Tag: ขอโทษ
-
บาทหลวงออกมาขอโทษ จากเหตุ ‘ลวนลาม’ Ariana กลางงานศพของ Aretha Franklin
หลังจากที่กลายเป็นกระแสที่โด่งดังไปทั่วโลกกับแฮชแท็ก #RespectAriana หลังจากที่เธอถูกบาทหลวงลวนลามกลางงานศพของ Aretha Franklin เรื่องมีอยู่ว่าในงานพิธีศพของนักร้องที่มีชื่อเสียง Aretha Franklin ผู้ล่วงลับ Ariana Grande รับหน้าที่ในการร้องเพลง You Make Me Feel Like ของ Aretha เพื่อเป็นการสดุดีแด่การจากไปของเธอ จากนั้นก็มีการพูดคุยกันเล็กน้อยกับผู้ดำเนินพิธีการ ซึ่งก็คือบาทหลวง Charles H Ellis ที่ 3 ระหว่างนั้นเขากลับเอามือไปโอบที่บริเวณด้านหลังหน้าอกของ Ariana ด้วย เหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการบันทึกเอาไว้ และนำไปโพสต์ในโลกออนไลน์จนชาวเน็ตมากมายได้ชมและมองเห็นว่าบาทหลวงพยายามที่จะจับหน้าอกของ Ariana ลองไปชมคลิปวิดีโอกันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… https://twitter.com/musicfactnews/status/1035666503276945408?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1035666503276945408%7Ctwgr%5E373939313b73706563696669635f73706f7274735f616374696f6e&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.catdumb.com%2Frespect-ariana-119%2F ชาวเน็ตทั้งหลายต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา บางส่วนก็ออกมาตำหนิ Ariana ว่าแต่งตัวไม่เหมาะสม นุ่งเดรสสั้นเกินไปจนทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่ส่วนใหญ่มองว่าไม่เกี่ยวกัน ไม่ว่าจะแต่งตัวอย่างไรบาทหลวงก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำแบบนั้นกับเธอ และล่าสุดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาตามเวลาของบ้านเรามีรายงานว่าทางด้านบาทหลวงก็ออกมาขอโทษต่อเหตุดังกล่าว โดยให้สัมภาษณ์ผ่านทาง Associated Press ว่า… “เรื่องการจับหน้าอกของผู้หญิงนั้นไม่เคยอยู่ในความคิดของผมเลย ไม่รู้สิผมเดาว่าผมอาจจะเอาแขนโอบไปที่ตัวของเธอ และบางทีมันอาจจะลึกจนเกินไป แต่เอาจริงๆ แล้วผมเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี และพยายามตีสนิทมากเกินไป แต่อย่างไรก็ตามผมต้องขออภัยเป็นอย่างสูง”…
-
ทีมข่าวกราฟิกช่อง 7 ลงภาพ ‘พระสงฆ์’ ผิด จึงกราบสามครั้งเพื่อขอโทษ ชาวเน็ตประทับใจ
เมื่อทำผิดก็ต้องยอมรับผิด เป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครต่างก็เข้าใจตรงกัน… เช่นเดียวกันกับทีมงานข่าวช่อง 7 ในรายการ ‘เจาะประเด็นข่าวค่ำ’ เมื่อคืนวานที่ผ่านมา ทีมงานได้ทำการขึ้นกราฟิกรายงานข่าวที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ แต่กลับกลายเป็นว่าภาพที่เอามานั้นไม่ใช่พระรูปที่กล่าวถึงในข่าวแต่อย่างใด จากข้อผิดพลาดนี้ทีมงานข่าวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด และแก้ไขปัญหาด้วยการขอโทษในรายการ ณ ตรงนั้นเลย พร้อมแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อย จากนั้นก็กราบ 3 ครั้ง เพื่อเป็นการขอโทษแก่พระสงฆ์รูปที่ได้กล่าวอ้างถึงอีกด้วย ลองไปชมคลิปรายการช่วงดังกล่าวได้เลยจ้า… ? ทีวีคือการทำงานเป็นทีม นี่คือสปิริตของคนทำข่าวทีวี เป็นข้อเตือนใจให้ผมและเพื่อนสื่อมวลชน เรื่องนี้เกิดเมื่อวานซืน และกราบขอโทษเมื่อวานนี้ น่ายกย่องและชื่นชม เชื่อว่าสังคมพร้อมอภัย pic.twitter.com/3Pk4QkFF3c — Wootthinan Nahimᴴᴰ (@Wootthinan) April 18, 2018 หากเพื่อนๆ คนไหนไม่เห็นคลิป ก็สามารถคลิกเข้าไปดูที่ลิงก์นี้ได้เลยนะจ๊ะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สร้างความประทับใจให้กับชาวเน็ตมากมายทั้งในเว็บไซต์พันทิปและทวิตเตอร์ ซึ่งหลายๆ คนพร้อมที่จะให้อภัย พร้อมกับคำชมที่ตามมาอย่างล้นหลาม ความเห็นของ สมาชิกหมายเลข 4009755 “ชื่นชมค่ะ ผิดพลาดก็รีบขอโทษ เป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ”…
-
จัสติน ทรูโด นายกฯ แคนาดาออกมาขอโทษแมนๆ ว่าเคยทำผิด แม้จะเป็นเรื่องในอดีต!!
ตามปกติแล้วเมื่อผู้นำประเทศต่างๆ ทำผิดในช่วงเวลาการทำงาน เรามักจะไม่ค่อยเห็นผู้นำออกมาขอโทษหรือยอมรับแบบแมนๆ ในสิ่งที่ทำผิดกันสักเท่าไหร่นักและยิ่งเรื่องในอดีตที่ผู้นำคนก่อนๆ เคยทำนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะน้อยคนมากๆ ที่จะออกมาขอโทษแทน แต่ ‘จัสติน ทรูโด‘ นายกรัฐมนตรีประเทศแคนาดา กลับเป็นผู้นำประเทศคนแรกๆ ที่ออกมาขอโทษบ่อยมากๆ นับตั้งแต่เขาเข้ามาดำรงตำแหน่งจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2015 เขาได้ออกมาขอโทษแล้วถึง 4 ครั้ง ด้วยกัน ครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 6 เดือน โดยเขาได้ขอโทษต่อผู้โดยสารที่มากับเรือโกมะกะตะในปี 1914 ซึ่งเรือลำดังกล่าวนั้นได้มีผู้โดยสารชาวซิกข์ อิสลาม และฮินดูลี้ภัยมาเป็นจำนวนมากถึง 376 คน แต่ทางแคนาดาได้ปฏิเสธผู้ลี้ภัยทั้งหมดตามกฎหมายคนเข้าเมือง จัสติน ได้เรียกความผิดพลาดในอดีตดังกล่าวว่า ‘รอยด่างในอดีตของแคนาดา‘ และนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นการออกมาขอโทษต่อเรื่องที่ผู้นำประเทศในอดีตที่เคยทำผิดของเขา ซึ่งนับจากการขอโทษครั้งนี้ก็ยังมีการขอโทษตามมาอีก 2 ครั้งในปี 2017 และล่าสุดในปี 2018 แต่ทำไมกัน ทำไมเขาถึงสามารถออกมาขอโทษได้ง่ายดาย ทั้งที่ผู้นำชาติอื่นๆ นั้นยากที่จะยอมรับผิด ขนาดนาฬิกายังบอกของเพื่อนได้สบายๆ หรือแม้แต่ตัวพ่อของจัสติน ทรูโดอย่าง ‘ปิแอร์ ทรูโด‘ ก็ยังต่างกับลูกสิ้นเชิง ปิแอร์…
-
อนาคตดับ… นักการเมืองเกาหลีใต้ ถูกแฉว่าข่มขืนเลขาฯ รับผิดลาออกไม่รอไต่สวน
จากที่ #เหมียวเลเซอร์ ได้นำเสนอข้อมูลอีกด้านภายในสังคมเกาหลีใต้ (ข่าวเก่า) ที่ผู้หญิงมักจะตกเป็นเหยื่อของสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ใช้กำลังข่มเหงและกดขี่อย่างรุนแรง จนแทบจะมีสถานะไม่ต่างไปจากทาสเลย… และแล้วก็มีประเด็นใหญ่โตเกี่ยวกับด้านดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า นักการเมืองรุ่นใหญ่ของเกาหลีใต้ มีดีกรีเป็นเป็นถึงอันดับสองในพรรครัฐบาลปัจจุบัน และเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชุงช็องใต้ ถูกแฉว่าเขาได้ ‘ทำการข่มขืน’ จากเลขานุการส่วนตัวของเขาเอง Ahn Hee-jung นักการเมืองเกาหลีใต้อันดับสองของพรรครัฐบาลปัจจุบัน และผู้ว่าราชการจังหวัดชุงช็องใต้ นาย Ahn Hee-jung ออกมายอมรับผ่านสื่อโซเชียลมีเดียผ่านเพจของตนเอง ด้วยใจความดังต่อไปนี้… “ผมขอโทษทุกๆ คน ก่อนอื่น ผมทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวด ผมขอโทษสำหรับ Kim Ji-Eun (เลขา) ผมอยากจะขออภัยสำหรับการกระทำอันโง่เขลา… กับความสัมพันธ์ของเลขานุการที่ไม่ถูกต้องตามข้อตกลง มันเป็นความผิดของผมเพียงฝ่ายเดียว ผมขอรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง และหยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกอย่าง ผมขอโทษอีกครั้งจากใจ… นาย Ahn Hee-jung” โพสต์แถลงขอโทษและลาออกจากตำแหน่ง ข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้น เริ่มต้นมาจากอดีตเลขานุการส่วนตัว Kim Ji-eun ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ JTBC ในช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ 5 มีนาคม 2018…
-
ลูกค้าบ่น ‘ข้าวเกรียบเซ็มเบ้’ ไม่ได้คุณภาพ บริษัทตอบกลับด้วยเรียงความ อธิบายให้กระจ่างชัด!!
ขนมข้าวเกรียบของชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า ขนมเซ็มเบ้ เป็นขนมที่สร้างความเพลิดเพลินได้ดีทีเดียวยามขบเคี้ยวเวลาว่าง เนื่องจากความกรอบและความอร่อย แถมเมื่อเราห่อด้วยสาหร่ายด้วยแล้วยิ่งไม่แคล้วที่จะต้องกินแล้วกินอีก เจ้าเซ็มเบ้ชิ้นกลมๆ มักมาในซองขนมขนาดใหญ่ แต่เมื่อหญิงสาวชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @moyu1001 ได้เปิดซองขนมเซ็มเบ้ของเธอ นั่นทำให้พบเจอ “จุดสีดำๆ” จุดดำดังกล่าวอยู่บนเซ็มเบ้ชิ้นหนึ่ง เธอจึงไม่มั่นใจว่านั่นคือรอยไหม้ รอยแต้มสี หรือรา กันแน่ เธอจึงตัดสินใจส่งทั้งซองขนมกลับไปเพื่อแจ้งปัญหาให้กับผู้ผลิต ซึ่งก็คือ Kameda Seika และเธอก็ได้โพสต์ภาพคำอธิบายปัญหาจากทางฝ่ายบริษัทผู้ผลิตที่ตอบกลับมา . เนื้อหาที่ทางบริษัทตอบกลับมานั้น มีใจความว่า… “ถึงคุณผู้หญิงที่เคารพ ทางเราหวังว่าจะได้ยินดีกับความสำเร็จของคุณในอนาคต และต้องขอบพระคุณอย่างสูงที่อุดหนุนผลิตภัณฑ์ของเรา พวกเราเสียใจกับสิ่งที่คุณพบเจอ เช่น ความไม่พึงพอใจที่เกิดจากขนมเซ็มเบ้ยี่ห้อ Magari ทั้ง 18 ชิ้นของพวกเรา และเราต้องขออภัยอย่างสูงพร้อมทั้งต้องขอบคุณจากใจจริงที่บอกกล่าวให้เราทราบถึงปัญหานี้ เราได้รับสินค้าจากคุณในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018″ มีต่อ เนื้อหาในจดหมายนั้นเต็มไปด้วยความสุภาพและอ่อนน้อม เป็นใครเห็นก็ต้องยอมให้อภัยแน่นอน “1. การยืนยันสินค้า ทางบริษัทได้ใช้กล้องจุลทรรศน์ตรวจดูตัวอย่างที่คุณกรุณาจัดส่งกลับมาให้ เราสามารถยืนยันได้ว่าไม่มีร่องรอยของการขึ้นราอย่างแน่นอน และเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทางเราได้ส่งผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ไปยังฝ่ายตรวจสอบคุณภาพสินค้า เพื่อทำการวิเคราะห์ด้วยวิธีที่เรียกว่า Fourier Transform Infrared (FTIR)…
-
‘รู้สึกผิดและแย่’ บริกรแชร์คำขอโทษจากกลุ่มเด็ก รู้สึกผิดที่ให้ทิปน้อยและกลับมาจ่ายคืนให้
เมื่อพูดถึงธรรมเนียมการปฏิบัติในบางรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา กับการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านตามภัคตาคารต่างๆ จะต้องมีการให้ทิปกับพนักงานผู้ให้บริการด้วย เพราะถือเป็นสินน้ำใจเล็กน้อยในงานบริการ บวกกับทิปเหล่านี้จะถูกนับรวมเป็นค่าแรงขั้นต่ำด้วย ทั้งนี้จำนวนเงินทิปขั้นต่ำก็ขึ้นอยู่กับภัคตาคารจะเป็นผู้กำหนด โดยส่วนใหญ่แล้วจะกำหนดอยู่ที่ 15-20% ของราคาอาหารในมื้อนั้นๆ กระดาษโน้ตคำขอโทษ 1 แผ่นจากตัวแทนของกลุ่มเด็กหญิง แต่ทว่าเมื่อกลุ่มเด็กหญิง 4 คน อายุประมาณ 13 ปี กลุ่มหนึ่งในเมือง Los Angeles กลับให้ทิปบริกรในจำนวนเพียงแค่ 3.28 ดอลลาร์ (ประมาณ 104 บาท) จากมูลค่าราคาอาหารที่สั่งไปเกือบ 100 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,100 บาท) ถึงแม้จะได้รับคำขอบคุณจากกลุ่มเด็กหญิงแล้ว มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกชื่นใจขึ้นมาได้ แถมยังทำให้รู้สึกหัวเสียอีกต่างหาก แต่เขากลับมารู้ในภายหลังว่า พวกเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนี้กับเขา แต่เป็นเพราะว่าพวกเธอเพิ่งจะเคยออกมาทานอาหารด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก และไม่รู้ถึงธรรมเนียมการให้ทิป ใจความของการขอโทษรวมกันเป็น 2 หน้ากระดาษ Seminole ชายผู้ใช้นามแฝงในเว็บไซต์ Imgur ได้โพสต์ภาพกระดาษโน้ตคำขอโทษจากกลุ่มเด็กหญิง โดยได้รับภายหลังจากเกิดเรื่องไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ด้วยใจความดังต่อไปนี้… …
-
จดหมายจากผู้สำนึกผิดหลังจากที่ ‘ชักดาบค่าอาหาร’ ส่งเงินกลับมาให้พร้อมคำขอโทษ
แน่นอนว่าการกินแล้วชักดาบคงทำให้เจ้าของร้านอาหารทุกคนรู้สึกไม่พอใจ ที่ตัวเองต้องสูญเสียรายได้ แต่บางครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้มาจากความตั้งใจเหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ Apollo Apollinaire เจ้าของร้าน Kilimandjaro ในประเทศอังกฤษ ได้เล่าว่าเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2017 เขาได้เจอกับลูกค้าสามคนที่เข้ามากินอาหารในร้านแล้วออกไปโดยไม่ได้จ่ายเงินเลยซักบาท ซึ่งนั่นก็ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก แม้ราคาอาหารมันจะไม่มาก แต่นั่นก็ทำให้เขาคิดว่าบนโลกนี้ยังมีคนเห็นแก่ตัวแบบนี้อยู่จริงๆ แต่ผ่านไปไม่กี่วัน ความคิดนั้นก็เปลี่ยนไป เมื่อมีจดหมายส่งมาที่ร้าน โดยภายในมีเงินและคำขอโทษจากชายสามคนนั้น Apollo เจ้าของร้านอาหารสไตล์แอฟริกัน-แคริบเบียนแห่งนี้ ในจดหมายเล่าว่า ตอนแรกทั้งสามต้องการจ่ายเงินผ่านบัตรแต่ว่าทางร้านรับแต่เงินสดเท่านั้น พวกเขาจึงเดินออกไปหาตู้ ATM ระหว่างนั้นก็คิดกันได้ว่ารถไฟขบวนสุดท้ายที่จะเดินทางไปเมืองบ้านเกิดของพวกเขากำลังจะออกจากสถานีแล้ว ทั้งสามจึงรีบไปขึ้นรถไฟจนลืมกลับมาจ่ายเงิน พวกเขาจึงส่งเงินประมาณ 1,730 บาท สำหรับจ่ายค่าอาหารที่กินไป เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ และขออภัยที่ไม่สามารถเดินทางจากเมือง Middlesbrough มาขอโทษเจ้าของร้านด้วยตัวเองได้ แต่ถึงจะไม่ได้มาขอโทษต่อหน้า แค่นี้ก็ทำให้ Apollo รู้สึกปลาบปลื้มและประทับใจกับการแสดงความรับผิดชอบ และคำขอโทษของพวกเขา เจ้าของร้านคนนี้จึงถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว และชาวเน็ตก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น “เยี่ยมไปเลย เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็รับผิดชอบและจ่ายค่าอาหาร ยังคงมีคนดีๆ อยู่บนโลกของเราจริงๆ สินะ” “ไม่บ่อยหรอกนะที่จะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นในปัจจุบัน สังคมต้องการคนอย่างพวกเขานี่แหละ” …
-
สายการบินญี่ปุ่นออกมาขอโทษ หลังปล่อยให้ “ผู้โดยสารพิการ” คลานขึ้นเครื่องด้วยตัวเอง..!?
กลายเป็นกระแสดราม่าโด่งดังไปทั่วโลกของสายการบิน Vanilla Air จากประเทศญี่ปุ่น หลังมีข่าวออกมาว่าลูกเรือของสายการบิน ปล่อยให้ผู้โดยสารที่ใช้วีลแชร์ต้องคลานขึ้นบันไดเพื่อไปนั่งบนเครื่องบินสูงกว่า 17 ชั้นด้วยตัวเอง!! โดยเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นกับนาย Hideto Kijima ผู้โดยสารหนุ่มชาวญี่ปุ่นวัย 44 ปี ที่ได้เดินทางไปพักผ่อนบนเกาะ Amami ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น Hideto Kijima ด้วยความที่เขาเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงไป ทำให้เขาจำเป็นที่จะต้องใช้วีลแชร์ช่วยเหลือในการเดินทางอยู่เสมอ ทว่าเมื่อถึงเวลาไฟลท์ขากลับเจ้าตัวก็ต้องอึ้งกับบริการที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ หลังสิ้นเสียงประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง นาย Kijima พยายามที่จะขอความช่วยเหลือจากพนักงาน ทว่าเขากลับถูกปฏิเสธ และได้รับคำตอบที่ว่า ‘ทางเราไม่มีนโยบายที่จะช่วยเหลือคนพิการ ถ้าคุณอยากจะขึ้นเครื่องก็ต้องช่วยเหลือตนเอง หรือไม่อย่างนั้นคุณอาจจะเสียสิทธิ์ในการเดินทางได้’ และล่าสุดทางสายการบิน Vanilla Air ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ขอโทษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งสัญญาว่าจะพัฒนาบริการเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าผู้มีความต้องการพิเศษให้ดียิ่งขึ้นในภายภาคหน้า ซึ่งทาง Kijima ผู้เสียหายก็ได้ออกให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ก่อนหน้านี้เจ้าตัวมีโอกาสได้เดินทางไปท่องเที่ยวมาแล้วหลายประเทศ และได้ใช้บริการจากหลากหลายสายการบิน “ผมเคยเดินทางมาแล้วก็บ่อย ที่ผ่านมาผมไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้มาก่อน และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้เจออะไรแบบนี้ซึ่งผมก็แอบสงสัยไม่ได้ว่า… เจ้าหน้าที่ของเค้าไม่รู้สึกผิดลึกๆ ในใจบ้างเหรอ? หรือเค้าไม่มีใจรักงานบริการกันนะ?” ที่มา: BBC
-
ปิดประเด็นดราม่า!? ปันปัน โทรเคลียร์ขอโทษน้ำชา ไม่รู้ตอนนั้นคิดอะไรอยู่
จากที่เมื่อวานช่วงดึกได้เกิดเหตุการณ์ที่กลายเป็นกระแสไปทั่วโซเชียล ในกรณีที่น้องปันปัน สุทัตตา ได้โพสต์รูปภาพ (เป็นรูปที่แคปมา) แล้วใส่แคปชั่นว่า ‘อีกะ… เสียงสู๊ง’ ก็เลยทำให้หลายๆ คนต่างก็สงสัยว่าเอ๊ะ มันเกิดอะไรขึ้น เธออัพรูปและข้อความนั้นมีเจตนาที่จะว่าให้ใครรึเปล่า? แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ลบรูปภาพและข้อความนั้นออกไป แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะมีมือดีแคปภาพเอาไว้ได้ทัน จากนั้นก็มีการสืบเสาะหาเรื่องราวก็พบว่า คู่กรณีที่เธอกล่าวถึงนั้นก็คือ น้ำชา ชีรณัฐ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แล้วว่าเธอก็ยังงงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และก็ไม่โอเคกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หากน้องปันๆ จะออกมาขอโทษก็ยินดีที่จะรับไว้ และล่าสุดมีการเปิดเผยจากสำนักข่าวมติชนว่า สาวปันปันยอมรับว่าเป็นคนเขียนพิมพ์เนื้อหาดังกล่าวเอง แต่เป็นการเขียนทันทีด้วยอารมณ์ตอนนั้น บอกไม่ได้ว่ารู้สึกอย่างไร แต่พอเห็นว่ามันไม่เหมาะสมก็ลบทิ้งทันที ในส่วนของปัญหากับน้ำชา ปันปันได้ขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อขอโทษแล้ว และฝากขอโทษไปยังแฟนคลับและทุกคนที่ติดตามประเด็นที่ทำให้เกิดเรื่องราวดราม่าดังกล่าวขึ้นมา แหม่ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าจะทำอะไรก็ตามอย่าใช้อารมณ์เป็นตัวตัดสินนะจ๊ะ เพราะฉะนั้นแม้เรื่องเล็กๆ ก็อาจจะกลายมาเป็นเรื่องราวใหญ่โตได้ และที่สำคัญโลกโซเชียลนั้นมันเป็นอะไรที่กว้างมาก อย่าคิดว่าทำแค่นี้คงไม่มีใครเห็น เพราะฉะนั้นจะทำอะไรจะโพสต์อะไรก็ขอให้คิดให้ดีก่อนที่จะลงมือทำนะจ๊ะ ^^ ที่มา : ข่าวสด
-
ซีอีโอ Niantic ลงทุนออกคลิปขอโทษชาวญี่ปุ่น หลัง Pokemon GO เปิดให้บริการช้าไปหน่อย
ก็ได้เปิดให้บริการกันไปแล้วในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาในต้นตำรับโปเกมอนอย่างประเทศญี่ปุ่น สำหรับเกม Pokemon GO เรียกว่าช้ากว่าประเทศแรกเกือบหนึ่งเดือนเลยทีเดียว แต่ก็ถือว่าเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ได้เล่นเกมนี้ ล่าสุดทาง John Hanke ซีอีโอของบริษัท Niantic และ Junichi Masuda ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท Game Freak สองบริษัทผู้อยู่เบื้องหลังเกมนี้ ได้ออกคลิปแถลงการขอโทษผู้เล่นชาวญี่ปุ่นที่ปล่อยเกมออกมาช้าไปหน่อย Junichi Masuda(ซ้าย) John Hanke (ขวา) ทางคุณ Masuda กล่าวว่า เขาต้องขอโทษเหล่าโปเกมอนเทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่นทุกท่านรอคอยมาอย่างยาวนาน แต่ตอนนี้ ทุกท่านสามารถเล่นในประเทศญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนคุณ Hanke กล่าวว่า พวกเขาต้องการสร้างเกมที่มอบจิตวิญญาณของโปเกมอนเทรนเนอร์ที่แท้จริงขึ้นมา และตอนนี้พวกเขาทำสำเร็จแล้ว ในตอนท้ายเขาได้กล่าวเตือนว่า จงเล่นเกมอย่างระมัดระวังและปลอดภัยทุกครั้ง ลองไปชมคลิปกันดีกว่า น่าชื่นชมผู้บริหารทั้งสองจริงๆ ที่ใส่ใจแฟนๆ ขนาดนี้ หวังว่าจะรีบนำมาเปิดในประเทศไทยเร็วๆ นะฮะ เหล่าโปเกมอนเทรนเนอร์ชาวไทย รอกันเก้อแล้วววว อิอิ ที่มา rocketnews24
-
Pope Francis กล่าวแทนชาวคริสต์ ร่วมขอโทษเหล่าเพศที่สาม กับการกระทำในอดีต
ก็เรียกได้ว่าเป็นข้อพิพาทที่กินระยะเวลามาแสนนานเลยทีเดียว สำหรับสังคมคริสเตียนนิกายโรมันคาทอลิกและกลุ่มเพศที่สาม โดยเฉพาะในอดีตที่มักจะมีบทลงโทษอย่างรุนแรงเสมอๆ จากทางคริสตจักร แต่ถ้าจะกล่าวถึงในโลกปัจจุบันแล้วล่ะก็ กระแส LGBT สำหรับเพศที่สามนั้นก็เรียกได้ว่ามาแรงมากจริงๆ และล่าสุด Pope Francis ผู้นำสูงสุดแห่งโลกคริสตจักรที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีหัวก้าวหน้าที่สุด ก็ได้ออกมากล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการต่อกลุ่มเพศที่ สามแล้วล่ะ Pope Francis ผู้นำแห่งโลกคริสตจักร ล่าสุดระคาร์ดินัล Reinhard Marx แห่งเยอรมนีก็ได้ตั้งคำถามกับพระองค์ว่า ‘พระองค์ท่านเห็นด้วยหรือไม่ที่คริสตจักรต้องออกมากล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการต่อกลุ่มเพศที่สาม กับการกระทำที่ผ่านมาของคริสตจักรต่อพวกเขา?’ พระองค์ตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า ‘เราชาวคริสต์ทั้งหมดต้องขอโทษกับการกระทำที่ผ่านมา และไม่ใช่แค่กล่าวคำขอโทษต่อพวกเขา แต่เราขอให้พวกเขาให้อภัยกับการกระทำที่ผ่านมาของพวกเราด้วย’ ‘คำถามก็คือ ถ้าเราเกิดมาเป็นแบบนั้น แต่เราเป็นผู้มีจิตใจที่ดีและเชื่อในความดีและคำสอนของพระเจ้า เราเป็นใครกันล่ะที่จะไปตัดสินพวกเขา?’ สมเด็จพระสันตะปาปากล่าวต่อ ‘แน่นอนว่าคริสตจักรจะไม่ขอโทษแต่เฉพาะกลุ่มเพศที่สามเท่านั้น ยังต้องขอโทษไปถึงการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ต่างๆ นานาที่เคยทำมาอีกด้วย ทั้งเหล่าผู้หญิงที่เคยถูกเหยียด คนยากจนที่ถูกกีดกัน และเหล่าเด็กๆ ที่ถูกบังคับให้ทำงานหนัก’ พระองค์กล่าวปิด แน่นอนว่าคำกล่าวนี้ของสมเด็จพระสันตะปาปานั้นไม่ได้ลบล้างความผิดพลาดที่คริสตจักรทำในอดีตได้ แต่กระนั้น นี่ก็ถือเป็นการยอมรับอย่างเป็นทางการจากทางศาสนา ราวกับเป็นการบรรลุเป้าหมายของเหล้าเพศที่สาม และผู้ที่เคยถูกลดทอนในอดีตแล้วเช่นกัน!!! ที่มา: Metro
-
ชาวสหรัฐฯ ทำป้ายขอโทษ หลังเจ้าหน้าที่ฐานทัพโอกินาว่า ก่อเหตุฆาตกรรมสาวญี่ปุ่นวัย 20 ปี
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในข่าวที่กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลก คือข่าวเจ้าหน้าที่จากฐานทัพสหรัฐอเมริกาบนเกาะโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น ได้ก่อเหตุข่มขืนฆ่าหญิงสาวชาวญี่ปุ่นวัย 20 ปีคนหนึ่งอย่างโหดเหี้ยม จนกลายเป็นที่ไม่พอใจของคนญี่ปุ่นจำนวนมาก นับตั้งแต่ญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพสหรัฐฯ ได้สร้างฐานทัพไว้หลายแห่งบนเกาะโอกินาว่า ซึ่งเคยเป็นสมรภูมิสำคัญในช่วงสงครามโลก และในฐานทัพเหล่านั้น มีทหารอเมริกันประจำอยู่กว่า 47,000 นาย ซึ่งนับตั้งแต่มีการตั้งฐานทัพขึ้นมา เหล่าทหารและเจ้าหน้าที่ในฐานทัพ ก็มีเรื่องกระทบกระทั่งกับชาวเมืองท้องถิ่นมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอาชญากรรม ข่มขืน ชนแล้วหนี และอื่นๆ มากมาย จนบางครั้งก็ลุกลามเป็นปัญหาใหญ่โตเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่นานนี้ ประเด็นดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับคนญี่ปุ่นในพื้นที่เป็นอย่างมาก และก่อให้เกิดเป็นดราม่าเล็กๆ ซึ่งมีประเด็นเรื่องของเชื้อชาติมาเกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความมืดมนก็ยังมีความสวยงาม ล่าสุดมีรายงานว่าชาวอเมริกันในญี่ปุ่นหลายสิบคน ยืนถือป้ายแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เกาะโอกินาว่า จนกลายเป็นที่ประทับใจแก่ชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก . . แม้จะเป็นประเด็นใหญ่มากของคนบนเกาะโอกินาว่า อย่างไรก็ตามมีชาวเน็ตแสดงความเห็นว่า ภาพดังกล่าวไม่เคยปรากฎในสื่อหลักของญี่ปุ่นแม้แต่น้อย เพราะอะไรละ!? มีคนวิเคราะห์ถึงสาเหตุ อาจเป็นไปได้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้ถือโอกาสพอมีโอกาสที่เจ้าหน้าที่สหรัฐทำไม่ดีกับคนญี่ปุ่นแบบนี้ ในการสร้างแรงกดดันให้ทางสหรัฐอเมริกา รีบดำเนินการย้ายฐานทัพโอกินาว่าออกไปให้เร็วที่สุด หลังมีความพยายามเรียกร้องมาอย่างยาวนาน (พวกเราเสียใจกับเรื่องที่โอกินาว่า) . . ส่วนสำหรับคดีอาชญากรมที่เกิดขึ้น…
-
CEO บริษัทไอติมญี่ปุ่น ลงทุนออกโฆษณาขอโทษลูกค้า ที่ต้องขึ้นราคาขนมอีก 10 เยน!?!?
หากพูดถึงเรื่องความรับผิดชอบแล้ว ในประเทศญี่ปุ่นนั้นถือว่าเป็นเรื่องทีสำคัญมากเลยทีเดียว อย่างเช่นเวลาคนใหญ่คนโตของประเทศญี่ปุ่น (ประธานบริษัท, นักการเมือง, ข้าราชการ บลาๆ) มีข่าวฉาว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ พวกเขามักจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกอยู่บ่อยๆ และวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมโฆษณาที่จะทำให้เห็นว่า คนญี่ปุ่นนั้น มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมมากขนาดไหน ว่าแล้ว ไปชมกันเลย เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา บริษัท Akaki บริษัทผู้ผลิตไอศกรีมชื่อดังของญี่ปุ่น Garigari-kun ได้ปล่อยโฆษณาชิ้นใหม่ออกมา เพื่อขอโทษเหล่าผู้บริโภค เนื่องจากพวกเขาต้องขึ้นราคาสินค้าจาก 60 เยน (18 บาท) เป็น 70 เยน (22 บาท) โดยในโฆษณาเป็นภาพของ Hideki Inoue ประธานและซีอีโอของบริษัท Akaki รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงอีกหลายสิบคนมายืนเรียงกัน และทั้งหมดก็คำนับพร้อมกัน เพื่อเป็นการขอโทษเหล่าผู้บริโภคที่ต้องขึ้นราคาสินค้า หลังจากที่ขายมา 25 ปี โดยไม่ปรับราคาแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งโฆษณาดังกล่าว สร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลก เพราะน้อยครั้งนักที่เราจะได้เห็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ ออกมาขอโทษผู้บริโภคด้วยตนเองแบบนี้ แสดงให้เห็นถึงความจริงใจและความเคารพที่มีต่อลูกค้าของพวกเขาเป็นอย่างมาก ลองไปชมโฆษณากันดูดีกว่า สุดยอดไปเลยเนอะเพื่อนๆ…
-
สาวสุดโหด ถ่ายวีดีโอเอามีดจี้คอบังคับแฟนหนุ่มให้ขอโทษลงไอจี หลังจับได้ว่านอกใจ
เพศหญิงอาจเป็นเพศที่มีจิตใจอ่อนโยนและอ่อนไหว แต่หากวันหนึ่งคุณทำให้พวกเธอโกรธแล้วล่ะก็ รับรองว่าคุณจะได้เจอสิ่งที่โหดร้ายที่สุดในชีวิตอย่างแน่นอน อย่างเช่นสิ่งที่ชายหนุ่มชาวอเมริกันคนนี้ต้องเจอ หลังจากที่แฟนสาวของเขาจับได้ว่า เขาแอบนอกใจเธอด้วยการไปจีบหญิงคนอื่น เธอจับเขามานั่งหน้าคอมพิวเตอร์ แล้วเอามีดจี้คอ พร้อมบังคับให้พูดขอโทษที่นอกใจ ก่อนจะนำคลิปนั้นไปลงอินสตราแกรมของชายหนุ่มเอง โดยในคลิปเป็นภาพของหญิงสาวคนหนึ่งท่าทางโกรธเกรี้ยว เอามีดจี้คอแฟนหนุ่มแล้วพูดว่า “พูดสิ…ฉันบอกให้พูด!!!” จากนั้นแฟนหนุ่มก็พูดว่า “เฮ้ พวกเธอหยุดมาคอมเมนต์รูปในไอจีของฉันได้แล้วนะ…. เธอกำลังทำให้ความสัมพันธ์ของฉันกับแฟนแย่ลง…” แล้วหญิงสาวก็ตบเข้าที่หัวชายหนุ่มอย่างแรงแล้วพูดว่า “แล้วไงต่อ” “ฉันกับไรลี่ย์(ชื่อแฟน) กำลังรักกันดี เข้าใจนะ..” แล้วคลิปก็ถูกตัดจบลง ลองไปชมคลิปกัน โดยคลิปดังกล่าวได้กลายเป็นที่ตื่นตระหนกคนผู้คนบนอินเตอร์เน็ตอย่างมาก ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือว่าเป็นแค่การจัดฉากถ่ายคลิปเรียกกระแสเฉยๆ โอ้โห คุณผู้หญิงก็โหดเกินป๊ายยยย ใจเย็นๆ ก่อนนะฮะ #เหมียวอ๊อดโด้ ว่าต่อจากนี้ไป แฟนของคุณผู้หญิงคงไม่กล้านอกใจแล้วแน่นอน ฮาาา ที่มา Dailymail
-
หนุ่มจีนทุ่มสุดตัว เช่าป้ายแท็กซี่กว่า 1,400 คัน เขียนคำขอโทษและขอคืนดีภรรยา!!
ในทุกๆความสัมพันธ์ ต้องมีช่วงเวลาที่เลวร้ายบ้าง แม้แต่สามีภรรยา ก็ยังมีวันที่ต้องทะเลาะกัน สิ่งที่สำคัญคือ พวกเขาจะสามารถปรับความเข้าใจกันได้เร็วขนาดไหน แต่สำหรับหนุ่มจีนคนนี้ ดูท่าทางแล้ว เขาคงจะจนด้วยเกล้าในการขอคืนดีกับภรรยาจริงๆ เขาจึงทุ่มทุนเช่าป้าย LED บนรถแท็กซี่ เขียนคำขอโทษและขอคืนดีจากภรรยา โดยหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า “A. Qiang” เขาได้เช่าป้ายโฆษณา LED บนรถแท็กซี่กว่า 1,400 คัน ในเมือง Yibin โชว์ข้อความว่า “ขอโทษนะที่รัก ให้อภัยผมเถอะนะ” ในช่วงวันเสาร์ถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา เมื่อชาวเน็ตมาได้เห็นข้อความดังกล่าว ก็ต่างตกใจในวิธีการขอคืนดีของชายคนนี้ เพราะต้องบอกว่าวิธีแบบนี้มันฮาร์ดคอร์จริงๆ โดยค่าเช่าโฆษณาแบบนี้ จะตกอยู่ที่ 10,000 หยวนหรือราว 50,000 บาทต่อวัน เมื่อรวมสามวันแล้ว ก็จะมีค่าใช้จ่ายราม 150,000 บาทเลยทีเดียว ไม่มีรายงานว่าตอนนี้เขาคืนดีกับภรรยาของเขาหรือยัง แต่เหมียวว่า ถ้าสามารถทำให้คนที่เรารักกลับมาได้ ลงทุนอีกแสนก็ยังคุ้ม ใช่มั้ยละเพื่อนๆ อิอิ ที่มา Shanghaiist
-
น่ารักอะ!! หญิงสาวอัดคลิปตัวเองคุกเข่าขอขมาแฟน หลังจากเคยโกหกกับเขาไว้
เป็นหนึ่งในคลิปน่ารักๆที่ทำเอาเหมียวถึงกับอมยิ้มรับเช้านี้เลย สำหรับคลิป “ขอขมาแฟน” คลิปนี้ถูกแผนแพร่ผ่านแชแนลยูทูบ Momoly Lymomo ไปเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา และมียอดวิวไปแล้วกว่า 5 พันครั้ง นี่เป็นคลิปวิดีโอของคู่รักคู่หนึ่ง ในขณะที่ฝ่ายหญิงกำลังคุกเข่าขอขมาฝ่ายชาย โดยหญิงสาวให้เหตุผลว่าตัวเองนั้นโกหกแฟนหนุ่มเอาไว้ เธอจึงนำพวงมาลัยเข้าไปขอขมาแฟนหนุ่ม โดยฝ่ายชายก็รับพวงมาลัยไปด้วยความเต็มใจพร้อมกับบอกว่า “เป็นเด็กดี อยู่ในโอวาทเข้าใจไหม อายุมั่นขวัญยืนนะลูก” คลิ๊กชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ไม่ว่าเธอจะทำอะไรผิดมา แต่สิ่งที่เธอพยายามทำมันก็แสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจของเธอนะ เป็นเหมียวจะให้อภัยทันทีเลย ที่มา Momoly Lymomo
-
ชาวเน็ตปลื้ม CEO นกแอร์ออกจดหมายขอโทษ 2 หมื่นฉบับด้วยตนเอง หลังเกิดเหตุขัดข้องจนเครื่องดีเลย์!!!
เหตุขัดข้องเกิดได้ขึ้นทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะบริษัทเล็กหรือบริษัทใหญ่ แต่สิ่งที่วัดความเป็นมืออาชีพ คือการรับมือกับเหตุขัดข้องเหล่านั้นและวิธีการรักษาน้ำใจของลูกค้าต่างหาก บางบริษัทอาจะอ้างเหตุผลต่างๆนา แต่บางบริษัทก็ยอมรับข้อผิดพลาดและออกมาขอโทษอย่างจริงใจ จนเราต้องออกมาชื่นชมในความแมนของพวกจริงๆ อย่างเช่นสายการบินโลวคอสต์ในประเทศชื่อดังอย่าง Nok Air นี้ ได้ออกมาขอโทษผู้โดยสารกว่า 20,000 คนที่ได้รับผลกระทบจากการที่ระบบเชคอินของสายการบินล่มเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมทีผ่านมา และที่น่าประทับใจยิ่งกว่านั้น CEO ของบริษัทอย่างคุณพาที สารสิน ได้ลงมือทำจดหมายขอโทษด้วยตนเอง เรียกได้ว่าได้ใจแฟนๆไปตามๆกัน First…All 20,000 passengers will get a written personalized apologies from Khun Patee Sarasin #nokair…That’s the first step! — จดหมายขออภัยผู้โดยสารทั้ง 20,000 คน ส่งตรงจากพี่ดุ๋งถึงผู้โดยสารทุกคนค่ะ Posted by Nok Air on 13 สิงหาคม 2015 เหมียวว่านี่แหละคือการใส่ใจลูกค้าอย่างแท้จริง แม้จะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่อย่างน้อยได้ออกมาขอโทษ…