Tag: ขยะ
-
‘ปั๊กปั๊ก’ อาหารที่ปรุงจาก “เศษขยะ” เลี้ยงปากท้องคนจนในฟิลิปปินส์ให้อิ่มในราคา 7 บาท
อาหาร คือสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการดำรงอยู่ของทุกชีวิต รวมไปถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยเช่นกัน สำหรับมนุษย์บางกลุ่มอาหารนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ไม่ยากนัก แต่ขณะเดียวกันเองก็มีมนุษย์อีกจำนวนไม่น้อยที่ “อาหาร” เป็นสิ่งที่หาได้อย่างยากลำบาก และพวกเขาก็พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารเลี้ยงปากท้อง ตัวอย่างเช่น “ปั๊กปั๊ก” วิธีการหนึ่งที่ผู้คนในชุมชนสลัมของฟิลิปปินส์ใช้เพื่อเข้าถึงอาหาร ปั๊กปั๊กคือเศษอาหารเหลือจากกองขยะรายวัน ที่ถูกนำมาปรุงใหม่เพื่อขายให้คนจนได้ทานในราคาเพียง 7 บาทเท่านั้น ประเทศฟิลิปปินส์ที่ปัจจุบันมีประชากรมากถึง 100 ล้านคนเข้าไปแล้ว รวมถึงวัฒนธรรมในประเทศที่ผสมผสานอย่างหลากหลายทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยขนาดใหญ่ กลายเป็น ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ที่ยากเกินจะแก้ไข ผู้คนที่มีอันจะกิน เจียดเงินเพียงเล็กน้อยแลกกับอาหารระดับกลางที่ทานจนเบื่อและบางครั้งก็ทานไม่หมด ของเหลือจากผู้ร่ำรวยเหล่านี้นี่เองที่กลายเป็นอาหารมื้อสวรรค์ของบรรดาผู้ที่ตกอยู่ภายใต้ความยากจนแร้นแค้น ขั้นตอนของการทำปั๊กปั๊กเริ่มขึ้นตั้งแต่หัวค่ำของวัน รถเก็บขยะจะไปรอที่ร้านอาหารต่างๆ รวมถึงร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด เพื่อรีบเก็บขยะจากร้านและนำไปคัดแยก การคัดแยกจะทำจนถึงเช้ารุ่งของอีกวัน ส่วนใหญ่จะคัดเอาพวกกระดูกไก่ที่ติดเนื้อมากกว่าจะเอาเนื้อหมู เพราะพวกเขาคิดว่าเนื้อหมูมีไขมันเยอะและอาจติดโรคได้ง่าย . เมื่อคัดแยกเสร็จแล้วก็นำไปขายให้กับร้านอาหารชุมชน ทางร้านก็จะรีบนำเศษอาหารเหล่านี้ไป “ล้างน้ำเปล่า” ราว 4 รอบจนกระทั่งน้ำล้างไม่ขุ่นมัวและไม่มีเศษดินติดออกมา ล้างเสร็จก็จัดแจงปรุงเป็นเมนูอันโอชะ ทำเป็นสตูว์พื้นเมืองของฟิลิปปินส์ ซอสมะเขือเทศนั้นเป็นสิ่งสำคัญของปั๊กปั๊กเลยก็ว่าได้ ต้องใส้ให้เยอะเข้าไว้เพราะนอกจากจะช่วยให้รสชาติที่ดีขึ้นแล้วยังช่วยกลบกลิ่นต่างๆ ที่ติดมาจากกองขยะอีกด้วย อาหารที่ปรุงเสร็จก็จะออกมามีหน้าตาแบบนี้ นี่แหละที่พวกเขาเรียกกันว่า “ปั๊กปั๊ก” …
-
ภาพสลด ‘ลูกหมีขั้วโลกกินพลาสติก’ สะท้อนปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่เกิดจากเงื้อมมือมนุษย์
Svalbard เป็นหมู่เกาะ Norwegian ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอาร์กติกซึ่งห่างออกไปหลายร้อยไมล์จากแผ่นดินใหญ่ที่ใกล้ที่สุด แม้จะตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและมีประชากรมนุษย์อยู่เพียงไม่ถึง 2,600 คน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า Svalbard อยู่ไกลจากโลกภายนอก นอกจากนี้ ที่นั่นยังมีสิ่งมีหมีขั้วโลก พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาจจะไม่เคยเห็นมนุษย์ด้วยซ้ำ แต่กลับต้องรับผลจากการ กระทำของมนุษย์อย่างน่าสลดใจ เรื่องน่าเศร้านี้ ถูกเผยแพร่หลังจากที่ Kevin Morgans ช่างภาพชาวอังกฤษเดินทางไปยัง Svalbard เพื่อถ่ายภาพอันงดงามของทิวทัศน์ที่นั่น แต่ Morgans กลับสังเกตเห็นบางอย่างที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมที่นี่ เขาเห็นแม่หมีขั้วโลกและลูกๆ อีกสองตัวอยู่บนยอดภูเขาน้ำแข็ง กำลังเล่นกับพลาสติกสีดำ Morgans บอกว่า “มันเป็นโมเมนต์ที่ไม่น่ามองเอามากๆ ลูกหมีขั้วโลกที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากรู้อยากเห็น กำลังเล่นและกินมลพิษพลาสติกที่ถูกซัดขึ้นฝั่ง” เราอาจจะไม่มีความสามารถมากพอที่จะกวาดล้างขยะทั่วทะเลหรือมหาสมุทรได้ แต่เราสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ทิ้งขยะลงทะเล หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติก และต่อต้านกิจกรรมทุกรูปแบบที่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมโลก ที่มา thedodo
-
ศิลปินหนุ่มเปลี่ยน ‘ขยะพลาสติก 3 ตัน’ ให้กลายเป็นป่าหลากสีสัน เพื่อสร้างจิตสำนึกให้เด็กๆ!!
ในอนาคตจะเป็นอย่างไรไม่มีทางรู้ได้ แต่ที่แน่ๆ เลยคือตราบใดที่เรายังคงบริโภคกันอยู่ ก็จะทำให้เกิดขยะขึ้นมากมาย โดยและพลาสติก ก็ถือเป็นวัสดุที่ผู้คนใช้กันมากมาย แต่ข้อเสียของมันก็คือการย่อยสลายของมันนี่ แหละที่อาจจะต้องใช้เวลานานมากๆ อาจจะเป็นพันๆ หมื่นๆ ปีเลยทีเดียว จึงต้องมีการนำมันไปรีไซเคิล เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีก เช่นเดียวกันกับศิลปินชาวเดนมาร์กชื่อว่า Thomas Dambo ที่นำขยะพลาสติกมาตกแต่งให้กลายเป็นสวนหลากสีสันแสนงดงาม โดยให้คอนเซ็ปต์ว่า ‘ป่าไม้ในอนาคต’ เพื่อให้คนตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างพลาสติกและสิ่งแวดล้อม มันสามารถเข้ากันได้อย่างลงตัว “ผมเชื่อว่านี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โลกของเราถูกปกคลุมไปด้วยขยะ เพราะผู้คนไม่รู้ว่าขยะเหล่านั้นถูกนำไปทิ้งที่ไหน หรือเอาไปทำอะไรบ้าง และไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับพวกมันดี” “ผมคิดว่าเราควรจะเฉลิมฉลองเพื่อแสดงให้เห็นว่าขยะเหล่านี้มันงดงาม เราสามารถนำมันมาสร้างเป็นสิ่งสวยๆ เหล่านี้ได้ เพราะการทำแบบนี้เด็กๆ ที่เติบโตมาในอนาคตเขาอยากจะทำงานกับขยะก็ได้” “พวกเขาจะได้ไม่มองว่าพวกมันน่าเกลียด และน่าขยะแขยง แต่มันสวยงามและมีคุณค่า” Thomas กล่าว นอกจากต้นไม้ก็ยังมีสัตว์ต่างๆ ที่ทำขึ้นมาจากพลาสติกอีกด้วย . . . ที่มา : designyoutrust, boredpanda
-
18 ภาพแห่งการใช้พลาสติกสุดจะฟุ่มเฟือย เปลืองห่อแล้วห่ออีก เอาอีกสักกี่ชั้นล่ะลูกพี่!!
คุณภาพของสินค้าที่ควรคงสภาพความสดใหม่ไว้เสมอ อย่างเช่นในกรณีของสินค้าบริโภค ผัก ผลไม้สด ที่วางขายตามห้างร้านต่างๆ ต้องทำการห่อเอาไว้เสมอ บางกรณีอาจจะรู้สึกว่าห่อทิ้งห่อขว้าง ห่อมากเกินไปจนสิ้นเปลืองและเป็นการสร้างขยะทางอ้อม หากช่วยลดการใช้พลาสติกให้น้อยลงได้ ร่วมด้วยช่วยกันก่อนที่ขยะพลาสติกจะล้นโลกไปมากกว่านี้ ลองมาพิจารณาจำนวนขยะพลาสติกจากห่อสินค้าบริโภคกัน ส้มที่ปอกเปลือกเรียบร้อย พร้อมประทานในกล่องพลาสติก หรือจะห่อทั้งๆ ที่ยังมีเปลือกอยู่แล้ว ห่อธรรมดายังน้อยไป ยัดใส่กล่องพลาสติก ห่อทับอีกชั้น ในความเป็นจริงเปลือกของผลไม้ต่างๆ ก็คือรูปแบบการห่อจากธรรมชาติ ถาดพลาสติกสำหรับพริกสด ซื้อใช้แค่แป๊บเดียว แต่ใช้เวลาย่อยสลายอีกนาน พลาสติกในรูปแบบหลอดก็มีเช่นกัน สินค้าประเภทวัตถุดิบบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องห่อก็ได้ บรรดาแอปเปิ้ลในห่อพลาสติก แกะห่อเสร็จก็ทิ้ง ทุกอย่างถูกห่อทับด้วยพลาสติกที่ไม่จำเป็น ลูกกวาดเม็ดเล็กๆ กับพลาสติกห่อชิ้นเบ้อเร่อ กระป๋องน้ำอัดลมก็ยังโดนห่อ… กล่องยาอม ซ้อนกล่องเล็กๆ อีกทีหนึ่ง ป๊าดดดด หัว USB เล็กๆ กับห่อโคตรเบ้อเร่อ หลอดพลาสติก…
-
หน้าปกนิตยสาร Nat Geo กับความหมายสุดลึกล้ำ แฝงไปด้วยความเจ็บปวดของธรรมชาติ…
National Geographic เป็นอีกหนึ่งสื่อที่นำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติมาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงปัญหาของสภาพแวดล้อมที่ถูกรุกรานจากมนุษย์อยู่บ่อยครั้ง แต่ทว่ายังไม่สามารถทำให้ผู้คนตื่นตัวได้เลย… และล่าสุดนี้ก็ได้เปิดแคมเปญ Planet or Plastic? เพื่อกระตุ้นให้ทุกฝ่ายได้รับรู้ว่า ปัญหาของขยะพลาสติกนั้นลุกลามไปทั่วทุกแห่ง และในอีกไม่ช้านานจะกลืนกินธรรมชาติอันสวยงามไปพร้อมกับอารยธรรมของมนุษย์ ปกนิตยสาร National Geographic ประจำเดือนมิถุนายน 2018 ในแคมเปญ Planet or Plastic? แคมเปญดังกล่าวนั้นมีจุดมุ่งหมายที่จะพยายามเปลี่ยนการใช้พลาสติกในปัจจุบัน ซึ่งทาง NG ก็ปรับตัวเข้ากับนโยบายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว . . ยกตัวอย่างเช่น การส่งนิตยสารผ่านห่อกระดาษแทนที่จะเป็นห่อพลาสติก ถึงแม้จะไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยก็ช่วยลดปริมาณลงได้บ้าง โดยแคมเปญนี้พุ่งเป้าไปที่ถุงพลาสติก ขวดพลาสติก และหลอดพลาสติก ที่เป็นผลิตภัณฑ์เจ้าปัญหา . ภาพเนื้อหาภายในปกนี้ เผยให้เห็นภาพอันทรงพลังและรับรู้ได้ถึงความเสียหายจากขยะพลาสติกในปริมาณ 9 ล้านตันที่ถูกทิ้งในทุกๆ ปี ส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตตามวิถีธรรมชาติ . . อาจจะต้องใช้เวลานานหลายปี เพื่อที่จะลดปริมาณการใช้พลาสติกได้อย่างเห็นผล ทางด้านนักวิทยาศาสตร์และทีมนักวิจัยต่างค้นคว้าเกี่ยวกับปัญหาในระยะยาวของขยะพลาสติก…
-
สาวโอด ปล่อยห้องให้เช่ามา 5 ปี ‘มีขยะกองเท่าหัวเข่า’ ไม่ได้เช่าทิ้ง ก็ยังเห็นมานอนอยู่!?
ว่ากันว่าเรื่องระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าห้องพัก ไม่ได้จบลงกันตรงที่เซ็นสัญญาเช่าปุ๊บก็จบปั๊บ เพราะหลังจากนั้นคือการดูแลรักษาสภาพห้อง ทั้งจากฝ่ายผู้เช่าและให้เช่าเอง แต่ด้วยความผู้เช่ามีหลากหลายประเภท ความรับผิดชอบในชีวิตก็มีมากน้อยไม่เท่ากัน สภาพห้องเช่าที่ถูกปล่อยปละละเลยก็มีให้เห็นกันเป็นประจำ แต่ก็คงไม่มีใครคิดว่าจะเละเทะมากถึงขนาดนี้!! บรึ้มมมมมมมม!! สภาพห้องเช่าของผู้เช่ารายหนึ่ง ที่โพสต์โดยคุณ Frong Tipthanya เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 เผยให้เห็นว่าข้างในห้องนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าบ้านผีสิง เพราะมันเต็มไปด้วยกองขยะเป็นจำนวนมาก ดูจากภาพก็แทบจะไม่มีทางเดินได้แล้ว กองขยะที่สูงเท่าหัวเข่า พร้อมกับส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วห้อง นอกจากนี้ ยังลามไปถึงภายในห้องน้ำ ซึ่งนอกเหนือจากขยะของใช้เพื่ออาบน้ำแล้ว ก็ยังมีเสื้อผ้าใช้แล้ววางกองทับกันในกะละมังเป็นกองเบ้อเร่อ กองขยะน้ำยาปรับผ้านุ่ม ยาสีฟัน ยาสระผมต่างๆ และกองผ้าที่ใช้แล้ววางทับกันบนกะละมัง ซึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้เธอได้รู้ความจริงเข้านั้นก็เป็นเพราะว่าผู้เช่าไม่ยอมมาจ่ายค่าเช่าห้อง ก็จำเป็นที่จะต้องทำการงัดเข้ามา แล้วพบกับความจริงที่อยู่ตรงหน้า แบบในชนิดที่ว่า “จะทำให้คุณต้องอึ้ง” ที่เห็นผ้าปูตรงนั้น ก็น่าจะเป็น ‘ที่นอน’ ทั้งถุงพลาสติก ขยะ และผ้าอนามัย กองรวมกันอยู่ในนี้ ในห้องน้ำมีกองผ้า…
-
ผู้ว่ากทม. ปิ๊งโครงการ ‘จุดทิ้งขยะ’ เพื่อช่วยเก็บขยะเร็วขึ้น พอใช้จริงสกปรกกว่าเดิม!?
ปัญหาเรื่อง ‘ขยะ’ ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่แก้ไขได้ยากในบ้านเรา รวมไปถึงต่างประเทศ แต่ละที่ก็จะมีมาตรการในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกันกับผู้ว่าฯ กทม. ท่านอัศวิน ขวัญเมือง ที่วางแผนในการแก้ปัญหาเรื่องขยะด้วยการนำระบบจุดทิ้งขยะและกำหนดเวลาทิ้งที่แน่นอนมาใช้ เหมือนกับต่างประเทศที่เค้าทำกันซึ่งได้ผลดี โดยท่านได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเพจ ผู้ว่าฯ อัศวิน เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งรูปแบบของโครงการนี้ก็ไม่มีอะไรมาก กำหนดจุดทิ้งขยะ ใช้จุดทิ้งขยะที่มีลักษณะเป็นลูกกรงกว้างๆ ให้ประชาชน รวบรวมขยะเก็บใส่ถุงดำแล้วนำมาวางไว้ที่กรงเหล็ก จากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บไปเป็นเวลาที่แน่นอน สเปน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ทุกอย่างฟังดูง่าย ไม่มีปัญหาอะไร แถมเป็นไอเดียที่ใช้ได้ผลในต่างประเทศมาแล้ว แต่พอนำมาใช้งานจริงเท่านั้นแหละ ผ่ามมมม!! กลับกลายเป็นว่าผู้ใช้รายย่อย นำขยะชิ้นเล็กชิ้นน้อยมาโยนใส่ จนสภาพดูไม่ได้เลยซะงั้น!? ภาพเหล่านี้ถูกโพสต์โดยเพจเฟซบุ๊ก เฮ้ย นี่มันฟุตบาทไทยแลนด์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ 2561 ที่ผ่านมา ระบุเอาไว้ว่านี่เป็นภาพของโครงการดังกล่าวที่เขตประตูน้ำ พร้อมทั้งให้แคปชั่นว่า “ที่ทิ้งขยะ ให้เป็นเวลา จากบ้านเรือน…
-
พื้นที่ทิ้งขยะโฉมใหม่ของสยามประเทศ กับการออกแบบที่ไม่ซ้ำใคร ทำเอาชาวเน็ตตกตะลึง
หลายๆ คนทราบกันดีว่าเรามักจะประสบปัญหากับการทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทางของคนบางกลุ่มที่เอาตัวเองสะดวกเข้าว่า (เรียกอีกอย่างว่าคนมักง่าย) ทำให้บ้านเมืองของเราไม่น่าอยู่ ดูไม่เป็นระบบระเบียบ แต่แน่นอนว่าทางรัฐบาลก็ไม่ใช่ว่าจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉยๆ และล่าสุดในวันที่ 29 เมษายน 2018 เพจ เฮ้ย นี่มันฟุตบาทไทยแลนด์ ได้โพสต์ภาพการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ พร้อมแคปชั่นว่า “ว้าวววว !! อเมซิ่ง นวัตกรรมใหม่ของผู้บริหารเมืองเทพสร้าง สำหรับการทิ้งขยะ ในยุคไทยแลนด์ 4.00 ว้าวว” ภาพจากโพสต์ดังกล่าว พื้นที่ทิ้งขยะที่ทางภาครัฐมาช่วยจัดการ ที่เราเห็นนี้คาดว่าจะเป็นการกั้นเขตพื้นที่ทิ้งขยะของหน่วยงานรัฐ เพื่อช่วยแก้ปัญหาการทิ้งขยะไปเรื่อยนั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งนี้ก็ได้กลายเป็นตัวจุดประเด็นให้เกิดกระแสเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันไปในหลากหลายทิศทาง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วดูจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับนวัตกรรมชิ้นนี้กันสักเท่าไหร่ ความคิดเห็นของชาวเน็ต จากที่ได้เห็นการแก้ปัญหาของภาครัฐ . . . . . . อย่างไรก็ตาม นี่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยแสดงให้เห็นว่าภาครัฐเองก็มองเห็นปัญหาที่ประชาชนต้องเจออยู่เหมือนกัน แต่การแก้ไขปัญหาในครั้งนี้อาจมีจุดบกพร่องอยู่ แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง? ที่มา: เฮ้ย นี่มันฟุตบาทไทยแลนด์
-
บ้านหรือนรก? เจ้าของบ้านผู้ไม่เคยเก็บกวาดอะไรเลย แถมเลี้ยงแมวโดยไม่ให้อาหารด้วย!!
การที่เรารับเลี้ยงสัตว์ตัวหนึ่งมา เราก็ต้องพร้อมที่จะดูแลเหมือนกับคนในครอบครัว เลี้ยงด้วยความรัก เพราะว่าเราเป็นคนเดียวที่จะสามารถดูแลมันได้ตลอด แต่สำหรับหญิงสาวที่ชื่อว่า Celia Hart วัย 54 ปี เธออาจจะไม่ได้คิดเหมือนกันกับเรา เพราะไม่นานมานี้เธอเพิ่งขึ้นศาลหลังจากที่เธอได้ทิ้งแมว 2 ตัวไว้ลำพังในบ้านที่ Margam, Port Talbot แสนสกปรก ในสภาพไร้อาหารและน้ำดื่ม เธอถูกตัดสินให้มีความผิดจากกฎหมายคุ้มครองสัตว์ เนื่องจากเธอทิ้งแมวสองตัวชื่อว่า Domino และ Moses ไว้ในบ้านที่ไม่สามารถบรรยายถึงความสกปรกของมันได้เลย นี่คือสภาพบ้านที่ไม่สามารถเรียกว่าบ้านได้ . Celia Hart ถูกตัดสินคุมขัง 12 สัปดาห์ รองลงอาญาอีก 12 เดือน รอบำเพ็ญประโยชน์ 20 วัน อีกทั้งยังถูกแบนไม่ให้เลี้ยงสัตว์อีก 10 ปี และค่าปรับอีก 18,000 บาท เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่ Moses นั้นได้ตายไปเนื่องจากขาดอาหารและน้ำดื่ม แต่ Domino ยังรอดมาได้ จึงรีบเข้าช่วยเหลือและทำการรักษาอย่างเร่งด่วน จนตอนนี้มันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งและได้บ้านหลังใหม่เรียบร้อยแล้ว Gemma Cooper…
-
“ใส่ถุงขยะก็ยังดูดี” จากคำชมแอบประชด กลายมาเป็นชุดพรอมถุงดำ พร้อมเชิดใส่เรียงคน!!
หลายต่อหลายครั้งที่คำพูดคำจาจากคนอื่น อาจจะกลายมาเป็นยาพิษที่บั่นทอนจิตใจเรา หากลองนำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดันให้เราเดินต่อได้ จะสามารถไปในทิศทางไหนได้บ้าง? Amber Scholl Amber Scholl ยูทูปเบอร์สาวสวยมีผู้ติดตามกว่า 1.4 ล้านคน กลายมาเป็นปรากฏการณ์บนโลกออนไลน์ในทันที หลังจากที่ความคิดสร้างสรรค์ด้านแฟชั่นจากสมองและสองมือ บวกกับบุคลิกอันสวยแซ่บของเธอ ก็กลายมาเป็นคลิปวิดีโอที่เกิดมาจากคอมเมนต์ของชาวเน็ตท่านหนึ่งที่บอกว่า “ต่อให้ Amber ใส่ถุงขยะ ก็ยังดูดีได้” และเพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าความจริงจะเป็นอย่างไร เอาถุงขยะมาใส่แล้วจะยังดูดีอยู่หรือไม่? เธอก็ลงมือทำชุดทุกขั้นตอนอย่างละเอียด ตั้งแต่ไปเลือกซื้อวัสดุต่างๆ จากร้านค้า ไปจนถึงกรรมวิธีผลิตชุดเดรสขึ้นมาจริงๆ ฮายยยย… สวัสดีชาวโซเชียลแคม วันนี้ดิฉันจะมาเลือกซื้อถุงขยะนะคะ พร้อมกับเทปกาวอีกสองม้วน แล้วก็ที่ขาดไม่ได้ เดรสสีดำโล้นๆ แบบนี้! ได้ของมาแล้ว ก็นั่งดูเฉยๆ เดี๋ยวมายากลจะเสกชุดออกมาเอง อุปกรณ์ที่ใช้หลักๆ ก็คือ ถุงขยะ! เทป กรรไกร และกาว (ใช้แปะนะ ไม่ต้องเอาไปดม) …
-
นักวิทย์ฯ คิดค้นเอนไซม์แบบใหม่ที่ “กัดกิน” ขวดพลาสติกได้ แก้ปัญหาพลาสติกล้นโลก
นักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นสสารที่มีความสามารถในการ “กัดกิน” พลาสติก จนอาจนำไปสู่การแก้ไขปัญหาพลาสติกล้นโลกได้ในอนาคต ทุกวันนี้หลายๆ ประเทศพยายามหาทางที่จะลดปริมาณพลาสติกลง ซึ่งหลายๆ บริษัทก็เริ่มปรับตัวด้วยการลดปริมาณพลาสติกในบรรจุภัณฑ์ของตัวเองลงเพื่อให้ง่ายต่อการกำจัดทิ้ง แต่ล่าสุดดูเหมือนว่ามนุษย์โลกจะมีทางออกที่ดีกว่าการกำจัดทิ้งแล้ว ด้วยการใช้สสารแบบใหม่ ที่มีคุณสมบัติในการกัดกินพลาสติกจนแทบไม่หลงเหลือเศษซากเลย สารที่ว่านี้มีพื้นฐานอยู่บนเอนไซม์ที่ชื่อว่า “ตัวเร่งปฏิกิริยาทางชีวภาพ” (Biological Catalyst) ในครั้งแรกที่มีการพัฒนา เจ้าสสารตัวนี้ถูกก่อร่างสร้างตัวมาจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ภายในศูนย์วิจัยรีไซเคิลที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2016 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มันสามารถย่อยสลายพลาสติกได้ พลาสติกเป็นสิ่งที่ไม่ย่อยสลายตามธรรมชาติ และการค้นพบแบคทีเรียที่กินพลาสติกในปี 2016 กลายเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ยกย่องมาก เพราะมันจะกลายเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ยอดเยี่ยมและถูกนำไปใช้ต่อๆ ไป ในขณะที่พยายามยืนยันการอ้างสิทธิ์เหล่านี้ศาสตราจารย์ John McGeehan นักชีววิทยาจาก University of Portsmouth และเพื่อนร่วมงานของเขาบังเอิญสร้างเอนไซม์ที่กัดกินพลาสติกโดยบังเอิญ จนต่อยอดกลายเป็นเอนไซม์ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ เจ้าสสารตัวนี้ถูกขนานนามว่า PETase มันมีความสามารถในการย่อยสลายพลาสติก PET (Polyethylene Terephthalate หรือพลาสติกที่ถูกนำมาใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ต่างๆ) เอนไซม์ตัวนี้จะเข้าไปเร่งปฏิกิริยาในการย่อยสลายในพลาสติกที่ปกติแล้วจะใช้เวลาหลายร้อยปี การปรับแต่งเอนไซม์ที่ผลิตตามธรรมชาตินี้ทำให้ทีมวิจัยสามารถผลิตสิ่งที่มีความสามารถในการย่อยสลายพลาสติกได้ดีกว่าสิ่งที่พบตามธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์แนะนำให้นำสสารใหม่นี้เข้ามาช่วยรีไซเคิลขวดพลาสติกจำนวนหลายล้านตันด้วยการทำลายขวดพลาสติกลงเป็นชิ้นๆ ระหว่างที่มีการตรวจสอบโครงสร้างของเอนไซม์ตัวนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามปรับแต่งส่วนที่คิดว่าเกี่ยวข้องกับการย่อยพลาสติกไปด้วย การทำเช่นนี้จะช่วยย่อยสลายพลาสติก…
-
สองพี่น้องฟ้องกันเอง เพราะอีกฝ่ายชอบสะสมขยะในบ้าน บ่อเกิดเชื้อราและหนูล้นเต็มห้อง!!
การจะต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นนั้น สิ่งแรกที่เราจะต้องคำนึงถึงก็คือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะว่าที่อยู่อาศัยนั้นก็จะกลายมาเป็นพื้นที่ส่วนรวม และจะมีการแบ่งพื้นที่ส่วนตัวระหว่างกันในภายหลัง ทว่าหากการใช้พื้นที่ส่วนตัวมากเกินไป ต่อให้เป็นคนในครอบครัวก็ตาม บางทีมันก็เหลืออดหมดความอดทนแล้ว กล่าวว่าตักเตือนตั้งกี่ครั้งไม่ยอมฟัง มันก็ต้องฟ้องด้วยข้อกฎหมายกันไปเลย!! สภาพภายนอกบ้านยังดูดี สองพี่น้องชาวแมนแฮตตัน ในนครนิวยอร์ก Andrew Lindsay Cohen และพี่ชาย James อาศัยในบ้านหลังเดียวกันหลังจากได้รับเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรษ แต่ทว่าฝ่ายพี่ชายดันอ้างตนเป็นเจ้าของบ้าน โดยที่เข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่ปี 2011 และไม่เคยจ่ายค่าเช่าเลยแม้แค่ครั้งเดียว แต่พอเข้ามาข้างในแล้ว… ฝั่งน้องชาย Andrew แทบจะอยู่ไม่ได้เนื่องจากพี่ชาย นำกองเอกสาร เศษขยะ ของเก่าๆ สารพัดกล่อง และสิ่งของเหม็นเน่าสกปรกเข้ามาทิ้งภายในบ้าน จนไม่สามารถเดินเข้าไปภายในบ้านได้เลย ยิ่งนานวันเชื้อราก็งอกเงยบนพื้นบ้านเต็มไปหมด แทบจะไม่มีที่ยืนกันเลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้ ผลกระทบที่ตามมาก็คือ จากแหล่งที่อยู่อาศัยของคนก็กลายมาเป็นแหล่งพักพิงของหนู อันตรายเกินกว่าที่มนุษย์จะอยู่อาศัยได้แล้ว บอกได้เลยว่าเละ!! น้องชายผู้อมทุกข์จึงตัดสินใจฟ้องพี่ชายตัวเอง ยื่นต่อศาลสูงแมนแฮตตันในวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2018 ด้านพี่ชาย James ก็ยังคงอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของบ้านอยู่…
-
6 สิ่งที่ห้ามกดลงชักโครกเด็ดขาด ไม่งั้นถ้าเจอส้วมตันจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะ
การที่ต้องมานั่งดูท่อตันนี่มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดใช่ไหมล่ะ ดังนั้นก่อนหน้านี้ #เหมียวศรัทธา จึงได้นำเสนอ 10 สิ่งที่ห้ามทิ้งลงท่อ เพราะว่าถ้าทิ้งลงไปแล้วอาจทำให้ท่อตัน ให้กับเพื่อนๆ แต่คราวนี้เราจะมาเพิ่มเติมความรู้ ที่ทำให้ชีวิตของเพื่อนๆ ง่ายขึ้นไปอีกขั้น กับท่ออีกแบบที่ใหญ่กว่าท่อทั่วๆ ไปอีกนิด และท่อที่ว่าก็คือท่อชักโครกนั่นเอง นี่คือ 6 สิ่งที่ห้ามกดลงชักโครกเด็ดขาด เพราะว่ามีโอกาสจะทำให้ส้วมตันได้ เผื่อเอาไว้นิดนึงด้วยว่า ถ้าเป็นไปได้ ของทั้งสิบอย่างที่ไม่ควรทิ้งลงท่อ ก็ไม่ควรเอามาทิ้งลงชักโครกเช่นเดียวกันนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน 1. ทรายแมว ทรายแมวไม่ว่าจะทำจากส่วนผสมอะไรก็ไม่ควรทิ้งลงในชักโครกทั้งนั้น โดยเฉพาะแบบที่ทำจากซิลิกาเจล และแบบแบบดินเหนียว แบบซิลิกาเจลจะไม่ละลายในน้ำแถมยังดูดน้ำจนมีลักษณะเหนียวแฉะและไปติดตามพนังท่อได้ ส่วนทรายแมวแบบดินเหนียวอาจจะมีการจับตัวเป็นก้อนเมื่อเปียกน้ำ ซึ่งสามารถทำให้ส้วมตันได้อย่างรวดเร็ว 2. กากกาแฟ ของที่มีสภาพคล้ายดินนั้นจะสามารถสะสมภายในท่อได้ง่าย และเพิ่มโอกาสของการอุดตันของท่อ อีกทั้งกากกาแฟยังอาจจะไปผสมกับน้ำและสิ่งสกปรกอื่นๆ จนเกาะเต็มพนังท่อชักโครก และนำไปสู่ส้วมตันในเวลาต่อมา 3. ทิชชู่เปียก เดิมทีทิชชู่ในปริมาณมากๆ ก็อาจจะทำให้ท่อตันได้ง่ายๆ อยู่แล้ว ดังนั้นทิชชู่เปียกที่มีความหนาและคงทนกว่าทิชชู่ธรรมดายิ่งน่ากลัวยิ่งกว่า มันสามารถเข้าไปติดในท่อได้อย่างง่ายดาย และอาจนำไปสู่ส้วมที่ตันได้ 4. แพมเพิส แม้แต่ของเล็กๆ อย่างผ้าอนามัยยังเป็นศัตรูตัวฉกาจของท่อน้ำทิ้ง ของที่ใหญ่กว่าอย่างแพมเพิสยิ่งไม่ต้องพูดถึง เจลที่อยู่ภายในแพมเพิสไม่สามารถละลายในน้ำได้ ตรงกันข้ามมันอาจจะขยายตัวขึ้นจนอุดท่อแทนด้วย…
-
สิ่งสะเทือนใจ เมื่อ ‘ขยะชายหาดไทย’ กลายเป็นปัญหาระดับโลก ให้ฝรั่งมาเดินเก็บ!?
ประเทศไทย คืออีกหนึ่งสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสวยงามตามธรรมชาติหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะทะเลหรือชายหาดที่มีชื่อเสียงหลายต่อหลายแห่ง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งนั้นอาจกลายเป็นเพียงแค่อดีต เพราะปัญหาขยะจำนวนมากที่เกิดขึ้น ความสวยงามของชายหาดหรือทะเลในบ้านเรากลับค่อยๆ ลดลงไปอย่างน่าใจหาย เมื่อต้องประสบกับหนึ่งในปัญหาที่น่าหนักใจมากที่สุดนั่นคือ “ปัญหาขยะมูลฝอยเกลื่อนชายหาด” หากให้พูดถึงสาเหตุของปัญหานี้ อย่างแรกที่เชื่อว่าเราทุกคนสามารถรับรู้ได้คือ การขาดความรับผิดชอบของคนในท้องที่และนักท่องเที่ยวนั่นเอง เราเลือกที่จะทิ้งสิ่งต่างๆ ไปตามชายหาดโดยที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบในภายหลัง ปล่อยปละละเลยขยะตามพื้นทราย ไม่สนใจที่จะเก็บมันไปไว้ให้ถูกที่ถูกทาง ทางเว็บไซต์ The Culture Trip ยังพูดถึงเรื่องของหลอดและถุงพลาสติกที่เราไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ซึ่งเหล่าลูกค้าประจำของร้านสะดวกซื้อจะเข้าใจได้เป็นอย่างดี เพราะเรามักจะได้รับหลอดพลาสติกและถุงพลาสติกกลับมาด้วยเสมอ แล้วสุดท้ายมันจะจบลงด้วยการกลายเป็นขยะที่เกลื่อนเต็มพื้น อีกสาเหตุที่เว็บไซต์ดังกล่าวพูดถึงคือเรื่องของถังขยะและถังขยะรีไซเคิล สองอย่างนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก โดยเฉพาะตามริมหาด จนเรารู้สึกไม่มีกำลังใจที่จะนำมันไปทิ้งในถังขยะนั่นเอง จากสาเหตุเหล่านั้นจึงทำให้เกิดขยะที่มีอยู่เต็มชายหาด ทำลายความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆ แห่ง ไม่ว่าจะเป็น อ่าวมาหยา เกาะสมุย เกาะเต่า และ เกาะพงัน เศษขยะเหล่านั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวทำลายความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวในบ้านเราเพียงอย่างเดียว เพราะมันยังเป็นสิ่งที่ทำลายธรรมชาติ ตัวการสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและการเติบโตของปะการังใต้น้ำ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะจำนวนของขยะที่ลงน้ำไปเยอะมากจนทำให้เกิดเป็นเกาะขึ้นมาได้เกาะหนึ่งเลย ซึ่งเมื่อปี 2017 ได้มีชาวประมงที่กำลังล่องเรืออยู่ใกล้กับชายฝั่งอ่าวไทย พวกเขาพบเข้ากับ “กองขยะลอยน้ำ”…
-
สวีเดนประสบปัญหา ‘ขาดขยะ’ ใช้รีไซเคิลผลิตพลังงานจนหมด ต้องนำเข้าจากเพื่อนบ้าน!!
ตามปกติแล้วเมื่อพูดถึงปัญหาขยะในหลายๆ ประเทศ ส่วนใหญ่มักจะต้องพากันบ่นว่าขยะนั้นมีมากเกินไป แต่ว่าสำหรับประเทศสวีเดนแล้วกลับตรงกันข้าม เพราะพวกเขาคงอยากจะบอกว่า ‘ขอขยะเยอะๆ’ แทนเสียมากกว่า ที่ต้องบอกแบบนั้นก็เพราะว่าประเทศสวีเดน สามารถหาทางออกให้กับปัญหาขยะล้นได้อย่างสมบูรณ์ 100% ด้วยการนำขยะทั้งหมดไปรีไซเคิลและผลิตเป็นพลังงานให้กับประเทศ จนถึงขั้นขยะหมดประเทศและต้องขอนำเข้าขยะจากประเทศอื่นๆ แทน ส่วนสาเหตุที่ทำให้ประเทศสวีเดนสามารถที่จะจัดการปัญหาดังกล่าวได้อย่างอยู่หมัด เพราะมีการวางแผนจัดการปัญหาขยะและนำมารีไซเคิลตั้งแต่ปี 1975 และนั่นทำให้จิตสำนึกของประชากรสวีเดนรู้ตัวว่าก่อนจะทิ้งอะไรต้องแยกขยะก่อนเสมอ ไม่เพียงแต่เรื่องการปลูกจิตสำนึกมาเป็นเวลานานแล้ว ปัจจุบันในทุกๆ บ้านของชาวสวีเดน ก็จะมีถังขยะที่ไว้ใช้แยกขยะประเภทต่างๆ ส่วนถ้าบริเวณไหนที่เป็นชุมชนก็จะมีโรงงานแยกขยะอยู่ใกล้ๆ เสมอในระยะ 300 เมตร ปลายทางของขยะที่ถูกแยกออกมานั้นจะถูกนำไปรีไซเคิลทั้งหมด ส่วนเศษขยะจากอาหารก็จะถูกเปลี่ยนเป็นปุ๋ยหรือแก๊ซธรรมชาติแทน ด้านขยะเคมีหรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ ก็จะมีรถบรรทุกแยกขยะพิเศามาคอยรับอีกต่อ เรียกว่าทางการไม่ปล่อยให้ของเหลือทุกชิ้นต้องถูกย่อยสลายไปอย่างเปล่าประโยชน์ นอกจากทางการสวีเดนจะรณรงค์และคอยจัดการปัญหาขยะภายในประเทศแล้ว ปัจจุบันยังมีบริษัทเอกชนอีกมากมายที่เริ่มให้ความสนใจ และหันมาสนับสนุนโครงการรีไซเคิลขยะของสวีเดนอยู่ตลอด ยกตัวอย่างเช่น H&M ที่เปิดรับบริจาคเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วของเหล่าลูกค้า ซึ่งคนที่นำมาบริจาคก็จะได้รับคูปองพิเศษเพื่อเลือกใช้ซื้อของที่ร้านดังกล่าวนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ถ้าประเทศอื่นๆ คิดอยากจะเอาอย่างนั้นคงจะต้องเริ่มจากการปลูกจิตสำนึกอันดีกันก่อน เพราะประชากรบางประเทศนั้นยังเลือกที่จะทิ้งขยะเรี่ยราด ไม่ก็ขับรถไปบนท้องถนนแล้วเปิดกระจกทิ้งลงข้างทางเสียทุกครั้งไป ฉะนั้นถ้าพฤติกรรมประเภทที่ว่ามายังคงอยู่ต่อไป ก็ไม่รู้ว่าปัญหาขยะนั้นจะหมดไปเมื่อไหร่เหมือนกัน……
-
หมอกควันภาคเหนือ กับปัญหาบุกรุกเผาพื้นที่ป่า ‘หยุดไม่ได้ง่ายๆ’ ต่างชาติยังต้องมาช่วยดับ…
ในช่วงเข้าสู่เดือนมีนาคมนี้ ล่าสุดทาง Catdumb ได้รายงานถึงปัญหาสภาพอากาศในพื้นที่บริเวณเชียงใหม่ ที่ติดอันดับหัวเมืองหลักค่ามลพิษสูงที่สุดในโลก (ข่าวเก่า) จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ aqicn ในวันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2561 เวลา 10.00 น. เชียงใหม่ยังคงระดับ PM2.5 อยู่ที่ 182 โดยภายในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีค่าอยู่ในระดับ 76-86 ลดลงจากช่วงวิกฤต PM2.5 ไปแล้ว ซึ่งปัญหาดังกล่าวที่กำลังเกิดขึ้นกับเชียงใหม่และจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือนั้น มีสาเหตุมาจากการทำการเกษตรบริเวณป่าบนภูเขา รวมทั้งการเตรียมพื้นที่เพื่อทำการเกษตรของชาวบ้านอีกด้วย #เหมียวเลเซอร์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณนิตยา หนึ่งในผู้ที่โพสต์ข้อความระบุถึง ปัญหาหมอกควันที่กำลังเกิดขึ้นในบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย ด้วยใจความดังต่อไปนี้… คุณนิตยา กล่าวไว้บนเฟซบุ๊กว่า… “วันนี้อ่านแต่คนโพสต์บ่นเรื่องหมอกควันกันเยอะมาก ขอโพสต์บ้างนะคะ ปัญหาไฟป่าและหมอกควันจะแก้ไขได้ ต้องเริ่มต้นที่ประชาชนชาวลำปางทุกคนต้องช่วยกัน ทุกคนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยกันบอกต่อๆ กันออกไปว่าอย่าจุดไฟเผา ช่วยกันกระตุ้นสังคมและชุมชน ให้เสียงมันดังเท่าเรื่องล๊อตเตอรี่ 30 ล้าน ให้ดังเท่าเรื่องเปรมชัย ให้ดังเท่าเรื่องพี่ตูนวิ่งคนละก้าว ช่วยกันประณามคนจุดไฟเผา… เจ้าหน้าที่และจิตอาสา ดับไฟป่าทำงานกันทั้งวันทั้งคืน ปีนดอยชันดับไฟป่า…
-
10 สิ่งที่ห้ามทิ้งลงท่อ เพราะว่าถ้าทิ้งลงไปแล้วอาจทำให้ท่อตัน ตัน ตัน ตัน
เคยมีกันไหมปัญหาแบบนี้ ท่อตันได้ตันดี ตันอยู่ทุกวัน แถมบางวันยังมีน้ำไหลย้อนกลับขึ้นมาให้เราทัศนากันเล่นๆ อีก ให้ตายเถอะแค่มองก็จะวิงเวียนแล้ว จะทำยังไงกับชีวิตดี โดยทั่วไปแล้ว สาเหตุของปัญหาท่อตันมาจากการที่มีเศษขยะเศษอาหารเข้าไปอุดตันในท่อ จนทำให้น้ำไม่สามารถไหลได้เป็นปกติ แล้ววิธีการป้องกันปัญหานี้ล่ะต้องทำยังไง เลิกทิ้งขยะลงท่อเหรอ? แน่นอนว่าคำตอบต้องไม่ง่ายแบบนั้น เพราะถ้าเราไม่สามารถทิ้งอะไรลงท่อได้เลย ชีวิตเราคงยากขึ้นไปอีกหลายเท่า วันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆ ไปดูว่า 10 สิ่งของที่ควรระวัง อย่าให้ไหลลงไปในท่ออย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นชีวิตของท่านจะวุ่นวายขึ้นเยอะ ข้าวและพาสต้า ข้าวและพาสต้านั้นเป็นของที่มักจะหลุดลงไปในอ่างล้างจานกันอยู่บ่อยๆ และเจ้าสองสิ่งนี้ก็เป็นตัวการหลักๆ ของการที่ท่อตันเลยล่ะ เพราะทั้งสองอย่างนั้นพองตัวขึ้นเมื่อแช่อยู่ในน้ำนานๆ นั่นเอง เปลือกไข่ หลายๆ คนอาจจะเชื่อว่าถ้าเราทำให้เปลือกไข่มันละเอียดๆ มันก็คงไม่ทำท่อตันหรอกมั้ง แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะเปลือกไข่เล็กๆ เหล่านั้นสามารถติดกันเองเป็นก้อนได้ และสุดท้ายก็กองรวมกันจนทำให้ท่อตันได้ในที่สุด แป้ง แป้ง โดยเฉพาะแป้งสำหรับทำอาหารนั้นสามารถผสมกับน้ำจนกลายเป็นก้อนเหนียวๆ ที่ติดอยู่ในท่อได้ นึกถึงแป้งขนมปังเวลานวดไว้ อะไรแบบนั้นเลย ยา หลายๆ คนนั้นอาจจะคิดว่ายามันละลายน้ำได้ ทิ้งลงท่อคงไม่เป็นไรหรอก แต่ความเป็นจริงแล้วยามันไม่ได้ละลายเร็วขนาดนั้นหรอกนะ ยาบางตัวไม่ละลายเลยด้วยซ้ำ แถมยังทำให้น้ำปนเปื้อนตัวยาอีกต่างหาก แถมแม้แต่ระบบกรองน้ำของต่างประเทศยังไม่สามารถกรองเอาตัวยาออกจากน้ำได้หมดด้วยซ้ำ ของบ้านเรานั้นไม่ต้องพูดถึง เส้นผม…
-
ภาพสุดสะเทือนใจของนักประดาน้ำ ที่ว่ายน้ำท่ามกลางซากขยะมากมาย ในทะเลอินโดนีเซีย
เมื่อเราไปเที่ยวทะเล ภาพที่เราหวังจะได้เห็นจากการดำน้ำในทะเลลึกก็คือภาพของสัตว์น้ำนานาชนิดที่เราไม่สามารถหาดูได้ตามปกติ รวมไปถึงความสวยงามตามธรรมชาติอย่างปะการังอีกด้วย ทว่าภาพที่นักประดาน้ำคนหนึ่งได้จากการไปดำน้ำในทะเลของประเทศอินโดนีเซีย กลับกลายเป็นภาพทะเลที่มีแต่ขยะจำพวกพลาสติกล้อยเคว้งคว้างอยู่เต็มไปหมด ซ้ำร้ายแถบนั้นยังเป็นแหล่งอยู่อาศัยของปลากระเบนอีกด้วย เขาคิดว่าเรื่องนี้ควรได้รับการแก้ไขโดยด่วน ภาพถ่ายชุดนี้ถูกถ่ายโดย Jukka Saarikorpi นักประดาน้ำและช่างภาพใต้น้ำมืออาชีพ เขากับคู่หมั้น Aissa Paronen ตัดสินใจไปดำน้ำกันที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยหวังว่าจะได้เห็นความงดงามของธรรมชาติใต้ทะเลลึกของกลุ่มปลากระเบนในแถบนั้น ช่างภาพใต้น้ำ Jukka Saarikorpi และคู่หมั้น Aissa Paronen ทว่าเมื่อเขาดำน้ำมาจนถึงถิ่นที่ปลากระเบนจำนวนมากอาศัยอยู่ เขากลับพบว่าบริเวณนั้นมีแต่ถุงพลาสติกและขวดพลาสติกลอยเคว้งคว้างอยู่มหาศาล เขาอธิบายว่า “ในแถบนั้นมีพายุเศษขยะพลาสติกหมุนวนอยู่ ปลากระเบนที่อยู่แถบนั้นก็มักจะว่ายเข้าไปหาขยะพวกนี้ด้วย พลาสติกเหล่านี้ถูกกระแสน้ำพัดมาจากหลายแห่งจนสุดท้ายก็มารวมกันอยู่ในถิ่นอาศัของปลากระเบน” เขาเสริมอีกว่า “ตรงนี้มีปลากระเบนอาศัยอยู่มากกว่า 100 ตัว ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าขยะจะมารวมอยู่ในที่อาศัยของสัตว์ทะเลมากขนาดนี้ ถ้าหากปลากระเบนเผลอกินพลาสติกเข้าไปมันต้องส่งผลเสียร้ายแรงแน่ๆ เพราะพวกมันไม่สามารถย่อยพลาสติกได้” หลังจากที่เขากลับจากการดำน้ำครั้งนั้น เขาจึงนำภาพทั้งหมดที่ถ่ายมารวมถึงคลิปวิดีโอ อัปโหลดลงบนเฟซบุ๊กของตัวเอง และยังให้คนอื่นสามารถแชร์ภาพเหล่านี้ลงไปบนโซเชียลมีเดียอื่นๆ อีกมากมายด้วย เขาหวังว่าการแชร์ภาพเหล่านี้จะสามารถทำให้สังคมตระหนักถึงปัญหาขยะในท้องทะเลได้มากขึ้น และร่วมมือกันแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนในสังคมออนไลน์ก็ดูจะให้ความสนใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี แค่นับจากยอดเข้าชมโพสต์เฟซบุ๊กของเขาอย่างเดียว ก็มีคนเข้าชมไปแล้วกว่า 80,000 ครั้ง หากนับรวมยอดเข้าชมบนโซเชียลมีเดียอื่นด้วยอาจจะมียอดชมสูงหลายแสนครั้งเลยก็เป็นได้ ภาพเหนือระดับน้ำทะเลของบริเวณที่มีขยะพลาสติกอยู่…
-
ชาวประมงทำการผ่าท้องปลา พบ ‘เศษซากอารยธรรม’ จากมนุษย์ มีทั้งพลาสติก หวี และไฟแช็ก
ในทุกวันนี้ธรรมชาติถูกมนุษย์ทำลายแทบทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นความเจริญของทางด้านตัวเมืองเขตที่อยู่อาศัย ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ กำลังกัดกินพื้นที่ของสัตว์และผืนป่าอย่างช้าๆ ยังไม่รวมไปถึงปัญหาทางด้านมลพิษและขยะที่ตามมาแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนอกเหนือจากผืนดินแล้ว ผืนน้ำทางธรรมชาติก็กำลังถูกรุกรานอย่างหนัก แม้จะมีการสร้างแคมเปญรณรงค์อนุรักษ์ธรรมชาติมากแค่ไหน แต่จิตสำนึกของผู้คนก็ยังไม่พัฒนาไปตามกระแสโลกอยู่ดี… *ภาพภายในเนื้อหาอาจก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจได้* อย่างในกรณีของภาพฟุตเทจจากชาวประมงรายหนึ่ง จากชายฝั่งของประเทศคอสตาริกา ที่ได้ทำการจับปลาอีโต้มอญขึ้นเรือมา (ชื่อท้องถิ่น Mahi-Mahi) และสังเกตเห็นว่าอาการของปลานั้นดูไม่ค่อยสู้ดีนัก จึงทำการผ่าเพื่อดูท้องข้างในของมัน หน้าตาของปลาอีโต้มอญ (Dolphinfish หรือ Mahi-Mahi) และสิ่งที่เขาเห็นอยู่ภายในท้องของปลาตัวนี้ กลับกลายเป็นเศษขยะจากฝีมือมนุษย์แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเศษฝาขวดพลาสติก เศษชิ้นส่วนถ้วยพลาสติก หวี ไฟแช็ก และเศษพลาสติกเล็กๆ น้อยๆ อีกหลากหลายชิ้น ด้วยจำนวนขยะภายในท้องของปลาที่มากขนาดนี้ จึงเป็นเหตุทำให้ระบบร่างกายของปลามีความบกพร่อง และด้วยเหตุที่ปลาชนิดนี้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของชาวประมงบนเกาะ ก็ยิ่งส่งผลทำให้นักอนุรักษ์ต้องเร่งทำการรณรงค์เป็นการด่วน คลิปการผ่าท้องปลาตัวดังกล่าว เผยให้เห็นถึงเศษขยะที่ถูกทิ้งลงในทะเลกลับกลายเป็นอาหารคร่าชีวิตปลา ทางด้าน Erick Ross นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล ได้อธิบายไว้ว่า ปลามักจะมีความสับสนระหว่างอาหารที่พวกมันกินได้กับชิ้นส่วนพลาสติกที่ล่องลอยอยู่ในทะเล ก่อนที่จะทำการกลืนกินเข้าไปในร่างกาย “ชิ้นส่วนพลาสติกเหล่านี้จะไม่ได้รับการย่อยสลายภายในท้องของปลา และจะทำการขัดขวางการทำงานของระบบลำไส้ ทำให้พวกมันไม่สามารถกินอาหารได้อีก…
-
คุณแม่ถูกแบนไม่ให้เลี้ยงสัตว์ หลังจากขังหมาไว้หลังบ้านจนผอมเพราะมันส่งเสียงดัง
การที่เราจะตัดสินใจเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสักตัวหนึ่ง สิ่งแรกที่ต้องมีก็คือใจที่รัก เพราะว่าเราต้องดูแลมันราวกับว่ามันคือสมาชิกหนึ่งในครอบครัว แต่ก็ได้มีเหตุการณ์หนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าบางทีคนที่รับเลี้ยงสุนัขอาจจะไม่ได้รักมันจริงๆ เหมือนอย่างคุณแม่ท่านนี้ที่ถูกแบนจากการเลี้ยงสัตว์เป็นเวลากว่า 10 ปี เพราะพบว่าเธอปล่อยให้ลูกสุนัข 4 ตัวอดอยากในกองขยะหลังบ้าน Carly Bennett ว่าที่คุณแม่ท้องแก่จาก Staffordshire ประเทศอังกฤษ ได้เลี้ยงสุนัข 4 ตัวไว้สวนหลังบ้าน ท่ามกลางสายฝนและปล่อยให้หิวโซ โดยเธอได้ให้เหตุผลว่าพวกมันเสียงดังจนทำให้เธอตื่น ทางองค์กรพิทักษ์สัตว์จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ พบว่าสุนัขทั้ง 4 นั้นกำลังพยายามคุ้ยหาอาหารในซากกองขยะ อีกทั้งยังมีสภาพสกปรกและกลิ่นฉี่ที่รุนแรงมาก นอกจากนี้ยังค้นพบอีกว่าคุณแม่ลูกห้า ซึ่งกำลังตั้งท้องคนที่หกได้ปล่อยให้สุนัขตัวโตอดอยากด้วยเช่นกัน เมื่อปีที่แล้วเคยเข้าไปตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่ง โดยอัยการ Roger Price กล่าวว่า “ตอนนั้นยังไม่มีใครอยู่ ดังนั้นผู้ตรวจสอบจึงต้องลงพื้นที่ มีเพื่อนบ้านแถวนั้นบอกว่าเธอนำลูกสุนัขไว้ในกล่องหลังบ้านตลอดทั้งคืน ท่ามกลางกองขยะ” ผู้ตรวจสอบก็เลยกลับไปที่บ้านนั้นอีกครั้ง แล้วก็ขอเข้าไปในบ้าน แต่เธอบอกว่าสามีของเธอเอาลูกหมาไปแล้ว แต่เธอก็ลองเข้าไปดูที่หลังบ้าน ตรวจสอบทุกซอกทุกมุมแล้วพบว่าที่นี่มีกลิ่นที่แรง อีกทั้งยังพบสุนัขโตเต็มวัย 3 ตัว ในสภาพที่โอเค เจ้าหน้าที่เล่าว่าที่หลังบ้านเต็มไปด้วยขยะ ทั้งชิ้นส่วนรถ และของต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุนัขด้วย นอกจากนี้ทางศาลยังเล่าว่าผู้ตรวจสอบได้ยินเสียงข่วนที่ประตู ก็เลยลองเปิดดู พบว่ามีลูกหมาอีก…
-
Million Dollar Point สุสานใต้ทะเลของยุทโธปกรณ์ทางทหารมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์
อย่างที่เรารู้ๆ กันดีว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นถือเป็นหนึ่งในสงครามที่ใหญ่ที่สุดสงครามหนึ่งของโลก มีทหารมากกว่า 100 ล้านนายจาก 30 ประเทศเข้าร่วมรบในสงครามครั้งนี้ แน่นอนว่าสงครามที่ใหญ่ขนาดนี้ก็ย่อมต้องมีการใช้ยุทโธปกรณ์ทางการทหารมากมายด้วยเช่นกัน และวันนี้เราจะขอพาทุกคนเดินทางไปที่หมู่เกาะ Espirito Santo หมู่เกาะเล็กๆ ในประเทศวานูอาตู ที่เป็นสุสานใต้ทะเลของยุทโธปกรณ์ทางการทหารจากกองทัพสหรัฐ บริเวณใกล้ชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้เต็มไปด้วยเศษซากของยุธโทรปกรณ์หลายร้อยตันจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกนำมาทิ้งเอาไว้ และปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำยอดนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งและถูกขนานนามว่า “Million Dollar Point” ยุทโธปกรณ์มากมายประกอบไปด้วยรถบรรทุก รถฮัมวี่ รถถัง รถตักและรถยก รวมถึงแผ่นเหล็กและเครื่องแบบทหารมากมายถูกทิ้งไว้ที่ฐานทัพแห่งนี้ หลังจากที่มันถูกสั่งปิด หลังการปิดตัวของฐานทัพแห่งนี้ กองทัพสหรัฐได้ประกาศขายยุทโธปกรณ์เหล่านี้ให้กับกองทัพอังกฤษแต่ถูกปฏิเสธ ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นที่จะต้องทิ้งพวกมันลงก้นมหาสมุทร เนื่องจากที่ฐานทัพแห่งใหม่นั้นไม่มีที่เพียงพอ คุณ Thurston Clarke คอลัมนิสด้านการท่องเที่ยวได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับสุสานใต้ทะเลแห่งนี้ว่าเขาเรียกมันว่า “ฐานทัพใต้ทะเล” โดยเขาเล่าว่ากองทัพได้สร้างทางลาดลงไปยังทะเลก่อนที่จะขับรถจี๊ปและยุทโธปกรณ์ต่างๆ ลงไปทิ้งไว้ใต้ทะเล ซากของรถจี๊ปที่ถูกทิ้งเอาไว้ใต้ทะเล คนในท้องที่เล่าว่าพวกเขาเห็นทหารอเมริกันจัดการการกับยุทโธปกรณ์เหล่านี้เหมือนกับว่าพวกเขาไม่อยากจะเห็นมันอีกครั้ง โครงเหล็กและสิ่งของต่างๆ ที่ถูกทิ้ง หนึ่งในอนุสรณ์ขยะจากสงคราม ฐานทัพแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของท่าเพิร์ลฮาร์เบอร์ ในฮาวาย ซากเรือ SS…
-
หมู่บ้านปลอดขยะในญี่ปุ่น ด้วยนโยบายสุดเจ๋งที่ได้เปลี่ยนชีวิตทุกคนที่นี่ไปตลอดกาล!!
บอกไปใครก็คงไม่อยากจะเชื่อ ว่าจะมีหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่สามารถทำให้ขยะหายไปได้ตลอดกาล เพราะอย่างน้อยทุกคนก็จะต้องมีการทิ้งขยะกันบ้างไม่มากก็น้อย แต่หมู่บ้าน Kamikatsu ในจังหวัดโทะกุชิมะประเทศญี่ปุ่นสามารถทำได้จริงๆ !! หมู่บ้าน Kamikatsu นั้นมีประชากรอาศัยอยู่ราว 1,500 คน ซึ่งปัจจุบันถือเป็นเมืองที่มีอัตราการปลอดขยะเยอะที่สุดในญี่ปุ่น โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นมันเริ่มมาจากที่สมัยก่อนชาวบ้านมักจะเผาขยะที่บ้านของตนเอง จึงทำให้เกิดอากาศที่ไม่สะอาดขึ้น และมันก็ส่งผลกับทุกสิ่งมีชีวิตรอบๆ ด้วยเหตุนี้ทางหมู่บ้านจึงเริ่มนโยบายที่เรียกว่า ‘Zero Waste‘ ขึ้นมา โดยนโยบายดังกล่าวนั้นจะให้ชาวเมืองทุกคนแยกขยะอย่างชัดเจนโดยต้องไม่ทิ้งหรือเผาขยะของพวกเขาเลย และเมื่อเวลาผ่านไปอัตราการรีไซเคิลของหมู่บ้านนี้ก็เพิ่มสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ รอบญี่ปุ่นที่มีอัตราอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น คุณ Akira Sakano หญิงสาวผู้เริ่มคิดและประกาศใช้นโยบาย Zero Waste เมื่อปี 2003 ส่วนถ้าใครสงสัยว่า แค่การออกนโยบายมันแก้ปัญหาได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ คำตอบคือ ไม่!! ทุกคนในหมู่บ้านไม่ได้ปรับตัวเพื่อเข้ากับนโยบายดังกล่าวได้ทันที และมันก็ยากมากๆ กว่าจะสำเร็จ เช่นคุณ Takuya Takeichi เจ้าของร้านของชำในหมู่บ้าน เขาเล่าว่า “ตอนที่นโยบาย Zero Waste ประกาศ ผมลำบากใจมากเลยนะ มันให้ความรู้สึกเหมือนชีวิตต้องถูกตีกรอบ ไหนจะต้องแบ่งเวลามาจัดแยกขยะอีก” …
-
ทีมวิจัยค้นพบสัญญาณหายนะ “ขยะพลาสติก” ในสัตว์ทะเลส่วนที่ลึกสุดของโลกกว่า 10,000 เมตร
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Newcastle ประเทศอังกฤษ ทำการสำรวจบริเวณมหาสมุทรส่วนก้นบึ้งของ Mariana Trench ที่ได้ชื่อว่าลึกที่สุดแห่งหนึ่งในโลก กระทั่งมหาสมุทรส่วนที่ลึกถึง 10,890 เมตร ที่ซึ่งพวกเขาคาดว่าจะมีแต่ธรรมชาติที่ยังไม่ถูกแตะต้องโดยมนุษย์ เหมือนส่วนอื่นๆ ซึ่งเต็มไปด้วยแพขยะจากเมืองใหญ่ แต่… พวกเขาก็ยังค้นพบสิ่งที่ทำให้ตกตะลึง นั่นก็คือ “เส้นใยพลาสติก” ที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ในท้องของหนอนทะเลตัวหนึ่ง ซึ่งขยะดังกล่าวได้อุดตันทางเดินอาหารของมัน เส้นใยพลาสติกที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ ภาพของเส้นใยพลาสติกที่ติดอยู่ในทางเดินอาหารของหนอนธนู ด็อคเตอร์ Alan Jamieson กล่าวว่านี่คือคือสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่ามนุษยชาตินั้นสร้างร่องรอยของเผ่าพันธุ์ตนเองไปทั่วโลกจริงๆ แม้เราจะอาศัยอยู่บนพื้นดิน ในเมืองใหญ่ หรือบนภูเขา แต่ขยะที่เราสร้างมันยังไปถึงมหาสมุทรส่วนที่ห่างไกลที่สุดได้ด้วย ไม่เพียงแต่ในพื้นที่ Mariana Trench เท่านั้น แต่ทีมสำรวจยังสำรวจจุดลึกอื่นๆ อย่างเช่น Japan, Izu-Bonin, Peru-Chile, New Hebrides และ Kermadec ซึ่งผลที่น่าตกใจก็คือ พื้นที่ Mariana Trench ที่ทีมสำรวจได้ทำการเก็บข้อมูลตัวอย่างของสัตว์ทะเล “ในทุกสถานที่นั้น จะพบสัตว์ทะเลที่กินเส้นใยสังเคราะห์ หรือเส้นใยพลาสติกเข้าไปจำนวนมาก” โดยปกติแล้วสัตว์ทะเลลึกจำพวกดังกล่าวจะกินแทบทุกสิ่งทุกอย่างที่ขนาดเล็กพอที่พวกมันสามารถกินได้…
-
อีกด้านของญี่ปุ่น “ย่านชิบูยะ” ที่เต็มไปด้วยขยะ กับการทิ้งเรี่ยราดหลังจากงานฮาโลวีน
โดยปรกติแล้วหลังจากเสร็จสิ้นงานกิจกรรม หรือปาร์ตี้ต่างๆ สิ่งที่มักจะตามมาหลังจากความสนุกจบลงนั่นก็คือเศษขยะจำนวนมากนั่นเอง ซึ่งดูเหมือนว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในบ้านเราเท่านั้น แต่ประเทศที่มีระเบียบวินัยอย่างญี่ปุ่นเองก็มีเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นเช่นกัน!! เศษขยะมูลฝอยจำนวนมาก ในย่านชิบูยะ หลังจากเทศกาลฮาโลวีนเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ภาพของขยะมูลฝอยในย่านชิบูยะ แห่งนี้มีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี ซึ่งจำนวนปริมาณขยะที่เพิ่มมากขึ้นนั้นก็เพิ่มขึ้นตามขนาดของงานที่ใหญ่ขึ้นในแต่ละปีนั่นเอง คุณ avogado6 ชาวเน็ตท่านหนึ่งที่ได้อัพเดทภาพของตัวการ์ตูนในชุดแฟนซีที่เดินอยู่บนกองขยะ พร้อมกับภาพของเด็กหญิงที่เดินตามเก็บขยะมูลฝอยที่ตัวการ์ตูนเหล่านั้นทิ้งเอาไว้ ซึ่งสื่อให้เห็นถึงสถาณะการณ์ปริมาณขยะที่ตามมาหลังจากงานเทศกาลใหญ่ๆ แบบนี้ ภาพการ์ตูนจากคุณ avogado 6 กองขยะจำนวนมากที่อยู่บนถนน Dogenzaka หนึ่งในถนนยอดฮิตในย่านชิบูยะ ซึ่งนอกจากจะมีปริมาณมากแล้ว มันยังส่งกลิ่นเหม็นอีกด้วย ภาพของชายที่กำลังจัดการกับขยะหน้าร้านสะดวกซื้อ หลังจากคืนวันปล่อยผีจบลง มีผู้คนมากมายที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อรูปภาพของคุณ avogado 6 ซึ่งหลายๆ ความคิดเห็นก็ได้โจมตีไปยังกลุ่มผู้ที่ทิ้งขยะเหล่านั้น พร้อมกับแนะให้ใช้ภาพดังกล่าวในการรณรงค์เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเทศกาลฮาโลวีนเท่านั้น แต่ยังมีให้เห็นในเทศกาลอื่นๆ ของญี่ปุ่นอีกเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตท่านหนึ่งได้ออกมากล่าวว่า เมื่อปีที่ผ่านมามีอาสาสมัครจากโรงเรียนประถมออกมาช่วยกันจัดการกับขยะในย่านนี้ แต่ทว่ามีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเด็กๆ ในปีนี้จึงไม่มีการจัดอาสาสมัครดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีชาวญี่ปุ่นบางคนที่ไม่ยอมอยู่เฉยๆ พวกเขาได้ร่วมมือกันจัดกลุ่มอาสาสมัครเพื่อออกมาทำความสะอาดย่านชิบุยะในวันต่อมา ภายใต้ชื่อกิจกรรม Clean by Ourselves ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ประกาศเชิญชวนจากกิจกรรม Clean by…
-
หนุ่มตกปลาที่ลำตัวแทบขาดครึ่งจาก “เศษพลาสติก” เพราะมันโตมาพร้อมการถูกรัดจากขยะ
ปัญหาเรื่องขยะดูเหมือนที่จะมีอยู่ทุกแห่งบนโลกใบนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตอย่างเช่นปลาตัวนี้ที่โดยเศษพลาสติกจากขวดน้ำรัดมันจนตัวแทบขาดครึ่ง!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมือง Medicine Hat รัฐ Alberta ประเทศแคนาดาเมื่อมีชายคนหนึ่งชื่อว่า Adam Turnball ได้ตกปลาสุดแปลกมาได้ตัวหนึ่งที่มีลำตัวแทบจะขาดครึ่ง โดยเขาได้เล่าเหตุการณ์ว่าวันนั้นก็เป็นวันปกติที่เขามักจะออกไปตกปลาอยู่แล้ว หน้าตาของหนุ่มที่พบปลาแสนโชคร้าย แต่เมื่อเขาตกปลาตัวนี้ขึ้นมาได้เขาก็เห็นว่าลำตัวของมันดูแหว่งๆ ซึ่งอาจจะมาจากการถูกปลาตัวอื่นทำร้าย แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นพลาสติกที่หุ้มปากขวดของเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่งที่มีชื่อว่า Powerade อะไรสีดำๆ ตรงนั้นนะ “ผมไม่เคยเห็นเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต มันทำผมช็อคไปเลยทีเดียว” “เจ้าปลาตัวนี้ต้องใช้ชีวิตที่ผ่านมาโดยมีพลาสติกหุ้มตัวมันตลอดเวลาอย่างนี้ มันน่าเศร้าจริงๆ” Adam ได้กล่าวไว้ ที่หุ้มขวดน้ำนั่นเอง ก่อนที่จะปล่อยมันกลับสู่ธรรมชาติ Adam ก็ได้ถ่ายรูปปลาตัวนี้ไว้พร้อมกับแชร์ไปบน Facebook ของเขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลบนอินเทอร์เน็ตที่มีผู้แชร์โพสต์ของเขาแล้วกว่า 15,000 ครั้ง โพสต์สร้างจิตสำนึกให้คนอื่นๆ เห็นถึงปัญหาขยะ นั่นทำให้เขารู้สึกดีใจที่สามารถทำให้ผู้คนได้เห็นความสำคัญของการทิ้งขยะมากขึ้น “เมื่อคุณนำสิ่งของเข้ามา ก็เอากลับไปกับคุณด้วย” Adam ได้บอกทิ้งท้ายไว้ แหม เกือบไปแล้วไหมล่ะ สงสารเจ้าปลาน้อยจริงๆ หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกนะ ที่มา: buzzfeed
-
ผลงานสุดบรรเจิด เปลี่ยนสวนหลังบ้านให้กลายเป็นกองขยะ ศิลปะที่ไม่ได้ง่ายอย่างตาเห็น..!!
ใครๆ ก็ฝันอยากจะมีสวนหลังบ้านสวยๆ เป็นของตัวเองกันทั้งนั้น แต่สำหรับบางคนเมื่อได้ย้ายเข้าไปอยู่บ้านที่มีสวนแล้ว กลับถูกความขี้เกียจครอบงำแทนซะงั้น และทั้งหมดนี้คือตัวอย่างผลงานการจัดสวนจากชาวบ้านรอบโลก เมื่อความขี้เกียจมาผสานกับพลังแห่งธรรมชาติ ศิลปะการเปลี่ยนสวนหลังบ้านให้ดูเหมือนกองขยะก็ได้ถือกำเนิดขึ้น ถรุ้ยยย!! เสื้อในใครมาลืมไว้แถวนี้อ่ะ… ศิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ…. แม้ขยะดูดีๆ ยังมีศิลป์ หง่อววววว บ้านนี้ต้องชอบกินไข่ลวกแน่ๆ เลย สงสัยนี่อาจเป็นสวนของร้านขายกางเกงยีนส์ ฉลามบุก!! เปลี่ยนซากคอมพิวเตอร์เก่าๆ ของคุณให้กลายเป็น…. สวนหย่อมก็ได้อ๊ะ ยิ้มกันวันละนิดจิตแจ่มใส ไม่ได้มาแบบขยะ แต่มาแบบศิลปะ เปลี่ยนก้นกรองบุหรี่ที่ไร้ค่า… ให้กลายเป็นของที่ดูมีค่า? ยิ่งกว่าเดิม โถส้วมเก่าๆ มีค่าอย่าเพิ่งทิ้ง ว่าแต่.. นี่สวนแนวไหนเนี่ย ดูท่าทางจะว่างใช้ได้เลยนะเนี่ย นี่สวนหรือสงครามกันฟร๊ะเนี๊ยะ!? ตัดแต่งให้กลายเป็นรูปกระต่ายยักษ์ ดึกๆ ใครเดินผ่านมามีตกใจกันบ้างอ่ะ เหมือนจะน่ารัก ดูไปดูมา… มันหลอนแปลกๆ แฮะ…
-
อุทาหรณ์… สาววัย 14 เป็นโรคอัมพาตขา เข้านอนตามปกติ แต่ตื่นมาถูกหนูแทะนิ้วเท้า!!
อีกหนึ่งอุทาหรณ์ที่ถูกนำมาเล่าผ่านเว็บไซต์ Mirror ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงวัยเพียง 14 ปี ที่ป่วยด้วยโรคอัมพาตขา ที่ถูกหนูกัดกินนิ้วเท้าจนกลายเป็นอาการติดเชื้อขั้นรุนแรง จากต้นฉบับรายงานว่า ครอบครัวของหญิงสาวคนนี้อาศัยอยู่ที่เมืองรูแบ ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส โดยคุณพ่อ Jerome ได้เล่าว่า… คืนวันนั้นลูกสาวของเขาได้เข้านอนตามปกติ บนเตียงระดับเดียวกันกับพื้นบ้าน จากนั้นตื่นมาก็พบว่าลูกสาวของตนถูกหนูแทะนิ้วเท้าข้างที่เป็นอัมพาตไปเสียแล้ว **คำเตือน: ภาพประกอบเนื้อหานี้มีความรุนแรง และอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจได้** Courrier-Picard สื่อท้องถิ่นของฝรั่งเศสได้รายงานว่า เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 2 กันยายน ทุกอย่างภายในบ้านดูปกติดี หลังจากที่ Samantha (ลูกสาว) เข้านอนก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งเช้าวันต่อมาพวกเขาก็ได้เห็นภาพเลือดของลูกสาวที่เปื้อนอยู่เต็มเตียง พอสืบหาสาเหตุก็พบว่าเป็นรอยกัดของหนูที่มาจากปัญหาขยะของพื้นที่แถวนั้น “ภาพแรกผมเห็นเลือดไหลออกมาจากหู และเลือดก็เปื้อนเต็มเตียงไปหมด เธอไม่สามารถลุกขึ้นมาจากเตียงได้ด้วยตัวเอง และคุณหมอก็วินิจฉัยออกมาว่า เธอมีบาดแผลทั้งหมด 45 จุดบนใบหน้า 150 จุดบนแขน และอีก 30 กว่าแผลตรงเท้าของเธอ เป็นภาพที่เศร้าสลดมากสำหรับหัวอกคนเป็นพ่ออย่างเรา” Jerome ให้สัมภาษณ์ หลังเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น คุณพ่อและครอบครัวก็ได้ยื่นเรื่องฟ้องเจ้าของบ้านเช่าทันที โดยให้เหตุผลว่าก่อนหน้านี้บริเวณดังกล่าวมีปัญหาเรื่องการจัดการขยะมานานแล้ว และเจ้าของที่ก็ไม่ยอมแก้ปัญหาจนนำมาซึ่งความสูญเสียที่เกิดขึ้น “ลูกสาวของเราบาดเจ็บสาหัสมาก…
-
สาวกินอาหารใน “ถังขยะ” เป็นเวลา 4 ปีเก็บเงินได้เกือบ 1 ล้านบาท ซื้อบ้านได้หนึ่งหลัง!!
คนเก็บขยะขายหรือคุ้ยขยะกินที่เราเห็นคือ เขาอาจจะเป็นคนที่ไม่สามารถหาซื้อกับข้าวกินได้อย่างปกติ อาจเพราะกำลังทรัพย์ที่มีไม่เพียงพอ แต่สำหรับเธอคนนี้นั้นมีหน้าที่การงานทำตามปกติ แต่กลับเลือกที่จะเก็บเงินจากการหาของกินในถังขยะซะอย่างนั้น พยาบาลสาววัย 34 ปีที่มีชื่อว่า Mel Humphreys ที่เลือกที่จะคุ้ยขยะหาของกินในทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 – 4 วันเพื่อจะได้ประหยัดค่าอาหารของเธอให้เหลือเพียงอาทิตย์ละประมาณ 1,300 บาทจากเมื่อก่อนที่ใช้ประมาณ 6 พันบาท . จุดเริ่มต้นนั้นเริ่มมาจากเมื่อ 4 ปีก่อนที่เธอได้เริ่มที่จะมองหาของกินจากถังขยะหลังร้านค้าในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย จนทำให้เธอต้องประหลาดใจกับสิ่งที่ได้เจอเพราะมันเต็มไปด้วยอาหารที่สามารถนำกลับบ้านไปรับประทานได้ จนเธอถึงกับบอกว่า 3 ใน 4 ของอาหารทั้งหมดที่เธอกินนั้นล้วนมาจากถังขยะทั้งสิ้น . จากตรงนั้นจึงทำให้เธอไม่จำเป็นต้องซื้อของตามร้านค้าหรือลังเลที่จะทำมัน เพราะเธอรู้ดีว่าหากเธอรออีกสักหน่อยก็จะสามารถไปเจอมันได้ในถังขยะแบบฟรีๆ และการทำอย่างนั้นก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายของเธอที่ส่วนใหญ่นั้นก็มาจากการกิน และทำให้เธอคิดขึ้นมาว่าต้องหมดเงินไปเท่าไหร่แล้วกับค่าอาหารที่ผ่านมาทั้งหมด . ในปัจจุบันจะมีถังขยะอยู่สี่จุดที่เธอจะไปเป็นประจำสัปดาห์ละสามครั้ง ซึ่งจะอยู่ตามซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ บริษัทอาหาร หรือร้านเบเกอรี่เล็กๆ ทั่วไป และเธอก็จะได้เจออาหารเยอะมากตามภาพที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่ม ชีส ผัก หรือเนื้อ เป็นต้น แน่นอนว่าเมื่อเธอได้วัตถุดิบมาแล้วก็จะนำมาประกอบอาหารแต่เธอคิดว่าการที่เธอเจอมาเยอะแยะขนาดนี้นั้น เธอก็อยากที่จะแบ่งปันให้คนรอบข้างของเธอได้กินอาหารอร่อยๆ…
-
หนุ่มพลเมืองดี “เก็บขยะ” ตามชายหาดได้ 35 ถุง นำมาสร้างเป็นศิลปะ สะท้อนปัญหาขยะ!!
ย้อนกลับไปเมื่อชวงต้นปี Rob Arnold ได้เดินทางไปพักผ่อนริมชายหาดที่ Tregentle Beach ในประเทศอังกฤษ ทว่าสิ่งที่เขาเจอกลับไม่ใช่วิวทะเลที่สวยงาม แต่เป็นสภาพชายหาดที่เต็มไปด้วยขยะเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด ด้วยหัวใจที่รักในธรรมชาติ เขาได้ริเริ่มไอเดียที่จะเข้ามาเก็บกวาดขยะบนชายหาดแห่งนี้ โดยหลังจากเก็บรวบรวมได้ 35 ถุงใหญ่แล้ว เขาก็นำมันมาแยกประเภทขยะเพื่อสร้างเป็นศิลปะที่สะท้อนปัญหาขยะล้นโลกได้อย่างตรงไปตรงมา นี่คือสภาพขยะบนชายหาดที่เขาไปเจอ ถึงแม้ว่าจะเป็นชายหาดที่ไม่มีผู้คนมาเที่ยวมากนัก แต่ขยะที่ถูกทิ้งลงทะเลก็มักจะถูกพัดมาเกยตื้นที่นี่เป็นประจำ หลังจากเห็นสภาพชายหาดเป็นแบบนี้ เขาจึงรีบชักชวนเพื่อนๆ ให้มาร่วมช่วยกันเก็บขยะทันที เขาสามารถรวบรวมขยะมาได้ทั้งหมด 35 ถุงใหญ่ “อันที่จริงผมมักจะคอยเก็บขยะให้ชายหาดที่ผมไปเที่ยวมานานกว่า 4 ปีแล้วล่ะ แต่ไม่มีครั้งไหนที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจได้เท่านี้มาก่อน” Rob กล่าว ขยะทั้งหมดที่เขาค้นพบ เขาได้นำมันมาแยกประเภทและถ่ายภาพออกมาเพื่อสะท้อนให้ชาวโลกเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น น่าแปลกใจที่ส่วนใหญ่มักจะเป็นของเล่น เอาเป็นว่าเราลองไปชมภาพขยะทั้งหมดที่เจ้าตัวได้แยกประเภทมาให้เราดูกันเลย… . . . . . . . . . นี่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะ แล้วลองนึกดูสิว่าทั่วโลกเราจะมีขยะลอยอยู่บนทะเลเยอะมากขนาดไหน!? ที่มา:…
-
คนเก็บขยะช่วยเหลือทารกน้อย ที่ถูกพ่อแม่ใจร้ายนำมาทิ้ง เพียงเพราะเขาคลอดก่อนกำหนด!?
ทุกวันนี้เรามักจะได้ยินหรือได้เห็นข่าวพ่อแม่นำลูกไปทิ้ง โดยอ้างด้วยเหตุผลต่างๆ นานา อย่างในกรณีนี้ก็มีพ่อแม่คู่หนึ่งนำลูกตัวเองไปทิ้ง เพียงเพราะด้วยเหตุที่ว่าเขาคลอดออกมาก่อนกำหนด เรื่องนี้เกิดขึ้นบริเวณโรงพยาบาล Fuling Centre Hospital เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2017 โดยชายเก็บขยะได้พบทารกน้อยถูกทิ้งไว้ในถังขยะสาธารณะ จึงได้นำตัวเด็กส่งกลับไปยังโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสภาพร่างกาย และตามหาพ่อแม่ที่ทิ้งเด็กไป ทางโรงพยาบาลจึงได้ประสานกับเจ้าที่ตำรวจเพื่อหาตัวพ่อแม่ของทารก เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบว่าพ่อเด็กเป็นคนนำลูกไปทิ้งในถังขยะ ทั้งๆ ที่ผู้เป็นแม่ยังนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ตำรวจจึงได้เรียกทั้งสองคนมาสอบสวน ทั้งคู่อ้างว่าได้นำลูกไปทิ้งหลังจากคลอด เพราะชื่อว่าเด็กที่คลอดก่อนกำหนดจะอายุไม่ยืน สุขภาพไม่แข็งแรง พวกเขายังบอกอีกว่าตอนตัดสินใจไปทิ้งก็ไม่ได้คิดให้รอบคอบด้วย และเสียใจต่อสิ่งที่ได้ทำลงไป ส่วนเรื่องที่เด็กคลอดก่อนกำหนดนั้นเป็นเพียงความเชื่อส่วนตัว เพราะคุณหมอที่ทำคลอดบอกว่าแม้ลูกของทั้งคู่จะคลอดก่อนกำหนด แต่เขามีสุขภาพแข็งแรงดีและอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หลังจากที่รับสารภาพแล้ว พวกเขาก็รับปากกับตำรวจว่าจะดูแลลูกต่อจากนี้และไม่คิดจะทิ้งอีก ตำรวจจึงให้โอกาสพวกเขาได้ทำหน้าที่พ่อแม่ให้เด็กคนนี้อีกครั้ง โดยไม่ได้มีการปรับใดๆ เพียงแต่ตักเตือนด้วยวาจาเท่านั้น สำหรับเด็กที่คลอดก่อนกำหนดนั้นมีโอกาส 1 ใน 13 คน เด็กที่คลอดก่อน 34 สัปดาห์ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษในตู้อบจนกว่าเด็กจะแข็งแรงเป็นปกติ โชคดีที่ทารกถูกช่วยเหลือไว้ทัน ไม่งั้นพ่อแม่อาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเลยล่ะ ที่มา dailymail
-
ดิลโด้รักษ์โลก มิติใหม่แห่งเซ็กส์ทอย รีไซเคิลจากขยะในทะเล คุณเองก็ช่วยโลกใบนี้ได้!!
เพื่อนๆ เคยสังเกตหรือไม่ว่าเวลาที่เราไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ นั้น สิ่งที่ไม่น้อยไปกว่านักท่องเที่ยวนั่นก็คือขยะที่ทุกๆ คนนำมาด้วยนั้น เช่นกันกับสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตอย่าง “ทะเล” ที่ทุกคนก็ได้นำขยะต่างๆ ไปทิ้งไว้โดยไม่รู้เลยว่าขยะชิ้นเล็กๆ จะก่อเป็นปัญหาใหญ่ให้กับสัตว์ทะเลและธรรมชาติในบริเวณนั้น ด้วยปัญหานี้เองจึงมีแคมเปญดีๆ “Ocean Dildos” ที่จะช่วยสะท้อนสังคมให้เห็นถึงความสำคัญของมหาสมุทร ที่จะทำให้ทุกๆ คนเกิดจิตสำนึกเกี่ยวกับการรักษ์สิ่งแวดล้อม โครงการมีจุดประสงค์ให้ทุกคนนั้นร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อมในมหาสมุทร โดยมีวีธีนำเสนอที่เจ็บแสบโดยการนำขยะที่ถูกทิ้งอยุ่อย่างมากมายตามท้องทะเลมาละลายและหลอมขึ้นใหม่เป็น “ดิลโด้” หรือเครื่องมือสำเร็จความใคร่ที่หลายคนรู้จักกันดี ทั้งนี้ก็เพื่อจะสื่อให้มนุษย์เข้าว่า “หยุดทำ f*cking กับท้องทะเลเสียที!!” (เอาพวกนี้มา f*ck ตัวเองกันเถอะ) นั่นเอง เจ้าดิลโด้รีไซเคิลนี้ก็บรรจุอยู่ในกล่องที่สวยงามมากเลยทีเดียว นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ที่เตือนใจทุกคนเดียว แคมเปญนี้ยังช่วยรีไซเคิลขยะในท้องทะเลให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย มีหลากหลายสีให้เลือก . เราลองไปดูคลิปโฆษณาสั้นๆ ของแคมเปญนี้กันดีกว่า ถือว่าเป็นแคมเปญที่สื่อสารได้ตรงใจมากๆ เลยทีเดียว รู้แบบนี้แล้วเราทุกคนก็อย่าลืมรักษาสิ่งแวดล้อมกันด้วยนะ เพื่อนๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆ ของแคมเปญนี้ได้ที่เว็บไซต์นี้เลย oceandildos ที่มา sobadsogood
-
ทีมสำรวจแทบสิ้นหวัง เมื่อพบขยะพลาสติกจำนวนมาก บนเกาะห่างไกลกว่า 4,800 กิโลฯ
ดูเหมือนว่าปัญหาขยะล้นโลกจะเป็นอะไรที่แก้กันไม่ตกจริงๆ และไม่น่าเชื่อว่าขยะที่คนทั่วไปอาจจะเผลอทิ้งไว้ข้างชายหาด จะส่งผลเป็นวงกว้างได้มากขนาดนี้ Jennifer Lavers จากมหาวิทยาลัยแทสมาเนีย ได้เดินทางไปยังเกาะ Henderson ที่ซึ่งห่างไกลออกไปจากแผ่นดินใหญ่ถึง 4,800 กิโลเมตร และพบว่าที่นี่กลับเต็มไปด้วยซากขยะหลายสิบล้านชิ้น!! เกาะ Henderson ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิค มีขนาดเพียงแค่ 37.5 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งเกาะแห่งนี้เป็นพื้นที่ควบคุมของทางการอังกฤษ ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับอนุรักษ์นกทะเลหลายสายพันธุ์ และเต่าทะเลอีกจำนวนมาก หนึ่งในภาพผลกระทบที่เห็นได้ชัดที่สุด ก็คงจะเป็นภาพของปูเสฉวนที่ต้องใช้พลาสติกมาเป็นกระดองให้ตัวเองแทน โดยทีมสำรวจคาดว่าจำนวนขยะมีมากกว่า 37 ล้านชิ้น หนักกว่า 17 ตัน และส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบนิเวศ Dr. Lavers ให้สัมภาษณ์ว่า ‘ฉันเคยเห็นขยะที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบนชายหาดมาแล้วหลายที่ แต่ไม่เคยเห็นที่ไหนเยอะเท่านี้มาก่อน’ ถึงแม้ว่าในบริเวณรอบเกาะจะไม่มีเส้นทางการเดินเรือของชาวประมง หรือเรือท่องเที่ยว แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าขยะจากชายฝั่งตามเมืองใหญ่ สามารถเดินทางไปได้ไกลขนาดไหน บริเวณที่ตั้งของเกาะ ชี้ให้เห็นว่าไม่มีเมืองไหนตั้งอยู่ใกล้เลย แน่นอนว่าขยะทั้งหมดเต็มไปด้วยสารพิษ และมันก็ส่งผลต่อการเพาะพันธุ์สัตว์อนุรักษ์ทางทะเลเป็นอย่างมาก Dr. Lavers ให้สัมภาษณ์ปิดท้ายว่า…
-
ชมภาพถ่ายชวนตระหนักถึงปัญหาขยะ โดยให้คนนอนบนกองขยะที่ตัวเองสะสมมา 7 วัน!!
เราทุกคนต่างรู้ดีถึงปัญหาขยะที่ล้นโลกมากขึ้นทุกวัน และไม่ว่ามนุษย์จะพัฒนาเทคโนโลยีไปได้ไกลขนาดไหน ก็ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหาที่แก้กันไม่ตกอยู่ดี Gregg Segal ช่างภาพจากแคลิฟอร์เนีย ได้ปิ๊งไอเดียที่อยากจะให้ผู้คนหันมาตระหนักถึงปัญหาขยะที่เกิดจากนิสัยการบริโภคของตนเอง โดยให้อาสาสมัครนอนอยู่บนกองขยะที่เกิดจากการใช้สอยของตัวเองตลอด 7 วัน จะเป็นยังไงตามไปดูกันเลย . . . . . . . ‘ผลงานทั้งหมดนี้ผมอยากให้คนตระหนักว่าจริงๆ แล้วปัญหาขยะมันก็เริ่มมาจากตัวเราทุกคนเองนั่นแหละครับ และหวังว่าไอเดียภาพถ่ายนี้จะคอยเตือนไม่ให้พวกเขาสร้างมลภาวะขยะมากเกินความจำเป็น’ ช่างภาพเจ้าของไอเดียให้สัมภาษณ์ . . . . . . . . . . . เราทุกคนล้วนเป็นผู้สร้างขยะจริงๆ นั่นแหละ แต่จะไม่ให้บริโภคสินค้าเลยก็คงไม่ได้ เพราะเรายังต้องกินต้องใช้กันอยู่ใช่ไหมล่ะ!? ที่มา: Designyoutrust
-
ศิลปินหนุ่มชาวฝรั่งเศส บันดาลชิ้นส่วนขยะเหลือใช้ ให้กลายเป็นศิลปะใบหน้าของคนดังได้!?
Bernard Pras ศิลปินหนุ่มชาวฝรั่งเศสผู้มากความสามารถ เขาเป็นทั้งช่างปั้น ช่างภาพ ช่างเพ้นท์ และผลงานล่าสุดกำลังจะทำให้ภรรยามอบตำแหน่งใหม่ให้เขากลายเป็น.. ช่างเก็บขยะมาสะสมซะเต็มบ้านเลยนะเอ็ง!! แต่ขยะทั้งหมดที่เขารวบรวมมานั้น ไม่ได้เอามาช่างกิโลฯ ขายหรอกนะจ๊ะ แต่เขาเอามาจัดวางด้วยความปราณีต จนออกมาเป็นภาพใบหน้าของศิลปินคนดังระดับโลก จะมีใครบ้างเราตามไปดูกันเลย ประเดิมคนแรกด้วยศิลปินรุ่นใหญ่ผู้ลาจากโลกนี้ไปแล้ว David Bowie Jack Nicholson ในบทบาท ‘Jack Torrance’ จากหนังสยองขวัญชื่อดัง The Shining Jimi Hendrix ก็มานะคร๊าบบบ Salvador Dali ศิลปินผู้โด่งดังจากการวาดภาพแนว Surrealism (ศิลปะเหนือจริง) Bob Marley Andy Warhol ศิลปินชาวอเมริกัน เขาเป็นผู้นำกลุ่มศิลปะแนวป็อปอาร์ต Mick Jagger นักร้องวง The Rolling Stones Albert Einstein…
-
นี่คือ 8 เหตุผลที่บอกเราว่า ทำไม ‘ประเทศญี่ปุ่น’ จึงเป็นประเทศที่สะอาดมากๆ
ประเทศญีปุ่น เป็นหนึ่งประเทศที่มีระเบียบวินัยสูงมากและหากใครได้ไปเที่ยวที่เมืองอาทิตย์อุทัยนี้มาก็จะพบสิ่งที่แตกต่างกับประเทศเราโดยสิ้นเชิงอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือความสะอาด ทุกครั้งที่เห็นภาพของเพื่อนๆ ที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น หรือดูตามสารคดีต่างๆ มักจะเกิดคำถามขึ้นในใจของเราว่า “ทำไมบ้านเขาสะอาดจัง?” นั่นสิ หลายคนสงสัยแบบนี้ใช่ไหม วันนี้ #เหมียวฟิ้น พบข้อมูลจากเว็บไซต์ Rocketnews ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของประเทศญี่ปุ่นสู่สายตาชาวต่างชาติในภาษาอังกฤษ เลยถือโอกาสแปลมาให้ได้อ่านกัน รับรองว่าคุณจะต้องทึ่งแน่นอน 1. แม้ไม่มีถังขยะข้างทาง แต่(แทบ)ทุกคนถูกปลูกฝังว่า จะต้องเก็บมันไปทิ้งที่อื่น ชาวญี่ปุ่นให้ความร่วมมือกับการรักษาความสะอาดมาก เวลาที่พวกเขาไปท่องเที่ยวหรือปาร์ตี้ตามสถานที่ต่างๆ แล้วไม่มีถังขยะ พวกเขาจะเก็บมันใส่ถุงหรือภาชนะไปทิ้งที่อื่น เพราะพวกเขาถูกสั่งสอนมาว่าต้องรับผิดชอบต่อข้าวของของคุณเอง ต่อให้ตลอดทางไม่มีถังขยะเลย พวกเขาก็จะเอามันไปทิ้งที่บ้าน 2. มีถุงขยะอยู่ใต้เบาะรถประจำทาง ในรถบัสที่ออกเดินทางไปตามต่างจังหวัดหรือเดินทางระยะไกลๆ พวกเขาจะมีถุงขยะเก็บไว้ใต้เบาะที่นั่งของคุณ เพื่อเก็บเอาขยะของคุณไปทิ้งที่ถังขยะ (หรือที่บ้านคุณเอง) ดีกว่าปล่อยให้มันเลอะเทอะอยู่กับพื้นหรือซุกอยู่บนเก้าอี้ของคุณเอง 3. แทบทุกหน่วยงานจะทำความสะอาดพื้นที่ของตัวเอง ส่วนหนึ่งที่ถนนหนทางของพวกเขาสะอาดปราศจากใบไม้หรือขยะก็เพราะว่าพนักงานของสถานที่นั้นๆ จะเป็นคนทำความสะอาดด้วยตัวของพวกเขาเอง ตั้งแต่พนักงานออฟฟิศไปจนถึงพยาบาลในโรงพยาบาล โดยไม่ต้องให้พนักงานกวาดถนนมาเก็บกวาดให้พวกเขาเลย 4. มีศิลปะในการแยกขยะ ชาวญี่ปุ่นจะมีระเบียบค่อนข้างมากในการกำจัดขยะภายในบ้าน เวลาจะนำขยะจากในบ้านออกไปทิ้งหรือกำจัด พวกเขาจะคัดแยกทุกอย่างให้อยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน หนังสือสื่อสิ่งพิมพ์มัดรวมด้วยกัน ขยะเปียกขยะแห้ง หรือหากจะทิ้งขวดซอสสักขวด พวกเขาก็จะเทเอาเศษๆ ที่อยู่ในขวดออกมาทิ้งให้หมดเสียก่อน 5. มีหน่วยงานอาสาสมัครบางแห่งคอยย้ำเตือนให้ชาวเมืองตื่นตัวและเก็บขยะอยู่เสมอ…
-
เล่นงี้เลย!! จีนประยุกต์ใช้ “โดรนพ่นไฟ” เพื่อเอาไว้กำจัดขยะที่ติดอยู่ตามสายไฟฟ้าแรงสูง
เป็นเรื่องที่ยากมากๆ สำหรับการกำจัดขยะที่ติดอยู่ตามสายไฟฟ้าที่อยู่บนที่สูง เพราะว่าเป็นงานที่อันตรายและค่าใช้จ่ายสูง ทางบริษัทแห่งหนึ่งในจีนก็เลยปิ๊งไอเดียหนึ่งขึ้นมา ในคลิปนี้เป็นการทำงานของบริษัทไฟฟ้าแห่งหนึ่งในเมือง Xiangyang ประเทศจีน พวกเขาพยายามจะหาวิธีกำจัดขยะที่ชอบลอยไปติดตามสายไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งยากต่อการกำจัดมาก เขาก็เลยดัดแปลงโดรนให้มีความสามารถในการกำจัดขยะ นั่นก็คือการใช้ไฟเผานั่นเอง มีการวิเคราะห์ว่าโดรนตัวนี้เป็นรุ่น DJI S1000+ ที่มี 8 ใบพัด ซึ่งสามารถรับน้ำหนักและมีพลังการบินที่สูง อีกทั้งยังมองไปถึงตัวรีโมทบังคับ Futaba T14 SG ซึ่งเป็นรีโมทที่สามารถเอาไปประยุกต์ใช้กับโดรนได้หลากหลายตัว เมื่อซูมดูใกล้ๆ เราจะเห็นว่าตัวโดรนนั้นได้ติดตั้งถังเชื้อเพลิงไว้สำหรับการพ่นไฟ ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเขาจะเอาไปใช้จริงๆ หรือว่าเป็นการทดลองเฉยๆ เพราะไม่มีคลิปเหตุการณ์ก่อนหรือหลังจากนี้ แต่ดูจากคลิปแล้วมันก็เหมือนจะใช้งานได้ดี ถึงแม้จะเป็นไอเดียการประดิษฐ์ที่ดีเยี่ยม แต่หลายคนเห็นแล้วก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันน่ากลัวมากๆ กับการเอาไฟไปเผาสายไฟฟ้าแรงสูงแบบนั้น แม้ว่าไฟจะเผาขยะได้ก็จริง แต่ตรงสายไฟนี่เป็นอะไรที่หวาดเสียวมากๆ เอาไม้สอยเฉยๆ ไม่ได้เหรอพี่!! ที่มา inverse
-
หนูน้อยวัย 7 ขวบ กับตำแหน่ง CEO บริษัทรีไซเคิล เพื่อช่วยลดขยะและอนุรักษ์โลกใบนี้!!
เรื่องราวของหนุ่มน้อย Ryan วัย 7 ปี ที่ทำการตั้งบริษัทรีไซเคิลเป็นของตัวเอง โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยโลก ลดขยะ และทำให้ผู้ใหญ่หลายๆ คนตระหนักในการดูแลสภาพแวดล้อมมากขึ้น ในรายการทอล์คโชว์ชื่อดังอย่าง The Ellen DeGeneres Show ได้เชิญเด็กน้อยคนนี้มาร่วมสัมภาษณ์ถึงบริษัทของเขา และจุดเริ่มต้นของความคิดที่แสนบรรเจิดนี้ เรื่องมันเริ่มต้นเมื่อปี 2012 ขณะที่หนูน้อย Ryan อายุได้ 3 ขวบ เขาเดินทางไปยังศูนย์รีไซเคิลใกล้บ้านเพื่อนำขวดเปล่าและกระป๋องเปล่าไปขึ้นเงิน เพื่อแลกกับค่าขนมเล็กน้อย หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นเจ้าหนู Ryan ก็สังเกตเห็นว่าคุณพ่อและคุณแม่ของเขาเดินถือถุงเปล่าเดินไปขอขวดพลาสติก และกระป๋องจากเพื่อนบ้านทุกคน เพื่อนำมาให้เขา จนในที่สุดก็ตัดสินใจก่อตั้งขึ้นมาเป็นบริษัท Ryan’s Recycling จนถึงตอนนี้ทางบริษัทก็ได้ทำการรีไซเคิลขวดและกระป๋องไปมากกว่า 200,000 ชิ้น แถมยังสร้างรายได้มากถึง 350,000 บาทแล้วด้วย!! แม้จะดูไม่เป็นรายได้ระดับล้านหรือสิบล้าน หรือประสบความสำเร็จเป็นเศรษฐีตั้งแต่วัยเยาว์ แต่ด้วยรายได้มากถึงหลายแสนในวัยเพียง 7 ขวบ เขาก็ถือว่าเป็นเด็กน้อยที่น่าจับตามอง โดยในอนาคต เขาหวังว่าจะนำเงินจำนวนนี้ไปซื้อรถเก็บขยะคันใหญ่ เพื่อช่วยให้การเก็บขยะมารีไซเคิลนั้นง่ายดาย และเพิ่มปริมาณมากยิ่งขึ้น และขยายธุรกิจของเขาเองให้ใหญ่โตกว่าเดิม…
-
ชายเก็บขยะ ถูกแอบถ่ายพร้อมข้อความดูถูก ชาวเน็ตทนไม่ไหว พาเขาไปซื้อของที่หมายปอง!!
สำหรับคุณลุงพนักงานทำความสะอาดคนนี้ ก็ต้องบอกว่าโชคหล่นทับแล้วล่ะ… Nazer al-Islam Abdul Karim วัย 65 ปี คือพนักงานเก็บขยะชาวบังคลาเทศที่ไปทำงานอยู่ใน Riyadh ประเทศซาอุดิอาระเบีย เขาถูกถ่ายภาพได้ขณะที่เขากำลังมองไปยังเครื่องประดับแสนแพงอยู่ และมีชาวเน็ตนิสัยไม่ดีคนหนึ่งได้โพสต์ภาพนี้ ด้วยข้อความที่ว่า ‘ชายคนนี้ไม่สมควรมองไปที่เครื่องประดับสุดหรู เขาควรมองแค่ขยะก็พอ’ ภาพที่เขาถูกถ่ายไว้ เรื่องนี้ร้อนไปถึง Abdullah Al-Qahtani ซึ่งเป็นเจ้าของเพจ ‘Ensaneyat’ หรือกลุ่มสิทธิมนุษยชนในภาษาอาระบิก และเขาก็ได้แคปและแชร์โพสต์ดังกล่าวออกไป มีผู้ร่วมแชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นออกไปมากมาย จนมีการค้นหาตัวของเขา หลังจากพบตัวของเขาแล้วจึงทราบว่า Nazer al-Islam Abdul Karim เป็นพนักงานเก็บขยะ โดยเขาได้รับเงินเดือนในการทำความสะอาดราวๆ 187 เหรียญ หรือประมาณ 6,545 บาทเท่านั้น และเขาไม่ทราบเลยว่าเขาถูกถ่ายภาพนี้ไว้ และหลังจากพบตัวเขา ก็มีผู้เห็นใจส่งทั้งเงินและข้าวของมาให้เขามากมาย ทั้งถุงข้าว เงิน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง (ไอโฟน 7 กับซัมซุงกาแล็กซี่) และนั่นยังไม่รวมถึงเครื่องประดับที่เขาเคยไปมองที่ห้างแห่งนั้นด้วย!? ผู้คนแห่งส่งความช่วยเหลือไปถึงเขา ‘ผมทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะให้กับทางเทศบาลของเมือง…
-
ชาวเน็ตต่างชาติ ร่วมรณรงค์ หลังภาพ “ปูเสฉวน” ใช้ขยะมนุษย์เป็นบ้าน ถูกแชร์ทั่วโลกออนไลน์!!
หลายคนอาจจะรู้จักปูเสฉวนกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ มันเป็นปูที่ไม่เหมือนปูชนิดอื่นๆ เพราะในร่างกายของมันจะมีส่วนก้นที่อ่อนแออยู่ ดังนั้นมันต้องเอาเปลือกหอยมาสวมตลอดเวลาเพื่อป้องกันอันตราย แต่ด้วยโลกในปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก ปัญหาสิ่งแวดล้อมก็มากขึ้นและส่วนมากก็มาจากฝีมือมนุษย์ที่ชอบทิ้งขยะไปเรื่อยเปื่อย ช่างภาพ Shawn Miller เห็นว่าประเด็นนี้เป็นสิ่งที่ต้องแก้แล้วจึงได้ตัดสินใจถ่ายภาพชุดหนึ่งเพื่อสะท้อนปัญหานี้ ในปี 2010 ช่างภาพ Miller ได้ไปเดินที่ชายหาดที่โอกินาวะ ประเทศญี่ปุ่น นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นปูเสฉวนที่ได้ใช่ฝาขวดน้ำเป็นเครื่องป้องกันตัวมันเอง ซึ่งเขาก็ประหลาดใจมากที่ได้เห็นสัตว์เอาของเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ได้ และหลังจากนั้นเขาก็พยายามศึกษาเกี่ยวกับปูชนิดนี้ มีสถิติบันทึกไว้ว่ามีขยะกว่า 14,000 ล้านชิ้นถูกทิ้งลงในทะเลทุกๆ ปี และมีสัตว์ไม่กี่ชนิดที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จากขยะเหล่านี้เหมือนอย่างปูเสฉวน เพราะมีสัตว์อีกหลานพันชนิดที่ตายเพราะขยะเหล่านี้ด้วยเช่นกัน Miller ได้ทำการออกตามหาหาดที่คิดว่าน่าจะมีปูเสฉวนเยอะๆ ที่ใช้ขยะของมนุษย์เอามาแทนเปลือกหอย และเขาก็พบว่ามันมีอยู่มากมาย ยิ่งเขาเห็นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งคิดว่านี่มันคือปัญหาที่เราต้องช่วยกันแก้ไข เขาก็เลยได้ถ่ายภาพเหล่านี้มาเพื่อให้คนคิดว่าได้การทิ้งขยะลงทะเลนั้นมันส่งผลเสียต่อระบนิเวศน์มากแค่ไหน . . . . . . . ไม่ใช่ว่าขยะจะมีผลดีต่อปูนะ เพราะบางครั้งขยะที่ผิดรูป ไม่เหมือนเปลือกหายอาจจะทำให้เวลาที่มันโตขึ้นมันอาจจะถอดขยะชิ้นนั้นไม่ออก เพราะว่าสรีระมันไม่เหมือนกับเปลือกหอย….. ที่มา thedodo
-
สภาพห้องก่อน-หลัง ของคนเป็น ‘โรคซึมเศร้า’ ย้ำเตือนให้พวกเรา เข้าใจพวกเขามากขึ้น!!
ว่ากันว่าในยุคสมัยนี้ผู้คนประสบกับปัญหาของโรคซึมเศร้ากันมากขึ้น ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับกลุ่มวัยรุ่นเป็นจำนวนมาก และไม่อาจบอกได้เลยว่าบุคคลเหล่านั้นกำลังเป็นโรคนี้อยู่ เพราะพวกเขามักจะไม่ค่อยเอ่ยปากยอมรับ อีกทั้งคนรอบข้างก็ไม่อาจสังเกตเห็นได้ โรคซึมเศร้าก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย รวมไปถึงปัญหาเล็กๆ อย่างการจัดการระเบียบชีวิต โรคซึมเศร้านั้นส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยแทบทุกทาง จากจิตใจอันห่อเหี่ยวก็ยิ่งส่งผลไปถึงพฤติกรรมการกระทำต่างๆ ด้วย อย่างในเรื่องของกิจวัตรประจำวันง่ายๆ เช่นการจัดระเบียบห้อง การเก็บกวาดทำความสะอาด ในบางครั้งคนอื่นอาจจะมองว่าเกิดขึ้นเพราะความขี้เกียจ แต่หารู้ไม่ว่ามันเกิดขึ้นจากโรคซึมเศร้าก็เป็นได้ อย่างเช่นภาพของห้องที่รกและเต็มไปด้วยขยะห้องนี้ ที่กลายมาเป็นกระแสไวรัลในต่างประเทศเป็นอย่างมาก ผู้ใช้นามแฝง toofuckingbusyandviceversa จากเว็บไซต์ imgur ได้ทำการโพสต์ภาพห้องของตัวเอง พร้อมกับอธิบายไว้ว่า ‘ฉันทรมานกับความซึมเศร้าอย่างรุนแรงและมันเป็นช่วงเวลาที่ยากต่อการทำความสะอาดรวมไปถึงการทำงานบ้านอย่างอื่นด้วย ห้องของฉันรกมาเป็นเวลานานหลายเดือน เพราะว่าฉันไม่มีแรงจูงใจที่จะดูแลมัน แต่วันศุกร์นี้แหละ ฉันก็ทำมันได้เสียที’ และนี่ก็คือภาพห้องเดียวกัน ในสามวันถัดมา ‘คุณจะเห็นได้ว่าตอนนี้ได้พื้นห้องคืนมาแล้ว กล่าวทักทายหมีเท็ดดี้ Nalle บนเตียงด้วย ฉันรู้มันไม่ใช่ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่สำหรับฉันแล้วมันยิ่งใหญ่มากที่จะสามารถเปิดบ้านต้อนรับผู้คนเข้ามาอีกครั้ง ฉันรู้สึกสงบอีกครั้ง และอยากจะร่วมแบ่งปันความรู้สึกให้กับทุกๆ คน’ ชาวเน็ตที่เห็นภาพแห่งความเปลี่ยนแปลงต่างก็ร่วมแสดงความรู้สึกยินดีด้วย ‘ด้วยความที่เป็นผู้ทรมานกับความซึมเศร้า มันทำให้ฉันรู้สึกดีมาก อย่าให้มันชนะเรานะ!’ ‘ฉันก็ทรมานกับความซึมเศร้าเช่นกัน และฉันรู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะทำในสิ่งเล็กๆ…
-
ล้ำไปอีกขั้น… ญี่ปุ่นเตรียมรีไซเคิล “ขยะอิเล็คทรอนิกส์” ให้กลายเป็นเหรียญโอลิมปิกปี 2020
ต้องบอกเลยว่าหลังจากที่ได้เห็นการรับไม้ต่อของชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นในพิธีปิดริโอเกมส์ 2016 ทำเอาคนทั่วโลกถึงกับตื่นเต้นในไอเดียการนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาตัวการ์ตูนและเกมมาเป็นตัวหนึ่งของการโปรโมท ไปจนถึงการเปลี่ยนอาเบะให้กลายเป็นมาริโอ้มาโผล่ในงานที่เราได้เห็นกัน… แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ เท่านั้น เพราะพวกเขายังมีอะไรเจ๋งๆ เตรียมไว้เซอร์ไพรส์คนทั้งโลกอีกมากก่อนจะถึงปี 2020 ที่พวกเขาได้เป็นเข้าภาพแบบเต็มตัว…และการเคลื่อนไหวแรกของ Tokyo Olympic ก็มีมาให้เราได้ฮือฮากันแล้ว เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Asia.nikkei ได้รายงานว่า ทางผู้จัดงานโอลิมปิกมีไอเดียที่จะนำเอาซากสมาร์ทโฟนและเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายมาเปลี่ยนให้กลายเป็นเหรียญโอลิมปิก ทั้งทอง เงิน และทองแดง เพื่อรีไซเคิลและลดจำนวนขยะอิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศลง ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่ค่อนข้างขาดแคลน “แร่” ต่างๆ พอสมควร พวกเขาจึงแก้ปัญหานี้โดยการนำเอาเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์มาแปรรูป ซึ่งในขยะเหล่านั้นมีทองและเงินมากถึง 16 – 22% ตามลำดับ อันที่จริงแล้วเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้บรรจุเหล็กมากพอสำหรับการนำมาหลอมให้กลายเป็นเหรียญอยู่แล้ว ซึ่งตามรายงานบอกว่าทีมผู้จัดโอลิมปิกและรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการหารือเรื่องนี้กันมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา การหารือครั้งที่ผ่านมาใช้ชื่อหัวข้อว่า “อนาคตที่ยั่งยืน” โดยผู้ที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้มีตั้งแต่เจ้าหน้าที่โอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ กระทรวงสิ่งแวดล้อม ผู้บริหารบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ NTT DoCoMo และบริษัทรีไซเคิลอีกหลายแห่ง…
-
ฝันเล็กๆ อันยิ่งใหญ่ของ ‘Ethan’ เด็กชายผู้อยากเป็น ‘คนเก็บขยะ’ เพื่อสร้างสรรค์เมือง
มนุษย์เราเกิดมาคู่กับความฝันในสิ่งที่อยากจะทำกันตั้งแต่เด็กจนโต บ้างก็ฝันอยากจะเป็นนักดนตรีชื่อดัง ฝันอยากจะเป็นคุณหมอ นายกฯ หรือแม้แต่ อยากจะมีบ้านมีครอบครัวอันแสนอบอุ่นก็นับว่าเป็นความฝันเช่นเดียวกัน แต่คงไม่มีฝันของใครที่จะโดดเด่นและยิ่งใหญ่ไปกว่าความฝันของเด็กชาย ‘Ethan’ ที่อยากจะเป็นฮีโร่คอยจัดการกับขยะบนท้องถนนให้แก่เมืองที่เค้าอาศัยอยู่นั่นเอง เราไปทำความรู้จักกับฮีโร่น้อยคนนี้กันเลยดีกว่า.. เด็กหนุ่มคนนี้เค้าเกิดมาโดยมีโรคซิสติก ไฟโบรซิส เป็นโรคประจำตัวคู่มาด้วย(โรคพันธุกรรมชนิดหนึ่งส่งผลให้เกิดโรคที่ปอดและระบบทางเดินได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะตับอ่อน) แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญของตัว Ethan เลยแม้แต่น้อย เพราะคงไม่มีเด็กคนไหนที่จะหลงใหลในรถเก็บขยะเท่า Ethan อีกแล้ว “ทุกๆครั้งที่เค้าได้ยินเสียงของรถเก็บขยะข้างนอก เค้าจะตื่นเต้นมากเป็นพิเศษและอยากจะออกไปช่วยพี่ๆพนักงานเหล่านั้น” Ken พ่อของเขากล่าว แม้แต่ในวันคริสมาสตร์ที่เด็กผู้ชายหลายๆคนอาจจะชอบสะสมรถของ G.I. Joe หรือ Hot Wheels แต่สำหรับ Ethan แล้วเขาเลือกที่จะขอของขวัญเป็นคอลเล็คชั่นรถบรรทุกขยะทั้งหลาย “เขามักจะหมกตัวอยู่กับการเล่นรถบรรทุกขยะทั้งวัน บางทีก็นำเศษกระดาษหรือเศษขยะชิ้นเล็กๆใส่ลงไปในของเล่นและนำมันไปทิ้งในถังขยะจริงๆ” พ่อของเขากล่าว “โตขึ้นผมอยากจะเป็นคนเก็บขยะ มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆเลยละฮะ” Ethan กล่าว หลังจากนั้นเรื่องนี้ก็ได้เข้าไปถึงหูของมูลนิธิ Make-A-Wish (ทำฝันให้เป็นจริง) ร่วมมือกับสำนักงานจัดการของเสียในเมือง Sacramento รัฐ California ที่ช่วยกันทำให้ฝันของ Ethan เป็นจริง จู่ๆวันหนึ่งประชาชนจำนวนมากและทีมนักข่าวต่างก็ออกมารวมตัวกันเซอไพรส์ Ethan ที่หน้าโรงเรียนอนุบาลเพื่อเป็นกำลังใจให้กับหนุ่มน้อยคนนี้ (คุณพ่อก็ใส่ชุดฮีโร่กับลูกด้วย…
-
21 ภาพมลพิษรอบโลก ย้ำเตือนให้เราตระหนักว่า มนุษย์ทำลายโลกใบนี้ไปมากเพียงใด…
หากพูดถึง ‘ขยะ’ หรือ ‘สิ่งปฏิกูล’ ทั้งหลายแน่นอนว่ามันคือสิ่งที่ไม่มีใครต้องการหรืออยากจะครอบครองไว้แน่นอน เพราะของเสียที่ใช้แล้วเราจะเก็บมันไว้ทำไมล่ะจริงไหม? และนอกจากการนำขยะไปทิ้งลงถังก่อนจะส่งต่อภาระให้กับเจ้าหน้าที่เก็บขยะประจำวัน พวกเราเคยสงสัยกันบ้างรึเปล่าว่าสุดท้ายแล้วของเสียทั้งหลายมันจะถูกกำจัดไปในรูปแบบใด สถิติจาก Duke University กล่าวว่า มนุษย์เราผลิตขยะออกมามากถึง 220 ล้านตันต่อปี เฉลี่ยแล้วก็ประมาณ 2 กิโลกรัมต่อคนในหนึ่งวัน และมันก็มากพอที่จะทำให้เราลืมได้เลยว่าในหนึ่งวันเราทิ้งอะไรไปบ้างและจัดการกับมันยังไงบ้าง #เหมียวบ็อบ ขอพาไปชมภาพจากทั่วโลกที่จะพิสูจน์ให้เราได้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้พวกเราทุกคนล้วนเป็นคนสร้างมันขึ้นมากับมือเองทั้งนั้นไม่ต้องโทษรัฐบาล โทษลุงข้างบ้าน หรือ โทษคนเก็บขยะเลย…. 1. ภาพการปล่อยน้ำเสียลงในแม่น้ำลำคลองที่รัสเซีย 2. กองขยะขนาดมหึมาที่ยังหาทางจัดการไม่ได้ในปักกิ่ง ประเทศจีน 3. ขยะจำนวนมากที่ถูกทิ้งไว้อย่างเพิกเฉยในเมืองมินส์ ประเทศเบลารุส 4. เศษขยะที่ถูกทิ้งไว้เป็นจำนวนมากในสเปน 5. ภูเขาแห่งยางรถยนต์ ในลอส แองเจลลิส 6. ขยะลอยอยู่เต็มน้ำใน Icing Street ประเทศเนเธอร์แลนด์ 7. ปัญหาน้ำเสียอย่างรุนแรงที่จีน 8. การเผายางที่มีจำนวนมากมายมหาศาลในประเทศคูเวต…
-
เมื่อชายคนหนึ่ง… ได้เปลี่ยนขยะพลาสติกที่ไร้ค่า มาสร้างบ้านสำหรับ “คนจรจัด”
หนึ่งปัญหาที่เลวร้ายที่สุดของโลกกำลังเผชิญหน้าอยู่ทุกวันนี่ คงหลีกเลี่ยงไม่ได้นั้นก็คือ “ขยะ” ที่ส่งผลถึงที่มลพิษสิ่งแวดล้อม มลพิษทางอากาศเมื่อนำไปเผาทำลาย นี้คือตัวอย่างหนึ่งเท่านั้นที่สามารถเห็นได้ชัดเจนในปัจจุบัน… และอีกปัญหาหนึ่งที่รุนแรงไม่แพ้กันนั่นก็คือ ปัญหาคนเร่ร่อนที่ไม่มีที่อยู่อาศัย เรียกได้ว่าเป็นปัญหาระดับโลกเลยก็ว่าได้!!! เพื่อลดปัญหาเหล่านี้… ชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Oscar Mendez เขาได้พบวิธีที่ดีมากในการลดปัญหาขยะจำพวกพลาสติกทั้งหลาย นั้นคือเขาได้ก่อตั้งองค์กรที่โคลอมเบีย โดยแปรรูปพลาสติกรีไซเคิลและยางเป็นก้อนอิฐ เพื่อนำไปสร้างบ้านสำหรับคนเร่ร่อนที่ไม่มีที่อยู่อาศัย พวกเขาได้นำพลาสติกมารีไซเคิลมากกว่า 300 ตันเข้าสู่กระบวนการ… กระบวนการบดและอัดเศษขยะ ให้มีลักษณะคล้ายกับตัวต่อเลโก้ ซึ่งสามารถนำมาก่อสร้างบ้านที่มั่นคงแข็งแรงได้ เขาต้องการสร้างบ้านให้คนยากจนโดยใช้งบประมาณจำกัด การก่อสร้างนั้น เขาออกแบบบ้านขนาดประมาณ 40 ตร.ม. โดยจะใช้เวลาสร้างราวๆ 5 วัน และแน่นอนว่าปัจจุบันมีการสร้างไปแล้วหลายหลัง แต่เขาตั้งเป้าว่ามันจะต้องเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต เราไปรับชมวิดีโอเต็มกันเลยดีกว่าครับ!!! มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยละครับ… ที่จะมีผู้คนให้ความสนใจกับสิ่งที่ชายคนนี้ได้ริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งที่สามารถแก้ไขปัญหา ทั้งสองสิ่งได้ไปพร้อมๆกัน!!! เรามาส่งกำลังใจและส่งวิดีโอตัวอย่างสิ่งดีๆนี้… เพื่อให้สังคมเรามาการทำไปใช้และเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนรอบๆตัวเรากันเถอะครับ ที่มา : Kickerdaily , DavidAvocadoWolfe
-
ภารกิจช่วยเหลือ ‘เต่าทะเลติดกระสอบ’ ย้ำเตือนมนุษย์อีกครั้งว่า พวกเราทำร้ายธรรมชาติแค่ไหน!??
บ่อยครั้งที่เรามักจะลืมนึกถึงเพื่อนร่วมโลก แล้วเผลอทิ้งเศษขยะเล็กๆ น้อยๆ ลงในแหล่งน้ำหรือในทะเล นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกมันได้รับความเดือดร้อน สัตว์บางตัวต้องทนทุกทรมานไปเกือบทั้งชีวิตเพราะไม่สามารถเอาขยะเหล่านั้นออกไปจากตัวของมันได้ คลิปที่คุณจะได้ชมต่อไปนี้เป็นคลิปของ Amir Rahim หนึ่งในผู้สังเกตการณ์ของ WWF-Pakistan (องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลประจำประเทศปากีสถาน) เขาได้นั่งเรือออกจากเมืองการาจี ลาดตระเวนในทะเลเป็นระยะทาง 180 ไมล์ทะเล (หรือ 333 กิโลเมตร) แต่ในระหว่างทางเขาก็ได้ไปเจอเข้ากับบางอย่างลอยอยู่บนผิวน้ำ จึงพยายามขยับเรือเข้าไปใกล้ๆ จากนั้นเขาและทีมงานก็รู้ว่ามันคือสัตว์ที่กำลังเดือดร้อนอยู่ เขาจึงกระโดดลงไปในน้ำเพื่อดูว่ามันคือตัวอะไร เมื่อเข้าใกล้จึงรู้ว่านั่นคือเต่าหญ้าแปซิฟิกที่กำลังติดอยู่กับถุงกระสอบที่มีความเหนียวมาก แม้แต่มนุษย์เองก็ยังไม่สามารถฉีกออกได้ พวกเขาจึงนำมันขึ้นมาบนเรือ และใช้มีดตัดถุงนั่นออก ก่อนที่จะปล่อยมันกลับสู่ทะเลไปในที่สุด . ลองไปชมภารกิจช่วยเต่ากันเลย ยังคงมีสัตว์ทะเลที่ได้รับความเดือดร้อนจากฝีมือมนุษย์แบบนี้อยู่อีกเพียบเลยนะ ยังไงแล้วก็ช่วยๆ กันเก็บเศษขยะ หรือระวังไม่ให้มันหล่นลงไปในทะเลด้วยนะ ที่มา viralnova
-
เก๋ไก๋สไตล์จีน!! ร้านค้าที่ “ไม่มีสินค้า” จริงๆ ขาย มีเพียงแต่ “ความว่างเปล่า” เท่านั้น
หากพูดถึงร้านค้าหรือซุปเปอร์มาณืเก็ต หลายๆ คนก็คงจะนึกถึงร้านที่มีชั้นวางของและสินค้ามากมายให้เลือกซื้อกัน แต่กับร้านค้าแห่งนี้กลับไม่เป็นอย่างที่เราคิดล่ะ เพราะร้านค้าที่#เหมียวฟิ้นจะพาไปดูนั้นเป็นร้านค้าที่ไม่มีผลิตภัณฑ์จริงๆ วางขายเลย มีเพียงแต่บรรจุภัณฑ์ที่ว่างเปล่าเท่านั้น!? เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ Timeoutshanghai ได้รายงานว่า มีศิลปินชาวจีนที่ใช้ชื่อว่า ซู เฉิน ลงทุนสร้างผลงานศิลปะสุดแหวกแนวด้วยการเปิดซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ชื่อว่า ซู เซิน ในเมืองยูหยวนหลู่ ใกล้กับมหานครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ร้านค้าแห่งนี้มีความพิเศษกว่าร้านอื่นๆ ตรงที่สินค้าภายในร้านทั้งหมด ไม่มีชิ้นไหนที่สามารถใช้ได้จริงเลย มีเพียงแต่บรรจุภัณฑ์เปล่าๆ เท่านั้น แม้ว่าจะเป็นบรรจุภันฑ์เปล่าๆ แต่ทุกชิ้นก็มีป้ายราคากำกับอยู่ทุกชิ้นเลย ทั้งนี้ทางร้านได้มีการแจ้งกับลูกค้าหรือคนที่เดินเข้ามาในร้าน ด้วยการติดใบปลิวไว้ทั่วเพื่อแจ้งให้พวกเขาทราบว่า “สินค้าทุกชิ้นเป็นงานศิลปะ ไม่มีผลิตภันฑ์จริงๆ” และยังยืนยันว่านี่ไม่ใช่เรื่องตลก มันคืองานศิลปะที่เกิดจากซู เฉิน นอกจากสินค้าปลอมๆ ที่วางไว้ทั่วร้านแล้ว ยังมีแคชเชียร์นั่งอยู่ที่หน้าร้านด้วย เพระาถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่งานศิลปะแต่ก็สามารถซื้อขายได้จริงๆ หากมีคนต้องการมันไป แต่ก็มีข้อแม่ว่าหากคุณซื้อไปแล้วจะไม่สามารถนำมาคืนหรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้นะ แต่เนื่องจากนี่เป็นเพียงงานศิลปะที่ไม่ได้หวังผลกำไรอะไร ทางร้านจึงมีระยะเวลาจำกัดในการเข้าชม ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนเมษายน จนถึงวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมานั่นเอง #เหมียวฟิ้นเองก็ไม่ค่อยจะได้ชมผลงานศิลปะเท่าไหร่ ยังไงหากใครพอจะเข้าใจความหมายของผลงานศิลปะชิ้นนี้ ลองตีความให้เหมียวหน่อยซิ…
-
เรื่องราวสุดน่ารักของ “เด็กแฝดสาม” รอคอยเพื่อนสนิทที่เป็นคนเก็บขยะ
ในต่างประเทศจะมีวันหนึ่งที่รถเก็บขยะจะมาเก็บขยะที่ตั้งอยู่ตรงหน้าบ้านในหมู่บ้าน แต่สำหรับที่หมู่บ้านหนึ่งในฟลอริด้านั้น มีคนรอคอยการมาของพวกเขาแบบใจจดใจจ่อเลย หนูน้อยแฝดสาม Holden, Heaton, และ Wilder Reich รอคอยที่จะถึงวันอังคารและวันศุกร์ไม่ไหวแล้ว หนูน้อยทั้งสามวัย 2 ขวบนั้นออกไปรออยู่นอกบ้านเพื่อรอคนเก็บขยะ (วิศวกรสุขาภิบาล) เด็กๆ เรียกพวกเขาว่า มิสเตอร์ร็อบ และ มิสเตอร์แชด เมื่อรถของพวกเขามาถึง เหล่าแฝดสามก็ไปรอที่หน้าบ้านพร้อมกับน้ำหวาน คุณนาย มาร์ธา แม่ของเด็กๆ ได้โพสต์คลิปนี้ลงในเฟซบุ๊ก ทำเอาชาวเน็ตดูแล้วยิ้มกันเลยทีเดียว เราไปชมกันเลยดีกว่า คลิปนี้มีคนแชร์ไปมากกว่า 300,000 คน เด็กๆ ต่างดีใจที่ทั้งสองเล่นด้วยตลอดเวลาทีได้เจอ เด็กๆ มักจะช่วยพวกเขาในการเก็บขยะใส่ในรถ และพวกเขาก็ไม่เคยบ่นเลย ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นและทำให้เรายิ้มได้ ที่มา distractify
-
งามถึงจิตใจ!! Emma Watson ใส่ชุดราตรีที่ทำจาก “ขยะรีไซเคิล” ออกงานพรมแดง!!
ในงาน Met Gala ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นงานที่เหล่าดาราเซเลปเมืองนอกจะงัดเอาทั้งชุดเด็ดๆ หรือไม่ก็ชุดแปลกๆ มาเดินพรมแดงกัน ซึ่งครั้งนี้ก็มีธีมกำหนดนั่นก็คือ “Manus x Machina: Fashion In An Age Of Technology” ก็ประมาณว่าชุดจากโลกอนาคตอะไรประมาณนี้นั่นเอง สำหรับผู้ชนะรางวัลชุดแต่งกายหลายคนก็น่าจะทราบไปแล้ว นั่นก็คือ Claire Danes มาพร้อมกับชุดราตรีเรืองแสง แต่อีกคนหนึ่งที่น่าจับตามองไม่แพ้กันก็คือสาวสวยแม่มด Emma Watson ที่มากับชุดเรียบหรู แต่ทีเด็ดมันอยู่ที่สิ่งที่เธอเผยออกมา นั่นก็คือว่าชุดของเธอทั้งหมดนั้นทำมาจาก “ขยะ” ทั้งหมดเลย โดยเฉพาะขวดน้ำพลาสติด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของโลกในตอนนี้ เพราะมันกำจัดได้ยาก ชุดของเธอนั้นเป็นการร่วมมือกันของบริษัทเครื่องแต่งกาย Calvin Klein และ Eco Age สร้างสรรค์ออกมาเป็นชุดรักษ์โลกที่งดงามที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน อีกทั้งคนใส่ก็คือ Emma Watson ดาราที่เป็นนักเคลื่อนไหวอีกต่างหาก นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่าเธอจะใส่ชุดที่ทำขากขยะออกงานไปเรื่อยๆ แหม่ งดงามไปจนถึงจิตใจแบบนี้ สมแล้วที่เป็นแฟนของ #เหมียวสามสี อิอิ ที่มา distractify
-
รับน้อง…ดิสนี่ย์แลนด์เซี่ยงไฮ้ยังไม่ทันเปิด โดนชาวจีนถล่มเละ ขยะเพียบ-สนามหญ้าพัง!!
อย่างที่ทราบกันดีว่าสวนสนุกดิสนี่ย์แลนด์ กำลังจะมาเปิดสาขาใหม่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน ซึ่งมีกำหนดการเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มิถุนายนที่จะถึงนี้ แต่ยังไม่ทันไร ตอนนี้ดิสนี่ย์แลนด์เซี่ยงไฮ้ถูกรับน้องโดยนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตอนนี้แม้ดิสนี่ย์แลนด์จะยังไม่เปิด แต่ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ไปเสียแล้ว มีนักท่องเที่ยวหลายพันคนเดินทางมายังดิสนี่ย์แลนด์แทบทุกวัน เพื่อชมความงามของดิสนี่ย์แลนด์จากภายนอก แต่ที่น่าเศร้าคือ มีนักท่องเที่ยวหลายคน ไม่ยอมรักษาความสะอาดทิ้งขยะไว้ตามพื้นโดยไม่เก็บ แถมยังฝ่าฝืนข้อห้ามหลายๆ อย่าง จนเกิดความเสียหายไปทั่วบริเวณ ลองไปชมตัวอย่างกัน เศษขยะจากเหล่านักท่องเที่ยว ป้ายเขียนว่าห้ามเข้า แต่ก็มีคนเข้าไปย่ำจนต้นไม้ตายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้แต่บนเสาไฟ ก็มีคนมือบอนสลักข้อความว่า “มาถึงแล้ว” เอาไว้ และที่ขาดไม่ได้เลย คือการขับถ่ายอย่างไม่เป็นที่เป็นทาง เข้าไปถ่ายในแปลงดอกไม้เลยทีเดียว เละจ้าาา ขนาดยังไม่เปิด ยังเป็นได้ขนาดนี้ แล้วถ้าวันจริงจะขนาดไหน สงสัยทีมงานดิสนี่ย์แลนด์ คงต้องเตรียมแผนรับมือนักท่องเที่ยวใหม่แล้วล่ะ ไม่งั้นอาจกลายเป็นประสบการณ์เลวร้ายของนักท่องเที่ยวหลายๆ คนก็เป็นได้ ฮาา ที่มา Shanghaiist
-
เมื่อ “คนขับรถขยะ” ได้รับเค้กจากหนูน้อยซึ่งเป็นเจ้าของวันเกิด เพราะเขาทำให้เธอมีความสุข!!
คนขับรถขยะนั้น อาชีพของเขาก็คือขับรถไปตามทางเพื่อเก็บขยะจากถังที่คนมาทิ้งเอาไว้ และต้องืทำแบบนี้ไปทุกๆ วัน แต่ก็ได้มีชายคนหนึ่งที่ขับรถเก็บขยะใน Bloomington, Illinois ได้ทำการมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับหนูน้อย Brooklyn Andracke วัย 3 ขวบ คุณแม่ของน้อง Brooklyn เล่าว่า “ในทุกๆ วันพฤหัสบดี หัวใจของฉันจะพองโตมากๆ เมื่อได้เห็นคนขับรถเก็บขยะผ่านมาแล้วบีบแตร พร้อมกับโบกมือทักทาย Brooklyn แล้วเธอก็ยิ้มแป้นเลย” “และวันนี้ก็เป็นวันเกิดของเธอด้วย ฉันก็เลยเอาของวัญให้เธอเป็นคัพเค้ก แล้วก็ไปรอคนขับรถขยะมา พอเขามาถึงแล้วลงมาจากรถ หนูน้อยก็เอาเค้กให้กับเขาพร้อมกับรอยยิ้ม ฉันก็เลยอธิบายให้เขาฟังว่าเขาทำให้ทุกๆ วันพฤหัสบดีของเรามีความสุขด้วยการบีบแตรทักและโบกมือให้” เธอเป็นแฟนตัวยงของคนขับรถท่านนี้เลย มารอทุกอาทิตย์ แต่เรื่องราวยังไม่จบนะจ๊ะ อีกอาทิตย์ต่อมา Delvar คนขับรถขยะคนนี้ก็กลับมาพร้อมกับของขวัญวันเกิดให้กับเธอ ถือเป็นวันพฤหัสบดีที่มีความสุขที่สุดเลย ที่มา boredpanda
-
เอาล่ะจุ้ย!! ชาวเน็ตแฉภาพกรุ๊ปทัวร์คนไทยทิ้งเศษขยะกองโตไว้ที่สวิตเซอร์แลนด์!?
ในหลายๆ ครั้งเรามักจะได้เห็นเรื่องราวแย่ๆ ของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย ทั้งพฤติกรรมที่ไม่ค่อยจะน่ารัก การส่งเสียงดัง การแซงคิว การขับรถที่ค่อนข้างจะเป็นอันตราย แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นคิดว่าเราอาจจะว่าพวกเขาไม่ได้เต็มปากแล้วล่ะ เมื่อช่วงคืนวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่า minizooland ได้เข้ามาตั้งกระทู้พร้อมกับโพสต์ภาพพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวไทย (บางคน) ที่เดินทางไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่ดันไปทิ้งขยะเกลื่อนกลาดตามถนน จนกลายเป็นภาพที่ไม่น่าดูเลยแม้แต่น้อย ภายในภาพที่เจ้าของกระทู้นำมาให้ดูนั้นเป็นภาพของกลุ่มนักท่องเที่ยว พร้อมกับมีกองขยะอยู่ด้านหลัง เมื่อลองขยับเข้าใกล้ขยะกองนั้นก็เห็นตัวอักษรภาษาไทยอย่างชัดเจน พร้อมกับข้อความแปะหราว่า “Product of Thailand” หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ก็มีนักสืบพันทิปหลายๆ คนช่วยกันตามหาว่ากลุ่มทัวร์กลุ่มนี้มาจากบริษัทใด สุดท้ายถึงทราบว่าเป็นลูกทัวร์ของบริษัทประกันภัยไทยประกันชีวิต ซึ่งก็ได้มีคนนำข่าวคราวไปแจ้งผ่านเฟซบุ๊กเพจของบริษัทดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้เฟซบุ๊กเพจของไทยประกันชีวิตได้มีการชี้แจงต่อเรื่องดังกล่าวว่า “กล่องดังกล่าวเป็นกล่องอาหารที่รับประทานบนรถ และวางไว้บนรถเมื่อถึงที่หมาย แต่เจ้าหน้าที่ขับรถซึ่งเป็นคนในพื้นที่ เป็นผู้นำลงมาทิ้งภายหลังจากที่คณะทัวร์ลงจากรถแล้วค่ะ” คงต้องติดตามกันต่อไปว่าทางบริษัททัวร์หรือทางไทยประกันชีวิตจะมีการชี้แจงอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ หากมีอะไรคืบหน้าเหมียวจะนำมารายงานทันทีจ้า ที่มา pantip , ไทยประกันชีวิต
-
ซามูไรยุคใหม่ยังไม่หายไปจากญี่ปุ่น ออกปฏิบัติตรวจตราเป็นหน่วยพิทักษ์รักความสะอาด!!
ตามตำนานของประเทศญี่ปุ่น ซามูไรถือว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่ได้รับการนับถือและยกย่องเป็นอย่างยิ่ง ทำหน้าที่คล้ายๆ กับผู้พิทักษ์สันติราช รักษาความสงบเรียบร้อยภายในบ้านเมือง แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ความสำคัญของซามูไรจึงลดลงไปตามกาลเวลา แต่อันเนื่องมาจากญี่ปุ่นเป็นประเทศที่อนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน ทำให้ซามูไรยังไม่หายไปไหน แต่จะให้ทำหน้าที่เดิมในยุคนี้ก็คงจะไม่ได้แล้ว จึงเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นหน่วยพิทักษ์รักความสะอาดแทน กลุ่มซามูไรยุคใหม่ ถือกำเนิดในย่าน Center Gai แหล่งนัดพบของผู้คนส่วนใหญ่ใน Shibuya, Tokyo และด้วยจำนวนคนที่เยอะมากๆ จึงทำให้มีขยะถูกทิ้งไม่เป็นที่เป็นทางบ้าง พวกเขาจึงออกมาทำหน้าที่ตรวจตรา เป็นหน่วยเคลื่อนที่พิทักษ์รักษ์ความสะอาด กำจัดขยะให้หายไปจากบริเวณนั้น 東京でゴミ拾いしてたお兄さんたち道に落ちてるゴミみたら「何奴」て言うんめっちゃおもろかった。(笑) pic.twitter.com/XQpkab2fhz — さかもとりん (@skmt1011) 9 มีนาคม 2559 ปกติแล้วซามูไรจะพกดาบประจำกาย แต่คราวนี้เปลี่ยนมาเป็นแท่งเหล็กคีบขยะแทน แถมลีลาตอนเก็บและทิ้งขยะก็ไว้ลายซามูไรได้สุดยอดมาก ซึ่งก่อนจะทิ้งขยะจะตะโกนว่า ‘หัวใจอันไร้ศีลธรรมจะต้องได้รับการลงโทษ!!’ 渋谷のゴミ拾い凄い pic.twitter.com/uR2X475xZu — ERA (@ERA1140) 21 กุมภาพันธ์ 2559 ไม่มีใครรู้ว่าซามูไรกลุ่มนี้เรียกชื่อกลุ่มตัวเองว่าอะไร แต่ผู้คนที่พบเห็นต่างก็เรียกกันว่า Gomihiroi…
-
ขยะจำนวนมหาศาล ถูกนำมากองรวมกันจนล้นถนนในเลบานอน ขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา
ภาพวัตถุสีขาวๆ จำนวนมหาศาล บนถนนสายหนึ่งในเมืองเบรุต ประเทศเลบานอน ที่เพื่อนๆ กำลังเห็นกันอยู่นี้ เมื่อลองเพ่งมองดูดีๆ อาจจะทำให้คุณถึงกับสตั้นไป 3 วิเลยเป็นได้ เพราะความจริงแล้วมันไม่ใช่คลื่นโฟมหรืออะไร แต่มันคือ ‘ขยะ’ ต่างหากละเหมียว แล้วขยะเหล่านี้มันมาจากไหนกันน้า? โดยเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลเลบานอน ได้ทำการยกเลิกการแผนส่งออกขยะไปยังประเทศรัสเซีย ดังนั้นขยะจำนวนมหาศาลที่เห็นกันนี้ จึงถูกนำมากองรวมกัน จนในที่สุดก็เกิดเป็นภาพขยะกองสีขาวโพลนยาวไกลไปสุดลูกหูลูกตา โดยในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ทางรัฐบาลเลบานอนได้สั่งปิดที่ฝังขยะเดิม แต่ก็ยังหาที่ทิ้งใหม่ไม่ได้ จนต้องนำมาทิ้งใกล้ๆ กับบริเวณที่อยู่อาศัยของประชาชน ซึ่งก็ได้ทำการตกลงกับทางรัสเซียว่าจะส่งขยะออกไป แต่ดันล้มเหลวในเรื่องเอกสารข้อตกลงซะก่อนจนต้องถูกยกเลิก จึงทำให้กองขยะเหล่านี้ยังคงอยู่ที่เดิม มันเยอะมากจริงๆ และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เกิดเป็นปัญหาขยะล้นเมือง แถมยังส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศ และถนนในบริเวณนั้นอีกด้วย ที่มา : cctvnewschina
-
Amsterdam เมืองหลวงแห่งมวลมหาจักรยาน กับปัญหาจักรยานตกคลองที่ไม่จบสิ้น!!
เป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของเมืองหลวงแห่งมวลมหาจักรยาน Amsterdam จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ใครที่ชอบปั่นจักรยานไปทำงานหรือไปเที่ยวหรือจะออกกำลังกายคงจะชอบเมืองนี้แน่นอน แต่ทว่าด้วยจำนวนอันมากมายมหาศาลที่ผู้คนเลือกใช้จักรยานนั้นกลับก่อปัญหาอันใหญ่หลวงตามมาแบบไม่รู้จบ!! ใครๆ ก็เลือกที่จะใช้จักรยานในเมือง Amsterdam เมืองหลวงแห่งจักรยาน หากคุณกำลังคิดว่าชีวิตที่นี่ดี๊ดี เป็นเมืองสะอาด ผู้คนช่วยกันลดมลพิษด้วยการปั่นจักรยาน แถมยังมีคลองสวยๆ ตัดผ่านในเมืองอีก อยากจะบอกให้รู้เอาไว้ว่าคลองทั้งหลายสายที่ตัดผ่านนั้นล้วนสกปรกอันเนื่องมาจากปัญหาจักรยานตกลงไปในคลองและจมอยู่ในนั้นจนกลายมาเป็นขยะ การจอดจักรยานริมคลองในเมือง Amsterdam ลานจอดจักรยานขนาดใหญ่ติดคลอง ทั้งนี้จากการสำรวจจำนวนประชากรภายในเมือง Amsterdam คาดว่ามีผู้คนอาศัยอยู่ราวๆ 780,559 คน และคาดว่าน่าจะมีจักรยานในครอบครองเป็นจำนวน 880,000 – 1,000,000 คัน ซึ่งมีทั้งผู้ที่ใช้จักรยานในการเดินทางไปทำงานแบบไปกลับ และบางส่วนเลือกที่จะทิ้งจักรยานไปเลยก็มี จักรยานจำนวนมากมายมหาศาลภายในเมือง Amsterdam การจอดจักรยานริมคลองในเมือง Amsterdam ภายในเมือง Amsterdam นั้นมีคลองตัดผ่านมากถึง 165 สายด้วยกัน ความยาวประมาณ 100 กิโลเมตร และผู้คนก็มักจะเลือกที่จอดจักรยานริมคลอง จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าจะมีจักรยานจำนวน 15,000…
-
ลูกอีช่างทิ้งต้องสั่นสะเทือน!! ภาพโฆษณาที่เจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ ตัดแปะคำบนขยะบอกเป็นนิสัย
ปัญหาของขยะที่ทิ้งไม่ลงถัง ขยะที่ถูกทิ้งข้างทางเรี่ยราด ถึงแม้จะจัดถังขยะไว้ให้แล้ว แต่สุดท้ายก็ทิ้งไว้กลางทางอยู่ดี นอกจากจะทำให้บริเวณนั้นสกปรกแล้ว ยังบ่งบอกได้ถึงลักษณะนิสัยของประชากรในภาพรวมได้เลยนะ สะท้อนให้เห็นถึงความมักง่าย!! Selfish เห็นแก่ตัว และภาพโฆษณาชวนเชื่อเสียดสีชุดนี้ ไม่ได้ต้องการให้เป็นโฆษณาเพื่อการค้าแต่อย่างใด โดยมีจุดประสงค์เพื่อปลูกจิตสำนึกในตัวมนุษย์ผู้มักง่าย ผลิตโดยองค์กร Livegreen จากเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา Lazy ขี้เกียจ สร้างสรรค์ด้วยวิธีการตัดแปะคำที่มีอยู่บนบรรจุภัณฑ์ต่างๆ หลากหลายชนิดให้เกิดเป็นคำศัพท์ที่จี้ได้ตรงจุด ให้กระทบกับบุคคลที่มักง่าย เห็นแก่ตัว ขี้เกียจ ซึ่งก็มาจากแนวคิดที่ว่า ‘เศษขยะที่ถูกทิ้งบ่งบอกอะไรได้มากมายเกี่ยวกับตัวคุณเอง’ แบบว่าไม่ต้องบ่นให้ยืดยาว ให้ภาพเล่าเรื่องแทน!! Pig คำด่าที่แปลว่าหมู ให้ภาพลักษณ์ของความสกปรก กินเรี่ยราด Low Life ชีวิตอันต่ำตม (สกปรก เลอะเทอะ) Dumb ไอ้งั่ง ก่อนหน้านี้ของฝั่งสหรัฐฯ ก็เคยทำเหมือนกัน ด่าเลย ขอแรงๆ!! โฆษณาชวนเชื่อชุดนี้ อาจจะไม่สามารถแก้ไขนิสัยของผู้มักง่ายได้อย่างทันที ต้องอาศัยระยะเวลาเพื่อให้บุคคลในกลุ่มมักง่ายได้ปรับปรุงตัว อย่างน้อยก็น่าจะเข้าไปสะกิดในจิตใจของพวกเขาบ้างแหละ ที่มา…
-
มันเริ่ดมากอะ สถาปนิกเมกัน เปลี่ยนตู้คอนเทนเนอร์ขยะ ให้กลายเป็นตู้สระว่ายน้ำในสวนหลังบ้าน!!
หากใครฝันอยากจะมีสระว่ายน้ำไว้ในบ้านของตัวเองแต่มีงบไม่พอ นี่อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้คุณมีสระน้ำในงบประหยัดเป็นของตัวเองก็ได้นะ นี่เป็นไอเดียของสถาปนิกที่ชื่อว่านาย Stefan Beese จากเมือง นิวออร์ลีนส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาได้ลองนำเอาตู้คอนเทนเนอร์สำหรับใส่ขยะ มาดัดแปลงให้กลายเป็นสระว่ายน้ำภายในบ้าน โดยตู้ดังกล่าวมีความยาวอยู่ที่ 6.7*2.1 เมตร นาย Stefan เล่าว่าเขาได้นำเอาตู้ดังกล่าวมาทำความสะอาด และนำมาตกแต่งด้วยไม้เพื่อความสวยงาม ความพิเศษของเจ้าตู้สระว่ายน้ำยังไม่หมดเท่านี้ เพราะมันยังสามารถถอดแยกส่วนได้ ทำให้เราสามารถขนย้ายมันไปตั้งที่อื่นๆ และประกอบมันขึ้นมาใหม่ได้นั่นเอง Stefan กล่าวว่าเขาต้องการจะให้สระว่ายน้ำ กลายเป็นองค์ประกอบหนึ่งของสวนหลังบ้าน เพื่อให้ครอบครัวสามารถเล่นสนุกและใช้เวลาร่วมกันได้ ก่อนที่ตู้คอนเทนเนอร์นี้จะกลายเป็นสระว่ายน้ำ เขาได้ทาสีเคลือบลงไปหนึ่งชั้นเพื่อป้องกันการกัดกร่อน และติดโฟมป้องกันการไหลของน้ำ ทั้งหมดนี้เขาใช้งบไปประมาณ 160,000-220,000 บาท ใครอยากลองนำไอเดียของพ่อหนุ่มรายนี้ไปใช้ดูบ้าง ก็ลองดูได้นะจ๊ะ ที่มา dailymail
-
ความจริงที่เกิดขึ้นหลังการชม ‘บั้งไฟพญานาค’ กับกองขยะนับร้อยพันชิ้นถูกทิ้งไว้กลางทาง!!
เป็นประจำทุกๆ ปี เมื่อถึงช่วงเวลาออกพรรษาปุ๊บ ก็ถึงเวลาของการรับชมบั้งไฟพญานาค (บั้งไฟผีในอดีต) ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขงในจังหวัดหนองคาย ทั้งนี้ก็เป็นความเชื่อว่าจะพบกับลูกกลมเรืองแสงลอยขึ้นมาจากผิวน้ำ แต่เหมียวจะไม่ขอพูดถึงรายละเอียดเรื่องนี้ก็แล้วกัน RT@nat_jojoe3411ขยะถูกทิ้งเกลื่อนหลังงานบั้งไฟพญานาค อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย #ไทยครับ #JS100 goo.gl/hoc9w8 Posted by JS100 Radio on Tuesday, October 27, 2015 แต่สิ่งหนึ่งที่มักจะหลงเหลือหลังจากเทศกาลหรือการชมอะไรก็แล้วแต่ ก็มักจะเป็นกองขยะนับร้อยพันชิ้นที่ถูกทิ้งเรี่ยรายไม่เป็นระเบียบ กลายเป็นมลพิษทางสายตาและมลพิษทางธรรมชาติ สะท้อนให้เห็นถึงจิตสาธารณะที่ยังมีไม่มากพอ ซึ่งหลังจากที่ทางเพจ JS100 Radio ได้ทำการโพสต์รูปภาพสภาพริมแม่น้ำโขงหลังจากที่งานบั้งไฟพญานาคได้จบลง ชาวเน็ตต่างให้ความคิดเห็นไปในทำนองเดียวกันในแง่ของความรับผิดชอบต่อสังคม จิตสาธารณะ การดูแลส่วนรวม ซึ่งถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้เจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องคอยเก็บขยะให้พี่น้องประชาชนต่อไปเรื่อยๆ เพิ่มภาระมากขึ้น ที่มา : JS100 Radio
-
เฟซบุ๊ก “ไม่เอาหาบเร่” โพสต์ภาพขยะที่แผงลอยในสยามได้ทิ้งไว้ สร้างมลพิษทางสายตา
เมื่อวันที่ 22 ตุลามคม เพจเฟซบุ๊กชื่อว่า กลุ่มคนไทย ไม่เอาหาบเร่ แผงลอย ได้ทำการโพสต์ภาพ 4 ภาพ เป็นภาพของกองขยะที่วางเกลื่อนกันบนทางเท้าและบันได โดยทางเพจได้บอกว่าเป็นขยะของพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าที่ได้ทิ้งเอาไว้ หลังจากโพสต์ไปได้ไม่นาน ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีคนกดไลค์และแชร์ภาพเหล่านี้สูงกว่า 500 ครั้ง และมีคนมาแสดงความคิดเห็นมากมาย เกี่ยวกับความไม่มีวินัยของคนกลุ่มนี้ เขาได้เขียนคำบรรยายของภาพไว้ว่า “แผงลอยสยามหลังเลิกแผงแล้ว รู้มั้ยว่าพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้านั้นทิ้งอะไรไว้เป็นของที่ระทึก วินัยประชาชนสะท้อนวินัยชาติ จากภาพที่เห็นคงรู้เลยว่าวินัยคนชาติพันธ์ไทยนั้นเป็นอย่างไร” และนี่คือความคิดเห็นบางส่วนที่มีต่อภาพเหล่านี้ ถือเป็นปัญหาที่แก้ยังไงก็ไม่หมดไปเสียที ทั้งแผงลอยและการทิ้งขยะไม่ลงถัง ซึ่งมันแสดงถึงความไม่มีระเบียบวินัยและไม่มีความรับผิดชอบ เวลาชาวต่างชาติมาเห็น อาจเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีก็เป็นได้ แผงลอยสยามหลังเลิกแผงแล้ว รู้มั้ยว่าพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้านั้นทิ้งอะไรไว้เป็นของที่ระทึกวินัยประชาชนสะท้อนวินัยชาติ จากภาพที่เห็นคงรู้เลยว่าวินัยคนชาติพันธ์ไทยนั้นเป็นอย่างไร Posted by กลุ่มคนไทย ไม่เอาหาบเร่ แผงลอย on Thursday, October 22, 2015 ที่มา กลุ่มคนไทย ไม่เอาหาบเร่ แผงลอย
-
ผงะ!! สาวสงสัยทำไมห้องมดเยอะ พอเปิดข้างห้องเท่านั้นแหละ นึกว่ากองขยะเทศบาล!!!
เรื่องสุขอนามัยถือว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลจริงๆ บางคนก็สะอาดมากจนคนอื่นอึดอัด แต่บางคนก็สกปรกเสียจนคาดไม่ถึง อย่างเช่นคนที่เหมียวนำมาให้ชมวันนี้ เจ้าของเฟสบุ๊คชื่อ Snwrsr Wongpanith ได้โพสภาพอันน่าตกใจของห้องข้างๆในหอพักที่เธอเช่าอาศัยอยู่ โดยภายในห้องมีขยะอยู่แทบทุกมุมห้อง จนนึกภาพไม่ออกเลยทีเดียว ว่าไปนอนตรงไหน หญิงสาวเจ้าของเฟสเล่าว่า เธอสงสัยว่าทำไมห้องของเธอจึงมีมดเยอะ ทั้งๆที่เธอก็ทำความสะอาดตลอด จนบางครั้งถึงกับขึ้นมากัดเธอตอนที่เธอนอน จนวันหนึ่งห้องข้างๆ เปิดประตูออกมา เธอถึงได้เข้าใจทุกอย่าง ไปชมสภาพห้องแบบชัดๆ อันนี้คือสภาพห้องแบบปกติที่ควรจะเป็น เมื่อชาวเน็ตได้เห็นภาพดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความเห็นมากมาย เหมียวขอช็อคแปป นี่คนเราสกปรกได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ยอมใจจริงๆ ที่มา Snwrsr Wongpanith
-
ความงามที่น่าเศร้า: ศิลปินสร้างงานศิลปะอันยิ่งใหญ่ โดยทั้งหมดล้วนมาจากขยะตามชายหาด
ทุกวันนี้ เราใช้พลาสติกกันแบบไม่รู้เลยว่าปลายทางของขยะเหล่านี้มันจะไปอยู่ที่ไหน ไม่ว่าเราจะดื่มน้ำ หรือทำอะไรก็ตาม ถ้าเราไม่ทิ้งขยะให้ถูกนี้ นั่นจะส่งผลให้เกิดสภาวะที่เรียกกันว่าพลาสติกล้นโลก ศิลปินท่านหนึ่งได้สร้างผลงานเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ โดยการสร้างรูปปั้นที่ทำมาจากพลาสติกล้วนๆ ซึ่งเขาได้ไปเก็บมาจากในทะเล และที่มันมาเกยอยู่บนชายหาด ผมงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ Washed Ashore องค์กรจากรัฐโอเรกอนในสหรัฐฯ เราไปชมผลงานพวกนี้กันเลย ถือเป็นความงามที่น่าสะเทือนใจอยู่เหมือนกัน เพราะงานที่สร้างมานั้นใช้พลาสติกจำนวนไม่น้อยเลย แสดงว่าขยะที่เขาไปพบเจอนั้นต้องมากกว่านี้หลายเท่าแน่นอน เห็นแบบนี้แล้ว เราก็คงต้องหันมาใส่ใจธรรมชาติกันแล้วล่ะ ที่มา boredpanda , washedashore.org
-
ชาวเอธิโอเปียใช้ “เศษขยะ” ในการทำเครื่องประดับหัวได้อย่างงดงาม
ในทางตอนใต้ของเอธิโอเปีย ลึกลงไปในหุบเขา Omo ยังมีชนเผ่ากึ่งเร่ร่อนที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ The Daasanach ประกอบด้วยสมาชิกกว่า 50,000 คน ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา พวกเขาอยู่กันอย่างอิสระและได้ทำเกษตรกรรมเพื่อกินอยู่ Eric Lafforgue ช่างถ่ายภาพชาวฝรั่งเศสใช้เวลาหลายปีในการเก็บข้อมูลและถ่ายภาพทำสารคดีเกี่ยวกับชนเผ่า The Daasanach ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เขาเห็นได้ชัดก็คือการพัฒนาของแฟนชั่นที่นั่น พวกเขาได้ใช้ฝาขวด ที่หนีบผม หรือแม้กระทั่งสายของนาฬิกาข้อมือมาเป็นเครื่องประดับบนหัวสำหรับผู้หญิงทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่างก็ตกแต่งด้วยสิ่งของเหล่านี้ทั้งนั้น เขากล่าวว่า “เด็กเล็กๆมักจะทำเป็นวิกแบบธรรมดาๆ แต่คนที่แก่ที่สุดเธอพยายามใส่ให้เต็มจนหนักที่สุด” ที่มา sobadsogood
-
คุณตำรวจช่วยลูกสุนัขในถังขยะ หลังพบแม่ของมันนั่งบนถังขยะอยู่นาน
เมื่อวันจันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมือง Tampa ได้รับสายแจ้งว่าได้มีผู้พบเห็นแม่และลูกสุนัขอีก 4 ตัวในถังขยะ และเหมือนว่ามันกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก พอไปถึงก็ได้เห็นภาพอันน่าสลด เมื่อพบลูกหมาน้อยจำนวนหนึ่งถูกคนใจร้ายนำมาทิ้ง มีตัวหนึ่งอยู่ในถุงพลาสติกที่มัดไว้อย่างทรมาน ส่วนลูกหมาอีก 3 ตัวนอนอยู่ด้วยกันในกองขยะ ส่วนสุนัขตัวแม่สามารถเอาตัวเองออกมาจากถังขยะได้ และได้ปีนขึ้นมานั่งบนฝาถังขยะนั้น แล้วพยายามที่จะดึงลูกของมันออกมาจากถังขยะ สุดท้ายแล้ว สุนัขทั้ง 4 ตัว ก็ได้ถูกเก็บไปรักษาตัวที่ Hillsborough County Animal Services แต่ยังไม่เปิดรับให้ใครมันรับไปเลี้ยง เพราะลูกสุนัขยังเด็กเกินที่คนจะเลี้ยงได้ คงต้องรอเวลาสักระยะ ถือเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าสำหรับคนรักสัตว์ที่ได้เห็นความโหดร้ายของมนุษย์ที่กล้าทิ้งสัตว์เลี้ยงของตัวเองลงถังขยะ ถ้าใครคิดจะเลี้ยง อย่ามองเพียงว่าเราอยากจะได้เพื่อนแก้เหงา จงมองว่ามันคือสมาชิกในครอบครัวที่มีชีวิตมีจิตใจเหมือนกับเรา ที่มา littlethings
-
หนุ่มจีนถึงกับผงะ เมื่อใต้เบาะรถมือสองที่เขาซื้อมา มีแต่เศษขยะเต็มไปหมด!!
หากใครที่กำลังคิดจะซื้อรถมือสองอยู่ละก็ ถ้าคุณได้เห็นภาพเหล่านี้ บางทีคุณอาจจะเปลี่ยนความคิดไปซื้อรถมือหนึ่งแทนก็เป็นได้ เพราะมีหนุ่มจีนคนหนึ่งซื้อรถมือสองที่ใช้มาแล้วถึง 14 ปี ได้นำรถไปตรวจสภาพที่อู่ แต่เขากลับพบว่าพรมใต้เบาะของรถคันนี้ เต็มไปด้วยเศษขยะเก่าๆ ที่เจ้าของคนเดิมทิ้งไว้มากมายไม่ว่าจะเป็น เศษเงิน ปากกา กุญแจ โอ้ววว เจอแบบนี้ไปไม่เป็นเลยนะเนี่ย และนี่คือของทั้งหมดที่นำออกมาจากรถคันนี้ แม่เจ้า!! เยอะไปไหน งานนี้ทำเอาชายหนุ่มถึงกับตกตะลึงกันเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างไรรถมือสองบางคันก็ไม่ได้มีสภาพย่ำแย่ไปซะหมดนะจ๊ะเพื่อนๆ เพราะบางคันก็ใหม่อย่างกับรถมือหนึ่งเลยละ ดังนั้นหากใครที่กำลังคิดจะซื้อรถมือสองก็อย่าลืมเชคดูกันให้ดีๆ ละกันนะเมี๊ยว ที่มา : bomb01
-
จี๊ดใจไปอีก!! ศิลปินเม็กซิกันสื่อหายนะโลกลางๆ ด้วยการลงทุนสะสมขยะทั่วโลกมาจัดเป็นชุดภาพสุดแนว
แม้ว่าปัญหาโลกแตกต่างๆ มักเป็นโจทย์ที่ยากเกินจะสรรหาเหตุผลอันเหมาะสมจะเป็นคำตอบได้ แต่ด้วยทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์แล้ว ก็สามารถตอบปัญหาโลกให้กับเราได้มากนักต่อนักแล้วเช่นกัน ทว่าน่าแปลกใจที่ ‘ปัญหาขยะ’ ที่เราทุกคนต่างได้เรียนรู้กันมาทั้งนั้นว่าควรจะจัดการแก้ไขมันอย่างไร ถึงจะไม่ทำให้ขยะล้นโลก แต่สภาพของธรรมชาติที่ถูกทำลายเพราะขยะกลับมีมากขึ้นทุกทีๆ T_T และเหมียวคิดว่า ‘Alejandro Durán’ ศิลปินชาวเม็กซิกันผู้ไปอาศัยในบรุคลิน นิวยอร์ก ท่านนี้ คงจะคิดไม่ต่างกับเหมียว จึงได้คลอดโปรเจ็คต์ภาพถ่ายชุดที่ 4 ที่ชื่อว่า “Washed Up” ขึ้นมาล่ะ!! ภาพชุดนี้ได้รับการการันตีด้วยรางวัลจากคณะกรรมการของ Center Exposing Photography และกำลังจะถูกนำไปจัดแสดงในนิทรรศการที่ Habana Outpost ร้านอาหารพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของบรุคลิน และที่พิพิธภัณฑ์ขยะ Xo kI’In Retreat Center ในเม็กซิโก เขาสามารถสื่อให้เห็นปัญหาสิ่งแวดล้อมผ่านขยะพลาสติกและมลพิษที่ส่งผลกระทบต่อโลก ด้วยการสะสมขยะพลาสติกทั่วโลก แล้วนำมาถ่ายทำที่ Sian Ka’an พื้นที่อนุรักษ์ขนาดใหญ่ที่สุดของเม็กซิโก ซึ่งมันทำให้เรามองเห็นของสองสิ่งที่ไม่ควรอยู่ด้วยกัน มาจัดวางไว้ในพื้นที่เดียวกัน …