Tag: การต่อสู้
-
หมี vs เสือ การต่อสู้อันดุเดือดของสองยอดนักล่าแห่งพงไพร ใครจะเป็นผู้ชนะ!?
ในโลกของสัตว์ป่า มีสัตว์นักล่าอยู่มากมายหลายชนิด แต่ละชนิดก็ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสิงโต เสือ หมี จระเข้ ฉลาม แค่พูดชื่อก็รู้สึกเสียววาบแล้ว ไม่ต้องคิดภาพเลยว่าถ้าเจอตัวเป็นๆ จะทำให้อกสั่นขวัญแขวนขนาดไหน แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยหรือไม่ว่าเจ้าตัวไหนในบรรดานักล่านั้นเก่งที่สุด หากพวกมันมาเผชิญหน้าต่อสู้กันจริงๆ แล้วใครจะชนะ!? ในวันนี้ #เหมียวหง่าว มีคลิปวิดีโอเหตุการณ์การต่อสู้ระหว่างนักล่าอย่าง หมีสลอธตัวเมีย กับ เสือโคร่งตัวผู้ มาฝาก ส่วนผลชนะจะเป็นอย่างไร ต้องลองไปติดตามชมกันดูแล้วล่ะ เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นในเขตอุทยานแห่งชาติ Tadoba National Park ที่ตั้งอยู่ในแคว้น Maharashtra ประเทศอินเดีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยมีนาย Akshay Kumar หัวหน้านักธรรมชาติวิทยาของอุทยานแห่งชาติเป็นคนบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ทั้งหมด เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นขณะที่สองแม่ลูกหมีสลอธกำลังเดินกลับมาจากการดื่มน้ำที่แม่น้ำ แต่แล้วจู่ๆ เจ้าเสือโคร่งตัวผู้ที่มีชื่อว่า Matkasur ก็เดินเข้ามาจู่โจม หมีตัวแม่เข้าต่อสู้ทันทีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อปกป้องลูกของมัน การต่อสู้ในครั้งนี้ต่างคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง เจ้าหมีสลอธก็ทำไปเพื่อปกป้องลูก ส่วนเจ้าเสือ Matkasur ก็ทำไปเพื่อปกป้องอาณาเขตของมัน การต่อสู้ยกแรกดำเนินไปเพียงชั่วครู่ตอนนี้แม่หมีเป็นฝ่ายได้เปรียบเพราะมีลูกคอยให้กำลังใจอยู่ด้านหลัง จากนั้นภาพก็ตัดมายกที่สอง ในยกนี้ดูเหมือนเจ้าหมีสลอธจะเสียเปรียบเพราะโดนเสือกัดเข้าไปบริเวณหลังหัว อันเปรียบเสมือนเป็นท่าไม้ตายของสัตว์นักล่าจำพวกแมวที่ต้องการให้เหยื่อเป็นอัมพาต …
-
โตเกียวเปิดร้าน “ทุบแผ่นกระเบื้อง” ให้นักท่องเที่ยวได้ฝึกศิลปะต่อสู้ พร้อมกับระบายอารมณ์!?
หากใครเคยไปโตเกียวคงจะรู้จักย่านอะซะกุซะเป็นอย่างดี เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในโตเกียว อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของวัดที่สำคัญที่สุดของเมืองด้วย แต่หากคุณไม่ค่อยสนใจสถานที่ท่องเที่ยวหรือวัฒนธรรมเก่าแก่เหล่านั้นก็ไม่เป็นไร เพราะในย่านอะซะกุซะแห่งนี้ยังมีบริการแปลกใหม่ที่เรียกว่า Kawarana ที่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม สำหรับร้านบริการ Kawarana นี้ตั้งอยู่ข้างถนนที่ดูภายนอกแล้วเหมือนจะไม่มีอะไร จะมีแต่ป้ายที่วางตรงทางเข้าเขียนไว้ว่า “KAWARA SMASH” อย่างไรก็ตามถ้าคุณไม่คุ้นเคยกับภาษาญี่ปุ่นก็คงจะเกิดคำถามอีกว่า แล้วคำว่า ‘Kawara’ มันคืออะไรกันแน่ ซึ่งคำตอบก็คือ กระเบื้องหลังคาแบบดั้งเดิมที่ทำจากดิน ซึ่งศิลปินจะนำมาใช้ในศิลปะการต่อสู้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของร่างกายให้คนรุ่นหลังได้ดู ที่ร้าน Kawarana แห่งนี้ลูกค้าสามารถเลือกจำนวนกระเบื้องหลังคาได้ตามกำลัง โดยจะมีทีมงานคอยจัดให้ตามต้องการ จากนั้นให้ลูกค้าทำลายกระเบื้องทั้งหมดภายในครั้งเดียวด้วยมือเปล่า ส่วนราคาแห่งการทำลายจะเริ่มต้นที่ 150 บาท ต่อกระเบื้องหลังคา 1 แผ่น และยิ่งซื้อมากก็จะยิ่งมีส่วนลดมาก ในการใช้บริการแต่ละครั้งจะมีถุงมือและเสื้อโค้ทกันเปื้อน รวมทั้งชุดสำหรับการต่อสู้ให้ด้วยถ้าหากลูกค้าต้องการ เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำลายแผ่นกระเบื้องหลังคา ทางร้านก็จะนำผ้ามาวางไว้บนกระเบื้อง โดยมีวงกลมสีแดงเพื่อให้ชี้เป้าให้ลูกค้าได้ทุบกำปั้นได้ตรงจุด แต่เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดกับร่างกายของลูกค้า ก่อนทำลายกระเบื้องจริงๆ จะมีทีมงานคอยสอนว่าต้องใช้ตำแหน่งไหนของมือในการทุบ หรือต้องทุบด้วยท่าไหนเพื่อไม่ให้เจ็บตัว ก่อนที่จะลงมือทุบ ให้คุณจำไว้ว่ามีโอกาสแค่ครั้งเดียวเท่านั้นในการทำลายแผ่นกระเบื้องเหล่านี้ เปรียบได้เหมือนดั่งการทำลายศัตรูในชีวิตจริง ที่ไม่มีโอกาสให้แก้ตัวเป็นครั้งที่สองนั่นเอง เมื่อลูกค้าทุบแล้วไม่แตกภายในครั้งเดียว…
-
ตามไปชม “การต่อสู้เพื่อหาเมีย” ของชนเผ่าซูริ ที่ต้องดื่มเลือดวัว และถึงขั้นแลกมาด้วยชีวิต!!
The Donga หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า การต่อสู้ด้วยกระบองไม้ (Stick Fight) เป็นพิธีกรรมการต่อสู้แบบดั่งเดิมของชนเผ่าซูริ ชนเผ่าดั่งเดิมในประเทศเอธิโอเปีย ซึ่งสืบต่อกันจากรุ่นสู่รุ่นมายาวนาน ส่วนสาเหตุที่ต้องทำพิธีกรรมนี้ นั่นก็เพื่อที่ผู้ชายในเผ่าได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเอง รวมถึงเพื่อชิงสิทธิได้ครองคู่กับสาวในเผ่าที่ตัวเองชอบเมื่อได้รับชัยชนะในพิธีกรรม แต่ว่าก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น นักสู้ทั้งหมดจะต้องเข้ารับพิธีการดื่มเลือดวัวเสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ต้องทำแบบนั้นก็เพราะว่าพวกเขาเชื่อว่าในเลือดวัวมีวิตามินสูงและมันจะช่วยมอบกำลังวังชาให้กับพวกเขา พวกเขาจะใช้ธนูเล็กๆ ทิ่มเข้าไปให้เกิดแผลกับตัววัวของแต่ละคนโดยไม่ฆ่ามัน และใช้ภาชนะมารองรับ ลิ้มรสเลือดสดเหล่านั้น พวกเขาล้วนมีวัวในครอบครอง เพราะวัวเปรียบเสมือนสมบัติของแต่ละคนนั่นเอง ส่วนกติกาก็ง่ายมากๆ การต่อสู้จะเป็นแบบ 1 ต่อ 1 โดยแต่ละหมู่บ้านจะต้องส่งนักสู้ของตัวเองเข้าร่วมตั้งแต่ 20 ถึง 30 คน กฏแพ้ชนะก็แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้หรือตายกันไปข้างหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นผู้ตัดสินก็สามารถที่จะตัดสินได้ว่าฝ่ายไหนแพ้ชนะได้ตามแต่สมควรโดยที่ทั้งคู่ไม่ต้องยินยอมก็ได้ กติกาอย่างหลังนี้มีขึ้นมาเพื่อปกป้องการตายที่เกิดขึ้นทุกครั้งในสมัยก่อน แม้จะมีผู้ตัดสินมา บางคนก็ยังเสียชีวิตจากบาดแผลอยู่เช่นเดิม ทางด้านฝ่ายหญิงนั้น พวกเธอสามารถที่จะปฏิเสธการขอเป็นคู่กับนักรบคนไหนก็ได้ แต่การได้รับคำขอจากแชมป์เปี้ยนจะถือว่าเป็นเกียรติอย่างมากต่อตัวเธอเองและครอบครัว นอกจากนั้นตัวผู้หญิงเองยังมีการเจาะปากรวมถึงวางชิ้นส่วนของสัตว์ต่างไว้บนหัว ซึ่งการทำแบบนี้สำหรับผู้ชายในเผ่าแล้วมันถือว่าเป็นตัวบ่งบอกความงามของพวกเธอนั่นเอง สำหรับผู้ชนะจะมีการเฉลิมฉลองและแสดงความยินดีก่อนที่จะทำการเลือกคู่ครอง นักรบที่แข็งแกร่งมักจะไม่สวมเครื่องป้องกันใดๆ ในการต่อสู้เสมอ ส่วนวิธีการเลือกคู่ครองนั้น พวกเขาจะทำการยื่นไม้กระบองไปที่หญิงสาวคนที่เขาถูกใจ และถ้าหญิงสาวเอาสร้อยคอแขวนกลับมาก็ถือว่าเป็นอันตกลง …
-
เมื่อกระรอก 2 ตัว ต้องมาแย่งชิง “วอลนัท” ลูกเดียวกัน มันเลยเกิดเป็นฉากต่อสู้สุดมันส์
กระรอกเป็นผู้ที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นสัตว์ที่ชื่นชอบในการเก็บสะสมอาหารที่หามาได้ ไม่ใช่เฉพาะปกป้องจากกระรอกด้วยกันเท่านั้น แต่รวมถึงจากพวกนก และสัตว์ตัวอื่นๆ ที่จะมาขโมยอาหารของพวกมันด้วยเช่นกัน ภาพที่จะโชว์ให้ดู เป็นภาพที่กระรอกสองตัวสู้กันอย่างดุเดือด เพื่อแย่งชิงอาหารกัน แต่ถ้าจะดูแค่มันสู้กันก็คงจะธรรมดาไป เพราะว่าท่าทางที่พวกมันสู้กันนั้น ประดุจดั่งว่าใช้วิชานินจาและกังฟู เข้าห้ำหั่นกันเลยทีเดียว เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกภาพไว้โดย Martin Docker เขาบอกว่าปกติแล้วกระรอกจะมีหลุมเก็บอาหารเป็นของตัวเอง และมันจะเก็บรักษาลูกนัทอย่างดี แต่ถ้ามีสักตัวเข้ามายุ่มย่ามกับอาหารของมันล่ะก็ จะเกิดเป็นฉากบู๊อย่างที่เรากำลังจะได้เห็นนี่แหละ… เจอลูกเตะลอยฟ้าหน่อยเป็นไง!! วิชาลับ คมเขี้ยวกระรอก!! ฝามือกระรอกบินน!! สู้ไม่ได้ต้องเจอนี่… ท่าไม้ตายกระรอกบดไข่ จากข้อมูลระบุว่าในศึกแย่งอาหาร สัตว์ชนิดอื่นยากที่จะเข้าไปแย่งมาได้เพราะกระรอกมีสายตาที่เฉียบคม จึงทำให้ส่วนใหญ่กระรอกจะสู้กับกระรอกด้วยกันเองเป็นส่วนมาก เพราะว่าพวกมันสามารถที่จะขาดเดาได้ว่า คลังเสียงของกระรอกตัวอื่นเก็บไว้ที่ไหน ท่าทางการสู้ของพวกมันก็เท่ไม่หยอกเลยนะเนี่ย เรียนมาจากสำนักไหนกันนะ จะไปฝากตัวเป็นศิษย์สักหน่อย!!! ที่มา mirror
-
ภาพวินาทีการต่อสู้แย่งชิงอาหาร ระหว่าง “หมาป่า และ หมีกริซลี่” เกิดเป็นศึกอันยิ่งใหญ่!!!
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ดำดิ่งเข้าไปสู่ความโหดร้าย ดิบเถื่อนในธรรมชาติ ที่เป็น ‘สัจธรรม’ ที่แท้จริงของโลกนี้ ของวิถีชีวิตของหมีและฝูงหมาป่า ที่ไม่ได้กิ๊บเก๋ เป็นเพื่อนกันอย่างในเมาคลีลูกหมาป่าหรอกนะเออ!! ภาพชุดนี้ถูกถ่ายไว้โดยช่างภาพรุ่นเดอะวัย 75 ปีที่เป็นที่รู้จักในวงช่างภาพในชื่อ Littlejohns เขาได้เดินทางไปถ่ายแถบเทือกเขาร็อคกี้ในรัฐมอนทาน่า และเขาก็ได้พบว่าความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่านั้นลดลง ทำให้เหล่าสัตว์ดุร้าย และมีวิธีเอาชีวิตรอดที่เข้มข้นมากขึ้น ในประเทศสหรัฐฯ นั้น ประชากรของเหล่าหมาป่าได้หายไปอย่างสมบูรณ์ในกว่า 48 รัฐ ‘ในภาพชุดนี้ที่ผมถ่ายมา เห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนเลยก็คือ เราไม่ได้เห็นหมาป่าตัวใหญ่ๆ เนื้อแน่นอีกแล้ว แต่เป็นหมาป่าผอมๆ แถมดุร้าย พร้อมแย่งชิงอาหารแม้กระทั่งในฝูงเดียวกัน และที่สำคัญพวกมันพร้อมจู่โจมหมีกริซลี่โตเต็มวัย ซึ่งไม่ใช่วิสัยของพวกมันเลย’ หมาป่าฝูงนี้กำลังจัดการกวางน้อย เพื่อนำมาเป็นอาหารกลางวันของพวกมัน การออกล่าของหมาป่านั้นทำกันเป็นฝูง ซึ่งเป็นเรื่องที่พบเห็นกันได้ตามปกติ แต่เงื่อนไขก็คือเหยื่อจะต้องอ่อนแอกว่า และไม่สามารถทำอันตรายพวกมันได้ หมาป่าจะไม่สู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าเด็ดขาด จะมีก็แต่ศัตรูที่บาดเจ็บเท่านั้น และพวกมันจะช่วยกันสู้ กัดเล็กกัดน้อยจนศัตรูเสียเลือดและอ่อนแรงลงไปเรื่อยๆ จนสามารถเอาชนะได้ ที่สำคัญที่สุดคือ ขณะโจมตีห้ามบาดเจ็บเด็ดขาด!! หมาป่าเป็นสัตว์ที่จะคอยสังเกตจุดอ่อน และกำจัดจุดอ่อนนั้นเสมอ แม้กระทั่งหมาป่าในฝูงด้วยกันเอง พวกมันก็พร้อมจู่โจมตัวที่เป็นจุดอ่อน และกินเป็นอาหารทันที หมาป่าเลยจะระวังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ในวันนั้นช่างภาพก็ถ่ายภาพหมาป่าอย่างปกติ เหมือนหลายๆ…
-
Rin Naka สาวนักชก MMA มาพร้อมหุ่นสุดล่ำบึก จนหนุ่มๆ เห็นแล้วไม่กล้าเข้ามาแหยม
โดยปกติแล้ว เรามักจะเห็นภาพของผู้ชายกล้ามโต ในกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน อย่าง Mix Martial Arts หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ MMA แต่ถ้าเปลี่ยนจากผู้ชายหุ่นบึกมาเป็นผู้หญิงแทน พอจะนึกภาพออกไหมว่าจะเป็นอย่างไร ครั้งนี้ เราจะพาคุณมารู้จักกับ Rin Nakai สาวนักชกส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น ที่มาพร้อมกับกล้ามปูสุดล่ำ จนหนุ่มๆ เห็นแล้วไม่กล้าเข้ามาแหยมกันเลยทีเดียว สำหรับ Rin Nakai ได้เริ่มฝึก MMA ตั้งแต่ตอนอายุ 19 ปี โดยนับตั้งแต่ที่เริ่มเข้าวงการมา เธอสามารถสร้างผลงานได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งเคยชกชนะมาแล้ว 16 ครั้ง ชนะน็อคอีก 4 ครั้ง เสมอและแพ้เพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น ก่อนหน้าที่เธอจะได้กลายมาเป็นนักชกสาวบนศึกสังเวียน MMA เธอเคยเรียนยูโดจนได้สายดำมาแล้ว…ธรรมดาที่ไหนละ เธอนี่แหละสายโหดของจริง แม้รูปร่างจะดูบึกบึนกำยำ แต่ในเรื่องความสวย Rin Nakai ก็ไม่เป็นสองรองใครเหมือนกันนะ ต้องยอมรับเลยว่าแม่นางแน่นไปทั้งตัวจริงๆ หนุ่มเห็นแล้วถึงกับชิดซ้ายเลยละ…
-
รวมภาพหายาก จากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกเปลี่ยนเป็นภาพสี ดูงดงามและทรงพลังขึ้น!!
สงครามในอดีตที่เกิดจากความขัดแย้งนั้น นำมาซึ่งการยึดครอง การสูญเสียชีวิตมากมาย และเหตุการณ์ที่ยังอยู่ในความทรงจำของผู้คนคือ วัน D-Day ซึ่งเป็นวันยกพลขึ้นบกที่นอร์มังดี นายแพทย์ชาวอเมริกัน Jared Enos จากเมืองในรัฐ Rhode Island ของอเมริกา ซึ่งคุณหมอยังเป็นศิลปินด้วย เลยเอาภาพเหล่านี้มาทำเป็นภาพสี เพื่อให้รู้สึกเข้าถึงภาพพวกนี้มากขึ้น และเป็นการเปิดหูเปิดตาใหม่ๆ ธงของ ทีม 442 ญี่ปุ่น-อเมริกัน ในพื้นที่ Bruyere ประเทศฝรั่งเศสเมื่อ วันที่ 12 พฤศจิกายน 1944 ซึ่งทหารเกือบทั้งหมดเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น มีประมาณ 14,000 คนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาพนักโทษชาวเยอรมันใน Weywertz ประเทศเบลเยี่ยม ผู้พัน Buck Compton แห่งกรมทหารราบที่ 506 กองบินที่ 101 ซึ่งต่อมาถูกนำมาเป็นภาพยนต์ที่นำแสดงโดย Neal McDonough พลังทำลายล้างของกระสุนปืนใหญ่ขนาด 88 มม. บนชายหาดยูทาห์ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 1944 โดยมีเป้าหมายที่จะยิงไกลออกไปให้ได้ 50 ไมล์ ขบวนของกองทหารราบที่ 28…
-
คุณยายอินเดียวัย 76 ปี ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิม ชนิดที่หนุ่มสาวยังต้องยอมรับ!!
ปกติถ้าพูดถึงปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ เราอาจนึกถึงชายชราหน้าโหดๆ ที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ และมักจะถูกนำเสนอในภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับคุณยายวัยเจ็ดสิบคนหนึ่งที่ภายนอกอาจดูไม่ต่างจากคนทั่วไป แต่หารู้ไม่ เธอกลับเป็นถึงปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมของอินเดียคนหนึ่ง คุณยายท่านนี้มีชื่อว่า Meenakshi Gurukkal วัย 74 ปี จากรัฐเกรละ ทางภาคใต้ของอินเดีย เธอเป็นปรมาจารย์ทางด้านศิลปะการต่อสู้ชนิดหนึ่งชื่อว่า “กาลาริปายัตถุ” ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้แบบโบราณของชาวอินเดีย โดยศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้มีศาสตร์การป้องกันตัวหลายรูปแบบอย่างเช่น ดาบ กระบอง ซึ่งเธอสามารถใช้งานอาวุธอย่างดาบและกระบองได้อย่างคล่องแคล่วไม่แพ้หนุ่มวัยฉกรรจ์เลยทีเดียว เธอเล่าว่าเธอฝึกศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้มาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ซึ่งเป็นความต้องการของพ่อของเธอ เพราะเขาอยากให้เธอเรียนรู้วิธีป้องกันตนเองไว้ แต่ปรากฎว่า Meenakshi มีพรสวรรค์ทางด้านนี้ เธอจึงฝึกฝนเรื่อยมาและกลายเป็นผู้ชำนาญการในที่สุด หากนับเวลารวมกันแล้ว ก็เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 60 ปีเลยทีเดียว ต่อมาเธอได้แต่งงานกับ Raghavan Master ครูหนุ่มผู้คลั่งไคล้ในศิลปะการต่อสู้ซึ่งทั้งสองพบกันขณะที่ฝ่ายชายมาฝึกฝนกาลาริปายัตถุนั่นเอง ต่อมาทั้งสองได้เปิดโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้กาลาริปายัตถุขึ้นมา โดยความฝันของ Raghavan มีเพียงหนึ่งเดียวคือ ทำให้กาลาริปายัตถุกลายเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ และวันนี้เขาทำสำเร็จแล้ว ปัจจุบันนักเรียนของพวกเขาส่วนมากเป็นเด็กผู้หญิงวัย 6 ถึง…
-
ไฝว้เดือด!! วินาทีปะทะ “จระเข้ vs ฮิปโป vs วัวป่า” ความงดงามในธรรมชาติ ที่หาดูยากยิ่ง
การต่อสู้กันของสัตว์ป่านั้น นับเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะต่อสู้กับพวกเดียวกันหรือต่างสายพันธุ์ แต่ทั้งหมดก็เรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้น และเป็นความสมดุลอย่างหนึ่งในธรรมชาติ แน่นอนว่า แน่นอนว่า ผู้ล่ากับผู้ถูกล่าก็ย่อมต้องมีการปะทะกันอยู่เสมอ ปกติเราจะคุ้นชินกับภาพในสารคดีสัตว์โลก ของจระเข้ที่หมายจะเอาชีวิตวัวป่าวีลเดอบีสต์ แต่มันแตกต่างไปเพราะคราวนี้มี ฮิปโป มาแจมด้วย!!?? โดยเรื่องราวนี้ถูกบันทุึกโดยช่างภาพ Neil Goodes ชาวออสเตรเลียวัย 60 ปี… วัวป่าตัวหนึ่งกำลังกินน้ำอยู่ริมน้ำ Sabi Sands ของแอฟริกาใต้ แต่มันโชคร้าย ที่ต้องเจอเข้ากับจระเข้ผู้หิวโหยตัวหนึ่ง ตรงเข้าไปงับกรามของมัน วัวป่าพยายามจะดิ้นให้หลุดจากปากของจระเข้ แต่ดูเหมือนจระเข้จะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ จระเข้พยายามลากวัวป่าลงน้ำ และดึงวัวให้ห่างจากฝั่ง จรเข้พยายามม้วนตัวให้อยู่รอบตัวมัน และดึงวัวป่าลงใต้น้ำ จระเข้คิดว่า นี่เป็นวัวป่าจะเป็นอาหารของมันตัวเดียว แต่แล้ว… แถ่น แทน แถ๊นนนนนน ฮิปโปตัวหนึ่งโผล่มาร่วมท้าชน เหมือนวัวป่าจะจะเจอกับสถานการณ์ที่แย่ลงกว่าเดิม เพราะทั้งฮิปโปและจรเข้ ต่างก็เป็นสัตว์ที่น่ากลัวที่สุดในแอฟริกาใต้ ฮิปโปพยายามจะแยกวัวป่าออกจากจรเข้ โดยการดำน้ำลงไปแล้วดันหัวขึ้นมา่ใต้คอวัวป่า เพื่อให้มันหลุดจากปากจรเข้ ฮิปโปสู้กับจรเข้อย่างดุเดือด (ลืมไปเลยว่าเป็นมังสวิรัติ) เหมือนพยายามจะแย่งเจ้าวัวป่าให้ได้…
-
เชิญชมคลิปวีดีโอศึกการต่อสู้ระหว่าง ‘งูกับงู’ งานนี้ผู้ชนะได้เขมือบผู้แพ้ที่ตัวยาวกว่าลงท้องจนเกลี้ยง
เรียกได้ว่าถือเป็นปรากฏการณ์ที่หาชมยากมากจริงๆ สำหรับคลิปวีดีโอ ‘งูกินงู’ ที่เหมียวได้นำมาให้ชมในวันนี้ เป็นคลิปวีดีโอที่ถูกถ่ายขึ้นโดย นาย Xiao Chunhua ชาวนารายหนึ่งจากประเทศจีน โดยในขณะที่ชาวนาคนนี้กำลังเดินไปบ้านญาติของเขา จู่ๆ เขาก็บังเอิญพบงู 2 ตัว ที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ซึ่งจากคลิปวีดีโอดูเหมือนว่าเจ้างูสิงตัวสีดำ ที่ยาวกว่างูอีกตัว จะเป็นฝ่ายชนะศึกในครั้งนี้ แต่ทว่าเรื่องไม่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะนาย Xiao Chunhua เล่าว่า งูสิงตัวสีดำที่ดูจะเป็นฝ่ายชนะ ได้ฝังเขี้ยวเข้าที่หลังของงูอีกตัวจนเลือดออก แต่พอดูไปดูมา เจ้างูสิงสีดำกลับพ่ายแพ้ให้แก่เจ้างูตัวลายซะงั้น งานนี้มันเลยโดนเจ้างูตัวลายเขมือบเข้าไปทีละน้อยจนหมด โอ้ววว ช่างเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดจริงๆ เอาละ!! เรามาชมคลิปไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า ที่มา : dailymail
-
อัพเดทศึกหุ่นยนต์ยักษ์สะท้านโลก ทีมอเมริกาเผย BattleBots และ NASA ร่วมพัฒนา MegaBots Mk. II
หากยังจำกันได้เหมียวเคยนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการท้าทายศึกหุ่นยนต์ระหว่าง MegaBots จากประเทศสหรัฐอเมริกากับ Kuratas ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงกันเอาไว้ว่าให้เวลาไปพัฒนา 1 ปี และจะต้องมีการต่อสู้ระยะประชิดด้วย ล่าสุดนี้ทางทีมสหรัฐอเมริกาก็ได้เปิดระดมทุนเพื่อทำการพัฒนาหุ่นยนต์ MegaBots เวอร์ชั่นสอง (Mk.II) ซึ่งจากเดิมที่มีเพียงแค่ระบบการต่อสู้ระยะไกลเพียงอย่างเดียว ทางญี่ปุ่นขอเพิ่มการต่อสู้ระยะประชิด จึงต้องมีการปรับปรุงนิดหน่อย โดย MegaBots เวอร์ชั่นพัฒนาเพิ่มเติมนี้ จะเพิ่มในส่วนของอาวุธที่แยกส่วนออกมาได้เช่น กรงเล็บ โล่ และอุปกรณ์ขับเคลื่อนอื่นๆ อีกมากที่จะต้องทำการทดสอบเพื่อให้ได้สิ่งที่เหมาะสมที่สุด และที่เพิ่มเติมมาอีกก็คือได้รับความร่วมมือจากผู้สร้าง BattleBots และนักวิทยาศาสตร์จาก NASA ที่จะมาช่วยกันพัฒนา MegaBots ร่วมกับ MegaBots Inc. ภาพร่าง MegaBots Mk.II เวอร์ชั่นสมบูรณ์ สภาพปัจจุบันของเจ้า MegaBots Mk.II ทีมสหรัฐอเมริกาปล่อยวิดีโออัพเดทล่าสุดออกมาเป็นที่เรียบร้อย จะน่ากลัวแค่ไหนรับชมกันได้เลยจ้า ไม่รู้ว่าตอนนี้ทางฝ่ายประเทศญี่ปุ่นจะพัฒนาส่วนไหนอะไรยังไงเพิ่มเติมแล้วบ้างกับเจ้าหุ่นยนต์ Kuratas จะมีการร่วมมือพัฒนาระหว่างบริษัทหุ่นยนต์ในญี่ปุ่นด้วยรึเปล่า ก็คงต้องรอติดตามกันแล้วล่ะ!! ส่วนใครที่ตามไม่ทันว่าศึกครั้งนี้ยิ่งใหญ่แค่ไหน ลองมาอ่านข้าวเก่าได้ที่นี่เลยจ้า ที่มา : thechive