับรถวันแรก แล้วเผลอหลุดเข้ามาในถนนเส้นนี้ดูสิ!! อืม… เหงื่อแตกแน่นอน ที่มา dailymail
-
เจ้าฮัสกี้ 2 ตัว ถูกทิ้งไว้ที่สวนสาธารณะ กับของเล่นทั้งหมดของมัน พร้อมกับโน้ตแสนเศร้า…
สำหรับเจ้าตูบทั้งหลายแล้ว การที่เจ้านายจัดทริปพาไปเที่ยวสวนสาธารณะ หรือตามที่ธรรมชาติต่างๆ อาจสร้างความสุขให้พวกมันได้ไม่แพ้มนุษย์เราเลยล่ะ ทว่ากลับกลายเป็นเรื่องเศร้าที่ Vada และ Layla สองตูบเพื่อนซี้สายพันธุ์ฮัสกี้ต้องเจอ เพราะจู่ๆ Mona Ahmed ผู้จัดการอุทยานสำหรับสุนัข แห่งเมือง Fresco รัฐแคลิฟอร์เนีย… ได้รับแจ้งว่ามีสุนัข 2 ตัวถูกนำมาทิ้งไว้อย่างไร้เยื่อใย!! อาหารเม็ด ของเล่น และภาชนะต่างๆ ที่เจ้าของเอามาทิ้งไว้ด้วย ในตอนแรกทางผู้จัดการอุทยานยังไม่รู้สึกแปลกใจ และคิดว่าเจ้าฮัสกี้ทั้ง 2 ตัวน่าจะหลงจากเจ้าของ แต่เมื่อเธอสังเกตเห็นกล่องใส่อาหารเม็ด ภาชนะถ้วยชาม และของเล่น เธอก็พอจะเข้าใจแล้วว่า… ฮัสกี้ทั้ง 2 กำลังถูกทิ้ง จดหมายน้อยที่เจ้าของเก่าทิ้งไว้ให้… โดยเนื้อหาในจดหมายระบุไว้ว่า: “พวกเราชื่อ Vada และ Layla เราทั้งคู่เพิ่งอายุได้ 1 ขวบ เราสองคนนิสัยน่ารักมาก และได้โปรดอย่าแยกเราออกจากกันเลยนะ… “ ทันทีที่ได้เห็นกระดาษโน้ตดังกล่าว Ahmed ก็รีบออกตามหาฮัสกี้ทั้ง…
-
19 ภาพแห่งความงงงวย ต้องตั้งสติซัก 10 วินาที ถึงจะรู้แท้จริงแล้วมันเป็นยังไง!?
หลายคนอาจคิดว่าสิ่งที่รับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือความจริงที่สุด แต่จริงๆ แล้ว สัมผัสเหล่านั้นบางครั้งมันก็อาจลวงเราได้เหมือนกัน เหมือนกับภาพต่อไปนี้ที่ทำเอาหลายงงงวย ต้องดูซ้ำแล้วซ้ำอีก ถึงจะรู้ว่าแท้จริงมันเป็นยังไง เกือบโดนสัมผัสหลอกซะแล้ว 1. นึกว่ามีกระรอกยักษ์มางัดรถ ที่ไหนได้ มันคือกระรอกตัวน้อยเกาะอยู่หน้าต่างนี่เอง 2. เล่นซะ คุณลุงเซกซี่เลย 3. เฮ้ย!! นึกว่าสิ่งมีชีวิตไฮบริด ครึ่งคนครึ่งหมา 4. พ่อหนุ่มคนนี้ไม่ได้กำลังบนทะเลสาบนะ แต่เขากำลังนอนบนต้นไม้ที่ถูกโค่นแล้วมองขึ้นฟ้าต่างหาก 5. เกือบด่าพ่อคนนี้แล้วเชียวว่าเล่นหวาดเสียวกับลูกบนระเบียง ที่ไหนได้ นั่นมันสถานที่จำลอง 6. เจ้าวัวเกรียนมายืนหลังหญิงสาวแล้วกางหู จนนึกว่าเป็นหูผู้หญิงคนนี้ซะอีก 7. มีชายอีกคนอยู่ข้างหลังจริงๆ นะ ไม่ใช่ภาพบนผนัง 8. ดูผ่านๆ อาจจะคิดว่าทำไมแขนเธอถึงยาวจัง 9.ชายคนนี้ไม่ได้อยู่หลังประตูนะ แต่นี่มันเป็นภาพที่ถ่ายจากมุมสูงต่างหาก 10. จังหวะที่เด็กหญิงลอยอยู่กลางอากาศ แต่หลายคนคิดว่าเธอลอยอยู่บนน้ำ 11.…
-
สาวแลกความบริสุทธิ์กับ iPhone 8 แต่โดนวางแผนเซ็กส์หมู่ เตือนใจให้สังคมฉุกคิด!!
ท่ามกลางกระแสโลกทุนนิยม การแข่งขัน ความอยากได้อยากมี บ่อยครั้งที่เราจะได้เห็นข่าวอย่าง การขายของสำคัญ ขโมยของมาขาย หรือกระทั่งขายอวัยวะบางชิ้นของร่างกาย เพื่อแลกกับของตามสมัยนิยม ล่าสุดคลิปหญิงสาวยอมขายความบริสุทธิ์ของตัวเอง เพื่อแลกกับโทรศัพท์ iPhone 8 กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์จีนและต่างประเทศ แม้จะมีข้อถกเถียงว่าอาจจะเป็นการจัดฉากก็ตาม… Xiao Chen อายุ 17 ปี โพสต์ข้อเสนอมอบ “ความบริสุทธิ์” ของเธอเองให้กับชายคนใดก็ตาม เพื่อแลกกับเงิน 20,000 หยวน (ประมาณ 100,000 บาท) หลังจากนั้นเธอก็นัดพบกับลูกค้าของเธอในร้านน้ำชาแห่งหนึ่ง โดยทางฝ่ายสาวมีการพูดว่าเพื่อนของเธอเสนอขายบริการให้คนรวย จนได้เงิน 20,000 หยวนมาอย่างง่ายดาย เธอก็เลยทำบ้าง “สิ่งที่ฉันต้องทำก็แค่นอน(ให้คุณมีอะไรด้วย) ใช่ไหม.. จากนั้นเราต่างก็ได้สิ่งที่เราต้องการ ฉันคิดเรื่องนี้มาอย่างดีแล้ว” จากนั้นเธอและเขาจึงพากันไปที่โรงแรม… แท้จริงแล้วเธอไม่รู้เลยว่า ตั้งแต่แรกแล้วโพสต์ของเธอถูกพบโดย Nana บล็อกเกอร์คนดังของจีน ซึ่งได้จัดฉากเหตุการณ์ทั้งหมด รวมถึงเป็นผู้ให้ชายหนุ่มคนดังกล่าวมาล่อซื้อเธอด้วย เมื่อไปถึงโรงแรม เรื่องราวก็ดำเนินการไปเหมือนกับการค้าบริการ โดยฝ่ายชายได้มอบ iPhone ให้กับหญิงสาวเพื่อเป็นการทำให้เธอเชื่อใจ.. แต่แล้วก็มาถึงจุดไคลแม็กซ์ …
-
ศิลปินสร้างงานศิลปะด้วยไอเดีย “จะเป็นไงหากมนุษย์มีขนาดจิ๋วและสัตว์ทุกชนิดมีขนาดใหญ่?”
นอกจากมนุษย์แล้วบนโลกนี้ยังมีสัตว์ขนาดเล็กขนาดใหญ่นับพันนับหมื่นชนิดอาศัยอยู่ในโลกเดียวกับเรา แต่จะเป็นอย่างไร ถ้าสัตว์ทุกชนิดมีขนาดใหญ่กว่าเรา? ศิลปินคนหนึ่งชื่อว่า Eben aka ชาวออสเตรเลีย ได้สร้างสรรค์ภาพชุดที่ทำให้เห็นว่าถ้าสัตว์เป็นผู้ครองโลก และทุกชนิดมีขนาดใหญ่ยักษ์แต่มนุษย์กลับมีเพียงตัวนิดเดียว พวกมันจะมีอำนาจและความน่ากลัวขนาดไหน ด้วยความน่ากลัวของสัตว์ทั้งหลายและการที่สัตว์บางอย่างได้สูญพันธุ์จากน้ำมือของมนุษย์ ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาทำภาพเหล่านี้ เพื่อให้เราทั้งหลายตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์ ซึ่งภาพของเขาจะเป็นอย่างไรเชิญชมกันได้เลย . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . เห็นภาพอย่างนี้แล้วก็น่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย เพราะฉะนั้นใครที่ชอบแกล้งสัตว์ก็กลับตัวซะนะ ก่อนที่พวกมันจะมาเอาคืน ฮ่าาาา
-
คุณพ่อซ่อนกล้องเอาไว้ เลยทำให้เห็นว่าหมาของตัวเองนั้นรักพนักงานเก็บขยะแค่ไหน
สุนัขขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์ตัวหนึ่ง ความน่ารัก ความเอาใจใส่ ความซื่อสัตย์ที่หาไม่ได้จากสัตว์ชนิดอื่นๆ จึงมีคนตกหลุมรักในความเป็นมะหมาของมันเป็นจำนวนมาก คุณพ่อ Joshua Byrne เกิดความสงสัยว่าเจ้า Shelby สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทริฟเวอร์ของเขาว่าทำไมช่วงนี้มันถึงดูอารมณ์ดีผิดปกติ และมันมักจะมายืนรออะไรซักอย่างที่หน้าบ้านในทุกๆ เช้า หลังจากการสังเกตก็พบว่าเจ้า Shelby แอบมารอคุณลุงเจ้าหน้าที่เก็บขยะที่ออกมาทำหน้าที่ทุกๆ วัน คุณพ่อจึงได้ซ่อนกล้องเพื่อแอบถ่ายไว้เป็นหลักฐานว่าเจ้า Shelby แอบนอกใจเขาไปเล่นกับคนอื่น หลังจากที่ซ่อนกล้องไว้ ก็ได้เวลาที่คุณลุงเก็บขยะมาทำหน้าที่ เขาขับรถสีส้มคันใหญ่มาจอดที่หน้าบ้านของคุณพ่อตามปกติ จับได้คาหนังคาเขาเลยว่าเจ้า Shelby วิ่งกรูเข้ามาเพื่ออ้อนคุณลุงอย่างสนิทสนม แถมยังอ้อล้อเล่นกับคุณลุงอย่างสนุกสนาน ว๊ายยยย มีคนจับได้ซะแล้วล่ะ ทำตัวเหมือนมีคุณลุงเป็นเจ้าของเลยนะเจ้า Shelby แอบถ่ายป๋มอยู่หรอฮ้ะ คุณพ่อได้บอกว่า “เจ้า Shelby นั้นมันเป็นหมาที่ขี้เล่นมาก หลังจากที่มันเล่นกับคนเก็บขยะแล้วมันก็กลับมาเล่นกับลูกสาวของผม มันรักทุกคนที่เป็นมิตรกับมัน” หลังจากที่คุณ Joshua ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดน่ารักคลิปนี้ลงบนช่องยูทูปของเขาเองเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2014 ก็มีผู้คนเข้ามาชื่นชมความน่ารักของเจ้า Shelby กันกว่า 6 ล้านครั้ง…
-
18 ภาพสุดฮาของเหล่าเด็กๆ ที่อาจทำให้ผู้ใหญ่บางคนเห็นแล้ว ขำจนน้ำตาเล็ด
วัยเด็กเป็นวัยที่มีอิสระที่สุด เป็นวัยแห่งการค้นหา ถึงบางครั้งจะทำให้ตัวเองต้องมีน้ำตา หรืออาจจะทำให้ผู้ใหญ่บางคนรู้สึกขำได้ แต่ด้วยความไร้เดียงสาและการจินตนาการอันไม่รู้จบของเด็กๆ ทั้งหลาย อาจทำให้บางคนต้องส่ายหัวให้กับความน่ารัก และยิ้มตามไปกับภาพอันแสนจะมีความสุขของเด็กๆ เหล่านี้อย่างแน่นอน 1. เดี๋ยวๆ ฟังผมอธิบายก่อนสิแม่ 2. ไม่มีใครหาชั้นเจอแน่นอน 3. ทำอย่างหนูได้ป่ะล่ะ 4. ปล่อยหนูออกไป หนูจะไปกินไอติมมม 5. จะไปอินดี้อะไรขนาดนั้นลูกเอ้ยยย 6. สีหน้าของเด็กๆ เมื่อคุณบอกว่าเธอต้องไปโรงเรียนอีกเกือบ 18 ปี 7. หนูช่วยแต่งหน้าให้ไหมแม่ 8. ไปทำอีท่าไหน ถึงมาอยู่อย่างนี้ได้เนี่ย 9. เล่นซ่อนแอบอยู่ใช่ไหม 10. เกรียนตั้งแต่เด็กจริงๆ 11. เข้าไปทำอะไรในนั้นอะ 12. เมื่อบอกว่าตุ๊กตาที่เธอถืออยู่เป็นผู้ร้าย 13. อายุอะแค่ 2…
-
เด็กชายผู้ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ถามไถ่ชายที่ใกล้จะจบชีวิตตัวเอง และเขาก็ได้รับตอบแทนอย่างงดงาม
ในวันที่ท้อแท้ หมดหวัง สิ่งที่มนุษย์อย่างเราๆ ต้องการมากที่สุดก็คงเป็นเพียงแค่กำลังใจเล็กๆ จากใครสักคน ถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่มันก็อาจจะทำให้ความรู้สึกแย่ๆ นั้นถูกกำจัดออกไปและทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ย้อนกลับไปในเดือนสิงหาคม ปี 2015 Jamie Harrington บังเอิญผ่านไปเจอชายผู้หนึ่งที่กำลังนั่งอยู่บนสะพาน Ha’penny ในเมือง Dublin ประเทศไอร์แลนด์ซึ่งดูสีหน้าเขาไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่นัก ดูท้อแท้และสิ้นหวัง เขาจึงตัดสินใจลงไปนั่งกับชายผู้นั้นแล้วถามด้วยคำถามธรรมดาๆ ว่า “คุณโอเคหรือเปล่า?” ชายผู้นั้นหันกลับมามองเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า ไม่มีคำพูดใดๆ ที่ออกมาจากปาก แต่ชายผู้นั้นร้องไห้ไม่หยุด หลังจากนั้น Jamie ก็นั่งคุยกับชายผู้นั้นถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลายที่ได้ระบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ใครสักคนฟัง และได้ทราบว่าเขาคนนั้นกำลังจะฆ่าตัวตาย Jamie จึงคุยให้ชายผู้นั้นสงบสติลงและบอกว่าการฆ่าตัวตายมันไม่ดีอย่างไร เมื่อเวลาผ่านไป 45 นาที ชายผู้นั้นก็มีอาการดีขึ้นเล้กน้อย แต่ทว่า Jamie ต้องออกไปทำธุระต่อแต่เขาก็ไม่อยากทิ้งชายผู้นั้นไว้คนเดียว จึงเดินออกมาแล้วเรียกรถโรงพยาบาลเพื่อมารับตัวชายผู้นี้ไป เขาได้แลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้เพื่อที่ Jamie จะได้มั่นใจว่าเขาจะไม่คิดที่จะฆ่าตัวตายอีก หลายเดือนต่อมาเขาทั้งสองนัดเจอกันอีกครั้งเพื่อถามสารทุกข์สุกดิบกัน และ Jamie ได้ทราบว่า แฟนของเขากำลังตั้งครรภ์ และลูกที่กำลังจะเกิดมานั้นเขาจะตั้งชื่อว่า Jamie เพื่อเป็นการรำลึกถึงคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้…
-
เผยทฤษฎีการตายของผีน้อย Casper ก่อนจะมาเป็นผีเขาต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรมาบ้าง?
ถ้าหากพูดถึงหนึ่งในการ์ตูนสุดคลาสสิคอันเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ หลายๆ คนในช่วงยุค 90’s คงจะต้องมีชื่อของเจ้าผีน้อยแคสเปอร์ แน่ๆ และในช่วงใกล้วันฮาโลวีนแบบนี้เราก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเจ้าผีน้อยน่ารักตัวนี้มาฝากกัน ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยสงสัยกันว่า จริงๆ แล้วเจ้าผีน้อยแคสเปอร์กลายเป็นผีได้อย่างไร? และเค้าเองจะเคยเป็นเด็กบ้างรึเปล่านะ หรือว่าจริงๆ แล้วเขาเกิดมาก็เป็นผีเลย ซึ่งวันนี้เราก็มีทฤษฎีที่จะทำให้คุณคลายความสงสัยนี้มาฝากกัน เริ่มกันที่ทฤษฎีแรกจากหนังของผีน้อยแคสเปอร์ ในปี 1995 กันก่อนเลย ซึ่งในหนังนั้นนางเอกของเรื่องได้พาเจ้าผีน้อยมารำลึกความหลังในห้องนอนในวัยเด็กของเขา และแคสเปอร์ก็เริ่มเล่าเรื่องราวของตัวเอง ว่าเขานั้นป่วยด้วยอาการปอดบวมจนเสียชีวิต เจ้าผีน้อยบอกว่า “ตอนนั้นทั้งดึก มืด และหนาวและผมก็ป่วยด้วย ผมจำได้ว่าผมไปที่ไหนไม่ได้ และผมอยู่ที่นี่กับพ่อของผม” แต่นอกจากการตายด้วยโรคปอดบวม ของเจ้าผีน้อยในภาพยนตร์ที่ทำให้หลายๆ คนน้ำตาร่วงแล้ว ในเรื่องราวของแคสเปอร์ฉบับหนังสือการ์ตูนช่วงยุค 70’s นั้นได้เล่าว่า เจ้าผีน้อยเองเป็นผีมาตั้งแต่แรกแล้ว เนื่องจากพ่อกับแม่ของเขาเป็นผีและเมื่อแต่งงานกันลูกที่เกิดมานั้นก็ต้องเป็นผีด้วย และในฉบับหนังสือการ์ตูนนั้นยังได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเจ้าผีน้อยในโรงเรียน รวมถึงการใช้ชีวิตแบบเด็กๆ ของเจ้าผีน้อย ซึ่งเหมือนกับว่านี่เป็นโลกของผีและทุกคนก็เป็นผีมาตั้งแต่เกิดเลย แต่ก็ยังมีอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับแคสเปอร์ เพราะในตอนหนึ่งของฉบับแอนิเมชั่นจาก Paramount Picture ในปี 1948 ได้เผยให้เห็นภาพของเจ้าผีน้อยที่กำลังนั่งอยู่บนป้ายหลุมศพของเขา ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจริงๆ แล้วเขาอาจจะเคยเป็นมนุษย์มาก่อน และนอกจากนี้ในตอนเดียวกันของการ์ตูนเรื่องนี้ แคสเปอร์เองยังเป็นเพื่อนกับเจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งที่ถูกฆ่าตาย ซึ่งเรื่องราวในการ์ตูนนั้น…
-
Ed Sheeran ประสบอุบัติเหตุแขนหัก แฟนๆ ลุ้น อาจหมดสิทธิ์มาทัวร์คอนเสิร์ตในไทย!?
ข่าวดีสำหรับแฟนคลับของพ่อหนุ่มเสียงใส Ed Sheeran ในปีนี้ก็คือ เจ้าตัวจะมาทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศไทยให้แฟนคลับได้รับชมกันแบบสดๆ แต่ล่าสุดมีข่าวร้ายสำหรับแฟนๆ ที่กำลังรอชมเข้าซะแล้ว.. สื่อต่างชาติหลายแห่งรายงานว่า Ed ประสบอุบัติเหตุระหว่างการปั่นจักรยาน จนถึงขั้นแขนหัก และแม้มันจะไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่ก็มีผลกับการแสดงดนตรีอย่างแน่นอน Ed ในวัย 26 ปี ทัวร์คอนเสิร์ตมาแล้วหลายประเทศ และใช้เวลาช่วง 1 สัปดาห์ของการพักระหว่างทัวร์เพื่อปั่นจักรยาน ก่อนที่จะมีงานแสดงในไทเปสัปดาห์หน้า แต่โชคร้ายประสบอุบัติเหตุก่อน “ผมได้รับบาดเจ็บจากการปั่นจักรยาน” เจ้าตัวเขียนลงบนอินสตาแกรมพร้อมกับอัพภาพแขนใส่เฝือก “ตอนนี้ผมกำลังรอคำตอบจากคุณหมอ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อการแสดงทัวร์ของผมได้ ขอให้แฟนคลับทุกคนรอฟังข่าวกันนะครับ” นักร้องขวัญใจแฟนคลับคนนี้ยังมีอีก 14 งานแสดงก่อนจะถึงสิ้นปี ซึ่งรวมถึงในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และประเทศไทยด้วย โดยปกติแล้ว Ed จะขึ้นแสดงทั้งร้องและเล่นกีตาร์เอง ซึ่งถ้าเขายังยืนยันที่จะแสดงเดี่ยวก็หมายถึงคอนเสิร์ตอาจจะต้องถูกเลื่อนออกไปด้วยเช่นกัน ตามรายงานจากทางแพทย์บอกว่า การพักรักษาตัวแขนหักให้กลับมาใช้ได้อย่างปกติสมบูรณ์ที่สุดนั้น อาจจะต้องใช้เวลามากถึง 2-5 เดือนเลยทีเดียว ซึ่งหมายถึงว่าจนกระทั่งสิ้นปีเขาอาจจะไม่สามารถเล่นกีตาร์ได้อีก ก่อนหน้านี้เขาเคยให้สัมภาษณ์กับทาง BBC เรื่องการร้องและมีวงเล่นให้โดยระบุว่า “ผมไม่คิดว่าผมอยากจะเป็นนักร้อง แล้วมีวงเล่นให้ข้างหลังนะ……
-
พิตบูลถูกคนใจร้ายเอามีดฟันหน้า แล้วยัดใส่กระเป๋าเอาไปทิ้งที่ตึกร้าง โชคดีที่มีคนช่วยไว้ได้
(เนื้อหามีภาพที่รุนแรง) บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นภาพเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดกับสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว หรือแม้แต่สัตว์ป่า พวกมันล้วนตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของมนุษย์อยู่บ่อยครั้งไป… เจ้าหมาพิตบูลในครั้งนี้ก็เช่นกัน ด้วยสภาพของมันหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฟลอริด้าไปเจอเข้า ต้องบอกเลยว่ามันโชคดีมากๆ ถ้าพวกเขาเจอมันช้ากว่านี้เจ้าตูบคงได้จากโลกใบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาตี 1 ของวันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2017 ซึ่งเจ้าหน้าที่จากรัฐฟลอริด้ากำลังลาดตระเวนอยู่และบังเอิญได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกำลังร้องไห้ พวกเขาจึงเข้าไปตรวจสอบดูก็พบว่าเสียงนั้นมาจากกระเป๋าเดินทางสีฟ้าใบใหญ่ และเมื่อเปิดออกมาพวกเขาก็ต้องถึงกับช็อค ข้างในเป็นสุนัขพิตบูลที่สภาพอาบไปด้วยเลือด พร้อมกับมีแผลเหมือนถูกฟันบริเวณหน้าของมัน ซึ่งแผลดังกล่าวนั้นลึกมากๆ พวกเขาไม่รอช้ารีบพาเจ้าตูบไปยังโรงพยาบาลสัตว์ทันที . ทีมแพทย์ต่างพากันช่วยเหลือพวกมันอย่างเต็มที่และเจ้าหน้าที่ก็ตั้งชื่อให้เจ้าตูบว่า Ollie พร้อมกับเป็นกำลังใจให้กับมันเพื่อสู้ต่อ หลังจากการรักษาเสร็จสิ้นทีมแพทย์ต่างพากันชื่นชมเพื่อนสี่ขาว่ามันมีสปิริตแรงกล้า แม้ในสภาพแบบนั้นมันก็ยังไม่ยอมแพ้กระดิกหางรับตลอดเวลา . . หลังจากการรักษาเสร็จทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดระดมทุนเพื่อหาเงินและหาบ้านหลังใหม่ให้กับเจ้า Ollie ผ่านทาง GoFundMe เพียงแค่วันเดียวก็มีคนร่วมระดมทุนแล้วมากกว่า 660,000 บาท สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงไม่ยอมแพ้ และรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า Ollie พวกเขายังคงตามหาตัวการที่ทำร้ายเจ้าตูบต่อไป… อัพเดตล่าสุด หลังจากการรักษาได้สองวัน เจ้า Ollie ก็ทนพิษบาดแผลที่สาหัสไม่ไหว และได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ ขอแสดงความเสียใจต่อกสนจากไปของเจ้าตูบผู้โชคร้ายด้วยนะครับ…
-
เจ้าชิวาว่าหนักเกือบ 20 กิโล ได้รับการช่วยเหลือจากเทรนเนอร์ทำให้มันสามารถลดน้ำหนักได้
ลึกๆ เราต่างรู้ดีว่า สัตว์เลี้ยงทั้งหลายล้วนมีความต้องการเหมือนๆ เรานั่นแหละ คือต้องการความรัก การดูแลเอาใจใส่ และอาหารอันโอชะ แต่เมื่อไหร่ที่ ‘อาหารจานโปรด’ ถูกเสิร์ฟบ่อยเกินไป ก็อาจทำให้สัตว์เลี้ยงผู้น่ารักกลายพันธุ์เป็นหมูตุ้ยไปแทนก็ว่าได้ เช่นเดียวกับเรื่องราวของเจ้าชิวาว่าตัวอ้วนหนัก 20 กิโลฯ กับการต่อสู้เพื่อสุขภาพของมันในครั้งนี้… รู้จักกับเจ้าของกันก่อนเลย คุณแม่และลูกสาวสุดสวย ส่วนนี่ก็คือเจ้า Gracie ในวัยเด็ก ดูน่ารักสดใสตามสไตล์หมาน้อยใช่ปะล่ะ? แต่สงสัยจะเลี้ยงตามใจมากไปหน่อย เผลอแป๊บเดียวมันกลายเป็นหมูไปซะแล้ว Madinson และ Lisa เล่าว่า ก่อนหน้านี้ด้วยความที่พวกเขารู้สึกรักใคร่และเอ็นดูเจ้า Gracie เหมือนน้องเล็กสุดในครอบครัว เมื่อไหร่ที่มันอยากกินหรืออยากได้อะไรพวกเขาก็มักจะตามใจมันอยู่เสมอ และด้วยความตามใจนี่เองที่ทำให้เจ้า Gracie กลายเป็นสุนัขที่มีน้ำหนักตัวมากถึง 20 กิโลฯ!! ถ้าตามใจปากมากเกินไปเราก็มักจะลำบากท้องตามมาเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับเจ้า Gracie แล้วความลำบากกำลังลุกลามไปถึงปัญหาสุขภาพของมันด้วย เมื่อครอบครัวของเจ้าตูบได้พบกับเทรนเนอร์สุนัข Travis Brorsen พวกเขาก็ได้พบว่า การลดน้ำหนักเจ้าหมูอ้วนตัวนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจต้องใช้วิธีการที่แตกต่างออกไป.. ไม่ว่าจะว่ายน้ำ เดินเล่น…
-
ตำรวจดูไบล้ำหน้าไกล รถสปอร์ตแรงๆ ยังไม่พอ ต้องเสริมกำลังด้วย ‘โฮเวอร์ไบค์’
มหานครดูไบ หนึ่งในเมืองที่มีความมั่งคั่งมากที่สุดในโลก และด้วยความมั่งคั่งนี่เองก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้คนมากมายสนใจมาเยือนประเทศนี้ และนอกจากความทันสมัยของเมืองและอาคารต่างๆ แล้วที่นี่เขายังเพิ่มความไฮเทคให้กับหน่วยตำรวจอีกด้วย!! หน่วยตำรวจของมหานครแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหน่วยที่มีความทันสมัยมากที่สุด เพราะนอกจากจะมีรถตรวจการสุดหรู โดรนลาดตระเวนแบบไร้คนขับ และตำรวจหุ่นยนต์ พวกเขายังได้เพิ่มขีดความสามารถให้กับตำรวจอีกด้วย “โฮเวอร์ไบค์” หรือมอร์เตอร์ไซค์ลอยฟ้านั่นเอง พาหนะสุดไฮเทครูปร่างคล้ายกับยานจากหนังเรื่อง Star Wars นี้ถูกนำมาจัดแสดงที่งาน Gitex Technology Week ที่ผ่านมา โดยมันจะถูกนำไปใช้ในสถานะการณ์ฉุกเฉิน และช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าการจราจรจะติดขัดก็ตาม เจ้าโฮเวอร์ไบค์นี้สามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 270 กิโลกรัม และมันยังใช้พลังงานไฟฟ้า โดยใช้เวลาในการชาร์จไฟเพียงแค่ 25 นาทีเท่านั้น มันสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถบินได้ไกลถึง 6 กิโลเมตร ทางด้าน CEO จากบริษัท Alexander Atamanov ได้ออกมากล่าวผ่านทางเฟซบุ๊กว่า บริษัทของเขาและกรมตำรวจของดูไบได้ทำการเซ็นสัญญา และจะมีการนำไปใช้ในมหานครดังกล่าวในเร็วๆ นี้ ก่อนหน้านี้หน่วยดับเพลิงของดูไปนั้นได้มีการนำเครื่องเจ็ทแพ็คมาใช้ในภาระกิจดับเพลิง ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย และการนำโฮเวอร์ไบค์มาใช้ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่นั้นก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของที่นี่ ไปชมการทำงานของเจ้าโฮเวอร์ไบค์ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา indianexpress, ladbible
-
ญี่ปุ่นสอนทำเสื้อ DIY ลายสวยๆ จากอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายๆ ในบ้าน แถมใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที
นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับใครที่ชื่นชอบการประดิษฐ์ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ด้วยตัวเอง หรือชื่นชอบงาน D.I.Y เพราะต่อไปนี้คุณเองก็สามารถทำเสื้อยืดลายสวยๆ ได้จากอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายๆ จากภายในบ้าน แถมยังใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีอีกด้วย!! วิธีการดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่ชื่อว่าคุณ @mikantobanana โดยชาวเน็ตท่านนี้ได้วิธีการสกรีนลายเสื้อยืดแบบง่ายๆ นี้จากรายการทีวีรายการหนึ่ง ซึ่งวิธีการทำนั้นก็ง๊ายง่าย โดยเริ่มจากการนำเสื้อยืดที่คุณต้องการจะพิมพ์ลายลงไปมาหนึ่งตัว จากนั้นก็เลือกลายที่คุณต้องการ และใช้ครีมกันแดดทาไปบนกระดาษที่คุณพิมพ์ออกมา ขั้นตอนต่อไปนำกระดาษที่ทาครีมกันแดดเรียบร้อยแล้วไปวางลงบนเสื้อยืด แล้วทำการรีดด้วยเตารีด และแล้วเพียงเท่านี้คุณก็ได้เสื้อยืดลายใหม่ที่ต้องการแล้ว ไปชมขั้นตอนการทำเสื้อยืดด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… และนอกจากนี้คุณ @mikantobanana ยังได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า ควรปริ้นภาพจากหมึกพิมพ์คุณภาพสูงและไม่ควรใช้ภาพที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์แบบอิ้งค์เจ็ททั่วๆ ไป และควรปล่อยให้ครีมกันแดดซึมลงไปในกระดาษซักครู่ก่อนที่จะเริ่มทำการสกรีนเสื้อ และหลังจากทำการพิมพ์เรียบร้อยแล้วควรปล่อยให้เสื้อแห้งอีกประมาณ 2 วันก่อนที่จะนำไปซักตามปกติ และนอกจากจะใช้ในการพิมพ์เสื้อแล้ว ครีมกันแดดนั้นยังสามารถนำไปใช้ลอกสติ๊กเกอร์ที่ติดแน่น หรือลบคราบปากกาจากผิวหนังก็ได้เช่นกัน ที่มา rocketnews24
-
หญิงสาวหนีจากไฟป่า พร้อมกับสะพายเจ้าหมาที่หนักกว่า 30 กิโลเอาไว้ในกระเป๋าด้วย
ไฟป่าเป็นภัยธรรมชาติอย่างหนึ่งที่นับได้ว่ามีความอันตรายต่อทุกชีวิต แน่นอนว่าเมื่อเจอเหตุการณ์อย่างนี้ต้องหนีเอาชีวิตรอด แต่มีสาวคนหนึ่งที่ไม่เพียงหนีเอาชีวิตรอดเพียงคนเดียว เธอยังนำเจ้าหมาที่มีน้ำหนักกว่า 30 กิโลหนีไฟไปกับเธอด้วย Natasha Wallace หญิงสาวคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองซานต้าโรซ่า รัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่เธอนั่งเรียนอยู่นั้นก็บังเอิญเกิดไฟป่าขึ้น เธอจึงรีบกลับบ้าน สิ่งที่เธอเห็นจากบ้านเธอคือไฟป่าที่ลามอย่างรวดเร็วและรุนแรงราวกับเครื่องพ่นไฟเลยทีเดียว เธอจึงรีบกลับไปเก็บกระเป๋าพร้อมทั้งนำหมาของเธอที่ชื่อว่า Bentley ขึ้นรถเพื่อหนีไฟป่าแต่ว่าการจราจรในละแวกนั้นโกลาหลเป็นอย่างมากและไฟป่าก็กำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงตัดสินใจกลับบ้านและไปเปลี่ยนเป็นรถจักรยาน แต่การที่เธอต้องปั่นจักรยานทำให้ไม่สามารถนำสัมภาระไปได้เยอะ เธอจึงตัดสินใจทิ้งเสื้อผ้าทั้งหมดออกจากกระเป๋าแล้วเอาเจ้า Bentley ใส่ลงไปแทน “ฉันบอก Bentley ให้ไปนั่งข้างในกระเป๋า มันก็กระโดดเข้าไปทันทีเหมือนมันเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี” Natasha กล่าว และ เธอต้องปั่นจักรยานทั้งๆ ที่มีกระเป๋าหนักกว่า 30 กิโลกรัมห้อยคออยู่ “มันเป็นเรื่องที่ยากนะ ฉันต้องปั่นจักรยานหลบกิ่งไม้และสิ่งต่างๆ บนถนนอยู่ตลอดเวลา ในช่วง 2 กิโลเมตรแรกมันก็ยังโอเคอยู่หรอก” เธอกล่าวเพิ่ม ในที่สุดก็มีรถบรรทุกผ่านมา และจอดรับ Wallace และ Bentley ไปยังสถานที่ปลอดภัย แต่ว่าเธอได้สูญเสียบ้านจากการลุกลามของไฟป่า ปัจจุบันทั้งเธอและเจ้าหมาก็เลยต้องไปอยู่กับญาติของเธอ มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าแต่ถึงอย่างไร เธอก็ดีใจที่ตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้อง “คุณสามารถนำเงินไปซื้อทุกสิ่งที่คุณสูญเสียกลับมาได้ แต่หมาของฉันนั้นมันตีราคาไม่ได้” Wallace กล่าวทิ้งท้าย นับว่าเธอเป็นคนสติที่ดีมากเลยทีเดียว…
-
เปิดฉากแล้ว ศึกหุ่นเหล็กยักษ์คู่แรกของโลก “อเมริกา vs ญี่ปุ่น” ใครจะอยู่ใครจะไปล่ะงานนี้!?
ใครหลายคนคงเคยได้ยินเรื่อง หุ่นยนต์จากฝั่งอเมริกาและญี่ปุ่นได้ท้ารบกัน จึงให้เวลาแต่ละฝ่าย 1 ปี เพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ของตัวเองให้พร้อมรบ และในปีนี้พวกเขาได้พร้อมที่จะตะบันกันแล้ว!!! เมื่อ 2 ปีที่แล้วได้มีการออกมาส่งสารท้ารบจาก MegaBots Inc ผู้พัฒนาหุ่นยนต์ MegaBots จากฝั่งอเมริกาไปยังหุ่นยนต์ KURATAS ของบริษัท Suidobashi Heavy Industry ในประเทศญี่ปุ่นให้ออกมาลองฟัดกันดูหน่อย ว่าใครจะเจ๋งกว่ากัน เห็นหุ่นยนต์แล้วงานนี้ต้องเดือดแน่นอน! ลองนึกดูว่า หากการต่อสู้ของหุ่นยนต์ทั้งสองตัวเป็นแค่การยืนอยู่ห่างๆ กันแล้วยิงปืนใส่กัน มันก็ไม่น่าสนุกใช่ไหมล่ะ การต่อสู้ในครั้งนี้จึงมีข้อตกลงว่าจะให้หุ่นยนต์ทั้งสองต่อสู้กันในระยะประชิด โดยไม่มีการห้ามเกิดขึ้นอย่างแน่นอน หน้าตาของหุ่นยนต์ Megabots หุ่นยนต์จากทางฝั่งอเมริกาได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลคร่าวๆ ว่าหุ่นตัวนี้มีความสูง 12 ฟุตและมีการติดตั้งกรงเล็บไว้เพื่อสำหรับจับ และมีอาวุธที่น่าจะเป็นทีเด็ดของหุ่นตัวนี้คือ ใบเลื่อยที่คมกริบ แต่ในทางกลับกันหุ่นยนต์ Kuratas จากญี่ปุ่นกลับไม่ได้เผยข้อมูลอะไรออกมามากนัก ว่าจะมีอาวุธอะไรมาต่อกรกับหุ่นยนต์ยักษ์จากอเมริกา โดยพวกเขาได้ออกมาเผยเพียงแค่วีดีโอแนะนำตัวสั้นๆ เท่านั้น หุ่นยนต์จากญี่ปุ่นก็น่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย การปะทะของหุ่นยนต์สองตัวนี้เกิดขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมาของอเมริกา ซึ่งตรงกับประมาณ 02.00 ในวันที่ 18 ตุลาคมของประเทศไทย และถ่ายถ่ายทอดสดผ่าน Twitch และ YouTube ให้คนทั้งโลกได้ติดตามชมพร้อมกัน และนี่คือภาพส่วนหนึ่งของบรรยากาศการท้าดวลในครั้งนี้ ดูเรียกน้ำย่อยก่อนเข้าไปชมคลิปได้เช่นกันครับ… . .…
-
ไปชมกันว่า “อาหารกลางวัน” ของเด็กในโรงเรียนแต่ละประเทศจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
ในตอนที่เราเป็นเด็กเวลาไปโรงเรียนตอนพักเที่ยงเราก็จะได้กินอาหารที่ทางโรงเรียนเตรียมเอาไว้ให้ ซึ่งอาจทำให้หลายคนจดจำมาได้จนถึงตอนนี้ ซึ่งหน้าตาของอาหารที่เราต้องเจอในแต่ละวันก็จะไม่ได้แตกต่างกันมาก แล้วหน้าตาของอาหารกลางวันประเทศอื่นๆ หน้าตามันจะเป็นอย่างไร จะดูคล้ายกับที่เราเคยกินตอนเด็กหรือเปล่า? เราไปดูกันเลยว่าแต่ละประเทศมีอาหารกลางวันเป็นแบบไหนกันบ้าง เกาหลีใต้ อาหารกลางวันของที่นี่เรียกว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดมื้ออาหารได้เลย โดยจะแบ่งช่องใหญ่ไว้สำหรับใส่ข้าวและซุป นอกนั้นเป็นผักผลไม้หรืออาหารทะเล ซึ่งส่วนใหญ่อาหารที่เด็กได้กินก็จะเป็นซุปฟักทองมันฝรั่ง สลัดแตงกวาและแครอท หรือของขึ้นชื่ออย่างกิมจิ นอกจากนั้นหากเด็กคนไหนตัวเล็กกว่าปกติพวกเขาก็จะให้เด็กได้กินน้ำมันปลาที่ผ่านการคำนวนมาแล้วอีกด้วย ญี่ปุ่น ดูแล้วมีความคล้ายคลึงกับของเกาหลีอยู่บ้างที่เพิ่มมาจริงๆ ก็คือนมกล่อง เด็กญี่ปุ่นไม่สามารถห่อข้าวมากินเองได้จนกว่าจะขึ้นมัธยมปลายและการกินข้าวเที่ยงจะไม่ได้ไปกินที่โรงอาหารแต่จะมีมาเสิร์ฟให้กินในห้องเรียนแทน อังกฤษ มันฝรั่งทอด แครอทมาพร้อมกับโจ๊กและสลัดกับผลไม้ ของหวานจะเป็นวาฟเฟิลราดช็อกโกแลต แต่ก็มีหลายโรงเรียนที่มีงบไม่พอทำให้ต้องแจกอาหารฟาสต์ฟู้ดแทน ถึงอย่างนั้นเด็กๆ ก็ชอบกินกันนะ สหรัฐอเมริกา นี่คืออาหารกลางวันในรัฐเวอร์จิเนียซึ่งความเป็นจริงจะแตกต่างกับอาหารที่เด็กอเมริกันส่วนใหญ่กิน เพราะพวกเขานิยมฟาสต์ฟู้ดกันมากกว่า หรือไม่งั้นพ่อแม่ก็จะห่อข้าวให้ ตุรกี เป็นอาหารที่บำรุงสมองอย่างแท้จริงเพราะเต็มไปด้วยผลไม้และธัญพืชจากขนมปังข้าวไรย์ ถั่ววอลนัท และเครื่องดื่ม Kefir ที่ทำมาจากนมวัว ฝรั่งเศส อาหารกลางวันของประเทศนี้ค่อนข้างที่จะเป็นมื้อใหญ่และพวกเขาจะให้เวลา 1 ถึง 2 ชั่วโมงในการรับประทาน นอกจากนั้นเด็กๆ ยังสามารถกลับไปกินข้าวที่บ้านระหว่างพักได้…
-
เหล่านักบินสาวเน็ตไอดอล ที่พวกเธอสามารถลบภาพเก่าๆ ที่ว่านักบินต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น
แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปยังไงความเชื่อเดิมๆ เกี่ยวกับอาชีพหลายๆ อาชีพที่ว่าต้องเป็นผู้ชายเท่านั้นก็ยังไม่จางหายไปไหน ซึ่งนั่นก็รวมถึงอาชีพนักบินด้วยเช่นกัน งานนี้ทาง This is Insider อยากจะลบความคิดเก่าๆ แบบนั้นก็เลยรวบรวมสาวๆ นักบินจากทั่วโลกมาให้เราได้ดูกัน แล้วเราจะรู้ว่ากัปตันเครื่องบินเก่งๆ ไมจำเป็นจะต้องเป็นแค่ผู้ชายเท่านั้น ที่สำคัญแต่ละคนสวยๆ ทั้งนั้นเลยนะ… Eva Claire Marseille นักบินสาวชาวเยอรมันวัย 31 ปี ภาพถ่ายของเธอกับเครื่องบิน Boeing 737 ด้วยความสามารถและความสวยของเธอทำให้ยอดติดตามในอินสตาแกรมมีคนตามมากกว่า 84,000 คนเลยล่ะ นอกจากจะเป็นนักบินแล้ว เธอยังชื่นชอบการท่องเที่ยวสุดๆ ถ้าใครอยากติดตามก็เข้าไปได้ที่อินสตาแกรมของเธอ flywitheva มาต่อกันที่นักบินสาวชาวเตอร์กิช Eser Aksan Erdogan วัย 31 ปี ตัวเธอนั้นเป็นนักบินให้แก่เครื่อง Boeing 737 ของสายการบิน Pegasus Airline เธอรักในอาชีพนี้มากๆ เพราะทุกครั้งของการทำงาน ภาพที่เธอจะได้เห็นไม่เหมือนเดิมเลยสักครั้ง เอาเป็นว่าใครอยากติดตามก็เชิญไปต่อได้ที่อินสตาแกรมของเธอ @echosierra85 …
-
กว่าจะมาเป็นเมะ… เผยภาพเบื้องหลังของทีมงานสร้างอนิเมะ หลากหลายขั้นตอนเสียเหลือเกิน
ในปัจจุบันนั้นเราจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อนิเมะจากฝั่งญี่ปุ่นถือเป็นวัฒนธรรมเด่นที่สามารถทำให้คนทั้งโลกชื่นชอบและเข้าถึงได้ไม่ยาก จนตอนนี้ก็มีการผลิตอนิเมะเรื่องต่างๆ มากมายออกมาแข่งกันไม่หวาดไม่ไหว ยิ่งไปกว่านั้นคือ อนิเมะหลายเรื่องที่ครองตลาดอยู่นั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นอนิเมะเรื่องยาว และใช้เวลานานมากๆ ในการทำแต่ละตอน จนเราก็อาจจะรู้สึกสงสัยว่า พวกเขาใช้เวลานานขนาดไหน ทำยังไงถึงจะสร้างอนิเมะดีๆ ออกมาสักเรื่องหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ทาง Naver และ Oeker สองเว็บไซต์จากเกาหลีจึงหยิบเบื้องหลังการทำงานของอนิเมะเรื่อง Love, Chunibyo & Other Delusions จากสตูดิโอ Kyoto Animation มาให้เราได้ดูกัน ซึ่งเราจะเห็นได้เลยว่ากว่าจะมาเป็นอนิเมะเรื่องดังกล่าวได้นั้นมีขั้นตอนมากขนาดไหน เริ่มกันตั้งแต่วาดบนกระดาษทีละแผ่นๆ . . . และเมื่อได้หลายแผ่น เอามาเปิดต่อๆ กันก็จะเกิดเป็นเวทมนตร์ขึ้นมา!! เตรียมตัว!! มาแล้ววว… จากนั้นขั้นตอนทั้งหมดก็จะถูกทำต่อในคอมพิวเตอร์ . . . มีการประชุมแนวทางด้วยนะ . . กว่าจะมาเป็นอนิเมะแต่ละตอนได้ช่างยากลำบากสุดๆ . . กว่าจะได้ฉากแต่ละฉาก ต้องหาข้อมูลจากสถานที่จริง เพื่อใช้เป็นแบบอีก เยอะแยะไปหมด ยิ่งฉากในการ์ตูนต่อสู้ยิ่งแล้วใหญ่ …
-
เปิดคลิปเหตุการณ์ในเครื่อง Air Asia ลดระดับ 20,000 ฟุต ผู้โดยสารใจเสีย-แอร์กรีดร้อง
กลายเป็นประเด็นร้อนในรอบวันนี้เลยก็ว่าได้ หลังจากที่มีการรายงานอุบัติเหตุอันน่าระทึกขวัญที่เกิดขึ้นกับไฟลท์บิน QZ535 ของสายการบินแอร์เอเชีย โดยเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า ไฟลท์ดังกล่าวจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติเมืองเพิร์ท และมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่เดนปาซาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ทว่าหลังออกเดินทางได้เพียง 25 นาที จู่ๆ ความดันในห้องโดยสารก็ลดลงอย่างกระทันหัน จนหน้ากากออกซิเจนร่วงลงมาจากเพดาน อีกทั้งยังมีการรายงานว่า เครื่องบินดังกล่าวได้ลดระดับจาก 32,000 ฟุต ลงมาอยู่ที่ 10,000 ฟุตภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น และนี่คือคลิปวิดีโอจากในเหตุการณ์… ผู้โดยสารคนหนึ่งเล่าว่า เป็นช่วงเวลาที่โกลาหลมากสุดๆ หลังจากที่จู่ๆ มีพนักงานบนเครื่องคนหนึ่งกรีดร้องวิ่งไปมา และร้องไห้ด้วยความกลัว แม้ว่าในท้ายที่สุดกัปตันจะสามารถนำเครื่องบินกลับมาลงจอดได้อย่างปลอดภัย แต่ผู้โดยสารหลายคนก็ได้ว่ากล่าวตำหนิถึงการทำงานของพนักงานบนเครื่องบิน.. ผู้โดยสาร Janet Canning เล่าว่า “หลังจากที่มีพนักงานบนเครื่องบินสติแตก ผู้โดยสารคนอื่นต่างก็รู้สึกหวาดกลัวตามทันที เราคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้รอดกลับมาอีกแล้ว หลายคนใช้เวลาบอกลาซึ่งกันและกัน หลายคนส่งข้อความกลับไปบอกลาครอบครัว” แม้หลังเหตุการณ์สงบ AirAsia จะออกมาแถลงการณ์ขอโทษผู้โดยสารทุกท่าน แต่ดูเหมือนว่าประเด็นความปลอดภัยของสายการบินโลว์คอสท์จะถูกนำมาพูดถึงกันมากขึ้น สำนักข่าว BBC ได้รายงานว่า เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน…
-
หญิงตัดสินใจช่วยคนไร้บ้านที่กำลังร้องไห้กับความทุกข์ แม้ทั้งคู่จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ตาม…
ปกติแล้วเวลาที่เราเห็นคนแปลกหน้าที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อนนั่งร้องไห้อยู่ เป็นเราจะทำยังไง จะเดินไปปลอบเขาคนนั้น หรือจะทำแค่มองแล้วก็คิดว่าเขาเจอกับอะไรมาถึงได้ร้องไห้กัน… โดยปกติแล้ว เราก็คงเลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่งเพราะเราคงไม่อยากจะมีปัญหาตามมาหรือถูกมองว่าไปยุ่งเรื่องของเขา แต่กลับกันในเรื่องนี้การเข้าไปถามคนๆ หนึ่งว่าโอเคไหมต้องการอะไรหรือเปล่า กับทำให้เรื่องอบอุ่นหัวใจก่อตัวขึ้น… Katy Hurst หญิงคนหนึ่งที่ตั้งใจจะไปซื้ออาหารที่ร้านเบอร์เกอร์คิง ในเมืองอินดิเพนเดนซ์ รัฐมิสซูรี แต่แล้วเธอก็มองไปเห็นชายคนหนึ่งริมหน้าต่างกำลังนั่งร้องไห้ พร้อมกับเอามือกุมขมับอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าเธอไม่รู้จักชายคนดังกล่าวหรอก แต่ในเวลาไม่นาน เธอก็จำได้ว่าชายคนนั้นคือชายไร้บ้านที่เธอมักจะเห็นบ่อยๆ ในชุมชนของเธอ ซึ่งเขามักไปไหนมาไหนพร้อมกับจักรยานที่มีตระกร้าอยู่ข้างหลังเสมอ ด้วยความที่เธอเป็นคนใจดี Katy เลยตัดสินใจเข้าไปพูดคุยกับชายแปลกหน้าว่าเขาเป็นอะไร ทำไมถึงร้องไห้ ซึ่งนั่นทำให้เธอได้รู้ว่าชายคนนี้ผู้คนเรียกเขาว่า Pops อายุ 57 ปี และเขาก็กำลังตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย พอได้ยินแบบนั้นด้าน Katy ก็คงจะยอมไม่ได้ เธอจึงเสนอให้ Pops ไปที่บ้านเธอ เธอจะช่วยให้เขารู้สึกอยากมีชีวิตอีกครั้ง เธอได้เสนอผ้าอุ่นๆ อาหารอร่อยๆ ที่พักดีๆ ให้กับชายไร้บ้านคนดังกล่าว Pops ได้บอกไว้ว่า เขาอยากจะจบชีวิต เขาอยากจะให้มันผ่านไปเสียที แต่ Katy ก็ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น เธอเริ่มดูแลเขาทีละอย่างตั้งแต่อาหารการกิน ที่พัก ไปจนถึงการเป็นอยู่และเข้าตรวจสุขภาพ…
-
จุดเริ่มต้นและที่มาของคำว่า ‘Bikini’ ชุดว่ายน้ำที่ทั้งสาวๆ และหนุ่มๆ ชื่นชอบ
เวลาที่เราไปเที่ยวทะเลเดินเล่นตามชายหาดหรือไปสระว่ายน้ำก็คงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นสาวๆ ใส่ชุดว่ายน้ำที่เราเรียกกันว่า บิกินี่ (Bikini) เพื่อโชว์สรีระเรือนร่างที่ทำให้หนุ่มๆ รู้สึกเพลิดเพลินสบายตา แต่เราเคยรู้มาก่อนมั้ยว่าเสื้อผ้าประเภทนี้เริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วทำไมถึงต้องเรียกว่าบิกินี่ด้วย #เหมียวตะปู จะมาเล่าถึงที่มาของมันให้เพื่อนๆ ทุกคนได้ทราบกัน ภาพอันเก่าแก่ชื่อ Roman Villa Romana del Casale ที่ถูกพบในซิซิลี นักโบราณคดีได้ค้นพบภาพวาดอันเก่าแก่ของโรมันที่มีมาตั้งแต่ในช่วงปีค.ศ. 286 – 305 ที่เผยให้เห็นหญิงสาวสวมชุดที่คล้ายคลึงกับบิกินี่ในปัจจุบัน แต่หากพูดถึงจุดเริ่มต้นของการคิดค้นจนกลายมาเป็นที่นิยมจนถึงตอนนี้ มันได้เริ่มต้นขึ้นในปี 1946 โดยนักออกแบบที่ชื่อว่า Louis Reard เขาได้ตั้งชื่อเครื่องแต่งกายนี้ว่าบิกินี่ตามชื่อของสถานที่ที่ใช้ในการทดสอบระเบิดปรมาณูที่ชื่อว่า Bikini Atoll เพราะเขาเชื่อว่าชุดว่ายน้ำรูปแบบใหม่นี้จะทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนกับครั้งแรกที่ได้เห็นความรุนแรงของระเบิดปรมาณู อารมณ์แบบช็อคจนต้องอุทานออกมาว่า “ว๊าววว!!” ในขณะนั้นก็มีชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อ Jacques Heim ที่ออกแบบชุดว่ายน้ำในลักษณะเดียวกันออกมาและตั้งชื่อว่า Atome จากคำว่า Atom หรือระเบิดปรมาณูที่มีการคิดค้นในช่วงนั้นพร้อมกับประกาศอีกว่าชุดว่ายน้ำของตนมีขนาดเล็กมากที่สุดในโลก แต่ในความเป็นจริงชุดที่ออกแบบโดย Louis มีขนาดเล็กกว่ามาก ใช้เนื้อผ้าความยาวแค่ 76 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ด้วยขนาดที่เล็กนิดเดียวจึงติดปัญหาในเรื่องของการหานางแบบที่กล้าพอจะมาใส่ชุดแบบนี้ได้ จนกระทั่งเขาได้พบกับ…
-
ความประทับใจของหนูน้อยวัย 9 ขวบ หลังจากที่ได้อ่านหนังสือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” เป็นครั้งแรก
สำหรับแฟนๆ พ่อมดแม่มดทั้งหลาย เราเชื่อว่าหลายคนคงจะจำความรู้สึกในตอนที่อ่านหนังสือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” เป็นครั้งแรกได้ นั่นอาจจะทำให้หลายคนรู้สึกสนุก ตื่นเต้น ประทับใจ และหลงใหลในตัวละครต่างๆ กันไปเป็นที่เรียบร้อย ถ้างั้น Ellie หนูน้อยวัย 9 ขวบ จากเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกาคนนี้ ก็ไม่ต่างไปจากพวกคุณน่ะสิ เพราะหลังจากที่เธอได้เริ่มอ่านหนังสือดังกล่าว หนูน้อยก็รู้สึกประทับใจ แถมยังแอบเขียนคำถามตอนต่อไปทิ้งลงในกระดาษโน๊ตซะด้วย เมื่อ Teresa Eschmann แม่ของ Ellie เห็นว่าลูกสาวสุดรักของเธอกำลังเขียนคำถามเกี่ยวกับหนังสือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์” ลงในกระดาษโน้ตใบเล็กๆ เธอก็ได้แอบบันทึกภาพของลูกสาว แล้วนำภาพถ่ายดังกล่าวไปให้น้องสาวดู จนในที่สุดความน่ารักเหล่านี้ก็ได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ Reddit จนได้รับความสนใจมากมายจากบรรดาชาวเน็ต “สเนปน่าสงสัย ฉันสงสัยว่าเขากำลังจะทำอะไร” “เมื่ออยู่ในชั้นเรียน ครูของเธอพยายามที่จะทำให้เด็กเกิดความสงสัย และตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้อ่าน บางครั้งก็จะให้เขียนในสิ่งที่กำลังสงสัยลงไป และนั่นก็ทำให้ลูกสาวของฉันได้ตัดสินใจตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจังลงในกระดาษชิ้นเล็กๆ” Teresa กล่าว “แฮร์รี่จะทำได้ดีไหมในควิดดิชนัดแรกของเขา” นอกจากนี้…
-
ตามส่องภาพชุดเจ้าสาวแสนสวยของเจ้าหญิงจาก 15 ราชวงศ์ในวันอภิเษกสมรส
งานอภิเษกสมรสของราชวงศ์ต่างๆ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การแสดงความรักของคนสองคนเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องระดับชาติ หรือบางครั้งก็เป็นเรื่องระหว่างประเทศ ที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน รวมถึงผู้คนทั่วโลกอีกด้วย ต้องยอมรับเลยว่า หนึ่งในสิ่งที่ได้รับความสนใจและถูกจับตามองเป็นพิเศษ นอกเหนือจากการอภิเษกสมรสก็คือ ชุดเจ้าสาวจากราชวงศ์ต่างๆ โดยครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอพาเพื่อนๆ ทุกคนมารับชม 15 ชุดเจ้าสาวแสนสวยจากราชวงศ์ทั่วโลก ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำให้เราได้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ความชื่นชอบที่แตกต่างกันออกไปด้วย ซึ่งบางชุดก็ดูเรียบง่าย บางชุดก็จะถูกปักด้วยลายลูกไม้ที่หลากหลาย หรือบางชุดก็ประดับไปด้วยลูกปัด และไข่มุกอันงดงาม ว่าแล้วก็มารับชมกันเลย 1. เจ้าหญิง Claire แห่งลักเซมเบิร์ก ในชุดแต่งงานลูกไม้สุดอลังการจากผลงานของนักออกแบบชื่อดัง Elie Saab 2. เจ้าหญิง Sofia แห่งสวีเดน เลือกชุดแต่งงานสีขาวลายลูกไม้ของนักออกแบบแฟชั่น Ida Sjöstedt 3. เจ้าหญิง Charlene แห่งโมนาโก กับชุดแต่งงานสีขาวอันเรียบง่ายฉลุลายลูกไม้อย่างประณีตจากแบรนด์อาร์มานี่ 4. เจ้าหญิง Dayangku Raabi’atul ‘Adawiyyah Pengiran Haji Bolkiah แห่งบรูไน…
-
ส่องความหล่อ Sebastian Kurz นายกฯ คนใหม่ออสเตรีย ขึ้นแท่นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในโลก
ถือเป็นอีกหนึ่งผู้นำที่กำลังถูกทั่วโลกจับตาอยู่ ณ ขณะนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับ Sebastian Kurz วัย 31 ปี หัวหน้าพรรคประชาชน ซึ่งเร็วๆ นี้ เขากำลังจะได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของออสเตรียอย่างเต็มตัว ภายหลังจากที่สามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศมาได้ และด้วยความที่เขาอายุยังน้อย นั่นทำให้ Kurz ได้กลายเป็นผู้นำที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม ผู้นำหนุ่มคนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความสามารถในด้านทางการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่เขายังมาพร้อมกับความหล่อเหล่า แถมรูปร่างรวมถึงบุคลิกก็ดี๊ดี งานนี้บอกเลยว่าถูกใจสาวๆ ทั่วโลกเป็นอย่างมาก สำหรับ Sebastian เขาเคยกลายเป็นกระแสฮือฮาไปทั่วโลกออนไลน์มาแล้ว เพราะก่อนหน้านี้เขาเป็นนักการเมืองหนุ่มดาวรุ่งพุ่งแรงที่ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคของประชาชน เมื่อตอนที่อายุเพียง 27 เท่านั้น และด้วยความที่เขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถมากมาย บวกกับมีแนวคิดอนุรักษ์นิยม ดังนั้น จึงทำให้ Sebastian ได้รับความสนใจจากประชาชนออสเตรียมากขึ้นเรื่อยๆ จนได้รับฉายาว่า “Wonderwuzzi” ซึ่งหมายถึง ผู้ที่สามารถเดินอยู่บนน้ำได้ นอกจากนี้ เขายังถูกนำไปเปรียบกับผู้นำอายุน้อยจากแคนาดาอย่าง Justin Trudeau และ Emmanuel Macron จากฝรั่งเศส…
-
คุณแม่ผิวสีถูกชาวเน็ตด่าว่า “น่ารังเกียจ” หลังโพสต์ภาพขณะกำลังตั้งครรภ์ลงบนโลกโซเชียล
ทุกวันนี้อินเตอร์เน็ตทำการแสดงความเห็นต่อสิ่งต่างๆ เป็นเรื่องง่ายดายขึ้น จนหลายๆ คนสามารถแสดงความเห็นต่อเรื่องราวได้อย่างสนุกปาก แต่บางครั้งการพิมพ์ด้วยความสนุกปากเหล่านั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ถูกกระทำอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้หญิงที่กำลังอยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์… และ Porsche Thomas คุณแม่ที่ตั้งท้องลูกแฝดก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะต้องมาเผชิญกับเรื่องแบบนี้ด้วย เพราะภายหลังจากที่เธอได้โพสต์ภาพของตัวเองลงในโลกออนไลน์ บรรดานักเลงคีบอร์ดทั้งหลายต่างก็พากันเข้ามาโจมตีเธอด้วยคำพูดที่ดูถูกเหยียดหยาม ในช่วงที่ Porsche มีอายุครรภ์ 35 สัปดาห์ เธอรู้มีความสุขเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าเธอกำลังจะมีลูกแฝด แต่เมื่อเธอได้โพสต์ภาพถายขณะตั้งท้องของตัวเองลงในโลกออนไลน์ ความคิดเห็นที่แสนหยาบคายก็เริ่มปรากฏขึ้นเรื่อยๆ เพราะผู้คนเหล่านั้นได้แสดงความเห็นต่อภาพของเธอว่า “น่ารังเกียจ” พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าทำไมท้องของเธอถึงเป็น “สีดำ” โชคดีที่ Porsche ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านกับคำวิจารณ์แย่ๆ เหล่านี้ เพราะแทนที่เธอจะโจมตีกลับด้วยถ้อยคำที่เจ็บแสบ แต่เธอกลับตอบสนองพวกคนที่ชอบก่อกวนเหล่านั้น โดยการโพสต์ภาพอีกรูปแบบหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความงดงาม และความมหัศจรรย์ของคนผิวสี “ในขณะที่คนบางคนได้เข้ามาวิจารณ์เรื่องท้องของฉัน ระหว่างนั้นฉันกำลังสนุกอยู่กับการใช้ชีวิต เฝ้าดูการเติบโตของมนุษย์ตัวน้อยๆ รอคอยปาฏิหาริย์และหวังว่าพวกเขาจะเกิดมามีผิวสีดำ” Porsche กล่าว และเมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา เธอก็ได้ให้กำเนิด August และ Berlin ฝาแฝดตัวน้อยที่น่ารักที่สุดแล้ว…
-
เพราะขาดแคลนอาหาร “ลูกเพนกวิ้น”นับหมื่นพากันอดตาย ผู้รอดชีวิตคือเจ้า 2 ตัวเท่านั้น…
ความอยู่รอดของ “เพนกวินอาเดลี” ที่อยู่อาศัยทางตะวันออกของทวีปแอนตาร์กติกาหรือบริเวณขั้วโลกใต้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงไม่น้อย หลังจากที่ได้ประสบกับปัญหาขาดอาหารในช่วงฤดูผสมพันธุ์ จนเป็นเหตุให้เพนกวินตัวน้อยที่น่าสงสารนับ 10,000 ตัว ไม่สามารถเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์อันเลวร้ายได้ วันที่ 13 ตุลาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ในช่วงฤดูกาลผสมพันธุ์นี้ มีลูกเพนกวินอาเดลีได้ตายจากการขาดอาหารไปหลายหมื่นตัว และเหลือเพียงแค่ 2 ตัวเท่านั้นที่รอดชีวิต โดยสาเหตุหลักมาจากปริมาณน้ำแข็งที่สูงขึ้นผิดปกติ นั่นจึงทำให้พ่อแม่เพนกวินต้องออกเดินทางข้ามแอนตาร์กติกาในระยะทางไกลที่ขึ้น เพื่อไปหาอาหาร และด้วยเวลาที่นานขึ้นทำให้ลูกเพนกวินตัวน้อยๆ รอคอยอาหารไม่ไหว และพากันอดตาย นับได้ว่าเป็นฤดูกาลแพร่พันธุ์ที่เลวร้ายที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากเมื่อปี 2015 ซึ่งเพนกวินที่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้เลยแม้แต่ตัวเดียว เหตุการณ์อันร้ายแรงที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ทางกลุ่มอนุรักษ์จำนวนมาก ได้ออกมาเรียกร้องให้มีมาตรการจัดตั้งพื้นที่คุ้มครองทางทะเลทางตะวันออกของทวีปแอนตาร์กติกาอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการป้องกันอาณาจักรเพนกวินที่มีจำนวนประชากรราว 36,000 ตัวนั่นเอง “เพนกวินอาเดลี เป็นหนึ่งในสัตว์ที่น่ารักที่สุดและน่าอัศจรรย์ที่สุดในโลก ความเสี่ยงในการเปิดอุตสาหกรรมประมงจะยิ่งเป็นการคุกคามและกระทบต่อการขยายพันธุ์ของสัตว์ในพื้นที่แอนตาร์กติกา และถ้าหากมีการห้ามจับสัตว์ทะเลในพื้นที่ดังกล่าว ก็จะเป็นการช่วยลดการแข่งขันในการหาอาหารของเพนกวินหลายสายพันธุ์ รวมถึงสัตว์ชนิดอื่นๆ ให้ยังคงมีชีวิตอยู่รอดได้” Rod Downie หัวหน้าโครงการ World Wide Fund…
-
19 ภาพผลงานการ D.I.Y สิ่งต่างๆ ที่ผสมผสานความเจ๋งและความฮา ในแบบที่คาดไม่ถึง!!
การดัดแปลงสิ่งของหรือการ D.I.Y ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงสิ่งของเก่าๆ ให้กลับมาดูใหม่ และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แถมยังไม่เปลืองเงินของเราอีกด้วย และทั้งหมดนี้คือ การ D.I.Y สิ่งต่างๆ ที่มีทั้งความแปลก และความฮาในแบบที่เราคาดไม่ถึง บอกเลยว่าถ้าไม่ใช่อัจฉริยะตัวจริงคงทำไม่ได้นะเนี่ยยยยยยย เพิ่มความฟรุ้งฟริ้งให้ฝารองด้วยที่หุ้มแบบถักเอง ก้นบุหรี่ก็สามารถเปลี่ยนมาเป็นสิ่งประดิษฐ์สุดเจ๋งได้ ต่างหูจากแขนตุ๊กตา เป็นกระปุกวาสลีนที่มีความแพรวพราวที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา และนี่คือบิกินี่ตัวจิ๋วในแบบที่ไม่ซ้ำใคร หลอดยาสีฟันถูกเปลี่ยนมาเป็นกระเป๋าตังค์เก็บเหรียญ ถุงยางอนามัยถูกนำมาสร้างสรรค์ให้กลายเป็นเครื่องประดับสุดเก๋ ชุดชั้นในจากผลงานของคนอัจฉริยะ ดัดแปลงยีนส์เก่าๆ ให้กลายเป็นที่หุ้มเบาะ ศิลปะหน้ารถ รองเท้าส้นสูงมันแพงนักใช่ไหม ถ้างั้นทำเองเลยก็แล้วกัน ง่ายดี!! อยากได้ดอกไม้สักช่อไหม แหวกแนวไม่เหมือนใครดีนะ Fidget Spinner ของเล่นสุดคูลที่กินได้ด้วยนะ ฮร่าๆ ซากแมลงกลายเป็นศิลปะบนเล็บมือของสาวๆ รถที่ดูสะดุดตาผู้คนมากกกกก ถุงยางอนามัยแบบถักช่วยมอบความอบอุ่นให้น้องชายในช่วงหน้าหนาว แก้วไวน์จากหัวตุ๊กตาที่ดูหลอนมากกก…
-
คู่รักรับเด็ก 3 พี่น้องมาเลี้ยง แต่มารู้ภายหลังว่าพวกเขามีน้องเล็กอีกคน เลยขอให้เพื่อนบ้านช่วย!!
หลังจากที่ใช้เวลานานหลายปีในสถานรับเลี้ยงเด็ก Michael, Jess, Camden และ Elijah ก็ได้มีโอกาสพบกับชีวิตใหม่อีกครั้งหลังจากที่พวกเขาได้พบกับสองสามีภรรยาผู้ใจบุญ ถึงแม้ว่าคุณ Julia Washington และสามีของเธอจะมีลูกแท้ๆ อยู่ด้วยกันถึง 2 คนแล้ว แต่ทั้งสองก็ยังได้รับเด็กๆ ทั้ง 3 เข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาเพิ่มอีก และถึงแม้ว่าการมีสมาชิกในครอบครัวเพิ่มจะเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับพวกเขา และหนูน้อย Jess วัย 5 ขวบนั้นจะมีความพิการทางสมอง แต่ทั้งสองก็ได้ยื่นเรื่องขอรับบุตรบุญธรรมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่หลังจากที่รับเจ้าหนูทั้ง 3 คนเป็นลูกบุญธรรมเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็พบว่าเด็กๆ ทั้ง 3 ยังมีน้องสุดท้องอีกหนึ่งคนนั่นก็คือ หนูน้อย Elijah วัย 17 เดือนนั่นเอง “เรารู้ดีว่ามีเด็กๆ ประมาณ 2 ถึง 5 คน และหนึ่งในนั้นก็ต้องการการดูแลอย่างเป็นพิเศษ บางคนอาจจะต้องแยกจากพี่น้องของเขาไปอยู่ที่ไกลๆ ถ้าหากเราไม่รับพวกเขาไว้ทั้งหมด” คุณ Julia กล่าว การดูแลเด็กๆ มาถึง 7 คนอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับครอบครัวของ Julia เธอจึงได้ปรึกษากับเพื่อนบ้านและเพื่อนสนิทของเธออย่างคุณ Jay Houston เพื่อช่วยรับดูแลพวกเด็กๆ…
-
ตามส่องภาพแจ่มๆ ของ “เทพเจ้าธอร์” โชว์หุ่นสุดล่ำขณะไปพักร้อนเล่นที่ชายหาดในออสเตรเลีย
เมื่อวันศุกร์ ที่ 14 ตุลาคม 2560 Chris Hemsworth นักแสดงหนุ่มร่างบึกที่หลายคนรู้จักกันดีในบทเทพเจ้าธอร์ ได้ไปพักร้อนชิวๆ ที่ชายหาดโกลด์โคสต์ (Gold Coast) ทางตอนใต้ของเมืองบริสเบน ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย งานนี้ทำเอาพื้นที่บริเวณดังกล่าวถึงขั้นร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เพราะนอกจากความหล่อออร่ากระจายของเขาแล้ว หนุ่ม Chris ยังมาพร้อมกับหุ่นสุดล่ำบึกที่สาวๆ เห็นแล้วจะต้องหลงใหลกันเป็นแถว อู้ววววหูวววว กล้ามเป็นมัดๆ แบบนี้ไม่เพียงแค่สาวๆ เท่านั้นจะชื่นชอบ เพราะแม้แต่หนุ่มๆ บางคนยังรู้สึกอิจฉาและอยากมีหุ่นสุดเพอร์เฟกต์แบบนี้บ้าง สำหรับ Chris Hemsworth เขาเป็นนักแสดงชื่อดังวัย 33 ปีที่หลายคนรู้จักกันดีในบทบาทของ “เทพเจ้าธอร์” หนึ่งในซุปเปอร์ฮีโร่ของมาเวล และไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูดีไปซะหมดจนสาวๆ ถึงขั้นกรี๊ดสลบไปเลย เพราะหุ่นสุดล้ำที่น่าขย้ำนี้ ยังเคยทำให้เขาได้เป็นหนึ่งในนักแสดงหนุ่มที่เซ็กซี่ที่สุดในปี 2014 อีกด้วย อื้อหือออ คือดีย์ Chris ได้แต่งงานกับ Elsa Pataky ดาราชาวสเปน เมื่อปี…
-
ทุกคนขับรถหลบเจ้าไก่ไป แต่ชายหนุ่มคนนี้จอดช่วยเหลือและรับมันมาเป็นสมาชิกในครอบครัว
การช่วยเหลือเราสามารถลงมือทำได้ในทุกสถานการณ์ เช่นเดียวกันกับชายคนนี้ที่เขาเลือกที่จะช่วยเหลือชีวิตน้อยๆ มากกว่าที่จะปล่อยให้มันผ่านไป เมื่อเดือนมีนาคมปี 2017 ชายหนุ่มที่ชื่อว่า Warren Padgette กำลังขับรถกลับบ้านที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐวอชิงตัน เขาได้สังเกตเห็นว่ารถคันข้างหน้าเหมือนกับหักเลี้ยวหลบอะไรบางอย่างบนถนน หนุ่มอเมริกันที่ต้องเจอกับสิ่งที่ตนเองไม่คาดคิด ด้วยความสงสัยเขาจึงพยายามเพ่งมองดูว่าสิ่งนั้นคืออะไร และเขาก็ได้เห็นเจ้าไก่ในสภาพอิดโรยที่คาดว่ามันน่าจะตกลงมาจากรถบรรทุกที่กำลังจะพามันไปโรงเชือด แทนที่เขาจะขับหลบและปล่อยมันผ่านไปเหมือนกับคนอื่นๆ เขาตัดสินใจจอดรถและลงไปอุ้มมันขึ้นมาขณะที่เจ้าไก่หันมองและกระพริบตาให้หนึ่งที ก่อนที่เขาจะอุ้มมันไปไว้ตรงเบาะหลังพามันกลับบ้านไปด้วยกัน เขาไม่สามารถปล่อยมันผ่านไปได้เขาจึงรีบลงไปอุ้มมันขึ้นมาทันที เขาได้ตั้งชื่อให้มันว่า Lucky เพราะมันเป็นเจ้าไก่ที่โชคดีรอดมาจาการถูกเชือดได้ แต่ถึงอย่างไรร่างกายของมันก็อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ตอนนั้นแค่จะยืนด้วยขาของตัวเองมันก็ทำไม่ได้เพราะหน้าอกมีน้ำหนักมากกว่าปกติจากการที่ถูกเลี้ยงดูมาให้โตเร็วเกินไปเพื่อทำให้ได้เนื้อเยอะๆ ร่างกายของมันผ่านการเลี้ยงดูมาเพื่อเป็นอาหาร ทำให้ไม่สามารถยืนได้เอง ชายหนุ่มรีบรักษาพยาบาลคอยดูแลเอาใจใส่มันอย่างเต็มที่ สร้างบ้านเล็กๆ เอาไว้ให้ที่สวนหลังบ้านและไปหาลูกเจี๊ยบมาอยู่ด้วยเพื่อให้เจ้าไก่ได้รับรู้ถึงการใช้ชีวิตที่แท้จริง รวมถึงแพะที่เขาหามาเป็นเพื่อนต่างสายพันธุ์ให้กับมัน ขั้นแรกอาบน้ำให้มันสดชื่นขึ้น บ้านหลังเล็กที่มันจะได้อยู่อย่างเป็นสุขนับจากนี้ไป ด้วยความรักความเอาใจใส่จนทำให้ตอนนี้เจ้า Lucky ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขาไปแล้ว มันจะชอบมาเกาะอยู่ที่ไหล่หรือเดินตามไปไหนมาไหนด้วยกันกับเขาอยู่เสมอ กลายเป็นเพื่อนซี้ที่จะไม่ทิ้งกัน Warren บอกว่า “เจ้า Lucky เข้ามาเปลี่ยนมุมมองที่ผมเคยเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์ที่ต้องมาเป็นอาหารมนุษย์ จนตอนนี้เวลาที่ผมเห็นรถบรรทุกที่กำลังพาไก่มากมายไปโรงเชือด ผมรู้สึกต้องการช่วยพวกมันทุกตัวเลยจริงๆ ” คลิปเรื่องราวของเจ้าไก่ Lucky…
-
โมเม้นท์น่ารักๆ ของ ‘ลูกจิ้งจอกอาร์กติก’ ขี้สงสัยที่พยายามทำลายกล้องของนักถ่ายทำสารคดี
การถ่ายทำหนังสารคดีสัตว์ป่า จำเป็นต้องเข้าไปอยู่ในสถานที่จริงเพื่อให้ได้ภาพของสิ่งมีชีวิตต่างๆ แต่ในบางครั้งการที่เราเดินเข้าไปอาจทำให้พวกมันแตกตื่นได้ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการซ่อนกล้องเหมือนกับในครั้งนี้ เมื่อสารคดีที่ชื่อว่า Fox Tales ของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พยายามตามถ่ายชีวิตของ สุนัขจิ้งจอกอาร์กติก ด้วยวิธีการซ่อนกล้องเอาไว้ในเขตที่อยู่อาศัยของพวกมัน สุนัขจิ้งจอกสายพันธุ์นี้จะมีลักษณะของรูปลักษณ์ใบหน้าแตกต่างกับที่เราเคยเห็นเล็กน้อย แต่อุปกรณ์ดังกล่าวก็ไม่สามารถหลุดรอดสายตาของเจ้าลูกจิ้งจอกแสนซนทั้งหลายได้ พอพวกมันเริ่มสงสัยว่าสิ่งนี้คืออะไรก็เลยเข้ามาเช็คดูซะหน่อย ทำให้เราได้เห็นความน่ารักของพวกมันกันแบบใกล้ชิด เอ๊ะ นี่มันอะไรกันน่ะ?! หน้าตาน่าสงสัยต้องเข้ามาดูซะหน่อยแล้ว เห็นแล้วรู้สึกไม่น่าไว้ใจอย่างนี้ก็ต้องทำลายทิ้งซะ คนเดียวคงจัดการเองไม่ไหวต้องไปตามพรรคพวกพี่น้องของเรามาช่วยแล้ววว คลิปน่ารักๆ เมื่อลูกสุนัขจิ้งจอกพยายามทำลายกล้องที่ซ่อนไว้ เห็นน่ารักๆ อย่างนี้แล้วก็อยากจะออกไปเห็นไปทำความรู้จักกับพวกมันซักครั้งจริงๆ ถ้าได้เจอจะขอเอามากอดรัดฟัดเหวี่ยงให้หนำใจซะหน่อย ที่มา: sploid
-
“ผมไม่ห่วงรถ แต่ห่วงเมียมากกว่า” นางแบบสาวโกรธ ขับรถแฟนหนุ่มพุ่งลงน้ำ
การเลิกกัน เป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก ซึ่งอาการหลังเลิกกันของแต่ละคนก็จะมีความแตกต่างกันออกไป บางคนเลือกที่จะเงียบ บางคนเลือกที่จะออกไปสังสรรค์กับเพื่อน แต่คงไม่มีใครเหมือนกับเธอคนนี้ที่เลือกที่จะขับรถของแฟนเก่าลงไปในน้ำ!!! หญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า Kristina Kuchma อายุ 24 ปี ออกอาการโกรธอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยงหลังจาก ถูกแฟนหนุ่มผู้บริหารนามว่า Guy Gentile ขอจบความสัมพันธ์หลังจากคบกันมาหนึ่งปีครึ่ง สภาพรถที่เธอขับลงสระน้ำ เธอได้ส่งข้อความไปหาเขาว่า “คนโกหก ไหนบอกจะช่วยฉันทำธุรกิจไงล่ะ” หลังจากถูกบอกเลิก หลังจากนั้นเธอก็ส่งไปหาเขาอีกว่า “พ่อนักลงทุน ฉันได้เตรียมเซอร์ไพรส์ไว้ให้ที่หลังบ้าน หวังว่าคุณจะได้ลงทุนกับสิ่งนี้เป็นสิ่งแรกนะ” และเมื่อ Gentile นักธุรกิจวัย 41 ปี กลับมาถึงบ้านก็พบว่ารถ เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น S400 ราคากว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 3.2 ล้านบาทได้จอดแน่นิ่งอยู่ในสระน้ำ “ใจผมแทบหยุดเต้น ผมคิดว่าเธอติดอยู่ข้างในรถ ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องรถมากนักในขณะนั้น” Gentile กล่าว แต่เมื่อเขาพบว่าเธอไม่ได้อยู่ข้างในนั้น เขาก็เริ่มโกรธเธอขึ้นมาที่เธอได้ทำลายข้าวของจากน้ำพักน้ำแรงของเขา เขาได้เล่าเหตุการณ์ต่อว่า เขาและแฟนของเขาได้กินอาหารเย็นด้วยกัน และเธอได้ขอเงินจากเขา 50,000 ดอลล่าร์ เพื่อเอาไปลงทุนทำธุรกิจ แต่เขาตอบกลับไปว่า “ผมว่าคุณขอผิดคนแล้วล่ะ ถ้าคุณต้องการใครสักคนที่ลงทุนเงิน…
-
รู้จักกับ Shit Express บริการส่งขี้ถึงหน้าบ้านคนที่คุณเกลียด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะตามไปส่งให้!!
เวลาที่เราเกลียดใครซักคนเราจะทำอย่างไรที่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บแสบและสะใจเรามากที่สุด วิธีการนี้อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณก็ได้ เมื่อบริษัท Shit Express ในประเทศสโลวีเนียสามารถจัดส่งขี้แบบสดใหม่ให้คุณได้ในทุกที่ทั่วโลก เพียงแค่นั้นหากคุณไม่ชอบขี้หน้าใครก็แค่สั่งซื้อขี้ชุดใหญ่จัดไปให้ซะหน่อย โดยที่เราไม่ต้องออกแรงอะไรรอฟังข่าวดีก็เกินพอ ขี้ร้อนๆ มาส่งให้ถึงที่แล้วครับ อันแน่นเต็มๆ กล่อง คุ้มค่าราคาจริงๆ ไม่อยากจะคิดภาพเลยว่าการต้องเปิดประตูมารับพัสดุแต่ต้องมาเจอกับกองขี้เต็มหน้าบ้าน มันจะรู้สึกชวนอ้วกมากขนาดไหน แต่ถึงอย่างนั้นขี้ที่เขานำมาใช้ก็ไม่ได้เป็นขี้ของมนุษย์หรอกนะ แต่มันเป็นขี้ของม้าที่จะมีบรรจุภัณฑ์แบบเรียบง่าย น่ารักๆ หรือแบบกิ๊บเก๋ให้คุณได้เลือกตามความต้องการ และจ่ายตังผ่าน Bitcoin ที่มีมูลค่าประมาณ 500 บาทเท่านั้น สามารถติดข้อความเอาไว้ได้ด้วย บรรจุภัณฑ์ที่มีให้เลือกตามความต้องการได้เลย อย่างไรก็ตามธุรกิจประมาณนี้ก็เคยมีให้เห็นมาก่อนแล้วอย่างเช่น PoopSenders หรือ MailPoop แต่ว่าเรื่องของความน่าเชื่อถือหรือการจ่ายเงินก็ไม่สามารถสู้บริษัทน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง Shit Express นี้ได้เลยจริงๆ เพราะพวกเขาการันตีเลยว่าขี้ที่คุณสั่งไว้จะต้องส่งถึงหน้าบ้านผู้รับอย่างแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์!! มีการปิดฝาเอาไว้อย่างแน่นหนา ป้องกันการร่วงหล่นระหว่างทาง ปัจจุบันทางบริษัทก็ยังคงพัฒนากันต่อไปเพื่อให้ได้มีขี้ที่คุณสามารถเลือกใช้ได้เยอะขึ้น ไม่แน่ว่าในอนาคตก็คงจะมีขี้หมา ขี้แมวหรือขี้ช้างอะไรอย่างนี้ออกมาให้เห็นละนะ ทำไมถึงมีแต่ขี้เต็มไปหมดเลยยย นับว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่เราหลายคนอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน และเป็นวิธีเจ๋งๆ ที่นอกจากจะส่งไปให้คนที่เกลียดแล้วเรายังสามารถใช้วิธีนี้แกล้งเซอร์ไพรส์เพื่อนๆ เพื่อเรียกเสียงฮาในงานปาร์ตี้ได้อีกด้วย…
-
ภาพสุดประทับใจเมื่อ ‘เจ้าวาฬ’ มากระโดดน้ำเล่นที่อ่าวซิดนีย์ในตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน
วาฬ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่แห่งท้องทะเล มีความน่าหลงใหลทำให้ใครหลายคนอยากที่จะไปเห็นมันด้วยตาของตัวเอง โดยบ้านเราสามารถพบพวกมันได้ในฝั่งอ่าวไทย ในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ก็สามารถพบเห็นวาฬหลังค่อมได้อยู่บ่อยครั้ง จนถึงขนาดมีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ชื่อว่า Manly Ocean Adventures คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ ด้วยความโดดเด่นและสวยงามเป็นเอกลักษณ์ของพวกมันทำให้ช่างภาพผู้ได้รางวัลมามากมายอย่าง Matt Kemp ตัดสินใจตามเก็บภาพขณะที่พวกมันกำลังอพยพผ่านอ่าวซิดนีย์ ด้านหลังเป็นเส้นขอบฟ้าและวิวทิวทัศน์ของเมืองซิดนีย์ที่สวยงาม แสงธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ ด้วยระยะเวลากว่า 8 ปีที่เขาได้สังเกตและตามถ่ายพฤติกรรมของพวกมันทำให้ออกมาเป็นรูปที่สวยงามเกินคำบรรยาย ในท่วงท่าต่างๆ ของพวกมันไม่ว่าจะเป็นการใช้หางตีน้ำหรือพ่นน้ำออกมา แต่ที่พิเศษที่สุดก็คือการที่พวกมันพุ่งขึ้นมาเหนือน้ำ ชายคนนี้เลือกที่จะเก็บภาพในตอนที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นมาหรือยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังตก แสงภายในภาพจึงมีความมหัศจรรย์ดึงดูดสายตา นับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่น่าหลงใหลไม่ใช่น้อย ชูหางขึ้นมาในตอนที่สายรุ้งกำลังทอดผ่าน กระโดดขึ้นมาหมุนตัวซะนิดนึง จะอยู่ไกลขนาดไหนก็สามารถมองเห็นได้ไม่ยาก น้ำที่แตกกระจายมีความเข้ากันกับแสงและบรรยากาศอย่างไม่น่าเชื่อ บนโลกของเรามีธรรมชาติที่สวยงามจริงๆ ที่มา: dailymail
-
สวนสัตว์โทบุเตรียมโต๊ะวางดอกไม้ เพื่อระลึกถึงเจ้า ‘เกรปคุง’ แฟนคลับร่วมอาลัยไม่ขาดสาย…
ความเสียใจในการจากไปของคนที่เรารัก หลายคนคงเข้าใจความรู้สึกนั้นเป็นอย่างดี แม้ว่าที่ตายจากไปอาจไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นสัตว์ก็ตามเช่นเดียวกับเพนกวินน้อยสายพันธุ์ฮัมโบลต์ที่โด่งดังในประเทศญี่ปุ่นตัวนี้ เพนกวินตัวนั้นมีชื่อว่า เกรปคุง ก่อนหน้านี้มันมีอาการป่วยที่รุนแรงมาตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา จากโรคที่เกิดขึ้นเฉพาะกับเพนกวิน และด้วยอายุที่มากถึง 20 ปี (ซึ่งเทียบเท่าได้กับคนอายุ 80 เข้าไปแล้ว) ทำให้อาการของมันแย่ลงไปอีก ต่อมาไม่นานในวันที่ 12 ตุลาคมมันก็ได้จากโลกนี้ไป สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับแฟนคลับของมันทั่วโลก ทางสวนสัตว์โทบุในเขตไซตามะ จึงได้ทำการสร้างอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงเจ้าเพนกวินน้อยตัวนี้ อนุสรณ์ชั่วคราวของเพนกวินอันเป็นที่รัก เหล่าแฟนคลับต่างพากันเข้ามาแสดงความเสียใจกับการจากไปในครั้งนี้ เหตุผลที่เจ้าเพนกวินได้รับความนิยมอย่างมากนั้น นอกจากความน่ารักน่าชักแล้วเจ้าเพนกวินน้อยตัวนี้ยังมีแฟนเป็นสาว 2D อีกด้วย เรื่องราวเกิดขึ้น ในตอนที่การ์ตูนอนิเมะชื่อดัง Kemono Friends ได้นำแผ่นป้ายโปรโมทรูปตัวละครหลักในเรื่องที่ชื่อว่า Hululu มาตั้งเอาไว้ในกรงอาศัยของมันตั้งแต่เดือนเมษายน เท่านั้นเองความรักของทั้งสองก็ได้เกิดขึ้น พอเจ้าเพนกวินเห็นสาวน้อยคนนี้เข้า มันก็เดินมายืนดูเธอนานเป็นชั่วโมงๆ ถึงกับไม่ยอมกินข้าวกินปลาเลยทีเดียว ความรักอันบริสุทธิ์ของเจ้าเพนกวิน ทุกคนรับรู้และเข้าใจว่ารักเธอมากเพียงใด ตรงอนุสรณ์ก็จะมีรูปของ Hululu ไปแปะไว้อยู่ ความรักอันสุดแสนประหลาดนี้ได้สร้างรอยยิ้มไว้ให้กับผู้คนจำนวนมาก และเหมือนกับฝันที่เป็นจริง เมื่อผู้วาดการ์ตูนเรื่องดังกล่าว Mine Yoshizaki ได้วาดภาพเจ้าเกรปคู่กับแฟนสาวของมันขึ้นมา เพื่อเป็นการระลึกถึงความน่ารักของเจ้าเพนกวินตัวนี้ ผู้วาดสร้างผลงานให้มันได้เข้าไปอยู่กับสุดที่รักได้ในที่สุด แม้แต่ห่วงเล็กๆ…
-
เพราะไฟป่าทำให้ครอบครัวต้องพลัดพรากสัตว์เลี้ยง แต่ “เจ้าหมา” ยังรอคอยอยู่ตรงที่เดิม…
เมื่อไม่กี่วันมานี้เราคงได้ติดตามข่าวไฟป่าในแคลิฟอร์เนียที่เผาทำลายแหล่งผลิตไวน์ รวมทั้งบ้านเรือน จนต้องมีการอพยพผู้คนกว่า 25,000 คน นอกจากความเสียหายของบ้านเรือนและทรัพย์สินแล้ว บางครอบครัวยังต้องสูญเสียสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รักด้วย แต่โชคดีที่มีครอบครัวหนึ่งได้กลับมาพบกับสุนัขของพวกเขาในที่สุด นี่เป็นเรื่องราวสุดซึ้งของครอบครัวพ่อแม่ของ Beckyjean Widen ที่ประสบกับภัยพิบัติจากไฟป่าที่ลามเข้ามาถึงบ้านเรือนพวกเขา เหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวไม่มีทางเลือก นอกจากต้องทิ้งทุกอย่างรวมทั้งของมีค่าไว้ที่นั่นและหนีออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อเอาตัวรอด ที่น่าเศร้าคือ Izzy สุนัขผู้เป็นที่รักของพวกเขาได้หายไปก่อนเกิดไฟไหม้เพียงไม่กี่นาที จึงทำให้ครอบครัวต้องพลัดพรากกับมันตั้งแต่นั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ไฟดับหมดแล้ว ครอบครัวก็ตัดสินใจกลับไปยังบ้านที่ตอนนี้เหลือแต่ซาก แต่ไม่น่าเชื่อว่า Izzy มารอพวกเขาอยู่ที่นั่น ด้านล่างนี้เป็นคลิปขณะที่ครอบครัวกลับไปตามหาน้องหมา โดยพยายามปรบมือเพื่อเรียกหามัน ในคลิปจะเห็นว่าบ้านเรือนบริเวณนั้นถูกไฟไหม้จนหมด และแทบจะไม่มีเห็นสิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวอยู่เลย แต่ใครจะไปคิด เมื่อพวกเขาเดินมาใกล้ถึงที่ที่เคยเป็นบ้าน อยู่ๆ ก็มีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนที่ มันคือเจ้าหมา Izzy ที่วิ่งออกมาต้อนรับพวกเขาด้วยความดีใจ ไม่มีใครรู้ว่าช่วงที่เกิดไฟไหม้น้องหมาไปอยู่ที่ไหน แต่เห็นได้ชัดว่าขนของมันไม่มีรอยไหม้เลยสักนิด แถมยังกลับมารออยู่ที่บ้าน แม้บ้านจะถูกไฟไหม้ไปแล้วก็ตาม น้องหมาดูเหนื่อยและหิวน้ำ แต่อย่างอื่นมันไม่เป็นอะไรเลย หลังจากนั้นพวกเขาก็พามันไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอีกที หลังจากที่ Widen โพสต์คลิปนี้ในเฟซบุ๊กก็มีคนเข้ามาดูจำนวนมาก หลายคนถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจที่เห็นน้องหมาวิ่งออกมาต้อนรับเจ้าของ…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ความแปลกของ ‘เพื่อนบ้าน’ ถ้าได้อยู่ข้างกันล่ะก็คงมีแต่เรื่องบันเทิงแน่!!
เราอาจจะเคยเจอเพื่อนบ้านที่ใจดีบ้าง เพื่อนบ้านหยิ่งบ้าง หรือแม้กระทั่งเพื่อนบ้านที่ไม่เป็นมิตรเอาซะเลย แล้วมีเคยเจอเพื่อนบ้านแปลกๆ มั้ย? อย่างเพื่อนบ้านเหล่านี้ที่ชอบทำอะไรแปลกไปจากคนทั่วไป จนบางทีก็ออกจะน่ากลัวไปซะหน่อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นการสร้างความบันเทิงให้เพื่อนบ้านขี้เผือกอย่างเราๆ 1. ดัดแปลงระเบียงให้เป็นเรือโจรสลัด อืม คิดอะไรอยู่หนอ? 2. เจอแบบนี้ คุณจะคิดว่าเขาเป็นเพื่อนบ้านที่แปลกมั้ย? 3. ปกติเห็นแต่กวางลากซานต้า แต่นี่เอาซานต้าลากกวาง 4. เพื่อนบ้านกำลังประชุมกับแตงโมตอนตี 3!? 5. เพื่อนบ้านพานกแก้วไปเดินเล่น? 6. เพื่อนบ้านนำก้อนหิมะมาแช่แข็ง เพื่อเอาไว้ปาเล่นในช่วงฤดูร้อน 7. เอาเทปมาปิดรอยแตก แต่พอเพื่อนบ้านวัย 92 ปี มาเห็น คิดว่าติดเลขที่บ้านและเอามาแปะบ้าง 8. ระเบียงข้างบนเป็นของ 2 หนุ่ม ชั้นล่างเป็นของ 2 สาว นี่แหละความต่างของผู้หญิงกับผู้ชาย 9. เพื่อนบ้านติดป้ายไม่ให้ทิ้งก้นบุหรี่ลงในสวน เพราะเจ้าเหมียวชอบเอามาสูบต่อตอนกลางคืน และพวกเขาพยายามให้มันเลิกอยู่ …
-
จีนจัดนิทรรศการภาพถ่าย ‘แอฟริกา’ เทียบชนพื้นเมืองกับสัตว์ป่า… จนกลายเป็นการเหยียดผิว
กลายเป็นประเด็นดราม่าในโซเชียลเมื่อพิพิธภัณฑ์จีนจัดนิทรรศการภาพถ่ายที่มีการเทียบภาพชนพื้นเมืองคู่กับสัตว์ป่า จนถูกมองว่าเป็นการเหยียดชนชาติอื่น นี่คือนิทรรศการภาพถ่ายที่จัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ Hubei Provincial Museum เป็นชุดภาพที่ทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสามัคคีระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ซึ่งถ่ายโดยช่างภาพและนักธุรกิจระหว่างเดินทางไปแอฟริกาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา นิทรรศการนี้มีชื่อว่า “This is Africa” ภายใต้หัวข้อ “One’s heart makes one’s appearance” โดยนำเอาภาพเด็กและผู้ใหญ่ที่เป็นชนพื้นเมืองของแอฟริกามาประกบคู่กับภาพสัตว์ป่าชนิดต่างๆ ในชุดภาพดังกล่าวนี้ประกอบด้วยภาพชายชราประกบคู่กับลิง อีกภาพเป็นรูปของชายชาวแอฟริกาในท่าที่มองผ่านไหล่ตัวเองประกบกับภาพเสื้อชีต้าที่ทำท่าคล้ายกัน มีภาพเด็กอ้าปากกว้างวางคู่กับภาพกอริลลา และอื่นๆ อีกมากมาย ในบรรดาภาพเหล่านั้นมีภาพของกลุ่มนักเรียนแอฟริกาในประเทศจีนอยู่ด้วย และเมื่อรู้ว่ามีคนเอาภาพพวกเขาไปแสดงที่พิพิธภัณฑ์โดยประกบคู่กับสัตว์ที่ทำท่าคล้ายกัน จึงได้มีการขอร้องไม่ให้ระบุชื่อของพวกเขา เพราะกลัวจะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสงสัยว่าลักลอบเข้ามา หลังจากที่ถูกร้องเรียน ทางพิพิธภัณฑ์ก็ได้เอาภาพดังกล่าวออก อย่างไรก็ตามนักเรียนแอฟริกาได้แจ้งเรื่องนี้ให้ทางคณบดีของมหาวิทยาลัยทราบ ในขณะที่คนอื่นๆ ได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังสถานทูตแอฟริกาในจีน สำหรับนิทรรศการนี้ได้จัดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว เพื่อเป็นการฉลองวันหยุดแห่งชาติ 8 วันของจีน ซึ่งมีคนเข้าเยี่ยมชมพิพิภัณฑ์นั้นไปแล้ว 133,000 คน ต่อมา Wang Yuejun ผู้วางแผนจัดนิทรรศการนี้ได้ออกมาแถลงว่า “เราเข้าใจทุกๆ ความเห็นที่ร้องเรียนเข้ามา แต่ผมอยากเรียนให้ทราบว่าผู้เข้าชมนิทรรศการส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ในทัศนะของคนจีนการเปรียบเทียบคนกับสัตว์นั้นไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจเลย” Wang ยังชี้ให้เห็นว่า ชาวจีนมักจะบูชาเทวรูปสัตว์ และในระบบจักรราศีเกิดของจีนก็มีความเกี่ยวข้องกับสัตว์ด้วย…
-
ภาพถ่ายแนวธรรมชาติยอดเยี่ยมประจำปี 2017 ของ Nationl Geographic งามๆ ทั้งนั้น
โลกนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงามที่เราคงได้เห็นไม่หมดในชีวิตนี้ อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณช่างภาพหลายๆ คนที่ได้เก็บภาพความงดงามเหล่านั้นมาให้เราได้ดูกัน และนี่คือภาพถ่ายแนวธรรมชาติที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประจำปี 2017 ของ Nationl Geographic ที่ทำให้รู้ว่าโลกนี้น่าหลงใหลแค่ไหน “Smile For The Camera” ถ่ายโดย Gary Peart ขณะที่ช่างภาพแอบดูจระเข้อเมริกันผ่านน้ำใสๆ จู่ๆ มันก็ว่ายเข้ามาใกล้เกือบชนจมูก แม้ช่างภาพจะรู้สึกลัวจนมือไม้สั่น แต่เขาก็พยายามรวบรวมสติแล้วก็เก็บภาพอันน่าทึ่งนี้ไว้ได้ “Over Glacial Waters” ถ่ายโดย Shane Kalyn ภาพนี้ถ่ายขณะที่ช่างภาพบินอยู่เหนือแม่น้ำโฮล์มส์ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา แม่น้ำสีฟ้าตัดกับผืนป่าสีเขียวช่างเป็นภาพที่งดงามมาก “There Is Always Room For One More” ถ่ายโดย Eivor Kuchta กลุ่มแกะน้อยกำลังเบียดกันยืนบนก้อนหินจนต้องซ้อนกัน บนเทือกเขาอีแวนส์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา “Atlantic Puffin” ถ่ายโดย Harry Collins นี่คือนกพัฟฟินแอตแลนติกที่อยู่บนเกาะ Machias Seal นอกชายฝั่ง Maine “On The…
-
ช่างแต่งหน้าสาวกับผลงานการแต่งหน้าแบบสุดหลอน เหมือนจริงซะจนรู้สึกสยึ๋มกึ๋ย
การแต่งหน้าถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง นอกจากจะแต่งให้สวยให้หล่อได้แล้ว ยังสามารถแต่งเป็นแนวอื่นได้ด้วย เช่น การแต่งหน้าแฟนซี ให้ออกมาตลกบ้าง เป็นการ์ตูนบ้าง หรือแม้กระทั่งการทำให้ดูหลอนไปเลย เหมือนกับ Samantha Staines ช่างแต่งหน้าและช่างทำเล็บคนนี้ ที่จะทำให้คุณหลงรักด้วยการโชว์ทักษะการแต่งหน้าหลากหลายแนว โดยเฉพาะแนวหลอนจนทำให้หลายคนลืมไม่ลง Samantha มักจะแต่งหน้าแปลกๆ ไม่ซ้ำใคร เพื่อเป็นการสื่อว่าการแต่งหน้านั้นไม่มีขีดจำกัด และถึงจะดูหลอนไปสักหน่อยก็ตาม สำหรับใครที่สนและอยากลองแต่งหน้าแนวนี้บ้าง หญิงสาวคนนี้ก็ทำวิดีโอสอนให้ด้วยนะ ซึ่งสามารถติดตามได้ที่ช่องยูทูบของเธอ SammyLovesFossas และอินสตาแกรม sammylovesfossas . เหมือนโดนดูดจริงๆ เลย เอิ่ม ช่วยลบความจำตรูที . มีใครให้มากกว่านี้มั้ย . เวลาถูกลมตีหน้าแรงๆ มันก็จะเป็นแบบนี้แหละ . . . . . . . . . . ยึ๋ย!! . . . .…
-
นักข่าวลงพื้นที่รายงานสด มีคนพบเห็น ‘เสือ’ ออกมาเพ่นพ่าน ไหงเจอแต่ ‘ไอ้เสือจิ๋ว’ ซะงั้น
กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมากหลังจากที่ชายคนหนึ่งได้อัพคลิปวิดีโอของเจ้าเสือ ในระหว่างที่เขากำลังขับรถอยู่บนถนนสายหนึ่งในรัฐมิสซิสซิปปี ชายคนดังกล่าวได้ถ่ายคลิปของเจ้าเสือตัวนั้นพร้อมกับเขียนข้อความลงบนเฟซบุ๊กของเขาว่า “เมื่อวันพุธที่ผ่านมาระหว่างที่ผมออกไปเอาอาหารด้านนนอก ผมก็เห็นเจ้าเหมียวตัวนี้ออกมาจากป่า นี่เป็นภาพที่หาชมได้ยาก และเจ้าแมวตัวนี้ไม่ใช่แมวบ้านอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่ามันจะขนาดพอๆ กับสุนัขตัวใหญ่ๆ เลยนะ” คุณ David Sluder โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กของเขา และนี่ก็คือคลิปวิดีโอที่ว่านั้น และแน่นอนว่าการพบเห็นเจ้าเหมียวยักษ์ตัวนี้ต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ แน่ เผลอๆ จะเป็นเสือ คุณ Scott Madaus นักข่าวจากช่อง Fox ถูกส่งไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อรายงานข่าวเกี่ยวกับเจ้าเหมียวยักษ์ตัวนี้ แต่เมื่อนักข่าวหนุ่มของเราไปถึงก็พบว่าเจ้าเหมียวตัวนั้น กลับเป็นแค่แมวน้อยธรรมดาๆ ซะนี่ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ไหนๆ ก็มาแล้ว งานนี้นักข่าวหนุ่มก็เลยรายงานภาพของเจ้าเหมียวตัวนี้ไปซะเลย เล่นเอาผู้ชมฮาไปตามๆ กันเลยทีเดียว คุณ Madaus ได้ให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed ว่าเขาได้รายงานข่าวเกี่ยวกับการพบเจ้าเสือดาวในบริเวณดังกล่าว และจากนั้นเจ้าเหมียวตัวนี้ก็โผล่ออกมา “มันออกมาจากพุ่มหญ้าที่อยู่ใต้ต้นไม้นั่นและมายืนตรงหน้าผม ตอนนั้นผมก็เลยคิดว่าเราน่าจะล้อเลียนเกี่ยวกับข่าวการพบเจ้าเหมียวน้ำหนักกว่า 40 กิโลกรัมที่นี่ซะเลย” นักข่าวหนุ่มกล่าว ในตอนที่เจ้าเหมียวโผล่ออกมานั้น นักข่าวหนุ่มของเราได้รีบโทรแจ้งกับทางโปรดิวเซอร์ของทางช่องทันทีว่าให้รีบตัดภาพมาที่เขา ก่อนที่จะเริ่มรายงานข่าวแบบที่เราได้ชมกันในคลิปวิดีโอ “ถ้าหากว่าคุณได้ชมวิดีโอนั้น คุณจะเห็นเจ้าเหมียวจ้องมาที่ผม และเอียงหัวเล็กน้อย เหมือนมันกำลังจะพูดกับผมว่า มีปัญหาอะไรรึเปล่าพวก?? ” นักข่าวหนุ่มพูดแบบติดตลก …
-
คุณตาที่มักจะไปนั่งทานข้าวกับ ‘รูปถ่าย’ ของภรรยาที่จากไป รักแท้มันช่างงดงามเหลือเกิน
เรื่องราวนี้เริ่มต้นจากทั้งสองพบกันเมื่อปี 1948 ในตอนนั้นคุณตา Clarence Purvis นั้นอายุ 24 ปี ในขณะที่ภรรยาของเขาอายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น และถึงแม้ว่าจะมีอายุต่างกันมากถึง 8 ปี แต่ทั้งสองก็สามารถใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้ และอยู่ด้วยกันมานานถึง 60 ปี ทั้งสองชอบทานอาหารที่ร้าน Smith’s Restaurant ที่บ้านเกิดของพวกเขาในรัฐจอร์เจียอย่างมาก และถึงแม้ว่าภรรยาของคุณตาจะจากไปตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ทุกวันนี้คุณ Clarence ก็ยังคงมาทานอาหารเที่ยงที่ร้านนี้พร้อมกับรูปภาพของภรรยาอยู่เป็นประจำ “เธอยังคงอยู่กับผมตลอดเวลาที่ผมยังมีชีวิตอยู่ และตอนนี้เธอก็ยังคงอยู่ข้างๆ ผม” ชายวัย 93 ปีกล่าว คุณตานั่งทานอาหารโดยมีภาพของภรรยาเขาอยู่ตรงด้านข้าง กรอบภาพแบบตั้งโต๊ะของเธอนั้นช่วยทำให้เขารู้สึกว่าเธอยังคงอยู่กับเขาตลอดเวลา คุณยาย Carolyn Purvis นั้นจากไปเมื่อช่วงเดือนตุลาคมในปี 2013 แต่ถึงแม้ว่าเธอจะจากคุณตาไปแต่สามีของเธอก็ยังคงไม่ลืมเธอ ในทุกๆ วันคุณ Clarence จะเดินทางไปเยี่ยมหลุมศพของเธอวันละ 4 ครั้ง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของเขา ถึงแม้จะมีหลายคนที่แนะนำให้คุณตาหาเพื่อนไว้ดูแลและช่วยให้คลายเหงาสักคน แต่ชายชรากลับปฏิเสธ และเขาก็ยังคงคิดถึงภรรยาอยู่ และความรักอย่างซื่อสัตย์ของเขานั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เขายอมมอบให้ภรรยาสุดที่รักของเขาอย่างเต็มใจ ภาพถ่ายที่ได้รับการดูแลอย่างดีจากสามีของเธอ ชมเรื่องราวความรักของคุณตาเพิ่มเติมได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… …
-
นายแบบหนุ่มหล่อ เซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับพี่สาวผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม อย่างมีความสุขสุดๆ
เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจของนายแบบจากเมืองบอสตันผู้หนึ่ง ที่ทำให้กับพี่สาวที่ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรมของเขา โดยการมอบประสบการณ์การเป็นนางแบบครั้งแรกในชีวิตให้กับเธอ!! คุณ Chris Garafola นายแบบหนุ่มวัย 29 ปี และ Brittany พี่สาววัย 32 ปีของเขา เติบโตมาด้วยกันในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในรัฐเวอร์มอนต์ นอกจากจะเป็นพี่น้องกันแล้วทั้งสองยังเป็นเพื่อนซี้กันอีกด้วย คุณ Chris นั้นประสบความสำเร็จในงานนายแบบของเขา โดยตัวเขาเองนั้นเป็นนายแบบให้กับแบรนด์กีฬาชื่อดังอย่างพูม่า และนิวบาลานซ์ นอกจากนี้เขายังติดอันดับหนึ่งใน 25 หนุ่มฮอตจากการจัดอันดับของนิตยสาร Harper Bazaar อีกด้วย Chris คอยดูแลพี่สาวของเขาอย่างดี และในครั้งนี้เองเขาก็ได้ทำบางอย่างเพื่อเธอ “ผมตั้งใจทำเรื่องนี้จริงๆ เพราะผมรักพี่สาวของผมมาก” นายแบบหนุ่มกล่าว Chris นายแบบหนุ่มที่มีผู้ติดตามอย่างมากบนอินสตราแกรม . ในตอนเด็กนั้น คุณ Brittany ต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจอยู่หลายครั้ง เนื่องจากอาการป่วยของเธอ ทางครอบครัวต้องพยายามอย่างมากเพื่อหาเงินมารักษาเธอ แต่อย่างไรก็ตาม Chris กลับบอกว่าความยากลำบากเหล่านั้นทำให้พวกเขาเข้มแข็งขึ้น และทำให้ครอบครัวเขาใกล้ชิดกันมากขึ้น Chris จบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัย University of Vermont ชายหนุ่มเริ่มเข้าสู่วงการโฆษณา แต่มันก็ไม่ค่อยราบรื่นนัก เขาจึงตัดสินใจที่จะลองเป็นนายแบบดู และเซ็นสัญญาการเป็นนายแบบครั้งแรกในปี 2013 และด้วยความสำเร็จในวงการนายแบบของน้องชาย ทำให้พี่สาวของเขาอยากที่จะลองสัมผัสประสบการณ์นั้นดูบ้าง Chris…
-
หมุดหมายใหม่ของการเมือง Sebastian Kurz ผู้นำคนใหม่แห่งออสเตรีย กับวัยเพียง 31 ปี
ดูเหมือนว่าผลการเลือกตั้งของ ‘ออสเตรีย’ จะสร้างเสียงฮือฮาไปทั่วโลก หลังได้ผู้นำคนใหม่มาดำรงตำแหน่งด้วยวัยเพียง 31 ปีเท่านั้น!! จากผลการเลือกตั้งทั่วไปในออสเตรีย ทำให้นาย เซบาสเตียน คูร์ซ วัย 31 ปี หัวหน้าพรรคประชาชน และรัฐมนตรีต่างประเทศ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งและได้ครองตำแหน่งผู้นำรัฐบาลที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก เซบาสเตียน คูร์ซ จากผลการเลือกตั้งของประชาชน ทำให้หลายฝ่ายค่อนข้างมั่นใจว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ เซบาสเตียน คูร์ซ ได้รับคะแนนเสียงอย่างล้นหลามจากประชาชน อาจเชื่อมโยงมาจากนโยบายแนวทางของพรรคที่เปลี่ยนมาเป็นพรรคขวาจัด โดยก่อนหน้านี้ เซบาสเตียน คูร์ซ ได้ชูนโยบายที่จะปิดเส้นทางหลักที่ผู้อพยพใช้เดินทางเข้ามาในยุโรป ทั้งในแถบคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน และคาบสมุทรบอลข่าน สืบเนื่องจากการเปิดพรหมแดนเมื่อปี 2015 ทำให้ที่ผ่านมามีประชาชนนับหลายแสนคน ที่พยายามอพยพหนีความยากจน และภัยสงครามจากประเทศแถบตะวันออกกลางและที่ต่างๆ นอกจากนั้น เซบาสเตียน คูร์ซ ยังได้ชูนโยบายการลดสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของผู้ลี้ภัยให้ต่ำกว่าปกติ และเพิ่มมาตรการกีดกันไม่ให้ชาวต่างชาติได้รับเงินช่วยเหลือ จนกว่าจะอาศัยอยู่ในออสเตรียครบ 5 ปี ซึ่งที่ผ่านมาทั้งพรรคประชาชน และพรรคเสรีภาพ ต่างก็พยายามเรียกร้องให้มีการรักษาความมั่นคง และความปลอดภัยในบริเวณชายแดนออสเตรีย อีกทั้งยังมีการเรียกร้องให้เนรเทศผู้อพยพที่ไม่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยออกจากประเทศโดยเร็ว…
-
คุณแม่หน้าใสชาวอินโดนีเซีย อายุปาเข้าไป 50 ปีแล้ว จนคนเข้าใจผิดว่าลูกชายเป็นแฟน!?
ผู้หญิงกับความงามนั้นเป็นของคู่กัน ไม่ไว่าใครๆ ก็อยากจะมีหน้าสวยใส ไม่ว่าใครเจอก็ตกหลุมรักกันทั้งนั้น ผู้หญิงหลายๆ คนจึงทุ่มเทให้กับการดูแลตัวเอง ทาครีมบำรุง ประทินโฉมจนเด้งดึ๋งๆ บางคนก็ใช้วิธีการศัลยกรรมเพื่อความเป๊ะ ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาสวยปังตามที่ต้องการตามแต่ละคน เชื่อว่าใครๆ ต่างก็ต้องอิจฉาในความสวยของคุณ Puspa Dewi ชาวจาร์การ์ตา ประเทศอินโดนิเซียคนนี้อย่างแน่ๆ เพราะว่าเธอนั้นสวยสะดุดจนคนสงสัยว่ามีเคล็ดลับในการดูแลตัวเองอย่างไรนะ นอกจากความสวยแล้ว ยังเป็นคุณแม่ของลูกชายสุดหล่ออีก 2 คน อีกด้วย #เหมียวบู้บี้ อยากจะขอสมัครเป็นลูกสะใภ้เลยค่ะคุนแม่!!! เห็นแบบนี้คงคิดว่าคุณ Puspa อายุประมาณ 20 ปลายๆ หรือ 30 ต้นๆ กันใช่ไหมละ บอกเลยว่าทายผิดกันทั้งแถว เพราะว่าเมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งฉลองวันครบรอบวันเกิดปีที่ 50 มาหมาดๆ นี่หรือผู้หญิงที่อายุ 50 ปี โกงอายุหรือเปล่าคะแม่? คุณ Puspa ได้ให้สัมภาษณ์ว่ามักจะมีคนเข้าใจผิดว่าคนที่ไปกินข้าวด้วยหรือโพสต์รูปภาพลงบนโซเชียลบ่อยๆ นั้นเป็นแฟนหนุ่มของเธอ แต่ความจริงนั้นเป็นลุกชายสุดที่รักของเธอต่างหากล่ะ เห็นหน้าเอ๊าะๆ แบบนี้หลายคนคงคิดว่าเป็นเพราะว่าการศัลยกรรมหรือฉีดโบท็อกซ์มาแน่ๆ แต่เธอก็ปฏิเสธได้อย่างบริสุทธิ์ใจเลยว่า…
-
เจ้าเหมียวหน้าตาเศร้าสร้อย เดินท่ามกลางพายุฝนจนมีคนมาช่วยเหลือให้มีบ้านใหม่
เจ้าเหมียวหน้าตาเศร้าสร้อยตัวนี้ถูกทิ้งโดยเจ้าของคนเก่า มันเดินโซเซด้วยความหิวท่ามกลางความเหน็บหนาวจากพายุฝนที่กระหน่ำ มันเดินไปอย่างไร้จุดหมาย ร่างกายก็ผ่ายผอมจนแทบไม่มีแรง จนกระทั่งเจ้าเหมียวตัวนี้หมดแรงที่จะเดินต่อไปแล้ว มันได้เข้าไปนอนหน้าบ้านของผู้หญิงคนหนึ่ง หวังที่จะได้รับความอบอุ่นและอาหารเพื่อประทังชีวิตต่อไป พอหญิงสาวเจ้าของบ้านมาพบเจอเข้ากับเจ้าแมวที่น่าสงสารตัวนี้จึงได้ให้อาหารและพามันเข้าไปอยู่ในบ้านชั่วคราว แล้วทำการตามหาเจ้าของของมันทันที แต่ก็ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของเลยแม้แต่คนเดียว เธอจึงได้ทำการติดต่อไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เพื่อหาบ้านให้กับเจ้าเหมียวตัวนี้ เนื่องจากว่าเธอไม่สามารถรับเลี้ยงแมวได้ มันถูกตั้งชื่อว่า General มันมีแววตาที่เศร้าๆ น่าสงสารเสียจริงๆ พอทางศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ประกาศหาบ้านให้กับเจ้าเหมียวตัวนี้ ด้วยหน้าตาที่น่าเอ็นดูของมันจึงทำให้มีคนเข้ามารับเลี้ยงมันในทันที Laurie Gotshall เจ้าของคนใหม่ที่ตกหลุมรักมันตั้งแต่ได้เห็นภาพ หลังจากที่ได้อ่านเรื่องราวของมันแล้วก็ยิ่งสงสารมันเข้าไปอีกจึงได้เดินทางไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ที่มันอาศัยอยู่ พอได้เจอกันก็ดูเหมือนว่าเจ้า General จะสัมผัสความรักได้จึงกระโดดขึ้นไปนอนตักของเธออย่างหน้าตาเฉย เจ้าเหมียวตัวนี้ได้รับการดูแลอย่างดี แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแมวที่ขี้หนาวอยู่มากๆ มันชอบเอาตัวไปซุกตักของเจ้าของ และสิ่งที่โปรดปรานที่สุดก็คือนอนขดตัวอยู่บนผ้าห่มนุ่มๆ ชีวิตหลังจากที่ได้ความรักจากเจ้าของคนใหม่ หนึ่งปีหลังจากนั้นมันก็เริ่มสมบูรณ์มากขึ้น มันทำตัวน่ารักกับเจ้าของมากๆ ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนเลย แถมยังมีเพื่อนแมวอีกตัวที่คอยเฝ้าบ้านให้กับ Laurie อีกด้วย ถึงแม้แววตาจะดูเศร้าแต่มันก็มีความสุขกับมนุษย์ที่จะคอยดูแลมันตลอดไป… ที่มา lovemeow
-
20 ภาพ “ชุดฮาโลวีน” แบบวินเทจ นี่สิตำนานแห่งความหลอนของจริง!!
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วกับวันฮาโลวีน วันที่ 31 ตุลาคมของทุกปีจะมีผู้คนออกมาแต่งกายเป็นภูตผีปีศาจต่างๆ เดินออกมาเคาะประตูบ้านเพื่อฉลองฤดูเก็บเกี่ยวที่กำลังจะมาถึง โดยสัญลักษณ์ที่สำคัญของวันฮาโลวีนนั่นก็คือการแกะสลักฟักทองให้เป็นหน้าปีศาจแล้วนำมาทำเป็นโคมไฟที่เรียกว่า แจ็คโอแลนเทิร์น (Jack-o lantern) ซึ่งเทศกาลวันฮาโลวีนนี้ก็มีการเผยแพร่เข้าสู่ในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนนาดา ตั้งแต่ปี 1890 ซึ่งการแต่งตัวเป็นผีของคนสมัยนั้นบอกเลยว่าทั้งสร้างสรรค์ทั้งหลอนจริงๆ 1. ชุดเบคอน ปี 1894 2. ชุดมนุษย์มิชลิน 3. ชุดเห็ดสองสาวน้อย 4. ชุดคู่โทรศัพท์บ้าน เชื่อเลยว่าเขาครีเอทกันจริงๆ 5. ชุดกะหล่ำปลี แนวรักษ์โลก 6. ชุดหน้าผี อันนี้หลอนจริงๆ 7. ชุดดวงตา ต้องไปทีละสองข้างด้วยนะ 8. ชุดหน้ากากหน้าท้อง มีกล่องขนาดใหญ่อยู่บนหัวด้วย 9. ชุดดอกจิกก็มา มาแบบเรียบๆ 10. ชุดดาวอังคาร ฮ่าๆๆ …
-
หนุ่มน้อยโดนแม่เพื่อนข่มเหงเลยเอามาทำเป็นหนัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่เด็กคนอื่นบนโลก
การถูกกลั่นแกล้งของเด็กๆ กลายมาเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการถูกกลั่นแกล้งทั้งที่โรงเรียน หรือว่าจะถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตก็ตาม และด้วยการเจอมากับตัวเองทำให้ Alec Ybarra อายุ 13 ปี จากรัฐ Colorado ประเทศสหรัฐอเมรกาฯ ผู้เป็นเหยื่อของการถูกกลั่นแกล้งลุกขึ้นมาสร้างภาพยนตร์เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ของตัวเอง ให้สังคมเห็นถึงความรุนแรงที่เด็กนักเรียนกว่ากว่า 1 ใน 5 ของอเมริกาต้องเผชิญ แต่ในสถานการณ์ของ Alec นั้นเขาไม่ได้ถูกเพื่อนนักเรียนแกล้ง แต่เป็นแม่ของเพื่อนที่เป็นคนแกล้ง เพราะว่าเขาดันไปรู้ความลับบางอย่างที่สามารถทำให้ลูกชายของเธอเข้าคุกได้ เธอจึงจงใจที่จะทำลายเขาและนั่นทำให้เขาถึงขั้นต้องย้ายโรงเรียนในทุกปีเลยทีเดียว โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ Alec เป็นทั้งผู้กำกับ เขียนบท นำแสดง และตัดต่อเอง ซึ่งหนังของเขานั้นเป็นที่น่าสนใจของเทศกาลหนังต่างๆ รวมทั้งกองประกวดอีกด้วย “เมื่อมองกลับไป ผมเริ่มทำหนังมาเป็นเวลากว่า 1 ปีครึ่งมันช่วยให้ผมผ่านปีที่แย่ๆ ที่ถูกกลั่นแกล้งมาได้ มันทำผมเสียน้ำตาไปมากเลยทีเดียว และเมื่อผมมีความสามารถพอที่จะทำหนัง ผมก็หวังว่ามันจะช่วยคนที่ถูกกลั่นแกล้งเช่นเดียวกับผมได้” Alec กล่าว และพ่อของเขา Fred Ybarra ก็กล่าวเสริมว่าการกลั่นแกล้งแทบจะทำให้หัวใจของพ่อแม่ของผู้ถูกกลั่นแกล้งใจสลายเลยทีเดียว “มันเป็นเรื่องยากที่จะทำใจว่า ลูกของคุณถูกกลั่นแกล้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนที่แกล้ง กลับเป็นผู้ใหญ่เองซะด้วย” ผู้เป็นพ่อกล่าว ในปัจจุบัน Alec ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศิลปะ…
-
รวมภาพสงครามโลกครั้งที่ 2 จากภาพขาวดำนำมาลงสีใหม่ ทำให้เห็นภาพแล้วได้อรรถรสมากขึ้น!!
ภาพถ่ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากเพราะว่าระหว่างการสู้รบแต่ละคนก็ต้องพยายามเอาชีวิตของตัวเองให้รอด และนอกจากนั้นในสมัยนั้นยังมีแค่เพียงรูปถ่ายขาวดำเพียงอย่างเดียว แต่ว่าวันนี้มีผู้นำภาพดังกล่าวมาทำให้เป็นภาพสี เขามีชื่อว่า Royston Leonard อายุ 55 ปี จากประเทศเวลส์ เพราะเขาเชื่อว่าภาพที่เป็นสีจะให้ความถูกต้องในการแสดงภาพได้มากกว่า และทำให้เห็นรายละเอียดของทหารอเมริกันระหว่างสงครามว่ามีความลำบากขนาดไหน ซึ่งภาพเหล่านั้นจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นสงครามอย่างไร เชิญชมได้เลย ภาพขณะนาวิกโยธินชื่อ J. Paget ยิงถล่มเหล่า พลซุ่มยิงของญี่ปุ่นในปี 1944 ทหาารสหรัฐพยายามที่จะนำรถบรรจุปืนใหญ่ฝ่าพื้นดินในป่าที่สัญจรได้ยาก และในภาพคือทหารกองพันที่ 3 กำลังติดตั้งปืนใหญ่ในหมู่เกาะโซโลมอน กับระเบิดของญี่ปุ่นได้ทำลายแนวหน้าของสหรัฐ ที่ปาปัวนิวกินี ในระหว่างปี 1942-1943 หลังจากญี่ปุ่นเข้าโจมตี Pearl Harbor อย่างไม่คาดคิดในปี 1941 ทำให้อเมริกาเข้าร่วมสงคราม และในภาพคือกองเรือที่ส่งเข้าไปปกป้องเกาะ Peleliu ในเดือน กันยายน ปี 1944 ภาพนาวิกโยธินสหรัฐเริ่มยิงปืนครกที่เกาะ Solomon รถถังรุ่น M4 Cherman ของกองพันที่ 763 และกองกำลังภาคพื้นกำลังรบที่เกาะโอกินาว่า ในเดือนเมษายนปี 1945 …
-
คุณยายนักเต้นวัย 102 ปี ได้เห็นการเต้นของตัวเองผ่านจอภาพยนตร์เป็นครั้งแรก
วินาทีอันน่าประทับใจของคุณย่าอดีตนักเต้นวัย 102 ปี ที่ได้มีโอกาสเห็นภาพเคลื่อนไหวจากการแสดงของตัวเองเป็นครั้งแรกในชีวิต!! คุณย่า Alice Barker กำลังมีความสุขอย่างมากหลังจากที่ได้มีโอกาสเห็นการแสดงของเธอในช่วงปี 1930 ที่ Harlem Renaissance คลับชื่อดังในยุคนั้น เธอเคยปรากฏตัวในภาพยนตร์โฆาณาและรายการทีวีในสมัยนั้น แต่โดยส่วนตัวแล้วเธอเองไม่เคยมีภาพหรือของที่ระลึกจากการแสดงของเธอเลย นั่นจึงทำให้คุณย่าท่านนี้ไม่เคยได้เห็นภาพการแสดงของเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่หลังจากที่ได้พบกับ David Shuff เมื่อประมาณปีก่อนและได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอ ก็ทำให้คุณย่าท่านนี้ได้มีโอกาสเห็นภาพเคลื่อนไหวของตัวเอง หลังจากใช้เวลาค้นคว้าอยู่นานคุณ Shuff ก็ได้พบกับคุณ Mark Cantor นักสะสมภาพถ่ายเกี่ยวกับดนตรีแจ๊สเจ้าของเว็บไซต์ Jazz on Film ทั้งสองพบว่าคลิปวิดีโอของการเต้นของคุณย่านั้นก็ได้มีการบันทึกไว้เช่นเดียวกัน แต่ทว่ามีการสะกดตัวอักษรผิดทำให้ไม่สามารถค้นเจอได้ คุณ Barker มีความสุขอย่างมากระหว่างที่เธอกำลังชมคลิปวิดีโอดังกล่าว คุณย่าอายุกว่า 100 ปียังจำเพลงที่เธอเต้นวันนั้นได้เป็นอย่างดีเธอร้องเพลงตามด้วยในระหว่างที่ชมวิดีโอนั้น และนอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า วิดีโอนี้ทำให้เธอรู้สึกอยากจะลุกออกจาเตียงและออกไปเต้นอีกครั้งเลยทีเดียว Barker บอกว่าเธอมีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนักเต้นมาตั้งแต่วัยเด็กแล้ว เธอเล่าว่าวันหนึ่งระหว่างที่แม่ของเธอออกไปด้านนอกเพื่อหาของบางอย่าง ในตอนนั้นเธอได้ยินเสียงวงดนตรีอยู่ใกล้ๆ และจึงตัดสินใจออกไปเต้นกับพวกเขา “เมื่อแม่ของฉันกลับมา เขาก็ไม่พบฉันแล้ว ในตอนนั้นฉันออกไปเต้นด้านนอกทั้งๆ ที่เปลือยกายเลย ฉันอยากจะเต้นต่อทั้งๆ ที่วงเล่นเสร็จไปแล้ว” คุณย่ากล่าว Shuff ได้แชร์เรื่องราวของคุณยายท่านนี้ลงบนโลกอินเตอร์เน็ต เขาบอกว่าเมื่อคุณย่าได้ดูแล้วมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นดาราดังเลยทีเดียว นอกจากนี้เขายังได้กล่าวอีกว่า คุณย่ารู้สึกดีมากๆ…
-
นักโบราณคดีพบคำว่า “อัลเลาะห์” บนเสื้อผ้าชาวไวกิ้ง หรือว่าพวกเขานับถืออิสลาม!?
ศาสนาเป็นสิ่งที่อยู่ควบคู่กับมนุษย์มาทุกยุคทุกสมัย เพราะว่าเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ใครจะไปเชื่อล่ะว่าชนเผ่าโบราณอย่างไวกิ้งอาจจะนับถือศาสนาอิสลามก็เป็นได้!! เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการค้นพบสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจหลังจากที่นักโบราณคดีได้พบคำว่า “Allah” บนชุดที่พวกเขาใช้สำหรับฝังศพ ผู้เชี่ยวชาญได้ค้นพบเสื้อผ้าในหลุมศพของชาวไวกิ้งซึ่งน่าจะมีอายุ 9 หรือ 10 ศตวรรษที่ผ่านมาในประเทศสวีเดน ซึ่งมีคำว่า Allah และ Ali ทอไว้บนเสื้อผ้า ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอิทธิพลของศาสนาอิสลามในพื้นที่สแกนดิเนเวียขึ้นมา Annika Larsson ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งทอโบราณประจำมหาวิทยาลัย Uppsala ในประเทศสวีเดน บอกว่าวัสดุที่ใช้ทำผ้าน่าจะมาจากเอเชียกลาง เปอเซียหรือจีน และเธอยังบอกอีกด้วยว่าลวดลายบนผ้านั้นไม่ใช่รูปแบบของชาวสแกนดิเนเวียแต่เป็นภาษาอารบิกโบราณมากกว่า “เรารู้มาจากการขุดหลุมศพของชาว Viking หลุมอื่นว่า บางคนก็ถูกฝังจากที่ที่เขาจากมาอย่าง เปอร์เซีย ซึ่งเป็นที่ที่ศาสนาอิสลามโดดเด่นเป็นอย่างมากเลย” Larsson กล่าว อย่างไรก็ตามการค้นพบครั้งนี้ก็ทำให้เห็นว่าการฝังศพในยุคของชาว Viking อาจจะได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาอิสลามที่เชื่อเรื่องชีวิตที่เป็นอมตะหลังความตาย นี่เป็นการค้นพบสิ่งของที่ระบุถึง Ali เป็นครั้งแรกในสแกนดิเนเวีย และทีมโบราณคดีก็กำลังหาให้ได้ว่าศพนี้มาจากที่ไหนกันแน่? ที่มา: Metro
-
เครื่องดื่มชูกำลังทำชายคนหนึ่งเกือบตาย แต่รักแท้ของภรรยาได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้
เครื่องดื่มชูกำลังในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ ซึ่งเครื่องดื่มชนิดนี้มีฤทธิ์ทำให้กระปรี้กระเป่าอยู่ช่วงหนึ่ง หลายคนจึงใช้มันเพื่อให้ผ่านวันยากๆ ไปจนกลายเป็นเสพติดโดยไม่รู้ตัว แต่มีเหตุการณ์หนึึ่งที่เครื่องดื่มชูกำลัง เกือบทำให้ชีวิตของคนสามคนต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะว่ามันทำให้เกิด ภาวะเลือดออกในสมองจนนำไปสู่เรื่องแย่ๆ ที่ไม่คาดฝัน เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นที่ Brianna หญิงสาวที่ขณะนั้นตั้งท้องได้ 9 เดือนและมีกำหนดคลอดในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้าได้รับโทรศัพท์จากแม่สามีของเธอว่า “สามีของเธอประสบอุบัติเหตุ” เธอจึงขับรถไปกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อจะไปหาสามีของเธอที่มีชื่อว่า Austin ผู้เป็นทั้งคนรักและเป็นพ่อของลูกเธอ เมื่อไปถึงทีมแพทย์ได้บอกกับเธอว่าเขามีภาวะเลือดออกในสมอง เนื่องจากการกินเครื่องดื่มชูกำลังมากเกินไป ซึ่งนี่เริ่มกลายเป็นนิสัยของเขาตั้งแต่ที่เขาเริ่มทำงานหนักขึ้น การผ่าตัดเริ่มขึ้นในเวลาต่อมาโดยใช้เวลาทั้งหมดกว่า 5 ชั่วโมง แน่นอนว่าเป็นช่วงที่ทนทุกข์ทรมานอย่างมากสำหรับเธอ เมื่อการผ่าตัดเสร็จสิ้นปรากฎว่าเขามีกระโหลกที่ยุบลงไปจนเกือบจะจำไม่ได้ และในวันต่อมามีการผ่าตัดสมองอีก 2 รอบ ทำให้มีอาการที่ไม่ค่อยสู้ดีนักทั้ง ชัก หัวบวม และอาการอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก แต่ Brianna ก็ไม่เคยหมดหวังในสามีของเธอ และไม่กลัวว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ขอแค่ให้ได้อยู่เคียงข้างกันก็พอ ซึ่งขณะที่ Austin นอนอยู่โรงพยาบาล Brianna ก็ต้องไปทำงานที่มหัศจรรย์ที่สุดในโลกอย่างการคลอดลูก โดยเธอบอกไว้ว่า “ฉันจะไม่โกหกใครหรอก มันเป็นเรื่องที่ยากมาก ฉันได้คิดไว้ว่าสามีของฉันจะมาเป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ คอยอยู่เคียงข้างฉัน จับมือฉัน เป็นคนตัดสายสะดือ และให้การต้อนรับลูกชายของเราที่จะออกมาลืมตาดูโลก…
-
18 ภาพสุดฟินนห์~ ที่พอได้มองแล้ว อ่าห์~~ ไม่อยากหันไปทางอื่นอีกเลย…!!
ไม่ว่าคุณจะเบื่อ เศร้า เหงา หรือเซ็งจนจิตหงุดเงี้ยว อยู่ล่ะก็.. ไม่ต้องทำหน้าหงอยไป เพราะเราจะพาไปชม 18 ภาพที่ดูแล้วฟินห์ตา ดูแล้วไม่อยากหันไปทางอื่นเล๊ยย!! ช่างเป็นสนามหญ้าที่น่านอนกลิ้งเหลือเกิน อูยยย… หลอดไฟหรือไข่แดง? เอ๊ะหรือดราก้อนบอล? กระป๋องเบียร์ที่เรียงตัวอย่างสวยงาม เพิ่มความน่าดื่มเข้าไปอีก 10% แกะพลาสติกบนโต๊ะหินอ่อนไม้ที่เพิ่งซื้อมา โอ้ววฟินนห์อ่าาาห์ ช่างเป็นเค้กที่ดูมีรูปทรงกลมกล่อมน่าลิ้มลองมากๆ ขาว ดำ ดำ ขาว ขาว ดำ ขาว ขาว ดำ ดำ ขาว ดำ ดำ ขาว ดำ สวรรค์ของเจ้าเหมียวเลยสิเนี๊ยะ ลุ้นแทบตาย… สุดท้ายก็แกะสติ๊กเกอร์ได้อย่างเพอร์เฟกต์ ยอดเยี่ยมไปเลยนายจ๋าา การไล่ลำดับสีของผลมะเขือเทศตามธรรมชาติ สวยงามเว่อร์ ช็อกโกแลตปุดๆๆ เห็นแล้วอยากเอานิ้วไปจิ้มแล้วดูดจัง เรียงกระป๋องเบียร์ยังไงให้ดูคูลที่สุดในสามโลก…
-
เรื่องราวของ ‘หลวงแจ่ม’ สุนัขที่ชอบแอบเข้าในเขตพระราชวัง จนกลายมาเป็นสุนัขทรงเลี้ยง
ปวงชนชาวไทยทั้งหลายจะรู้กันดีว่า “รัชกาลที่ 9” ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณสูงส่ง และไม่ใช่กับเหล่าประชาชนชาวไทยเพียงอย่างเดียว กับเหล่าสัตว์ทั้งหลายเองก็เช่นกัน โดยเฉพาะสุนัข พระองค์ทรงรักสุนัขมาก ดังเราจะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงมีสุนัขทรงเลี้ยงอยู่มากมาย และในวันนี้เอง #เหมียวหง่าว ก็อยากจะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเรื่องราวของเจ้าเจมส์ ที่ชอบแอบเข้าไปวิ่งเล่นในวังจนกลายมาเป็นหนึ่งในสุนัขทรงเลี้ยงของพระองค์ เรื่องราวของเจ้าเจมส์ หมาพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดที่ คุณฉันทนา ศรีสวัสดิ์ ได้นำมาเลี้ยงไว้ในช่วงปี พ.ศ. 2541 ซึ่งบ้านของเธอนั้นอยู่ไม่ห่างจากพระราชวังไกลกังวลซักเท่าไหร่ เจ้าเจมส์เป็นหมาที่เรียบร้อย ไม่ค่อยซุกซนเหมือนกับหมาตัวอื่นๆ ทั่วไปซักเท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้ก็ทำให้คุณฉันทนาเป็นห่วงว่ามันจะไม่มีความสุข อย่างที่กล้าวไว้ในข้างต้นว่าบ้านของคุณฉันทนานั้นอยู่ใกล้กับพระราชวังไกลกังวล และรั้วที่อยู่ใกล้กับบ้านของเธอนั้นก็เป็นเพียงลวดหนามผุๆ เท่านั้น แถมยังพอมีช่องให้สุนัขลอดไปได้อยู่ 1 รู คุณฉันทนาเล่าว่าเจ้าเจมส์นั้นชอบแอบลอดรั้วเข้าไปเล่นซนในพระราชวังไกลกังวลอยู่บ่อยๆ มีอยู่วันหนึ่งมันหายจากบ้านไปนานถึง 3 วัน ด้วยความเป็นห่วงคุณฉันทนาก็ได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่เพื่อไปตามมันกลับมา และก็ไปพบเจ้าเจมส์ที่ห้องครัวอาหารต่างประเทศ (แหม สมกับเป็นหมาต่างประเทศเลยนะ) กำลังนอนหลับตากแอร์อย่างเป็นสุข จะพากลับก็ดูเหมือนว่าไม่อยากกลับ และอยู่มาวันหนึ่งพระองค์ก็ได้เสด็จมาประทับที่พระราชวังไกลกังวล ทำให้คุณฉันทนาต้องควบคุมเจ้าเจมส์อย่างเข้มงวดยิ่งกว่าเดิมเพราะหากมันแอบเข้าไปในวังอีกก็เกรงว่าจะเป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท แต่ด้วยความที่คุณฉันทนาเป็นคนที่รักสุนัขมาก ทำให้เธอไม่อยากจะล่ามมัน และในที่สุดเจ้าเจมส์ก็แอบหนีเข้าไปเล่นในวังอยู่ดี และทุกๆ วันเจ้าหน้าที่ก็จะจูงเจ้าเจมส์มาส่งที่หน้าบ้าน จนมาวันหนึ่งเจ้าหน้าที่ได้จูงเจ้าเจมส์มาส่งตามเดิมแต่ครั้งนี้ดูท่าจะเป็นเรื่องใหญ่เพราะว่าเจ้าเจมส์นั้นล่วงเข้าไปถึงยังเขตพระราชฐานชั้นใน เจ้าหน้าที่ก็เลยกำชับไว้ว่าอย่าปล่อยให้มันหลุดเข้าไปในวังอีกเป็นอันขาด ด้วยเหตุนี้คุณฉันทนาก็เลยจำเป็นที่จะต้องล่ามเจ้าเจมส์เอาไว้ แต่เวลาผ่านไปในช่วงสายวันหนึ่งก็มีเจ้าหน้าที่มาหาที่บ้าน…
-
บริษัทชุดสูทผู้หญิงทำโฆษณาให้ผู้ชายเปลือยเป็นตัวประกอบ นำไปสู่ประเด็นร้อนในโซเชียล
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการโฆษณาเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อยอดการขายสินค้ามาก ดังนั้นผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงมักทุ่มเทให้กับการโฆษณาเป็นหลัก เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคให้มากที่สุด แต่ดูเหมือนโฆษณาตัวล่าสุดของ Suistudio จะเป็นการฉีกกฏการโฆษณาแบบเดิมๆ มากเกินไป จนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ทั่วโลกออนไลน์ในขณะนี้ Suistudio เป็นบริษัทชุดสูทผู้หญิง ได้ออกแคมเปญโฆษณาตัวล่าสุดภายใต้หัวข้อ “Not Dressing Men” ซึ่งน่าสะดุดตาตรงที่ว่าให้ผู้ชายเปลือยกายอยู่ในแคมเปญด้วย แม้ว่านี่จะเป็นการโฆษราชุดสูทผู้หญิง แต่ทางบริษัทได้นำผู้ชายเปลือยกายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของภาพ เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค อย่างไรก็ตามหากสังเกตดูดีๆ บริษัทจะเน้นที่ตัวนางแบบในชุดสูทเป็นหลัก โดยให้ผู้ชายเปลือยเป็นเพียงแค่ฉากประกอบเท่านั้น อย่างเช่น เฟอร์นิเจอร์ โฆษณาชิ้นนี้เรียกได้ว่าเป็นการฉีกกฏเดิมๆ ของวงการโฆษณาไปเลย ซึ่งก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีคนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วย บางคนบอกว่า Kristina Barricelli ประธาน Suistudio และทีมงานโฆษณาชิ้นนี้ ส่งเสริมให้มองมนุษย์เป็นเพียงแค่วัตถุชิ้นหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม Barricelli ได้ออกมาอธิบายว่า นั่นไม่ใช่เจตนาของบริษัท สิ่งที่เธอต้องการสื่อคือ ‘การให้ผู้ชมได้พิจารณาในเรื่องบทบาททางเพศผ่านการโฆษณา’ ชายเปลือยที่มีบทบาทเหมือนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง นางแบบในชุดสูทจะถูกชูให้โดดเด่นกว่าชายที่นอนเปลือย แต่หลายคนเข้าใจว่านี่เป็นการส่งเสริมให้มองมนุษย์เป็นแค่วัตถุเท่านั้น ชาวเน็ตรายหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นว่า “ไม่มีใครสมควรถูกทำให้เป็นเพียงแค่วัตถุเท่านั้น” ผู้ชายคนนั้นอาจเป็นเพื่อน พี่ชาย…
-
ทำไมคนเกาะซามัว 95% ถึงเป็นโรคอ้วน บทเรียนที่ประเทศไทยควรเอามาคิดตาม..!?
ไม่น่าเชื่อว่า ‘ประเทศซามัว’ กำลังเผชิญปัญหาวิกฤตโรคอ้วนที่มีประชากรเป็นมากถึง 95% เลยทีเดียว และนับว่าเป็นประเทศที่มีประชากรเป็นโรคอ้วนเยอะที่สุดในโลก อีกทั้ง 1 ใน 3 ของประชากรยังป่วยเป็นเบาหวานอีก..!! และคราวนี้เราจะพาไปหาคำตอบกันว่า ทำไมประชากรที่นี่ถึงต้องเผชิญกับวิกฤตโรคอ้วน ซึ่งทั้งหมดนี้อาจเป็นบทเรียนที่ทำให้คนไทยเราหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น Tavita ชาวพื้นเมืองอีกคนหนึ่งที่กำลังต่อสู้กับโรคอ้วน อดีตคนขับแท็กซี่ Tavita เล่าว่า ก่อนหน้านี้เขามักจะดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำวันละ 2 ลิตร ขนมหวานจุกจิก อีกทั้งยังรับประทานแต่อาหารประเภทที่มีไขมันสูง “ผมรู้สึกเป็นห่วงสุขภาพตัวเองมากๆ ตอนนี้น้ำหนักตัวมันมากเกินไป และมันก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเรา ด้วยความรักที่มีต่อภรรยาและลูกๆ เราก็อยากจะอยู่กับพวกเค้าไปนานๆ” Tavita กล่าว แต่ดูเหมือนว่าปัญหา ‘โรคอ้วน’ ของชาวซามัวจะมีปัจจัยที่มากกว่าพฤติกรรมการบริโภคแบบจุกจิก เพราะข้อมูลจาก WHO พบว่า พฤติกรรมการบริโภคยังส่งผลตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงสุขภาพโดยรวมด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นยังพบว่ากว่า 9 ใน 10 ของชาวซามัว ยังต้องต่อสู้กับโรคอ้วน และตัวเลขของผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภท 2 ในแต่ละปีพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย (เบาหวานประเภท 2 ส่วนใหญ่มักเกิดในกลุ่มคนอ้วนที่ขาดการออกกำลังกาย…
-
นักวิเคราะห์คาดการณ์ นี่คือ 8 สิ่งที่เราจะเห็นในเมืองใหญ่ของโลกอนาคตปี 2045!!!
ในปัจจุบัน เมืองหลายเมืองถือได้ว่ามีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่อยู่อาศัยได้อย่างมากมาย แต่ลองทายดูสิว่าในอีก 30 ปีข้างหน้าเทคโนโลยีเหล่านี้จะก้าวหน้าไปขนาดไหน?? Ian Pearson นักทำนายอนาคตที่มีความแม่นยำถึง 85% จากสถิติทั้งหมด ได้รวบรวมข้อมูลร่วมกับ Hewden บริษัทให้เช่าอุปกรณ์ก่อนสร้าง ทำนายว่าเราจะได้เห็นอะไรในปี 2045 และนี่คือ 8 คำทำนายสุดเจ๋ง ที่พวกเขาได้ทำนายไว้ว่าเมืองในอนาคต จะมีลักษณะเป็นอย่างไร ลองไปดูกันดีกว่า เราจะสามารถคุยกับตึกได้เหมือน Siri!! สิ่งก่อสร้างในอนาคตจะมีระบบ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้เราสามารถคุยกับห้องที่เราอยู่ได้ อย่าง ถามอุณหภูมิภายในห้อง หรืออาจสั่งให้เปิดปิดไฟ ตึกสูงๆ ที่มีสารพัดประโยชน์คล้ายกับเมืองย่อมๆ เลยทีเดียว ด้วยความต้องการมีจำนวนสูงและที่ดินราคาแพงขึ้น ทำให้ตึกสูงๆ จะกลายเป็นพื้นที่สำหรับชนชั้นกลางและชนชั้นล่าง โดยในแต่ละชั้นจะแบ่งเป็น พื้นที่ออกกำลังกาย พื้นที่สำหรับอยู่อาศัย และพื้นที่สำหรับทำงาน รวมอยู่ในตึกเดียวกันเลย หน้าต่างในตึกต่างๆ จะถูกแทนที่ด้วยหน้าจอเสมือนจริง ในภาพยนตร์เรือง Back to The Future 2 ได้มีฉากหนึ่ง ทำให้เห็นว่าในอนาคตไม่มีหน้าต่าง แต่จะมีภาพเสมือนจริง ที่สามารถเปลี่ยนไปมาได้ ซึ่งมันอาจกลายเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะว่าถ้าไม่มีหน้าต่างจะทำให้ ตึกสร้างได้เร็วขึ้นและยังใช้เงินน้อยกว่าอีกด้วย…
-
เที่ยวบินเลขเฮี้ยน 666 สู่ HEL (เฮลซิงกิ) บินเวลา 13.20 ในวันศุกร์ 13 ต.ค. เครื่องบินอายุ 13 ปี
ดูเหมือนว่าความเชื่อเกี่ยวกับเลข 13 ของฝั่งตะวันตกจะเป็นอะไรที่ถูกฝังลึกมานาน คล้ายกับความเชื่อเรื่องผีในบ้านเรานั่นแหละ แต่บางทีถ้ามันนานมากไปมันก็อาจกลายมาเป็นกิมมิคสนุกๆ แบบนี้ได้ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา สายการบิน Finnair ได้จัดกิมมิคทริปสู่นรก เอาใจผู้โดยสารบนไฟลท์บิน AY666 ออกเดินทางจากกรุงโคเปเฮเก้น สู่เมืองเฮลซิงกิ (HEL) ด้วยเวลานาน 13 ชั่วโมง..!! (เต็มไปด้วยเลขเฮี้ยนๆ ทั้งนั้น) เที่ยวบิน AY666 พร้อมจะพาทุกท่านไปสู่นรก เอ๊ยยเมืองเฮลซิงกิแล้วจ้า (เวลาที่ออกก็ตอน 13.20 อีก) กัปตันเที่ยวบิน Juha-Pekka Keidasto ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เครื่องบินลำดังกล่าวก็มีอายุ 13 ปีแล้วเช่นเดียวกันนะ!! แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่มีการให้บริการเที่ยวบินหลอนๆ แบบนี้ เพราะตลอดเวลา 11 ปีที่ผ่านมามีเที่ยวบิน AY666 ทุกวันศุกร์ที่ 13 แล้วมากกว่า 21 ครั้ง แต่ดูเหมือนว่าในความไม่เป็นมงคลที่เชื่อกันมา จะแอบมีประโยชน์อยู่ไม่น้อย เมื่ออ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์…
-
ว่าไงนะ… งานวิจัยเผย ‘เห็ดขี้ควาย’ ช่วยรีเซ็ทสมอง และบรรเทาอาการของโรคซึมเศร้าได้!?
งานนี้สายเมาแบบ Trippy คงต้องมีเฮกันบ้าง หลังมีงานวิจัยจากสถาบัน Imperial College London ที่ค้นพบว่า… เห็ดขี้ควาย (Magic Mushroom) ช่วยรีเซ็ทสมอง และบรรเทาอาการโรคซึมเศร้าได้จริง!? ถ้าจะให้อธิบายคุณสมบัติแบบหยาบๆ ก็คือ เจ้า Psilocybe Cubensis (เห็ดขี้ควาย) เป็นเห็ดที่มีพิษส่งผลต่อระบบประสาท โดยส่วนใหญ่ผู้ที่รับประทานเข้าไปจะมีอาการ.. เห็นภาพ แสง สี ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิด และอารมณ์คล้ายคลึงกับ LSD ซึ่งเราจะเรียกสสารในหมวดที่สร้างภาพหลอน และมีการเปลี่ยนแปลงเชิงจิตใต้สำนึกนี้ว่า ‘Psychedelic Drugs’ ตัวเห็ดมักขึ้นอยู่ตามกองมูลแห้งของควาย สามารถพบได้ในหลากหลายพื้นที่ทั่วโลก และในแต่ละพื้นที่ก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อยทางสายพันธุ์ที่ต่างกันออกไป (รวมถึงอาการที่ได้รับด้วย) มาเข้าเรื่องของเรากันต่อ… โดย Dr. Robin Carhart-Harris หัวหน้าทีมวิจัยสาร Psychedelic ประจำสถาบัน Imperial College London ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลลัพธ์จากงานวิจัยว่า “เราได้ค้นพบครั้งแรกว่า อาการที่เกิดขึ้นจากการรับประทาน ‘เห็ดขี้ควาย’ ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมสมองของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า หรือคนที่มีปัญหากับอาการเครียดได้..” …
-
ภาพการ์ตูนสะท้อนสังคม “ความเจ็บปวดของเหล่าเด็กๆ” ที่ต้องเจอกับปัญหาพ่อแม่หย่าร้าง…
หลายคนมักจะอ่านการ์ตูนที่ทำให้เรารู้สึกดีแต่ในความเป็นจริงเราต้องอย่าลืมที่จะสนใจการ์ตูนที่ให้ความรู้สึกตรงกันข้ามออกมาด้วย เหมือนกับการ์ตูนสั้น 7 ช่องเรื่องนี้ การ์ตูนโดยศิลปินที่ใช้ชื่อว่า Mark เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงสังคมและปัญหาพ่อแม่หย่าร้างที่เกิดขึ้นกับเด็ก ซึ่งสุดท้ายต้องถูกทิ้งเอาไว้อย่างไร้ความหวัง ในขณะนี้มันได้กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลที่ทำให้หลายคนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกัน ว่าแล้วเพื่อนๆ ก็ลองไปดูกันเลย . . . . . . แม้ในส่วนของการ์ตูนจะมีความเรียบง่ายแต่ก็สะท้อนปัญหาในเรื่องนี้ออกมาได้อย่างชัดเจน จนทำให้หลายคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ไปแล้ว ในตอนที่พ่อแม่เลิกกันไม่มีใครอยากได้ฉันไปอยู่ด้วยเลยทำให้ฉันรู้สึกอินกับการ์ตูนเรื่องนี้มาก แม้ตอนนี้ฉันจะดีขึ้นแล้วแต่มันก็ยังเศร้าอยู่ดี สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างนั้นจริงๆ ครอบครัวฉันหย่าร้างกันเมื่อสองปีก่อนตอนที่ฉันอายุได้ 16 ปี และสิ่งนั้นเกือบทำให้ฉันคิดฆ่าตัวตาย เรื่องนี้กระแทกใจฉันเข้าอย่างจัง พ่อทิ้งฉันไปตั้งแต่ยังแบเบาะ ส่วนแม่ก็ไม่สนใจฉันเลยในตอนวัยเด็กเพราะมัวแต่ไปปาร์ตี้กับผู้ชายคนอื่นๆ แต่บางคนก็ได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากการ์ตูนเรื่องนี้ เด็กที่ต้องเจอกับปัญหาหย่าร้างไม่ได้ต้องแย่ขนาดนั้นเสมอไป แม้พ่อจะทิ้งฉันไปหาครอบครัวใหม่ แต่ตอนนี้พ่อเลี้ยงก็ดูแลฉันดีมาโดยตลอด เรื่องของฉันต่างออกไป เพราะตอนนั้นฉันพยายามกอดและปลอบโยนแม่จนสามารถทำให้เราอยู่ด้วยกันได้มาจนถึงตอนนี้ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ในวันเกิดของฉันครอบครัวใหม่ของทั้งแม่และพ่อต่างมาร่วมเล่นเกมและมีความสุขไปด้วยกัน แล้วเพื่อนๆ ละคิดยังไงกับการ์ตูนเรื่องนี้บ้างมาคอมเม้นท์บอกไว้ด้านล่างหน่อยนะ ที่มา: Demilked
-
โจรอินหนัก… เรียนรู้วิถีนินจาจาก ‘นารูโตะ’ ได้ไม่นาน ออกไปลองวิชา แต่สุดท้ายไปไม่รอด
เชื่อแน่ว่าในวัยเด็ก หลายๆ คนอาจจะเคยเลียนแบบตัวการ์ตูนที่ชื่นชอบและอาจจะเคยเชื่อว่าตัวเองมีพลังแห่งจันทราแบบเซเลอร์มูนแน่ๆ แต่บางครั้งการเล่นสนุกแบบเด็กๆ นั้นอาจจะทำให้คุณถูกจับได้ ถ้าหากนำพลังวิเศษเหล่านั้นไปใช้ผิดที่แบบชายคนนี้!! นาย Christopher Zahyeer Atkins ชายหนุ่มเกะนินวัย 25 ปี ผู้ร้อนวิชากำลังอยากจะลองวิชานินจาของเขา แต่ทว่างานนี้พ่อหนุ่มจากหมู่บ้านโคโนฮะของเราทำไม่สำเร็จ หลังจากที่เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจากแอตแลนตา จับกุมตัวได้ เมื่อกลางดึกของวันจันทร์ที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวถูกจับกุมตัวได้ระหว่างที่กำลังบุกเข้าไปขโมยของในร้าน Target เมื่อเวลาประมาณตี 1 เจ้าหน้าที่ Anwar Sillah จากสถานีตำรวจ Dunwoody เล่าว่าผู้ต้องหาคนนี้บอกว่าเขากำลังใช้พลังของเขาในการยกประตูขึ้น คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของร้านได้เผยให้เห็นวินาทีที่ชายคนดังกล่าวกำลังพยายามที่จะพังประตูของร้าน และนั่นจึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจเข้าจับกุมเขา “ชายคนนี้ได้ให้คำให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าหลังจากที่เขาได้อ่านหนังสือการ์ตูนนารูโตะเล่มที่ 5 และได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิชานินจาในการ์ตูนเรื่องนั้น เขาจึงคิดว่าเขาสามาถหลบหนีจากระบบรักษาความปลอดภัยและเข้าไปในร้านค้านั้นได้” เจ้าหน้าที่ Sillah ให้สัมภาษณ์ และเพจของสถานีตำรวจ Dunwoody เอง ก็ได้ออกมากล่าวถึงพ่อหนุ่มเกะนินผู้นี้เช่นกัน นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า นาย Atkins นั้นเป็นหนึ่งในผู้ลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่พบว่าสัมภาระของเขานั้นมีเพียงถุงหนังสือเก่าๆ เครื่องเล่นดีวีดี และของใช้เก่าๆ อีกนิดหน่อยเท่านั้น ขณะนี้ชายคนดังกล่าวถูกตั้งข้อหาลักขโมยในระดับ 1 และกำลังรอการพิจารณาคดีในขั้นตอนต่อไป และแล้วเส้นทางการเป็นจูนิน ของชายหนุ่มก็จบลงเพียงเท่านี้ โถ่… คุณตำรวจก็!! ที่มา orlandosentinel, fox26houston, nextshark
-
น้ำท่วมแล้วไงใครแคร์!? เจ้าเหมียวนั่งเรือกะละมังพอกลับขึ้นฝั่ง ก็กลายเป็นแมวสุดเท่ไปเลย…
ภาพสุดน่ารักนี้ถูกแชร์ในโลกออนไลน์เมื่อได้มีเจ้าเหมียวนักล่องเรือแห่งเวียดนาม ซึ่งมีคนจับภาพมันกำลังออกเรือไปเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ไม่มีใครทราบว่ามันมาได้อย่างไร จนกระทั่งสืบพบว่าจริงๆ แล้วมันเป็นของคุณ Lê Quốc Phong ซึ่งบอกว่าแมวของเธอตัวนี้มันชอบการไปล่องเรือกะละมังนี้เป็นอย่างมาก พอมันเบื่อ มันก็จะให้เจ้านายเอาขึ้นมาบนฝั่ง หรือไม่ก็กระโดขึ้นมาเอง หรือมันอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นกัปตันลูฟี่กำลังตามหาวันพีซอยู่ก็เป็นได้ . . พอขึ้นมาบนบก ก็กลับมาใส่เครื่องแบบอีกครั้งหนึ่ง ปลอมตัวซะหน่อยเดี๋ยวพวกมนุษย์จะจำได้ว่าเป็นโจรสลัด สำหรับใครที่ชื่นชอบ อยากจะไปติดตามชีวิตเจ้าเหมียวตัวนี้ สามารถเข้าไปได้ที่เพจเฟซบุ๊คของมัน PhotoCats ได้เลยนะครับ ยังมีอีกหลายตัวไว้ให้ได้ชมอีกด้วย #เหมียวสามสี
-
โลกมันอยู่ยาก.. หญิงสาวกลับบ้านตอนกลางคืน แค่คืนเดียวโดนล่วงละเมิดทางเพศถึง 3 ครั้ง!?
บ่อยครั้งที่เราได้ยินข่าวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และโดยส่วนมากนั้นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการกระทำดังกล่าวก็หนีไม่พ้นผู้หญิงนั่นเอง และหญิงสาวผู้นี้เองก็ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ แต่สำหรับกรณีของเธอนั้นกลับแย่กว่า เพราะในระหว่างการเดินกลับบ้านในตอนดึกนั้นเธอถูกล่วงละเมิดทางเพศถึง 3 ครั้งในคืนเดียว หลังจากที่เดินออกจากไนต์คลับแห่งหนึ่งของเมือง Tower Hamlets ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน เธอก็ตกเป็นเป้าหมายของชายเแปลกหน้าโดยทันที โดยทางตำรวจกล่าวว่าผู้ต้องสงสัยหมดนั้นไม่มีความเชื่อมโยงกันแต่อย่างใด นักศึกษาสาวผู้ตกเป็นเหยื่อของการกระทำดังกล่าวไม่สามารถจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอได้ โดยทางตำรวจคาดว่าในตอนนั้นเธอน่าจะอยู่ในอาการเมาไม่ได้สติ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่หญิงสาวแยกตัวจากเพื่อนๆ ของเธอที่ไนท์คลับ และกำลังเดินทางกลับบ้าน ภาพของเธอปรากฏบนกล้องวงจรปิดประมาณ 5 ทุ่ม 55 นาทีของคืนวันเกิดเหตุ โดยผู้ต้องสงสัยรายแรกนั้นปรากฏตัวขึ้นที่ถนน Cambridge Heath Road ก่อนที่จะพบเสื้อของเธอตกอยู่ในบริเวณดังกล่าว จากนั้นเวลาใกล้เคียงกันกล้องวงจรปิดอีกตัวได้จับภาพของผู้ต้องสงสัยคนที่ 2 ที่กำลังเดินผ่านถนนพร้อมกับจักรยานของเขา ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่าชายคนดังกล่าวกำลังเดินตามเธอไปยังสถานีรถไฟ Bethnal Green และหลังจากนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวก็เดินออกมาพร้อมกับสภาพเหมือนถูกข่มขืน ผู้ต้องสงสัยจากภาพของกล้องวงจรปิด จากนั้นไม่นานทางตำรวจเชื่อว่า เธอถูกล่วงละเมิดทางเพศอีกครั้งเมื่อราวๆ เที่ยงคืน 45 นาที ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นหนึ่งในสองผู้ต้องสงสัยก่อนหน้านี้ก็ได้ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดได้เผยให้เห็นผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 เดินเข้าไปในจุดเกิดเหตุ และเดินออกมาจากพื้นที่นั้น พลเมืองดีที่อยู่บริเวณนั้น ได้พบเห็นหญิงสาวคนดังกล่าวกำลังนอนอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด และได้ทำการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อช่วยเหลือเธอ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมากล่าวว่า การล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรง และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และพวกเขากำลังสืบสวนพยานต่างๆ เพื่อจับตัวคนร้ายให้ได้…
-
ชายผู้คิดว่าสูญเสียทุกสิ่งไปจากเหตุไฟป่า แต่ยังคงมี ‘เจ้าแมว’ รอดชีวิตท่ามกลางความสิ้นหวัง
ในตอนที่เราต้องสูญเสียทุกอย่างไปความรู้สึกตอนนั้นมันคงจะสิ้นหวังอย่างบอกไม่ถูกแน่นอน เช่นเดียวกับชายคนนี้ที่ต้องรู้สึกว่าชีวิตของเขานั้นไม่เหลืออะไรอีกแล้วจนกระทั่งแสงแห่งความหวังได้เกิดขึ้น ชายหนุ่มคนดังกล่าวชื่อว่า Ed Ratliff วัย 68 ปีที่ต้องสูญเสียบ้านและทุกอย่างไปจากเหตุไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา ชายผู้ต้องสูญเสียบ้านไปเพราะไฟป่า เขาเล่าว่าในตอนตี 2 ของวันนั้นเกิดเหตุการณ์ไฟป่าขึ้นในบริเวณบ้านของเขา ในช่วงเวลาคับขันนั้นเจ้าเหมียวของเขา Milo ได้รีบวิ่งหนีหายไป ส่วนตัวของเขาเองก็ทำได้เพียงขับรถหนีออกไปเท่านั้น ไฟป่าที่ลุกลามมาอย่างหนักทำให้บ้านของเขาต้องวอดไปจนหมดและเขาก็รู้สึกสิ้นหวังกับทุกสิ่งรวมถึงเจ้าแมวที่ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง วันต่อมาเจ้าหน้าที่จากสำนักงานนายอำเภอเมือง Sonoma ได้เข้าไปค้นหาพื้นที่ในบริเวณบ้านของเขาหลังจากที่ได้ยินเสียง “เมี้ยววว” แหน่ะ!! เจอซักทีนะเจ้าเหมียว ตอนแรกมันก็ยังคงไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่และไม่ยอมออกมา แต่พอเริ่มเอาอาหารมาล่อมันก็รู้สึกไว้วางใจมากขึ้น หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้โพสต์คลิปเจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือเจ้าแมว Milo ให้ออกมาจากใต้ท้องรถพร้อมข้อความว่า “ผู้ควบคุมกฎหมายพร้อมบริการความช่วยเหลือให้กับทุกวิกฤตในชุมชน” เมื่อเจ้าเหมียวออกมาพวกเขาก็รีบพามันไปที่โรงพยาบาลสัตว์ของเมืองทันที เมื่อไปถึงทางโรงพยาบาลก็ได้โพสต์รูปภาพของเจ้าเหมียวลงในโซเชียลมีเดียจนทำให้ Ratiff ที่ไปพักอยู่ทางใต้ของรัฐในตอนนั้นรีบมาหามันอย่างเร็วไว ในที่สุดก็ออกมาและพบว่ามันมีแผลไหม้ที่อุ้งเท้า พวกเขาจึงรีบพามันไปโรงบาล คลิปเจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลือเจ้าเหมียวออกมาจากใต้ท้องรถ ในที่สุดเพื่อนซี้ทั้งสองก็ได้กลับมาเจอกัน เจ้าเหมียวได้ทำใหเขากลับมามีความหวังในการใช้ชีวิตอีกครั้ง เขาบอกว่าจริงๆ ไม่ได้เป็นคนชอบแมวเลย ชอบหมามากกว่า…
-
หนุ่มสร้างสะพานให้แมวข้าม แต่กลับได้รับความนิยม และกลายเป็นธุรกิจที่ทำเงินให้กับเขา!!
บางครั้งจุดเริ่มต้นของธุรกิจบางอย่างก็มาจากความชื่นชอบส่วนตัว และเกิดการต่อยอดจนกลายเป็นสิ่งที่ทำเงินให้กับคุณได้ และเรื่องราวของคุณ CatastrophiCreations ผู้ใช้งานจากเว็บไซต์ Boredpanda เองก็เช่นกัน เมื่อมันเขาได้เริ่มออกแบบของเล่นให้กับเจ้าเหมียวของเขา และหลังจากนั้นมันก็กลายเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ให้กับเขา!! อ่า… สบายจริงๆ เลยนะเหมียว!! คุณ CatastrophiCreations ชายหนุ่มผู้แพ้ขนแมวอย่างหนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามชีวิตของเขากลับต้องมีเจ้าเหมียววนเวียนเข้ามาตลอด หลังจากที่ได้รู้จักกับแฟนสาวผู้หลงรักแมวและย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยถูกกับแมวมากเท่าไหร่ แต่ชายหนุ่มก็พยายามจะเอาใจเจ้านายของเขาโดยการมองหาของเล่นน่ารักๆ สำหรับพวกมัน ชายหนุ่มอยากได้ของเล่นที่แปลกใหม่สำหรับเจ้าเหมียว เขาจึงตัดสินใจที่จะใช้ทักษะช่างไม้ที่ร่ำเรียนมาสร้างสะพานเล็กๆ ไว้ในอพาร์ทเม้นท์ของพวกเขาเพื่อให้เจ้านายได้เดินเล่นไปและปีนป่าย “เราสร้างสะพานพวกนี้มาเพื่อให้เจ้าเหมียวได้เดินเล่น เราพยายามออกแบบให้แปลกใหม่และในที่สุดเราก็ได้ของเล่นแมวติดผนังสุดเจ๋งออกมา และดูเหมือนว่าพวกแมวของเราจะชอบมันเอามากๆ ด้วย” ชายหนุ่มกล่าว สะพานแมวของคุณ CatastrophiCreations นั้นมีการออกแบบที่สวยงาม เขาลองนำมันไปขายในเว็บไซต์ขายของออนไลน์ และได้รับความนิยมอย่างมาก จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ แต่ตอนนี้ของเล่นแมวของเขากลับได้รับความนิยมอย่างมาก และมันก็ทำเงินให้กับเขาได้ดีเลยทีเดียว ชายหนุ่มพยายามปรับปรุงการออกแบบสะพานแมวของเขา และทำให้มันมีรูปแบบที่หลากหลายขึ้น ตามความต้องการของลูกค้า และนอกจากจะเป็นสะพานแล้ว บางครั้งมันก็ยังกลายเป็นที่นอนของเจ้าเหมียวอีกด้วยนะ!! . . . เค้าให้เดินข้าม โถ่พี่เหมียวพี่!! . “ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้คือความฝันของผม ผมมักจะตื่นขึ้นมาจามตอนกลางคืนเพราะอาการแพ้ขนแมว ผมรักเจ้าเหมียวทั้ง 3 ตัวของผมมากๆ…
-
สาวญี่ปุ่นร่วมโหวต 7 อันดับการ ‘ถูกบอกเลิก’ ที่ทำร้ายหัวใจพวกเธอมากที่สุด!!
ชีวิตคู่ของหลายคนบางครั้งเมื่อมาถึงจุดจุดหนึ่งการเลิกรากันไปอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่เราต้องเลือกวิธีการบอกเลิกให้ดีเพราะเราอาจทำให้อีกฝ่ายต้องรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากกับการถูกเลิกก็ได้ ในประเทศญี่ปุ่น จึงได้มีการใช้แบบสอบถามของ DoCoMo ที่รวบรวมประสบการณ์การถูกบอกเลิกอันแสนเจ็บปวดมาให้หญิงสาวชาวญี่ปุ่นวัยราวๆ 30 ในเมืองโตเกียว ได้เข้ามาตอบว่าสถานการณ์แบบไหนที่ทำให้พวกเธอรู้สึกเจ็บมากที่สุด ผลโหวตทั้งหมดได้ออกมาเป็น 7 การบอกเลิกที่เลวร้ายมากที่สุดสำหรับพวกเธอ 7. ถูกบอกเลิกหลังจากที่ความลับโดนเปิดเผยและอีกฝ่ายรับไม่ได้ (โหวต 141 คน/ 1 เปอร์เซ็นต์) หลายคนมองว่าสถานการณ์นั้นสมควรแล้วที่จะถูกบอกเลิก แต่ก็ยังมีบางส่วนที่คิดว่าเรื่องของตัวเองควรได้รับการให้อภัยไม่น่าถึงขนาดต้องเลิกคบกัน 6. ถูกบอกเลิกในที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำของทั้งสองคน (โหวต 245 คน/ 3 เปอร์เซ็นต์) เป็นตรรกะของบางคนที่คิดว่าการทำลายความทรงจำที่ดีที่มีให้กันไปซะจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่บางครั้งมันกลับทำให้อีกฝ่ายรู้สึกทรมานมากที่สุดก็ได้ 5. ถูกบอกเลิกหลังจากที่ทะเลาะกันอย่างหนัก (โหวต 245 คน/ 3 เปอร์เซ็นต์) จากคู่รักที่สนิทกันมากๆ บอกไว้ว่าการทะเลาะกันจะช่วยแยกแยะอารมณ์และปัญหาออกมาเพื่อแก้ไขมันให้ดีขึ้นได้ แต่บางครั้งการโต้เถียงบางเรื่องก็ไม่สามารถเรียกความรู้สึกเดิมกลับมาได้แม้อีกฝ่ายจะพยายามมากขนาดไหนก็ตาม 4. ถูกบอกเลิกในตอนที่ไปเจอกับพ่อแม่หรือคนในครอบครัว (โหวต 658 คน/ 8 เปอร์เซ็นต์) สถานการณ์นี้ไม่ได้มีการบอกว่าไปเจอพ่อแม่ของตัวเองหรือของอีกฝ่าย เลิกกันตอนไปเจอหรือหลังจากนั้น…
-
รู้จักกับ ‘บุราคุมิน’ กลุ่มคนชนชั้นล่างของสังคมญี่ปุ่น ที่ไม่อาจจับต้องและมองเห็นได้
บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับความสามัคคีของประเทศญี่ปุ่นผ่านทางสื่อต่างๆ แต่อันที่จริงแล้วอีกมุมหนึ่งของพื้นที่ห่างไกลในประเทศนี้กลับพบว่ามีการแบ่งชนชั้นกันอยู่ โต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยกองจดหมายด่าทอและดูถูกเหยียดหยาม จากมุมหนึ่งในห้องทำงานเก่าๆ ของตลาดเนื้อ Shibaura คงจะเป็นสิ่งที่อธิบายถึงความแบ่งแยกที่มีมาแต่ยุคกลางของประเทศญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี และผู้เป็นเจ้าของกองจดหมายเหล่านั้นก็คือ “บุราคุมิน” กลุ่มคนชนชั้นล่างอันเป็นที่รังเกียจของสังคมญี่ปุ่นนั่นเอง บุราคุมินนั้นมีอาชีพในการแล่เนื้อสัตว์ ฟอกหนัง หรือจัดการกับซากสัตว์ต่างๆ ในตลาดขายเนื้อแห่งนี้ ซึ่งทักษะดังกล่าวต้องใช้เวลาในการฝึกฝนกันนานนับ 10 ปี แต่อาชีพของพวกเขากลับเป็นไม่ถูกพูดถึงอย่างน่ายกย่อง “เมื่อมีผู้คนพูดถึงงานที่เราทำ พวกเรามักลังเลที่จะตอบพวกเขาไปตรงๆ ” คุณ Yuki Miyazaki หนึ่งในคนชำแหละเนื้อกล่าว “นั่นเป็นเพราะว่าเราไม่อยากให้ครอบครัวของเราได้รับการกระทำที่ไม่ดี พวกเราสามารถทนต่อการกระทำแบบเลือกปฏิบัติได้ แต่ลูกๆ ของเรานั้นอาจจะไม่เหมือนกัน และเราต้องปกป้องพวกเขา” ชายหนุ่มเสริม คำว่า “บุราคุมิน” ในภาษาญี่ปุ่นนั้นหมายถึงคนในหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปในสมัยศักดินาของประเทศญี่ปุ่นนั้น คนในหมู่บ้านเหล่านี้จะมีอาชีพใช้แรงงานที่มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งสกปรกหรือความตาย อย่างเช่นเพชฌฆาต คนขายเนื้อ และสัปเหร่อ และในชนชั้นต่ำสุดของกลุ่มคนเหล่านี้เรียกว่า “เอตะ” ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นชนชั้นที่ต่ำสุดของญี่ปุ่น เมื่อไหร่ก็ตามที่เอตะกระทำความผิด ซามูไรสามารถฆ่าพวกเขาได้ทันทีโดยที่ไม่มีความผิด และในศตวรรษที่ 19 พวกเขาถือว่าเอตะนั้นมีค่าเพียงแค่ 1 ใน 7 ของคนธรรมดาเท่านั้น ถึงแม้ว่าระบบศักดินาของญี่ปุ่นจะถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปี 1871 แล้ว แต่การกีดกันทางสังคมและความรังเกียจบุราคุมินนั้นยังคงมีอยู่ในสังคมญี่ปุ่น จากการรายงานของ BBC…
-
รวม 15 ภาพพิสูจน์ความบริสุทธิ์ทางจิตใจ คุณคงไม่คิดเห็นเป็นอย่างอื่นใช่มั้ย!?
ภาพเพียงภาพเดียวอาจทำให้แต่ละคนเข้าใจในความหมายหรือรับรู้แตกต่างกันได้ เช่นเดียวกับภาพเหล่านี้ที่จะสามารถบอกได้เลยว่าคุณคิดถึงเรื่องอะไรอยู่ เพราะมันแบ่งอย่างเห็นได้ชัดเลยว่าถ้าคุณยังคงมีจิตใจที่บริสุทธิ์คุณก็จะเห็นเป็นสิ่งหนึ่ง แต่ถ้าหากว่าคุณมีมลทินมาจากประสบการณ์ต่างๆ บ้างแล้วล่ะก็ สิ่งที่คุณเห็นจะแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเลย ไปดูกันเลยดีกว่าว่าทุกคนรับรู้เป็นภาพอะไรกันบ้าง ขนมปังร้านโปรดกับกลิ่นความสดใหม่ชวนรับประทาน เป็นสาวที่มีผิวเนียนทุกสัดส่วนจริงๆ ได้มาเที่ยวทีก็ยิ้มหวานเชียวนะครับ ขาเรียวสวยกันทั้งสองคนเลย สวมแหวนให้ผมหน่อยได้มั้ยครับที่รัก ไม่ต้องพกกระเป๋าขึ้นเครื่องหรอกน่า นอนแล่บลิ้นขนาดนี้สงสัยจะหมดแรง ขนาดย่อมเป็นสิ่งสำคัญในหลายเรื่อง เป็นโซฟาที่ดูเนียนนุ่มกว่าของที่อื่นมากๆ เลย แก้วกาแฟแบบเรียบง่ายแต่มีความโดดเด่น มันเย็นไปซะจนเกิดเป็นน้ำแข็งในขวดเลย พุ่งขึ้นไปซะสูงเชียว เป็นข่าวที่น่าสนใจมากๆ ข้างหลังช่วยขยับเท้าหน่อยได้มั้ย เงาสะท้อนไม่ค่อยเห็นเลย เห็นอะไรกันบ้างเอ่ยก็บอกแล้วว่ามันขึ้นอยู่กับแต่ละคนจริงๆ ต้องบริสุทธิ์เท่าเด็กทารกเลยละมั้งถึงจะไม่เข้าใจ เพราะขนาดใสๆ อย่าง #เหมียวตะปู ยังเห็นเป็นอย่างอื่นเลย… ที่มา: twentytwowords
-
ประเทศเนเธอร์แลนด์ เตรียมฝึก ‘อีกา’ คาบบุหรี่ เพื่อแก้ปัญหาก้นบุหรี่เกลื่อนเมือง
สิงห์อมควันบางคนเวลาที่สูบบุหรี่เสร็จแล้วก็ทิ้งก้นลงบนพื้นจนเป็นความเคยชิน จนทำให้มองไปทางไหนก็จะมีแต่ก้นบุหรี่เกลื่อนพื้นเต็มไปหมดเช่นเดียวกับเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่พวกเขาได้หาแนวทางการแก้ปัญหานี้เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้นักออกแบบ Ruben van der Vleuten และ Bob Spikman ได้คิดค้นหุ่นยนต์เก็บก้นบุหรี่ออกมาให้ได้เห็น แต่สุดท้ายโปรเจคท์นี้ก็ต้องสลายไปเพราะไม่สามารถตั้งโปรแกรมให้มันหลบคนเดินผ่านไปมาได้ หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ยอมและได้ไอเดียใหม่ออกมาโดยการใช้สัตว์ที่เราเห็นได้ทั่วไปในเมืองอย่างนกกระจอกหรือนกพิราบ แต่พวกมันก็ติดที่มีสติปัญญาที่น้อยทำให้ฝึกยาก จนกระทั่งเขาไปเจอกับสัตว์ปีกชนิดหนึ่งที่มีความฉลาดเอามากๆ นั่นก็คือ อีกา อีกาถูกจัดว่าอยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่มีความฉลาดมากที่สุดในโลก พวกมันสามารถเรียนรู้จากการสังเกตหรือวางแผนใช้เครื่องมือได้และยังสามารถพบเห็นได้ทั่วไปอีกต่างหาก ดังนั้นมันจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากที่สุดสำหรับงานนี้ นอกจากนั้นตัวช่วยของพวกเขาที่ทำให้แผนออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดก็คือเครื่องมือที่มีชื่อว่า Crow Box จากความคิดของ Joshua Klein เป็นอุปกรณ์ที่มีไว้ฝึกอีกาให้ไปคาบเงินมาแลกกับอาหาร เพราะฉะนั้นเพียงแค่เปลี่ยนจากเงินให้กลายเป็นก้นบุหรี่แทนเท่านี้ก็เรียบร้อย จากนั้นทั้งสามก็ได้เริ่มฝึกอีกาไปตาม 4 ขั้นตอนที่ Joshua ได้คิดเอาไว้ ขั้นตอนแรกคือทำให้พวกมันเห็นว่ามีอาหารและก้นบุหรี่วางอยู่บนถาดในเครื่องมือเพื่อให้มันจดจำความเชื่อมโยงของทั้งสองสิ่ง ขั้นตอนต่อมาคือปล่อยอาหารลงมาจากเครื่องทุกครั้งที่อีกาบินกลับมาเพื่อให้มันรู้ว่าอุปกรณ์นี้เอาอาหารมาให้มันได้ ขั้นตอนที่สามคือวางก้นบุหรี่ทิ้งไว้บนถาดเครื่องมือเพียงอย่างเดียว เมื่อพวกมันไม่เห็นว่ามีอาหารอยู่มันก็จะเริ่มโวยวายก่อนที่จะดันก้นบุหรี่ลงไปในเครื่องทำให้อาหารหล่นลงมาและพวกมันก็จะเริ่มเข้าใจได้ ขั้นตอนสุดท้ายจะให้คนมายืนสูบและทิ้งก้นบุหรี่เอาไว้ใกล้ๆ กับเครื่องมือ เหล่าอีกาทั้งหลายที่ผ่านการเรียนรู้มาทั้งหมดก็จะมาหยิบก้นบุหรี่มาแลกอาหารด้วยตัวเอง ซึ่งถ้าผ่านขั้นตอนนี้ไปได้พวกมันก็พร้อมออกไปเก็บก้นบุหรี่จากด้านนอกกลับมาได้แล้ว ถึงแม้ว่าทุกอย่างดูเหมือนจะพร้อมใช้งานได้จริงแต่ก็มีคำถามที่ว่าแล้วการให้อีกาไปคาบก้นบุหรี่จะไม่ส่งผลเสียกับสุขภาพของพวกมันหรือ? คำถามนั้นผู้คิดค้นได้ให้คำตอบไว้ว่า “อีกาจะคาบแค่ส่วนปลายๆ ทำให้มีโอกาสเกิดผลกระทบน้อยที่สุดรวมถึงการควบคุมจำนวนอีกาในแต่ละจุดที่จะนำเครื่องมือไปตั้งไว้ให้มีจำนวนไม่มาก ยิ่งไปกว่านั้นพวกผมจะยังคงศึกษาเรื่องผลกระทบกันต่อไปเพราะหากพบผลเสียที่เกิดขึ้นกับพวกมัน เราจะเปลี่ยนวิธีทันที”…
-
Harry & Thomas แฝดดาวน์ซินโดรม “คู่แรก” ของอังกฤษ กับการก้าวเข้าสู่วงการนายแบบเต็มตัว
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์ได้เปิดเผยภาพพร้อมเรื่องราวของ Harry และ Thomas Derricott วัย 15 ปี จากเชชเชอร์ “ฝาแฝดดาวน์ซินโดรม” คู่แรกของอังกฤษ ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วงการนายแบบอย่างเต็มตัว และคาดว่าในอนาคตทั้งคู่อาจจะได้เป็นหนึ่งในนักแสดงคณะตลก Ant and Dec อีกด้วย ทางด้าน Jill Perry ผู้เป็นแม่ได้ออกมาเผยว่า “พวกเขาเป็นฝาแฝดที่ชอบทำให้ตัวเองโดดเด่น และอยู่ในความสนใจของคนอื่นๆ ฉันหวังอยากจะให้เด็กทั้งสองคนที่เกิดมาในสภาพนี้ได้รับการช่วยเหลืออย่างใดอย่างหนึ่ง Harry และ Thomas ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นดาวน์ซินโดรมเพียงไม่กี่วันหลังจากที่พวกเขาเกิด แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับฉัน แต่พวกเขาก็สนับสนุน คอยช่วยเหลือกัน และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกันเสมอมา” อย่างไรก็ตาม Jill ยังมีลูกชายคนโตวัย 22 อีกหนึ่งคน และเธอก็รู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อกำลังจะคลอดลูกแฝดในเดือนสิงหาคม ปี 2001 “ในตอนนั้นฉันหวังว่าพวกเขาจะต้องเป็นฝาแฝดที่สมบูรณ์ที่สุด ฉันคลอดพวกเขาตามธรรมชาติ และแน่นอนว่าน้ำหนักของทั้งสองก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ฉันได้รับอนุญาตให้กอดพวกเขา แต่ไม่เคยทราบเลยว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น” Jill กล่าว…
-
ความเห็นชาวเน็ตไต้หวันกับกรณี “ทำผมแล้วไม่จ่าย” พวกเขาคิดอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น!?
กลายเป็นประเด็นฮอตที่กำลังได้รับความสนใจและถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์มากในขณะนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับคลิปวีดีโอเหตุการณ์ความวุ่นวาย ณ ร้านทำผมชื่อดังแห่งหนึ่งในย่านสยาม เมื่อ 2 ลูกค้าสาวชาวไต้หวันปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเงินหลังทำผมเสร็จ เหตุเพราะไม่พอใจการบริการของทางร้าน งานนี้กลับเจอเจ้าของร้านคนจริงเข้ามาเคลียร์ พร้อมบอกหากไม่ยอมจ่ายก็จะปิดประตูขังให้นอนที่ร้านนี่แหละ!! วันที่ 14 ตุลาคม 2560 เฟซบุ๊ก Jax Phoenix ได้เผยคลิปวีดีโอเหตุการณ์ภายในร้านตัดผม Phonenix ของคุณ “แจ็ค ฟีนิกซ์” ช่างตัดผมชื่อดังในสยาม โดยมี 2 ลูกค้าสาวชาวไต้หวันได้เข้ามาใช้บริการภายในร้านแห่งนี้ แต่ทว่าหญิงเสื้อดำกลับไม่พอใจที่ทางร้านได้ใช้น้ำเย็นสระผมให้เธอแทนที่จะเป็นน้ำอุ่นเหมือนร้านทำผมในไต้หวัน จึงปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเงิน อย่างไรก็ตาม ทางร้านก็จะไม่ขอคิดค่าบริการใดๆ และเมื่อหญิงเสื้อดำเห็นดังนั้น เธอจึงขอให้ทางร้านไม่คิดเงินเพื่อนของเธอด้วย (ซึ่งทำผมเสร็จไปแล้ว) โดยค่าบริการของเพื่อนรายนี้อยู่ที่ 350 บาท ซึ่งทางร้านก็ได้ลดให้เหลือ 250 บาท แต่สุดท้ายพวกเธอก็ยังยืนยันว่าจะไม่ยอมจ่ายเงินอยู่ดี จึงเกิดเป็นปัญหาบานปลายถึงขั้นให้คุณแจ็ค ผู้เป็นเจ้าของร้านเข้ามาช่วยเคลียร์ปัญหาดังกล่าวอีกด้วย คลิปวีดีโอเหตุการณ์จากทางร้าน ภายหลังจากที่คลิปวีดีโอดังกล่าวได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ทั้งยังถูกแชร์ออกไปทั่วโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว จนในตอนนี้มีผู้คนเข้ามารับชมแล้วมากถึง 5.1 ล้านครั้งภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น …
-
20 โมเม้นต์สุดฮา…เมื่อเหล่าผู้คนไปเล่น “บ้านผีสิง” และนี่คือภาพของพวกเขาตอนถูกผีหลอก
“บ้านผีสิง” เป็นหนึ่งในสถานที่ชวนขวัญผวาสำหรับผู้กล้าที่ชื่นชอบความตื่นเต้น และความท้าทาย ซึ่งถ้าหากใครที่เคยเข้าไปเที่ยวบ้านผีสิงตามสวนสนุกต่างๆ สิ่งที่คุณจะได้พบก็คือ ประการณ์ความหลอนที่ทำให้ติดตาไปนานหลายวัน เพราะบางที่ก็สร้างความหลอนให้แบบจัดเต็มเหลือเกิน เช่น ให้ผีโผล่ออกมาจนคนตกใจ หรือผีวิ่งไล่ ผีเขย่ากรง แถมยังใส่เสียงซาวด์หลอนๆ เพิ่มเข้ามาด้วย และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน ไม่ได้จะพาเพื่อนๆ มาทัวร์บ้านผีสิงหรอกแต่ แต่จะพามาดูภาพวินาทีชวนขวัญผวาของผู้คนหลังจากถูก “ผีหลอก” เมื่อเข้าเล่น Nightmares Fear Factory ที่ประเทศแคนาดา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 …
-
14 เทคนิคการเอาตัวรอดและ ‘ป้องกันตัว’ ที่อาจช่วยให้คุณรอดชีวิตได้ในยามคับขัน!!
อันตรายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อโดยที่เราไม่สามารถรู้ตัวได้ว่าจะถูกคนอื่นเข้ามาจู่โจมเมื่อไหร่ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย เพราะฉะนั้นที่สำคัญก็คือการป้องกันตัวเองจากอันตรายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อให้เราสามารถยื้อชีวิตและทรัพย์สินเอาไว้ให้อยู่กับเราไปนานๆ และนี่ก็คือ 14 เทคนิคที่ทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเพื่อช่วยให้ป้องกันตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม กำหมัดให้ถูกวิธี อย่าปล่อยให้นิ้วโป้งโผล่ออกมาด้านข้างและอย่าไปซ่อนมันเอาไว้ข้างในเพราะมันอาจทำให้กระดูกหัวแม่มือแตกได้ ดังนั้นให้กดมันลงไประหว่างนิ้วอื่นตามในภาพ ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและดีกว่าการตบหลายเท่าตัวเลย วิธีการแก้ปัญหาเวลาถูกมัดด้วยเชือก สิ่งสำคัญคือต้องพยายามสร้างช่องว่างระหว่างร่างกายกับเชือก ถ้าถูกมัดข้อมือเอาไว้ก็จงกำหมัดให้แน่นหรือถ้าถูกมัดร่างกายเอาไว้ก็พยายามหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้กะบังลมขยายตัว เพราะมันจะยิ่งทำให้เชือกมีการคลายตัวออกมากขึ้นจนเพิ่มโอกาสหนีของคุณได้ วิธีการแก้ปัญหาเวลาถูกมัดด้วยเทปกาว ให้ยกมือขึ้นไว้เหนือศีรษะก่อนที่จะกระชากลงมาแรงๆ เพียงเท่านั้นก็จะสามารถหลุดออกมาได้และยังสามารถใช้วิธีการเดียวกันเวลาที่ถูกมัดจากด้านหลังได้อีกด้วย จดจำจุดตายเอาไว้ ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาโจมตีมักจะมีพละกำลังมากกว่าเราดังนั้นให้จดจำจุดสำคัญเอาไว้จากนั้นโจมตีเข้าไปแรงๆ และแม่นยำในครั้งเดียว แต่ต้องต่อยเข้าไปอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ศัตรูรู้ตัวและป้องกันได้ ใช้แอพช่วยเรื่องความปลอดภัย ปัจจุบันเชื่อว่าทุกคนต้องมีสมาร์ทโฟนฉะนั้นการโหลดแอพเช่น Family Locator หรือ bSafe ก็สามารถช่วยเราได้เพื่อให้คนรอบข้างรู้ว่าเราอยู่ที่ไหนรวมถึงสามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปให้พวกเขาได้ คิดโค้ดลับขึ้นมา แน่นอนว่าเรื่องเล็กๆ แบบนี้สามารถช่วยคุณได้เยอะมากอย่างเวลาที่คนร้ายบังคับให้คุณบอกว่าไม่เป็นอะไร คุณก็อาจจะมีโค้ดลับบางอย่างเช่น “ฉันไม่เป็นอะไร” แปลว่า “ฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย” เท่านี้คนใกล้ตัวก็จะสามารถเข้ามาช่วยได้ทัน หรืออยากให้เหนือกว่านั้นก็อาจมีโค้ดลับที่บอกสถานที่ที่คุณอยู่ก็ได้ ใช้สิ่งที่มีติดตัวให้เป็นประโยชน์ อย่างกระเป๋าหรือกระเป๋าเงินที่ใช้แทนโล่ได้แต่ต้องอย่าเอามาบังใกล้ตัวเดี๋ยวมีดแทงทะลุ หรือของอื่นๆ…
-
ชีวิตของ “หนุ่มลาออกงานไปเที่ยวกับแมว” ตอนนี้ยังคงเที่ยวอยู่ ที่สำคัญคือไม่คิดจะหยุดง่ายๆ
จำได้ว่าเมื่อช่วงกลางปีของปีที่ผ่านมา เราเคยนำเสนอเรื่องราวของ Richard East หนุ่มชาวออสซี่ที่ยอมลาออกจากงาน เพื่อพาเจ้าเหมียวแสนรักออกผจญภัยทั่วออสเตรเลียกันไปแล้ว ซึ่งต้องบอกเลยว่าเรื่องราวของเขานั้นได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอมาอัพเดทชีวิตสุดคูลของเจ้านายและน้องเหมียวคู่นี้กันอีกครั้ง และนั่นก็จะทำให้คุณได้เห็นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา คู่นี้เขาได้ออกไปผจญภัยที่ไหนกันบ้าง แหม!! คิดแล้วก็น่าอิจฉาเหลือเกิน ย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายปีก่อน Richard ได้ตัดสินใจลาออกจากงานที่เขาทำมากว่า 10 ปี พร้อมกันนี้เขายังได้ทรัพย์สินทุกอย่างที่มี และลงทุนซื้อรถแวนเก่าๆ คันหนึ่ง เพื่อที่จะได้ออกไปท่องเที่ยวกับ Willow แมวเหมียวแสนรัก “ผมขายบ้านและทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตัวเอง และลาออกจากงานที่ทำ ดังนั้น ผมจึงสามารถออกเดินทางตลอดชีวิตได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่สามารถบอกลาได้ก็คือ เจ้าแมวตัวน้อยตัวนี้ ดังนั้น ผมเลยตัดสินใจที่จะพามันไปด้วย” Richard กล่าว Richard และ Willow ได้เริ่มออกเดินทางตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015 จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ 2017 นี้ ทั้งคู่ได้เดินทางท่องเที่ยวครบทั้ง 6 รัฐ และ 2 ดินแดนของออสเตรเลีย ด้วยระยะทางกว่า 50,000…
-
20 คุณปู่คุณตาวัยเก๋าที่จะทำให้คุณรู้ว่าแก่แล้วก็ยังเฟี้ยวได้ ชิดซ้ายไปเลยไอ้หนุ่ม!!
แต่ละช่วงวัยก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันตอนเราเป็นวัยรุ่นเราก็จะมีความเฟี้ยวหรือความบ้าระห่ำที่มากกว่าวัยอื่น ส่วนวัยสูงอายุก็จะดูนิ่งๆ รักสงบ แต่ถ้าหากว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไปละ ลองคิดดูว่าถ้าหากคุณปู่อายุ 90 ใส่ขาม้าแล้วออกมาเต้นสามช่ามันจะเจ๋งขนาดไหน เราจึงมาพาทุกคนไปดู 20 คุณปู๋สุดเก๋าที่อายุขนาดไหนก็ไม่สามารถทำอะไรความคูลของพวกแกได้เลยจริงๆ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยยย แบทแมนขอลงไปตรวจตราเมือง Gotham ก่อนนะ ทำขนาดนี้แล้วจะมีที่นั่งสำหรับคนชราไว้ทำไมละเนี่ย เมื่อคุณปู่เล่นเฟซบุ๊กครั้งแรกแล้วเซลฟี่หน้าตัวเองเป็นรูปโปรไฟล์ ธีมงานแต่งแบบย้อนยุค คุณปู่ขอจัดเต็ม 1 สัปดาห์ก่อนที่คุณปู่จะจากโลกนี้ไป พร้อมกับเบียร์ขวดสุดท้าย คุณปู่ก็ชอบคอสเพลย์นะ แต่งเป็นเจ้าหญิง Leia ในสตาร์วอร์สเหมื๊อนนนเหมือน บ้านพักคนชรากับฮาเร็มของคุณปู่ เป็นการฉลองวันเกิดอายุครบ 95 ปีที่เฟี้ยวฟ้าวจริงๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีกับแผงควบคุมของเขา หลานก็ไม่น่าไปบังคับให้ปู่มาเรียนเลยยย ไอแอมแบทแมน ผู้ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด กลัวอะไรกัน เป็นอะไรกันไปหมดน่ะห๊ะ?! คิดว่าแบรดพิทตอนชราเลยนะเนี่ย อย่ามาซ่าเดี๋ยวป๋าก็ฟันขาดเป็นสองท่อนหรอก จะรับไก่กรอบหรือไก่หนุ่มดีละครับ? ถ้ามันเอนล้มลงมาก็คงไม่ต้องถามเลยว่าเจ็บมั้ย…
-
ยลโฉมความน่ารักของลูกแพนด้าทั้ง 17 ตัว หลังประเทศจีนประสบความสำเร็จในการแพร่พันธุ์
แพนด้ายักษ์เป็นสัตว์ที่ถูกจัดอยู่ในสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ โดยมีแพนด้ายักษ์ในธรรมชาติราว 1,600 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในป่าเขามณฑลซื่อชวนภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ด้วยเหตุนี้ที่ผ่านมากองค์กรอนุรักษ์สัตว์ทั่วโลกจึงได้มีความพยายามในแพร่พันธุ์พวกมันด้วยการผสมพันธุ์เทียม และตอนนี้ประเทศจีนก็ได้ทำสำเร็จแล้วด้วยการผสมเทียมจากอสุจิแช่แข็ง หลังจากที่ทำสำเร็จ จีนก็ได้เผยแพร่ภาพลูกหมีแพนด้ายักษ์ 17 ตัว จากทั้งหมด 42 ตัวที่เกิดในปี 2017 นี้ ซึ่งแต่ละตัวน่ารักอย่างไม่มีขีดจำกัดเลยหล่ะ แพนด้ายักษ์น้อย 17 ตัวอยู่ ขณะนี้ได้รับการดูแลอยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์และวิจัยเพื่อหมีแพนด้ายักษ์แห่งประเทศจีน ในมณฑลเสฉวน เมือง Ya’an ส่วนตัวอื่นอยู่ที่เขตพื้นที่คุ้มครอง Wolong National Nature Reserve ก่อนที่ประเทศจีนจะเผยแพร่ภาพเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ได้ดูแลลูกแพนด้ายักษ์ทุกตัวอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เพื่อให้แน่ใจว่าทุกตัวจะได้กินอิ่ม นอนอุ่น และไม่เจ็บไข้ได้ป่วย Zhang Hemin รองหัวหน้าศูนย์เพาะพันธุ์บอกว่า “จำนวนลูกแพนด้ายักษ์ที่เกิดในปีนี้ แสดงให้เห็นว่าวิธีการเก็บรักษาอสุจิแช่แข่งและเทคนิคการผสมพันธุ์ของเรานั้นมีประสิทธิภาพ” เขายังบอกอีกว่าเทคโนโลยีที่ใช้ในการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ได้พัฒนาขึ้นกว่าที่ผ่านมาก จากที่มีหมีแพนด้ายักษ์เกิดเพียง 6 ตัวในปี 1983 ปีนี้ได้เพิ่มเป็น 273 ตัวแล้ว ปัจจุบันหมีแพนด้ายักษ์อาศัยอยู่ในป่าทางตอนใต้ของมณฑลกานซู่ มณฑลส่านซี…
-
หนุ่มโดนอัดคลิปขณะลากลูกหมาตัวน้อยที่หมดเรี่ยวแรงเดิน จนโดนชาวเน็ตด่ายับ
สุนัขมักจะมีความสุขเสมอเวลาที่เจ้าของพาไปเดินเล่นนอกบ้าน แต่มันอาจจะไม่ได้เป็นแบบกับสุนัขทุกตัวเสมอไป เหมือนกับหมาน้อยผู้น่าสงสารตัวนี้ที่ถูกเจ้าของจูงลากไปกับพื้นถนนอย่างโหดร้าย เพราะน้องหมาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดิน เหตุการณ์นี้ถูกถ่ายโดย Jade Barker วัย 23 ปี ขณะที่เดินสวนกับชายคนหนึ่งที่มาพร้อมกับสุนัข 3 ตัว แม้สองตัวจะเดินนำหน้าปกติ แต่หมาน้อยอีกตัวกลับถูกลากอยู่ข้างหลังเจ้าของ ทราบชื่อเจ้าของหมาในภายหลังว่าเขาคือ Robert Loombe วัย 46 ปี… คลิปดังกล่าวถูกโพสต์ในโซเชียลจนทำให้เจ้าของหมาถูกจับกุมในที่สุด นาย Loombe ได้รับสารภาพในชั้นศาลว่าเขาได้ทำทารุณต่อสัตว์เลี้ยงจริง ทำให้เขาถูกปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 18,000 บาท และถูกตัดสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของหมาที่ชื่อ Fatsy ซึ่งเป็นตัวที่ถูกลากในคลิปด้วย หลังจากที่เจ้าของหมารับสารภาพและถูกปล่อยตัว Barker บอกว่าเธอรู้สึกผิดหวังที่ Loombe ไม่ได้ถูกสั่งห้ามไม่ให้เลี้ยงสัตว์อีกต่อไป เธอบอกว่า “มันเป็นการลงโทษที่ไม่ยุติธรรมเลยและเขาก็ถูกปล่อยตัวออกมาง่ายๆ ตอนแรกตำรวจบอกว่าได้นำหมาออกมาจากการดูแลของเขาทั้งหมด แต่ตอนนี้ดูเหมือน Loombe จะพาสุนัขทุกตัวกลับไปอยู่กับเขาเหมือนเดิมแล้ว” “Fatsy คือหมาหนึ่งใน 7 ตัวที่อยู่ในบ้านของ Loombe เขาดูไม่เป็นมิตรตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ และสิ่งที่เขาทำมันก็บ่งบอกชัดเจนแล้วว่าเขาไม่ได้รักสุนัขเลย” Barker บอก เธอยังได้เล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นว่า “ตอนที่ฉันเห็นหมาน้อยผู้น่าสงสารถูกลากไปกับพื้น ฉันเดินเข้าไปและขออุ้มมันขึ้นมา แต่เจ้าของหมากลับตะคอกใส่ฉันว่า ‘ให้พ้นเลย!!’ จากนั้นน้องหมาก็โดนลากไปอีกกว่า 50 เมตร ฉันเสียใจมากที่ช่วยอะไรมันไม่ได้” …
-
คู่รักฝังหมาไว้ที่สวนหลังบ้าน ผ่านไป 14 ชั่วโมง กลับมาโผล่มายืนอยู่หน้าบ้านเฉย!?
การจากลาหรือการสูญเสียสิ่งที่เรารักนั้นมันเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก โดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์หรือแม้แต่สิ่งของก็ตาม เรื่องราวนี้ย้อนกลับไปเมื่อปี 1990 ที่บ้านของ Viola และ Glenn ในเมือง Severna Park รัฐแมรี่แลนด์ ประเทศอังกฤษ ในขณะที่ครอบครัวกำลังนั่งเล่นกันอยู่ในสวน Glenn ก็ได้ยินเสียงดัง ตึง!! คล้ายเสียงรถชนอะไรบ่างอย่างอยู่ที่ถนนหน้าบ้าน เขาจึงรีบวิ่งออกไปดูทันทีและก็พบกับสิ่งที่เขาไม่อยากจะพบเจอเลยนั่นก็คือ ภาพของเจ้า Mugsy สุนัขพันธุ์แจ็ครัสเซล อายุ 4 ขวบสุดรักของเขาถูกรถชน มีเลือดไหลออกจากทั้งร่างกายและไหลลงสู่พื้นถนน เขาอุ้มร่างของมันขึ้นมานอนในอ้อมแขน มันค่อยๆ หายใจรวยริน และหมดลมหายใจจากไปอย่างช้าๆ ทางครอบครัวเสียใจและยังทำใจไม่ได้กับการจากไปอย่างกระทันหันของเจ้า Mugsy พวกเขาได้ขุดหลุมฝังมันไว้ที่สวนหน้าบ้าน สถานที่ที่มันชอบมาวิ่งเล่นตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่ ลูกๆ และภรรยาของกล่าวสวดมนต์และวางดอกไม้ประดับหลุมศพเพื่อไว้อาลัยให้แก่เจ้าหมาที่จากไป Viola และลูกๆ วางแผนไว้ว่าวันรุ่งขึ้นจะนำไม้กางเขนไปปักไว้ที่หลุมศพของมันเพื่อเป็นการให้เกียรติเจ้าหมาสุดที่รักของพวกเขา 5.30 น. ของวันรุ่งขึ้น สามีและภรรยาก็ต้องตกใจตื่นด้วยเสียงตะกุยประตู และเมื่อเปิดออกไปก็พบว่าเป็นเจ้า Mugsy หมาของพวกเขาที่พึ่งตายไปเมื่อเย็นวานนี้ มันยืนกระดิกหางอย่างบ้าคลั่ง และมองด้วยสายตางุนงงว่าทำไมเจ้าของถึงไม่ให้มันเข้าบ้าน…
-
พาไปส่องความงดงามของ ‘บ้านมาโคร’ ที่อังกฤษสร้างขึ้นมาเพื่อลดปัญหาคนไร้บ้าน
ทุกวันนี้มีกิจกรรมดีๆ มากมายที่่ขับเคลื่อนเพื่อคนไร้บ้าน และสำหรับคนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเหล่านี้ คงไม่มีของขวัญชิ้นไหนดีไปกว่าการมีบ้านเป็นของตัวเอง หนึ่งในกิจกรรมเหล่านั้นคือบ้านมาโครหรือที่ใช้ชื่อว่า iKozies ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ที่ทำขึ้นเพื่อจัดการกับคนเร่ร่อนในอังกฤษ โดยการทำบ้านขนาดเล็กมอบให้กับพวกเขา บ้านขนาดเล็กนี้มีพื้นที่ 17.25 ตารางเมตร ซึ่งได้แรงบรรดาใจมาจากเรือยอชท์และห้องโดยสารเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสที่มีราคาอยู่ที่ 1.7 ล้านบาท แม้จะเป็นบ้านที่ทำขึ้นเพื่อคนจรจัดในราคาที่ถูก แต่ก็มีการออกแบบภายในเป็นอย่างดี มีทั้งห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ และโซนบันเทิงพร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์อย่างครบครัน ส่วนโครงสร้างของบ้านทำด้วยโครงเหล็ก และปิดทับด้วยไม้เนื้อแข็ง ส่วนหลังคาทำด้วยเหล็กลูกฟูกพร้อมติดแผ่นโซลาเซลล์ โครงการดังกล่าวนี้ ดำเนินการโดย Homeless Foundation และมี Spring Housing Association มาจัดการในเร่ื่องของคุณสมบัติของผู้ที่จะได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ สำหรับคนที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องรับผิดชอบในเรื่องค่าเช่า ค่าน้ำและค่าอาหารเอง โดยทางทีมงานจะสอนวิธีการอยู่รอดให้พวกเขาก่อน หากโครงการดังกล่าวนี้ประสบความสำเร็จ ทางผู้ดำเนินการติดตั้งบ้านแบบนี้ทั่วประเทศเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศ้ัยในประเทศ และผู้โชคดีคนแรกที่ได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้คือ Kieran Evans ชายหนุ่มวัย 18 ปี หลังจากที่เขาต้องใช้ชีิวิตเป็นคนเร่ร่อนตลอด 1 ปีที่ผ่านมา Kieran ออกจากบ้านตอนอายุ 17 ปี เขาใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์อยู่ที่โฮสเทล YMCA ก่อนจะย้ายไปอยู่ในบ้านพักชั่วคราวตอนอายุ 18 ปี เขาบอกว่า…
-
เจ้าหมาพลัดตกลงไปในบ่อน้ำ แววตาเศร้าคิดว่าคงไม่รอด แต่ก็มีคนใจดีมาช่วยไว้ได้ทัน
จากรายงานในประเทศอินเดียมีสุนัขจรจัดมากกว่า 30 ล้านตัว ซึ่งกลายเป็นปัญหาระดับชาติอีกปัญหาหนึ่งที่ทางรัฐบาลต้องออกมาแก้ไข องค์กรหรือมูลนิธิต่างๆ ก็ออกมาเพื่อช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ แต่เนื่องด้วยจำนวนที่มากเกินความควบคุมทำให้ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ยาก ไม่ว่าอย่างไรก็ตามองค์กรเหล่านี้ก็ดำเนินการช่วยเหลือสัตว์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้ได้มีชาวบ้านคนหนึ่งในอินเดียโทรศัพท์ไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Animal Aid Unlimited เพื่อให้มาช่วยเหลือสัตว์ตัวหนึ่งที่ส่งเสียงร้องมาจากบ่อน้ำ พบผู้ประสบอุบัติเหตุเป็นเจ้าหมาตัวสีขาวหน้าตาน่าสงสาร 1 ตัว ไหนลองซูมเข้าไปใกล้ๆ ซิ มันคงคิดว่าชีวิตนี้คงไม่ได้ออกไปเจอโลกภายนอกแล้ว ตายเป็นหมาเฝ้าบ่อแน่ๆ T^T มันว่ายน้ำไปมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว และกำลังจะหมดแรง ไม่ไหวแล้วนะ ใครก็ได้ช่วยป๋มทีฮะ ในที่สุดก็มีฮีโร่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Animal Aid Unlimited เข้ามาช่วยเหลือ เธอมาได้ทันเวลาพอดี อย่างกับรู้ใจ เจ้าหมาถูกนำตัวใส่ตาข่ายสีฟ้า ตอนแรกมันขัดขืนนิดหน่อยแต่ก็ยอมเข้าไปนั่งนิ่งๆ อย่างหมดแรง ในที่สุดก็ขึ้นมาได้แล้ว ต้องขอบคุณพี่ๆ กลุ่มนี้ที่เข้ามาช่วยเหลือ เจ้าหมาตัวนี้ได้รับบาดเจ็บที่เท้าจึงต้องทำการรักษาและติดตามหาเจ้าของต่อไป คลิปวิดีโอการช่วยเหลือเจ้าหมาตัวนี้ คราวหน้าคราวหลังก็อย่าไปเล่นซนที่ไหนอีกล่ะเจ้าหมา บางทีแกอาจจะไม่โชคดีแบบนี้ก็ได้นะ… ที่มา inspiremore
-
ชายหนุ่มขี้เกียจเดินขึ้นบันไดหอพัก เลยสร้างลิฟท์ใช้ส่วนตัว ขึ้นตรงสู่ชั้น 6 ที่มีห้องตัวเอง
ปัจจุบันเทคโนโลยีทั้งหลายถูกออกแบบขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกสบายของมนุษย์ ซึ่งสามารถทำได้แทบทุกอย่าง ข้อดีของมันก็คือช่วยประหยัดเวลา ประหยัดแรง แต่ข้อเสียก็มีคือทำให้มนุษย์ขี้เกียจยิ่งขึ้น ในการเดินทางไปยังที่ต่างๆ เราก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นระยะใกล้หรือระยะไกล ชายคนหนึ่งเบื่อกับการที่ต้องเดินขึ้นลงอพาร์ตเมนต์ชั้น 1-6 ในทุกๆ วัน อพาร์ตเมนต์แห่งนี้สร้างในเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีนมาเมื่อหลายสิบปีก่อน จึงไม่มีลิฟต์เอาไว้คอยอำนวยความสะดวก ซึ่งการที่จะย้ายอพาร์ตเมนต์นั้นก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงและไม่สะดวกด้วยปัจจัยหลายๆ ด้าน เขาจึงไปคุยกับพ่อตาเพื่อคิดโครงการสร้างลิฟต์ส่วนตัวขึ้นมาใช้ พ่อตาก็รู้สึกลำบากใจ หากจะไล่เจ้าลูกเขยนี้ออกไปก็สงสารลูกสาว จึงจำเป็นต้องตามใจโดยการทุ่มเงินเพื่อสร้างลิฟต์ส่วนตัว หลังจากตกลงกับเจ้าของอาคารแล้วก็พบว่าการที่จะสร้างลิฟต์ภายในอาคารนั้นทำได้ยากเนื่องจากตัวอาคารเก่ามากจึงต้องทำการสร้างลิฟต์แก้วภายนอกตัวอาคารแทนและจะหยุดเพียงชั้น 1 และชั้น 6 เท่านั้น หลังจากนั้นไม่กี่เดือนลิฟต์ตัวนี้ก็พร้อมใช้งาน โดยได้รับความสนใจจากคนในละแวกนั้น เพราะความส่วนตั๊ว ส่วนตัวของลิฟต์ตัวนี้ ถึงแม้ว่าลิฟต์ตัวนี้จะถูกสร้างขึ้นมาและเปิดใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สำนักงานวางแผนท้องถิ่นยังไม่ได้อนุญาตให้ก่อสร้าง ก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าจะต้องรื้อลิฟต์ตัวนี้ออกเพื่อความปลอดภัยหรือไม่ ลิฟต์ส่วนตัวจริงๆ มีแค่ชั้น 1 กับชั้น 6 แค่นั้น ถือว่าเป็นคุณพ่อที่ทุ่มเทเพื่อลูกสาวซะจริงๆ ปรบมืออออ… ที่มา odditycentral
-
10 เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับโลก ที่ทำให้เห็นว่าโลกช่างกว้างใหญ่ เกินจะรับรู้ทั้งหมด…
หลายคนอาจจะคิดว่ารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโลกใบนี้ แต่จริงๆ แล้ว นั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ มากมายเกี่ยวกับจักรวาลอยู่ตลอดเวลา และพวกเขาเชื่อว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่ยังไม่ถูกค้นพบ และนี่คือการค้นพบอันน่าทึ่ง ที่ทำให้รู้ว่าโลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์และยิ่งใหญ่เกินกว่ามนุษย์จะเข้าใจทั้งหมด 1. ยอดเขาเอเวอร์เรสไม่ใช่ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก ที่ผ่านมาหลายคนเข้าใจว่าเทือกเขาเอเวอร์เรสเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งมีความสูงอยู่ที่ 8,848 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในขณะที่ภูเขา Mauna Kea มีระดับความสูง 4,205 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แต่ยังมีพื้นที่ส่วนใหญ่ของภูเขาที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ดังนั้นเมื่อวัดความสูงจากฐานไปถึงยอด Mauna Kea จะมีความสูงอยู่ที่ 10,203 เมตร ซึ่งสูงกว่าเอเวอร์เรสถึง 1,355 เมตร ภูเขา Mauna Kea ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก 2. ชั้นบรรยากาศของโลกมีพรมแดน เส้น Kármán ได้รับการยอมในสากลว่าเป็นเส้นที่ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 100 กิโลเมตรเหนือระดับน้ำทะเล แม้ว่าระดับของชั้นบรรยากาศโลกจะอยู่สูงกว่า แต่เส้นดังกล่าวนี้ก็ได้รับการยอมรับจาก The World Air Sports Federation ว่าเป็นเส้นแบ่งระหว่างบรรยากาศกับนอกโลก 3. สถานที่ที่แห้งที่สุดในโลกตั้งอยู่ในแอนตาร์กติกา ปกติเราเชื่อกันว่าสถานที่แห้งแล้งที่สุดในโลกคือทะเลทรายอะตาคามาในชิลี ที่ไม่มีฝนตกเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว แต่มีการค้นพบว่า McMurdo Dry Valleys ในแอนตาร์กติกา…
-
7 แฟนเพลงเผย ‘วงดนตรีในดวงใจ’ ที่ช่วยเยียวยาคามรู้สึกแย่ๆ ของพวกเขาเอาไว้
หากคนส่วนใหญ่เลือกที่จะสวดมนต์ภาวนาในวันที่เหนื่อยล้า เราเชื่อว่ายังมีคนอีกบางส่วนเลือกที่จะเปิดเพลงฟังและใช้เสียงดนตรีเยียวยาจิตใจ ทั้งหมดนี้เป็น 7 ประสบการณ์ที่แฟนเพลงแต่ละคนได้ออกมาแชร์ผ่านบทความของ Noisey UK โดยจะเล่าถึงประสบการณ์จากบทเพลงที่ช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจให้กับพวกเขาในวันที่ถูกอย่างดูหมองหม่นไปหมด Rosalie วัย 25 ปี จากลอนดอน (วง Garbage) “ตอน 13 ขวบ ฉันได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งร้องเพลงด้วยท่าทางดุดันผ่านช่อง MTV จากนั้นเราก็รู้สึกว่า Garbage คือวงในดวงใจของเรามาโดยตลอด เพลง ‘Bleed Like Me’ ช่วยทำให้เราผ่านช่วงเวลาแย่ๆ มาได้ ทุกครั้งที่รู้สึกดาวน์เราจะใส่หูฟังและเปิดเพลงให้ดัง มันเป็นอะไรที่เรียบง่ายแต่ช่วยทำให้ความเจ็บปวดต่างๆ มันหายไปได้ชั่วขณะเลยล่ะ สาเหตุที่ชอบเพลงนี้ก็เพราะเป็นการพูดถึงมุมมองของความเจ็บปวดจากภายนอก และทุกครั้งที่น้ำตาไหลจากการฟังเพลง มันมักจะเป็นความเจ็บปวดที่งดงามเสมอ” Will วัย 29 ปี จากลอนดอน (วง TITUS ANDRONICUS) “ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ผมใช้ชีวิตเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ในลอนดอน เครียดหนักมากจากการทำงานถึงกับต้องพาตัวเองออกไปดื่มทุกคืนเพื่อคลายความเศร้า จนกระทั่งวันหนึ่งรู้สึกว่าร่างกายมันไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมจำได้แม่นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2012 ผมตะโกนแหกปากร้องเพลง Monitor ของวง…
-
สาวเจ้าทำไอจีสายฮา ‘การผจญภัยของเหนียง’ พาคดเคี้ยวเลี้ยวไปทั่วโลก
เชื่อว่าใครหลายๆ คนมักใช้อินสตาแกรมในการโชว์ใบหน้าสวยๆ ของตัวเองให้เหล่าฟอลโลเวอร์ได้ตามไลค์กัน แต่มีสาวอยู่คนหนึ่งที่คิดกลับกันว่าการโพสต์นั้นควรมีท่าเดียวก็พอแล้วล่ะ จึงเกิดเป็นการถ่ายภาพแบบ ‘Chinning’ ที่เราไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน Michelle Liu สาวอายุ 21 ปีจากบอสตัน เธอเอียงมุม เสยคางถ่ายภาพได้องศาที่เมาะเจอะแม่นยำสุดๆ ในทุกๆ ภาพที่เธอได้โพสต์ลงในอินสตาแกรม chinventures ซึ่งเธอเป็นนักเดินทางภาพเบื้องหลังจึงเป็นวิวทิวทัศน์ของประเทศต่างๆ มากมาย ไม่ว่าเธอจะไปที่ประเทศไหน เธอก็ไม่ลืมที่จะ ‘Chinning’ อย่างในภาพนี้ก็คือ Prague, Czech Republic Brooklyn, New York City, US เธอกล่าวว่าไม่อยากให้ภาพในอินสตาแกรมนั้นดูซีเรียสจนเกินไป เธอจึงเลือกที่จะเงยหน้าขึ้น ด้วยความฮาของเธอนี้ ทำให้เธอมีเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบเธอมากมาย และเธอก็ตัดสินใจที่จะโชว์คางแบบนี้ตลอดไป Newbury, Massachusetts, US Kraków, Poland และเหตุการณ์ที่ประทับใจที่สุดก็คือการถ่ายภาพกับพนักต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งเธอไม่รู้หรอกว่าคนที่ไม่รู้จักเธอมาก่อนจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไงเมื่อเธออธิบายว่าฉันถ่ายรูปแบบเงยคางนะ แต่ลูกเรือก็น่ารักและเปิดกว้างกับความคิดนี้ ใครที่เบื่อการโพสต์ภาพแบบเดิมๆ ก็มาลองทำ ‘Chinning’ กันดูนะ ที่มา designtaxi
-
เมื่อคุณแม่จับเจ้าหนูน้อย คอสเพลย์เทียบกับ “นายแบบสุดหล่อ” ใครจะปังกว่ากันนะ!!??
จิตวิญญาณความเป็นนายแบบนั้นมันไม่เกิดขึ้นเฉพาะตอนที่โตเป็นหนุ่มแล้วหรอกนะ เพราะเด็กตัวเล็กๆ ก็สามารถโพสท่าเท่ๆ เฉียบๆ ได้ไม่แพ้นายแบบมืออาชีพ อย่า’เจ้าหนูน้อยคนนี้ที่มีสีหน้าและท่าทางที่เหมือนกับเป็นมืออาชีพสุดๆ จนลุงๆ นายแบบยุคนี้ต้องยอมเลย เจ้าหนูน้อยคนนี้มีชื่อว่า Augie เด็กคนนี้มีความพิเศษอยู่ที่การโพสท่าได้เหมือคุณลุงนายแบบ Aristotle Polites เอามากๆ เรียกได้ว่าช็อตต่อช็อตเลยทีเดียว ซึ่งผลงานเหล่านี้ก็มาจากฝีมือของคุณแม่ Katina Behm นั้นเอง จะน่ารักขนาดไหนไปชมกันเลย!! 1. รูปนี้คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Augie โด่งดังในโลกโซเชียล 2. แม้ว่าในตอนแรกน้องอาจจะสับสนเล็กน้อยและในตอนนี้ Augie กลับโพสท่าได้อย่างมืออาชีพ 3. ไหนยิ้มหน่อยสิ!!!! หล่อเหมือนกับเป๊ะๆ เลยล่ะ 4. หล่อเฟี้ยวสุดๆ ไปเลยครับน้องอ้าย!!! 5. ท่านั่งอาจจะเหมือนกัน แต่เรื่องกล้ามต้องรอน้องโตก่อนนะจ๊ะ 6. โชว์พุงโหน่ยยยย 7. ได้ทั้งอารมณ์และสีหน้า เร่าร้อนสุดๆ ไปเลยจ้า 8. นี่สินะที่เค้าเรียกว่า “Bad Boy” 9. ดึงหน้าก็เท่ไม่เบา 10.…
-
หนุ่มเข้าใจผิดคิดว่าแมวคนอื่นเป็นแมวของตัวเอง เลยลักพาตัวกลับบ้าน แถมวางยามันซะด้วย!!
ทั่วทุกอาณาบริเวณบนโลกใบนี้คลอบคลุมไปด้วยสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่เรียกว่า “แมว” และเราก็ต้องยอมรับเลยนะว่าถึงแมวจะมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ถึงกระนั้นแมวบางตัวก็ยังคงมีลักษณะที่เหมือนหรือคล้ายกันจนทำให้มนุษย์เข้าใจผิดมาแล้ว เหมือนดังเช่นเรื่องราวของหนุ่มชาวนิวซีแลนด์คนหนึ่ง ที่เข้าใจผิดคิดว่าแมวของเพื่อนบ้านเป็นแมวแสนรักของตัวเอง งานนี้เขาเลยลักพาตัวของมันกลับบ้าน แถมยังวางยาให้มันอีกด้วย โอ้ว!! มนุษย์ทำไรของเอ็งเนี่ยยย ทางด้าน Clarke Gayford ผู้จัดรายการทีวีซึ่งเป็นเพื่อนของหนุ่มรายดังกล่าว ก็ได้ออกมาเผยถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวสุดฮาเกี่ยวกับเพื่อนของเขาลงบนทวิตเตอร์โดยระบุว่า… “เขาได้บอกแพทย์ว่าเจ้าเหมียวทำตัวแปลกๆ ดังนั้น จึงได้นำตัวของมันไปหาสัตว์แพทย์ ซึ่งทางแพทย์ก็ได้ให้ยาคลายความวิตกกังวลกับมัน แถมยังแนะนำให้ขังมันไว้ในห้องเป็นเวลานาน 5 วัน เพื่อให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม…เพื่อนของผมลักพาตัวแมวและวางยามัน” . และแล้วก็มาถึงจุดพีคของเรื่องจนได้ เพราะ 5 วันต่อมาเพื่อนของ Clarke ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเมื่อได้รู้ความจริงแมวที่เขาขังเอาไว้นั้นไม่ใช่แมวของตัวเอง เพราะจู่ๆ เจ้าเหมียวแสนรักตัวจริงของเขาได้ปรากฏตัวขึ้นในภายหลัง (ที่มีสีค่อนข้างคล้ายกัน) ซึ่งในตอนนั้นเขามีแต่ความคิดเดิมๆ วนอยู่ในหัวว่าเขาได้วางยาและขังแมวของคนอื่นเอาไว้ และเมื่อได้เห็นแมวของตัวเอง เขาก็รู้ว่ามันแตกต่างกันกับแมวของเพื่อนบ้านอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามทางเพื่อนบ้านก็ได้ส่งข้อความมาหาเพื่อนของ Clarke เพื่อแจ้งให้เขาได้ทราบว่าการกินยาคลายความวิตกกังวลนั้นไม่ได้ส่งผลอันตรายใดๆ แก่เจ้าเหมียว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่อาจจะทำให้เจ้าของแมวหลายๆ คนรู้จักใส่ใจ และเริ่มให้ความสำคัญของแมวตัวเองมากขึ้น เพราะไม่อย่างนั้นหากคุณไม่สังเกตหรือจดจำจุดเด่นของแมวอย่างขึ้นใจ คุณอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าแมวคนอื่นเหมือนแมวของตัวเองก็เป็นได้ ที่มา : boredpanda, dailymail
-
เกิดอะไรขึ้นในแคลิฟอร์เนีย เมื่อไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุด เผาไหม้จนเมืองหายไปทั้งเมือง
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คนที่ติดตามข่าวต่างประเทศอยู่เสมอก็จะทราบว่าเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าครั้งยิ่งใหญ่ทางภาคเหนือของแคลิฟอร์เนีย เมืองซานตาโรซ่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันที่เกิดจากไฟป่าที่ลุกลามทำให้ประชาชนในเมืองต้องอพยพกันกว่า 20,000 คน และไฟก็ยังไหม้ลุกลามไปยังหุบเขา Napa และ Sonoma บริเวณพื้นที่ไร่องุ่น โรงงานผลิตไวน์ ลามเข้าสู่บ้านเรือนเสียหายไปกว่า 1,500 หลัง นับว่าเป็นเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย บ้านเมืองเสียหายกลายเป็นเถ้าถ่าน พื้นที่การเกษตรเสียหายและทำให้ผู้คนในเมืองกลายเป็นคนไร้บ้านในทันที . เมืองซานตาโรซ่าเป็นเมืองที่มีประชาชนพักอาศัยอยู่ประมาณ 8,000 หลังคาเรือน เป็นแถบชานเมืองที่ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่องุ่นที่ขึ้นชื่อ . . ภาพก่อนไฟไหม้ป่า ภาพหลังไฟไหม้ป่า หลังจากที่ไฟป่าเริ่มสงบลงก็ได้มีการสำรวจความเสียหายจากภาพถ่ายทางดาวเทียม แต่เนื่องจากมีหมอกควันปกคลุมอยู่เป็นจำนวนมากทำให้ยากต่อการถ่ายภาพ จึงเปลี่ยนวิธีมาใช้การถ่ายภาพด้วยอินฟาเรดแทน พื้นที่สีเทาคือพื้นที่ส่วนที่ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ ส่วนพื้นที่สีแดงคือส่วนที่ไม่ได้รับผลกระทบ เส้นสีส้มที่เห็นนั้นคือเปลวเพลิงที่ยังไม่สงบ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซานตาโรซาที่ยังไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ สีเทาคือบ้านที่ถูกไฟไหม้ ไม้ต้นไม้ที่ถูกเผาจนกลายเป็นขี้เถ้า จะเห็นได้ว่าจากเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็เพราะฝีมือมนุษย์ที่ตัดไม้ทำลายป่าจนถึงเวลาที่ธรรมชาตินั้นกลับมาทวงคืน… ที่มา scholarship ,thisisinsider
-
งานแต่งงานในฝันของคู่รักทั่วโลกต้องล่มลง เพราะคู่รักที่ถ่ายภาพพรีเว้ดดิ้ง “โบลว์จ๊อบ” ในกรีซ
หลังจากที่คู่บ่าวสาวถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสโม๊กกี้หน้าโบสถ์บนเกาะในประเทศกรีซ จนเป็นเหตุให้ชาวต่างชาติถูกแบนไม่ให้ไปจัดงานแต่งที่นั่นอีก เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้ชาวต่างชาติทั่วโลก โดยเฉพาะคู่รักที่มีแพลนจะไปแต่งงานที่นั่น ต้องฝันสลายไปด้วย เหมือนกับว่าที่เจ้าสาว Suzanne Sparkles วัย 33 ปี จาก Chorley ใน Lancashire สหราชอาณาจักร และแฟนหนุ่ม Steve Arnold วัย 38 ปี ที่ตั้งใจไปแต่งงานในโบสถ์เซนต์พอล เมือง Rhodes โดยได้จองสถานที่ไว้แล้วกว่า 1.7 ล้านบาท Suzanne และ Steve แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องถูกยกเลิก เมื่อรัฐบาลกรีซประกาศแบนชาวต่างชาติ เพราะคู่รักชาวอังกฤษคู่หนึ่งไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสโม๊กกี้ที่นั่น หลังจากที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันมา 3 ปีครึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจจะแต่งงานกัน โดยได้ทำการจองสถานที่แต่งงานบนเกาะกรีกเมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากที่ได้รับแจ้งว่างานแต่งอาจต้องถูกยกเลิก Sparkles รู้สึกโกรธมาก และโทษคู่รักชาวอังกฤษที่เป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องแบบนี้ เธอบอกว่า “ฉันเสียใจมาก การกระทำที่ไม่มีการยั้งคิดของพวกเขา ทำให้งานแต่งในฝันของต้องล่มอย่างไม่เป็นท่า มีแขกจากจากสหราชอาณาจักร 52 คน จะไปร่วมงานของเรา โดยได้จองที่พักไว้แล้วเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์”…
-
อุโมงค์ระบายน้ำยักษ์ในโตเกียว 70,000 ล้าน ก่อสร้าง 17 ปี เพื่อแก้น้ำท่วมอย่างยั่งยืน!!
สำหรับใครที่ชื่นชอบความอลังการในหนังฟอร์มยักษ์ อย่าง Lord of the Rings รวมถึง The Hobbit แล้วล่ะก็ อาจจะเคยเห็นความอลังการของเมืองคนแคระกันมาบ้าง ด้วยขนาดเสาที่ใหญ่โต สูงชะลูด เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ แต่วันนี้จะพาไปดูของจริงกัน!!! และนี่ก็คืออุโมงค์ยักษ์ ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้มหานครโตเกียว ซึ่งก็เหมือนอีกหลายๆ เมืองที่ตั้งขึ้นบริเวณแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่าน และติดกับทะเลเพื่อความสะดวกในการค้า แต่หลังจากปี 1950 ความเจริญของชุมชนเมืองก็เข้ามา ทำให้พื้นที่อุ้มน้ำมากขึ้น และแน่นอนเกิดน้ำท่วมแทบทุกปีเหมือนกับหลายๆ เมืองทั่วโลกประสบ ในปี 1990 รัฐบาลญี่ปุ่นจึงมีแผนแก้ไขระบบการระบายน้ำ และปิ๊งไอเดียอุโมงค์ขนาดยักษ์แห่งนี้ การก่อสร้างกินเวลาไปทั้งหมด 17 ปีเต็ม และใช้งบประมาณไปกว่า 7 หมื่นล้านบาท แต่แน่นอนว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะว่าการระบายน้ำของอุโมงค์ยักษ์แห่งนี้นั้นรวดเร็วสุดๆ ท่อทั้งหมดจะมีความยาวกว่า 6.3 กิโลเมตรด้วยกัน เป็นท่อค่อยๆ ส่งไปยังบ่อพักน้ำแต่ละแห่ง ก่อนที่จะระบายสู่แม่น้ำเอโดะที่ปลายเส้นทาง อุโมงค์แห่งนี้ระบุว่า สามารถระบายน้ำจำนวนมหาศาลสู่แม่น้ำเอโดะได้ในทันที ราวๆ วินาทีละ 200 ตันเลยทีเดียว!!!…
-
ทำความรู้จัก ‘ติโต’ แมวทรงเลี้ยงของ ‘ในหลวงรัชกาลที่ 9’ ในสวิตเซอร์แลนด์
เมื่อกล่าวถึงสัตว์เลี้ยงของ “ในหลวง” เรามักจะนึกถึงคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยงที่แสนฉลาด และมีความจงรักภักดีต่อพระองค์เป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากคุณทองแดงแล้ว มีกี่คนเท่านั้นที่รู้ว่า ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ก็เคยทรงเลี้ยงแมวเหมียวด้วยเช่นกัน และนี่คือ “คุณติโต” แมวเพศผู้ พันธุ์วิเชียรมาศ ที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเลี้ยงคู่กับ ติต้า แมวเพศเมีย ในระหว่างที่ได้ประทับอยู่ ณ ตำหนักเมืองโลซาน ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2487 ติโต มีลักษณะเป็นแมวสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีฟ้าเป็นประกาย ใบหู พร้อมกับส่วนต่างๆ ของร่างกายจะเป็นสีเข้มกว่าบริเวณลำตัวซึ่งจะมีสีที่อ่อนกว่า เรียกได้ว่าเป็นแมวที่มีความน่ารัก และโดดเด่นไม่น้อย ติโต เข้าเฝ้าในหลวงในขณะที่พระองค์ทรงเปียโน ติโต เป็นแมวที่ซุกซน และน่ารักเหมือนแมวเหมียวทั่วๆ ไป เช่น ชอบหนีเที่ยวเป็นประจำจนบางครั้งก็เข้าพระตำหนักไม่ได้ แต่ติโตก็ทำให้พระองค์ท่านประทับใจเป็นอย่างมาก และนี่คือภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ รวมถึงแมวติโต แสดงความสัมพันธ์อันดีต่อกัน . . . . …
-
พนักงานเดือด พ่นสีสเปร์ยข้อความด่าบนรถของเจ้านาย ทำเอางงกันทั้งเมือง!!
เพื่อนร่วมงาน เป็นอีกหนึ่งสังคมที่มนุษย์วัยทำงานต้องประสบพบเจอ ซึ่งเราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนที่ทำงานอยู่กับเรานั้นนิสัยใจคอจะเป็นอย่างไร เข้ากับเราได้หรือไม่ การที่เจอเพื่อนร่วมงานที่ดีก็ถือว่าเป็นโชคดี แต่ถ้าเจอเพื่อนร่วมงานแย่ๆ ล่ะก็อาจจะทำให้การทำงานของคุณนั้นไม่สนุกไปเลย เช้าวันหนึ่งชาวเมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ ได้พบกับรถเบ๊นซ์สีขาวคันหนึ่งจอดอยู่ริมถนนใกล้กับโรงแรม ซึ่งบนรถนั้นถูกพ่นด้วยสีสเปร์ยด้วยคำว่า “เจ้านายที่แย่ที่สุด”, “ไอ้เชรี้ยย ฉันลาออก” และ “ขอให้เจริญๆ นะ” จากการสันนิษฐานอาจจะเป็นเพราะว่ามีพนักงานคนหนึ่งโกรธแค้นเจ้านายของเขาจนต้องขอลาออก แต่ดูเหมือนว่าจะโกรธจัดถึงขนาดมาพ่นสีใส่รถเบ๊นซ์เลย โดยที่ตอนนี้ยังไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของรถคันนี้ และยังพบว่ามีรถที่ถูกพ่นสีด้วยถ้อยคำที่คล้ายๆ กันบนถนนอัลเบียนภายในเมืองอีกด้วย ชาวเมืองคิดว่านี่อาจจะเป็นการโฆษณาอะไรซักอย่างที่เกี่ยวกับการดูแลรักษารถก็เป็นได้ Michelle Bunyan ชาวเมืองคนหนึ่งที่พบเห็นรถคันนี้ได้กล่าวว่า “ฉันคิดว่านี่ีอาจจะเป็นฝีมือของพนักงานที่เก๋ามากๆ เลย การโฆษณาแบบใหม่นี่ก็เจ๋งดีนะ” ที่มา Dailymail
-
ผลงานดัดแปลงปกจาก ‘นิวยอร์กเกอร์’ สู่ ‘โตเกียวเออร์’ ของสองศิลปินผู้ใช้ชีวิตในโตเกียวกว่า 5 ปี
ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบนิตยสาร ‘The New Yorker’ ล่ะก็… ขอบอกเลยว่าครั้งนี้อยู่ที่ฝั่งเอเชียคุณก็กลายเป็น Swagger ได้เหมือนกัน เพราะนี่คือ ‘The Tokyoiter’ ผลงานการออกแบบจากสองศิลปินที่นำเรื่องราวจากเกาะแมนฮัตตัน มาเล่าใหม่ในรูปแบบของแดนปลาดิบอีกครั้ง ซึ่งอันที่จริงผลงานทั้งหมดนี้ไม่ได้ถูกตีพิมพ์ลงเล่มจริงๆ จังๆ หากแต่เป็นเพียงภาพศิลปะแนวๆ เท่านั้น . แม้จะไม่ได้ถูกตีพิมพ์ออกมา แต่ผลงานทั้งหมดก็ดูจะถูกอกถูกใจวัยรุ่นแดนปลาดิบกันซะเหลือเกิน “มันไม่ใช่แค่ภาพกราฟฟิคคูลๆ เท่านั้น แต่มันยังเป็นการแสดงออกถึงวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นได้อย่างตรงไปตรงมา” ชาวเน็ตคนหนึ่งให้ความเห็น ไม่น่าเชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นผลงานการออกแบบของสองศิลปินสัญชาติอเมริกัน Andrew Joyce และ David Robert ที่ได้ย้ายไปอาศัยอยู่ในกรุงโตเกียวมานานกว่า 5 ปี “พวกเราคิดว่า… ภาพปกนิตยสารก็เป็นศิลปะอีกอย่างหนึ่งที่สะท้อนความเป็นไปของสังคมได้ดีที่สุด” Andrew ให้สัมภาษณ์ หลายๆ คนก็เล่าว่าภาพปกสำหรับชาวโตเกียวเออร์นี่ช่วยให้รู้สึกได้ย้อนกลับไปในช่วงเวลาอันน่าจดจำอีกครั้ง . . . . . ทั้งหมดนี้ก็เป็นภาพปกสไตล์โตเกียวเออร์ ในแบบที่ผสมผสานทั้งสองวัฒนธรรมไว้ได้อย่างลงตัว ที่มา:…
-
รวมสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงญี่ปุ่นรู้สึก ‘ประทับใจ’ และ ‘ไม่ประทับใจ’ ในผู้ชาย เอ๊ะไหงมันคล้ายกันจัง!?
ในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน อาจจะต้องใช้ปัจจัยหลายๆ อย่างในการตัดสิน การพบเจอกันครั้งแรกก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะกำหนดความความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนว่าจะไปในทิศทางไหน จากผลสำรวจในหัวข้อสิ่งที่ประทับใจและไม่ประทับใจในการพบเจอครั้งแรก โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ @kb_ogp มาดูกันว่าสาวๆ เขาจะรู้สึกอย่างไรกันบ้างนะ สิ่งที่ทำให้สาวๆ ประทับใจ 1. รอยยิ้มสดใส 2. พูดจาเป็นมิตร 3.แต่งตัวดูดี ดูสะอาดสะอ้าน 4. มองตาในขณะที่พูด สื่อถึงความจริงใจ 5. ทำตัวนิ่งๆ น่าเกรงขาม สิ่งที่สาวๆ ดูแล้วไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ 1. รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ 2. พูดคุยราวกับรู้จักกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน 3. มีความพยายามที่จะพูดเกี่ยวกับตัวเองเกินไป 4. จ้องตาแบบใกล้ชิดเกินไป 5. ไม่มีความกระตือรือร้น และก็ได้มีผู้มาแสดงความคิดเห็นต่ออีกว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างจะผ่านไปได้ เพียงแค่คุณหล่อ และรวยด้วย” “คุณสามารถทำทุกสิ่งได้เพียงแค่ว่าคุณหล่อ จริงไหม?” “สิ่งที่ประทับใจคือสิ่งที่ผู้ชายหล่อๆ ทำ แต่สิ่งที่ไม่ประทับใจคือสิ่งที่ผู้ชายไม่หล่อทำ” “มันแตกต่างกันตรงไหนระหว่าง มองตาในขณะที่พูดกับจ้องตาในขณะที่พูด” ซึ่งจากผลการสำรวจข้างต้นเป็นเพียงเสียงส่วนหนึ่งของผู้หญิงชาวญี่ปุ่นเท่านั้น…
-
ลูกแมวเกิดใหม่โดนแม่ทิ้ง เลยได้มาพบรักกับพ่อหนุ่มคนนี้ ที่เลี้ยงดีซะจนเหมือนได้เกิดใหม่
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกเมื่อแรกเกิด ก็ต้องการผู้เลี้ยงดูทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นทั้งคน หรือสัตว์ แต่ก็ยังมีผู้โชคร้ายที่เกิดมาก็โดนทอดทิ้งอยู่บนโลกใบนี้ แต่ในโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีแฝงอยู่!!! เช่นเดียวกับชายคนนี้ที่ได้เจอแมวตัวน้อยแล้วรู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจจนนำกลับมาเลี้ยงเอง ซึ่งเป็นความโชคดีของเจ้าเหมียวตัวนี้ เหมือนได้เกิดใหม่เลยทีเดียว หน้าตาแบ๊วๆ ของแมวน่าสงสารตัวนี้ ซึ่งเหตุที่ลูกแมวโดนทิ้งก็เพราะว่ามันเป็นตัวที่เล็กที่สุดในกลุ่มแมวที่เกิดใหม่ แม่แมวจึงให้ความสนใจกับตัวอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่าและมีสุขภาพที่แข็งแรงกว่า เขารู้ทันทีที่เห็นแมวตัวนี้ว่าต้องมีซักคนที่ดูแลแมวตัวนี้ เขาจึงรับมาเลี้ยงอย่างไม่มีความลังเลเลย แม่จ๋า ขอนอนหน่อย โดยเขาได้ตั้งชื่อให้มันว่า ซานซ่า เหมือนตัวละครหนึ่งในซีรี่ย์ Game of Thrones และเขาก็ได้ให้อาหารแก่ซานซ่าจนอิ่ม จากนั้นมันก็ได้มานอนระหว่างเท้าของชายคนนี้และหลับยาว ราวกับเขาเป็นแม่ของมันจริงๆ เลย กินเยอะๆ จะได้โตไวๆ เจ้าลูกแมวตัวนี้ได้รับเตียงนุ่มๆ ของเล่นมากมาย อาหารที่เหมาะแก่การเจริญเติบโต และความรัก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่แมวตัวหนึ่งต้องการที่มนุษย์จะสามารถมอบให้ได้ล่ะ ที่มา: lovemeow
-
เกาหลีใต้เผยการทดสอบ ‘ขีปนาวุธแบบลอบเร้น’ พุ่งตรงเข้าสู่เป้าหมาย สำเร็จอย่างงดงาม
ท่ามกลางไฟสงครามระหว่างเกาหลีเหนือ – ใต้ ที่กำลังถูกจับตามองจากทั่วโลก ล่าสุด.. เกาหลีใต้ได้ออกมาเผยผลการทดสอบ ‘ขีปนาวุธแบบลอบเร้น’ ได้อย่างประสบความสำเร็จ!! โดยเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2017 เกาหลีใต้ ได้ทำการทดสอบขีปนาวุธ ‘Taurus Missile’ จากเครื่องบินรบ F-15 ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถหลบการตรวจจับจากเรดาร์ก่อนพุ่งตรงเข้าสู่เป้าหมายได้อย่างน่ากลัว ก่อนอื่นเราไปชมคลิปวิดีโอสั้นสรุปการทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้กันก่อนเลย… ด้วยคุณสมบัติจากนวัตกรรมการออกแบบขีปนาวุธของโรงงาน ‘Germany’s Taurus Systems’ ทำให้หัวจรวดรุ่นนี้มีระยะรัศมีไกลออกไปถึง 500 กิโลเมตร อีกทั้งมันยังถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยี และดีไซน์การพรางตัวสุดล้ำ ที่ช่วยให้ขีปนาวุธสามารถพรางตัวจากการตรวจจับของเรดาร์ได้ (ประมาณว่า… รู้ตัวอีกทีมันก็พุ่งมาชนบ้านเราแล้ว) หลังการทดสอบสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี รัฐบาลเกาหลีใต้ก็ได้ทำข้อตกลงร่วมกับสหรัฐฯ ในการขยายอำนาจขอบเขตการครอบครองขีปนาวุธ ให้เพิ่มระยะสูงสุดได้มากถึง 800 กิโลเมตร ผ่านสัญญาข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย ซึ่งสาเหตุของการเร่งพัฒนาอาวุธทางทหารของเกาหลีใต้ก็เป็นอย่างที่เราทราบกันดีว่า หลักๆ แล้วก็เพื่อป้องกันและรับมือกับปัญหาอาวุธนิวเคลียร์ของฝั่งเกาหลีเหนือ หลังจากที่ฝั่งเหนือมีการทดสอบยิงขีปนาวุธไปยังที่ต่างๆ แล้วมากถึง 6 ครั้ง ในขณะที่ล่าสุดมีการรายงานว่า…
-
เจ้าหนูเท้าไฟ แสดงความเป็นตัวเองจนทำให้ผู้ชมต้องหัวเราะให้กับความน่ารัก!!!
หากคุณเคยดูการเต้นประจำงานโรงเรียนของเด็กๆ คุณมักจะได้เห็นความน่ารักของเด็กๆ ที่เต้นแบบเงอะๆ งะๆ เพราะกลัวว่าจะเต้นได้ตามที่ซ้อมมาไหม แต่ไม่ใช่สำหรับเด็กคนนี้!!! ผู้ใช้หนึ่งในยูทูปที่มีนามว่า Randall Burns ได้ออกมาเผยแพร่วีดีโอที่มีสาวน้อยคนหนึ่งชื่อว่า Jordyn ได้แสดงการเต้นที่แตกต่างจากเด็กคนอื่น เพราะว่าเธอเหมือนจะออกแบบท่าเต้นเองและนั่นทำให้โชว์ของเธอดูสุดแสนจะวิเศษ ขณะเพลง Broadway Baby กำลังเริ่มต้นขึ้น กล้องก็ได้จับมาที่หนูน้อย 3 คนที่อยูท้ายแถวของเวที ทั้งหมดเริ่มการเต้นขึ้น เด็กทั้งสองคนพยายามที่จะเต้นให้ได้เหมือนที่ซ้อมมา แต่เด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงกลางกลับไม่ทำเหมือนทั้งสอง หนูน้อยคนนี้ได้ทิ้งการเต้นที่ได้ซ้อมไว้ทั้งหมด และปล่อยตัวปล่อยใจไปให้ตามเสียงเพลง และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอหันหน้าไปหาเพื่อน แล้วส่งรอยยิ้มกว้างไปให้เหมือนกับจะบอกว่า “นี่เป็นวันที่ดีที่สุดเลยเนอะ” และนั่นทำให้ผู้ชมทุกคนอดที่จะยิ้มให้กับความน่ารัก และรอยยิ้มอันสดใสของหนูน้อยคนนี้ไมได้ ซึ่งส่วนที่ดีที่สุดของหนูน้อยคนนี้คือเธอไม่เคยแสดงความเคอะเขินในเวลาที่มีคนหัวเราะ นั่นเป็นเพราะเธอมีความมั่นใจในสิ่งที่ทำลงไป และนี่อาจจะเป็นวันที่ดีที่สุดวันหนึ่งของเธอเลยก็ได้ หนูน้อยเท้าไฟจะทำให้คนดูมีความสุขได้อย่างไร เชิญชม ที่มา: inspiremore, Randall Burns
-
เล่นใหญ่จนได้ดี มิ้วน้อยติดอยู่ในบ้าน ส่งเสียงร้องดังจนชาวบ้านต้องมาช่วยเหลือ..!!
นับตั้งแต่ที่เจ้า Cleo ได้คลอดออกมาจากท้องของแม่ มันก็ถูกทิ้งอย่างไร้เยื่อใยไว้ในตึกร้างแห่งหนึ่ง เจ้ามิ้วน้อยผู้น่าสงสารต้องอยู่อย่างอดๆ อยากๆ นับตั้งแต่วันแรกที่ออกมาลืมตาดูโลก แต่ด้วยสัญชาติญาณความเป็นสัตว์ Cleo จึงส่งเสียงร้องโหยหวน และมันก็หวังอยู่ลึกๆ ว่าคงจะมีมนุษย์ใจดีซักคนมาช่วยเหลือ พร้อมกับมอบชีวิตใหม่ให้มัน ชาวบ้านในละแวกนั้นเล่าว่า… มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งได้ยินเสียงแมวร้องโหยหวนน่าสงสารมาจากบ้านหลังนี้ ด้วยอายุเพียงแค่ 4 สัปดาห์ และไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ทำให้ Cleo ตกอยู่ในสภาพที่หลายคนเชื่อว่ามันไม่น่าจะมีชีวิตรอดได้หากถูกปล่อยทิ้งไว้แบบนี้อีกวันหรือสองวัน ทันทีที่มีการโทรแจ้ง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ช่วยกันระดมกำลังเพื่อช่วยเหลือลูกแมวผู้น่าสงสาร สิ้นสุดการรอคอยของเจ้ามิ้วน้อย Cleo ที่ส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสารมานานหลายสัปดาห์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่พังกำแพงเข้าไปได้ พวกเขาก็รีบอุ้มมันออกมาพร้อมกับพาตัวมันไปรักษาพยาบาลทันที เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยเหลือเจ้า Cleo ออกมา “ตอนที่เราไปถึงจุดเกิดเหตุ เราได้ยินเสียงสัตว์ร้องโหยหวนแต่ไม่มีใครแน่ใจว่าเป็นสุนัขหรือแมวกันแน่? Cleo ส่งเสียงร้องดังมาก.. และหลังจากที่เราเจอก็พบว่าเธอน่าสงสารมากๆ มันร้องไห้เพราะดิ้นรนที่จะมีชีวิตรอด ฉันแทบจะไม่เชื่อเลยว่าแมวตัวจิ๋วจะส่งเสียงร้องได้ดังขนาดนี้” เจ้าหน้าที่ให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือมา สุขภาพของเจ้า Cleo ก็ค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ “นับว่าเป็นการช่วยเหลือที่วิเศษที่สุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกท่านทำงานได้ยอดเยี่ยมมากๆ…
-
รู้จักกับ Liliane Bettencourt ‘ผู้หญิง’ ที่ร่ำรวยที่สุดบนโลกใบนี้จากการจัดอันดับจากนิตยสาร Forbes!!
โลกนี้มีคนอยู่มากมายเต็มไปหมด แต่หากจะพูดถึงผู้ที่รวยถึงขั้นเป็นมหาเศรษฐีบนโลกนี้คงมีอยู่ไม่กี่คน และในวันนี้เหมียวจะพาไปรู้จักกับ ผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลกกัน!!! Liliane Bettencourt คือชื่อของผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลกในปี 2560 จากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes ในเดือนมีนาคม และเป็นอันดับที่ 14 ของโลกเลยทีเดียว โดยเธอมีทรัพย์สินโดยรวมกว่า 39,500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือกว่า 1.3 ล้านล้านบาท เธอเป็นชาวฝรั่งเศสโดยกำเนิด และเป็นทายาทเจ้าของแบรนด์ L’Oreal โดยเธอรับช่วงต่อจากพ่อของเธอ Eugene Schueller ผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้ในปี 1907 และเสียชีวิตลงในปี 1957 เธอเริ่มทำงานเป็นพนักงานฝึกหัดที่บริษัทลอรีอัลตั้งแต่ปี 1937 ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุเพียง 15 ปี จนกระทั่งพ่อของเธอเสียชีวิตลงจึงได้รับช่วงต่อและทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลกในทุกวันนี้ เธอต้องทนทุกข์ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์มาตั้งแต่ปี 2549 และเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เธอก็เสียชีวิตลงอย่างสงบในบ้านพักด้วยโรคชรา ในวัย 94 ปี ปิดตำนานผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลกไว้ในปีนี้เท่านั้น ที่มา: forbes
-
รวม 10 เรื่องกังวลใจของเหล่าหนุ่มๆ ที่พวกเขาไม่เคยบอกให้ใครรู้
ผู้ชายเป็นเพศที่ดูแข็งแกร่ง น่ากลัว น่าเกรงขาม แต่ว่าใครจะไปรู้ล่ะว่าจริงๆ แล้วผู้ชายจะมีความลับที่แสนกลัวแต่ไม่กล้าบอกใคร เพราะว่ามันจะทำให้พวกเขาดูอ่อนแอในสายตาของผู้หญิงนั่นเอง และนี่คือ 10 ความลับที่ผู้ชายกว่า 90% ไม่กล้าจะพูดถึงซึ่งจะเป็นจริงหรือไม่ ต้องลองติดตามกันดูจ้า 1. เรื่องหุ่น ตั้งแต่สมัยก่อน ผู้หญิงถูกสอนให้ต้องดูแลเรือนร่างของตัวเองให้มีความงดงามเข้าไว้เหมือนสาวในอุดมคติ แต่ผู้ชายกลับไม่มีแบบแผนที่แน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้ชายจะไม่คิดเรื่องนี้นะ ไม่งั้นพวกเขาคงไม่ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ เข้ายิมกันหรอก ใช่ไหมล่ะ ฮ่าา 2. เรื่องเงิน เรื่องเงินนี่จัดได้ว่าเป็นเรื่องกังวลที่น่าจะมีมากที่สุดในหมู่ผู้ชายเลยทีเดียว พวกเขาคิดว่าถ้าไม่มีเงินก็ไม่สามารถที่จะหาเลี้ยงครอบครัว หรือกระทั่งหาแฟนไม่ได้เพราะผู้ชายคิดว่าเงินน่าจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในความสัมพันธ์ แต่จริงๆ แล้วการดูแลเอาใจใส่ต่างหาก ที่ผู้หญิงเค้าต้องการละเนอะ 3. ความสูง ทำไมผู้ชายจะไม่กังวลล่ะ ในเมื่อมันคือหนึ่งในคุณสมบัติของผู้ชายในอุดมคติของผู้หญิงนี่ ถ้าผู้หญิงมองเรื่องความสูงเป็นเรื่องเล็กละก็ ผู้ชายที่มีความสูงไม่มากนักก็คงมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย ขนาดตัวไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าขนาดของใจ ว่าไหม? 4. ความหึงหวง ถึงผู้ชายจะแสดงออกในเรื่องนี้น้อยกว่าผู้หญิง ที่มีการแสดงออกที่ชัดเจนแต่มันก็ทำลายความมั่นใจของเขาได้พอสมควรเลยนะ ถ้าคุณบอกเขาว่าเพื่อนร่วมงานคุณมีอารมณ์ขันและมีคารมที่ดี เขาอาจจะไม่แสดงอาการอะไรออกมา แต่คุณรู้ไว้เถอะว่า เขากังวลมากถึงขนาดเอาตัวเองไปเปรียบเทียบเลยทีเดียว ทางที่ดีคุณควรบอกเขานะว่า คุณไม่มีทางนอกใจเขาแน่นอนเพื่อลบล้างความวิตกของเขานั่นเอง 5. การมีประสบการณ์น้อยในเรื่องความสัมพันธ์…
-
รู้จักกับ ‘Bullroarer’ เครื่องดนตรีจากโลกโบราณเมื่อ 1,700 ปี ก่อนคริสต์ศักราช
ดนตรีอาจจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้โลกของมีสีสันมากขึ้น มนุษย์เรานั้นเองก็รู้จักกับการสร้างเสียงเพลงจากสิ่งของต่างๆ มาตั้งแต่ยุคโบราณแล้ว และวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปรู้จักกับเครื่องดนตรีโบราณที่ชื่อว่า Bullroarer เครื่องดนตรีโบราณจากเมื่อ 1,700 ปีก่อนคริสต์ศักราช!! Bullroarer หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Rhombus หรือ Turndun นอกจากมันจะเป็นเครื่องดนตรีแล้ว ในสมัยโบราณผู้คนยังใช้เจ้าสิ่งนี้ในการติดต่อสื่อสารกันจากระยะไกลอีกด้วย และนี่คือเจ้า Bullroarer จากสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเอเชีย แอฟริกา เอเชีย อเมริกา และออสเตรเลีย Bullroarer เป็นแผ่นไม้ที่มีลักษณะคล้ายกับปีกเครื่องบิน และเจาะรูร้อยเชือกไว้ โดยขอบด้านของแผ่นไม้ดังกล่าวจะมีสลักเป็นรูปฟันปลา หรือรูปทรงต่างๆ ตามเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ โดยขั้นตอนการใช้งานของเครื่องดนตรีโบราณนี้จะต้องทำการหมุนเชือกด้านบนก่อน 2 รอบ และจากนั้นจึงจับปลายของเชือกอีกด้านหนึ่งแล้วหมุมตามแนวนอนหรือแนวดิ่งเพื่อทำให้เกิดเสียง ถ้าหากนึกภาพไม่ออกล่ะก็ ลองไปชมคลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… โดยเสียงที่ได้จากเจ้าเครื่องดนตรีนี้จะได้เสียงแบบ Vibrato ที่มีลักษณะเฉพาะ และนอกจากนี้ลักษณะของเสียงดังกล่าวยังเป็นคลื่นความถี่ต่ำ ซึ่งสามารถทำให้มันเดินทางได้ไกลมากอีกด้วย นอกจากจะใช้เป็นเครื่องดนตรี อุปกรณ์ในการประกอบพิธีกรรม และเครื่องมือสื่อสารระยะไกลเมื่อกว่า 19,000 ปีที่ผ่านมาแล้ว มันยังถูกพบในวัฒนธรรมโบราณทั้งทางซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้อีกด้วย แต่โดยส่วนมากแล้วผู้คนจะรู้จักมันจากชนเผ่า Aborigines ของออสเตรเลียนั่นเอง โดยชนเผา Aborigines นั้นใช้มันสำหรับทำพิธีให้กับเด็กแรกเกิดและฝังศพของคนตาย โดยเชื่อกันว่า Bullroarer นั้นจะช่วยปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายออกไป นอกจากนี้เจ้าอุปกรณ์ดังกล่าวยังถือว่าเป็นของหวงห้ามสำหรับชายชาว Aborigines บางคน และห้ามมิให้เด็ก…
-
โจรงง!! ระบบป้องกันการขโมยสัญลักษณ์หน้ารถของ Rolls-Royce ที่หุบเมื่อมีคนแตะต้อง
รถ Rolls-Royce หรือที่คนไทยเรียกกันว่า โรลส์-รอยซ์ จัดว่าเป็นรถสุดหรูที่ไม่ว่าจอดไว้ที่ไหนก็สามารถเปล่งประกายความหรู ความสง่าออกมาได้อย่างเป็นเอกลักษณ์เลยทีเดียว และด้วยความสวยงามและมีราคาแพง เหตุนี้จึงเป็นที่ต้องตาต้องใจของเหล่าขโมยทั้งหลาย ทางบริษัทผู้ผลิตจึงต้องมีระบบรักษาความปลอดภัย ไม่ให้รถหรูยี่ห้อนี้ถูกขโมยได้โดยง่ายเหมือนรถทั่วๆ ไป เห็นแล้วสัมผัสได้ถึงความมีระดับ แต่ว่านอกจากระบบป้องการขโมยรถแล้ว ตราหน้ารถที่เป็นเอกลักษณ์ประจำยี่ห้อนี้ ก็เป็นที่หมายปองไม่แพ้กัน แต่ว่าทางผู้ผลิตก็รู้ทันจึงได้สร้างระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับเจ้าสัญลักษณ์นี้ขึ้นมาด้วย ขอผมจับขอผมทัช โดยระบบรักษาความปลอดภัยตราสัญลักษณ์นี้คือ เมื่อมีใครนำมือไปสัมผัสมันจะถูกนำลงไปเก็บในตัวรถเหมือนกับว่ามันไม่เคยมีอยู่เลยทีเดียว อ้าวเฮ้ย หายไปไหนเนี้ยย โดยทางผู้ผลิตบอกว่าระบบรักษาความปลอดภัยสัญลักษณ์นี้มีมาตั้งแต่ปี 2004 จนถึงปัจจุบันและค่าเฉลี่ยของการถูกโจรกรรมมีน้อยลง นั่นแสดงให้เห็นว่าระบบนี้ทำงานมาได้เป็นอย่างดี ลองมาดูกันดีกว่าว่ามันหายไปได้ยังไงนะ ที่มา: wonderfulengineering
-
แปลกแต่จริง!! ครอบครัวชาวบราซิลเกิดมาพร้อมกับความพิเศษ มีนิ้วมือ 12 นิ้วทั้งตระกูล
โดยส่วนใหญ่แล้วหากพ่อแม่เห็นลูกเกิดมามีภาวะผิดปกติเหนือคนทั่วไป เช่น มีนิ้วเกินมาจากเดิมข้างละ 5 นิ้ว ก็เพิ่มมาเป็นข้างละ 6 นิ้ว นั่นอาจจะทำให้พวกเขาเกิดความกังวลอย่างหนัก เพราะกลัวว่าลูกจะมีปมด้อย แต่นั่นไม่ใช่สำหรับครอบครัว Da Silva จากประเทศบราซิล ที่รู้สึกภูมิใจกับความจริงที่ว่าสมาชิกทั้งหมดในตระกูลรวมถึง Vinicius ซึ่งเป็นสมาชิกใหม่คนล่าสุด ได้เกิดมาพร้อมกับนิ้วมือและนิ้วเท้าข้างละ 6 นิ้วทุกคน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า แม้ตระกูลนี้จะเกิดมามีนิ้วมือที่มากกว่าคนทั่วๆ ไป แต่อย่างน้อยพวกเขาก็จะทำให้มันกลายเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ และยังหวังว่าเมื่อบุตรหลานเติบโตขึ้น พวกเขาจะสามารถนำความพิเศษเหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ เช่น Joao Assis อาจได้กลายเป็นผู้รักษาประตูฟุตบอลในอนาคต หรือ Maria Morena จะสามารถใช้นิ้วเล่นคีย์เพิ่มเติมบนเปียโนได้ ทางด้าน Alessandro หนึ่งในสมาชิกครอบครัวได้ออกมาเผยว่า “นี่ถือเป็นสัญลักษณ์ของครอบครัวเราในแบบที่ครอบครัวอื่นไม่มี แถมยังทำให้พวกเขาดูโดดเด่นจากคนอื่นๆ ด้วย” สำหรับ Alessandro เขาเกิดมาพร้อมกับนิ้วมือข้างละ 6 นิ้ว…
-
หมีน้อยตกน้ำป๋อมแป๋ม โชคดีเจอมนุษย์รัสเซีย พายเรือผ่านมาช่วยไว้ได้ทัน..!!
อีกเรื่องราวน่ารักๆ จากฝั่งรัสเซีย ที่จะพิสูจน์ให้เราเห็นว่า… บ้านเมืองเค้าก็ไม่ได้มีแต่เรื่องโหดสัสอย่างเดียวนะ!! โดยเมื่อช่วงเดือนก่อน Ruslan Lukanin หนุ่มนักตกปลาชาวมอสโคว และเพื่อนซี้ของเขา ได้ออกไปล่องเรือตกปลาที่บริเวณกลางแม่น้ำแห่งหนึ่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังนั่งชิลรอปลากินเหยื่อ จู่ๆ ก็ไปเจอหมีน้อยที่ไม่มีใครรู้ว่ามาอยู่กลางแม่น้ำได้ยังไง!? ทั้งคู่สังเกตเห็นว่าลูกหมีตัวน้อยดูท่าทางยังไม่แข็งแรงพอที่จะว่ายน้ำได้ พวกเขาเห็นทีท่าเริ่มไม่ค่อยดีจึงรีบช่วยกันพยุงมันขึ้นมาบนเรือ ด้วยสภาพที่ดูอิดโรยของทั้งคู่จึงใช้ตาข่ายช่วยกันพยุงมันขึ้นมาจนสำเร็จ “ใจเย็นๆ นะเจ้าหมีน้อย เอ็งนอนพักตรงนี้ก่อนนะ ตอนนี้เอ็งปลอดภัยแล้วไม่ต้องห่วงๆ” Ruslan กล่าวในคลิปวิดีโอ “เฮ้ย.. แล้วแน่ใจได้ยังไงว่ามันจะไม่กัดเรา” เพื่อนอีกคนเอ่ยถาม “ไม่หรอกน่า มันก็แค่ตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดแค่นั้นเอง มันไม่ได้ตั้งใจมาทำร้ายเราหรอก” Ruslan ตอบกลับ หลังจากช่วยกันพยุงตัวมันขึ้นมาจากน้ำได้สำเร็จ ทั้งคู่ก็ต้องล้มเลิกทริปตกปลาแต่เปลี่ยนเป็นพาเจ้าหมีไปหาเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์แทน “เราช่วยมันขึ้นมาจากนั้นก็พามันขึ้นฝั่ง เราคิดว่ามันน่าจะพลัดพรากจากแม่ของมันมาเพราะดูมันยังเด็กอยู่มากๆ ถือว่าโชคดีนะที่เราผ่านไปเจอพอดี เพราะไม่อย่างนั้นเจ้าหมีน้อยอาจจมน้ำตายได้เลย” Ruslan ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น และนี่คือคลิปวิดีโอวินาทีสุดซาบซึ้ง ที่เจ้าหมีได้รับการช่วยเหลือจากชาวรัสเซียใจดี ที่มา: insipremore
-
เจ้าของบ้านโวย.. ทนไม่ไหวแฟนๆ แห่มาโยนพิซซ่าตาม ‘Breaking Bad’ ถึงกับต้องสร้างรั้วกั้น!!
ไหนมีใครเป็นแฟนซีรีส์ดังเรื่อง ‘Breaking Bad’ บ้าง? ถ้าใครเคยดูคงจำกันได้ดีกับฉากที่อาจารย์ Walt หัวเสียโยนพิซซ่าไปติดอยู่บนหลังคา และนี่คือฉากที่ว่า… ใครจะไปคิดละว่าความหัวเสียของแกทำให้พิซซ่าดีๆ ไปคว่ำอยู่บนหลังคาซะได้ แม้ว่าซีรีส์จะออกอากาศมานานหลายปี แต่ดูเหมือนว่ากระแสความนิยมจะไม่ตกลงเลย เพราะเจ้าของบ้านที่ถูกใช้ถ่ายทำได้ออกมาโวยกับสำนักข่าวท้องถิ่น ถึงกรณีที่แฟนๆ จากซีรีส์ชอบมาบุกรุกถ่ายภาพ และโยนพิซซ่าใส่หลังคาบ้าน ลูกสาวเจ้าของบ้านเล่าว่า… เป็นเวลานานกว่า 4 ปีที่พวกเขาต้องคอยตามเก็บพิซซ่าที่ถูกโยนมาไว้บนหลังคาบ้าน ซึ่งอันที่จริงก่อนหน้านี้ทางผู้กำกับและทีมงานผู้สร้าเอง ก็เคยหยิบยกประเด็นนี้มาพูดกับแฟนๆ ว่าให้หยุดการโยนพิซซ่าไปที่หลังคาบ้านที่ถูกใช้ถ่ายทำ “ขอฝากอะไรถึงแฟนๆ อย่างหนึ่งนะ มันไม่ใช่เรื่องตลกหรือเรื่องที่ดูเท่อะไรเลย กับการที่คุณเอาพิซซ่าไปโยนใส่หลังคาบ้าน ภาพที่เห็นมันเป็นแค่การแสดงและคุณก็ไม่ได้คิดค้นเป็นคนแรก ได้โปรดหยุดการกระทำทั้งหมดนี้เสียที” Vince Gilligan ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ลองนึกภาพดูสิว่าเป็นเราจะเซ็งขนาดไหน ที่ตื่นเช้ามาแล้วต้องเจอพิซซ่ามาคว่ำหน้าแบบนี้ทุกวัน แม้ว่าจะมีการออกมาเตือนจากผู้กำกับ แต่ก็นั่นแหละ… มันไม่เคยได้ผลเลยแม้แต่น้อย เจ้าของบ้าน Joanne Quintana จึงตัดสินใจลงทุนจ้างช่างมาติดตั้งรั้วบ้านให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย “พวกเราหมดความอดทนแล้วจริงๆ ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่มีใครฟัง และเราคิดว่าวิธีนี้น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้..” Joanne ให้สัมภาษณ์ ติดใจชอบใจซีรีส์เรื่องไหนไม่ต้องไปทำตามตัวละครหรอกนะ…
-
ชายหนุ่มรับ “พ่อ-ลูก” ที่เดินข้างถนนขึ้นมาบนรถ จนได้รู้ว่า รักของพ่อนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด…
ว่ากันว่า… ความรักใดๆ ก็มิอาจเปรียบความรักที่พ่อแม่มีให้ต่อลูกได้ และเรื่องนี้ก็เป็นบทพิสูจน์ที่ดีอีกครั้งหนึ่ง คุณ Chalad Booncid เล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขาขับรถเพื่อไปทำบุญในวันหยุดว่า เขาเห็นพ่อลูกคู่หนึ่งเดินอยู่ข้างใน ในสภาพที่มีลูกห้อยอยู่ด้านหลังของพ่อ ขณะที่บริเวณนั้นก็เป็นป่าซะส่วนใหญ่ นานๆ ที่จะมีบ้านคนสักหลัง จึงทำให้เกิดความสงสัยอย่างมาก เขาจอดรถเดินลงไปหาพ่อลูกคู่นี้ พร้อมกับหยิบขนมที่เตรียมไว้ลงไปให้ทั้งพ่อและเด็ก แต่ก่อนจะกลับมาที่รถก็ได้สอบถามว่าทั้งสองจะไปไหนกัน เมื่อสอบถามได้ความว่าจะเดินกลับบ้านที่น่าจะมีระยะทางค่อนข้างไกล เขาจึงให้ทั้งสองขึ้นมาบนรถ และจะอาสาไปส่งเอง… หลังจากการนั่งสอบถามบนรถ ทราบความว่าลูกชายของเขาป่วย และต้องเดินพาลูกไปหาหมอที่อนามัยซึ่งอยู่ไกลหลายกิโลเมตร แม้ว่าไม่มีรถยนต์ หรือกระทั่งจักรยาน และไม่มีใครไปส่งเลย ด้วยความเป็นพ่อจึงตัดสินใจเอาลูกสะพายขึ้นตัวเองและเดินไป แต่เมื่อพบว่าอนามัยปิด ก็ต้องเดินกลับบ้านทั้งๆ ที่ไม่ได้พบหมอ คราวนี้คุณพี่ชายของเรา ก็เลยถามถึงเรื่องยาของเด็กชายด้วยความเป็นห่วง ชายหนุ่มคนดังกล่าวก็บอกว่าคงจะต้องซื้อยาให้ลูกแทน แต่เมื่อสอบถามดูดีๆ ก็ปรากฏว่ายายังไม่ได้ซื้อ งานนี้มีหรือที่พี่ชายคนดีของเราจะแค่ไปส่งบ้านเฉยๆ ก็เลยถือโอกาสพาแวะซื้อยาเลย “ซื้อรึยังยาน่ะ.. ยังไม่ซื้อ.. เดี๋ยวผมพาไปซื้อยาก่อน ที่ร้านขายยาเนาะ” คำพูดที่พี่ปิดท้ายคลิป แสดงถึงความห่วงใยอาการลูกชายของคุณพ่อคนดังกล่าว ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย เรื่องราวดังกล่าวได้สร้างความประทับใจให้กับคนที่ได้รับชมเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นกดไลค์กันเกือบ 60,000 ครั้ง และคอมเม้นท์แสดงความชื่นชมมากมาย . .…
-
เผยภาพของไปรษณีย์ที่ยังคงทำหน้าที่ แม้บ้านเรือนจะมอดไหม้จากไฟป่าไปแล้วก็ตาม…
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2017 สำนักข่าว BBC ได้รายงานสภาพความเสียหายของเมืองซานตาโรซา ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังถูกไฟป่าเผาไหม้ทำลายพื้นที่ไปแล้วมากกว่า 43,000 ไร่ จากไฟป่าขนาดใหญ่จำนวน 22 จุด ที่ลุกลามอย่างรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้ ทำให้ชาวเมืองหลายคนต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน มีผู้สูญหายระหว่างการอพยพกว่า 300 คน และมียอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 23 ราย สภาพเมืองซานตาโรซา หลังถูกไฟป่าโหมกระหน่ำ ทว่าหลังเหตุการณ์สงบได้ไม่นาน Douglas Thron ผู้ขับโดรนเพื่อเก็บภาพบรรยากาศภายในเมือง ได้สังเกตเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ ที่ยังคงขับรถส่งพัสดุตามบ้านต่างๆ ในละแวก Coffey Park ถ้าหากเป็นวันธรรมดา หรือวันก่อนเกิดเหตุไฟป่าลุกลาม ก็ดูจะเป็นเรื่องปกติทั่วไป หากแต่ทั้งหมดนี้เป็นภาพการส่งจดหมายพัสดุในวันที่บ้านเรือนถูกทำลายราบเป็นหน้ากอง..!! สังเกตว่าในละแวกนี้ไม่เหลือบ้านเรือนเลยแม้แต่หลังเดียว… “มันเป็นอะไรที่แปลกตามากเลยครับ อันที่จริงมันก็เป็นการทำงานอย่างหนึ่งของเจ้าหน้าที่ แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกอึ้งก็คือ.. ถนนเกือบทั้งหมดถูกสั่งปิดเส้นทาง ไม่เหลือบ้านเรือนเลยแม้แต่หลังเดียว แต่เขาก็ยังขับรถส่งพัสดุได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง” Douglas ให้สัมภาษณ์ ทุกตู้ไปรษณีย์ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพดีหรือไม่ เขาก็จะนำจดหมายหรือพัสดุไปวางไว้ให้ตรงตามเลขที่บ้าน …
-
ภาพมุมสูงของต้นไม้ที่ล้มเรียงกัน ผลจากพายุที่พัดกระหน่ำสะท้อนถึงปัญหาป่าไม้
เมื่อมีพายุเกิดขึ้นมา แน่นอนว่าย่อมมีความเสียหายเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดกับสิ่งใดก็ตามที่พายุได้พัดผ่าน แต่มีช่างกล้องคนหนึ่งกลับมองว่าสิ่งที่พายุได้ทำลายนั้นกลับนำมาทำเป็นงานศิลปะได้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ได้มีพายุลูกใหญ่ที่ชื่อว่า Xavier ได้พัดผ่านเข้าไปในทวีปยุโรปและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และหลังจากพายุสงบลง เช้าในวันต่อมา Julian Stratenschulte ช่างกล้องชาวเยอรมัน ก็ได้นำโดรนติดกล้อง ถ่ายภาพต้นไม้ที่ถูกโค่นลงจากแรงของพายุ จนกลายมาเป็นความสวยงามที่หาดูได้ยาก “ในตอนเช้าก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น ผมขับรถไปรอบๆ เมืองเพื่อหาจุดที่น่าสนใจและเหมาะกับการถ่ายภาพ จนผมมาเจอต้นไม้ที่ถูกถอนรากถอนโคน ผมจึงบอกกับตัวเองว่า คงจะสวยน่าดูหากถ่ายจากมุมสูง” “ผู้คนทั่วโลกตื่นเต้นกับภาพที่ผมได้ถ่าย ผมรู้สึกประหลาดใจและไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้น สำหรับผมมันเป็นแค่ภาพถ่ายธรรมชาติรูปหนึ่งเท่านั้นเอง” Stratenschulte กล่าว แต่ในภายหลังภาพนี้ได้กลายเป็นไวรัลบนอินเทอร์เน็ต จุดประกายสะท้อนให้ผู้คนเห็นว่าต้นไม้ในประเทศไม่ได้ถูกโค่นจากพายุอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น คือการตัดต้นไม้ของผู้คนในประเทศ ที่ทำให้ต้นไม้เหลือจำนวนน้อยจากที่เคยเป็นป่าใหญ่มาก่อนจนกลายมาเป็นรูปที่เห็นในที่สุด และช่างภาพคนนี้ยังมีผลงานถ่ายธรรมชาติอื่นๆ ที่น่าติดตามอย่างมากมาย อย่างเช่นภาพเหล่านี้ . . นี่คงเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าพายุไม่ได้นำมาซึ่งความเสียหายอย่างเดียว แต่ยังทำให้ผู้คนรู้ซึ้งถึงความสำคัญของธรรมชาติอีกด้วย ที่มา: petapixe,@jstrati
-
สื่อต่างชาติยกย่อง 10 โครงการในพระราชดําริของ ‘ในหลวง ร.9’ ที่ทรงสร้างประโยชน์แก่ประเทศไทย
ปวงชนชาวไทยจะรู้และทราบกันดีว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เปี่ยมไปด้วยอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถมากมายเพียงใด ดังจะเห็นจากพระราชกรณียกิจต่างๆ ของพระองค์ ที่ช่วยเหลือเหล่าประชากรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และแน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงแค่คนไทยเท่านั้นที่รับรู้ แต่สื่อต่างชาติหลายแห่งก็ลงไปเช่นกัน คราวนี้ #เหมียวหง่าว ขอหยิบยกข้อมูลจาก TheBigChilli.com ที่ได้ทำเรื่องราวประวัติของในหลวงรัชกาลที่ 9 รวมไปถึงโครงการในพระราชดำริ และทางเว็บดังกล่าวก็หยิบยกโครงการที่สำคัญ 10 โครงการมาดังนี้… 1. โครงการฝนหลวง (Royal Rain Project) เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรในปี 1971 ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็ทรงทรับทราบถึงความทุกข์ร้อนของราษฎรและเกษตรกรที่ขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภค และใช้ในการเกษตร จึงทรงพระราชทานโครงการพระดำริ “ฝนหลวง” ขึ้นมา ได้เกิดเป็นการค้นคว้าทดลองปฏิบัติการฝนเทียมหรือฝนหลวงขึ้น และในที่สุดก็ประสบผลสำเร็จ 2. โครงการฝายชะลอน้ำหรือฝายแม้ว (Moisture Retention Dams) เป็นแนวคิดที่สามารถดึงประโยชน์จากฝนที่ตกจากลมมรสุมได้เป็นอย่างดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานโครงการ ‘ฝายแม้ว’ ขึ้นมา เป็นฝายชะลอน้ำกึ่งถาวรโดยใช้วัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่นกิ่งไม้ ก้อนหิน เพื่อกั้นชะลอน้ำในลำธาร หรือทางน้ำเล็กๆ ให้ไหลช้าลง เพื่อให้ขังอยู่ในพื้นที่นานพอที่จะพื้นที่รอบๆจะได้ดูดซึมไปใช้ เป็นการฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้เกิดความชุ่มชื้นมากพอที่จะพัฒนาการเป็นป่าสมบูรณ์ขึ้นได้ ฝายแม้วยังอาจใช้เพื่อการกักตุนน้ำ ให้มีระดับสูงพอที่จะดึงน้ำไปใช้ในคลองส่งน้ำได้ในฤดูแล้ง 3. โครงการหลวง…
-
ชาวต่างชาติคิดอย่างไร หลังจากได้เห็นคลิปพนักงานสนามบินในไทย ขโมยของจากกระเป๋าผู้โดยสาร!?
กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารย์กันในต่างประเทศอย่างมาก หลังจากมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของชายคนหนึ่งที่กำลังขโมยของจากกระเป๋าของผู้โดยสารระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัยของสำภาระในท่าอากาศยานภูเก็ต ชายหนุ่มคนดังกล่าวคือลูกจ้างของบริษัท BAGS บริษัทความปลอดภัยที่ทางสนามบินจ้างมาเพื่อจัดการกับสัมภาระของผู้โดยสารระหว่างเที่ยวบินจากประเทศสิงคโปร์ที่ท่าอากาศยานดังกล่าว ชายหนุ่มวัย 27 ปีกำลังค้นกระเป๋าผู้โดยสารอยู่ และจากการรายงานกล่าวว่าเขาได้ขโมยลำโพงบลูทูธออกจากกระเป๋าของผู้โดยสารก่อนที่จะใส่คืนกลับไป คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกถ่ายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาโดยทางสายตรวจของสนามบิน ชายหนุ่มไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกถ่ายคลิปวิดีโออยู่ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ของทางสนามบินจับตัวได้ และดำเนินคดีในที่สุด ทางด้านสายการบิน Jetstar ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พวกเขาไม่ได้ใช้บริการขนสำภาระจากประเทศไทย แต่ได้ใช้บริการจากบริษัท BAGS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการกับสายการบินเจ้าอื่นๆ ในสนามบินภูเก็ตด้วย สายการบินได้ออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว พร้อมกับบอกว่าพวกเขาไม่ได้ใช้วิธีการโหลดกระเป๋าแบบที่เห็นในคลิปวิดีโอ แต่มีการใช้ตู้คอนเทรนเนอร์พร้อมกับกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขากำลังประสานงานไปยังท่าอากาศยานไทยเรียบร้อยแล้ว ส่วนทางด้านท่าอากาศยานภูเก็ตเองก็ได้ออกมาชี้เจงถึงคลิปวิดีโอดังกล่าว พร้อมกับบอกว่าได้ทำการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเรียบร้อยแล้ว และได้ทำการตักเตือนบริษัท ISS บริษัทรักษาความปลอดภัยของทางสายการบิน Jetstar ที่เป็นผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอดังกล่าวแล้ว แถลงการณ์จากท่าอากาศยานภูเก็ต และหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีชาวต่างชาติจำนวนมากที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการกระทำของชายคนนี้ เช่น Whitney Pittman “ถ้าหากว่าคุณมาเที่ยวที่เอเชีย และไม่รู้วิธีล็อกกระเป๋าล่ะก็ คุณไม่ควรมาเที่ยวที่นี่” Himex1 “มีกี่คนแล้วล่ะที่ถูกจับข้อหายาเสพย์ติดเพราะวิธีนี้??” Sharky Gothica ก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า “นี่เกิดขึ้นที่ภูเก็ตหรือนี่!? ตายจริง อาทิตย์หน้าฉันจะต้องเดินทางไปที่นั่นด้วย หวังว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับฉันนะ” ส่วนชาวเน็ตท่านนี้ก็บอกในเชิงว่า คลิปยังไม่ได้พิสูจน์ว่าเขาเอาไปจริงๆ เอาอาจจะเห็นกระเป๋ามันเปิด และพยายามจัดอะไรให้มันเข้าที่เข้าทาง เขาอาจจะหวังดีก็ได้นะ… “ถ้าหากว่าเขาเอาอะไรออกไปได้…
-
17 การทดลองทางวิทยาศาสตร์เจ๋งๆ เปิดหูเปิดตาให้คุณได้รู้อะไรใหม่ๆ อีกเพียบ!!
วิทยาศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่ทำให้เราได้รู้ความจริงจากการพิสูจน์ การทดลอง แต่นอกจากนั้นวิทยาศาสตร์ ยังทำให้เราได้เห็นถึงความแปลกใหม่ ที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต และนี่คือบางส่วนของการทดลอง ที่เรานำมาให้ชมกันในรูปแบบของภาพเคลื่อนไหว จะเป็นอย่างไรไปดูความมหัศจรรย์เหล่านี้กันเลย นักดำน้ำคนนี้เดินอยู่ใต้น้ำแข็งในสภาพกลับหัวกลับหาง การเผาไหม้ของหัวไม้ขีด การแตกของกระจกที่ 10 ล้านเฟรมต่อวินาที อานุภาพของคลื่นเสียงที่ทำให้สิ่งหนึ่งลอยตัวได้ เมื่อแตงโมถูกรัดด้วยยางกว่า 100 เส้นปรากฎว่า… การปล่อยสปริงแบบสโลโมชั่น แม่เหล็กที่เป็นสีน้ำเงินกำลังกลืนกินโลหะลูกหนึ่ง แบตเตอรี่ แม่เหล็ก และทองแดงสามารถขับเคลื่อนกลไกแบบง่ายๆ ได้ อุปกรณ์ที่ช่วยจัดศูนย์ถ่วงให้แก้วเบียร์ ทำยังไงก็ไม่หก คุณสามารถใช้ควันจุดเทียนใหม่อีกครั้งได้ด้วยการจุดไฟจากควันที่ลอยขึ้นมา สิ่งนี้เรียกว่า “การลอยตัวของมวลสาร” การแตกตัวของเมล็ดพืช การจับเหยื่อของแมงมุม ลูกสนขยายตัว ว้าวว เมื่อเลือดตกใส่ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ ความมหัศจรรย์ของแม่เหล็กเหลว น้ำแข็งแห่งเจอกับน้ำยาล้างจาน น่าทึ่งจริงๆ…
-
รู้จักกับเจ้าเหมียวไต้หวัน Didi ชอบเผยอปากเหวอๆ ทุกครั้งหลังจากที่โดนจุ๊บ
ขึ้นชื่อว่าเป็นแมวแล้ว มนุษย์ทาสอย่างเรามักจะเห็นมันมีพฤติกรรมแปลกๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นท่านอน ท่าอึ ท่ากิน ที่มองดูแล้วจะต้องตลกในความพิเรนทร์ของมัน แต่ในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับเจ้า Didi แมวตัวขาว ที่มีพฤติกรรมสุดน่ารัก อย่างการอ้าปากเหวอทุกครั้งที่โดนจูจุ๊บ ทำเอาชาวเน็ตแห่ชมในความแบ๊วของมันกันใหญ่ ไม่รอช้าเราไปทำความรู้จักเจ้านายตัวนี้กันเลย เจ้าแมวเผือกตัวนี้มีชื่อว่า Didi Didi เป็นแมวไต้หวัน อาศัยอยู่กับเจ้าของที่ชื่อว่า Mr. Yang อีกทั้งยังมีแก็งแมวในบ้านอีก 3 ตัว คือ Mimi, Kiki and Yoyo แต่ Didi เป็นแมวที่ทำตัวไม่เหมือนแมว ดูอย่างตอนอาบน้ำสิ อย่างกับเป็มนุษย์เชียวนะแก ชอบแต่งตัวคอสเพลย์ซะด้วย น่ารักไหมแม่…. ผมถือเงินทุกบาททุกสตางค์ของแม่ไว้ แต่สิ่งที่แปลกที่สุดของ Didi คือ จะทำหน้าตกใจแบบสุดขีด เมื่อได้รับความรัก เวลาโดนจุ๊บ ก็จะทำหน้าแบบนี้ ตกใจอะแม่!!!!! Mr. Yang ได้กล่าวว่าเจ้า…
-
พิธี Quinceañera ของชาวเม็กซิกัน แม้จะเป็นชนกลุ่มน้อยในสหรัฐฯ แต่ก็เฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่
พิธี Quinceañera ซึ่งเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของชาวละตินอเมริกันที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับการก้าวข้ามจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่ของสาวๆ ที่มีอายุครบ 15 ปี งานดังกล่าวนี้จะต้องถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และอลังการ แน่นอนว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่มากพอสมควร ถึงอย่างนั้นแทบทุกครอบครัวก็ยังคงเลือกที่จะจัดงานดังกล่าวขึ้นมาอยู่ดี วันนี้ #เหมียวตะปู จึงมาชวนเพื่อนทุกคนไปดูบรรยากาศภายในงานของชาวเม็กซิกัน ในนครนิวยอร์ก งานเฉลิมฉลองนี้เป็นอย่างไรไปดูกันเลยยย ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพที่ชื่อ Cinthya Santos Briones หญิงสาวอายุ 15 ต้องเลือกชุดที่เหมือนกับเจ้าหญิงเพื่อใช้ในพิธี แน่นอนว่าชุดเหล่านี้ย่อมมีราคาที่ค่อนข้างแพง แต่พ่อแม่ของพวกเธอก็ยอมที่จะสละเงินที่มีด้วยความเต็มใจ . พ่อแม่จะเข้ามาอวยพรเพื่อให้สาวๆ ได้โตขึ้นไปเป็นผู้หญิงที่ดี การแต่งกายที่ดูโดดเด่นเป็นอย่างมากเหมือนกับการไปเข้าพิธีแต่งงาน ในงานครั้งนี้จะต้องฟุ่มเฟือยไปกับการเช่ารถลีมูซีน เช่าสถานที่หรืออาหารจัดเลี้ยง แต่ทุกครอบครัวยินดีที่จะช่วยให้พวกเธอได้สวยที่สุดในพิธีกรรมครั้งนี้ ในช่วงแรกจะเป็นเรื่องของการเข้าพิธีกรรมกับคนในครอบครัว แค่ช่วงพิธีการก็เห็นได้ถึงความอลังการแล้ว หลังจากนั้นก็จะเป็นการเฉลิมฉลองที่มีผู้มาร่วมงานมากมาย ซุ้มดอกไม้ที่เหมือนกับงานแต่งบ้านเราชัดๆ การสร้างฉากหลังเอาไว้ในบ้านให้ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เค้กแต่งงานที่จะต้องไม่ซ้ำใคร ในการฉลองจะมีการเต้นรำที่ให้พวกเธอได้จับคู่กับนักเต้นมืออาชีพ ในวันนั้นสาวๆ เหล่านี้เปรียบได้กับเจ้าหญิงในเทพนิยาย แขกมากหน้าหลายตาที่มาร่วมแสดงความยินดี .…
-
20 ภาพสตรีทแฟชั่นสไตล์ Chloe Moretz สาวสวยหุ่นสตรอง ว่าที่สะใภ้ตระกูลเบ็คแฮม
นอกจากที่เธอจะมีหุ่นกระชากใจแล้ว Chloe ยังมีสไตล์การแต่งตัวที่ชิคสุดๆ เรียกว่าเป็นไอดอลของสาวๆ หลายๆ คนเลยล่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นชุดสบายๆ ชุดหวานๆ หรือชุดแบบแมนๆ เธอก็แมทช์ออกมาได้ดูดีมีสไตล์สุด เราไปชมความชิคของสาวคนนี้กันเลยดีกว่า 1. เสื้อครอปสีน้ำเงิน กางเกงเอวสูงสีเทาดำ รองเท้าหนังสีดำสุดเท่ 2. เสื้อยืด กางเกงสกินนี่สีดำ รองเท้าคัชชู เพิ่มความเก๋ด้วยแจ็กเก็ตสีแดง 3. เสื้อเชิตสีดำมีลาย กับกางเกงสกินนี่สีดำในวันสบายๆ 4. กระโปรงสีเทากับเสื้อแขนยาวสีขาวลายเก๋ๆ ก็ดูดีแล้ว 5. ดูเผินๆ อาจจะมองเป็เดรสลายธรรมดา แต่เมื่อมองดูดีๆ เดรสตัวนี้มีลูกเล่นสวยงามมากๆ 6. เสื้อยืดลายเก๋ กับกางเกงเอวสูงทรงกระบอก 7. หรือจะเปลี่ยนมาเป็นขาสั้นชิคๆ ก็สวยปังสุดๆ 8. ธีมเท่ๆ ก็มีนะจ๊ะ กระโปรงหนัง แจ็กเก็ตหนัง ก็ทำให้ดูร็อคไม่เบา 9. เสื้อสเวตเตอร์กับกางเกงขาสั้นจุดจู๋ ก็ทำให้ดูน่าสนใจขึ้นมาทันที …
-
16 บทเพลงพระราชนิพนธ์จาก ‘ในหลวง ร.9’ ที่เราคุ้นหูกันอย่างดี ร่วมฟังไปพร้อมๆ กันอีกครั้ง…
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ปวงชนชาวไทยเคารพรัก และเทิดทูน พระองค์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทุกคน และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของนานาประเทศ สิ่งที่ปวงชนชาวไทย ได้รับรู้ และได้เห็นมาตลอดก็คือ พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักเพื่อประชาชนมาโดยตลอด อีกทั้งยังทรงมีพระปรีชาสามารถในการปกครองบ้านเมือง ให้ประชาชนชาวไทยได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข แน่นอนว่า สิ่งหนึ่งที่ชาวไทยทุกคนจะจดจำไว้ในหัวใจอย่างไม่มีวันลืมคือ พระองค์มีพระราชปรีชาญาณทางด้านดนตรี ทรงสร้างสรรค์บทเพลงพระราชนิพนธ์ ที่มีความไพเพราะไว้ทั้งสิ้นถึง 48 เพลง ในวันนี้จึงขออนุญาตนำบทเพลงพระราชนิพนธ์ส่วนหนึ่งมาให้รับฟังกัน เป็นบทเพลงที่หลายๆ คนคุ้นหู เพราะเคยฟังมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ฟังแล้วกลับไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย 1. แสงเทียน (Candlelight Blues) 2. ยามเย็น (Love at Sundown) 3. สายฝน (Falling Rain) 4. ใกล้รุ่ง (Near Dawn) 5. ชะตาชีวิต (H.M. Blues) 6. อาทิตย์อับแสง (Blue Day)…
-
คุณหมอโต้คนไข้รุนแรง ‘ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้’ เพราะคนไข้ทนรอคิวที่นานเป็นชั่วโมงไม่ไหว
ความไม่พอใจของคนสองคนสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายสถานการณ์และบางครั้งมันอาจบานปลายจนถึงกับแสดงความก้าวร้าวออกมา เมื่อ Jessica Stipe ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในคลินิก Gainesville After Hours เธอรู้สึกไม่สบายหนักกว่าเดิมเพราะต้องรออยู่เป็นเวลานานจนทำให้เธอเลือกที่จะขอค่าใช้จ่ายที่เสียไปคืน สิ่งนั้นจึงทำให้นายแพทย์ Peter Gallogly รู้สึกไม่พอใจและออกมาต่อว่ารวมถึงไล่เธอออกไปด้วยว่า “ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!!” คลิปคุณหมอไล่คนไข้ให้ออกไป เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่คลินิก Gainesville After Hours เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา เธอบอกว่าตอนแรกคุณหมอรายนี้นัดเธอไว้ตอน 18.30 แต่เมื่อถึงเวลา 19.45 เธอก็ยังคงไม่ได้รับการตรวจรักษาใดๆ จนทำให้เธอรู้สึกป่วยหนักกว่าเดิม และในตอนที่เธอขอกำลังขอเงินค่ารักษาคืนคุณหมอหนุ่มคนนี้ก็ออกมาบอกเธอว่า “พวกผมกำลังตรวจตัวอย่างปัสสาวะของคุณอยู่รู้บ้างมั้ย” . เธอจึงอธิบายว่าเธอไม่รู้ว่ามันต้องรอนานขนาดไหน ก่อนที่เขาจะตะคอกถามเธอว่า “นี่คุณต้องการเข้าพบหมอหรือไม่” จึงตอบกลับไปว่าเธอต้องการที่จะกลับไปนอนอยู่บนเตียงที่บ้านแล้ว เขาจึงตะคอกกลับมาอีกว่า “โอเค งั้นก็หยิบเงินของคุณและไสหัวออกไปได้แล้ว” และย้ำอย่างรุนแรงกว่าเดิมว่า “ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!!” ระหว่างที่กำลังจะออกไปจากคลินิกลูกสาวของเธอที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์เอาไว้ชี้กล้องไปที่คุณหมอคนนั้นและถามว่าเขาชื่ออะไร เขาเลือกที่จะไม่ตอบและกระชากเอามือถือที่ถ่ายอยู่ไป ถึงอย่างไรคลิปที่ถ่ายไว้ก็ได้ถูกโพสต์ลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัวของเธอจนเกิดเป็นกระแสและมีการแชร์ออกไปมากถึง 2,300 ครั้ง ลูกสาวของเธอบอกเอาไว้ในโพสต์ว่า “ฉันไม่ต้องการให้มีพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นอีก” นอกจากนั้นตำรวจในเมือง Gainesville…
-
มันฝรั่งทอดคาลบี้ เปิดตัวรสชาติใหม่ “ปลาร้าญี่ปุ่น” จะกลิ่นแรงเท่าของบ้านเราไหมน้าา???
เพื่อนๆ คงเคยมีโอกาสได้ทานมันฝรั่งทอดมาแล้วหลากหลายรสชาติ ซึ่งแน่นอนว่าการค้นหารสชาติที่แตกต่างเพื่อนำผลิตภัณฑ์ออกมาจำหน่ายนั้นเป็นเรื่องบริษัทต้องทำ และเราก็ต้องเซอร์ไพรส์สุดๆ ที่แบรนด์ขนมคาลบี้ได้เปิดตัวรสชาติใหม่ ที่เรียกว่า Narezushi มันคืออะไร และรสชาติจะเป็อย่างไร เราไปทำความรู้จักกันเลย Narezushi เป็นอาหารดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นที่ใช้ปลาและข้าวในการหมัก จึงทำให้รสชาติและกลิ่นนั้นมีความฉุนรุนแรงที่เป็นเอกลักษณ์ หรือถ้าใครเดาไม่ออก ก็ลองคิดถึง “ปลาร้า” ของบ้านเราดูก็ไม่น่าจะต่างกันมากนัก Narezushi หรือ Funazushi ที่ดีและมีชื่อเสียงที่สุดต้องมาจากจังหวัดชิกะ ของญี่ปุ่นเท่านั้น ชาวชิกะใช้ปลาและข้าวมาหมักรวมกันเพื่อสร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งกรรมวิธีการทำนี้มีมานานกว่า 1,000 ปีแล้ว โดยในอดีตจะใช้ปลาคาร์ฟที่จับได้จากทะเลสาบ Biwa ที่เป็นทะเลสาบแหล่งใหญ่ของญี่ปุ่น มารังสรรค์เมนูสุดโอชะแบบดั้งเดิม รสชาติของ Funazushi มันจะมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ว่ากันว่ามันจะมีรสเปรี้ยวน้อยกว่าถั่วนัตโตะ แต่ก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดีว่าถ้ามันกลายมาเป็นมันฝรั่งทอดกรอบจะมีรสชาติอย่างไร เจ้าพ่อมันฝรั่ง Calbee จะปล่อยขนมรส Funazushi ในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งมีราคาถุงละ 120 เยน หรือ 35 บาท คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับรสปลาร้า เอ้ย!! รส Funazushi ได้แบบเต็มที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อย่างไรก็ตามขนมเหล่านี้จะขายได้เฉพาะในเขตพื้นที่คันไซ ได้แก่ โอซาก้า เกียวโต…
-
เด็กหนุ่มวัย 13 ปีสร้างบ้านหลังเล็กๆ ได้ด้วยตัวเอง ใช้งบไป 45,000 บาท แต่น่าอยู่โพดดด!!
สำหรับเด็กวัย 13 ปีส่วนใหญ่ก็คงกำลังสนุกสนานอยู่กับเพื่อนๆ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านหรือเหน็ดเหนื่อยกับการเรียน แต่สำหรับ Luke กลับแตกต่างออกไป วันหนึ่งที่เขากำลังรู้สึกเบื่อในฤดูร้อนก็ได้เกิดไอเดียหนึ่งขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็ใช้เวลาว่างไปกับการสร้างบ้านเป็นของตัวเอง!! เด็กชายวัย 13 ปีที่สร้างบ้านด้วยตัวเอง!! เด็กชายเริ่มที่จะเรียนรู้ในสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตัดไม้ การขึ้นโครงบ้านหรือแม้แต่การโยงสายไฟซึ่งเขาเป็นเขาทำเองเกือบทุกอย่าง รวมถึงการตัดสินใจในเรื่องของเงินที่ต้องใช้ ค่าใช้จ่ายที่ใช้มาจากการทำงานพิเศษเล็กๆ น้อยๆ ที่พอสามารถทำได้อย่างเช่นการตัดหญ้าภายในสวน หรืองานทั่วๆ ไป นอกจากนั้นเขาก็ยังหาวัสดุต่างๆ จากสิ่งของที่คนในครอบครัวไม่ใช่แล้วมาช่วยลดค่าใช้จ่ายอีกด้วย เขาทำแทบทุกอย่างในการสร้างมันขึ้นมาด้วยความพยายาม รับงานพิเศษต่างๆ เพื่อให้มีงบประมาณในการลงทุนครั้งนี้ ความพยายามอย่างหนักเกือบ 1 ปีทำให้บ้านที่เขาสร้างเองกับมือในที่สุดก็เสร็จสมบูรณ์พร้อมให้เข้าไปอยู่ได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังใช้เงินไปเพียงแค่ราวๆ 45,000 บาทเท่านั้นเอง บ้านหลังเล็กๆ ในพื้นที่ประมาณ 8 ตารางเมตรตามที่เขาต้องการ แม้ตอนนี้จะเล็กไปบ้างและยังขาดระบบประปา แต่เขาก็ตั้งใจเก็บเงินต่อไปเพื่อในอนาคตจะได้ขยายต่อเติม หรือสร้างรถบ้านเป็นของตัวเองซะเลย สำคัญที่สุดก็คือเขารู้สึกขอบคุณพ่อของเขามากที่คอยสอนและช่วยเหลือเขาในหลายๆ เรื่อง “ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะยุ่งอยู่กับงานแต่ก็พยายามหาเวลามาช่วยผมอยู่เสมอ” เขากล่าว คุณพ่อผู้ที่เป็นเบื้องหลังในความสำเร็จของลูก ลักษณะภายในและภายนอกของบ้านหลังนี้…
-
เรื่องราวของสองพี่น้องบ้านเดียวกัน แต่กลับต้องแข่งฮอกกี้ในโอลิมปิกฤดูหนาวให้คนละประเทศ
หากใครมีพี่มีน้องก็คงจะเคยทะเลาะกันมาบ้างหรือในบางครั้งก็อาจจะมีการแข่งขันกันเองอย่างเช่นสองพี่น้องสาวคู่นี้ ที่พวกเธอต้องแข่งขันกันในระดับชาติเลยทีเดียว เมื่อสองพี่น้อง Marissa วัย 24 ปี และ Hannah Brandt วัย 23 ปี สองพี่น้องที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้จะอยู่บ้านเดียวกันแต่กลับต้องแข่งขันกีฬาโอลิมปิกให้กับประเทศที่แตกต่างกันซะงั้น . จุดเริ่มต้นของความสับสนนั้นเกิดขึ้นเพราะว่า Greg และ Robin Brandt สองสามีภรรยาในสหรัฐอเมริกา ได้รับเลี้ยงเด็กคนหนึ่งนั่นคือ Marissa เด็กสาวชาวเกาหลีใต้ที่มีอายุเพียงแค่ 4 เดือน หลังจากนั้นเธอก็มีน้องสาวที่อายุห่างกันหนึ่งปีชื่อ Hannah ซึ่งในวัยเด็กทั้งคู่จะได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันอยู่เสมอเช่นการเต้น เล่นสเกตลีลา หรือยิมนาสติก รวมถึงการเข้าค่ายฝึกวัฒนธรรมเกาหลีที่แม่ของพวกเธอพาไป ในขณะที่คนพี่ตอนนั้นอายุ 10 ขวบรู้สึกไม่ค่อยชอบการไปค่ายนั้นเท่าไหร่แต่น้องสาวกลับรู้สึกชอบมันเอามากๆ นอกจากนั้นผู้คนรอบข้างก็มักจะไม่เชื่อว่าทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองก็ยังคงอยู่เคียงข้างกันมาตลอดจนกระทั่งเข้าเรียนวิทยาลัยและต้องแยกทางกัน . เมื่อทั้งสองได้เล่นฮอกกี้น้ำแข็งและรู้สึกชอบมากๆ โดยเฉพาะ Hannah ที่มีความฝันจะเป็นนักกีฬาโอลิมปิก ส่วน Marissa เองในตอนนั้นขณะที่กำลังศึกษาอยู่ปีสุดท้ายที่วิทยาลัยศิลปศาสตร์ Gustavus Adolphus ในรัฐมินนิโซตา เธอก็ได้ถูกชักชวนให้ไปอยู่ในทีมชาติของเกาหลีใต้ โดยโค้ชผู้รักษาประตูของเกาหลีใต้ Rebecca…
Got any book recommendations?