Tag: คนตาย
-
หนุ่มไอร์แลนด์ใช้บัตรเดบิตของ ‘คนตาย’ ซื้อพิซซ่าและใช้จ่ายเป็นเงินหลายแสนบาท…
เรื่องราวเกิดขึ้นจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า Marie Conlon เสียชีวิตคาที่พักเมื่อราวเดือนตุลาคมปี 2017 ไม่มีใครทราบเรื่องนี้เพราะ Marie ไม่มีครอบครัวเลย เพื่อนบ้านเองก็เจอเธอครั้งสุดท้ายเมื่อราวปี 2015 การตายของ Marie Conlon ไม่มีใครทราบเรื่องเลยนอกจาก Robert Sharkey เพื่อนบ้านที่เข้าไปพบว่า Marie ได้เสียชีวิต แต่แทนที่เขาจะแจ้งตำรจ เขากลับทำสิ่งที่เห็นแก่ตัวอย่างมาก Robert ในวัย 24 ปี ได้บุกเข้าไปยังบ้านของ Marie ผู้เสียชีวิต จากนั้นก็เข้าไปขโมยบัตร Debit เพื่อนำมาใช้จ่ายอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และอื่นๆ ให้กับตนเอง เขาใช้เงินในธนาคารของ Marie ไปกับการซื้อพิซซ่าจากร้าน Domino เป็นจำนวนเงินราว 254,000 บาท และใช้จ่ายสำหรับค่าอาหารในร้าน Sainsbury ไปราว 139,000 บาท นอกจากนี้ยังมี การซื้อโทรศัพท์มืออีก 43,600 บาท รวมถึงค่าน้ำค่าไฟรวมแล้วเป็นจำนวนเงินราว 12,000 บาท Robert จึงถูกกล่าวหาว่าขโมยบัตร Debit…
-
หลอนจริงไม่ติงนัง… ช่างซ่อมพบศพ ติดอยู่หลังกำแพงห้องน้ำ ในห้างสรรพสินค้า
คุณคิดว่าปกติแล้วควรมีอะไรอยู่ในห้องน้ำห้างสรรพสินค้าบ้าง? กระดาษทิชชู่ ชักโครก อ่างล้างมือ โถปัสสาวะ อะไรประมาณนั้นสินะ แต่ว่าห้องน้ำแห่งนี้มันกลับมีอะไรที่มากกว่านั้น และเหนือความคาดหมายของทุกคนไปอย่างแน่นอน สิ่งที่ว่ามานั้นถูกพบในห้างฯ The Core เมือง Calgary ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2018 ช่างซ่อมบำรุงได้เข้าไปตรวจสอบห้องน้ำหญิงชั้น 4 ใกล้กับบริเวณศูนย์อาหาร แต่กลับพบศพของชายคนหนึ่งติดอยู่บริเวณด้านหลังกำแพงห้องน้ำ เจ้าหน้าที่รายงานว่าช่างซ่อมบำรุงคนดังกล่าวได้รับแจ้งว่าชักโครกภายในห้องน้ำหญิงไม่ยอมฉีดน้ำอัตโนมัติ จึงเข้าไปเลื่อนเปิดแผ่นโลหะปิดผนังบริเวณด้านหลังชักโครก ทำให้เจอศพของผู้ชายคนนั้นเข้า บริเวณที่ช่างซ่อมบำรุงพบศพ ปัจจุบันตำรวจยังคงไม่สามารถระบุตัวตนของศพดังกล่าวได้ แต่คาดว่ามีอายุประมาณ 20 ปี และดูแล้วน่าจะเข้ามาในห้องน้ำหญิงตอนกลางคืนวันที่ 27 เมษายน 2018 ก่อนที่จะปีนเข้าไปในช่องลมด้านบน จนกระทั่งติดอยู่บริเวณช่องว่างระหว่างกำแพง ทำให้เสียชีวิตลงในที่สุด ทางด้านช่างซ่อมบำรุงที่พบศพก็รู้สึกเสียขวัญ และจำเป็นต้องพักงานชั่วคราว เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายศพออกไป สร้างความขวัญผวาให้กับทุกคนที่กำลังเดินเล่นอยู่ภายในห้างฯ นับว่าเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย ใครจะไปคิดว่าห้องน้ำที่เราเข้าไปใช้บริการจะมีร่างของคนตายอยู่ด้านหลัง ไม่แน่ว่าห้องน้ำในบ้านเราอาจมีอะไรลี้ลับซ่อนเอาไว้อยู่เหมือนกัน ก็เป็นได้… ที่มา: globalnews , theguardian , new.qq
-
White Lie เรื่องเล่าจากประเทศญี่ปุ่น โกหกที่ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็นำมาซึ่งเรื่องราวอันน่าเศร้า
White Lie หรือการโกหกสีขาว คือการโกหกเพื่อความสบายใจของผู้ที่รับฟัง จะเรียกว่าการโกหกที่ไม่ใช่เรื่องผิด หรือการโกหกที่ไร้เดียงสาก็ได้ บ่อยครั้งที่เป็นการกระทำเพื่อรักษาน้ำใจของอีกฝ่าย กล่าวง่ายๆ ว่ามักจะเป็นการโกหกด้วยความหวังดีนั่นเอง แต่การโกหกสีขาวนั้นก็ไม่ได้นำมาซึ่งเรื่องที่ดีเสมอไป เพราะสุดท้ายนั้น การโกหก ก็ยังคงเป็นการโกหกอยู่ดี เรื่องเล่าในครั้งนี้เป็นเรื่องเล่ากึ่งนิทานของประเทศญี่ปุ่น ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กสาวขี้โกหก กับคุณแม่ผู้เกลียดการโกหกเข้าไส้ ด้วยชื่อเรื่อง “White Lie” ครั้งหนึ่งเคยมีเด็กสาวชื่อว่าจิอากิ เธอได้ยินเสียงของแม่เรียกในระหว่างที่กำลังเล่นอยู่ในห้องนอน เธอเดินลงมาจากชั้นสองและพบกับคุณแม่ที่อยู่ในห้องครัว “จิอากิมานี่หน่อยสิ แม่มีอะไรจะถาม” แม่ของเธอกล่าว พลางกวักมือเรียกจิอากิเข้าไปหา “อะไรเหรอแม่?” จิอากิถาม “ลูกรู้ไหมว่าใครเป็นคนกินเค้กสำหรับแขกไป?” แม่ของเธอถามกลับ “อืม…ไม่รู้ค่ะ” เธอปฏิเสธ “ลูกกินไปรึเปล่า?” แม่ของเธอถามด้วยความสงสัย “หนูไม่ได้กินนะแม่” เด็กสาวปฏิเสธอีกครั้ง พลางบิดมือด้วยความไม่สบายใจ “จิอากิแม่ดูออกนะเวลาลูกโกหก” แม่ของเธอกล่าว จิอากิอาจจะไม่รู้ตัวแต่เวลาเธอโกหกเธอจะบิดมือเหมือนกับตอนนี้ “การเป็นหัวขโมยมันเริ่มต้นจากการโกหกนี่ล่ะ และหัวขโมยจะต้องถูกจับและลงโทษเสมอ ลูกเข้าใจที่แม่พูดไหม” จิอากิทนรับความรู้สึกผิดไม่ไหว จึงยอมรับผิด เธอร้องไห้และบอกว่าเธอเป็นคนที่แอบกินเค้กไปเอง “โอ้ โอ้ หยุดร้องไห้เถอะลูก” แม่ของเธอกล่าว “แม่ไม่ได้เกลียดลูกหรอกนะ ก็แค่ไม่อยากให้ลูกเป็นคนขี้โกหกเท่านั้นเอง” เรื่องราวประมาณนี้เกิดขึ้นอยู่หลายต่อหลายครั้ง บางทีนั่นอาจจะเป็นการเรียกร้องความสนใจในแบบของเด็กสาวก็เป็นได้…
-
7 พินัยกรรมสุดแปลกจากเหล่าผู้ล่วงลับ การสั่งเสียครั้งสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อว่ามีจริงบนโลก
พินัยกรรม คือ คำสั่งครั้งสุดท้ายที่ผู้เสียชีวิตได้แสดงเจตนาเอาไว้ ทั้งในเรื่องทรัพย์สินของตน หรือในการกระทำต่างๆ ที่จะเกิดเป็นผลตามกฎหมายเมื่อผู้เขียนเสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นพินัยกรรมจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับหลายๆ คน พินัยกรรมนั้นมีอิสระในการเขียนที่สูงค่อนข้างมาก จนทำให้ในบางครั้งนั้น จึงมีผู้คนเขียนอะไรแปลกๆ หรือขออะไรที่ไม่น่าเชื่อเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่นบุคคลต่อไปนี้ หนังสือการ์ตูนที่ผสมเถ้ากระดูกของเขาไว้ Mark Gruenwald เป็นอดีตบรรณาธิการของหนังสือการ์ตูน Marvel และผู้มีอิทธิพลอย่างมากกับหนังสือการ์ตูน Captain America และ Iron Man เขารักงานของตัวเองมาก มากจนอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล Marvel แม้กระทั่งหลังจากที่เขาเสียชีวิต ในวาระสุดท้ายของเขา Mark ได้ขอให้มีการเผยแพร่หนังสือการ์ตูนที่มีเถ้ากระดูกของเขาผสมไว้ ผู้ให้กำเนิด Star Trek อยากไป “สถานที่ที่ไม่มีใครเคยไปมาก่อน” ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ Gene Roddenberry ผู้สร้างหนึ่งในตำนานที่โด่งดังมากที่สุดอย่าง Star Trek จะเป็นผู้ที่ชื่นชอบในอวกาศเป็นอย่างมาก และเขานั้นได้เป็นคนๆ แรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกฝังไว้ในอวกาศ Shakespeare ทิ้งเพียงเตียงที่ดีที่สุดเป็นอันดับสองของเขา ให้แก่ภรรยาของเขา William Shakespeare เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะนักเขียนบทละครที่โรแมนติกมากหลายๆ เรื่อง แต่ในชีวิตจริงนั้น เขากลับเขียนพินัยกรรมเพื่อที่จะทิ้งเพียงเตียงที่ดีที่สุดเป็นอันดับสองของเขา ให้แก่ Anne…
-
ทหาร US กล่าว สงครามเกาหลีเหนือจะทำให้คนตายมากกว่าที่อิรักและอัฟกานิสถานรวมกัน
หัวหน้ากองทหารสหรัฐกล่าวว่าการทำสงครามกับเกาหลีเหนืออาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของนักรบชาวอเมริกันประมาณ 10,000 คนในช่วงเวลาเพียงแค่หนึ่งวัน ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ที่เสียชีวิตจากสงครามในอิรักและอัฟกานิสถานรวมกันถึง 3,000 คน พวกเขาได้รับรู้ข้อมูลอันน่ากังวลนี่หลังจากเข้าร่วมการประชุมลับที่ฮาวาย โดยมีจุดประสงค์หลักที่การคาดคะแนสถานการณ์ความขัดแย้งที่มีอยู่ โดยการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ ซึ่งได้ทำการศึกษาสถานการณ์หลายๆ รูปแบบ โดยมีเสนาธิการทหารบกนายพล Mark Milley และผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการพิเศษนายพล Raymond Thomas เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย พวกเขายังได้สรุปอีกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตของพลเรือนทั้งสองฝ่ายอาจจะมีจำนวนนับแสน หรือมากกว่านั้น ปัจจุบันสหรัฐอเมริกามีทหารประมาณ 28,500 นายประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ ในขณะที่ขณะเมืองหลวงของเกาหลีใต้หรือกรุงโซลซึ่งอยู่ในระยะยิงปืนใหญ่ของ Kim Jong un มีประชากรอยู่ราวๆ 24 ล้านคน จากข้อมูลทั้งหมด นายพล Milley กล่าวว่า “ความโหดร้ายป่าเถื่อนของเรื่องที่อาจจะเกินขึ้น มันรุนแรงเกินกว่าประสบการณ์ทั้งชีวิตของทหารคนหนึ่งเสียอีก” ทหารเกาหลีเหนือที่ร่วมเดินสวนสนามที่เมืองเปียงยาง ตามรายงานระบุว่าผู้นำกองทัพยังมองอีกว่าจะต้องใช้หน่วยรบพิเศษจำนวนมากเพียงใดในการจู่โจมเป้าหมายพื้นที่ปล่อยขีปนาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ นอกจากนั้นยังมีสถานการณ์อื่นๆ เช่นโอกาสที่กองทัพสหรัฐฯ อาจต้องทำการต่อสู้ในอุโมงค์เช่นเดียวกับที่เคยทำในสงครามเวียดนาม แม้ว่าความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ ดูเหมือนจะลดลงในช่วงหลายสัปดาห์หลังการเข้าร่วมโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ในเกาหลีใต้ แต่เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมานั้น Kim Jong un ได้กล่าวหาสหรัฐฯ และญี่ปุ่นว่า “จะทำให้เกิดสงครามรุนแรงขึ้น”…
-
“หมู่บ้านผีดิบ” ที่ชาวบ้านขุดศพคนในครอบครัวขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่ด้วย เพราะเชื่อว่ายังไม่ตาย…
[คำเตือน: มีภาพและเนื้อหาที่กระทบกระเทือนจิตใจ ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม] ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง บนเกาะซูลาเวซี ประเทศอินโดนีเซีย ถูกเรียกว่าเป็น “หมู่บ้านผีดิบ” เพราะที่นั่น มีพิธีกรรมสุดประหลาดอย่างหนึ่ง ที่มีการขุดญาติหรือสมาชิกในครอบครัวที่ “ตาย” ไปแล้ว ขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอีกครั้ง พิธีกรรมดังกล่าว เป็นพิธีกรรมของชาว Torojan ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ชาวบ้านจะมีการขุดศพของญาติและสมาชิกในครอบครัวที่ตายไปแล้ว ขึ้นมาชะล้างทำความสะอาดและแต่งองค์ทรงเครื่อง เพื่ออาศัยอยู่ในบ้านอีกครั้ง ขุดขึ้นมา อาบน้ำ แต่งตัว สูบบุหรี่ และใช้ชีวิตร่วมกัน . . ศพนั้นถูกขุดขึ้นมานำมาไว้ในบ้านนานนับทศวรรษ และทางครอบครัวก็จะใช้ชีวิตร่วมกับศพคนรักของพวกเขา โดยมองว่าเขายังไม่ได้ตาย แต่เขาแค่ “ป่วย” จนกว่าทางครอบครัวจะสามารถจัดพิิธีศพตามความเชื่อได้อย่างสมเกียรติที่ชื่อว่า Rambu Solo จึงจะสามารถยอมรับได้จริงๆ ว่าศพนั้นได้ตายไปแล้ว ชาว Torojan ทำกับคนรักที่พวกเขาขุดขึ้นมาเหมือนกับว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว (ที่ยังมีชีวิต) พวกเขาพูดคุย ให้น้ำ ให้อาหาร และแน่นอนว่า ยามเข้านอน ก็นอนด้วยกัน ไม่ว่าจะศพผู้ใหญหรือเด็ก ก็ถูกนำขึ้นมาแต่งตัว และใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว…
-
หญิงสาวแต่งตัวเลียนแบบ “แจ็ก สแปโรว์” ตัดสินใจแต่งงานกับผีโจรสลัดจากศตวรรษที่ 18
แน่นอนว่าการเรื่องน่ายินดีเช่นการแต่งงานนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนสองคนมีความรักให้แก่กันและสัญญาว่าจะดูแลกันตลอดไป แต่เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น หญิงสาวคนหนึ่งตกหลุมรักและแต่งงานกับคนที่ตายไปตั้งนานแล้ว! โดยเรื่องราวมีอยู่ว่าหญิงวัย 45 ปีนามว่า Amanda Teague จากเมืองดาวน์แพทริค ไอร์แลนด์เหนือ ตัดสินใจที่จะแต่งงานกับโจรสลัดชาวเฮติชื่อว่า Jack ซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ทั้งคู่มีการออกเดตกันเหมือนคู่รักปกติ โดยล่าสุดทั้งคู่ได้ล่องเรืออกไปสู่น่านน้ำสากลที่ซึ่งงานแต่งงานของพวกเขาได้เกิดขึ้น ในพิธีแต่งงาน ถึงจะมองไม่เห็นตัวของ Jack แต่ Amanda เองก็ได้ยินคำว่า “ฉันยอมรับหญิงคนนี้เป็นภรรยา” ได้จากคนทรงเจ้า ถึงเธอจะไม่เคยเจอ Jack มาก่อน แต่เธอเชื่อว่าเขามีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับ Captain Jack Sparrow ในภาพยนตร์เรื่อง Pirates of the Caribbean และ Amanda เองก็ยังเป็นผู้แต่งคอสเพลย์ตัวของ Captain Jack Sparrow อีกด้วย Amanda กล่าวว่า “มีหลายคนยังไม่รู้ถึงการมีอยู่ของความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณ ซึ่งสำหรับพวกเขามันก็อาจจะใช่ ฉันอยากจะรู้ถึงสิ่งที่วิญญาณต้องการจะสื่อ” เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2014 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสถึงวิญญาณของ Jack ได้ และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็พูดคุยกันเรื่อยมา เธอยังบอกอีกว่าเธอไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครมากขนาดนี้มาก่อน และ…
-
“แมวยมฑูต” ที่มาพร้อมกับสัมผัสที่หก ที่มักจะโผล่มาทุกครั้งที่มีคนกำลังจะสิ้นใจ
เมื่อพูดถึงแมวในโรงพยาบาลแล้ว เราก็คงจะนึกถึงแมวน่ารักๆ ที่คอยต้อนรับคุณหมอหรือญาติคนไข้ที่มายังโรงพยาบาล แต่ถ้าพูดว่าแมวตัวนี้ที่จะมาเฉพาะช่วงที่จะมีคนตายล่ะ? Oscar แมวจาก Steere House Nursing Home ที่ทุกคนที่นี่เชื่อว่ามันเป็นแมวที่มีสัมผัสที่หก โดยมันจะสามารถรับรู้ได้ว่าตอนไหนมีคนกำลังจะตายและมันจะปรากฏตัวที่ห้องคนไข้คนนั้นทันที พยาบาลของที่นี่เล่าว่า Oscar ไม่ใช่แมวที่เป็นมิตรนัก เพราะมันไม่ค่อยจะโผล่ออกมาเล่นด้วยกับคนปกติสักเท่าไหร่ แต่เวลาใครสักคนในโรงพยาบาลใกล้ตาย มันจะแสดงตัวทันทีและมุ่งตรงไปยังห้องนั้นทันทีราวกับว่ามันเป็นยมฑูตที่มารอรับวิญญาน ถ้าญาติคนไข้คนไหนเห็นเจ้า Oscar ก็ให้เตรียมใจไว้ได้ทันทีว่าคนไข้คนนั้นจะไม่รอดแน่นอน โดยหลังจากที่มันปรากฏตัวและเข้าไปยังห้องของคนไข้ มันจะใช้เวลาเพื่อรอคนไข้สักพัก เดินไปรอบๆ บริเวณหน้าต่างหรืออาจจะขึ้นไปเล่นกับคนไข้ก่อนที่จะสิ้นใจ . โดยความแม่นยำของเจ้า Oscar นี่เรียกว่า 100 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ทุกครั้งที่มันโผล่ไป จะต้องมีคนจากโลกนี้ไปอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามคนญาติคนไข้ส่วนใหญ่ที่ได้เจอกับเจ้า Oscar ก็ไม่คิดว่ามันเป็นสัญญาณแห่งความตายหรือยมฑูต แต่พวกเขากลับคิดว่ามันเป็นแสงหรือตัวแทนจากสวรรค์ที่พร้อมจะมารับคนไข้ไปสวรรค์มากกว่า ด้วยความน่ารักของมันที่ยอมเล่นกับคนไข้ในยามใกล้สิ้นใจนั่นเอง… . . สามารถรับชมเรื่องราวของมันที่คลิปด้านล่างได้เลยครับ จะบังเอิญหรือเปล่าไม่รู้ แต่ถ้า #เหมียวมู่ทู่ ป่วยจริงๆ ก็อย่าเจอกันเลยนะ Oscar ที่มา iizcat
-
หญิงสาวถูกระบุว่า ‘ตาย’ จากความผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ จนต้องพิสูจน์ตัวเองให้โลกเห็น!!
เทคโนโลยีเปรียบเสมือนเหรียญสองด้านที่มีด้านดีและไม่ดี จริงอยู่ที่มันทำให้การใช้ชีวิตประจำวันสะดวกสบาย แต่หากมีการผิดพลาดขึ้นมาก็อาจทำให้เราเดือดร้อนไปด้วย เหมือนกับ Juana Escudero หญิงวัย 52 ปี ที่อยู่ดีๆ ก็ถูกตัดสินว่าตาย ทั้งๆ ที่เธอยังมีชีวิต นำไปสู่การพิสูจน์ตัวเองให้โลกเห็นนานถึง 7 ปี เรื่องราวความวุ่นวายนี้เกิดขึ้นเมื่อ 7 ปี ที่แล้ว เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่อและวันเกิดตรงกับ Juana เสียชีวิตลงในเมืองมาลาก้า ประเทศสเปน แต่ด้วยความผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ ทำให้ Juana ถูกระบุว่าเป็นบุคคลที่เสียชีวิต จนไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างคนมีชีวิตได้ เช่น ต่อใบขับขี่ไม่ได้ หมอไม่สามารถออกใบนัดให้ได้ และอื่นๆ อีกหลายเรื่อง Juana รู้สึกหมดหวังกับชีวิต เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ แม้กระทั่งการไปขุดหลุมศพที่อ้างว่าเป็นของเธอ เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเธอไม่ได้ถูกฝังอยู่ที่นั่น ตอนแรกหญิงสาวและครอบครัวที่อาศัยอยู่ที่ Alcalá de Guadaíra ใกล้กับเมืองเซบีย่า คิดว่ามันเป็นแค่การเข้าใจผิด และมองว่าเป็นเรื่องตลกมากกว่า แต่ไม่นานหลังจากนั้นทุกคนก็ยิ้มไม่ออกอีกต่อไป เพราะเธอไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ Juana รู้ว่าตัวเองถูกระบุว่าตายครั้งแรกเมื่อตอนไปที่ไปหาหมอตามนัดเมื่อ 7 ปีที่แล้ว แต่โชคดีที่หมอคนนั้นจำคนไข้ตัวเองได้…
-
ศิลปินสร้างผลงาน “ห้องแห่งความตาย” ถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรง ตามที่เคยได้เห็นมา…
จะว่าไปแล้วปัญหาการตายในห้องพัก ก็เป็นเรื่องที่มีให้เห็นบ่อยๆ ในประเทศญี่ปุ่น แต่สิ่งที่ตามมาดูเหมือนจะโหดร้ายกว่านั้น เพราะไหนจะต้องเก็บกวาดคราบสกปรก แถมเพื่อนบ้านก็ต้องอดทนกับกลิ่นเหม็นอันน่าสยดสยองอีก… แต่ผลงานศิลปะของ Miwa Kojima พนักงานบริษัท ToDo-Company จะทำให้เรารู้สึกเหม็นกลิ่นศพหึ่งๆ เลยล่ะ เพราะเธอได้จำลอง ‘ห้องแห่งความตาย’ ออกมาจากประสบการณ์ที่เคยเห็นได้อย่างสมจริงซะยิ่งกว่าจริง!! โดยบริษัทที่เธอทำงานอยู่นั้น ก็เป็นบริษัทรับจ้างทำความสะอาดและเก็บกวาดซากศพนั่นเอง อีกทั้งเธอยังเป็นหนึ่งในทีมงานที่ลงพื้นที่จริง เพราะฉะนั้นแล้วภาพศิลปะทุกอย่างที่เธอถ่ายทอดออกมา จึงเป็นภาพเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั้งนั้น ถึงจะดูสมจริงเอามากๆ แต่แท้จริงแล้วมันก็คือหุ่นจำลองขนาดเล็กนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นการตายในอ่าง การตายบนเตียง การตายในกองขยะ หรือแม้แต่นอนตายแบบเปลือยๆ เธอก็เห็นมาหมดแล้ว แต่ไม่น่าเชื่อว่าธุรกิจดังกล่าว กลับได้รับความนิยมสูงมากขึ้นเรื่อยๆ เอาเป็นว่าเราลองตามไปชมผลงานศิลปะจากภาพห้องของคนตายที่เธอเห็นจริงๆ กันเลยดีกว่า . . เป็นอาชีพที่ต้องเห็นคนตายบ่อยขนาดไหนนะ ถึงรวบรวมออกมาเป็นงานศิลปะแบบนี้ได้ ที่มา: Rocketnews24
-
บริษัทอังกฤษรับทำ “เถ้ากระดูกคนตาย” เป็นแผ่นเสียง เพื่อระลึกถึงคนที่คุณรัก…
‘ความตาย’ เป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่ว่าใครต่างก็ต้องพบเจอ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นมันก็มักจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความเศร้า และความคิดถึงแทบใจจะขาด ให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิธีการจัดการกับความเศร้าที่แตกต่างกันออกไป และนี่ก็คือวิธีที่เรียกได้เลยว่าแปลกมากๆ เพราะทางบริษัท And Vinyly ของประเทศอังกฤษ ได้ทำการนำเถ้ากระดูกของผู้เสียชีวิตมาทำเป็นแผ่นเสียง นั่นก็เพื่อให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้เปิดฟังและระลึกถึงคนสำคัญที่จากไป… วิธีการทำก็คือการนำเถ้ากระดูกของผู้เสียชีวิตมาโรยลงไปบนแผ่นเสียง ที่ทางลูกค้าจะเป็นคนเลือกเพลง หรือเสียงอะไรก็ตามที่ต้องการให้เขียนลงบนแผ่นเสียง จากนั้นก็จะทำการเคลือบแผ่นเสียงอีกครั้ง ให้เถ้ากระดูกติดอยู่กับแผ่นเสียงไม่หลุดออกไป และเวลาเปิดแผ่นเสียงฟังนั้นจะมีเสียงตะกุกตะกักอันเกิดมาจากเศษเถ้ากระดูกเล็กน้อย เป็นการแสดงว่าพวกเขายังคงอยู่ในแผ่นเสียงนั้น ใกล้ๆ กับเราตลอดเวลา นอกจากนี้ในส่วนของตลับแผ่นเสียงนั้นก็มีบริการจากศิลปินจาก National Portrait Gallery มาช่วยวาดภาพพอร์เทรทให้อีกด้วย นาย Jason Leach ผู้ก่อตั้งได้กล่าวเอาไว้ในหนังสั้นเรื่อง Hearing Madge ถึงธุรกิจของเขาเอาไว้ว่า “เรื่องราวอันอ่อนโยนของชีวิตนั้นถูกบันทึกไว้โดยเสียง” . หากใครสนใจล่ะก็สามารถติดต่อโดยตรงไปยังบริษัท andvinyly ได้เลย และมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 130,000 บาท ถึงจะเป็นราคาที่ดูแพงไปสักหน่อย แต่สำหรับหลายคนมันกลับคุ้มค่ามาก… ลองไปชมคลิปหนังสั้นโปรโมท ของบริษัท And Vinyly กันแบบเต็มๆ ในตัวอย่างวิดีโอด้านล่าง… ที่มา…
-
คำสารภาพบาป จากผู้รอดชีวิตกราดยิงไนท์คลับ ‘ผมปิดประตู ขังพวกเขาไม่ให้หนีออกมา…’
หนึ่งในเรื่องเหตุการณ์ที่น่าเศร้าและสลดใจที่สุดในช่วงนี้เลยนั่นก็คือการสังหารหมู่ในไนท์คลับแห่ง Orlando นี่แหละ และล่าสุดก็มีอีกหนึ่งคำสารภาพของชายผู้อยู่ในเหตุการณ์นี้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับฆาตกร แต่ก็ถือว่าหลายๆ ชีวิตอาจรอด ถ้าเขาไม่ได้กระทำสิ่งนี้ลงไป… Luis Burbano หลังจากได้ยินเสียงปืนกระหน่ำยิงในไนท์คลับ Luis Burbano ก็รีบวิ่งอย่างรวดเร็วไปกับเหล่าสต๊าฟ ตรงไปยังโถงทางเดินและทางออก ขณะนั้นผู้คนพลุกพล่านและเหยียบย่ำเบียดเสียดกันเป็นอย่างมากเพื่อออกมาจากไนท์คลับแห่งนี้ แต่เขากลับปิดประตูทางออกทางเดียวที่สามารถออกจากที่นั่นไว้ถึง 10 – 15 วินาทีเลยทีเดียว!!!? จากการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Fox เขากล่าวว่า ‘ตอนผมปิดประตูนั้น ผมได้ยินเสียงทุบอย่างรุนแรง เสียงกรีดร้อง เสียงขอร้องให้ผมเปิดประตู ผมแค่อยากทำสิ่งที่ผมคิดว่าดีที่สุดในขณะนั้น แถมเสียงปืนก็ใกล้เข้ามาในทุกๆ ขณะ’ ‘ตั้งแต่คืนนั้นมาผมก็ไม่สามารถนอนหลับได้สนิทอีกเลย แต่ผมเชื่อว่าถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นกับตัวคุณเองล่ะก็ คุณก็ไม่มีวันที่จะรู้หรอก หลายๆ คนพยายามบอกผมว่านี่คือโอกาสครั้งที่สองในชีวิตของผม แต่ทำไม ผมถึงรู้สึกเสียใจกับโอกาสที่ผมได้รับมานี้ล่ะ?’ เขากล่าวต่อ ‘ตอนแรกที่ผมได้ยินเสียงปืนนั้น ผมนึกว่าเป็นเสียงดนตรีในไนท์คลับ แต่พอรู้แน่ชัดว่าเป็นอาวุธปืนแล้วนั้น ผมก็รู้ได้เลยล่ะว่ามันไม่ใช่อาวุธขนาดเล็กๆ แน่นอน’ Luis Burbano กล่าว แผนผังของไนท์คลับ Janiel Gonzalez อีกหนึ่งผู้รอดชีวิตให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC…
-
เงิบกันหมด!!! ครอบครัวกำลังเศร้าในงานศพ แต่อยู่ดีๆเจ้าของงานศพกลับเดินเข้ามาซะงั้น!!!
เกิดประหลาดแบบฮาๆขึ้นในเมืองเซา เปาโล ประเทศบราซิล หลังจากครอบครัวของกำลังจัดงานศพของ Gilberto Araujo อยู่ แต่อยู่ดีๆ Gilberto Araujo กลับเดินเข้ามาในงานซะงั้น!!! เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่ง Jose Marcus Araujo ได้รับแจ้งจากตำรวจว่า น้องชายขอบเขา Gilberto Araujo ถูกฆาตกรรมเสียชีวิตเรียบร้อยแล้ว พวกเขาไม่ได้เจอ Gilberto มาหลายเดือนแล้ว ซึ่งได้ข่าวอีกที ก็เป็นข่าวร้ายซะแล้ว ภรรยาของ Jose Marcus กล่าวว่า “อยู่ดีๆ ก็มีคนมาบอกว่า Gilberto ที่ทำงานเป็นพนักงานล้างรถอยู่ในเมือง ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว พวกเราช็อคกันมาก” แต่ขณะที่ทุกคนกำลังเศร้าเสียใจอยู่ในงานศพ เพื่อนของ Gilberto ดันไปเห็นว่า Gilberto กำลังเดินเล่นในอยู่เมือง โดยไม่รู้เลยว่าที่บ้านกำลังจัดงานศพของเขาอยู่ พอเขาได้ยินแบบนั้น ก็รีบมุ่งหน้ากลับไปที่บ้าน ทันทีที่เขาปรากฏตัว หลายคนถึงกับเป็นลมและวิ่งกันแตกกระเจิง ที่เห็นว่า Gilberto ยังมีชีวิตอยู่ ความจริงแล้วก็คือ มีการเข้าใจผิด คนที่เสียชีวิตนั้น แค่หน้าตาคล้ายกับ Gilberto เท่านั้นเอง พอแม่ของเขาได้ยินดังนั้นก็โล่งใจ เล่นเอาเศร้าฟรีกันเลยทีเดียว แหม ทำไปได้…(ทำเสียงแบบรายการคดีเด็ด) ที่มา Wittyfeed