Tag: การเลี้ยงดู
-
‘ฉันคือเจ้าหญิง’ สาวเผยชีวิตที่ถูกแม่เลี้ยงด้วย “เงิน” และ “ของแบรนด์เนม” แทนความรัก
หลายคนคงอยากจะมีชีวิตที่มีเงินใช้ไม่ขาดมือ อยากได้อะไรก็สามารถนำมันมาครอบครองได้เพียงแค่ใช้เงินซื้อ ไม่ต้องพยายามทำอะไรมากมายชีวิตก็สุขสบาย แต่ที่ความจริงข้อหนึ่งคือ เงินไม่สามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ นี่คือชีวิตของสาววัย 15 ปีที่ชื่อว่า Nicolette ที่ได้มาเปิดเผยชีวิตของเธอในรายการ Dr.Phil Nicolette ใช้ชีวิตอยู่กับ Nina คุณแม่ของเธอที่เมือง Beverly Hills รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอผู้เกิดมาเพรียบพร้อมทุกอย่างกับไลฟ์สไตล์ชีวิตที่หลายๆ คนอิจฉา ชีวิตที่สิ่งต่างๆ สามารถซื้อได้ด้วยเงิน สิ่งที่แม่ได้มอบให้กับเธอนอกจากเงินและความสุขสบายในชีวิตแล้ว เธอไม่ต้องไปโรงเรียนเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ เธอเรียนที่บ้าน มีคนขับรถส่วนตัว พี่เลี้ยงส่วนตัว และเทรนเนอร์ส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีบัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงิน ทำให้เธอสามารถใช้จ่ายอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายๆ คนอาจจะเริ่มอิจฉาชีวิตของสาวน้อยคนนี้แล้ว แต่ทว่าชีวิตของเธอนั้นขาดสิ่งที่เงินไม่สามารถซื้อได้นั่นก็คือ เวลาจากแม่ของเธอเอง แม่ของเธอเลี้ยงดูเธอด้วยเงินจนเธอเริ่มตกสู่วังวน ตกเป็นทาสของแบรนด์เนมไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ซึ่งแต่ละชิ้นมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท . ตลกร้ายยิ่งกว่านั้น สาวน้อยคนนี้เริ่มถูกครอบงำด้วยสิ่งของ เธอใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อชดเชยในสิ่งที่แม่ไม่สามารถให้เธอได้…
-
แม่แมวเลี้ยงลูกเป็ดกำพร้ามาตั้งแต่แบเบาะ จนในตอนนี้เจ้าเป็ดได้คิดว่าตัวเองเป็นแมวไปซะแล้ว
สัตว์ต่างๆ เมื่อเกิดมาใหม่ๆ ก็ต้องมีผู้ดูแลทั้งนั้น เพราะว่าด้วยความที่มันยังไร้เดียงสา รวมถึงยังมีสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยสมบูรณ์นัก ทำให้มันต้องได้รับการประคบประหงมดูแลเอาใจใส่อย่างดีที่สุด รวมถึงเรื่องที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ วัยแบเบาะเป็นวัยแห่งการเรียนรู้และจดจำ ดังนั้นประสบการณ์ที่ได้รับในวัยนี้อาจจะเป็นตัวกำหนดอนาคตเลยก็เป็นได้ เหมือนกับลูกเป็ดตัวนี้ที่ได้รับการดูแลจากแม่แมวตั้งแต่มันยังเป็นเพียงแค่ลูกเป็ดตัวน้อยๆ จนในตอนนี้มันคิดว่าตัวเองได้กลายเป็นแมวเหมือนกับครอบครัวของมันไปซะแล้ว ลูกเป็ดที่ได้รับการช่วยเหลือมาจากการถูกทิ้ง โดยเรื่องราวสุดแปลกแต่น่ารักนี้เกิดขึ้นที่รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อหญิงสาวที่ทำงานอยู่ที่ฟาร์มชื่อว่า Homebush ได้บังเอิญไปเจอลูกเป็ดตัวหนึ่งที่ถูกทิ้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวและขาดคนดูแล เธอจึงตัดสินใจนำมันกลับมาอยู่ด้วยกันซะเลย เดินตามแม่ของมันอย่างไม่ห่างเลย ทว่าเมื่อไปถึงที่ฟาร์มแห่งนั้น ก็มีแมวตัวหนึ่งชื่อว่า Unicorn ที่ดูสนใจในตัวเป็ดตัวนี้ และเหมือนกับว่ามันมีความผูกพันกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน จนในที่สุดแมวตัวนี้ก็ได้กลายเป็นผู้ปกครองของลูกเป็ดตัวนี้ไปโดยปริยาย นอนก็นอนด้วยกัน กินก็กินด้วยกัน เจ้า Unicorn ได้ดูแลเป็ดตัวนี้เป็นอย่างดีและได้พาไปอยู่กับครอบครัวของมันด้วย ทำให้สุดท้ายแล้วเจ้าเป็ดตัวนี้ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแมว ซึ่งพวกเขาเรียกเป็ดตัวนี้ว่า Kitty the Duck ซึ่งเปรียบเปรยถึงลูกแมวในคราบของเป็ดน้อย ซะเลย ในตอนนี้ถึงแม้ว่าเป็ดตัวนี้จะมีวัยที่โตขึ้นตามกาลเวลา แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนก็คือ มันยังคงมีความรักและใช้เวลาร่วมกับครอบครัวแมวเหมียวของมันเช่นเดิม และดูเหมือนกับว่าในตอนนี้ เจ้าเป็ดก็อาจคิดว่าตัวเองได้กลายเป็นเจ้าเหมียวไปซะแล้วล่ะ ความน่ารักของเจ้าเป็ดที่คิดว่าตัวเองเป็นแมวตัวนี้ (ดูไม่ได้คลิกที่นี่) When you just to big to sit on Mum’s…
-
ชีวิตของลูกสาวผู้โชคดี ที่มีคู่พ่อเศรษฐีเลี้ยงดูมันเป็นยังไง ‘ทั้งเปย์ไม่ยั้งและให้ไม่อั้น’
สาวๆ บางคน เวลาเปิดไปดูไอจีของคนอื่นที่ถ่ายรูปคู่กับเสื้อผ้าราคาแพง ก็จะทำให้รู้สึกแอบอิจฉาอยู่ในใจ แต่สำหรับหญิงสาววัย 18 ปีคนนี้ เธออาจจะไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นมาก่อน เพราะไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าราคาแพงขนาดไหน พ่อเธอก็จัดให้ได้แทบทั้งหมดอยู่แล้ว สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่า Saffron Drewitt-Barlow หญิงสาวชาวอังกฤษผู้ที่อยู่ในครอบครัวอันแสนร่ำรวยมั่งคั่ง พิสูจน์ได้จากค่าขนมที่เธอได้เดือนละมากกว่า 200,000 บาท และข้าวของในตู้เสื้อผ้าของเธอที่รวมกันเป็นเงินกว่า 43 ล้านบาท Saffron สาวผู้มีเสื้อผ้าและะเครื่องประดับราคาแพงเอาไว้มากมาย เธอและพี่ชายฝาแฝด Aspen คือสองคนแรกที่ถูกบันทึกไว้ในประเทศอังกฤษ ว่ามีพ่อสองคนโดยที่ไม่มีแม่เลยซักคน ซึ่งพ่อของทั้งสองก็คือ Barrie และ Tony คู่เกย์คู่แรกในอังกฤษที่ใช้วิธีการฝากผู้หญิงคนอื่นตั้งครรภ์แทน จนออกมาเป็นฝาแฝดสองคนนี้ พอเวลาผ่านไป คุณพ่อทั้งสองก็ใช้วิธีการแบบเดียวกันในการให้กำเนิดลูกชาย Orlando และฝาแฝด Jasper กับ Dallas ตามกันมา โดยพวกเขายังตั้งใจเอาไว้ว่าอยากมีลูกสาวเพิ่ม เพราะในบ้านมีผู้ชายเยอะเหลือเกิน ครอบครัวมหาเศรษฐีที่มีลูกสาวแค่คนเดียวในตอนนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า มีลูกเยอะขนาดนี้แล้วจะเลี้ยงไหวหรือเปล่า? มีเงินพอส่งเสียลูกทุกคนได้เหรอ? คำตอบคือคุณพ่อสองคนนี้มีมากกว่าที่คุณคิดเยอะ เพราะทั้งสองคือหนึ่งในคนที่ล่ำซำที่สุดแห่งอังกฤษเลยก็ว่าได้ พวกเขามีทรัพย์สมบัติอันมหาศาล เพียงพอที่จะจับจ่ายหาซื้อความสุขให้กับตัวเองและลูกๆ ของพวกเขา…
-
ความแตกต่างของภาพสแกนสมองของเด็กสองคน คนไหนถูกรักคนไหนถูกทำร้าย!?
การเลี้ยงดูเด็กเป็นเรื่องสำคัญเพราะมันคือการวางรากฐานให้พวกเขาสามารถเจริญเติบโตต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเราสามารถพิสูจน์ความแตกต่างของเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูที่ดีกับเด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างทารุณหรือปล่อยปละละเลยได้ ผ่านภาพสแกนสมองนี้ ภาพด้านล่างคือการเปรียบเทียบสมองของเด็กวัย 3 ขวบสองคน ที่มีความแตกต่างกันในเรื่องของการเลี้ยงดู ด้านซ้ายคือสมองของเด็กที่ถูกเลี้ยงมาอย่างทะนุถนอมและได้รับการดูแลเอาใจใส่ ด้านขวาเป็นสมองของเด็กที่ถูกเลี้ยงมาอย่างทารุณ ปล่อยปละละเลย และถูกกีดกันการรับรู้ต่างๆ สมองด้านซ้ายจากเด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี สมองด้านขวาของเด็กที่ถูกเลี้ยงมาอย่างทารุณ ภาพนี้ถูกแชร์โดยศาสตราจารย์ Bruce Perry หัวหน้าฝ่ายจิตเวชของโรงพยาบาลเด็กในรัฐเท็กซัส โดยเขาต้องการให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาการทารุณกรรมเด็กว่ามันส่งผลร้ายแรงมากขนาดไหน เห็นได้ชัดว่าสมองทางด้านขวามีขนาดเล็กกว่ามาก และมีลักษณะที่แตกต่างจากสมองของเด็กอีกคนอย่างชัดเจน เพราะการขยายตัวของโพรงในสมองและเยื่อหุ้มสมองเสื่อมที่สามารถสังเกตเห็นได้ ปัญหาที่ตามมาจากลักษณะของสมองที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในแบบนั้นก็คือ การเจริญเติบโตของเด็กจะช้ากว่าปกติและมีปัญหาในเรื่องของความจำจากการที่เยื่อหุ้มสมองเสื่อม ซึ่งอาการดังกล่าวพบได้ในคนแก่ผู้ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ภาพในลักษณะเดียวกันจากการศึกษาของมหาวิทยาลัย Oxford ในปี 2010 ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ต่างกับภาพที่เราได้เห็นในปัจจุบัน ผลกระทบทางกายภาพไม่ได้เกิดขึ้นกับสมองของเด็กเพียงอย่างเดียว งานวิจัยอื่นๆ ได้บอกว่าเด็กที่ถูกทารุณมีความเชื่อมโยงที่อาจทำให้พวกเขาป่วยเป็นโรคหัวใจหรือโรคอ้วนได้ในอนาคต นี่จึงเป็นปัญหาระยะยาวที่ส่งผลเสียอย่างมาก ไม่ใช่เพียงแต่ด้านร่างกายแต่รวมถึงด้านจิตใจการเข้าสังคมของเด็กอีกด้วย ด็อกเตอร์ Perry บอกว่าหากเด็กถูกกีดกันจากโลกภายนอก ไม่ได้ทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก พอพวกเขาโตขึ้นอาจกลายเป็นคนที่พึ่งพาคนอื่นอยู่เสมอ หรือไม่งั้นก็อาจเข้ากับคนอื่นได้ยาก นอกจากนั้นยังได้มีการพูดถึงความสำคัญของการเลี้ยงดูจากคนเป็นแม่ โดยงานวิจัยก่อนหน้านี้ของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน นักวิจัย Joan Luby ได้ทำการวิเคราะห์เด็กจำนวน 127 คนตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มเข้าโรงเรียน ไปจนถึงตอนเป็นวัยรุ่น เพื่อหาความแตกต่างระหว่างการเลี้ยงดูจากแม่ที่เอาใจใส่…
-
12 แนวคิดการเลี้ยงลูกจาก “ราชวงศ์อังกฤษ” ที่พ่อแม่ทุกคน สามารถเรียนรู้มาเป็นแบบอย่าง…
คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจเคยศึกษาวิธีการดูแลลูกกันมาแล้ว แต่ที่เรานำมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้กันครั้งนี้คือ วิธีการเลี้ยงลูกของคนในราชวงศ์อังกฤษ ทั้งหมดนี้คือแนวคิดของดยุคและดัชเชสแห่งแคมบริดจ์ ที่ทรงใช้ในการเลี้ยงดูพระโอรส George และพระธิดา Charlotte ซึ่งบอกได้เลยว่าวิธีต่างๆ พวกเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้เองจริงๆ มีอะไรบ้างลงไปดูกันได้เลย ไม่ว่าจะอยู่ในระดับหรือชนชั้นใด ก็ไม่ควรมีชีวิตที่สุขสบายมากเกินไป ในครอบครัวนี้มีพี่เลี้ยงเด็กเพียงแค่หนึ่งคนเท่านั้น เพราะเชื่อว่าหน้าที่การเลี้ยงดู อาบน้ำลูกน้อย หรือพาเด็กไปเดินเล่น ควรเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ ซึ่งนั่นทำให้ทั้งครอบครัวสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น เคารพหน้าที่การงานของคนอื่นๆ เด็กๆ ควรได้รับการเรียนรู้ว่างานทุกงานมีคุณค่าเสมอ แม้จะเป็นงานเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตก็ตามอย่างเช่น คุณแม่ทำกับข้าวให้ทาน หรือแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดห้อง แนวคิดนี้จึงทำให้พระโอรสและพระธิดากินอาหารครบทุกมื้อและเก็บห้องของตัวเองอยู่เสมอ เพราะเห็นว่าทุกงานมีคุณค่าที่ควรทำ ครอบครัวต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นการดูแลกันหรือมีเวลาให้คือสิ่งที่ดีอย่างมาก จากความคิดนี้ทำให้พระโอรสและพระธิดามักใช้เวลาอยู่กับสิ่งต่างๆ ร่วมกับครอบครัวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยทั่วไปหรือการกินอาหาร ทุกคนมีสิทธิ์แสดงออกทางความคิดและความรู้สึกของตัวเอง แม้คนในราชวงศ์ส่วนใหญ่อาจต้องอยู่ภายใต้การถูกยับยั้งในหลายเรื่อง แต่การปล่อยให้เด็กแสดงอารมณ์และความคิดของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ จะช่วยพัฒนาการอยู่ร่วมกับคนในสังคมของตัวเด็กเองได้ การศึกษาคือสิ่งสำคัญ อันดับหนึ่ง การเรียนรู้อย่างเช่นการอ่านหนังสือ คือสิ่งสำคัญที่ควรให้เด็กได้ลงมือทำกันบ่อยๆ รวมถึงการพาไปพิพิธภัณฑ์หรือแหล่งการเรียนรู้ในที่ต่างๆ ก็ถือว่าเป็นวิธีการที่ดี…