Tag: คนจน
-
เศรษฐีบิตคอยน์โปรยเงินให้ชาวเมือง ยืนยันอยาก “ช่วยคนจน” ไม่เชื่อแจ้งความได้เลย!
ชายชาวฮ่องกงที่เรียกตนเองว่า “พระเจ้า” เพราะอ้างว่าได้ขโมยเงินคนรวยมาแจกจ่ายให้กับคนจนในเมือง ถูกจับกุมตัวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2018 หลังจากโปรยเงินลงมาจากที่สูง Wong Ching-kit ชายชาวฮ่องกงผู้เป็นเซียน บิตคอยน์ (สกุลเงินดิจิทัล) ได้ทำเงินอย่างมหาศาลจากการลงทุนซื้อขายสกุลเงินบิตคอยน์บนอินเทอร์เน็ต คลิปวิดีโอการโปรยเงินของ Wong Ching-kit Wong เล่าว่าในการลงทุนด้วยเงินเริ่มต้นที่ 300,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 1.3 ล้านบาท) ทำให้เขาได้กำไรมามากมายเกือบ 4 เท่าของเงินทุน โดยในคลิปวิดีโอ Wong ได้โปรยธนบัตรมูลค่า 100 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 400 บาทไทย) จำนวนนับไม่ถ้วนให้ปลิวว่อนอยู่เหนือถนนในย่าน Sham Shui Po ของเมืองหนึ่งของฮ่องกง ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมากรูกันเข้ามาเก็บธนบัตรเหล่านี้กันอย่างจ้าละหวั่น . Wong ได้โปรยเงินลงมาในวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวในวันที่ 16 ธันวาคม ในข้อหา “สร้างความวุ่นวาย” ให้กับชาวเมือง ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าจำนวนเงินทั้งหมดที่ Wong…
-
ผู้อาศัยใหม่เจอ “จดหมายเตือน” ให้ระวังข้าวของให้ดี ‘คนรายได้น้อย’ จะย้ายเข้ามา…
เหตุการณ์เกิดขึ้นกับผู้อาศัยรายใหม่ของบ้านหลังหนึ่งในนิวซีแลนด์ ที่จู่ๆ ก็มีจดหมายจากเพื่อนบ้านมาสอดเอาไว้ในกล่องรับจดหมาย จดหมายเขียนด้วยลายมือมีใจความว่าอีกไม่นานบ้านข้างๆ จะกลายเป็นบ้านของรัฐฯ ที่เปิดให้เช่าในราคาถูก หมายถึงอีกไม่นานจะมีผู้มีรายได้น้อยเขามาอาศัย ให้ “ระวังเอาไว้ จับตาดูทุกสิ่งที่น่าสงสัย” “กรุณาระวังเอาไว้ ผู้ที่จะย้ายเข้ามาอาศัยข้างๆ บ้านคุณคงจะเป็นคนที่มีรายได้น้อย หรือไม่ก็เป็นผู้ที่กรมจัดหางานส่งมา” ข้อความในจดหมายเขียนเอาไว้ “คาดว่าน่าจะราว 2-3 สัปดาห์ก็จะมีผู้อาศัยใหม่เข้าอยู่ในบ้านหลังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามแล้วดูน่าสงสัย โปรดระมัดระวังเอาไว้ให้ดี” ข้อความในจดหมายกล่าว “หากมีข้าวของสูญหาย หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบนถนนสายนี้ กรุณาแจ้งตำรวจและดำเนินการประชุมตรวจตราบ้านใกล้เรือนเคียง” ข้อความกล่าวพร้อมจบด้วยการลงชื่อ “เพื่อนบ้านที่ปรารถนาดี” จดหมายดังกล่าวจั่วหัวกระดาษว่า “เรียนผู้เข้าอาศัย” อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ทำให้หลายคนเกิดความไม่พอใจอย่างมาก “นี่มันเป็นการเหยียดกันชัดๆ เอาจริงๆ ทุกคนต้อนรับผู้อาศัยใหม่กันทั้งนั้น บ้านไหนกันแน่นะที่กล้าส่งจดหมายแบบนี้ไป?” ผู้อาศัยรายหนึ่งกล่าวกับ Stuff NZ. ส่วนอีกรายก็นำเรื่องดังกล่าวไปโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กว่าเป็นจดหมายที่ “น่ารังเกียจและน่ากลัว” จริงๆ “ฉันรังเกียจและผวากับการกระทำของคนคนนี้มาก! นี่ขนาดยังไม่รู้เลยนะว่าใครจะเข้ามาอาศัยกันแน่ก็ด่วนตัดสินเขาไปเสียแล้ว แถมเอาไปบอกให้คนอื่นระวังตัวอีก เด็กรุ่นใหม่ๆ จะติดความคิดแบบนี้ไปหรือเปล่าเนี่ย?” สุดท้ายโฆษกของกรมสิทธิมนุษยชนได้ออกมากล่าวแล้วว่าจดหมายฉบับนี้ถือว่าเป็นการ เหยียดชนชั้น ของมนุษย์ “เป็นเรื่องเศร้าที่ยังมีผู้คนซึ่งตัดสินผู้อื่นจากพื้นฐานของรายได้ หรือพื้นฐานที่ว่าเขาได้รับสวัสดิการจากรัฐบาลหรือไม่” เขากล่าว …
-
คนไทยมีบัญชีรวมกันกว่า 83 ล้านบัญชี แต่ 88 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดมีเงิน “ไม่เกิน 5 หมื่นบาท”
เชื่อว่าเกือบทุกคนจะต้องมีบัญชีเงินฝากเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตในแต่ละวันได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ไม่ต้องพกเงินจำนวนเยอะๆ ออกไปไหนมาไหนให้พะรุงพะรัง เพียงแค่พกบัตร ATM หรือบัตร DEBIT ไปก็พอ เพราะอย่างนั้นเอง ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย ถึงได้บอกเอาไว้ว่า ในประเทศของเรามีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์มากถึง 83,310,209 บัญชีเลยทีเดียว (1 คน อาจมีหลายบัญชี) แต่สิ่งที่น่าตกใจก็คือ 88 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดนั้น กลับมีเงินอยู่ในบัญชีไม่ถึง 50,000 บาท จำนวนเงินในบัญชี กับจำนวนของบัญชีออมทรัพย์ จากข้อมูลบอกว่าบัญชีออมทรัพย์จำนวน 73,331,462 บัญชี มีเงินไม่เกิน 50,000 บาท ในขณะที่สัดส่วนของบัญชีที่มีเงินเก็บมากกว่า 50,000 บาทขึ้นไป มีอยู่เพียงแค่ 9,978,747 บัญชี ตัวเลขดังกล่าวอาจแสดงให้เราเห็นได้ในหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเก็บออม รายได้ในแต่ละเดือนที่ทำให้เราไม่สามารถออมเงินไว้ใช้ได้ในยามจำเป็น หรือแม้แต่เรื่องของจำนวนคนฐานะปานกลางไปจนถึงยากจนที่มีสัดส่วนแตกต่างจากจำนวนคนรวยในประเทศเราค่อนข้างมาก สะท้อนให้เห็นไปจนถึงเรื่องของเศรษฐกิจและการเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ในสังคม โดยหวังว่าในอนาคตตัวเลขมันจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีมากกว่านี้ ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย
-
Oxfam เผย 8 มหาเศรษฐีชั้นนำของโลก มีทรัพย์สินมากกว่าคนจน “ครึ่งโลก” รวมกัน
ทุกวันโลกเราแม้จะพัฒนาขึ้นไปมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีความเหลื่อมล้ำทางฐานะระหว่างคนที่รวยกับคนที่จนอยู่เป็นจำนวนมาก และยิ่งพิจารณาจากรายงานล่าสุดของ Oxfam แล้ว หลายคนจะยิ่งตกใจในความเหลื่อมล้ำของสังคมปัจจุบันเลยล่ะ ในงานประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาฟอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทาง Oxfam องค์กรการกุศลนานาชาติที่มุ่งเน้นด้านการบรรเทาความยากจนได้รายงานว่า 8 มหาเศรษฐีระดับโลกมีทรัพย์สินย์มากกว่าคนจน 3,700 ล้านคนทั่วโลกรวมกันเสียอีก เศรษฐีทั้ง 8 คน ประกอบไปด้วย – Bill Gates จาก Microsoft – Amancio Ortega เจ้าของแบรนด์ Zara – Warren Buffett นักลงทุนชื่อดัง – Carlos Slim Helo เจ้าของกลุ่มทุน Grupo Carso – Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งเว็บ Amazon – Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook – Larry Ellison ผู้ร่วมก่อตั้ง Oracle – นักธุรกิจ Michael Bloomberg…
-
ช่างภาพใช้โดรนบินถ่าย สร้างผลงาน ‘เส้นแบ่งเขตแดน’ ที่ต่างกัน ของคนจนและคนรวย!!!
ถึงแม้ว่าในโลกปัจจุบันนั้นจะไม่ได้นิยมชมชอบและแบ่งแยกคนจน-รวย อย่างออกหน้าออกตากันมากก็ตาม เพราะเป็นพฤติกรรมที่เรียกว่าไม่ค่อยสมควรเท่าไหร่ แต่รู้มั้ยล่ะว่า ลึกๆ แล้วเรากลับชินชาและเห็นด้วยกับสิ่งเหล่านั้นไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งล่ะ สำหรับวันนี้เราก็มีตัวอย่างง่ายๆ ของช่างถ่ายภาพ Johnny Miller ที่ใช้โดรนถ่ายภาพโซนๆ หนึ่งของประเทศแอฟริกาใต้มาให้เราได้ชมกัน และถึงแม้ว่าการแบ่งแยกแบบนี้จะไม่ได้รับการยอมรับเหมือนในสมัยก่อน แต่ก็ยังคงมีให้เห็นกันอยู่โต้งๆ เลยล่ะ เส้นแบ่งแยก เขตแดนระหว่างคนรวย-คนจน เห็นได้ชัดเจนและสามารถสังเกตได้เลยทีเดียวว่าฝั่งไหนมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ที่สังเกตได้ชัดเลยก็คือเรื่องของความแออัด บ้านในโซนคนรวยจะดูหรูหรา มีพื้นที่เยอะแบบคฤหาสน์เลยทีเดียว รึไม่ก็เป็นสนามกอล์ฟสำหรับคนรวยมาเล่นกีฬากัน การวางผังที่เป็นระบบระเบียบ พื้นที่สีเขียว สีสันของบ้านที่ดูดีกว่า . . มาชมวิดีโอกันได้ที่นี่เลย จริงๆ แล้วถึงพฤติกรรมนี้จะไม่ได้เป็นที่ยอมรับในสังคมทั่วไปมากนั้น แต่ลึกๆ แล้วเราก็มีสำนึกที่ยอมรับในเรื่องนี้กันอยู่ล่ะ อย่างที่มีคนพูดว่า ลองสังเกตดูสิ ‘คนเราจะเกรงใจคนรวย มากกว่าเกรงใจคนดีนะ’ แค่นี้ก็คงจะพอนึกภาพกันออกแล้วล่ะเนาะ -*- ที่มา: Boredpanda
-
ชาวเน็ตคอมเม้นท์ระนาว!! แค่ห่อข้าวไปกินที่มหาลัย กลับโดนเพื่อนมองว่าเป็นคนจน!?
ในยุคปัจจุบันที่เศรษฐกิจไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก จนอาจจะเรียกได้ว่าเป็นยุคข้าวยากหมากแพง เพราะฉะนั้นผู้คนส่วนใหญ่ก็มักเลือกที่จะประหยัดอดออมด้วยการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างเช่นค่าน้ำ ค่าไฟ และที่สำคัญก็คือค่าอาหารการกินนั่นเอง มีชาวเน็ตเว็บไซต์พันทิปชื่อว่า สมาชิกหมายเลข 3117685 ได้ทำการโพสท์กระทู้ว่า ‘ห่อข้าว ไปกินที่มหาลัย ถูกมองว่าเป็น คนจน’ เล่าเรื่องราวที่ตนทำการประหยัดอดออมด้วยการห่อข้าวมากินที่มหา’ลัย แต่กลับถูกเพื่อนๆ มองในแง่ลบ เอาเป็นว่า #เหมียวหง่าว โคว้ทเนื้อหาในกระทู้มาเลยก็แล้วกัน เพื่อไม่ให้ข้อความคลาดเคลื่อนนะจ๊ะ… “เราเรียนอยู่ปี1 ในมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงใน กทม. ตอนแรก ก็ทานเข้า ใน มหา’ลัย. มื้อเที่ยงก็100นึงละ อย่างต่ำ ไม่ได้กินเยอะเลย แต่อาหารแพงมาก 55-60 บาท ไปทานข้าวข้างนอก เพื่อนก็อยากกิน ชาบูบ้าง บุฟเฟต์บ้าง ใช้เงินแบบกระจายมาก กินมื้อนึง =3-4มื้อ ของเรา เราเลยตัดสินใจ ทำกับข้าวไปกิน ที่/ มหาลัย เป็นเมนูง่ายๆ เวลานั่งกินที่ canteen ใน มหาลัย เพื่อนที่เคยไปกินบุฟเฟ่ต์ ด้วยกันทักว่า นี่ไม่มีเงิน ซื้อกับข้าว จนต้อง ทำกับข้าว…
-
ทั่วโลกวิจารณ์ เปรูสร้าง ‘กำแพงแห่งความอับอาย’ เพื่อกั้นเขตระหว่างคนรวยและคนจน
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Odditycentral ได้เผยแพร่ภาพกำแพงสุดหดหู่ใจ จากเมืองลิมา ประเทศเปรู ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งกั้นดินแดนระหว่างคนรวยและคนจน ตามรายงานบอกว่ากำแพงแห่งนี้มีความยาวทั้งสิ้น 10 กิโลเมตร ถูกสร้างด้วยคอนกรีตและพันด้วยลวดหนาม จุดประสงค์ที่มีการสร้างมันก็เพื่อให้เหล่าคนรวยรู้สึกปลอดภัยจากคนจน ที่อาจจะรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ของพวกเขา และป้องกันอาชญากรรมต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ ฝั่งในกำแพงมีชื่อว่า Las Casuarinas (ลาส คาซัวรินาส์) เป็นพื้นที่ของบรรดาคนรวย ส่วนด้านนอกมีชื่อว่า Vista Hermosa (วิสต้า เฮอร์โมซา) เป็นพื้นที่ของคนจนที่แทบจะไม่มีเครื่องใช้อำนวยความสะดวกหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเลย การสร้างกำแพงขึ้นแบบนี้ ทำให้เหล่าประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ Vista Hermosa นั้นรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะมันแบ่งแยกพวกเขาอย่างชัดเจน ทำให้พวกเขารู้สึกไม่มีความสุขเลย แต่ยังไงก็ตาม เขต Las Casuarinas รู้สึกปลอดภัยและคิดว่ากำแพงแห่งนี้มีความจำเป็นมากสำหรับพวกเขา กำแพงแห่งความอับอายแห่งนี้เริ่มเป็นที่จับตามองของชาวโลก และถูกตั้งชื่อเล่นให้ว่า กำแพงเบอร์ลินแห่งเปรู ทำให้ชาวเมืองเริ่มรวมกลุ่มกันไปวาดภาพลงบนกำแพง เกิดเป็นจิตรกรรมฝาผนังขึ้น เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของผู้สร้างกำแพง ให้เห็นถึงผลกระทบของมัน …
-
ชายหนุ่มแกล้งเป็นลมในเสื้อผ้าลุค “ดูรวย” กับ “ดูจน” ปฏิกิริยาของผู้คนจะแตกต่างกันหรือไม่?
หลายคนอาจบอกว่า ในทุกวันนี้ ทุกๆคนมีความเท่าเทียมกันหมด ไม่ว่าจะจนหรือรวย แต่ในความเป็นจริง มันเป็นแบบนั้นจริงๆหรือ? หรือว่าคนจนอาจได้รับการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมจากผู้อื่นกันแน่ ผู้ใช้งานเว็ปไซต์ Youtube ชื่อว่า NorniTUBE จึงได้ทำการทดลองถึงความมีน้ำใจของผู้คน ด้วยการแต่งกายด้วยลุคแบบนักธุรกิจและแบบคนธรรมดา แล้วแกล้งเป็นลมในที่สาธารณะ ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา จะมีปฏิกิริยาอย่างไร ไปชมกันเลย เริ่มจากแต่งแบบคนธรรมดาๆก่อน ไม่ไหวแล้ว เป็นลมดีกว่า มองแล้วก็ผ่านไป ทุกคนผ่านไปโดยไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก สรุปคือนอนไปเกือบ 10 นาที ไม่มีคนสนใจเลย งั้นลองเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ คราวนี้มาในมาดของนักธุรกิจ พอล้มปุ๊บ มีคนสามสี่คน เข้ามาถามไถ่อาการในทันที เขายังไม่เชื่อเท่าไหร่ จึงทดลองเป็นลมอีกอีกครั้ง สุดท้ายก็มีคนเข้ามาช่วยในทันทีเหมือนเดิม ลองไปชมคลิปกันดู ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ เหมียวว่าถ้าเราเห็นคนกำลังอยู่ในความเดือดร้อน ไม่ว่าจะรวยหรือจน ก็ควรเข้าไปช่วยนะ อย่าเลือกปฏิบัติกันเลย เพราะพวกเขายังไงพวกเราก็คือมนุษย์เหมือนกันหมดนะครับ ^^ ที่มา NorniTUBE