Tag: คนขับแท็กซี่
-
คนขับแท็กซี่จีน ถูกพักงาน 3 วันหลังตำรวจพบว่า “มาสก์หน้า” ขณะขับรถกลางคืน!?
ในเมืองไท่โจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ได้เกิดเรื่องราวอันน่าสงสารกับคนขับแท็กซี่ชายคนหนึ่ง เพราะเขาต้องถูกพักงานถึง 3 วัน หลังมีภาพหลุดว่าเขาแอบ มาสก์หน้า ขณะขับรถ!! คนขับแท็กซี่แซ่ เฉิน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตามหลังภาพการมาสก์หน้าขณะขับรถของเขากลายเป็นที่สนใจอย่างมากบนโลกออนไลน์ เขาได้รับบทเรียนและคำสั่งสอนอย่างจริงจังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกี่ยวกับพฤติกรรมการสวมแผ่นมาสก์หน้าขณะขับรถแท็กซี่ในยามค่ำคืน คลิปข่าวจากจีน อย่างไรก็ตามบริษัทแท็กซี่ที่เฉินทำงานอยู่ก็มิได้มีข้อบังคับใดที่สามารถเอาผิดหรือลงโทษคนขับแท็กซี่วัย 25 ปีคนนี้ได้ ที่ทำได้ก็มีเพียงสั่งให้เฉินพักงาน 3 วันเท่านั้น ทางฝ่ายของเฉินคนขับแท็กซี่หนุ่มก็เผยว่า ตนก็ตกใจเช่นกันที่พบว่าภาพดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจบนโลกอินเทอร์เน็ตขนาดนี้ เขาเริ่มมาสก์หน้าเป็นกิจวัตรก็เพราะว่าการทำงานกะกลางคืนนั้นส่งผลต่อผิวของเขามาก เฉิน คนขับแท็กซี่วัย 25 ปี คนเรามันก็ต้องห่วงสุขภาพผิวกันบ้างสิเนอะ ทำไมไม่เข้าใจกันบ้างเลย! ที่มา: nextshark, Shanghaiist และ 中天新聞CH52
-
เปิดบทลงโทษแท็กซี่ในประเทศต่างๆ หาก “ปฏิเสธผู้โดยสาร” ถูกปรับเท่าไหร่ รุนแรงแค่ไหน?
“ไม่ครับไปส่งรถ” “ไปเติมแก๊ส” “เส้นนั้นรถติดครับพี่” “ราคาเหมาได้ไหมครับ” และอีกสารพัดคำตอบอันหนักแน่นจากเหล่าแท็กซี่ผู้น่ารัก ที่เรามักจะได้ยินเวลาที่เราอยากจะโบกรถแท็กซี่แอร์เย็นๆ สักคันกลับบ้านไปพักผ่อน ด้วยปัญหาการที่แท็กซี่หลายๆ คันเลือกรับผู้โดยสาร และขอค่าโดยสารเป็นราคาแบบเหมาๆ ก็ยิ่งทำให้ผู้โดยสารอย่างเรารู้สึกท้อแท้ในการเรียกพี่ๆ ทั้งหลาย และถึงจะมีการจดป้ายทะเบียนแล้วนำไปร้องเรียนกับกรงขนส่ง แต่พวกพี่ๆ แท็กซี่จะก็ถูกปรับเพียง 1,000 บาทเท่านั้น ซึ่งดูจะไม่รุนแรงเท่าที่หลายๆ คนคาดหวังไว้ ภาพของพี่ๆ แท็กซี่ที่พากันปฏิเสธผู้โดยสารในวันฝนตกช่วงต้นเดือนเมษายน 2018 ที่ผ่านมา (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) จากค่าปรับเพียง 1,000 บาทที่เราเห็น ก็เลยทำให้หลายๆ คนสงสัยกันมากว่าในต่างประเทศล่ะ มีบทลงโทษสำหรับการปฏิเสธผู้โดยสารยังไงบ้าง? และนอกจากการปฏิเสธผู้โดยสารแล้วมีกรณีไหนอีกไหมที่พวกเขาจะถูกปรับ? ลองมาไล่ดูกันไปเป็นข้อๆ เลย 1. เกาหลีใต้ อย่างกรณีแรกนี้เป็นเรื่องราวของกฎหมายใหม่ของแท็กซี่ในประเทศเกาหลีใต้ที่ปฏิเสธผู้โดยสาร ที่ออกมาเมื่อปี 2015 ที่ระบุว่าหากแท็กซี่คันไหนปฏิเสธผู้โดยสารจะต้องถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 2 แสนวอน (ประมาณ 5,860 บาท) ถ้าหากแท็กซี่คันเดิมถูกจับได้อีกเป็นครั้งที่ 2 จะถูกจับปรับเป็นเงิน 4 แสนวอน (ประมาณ 11,723 บาท) ถูกพักใบขับขี่ไป…
-
ขนาดนี้ยังโดน? “บอย ถกลเกียรติ” เจอคนขับแท็กซี่สั่งยกมือไหว้รถ พร้อมขู่ “สักนัดไหม!!”
นี่กลายเป็นเรื่องที่ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีที่บอย ถกลเกียรติ มีปากเสียงกับคนขับแท็กซี่รายหนึ่ง จนถึงขั้นขู่ยิงปืน!? เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ Free’night Kub เมื่อช่วงดึกของวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา เผยให้เห็นคลิปวิดีโอที่มี คุณบอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ ผู้กำกับและประธานกรรมการฝ่ายบริหาร สถานีโทรทัศน์ช่องวัน ยืนพูดคุยกับคนขับแท็กซี่ป้ายทะเบียน มข 3566 บริเวณข้างถนนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครฯ เบื้องต้นทราบว่าแท็กซี่คันดังกล่าวปฏิเสธผู้โดยสาร คุณบอยจึงใช้มือทุบรถ (คาดว่าเกิดความหงุดหงิด อาจจะเรียกมาแล้วหลายคันแต่ไม่ไปส่ง) ทำให้คนขับแท็กซี่เกิดความไม่พอใจ ก่อนจะลงมาแสดงท่าทางก้าวร้าวบอกให้คุณบอยยกมือไหว้รถของตนเองแถมยังขู่ว่าตัวเองมีปืน ทำให้คุณบอยต้องหยิบเงิน 1,000 บาทให้กับคนขับแท็กซี่รายนี้ไป พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปวิดีโอด้วยว่า “ความคิดส่วนตัวผมนะครับ โบกแท็กซี่แล้วไม่ไป จะบอกให้นะแค่ทุบรถยังน้อยไปด้วย ยังมีหน้าลงมาขู่เค้าต่อหน้าลูกเค้าอีก ไม่ได้ไปแถมต้องเสียเงินให้อีก 1,000 สังคมแย่ลงทุกวัน ปล. ความคิดส่วนตัวผมนะครับ” ชมคลิปเหตุการณ์ทั้งหมดได้ที่นี่เลย หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ตามมามากมาย Janpen Chamnanthuan “ถึงเวลาต้องเอาจริงจังกับแท็กซี่ จะได้ไม่เป็นอันตรายกับประชาชนผู้ใช้บริการ” Tum Photongnak…
-
คุณพ่อหันมาทำอาชีพขับแท็กซี่ เพื่อตามหาลูกสาวที่หายสาบสูญไปนานถึง 23 ปี!!
เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วที่ชายชาวจีน Wang Mingqing เปลี่ยนอาชีพมาเป็นคนขับแท็กซี่ในมณฑลเฉินตู ในประเทศจีน เพื่อที่เขาจะสามารถตามหาลูกสาวที่จากกันไปนานถึง 23 ปี!! เขาเล่าว่า 23 ปีก่อนเขากับภรรยาของเขาทำงานเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายผลไม้อยู่ข้างถนน ส่วนลูกสาวยังมีอายุแค่ 3 ขวบเท่านั้น และระหว่างที่เขากำลังวุ่นอยู่กับการขายของให้ลูกค้าจำนวนมากอยู่นั้น กว่าจะรู้ตัวอีกทีลูกสาวของเขาก็หายไปเสียแล้ว… แน่นอนว่าลูกสาวหายไปทั้งคนเขาไม่นิ่งนอนใจ เขาวิ่งโร่ไปแจ้งตำรวจทันทีเพื่อให้ช่วยตามหาลูกสาวของเขา แต่ว่าเวลาก็ผ่านไปเนิ่นนานก็ยังไม่มีมีวี่แววของลูกสาวของเขาเลย ถึงแม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาจะออกตามหาทั้งบนท้องถนน สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและอื่นๆ อีกมากมายแล้วก็ตาม แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า และไร้เบาะแสใดๆ เขาก็เลยคิดว่าต้องหาทางเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง ต้องเลือกวิถีชีวิตที่เขามีโอกาสได้ค้นพบลูกสาวมากที่สุด.. จนในปี 2015 ที่ผ่านมา เขาได้หันมาทำอาชีพคนขับแท็กซี่ ซึ่งเขาหวังว่าการคุยกับผู้โดยสารน่าจะทำให้เขาได้รับข้อมูลของลูกสาวของเขาบ้าง ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมาเขาได้ถามเรื่องลูกสาวของเขากับผู้โดนสารแล้วมากกว่า 5,000 คน เขาแสดงหลักฐานทุกอย่างให้ลูกค้าดูแต่ก็ไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ใดๆ เลย ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่เลิกหวังที่เจอลูกสาวของเขา . เมื่อผู้สื่อข่าว West China Metropolis ได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ เขากล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ความฝันเดียวของผมตอนนี้ก็คือ ผมจะเจอลุกสาวของผมขึ้นมานั่งบนรถแล้วจำผมได้…
-
คุณพ่อแอบเศร้า ลูกชายติดทีมไปโอลิมปิก แต่ไม่มีเงินไปดู… ชาวเน็ตช่วยกันระดมทุนให้ซะเลย!!
ความภูมิใจสูงสุดของพ่อแม่ ก็คือการที่ได้เห็นลูกๆ ของตนเองสามารถยืนด้วยลำแข้งได้และประสบความสำเร็จในชีวิต Ellis Hill ที่ภูมิใจสุดๆ เพราะลูกชายของเขา Darren Hill สามารถติดทีมชาติสหรัฐฯ ในการเป็นตัวแทนนักทุ่มไกลไปแข่งขันที่ริโอได้!!? แน่นอนว่าลูกชายของเขาได้ไปแข่งแบบไม่มีปัญหาเพราะทางประเทศสหรัฐฯ มีทุนให้สำหรับนักกีฬาอย่างเพียงพอ แต่เรื่องน่าเสียดายก็คือทีมชาติไม่ได้มีทุนให้กับพ่อแม่ เพื่อไปดูลูกๆ แข่งขัน… แถม Ellis ก็เป็นเพียงคนขับแท็กซี่อูเบอร์เท่านั้น เลยไม่มีทุนทรัพย์อย่างเพียงพอที่จะไปดูลูกแข่งกีฬาได้… วันหนึ่งเขาได้พบกับลูกค้าคนหนึ่ง Liz Willock ที่เขาคงไม่รู้ว่าจะเข้ามามอบโอกาสครั้งสำคัญให้กับเขา!? Willock นั้น เป็นหัวหน้าฝ่ายขายของบริษัทเดินทาง แน่นอนว่าเธอมีทักษะและความรู้ในด้านการซื้อตั๋วและจองตั๋วเครื่องบินเป็นอย่างดี ก็เหมือนวันธรรมงานธรรมดาๆ วันหนึ่ง Ellis พูดคุยสัพเพเหระกับลูกค้าระหว่างขับรถ เล่าเรื่องลูกชายของเขาที่จะได้ไปแข่งโอลิมปิก แต่เขาจะไม่ได้ไปดู… ‘อยู่ๆ Liz ก็พูดกับผมว่า ‘ถ้าฉันหาตั๋วให้คุณได้ คุณจะไปหรือเปล่า?’ ผมตอบกลับไปว่า ถ่อวววว แม่คุณ เราพึ่งเจอกันเองนะ คุณจะช่วยผมได้จริงๆ เหรอ’ คุณพ่อกล่าว Liz ไม่รอช้าตั้งเพจ GoFundMe page to raise $7,500 to send Hill…
-
ขนส่งฯ สั่งลงโทษ “แท็กซี่หื่น” แล้ว ปรับ 1 พันบาท ฐานคุยหื่นใส่ผู้โดยสาร
หลังจากที่กลายเป็นข่าวคราวไปเมื่อไม่กี่วันก่อน เกี่ยวกับกรณีของคนขับแท็กซี่หื่นกาม ที่พูดจาไม่สุภาพกับผู้โดยสาร และยังใช้คำพูดในเชิงลวนลามผู้โดยสารสาว จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของขาวเน็ต ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของกรมการขนส่งทางบก PR.DLT. โพสต์ข้อความบอกว่าได้มีการเรียกตัวนาย เอกภพ เจริญธนาสาธร ไปสอบสวนแล้ว พร้อมทั้งมีการสั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 1000 บาท พร้อมทั้งบันทึกปากคำให้การไว้ว่า หากมีการร้องเรียนอีกครั้ง จะมีโทษสูงสุดคือเพิกถอนใบอนุญาตทันที หากใครเจอเหตุการณ์แบบนี้ แอดเหมียวแนะนำว่าอย่าไปกลัวนะ ให้แจ้งไปยังกรมการขนส่งทางบกเลย เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่ผู้โดยสารและคนขับแท็กซี่คนอื่นๆ ต่อไป ที่มา Laphasrada Khansuwan , กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.
-
[ทำดีมีแชร์] โลกออนไลน์แชร์ ภาพวินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ บริการฟรีถวายในหลวง
เนื่องในโอกาสที่วันนี้เป็นวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม จึงมีเหล่าผู้ให้บริการขนส่งบางคนขอแสดงตัว ออกมาทำอะไรดีๆ เพื่อพ่อหลวงกันบ้างล่ะ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 ธันวาคม ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของวินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่ ที่ติดป้ายให้บริการฟรีเนื่องในวันพ่อ ทำเอาชาวเน็ตถึงกับชื่นชมในความมีน้ำใจของพวกเขาเลย โดยภาพของวินมอเตอร์ไซค์นั้นถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้ทวิตเตอร์ @nat_jojoe3411 ถ่ายได้ในเขตจตุจักร พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “วินมอเตอร์ไซค์เขตจตุจักรให้บริการฟรีวันพ่อ โดยพิมพ์หลังเสื้อ ‘วิ่งฟรีเพื่อพ่อ’ น่ารักจริงๆ” อีกกรณีหนึ่งเป็นเรื่องราวของคนขับแท็กซี่รายหนึ่ง ป้ายทะเบียน 1มก 5656 กรุงเทพมหานคร ที่มีน้ำใจ ติดป้ายไว้ที่หลังรถโดยระบุข้อความว่า “วันนี้วันพ่อครับผม วันนี้บริการนั่งฟรีครับผม ถวายพ่อหลวงครับผม ผมรักพ่อหลวงครับ (ชีวิตนี้ขอทำดีถวายพ่อหลวงครับผม จากเด็กบ้านนอก)” ใครที่ต้องเดินทางในเมือง หากเจอพี่วินและพี่คนขับแท็กซี่ ก็สามารถเรียกใช้บริการพวกเขาได้นะจ๊ะ ที่มา NationTV 22 , @nat_jojoe3411
-
รวบแท็กซี่โหด ปฏิเสธผู้โดยสารแถมจะใช้กระบองฟาด ที่แท้ผู้โดยสารเป็นตำรวจ
เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านผู้ใชเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Kaweewat Apiwat เป็นภาพและข้อความเตือนภัยสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางด้วยรถแท็กซี่ และอาจเจอคนขับเจ้าอารมณ์ โดยเนื้อหาทั้งหมดมีอยู่ว่า “เหตการณ์วันนี้ยิ่งทำให้รู้ว่าแท็กซี่มันโหดร้ายยิ่งนัก นับวันแท็กซี่เริ่มเหิมเกริม วันนี้ได้เรียกแท็กซี่จะกลับบ้าน แต่ไม่ไป ซึ่งโดยปกติก็จะถามว่าทำไมไม่ไปเปิดว่างไว้ทำไม แต่ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นตำรวจ เราก็เปิดประตูทิ้งไว้” “น้อง Sakon Gui มาปิดให้อาจจะแรงไปหน่อย เราก็ไปขึ้นรถแท็กซี่อีกคัน มันก็ถือไม้กระบองตามมายืนอยู่ข้างประตูรถทำท่าจะฟาด ผมก็เปิดประตูรถออกไปเลยครับ ก็เลยบอกไปว่าจะฟาดก็ลองดู ผมเป็นตำรวจ (ท่าทีก็เปลี่ยนไป) สามารถจับคุณได้เลยนะ” “ผมจะจับคุณข้อหาปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร จากนั้นกูทำการล็อกแขนเรียบร้อย ต่อมาตำรวจบริเวณแยกก็เข้ามาสอบถามจึงได้จับกุมดำเนินคดีเรียบร้อย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แท็กซี่นี่มันใหญ่คับเมืองจริงๆ ไม่รับผู้โดยสารแล้วจะหาเรื่องชวนตีอีก ถ้าเป็นคนอื่นประชาชนตาดำๆ จะทำยังไง #ไม่จับแล้วยังหาเรื่องจนได้ #ลงให้ระวังว่าระวังตาลุงขับแท็กซี่คนนี้ให้ดีๆ” หลังจากที่ข้อความดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ประสบการณ์แย่ๆ ที่เคยเจอกับแท็กซี่ไทยด้วย โดยคุณ Jeerapa Jeab Feuangdang ได้เล่าว่าเคยเจอแท็กซี่พาอ้อมเส้นทาง และถูกใช้มีดข่มขู่รีดไถ ในขณะที่คุณ Prae Kiwi’s เล่าว่าเคยนั่งแท็กซี่ตอนดึกๆ เป็นเส้นทางไม่ไกลมา…
-
เดือด!! คนขับแท็กซี่ถ่ายคลิปประจานผู้โดยสารกินขนมบนรถแถมไล่ลงกลางทาง เจอชาวเน็ตสวนกลับยับ
กลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาอีกครั้ง สำหรับกรณีระกว่างคนขับแท้กซี่และผู้โดยสาร โดยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปของคนขับแท็กซี่ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่า ประเสริฐ บุญประเสริฐ ที่ได้ถ่ายคลิปของตนเองขณะที่กำลังด่าผู้โดยสารรายหนึ่ง โดยมีใจความว่า “ไม่ได้เรียนหนังสือหรือถึงอ่านป้ายห้ามรับประทานอาหารที่ติดไว้ไม่ออก พร้อมกับบ่นอีกชุดใหญ่ และบอกให้รีบทานให้หมดไว ๆ เพราะนี่เป็นรถสาธารณะ นั่งกันหลายคน ถ้าเห็นแต่แรกว่ากินขนมจะไม่จอดรับขึ้นรถแน่นอน” พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “ขึ้นมาแดกๆๆ บนรถ สุดท้ายผู้หญิงที่นั่งหลังผมทำท่าไม่พอใจ ผมเลยนิมนต์ลงกลางถนนที่รถติดๆ เลยจ้า” หลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไป ก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยมีความเห็นหนึ่งแสดงความเห็นอกเห็นใจคนขับรถแท็กซี่ว่า “อย่ามองว่าไม่สมควร อย่างมันพูดก็ถูก รถโดยสารไม่ใช่ที่แดกข้าว แดกขนม รถสาธารณะ วันนึงคนขึ้นเยอะ” ในขณะที่ความเห็นอีกฝั่งหนึ่งมองว่าสิ่งที่คนขับแท็กซี่พูดนั้นไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพียงแต่วิธีการพูดอาจจะดูรุนแรงไปหน่อย ควรปรับวิธีการพูดให้ดูนุ่มนวลมากขึ้น หลังจากนั้นเจ้าของคลิปก็ได้ออกมาตอบโต้ชาวเน็ตที่รุมวิจารณ์ตนเองว่า อยากให้ลองนึกถึงใจเขาใจเราบ้าง หากคุณเป็นคนขับรถที่มีคนนำขนมขึ้นมากินบนรถของคุณอย่างสนุกสนาน คุณจะรู้สึกอย่างไร เหมียวก็ขอฝากไปถึงผู้ที่ต้องเดินทางด้วยแท็กซี่บ่อยๆ ก็แล้วกันนะ ว่าอย่างเอาของกินหรืออะไรที่กลิ่นแรงๆ ขึ้นไปกินบนรถเขาเลยนะ ส่วนพี่ๆ แท็กซี่เองก็ใจเย็นๆ นะจ๊ะ มีอะไรก็ค่อยๆ พูด…
-
ห้าม!! คนขับแท็กซี่ไม่แคร์สื่อ เขียนป้ายห้ามทุกสิ่งอย่าง ใครไม่พอใจรถเมล์ฟรียังมี
เวลาที่เราต้องเดินทางด้วยรถแท็กซี่ หลายๆ คนก็คงจะพอทราบถึงมารยาทในการโดยสารรถแท็กซี่คร่าวๆ ล่ะนะ เช่นไม่นำอาหารกลิ่นแรงๆ ขึ้นมากิน ไม่ส่งเสียงดังโวยวายคนขับรถ เพราะหากเราไม่เกรงใจคนขับรถแท็กซี่ คุณอาจจะเจอแบบโหดๆ อย่างนี้ก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊ค Aonuma Choothong เป็นภาพที่เจ้าตัวได้ถ่ายมาจากรถแท็กซี่คันหนึ่ง โดยเป็นป้ายข้อกำหนดในการโดยสารรถ ที่มีการระบุข้อห้ามต่างๆ มากมาย ทั้งห้ามกินหมากฝรั่ง ท๊อฟฟี่ ลูกอม อาหาร ห้ามใช้แป้งฝุ่น น้ำหอม สารเคมี ห้ามเล่นเกม What App, Line(ให้ปิดเสียงเลย) หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากพากันเข้ามากดไลค์และแสดงความเห็นมากมาย โดยมีหนึ่งในความคิดเห็นที่น่าสนใจของคุณ วุฒิชาติ ธงแสนเมือง บอกไว้ว่า “ผมขับแท๊กซี่ครับ ตามที่เห็นเขาคงอึดอัดมากไปนะ ผมเช่ารถขับก็เจอแบบที่ลงรูปทุกวันแต่ผมเฉยๆนะ คิดซะว่าเดี๋ยวเขาก็ลงแล้วทนเอานิดหน่อย” มองในมุมลูกค้า เหมียวเองก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกันนะ เพราะบางทีเราก็มีธุระที่ต้องติดต่อ แต่ก็ต้องเห็นใจพี่คนขับแท็กซี่เช่นกัน ว่าวันๆ ต้องเจอกับลูกค้าและรับกับความเครียดมากมาย เอาเป็นว่าเกรงใจซึ่งกันและกันดีกว่าเนอะ ที่มา Aonuma Choothong