Tag: กาแฟ
-
เมื่อเมนูต่างๆ ของ “กาแฟ” กลายเป็นตัวการ์ตูน จะมีหน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้างนะ!?
สำหรับคนหัวศิลป์ แรงบันดาลใจในการวาดภาพมันเกิดขึ้นได้จากทุกอย่างจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นนก ไม้ ธรรมชาติ หรือของรอบกาย ก็สามารถนำมาประยุกต์เป็นผลงานภาพอันเก๋ไก๋ได้เสมอ อย่างเช่นศิลปินจากลอนดอน Marija Tiurina คนนี้ ที่ออกแบบตัวการ์ตูนออกมาได้อย่างน่ารักน่ารักชัง เพราะได้รับแรงบันดาลใจจากเมนูต่างๆ ของ กาแฟ นั่นเอง จากกาแฟเครื่องดื่มสีน้ำตาลจนถึงดำ จะกลายมาเป็นตัวการ์ตูนที่เป็นคนมีแขนขาได้น่ารักขนาดไหน เราไปชมผลงานของศิลปินคนนี้พร้อมๆ กันเลยดีกว่า! 1. Espresso เน้นความเข้มผสมผสานกับความละมุน 2. Cappuccino เน้นความอ่อนหวานและฟูฟ่อง 3. Latte เน้นความอ่อนหวานเรียบง่ายเข้ากันได้กับทุกๆ คน 4. Flat White ไม่เข้มแต่มีเสน่ห์ 5. Mocha ความเข้มที่ภายในนั้นอ่อนหวาน 6. Long Black เข้มๆ ตรงๆ เข้าถึงยาก 7. Cortado ความละมุนที่ใครๆ ก็หลงใหล 8. Frappuccino สวยใสสไตล์โมเดิร์น และนี่ก็คือภาพรวมตัวละคร…
-
มาดูเมนูกาแฟ “แก้วเด็ด” ของแต่ละประเทศทั่วโลก วัฒนธรรมแตกต่าง…กาแฟก็ต่างด้วย!
การดื่มกาแฟที่ใครหลายคนอาจทำเป็นกิจวัตรประจำวัน และเอร็ดอร่อยไปกับมันในยามเช้า หารู้ไม่ว่าแต่ละประเทศทั่วโลกก็มีวิถีการดื่มกาแฟเป็นของตัวเอง แถมแตกต่างจากบ้านเรามากเสียด้วย ไปดูกันว่า ประเทศต่างๆ ในโลกมีประเทศใดบ้างที่มีการดื่มกาแฟที่ต่างจากบ้านเรา และแตกต่างจากที่เราทราบกันอย่างไรบ้าง… Kaffeost (ฟินแลนด์) ชาวฟินแลนด์บางกลุ่มจะชอบรินกาแฟร้อนใส่บนก้อนลิ่มชีส (Juustoleipä) เพื่อจะได้รับรสชาติของกาแฟตามแบบฉบับกิจวัตรของชาวฟินแลนด์ Türk Kahvesi (ตุรกี) กาแฟที่ดีของชาวตุรกีนั้นจะต้องดื่มไปพร้อมกับตะกอนกาแฟที่ตกอยู่ก้นแก้ว เพราะกาแฟของชาวตุรกีนั้นเคี่ยวด้วยหม้อทองเหลืองก่อนดื่มและไม่ผ่านการกรองใดๆ ทำให้มีตะกอนตกอยู่เสมอๆ Yuanyang (มาเลเซีย) กาแฟสำหรับชาวมาเลเซียนั้นดื่มตอนกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ มีทั้งแบบเย็นและแบบร้อน โดยจะมีอัตราส่วนผสมก็คือ กาแฟดำ 3 ส่วน และชานมฮ่องกงอีก 7 ส่วนนั่นเอง Frappe (กรีซ) เป็นกาแฟสำเร็จรูปชงเย็นพร้อมโฟมนม ริเริ่มโดย Nescafé ในปี 1957 และภายหลังก็กลายเป็นเมนูโปรดของชาวกรีซไปเลย Espresso Romano (อิตาลี) ชาวอิตาลีนั้นเป็นนักดื่มกาแฟของแท้ พวกเขาเชื่อว่ากาแฟเอสเปรสโซที่เราดื่มกันนั้นจะยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นเมื่อฝานมะนาวใส่ลงไปสัก 1 ซีก ว่ากันว่ามันจะดึงเอารสชาติของเมล็ดกาแฟออกมามากขึ้น Cà phê đá (เวียดนาม) กาแฟรสหวานผสมขมนี้เป็นหนึ่งในกาแฟอันที่ชาวเวียดนามโปรดปราน…
-
‘นายกฯ เนเธอร์แลนด์’ เผลอทำกาแฟหก แย่งไม้ถูพื้นจากแม่บ้านหน้าตาเฉย…
เมื่อมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงในระดับประเทศ ย่อมมีผู้คนห้อมล้อมคอยเป็นบริวารอันถือว่าธรรมดาตามฐานะสังคม แต่คุณจะเชื่อหรือไม่ว่า ผู้ใหญ่บางท่านกลับยังปฏิบัติตนเหมือนคนสามัญชนทั่วไป ตัวอย่างดีๆ จากนาย Mark Rutte นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ กำลังเดินเข้ารัฐสภา ผ่านหน้าจุดตรวจความปลอดภัยมาได้ พร้อมกับกาแฟแก้วน้อยๆ ของเขา ทว่ากาแฟแก้วที่ว่าดันหกเลอะเทอะบนพื้นเสียนี่… แม้จะมีหน้าที่การงานใหญ่โต แทนที่จะให้แม่บ้านมาจัดการตามหน้าที่ แต่เมื่อทำอะไรลงไปก็ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง เขาไม่รอช้าคว้าไม้ถูพื้นจากแม่บ้านมา ถูคราบกาแฟเองท่ามกลางเสียงของแม่บ้าน ฮร่าาาา เช็ดถู เช็ดถู อยู่นานสองนาน ดูเหมือนท่านนายกยังไม่พอใจกับความสะอาด ถึงขั้นถามแม่บ้านว่าจะปรับความยาวก้านจับไม้ยังไงกันเลยทีเดียว เขากำไม้ไว้แน่นไม่ยอมปล่อยพร้อมกับถูพื้นแถมให้อีก… ความน่ารักของนาย Mark Rutte นอกจากจะถูพื้นเองแล้ว เขาก็ยังเคยปั่นจักรยานไปทำงานด้วยนะ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ประชาชนคนทั่วไป หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมในวันที่พร้อมจะทำ และเคยปั่นจักรยานไปเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์เนเธอร์แลนด์ด้วยเช่นกัน เดินทางเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์ด้วยการปั่นจักรยาน ขนาดอยู่ในวังยังต้องล็อค วันธรรมดาก็ปั่นไปทำงาน สื่อมวลชนรออยู่ โบกมือทักทายสักหน่อย ไปแล้วน้าาาาาา ที่มา: euronews, tribune,…
-
เทียบกันชัดๆ ‘ขายกาแฟ vs ขายน้ำมัน’ ปตท. รวยจากอะไรมากกว่ากัน!?
จากที่กล่าวไปแล้วในบทความก่อน ถึงข้อมูลของบริษัทในเครือของ ปตท. จะทราบว่าปตท.นั้นไม่ใช่บริษัทที่ขายแต่น้ำมันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น รายได้นั้นยังรวมไปถึงธุรกิจขายกาแฟอย่าง ‘คาเฟ่อเมซอน’ ที่ปตท.เองก็เป็นเจ้าของอยู่ด้วย ซึ่งพักหลังๆ มานี้กาแฟจากคาเฟ่อเมซอนก็ขายดิบขายดี จนมีรายได้แซงแบรนด์กาแฟชื่อดังอย่าง สตาร์บักส์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีนี้ เรามาลองเทียบกันดูดีกว่าว่า ยอดขายของคาเฟ่อเมซอนจะเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับยอดขายของ ‘น้ำมัน’ ของบริษัทปตท. จากข้อมูลของเว็บไซต์ ลงทุนแมน ระบุเอาไว้ว่า ในปี 2559 คาเฟ่อเมซอนนั้นทำยอดขายได้มากถึง 140 ล้านแก้ว มีรายได้เป็นมูลค่า 8,000 ล้านบาท คิดเป็นกำไรแล้วประมาณ 2,000 ล้านบาทเลยทีเดียว!! หากนำมาเทียบกับข้อมูลจากเว็บไซต์ ลงทุนศาสตร์ พบว่า ยอดขายน้ำมันแบบปลีกของ บริษัท PTTOR และบริษัทย่อยอื่นๆ ที่อยู่ในเครือ ปตท. ในปี 2559 มีรายได้สูงถึง 51,503 ล้านบาท แต่ส่วนที่เป็นกำไรมีเพียง 821 ล้านบาทเท่านั้น นั่นหมายความว่าหากมองในเรื่องของยอดกำไรในปี 2559 แล้วจะพบว่า คาเฟ่อเมซอนนั้นทำได้ดีกว่าการขายปลีกน้ำมันเสียอีก!!…
-
15 ไอเดียเด็ดๆ สำหรับคาเฟ่กาแฟ บริการเสิร์ฟความล้ำหน้าปี 3018 ทะลุสู่ยุค 5.0
ปฏิเสธไม่ได้ว่ายิ่งอยู่ในวัยเรียนมหาวิทยาลัยหรือวัยทำงาน ใครๆ ต่างก็ต้องการแหล่งพลังงานขั้นที่ 2 นอกเหนือจากการนอน ต้องกระตุ้นตัวเองทำกิจกรรมต่างๆ ให้เสร็จสิ้นภายในแต่ละวัน หากจะแวะไปร้านกาแฟ สั่งปุ๊บ รอจ่ายเงิน คว้าแก้วกาแฟออกมานั่งจิบก็จบเรื่อง ทว่าหากร้านกาแฟเริ่มยกระดับใส่ใจคุณภาพที่นอกเหนือจากกาแฟ ก็ยิ่งช่วยทำให้ลูกค้าอยากจะแวะเติมพลังอยู่เสมอ ก็เพราะมันดีทั้งกาแฟและบริการยังไงล่ะ!! อยากให้ลูกค้าประทับใจ ปริ้นท์หน้าลูกค้าลงบนฟองนมไว้เลยทีเดียว มิติใหม่แห่งกาแฟเย็น แช่แข็งเป็นก้อนทั้งกาแฟและน้ำแข็ง (จะดูดกินต้องรอละลายอีก) มีเวลาว่างระหว่างรอกาแฟ งั้นก็ไปช่วยเก็บขยะบนชายหาดให้หน่อย เดี๋ยวให้กาแฟฟรีแก้วนึง (แคมเปญนี้ดีอยู่นะ) ร้านนี้แจกกากกาแฟฟรี ให้ลูกค้าหยิบไปใช้ทำสวนต่อได้ ลดการใช้ก้านคนพลาสติก เปลี่ยนเป็นเส้นพาสต้าแทน!? บอร์ดถามตอบ กาแฟสูตรไหนใส่อะไรบ้าง เห็นเป็นภาพชัดเจน หรือจากลากเป็นแผนผังส่วนผสมไว้ให้ ก็เก๋ไก๋ชัดเจนไม่น้อย น้ำร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสม แยกไว้เฉพาะแต่ละสูตรชากันเลย ฐานร่มด้านนอกร้าน นอกจากจะได้นั่งชาร์จตัวเองแล้ว แวะชาร์จโทรศัพท์ได้ด้วย ยิ่งพูดสุภาพยิ่งได้กาแฟราคาถูก (พูดเพราะๆ กับบาริสต้ายิ่งได้หวานเพิ่ม ฮร่า) อยากเติมครีม เติมอย่างอื่น กดเองได้ทันที…
-
ญี่ปุ่นเจ๋ง Asahi ออกเครื่องดื่มใหม่ กาแฟลาเต้ “สีใส” ไร้คาเฟอีน ใสจนนึกว่าน้ำเปล่า!!
พอพูดถึงกาแฟแล้ว แน่นอนว่าหลายคนต้องคิดถึง “สีดำ” อย่างแน่นอน แล้วถ้าบอกว่าเป็นกาแฟนมแบบลาเต้ล่ะ คุณก็คงต้องตอบว่า “สีน้ำตาลอ่อน” กันแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ? แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มใหม่ของ Asahi ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน ถึงจะบอกว่าเป็นเครื่องดื่มกาแฟลาเต้ แต่เครื่องดื่มขวดนี้กับไม่มีสี!! แถมยังใสราวกลับน้ำเปล่าอีกด้วย… ช่วงก่อนหน้านี้ถ้าใครได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นล่ะก็ จะพบว่าตามร้านค้าหรือร้านสะดวกซื้อจะมีน้ำรสชาติต่างๆ วางขายเป็นเวอร์ชันใสๆ เต็มไปหมด เช่น น้ำพีชใส น้ำองุ่นใส น้ำส้มใส หรือแม้แต่โยเกิร์ตใสก็มีมาแล้ว งานนี้ถึงตา กาแฟลาเต้ใส ครองตลาดบ้างล่ะ!! แต่รู้หรือไม่ว่า ที่ยิ่งไปกว่าสีใสๆ ของมันก็คือการที่มันเป็นเครื่องดื่มกาแฟลาเต้ที่ผ่านกระบวนการผลิตด้วยวิธีต่างๆ ทางวิศวกรรมและเคมี จนกลายเป็นกาแฟลาเต้รสชาติละมุน ใส ไร้น้ำตาล แถมไม่มีคาเฟอีนอีกด้วย!! นี่คือหนึ่งขวดในขนาด 600 มิลลิลิตร ด้านหลังขวดก็เขียนรายละเอียดต่างๆ บอกเอาไว้ ห่างส่องดูจากก้นขวดจะเห็นได้ชัดเลยว่า “ใส” ราวกับน้ำเปล่าแน่ะ และนี่คือเครื่องดื่มไอเดียบรรเจิดจาก Asahi แถมบนฝามีลูกศรชี้ด้านเปิดขวดเสียด้วย …
-
โชเน็นจัมป์ฉลอง 50 ปี ทำกาแฟกระป๋องลายการ์ตูน ให้แฟนพันธุ์แท้สะสม 40 แบบ!!
เชื่อว่าในบรรดาคนที่ติดตามการ์ตูนญี่ปุ่น คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ยอดนิยมอย่าง โชเน็นจัมป์เป็นแน่ เพราะนี่คือนิตยสารมังงะที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่นที่มีมังงะชื่อดังตีพิมพ์อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดราก้อนบอล วันพีซ บลีช นารูโตะ และเกมกลคนอัจฉริยะเป็นต้น และนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์เล่มนี้ก็เริ่มตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1968 เสียด้วย นั่นหมายความว่าปีนี้จะเป็นปีที่มีการฉลองครบรอบ 50 ปีของนิตยสารโชเน็นจัมป์นั่นเอง และแน่นอนว่าในโอกาสการฉลองครั้งยิ่งใหญ่แบบนี้ ย่อมต้องมีการจัดกิจกรรมหรือออกสินค้าอะไรมาเป็นธรรมดา ในปีนี้นิตยสารโชเน็นจัมป์ได้ทำการจับมือกับบริษัท Georgia ผู้ผลิตกาแฟกระป๋องรายใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อออกสินค้ากาแฟกระป๋องรูปแบบใหม่ที่มาพร้อมกับตัวการ์ตูนยอดนิยมจากทางโชเน็นจัมป์นั่นเอง สินค้ารูปแบบใหม่ทั้ง 40 แบบ โดยเจ้าสินค้าตัวที่ว่านี้คือกาแฟกระป๋องที่มีการ พิมพ์ตัวการ์ตูนที่ตัดมาจากบรรดามังงะยอดนิยมของโชเน็นจัมป์ และมีการเปลี่ยนบทพูดไปเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับตัวกาแฟมากขึ้น แต่มันไม่ใช่แค่นั้น เพราะในทุกๆ กระป๋องของกาแฟที่ว่านี้จะมีรหัสที่สามารถนำไปใส่ในแอปพลิเคชันโชเน็นจัมป์ในมือถือ เพื่ออ่านการ์ตูนตอนที่มีการนำรูปมาขึ้นบนกระป๋องฟรีหนึ่งตอน แถมถ้าหากว่ามีการใช้รหัสที่ว่านี้ 5 ครั้งในระหว่างวันนี้ ถึงวันที่ 3 มิถุนายน คุณยังมีสิทธิ์ลุ้นรับกาแฟกระป๋องลายพิเศษที่หาไม่ได้ด้วยวิธีอื่นอีก 5 แบบ และถ้าใส่รหัสอีก 5 อันภายในวันที่ 4-16 มิถุนายน คุณก็จะมีสิทธิ์รับกาแฟกระป๋องลายพิเศษไปอีก 5 แบบ รวมทั้งหมดเป็น 10 แบบ ซึ่งจะนำมาส่งให้คุณถึงที่บ้าน (ถ้าคุณอยู่ในญี่ปุ่นอ่ะนะ) ตัวอย่างรูปภาพกระป๋องก็มีดังนี้เลย Izuku Midoriya จาก My Hero…
-
นี่มันกาแฟหรือยาอายุวัฒนะเนี่ย!? 6 คุณสมบัติทางสุขภาพของกาแฟที่มีงานวิจัยพิสูจน์แล้ว
กาแฟเป็นของที่หลายๆ คนเลือกที่จะดื่มในเวลาง่วงๆ แต่ไม่สามารถนอนได้ ไม่ว่าจะขับรถ กำลังทำงาน อ่านหนังสือสอบ หรือเล่นเกม(!?) มันเป็นเครื่องดื่มที่เด็กๆ อาจจะบอกว่าขม แต่ก็ช่วยชีวิตการทำงานของผู้ใหญ่หลายๆ คนได้เป็นอย่างดี แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วกาแฟมีสมบัติมากกว่านั้น โดยเฉพาะในทางสุขภาพ วันนี้ #เหมียวศรัทธา จะพาทุกคนไปรู้จักกับ 6 คุณสมบัติทางสุขภาพของกาแฟมีงานวิจัยพิสูจน์แล้ว และเพื่อนๆ จะรู้ว่า กาแฟที่เราดื่มๆ กันนั้น แท้จริงแล้วมีอะไรมากกว่าที่เราคิด กาแฟจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับแข็งได้ นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัย Mario Negri ในอิตาลีพบว่าการบริโภคกาแฟสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นตับแข็งได้มากถึง 50% กาแฟลดโอกาสในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ และโรคพาร์คินสันได้ นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิจัยโรคอัลไซเมอร์ที่เมืองแทมปา รัฐฟลอริดาได้ทำการศึกษาเพื่อตรวจสอบผลกระทบของการดื่มกาแฟต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์ และผลการวิจัยพบว่าการดื่มกาแฟ 3 แก้วต่อวันสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ถึง 65% ส่วนนักวิจัยจาก สหพันธ์มหาวิทยาลัย Santa Catarina ประเทศบราซิลก็กล่าวว่าการดื่มกาแฟเป็นประจำสามารถช่วยป้องกันโรคพาร์คินสันได้ โดยจะทำให้ความเสี่ยงของการเป็นโรคดังกล่าวลดลงได้ถึง 20% กาแฟลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้ แม้จะมีความเชื่อที่ว่าการทานกาแฟอาจจะทำให้เป็นโรคมะเร็งได้แต่จากการวิจัยที่ดำเนินการโดยกรมการศึกษาทางคลินิกเพื่อสุขภาพที่มหาวิทยาลัยมิลาน และภาควิชาโรคระบาดวิทยาของสถาบัน Mario Negri ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าการบริโภคกาแฟนั้น แท้จริงแล้วสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมากได้…
-
ข้าเซ็งหลาย… บ่าวขี่ม้าต่อคิว “แมคฯ ไดรฟ์ทรู” ไยเจ้าไม่ใยดี เทียบเท่าม้าเหล็กไม่ได้รึ!?
บริการเพื่อความสะดวกสบายของร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด สำหรับลูกค้าที่ไม่ว่างพอจะเข้าไปต่อคิวสั่งอาหารในร้าน บริการไดรฟ์ทรูก็เกิดมาเพื่อตอบสนองในส่วนนี้ โดยที่ลูกค้าไม่จำเป็นจะต้องลงมาจากยานพาหนะเลยแม้แต่ก้าวเดียว แต่ด้วยความที่โลกของเรามาถึงยุคสมัยที่ไม่มีใครใช้ม้าเป็นยานพาหนะแล้ว มีเพียงแต่ม้าเหล็กที่เคลื่อนตัวเข้าคิวต่อแถวรับอาหารที่ตัวเองสั่ง แล้วม้าจริงๆ ล่ะ? จะสามารถเข้ามาต่อคิวได้เหมือนเช่นยานพาหนะอื่นๆ ได้หรือไม่ ทำไมล่ะ? ข้าจะขับม้ามาสั่งอาหารไม่ได้หรือ? ชายหนุ่มรูปไม่เชิงงามและไม่ใช่เจ้าชาย ถูกพบในบริเวณให้บริการไดรฟ์ทรูของร้านแมคโดนัลด์แห่งหนึ่ง โดยที่เขาก็พยายามเข้าคิวต่อแถวเหมือนกับคนอื่น แต่กลับถูกพนักงานของทางร้านปฏิเสธให้การบริการ ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาต้องลงจากม้าเสียก่อน… ได้ยินแล้วก็รู้สึกเสียใจนิดๆ Jason Barrett วัย 43 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ชายขี่ม้ามาเข้าคิวไดรฟ์ทรู กำลังเข้าคิวต่อแถวเพื่อจะสั่งชุดอาหารเที่ยง แต่ชายคนดังกล่าวกลับถูกบังคับและปฏิบัติในระดับสองมาตรฐานจากทางร้านแมคโดนัลด์ ในชุมชนซัฟฟอล์ก ประเทศอังกฤษ “ผมต้องใช้เวลาเข้าสั่งอาหารถึงสองครั้ง เพราะคุณจะไม่ได้เห็นแบบนี้ทุกวันหรอก แต่เท่าที่ผมมองไปรอบๆ ไม่เห็นว่าจะมีใครรู้สึกถูกรบกวนเลย ผมคิดว่าผู้คนก็คงเคยชินไปแล้วล่ะ” รอข้าอยู่ที่นี่นะ ข้าจักไปไม่นานนัก… “เขาเข้าคิวเพื่อจะสั่งอาหารและพนักงานก็ได้ออกมาพูดคุยกับเขา ด้วยใจความว่า ‘คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ เพราะบริการไดรฟ์ทรูนี้จะให้บริการเฉพาะรถยนต์เท่านั้น’ เพราะพนักงานบอกว่าเขาทำแบบนั้นไม่ได้ เขาก็เลยไปจอดม้าของเขาแล้วก็เดินเข้าร้านเพื่อไปสั่งกาแฟแก้วเดียวแทน” Jason เห็นว่าชายคนนี้จำใจขับเคลื่อนม้าไปยังลานจอดรถ กระโดดลงจากหลังม้าและผูกเชือกเพื่อจอดม้า ก่อนที่จะเดินเข้าในร้านไป และหลังจากที่เขาได้กาแฟมาแล้ว ก็ขับม้าข้ามสนามหญ้าไปพร้อมกับกาแฟลาเต้ในมือ …
-
สตาร์บัคญี่ปุ่นออกเมนูกาแฟใหม่ ไฉไลไม่เหมือนใคร ด้วยเมนู “กาแฟสีขาว”
ในช่วงฤดูใบไม่ผลิของประเทศญี่ปุ่นแบบนี้ ร้านกาแฟสตาร์บัคของญี่ปุ่นได้เชิญชวนให้ทุกคนได้ลิ้มลองประสบการณ์การชิม “กาแฟขาว” เมนูเครื่องดื่มสูตรใหม่อันเป็นเอกลักษณ์ สตาร์บัคของญี่ปุ่นได้ทำการออกเมนูเครื่องดื่มชนิดใหม่แก่เหล่านักดื่มโดยที่เรียกมันว่า “ประสบการณ์กาแฟขาว” และบอกว่ามันจะเป็นวิธีใหม่ในการเสพย์ความเพลิดเพลินกับกาแฟ ซึ่งเจ้าประสบการณ์กาแฟขาวที่ว่านี้ มีให้เลือกอยู่สองแบบ ได้แก่ The Mousse Foam Latte วางขายในแบบร้อน และเย็น ในขนาด tall เท่านั้น ราคา 440 เยน (ราวๆ 120 บาท) นี่เป็นกาแฟแบบมีฟองนมซึ่งใช้ “โฟมมูส” ที่ทำจากนมพร่องมันเนยเป็นครั้งแรกของสตาร์บัคของญี่ปุ่น จากข้อมูลของสินค้านั้นโฟมมูสจะมีความข้นและนุ่มมาก บวกกับรสชาติที่รุนแรงของคาราเมลและกาแฟเอสเพรสโซ 2 ช็อตในแก้ว เชื่อว่าจะถูกปากคอกาแฟอย่างแน่นอน แถมหน้าตาก็น่าดูไม่เบาอีกด้วย The White Brew Coffee and Macadamia Frappuccino ขนาด tall เท่านั้น ราคา 590 เยน (ราวๆ 170 บาท) แม้ว่ากาแฟปั่นแก้วนี้จะดูเป็นสีขาวราวกับหิมะ…
-
7 เหตุผลรองรับทางวิทยาศาสตร์ ช่วยไขกระจ่างว่า ทำไมเราถึงควรดื่ม ‘กาแฟ’ ทุกๆ วัน
กาแฟ คือเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ด้วยความขมที่เป็นลักษณะเฉพาะและยังมีคาเฟอีนที่ช่วยในเรื่องของความกระปรี้กระเปร่า ทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะให้มันกลายเป็นเครื่องดื่มที่ต้องดื่มเป็นประจำในยามเช้า แต่สิ่งที่เราอาจไม่เคยรู้กันมาก่อนก็คือประโยชน์อื่นๆ ของกาแฟ ซึ่งกลายมาเป็นเหตุผลที่ว่า ‘ทำไมเราถึงควรจะดื่มกาแฟทุกวัน’ มันสามารถช่วยอะไรเราได้บ้าง มันจะดีต่อสุขภาพของเรามากขนาดไหน ลองไปดูพร้อมๆ กันเลยยย 1. กาแฟอุดมไปด้วยสารอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ ตามหลักชีวภาพแล้ว กาแฟคือสิ่งที่ดีต่อร่างกายเราในหลากหลายด้าน เพราะมันเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้กลายเป็นเครื่องดื่มอันดับหนึ่งของชาวอเมริกันที่สามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ เอสเปรสโซหนึ่งแก้วจะมีโปรตีน 0.3 กรัม , โพแทสเซียม 116 มิลลิกรัม , วิตามินบี 0.2 มิลลิกรัม , วิตามินบี 5 0.6 มิลลิกรัม , แมงกานีส 0.1 มิลลิกรัม , แมกนีเซียม 7.1 มิลลิกรัม และไนอะซิน 0.5 มิลลิกรัม 2. ลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน จากผลการศึกษาหลายชิ้นชี้ชัดว่า กาแฟสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเกี่ยวกับระบบประสาทได้เป็นอย่างดี ความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์จะลดลงได้มากถึง 65%…
-
ผลวิจัยออกมาแล้วว่า คนที่น้ำหนักเกิน(นิดหน่อย) และดื่มแอลกอฮอล์(นิดหน่อย) จะมีอายุยืน!!
ปัจจุบัน กระแสนิยมดูแลสุขภาพกำลังมีบทบาทเป็นอย่างมาก หลายต่อหลายคนพยายามรักษาสุขภาพให้ตนเองดูดีและแข็งแรงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะด้วยการออกกำลังกาย ทานอาหารที่ไม่อ้วน และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น แต่หารู้ไม่ว่าปัจจุบัน ได้มีผลงานวิจัยปรากฎออกมาแล้วว่าผู้ใหญ่ที่มีรูปร่างผอม จะมีอายุสั้นกว่าผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานนิดหน่อย งานวิจัยระยะเวลา 30 ปีในช่วงราวๆ ปี 90 เป็นต้นมา ได้เผยให้เห็นว่าผู้ที่มีน้ำหนักเกินและชอบดื่มแอลกอฮอล์จะมีแนวโน้มที่จะมีชีวิตอยู่ถึงวัยชรามากกว่า อีกทั้งยังแนะวิธีการยืดอายุให้ยาวขึ้นด้วยการออกกำลังกาย 15 นาที และดื่มกาแฟ 2 แก้วต่อวัน การวิจัยครั้งนี้ นักวิจัยได้ให้ผู้คนอายุ 55 ถึง 100 ปีจำนวน 14,000 คน เขียนถึงวิถีชีวิตของตนเอง และหลังจากปี 2003 เป็นต้นไป ผู้วิจัยจึงทำการติดตามศึกษาผู้ที่ยังมีชีวิตราว 1,600 คน ซึ่งทำให้ทราบถึงความลับของการมีชีวิตยืนชาวของพวกเขา พบว่าผู้คนเหล่านั้นมีการดื่มแอลกอฮอล์อยู่พอประมาณ เช่น เบียร์หรือไวน์จำนวน 1-2 แก้วต่อวันหรือต่อสัปดาห์ ซึ่งทำให้พวกเขามีอายุยืนยาวกว่าผู้ที่งดเว้นจากการดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนผู้ที่มีการบริโภคคาเฟอีนในปริมาณตั้งแต่ 200-400 มิลลิกรัมต่อวัน หรือกาแฟ 1-2 แก้วต่อวัน…
-
เสื้อจัมเปอร์กึ่งสำเร็จรูป’ แค่เทน้ำร้อน ปล่อยทิ้งไว้ แล้วเอาตะเกียบคีบออกมาก็ได้เสื้อหล่อๆ มาใส่!!
ในปีนี้เป็นครบรอบปีที่ 25 ของกาแฟกระป๋อง BOSS และบะหมี่สำเร็จรูป Raoh พอดี ทั้งสองแบรนด์จึงตัดสินใจฉลองร่วมกัน แต่จะให้แจกกาแฟหรือบะหมี่สำเร็จรูปมันก็ธรรมดาเกินไป พวกเขาเลยแจกเสื้อจัมเปอร์กึ่งสำเร็จรูปที่ต้องต้มเหมือนบะหมี่แทน บริษัท Suntory ที่เป็นเจ้าของแบรนด์กาแฟสำเร็จรูป BOSS และบริษัท Nissin’s ที่เป็นเจ้าของแบรนด์บะหมี่สำเร็จรูป Raoh เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่คนรู้จักกันดี และปีนี้ทั้งคู่ก็ฉลองครบรอบแบรนด์สินค้าทั้งสองร่วมกันภายใต้ชื่อ BOSS x Nissin Raoh 25th Anniversary Collaborative Raoh Boss Jumper Campaign (กิจกรรมแจกเสื้อจัมเปอร์ฉลองครบรอบ 25 ปีร่วมกันของ BOSS และ Raoh) โปสเตอร์โฆษณากิจกรรมฉลองร่วมกันของ BOSS และ Raoh ทั้งสองบริษัทต้องการแจกของที่ระลึกที่พิเศษกว่าครั้งไหนๆ จึงได้นำเสื้อจั๊มเปอร์ที่แบรนด์ BOSS มักจะแจกให้กับผู้บริโภคตามงานต่างๆ มารวมเข้ากับแนวคิดของบะหมี่สำเร็จรูป จนเกิดเป็น เสื้อจัมเปอร์กึ่งสำเร็จรูป (Instant Jumper) รูปขึ้นมา เสื้อจัมเปอร์กึ่งสำเร็จรูปจะมอบให้กับผู้ชนะในกิจกรรมนี้เพียงผู้เดียวเท่านั้น จากนั้นผู้ชนะจะต้องนำเสื้อนี้ไปต้มน้ำร้อนเหมือนบะหมี่สำเร็จรูปเลย จึงจะสามารถนำมันไปใส่อวดได้ แพ็คเกจของเสื้อเหมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วไปไม่มีผิดเลย…
-
หญิงสาวผู้ซึมเศร้าได้รับกำลังใจเล็กๆ จากพนักงานชงกาแฟ แค่คำว่า ‘ยิ้มหน่อย’ ช่วยเปลี่ยนชีวิตเธอได้
หลายคนคงได้ยินคำว่า “โรคซึมเศร้า” กันมาบ้าง แต่หารู้ไม่ว่าผู้ที่ต้องเผชิญกับโรคนี้นั้นต้องทุกข์ทรมานเพียงใด กับอารมณ์เบื่อๆ เฉื่อยชา ไม่อยากทำอะไรเลย อีกทั้งคนรอบข้างก็ยังไม่เข้าใจอีก แต่ที่จริงแล้วอาการของโรคนั้นอาจจะดีขึ้นได้เพียงแค่ได้กำลังใจเล็กๆ จากใครบางคนเท่านั้นเอง อย่างเช่นเรื่องราวที่จะนำมาเล่าให้ฟังในวันนี้ เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ต้องต่อสู้กับโรคซึมเศร้ามาตลอด แต่ชีวิตเธอกลับเปลี่ยนไปเมื่อเธอได้รับกำลังใจจากพนักงานร้านกาแฟ สาววัยรุ่นคนนี้ชื่อว่า Bekah Georgy อาศัยอยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์ รัฐนิวแฮมเชียร์ สหรัฐอเมริกา เธอนั้นได้ต่อสู้กับอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และโรคคลั่งผอมมาตลอดชีวิต จนครั้งหนึ่งเธอถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลและสถานพักฟื้น ซึ่งทำให้เธอรู้สึกสิ้นหวังและเคยคิดฆ่าตัวตายถึง 5 ครั้ง แต่แล้วการกระทำหนึ่งสิ่งเล็กๆ ก็มาเปลี่ยนชีวิตเธอ Bekah เป็นทั้งนักเต้นบัลเล่ต์ คนรักหนัง และคนรักกาแฟ ภาพหลายๆ ภาพที่เธอโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กนั้นล้วนแต่มีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่เบื้องหลังแล้วสภาพจิตใจของเธอย่ำแย่เกือบตลอดเวลา จนกระทั่ง เช้าวันหนึ่งในปี 2014 เธอไปพบแพทย์ทำให้ทราบว่าอาการของเธอนั้นย่ำแย่ลงจนควบคุมไม่ได้ เธอรู้สึกหมดหวังมาก ด้วยอาการของโรคทางการกินของเธอที่เลวร้ายลง ทำให้เธอทานได้แค่กาแฟเท่านั้น เธอจึงรีบไปยังร้านกาแฟ Starbucks ใกล้ๆ และสถานที่นี้เองที่ทำให้ชีวิตเธอพบเจอจุดเปลี่ยน เธออยู่ที่สี่แยกไฟแดง กำลังตัดสินใจจะจบชีวิตตัวเองลง จนกระทั่งเธอเห็นสิ่งที่พนักงานร้านกาแฟเขียนลงมาบนแก้วของเธอ ซึ่งนั่นทำให้เธอยิ้มออก และกลับมารู้สึกว่าชีวิตเธอมีหวังอีกครั้ง ไม่รู้ด้วยเหตุใด…
-
การดื่มกาแฟแบบใหม่ ‘เซลฟีชิโน่’ เอาภาพใบหน้าของตัวเอง ไปทำเป็นลาเต้อาร์ตสวยๆ
นอกจาก ‘ลาเต้อาร์ตสามมิติ‘ และ ‘แครอทลาเต้‘ แล้ว จะมีอะไรที่แปลกใหม่พอสำหรับการสร้างสรรค์งานบนแก้วกาแฟอีกรึเปล่า ซึ่งเราขอตอบเลยว่า มี!! สำหรับคนไหนที่รักการเซลฟี่เป็นชีวิตจิตใจ เราขอแนะนำ “Selfiecinno” กาแฟที่มีใบหน้าของคุณอยู่ในแก้ว “Selfiecinno” คือ คาปูชิโน่หรือช็อกโกแลตร้อนที่มีการพิมพ์ใบหน้าคุณลงไป โดยวิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย เพียงแค่คุณถ่ายภาพเซลฟี่ตัวเองแล้วอัปโหลดไปที่เครื่อง ‘Cino Coffee Machine’ รอประมาณ 4 นาทีแป๊บๆ เครื่องก็จะแสดงใบหน้าสวยๆ บนฟองนมแล้วล่ะ ทำออกมาได้เหมือนกับเจ้าตัวสุดๆ เหมือนกับใช้เครื่องพิมพ์รูปภาพยังไงอย่างงั้น หล่อๆ แบบนี้ในจะกล้าดื่มเข้าไปล่ะ หรือคุณจะพิมพ์หน้าคนที่ชอบออกมา และค่อยๆ จิบเขาเข้าไปก็ได้นะ อิอิ คุณสามารถหาดื่ม “Selfiecinno” ได้ที่ร้าน Tea Terrace บนถนน Oxford Street ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดย Ehab Salem Shoulyg เจ้าของร้านได้กล่าวว่า “เราไม่เพียงแต่นำเสนอเครื่องดื่มที่ดีเท่านั้น แต่เรายังเสนอการบริการที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย” และสำหรับใครที่อยากลิ้มลองเจ้ากาแฟ Selfiecinno ก็เตรียมเงินมาได้เลย 7.50 เหรียญดอลลาร์หรือประมาณ 250…
-
แค่การจ่ายค่ากาแฟให้กับคนที่ไม่รู้จักกัน แต่กลับสามารถช่วยต่อพลังชีวิตให้กับอีกคนได้
บางคนอาจคิดว่าการทำความดีเล็กๆ น้อยๆ คงไม่สามารถช่วยอะไรใครได้มากนัก แต่ความเป็นจริงแล้ว นั่นอาจเป็นแรงใจที่ทำให้คนๆ สามารถใช้ชีวิตต่อไป ด้วยความช่วยเหลือเล็กๆ ที่เขาได้รับจากเรา เช่นเดียวกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2017 คนคนหนึ่งตั้งใจให้วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของชีวิต และก่อนที่จะฆ่าตัวตายเขาได้ขับรถไปใช้บริการร้านไดรฟ์ทรูชื่อว่า Tim Hortons ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เขาได้สั่งซื้อกาแฟและมัฟฟินของทางร้าน จากนั้นพอขับต่อไปยังช่องชำระเงิน พนักงานร้านกลับบอกเขาว่า “ชายนิสัยดีคนหนึ่งจ่ายค่ากาแฟให้คุณทั้งหมดแล้ว และเขาฝากมาบอกว่า ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะ” ในตอนนั้นเขารู้ทันทีเลยว่าชายคนดังกล่าวก็คือคนที่ขับรถ SUV อยู่ด้านหน้าเขานี่เอง เขาเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า “ทำไมชายคนนั้นถึงยอมซื้อกาแฟให้คนแปลกหน้า ทำไมต้องเป็นเรา? แล้วทำไมถึงต้องเป็นวันที่ฉันกำลังจะฆ่าตัวตายด้วย? ฉันรู้สึกนี้คือสัญญาณบางอย่างที่บอกกับฉันในวันนี้อย่างแน่นอน” จากนั้นความคิดก็เปลี่ยนไป เขาขับรถกลับบ้านพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา เปลี่ยนแผนทุกอย่างในวันนั้นและเลือกจะทำสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่น เมื่อถึงบ้านแทนที่จะฆ่าตัวตาย เขากลับเข้าไปช่วยเพื่อนบ้านยกของลงจากรถ และนั่นทำให้เขารับรู้ได้ถึงคุณค่าของชีวิตและก้าวเดินต่อไปได้อย่างมีความสุข ร้านไดรฟ์ทรู Tim Hortons เรื่องราวทั้งหมดนี้ถูกบอกเล่าผ่านจดหมายที่ทางสำนักข่าว Pickering News Advertiser ได้รับมา ก่อนที่พวกเขาจะนำมันออกเผยแพร่ให้กับสาธารณะ จนทำให้ชายหนุ่มผู้ช่วยชีวิตคนคนนั้นเอาไว้ปรากฏตัวขึ้นมา Glen Oliver…
-
20 เมนูสตาร์บัคส์ “แคลอรี่ต่ำ” ดื่มได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วน อย่าลืมสั่งแบบนี้กันนะ!!
ถ้าพูดถึงร้านกาแฟที่ครองใจใครหลายๆ คน ก็ต้องนึกถึง “สตาร์บัคส์” เป็นอันดับแรกๆ ด้วยความหวานอร่อยของเครื่องดื่มนานาชนิดในร้าน มันทำให้เราอดใจไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปที่เคาเตอร์และสั่งมาดื่มซักแก้ว แต่อย่างไรก็ตาม ความอร่อยนั้นก็มาพร้อมกับแคลอรี่ที่สูงปรี๊ด ไหนจะน้ำตาล ไหนจะวิปครีม ของชอบทั้งนั้นเลย ในครั้งนี้เราจึงจะมาบอกความลับเกี่ยวกับเครื่องดื่มในสตาร์บัคส์ ที่ทั้งอร่อย และแคลอรี่ต่ำ ให้สาวๆ ที่รักสุขภาพได้ไปเลือกซื้อกัน 1.Nonfat Caffè Latte 100 แคลอรี่ ไขมัน 0 กรัม 2. Shaken Tazo Iced Black Tea Lemonade 100 แคลอรี่ ไขมัน 0 กรัม 3. Teavana Shaken Iced Passion Tang Tea 0 แคลอรี่ ไขมัน 0 กรัม 4. Coffee Frappuccino Blended…
-
เหมียวเหมียวท้าดวล!! ทดสอบความคิด แก้วกาแฟแก้วไหนจะเต็มก่อน?
ในสมัยก่อนถ้าหากว่าใครที่เป็นแฟนๆ หนังสือขายหัวเราะ นอกจากหน้ากระดาษสั่งซื้อแคตตาล็อกเบิร์ดซิลเวอร์แล้ว อีกอ่างหนึ่งที่คุณมักจะหาความเพลิดเพลินจากหนังสือการ์ตูนเล่มนี้ได้นั่นก็คือปริศนาอักษรไขว้นั่นเอง และถ้าหากว่าคุณเป็นอีกคนที่ชื่นชอบการเล่นปริศนาอักษรไขว้ หรือชอบการเล่นเกมเติมตัวเลขในช่องว่างแล้วล่ะก็เราขอท้าคุณด้วยภาพปริศนาแก้วกาแฟที่กำลังเป็นที่โด่งดังในทวิตเตอร์ภาพนี้กันเลย… ลองทายกันดูซิว่ากาแฟแก้วไหนจะเต็มก่อนกัน?? ติ๊กตอก ติ๊กตอก ภาพถ้วยกาแฟปริศนานี้ถูกโพสต์ลงบนโลกอินเตอร์เน็ตเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา โดยภาพของแก้วกาแฟทั้ง 4 ใบและหม้อต้มกาแฟ ที่มาพร้อมกับคำถามที่ว่าแก้วกาแฟใบไหนจะเต็มก่อน กลายเป็นที่นิยมของชาวเน็ตอย่างมาก หลังจากที่มีผู้คนร่วมเข้ามาไขปัญหามากกว่า 2,200 คนและแชร์ภาพดังกล่าวอีกกว่า 2,100 ครั้งเลยทีเดียว แต่ดูเหมือนว่าปริศนาแก้วกาแฟที่ดูเหมือนจะง่ายๆ นี้ไม่จบลงง่ายๆ หลังจากที่ได้มีหลายๆ คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็คิดว่าแก้วใบที่ 4 จะเต็มก่อน ในขณะที่บางคนก็คิดว่าน่ะจะเป็นใบที่ 9 มากกว่า “ฉันคิดว่าน่าจะเป็นแก้วเบอร์ 4 9 7 แล้วก็ 5 ตามลำดับนะ” ส่วนนายคนนี้ก็เข้ามาบอกว่า “ผมลองวาดรูปนี้้ แต่ผมคิดว่าผมน่าจะวาดผิดนะ 4 จะเต็มเป็นอันดับ 2 และ 7 กับ 9 จะเป็นอันท้ายสุด”…
-
ร้านกาแฟไต้หวันเนรมิตผลงาน ‘ลาเต้อาร์ตสามมิติ’ ให้กลายเป็นภาพสัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก!!
หากวันไหนคุณมีช่วงเวลาในตอนเช้าที่ไม่ค่อยดีนัก ถ้าอย่างนั้น เราขอแนะนำให้คุณเดินเข้าไปที่ My Cofi ร้านกาแฟในเมืองเกาสฺยง จากประเทศไต้หวัน ที่จะสามารถทำให้ใบหน้าของคุณมีรอยยิ้มได้ เพราะพวกเขาจะเปลี่ยนกาแฟธรรมดาๆ ให้กลายเป็นภาพของสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักได้อย่างสมบูรณ์แบบ . ทางร้าน My Cofi ได้สร้างความโดดเด่นให้กับร้านของตัวเอง ด้วยลีลาการทำลาเต้อาร์ตสามมิติ ได้หลากหลายรูปแบบ เรียกได้ว่าเป็นการนำเอาศิลปะมาผสมผสานกับเครื่องดื่มได้อย่างลงตัว โอ้วววว ลาเต้อาร์ตธรรมดาๆ ว่าเจ๋งแล้ว พอมาเจอลาเต้อาร์ตสามมิติแบบนี้ มันเจ๋งกว่าหลายเท่าเลย ภายหลังจากที่ร้านกาแฟดังกล่าวได้โพสต์ภาพผลงานการทำลาเต้อาร์ตดังกล่าว ลงในโลกออนไลน์ ก็สามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ พวกเขายังช่วยขอให้ทางร้านเนรมิตใบหน้าของสัตว์เลี้ยงแสนรักมาอยู่บนถ้วยกาแฟอีกด้วย พนักงานทุกคนที่ร้าน My Cofi แห่งนี้ สามารถเนรมิตผลงานลาเต้อาร์ตขั้นพื้นฐานได้ แต่สำหรับลาเต้อาร์ตในรูปแบบ 3D นั้น มักจะถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดย Chang Kuei Fang ผู้เป็นเจ้าของร้านนั่นเอง พวกเขาสามารถเนรมิตภาพสัตว์เลี้ยงได้ตามความต้องการของเจ้าของ ซึ่งจะมีตั้งแต่สุนัข แมว ไปจนถึงนก และกระต่าย เจ้ากระต่ายน้อยของใครเนี่ย …
-
สายดาร์กเชิญทางนี้ เพราะเรามี “กาแฟลาเต้ผสมชาร์โคล” เครื่องดื่มแนวใหม่ที่คุณควรได้สัมผัส
ในปัจจุบัน อาหารที่มี “ชาร์โคล” เป็นส่วนประกอบไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีมชาร์โคล ขนมปังชาร์โคล เค้กชาร์โคล ฯลฯ เรียกได้ว่ากำลังมาแรง และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งชาร์โคล หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งในชื่อ “ถ่านกัมมันต์” นั้น คือถ่านที่ได้มาจากพืชชนิดต่างๆ ที่สามารถนำมารับประทานได้ และเมื่อนำมาเป็นส่วนประกอบในอาหาร ก็จะทำให้หน้าตาของมันดูน่าสนใจ แถมยังมีเอกลักษณ์ชนิดที่เอาใจสายดาร์กฝุดๆ นอกจากจะนำมาเป็นส่วนประกอบในการทำอาหารแล้ว ชาร์โคลยังถูกนำมาเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มอย่างเช่น “กาแฟ” อีกด้วย และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอพาเพื่อนๆ มาสัมผัสกับกาแฟแนวใหม่ ซึ่งเป็นกาแฟลาเต้ผสมชาร์โคล เมนูเครื่องดื่มใหม่ล่าสุดจากร้าน Round K ในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กำลังฮอตฮิต และได้รับความนิยมที่สุด ณ ขณะนี้ สำหรับกาแฟลาเต้ผสมชาร์โคล จะประกอบไปด้วยผงชาร์โคล จากขี้เถ้าเปลือกมะพร้าว นมอัลมอนด์ เอสเปรสโซ โกโก้ที่มีความเข้มข้นถึง 98% กะทิ และท็อปปิ้งต่างๆ เมื่อนำมาเป็นส่วนผสมของลาเต้จะช่วยเติมเต็มสีสันให้กับเครื่องดื่มเป็นอย่างมาก “ลูกค้าของเรารู้สึกประหลาดใจ และตื่นตาตื่นใจเมื่อได้ลิ้มรสของมันเป็นครั้งแรก…
-
รู้หรือไม่ว่า “ดื่มกาแฟ” แล้วส่งผลอย่างไรต่อร่างกายเราบ้าง ลองมาชมข้อมูลนี้ครับ…
กาแฟ ยอดเครื่องดื่มสุดวิเศษที่สามารถมอบทั้งพลังให้กับคนวัยทำงานจากหมดแรงกลับมามีพลังในการทำงานได้ อีกทั้งยังสามารถมอบแฟชั่นสุดชิคจากกินผ่านการกินกาแฟร้านดัง หรือจะเป็นการหาเงินจากการเปิดร้านกาแฟก็ดี ทุกอย่างที่กล่าวมาล้วนเห็นว่ากาแฟนั้นมีความสำคัญกับชีวิตมวลมนุษย์มากมายขนาดไหน แต่เรารู้ไหมว่ากาแฟนั้นจัดเป็นสารเสพติดประเภทหนึ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่เสพเยอะๆ ก็เกิดอาการติดได้เช่นกัน… อ้าว.. ถ้าบอกว่ามันเป็นสารเสพติด แล้วงี้มันส่งผลยังไงกันล่ะ? แล้วมันส่งผลนานแค่ไหนกัน สรุปมันดีหรือไม่ดีกันแน่? คำถามเหล่านี้มันจะต้องเกิดตามมาอย่างแน่นอน ฉะนั้นเราจึงมี 7 ภาพที่จะมาช่วยอธิบายข้อสงสัยที่ว่ากัน ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้นลองมาดูกัน… ใช้เวลา 10 นาที กาแฟจะวิ่งเข้าสู่กระแสเลือด!! ในช่วง 10 นาทีแรกของการกินกาแฟนั้น กาแฟจะค่อยๆ เข้าสู่กระแสเลือดทำให้เลือดสูบฉีด หัวใจก็จะเต้นไวขึ้น และความดันก็จะสูงขึ้นตามลำดับ ไม่หมดแค่นั้นในช่วง 10 ถึง 90 นาทีของการกินกาแฟจะสามารถช่วยหักล้างผลของแอลกอฮอล์ได้เช่นกัน แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่นัก จากนั้น 20 นาที เราจะกลายเป็นยอดนัดคิด หลังจากที่กาแฟเข้าสู่กระแสเลือด ต่อมาสมองของเราจะทำงานได้ดีขึ้น สามารถรับรู้และแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เขามาได้รวดเร็ว แต่ผลข้างเขียงนี้จะอยู่เพียงแค่ 10 ชั่วโมงเท่านั้น ต่อมาอีก 30 นาที เราจะกลายเป็นซุปเปอร์โซเจอร์ ต่อมาในช่วง 30 นาที…
-
‘Mokase’ นวัตกรรมใหม่เปลี่ยนเคสมือถือ ให้กลายเป็นเครื่องผลิตกาแฟ ได้ทุกที่ทุกเวลา!!
เคยไหมที่บ้างครั้งเราอยู่ในช่วงเวลาที่เร่งรีบ แต่ร่างกายก็ต้องการกาแฟเสียเหลือเกิน จะแวะร้านกาแฟก็คงไม่ทันแน่ๆ จนล่าสุดก็มีคนมองเห็นปัญหาดังกล่าวและคิดค้น Mokase เคสมือถือที่จะทำให้เราสามารถดื่มกาแฟได้ทุกที่ทุกเวลาขึ้นมาเสียที… Smart K บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติอินตาเลี่ยน ผู้เป็นเจ้าของไอเดีย Mokase เคสเครื่องผลิตกาแฟเคลื่อนที่สุดเจ๋งนี้ ซึ่งพวกเขาก็มีความคิดเช่นเดียวกับที่ได้กล่าวไปคือ บางครั้งเราอาจจะมีเวลาน้อยแต่ใจก็อยากดื่มกาแฟเพียงซักนิดก็ยังดีนั่นเอง ส่วนถ้าใครสงสัยว่ามันเป็นแค่เคสโทรศัพท์นะ ถึงจะเป็นแค่คอนเซ็ปต์ก็เถอะ แล้วมันจะทำงานยังไงล่ะ จะมีความอันตรายอะไรบ้างไหม? คำตอบก็คือ ตัวเคสได้ออกแบบให้มีวัสดุที่ทนทานและทำจากวัสดุป้องกันความร้อน ซึ่งจะมีแคปซูลที่บรรจุน้ำไว้ข้างในรวมถึงเมล็ดกาแฟที่เตรียมพร้อมให้เราสามารถชงกาแฟได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ก่อนอื่นจะต้องมีแอพพลิเคชั่นของ Mokase เสียก่อนเพื่อให้ตัวเคสสามารถใช้งานปุ่มชงกาแฟบริเวณเคสได้ และเมื่อเรากดชงกาแฟตัวแคปซูภายในเคสก็จะเริ่มทำความร้อนที่ 50 ถึง 60 องศา จากนั้นปุ่มกดข้างหลังก็จะโชว์เราเห็นว่ากาแฟพร้อมจะเสิร์ฟแล้ว นอกจากวัสดุของเคสที่กันความร้อนแล้วทาง Smart K ก็ยังบอกอีกว่าตัวท่อส่งกาแฟจะไม่เป็นภัยอย่างแน่นอน เพราะพวกเขาออกแบบโดยใช้วัสดุเป็นซิลิกอนอัลลอย ซึ่งทนทานความร้อนได้มากและจะไม่มีสารพิษใดๆ เจือปนมากับกาแฟ ทว่าถ้าใครหวังจะกินกาแฟจากเจ้าเคสตัวนี้แบบเต็มแก้วจุใจก็คงจะต้องล้มเลิกความคิดไปได้เลย เพราะเคสนี้ออกแบบมาให้เราได้กินกาแฟเป็นปริมาณ 25 มล. หรือเท่ากับกาแฟ 1 ช็อตเพียงเท่านั้น . แต่ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกสนใจอยากจะเป็นเจ้าของเคสตัวนี้ก็สามารถที่จะเข้าไป Pre-order กันได้ที่เว็บไซต์ mokase โดยจะสนนราคาอยู่ที่ราวๆ 1,900 บาท สำหรับตัวเคส ส่วนตัวแคปซูลกาแฟจะมีแบบแบ่งขายเป็นจำนวน…
-
เครื่องดื่มสุดแปลกจากอินโดนีเซีย “กาแฟถ่านชาโคล” คีบถ่านร้อนๆ ในลงไปในแก้วกาแฟ!?
เมื่อไม่นานมานี้เราได้นำเสนอกาแฟลาเต่สุดแปลกอย่าง “Goth Latte” ที่ได้นำถ่านชาโคลมาเป็นส่วนผสมในกาแฟลาเต้ จึงทำให้กาแฟ Goth Latte นั้นมีเสน่ห์ที่แตกต่างตรงที่มีสีดำ และในครั้งนี้ก็เช่นกัน #เหมียวหน่า มีกาแฟที่ผสมถ่านชาโคลมานำเสนอแต่มันแตกต่างจากเดิมตรงที่กาแฟชนิดนี้ใส่ถ่านร้อนๆ เป็นก้อนลงไปในแก้วกาแฟเลย!? กาแฟสุดแปลกนี้เกิดขึ้นที่เมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย มันมีชื่อว่า “Kopi Joss” ซึ่งเป็นกาแฟที่มีถ่านร้อนๆ รวมอยู่ในแก้วด้วย ดูเหมือนว่าเจ้ากาแฟถ่านชาโคลนี้จะเกิดในปี 1960 โดยเจ้าของร้านดั้งเดิมที่ชื่อว่า Mr. Man เขาได้คิดค้นกาแฟสูตรนี้ขึ้นมาก็เพื่อจัดการปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของระบบย่อยอาหารและขับถ่าย ที่มีปัญหาอยู่ตลอด ในขณะที่เขาทำกาแฟตามปกตินั้นก็เหลือบไปเห็นเตาเผาถ่านร้อนๆ ที่กำลังใช้ต้มน้ำอยู่ ทันใดนั้นก็เกิดความคิดคิดเขามาในหัวว่าถ่านหินน่าจะช่วยทำให้ปัญหากระเพาะอาหารของเขานั้นดีขึ้น และมันก็ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้จริงๆ จากนั้น Mr. Man ก็ได้เริ่มจำหน่ายให้แก่ลูกค้าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยปัจจุบันนี้ก็มี Mr. Alex เป็นผู้ดูแลร้านแล้วก็ได้จำหน่ายให้นักเรียนและนักศึกษาหรือคนที่กล้าพอที่จะดื่มมันโดยเขาอ้างว่ามันช่วยแก้ปัญหาท้องอืดท้องเฟ้อและท้องร่วง ช่วยปรับสมดุลลำไส้ได้ Kopi joss มีวิธีทำคือนำกาแฟบดผสมรวมกับน้ำตาล 4 ช้อนชา เติมน้ำเดือดเข้าไปและตามด้วยการคีบถ่านร้อนๆ ลงไปในแก้ว ซึ่ง Mr. Alex ได้อ้างว่ากาแฟชนิดนี้มีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟปกติเรื่องจากมีถ่านหินดูดซับเอาไว้ ลูกค้าที่แวะเวียนมาดื่มกาแฟที่ร้านนี้บางคนก็บอกว่ามีรสชาติเหมือนกาแฟธรรมดาแต่บางคนก็บอกว่ามันมีรสเหมือนคาราเมล อาจเป็นเพราะถ่านร้อนๆ ที่เผาไหม้น้ำตาลในกาแฟนั่นเอง ถ้าคุณได้มีโอกาสได้ไปอินโดนีเซียก็อย่าลืมไปชิมเจ้ากาแฟถ่านชาโคลนี้ด้วยตัวเอง โดยมันมีราคาอยู่ที่แก้วล่ะ 4,000 รูเปียห์…
-
เปิดตัวเมนู “ขนมปังเบเกิลเอสเปรสโซ่” จากอเมริกา มีคาเฟอีนเหมือนได้ดื่มกาแฟจริงๆ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบทานอาหารเช้าพร้อมกับกาแฟคุณน่าชอบสิ่งที่เราจะนำเสนอในวันนี้อย่างแน่นอน เพราะอาหารที่เราจะเสนอในวันนี้มันได้รวบรวมทั้งอาหารเช้าและกาแฟรสเข้มเข้าด้วยกัน ซึ่งไม่ใช่แค่ให้รสกาแฟเท่านั้นแต่มันมีคาเฟอีนจริงๆ ซะด้วย จะเป็นอาหารแบบไหนเราไปชมกันเลย “Espresso Buzz Bagels” คือชื่อของเจ้าอาหารสีสวยชิ้นนี้ มันคือขนมปังเบเกิลหรือขนมปังที่มีลักษณะเป็นรูๆ มาทำให้เป็นรสกาแฟและมีคาเฟอีนเป็นครั้งแรกของโลกและได้เปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยกลุ่มบริษัท Einstein Bros Bagel chain เบเกิลแต่ละก้อนนั้นจะมีคาเฟอีนอยู่ที่ 32 มิลลิกรัม ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณที่พบในกาแฟ 8 ออนซ์และยังมีโปรตีน 13 กรัมอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าเจ้าอาหาร Espresso Buzz Bagels นั้นไม่สามารถที่จะแทนที่กาแฟในช่วงเช้าของคุณได้ แต่หากคุณต้องการพลังงานเบเกิลเอสเปรสโซ่นี้อาจจะช่วยคุณได้เพราะมีพลังงานจากคาเฟอีนและคาร์โบไฮเดรต แม้ว่าในอาหารชิ้นนี้จะมีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟเป็นแก้วของคุณแต่มันก็ไม่ได้แปลว่าจะมีรสหวานขึ้น ขนมปังเบเกิลนั้นไม่มีรสหวานเลยมันจะเหมือนกับว่าคุณทานกาแฟจริงๆ โดยเหล่าคนที่เคยชิมรสชาติของพวกมันก็มีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งกล่าวว่า “มันมีรสชาติกาแฟเต็มปากเต็มคำ เหมือนกำลังเคี้ยวเมล็ดกาแฟอยู่เลย” ส่วนผู้สื่อข่าวอีกคนก็กล่าวว่า “รสชาติมันเหมือนกับฉันเคี้ยวกาแฟอยู่แทนที่จะดื่ม ฉันไม่แน่ใจว่ามันจะเวิร์คหรือเปล่า” แต่ก็มีบางความเห็นที่ชอบในอาหารตัวนี้ “ฉันว่าฉันรักเมนูนี้มากและฉันอยากทานมันพร้อมกับจิบกาแฟ มันคงเข้ากันสุดๆ” Espresso Buzz Bagels นี้ได้คาเฟอีนมาจากกาแฟเอสเปรสโซ่และแป้งกาแฟเชอร์รี่ (coffee-cherry flour) ผสมรวมกับแป้งโดที่ใช้ทำขนมปังเบเกิล ดังนั้นเนื้อสัมผัสของมันก็จะนุ่มเหมือนเบเกิลและรสชาติขมของกาแฟเล็กน้อย…
-
พาไปชม “ลาเต้อาร์ต” ขั้นเทพ ฝีมือบาริสต้าระดับโลกชาวเกาหลี กินแล้วน่าจะรู้สึกผิดแน่ๆ
สำหรับคอกาแฟคงจะคุ้นเคยกับศิลปะบนฟองนมหรือ Latte Art กันเป็นอย่างดี การวาดลวดลายบนกาแฟด้วยฟองนมนอกจากจะสร้างความสวยงามและทำให้กาแฟดูน่ากินแล้ว ก็ยังกลายมาเป็นศาสตร์ทางศิลปะได้ด้วย และตอนนี้ศิลปะบนฟองนมกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศเกาหลี โดยมี Lee Kang Bin บาริสต้าหนุ่มผู้เป็นหนึ่งในหัวหอกที่กำลังขับเคลื่อนวงการกาแฟของเกาหลีอยู่ในขณะนี้ “ผมต้องการที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดของงานศิลปะบนฟองนมแบบเดิม โดยการใช้สีและการออกแบบที่หลากหลาย ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่และน่าจะถูกบรรจุในการแข่งขันระดับโลกด้วย” Lee กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนฟองนมของเขา ตอนนี้ Lee ได้ทำการถ่ายรูปผลงานของเขาลงในอินสตาร์แกรมและมีผู้คนให้ความสนใจและติดตามเขาเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้เขายังเป็นหนึ่งในคณะกรรมการผู้ตัดสินการแข่งขันระดับ Latte Art โลกด้วย งานศิลปะของเขานั้นมีความสวยงามและแตกต่างจาก Latte Art ที่เราเคยเห็นทั่วๆ ไปอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นผลงาน Starry Night ของ Van Gogh หรือตัวการ์ตูนจากดิสนีย์ และภาพอื่นๆ ที่มีรายละเอียดเยอะๆ เขาก็สามารถที่จะวาดลงไปบนฟองนมได้หมด และนี่คือผลงานบางส่วนของบาริสต้าหนุ่มไฟแรงคนนี้ . ดอกกุหลาบก็ทำได้นะ . หรือจะเป็นตัวการ์ตูน พ่อหนุ่มคนนี้ก็เก็บได้ทุกรายละเอียดจริงๆ . . . . ดูภาพมาเยอะ…
-
15 อันดับเมนู “สตาร์บัค” ที่มีแคลอรี่เยอะที่สุด ข้อมูลดีๆ สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่
ช่วงนี้เทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่โฆษณาอาหารเสริมยาลดน้ำหนักกันทั้งนั้น และหนึ่งในวิธีการลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นก็คือ การควบคุมปริมาณแคลอรี่ของอาหารที่เรากินเข้าไปนั่นเอง และถ้าพูดถึงเมนูเครื่องดื่มยี่ห้อดังที่ได้รับความนิยมชมชอบจากหลายคนทั่วโลก ก็คงจะหนีไม่พ้นสตาร์บัคอย่างแน่นอน เพราะแบรนด์นี้มีเครื่องดื่มที่หลากหลาย และยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบอีกด้วย วันนี้เราได้นำ 15 เมนูที่ให้พลังงานเยอะที่สุดมาฝากกัน เอาไว้เผื่อเป็นตัวเลือกสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังลดน้ำหนัอยู่ เมนูไหนจะมีปริมาณพลังงานเท่าไหร่ไปชมกันเลย… 1. Green Tea Latte (นม 2 %): ปริมาณแคลอรี่ 240 Cal 2. Chai Latte (นม 2% ): ปริมาณแคลอรี่ 240 Cal 3. Vanilla Latte (นม 2%): ปริมาณแคลอรี่ 250 Cal 4. Caramel Macchiato (นม 2%): ปริมาณแคลอรี่ 250 Cal 5. Iced Caramel Macchiato (นม 2%): ปริมาณแคลอรี่…
-
ทำความรู้จักกับ “Black Insomnia” กาแฟที่ได้ชื่อว่าเข้มที่สุดในโลก แก้วเดียวตึง!!
เชื่อว่าคนส่วนมากคงจะเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยกาแฟหอมๆ ซักหนึ่งแก้วอย่างแน่นอน และรสนิยมความชอบการแฟของแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกันไป บางคนชอบแบบเข้ม บางคนชอบแบบหวานมัน และวันนี้เราขอแนะนำกาแฟที่เข้มที่สุดในโลก เอาใจคนชอบความซาดิสม์ รับรองว่าแก้วเดียวก็สามารถที่จะทำให้คุณตาแข็งได้ถึงเช้าอีกวันแน่นอน เจ้ากาแฟที่ว่านี้คือ Black Insomnia กาแฟดำที่เข้มข้นที่สุด เพียงแค่ 12 ออนส์คุณก็จะได้รับปริมาณมาณคาเฟอีนมากถึง 702 มิลิกรัมเลยทีเดียว งานนี้มีหวังไม่ได้หลับกันพอดี!? กาแฟสุดเข้มที่ว่านี้ถูกคิดค้นขึ้นในปี 2016 โดย Sean Kristafor ชาวแอฟริกาใต้ผู้คลั่งไคล้กาแฟ เขาได้ตั้งเป้าหมายที่จะผลิตกาแฟที่เข้มที่สุดในโลกขึ้นมา โดยเขาได้ค้นหาวัตถุดิบเพื่อมาผลิตจากกาแฟพันธุ์โรบัสต้าที่มีความเข้มข้นหลายสายพันธุ์ แทนการใช้กาแฟพันธุ์อารบิกาที่มีความหอม การเลือกเมล็ดกาแฟและการคั่วเมล็ดเพื่อให้รสชาติที่เข้มข้นถูกเก็บเอาไว้เป็นความลับ คุณ Sean Kristafor บอกเพียงว่า “เราสามารถที่จะผลิตกาแฟที่เข้มที่สุดในโลกขึ้นมาได้แล้ว และต้องลดความเข้มของมันลงนิดหน่อยสำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะจัดจำหน่ายออกไป เพื่อให้ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค” หลังจากออกสู่ตลาดครั้งแรกในเดือนมิถุนายนปีที่ 2016 เราสามารถชิมความเข้มของกาแฟนี้ได้เฉพาะที่ร้านกาแฟในเมือง Cape Town ประเทศแอฟริกาใต้เท่านั้น แต่ตอนนี้มีข่าวดีสำหรับคอกาแฟ เพราะในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาพวกเขาได้ส่งออกกาแฟสุดเข้มนี้ไปกว่า 22 ประเทศทั่วโลก และตอนนี้คุณสามารถสั่งซื้อผ่านทางอเมซอนได้แล้ว กาแฟ Black Insomnia ได้รับการตอบรับอย่างดีมาก บริษัทผู้ผลิตบอกว่าพวกเขาสามารถจำหน่ายมันได้ถึง 5 หรือ 6 ตันต่อเดือนเลยทีเดียว!! และเพื่อเป็นการยืนยันถึงความเข้มของมัน ทางคุณ Sean Kristafor ได้ส่งเจ้ากาแฟสุดเข้มนี้ไปทดสอบกับห้องแลปในสวิตเซอร์แลนด์…
-
พาชมคลิปโฆษณาที่ใช้กาแฟเพียงเมล็ดเดียว ชงเป็นกาแฟแค่ 1 แก้ว แต่ฟินยิ่งกว่าอะไร!!
เมื่อกล่าวถึง ‘การชงกาแฟ’ เหล่าสาวกกาแฟทั้งหลายก็อาจจะได้ชมวิธีการชงแบบธรรมดากันมาจนเบื่อแล้ว แต่สำหรับวันนี้ #เหมยีวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมคลิปโฆษณาเมล็ดกาแฟ ที่ดูแล้วจะสร้างความฟินให้เหล่าสาวกกาแฟแบบสุดๆ!! เรื่องมีอยู่ว่าบริษัท Paulig ที่เป็นบริษัทขายเมล็ดกาแฟ ได้ขอให้ผู้กำกับและผู้ทำภาพยนตร์การ์ตูนอย่างนาย Lucas Zanotto ทำโฆษณาชิ้นหนึ่งขึ้นมาด้วยการทำกาแฟขึ้นมาจากเมล็ดกาแฟเพียง 1 เมล็ดเท่านั้น และมันก็กลายมาเป็นคลิปวิดีโอชงกาแฟแบบจิ๋ว ที่ดูแล้วมันช่างฟินซะเหลือเกิน ไม่ได้มีเพียงแค่กรรมวิธีการชงแบบแปลกตาเท่านั้น แต่ยังมีการใส่ซาวด์เอฟเฟค และเลือกเพลงที่ฟังแล้วทำให้เคลิ้มจนตาปรือ ก่อนอื่นก็ต้องบดเมล็ดกาแฟซะก่อน ต้มน้ำด้วยเทียน นำกาแฟผงไปใส่ในกระดาษกรอง จากนั้นก็เทน้ำที่ต้มเดือดลงไป ป๊าปปปป ได้ออกมาเป็นกาแฟพร้อมดื่ม ดูภาพเฉยๆ แล้วมันไม่ฟิน ลองไปชมแบบคลิปกันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… ต้องขอบอกเลยว่าเป็นคลิปที่น่าดูชมซะจริงๆ เพราะนอกจากจะมีความครีเอทแล้ว ยังสามารถสร้างความฟินได้อีกต่างหาก สุดยอดดด ที่มา : thisiscolossal
-
เครื่องดื่มแนวใหม่ ต้อนรับหน้าร้อน “เอสเปรสโซโทนิค” ซ่า สดชื่น ขมหน่อยแต่เข้มถึงใจ
เชื่อว่าคอกาแฟหลายคนต้องเคยดื่ม “กาแฟเอสเปรสโซ” เป็นอย่างแน่นอน ด้วยรสชาติที่เข้มกลมกล่อมของมัน ทำให้คอกาแฟหลายๆ คนชื่นชอบที่จะดื่มเอสเปรสโซกันยกใหญ่ แต่ด้วยความเข็มละมุนของมันนี่แหละทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งกับเอสเปรสโซ่ที่กลายมาเป็นเครื่องคลายร้อนสุดซ่าอย่าง “Espresso tonics” ฟังแล้วอาจจะดูงงๆ มันจะเป็นอย่างไร รสชาติเข้มกับขมมันะเข้ากันได้ไหม เราไปทำความรู้จักกับมันเลยดีกว่า “เอสเปรสโซโทนิค” เป็นเครื่องดื่มที่กำลังเป็นนิยมอย่างมากในออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกาและที่อื่นๆ เกิดเป็นแฮชแท็ก #espressotonic ที่โด่งดังในอินสตาแกรม วิธีการทำ “เอสเปรสโซโทนิค” นี้ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ใช้เอสเปรสโซหนึ่งช็อตเทลงใน Tonic Water และตกแต่งด้วยมะนาวเล็กน้อย จากนั้นก็ดื่มด่ำความสดชื่นไปเลย รสชาติขมของกาแฟและโทนิคตัดกับความเปรี้ยวของมะนาว อยากรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไรต้องลองชิมกันดูแล้วล่ะ เริ่มอยากทานกันแล้วล่ะสิ เพื่อนๆ สามารถทำเครื่องดื่มนี้ได้เองนะ มันทั้งสดชื่นและเหมาะกับหน้าร้อนสุดๆ ด้วยสีสันที่สวยงามทำให้คุณหลงรักมันได้อย่างง่ายดาย กาแฟเอสเปรสโซและโทนิคผสมกันเป็นสีน้ำตาลอ่อนแต่มีรสเข้ม รสเปรี้ยวของส้มก็ทำช่วยตัดรสขมได้เป็นอย่างดี “Espresso tonics” เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับอากาศร้อนมากๆ ความเข้มๆ ขมๆ ถ้าได้ดื่มตอนแดดร้อนๆ คงสดชื่นไม่เบาเลยล่ะ ที่มา metro
-
ชายหนุ่มแชร์ประสบการณ์ เลิก ‘เหล้า’ และ ‘กาแฟ’ ได้ 2 ปี และตอนนี้ ชีวิตเขาดีขึ้นสุดๆ !!
ทั้งการดื่มเหล้าและดื่มกาแฟนั้นสามารถทำให้คุณเกิดอาการ ‘ติด’ ได้ ถึงหลายๆ คนจะไม่เชื่อ และไม่ค่อยอยากที่จะยอมรับก็ตาม… Tobias Van Schneider คือคนที่สามารถเอาชนะความอยากนั้นได้สำเร็จ เพราะเป็นเวลากว่า 25 เดือนเต็มแล้ว โดยที่เขาใช้ชีวิตมาโดยไม่มีทั้งกาแฟหรือเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ เขาคือชายเยอรมันที่ย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ในนิวยอร์ก ซึ่งตอนนี้กำลังทำงานอยู่กับ Spotify อยู่ และวันนี้เขาจะมาบอกเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงหลังจากเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตกันล่ะ Tobias Van Schneider ‘ก่อนอื่นเลยผมเหลือเงินเก็บมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ราวๆ 1,000 เหรียญต่อเดือนเลยทีเดียว (35,000 บาท!!)’ ‘แต่สิ่งที่หายไปก็คือการเข้าสังคม เพราะการดื่มกาแฟและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้นคือกิจกรรมทางสังคมที่ดีเลยล่ะ’ Tobias เล่า เพราะหลายๆ ครั้งเขาต้องพยายามอธิบายให้เพื่อนๆ ของเขาได้เข้าใจกันว่าเขาไม่ดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟ และทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการ ‘ปฏิเสธ’ ทุกๆ คำขอที่เพื่อนๆ ส่งมาถึงเขา หนึ่งในสิ่งที่เรียนรู้ได้มาจากการเลิกเหล้าก็คือ ‘คนเมาน่ะชอบเข้าสังคมแบบซุบซิบนินทา’ ข่าวคราวซุบซิบนินทานั้นมักจะเป็นเรื่องที่ตลกขบขันเฉพาะในวงเหล้าเท่านั้น ‘ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่ได้ชอบเที่ยวมากมายเท่าไหร่ ยิ่งหยุดดื่มยิ่งกลายเป็นไม่เที่ยวเลย ผมค่อนข้างแปลกใจเหมือนกันว่ากิจกรรมทางสังคมของวงเหล้าก็ค่อยๆ หายไปเหมือนกัน ก็ต้องยอมรับล่ะว่าในหลายๆ ครั้งคำว่ามิตรภาพนั้น เกิดขึ้นเพราะพฤติกรรมการสังสรรค์จริง’ เขาเล่าต่อ…
-
‘แจ็คแดเนียล’ เปิดตัวสินค้าใหม่ ‘กาแฟวิสกี้’ เอาใจคนขี้เซา เข้มข้นสมชื่อแบรนด์!!
ตื่นนอนตอนเช้ามาทำงานทีไร กลับรู้สึกว่าหลับไม่เคยเต็มอิ่มซ๊ากกวัน ทางแก้ปัญหาทางเดียวที่พอจะทำได้ก็คงหนีไม่พ้น ‘กาแฟ’ กับสารคาเฟอีนที่จะช่วยทำให้เช้าวันใหม่ของเรา ปึ๋งปั๋งขึ้นมาอีกครั้ง ล่าสุดบริษัทเครื่องดื่มวิสกี้ชั้นนำของโลก ที่เรามักจะเห็นเหล่าศิลปินร็อคสตาร์เอามาดื่มโชว์กันอยู่บ่อยๆอย่าง ‘Jack Daniel’s’ ได้เปิดตัวสินค้าตัวใหม่ กับผลิตภัณฑ์กาแฟสูตรเข้มข้น ที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ได้ดี ไม่ต่างจากเหล้าเลยล่ะ ถ่ะแด๊มม!! โฉมหน้ากาแฟจาก Jack Daniel’s สีดำเข้มดูดุดันมากจริงๆ กาแฟที่ดูคมเข้ม ราวกับว่าดื่มแล้วจะไม่ได้หลับอีกเลยนี้ ทำมาจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% นำมาคั่วด้วยความร้อนระดับปานกลาง เพื่อคงความหอมกรุ่นของเมล็ดกาแฟ ซึ่งผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้เป็นผลงานการร่วมมือกันระหว่างบริษัทวิสกี้ชื่อดัง และบริษัทกาแฟ ‘World of Coffee’ โดย Charlie Newman ผู้ก่อตั้งบริษัทกาแฟดังได้ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเราเลือกใช้เมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดในโลก พร้อมกับผสมกลิ่น และรสชาติ อันโดดเด่นของแจ็คแดเนียลลงไป” แต่บอกไว้ก่อนว่า กาแฟไม่ได้มีการใส่แอลกอฮอลงไป เขาแค่เพิ่มกลิ่นจากวิสกี้เท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วกินเท่าไหร่ก็คงไม่เมานะจ๊ะ ไม่ใช่แค่กาแฟแบบเข้มข้นที่หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นวิสกี้เท่านั้นที่ได้ผลิตออกมา แต่ยังมีกาแฟสูตรไม่มีคาเฟอีนออกมาด้วยเช่นกัน สนนราคาสำหรับกระป๋อง 8.8 ออนซ์ อยู่ที่ประมาณ 800 บาท ส่วนแบบถุง 1.5 ออนซ์…
-
17 ไอเท็มสุดเจ๋งสำหรับ “คอกาแฟ” ไม่ควรพลาด ให้ทุกเช้าของคุณดีงามยิ่งกว่าเดิม!!!
กาแฟถือเป็นเครื่องดื่มที่คนนิยมรองจากชาเลย เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้เราตื่นตัวในตอนเช้าที่แสนงัวเงีย บางคนก็ติดกาแฟซะจนว่าวันไหนไม่ได้ดื่มทำงานอะไรไม่ได้เลย แต่บางคนก็ไม่ได้ดื่มกาแฟเพราะว่าต้องการที่จะให้ตัวเองตื่นตัวอะไร แต่ดื่มเพราะว่าชอบ รัก หลงใหลความเป็นกาแฟ ดื่มเอาทั้งกลิ่น สัมผัส ความหวาน ขม เปรี้ยว ที่กลมกล่ม ซึ่งมันช่วยสร้างบรรยากาศได้อย่างดีเลยทีเดียว และวันนี้ #เหมียวสามสี ก็จะพาทุกคนไปพบกับไอเทมสำหรับคนรักกาแฟทุกคนที่เห็นแล้วต้องอยากได้อย่างแน่นอน เพราะมันจะทำให้ทุกวันของคุณเต็มไปด้วยความหอมละมุนแบบไม่ทำให้ผิดหวัง โคมไฟแก้วกาแฟ ซื้อได้ที่ Ingo Maurer And Fabien Dumas แก้วกาแฟที่ดื่มแล้วจะเจอปลาหมึกยักษ์ ซื้อได้ที่ amazon.com บล็อกน้ำแข็งที่ทำออกมาเป็นรูปเมล็ดกาแฟ ซื้อได้ที่ amazon.com กาต้มกาแฟรุ่น R2D2 ซื้อได้ที่ thinkgeek นาฬิกาปลุกที่จะชมกาแฟเมื่อถึงเวลา ซื้อได้ที่ Josh Renouf แก้วออโรร่าที่จะมีแสงเมื่อมีไออุ่นจากกาแฟ ซื้อได้ที่ thinkgeek ชุดปลูกเมล็ดกาแฟง่ายๆ ที่บ้าน ซื้อได้ที่ notonthehighstreet.com จานรองกาแฟนหางแมวสุดน่ารัก ซื้อได้ที่ littledarlynns แก้วที่สามารถให้ความอุ่นและชาร์ตมือถือได้ด้วย ซื้อได้ที่ Muggino ที่ตักพร้อมหนีบถุงกาแฟได้ ซื้อได้ที่ fancy.com…
-
บาริสต้าผิวสี โดนลูกค้าบอก ‘ขอกาแฟที่คนผิวขาวชง’ เธอตอกกลับลูกค้า เป็นกระแสทั่วเน็ต!!
ก็อย่างที่รู้กันว่า ‘การเหยียดผิว’ นั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ก็ตาม แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังคงมีความคิดในเรื่องของการเหยียดผิวอยู่ ปัจจุบันโลกของเราเปลี่ยนไปแล้ว สิทธิเสรีภาพในการมีชีวิตของทุกคนย่อมมีเท่ากัน ไม่ว่าจะมีผิวสีไหน หรือจะมีรูปร่างอย่างไรก็ตาม และในวันนี้เอง #เหมียวหง่าว ก็มีเรื่องราวสุดประทับใจมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เป็นเรื่องราวของผู้จัดการร้านกาแฟที่ถูกเหยียดผิว พอชาวเน็ตได้รับรู้เรื่องราวต่างก็เข้ามาให้กำลังใจกับเธอกันอย่างล้นหลาม คุณ Josie Ajak หญิงสาวชาวซูดานใต้ ที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย พร้อมกับพ่อแม่ของเธอตั้งแต่เธออายุได้ 8 ขวบ และตอนนี้เธอก็เป็นผู้จัดการร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ในเมือง Cairns ทางตอนเหนือของ Queensland เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังชงกาแฟอยู่นั้นๆ จู่ๆ คุณ Ajak ก็โดนลูกค้าคนหนึ่ง ‘ปฏิเสธที่จะรับการเสิร์ฟกาแฟจากคนผิวดำ’ “หญิงคนนั้นบอกว่า ให้พาพนักงานผิวขาวมาเสิร์ฟให้ฉัน!! ฉันก็เลยบอกไปว่าไม่เป็นไรค่ะ ด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นเธอก็เขยิบเพื่อออกไปรอพนักงานผิวขาวมาเสิร์ฟกาแฟให้ แต่ฉันเดินเข้าไปบอกพนักงานของฉันว่า เธอคนนี้มีทัศนคติเหยียดสีผิว และเราก็จะไม่เสิร์ฟกาแฟให้กับเธอ ขณะที่ทุกคนก็เสิร์ฟลูกค้าคนอื่นไปตามปกติด้วยรอยยิ้ม” คุณ Ajak ให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed News คุณ Ajak ก็ดำเนินการเสิร์ฟกาแฟ และให้บริการกับลูกค้าท่านอื่นๆ ต่อไป จนกระทั่งหญิงที่ทำการเหยียดผิวกับเธอเดินออกจากร้านไป “เธอมองมาที่ฉัน…
-
ร้านกาแฟออสซี่ ผุดเมนู ‘Ass Kicker’ กาแฟที่ได้ขึ้นชื่อว่า เข้มข้นและรุนแรงที่สุด!!
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ หรือหลงใหลในเครื่องดื่มอย่าง ‘กาแฟ’ เครื่องดื่มที่ทุกคนต่างต้องรู้จักกันดี แถมสรรพคุณของมันก็มีมากมายสารพัดประโยชน์ นอกจะช่วยให้เราสดชื่นขึ้น ยังมีผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย บางคนอาจจะชอบดื่มกาแฟหวาน ในขณะที่บางคนอาจจะชอบแบบเข้มข้น แต่สำหรับคนที่กำลังมองหากาแฟที่มีปริมาณคาเฟอีนสูงสุดๆละก็ เราขอพาไปแนะนำให้รู้จักกับ ‘Ass Kicker’ เคลมว่าเป็นกาแฟที่รุนแรง และเข้มข้นมากที่สุในโลก ณ เวลานี้ ‘Ass Kicker’ เปิดตัวและจำหน่ายอยู่ที่ร้าน Viscious Coffee คาเฟ่แห่งหนึ่งในเมือง Adelaide ประเทศออสเตรเลีย ระดับคาเฟอีนที่มีอยู่ในกาแฟ มากกว่าทั่วๆไปถึง 80 เท่า!!! ประกอบไปด้วย เอสเพรสโซ่ 4 ช็อต กาแฟดริฟแบบเย็นอีก 8 ช็อต และ กาแฟที่ชงทิ้งไว้ 10 วัน ประมาณ 120 มิลลิลิตร ทั้งหมดเริ่มมาจาก พยาบาลสาวคนหนึ่งที่ต้องอยู่เวรดึกดื่น เธอต้องการเครื่องดื่มที่ช่วยให้อยู่ยันเช้าได้ เธอจึงลองดื่มกาแฟชนิดนี้เข้าไป ตามข่าวบอกว่าเธอมีอาการนอนไม่หลับไปสามวัน ต่อมาทางร้านจึงปรับปรุงสูตรกาแฟ ให้มีความกลมกล่อมมากขึ้น และที่สำคัญ…
-
สาวติดกาแฟหวานๆ จนอ้วนฉุ… ตัดสินใจที่จะเลิก ทวงคืนสุขภาพที่ดีพร้อมกับหุ่นสวยๆ!!
แน่นอนว่า ‘กาแฟ’ เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยสำหรับพนักงานออฟฟิศทั้งหลาย จะสังเกตได้ว่า ทุกๆ ที่จะมีกาแฟตั้งไว้ให้ชงดื่มเสมอ ซึ่งแต่ละคนก็มีเหตุผลที่จะดื่มแตกต่างกันออกไป บางคนก็ชอบกลิ่นหอม บางคนก็ดื่มเพราะชิน บางคนก็ใช้แก้ง่วง เช่นเดียวกันกับหญิงสาวรายนี้ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ เธอติดหนักมาก ขนาดเคยดื่มกาแฟ 15 แก้วต่อวันเลยทีเดียว แถมยังใส่น้ำตาลแก้วละ 3 ก้อนด้วยมันจึงส่งผลให้เธอกลายเป็นโรคอ้วน และมีน้ำหนักมากถึง 86 กิโลกรัม โดยเหตุผลที่เธอติดกาแฟนั้นเป็นเพราะโรคเครียดจนทำให้เธอนอนไม่พอในตอนเวลากลางคืน และนั่นทำให้เธอต้องพึ่งพาเจ้ากาแฟนี่แหละ ที่ช่วยให้เธอสามารถทำงานได้ในช่วงเวลากลางวัน แต่การกินเจ้ากาแฟ 15 ถ้วยต่อวันนั้นแสดงว่าเธอจะต้องได้รับคาเฟอีนเข้าร่างกายมากถึงวันละ 1,400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งทางแพทย์ได้แนะนำว่าร่างกายของคนเราจะรับได้สูงสุดที่ 900 มิลลิกรัมต่อวันเท่านั้น นั่นหมายความว่ากาแฟไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนอนไม่หลับแบบซ้ำซากวนลูปไปเรื่อยๆ เท่านั้น แต่มันยังส่งผลให้หัวใจเต็นเร็วขึ้น ร่างกายขาดน้ำ ปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร และการขาดแคลเซียม อันจะส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ และผลจากการนอนหลับจนดึกดื่นนี้ก็ทำให้เธอหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกินอาหารตอนดึก มันจึงทำให้น้ำหนักของเธอขึ้นแบบพรวดพราด และอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธออ้วนก็มาจากการปล่อยเนื้อปล่อยตัว เพราะตั้งแต่ที่เธอคลอดลูกคนที่ 3 ออกมาเธอก็ไม่ได้สนใจในเรื่องของอาหารการกินหรือการออกกำลังกาย ก็เลยทำให้น้ำหนักของเธอพุ่งกระฉูด เธอไม่กล้าออกจากบ้านไปไหนมาไหนเพราะกังวลเรื่องรูปร่างของตัวเอง ทำอะไรก็ไม่ถนัด แถมยังได้รับแรงกดดันจากลูกๆ ที่พยายามชวนเธอออกไปข้างนอกบ้าน…
-
‘Puppuccinos’ จับหมาถ่ายภาพแบ๊วๆ ดื่มกาแฟแล้วฟองนมติดปาก หวังมีคนรับไปเลี้ยง..
นี่ไม่ใช่การถ่ายภาพเพื่อความน่ารักเพียงอย่างเดียว เมื่อสถานรับเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่งกำลังประสบปัญหาสุนัขมีมากเกิน ไม่มีใครมารับไปเลี้ยง ทางองค์กร Kitsap Humane Society ในวอชิงตันจึงได้คิดไอเดียเจ๋งๆ นี้ออกมา เราคงจะเคยเห็นเวลาคนดื่มกาแฟลาเต้แล้วมีฟองติดที่ริมฝีปาก เวลาถ่ายรูปออกมาแล้วดูน่ารักดีใช่ไหม แต่ครั้งนี้จะลองให้เหล่าน้องหมามาทำดูบ้าง เผื่อว่าจะมีคนเห็นใจและรับพวกมันไปเลี้ยง Molly Clark อาสาสมัครจากสถานรับเลี้ยงเพื่อมาถ่ายรูปกาแฟเมนู Puppuccino จากสตาร์บั๊ก (ชื่อที่เค้าตั้งมาเรียกวิปครีมสำหรับสุนัข ที่คุณสามารถสั่งได้) และดูเหมือนว่าเหล่าสุนัขเหล่านี้จะชอบใจ เวลากินมันเลยติดมาอย่างในภาพที่เห็น เธอได้พาสุนัขที่พอจะออกไปข้างนอกได้เพื่อไปถ่ายรูปบนรถให้ได้บรรยากาศ อีกทั้งเธอยังซื้อ Puppuccino มาให้ตัวที่กลัวการออกไปข้างนอกด้วย และแน่นอนว่ามันไม่เพียงแต่ต่อสุนัขทุกตัวเพราะว่าตอนนี้มีจำนวนเยอะมาก แม้แต่อาสาสมัครก็ยังดูแลได้ไม่ทั่วถึงเลย เราไปชมความน่ารักของสุนัขเหล่านี้กัน เห็นแบบนี้ทำไมไม่มีคนรับไปเลี้ยงอีกน้าาาาา . . . . . . . ตอนนี้ทางสตาร์บั๊กสาขาที่ไปซื้อประจำก็ได้ทำการติดป้ายเพื่อให้คนได้เห็นภาพเหล่านี้แล้วมารับเลี้ยงด้วย ยังไงก็ขอให้ได้บ้านใหม่เร็วๆ นะจ๊ะ ที่มา thedodo
-
ชาวเน็ตถกกันสนั่น กรณีร้านกาแฟใช้หญิงสาวเป็นเมนู ส่อการเหยียดเพศหรือไม่!??
กลายเป็นประเด็นร้อนให้ชาวเน็ตถกเถียงอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีของร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่ใช้ร่างกายของหญิงสาวเป็นป้ายเมนูอาหาร เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาอ่านและเลือกเมนูกัน จนชาวเน็ตถกกันว่านี่ส่อถึงการเหยียดเพศใช่หรือไม่? ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กเพจ กูจะไม่ยอมเห็นรูปนี้คนเดียวแน่ๆ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 1 สิงหาคม โดยในภาพนี้เป็นภาพของหญิงสาวสองคนในชุดเสื้อยืดแขนกุดสีขาวและดำ ส่วนบริเวณด้านหน้าของเสื้อมีรายการอาหารตัวเล็กๆ ถูกพิมพ์ติดเอาไว้ หากจะสั่งเครื่องดื่มต้องขยับเข้าไปอ่านใกล้ๆ จากการสังเกตชื่อร้านที่มุมเสื้อ คาดว่าชื่อร้าน บ้านเพื่อน Cafe (ตรงนี้#เหมียวฟิ้นลองค้นพิกัดของร้านแล้วแต่ไม่พบจริงๆ หากใครมีข้อมูลสามารถส่งเข้ามาได้นะ) ทั้งนี้หลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ออกไป ก็ดูจะเป็นประเด็นให้เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอยู่ไม่น้อย โดยความเห็นบางกลุ่มมองว่าเป็นการโปรโมทที่ดูเซ็กซี่และอยากจะลองไปกินดูสักครั้ง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเห็นจากชาวเน็ตบางคนบอกว่าการโปรโมทร้านแบบนี้อาจเป็นการส่อถึงการเหยียดเพศก็เป็นได้ เพราะเป็นการใช้เรือนร่างของผู้หญิงเพื่อสร้างจุดสนใจให้กับทางร้าน . แต่ก็มีคนเข้ามาแย้งบอกว่านี่ไม่น่าจะใช่การเหยียดเพศ เพราะไม่ใช่การขู่เข็ญหรือบังคับให้หญิงสาวมาทำโดยไม่เต็มใจ เป็นการว่าจ้างที่ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่ายเสียมากกว่า กลับกันยังมีการตั้งประเด็นว่าหากเป็นชายหนุ่มมาแต่งตัวแบบนี้บ้างจะถูกหาว่าเป็นการเหยียดเพศหรือไม่? . . มีการตั้งข้อสังเกตย้อนกลับไปถึงประเพณีการแต่งงานของคนไทย ที่ต้องมีการมอบเงินให้กับพ่อแม่ฝ่ายหญิง ซึ่งอาจจะเป็นการเข้าข่ายการเหยียดเพศด้วยหรือเปล่า? . . ประเด็นแบบนี้ #เหมียวฟิ้นมองว่าอาจจะอยู่ที่บริบทสังคมมากกว่านะ บางที่อาจจะรับได้ บางที่อาจจะรับไม่ได้ ยังไงเราลองมาคุยกันได้นะ ว่าการโปรโมทร้านแบบนี้ถือเป็นการเหยียดเพศหรือเปล่า…. หรือเป็นเพียงกิจกรรมภายในร้านที่ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไร!? ที่มา กูจะไม่ยอมเห็นรูปนี้คนเดียวแน่ๆ
-
หญิงสาวเอาคืน “เพื่อนออฟฟิศขี้ขโมย” ด้วยการบีบนมตัวเองใส่แทนครีมกาแฟ!!!
ปัญหาผีตู้เย็นเป็นอะไรที่เจอได้ทุกประเทศ ทุกที่ ทุกองค์กรจริงๆ จะเรียกว่าเป็นปัญหาระดับโลกเลยก็ว่าได้ แต่ทางแก้นั้นก็หายากเสียเหลือเกิน คนมันจะขโมยจะให้ทำยังไงได้ ถึงแม้ว่าเราจะจับมือใครดมไม่ได้ แต่เราก็สามารถสั่งสอนหัวขโมยทางอ้อมได้อยู่นะ เหมือนอย่างกรณีที่หญิงสาวคนนี้ได้เจอในออฟฟิศของเธอ ซึ่งเธอได้เอาครีมกาแฟ แช่ไว้ในตู้เย็น แต่แล้วก็เกิดผิดสังเกตเมื่อครีมมันหมดเร็วมาก พอเธอจับได้ว่ามีขโมยแน่ๆ เธอก็คิดแผนเอาคืนแบบนุ่มนวลแต่เจ็บแสบ โดยการเติมนมลงไปในขวดครีมนั้น แต่นมนั้นเป็นนมสดๆ จากเต้าของเธอเอง ซึ่งขโมยไม่มีทางรู้แน่นอน แล้วก็ปล่อยให้หัวขโมยมันแอบใช้ไปเรื่อยๆ “อรุณสวัสดิ์ ถึงใครก็ตามที่แอบใช้ครีมกาแฟของฉันไปตลอดสัปดาห์นี้ ยินดีด้วย คุณกำลังดื่มนมจากเต้าของฉันเอง หวังว่าจะชอบนะ จาก B ปล. ไม่ต้องกังวลนะ เป็นนมออร์แกนิก” ภาพของบนนี้คือโน้ตที่เธอแปะไว้ในเช้าวันถัดมา แล้วเธอก็โพสต์ภาพลงใน Reddit ก่อนที่จะดังแบบสุดๆ จากใน Facebook อันนี้ จนมียอดแชร์เป็นหมื่น และถูกใจอีก 30,000 กว่าครั้ง ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าหัวขโมยยังอยู่ดีกินดีรึเปล่า เขาบอกว่านมสดจากเต้ามีประโยชน์มากๆ เลยนะ ไม่ดีใจหน่อยเหรอ อิอิ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเรื่องราวเกี่ยวกับผีตู้เย็นมาแล้ว และแกล้งได้โหดกว่านี้อีก ซึ่ง #เหมียวสามสี เคยนำเสนอไป ใครยังไม่เคยอ่านก็ลองอ่านดู ภาพเหล่านี้โพสโดยแฟนหนุ่มของเธอในเว็บไซต์ Imgur ชื่อว่า porialex ได้เล่าว่าแฟนของเขานั้นถูกขโมยของกินบ่อยๆ บางทีก็กินไปแค่คำนึง…
-
แบบนี้ก็มี… หญิงโดนผู้ชายทวง ‘ค่ากาแฟ’ คืน เพราะเจ็บใจที่ไปนั่งกินด้วย แต่เธอไม่คิดอะไร!?
ว่ากันว่าความรักในช่วงแอบรักนั้นเป็นความรู้สึกที่ดีที่สุดของความสัมพันธ์เลยก็ว่าได้ เพราะอยู่ในช่วงศึกษาดูพฤติกรรมของอีกฝ่าย ยังไม่รู้แน่ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นมีใจให้กับเราหรือไม่ แล้วเราก็ต้องระมัดระวังไม่ให้การกระทำล้ำหน้าความรู้สึกด้วย เรื่องเล่าที่#เหมียวฟิ้นจะหยิบมาเล่าต่อไปนี้ก็มีลักษณะคล้ายๆ กับความสัมพันธ์ที่ว่าเหมือนกันนะ เรื่องนี้เป็นของคุณ Vimwipa Klaviggarn หรือคุณตองเก้า เธอได้เล่าว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอได้ไปนั่งกินกาแฟอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่ง ในระหว่างนั้นมีผู้ชายที่แอบชอบเธอตามมาหาเธอถึงที่ร้าน และอาสาจะจ่ายค่ากาแฟให้ แต่หลังจากวันนั้นไปแล้ว ฝ่ายชายกลับคิดมาก ว่าเธอจะคิดยังไงกับเขา จึงส่งข้อความเข้ามายังเฟซบุ๊กเพื่อถามคำถามคลาสสิคว่า “ตกลงคิดไงกับเรา?” เธอจึงตอบไปว่าไม่ได้คิดอะไร แต่ฝ่ายชายก็ยังส่งข้อความมาอีกว่าถ้าไม่ชอบจะให้ไปกินกาแฟด้วยทำไม แถมฝ่ายหญิงเองก็คุยดีกับเขา จนสุดท้ายฝ่ายชายก็เกิดอาการหัวร้อนจนเอ่ยปากทวงค่ากาแฟที่จ่ายไปวันนั้นคืน มีงี้ด้วย!? . . . . อ่านข้อความเต็มๆ ได้ที่นี่เลย #ชะนีสมัยนี้พึงระวัง!! มันเป็นเรื่องของความรู้สึกหรือการแลกเปลี่ยนวะ? น่ากลัวมาก ไม่เคยเจอ งงแรง55555555 คือแค่ไปนั่งกิน… โพสต์โดย Vimwipa Klaviggarn บน 23 มิถุนายน 2016 เรื่องนี้ลองมองสองมุม คือฝ่าหญิงคิดแค่เพื่อนจริงๆ และไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรกับเรา (ก็แหงล่ะใครจะไปรู้ความคิดของคนอื่นได้) กับอีกมุมคือฝ่ายชายดันคิดไปไกลว่าหญิงสาวมีใจให้ (ผู้ชายบางคนอ่อนไหวง่ายนะเออ) แต่ครั้นจะไปขอคืนค่ากาแฟแบบนี้ #เหมียวฟิ้นว่ามันแปลกๆ ไปหน่อยนะ ที่มา Vimwipa Klaviggarn
-
หนุ่มญี่ปุ่น พาไปทดลองดื่ม ‘กาแฟกระป๋อง’ อายุกว่า 27 ปี เอิ่ม… ยังไม่เข็ดใช่ไหม!?
เอาจริงๆ แล้ว “ประเทศญี่ปุ่น” นี่ถือได้ว่าเป็นประเทศที่ชอบลองของแปลกมากที่สุดเลยก็ว่าได้เลยนะเนี่ย ซึ่งจากบทความที่แล้ว เราได้นำเสนอเกี่ยวกับหนุ่มญี่ปุ่นที่ตามหา บะหมี่ อายุกว่า 16 ปี แล้วนำมาต้มกิน ผลที่ได้ก็คือโป๊ะเชะ มันเน่าแล้วนั่นเอง และดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่เข็ดนะ เพราะล่าสุดคุณ Sanjun ก็ได้ตัดสินใจทดลองดื่มกาแฟกระป๋องที่มีอายุนานกว่า 27 ปี จากร้านขายของมือสอง ในจังหวัดยามากูชิ ประเทศญี่ปุ่น นั่นเอง ว่าแล้วก็อย่ารอช้าไปดูผลกันเลยว่ารสชาติของกาแฟสุดเก่าแก่กระป๋องนี้ จะออกมาเป็นอย่างไร และนี่คือ “จอร์เจีย คอฟฟี่” กาแฟกระป๋องพร้อมดื่มอันดับ 1 ในญี่ปุ่น จาก Coca Cola กาแฟกระป๋องนี้จะรสชาติดี๊ดี หากนำมาดื่มก่อนวันที่ 10 กันยายน 1989 แต่เดี๋ยวนะ!! นี่มันผ่านมานานแล้วนี่นา ดูจากสภาพแล้ว…มีใครอยากลองดื่มบ้างไหม? เอาละ!! เริ่มภารกิจ เมื่อลองสูดกลิ่นเขาไป ก็พบว่า…มันไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว หรือกลิ่นของความเน่าเสียเลย เทมันลงไปในแก้วเลยยยย…
-
พาชมคาเฟ่แสนดีงามจากแอฟริกาใต้ เสิร์ฟกาแฟใส่ใน “โคน” พร้อมดื่ม!!
ปกติเวลาเราเข้าร้านกาแฟ ถ้าเราดื่มอยู่ที่ร้าน เขาก็จะมีแก้วมาให้ แต่ถ้าเราสั่งแบบกลับบ้าน เขาก็มักจะเอาใส่แก้วกระดาษหรือพลาสติกเพื่อให้พกพาสะดวก แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปพบกับกาแฟโคนที่ร้าน The Grind Coffee Company ในเมืองโยฮันเนสเบิร์ก รับรองว่าต้องถูกใจแน่นอน ผู้ที่คิดค้นกาแฟโคนนี้ขึ้นมาคือ Dayne Levinrad เขาทำงานเป็นผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกาแฟถึง 4 ปี ไปทำมาหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย บราซิล ลอสแองเจิงลิส แล้วก็กลับมายังบ้านเกิด ซึ่งก็คือที่โยฮันเนสเบิร์ก เขาเล่าว่าที่โยฮันเนสเบิร์กนั้นร้านกาแฟมีการแข่งขันกันสูงมาก ดังนั้นต้องทำอะไรที่มันแปลกไปจากเดิม ซึ่งจากการที่เขาได้ไปศึกษาในออสเตรเลียมา เขาเลยรู้ว่าตอนนี้ตลาดต้องการอะไร เขารู้ว่าคนชอบไอติม ช็อกโกแลต กาแฟ เขาก็เลยนำเอา 3 สิ่งนี้มาผสมกัน จนได้ออกมาเป็นโคนที่เคลือบช็อกโกแลตด้านใน พร้อมกับเทกาแฟใส่ลงไปด้วย โดยจุดเด่นอยู่ที่ช็อกโกแลตที่นำเอามาทำมีความแตกต่างกันถือ 10 ชนิด ไปชมคลิปความน่าทานของมันกันเลย ดูคลิปไม่ได้ กดดูที่นี่จ้า อื้อหือออ เห็นแล้วอยากจะลิ้มลองมากๆ นึกภาพตอนซดกาแฟแล้วกัดโคนไปด้วยคงเป็นอะไรที่ฟิน… ที่มา designtaxi, INSIDER food
-
หญิงสาวเดือดหลังสั่งกาแฟแล้วได้ “กาแฟฮิปสเตอร์” เหมือนการทดลองวิทยาศาสตร์
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนกำหนดว่าฮิปสเตอร์นั้นต้องกินกาแฟ และต้องไม่ใช่กาแฟธรรมดานะ ต้องเป็นกาแฟดริปหรืออะไรที่มันล้ำไปกว่านั้น ซึ่งบ้านเราก็มีอยู่เหมือนกัน อีกหนึ่งกาแฟที่กำลังเป็นที่นิยมคือการแฟแบบที่แยกขวดทุกอย่างมาให้แล้วให้เราผสมเอง ซึ่งคนที่รักกาแฟส่วนมากก็เลือกกาแฟที่มันทำมาให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องมาผสมเองแบบนี้หรอก Jamilia Rizvi เธอเป็นคนธรรมดาที่อยากจะดื่มกาแฟ แต่แล้วก็มาเจอแจ็กพอต เมื่อร้านที่เธอเข้าไปนั้นเสิร์ฟกาแฟแนวใหม่ (จริงๆก็ไม่ใหม่นะ) ที่ต้องผสมทุกอย่างเอง เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกรสชาติที่ต้องการ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ถูกใจเธอสักเท่าไหร่ เธอก็เลยโพสต์ลงเฟซบุ๊กว่าเดือดๆ ใจความว่า ขอโทษนะเมลเบิร์น แต่ไม่เอานะ ไม่เอา ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ฮิปสเตอร์นี่ไปไกลจนต้องเอากาแฟมาแยกส่วนแล้วเหรอ ฉันรอมา 20 นาที เพื่อที่จะได้กาแฟ แต่นี่ฉันได้อะไรที่ไม่ได้หวังไว้ ฉันต้องการกาแฟ ไม่ใช่การทดลองวิทยาศาสตร์ ฉันอยากจะดื่มกาแฟจากแก้ว ไม่ใช่จากบีกเกอร์ แล้วไงต่อ? ได้เขียงมาพร้อมกับเมล็ดกาแฟจริงๆ แล้วก็มีที่ใส่เหมือนหมวกกลับหัว มันไม่ควรเป็นแบบนี้นะเมลเบิร์น มันควรหยุดได้แล้ว หลังจากที่เธอโพสต์ไป ก็มีคนแชร์ไปเกือบ 5,000 คน กดไลก์อีก 22,000 คน อีกทั้งยังมีคอมเม้นมาเล่าประสบการณ์ร้านกาแฟสุดโหดอีกมากมาย ลองตามไปอ่านได้ที่โพสต์นี้เลย ไม่รู้ว่าที่บ้านเขาเพิ่งมีหรือยังไง แต่อยากบอกว่าที่บ้านเรามีมาเป็นปีแล้วนะ แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวกับฮิปสเตอร์มากมาย คนส่วนมากก็มักจะไปถ่ายรูปกันมากกว่า…
-
ไนกี้รวมร่างกับสตาร์บัค SB Dunk Low ระดับพรีเมี่ยมผสานเอกลักษณ์ ใส่แล้วกินกาแฟอร่อยขึ้น!?
ว่ากันด้วยเรื่องของแบรนด์ดังๆ ต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันไปแล้ว แต่มันใครจะไปคิดล่ะว่าแบรนด์รองเท้ากับแบรนด์กาแฟมันจะมาผสมปนเปกันได้ลงตัวแบบนี้?? เพราะว่าล่าสุดทางแบรนด์รองเท้าชื่อดัง Nike ได้ร่วมมือกับแบรนด์ผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับทางด้านแฟชั่นเลยแม้แต่น้อยอย่าง Starbucks เพราะขายแต่กาแฟ แต่สามารถช่วยกันออกแบบดึงเอกลักษณ์ของทั้งสองออกมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แรงบันดาลใจนั้นก็มาจากเอกลักษณ์ของ Starbucks ล้วนๆ นำมาตกแต่งลวดลายและสีสันขาวตัดสีน้ำตาลกาแฟพร้อมกับสีเขียวลงในรองเท้า Nike SB Dunk Low Premium ของสายสเก็ตบอร์ด ราวกับว่าเป็นกาแฟในแก้วยังไงยังงั้นเลย แน่นอนว่ารุ่นนี้มีความพรีเมียมสูงมาก ผลิตออกมาวางจำหน่ายเฉพาะร้านที่เกี่ยวข้องกับด้านสเก็ตบอร์ดเพียงอย่างเดียว ไม่แน่ใจว่าจะเข้าไทยด้วยหรือไม่ แต่แว่วๆ ราคาก็อยู่ที่ประมาณ 100 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,500 บาท) ถ้าได้มาใส่ก็คงจะเพิ่มความอร่อยให้กับกาแฟอีก 50% ฮร่าาาาาา ที่มา : sneakerbardetroit, hypebeast, thestashed
-
ดื่มด่ำความหอมจากกาแฟ พร้อมกับ “ลาเต้อาร์ตสายรุ้ง” ที่งดงามเกินบรรยาย!!
ปัจจุบันนี้มีคนนิยมดื่มกาแฟกันมากขึ้น ไม่เพียงเฉพาะดื่มเพื่อให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวเท่านั้น แต่เรายังจะได้รับบรรยากาศดีๆ จากที่ร้านกาแฟ หรือไม่ก็จากความงามในถ้วยกาแฟแก้วนั้นๆ อีกด้วย สิ่งนั้นก็คือลาเต้อาร์ตนั่นเอง การจะทำลาเต้อาร์ตได้นั้น บาริต้าต้องผ่านการฝึกฝนมานาน เพื่อทำให้กาแฟแก้วนั้นมีลวดลายที่สวยงาม และวันนี้ #เหมียวสามสี จะพาไปรู้จักกับ Mason Salisbury บาริสต้าจากลาสเวกัส ผู้ทำลาเต้อาร์สีรุ้งที่แปลกไม่เหมือนใคร ปกติแล้วเขาจะใช้นมในการทำลวดลาย แต่ครั้งนี้เขาใส่สีผสมอาหาร ซึ่งมันทำให้กาแฟของเราดูสวยงามแปลกตาขึ้นไปอีกขั้น เราไปชมคงามงดงามที่เขาได้สร้างสรรค์มันขึ้นมากันเลย ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ คุณสามารถไปติดตามผลงานลาเต้อาร์ตของเขาต่อได้ที่ ibrewcoffee ที่มา design taxi, boredpanda
-
อยากลองชิมไหม? Starbucks เตรียมขาย “ชา” สูตรของตัวเองในจีนเดือนกันยายนนี้
Starbucks ถือเป็นแบรนด์กาแฟที่โด่งดังและมีสาขาไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ล่าสุดมีข่าวว่าพวกเขากำลังจะแผ่ขยายสาขาไปยังประเทศจีน แต่ไม่ใช่ร้านกาแฟแบบที่ทุกคนเข้าใจ แต่มันจะเป็นร้านขายน้ำชาแทน เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า ร้านกาแฟสัญชาติอเมริกันอย่าง Starbucks กำลังเตรียมที่จะเปิดร้านน้ำชาภายใต้แบรนด์ Teavana ที่ประเทศจีนเป็นสาขาแรก หลังจากที่เริ่มทำมาแล้วในอังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมัน ตามรายงานบอกว่าตอนนี้ชาของแบรนด์ Teavana กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์แล้วเมื่อปีที่ผ่านมา และพวกเขากำลังจะก้าวไปอีกขั้นโดยการเปิดร้านน้ำชาที่จีนในเดือนกันยายนนี้ จีนถือเป็นประเทศที่บริโภคน้ำชามามาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมีหลักฐานต่างๆ ที่ขุดพบในหลุมฝังศพของจักรพรรดิฮั่น ที่ช่วยยืนยันว่าชาวจีนนั้นมีน้ำชาดื่มมาตั้งแต่เมื่อสมัย 2737 ปีก่อนคริสต์กาลแล้ว มีแม้กระทั่งน้ำชารสยาสีฟันเลยด้วยซ้ำ แต่การที่บริษัทอเมริกันจะเข้าไปเปิดธุรกิจร้านขายชาในจีนได้นั้นก็ถือเป็นความเสี่ยงอย่างมาก เพราะจีนเป็นประเทศที่ปลูกชาเอง อาจจะต้องเจอกับคู่แข่งในท้องถิ่นก็เป็นได้ แต่ยังไงประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Starbuck อย่าง Kevin Johnson ก็ยังเชื่อมั่นว่าแบรนด์ของเขาจะแข็งแรงพอและประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับธุรกิจกาแฟที่เคยทำมา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ชาแบรด์ Teavana จะเข้าไทยบ้างนะเนี๊ยะ แล้วถ้ามาแล้วจะประสบความสำเร็จเหมือนกับกาแฟหรือเปล่า? อันนี้ต้องติดตามกันต่อไปล่ะ ที่มา shanghaiist
-
ศิลปินเปลี่ยน “หนังสือเก่า” ให้กลายเป็นแก้วชา พร้อมเครื่องประดับสุดกิ๊บเก๋ยูเรก้า!!
มีหนังสือเก่าเหลืออยู่ที่บ้าน เอาไปทำอะไรดีนะ จะเอาไปชั่งกิโลขายก็เสียดาย จะเอาไปบริจาค แต่หนังสือก็สภาพแย่เกินที่จะเอาไปอ่านต่อได้ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองมาทำตามศิลปินคนนี้ดีกว่ามั้ย? Cecilia Levy ศิลปินชาวสวีเดนเธอได้พบนิยายเก่าๆ และหนังสือการ์ตูน แต่แทนที่เธอจะเอามันไปทิ้ง เธอได้นำเอาหนังสือเหล่านั้นมาทำเป็นเปเปอร์อาร์ต ทั้งแก้วชาและดอกไม้สวยๆงามๆ ด้วยความที่ก่อนหน้านี้เธอเป็นช่างเย็บหนังสือมาก่อน เธอเลยรู้องค์ประกอบของหนังสือเป็นอย่างดี ใครที่เป็นคนรักการอ่านมากๆ คงะเป็นเรื่องที่ยากที่เราจะต้องมีฉีกหนังสือหรือทำลายหนังสือที่เรารัก แต่ผลงานของเธอครั้งนี้ถือเป็นการชุบชีวิตหนังสือขึ้นมาใหม่อีกครั้งให้กลายเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง เธอเริ่มทำงานกระดาษมาตั้งแต่ปี 2009 หลังจากนั้นก็เธอทำให้หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแก้วชา จานรอง จาน ถ้วย และอื่นๆ อีกมากมาย เราไปชมผลงานของเธอกันเลยดีกว่า ถือเป็นการนำของเก่ากลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีคุณค่ามากๆ เลย ถ้าเอาไปขายรับรองว่าได้เงินเยอะกว่าเอาไปชั่งกิโลขายอีกแน่ๆ ที่มา boredpanda
-
นี่คือ ‘Joule’ กำไลสุดเจ๋ง ที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อกาแฟของคุณได้อย่างมหาศาล!!
มนุษย์วัยทำงานทั้งหลายที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ลองมานึกย้อนดูสิว่าในเวลา 1 เดือน คุณหมดเงินค่ากาแฟไปเท่าไหร่ และถ้าหากคุณพยายามเลิกดื่มกาแฟ แต่ก็ยังเลิกไม่ได้สักทีละก็ วันนี้เรามีเคล็บลับเด็ดๆ มาบอก และนี่ก็คือ Joule กำไลสุดมหัศจรรย์ ที่จะช่วยตัดค่ากาแฟของคุณออกไปได้อย่างมหาศาล ซึ่งคุณสมบัติของมันก็คือควบคุมการบริโภคคาเฟอีนในช่วงสี่ชั่วโมง พร้อมกับชะลอและบรรเทาความต้องการให้ต่ำลงเรื่อยๆ อีกด้วย ว้าว!! สุดยอดเลย ที่สำคัญวิธีใช้ก็ง่ายมากๆ เพียงแค่ดึงแผ่นแปะคาเฟอีนบนกำไลออกทุกวัน แผ่นแปะเหล่านี้ก็จะกระจายคาเฟอีนของกาแฟหนึ่งถ้วยในร่างกายของเรา ฟังดูแล้วอาจจะแปลกๆ แต่รับประกันว่ามันใช้ได้ผลจริงไม่ต่างจากแผ่นแปะนิโคตินเลยละ ปกติแล้วคนวัยทำงานส่วนใหญ่มักจะหมดเงินไปกับค่ากาแฟในทุกๆ เช้าๆ แต่ถ้าหากคุณมีเจ้า Joule อยู่ในมือละก็ นอกจากมันจะช่วยช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อกาแฟได้แล้ว นอกจากนี้มันยังมีความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ ขณะที่คุณกำลังสวมกำไลอยู่ เช่น การวิ่งออกกำลังกายบนลู่วิ่งไฟฟ้า หรือพิมพ์งานโดยไม่ต้องกังวลว่าจะปัดถ้วยกาแฟหกยังไงละเหมียว สำหรับกำไล Joule มีวางจำหน่ายในราคา 29 เหรียญ แถมยังมีให้เลือกถึง 3 สีด้วยกันไม่ว่าจะเป็นสีดำ สีชมพู และสีฟ้า หากใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ indiegogo ที่มา : bustle
-
งานวิจัยใหม่ชี้ กาแฟช่วยลดอัตราการเป็นมะเร็งเต้านม แต่ที่สำคัญ ‘ลดขนาดนม’ ด้วย!!?
สำหรับกาแฟ หลายๆ คนคงจะรู้ถึงคุณประโยชน์ของมันกันดี หลักๆ แล้ว กาแฟทำให้สดชื่น กะปรี้กะเปร่ามากขึ้น แต่ประโยชน์แฝงอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมื่อล่าสุดนี้มีงานวิจัยตัวหนึ่งที่ออกมาชี้ชัดว่าทำให้อัตราการเป็นมะเร็งเต้านมในผู้หญิง ลดลงด้วยล่ะ!!! Helena Jernstroem กับงานวิจัยของเธอ ที่ชี้ให้เห็นถึงข้อดีของกาแฟในจุดนี้ สำหรับสาวๆ ที่ดื่มกาแฟมากกว่า 3 แก้วต่อวันจะช่วยลดอัตราการเป็นมะเร็งได้ แต่กระนั้น ยังมีผลพวงทางด้านอื่นที่หลายๆ ท่านอาจไม่พึงประสงค์ตามมาด้วย!!? เพราะกาแฟจะทำให้หน้าอกของคุณมีขนาดที่น้อยลง (หรือหดลงนั่นแหละ!!!) เพราะจากการสำรวจ เธอพบว่าสาวๆ กว่า 270 คนที่ดื่มกาแฟ กว่าครึ่งเลยล่ะที่มียีนตัวที่ทำให้หน้าอกหน้าใจของพวกหล่อนมีขนาดลดลง และถ้าพวกเธอยังดื่มต่อไปอีกเรื่อยๆ Jernstroem เชื่อว่าหน้าอกของพวกเธอจะลดขนาดลงอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะหายผลุบเข้าไปในหลุมดำหรอกนะจ๊ะ อย่างที่นักวิจัยสาวบอกเราก็คือ ‘หน้าอกของสาวๆ จะมีขนาดที่ลดลงเท่านั้น ไม่ได้ถึงกับหายไปเลย’ Jernstroem การดื่มกำแฟทำให้หน้าอกลดขนาดลง!!? แต่แน่ล่ะว่าการที่มีหน้าอกที่มีขนาดใหญ่เกินไป ก็เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้ง่ายกว่า เพราะฉะนั้นอาจมีความเกี่ยวข้องกันที่ว่าการทำให้อัตราการเป็นมะเร็งที่ลดลงของกาแฟ นั่นหมายถึงการทำให้มัน ‘หด’ ลง ก็เป็นได้ ฮร่าาา (นี่ข้อสังเกตของ #จ่าสิบเหมียว เองน้าาา -*-) เอาเป็นว่าสาวๆ ก็อย่าพึ่งตื่นตกใจกันไปมากมายละกันเนาะ…
-
ชมร้านสตาร์บัคจาก 17 ประเทศทั่วโลก ที่ถูกตกแต่งขึ้นมาได้อย่างสวยงาม และไม่เหมือนใคร
สำหรับกาแฟที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกคงหนีไม่พ้น ‘กาแฟสตาร์บัค’ แน่นอน ซึ่งนอกจากรสชาติของกาแฟ ที่หอม นุ่ม อร่อยถูกปากหลายๆ คนแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ามักจะประทับใจก็คือ การออกแบบตัวร้านนั่นเอง โดยเราจะเห็นได้ว่าสตาร์บัคหลายๆ ที่ มักจะมีรูปแบบ และการตกแต่งที่ไม่เหมือนกัน บางสาขาก็สร้างขึ้นมาให้ดูทันสมัย เรียกได้ว่าในแต่ละสาขาก็มักจะถูกสร้างขึ้นมาให้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ในวันนี้เหมียวขี้อ้อนจะพาคอกาแฟ ไปชมร้านกาแฟสตาร์บัคที่ตกแต่งออกมาได้อย่างสวยงาม และไม่เหมือนใครจาก 17 ประเทศทั่วโลก บอกเลยว่าแต่ละที่เด็ดๆ ทั้งนั้น เราไปชมกันเลยดีกว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง ไม่แน่นะว่าคุณอาจจะเคยไปมาแล้วก็เป็นได้ 1.สตาร์บัคที่เมืองซีอาน ประเทศจีน 2.สตาร์บัคดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3.สตาร์บัคที่จังหวัด โทะยะมะ ประเทศญี่ปุ่น 4.สตาร์บัค Büyükadaเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี 5.สตาร์บัคเมืองกุสโก ประเทศเปรู 6.สตาร์บัคที่ประเทศมาเลเซีย 7.สตาร์บัคเชียงใหม่ ประเทศไทย สตาร์บัค สาขากาดฝรั่ง 8.สตาร์บัคประเทศคูเวต 9.สตาร์บัคที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์…
-
ศิลปินญี่ปุ่นวาดการ์ตูนลงบนแก้ว สร้างเทคนิคการเล่าเรื่องด้วยการหมุน!!
ประเทศญี่ปุ่นเขาขึ้นชื่อเรื่องการ์ตูนอยู่แล้ว เด็กหลายคนมีอาชีพที่ใฝ่ฝันคือนักวาดการ์ตูน และเขาก็ไม่ได้แค่ฝัน เขาลงมือทำให้มันเป็นจริงด้วย อย่างเช่นศิลปินชาวญี่ปุ่นท่านนี้ที่ชื่อว่า Shin Shinrashinge วัย 22 ปีไม่รู้ว่าเขาชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจหรือไม่ แต่การที่เขาเอาแก้วกาแฟกระดาษมาเล่าเรื่องราวการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่นนั้นเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ โดยปกติแล้วการ์ตูนจะมักจะวาดลงในกระดาษพร้อมกับช่องแบ่งเป็นตอนๆให้ได้อ่านกันอย่างสะดวก แต่เขาได้ทำการเอาแก้วกาแฟกระดาษมาวาดการ์ตูนใส่ และใส่ลูกเล่นการหมุนแก้วเข้าไป ทำให้การ์ตูนเหมือนมีชีวิตขึ้นมาเลย และนี่คือผลงานแรกของเขา ทำออกมาเป็นการ์ตูนเรื่อง One-Punch Man ซึ่งจะเว้นช่องว่างไว้สำหรับเปลี่ยนฉาก อันนี้เป็นผลงานชิ้นที่สอง เรื่องโดราเอม่อนที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ถือเป็นไอเดียที่เจ๋งมากๆ ในการเล่าการ์ตูนผ่านแก้วกาแฟ เพราะต้องวางแผนเยอะมากกว่าจะทำแต่ละฉากออกมาได้ หวังว่าเราจะได้เห็นผลงานของเขาอีกเยอะๆนะ ที่มา lifebuzz
-
คนเหมือนๆกัน…Starbucks รับ ‘เด็กออทิสติก’ เข้าทำงาน โชว์ลีลาการทำกาแฟที่ไม่เหมือนใคร
เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของวัยรุ่นออทิสติกรายหนึ่ง ในขณะยืนชงกาแฟด้วยลีลาอันไม่เหมือนใคร จนกลายเป็นคลิปไวรัลที่ถูกส่งต่อกันในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย คลิปดังกล่าวเป็นคลิปของพนักงานรายหนึ่งที่ชื่อ Sam เผยให้เห็นภาพในขณะที่เขากำลังทำงานตามคำสั่งของเจ้านาย Chris ที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาในร้าน Starbucks แห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ Sam กำลังอุ่นนมให้ร้อน เขาก็ยิ้มและเต้นอย่างสนุกสนานไปด้วย และในเวลาต่อมาเขาก็เทนมลงไปในถ้วยกาแฟ ก่อนที่จะเพิ่มวิปครีมลงไปแบบมือโปร คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ Youtube โดยนาง Carly Fleischmann ที่อาศัยอยู่ในเมืองโตรอนโต้ ประเทศแคนาดา เธอเขียนข้อความอธิบายคลิปวิดีโอนี้ว่า “วันเกิดของฉันกำลังจะมาถึงในอีก 4 วัน และฉันขอพรให้คลิปนี้โด่งดังไปทั่วโลก ฉันอยากจะแนะนำพวกคุณให้รู้จักกับวัยรุ่นคนหนึ่งที่ชื่อ Sam” “Sam ถูกวินิจฉัยว่ามีอาการออทิสติก และเช่นเดียวกับคนออทิสติกทั่วๆ ไป Sam มีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหว เขาควบคุมให้ตัวเองอยู่นิ่งได้อย่างยากลำบาก เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะได้รับอนุญาตให้ทำงานหลังบาร์ เพราะมีอาการเคลื่อนไหวอย่างฉับพลัน แต่ผู้จัดการที่ชื่อ Chris เชื่อในตัว…
-
ลองไหม? ‘ตอกไข่ดิบใส่กาแฟ’ เมนูใหม่ของชาวญี่ปุ่น ถึงจะดูแปลกไปนิด แต่รสชาติอร่อยเหมือนกันนะ
โดยปกติแล้วเมนูอาหารเช้าของคนทั่วไป ส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นขนมปัง ไส้กรอก ไข่ดาว หรือกาแฟใช่ไหมละ แต่เราลองคิดกันเล่นๆ ดูว่า ถ้าหากนำกาแฟ และไข่ดิบมาผสมกัน คุณคิดว่าอาหารเช้ามื้อนี้มันจะออกมาเป็นอย่างไร หลายคนอาจจะคิดว่าเมนูนี้มันมีจริงๆ หรอ ใช่แล้ว…มันอยู่จริง เพราะก่อนหน้าที่จะมีเทรนด์การกินกาแฟไข่ดิบนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่น ได้สัมภาษณ์ชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในชุมชนชาวเกาหลี ในเขตอิคุโนะ จังหวัดโอซาก้า โดยเขาได้บอกว่า ตนเป็นคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟดำใส่ไข่ดิบเป็นอย่างมาก งานนี้ทำเอาชาวโอซาก้า รวมไปถึงทีมงานของ Rocketnews24 ที่อาศัยอยู่ในชุมชนนี้เช่นกัน ถึงกับอึ้งในความแปลกของเมนูนี้ ดังนั้นเมื่อเขาอยากรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร ก็เลยลองชิมให้ดูกันซะเลย สิ่งที่ต้องเตรียมก็มีไข่ดิบ และกาแฟดำ ตอกไข่ลงไป คนให้เข้ากัน ท๊าดา…และในที่สุดก็ออกมาเป็นกาแฟไข่ดิบยังไงละ มันอาจจะดูเหนียวกว่ากาแฟทั่วไปเพียงนิดเดียว แล้วรสชาติละ? ก็เหมือนกาแฟดำทั่วๆ ไปนั่นแหละ เพียงแต่มันอาจจะลดความขมลงไปนิด ทานคู่กับโดนัท อร่อยอย่าบอกใครเชียว เมื่อดื่มจนหมดจะพบว่า เหลือไข่ขาวเพียงเล็กน้อยที่ก้นแก้วเท่านั้น สรุปผลการทดลองในครั้งนี้ ตัวกาแฟจะมีความเหนียวกว่ากาแฟทั่วๆ…
-
สงสัยก็คลายซะ!! เมล็ดกาแฟต่างสูตร มีผลต่อสมองแตกต่างกันมั้ย งานวิจัยล่าสุดเผยว่า ‘ต่าง’
สำหรับคอกาแฟจะต้องชื่นชอบแน่นอนกับผลงานวิจัยชิ้นล่าสุดนี้ ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเดี๋ยวนี้มีคนชื่นชอบดื่มกาแฟกันมากขึ้น โดยเฉพาะกาแฟสดในสูตรต่างๆ ที่มีเยอะแยะมากมาย เพื่อตอบสนองความชื่นชอบแต่ละคนที่เลือกดื่มเพื่อผ่อนคลายหรือเป็นแรงกระตุ้นในการทำงาน ทั้งในเรื่องของกาแฟร้อนและกาแฟเย็น แต่ละสูตรมีส่วนผสมที่ต่างกัน ให้กลิ่นที่ต่างกัน เนื่องจากเมล็ดกาแฟนั้นเป็นคนละชนิด บางคนอาจจะไม่ได้สังเกตเท่าไหร่ มันก็ไม่แตกต่างจนเห็นได้ชัด แต่ที่แน่ๆ ในตอนนี้มีงานวิจัยชิ้นล่าสุดจากญี่ปุ่น ออกมาเปิดเผยแล้วว่าเมล็ดกาแฟแต่ละชนิดจะส่งผลต่อคลื่นอัลฟาในสมองในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน โดยคลื่นอัลฟาในสมองนี้จะมีอัตราส่วนที่สูงมากเมื่อเราอยู่ในสภาวะที่ผ่อนคลาย นักวิทยาศาสตร์ก็พบว่ากลิ่นจากกาแฟนี่แหละช่วยกระตุ้นได้ โดยเฉพาะการดมกลิ่นของเมล็ดกาแฟ Guatemalan และ Jamaican Blue Mountain รวมไปถึงการคั่วเมล็ดกาแฟก็มีส่วนเช่นกัน สีน้ำตาลเข้มและสีแดงคือระดับของคลื่นอัลฟาในสมอง ถ้าหากว่าคุณอยากมีสมาธิมากขึ้น เมล็ดกาแฟสูตร Brazilian Santos, Hawaiian Kona และ Sumatra จะมาช่วยกระตุ้นในส่วนนี้ได้ โดยจะช่วยในส่วนของการประมวลผลในสมอง (การตัดสินใจ, การจดจ่อ) โดยอ้างอิงจากผลการทดสอบในอาสาสมัครที่มีการตอบสนองต่อคลื่นความถี่สูงหลังจากที่ได้ดมกลิ่นเมล็ดกาแฟที่แตกต่างกัน กราฟอ้างอิงผลการทดสอบการตอบสนองต่อคลื่นความถี่ ยิ่งกราฟแท่งต่ำเท่าไหร่ นั่นก็หมายถึงการประมวลผลที่รวดเร็ว แล้วคุณล่ะ อยากจะดื่มกาแฟจากเมล็ดแบบไหนเอ่ย? การดมกลิ่นช่วยส่งผลต่อสมองในรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างนี้ ถ้าหากว่าต้องอยู่ดึกเพื่อทำงานหรืออ่านหนังสือ เมล็ดกาแฟ…
-
ร้านกาแฟใจดี!! ยอมให้น้องหมาจรจัดมานอนภายในร้านหลังจากปิดในตอนกลางคืน
ว่ากันด้วยเรื่องของคนรักสัตว์ อยากจะมีสัตว์เลี้ยงซักตัวไว้คอยเป็นเพื่อนยามเหงา บางครั้งน้องหมาก็เจอกับเจ้านายที่ดีก็ถือว่าดีไป แต่หลายครั้งน้องหมาก็ต้องประสบกับความรักที่หมดลงจากเจ้านายที่เคยไว้ใจที่สุด จนกลายมาเป็นปัญหาสุนัขจรจัด ร้านกาแฟยอมให้น้องหมาไปนอนในร้านได้!? เช่นเดียวกันกับประเทศกรีซ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมือง Mytilene ที่มีเจ้าของมากมายทำการทิ้งสุนัขเนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าเลี้ยงไม่ไหว (หรือหมดความรักแล้ว) จนทำให้มีน้องหมามากมายต้องพยายามเอาชีวิตให้รอดในแต่ละวัน ยิ่งตกกลางคืนก็ต้องนอนข้างถนน และด้วยเหตุนี้เองทางร้านกาแฟที่ชื่อว่า Hott Spott ได้ทำการเปิดประตูต้อนรับน้องหมาจรจัด หลังจากที่ไม่มีลูกค้าเข้าร้านแล้ว ซึ่งในช่วงเวลาที่ปิดร้านนี่แหละ ภายในร้านก็จะกลายมาเป็นที่พักพิงให้กับน้องหมาทั้งหลาย ไม่ต้องทนหนาวอีกต่อไป ‘หลังจากที่ร้านปิดในแต่ละคืน น้องหมาก็จะเข้ามานอนที่นี่แหละ พวกเราไม่มีปัญหาอะไรเลย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเราก็ทำแบบนี้มาตลอด ให้น้องหมาได้นอนบนที่นั่งของลูกค้า’ พนักงานร้านกาแฟกล่าว อย่างน้อยก็เป็นการเยียวยาชีวิตของน้องหมาให้อยู่รอดต่อไป จนกว่าจะได้พบเจอคนที่รักมันจริงๆ ซักวันหนึ่ง ใครที่เลี้ยงน้องหมาหรือสัตว์เลี้ยงอะไรก็ตาม ดูแลให้ดี อย่าเอาหนึ่งชีวิตที่มีคุณเป็นโลกทั้งใบไปทิ้งซะล่ะ ที่มา : thechive
-
ดราม่าร้านกาแฟสีเขียวชื่อดัง “จัดโปรฯ วันพ่อ” ให้ลองคิดถึงคนที่ไม่มีพ่อแล้ว
ในวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันพ่อแห่งชาติในบ้านเรา ทางร้านกาแฟชื่อดังได้ทำโปรโมชั่นแล้วโพสต์ทางเฟซบุ๊ก เพื่อเชิญชวนให้คนได้มาใช้สิทธิ์นี้กัน ซึ่งก็ได้รับความสนใจเป็นจำนวนมากจากลูกค้าที่ซื้อกินเป็นประจำ แต่แล้วก็ได้มีลูกเพจบางคนได้ท้วงติงถึงโปรโมชั่นในครั้งนี้ เนื่องจากว่าบางคนอาจจะเสียพ่อไปแล้ว ซึ่งอาจกระทบจิตใจคนที่ไม่มีพ่อ และก่อนหน้านี้ก็ได้มีคอมเม้นต์ที่รุนแรงมากกว่านี้อีก จนทางเฟซบุ๊กของร้านกาแฟนต้องมาคอยสอดส่องและลบคอมเม้นต์ที่เสี่ยงเหล่านั้นออกไป แต่ในเรื่องดราม่า ก็ยังมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นด้วย อันนี้เหมียวไปเจอคอนเม้นต์จากเพจ Drama-addict อ่านแล้วกินใจมากๆ ทั้งนี้โปรโมชั่นก็ได้จบไปแล้ว แต่บางคนก็ยังไม่จบ ยังคงคอมเม้นต์กันอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแค่นี้ก็จะกลายเป็นดราม่าได้ ที่มา Starbucks Thailand, Drama-addict
-
ผวาหนัก เมื่อบริษัทกาแฟยักษ์ใหญ่ออกมาเผย อีกไม่กี่ปีนี้โลกอาจประสบภาวะ ‘ขาดแคลนกาแฟ’ อย่างหนัก!!!
ใจเย็นๆ นะทุกคน เรื่องนี้ถือเป็นหายนะร้ายแรงของโลกเลยทีเดียวถ้าเกิดขึ้นจริง เมื่อทางบริษัทกาแฟยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลี ได้ออกมาเผยข้อมูลว่าภาวะขาดแคลนกาแฟโลกอาจเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้!!! Andrea Illy ซีอีโอของ Illycafe ได้ออกมากล่าวว่า ‘ภาวะขาดแคลนกาแฟเกิดจากการบริโภคที่มากขึ้น ในทศวรรษหน้าเราอาจต้องใช้เมล็ดกาแฟ 40 – 50 ล้านถุงเลยทีเดียว’ ภาวะขาดแคลนกาแฟ ถ้าสงสัย 40-50 ล้านถุงนี่เยอะขนาดไหน คำตอบคือเยอะกว่าพืชผักทั้งหมดที่เก็บเกี่ยวได้จากบราซิลเสียอีก!!! แถมสถานการณ์ยังเลวร้ายมากขึ้น จากการที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และราคาของเมล็ดกาแฟที่ไม่ค่อยคุ้มทุนเท่าไหร่ จึงทำให้ผู้ปลูก ล้มเลิกไปหลายราย Andrea Illy ยังกล่าวเสริมอีกว่า ‘ในอีกไม่กี่ปีนี้เราต้องตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหานี้ ว่าเราจะจัดการกับมันอย่างไร เราก็ไม่รู้ว่าตอนนี้จะไปหาส่วนที่ขาดไปจากไหน’ ภาวะขาดแคลนกาแฟ ถ้าสภาพอากาศยังเปลี่ยนแปลงต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้ จะทำให้ผลผลิตกาแฟโดยเฉพาะจากบราซิล ลดลงถึง 1 ใน 4 แถมประเทศในแถบนั้นที่ผลิตเมล็ดกาแฟก็จะประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ผกผันกับการผลิต อัตราการบริโภคกาแฟเพิ่มขึ้นสูงมากถึงร้อยละ 25 ใน 5 ปีมานี้ จากการสำรวจของ International Coffee Organization (ICO) โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย จีน…
-
ไปดู 6 วิธีเก๋ที่จะเปลี่ยนวิถีการจิบ “กาแฟ” ของคุณให้แตกต่างไม่เหมือนใคร!!
กาแฟถือเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้ บางคนต้องตื่มกาแฟในทุกๆเช้าเพื่อที่จะให้ร่างกายตื่นตัว ถ้าไม่ได้ดื่มอาจจะเหี่ยวไปทั้งวันเลยก็ได้ แต่วันนี้เหมียวจะพาทุกท่านมาเปลี่ยนวิถีการดื่มกาแฟด้วยแนวใหม่ๆ ที่ไม่ใช่กาแฟที่คุณดื่มแบบในทุกวัน จะมีอะไรบาง ตามเหมียวมาเลยดีกว่า 1. กาแฟโฟลท ใส่ผงโกโก้เพิ่มความเข้ม สำหรับคนชอบอะไรฉ่ำๆแบบมีไอติมด้วย 2. กาแฟกันกระสุน น้ำมันมะพร้าวกับเนยแล้วปั่น สำหรับคนที่ต้องการเกราะคาเฟอีนหนาๆ คึกทั้งวันแน่นอน 3. มอคค่าออนเดอะร็อก นมจัดเต็ม พร้อมน้ำแข็งมอคค่าหอมๆ ตบท้ายด้วยช็อกโกแลต 4. ไอซ์โคโคนัทคอฟฟี่ กาแฟกลิ่นน้ำมะพร้าวที่จะทำให้คุณลืมสัมผัสนี้ไม่ลงเลย 5. มอคค่ากะทิ ความสุขของกะทิก็คือความสุขของคุณ วิธีทำยุ่งยากนิด ไปดูในคลิปเอาแล้วกัน 6. เอสเปรสโซ่โทนิค เพิ่มความซ่าด้วยโทนิคให้กับชีวิต ทั้ง 6 เมนูนี้วิธีทำก็แสนจะง่าย ถามวัตถุดิบก็หาได้ง่ายอีกด้วย เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะน่ากินสักแค่ไหน ที่มา Buzzfeed
-
มีต่ายไหม? ไอเดียน่ารัก กับการนำน้องกระต่ายน้อยมาใส่แก้วกาแฟ อยู่นิ่งไม่ดิ้นเลย
หากใครเคยได้สัมผัสหรือกำลังเลี้ยงกระต่ายน้อยซักหนึ่งตัวก็คงจะคุ้นเคยกับลักษณะนิสัยประจำตัวของกระต่ายเป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากความน่ารักของมันแล้ว กับจมูกที่ดิ้นได้ และอาการตื่นตูมอยู่ไม่นิ่ง มีความไวเป็นเลิศ จะต้องถูกสยบด้วยแก้วกาแฟ!! จากที่ว่าเจ้ากระต่ายผู้น่ารักทั้งหลายมักจะวิ่งไปทั่วและอยู่ไม่เป็นที่ หากคุณอยากจะให้มันอยู่นิ่งๆ บ้าง ลองหาแก้วกาแฟหรือถ้วยสูงๆ หน่อย มาให้น้องกระต่ายได้อยู่ รับรองได้ว่าคุณจะเห็นความน่ารักนิ่งๆ ของกระต่ายได้ทันที เพราะมันดิ้นไปไหนไม่ได้ อิอิ แต่ถ้าจะให้เพิ่มความน่ารักแบบทวีคูณเข้าไปอีก ต้องเจอกับลูกกระต่ายน้อยที่ยังไม่โตซักเท่าไหร่ มานอนหลับใหลอยู่ในถ้วยชาเล็กๆ บ้าง คุณจะทนหมั่นเขี้ยวได้ซักแค่ไหนเชียว ฮ่าฮ่า เหมียวบอกเลยว่าเหมียวยอมแพ้!! น่ารักเกิ๊นนนนน ที่มา : rocketnews24
-
17 ภาพผลงานเจ๋งๆ ที่สร้างจากอาหารและของใกล้ตัว คุณอาจไม่นึกมาก่อนเลยล่ะว่าทำได้!!!
ขึ้นชื่อว่าศิลปะแล้ว หากมีพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์และความพยายามสักหน่อย รับรองว่าผลงานจะออกมาประทับใจเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องไกลตัวหรือใกล้ตัวก็ตาม Iona Vanc ศิลปินที่สร้างผลงานศิลปะสุดเจ๋งขึ้นบนช้อน โดยมีส่วนประกอบเป็นน้ำตาล กาแฟ และอาหารชนิดต่างๆ มากมาย ที่ดูแล้วจะประทับใจเลยล่ะ กบ อินเดียน นกแก้วคู่ แบทแมน แอฟริกา กลุ่มเพนกวินเกรียน คุณยาย…รึเปล่า?? สวยมากชิ้นนี้ เหมียวดูไม่ออก ฮ่าๆๆๆ ทรงผมแสบมาก สิงโต สุดยอดอ่ะ สวยเลยทีเดียว น่าร๊ากกกกก ยิงหัวใจดวงไหนดี เรกเก้ไปอีกกกก ใบหน้าจากใบไม้?? แหม…ต้องยอมรับในความคิดสร้างสรรค์ของเขาจริงๆ เนาะ จากของทั่วๆ ไปที่เราสามารถเห็นได้ เป็นศิลปะที่สวยงามได้ขนาดนี้เลยหรือ!!? ที่มา: Lifebuzz
-
ผลวิจัยชี้!! การดื่มกาแฟในช่วงเวลาเช้า เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่งยวด
โดยปกติแล้ว มนุษย์วัยทำงานหรือมนุษย์ผู้เสพติดกาแฟก็มักจะชงกาแฟร้อนๆ ซักหนึ่งแก้วเพื่อจิบเสริมพลังให้กับตัวเอง จะได้ตื่นตัวจากการอาการงัวเงีย แต่หารู้ไม่ว่าการจิบกาแฟในตอนเช้าส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างแรง!! จากผลวิจัยล่าสุดเผยว่าในช่วงเช้าร่างกายของเราจะมีฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงมากๆ ซึ่งจะช่วยต่อสู้กับความเครียดที่เรามีและกำจัดออกไป แต่ทว่าหากเราดื่มกาแฟในตอนเช้าปุ๊บ ปัญหาก็จะตามมาอยู่สองอย่าง อย่างแรกก็คือระบบของร่างกายจะสามารถสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอลได้น้อยลง และความเครียดก็จะตามมา อย่างที่สองก็คือร่างกายจะมีความอดทนต่อคาเฟอีนมากขึ้น เพราะมันเข้าไปแทรกแทนที่ฮอร์โมนคอร์ติซอลเลย!! แล้วเวลาไหนล่ะที่จะเหมาะกับการดื่มกาแฟ เวลานั้นก็คือช่วง 10 โมงเช้าไปจนถึงเที่ยง และช่วงระหว่างบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็น ที่มา : time, fooyoh
-
16 บุคคลที่เหมือนยังไม่ได้ “ดื่มกาแฟ” ในตอนเช้า รู้สึกจะเบลอไปหน่อย!!
บางคนก็ต้องการอะไรบางอย่างเพื่อบูสตัวเองในตอนเช้า ซึ่งส่วนมากก็มักจะเป็นกาแฟนั่นเอง เพราะถือเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตเลย บางคนถึงขั้นขาดกาแฟไม่ได้เลย เพราะจะทำให้ตัวเองรู้สึกเบลอเป็นอย่างมาก ซึ่งวันนี้เหมียวก็มีภาพฮาๆ ของเหล่าคนที่ดูเหมือนยังไม่ได้ดื่มกาแฟในตอนเช้า แล้วก็ทำอะไรเบลอๆออกมาให้เราได้เห็น เราไปดูกันเลยดีกว่า ก็ลุงยังไม่ได้ดื่มกาแฟเลย กำลังมาซื้อเนี่ย เห็นใจกันหน่อย ขอกาแฟหน่อยยยยย วิธีกันเบลอก็คือเขียนติดก่อนออกบ้านนี่แหละ “อย่าลืมรูดซิปกางเกง” ก่อนทำงานทุกครั้งก็ต้องงีบหน่อย บางทีเราก็ลืมอะไรไปบางอย่าง ตื่น เฮ้ย ตื่น ระวังบอลอัดหน้า ตำรวจก็แวะมาซื้อกาแฟ ดีที่ไม่ลากมาทั้งปั้ม เก้าอี้มันวางผิดทางรึเปล่า ภาพยามเหงา ได้แต่มอง แล้วก็ถอนหายใจยาวๆ กลัวมาสอบไม่ทัน มื้อเช้ากะชงกาแฟกับไข่ทอด แต่ตอกใส่ผิดที่ซะงั้น บางทีเราต้องมองมุมกลับ ปรับมุมมอง พี่ๆ ลืมรูดซับอ่ะ เห็นก้นหมดละ บางทีตอนรีบๆ หยิบอะไรมาได้ก็เอามาก่อน ที่มา distractify
-
แก้วกาแฟรูปทรง “ปาก” ที่จะทำให้คุณได้จูจุ๊บกับกาแฟในทุกเช้า!!
โดยปกติแล้ว ถ้าใครเป็นคนติดดื่มกาแฟในทุกๆเช้า โดยเฉพาะคนที่ชอบซื้อกิน ก็คงจะคุ้นเคยกับแก้วกาแฟที่เป็นฝา แล้วมีรูเล็กๆให้เราได้ดื่มกันง่ายๆ ไม่ลวกคอ คราวนี้ก็ได้มีศิลปินชาวเกาหลีนามว่า จาง วูซอก ได้ปิ๊งไอเดียทำฝากาแฟแนวใหม่ โดยทำให้เป็นรูปปากของคน ซึ่งเวลาเราดื่มกาแฟเข้าไป ก็จะเหมือนกับว่าเรากำลังจูบปากกับแก้วกาแฟนั่นเอง ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ๆสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟและชอบการจูบไปในตัว อีกทั้งยังมีจมูกให้ดูเหมือนจริงด้วยนะ เราไปดูภาพกันเลยดีกว่า เหมียวว่าเป็นไอเดียที่ดีเลย เวลาคนซื้อไปก็จะเอาไปถ่ายรูปแล้วแชร์กัน พอคนเห็นเยอะๆก็อยากซื้อกินบ้าง เพิ่มยอดขายได้ดีเลยทีเดียว ที่มา boredpanda
-
เยือนร้านกาแฟ Starbucks สาขาอะโอะโมะริ สาขาที่สวยงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น!!
ในยุคของธุรกิจที่ขยายตัวไปตามประเทศต่างๆ ก็ต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับลักษณะภูมิประเทศนั้นๆ ด้วย อย่างเช่นในกรณีของการตั้งสาขาร้านกาแฟ Starbucks ในเมืองฮิโระซะกิ จังหวัดอะโอะโมะริ ประเทศญี่ปุ่นนี้ เปิดตัวสาขาในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งกลายมาเป็นที่สนใจของชาวญี่ปุ่นอย่างมาก เพราะด้วยพื้นที่และสถาปัตยกรรมของร้านนั้นเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครเลยล่ะ!! สิ่งที่ทำให้พิเศษยิ่งกว่านั้นก็คือสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่พักอาศัยสำหรับกองบัญชาการมาก่อน!! เริ่มต้นสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1917 และได้รับการบูรณะซ่อมแซมในปีค.ศ. 1959 เมื่อกลายมาเป็นร้านกาแฟสไตล์ตะวันตกแล้ว ทางร้านก็ได้ปรับและตกแต่งภายใน โดยการนำวัฒนธรรมทั้งสองสไตล์มารวมกันทั้งแบบญี่ปุ่นตะวันออกและฝรั่งตะวันตกได้อย่างลงตัวและสวยงาม ถ้าได้ไปนั่งจิบกาแฟพร้อมกับชมบรรยากาศธรรมชาติรอบตัว อากาศดีๆ แบบนี้ รับรองฟินจนไม่อยากจะลุกไปไหนเลยล่ะ!! หากใครอยากจะรู้ว่าตั้งอยู่ตรงไหนสามารถดูแผนที่ได้ในเว็บไซต์ Starbucks.co.jp ได้เลยจ้า ที่มา : rocketnews24
-
ไม่อร่อยห้ามวิจารณ์? ร้านกาแฟขู่ลูกค้าที่วิจารณ์ในแง่ลบ พร้อมบังคับให้ขอโทษ 1 เดือน
กลายเป็นดาบสองคมไปเสียแล้ว สำหรับการใช้ พรบ.คอมพิวเตอร์ เพื่อเอาผิดแก่ผู้ที่กำทำความผิดและเสื่อมเสียในโลกออนไลน์ เพราะล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ส.ค. ได้มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่า PARENTAL ADVISORY เข้ามาตั้งกระทู้ ขอคำปรึกษาด้วยครับ น้องสาวโดนร้านกาแฟข่มขู่ให้โพสต์ภาพขอโทษทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน เจ้าของกระทู้ได้บอกเล่าเรื่องราวที่น้องสาวของตนเองได้ไปนั่งดื่มกาแฟที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง พร้อมกับเช็คอินที่ร้านแห่งนั้น แต่เนื่องจากรสชาติของอาหารไม่ถูกปาก จึงนำมาบอกเล่าผ่านเฟซบุ๊คของตนเอง พร้อมบรรยายสรรพคุณว่าร้านนี้เป็นอย่างไรบ้าง แต่ทางเจ้าของร้านกลับเห็นข้อความดังกล่าวและไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงส่งข้อความมาต่อว่าและกล่าวหาว่าเธอทำให้ทางร้านเสื่อมเสียชื่อ โดยบอกว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังบังคับให้ลูกค้าโพสต์ข้อความขอโทษทางร้านเป็นเวลา 1 เดือน ผ่านหน้าเฟซบุ๊คของตนเองอีกด้วย นอกจากนี้ทางร้านยังได้นำเอารูปจากเฟซบุ๊คของลูกค้า มาใส่ไว้ในข้อความดังกล่าว โดยไม่ได้ขออนุญาตอีกด้วย หลังจากที่ภาพและเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้สมาชิกเว็บไซต์พันทิปหลายรายต่างพากันเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าการกระทำของร้านกาแฟนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะการวิจารณ์เรื่องรสชาติอาหารเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว จึงไม่สามารถทำการฟ้องร้องได้ ในขณะที่บางความเห็นบอกว่า การกระทำของร้านกาแฟนั้น ถือเป็รการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างหนึ่งเช่นกัน ที่มา PARENTAL ADVISORY
-
เจ๋งป่ะล่ะ!!! เมื่อ KFC เปิดตัว “Scoff-ee Cup” แก้วกาแฟทานได้
ในที่สุดเราก็ไม่ต้องล้างแก้วอีกต่อไป เมื่อ KFC เปิดตัวแก้วกาแฟทานได้ที่มีชื่อว่า Scoff-ee Cup ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ว่า ทำไมเจ้าแก้วใบนี้ถึงกินได้แล้วมันทำมาจากอะไร ก็ตามเหมียวมาเลย!!! แก้วชนิดนี้ทำมาจากบิสกิต ถูกห่อด้วยกระดาษที่ทำจากน้ำตาล แล้วเคลือบด้วยไวท์ช็อกโกแลตที่สามารถจะกักเก็บความร้อนและทำให้แก้วยังแข็งกรอบทนอยู่ได้ เมื่อเทกาแฟเข้าไป แก้วบิสกิตจะค่อยๆ อ่อนตัว จากนั้นเราก็สามารถทานบิสกิต พร้อมๆ กับดื่มกาแฟได้เลย นอกจากนี้ แก้ว Scoff-ee Cup ยังมีความพิเศษตรงที่แก้วจะมีกลิ่นอโรม่า ยกตัวอย่างเช่น กลิ่นมะพร้าว กลิ่นหญ้าสด กลิ่นดอกไม้ป่า เป็นต้น ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เราคิดบวกและรู้สึกสดชื่นตลอดเวลา เหมียวว่า มันเป็นไอเดียที่เก๋กู้ดมาก อร่อยแถมยังช่วยประหยัดน้ำล้างแก้วอีกด้วยนะ! ที่มา niceartlife
-
Walter’s Coffee เป็นมากกว่าร้านกาแฟ สไตล์ซีรีย์อาชญากรรม Breaking Bad
เดี๋ยวนี้ร้านกาแฟผุดขึ้นมากมายยิ่งกว่าดอกเห็ดเสียอีกแหนะ แต่จะมีซักกี่ร้านกันที่สามารถครองใจลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรสชาติกาแฟ สไตล์การตกแต่งร้าน และองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมาย แต่สำหรับร้านกาแฟที่มาแหวกแนวยิ่งกว่าร้านใดๆ ในโลกนี้ต้องยกให้กับร้าน Walter’s Coffee จากประเทศตุรกีเลย ร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองอิสตันบูล คงคอนเซปของซีรีย์อาชญากรรม Breaking Bad แบบเต็มๆ ซึ่งก็คือมาแนวห้องทดลองนั่นเอง แต่จะเปลี่ยนนิดๆ หน่อยๆ ให้กลายมาเป็นห้องทดลองร้านกาแฟแทน ซึ่งการแต่งตัวของพนักงานในร้านก็ยังมีชุดป้องกันสีเหลืองอันโดดเด่นอีกด้วย คั่วเมล็ดกาแฟให้เห็นกันในร้านแบบนี้เลย นอกจากจะมีกาแฟแล้ว คาเฟ่แห่งนี้ก็มีเมนูขนมต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาชิมกาแฟที่นี่ก็น่าจะได้อารมณ์แปลกไปอีกแบบนะ ที่มา : thechive
-
ศิลปะจากข้อผิดพลาด: เปลี่ยน “กาแฟหก” บนเตาเลอะ เป็นภาพวาดอันงดงาม!!
ศิลปินท่านนี้มีชื่อว่า Vanni Mangoni ชาวอิตาลี เขาได้สร้างงานศิลปะชิ้นหนึ่งขึ้นมา ซึ่งมันเกิดจากความผิดพลาดโดยบังเอิญ สิ่งที่เขาคิดอยู่เสมอคือการสร้างงานออกมาจากความผิดพลาด อย่างเช่นการทำกาแฟหกลงบนเตา ซึ่งหลายคนก็คงเคยประสบปัญหานี้กันมาบ้าง ซึ่งการทำแบบนี้สามารถดึงเอาความหมายและจุดประสงค์ที่แท้จริงของมันออกมาได้ ซึ่งถ้ามองแบบคนปกติมันก็ความผิดพลาดธรรมดาๆ นั่นเอง อีกแง่หนึ่งคือมันคือการแก้ปัญหาจากข้อผิดพลาดสู่การมองแบบศิลปะ ซึ่งอย่างอย่างก็เป็นที่สนใจในปัจจุบันอีกด้วย อย่างเช่นการยกย่องความไม่ยั่งยืน (กาแฟหก) จนกลายมาเป็นงานศิลปะนี่แหละแบบสร้างสรรค์นี่แหละ เราไปดูผลงานของเขากันเลย ดูคลิปการทำงานของเขาได้ ที่มา boredpanda
-
คลิปวิดีโอมาเตือน ‘เราดื่มกาแฟถูกวิธีแล้วรึงยัง!?’ แล้วที่ถูกน่ะมันยังไงล่ะฮะ
ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่เสพติดการดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจแล้วละก็ ลองหยุดแล้วอ่านบทความนี้ก่อน ปกติเรามักจะดื่มกาแฟหลังตื่นนอนทันที รู้รึเปล่าคุณกำลังดื่มกาแฟผิดวิธีแล้วหล่ะ!! วันนี้เหมียวจะมาบอกเคล็ดลับการดื่มกาแฟให้ได้รับคาแฟอีนอย่างถูกวิธี ช่องวิทยาศาตร์ AsapSCIENCE ทางบนยูทูป ได้เผยแพร่วิดีโอที่มีชื่อว่า Are You Consuming Your Coffee Correctly? เป็นวิดีโอซึ่งอธิบายการทำงานของคาแฟอีนเมื่อเราดื่มกาแฟเข้าไป และนั่นทำให้เราได้รู้ว่า คนส่วนใหญ่ดื่มกาแฟผิดวิธีมาตลอดชีวิต!! นอกจากนี้เค้ายังได้บอกวิธีดื่มกาแฟที่ถูกต้องอีกด้วย เราลองไปชมคลิปกันเลยดีกว่า จากวิดีโอเค้าได้อธิบายง่ายๆน่ะว่า ร่างกายของคนเราจะผลิตสารที่ชื่อว่า คอร์ติซอล ไอ้สารนี่มันเป็นยังไงเหรอ….? มันก็คือสารที่ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของคาแฟอีนลดลงและร่างกายดื้อต่อคาเฟอีน ซึ่งทำให้เราต้องดื่มกาแฟปริมาณมาขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง ทีนี้การดื่มที่เหมาะสมต้องทำอย่างไร? ส่วนเวลาที่เหมาะสมในการดื่มกาแฟคือ หลัง 9 โมงเช้าซึ่งเป็นเวลาที่สาร คอร์ติซอล ลดลงแล้วนั่นเองจึงทำให้การดื่มกาแฟของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเวลา อื่นๆที่ไม่ควรดื่มกาแฟคือ 12.00-13.00 น. และ 17.30-18.30 น. นะครับ นั่นเพราะจะส่งผลเสียต่อร่างกายตามมาในคืนนั้นนั่นเอง ที่มา AsapSCIENCE
-
เอาจริง!? หนุ่มโวยลงเฟซบุ๊ค ร้านกาแฟเก็บเงิน “ค่านั่งคุยงาน” ชั่วโมงละ 1,000
กลายเป็นที่พูดถึงอยู่ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีของร้านกาแฟชื่อดังแห่งหนึ่งที่เรียกเก็บ “ค่าคุยธุระ” กับลูกค้าชั่วโมงละ 1,000 บาท จนลูกค้าถึงกับงงว่าแค่นั่งคุยธุระเฉยๆแถมยังสั่งกาแฟมากินด้วย ถึงกับต้องเรียกเก็บเงินแพงขนาดนี้เลยหรือ? แถมยังไม่มีป้ายบอกรายละเอียดที่ชัดเจนอีกด้วย เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ค Atipoj Srisukhon เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ก.ค. โดยเจ้าตัวได้เล่าว่า “เรียนพี่ๆน้องๆครับ เมื่อวานผมเดินทางเข้ากทม.เพื่อทำธุระ มีเวลาว่างเลยแวะทานกาแฟที่ Bon coffee สาขาหน้าไทยประกันชีวิต ถนน รัชดาภิเษก (มีคุยธุระเป็นปกติของคนทานกาแฟ) นั่งทานทั้งหมด 4 คน” “นั่งอยู่ได้ประมาณชม.กว่าๆ จึงเรียกพนง.มาเก็บเงิน หลังจากนั้น พนักงานแจ้งว่ามีคุยธุระการงาน ขอเรียกเก็บเงินค่าคุยธุระชม.ละ 1000 บ. รวมสองชม. คิดค่านั่งในร้านเพิ่มอีก 2000 บาท เป็นค่านั่งคุยธุระการงานในร้าน ผมควรทำอย่างไรดี ครับ พี่ๆน้องๆ” “กินกาแฟยุคนี้มีค่านั่งคุยด้วย เดี๋ยวผมจะส่งบิลให้ดูนะครับ เงินส่วนที่เก็บเพิ่มเค้าเรียกว่า “open food” ครับ เค้าไม่ได้ติดไว้ที่หน้าร้านแต่ทำเป็นกระดาษแผ่นเล็กมากๆว่างไว้บนโต๊ะ ซึ่งถ้าไม่สังเกตให้ดีจะมองไม่เห็นเลย ครับ เพราะบนโต๊ะมีอุปกรณ์ต่างๆว่างอยู่ จนบังไม่เห็นกระดาษเล็กๆแผ่นนี้” หลังจากภาพนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้มีสมาชิกในเฟซบุ๊คจำนวนมากเข้ามาต่อว่าเงื่อนไขของร้านนี้อย่างมากมาย และอาจยังเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค…
-
เฮ้ยน่าสน!! มาพลิกวิธีกิน ‘เส้นโซเมน’ ด้วยซอสจากกาแฟสตาร์บัคที่คุณก็ทำได้เองที่บ้าน
ถ้าจะนึกถึงอาหารขึ้นชื่อดับร้อนในเมืองไทย ใครๆก็คงจะไม่ลืมข้าวแช่เย็นๆ ที่กินคู่กับเครื่องเคียงแบบชาววังใช่มะ แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว ใครรู้บ้างเอ่ยว่าอาหารดับร้อนของบ้านเค้าคืออะไร!? ไม่ต้องเสียเวลาสงสัยไปหรอกจ้า เพราะเหมียวจะเฉลยเดี๋ยวนี้แหละว่าที่นั่นเค้ากิน ‘โซเมน’ หรือเส้นแป้งสาลีคล้ายขนมจีน เสิร์ฟพร้อมเกล็ดน้ำแข็งแล้วกินคู่กับซอสสึยุ หรือโชยุหวานนั่นเอง ^^ แต่วันนี้เหมียวไม่ได้มาชวนกินโซเมนแบบธรรมดาๆ หรอกนะจะบอกให้ เพราะนี่คือการกินโซเมนกับซอสสตาร์บัคที่เหมียวอยากจะแนะนำให้ลองกันหละฮะพี่น้อง!! ใครสนใจเตรียมส่วนผสมด่วน!! 1. เส้นโซเมน 2. กาแฟสตาร์บัค 3. ซอสเมนสึยุ (หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป) เรามาเริ่มกันดีกว่า… 1. ต้มเส้นโซเมนให้สุกแล้วเอาไปยีในน้ำเย็นไม่ให้เส้นติดกัน 2. ผสมซอสสูตรเด็ดจากการผสมซอสเมนสึยุเข้ากับกาแฟสตาร์บัค ในอัตราส่วนของซอสปกติ แต่ใช้กาแฟแทนน้ำเปล่า 3. จากนั้นก็คีบเส้นโซเมนจุ่มซอสกินกันได้เลยยย!! ไหนดูฟีดแบคจากคนที่ลองแล้วหน่อยซิ.. สาวเม็กเธอบอกว่าไม่เลวนะฮ้าาา!! คุณพีเคบอกให้กินอีกก็ไหวอยู่ ส่วนพี่ช่างแอร์ เอ้ย.. พ่อหนุ่มผมยาวคนนี้ก็บอกว่า “เกลียดเธอไม่ลงจริมๆ” คุณซาโตะก็โอเคนะจ๊ะ แหม่.. ได้เห็นขนาดนี้ก็จงอย่าปล่อยผ่านเลย ไปซื้อกาแฟกันเถอะตะเองงง…