Tag: กฎ
-
ผู้ต้องหา ‘ขายบริการ’ ละเมิดกฎชะรีอะฮ์ ถูกนำตัวมาประจาน และเฆี่ยนตีต่อหน้าสาธารณะ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมืองโล๊คซูมาวี จังหวัดอาเจะฮ์ ทางเหนือสุดของเกาะสุมาตรา โดยล่าสุดนี้มีการลงโทษและประจานผู้ละเมิดกฎชะรีอะฮ์… จากการถูกกล่าวหาว่าเป็นชายและหญิงผู้ขายบริการ แม้ว่าภายในช่วงต้นปีที่ผ่านมาจะมีการฟ้องร้องให้ทางการยกเลิกการลงโทษต่อหน้าสาธารณะแบบนี้ไปแล้ว . หลังจากที่ผู้ต้องหาถูกนำตัวมายืนต่อหน้าประชาชนที่มาเฝ้าดู พวกเขาจะถูกสั่งให้คุกเข่าลง และรับความเจ็บปวดจากเพชฌฆาตผู้ลงมือโบยและเฆี่ยนตีกลางแผ่นหลัง โอดโอยกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด… เหตุการณ์ที่ผ่านมาล่าสุด จากการรายงานผ่าน Dailymail ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2018 ผู้ต้องหาหญิง 2 รายและชาย 2 ราย ถูกเฆี่ยนตีหลายต่อหลายครั้งโดยเพชฌฆาตผู้สวมใส่หน้ากาก . อย่างไรก็ตาม สำหรับชายผู้โดยโบยนั้นไม่ทราบว่าถูกกล่าวหาละเมิดกฎในข้อใด แต่ด้วยสภาพแผ่นหลังที่ถูกโบยนั้นถือว่าได้รับโทษรุนแรงพอสมควร โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการร่วมลงบันทึกข้อตกลงกันระหว่างนาย Irwandi Yusuf ผู้ว่าฯ อาเจะฮ์ และนาย Yuspahruddin หัวหน้านิติบัญญัติระดับจังหวัดและหัวหน้าหน่วยสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ยกเลิกการลงโทษต่อหน้าสาธารณะดังกล่าว โดยต้องการให้นำไปลงโทษในสถานที่ปิดอย่างเช่นภายในคุกแทน . เพื่อเป็นการลดจำนวนของผู้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานระหว่างการลงโทษ และไม่อนุญาตให้บันทึกภาพและเสียงด้วยประการใดๆ ซึ่งจะช่วยลดจำนวนคนจากเป็นร้อยเหลือหลักสิบที่คอยเชียร์ระหว่างการโบย .…
-
ลุงเดือดจัดโทรแจ้งตำรวจ หลังเห็นคน ‘ทานเบอร์ริตโต้’ บนรถไฟ ทั้งๆ ที่มีป้ายห้าม
การทำตามกฎก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ หากเรามองว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจจะทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาได้… เรื่องราวนี้เกิดขึ้นบนรถไฟด่วน Bay Area Rapid Transit (BART) ในเมืองโอ๊กแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้โดยสารท่านหนึ่งแสดงความโกรธออกมาอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากว่ามีผู้โดยสารอีกคนหนึ่งกำลังทาน ‘เบอร์ริตโต้’ อย่างเอร็ดอร่อย ทั้งๆ ที่ในตู้รถไฟมีป้ายเตือนอยู่ว่า ‘ห้ามทานอาหารและน้ำดื่ม’ คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกถ่ายเอาไว้ ซึ่งชายผู้เดือดดาลได้ต่อว่าชายที่ทำผิดกฎว่า “คุณรอหน่อยไม่ได้เหรอ? มันมีป้ายเตือนอยู่ว่าห้ามกินและห้ามดื่ม คุณไม่เข้าใจรึไง? คุณจะต้องโง่แน่ๆ” จากนั้นเขาก็เดินไปที่โทรศัพท์ฉุกเฉินของตู้รถไฟพร้อมกับบอกว่าจะโทรหาตำรวจ “ผมจะโทรหาตำรวจ จะเอางั้นมั้ยล่ะ?” แล้วเขาก็โทรไปจริงๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจรับสาย “สวัสดีครับ โปรดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่นี่หน่อยได้มั้ย มีคนทานอาหารที่ตู้รถไฟตู้แรก เขากำลังทานอาหารบนรถไฟ” ชายที่โทรตำรวจเดินมาถ่ายภาพคู่กรณี ขณะเดียวกันผู้โดยสารคนอื่นๆ กลับมองว่านี่เป็นเรื่องตลก หลังจากที่คู่กรณีเดินลงจากรถไฟเป็นที่เรียบร้อย ผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็พูดกับชายผู้โมโหว่า “ชั้นว่านายอย่าขึ้นรถไฟ BART บ่อยๆ จะดีกว่านะ” เขาตอบกลับไปว่า “ผมขึ้น BART บ่อยกว่าพวกคุณอีก…
-
กฎโรงเรียน!! นักเรียนสาวถูกสั่ง “ถอดเสื้อชั้นใน” ก่อนเข้าสอบ โวยโดนเจ้าหน้าที่จ้องหน้าอก
หลายโรงเรียนก็จะมีกฎและข้อห้ามไว้สำหรับให้นักเรียนปฏิบัติ เพื่อความสงบเรียบร้อยของโรงเรียนและผู้คนในโรงเรียน แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ กฎของโรงเรียนกลับทำให้เหล่านักเรียนหญิงต้องเดือดร้อน โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศรัสเซีย มีกฎว่าห้ามนักเรียนมีโลหะติดตัวเข้าห้องสอบ นั่นหมายถึงโครงชุดชั้นในของนักเรียนหญิงด้วยเช่นกัน ทางโรงเรียนถึงกับจัดตั้งเครื่องสแกนตรวจหาโลหะพร้อมผู้คุมอีก 2 คนเพื่อคอยตรวจหาโลหะในร่างกายนักเรียนที่จะเข้าห้องสอบ แต่กฎดังกล่าวทำให้เด็กนักเรียนหญิงต้องผวาเมื่อนักเรียนสาววัย 17 ปีคนหนึ่งดันสวมชั้นในที่มีลวดทองแดงซึ่งทำให้เครื่องตรวจจับโลหะต้องส่งสัญญาณดัง เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้เธอถอดเสื้อชั้นในออก มิฉะนั้นจะไม่ได้เข้าห้องสอบ เมื่อเธอถอดออกแล้วกลับพบว่าเสื้อชีฟอง (ผ้าบางมองทะลุได้ง่าย) ของเธอทำให้มองเห็นถึงเนื้อหนัง และที่ยิ่งกว่านั้นเธอพบว่าเจ้าหน้าที่ทั้งสองเอาแต่จ้องมองที่หน้าอกของเธออย่าไม่ละสายตา นั่นทำให้เธอรู้สึกถูกคุกคาม เรื่องราวถูกแชร์ผ่านโลกโซเชียลโดยน้องสาวของนักเรียนหญิงผู้เสียหายได้นำไปเล่าผ่านเฟซบุ๊ก เธออัปโหลดภาพพร้อมคำบรรยายว่า “นักเรียนหญิงสมัยนี้นอกจากจะห้ามนำมือถือเข้าห้องสอบแล้ว ยังห้ามใส่เสื้อในอีกด้วยนะ” เธอเล่าต่อว่า “เจ้าหน้าที่สองคนตรวจร่างกายพี่สาวของฉัน แล้วบังคับให้ถอดชั้นในออก เมื่อถอดแล้วกลับมาตรวจอีกครั้งด้วยเสื้อซีทรูซึ่งมองเห็นยันเนื้อด้านใน เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนกลับเอาแต่มองหน้าอกพี่สาวฉัน” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่งเมืองเนซนีกัมสก์ ซึ่งเป็นโรงเรียนอันดับ 10 ของสาธารณรัฐตาตาร์สถาน สหพันธรัฐรัสเซีย แต่ทางด้านนาย Ayziryak Ramazamova รองหัวหน้าหน่วยงานศึกษาธิการของเมืองเนซนีกัมสก์กลับออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ว่ามาทั้งหมด ขณะเดียวกัน Eduard Taymasov ผู้เป็นครูในโรงเรียนก็ชี้แจงว่าทางโรงเรียนมีกฎห้ามพกโลหะติดตัวอยู่แล้ว ซึ่งการถอดชุดชั้นในออกนั้นเป็นเรื่องปกติ แถมมีห้องแยกไว้สำหรับถอด ไม่ได้ถอดต่อหน้าผู้คน อย่างไรก็ตาม ทางด้านผู้เป็นแม่ของนักเรียนสาวผู้เสียหายก็ได้ทำการแจ้งและร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป …
-
รวมพล “คนหัวหมอ” แห่งปี! มันผิดตรงไหน ก็ทำตามกฎทุกอย่างแล้วเนี่ย!! 555
ชีวิตของคนเรา อุตส่าห์เกิดมาทั้งทีมันก็ต้องมีอิสระที่จะทำตามใจตัวเองกันบ้าง แต่ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน ก็มักจะมี กฎระเบียบ มาควบคุมเราไว้เสมอๆ นั่นทำให้เราเสียอิสระไปโดยปริยาย เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ย่อมตามมาด้วยบทลงโทษสำหรับผู้ที่ไม่ยอมทำตามกฎ หรือเรียกกันว่า “พวกแหกกฎ” นั่นเอง ถึงพวกเขาจะถูกทำโทษแต่อย่างน้อยพวกเขาก็ได้ทำอะไรที่อยากทำล่ะนะ วันนี้ เราขอนำเสนอบุคคลทั้งหลายที่มาแบบเหนือชั้น พวกเขาสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างอิสระ แถมยังเรียกได้ว่า ไม่ผิดกฎ อีกด้วยนะเอ้อ!! (หัวหมอนั่นแหละ) ผลออกมาจะฮาขนาดไหน ต้องไปดูกันเองแล้วล่ะ… 1. เมื่ออากาศมันโคตรร้อน แต่โรงเรียนมีกฎว่า “ห้ามใส่กางเกงขาสั้นมาเรียน” ผมก็เลยใส่กระโปรงมาเรียน มันผิดตรงไหน!!? 2. งานเทศกาลดนตรีที่โคตรร้อน แต่ดันห้ามขายเครื่องดื่มเสียนี่!! ร้านค้าก็เลยขายถั่วหนึ่งเม็ดในราคา 32 บาท แต่แถมน้ำดื่มแทน ฮ่าๆ 3. เมื่อโรงเรียนห้ามนักเรียนต่างเพศอยู่ร่วมในหอเดียวกัน ผมและเธอก็เลยดูหนังด้วยกันแบบนี้… 4. ในอิหร่าน ผู้หญิงจะไม่ได้รับอนุญาตให้เขาชมการแข่งขันฟุตบอล หญิง 5 คนจึงปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อเข้าชมแทนยังไงล่ะ ถือว่ารอด! 5. ห้ามนำสุนัขขึ้นบนรถไฟใต้ดิน เว้นเสียแต่ว่ามันจะอยู่ในอุปกรณ์บรรจุ แล้วมันผิดตรงไหนอะครับ……
-
แฟนหนุ่มใจดีชวนไปดู Infinity War ซื้อตั๋วให้เสร็จสรรพ พร้อมกฎเหล็ก 6 ข้อละเอียดยิบ!!
การจะได้ไปดูภาพยนตร์ที่เฝ้ารอคอยมาอย่างยาวนานในวันแรก เป็นความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว ไหนจะต้องคอยหลบสปอยล์เล็กๆ น้อยๆ การคาดเดาต่างๆ นานาจากนักวิจารณ์ทั้งหลายอีก เพราะด้วยความต้องการที่จะซึมซับเนื้อหาด้วยตัวเอง นอกจากจะต้องหลบสปอยล์เนื้อหาจากโลกออนไลน์แล้ว ระหว่างการชมภาพยนตร์ก็ไม่อยากจะให้เสียบรรยากาศจากผู้ชมท่านอื่นด้วยนี่แหละ! เรื่องราวเล็กๆ จากพ่อหนุ่ม Stanley T ที่เผยแพร่ผ่านทวิตเตอร์เอาไว้ เกี่ยวกับแฟนคลับตัวยงของ The Avengers ที่ชวนแฟนตัวเองไปชมภาคล่าสุด Infinity War ที่กำลังจะเข้าฉาย แค่เธอตอบว่า ‘ไปจ้า’ แทนที่จะจบ กลับกลายเป็นร่ายกฎอีกยาวเหยียด แถมจริงจังเสียด้วย แทนที่จะขอร้องให้ไปดูด้วยกันเฉยๆ แบบเงียบๆ แฟนหนุ่มก็ตีกรอบกฎเหล็กให้อย่างกับเป็นคุณพ่อกำลังบอกลูกสาวที่จะไปออกเดตครั้งแรกกันเลยทีเดียว ฮร่าาา ลองมาดูกันสิว่า พ่อหนุ่มแฟนเดนตายคนนี้ตีกรอบแฟนสาวผู้น่าสงสารไว้อย่างไรบ้าง… ข้อหนึ่ง จะซื้อทุกอย่างให้ตามต้องการก่อนเข้าดูหนัง ขนมหวาน ป็อบคอร์น เครื่องดื่ม แม้แต่ฮอทดอกก็ซื้อให้ได้ แต่จะขออะไรเพิ่มหลังจากเข้าดูหนังไม่ได้ ข้อสอง ไม่พูดระหว่างดูหนัง ผมไม่อยากถูกดึงความสนใจ มีคำถามงั้นเหรอ? จดเอาไว้ก่อน เดี๋ยวจะตอบให้หลังหนังจบ ข้อสาม ไม่กุมมือกันระหว่างดูหนัง มันจะดึงความสนใจผมไป…
-
เข้าสังคมอย่างมั่นใจ เป็นผู้ใหญ่ที่ดูดี ด้วย 14 กฎของการ “แต่งกาย” แต่งอย่างไรให้เนี้ยบ!!
การแต่งกายนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สะท้อนอะไรหลายๆ อย่างในตัวเราออกมาได้ เช่น รสนิยม ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสังคม และวุฒิภาวะ ฉะนั้น จึงไม่แปลกใจที่ทำไมเมื่อเรายังเด็กเราสวมใส่ชุดอะไรก็ได้ แต่โตขึ้นมา การแต่งกายกลับจุกจิกมากขึ้น ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า เมื่อเราโตขึ้นเราต้องทำตัวให้มีภาพลักษณ์ที่ดีอยู่เสมอ การแต่งกายที่ผิดพลาดเล็กน้อยก็อาจจะส่งผลกระทบต่อมุมมองของบุคคลอื่นที่มีต่อเราก็ได้ วันนี้ #เหมียวโลลิ จึงขอเสนอ กฎการแต่งกายทั้ง 14 ข้อ สำหรับผู้ใหญ่ ที่หากว่าคุณจำมันได้แล้วล่ะก็ คุณสามารถแต่งกายเข้าสังคมได้สบายๆ 1. กระดุมเสื้อสูท ติดเม็ดกลางเสมอ เม็ดบนติดบางครั้ง ส่วนเม็ดล่างไม่ควรติดเลย 2. หากจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต จำไว้เสมอว่า พยายามอย่าปลดเกิน 2 เม็ด 3. ใส่เครื่องประดับที่เข้ากันเฉพาะต่างหูกับกำไล หรือสร้อยคอกับแหวนก็พอแล้ว ใส่เครื่องประดับเข้ากัน 3-4 ชิ้น ถือว่ามากเกินไป 4. ปลายของเนคไทควรอยู่ระดับเอวพอดี ทับหัวเข็มขัดเล็กน้อย อย่าสั้นหรือยาวจนเกินไป 5. ระหว่างเสื้อคอลึกกับกางเกงขาสั้นให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ใส่ทั้งสองพร้อมกันอาจจะดูไม่เรียบร้อย 6. หากคุณสวมเสื้อเชิ้ตโดยไม่มีแจ็คเก็ตคลุม…
-
เมื่ออาจารย์สั่งให้นักเรียนเขียนจดหมายขอโทษทุกครั้งที่ตดในห้อง คุณจะอั้นหรือปล่อยออกมา
ปกติแล้วเวลาคุณ ‘ปวดตด’ คุณจะทำอย่างไร คุณจะอั้นตดไว้แล้วรอไปปล่อยไกลคน หรือคุณเลือกจะปล่อยมันตรงนั้นโดยไม่อั้นไว้ ส่วนจะดังหรือจะเบา เหม็นมากน้อยก็ให้มันเป็นไปตามกรรมกัน? ถ้าคุณเลือกอย่างหลัง คุณเตรียมตัวเขียนจดหมายขอโทษส่งอาจารย์ได้เลย… เรื่องราวนี้มันเริ่มขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดโทะชิงิ ประเทศญี่ปุ่น เมื่ออาจารย์ไม่เผยชื่อท่านหนึ่งได้ตั้งกฎใหม่ในห้องเรียนว่า ถ้าเกิดใครที่ตดในห้องเรียนและทำให้เพื่อนๆ เหม็นโดยไม่ยอมไปตดในช่วงพัก นักเรียนคนนั้นจะต้องถูกลงโทษ ส่วนวิธีการลงโทษนั้นก็ง่ายมากๆ โดยนักเรียนที่ถูกลงโทษจะต้องเขียนจดหมายลงโทษว่า “ผมจะไม่ตดในชั้นเรียนอีกแล้ว ผมจะไปตดในห้องน้ำระหว่างช่วงพัก ถ้าผมผิดสัญญาผมจะต้องไปวิ่งรอบสนามโรงเรียน 10 รอบ” บทลงโทษดังกล่าวนั้นถือเป็นเรื่องที่จริงจังมากๆ เพราะตัวอาจารย์เองก็เล่นเขียนกฎนี้บนผนังห้องเรียน เพื่อให้ทุกคนเห็นบทลงโทษและข้อปฏิบัติโดยง่าย แน่นอนว่าเราคงสงสัยว่า การปวดตดหรือตดในห้องเรียนมันผิดขนาดนั้นเลยอย่างนั้นเหรอ ซึ่งสื่อในญี่ปุ่นก็ได้ให้เหตุผลว่าในญี่ปุ่นการตดนั้นถือเป็นเรื่องตลก และมักจะมีนักเรียนบางคนที่สามารถตดได้เก่งมากๆ พวกเขาจึงมักจะทำตัวให้ตลกด้วยการตดกลางห้องเรียนอยู่บ่อยๆ จนสร้างความน่ารำคาญให้กับเพื่อนๆ รวมถึงตัวอาจารย์ที่ยากจะรับมือ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่มีการตั้งกฎดังกล่าวขึ้นมา ปัญหาการตดเรี่ยราดก็ลดลง และยังไม่มีนักเรียนคนไหนที่ผิดสัญญาจนต้องออกไปวิ่งรอบสนามเลยสักคนเดียว ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยนั่นเอง ตดไม่ว่า แต่กลิ่นกับเนื้ออย่าตามมาจะได้ไหม ที่มา soranews24
-
ผัวทนเมียไม่ไหว อยู่ด้วยกันมา 8 ปีใช้ห้องน้ำเละเทะเรี่ยราด ต้องจัดการด้วยบัญญัติ 7 ประการ
ในการอาศัยอยู่ร่วมกันของคนหลายคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคู่รักก็ตาม เราควรจะต้องตกลงกับผู้ร่วมอาศัยว่าจะต้องมีกฎเกณฑ์การอยู่ร่วมกันอย่างไรบ้าง มิเช่นนั้นมันอาจจะเกิดเป็นปัญหาเรื้อรังจนแตกหักกันได้ สาว Kath Rose นั้นแต่งงานกับสามีมา 8 ปีแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้สามีของเธอเขียนจดหมายถึงเธอฉบับหนึ่งเนื่องจากทนพฤติกรรมการใช้ห้องน้ำของเธอไม่ไหวแล้ว โดยในจดหมายระบุกฎการใช้ห้องน้ำที่เขาอยากให้เธอทำตาม 7 ข้อด้วยกัน จดหมายของสามีถึงภรรยา เนื้อหาในจดหมายของเขากล่าวถึงการรักษาความสะอาดในห้องน้ำเป็นส่วนใหญ่ เช่น เขาอยากให้เธอปิดฝายาสีฟันหลังใช้ อยากให้เธอเอาขยะออกไปทิ้ง และอยากให้เธอกดชักโครกทุกครั้งด้วย นอกจานั้นก็เป็นเรื่องของสิ่งที่เขาไม่อยากให้เธอใช้ร่วมกับเขา และทิ้งท้ายไว้ว่าเขารักเธอนะแต่ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ห้องน้ำทีเถอะ เธอบอกถึงความคิดเห็นที่มีต่อจดหมายฉบับนี้ว่า “นี่น่าจะเป็นการเขียนเตือนในแบบของเขาเฉยๆ แต่มันก็เป็นการเขียนเตือนครั้งแรกจากสามีของฉัน ฉันหวังว่ามันจะเป็นการเตือนครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้รับ … เขาชี้ให้ฉันเห็นแล้วว่ากฎระเบียบการใช้ห้องน้ำร่วมกันนั้นสำคัญมากแค่ไหน และยังทำให้ฉันรู้ด้วยว่าการเตือนกันตรงๆ นั้นก็สำคัญด้วย การใช้ห้องน้ำร่วมกันของเราอาจจะบ่งบอกก็ได้ว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นเป็นอย่างไร” Zarife Hardy ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนมารยาทแห่งประเทศออสเตรเลียเองก็บอกเช่นกัน ว่าการใช้ห้องน้ำร่วมกันมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการอยู่ร่วมกัน เธอกล่าวถึงกฎการอยู่ร่วมกันข้อหนึ่งว่า “ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญในการอยู่ร่วมกัน คุณควรจะรักษาความสะอาดและไม่ทิ้งข้าวของไว้ระเกะระกะ ยิ่งเมื่อตอนคุณใช้ห้องน้ำแล้วโปรดอย่าทำให้ห้องน้ำสกปรกไม่ว่าจะเป็นการใช้ส้วมหรืออ่างล้างหน้าก็ตาม” เธอย้ำอีกว่าไม่มีใครอยากเข้ามาใช้ห้องที่สกปรกต่อหรอก จดหมายฉบับนี้ถูกเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียลและจุดประเด็นสนทนาในหมู่ชาวเน็ตเอง แม้ว่าชาวเน็ตส่วนใหญ่จะรู้สึกตลกกับจดหมายฉบับนี้แต่ก็มีชาวเน็ตบางส่วนไม่พอใจที่สามีของ Rose เขียนจดหมายเช่นนี้ ทำไมไม่พูดกันตรงๆ เขาขี้ขลาดมาก ถ้าฉันได้รับจดหมายแบบนี้ฉันคงโกรธมากแน่ๆ ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งก็เห็นใจและเข้าข้างฝั่งสามีที่เขียนจดหมายขึ้นมา…
-
รวมภาพเหล่าบุคคลที่ไม่สนใจกฎเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น พี่ไม่แคร์ป้ายเหล่านี้เลยใช่ไหม…!?
การอยู่ร่วมกันในสังคมก็ต้องมีการตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมาเพื่อที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข แต่หลายๆคนอาจจะคิดว่าการห้ามนู่น ห้ามนี่ ห้ามนั่น เป็นเรื่องที่น่ารำคาญ แต่ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของคุณเองนั่นแหละ ภาพต่อไปนี้เป็นภาพของคนที่ไปแหกกฎที่เค้าตั้งไว้ ถึงมันอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นหรือไม่ได้สร้างก็ตาม แต่ดันมาสร้างความฮาให้กับชาวเน็ตแทนนั่นเอง คนละแวนแล้วจ้ะพี่จ๋า เค้าบอกมาว่าโปรดประหยัดหมึก นี่ก็ล่อซะเต็มแผ่นเลย เอ๊ะๆ เจ้าหมา แกอ่านป้ายไม่ออกใช่ไหม ว่าห้ามมีหมาแถวนี้ แล้วไง ใครแคร์ ฉี่รดป้ายแม่ม ได้!!! ลุงก็ยังวัยรุ่นอยู่นะจ๊ะเด็กๆ เขาเขียนไว้ว่าห้ามดำน้ำ แต่พี่คนนี้ก็จัดชุดนักประดาน้ำจัดเต็ม เค้าก็ทำตามป้ายเป๊ะๆ ทุกอย่างเลยนะ อ้าว ทำไมไม่ห้ามอ่ะ เดี๋ยวนะ พี่หมี!!! ถ้ายืนตรงตามที่บอกมันก็ไม่คูลน่ะสิ จะเอากี่บิลส์ ว่ามา อ้าว คนละ Blade หรอ คุณหลอกดาว!! เค้าห้ามเอาออกจากชั้น 4 แต่นี่พาไปเที่ยวทุกที่เลย ฮ่าๆๆๆ…
-
10 กฎเหล็กอันแสนประหลาดสำหรับโจรสลัดในยุคก่อน เพื่อให้มีชีวิตรอดในแต่ละวัน
โจรสลัด เป็นสิ่งที่แทบทุกคนจะต้องรู้จักในฐานะของหัวขโมยแห่งท้องทะเล โดยยุคที่โจรสลัดได้รับความนิยมอย่างมากคือในช่วงศตวรรษที่ 16 จนมีโจรสลัดนับร้อยนับพันออกโลดแล่นบนท้องทะเล แม้โจรสลัดจะเหมือนมีอิสระแต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว การอยู่ร่วมกันย่อมต้องมีกฎสร้างขึ้นมาเป็นธรรมดา โดยทุกข้อพวกเขาทั้งหมดต้องปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด ความไม่ธรรมดาก็คือสำหรับบางข้อ เราก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามีไว้เพื่อโจรสลัดจริงๆ ลองไปดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง ยิ่งมีอันดับสูงๆ ก็จะยิ่งได้รับสิทธิพิเศษ ทุกครั้งที่ออกไปปล้นสะดมกลับมา สมบัติและของที่ขโมยมาทั้งหมด จะถูกแบ่งและแจกจ่ายให้กับแต่ละคน มากน้อยแล้วแต่อันดับที่ถือครองอยู่บนเรือ หากเป็นกัปตันก็ย่อมได้มากกว่าคนอื่นเป็นธรรมดา หนึ่งคน หนึ่งเสียง ทุกครั้งที่มีการตัดสินใจร่วมกันบนเรือ คนทั้งหมดจะมีสิทธิ์ออกเสียงกันอย่างเท่าเทียม แต่ไม่ได้แปลว่านี่คือความเป็นประชาธิปไตย เพราะยังคงมีการลงโทษซึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกัปตันอยู่ดี อาหารและน้ำมีไว้เพื่อทุกคน ในท้องทะเลสิ่งที่น่ากังวลใจและสำคัญที่สุดคืออาหารและน้ำดื่ม เป็นเหตุผลที่ต้องแบ่งให้ทุกๆ คนเท่ากันหมด รวมถึงเหล้าสุราทั้งหลายอีกด้วย เพราะว่าบางครั้งความเมามายก็สำคัญกว่าการมีชีวิตอยู่ของพวกเขา การขโมยของจะต้องถูกปล่อยเกาะ หรือไม่งั้นก็ต้องพบกับความตาย หากว่าสามารถบุกปล้นได้สำเร็จ ทุกคนจะได้รับสิทธิ์ในการหยิบของบนเรือลำนั้นไปได้ตามต้องการ ยกเว้นของมีค่าอย่างทอง เพชรพลอยต่างๆ ที่ต้องใส่รวมกันไว้และไปแบ่งทีหลัง ซึ่งหากว่าไปหยิบของพวกนั้นเข้ากระเป๋าตัวเองเมื่อไหร่ละก็ จงเตรียมใจรับผลที่จะตามมาได้เลย ห้ามต่อสู้กัน การต่อสู้กันระหว่างโจรสลัดบนเรือลำเดียวกัน เป็นเรื่องต้องห้ามที่สำคัญอย่างมาก หากฝ่าฝืนจะต้องโดนกัปตันฟาดด้วยแส้ถึง 40 ครั้ง…
-
มีแบบนี้ด้วยเหรอ…รวมกฎ 9 ข้อของราชวงศ์อังกฤษที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
หลายคนอาจจะคิดว่าการเกิดมาในราชวงศ์อังกฤษ จะต้องเป็นชีวิตที่สุดแสนจะเพอร์เฟคเลิศเลอ แต่อันที่จริงแล้วพวกเขาก็ต้องมีกฎระเบียบข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเช่นกันนะ ด้วยเหตุนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 9 กฎเหล็กที่ทางเว็บไซต์ Brightside ได้รวบรวมมาให้เรารับรู้กันว่า การเติบโตมาในราชวงศ์อังกฤษนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย 1. หากเจ้าชายยังไม่โตเป็นหนุ่ม จะต้องสวมกางเกงขาสั้นเสมอ ชาวเน็ตหลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเจ้าชายจอร์จ ถึงต้องใส่ขาสั้นอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าอากาศจะหนาวเท่าไหร่ก็ตาม ซึ่งเหตุผลนั้นก็เพราะเดิมทีวัฒนธรรมการใส่ขายาวจะเป็นของชนชั้นสูงในยุโรปเท่านั้น อีกทั้งยังมีกฎที่ว่าจะต้องเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วเท่านั้นถึงจะใส่ได้ 2. คนในราชวงศ์มักจะไม่โหวตให้การเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถึงแม้ตามบัญญัติกฎหมายราชวงศ์จะสามารถยื่นคะแนนเสียงโหวตเลือกนักการเมืองเหมือนประชาชนได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเขามักจะไม่ทำ ส่วนเหตุผลนั้นก็เพราะ พวกเขาไม่ต้องการให้มีการเอาราชวงศ์ไปเกี่ยวโยงกับการเมือง และต้องทำตัวเป็นกลางอยู่เสมอ 3. จะไม่ใส่ชุดดำหากไม่ใช่ช่วงเวลาของการไว้อาลัย สำหรับในราชวงศ์นั้นสีดำถือว่าเป็นสีที่ถูกใช้ในการไว้อาลัย และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่เรามักจะไม่เห็นราชวงศ์ใส่ชุดดำออกสื่อบ่อยนัก 4. ราชวงศ์อังกฤษมักจะไม่รับประทานหอย ในหนังสือข้อห้ามของราชวงศ์ มีการระบุไว้ว่าพระราชินี และพระราชาไม่ควรรับประทานหอย ซึ่งอาจเป็นเพราะสารพิษที่เสี่ยงทำให้พระองค์ท้องเสียได้ง่าย แต่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ก็ได้เลือกที่จะทำลายกรอบประเพณีนี้ลง เมื่อพระองค์ได้ไปเยือนที่ Whitstable Oyster Festival และได้ลองเสวยหอยนางรม 5. ผู้สืบทายาทจะไม่เดินทางพร้อมกัน เป็นอีกข้อห้ามที่เราพอจะเข้าใจได้ว่า เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียทายาทผู้สืบราชบัลลังค์พร้อมกันทั้ง 2 คน 6. ราชวงศ์ไม่สามารถแจกลายเซ็นได้ แม้ว่าราชวงศ์จะเป็นขวัญใจพสกนิกรชาวอังกฤษประเทศ แต่ถึงกระนั้นราชวงศ์ก็ไม่สามารถแจกลายเซ็นให้แฟนๆ ตามท้องถนนได้…
-
ผู้คนพากันแบนร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพียงเพราะว่ามีกฎ “ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 เข้าร้าน”
เวลาที่คุณไปร้านอาหารหรือร้านกาแฟก็คงจะเคยเห็นป้ายที่บอกกฎเอาไว้ว่าร้านนี้ห้ามไม่ให้คุณทำอะไร หรือนำอะไรเข้าไปบ้าง แต่สำหรับร้านของ Bob Hiiginson วัย 61 ปีที่เปิดร้านกาแฟภายใต้ข้อห้ามที่หลายคนอาจไม่เคยเห็นมาก่อน เขาได้เปิดร้านที่มีชื่อว่า Chart Room เพิ่งเปิดมาราวๆ 1 เดือนในเมือง Brixham ประเทศอังกฤษ พร้อมกับกฎที่ว่า อนุญาตให้พาสุนัขเข้าร้านมาได้ แต่สำหรับเด็กอายุที่ต่ำกว่า 12 ปีแล้วจะไม่ให้เข้า ทำให้ผู้อยู่อาศัยในที่ไม่พึงพอใจและพากันแบนไม่เข้าร้านของเขา เพราะมองว่านี่ถือเป็นการแบ่งแยก สิ่งที่เขาทำนั้นได้บอกเหตุผลเอาไว้ว่า กลุ่มเป้าหมายหลักคือเพื่อคนที่มีอายุค่อนข้างสูง และพวกเขาส่วนใหญ่ต้องการความสงบ เขาเสริมอีกว่า “ผมอยากให้คนที่เข้ามาได้พูดถึงวันเก่าๆ หรือการสนทนากันโดยที่ไม่มีเด็กมารบกวน อีกทั้งของตกแต่งภายในร้านมีราคาแพงและไม่ได้มีกระจกมากั้นไว้เหมือนพิพิธภัณฑ์ ในอดีตเคยมีเด็กมาพังของในร้านไปแล้ว แต่สำหรับสุนัขนั้นมันไม่ได้กระโดดไปมา มันอยู่กันโดยไม่ทำลายข้าวของและผมไม่เคยเจอสุนัขนิสัยไม่ดีมาก่อน” ชาวบ้านที่ไม่โอเคกับเรื่องนี้ Wendy Moore ได้ออกมาประท้วงและคิดว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นการแบ่งแยกอย่างมากและชัดเจน ที่มองว่าเขามีสิทธิ์อะไรมาห้ามเด็กๆ ไม่ให้เข้าร้านของเขา Lee Knight ก็ได้มาเสริมอีกว่า “ผมมักจะไปในที่ที่เต็มไปด้วยความสุุข เด็กวิ่งเล่นกันไปมา มากกว่าที่จะไปร้านที่ดูมืด เงียบ ดูไม่น่าเข้า โดยที่ทุกคนนั่งบ่นพึมพำและจิบชากันไป แต่นั่นก็เป็นเพียงทางเลือกของผมนะ” ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นแต่ก็มีอีกกลุ่มที่ยังคงสนับสนุนกับความคิดนี้ของเขา ที่ออกมาบอกว่า…
-
ห้างในอังกฤษประกาศเพิ่ม “ช่วงเวลาพิเศษ” หวังสร้างความสุขให้ผู้ป่วยออทิสติก
สำหรับกลุ่มเด็กที่เกิดมาพร้อมอาการป่วยเป็นออทิสติกนั้น สิ่งหนึ่งที่เป็นอุปสรรคของพวกเขาในการใช้ชีวิตประจำวันก็คือ.. ข้อมูลข่าวสารต่างๆ รอบตัวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และนั่นก็ทำให้เด็กๆ ผู้มีอาการผิดปกติ รู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกออกจากสังคม เพื่อเป็นการแก้ไข รณรงค์ และให้ความรู้เกี่ยวกับผู้ป่วยออทิสติก รัฐบาลจึงได้ออกนโยบายโดยตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม เป็นต้นไป ห้างสรรพสินค้าชั้นนำกว่า 14 แห่ง ทั่วสหราชอาณาจักร จะเพิ่มช่วงเวลา ‘Autistic Hour’ เข้าไปวันละ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย โดยในช่วง Autistic Hour ห้างสรรพสินค้าทั้งหมดจะต้องทำตามเงื่อนไขดังนี้… 1. ลดระดับเสียงดนตรีและเสียงรบกวนต่างๆ ทั้งหมดลง 2. หรี่ไฟลง.. เนื่องจากแสงไฟของหลอดฟลูออเรสเซนต์ที่จ้าเกินไป อาจทำให้ผู้ป่วยออทิสติกรู้สึกกังวลได้ 3. ให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยออทิสติกแก่พนักงานในห้างทุกคน เพื่อที่พวกเขาจะได้ปฏิบัติต่อกลุ่มลูกค้าใน ช่วงเวลาดังกล่าวได้อย่างเหมาะสม The National Autistic Society เผยว่า ในปัจจุบันมีตัวเลขผู้ป่วยออทิสติกทั้งหมดในอังกฤษอยู่มากกว่า 700,000 คน และเมื่อเปรียบเทียบในระดับประชากรจะพบว่า…
-
คุณป้าฝากสุนัขให้หนุ่มเลี้ยง แต่กลัวไม่ถูกใจ เลยเขียน “กฎบังคับ” เอาซะน่ารักเลยแหม่…
เป็นเรื่องราวน่ารักๆ ของความเป็นห่วงสุนัขจากคุณป้าผู้ใจดีที่กำลังเป็นกระแสไวรัลไปทั่วอินเตอร์เน็ต เพราะเธอไม่ได้แค่เอามาฝากธรรมดา แต่เธอมาพร้อมกับกฎข้อบังคับที่เคร่งครัดสุดๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความน่ารักเช่นกัน เมื่อหนุ่ม Tommy Rivers รับปากคุณป้าของเขาไว้ว่าจะช่วยดูแลเจ้า Pepper เจ้าตัวก็ถึงกับเซอร์ไพรส์ทันที เมื่อคุณป้าเอามันมาฝากพร้อมกับกฎที่ไม่ทำไม่ได้จริงๆ “เมื่อป้าอยากให้ผมช่วยดูบ้านและหมาให้ แต่แม่มเอ้ยย… เยอะเหลือเกิ๊นน ฮ่าๆๆ” ส่วนนี่ก็คือเจ้า Pepper ตูบตาใสที่คุณป้ารักและหวงแหนเป็นที่สุด กลับกลายเป็นว่านี่ไม่ใช่การรับฝากเลี้ยงหมาแบบธรรมดาทั่วไป แต่เปรียบได้กับภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่พ่อหนุ่มต้องรับผิดชอบ และข้อบังคับทั้งหมดที่คุณป้าสั่งไว้มีดังนี้… 1. ต้องให้อาหารเช้าตอน 8 โมง อาหารเย็นตอน 5 โมง ครั้งละ 1/4 ถ้วย และเติมน้ำสะอาดให้เต็ม 2. ขนมห้ามมีคาร์โบไฮเดรตและต้องให้กระดูกหมาไปกัดเล่นทุกวัน 3. ต้องพาไปเล่นจับลูกบอลทุกวัน (ใช้ปืนยิงสีเขียว) และพาไปเดินเล่นตามบล็อค (แล้วแต่วัน) 4. ต้องกอดเยอะๆ และจูบเยอะๆ หอมแก้มเค้าด้วย และอย่าลืมลูบท้องด้วยล่ะ 5. ส่งรูป Pepper มาให้ดูทุกวัน จะได้รู้ว่าเธอโอเครึเปล่า และต้องโทรเฟซไทม์ให้ด้วยทุกวันเช่นกัน 6.…
-
บริษัทในญี่ปุ่น ออกกฎให้พนักงานยืนทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสุขภาพที่ดีกว่า..!!
แต่ละบริษัทอาจจะมีวิธีการกระตุ้นกำลังใจของพนักงาน หรือหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้แก่พวกเขาที่แตกต่างกันไป และคราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับวิธีใหม่ของบริษัทแห่งหนึ่งจากญี่ปุ่น Iris Ohyama หนึ่งในบริษัทส่งออกวัสดุพลาสติกขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ออกกฎระเบียบการทำงานใหม่ที่เชื่อว่าจะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพ และเป็นผลดีต่อสุขภาพของพนักงานด้วยการ ‘ยืนทำงาน’ โดยกฎระเบียบใหม่ที่เพิ่งออกมาบังคับใช้กับพนักงานนี้ มีใจความระบุไว้ว่า: ‘ขอประกาศห้ามมิให้พนักงานนั่งใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน และทางบริษัทขอเสนอให้ใช้คอมพิวเตอร์จากโต๊ะทำงานขนาดเล็กที่ถูกติดตั้งเพิ่มเข้ามาแทน’ แต่ก็ใช่ว่าบริษัทจะบังคับให้พนักงานยืนเมื่อยขาทั้งวันทั้งคืน เพราะพนักงานแต่ละคนจะมีสิทธิ์ใช้คอมพิวเตอร์แค่คนละ 45 นาทีต่อรอบเท่านั้น ประมาณว่าถ้างานเอกสารก็ใช้โต๊ะขวามือนั่งทำงานได้ แต่ถ้าอยากใช้คอมพิวเตอร์ก็ต้องยืนแทน ฝ่ายผู้บริหารเชื่อว่าการจำกัดช่วงเวลาในการใช้คอมพิวเตอร์ จะช่วยทำให้พนักงานเห็นคุณค่าของเวลาในการทำงานมากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น ตั้งใจทำงานมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นผลดีในระยะยาวต่อสุขภาพของพวกเขาอีกด้วย ที่สำคัญกว่านั้นก็คือไม่ใช่แค่พนักงานเท่านั้นที่ต้องทำตามกฎนี้ เพราะภาพจากแผนผังของบริษัทเผยให้เห็นรูปแบบการจัดวางโต๊ะของฝ่ายผู้บริหารที่ต้องยืนทำงานเฉกเช่นเดียวกับพนักงานทุกคน ภาพแผนผังการจัดวางโต๊ะทำงานใหม่ อย่าคิดนะว่าถ้าบริษัทห้ามแบบนี้เราก็พกโน๊ตบุ๊กมาทำงานเองเลยไม่ดีกว่าเหรอ? เพราะตั้งแต่ปี 2007 บริษัท Iris Ohyama ได้ออกกฎห้ามมิให้พนักงานใช้คอมพิวเตอร์ส่วนตัวในที่ทำงานด้วยเช่นกัน แต่สำหรับพนักงานที่มีเงื่อนไขทางการแพทย์ ทางบริษัทก็ยินดีที่จะยืดหยุ่นกฎดังกล่าวให้สอดคล้องกับเงื่อนไขปัจจัยต่างๆ ของพนักงานแต่ละคนด้วยเช่นกัน บรรยากาศการทำงานคงคึกคักขึ้นน่าดูเลยเนาะ ที่มา: Rocketnews24
-
และนี่คือกฎทั้ง 14 ข้อ ที่จะช่วยให้มนุษย์ ใช้ชีวิตร่วมกับ ‘แมวเหมียว’ ได้อย่างมีความสุข
สำหรับเพื่อนๆ หลายคนที่ยังลังเลอยู่ว่าจะรับเจ้าเหมียวมาไว้ที่บ้านดีหรือไม่? หรือว่าคนที่เพิ่งเป็นทาสมือใหม่ที่เพิ่งรับเจ้าเหมียวเข้าบ้านมาหมาดๆ คงจะยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับแมวเหมียวที่ต้องศึกษาอีกมากมาย และนี่ก็คือกฏของเหล่าทาสทั้งหลาย เมื่อรับเจ้าเหมียวมาเลี้ยงจะต้องปฏบัติตามอย่างเคร่งครัดฮร่า (เผื่อว่าจะช่วยเพื่อนๆ ทาสมือใหม่ได้ไม่มากก็น้อยล่ะนะ) เอาล่ะจะมีอะไรบ้างนั้นลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. ชีวิตต้องเริ่มขึ้นตอนตี 4 ในทุกๆ วัน แม้คุณจะเพิ่งได้นอนตอนตี 3 แมวเหมียวมันก็ไม่แคร์คุณหรอก 2. เปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องมีความเป็นส่วนตัวในการปลดทุกข์ 3. ตรรกะของเหล่าเหมียวเป็นอะไรที่เข้าใจยาก บางครั้งก็ดูเหมือนจะให้เราจับได้ แต่ก็ห้ามจับ บางครั้งมันก็หิว ร้องขอให้คุณเทอาหาร แต่พอให้อาหารก็ไม่กิน หรืองับแค่คำเดียว แล้วเอาไว้กินทีหลังดีกว่า -*- 4. อย่าเอามือหรือเท้ายื่นออกไปนอกผ้าห่ม ไม่เช่นนั้นจะมีอะไรสากๆ มาลูบไล้ (โดนเลียนั่นแหละ) หรือไม่ก็จู่ๆ ไปหมั่นเขี้ยวอะไรมาก็ไม่รู้กัดแง่มๆ เข้าให้ 5. เมื่อถึงเวลาตื่นนอน นั่นคือเวลาที่จะไปกอดและให้ความรักกับเจ้าเหมียว แต่พอจะหลับต่อ คุณจะต้องพบเจอกับน้ำหนักประมาณ 4-5 กิโลกรัมทับอยู่บนหน้าอก 6. ถ้าเกิดมันร้องเหมียวในตอนกลางดึก ต้องตื่นขึ้นมาเพื่อตอบรับเสียงนั้นอย่างทันทีทันใด…
-
ถึงกับเซ็ง!! แท็กซี่โดนปรับข้อหาขับเร็วเกิน ณ จุดๆ เดิมทั้งสิ้น 14 ครั้งตลอดระยะ 2 เดือน
ในเรื่องของการจับผู้กระทำกฎจราจรในปัจจุบัน จะไม่ค่อยเห็นนายตำรวจมายืนสังเกตข้างถนนแล้ว แต่สำหรับในบางประเทศวิธีการแบบนี้ก็ยังคงมีอยู่ ทั้งตั้งด่านเป็นกิจลักษณะ รวมทั้งไปแอบยืนหลังเสาไฟฟ้าแล้วโผล่ออกมาจ๊ะเอ๋ด้วย ฮร่า ซึ่งถ้าหากว่าเรารู้ว่าจุดไหนเป็นจุดที่เราพลาดพลั้งไปแล้ว ก็จะมีความระมัดระวังมากขึ้น ไม่อยากจะกระผิดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง แต่สำหรับที่ประเทศอังกฤษ กรณีนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มใหญ่วัย 41 ปี Steven Holman ทำอาชีพเป็นคนขับแท็กซี่ ต้องยุติบทบาทหน้าที่ของตัวเองลง เนื่องจากเขากระทำผิดในข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากำหนดที่ไม่ใช่แค่ 1 หรือ 2 ครั้ง แต่มากถึง 14 ครั้งใน 2 เดือน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีประวัติเสียแม้แต่ครั้งเดียวตลอดระยะเวลาที่ทำอาชีพคนขับแท็กซี่มา 10 ปี ซึ่งทุกอย่างก็หายวับไปกับสายลมเพียงเพราะกล้องตรวจจับความเร็วเพียงแค่ตัวเดียว กล้องตรวจจับความเร็วคู่กรณีของ Holman กล้องตัวดังกล่าวติดตั้งในบริเวณข้างถนนของเมือง Plymouth, Devon ที่เคยเป็นไฟจราจรมาก่อน จนกระทั่งกลายมาเป็นกล้องตรวจจับความเร็วเมื่อปีที่แล้ว แต่ทว่าไม่มีการติดป้ายหรือคำเตือนบนถนนให้ผู้ขับขี่ได้เห็นอย่างชัดเจน ว่ามีกล้องคอยตรวจจับอยู่ ซึ่งในระหว่างนั้น Holman ก็ถูกกล้องจับได้ว่าขับเร็วเกินกว่า 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นจำนวน 9 ครั้งในช่วง 2 สิงหาคมถึง…
-
Highteen เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่แห่งเกาหลีใต้ บุกเบิกกฎห้ามไม่ให้คนในวง ‘ศัลยกรรม’ !!
ถ้านึกถึงการศัลยกรรมความสวยความงามล่ะก็ แน่นอนว่าประเทศแรกที่แว๊บเข้ามาในหัวของเพื่อนๆ ก็คงจะไม่พ้นเกาหลีใต้นี่แหละ เรียกได้ว่าผู้คนในประเทศเค้านั้นนิยมทำศัลยกรรมมาก แถมคุณหมอของประเทศนี้ก็เจ๋งจนต่างประเทศต้องมาศึกษาดูงานกันเลยล่ะ ในขณะที่เทรนด์การศัลยกรรมนั้นเป็นที่นิยมไปทั่วเกาหลีอันเนื่องมาจากเหล่าป๊อปสตาร์ทั้งหลายในประเทศที่ผ่านมีดหมอกันมาหมด ก็ยังมีอีกหนึ่งเกิร์ลกรุ๊ปที่นำเสนอความเป็นตัวตนโดยแท้จริงของพวกเธอโดยไร้การศัลยกรรมใดๆ กรุ๊ปของพวกเธอมีชื่อว่า Highteen ที่ภาคภูมิใจนำเสนอความเป็นตัวตนของพวกเธอผ่านความสามารถทางการแสดงล้วนๆ ซึ่งทั้งกรุ๊ปนั้นไม่มีใครผ่านการศัลยกรรมมาแม้แต่น้อย!!? Highteen เกิร์ลปรุ๊ปเกาหลีใต้ที่ต่างจากเจ้าอื่นๆ สมาชิกในวงมี 4 คนด้วยกัน คือ Hye Joo, Hye Bin, Eun Jin และ Se-A เพราะไร้ซึ่งการศัลยกรรมความสวยความงาม พวกเธอเลยโฟกัสไปในเรื่องของการแสดง การออกแบบท่าเต้น การเมคอัพ และคอสตูมต่างๆ เสียมากกว่า ถึงแม้ว่าการแสดงจุดยืนของพวกเขานั้นจะเป็นการส่งเสริมความงามตามธรรมชาติ หรือเป็นการตีตลาด K-Pop ของประเทศด้วยแนวที่ไม่เคยมีมาก่อนก็ตามที… สิ่งนี้ก็ทำให้พวกเธอดูโดดเด่น มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนเกิร์ลกรุ๊ปอื่นๆ น่ารักแบบใสๆ ไม่พึ่งมีดหมอ แบบนี้ก็ดีไปอีกแบบนะเนี่ย ชมวิดีโอของวงนี้กันได้ที่นี่ มีช่วงหนึ่งด้วยนะที่มีสมาชิกถึง 5 คนด้วยกัน และถ้าใครอยากติดตามผลงานและความเคลื่อนไหวของพวกเธอล่ะก็ เข้าไปดูได้ที่ @highteen_2016 เลยน้าา …
-
เมื่อหนุ่มจะไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนๆ แฟนสาวเลยตั้งกฎ 20 ข้อ ให้ทำอย่างเคร่งครัด!!
สำหรับเหล่าพ่อบ้านทั้งหลายการจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่ไหนซักที่นั้นเป็นอะไรที่ยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้องเผชิญกับรังสีอาฆาตพยาบาทของเหล่ากวางน้อยที่ไม่ค่อยอยากให้เราออกไปเที่ยวซักเท่าไหร่นัก และถ้าเพื่อนๆ คิดว่าตัวเองลำบากแล้วล่ะก็ มาเจอกับพ่อหนุ่มคนนี้กันก่อน แล้วเพื่อนๆ จะคิดว่าเรื่องราวที่ต้องเผชิญอยู่นั้นมันก็แค่เรื่องจิ๊บๆ ฮร่า เรื่องมีอยู่ว่าชายหนุ่ม Connor George ชาวอังกฤษวัย 21 ปี ได้ทำการขอแฟนสาวออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่เกาะ Ibiza ประเทศสเปนเป็นระยะเวลาร่วม 1 สัปดาห์ และแฟนสาวของเขา Jane Park ก็อนุญาตให้ไป แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องปฏิบัติตามกฎที่เธอตั้งขึ้นมาทั้ง 20 ข้อนี้อย่างเคร่งครัด โดยเธอได้ทำการเขียนมันขึ้นมาในโน้ตโทรศัพท์จากนั้นก็โพสต์ลงบน เฟซบุ๊คส่วนตัว โดยให้แคปชั่นว่า “เมื่อ Jane กลายเป็นคนโรคจิตอีกครั้ง ???” โดยตั้งชื่อกฎนี้ว่า Connors Ibiza rules จะมีอะไรบ้างเราลองมาอ่านกัน… 1. ห้ามคุยกับผู้หญิง 2. ห้ามถ่ายรูปกับผู้หญิง รวมไปถึงรูปหมู่ด้วย 3. ห้ามให้ผู้หญิงยืมโทรศัพท์ไปถ่ายรูป 4. ไม่มีการขอหรือให้เบอร์โทรศัพท์กับสาวๆ หรือแอดเพื่อนในแอพฯ สแนปแชท หรือการขอเป็นเพื่อนกันบนโซเชียล 5. พยายามหลบสายตากับผู้หญิงตลอดเวลา 6. ห้ามเลี้ยงเหล้าผู้หญิงแม้แต่แก้วเดียว…
-
20 ภาพของเหล่าบรรดา “นักแหกกฎ” ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คนมันเก๋าอ่ะ ช่วยไม่ได้!!!
ในทุกๆ สถานที่ย่อมมีกฎเป็นของตัวเองเพื่อจัดระเบียบสถานที่เหล่านั้น แต่เมื่อมีกฎมันก็ต้องมีคนแหกเช่นเดียวกัน และมันก็ไม่ได้เพิ่งมีด้วย มันมีมาตั้งแต่หลายสิบปีก่อนแล้ววว ปัจจุบันนี้ก็มีป้ายห้ามมากมายเช่นป้ายห้ามจอด ป้ายห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าอะไรประมาณนี้ แต่สมัยก่อนป้ายห้ามมันโหดกว่ามากๆ แต่ก็จะมีคนที่พยายามแหกอยู่ด้วยเช่นกัน เราไปดูหน้าตาของผู้ชนะกันดีกว่า ห้ามนักใช่มั้ย ตกลงมาจากชาติอะไรกันแน่ (แซวเฉยๆ นะตัวเอง) ไหน ใครห้าม ไม่มี๊ ห้ามย้ายแม็กเย็บใช่มั้ย ได้เลย พาออกไปเที่ยวซะ อเมริกันมิกซ์เหรอ? ได้เลย จัดไป ห้ามสูบ + แอลกอฮอล์ เขาบอกห้ามแม้แต่จะคิดแตะ พี่ก็คิดเยอะไปนะ เอาให้ครบ น่าร้ากกกก เจ๋งสุดในบรรดาทั้งหมด ไม่ ฉันจะไม่นอนบนนั้น!! ฉี่ใส่เลย นี่แหน่ะ ห้ามเตะบอลอัดรั้ว (บอลที่ว่ากลายมาเป็นกล่องดวงใจ) ห้ามแตะ เต็มๆ มาเป็นคู่หูพ่อลูกเลย…
-
หนุ่มโพสต์ภาพ ’10 ข้อห้ามขณะไปเที่ยว’ ที่แฟนสาวเขียนไว้ให้ เป็นกระแสดังทั่วเน็ต
กลายเป็นประเด็นสุดร้อนบนอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว หลังจากหนุ่มคนหนึ่งโพสภาพ “กฎข้อห้าม” ขณะไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าละเอียดยิบ จนกลายเป็นประเด็นดราม่าเล็กๆ เลยทีเดียว ว่าเธอทำเกินไปหรือเปล่า โดยหนุ่มคนดังกล่าวมีชื่อว่า Kieran Lumsden ชาวสก็อตแลนด์ เขากำลังจะมีทริปไปเที่ยว เกาะมายอก้า ในประเทศสเปน ด้วยเหตุนี้เอง แฟนสาวของเขา Whitney Travers จึงทำหนังสือ “10 กฎข้อห้ามระหว่างไปเที่ยว” ขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้แฟนหนุ่ม ออกนอกลู่นอกทาง โดยเขาได้โพสภาพดังกล่าวลงบนทวิตเตอร์พร้อมแคปชั่นว่า “Whitneys กำลังยกระดับความบ้าขึ้นไปอีกระดับ ฮ่าๆ” โดยกฎที่เขาต้องปฏิบัติตามมีดังนี้ ชาร์จดโทรศัพท์ให้เต็มทั้งวันนะ แล้วโทรหาฉันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ( 2 นาที) 2. ห้ามมีผู้หญิงอื่น ห้ามดู ห้ามคุย ห้ามจับ 3. ห้ามกดฟอลโลวสาวๆ บนโซเฃียล 4. รอยสัก = ห้าม (กลับมาเดี๋ยวเช็คอีกที) 5. อย่าดื่มพวกเครื่องดื่มผสม (ยาเสพติดก็อย่า) 6. ถ้ามีปาร์ตี้บนเรือ ห้ามเล่นเกมกับเพศตรงข้าม…
-
เด็กน้อยอยากเลี้ยงหมา คุณพ่อก็เลยตั้งกฎ 13 ข้อให้ลูกเซ็นสัญญาเพื่อฝึกวินัย!!!
ตอนที่เราเป็นเด็กๆ ก็คงเคยฝันว่าอยากจะเลี้ยงหมาซักตัว แต่ว่าที่บ้านก็คงต้องคิดหนักเพราะขนาดเลี้ยงเรามาก็ว่ายากแล้ว ยังต้องมาเลี้ยงหมาอีก ยิ่งไปกว่านั้นคือเราไม่ได้เป็นคนเลี้ยง เรามีหน้าที่เล่นกับมันอย่างเดียว เหมือนอย่างเรื่องราวของคุณพ่อคนนี้ที่ได้สร้างกฎขึ้นมาเลย เพราะลูกร้องขอว่าอยากเลี้ยงหมา ดังนั้นถ้าจะเลี้ยงก็ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ โดยทำการเขียนสัญญา 13 ข้อ พร้อมกับให้ลูกเซ็นชื่อรับทราบ ถ้าจะเลี้ยงหมาต้องทำตามกฎนี้ด้วย และนี่คือกฎทั้ง 13 ข้อที่พ่อเขียนขึ้นมา 1. พ่อจะไม่เก็บขี้หมาให้ ซึ่งจะต้องเก็บขี้หมาประมาณ 30 ครั้งต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของพ่อ 2. หมาต้องถูกฝึกให้อึเป็นที่ และให้ไปอึที่สวนหลังบ้าน (ตรงหินติดรั้วบ้านของบาบาร่า) ทุกคนในครอบครัวต้องเข้าใจว่าไม่ให้หมาอึตรงหญ้า 3. ต้องเป็นหมาตัวเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม 4. หมาต้องห้ามขนร่วงเด็ดขาด 5. หมาต้องไม่มีน้ำลายหรือน้ำมูกไหล ทุกคนต้องเข้าใจว่าหมาพวกนี้ไม่ดี 6. หมาต้องไม่ข่วนพื้นเป็นรอย พ่อไม่สนใจว่าจะป้องกันยังไง จะตัดเล็บ ใส่รองเท้า หรือจะตัดขาไปเลยก็ได้ ทุกคนต้องเข้าใจว่าหมาจะไม่ทำพื้นเป็นรอย 7. พ่อจะไม่อาบน้ำให้หมา ถ้าพ่อได้กลิ่นสาบหมา จะต้องอาบน้ำหมาภายใน 24 ชั่วโมง 8. ถ้าหมาทำบ้านรก…
-
ความเป็นมาของกฎหมาย ‘ห้ามเลี้ยงปลาทองตัวเดียว’ ในสวิส แปลกแต่ก็น่ารักมากๆ!!!
กฎหมายของแต่ละประเทศนั้นก็ถูกบัญญัติขึ้นไว้เพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ที่จะได้รับของผู้คนในประเทศนั้นๆ แน่นอนว่าย่อมแปลกไปตามลักษณะนิสัยละวัฒนธรรมของคนในแต่ละพื้นที่… แต่วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็อยากจะพาเพื่อนๆ ไปเปิดหูเปิดตา พบกับกฎหมายสุดแปลก (แต่เบื้องหลังน่ารักจริงๆ) ที่ว่าทำไมประเทศสวิตเซอร์แลนด์จึงห้ามให้ประชาชนในประเทศเลี้ยงปลาทองต่ำกว่าสองตัว (ห้ามเลี้ยงตัวเดียวนั่นเอง) ลองมาดูกัน กฎการห้ามเลี้ยงปลาทองให้อยู่ตัวเดียว…เอ๊ะ กลัวมันจะเหงารึเปล่าหน๊อออ?? เรื่องเหงาเราคงไม่ต้องกลัวกันแล้วล่ะมั้ง เพราะอย่างที่เราหลายๆ คนเชื่อกันดีว่า ปลาทองนั้นมีความทรงจำเพียงแค่ 3 วินาทีเท่านั้นเอง นั่นก็แปลว่ามันมึนๆ เหงาๆ อยู่ตลอดแล้วไม่ใช่เหรอ?? แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันนะจ๊ะ เพราะแท้จริงแล้วปลาทองน่ะฉลาดกว่านั้น แถมยังสามารถระลึกความจำได้นานกว่า 5 เดือนเลยทีเดียว(นั่นนานกว่าเราบางคนอีกนะเนี่ย!!?) ถ้าใครสนใจลองเข้าไปอ่านได้ที่นี่ แถมปลาทองยังเป็นสัตว์ที่สามารถรับรู้ความรู้สึกได้เช่นกัน…และความเหงาก็คือหนึ่งในนั้น!!? จากการเก็บข้อมูลของทาง Pet Population ในปีล่าสุดพบว่า ในจำนวนสัตว์เลี้ยงทั้งหมด ปลาทองนั้นจัดเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป้นอันดับ 3 รองมาจากสุนัข และแมวเลยทีเดียว และจากงานวิจัยของทาง RSPCA ได้ระบุไว้เช่นกันว่า เราจะสามารถเห็นปลาทองมีปฏิสัมพันธ์กันกับเพื่อนร่วมตู้ได้บ่อยๆ และทางองค์กรนี้ก็แนะนำเลยล่ะว่าอย่างน้อยๆ ให้มีปลาทองอยู่ด้วยกันสัก 2 ตัวในหนึ่งตู้ แค่นี้พวกมันก็จะไม่เหงาแล้วล่ะ ปลาทองขี้เหงา… และยังมีข้อแนะนำจากองค์กรนี้อีกข้อนั่นก็คือ ปลาทองสามารถอยู่ร่วมกับปลาอื่นๆ ก็ได้ไม่มีปัญหานะจ๊ะ…
-
มาสักที..!! กระทรวงท่องเที่ยวจีน ออกกฎเหล็ก 9 ข้อ ใครทำผิด โดนแบนห้ามออกประเทศ!!
ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เราได้ยินข่าววีรกรรมนักท่องเที่ยวจีนมากมายที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาจเพราะประเทศจีนมีประชากรเยอะ ทำให้คุณภาพของเหล่านักท่องเที่ยว มีความหลากหลายค่อนข้างมาก แน่นอน ทางรัฐบาลจีนเองก็ตระหนักรู้ว่า นักท่องเที่ยวจีนกำลังกลายเป็นปัญหาระดับนานาชาติ ด้วยเหตุนี้เอง ทางกระทรวงการท่องเที่ยวจีน ได้ออกกฎเหล็ก 9 ข้อให้เหล่านักท่องเที่ยวได้ปฏิบัติตาม ซึ่งถ้าใครฝ่าฝืน อาจถูกแบนไม่ให้ออกประเทศเป็นเวลา 2-5 ปีเลยทีเดียว จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย 1. ยุ่งเกี่ยวกับระบบความปลอดภัยของอากาศยานหรือระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ 2. ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ 3. ลบหลู่วัฒนธรรมหรือวิธีชีวิตของคนท้องถิ่น 4. ทำลายโบราณสถาน โบราณวัตถุ 5. ยุ่งเกี่ยวกับการพนัน การค้าประเวณี หรือการใช้ยาเสพติด 6. คุกคามหรือสร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัยให้กับผู้อื่น 7. ทำลายธรรมชาติ หรือฝ่าฝืนข้อห้ามเกี่ยวกับสัตว์ป่า หรือคุกคามความปลอดภัยของสัตว์ป่าและป่าไม้ 8. ทำพฤติกรรมเสื่อมๆ ในแนวอนาจาร 9. มีพฤติกรรมที่ทำให้เกิดทัศนคติแง่ลบอื่นๆ เรียกว่าห้ามครบทุกอย่างจริงๆ…
-
กฎข้อบังคับของพนักงานดีสนีย์แลนด์ทั้ง 14 ข้อ แถวนี้เป๊ะ!! ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้
ดีสนีย์แลนด์แดนฝันวัยมหัศจรรย์ ถือว่าเป็นเป้าหมายที่ใฝ่ฝันของใครหลายๆ คนไม่ว่าจะเป็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ในดีสนีย์แลนด์ก็จะมีความบันเทิงมากมายที่รอให้ไปสัมผัส บางคนอาจจะติดใจจนถึงขั้นอยากจะทำงานที่นี่เลย แต่รู้บ้างมั้ยว่าการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดีสนีย์แลนด์นั้นจะมีข้อบังคับเหล่านี้อยู่ด้วย แบบว่าถ้าใครไม่เป๊ะจริง อยู่ไม่ได้อย่างแน่นอน!! 1. พนักงานที่จะมาแต่งตัวเป็นตัวการ์ตูนนั้นๆ จะต้องมีใบหน้าเป๊ะ ผมเป๊ะ ส่วนสูงต้องเป๊ะ น้ำหนักก็ต้องเป๊ะด้วย!! 2. การชี้ด้วยนิ้วเดียวเป็นสิ่งที่ไม่สภุาพ เพราะฉะนั้นจะต้องใช้การชี้ด้วยสองนิ้วหรือใช้การผายมือแทน 3. คำว่า “ไม่รู้” สำหรับพนักงานดีสนีย์แลนด์นั้นเป็นคำต้องห้าม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ต้องหาคำตอบมาให้ได้ 4. เล็บต้องสั้นและสะอาดอยู่เสมอ ถ้าจะทาสีเล็บหรือเพ้นท์เล็บให้ลืมไปได้เลย 5. แว่นตาแฟชั่นที่ดูไม่เรียบร้อยก็ห้าม หากจะใส่แว่นจริงๆ ห้ามให้เห็นแบรนด์และจะต้องมีสีสุภาพ ุ6. ในขณะที่กำลังสวมบทบาทเป็นตัวละครใดตัวละครหนึ่งอยู่ ห้ามเรียกชื่อจริง ให้เรียกชื่อตัวละครนั้นแทน 7. ในเมื่อได้มาเป็นตัวละครนั้นๆ แล้ว เอกลักษณ์ของตัวละครจึงสำคัญที่สุด ต้องเรียนรู้และซึบซับให้กลายเป็นตัวละครนั้นจริงๆ 8. เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นขยะ ต้องเก็บให้เรียบอย่าให้เหลือ 9. ห้ามมีรอยสักเด็ดขาด 10. จะเรียกชื่อจริงให้เรียกชื่อต้น…