Tag: ข้อความ
-
งานประกาศรางวัลสลากกินแบ่งฯ ขึ้นข้อความ “ไม่ได้ล็อก อย่าเถียง” ไปโกรธใครมาล่ะเนี่ย!!?
ช้าไปไหมหากจะถามว่าเพื่อนๆ ถูกหวยรางวัลไหนกันบ้างหรือเปล่า? ใครไม่ถูกก็ไม่เป็นไรนะเอาไว้ลุ้นใหม่ ส่วนใครที่ถูกก็ขอแสดงความยินดีด้วย… แต่จะถูกหวยกันหรือเปล่านั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่การประกาศรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 ได้ปล่อยภาพและข้อความฮาๆ ออกมาบนหน้าจอเสียได้ ชาวเน็ตตาดีผู้หนึ่งใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @dmeishappy_ ได้เก็บภาพขณะประกาศรางวัลมาโพสต์ลงบนทวิตเตอร์แสดงให้เห็นข้อความดังกล่าว ทำเอาชาวเน็ตต่างพากันฮาแตกเลยล่ะ โพสต์บนทวิตเตอร์แสดงให้เห็น 2 ข้อความสะดุดตาที่ปรากฏบนจอ ภาพแรกทางงานประกาศรางวัลมีการขึ้นข้อความว่า “ขออภัยลูกบอลเปิดฝาเอง ไม่ได้ล็อกนะคะ อย่าเถียง” ไม่ได้ล็อกนะคะ อย่าเถึยง!!! อีกไม่กี่นาทีต่อมาก็เกิดข้อความที่สองขึ้น ในข้อความเขียนว่า “ขออภัยกดเลขท้าย 2 ตัวผิด เพราะนิ้วใหญ่” มันคงผิดที่นิ้วนั่นแหละเนอะ… มาชมฉบับวิดีโอกันดีกว่า (เวลาประมาณ 1.31.46 กับ 1.41.11) อยากถามคนขึ้น Text จริงๆ เลยว่าไปแค้นเคืองใครมา อะไรมันจะเดือดขนาดน้านนน!!? ที่มา: Twitter@dmeishappy_ และ Thaitv6 HD
-
เปิดจดหมายฉบับแรก…จาก ‘เด็กๆ และโค้ช’ กับความในใจที่อยากบอกกับคนที่อยู่ข้างนอก
หลังจากที่ปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง เริ่มขึ้นก็ผ่านมานานเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว จากการอัปเดตล่าสุดก็พบตัวทั้ง 13 คนแล้วและถือเป็นข่าวดีที่พวกเขายังปลอดภัยอยู่ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามช่วยเหลือกันอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะพาทั้ง 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำให้ได้ และล่าสุดทางด้านเพจเฟซบุ๊ก Thai NavySEAL ก็ได้เปิดเผยจดหมายที่เขียนโดยทั้ง 13 คน เป็นข้อความที่พวกเขาต้องการจะสื่อสารอะไรกับคนที่อยู่นอกถ้ำบ้าง โพสต์ดังกล่าวมีแคปชั่นว่า “ข้อความจากทีมหมูป่าและโค้ช ฝากทีมนักดำน้ำต่างชาติ ออกมาจากเนินนมสาว เมื่อคืนวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 ไม่ต้องเป็นห่วง แข็งแรงทุกคน ออกไปอยากกินอาหารหลายอย่าง ออกไปอยากกลับบ้านเลย คุณครูอย่าให้งานเยอะ ส่วนทีมซีลและหมอภาคย์ ที่ดูแลน้องๆอยู่ สบายดีทุกคน” จะเป็นอย่างไรลองไปอ่านพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… น้องต้น “พ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมสบายดี ฝากบอกพี่ยอดเตรียมตัวพาไปกินไก่ทอด รักนะครับ” โค้ชเอก “ถึงผู้ปกครองเด็กๆ ทุกคน ตอนนี้เด็กๆ สบายดีกันครับ มีพี่ๆ ทีมงานดูแลเป็นอย่างดี ผมขอสัญญาว่า จะดูแลเด็กๆ ให้ดีที่สุด…
-
เงิบ! ไอ้หนุ่มเมสเซจหาสาวผิดเบอร์ บอกเป็นชายไม่เชื่อ แถมส่งรูป “กระปู๋” ให้เขาดูอี๊ก!!
ปกติแล้วเวลาที่เราโทรหรือติดต่อคนอื่นผิดเบอร์ เราก็คงจะขอโทษขอโพยแบบง่ายๆ แล้วก็จบไป แต่สำหรับไอ้หนุ่มคนนี้เหมือนจะไม่ง่ายเช่นนั้น จากเบอร์ที่ผิดกลายเป็นเรื่องราวอันน่าขบขันเสียจนได้ ชาวเว็บไซต์ Reddit คนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Th3GreenMan56 ได้รับข้อความจากชายหนุ่มแปลกหน้าที่ชื่อว่า Brandon ซึ่งนอกจากจะส่งข้อความมาผิดเบอร์แล้วยังทำการเกี้ยวพาราสีเพราะคิดว่าเป็นสาวที่ตนชอบ ตาคนนี้คือหนุ่มที่ได้รับข้อความจาก Brandon เราขอเรียกเขาว่า Greenman เมื่อ Greenman รู้ว่าเกิดการเข้าใจผิด เขาจึงพยายามอธิบายว่าเขาเป็นผู้ชาย ไม่ใช่สาวที่ Brandon ชอบ แต่ดูเหมือนว่า Brandon วางแผนรับมือเอาไว้แล้ว ยังคงตื๊อต่อไม่เลิก จนผลสุดท้าย กลายเป็นว่าเจ้า Brandon ตายอย่างสงบศพก็ไม่ค่อยจะสวย เราลองไปดูบทสนทนาสุดฮาของพวกเขากันเลยดีกว่า… B: ไง G: เฮ้ นี่ใครเนี่ย? B: อะแฮ่มๆ เรา Brandon จากคลาสเดียวกับเธอไง *เหงื่อโชกชะโลมร่างกาย* G: อ่า ฉันคิดว่ามันนายส่งมาผิดเบอร์แล้วล่ะนะ B: *มองต่ำทำนิ้วจิ้มกัน* คือว่า Shannon…ให้เบอร์เธอมาน่ะ G: เจ๋งนี่ แต่โทษทีนะมันผิดเบอร์อะ…
-
งานงอก…สาวตั้งใจส่งข้อความลับไปให้ปั๋ว แต่กดผิดส่งให้เพื่อนร่วมงานซะงั้น เขินสิฮะ!!
‘ความผิดพลาด’ เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้ว่าเราจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม โดยเฉพาะการส่งข้อความผิดคน ที่ถือเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดา เพราะปุ่มมันก็เล็กซะปานนั้น การกดผิดจึงเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเป็นการส่งข้อความลับระหว่างคู่สามีภรรยาที่พูดคุยกันทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านแล้วล่ะก็ ขอบอกเลยว่า ‘เป็นเรื่องใหญ่’ เลยล่ะ 555+ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของแม่บ้านท่านนี้ ที่ได้ทำการส่งข้อความผิด ตั้งใจจะส่งให้สามีแต่กลายเป็นว่าส่งไปให้กับเซลแมน ที่ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกันกับเธอซะได้!! ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @gomachannel0 ได้แชร์เรื่องราวสุดเปิ่นของตนเอง เป็นแชทข้อความในไลน์ กับสติ๊กเกอร์รูปเพนกวินน้อยที่ดูท่าทางกำลังมีความสุข พร้อมกับหัวใจล้อมรอบ หากมองเผินๆ ก็จะเข้าใจว่า ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ 18+ แน่นอน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้น!? ข้อความในแชทแปลว่า “ฉันเพิ่งปล่อยของหนักออกมา” รูปเพนกวิน “มันมีขนาดใหญ่มากเลยล่ะ อ่าห์” ดูท่าทางของเธอคงจะมีความสุขมากๆ จากสติ๊กเกอร์เพนกวินน้อยตัวนั้น เพราะความอึดอัด ความตุงๆ ความหน่วงที่ท้อง มันได้มลายหายไปจนหมดสิ้น และเป็นเรื่องธรรมดาที่คู่รักกัน จะพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ยิ่งการปลดปล่อยความทุกข์ที่สั่งสมมานานยิ่งแล้ว ก็จะต้องอวดกันเป็นธรรมดา แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีทางที่จะเอาไปบอกคนอื่นอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทกันก็ตาม แต่แทนที่ข้อความดังกล่าวนี้จะถูกส่งไปให้สามีของเธอ กลับกลายเป็นว่าเธอส่งผิด!! ดั๊นส่งไปให้กับเซลแมนคนหนึ่ง ที่ทำงานในบริษัทเดียวกันกับเธอซะงั้น!? หลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมงตั้งแต่ส่งข้อความนี้ไป…
-
แฟนเก่าสายเกรียน ส่งสปอลย์ Infinity Wars กะหลอกให้หงุดหงิด แต่ขออภัยฉันดูมาแล้วย่ะ!!
ทุกวันนี้ข้อมูลข่าวสารสามารถส่งถึงกันได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดอะแฟลช ซึ่งการที่ข้อมูลสามารถเดินทางได้เร็วแบบนี้ จึงทำให้เกิดปัญหา “การสปอยล์” ขึ้น ซึ่งหลายๆ คนคงโดนไปหลายดอกในช่วง Infinity Wars ที่ผ่านมา และถ้าหากว่าเป็น ‘แฟนเก่า’ ล่ะ? เคยทำอะไรไม่ดีให้แก่กันมาก่อน ส่งข้อความมาเยาะเย้ย แถมยังเป็นสปอยล์หนังอีกต่างหาก มันจะเลวร้ายเลวทรามขนาดไหน!! กรณีของแม่สาวนาม Sandy วัย 22 ปี รายนี้ ที่เลิกรากับแฟนหนุ่มไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ และเป็นช่วงที่ Infinity Wars เข้าฉาย เธอก็ได้รับข้อความส่วนตัวส่งตรงผ่าน Direct Messeage ในทวิตเตอร์ เพียงแค่ประโยคเดียว… ‘โอ้ว ไม่นะ แฟนเก่าที่ไม่ได้คุยกันอีกหลังเลิกกันไปแล้ว ส่งข้อความมาหา จากนั้นบล็อกแล้ววิ่งหนีไป นี่ฉันทำอะไรผิดดดดด!!’ ‘อนึ่ง สไปเดอร์แมนตายในหนังอเวนเจอร์ภาคใหม่’ ทำแบบนี้เหมือนกำลังจะง้างเตะเข้าปากกันเลยทีเดียว แต่เป็นโชคดีของ Sandy ที่เข้าโรงภาพยนตร์ไปรับชมมาเรียบร้อยแล้ว ก็เลยไม่ค่อยรู้สึกเดือดมากนัก เหมือนแฟนเก่าทำตัวเป็นเด็กมาล้อชื่อแม่แล้ววิ่งหนีไป… “เรื่องระหว่างเรามันจบไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว…
-
ครอบครัว Tim Bergling ‘Avicii’ เผยสาเหตุการเสียชีวิต เพราะเขาไม่อาจแบกรับได้อีกต่อไปแล้ว…
เรื่องราวน่าเศร้ากับการจากไปของดีเจชื่อดังระดับโลก Avicii หรือ Tim Bergling ดีเจชาวสวีเดนวัย 28 ปี ที่ถูกพบเป็นร่างไร้วิญญาณในระหว่างทริปพักผ่อนของเขาในเมืองมัสกัต ประเทศโอมาน เมื่อช่วงวันศุกร์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา Avicii ได้ประกาศหยุดทัวร์คอนเสิร์ตในปี 2016 เนื่องจากประสบกับปัญหาสุขภาพร่างกายเรื้อรัง อีกทั้งยังมีสัญญานความปวดร้าวภายในจิตใจเกิดขึ้นด้วย Avicii หรือ Tim Bergling ดีเจชื่อดังชาวสวีเดน เสียชีวิตในวัย 28 ปี อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลกเพียงชั่วข้ามคืน ทางสำนักข่าวและสื่อทางด้านบันเทิงต่างคาดเดาไปถึงกรณีทางด้านอาชญากรรม การลอบสังหาร และการฆ่าตัวตาย ในวันที่ 26 เมษายน 2018 ทางด้านครอบครัวของ Tim Bergling ได้ร่อนจดหมายเปิดผนึกแก่สาธารณะ โดยที่โฆษกไม่ได้ยืนยันว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่ โดยมีใจความดังต่อไปนี้… ภาพของ Avicii พร้อมคุณแม่ Anki Liden และคุณพ่อ Klas Bergling ระหว่างออกทัวร์ครั้งสุดท้ายในสวีเดน ‘ทิมผู้เป็นที่รักของเรานั้น คือผู้แสวงหา ศิลปินผู้มีจิตวิญญาณอันบอบบาง…
-
14 ความฮาที่เกิดขึ้น จากความผิดพลาดในการส่งข้อความ จะทำให้คุณหัวเราะร่า
ความผิดพลาดนั้นเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้คน ไม่มีใครที่จะไม่เคยทำอะไรผิด ถึงอย่างนั้นความผิดพลาดในบางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีเสมอไป มันอาจจะทำให้เราได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ได้ช่วยเหลือใครสักคน หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ อย่างทำให้ใครบางคนมีความสุข ผู้คนทั้ง 14 คนต่อไปนี้ก็เช่นกัน เพราะพวกเขาคือผู้ที่ออกมาแชร์ประสบการณ์ความผิดพลาดในการส่งข้อความสุดฮา ที่จะมาเรียกเสียงหัวเราะจากคุณทุกคนนั่นเอง แล้วพวกเขาก็กลายเป็นคนรู้จัก A: พวกเราอยู่ที่โรงพยาบาล เด็กเกิดวันนี้แล้ว B: ดีใจด้วย ว่าแต่คุณน่าจะส่งข้อความผิดเบอร์นะ A: *ส่งรูป* หนัก 3.6 กิโลกรัม B: ก็ยังไม่รู้จักคุณอยู่ดี แต่ภาพเด็กน่ารักดีนะ A: อุ๊ย โทษที ผิดเบอร์ B: ไม่เป็นไรๆ ว่าแต่ขอเบอร์ห้องที่โรงพยาบาลได้ไหม เดี๋ยวจะส่งของขวัญไปให้เด็ก A: เราอยู่ที่ Bainbridge ห้อง 130 ลองมาหาดูนะ สิ่งที่ทำให้นึกถึงแม่ Andrea: แม่ของคุณบอกให้โทรหาน่ะ B: เดี๋ยวๆ นั่นใคร Andrea: Andrea B: อืม… น่าจะผิดเบอร์นะ แต่ก็ขอบคุณนะ…
-
11 ข้อความที่ผู้ส่งถูกตอบกลับแบบเข็มขัดสั้น คาดไม่ถึงจนได้แต่อึ้ง ไม่ก็นั่งขำเท่านั้น
เวลามีใครส่งข้อความอะไรมา มันเป็นเรื่องที่ดีถ้าเราจะตอบข้อความเหล่านั้นกลับไป จะเป็นอะไรขอไปทีแบบคำว่า อ่า หรือ อืม ก็ยังดีกว่าปล่อยให้มันขึ้นว่าอ่านแล้วแล้วก็ไม่ตอบอะไรไปเลย แต่การตอบแบบขอไปทีบางครั้งก็จะทำให้รู้สึกห่างเหินกันเกินไปใช่ไหมล่ะ ดังนั้นคนเราจึงมักมีบทสนทนาแปลกๆ ออกมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจกวนจริงๆ หรือเพราะไม่รู้จะตอบอะไรดีก็ตาม เหมือนกับการพูดคุยผ่านข้อความทั้ง 11 อัน ต่อไปนี้ ที่ผู้ส่งได้รับการตอบกลับแบบที่เข็มขัดสั้น คาดไม่ถึงจนได้แต่อึ้งหรือไม่ก็นั่งขำเท่านั้น เก้าอี้รถนุ่มๆ น้ำมันเครื่อง และแสงไฟหน้ารถ A: ผมขอชวนคุณมาทานอาหารค่ำสุดโรแมนติกในคืนนี้ ที่มีทั้งเก้าอี้นุ่มๆ น้ำมัน และแสงไฟ B: ไม่เอาอ่ะ ฉันจะไม่ไปที่โรงรถของนายอีกแล้ว เหนื่อยจนสลบสินะ…. ไม่ใช่เพราะน่ากลัวสินะ? A: คืนวันแต่งเป็นไงบ้าง B: จำไม่ได้ว่ะ ผมสลบไปตอนที่เธอถอดขนตาปลอม ไม่เมาก็ความจำสับสนแล้ว Helen: พ่อ… ทำไมพ่อคิดว่าหนูจะเมาถ้าปล่อยหนูไปงานวันเกิดเพื่อนอ่ะ แม่: Helen… นี่แม่ต่างหาก ข่าวร้ายจะเป็นอะไรกันน้า? ภรรยา: ที่รัก ฉันมีข่าวดีกับข่าวร้ายมาบอก สามี: งั้นเริ่มจากข่าวดีแล้วกัน ภรรยา: ทางร้านจะลดค่าซ่อมรถให้…
-
โลกมันเครียด มายิ้มกันดีกว่ากับ 12 ข้อความสุดฮา ที่ชาวต่างประเทศส่งให้กันในเวลาว่าง
รู้สึกว่าชีวิตซีเรียสไหม? เคยมีคนกล่าวไว้ว่า “ชีวิตคนเรามันสั้น จงยิ้มเสียในเวลาที่คุณยังมีฟันให้โชว์” คนเรานั้นว่ากันว่าจะอายุยืนมากขึ้นหากว่าอารมณ์ดี ดังนั้นอย่าซีเรียสกับชีวิตมากนักเลย มายิ้มกันไว้ดีกว่า แต่ถ้าหากไม่สามารถยิ้มเองได้เพราะจิตใจหดหู่ล่ะก็ วันนี้ #เหมียวฝึกหัด ได้นำ 12 ข้อความสุดฮา ที่ชาวต่างประเทศส่งให้กันในเวลาว่างมาให้ดูกัน รับรองเลยว่าจะทำให้คนที่กำลังเบื่อๆ หดหู่ หรือซีเรียส ยิ้มกันขึ้นมาได้อย่างแน่นอน แจ็คสอนมา ผม: เธอเป็นนักเต้นได้ดีมากๆ เลย ดูเป็นธรรมชาติ แถมยังเท่ด้วย เธอเรียนมาจากไหนเหรอ Mary: แจ็คสอนมา ผม: แจ็คไหนเหรอ Mary: แจ็ค แดเนียล เดี๋ยวโบกเรียก… Alex: เจอกันแถวๆ แมคโดนัลด์นะ ฉัน: แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าคนไหนคือนาย Alex: เดี๋ยวผมโบกพุงเรียก จะเล่นยังไง? ฉัน: วันคริสต์มาสจะทำอะไร Max: เล่นรถเลื่อนหิมะ ฉัน: แล้วถ้าหิมะไม่ตกล่ะ Max: ก็คงจะเศร้า… แต่มันหยุดฉันไม่ได้หรอก ผิดคนหรือว่าบ่ายเบี่ยง? แฟน?: Max ยังจำได้ไหมว่าแม่ของฉันจะมาวันนี้…
-
10 ข้อความตลกๆ ที่ส่งมาจากคนเป็นแม่ และมีแต่ลูกที่ออกไปอยู่คนเดียวเท่านั้นที่จะได้เจอ
เมื่อเราโตขึ้น สักวันหนึ่งเราก็จะบอกลาพ่อแม่ออกไปอยู่คนเดียวกันเสียส่วนใหญ่ ยิ่งเป็นคนจากทางยุโรป หรืออเมริกาแล้วด้วย การที่ลูกจะแยกบ้านไปใช้ชีวิตของตนเองนั้นเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่เกิดขึ้นกับแทบทุกครอบครัวกันเลยทีเดียว ถึงอย่างนั้นหัวอกคนเป็นแม่นั้นย่อมที่จะเป็นห่วงลูกๆ เป็นธรรมดา จึงไม่แปลกเลยที่เราจะได้เห็น คุณแม่คอยติดต่อกับลูกๆ อยู่ตลอดเวลา และในบรรดาการติดต่อที่มากมายขนาดนั้น ก็แน่นอนอยู่แล้วที่จะต้องมีบ้างที่เกิดเรื่องขำๆ ตลกๆ ขึ้นกับข้อความจากเหล่าผู้เป็นแม่ อย่างเช่นเรื่องราวทั้ง 10 เรื่องต่อไปนี้ ผิดหอ แม่: *ส่งรูป* ดูซิแม่อยู่ที่ไหน… ว่าแต่ลูกไปไหนจ๊ะ ผม: แม่อยู่ที่ไหนล่ะนั่น… ส่วนผมอยู่ที่หอ… เดี๋ยวนะ… อย่าบอกนะว่าแม่เข้าไปในห้องใครไม่รู้ แม่:โอ้พระเจ้า! แม่เข้าผิดหอ คุณแม่ต้องการอะไรครับ วิธีเยิ้มแนวใหม่? แม่: ลูกรู้รึเปล่าว่าเฮโรอีนมันสามารถเอามาบดผสมไปในกัญชาได้ คุณแม่กับกล้อง แม่: *ส่งรูป* วันนี้เป็นวันที่สวยงามมากเลยอยากให้ลูกมาเห็นจริงๆ ฉัน: แม่ นิ้วแม่บังเลนส์กล้องอ่ะ แม่: อุ๊ย โทษทีเห็นรึยัง *ส่งรูปเดิมมา* ฉัน: แม่จะส่งรูปเดิมมาไม่ได้นะ แม่ต้องถ่ายรูปใหม่สิ แม่: แบบนี้ล่ะเป็นไง *ก็ยังส่งรูปเดิมมา* ฉัน: สวยมากเลยแม่…
-
ส่งผิดชีวิตเปลี่ยน 13 ข้อความ ที่ถูกส่งไปหาผู้รับผิดคน อย่างน่าอายที่สุดในชีวิต
ในบางครั้งการส่งข้อความก็เป็นการสื่อสารที่คนเราถนัดมากกว่าการพูดคุย มันทั้งเรียบง่ายและมีเวลาเรียบเรียง ต่างจากการพูดที่จะพลั้งปากเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าการส่งข้อความจะไม่มีข้อด้อยเลย ไหนจะเรื่องของการที่ข้อความไม่มีน้ำสียงที่ทำให้รู้ว่าข้อความนั้นพูดจริงหรือล้อเล่น และที่สำคัญที่สุดคือข้อความนั้น มันส่งผิดกันได้ง่ายๆ เหมือนกันคน 13 คนต่อไปนี้ ที่ส่งข้อความไปหาผู้รับได้ผิดคนอย่างไม่น่าให้อภัย จนกลายเป็นหนึ่งในเรื่องน่าอายที่สุดในชีวิตไปเลย 1. แฟนของผมทิ้งในกางเกงในไว้ให้ผม เธอบอกให้ผมลองใส่ดูแล้วส่งภาพไปให้เธอด้วย ผมคิดว่ามันตลกดีเลยลองทำตามซะเลย เธอไม่ตอบอะไรกลับมา ผมเลยไปถามเธอว่า เธอได้รับรูปไหม แต่เธอกลับบอกว่าไม่เห็นได้รูปอะไรเลย ภาพกระเจี๊ยวที่แทบจะทะลักออกมาจากในกางเกงในของผม ถูกส่งไปให้กับน้องชายของผมแทน และน้องชายของผมก็ตอบกลับมาสั้นๆ แค่ว่า “เชี้ยไรเนี่ย” ผมกับเขาตัดสินใจว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น และไม่พูดถึงมันอีก แต่ไม่แน่ว่าสักวันผมอาจจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วดูว่าเขายังจำมันได้ไหมก็ได้ 2. น้องชายของผมอยากจะเห็นรูปของสาวที่ผมกำลังจีบอยู่ ผมก็เลยกดถ่ายภาพหน้าจอโปรไฟล์ของเธอส่งไปให้น้องชายของผม แต่ผมดันกดผิดส่งไปให้สาวที่ผมกำลังจีบอยู่แทนซะงั้น นึกภาพคนที่ส่งรูปของคุณมาให้คุณดูสิ โชคดีที่ในรูปมีคนอื่นอยู่ด้วยผมก็เลยเนียนส่งรูปอื่นไปด้วย แล้วถามเธอว่าเธออยู่ตรงไหนของรูป ว่ากันตรงๆ หลังจากนั้นเธอก็บอกว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำเอาเธอขนลุกอยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายพวกเราก็ได้คบกัน 3. เพื่อนของฉันนอกใจแฟนแล้วก็พยายามทำเหมือนกับว่าเรื่องมันเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว เธอจึงเตี๊ยมกับหนุ่มคนที่ว่า ด้วยการส่งข้อความว่า “ถ้า(แฟนของฉัน)ถาม บอกไปว่าเธอได้กันแค่ครั้งเดียวนะ” แล้วก็ส่งข้อความผิดไปให้แฟนเธอเอง… 4. ผมส่งข้อความไปให้ผู้บริหารของบริษัทที่ผมทำงานอยู่ (บริษัทนานาชาติใหญ่โต ที่มีคนอยู่กว่า 3,000 คน)…
-
15 ทวีตจากผู้ปกครอง เกี่ยวกับชีวิตการเลี้ยงลูก แต่ว่าคราวนี้ เป็นพ่อแม่ที่แสบเสียเอง
ชีวิตการเลี้ยงลูกนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เด็กๆ นั้นแทบที่จะไม่เคยอยู่นิ่ง ทั้งวิ่งว่อนไปทั่ว แถมยังไม่เคยเชื่อฟังอะไรที่เราพูดเลย จนทำให้พ่อๆ แม่ๆ ทนไม่ไหวกันอยู่ก็หลายครั้ง แต่รู้หรือไม่ว่าชีวิตการเลี้ยงลูกนั้น ไม่ได้มีแต่เด็กที่เป็นผ่ายแสบเสมอไป เพราะ 15 ทวีตต่อไปนี้ จะเป็นตัวอย่างที่ดีเลยว่า บางครั้งนั้น พ่อแม่ของเด็กๆ เองนั่นล่ะ สุดแสบตัวดีเลย ลูกชายวัย 14 ปีล้อเล่นผมเรื่องที่ผมต้องไปทำงานในขณะที่เขาได้หยุด ผมก็เลยเปลี่ยนรหัสไวไฟเสียเลย ขอเปลี่ยนที่นั่งเพราะว่านั่งใกล้เด็กร้องไห้ ดูเหมือนว่าจะใช้ไม่ได้ถ้าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเราเองแฮะ ตอนนี้ผมกำลังช่วยลูกชายตามหาช็อกโกแลต ที่ผมกินไปเมื่อวานนี้ อย่ามองตาเด็กๆ ที่กำลังจะหลับเชียวล่ะ เดี๋ยวพวกเขาจะรู้ว่าเราตื่นเต้นแค่ไหนที่ภารกิจกำลังจะสำเร็จ พี่เลี้ยงเด็กเห็นลูกวัยสามขวบของผมใส่เสื้อกลับข้าง พี่เลี้ยงเด็ก: ว้าว น่ารักจัง คุณให้ลูกแต่งตัวเองเหรอ ผม: ใช่แล้วครับ เธอแต่งตัวเองเลย (เนียนไว้ตรูข้า) ชีวิตวันจันทร์มันลำบาก ชีวิตวันจันทร์ที่มีลูกด้วยมันคือตัวอย่างการทดลองการเอาตัวรอดของมนุษย์ ผมชอบคุยกับเด็กๆ นะ เพราะไม่มีผู้ใหญ่คนไหนเคยถามผมว่า สัตว์เลื้อยคลานที่ผมชอบที่สุดเป็นอันดับสามคือตัวอะไรหรอก สิ่งที่ฉันคิดว่าจะได้พูดตอนเป็นพ่อคนแม่คน “ลูกจะเป็นคนที่เปลี่ยนโลกใบนี้” สิ่งที่ได้พูดจริงๆ…
-
รวม 11 ป้ายหลุมศพเอาบันเทิง ถึงแม้ร่างกายจะจากไปแล้ว แต่ความฮาจะคงอยู่ตลอดไป
สำหรับประเทศไทยบ้านเราอาจจะไม่ค่อยได้พบเห็นกันนัก สำหรับหลุมศพพร้อมกับป้ายบนหลุมที่จะจารึกชื่อหรือข้อความต่างๆ ของผู้ตายเอาไว้ แต่เราสามารถพบเห็นภาพเหล่านี้ได้ไม่ยากในประเทศตะวันตก เพื่อนๆ อย่าเพิ่งหดหู่ใจไปนะครับ เราไม่ได้จะนำเสนอเรื่องราวการเสียชีวิตอันน่าเศร้าแต่อย่างใด แต่สิ่งที่เราจะนำมาให้ชมวันนี้ก็คือ ‘ป้ายหลุมศพสุดเก๋า’ แม้ผู้ตายจะลาโลกไปแล้ว แต่ก็จากไปเพียงกาย เขาได้ทิ้งความฮาไว้บนป้ายหลุมศพ ที่แสดงให้เห็นว่าอารมณ์ขันของเขาเหล่านั้น “ไม่มีวันตาย” จริงๆ 1. ป้ายสไตล์หน้ายิ้มเขียนว่า “ชีวิตมันห่วย ก็ตายซะก็จบ” (แถมข้างล่างระบุเวลาว่า ปัจจุบัน-ตลอดกาล) 2. “พลาดซะแล้ว” 3. ป้ายสไตล์โมเดิร์น พร้อมอักษรmujเรียงเป็นขั้นบันไดว่า “DEAD” ที่แปลว่าตายนั่นเอง 4. ป้ายหลุมศพของ Elijah Bond ผู้คิดค้น “กระดานผีถ้วยแก้ว” ของฝรั่ง แหม่…ไอเดียบรรเจิดจริงๆ 5. บนป้ายเขียนเตือนว่า “เขาจะไม่ฆ่าคนที่ ไม่ต้องฆ่า หรอก…” (พยายามเตือนว่า ใครกลัวโดนตาคนนี้ฆ่า ก็ตายซะ จะได้รอด) 6. บรรทัดสุดท้าย “ขอโทษทีแล้วกัน ที่ฉันไม่ลุกขึ้นมา”…
-
รวม 15 ข้อความฮาๆ ที่คนไปเจอเขียนในห้องน้ำ แต่ละอย่างก็ช่างจะคิดกันมาได้นะพี่น้อง!!
เวลาเราเข้าไปปลดทุกข์ในห้องน้ำมันอาจจะใช้เวลาสักหน่อย คนส่วนมากมักพกหนังสือหรือโทรศัพท์มือถือเข้าไปเล่นในห้องน้ำเพื่อฆ่าเวลา แต่บางทีของเหล่านั้นก็ไม่จำเป็นหรอกเพราะห้องน้ำบางแห่งมันมี “ข้อความ” ต่างๆ นานา ปรากฏให้อ่านกันอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว เชื่อว่าหลายท่านคงจะเคยเห็นมาบ้าง วันนี้ CatDumb จึงนำภาพข้อความในห้องน้ำจากชาวเน็ต มาให้รับชมกัน บอกเลยว่าอ่านแล้วฮาจนอยากเจอหน้าคนเขียนเลยล่ะ เอ้า ไปชมกันเลย… 1. ไม่ได้เร่งนะ แต่ “ใจจะขาด” แล้วอะ ฮ่าๆ 2. เอ๊า ท้ากันแบบนี้ก็ได้หรอ 3. อธิบายซะเห็นภาพขนาดนี้ก็ติด “ที่แขวน” ให้เขาซักอันเถอะ 4. อื้อหืม แรงง! 5. อุ๊ย ถามกันงี้ก็เขินตายเลย 6. ขอบใจนะที่เตือน…แต่เหมือนไม่ทันแล้วล่ะ ข้าศึกมาแล้ว 7. มีการตักเตือนกันอย่างน่ารักๆ 8. เอ๊า!!? ทำไมอ่านอยู่ดีๆ ก็โดนด่า 9. เป็นการผสมโรงแบบไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ …
-
ผู้นำเทรนด์ทวีตมาแต่กาลก่อน… เมื่อ 25 ปีที่แล้ว SMS แรกถูกส่งออกไปด้วยคำว่า ‘Merry Christmas’
ในปัจจุบันนั้นเราส่งข้อความหากันผ่านช่องทางต่างๆ มากมายเป็นล้านๆ คำต่อวัน บ้างก็ยาวบ้างก็สั้นแล้วแต่ประโยคแตกต่างกัน แต่รู้หรือไม่ว่าประโยคแรกที่มนุษย์ชาติส่งผ่านระบบ SMS นั้นคือคำว่า ‘Merry Christmas’ SMS หรือชื่อเต็มๆ ที่เรียกกันว่า ‘Short Message Service’ ซึ่งความหมายตรงตัวก็คือระบบการส่งข้อความสั้นๆ ซึ่งมีการจำกัดคำอยู่ที่ 160 คำ โดย Friedhelm Hillebrand ผู้คิดค้นระบบนี้บอกว่ามันเป็นจำนวนคำที่เขาคิดว่าพอดีแล้ว Neil Papworth โปรแกรมเมอร์ชาวอังกฤษคือชายคนแรกที่ได้ส่ง SMS ด้วยคำอวยพรดังกล่าวเมื่อ 25 ปีก่อน ในวันที่ 3 ธันวาคม 1992 และที่สำคัญมันไม่ได้ส่งผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นที่แรก แต่มันส่งผ่านคอมพิวเตอร์ของเขาต่างหาก อย่างไรก็ตามหลังจากข้อความแรกได้ถูกส่งออกไปเมื่อปี 1992 ข้อความอื่นๆ ก็เริ่มตามมาจนเกิดเป็นกระแสนิยมเรื่อยมาบนโทรศัพท์มือถือ จนกระทั่งปี 2006 ทวิตเตอร์ก็เกิดขึ้นพร้อมยืมไอเดีย SMS มาใช้ในระบบของพวกเขา เพียงแต่ว่าทางทวิตเตอร์ได้ลดจำนวนคำลงเหลือ 140 เพราะให้เหตุผลว่าอีก 20 คำไว้ใช้กับยูสเซอร์เนมนั่นเอง และด้วยความนิยมดังกล่าวของระบบการส่งข้อความจึงทำให้ปี 2012…
-
เหตุผลทางวิทย์ฯ ที่คุณควรจะโต้เถียงด้วยการ ‘พูด’ เพราะมีน้ำหนักมากกว่าสื่อผ่าน ‘ตัวอักษร’
ปัจจุบันหลายๆ คนเลือกที่จะส่งข้อความตัวอักษรมากกว่าการโทรคุยกัน หรือการไปคุยกันต่อหน้า เพราะเชื่อว่ามันสามารถแทนกันได้ แต่ความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป หลังจากที่งานวิจัยได้ออกมาบอกแล้วว่าการพูดคุยกันด้วยเสียงสามารถโน้มน้าวและฟังดูมีน้ำหนักมากกว่าการใช้ตัวอักษร นี่เป็นงานวิจัยทางจิตวิทยาของ Juliana Schroeder จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ผู้ที่ได้ทำการทดลองมาเป็นจำนวนมาก และ งานวิจัยในครั้งนี้ ของเธอก็ได้ถูกตีพิมพ์ในวันที่ 25 ตุลาคม 2017 เธอได้ให้อาสาสมัครจำนวน 300 คนแบ่งออกเป็นกลุ่มที่ได้อ่าน และกลุ่มที่ได้ฟังข้อโต้แย้งในเรื่องของสงคราม การทำแท้ง และความแตกต่างกันของแนวดนตรี จากนั้นจึงให้ทุกคนลองประเมินและตัดสินจากสิ่งที่ตัวเองได้ยินว่ารู้สึกอย่างไรกับคนที่พูดหรือคนที่เขียนข้อความนั้นๆ ผลออกมาคือกลุ่มที่ฟังข้อโต้แย้งผ่านคลิปวิดีโอหรือคลิปเสียงจะมีความรู้สึกสนใจและให้คุณค่ากับคำพูดเหล่านั้นมากกว่ากลุ่มที่ได้อ่านผ่านตัวอักษร ผลลัพธ์ดังกล่าวทำให้นักวิจัยเชื่อว่าการสื่อสารด้วยเสียงจะทำให้ผู้พูดดูเป็นคนมีเหตุผล และมีความเท่าเทียมกันมากกว่าการสื่อสารกันด้วยตัวอักษร และเธอยังมีการทดลองที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติม อย่างเช่นการทดลองหนึ่งที่เธอให้คน 600 คน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของนักการเมืองสองคนในปี 2016 โดยให้ผู้รับการทดลองให้คะแนนนักการเมืองเหล่านั้นหลังจากที่ได้ฟังหรืออ่านการหาเสียงของพวกเขา ในตอนแรกอาสาสมัครเหล่านั้นรู้สึกเกลียดและไม่ชอบผู้หาเสียงอีกฝั่งนึงมาก แต่เมื่อพวกเขาได้มาฟังหรือเห็นบทสัมภาษณ์ของนักการเมืองคนนั้นแล้ว ความรู้สึกไม่ชอบก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่การอ่านก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งแต่น้อยกว่าการฟัง ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่ามนุษย์เราให้น้ำหนักกับการได้ยินคำพูดมากกว่าการอ่านผ่านตัวอักษร และสิ่งนี้จะยิ่งมีความสำคัญในเวลาที่เราเกิดการโต้เถียงกับอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ ลองคิดถึงการอ่านหนังสือพิมพ์ เวลาเราเห็นพาดหัวข่าวข่าวหนึ่ง ความรู้สึกที่ได้รับแตกต่างกับการที่เราได้ฟังข่าวหรือเห็นข่าวผ่านโทรทัศน์ แม้จะเป็นข่าวเดียวกันก็ตาม และถึงแม้ว่าจิตใจคนเราไม่อาจที่จะคาดเดาได้ แต่งานวิจัยเหล่านี้ก็อาจช่วยบอกกับเราได้ว่าเวลาที่เราทะเลาะหรือโต้เถียงกับใคร การพูดคุยกันด้วยเสียง…
-
จดหมายลึกลับในศตวรรษที่ 17 เขียนโดยแม่ชีที่ถูกปีศาจครอบงำ เพิ่งได้รับการถอดรหัสบางส่วน…
Maria Crocifissa della Concezione หรือเรียกสั้นๆ ว่า Maria เธอเป็นแม่ชีในศตวรรษที่ 17 โดยมีตำนานเล่าว่าเธอถูก Lucifer จอมมารแห่งนรกเข้าครอบงำ และในปี 1676 เธอก็ได้เขียนจดหมายลึกลับฉบับหนึ่งเอาไว้ที่สำนักนางชี Palma di Montechiaro จดหมายลึกลับที่ซาตานใช้ร่างของเธอเขียนเอาไว้ ไม่มีใครสามารถไขปริศนาได้จนกระทั่ง 341 ปีต่อมา กลุ่มนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอิตาลี ก็ได้ทำการถอดรหัสคำแปลที่อยู่บนจดหมายออกมาได้ โดยใช้โปรแกรมถอดรหัสที่ได้ค้นพบบนเว็บไซต์สายมืด และได้พบว่าข้อความที่ปรากฏบนในจดหมายเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก เพราะมันได้อธิบายถึงพระเจ้า และพระเยซูว่าเป็น “ตัวถ่วง” สำหรับ Maria เธอได้เข้ามาอยู่ในสำนักนางชีเมื่อตอนที่อายุ 15 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เธอมีชื่อว่า Isabella Tomasi โดยเช้าวันหนึ่งในปี 1676 เธอได้เผยว่า… เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับข้อความลึกลับที่ถูกเขียนลงบนจดหมาย โดยเธอได้บอกน้องสาวของเธอว่า เธอกำลังถูกซาตานครอบงำ และบอกให้เธอเขียนข้อความเหล่านี้ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานหลายปี ข้อความที่อยู่ในจดหมายก็ยังคงเป็นปริศนา และยังไม่มีแม่ชีคนไหนสามารถแปลข้อความลึกลับที่ Maria เขียนลงบนจดหมายได้เลย และเราก็ต้องขอขอบคุณทีมงานจากศูนย์วิทยาศาสตร์ Ludum ในคาตาเนีย ประเทศอิตาลี…
-
“คลื่นเหงาสาวข้างหอ” เขียนข้อความขออาหาร หนุ่มชั้นล่างถามกลับ แต่ดั๊นไม่ใช่เรื่องข้าว
สำหรับใครที่เคยผ่านช่วงชีวิตในมหาวิทยาลัยมา คงจะเข้าใจถึงความยากลำบากในการขยับร่างกายออกไปจากหอกันเป็นอย่างดี และหลายๆ คนก็คงจะต้องคุ้ยเคยกับคำว่า “ฝากซื้อหน่อย” และดูเหมือนว่า Em สาวมหาลัยเท็กซัสคนนี้ก็ไม่ต่างจากพวกเราหลายๆ คนสักเท่าไหร่ เมื่อเธอและเพื่อนร่วมห้องของเธอ ตัดสินใจขอความช่วยเหลือฝากซื้อข้าวจากผู้คนที่ผ่านไปมา ด้วยการส่งสัญลักษณ์เป็นตัวอักษรต่างๆ ประมาณว่า “ช่วยซื้อข้าวให้ฉันหน่อย” ออกมาทางหน้าต่างของห้องเธอ!! และนี่คือข้อความของเธอ “ซื้อข้าวมาส่งหน่อยจร้าา” และแล้วก็ดูเหมือนว่าจะมีคนเห็นข้อความของเธอ ชายหนุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจึงส่งป้ายตอบกลับมาว่า “อยากได้ข้าวอะไรล่ะ??” และแล้วฝ่ายสาวก็ตอบกลับไปว่า “อะไรก็ได้ ตอนนี้เราอ้วนแล้ว!!” แล้วเธออ้วนแค่ไหนล่ะ?? และจากนั้นบทสนทนาก็เปลี่ยนไป จากเรื่องข้าวก็กลายเป็นเรื่องอื่นเฉ๊ย!? ไหนล่ะข้าว โถ่พ่อหนุ่ม!! และหลังจากนั้น Em จึงตัดสินใจแชร์เรื่องฮาๆ นี้ลงบนทวิตเตอร์ของเธอ และดูเหมือนว่าชาวเน็ตหลายๆ คนจะชอบเรื่องราวน่ารักๆ นี้เช่นกัน โดยมีโพสต์ดังกล่าวถูกรีทวีตมากถึง 93,000 ครั้งและมีผู้ถูกใจอีกกว่า 3 แสนคนเลยทีเดียว แต่ก็มีชาวเน็ตขี้สงสัยบางคน ก็ถามกลับหญิงสาวว่าพวกเขาเห็นข้อความนั้นได้อย่างไรกันน่ะ?? แต่ทางฝ่ายเจ้าของโพสต์ก็ออกมาอธิบายว่า พวกเธอถ่ายภาพพวกนี้จากถนนด้านล่างต่างหากล่ะ แถมตอนนี้พวกเธอก็ยังไม่ได้ข้าวอีกด้วย!! อืม……
-
ลูกสาวออกไปเที่ยว แต่แม่เป็นห่วง แกล้งให้ส่งรูปมาให้ดู ถ่ายแล้วก็ถ่ายอีก โถ่วววแม่…!!
อีกหนึ่งเรื่องราวน่ารักๆ ที่ทำเอาชาวเน็ตรู้สึกคิดถึงคุณแม่ไปพร้อมๆ กัน เมื่อความจู้จี้ของคุณแม่กลายเป็นความน่าร๊ากก ลูกสาววัย 18 ปี Kaelyn Demmon และแม่สาวของเธอ Heather Steinkopf จากเมือง Huron รัฐโอไฮโอ เรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 18 ที่ผ่านมา เป็นวันสำเร็จการศึกษาชั้นไฮสคูลของลูกสาว และเธอตั้งใจจะออกไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อนนิดหน่อย แต่ด้วยความเป็นห่วงลูกสาว… เป็นธรรมด๊าาที่คุณแม่จะส่งข้อความไปถามว่าอยู่ไหน? ทำอะไร? แถมยังบอกให้เธอส่งภาพมาให้ดูด้วย เมื่อลูกสาวส่งมาแล้ว คุณแม่ก็บอกว่ามันไม่ชัด เปิดไฟเดี๋ยวนี้นะ..!! แน่นอนว่าตอนนั้นลูกสาวคงรู้สึกเริ่มรำคาญใจ แต่ทำยังไงคุณแม่ก็ไม่เชื่อซ๊าากกกที คุณแม่เลยสั่งให้ลูกสาวถ่ายรูปมาให้ดูอีกเรื่อยๆ ซึ่งอันที่จริงแล้วคุณแม่ให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed ว่า “ดิฉันรู้มาตลอดแหละว่าลูกสาวไม่ได้โกหก แค่อยากแกล้งหยอกพวกเขาเท่านั้นเอง” หลังจากที่ลูกสาวแชร์เรื่องราวนี้ลงบนทวิตเตอร์ ก็มีชาวเน็ตมากดไลค์กดแชร์กันเป็นจำนวนมาก บ้างก็บอกว่าตัวเองก็โดนเหมือนกัน แม้แต่ไปอยู่บ้านคุณย่าก็ตาม บ้างก็บอกว่า… “เดี๋ยวแม่ฉันต้องเอาไอเดียมาทำตามแน่ๆ” บางคนก็โชคดีที่ไม่เคยเจอแบบนี้ เพราะโกหกได้แนบเนียนมาโดยตลอด ก็เป็นอีกเรื่องราวน่ารักๆ…
-
สรุปคดีสะเทือนโลก แฟนสาวส่งข้อความ ยุยงหนุ่มให้ “ฆ่าตัวตาย” หวังให้คนสงสารเธอ..!?
กลายเป็นอีกหนึ่งคดีสะเทือนขวัญไปทั่วทั้งโลก เมื่อล่าสุดวันที่ 7 มิถุนายน 2017 สำนักข่าว AP ได้รายงานเรื่องของกรณีวัยรุ่นสาวชาวอเมริกัน Michelle Carter ผู้ยุยงแฟนหนุ่ม Conrad Ray ให้ฆ่าตัวตายผ่านการส่งข้อความ เรื่องราวจากการสอบสวนพบว่าหญิงสาวได้พยายามยุยงให้แฟนหนุ่มฆ่าตัวตาย ผ่านข้อความมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งในวันที่ 12 กรกฎาคม ปี 2014 แฟนหนุ่มของเธอได้รมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ตัวเอง ด้วยการเปิดเครื่องปั้มน้ำและสอดท่อไอเสียอัดเข้าไปในรถยนต์ ในช่วงจังหวะหนึ่งที่เขารู้สึกกลัวกับการฆ่าตัวตาย แฟนสาวก็ส่งข้อความยุยงให้เขากลับเข้าไปในรถเพื่อทำให้สำเร็จ จนในที่สุดแล้วเขาก็เสียชีวิต… โดยคดีนี้ได้มีการสืบสวนมาอย่างยาวนาน มีทั้งการค้นประวัติการแชทกัน วิเคราะห์ข้อความที่ส่งให้กันเพื่อให้ทราบเจตนาที่แท้จริงของทั้งสองฝ่าย ผู้ต้องหา Michelle Carter และแฟนหนุ่มผู้เคราะห์ร้าย Conrad Ray Marie Claire Flynn อัยการได้ชี้แจงว่า “ผู้ต้องหาพยายามยุยงให้ชายหนุ่มฆ่าตัวตาย โดยให้เหตุผลเพียงเพื่อต้องการให้คนมาสงสารเธอ จากหลักฐานทั้งหมดเราพบว่า ในวันที่แฟนหนุ่มเข้าไปรมก๊าซพิษในรถ หญิงสาวไม่ได้โทรหาเจ้าหน้าที่ หรือผู้ปกครองของแฟนหนุ่มเลย แต่สิ่งที่เธอทำกลับตรงกันข้าม..” โดยข้อความส่วนหนึ่งที่เปิดเผยจากหลักฐานในวันที่เกิดเหตุระบุว่า “เธอต้องทำให้ได้นะ Conrad ยิ่งเธอพยายามฝืนเท่าไหร่เธอก็จะยิ่งพบกับความสุขมากเท่านั้น สิ่งที่เธอต้องทำก็แค่เปิดเครื่องนั่น ทำตัวตามสบายทำใจให้สงบ ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เธอเฝ้าหามาตลอด…
-
เผยข้อความสุดท้าย จากคู่รักที่ติดอยู่ในเหตุการณ์ไฟไหม้ Grenfell Tower ณ เวสท์ลอนดอน
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาหลายคนคงได้เห็นข่าวเหตุการณ์เพลิงไหม้อาคารสูง 24 ชั้นในกรุงลอนดอน และตอนนี้ก็มีรายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 12 คนแล้ว หนึ่งในเรื่องราวที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโลกโซเชียลตอนนี้ คือเรื่องราวของคู่รัก Gloria Trevisan และ Marco Gottardi ผู้เคราะห์ร้ายที่ติดอยู่ในอาคาร ทว่าก่อนที่เขาจะจากไปเขาได้ส่งข้อความอำลาคุณแม่ของพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย Gloria Trevisan และ Marco Gottardi ทีมข่าว Dailymail จึงได้เดินทางไปสัมภาษณ์ญาติคนสนิทของทั้งคู่ และญาติๆ ของทั้งคู่ได้เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ทีมงานได้ฟังดังนี้… “เป็นช่วงเวลากลางดึก ในขณะที่เรากำลังนอนหลับสนิทอยู่เราก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกชายของเรา พวกเขาทั้งคู่ดูมีน้ำเสียงที่ตื่นกลัวเอามากๆ ทั้งคู่โทรมาเล่าให้เราฟังว่า ตอนนี้มีไฟไหม้ภายในอาคารที่พวกเขาอาศัยอยู่ และทั้งคู่ก็อาศัยอยู่บนชั้นที่ 23” น่าเศร้าที่ทั้งสองคนเพิ่งย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในตึกนี้ได้ไม่ถึงสองอาทิตย์เท่านั้น คุณพ่อของ Gottardi เล่าเสริมว่า “จากนั้นเราก็รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปช่วยเหลือ หลังจากนั้นไม่นานเราก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกชายของเรา… และมันก็เป็นสิ่งติดตาผมมาจนถึงทุกวันนี้ Gottardi โทรกลับมาเพื่อที่จะบอกเราว่า มีควันไฟเต็มไปทั่วทั้งตึกและดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถออกมาได้ เขาอยู่กับเราจนวินาทีสุดท้าย เป็นเวลาประมาณ ตี 4 ได้ จนลูกชายบอกเราไฟกำลังลามมาถึงหน้าห้องของเขาทุกอย่างดูจะแย่ลงไปอีก จากนั้นสัญญาณก็ตัดไปและเราก็ติดต่อเขาไม่ได้อีกเลย” ทางด้านผู้ปกครองของแฟนสาว Trevisan ได้เล่าว่า “ลูกสาวโทรมาหาพวกเราตอนประมาณตี…
-
หนุ่มวัย 20 ปีที่ป่วยเป็นมะเร็ง โพสต์ข้อความเล่าถึงมุมมองต่อชีวิต ก่อนจะจากไป…
เรื่องราวความประทับใจของชายหนุ่มที่ป่วยเป็นมะเร็งรายหนึ่ง แม้ว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองใกล้จะจากโลกนี้ไปเต็มทีแล้ว แต่ก็ยังลุกขึ้นมหาเงินระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งคนอื่นๆ Pablo Ráez หนุ่มวัย 20 ปี เป็นชาวเมือง Marbella ประเทศสเปน เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมานี้เอง หลังจากที่ทำการปลูกถ่ายไขกระดูก และทำคีโมไม่กี่ครั้ง ก็หายกลับมาเป็นปกติ หนุ่ม Pablo กำลังจะได้กลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติธรรมดาอีกครั้ง แต่โชคร้ายที่มันกลับมาทำร้ายเขาอีก และดูเหมือนว่ารอบนี้จะรุนแรงและหนักหน่วงกว่าครั้งที่ผ่านมามาก แต่แทนที่เขาจะยอมแพ้ เขากลับลุกขึ้นมาทำบางอย่างที่แตกต่างออกไป เขาได้ริเริ่มแคมเปญผ่านทางแฮชแท็ก #retounmillón (#onemillionchallenge) โดยจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อีกไม่กี่เดือนเพิ่มยอดผู้บริจาคไขกระดูกสันหลังจากจำนวน 230,000 คนให้กลายเป็นจำนวน 1,000,000 คนก่อนที่เขาจะจากไป ในช่วงต้นปี 2017 เมื่อรู้ว่าการเดินทางของตัวเองใกล้จะจบลง ก่อนที่มันจะถึงปลายทางพ่อหนุ่ม Pablo ก็ได้โพสต์ข้อความถึงแพนๆ ผ่านทางอินสตาแกรมว่า “ผมคิดอะไรบางอย่างได้ และคิดว่าอยากจะเล่าให้ทุกคนได้ฟัง พวกเราอาศัยอยู่ในสังคมที่ทำงานเพื่อเงิน นั่นเป็นเป้าหมายของการมีชีวิตอยู่ เราเปรียบเสมือนเป็นทาสของเงินยอมทำทุกอย่างเพื่อมัน” “โลกของเราค่อยๆ ตายลงอย่างช้าๆ ด้วยฝีมือของพวกเราเอง พวกเราทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย…
-
ชายหนุ่มทดลอง ให้คนอื่นแปล “ข้อความด่าแบบเกลียดชัง” เพื่อดูปฏิกิริยาของพวกเขา…
ในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอมานำเสนอคลิปวีดีโอการทดสอบปฏิกิริยาของผู้คนมาให้ได้ชมกัน โดยในคลิปการทดลองของชาแนลยูทูป Lietuvos žmogaus teisių centras แสดงให้เห็นภาพของชายผิวสีคนหนึ่งในลิทัวเนีย ในคลิปจำลองว่าเขาพูดได้เพียงแค่ภาษาอังกฤษ และกำลังพยายามขอความช่วยเหลือจากผู้คน โดยการให้พวกเขาเหล่านั้นช่วยแปลข้อความในเฟสบุ๊คซึ่งเป็นภาษาลิทัวเนียให้ หลังจากที่ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้ยื่นแท็บเล็ตให้กับผู้คนได้อ่าน เขาก็ได้สังเกตเห็นปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปของผู้คนเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน บางคนก็รู้สึกอยากจะขอโทษ บางคนก็มีลักษณะเหมือนกับกำลังจะร้องไห้ เนื่องจากในข้อความที่พวกเขาเห็นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง และถ้าหากพูดออกไปมันอาจจะทำให้เขาเสียใจได้ อีกทั้งยังมีหญิงรายหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “ฉันจะไม่แปลให้คุณฟังหรอก เพราะมันฟังดูแย่มาก” หรืออย่างเช่น “ไม่มีข้อความที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณเลย” ลองชมปฏิกิริยาจากผู้คนที่เข้ามาร่วมการทดลองนี้ ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรกับคำด่าเหล่านั้น… ดูสายตาของเขา ที่เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ.. โดยปกติแล้วผู้คนส่วนใหญ่อาจไม่เคยนึกถึงเรื่องแย่ๆ หรือสิ่งที่น่ากลัวกันสักเท่าไหร่ แต่สำหรับคลิปวีดีโอดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกด้านมืดในจิตใจของผู้คน… ที่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้เห็นสิ่งที่เลวร้าย และน่ากลัวที่ปรากฏในข้อความที่อ่าน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ได้แสดงความรู้สึกที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่นออกมา ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดี และน่าประทับใจไม่น้อย ที่มา : upworthy
-
สาววัย 23 ทำบัตรประชาชนหายไปเป็นปี วันหนึ่งมันถูกส่งคืนมาพร้อม “จดหมายขอบคุณ” สุดฮา
ใครเคยทำบัตรประชาชนหายบ้าง? เชื่อว่าหลายคนต้องเคยทำหายบ้างละ แต่จะว่าไปคิดแล้วก็เซงเหมือนกันนะ เพราะไหนจะต้องเตรียมเอกสารเยอะแยะมากมาย ไหนจะต้องไปทำใหม่อีก เฮ้อ…เสียเวลาจริงๆ แต่สำหรับ Christina Egan สาววัย 23 ที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในประเทศสหรัฐอเมริกา คนนี้ เธอกลับไม่ได้รู้สึกเซ็งอะไรเลยที่ทำบัตรหล่นหาย เพราะเธอได้บอกว่า ในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งปีผ่านมา เธอทำบัตรประชาชนหายมาแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน…แหม!! คิดว่าเธอคงจะชินกับการทำบัตรหายซะแล้วละ!! “ฉันชอบออกไปข้างนอก โดยพกแค่บัตรประชาชนของฉัน บัตรเดบิต รวมถึงลิปกลอส แล้วเก็บใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ โดยที่ไม่มีกระเป๋าสตางค์ใส่ มันเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีเอาซะเลย” Christina กล่าว ย้อนเวลากลับไปเมื่อปีที่แล้ว มีครั้งหนึ่งที่เธอทำบัตรประชาชนหล่นหาย ขณะที่กำลังเที่ยวในบาร์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก แต่แทนที่เธอจะรีบหามัน Christina กลับไม่คิดอะไร พร้อมรีบไปทำบัตรอันใหม่ขึ้นมาแทน Christina สาวที่ทำบัตรประชาชนหายอยู่บ่อยครั้ง ได้ลืมเรื่องราวที่เคยทำบัตรหายในบาร์ไปเสียสนิท กระทั่งวันหนึ่งเธอได้รับจดหมายลึกลับส่งมายังบ้านของเธอ ซึ่งเธอก็ได้เปิดดูมัน และพบว่านี่เป็นจดหมายขอบคุณ ภายในจดหมายที่ส่งมา มีบัตร ID Card ของเธอที่เคยทำหายไป พร้อมกับกระดาษจดหมายที่เขียนข้อความฮาๆ แนบมาด้วย และนั่นทำให้เธอเห็นได้ชัดเลยว่ามีคนพบบัตรของเธอ…
-
คุณยายชวนหลานไปงานปาร์ตี้ แต่ดั๊นชวนผิดคน พ่อหนุ่มก็เลยเนียนขอไปแจมด้วยซะเลย!!
เพราะคำว่า ‘มิตรภาพ’ นั้น สามารถเกิดขึ้นได้ แค่คุณมอบน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคนอื่น แค่นี้เรื่องราวดีๆ ก็เกิดขึ้นได้แล้วล่ะ… Jamal Hinton เด็กหนุ่มที่ทำงานปกติสุขในชีวิตของเขาไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่ง มีข้อความปริศนาที่ถูกส่งมาในแชท โดยผู้ส่งได้กล่าวอ้างว่า เธอคือ ‘คุณยาย’ ของเขา และเชิญชวนให้ไปทานข้าวในปาร์ตี้วันขอบคุณพระเจ้าร่วมกับเธอ ข้อความเชิญชวนไปร่วมปาร์ตี้ บุคลนิรนาม: งานปาร์ตี้ที่บ้านของฉันจะจัดขึ้นวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ เริ่มตั้งแต่บ่าย 3 เป็นต้นไปนะจ๊ะ หวังว่าจะมาล่ะ โดยเฉพาะ Amanda และ Justin เนี่ยต้องมาเลย Jamal Hinton: นี่ใครน่ะ!? บุคลนิรนาม: คุณยายของเธอไง ด้วยความไม่แน่ใจ เขาเลยขอให้เธอส่งรูปมาให้ดู Jamal Hinton: คุณยายเหรอ งั้นผมขอดูรูปหน่อยสิ คุณยาย: รูปใคร Jamal Hinton: รูปคุณยายนั่นแหละ ฮ่าๆๆ …
-
แผนการณ์ร้ายของเด็ก 6 ขวบ แอบใช้มือถือยายหลอกถาม “ของขวัญวันเกิด” จากแม่แบบเนียนๆ
ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่เข้าถึงใช้งานได้ง่ายขึ้น เด็กหลายคนสมัยนี้เกิดมาก็มีแท็บเล็ตใช้กันแล้ว แถมยังใช้เป็นยิ่งกว่าผู้ใหญ่ซะอีก!! Emily Cairns หนูน้อยวัย 6 ขวบจากเมืองแมนเชสเตอร์ ผู้เป็นคนควบคุมเทคโนโลยีทุกอย่างในบ้าน และเมื่อใกล้วันเกิดของเธอ เธอไม่อยากรอว่าของขวัญปีนี้จะได้อะไร เธอก็เลยวางแผนบางอย่างขึ้นมา คุณแม่ Amy ปกปิดของขวัญเป็นความลับ หนูน้อยก็เลยรอช่วงเวลาที่คุณยาย Maureen เผลอ เอาโทรศัพท์มา แล้วก็แชทไปถามแม่ว่าซื้ออะไรเป็นของขวัญวันเกิด และแม่ก็ตอบมาทุกอย่างเลย ช่างเป็นวิธีที่เรียบง่ายจริงๆ ขนาดคุณแม่ยังคาดไม่ถึงเลย เพราะตอนที่ยายตอบว่า “Wow” เธอก็คิดอยู่นะว่ายายไม่เคยพูดแบบนี้นี่หน่า แล้วก็เพิ่งมาเอะใจได้นี่แหละ!! “It was the ‘wow’ that gave her away…I thought, “Mum wouldn’t say that,” and I was suspicious.” โดนจับได้เพราะคำว่า Wow คำเดียวเลย จริงๆ เด็กก็เป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น พวกเขาจะทำทุกวิถีทางที่จะรู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ แต่เอาจริงๆ…
-
15 “ข้อความลับ” ที่ซ่อนอยู่ในโลโก้แบรนด์ดัง ล้วนมีความหมายมากกว่าที่ทุกคนคิด!!
โลโก้แบรนด์ ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของบริษัทเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากชื่อที่ทำให้คนสามารถจำแบรนด์ได้แล้ว โลโก้ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนจดจำได้ด้วย การออกแบบโลโก้นั้นไม่ใช่ว่าวาดๆ ออกมาก็เสร็จแล้ว เพราะทุกขั้นตอนล้วนผ่านการคิดมาแล้วทั้งนั้น อีกทั้งยังสอดแทรกข้อความหรือความลับเล็กๆ น้อยๆ ไว้ข้างในโดยที่เราไม่ทันสังเกต วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยจะพาทุกท่านมาไขความลับที่อยู่ในแบรนด์ดังเหล่านี้กันว่าจะเจออะไรกันบ้าง เราไปดูกันเลย FedEx – โลโก้จะซ่อนลูกศรไว้ตรงระหว่างตัวอักษร E และ x เพื่อสื่อให้เห็นถึงการส่งต่อไปข้างหน้า Gillette – ให้ดูดีๆ ที่ตัวอักษร G และ i ที่มีความรู้สึกเหมือนใบมีดโกนมันสามารถเฉือนได้คมมากๆ ซึ่งแสดงถึงสินค้าได้อย่างดี NBC – เป็นช่องสถานีโทรทัศน์ เราจะเห็นช่องสีขาวตรงกลาง ที่กินพื้นที่เข้าไปในสีม่วงหน่อยๆ จริงๆ แล้วมันคือรูปนกยูงที่เป็นตัวแทนแห่งชื่อเสียงและความภาคภูมิใจ Vaio – แบรนด์คอมพิวเตอร์ของโซนี่ที่ทำเพื่อสื่อถึงการผสมผสานของอนาล็อกและดิจิตอล โดยตัวอักษร VA นั้นทำให้ออกมาเหมือนคลื่นธรรมชาติ และ IO ก็คือไบนารี่โค้ดนั่นเอง Tostitos – แบรนด์ขนมที่ทำออกมาให้ตัว T…
-
สุดซึ้ง ภรรยาเจอข้อความที่ซ่อนไว้ของสามีผู้ล่วงลับใต้โต๊ะทำงาน บอกว่ารักเธอมากขนาดไหน…
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่น่ารัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าสยองอยู่นิดๆ เหมือนกันนะเนี่ย ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่าจะน่ารัก หรือสยอง เพื่อนๆ ลองมาตัดสินใจดูกันนะจ๊ะ ButAnywayHeresWonderwall ผู้ใช้ Imgur เว็บไซต์ฝากภาพชื่อดัง ได้โพสต์ภาพของข้อความ ที่พ่อของเขาได้เขียนไว้ที่โต๊ะทำงานของแม่ตอนมีชีวิตอยู่ ถึงแม้เขาจะเสียชีวิตไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตอนนี้เขาเจอเข้ากับข้อความนี้โดยบังเอิญและบอกได้เลยว่ามันซาบซึ้งสุดๆ ข้อความใต้โต๊ะทำงานของแม่ “I love you Becca. Whatever day this is, I hope it’s a good one. God truly answered my prayers the day he gave me you. I know that these days are the best I’ll ever have,…
-
Instagram แห่งความเจ็บปวด Textfromyourex คอนเซ็ปต์ ‘บอกแล้ว เวลาเมาอย่าส่งข้อความหาแฟนเก่า’
ช่วงเวลาดีๆ ของคนสองคนที่ยังคบกัน อะไรก็ดูมุ้งมิ้งหวานเจี๊ยบกิ๊งก่องแก้วไปเสียหมด แต่กระนั้นบางคู่ก็มาถึงจุดแตกหักที่ทำให้ต้องเลิกรากันไป ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม คู่ที่จบกันด้วยดี ลงเอยกลับมาเป็นเพื่อนก็ดีไป แต่คู่ที่จบไม่สวยนี่สิ ไม่อยากจะนึกภาพต่อ!! เมาแล้วชอบลั่นหาแฟนเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลา ‘เมา’ คนเราก็มักจะคิดถึงแต่เรื่องราวเก่าๆ แค่คิดก็ยังว่าหนักแล้ว หากลงมือทำด้วย มันก็ยิ่งไปกันใหญ่ จะให้โทรไปหาก็กระไรอยู่ สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการ ‘มือลั่นส่งข้อความ’ ไปแทน Instagram ที่ชื่อว่า textfromyourex (ข้อความจากแฟนเก่า) จะช่วยตอกย้ำความช้ำให้กับอาการลั่นเหล่านี้เอง ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน อย่าคิดจะส่งข้อความไปด่า ถ้ายังมีของที่ต้องการจากอีกฝ่ายอยู่ ‘ยังมีหนัง Avatar ของเก๊าอยู่มั้ยอ่ะเตง’ ‘ฉันรักเธอนะ’ รักจัง กลัวเธอไม่รู้ แต่ขอโทษทีเมื่อคืนเมาหนักไปหน่อย คุยอยู่คนเดียว ท่าทางจะเหงาน่าดู เทศกาลแห่งความสุข เมอร์รี่คริสต์มาสนะ ยังคิดถึงเสมอ – ไปตายซะ เฮ้ย – ผิดเบอร์ป่าว? ไม่นะ คิดมาส่งถูกแล้ว…
-
พนักงานร้านอาหารเฮลั่น ได้รับข้อความชนะรางวัล Powerball พันล้านเหรียญ…ที่จริงโดนคนส่งมาแกล้ง!!!
ถถถถถถถถถถถถถถ พูดได้คำเดียวว่า ปัดโถ่ -*- ลองคิดภาพดูสิว่า ถ้าคุณเกิดชนะรางวัล Powerball ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ โดยยอดรางวัลอยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 35,000 ล้านบาท!!! ถึงจะแชร์กับคนกว่า 42 คนด้วยกัน แต่คุณก็จะได้เงินราวๆ 23 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 800 ล้านบาทเลยทีเดียว ณ ขณะนั้น คงเลิกทำงาน ลาออกจากงาน แถมไปด่าเจ้านายทิ้งท้ายไว้ด้วยล่ะ ว่าตรูเป็นเศรษฐีแล้วววว ฮ่าๆๆๆ ลาก่อยยยย เหมือนกับพนักงานร้านอาหารคนนี้… Charles Povermo วัย 55 ปี ทำงานอยู่ที่ร้าน Grissini’s ใน Englewood Cliffs, New Jersey สหรัฐอเมริกา ตอนที่เขากำลังจับสลากเลขของผล Powerball อยู่ ในวิดีโอก็สามารถบันทึกผลขณะที่พวกเขาตรวจเลขเอาไว้ก็คือ 2, 11, 47, 62, 63 และ 17 ทำเอาแตกตื่น…
-
จดหมายน้อยภาษาจีนซ่อนในถุงเท้าที่ซื้อมาจากร้านค้าเสื้อผ้าราคาถูก ‘ช่วยเราด้วย เราโดนอุ้ม’
เวลาที่เราไปซื้อของหรืออะไรก็ตามแต่ สิ่งที่เราคาดหวังจากสินค้าก็คือตัวสินค้า แต่กระนั้นก็มีของแถมที่ได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างเช่นคุณพ่อของ Lucy Kirk ที่ไปซื้อถุงเท้ามาคู่หนึ่งจากร้าน Primak กลับเจอกระดาษพร้อมกับข้อความที่เขียนเป็นภาษาจีนเต็มแผ่น โดยที่มาพบกับกระดาษพร้อมข้อความภาษาจีนนี้หลังจากที่ซื้อถุงเท้ามาได้หนึ่งสัปดาห์ สำหรับใจความบนกระดาษนั้นก็ประมาณว่า ชายชาวจีนผู้เขียนข้อความชื่อว่า Ting Kun Ding ถูกอุ้มเข้ากลีบเมฆโดยเจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่นในจีน เนื่องจากเปิดโปงการทุจริตของวงใน ตอนนี้ถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ อีกทั้งภรรยาของเขาก็ถูกจับเข้าโรงพยาบาลจิตเวช โดยปีที่แล้วคุณพ่อของเขาถูกฆ่าปิดปากในโรงพยาบาลด้วย จึงได้เขียนโน๊ตนี้ขอความช่วยเหลือให้ส่งเรื่องไปให้ถึงรัฐบาลจีนเพื่อขอความเป็นธรรมกับเขา ในที่สุดโลกออนไลน์ก็ได้รับรู้พร้อมกับติด #HelpTingKunDing เพื่อเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยเหลือชายชาวจีนผู้นี้ แม้แต่ทางด้านร้านค้าเสื้อผ้า Primak เองก็ยังติดตามเรื่องนี้เช่นเดียวกัน แต่ด้วยคำขอที่ปรากฏบนกระดาษนั้นทำให้ Lucy ไม่อาจตัดสินใจได้ว่าจะส่งเรื่องนี้ไปยังสถานทูตจีนที่อยู่ใกล้เคียงหรือต้องส่งเรื่องไปยังรัฐบาลจีนโดยตรงดี แต่สุดท้ายก็ทำให้เธอตัดสินใจส่งเรื่องไปยังรัฐบาลกลางของจีนแทน ซึ่งยังไม่มีความคืบหน้าอะไรมากนัก ที่มา : unilad
-
หนุ่มทหารผ่านศึกโต้กลับโน๊ตสุดรุนแรง กรณีที่เขาจอดรถในที่คนพิการ ก็เพราะว่าบาดเจ็บจริง!!
ในเรื่องของมนุษย์ชอบแฉและเผือกเรื่องราวของชาวบ้านโดยที่ไม่ตรวจกันให้ดีๆ ก่อน ปล่อยให้อารมณ์ความหงุดหงิดเข้าครอบงำ จนไม่สนว่าอะไรเป็นอะไรอย่างเช่นกรณีที่มีบุคคลปริศนาได้ทิ้งโน๊ตอารมณ์ฉุนเฉียวเกี่ยวกับการจอดรถของพ่อหนุ่มทหารผ่านศึกรายนี้ ใจความภายในโน๊ตก็จะประมาณว่า ‘เฮ้ยพวก เลิกจอดรถในที่จอดรถของคนพิการซะ เพราะสภาพของเอ็งดูไม่เหมือนคนพิการเลยซักนิด ตอนนี้ตูได้ถ่ายรูปทะเบียนรถของเอ็งแล้วก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อย เลิกทำตัวเป็นไอ้งั่งซักที’ อ้าวววว!! เจอข้อความมาแบบนี้ เป็นใครก็หงุดหงิดตามซิ แต่พ่อหนุ่มทหารผ่านศึกรายนี้กลับใช้วิธีตอบโต้ที่นุ่มนวล ใช้ภาษาตอบกลับแบบสุภาพและนอบน้อมที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ความหมายภายในนั้นตอกหน้าเจ้าของโน๊ตที่เขียนมาด่าได้อย่างลึกซึ้ง ใจความจากย่อหน้าแรก ‘ถึงเจ้าของโน๊ตผู้เกรี้ยวกราด อย่างแรกเลยก็คือ ในรัฐเท็กซัสเนี่ย ถ้ายานพาหนะคันไหนมีป้ายทะเบียนของทหารผ่านศึกที่พิการ ตามกฏหมายแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะแสดงต้องสัญลักษณ์คนพิการแสดงเพิ่มเติม เว้นเสียแต่ว่าไปจอดในที่ของรัฐบาลกลาง อันนี้ไม่ได้ ถ้าหากว่าสงสัยก็สละเวลาซัก 30 วินาที ควักคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (น่าจะหมายถึงสมาร์ทโฟน) ออกมาจากกระเป๋า แล้วก็ค้นหาข้อมูลที่ถูกต้องก่อน เพราะถ้าหาข้อมูลก่อนคุณก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องมาทิ้งข้อความรุนแรงนี้ให้ผมหรอก’ หน้าตาของป้ายทะเบียนที่ว่าจะประมาณนี้ ‘จากที่คุณถ่ายภาพทะเบียนรถผมไปคุณก็น่าจะเห็นข้อความที่เขียนเอาไว้ว่า ทหารผ่านศึกผู้พิการของกองทัพสหรัฐฯ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก คุณอาจจะถูกอารมณ์เพียงชั่ววูบครอบงำทำให้รู้สึกว่าเป็นพวก ‘ยอดมนุษย์พิทักษ์ความยุติธรรม’ ที่คิดว่าตัวเองถูกต้องไปซะหมด’ ใจความย่อหน้าที่สอง ‘อย่างที่สองนะ ถึงแม้ผมจะดูไม่เหมือนผู้พิการในสายตาของคุณ แต่ผมสามารถรับรองได้เลยว่าความเจ็บปวดในช่วงล่าง ที่เป็นผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่นั้น มันมีมากกว่าความเจ็บปวดที่คุณเคยสัมผัสมาตลอดทั้งชีวิตอย่างแน่นอน หรืออาจจะไม่ก็ได้ เพราะผมไม่รู้ว่ากำลังพูดกับใคร…
-
‘พ่อฉันคือพ่อนาย’ บทสนทนาสุดซึ้งของนักดับเพลิงจีน ก่อนทำภารกิจเสี่ยงภัยในเหตุระเบิดเทียนจิน
เมื่อช่วงเย็นของวันพุธที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงในเมืองเทียนจิน ประเทศจีน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 700 คน เสียชีวิตประมาณ 50 คน และหนึ่งในนั้นคือนักดับเพลิงหนุ่มวัย 18 ปีอีกด้วย เรียกได้ว่าสะเทือนใจสุดๆ และจากเหตุการณ์นี้ มีบทสนทนาระหว่างนักดับเพลิงคนหนึ่งกับเพื่อนของเขาในโปรแกรม Wechat หลุดออกมา และบทสนทนานี้กลายเป็นกระแสโด่งดังไปในชั่วข้ามคืน เนื่องจากทำให้ผู้อ่านได้เข้าใจว่า ชีวิตของนักดับเพลิงนั้นลำบากขนาดไหน ไปลองชมกันดีกว่า ว่าเป็นยังไง นักดับเพลิง : นายอยู่หรือเปล่า? เพื่อน : อยู่ๆ ว่าไงเพื่อน? นักดับเพลิง : โทรศัพท์ฉันโทรออกไม่ได้เลย Gangzi เพิ่งตายไป.. เขาตายแล้ว เขาตายไปแล้ว.. เพื่อน : นายล้อเล่นรึเปล่า? นายอยู่ไหนเนี่ย? นักดับเพลิง : ฉันอยู่บนรถ กำลังเดินทางไป Tanku..Tangu เพื่อน : โทรหาฉันตอนนี้ได้มั้ย? นักดับเพลิง : ไม่ได้จริงๆ ฉันสวมอุปกรณ์ป้องกันหมดแล้ว ฉันเป็นคนเดียวที่มีโทรศัพท์ที่นี่ เพื่อน :…
-
ทำความรู้จักดาบโบราณ 800 ปี ที่มีตัวอักษรโบราณเขียนอยู่ ไม่มีใครรู้ว่ามันหมายความว่ายังไงเลย!?
ย้อนกลับไปในยุคที่มนุษย์เริ่มมีการประดิษฐ์อักษรเพื่อใช้ในการสื่อสารต่างๆ ก่อนที่จะมาเป็นภาษาทางการปัจจุบันอย่างเช่นภาษาอังกฤษนั้น ข้อความต่างๆ ไม่อาจสามารถเข้าใจได้เลยว่าหมายถึงอะไร และอักษรเหล่านั้นก็ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน หอสมุดของประเทศอังกฤษได้ทำการเก็บดาบเล่มนี้เอาไว้ และพยายามที่จะถอดความหมายจากอักษรโบราณที่สลักอยู่บนดาบอายุ 800 ปีเล่มนี้ จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถหาความหมายที่แท้จริงได้เลย สำหรับดาบเล่มนี้เป็นดาบที่มีคมทั้งสองด้านและเป็นส่วนหนึ่งของ “มหากฎบัตร” (Magna Carta) มีประสิทธิภาพมากพอที่จะสามารถตัดหัวมนุษย์ให้ขาดเป็นสองท่อนได้!! สิ่งที่ยังคงค้างคาใจมาจนถึงปัจจุบันก็คือ ข้อความที่สลักอยู่บนดาบนี่แหละ โดยมีใจความว่า +NDXOXCHWDRGHDXORVI+ อาจจะเป็นรูปแบบของภาษาลาติน ซึ่ง ND น่าจะเป็น Nostrum Dominos แปลว่า ผู้เป็นเจ้า และ XOX น่าจะหมายถึง สัญลักษณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ไม้กางเขน) ซึ่งข้อความเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของพิธีการของอัศวิน และมีด้ามจับดาบเหมือนกับไม้กางเขน เพื่อเป็นสิ่งที่ไว้ยึดเหนี่ยวให้อัศวินปฏิบัติตามหน้าที่ของตนอย่างเคร่งครัด คาดว่าเป็นดาบจากสมัยยุคกลางของยุโรป อย่างไรก็ตามความหมายของดาบเล่มนี้ก็ยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ อักษรโบราณเหล่านี้อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดเอาไว้ก็ได้ ที่มา : thechive
-
หนุ่มมนุษย์เมืองกรุงเทพฯ โพสต์ไอจี “ดีใจที่ถนนโล่ง” ไล่คนต่างถิ่นกลับจังหวัด!!
ช่วงนี้เป็นช่วงวันหยุดยาว ถือเป็นโอกาสที่ดีที่คนทำงานในเมืองกรุงจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนอยู่กับครอบครัวบ้าง ทำให้กรุงเทพฯ มีจำนวนผู้คนน้อยลง เนื่องจากต่างคนต่างกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก แต่แล้วจู่ๆ ก็มีพ่อหนุ่มเมืองกรุงรายหนึ่งโพสต์รูปภาพที่มีข้อความในไอจีส่วนตัว บ่งบอกถึงความดีใจที่กรุงเทพนั้นโล่งกว่าปกติ เพราะไม่มีคนต่างจังหวัดอยู่ในช่วงนี้ แต่กลับเป็นไปในแนวไล่คนต่างจังหวัดกลับบ้านและไม่อยากให้กลับมาที่กรุงเทพอีก เมื่อภาพดังกล่าวแพร่กระจายไปทั่วโลกออนไลน์ ผู้ที่มีภูมิลำเนาต่างจังหวัดก็รุมประนามทันที เพราะรู้สึกไม่พอใจในความคิดที่แคบของพ่อหนุ่มรายนี้ เหมียวก็รู้สึกเหนื่อยกับคนที่มีความคิดแบบนี้เหมือนกันนะ จนในที่สุดชาวเน็ตก็เริ่มทนไม่ไหวกับความคิดอันย่ำแย่ของพ่อหนุ่มรายนี้ที่แสดงออกมาบ่อยๆ โดยหารู้ไม่ว่าความคิดของเขาเองนั้นจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเขาได้ทุกเมื่อ ที่มา : อาณาจักรไบกอน Returns, Kanoksak Chongchaipak