Tag: ขยัน
-
ครอบครัวมีลูกทั้งหมด 13 คน เป็นชายล้วน ตอนนี้กำลังรอคนที่ 14 หวังว่าพวกเขาจะได้ลูกผู้หญิง
คู่รักบางคนวาดฝันอยากมีลูกสักคนหรือสองคน บางคนอาจจะหวังไว้มากหน่อยเป็นลูก 4 คน แต่คุณเคยคิดไหมว่าจะมีครอบครัวไหนในโลก ที่วาดฝันว่าอยากมีลูกผู้หญิงแต่ทำยังไงก็ไม่ได้สักที จนรู้ตัวอีกทีก็มีลูกชาย 13 คนแล้ว!? Jay และ Kateri Schwandt ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 สองสามีภรรยาจากรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ตกเป็นข่าวใหญ่โตว่าพวกเขาให้กำเนิดบุตรชายคนที่ 13 …ใช่คุณอ่านไม่ผิดหรอก ลูกคนที่ 13 จริงๆ คือตอนนี้ลูกชายในบ้านรวมกันก็ตั้งทีมฟุตบอลได้สบายๆ ทั้งคู่เล่าว่าพวกเขาอยากได้ลูกสาวที่พวกเขาเป็นคนให้กำเนิดเอง แต่จนแล้วจนรอดนับตั้งแต่ลูกคนแรก Tyler ที่อายุปาเข้าไป 24 ปีแล้ว ลากยาวมาจนถึงลูกคนสุดท้องที่กำลังจะอายุ 2 ขวบ พวกเขาก็ยังไม่ได้ลูกสาวเสียที นอกจากนี้สื่อยังถามทั้งคู่ว่าพวกเขารู้ยังไงกับการมีลูกชายถึง 13 คน แล้วพวกเขามีเงินมากพอจะดูแลทั้งหมดหรือเปล่า ซึ่งตัว Kateri ก็ตอบว่า “ถ้าคุณมีลูกไปแล้ว 3 คน การมีลูก 10 คนก็ไม่ต่างกันแล้ว และถ้าคุณถามฉันว่ามันรู้สึกอย่างไร ฉันก็ตอบได้แค่ว่ามันโกลาหลสุดๆ บ้านคุณจะหนวกหูมากขึ้น นอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วละ”…
-
อาจารย์ชาวอินเดียวัย 56 ผู้ไม่เคยหยุดเรียนรู้ คว้าใบปริญญามาได้ถึง 145 ใบ ในเวลา 30 ปี
ความรู้เป็นสิ่งที่ไม่มีวันสิ้นสุดและการเรียนรู้ก็เป็นสิ่งที่ไม่มีคำว่าสิ้นสุดเช่นเดียวกัน เพราะหากคุณยังมีลมหายใจ คุณสามารถเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจไปได้ตลอดชีวิต เหมือนดังเช่น ศาสตราจารย์ วีเอน. พาร์ติบัน (VN Parthiban) อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย ผู้ที่เรียนรู้มาตลอดชีวิตจนสามารถคว้าใบปริญญามาได้นับร้อยใบ!! เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Odditycentral ได้ยกเรื่องราวที่น่าสนใจของศาสตราจารย์ วีเอน. พาร์ติบัน วัย 56 มาเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ โดยมีระบุว่าภายในระยะเวลา 30 ปี ศาสตราจารย์พาร์ติบันสามารถคว้าใบปริญญาตรีและโทมาได้ถึง 145 ใบ และถึงแม้ว่าในตอนนี้ อายุของเขาจะมากขึ้นและความจำก็เริ่มเลอะเลือน โดยมีปัญหาในการจดจำใบหน้าและลืมเส้นทาง แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่เคยคิดที่จะหยุดเรียนเลยแม้แต่น้อย ทางด้านศาสตราจารย์ได้ออกมาเผยว่าใบปริญญาใบแรกของเขานั้นได้มาด้วยความยากลำบาก เพราะในอดีตเขาเป็นคนที่ไม่ใส่ใจการเรียนเลยแม้แต่สอบผิดวิชาก็เคยทำมาแล้ว จึงทำให้ผลการเรียนของเขาค่อนข้างแย่ แต่ภายหลังจากที่เรียนจบเขาก็ได้เข้าทำงานในแผนกตุลาการที่กระทรวงยุติธรรม และแล้วเข้าก็รู้สึกว่าอยากจะเรียนหนังสืออีกครั้งเพราะเห็นมหาวิทยาลัยเปิดสอนวิชาที่น่าสนใจมากมาย นั่นทำให้เขาได้ตัดสินใจกลับไปเรียนปริญญาโทต่อพร้อมกับเรียนหลักสูตรอื่นๆ ที่สนใจไปเรื่อยๆ จนสามารถคว้าใบปริญญาครั้งที่ 1 2 3 มาจนถึงครั้งที่ 142 ได้สำเร็จ “หลังจากที่ได้รับใบปริญญาตรีใบแรก ผมก็เริ่มสมัครเรียนหลักสูตรอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต้องมีใบรับรองการโอนย้าย เพื่อเรียนหลายๆ หลักสูตรในช่วงเวลาเดียวกันได้ และในช่วงเวลา…
-
สาวแชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนัก งดมื้อเย็นที่เคยกินครั้งละ 3 ชุด ผอมลงจนเพื่อนจำไม่ได้..!!
หากใครที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ละก็ เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับเรื่องราวของหญิงสาว ที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่เชื่อว่าจะสามารถลดน้ำหนักได้มากถึงขนาดนี้ Erin Hulick สาววัย 30 ปี โดยก่อนหน้านี้เธอมีพฤติกรรมการกินที่มากเกินความจำเป็น เฉพาะอาหารมื้อเย็นในแต่ละวัน เธอต้องรับประทานมากถึง 5,000 แคลอรี่ (ประมาณ 3 ชุดอาหารของคนปกติ) ภาพก่อน & หลัง ที่ตัวเธอเองก็ไม่เชื่อว่าจะทำได้ เป็นประจำทุกวันที่เธอมักจะกินจุกกินจิกอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เธอมีน้ำหนักตัวมากถึง 159 กิโลกรัม และเริ่มสูญเสียความมั่นใจที่จะเข้าสังคม ซึ่งนั่นทำให้เธอตอกย้ำตัวเองด้วยการกินมากขึ้นไปอีก จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว เธอมีโอกาสได้เข้าพบคุณหมอเกี่ยวกับอาการผิดปกติบางอย่างของเธอ ซึ่งเธอก็ได้คำแนะนำจากคุณหมอมาว่า… หากเธอไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต สิ่งเหล่านั้นอาจส่งผลให้เธอเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้เลย ภาพของเธอในอดีต หลังจากที่รู้ว่าสุขภาพตัวเองเริ่มย่ำแย่จากการบริโภคมากเกินไป เธอก็เริ่มหันมาสนใจสุขภาพตัวเองมากขึ้น เธอหันมาทานอาหารคลีน (เน้นผักมากกว่าเนื้อ) เปลี่ยนจากการโดยสารด้วยรถเข็น เป็นการเดินให้มากขึ้น พอน้ำหนักตัวเธอเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว เธอก็หันมาออกกำลังกายให้หนักยิ่งขึ้น โดยเธอเล่าว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าไม่ได้รับกำลังใจที่ดีจากคนรอบข้าง วัดไซส์กางเกงของเธอจากตอนอ้วน vs ตอนที่ผอมแล้ว มีครั้งหนึ่งหลังจากที่เธอลดน้ำหนักได้คงที่แล้ว เพื่อนเก่าของเธอก็เข้ามาทักทายด้วยการแนะนำตัวให้รู้จัก ทั้งๆ ที่เธอจำเขาได้แม่นมาตั้งแต่ช่วงเรียนมัธยมปลาย จนกระทั่งได้บอกว่าเธอชื่อ…
-
เด็กหนุ่มวัย 12 ปีทำงานอย่างหนักสละเวลาปิดเทอมอันมีค่า มาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
วิกฤตปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากภัยพิบัติต่างๆ นั้นไม่ได้มีเพียงแต่ความเศร้าหรือความสิ้นหวัง ยังคงมีความเห็นอกเห็นใจและการช่วยเหลือจากเหล่าอาสาสมัครที่สละเวลาของตน มาช่วยผู้ประสบภัยทั้งหลาย แสดงให้เห็นว่ามนุษย์เรายังคงมอบความรักให้กันและกันอยู่เสมอ น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในมณฑลส่านซี ได้ทำลายบ้านเมืองไปมากมายจนทำให้มีผู้ประสบภัยกว่า 1 แสนคนเลยทีเดียว แต่ท่ามกล่างซากปรักหักพังนั้นยังคงมีเด็กหนุ่มวัย 12 ปี ผู้ซึ่งทำงานหนักในการช่วยเหลือผู้คนทั้งหลาย . จากภาพนั้นจะเห็นว่าเป็นภาพของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ผ่านการทำงานมาอย่างหนักหน่วงจนต้องหลับอิงไปกับแพ็คน้ำในสภาพที่เหนื่อยอ่อนกลางแสงแดดอันแรงกล้า เขาคนนี้มีชื่อว่า Hu Zhibo ซึ่งแม่ของเขานั้นได้บอกว่าที่เป็นอย่างนี้นั้นเกิดจากการทำงานอย่างหนักถึง 10 ชั่วโมงในแต่ละวัน เพื่อที่จะคอยช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการสร้างกำแพงกั้นน้ำและคอยแจกสิ่งของจำเป็นต่างๆ ให้กับทุกคน นอกจากนั้นเด็กคนนี้ก็ยังยอมสละเวลาปิดเทอมฤดูร้อนอันมีค่าที่จะได้ออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกัน แต่กลับมาเป็นอาสาสมัครแทน . เมื่อรูปภาพการทำงานของเขาได้ถูกปล่อยลงไปในโซเชียลมีเดียของจีนก็ได้ทำให้ผู้คนต่างพากันชื่นชมและยกย่องเขาเหมือนกับฮีโร่คนหนึ่ง จนมีคอมเม้นท์นึงออกมาพูดว่า “หากเด็กคนนี้โตขึ้น ประเทศของเราก็คงไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้ว” . . อย่างไรก็ตามยังมีบางคนที่คิดว่าช่วงปิดเทอมของเด็กผู้ชายคนนี้ควรได้ออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อนหรือพักผ่อนหาความสนุก แทนที่จะต้องมาแบกข้าวสารหรือกระสอบสิ่งของต่างๆ ถึงอย่างไรการแสดงออกของเขาก็ทำให้เราได้เห็นถึงจิตอาสาของคนที่เกิดขึ้นได้แม้กับเด็กวัยแค่นี้ ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่และยิ้มได้ ที่มา: shanghaiist
-
นักวิจัยเผยสถิติ “ประเทศที่ขี้เกียจที่สุดในโลก” โดยวัดจากจำนวนการก้าวเดินในแต่ละวัน
ความขี้เกียจมีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน โดยไม่แบ่งแยกว่าจะเป็นคนที่ไหนหรือเชื้อชาติไหน แต่หากคุณกำลังสงสัยว่าประเทศไหนที่ขี้เกียจที่สุดในโลก วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณแล้ว นี่เป็นข้อมูลจากผู้ใช้แอปพลิเคชั่น Argus ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามกิจกรรมประจำวันของบุคคล โดยสำหรับครั้งนี้มีกลุ่มตัวอย่างกว่า 700,000 คน จากข้อมูลดังกล่าวพบว่าชาวฮ่องกงเป็นคนที่พอดีที่สุด โดยวัดจากการเดินเฉลี่ยวัน 6,880 ก้าว เทียบเท่ากับระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรครึ่ง ในขณะที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Stanford University พบว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ในอินโดนีเซียดูเหมือนจะเป็นคนที่ขี้เกียจที่สุด เพราะมีการเดินเฉลี่ยเพียง 3,513 ก้าวเท่านั้น เมื่อนำประเทศต่างๆ มาเปรียบเทียบพบว่า ชาวอังกฤษจะเดินเฉลี่ยวันละ 5,444 ก้าว หรือ 5 กิโลเมตร ในขณะที่สหรัฐฯ เดินเฉลี่ย 4,774 ก้าว ทั้งนี้โดยเฉลี่ยแล้วผู้คนทั้งโลกจะเดินประมาณวันละ 4,961 ก้าว หรือ 4 กิโลเมตร ตามผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature แต่หลายๆ ประเทศ เช่น แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ กลับพบว่ามีการเดินเฉลี่ยที่ต่ำกว่ามาตรฐาน อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญบอกว่าอาจมีสาเหตุจากหลายปัจจัย เช่น ลักษณะกิจกรรมที่แตกต่างกัน และนี่คือ 33…
-
สล็อตไม่ได้ขี้เกียจเสมอไป สารคดี BBC เผย เมื่อมันอยากผสมพันธุ์ จะขยันขึ้นมาทันที
ถ้าพูดถึงเจ้าตัวสัตว์หน้าขนที่มีมักจะทำอะไรเชื่องช้าที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นเจ้าตัว ‘สล็อต’ ไม่ว่าจะการ์ตูนเรื่องไหนๆ หรือของจริง เราก็จะเห็นมันทำตัวเชื่องช้า ขี้เกียจเสมอ เรียกได้ว่าวันๆชีวิตมันเหมือนมีแค่กินกับนอนอย่างเดียว สบ๊ายยสบายย แต่เรื่องของความรักมันไม่เข้าใครออกใคร แม้แต่คนเรายังทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้ครองใจคนที่ชอบเลย เจ้าสล็อตก็เช่นกัน เพราะล่าสุดสารคดีจาก BBC รายการ ‘Planet Earth II’ ได้ตามติดชีวิตเจ้าสล็อตตัวหนึ่ง และพบว่า พวกมันไม่ได้ขี้เกียจอย่างที่เราคิด เพียงแต่มันจะขยันก็ต่อเมื่อมีสาวๆเรียกร้อง และเกิดอารมณ์อยากจะผสมพันธุ์!! (แหมม..ทีงี้ละไวเชียว) เรื่องมันมีอยู่ว่ารายการได้เข้าไปถ่ายทำชีวิตของเจ้าสล็อตตัวนี้ มันเป็นหนุ่มเหงา (และเxี่ยนด้วย) จู่ๆวันหนึ่งมันก็ได้ยินเสียงเรียกร้องจากสาวๆจากอีกฟากหนึ่งของเกาะ เรียกร้องให้พ่อหนุ่มเข้าไปเกี่ยวพาราศีด้วย เพื่อความสุขของสตรีและตัวเอง มันไม่รอช้าที่จะรีบลงน้ำ และแหวกว่ายออกไปเพื่อตามหาแม่นางในฝันที่เฝ้ารอมานาน ถึงเวลาที่เอ็งจะได้โตเป็นหนุ่มเต็มตัวกับเค้าซักที เอ้าาสู้ๆพ่อหนุ่ม!! เนื่องมาจากประชากรสล็อตที่ลดเหลือน้อยลงทุกทีบนเกาะที่มันอาศัยอยู่ มันจึงต้องทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะได้ไปถึงอีกฟากฝั่งหนึ่ง ไม่ว่าหนทางจะไกล หรือยากลำบากแค่ไหน มันก็พร้อมจะฝ่าไป เพื่อวันที่สวยงาม.. เป็นระยะทางหลายไมล์ที่มันต้องว่ายน้ำอย่างอดทน และเร่งรีบที่สุดในชีวิต ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วนิสัยมันจะขี้เกียจ แต่เพื่อสาวๆแล้ว มันขยันขึ้นมาทันที (เหมือนมนุษย์เราเลยเนาะ) อ๊ะ!! ในที่สุดมันก็เจอแล้ว สาวงามที่กำลังเกาะอยู่บนต้นไม้ แต่ไม่รู้ว่าจะใช่ตัวเดียวกับที่เรียกให้มันมารึเปล่านะ…
-
เด็กหญิงจีนป่วยมะเร็งต้องตัดขาทิ้ง แต่ยังไม่ท้อ อ่านหนังสือสอบระหว่างพักฟื้นร่างกาย…
กลายเป็นภาพประทับใจบนอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว สำหรับเด็กหญิงจีนคนหนึ่งที่แม้เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดรักษามะเร็งจนต้องเสียขาไปข้างหนึ่ง แต่เธอก็ยังมุ่งมั่นตั้งใจเรียน อ่านหนังสือทั้งๆ ที่ยังอยู่ในห้องพักฟื้น เด็กหญิงคนนี้มีชื่อว่า “เฮ่อเหวินเจี๋ย” วัย 15 ปี เธอได้เข้ารับการรักษาโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลมะเร็งในมณฑลเสฉวน จนต้องตัดขาข้างซ้ายไป ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลประจำอำเภอมาก่อน แม้จะเพิ่งผ่าตัดไปได้ไม่นาน และก็ยังเจ็บแผลผ่าตัดอยู่บ้าง แต่เธอก็ยังยืนกรานที่จะอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายเหมียนหยาง ในเมืองเหมียนหยาง มณฑลเสฉวน ตามปกติแล้ว หลังการผ่าตัดเช่นนี้ ผู้ป่วยต้องพักรักษาตัวภายในโรงพยาบาลอีกประมาณ 6 เดือน ซึ่งเธอไม่อยากเสียการเรียน เธอจึงให้พี่สาวซื้อหนังสือเรียนมาให้ เพื่อเธอจะได้ศึกษาด้วยตนเองในห้องพักฟื้น พอพักฟื้นเสร็จเธอจะได้กลับไปเรียนต่อได้ในทันที . ความขยันของเธอนั้นน่านับถือจริงๆ ยังไงก็ขอให้แผลเธอหายไวๆ จะได้กลับไปเรียนเหมือนเดิม แล้วก็สามารถสอบเข้าโรงเรียนได้ดั่งใจหวังนะฮะ . . . ที่มา China Xinhua News