Tag: ข่มขื่น
-
บราซิลออกหมายจับ “หมอพลังจิต” อ้างพลังแห่งพระเจ้า ลวงคนไข้ไปข่มขืนกว่า 300 คน
ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่ามีการรักษาความเจ็บป่วยทั้งหมดทั้งมวลด้วยวิธีที่อยู่เหนือวิทยาศาสตร์ แม้ “ความเชื่อ” ของบุคคลจะไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่การเชื่อในสิ่งผิดก็อาจนำไปสู่อันตรายได้ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2018 ทางการของประเทศบราซิลได้ออกหมายจับนาย Joao Teixeira de Faria หรือ ฟาเรีย ผู้มีฉายา “John of God” หมอร่างทรงพลังจิตที่ลวงลูกศิษย์มาข่มขืนและคุกคามทางเพศ Joao Teixeira de Faria (ฟาเรีย) ฟาเรีย เป็นชายชาวบราซิลวัย 76 ปี เขากล่าวอ้างว่าตนเป็นหมอวิเศษที่เป็นร่างทรงให้กับบรรดาแพทย์กว่า 30 คน ที่สามารถรักษาโรคต่างๆ ให้ผู้ป่วยได้ด้วยพลังของพระผู้เป็นเจ้า ผู้คนจำนวนมากจากทั่วโลกจึงเกิดความสนใจและศรัทธา ถวายตนเป็นศิษย์และสาวก ทั้งที่แท้จริงแล้วฟาเรียไม่ได้เป็นแพทย์จริงๆ แต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้ลวงลูกศิษย์ที่เป็นหญิงสาวไปกระทำการ ข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศ กว่า 300 ราย จนลูกศิษย์หลายคนทนไม่ไหวออกมาร้องเรียนกับสื่อท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่างภาพสาวชาวดัตช์นามว่า Zahira Leeneke Maus ผู้เคยเข้ารับการรักษาโรคซึมเศร้าจากฟาเรียก็ออกมาให้การกับ Globo TV ว่านายฟาเรียได้กระทำการข่มขืนเธอโดยอ้างว่าเป็นพิธีกรรมการรักษา ส่วนหญิงที่เคยตกเป็นเหยื่อของนายฟาเรียอีก…
-
หญิงชาวอินโดถูกตัดสิน “ประหาร” ในซาอุฯ เพราะฆ่านายจ้างที่พยายาม ‘ข่มขืน’ เธอ
ชาวอินโดนีเซียในกรุงจาการ์ตาได้เกิดความไม่พอใจกับทางประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างมาก หลังหญิงชาวอินโดนีเซีย ถูกตัดสินประหารชีวิต โดยไม่มีการแจ้งรัฐบาลอินโดฯ Tuti Tursilawati ผู้ใช้แรงงานหญิงชาวอินโดนีเซียที่อพยพเข้ามายังประเทศซาอุดีอาระเบียได้ถูกตัดสินประหารชีวิตในปี 2011 ด้วยคดีฆาตกรรมนายจ้างของตน แต่ถึงอย่างนั้นเธอยังไม่ได้รับโทษ กระทั่งวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา เธอถูกประหารชีวิตเป็นที่เรียบร้อยในเมืองอัฏฏออิฟ ประเทศซาอุดีอาระเบีย Tuti Tursilawati การตัดสินคดีในครั้งนี้ทำให้เกิดความไม่พอใจแก่ชาวอินโดนีเซียอย่างยิ่ง Joko Widodo นายกรัฐมนตรีของอินโดนีเซียได้ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย ถึงสาเหตุที่ไม่แจ้งข่าวการประหารชีวิต Tuti Tursilawati ให้ทางการอินโดนีเซียได้ทราบ ประกอบกับการให้ปากคำของ Tuti ที่กล่าวว่าเป็นการกระทำเพื่อ ป้องกันตนเอง หลังจากถูกนายจ้างของเธอลวนลามและคุกคามทางเพศ ยิ่งทำให้ชาวอินโดนีเซียยิ่งไม่พอใจ ภายหลังทราบว่า ทางซาอุดีอาระเบียไม่สนใจเรื่องของการร้องขอสิทธิมนุษยชนและสิทธิการรักษาชีวิตของตน (ผู้กระทำผิด) สุดท้าย นายกรัฐมนตรีของอินโดนีเซียจึงได้พยายามร่างข้อตกลงจริงจังกับประเทศซาอุดีอาระเบียเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ทางการประเทศซาอุดีอาระเบียมีกาประหารชีวิตชาวอินโดนีเซียโดยไม่มีการแจ้งกลับมายังประเทศบ้านเกิด ที่มา: migrantcare, nextshark และ Daily Mail
-
เวรกรรมจริงๆ ‘สาวพิการหูหนวก’ ให้ที่พักพิงเพื่อนเก่าหลบพายุ แต่ดันถูกข่มขืนซะได้!!
ใครเล่าจะคิดว่าการให้ความช่วยเหลือกับคนที่กำลังลำบาก จะถูกคนคนนั้นกลับมาทำร้ายเราได้… เรื่องราวต่อไปนี้เกิดขึ้นในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใกล้กับเมืองเฟย์เอตต์วิล รัฐนอร์ท แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบุกจับกุมนาย Freeman Scott Ireland วัย 37 ปี หลังก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ และทำร้ายร่างกายหญิงพิการทางการได้ยิน เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคน Florence พัดถล่มสหรัฐฯ นาย Freeman กำลังจะเดินกลับบ้าน แต่เนื่องจากพายุพัดหนักจึงขอไปหลบพายุที่บ้านของหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งอยู่ระหว่างทางกลับบ้านพอดี ตามรายงานระบุว่านาย Freeman กับเหยื่อนั้นรู้จักกันมานานกว่า 20 ปี จึงอนุญาตให้เขาเข้ามาพักในอพาร์ตเมนต์ของตัวเองเพื่อรอให้พายุสงบลง แต่ปรากฏว่าพอตกดึก นาย Freeman กลับย่องเข้ามาทำร้ายร่างกาย และกระทำชำเราหญิงสาว ที่เป็นผู้พิการทางการได้ยิน ขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ เหยื่อถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล Moore Regional Hospital เพื่อรักษาตัว ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุดังกล่าว ซึ่งผู้ก่อเหตุยังคงอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของเหยื่อต่อไป จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ในที่สุด จากข้อมูลพบว่าก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงปลายของเดือนพฤษภาคม นาย Freeman เพิ่งจะถูกปล่อยตัวออกจากคุกหลังจากที่รับโทษมานานกว่า 25…
-
ถึงกับช็อก สาวไปผ่าตัดเสริมหน้าอก พอฟื้นจากยาสลบพบว่าตัวเองกำลังโดนหมอข่มขืน!?
บางครั้งเราอาจจะคิดกันเล่นๆ ว่าเวลาเข้ารับการรักษาและต้อง ‘ดมยาสลบ’ เพื่อทำการผ่าตัด จะถูกทำอะไรไปบ้างก็ไม่อาจทราบได้ แต่สำหรับเหตุการณ์นี้เมื่อ Erika Bykova นักออกแบบสาวชาวรัสเซียวัย 35 ปี ได้ไปทำการผ่าตัดเสริมหน้าอก แต่พอฟื้นจากยาสลบมาก็พบว่าตัวเองกำลัง ‘ถูกหมอข่มขืน’ อยู่!? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ที่คลินิกศัลยกรรมแห่งหนึ่งในเมือง Samara ประเทศรัสเซีย โดยมีผู้ก่อเหตุคือดอกเตอร์ Yury Chernikov วิสัญญีแพทย์ หรือหมอที่ทำหน้าที่ในการให้ยาสลบวัย 59 ปี จากคำให้การของคุณหมอเล่าว่าเขาได้มีเพศสัมพันธ์กับเธอไม่กี่นาทีหลังจากผ่าตัดเสร็จ พร้อมกับอ้างว่าฝ่าย Erika นั้นสมยอม บอกว่าขณะมีอะไรกันคนไข้ยังร้องครางและบอกกับเขาอีกว่า ‘รู้สึกดีมาก’ แถมยังอ้าขาให้กับเขาอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามทางด้าน Erika ที่เป็นคุณแม่ลูกหนึ่งก็ออกมาโต้ ว่าคำให้การของหมอนั้นไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย “ฉันร้องครางก็จริง แต่ที่ครางก็เพราะว่าฉันไม่สามารถตะโกนหรือกรีดร้องเสียงดังได้ เพราะเพิ่งฟื้นจากยาสลบและยังไม่มีสติเต็มร้อย” “นี่เป็นครั้งแรกในการผ่าตัดของฉันที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แต่ก่อนหน้าที่จะทำการผ่าตัดฉันได้มีโอกาสพบกับเขาเพื่อพูดคุยกันถึงรายละเอียดในการเข้ารับการผ่าตัด แต่ไม่นึกว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้” “เขาข่มขืนฉัน ฉันตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำเลยว่าตัวเองกำลังโดนอะไรอยู่ ดวงตาของฉันหนักอึ้ง และยังลืมตาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” “ฉันพยายามที่จะถีบเขาออกจากตัวด้วยขาของฉัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้” Erika…
-
นักศึกษาบังกลาเทศ ถูกฝ่ายรัฐบาลฆ่าและข่มขืน เนื่องจาก “ประท้วง” ขอความปลอดภัยบนท้องถนน
หลังจากที่มีข่าวการเสียชีวิตของนักเรียน 2 รายในประเทศบังกลาเทศเนื่องจากอุบัติเหตุบนท้องถนน จึงมี การประท้วง เกิดขึ้นเพื่อเรียกร้องให้การจราจรในประเทศมีความปลอดภัยมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับกลายเป็นความรุนแรง ความโหดร้าย และการสูญเสีย ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2018 ได้เกิดเหตุการที่รถบัสโดยสารคันหนึ่งพุ่งชนเข้ากับกลุ่มนักเรียน ทำให้ Diya Khanam Mim และ Abdul Karim Rajib นักเรียน 2 คนจากโรงเรียนและวิทยาลัย Shaheed Ramiz Uddin เสียชีวิต ข่าวการเสียชีวิตของนักเรียนทั้งสองแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ ทำให้เกิดการจลาจลต่อต้านรัฐบาลขึ้นในกรุงธากา ผู้ประท้วงส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนและนักศึกษาที่ออกมาปิดการจราจร ณ สี่แยกใหญ่หลายแห่ง ภาพการประท้วงที่ก่อให้เกิดการจลาจล มีรายงานว่า เด็กนักเรียนวัยเพียง 13 ปี หนึ่งในผู้ร่วมประท้วงได้ทำการปิดถนนและตรวจสอบรถทุกคันที่ผ่านมาว่ามีใบอนุญาตขับขี่หรือไม่ เพื่อให้มีความปลอดภัยบนท้องถนน และเมื่อวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2018 เหล่าผู้ประท้วงนับพันได้รวมตัวกันประท้วงต่อต้านรัฐบาลให้มอบความยุติธรรมและเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนให้มากขึ้น แต่ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน การจลาจลกลับกลายเป็นความรุนแรง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจของบังกลาเทศและกลุ่มนักศึกษาที่สนับสนุนรัฐบาลถูกกล่าวหาว่าใช้กำลังและความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ประท้วง รายงานจาก Agence France-Presse กล่าวว่านักเรียนที่เข้าประท้วงหลายร้อยรายบาดเจ็บจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตา…
-
เด็กหญิงถูกล่อลวงไปข่มขืน โดยกลุ่มเด็กชาย 5 คน ด้วยสาเหตุดูหนังโป๊บนโทรศัพท์
สิ่งที่น่าสลดและหดหู่ใจที่เกิดขึ้นในประเทศอินเดียบ่อยครั้ง ปัญหาของการข่มขืนที่ไม่มีอัตราลดจำนวนลงได้ และเหยื่อส่วนใหญ่มักจะเป็นเด็กผู้หญิง เหตุการณ์ในครั้งนี้ มีผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนชาย 5 ราย มีอายุตั้งแต่ 9 – 14 ปี ได้ทำการล่อลวงเด็กหญิงอายุเพียง 8 ขวบ ไปยังบ้านของเพื่อนที่รู้จักกัน ก่อนจะลงมือรุมโทรมข่มขืนเธอ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า การลงมือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มเด็กชายรับชมสื่อลามกบนโทรศัพท์มือถือได้เพียง 2 วันเท่านั้น Naresh Rathore โฆษกเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำท้องที่เมือง Sahaspur กล่าวว่า “กลุ่มเด็กชายเลือกเด็กผู้หญิงคนนี้ เนื่องจากรู้ว่าเธอมักจะอยู่เพียงลำพังในบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว การวางแผนก่อเหตุจึงเริ่มต้นเพียงแค่ไม่กี่วันก่อนลงมือ” กลุ่มเด็กชายต่างอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับเหยื่อ เมื่อสบโอกาสที่เหยื่อออกมาเล่นภายนอกบ้าน จึงทำการล่อลวงเธอไปในที่ลับตาคน ภายหลังจากถูกจับกุมตัวทั้งหมด เยาวชนกลุ่มนี้ถูกตั้งข้อหาข่มขืน แต่อยู่ภายใต้กฎหมายการคุ้มครองเด็กจากการกระทำความผิดทางเพศของประเทศอินเดีย พวกเขาจะไม่ถูกคุมขังภายในเรือนจำทั่วไป โดยศาลเด็กและเยาวชน ได้ตัดสินให้ส่งตัวไปยังสถานพินิจเด็กและเยาวชนแทน ในระหว่างที่การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไป ทางด้านฝ่ายเด็กหญิงกำลังพักฟื้นฟูสภาพจิตใจและร่างกายภายในบ้านของตนเอง ที่มา: timesofindia, news18, tribuneindia, mirror, dailymail
-
คุณหมอตัดสินใจจบชีวิตลง…เพราะอดีตอันขมขื่น มันส่งผลมาถึงปัจจุบัน
บาดแผลในใจที่ถูกกระทำรุนแรงในวัยเด็ก มันสามารถส่งผลต่อใจจิตของคนแม้เวลาจะล่วงเลยมานานนับ 50 ปีแล้วก็ตาม… และนี่คือเรื่องราวของคุณหมอ Stuart Kidd ที่อุทิศทั้งชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น แต่จากประสบการณ์อันขมขื่นในวัยเด็กที่ตามหลอกหลอนเขามาโดยตลอด ก็ทำให้เขาตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงในวัย 60 ปี ศัลยแพทย์กระดูกและข้อวัย 60 ปี ที่เพิ่งเกษียณตัวเองจากการทำงานอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นมาแล้วมากมายในเขต Blue Mountains นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เขาได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตอันขมขื่นในวัยเด็กในรายการ You Can’t Ask That ที่จะออกฉายทางช่อง ABC แต่หลังจากถ่ายทำเสร็จ เพียงสองเดือนก่อนที่รายการจะนำเรื่องราวของเขามาเผยแพร่คุณหมอ Kidd ก็ได้ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลงอย่างน่าเศร้า ทางด้านภรรยาของคุณหมอ คุณ Janet ได้เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองว่า ‘คุณหมอ Kidd รู้สึกพอใจมากกับเนื้อหาในรายการดังกล่าว ซึ่งเขาได้มีโอกาสรับชมมันก่อนที่จะเสียชีวิต’ ในการถ่ายทำคุณหมอ Kidd ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อตอนเด็กๆ เขาถูกผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 30-40 ปี และเด็กผู้ชายที่มีอายุมากกว่าก่อเหตุทารุณกรรมทางเพศ “ผมเคยถูกข่มขืนโดยผู้ชายที่มีอายุมากกว่าผม 30-40 ปี จากนั้นก็ถูกกระทำโดยเด็กชายที่มีอายุมากกว่าที่ผมคิดว่าเป็นเพื่อน” “ผมยังเด็กอยู่มาก…
-
โหดจัด!! สาวบุกเข้าไปในบ้านชายหนุ่มที่เป็นแฟนเก่าพร้อมใช้ ‘มีดขู่’ เพื่อขอมีเซ็กส์ด้วย!!
โดยปกติแล้ว เรามักจะเห็นรายงานข่าวการข่มขืน ที่มีคนร้ายเป็นผู้ชายและมีเหยื่อเป็นผู้หญิง… แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้กลับตาลปัตรกันหมด เพราะคนก่อเหตุเป็นผู้หญิง ใช้มีดขู่บังคับแฟนเก่าที่เป็นผู้ชายให้มีเซ็กส์ด้วย!? เรื่องมีอยู่ว่าวันที่ 27 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ Daily Mail รายงานว่า Samantha Mears หญิงสาววัย 19 ปีจากรัฐมอนแทนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหา การใช้ความรุนแรงในการลักทรัพย์, การใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธมีด เหตุเพราะเธอใช้มีดบุกเข้าไปในบ้านของชายหนุ่มคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นแฟนเก่าของเธอ ที่ตั้งอยู่บนถนน 2nd Avenue Northwest ในเมืองเกรต ฟอลส์ ตามรายงานระบุว่า ก่อนหน้านั้นชายหนุ่มได้ออกไปนอกบ้าน Samantha จึงตัดสินใจที่จะเข้าไปดักรอในนั้น หลังจากที่ชายหนุ่มกลับมาถึงที่บ้าน เธอก็เดินเข้าไปข้างหลังพร้อมกับจ่อมีดไปที่หน้า พร้อมกับสั่งให้เขาถอดเสื้อผ้าพร้อมกับนอนลงไปบนเตียง จากนั้นเธอก็ถอดกางเกงของตัวเองออกพร้อมกับถือมีดเล่มใหญ่ไว้ในมือ ก่อนที่จะบังคับขู่เข็ญให้ชายหนุ่มมีเซ็กส์ด้วย ขณะมีเซ็กส์กัน Samantha ก็กัดไปที่แขนเขาอย่างรุนแรง แม้ว่าชายหนุ่มจะพยายามห้ามเท่าไหร่ก็ตามฝ่ายหญิงก็ไม่ยอมหยุด จนกระทั่งหญิงสาวเปลี่ยนไปนอนที่เตียงบ้าง หนุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อก็ประสบโอกาศหยิบโทรศัพท์ทำทีเป็นเอามาถ่ายภาพเธอ ก่อนที่จะโทรแจ้งตำรวจและนำภาพกับคลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ ณ ตอนนั้นเป็นหลักฐานส่งให้กับเจ้าหน้าที่ในภายหลัง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง Samantha ได้ให้การว่าตัวเองนั้นถูกฝ่ายชายลักพาตัวมา…
-
เณรแฉเอง ส่งหลังไมค์ให้พิธีกรรายการข่าว กรณีเจ้าอาวาสใช้เงินซื้อกาม-ข่มขืนสามเณร…
กำลังเป็นประเด็นที่ฉาวโฉ่และรุนแรงมากๆ ในแวดวงของพระสงฆ์ เนื่องจากมีข่าวรายงานออกมาอย่างไม่ขาดสาย เมื่อมีเรื่องราวการซื้อกามของเจ้าอาวาสวัดดัง จ. นครสวรรค์ หลุดออกมาก่อนหน้านี้… ซึ่งแชตดังกล่าวเป็นการพูดคุยระหว่างเจ้าอาวาสกับผู้ชายช่วงอายุ 17 – 20 ปี พูดคุยกันในทำนองเรื่องทางเพศ พร้อมกับยื่นข้อเสนอจ่ายเงินซื้อสิ่งของต่างๆ ให้ และมีการส่งภาพและคลิปอนาจารตามมาอีกเพียบ ภาพหลักฐานการแชต เปิดเผยผ่านรายการข่าวใหญ่ไทยแลนด์ . . . และล่าสุดจากโพสต์ของนาย เคนโด้ เกรียงไกรมาศ พจนสุนทร พิธีกรรายการข่าวใหญ่ไทยแลนด์ ได้ออกมาเปิดเผยผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวของตน พร้อมกับรายละเอียดดังต่อไปนี้… “ข่าวใหญ่ไทยแลนด์ได้รับการติดต่อมาจากสามเณรรูปนึงว่าโดนเจ้าอาวาสข่มขืนคาวัด ตัดสินใจแฉพฤติกรรมอันเลวร้าย ประกอบหลักฐานคือแชตซื้อกามเมื่อวันก่อน ทางรายการก็คิดว่าแค่ซื้อกามหลังนำเสนอก็ได้รับการติดต่อจากสามเณรว่าโดนข่มขืนคาวัด เลวร้าย เหี้ย เราจะแฉ และถลกหนังหัวพระนอกรีตจนกว่าจะได้รับการดำเนินคดี 15.00 วันนี้ ข่าวใหญ่ไทยแลนด์ gmm25″ พร้อมแนบภาพหลักฐานแชตของสามเณรมาด้วย ทั้งนี้ รายละเอียดจากแหล่งข่าวรายงานว่า มีการแจ้งเจ้าคณะตำบลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าอาวาสก็รู้ตัวแล้ว แต่ทว่ายังไม่มีทีท่ายอมสึกแต่อย่างใด คลิปจากรายการข่าวใหญ่ไทยแลนด์ …
-
ภาพสุดท้ายเด็กหญิง 10 ขวบกับคนร้าย เดินจูงมือกันก่อนถูกฆ่าข่มขืน พบเป็นคนใกล้ตัวพ่อ
ในสังคมปัจจุบัน ความไว้เนื้อเชื่อใจกันถูกสั่นคลอนอยู่เสมอ แม้ว่าจะเคยรู้จักหน้าคร่าตากันมาก่อนก็ตาม เพราะสถานะความใกล้ชิดเหล่านี้นำไปสู่เหตุการณ์ร้ายแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นภาพของเด็กหญิง ผู้เป็นลูกสาวของเจ้าของร้านขนมหวานในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย กำลังเดินจูงมืออยู่กับอดีตคนงานร้านชื่อ Bholu วัย 24 ปี นาย Bholu นั้นเคยทำงานให้กับครอบครัวดังกล่าวมานานถึง 9 ปี ก่อนที่จะลงมือกระทำการข่มขืนเด็กหญิงอันเป็นลูกสาวของเจ้านายเก่าตัวเอง และภาพเดินจูงมือกันสองต่อสองคือภาพสุดท้ายที่เด็กหญิงยังมีชีวิต… หลังจากที่หายตัวไป เขาได้ลงมือข่มขืนเด็กหญิงและซ่อนศพเอาไว้ในถังภายในบ้านที่เขาอยู่ร่วมกับแม่ ก่อนจะเดินทางกลับมาทำงานตามปกติ ในช่วงเย็นวันเดียวกัน พ่อแม่ของเด็กรับรู้ถึงความผิดปกติของลูกสาว เหล่าอาสาสมัครพากันออกตามหาพร้อมกับนาย Bholu ที่แสร้งช่วยค้นหาด้วย จนกระทั่งได้รับเบาะแสจากเพื่อนบ้านของนาย Bholu ที่เห็นว่าอยู่กับเด็กเป็นรายสุดท้าย และความจริงอันโหดร้ายก็ปรากฎออกมาจากปากของเขาและแม่ของนาย Bholu… จากการชันสูตรศพของเด็กหญิง เจ้าหน้าที่ยืนยันแล้วว่าถูกข่มขืนก่อนถูกฆาตกรรม และทางตำรวจทำการจับกุมนายและสอบสวน Bholu ในข้อหาข้อความผิดทางเพศและกฎหมายเกี่ยวกับเด็ก พร้อมหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและพยานผู้เห็นเหตุการณ์ในช่วงเวลาก่อนลงมือ… ที่มา: dailymail, metro, ndtv
-
หนุ่มอินเดียโมโหที่โดนลงโทษลุกนั่งร้อยครั้งจากคดีข่มขืน เลยทุบตีพ่อแม่และเผาเหยื่อทั้งเป็น
ในวันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา นาย Dhanu Bhuiyan และผู้สมรู้ร่วมคิดจำนวนหนึ่งได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีเผาเด็กสาววัย 16 ปีทั้งเป็นในรัฐฌารขัณฑ์ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของอินเดีย จากข้อมูลของทางตำรวจ หญิงสาวรายนี้ถูกฆ่าหลังจากที่ผู้ปกครองของเธอแจ้งผู้อาวุโสของหมู่บ้านว่าเธอถูกข่มขืน จากการให้ปากคำของพ่อแม่ เหยื่อรายนี้เชื่อว่าถูกลักพาตัวจากบ้านของเธอขณะที่พ่อแม่ของเธอกำลังเข้าร่วมงานแต่งงานของคนรู้จัก จากนั้นเธอก็ถูกข่มขืนโดยชายสองคนในป่าใกล้ๆ หมู่บ้าน Raja Kendua ทางหมู่บ้านได้ทำการลงโทษผู้ลงมือที่จับได้ทั้งสองคนด้วยการให้ลุกนั่งร้อยครั้ง และจากค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000 รูปี (ราวๆ 23,700 บาท) ทำให้ชายทั้งสองคนที่โมโหกับการลงโทษในครั้งนี้มากรวบรวมพรรคพวกรวมทั้งหมด 18 คน เข้าทำร้ายร่างกายผู้ปกครองของเหยื่อ ก่อนที่จะเผาหญิงสาวผู้เป็นเหยื่อทั้งเป็น “ทั้งสองตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าบุกรุกเข้าไปในบ้านเหยื่อ ทำร้ายร่างกายผู้ปกครองของเธอ และจุดไปเผาหญิงสาวทั้งเป็น ด้วยความช่วยเหลือของผู้สมรู้ร่วมคิดจำนวนหนึ่ง” Ashok Ram เจ้าหน้าที่ประจำสถานีตำรวจท้องที่กล่าว มารดาของเหยื่อที่ต้องใจสลายกับการจากไปของลูกสาว ในขณะนี้ตำรวจสามารถจับผู้ต้องหาได้เป็นจำนวน 15 คน จากทั้งหมด 18 คนแล้ว และกำลังตรวจสอบความเกี่ยวข้องของแต่ล่ะคนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนาย Bhuiyan ซึ่งเป็นตัวการหลักถูกจับได้ในขณะที่ซ่อนตัวอยู่ที่บ้านของญาติพี่น้อง อย่างไรก็ตามผู้ต้องสงสัยยังไม่ได้ให้ปากคำเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ในอินเดียนั้น สภาผู้สูงอายุในหมู่บ้านจะมีอิทธิพลอย่างมากพื้นที่ชนบทของอินเดีย และมักจะได้รับหน้าที่ในการยุติข้อพิพาทโดยไม่ต้องผ่านระบบตุลาการที่มีราคาแพง แต่ก็ไม่ได้มีอำนาจในทางกฎหมายจริงๆ อย่างไรก็ตามจากเรื่องในครั้งนี้ทำให้ ผู้อาวุโสในหมู่บ้านหลายคนถูกตั้งข้อหาออกคำสั่งผิดกฎหมาย และปลอมแปลงหลักฐาน…
-
ชายอังกฤษผู้เคยถูกแม่ชีข่มขืน ได้พบกับลูกเป็นครั้งแรกหลังจากที่แยกกันอยู่กว่า 62 ปี
Edward Hayes ชายชราวัย 76 ปีได้พบกับลูกสาวของเขาเป็นครั้งแรก หลังจากที่เวลาผ่านไปกว่า 62 ปี เมื่อตอนที่เขาอายุได้เพียง 12 ปี เขาเคยถูกข่มขืนต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 3 ปีโดยแม่ชีคนหนึ่ง ที่ Lytham St Annes มณฑลแลงคาสเชอร์ ประเทศอังกฤษ ในช่วงยุค 50 ภาพของ Edward ในวัย 76 ปี Edward บอกว่าแม่ชีคนดังกล่าวในที่สุดก็ตั้งครรภ์ และเขาเชื่อว่าเธอถูกส่งกลับไปยังประเทศไอร์แลนด์ด้วยความอับอายขายหน้า ส่วนตัวเขาใช้ชีวิตต่อไปจนแก่ใน Carlisle โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าลูกของเขานั้นเป็นอย่างไรต่อไป ภาพของ Edward ในตอนเด็ก เรื่องราวของเขาได้ถูกแชร์ออกไปตามสื่อต่างๆ จนกระทั่งมีคนสะกิดใจกับชื่อของแม่ชีที่เคยข่มขืนเขา ซิสเตอร์ Mary Conleth หรือชื่อจริงที่ว่า Bessie Veronica Lawler ได้เดินทางมาที่ Guildford ในกรุงลอนดอนเพื่อคลอดลูกสาว ก่อนที่จะกลับมายัง Lytham โดยหวังว่าจะพบกับ Edward อีกครั้ง เมื่อเธอไม่สามารถหา Edward พบ Conleth ก็กลับไปที่ไอร์แลนด์…
-
ฆาตกรฆ่าข่มขืนลอยนวลกว่า 40 ปี ตำรวจไม่ปล่อยเข้ากลีบเมฆ งมเข็มในมหาสมุทรปิดฉากคดี!!
เป็นเวลานานร่วม 40 ปี หลังจากเกิดคดีสะเทือนขวัญที่ชื่อว่า “Golden State Killer” ที่แผ่ขยายความน่ากลัวไปทั่วบริเวณรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากการข่มขืนผู้หญิงเป็นจำนวนมาก และลงมือฆ่าเหยื่อไม่ต่ำกว่า 12 ราย และเมื่อวันพุธที่ 25 เมษายน 2018 ตามเวลาท้องถิ่น ทางการได้ประกาศปิดคดีสะเทือนขวัญที่ยาวนานหลายสิบปี ด้วยการจับกุมนาย Joseph James DeAngelo วัย 72 ปี ด้วยโทษประหารชีวิต หลังจากพบเบาะแสการตรวจดีเอ็นเอ… การจับกุมนาย DeAngelo นั้นกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นการปิดฉากคดีอาชญากรรมที่กินระยะเวลายาวนานมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จุดเริ่มต้นของความโหดร้ายแผ่ขยายไปทั่วรัฐแคลิฟอร์เนียมานานหลายสิบปี ตั้งแต่ช่วงปี 1970 ไปจนถึงปี 1980 ทำให้หลายครอบครัวรู้สึกหวาดกลัวรวมไปถึงชุมชนผู้อาศัยในรัฐเช่นกัน หลังจากนั้นอาชญากรก็หยุดก่อเหตุ และหายตัวเข้ากลีบเมฆไป ทิ้งไว้เพียงแค่เบาะแสเล็กน้อยที่ยากต่อการสืบสวน Joseph James DeAngelo ในวัย 72 ปี และแล้วร่องรอยชิ้นเล็กๆ ก็กลับย้อนมาสู่นาย DeAngelo อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้อาศัยอยู่ในเมือง…
-
อุตส่าห์ไว้ใจ!! เด็กสาวทานข้าวกับเพื่อนชาย มัวแต่เล่นมือถือ โดนมอมยา พาไป “ข่มขืน”
ต่อไปนี้สาวๆ โปรดระมัดระวังตัวกันให้มากขึ้น เพราะคนร้ายอาจจะมาในคราบของ “เพื่อนสนิท” ก็เป็นได้ มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ ที่ผ่านมา ในเขตเป่าซาน นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กล้องวงจรปิดของร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งได้ถ่ายติดภาพคู่หนุ่มสาววัยรุ่นที่กำลังทานอาหารอยู่ภายในร้าน และเผยให้เห็นพฤติกรรมน่าสงสัยของฝ่ายชาย จากภาพ ฝ่ายชายอาศัยจังหวะฝ่ายหญิงก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ แอบนำยาบางอย่างใส่ลงไปในแก้วน้ำของฝ่ายหญิง เมื่อเธอดื่มน้ำจากแก้วดังกล่าว เธอก็เริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะ มึนงง และไม่มีแรงพอที่จะทรงตัวได้เอง . จากนั้น ฝ่ายชายก็ประคองพาตัวฝ่ายหญิงไปยังห้องของโรงแรมที่ได้จองเอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว และทำการ ล่วงละเมิดทางเพศ ในที่สุด สถานการณ์ล่าสุดรายงานออกมาแล้วว่า ชายหนุ่มผู้ก่อเหตุได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเรียบร้อยแล้ว หลังจากการตรวจสอบ พบว่าชายหนุ่มคนดังกล่าว แซ่กู้ เป็นเพื่อนกับฝ่ายหญิง โดยทั้งสองรู้จักกันบนรถไฟใต้ดินราวหนึ่งปีที่แล้ว . ทั้งนี้ ยังทราบมาอีกว่า ทั้งสองคนเคยไปเที่ยว ทานข้าว และดูคอนเสิร์ตด้วยกันหลายครั้ง และยังมีการจับไม้จับมือกันอีกด้วย ทั้งหมดนี้จึงทำให้ฝ่ายชายคิดกับฝ่ายหญิงไกลเกินกว่าเพื่อน เขาจึงตัดสินใจสั่งซื้อยากล่อมประสาทจากอินเทอร์เน็ต เพราะอยากทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและฝ่ายหญิงพัฒนาไปอีกขั้น นี่แหละนะ คนที่เราไว้ใจอาจจะร้ายที่สุดก็ได้! ที่มา: New.qq
-
หญิงสาวเผย ถูกจองจำเป็นทาสเซ็กส์นาน 11 ปี ตั้งท้องและแท้งถึง 5 ครั้ง แต่ก็รอดมาได้!!
ความรุนแรงในรูปแบบความสัมพันธ์นั้นเป็นสิ่งที่ยากเกินจะคาดเดา ภายนอกเราอาจจะไม่รู้ว่าระหว่างคนสองคนนั้น กำลังเกิดอะไรขึ้น พวกเขามีความสุขกับการได้อยู่ด้วยกันอย่างที่เห็นผิวเผินหรือไม่… เรื่องราวของ Michelle Knight วัย 36 ปี หนึ่งในเหยื่อทั้ง 3 ที่ถูกนาย Ariel Castro ลักพาตัวมายังบ้านของเขา ที่กลายเป็นบ้านเขย่าขวัญนานนับสิบปี Michelle Knight เธอให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Dr. Phil หลังจากที่รอดพ้นจากเหตุการณ์ทุกข์ทรมานมาได้ ซึ่งในปัจจุบันเธอได้พบกับคู่ชีวิตที่พร้อมจะดูแลเธอ และได้ทำการแต่งงานเป็นที่เรียบร้อยมาตั้งแต่ปี 2016 แต่เมื่อกล่าวถึงช่วงชีวิตที่ถูกจองจำ เธอเล่าย้อนไปเมื่อปี 2002 เธอถูกนาย Ariel Castro ลักพาตัวและจองจำอยู่ภายในบ้าน ก่อนที่จะมีเหยื่ออีก 2 ราย นั่นก็คือ Amanda Berry และ Gina DeJesus ถูกลักพาตัวมาเพิ่ม Ariel Castro โดยเหตุการณ์เริ่มต้นที่เธอกำลังจะไปตามนัดของสถานสงเคราะห์ เพื่อจะไปรับลูกชาย Joey วัย 2 ขวบกลับมาเลี้ยงดู…
-
ลุ้นระทึก!! เด็กสาววัย 12 ปี โดดลงมาจากตึก 4 ชั้น หนีจากการถูกข่มขืน สุดท้ายรอดชีวิต
บางคนอาจเคยต้องตกอยู่ในวินาทีแห่งการเอาตัวรอด หนีจากอันตรายที่พยายามเข้ามาหาเรา เช่นเดียวกับเด็กสาววัย 12 ปีคนนี้ที่เธอถึงกับเสี่ยงชีวิตให้ตัวเองรอดจากการถูกข่มขืน วันที่ 6 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Daily Mail ได้รายงานเกี่ยวกับคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณรอบนอกของเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย เมื่อเด็กสาวคนดังกล่าวตัดสินใจกระโดดลงมาจากตึก 4 ชั้น โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก เด็กสาวนั่งอยู่บนตึกสูง 4 ชน ชาวบ้านเริ่มสังเกตเห็นว่าเธอขึ้นไปอยู่บนนั้นก็ตอนที่รองเท้าข้างหนึ่งของเด็กสาวตกลงมาใกล้ๆ ทำให้ช่างซ่อมรถที่กำลังทำงานอยู่แหงนหน้าขึ้นไปมองเห็นเด็กสาวนั่งอยู่ตรงบริเวณชั้น 4 ทำท่าเหมือนจะโดดลงมา ในตอนแรกสุดนั้นไม่มีใครรู้ว่าเธอต้องการจะทำอะไร บางคนคิดว่าเธอต้องการจะฆ่าตัวตาย แต่ถึงอย่างนั้นชาวบ้านทุกคนก็รีบช่วยกันนำเอาผ้าคลุมรถมามัดรวมกัน ขึงเป็นผ้ารองรับเด็กสาวที่จะโดดลงมา แล้วเธอก็ตัดสินใจโดดลงมาที่บริเวณผ้าที่ขึงเอาไว้ แต่ว่าเนื่องจากมันไม่มีความหนาหรือแข็งแรงมากพอ จึงทำให้ร่างของเด็กสาวทะลุลงไปกระแทกกับพื้น จนกระดูกบริเวณหลังของเธอหัก อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเด็กสาวก็รอดชีวิตมาได้และถูกนำตัวเข้ารับการรักษาต่อไป หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและสอบถามกับเด็กสาวคนนั้นเกี่ยวกับสาเหตุที่เธอโดดลงมาจากตึกสูงถึง 4 ชั้น ทำให้ทราบเรื่องราวว่าก่อนหน้านี้เธอถูกผู้ชายคนหนึ่งมาถามทาง และหลอกให้เธอนำทางเขาไปยังตึกที่กำลังก่อสร้างอยู่ เมื่อไปถึง ชายหนุ่มคนนั้นก็พยายามที่จะขืนใจเธอ เด็กสาวจึงรีบหนีจากการถูกคุกคามทางเพศ และตัดสินใจโดดลงตึก 4 ชั้นเพื่อไม่ให้ชายคนดังกล่าวตามเธอมาได้ คลิปเหตุการณ์ที่ถูกถ่ายเอาไว้…
-
นางแบบสาวกระโดดหนีจากชั้น 6 โรงแรมดูไบ อ้างหนี “ข่มขืน” แต่เธอโดนจับขังคุก!?
นางแบบสาววัย 22 ปี จากประเทศรัสเซีย ประสบอุบัติเหตุจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะถูกผู้ชายต่างชาติทำร้ายและพยายามข่มขืน จนทำให้เธอต้องหนีเอาตัวรอดจนพลัดตกตึกโรงแรมจากชั้น 6!! Ekaterina Stetsyuk สาวนางแบบจากเมือง Irkutsk ประเทศรัสเซีย เธอเปิดเผยเรื่องราวนี้ให้กับเพื่อนๆ ว่า เธอปฏิเสธที่จะมีเซ็กส์กับชายชาวต่างชาติในโรงแรมแห่งหนึ่งที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากนั้นเขาก็พยายามที่จะข่มขืนเธอ Inge Stetsyuk คุณแม่ของเธอที่ได้รู้ข่าวจากการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ก็ได้เปิดเผยเรื่องราวกับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า “เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ชายหนุ่มต่างชาติคนนั้นทำร้ายร่างกาย Katya (ชื่อเล่นของลูกสาว) เขาบีบคอเธอแล้วก็เอามีดจ่อที่คอ เพื่อเอาชีวิตรอด ลูกสาวของฉันก็เลยต้องกระโดดหนีออกมาทางระเบียงที่อยู่ชั้น 6 จนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก” “เธอไม่สามารถเดินได้ จนเมื่อวาน Katya โทรมาบอกว่าเธอกำลังจะถูกจับเข้าคุก ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ผิดอะไร!?” ตามรายงานระบุเอาไว้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นชาวสหรัฐอเมริกา และถูกจับกุมตัวที่สนามบินดูไบขณะที่กำลังจะเดินทางหลบหนี แต่หลังจากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมชายคนดังกล่าวก็ให้การกลับกันว่าแท้จริงแล้วเธอต่างหากที่เป็นคนพยายามทำร้ายเขา แถมยังบอกอีกว่าที่จริงแล้วหญิงสาวคู่กรณีน่ะที่แท้จริงแล้วเป็นสาวขายบริการ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำการควบคุมตัวของ Katya เอาไว้ ทั้งๆ ที่เธอยังนอนอยู่ในโรงพยาบาล และหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ก็จะทำการสืบสวนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นต่อไป ทางด้านคุณแม่ของ Katya พอได้ทราบเหตุการณ์ก็เลยออกมาโต้ว่าแท้จริงแล้วลูกสาวของเธอไม่ได้เป็นสาวขายบริการ…
-
กลุ่มเฟมินิสต์ร้องเรียนให้ปิด ‘ซ่องตุ๊กตายาง’ ลงทะเบียนผิดประเภท เข้าข่ายส่งเสริมการข่มขืน!?
กลุ่มเฟมินิสต์ในกรุงปารีสได้ออกมาร้องเรียนต่อสภาเมือง เพื่อให้ทางการสั่งปิดธุรกิจที่ลงทะเบียนในนามเกมเซนเตอร์แห่งหนึ่งใจกลางเมืองนามว่า Xdolls ซึ่งหลังการสำรวจพบว่าแท้จริงร้านดังกล่าวไม่ได้เปิดเป็นเกมเซนเตอร์ดังที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด การร้องเรียนดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่มีการแจ้งว่าร้าน Xdolls ที่ขายบริการตุ๊กตายางนั้นได้ทำผิดกฎหมาย ซึ่งทางร้านได้ลงทะเบียนตัวร้านในฐานะเกมเซนเตอร์ แต่กลับกันแล้วภายในไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แต่กลับเปิดเป็นร้านขายบริการตุ๊กตายางโดยใช้ชื่อดังกล่าวบังหน้า ซึ่งนั่นถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายทางอาญา ด้าน Joaquin Lousy เจ้าของกิจการเคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อในฝรั่งเศสเกี่ยวกับร้านของเขาว่า ทางร้านได้ใช้หุ่นตุ๊กตายางขนาดเท่าคนจริง ซึ่งมูลค่าแต่ละตัวนั้นถือว่าสูงมาก และให้บริการกับลูกค้าที่ต้องการระบายอารมณ์ทางเพศ โดยทางร้านได้เปิดให้บริการชั่วโมงละ 89 ยูโรต่อชั่วโมง (ประมาณ 3,400 บาท) ที่สำคัญยังมีห้องแยกและสะอาดไว้คอยใหบริการถึง 3 ห้อง และฐานลูกค้าส่วนใหญ่นั้นจะเป็นผู้ชาย และบางครั้งก็มีผู้หญิงหรือคนที่มาเป็นคู่เช่นกัน ถึงแม้จะมีการเปิดเผยข้อมูลของร้านอย่างไร และมีการยืนยันว่าเป็นตุ๊กตา ไม่ใช่เป็นผู้หญิงจริงๆ มาขายบริการ แต่ดูเหมือนว่า Bonnet Ouladj ผู้นำกลุ่มเฟมินิสต์ก็ยังคงไม่พอใจอยู่ดี เธอต้องการให้ทางการปิดร้านดังกล่าวให้ไวที่สุด ด้วยเหตุผลที่ทางร้านลงทะเบียนเป็นร้านเกม แต่ความจริงกับกลายเป็นการค้าบริการ และสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับผู้หญิง นอกจากนี้ Bonnet ยังเสริมอีกว่า และต่อให้ร้านดังกล่าวไม่ลงทะเบียนในฐานะร้านเกม แต่ร้าน Xdolls ก็ไม่ได้มีลักษณะเหมือนร้านเซ็กส์ทอยแต่อย่างใด แต่มันเป็นสถานที่ที่สร้างรายได้จากการข่มขืน และในทุกๆ ปีก็จะมีผู้หญิงถูกข่มขืนมากถึง…
-
เกินจะเป็นมนุษย์… โจรโฉดงัดบ้านเข้ามาข่มขืนยายวัย 72 ก่อนลงมือปลิดชีพและชิงทรัพย์
เดิมทีแล้วข่าวเรื่องข่มขืนและฆาตกรรมนั้นเป็นเรืองน่าหดหู่อยู่แล้ว แต่ในเหตุการณ์ครั้งนี้กลับน่าหดหู่ขึ้นไปอีก เมื่อมีชายวัย 26 ปีได้ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราคุณยายวัย 72 ปี ก่อนที่จะใช้หมอนกดหน้าเธอจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต Craig Keogh ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนและฆาตกรรม Jane Hings ขณะที่เมาสุราและยาเสพติดในวันที่ 24 กันยายน 2017 แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ให้การปฏิเสธข้อหาฆ่าข่มขืนและชิงทรัพย์ ทางศาล Birmingham Crown ได้รับทราบมาว่า Jane นั้นถูกพบว่าเสียชีวิตบนเตียงของเธอในบ้านบังกะโลที่หมู่บ้าน Fleckney เมืองสแตฟฟอร์ดเชียร์ ประเทศอังกฤษ อัยการ Mary Prior กล่าวว่า Keogh ได้ออกเที่ยวกลางคืนที่เมือง Oadby ก่อนที่จะนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านและได้เดินมาที่บ้านของ Jane บนถนนอลิซาเบ็ธ ก่อนที่จะทำการงัดเข้ามา Prior กล่าวว่าเขาได้ทำการข่มขืนกระทำชำเรา Jane ก่อนที่จะฆ่าเธอและขโมยแหวนแต่งงานจากนิ้วของเธอไป รวมถึงกระเป๋าเงิน กระเป๋าถือและเงินสดจำนวนหนึ่งไป เธอกล่าวว่า “Craig Keogh ได้งัดเข้าไปในบ้านของ Jane Hings ในขณะที่เธอกำลังหลับอยู่ ก่อนที่จะข่มขืนขณะที่เธอกำลังมีชีวิตและฆ่าเธอด้วยหมอนที่หนุนอยู่” …
-
เรื่องราวของ Brian Banks นักอเมริกันฟุตบอลดาวรุ่งพุ่งแรง ชีวิตพังเพราะถูกกล่าวหาว่า ‘ข่มขืน’!!
หากย้อนกลับไปในช่วงก่อน ที่มีคดี ‘ข่มขืน’ ให้เราเห็นกันแบบชนิดที่เรียกว่าไม่เว้นวัน จึงทำให้เกิดกระแสรณรงค์เพิ่มข้อกฎหมาย ‘ข่มขืนเท่ากับประหาร’ ขึ้นมา แน่นอนว่าหลายๆ คนต่างก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปเกี่ยวกับข้อกฎหมายดังกล่าว บ้างก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง จนถึงกับออกมาชูป้ายรณรงค์กันเลยทีเดียว บ้างก็ไม่เห็นด้วยโดยให้เหตุผลว่าถ้าผลักดันให้เกิดการใช้งานจริง แล้วคนที่เค้าไม่ได้ทำผิดจริงๆ แต่ถูกกล่าวหาและใส่ร้ายล่ะ? มาถึงตรงนี้มันก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนแล้วล่ะว่าจะมีจุดยืนอย่างไรเกี่ยวกับข้อกฎหมายดังกล่าว แต่ก่อนจะตัดสินใจ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ มาเล่าไว้เป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันเพื่อประกอบการตัดสินใจ เป็นเรื่องราวของ Brian Banks อดีตนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลตำแหน่ง ไลน์แบ็ค ที่ต้องขอบอกเลยว่าหากย้อนกลับไปในปี 2002 ขณะที่อายุได้ 16 ปี เขาเป็นนักกีฬาดาวรุ่งพุ่งแรงจนชนิดที่ว่าหาตัวจับได้ยากสุดๆ ไม่ว่ามหาวิทยาลัยไหนก็อยากได้ตัวเขาจนถึงกับเสนอทุนเรียนฟรีให้เพื่อแลกกับการไปเล่นให้กับทีมในมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว เส้นทางชีวิตของเขากำลังไปได้สวย มองเห็นถึงอนาคตการได้ไปโลดแล่นในลีคสูงสุดของอาชีพการเล่นอเมริกันฟุตบอลอย่าง NFL อยู่เพียงแค่เอื้อม แต่สุดท้ายชีวิตของเขาก็พังทลายลงไป ในปี 2002 Banks ถูกฟ้องในข้อหาข่มขืนและทารุณกรรมทางเพศนักเรียนหญิง Wanetta Gibson ที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียน Wanetta หญิงสาวที่อ้างว่าถูกข่มขืนเข้าให้การณ์ในชั้นศาลพร้อมกับพยานที่เป็น รปภ. ของโรงเรียน เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “ดิฉันถูกเขาลวนลามและพยายามจะข่มขืน” …
-
อนาคตดับ… นักการเมืองเกาหลีใต้ ถูกแฉว่าข่มขืนเลขาฯ รับผิดลาออกไม่รอไต่สวน
จากที่ #เหมียวเลเซอร์ ได้นำเสนอข้อมูลอีกด้านภายในสังคมเกาหลีใต้ (ข่าวเก่า) ที่ผู้หญิงมักจะตกเป็นเหยื่อของสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ใช้กำลังข่มเหงและกดขี่อย่างรุนแรง จนแทบจะมีสถานะไม่ต่างไปจากทาสเลย… และแล้วก็มีประเด็นใหญ่โตเกี่ยวกับด้านดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า นักการเมืองรุ่นใหญ่ของเกาหลีใต้ มีดีกรีเป็นเป็นถึงอันดับสองในพรรครัฐบาลปัจจุบัน และเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชุงช็องใต้ ถูกแฉว่าเขาได้ ‘ทำการข่มขืน’ จากเลขานุการส่วนตัวของเขาเอง Ahn Hee-jung นักการเมืองเกาหลีใต้อันดับสองของพรรครัฐบาลปัจจุบัน และผู้ว่าราชการจังหวัดชุงช็องใต้ นาย Ahn Hee-jung ออกมายอมรับผ่านสื่อโซเชียลมีเดียผ่านเพจของตนเอง ด้วยใจความดังต่อไปนี้… “ผมขอโทษทุกๆ คน ก่อนอื่น ผมทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวด ผมขอโทษสำหรับ Kim Ji-Eun (เลขา) ผมอยากจะขออภัยสำหรับการกระทำอันโง่เขลา… กับความสัมพันธ์ของเลขานุการที่ไม่ถูกต้องตามข้อตกลง มันเป็นความผิดของผมเพียงฝ่ายเดียว ผมขอรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง และหยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกอย่าง ผมขอโทษอีกครั้งจากใจ… นาย Ahn Hee-jung” โพสต์แถลงขอโทษและลาออกจากตำแหน่ง ข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้น เริ่มต้นมาจากอดีตเลขานุการส่วนตัว Kim Ji-eun ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ JTBC ในช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ 5 มีนาคม 2018…
-
ไปหมดแล้วคนเรา… หนุ่มสุดโหด กระโดดคร่อมมอเตอร์ไซค์ แล้วข่มขืน!!
เรื่องราวแปลกประหลาดเกิดขึ้นเมื่อ กล้องวงจรปิด CCTV ได้จับภาพของชายหนุ่มนิรนามคนหนึ่ง ที่กำลังขึ้นคร่อมบนหลังรถจักรยานยนต์ไว้ได้ และได้กลายเป็นวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย ในภาพวิดีโอที่ถูกถ่ายมาได้นั้น แสดงให้เห็นว่ามีชายคนหนึ่ง เข้ามาข้างในโชว์รูมรถจักรยานยนต์ แล้วขึ้นใบนั่งบนเบาะนั่งพร้อมกับถอดกางเกงออก ชายหนุ่ม กับพฤติกรรมพิลึกบนรถจักรยานยนต์ จากคลิปจะเห็นได้ว่าชายคนดังกล่าว ทำกางเกงหลุดลงไปหลายครั้ง และได้มีการขยับรถจักรยานยนต์ไปด้านหน้ามายังกึ่งกลางของโชว์รูม หากสังเกตดีๆ จะพบว่า เมื่อเขาได้ยินเสียงที่มาจากห้องติดกัน เขาจะหยุด และใส่เสื้อผ้า แต่พอเขารู้สึกว่า ไม่มีใครอยู่แล้ว เขาก็กลับมาทำพฤติกรรมอนาจารอีกครั้ง นี่คือจังหวะที่เขาเหมือนได้ยินเสียงจากห้องข้างๆ เขาหยุดทำ และหันหน้าไปมอง เรามาชมคลิปวิดีโอจากกล้อง CCTV กันดีกว่า วิดีโอดังกล่าวโด่งดัง และมีผู้ที่เข้ามาชมกว่า 54,000 ครั้ง หลังจากที่ทำการเผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ตเพียง 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ชาวเน็ตที่เข้ามารับชมวิดีโอนี้ ต่างก็เข้ามาให้ความเห็นตลกๆ กันเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นกล่าวว่า “ผู้ที่ถูกข่มขืนน่าจะชื่อว่า ซู ซุกิ” ส่วนอีกความเห็นก็กล่าวว่า “ดูสิว่าเขาไม่แม้แต่จะพลอดรักก่อน มาถึงก็ใส่เลย” ยังไม่ทราบผู้กระทำเป็นใคร แต่ก็อาจคาดเดาได้ว่า ชายในคลิปไม่น่าจะมีอารมณ์และความต้องการทางเพศที่ปกติ…
-
เด็กถูกบังคับให้ดูแม่ตัวเองโดน ‘ข่มขืน’ ปัญหาจากสงครามที่เกิดขึ้นในเซาท์ซูดาน
เซาท์ซูดาน หรือชื่อเต็มสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในทางตะวันออกของ แอฟริกา และมีเมืองหลวงชื่อว่า จูบา พวกเขาเป็นประเทศใหม่ล่าสุดของโลกในปี 2011 หลังจากที่แยกตัวออกมาจากซูดาน แต่ประเทศที่เพิ่งสร้างใหม่นี้ กลับเข้าสู่สงครามในเวลาเพียงสองปีหลังจากการก่อตั้งเท่านั้น ในปี 2013 ประธานาธิบดี Salva Kiir จากกลุ่มชาติพันธุ์ Dinka ได้ไล่สมาชิกของสภาสามัญ Riek Machar จากกลุ่มชาติพันธุ์ Nuer และทำให้ Machar ผันตัวไปเป็นหัวหน้ากบฏ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมือง ความขัดแย้งได้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเป้าหมายหลักที่ชนเผ่า Dinka และชนเผ่า Nuer โดยที่ทางสหประชาชาตินั้นได้ออกมาเตือนประเทศซูดานใต้หลายครั้งว่า สงครามครั้งนี้อาจะบานปลายเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปก็ได้ Kiir และ Machar ได้มีการทำข้อตกลงสันติภาพกันหลายครั้ง แต่ทั้งสองฝั่งกลับล้มเหลวในการควบคุมกองกำลังของพวกเขา ทำให้ข้อตกลงเหล่านั้นถูกละเมิดไปนับครั้งไม่ถ้วน โดยที่ครั้งล่าสุดข้อตกลงสันติภาพสุดได้มีการลงนามเดือน สิงหาคม ปี 2015 การสู้รบระหว่างผู้ก่อการกบฏ และกองกำลังของรัฐบาลนั้น ได้สังหารคนไปประมาณ 50,000 คนท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ที่กระทำโดยทั้งสองฝ่าย เช่นการข่มขืน การทรมาน และการใช้ทหารเด็ก …
-
หญิงชาวโรฮิงญาเผยประสบการณ์ชีวิตอันขมขื่น ลูกชายถูกฆ่า ตัวเองโดนรุมข่มขืน
เรื่องราวสุดรันทดที่ถูกเล่าจากปากของหญิงสาวชาวโรฮิงญาที่ถูกทารุณกรรมทางกายและทางเพศ ด้วยเงื้อมมือ ของกองกำลังรักษาความปลอดภัยของพม่า ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากว่า 600,000 ชีวิตได้อพยพไปสู่ประเทศบังกลาเทศ เพื่อหนีให้พ้นการคุกคามจากทหารพม่า ที่ว่ากันว่าเป็น “ตัวอย่างของการชำระล้างทางชาติพันธุ์” ตามที่องค์การสหประชาชาติได้กล่าวไว้ Sunuara ชาวโรงฮิงญาวัย 25 ปี เล่าว่าเธอต้องอพยพไปยังบังกลาเทศหลังจากหมู่บ้านของเธอถูกโจมตีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2017 เธอบอกว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ เธอมีชีวิตที่ดี มีวัว รถ และที่นา เป็นของตัวเอง จนกระทั่งวันหนึ่งมีเจ้าหน้าที่ทหารมาเยือนบ้านของเธอซึ่งขณะนั้นสามีของเธออาศัยอยู่ ณ อีกหมู่บ้านหนึ่งกับญาติ ส่วนลูกคนอื่นๆ ของเธอก็ไปอยู่กับพ่อแม่ของเธอ เธอเล่าว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้ประหารลูกชายของเธอด้วยการยิงเขาเข้าที่ท้องต่อหน้าต่อตา ขณะนั้น Sunuara ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ถูกตรึงไว้กับเตียงและถูกข่มขืนโดยชาย 9 คน เป็นเวลารวม 6 ชั่วโมง เธอฟื้นขึ้นอย่างไร้สติ เมื่อสามีและพี่ชายของเธอเข้ามาพบ จากนั้นพวกเขาก็พาเธอออกจากที่นั่นไปยังชายแดนบังกลาเทศ เธอคลอดลูกของเธอที่นั่น แต่หนึ่งวันหลังจากนั้น ทารกที่เธอคลอดออกมาก็ไม่อาจรอดชีวิตได้ ในขณะเดียวกัน Roshida Begum วัย 22 ปี…
-
กลุ่มผู้ชาย รวมตัวกันมาเผยความจริงว่าเคยโดน ‘ข่มขืน’ สื่อถึงความอยุติธรรมที่ได้รับ
แน่นอนว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับทุกเพศทุกวัยย่อมเป็นเรื่องที่มีอิทธิพลต่อสังคมมนุษย์เป็นอย่างมาก “การข่มขืน” ก็เป็นหนึ่งในประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและส่งผลกระทบทางลบกับหลายๆ ฝ่าย ไม่แปลกหากว่าพูดถึงเรื่องของการข่มขืนแล้วเราจะนึกถึงภาพเหยื่อที่เป็นเพศหญิง เพราะจากที่เราเห็นกันตามสื่อส่วนมากเป็นเช่นนั้น แต่แท้จริงแล้วนั้นเพศชายที่ถูกข่มขืนเองก็มีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว และวันนี้ พวกเขา “ชายที่เคยถูกข่มขืน” รวบรวมความกล้าก้าวออกจากความเงียบงัน สู่การแสดงออกถึงความจริงที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการข่มขืน ในโลกแห่งความจริงนั้น ตามรายงานจากองค์กรต่อต้านความรุนแรงทางเพศของสหรัฐอเมริกาชื่อ RAINN พบว่าร้อยละ 10 ของเหยื่อที่ถูกข่มขืนเป็นเพศชาย และผู้ชายร้อยละ 0.33 ของอเมริกาเคยถูกข่มขืนหรือเกือบถูกข่มขืน “นายควรขอบคุณที่ฉันอุตส่าห์ยอมส่งข้อความหานายนะ” ในประเทศอังกฤษเองก็มีตัวเลขจำนวนผู้ชายที่ถูกข่มขืนสูงด้วยเช่นกัน เกือบจะร้อยละ 12 ของเหยื่อการข่มขืนทั้งหมดของประเทศเป็นเพศชาย แต่ว่าปัจจุบันกลุ่มชายที่เคยถูกข่มขืนกลุ่มหนึ่งตัดสินใจที่จะออกมาบอกเล่าถึงความจริงที่หลายๆ คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องของการข่มขืน “ไม่ต้องมีอะไรกันก็ได้ แค่ให้ฉันเลี้ยงเหล้าคุณอีกแก้วก็พอน่า…” ชายกลุ่มนี้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวของตน โดยการเขียนประกาศถึง “คำพูด” ที่ผู้กระทำชำเราใช้กับพวกเขาในเหตุการณ์ความรุนแรงนั้นๆ การเผยแพร่นี้กระทำผ่านเว็บเพจของ Tumblr ที่ชื่อว่า Project Unbreakable ภายในเป็นการรวบรวมภาพถ่ายที่มุ่งเน้นช่วยเหลือเหล่าผู้ประสบความรุนแรงทางเพศ ความรุนแรงภายในบ้าน และความรุนแรงในวัยเยาว์ “ไม่ต้องห่วง พวกหนุ่มๆ น่ะชอบแบบนี้กันทั้งนั้น” ท่ามกลางเหล่าสตรีที่เผยข้อมูลที่ตนได้ผ่านการถูกข่มขืน ชายเหล่านี้เองก็ได้ต่อสู้เพื่อจุดยืนของตน โดยการชูป้ายที่รวมเอาคำพูดของผู้กระทำชำเราที่ได้พูดต่อพวกเขาให้โลกได้รับรู้ “ไม่มีใครรักแกหรอกน่า และก็ไม่มีใครสนใจแกด้วย แกมันเป็นของชำรุดไปแล้ว” โปรเจกต์นี้ยังได้ก่อให้เกิดผลกระทบเล็กน้อยในเชิงของการตอบโต้เรื่องผลการรายงานเกี่ยวกับการข่มขืนที่ต่ำกว่าความเป็นจริง…
-
กล้องวงจรปิดจับภาพศาสตราจารย์พยายามจูบหญิงสาวถึงสามครั้ง แถมทำในห้องเรียนด้วย
หนึ่งในเรื่องสุดฉาวบนโลกอินเตอร์ขณะนี้ เมื่อมีการเผยแพร่ภาพจากกล้อวงจรปิดของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งในภาพนั้นเป็นภาพของอาจารย์ที่พยายามจะขืนใจนักเรียนของตัวเองด้วยการจูบ จนตอนนี้เรื่องดังกล่าวถูกพูดถึงกันหนาหูมากๆ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัย Gabriel René Moreno University ในประเทศโบลิเวีย โดยในภาพนั้นเราจะเห็นว่านักเรียนหญิงกำลังตั้งใจอยู่กับการทำงานตรงหน้าและไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเท่าไหร่นัก จนกระทั่งตัวอาจารย์คนดังกล่าวที่มายืนอยู่ข้างๆ สังเกตแล้วว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ และตัวนักเรียนก็ไม่ได้ระวังตัวด้วย เขาจึงจัดการใช้กำลังจับผมของหญิงสาวและจูบเธอทันที ตัวนักเรียนนั้นรีบพลักอาจารย์คนดังกล่าวออกทันทีด้วยท่าทางที่ดูแล้วอึดอัด ซึ่งทั้งคู่เหมือนจะมีการพูดคุยกันอยู่พักหนึ่งซึ่งเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน จนกระทั่งอาจารย์คนดังกล่าวก็ทำการจูบนักเรียนคนเดิมอีกครั้งหนึ่ง หลังจากการจูบครั้งที่สอง เธอก็ยังคงปฎิเสธอาจารย์คนดังกล่าวเช่นครั้งแรก เพียงแต่ในครั้งนี้อาจารย์คนดังกล่าวได้หยิบกระเป๋าเงินออกมาพร้อมมอบเงินจำนวนหนึ่งให้ นักเรียนสาวได้ทำท่าเหมือนปาดน้ำตาหนึ่งทีและเธอก็รับเงินนั้นมา ซึ่งคาดว่ารับเพราะอาจจะทำให้อาจารย์คนนี้เดินจากไปเสียทีนั่นเอง… ปัญหามันติดตรงที่อาจารย์คนดังกล่าวไม่ได้เดินไปทันที เขากลับเลือกที่จะบังคับนักเรียนสาวให้จูบกันตนเป็นครั้งที่สามก่อนจะเดินจากไป หลังจากภาพเหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่สู่สายตาชาวเน็ตก็มีกระแสตอบรับกลับมามากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ล้วนจะเป็นการด่าทออาจารย์คนดังกล่าวว่าการกระทำของเขานั้นมันแย่มากๆ แถมด้วยตำแหน่งงานของเขาก็ไม่น่าจะทำอะไรแบบนี้ ซึ่งหลายคนก็ได้แต่หวังว่าในอนาคตจะไม่มีภาพเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีกนั่นเอง เราควรจะจับตัวนายคนนี้ก่อนที่เขาจะข่มขืนแล้วจ่ายค่าตัวเธอนะ อาจารย์คนดังกล่าวควรจะถูกจับขังลืมไว้ในคุกซะ!! ตัดไข่ของเขาเหอะ ที่มา koreaboo
-
เด็กหญิงชาวจีนวัย 11 ขวบ ตกเป็นทาสกามของยามที่โรงเรียน จนตั้งท้องได้ 5 เดือน
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า นักเรียนสาววัย 11 ปีผู้หนึ่งพบว่าตัวเธอเองกำลังตั้งท้อง หลังจากถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนข่มขืน เหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นกับเด็กหญิง Lele (นามสมมุติ) นักเรียนสาวจากมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน หลังจากที่เธอเริ่มรู้สึกอึดอัดตามร่างกาย ก่อนที่จะเข้าตรวจในคลินิกใกล้บ้านและพบว่าตัวเองกำลังตั้งท้องนาน 5 เดือน เด็กหญิง Lele อาศัยอยู่กับคุณแม่ที่มีอาการป่วยทางจิตและพี่สาวของเธอ จากการคำให้การของคุณ Zhang Jun พี่เขยของเธอกล่าวว่า สาวน้อยถูกนาย Liu เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนล่วงละเมิดทางเพศเธอครั้งแรกเมื่อตอนที่เธออายุได้เพียงแค่ 9 ขวบ พี่เขยของเด็กหญิงเล่าว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนดังกล่าว ได้ฉุดตัวของสาวน้อยเข้าไปในชั้นใต้ถุนอาคาร ในระหว่างที่เธอกำลังเล่นกับเพื่อนๆ ที่สนามเด็กเล่น ก่อนที่จะลงมือข่มขืนเธอ พร้อมกับขู่ว่าจะฆ่าคนในครอบครัวของเธอ ถ้าหากเด็กหญิงเอาเรื่องนี้ไปบอกกับคนอื่น เป็นเวลามากกว่า 2 ปี ที่เด็กหญิง Lele ตกเป็นทาสกามของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้ โดยที่นาย Liu เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวัย 50 ปีที่ตกเป็นผู้ต้องหา ได้ทำงานที่โรงเรียนดังกล่าวมาเป็นเวลากว่า 5 ปี ทางด้านอาจารย์ Chang Chunkui คุณครูใหญ่ของทางโรงเรียน ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับพนักงานคนนี้ว่า “เขาไม่ใช่คุณครูของโรงเรียน…
-
ผู้หญิงนับร้อยเผยแพร่ภาพนู้ดเพื่อต่อต้านฆาตกร เพราะภาพนู้ดไม่ใช่เหตุผลในการถูกใครฆ่า
จากเหตุการณ์ฆ่าข่มขืนหญิงสาวชาวรัสเซียวัย 19 ปี Tatiana Strakhova ทำให้เกิดการรณรงค์เรียกร้องสิทธิของผู้หญิงที่ได้รับการกระทำรุนแรงทั้งทางกายและทางเพศ ย้อนความกลับไปที่กรณีของ Tatiana Strakhova ผู้กระทำรุนแรงครั้งนี้คืออดีตคนรักของเธอ วัย 19 ปี ชื่อว่า Artyom Iskhakov เขาได้รัดคอเธอและแทงเธอด้วยอาวุธมีดจนเสียชีวิต จากนั้นเขาจึงข่มขืนศพและฆ่าตัวตายตาม เหตุการณ์น่าสลดเช่นนี้กลับทวีความสลดใจขึ้นไปอีกเมื่อชาวเน็ตเสนอความเห็นว่า ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า Tatiana ได้ทำการยั่วอารมณ์ของคู่รักเธอด้วยรูปภาพที่เธอโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต จนทำให้เกิดการประท้วงเรื่องดังกล่าว โดยการที่หญิงสาวชาวรัสเซียนับร้อยรวมใจกันเผยแพร่ “รูปถ่ายเปลือยกาย” ของตัวเอง อิงจาก Moscow Times การประท้วงครั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้ผู้คนเข้าใจได้ว่า การโพสต์รูปภาพเปลือยกายนั้นไม่ใช่เหตุผลในการกระทำการข่มขืนหรือฆ่า หญิงสาวคนหนึ่ง ชื่อว่า Julia ได้ออกมาแสดงความรู้สึกไม่พอใจกับความเห็นที่ว่า Tatiana นั้นยั่วยวนคู่รักด้วยรูปภาพของเธอ Julia กล่าวว่า “ฉันรู้สึกกลุ้มใจมากกับการที่ รอยสัก และสีผม ยังเป็นสิ่งที่ทำให้คนเกิดไร้ศีลธรรมขึ้นมาได้อีก นี่ปี 2018 แล้ว มันใช่เหรอที่ฆาตกรจะถูกยอมรับเพราะฆ่าคนที่โพสต์ภาพเปลือยลง Instagram ของตัวเอง” Katya Obukhova จากเยคาเตรินบุร์ก โพสต์ภาพด้านบนและเขียนว่า “อะไรกัน ผู้หญิงคนนี้ถูกเรียกว่า ‘พวกขายตัว’…
-
หนุ่มรัสเซียก่อเหตุโหดกับแฟนเก่า ก่อนจะสารภาพขั้นตอนให้พ่อแม่ได้รู้ และจบชีวิตตามไป…
ในบางครั้งเราอาจรู้สึกเหมือนกับถูกครอบงำด้วยความคิดด้านลบ จนเกิดความรู้สึกสับสนในตัวเองและมีปัญหาต้องการตัดสินใจในเรื่องผิดชอบชั่วดี เหมือนอย่างชายชาวรัสเซียคนนี้ที่ได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่โหดร้าย เพราะว่าจมไปกับด้านมืดของจิตใจตัวเอง นี่คือเรื่องราวสุดสะเทือนใจของฆาตกรหนุ่มวัย 19 ปีที่ชื่อว่า Artyom Iskhakov เขาอาศัยอยู่กับแฟนเก่าของเขา Tatiana Strakhova ก่อนที่จะฆาตกรรม ข่มขืนศพของเธอ และเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้พ่อแม่ของเขาและเธอฟัง จากนั้นจึงฆ่าตัวตายตามไป Tatiana และ Artyom วัย 19 ปี ผู้เคยคบหาเป็นแฟนกันมาก่อน เรื่องราวอันแสนเศร้านี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อตอนที่ Artyom หนุ่มโปรแกรมเมอร์ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัย Bauman เลิกคบกับแฟนสาวของเขา Tatiana สาวหัวกะทิจากมหาวิทยาลัยวิจัยนานาชาติมอสโก แม้จะเลิกกันแล้วแต่ทั้งคู่ยังคงแชร์ห้องเช่าด้วยกัน หลังจากนั้นไม่นานหญิงสาวก็มีแฟนใหม่เป็นหนุ่มจากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ชื่อว่า Igor ความอึดอัดที่ต้องอยู่ด้วยกันในสถานะที่เปลี่ยนไป Artyom จะถูกปฏิเสธเสมอเวลาที่เขาชวนเธอไปดื่มด้วยกัน แถมยังต้องทนเห็นแฟนเก่าของตัวเองจู๋จี๋อยู่กับแฟนใหม่ที่เป็นเพื่อนของเขา นั่นจึงทำให้เขารู้สึกรำคาญและโมโหอย่างมาก จนไม่อาจเก็บอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้ ชายหนุ่มต้องการที่จะมีเพศสัมพันธ์กับเธออย่างมาก มันจึงกลายเป็นแรงขับให้เขาทำสิ่งที่โหดร้ายลงไปในวันหนึ่ง ตอนที่หญิงสาวกลับมาที่ห้องเช่า เขาพุ่งเข้าไปหาเธอ ต่อยเข้าไปที่หน้าของเธออย่างจัง จนหญิงสาวล้มลงไปนอนกับพื้น จากนั้นเขาก็ต่อยเธอไปอีกหลายครั้ง ทำให้มีเลือดไหลออกมาจากปากของเธอ Tatiana บอกให้เขาลุกออกไป…
-
ตำนานปีศาจ Popobawa แห่งแทนซาเนีย ข่มขืนไม่เลือกหน้าทั้งชายและหญิง ผู้คนพากันขวัญผวา!!
เวลาพูดถึงปีศาจที่ข่มขืนคน เรามักจะนึกถึง Succubus ปีศาจผู้หญิงที่ชอบข่มขืนและสูบกินผู้ชาย แต่เราคงไม่เคยได้ยินปีศาจที่ชื่อ Popobawa ปีศาจหน้าตาเหมือนค้างคาวที่สูบกินทั้งชายและหญิงมาก่อนใช่ไหม? มาๆ ล้อมวงเข้ามา เดี๋ยวหมอจะเล่าให้ฟัง… Popobawa นั้นเป็นปีศาจที่มีตำนานเล่ากันมาในประเทศแทนซาเนีย ซึ่งเป็นประเทศทางฝั่งแอฟริกา และถูกบอกเล่าถึงการค้นพบเมื่อปี 1965 โดยเจ้าปีศาจตัวนี้จะสามารถสลับร่างไปมาได้ระหว่างคนและร่างปีศาจ ในร่างปีศาจนั้น มันจะมีหน้าตาคล้ายๆ กับคนผสมค้างคาวและมีตาเดียว ที่สำคัญมันยังมีอวัยวะเพศที่ใหญ่ยาวสุดๆ นอกจากนี้ทุกครั้งที่มันบินมันจะหายใจดัง แฮ่กๆ…ไม่ใช่สิ “ฟี้ด….ฟี้ดดดด” ต่างหาก เจ้า Popobawa นั้นมันเป็นปีศาจที่มีนิสัยชอบแอบย่องเข้าไปในบ้านคนกลางดึก ซึ่งมันจะข่มขืนคนที่หลับอยู่ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เด็กหรือผู้ใหญ่ แต่จากคำบอกเล่านั้นรายงานว่าเหยื่อส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายเสียมากกว่า (แถมบางที่ยังบอกว่าเคยโดนพร้อมกันทั้งครอบครัวด้วยนะ) เหยื่อหลายคนที่ถูก Popobawa ข่มขืนนั้นได้บอกถึงประสบการณ์ของพวกเขาว่า “ความรู้สึกที่โดน มันเหมือนเรากำลังฝันอยู่ แต่ในเวลาเดียวกันเราก็รู้สึกถึง ปิกาจูของมันที่กำลังสอดเข้ามาได้ และแม้จะพยายามตื่นหรือขยับเท่าไหร่เราก็ไม่สามารถทำได้เลย รวมถึงการส่งเสียงขอความช่วยเหลือก็เช่นกัน มันให้ความรู้สึกเหมือนตะโกนสุดเสียงแต่ไม่มีใครได้ยิน” คนที่ถูกปีศาจ Popobawa บุกมาข่มขืนตอนกลางคืน จะเริ่มมีอาการวิตกกังวลและหวาดกลัวทุกอย่างในเช้าวันถัดมา ซึ่งชาวบ้านได้ช่วยกันหาทางออกโดยการรวบรวมคนมานอนข้างนอกบ้านพร้อมกันเป็นจำนวนมาก เพื่อที่มันจะได้ไม่กล้าทำอะไรนั่นเอง …
-
‘เขาคือปีศาจในร่างมนุษย์’ ความในใจนักยิมนาสติกสหรัฐฯ ผู้ถูกแพทย์ผู้ดูแลล่วงเกิน
ในช่วงปีที่ผ่านมานั้น หากจะกล่าวถึงคดีความที่เกิดขึ้นและกลายเป็นกระแสไปทั่วโลก ก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของคดีการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางวาจาและการปฏิบัติลงมือ ต่างก็ถูกเปิดเผยออกมาจากผู้มีชื่อเสียงในหลากหลายวงการ ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ จนเกิดเป็นกระแสการต่อต้านและแฉพฤติกรรมฉาวผ่านแฮชแท็ก #metoo ไปทั่วโลกออนไลน์ และในครั้งนี้ #เหมียวเลเซอร์ ก็จะขอพูดถึงประเด็นนี้อีกครั้ง เนื่องจากมีคดีความใหญ่เกิดขึ้นในแวดวงกีฬาของประเทศสหรัฐอเมริกา และเพิ่งจะขึ้นศาลฟ้องร้องกันไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม 2018 McKayla Maroney นักยิมนาสติกทีมชาติสหรัฐฯ ผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิกในปี 2012 จุดเริ่มต้นของเรื่องอื้อฉาวในวงการยิมนาสติกของสหรัฐฯ Lawrence G. Nassar คือแพทย์ผู้ดูแลนักยิมนาสติกทีมชาติสหรัฐอเมริกา เขาได้รับใบประกอบวิชาชีพแพทย์ในสาขาออสทีโอพาธี (อันเป็นระบบการดูแลสุขภาพ ที่ประสานการนวดเข้ากับการแพทย์แผนปัจจุบัน) และเขาก็ได้ทำการเปิดคลินิก พร้อมทั้งเป็นผู้ดูแลชมรมยิมนาสติก ของมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตตอีกด้วย Lawrence G. Nassar แพทย์ผู้ดูแลนักยิมนาสติกทีมชาติสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งในเดือนกันยายน ปี 2016 หนังสือพิมพ์ Indianapolis Star เปิดเผยว่า อดีตสองนักยิมนาสติกได้กล่าวหานาย Nassar ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเมื่อทางมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตตทราบเรื่อง จึงทำการย้ายงานสอนในชมรมของเขา ก่อนที่จะไล่ออกในเวลาเพียงไม่นาน… การจุดประกายไฟเล็กๆ…
-
ตำรวจสั่งจำคุกครอบครัวทำร้ายเด็กสาวจนแท้ง หลังถูกพี่ชายข่มขืนจนตั้งครรภ์
เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าว Dalla News ได้มีการรายงานข่าวผลการตัดสินคดีคนในครอบครัวทำร้ายหญิงวัยรุ่นที่กำลังตั้งครรภ์ จนส่งผลให้เธอแท้งลูก คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2013 แต่เพิ่งได้รับการตัดสินสิ้นสุดคดีเมื่อต้นปี 2018 ย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อ ปี 2013 หญิงสาววัยรุ่น (สงวนชื่อ) อายุ 14 ปีซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ถูกคนในครอบครัวประกอบด้วย Sharon Jones, Cecila McDonald, Lonnell McDonald และ Cedric Jones Jr. ทำร้ายร่างกายจนเด็กที่อยู่ในครรภ์แท้งออกมา แต่เรื่องราวมันซับซ้อนยิ่งกว่านั้น เพราะพ่อของเด็กที่อยู่ในท้องของเด็กสาวก็คือ Robert Cayald พี่ชายของเธอที่ข่มขืนจนเธอตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางครอบครัวพยายามปิดบังไว้ ผู้ต้องหา เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อตัวเหยื่อและน้องสาวถูกส่งให้มาอยู่กับนาง Sharon ผู้เป็นป้าหลังจากที่คุณย่าของพวกเขาเสียชีวิตไป แต่เธอนั้นไม่ได้ไปอยู่ที่บ้านของ Sharon โดยตรง เพราะถูกส่งไปอยู่อพาร์ตเมนต์ร่วมกับ Cecila ผู้ซึ่งเป็นลูกสาวของหล่อนแทน ซึ่งที่แห่งนั้นก็มี Lonnell และ Robert ก็อาศัยอยู่ด้วย Robert ไม่เพียงแต่ข่มขืนเหยื่อจนตั้งครรภ์ แต่ยังล่วงละเมิดทางเพศลูกๆ…
-
คู่พ่อแม่ถูกตัดสินจำคุก 20 ปี หลังจับลูกสาววัย 12 ปีเป็นทาสเซ็กส์ ร่วมกันข่มขืนเธอเป็นประจำทุกวัน
เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยเรื่องราวที่แสนเลวร้ายสำหรับเด็กหญิงชาวรัสเซียคนหนึ่งที่มีอายุเพียง 12 ปี เมื่อเธอถูกพ่อแม่ของเธอเองร่วมกันข่มขืน พ่อแม่วัย 34 ปี ของเด็กสาว หลังจากทำทารุณกรรมทางเพศกับเธอ พวกเขาจึงถูกพิจารณาคดีความว่ามีอาการของ “โรคใคร่เด็ก” พ่อแม่ผู้ลงมือก่อเหตุ พวกเขาถูกกักตัวไว้ที่เมืองวอลโกกราดในรัสเซีย หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงพวกเขาจะต้องถูกจำคุกถึง 20 ปี เด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายให้การว่าถูกทารุณกรรมทางเพศมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2016 จนถึงเดือนมีนาคม 2017 โดยกล่าวว่าฝ่ายผู้เป็นพ่อนั้นมักจะข่มขืนเธอในทุกๆ วัน บางวันก็มีแม่ร่วมด้วย ซึ่งผู้เป็นแม่เองถูกตั้งข้อหาว่ากระทำทารุณกรรมทางเพศด้วย “อวัยวะเพศเทียม” ฝ่ายผู้เป็นแม่กล่าวว่า “ให้พวกเราข่มขืนก็ยังดีกว่า ให้ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาทำ” เมืองวอลโกกราด ในฤดูหนาว ในการพิจารณาตัดสินคดี ทั้งคู่จึงถูกถอดถอนสถานะการเป็นพ่อแม่ของเด็กสาว หมายความว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเด็กสาวคนนี้อีกต่อไป เด็กสาวจึงถูกส่งตัวไปรับการดูแล ส่วนผู้เป็นแม่นั้นยังให้การกับตำรวจว่าเธอเองก็ถูกข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 13 ปี เธอและสามีจึงตกลงกัน “ฝึกฝน” ให้ลูกสาวของพวกเขาคุ้นเคยกับสิ่งที่จะต้องพบเจอในอนาคต เมื่อเด็กสาวได้รับการตรวจร่างกาย แพทย์จึงพบว่าเธอมีปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน และพบว่าเธอได้สูญเสีย “ความบริสุทธิ์” ไปแล้ว สถานกักกันในวอลโกกราด สุดท้ายจากคำให้การของเด็กสาว…
-
สาวถูกแฟนที่คบได้แค่ 3 เดือนจับขังและข่มขืน เผยสภาพที่โดนทำร้ายหลังจากหลบหนีมาได้
ในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา พวกเราหลายๆ คนคงกำลังจะวุ่นอยู่กับการเลี้ยงฉลองเพื่อก้าวเข้าสู่ปี 2018 อย่างสนุกสนาน แต่ช่วงเวลาเดียวกันนั้น มันคือวินาทีแห่งการเอาชีวิตรอดของหญิงสาวคนหนึ่งในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา หลังจากที่เธอถูกกักขังและทารุณกรรมอย่างหนักหน่วงกว่า 2 วัน เธอคนนี้มีชื่อว่า Kalia Kutzik วัย 22 ปี โดยในวันที่ 31 ธันวาคม 2017 ในที่สุดเธอก็สามารถหนีรอดมาจากเงื้อมมือของแฟนหนุ่ม Bishoy Elkhaliny วัย 30 ปี หลังจากที่ชายคนนี้ใช้ความรุนแรง ทำร้ายร่างกาย และข่มขืนเธอมาตลอด 2 วัน Kalia หญิงสาวที่ถูกแฟนหนุ่มกักขังแและทารุณกรรมอย่างหนักหนาสาหัส หลังจากที่เธอหนีรอดมาได้ เรื่องราวทั้งหมดก็ได้ถูกโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊กของเพื่อนเธอ บอกเล่าถึงความโหดร้ายที่เธอต้องเจอมา โดยที่ไม่มีใครสามารถติดต่อหรือเข้าช่วยเหลือเธอได้เลยในระยะเวลานั้น Kalia เล่าว่า เธอคบกับแฟนหนุ่มคนนี้มาเพียงแค่ 3 เดือน ในช่วงนั้นเธอต้องเจอกับความเลวร้ายของชายคนนี้อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งในวันหนึ่ง เธอถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก หนักกว่าทุกครั้งที่เคยเจอมา หญิงสาวบอกว่าตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตีหนึ่ง เธอถูกทุบตีจนหน้าของเธอเต็มไปด้วยเลือด มีรอยแตกเต็มไปหมด ฟันหัก และมีแผลฟกช้ำไปอีกทั่วร่างกาย เธอบอกแฟนหนุ่มว่า…
-
เด็กสาวชาวอินเดียไอเดียดี ‘คิดค้น’ กางเกงในอัจฉริยะ เพื่อป้องกันการถูกข่มขืน ดูแล้วล้ำ ใช้แล้วปลอดภัย
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คดีข่มขืนนั้นยังมีมาให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ และมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า ผู้หญิงทุกคนยังมีความเสี่ยงที่จะตกอยู่ในอันตรายจากการข่มขืน เด็กสาวชาวอินเดียคนหนึ่งต้องการลดปัญหาหญิงสาวถูกข่มขืน เธอจึงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ขึ้นมา ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับหญิงสาวหากมีคนพยายามจะข่มขืนเธอ นั่นก็คือกางเกงในป้องกันการข่มขืนนั่นเอง Seenu Kumari กับกางเกงในป้องกันการข่มขืนที่เธอคิดค้นขึ้นมา เด็กสาวคนนี้ชื่อ Seenu Kumari เธอมีอายุ 12 ปี อาศัยอยู่ในเมือง Farrukhabad รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย เธอได้ประดิษฐ์สิ่งที่เธอเรียกว่ากางเกงในป้องกันการข่มขืน ในรัฐอุตตรประเทศที่เธออาศัยอยู่นั้น การคุกคามทางเพศและการข่มขืนเด็กนั้นเป็นเรื่องที่พบเห็นได้อยู่บ่อยครั้ง โดยผู้หญิงมักจะถูกจู่โจมบนท้องถนน ผู้ร้ายก็จะข่มขืนและถ่ายรูปเก็บเอาไว้ เพื่อนำไปขายเป็นเงินอีกต่อ ครอบครัวของเธอนั้นเป็นครอบครัวที่ยากจน เธอจึงอยากช่วยครอบครัวหารายได้อีกทางหนึ่ง การทำกางเกงในดังกล่าวจึงเป็นการช่วยเหลือครอบครัว และช่วยให้ผู้หญิงได้รับความปลอดภัยมากขึ้นไปด้วยเช่นกัน โดยกางเกงในที่ว่านี้ใช้ต้นทุนเพียงประมาณ 50 ปอนด์เท่านั้น (ประมาณ 2,000 บาท) ต้นแบบของกางเกงในป้องกันการข่มขืนที่เธอทำ เป็นกางเกงในสีชมพู ซึ่งเธอบอกว่ากันกระสุน และไม่สามารถใช้มีดตัดขาดได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับตัวล็อก ระบบ GPS และกล้องวิดีโอบันทึกภาพด้วย เธออธิบายความสามารถของกางเกงในตัวนี้ว่า “ฉันติดตั้งล็อกไปในกางเกงในด้วย ดังนั้นกางเกงในจะถูกถอดออกไม่ได้จนกว่าจะใส่เลขรหัสที่ถูกตัอง นอกจากนี้มันยังมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มาพร้อม GPS ซึ่งสามารถติดต่อกับที่อื่นได้”…
-
พ่ออุปถัมภ์ใจทราม ข่นขืนและคุกคามทางเพศลูกเลี้ยงกว่า 900 ครั้ง เพื่อสร้างฮาเร็มของตัวเอง
พ่อแม่อุปถัมภ์ คือคนที่คอยช่วยให้เด็กๆ ที่อ่อนแอหรือกำพร้าได้กลับมามีสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง ฟังดูเหมือนกับว่าเด็กเหล่านั้นจะได้อยู่อย่างมีความสุข แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ มันก็อาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เหมือนอย่างสิ่งที่เด็กในครอบครัวนี้ต้องเจอ นี่เป็นครอบครัวของนาย Viktor Lishavsky วัย 37 ปี ชาวรัสเซียผู้คอยอุปถัมภ์เลี้ยงดูเด็กกำพร้าและเด็กผู้ด้อยโอกาสจำนวนมาก จนกระทั่งเขาถูกตั้งข้อหาข่มขืนและกระทำทางเพศอย่างรุนแรงกับเด็กสาว 5 คนที่อยู่ในการดูแลของเขามานานกว่า 5 ปี Viktor ชายฟันทองผู้ทำความป่าเถื่อนกับเด็กมานานกว่า 5 ปี เขาถูกจับกุมตัวหลังจากที่ เด็กสาวภายใต้การดูแลนำสิ่งที่เขาทำกับเธอไปบอกอาจารย์ในโรงเรียน ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเขาเอาไว้ในเดือนมิถุนายน 2017 หลังจากนั้นความผิดของเขาก็เริ่มถูกเผยออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนกลางวันเขาคือช่างซ่อมรองเท้า แต่ตกกลางคืนเขาคือคนที่คุกคามเด็กๆ ในการดูแลของตัวเองมานานหลายปี เขาถูกตั้งข้อหาว่า ทำการข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีถึง 248 ครั้ง และกระทำพฤติกรรมทางเพศที่รุนแรงกับเด็กเหล่านั้นอีก 358 ครั้ง ครอบครัวที่รวมเด็กอุปถัมภ์เอาไว้เป็นจำนวนมาก ต่อมาถูกตั้งข้อหาเพิ่มว่าแสดงพฤติกรรมทางเพศที่รุนแรงกับเด็กสาวอายุต่ำกว่า 14 ปี จำนวน 22 ครั้ง อีกทั้งเขายังมีคดีข่มขืนอีก 11 ครั้ง โดยมีการทำร้ายร่างกายที่รุนแรงจนถูกตั้งเป็นคดีอาชญากรรมและทำให้ผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย…
-
เรื่องสุดสลดใจของเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ถูกลักพาตัวไปข่มขืน ในคุกชั้นใต้ดินนานร่วมสัปดาห์
พวกเราส่วนใหญ่เกิดมาได้รับการดูแลจากคนในครอบครัวเป็นอย่างดี แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง เด็กบางคนอาจจะไม่ได้รับความรักหรือความอบอุ่นเสมอไป เพราะพวกเขาต้องเจอกับความโหดร้ายที่มากเกินกว่าใครจะรับรู้ เหมือนอย่างเธอคนนี้ หญิงสาวผู้โชคร้ายที่ชื่อว่า Katie Beers วัย 35 ปี เธอได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวในกระทู้ถามตอบ Reddit AMA เกี่ยวกับการถูกทารุณกรรมทางเพศตั้งแต่เด็ก และการถูกลักพาตัวไปข่มขืนตอนที่อายุเพียงแค่ 9 ขวบ Katie ตอนที่ยังเป็นเด็ก การถูกคุกคามทางเพศเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เธออายุประมาณ 1-2 ขวบ ในตอนนั้นแม่อุปถัมภ์ที่มีศักดิ์เป็นน้า รับเด็กสาวคนนี้ไปเลี้ยงดู แต่แทนที่เธอจะได้เจอกับความรัก ความอบอุ่น มันกลับกลายเป็นความโหดร้ายที่น่าสลด เด็กสาวถูกเลี้ยงดูเยี่ยงทาสและสามีของน้าเธอก็คุกคามเด็กสาวตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา การถูกทารุณกรรมทางเพศเกิดขึ้นยาวนานเกือบ 8 ปีเลยทีเดียว สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือ ในวันที่ 28 ธันวาคม 1992 ก่อนวันเกิดครบรอบ 10 ปีของเธอ ในวันนั้นเธอถูกชายผู้เป็นเพื่อนของคนในครอบครัวลักพาตัวเธอไป และขังเอาไว้ในห้องใต้ดิน พร้อมกับข่มขืนเธอซ้ำไปซ้ำมา ในตอนนั้นเธอต้องเจอกับการคุกคามทางเพศจากคนที่เธอไว้ใจ ชายที่ลักพาตัวเธอไปมีชื่อว่า John Esposito เขาคือคนที่เธอเคยเห็นหน้ามาตั้งแต่เด็กและเรียกเขาว่า Big John ทำให้เธอเชื่อใจเขา หลังจากที่เขามาหลอกเธอว่าจะซื้อของขวัญวันเกิดให้…
-
ทางการอินเดียเตรียมดันกฎหมาย ‘ยิงเป้า’ นักโทษข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
การข่มขืนเป็นอีกหนึ่งอาชญากรรมที่ถือว่าร้ายแรงในอันดับต้นๆ ของการก่อคดีอาชญากรรม และเป็นปัญหาร้ายแรงที่ยังไม่สามารถป้องกันและแก้ไขได้อย่างเด็ดขาด ทำให้คดีข่มขืนยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมทั่วโลก ที่ประเทศอินเดียที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับต้นๆ ก็ยังคงประสบกับปัญหาคดีข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศเกือบทุกวัน โดยเฉพาะที่รัฐ Maydha Pradesh ทางภาคกลางของอินเดียที่มีรายงานว่ามีการข่มขืนมากที่สุดในประเทศ โดยรายงานเมื่อปี 2016พบว่าในอินเดียมีผู้ถูกข่มขืนกว่า 4,900 ราย โดยเกือบครึ่งนั้นเป็นเด็กและเยาวชน นาย Shivraj Singh Chouhan หัวหน้าคณะรัฐมนตรี ได้ออกมาเสนอในที่ประชุมรัฐสภาถึงประเด็นเรื่องปัญหาของการข่มขืน โดยที่เขาเสนอให้มีการลงโทษด้วยการประหารชีวิตเพื่อที่จะได้ไม่มีคนไหนกล้ากระทำความผิดฐานข่มขืน โดยโทษประหารชีวิตจะใช้ในคดีการข่มขืนโดยเฉพาะที่ผู้เสียหายที่เป็นเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 12 ปี และเขายังกล่าวอีกว่า “คนที่ข่มขืนเด็กต่ำกว่า 12 ปีนั้นมันไม่ใช่คน มันคือปีศาจ พวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป” นอกจากนี้เขายังพยายามแก้กฎหมายให้ถือว่าการข่มขืนหญิงสาวที่อายุต่ำกว่า 20 ปีถือว่าเป็นการข่มขืนเด็กทั้งหมด จากที่เมื่อก่อนมีเพียงเหยื่อที่อายุต่ำกว่า 14 ปีเท่านั้นที่จัดเป็นการข่มขืนเด็ก ซึ่งกฎหมายในข้อนี้จะต้องได้รับการพิจารณาจากประธานาธิบดีและรัฐบาลก่อนถึงจะสามารถแก้ไขในประมวลกฎหมายได้ ในประเทศอินเดียมีการก่ออาชญากรรมหลายรูปแบบแต่กฎหมายไม่ได้ถูกบังคับใช้อย่างเคร่งครัดมากนัก เหมือนดังกรมตำรวจในประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ คดีที่จะเข้าข่ายการประหารชีวิตได้นั้นมีเพียงแค่คดีกบฏ คดีฆาตกรรม คดีเป็นส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของเยาวชน การค้ายาเสพติด และอีกหลายๆ ข้อที่มีความผิดรุนแรงจนกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ที่มา dailymail
-
เมืองไทยคิดว่ายังไง!? นี่คือบทลงโทษใหม่ ที่รัฐบาลเกาหลีใต้ จะใช้กับผู้กระทำความผิดคดีข่มขืน!!
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้ยินข่าวเกี่ยวกับการข่มขืน บทลงโทษที่เรามักจะได้ยินเกี่ยวกับโทษในลักษณะนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นการถูกตัดสินจำคุก แต่สำหรับที่ประเทศเกาหลีใต้นั้นพวกเขาได้ออกมาตรการใหม่ในการลงโทษดังกล่าวนั่นก็คือการฉีดสารที่ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั่นเอง!! ขณะนี้ทางการเกาหลีได้พิจารณาการนำสารเคมีลดสมรรถภาพทางเพศนี้มาใช้ในการลงโทษสำหรับคดีอนาจารและคดีข่มขืน โดยผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดคดีข่มขืนเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปี จะต้องเข้ารับการบำบัดด้วยสารดังกล่าวทุกๆ 1 เดือนนานถึง 15 ปี ร่างกฎหมายดังกล่าวนั้นถูกนำเสนอผ่านคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และกำลังมีการประชุมหารือถึงรายละเอียดในการลงโทษต่างๆ เกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าวอยู่ในขณะนี้ สารเคมีดังกล่าวนั้นจะอยู่ในรูปของยาเม็ดหรือยาฉีด ซึ่งจะช่วยลดความต้องการทางเพศของผู้ต้องหา และนอกจากนี้ยังทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัวอีกด้วย โดยทางการคาดว่าการบำบัดนี้จะประสบความสำเร็จ ถึงแม้ว่าผู้ต้องหาจะออกจากโครงการแล้วก็ตาม ประเทศเกาหลีใต้ได้เริ่มแนวคิดดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2011 และกลายเป็นประเทศแรกในแถบเอเชียที่เริ่มนำวิธีดังกล่าวมาใช้ในกระบวนการยุติธรรม หลังจากที่ปัญหาอาชญากรรมทางเพศในประเทศนั้นเริ่มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ในร่างกฎหมายดังกล่าวยังได้เสนอเงื่อนไขให้มีการใช้ยาดังกล่าวกับนักโทษก่อนที่พวกเขาจะพ้นโทษประมาณ 6 ถึง 9 เดือน ถึงแม้ว่าการใช้ยาดังกล่าวนั้น จะได้รับการศึกษาและการประเมินทางจิตเวชจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว แต่ทางด้านฝ่ายค้านเองก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่าการใช้สารเคมีดังกล่าว จะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องหาหรือไม่ นอกจากนี้ทางด้านผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เองก็ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้การศึกษาเกี่ยวกับตัวยาดังกล่าวนั้นยังมีข้อมูลไม่เพียงพออีกด้วย ชมรายงานเพิ่มเติมได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา koreaherald
-
งงเลย!! นักโทษคดีข่มขืนเด็ก ถูกนักโทษอีกคนเฮดบัตใส่คาศาลด้วยสาเหตุที่ไม่แน่ชัด
ขณะที่กำลังมีการไต่สวนคดีที่ศาลแห่งหนึ่ง ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีผู้ต้องหาสองคนที่ไม่รู้จักกัน แต่ต้องมาร่วมพิจารณาคดีในศาลเดียวกัน แต่คนหนึ่งเกิดบันดาลโทสะจากเหตุใดสักอย่างแล้ว เลยเอาหัวโหม่งบริเวณใบหน้าของผู้ต้องหาอีกคนซะงั้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ศาลในเมือง Dover รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อมีนักโทษคนหนึ่งชื่อว่า Christopher Elwell มาเข้ารับการตัดสินคดีของเขา Christopher Elwell ขณะมาฟังผลการตัดสินคดีข่มขืนเด็กของเขา โดยเขาถูกจับในข้อหาข่มขืนเด็กหญิงอายุ 4 ปีขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ โดยเบื้องต้นเขาได้ให้การปฏิเสธ แต่ก็ยอมรับในภายหลังว่าได้ก่อคดีสุดสะเทือนใจนี้จริง หลังจากศาลพิจารณาแล้วก็พบว่า Christopher มีความผิดจริงเขาจึงต้องโทษจำคุกระหว่าง 7 ปีครึ่งจนถึง 15 ปี และเมื่อเขาได้ฟังผลการตัดสินแล้ว ก็ได้มานั่งที่เก้าอี้ภายในศาลเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปทำดำเนินคดีขั้นตอนต่อไป แต่ว่าได้มีผู้ต้องหาอีกคนชื่อว่า Josiah Davies ซึ่งถูกจับมาในคดีปลอมแปลงเช็คเงินสด ทั้งๆ ที่ชายคนนี้ถูกใส่กุญแจมือและโซ่ตรวนอยู่ แต่เขาก็ยังเอาหัวเข้ามาโขกเข้าที่ใบหน้าของ Christopher หลายครั้ง โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าอาจจะมีอะไรบางอย่างในคดีหรือผลการตัดสินของศาล ที่ทำให้ Davies มีอาการยัวะและก่อเหตุในครั้งนี้ขึ้น เพราะว่าเขาได้อยู่ร่วมฟังผลการตัดสินของศาลในห้องนั้นด้วย หน้าตาของ Davies ผู้กระทำผิดในข้อหาปลอมแปลงเช็คเงินสด และเป็นผู้กระทำการ ‘เฮดบัต’ ดังกล่าว …
-
หนุ่มวัย 18 กลัวแม่ถูกข่มขืน เลยผลิตรองเท้าแตะที่สามารถช็อตไฟฟ้าได้ขึ้นมา
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมลมีรายงานว่า Siddharth Mandala หนุ่มวัย18 ปีจากไฮเดอราบาด ประเทศอินเดีย ผู้ที่กลัวว่าแม่ของเขาอาจจะตกเป็นเหยื่อของการถูกข่มขืน ได้คิดค้น Electroshoe รองเท้าแตะ “ป้องกันตัวเอง” ที่พร้อมจะมาช่วยในการโจมตีผู้ไม่ประสงค์ดีแบบฉับพลันได้!! จากการรายงานระบุว่า เนื่องด้วยอินเดียเป็นประเทศที่มีอัตราการข่มขืนที่สูงมาก และตัวของ Siddharth เองก็รู้สึกตกใจกับสถิตินี้เช่นกัน พร้อมกันนี้เขาก็รู้สึกเป็นห่วงผู้หญิงในครอบครัวของตัวเอง ดังนั้น จึงทำให้เขาได้ตัดสินใจผลิตรองเท้าสุดพิเศษดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งรองเท้าแตะนี้ นอกจากจะสามารถช็อตไฟฟ้าได้แล้ว มันยังช่วยในการโจมตีผู้บุกรุกได้อย่างรวดเร็ว แถมส่งผลทำให้เป็นอัมพาตไปชั่วขณะอีกด้วย เมื่อเริ่มเปิดใช้งาน รองเท้าก็จะขับเคลื่อนด้วยเสียงฝีเท้า ยิ่งถ้าหากผู้ใส่เดินเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ สัญญาณการแจ้งเตือนก็จะถูกส่งไปยังสถานีตำรวจในท้องที่ และครอบครัว โดยพวกเขาก็จะรับรู้ไปด้วยว่าเธอกำลังพบกับปัญหาอยู่ ทางด้าน Siddharth ได้ออกมาเผยว่า “ผมกับแม่ ได้เข้าไปร่วมชุมนุมการประท้วง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเหยื่อถูกข่มขืนที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกโกรธมาก และดูเหมือนว่าการประท้วงจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย แม้ในบางครั้งการลงโทษผู้ข่มขืนอาจจะช่วยยับยั้งการข่มขืนได้ แต่ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องจัดหาอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้หญิง นั่นเลยทำให้ผมต้องคิดค้นรองเท้าแตะที่เรียกว่า Electroshoe ขึ้น โดยในระหว่างการทดลองก็เกิดการผิดพลาดหลายครั้ง แต่ถึงอย่างไรผมก็จะพยายามพัฒนาต่อไป เพื่อให้มันได้กลายเป็นสินค้าในท้องตลาด และจะเสริมเทคนิคบางอย่างเข้าไปด้วยเช่น ให้มันกันน้ำได้” …
-
อดีตทหารหญิงของกองกำลังเกาหลีเหนือ เปิดเผยชีวิตแสนลำบาก เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น!!
ประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ นั่นจึงหมายความว่ารัฐบาลเป็นผู้กุมอำนาจสูงสุดไว้ในมือ ดังนั้นการจะปกปิดข่าวอะไรบางอย่างจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร และยิ่งถ้าเป็นข่าวเกี่ยวกับกองทัพแล้วล่ะก็แน่นอนว่า นั่นคือความลับสุดยอดของพวกเขาเลย แต่ว่าในวันนี้ ได้มีอดีตทหารหญิงของกองกำลังเกาหลีเหนือคนหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยความจริงที่ว่า ทหารหญิงที่อยู่ในกองทัพเกาหลีเหนือมีชีวิตความเป็นอยู่ที่แสนจะเลวร้ายเสมือนกับการตกนรกบนดินเลยก็ว่าได้ ผู้หญิงหลายคนตัดสินใจเข้าร่วมกับกองทัพตั้งแต่ยังเป็นสาว Lee So Yeon อาสาสมัครเข้าไปรับใช้กองทัพตั้งแต่อายุ 17 ปีเพื่อแสดงความรักต่อชาติ และตามรอยสมาชิกของครอบครัวของเธอที่ได้รับใช้ชาติอยู่ก่อนแล้ว สำหรับประโยชน์ที่ทางรัฐบาลใช้จูงใจให้ครอบครัวต่างๆ พากันมาเป็นทหารก็คือ การรับรองว่าจะมีอาหารให้กินอย่างแน่นอน เนื่องจากในยุค 1990-2000 ประเทศเกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับภาวะอดอยากอย่างรุนแรง และนั่นจึงเป็นเหตุให้ผู้หญิงหลายพันคนตัดสินใจเข้าร่วมกับกองทัพเหมือนกับ So Yeon ฝึกให้มีความรักชาติ และเคารพในตัวท่านผู้นำ ระยะแรกๆ ที่เข้ากองทัพนั้น เธอก็บอกว่ารู้สึกสนุกกับการใช้ชีวิตการเป็นทหาร แต่แล้วเมื่อเวลาเวลาผ่านไปไม่นานด้วยการที่ประเทศเริ่มขาดแคลนอาหาร และการฝึกที่หนักเริ่มส่งผลที่ไม่ดีต่อตัวเธอและเพื่อนร่วมกองทัพของเธอ “หลังจากเข้าร่วมกองทัพได้ 6 เดือนพวกเราก็ไม่สามารถมีประจำเดือนได้อีกต่อไป เพราะว่าขาดสารอาหารและอยู่ในสภาพที่แวดล้อมที่ตึงเครียดตลอดเวลา แต่ว่าก็มีทหารหญิงหลายคนที่รู้สึกดีใจที่ประจำเดือนหายไป เพราะพวกเธอคิดว่าหากยังมีอยู่คงจะลำบากกว่านี้เยอะ” So Yeon บอกถึงความลำบากในขณะนั้น ความเป็นอยู่ในกองทัพเต็มไปด้วยความลำบาก เธอยังได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า สิ่งที่ลำบากที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือพวกเธอไม่สามารถอาบน้ำหรือว่าทำความสะอาดใดๆ ได้เลยเพราะว่าท่อน้ำที่พวกเธอใช้นั้นต่อลงมาจากภูเขาซึ่งบางครั้งก็มีงูหรือว่ากบติดออกมาด้วย ถึงแม้ว่าผู้หญิงจะมีการฝึกที่ไม่ลำบากเท่าผู้ชาย แต่พวกเธอก็หวังที่จะได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่านี้ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับผู้ชายเพราะว่าพวกเขาได้รับอาหารอย่างเต็มที่และมีสุขอนามัยที่ดีกว่าพวกเธอแบบเทียบกันไม่ติด ระหว่างที่ So…
-
เรื่องจริงของ ‘Girl In The Box’ หญิงที่ถูกขังไว้ในกล่อง เป็นทาสเซ็กส์ 7 ปี จนถูกสร้างเป็นหนัง
อ่านจากพาดหัวแล้วอาจจะคิดว่านี่เป็นเรื่องจากนวนิยายสืบสวนหรือเปล่า? แต่ขอยืนยันเลยว่าทั้งหมดนี้คือเรื่องจริง #เหมียวฟิ้นจึงขอหยิบมาเล่าสู่กันฟัง ให้สาวๆ ได้ระมัดระวังตัวกันมากขึ้น ส่วนผู้ชายเองก็ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับคนรอบข้างของพวกคุณด้วยนะ นี่เป็นเหตุการณ์ที่เริ่มเกิดขึ้นในวันที่ 19 พฤษภาคม ปี 1977 และยาวนานจนถึงปี 1984 เมื่อ Colleen Stan หญิงสาวชาวอเมริกันวัย 20 ปี จากรัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โบกรถเพื่อจะเดินทางไปที่เมืองเรดดิง รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อเข้าร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดเพื่อน หลังจากที่โบกรถอยู่ได้สักพัก ก็มีรถคันหนึ่งยอมจอดรับเธอ ภายในรถมีคู่สามีภรรยา Cameron Hooker และ Janice Hooker กับลูกวัย 8 เดือน แต่หลังจากขึ้นรถไปได้ไม่นานนาย Cameron ก็หยิบมีดออกมาขู่ใส่ Colleen และบังคับให้เธอเข้าไปอยู่ในกล่อง เพื่อไม่ให้เธอส่งเสียงหรือถูกพบเห็นเข้า ทั้งนาย Cameron พา Colleen กลับไปที่บ้านของพวกเขาแล้วมัดข้อมือของเธอเข้าไว้ด้วยกัน ก่อนจะซ้อมเธออย่างรุนแรงและข่มขืนเธอแบบซาดิสม์ จากนั้นพวกเขาก็บังคับให้เธออยู่แต่ข้างในกล่องเล็กๆ ที่ยัดอยู่ไว้ใต้เตียงอีกที ในสภาพเปลือยเปล่าตลอด 23 ชั่วโมงต่อวัน และถูกสั่งห้ามไม่ให้พูดคุยกับคนแปลกหน้าคนอื่นๆ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมากสำหรับเธอ นาย Cameron ได้บอกกับ…
-
ตำรวจจับกุมวัยรุ่น 3 ราย หลังลักพาตัวเด็กไปขัง 5 วัน และบังคับให้มีเซ็กส์กับชายกว่า 20 คน
เหตุการณ์น่าสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นที่เมืองคอเวนทรี ในเขตเวสต์มิดแลนด์ส ประเทศอังกฤษ หลังจากที่เด็กสาววัย 14 ปีผู้หนึ่งถูกขังไว้นานถึง 5 วัน และถูกบังคับให้ร่วมเพศกับชายหนุ่มกว่า 20 คน เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนปี 2017 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศได้รายว่างานนาย Jake Cairns วัย 21 ปี นาย Brandon Sharples วัย 20 ปี และนาย Jack McInally วัย 21 ปี 3 ผู้ต้องหาที่กระทำการดังกล่าว ถูกตั้งข้อหาฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก หลังจากที่พวกเขาได้โพสต์ขายภาพของเธอลงบนเว็บไซต์สื่อลามก พร้อมกับโกหกว่าเธออายุ 18 ปี นาย Jack McInally และนาย Jake Cairns เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมวัยรุ่นทั้ง 3 หลังจากที่เห็นเหยื่อสาวกำลังพยายามปีนออกมาทางหน้าต่างห้องน้ำชั้นแรก ในสภาพที่สวมเพียงแค่ชุดชั้นใน ซึ่งมีรูปร่างและใบหน้าตรงกับประกาศคนหลาย หลังจากที่เธอได้หายตัวไปจากบ้านของญาติเมื่อหลายวันก่อน “ชายทั้ง 3 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีเด็กหญิงคนนี้ ในตอนแรกนาย Cairns ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้จักกับเธอ แต่หลังจากที่เราทำการตรวจสอบก็พบว่าบัญชีธนาคารของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้” เจ้าหน้าที่ Jon Barker…
-
เด็กหญิงชาวรัสเซียวัย 12 ปี ถูกลักพาตัวไปข่มขืน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสตรีมมิ่งสดหนังโป๊เด็ก…
ทุกวันนี้ได้มีการทำคลิปโป๊ขึ้นมากมายเพื่อหารายได้ผ่านสื่อออนไลน์ ยิ่งคลิปมีความดึงดูดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะทำเงินได้มากเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคลิปโป๊เหล่านี้พยายามนำเสนอคลิปที่ดูแตกต่าง ตื่นเต้น เร้าใจ มาเผยแพร่ และหนึ่งในนั้นคือการข่มขืน เหมือนอย่างคดีนี้ที่เด็กนักเรียนชาวรัสเซียวัย 12 ปี ที่ถูกลักพาตัวไปข่มขืน เพื่อถ่ายคลิปและเอาไปลงเว็บโป๊เด็ก… เด็กหญิงคนดังกล่าวนี้ถูกลักพาตัวโดยชายสองคน ขณะที่เดินกลับบ้าน หลังจากเรียนดนตรีเสร็จ ใน Ekaterinburg ทางตะวันออกของเทือกเขาอูราล ประเทศรัสเซีย ตำรวจเผยว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ที่เด็กหญิงรอดชีวิตมาได้ เพราะเธอถูกข่มขืนหลายครั้ง ระหว่างที่ถูกลักพาตัวนานกว่า 9 ชั่วโมงครึ่ง เด็กหญิงเล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่าขณะที่เดินกลับบ้านตามปกติ ก็มีคนนำถุงมาคลุมหัวของเธอ ก่อนจะลากขึ้นรถแล้วพาไปยังที่พักของพวกเขา เมื่อไปถึง คนร้ายทั้งสองคนก็ผลัดกันข่มขืนเธอ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง สร้างความเจ็บปวดให้เธอเป็นอย่างมาก แต่ที่เจ็บกว่านั้นคือพวกเขาได้ถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย จากนั้นคนร้ายก็บังคับเธอถือป้ายโฆษณาเว็บโป๊เด็กแล้วโชว์ไปที่กล้อง เพื่อเป็นการโปรโมทเว็บไซต์นั่นเอง หลังจากที่คนร้ายได้สิ่งต้องการแล้ว พวกเขาก็จับเด็กหญิงยัดใส่กระเป๋าแล้วขับรถไปที่ชานเมือง ก่อนจะทิ้งเธอไว้ข้างทางในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน เด็กหญิงใช้เวลาหลายชั่วโมงในการพาตัวเองออกจากกระเป๋าใบนั้น กระทั่งตี 3 เธอก็ทำสำเร็จ ต่อมามีมอเตอร์ไซค์ขับผ่านและสังเกตเห็นเด็กหญิงเข้า จึงได้โทรแจ้งตำรวจทันที เบื้องต้นเด็กหญิงให้การว่าหนึ่งในคนร้ายที่ข่มขืนเธอสวมกางเกงหนังสัตว์อายุประมาณ 50 ปี … ด้านโฆษกตำรวจ Valery Gorelykh กล่าวว่า “ขณะนี้เรากำลังกระจายเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200…
-
ดราม่าทั่วเน็ต!! สาวอินเดียถูกชาย 4 คนรุมข่มขืน แต่เมื่อไปแจ้งความ ตำรวจกลับไม่รับแจ้ง…
ในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าการถูกข่มขืนเพราะมันเจ็บปวดทั้งกายและใจราวกับว่าตายทั้งเป็น และอาจจะเป็นการทำลายชีวิตของผู้หญิงคนนั้นไปเลยทีเดียว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมาที่ประเทศอินเดียเมื่อมีเด็กสาวอายุ 19 คนหนึ่งถูกข่มขืนโดยชายกว่า 4 คนเป็นระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง หญิงสาวคนนี้ต้องไปแจ้งความกับตำรวจถึง 3 แห่งแต่ตำรวจกลับมองว่าเธอสร้างเรื่องขึ้นมาเองแม้ว่าพ่อแม่ของเด็กสาวคนนี้จะเป็นตำรวจก็ตาม ซึ่งในตอนสุดท้ายตำรวจก็ได้รับเรื่องดังกล่าวแต่ว่ารับในตอนที่เธอไล่ล่าและสามารถจับกุมชาย 2 คนที่ข่มขืนเธอด้วยตัวของเธอเองรวมทั้งได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่ของเธอที่เป็นตำรวจ ขณะนี้กรมตำรวจในนครโพปาล รัฐมัธยประเทศได้ประกาศพักงานแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสที่ปฏิเสธการแจ้งความของหญิงสาวคนนี้แล้ว สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันอังคารที่ 31 ตุลาคมเมื่อผู้หญิงคนนี้ได้ออกจากสถานที่เรียนพิเศษสำหรับสอบข้าราชการตำรวจ เพราะว่าเธอใฝ่ฝันอยากจะเป็นตำรวจเหมือนพ่อแม่ของเธอ ในช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่มชายคนหนึ่งซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า Golu Bihari Chadha (ซึ่งเป็นคนที่มีคดีฆาตกรรมเด็กทารกติดตัวแต่ได้รับประกันตัวออกมา) พยายามกระชากแขนเธอไปเพื่อที่จะข่มขืนและแน่นอนว่าผู้หญิงคนนี้ก็ได้ต่อสู้กับชายคนดังกล่าว จนกระทั่ง Chadha ได้เรียกเพื่อนที่ชื่อว่า Amar Ghuntu ให้มาช่วยกันลากตัวเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายไปบริเวณใต้สะพานแห่งหนึ่ง หญิงสาวคนดังกล่าวก็ยังไม่คิดที่จะยอมแพ้ง่ายๆ แม้ว่าจะโดนชายฉกรรจ์ 2 คนรุมอยู่ก็ตามโดยเธอได้หยิบหินทุบไปยังชายทั้ง 2 ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาโมโหและใช้หินทุบเธอบ้างซึ่งแน่นอนว่าเธอย่อมสู้ไม่ได้ จากนั้นเธอก็ถูกกระชากเสื้อผ้าออกแล้วก็ถูกข่มขืนในเวลาต่อมา หลังจากเสร็จกิจแล้ว Chadar ก็ได้ไปซื้อบุหรี่ขณะที่ Amar นั้นยังข่มขืนสาวคนดังกล่าวอยู่แต่ปรากฏว่าเมื่อเขากลับมาเขาได้พาเพื่อนมาอีก 2 คนซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า Rajesh และ Ramesh หลังจากนั้นทั้ง…
-
2 ตำรวจนิวยอร์กโดนตั้งข้อหา “ข่มขืนสาววัย 18 ปี” ทั้งที่ใส่กุญแจมือ อยู่ในรถหน่วยงานด้วย!!
นายตำรวจจากสถานีตำรวจนิวยอร์ก 2 นาย ตกเป็นผู้ต้องหาคดีข่มขืนหลังจากที่ทั้งสองได้ทำการข่มขืนหญิงสาวที่ถูกใส่กุญแจมือในท้ายรถตู้ของพวกเขา เจ้าหน้าที่ Eddie Martins และ Richard Halls ถูกกล่าวหาว่าได้ทำการข่มขืนเด็กสาววัย 18 ปี หลังจากที่ได้ทำการจับกุมเธอในทางใต้ของบรูคลิน จากการรายงานของหนังสือพิมพ์ The New York Post กล่าวว่า นายตำรวจทั้งสองถูกตั้งข้อหาข่มขืนระดับ 1 ตามคำตัดสินของคณะลูกขุนเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้ต้องหาถูกจับในข้อหามีกัญชาในครอบครอง ซึ่งตามกฎหมายแล้วในเมืองนิวยอร์กนั้นอนุญาตให้ใช้เพื่อการแพทย์ได้เท่านั้น ทั้งสองพาตัวเหยื่อไปยังที่จอดรถของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน Coney Island ก่อนที่ทั้งสองจะบังคับให้เธอทำออรัลเซ็กส์ และจากนั้นนาย Martins ก็เริ่มลงมือข่มขืนเธอก่อน ทั้งสองได้ยอมรับกับเพื่อนร่วมงานว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงๆ แต่ทางผู้ต้องหานั้นเป็นฝ่ายยินยอมไม่ได้มีการใช้กำลังบังคับแต่อย่างใด ส่วนทางด้านฝ่ายทนายความของผู้เสียหาย ได้เรียกร้องให้ทางสถานีตำรวจนิวยอร์กลงโทษทางวินัยอย่างหนักกับนายตำรวจทั้งสอง “เราคาดหวังว่าทางสถานีตำรวจต้นสังกัดควรจะดำเนินการเรื่องนี้ทันที และให้พวกเขาออกจากราชการ” คุณ Michael David ทนายความของเหยื่อสาวกล่าว และนอกจากนี้ทางทนายความของเหยื่อยังได้ออกมาโต้แย้งในกรณีที่ว่าลูกความของเขายินยอมและเธอไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายใดๆ เลย และตอนนี้คดีความของนายตำรวจ 2 คนนี้กำลังอยู่ในขั้นรวบรวมหลักฐาน และพิจารณาคดีในชั้นศาลต่อไป และทั้งสองยังต้องเข้ารับการพิจารณาคดีในชั้นศาลอีกครั้งในสัปดาห์หน้าซึ่งถ้าหากมีความผิดจริงพวกเขาจะถูกจำคุกเป็นเวลา 25 ปี ที่มา independent
-
ชายรุ่นพ่อทำร้ายร่างกายและข่มขืนหญิงสาวอย่างหนัก ทั้งขวด ทั้งไม้คิว ถึงขั้นต้องแท้งลูก!!
เรื่องราวสุดสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ผู้หนึ่ง เธอตกเป็นเหยื่อของการข่มขืนและทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง หลังจากที่นาย Michael Banks Gray ชายวัย 50 ปีได้ใช้สิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ ไม้พูล ยัดเข้าไปในช่องคลอดเธอ จนเป็นสาเหตุให้เธอแท้งลูกในไม่กี่วันหลังจากนั้น หญิงสาวผู้โชคร้ายรายนี้เป็นหนึ่งใน 8 เหยื่อที่ถูกนาย Gray ข่มขืนและทำร้ายร่างกาย ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา นาย Gray ถูกตั้งข้อหาทั้งสิ้น 18 ข้อหาซึ่งประกอบไปด้วยการข่มขืน การทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ระหว่างปี 1987 ถึงปี 2012 และจะถูกพิพากษาในเดือนมกราคม ปีหน้า ตามการรายงานของสื่อต่างประเทศ หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อคนล่าสุดได้กล่าวว่าเธอรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมของชายคนนี้ แต่ก็รู้สึกโชคดีที่เรื่องเกี่ยวกับการเปิดโปงการล่วงละเมิดทางเพศนักแสดงหญิงของนาย Harry Weinstein นั้นทำให้เธอกล้าที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ “ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือใครก็ตามที่กำลังใช้กำลังและทารุณพวกคุณ คุณควรที่จะออกมาพูดถึงสิ่งที่พวกเขาทำ ฉันพยายามรวบรวมความกล้า ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันไม่กล้าที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด” หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อกล่าว นอกจากนี้หญิงรายนี้ยังได้เผยอีกว่า เธอถูกนาย Gray นั้นทำร้ายร่างกายมาเป็นเวลานานกว่า 7 ปีแล้ว หลังจากที่พบเขาครั้งแรกเมื่อปี 1998 ที่บ้านของเพื่อนเธอ ชายวัย 50…
-
สามีเพิ่งเสียภรรยาไปต้องมาช้ำใจ หลังเห็นบุรุษพยาบาลกำลังมีอะไรกับศพของภรรยา
การที่คนๆ หนึ่งต้องสูญเสียคนรักไปก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและเศร้าสลดอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์นี้กลับยิ่งทำให้ใจของคนๆ หนึ่งสลายเพราะนอกจากเขาจะสูญเสียภรรยาไปแล้ว เขายังต้องมาเห็นบุรุษพยาบาลกระทำชำเราศพของภรรยาเขาอีก! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศโบลิเวีย เมื่อชายคนหนึ่งได้เดินทางไปที่ห้องเก็บศพเพื่อจะกล่าวคำอำลาสุดท้ายแก่ภรรยาของเขาที่เสียชีวิตไปด้วยโรคที่เกี่ยวกับปอด แต่ว่าเขากลับไปเห็นบุรุษพยาบาลคนหนึ่งที่ทราบชื่อภายหลังว่า Grover Macuchapi อายุ 27 ปีกำลังมีเพศสัมพันธ์กับศพของภรรยาของเขาอยู่ โดนจับกุมจากการก่อเหตุวิปริต Douglas Uzquiano นายตำรวจผู้จับกุมเล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์อัปยศนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากผู้หญิงคนหนึ่งได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล Hospital de Clinicas ที่เมือง Lapaz และถูกส่งมาที่ห้องเก็บศพของโรงพยาบาล โดยญาติทั้งหมดของผู้เสียชีวิตได้กลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อชำระค่ารักษาของผู้เสียชีวิตคนนี้ เหลือเพียงสามีของเธอเพียงคนเดียวที่จะเข้าไปอำลาเธอและเห็นสิ่งที่เขากำลังทำ หลังจากนั้นเขาจึงไล่ตีบุรุษพยาบาลที่พยายามวิ่งหนีโดยที่กางเกงยังกองอยู่ที่ข้อเท้าอยู่ และจับส่งตำรวจในที่สุด หน้าตาของบุรุษพยาบาลที่ลงมือก่อเหตุวิปริต บุรุษพยาบาลคนนี้ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “มีบางอย่างเกิดขึ้นเหมือนมันเป็นความฝัน ตอนนั้นผมรู้สึกได้ว่ามีลมพัดเข้ามาจากข้างหลังหลังจากนั้นผมก็โดนสามีของผู้หญิงคนนี้ทำร้าย” โดยศพของผู้หญิงคนนี้มีอายุ 28 ปีและพึ่งเสียชีวิตก่อนหน้านั้นเพียง 1 ชั่วโมงเดียวก่อนที่จะถูกกระทำชำเราโดยบุรุษพยาบาลวิปริต อย่างไรก็ตามอัยการกล่าวว่า เขาอาจถูกปล่อยตัวและไม่สามารถเอาผิดได้ เนื่องจากการสมสู่กับศพนั้นไม่ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายใดๆ ของโบลิเวีย ที่มา: dailymail
-
โลกมันอยู่ยาก.. หญิงสาวกลับบ้านตอนกลางคืน แค่คืนเดียวโดนล่วงละเมิดทางเพศถึง 3 ครั้ง!?
บ่อยครั้งที่เราได้ยินข่าวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และโดยส่วนมากนั้นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการกระทำดังกล่าวก็หนีไม่พ้นผู้หญิงนั่นเอง และหญิงสาวผู้นี้เองก็ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ แต่สำหรับกรณีของเธอนั้นกลับแย่กว่า เพราะในระหว่างการเดินกลับบ้านในตอนดึกนั้นเธอถูกล่วงละเมิดทางเพศถึง 3 ครั้งในคืนเดียว หลังจากที่เดินออกจากไนต์คลับแห่งหนึ่งของเมือง Tower Hamlets ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน เธอก็ตกเป็นเป้าหมายของชายเแปลกหน้าโดยทันที โดยทางตำรวจกล่าวว่าผู้ต้องสงสัยหมดนั้นไม่มีความเชื่อมโยงกันแต่อย่างใด นักศึกษาสาวผู้ตกเป็นเหยื่อของการกระทำดังกล่าวไม่สามารถจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอได้ โดยทางตำรวจคาดว่าในตอนนั้นเธอน่าจะอยู่ในอาการเมาไม่ได้สติ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่หญิงสาวแยกตัวจากเพื่อนๆ ของเธอที่ไนท์คลับ และกำลังเดินทางกลับบ้าน ภาพของเธอปรากฏบนกล้องวงจรปิดประมาณ 5 ทุ่ม 55 นาทีของคืนวันเกิดเหตุ โดยผู้ต้องสงสัยรายแรกนั้นปรากฏตัวขึ้นที่ถนน Cambridge Heath Road ก่อนที่จะพบเสื้อของเธอตกอยู่ในบริเวณดังกล่าว จากนั้นเวลาใกล้เคียงกันกล้องวงจรปิดอีกตัวได้จับภาพของผู้ต้องสงสัยคนที่ 2 ที่กำลังเดินผ่านถนนพร้อมกับจักรยานของเขา ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่าชายคนดังกล่าวกำลังเดินตามเธอไปยังสถานีรถไฟ Bethnal Green และหลังจากนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวก็เดินออกมาพร้อมกับสภาพเหมือนถูกข่มขืน ผู้ต้องสงสัยจากภาพของกล้องวงจรปิด จากนั้นไม่นานทางตำรวจเชื่อว่า เธอถูกล่วงละเมิดทางเพศอีกครั้งเมื่อราวๆ เที่ยงคืน 45 นาที ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นหนึ่งในสองผู้ต้องสงสัยก่อนหน้านี้ก็ได้ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดได้เผยให้เห็นผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 เดินเข้าไปในจุดเกิดเหตุ และเดินออกมาจากพื้นที่นั้น พลเมืองดีที่อยู่บริเวณนั้น ได้พบเห็นหญิงสาวคนดังกล่าวกำลังนอนอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด และได้ทำการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อช่วยเหลือเธอ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมากล่าวว่า การล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรง และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และพวกเขากำลังสืบสวนพยานต่างๆ เพื่อจับตัวคนร้ายให้ได้…
-
ชายรุ่นพ่อจับเด็กสาวแต่งานตอนอายุ 12 ขวบ และกักขังเธอนาน 19 ปี พร้อมข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เรื่องราวสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากเม็กซิโกได้รับแจ้งว่าชายหนุ่มคนหนึ่งได้ข่มขืนลูกสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของเขา และกักขังเธอไว้นานเกือบ 2 ทศวรรษ นาย Henri Michele Piette ชายวัย 62 ปีถูกจับกุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่เขาถูกตั้งข้อหาข่มขืนและข้อหาหนักอื่นๆ เมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ โดยเหยื่อเขานั้นคือ Rosalynn McGinnis หญิงสาวจากเมือง Wagoner รัฐโอกาโฮมาซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเขาเอง Rosalynn McGinnis และพ่อเลี้ยงของเธอ ในงานวันเกิดเมื่อตอนที่เธออายุได้ 13 ปี คุณ McGinnis ซึ่งปัจจุบันอายุ 33 ปีให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พ่อเลี้ยงของเธอลักพาตัวเธอตั้งแต่ตอนที่เธออายุได้ 12 ปี หลังจากที่เลิกกับแม่ของเธอเนื่องจากปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ จากการรายงานของสื่อท้องถิ่น McGinnis ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกว่าพ่อเลี้ยงของเธอมอบแหวนแต่งงานให้ระหว่างที่อยู่บนรถตู้และขอเธอแต่งงาน พ่อเลี้ยงลักพาตัว McGinnis ไปยังแม็กซิโกและขังเธอไว้ในบ้านเป็นเวลานานถึง 19 ปี แต่ในปี 2016 หญิงสาวและเด็กๆ อีก 8 คนที่ถูกจับตัวไปไว้กับเธอในภายหลัง สามารถหนีจากพ่อเลี้ยงออกมาได้สำเร็จ ซึ่งก่อนหน้านี้มีเด็กน้อย 1 คนที่หนีออกมาได้แล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าเด็กๆ ทั้ง 9 คนนั้นเป็นเหยื่อหรือเกี่ยวข้องกับนาย Piette อย่างไร แต่จากคำให้การในศาล…
-
ตำรวจนิวยอร์กจับกุมสาววัย 18 ปี ใส่กุญแจมือ พาไปยังที่ลับตาคน แล้วลงมือข่มขืน…
เราทุกคนรู้ดีว่าตำรวจมีหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองประชาชนและบ้านเมืองให้อยู่ในความสงบ แต่บางครั้งก็อาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไปเพราะเจ้าหน้าที่กลายเป็นคนก่อคดีขึ้นมาซะเอง เมื่อหญิงสาววัย 18 ปีแจ้งว่าถูกตำรวจแห่งเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา 2 นาย ข่มขืนเธอหลังจากที่เธอถูกจับกุมตัว เธอเล่าว่าในวันนั้นช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาเธอกำลังขับรถเล่นอยู่กับเพื่อนอีก 2 คนบริเวณเกาะ Coney พื้นที่ของนิวยอร์ก หลังจากนั้นก็มีตำรวจมาดึงเพื่อนของเธอออกไปเพราะถูกสงสัยว่าครอบครองสารเสพติดผิดกฎหมายเอาไว้ ต่อมาตามที่เธอได้บอกกับทนายของเธอ Michael David เล่าว่าหญิงสาวถูกจับใส่กุญแจมือและนั่งรถอยู่กับตำรวจสองนายที่พาเธอไปที่ลับตาคน หลังจากนั้นก็บังคับเธอให้มีอะไรกับพวกเขา หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมาเธอก็เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเมือง ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายของเธอที่ได้รับผลกระทบแต่ที่สำคัญคือเรื่องของจิตใจ เธอบอกว่า “การถูกข่มขืนในครั้งนั้นกระทบกระเทือนต่อจิตใจฉันอย่างมาก ตอนนี้ทุกครั้งที่ฉันมองเห็นคนใส่ชุดตำรวจก็จะรู้สึกกลัวไปหมด” ในขณะนี้ คดีที่เกิดขึ้นยังคงอยู่ในช่วงตรวจสอบภายในและตำรวจทั้ง 2 กับผู้บังคับบัญชาของเขาก็ได้ถูกยึดตราและปืนเอาไว้ ระหว่างช่วงที่ยังคงสอบสวนคดีนี้อยู่ แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้อาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิดก็คือนายตำรวจ 2 คนนั้นยอมรับว่ามีอะไรกับเธอจริง แต่บอกว่าไม่ใช่การข่มขืนแต่เป็นการยินยอมของทั้งสองฝ่าย คำให้การพวกเขาทำให้กรมตำรวจนิวยอร์กออกมาพูดว่า “ปัจจุบันคดีนี้อยู่ระหว่างดำเนินการและสืบสวนว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของยาเสพติดที่มีอยู่ทางตอนใต้ของ Brooklyn” คงต้องรอดูต่อไปว่าแท้จริงแล้วคดีนี้จะเกิดจากความผิดของใครกันแน่ เพราะหากเจ้าหน้าที่ผู้ปกป้องไปก่อคดีร้ายแรงซะเอง คงจะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้อย่างมากแน่นอน ที่มา: independent
-
หญิงสาวรู้ความจริงว่าเธอและแม่ของเธอมีพ่อคนเดียวกัน จากจดหมายที่แม่เขียนทิ้งไว้
การข่มขืนและการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กเป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญ และบางครั้งปัญหานี้อาจจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวอย่างเช่นคนในครอบครัวของคุณ และที่หนักว่านั้นอาจจะมาจากฝีมือของคนที่เรียกตัวเองว่า “พ่อ” ด้วยซ้ำไป เหมือนกับเรื่องราวของหญิงสาวผู้นี้ Jodi Cahill หญิงสาวชาวออสเตรเลียวัย 38 ปี ได้ทราบเรื่องราวสุดสะเทือนใจของแม่เธอ หลังจากที่เธอได้รับจดหมายจากคุณแม่ที่ไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นเวลานาน และรู้ความจริงว่าเธอกับแม่ของเธอนั้นมีพ่อคนเดียวกัน!! “แม่บอกฉันว่า ‘มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องบอกเธอว่าพ่อที่แท้จริงของเธอคือใคร อันที่จริงแล้วเธอกับฉันมีพ่อคนเดียวกัน’” หญิงสาวกล่าว Jodi พบว่าแม่ของเธอนั้นถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนและใช้กำลังเมื่อตอนที่แม่ของเธอยังอายุน้อยๆ จากจดหมายที่แม่ของเธอเขียนไว้ “Jodi เธอกับแม่มีพ่อคนเดียวกัน เมื่อตอนที่แม่เด็กๆ แม่ถูกพ่อแท้ๆ ทารุณและทำร้ายร่างกายทุกรูปแบบ คืนหนึ่งแม่ถูกข่มขืนและจากนั้นก็ตั้งครรภ์ แม่ไม่มีทางลืมวันนั้นได้เลย” บางส่วนจากเนื้อหาในจดหมายของแม่ที่เขียนถึง Jodi จากจดหมายดังกล่าวทำให้ Jodi เข้าใจถึงความรู้สึกของแม่เธอ และสิ่งที่แม่ทำกับเธอไม่ดีตอนเด็ก พร้อมกับทิ้งเธอไว้กับคุณยายของเธอ “ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่มีความผิดปรกติทางใจมาตลอด และตอนนั้นฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอทำกับฉันเลย ฉันคิดว่าเธอคงจะรู้สึกแย่มากๆ ทุกครั้งที่มองมาที่ฉัน และตอนนี้ฉันก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว” หญิงสาวกล่าว นอกจากนี้แม่ของ Jodi ยังได้เขียนเล่าถึงความเจ็บปวดของสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธออีกว่า “เมื่อถึงเวลาที่ลูกโตพอ ลูกอาจจะคิดว่าแม่บ้า แต่สิ่งที่แม่เป็นอยู่นั้นเค้าเรียกว่าอาการป่วยทางจิตหรือ Post Traumatic Stress ตอนนี้แม่ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วเพราะในเรื่องร้ายๆ เหล่านั้นก็ยังคงมีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่ นั่นก็คือลูกนั่นเอง Jodi”…
-
นิทรรศการเสื้อผ้าผู้หญิง ที่ใส่ในวันถูกข่มขืน สะท้อนแง่คิด “ถึงไม่แต่งโป๊ ก็โดนข่มขืนได้…”
ปัญหาการข่มขืนและการทารุณกรรมทางเพศ ยังเกิดขึ้นอยู่ในทุกวัน เกือบทุกประเทศทั่วโลก ปัญหาเหล่านี้ไม่มีวันหมดไปจากสังคม ตราบใดที่ยังมีคนจิตใจต่ำทรามคอยคิดที่จะละเมิดสิทธิของผู้อื่น แ ละปัญหานี้ไม่มีวิธีแก้ที่ต้นเหตุ มีแต่การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งเป็นปัญหาของสังคมทุกวันนี้ว่าจะทำอย่างไรให้การข่มขืนและทารุณกรรมทางเพศหมดไปเสียที เมื่อเกิดเหตุการณ์ข่มขืนขึ้นจนเป็นข่าว ผู้เสียหายมักจะได้รับคำถามเดียวกันทางสังคมว่า “เธอแต่งตัวโป๊ใช่ไหมล่ะ เลยโดนข่มขืน” คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่สะท้อนให้เห็นว่า สังคมมองว่าสาเหตุที่ผู้หญิงโดนข่มขืนนั้น มาจากการกระทำตัวของผู้หญิงเอง ในสังคมที่มีวัฒนธรรม ชายเป็นใหญ่ เมื่อมีการข่มขืนเกิดขึ้นสังคมก็จะพุ่งเป้าไปยังผู้หญิง และตั้งข้อรังเกียจว่าผู้หญิงที่โดนข่มขืนนั้นคือผู้หญิงที่ไม่ดี ทั้งๆ ที่มันอาจมีสาเหตุมาจากที่ผู้ชายหงี่จนควบคุมอารมณ์ไม่ได้ อีกทั้งสังคมก็ยังคิดว่าการข่มขืนคือบทลงโทษสำหรับผู้หญิงที่แต่งตัวโป๊ จากปัญหาเหล่านี้ Jen Brockman ผู้อำนวยการศูนย์การป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศของมหาวิทยาลัย Kansas ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้จัดนิทรรศการ “What Were You Wearing?” หรือแปลเป็นไทยได้ว่า คุณสวมใส่อะไรในตอนนั้น!? ในนิทรรศการก็จะจัดแสดง เสื้อผ้าของผู้หญิง 18 ชุด ของผู้หญิงที่ถูกข่มขืน เป็นเสื้อผ้าชุดที่เธอเหล่านั้นสวมใส่ในวันเกิดเหตุ ในนิทรรศการก็จะแสดงเสื้อผ้าแต่ละชุดและข้อความจากหญิงเคราะห์ร้ายกับเหตุการณ์ที่พวกเธอต้องเผชิญ นี่คือเสื้อของหญิงคนหนึ่ง เป็นเสื้อโปโลสีเหลืองตัวโปรดของเธอ แต่เธอจำไม่ได้ว่าใส่กางเกงตัวไหน รู้แต่เพียงว่าเธอถูกพี่ชายแท้ๆ ข่มขืน ด้วยความไร้เดียงสาของเธอจึงไม่รู้เรื่องอะไร…
-
หญิงสาวพบแฟนสภาพเปลือย อยู่บนร่างลูกสาวตัวเองวัย 12 ปี เลยจัดการแทงแฟนยับ 6 ทีเต็มๆ!!
เกิดเหตุอื้อฉาวร้าวรานภายในครอบครัวกันอีกแล้ว เมื่อล่าสุดสื่อนอกได้รายงานถึง เหตุการณ์ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอว่า เกิดคดีแม่ลูกหนึ่ง ได้แทงชายที่เป็นแฟนหนุ่มเข้าที่ท้องถึง 5 ครั้ง จากนั้นก็แทงที่ศีรษะอีก 1 ครั้ง หลังจากที่เห็นเขากับลูกสาวเธอสภาพเปลือย?? เรื่องราวดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน เวลาประมาณ 02.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่คุณแม่ลูกหนึ่งเข้านอนเร็วกว่าปกติและตื่นขึ้นมาในเวลาดังกล่าว เธอก็พบว่าแฟนหนุ่มของเธอที่กำลังคบหากันอยู่ กำลังขึ้นคร่อมลูกสาววัย 12 ของเธอในสภาพเปลือยท่อนบนอยู่ เธอคิดว่าแฟนหนุ่มจะทำมิดีมิร้ายกับลูกสาว จึงได้จัดการหยิบมีดพกแทงแฟนหนุ่มในทันที มีดถูกกระหน่ำแทงลงไปบนท้องและบริเวณหลังศีรษะ รวมแล้ว 6 ครั้ง แต่ที่เหลือเชื่อคือแฟนหนุ่มยังคงรอด ส่วนคุณแม่ได้โทรแจ้งตำรวจพร้อมรายงานเรื่องที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าจึงเข้ามายังที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา… ต่อมาชายหนุ่มถูกส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา ด้านลูกสาวได้ให้ปากคำว่า เธอถูกแฟนของผู้เป็นแม่พยายามแก้ผ้าเธอ และเขาบอกกับเธอว่า “นี่แหละคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเธอมีแฟน..” แต่กลับกันแล้ว ด้านแฟนหนุ่มได้ให้ปากคำว่า เขาถูกแทงเพราะแฟนสาวของเขา บังเอิญมาเห็นเขากับลูกสาวของเธอและรู้สึกอิจฉาที่ลูกสาวชอบในตัวเขา จึงจัดการแทงเขานั่นเอง ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน เราคงต้องรอความคืบหน้าของคดีกันอลหม่านระหว่าง แม่-แฟนแม่-ลูกสาวที่ติดมา ซึ่งดูจะเป็นการล่วงละเมิดทางเพศที่น่าเป็นห่วงมากเลยทีเดียว… ที่มา dailymail
-
ตำรวจมหาวิทยาลัย รวบ ‘หนุ่มหื่น’ ที่บุกเข้าไปในบ้านหญิงสาวเพื่อข่มขืนพวกเธอ
การช่วยตัวเองไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย ถ้าหากว่าคุณทำร้ายตัวเองอย่างเงียบๆ อยู่ในห้องน้ำหรือห้องนอน แต่เมื่อไหร่ที่ทะลึ่งเข้าไปตำในที่สาธารณะหรือบุกเข้าไปในบ้านคนอื่นล่ะก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เมื่อเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ในระหว่างที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจดูความเรียบร้อยในมหาวิทยาลัย Ohio State University อยู่นั้น จู่ๆ เขาก็ได้รับแจ้งว่ามีชายหนุ่มผู้หนึ่งได้บุกเข้าบ้านของหญิงสาวสองคน และพยายามจะข่มขืนพวกเธอ ภาพจากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นวินาทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าบุกเข้าจับกุมไอ่หนุ่มหื่นที่กำลังช่วยตัวเองอย่างเมามันอยู่บนโซฟาในบ้านพักของหญิงสาวสองคน นายตำรวจท่านหนึ่งได้ส่องไฟฉายไปยังชายหนุ่มที่กำลังเพลิดเพลินกับน้องชายของตัวเอง และเผยให้เห็ยชายอีกคนหนึ่งที่ไม่สวมเสื้อและกำลังนอนอยู่บนโซฟาในบ้านหลังดังกล่าว และแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่รอช้ารีบบุกเข้าไปในบ้าน และจับกุมหนุ่มหื่นที่ช่วยตัวเองอยู่ แล้วจับเขากดลงกับพื้นพร้อมกับถามว่า “มีใครอยู่ในบ้านนอกจากนายอีกไหม??” คลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นการบุกจำหนุ่มหื่นรายนี้ จากข้อมูลบัตรประชาชนของชายคนดังกล่าวพบว่า เขาคือนาย Calvin Bishop Lynn หนุ่มวัย 22 ปีที่อาศัยอยู่ในเมือง Lexington รัฐเคนทักกี ที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุถึง 3 ชั่วโมง สื่อท้องถิ่นได้รายงานว่า ชายหนุ่มคนดังกล่าวถูกตั้งข้อหาบุกรุก และกระทำอนาจารในที่สาธารณะ และหญิงสาวเจ้าของบ้านทั้งสองคนก็ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด วินาทีที่เจ้าหน้าที่บุกรวบชายหนุ่ม เจ้าหน้าที่ Jennifer Knight ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ฝ่ายหญิงทั้งสองคนไม่รู้จักชายคนนี้มาก่อน เขาได้บุกเข้ามาในบ้านและพยายามที่จะข่มขืนพวกเธอ พวกเรามีเจ้าหน้าที่กว่า 12 คนที่ตรวจตราและดูแลนักศึกษาอยู่ สิ่งเหล่านี้จะทำให้นักศึกษามั่นใจในความปลอดภัยของพวกเขาได้แน่นอน” …
-
หนุ่มหื่นกามวัย 25 ปี พยายามล่อลวงเด็กสาววัย 15 แถมอ้าง “ผมหน้าตาดีเกินกว่าจะเข้าคุก”
การระบายความกำหนัดอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่เมื่อไหร่ที่ดันทะลึ่งไปทำเรื่องแบบนี้กับคนอื่นที่เขาไม่ได้ยินยอมหรืออายุไม่ถึงเกณฑ์ล่ะก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ เหมือนกับหนุ่มหื่นคนนี้ ที่พยายามล่อลวงสาวน้อยวัย 15 ปี แถมบอกอีกว่า “ผมหล่อเกินไปที่จะเป็นนักโทษนะครับ” Ryan Kirk หนุ่มหื่นวัย 25 ปีถูกตัดสินจำคุก 4 ปี หลังจากที่ใช้ความพยายามกว่าครึ่งปี เพื่อล่อลวงสาวน้อยผ่านทางเฟซบุ๊ก ชายหนุ่มรับสารภาพว่าได้ใช้โซเชียลมีเดียดังกล่าวในทำกิจกรรมทางเพศกับเด็กสาวมาแล้วถึง 3 ครั้ง ชายคนดังกล่าวถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง ถึงแม้ว่าเขาจะปฏิเสธคำให้การก็ตาม ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจเมือง South Yorkshire ก็ได้ออกมายกย่องความกล้าของเหยื่อที่ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมของหนุ่มหื่นรายนี้ “เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่นาย Kirk พยายามที่จะล่อลวงสาวน้อยคนนี้ และพยายามบังคับให้เธอมีเซ็กส์กับเขา โดยที่ Kirk รู้จักกับเด็กหญิงคนดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก ตั้งแต่ตอนที่เขาอายุได้ 22 ปี แต่หลอกเธอว่าเขาอายุแค่เพียง 19 ปีเท่านั้น… และหลังจากที่เริ่มสนิท ชายคนดังกล่าวก็เริ่มชักชวนเหยื่ออกไปข้างนอก และขอมีเพศสัมพันธ์กับเธอ โดยอ้างว่าเธออายุมากพอที่จะทำเรื่องแบบนี้แล้ว พร้อมกับพูดจาลวนลามเธอต่างๆ นานา” คุณ Lee Corker เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก South Yorkshire กล่าว ชายหนุ่มคนดังกล่าวทั้งข่มขู่และใช้ประโยชน์จากเด็กหญิง และเมื่อเขารู้ว่าเธอเริ่มติดต่อกับตำรวจ…
-
คุณแม่สะเทือนใจ เมื่อทราบว่าลูกสาววัย 12 ถูกข่มขืน หลังอ่านไดอารี่ที่เธอเขียน
ในตอนเด็กหลายคนอาจชื่นชอบการเขียนไดอารี่บันทึกเรื่องราวต่างๆ ในแต่ละวันลงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย เหมือนกับเด็กสาวคนนี้ที่เขียนแม้กระทั่งเรื่องราวอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอ และเป็นหลักฐานสำคัญในการจับกุมผู้ที่กระทำผิดนั้น คุณแม่ของเด็กสาววัยเพียง 12 ปีบังเอิญไปอ่านเรื่องราวในไดอารี่ของเธอจนพบว่า สาวน้อยได้เขียนบอกเล่าเรื่องราวถูกวัยรุ่นชายคนหนึ่งขมขื่น ซึ่งเขาคนนั้นมีชื่อว่า Taylor James Dusen อายุ 18 ปี เด็กหนุ่มจากเขต Muskegon ในรัฐมิชิแกนคนนี้ถูกจับในเดือนกรกฎาคมและโดนจำคุกอย่างต่ำ 5 ปีในข้อกล่าวหาที่ว่าเขากระทำการรุกล้ำทางเพศกับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีนับเป็นความผิดพฤติกรรมอาญาในทางเพศระดับที่หนึ่ง การสืบสวนของคดีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อแม่ของเด็กสาวได้นำเรื่องที่อ่านเจอในไดอารี่มาเล่าให้ตำรวจฟัง ซึ่งอัยการเขต Timothy Maat ได้ออกมาบอกว่าทั้งสองคนนั้นรู้จักกันมาก่อนในปี 2016 โดยเด็กสาวเป็นเพื่อนของเพื่อนเด็กหนุ่มอีกที และเขาก็ได้กระทำการข่มขืนในเดือนมีนาคมปี 2017 ที่ผ่านมาภายในบ้านของเธอเอง อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มก็ไม่เคยถูกจับในข้อหาใดๆ มาก่อนหน้านี้ การจำคุกของเขาสามารถถูกยืดเวลาไปได้มากที่สุด 25 ปีขึ้นอยู่กับแนวทางของรัฐ แม้ว่าจะเป็นความผิดพลาดหรือไม่ก็ตาม แต่หากว่าทำผิดกฎระเบียบของสังคมก็จำเป็นที่จะต้องได้รับโทษที่ก่อไว้ เพราะการอยู่ร่วมกันก็จะต้องมีกรอบที่สามารถดูแลให้เกิดความเรียบร้อยภายในพื้นที่ได้ ที่มา: dailymail
-
คุณแม่ลงมือฆ่าชายวัยรุ่น เพื่อทำการแก้แค้นให้กับลูกสาววัย 6 ขวบ ที่ถูกข่มขืน…
เหตุการณ์อันน่าเศร้านี้เกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อนาง Connie Serbu หญิงสาวจากรัฐฟลอริดา ต้องตกเป็นผู้ต้อหาคดีฆาตกรรม หลังจากที่ลงมือสังหารชายหนุ่มที่เคยก่อคดีข่มขืนลูกสาวของเธอด้วยตัวเอง คุณตำรวจเจ้าของคดีสะเทือนขวัญนี้กล่าวว่า หญิงคนดังกล่าวได้ทำการล่อลวง Xavier Sierra เด็กหนุ่มวัย 18 เข้าไปในป่าแห่งหนึ่งในเมืองเนเปิลส์ และทำการปลิดชีวิตเขาด้วยปืน นาง Connie Serbu (ซ้าย) และ Xavier Sierra (ขวา) เด็กหนุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อ หลังจากที่จัดการกับเด็กหนุ่มคนนั้นแล้ว นาง Serbu ได้โทรเรียกตำรวจมายังที่เกิดเหตุ และบอกกับตำรวจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด “ ‘ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้น เขาข่มขืนลูกสาวฉัน ฉันไม่สน เขาทำลูกสาวฉัน’ เธอบอกผมทุกอย่างกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากที่ผมมาถึง” นายตำรวจเจ้าของคดีกล่าว เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมปี 2016 ตำรวจพบศพของนาย Sierra อยู่ในที่เกิดเหตุ และถัดจากจุดที่พบศพแรกพวกเขายังพบร่างของนาย John Vargas น้องชายวัย 29 ปีของนาง Serbu อีกด้วย โดยจากข้อมูลบอกว่านาง Serbu และนาย Vargas น้องชายของเธอได้ร่วมกันฆ่าเด็กหนุมคนดังกล่าวหลังจากที่เธอทราบว่าลูกสาวถูกชายคนดังกล่าวข่มขืนมาเป็นเวลานาน ผู้เป็นแม่ได้ส่งข้อความหานาย Sierra เพื่อให้มาสร้างเตียงสองชั้นให้ที่บ้าน ก่อนที่ทั้งสองจะพาเด็กหนุ่มเข้าไปในป่าแล้วใช้อาวุธปืนสังหารเขา แต่ทางเหยื่อขัดขืนจึงป็นเหตุให้น้องชายของเธอถูกยิงเข้าที่ท้องและเสียชีวิตในที่สุด ถึงแม้ว่าลูกสาวจะขอร้องแม่ของเธอไม่ให้ทำการตามล่าตัวเขา แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ผู้เป็นแม่ยังคงตั้งใจจะแก้แค้นให้กับลูกสาวของเธอ จนเป็นเหตุสะเทือนขวัญในที่สุด…
-
แก๊งวัยรุ่นในโมร็อกโก ต้องเข้ารับการรักษาโรคพิษสุนัขบ้า หลังจากรุมข่มขืนลาที่ติดเชื้อ…
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Mirror มีรายงานว่า แก๊งเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่มีอายุระหว่าง 7-15 ปีในโมร็อกโก ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาโรคพิษสุนัขบ้า หลังจากที่พวกเขาได้ร่วมกันข่มขืนลาที่ติดเชื้อ… สำหรับเหตุการณ์ที่น่าตกใจนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ Gharb-Chrarda-Béni Hssen ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโมร็อกโก ซึ่งก็ทำให้ครอบครัวของกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 15 ราย รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และในขณะนี้พวกเขาก็กำลังทนทุกข์อยู่กับการถูกชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเยาะเย้ย จากการรายงานระบุว่า ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็ได้พยายามค้นหาบุคคลต้องสงสัย ที่คาดว่าอาจจะได้รับเชื้อจากโรคระบาดที่เกิดจากสัตว์เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม จำนวนของการติดเชื้อคาดว่าอาจจะมีสูงขึ้น เนื่องจากบางครอบครัวได้พาลูกๆ ของพวกเขาไปรักษาที่โรงพยาบาลนอกพื้นที่ เพื่อหลีกหนีการถูกเยาะหยันหลังจากที่ลูกๆ ของพวกเขาสร้างความขายหน้าให้แก่ครอบครัว… ที่มา : mirror
-
สาวโดนปรับ 280 ล้านบาท หลังปรักปรำว่าถูกนายทหารข่มขืน จนเขาต้องออกจากงาน
การพูดให้ร้ายคนอื่นนั้นไม่เพียงแต่แสดงความต่ำตมทางความคิด แต่มันยังทำลายคนที่ถูกใส่ร้ายอย่างไม่ยุติธรรม ทั้งๆ ที่เขาหรือเธอคนนั้นไม่ได้ทำผิดอะไร อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วความจริงเท่านั้นที่จะเอาชนะทุกอย่างได้…เหมือนอย่างกรณีนี้เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งกล่าวหานายทหารคนหนึ่งว่าข่มขืนเธอ เป็นเหตุให้เขาต้องออกจากงานและเสียอนาคต เมื่อปี 2013 Susan Shannon วัย 52 ปี ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ Everett รัฐวอชิงตัน ได้เขียนในบล็อกของเธอว่าถูกนายทหารชื่อ David ‘Wil’ Riggins ข่มขืนเมื่อปี 1986 ขณะที่เรียนด้วยกันในโรงเรียนนายร้อย เธออ้างว่ารอคอยเวลาที่จะเปิดเผยเรื่องนี้มานานกว่า 30 ปี เพราะทางกองทัพไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆ แต่กลับปล่อยให้เรื่องเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทางด้าน Riggins วัย 52 ปี เมื่อทราบเรื่องนี้ เขาก็ออกมาปฏิเสธทันที โดยบอกว่าสิ่งที่ Shannon พูดนั้นไม่เป็นความจริงเลย ขณะนั้นทางกรมทหารผ่านศึกจาก Alexandria กำลังจะแต่งตั้งให้ Riggins เป็นนายพลในปี 2013 แต่เมื่อมาเห็นบล็อกของ Shannon พวกเขาก็ถอนชื่อของเขาออก และเป็นยังเหตุให้เขาต้องออกจากงานด้วย ในที่สุดเรื่องก็ถึงโรงถึงศาล แต่นายทหารก็ให้การปฏิเสธในชั้นศาลอีกครั้งว่า ‘เขาไม่ได้ข่มขืน Shannon ไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่เธอพูดทั้งหมดไม่เป็นความจริง’ ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีการตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อประกอบคำพิจารณา ในที่สุดคณะลูกขุนก็ตัดสินว่า Riggins…
-
อย่างโหด!! ผู้ต้องหาคดี ‘ฆ่าข่มขืนเด็ก’ ในประเทศเยเมน ถูกประหารพร้อมห้อยศพประจาน
นับว่าคดีข่มขืนกระทำชำเรา ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของหลายๆ ประเทศทั่วโลก และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นที่ประเทศเยเมน เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2017 เว็บไซต์ Metroได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนาย Hussein al-Saket วัย 22 ปี ข้อหาฆ่าข่มขืนเด็กสาววัย 4 ขวบ ผู้ต้องหา Hussein al-Saket เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่ประเทศเยเมน โดยก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาได้ทำการลวงเด็กสาววัย 4 ขวบ ผู้เป็นหลานสาวของ Ali Ayedh ไปข่มขืนพร้อมกับฆาตกรรมอย่างโหดร้าย ซึ่งหลังจากเกิดเหตุได้ไม่นาน ก็ได้มีการออกตามหาเด็กสาวโดยที่ผู้ก่อเหตุทำทีท่าออกตามหาด้วย จนกระทั่ง Saket ก็ถูกกระชากหน้ากากออก และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด แต่ทว่าการลงโทษในครั้งนี้ได้กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ตามกฎหมายของประเทศเยเมน ผู้กระทำผิดฐานข่มขืนจะต้องถูกประหารชีวิต การประหารชีวิตของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้กลับสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ให้แก่นักสิทธิมนุษยชนทั่วโลก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บังคับให้ผู้ต้องหาหมอบราบลงกับพื้นใจกลางเมือง Sanaa ท่ามกลางสายตาของประชาชนนับหมื่นคน เจ้าหน้าที่ได้ประหารชีวิตผู้กระทำผิดด้วยการยิงอัดกับพื้นกลางถนนจำนวน 5 นัด โดยเชื่อว่าวิธีดังกล่าวจะทำให้ประชาชนไม่กล้าทำผิด และช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ “จู่ๆ หลานสาวเราก็หายไปจากบ้าน พอไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ก็สืบจนพบศพของหลานสาวและผู้กระทำ เราเชื่อว่าวิธีนี้จะทำให้คนไม่กล้าทำผิดอีก” ญาติผู้เสียหายกล่าว…
-
เด็กสาวในหมู่บ้านถูกข่มขืน ผู้อาวุโสตัดสินใช้วิธี ‘ข่มขืนกลับ’ เพื่อเป็นการลงโทษลบล้างกัน…
การข่มขืนเป็นสิ่งที่แทบทุกคนต้องเข้าใจอยู่แล้วว่ามันเป็นการกระทำที่คุกคามสิทธิของผู้เสียหายเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังจะได้สร้างความคับแค้นใจให้กับคนใกล้ชิดอีกด้วย จนสุดท้ายก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่หนักกว่าเก่าซะอีก เพราะเกิดจากเหตุที่ผู้อาวุโสในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของปากีสถาน ได้สั่งตัดสินให้เด็กสาว 17 ปี ต้องถูกข่มขืนคืน หลังจากที่พี่ชายของเธอถูกกล่าวหาว่าไปข่มขืนเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งก่อนหน้านั้น จากการรายงานของตำรวจ ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 22 คนจากเหตุการณ์การข่มขืนที่เกิดขึ้นสองครั้งภายในสัปดาห์เดียวกัน ณ เมือง Muzaffarabad ของประเทศปากีสถาน แม่ของเด็กสาวเหยื่อรายแรกที่มีอายุเพียง 12 ปี บอกกับตำรวจว่า ในขณะที่ลูกสาวกำลังตัดหญ้าอยู่ในสวน ก็ถูกผู้ชายรายหนึ่งลงมือข่มขืนเธอ และกลับมาฟ้องผู้เป็นแม่ จนกระทั่งนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับผู้อาวุโสในหมู่บ้าน ภายหลังการปรึกษาหารือกันในหมู่บ้านแล้ว เหล่าผู้อาวุโสก็ได้ออกมาประกาศว่าพี่สาวของชายที่ไปข่มขืนเด็กคนนั้น จะต้องได้รับการถูกข่มขืนเพื่อเป็นการแก้แค้นลบล้างกันไป ซึ่งแน่นอนว่าแม่และน้องสาวของเหยื่อรายที่สองนี้จะต้องทำการประท้วงต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่เหล่าผู้อาวุโสนั้นก็ได้ควักปืนออกมาและขู่ฆ่าพวกเธอ ถ้าหากว่าไม่ยอมรับกับวิธีการลงโทษแบบนี้ ถึงอย่างไรคดีนี้ก็จะดำเนินต่อไปตามกฎหมายเพื่อให้เกิดความยุติธรรมที่แท้จริง ในขณะที่ความรุนแรงคาดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมาได้มีศูนย์ต่อต้านความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง และได้เล่าว่าในระยะเวลาที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนและแก้ไขคดีข่มขืนมากถึง 38 คดีด้วยกัน อย่างไรก็ตามเรื่องแบบนี้ไม่ควรจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติในบ้านเมืองใดก็ตาม ทุกคนควรจะต้องคอยช่วยเหลือกันมากกว่าการเหยียบย่ำผู้อื่นนะครับ ที่มา: cnn
-
‘ฉันไม่เหลือน้ำตาอีกแล้ว’ ประสบการณ์เลวร้ายของสาววัย 16 หลังถูก ISIS จับตัวไปข่มขืนนาน 6 เดือน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้ยินเรื่องราวของสาวชาว Yazidi ที่ต้องตกไปเป็นเหยื่อกามอารมณ์ของกลุ่ม ISIS และทุกครั้งที่เราได้รับรู้ถึงสิ่งที่พวกเธอต้องเผชิญมา มันก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกหดหู่ และเจ็บปวดตามไปด้วย เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ Independent ได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวในมุมมืดของ Ekhlas หญิงสาวชาว Yazidi วัย 16 ปี ที่ต้องได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส หลังถูกกลุ่ม ISIS ถูกจับตัวไปขังอยู่ในคุก ย้อนเวลากลับไปในเดือนสิงหาคมปี 2014 ขณะนั้น Ekhlas เป็นเพียงหญิงสาววัย 14 ปี ที่ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนคนทั่วไป แต่แล้ววันหนึ่งหมู่บ้านที่เธออาศัยอยู่ทางตอนเหนือของอิรัก ก็ถูกกลุ่มผู้ก่อการร้าย ISIS บุกเข้าโจมตี Ekhlas เผยว่า เธอถูกลักพาตัวไปพร้อมๆ กับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงชาว Yazidi หลายพันคน อีกทั้งคนเหล่านั้นยังได้กล่าวหาว่าชาว Yazidi บูชาปีศาจ จนทำให้ผู้คนนับ 50,000 คนถูกรังแก และถูกข่มเหง ซึ่งในตอนนั้นเธอและแม่ถูกจับตัวไปขังอยู่ในคุกแห่งหนึ่งของ ISIS…
-
ศาลสั่งจำคุกเหยื่อข่มขืน 30 ปี ในข้อหาฆาตกรรม หลังจากที่เธอแท้งลูกในท้องโดยไม่รู้ตัว!?
กลายเป็นเรื่องที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนที่ประเทศเอกวาดอร์เป็นอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ซ้ำเติมกับหญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อของการข่มขืน และเธอถูกศาสสั่งจำคุก 30 ปีหลังจากที่เธอแท้งลูกออกมา!? Evelyn Beatriz Hernandez Cruz หญิงสาวชาวเอกวาดอร์วัย 19 ปีถูกแจ้งข้อหาฆาตกรรม โดยทางอัยการกล่าวว่า เธอนั้นไม่ต้องการเด็กและโยนเขาทิ้งไว้ในชักโครกหลังจากที่เด็กน้อยคลอดออกมา ทารกที่ออกมานั้นมีอายุครรภ์เพียงแค่ 32 สัปดาห์เท่านั้น หญิงสาวถูกข่มขืนมานานหลายเดือนก่อนที่เธอจะตั้งครรภ์ โดยเธอนั้นไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเองตั้งท้องและกำลังจะคลอดลูก ส่วนการที่เด็กหลุดออกมานั้นเกิดจากภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ของเธอ เธอถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 30 ปี เนื่องจากการแท้งลูกโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ และลูกในครรภ์นั้นก็เกิดมาจากการข่มขืน แต่อย่างไรก็ตามทางอัยการยังคงยืนยันว่าเธอนั้นมีเจตนาที่จะฆ่าเด็กทารก และตอนนี้ทนายความของ Hernandez กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขอยื่นอุทธรณ์ต่อศาลในวันพุธที่จะถึงนี้ต่อไป ประเทศเอกวาดอร์นั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่ถือว่าการทำแท้ง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือกรณีใดๆ ก็ตามต่างก็เป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยกฎหมายดังกล่าวถูกบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 1998 แล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีผู้ถูกตัดสินจำคุกเพราะการทำแท้งจำนวนมาก อย่างเช่นในปี 2011 มีหญิงสาวคนหนึ่งถูกตัดสินจำคุกนานถึง 40 ปีจากข้อหานี้ หลังจากที่เธอเกิดปวดท้องกระทันหันและแท้งลูกที่บ้านของตัวเอง สำนักข่าว Mirror รายงานว่าการตัดสินคดีความของ Hernandez นั้นขาดการพิจารณาในหลายๆ ด้านและไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะบอกว่าเธอจงใจทำแท้ง ทางด้านองค์การสหประชาชาติได้ออกมาเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายข้อนี้ โดยทางด้านคุณ Erika Guevara-Rosas ผู้อำนวยการของ…
-
หญิงสาวถูกสั่งจำคุก หลังปรักปรำชายหนุ่ม 15 คนว่าข่มขืนเธอ จนมีหนึ่งรายติดคุกจริงๆ!?
อีกหนึ่งคดีสะเทือนขวัญที่กลายเป็นประเด็นร้อนในประเทศอังกฤษ กับเรื่องราวของ Jemma Beale สาวอังกฤษวัย 25 ปี ที่เคยปรักปรำชายหนุ่มกว่า 15 คนว่าข่มขืนเธอ จนมีหนึ่งในนั้นต้องติดคุกรับโทษจริง!! เหตุการณ์แรกสุดเกิดขึ้นกับ Mahad Cassin ซึ่งเธออ้างว่าถูกชายหนุ่มคนนี้ข่มขืน หลังจากที่เขาอาสาจะไปส่งเธอถึงที่บ้าน และคำให้การของเธอในชั้นศาลเกี่ยวกับเพศสภาพความเป็นเลสเบี้ยนของเธอเอง ทำให้ชายหนุ่มคนนี้ถูกจำคุกนานถึง 2 ปีเต็ม หลังจากคดีแรกที่เจ้าหน้าที่สามารถจับคนร้ายได้ ทำให้เธอได้รับเงินนำจับถึง 11,000 ยูโร (ราว 430,000 บาท) จากนั้นต่อมาเดือนกรกฎาคม ปี 2012 เธอเข้าแจ้งความกับตำรวจว่า เธอถูกชายแปลกหน้าคนหนึ่งนามว่า Noam Shazad ลวนลามในผับและพยายามจะล่อลวงเธอไปข่มขืน ทว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ต่อมาในปี 2013 เธอได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งใจจะเอาผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรากับชายถึง 6 คน และหลังจากนั้นถัดมาอีกสองเดือน เธอก็อ้างว่าถูกชายแปลกหน้า 2 คนล่อลวง และถูกรุมข่มขืนจากชายอีก 4 คน!? ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาให้ Beale ชี้ตัว ทว่าหลักฐานไม่เพียงพอต่อการจับกุม …
-
กลับมาอีกครั้ง!! “Ke$ha” ปล่อยเพลงใหม่ล่าสุด หลังหายไปเรื่องคดีความนานถึง 4 ปี…
หลังจากตกเป็นข่าวดังเมื่อช่วงปีที่แล้วเกี่ยวกับการฟ้องร้องการถูกคุกคามทางเพศโดยโปรดิวเซอร์ของค่าย แต่ผลออกมากลับเป็นฝ่ายเธอที่พ่ายแพ้เนื่องจากศาลยกฟ้องคดีดังกล่าวเพราะมีหลักฐานไม่เพียงพอ สำหรับใครที่ยังไม่ทราบประเด็นดังกล่าว สามารถตามอ่านข่าวเก่าๆ ได้ที่ – ประเด็นร้อน!! นักร้องสาว Ke$ha ถูกโปรดิวเซอร์ข่มขืน ศาลยกฟ้อง และบีบบังคับให้อยู่ในค่ายตามสัญญา – Dr.Luke ออกมาปฏิเสธข่าวข่มขืนนักร้องสาว Ke$ha “ผมไม่เคยข่มขืนเธอ” – แถลงการณ์จาก Sony ช่วยเรื่องสัญญาของ Kesha ไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับโปรดิวเซอร์โดยตรง!! – Kesha เผย Sony พร้อมยกเลิกสัญญาของเธอ เพียงบอกว่า “เธอไม่เคยโดนข่มขืนมาก่อน” – ปิดมหากาพย์ Kesha ถอนฟ้อง Dr. Luke เพราะคดีไม่คืบหน้า ขอสู้ด้วยดนตรีแทน!!! แต่หลังจากที่หายหน้าหายตาไปเกือบๆ 4 ปี คราวนี้เธอกลับมาอีกครั้งพร้อมกับปล่อยเพลง Praying ให้แฟนๆ ของเธอได้หายคิดถึงกันอีกครั้ง… เพลงดังกล่าวเป็นหนึ่งในอัลบั้ม Rainbow ซึ่งเป็นอัลบั้มล่าสุดของเธอ มีการวิเคราะห์กันว่าในบทเพลงจะพูดถึงตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ และเกี่ยวกับเรื่องราวร้ายที่อดีตโปรดิวเซอร์ Dr. Luke เคยทำกับเธอ เพลง Praying ได้แรงบันดาลใจมาจากคำสอนของศาสนาคริสต์เกี่ยวกับพระเจ้าซึ่งได้ฝีมือการเขียนเพลงของ…
-
ชาวบ้านอินเดียรายล้อม ชายหนุ่มผู้ข่มขืนเด็กสาว มัดมือและรุมประชาทัณฑ์ตีไม่ยั้งมือ…
คนผิดก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย แต่บางคนทำผิดร้ายแรงจนเหยื่อหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นว่าบทลงโทษทางกฎหมายคงไม่สาแก่ใจ จึงเป็นเหตุทำให้เกิดการประชาทัณฑ์ขึ้นมา อย่างกรณีที่เกิดขึ้นที่อินเดีย เมื่อชายคนหนึ่งถูกกล่าวหาว่าข่มขืนเด็กผู้หญิง สร้างความไม่พอใจให้ผู้หญิงในหมู่บ้านโดยเฉพาะผู้เป็นแม่ทั้งหลาย จึงได้ร่วมกันทำการรุมประชาทัณฑ์ชายคนดังกล่าว เหตุการณ์นี้เป็นคลิปวิดีโอที่คาดว่าเกิดขึ้นในประเทศอินเดีย จะเห็นผู้ชายคนหนึ่งถูกมัดมือไว้ข้างหลัง โดยมีผู้หญิงยืนรายล้อมอยู่หลายคน พร้อมผลัดกันตีอย่างไม่ยั้งมือ ผู้ชายในคลิปไม่การขัดขืนหรือต่อสู้แต่อย่างใด ในขณะที่ผู้หญิงยังคงตีเขาอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาห้ามการประชาทัณฑ์ดังกล่าว การประชาทัณฑ์เช่นนี้อาจดูโหดร้าย แต่ทั้งหมดนี้เป็นการแก้แค้นของบรรดาแม่ๆ แทนลูกสาว เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างให้คนอื่นๆ ไม่กล้าทำผิดอีก ส่วนรายละเอียดของการข่มขืนนั้น ทางสื่อไม่ได้ระบุไว้… อย่างไรก็ตามการข่มขืนถือเป็นปัญหาหลักของอินเดีย เพราะมีคดีข่มขืนเกิดขึ้นเป็นหมื่นๆ ครั้งในแต่ละปี อย่างในปี 2015 มีรายงานการข่มขืนภายในประเทศอินเดีย 34,000 ราย แต่ทว่าจริงๆ แล้วเกิดเหตุข่มขืนมากกว่านั้น เพราะคนร้ายหลายๆ ไม่ได้ถูกจับกุมไปให้ตำรวจ เพราะเกรงว่าตำรวจจะไม่เชื่อหรือกลัวถูกชาวบ้านรังเกียจ จึงเลือกที่จะทำการลงโทษกันเอง . จะสงสารหรือสะใจดี!? ที่มา dailymail
-
สามสาววัยมัธยม คิดค้นหลอดตรวจยานอนหลับในเครื่องดื่ม หวังช่วยลดปัญหาถูกข่มขืน…
การข่มขืนถือว่าเป็นหนึ่งในภัยอันตรายสำหรับผู้หญิง ซึ่งบางครั้งภัยร้ายนี้ก็อาจเกิดขึ้นจากคนใกล้ตัวของสาวๆ อย่างคู่เดทก็ได้ บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินเรื่องของการวางยาเพื่อข่มขืนตามสื่อต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง จนทำให้ไม่กล้าที่จะกินจะดื่มอะไรไปเรื่อย แต่วันนี้คุณสามารถที่จะทราบได้แล้วว่าเครื่องดื่มที่คุณได้รับนั้นมีใครแอบใส่ยาไว้บ้างรึเปล่า พบกับหลอดตรวจยาในเครื่องดื่มที่จะช่วยให้สาวๆ ปลอดภัยจากการถูกวางยา Victoria Roca, Susana Cappello, และ Carolina Baigorri สามสาวจากโรงเรียน Gulliver Preparatory ในเมืองไมอามี รัฐฟอร์ริด้า พวกเธอได้ทำการคิดค้นหลอดสำหรับตรวจหายาภายในเครื่องดื่มนี้ระหว่างในชั้นเรียน ตัวหลอดจะมีแถบสองแถบซึ่งเมื่อนำไปจุ่มลงในเครื่องดื่ม มันจะแสดงให้เห็นว่าน้ำแก้วนั้นมียาหรือไม่ ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าวสามารถตรวจหายาที่มักจะใช้ในการข่มขืน อย่างเช่น including roofies (Rohypnol), gamma-hydroxybutyric acid (GHB) และ ketamine (Special K) โดยด้านปลายของหลอดจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินหากพบสารของยาดังกล่าว Baigorri หนึ่งในทีมคิดค้นบอกว่า “ตอนที่ฉันเป็นวัยรุ่น ข่าวเกี่ยวกับการข่มขืนมีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงมัธยม เรารู้ว่าสิ่งที่เราคิดค้นขึ้นมานี้อาจจะไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่ในเมื่อเราไม่สามารถที่จะหยุดการข่มขืนได้ แต่เราสามารถที่จะลดความเสี่ยงในการเกิดได้” จากข้อมูลของสำนักงานสถิติเผยว่าจำนวนของคดีการข่มขืนส่วนมากนั้นเป็นการข่มขืนจากคู่เดท ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมักจะมีอายุประมาณ 16-24 ปีและอยู่ในกลุ่มของนักศึกษา ซึ่งสาเหตุหลักนั้นมาจากมีแอลกอฮอลและยาเสพติดนั่นเอง ชมบทสัมภาษณ์ของพวกเธอได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย นวัตกรรมชิ้นนี้ได้ทำการจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหลอดตรวจยาดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนของการระดมทุนเพื่อพัฒนาและจัดจำหน่ายต่อไปในอนาคต ที่มา boredpanda
-
สาวอินเดีย “ตัดหรรมส์” ผู้นำศาสนาท้องถิ่น หลังจากพยายามข่มขืนเธอ บอกครอบครัวก็ไม่เชื่อ!!
เหตุการณ์สุดระทึกที่ชาวเน็ตต่างพอกันสะใจกันเป็นแถบๆ เมื่อผู้นำศาสนาท้องถิ่นในอินเดียพยายามล่อลวงหญิงสาวไปข่มขืน แต่ก็ต้องโดนสวนกลับโดยการตัดอวัยวะเพศของผู้นำคนดังกล่าวทิ้งซะ!!? ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานว่า Hari Swami ชายที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำศาสนาท้องถิ่น ได้พยายามข่มขืนหญิงสาววัย 23 ปี แต่แล้วหญิงสาวคนดังกล่าวก็ทำการดัดหลังด้วยการซ่อนมีดไว้ใต้หมอน จากนั้นเมื่อถึงจังหวะ เธอก็หยิบมันออกมาพร้อมฟันลงไปที่อวัยวะเพศของ Hari จากนั้นก็ตัดมันจนขาดในที่สุด จากการสอบสวย สาวเจ้าได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า เธอถูกล่วงเกินทางเพศจากชายคนดังกล่าวมาเป็นเวลานานกว่า 5 ปีแล้ว จนสุดท้ายเธอก็ไม่ทนอีกต่อไป และจัดการจบปัญหาด้วยตัวเอง หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นาย Hari ก็ไปที่โรงพยาบาลท้องถิ่นในสภาพบาดเจ็บสาหัส แต่ข่าวรายงานว่าตอนนี้อาการของเขาอยู่ในสภาวะปกติแล้ว Sparjan Kumar ตำรวจผู้รับผิดชอบคดี ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า “หญิงสาวคนดังกล่าวใช้มีดในการปกป้องตัวเอง และตัดไอ้จ้อนของคนร้ายในที่สุด” พอเจ้าหน้าที่ถามกับสาวผู้เคราะห์ร้ายเกี่ยวกับครอบครัวของเธอว่ารู้เรื่องหรือหรือไม่ เธอก็ตอบกลับมาว่า ครอบครัวของเธอไม่เคยเชื่อคำพูดของเธอเลย พวกเขายังตามืดบอดสนิทพร้อมเชื่อผู้นำศาสนาคนดังกล่าว เชื่อขนาดว่าเชิญให้เธอไปนอนบ้านของผู้นำคนนั้นเลยด้วยซ้ำ เพื่อประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ตามที่พวกเขาเชื่อกัน สุดท้ายแล้ว หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายก็อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่เป็นที่เรียบร้อย และเธอก็มั่นใจได้ว่าเธอจะปลอดภัย พร้อมกับได้ดำเนินคดีกับนาย Hari ตามกฎหมายต่อไป… เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่น่าวิตก โดยเฉพาะการละเมิดทางเพศในขณะที่ครอบครัวก็ยังไม่คิดจะให้การช่วยเหลือ คิดไปคิดมาก็คล้ายกับหลายๆ คดีที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา…
-
นักเขียนสาวไต้หวันฆ่าตัวตาย เผยเรื่องจริงอันขมขื่น ผ่านนิยายเล่มแรกที่เพิ่งวางขาย…
หลินอีว์หาน นักเขียนสาวดาวรุ่งวัย 26 ปี ชาวไต้หวันได้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลังจากที่ผลงานเขียนชิ้นแรกของเธอที่ชื่อว่า Fang si Chi’s First Love Paradise เพิ่งจะวางขายจนเป็นนิยายขายดีอันดับต้นๆ ได้ไม่นาน และกำลังตีพิมพ์ซ้ำเป็นครั้งที่ 5 แล้ว ทางด้านพ่อแม่ของเธอก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุการแขวนคอตายของลูกสาวว่า เธอน่าจะทำไปเพราะความเครียดที่สะสมมาเป็นเวลานานและไม่ได้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าทั่วไป เดิมทีตัวเธอเป็นคนที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะดี นอกจากนั้นคนในครอบครัวของเธอก็ทำงานสายอาชีพแพทย์กันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือพี่ชายของเธอก็ตาม ส่วนตัวหลินเองก็ไม่ได้น้อยหน้าแต่อย่างใด เพราะเธอเป็นคนที่หัวดี เคยทำคะแนนสอบได้มากถึง 75% จนสามารถเข้าเรียนคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ได้ แต่ทว่าเธอก็ต้องพักการเรียนไปหลังจากเข้าเรียนได้ 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นผลจากการที่เธอป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จากนั้นไม่นานเธอก็หันไปเรียนด้านวรรณคดีจีนแทน แต่หลังจากที่เธอเรียนไปได้เป็นเวลา 1 ปี เธอก็ตัดสินใจที่จะหยุดเรียนอีกครั้งหนึ่งด้วยสาเหตุเดิม นั่นก็คือสภาพจิตใจของเธอที่ย่ำแย่มากๆ จนกระทั่งคิดฆ่าตัวตายครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งหนึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันมองว่าตัวเองเป็นผู้ป่วยทางจิตประเภทหนึ่ง แต่ก็ฉันก็มีความฝันอยากจะเขียนหนังสือให้ได้เหมือนกับ เคนซาบุโร โอเอะ (นักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่น) ซึ่งฉันก็พยายามพัฒนาตัวเองโดยเริ่มจากการอ่านหนังสือ เพื่อให้เข้าถึงวัฒนธรรมต่างๆ และเพิ่มพูนความรู้” . ตามรายงานจากเว็บไซต์ Koalasplayground บอกว่าเนื้อหาเกี่ยวนิยายดังกล่าวที่เธอเป็นคนแต่งขึ้นมา…
-
ผู้พิพากษาเม็กซิโกถูกวิจารณ์หนัก หลังตัดสินให้วัยรุ่นฐานะดีพ้นผิดเพราะ ‘ไม่สนุกกับการข่มขืน’
ผู้พิพากษาในประเทศเม็กซิโกได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังตัดสินให้ชายหนุ่มที่มีฐานะทางบ้านร่ำรวยหลุดพ้นจากความผิดข้อหาการทารุณกรรมทางเพศต่อหญิงสาว เพราะเขาไม่รู้สึกสนุกกับการกระทำดังกล่าว Diego Cruz Alonso หนึ่งในผู้ก่อเหตุ Diego Cruz Alonso หนึ่งในสมาชิกแก๊งที่ตั้งขึ้นมาเองกับเพื่อนๆ เพื่อทำเรื่องแผลงๆ ชื่อว่า Los Porkys เป็นลูกชายของนักธุรกิจและนักการเมืองท้องถิ่นในเมืองเบรากรุซ ประเทศเม็กซิโก พวกเขากลายเป็นผู้ต้องหาในคดีข่มขืนนักศึกษาหญิง หลังจากที่เธอเดินทางออกมาจากงานปาร์ตี้แห่งหนึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมง เมื่อวันที่ 3 มกราคมปี 2015 Anuar González ผู้พิพากษาในคดีดังกล่าว ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2017 สำนักข่าว The Guardian ได้รายงานว่าผู้พิพากษา Anuar González ได้ตัดสินว่าเขาไม่ผิด แม้ว่านาย Diego จะจับหน้าอก และใช้มือลูบไล้ตามร่างกายของเหยื่อแล้วก็ตาม แต่ทว่าจำเลยให้การว่าไม่มีความรู้สึกร่วมกับการกระทำดังกล่าว ซึ่งตามกฎหมายของประเทศเม็กซิกันแล้วถือว่าการกระทำแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แน่นอนว่าหลังจากการตัดสินออกมาแบบนี้ย่อมไม่มีใครเห็นด้วยอยู่แล้ว ทางด้าน Estefanía Vela Barba นักเรียกร้องสิทธิสตรี ได้ออกมาบอกว่า “เขาลวนลามเธอไปแล้ว แต่เพราะว่าเขาไม่รู้สึกสนุกไปกับมัน งั้นหมายความว่าเขาไม่ได้ทำทารุณกรรมทางเพศงั้นหรือ?” …
-
ไม่โปรเท่า ‘Gone Girl’ สาวแจ้งตำรวจว่าถูกลักพาตัวและข่มขืน ก่อนจะเฉลยว่าโกหกทั้งเพ!!
ใครที่เคยดูภาพยนตร์เรื่อง ‘Gone Girl’ เชื่อว่าหลังดูจบแล้วคงรู้สึกหลอนกับความร้ายกาจของมนุษย์เมียไปตามๆ กัน แม่คุณเอ๊ย… คงไม่มีใครจะร้ายกาจได้เท่าเธออีกแล้วแหละ ทว่าล่าสุดสำนักข่าว Dailymail ได้รายงานเรื่องราวที่คล้ายๆ กับในหนังแต่ไม่มีความเป็นมืออาชีพเท่า เมื่อหญิงสาววัย 18 ปี Breana Harmon Talbott ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจว่าเธอถูกลักพาตัว และถูกข่มขืน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพบว่าทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ!! Breana Harmon Talbott เมื่อวันที่ 8 มีนาคม คู่หมั้นหนุ่มของเธอได้โร่เข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยให้การว่าแฟนสาวของเขาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ในขณะที่รถยังจอดอยู่ โดยประตูรถถูกเปิดทิ้งไว้ มีกุญแจบ้าน โทรศัพท์มือถือ และรองเท้าของเธอถูกทิ้งไว้ในรถอย่างน่าสงสัย เจ้าหน้าที่ต่างก็เชื่อว่าเธอถูกลักพาตัวไป จนกระทั่งในเย็นวันเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมือง Denison รัฐเท็กซัส เธอเหลือเพียงแค่ชุดชั้นใน และตัวของเธอก็เปียกโชกไปด้วยเลือด ซึ่งหลายคนคาดว่าเธอน่าจะถูกข่มขืน หลังปรากฏตัวเธอให้การกับตำรวจว่า เธอถูกชายผิวสี 3 คน สวมหน้ากากย่องเข้ามาที่อพาร์ทเม้นท์ของเธอ ก่อนจะลักพาตัว และพาเธอไปข่มขืน ทว่าหลังจากที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนอย่างจริงจัง เจ้าหน้าที่ก็พบจุดที่น่าสงสัยหลายประการที่บ่งชี้ว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้น่าจะเป็นเรื่องโกหก เพราะทีมสืบสวนได้พบกับข้อเท็จจริงจากคุณหมอที่เธอถูกส่งตัวไปรักษาว่า ร่างกายของเธอไม่มีรอยฟกช้ำที่ชี้ให้เห็นถึงการข่มขืน…
-
หนุ่มคนร้าย หวังข่มขืนสาวที่กำลังวิ่งจ็อกกิ้ง แต่เธอเป็นมวย สวนกลับเละ-จับขังห้องน้ำอีก!?
Kelly Herron หญิงสาวจากเมืองซีแอตเทิล ซึ่งเธอเป็นคนที่จะออกมาวิ่งจ๊อกกิ้งในทุกๆ เช้าที่สวนสาธารณะ Golden Gardens Park แต่ทว่ามีวันหนึ่งที่มันไม่เหมือนเดิม เหตุเกิดขึ้นเมื่อราวๆ สัปดาห์ที่แล้วเธอถูกโจมตตีโดยชายคนหนึ่งบริเวณห้องน้ำสาธารณะของสวนที่เธอกำลังวิ่งอยู่ ชายคนนี้เข้าจู่โจมเธออย่างกระทันหันหวังจะข่มขืนเธอ ภาพบริเวณสถานที่เกิดเหตุ แต่ทว่าในวินาทีสุดท้าย เธอรวบรวมพลังทั้งหมดสู้กลับไป ปรากฏว่าชายคนนั้นไม่สามารถจะสู้กับเธอได้เลย นั่นเป็นเพราะว่านอกจากเธอจะชอบออกกำลังกายแล้ว เธอยังเคยเข้าคลาสเรียนศิลปะการป้องกันตัวมา จึงรู้วิธีโต้ตอบหากโดนทำร้าย ยัง… เท่านั้นยังไม่พอ นอกจากจะตอบโต้เอาตัวรอดแล้ว เธอยังเก่งถึงขั้นจับเขาขังเอาไว้ในห้องน้ำสาธารณะ และรอตำรวจมา เธอได้บอกว่าตอนนั้นเธอตะโกนใส่ชายคนนั้นด้วยว่า “ฝันไปเหอะ ไอ่@#$%^” สุดท้ายตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ และจับตัวชายคนนั้นไปตามระเบียบ เธอยังโพสภาพของเธอผ่านอินสตาแกรม run_kiwi_run หลังจากที่ไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษานอกจากนี้เธอยังโชว์ภาพของ GPS ที่จับตำแหน่งของเธอได้ในขณะที่เธอถูกโจมตีโดยชายคนนั้น นี้คือสภาพของเธอหลังจากที่สู้กับชายคนนั้น ดูเธอจะไม่เป็นไรมากเลยนะเนี่ย ส่วนนี้คือสภาพของชายคนนั้นหลังจากสู้กับเธอ ดูเละกว่าเธออีก ครั้งหน้าจะเลือกเหยื่ออะ ดูให้ดีนะ แต่ถ้าให้ดีอย่าทำเลยดีกว่า เชื่อพี่เหอะ!! ที่มา boredpanda
-
ตำรวจจับกุม พ่อข่มขืนลูกสาวเลสเบี้ยน โดยอ้างว่า “อยากให้สัมผัสถึงเซ็กส์ที่แท้จริง”!!?
นับว่าเป็นอีกเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญเป็นอย่างยิิ่ง โดยเมื่อวัน 4 มีนาคม สำนักข่าว Metro และ Coventry Telegraph รายงานว่า ตำรวจได้เข้าจับกุมคุณพ่อวัย 54 ปี (ไม่สามารถบอกนามได้) ข่มขืนลูกสาววัย 16 ปี หลังเธอมาปรึกษาเรื่องรสนิยมทางเพศ โดยเหตุการณ์เริ่มหลังจากที่ลูกสาวเข้ามาขอคำปรึกษาพ่อ เกี่ยวกับเรื่องรสนิยมทางเพศของตัวเธอเอง แต่แล้วเมื่อพ่อพบว่าลูกเป็นเลสเบี้ยน จึงบันดาลโทสะทำการข่มขืนเธอ โดยอ้างว่า ‘ต้องการสอนให้รู้ว่ามีเซ็กส์กับผู้ชายยังไงก็ดีกว่า’ หลังเกิดเหตุลูกสาวได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้คนร้ายถูกจับกุมทันที เมื่อตำรวจสืบประวัติพบว่าก่อนหน้านี้ คนร้ายเคยข่มขืนลูกสาวของตนมานานหลายปีแล้ว ล่าสุดศาลได้ตัดสินให้คนร้ายจำคุก 21 ปี ฐานก่อเหตุข่มขืนมาแล้วมากถึง 3 ครั้ง ผู้พิพากษา Andrew Lockhart ได้ให้การในชั้นศาลว่า ‘ลูกสาววัย 16 ปี พบว่าตนเองเป็นเลสเบี้ยน และสับสนกับการค้นหาตัวตนของเธอเหมือนหลายๆ คนในช่วงวัยนี้ เธอเลือกที่จะมาขอคำปรึกษาคุณ แต่คุณกลับใช้บันดาลโทสะข่มขืนเธอ โดยอ้างว่าจะสอนให้เธอเข้าใจว่าทำไมถึงควรมีเซ็กส์กับผู้ชาย การกระทำครั้งนี้นับว่าเป็นสิ่งที่เลวทราม และเป็นความอัปยศอดสู ศาลจึงขอตัดสินให้ชดใช้โทษเป็นเวลา 21 ปีเต็ม’ …
-
อดีตนักรบ ISIS สารภาพความผิด สังหารคนไป 500 ศพและข่มขืนหญิง 200 คน เพราะ “ใครๆ ก็ทำกัน”
“มันเป็นเรื่องธรรมดา ที่ใครๆ ตรงนั้นก็ทำ… ผมเองก็เช่นกัน” – Amar Hussein เราอาจจะเคยได้ยินข่าวถึงความรุนแรงของกลุ่ม ISIS อยู่บ่อยครั้ง แต่มีไม่มากที่จะได้ฟังเรื่องเล่าเหล่านั้นจากปากของผู้กระทำเหตุต่างๆ หรือที่พวกเขาเรียกกันว่านักรบของกลุ่ม และในครั้งนี้จะพาไปรู้จักชายชื่อว่า Amar Hussein อดีตนักรบ ISIS ที่ถูกจับในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จากการกวาดล้างในเมืองคีร์คูก ซึ่งเขาเล่าว่าในช่วงที่เขาใช้เวลาอยู่ในคุก เขาได้อ่านอัลกุรอานทุกวันจนทำให้เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขาสำนึกผิดและออกมาบอกเล่าถึงสิ่งที่เขาทำลงไปในอดีต เขาได้ข่มขืนหญิงสาวราวๆ 200 ในขณะที่เขาไปบุกปล้นหมู่บ้านต่างๆ ในอิรัค ช่วงที่กองทัพของเขาเรืองอำนาจ เรื่องเหล่านี้คือสิ่งปกติที่นักรบวัยคะนองทั้งหลายทำกัน แน่นอน เขาคือหนึ่งในคนบาปเหล่านั้น เขายังบอกอีกว่า ผู้บังคับบัญชาของเขาอนุญาติให้เหล่านักรบทุกคนสามารถที่จะข่มขืนหญิงสาวชาวยาซีดีกี่คนก็ได้ แล้วแต่พวกเขาจะพอใจ เป็นเรื่องแน่นอนที่นักรบวัยรุ่นอยากจะทำเรื่องพวกนี้ พวกเขาจึงบุกปล้นและข่มขืนผู้หญิง บ้านต่อบ้านไปเรื่อยๆ ทหารชาวเคิร์ดรายงานว่ามีหลักฐานถึงการฆ่าและข่มขืนของ Amar แต่ก็ไม่รู้ว่าจำนวนที่แท้จริงแล้วอยู่ที่เท่าไหร่ รู้เพียงแค่ว่านักรบของกลุ่ม ISIS ข่มขืนผู้หญิงชาวยาซีดีเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นพวกเขายังลักพาตัวหญิงสาวเหล่านั้นไปด้วย แต่ถ้าเกิดพวกเขาพบเจอผู้ชาย พวกเขาจะฆ่าผู้ชายเหล่านั้นทิ้งทันที นอกจากนี้ Amar ยังพูดอีกว่า “ผมฆ่าคนไปราวๆ 500 คน ข่มขืนไปอีก…
-
สาวผู้ตกเป็นทาสเซ็ก ISIS บอกเล่าประสบการณ์ถูกบำเรอกาม ต่อหน้าลูกของเธอเอง!?
เรารู้จัก ISIS ในฐานะกลุ่มผู้ก่อการร้ายซึ่งมีชื่อในด้านลบตามสำนักข่าวต่างๆ อยู่เสมอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ได้สังหารคนบริสุทธิ์ และทำลายชีวิตของใครหลายๆ คนมาแล้วมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Hanan หญิงชาวอาหรับที่นับถืออิสลามนิกายสุหนี่ผู้โชคร้าย ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยถูกกลุ่ม ISIS ทำลายชีวิตของเธอโดยการข่มขืน และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ เธอถูกคนเหล่านั้นข่มขืนต่อหน้าลูกๆ ของเธออีกด้วย วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยชะตากรรมที่แสนเลวร้ายของ Hanan หญิงวัย 26 ปี ผู้ซึ่งสามีหลบหนีออกจากเมือง Hawijah ไปก่อนหน้า แต่เธอและลูกๆ ต้องแยกจากสามี เธอถูกกลุ่ม ISIS ทำร้ายอย่างทารุณ หลังจากที่ถูกจับพร้อมกับผู้หญิงอีก 50 คน เหตุเพราะพยายามหลบหนีไปที่เมือง Hawijahในอิรัก โดยทางคนในกลุ่มดังกล่าวได้อ้างกับเธอว่า การที่สามีของเธอหนีไป ทำให้เธอไม่ได้เป็นมุสลิมอีกต่อไป และจะต้องแต่งงานกับ ISIS คนหนึ่ง และเมื่อเธอปฏิเสธเพราะว่านั่นไม่ใช่หลักคำสอนที่ถูกต้อง พวกเขาจึงได้จับเธอไปทรมาน ทั้งเฆี่ยนตี และข่มขืน “ผู้ชายคนเดิมเข้ามาข่มขืนฉันทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือนโดยไม่ได้เอาผ้าปิดตา แถมยังทำต่อหน้าลูกๆ ของฉัน ซึ่งลูกสาวของฉันต้องทุกข์ทรมานจากความพิการทางสมอง…
-
จดหมายสุดท้ายของหญิงสาว… ตัดสินใจจบชีวิต เพราะถูกกลั่นแกล้ง-ข่มขืนอย่างโหดร้าย
Cassidy Trevan เป็นชื่อของหญิงสาววัย 15 ปี จากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ที่ต้องมาเจอกับเรื่องราวอันแสนเลวร้ายในชีวิต หลังจากที่ถูกคนใจร้ายรังแก และข่มขืนในตอนที่เธออายุได้เพียง 13 ปีเท่านั้น เหตุนี้จึงทำให้เธอได้ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเอง จนนำมาสู่เรื่องราวอันแสนเศร้าที่ทำให้หลายคนถึงกับใจสลาย วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้นำเรื่องราวของ Cassidy มาเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ก็ทำให้บรรดาชาวเน็ตต่างก็พากันโศกเศร้า และเสียใจไปตามๆ กันที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งต้องมาจบชีวิตลงเพราะความโหดร้ายของมนุษย์ จากการรายงานระบุว่า ก่อนที่ Cassidy จะเสียชีวิต เธอได้เขียนจดหมายลาตาย เพื่อเป็นคำเตือนให้กับนักเรียนคนอื่นๆ ที่โรงเรียนของเธอ โดยมีข้อความดังต่อไปนี้… “ฉันชื่อ Cassidy Trevan และฉันถูกข่มขืน ฉันเป็นนักเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ฉันถูกนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่โรงเรียนเดียวกันข่มขืน จุดประสงค์ที่ฉันเขียนจดหมายขึ้นมาก็เพราะฉันอยากจะออกมาเตือนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น (รวมถึงผู้ปกครองด้วย) เพราะฉันกลัวว่าพวกเขาอาจจะทำกับนักเรียนคนอื่นๆ เหมือนที่ทำกับฉัน… สำหรับคนที่ข่มขืน กลั่นแกล้งฉัน และทำให้ฉันถูกข่มขืน ฉันไม่ได้ต้องการที่จะแก้แค้น แต่เพียงแค่อยากจะออกมาเตือนนักเรียนในโรงเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 7-12 ปี เพราะฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับใครอีก หลังจากที่เกิดเรื่องฉันเลยอยากออกมาเตือน…
-
หญิงสาวอธิบายความต่าง “การข่มขืน” และ “สมยอม” ให้เข้าใจใน 5 ประโยค จนคนถูกใจล้นหลาม
ภาพหน้าปกจาก: กลุ่มนักเรียนถ่ายภาพสุดสะเทือนใจ สะท้อนปัญหา “นักโทษข่มขืน” ที่ถูกปล่อยตัวเร็วเกินไป!! หลายๆ คนยังคงแยกความแตกต่างกันระหว่างคำว่า “ข่มขืน” กับ “การสมยอม” ไม่ออก ผู้ชายหลายๆ คนยังคงเข้าใจว่ามันก็เป็นเพียงการมีเพศสัมพันธ์เหมือนกันมันไม่เห็นจะต่างกันตรงไหน แต่วันนี้เราจะมาอธิบายความแตกต่างของมันให้เข้าใจกัน โดยเมื่อไม่นานมานี้เราได้ไปเจอกับทวิตเตอร์ของหญิงสาวนางหนึ่งที่มียูสเซอร์เนมว่า @thatxxv โดยเธอได้อธิบายถึงความแตกต่างของสองคำนี้ได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว เราลองไปอ่านข้อความของเธอกันเลย “ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมการข่มขืนมันดูเข้าใจยากสำหรับผู้ชายบางคน แต่ถ้าเอาตัวอย่างพวกนี้ให้ดูพวกเขาจะเข้าใจได้ทันทีเลยล่ะ” “ถ้าคุณมาขอเงินฉัน 5 ดอลลาร์ และฉันเมาเกินกว่าที่จะตอบตกลงหรือปฏิเสธ แต่คุณก็ยังถือวิสาสะเอาเงินฉันอีก เพียงเพราะว่าแค่ฉันไม่ได้ปฏิเสธงั้นเหรอ!?” “ถ้าคุณเอาปืนมาจ่อหัวฉันแล้วบอกให้ฉันเอาเงินให้คุณ 5เหรียญ คุณก็ยังถือว่าขโมยเงินอยู่ดี ถึงแม้ฉันจะยื่นเงินให้คุณเองก็ตาม” “ถ้าฉันให้คุณยืมเงิน 5 เหรียญ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเพื่อนคุณจะมีสิทธิ์มาหยิบเงิน 5เหรียญไปจากกระเป๋าเงินของฉัน” โดยบอกว่า ‘ก็คุณให้เขาแล้วทำไมผมจะขอบ้างไม่ได้!?’ “ “ถ้าคุณมาขโมยเงินฉัน 5 เหรียญ และฉันไม่สามารถพิสูจน์ได้ในศาลก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ได้ขโมยเงิน 5 เหรียญ ปจากฉัน” “เพียงแค่เมื่อก่อนฉันเคยให้เงินคุณ 5 เหรียญ ไม่ได้หมายความว่าฉันจะให้ 5 เหรียญกับคุณอีกในอนาคต”…
-
คลิปสารคดีต้านการข่มขืน สร้างจากเหตุการณ์จริงของ Kayleigh ดีจนชาวเน็ตร่วมใจกันแชร์
ปัญหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศนั้นก็เรียกได้ว่าสามารถพบเจอได้ในทุกๆ พื้นที่บนโลก และหนึ่งในเรื่องที่น่าเศร้าสลดอย่างยิ่งก็คือเรื่องราวของสาวน้อยคนนี้… Kayleigh Haywood คือสาวน้อยวัยเพียง 15 ปี ที่ถูก Stephen Beadle ข่มขืนแล้วฆ่า ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2015 ที่ผ่านมา สร้างความเศร้าสลดให้กับทุกๆ คนเป็นอย่างมาก Luke Harlow คือหนุ่มใหญ่เพื่อนบ้านที่เข้ามาจีบเธอด้วยการส่งข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ก่อนที่จะลวงไปล่วงละเมิดทางเพศ ร่วมกันกับ Stephen เพื่อนของเขา Kayleigh Haywood เหยื่อของโศกนาฏกรรมนี้ Stephen Beadle (ซ้าย) ผู้สังหาร และ Luke Harlow (ขวา) ผู้ล่อลวงเด็กสาว Beadle ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืน และฆาตกรรม ส่วน Harlow ถูกตัดสินจำคุก 12 ปีเต็มด้วยข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวและพรากผู้เยาว์ และเรื่องราวของเธอจะถูกทำเป็นภาพยนตร์ขึ้น และจะต้องมีใบอนุญาตกว่า 15 แบบด้วยกันเพื่อที่จะได้เข้าฉายในโรง หลังจากทีเซอร์ได้ถูกแชร์ลงใน Youtube ก็มียอดวิวของผู้เข้าชมเพิ่มสูงขึ้นทุกๆ วัน เหล่าผู้ใช้ยูทูปหลายรายได้เข้ามาให้กำลังใจและชื่นชมพ่อแม่ของ Kayleigh…
-
สื่อนอกตีข่าว แก๊งค์ 3 สาว รวมตัวกันวางแผนข่มขืนนักฟุตบอลหนุ่ม นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!!?
ต้องบอกตรงๆเลยว่า ส่วนตัว #เหมียวบ็อบ หน่ะอิจฉ๊าา อิจฉา ทั้งๆที่รู้ว่ามันผิด เพราะหลังจากได้อ่านข่าวนี้แล้ว ก็อยากจะสวมบทเป็นนักฟุตบอลหนุ่มกับเค้าบ้างจริงๆ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2559 สำนักข่าว Metro ได้รายงานว่า มีหญิงสาว 3 คน รวมกลุ่มกันออกมาลวงนักฟุตบอลชายหนุ่มวัย 20 ไปข่มขืน ซึ่งแน่นอนล่ะว่าเรื่องนี้มันผิดกฏหมายล่วงละเมิดทางเพศอย่างเห็นได้ชัด!! ภาพจากสถานที่ๆ คนร้ายใช้ก่อเหตุ จากการรายงานข่าวระบุว่า ผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 3 คนได้แก่ Brogan Gillard วัย 26 ปี Paige Cunningham วัย 22 ปี และ Shannon Jones วัย 20 ปี 3 ผู้ต้องหาได้ให้การสารภาพกับชั้นศาลว่า พวกเขาได้ทำการลวงนักฟุตบอลหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายวัย 20 ปี ไปที่บ้านพักของตน หลังได้เจอกันในคืนวันหนึ่ง ซึ่งเป็นคืนเดียวกับที่ผู้เสียหายได้ทำการแข่งขันฟุตบอลเสร็จเรียบร้อยแล้ว (พูดง่ายๆ ว่าแข่งเสร็จแล้วไปฉลองนั่นแหละ) Brogan…
-
สาวเลบานอน ประท้วงรัฐบาลร่างกฎหมายใหม่ ที่บังคับให้เหยื่อถูกข่มขืน แต่งงานกับผู้ก่อเหตุ
การเป็นหญิงสาวในประเทศเลบานอนอาจจะไม่ใช่เรื่องที่โชคดีเท่าไหร่นะ เพราะที่เลบานอนเองมีข่าวคราวเกี่ยวกับหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายและข่มขืนแทบจะรายวันทีเดียว ในปี 2009 มีรายงานว่ามีเด็กหญิงชาวบังกลาเทศถูกฆ่าตายในเลบานอนถึง 11 ศพ โดยส่วนใหญ่มีร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกาย และในปีเดียวกันนี้เองยังมีข่าวว่าเด็กสาวชาวเนปาลที่เดินทางไปทำงานในเลบานอนได้ฆ่าตัวตายไปถึง 15 คน ซึ่งมีการสันนิษฐานกันว่าอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องของการข่มขู่ทางเพศ ล่าสุดได้มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศอย่าง Independent บอกว่าทางรัฐบาลของเลบานอนได้เตรียมที่จะออกร่างกฎหมายให้หญิงสาวที่ถูกข่มขืนต้องแต่งงานกับผู้ที่ข่มขืนพวกเธอ ตามพระราชบัญญัติฉบับเก่าจากปี 1940 ของเลบานอนได้ระบุเอาไว้ว่าหากใครฝ่าฝืนกฎหมายข้อนี้ จะต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 7 ปี และยิ่งหากเป็นผู้เยาว์ หรือผู้ที่มีอาการทางจิตหรือผู้ป่วยไม่ว่าจะในลักษณะใดก็ตาม ก็จะมีโทษเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ในกฎหมายใหม่มาตราที่ 522 ได้สร้างช่องโหว่ทางกฎหมายขึ้น โดยระบุว่าผู้ที่กระทำชำเราผู้อื่นจะได้รับการละเว้นโทษ หากชายคนนั้นยอมแต่งงานกับฝ่ายหญิงเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ แต่ร่างพรบ.ที่ว่านี้กลับทำให้หญิงสาวในเลบานอนไม่พอใจอย่างมาก และคิดว่านั่นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุที่ไม่น่าจะช่วยลดคดีการข่มขืนลงได้ ในวันอังคารที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา หญิงสาวเกือบสิบคนจึงได้ออกมาร่วมกันต่อต้านกฎหมายใหม่นี้ ด้วยการสวมชุดเจ้าสาว พร้อมกับมีผ้าพันแผลไว้รอบตัวและมีเลือดปลอมเปื้อนตามร่างกาย ยืนอยู่ที่ด้านนอกของอาคารรัฐสภาพในเมืองเบรุต เพื่อแสดงออกว่าพวกเธอไม่เห็นด้วยกับกฎหมายใหม่นี้ นางสาว Ghida Anani ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มในการต่อต้านครั้งนี้ได้กล่าวว่า “เราขอปฏิเสธการการละเมิดสิทธิของผู้หญิงโดยไม่คำนึงถึงอายุ พื้นเพ หรือสภาพแวดล้อม” Anani ยังบอกอีกว่าเธอไม่ชอบข้อเสนอของรัฐบาลเป็นเหมือนการซ้ำเติมผู้เคราะห์ร้ายมากกว่า “นี่มันเหมือนกับการพูดว่าผู้เคราะห์ร้ายซ้ำกันสองครั้ง พวกเธอต้องใช้ชีวิตร่วมอยู่กับคนที่ละเมิดสิทธิของพวกเธอ และนั่นเป็นเหตุให้เกิดการข่มชืนกันทุกวันๆ”…
-
หญิงตุรกีแห่ประท้วง หลังรัฐบาลเตรียมออกกฎหมาย ‘ข่มขืนแล้วแต่งงาน’ ถือว่าไม่มีความผิด?!?!
เรามักจะได้รับทราบข่าวเกี่ยวกับคดีข่มขืนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยของเราเองที่ปัญหานี้มีให้เห็นวนเวียนอยู่ตลอดตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลง ทีนี้จะขอพาข้ามไปรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการเรื่องกฎหมายการข่มขืน ในประเทศอย่างตุรกีกันบ้าง… กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตในประเทศตุรกี หลังจากมีความพยายามเสนอร่างกฎหมายใหม่ ที่เหล่าผู้ที่กระทำผิดล่วงละเมิดทางเพศ (รวมทั้งข่มขืน) อาจพ้นผิดได้ หากผู้กระทำยอมแต่งงานกับเหยื่อ จนมีผู้ออกมาประท้วงจำนวนมากในกรุงอังการา ประเทศตุรกี กฎหมายดังกล่าวมีใจความที่สรุปคร่าวๆ ว่า หากผู้ชายกระทำการล่วงละเมิดทางเพศเล็กๆ น้อยๆ หรือ ไม่ได้มีการ “ขู่เข็ญ” หรือ “บังคับ” หรือแม้กระทั่งได้มีการกระทำแล้ว แล้วรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับเหยื่อ ก็จะถือว่าไม่มีความผิด แน่นอนว่าเมื่อมีการระบุแบบนี้ในกฎหมายทีเตรียมออกมา ย่อมมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาค่อนข้างมาก และเกิดการประท้วงขึ้นมา หลังจากมีการประท้วง ทางรัฐบาลได้เลื่อนการพิจารณาออกกฎหมายออกไปก่อน และจะมีการพิจารณาในสภาอีกครั้งในวันข้างหน้า ทางกลุ่มผู้ต่อต้านได้ออกมากล่าวว่า “การล่วงละเมิดทางเพศถือว่าเป็นอาชญากรรม และมันไม่ควรถูกยอมรับ นั่นเป็นสิ่งที่พรรค AK (พรรคที่เป็นรัฐบาลขณะนี้) ไม่เข้าใจ การยอมรับการล่วงละเมิดทางเพศเป็นสิ่งที่ใครที่ไหนเขาก็ไม่ยอมรับกันหรอก” ขณะเดียวกัน Binali Yildirim นายกรัฐมนตรีของตุรกี ที่สนับสนุนกฎหมายใหม่ดังกล่าว ได้ออกมาให้เหตุผลว่า เจตนาของกฎหมาย ก็เพื่อมาแก้ปัญหาต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงข้อดีหากมันออกมา ตัวอย่างเช่น…
-
กลุ่มนักเรียนถ่ายภาพสุดสะเทือนใจ สะท้อนปัญหา “นักโทษข่มขืน” ที่ถูกปล่อยตัวเร็วเกินไป!!
เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีข่าวที่มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่า Brock Turner ซึ่งเขาเป็นนักศึกษาอยู่ที่ Stanford University ในแคลิฟอร์เนีย โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเขาถูกศาลตัดสินให้จำคุก 6 เดือนในข้อหาข่มขืนหญิงสาวที่กำลังหมดสติ ส่งผลทำให้ชาวเน็ตไม่พอใจกับคำตัดสิน เพราะว่าโทษเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น หลังจากที่ Brock Turner ถูกปล่อยตัวออกมาในวันที่ 2 กันยายน หลายคนรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เพราะกลับกลายเป็นว่าโทษของเขาได้ลดลงมาอีกครึ่งหนึ่งด้วย ด้วยความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ Yana Mazurkevich นักศึกษาวัย 20 ปีที่ Ithaca College ในนิวยอร์กได้ตัดสินใจสร้างภาพถ่ายซีรีส์หนึ่งขึ้นมาใช้ชื่อว่า “It Happened” โดยในภาพเป็นภาพที่เราเห็นแล้วรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เธอสร้างภาพชุดนี้ขึ้นมาเพื่อให้คนตระหนักถึงภัยและบทลงโทษที่น้อยเกินไปสำหรับคดีข่มขืน เพราะนอกจากจะจำคุกไม่กี่เดือนแล้ว ยังได้รับลดโทษอีกด้วย เราไปชมภาพชุดนี้ของเธอกันเลย . . . . . . . . ถือเป็นการเรียกร้องอีกแบบหนึ่งที่สร้างสรรค์เป็นอย่างมาก ให้ภาพได้เล่าเรื่องทั้งหมดและเข้าถึงทุกคนได้ง่ายมากขึ้น เพราะมันเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนก็ตาม ที่มา boredpanda
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ละคร “แรงตะวัน” แฝงความรุนแรงต่อหญิงสาว ที่เราชินชาโดยไม่รู้ตัว!?
แรงไม่หยุดจริงๆ สำหรับละครแรงตะวัน ที่ออกฉายทางช่อง 3 ทุกวันพุธ-พฤหัส แต่ดูเหมือนว่าตอนล่าสุดจะกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตไปซะแล้วล่ะ เพราะในละครนั้นมีฉากการใช้ความรุนแรงในหญิงสาว แต่กลับได้รับคำชื่นชมจนมองข้ามความรุนแรงไป? กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ทีเดียว เพราะเมื่อวันพุธที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่าคุณ Nannielion ได้เข้ามาตั้งกระทู้ชื่นชมเกี่ยวกับละครแรงตะวัน ที่มีอั้ม อธิชาติ (รับบทนายภู)และชิปปี้ ศิรินทร์ ปรีดียานนท์ (รับบทเคท)แสดงนำ โดยในเนื้อหากระทู้ได้พูดถึงละครแรงตะตอนที่ 6 ที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่การแสดงของพระนางเข้าขากันได้ดี ถึงพริกถึงขิง พร้อมกับแคปฉากที่นายภูกำลังจะบีบคอเคท และฉากที่นางเอกถูกขึงพืดอยู่กับพื้น ทำเอาแฟนๆ ถึงกับฟินจิ้นกระจาย . . หลังจากที่ฉากละครนี้ออกอากาศไปได้ไม่นาน แฟนๆ ในเว็บไซต์พันทิปก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงชื่นชมการแสดงของอั้มที่ทั้งเถื่อนและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน พร้อมทั้งชื่นชมในการกำกับของคุณไก่วรายุฑ พร้อมทั้งชื่นชมในการกำกับของคุณไก่วรายุฑมที่ทำออกมาได้ลงตัวถูกใจแฟนๆ ละคร . . . แต่เนื่องจากในช่วงนี้มีกระแสข่าวเกี่ยวกับคุณครูสาวคนหนึ่งที่ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตคาห้องพักของตัวเอง เกิดเป็นกระแสสะเทือนขวัญที่ชาวเน็ตต้องออกมารณรงค์ ข่มขืน = ประหาร ทำให้หลายๆ คนมองว่าความรุนแรงในละครเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนัก ล่าสุดเฟซบุ๊กเพจ โจ๊กเกอร์ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า “หลายวันก่อนรณรงค์…
-
ชุดภาพเสียดสี “ประโยคกระแทกใจ” ต้านการข่มขืน ไม่ว่าจะยังไง คุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำ!!
ในต่างประเทศเช่นสหรัฐอเมริกา มีการก่อคดีข่มขืนขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แต่หญิงสาวก็มักจะออกมาตอบโต้ด้วยการฟ้องร้อง แต่หญิงสาวเหล่านั้นก็มักจะถูกตอกกลับจากทหารของฝ่ายจำเลยด้วยถ้อยคำซ้ำๆ เดิมๆ เช่น “คุณแต่งตัวโป๊ไป” “คุณดื่มจนเมา” “คุณดูเป็นมิตรเกินไป” เพื่อให้สำนวนของคดีนั้นๆ ดูเบาลง การออกมาป้องกันตนเองด้วยถ้อยคำเหล่านี้ ทำให้ช่างภาพสาวที่ชื่อว่า Yana Mazurkevich ถึงกับทนไม่ได้ จึงปิ๊งไอเดียจับสาวๆ มาถ่ายภาพเสียดสีพร้อมกับให้พวกเธอถือป้ายไวท์บอร์ด (ที่เขียนข้อความประชดประชันถึงข้ออ้างที่ผู้ก่อชอบอ้าง) ลองไปดูกันว่ามีข้อความอะไรกระแทกใจเราบ้าง? “กระโปรงของฉันสั้นไป” “ฉันไม่ควรดื่มจนเมาเลย” “ฉันควรจะคิดล่วงหน้ามาก่อนแล้วว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น” “ฉันไม่ควรเดินคนเดียวเลย” “ฉันดูเป็นมิตรมากเกินไป” “ฉันไม่ปฏิเสธแฟนเอง” “ฉันควรจะรู้วิธีป้องกันตัวเองนะ” “ฉันผิดเองแหละ ฉันเมา” ข้ออ้างเหล่านี้ดูเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะใช้มาอ้างสำหรับการก่อเหตุได้เลยนะ ไม่ว่าใครก็ไม่ควรจะถูกข่มขืนทั้งนั้น ที่มา metro
-
อาจารย์ฝรั่งเขียนบทความ วัฒนธรรมการ ‘ข่มขืน’ ในประเทศไทย ที่สื่อนำเสนอให้กลายเป็นเรื่อง ‘ธรรมดา’ !!?
จะว่าไปแล้วเรื่องนี้ราวกับว่าฝังรากลึกในสังคมไทยไปแล้วนะเนี่ย กับเรื่องการ ‘ปล้ำ’ การ ‘ข่มขืน’ ที่มีให้เห็นกันอย่างบ่อยๆ ทั้งในข่าวและละคร จนบางทีคนอาจนึกว่าเป็นเรื่องธรรมดากันไปซะแล้ว…ซึ่งที่จริงเป็นสิ่งที่ผิดอย่างมาก!!! สำหรับวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็ไปเจอบทความดีๆ ของอาจารย์ชาวต่างชาติคนหนึ่งที่มาสอนในเมืองไทย และก็ต้อง ‘อึ้ง’ กับคำพูดที่นักเรียนกลุ่มหนึ่งของเธอใช้ ถึงแม้จะเป็นเรื่องล้อเล่นก็เถอะ เพราะมันแสดงออกให้เห็นถึงความคิดหลายๆ อย่างเลยทีเดียว… โดยนักเรียนชายที่เธอสอนได้กล่าวกับเธอว่า ‘ถ้าจารย์ไม่ให้ผมผ่านวิชานี้ผมปล้ำจารย์เลยน้าาา’ ซึ่งเจ้าหน้าที่หญิงคนอื่นก็อยู่ในเหตุการณ์และก็หัวเราะคิกคักกับการล้อเล่นที่เกิดขึ้น อาจารย์ท่านนี้เธอก็แปลกใจอย่างมาก ไม่ใช่ว่าเธอไม่เข้าใจภาษา แต่สิ่งที่เธอไม่เข้าใจคือเรื่องแบบนี้มาเป็นมุกตลกได้ยังไงเสียมากกว่า… ภาพจากเรื่องเสน่หาสัญญาแค้น นาคินทร์ข่มขืนปานตะวัน เธอจึงศึกษาลงไปในเรื่องนี้ให้ลึกขึ้น ก็พบว่าในประเทศไทยสองคำที่มีความหมายในเชิงล่วงละเมิดบังคับขืนใจทางเพศก็คือ ‘ปล้ำ’ และ ‘ข่มขืน’ ซึ่งปล้ำจะฟังแล้วดูซอฟต์กว่า ส่วนข่มขืนจะดูรุนแรงและกลายเป็นความผิดมากกว่า กระนั้นคำว่า ‘ปล้ำ’ เหมือนจะเป็นคำที่ถูกยอมรับโดยสังคมไทย เพราะหลังจากการปล้ำจะเกิดความผูกพันซึ่งกันและกันมากขึ้น โดยเฉพาะในละครไทยเกือบจะทุกๆ เรื่อง ที่นางเอกจะต้องถูกปล้ำ… ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง กร้าวพยายามข่มขืนอร ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมาหลังจากนั้นจะกลายเป็นว่านางเอกรู้สึกว่าตัวเองถูกครอบครองโดยผู้ชายที่ปล้ำเธอ และพระเอก (ผู้ปล้ำ) จะรู้สึกผิดที่กระทำการล่วงเกินเธอเลยทำให้เกิดเป็นข้อผูกมัดที่ต้องดูแลห่วงหาอาทรนางเอก ซึ่งอาจเป็นได้เพราะประเพณีไทยที่ให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัวถึงแม้จะชอบเขาก็ตาม บทละครเลยต้องให้ผู้ชายต้องปล้ำพวกเธอ เพื่อกรุยทางสู่ความสัมพันธ์ของพวกเขาหลังจากนั้น …
-
จดหมายเปิดผนึกถึง ‘ผู้ข่มขืน’ กับความในใจอันบอบช้ำ ‘คุณเป็นอิสระ แต่ฉันถูกจองจำทั้งเป็น’
เรื่องของการข่มขืนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีการรณรงค์และต่อต้านมากมายซักเพียงใดก็ตาม ก็ยังคงเป็นปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นรายวัน บางครั้งก็สามารถจับกุมผู้กระทำได้ แต่ส่วนมากแล้วก็ไม่อาจทำอะไรได้เลย เหลือเพียงแต่ร่างกายและจิตใจที่ถูกทำร้าย เป็นแผลลึกที่ฝังอยู่ในจิตใจเหยื่อที่ถูกข่มขืน ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถลบเลือนไปได้เลยนั้น จะต้องได้รับการเยียวยาอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยก็ทำให้รู้สึกได้ว่ายังมีชีวิตอยู่และก้าวข้ามผ่านความทุกข์ทรมานไปให้ได้ อย่างเช่นเรื่องราวของเหยื่อข่มขืนรายหนึ่งที่ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกไปถึงผู้ที่ข่มขืนเธอ ด้วยใจความที่ว่า ‘คุณเป็นอิสระ แต่ฉันถูกจองจำทั้งเป็น’ ภาพประกอบโดย Aleksandra Waliszewska ในขณะที่ฉันกำลังเลือกเสื้อผ้าเพื่อที่จะไปงานปาร์ตี้ในยามค่ำคืน ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้องเป็นคืนที่น่าจดจำ เป็นประสบการณ์ช่วงชีวิตมัธยมอย่างที่มันควรจะเป็น แค่คุณแม่ของฉันก็ยังอดห่วงไม่ได้ ไม่อยากให้ไปงานปาร์ตี้ ‘แม่กลัวว่าลูกจะรับมือมันไม่ไหว’ แต่ฉันก็บอกไปว่า ‘มันจะเป็นคืนที่วิเศษที่สุดอย่างแน่นอน จะได้สัมผัสกับอิสระและชีวิตวัยรุ่นที่มันเป็นของจริง’ ซึ่งจริงๆ แล้วฉันก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่า หนทางข้างหน้าต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เขาคนนั้นเป็นสิ่งแรกที่ฉันเจอภายในคืนนั้น ยืนรออยู่ในมุมของห้องด้วยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ เป็นสัตว์ประหลาดที่จะเปลี่ยนชีวิตของฉันไปตลอดกาล ถึงแม้ว่าจะได้ยินเรื่องราวอะไรมามากมาย ฉันก็ยังคงเชื่อว่าความเป็นมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ดี ดวงตาสีฟ้าเข้มที่มองเข้ามา ทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้เลย และในค่ำคืนนั้นเองเวลาผ่านไปเร็วมากในตอนแรก ภาพมันเบลอไปหมดด้วยฤทธิ์ของยาและเหล้า เมื่อฉันกลืนเหล้าลงคอไปแล้ว เขาก็เริ่มขยับเข้ามาใกล้มาขึ้น ราวกับอีแร้งที่รอให้เหยื่อหมดลมหายใจ ในไม่ช้าผนังก็เหมือนพังลงมา กดทับร่างกายระหว่างเขากับฉัน แผ่นหลังเริ่มสูญเสียความแข็งแรง ขาของฉันก็อ่อนแรงเช่นกัน ฉันพยายามตะโกนออกไปว่า ‘ฉันอยากกลับบ้าน ฉันอยากจะนอนแล้ว…
-
เด็กสาววัย 12 ถูกสิงโต 3 ตัวช่วยชีวิตไว้ หลังจากถูกลักพาตัวและบังคับแต่งงาน
ในอีกมุมหนึ่งจองโลก ผู้หญิงชาวเอธิโอเปียมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก พวกเธอต้องอยู่กับความกังวลตลอดชีวิต เนื่องจากมันจะมีกลุ่มคนมาลักพาตัว ข่มขืน และบังคับพวกเธอให้แต่งงาน ได้มีสถิติบอกไว้ว่าการแต่งงานของหญิงสาวชาวเอธิโอเปีย 70% เกิดจากวิธีนี้ทั้งสิ้น เป็นความจริงที่น่าเศร้า และมันก็เกิดขึ้นกับเด็กหญิงวัย 12 ปีคนนี้ด้วย เธอได้ถูกลักพาตัวไปและบังคับให้แต่งงาน แต่แล้วเธอก็ได้รับความช่วยเหลือจากสัตว์นักล่า.. ฟังดูอาจจะเชื่อยากไปหน่อย แต่มันเกิดขึ้นจริง เมื่อมีกลุ่มสิงโต 3 ตัว ได้เฝ้าดูเธออยู่ตลอดวัน ก่อนที่จะถูกช่วยไว้ โดยสิงโตทั้ง 3 ได้เห็นเธอถูกทำร้าย พวกมันก็เลยเข้าไปจู่โจมผู้ชายเหล่านั้น และไล่เขาออกไป ตำรวจได้กล่าวกับสำนักข่าว NBC ว่า “พวกมันปกป้องเธอจนกว่าพวกเราจะเข้าไปพบ และหลังจากนั้นมันก็ทิ้งเธอไว้ พร้อมกับเดินกลับเข้าป่าไป” ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสัตว์ป่า Stuart Williams ได้ออกมาบอกว่า การที่สิงโตไม่ได้ทำอะไรเธอนั้นก็เพราะว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ ถ้าจะให้อธิบายก็คือเสียงร้องของหญิงสาวนั้นเหมือนกับเสียงของลูกสิงโตที่กำลังร้อง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสิงโตไม่ได้ทำร้ายเธอ หลังจากเหตุการณ์นี้ทางตำรวจก็ได้จับกุมผู้ต้องหา 4 คนจาก 7 คนไว้ได้ ที่มา viralnova, NBC