Tag: ขั้วโลก
-
หมีขาวตามล่าจิ้งจอกอาร์กติกในถัง แม้แต่ชาวรัสเซียที่โหดสลัด ก็ยังไม่กล้าจะเข้าไปยุ่ง!!
ด้วยภาวะโลกร้อนในปัจจุบันนั้นทำให้สัตว์ในขั้วโลกหลายชนิด เริ่มที่จะได้รับผลกระทบหลายอย่าง ทั้งถิ่นที่อยู่เปลี่ยนไปและอาหารก็หายากขึ้น ซึ่งหนึ่งในสัตว์ที่ได้รับผลกระทบสูงก็คงจะหนีไม่พ้นหมีขั้วโลกอย่างแน่นอน โดยปกตินั้นหมีขั้วโลกจะกินปลาและสัตว์ต่างๆ ในน้ำเป็นอาหาร แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่กินสัตว์บนบก เพราะเมื่ออาหารขาดแคลน เหล่าจิ้งจอกหรือสัตว์เล็กต่างๆ ก็จะกลายเป็นเหยื่อของมันทันที ยิ่งล่าสุดได้มีภาพเหตุการณ์หมีขั้วโลกตัวหนึ่ง บุกรุกเข้าไปยังเขตของโรงงานผลิตแก๊ซธรรมชาติในอาร์กติกเพื่อไล่จับเหยื่อของมัน ซึ่งภาพเหตุการณ์นั้นได้ถูกบันทึกไว้โดยคนงานที่มาเปลี่ยนกะแถวนั้นพอดี โดยเจ้าหมีขั้วโลกนั้นได้ไล่จับฝูงจิ้งจอกอาร์กติก โดยเจ้าจิ้งจอกผู้โชคร้ายตัวหนึ่งได้หนีไปแอบในถังน้ำมันเปล่าเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ด้วยความที่เจ้าหมีกำลังหิวกระหาย มันจึงตัดสินใจมุดเข้าไปในถังเพื่อใช้ปากและมือของมันจับจิ้งจอกผู้โชคร้ายออกมา และแน่นอนว่าจิ้งจอกตัวเล็กหรือจะสู้กับหมีตัวใหญ่อันแสนดุร้าย จนสุดท้ายเจ้าหมีก็ประสบความสำเร็จในการจับเหยื่อ นอกจากจิ้งจอกอาร์กติกตัวที่ถูกจับไปแล้ว รอบๆ ยังมีฝูงจิ้งจอกที่ทำได้แค่มองเพื่อนของมันถูกจับไปเพราะมิอาจจะเข้าไปช่วยเหลืออะไรจากพี่หมีสุดโหดที่กำลังหิวโหยได้ ทางด้านคนงานที่ถ่ายภาพก็บอกว่า พวกเขามิอาจจะเข้าไปช่วยเหลือจิ้งจอกอาร์กติกได้ แม้พวกเขาจะรู้ว่าจิ้งจอกพวกนั้นจะเป็นสัตว์หายากก็ตาม เพราะหมีขั้วโลกนั้นขึ้นชื่อเรื่องความโหดเป็นทุนเดิม ถ้าเข้าไปยุ่งนั่นอาจจะหมายถึงจุดจบของพวกเขาเช่นกัน สุดท้ายแล้วคนงานคนหนึ่งในคลิปก็ได้พูดว่า “คลิปนี้โหดมาก จะโชว์ให้เด็กๆ ดูไม่ได้เด็ดขาด” ที่มา siberiantimes
-
Tundra Lodge Rolling Hotel โรงแรมเคลื่อนที่ในดินแดนแห่งฝัน พร้อมหมีมาแวะทักทายไล่ล่าแสงเหนือ
เชื่อแน่ๆ ว่าดินแดนในเขตหนาวนั้นถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่ชื่นชอบอากาศเย็นๆ และความสวยงามของแสงแดดที่กระทบกับสีขาวของหิมะอย่างแน่นอน และคงจะดีไม่น้อยถ้าหากว่าคุณได้ท่องไปทั่วดินแดนหิมะเหล่านั้น พร้อมกับมีเจ้าถิ่นอย่างน้องหมีขาว ออกมาทักทายคุณในตอนเช้าๆ เหมือนกับการพักที่โรงแรมเคลื่อนที่ Tundra Lodge Rolling Hotel แห่งนี้!! กินข้าวกันรึยังครับบบ!? ภายในโรงแรมเคลื่อนที่จากประเทศแคนาดาแห่งนี้ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศที่เปลี่ยนไปในทุกๆ เช้า นอกจากนี้คุณยังได้พบกับพวกสัตว์ท้องถิ่นมากมายที่ออกมาทักทายคุณระหว่างการเดินทางอีกด้วย The Tundra Lodge Rolling Hotel นั้นมีห้องพักทั้งหมด 32 ห้อง รวมถึงห้องโถงขนาดใหญ่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมหมีขาวแบบใกล้ชิดอีกด้วย แต่สำหรับใครที่อยากพบปะทักทายกับเจ้าหมีแบบใกล้ชิด ก็สามารถออกมาดูพวกมันใกล้ๆ ด้านนนอกได้เช่นกัน คุณ Steve Dobson ได้ระบุรายละเอียดของโรงแรมเห่งนี้ไว้ในเว็บไซต์ว่า “คุณสามารถสัมผัสกับความสวยงามของที่นี่ไม่ว่าจะเป็นพวกหมีขาว หรือบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้จากหน้าต่างห้องนอนส่วนตัว หรือหลังคาที่สามารถเปิดปิดได้” และอีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับทริปนี้ก็คือการล่าแสงเหนือนั่นเอง . และสำหรับใครที่อยากจะลองสัมผัสความสวยงามของดินแดนหิมะ และทักทายกับเหล่าหมีขาวล่ะก็ ราคาของทริป 7 วันนั้นอยู่ที่ประมาณ 250,000 บาทเท่านั้นเอง!! แค่นี้ชาวเหมียวขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ที่มา dailymail
-
คลิปวิดีโอสั้นๆ ที่แสดงให้มนุษย์เราเห็นถึงภัยของ “ภาวะโลกร้อน” ได้อย่างน่าเศร้าใจ…
ปัญหาโลกร้อนหนึ่งในปัญหาที่กำลังลุกลามอย่างหนัก และกำลังส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิของโลก แต่นอกจากผลกระทบต่อพวกเราชาวโลกแล้ว ปัญหาดังกล่าวเองก็ยังส่งผลกระทบโดยตรงกับสัตว์ขั้วโลกอย่างพวกหมีขาวอีกด้วย คุณ Paul Nicklen ช่างภาพประจำของ National Geographic ร่วมกับทีมถ่ายภาพยนตร์จาก Sea Legacy ได้ถ่ายทอดเรื่องราวอันแสนเศร้าของเจ้าหมีขาวตัวหนึ่งจากเกาะ Baffin Islands ประเทศแคนาดา ที่กำลังพยายามเอาชีวิตรอดด้วยการหาเศษซากสัตว์จากถังขยะ เจ้าหมีตัวผอมพยายามหาเศษอาหารเพื่อให้มีชีวิตรอด เนื่องจากสภาวะโลกร้อนทำให้แหล่งอาหารของมันลดลงอย่างมาก คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ช่างภาพหนุ่มของเราให้สัมภาษณ์ว่าเขาบันทึกภาพของเจ้าหมีตัวนั้นด้วยความเศร้าและมันช่างเป็นภาพที่น่าหดหู่ใจอย่างมาก “พวกเรารู้สึกหดหู่ใจมาก เราบันทึกภาพของมันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา” คุณ Nicklen กล่าว นอกจากสภาพอันแสนน่าหดหู่ของเจ้าหมีที่ผอมเหลือแต่กระดูกแล้ว ในคลิปวิดีโอยังเผยให้เห็นถึงท่าเดินที่แปลกๆ ของมันเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ขาหน้าอีกด้วย เจ้าหมีกำลังคุ้ยหาเศษอาหารจากถังขยะที่ชาวเอสกิโมท้องถิ่นทิ้งเอาไว้ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่กำลังส่งผลกระทบต่อโลกของเรา และภาพของเจ้าหมีจากแคนาดาตัวนี้คงจะบอกเราเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกนี้จากฝีมือของพวกเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ช่างภาพหนุ่มยังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า เขาต้องการที่จะสื่อให้ทุกคนเห็นถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกของเรา และมันก็เป็นการทำใจลำบากไม่น้อยที่ต้องยืนถ่ายภาพอันแสนหดหู่นี้อยู่เฉยๆ โดยที่ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้ “การที่เราโยนอาหารให้กับมันก็เป็นเพียงแค่การยื้อความทุกข์ให้พวกหมีเท่านั้น และนอกจากนี้การเลี้ยงหมีขาวก็ยังถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในแคนาดาอีกด้วย” ช่างภาพหนุ่มกล่าว และนี่คือคลิปวิดีโอที่จะสื่อให้เราเห็นถึงผลกระทบจากการละเลยเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่มา nationalgeographic
-
“หมีที่เศร้าที่สุดในโลก” ลาโลกด้วยวัย 30 หลังอยู่ตัวเดียวในสวนสัตว์นาน 22 ปี!!
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่สวนสัตว์ Mendoza Zoological Park ในประเทศอาร์เจนติน่าได้เกิดการศูนย์เสียครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อ Arturo หมีขั้วโลกที่อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้เป็นเวลากว่า 22 ปีได้ตายจากไปด้วยวัย 30 ปี หลังจากอยู่ที่นี่คนเดียวมานาน การที่มันอยู่ที่นี่ทำให้มันมีอาการแปลกๆ พฤติกรรมของมันไม่เหมือนกับหมีขั้วโลกทั่วไป มันมีความเครียดสะสมจนทำให้มันแสดงออกเหมือนกับว่าเป็นบ้า หลายคนพยายามที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือชีวิตมันโดยการเอาไปเลี้ยงที่อื่น เพราะอาร์เจนติน่าไม่ใช่ที่สำหรับหมีขั้วโลก แต่ทางสวนสัตว์ก็ไม่ยอมอนุมัติให้มันไป จนสุดท้ายมันก็จากโลกนี่ไป ไม่น่าเชื่อว่าอิสระภาพก็คือการตายของมันเอง “มันใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในสวนสัตว์แห่งนี้ ด้วยสภาพแวดล้อมทำให้มันเครียดและผู้คนก็ไม่ได้ใจดีกับมันเหมือนกับว่ามันไม่ใช่สัตว์” “เพราะร่างกายของหมีขั้วโลกออกแบบมาเพื่อรับสภาพกับหิมะ แต่ที่นี่มันไม่ใช่เลย มันมาไกลจากถิ่นดั้งเดิมของมันเป็นอย่างมาก” Barry MacKay เล่าอีกว่าเขาเคยจะพามันย้ายไปที่สวนสัตว์แคนาดา แต่ก็ไม่สำเร็จ มันใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จนได้ชื่อว่า “หมีขั้วโลกที่เศร้าที่สุดในโลก” ในวาระสุดท้ายของมัน อย่างน้อยก็น่าจะให้มันได้ไปอยู่ที่ที่มันควรจะอยู่ แต่ตอนนี้มันก็ได้รับอิสระแล้ว.. ชมเรื่องราวของมันจากในคลิปนี้ได้เลย ต้องบรรยายอะไรอีกไหม… ไม่ต้องละมั้ง บางทีความเงียบสัก 1-2 นาที แล้วคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ น่าจะให้เราได้คำตอบอะไรเยอะเลยทีเดียว ที่มา boredpanda
-
อุบ๊ะ กำเนิดใหม่!! นักวิทย์สามารถชุบชีวิต ‘ทาร์ดิกราดา’ สัตว์ที่ถูกแช่แข็งนานกว่า 30 ปีได้แล้ว
ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ เมื่อนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัยแถบขั้วโลกแห่งชาติญี่ปุ่นสามารถชุบชีวิตให้กับสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่ชื่อว่า ‘ทาร์ดิกราดา’ ให้กลับมาได้ โดยทำการเก็บมันมาจากทวิปแอนตาร์กติกา สิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วนี้ รู้จักกันในอีกชื่อว่า ‘หมีน้ำ’ เป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในน้ำ โดยมีขนาดตัวที่เล็กมาก ความยาวขนาดตัวน้อยกว่า 1 มิลลิเมตร และอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความหนาวรุนแรงมากซะด้วย ทาร์ดิกราดา หรือ หมีน้ำ ความสามารถพิเศษของพวกมันก็คือสามารถสั่งให้ระบบร่างกายทำงานให้ช้าลงหรือหยุดทำงานไปเลยก็ได้ (จำศีล) เพื่อช่วยยืดระยะเวลาชีวิตออกไปอีกได้เป็นเวลานาน อ้างอิงการวิจัยที่ตีพิมพ์ใน นิตยสาร Cryobiology เจ้าหมีน้ำตัวน้อยถูกค้นพบอยู่ในพืชมอสในทวีปแอนตาร์กติกาในปีค.ศ. 1983 และถูกนำมาเก็บเป็นตัวอย่างด้วยอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส และถูกชุบชีวิตขึ้นมาได้อีกครั้งในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 ทั้งไข่และเจ้าหมีน้ำที่เก็บมาถูกชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง มันสามารถเคลื่อนไหวและกินอาหารตามปกติ อีกทั้งยังวางไข่ 19 ฟอง ซึ่งฟักออกมาเป็นตัวได้สำเร็จ 14 ฟอง และไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ทั้งสิ้นกับเจ้าหมีน้ำน้อยเกิดใหม่ด้วย สำหรับการชุบชีวิตหมีน้ำในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในรอบ 30 ปีกันเลยทีเดียว และไม่น่าเชื่อว่ามันยังสามารถใช้ชีวิตต่อได้หลังจากที่ถูกแช่แข็งมาเป็นระยะเวลานานขนาดนี้ ที่มา…
-
NASA เผยงานวิจัยใหม่ น้ำแข็งขั้วโลกใต้ไม่ได้กำลัง “ลดลง” แต่กำลัง “เพิ่มขึ้น”!!
หลายคนอาจได้ยินมาว่า เนื่องจากภาวะโลกร้อน ทำให้น้ำแข็งบนขั้วโลกเหนือละลายทุกปี และนั่นทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเรื่อยๆ จะอาจกลืนกินพื้นที่ชายฝั่งในปัจจุบันไปจนหมด แต่วันนี้ทางนาซ่าได้เปิดเผยงานวิจัย ที่บอกว่า น้ำแข็งขั้วโลกไม่ได้ลดลง แต่เพิ่มขึ้นทุกปีต่างหาก!! งานวิจัยชิ้นนี้ไม่ได้ออกมาโต้แย้งว่า น้ำแข็งขั้วโลกไม่ได้ละลายลงอย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาบอกว่า หิมะที่ตกในช่วง 10,000 ปีที่ผ่านมา ทำให้แผ่นน้ำแข็งในขั้วโลกใต้มีขนาดใหญ่ขึ้น นาซ่าได้ใช้ดาวเทียววิเคราะห์ความหนาของแผ่นน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ พวกเขากล่าวว่า ในช่วงปี 1992 ถึง 2001 แต่ละปีมีน้ำแข็งเพิ่มขึ้น 112 ล้านตัว แต่พอมาถึงช่วงปี 2003 ถึง 2008 อัตราการเพิ่มขึ้นเหลือเพียง 92 ล้านตันต่อปี งานวิจัยครั้งนี้ขัดกับรายงานของ คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เมื่อปี 2013 ว่า การละลายของขั้วโลกใต้ ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง 0.27 มิลลิเมตรในแต่ละปี ข่าวดีก็คือ ขั้วโลกใต้ไม่ได้ทำระดับน้ำทะเลสูงขึ้น แต่ว่ามันช่วยให้ลดลง 0.23 มิลลิเมตรต่อปีต่างหาก มีข่าวดีก็ต้องมีข่าวร้าย …