Tag: คดีข่มขืน
-
ความรู้สึกของอดีตคุณแม่วัย 12 ที่อายุน้อยที่สุดในอังกฤษ หลังเคยถูกพี่ชายตัวเองข่มขืนจนท้อง!?
Tressa Middleton หญิงสาววัย 24 ได้ออกมาเล่าถึงประสบการณ์อันเลวร้ายเมื่อครั้นเธอมีอายุได้ 12 ขวบ ซึ่งในตอนนั้นเธอถือเป็นคุณแม่วัยเด็กที่อายุน้อยที่สุดในเกาะอังกฤษ ด้วยสาเหตุจากการถูกพี่ชายแท้ๆ ข่มขืน เธอเล่าว่าแม้ตอนนี้เธอจะมีชีวิตที่ดี แต่ในวัย 11 ขวบ เธอถูก Jason ผู้เป็นพี่ชายวัย 16 ข่มขืนจนสุดท้ายก็ตั้งท้องกับเขา จนต่อมา 1 ปีเธอก็คลอดลูกออกมา ซึ่งหลังจากคลอดลูกและถูกค้นพบว่าเด็กที่เกิดมานั้นเป็นลูกของพี่ชาย เด็กก็ถูกเจ้าหน้าที่พรากไปจากเธอทันที ภาพของ Tressa และลูกเมื่อวัย 12 ขวบกับแม่ของเธอ ผลกระทบจากเรื่องราวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการข่มขืนหรือถูกพรากลูกแท้ๆ ไปนั้นทำให้เธอรู้สึกช็อกมากๆ จนเธอกลายเป็นโรคซึมเศร้าและมีอาการเครียดตลอดเวลา ยังไม่พอเธอยังติดเฮโรอีนอีกด้วย เธอได้จมอยู่กับความโศกเศร้าของเธอเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งได้เธอได้พบกับ Darren Young ชายผู้เข้ามาช่วยเหลือชีวิตของเธอ ซึ่งทั้งคู่นั้นได้สานสัมพันธ์จนเมื่อปี ตุลาคม 2017 ทั้งสองได้มีลูกด้วยกัน ซึ่งตั้งชื่อว่า Arihanna เธอเล่าว่า เธอดีใจมากๆ ที่ได้มีลูกอีกคน และเธอก็เศร้าใจมากที่ลูกคนแรกนั้นต้องถูกพรากจากไปและไม่ได้อยู่กับเธอ นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า ถ้าตอนนี้ลูกคนแรกอยู่ด้วย…
-
ชายหนุ่มถูกตัดสินจำคุก 955 ปี ในข้อหาข่มขืนและทำอนาจารผู้เยาว์ รวมเกือบ 100 คดี!!
ไม่นานนี้ได้มีการพิพากษาคดีสุดอื้อฉาวของนาย Tim Stewart ชายวัย 45 ปี ที่ได้ก่อเหตุข่มขืน ทำอนาจารและอื่นๆ อีกมายแก่ผู้เยาว์ โดยมีหลักฐานเป็นคลิปที่เขาอัดเก็บไว้มากมายใน SD Card… คดีดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยทางการได้ค้นพบ SD Card จำนวนมากที่นาย Tim Stewart เก็บซุกซ้อนไว้ภายในเสื้อแจ็คเก็ตของเขา ซึ่งภายในก็มีคลิปที่เขาได้ถ่ายไว้ขณะกระทำอนาจารและข่มขืนผู้เยาว์อยู่เป็นจำนวนมาก ด้านผู้พิพากษา Paul Conlon ได้พิพากษานาย Tim Stewart ถึง 125 ข้อหาจากการกระทำชำเราแก่เด็กสาว รวมถึงแม่และพี่สาวของเธอด้วย นาย Tim Stewart ได้รับสารภาพว่าเขาเป็นผู้กระทำอนาจารแก่เด็กอายุระหว่าง 12 ถึง 15 ปี ทั้งหมด 99 คดี นอกจากนี้คณะลูกขุนยังแจ้งข้อกล่าวหาแก่เขาอีก 28 ข้อหาว่านาย Tim ได้กระทำอันรุนแรง ข่มขืนและอนาจารแก่แม่ของเด็กสาว รวมถึงน้องสาวของเหยื่อเมื่อตอนที่เธอยังอายุ 11 ปี อีกด้วย ซึ่งจากการพิพากษาทั้งหมดสามารถทำให้นาย Tim ถูกตัดสินจำคุกได้นานถึง 955…
-
เมื่อรัฐอาร์คันซอ อนุญาตให้ผู้ข่มขืน ฟ้องเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องการทำแท้งได้!?
ปกติแล้วคดีข่มขืนถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงมากๆ และตัวเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายสามารถที่จะเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ แต่ถ้าเกิดกรณีที่ข่มขืนแล้วท้องขึ้นมาล่ะ!? กรณีข่มขืนและท้องในแต่ละประเทศก็จะมีนโยบายด้านกฎหมายต่างกัน บ้างก็ยังผิดกฎหมายด้านการทำแท้ง ทำให้เกิดการทำแท้งเถื่อนตามมา หรือบางประเทศก็จะเปิดให้ทำแท้งได้เป็นกรณีพิเศษ ล่าสุดมีรายงานว่าทางรัฐอาร์คันซอในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ตั้งกฏหมายขึ้นมาใหม่ว่า ถ้าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากคดีข่มขืนต้องการที่จะทำแท้ง สามารถที่จะถูกฟ้องจากผู้ก่อเหตุคดีข่มขืนได้ ในฐานะที่เป็นพ่อของลูกคนนั้น กฏหมายตัวนี้จะถูกนำมาใช้งานในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้ โดยนาย Andy Mayberry ตัวแทนของรัฐอาร์คันซอและเป็นผู้ร่วมลงนามในกฏหมายตัวนี้ ได้บอกว่า “ถึงแม้กฏหมายตัวนี้จะอนุญาตให้ผู้ก่อเหตุคดีข่มขืนสามารถฟ้องร้องผู้เสียหายในกรณีที่จะทำแท้งได้ แต่พวกเขาก็ไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องสิทธิทางการเงินต่างๆ เช่นกัน” Karen Musick ผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายผู้สนับสนุนการทำแท้ง ที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ก็ออกมาตอบโต้ถึงกรณีที่กฎหมายดังกล่าวกำลังจะถูกนำมาใช้งานจริง “ฉันไม่เข้าใจสักนิดเดียวว่าทำไม ผู้ก่อเหตุคดีข่มขืนที่ทำให้ผู้เคราะห์ร้ายตั้งครรภ์ โดยที่พวกเขาไม่ได้ตั้งใจหรือพร้อมที่จะมีลูก ได้รับสิทธิที่ชอบธรรมนั้นไป” กฎหมายตัวนี้ที่เรียกว่า Act.45 จะแบนการทำแท้งในระยะที่ 2 ของการตั้งครรภ์ (ช่อง 4-6 เดือน) ซึ่งกว่า 95% ของคนที่ทำแท้งจากการตั้งครรภ์โดยผิดพลาด จะใช้ช่วงนี้มากที่สุด และหากใครละเมิด ก็อาจจะโดนโทษปรับสูงถึง 350,000 บาทเลยทีเดียว กฏหมายตัวนี้จึงยังเป็นเรื่องถกเถียงกันเป็นอย่างมาก ว่าการให้สิทธิแบบนี้กับผู้ที่ก่อคดีข่มขืนเป็นเรื่องที่ถูกแล้วเหรอ? การทำแบบนี้จะช่วยลดการทำแท้งได้จริงไหม? การอนุญาตให้ทำแท้งได้เป็นเรื่องสิทธิของตัวคนที่ตั้งครรภ์หรือเปล่า? แล้วแบบนี้เพื่อนๆ คิดยังไงกันบ้างเกี่ยวกับกฏหมายตัวนี้…
-
สาวเลบานอน ประท้วงรัฐบาลร่างกฎหมายใหม่ ที่บังคับให้เหยื่อถูกข่มขืน แต่งงานกับผู้ก่อเหตุ
การเป็นหญิงสาวในประเทศเลบานอนอาจจะไม่ใช่เรื่องที่โชคดีเท่าไหร่นะ เพราะที่เลบานอนเองมีข่าวคราวเกี่ยวกับหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายและข่มขืนแทบจะรายวันทีเดียว ในปี 2009 มีรายงานว่ามีเด็กหญิงชาวบังกลาเทศถูกฆ่าตายในเลบานอนถึง 11 ศพ โดยส่วนใหญ่มีร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกาย และในปีเดียวกันนี้เองยังมีข่าวว่าเด็กสาวชาวเนปาลที่เดินทางไปทำงานในเลบานอนได้ฆ่าตัวตายไปถึง 15 คน ซึ่งมีการสันนิษฐานกันว่าอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องของการข่มขู่ทางเพศ ล่าสุดได้มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศอย่าง Independent บอกว่าทางรัฐบาลของเลบานอนได้เตรียมที่จะออกร่างกฎหมายให้หญิงสาวที่ถูกข่มขืนต้องแต่งงานกับผู้ที่ข่มขืนพวกเธอ ตามพระราชบัญญัติฉบับเก่าจากปี 1940 ของเลบานอนได้ระบุเอาไว้ว่าหากใครฝ่าฝืนกฎหมายข้อนี้ จะต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 7 ปี และยิ่งหากเป็นผู้เยาว์ หรือผู้ที่มีอาการทางจิตหรือผู้ป่วยไม่ว่าจะในลักษณะใดก็ตาม ก็จะมีโทษเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ในกฎหมายใหม่มาตราที่ 522 ได้สร้างช่องโหว่ทางกฎหมายขึ้น โดยระบุว่าผู้ที่กระทำชำเราผู้อื่นจะได้รับการละเว้นโทษ หากชายคนนั้นยอมแต่งงานกับฝ่ายหญิงเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ แต่ร่างพรบ.ที่ว่านี้กลับทำให้หญิงสาวในเลบานอนไม่พอใจอย่างมาก และคิดว่านั่นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุที่ไม่น่าจะช่วยลดคดีการข่มขืนลงได้ ในวันอังคารที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา หญิงสาวเกือบสิบคนจึงได้ออกมาร่วมกันต่อต้านกฎหมายใหม่นี้ ด้วยการสวมชุดเจ้าสาว พร้อมกับมีผ้าพันแผลไว้รอบตัวและมีเลือดปลอมเปื้อนตามร่างกาย ยืนอยู่ที่ด้านนอกของอาคารรัฐสภาพในเมืองเบรุต เพื่อแสดงออกว่าพวกเธอไม่เห็นด้วยกับกฎหมายใหม่นี้ นางสาว Ghida Anani ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มในการต่อต้านครั้งนี้ได้กล่าวว่า “เราขอปฏิเสธการการละเมิดสิทธิของผู้หญิงโดยไม่คำนึงถึงอายุ พื้นเพ หรือสภาพแวดล้อม” Anani ยังบอกอีกว่าเธอไม่ชอบข้อเสนอของรัฐบาลเป็นเหมือนการซ้ำเติมผู้เคราะห์ร้ายมากกว่า “นี่มันเหมือนกับการพูดว่าผู้เคราะห์ร้ายซ้ำกันสองครั้ง พวกเธอต้องใช้ชีวิตร่วมอยู่กับคนที่ละเมิดสิทธิของพวกเธอ และนั่นเป็นเหตุให้เกิดการข่มชืนกันทุกวันๆ”…
-
จิตใจทำด้วยอะไร!! ตำรวจอินเดียเร่งหาคนร้าย ‘ข่มขืนแม่เพิ่งคลอด’ ถึงเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าว Dailymail ได้เผยภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล Brahm Shakti Sanjeevani ชานกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย จากภาพเราจะเห็นชายรายหนึ่ง กำลังเดินเข้าไปในห้องไอซียู โดยที่ไม่มีใครสนใจเขาเลยแม้แต่น้อย และที่สำคัญชายรายนี้ยังได้ไล่เปิดม่านกั้นของคนไข้ เพื่อกระทำบางสิ่งบางอย่าง… ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า ชายคนดังกล่าวได้อ้างตัวกับยามว่าเป็นแพทย์ จากนั้นเขาก็ได้เดินเข้าไปในห้องพักของคนไข้ ซึ่งเป็นห้องของคุณแม่เพิ่งผ่าตัดทำคลอดได้ไม่นาน จากนั้นก็ลงมือก่อเหตุข่มขืนเหยื่อถึงเตียงในห้องไอซียู ในขณะที่ผู้ป่วยเตียงอื่นๆ กำลังนอนหลับ หลังภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ทางด้านญาติของเหยื่อผู้โชคร้าย ก็ได้ออกมาเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เกิดจากความละเลยในด้านความปลอดภัยของทางโรงพยาบาล อีกทั้งในขณะเกิดเหตุก็ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดอยู่ในห้องไอซียูเลย อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังตามจับตัวผู้ก่อเหตุ โดยอาศัยภาพใบหน้าจากกล้องวงจรปิดเป็นเบาะแส งานนี้เหมียวขี้อ้อนก็ต้องขอประณามการกระทำอันชั่วร้ายของชายรายนี้ และขอให้ตำรวจสามารถจับกุมตัวของเขาให้ได้เร็วไว ที่มา : dailymail