Tag: ขี้
-
ก็กลัวจะเหม็น… หนุ่มทนไม่ไหวสั่งให้ทุกคน “หนีไป!” ก่อนจะ “ทิ้งทุ่น” บนรถไฟใต้ดิน…
(คำเตือน: บทความมีภาพและเนื้อหาที่ไม่จรรโลงใจ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม) จะมีอะไรที่บังคับให้เราต้องเร่งรีบไปมากกว่าความรู้สึก “ปวดอุจจาระ” อีกล่ะ? ต้องยอมรับเลยว่าไอ้เจ้าอุจจาระนี่มันอานุภาพรุนแรงมากจริงๆ บางครั้งถ้ามันอยากจะออกมาจริงๆ เราอาจจะคุมไม่อยู่เลยทีเดียว… ล่าสุดทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งได้เผยภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ สถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งในประเทศ เป็นเหตุการณ์ที่ต้องบอกเลยว่าแค่เห็นภาพก็ขมคอแล้วล่ะ ภาพบรรยากาศสถานีรถไฟใต้ดินในญี่ปุ่น ทวิตเตอร์ชื่อว่า @DECADE10KENN ได้เผยภาพที่ชายสวมชุดสีแดงซึ่งนั่งในอยู่ภายในขบวนรถไฟ มีการปลดกางเกงลงจนล่อนจ้อน เจ้าตัวเล่าว่าในเหตุการณ์ผู้โดยสารต่างตะลึงงันว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายคนนี้กันแน่ จนกระทั่งชายในชุดแดงลั่นวาจาออกมาว่าให้ทุกคน “หนีไป!” พร้อมปล่อยอุจจาระก้อนโตลง “เผละ” บนพื้นของรถไฟขบวนดังกล่าว ทำเอาผู้โดยสารทุกคนต่างขยับตัวออกห่าง อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาสืบสวนเหตุการณ์นี้แล้วแต่ยังไม่ทราบตัวผู้ก่อเหตุ โดยมีการสันนิษฐานเพียงว่าอาจเป็น การขัดขวางทางธุรกิจ หรือไม่ก็เป็น คนที่ปวดอุจจาระมากจริงๆ ที่นี้ชาวเน็ตที่เห็นทวิตเตอร์นี้ก็เข้ามาคอมเมนต์กันอย่างหรรษา เช่น “ช่วยไม่ได้ก็คนมันปวด” “แค่เห็นภาพกลิ่นก็ลอยมาแล้ว” “นี่มันคือการก่อการร้ายชัดๆ” “ขยะแขยงไม่ไหวแล้ว” “อย่างน้อยเขาก็รู้จักถอดกางเกงก่อนปล่อยนะ” และ “อย่าซูมภาพถ้ายังอยากทานอาหารเย็นอยู่” สำหรับ #เหมียวโลลิ บอกเลยว่า อวสานอาหารเย็นกันไปเลยจ้า… ที่มา: Twitter@DECADE10KENN via ck101
-
ชาวบ้านสงสัย ใครมา ‘อึ๊’ ทิ้งไว้บนถนนหน้าบ้านเป็นปี สุดท้ายจับได้แบบคาหนังคาเขา!!
ชาวบ้านต้องเผชิญกับ ‘กองอึ’ ของมนุษย์อยู่บริเวณหน้าถนนมากกว่า 30 ครั้งใน 1 ปี!? จนในที่สุดก็จับตัวคนร้ายได้แบบคาหนังคาเขาขณะกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่เลยทีเดียว หลังจากที่ Steve ผู้เป็นหนึ่งในชาวบ้านที่ต้องพบเจอกับปัญหาถึงกับทนไม่ไหว เขาคิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อจับตัวคนร้ายให้ได้ เขาขับรถออกไปจอดตามที่ต่างๆ บนถนน Greenslopes เพื่อตามหาดูว่าใครเป็นคนทำกันแน่!! จากคำเล่าลือ หรือข้อมูลที่ได้รับมาจากกล้องวงจรปิด ก็ทำให้รู้ว่าเป็นฝีมือของนักวิ่งคนหนึ่ง ที่มักออกมาวิ่งในทุกๆ เช้า Steve และเพื่อนบ้านร่วมกันขับรถออกไปจอดตามที่ต่างๆ เฝ้ามองดูคนที่ออกมาออกกำลังกายในตอนเช้าทีละคนๆ จนในที่สุดก็มีผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งเป็นผู้ชายสูงวัยมีลักษณะตรงกับข้อมูลแบบเป๊ะๆ Steve จึงพยายามติดตามการเคลื่อนไหวของเขาอย่างห่างๆ เส้นทางการวิ่งของเขา และที่อยู่อาศัย เขาตามอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์ จนในที่สุดผู้ชายคนนั้นก็ลงมือ ทำให้ Steve และเพื่อนบ้านสามารถจับเขาได้แบบคาหนังคาเขา!! “เขาแค่พูดว่า ‘สวัสดี’ เท่านั้นเอง“ Steve เล่าตอนจับได้คาหนังคาเขา ชายคนดังกล่าวถูกเรียกว่า Andrew Douglas Macintosh เป็นชายวัย 64 ปี อาศัยอยู่ห่างออกไปจากที่เกิดเหตุแค่ราวๆ 1 กิโลเมตรเท่านั้น เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับพื้นที่สาธารณะ เขาเลือกที่จะเสียค่าปรับเป็นจำนวน 12,000 บาท…
-
ลูกค้าเดือดเถียงพนักงานไฟแล่บ ดูแววท่าจะแพ้ ‘ล้างลำไส้’ กลางร้าน ปาอาวุธชีวภาพใส่!!
บ่อยครั้งภายในร้านค้าหรือร้านอาหารต้องให้บริการลูกค้ามากหน้าหลายตา อารมณ์ของลูกค้าแต่ละคนก็มีขีดจำกัดไม่เท่ากัน ยิ่งเป็นในต่างประเทศ หากเกิดความไม่พอใจ อาจมีการต่อว่าตำหนิอย่างรุนแรงตามมา… เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่ประเทศแคนาดา ภายในร้านอาหาร Tim Hortons เป็นการฉะหน้ากันระหว่างลูกค้าขี้โมโหกับพนักงานแคชเชียร์หน้าร้าน ซึ่งโดยเบื้องต้นแล้วยังไม่ทราบถึงสาเหตุของการปะทะครั้งนี้ แต่ภาพเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกเอาไว้ได้ กลายมาเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง หลังจากที่ลูกค้ารายนี้ชี้หน้าด่าพนักงานด้วยความไม่พอ แถมดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอม และตัวเองกำลังจะแพ้… เถียงยังไม่ทันขาดคำ เธอตัดสินใจล้างลำไส้ตัวเอง ถกกางเกงลงกลางร้านพร้อมดำเนินการ ‘ล้างลำไส้’ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว อาวุธชีวภาพที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายของเธอ ถูกคว้าขึ้นมาจากพื้นและปาใส่หน้าพนักงานทันที!! ก่อนที่จะคว้ากระดาษเช็ดมือมาเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรก และปาใส่พนักงานซ้ำอีกรอบ ภายหลังจากเกิดเรื่องไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Royal Canadian Mounted Police ที่รับผิดชอบในท้องที่ ยืนยันว่าได้ทำการจับกุมและปล่อยตัวลูกค้าคนดังกล่าวไปเป็นการชั่วคราวแล้ว เพราะต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อพิจารณาการตั้งข้อหาเสียก่อน คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในร้าน สำหรับประเทศแคนาดา หากประชาชนกระทำอนาจารในที่สาธารณะ ด้วยเหตุจงใจเหยียดหยามหรือรุกรานผู้อื่น อาจถูกตัดสินมีความผิดตามข้อกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ที่มา: barstoolsports, dailymail
-
สถิติแสดงให้เห็นกันชัดๆ ว่า “การใช้ห้องน้ำ” ทำให้เสียเวลาชีวิตไปมากขนาดไหน
แน่นอนว่าทุกคนจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำในการทำกิจวัตรประจำวันหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟัน อาบน้ำ ล้างหน้า ปลดทุกข์เบาหนัก ซึ่งดูๆ แล้วแต่ละครั้งเราก็ไม่ได้เข้าไปนานอะไรมากมาย แต่ความจริงแล้วการใช้ห้องน้ำของเรามันอาจยาวนานกว่าที่เราเคยคาดคิดกันมาตลอด วันนี้จึงอยากนำเสนอสถิติเวลาที่เสียไปกับการทำกิจกรรมต่างๆ ในห้องน้ำตลอดช่วงชีวิตของเรา (สถิตินี้อิงจากประชากรในสหราชอาณาจักร อายุเฉลี่ย 81.5 ปี) เราสิ้นเปลืองเวลากันไปมากขนาดไหน ต้องลองไปดู 1. การอาบน้ำ รวมแล้วตั้งแต่เกิดจนถึงอายุประมาณ 81 ปีครึ่ง ผู้ชายใช้เวลาอาบน้ำไปมากถึง 185.4 วัน (เฉลี่ย 9 นาทีต่อวัน) ในขณะที่ผู้หญิงจะเท่ากับ 195.7 วัน (เฉลี่ย 9.5 นาทีต่อวัน) แต่ในปัจจุบันผู้หญิงอาจใช้เวลาไปมากถึง 391.4 วัน (เฉลี่ย 19 นาทีต่อวัน) เลยก็ได้ 2. การเช็ดตัว ในหนึ่งสัปดาห์ เราจะใช้เวลาในการเช็ดตัวไปประมาณ 30 นาที รวมตลอดชีวิตแล้วก็จะเท่ากับ 88.2 วัน 3.…
-
เด็กหนุ่มกลายเป็นอัมพาต เพราะนั่งเล่นโทรศัพท์ขณะปลดทุกข์นานกว่า 30 นาที
ปัจจุบันหลายๆ คนมักจะหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนขึ้นมาเลื่อนดูโน่นดูนี่แทบจะตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาที่ต้องนั่งปลดทุกข์อยู่ในห้องน้ำด้วยแล้ว ซึ่งเราอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการทำอย่างนั้นอาจทำให้เราเป็นอัมพาตได้ง่ายๆ เหมือนกับชายคนนี้ เขามีชื่อว่า Zhang Tong-Jun ช่างตัดผมวัย 24 ปีในเขตฉงชิ่ง ประเทศจีน ผู้ไม่เคยมีประวัติอาการเจ็บป่วยมาก่อน นับว่าเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรงดีคนหนึ่ง แต่ทว่าเขากลับต้องกลายเป็นอัมพาตไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เพียงเพราะการเล่นโทรศัพท์ในห้องน้ำ มีการรายงานว่าในวันหนึ่งเขาเข้าไปใช้ห้องน้ำในร้านตัดผมตามปกติ พร้อมกับเล่นมือถือไปด้วยในระหว่างการปลดทุกข์ แต่เมื่อผ่านไปกว่า 30 นาที น้องชายของเขาก็เข้ามาเจอกับร่างของ Zhang นอนหมดสติอยู่กับพื้น จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน แต่แม้จะมาถึงโรงพยาบาล ทุกอย่างก็ไม่ทันการเสียแล้ว เพราะ Zhang ได้กลายเป็นชายอัมพาตไม่สามารถขยับร่างกายได้อย่างที่ต้องการ แพทย์บอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นผลมาจากการที่เขานั่งอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน ทำให้จำกัดการไหลเวียนของเลือดภายในร่างกายของเขาเอาไว้ บวกกับการไหลเวียนของอากาศภายห้องน้ำที่ไม่มีการถ่ายเทอย่างสะดวก เพราะพื้นที่ที่มีอยู่จำกัด เมื่อเขาลุกขึ้นมาอย่างทันทีทันใดหลังจากที่นั่งอย่างนั้นนานๆ ทำให้สมองของเขาเกิดการขาดออกซิเจนไปเป็นจำนวนมาก ท้ายที่สุดผลที่ตามมาคือการเป็นอัมพาตนั่นเอง นอกจากนี้แพทย์ยังเน้นย้ำอีกว่า เราควรต้องใส่ใจและมีสมาธิกับการนั่งอุจจาระ เพราะไม่อย่างนั้นมันอาจจะทำให้เกิดอาการท้องผูกหรือทำให้บริเวณทวารหนักของเราทำงานมากจนเกินไป อาจกลายเป็นปัญหาสุขภาพร้ายแรงตามมา หลังจากนี้หากใครชื่นชอบที่จะเล่นสมาร์ทโฟน คงต้องละเว้นหรือลดเวลาที่เราจะเล่นอยู่ในห้องน้ำน้อยลง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่น่ากลัวแบบนี้ขึ้นมา ที่มา: worldofbuzz , 9gag
-
เรื่องราวของชายผู้ที่ถ่ายเพียงเดือนละครั้ง บ่มเพาะปัญหาลำไส้อุดตัน จุของเสียขนาดยักษ์…
สิ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงให้มนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่ได้ นอกจากการหายใจและการทานอาหารแล้ว “การขับถ่าย” ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ลองจินตนาการว่ามันจะเป็นอย่างไร หากเราทานอาหารเข้าไปในทุกๆ วันแต่เราไม่ขับถ่ายเลย… หากยังจินตนาการไม่ออกล่ะก็ เรามีเรื่องราวของชายผู้หนึ่งมานำเสนอ ชายผู้นี้ใช้ชีวิตของเขาไปพร้อมกับการ ขับถ่ายอุจจาระเพียง “เดือนละหนึ่งครั้ง” เท่านั้น ชื่อของชายผู้นี้ไม่ถูกเปิดเผย แต่เขาเป็นคนที่มีอาการของ โรคลำไส้ใหญ่โป่งพองโดยกำเนิด หรือ Hirschsprung’s disease เป็นอาการที่เกิดจากเซลล์ประสาทบริเวณปลายลำไส้ใหญ่ของบุคคลผู้นั้นมีการพัฒนาที่ไม่สมบูรณ์ส่งผลให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหวน้อย อุจจาระผ่านได้ยากและเกิดการอุดตัน อิงจาก วิทยาลัยการแพทย์ของฟิลาเดลเฟีย เมื่อเขายังเป็นเด็กทารก เขามีสุขภาพทั่วไปแข็งแรงเป็นปกติ เว้นแต่เพียงว่ามีขนาดท้องที่ใหญ่และมีอาการท้องผูกเล็กน้อย แต่เมื่อเขามีอายุได้หนึ่งขวบครึ่ง อาการก็แย่ลง เมื่อเขาโตขึ้นเขาก็ต้องพบกับความเจ็บปวดจากอาการท้องผูกรุนแรงและขนาดท้องที่พองขึ้นเรื่อยๆ เวลาผ่านไปจนเขามีอายุได้ 16 ปี เขากลายเป็นผู้ที่ขับถ่ายเพียงเดือนละหนึ่งครั้ง แม้ว่าทางการแพทย์จะทราบถึงอาการนี้ดีว่ามันเกิดจากปัญหาของปลายลำไส้ใหญ่ แต่การผ่าตัดลำไส้นั้นเป็นวิธีการรักษาที่ถือว่าเสี่ยงมากในสมัยช่วงปี 1890 น่าเสียดายว่าแทนที่เขาจะได้รับการช่วยเหลือ เขาในวัย 20 ปีกลับต้องไปแสดงตัวที่พิพิธภัณฑ์ราคาถูก เขาเป็นที่รู้จักกันในนาม “มนุษย์ถุงลม (Wind Bag)” หรือ “มนุษย์ลูกโป่ง (Balloon Man)” ผู้คนจะจ่ายเงินเพื่อเข้ามาดูท้องที่โป่งพองของเขา สุดท้าย มนุษย์ลูกโป่งคนนี้ก็เสียชีวิตลงในวัย 29 ปี เนื่องจากโรคทางลำไส้และการขับถ่ายของเขา ศพของเขาถูกพบในห้องน้ำขณะที่เขาพยายามจะขับถ่าย หลังจากที่เขาเสียชีวิตลงก็มีการผ่าตัดลำไส้ของเขาออกมา…
-
วัตถุสวรรค์!? ชาวอินเดียพบก้อนหินประหลาดหล่นจากฟ้า แต่จริงๆ แล้วเป็น “อึ” จากเครื่องบิน
กลายเป็นเรื่องฮือฮาในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ประเทศอินเดียมาก เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีข่าวว่ามีก้อนหินประหลาดร่วงลงมาจากท้องฟ้าตกลงในหมู่บ้าน จนชาวบ้านเชื่อว่านี่อาจเป็น “วัตถุแปลกปลอมจากนอกโลก” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน Fazilpur Badli ทางตอนเหนือของประเทศอินเดียเมื่อวันเสาร์ที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา โดยวัตถุประหลาดที่ว่านี้มีลักษณะคล้ายก้อนน้ำแข็ง มีน้ำหนักราวๆ 10-12 กิโลกรัม แต่หลังจากคำเล่าลือของชาวบ้านกลับไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่นำเอาวัตถุประหลาดนี้ไปตรวจสอบ กลับพบว่ามันคือ “ของเสีย” จากเครื่องบิน หรืออีกนัยหนึ่งคืออึนั่นเอง เจ้าหน้าที่จากกรมอุตุนิยมวิทยาในประเทศอินเดียได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด แล้วพบว่าจากแนวการตกและสิ่งต่างๆ ในวัตุประหลาดชิ้นนี้ไม่ใช่หินจากนอกโลกหรือสะเก็ดอุกาบาตอย่างแน่นอน มีการสันนิษฐานว่ามันอาจจะหลุดรั่วออกมาจากเครื่องบินขณะบินผ่านหมู่บ้านแห่งนี้ เนื่องจากถังกักเก็บของเสียภายในเครื่องมีปริมาณมากเกินกว่าที่ตัวเครื่องจะเก็บไว้ได้นั่นเอง โดยปกติแล้วเจ้าหน้าที่ในสนามบินจะมีการถ่ายเทของเสียบนเครื่องไปทิ้งทุกครั้งหลังจากที่เครื่องลงจอด แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมการบินระหว่างประเทศก็ยอมรับว่าการรั่วไหลอาจจะเกิดขึ้นได้บ้างระหว่างการบิน เจ้าหน้าที่อาวุโสอย่าง Vivek Kalia ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่าง BBC “มันมีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้าเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ มันมีขนาดใหญ่มาก ผู้คนแตกตื่นและวิ่งหาว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ชาวบ้านบางคนบอกว่ามันคือวัตถุจากนอกโลก บางคนคิดว่ามันคือหินจากสรวงสวรรค์ หนำซ้ำผมยังได้ยินว่าบางคนเก็บกลับบ้านไปด้วย” ตามรายงานของนิตยสาร Times ในประเทศอินเดียบอกว่าชาวบ้านบางคนนำเอาเศษก้อนน้ำแข็งที่ว่านี้ใส่กระเป๋าแล้วเอากลับไปแช่ในตู้เย็นที่บ้าน ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม 2016 ก็เคยมีข่าวว่าหญิงสาวชาวอินเดียรายหนึ่งถูกก้อนน้ำแข็งตกทะลุหลังคาลงมาใส่บริเวณไหล่ของเธอจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งสืบทราบในภายหลังว่าเป็นของเสียจากเครื่องบิน ต่อมาในธันวาคมปี 2016 ทางการอินเดียจึงออกกฎเพื่อคุมเข้มไม่ให้มีการปล่อยของเสียออกมาระหว่างทำการบินอยู่ หากสายการบินไหนฝ่าฝืนจะต้องถูกปรับตามความเหมาะสม…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์แหลก MV “สิ่งที่เหลืออยู่” เล่าประเด็นเพศที่สามได้แย่ จนต้นทางต้องลบคลิป
กลายเป็นประเด็นดราม่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากได้มีการปล่อยเอ็มวีใหม่ของวง ZHEEZ เจ้าของบทเพลงดัง “ความรู้สึกของคนที่หมดใจ” เมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งกับซิงเกิล “สิ่งที่เหลืออยู่” แต่หลังจากปล่อยเอ็มวีมาได้ไม่นาน ก็ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากกับประเด็นที่เล่นในเอ็มวีเกี่ยวกับเพศที่สาม ที่ทำออกมาในมุมมองที่ไปทางแง่ลบเสียมากกว่า เริ่มต้นจากทวีตหนึ่ง ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับประเด็นนี้ จนตอนนี้มียอดรีทวีตไปถึง 13,000 ครั้ง และมีคนกดไลก์และคอมเมนต์จำนวนมาก ล่าสุดทางช่องยูทูบก็ได้ลบคลิปเอ็มวีตัวนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ดูคลิปเอ็มวีบางส่วนได้ที่นี่ โดยในเอ็มวีนั้นได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคู่รักคู่หนึ่ง ที่ฝ่ายชายมีเพื่อนเป็นผู้ชาย แล้วสุดท้ายจับได้ว่าเขาและเพื่อนชายนั้นมีอะไรกัน แต่จุดที่ทำให้คนออกมาต่อว่าก็คือรอยเปื้อนบนเตียงที่อาจจะเดาได้ว่าเป็นอุจจาระที่เกิดขึ้นจากการมีอะไรกันระหว่างชายกับชาย และนี่ก็คือความเห็นบางส่วนต่อเอ็มวีตัวนี้ จากกรณีนี้ก็ทำให้เราได้เห็นว่าบ้านเรานั้นมีการตระหนักถึงเนื้อหาที่ไปในเชิงเหยียด อีกทั้งผู้ผลิตก็ต้องทำการบ้านด้วยว่าความจริงแล้วสังคมมันเป็นยังไง เรียบเรียงโดย #เหมียวสามสี
-
กระจ่าง!! ไขปริศนาที่ข้องใจว่า “สิ่งปฏิกูล” ที่จัดหนักบนเครื่องบิน มันหายไปอยู่ไหนกันนะ?
ตอนสมัยเด็กๆ เคยคิดกันไหมว่าหากเราเกิดถ่ายสิ่งปฏิกูลบนเครื่องบินเนี่ยมันจะหายไปไหนกันนะ มันจะตกมาใส่เราไหม? มันจะตกใส่หลังคาบ้านใครรึเปล่า? วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว ไปดูเรื่องการขับถ่ายธรรมดาที่ไม่ธรรมดากันเลยดีกว่า ครั้งแรกของบางคนนี่กลัวจนไม่กล้าเข้าห้องน้ำกันเลยทีเดียว แต่อย่าทำอย่างนั้นเลยมันไม่ดีต่อสุขภาพนักหรอก หลักการทำงานนั้นก็ไม่มีอะไรยุ่งยากแค่ “ย้ายจากท้องของคุณมาสู่ท้องของเครื่องบิน” แทนแค่นั้นเอง ไหนมีใครงงไหม ถ้ามีเดี๋ยวเราจะบอกให้ฟังเอง เมื่อเราเสร็จภารกิจแล้วกดชักโครกทันใดนั้นเองที่ก้อนดินเหนียวของเราได้ลงไปสู่ถังเก็บสิ่งปฏิกูล เครื่องบินทุกเครื่องจะมีถังสำหรับเก็บสิ่งปฏิกูลเอาไว้ภายใน โดยจำนวนถังที่มีของแต่ละเครื่องบินก็จะแตกต่างกันออกไป และเมื่อมีของเสียเหล่านั้นถึงกำหนดก็จำเป็นที่จะต้องปิดถัง มิเช่นนั้นมันอาจจะตกเรี่ยราดออกจากเครื่องบิน ซึ่งในอดีตเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นจริง สำหรับความจุที่ถังหนึ่งถังนั้นสามารถจุได้ก็คือประมาณ 20 แกลลอนหรือเกือบ 100 ลิตรเลยทีเดียว และเมื่อเครื่องบินลงจอดก็จะมีรถสูบส้วมมาสูบสิ่งเน่าเสียเหล่านี้ออกไปจากถังนั่นเอง และนี่คือสิ่งที่ผู้โดยสารอย่างเราๆ ทิ้งไว้บนเครื่องบิน หยึยย และนี่คือเรื่องราวของ “ขี้” ที่เดินทางไปกับเราบนเครื่องบินนั่นเอง แล้วก็คลายความสงสัยกันไปได้สำหรับใครที่เคยมีความคิดอย่างนี้ อย่างน้อยก็มีผมคนนึงนี่แหละที่เคยคิดแบบนี้จริงๆ ฮ่าๆๆ ที่มา: wittyfeed
-
รู้จักกับ Shit Express บริการส่งขี้ถึงหน้าบ้านคนที่คุณเกลียด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะตามไปส่งให้!!
เวลาที่เราเกลียดใครซักคนเราจะทำอย่างไรที่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บแสบและสะใจเรามากที่สุด วิธีการนี้อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณก็ได้ เมื่อบริษัท Shit Express ในประเทศสโลวีเนียสามารถจัดส่งขี้แบบสดใหม่ให้คุณได้ในทุกที่ทั่วโลก เพียงแค่นั้นหากคุณไม่ชอบขี้หน้าใครก็แค่สั่งซื้อขี้ชุดใหญ่จัดไปให้ซะหน่อย โดยที่เราไม่ต้องออกแรงอะไรรอฟังข่าวดีก็เกินพอ ขี้ร้อนๆ มาส่งให้ถึงที่แล้วครับ อันแน่นเต็มๆ กล่อง คุ้มค่าราคาจริงๆ ไม่อยากจะคิดภาพเลยว่าการต้องเปิดประตูมารับพัสดุแต่ต้องมาเจอกับกองขี้เต็มหน้าบ้าน มันจะรู้สึกชวนอ้วกมากขนาดไหน แต่ถึงอย่างนั้นขี้ที่เขานำมาใช้ก็ไม่ได้เป็นขี้ของมนุษย์หรอกนะ แต่มันเป็นขี้ของม้าที่จะมีบรรจุภัณฑ์แบบเรียบง่าย น่ารักๆ หรือแบบกิ๊บเก๋ให้คุณได้เลือกตามความต้องการ และจ่ายตังผ่าน Bitcoin ที่มีมูลค่าประมาณ 500 บาทเท่านั้น สามารถติดข้อความเอาไว้ได้ด้วย บรรจุภัณฑ์ที่มีให้เลือกตามความต้องการได้เลย อย่างไรก็ตามธุรกิจประมาณนี้ก็เคยมีให้เห็นมาก่อนแล้วอย่างเช่น PoopSenders หรือ MailPoop แต่ว่าเรื่องของความน่าเชื่อถือหรือการจ่ายเงินก็ไม่สามารถสู้บริษัทน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง Shit Express นี้ได้เลยจริงๆ เพราะพวกเขาการันตีเลยว่าขี้ที่คุณสั่งไว้จะต้องส่งถึงหน้าบ้านผู้รับอย่างแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์!! มีการปิดฝาเอาไว้อย่างแน่นหนา ป้องกันการร่วงหล่นระหว่างทาง ปัจจุบันทางบริษัทก็ยังคงพัฒนากันต่อไปเพื่อให้ได้มีขี้ที่คุณสามารถเลือกใช้ได้เยอะขึ้น ไม่แน่ว่าในอนาคตก็คงจะมีขี้หมา ขี้แมวหรือขี้ช้างอะไรอย่างนี้ออกมาให้เห็นละนะ ทำไมถึงมีแต่ขี้เต็มไปหมดเลยยย นับว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่เราหลายคนอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน และเป็นวิธีเจ๋งๆ ที่นอกจากจะส่งไปให้คนที่เกลียดแล้วเรายังสามารถใช้วิธีนี้แกล้งเซอร์ไพรส์เพื่อนๆ เพื่อเรียกเสียงฮาในงานปาร์ตี้ได้อีกด้วย…
-
สาวไปเดทบ้านหนุ่ม กดส้วมไม่ลงเลยเอา “กระดาษห่ออึ” ทิ้งนอกหน้าต่าง ดันตกไปติดเองซะงั้น!?
การออกเดทกับคนแปลกหน้าบนโลกอินเตอร์เน็ตนั้นก็เหมือนกับการซื้อหวย นอกจากเราจะพิจารณาอย่างดีตอนเลือกแล้ว แต่ผลมันก็พึ่งดวงอยู่ดี ถ้าดวงดีแจ็คพอตแตกเจอคนดีๆ ก็ดีไป แต่ถ้าหวยถูกกินเจอคนเพี้ยนๆ ก็ซวยไปอีกที อย่างเรื่องราวของคู่เดทสุดเพี้ยนคู่นี้ เมื่อหญิงสาวที่บอกว่าตัวเองเป็นนักยิมนาสติกได้มาเจอกับพ่อหนุ่ม Liam Smyth ปริญญาโทภาควิชาสังคมศึกษาจากมหาวิทยาลัยบริสทอล บนแอพ Tinder และตกลงไปเจอกัน… พวกเขาออกไปเจอกันและรับประทานอาหารกันอย่างเช่นคู่เดทปกติ แน่นอนว่าทั้งคู่นั้นคุยกันอย่างถูกปากถูกคอมากๆ จนตกเย็นเลยตัดสินใจว่าจะไปต่อกันที่บ้านของ Liam ซึ่งเมื่อไปถึงพวกเขาก็มีการดื่มไวน์และดูซีรีส์กันสนุกๆ เหมือนทุกอย่างกำลังไปได้ดีเลยทีเดียว นี่คือ Liam เจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ จนกระทั่งเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น เมื่อหญิงสาวนักยิมนาสติกได้ไปเข้าห้องน้ำพร้อมกับถ่ายหนักทว่า พอเสร็จธุระส้วมมันกลับกดไม่ลงซะอย่างนั้น!!? หญิงสาวเกิดอาการคลั่ง ด้วยความวิตกคิดว่าทำส้วมของคู่เดทพังหรือเปล่า ภาพลักษณ์ที่ขรี้ลอยน้ำจะทำให้เธอดูแย่ไหม เธอคิดไปมากมายหลายอย่างมาก จนกระทั่งเธอตัดสินใจเอากระดาษพันขรี้ของเธอไว้แล้วปาออกไปข้างนอกหน้าต่าง!! เดทกันดีๆ ไหงมาจบในสภาพนี้ได้ จากนั้นเธอไม่รู้จะทำยังไงดี ก็เลยรวบรวมความกล้าแล้วเดินออกไปบอกกับ Liam ว่า เธอทำอะไรลงไปจากอาการตื่นตระหนกของเธอในห้องน้ำไป ชายหนุ่มก็บอกว่าเธอจะปาขรี้ออกไปที่สวนไม่ได้นะ เธอต้องไปเก็บมา!! และด้วยความสำนึกผิดหญิงสาวก็เลยบอกว่า เดี๋ยวเธอจะไปเก็บให้โดยการลอดผ่านหน้าต่าง พร้อมบอกว่าอย่าห่วงไปเพราะเธอเป็นนักยิมนาสติก แต่ความจริงมันกลับไม่เป็นแบบนั้น เพราะหน้าต่างไม่ได้เชื่อมไปยังสวน แต่มันกลับเป็นหน้าต่างสองชั้นที่ติดอยู่กับหน้าต่างอีกบาน ส่วนขรี้ก็ติดอยู่ใต้หน้าต่างดังกล่าว งานนี้หญิงสาวที่พยายามใช้เทคนิคเฉพาะตัวแก้ความผิดพลาดก็ดันติดอยู่ในกระจกออกมาไม่ได้ซะอย่างนั้น จะทุบกระจกออกเองก็คงไม่ได้…
-
“ขี้” จะไม่ได้เป็นแค่ขี้อีกต่อไป เพราะมันจะกลายพลังงานถ่านหินชนิดใหม่ ใช้ปิ้งย่างอร่อยเหาะ!!
อีกหนึ่งพลังงานทางเลือก และเปลี่ยนให้ของเสียไม่ได้ไร้ค่าอีกต่อไป เพราะล่าสุดบริษัทในเคนย่าได้หยิบนำอุจาระ หรือที่เรียกบ้านๆ กันว่าขี้ มาทำเป็นถ่าน ที่สำคัญคุณภาพของมันก็ดีมากๆ เลยด้วย ในขั้นตอนการผลิตนั้น ทางบริษัทจะออกไปเก็บอุจาระจากรอบๆ หมู่บ้าน ส่วนถ้าถามว่าทำไมไม่ตามเก็บจากท่อระบายน้ำ ทางบริษัทก็บอกว่า ประชากรในหมู่บ้านที่เข้าถึงระบบประปานั้นมีแค่ 27% เท่านั้น ฉะนั้นการไปตามเก็บจากที่ต่างๆ จึงเป็นตัวเลือกเดียวเท่านั้น ที่สำคัญยังลดปริมาณของเสียที่ทิ้งไปเปล่าๆ ได้ดีมากๆ เลยด้วย สามารถดูคลิปของเรื่อวราวในครั้งนี้ได้ที่ลิงก์ข้างล่าง หลังจากเก็บมาจากทั่วหมู่บ้าน ก็ทำการตากให้แห้ง พอแห้งได้ที่ก็เก็บเตรียมเอาไปทำถ่าน และเข้าสู่กระบวนการผลิตให้เป็นก้อนกลม นอกจากนี้ ทางบริษัทยังขายต่อให้ชาวบ้านในราคาที่ไม่แพงมากอยู่ในราคาราวๆ 16 บาทต่อถ่าน 1 กิโลกรัม ซึ่งทางบริษัทได้บอกว่า พวกเขาไม่อยากจะขายมันแพงเนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ยากจน ปัจจุบันทางบริษัทสามารถที่จะผลิตถ่านขี้ ได้วันละ 1 ตันต่อเดือน แต่พวกเขากำลังพยายามเพิ่มกำลังผลิตให้เป็น 10 ตันต่อเดือนให้ได้ภายในปี 2017 นี้ และนี้ก็คือหน้าตาหลังจากทำเสร็จแล้ว พวกเขาหวังว่าจะผลิตมันได้เยอะขึ้นในปีนี้ ส่วนเรื่องความสามารถที่ถ่านสามารถทำได้นั้น ชาวบ้านบอกว่าตัวถ่านนั้นเผาไหม้ได้ง่ายมาก สะดวกต่อการใช้งานมากๆ ที่สำคัญมันไม่มีกลิ่นเหม็นด้วย ชาวบ้านยืนยันมาแล้วว่าดีจริง!!…
-
จากผลสำรวจเด็กญี่ปุ่น พบว่าพวกเขาไม่เคย ‘ปลดทุกข์หนัก’ ที่โรงเรียนเลย อั้นกันได้ยังไง!?
ถ้าพูดถึงการปวดขี้ที่โรงเรียน เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะมีความรู้สึกกลัวที่จะขี้ที่โรงเรียนกันแน่นอน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เช่นอาจจะเป็นเพราะความสกปรกของห้องน้ำ พอเข้าไปขี้แล้วจะโดนล้อว่ามรึงแม่งขี้แตก ว้ายๆ หรืออาจจะรู้สึกเขินอาย ที่จะต้องขี้ที่ห้องน้ำโรงเรียนขนาดว่าต้องรอห้องน้ำไม่มีคนถึงเข้าไปใช้… ปัญหาดังกล่าวฟังแล้วน่าจะเป็นเพียงแค่ปัญหาส่วนตัว แต่หารู้ไม่ว่าปัญหานี้มันเวิลด์ไวด์สุดๆ เพราะล่าสุดทาง Japan Toilet Labo ได้มีการไปให้สัมภาษณ์นักเรียนญี่ปุ่นกว่า 4,777 คนเกี่ยวการขี้ที่โรงเรียน แล้วผลที่ออกมากลับเล่นเอาตะลึงเชรี่ยๆ เด็กนักเรียนมากกว่า 50% ไม่เคยขี้ที่โรงเรียนเลยเว้ยเฮ้ย!!? แต่ถ้าลองมาหาเหตุผลเชิงลึก และแบ่งเหตุผลออกเป็นข้อๆ ตามจำนวนร้อยละของกลุ่มนักเรียนที่ไม่ขี้ที่โรงเรียนเป็นหลายๆ กลุ่ม เราก็สามารถที่จะได้เหตุผลเยอะแยะเลยทีเดียว 29.3% บอกว่า ที่โรงเรียนมันมีแต่ส้วมหลุม 29.2% บอกว่าสวมที่โรงเรียนมันเหม็นสลัด นอกจากต้องดมขี้ตัวเองยังต้องดมของคนอื่นอีก 26.3% บอกว่าพวกเขามีเวลาช่วงพักน้อย ถ้าไปขี้ทีก็นานสุดๆ ข้าวนี่ไม่ต้องกินกันล่ะ 29.2% บอกว่าส้วมที่โรงเรียนมันไม่สะอาดเลย อี๋… 23.9% บอกว่าเวลาขี้ที่โรงเรียนแล้วรู้สึกไม่มีความสุข 20.1% บอกว่าพื้นห้องน้ำมันสกปรก 16.1 % บอกว่าชักโครกมันเย็น เอาตูดวางลงทีไรขนลุกทุกที หน้าตาของส่วมหลุมที่เด็กๆ ไม่ค่อยปลื้ม อย่างไรก็ตาม เหตุผลหลักๆ…
-
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!! ญี่ปุ่นเปิดตัวการ์ตูน “ยอดนักสืบก้น” ที่จะทำให้คุณหลงใหล “ตรูด” ขึ้นมาทันที
ปกติแล้วเรามักจะคุ้นเคยกับการ์ตูนที่ตัวเอกหน้าตาดี ต้องหล่อ ต้องสวย แต่มันจะแปลกแค่ไหนหากตัวเอกกลายเป็น นักสืบหน้าก้น ที่สำคัญใช้ตดเป็นอาวุธได้ด้วย!!? Oshiri Tantei หรือที่รู้จักกันในนาม “นักสืบก้น” เดิมทีนั้นเป็นหนังสือชุดภาพสำหรับเด็กซึ่งมีจำนวนหลายเล่มด้วยกัน แต่ด้วยความนิยมของตัวละครตัวนี้ทางค่าย TOEI จึงไม่มองข้ามและหยิบมาทำอนิเมชั่นฉายผ่านทางออนไลน์ทันที จุดเด่นของเรื่องก็คงจะไม่พ้นตัวเอกที่มีหน้าตาเป็นก้น ซึ่งก้นที่ว่าคือก้นจริงๆ สามารถปล่อยตดออกมาได้อีก แต่ด้วยความที่ตัวอนิเมะใช้แนวภาพน่ารักๆ ทำให้มันดูไม่ลามกแต่ออกไปทางเป็นมิตรสำหรับเด็กเสียมากกว่า น่ารักแบบขมคอสุดๆ ไม่หมดเพียงเท่านั้น นอกจากตัวละครเอกที่มีหน้าเป็นก้นแล้ว ยังมีตัวละครหนึ่งที่ดูแล้วจะเป็นจอมโจรคู่ปรับที่มีหน้าตาเป็นอุนจิดำ!!? อ่านไม่ผิดหรอก มีหน้าตาเป็นก้อนอุนจิสีดำจริงๆ แถมยังมาพร้อมกับกระดาษทิชชู่สุดเฟี้ยว… ถ้าไม่นับตัวละครทั้งสองตัวแล้วละก็ ตัวละครอื่นๆ ภายในเรื่องก็ล้วนเป็นสัตว์น่ารักๆ ดูเป็นมิตรกับเด็กจริงๆ ดีแล้วล่ะที่ทำเป็นอุนจิสีดำ ถ้าเป็นสีเหลืองคงจะแย่แน่ๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้ทาง TOEI ยังไม่ได้ประกาศวันฉายหรือรายละเอียดหลักๆ ของตัวอนิเมะว่าจะเป็นเรื่องสั้นหรือเป็นการ์ตูนเรื่องยาวกันแน่ ถ้าใครสนใจอยากจะดูการ์ตูนเรื่องนี้ก็รอติดตามกันไว้ให้ดีเลย ลองรับชมคลิปตัวอย่างกันได้เลยจ้า ที่มา: rocketnews24
-
ปล่อยมันตรงนี้แหละ!! ชายชาวจีนเข้าหลบมุม สถานีรถไฟใต้ดิน เพื่อเขย่า “ก้อนขรี้” ออกมา
อาการปวดขรี้นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ จริงๆ ถ้าหากต้องเดินทางไกลๆ หรืออยู่ในที่ที่ห้องน้ำหาย๊ากยาก แล้วดันปวดหนักขึ้นมา โอย.. ไม่อยากจะนึกถึงความทรมาณที่จะตามมาเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะมนุษย์เราคือผู้ที่มีการปรับตัวได้ดีที่สุด ดังนั้นหลายๆ คนก็อาจจะมีวิธีการแก้ปัญาที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับวิธีการแก้ปัญหาของพี่คนนี้เอ่อ… อาจะดูโหดไปหน่อยนะ ชายหนุ่มผู้หนึ่งได้เดินเข้ามาในสถานีรถไฟใต้ดิน Nanning แต่ดูเหมือนว่าทาทางการเดินของพี่แกนั้นจะแปลกๆ เหมือนกับว่าแกกำลังซ่อนอะไรไว้ในกางเกง จากนั้นชายหนุ่มคนดังกล่าวได้เดินเข้าไปในมุมหนึ่งในสถานีรถไฟใต้ดิน เขาเดินลังเลอยู่ที่มุมเงียบๆ อยู่พักหนึ่งก่อนที่จะก้าวออกมา เขาเริ่มขยับขากางเกงและทันใดนั้นก็มีก้อนดำๆ หลุดออกมา แทบจะไม่เชื่อสายตาเจ้าก้อนดำๆ ที่ว่านั้นก็คือขรี้นั่นเอง!! และนี่คือชายหนุ่มคนดังกล่าว วินาทีที่ของความเป็นความตาย ก่อนที่จะตัดสินใจ เอาว๊ะ!! ไปชมวีรกรรมของพี่คนนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างเลย หลังจากเสร็จภาระกิจชายหนุ่มก็เดินจากไปพร้อมกับทิ้งซากอารยธรรมของเค้าไว้ตรงนั้นให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่และพนักงานทำความสะอาดของสถานีต่อไป พนักงานของสถานีเดินเข้ามาพร้อมกับกรวยเตือนผู้ใช้บริการท่านอื่นๆ เพื่อไม่ให้เหยียบก้อนที่ชายนิรนามทิ้งเอาไว้ จากนั้นจึงมีพนักงานทำความสะอาดเข้ามาจัดการกับของเสียดังกล่าว แม่บ้านถึงอุทานว่า “แหม่.. ทำไปได้” สถานีรถไฟใต้ดินแห่งนี้มักจะเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นอยู่บ่อยครั้ง อย่างในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็เกิดเหตุการณ์หญิงสาวผู้หนึ่งถูกลวนลามระหว่างที่เธอกำลังขึ้นบันใดเลื่อน หรือเมื่อเดือนมีนาคม ก็เกิดเหตุการณ์ชายหนุ่มที่แก้ผ้าพยายามที่จะซื้อตั๋วขึ้นรถไฟ อื่ม..ภัยอันตรายนี่มาในทุกรูปแบบจริงๆ เลยนะเนี่ย แบบนี้ไปไหนมาไหนก็ระวังตัวกันด้วยนะครับ ที่มา shanghaiist
-
ผู้เชี่ยวชาญแก้ปริศนา พฤติกรรม “แมวคลั่ง” หลังเพิ่ง “อึ” เสร็จ เป็นเพราะอะไรแน่!?
เหล่าคนรักแมวน่าจะทราบกันดีว่าพวกแมวนั้นเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดมากแค่ไหน ทุกครั้งที่พวกมันอึใส่กองทรายหรือกระบะทราย พวกมันก็จะใช้เท้ากลบผลงานของมันทุกครั้ง แต่ทาสทั้งหลายเคยสังเกตไหมว่า หลังจากที่พวกมัน “อึ” เสร็จแล้ว มันจะมีพฤติกรรมประหลาดๆ ตามมา? พฤติกรรมประหลาดที่ว่านี้ก็คือ พวกมันจะวิ่งเร็วปรู๊ดปร๊าด กระโดดไปมา ทำตัวเหมือนคลั่งอะไรสักอย่าง (บางตัวเป็นบางตัวไม่เป็น) จนหลายคนสงสัยว่ามันเป็นอะไรกันแน่? บางคนเรียกอาการตื่นตระหนกหรือคลั่งแบบนี้ว่า “Zoomies” ที่เป็นการแสดงสัญชาตญาณแบบสัตว์ออกมา แล้วเคลื่อนไหวไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้นักล่าสามารถตามกลิ่นอึของมันมาได้นั่นเอง แต่ทางด้านสัตวแพทย์กล่าวว่าพฤติกรรมนี้อาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าพวกมันรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวจากการกินอาหาร หรือมีอีกทฤษฎีหนึ่งที่บอกว่าแมวนั้นวิ่งหนีเร็วๆ เพราะทนไม่ได้กับกลิ่นอึของตัวเองที่เพิ่งจะปล่อยออกไป ทางด้านด็อกเตอร์ Anish Sheth ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ได้เขียนหนังสือ What’s Your Poo Telling You (อึของคุณบอกอะไรกับคุณ) กล่าวว่าในระหว่างที่มนุษย์ขับของเสียออกจากร่างกาย ในตอนนั้นเส้นประสาทจากก้านสมองจะทำงานและถูกกระตุ้น ทำให้เกิดปฏิกิริยาตื่นเต้นหรือเบิกบานใจ ซึ่งปรากฏการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นกับแมวก็ได้ นั่นจึงเป็นสิ่งที่อธิบายได้ว่าทำไมพวกแมวถึงดูเหมือนมีความสุข วิ่งพล่านไปทั่วบ้านและเอาเล็บไปข่วนกับบอลไหมพรมหรือข้าวของต่างๆ ลองชมตัวอย่างแมววิ่งปรู๊ดหลังอึเสร็จได้ที่นี่นะ… สุดท้ายนี้ แม้ว่าเราจะสรุปไม่ได้อย่างชัดเจนว่าพวกมันเป็นอะไร ถึงต้องวิ่งอย่างบ้าคลั่งหรือทำตัวเพี้ยนๆ หลังอึเสร็จ แต่เราก็พอจะรู้ล่ะนะว่าไม่ใช่แมวของเราตัวเดียวที่มีอาการแบบนี้ ที่มา thedodo
-
นี่คือ 17 พฤติกรรมแปลกๆ ที่เราชอบทำกับร่างกาย อ่าาาห์…ฟินจังเลย~ (ภาพโหด)
ไม่ต้องเขิน ไม่ต้องอาย เรารู้ว่าพวกคุณก็เป็นเหมือนกัน กับนิสัยแปลกๆ บางคนก็ชอบดึงขนจักกะแร้เล่น บางคนก็ชอบดึงขนจมูก ถึงจะดูอุบาทว์ในที่สาธารณะไปนิด แต่พอได้ทำทีไรมันช่างฟินจังเลย และภาพทั้งหมดที่เราจะพาไปชมนี้ ก็คือ 17 พฤติกรรมแปลกๆ แน่นอนแหละว่ามันสกปรกสุดๆ แต่ไม่รู้ทำไม๊ทำไม อยู่คนเดียวทีไรแอบทำทู๊กกที 1. รู้สึกฟินห์สุดๆ เมื่อจัดการกับขี้หูก้อนโตแบบนี้ 2. ขนที่ขึ้นตรงสิวน่ะเหรอ? ดึงแม่มเลยสร๊าดดด 3. เมื่อมีผิวปากที่แห้งกรังหลุดออกมา เราก็มักจะดึงให้มันกลายเป็นแผลติดปากแบบนี้ 4. นอนแคะขี้สะดือ อู๊วววเย่ห์!! 5. หยีผมตัวเองแรงๆ พร้อมกับดูผลงานของรังแคที่ตกมาจากหัวตัวเองอย่างภาคภูมิใจ 6. ถ้าเห็นรอยเล็บฉีกละก็ ต้องฉีกต่อให้มันขาดสุดๆ ไปเลยโว๊ยย 7. ขัดๆ ถูๆ ฝาเท้าให้หนังตายมันหลุดออก แล้วก็นั่งดูแบบมีความสุขอยู่คนเดียว 8. บางคนก็รักสุขภาพฟัน หลังอาหารทีไรเป็นต้องแวะเข้าห้องน้ำ เอาไหมขึ้นมาถูร่องฟันตลอด 9. เมื่อเจอสิวก็ต้องบีบให้เห็นว่ามันออกมาชัดๆ แบบนี้…
-
คุณอาจจะอยากรู้ว่า ถ้ารถส้วม 27 ตัน ชนกลางถนนจะเป็นยังไง แค่คิดก็ขมคอแล้ว… โบ้มมม
ใครที่กำลังกินข้าวอยู่หรือกำลังจะไปกินข้าว หรือกำลังนั่งทานอะไรอยู่หน้าคอมหรือหน้าโทรศัพท์มือถือ ขอให้ท่านวางของสิ่งนั้นลงก่อน เพราะข่าวนี้อาจทำให้อาหารของเท่าเสียรสชาติได้ (หรือทำให้อร่อยขึ้นกันแน่ ฮาา) เหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจเกิดขึ้นที่เมือง Toowoomba ในรัฐ Queensland ประเทศออสเตรเลีย เมื่อรถสิบแปดล้อที่บรรทุกของเสียหนัก 27 ตันมาเต็มลำรถ ต้องเบรกกะทันหันเนื่องจากมีรถคันหนึ่งพยายามพุ่งออกมา และสิ่งที่เกิดขึ้นคือ สิ่งปฏิกูลเหล่าเหล่าทะลักออกมาและกระจายออกมาเต็มถนน… นี่คือสภาพของรถที่พุ่งออกมาตัดหน้า อาการบาดเจ็บทางร่างกายหรือความเสียหายทางคงไม่มี แต่อาการบาดเจ็บทางจิตใจคงฝังลึกไปอีกนาน อวสานอาหารทุกมื้อ… ใครอยากเห็นว่าคลิปเหตุการณ์เป็นอย่างไร ชมคลิปด้านล่างนี้ได้เลยนะฮะ ไม่อยากนึกสภาพและกลิ่นของรถคันที่ถูกอุนจิ “ทับ” ใส่เลยจริงๆ ล้างอาจจะยากไป แนะนำให้ซื้อใหม่น่าจะง่ายกว่า ฮาาาา ที่มา Buzzfeed
-
ว่าไงนะ? ยาพิเศษเพิ่มคุณค่าให้กับอุจจาระ เปล่งประกายระยิบระยับ ประดุจดั่งทองคำ
ก่อนที่เราจะไปอ่านบทความนี้กัน #เหมียวฟิ้น อยากจะถามเพื่อนๆ ก่อนว่าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบอะไรระยิบระยับหรือแวววาวหรือเปล่า? หากคำตอบของคุณคือ “ใช่” ล่ะก็ คุณอาจะอยากลองกินยาตัวนี้ก็ได้นะ… ยาตัวนี้มีชื่อว่า Shit Gold Pills (ตรงตัวเลยคือ ยาอึทอง) ถูกประดิษฐ์โดยศิลปินที่ชื่อว่า Tobias Wong และนาย Ken Courtney เจ้ายาตัวนี้มีลักษณะเป็นเกล็ดสีทองหรูหราคล้ายๆ กับทอง โดยภายในตัวยาจะบรรจุผงทอง 24k เอาไว้ เมื่อคุณกินเข้าไปแล้ว มันก็จะไปแตกตัวในท้อง ก่อนที่จะไปเกาะตัวกับเหล่าของเสียและเมื่อถึงเวลาถูกขับถ่ายออกมา ก็จะออกมาเป็นก้อนสีทองระยิบระยับ นาย Wong และ Courtney ใช้เวลาคิดค้นตัวยานี้มาตั้งแต่เมื่อปี 2005 แต่กว่าที่จะได้สูตรที่ถูกต้องและปลอดภัยกับผู้บริโภคก็ปาเข้าไปปี 2012 เลย แม้ว่าจะมีคนมองว่ายานี้เป็นเพียงเรื่องตลก แต่ต้องบอกเลยว่ามันสามารถสร้างรายได้ให้กับพวกเขาจริงๆ หากใครอยากได้มาลองกินล่ะก็ เขาก็สนนราคาอยู่ที่เม็ดละ 14,730 บาท (อู้หู!!) เหมาะสำหรับใช้เป็นของเล่นเด็ก (ที่พ่อแม่ค่อนข้างมีเงินเหลือกินเหลือใช้สักนิดนึง) แล้วเมื่ออึออกมาแล้วสามารถนำอึนั้นไปกรองเพื่อเอาทองมาขายได้อีกรอบด้วยนะเออ แม้ว่าคุณอาจจะไม่สามารถหาทองราคาหลายๆ บาทมาครอบครองได้ แต่นี่แหละ คือโอกาสให้คุณสร้างอุจจาระสีทองได้ด้วยตัวเอง……
-
ฮร่าาา!! เว็บไซต์ญี่ปุ่นชวนครีเอทท่า “นั่งอึ” แบบใหม่ๆ ถึง 48 ท่า ใครมั่นใจท่ายากก็ลองดู
เคยได้ยินประโยคที่ว่า “ความหลากหลายคือรสชาติหนึ่งของชีวิต” ไหม? นั่นแหละคือสิ่งที่เราควรทำเพื่อให้ชีวิตเราไม่จำเจนะ ลองจินตนาการว่าเราต้องกินอาหารหน้าตาเดิมๆ ทุกวันเราคงจะรู้สึกเบื่อแย่เลยใช่ไหมล่ะ ฉะนั้นวันนี้เราลองมาสร้างความหลากหลายในการใช้ห้องน้ำดูบ้างไหมล่ะ รับรองว่าสนุก… เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งได้นำเสนอวิธีการใช้โถส้วมแบบแปลกๆ คุณอาจจะนึกไม่ออกว่าการใช้โถส้วมมันจะมีแบบอื่นไปได้ยังไงนอกจากการนั่งบนชักโครกแบบปกติ? แต่มันมีจริงๆ และสามารถนั่งได้ถึง 48 แบบเลย!! เราลองไปชมกันว่าแค่การนั่งอึจะทำให้คุณครีเอทหรือรู้สึกตื่นเต้นได้ยังไงบ้าง? เริ่มจากท่าเบสิค นั่งแบบปกติ หรือลองขยับเป็นท่าคิคุดู เพิ่มความแบ๊ว… หรือใครที่ชอบออกกำลังกายมากๆ ลองเกร็งร่างกายแบบนี้ดู ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามขาได้นะ ลองเอื้อมมือไปแตะปลายเท้า แล้วอึ… หรือใครที่มั่นใจว่าตัวเองมีวิทยายุทธมากพอก็ลองท่านี้ดู หรือเปลี่ยนมานั่งด้านข้างบ้างไหมล่ะ คนแข็งแกร่งเขาทำท่านี้กัน ใครมั่นใจว่าเก่งท่ายาก งั้นลองทำแบบนี้เป็นไง? สำหรับคนอยากมีสมาธิ ต้องท่านี้เลย อยากฝึกจิตใจให้นิ่งสงบ ลองนั่งแบบนี้ดู ใครที่ขาดความอบอุ่น ลองเปลี่ยนทิศทางการนั่ง หันมากอดโถแบบนี้… ใครเก่งยิมนาสติก ลองดูได้นะ ถ้าการนั่งเป็นเรื่องที่เมื่อยไป งั้นนอนเลยละกัน ถ้าทั้งหมดทั้งมวลยังไม่ตอบสนองความต้องการของคุณแล้วล่ะก็…
-
อวสานอาหารเย็น…เหตุการณ์ “รถบรรทุกขรี้” ระเบิดกลางถนนรัสเซีย เจอแบบนี้จะทำไง!?
กลายเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจสำหรับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จริงๆ สำหรับการระเบิดของรถบรรทุกสิ่งปฏิกูลกลางถนนในประเทศรัสเซีย ที่รับรองว่า อวสานอาหารทุกมื้อของทุกท่านอย่างแน่นอน โดยเรื่องราวเกิดขึ้นที่บนท้องถนนแห่งหนึ่งในประเทศรัสเซีย เมื่อถังบรรทุกสิ่งปฏิกูลบนรถบรรทุกคันหนึ่ง เกิดระเบิดตูมขึ้นมาในช่วงที่การจราจรยังคับคั่ง ทำให้เศษอุจจาระบางส่วนไหลทะลักออกมาบนถนน รวมทั้งพุ่งใส่รถที่อยู่ข้างๆ อีกด้วย อื้อหือ น้ำตาจะไหล กลิ่นโชยออกมาเลยทีเดียว ยังไม่มีรายงานว่า การระเบิดเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่คาดว่าน่าจะเป็นเพราะถังบรรจุไม่สามารถทนแรงดันของแก๊สที่อยู่ในถังได้ จนระเบิดออกมาอย่างที่เห็น เราไปชมคลิปกันดีกว่า เห็นแล้วสงสารรถคันสีขาวข้างๆ มาก โดนเต็มๆ เบย T_T . ยังไง #เหมียวอ๊อดโด้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกท่านนะฮะ คราบสกปรกล้างแปปเดียวก็ออก แต่ความรู้สึกสะเทือนใจนี่ต้องใช้เวลาจริงๆ สู้ๆ นะฮะ (ฮา) ที่มา Witalca Chumakov
-
หญิงสาวนอนอยู่ที่บ้าน จู่ๆ หลังคาก็เป็นรู หาหลักฐานไม่เจอ คาดเป็น “อึแช่แข็ง” !!!
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับ Stephanie Moore วัย 36 ปี เธออยู่ที่บ้านกับแม่ในบ้านอย่างสงบสุข จู่ๆ ก็เกิดเสียงดังขึ้น พอไปดูก็ได้เห็นว่าหลังคาและเพดานเป็นรูขนาดใหญ่ ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนแล้ว พอมองหาสาเหตุ แต่กลับไม่เจออะไร บ้านของเธอตั้งอยู่ในเมือง Ottawa ประเทศแคนาดา สิ่งที่ทำให้คดีนี้พิศวงก็คือไม่มีหลักฐานอะไรเหลืออยู่บนพื้นเลย ปกติแล้ว เวลามาอะไรตกทะลุหลังคาลงมา ก็น่าจะมีสาเหตุบ้าง อาจจะเป็นลูกเห็บ หรือไม่ก็หินที่ปลิวมา หลังจากเรียกช่างทำหลังคามาซ่อมก็งงเข้าไปใหญ่ เพราะขนาดช่างทำหลังคาเองก็ไม่เคยเจอกรณีแบบนี้มาก่อน แบบที่หลังคารั่วแล้วหาหลักฐานไม่เจอ พอสืบไปสืบมา ก็สันนิษฐานว่านี่อาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า Blue Ice หรือชื่อบ้านๆ คืออึแช่แข็ง งงล่ะสิว่าทำไมต้องเอาอึไปแช่แข็งด้วย ใช่แล้วล่ะ มันเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง ถุ้ย ไม่ใช่ละ!! Blue Ice นั้นคืออึที่ทางเครื่องบินปล่อยออกมาระหว่างที่กำลังบินอยู่ ซึ่งอึนั้นผ่านกระบวนการแช่งแข็งจนสามารถละลายได้จนหมด ซึ่งเวลามันตกมาจากเครื่องบินสู่พื้น มันก็จะไม่ทิ้งหลักฐานเอาไว้ให้ดูน่าเกลียด ตอนนี้ก็กำลังทำการตรวจสอบให้แน่ชัดกับทาง Transport Canada ว่าสิ่งที่หล่นลงมานั้นเป็นอึจริงรึเปล่า เพราะไม่มีหลักฐานที่แน่นอน แต่ถ้าเป็นจริง สายการบินน่าจะโดนหนัก ซึ่งทาง Transport Canada ายงานว่าจะตรวจสอบทุกอย่างที่หลุดออกมาจากเครื่องบินเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งหลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการสืบสวน…
-
18 ภาพถ่ายภาพสุดฮากับ “ลูกน้อย” แล้วเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หยุดไม่อยู่จริงๆ!!
เด็กน้อยหรือเด็กทารกนั้นเป็นวัยที่กำลังอยู่ในช่วงน่ารักน่าชัง เพราะพวกเขายังไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องฉี่กับอึนี่เป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้เลยว่าจะปล่อยมาตอนไหน สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็คงจะเคยผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มาแล้ว ทางที่ดีคือต้องใส่ผ้าอ้อมไว้ตลอดเวลา ปวดก็ปล่อยได้เลย แต่บางครั้งมันก็ต้องมีช่วงเวลาที่เด็กไม่ได้ใส่ผ้าอ้อม อย่างเช่นช่วงที่ต้องการจะถ่ายรูป ถ้าใส่ผ้าอ้อมก็จะดูไม่สวยเท่าไหร่ ก็เลยต้องถ่ายแบบไม่ใส่อะไรนี่แหละ สวยงามที่สุดแล้ว แต่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เมื่อหนูน้อยได้ปล่อยออกมาตอนนี้ซะงั้น แและนี่คือ 18 ภาพของหนูน้อยที่ได้ปล่อยของเสียมาตอนที่ถ่ายรูปแบบพอดิบพอดี กลายเป็นเรียกเสียงฮาให้กับพ่อแม่และเราได้อย่างดีเลยล่ะ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. …
-
งานอาร์ตขำๆ ที่แสดงให้เห็นว่าถ้าฮีโร่ “อึ” ออกมาแล้ว มันจะมีลักษณ์ตามเจ้าของยังไงบ้าง!!
ใครๆ ก็ชอบซุปเปอร์ฮีโร่กันทั้งนั้นแหละ แต่คงไม่เคยมีใครจินตนาการเวลาที่เหล่าซุปเปอร์ฮีโร่เหล่านี้กำลังปลดทุกข์หนักแล้วจะเป็นยังไงน้อ มันจะเหมือนคาแรคเตอร์ของพวกเขากันรึเปล่านะ ศิลปินแฟนเพจชื่อว่า Shibato Arts ได้สร้างงานอาร์ตขำๆ ขึ้นมา โดยได้ไอเดียมาจากอึของซุปเปอร์ฮีโร่ต่างๆ โดยใส่ลักษณะเดนลงไปด้วย ทำให้เราเห็นแล้วก็ร้องอ๋อขึ้นมาทันทีว่ามันเป็นอึของใคร แถมภาพอึก็น่ารักมากๆ ด้วย เราไปดูอึแต่ละสตไล์กันเลยดีกว่า แล้วลองเดาว่าแต่ละอันเป็นของฮีโร่ตัวไหน (จริงๆ ไม่ต้องเดาก็ได้ มีชื่อบอกอยู่ อิอิ) ถือเป็นไอเดียที่น่ารัก สำหรับการสื่อถึงฮีโร่ที่เราชอบด้วยการใช้อึได้อย่างไม่น่าเกลียด อยากเห็นฮีโร่ตัวอื่นๆ บ้างจังเลย ที่มา boredpanda
-
คุณตำรวจได้ช่วยลาออกจากถนน ก่อนที่เจ้าลาตัวนั้นจะทิ้ง “อุนจิ” ไว้หลังรถก่อนจาก
นี่เป็นเรื่องที่น่ารักที่เหมียวได้ไปเจอมา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ Kyle Canaan แห่งสถานีในเมือง Oklahoma ได้รับแจ้งเหตุว่ามีลาตัวหนึ่งกำลังเดินหลงทางอยู่กลางถนนที่สี่แยกไฟแดง เกรงว่ามันจะได้รับอันตราย คุณตำรวจจึงรีบไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่แล้ว ทั้งสองคุยกันอย่างลงตัว เจ้า “Squishy” (เขาตั้งชื่อมันว่าอย่างนั้น) ยอมขึ้นรถไปโดยดี ซึ่งรถตำรวจที่มันขึ้นไปก็พอดีกับตัวมันเลย นานๆเราจะได้เห็นภาพลาถูกจับขึ้นรถตำรวจนะเนี่ย แต่พอขับไปได้สักพักก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เมื่อเจ้าลาตัวนี้นึกว่าที่นั่งอยู่เป็นห้องน้ำ มันจึงได้ปลดทุกข์ครั้งใหญ่ลงในรถซะ เล่นเอาคุณตำรวจถึงกับเงิบเลย คุณตำรวจ Kyle ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมต้องมาจัดการสิ่งที่มันทิ้งไว้หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ เพราะว่ามันปล่อยมาเยอะมากๆ” จนสุดท้ายเจ้าลาก็มีเจ้าของรับกลับไป กลายเป็นเรื่องฮาๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตนายตำรวจท่านนี้ เราไปชมคลิปข่าวนี้กันเลย ได้เห็นเจ้าลาน่ารักด้วยนะ ที่มา KFOR
-
อบอวนกันทั้งสนาม!! เมื่อนักสู้ MMA “อุจจาระเล็ด” ระหว่างแข่ง จนเวทีแทบเปลี่ยนสี
ทุกการแข่งขันกีฬา ส่วนมากนักกีฬาต้องเตรียมพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ และการขับถ่ายของเสียด้วย เพราะถ้าเกิดคุณไปปวดอะไรซักอย่างระหว่างแข่ง อาจจะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “วงแตก” ได้ เหมือนอย่างนักสู้ MMA ที่ชื่อว่า Travis Wolford คนนี้ที่กำลังแข่งขันต่อสู้ในกรง Ruckus in the Cage ที่เมือง Beckley เมื่อวันที่ 3 ตุลามคมที่ผ่านมา โดยปกติแล้วการต่อสู่แบบนี้ค่อนข้างดุดัน อาจมีเหตุนองเลือดกันได้ แต่ครั้งนี้เลวร้ายกว่านี้ เพราะมันกลายเป็นเหตุนองขี้แทน.. ดูเหมือนว่าเขาจะอันมานาน จนกระทั่งเจอท่าทุ่มไป 1 ดอก ทำให้ประตูที่กันไททันพังลงมา ทำให้เหล่าไททันแหวกประตูออกมานองเวที คู่ต่อสู้เห็นแล้วถึงกันถอยห่างกันเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้น เขาได้เดินเหยียบขี้ตัวเองแล้วเดินไปทั่ว จนกรรมการต้องมาดูว่านี่มันคราบอะไร ขอเตือนก่อนเข้าดูคลิปว่าไอ่คนอัดวิดีโอมันซูมให้เห็นชัดๆด้วย ใครรับไม่ได้ก็ผ่าน (ตอนเซ็นเซอร์นี่ทรมานมาก) ดูสีหน้าคนดูตอนที่เขาเดินผ่านสิ เราไปดูคลิปกันเลยดีกว่า ที่มา RoughNRowdyBrawl
-
ผู้ดีเหวอ เจอนักท่องเที่ยวจีน อุ้มลูกอึหน้าร้าน Burberry ในประเทศอังกฤษ!?
หากใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่อังกฤษก็น่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงของร้าน Burberry มาไม่มากก็น้อยล่ะนะ เพราะมีสินค้าหลากหลายให้เลือกซื้อแถมยังปลอดภาษีอีกด้วย จึงเป็นร้านค้าที่ดึงดูดลูกค้าได้ดี โดยเฉพาะลูกค้าจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าชาวจีนบางคนจะไม่ได้เป็นแฟนของ Burberry เพราะเล่นพาลูกหลานมาอึที่หน้าร้านกับแบบไม่เกรงใจใครเลยทีเดียว!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หน้าร้าน Burberry สาขาหนึ่งในหมู่บ้าน Bicester ประเทศอังกฤษ เป็นเหตุการณ์ดูคุณยายชาวจีนคนหนึ่งกำลังอุ้มหลานชายและจัดแจงให้เขาอึลงบนถุงกระดาษที่หน้าร้านค้าชื่อดัง ทำเอานักท่องเที่ยวและชาวเมืองต่างเอือมไปตามๆ กัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวจีนหลั่งไหลกันเข้ามาเที่ยวที่ประเทศอังกฤษกันอย่างไม่ขาดสาย และตั้งแต่ปี 2013 ที่ผ่านมา ทางการของอังกฤษก็ได้ติดตั้งป้ายหรือสัญลักษณ์ต่างๆ เป็นภาษาจีนเพื่อให้พวกเขาเข้าใจง่ายมากขึ้น แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังใช้ไม่ได้ผลกับคนบางกลุ่มล่ะนะ ที่มา shanghaiist
-
จะฮาหรือสงสารดี!! เด็กน้อยปวดท้องหนักจนต้องปล่อย “อุนจิ” ลงกลางพื้นห้าง เดือดร้อนลูกค้าคนอื่นๆ
ถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศเลยทีเดียว เวลาที่เราปวดท้องหนัก(ปวดแบบนั้นแหละ) ในระหว่างที่เราอยู่ในที่สาธารณะ เพราะต้องวิ่งหาห้องน้ำกันให้วุ่นวาย และยิ่งตอนเราเป็นเด็กก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เพราะไม่กล้าที่จะไปห้องน้ำเอง เลยอาจมีการเผลอปล่อยกลางอากาศกันบ้าง เหมือนอย่างคลิปที่เหมียวจะให้ดูต่อไปนี้ล่ะ เว็บไซต์ Liveleak ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในประเทศรัสเซีย เผยให้เห็นภาพของเด็กชายคนหนึ่งในขณะที่กำลังหยุดนิ่งอยู่ห้องชั้นสินค้า จู่ๆ เขาก็เขย่าขากางเกง จนมี “สิ่งแปลกปลอม” ร่วงลงมากองอยู่บนพื้น จากนั้นก็รีบเดินจากไป แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะยังไม่ทันที่จะได้ทำความสะอาดดี ก็มีลูกค้าหนุ่มเดินมาเหยียบมันเข้าอย่างจัง ทำเอาเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว คลิกชมคลิปได้ที่ด้านล่าง งานนี้ไม่รู้จะฮาหรือสงสารดีนะเนี๊ยะ ที่มา liveleak
-
เมื่อคุณพ่อมือใหม่ต้องมา “เช็ดอึ” ที่ก้นลูก เลยกลายเป็นคลิปที่ทั้งน่ารัก ฮา และมีความรักเต็มเปี่ยม!!
หลายคนที่ได้เป็นพ่อแม่แล้ว คงเคยผ่านประสบการณ์การเลี้ยงลูกมาอย่างโชกโชน หลายคนถึงกับไม่กล้ามีลูกคนที่สองเลยทีเดียว แต่ทุกสิ่งที่พ่อแม่ทำให้ก็เพราะความรักที่มีอยู่ในสายเลือด อีกหนึ่งประสบการณ์ที่พ่อแม่ทุกคนต้องเจอคือการทำความสะอาดตูดของลูกน้อยที่เต็มไปด้วยอึ เนื่องจากเด็กไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองปวดตอนไหน ดังนั้นเขาก็เลยต้องใส่ผ้าอ้อมไว้ตลอดเวลา และช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพ่อแม่คือตอนทำความสะอาดนี่แหละ นี่คือคลิปของคุณพ่อที่กำลังทำความสะอาดก้นลูกน้อยด้วยน้ำตา เพราะดูจากสีหน้าแล้ว รู้เลยว่าคุณพ่อกำลังจะปล่อยอาหารที่กินเข้าไปออกมาจนหมด เราไปดูคลิปน่ารักๆนี้กันเลยดีกว่า ใครที่กำลังจะเป็นพ่อแม่ก็ต้องเตรียมพร้อมกันหน่อยแล้วล่ะ!! ที่มา Jamie Morse
-
10 ภาพสุดฮาของเจ้าเหมียวที่ชอบไปนอนตรงกางเกงตอนเรา “ปล่อยโลมาสู่ทะเล”
เชื่อว่าหลายคนต้องมีนิสัยที่ต้องอึในทุกๆเช้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะมันจะช่วยให้ระบบขับถ่ายของเรามาต้องตามฤดูกาล ไม่มีไปปวดตอนนั่งรถไปทำงาน แต่สิ่งที่ลำบากยิ่งกว่าคือ บางทีเราก็อยากได้บรรยายกาศในห้องน้ำแบบชิวๆ ก็เลยเปิดประตูทิ้งไว้ แล้วพอดีเจ้าเหมียวเห็นว่าเรากำลังมีความทุกข์ (ปลดทุกข์) ด้วยความเป็นห่วง มันเลยเดินเข้ามาให้กำลังใจ โดยการนอนลงไปตรงกางเกงที่กองกับพื้น ซึ่งบางคนถึงกับขี้ไม่ออกกันเลยทีเดียว วันนี้เหมียวเลยพาทุกท่านมาดูภาพสุดน่ารักของเจ้าเหมียวที่พยายามมาให้กำลังใจเราตอนที่กำลังปล่อยน้องโลมาน้อยสู่ท้องทะเล ดูซิว่าจะน่ารักแค่ไหน ที่มา boredpanda
-
ผู้พิทักษ์ความสะอาด!! สอดส่องเพื่อนบ้าน หากไม่เก็บ “อุนจิ” สุนัขจะถ่ายรูปประจาน
การที่เรามีความประสงค์จะเลี้ยงสัตว์ก็ต้องมีความรับผิดชอบตามมาด้วย ไม่ว่าคุณจะพามันไปไหนมาไหน ก็ต้องคอยตามเก็บกวาดให้เรียบร้อย และมันก็มักจะมีปัญหาที่ว่าสัตว์เลี้ยงทิ้งระเบิดไว้แต่เจ้าของไม่เก็บนี่แหละ Andrew Hawes หนึ่งในผู้ที่พยายามดัดนิสัยผู้เลี้ยงที่ไร้ความรับผิดชอบ เขาจะแต่งชุดลายพรางแอบซุ่มอยู่ในพุ่มไม้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นการทิ้งระเบิดแต่เจ้าของไม่ยอมเก็บก็จะจู่โจมทันที!! อาวุธติดตัวของเขาก็คือกล้อง เขาก็จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับบอกว่า “หากคุณไม่ยอมเก็บอุนจิน้องหมา ผมจะเอาไปประจานในกลุ่มบน Facebook และแจ้งตำรวจด้วย แต่ถ้าคุณเก็บผมก็พร้อมที่จะลบภาพทันที” แถมกลุ่มที่เขาก่อตั้งนั้นมีสมาชิกเข้าร่วมอุดมการณ์มากถึง 600 คนด้วยกันและยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการดัดนิสัยคนเลี้ยงสัตว์ที่ไม่มีความรับผิดอีกแนวทางหนึ่งที่โหดมากเลยนะเนี่ย!! ว่าแล้วก็แอบเข้าไปซุ่มในพุ่มไม้ก่อน!! ที่มา : thechive