Tag: ขีปนาวุธ
-
หนุ่มสำรวจฐานทัพนิวเคลียร์เก่า พบ “ปุ่มนิวเคลียร์” ทำลายโลกได้เพียงนิ้วสัมผัส…
Drew Scanlon เกมเมอร์และยูทูบเบอร์หนุ่มเจ้าของแชแนลยูทูบ Cloth Map ในคลิปวิดีโอท่องเที่ยวของเขา เขาได้ลงไปสำรวจยังสถานที่ซึ่งเคยเป็นฐานทัพนิวเคลียร์ในประเทศยูเครน และพบกับปุ่มๆ หนึ่งที่ว่ากันว่ามันคือ ปุ่มทำลายโลก ฐานทัพนิวเคลียร์ในยูเครนแห่งนี้ถูกทิ้งไว้ตั้งแต่ปี 2001 และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยว ฉะนั้น จะเห็นได้ว่าอุปกรณ์และสิ่งของต่างๆ ภายในจะยังคงดูสะอาดและอยู่ในสภาพที่ดี เขาเดินสำรวจลึกลงไปภายในอุโมงค์ที่เต็มไปด้วยความมืด ผนังสองด้านของทางเดินนั้นเรียงรายไปด้วยท่อต่างๆ และประตูที่มีความหนาเป็นสองเท่าของปกติ สุดท้าย ณ กลางห้องเขาก็พบ สิ่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิเช่น “ปุ่มกด” ชมคลิปการเดินชมฐานทัพนิวเคลียร์ของยูเครนกันเลย หลังจากทั้งคู่เดินเข้ามายังห้องควบคุม Dmytro ผู้ทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวบอกกับ Drew ว่าขณะนี้เข้าได้ยืนอยู่ในห้องที่ใช้ “ทำลายโลก” เป็นที่เรียบร้อย Dmytro ยังบอกต่ออีกว่าปกติที่เราเห็นในภาพยนตร์จะเป็นปุ่มใหญ่ๆ สีแดง แต่ของจริงมันก็มีรูปร่างเหมือนปุ่มธรรมดาสีเทาๆ แต่หากกดลงไปเพียงครั้งเดียวมันก็สามารถทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้เลยทีเดียว ผู้นำเที่ยวอธิบายว่า ภายในฐานทัพแห่งนี้จะมีอาหาร น้ำ และยาเพียงพอสำหรับ 45 วันของการอาศัยหลบภัยหลังกดปุ่มยิงระเบิดนิวเคลียร์ Dmytro อธิบายต่อว่า หากกดปุ่มลงไปแล้วจะมีเสียงเตือนดังออกมาทันที และจะมีแสงสีเขียวปรากฏขึ้นขณะที่ยิงระเบิดนิวเคลียร์ จากนั้นจะมีแสงอีกสีหนึ่งปรากฏขึ้นเพื่อบอกว่านิวเคลียร์ได้ถูกยิงออกไปเรียบร้อยแล้ว “คุณลองนับดู จากนี้…
-
บรรยากาศภายในฐานยิงขีปนาวุธ บนดินสภาพเป็นแค่หลุม ลึกลงไปไม่ต๊ะติ๊งโหน่งนะ!?
ในทุกวันนี้ที่เราเห็นข่าวเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธอยู่บ่อยๆ ทำให้เราคิดว่าสงครามนิวเคลียร์อาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้ว บางคนอาจจะเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหลุมหลับภัยนิวเคลียร์กันเอาไว้บ้างแล้ว แต่ก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าจริงๆ แล้วฐานยิงนั้นจะเป็นแบบไหนกัน!? ฐานควบคุมขีปนาวุธที่เราจะพาไปชมในวันนี้คือ Minuteman Missile National Historic Site ที่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ณ ปัจจุบัน ตั้งอยู่ในรัฐเซาท์ดาโคตา สหรัฐอเมริกา ในช่วงรุ่งเรืองของที่นี่มีพนักงานของกองทัพอากาศหลายพันคนเข้าออกที่นี่บ่อยๆ เลยล่ะ “Minute Men” หรือเจ้าหน้าที่ประจำการ จะถูกแบ่งออกเป็น 8 ทีม พวกเขาจะผลัดกันเข้าเวรในฐานนี้ และจะใช้เวลาว่างในการเล่นเกมยิงเรือรบ (Battleship) หรือไม่ก็อุ่นอาหารเพื่อมากินหน้าทีวี แน่นอนว่าความน่าตื่นเต้นของที่นี่คือคุณจะได้ใช้ชีวิตอยู่ใต้ดิน ซึ่งภายในนั้นจะมีห้องควบคุมขีปนาวุธ และมีมุมที่เอาไว้นั่งเล่นด้วย พูดถึงความกว้างของมัน สถานที่นี้มีพื้นที่กว้างถึง 2.5 กิโลเมตรเลยทีเดียว และเป็นที่เก็บขีปนาวุธ Minuteman II ด้วย ทางเข้าหลุมฐานควบคุมขีปนาวุธ พูดถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงอยากที่จะชมว่าบรรยากาศใต้ดินของ Minuteman Missile National Historic Site จะเป็นยังไงบ้าง ช่างภาพ Adam Reynolds ก็ได้นำภาพถ่ายภายในมาเผยแพร่ให้ได้ชมกันแล้ว มุมพักผ่อน…
-
อุบ๊ะ!! การทดสอบจรวดของเกาหลีเหนือผิดพลาด แล้วดันพุ่งเข้าใส่เมืองของตัวเองซะอย่างงั้น
ในปัจจุบัน ประเทศต่างๆ ในโลกนี้ต่างก็ต้องการพัฒนาแสนยานุภาพทางการทหารเพื่อจะได้สามารถปกป้องตัวเอง เมื่อเกิดภัยสงครามขึ้น ซึ่งหนึ่งในอาวุธที่หลายๆ นิยมสร้างขึ้นมาก็คือ ‘จรวดขีปนาวุธ’ นั่นเอง ซึ่งจรวดขีปนาวุธดังกล่าวนี้สามารถโจมตีพื้นที่ที่อยู่ในระยะไกลได้อย่างง่ายดาย โดยใช้ดาวเทียมในการล็อกเป้าหมาย ซึ่งจรวดขีปนาวุธบางลูก มีระยะยิงนับพันกิโลเมตรเลยทีเดียว แต่เมื่อเร็วๆ นี้ก็มีภาพถ่ายจากดาวเทียมที่สามารถยืนยันได้ว่า มีการทดลองจรวดนิวเคลียร์ของประเทศเกาหลีเหนือเกิดขึ้น ทว่าการทดสอบนั้นเกิดผิดพลาดและจรวดที่พวกเขาได้ปล่อยนั้นก็ได้สร้างความเสียหายให้แก่เมืองของพวกเขาเองซะอย่างนั้น มีการทดสอบจรวดอยู่เสมอ ภาพถ่ายจากดาวเทียมที่ว่านี้ แสดงให้เห็นถึงความเสียหายของการทดสอบจรวดที่ตกไปยังเมืองท็อกช็อนที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 200,000 คน จากการรายงานอย่างเป็นทางการของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา สำหรับจรวดที่เกิดความผิดพลาดลูกนี้มีชื่อว่า Hwasong KN-17 ซึ่งเป็นจรวดพิสัยปานกลาง โดยมันได้ถูกปล่อยขึ้นฟ้าจากสนามบินพุกชัง ทางตอนใต้ของจังหวัดพย็องอันเหนือที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงของประเทศเกาหลีเหนือเพียง 64 กิโลเมตรเท่านั้น และเวลาที่มันถูกปล่อยก็คือวันที่ 28 เมษายนเมื่อปีที่แล้วนั่นเอง จุดที่ได้รับการเสียหาย แต่ก็ด้วยความโชคดีที่จุดที่จรวดนี้ตกลงไปเป็นพื้นที่เกษตรกรรมหรือโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งทำให้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น ทว่าก็ได้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างเลยทีเดียว ภาพถ่ายก่อนหน้าที่จรวดจะพุ่งลงใส่ นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาวุธของเกาหลีเหนือได้อธิบายไว้ว่า จรวดลำที่ผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นจากความขัดข้องของเครื่องยนตร์ตั้งแต่นาทีแรกที่มีการปล่อยตัว ทำให้มันเดินทางไปได้เพียงแค่ 40 กิโลเมตรเท่านั้นก่อนที่จะพุ่งลงที่พื้นที่ดังกล่าว ซึ่งหากจรวดไม่มีการผิดพลาดเกิดขึ้น ผู้เชี่ยวชาญคาดเอาไว้ว่ามันน่าจะมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ทางตอนเหนือของทะเลญี่ปุ่น คึม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการทดสอบขีปนาวุธเกิดขึ้นในประเทศเกาหลีเหนือ โดยในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา…
-
รัสเซียไม่น้อยหน้า ทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่มีอานุภาพทำลายประเทศได้ในพริบตา
ก่อนหน้านี้หลายคนคงได้ยินข่าวประเทศเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์กันไปบ้างแล้ว ประเทศมหาอำนาจอย่างรัสเซียจึงไม่ยอมน้อยหน้า ทำการทดสอบขีปนาวุธของตัวเองบ้างซะเลย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อทางรัสเซียได้ทดสอบขีปนาวุธไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ RS-28 Sarmat หรือรู้จักกันในชื่อ Satan 2 เป็นมิสไซล์นำวิถีที่มีพลังทำลายล้างมหาศาล ขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงจากจุดปล่อยจรวดที่ชื่อว่า Plestek Cosmodrome ตั้งอยู่ในเมือง Mirny หลังจากนั้นมันก็ได้พุ่งออกไปไกลกว่า 5,700 กิโลเมตรเพื่อไปยังเป้าหมายพื้นที่ทดสอบขีปนาวุธที่ชื่อว่า Kura ในครั้งนี้เป็นการปล่อยจรวดมิสไซล์นำวิถีเป็นครั้งที่ 3 ของปี เพราะก่อนหน้านี้รัสเซียเคยทดสอบขีปนาวุธชื่อว่า Topol กองกำลังทหารของรัสเซียได้ออกมาบอกว่า ขีปนาวุธ Satan 2 นี้มีอานุภาพร้ายแรงขนาดที่ว่าชนะทุกการป้องกันและสามารถลบประเทศหนึ่งให้หายไปได้ในพริบตา เพราะมันได้บรรทุกหัวรบนิวเคลียร์เอาไว้ภายในถึง 12 อัน ซึ่งคาดว่ามันจะพร้อมใช้งานได้จริงในปี 2019 – 2020 Satan 2 หนักกว่า 100 ตัน และอานุภาพของมันรุนแรงกว่าระเบิดที่ถูกทิ้งในฮิโรชิม่าและนางาซากิ เมื่อปี 1945 กว่า 2,000…
-
เกาหลีใต้เผยการทดสอบ ‘ขีปนาวุธแบบลอบเร้น’ พุ่งตรงเข้าสู่เป้าหมาย สำเร็จอย่างงดงาม
ท่ามกลางไฟสงครามระหว่างเกาหลีเหนือ – ใต้ ที่กำลังถูกจับตามองจากทั่วโลก ล่าสุด.. เกาหลีใต้ได้ออกมาเผยผลการทดสอบ ‘ขีปนาวุธแบบลอบเร้น’ ได้อย่างประสบความสำเร็จ!! โดยเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2017 เกาหลีใต้ ได้ทำการทดสอบขีปนาวุธ ‘Taurus Missile’ จากเครื่องบินรบ F-15 ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถหลบการตรวจจับจากเรดาร์ก่อนพุ่งตรงเข้าสู่เป้าหมายได้อย่างน่ากลัว ก่อนอื่นเราไปชมคลิปวิดีโอสั้นสรุปการทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้กันก่อนเลย… ด้วยคุณสมบัติจากนวัตกรรมการออกแบบขีปนาวุธของโรงงาน ‘Germany’s Taurus Systems’ ทำให้หัวจรวดรุ่นนี้มีระยะรัศมีไกลออกไปถึง 500 กิโลเมตร อีกทั้งมันยังถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยี และดีไซน์การพรางตัวสุดล้ำ ที่ช่วยให้ขีปนาวุธสามารถพรางตัวจากการตรวจจับของเรดาร์ได้ (ประมาณว่า… รู้ตัวอีกทีมันก็พุ่งมาชนบ้านเราแล้ว) หลังการทดสอบสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี รัฐบาลเกาหลีใต้ก็ได้ทำข้อตกลงร่วมกับสหรัฐฯ ในการขยายอำนาจขอบเขตการครอบครองขีปนาวุธ ให้เพิ่มระยะสูงสุดได้มากถึง 800 กิโลเมตร ผ่านสัญญาข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย ซึ่งสาเหตุของการเร่งพัฒนาอาวุธทางทหารของเกาหลีใต้ก็เป็นอย่างที่เราทราบกันดีว่า หลักๆ แล้วก็เพื่อป้องกันและรับมือกับปัญหาอาวุธนิวเคลียร์ของฝั่งเกาหลีเหนือ หลังจากที่ฝั่งเหนือมีการทดสอบยิงขีปนาวุธไปยังที่ต่างๆ แล้วมากถึง 6 ครั้ง ในขณะที่ล่าสุดมีการรายงานว่า…
-
เรื่องราวของ Stanislav Petrov นายทหารผู้หยุดยั้งไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 เมื่อปี 1983
ทหารผู้ปกป้องประเทศทั้งหลาย นอกจากการที่ต้องออกไปรบกับข้าศึกโดยตรงแล้ว ภายในห้องสั่งการเองก็ยังต้องพบกับความตึงเครียดต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่องการวางแผนการรบและการบริหารจัดการกองทัพของตนเอง และสิ่งที่สำคัญคือการตัดสินใจที่ต้องเด็ดขาดและรอบคอบ เพราะไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาอาจเลวร้ายมากไปกว่าเดิมก็ได้ เหมือนกับชายคนนี้ที่มีชื่อว่า Stanislav Petrov ผู้ที่สามารถหยุดยั้งไม่ให้เรื่องราวบานปลายจนอาจเกิดเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ เขาคือหนึ่งในทหารอากาศแห่งสหภาพโซเวียต ซึ่งเหตุการณ์สำคัญที่เขาได้ทำลงไปก็คือ ในวันที่ 26 กันยายน 1983 เรื่องราวที่อาจทำให้มหาอำนาจอย่างโซเวียตและอเมริกาในขณะนั้น ต้องห่ำหั่นกันจนเกิดเป็นสงครามได้ ในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน ดาวเทียมของโซเวียตสามารถจับสัญญาณเจอขีปนาวุธจำนวนมาก ที่ถูกยิงมาจากฝั่งอเมริกา ทำให้เกิดความแตกตื่นและโกลาหลเป็นอย่างมาก ตอนนั้นเขาสงสัยว่าระบบคอมพิวเตอร์อาจมีความบกพร่อง ทว่ามันไม่ใช่เรื่องที่แน่นอน 100 เปอร์เซนต์ เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจมีการยิงมาจริง จะทำให้โซเวียตต้องถูกโจมตีก่อนและเป็นฝ่ายเสียเปรียบ อีกทั้งเชื่อว่าถ้าหากยิงสวนกลับไป ขีปนาวุธมากมายอีกหลายร้อยลูกจะต้องตามมาจากฝั่งโน้นแน่นอน เพราะอย่างนั้นจึงทำให้การตัดสินใจในครั้งนี้เป็นเรื่องที่สร้างความกดดันให้กับตัวเขาเองเป็นอย่างมาก เขาได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ในปี 2013 ว่า “สิ่งที่ผมต้องทำทั้งหมดตอนนั้นมีเพียงแค่ โทรหาผู้บัญชาการสูงสุดโดยตรง ทว่าผมกลับไม่สามารถขยับตัวได้เลย ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่บนกระทะร้อน” ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจโทรไปเพื่อแจ้งเรื่องความผิดปกติของระบบ หลังจากนั้นผ่านไป 23 นาทีเขาก็ยังคงไม่ได้รับข่าวสารใดเพิ่มเติม ซึ่งหากมีการโจมตีกันจริง พวกเขาที่อยู่ที่นั่นจะต้องรับรู้ได้แล้ว สุดท้ายจึงพบว่าสัญญาณที่เจอเข้านั้นเป็นเพียงแค่ความผิดพลาดของดาวเทียม ที่เห็นเงาสะท้อนบนก้อนเมฆเป็นขีปนาวุธ แสดงให้เห็นถึงข้อผิดพลาดในระบบเตือนภัยล่วงหน้าของโซเวียต และถึงแม้ว่าสิ่งที่เขาได้ตัดสินใจทำลงไปนี้จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่ก็ต้องถูกตำหนิเพราะไม่สามารถบันทึกอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ลงในรายงานได้…
-
สื่อนอกเผย ภาพบรรยากาศในเกาหลีเหนือ-ใต้ หลังผู้นำคิม “ปล่อยมิสไซล์” เหนือน่านฟ้าญี่ปุ่น
นับว่าเป็นข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลก หลังจากที่ คิม จอง อึน ปล่อยขีปนาวุธบินผ่านเหนือน่านฟ้าประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ประชาชนต่างรู้สึกหวาดกลัว และต้องออกมาเตรียมตัวรับมือกันเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นภาพบรรยากาศในญี่ปุ่นหลังจากที่มีเสียงสัญญาณเตือนภัยกันมาแล้ว คราวนี้เราจะขอพาไปชมภาพบรรยากาศในเกาหลีเหนือบ้าง ในวันที่พี่คิมสั่งยิงขีปนาวุธ ก็คงมีแต่ประชาชนเกาหลีเหนือนี่แหละที่ดูเหมือนจะยินดีปรีดากว่าใครเพื่อนเลย Ri Chun Hee ผู้สื่อข่าวของเกาหลีเหนือ กับการรายงานข่าวเกี่ยวกับขีปนาวุธที่กำลังเผยแพร่ภาพสดไปทั่วประเทศ โดยมีการรายงานว่าแผนการณ์การของท่านผู้นำเป็นไปตามความคาดหมาย ผู้สื่อข่าว CNN ได้สัมภาษณ์นักศึกษาชาวเกาหลีเหนือ Kim Su Jong วัย 14 ปี ถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ความว่า “ตั้งแต่ที่ประเทศเรามีแสงยานุภาพที่เพียงพอ และอยู่ภายใต้การปกครองของท่านผู้นำคิมจองอึน เราเชื่อว่าไม่มีประเทศไหนในโลกที่จะต่อกรกับเราได้” ภาพประชาชนออกมายืนชมการทดสอบยิงขีปนาวุธ ซึ่ง… เป็นภาพที่เผยแพร่ช้ากว่าสื่ออื่นๆ ทั่วโลกถึง 24 ชม. เลยทีเดียว ในวันนั้นเองชาวเกาหลีเหนือก็ต่างออกมาชื่นชม และให้กำลังใจผลงานของท่านผู้นำ ภาพของคิมจองอึน หลังจากทดสอบยิงขีปนาวุธเป็นระยะทางกว่า 2,735 กิโลเมตร ผ่านน่านฟ้าประเทศญี่ปุ่น เรียกได้ว่างานนี้ได้ผู้นำมานั่งคุมงานเอง กดปุ่มยิงขีปนาวุธด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าในขณะที่เกาหลีเหนือกำลังภูมิใจกับขีปนาวุธ ประเทศอื่นๆ…
-
กองทัพเกาหลีเหนือออกมาเดินสวนสนาม ประกาศแสนยานุภาพ เพื่อตอบโต้สหรัฐอเมริกา…
หลังจากที่มีข่าวคราวเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในขณะนี้ ล่าสุดทางเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานถึงความเคลื่อนไหวอีกระลอกกับสถานการณ์ในช่วงนี้ โดยทางเกาหลีเหนือได้มีการประกาศแสนยานุภาพของพวกเขา ด้วยการเดินสวนสนามของทหารกว่าหมื่นนายใจกลางกรุงเปียงยาง เผยให้เห็นภาพการตั้งแถวของนายทหารเกาหลีเหนือบริเวณหน้าอนุสาวรีย์ของพรรคแรงงาน นายทหารหลายหมื่นนาย ที่ออกมาสวนสนามเพื่อสนับสนุนท่านผู้นำคิม เมื่อเช้าวันที่ 11 สิงหาคม 2017 สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือได้ออกมาเตือนสหรัฐอเมริกาว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่นั้นอาจก่อให้เกิดสงครามขึ้นเมื่อใดก็ได้ หนึ่งในคำปราศัยระหว่างการสวนสนามกล่าวว่า พวกเขามีความแน่วแน่ที่จะยุติความเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นมิตรของสหรัฐอเมริกาที่กดขี่พวกเขามาเป็นเวลานานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว สหรัฐอเมริกาและประเทศพันธมิตรจะต้องชดใช้ให้สาสมกับสิ่งที่พวกเขากดดันเกาหลีเหนือ การออกมาสวนสนามครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการที่สหรัฐฯ ออกมาเตือนเกี่ยวกับการพัฒนาด้านแสนยานุภาพของเกาหลีเหนือ นอกจากการประกาศครั้งนี้แล้ว ทางเกาหลีเนือยังได้ประกาศว่าพวกเขาพร้อมที่จะยิงขีปนาวุธ 4 ลูก เพื่อโจมตีเกาะกวมอันเป็นฐานที่มั่นของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย และท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียด ทางการจีนได้ออกมาเสนอตัวเป็นคนกลางในการเจรจาเรื่องนี้ ทางด้านสำนักข่าวจีน Global Times ได้ออกมากล่าวว่าทั้งสองชาติกำลังทำให้เกิดสถานการณ์ที่ล่อแหลม และอาจเป็นการจุดชนวนนำไปสู่สงครามอีกด้วย นายทหารกว่าหมื่นนาย ออกมาเดินขบวนและสวนสนามบริเวณหน้าอนุสาวรีย์พรรคแรงงาน . . รูปของท่านผู้นำ ที่ถูกนำมาแสดงในการสวนสนามครั้งนี้ . เหล่านายทหารและสีหน้าที่ขึงขังของพวกเขา ที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะสนับสนุนท่านผู้นำ ทางด้านเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ก็มีการจัดพิธีส่งมอบหน้าที่ผู้บังคับการในฐานทัพของกองทัพสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้เช่นเดียวกัน …