Tag: คณิต
-
โซเชียลระอุ!! ดราม่าโจทย์คณิตเด็กประถม ‘การเล่นเกมคือการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์’
ใครเล่าจะรู้ว่า ‘การบ้านของเด็กประถม’ จะกลายมาเป็นประเด็นดราม่า ที่ถกเถียงกันทั่วโลกโซเชียลของประเทศญี่ปุ่น เรื่องมันเริ่มมาจากทวิตเตอร์ของชาวญี่ปุ่นชื่อว่า @HiZiRi_DIESEL ได้โพสต์ภาพของโจทย์การบ้านของเด็กประถมข้อหนึ่ง ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นประเด็นดราม่ากันทั่วเน็ต โจทย์มีอยู่ว่า “ในตอนเช้า คุณใช้เวลา 1 ชั่วโมง 50 นาที ในการเล่นเกม, ในตอนบ่าย คุณใช้เวลา 2 ชั่วโมง 50 นาทีในการเล่นเกม รวมทั้งหมด คุณเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ไปทั้งหมดเท่าไหร่?” ซึ่งเป็นการทดสอบความรู้ของเด็กๆ ว่าใน 1 ชั่วโมงนั้นมี 60 นาที และหากคำนวณดูแล้วก็จะได้คำตอบว่า 4 ชั่วโมง 40 นาที แต่กลับกลายเป็นว่าชาวเน็ตทั้งหลายก็ตั้งประเด็นดราม่ากันขึ้นมา เพราะมองว่าโจทย์ที่ครูตั้งขึ้นมานั้นเป็นการดูถูกวงการเกมเป็นอย่างยิ่ง เพราะดูเหมือนว่าคุณครูจะไม่เข้าใจว่า ‘เวลาที่ใช้ในการเล่นเกม’ กับ ‘เวลาที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์’ นั้นมันไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย ซึ่งหลายคนก็วิจารณ์ว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่อันตรายต่อความคิดของเด็กเป็นอย่างมาก ซึ่งคุณ @HiZiRi_DIESEL ก็ได้เขียนแคปชั่นในโพสต์ดังกล่าวว่า “เป็นการดูถูกผู้คนที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมเกมเป็นอย่างยิ่ง” ซึ่งอุตสาหกรรมเกมนั้นถือเป็นส่วนสำคัญในระบบเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ทวีตดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย จนมีคนเข้ามากดชื่นชอบถึง 84,200 ครั้ง และ รีทวีตไปอีกกว่า…
-
คุณครูหนุ่มใช้ “เพลงฮิปฮอป” เป็นสื่อช่วยสอน เพื่อให้ “วิชาคณิตศาสตร์” ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
ในสมัยที่ทุกคนกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยม เชื่อว่าทุกคนต้องเคยมีโมเมนต์ที่เบื่อการเรียนคณิตศาสตร์มากๆ เพราะนอกจากมันจะยากแล้ว การเรียนการสอนมันก็ช่างแสนน่าเบื่ออีกด้วย (#เหมียวอ๊อดโด้ ล่ะคนหนึ่งที่เกลียดวิชาคณิตศาสตร์มากๆ) แต่คุณครูชาวแอฟริกาใต้คนนี้ได้คิดค้นวิธีการสอนคณิตศาสตร์ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนได้อย่างสนุกสนานไม่และไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ด้วยการนำเพลงฮิปฮอป การแรป และการเต้นเข้ามาเป็นสื่อช่วยสอน ฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อที่คณิตศาสตร์กับเพลงฮิปฮอปจะมาอยู่ด้วยกัน แต่ก็เป็นเรื่องจริง คุณครูคนนี้มีชื่อว่า Kurt Minnaar วัย 31 ปี จากเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เขาเล่าว่าเด็กนักเรียนของเขาหลายคนประสบปัญหากับวิชาคณิตศาสตร์มาก เนื่องจากการเรียนการสอนคณิตเป็นเรื่องน่าเบื่อ จนพวกเขาไม่สามารถโฟกัสไปที่เนื้อหาได้ ซึ่ง Kurt ก็เข้าใจดีเพราะเคยผ่านมาก่อน ด้วยความที่เขาเคยเป็นนักออกแบบท่าเต้นและศิลปินเพลงฮิปฮอปมาก่อน เขาจึงตัดสินใจลองพัฒนาแนวทางการสอนใหม่ๆ ขึ้นมาด้วยความรู้ที่เขามี จนกลายเป็นการสอนคณิตศาสตร์แบบฮิปฮอปอย่างที่เราได้เห็นกัน “วิธีการสอนแบบดั้งเดิมนั้นน่าเบื่อมาก มีเด็กในห้องของผมบางคน ทำโจทย์ระดับประถมไม่ได้ด้วยซ้ำ ผมจึงลองใช้เพลงแรป สร้างวิธีการสอนแบบใหม่ขึ้นมา เพื่อให้เหมาะกับเด็กๆ ที่สมาธิสั้นหรือมีอาการไดอาเล็กเซีย” Kurt กล่าว โดยเขาได้เขียนเพลงแรปที่มีเนื้อหาเป็นการสอนบวกลบคูณหารขึ้นมาหลายเพลงและให้นักเรียนได้จำไปร้อง ขณะเดียวกันระหว่างอยู่ในชั้นเรียน เขาก็จะสอนนักเรียนเต้นไปด้วย เพื่อให้นักเรียนได้ผ่อนคลาย และกลับมามีสมาธิกับสิ่งทีกำลังสอน ซึ่งหลังจากทดลองนำสื่อฮิปฮอปมาใช้งาน ผลปรากฎว่านักเรียนของเขาสามารถเรียนวิชาคณิตศาสตร์ได้ดียิ่งขึ้น “ผมเห็นผลลัพธ์ในแง่บวกของนักเรียนของผม…
-
ทั่วโลกถึงกับงง ครอบครัวแชร์โจทย์การบ้านคณิตเด็ก ป.1 นี่มันต้องยากขนาดนี้จริงๆ หรือ??
คณิตศาสตร์ถือว่าเป็นศาสตร์พื้นที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำ ฉะนั้นจึงมีการบังคับให้วิชาคณิตศาสตร์เข้าไปในการศึกษาภาคบังคับ ซึ่งในแต่ละชั้นปี ก็จะค่อยๆ เพิ่มความยากขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ล่าสุด ครอบครัว Holderness จากรัฐนอร์ทแคโรไลน่า สหรัฐอเมริกา ได้โพสภาพการบ้านคณิตศาสตร์ของชั้นป.1 ของ Penn Holderness ลูกชายของบ้านลงบนเฟสบุ๊ก จนชาวเน็ตตื่นตะลึงเลยว่า มันต้องยากขนาดนี้เลยเหรอ? โดยโจทย์ได้ให้รูปแบบการจัดวางตัวอักษรมาชุดหนึ่ง พร้อมทั้งแทนค่าแต่ละตัวอักษรด้วยเลขจำนวนหนึ่ง โจทย์สั่งให้หาว่าตัวอักษรที่หายไป คือตัวอักษรใด….บ๊ะ!! มันต้องยากขนาดนี้เลยเหรอ? ใครคิดว่าแน่ ลองแก้สมการนี้ดูสิ เฉลยอยู่ด้านล่าง อย่าเพิ่งเลื่อนไปดูนะ ใครที่คิดได้แล้วหรือว่ายอมแพ้ต่อโจทย์นี้แล้ว เรามาดูคำตอบกันดีกว่า วิธีการแก้โจทย์นี้สามารถทำได้หลายวิธี แต่ต้องแทนค่าตัวเลขเข้าไปก่อนนะ จะลบตัวเลขด้านซ้ายไปขวา หรือ ลบจากล่างขึ่นบน หรือจะบวกแนวทะแยงมุม ก็ได้เช่นกัน ชมภาพด้านล่างแล้วจะเข้าใจยิ่งขึ้นนะ ซึ่งเมื่อชาวเน็ตเห็นโจทย์ดังกล่าว ก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย “อะไรเนี่ย นี่ตูง่าวกว่าเด็กป.1 อีกเหรอ” “บอกทีว่าโจทย์ข้อนี้มอบอะไรให้กับชีวิต เกิดอะไรขึ้นกับการบ้านคณิตศาสตร์ทั่วไป?” “ตอนฉันอยู่ ป.1 ฉันจะล่องลอยไปมา ฉี่ราดในห้องเรียน แถมยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ แต่ตอนนี้เขาให้เด็กทำตรรกศาสตร์แล้วเหรอเนี่ย”…
-
เงิบเลยดิ!! โจทย์คณิตฯ แบบไม่เคลียร์ หาคำตอบไม่ได้ นี่มันปรัชญาทางคณิตศาสตร์รึเปล่า
หนึ่งในวิชาที่มีคนเกลียดและชอบมากที่สุดก็คือ คณิตศาสตร์ เรื่องของตัวเลขที่จะต้องหาคำตอบสุดท้ายให้ได้ ถึงแม้ว่าจะใช้วิธีการคิดที่แตกต่างกัน แต่ผลสุดท้ายคำตอบของโจทย์นั้นก็จะมีเพียงแค่คำตอบเดียวเท่านั้น!! ถึงแม้ว่าโจทย์จะยุ่งเหยิงซักแค่ไหน เพียงแค่หาวิธีทำและคิดออกมามันก็หาคำตอบได้อยู่ดีแหละ แต่จะว่าไปแล้วหากโจทย์คณิตฯ ข้อนั้น กลับบอกใบ้แบบงงๆ มันก็เลยทำให้กลายเป็นปริศนาที่ไขไม่ออกอย่างเช่นโจทย์คณิตศาสตร์จากญี่ปุ่นข้อนี้ 難問… pic.twitter.com/OrJm8S7JEq — zero (@__zero____) 1 ธันวาคม 2015 สำหรับโจทย์ข้อหนึ่งนั้นถามเอาไว้ว่า ‘โน๊ตบุ๊คมีราคา 100 เยน ถูกกว่ากล่องใส่ดินสอ 20 เยน คำถามคือยางลบจะมีราคาเท่าไหร่?’ เอาล่ะ พอเจอคำถามแบบนี้เข้าไป ถึงกับงงเลย คือให้ตัวแปรมาสองตัวแล้ว ส่วนตัวที่สามโผล่มาจากไหนกัน นี่มันปรัชญาทางคณิตศาสตร์รึเปล่า แล้วแบบนี้จะให้ทำอย่างไรต่อไป เมื่อชีวิตมาถึงทางตัน!? ส่วนข้อที่สองนั้นถามว่า ‘แซนด์วิชราคา 98 เยน ราคาถูกกว่าขนมปังถั่วแดง 10 เยน แล้วขนมปังถั่วแดงจะมีราคาเท่าไหร่’ อันนี้ชัดเจน เข้าใจ หาคำตอบได้แน่นอน แต่ไอ้ข้อแรกนี่แหละ ยางลบมันมาจากไหน? ที่มา…
-
ลูกชายวัย 6 ขวบแสดงวิธีทำในวิชาคณิตฯได้น่ารักมาก แม่ถึงขั้นอยากเอาไปใส่กรอบ
ในวัยเด็ก เราอาจจะตีความอะไรหลายๆอย่างได้แตกต่างกัน โดยเฉพาะเวลาเจอโจทย์จากๆในบางวิชา ซึ่งครูอาจจะลืมไปว่าถ้าเราใช้คำศัพท์ที่สูงเกินไป เด็กอาจจะไม่เข้าใจได้ แม่ของหนูหน้อยวัย 6 ขวบคนหนึ่ง ได้โพสต์ภาพการตอบคำถามของลูกในวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไร้เดียงสาของเด็กเป็นอย่างมาก คำถามข้อแรกถามว่า “บ๊อบบี้มีเงิน 4 ไดม์ ส่วนเอมี่มีเงิน 30 เพนนี ใครมีเงินมากกว่ากัน” หนูน้อยก็ตอบว่า บ๊อบบี้ ซึ่งเป็นคำตอบที่ถูกต้อง เพราะ 1 ไดม์ เท่ากับ 10 เซนต์ ดังนั้น 4 ไดม์ ก็ 40 เซนต์ ส่วน 30 เพนนี ก็เท่ากับ 30 เซนต์นั่นเอง แต่พอถึงคำถามข้อต่อไป “รู้ได้ยังไง แสดงวิธีคิด” และนี่ก็คือภาพที่หนูน้อยวาดออกมา แหม่ นี่สินะวิธีคิดของหนูน้อย ช่างน่ารักไร้เดียวสาจริงๆ คุณแม่ถึงกับออกมาบอกว่าจะเอาไปใส่กรอบแล้วแปะหน้าตู้เย็นเลยนะ โตขึ้น หนูน้อยคนนี้ต้องเป็นศิลปินแน่ๆ ที่มา boredpanda