Tag: ข่มขู่
-
แจ็กพอต!! คุณลุงโดดตึกหนีจากชั้น 3 หลังบังเอิญป๊ะ “เจ้าหนี้” ในงานปฐมนิเทศหลาน!!
เรื่องราวของการเป็นหนี้นอกระบบยังเป็นสิ่งที่น่ากลัวในสังคมปัจจุบัน เนื่องจากการทวงหนี้ด้วยวิธีการโหดร้าย เช่น ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ยังเป็นวิธียอดนิยมที่คอยหลอนลูกหนี้นอกระบบทั้งหลายให้ต้องหนีหากไม่มีเงินจ่าย เช่นรายงานข่าวจาก สำนักข่าวไทย เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 นั้นเป็นตัวอย่างหนึ่งของการเป็นหนี้นอกระบบ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งครุ ได้จับกุมตัว นายนพดล โชคอนันต์วณิชย์ วัย 30 ปีในโทษฐานที่เข้าไปทวงหนี้กับลูกหนี้ในลักษณะข่มขู่ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2561 นายนพดลได้พาลูกของตนไปเข้าร่วมปฐมนิเทศนักเรียนใหม่ในโรงเรียนแห่งหนี่ง แล้วบังเอิญพบกับ นายเช้า ฟองธูป วัย 57 ปี ลูกหนี้ซึ่งก็พาหลานของตนเองมาปฐมนิเทศเช่นกัน นายเช้ายืมเงินไปจำนวน 25,000 บาทเป็นเวลา 2 ปีแล้วแต่ยังไม่ชดใช้คืน ทั้งนี้ลูกและหลานของทั้งสองฝ่ายบังเอิญอยู่ร่วมชั้นและร่วมห้องกันอีกด้วย ครั้นพองานปฐมนิเทศสิ้นสุดลง นายนพดลก็เข้ามาทวงเงินกับนายเช้าพร้อมขู่ว่าหากไม่คืนเงินจะใช้มีดแทง ทำให้นายเช้าเกิดกลัวขึ้นมา จึงหนีโดยการกระโดดลงมาจากตึกชั้น 3 จนบาดเจ็บสาหัส หลังจากนายนพดลถูกจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าจะมีการดำเนินคดีกับนายนพดลในข้อหาการทวงถามหนี้โดยวิธีการข่มขู่ ซึ่งจะต้องจำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับไม่เกิน 5…
-
เด็กชายชาวญี่ปุ่นขู่จะแทงพนักงานในโรงเรียน เพราะบังคับให้ใส่ชุดนักเรียนราคาแพง
ดูเหมือนว่าการแต่งกายไปโรงเรียนนั้น จะเป็นปัญหาในหลายๆ ประเทศมากกว่าที่คิด ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะมีข่าว เด็ก 7 ขวบโดนทำโทษเพราะ “ทรงผมไม่เหมาะสม” จากครูที่ “ย้อมผมสีชมพู” กันไป คราวนี้ก็มีข่าว เด็กชายชาวญี่ปุ่นขู่จะแทงพนักงานในโรงเรียน เพราะโดนบังคับให้ใส่ชุดนักเรียนราคาแพงอีก เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อโรงเรียนประถมศึกษา Taimei ซึ่งตั้งอยู่ในย่านชอปปิงสุดหรูของ Ginza ได้ออกนโยบายให้นักเรียนทุกคนในโรงเรียนต้องแต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบนักเรียนที่ผลิตโดยแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของอิตาลี Giorgio Armani เดิมทีแล้วราคาชุดนักเรียนของญี่ปุ่นนั้นก็ค่อนข้างที่จะสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยหากจะซื้อชุดนักเรียนครบทุกฤดูในโรงเรียนปกติ ผู้ปกครองบางครั้งอาจมีค่าใช้จ่ายมากถึง 100,000 เยน (ราวๆ 30,000 บาท) เลยทีเดียว ดังนั้นการตัดสินใจของโรงเรียน Taimei จึงไม่ค่อยจะเป็นที่พอใจของชาวญี่ปุ่นสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับเด็กชายวัย 14 ปีผู้กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมต้นในจังหวัด Tochigi จากการเปิดเผยข้อมูลของตำรวจ เด็กหนุ่มได้ทำการเขียนข้อความขู่ลงบนอินเตอร์เน็ตว่า “(โรงเรียนประถมศึกษา Taimei) ควรปล่อยให้นักเรียนแต่งตัวมาเรียนตามปกติ ถ้าพวกมันไม่ทำผมจะออกไปจะแทงพวกมันด้วยมีดเอง” แม้จะดูเหมือนข้อความล้อเล่น แต่ด้วยความเป็นห่วงในความปลอดภัยของคนในโรงเรียน อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน Taimei จึงตัดสินใจแจ้งเรื่องนี้กับทางตำรวจ ซึ่งต่อมาสามารถสืบสาวกลับไปยังเด็กหนุ่มผู้เป็นคนเขียนข้อความได้ เด็กหนุ่มให้การรับสารภาพโดยบอกว่าทำไปเพราะเขาคิดว่า “มันเป็นเรื่องที่ผิดที่จะสั่งให้เด็กสวมเครื่องแบบที่มีราคาแพงทั้งๆ ที่พวกเขาเป็นเพียงเด็กประถมเท่านั้น” ดูเหมือนว่าทางโรงเรียนจะมีการยื่นฟ้องต่อนักเรียนหนุ่มที่กระทำผิดในข้อหาเกี่ยวกับการคุกคาม แต่ในขณะนี้ดูเหมือนว่าคดีจะปิดลงไปด้วยดีแล้ว อย่างไรก็ตามจากกระแสที่เกิดขึ้นนั้น คาดว่าโรงเรียนประถม Taimei อาจจะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเรื่องนโยบายการแต่งกายเป็นแน่ โดยเฉพาะจากชาวอินเตอร์เน็ตของญี่ปุ่น…
-
เพลิงแค้น!!! หนุ่มล้างแค้นแฟนเก่า เอาข้อมูลไปโพสต์ในเว็บขายตัว สุดท้ายโดนจับเสียเอง
นับเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่นเมื่อมีพบก็ต้องมีพราก เมื่อมีรักก็ย่อมมีวันเลิกรา แต่แทนที่เลิกกันไปแล้วจะต่างคนต่างใช้ชีวิตหรือกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม กลับมีบางคู่ที่เจ้าคิดเจ้าแค้น อยากจะทำร้ายชื่อเสียงของอื่นฝ่ายให้ป่นปี้ให้ได้ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วสิ่งเหล่านั้นก็กลับมาทำร้ายตัวเองในที่สุด ชายหนุ่มวัย 23 ปีนามว่า Thomas Traficante นั้นถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดข้อหาตามรังควานอดีตแฟนสาวบนอินเตอร์เน็ตและมียาเสพติดไว้ในครอบครอง เนื่องจากเขาได้นำข้อมูลส่วนตัวของเธอไปโพสต์ลงเว็บไซต์ขายบริการและส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ไปยังที่อยู่ของเธอที่มหาวิทยาลัย Geneseo ที่รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ถึง 3 ครั้ง ข้อมูลส่วนตัวที่ Traficante ได้โพสต์บนเว็บไซต์ขายบริการนั้นเป็นเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว รูปถ่ายและตำแหน่งปัจจุบันของอดีตแฟนสาว ซึ่งเธอก็ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้งว่าเธอได้รับสายจำนวนมากจากผู้ชายที่ต้องการมีเซ็กส์กับเธอ นอกจากนั้นเขายังส่งข้อความข่มขู่ที่จะทำร้ายร่างกายอีกมากมายให้กับแฟนเก่าของเขา เพื่อนร่วมชั้นและรูมเมทของเธอที่อาศัยอยู่ด้วยกันที่หอพัก . ทางตำรวจมหาวิทยาลัยได้ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่มีหมายเลขพื้นที่ 585 และพบว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์ที่ใช้บริการออนไลน์และไม่ได้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ หลังจากนั้นเขาก็ถูกจับข้อหาคุกคามบนโลกออนไลน์และข้อหาข่มขู่ เมื่อเขาส่งพัสดุที่เป็นยาเสพติดให้กับเหยื่อ เขาก็ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ โดยหวังว่าตำรวจจะจับเธอข้อหามียาเสพติดในครอบครอง นอกจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ FBI ก็พบปืนกลกึ่งอัตโนมัติ AR-15 ที่เขาครอบครองอย่างถูกกฎหมายอีกด้วย คนสมัยนี้นี่น่ากลัวจริงๆ ยิ่งกฎหมายการควบคุมอาวุธปืนที่ค่อนข้างอ่อนในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย โชคดีที่เขาโดนจับก่อน ไม่งั้นอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นได้เลยทีเดียว ที่มา Dailymail
-
นักกอล์ฟสาวถูกคุกคาม ขู่เอาชีวิตจากกรณีใส่เสื้อโชว์ ‘เนินภูผา’ มากเกินไปในสนาม!?
นักกอล์ฟหญิง Paige Spiranac ได้ถูกคุกคาม และข่มขู่ด้วยการหมายเอาชีวิต โดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย แต่นั่นเป็นเพราะรูปลักษณ์ของเธอในฐานะนักกีฬากอล์ฟต่างหาก… เธอกล่าวว่าชื่อเสียงของเธอที่ทำให้มีผู้ติดตามใน Instagram มากมายนั้นได้กลายเป็นผลทางลบกับชีวิตเธอเข้าแล้ว “ฉันและครอบครัวถูกคุกคาม ฉันถูกขู่เอาชีวิต ผู้คนรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของฉัน เป็นแบบนี้ทุกครั้งเมื่อฉันเล่นกอล์ฟ” เธอบอกว่าที่เป็นแบบนี้ น่าจะเป็นเพราะว่าเธอไม่เหมือนนักกอล์ฟคนอื่นๆ ในเรื่องของการแต่งการกาย ซึ่งมันส่งผลให้เธอต้องเรียกร้องความเป็นธรรมของการแต่งกายในรายการแข่งขันกอล์ฟ LPGA กันเลยทีเดียว เพราะในรายการดังกล่าวการแต่งกายถูกจำกัดให้แต่งกายมิดชิด คอเสื้อกว้างและต่ำ รวมไปถึงกระโปรงและกางเกงขาสั้นทุกชนิดจะถูกห้าม เนื่องจากเป็นการเปิดเผยสรีระมากเกินไป Spiranac เป็นคนแรกที่ออกไปต่อต้านการจำกัดรูปแบบการแต่งกาย เพราะเธอบอกว่านี่เป็นสิ่งที่ก่อความลำบากให้กับนักกีฬา โดยที่เธอได้ให้เหตุผลเอาไว้ว่า… “ฉันรักกีฬากอล์ฟ มันเป็นกีฬาที่ยอดเยี่ยม แต่มีหลายสิ่งที่ควรเปลี่ยนแปลง มันควรจะก้าวหน้าและเปิดกว้างกว่านี้ การที่ฉันออกไปโต้แย้งคนอาจเกลียดฉันมากขึ้น แต่มันนำมาซึ่งประเด็นเจรจาที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ฉันแค่ต้องการให้ผู้คนรู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อต้องการเล่นกีฬา ฉันรู้ว่าไม่ใช่ฉันแค่คนเดียวที่รู้สึกแบบนี้ ข้อจำกัดพวกนี้มันคงเป็นเหตุผลที่คนไม่ค่อยอยากมาเล่นกีฬากอล์ฟล่ะมั้ง” . . ถึงแม้ Spiranac จะเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพอยู่ แต่เธอกำลังพักช่วงกีฬากอล์ฟเอาไว้ก่อน แล้วเข้าสู่วงการสื่อบันเทิง แต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ลงแข่งขัน เธอกล่าวว่าเธอก็ไม่ควรได้รับการข่มขู่ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม… . . .…
-
เหตุการณ์หดหู่จากบ้านพักคนชรา เมื่อเจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ ทำร้ายคุณปู่มากถึง 11 หมัด!!
เหตุการณ์สุดหดหู่เมื่อมีการเผยแพร่ภาพของเจ้าหน้าที่บ้านพักคนชราในแคนาดา ซึ่งกำลังรับหน้าที่ดูแลคนปู่ท่านหนึ่งอยู่ แต่แล้วเขาก็ต้อยเข้าที่หน้าของคุณปู่ซะอย่างนั้น ภาพดังกล่าวเล่นเอาญาติของคุณปู่ถึงกับช็อค!! เรื่องราวในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อครอบครัวของคุณปู่ Georges Karam วัย 89 ปี สังเกตเห็นว่าคุณปู่ของพวกเขามีบาดแผลตามร่างกายซึ่งมาจากไหนก็ไม่ทราบได้ พอถามตัวคุณปู่ก็ไม่ยอมปริปาก จนกระทั่งทาง Daniel Nassrallah ผู้เป็นหลานได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในห้อง เพื่อติดตามดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณปู่ของเขา ภาพที่ปรากฏออกมาเล่นเอาคนทั้งครอบครัวช็อคไปตามๆ กัน เมื่อ Jie Xiao เจ้าหน้าที่ผู้เป็นคนดูแลปู่ของพวกเขาได้พูดบางอย่างและต่อยเข้าที่หน้าของคุณปู่ Georges ซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึง 11 ครั้งด้วยกัน แค่นั้นยังไม่พอเขาดูเหมือนจะพยายามทำให้คุณปู่คนดังกล่าวหวาดกลัวด้วยการพูดข่มขู่พร้อมกับชูกำปั้นขึ้นมา ด้วยเหตุนั้นครอบครัวของคุณปู่ Georges จึงรีบรุดหน้าไปยังบ้านพักคนชรา Garry J Armstrong ทันทีหลังจากแจ้งความกับตำรวจเพื่อเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ทางด้านของคุณปู่ก็ได้รับการส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทันที โชคดีที่ไม่ได้ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนักนอกจากบาดแผลฟกช้ำ แต่มันก็สร้างความหวาดกลัวให้กับทั้งคุณปู่และครอบครัวไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนทางด้านนาย Jie ก็ให้การรับสารภาพและจะถูกตัดสินคดีในเร็ววันนี้ ทางครอบครัวคุณปู่ก็หวังว่าเขาจะได้รับการลงโทษที่เหมาะสมกับการกระทำดังกล่าว ที่มา metro
-
ทำเป็นเล่นไป!! ไปรษณีย์แคนาดา “ถูกอีกาคุกคาม” จนถึงขั้นต้องหยุดทำงานเลยทีเดียว
อุปสรรคอย่างหนึ่งที่บุรุษไปรณีย์มักจะเจอคือการต้องไปส่งจดหมายหรือของในบ้านที่มีสุนัขดุ ไม่ว่าจะเจอกี่ครั้งๆ ก็เห่าอยู่นั่นแหละ จนถึงขั้นเป็นคู่ปรับที่ไม่อาจจะอยู่ร่วมด้วยกันได้เลย แต่ใครจะคิดละว่านอกจากสุนัขแล้ว นกก็เป็นอุปสรรคในการทำงานของบุรุษไปรณีย์เหมือนกันนะ ร้ายแรงถึงขั้นต้องหยุดงานกันเลยทีเดียว อีกาตัวดังกล่าวมีชื่อว่า Canuck มันเป็นอุปสรรคหลักของไปรษณีย์ในย่านตะวันออกของเมือง Vancouver ประเทศแคนาดาเลยล่ะ ทำเอาเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ จนกว่าเจ้าอีกาจะหายไปจากตรงนั้นเสียก่อนถึงจะกลับมาทำงานส่งจดหมายต่อได้!? ส่วนความร้ายกาจของมันก็มีทั้งจิกกัด ขโมยของที่มีความแวววาวอย่างเช่น ‘มีด’ ที่ขโมยมาจากจุดเกิดเหตุคดี นอกจากนั้นก็ชอบมาก่อกวนการเดินทางของเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์อีก นี่เอ็งจะร้ายกาจเกินกว่าจะเป็นนกแล้วนะ!! สิ่งที่สามารถระบุตัวเจ้าอีกานี้ได้ก็คือ แท็กสีแดงที่ติดกับขาของมัน ซึ่งชาวบ้านในละแวกนั้นต่างก็ติดตลกกับการติดแท็กของมันก็ด้วยนิสัยที่ก้าวร้าวจนต้องติดเครื่องติดตามตัว ฮร่าาา Darcia Kmet โฆษกของไปรษณีย์แคนาดาบอกว่า “พนักงานของเขาถูกโจมตีจากอีกา จนได้รับบาดเจ็บในขณะที่พยายามไปส่งจดหมายในละแวกถิ่นที่อยู่อาศัยใน Vancouver” เจ้าอีกา Canuck กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ล่าสุดมีบ้าน 3 หลังที่ไม่ได้รับจดหมาย เพราะมันอยู่ในเขตที่เจ้าอีกาครองอยู่ และไม่ปลอดภัยสำหรับพนักงานของเรา” โฆษกบอก เขาบอกอีกว่า “ตอนนี้เรากำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าว ถ้าเจ้าอีกาไม่อยู่หรือมีความปลอดภัยเมื่อไหร่ บ้านทั้ง 3 หลังก็จะได้รับจดหมายครับ” และด้วยความร้ายแสนจะแสนของเจ้าอีกา มันก็มีเพจเป็นของตัวเองด้วยนะในชื่อ Canuck and I ที่สร้างขึ้นโดย Shawn Bergman ผู้เล่าถึงการผจญภัยของอีกาตัวนี้…
-
“มีกระสุนเป็นตับ จะเอาป้ะละ!?” คุณแม่ชักปืนขึ้นมาขู่ช่างผม หลังตัดลูกตัวเองชักช้าไม่ทันใจซะเลย
ทุกครั้งที่เราไปใช้บริการใดๆ ก็ตามแล้วได้รับการบริการที่ช้าจนเรามักจะหัวร้อนอยู่บ่อยๆ ซึ่งปกติเราก็จะมีวิธีการแก้ปัญหาหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการบ่น ยกเลิกบริการ หรือไม่ก็อดทนรอ แต่ว่าเมื่อ 16 เมษายน 2017 ที่ผ่านมาในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ได้มีคุณแม่ผิวสีคนหนึ่งหยิบปืนมาจ่อยิงคนในร้านเนื่องจากพนักงานตัดผมให้ลูกชายของเธอช้า จนเธอต้องระเบิดอารมณ์ออกมาแล้วพูดว่า “ฉันมีกระสุนเป็นตับ และฉันก็จะยิงพวกแกให้หมดเลย” เหล่าพนักงานจึงพยายามพูดให้เธอใจเย็นลง เพื่อช่างตัดผมจะได้รีบตัดผมให้ลูกชายของคุณแม่จนเสร็จ และสุดท้ายทั้งคู่ก็ออกไปจากร้านทันที ทิ้งไว้แต่ความมึนงงให้กับพนักงานทั้งหมดภายในร้าน Al Pugh พนักงานฝึกหัดในร้านออกมาบรรยายถึงความรู้สึกของตัวเองเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเขาถึงกับรู้สึกช็อค “คุณไม่รู้หรอกว่าคนอื่นคิดยังไง บางทีเธออาจจะยิงผม หรืออาจจะยิงลูกตัวเองด้วยก็ได้ ใครจะรู้จริงไหม?” นอกจากนี้ Al ยังบอกปิดท้ายอีกว่า “เธอไม่น่าวู่วามทำแบบนั้นเลย เพราะเธอไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายสักหน่อย” แถมลูกชายของเธอในตอนนั้นก็นั่งนิ่งทำอะไรไม่ถูกเลยล่ะ ด้านเจ้าของร้าน Michael D’Amico บอกว่าเขาเปิดร้านนี้มาตั้งแต่ปี 1960 เขาไม่อยากให้หญิงสาวคนดังกล่าวถือปืนไปมาบนท้องถนนที่มีคนเต็มไปหมด เขาจึงแจ้งตำรวจให้ตามจับเธอทันที สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึงเพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และตามหาคุณแม่คนดังกล่าว ทว่าเจ้าหน้าก็ไม่พบเบาะแสเกี่ยวกับคุณแม่ใจร้อนคนดังกล่าวเลยนั่นเอง สามารถรับชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวข้างล่าง จะทำอะไรก็คิดดีๆ อย่าใจร้อนเลยนะทุกคน ค่อยๆ คุยกันสิ ที่มา cleveland19
-
ไม่ขำ!! คุณครูญี่ปุ่นขู่จะเขียนชื่อนักเรียนลงบนสมุด “Death Note” สร้างความหวาดกลัวให้เด็กๆ
เมื่อกล่าวถึงการ์ตูนเรื่อง ‘Death Note’ แล้ว คงเป็นเรื่องโปรดของใครหลายๆ คน เพราะเป็นการ์ตูนแนวสืบสวนที่มีเนื้อหาน่าติดตาม และสิ่งที่ผู้คนมักจะพูดถึงกันมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือสมุด Death Note สมุดมรณะที่ตัวเอกของเรื่องใช้เป็นอุปกรณ์ในการสังหารคน เพียงแค่เขียนชื่อพร้อมกับระบุรายละเอียดการตายก็จะทำให้คนที่ถูกเขียนชื่อลงไปเสียชีวิตในทันที จนทำให้มีการนำเรื่องนี้ไปใช้ในเหตุการณ์จริงในทางที่ผิดกัน อย่างเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ เรื่องมีอยู่ว่าคุณครูวัย 30 ปี จากโรงเรียนในจังหวัด Fukushima ได้ออกมากล่าวคำขอโทษต่อสื่อ หลังทำการขู่นักเรียนของตัวเองว่าจะเขียนชื่อของเขาลงไปในสมุด Death Note จากรายงานของเว็บไซต์ The Fukushima Minyu Shimbun เมื่อวันที่ 12 เดือนมกราคมที่ผ่านมา เล่าว่าคุณครูได้ทำการแสดงให้นักเรียนชั้นประถม 4 คนดูว่าตนเองนั้นมีแอพฯ Death Note อยู่ในแท็บเล็ต พร้อมพูดกับนักเรียนว่า “ฉันจะเขียนชื่อของพวกเธอทั้งหมดลงไปบน Death Note นี้” ตามรายงานไม่ได้ระบุถึงสาเหตุที่คุณครูท่านนี้ใช้ในการลงโทษเด็กๆ แต่เมื่อทางโรงเรียนทราบเรื่องดังกล่าวก็ได้มีการจัดแถลงการณ์ขอโทษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้คุณครูแสดงความรับผิดชอบด้วยการกล่าวขอโทษในที่ประชุม และทางผู้ปกครองเองก็ได้กล่าวว่าวิธีการเตือนเด็กๆ ของคุณครูนั้นมัน ‘ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง’ เพราะเป็นการสร้างความกลัวให้กับเด็กๆ …
-
ส.ต.อ กร่างไม่เลิก บุกขู่เจ้าหน้าที่กู้ภัย หลังถูกโพสข้อความตำหนิ!!
กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง หลังสิบตำรวจเอกบุกไปข่มขู่เจ้าหน้าที่กู้ภัยถึงที่ทำงาน หลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยแสดงความเห็นถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของสิบตำรวจคนนั้น โดยเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อหลายวันก่อน ขณะเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล มีรถกระบะแต่งซิ่งคันหนึ่งขับเข้ามาจี้ท้ายและพยายามแซงแต่ก็แซงไม่ได้ จนตอนหลังกระบะคันนั้นตามมาท้าต่อยถึงโรงพยาบาลซึ่งปรากฎว่าคนขับเป็นตำรวจ จนทำให้สารวัตร สภ.เมืองพัทยาต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยและจบเรื่องกันไป ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ อุซึมากิ นารูโตะ ได้โพสเล่าว่า ตำรวจคนที่เคยมีเรื่องกันมานั้น ได้บุกเข้ามายังสำนักงานของมูลนิธิ แล้วข่มขู่เขาว่า “เก็บปากไว้กินข้าวเถอะ” หลังจากเขาได้โพสแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของตำรวจคนนี้ไป ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงนำภายจากกล้องวงจรปิดมาแจ้งความกับตำรวจ เนื่องจากถือว่าเป็นการข่มขู่ และการกระทำเช่นนี้ ก็ทำให้ประชาชนตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมไม่มีการลงโทษทางวินัยกับตำรวจคนนี้เลย? เหมียวชักสงสัยแล้วว่า ใครเป็นตำรวจ ใครเป็นผู้ร้ายกันแน่เนี่ย ปกติเราเจอตำรวจเราต้องรู้สึกอุ่นใจไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงมาทำพฤติกรรมแบบนี้ละเนี่ย เหมียวล่ะงงจริงๆ ที่มา chonburinews