Tag: ขายของ

  • พนักงายขายกระเป๋าในฟิลิปปินส์ “เล่นใหญ่” สุดฮา ฉีกแข้งขา ชาวเน็ตพากันชื่นชอบ!!

    พนักงายขายกระเป๋าในฟิลิปปินส์ “เล่นใหญ่” สุดฮา ฉีกแข้งขา ชาวเน็ตพากันชื่นชอบ!!

    ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร อาชีพไหนๆ หากคุณรักและสนุกกับงานที่คุณทำแล้วล่ะก็ รับรองว่ามันต้องไปได้ดีอย่างแน่นอน…   ตัวอย่างของคนที่สนุกกับงานนั้นก็มีให้เห็นกันมากมายบนโลกอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงวันนี้ก็เช่นกัน พนักงานขายกระเป๋าเดินทางคนหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ได้กลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วเพียงเพราะวิธีการขายของของเขานั่นเอง     เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมาเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Brew Alcazar ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ ขณะที่เขาเข้าไปซื้อกระเป๋าเดินทางที่ห้างสรรพสินค้า SM City Lipa ในจังหวัดบาตังกัส ประเทศฟิลิปปินส์ ภายในคลิป Brew ได้เจอกับบุคคลที่มีถูกขนานนามว่า “พนักงานขายที่เล่นใหญ่ที่สุด” ณ ห้างสรรพสินค้าดังกล่าว พนักงานชายคนนี้ก็ทำการแนะนำสินค้าและโฆษณาถึงเหตุผลที่ลูกค้าควรเลือกซื้อกระเป๋าใบนี้   “มันไม่ใช่แค่ราคาถูก แต่มันยังทนทาน แสนนานแม้จะหมดประกันไปแล้วก็ตาม” “ใบนี้ทำจากวัสดุคุณภาพเยี่ยม จะเห็นได้จากล้อของมัน ตัวนี้ทำได้ดีมาก ล้อใหญ่”    ลีลาการพูดขายของน่ะไม่เท่าไหร่ สิ่งที่ทำให้ลูกค้าถึงกับตะลึงก็คือท่าทดสอบความแข็งแกร่งของกระเป๋านี่แหละ พูดๆ ไปมา ว่าแล้วพนักงานขายนายนี้ก็กระโดดฟาดกระเป๋าลงพื้นพร้อมฉีกขาแบบสวยๆ ผลปรากฏว่ากระเป๋าไม่มีแม้รอยขีดข่วน ไม่บุบสลาย มีเพียงสิ่งเดียวที่ลูกค้าและผู้ชมได้รับก็คือ ความอุทิศตนที่พนักงานขายรายนี้มีให้กับงานของเขา ดูเขาตั้งใจทำงานมากจริงๆ แถมสนุกสนานอีกด้วย ปัจจุบันคลิปวิดีโอนี้มียอดผู้เข้าชมไปแล้วกว่า 1.6 ล้านครั้ง แถมมียอดไลก์กว่า 12,000 ครั้งเลยทีเดียว…

  • หนุ่มไต้หวันถ่ายภาพขายไมโครเวฟ แต่ฝาเตาอบดั๊นสะท้อน “หรรม” ออกมาซะงั้น!!

    หนุ่มไต้หวันถ่ายภาพขายไมโครเวฟ แต่ฝาเตาอบดั๊นสะท้อน “หรรม” ออกมาซะงั้น!!

    การขายของออนไลน์นั้นเป็นที่นิยมกันอย่างมากเนื่องจากสามารถทำได้ง่าย สะดวก และเข้าถึงผู้คนได้เป็นจำนวนมาก เราอยากขายสินค้าอะไรก็เพียงแค่ถ่ายภาพแล้วอัปโหลดลงบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ข้อควรระวังก็คือ การถ่ายภาพสินค้านั้นต้องถ่ายให้สินค้าน่าสนใจ ดูน่าซื้อ และพยายามอย่าถ่ายให้ติดภาพไม่พึงประสงค์ เพราะมันอาจแย่งซีนสินค้าคุณก็เป็นได้… แต่เตือนไปก็คงไม่ทันแล้วสำหรับไอ้หนุ่มคนนี้ ที่ต้องการจะขายไมโครเวฟชิ้นใหม่เงาวับ! เงาจนกระทั่งเมื่อถ่ายรูปสินค้าเพื่ออัปลงอินเทอร์เน็ตมันกลับ สะท้อนภาพเปลือยล่อนจ้อนของพี่แกมาด้วย!!   ขายไมโครเวฟชิ้นใหม่เงาวับจ้าาา…   เห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมเอ็งต้องถ่ายมันมาตอนแก้ผ้าอยู่ด้วยฟระ!? งานนี้แทนที่ชาวเน็ตจะสนใจไมโครเวฟกลับกลายเป็นว่าหันมาสนใจ “บักหรรมขลำโอ้ก” ของพี่แกกันยกน้อยยกใหญ่เลย… ชายคนนี้ตั้งใจจะขายเตาอบไมโครเวฟชิ้นนี้ในราคา 2,800 ไต้หวันดอลลาร์ (ราว 3,000 บาท) ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าตอนนี้เตาอบไมโครเวฟชิ้นนี้ถูกขายออกไปหรือยัง   ไหนดูอีกทีซิ อื้อหืม ชัดราวกับส่องกระจก   หลังจากภาพนี้ได้กลายเป็นไวรัลของโลกอินเทอร์เน็ตไต้หวัน คนก็เข้ามาคอมเมนต์ให้ความสนใจกันมากมายที่เดียว เช่น… “แหม ช่างเป็นเตาอบที่ฝาปิดใสสะอาดดีจริงๆ” “สินค้าชินนี้มีโฆษณาแฝงด้วยแฮะ” “กรุณาอย่านำภาพไปเพิ่มแสงหากไม่อยากเห็นภาพอันตราย” “ฉันเห็นแล้วฉันอยากซื้อทันทีเลยล่ะ” “นี่มันไมโครเวฟสำหรับอบสาวๆ ให้ไหม้เกรียมหรือเปล่า?” และ “คิดว่าแม่ยกแม่หม้ายทั้งหลายคงมีความต้องการซื้อเตาอบชิ้นนี้ และอาจมีความต้องการ…”   ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ สินค้าที่ถูกขายออกไปจะเป็นเตาอบหรือว่าตัวเจ้าของร่างเปลือยนั้นกันแน่ ฮ่าๆ (หยอกกกกก) ที่มา: metro และ ck101

  • ลูกค้าซื้อ ‘ทุเรียนเละ’ ขอเอาไปเปลี่ยนคืนที่ร้าน เจอพ่อค้าด่า-เอาทุเรียนปาหน้า

    ลูกค้าซื้อ ‘ทุเรียนเละ’ ขอเอาไปเปลี่ยนคืนที่ร้าน เจอพ่อค้าด่า-เอาทุเรียนปาหน้า

    ช่วงนี้ต้องขอบอกเลยว่าเป็นช่วย ‘ทุเรียนฟีเวอร์’ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ทุเรียน ทุเรียน และทุเรียนเต็มไปหมด สำหรับแฟนๆ ทุเรียนใครเล่าจะไปอดใจไหว ก็ต้องซื้อมากินมันให้หายอยากกันไปข้างนึงล่ะนะ เช่นเดียวกันกับชาวเน็ตที่ชื่อว่า Bella Thepsatar ที่ได้ไปซื้อทุเรียนจากร้านแห่งหนึ่งแล้วพบว่ามันเละ เธอก็เลยไปขอเปลี่ยนแต่กลับกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้น     เธอได้อัดคลิปวิดีโอไว้และนำไปโพสต์ในกลุ่ม พัทยาทอล์ค พร้อมกับแคปชั่นว่า “#ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะไม่ได้อยากจะไปมีเรื่อง คือเราไปซื้อทุเรียนร้านนี้ 2 ครั้งแล้ว ไม่มีปัญหา แต่ครั้งนี้มันเละจนติดกระดาษที่ห่อทุเรียนแล้วมีน้ำเยิ้มออกมา ส่วนพูที่กินได้เราก็เก็บไว้ที่บ้านเอาแค่พูที่เสียไปที่ร้าน เราไม่คิดหรอกว่าจะไปแล้วมีเรื่อง เลยไม่ได้ถ่ายก่อนที่เค้าจะเอากำปั้นทุบเละ แล้วเค้าบอกว่าก็มึงเอานิ้วจิ้มมันมันก็เละซิ เราพยายามไม่กูไม่มึงนะ เค้าเงื้อมือจะตบเราเราถามพี่จะทำอะไรหนู เหตุการณ์มันไวมาก #เหตุการตามคลิปเลยค่ะ #ซื้อทุเรียนดูที่ร้านเลยนะคะเพราะเอาออกไปแล้วกลับมาจะเป็นแบบนี้ #เราซื้อไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพอรุ้ว่าเสียเรารีบเอากลับมาเปลี่ยน #ไม่น่ามาทำร้ายร่างกายกัน #แค่มาเตือนใครที่คิดจะซื้อทุเรียน ควรเลือกร้าน”     สามารถเข้าไปชมคลิปเหตุการณ์ได้ที่นี่   ในคลิปเหตุการณ์เริ่มจากเจ้าของโพสต์ไปขอเปลี่ยนทุเรียนเพราะที่ซื้อไปมันเละและกินไม่ได้ แต่เหมือนกับว่าเจ้าของร้านคนหนึ่งที่เป็นผู้ชายเกิดความไม่พอใจ และเอาทุเรียนปาเข้าที่หน้าของเจ้าของคลิป     ทางพนักงานคนอื่นๆ ก็เข้ามาห้าม จนสุดท้ายก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเอาทุเรียนใหม่มาให้ พร้อมกับอธิบายว่าชายคนดังกล่าวเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาเถียง และบอกให้เจ้าของโพสต์กลับไป     ชาวเน็ตพอได้เห็นเรื่องราวดังกล่าวก็ให้ความเห็นกันไปต่างๆ นาๆ โดยส่วนใหญ่แล้วจะตำหนิชายในคลิปว่ากระทำเกินกว่าเหตุ และเห็นใจเจ้าของโพสต์   ชาวเน็ตรายหนึ่งกล่าวว่า…

  • พบกับ ‘Gildong’ ผู้ช่วยสุดน่ารักจากร้านขายของสัตว์เลี้ยง ที่ลูกค้าทุกคนหลงรัก

    พบกับ ‘Gildong’ ผู้ช่วยสุดน่ารักจากร้านขายของสัตว์เลี้ยง ที่ลูกค้าทุกคนหลงรัก

    เพื่อนๆ คิดว่าหมาที่เก่งควรทำอะไรได้บ้างครับ จริงๆ แค่มันคาบกิ่งไม้เป็น นั่งรอเราตามที่บอกได้ หรือตามเสียงเรียกได้แค่นั้นก็น่าจะเก่งแล้ว ทว่าเจ้า Gildong เก่งขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง มันช่วยงานที่ร้านขายของได้ด้วย ตั้งแต่เข้าไปต้อนรับลูกค้า ช่วยรับเงินทอนเงิน และช่วยเติมพลังใจได้ด้วย นี่สิน่าจะเรียกว่าเก่งของจริง   ในร้านขายของเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่ง มีเจ้าของร้านสาวน่ารัก   และก็ยังมีผู้ช่วยแสนน่ารักอยู่อีกหนึ่งตัว   ก็คือเจ้าหมาพันธุ์ค็อกเกอร์ สแปเนียล Gildong   เมื่อไหร่ก็ตามที่มีลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน แล้วหยิบสินค้าไปจ่ายเงิน   เจ้า Gildong ก็จะเข้ามาทำหน้าที่ทันที   โดยมารับเงินจากลูกค้าไปนั่นเอง   ไม่ว่าลูกค้าคนไหนก็ตามหยิบเงินออกมาให้   เจ้าหมาก็จะเดินมารอโดยไม่ต้องเรียกให้เหนื่อย   แถมมันยังเอาเงินทอนไปให้ลูกค้าได้อีกต่างหาก เก่งจริงๆ   มันไม่เคยอู้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แค่ลูกค้าเข้าประตูร้านมาก็ออกมาจากกรงแล้ว   หน้าที่ของมันก็มีเพียงแค่การเอาเงินไปให้เจ้าของร้าน   แล้วก็หยิบเงินทอนที่เจ้าของร้านเตรียมไว้ให้ไปคืนแค่นั้นแหละ   ส่วนค่าจ้างของมันก็จะเป็นขนมยังไงล่ะ แค่ได้กินก็มีความสุขมากแล้ว   เจ้าของร้านยังชมอีกว่าตั้งแต่มีเจ้า Gildong มาอยู่ด้วยก็ทำให้ลูกค้ามาที่ร้านมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย แถมยังสร้างรอยยิ้มให้เธอและลูกค้าทุกคนด้วย  …

  • (อัพเดต) เมื่อแม่ไม่ให้เงินไปเปย์โฟโต้เซต โอตะรุ่นใหม่ปั่นจักรยานขายผัก หาเงินเปย์เอง!!

    (อัพเดต) เมื่อแม่ไม่ให้เงินไปเปย์โฟโต้เซต โอตะรุ่นใหม่ปั่นจักรยานขายผัก หาเงินเปย์เอง!!

    การจะใช้เงินเพื่อซื้ออะไรบางอย่างนั้น จะมาพร้อมกับเหตุผลทางด้านความคุ้มค่า การนำมาใช้งานให้เกิดประโยชน์ และบางสิ่งบางอย่างไม่สามารถนำไปใช้แบบนั้นได้ แต่สามารถช่วยทำให้มีความสุขได้!? เอ๊ะ… มันคือยังไงกัน? #เหมียวเลเซอร์ ได้พบกับเรื่องราวดีๆ อันควรจะเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนในวัยเรียน เมื่อน้อง Phacharaphon Charoenlaew ได้ทำการโพสต์เรื่องราวของตนเองลงในกลุ่ม BNK48 Thai Fan เกี่ยวกับวิธีการเป็นแฟนคลับที่สามารถยืนหยัดด้วยตัวเอง     ตามโพสต์เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2561 ระบุไว้ว่า “เเม่ไม่ให้เงินก็ต้องหาเองครับ555 ใครลงรถไฟฟ้าจะเจอผมบ่อย เเม่บอกอยากเปย์ BnK เหรอ ก็หาตังเอง5555 เจอผมได้ที่ BTS บางหว้า เพจของผม V.E.C Vegetable Earthworm Crayfish (ค่อยไปเก็บไปที่ละใบ)”     จากภาพประกอบในโพสต์จะเห็นได้ว่า น้องทำการปั่นจักรยานมาขายผักและต้นอ่อนตามสถานที่ต่างๆ มีการดูแลพืชผลและผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดี และที่สำคัญที่สุดก็คือภาพของ “เปี่ยม” ในชุดโฟโต้เซตคุ้กกี้เสี่ยงทาย กำลังใจและแรงผลักดันชั้นยอดของน้อง!!     ชาวโอตะแฟนคลับภายในกลุ่มต่างก็ชื่นชมยินดี และพร้อมที่จะสนับสนุน เพื่อให้น้องสามารถนำเงินรายได้ส่วนนี้ไปซื้อโฟโตเซตต่างๆ ตามที่ตั้งใจเอาไว้…

  • การโฆษณาสินค้า เอาภาพดาราดังทั้งไทย-นอก มาตัดต่อแบบ ‘เนียนกริ๊บ’ มันน่าเชื่อมั้ยเนี่ย!!

    การโฆษณาสินค้า เอาภาพดาราดังทั้งไทย-นอก มาตัดต่อแบบ ‘เนียนกริ๊บ’ มันน่าเชื่อมั้ยเนี่ย!!

    การโฆษณาสินค้าในยุคปัจจุบันนิยมใช้พรีเซนเตอร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาประกอบการโฆษณาเพื่อทำให้สินค้าดูมีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ส่วนมากก็จะใช้ดารานักแสดงในการเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา แต่การจ้างดารานักแสดงคนหนึ่งให้มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้ามีราคาค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แต่ถ้าเทียบกับความคุ้มที่จะสามารถขายสินค้านั้นได้ หลายๆ แบรนด์ต่างก็เต็มใจที่จะจ่ายเงินที่ว่าเพื่อยอดขายสินค้า แต่เมื่อไม่นานมานี้เอง #เหมียวบู้บี้ บังเอิญไปเจอสินค้าแบรนด์หนึ่งที่กำลังโปรโมทสินค้าของตัวเองด้วยการนำภาพดาราดังของไทยคนหนึ่งมาตัดต่อ ประหนึ่งว่าดาราท่านนั้นใช้สินค้าของตัวเองเลยนะเนี่ย   การตัดต่อไทอินสินค้าตัวเองแบบเนี๊ยนนนน เนียน จนใครก็จับไม่ได้ของเว็บไซต์ขายสินค้าเว็บนี้   ภาพจริง   ใช้ภาพงานแต่งงานของดาราสาวมาโปรโมทแบบเนียนๆ   เอ่ยอ้างสรรพคุณว่าเพราะดาราสาวใส่สินค้าของตนจึงทำให้ได้แต่งงานกับสามีหล่อๆ   เนียนมากจ้า ดูไม่ออกเลยนะเนี่ยยย แถมราคาก็แพ๊งงแพง ล่อไปตั้ง 1,500 บาทไทย   ภาพจริง .   ใช้ภาพในงานแต่งบอกว่าดาราสาวสวมสินค้าของตัวเองอยู่ตลอด .   ซึ่งความเป็นจริงแล้วอาศัยการตัดต่อด้วย Photoshop   ดาราชายก็หนีไม่พ้นนะจ๊ะ  โคตรเนียน (หรออออออ?)   ระดับป๋า Leonardo DiCaprio ก็ยังต้องใส่สินค้าของเขาอ่ะคิดดู ฮ่าๆ   จากการสังเกตเบื้องต้น เว็บไซต์นี้อาจจะไม่ได้จัดทำโดยคนไทย เพราะลักษณะการใช้ภาษานั้นออกจะดูสับสนนิดหน่อย แต่การนำรูปของคนอื่นมาใช้เพื่อการโฆษณาแบบนี้มันผิดกฎหมาย ระวังโดนฟ้องโดยไม่รู้ตัวเด้อ   ที่มา fvbmc

  • ไอเดีย “รูปปั้นแมวเหมียวบเสมือนจริง” ซื้อไปเป็นของขวัญให้เจ้านายของคุณสิ รับรองจะติดใจ

    ไอเดีย “รูปปั้นแมวเหมียวบเสมือนจริง” ซื้อไปเป็นของขวัญให้เจ้านายของคุณสิ รับรองจะติดใจ

    พบผลงานรูปปั้นแมวเสมือนจริงสุดน่ารักของศิลปินสาวคนหนึ่ง ที่เกิดเธอได้รับแรงบันดาลใจจากความคิดถึงแมวของเธอ “ถ้ามีอะไรที่ฉันทำได้ ฉันก็อยากจะสร้างรูปปั้นให้กับพวกเธอ” Elise ศิลปินสาวชาวไต้หวันที่วันหนึ่งเธอได้รับเลี้ยงแมวมาสองตัว ซึ่งในวันนั้นเธอไม่รู้เลยว่าเจ้าเหมียวทั้งสองจะเป็นตัวแปรที่มาเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล     Dohu และ Duchee คือชื่อเจ้าเหมียวทั้งสองตัวของ Elise เธอว่าอยากจะทำอะไรสักอย่างเป็นของขวัญให้แมวทั้งสองของเธอในวันคล้ายเกิด 8 ขวบของพวกมัน โปรเจคต์นี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2015 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิด เธอจึงจัดการเริ่มปั้นรูปปั้นแมวของเธอขึ้นมา ซึ่งมันออกมาดูดีมากๆ จนเธอรู้สึกว่าเธอน่าจะขยายจนเป็นธุรกิจให้กับตัวเองได้   . . . .   ด้วยเหตุนี้ D’Cat Statue จึงถือกำเนิดขึ้น โดยตัว D หน้าชื่อก็มาจากชื่อแมวทั้งสองของเธอ เธอบอกว่าการจะทำรูปปั้นแมวแต่ละตัวนั้น เธอจะต้องใช้เวลาราว 30 วันต่อหนึ่งตัว สาเหตุที่มันนานเพราะเธอทำเองด้วยมือและใส่ใจในรายละเอียดอย่างเต็มที่ และรูปปั้นที่เธอทำก็จะไม่มีทางซ้ำกันอย่างแน่นอน   . . . . . . . . . . .…

  • 5 วิธีการเอาตัวรอดของแบรนด์ธุรกิจ จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบของเฟซบุ๊กในปี 2018

    5 วิธีการเอาตัวรอดของแบรนด์ธุรกิจ จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบของเฟซบุ๊กในปี 2018

    จากกรณีที่พี่ Mark Zuckerberg เจ้าของเฟซบุ๊กได้ทำการปรับเปลี่ยนระบบการแสดงผลที่หน้านิวส์ฟีด ให้มีการโชว์คอนเทนต์หรือโฆษณาของแบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ ให้แสดงผลน้อยลง ส่งผลให้โอกาสในการหาลูกค้าหน้าใหม่ๆ ลดลงไปเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่ามันจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากมาย เพราะส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ใช้เฟซบุ๊กเป็นพื้นที่ในการทำโฆษณาแทบทั้งสิ้น!! แล้วเราจะมีวิธีอยู่รอดได้อย่างไร!? หากสูญเสียพื้นที่ในการโฆษณาและหาลูกค้า วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมคำแนะนำจากบทความของเว็บไซต์ Socialmediatoday กันครับ   ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าที่พี่ Mark เค้าทำไป จริงๆ ก็เป็นการรับมือกับปัญหาที่เฟซบุ๊กได้เผชิญมายาวนานหลายปี   ซึ่งปัญหานั้นก็คือเหล่าคอนเทนต์ด้อยคุณภาพจากแบรนด์ต่างๆ อย่างเช่น Click Bait หรือการ Engagement Baiting (การเรียกร้องให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมโดยการให้กดไลก์กดแชร์) และเมื่อมองในมุมนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่เหล่าแบรนด์ต่างๆ จะหันมาพัฒนาคอนเทนต์การโฆษณา หรือวิธีการหารายได้ด้วยวิธีที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้มีความเห็นจากนาย James Whatley ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของบริษัท Ogilvy UK ก็ได้ออกมาให้ความเห็นว่า “หากคุณเป็นสำนักพิมพ์หรือทำคอนเทนต์โฆษณาที่ผลิตแต่ผลงานดีๆ น่าสนใจและมีคุณภาพอยู่แล้ว ขอบอกเลยว่านี่คือโอกาสทองของพวกคุณ” ฉะนั้นการปรับเปลี่ยนอัลกอริทึ่มของเฟซบุ๊กไม่ได้เป็นจุดจบทุกอย่างของโลกใบนี้ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ หรือเล็กแค่ไหนก็ตาม เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เคยเกิดขึ้น!! นั่นหมายความว่า เราจะต้องปรับตัวไปตามการเปลี่ยนแปลงที่เฟซบุ๊กได้วางเป้าหมายเอาไว้ ถ้าหากคุณยังใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นพื้นที่หลักในการเข้าถึงลูกค้าอยู่ล่ะก็นะ…   แล้วเราจะต้องทำอะไรกันบ้าง!?   เป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยากลำบากมากๆ เพราะคุณจะยอมทิ้งเฟซบุ๊กที่มียูสเซอร์มากถึง 2 พันล้านยูสเซอร์ไปเหรอ?…

  • บริษัทเซ็กส์ทอย ที่คุณสามารถสั่งทำเซ็กส์ทอยแล้วใส่หน้า “คนรัก” แบบ 3D ได้ด้วย!?

    บริษัทเซ็กส์ทอย ที่คุณสามารถสั่งทำเซ็กส์ทอยแล้วใส่หน้า “คนรัก” แบบ 3D ได้ด้วย!?

    การใช้แค่เซ็กส์ทอยหรือใช้จินตนาการอย่างเดียวนั้นอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไปสำหรับหญิงสาวขี้เหงา เพราะบางครั้งมันอาจจะเข้าไม่ถึงอารมณ์ถ้าไม่ได้เห็นหน้าของคู่รักของตัวเอง ด้วยเหตุนี้ The Wobbling Willy บริษัทสัญชาติสวีเดนจึงคิดค้นเซ็กส์ทอยที่มีออฟชั่นเสริมสุดแปลกขึ้นมา โดยการผลิตโมเดลหน้าคนแบบ 3 มิติออกมา จากนั้นพวกเขาก็นำหน้าคนดังกล่าวไปติดไว้กับเซ็กส์ทอยเพื่อเสริมสร้างจินตนาการในการช่วยตัวเองให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น!!     ในส่วนของขั้นตอนการสั่งทำนั้นง่ายมากๆ โดยลูกค้าก็เพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์ของบริษัท จากนั้นก็หาภาพของคนที่เราต้องการมาทำเป็นหน้า 3 มิติ ซึ่งภาพที่ใช้จะต้องเป็นภาพทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้างเพื่อความชัดเจนในการสร้างโมเดล 3 มิตินั่นเอง   อัพโหลดรูปซ้ายขวาหน้าหลัง จากนั้นก็เลือกสีผมสีตาและสีผิว พร้อมใส่รายละเอียดง่ายๆ ของแบบที่เราส่งไป   วัสดุที่ทางบริษัท The Wobbling Willy ใช้นั้นเป็นซิลิโคนและดินปั้นชั้นดีโดยใช้กับทั้งตัวเซ็กส์ทอยและหน้าคน 3 มิติ ที่สำคัญราคาก็ไม่แพงมากโดยราคาอยู่ที่ 88 ดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็นไงไทยก็ราวๆ 2,800 บาทเท่านั้น แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือ เซ็กส์ทอยหน้า 3 มิติตัวนี้นั้นสามารถสั่งซื้อได้จากทั่วโลก นั่นหมายความว่าคนไทยแบบเราก็สามารถสั่งมาใช้ได้ยังไงล่ะ!! แต่จะคิดค่าส่งเพิ่มเติม 16 ดอลลาร์สหรัฐหรือเป็นเงินไทยก็ราวๆ 520 บาทนะ (อ๊ะ อย่าลืม ว่าประเทศนี้เซ็กส์ทอยผิดกฎหมาย และเราไม่สนับสนุนของผิดศีลธรรมแบบนี้เด็ดขาดเลยยยยย ไม่สักนิดเล๊ยยยยยย)      …

  • วิธีแก้ปัญหาสุดคูล เมื่อร้านค้าญี่ปุ่นสั่งของมาเกิน จาก 8 ถ้วยเป็น 8 แพค เป็นคุณจะทำยังไง!?

    วิธีแก้ปัญหาสุดคูล เมื่อร้านค้าญี่ปุ่นสั่งของมาเกิน จาก 8 ถ้วยเป็น 8 แพค เป็นคุณจะทำยังไง!?

    การแก้ปัญหาเฉพาะหน้านั้นเป็นสิ่งที่บุคลากรในทุกอาชีพควรจะมี โดยเฉพาะกับงานที่จะต้องจัดการกับสินค้าหรือลูกค้ายิ่งสำคัญสุดๆ เพราะถ้าเราสามารถจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างฉุกละหุกได้ทันที ก็สามารถบรรเทาผลลัพธ์ที่ตามมาได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ จากเรื่องราวที่ชาวเน็ตนามว่า フォレ‏ ไปเจอเข้ากับร้านแห่งหนึ่งที่เจ้าของบังเอิญสั่งของมาผิด จากที่ต้องสั่งแค่ 8 ถ้วย แต่พี่แกดันสั่งมาตั้ง 8 แพคหรือ 64 ชิ้นแทน   คนรีทวีตเรื่องราวนี้มากถึง 110,281 ครั้งเลยล่ะ   โดยปัญหานั้นเกิดขึ้นเมื่อร้านสะดวกซื้อได้สั่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ Nen no Kitsune มาวางขาย กะจะลองตลาดดู เพียงแต่ว่าเจ้าของร้านดันสั่งมาเกินจากเดิมที่ตั้งใจสั่งแค่ 8 ถ้วยมันดันกลายเป็น 64 ถ้วย ไปซะได้     งานนี้ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้น เจ้าของร้านจะต้องหาทางแก้ปัญหาที่รวดเร็ว ซึ่งมันก็เร็วจริงๆ เขาได้มองเห็นถึงความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบในเรื่องดวงพอๆ กับบ้านเรา โดยเขาได้นำเรื่อง ‘ไอเทมนำโชค’ มาเป็นไอเดียในการขายบะหมี่ที่เกิน ทางร้านนั้นได้ตั้งให้บะหมี่ Nen no Kitsune เป็นไอเทมเสริมดวงให้กับทุกราศี โดยถ้าใครซื้อไปกินหรือพกติดตัวก็จะโชคดี เพียงแต่ว่ามีราศีธนูเท่านั้นที่ไม่ใช่บะหมี่ยี่ห้อดังกล่าว แต่ถูกเปลี่ยนเป็นขนมปังปูแทน   เหมือนกันทุกราศี มาหักตรงราศีสุดท้ายนี่แหละ   ไอเดียการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าดังกล่าวถือว่าสุดยอดเลยทีเดียว ทว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่มีรายงานว่าร้านสะดวกซื้อดังกล่าวประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาไหม บะหมี่ถูกระบายออกจนหมดหรือเปล่า รวมถึงร้านดังกล่าวคือร้านอะไรสาขาไหนก็ไม่มีใครทราบ แต่ก็ต้องชื่นชมเจ้าของที่แก้ปัญหาได้รวดเร็วจริงๆ…

  • 9 อุปกรณ์เสริมสำหรับชาว MacBook ที่จะช่วยเพิ่มขีดจำกัดการใช้งานให้มากขึ้นไปอีก

    9 อุปกรณ์เสริมสำหรับชาว MacBook ที่จะช่วยเพิ่มขีดจำกัดการใช้งานให้มากขึ้นไปอีก

    MacBook เป็นแลปท็อปยอดนิยมจากทาง Apple ที่เรียกว่าการออกแบบของมันนั้นยอดเยี่ยมทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้เป็นแลปท็อปที่สมบูรณ์แบบซะทีเดียว เพราะมันก็ยังคงมีจุดบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ อยู่ ซึ่งนั่นทำให้มันจำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ มาช่วยอุดรอยรั่วดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ทาง Business Insider ก็เลยแนะนำอุปกรณ์เสริมสำหรับคนใช้ MacBook มาให้ลองเป็นตัวเลือกเผื่อใครสนใจอยากหาตัวไหนมาใช้เพิ่มดู หรืออยากเติมเต็มส่วนที่ขาดนั่นเอง   SD Card ปัญหาใหญ่ของ MacBook ที่หลายคนมักจะเจอเลยคือ ตัวเครื่องนั้นมีความจุที่ไม่มากพอ และเมื่อมันเต็ม SD Card จึงเป็นทางออกสำหรับหลายคนๆ และถ้าใครหา SD Card ดีๆ อยู่ลองใช้ Transcend 128GB JetDrive ดูสิ   Portable hard drive แหล่มๆ สักอัน บางครั้งแค่ SD Card ก็อาจจะไม่มากพอสำหรับการเก็บข้อมูลใหญ่ๆ ฉะนั้น Portable hard drive จึงกลายเป็นอีกตัวเลือกที่หลายคนเลือก ด้วยความจุที่มหาศาล แลกมาด้วยขนาดที่ใหญ่กว่านิดหน่อย รับรองว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น Seagate Backup Plus Slim 2TB   สายชาร์จที่ใช้ง่ายกว่าของเดิม…

  • เมื่อคุณตายคุณจะรู้ตัวว่าคุณตาย…นักวิทย์ค้นพบว่าแม้ร่างกายจะตายไปแล้วแต่เราก็ยังรับรู้ได้

    เมื่อคุณตายคุณจะรู้ตัวว่าคุณตาย…นักวิทย์ค้นพบว่าแม้ร่างกายจะตายไปแล้วแต่เราก็ยังรับรู้ได้

    เชื่อกันไหมว่า ได้มีการศึกษาที่ทำให้ค้นพบว่าถ้าเกิดร่างกายของเราตายไปแล้วนั้น แต่จิตใต้สำนึกของเราจะยังคงทำงานต่อไปได้ สุดยอดไหมล๊าาา… ซึ่งจากผลการศึกษาดังกล่าวจึงมีข้อสรุปว่า แม้คนๆ นั้นจะตายแล้วแต่ก่อนจะไปเขายังคงรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ รวมถึงรับรู้ถึงการตายของตัวเองอีกด้วย นั่นรวมถึงบางคนอาจจะได้ยินตอนที่หมอพูดว่าเราตายไปแล้วเช่นกัน การวิจัยนี้ได้บอกเล่าโดย Dr Sam Parnia ซึ่งเขาได้บอกผ่านทาง Live Science เกี่ยวกับการศึกษาการรับรู้ความรู้สึกหลังความตายนั้นมันเกิดขึ้นจริงๆ เพราะกว่าเซลล์สมองจะตายจริงๆ นั้นจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยทีเดียว     Dr. Sam Parnia ยังบอกอีกว่าโดยปกติแล้วทางการแพทย์จะตัดสินการตายผ่านการเต้นของหัวใจ ซึ่งเมื่อหัวใจหยุดเต้นแพทย์ก็จะบอกว่าคนนั้นตายทันที เพราะเมื่อหัวใจหยุดเต้นเลือดก็จะหยุดสูบฉีดเพื่อไปเลี้ยงสมอง เพียงแต่ว่านั่นเป็นวิธีการทางเทคนิคเท่านั้น ซึ่งเมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวมันเกิดขึ้น เลือดไม่ไปเลี้ยงสมอง สมองก็บางส่วนนั้นก็จะตายทันที ทั้งเซลล์ม่านตา เซลล์กล้ามเนื้อ ซึ่งรวมถึงเปลือกสมองที่เป็นตัวประมวลผลจากประสาทรับรู้ต่างๆ ก็เช่นกัน ในช่วงเวลา 2 ถึง 20 วินาทีคลื่นสมองจะหายไปจากจอมอนิเตอร์ทันที     เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นจะส่งผลเป็นลูกโซ่และต้องใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมงกว่าสมองจะตายอย่างสมบูรณ์ แต่ยังไงก็ตามถ้าเกิดมีการทำ CPR ทันทีก็ยังคงมีโอกาสที่ทำให้สมองกลับมาทำงานได้และไม่ตายอย่างสมบูรณ์ เพราะถ้ามีเลือดไปเลี้ยงสมองต่อเพียงแค่ 15 เปอร์เซ็น สมองก็จะกลับมาทำงานได้ปกติ แต่ยังไงก็ตามเซลล์สมองก็จะยังคงค่อยๆ ตายอย่างช้าๆ อยู่ดี เพราะการที่คนเราตายไปแล้วก็ต้องตายอยู่ดี และไม่นานมานี้ก็เพิ่งจะมีหนังแนวๆ การโกงความตายด้วยเซลล์สมองแบบนี้ออกมาเช่นกัน…

  • รวมอุปกรณ์เสริมเล็กๆ แต่ช่วยเพิ่มพื้นที่ได้เยอะอย่างไม่น่าเชื่อ งานนี้ส่งตรงจากญี่ปุ่น!!

    รวมอุปกรณ์เสริมเล็กๆ แต่ช่วยเพิ่มพื้นที่ได้เยอะอย่างไม่น่าเชื่อ งานนี้ส่งตรงจากญี่ปุ่น!!

    ปกติแล้วเวลาเราเอาของแช่ตู้เย็นนั้นนั้นก็มักจะยัดๆ เข้าไปโดยไม่คิดอะไร ไม่ได้คิดถึงพื้นที่ในการจัดการภายในสักเท่าไหร่ และแน่นอนว่ามันก็จะเต็มง่ายสุดๆ ด้วยเหตุนี้ทางญี่ปุ่นก็เลยออกอุุปกรณ์เสริมเล็กๆ ไว้ใช้ในตู้เย็นออกมา ซึ่งมันเป็นตัวเสริมที่ไว้ใช้ในการจัดเรียงสิ่งต่างๆ ภายในตู้เย็นให้มีพื้นที่ใช้งานได้เยอะมากขึ้น     เชื่อเถอะว่าอุปกรณ์เสริมพวกนี้ จะช่วยเพิ่มสเปซตู้เย็นของเรา และทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นมากๆ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น เราลองมาดูกันเลยดีกว่า   อุปกรณ์วางหลอดซอสต่างๆ ที่ใช้พื้นว่างตรงมุมประตูตู้เย็น สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่ yahoo   สำหรับคอเบียร์กระป๋องจะต้องรักอุปกรณ์นี้แน่ๆ เพราะมันจะทำให้มีพื้นที่เยอะขึ้นมากๆ แล้ยังใช้งานง่ายสุดๆ   เห็นไหมใช้ง่ายจริงๆ นะ ถ้าถูกใจก็ลองเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ yahoo   ตัวเสริมที่ไว้เก็บของตรงใต้ชั้นตู้เย็น ที่บางครั้งเราก็ไม่ได้วางของที่ยาวๆ เท่าไหร่   เห็นภาพเลยใช่ไหมล่ะ? สนใจเข้าไปดูได้ที่ yahoo   อุปกรณ์เสริมสำหรับของกินที่เป็นถุงๆ ทำงานง่ายๆ เหมือนที่วางหนังสือ   เห็นภาพไหมล่ะ แต่ถ้าวางไว้ข้างใต้ วางซ้อนกันอาจจะเยอะกว่าก็ได้นะ สนใจสั่งได้ที่ shopping   เป็นไงล่ะ เล็กน้อยแต่น่าสนใจใช่ไหมล่ะ เอาเงินเราไปเลยดีกว่าแบบนี้ ที่มา buzzfeed

  • ศิลปินญี่ปุ่นวัย 5 ขวบสร้างงานศิลปะพร้อมกับตั้งราคาสุดกวนโอ๊ย “คุณไม่มีปัญญาซื้อหร๊อก”

    ศิลปินญี่ปุ่นวัย 5 ขวบสร้างงานศิลปะพร้อมกับตั้งราคาสุดกวนโอ๊ย “คุณไม่มีปัญญาซื้อหร๊อก”

    ปัจจุบันศิลปินหรือผู้ประกอบการนับวันก็จะยิ่งมีอายุน้อยลงไปทุกที อย่างเช่นเถ้าแก่น้อยที่หลายคนรับรู้จุดเริ่มต้นของธุรกิจของเขาได้จากหนังเรื่องวัยรุ่นพันล้าน ในญี่ปุ่นเองก็มีที่คล้ายๆ กันอยู่ แต่พูดเลยว่าจุดเริ่มต้นของเด็กคนนี้แหวกแนวม๊าก! นี่คือเรื่องราวของเด็กชายวัย 5 ขวบชาวญี่ปุ่นที่สร้างงานศิลปะขึ้นมาหลายๆ แบบ ไม่ว่าจะเป็น การพับกระดาษ โมเดลแฮนด์เมด หรือภาพวาดจากสีเทียนต่างๆ มากมาย ก่อนจะนำลงไปขายในเว็บไซต์ร้านค้าส่วนตัวของเขาเองที่คนรอบข้างช่วยทำให้     อย่างชิ้นนี้มีชื่อผลงานว่า “การโจมตีปลาหมึกยักษ์ตัวอ้วนกลม”  โดยในช่องราคาเขียนเอาไว้ว่า “การโจมตีปลาหมึกยักษ์ตัวอ้วนกลมเยน” ก็ไม่รู้ว่าจะแปลงเป็นสกุลเงินไทยอย่างไรเลย…   แต่ความเจ๋งของเด็กคนนี้ก็คือเขาเป็นคนคิดราคาเองทั้งหมด และมูลค่าของแต่ละงานก็ไม่ใช่ว่าจะถูกๆ เลยเพราะต่ำสุดเริ่มจาก 15 บาทไปจนถึงมากกว่า 2 แสนล้านบาทเลยทีเดียว!! และในบางชิ้นยังมีราคาที่ไม่อาจตีเป็นค่าเงินได้ด้วยนะ นอกจากเรื่องของราคาแล้ว หากเราต้องการจะสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ทั่วๆ ไปก็คงจะเจอกับปุ่ม “หยิบใส่ตะกร้า” แต่คุณจะไม่ได้เจอคำนั้นในเว็บนี้ เพราะเมื่อเลือกสินค้าที่ต้องการจะสั่งซื้อเรียบร้อยจะมีปุ่มให้กดที่เขียนว่า “ราคาอันแสนอัศจรรย์ คุณไม่มีปัญญาซื้อมันหรอก” ซะงั้น…   ผลงานที่ถูกที่สุด ดาวกระจาย ราคา 15 บาท   และผลงานที่แพงที่สุด กับไดโนเสาร์ Liliensternus พร้อมราคาที่ทำให้บางประเทศล้มละลายกันได้เลย สนนราคามากกว่า 2 แสนล้านบาท!!   แต่ในหลายผลงานก็มีราคาที่สามารถยอมรับได้กับผลงาน ด้วยทักษะการประกอบการที่แปลกใหม่และความรู้อันน่าประทับใจเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่น้อยคนจะรู้จักพวกมัน…

  • นี่คือร้านของชำที่หินที่สุด เพราะพี่แกไปเล่นตั้งอยู่บนผาจริงๆ จะซื้อยังไงเนี๊ยยย..!!?

    นี่คือร้านของชำที่หินที่สุด เพราะพี่แกไปเล่นตั้งอยู่บนผาจริงๆ จะซื้อยังไงเนี๊ยยย..!!?

    อันที่จริงแล้วเรื่องร้านขายของชำนี่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เพราะไม่ว่าเราจะไปที่ไหนบนโลก มันก็ต้องมีร้านของชำตั้งอยู่เสมอ แต่ใครจะไปเชื่อล่ะว่า.. บนหน้าผาอันแข็งแกร่งแห่งรัฐโคโลราโด จะมีร้านของชำที่เราเห็นครั้งแรกก็อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าใครมันจะมาซื้อได้ฟร๊ะเนี่ย!!   แหม๊ กว่าจะไปซื้อได้ต้องปีนผาเอานะจ๊ะ   อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะนี่ไม่ใช่ชาวบ้านผู้ยากไร้ที่มาใช้ชีวิตอย่างยากลำบากบนหินผา แต่เป็นร้านของชำที่เกิดจากไอเดียของสองบริษัทครีเอทีฟเอเจนซี่ WorkInProgress และ 37.5 Technology   โดยทั้งสองบริษัทได้ร่วมมือกันริเริ่มไอเดียที่อยากจะมีร้านขายของชำอยู่ในที่ๆ เข้าถึงยากที่สุด   Cliffside Shop ตั้งฉากติดกับหน้าผา Bastille Wall ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Colorado’s Eldorado Canyon และที่เห็นในภาพนี้มันตั้งสูงกว่าพื้นดินถึง 92 เมตร   พนักงานขายที่อยู่ในร้านก็ไม่ได้ทำอะไรมาก พวกเค้านั่งเตรียมของอย่างนิ่งๆ (เสียวตก)   ส่วนสินค้าที่ขายก็จะเป็นพวกอุปกรณ์สำหรับนักเดินทางซะส่วนใหญ่ เช่น ถุงเท้า ผ้าเย็น น้ำดื่ม ปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศท้องถิ่น   แต่โครงการนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำเท่เท่านั้น เพราะรายได้ทั้งหมดจะนำไปสนับสนุนให้กับองค์กร American Alpine Club   รายได้ทั้งหมดจะถูกนำไปใช้สำหรับการสำรวจพื้นที่เพื่อรองรับนักไต่เขาที่เพิ่มมากขึ้นในทุกๆ วัน   ว่าแต่……

  • 12 ผลิตภัณฑ์ ‘บาร์โค้ด’ โคตรครีเอทีฟ ที่จะทำให้พนักงานถึงกับเกาหัวหงึกๆ ได้เลย…!!

    12 ผลิตภัณฑ์ ‘บาร์โค้ด’ โคตรครีเอทีฟ ที่จะทำให้พนักงานถึงกับเกาหัวหงึกๆ ได้เลย…!!

    เกือบจะทุกสินค้าที่วางขายในห้างร้านบนโลก มักจะมี ‘บาร์โค้ด’ ติดมาด้วยเสมอ เพราะถ้าไม่มีเมื่อไหร่ละก็นั่นหมายความว่าพนักงานจะใช้เครื่องติ๊ดสแกนคิดราคาไม่ได้ และสินค้าก็ขายไม่ได้ ผ่างงง..!! แต่จะว่าไปบาร์โค้ดแบบธรรมดาๆ ที่เราเห็นกันนั้นก็มีกันเกลื่อนกลาดและดูจะล้าสมัยไปแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้สินค้าหลายๆ แบรนด์เค้าเริ่มหันมาใส่กิมมิคลงบนบาร์โค้ดกันแล้วนะ…   1. บาร์โค้ดที่เป็นรูปพนักงานยกจาน (ไม่สังเกตไม่เห็นนะเนี่ย)   2. หืมมม..!? เชื่อแล้วว่าเป็นสินค้าออร์แกนิคจริง แม้แต่วัวยังมากินหญ้า แล้วไหนล่ะบาร์โค๊ด??   3. เป็นขวดเหล้าที่เรารู้สึกว่า… แล้วแบบนี้ฉันจะหาบาร์โค้ดเจอมั้ยเล่าโถ่ววพี่บัวลอย!!   4. เค้ามีเล็มบาร์โค้ดให้ด้วย แบบนี้หมายความว่าลดราคาให้ด้วยรึเปล่าอ๊ะ!?   5. โหววจารย์ ถ้าบาร์โค้ดจะยาวได้ขนาดนี้ เอากรรไกรไปตัดหน่อยมั้ย??   6. กระป๋องเบียร์ที่มาพร้อมกับบาร์โค้ดรูปต้นไม้สู๊งสูง   7. ใครบอกว่าบาร์โค้ดไม่มีประโยชน์ สามารถบอกอุณหภูมิได้ด้วยนะ!?   8. เจลสำหรับปลอกคอสุนัข แต่กลัวลูกค้าจะเอาไปใช้เป็นเจล KY เลยใส่รูปตูบไว้ตรงบาร์โค้ดซะเลย   9. นิตยสารที่แหม๊… ใครน้อช่างเอาบาร์โค้ดไปติดได้เหมาะเหม๋งจริงๆ (ลุงทรัมป์มีนวดด้วยเว่ยเฮ้ย!!)   10. เพื่อแฟนๆ…

  • นวัตกรรม ‘ไม้ดูดยุง’ อีกขึ้นของการขจัดความรำคาญ ไม่ต้องโบกตบจนกล้ามขึ้นอีกต่อไป!!

    นวัตกรรม ‘ไม้ดูดยุง’ อีกขึ้นของการขจัดความรำคาญ ไม่ต้องโบกตบจนกล้ามขึ้นอีกต่อไป!!

    ‘ยุง’ สิ่งมีชีวิตที่สุดแสนจะน่ารำคาญ เมื่อไหร่ที่เจ้าแมลงตัวน้อยๆ นี้เข้ามาตอมใกล้ๆ เราแล้วล่ะก็ อยากจะมอบฝ่ามือให้เป็นของขวัญกับมันเสียจริงๆ และถ้าพูดถึงวิธีการจัดการกับเจ้ายุงนั้น ก็คงจะมีหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใช้มือตบ ไม้ตบ จุดยากันยุง ทายากันยุง หรือนอนกางมุ้งก็ตาม และเมื่อไม่นานมานี้มีบริษัทหนึ่งจากแดนปลาดิบ ก็ได้คิดค้น ‘ไม้ดูดยุง’ อุปกรณ์กำจัดยุงสุดเจ๋งที่จะมาปฏิวัติวงการตบยุงอย่างสิ้นเชิง!!   แท่น แท๊นนนน โฉมหน้าของไม้ดูดยุง!!   บริษัท Thanko ผู้นำทางด้านนวัตกรรมอุปกรณ์พกพาแปลกๆ จากประเทศญี่ปุ่น ได้คิดค้นวิธีจัดการกับผู้บุกรุกตั๋วจิ๋วนี้ พวกเขาได้ออกแบบเจ้าไม้ดูดยุง ที่เป็นการผสมผสานกันระหว่างที่ช๊อตยุงและเครื่องดูดเอาไว้ด้วยกัน คุณไม่ต้องกังวลเลยว่าเจ้ายุงจะแค่ถูกช๊อตจนสลบหรือรอดเงื้อมมือคุณไปได้ เพราะไม้ดูดยุงที่ว่านี้จะดูดพวกมันให้เข้ามาใกล้ๆ และติดกับแผงไฟฟ้าได้นานพอ ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าพวกมันไม่กลับมากวนใจคุณอีกแน่นอน     ส่วนด้านหน้า มันคือการผสมผสานระหว่างแผงไฟฟ้าและเครื่องดูด   ส่วนของที่จับยุงสามารถปรับให้งอได้มากถึง 90 องศา   แต่ก็อย่ามัวแต่ดูดยุงจนเพลินล่ะ คุณต้องคอยทำความสะอาดตะแกรงและใบพัดด้วยนะ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะสกปรกและเต็มไปด้วยซากยุงจนดูไม่น่าใช้เลยก็ได้     ส่วนรายอะเอียดและขนาดของเจ้าไม้ดูดยุงที่ว่านี้ มันสามารถยืดยาวได้ถึง 83 เซนติเมตรและมีน้ำหนักเพียงแค่ 708 กรัมเท่านั้น โดยคุณสามารถสั่งซื้อได้ทางเว็บไซต์ thanko ในราคาประมาณ 750 บาทเท่านั้นเอง    …

  • 20 สินค้าสุดแปลกประหลาด ที่มีขายอยู่ใน eBay แบบนี้ก็ยังกล้าเอามาขายด้วยเหรอเนี่ย!!

    20 สินค้าสุดแปลกประหลาด ที่มีขายอยู่ใน eBay แบบนี้ก็ยังกล้าเอามาขายด้วยเหรอเนี่ย!!

    หลายๆ คนที่ชื่นชอบการช็อปปิ้งคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับเว็บไซต์ขายของอย่าง eBay ที่รวบรวมสินค้าต่างๆ มากมายจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ใครใคร่อยากขายก็ขาย คนที่อยากซื้อก็มีรออยู่เพียบ!! และเว็บไซต์ใหญ่ขนาดนี้ ก็ย่อมต้องมีคนที่เอาของแปลกๆ มาปล่อยแน่นอน วันนี้เราจึงได้รวบรวมสินค้าสุดแปลกที่วางขายใน ebay บางอย่างคุณอาจจะเกิดคำถามขึ้นมาในใจก็ได้ว่า ใครมันจะไปซื้อฟระ!!   1. ตัวอ่อนควายไบซัน จากปี 1950 ราคา 10,000 บาท ลูกควายดองที่ได้จากแม่ควายที่ตายโดยธรรมชาติ ถูกเก็บไว้ในขวดโหลมานานกว่า 60 ปี ใครชอบสะสมของแปลกก็น่าจะชอบนะ บรื๋อออออ   2. คอลเลคชั่นรองเท้าที่เจอตกตามข้างทาง ราคา 3,700 บาท สำหรับใครที่อยากได้รองเท้าที่มีที่มาที่ไปไม่เหมือนใคร ต้องเจอกับคอลเลคชั่นรองเท้าที่ถูกเก็บมาจากข้างถนน ความพิเศษก็คือมันมีเพียงแค่อย่างละข้างเท่านั้น บอกได้คำเดียวเลยว่าลิมิเต็ดสุดๆ   3. ค้างคาวในโหลแก้ว ราคา 2,700 บาท เจ้าค้างคาวที่กำลังห้อยหัวอยู่ในโหลแก้ว ด้วยท่าทางที่สุดแสนจะธรรมชาติ ใครที่ชื่นชอบสัตว์สต๊าฟ ก็ลองเข้าไปชมกันได้นะ ฮ่าๆ   4. ไก่ทอดที่รูปร่างเหมือนทวีปแอฟริกา ราคา 33…

  • รู้จักกับ Ailton da Silva หนุ่มบราซิลผู้ยกระดับการ “ขายของกลางสี่แยก” ให้ดูคูลไปอีกขั้น

    รู้จักกับ Ailton da Silva หนุ่มบราซิลผู้ยกระดับการ “ขายของกลางสี่แยก” ให้ดูคูลไปอีกขั้น

    หลายคนอาจจะบอกว่าไม่เห็นน่าตื่นเต้นตรงไหนเลย เพราะปกติตามสี่แยกในประเทศเราก็มักจะมีพ่อค้าแม่ค้า หรือเด็กน้อยตระเวนเดินขายพวงมาลัย หรือของกินเป็นประจำอยู่แล้ว แต่คุณก็รู้ที่นี่บราซิล… ประเทศที่มีอะไรให้น่าเซอไพรส์ได้ไม่แพ้กะลานีเซีย และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ Ailton da Silva หนุ่มผู้ให้บริการขายของชำกลางสี่แยกผู้ไม่เคยท้อแม้วันมามาก   โดยเจ้าตัวได้ให้คำนิยามกับตัวเองว่าเขาคือ ‘Traffic Waiter’ หรือบริกรประจำสี่แยกในยามรถติดไฟแดงนั่นเอง   เป็นประจำทุกวันที่ชายหนุ่มคนนี้จะตื่นนอนมาตอนตี 5 อาบน้ำแต่งตัวใส่ชุดประจำตำแหน่ง ผูกไทค์หรือไม่ก็โบหูกระต่าย ใส่หมวก พร้อมมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่าน โดยสินค้าที่เจ้าตัวขายเป็นประจำก็มีตั้งแต่ น้ำเปล่าเย็นๆ โซดากระป๋อง น้ำอัดลม หรือจะเป็นพวกขนมขบเคี้ยวอย่างป็อปคอร์น มันฝรั่งทอดกรอบ และอื่นๆ อีกมากมาย ราวกับร้านยายพริกที่ขายของชำหน้าปากซอยเราเลยล่ะ   ทุกอย่างจะถูกจัดวางไว้บนถาดเหล็ก พร้อมให้บริการลูกค้าราวกับว่าเขาเป็นพนักงานจากโรงแรมที่ไหนซักแห่ง   เขาทำแบบนี้มาทุกวันจนปัจจุบันก็ปาเข้าไป 2 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าสิ่งที่เป็นอุปสรรคและเป็นศัตรูคู่อาฆาตทางการค้าของเขาก็คือ ‘แสงแดด’ เพราะตั้งแต่หลัง 10 โมงเป็นต้นไป แดดของบราซิลก็จะเปรี้ยงปร้างไม่ปราณีใคร เรียกได้ว่าตอนนี้เขาได้กลายเป็นเซเลบบริตี้ประจำสี่แยกแห่งหนึ่งในบราซิลไปแล้ว เป็นประจำทุกวันที่เขาจะคอยมอบความสะดวกสบายให้แก่ชาวเมืองทุกคน   อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดขายก็คือ เขามักจะบริการลูกค้าทุกคนด้วยความเคารพ และทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงการให้เกียรติกัน   “เอาจริงๆ ผมก็ไม่ใช่คนที่มีเงินอะไรมากมายเลยครับ ผมหาเงินได้พอให้ตัวเองใช้ชีวิตอยู่ได้ผมก็มีความสุขแล้ว…

  • ชาวเน็ตแชร์.. การตลาดจากร้านค้าญี่ปุ่น ใช้กระจกสร้างภาพลวงตา ล้ำลึกเหลือเกิ๊นนน!!

    ชาวเน็ตแชร์.. การตลาดจากร้านค้าญี่ปุ่น ใช้กระจกสร้างภาพลวงตา ล้ำลึกเหลือเกิ๊นนน!!

    บางทีการตลาดของสินค้าบางชิ้นอาจจะเข้ามามีผลต่อพฤติกรรมการซื้อของเรา โดยที่เรายังไม่ทันได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ แหม่.. โลกแห่งการค้านี่บางทีมันก็แอบน่ากลัวนิดนึง ล่าสุดเว็บไซต์ Rocketnews24 ได้เผยเรื่องราวของชาวเน็ตจากทวิตเตอร์คนหนึ่ง ที่นำเอาภาพของอาหารกล่องในร้านสะดวกซื้อมาแชร์ ดูผิวเผินก็เหมือนจะเป็นของลดราคาทั่วไปนี่แหละ แต่หารู้ไม่ว่าเขาแอบแฝงการตลาดไว้อย่างล้ำลึกมากๆ     เจ้าของทวิตเตอร์ผู้ใช้ชื่อว่า @TakadaK5 ได้เผยภาพกล่องหมูทอดทงคัตสึที่วางขายอยู่ในร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านเขา โดยทั่วไปเราจะรู้กันอยู่แล้วว่า ในช่วงตอนเย็นของทุกวันอาหารทำสดทุกชนิดจะถูกนำมาลดราคาวางขาย ตอนแรกพ่อหนุ่มเห็นชุดหมูทอดทงคัตสึลด 20% ก็ดีใจยกใหญ่ แต่ทันใดนั้นสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นกล่องหมูทอดชุดเดียวกัน แต่ลด 50% วางอยู่ด้านหลัง (เป็นใครก็ต้องหยิบกล่อง 50% สิจริงไหม?)   แต่พอเจ้าตัวจะเอื้อมมือไปหยิบกล่องหมูทอดที่อยู่ข้างหลังก็ตกใจ เมื่อพบว่ามันเป็นภาพกระจกสะท้อน!!   สรุปแล้วงานเจ้าของเรื่องราวก็ไม่ได้ชุดหมูทอดลด 50% (เพราะมันไม่มีจริง) แต่ด้วยความหิวโหย และเฟิร์สอิมเพรสชั่นที่มีต่อหมูทอดในกล่อง ทำให้สุดท้ายแล้วเจ้าตัวก็ต้องตัดสินใจซื้อมาจนได้ หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียลก็มีชาวเน็ตในญี่ปุ่นออกมาให้ความเห็นมากมาย บ้างก็เล่าว่าตัวเองเคยโดนแบบนี้เหมือนกันจากร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ในขณะที่บางคนก็มองว่าเป็นการตลาดที่โหดร้ายต่อผู้บริโภคเอามากๆ     ถือเป็นวิธีการใช้ภาพลวงตาที่ได้ประโยชน์สูงมาก ใครเห็นตัวเลขลดราคาเยอะๆ ก็เป็นอันต้องตาตื่นกันทุกคนแหละน่าาา ที่มา: Rocketnews24

  • เมื่อลูกบ่นว่า “หนูไม่อยากไปโรงเรียน” คุณแม่เลยสอนประสบการณ์ล้ำค่า พาเดินขายกล้วยแขก!?

    เมื่อลูกบ่นว่า “หนูไม่อยากไปโรงเรียน” คุณแม่เลยสอนประสบการณ์ล้ำค่า พาเดินขายกล้วยแขก!?

    กำลังเป็นกระแสที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากชาวเน็ต สำหรับเรื่องราวของคุณมิว Hathairat Neramittanakul ที่นำมาเผยแพร่ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอเอง เรื่องมีอยู่ว่า.. เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาสาวน้อยพิตต้า ลูกสาวของเธอบ่นกับคุณแม่และคุณพ่อว่า “หนูไม่อยากไปโรงเรียน” พวกเขาเลยพาสาวน้อยไปทดสอบเดินขายกล้วยแขกตามสี่แยกด้วยตัวเองซะเลย   ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่อยากไปโรงเรียน เชื่อว่าผู้ปกครองหลายคนคงได้คำตอบเหมือนกันคือ ‘ขี้เกียจ’ หรือ ‘เบื่อ’ ดังนั้นคุณแม่จึงพาคุณลูกไปสัมผัสกับชีวิตจริง ถ้าหากลูกไม่ยอมเรียนหนังสือ   ด้วยกระแสตอบรับและคำชมจากชาวเน็ตอย่างท่วมท้น ทีมงาน Catdumb ของเราก็ไม่รอช้า ขอเกาะกระแสสัมภาษณ์คุณแม่กับเค้าบ้าง…   ไม่ทราบว่าเสียงตอบรับจากคนในครอบครัว หรือคนใกล้ตัว เป็นยังไงบ้าง? “มิวโชคดีค่ะที่คนรอบข้างให้การสนับสนุน และไม่มีใครว่าอะไรเพราะอยากให้น้องเจอกับเหตุการณ์จริง เพราะเราก็ไม่อยากให้ลูกร้องไห้งอแงตอนไปโรงเรียนถูกไหมคะ? มิวเลยคิดว่าการพาเขาไปสัมผัสสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริงหากเขาไม่ยอมไปโรงเรียน น่าจะทำให้เขาเข้าใจได้มากกว่าการต้องมานั่งอธิบายค่ะ”   แต่งานนี้หนูน้อยพิตต้าไม่ได้มาคนเดียวนะจ๊ะ มีคุณพ่อคอยดูแลอยู่ตลอดไม่ห่างไปไหน   หลังจากลองใช้วิธีนี้แล้วน้องพิตต้ายังมีแอบงอแงอยู่บ้างมั้ยเอ่ย? “ก็ยังมีอยู่บ้างตามประสาเด็กอ่ะค่ะ แต่ก็น้อยลงมากถ้าเทียบกับเมื่อก่อน เพราะอย่างน้อยเค้าก็เข้าใจด้วยตัวเองแล้วว่า ถ้าเขาไม่ไปโรงเรียน เขาก็ต้องออกมาทำงานเลี้ยงตัวเองนะ”   ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราเห็นกระแสจากบางสื่อเกี่ยวกับคำแนะนำการเลี้ยงลูกอย่างสุดโต่ง คุณแม่มีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไรบ้าง? “ส่วนตัวมิวมองว่าเด็กแต่ละคนมีความชอบและความสามารถไม่เหมือนกัน เราควรสนับสนุนในสิ่งที่เค้าอยากทำมากกว่าเพราะในใจเราเชื่อเสมอว่า ทุกอาชีพสามารถประสบความสำเร็จได้และลูกเราก็คงจะมีความสุขมากกว่าถ้าเขาได้ทำในสิ่งที่เขารัก แต่สิ่งสำคัญคือพ่อแม่ต้องให้เวลากับลูก คอยดูแล ให้คำแนะนำ ไม่ใช่ปล่อยปะละเลยค่ะ”    …

  • โตแล้วทำเองได้…ห้างเกาหลี แยกตะกร้าสินค้าใหม่ อยากเลือกเอง หรือจะให้พนักงานช่วย!?

    โตแล้วทำเองได้…ห้างเกาหลี แยกตะกร้าสินค้าใหม่ อยากเลือกเอง หรือจะให้พนักงานช่วย!?

    บ่อยครั้งที่พวกเราประสบกับปัญหาเวลาไปเดินเลือกซื้อของตามห้าง หรือตามแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ จะต้องมีพนักงานเข้ามาแนะนำ ให้ความรู้ รวมไปถึงชักชวนให้ซื้อสินค้าในค่ายตัวเอง ซึ่งจะว่าไปแล้วการทำแบบนั้นก็ช่วยให้เราเข้าใจในตัวสินค้ามากขึ้น และสามารถตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อได้ แต่ลูกค้าบางรายอาจจะรู้สึกอึดอัด เมื่อมีพนักงานคอยเดินตามติดเหมือนวิญญาณ จนทำให้บางคนไม่กล้าเฉียดเข้าไปใกล้แผนกนั้นๆ เลยก็เป็นได้     ปัญหาเหล่านี้ได้ไปถึงหูของห้างสรรพสินค้า Innisfree ผู้จัดจำหน่ายเครื่องสำอางรายใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้ พวกเขาก็เลยแก้ปัญหานี้โดยการติดสติ๊กเกอร์ไว้ที่ตะกร้าสินค้า 2 แบบ     แบบแรกเป็นสติ๊กเกอร์สีเขียว มีข้อความเขียนติดเอาไว้ว่า “ฉันทำเองได้” เมื่อพนักงานเห็นสติ๊กเกอร์สีนี้พวกเขาก็จะไม่เข้ามารบกวนคุณเลย แบบที่สองเป็นสติ๊กเกอร์สีส้ม มีข้อความว่าเขียนติดไว้ว่า “ฉันต้องการความช่วยเหลือ” เมื่อพนักงานมาเห็นเข้าพวกเขาก็จะเข้ามาแนะนำสินค้าต่างๆ ให้กับคุณอย่างพร้อมเพรียง     ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ในการช็อปที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจและอยากกลับมาใช้บริการอีกครั้ง ที่มา buzzfeed , koreaboo

  • คุณแม่ทำตุ๊กตาไปตั้งร้านขาย แต่ขายไม่ได้ซักตัว ลูกถ่ายรูปแชร์ไม่นานก็ขายหมดเกลี้ยง!!

    คุณแม่ทำตุ๊กตาไปตั้งร้านขาย แต่ขายไม่ได้ซักตัว ลูกถ่ายรูปแชร์ไม่นานก็ขายหมดเกลี้ยง!!

    Martyn Hett หนุ่มอังกฤษวัย 28 ปีจากเมือง Manchester และเขาควรที่จะได้เป็นลูกดีเด่นแห่งปีมากๆ เพราะช่วยให้คุณแม่ของตัวเองสามารถทำอาชีพการเย็บปักถักร้อยต่อไปได้ แม้ว่าคุณแม่จะเอาไปขายในงานที่จัดขึ้นเพื่อขายสิ้นค้าแฮนด์เมดไม่ได้เลยซักชิ้นเดียวก็ตาม…     เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณแม่ของเขาได้ชิ้นงานเย็บปักถักร้อยที่ตัวเองได้ทำขึ้นไปขายที่งาน Craft Fair ที่จัดขึ้นสำหรับขายของแฮนด์เมด ด้วยความเป็นห่วงลูกชายก็เลยทักไปถามคุณแม่ว่าเป็นอย่างไรบ้างขายดีมั้ย? คุณแม่ก็ตอบกัลบมาว่ารู้สึกเศร้าเล็กน้อยเพราะไม่มีใครมาซื้อตุ๊กตายัดไส้ของเธอเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ด้วยความที่นาย Martyn นั้นรู้สึกเศร่าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็เลยถ่ายรูปสินค้าของคุณแม่โพสต์ลงทวิตเตอร์ของตัวเอง พร้อมกับใส่แคปชั่นไปว่า “แม่ของผมไปตั้งร้านขายของที่งาน  Craft Fair และส่งข้อความมาหาผมว่าเธอยังขายอะไรไม่ได้แม้แต่ชิ้นเดียวเลย มันทำให้หัวใจของผมแทบแตกสลาย”     ซึ่งนอกจากนี้คุณแม่เองก็ได้มีหน้าร้านอยู่ที่เว็บไซต์ Depop อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าก่อนหน้านี้ก็ขายไม่ได้เลยแม้แต่ตัวเดียว   แต่หลังจากที่เขาโพสต์รูปภาพลงบนทวิตไปได้ไม่นาน ก็มีคนทักเข้ามาเพื่อขอซื้อสินค้า และหนุ่ม Martyn ก็รีบทักไปหาแม่ของเขาทันที ว่าเพื่อนของเขาอยากจะได้สินค้าชิ้นนี้ และดูท่าทางคุณแม่ของเขาก็รีบตอบกลับไปอย่างตื่นเต้นว่า “เย้!!นี่เป็นการขายครั้งแรกของแม่เลยนะเนี่ย ช่วยบอกให้ลูกค้าผู้น่ารักรีวิวให้แม่หน่อยได้มั้ย? แล้วแม่จะไปส่งให้กับเขาอย่างไรได้บ้าง?”   จากที่ขายไปได้ 1 ก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 3   จาก 3 ก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 9 ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง…

  • จากนางแบบสาวพริตตี้ ชาวไต้หวัน ผันตัวมา ขายบาร์บีคิวปิ้งย่างข้างทาง ลูกค้าแน่นเอี๊ยด!!

    จากนางแบบสาวพริตตี้ ชาวไต้หวัน ผันตัวมา ขายบาร์บีคิวปิ้งย่างข้างทาง ลูกค้าแน่นเอี๊ยด!!

    เมื่อกล่าวถึงแม่ค้าพ่อค้าร้านขายปิ้งย่างทั่วไปแล้ว เพื่อนๆ จะรู้กันดีว่ามันก็ไม่มีอะไรที่แปลกและไม่ได้มีอะไรน่าสนใจแต่อย่างใด แต่ถ้าลองเปลี่ยนแม่ค้ามาเป็นนางแบบสาวสุดฮ็อตล่ะ หนุ่มๆ หลายคนคงจะตาลุกวาวอยากจะไปลองลิ้มชิมรสชาติของปิ้งย่างขึ้นมาทันที!! เมื่อช่วงวันที่ผ่านมาได้มีการแชร์ภาพของหญิงสาวที่มีหน้าตาสวย หุ่นดี แถมยังแต่งตัวสุดฮ็อตมายืนย่างบาร์บีคิวขายที่ร้านข้างทาง     เว็บไซต์ Mirror ของอังกฤษรายงานว่าพบหญิงสาวคนหนึ่งไม่ทราบชื่อ ตามรายงานบอกไกว้ว่าเธอได้รับฉายาว่าคุณแม่วัยสาว (ปกติแล้วคนขายอาหารตามร้านค้าต่างๆ คนจีน – ญี่ปุ่น เค้าจะเรียกว่าคุณแม่) สวมชุดสุดฮ็อตมายืนปิ้งบาร์บีคิวขาย ในร้านที่มีลักษณะเป็นรถตู้ขายของในประเทศใต้วัน ที่ร้านมีทั้งไส้กรอก เนื้อย่าง และเนื้อสะเต๊ะ ขายตามร้านข้างทางทั่วไป แต่ลูกค้าเข้ามาแวะเวียนเต็มร้านอย่างไม่ขาดสาย ก็แหงล่ะสิ เพราะเจ้าของร้านเค้าเด็ดดวงขนาดนี้ไม่ว่าหนุ่มๆ คนไหนเดินผ่านก็คงอยากจะแวะชิมซักคำสองคำ แถมเธอยังเป็นคนทำเองทุกอย่างทั้งเตรียมของ โปรโมทร้านเรียกลูกค้า เสิร์ฟ และก็ย่างด้วยตัวเอง     จากรายงานก็พบว่า แท้จริงแล้วสาวคนนี้เคยเป็นนางแบบ พริตตี้ รับงานถ่ายแบบในงานมอเตอร์โชว์ต่างๆ มาก่อนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนมาเดินทางสายเชฟเปิดร้านบาร์บีคิวขายตามข้างทาง   และตอนนี้เธอก็มีความสุขกับชีวิตการเป็นแม่ค้าแบบสุดๆ ไปเลยล่ะ   สงสัยอยู่หน้าเตาย่างทั้งวันจะร้อนก็เลยเลือกชุดใส่มาทำงานซะน้อยชิ้นเลย ฮร่า   ด้วยความที่เธอมีหุ่นดีซะขนาดนี้ ชาวเน็ตหลายๆ คนที่เห็นรูปภาพของเธอต่างก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นหุ่นลองเสื้อซะอีก   อืมมม์ สงสัยจะร้อนจริงๆ นั่นแหละ…

  • มีงี้ด้วย? 25 ตู้หยอดเหรียญสารพัดสิ่งอย่าง ถ้ายัดจักรวาลเข้าไปขายได้ก็คงทำไปแล้ว

    มีงี้ด้วย? 25 ตู้หยอดเหรียญสารพัดสิ่งอย่าง ถ้ายัดจักรวาลเข้าไปขายได้ก็คงทำไปแล้ว

    #เหมียวบ็อบ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นเจ้าของไอเดีย สร้างนวัตกรรมตู้หยอดเหรียญ ที่ดูเหมือนว่ามันจะช่วยทำให้วิถีชีวิตในเมืองใหญ่ สะดวกสบายขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วที่เราเห็นในไทยบ่อยๆ ก็มักจะเป็นตู้หยอดเหรียญน้ำดื่มอัดลม แต่คราวนี้เราจะพาไปดู 25 ตู้หยอดเหรียญสารพัดสิ่งอย่าง บางอย่างก็คิดไม่ถึงเลยว่า มันเอามาขายในตู้แบบนี้ได้ด้วยเร๊อะ??   1. ตู้ขายปู   2. ตู้ขายพิซซ่า   3. ตู้ขายเสื้อยืด   4. ตู้ขายราเม็ง   5. ตู้ขายอุปกรณ์ดนตรี   6. ตู้ขายอะไหล่จักรยาน (เสียปุ๊บ ซ่อมปั๊บทันที)   7. ตู้ขายคัพเค้ก (น่ารักเชียว คนนะ ไม่ใช่ตู้!!)   8. ตู้ขายเบอร์เกอร์   9. ตู้ขายกล้วย   10. ตู้ขายไข่ไก่   11. ตู้ขายสลัดสดจากฟาร์ม   12. ตู้ขายไข่ปลาคาเวียร์ (เผื่อเอาไว้นั่งกินบนเครื่อง ระหว่างทางไปฮาวายอุ๊บบส์!!!)  …

  • สาวรัสเซียขาย ‘ความเวอร์จิ้น’ ออนไลน์ กับเหตุผลที่ว่า… หาเงินเรียนต่อต่างประเทศ!!

    สาวรัสเซียขาย ‘ความเวอร์จิ้น’ ออนไลน์ กับเหตุผลที่ว่า… หาเงินเรียนต่อต่างประเทศ!!

    ก็อย่างที่รู้กันดีว่าปัจจุบันการประกาศขายของทางโลกออนไลน์นั้นมีมากมายหลากหลายอย่าง พ่อค้าแม่ค้าต่างก็แข่งขันกันเพื่อขายของหาเงินมาใช้ตามเป้าหมายของตัวเอง Ariana สาววัย 20 ปี ได้ทำการขายของที่แปลกไปกว่านั้น เพราะเธอประมูลขายความเวอร์จิ้นของเธอในเว็บไซต์หาคู่โดยมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 6 ล้านบาท     แม้ว่าเธอจะมองหาหนทางอื่นในการหาเงินแล้วก็ตาม แต่เธอก็รู้ว่าการขายความเวอร์จิ้นของเธอนั้นเป็นหนทางที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการหาเงิน “มีนักเรียนหลายคนนั้นจะต้องรับมือกับปัญหามากมาหลายอย่างในระหว่างการเรียน ทุกคนต้องทำงานหาเงินเพื่อนำไปจ่ายเป็นค่าเล่าเรียน” “ฉันอยากจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศเพื่อทำการเรียนต่อเกี่ยวกับวิชาแพทย์ และมันมีค่าเล่าเรียนที่สูงมาก ซึ่งค่าที่พักและอาหารเองก็จะต้องใช้เงินจำนวนมากเช่นกัน”  Ariana กล่าว   “ฉันรู้ว่าการอาศัยไปอาศัยอยู่ต่างประเทศนั้นมันเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะฉะนั้นฉันก็เลยจำเป็นที่จะต้องมีเงินทุนมากพอที่จะทำให้ตัดปัญหาเรื่องเงินออกไป และมันจะช่วยให้ฉันสามารถโฟกัสไปในเรื่องของการเรียนแพทย์ได้อย่างเต็มที่”     ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ของเธอก็ยังไม่ได้ทราบถึงเรื่องที่เธอโพสต์ขายความเป็นเวอร์จิ้นแต่อย่างใด แต่เธอก็บอกว่าเธอสามารถเคลียร์กับปัญหานี้ได้ นอกจากนี้ Ariana ก็ไม่ได้ขายความเป็นเวอร์จิ้นแค่คนเดียวเท่านั้น เพื่อนสนิทของเธอ Lolita ก็ได้ประมูลขายความเป็นเวอร์จิ้นร่วมกันกับเธอด้วย โดยเริ่มต้นเงินประมูลไว้ที่ประมาณ 6 ล้านบาทเช่นกัน แม้จะมีเพื่อนอยู่ด้วย แต่ Ariana ก็อธิบายถึงตัวเองว่าเธอน่ะเป็นผู้หญิงที่มีอิสระ และรู้สึกว่าการขายความเวอร์จิ้นนั้นก็เป็นทางเลือกของตัวเอง     Ariana รู้สึกว่าเธอน่ะรอมาอย่างยาวนานที่จะมอบความเวอร์จิ้นให้กับคนที่คิดว่าใช่ แต่มันก็ไม่ได้ผล “ทำไมฉันจะต้องรออีกล่ะ? ทำไมฉันจะต้องเสียความเวอร์จิ้นให้กับใครซักคนที่จะมาทำร้ายความรู้สึกของฉันในภายหลังกัน?” และในขณะที่ Ariana กำลังรอคอยการประมูลของเธออย่างใจจดใจจ่อ เธอก็หวังว่าคนที่ชนะการประมูลนั้นจะดูแล และทำกับเธออย่างให้เกียรติ    …

  • รวม 14 สินค้าของใช้สุดประหลาดที่คุณสามารถหาซื้อมันได้บน Amazon (มีลิ้งก์ให้ซื้อด้วยนะ)

    รวม 14 สินค้าของใช้สุดประหลาดที่คุณสามารถหาซื้อมันได้บน Amazon (มีลิ้งก์ให้ซื้อด้วยนะ)

    เว็บไซต์ขายของออนไลน์เช่น Amazon.com มีสินค้านับหมื่นนับแสนวางขายให้คุณจับจ่ายได้อย่างไม่รู้จบ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในบรรดาข้าวของพวกนั้น มันก็มีสินค้าประหลาดๆ บางอันเหมือนกันนะ ที่ให้ความรู้สึกว่า…จะซื้อมาทำไมว๊า? #เหมียวฟิ้นเลยจะชวนคุณมาดู 14 สินค้าสุดประหลาด ที่คุณสามารถหาซื้อมันได้ (จริงๆ) บนเว็บไซต์ Amazon.com จะประหลาดและแปลกขนาดไหนลองไปชมเลย   1. แผ่นรองโถส้วม…ตีกอล์ฟได้ (ซื้อได้ที่นี่นะ)   2. ของขวัญแห่งความว่างเปล่า เหมาะกับมอบให้คนที่มีทุกอย่างแล้ว (ซื้อได้ที่นี่นะ)   3. ด้วงเต่าลาย 1,500 ตัว แบบมีชีวิต (ซื้อได้ที่นี่นะ)   4. เศษดินจากบริเวณที่ UFO ตก!? (ซื้อได้ที่นี่นะ)   5. ชุด Marilyn Monroe สำหรับให้สุนัขใส่!? (ซื้อได้ที่นี่นะ)   6. ที่เปิดขวด…รูปตูดกวาง (ซื้อได้ที่นี่นะ)   7. ฉี่หมาป่า 940 มิลลิลิตร (ซื้อได้ที่นี่นะ)   8. น้ำมันหล่อลื่น 55 แกลลอน (ซื้อได้ที่นี่นะ)   9. พลาสติกห่อมนุษย์ 24 ชิ้น (เอามาทำอะไรน๊า!?) (ซื้อได้ที่นี่นะ)  …

  • เตือนภัยเว็บ ‘AdidasThailand’ เว็บปลอม แต่ทำซะเนียนนึกว่าเป็นเว็บ Official!!

    เตือนภัยเว็บ ‘AdidasThailand’ เว็บปลอม แต่ทำซะเนียนนึกว่าเป็นเว็บ Official!!

    ในปัจจุบันมีมิจฉาชีพที่หวังหารายได้จากการหลอกขายของมากมาย ซึ่งบางครั้งก็แอบอ้างว่าสินค้าเป็นของแท้ แต่เอาของปลอมมาขาย หรือ ใช้วิธีการลดสินค้าให้ดูน่าซื้อหลอกให้ผู้บริโภคโอนมาแล้วชิ่งหนีก็มี ซึ่งการจะทำแบบนี้ได้เหล่ามิจฉาชีพจะต้องอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ ไม่สามารถหาตัวจับได้ง่ายๆ เพราะการดำเนินคดีนั้นจะทำได้ยาก และทำให้ผู้เสียหายถอดใจไปไม่เอาความ   และวันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องมาแจ้งเตือนให้กับเพื่อนๆ ที่เป็นแฟนสินค้าแบรนด์ดังอย่าง Adidas ถึงเรื่องของการสั่งซื้อของผ่านทางเว็บไซต์ www.adidasthailand.com เพราะมีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปชื่อว่า สมาชิกหมายเลข 1705807 ได้ออกมาตั้งกระทู้เตือนภัย ชื่อกระทู้ว่า “ADIDAS ปลอม www.adidasthailand.com” โดยเล่าเรื่องราวที่เพื่อนของตัวเองได้ประสบพบเจอมาจากการสั่งสินค้า จากเว็บไซต์นี้   มีเนื้อหาในกระทู้ว่า ( #เหมียวหง่าว ขอโคว้ทเนื้อหาในกระทู้มาเลยก็แล้วกันเพื่อไม่ให้ข้อมูลเกิดความคลาดเคลื่อน) “ตามหัวข้อกระทู้เลยครับว่าเว็บไซต์ ADIDAS นี้เป็นเว็บไซต์ปลอมครับ เพื่อนผมเผลอสั่งรองเท้าไปคู่นึงครับ นึกว่าเป็น Official Adidas Thailand เขาสั่งโดยที่เขาไม่ได้ศึกษารายละเอียดก่อนครับ เห็นราคาถูกมาก เขาเลยสั่งครับ เว็บไซต์นี้ www.adidasthailand.com แต่เวลาเงินตัดบัตรจะเป็นบริษัท BAISITE TRADE CO.,LTD เขาลองเอาชื่อไปค้นใน GOOGLE ดูครับ พบว่าบริษัทชื่อนี้เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในจีนครับ ผมเอาเรื่องนี้มาเล่าเพราะว่าไม่อยากให้คนอื่นที่หลงเห็นราคาแล้วไม่ได้เช็คก่อนสั่งของครับ ความประมาmการสั่งของออนไลน์เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อครับ ตอนนี้บัตรของเขาได้โดนตัดเงินไปแล้วครับ ตัดตั้งแต่วันที่กดสั่งเลยครับ อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับทุกๆ…

  • ขายทับที่!? เผยพฤติกรรมแอดมินกลุ่ม ‘เปิดท้ายชานเรือน’ ใครขายดีกว่า โดนแบนออกจากกลุ่ม

    ขายทับที่!? เผยพฤติกรรมแอดมินกลุ่ม ‘เปิดท้ายชานเรือน’ ใครขายดีกว่า โดนแบนออกจากกลุ่ม

    ช่องทางการค้าขายเดี๋ยวนี้ ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น เราจะเห็นได้ว่าพ่อค้าแม่ค้าหันมาจับตลาดออนไลน์กันเต็มไปหมด และถ้าจะให้ขายได้ดี มีกลุ่มลูกค้าเยอะ การเข้ามาขายของในกลุ่มที่จัดตั้งเฉพาะก็นับว่าเป็นอีกช่องทางที่ดี     แต่แล้วเมื่ออยู่ดีๆ ลงขายของเล่นเด็ก ดันโพสต์ตามปกติ มีลูกค้าเข้ามาติดต่อ แล้วจู่ๆ โพสต์ก็หายไปดื้อๆ แถมยังตามหากลุ่มขายของไม่เจออีก อย่างคุณ มงคล 999 ที่นำมาโพสต์ในพันทิป ตามแชทสอบถามแอดมินกลุ่มก็ไม่ได้คำตอบใดๆ จนกระทั่งมารู้ความจริงว่าไปขายทับที่แอดมินกลุ่มที่ขายทรายวิทยาศาสตร์ จึงเป็นเหตุทำให้โดนลบออกจากกลุ่ม     ซึ่งนอกเหนือจากกรณีนี้แล้ว ยังมีสมาชิกกลุ่มคนอื่นๆ ที่โดนในรูปแบบเดียวกัน การนำสินค้าประเภทของเล่นเด็กมาประกาศขายภายในกลุ่ม ก็จะถูกบล็อกและลบโพสต์เช่นเดียวกัน     สืบกันไปสืบกันมา จนกระทั่งคุณ เอรสเปรสโซ่หวานน้อย พบกับความจริงที่ว่าแอดมินกลุ่มที่สร้างกลุ่มขายของเล่นเด็กขึ้นมานั้นเป็นเจ้าของเดียวกัน คู่สามีภรรยา มาเปิดกลุ่มขายของเล่นเด็ก แต่กลับแบนพ่อค้าแม่ค้ารายอื่นออกจากกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่ขายของเหมือนกับแอดมินและขายดิบขายดีจนมากเกินไป จะถูกแบนอย่างรวดเร็ว     ทั้งๆ ที่พ่อค้าแม่ค้ารายอื่นก็ทำตามข้อตกลงกฎการลงขายของกลุ่มแล้วก็ยังโดนอยู่ดี . . .   อารมณ์แบบนี้ประมาณว่าเปิดร้านตั้งอยู่ในย่านที่มีคนผ่านมาดูเยอะ พอพ่อค้าแม่ค้ารายอื่นมาตั้งข้างๆ ขายของคล้ายๆ กัน บางรายอาจจะขายได้ดีกว่าก็เลยไล่ที่ออกไป เพื่อให้ตัวเองสามารถขายได้ต่อไป ถ้า…

  • 23 ไอเดียกลยุทธ์การขายสุดบรรเจิด ที่ทำได้เพียงพูดแต่คำว่า ‘โอ๊วว๊าววววววว’ เท่านั้น!!!

    23 ไอเดียกลยุทธ์การขายสุดบรรเจิด ที่ทำได้เพียงพูดแต่คำว่า ‘โอ๊วว๊าววววววว’ เท่านั้น!!!

    ก็อย่างที่มนุษย์รู้กันมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาลเลยล่ะว่า ถ้าอยากขายของให้ได้ ขายให้ดี การตลาดและโฆษณานั้นต้องมาเต็ม ฮ่าๆๆ และวันนี้เราก็มี 23 เทคนิคทางการตลาดเจ๋งๆ มาฝากกันล่ะ บางอันนี่ก็ฮาและสร้างสรรค์สุดๆ ไปเลยนะเนี่ย ><   ไอแพดสมัยวิคทอเรีย…เอิ่มมม กระดานดำสินะตัวเธอ   มาหยิบชั้นไปสิ ชั้นโสด   อื้อหืออออ อลังการมาก   คิดไปได้นะเนี่ย ฮร่าาา   เลือกเอา จะซื้อถุงยางอนามัยหรือผ้าอ้อม!!?   ขายช่วงหิมะตก แครอท = จมูกสโนว์แมน อิอิ   อะโวคาโด ฮร่าาาาา   แหมมมม นึกว่าโฆษณาซีรีย์เรื่องใหม่ -*-!!   กรัมปี้แคทก็มา…เย็นชาเหมือนดวงใจของฉัน   ซาตาน และเลข 666 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจ!!! นี่พยายามจะบอกอะไรเราอยู่หรือเปล่าเนี่ย   ตลาดขายเนื้อบด   มันฝรั่งพวกนี้ ปลูกบนดางอังคารสินะ ??  …

  • แม่ค้าเงิบ!! เจอลูกค้าโวยหาว่าแม่ค้าส่งของผิดที่ แถมขู่โพสพันทิปประจาน แต่ที่จริงตัวเองมั่ว ?!?!

    แม่ค้าเงิบ!! เจอลูกค้าโวยหาว่าแม่ค้าส่งของผิดที่ แถมขู่โพสพันทิปประจาน แต่ที่จริงตัวเองมั่ว ?!?!

    ปัจจุบันการซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ตกลายเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยเป็นอย่างมาก ด้วยความสะดวกสบายไม่ต้องเดินทางออกไปซื้อเอง แค่จ่ายเงินผ่านอินเตอร์เน็ต รอแค่วันสองวัน สินค้าก็เดินทางมาถึงแล้ว แต่บางครั้ง การสั่งซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตก็อาจเกิดปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะพ่อค้าแม่ค้าเอง หรือว่าอาจเป็นที่ลูกค้า อย่างเรื่องที่ #เหมียวอ๊อดโด้ นำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมวันนี้ รับรองว่าเพื่อนๆ อ่านแล้วจะต้องกุมขมับไปกับความเงิบของลูกค้าจริงๆ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย เรื่องราวดังกล่าวเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงจากร้านค้าออนไลน์แห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของร้านได้ฝากเพจ ลูกค้าคือบร๊ะเจ้า มาโพส (ตอนนี้ถูกลบไปแล้ว) เหตุการณ์มีอยู่ว่า มีลูกค้าคนหนึ่งได้ทักไลน์มาสอบถามแม่ค้าว่า ทำไมสินค้าที่ให้ส่งไปที่จังหวัดอุดรธานี ถึงมาโผล่ที่ไปรษณีย์ตลิ่งชันแทน   เมื่อแม่ค้าตรวจสอบ ก็พบว่าชื่อที่อยู่ทั้งหมดก็ถูกต้อง และสินค้าก็กำลังเดินทางไปตามปกติ จึงสอบถามกลับไปยังลูกค้าว่า มีตรงไหนผิดหรือเปล่า   ลูกค้าก็ตอบกลับมาว่า เขาบอกให้ส่งไปอุดรฯ แล้วทำไมมันมาโผล่ที่ฉิมพลีล่ะ ทำไมมันไม่ไปอุดรฯ คนที่สั่งเค้ารออยู่นะ   เมื่อแม่ค้าก็อธิบายว่า พัสดุส่งเข้าที่ไปรษณีย์ตลิ่งชัน มันก็จะไปที่ตลิ่งชันก่อน แล้วมันจะค่อยๆ เดินทางไปอุดรฯ แต่ลูกค้าก็ยังไม่เข้าใจ และบอกว่าแม่ค้าส่งผิด ต้องรับผิดชอบที่ส่งผิดไป   แม่ค้าก็พยายามอธิบายว่ามันไม่ผิด แต่ดูเหมือนว่าลูกค้าก็ยังไม่เข้าใจ   สุดท้ายลูกค้าบอกว่าจะแคปแชทไปลงในพันทิป เพื่อให้ชาวเน็ตดูว่าใครเป็นคนผิดกันแน่อีกด้วย   แบบนี้ก็มีด้วย…

  • เหมียวนี่ยอมใจ!! เด็กขายดอกไม้ในจีนตื้อจะขายของแก่คนผ่านไปผ่านมา ทั้งเกาะแขน ทั้งทิ้งตัว!?

    เหมียวนี่ยอมใจ!! เด็กขายดอกไม้ในจีนตื้อจะขายของแก่คนผ่านไปผ่านมา ทั้งเกาะแขน ทั้งทิ้งตัว!?

    หลายๆ คนน่าจะเห็นเห็นเทคนิคการขายของอันแพรวพราวของพ่อค้าตามสี่แยกมาแล้วมากมาย บางคนอาจจะมีเทคนิคในการส่งสายตา มีลูกอ้อน ลดแลกแจกแถมอะไรก็ว่ากันไป เพื่อให้คุณยอมควักเงินในกระเป๋าให้พวกเขา แต่ขอบอกเลยว่าวิธีที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้ มันเป็นอะไรที่ชวนเหวอมาก!!     เมื่อวันที่ 27 มีนาคม เว็บไซต์ Overseas.weibo ได้เผยแพร่ภาพของแม่ค้าสาวชาวจีนตัวเล็กคนหนึ่ง ที่พยายามขายดอกไม้ให้แก่ชายหนุ่มคนหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเท่าไหร่ จึงเดินผ่านแม่ค้าสาวไปเฉยๆ     แต่ด้วยจิตวิญญาณอันแรงกล้าของแม่ค้าสาว เธอจึงพยายามเกาะที่แขนเสื้อของชายหนุ่มและตื้อให้เขาซื้อดอกไม้ของเธอ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ!! แม่ค้าสาวจึงทิ้งตัวลงกับพื้น ไม่ยอมปล่อยให้ชายหนุ่มเดินผ่านเธอไปง่ายๆ โดยที่ไม่ได้ซื้อดอกไม้จากเธอ โอ้วคุณพระ!!     หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ของจีน ชาวเน็ตต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นาน เช่นผู้ที่ใช้นามแฝงว่า @我命已定盘 กล่าวว่า “การเป็นคนขายดอกไม้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราควรจะเห็นใจและซื้อคนละดอก” หรือคุณ @M_sir98 บอกว่า “สาวน้อยคนนี้ควรจะมีศักดิ์ศรีบ้าง”   เทคนิคการขายแบบนี้ต้องบอกเลยว่าทุ่มทุนสร้างมากๆ #เหมียวฟิ้นเองยังไงเคยทำ เดี๋ยวไว้ต้องกลับไปลองทำบ้างแล้ว ที่มา overseas.weibo

  • สาวสั่งลิป Sivanna ผ่านเน็ต 300 โหลมูลค่า 40,000 กว่าบาท โดนแม่ค้าโกงส่งให้แค่นิดเดียว!!

    สาวสั่งลิป Sivanna ผ่านเน็ต 300 โหลมูลค่า 40,000 กว่าบาท โดนแม่ค้าโกงส่งให้แค่นิดเดียว!!

    การขายของออนไลน์นับว่าเป็นสิ่งที่มาคู่กับยุคอินเทอร์เน็ตสมัยนี้จริงๆ ไม่ว่าจะทั้งสั่งซื้อมาใช้เองหรือจะสั่งเพื่อนำมาขายต่อในพื้นที่ก็ว่ากันไป ทั้งนี้ก่อนที่จะทำการสั่งซื้อออนไลน์ใดๆ หากซื้อจากบริษัทหรือห้างร้านที่มีชื่อเสียงก็ควรที่จะเช็คประวัติผู้ขายเสียก่อน ยิ่งถ้าสั่งจากพ่อค้าแม่ค้าเป็นตัวบุคคลแล้วด้วย ก็ควรที่จะเช็คให้ละเอียดถี่ถ้วนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้     แต่สุดท้ายแล้วกลโกงต่างๆ ก็ยังเกิดขึ้นได้อยู่ดี ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณ สมาชิกหมายเลข 2949934 จากเว็บพันทิป เป็นเรื่องราวของการสั่งซื้อลิป Sivanna ที่กำลังได้รับความนิยมสูงมากและกำลังขาดตลาดจนหาซื้อได้ยาก ซึ่งเธอเองก็เป็นคนที่รับมาขายต่ออีกที ในเมื่อร้านใหญ่ๆ ของหมด ก็ต้องหาซื้อตามร้านเล็กๆ แทน   เธอติดต่อกับแม่ค้ารายหนึ่งเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยทางแม่ค้าแจ้งว่ามีของครบทุกสีพร้อมส่งทันที จึงตกลงสั่งซื้อลิปเป็นจำนวนทั้งสิ้น 300 โหล มูลค่ารวมทั้งหมด 42,850 บาท พอโอนเงินให้เสร็จสรรพ จะส่งของให้ในวันอังคารแต่โดนผลัดมาเป็นวันพุธแทน     แต่เมื่อของมาถึงในวันพฤหัสบดี เธอไปรับของที่ไปรษณีย์ เปิดกล่องออกมาทำให้รู้สึกช็อคไปซักพัก เนื่องจากจำนวนของที่อยู่ภายในกล่องไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงไว้ (300 โหล)     ตอนแรกที่นึกขึ้นได้เธอคิดว่าน่าจะส่งให้ผิด แต่พอรู้ข้อมูลมาจากเพื่อนที่ขายลิปเหมือนกัน เพื่อนเธอก็โดนหลอกด้วย ส่งของให้ไม่ครบ จึงทำการคืนสินค้าไป ซึ่งมันก็มาส่งต่อให้เธออีกทอดเป็นลิปชุดเก่า ชุดเดียวกันที่ส่งมาหลอกขายมาก่อน   ได้ของไม่ครบตามที่กล่าวอ้าง…

  • ตัวอย่างที่ดีของ ‘พ่อบ้านผู้น่ารัก’ แอบมาติดต่อซื้อลิปทาปากจากแม่ค้าเอง เห็นว่าแฟนอยากได้!!

    ตัวอย่างที่ดีของ ‘พ่อบ้านผู้น่ารัก’ แอบมาติดต่อซื้อลิปทาปากจากแม่ค้าเอง เห็นว่าแฟนอยากได้!!

    ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วกับเทศกาลแห่งความรักวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ คนโสดก็โอดควรญกันไป ไม่มีคู่กับเขา เราอยู่แบบเหงาๆ ก็ได้ ส่วนใครที่มีแฟนมีคู่กันแล้ว เทศกาลนี้ก็มักจะเป็นเทศกาลแห่งการเซอร์ไพรส์ ซื้อของน่ารักกุ๊กกิ๊กเพื่อให้รักนั้นยืนยาวต่อไป   ลิปทาปากหลากเฉดสี สาวๆ อยากได้มากกกกก!!   ซึ่งจะสังเกตได้ว่าช่วงนี้ สาวๆ หลายคนมักจะแชร์หรือโพสต์รูปภาพสิ่งของที่อยากได้ โดยอันดับหนึ่งที่เห็นมาเยอะมากคือ ‘ลิปทาปาก’ ประมาณว่าจะมีใครซักคนใจดีซื้อให้บ้างมั้ยน้าาาาาา (ก็อยากให้แฟนซื้อให้นั่นแหละ)     และในวันนี้ ระหว่างที่เหมียวกำลังตะลอนไปในโลกออนไลน์ จู่ๆ ก็ไปพบกับเรื่องน่ารักๆ จากภาพแชทไลน์ของแม่ค้าขายลิปทาปาก ที่ระบุข้อความเอาไว้ว่า ‘70% ผู้ชายมาซื้อค่ะ บางคนแทบไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่เห็นแฟนอยากได้เลยแอบมาซื้อ เจอคำถามเยอะมาก เลือกให้น่อยคับ ? มันคืออะไรคับ ? มีสีอะไรบ้าง ? มันเป็นของอะไร ? จะส่งทันวันวาเลนไทน์ไหมคับ? จะไปเซอไพรแฟน จะไปเซอไพรคนที่แอบชอบ อย่าตอบกลับมานะคับเดี๋ยวผมทักไปเดี๋ยวแฟนรู้ แม่ค้าเลือกให้น่อยคับไม่รู้ว่า ผญ. ชอบแบบไหน ? แอบเห็นแฟนทาสีนี้คับเอาสีนะค่ะ #ผู้ชายดีๆยังมีอยู่จริงจ้ะจะเป็นแฟนใครบ้างรอลุ้น14กุมภา55555555555′     จากภาพแชทไลน์นั้น…

  • เลิกแล้วนะครับ!! เจ้าของน้องหมาชิบะที่เฝ้าร้านขายของชำอันโด่งดัง ประกาศพักงานให้น้องชิบะแล้วจ้า

    เลิกแล้วนะครับ!! เจ้าของน้องหมาชิบะที่เฝ้าร้านขายของชำอันโด่งดัง ประกาศพักงานให้น้องชิบะแล้วจ้า

    หากใครยังจำกันได้ ย้อนกลับไปเมื่อไม่นานมานี้มีการแชร์ทั้งภาพและวิดีโอคลิปอันน่ารักน่าชังของน้องหมาชิบะตัวหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นคนเฝ้าร้านขายของชำในญี่ปุ่น     โดยที่ร้านขายของชำนี้ก็คือร้าน Suzuki Tobacco Shop หรือร้านขายบุหรี่ที่มีน้องหมาชิบะชื่อว่า ‘ชิบะ’ อีกทีเป็นพนักงานขายนั่นแหละ     ซึ่งในตลอดปีที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของเจ้าชิบะนั้นเป็นที่ดึงดูดของนักท่องเที่ยวมากๆ ไม่ว่าใครผ่านมาเห็นก็ต้องแวะซักหน่อย เพราะความน่ารักและแสนรู้ของมัน     แต่ทว่าล่าสุดนี้เจ้าของน้องชิบะนั้นได้ออกมาประกาศผ่านอินสตาแกรมของตัวเองว่า ร้านขายบุหรี่แห่งนี้ได้ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการแล้ว และน้องชิบะก็จะได้ใช้ชีวิตวัยเกษียณเหมือนกับสุนัขทั่วๆ ไป           สงสัยว่าต่อจากนี้ไปคงได้ไปนอนแทะแตงกวาทั้งวันแน่ๆ เลย ที่มา : thechive

  • ไปไกลแล้ว!! สาวเจ้าโพสต์ขายกางเกงในใช้แล้ว เอาใจโรคจิต ขายจริง ส่งจริงไม่โมเม!!

    ไปไกลแล้ว!! สาวเจ้าโพสต์ขายกางเกงในใช้แล้ว เอาใจโรคจิต ขายจริง ส่งจริงไม่โมเม!!

    ในยุคออนไลน์ปัจจุบันนี้การจะทำมาค้าขายก็สะดวกมากขึ้น ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ เพียงแค่ดูภาพ คำบรรยาย และโทรศัพท์หรือติดต่อกับผู้ขายโดยตรงเพื่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้า จนกระทั่งนำไปสู่กระบวนการส่งสินค้าจริง     แต่ทว่าสินค้าที่ขายในโลกออนไลน์นั้นมีเยอะแยะมากมาย แต่มันไม่น่าจะไปถึงขนาดโพสต์ขาย กางเกงในใช้แล้ว นี่สิ คือไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ก็มีขึ้นมาจนได้     ได้อ่านและได้เห็นก็รู้สึกอี๋ขึ้นมาทันที แต่อย่าไปคิดว่าจะไม่มีคนซื้อนะ เมื่อมีขายจริง ก็มีคนซื้อจริงด้วย โอ้ยยยย!! ถึงมันจะขายได้ แต่มันก็ไม่เหมาะสมอย่างแรง เหมียวนี่ทำใจยอมรับไม่ได้ ที่มา : plug-innews

  • ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ หลังมีภาพพระขายสบู่หน้าใส แถมรีวิวให้พร้อม!!!

    ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ หลังมีภาพพระขายสบู่หน้าใส แถมรีวิวให้พร้อม!!!

    กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตอีกครั้งกับสถาบันสงฆ์ หลังจากมีภาพของพระรูปหนึ่งขายสบู่เสริมความงาน พร้อมมีการทดลองใช้สินค้าให้ดูด้วย   โดยพระรูปนั้นได้โพสภาพพร้อมข้อความ บอกถึงสรรพคุณของสบู่ว่าใช้แล้วหน้าใส ไร้สิว ไร้ฝ้า ไร้ริ้วรอย และมีภาพก่อนใช้หลังใช้ของพระรูปนั้นให้ดูด้วย นอกจากนี้ยังทิ้งท้ายไว้อีกว่า หากสนใจให้ทักไปทางแชท และมีบริการส่งถึงบ้านอีกด้วย   เมื่อชาวเน็ตได้เห็นภาพนี้ ก็มีการวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม เพราะเป็นสมณเพศห้ามทำการค้าขาย และต้องสำรวม นอกจากนี้ยังมีการเรียกร้องให้ลงโทษพระรูปนี้อีกด้วย       เพราะว่าอย่างงี้ละน้า ทำให้ชาวบ้านเริ่มไม่ศรัทธาในศาสนา คงต้องการมีสังคายนาศาสนาในประเทศเราอีกซักครั้งแล้วหละ หากปล่อยไว้อย่างนี้ บางทีสถาบันศาสนา อาจจะต้องล่มสลายด้วยน้ำมือของคนในเองนะเหมียว ที่มา Kapook