Tag: กฏ
-
ชาวต่างชาติเขียนถึง 11 เรื่องน่าประหลาดใจ ที่ต้องพบเจอเมื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น
“ญี่ปุ่น” เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมอันแสนหลากหลาย แต่ในขณะเดียวกันก็มีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากๆ ดังนั้น หากใครที่จะเดินทางไปยังประเทศนี้ หรือไม่ว่าจะประเทศไหนๆ ก็ตามคุณควรจะศึกษาวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมของผู้คนในประเทศนั้นๆ ด้วย ดั่งสำนวนที่ว่า “เข้าเมืองหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” ด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวด จึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคนหนึ่งที่ได้เดินทางไปเยือนญี่ปุ่นรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ดังนั้น เขาจึงได้ออกมาบอกเล่า 11 เรื่องราวที่คุณควรรู้ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นผ่านทางโลกออนไลน์ ว่าแล้วก็มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง 1. หลีกเลี่ยงเรื่องที่เกี่ยวกับเลข 4 ทั้งหมด ในญี่ปุ่น “เลข 4” คือสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะมันมีการออกเสียงที่คล้ายกับคำว่า “ตาย” เช่นเดียวกับเลข 13 ในวัฒนธรรมตะวันตกที่เป็นเลขอัปมงคล และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นมักหลีกเลี่ยงการใช้เลข 4 ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ หากคุณได้ไปญี่ปุ่นจะสังเกตได้ว่าในบางแห่ง เช่น ลิฟต์ หรือเลขชั้นอาคาร จะไม่มีการปรากฏของเลข 4 เลย 2. ไม่ควรสั่งน้ำมูกในที่สาธารณะ ที่ประเทศญี่ปุ่นการสั่งน้ำมูกในที่สาธารณะไม่เพียงแต่เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเพียงอย่างเดียว แต่มันยังเป็นเรื่องที่น่าขยะแขยงมากอีกด้วย ดังนั้น หากมีความจำเป็นที่จะสั่งน้ำมูกเราขอแนะนำว่าควรทำให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ 3. การให้ทิปอาจถูกมองว่าเป็นการดูถูก การให้ทิปถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สุภาพ…
-
6 ข้อห้ามแปลกๆ ไม่มีในสวนสนุกทั่วไป แต่ห้ามทำที่ ‘ดิสนีย์แลนด์’ อาจถูกเชิญออกได้เลย!!
ถ้าพูดถึงสวนสนุกในฝันที่เราอยากจะไปมากที่สุด อันดับต้นๆ ที่อยู่ในรายชื่อของทุกคนจะต้องมีดิสนีย์แลนด์จากประเทศต่างๆ ติดอยู่ในรายชื่ออย่างแน่นอน ทว่าถ้าเรามีโอกาสได้ไป เราจะรู้ไหมว่าเขามีข้อห้ามอะไรบ้างที่เราห้ามทำ? เพราะถ้าหากเราทำในสิ่งต้องห้ามของทางสวนสนุกแล้วถูกจับได้ คุณอาจจะถูกเชิญออกจากสวนสนุกได้เลยนะ หรือเบาๆ หน่อยก็อาจจะถูกกักตัวในคุกของดิสนีย์แลนด์แทน (ห้องของส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย) แต่ว่าการรู้ข้อห้ามไว้ก่อนย่อมดีเสมอ เพราะฉะนั้นเราจะมาดู 6 ข้อห้ามสุดแปลกแหวกแนว ของดิสนีย์แลนด์แดนสวรรค์กัน รู้ไว้จะได้ไม่เผลอทำผิดกฎของทางสวนสนุกกันนะ… 1. ห้ามนำลูกโป่งเข้ามาในส่วน ‘สวนสัตว์’ ข้อนี้อาจจะแปลกสักหน่อย เพราะลูกโป่งถือเป็นของที่เหมาะกับการขายและตกแต่งในสถานที่อย่างดิสนีย์แลนด์เป็นอย่างมาก แต่กลับกลายเป็นข้อห้ามของดิสนีย์แลนด์ไปได้ ทว่าถึงจะบอกแบบนั้นดิสนีย์แลนด์ก็ไม่ได้ห้ามโดยตรงหรอกนะ เพราะพวกเขาจะห้ามนำลูกโป่งเข้าไปแค่เฉพาะโซนที่มีสัตว์เท่านั้น เพราะสัตว์จะกลัวเสียงเสียดสีของลูกโป่ง รวมถึงเสียงลูกโป่งแตกด้วย 2. ห้ามนำเอาเก้าอี้พับมาเอง… ที่กลายมาเป็นข้อห้ามก็เพราะว่า ในบางจุดที่มีการต่อคิวยาวๆ กลุ่มคนเหล่านี้จะนำเก้าอี้พับมานั่งรอระหว่างต่อแถว ถือเป็นความเห็นแก่ตัวอย่างหนึ่ง… นอกจากนั้นถ้าหากมีการทะเลาะกัน แทนที่จะเป็นดิสนีย์แลนด์แดนแห่งจินตนาการ จะกลายเป็นดิสนีย์แลนด์แดนมวยปล้ำแทนนะสิ ฮร่าๆ (ว่าแล้วก็คว้าเก้าอี้มาฟาดกัน) 3. ห้ามนำของขวัญที่ห่อแล้วเข้ามา ปกติแล้วการเข้าไปเที่ยวในดิสนีย์แลนด์ก็จะมีการตรวจกระเป๋าเพื่อความปลอดภัย แต่สำหรับการห้ามนำของขวัญที่ห่อแล้วเข้ามานั่นก็เป็นเพราะว่า มันจะต้องถูกแกะห่อออกมาเพื่อตรวจสอบ ซึ่งในบางครั้งถ้าหากเด็กๆ เห็นว่าห่อของขวัญถูกแกะต่อหน้าต่อตาตัวเอง ก็อาจจะทำให้รู้สึกไม่ดี งอแงจนอยากจะกลับบ้านแทน… เพราะฉะนั้นแล้ว เพื่อไม่ให้เด็กๆ…
-
ผู้ปกครองโวยโรงเรียน สร้างกฎแปลกๆ ให้นักเรียนเข้าห้องน้ำได้แค่วันละ 2 เวลาเท่านั้น!?
เป็นเรื่องปกติสามัญทั่วไปที่โรงเรียนจะต้องมีกฏ มาคอยควบคุมให้นักเรียนอยู่ในระเบียบ อย่างไทยเราก็คงเป็นเรื่องของทรงผม จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครเข้าใจว่ามันไปเกี่ยวข้องอะไรกับการเรียน… และล่าสุดสำนักข่าว Metro ได้รายงานว่า ผู้ปกครองเด็กนักเรียนจากโรงเรียน Bedale High School ต่างพากันแสดงความไม่พอใจ หลังโรงเรียนออกกฎอนุญาตให้เด็กๆ พักเข้าห้องน้ำได้แค่วันละ 2 ครั้งเท่านั้น! Bedale High School จากเมือง North Yorkshire โดยทางโรงเรียนได้ให้เหตุผลว่า สาเหตุที่ออกกฎให้นักเรียนพักเข้าห้องน้ำได้แค่ระหว่างเวลา 11.05 – 11.25 น. และ 12.25 – 12.45 น. เพราะนอกเหนือจากเวลานี้ นักเรียนไม่ควรมีสิทธิ์เข้าไปยังบริเวณตึกใหญ่ (ที่ตั้งของห้องน้ำ) ซึ่งเด็กคนไหนที่มีความจำเป็นจริงๆ จะต้องมีใบสั่งแพทย์มายืนยันก่อนพักเข้าห้องน้ำนอกเวลาทุกครั้ง! ผู้ปกครองคนหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์ว่า ‘เป็นกฎที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนเด็กนักเรียนมากที่สุด กับการที่ไม่อนุญาตให้ลูกๆ ของเราเข้าห้องน้ำได้ตามเวลาที่ต้องการ’ แต่นอกเหนือจากเรื่องของเวลาแล้ว ทางโรงเรียนก็ได้ออกมาชี้แจงว่า เป็นการควบคุมไม่ให้ห้องน้ำกลายเป็นแหล่งมั่วสุมของนักเรียน และลดปัญหาความรุนแรงจากการกลั่นแกล้ง ที่มักจะเกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าว ซึ่งผู้ปกครองฝ่ายที่เห็นด้วยก็ให้เหตุผลว่า ‘ที่โรงเรียนทำไปเพื่อแก้ปัญหาลูกๆ ของคุณที่ชอบทำตัวเกเรไปแกล้งคนอื่นยังไงล่ะ สาเหตุมันก็เริ่มมาจากเด็กๆ กลุ่มนี้ เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองที่ต้องช่วยกันดูแลเด็กให้ดี เพื่อลดปัญหาดังกล่าว’ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวิธีนี้จะใช้แก้ปัญหาตามที่เค้าอ้างได้จริงมั้ยน้อ……
-
กฎของรถไฟใต้ดินห้ามนำสัตว์ขึ้น เว้นแต่มันอยู่ในกระเป๋า เลยเกิดภาพน่ารักๆ แบบนี้แหละ…
กฎระเบียบของรถไฟใต้ดินในนิวยอร์ก ได้บอกไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่า “ห้ามมิให้บุคคลใดๆ นำสัตว์เลี้ยงขึ้นมาบนรถไฟใต้ดิน ยกเว้นในกรณีที่ใส่ไว้ในภาชนะที่ปิดสนิท” ซึ่งถ้าหากใครที่ฝ่าฝืนกฎดังกล่าวจะต้องเสียค่าปรับ แต่ถ้าหากคุณมีความจำเป็นที่จะต้องนำสุนัขแสนรัก ที่มีขนาดตัวใหญ่อย่างพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ มาขึ้นรถไฟใต้ดินด้วยละ จะทำอย่างไรดีนะ? ถ้าเจอสถานการณ์ดังกล่าว หลายคนอาจจะมืดแปดด้านไปเลยก็ได้ แต่ดูเหมือนว่ามันไม่ใช่ปัญหาที่หนักหนาสาหัสสำหรับพ่อหนุ่มคนนี้เลยแม้แต่น้อย เพราะเขาได้นำน้องหมาฮัสกี้ตัวโต มาใส่ในกระเป๋าขณะใช้บริการรถไฟใต้ดิน เพื่อเลี่ยงค่าปรับ จนเกิดเป็นภาพน่ารักๆ อย่างที่เห็น… และแน่นอนว่า เขาไม่ใช่คนแรกที่นำน้องหมาตัวใหญ่ใส่ในกระเป๋า เพราะยังมีอีกหลายคน ที่ทำแบบนี้เช่นกัน ก็ไม่อยากโดนปรับนี่นา เราไปชมภาพน่ารักๆ ของบรรดาผู้คนที่ใช้บริการรถไฟใต้ดิน แล้วนำบรรดาลูกรักใส่กระเป๋ากันเลย ฮร่าๆ . . . . . . . . . ถ้ามีโอกาสได้นั่งรถไฟใต้ดินในนิวยอร์ก แล้วเจอภาพน่ารักๆ แบบนี้บ้าง คงจะทำให้เหมียวขี้อ้อนยิ้มไม่หุบแน่ๆ เลย ที่มา : boredpanda
-
Infographic ฉบับเที่ยวเกียวโต กับกฏข้อห้ามต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ควรและไม่ควรทำ!!
ประเทศญี่ปุ่นนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมไปท่องเที่ยวกันมากเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ แต่ด้วยเรื่องของวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน บางครั้งพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ทั้งไม่รู้และทั้งที่รู้แต่ก็ยังทำ อาจทำให้เจ้าบ้านรู้สึกไม่ดี และมองนักท่องเที่ยวชาตินั้นให้แง่ลบ ส่งผลภาพรวมไปในระดับประเทศกันเลยล่ะ ทั้งนี้เองหากเราคนไทยไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น แต่ไม่ทำตามกฏระเบียบต่างๆ ที่เขามี ก็คงไม่ต่างจากนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาสร้างชื่อเสีย(ง) ในการเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยซักเท่าไหร่ อย่างเช่นทุกๆ เมืองและจังหวัดก็จะมีกฏที่แตกต่างกัน อย่างในเมืองเกียวโต ที่ได้ทำ Infographic การ์ตูนที่เข้าใจง่ายเพื่อบอกให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ศึกษาก่อนที่จะไปเที่ยวและนำไปปฏิบัติก็จะส่งผลดีต่อตัวเราและเจ้าบ้านจ้า สำหรับ Infographic ชุดนี้มีชื่อว่า AKIMAHEN of Kyoto (京都のあきまへん) แปลว่า ข้อห้ามของเกียวโต เป็นกฏเฉพาะของเมืองเกียวโต ไม่ว่าจะเป็นการเข้าแถวให้เป็นระเบียบ, ห้ามขับขี่จักรยานขณะไม่ได้สติ (เมาแล้วปั่น ปรับ 1 ล้านเยน หรือจำคุก 5 ปี) อย่ายกเลิกรายการอาหาร ณ วินาทีสุดท้าย, เอื้อเฟื้อที่นั่งให้กับผู้หญิงตั้งท้อง คนชรา ผู้บกพร่องทางกายภาพ และผู้ที่มากับเด็กเล็ก รักษาความสะอาดของห้องน้ำ, อย่าจอดจักรยานนอกพื้นที่ที่จัดไว้ให้, อย่าถ่ายรูปใกล้รางรถไฟ, ห้ามถ่ายรูปในสถานที่ที่ห้ามถ่าย…
-
สุดยอดเมืองในฝัน นายกเทศมนตรีอนุญาตทุกคนนอนกลางวัน บ่าย 2 – 5 กันแบบชิวๆ
พอฟังเรื่องนี้กันแล้วหลายๆ คนคงอยากย้ายไปอยู่ที่เมืองนี้กันบ้างแหละ อิอิ เคยรู้สึกมั้ยว่าพอตื่นขึ้นมาทำงานในตอนเช้า พอถึงช่วงกลางวันทานอาหารเสร็จ แล้วก็อยากหลับพักผ่อนสักหน่อยใช่มั้ยล่ะ ถ้าคุณเกิดอารมณ์แบบนั้น คุณคงอยากย้ายไปอยู่ในเมือง Ador, Valencia ในประเทศสเปน ที่นายกเทศมนตรีได้อนุญาตให้ทุกคนสามารถนอนระหว่างบ่าย 2 โมง- 5 โมงเย็น 3 ชั่วโมงเต็มๆ กันเลยทีเดียว เอาให้สบายเลยลูกหลานของข้า!!! เมือง Ador ในวาเลนเซีย ถึงแม้ประเทศสเปนจะขึ้นชื่อเรื่องความสนุกสนานร่าเริง แต่เมืองนี้เป็นอีกกรณีหนึ่ง ช่วงเวลาดังกล่าวนี้พ่อแม่ต้องนำเด็กๆ เข้าบ้านและดูแลพวกเขา และเป็นช่วงเวลาที่งดใช้เสียงดังถ้าไม่จำเป็นเพราะจะไปรบกวนการพักผ่อนของชาวเมืองคนอื่นๆ โดยชาวไร่ชาวสวนก็เป็นอาชีพหลักของคนที่นี่เลยก็ว่าได้ ซึ่งทางท่านนายกได้ประกาศอนุญาตให้สามารถนอนกลางวัน ก็เพื่อให้พวกเขาได้มีช่วงเวลาเบรคระหว่างวันโดยเฉพาะช่วงที่ร้อนที่สุดอย่างบ่ายสองโมงถึงห้าโมงเย็น จะได้พักผ่อนคลายร้อนกันในช่วงเวลานี้นั่นเอง น่าแปลกใจเหมือนกันนะเนี่ย แต่ก็ถือว่าเป็นผลดีมากๆ เลยล่ะสำหรับคนทำงานกลางไร่กลางสวน ใครชอบนอนกลางวันเมืองนี้อาจเป็นเมืองในฝันของเพื่อนๆ กันได้เลยล่ะ ฮ่าๆๆๆ ที่มา: Metro
-
9 กฎเหล็กในการใช้สระว่ายน้ำ ถ้าไม่ปฏิบัติตาม อาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิต!!!
ร้อนๆ แบบนี้คงไม่มีอะไรรู้สึกดีเท่าการกระโจนลงไปดำผุดดำว่ายในสระน้ำเย็นๆ อีกแล้ว แต่นั่นก็มีข้อจำกัดอยู่เช่นกัน วันนี้เราเลยขอพาเพื่อนๆ ไปพบกับ 9 กฏเหล็กในการใช้สระว่ายน้ำ ไม่งั้นอาจเกิดอันตรายถึงชีวิต!!! ลองมาดูกันเลย ข้อ 1. อย่าพยายามว่ายน้ำจนกว่าคุณจะรู้ความลื่นของขอบสระ ข้อ 2. จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ก็จริง แต่บางอย่างก็ไม่สามารถเป็นจริงได้ ข้อ 3. อย่าลืมใส่ใจทุกๆ ส่วนของร่างกาย (ในกรณีนี้เธอโฟกัสตรงส่วนลำตัวมากเกินไป จนลืมเรื่องเท้าที่ยืนอยู่) ข้อ 4. ดูให้ดีว่าน้ำในสระไม่เย็นจนเกินไป ข้อ 5. ประมาณกำลังตัวเองให้ดี ข้อ 6. โดยเฉพาะท่านี้ เห็นมานักต่อนักแล้ว >< ข้อ 7. อย่าเปลี่ยนจุดกระโดดกระทันหัน ข้อ 8. ควรสังเกตความแข็งแกร่งของอุปกรณ์ในสระให้ดีเสียก่อน ข้อ 9. ตัดสินใจแล้วอย่าลังเล!!! และข้อสุดท้ายเหมียวขอเติมเอง อย่าลืมสนุกไปกับมันนะจ๊ะ อิอิ…