Tag: ข้อสอบ
-
นักเรียนญี่ปุ่นฮาแตก เจอข้อสอบ “ประธาน Nissan ที่ถูกจับกุม” ตัวเลือกแทบจะเฉลยอยู่แล้ว!!
หลังจากข่าวคราวการจับกุมตัว Carlos Ghosn ประธานบริหารของบริษัท Nissan ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก มันก็ได้กลายไปเป็นหนึ่งในข้อสอบปลายภาคสำหรับเด็กนักเรียนในญี่ปุ่น Carlos Ghosn ถูกจับกุมในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2018 และถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดในการยักยอกเงินตอบแทนซึ่งเป็นหลักทรัพย์ของบริษัท Nissan เป็นเวลา 5 ปีรวมเป็นเงินราว 1,400 ล้านบาท และถูกควบคุมตัวอีกครั้งในข้อหารายงานเงินตอบแทนที่ล่าช้าของบริษัไม่ตรงตามความเป็นจริง เป็นระยะเวลาติดต่อกันถึง 3 ปี Carlos Ghosn วัย 64 ปี ข่าวคราวนี้จึงกลายเป็นที่โด่งดังในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก ชนิดที่ว่าทางโรงเรียนของประเทศญี่ปุ่นได้มีการนำข่าวดังกล่าวมาออกเป็นข้อสอบ โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @E2311000OM ผู้ที่ได้ทำข้อสอบชุดนี้ ก็ถึงกับต้องออกมาโพสต์เพราะข้อสอบที่ออกเกี่ยวกับ Carlos Ghosn นั้นมันช่างฮาเสียเหลือเกิน โพสต์เขียนว่า “นี่คือภาพของ Carlos Ghosn ที่อยู่ในข้อสอบปลายภาคของโรงเรียนพวกเรา” ข้อสอบข้อนี้ถามว่า “กรุณาตอบคำถามต่อไปนี้ จากภาพด้านล่าง ใครคืออดีตประธานของ Nissan ที่ถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ในข้อหาผู้ต้องสงสัยรายงานรายได้ของบริษัทไม่ตรงความเป็นจริงเป็นเวลาหลายปี?” ความตลกนั้นบังเกิดตั้งแต่เห็นหน้าของ Mr. Bean แล้วล่ะ…
-
ฉาวมหาวิทยาลัยแพทย์โตเกียว ตัดคะแนนผู้สมัครสอบหญิงทิ้ง เพื่อรับผู้ชายมากกว่า…
เป็นประเด็นที่เกิดขึ้นกับสถานบันทางการศึกษาอย่าง มหาวิทยาลัยแพทย์กรุงโตเกียว ที่ถูกเปิดเผยถึงความไม่ยุติธรรมจากกระบวนการภายใน กรณีคัดเลือกนักศึกษาเข้ามาด้วยระบบจัดสอบ แต่มีข้อครหาในเรื่องของผลคะแนนที่ถูกตัดออกอย่างไม่สมเหตุสมผล เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยจากหนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun รายงานว่ามหาวิทยาลัยแพทย์กรุงโตเกียว ทำการตัดคะแนนสอบของผู้สมัครหญิงมาตั้งแต่ปี 2011 เพื่อคงจำนวนนักศึกษาหญิงในจำนวนที่ต่ำกว่านักศึกษาชาย ต้นเหตุของกรณีนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีผู้สมัคร ที่ผ่านการคัดเลือกเป็นผู้หญิงมีจำนวนคิดเป็น 38% ในปี 2010 ทางด้านสำนักข่าวใหญ่ NHK และ Kyodo News รายงานเพิ่มเติมว่าจากแหล่งข่าวอื่นๆ ยืนยันว่ามีการตัดคะแนนในผลการสอบจริง โดยในบางปีคะแนนของผู้สมัครที่เป็นผู้หญิงจะถูกตัดออกมากถึง 10% จากคะแนนที่ทำได้ อีกทั้งการถูกสื่อในประเทศแฉเกี่ยวกับกรณีของนาย Futoshi Sano เจ้าหน้าที่อาวุโสภายในกระทรวงศึกษาธิการ ได้ทำการตกลงภายในกับบุคลากรมหาวิทยาลัยในปี 2017 ขอเส้นสายเข้าไปประมูลในโครงการรัฐแลกกับการให้ลูกชายสอบติดมีที่เรียนที่มหาวิทยาลัย (ด้วยวิธีเพิ่มคะแนนสอบ) Futoshi Sano หนึ่งในแหล่งข่าวอ้างกับทางหนังสือพิมพ์ว่า ทางมหาวิทยาลัยพยายามจะลดจำนวนนักศึกษาหญิงให้เหลือเพียง 30% จากจำนวนทั้งหมด ด้วยเหตุผลที่ว่าผู้หญิงมักจะลาออกจากการแพทย์ หลังจากแต่งงานและมีลูกแล้ว (เป็นแม่บ้าน) ในขณะที่ผู้ชายยังคงทำงาน เป็นบุคลากรช่วยเหลือภายในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยได้มากกว่า เพราะจะต้องเข้ากะเป็นระยะเวลานานและพร้อมสำหรับกรณีฉุกเฉิน …
-
ถูกรึเปล่า? เฉลยดราม่าข้อสอบ ก.พ. วิเคราะห์โจทย์แก้ปัญหา ‘แมลงวันแอนด์เดอะคาร์’
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม 2561 ได้มีการจัดสอบ ก.พ. (ภาค ก) ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ไปหมาดๆ จนกระทั่งหลังจากเสร็จสิ้นการสอบ มีโจทย์หนึ่งข้อที่กลายมาเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างคับคั่ง เนื่องจากโจทย์ข้อดังกล่าว เป็นได้ทั้งแนวคิดทางคณิตศาสตร์และการนำหลักตรรกะมาใช้ประกอบกัน ชาวเน็ตบางรายก็ชี้เป็นความรู้พื้นฐานที่เคยเรียนกันมาในระดับมัธยม หลักการง่ายๆ แต่ด้วยลักษณะที่ต้องตีโจทย์หลายชั้น จึงทำให้หลายคนทำข้อสอบข้อนี้ไม่ได้… โจทย์ถามว่า “รถยนต์สองคันอยู่ห่างกัน 40 กิโลเมตร วิ่งเข้าหากัน รถคันแรกวิ่งด้วยความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คันที่สองวิ่งด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีแมลงวันอยู่หน้ารถคันหนึ่งบินด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปยังรถอีกคันหนึ่ง พอไปถึงแล้วบินกลับมาที่รถอีกคัน บินสลับอย่างนี้เรื่อยไปจนรถทั้งสองคันวิ่งมาชนกัน ถามว่าแมลงวันตัวนี้บินได้ระยะทางกี่กิโลเมตร” แน่นอนว่าอ่านจากโจทย์แล้ว ก็กลายมาเป็นข้อกังขาในวงกว้าง เนื่องจากโจทย์แบบนี้จะต้องวิเคราะห์ตามหลักตรรกะ และตีโจทย์ให้ออกมาเป็นสมการแทนค่าต่างๆ ลงไป แล้วจึงคำนวณออกมาเป็นคำตอบที่ถูกต้อง จนเพจเตรียมสอบของ อ.ทัด ปฐมภณณ์ ติวเตอร์สอบราชการ ได้ออกมาโพสต์วิจารณ์ข้อสอบข้อนี้ว่า “ไม่ได้คำนึงความเป็นจริงว่าตอนนี้แค่วัดพื้นฐานของคนที่จะเป็นราชการ ออกข้อสอบภาค ก ให้ยากเพื่อคัดคนไปแข่งขันคณิตโอลิมปิก หรือวัดพื้นฐานคนที่จะมาเป็นข้าราชการ” …
-
แม่โพสต์ทวิตเตอร์ ลูกชายทำข้อสอบแบบ “คิดนอกกรอบ” คุณครูใจดีให้คะแนนด้วย!!?
การเป็นคุณครูนั้นบางที่ก็ต้องมีความยืดหยุ่น มีความเปิดใจและเข้าใจเด็ก บางครั้งการเข้มงวดและยึดติดจนเกินไปก็อาจจะไม่ใช่ผลดี ดูเหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่าง คุณครูคณิตศาสตร์ในประเทศญี่ปุ่นได้ยอมรับว่าเด็กคนหนึ่งตอบถูกและได้คะแนนถึงแม้ว่า เด็กคนนั้นจะไม่ทำตามโจทย์ที่ให้มาก็ตาม Tomoko Takagawa คุณแม่ของเด็กคนดังกล่าวได้โพสต์ภาพลงบนทวิตเตอร์ @darkmatter_tomo ว่าลูกชายคนเล็กชั้น ป.1 ของเธอได้ทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ที่มาพร้อมภาพสีสันน่ารักได้ถูกต้อง โจทย์ข้อที่ 1 มีเป็ดว่ายน้ำอยู่ในบ่อ 4 ตัว และที่กำลังวิ่งมาที่บ่ออีก 1 ตัว ส่วนข้อที่ 2 มีโหลปลาทองอยู่ 2 โหล โหลแรกมีปลาอยู่ 1 ตัว โหลที่สองมีปลาอยู่ 2 ตัว ซึ่งทั้งสองโหลกำลังถูกเทรวมกันในตู้ปลา และคำถามก็คือ “มีเป็ดรวมกันทั้งหมดกี่ตัวและมีปลารวมกันทั้งหมดกี่ตัว?” ถึงตรงนี้เราคงจะตอบกันโดยแทบไม่ต้องคิดว่า เป็ด 5 ตัว และปลา 3 ตัว แต่เจ้าหนูกลับตอบว่า มีเป็ดอยู่ 6 ตัวและมีปลาอยู่ 4 ตัว… ทุกท่านคงคิดว่ามันผิดแน่ๆ ใช่ไหมล่ะ? แต่เจ้าหนูกลับได้รับคะแนนสำหรับคำตอบเหล่านี้ เพราะว่าเขาได้มีการ วาดรูป เป็ดอีกตัวเพิ่มเข้าไป แถมวาดปลาเพิ่มเข้าไปอีก 1 ตัวด้วยเช่นกัน…
-
ครูสั่งห้ามนำโทรศัพท์เข้าห้องสอบ นักเรียนเลยพกเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้ามาเลย!!
ลูกเล่นตุกติกของกลโกงข้อสอบนั้น มีทุกยุคทุกสมัยเสียจริง ตั้งแต่วิธีการจดโน้ตเล็กๆ เก็บในกระดาษใบน้อย การบอกข้อที่ถูกต้องผ่านโค้ดลับต่างๆ สารพัดวิธีที่คนอยากจะโกงข้อสอบนั้นสุดจะคิดได้… ยิ่งในสมัยนี้ เทคโนโลยีทำให้สะดวกสบายมากขึ้น และการมาของสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้ค้นหาข้อมูลตามที่ต้องการได้ ก็ไม่แปลกที่จะถูกสั่งห้ามใช้ ห้ามพกเข้าห้องสอบไปตามระเบียบเพื่อป้องกันการโกง อีกหนึ่งเหตุผลที่มักจะใช้อ้างก็คือ ใช้โทรศัพท์เพื่อฟังเพลงระหว่างทำข้อสอบ Eric Saueracker คุณครูชาวแคนาดาท่านนี้ ก็รู้ในความต้องการของนักเรียนเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่อาจไว้ใจได้ว่าจะแอบใช้หาคำตอบกันหรือเปล่า ก็เลยสั่งห้ามไม่ให้พกเข้าห้องสอบ เพื่อให้การสอบวิชาฟิสิกส์นั้นเป็นไปตามที่หวังไว้ แต่แล้วนักเรียนคนหนึ่งก็ทำให้เขาปวดใจกับวิถีโบราณ เพราะดันนำเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้าห้องสอบแทนนี่สิ! ในขณะที่นักเรียนคนอื่นๆ นำ แผงกั้นมาวางไว้หน้าตัวเองเพื่อกันคนอื่นลอกคำตอบ แต่หมอนี่ดันใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงเปิดเพลงของ Kanye West อัลบั้ม The College Dropout ตลอดเวลาที่ทำข้อสอบเลย ฮร่าาาา ทางด้านนาย Eric คุณครูผู้สอนให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ในระหว่างการทำข้อสอบมิดเทอมของวิชาฟิสิกส์ คำตอบในข้อสอบมีในอินเทอร์เน็ต เพราะฉะนั้นก็ต้องห้ามนำโทรศัพท์เข้าห้องสอบ…. ผมพูดติดตลกไปว่า สามารถนำเครื่องเล่นเทปหรือซีดีเข้ามาได้ หากอยากจะฟังเพลง แล้วก็มีนักเรียนคนหนึ่งถามว่านำเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้ามาได้รึเปล่า?” “ผมก็คิดว่าทำไมจะไม่ได้ล่ะ เจ้านี่มันหัวหมอชะมัดผมก็บอกไปว่าโอเคไม่มีปัญหา แล้วเขาก็เอาเครื่องเล่นแผ่นเสียงมาจริงๆ ลากสายยาว…
-
ครูพิเศษชาวสิงคโปร์โดนตัดสินโทษ หลังช่วยเด็กโกงข้อสอบ GCE แบบทันสมัยในปี 2016
ทุกๆ คนรู้กันดีว่าการโกงข้อสอบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี หากว่าเราโกงข้อสอบแล้ว ไม่เพียงแค่ว่าเราไม่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าหน้าที่ แต่เรายังไม่ซื่อสัตย์ต่อความสามารถที่ตัวเรามีจริงๆ อีกด้วย ถึงอย่างนั้นการโกงข้อสอบกลับมีออกมาให้เห็นกันอยู่ร่ำไป แถมยังมีวิธีที่ซับซ้อนและทันสมัยมากขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย เมื่อวันจันทร์ที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา Tan Jia Yan ครูสอนพิเศษสาวชาวสิงคโปร์ วัย 32 ปีได้ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจากคดีมีส่วนร่วมในการช่วยนักเรียนชาวจีน 6 คนของเธอโกงข้อสอบ GCE (General Certificate of Education หรือ ประกาศนียบัตรการศึกษาทั่วไป) ระดับ O (Ordinary Level หรือ ระดับสามัญ) ในปี 2016 วิธีการของเธอคือ Tan Jia Yan จะเข้าร่วมการสอบ GCE ในฐานะผู้สมัครแบบส่วนตัว และจะใช้การวิดีโอคอลติดต่อไปยังนักเรียนของเธอและทำการบอกคำตอบให้แก่พวกเขา โดยที่ฝั่งนักเรียนจะมีการลักลอบนำโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์บลูทูธ และหูฟังขนาดเล็กสีเนื้อเข้าไปในห้องสอบ การโกงข้อสอบในครั้งนี้ถูกเปิดเผยหลังจากที่ผู้คุมสอบได้ยินเสียงประหลาดจากหนึ่งในนักเรียนของเธอและทำการค้นตัวนักเรียนคนดังกล่าว Tan Jia Yan โดนข้อหาเกี่ยวกับการโกงข้อสอบเป็นจำนวน 27 กระทง โดยที่ 26 กระทงนั้นมาจากเหตุการณ์สอบ GCE และอีกหนึ่งกระทงจากคดีช่วยนักเรียนวัย 20 ปีโกงข้อสอบภาษาอังกฤษเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2016 …
-
อจ. ท้า นร. ถ้าคนรีทวีต 6,700 ครั้ง จะเปลี่ยนข้อสอบฟิสิกส์เป็นเกม Fortnite ดั๊นทำได้จริง!!
เมื่อรับปากอะไรไว้แล้ว สัญญาก็ต้องเป็นสัญญาแม้สิ่งที่รับปากกับสิ่งที่ต้องทำจะสวนทางกันสุดๆ ก็ตาม!! Mike McCray อาจารย์สอนวิชาฟิสิกส์โรงเรียนมัธยม Tippecanoe ในรัฐโอไฮโอได้บอกเล่าเรื่องราวสุดเงิบของเขา หลังจากที่เขาได้รับปากพนันกับนักเรียนของตัวเอง “พวกเขาให้ผมเลือกเลขอะไรก็ได้ ในตอนแรกผมได้เลือกเลข 11.235 แต่นั่นไม่ใช่ตัวเลขเต็มหน่วย ผมจึงเลือกใหม่เป็น 6,700 ซึ่งนักเรียนก็ได้บอกกับผมว่า เขาทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ของตัว ถ้าเขาสามารถให้คนมารีทวีตได้ 6,700 คน เขาขอให้ผมออกข้อสอบเป็นเกม Fortnite และผมก็ตอบตกลงรับคำท้านั้น” Mike McCray บอกว่าจริงๆ แล้วตัวเขานั้นไม่ได้เล่นทวิตเตอร์ จึงไม่รู้ว่าผลลัพธ์ที่จะออกมามันจะเป็นไปในทิศทางไหน และตัวเขาก็สอนฟิสิกส์เพียงอย่างเดียว ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเกม Fortnite ที่นักเรียนพูดถึงเลยสักอย่าง จนกระทั่งผลที่ออกมาก็เล่นเอาตัวอาจารย์ต้องอึ้ง เพราะว่ามีคนรีทวีตข้อความของนักเรียนผู้ท้าชิงถึง 30,000 ครั้ง งานนี้ตัวอาจารย์ Mike ก็ตัดสินใจที่จะทำตามสัญญา แต่ขอเวลาอีกไม่นานเพื่อไปศึกษาและออกข้อสอบเกี่ยวเกมดังกล่าวนั่นเอง อาจารย์คงต้องออกข้อสอบว่า ยิงอย่างไรให้กระสุนมันไปตกโดนตัวศัตรูพอดี หรือไม่ก็สร้างฐานอย่างไรให้มีองศาที่พอดี อาจารย์ได้เล่าปิดท้ายว่า “เอาจริงๆ นะ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับวิดีโอเกมเลย และผมก็ไม่รู้ด้วยว่าเด็กๆ พูดเรื่องอะไรแล้วจะให้ผมออกสอบเป็นอะไร…
-
นักเรียนญี่ปุ่นโอดหนัก เมื่อข้อสอบเอนท์ฯ ถามว่า ‘มูมิน’ มาจากไหน พลาดข้อเดียวชี้ชะตาเลยนะ…
ทุกครั้งที่เราพูดถึงจุดเด่นของประเทศญี่ปุ่นเราก็จะนึกถึงสิ่งต่างๆ มากมายทั้งวัฒนธรรม หนังผู้ใหญ่ เทคโนโลยี เกมและสิ่งสำคัญเลยคือ ‘อนิเมะ’ ซึ่งเจ้าสิ่งนี้นั้นเรียกว่าแทบจะซึบซับเข้าไปอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าทุกคนในญี่ปุ่นจะดูอนิเมะหรืออ่านการ์ตูน เพราะแต่ละคนนั้นก็ล้วนมีความสนใจที่แตกต่างกันออกไปซึ่งคิดดูแล้วมันก็ไม่ได้มีปัญหาจริงไหม ทว่ามันดันมีเนี่ยสิ!? เมื่อล่าสุดได้มีนักเรียนญี่ปุ่นจำนวนมากออกมาโพสต์ถึงเหตุการณ์สุดปวดตับที่พวกเขาต้องเจอสอบเอ็นทรานซ์เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยว่า พวกเขาจะต้องเจอกับข้อสอบสุดงงที่ประกอบด้วยรูปภาพของปีศาจอะไรก็ไม่รู้ รวมถึงภาษานอร์ดิกด้วย แต่ที่เงิบกว่าคือในข้อสอบดันมีคำถามที่ถามว่า ‘มูมิน’ นั้นพูดภาษาอะไรและมีต้นกำเนิดมาจากไหน นักเรียนทั้งหมดที่ได้ทำข้อสอบดังกล่าวก็เงิบกันไปยกใหญ่ เพราะนอกจากจะมีคนที่ไม่ค่อยอินกับการ์ตูนในญี่ปุ่นแล้ว นี่พวกเขายังต้องมาเจอกันการ์ตูนจากฟินแลนด์อีก ตายแน่งานนี้… (มูมิน เป็นตัวละครที่ถูกแต่งขึ้่นโดย Tove Jansson ซึ่งเป็นชาวฟินแลนด์ โดยเริ่มแรกถูกสร้างออกมาเป็นหนังสือสำหรับเด็กจำนวน 9 เล่มด้วยกันจากนั้นจึงถูกไปทำเป็นอนิเมชั่น ซึ่งตัวมูมินนั้นเป็นโทรล แต่มีลักษณะคล้ายๆ กับ ฮิปโปโปเตมัส ส่วนภาษาที่ใช้นั้นต้นฉบับจะเป็นภาษาสวีดิช ) เรื่องดังกล่าวนั้นเหมือนจะเป็นเรื่องเล่าตลกขบขัน แต่เอาเข้าจริงมันกลับขำไม่ออกเลยเพราะว่ามันถือเป็นคะแนนที่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของผู้สอบเข้ามหาลัยได้ และเราลองคิดดูว่าเราต้องมาฝากชีวิตไว้กับคำตอบของตัวการ์ตูนที่หน้าตาเหมือนฮิปโปอย่างนั้นเหรอ ข่าวได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วบนโลกอินเตอร์เน็ต ซึ่งเรื่องนี้ได้ร้อนไปถึง Yoshihide Suga เลขาธิการใหญ่ของคณะรัฐมนตรี ซึ่งเขาก็ออกมาบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ผมรับรู้เรื่องดังกล่าวแล้ว แต่รัฐก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่จะสามารถเข้าไปยุ่งอะไรกับข้อสอบได้” . . เมื่อเลขาธิการพูดมาแบบนี้…
-
ข้อสอบคณิตระดับประถม ไม่ประเทืองปัญญา ถามหาอายุกัปตันเรือเกี่ยวอะไรกับจำนวนสัตว์?
สำหรับการสอบวิชาคณิตศาสตร์แล้วย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่โจทย์แต่ละข้อนั้นต้องมีคำตอบแบบตายตัว แต่ก็มีคำถามหนึ่งขึ้นมาที่สร้างความสับสนให้กับนักเรียน หรือแม้กระทั่งผู้อ่านบนอินเตอร์เน็ต โดยคำถามนั้นแทบไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับวิชาคณิตศาสตร์และดูไม่สมเหตุสมผลเลย จนทางสำนักการศึกษาของประเทศจีนทางตะวันตกเฉียงใต้ต้องออกมาแถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อสอบนี้ ข้อสอบที่ว่านั้นเป็นข้อสอบของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เมืองหนานชอง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยคำถามนั้นถามว่ากัปตันเรือมีอายุเท่าไรหากบนเรือมีแกะ 26 ตัวและแพะ 10 ตัว ซึ่งก็ได้รับคำตอบมากมายที่ไม่เหมือนกัน นักเรียนคนหนึ่งตอบว่า “กัปตันควรจะมีอายุอย่างน้อย 18 ปี เพราะคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีไม่ได้รับอนุญาตให้ขับขี่ตามกฎหมาย” นักเรียนอีกคนหนึ่งตอบว่า “กัปตันอายุ 36 ปี เขาค่อนข้างหลงตัวเอง ก็เลยนำสัตว์ขึ้นเรือจำนวนเท่าอายุของเขา” และนักเรียนคนที่สามตอบว่า “เราไม่รู้อายุของกัปตันอย่างแน่ชัดได้ เนื่องจากจำนวนแกะและแพะไม่มีความเกี่ยวข้องกับอายุของกัปตัน” ทางสำนักการศึกษาได้แถลงการณ์ว่าไม่มีคำตอบที่ถูกต้องสำหรับคำถามนี้ จุดประสงค์ของคำถามนี้คือการทดสอบการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ในส่วนของใบแถลงการณ์กล่าวว่า ”ส่วนสำคัญในการพัฒนาการศึกษาของนักเรียนชาวจีนนั้นคือการคิดวิเคราะห์ คำถามนี้เป็นคำถามปลายเปิดที่ดี ทำให้เด็กๆ มีอิสระที่จะตอบคำถามโดยไม่มีคำตอบที่ผิดหรือถูก นักเรียนแต่ละคนสามารถแสดงความคิดของตัวเองออกมาได้ หน้าที่ของการศึกษาไม่ได้มีไว้เพื่อสร้างอะไหล่สำรองที่ได้มาตรฐาน แต่ละคำตอบสะท้อนให้เห็นความแตกต่างของแต่ละบุคลิก ข้อสอบที่หลากหลายเหล่านี้จะทำให้คุณภาพของการศึกษาโดยรวมนั้นจะพัฒนาขึ้น” ที่มา NST/Thepaper/Scmp
-
ข้อสอบสะท้านใจนศ. จีน ดึงความพีคในข้อสุดท้าย ‘สะกดชื่ออาจารย์ผิด’ มีสิทธิ์คะแนนติดลบ!!
สำหรับนักศึกษาแล้วการสอบถือเป็นตัวชี้วัดชะตาของพวกเขา จึงต้องหมั่นขยันอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนอย่างหนัก เพื่อที่จะได้มีความรู้พอจะไปสู้ฟัดกับข้อสอบสุดหินที่อาจารย์ออกมาให้ได้ นักศึกษาในประเทศจีนเองก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน แต่ในปีนี้นักศึกษาจีนกลุ่มหนึ่งต้องตกตะลึงเมื่อพบคำถามสุดท้าทายข้อสุดท้าย พวกเขาต้องสะกดชื่ออาจารย์ที่สอนให้ถูกต้อง ไม่อย่างนั้นก็จะโดนหักคะแนนยับ ข้อสอบที่ว่านี้เป็นข้อสอบจากมหาวิทยาลัย Sichuan Vocational College of Culture and Communication ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยข้อสอบข้อสุดท้ายนี้ให้รูปอาจารย์มาทั้งหมด 7 ท่าน แล้วให้นักศึกษาเขียนชื่อของอาจารย์แต่ละท่านให้ถูกต้อง คำถามพิเศษข้อนี้ไม่มีคะแนนเพิ่มเติมให้นักศึกษาที่ตอบได้ถูกต้อง แต่ถ้าพวกเขาตอบคำถามข้อนี้ไม่ถูกล่ะก็ จะถูกหักคะแนนจากคะแนนที่ทำได้ในครั้งนี้ 41 คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งนับเป็นสัดส่วนที่เยอะพอสมควรเนื่องจากข้อสอบชุดนี้คิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ของเกรดทั้งหมดในเทอมนั้นเลย แม้ว่าคำถามข้อนี้จะดูง่ายไม่ซับซ้อน แต่นักเรียนบางส่วนที่ไม่ค่อยได้เข้าเรียนแล้วอ่านบทเรียนเอง จึงไม่รู้จักหน้าค่าตาอาจารย์แต่ละคนเลย คงไม่แปลกที่นักเรียนบางคนจะตอบคำถามนี้ไม่ได้ ในวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้โพสต์คำถามข้อนี้ลงใน Weibo (โซเชียลมีเดียของประเทศจีน) เอง จากนั้นก็มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากจนกลายเป็นกระแสไวรัลไป ชาวเน็ตบางส่วนมองว่าคำถามข้อนี้เจ้าเล่ห์มาก แต่ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งคิดว่าคำถามมันง่ายและเถรตรงดี ถ้าใครเข้าเรียนก็ได้คะแนนไป นักเรียนคนหนึ่งที่ได้ทำข้อสอบข้อนี้ให้สัมภาษณ์ว่าเขามั่นใจว่าตอบคำถามนี้ได้ถูกต้อง แต่ก็คิดว่าเพื่อนร่วมชั้นบางคนคงจะมีปัญหาเป็นแน่ เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเข้าเรียนและจำหน้าอาจารย์ได้ แต่บางคนก็ยังสะกดชื่ออาจารย์ไม่ถูกอยู่ดี อาจารย์ที่เป็นคนออกข้อสอบและคิดคำถามข้อนี้บอกว่า เหตุผลที่เธอทำคำถามข้อนี้ขึ้นมาก็เพื่อเป็นการวัดผลว่านักศึกษามีให้ความสนใจในชั้นเรียนมากน้อยแค่ไหน หากว่าพวกเขาใส่ใจในรายละเอียดมากพอก็ต้องตอบคำถามข้อนี้ได้แน่นอน เวลาจะไปสอบอย่าลืมดูชื่ออาจารย์เผื่อไว้ด้วยนะครับ…
-
พาไปดูการสอบข้อเขียนการเป็น “นินจา” ไม่ใช่แค่ว่าใส่ชุดและสู้เป็นเท่านั้น ต้องมีใบรับรองด้วย
บางครั้งการจะประกอบอาชีพบางอาชีพได้นั้น คุณอาจจะจำเป็นต้องผ่านการเรียนรู้และการฝึกฝนทักษะต่างๆ และที่สำคัญบางครั้งคุณเองอาจจะต้องผ่านการทดสอบเพื่อยืนยันว่าคุณมีคุณสมบัติที่พร้อมสำหรับอาชีพนั้นจริงๆ และนินจาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยการจะเป็นนินจาที่สมบูรณ์แบบได้นั้นคุณเองก็จะต้องสอบให้ผ่านข้อเขียนวัดทักษะด้วยเช่นกัน!! นินจา Koga นั้นเป็นกลุ่มนินจาที่อยู่ภายใต้การนำของ Ieyasu Tokugawa นายพลผู้ยิ่งใหญ่ในช่วงสมัย Edo โดยการทดสอบความรู้ความสามารถของนินจาครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ ที่วัด Zojo-ji วัดพุทธในกรุงโตเกียวที่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูล Tokugawa การทดสอบครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 แล้วนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดการทดสอบขึ้นมา ซึ่งในระดับแรกนั้นผู้เข้าร่วมการทดสอบนั้นจะต้องตอบคำถามทั้งหมด 50 ข้อภายในระยะเวลา 30 นาที เมื่อได้คะแนนมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปถึงจะผ่านการทดสอบ จากนั้นผู้ที่ผ่านการทดสอบจะได้เข้ารับการทดสอบในการสวมชุดนินจาและทักษะการใช้อาวุธนินจา และเมื่อผ่านระดับนี้ไปได้คุณก็จะกลายเป็นนินจาเต็มตัวแล้ว และนอกจากการทดสอบความรู้ความสามารถทางด้านนินจาแล้ว ในงานดังกล่าวยังมีการแสดงทักษะพิเศษของเหล่านินจาอีกด้วย โดยการแสดงนั้นจะจัด 2 รอบต่อวัน ในเวลา 11.00 – 11.30 และเวลา 12.00-12.30 ในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคมนี้ และสำหรับใครที่สนใจรายละเอียดงานเพิ่มเติมล่ะก็ สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ koka-kanko กันได้เลยจ้า ที่มา kotaku, moshimoshi-nippon
-
ศาลจีนปรับกระบวนการ คู่รักต้องทำข้อสอบการหย่าก่อน และต้องสอบตกเท่านั้นถึงจะหย่าได้
ทุกวันนี้อัตราการหย่าร้างของคู่สามีภรรยายุคใหม่กำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก สาเหตุอาจเป็นเพราะค่านิยมที่เปลี่ยนไป ทำให้พวกเขากล้าที่จะแยกทางเมื่อพบว่าคู่รักของตนไม่ใช่คนที่พวกเขาตามหาอีกต่อไป แต่บางครั้งการหย่าร้างก็เป็นเรื่องของอารมณ์ล้วนๆ ด้วยเหตุนี้ศาลในประเทศจีนจึงได้ปรับกระบวนการใหม่เพื่อให้คู่รักได้ไตร่ตรองความคิดของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการให้คู่รักทั้งสองทำข้อสอบหนึ่งชุดก่อนทำการหย่า ข้อสอบดังกล่าวเป็นไอเดียของ หวังฉีหยู่ ผู้พิพากษาของศาลประชาชนในเขตหยีปิน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยข้อสอบจะถูกแบ่งออกเป็นสามพาร์ทได้แก่ พาร์ทเติมคำในช่องว่าง พาร์ทตอบคำถามสั้นๆ และพาร์ทเขียนเรียงความ ซึ่งทั้งสามพาร์ทเมื่อรวมกันแล้วจะมีคะแนนเต็มอยู่ที่ 100 คะแนน โดยคำถามภายในข้อสอบประกอบไปด้วยคำถามเกี่ยวกับคนรักและครอบครัวอย่างเช่น “คนรักของคุณชอบทานอะไร?” “วันเกิดของพ่อแม่คนรักคือวันที่เท่าไหร่” รวมทั้งคำถามที่ต้องใช้ความคิดหน่อยอย่างเช่น “สำหรับคุณ ครอบครัวและการแต่งงานหมายถึงอะไร” ซึ่งเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมามีคู่รักคู่หนึ่งมายื่นคำร้องขอหย่าต่อศาล และพวกเขาก็ได้เป็นคู่รักคู่แรกที่ได้ทำแบบทดสอบ ผลปรากฏว่าศาลได้ปฏิเสธคำร้องขอหย่า เพราะพวกเขาทำคะแนนได้เกิน 80 คะแนน ศาลกล่าวว่าคู่รักต้องทำคะแนนได้น้อยกว่า 60 คะแนนเท่านั้นศาลจึงจะอนุญาตให้หย่า ผู้พิพากษาหวังกล่าวว่าจุดมุ่งหมายของข้อสอบคือการชี้แจงปัญหาและความแตกต่างของคู่รักก่อนที่เขาจะทำการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต และหากพวกเขายังสามารถทำคะแนนได้ดีนั่นหมายความว่าพวกเขาอาจยังมีความรักหลงเหลืออยู่ อย่างไรก็ตามทางผู้พิพากษาหวังไม่ได้อธิบายว่าพวกเขามีวิธีคิดคะแนนอย่างไร ฉะนั้นใครคิดจะตั้งใจทำให้คะแนนน้อยๆ อาจไม่ง่ายอย่างคิด ที่มา Dailymail
-
หนุ่มนักศึกษาจำสูตรฟิสิกส์ไม่ได้ จดโพยไว้ใต้เล็บเข้าห้องสอบ จนดังไปทั่วโลกออนไลน์
เมื่อเข้าสู่ช่วงการสอบนั้นนักศึกษาทุกคนต้องอดหลับอดนอนเพื่ออ่านหนังสือกัน แต่ถ้าบังเอิญว่าอ่านไม่ทันล่ะ เพื่อนๆ จะมีวิธีไหนในการแก้ปัญหาเหล่านั้น ซึ่งหนุ่มคนนี้เขาก็ประสบกับปัญหากันจำสูตรฟิสิกส์ไม่ได้เช่นกัน แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อต้องเข้าสนามสอบแล้ว เขาจึงตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่คุณเห็นคงจะทึ่งผสมกับความตลกในไอเดียพยายามโกงของเขา หนุ่มนี้มีชื่อว่า Andrew (โดยเขาได้ใช้ชื่อในทวิตเตอร์ว่า @glxzwdwyws) เขาสอบวิชาฟิสิกส์แต่เขานั้นไม่สามารถที่จะจำสูตรฟิสิกส์ที่เรียนมาได้จริงๆ จึงเลือกที่จะจดสูตรเหล่านั้นลงกระดาษเล็กๆ แล้วติดไปที่ใต้เล็บของเขา สูตรโกงข้อสอบที่จดเอาไว้ ไม่ดีเลยนะตัวเธออออออ เรื่องการโกงข้อสอบของเขานั้นได้รีทวีตไปอย่างรวดเร็ว มันทำให้เขาแน่ใจว่าต้องโดนจดหมายเรียกตัวจากอาจารย์แน่ๆ แต่กลับกัน Andrew ผ่านการสอบในครั้งนี้ โดยไม่โดนครูจับได้ การแจ้งเตือนของเขานั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบไม่หยุดหย่อน โพสต์การโกงข้อสอบของเขาโด่งดังมากๆ ยิ่งทำให้แน่ใจว่าต้องโดนอาจารย์แน่ๆ . ชาวเน็ตต่างๆ ก็ได้แสดงความเห็นในวิธีโกงข้อสอบตัวเองเคยทำมา อย่างหนุ่มคนนี้ก็ได้แชร์รุปของเพื่อนเขาที่จดโพยข้อสอบไว้คละกับรอยสัก ทำให้ดูออกได้ยากนั้นเอง ส่วนบางคนก็บอกว่าจะจดไว้ใต้เล้บที่ยาวขนาดนี้เลย!!! สาวคนนี้เล็บยาวหน่อยก็มีที่ซ่อนโพยเยอะกว่า อีกทั้งบางคนก็กล่าวเสียดายว่าไม่ทันได้ใช้วิธีนี้เพราะเรียนจบไปแล้ว แต่สุดท้าย จะขอบอกเลยนะว่าทำแบบนี้มันไม่ดีเอาซะเลย เพื่อนควรจะแบ่งเวลาอ่านหนังสือก่อนสอบดีกว่านะ ที่มา distractify
-
นี่คือ 25 เด็กฉลาด ที่มีไหวพริบในการตอบข้อสอบที่ล้ำมากๆ อนาคตไกลแน่นอน!!
เด็กนั้นมีความใสซื่ออยู่ในตัว ยิ่งเด็กคนไหนที่ฉลาก คิดอะไรได้หลายตลบแล้ว ยิ่งทำให้ความใสซื่อนั้นพัฒนาร่างกลายเป็นอัจฉริยะได้เลยก็ได้ วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยจะพาทุกท่านไปพบกับ 25 เด็ก(รวมถึงวัยรุ่นด้วย) มีความความคิดสร้างสรรค์ในการตอบคำถาม ซึ่งแต่ละข้อนั้นบอกได้เลยว่าคนแบบเราคิดไม่ถึงแน่ๆ เราไปดูกันเลยว่าจะเป็นยังไง!! คำถาม: ให้สมมติตัวเองเป็นคนจีนที่อพยพในช่วงปี 1870… แล้ววว เด็กนักเรียนซัดภาษาจีนให้ไปเลย เพราะคำถามบอกให้สมมติเป็นคนจีน แถมยังแปลได้อีกด้วยนะ ไม่มั่ว (แปลประมาณว่าชีวิตแย่มาก ทำธุรกิจอยู่ ขาดคนงาน พูดอังกฤษไม่คล่อง แต่ก็เข้าใจ) ถูกต้องแล้ว เวลาเราหกล้มก็ต้องลุกขึ้นยืนขึ้นมาใหม่ อย่ายอมแพ้สิ!! ช่างเป็นเด็กนักเรียนที่จิตใจงามเหลือเกิน น้องทำถูกแล้ว คนไม่ควรรังแกสัตว์นะ ถ้าติดเกาะ เลือกเอาว่าจะอยู่คนเดียวหรืออยู่กับคนที่เกลียด /เด็กตอบ อยู่กับคนที่เกลียดเพราะจะได้มีอะไรกิน(กินคน) …ความคิดเข้าท่า เราจะเรียกสิ่งที่วิทยาศาสตร์ใช้จำแนกสิ่งมีชีวิตได้ยังไง /เด็กตอบ Racism(เหยียดเชื้อชาติ) …รุนแรงเหลือเกินนนน ให้วาดภาพตัวเองใน 100 ปีข้างหน้า เด็กมันก็ถูกของมันนะ บ้านเราน่าจะเป็นถ่านไปละ จะพูดว่าตอบผิดก็ไม่ใช่… ก่อน 1896 ก็ต้องเป็น…
-
ศูนย์สอบเอนทรานซ์ญี่ปุ่นเผย ปีนี้มีคนโกงข้อสอบมากสุดในรอบ 12 ปี จำนวน 12 คน!!
เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงที่นักเรียนมัธยมปลายของญี่ปุ่นกว่า 500,000 คน ได้เข้าร่วมการสอบเอนทรานซ์กลางเพื่อนำคะแนนมายื่นเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่ตนเองใฝ่ฝัน ซึ่งหากว่ากันตรงๆ แล้ว การสอบครั้งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดตัดสินชะตาชีวิตของพวกเขาเลยทีเดียว ทำให้หลายๆ คนต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อให้สอบได้คะแนนเยอะๆ และหนึ่งในทางเลือกนั้นก็คือการโกงข้อสอบ ล่าสุดทางศูนย์การสอบเอนทรานซ์กลางของญี่ปุ่นได้ออกมาเปิดเผยว่า ในการสอบที่ผ่านมา มีการจับการโกงข้อสอบได้มากที่สุดในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่ปี 2006 ด้วยจำนวนทั้งหมด 12 ราย!! โดยทางศูนย์กล่าวว่า มีการตรวจพบผู้เข้าสอบใช้สมาร์ทโฟนระหว่างการสอบวิชาประวัติศาสตร์ มีการแอบใช้ไม้บรรทัดที่เขียนสูตรคำนวนไว้ ในวิชาคณิตศาสตร์ และการมีการใช้เครื่องคิดเลขในวิชาบัญชี ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดในศูนย์สอบหลายๆ เมืองทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผู้ที่โกงข้อสอบทั้ง 12 ราย จะถูกลงโทษด้วยการตัดสิทธิ์การสอบในครั้งนี้ และจะไม่มีการตรวจคะแนนให้ในทุกวิชา นี่ขนาดเยอะแล้วนะเนี่ย ยังแค่ 12 คน!!! ที่มา nicovide, โอตาคุบริโภคมาม่า
-
แอนดรูว์ บิ๊กส์ ถึงกับงง… แฉข้อผิดพลาด O-net ภาษาอังกฤษ เฉลยผิดมากถึง 8% !!!
ยังคงเป็นประเด็นให้ผู้คนถกเถียงกันอยู่ทุกปี สำหรับข้อสอบ O-net ของ สทศ. และล่าสุดกับข้อสอบภาษาอังกฤษ ที่มีการเฉลยผิดกันอยู่หลายข้อ ทำให้ผู้คนและนักเรียนออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา ถึงความถูกต้องของข้อสอบ และมตรฐานของผู้ออกข้อสอบเอง ล่าสุดคุณครูภาษาอังกฤษชื่อดังอย่างแอนดรูว์ บิ๊กส์ ก็ได้ทำคลิปวิดีโอที่พูกถึงการเฉลยข้อสอบ O-net มาให้เราได้ชมกัน โดยเจ้าตัวบอกว่าข้อสอบในระดับป.6 จำนวน 90 ข้อนั้นทำได้ปกติ ไม่มีอะไรผิดพลาด แต่ข้อสอบในระดับชั้นม.3 จำนวน 50 ข้อกลับมีข้อที่ผิดอยู่ถึง 4 ข้อด้วยกัน โดยคุณแอนดรูว์ ได้เขียนข้อความไว้ใต้คลิปว่า “มี 4 ข้อใน O-Net 2016 ระดับ ม.3 วิชาภาษาอังกฤษที่แปลกประหลาด 4 ข้อจากทั้งหมด 50 ข้อ ถือว่าร้อยละ 8 ที่ผิด สงสารเด็กไทยจังเลย ผมทำวิดีโอนี้เพื่อเปิดประเด็นว่า ทำอย่างไรถึงจะมีข้อสอบที่มั่นคงกว่าปัจจุบัน ไม่ใช่ติอย่างเดียว” จากนั้นคุณแอนดรูว์ก็ได้หยิบยกตัวอย่างข้อสอบที่เฉลยผิดมาให้ได้ดูกันด้วย อย่างเช่นข้อนี้ ที่เปิดการให้เลือกเติมคำในช่องว่าง รูปประโยคมีอยู่ว่า What shall…
-
รวม 12 เทคนิคกลโกงข้อสอบระดับเทพจากทั่วโลก แหม ทีอย่างงี้ล่ะเก่งกันจั๊ง!!
สำหรับคนที่ไม่ได้ตั้งใจเรียนและไม่อ่านหนังสือแล้ว การสอบให้ได้คะแนนผ่านเกณฑ์อาจเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าการหาน้ำบนดาวอังคาร ฉะนั้นหนึ่งในหนทางที่พวกเขาต้องทำเพื่อเอาตัวรอดคือการ “โกงข้อสอบ” นั่นเอง ตลอดประวัติศาสตร์การสอบของมนุษย์ เทคนิคการโกงก็ถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จากการเขียนโพยลงกระดาษ กลายเป็นบันทึกข้อมูลแบบดิจิตอลลงเครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคิดเลขหรือนาฬิกา จนบางทีถ้าผู้คุมสอบไม่เช็คให้ดี ก็อาจตกเป็นเหยื่อของจอมโกงข้อสอบเหล่านั้นก็เป็นได้ วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จึงจะพาเพื่อนๆ ไปชม 12 เทคนิคการโกงข้อสอบระดับเทพจากทั่วโลก ที่เห็นแล้วจะต้องอึ้งเลยว่า ทำกันได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย!! เทคนิคแบบดั้งเดิม จดไว้หลังเครื่องคิดเลข ปากกาหมึกล่องหน อาจต้องใช้ไฟชนิดพิเศษในการส่อง แต่ถ้าในห้องสอบมีไฟแบบนั้นก็เนียนไปเลย แอบซ่อนโพยไว้ในปากกาอันใหญ่ๆ ซ่อนสูตรไว้ในเครื่องคิดเลขแบบมีความทรงจำภายใน เขียนสูตรลงไปบนเล็บก็ไม่เลว เขียนเนื้อหาไว้ในฉลากน้ำดื่มด้านใน หรือไม่ก็ปริ้นฉลากน้ำดื่มมาเองซะเลย!! ใส่เสื้อแขนยาว แล้วแอบจดสูตรไว้บนแขน หรือไม่ก็แอบเขียนสูตรไว้บนยางลบ..แต่ถ้าข้อสอบไม่ต้องใช้ดินสอ ก็อาจน่าสงสัยได้ แอบเขียนเนื้อหาไว้บนพลาสเตอร์แปะแผลปลอมๆ เนียนไปอีก และล่าสุดเพิ่งเป็นข่าวดังในไทยกับสมาร์ทวอทช์ แล้วก็แว่นตาติดกล้องถ่ายทอดสด แหม ทีเรื่องแบบนี้ล่ะเก่งกันจริงๆ แต่ถ้าโดนจับได้ขึ้นมามีหมดอนาคตเลยนะเนี่ย…
-
ชาวเน็ตบ่นกันใหญ่หลังเห็น ‘ข้อสอบเด็กอนุบาล เข้าป.1’ นี่มันข้อสอบเข้ามหาลัยชัดๆ!!
เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันในวงการการศึกษาไทยนั้น มีการแข่งขันกันสูงมาก ชนิดที่ว่าข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมื่อหลายปีก่อน ได้กลายเป็นข้อสอบของเด็กมัธยมต้นในปัจจุบันกันไปเสียแล้ว แม้หลายคนจะคิดว่ามีการแข่งขันที่สูง แต่คงไม่คิดว่ามันจะสูงขนาดนี้ โดยเฉพาะถ้าหากเพื่อนๆ ได้เห็นข้อสอบเด็กอนุบาลชุดนี้ เพื่อนๆ จะต้องร้องจ๊ากอย่างแน่นอน ไม่เชื่อไปชมกันเลย ภาพข้อสอบดังกล่าวโพสโดยเพจ Wiriyah Eduzones โดยเป็นภาพของหนังสือเตรียมสอบเข้าชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (มีด้วยเหรอเนี่ย) ในหนังสือมีคำถามเกี่ยวกับหลักประชาธิปไตย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ยากเกินความเข้าใจของเด็กอนุบาลอย่างแน่นอน เด็กอนุบาลติวสอบเข้าปอหนึ่ง -‘—‘ ไม่มีเด็กชาติไหนไหนจะสู้เด็กไทยแล้วครับ เรื่องท่องเรื่องจำ เรานำลำโลก นี่แหละ คุณภาพ… Posted by Wiriyah Eduzones on 8 กุมภาพันธ์ 2016 ลองดูกันชัดๆ เจ๊ดดด นี่มันข้อสอบระดับมัธยมเลยนะเนี่ย เอามาออกให้เด็กอนุบาลได้ยังไง ชาวเน็ตที่เห็นคิดยังไงกับหนังสือเล่มนี้กันบ้าง ไปดูกันดีกว่า แค่นี้จิ๊บๆ ต่อไปจะเจอหนักกว่านี้อีก คิดหนักแทนลูกเลย ต่อไปจะต้องเจอแบบนี้เหรอเนี่ย คงต้องฉลาดตั้งแต่ในท้องอ่ะ ถึงจะตอบคำถามแบบนี้ได้ ความล้มเหลวในระบบการศึกษาชัดๆ ป.1 มันต้องยากขนาดนี้เชียว! …
-
ตะลึงไปทั่ว!! อาจารย์ติดประกาศประชดแจก F ยกคลาส จากเหตุนักศึกษา 2 คนทุจริตการสอบ
ในช่วงนี้ตามมหาวิทยาลัยก็ถือว่าเป็นช่วงสอบที่กำลังดุเดือดกันเลยทีเดียว แต่แล้วก็มีนักศึกษาที่คิดจะโกงข้อสอบ แอบลักลอบนำโพยติดตัวเข้าไปด้วย สุดท้ายก็โดนจับได้และถูกลงโทษให้ได้รับเกรด F ทันที แต่ไม่ได้รับพักการเรียนแต่อย่างใด ทั้งนี้จากเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เป็นวิทยาเขตที่ตั้งอยู่ในภาคอีสาน อาจารย์ผู้สอนประจำวิชาเศรษฐศาสตร์มหภาค รหัสวิชา 011011822 ก็ได้ติดป้ายประกาศเพื่อตอบโต้กับกรณีการโกงข้อสอบของนักศึกษา 2 คนด้วยใจความที่ว่า ‘นักศึกษาควรจะได้ F ทุกคน’ พอภาพดังกล่าวแพร่กระจายไปทั่วโซเชียล บางความเห็นก็บอกว่าไม่ยุติธรรมกับนักศึกษาคนอื่น แท้จริงแล้วอาจารย์ทำการประชดประชันกรรมการที่ตรวจสอบการทุจริต ตัดสินให้ F นักศึกษา 2 ราย แทนที่จะได้รับโทษพักการเรียน อีกทั้งยังได้ทำหนังสือถึงคณบดีเพื่อให้ทำการพิจารณาผลการสอบสวนอีกครั้ง เนื่องจากตนเองไม่ได้เข้าร่วมเป็นกรรมการสอบสวนในกรณีนี้ กลายเป็นว่ามีคนออกตัวต่อว่าอาจารย์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาจจะเพราะด้วยป้ายประกาศที่ทำให้เข้าใจผิดว่าจะให้ F นักศึกษายกคลาสนั่นเอง คือเกรดยังไม่ออก นักศึกษาจะได้เกรดตามปกตินั่นแหละ และอาจารย์เองก็ชี้ชัดว่าที่ทำแบบนี้ก็เพื่อกระตุ้นให้มีการทบทวนทบทวนผลสอบการทุจริตของกรรมการฯ อีกครั้ง ที่มา : Nipha Kazuya Techawitthayayothin, Drama-addict
-
ใช้แบบนี้แล้วเหรอ? ออนไลน์แชร์ภาพกระดาษคำตอบแบบ “วงกลม” ช่วยป้องกันการลอกข้อสอบ
กลายเป็นภาพที่มีการส่งต่อกันในโลกออนไลนอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับภาพของการดาษคำตอบรูปแบบใหม่จากมหาวิทยาลัยราชภัฎแห่งหนึ่ง ที่อาจทำให้นักศึกษางงกันเป็นแถบๆ เพราะเปลี่ยนรูปแบบเป็นวงกลม ช่วยให้การลอกข้อสอบนั้นเป็นเรื่องที่ยากขึ้นไปอีกขั้น ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านสมาชิกเว็บไซต์ Dek-d รายหนึ่ง พร้อมกับข้อความว่า “บอกเลยว่า ถ้าไม่มีหัวกระดาษ ฝนไป เมาไป แน่ๆ” ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันสงสัยว่ากระดาษคำตอบแบบนี้จะสามารถป้องกันการลอกได้จริงหรือ? หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีสมาชิกในเฟซบุ๊กเข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย บางความเห็นกล่าวว่ากระดาษแบบนี้ไม่ได้เพิ่งมีใช้กัน แต่เริ่มใช้กันมาหลายปีแล้ว ในขณะที่บางคนบอกว่าเป็นเรื่องไร้สาระ และไม่สามารถป้องกันการลอกได้ ที่มา dek-d , kapook