Tag: ครอบครัว
-
เจ้าบ่าวหึงโหด แทงเจ้าสาวดับกลางวิวาห์ เชื่อแอบเป็นชู้กับ “เพื่อนและพ่อ” ของตนเอง
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2018 มีรายงานออกมาว่าในเมืองบูร์ซา ประเทศตุรกี ได้เกิดเหตุการณ์สุดแสนน่าสลดใจ เมื่อเจ้าบ่าวหนุ่มลงมือฆาตกรรมเจ้าสาวของตนเองอย่างโหดเหี้ยมในพิธีวิวาห์ของทั้งคู่ นาย Metehan Yurdoglu หนุ่มวัย 22 ปี ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม Gullu Yurdoglu หญิงสาววัย 21 ปีซึ่งเป็นภรรยาของตนเอง เนื่องจากเชื่อว่าเธอคนนี้มีพฤติกรรมนอกใจไปสุงสิงกับ เพื่อนและพ่อ ของเขา ทั้งสองคนนี้เป็นเพื่อนรักที่คบหากันมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งช่วงหลังฝ่ายชายก็พบว่าฝ่ายหญิงมีพฤติกรรมนอกใจ ประกอบกับการทะเลาะวิวาทบ่อยครั้งด้วยเหตุที่ว่าทางบ้านของฝ่ายหญิงไม่อนุญาตให้เธอแต่งงาน จากรายงานทราบว่า Gullu ฝ่ายหญิงเพิ่งย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของฝ่ายชายเพียง 4 เดือนเท่านั้น Metehan ก็เชื่อว่าฝ่ายหญิงแอบคบหากับเพื่อนของเขา เขาจึงเข้าไปคุยกับพ่อตนเองเพื่อบอกให้ไล่ Gullu ออกจากบ้าน แต่สิ่งที่ได้รับจากพ่อก็คือ “แกก็ออกไปแทนสิ” หลังจากนั้น เขาก็ได้ยินข้อมูลจากเพื่อนชายของตนว่า Gullu นั้นแอบมีเพศสัมพันธ์กับพ่อของของ Metehan เอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงหนีออกจากบ้านและพยายาม ฆ่าตัวตาย แต่พ่อของ Metehan พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้ามาช่วยเหลือเขาเอาไว้ จากนั้นเขาก็เริ่มคิดได้ว่า ไม่ใครก็ใครระหว่างเขาและ Gullu จะต้องตาย…
-
หนุ่มรัสเซีย…เมีย 3 คน พร้อมความฝันสร้างครอบครัวใหญ่ จะมีลูกให้ได้ถึง 50 คน!!
สำหรับคนไทยเรานั้นอาจจะไม่คุ้นชินเท่าใดนักกับการมีคนรัก ทีเดียวหลายๆ คน เพราะบริบทของสังคมจะกำหนดให้ต้องมีคนรักเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ในวัฒนธรรมอื่นๆ บางแห่งผู้ชายก็สามารถมีภรรยาได้หลายคน อย่างเช่น หนุ่มรัสเซียวัย 34 ปี นามว่า Ivan Sukhov คนนี้ที่มีภรรยาถึง 3 คนพร้อมลูกอีก 10 คนด้วยกัน และวันนี้ Ivan Sukhov ก็ออกมาเผยว่ายังต้องการภรรยาเพิ่มอีกคนด้วย และขอเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างสูง เพรียว และน่าดึงดูด Ivan Sukhov และภรรยา Ivan เผยว่าเมื่อใดก็ตามที่ภรรยาทั้ง 3 คนนี้ก่อความรำคาญใจให้กับเขา เขาจะลงโทษพวกเธอด้วยการ งดมีเซ็กส์ เป็นเวลา 1 เดือน โดยตัวของ Ivan เองจะมีห้องส่วนตัวแยกออกมาจากภรรยาทั้ง 3 และทุกๆ คืนเขาก็จะต้องเลือกภรรยาคนใดคนหนึ่งเข้าไปหลับนอนด้วยในคืนนั้นๆ Ivan Sukhov ยังเผยอีกว่าภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขานั้นมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ส่วนอีก 2 คนที่เหลือเป็นข้อตกลงของพวกเขาเองที่ทำขึ้นด้วยความสมัครใจ ส่วนเป้าหมายของ Ivan นั้นก็ยังไม่หยุดเท่านี้ เขายังต้องการภรรยาเพิ่ม และมีลูกให้ได้มากถึง 50 คนเลยทีเดียว…
-
คุณพ่อเซอร์ไพรส์ สวมชุด T-Rex ไปรับลูกจากโรงเรียน ทั้งเด็กทั้งผู้ปกครองฮาตรึม!
มีเรื่องราวสุดน่ารักน่าหยิกเกิดขึ้นในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อคุณพ่อคนหนึ่งแต่งตัวเป็น ไดโนเสาร์ ไปรับลูกสาวตัวน้อยที่โรงเรียนเพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา ณ โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง หนูน้อยวัย 3 ขวบถึงกับหัวเราะร่าออกมาไม่หยุดหย่อน เมื่อเห็นคุณพ่อสวมชุดไดโนเสาร์ T-Rex มารับ คุณพ่อเล่าว่าที่ต้องมาเซอร์ไพรส์ลูกสาวแบบนี้ก็เพราะเป็นรางวัลที่เธอมีพฤติกรรมในโรงเรียนเป็นเด็กดีมาตลอดนั่นเอง เหตุการณ์ดังกล่าวผู้เป็นแม่ได้บันทึกภาพวิดีโอเอาไว้และก็นำมาแชร์ลงโลกออนไลน์ ทำให้วิดีโอนี้กลายเป็นที่โด่งดังจนมีผู้คนเข้ามากดถูกใจกันถึง 150,000 ครั้งเลยทีเดียว! ชมคลิปกันเลย ในเหตุการณ์ คุณพ่อในชุด T-Rex ต้องเดินฝ่าสายตาของเด็กอนุบาลทั้งโรงเรียนรวมถึงผู้ปกครองคนอื่นๆ ที่ต่างจับจ้องกันอย่างประหลาดใจ รวมถึงผู้รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนเองก็ตกใจที่ได้เห็นเช่นกัน แต่เขาก็ยอมอนุญาตให้คุณพ่อคนนี้เข้ามาเซอร์ไพรส์ลูกในโรงเรียนได้ คุณพ่อได้สร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับหลายๆ คนในโรงเรียนเป็นอย่างมาก และที่สำคัญที่สุด คนที่คุณพ่ออยากให้มีความสุขมากที่สุดก็คือ ลูกสาวตัวน้อยของเขานั่นเอง “ปะป๊า! ปะป๊า!” เสียงหนูน้อยตะโกนเรียนเจ้าได้โนเสาร์ยักษ์ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างปีติของผู้คนโดยรอบ สมใจอย่างที่เธอเคยบอกคุณพ่อเอาไว้ว่าอยากให้มีไดโนเสาร์มารับที่โรงเรียนจริงๆ คุณแม่ของหนูน้อยกล่าวว่า “ลูกของเรารักษาสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีที่โรงเรียน ฉะนั้นพวกเราก็ต้องรักษาสัญญากับเธอเหมือนกัน เป็นการเคารพกันและกันยังไงล่ะ” เป็นครอบครัวที่น่ารักและดูอบอุ่นจริงๆ ขอให้เป็นเด็กแบบนีไปตลอดนะเจ้าหนูน้อย! ที่มา: dailymail, weibo…
-
หนุ่มจีน “แกล้งตาย” หวังเอาเงินประกัน ภรรยาเชื่อสนิทใจ ฆ่าตัวตายตามพร้อมลูกๆ …
กลายเป็นโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าเมื่อชายชาวจีนคนหนึ่งได้ “แสร้งว่าเสียชีวิต” เพื่อให้ได้รับเงินประกัน แต่ผลสุดท้ายกลับกลายเป็นว่ามันทำให้เขาต้องสูญเสียคนที่เขารักไป ชายชาวจีนวัย 34 ปีนามว่า He ได้แสร้งว่าเสียชีวิตเพื่อรับเงินประกันแต่กลับไม่ได้บอกแผนการครั้งนี้ให้คนในครอบครัวได้ทราบ มีรายงานว่า He ได้ยืมรถยนต์คันหนึ่งมาเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2018 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบว่ารถที่ He ยืมมานั้นได้พุ่งตรงลงไปยังแม่น้ำในเขตปกครองซินหัว แต่หลังจากทำการค้นหาในแม่น้ำในบริเวณที่เกิดเหตุก็ไม่มีใครพบร่างของ He เลยแม้แต่คนเดียว ชมคลิปข่าว สุดท้าย Dai ภรรยาวัย 31 ปีของ He กลับเชื่ออย่างหมดใจว่าสามีของตนได้ตายไปแล้ว ด้วยความโศกเศร้าเธอจึงตัดสินใจโยนลูกชายวัย 4 ขวบและลูกสาววัย 3 ขวบลงบ่อน้ำ ก่อนจะกระโดดน้ำ ฆ่าตัวตาย แต่ก่อนที่ Dai จะลงมือปลิดชีวิตของตนเองและลูกๆ ลง เธอได้เขียนข้อความเอาไว้ใน WeChat เธอเล่าว่าครอบครัวของ He นั้นมักมองว่าเธอเป็นหญิงที่ “ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย” อีกทั้งฝ่ายญาติของ…
-
แม่ชาวญี่ปุ่นโพสต์ภาพ “ของเล่น” ไม่ตรงปก… แทนที่ลูกสาวจะแฮปปี้กลายเป็นเศร้าเลย
ของเล่นเด็กนั้นส่วนมากจะต้องทำออกมาให้น่ารักน่าเล่น เหมาะสมกับวัย ความคิด และจินตนาการของเด็กๆ แต่หลายครั้งเราก็อาจจะเจอของเล่นที่ “ผิดคาด” ไปเสียหน่อย จากที่คิดว่าน่ารักๆ มันดันกลายเป็นน่ากลัวเสียนี่! อย่างเช่นคุณแม่ชาวญี่ปุ่นที่ทนคำอ้อนวอนจากลูกสาวไม่ไหว เธอจึงซื้อของเล่นจาก Tokyo Tower Aquarium ที่กำลังจะปิดตัวลงติดไม้ติดมือกลับบ้านไปเสียหน่อย กล่องของเล่น Pretty Mermaid คุณแม่เจ้าของเรื่องโพสต์ภาพของเล่นที่เธอซื้อมาลงบนทวิตเตอร์ @kilariya แสดงให้เห็นถึงความ “ผิดคาด” ของสิ่งที่เธอซื้อติดมือกลับมา มันเป็นของเล่นที่ชื่อว่า “Pretty Mermaid” เป็นของเล่นรูปเปลือกหอยที่ระบุว่าหากนำไปแช่น้ำพักหนึ่งมันจะแตกออกและเผยให้เห็นเงือกน้อยสุดน่ารักที่แฝงอยู่ภายใน ภาพบนกล่องเป็นรูปเงือกน้อยสุดน่ารักสมชื่อ ใครเห็นก็ต้องอยากซื้อให้ลูกเล่นเป็นแน่ ในทวีตของเธอ เธอเล่าว่า: “ลูกของฉันอ้อนให้พ่อซื้อของเล่นชิ้นนี้มาจาก Tokyo Tower Aquarium มันเป็นเปลือกหอยที่ต้องแช่น้ำถึง 3 วันกว่าจะกลายเป็นนางเงือกแสนสวย ลูกสาวของเราก็ตั้งตารอและถามเราทุกวันว่า ‘มันกลายเป็นนางเงือกหรือยัง?’ สุดท้ายพอนางเงือกโผล่ออกมา มันช่างดูต่างจากภาพบนกล่องเสียเหลือเกิน ทำเอาลูกสาวเราช็อกจนไม่อยากไปโรงเรียนเลยทีเดียว” พอเอาไปแช่น้ำจริงๆ กลับออกมามีหน้าตาแบบนี้ได้ไง!!? คุณแม่กล่าว “ฉันพยายามปลอบลูกโดยการบอกว่าทุกคนทั้งคนวาดรูปบนกล่อง คนออกแบบของเล่น รวมถึงพ่อที่ซื้อของชิ้นนี้ให้ลูกล้วนแต่หวังให้ลูกมีความสุขทั้งนั้น แต่เธอก็ไม่ฟังเลย ฉันเลยคิดว่าเราอาจจะต้องนำเงือกน้อยไปแช่น้ำให้นานกว่านี้อีกหน่อย ซึ่งพอลองทำดูแล้วพบว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยจ้า” …
-
คุณพ่อถูกแม่ทิ้งไป เพราะกลายเป็น ‘อัมพาต’ ลูกสาววัย 6 ขวบเลยลุกขึ้นมาดูแลพ่อแทน
เรื่องราวของความรัก บางครั้งมันก็ไม่ได้จบลงอย่างสวยงามเสมอไป… เมื่อคุณพ่อชาวจีนต้องประสบอุบัติเหตุ จนทำให้กลายเป็นอัมพาต คนที่ควรจะดูแลและอยู่เคียงข้างเขามากที่สุดอย่างภรรยาที่แต่งงานด้วยกันมานานกว่า 7 ปี กลับกลายเป็นคนแรกที่ทิ้งเขาไป ย้อนกลับไปในปี 2016 นาย Tian Haicheng จากประเทศจีน ประสบอุบัติเหตุจากการโดยสารรถแท็กซี่ จนเป็นเหตุให้เขาต้องกลายมาเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงหน้าอกลงไป หนึ่งเดือนหลังจากประสบอุบัติเหตุ ภรรยาที่แต่งงานมาด้วยกันกว่า 7 ปี ก็ตัดสินใจที่จะทิ้งเขาไป พร้อมกับพา ‘ลูกชาย’ ไปด้วย เหลือไว้แต่เพียง ‘ลูกสาว’ ที่ชื่อว่า Jia Jia วัย 6 ขวบ เท่านั้น “ในวันนั้น เธอบอกกับผมว่า เธอจะไปอาศัยอยู่ที่บ้านแม่ของเธอสักสองถึงสามวัน แต่จากนั้นเธอก็ไม่กลับมาอีกเลย” ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ทิ้งเขาไป ลูกสาวตัวน้อย Jia Jia กลับกลายเป็นคนที่ดูแลเขาแทบจะทุกอย่างตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Jia Jia ตื่น 6 โมงเช้าทุกวัน เพื่อมานวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้พ่อเป็นเวลาประมาณ 30…
-
เด็กชายเกลียดกล้อง แม่เลยซื้อชุด T-Rex ให้ใส่ เพื่อถ่าย ‘ภาพครอบครัว’ อินจัดไปแล้วน้อง
พ่อแม่หลายคนคงจะอยากถ่ายภาพเด็กๆ เก็บเอาไว้เพื่อเป็นความทรงจำดีๆ แต่ถ้าหากว่าลูกของคุณเป็นขี้อาย ไม่กล้าเข้ากล้องล่ะ จะทำอย่างไรดี? เช่นเดียวกันกับเด็กชายคนนี้ที่ป่วยเป็นโรคออทิสซึม และเขากลัวการถ่ายภาพเอามากๆ คุณแม่ก็เลยปิ๊งไอเดีย ‘จับใส่ชุดไดโนเสาร์’ เพื่อเพิ่มความกล้าให้กับเขาเวลาถ่ายภาพ แต่กลายเป็นว่าเด็กชายกลับ ‘อินจัด’ จนกลายเป็นชุดภาพที่แสนงดงาม และสดใส คุณแม่ Samantha Lu ช่างภาพผู้ประสบปัญหากับการถ่ายภาพเจ้าหนู Levi ลูกของตัวเองที่ป่วยเป็นโรคออทิสซึม และเขาเป็นคนที่กลัวกล้องเอาซะมากๆ ซึ่งโดยปกติแล้วเด็กที่ป่วยเป็นออทิสซึมนั้นจะมีปัญหาที่เกี่ยวกับ ‘การเข้าสังคม’ เพราะฉะนั้น การถ่ายภาพสำหรับเขาแล้วคือการท้าทายที่ใหญ่มากพอสมควรเลยทีเดียว “เขามีปัญหาเกี่ยวกับการสบตากับคนอื่น และควบคุมการยิ้มไม่ได้ เขาบอกกับฉันว่า ‘ผมไม่สามารถควบคุมใบหน้าของตัวเองได้เลย’” คุณแม่เล่า เธอก็เลยปิ๊งไอเดียซื้อชุด T-Rex มาให้เขาสวมใส่ เพื่อช่วยลดคามเขินอายเวลาถ่ายภาพ และมันก็คุ้มค่าจริงๆ!! เธอเล่าถึงผลงานการถ่ายภาพในครั้งนี้ว่า “Levi และ Lola ชื่นชอบจูราสสิกพาร์ก มากๆ แต่ Levi นั้นเป็นออทิสซึมและเขาเกลียดการถ่ายภาพ ทุกครั้งที่จะถ่ายภาพเขามักจะพูดว่า “ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับหน้าของผมดี ผมบังคับมันไม่ได้” ฉันก็เลยซื้อชุด T-Rex มาให้เขา เพื่อที่จะถ่าย…
-
เด็กสาว 4 ขวบ ปิ๊งไอเดีย สร้าง ‘ปุ่มกอด’ ขึ้นมา เพื่อคลาย ‘ความคิดถึงแม่’ เมื่ออยู่ห่างกัน
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘การไปโรงเรียน’ ของเด็กๆ ในช่วงแรกๆ นั้นถือเป็นเรื่องที่ยากมาๆ เพราะจากเดิมที่พวกเขาต้องอยู่ติดกับพ่อแม่ตลอดเวลา แต่พอไปโรงเรียนแล้วจะต้องแยกกันย่อมเป็นความรู้สึกที่เด็กๆ จะรับมือได้ยากเป็นธรรมดา หรือฝั่งคนเป็นพ่อเป็นแม่เองก็อาจจะหนักกว่าเสียด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้เองแต่ละครอบครัวก็จะมีวิธีการในการจัดการกับความรู้สึกเหล่านี้ที่แตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกันกับครอบครัวนี้ ที่ใช้วิธีสุดแสนจะน่ารักเพื่อทำให้ลูกของตัวเองรู้สึกอบอุ่นหัวใจ แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน Violet Orrick เด็กหญิงวัย 4 ขวบ ที่เพิ่งจะได้เข้าโรงเรียน และได้เผชิญประสบการณ์ที่ต้องห่างจากคุณแม่ Leanne Orrick วัย 38 ปีเป็นครั้งแรก เธอก็เลยปิ๊งไอเดีย ‘ปุ่มกอด’ ขึ้นมา เป็นการวาดปุ่มรูปหัวใจเล็กๆ ติดไว้ที่แขนของทั้งคู่ และเมื่อกดเมื่อไหร่ก็จะจินตนาการถึงอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของกันและกัน เพื่อเยียวยาความเศร้าจากการอยู่ห่างกัน Violet กล่าวถึงปุ่มรูปหัวใจดังกล่าวว่า “หัวใจก็เปรียบเสมือนกับตัว M คือ Mummy ที่ตั้งอยู่บนตัว V คือ Violet” และทุกครั้งที่ Violet รู้สึกเหงาที่โรงเรียน เธอก็จะกด ‘ปุ่มกอด’ นี้ทุกครั้ง เพื่อรับรู้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดของคุณพ่อกับคุณแม่ ช่วยให้เธอผ่านช่วงเวลาที่อยู่โรงเรียนไปได้อย่างมีความสุข “ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากการที่ฉันเห็นรูปที่วาดบนแขนของลูกสาวเป็นรูปหัวใจ ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงวาดมัน…
-
คุณลุงภารโรงมหาลัย ได้พบปะครอบครัวเสียที หลังนศ. ร่วมใจระดมเงินให้เพื่อตอบแทน
คุณลุง Herman Gordon ภารโรงอันเป็นที่รักของเหล่านักเรียนใน มหาวิทยาลัย Bristol ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันได้ไปเที่ยวกับภรรยาสุดที่รักแล้ว หลังนักเรียนช่วยกันระดมเงินให้ลุงได้กลับไปเจอครอบครัว อ่านข่าวเก่าได้ >>> ที่นี่เลย! คุณลุงภารโรง Herman Gordon วัย 65 ปีและภรรยา หลังมีข่าวอันน่าประทับใจที่เด็กนักศึกษาราว 230 ชีวิตในมหาวิทยาลัย Bristol ร่วมใจกันระดมเงินให้กับคุณลุงภารโรง Herman Gordon เป็นจำนวนราว 64,000 บาท เพื่อตอบแทนสิ่งดีๆ ที่คุณลุงได้ทำไว้ให้กับพวกเขา พวกเขาจึงอยากมอบสิ่งดีๆ กลับคืนให้คุณลุง นั่นก็คือการนำเงินจำนวนหนึ่งมามอบให้คุณลุงเพื่อเดินทางกลับบ้านเกิด ณ ประเทศจาเมกา เพื่อพบหน้าครอบครัวพร้อมกับภรรยาสุดที่รักของตนเอง และนั่นทำให้คุณลุงถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวเลยทีเดียว คลิปวิดีโอ ล่าสุด คุณลุงและภรรยานามว่า Denise ก็ได้เดินทางกลับไปยังประเทศจาเมกาเพื่อพบหน้าครอบครัวหลังย้ายมาทำงานอยู่ที่ประเทศอังกฤษอยู่นมนานและมีชื่อเสียงจากการที่คุณลุงกลายเป็นภารโรงที่ “เด็กๆ รักมากที่สุด” คนหนึ่ง ขณะเดินทางกลับบ้าน คุณลุง Herman และภรรยาก็ได้แวะพักที่แคริบเบียน ในรีสอร์ทสุดหรูบริเวณอ่าวมอนเตโก เพื่อฉลองครบรอบวันแต่งงานปีที่ 23 ของคุณลุงและภรรยา …
-
ย้อนรอยคดีดัง ‘มรดกเลือด’ ที่ว่ากันว่าเป็นต้นแบบของละครเรื่อง ‘เลือดข้นคนจาง’
อย่างที่ได้กล่าวไปในบทความก่อนหน้านี้แล้ว ว่าจากละครเรื่อง ‘เลือดข้นคนจาง’ นั้นมีเค้าโครงที่สร้างมาจากเรื่องจริง แถมยังคาดว่าน่าจะเป็นคดีที่โด่งดังมากๆ เลยทีเดียว จากการแลกเปลี่ยนความเห็นกันในทวิตเตอร์ของเหล่าชาวเน็ต ก็ทำให้พอจะเดาได้ว่าเป็นคดีอะไร ทีมงานเหมียวของเราก็เลยไปรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ มาสรุปให้เพื่อนๆ ได้ลองอ่านกัน เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมละคร จะเป็นอย่างไรลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… คดีดังกล่าวได้รับสมญานามว่าเป็นคดี ‘มรดกเลือด’ มีผู้คนที่ต้องเสียชีวิตมากมายนับสิบรายเลยทีเดียว ก่อนอื่นต้องมาทราบถึงแผนผังตัวละครกันก่อนนะครับ ตัวละครประกอบไปด้วย แม่, สามีเก่าของแม่, พี่ชายคนโตที่เป็นลูกของสามีเก่าของแม่, สามีใหม่ของแม่, และลูกกับสามีใหม่อีก 9 คนด้วยกัน แบ่งเป็น ชาย 3 คน และหญิง 6 คน แต่เดิมทีนั้นผู้เป็นแม่เป็นเพียงแม่ค้าขายผัก แต่ภายหลังได้พลิกผันตัวเองจนกลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีมูลค่านับหมื่นๆ ล้าน แต่ทว่ามรดกเหล่านั้นกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นคดีฆาตกรรมของคนในตระกูลครั้งแล้วครั้งเล่าในเวลาต่อมา จนถึงขนาดที่ว่าเมื่อมีข่าวการเสียชีวิตของคนในตระกูลนี้เกิดขึ้นแล้ว ต้องมีการพูดถึงกันขึ้นมาว่า ‘ใครจะเป็นศพต่อไป!?’ เลยทีเดียว โดยที่ศพแรกนั้นเริ่มมาจากผู้เป็นสามีใหม่ของคุณแม่ ถูกลอบยิงเสียชีวิตในปี 2509 ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งประเด็นสันนิษฐานว่าเป็นการขัดผลประโยชน์กิจการส่วนตัวของสามีใหม่เอง แต่อย่างไรก็ตามวันเวลาผ่านไปจนกระทั่งปี 2522 ขณะที่ผู้เป็นแม่กำลังเดินทางกลับจากศาล ก็ถูกลอบยิงจนบาดเจ็บสาหัสจนทำให้กลายเป็นอัมพาต…
-
ความเห็นชาวเน็ตกับละคร ‘เลือดข้นคนจาง’ มาแค่ตอนแรก ก็จัดหนักจัดเต็มซะแล้ว!!
จบไปแล้วสำหรับตอนแรกของละครเรื่องใหม่จากค่ายนาดาวบางกอก ‘เลือดข้นคนจาง’ ขอบอกเลยว่า ดุ เด็ด เผ็ด มัน มากๆ จนกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลายในทวิตเตอร์เมื่อคืนที่ผ่านมา ละครเรื่องนี้เปิดเผยให้เห็นถึงวัฒนธรรมของครอบครัวที่เป็นเชื้อสายจีน บางอย่างที่เราไม่รู้ และมันน่าติดตามมากๆ เลยล่ะ สำหรับแฟนๆ ที่ยังค้างคาใจจากตอนแรกกันอยู่ ลองไปอ่านดูกันสักหน่อยว่าในทวิตเตอร์เขามีเรื่องราวอะไรที่นอกเหนือจากในละครมาให้เราอ่านแก้เบื่อ ขณะที่รอคอยตอนใหม่มาคืนนี้กันบ้าง ลองไปชมได้เลยจ้า… จากละครเรื่องนี้ทำให้เราได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมในครอบครัวเชื้อสายจีนได้ดีจริงๆ ความหมายของ ‘กงสี’ อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้อี๊ภัสสร ไม่ได้รับหุ้นบริษัทก็ได้นะ เอาแล่วๆๆๆๆ สรรพนามที่ใช้เรียกญาติของคนเชื้อสายจีน มันคือความเป็นจริง สงสารแม่ T T มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายที่จะเกิดต่อจากนี้ อาจจะมีนัยอะไรอยู่ก็เป็นได้ ไม่แฟร์เลยจริงๆ #ทีมภัสสร ก็น่าคิดอยู่นะ จบกันปีโป้เชค มันน่าน้อยใจจริงๆ . แต่เอาจริงๆ แล้วเฮียเมธอาจจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่ก็ได้ สรุปมาเป็นประเด็นๆ…
-
โมเมนต์สุดประทับใจ คุณตารู้ว่า ‘มีหลานชาย’ ครั้งแรก หลังจากที่ครอบครัวมีแต่ผู้หญิง
โดยปกติแล้วคนเป็นพ่อเป็นแม่ ย่อมต้องมีความ ‘คาดหวัง’ อยากจะได้ลูกเพศนั้นเพศนี้กันบ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ตามแต่เมื่อลูกเกิดมา ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นเพศอะไรก็ตาม ด้วยความเป็นพ่อเป็นแม่ พวกเขาก็ยินดีที่จะรักเราอย่างเต็มที่อยู่แล้วล่ะ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของคุณตามือใหม่คนนี้ ที่ตลอดชีวิตของเขามีแต่ ‘ลูกสาว’ แต่ตอนนี้เขาได้มี ‘หลานชาย’ คนแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องราวความประทับใจของตุณตา James Keleman นักผจญเพลิงจากเมือง New Baden รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ชีวิตของเขาต้องอยู่กับ ‘ผู้หญิง’ มาโดยตลอด ตั้งแต่ในหมู่พี่น้องเขาก็เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ที่เหลือเป็นพี่สาวกับน้องสาว รวมไปถึงลูกของเขาก็มีแต่ ‘ลูกสาว’ ถึง 4 คนด้วยกัน หรือแม้แต่ก่อนหน้านี้ลูกสาวเองก็มีหลานๆ มาให้เขาอุ้มแล้วถึง 2 คน ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิง!? และแล้วชีวิตของเขาก็เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อลูกสาวของเขา Elbe ได้ให้กำเนิดทารกน้อย ถือเป็นหลานคนที่ 3 ของคุณตา James และปรากฏว่าทารกคนนั้น ‘เป็นเพศชาย’!! จริงๆ Elbe รู้เรื่องเพศของเด็กทารกตั้งแต่ไปตรวจครรภ์ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์แล้ว แต่ตัดสินใจที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับเพื่อเซอร์ไพรส์พ่อของตัวเอง รวมไปถึงคนอื่นๆ ในครอบครัว …
-
คุณปู่วัย 98 ปี ลงทุนเดินเท้าทุกวัน วันละ 20 กิโลฯ เพื่อไปเยี่ยมภรรยาที่ป่วยเป็นมะเร็ง
หลายๆ คนยอมทำทุกอย่างเพื่อ ‘ความรัก’ เช่นเดียวกันกับคุณปู่วัย 98 ปี คนนี้ ที่ยอมเดินเท้าวันละเกือบ 20 กิโลเมตรเป็นประจำทุกวันเพื่อไปเยี่ยมภรรยาที่แต่งงานกันมานานกว่า 50 ปี เรื่องราวความรักของคุณปู่ Luther Younger วัย 98 ปีอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก เขาเดินเท้าเปล่าไปที่โรงพยาบาลในเมือง Rochester เพื่อเยี่ยมภรรยา Waverlee Younger ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งสมองมาตั้งแต่ปี 2009 “ผมไม่มีอะไรเลยถ้าไม่มีภรรยาของผม มันเป็นอะไรที่ยากมากๆ หากจะใช้ชีวิตอยู่โดยที่ไม่มีเธอ” “เธอเป็นเสมือนถ้วยกาแฟที่ดีที่สุดที่ผมเคยมี เธอเป็นคนที่ผมต้องการมากที่สุด” คุณปู่กล่าว ด้วยความรู้สึกนี้เองที่เป็นดั่งแรงขับเคลื่อนให้คุณปู่สามารถเดินเท้าไปเยี่ยมภรรยาในทุกๆ วันเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร ทั้งที่จริงแล้วเขาไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้ เพราะลูกๆ ของเขาก็พร้อมที่จะขับรถไปส่ง แต่อาจจะต้องรอให้พวกเขาว่างเว้นจากการทำงานก่อน “เขาไม่จำเป็นต้องเดินไปก็ได้ แต่เขาไม่ต้องการที่จะรอเพื่อที่จะได้ไปเยี่ยมแม่” “ตลอดเวลาที่แม่ป่วย เขาจะไปค้างที่โรงพยาบาลและไม่ยอมห่างเธอไปไหนเลย ที่เขาต้องทำแบบนี้ก็เพื่อทำให้ตัวเองได้มีชีวิตอยู่ต่อไป” Lutheta ลูกสาวเล่า นอกจากนี้เธอยังให้ข้อมูลอีกว่าตอนนี้แม่ของเธอเหลือเวลาอยู่บนโลกใบนี้ประมาณ 5 ปีเท่านั้น หลังจากที่รู้ว่าแม่ป่วยเมื่อ 9…
-
ครอบครัวแกล้งหลอกให้น้องชายเชื่อว่าตัวเอง ‘ล่องหน’ น้องเชื่อสุดใจ แถมถอดกางเกงโชว์!?
หลายๆ คนคงจะเคยจินตนาการกันเล่นๆ เมื่อตอนเป็นเด็ก ถึงพลังวิเศษ ที่เราสามารถ ‘ล่องหน’ โดยที่ไม่มีใครเห็นได้ แล้วจะเป็นอย่างไรเมื่อเด็กชายคนหนึ่งได้ลอง ‘ล่องหน’ ได้ โดยที่ไม่มีใครเห็นตัวของเขา ในระยะเวลาสั้นๆ เรื่องมีอยู่ว่าครอบครัวได้ทำการถ่ายคลิปวิดีโอเล่นมายากลหลอกให้เด็กชายคนหนึ่งเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองถูกเสกให้ล่องหน คลิปดังกล่าวถูกถ่ายเกิดขึ้นในเมือง Garden City รัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา พี่สาวของเด็กชายเล่าถึงการถ่ายทำคลิปว่า “สามีของฉัน และเพื่อนๆ เห็นคลิปวิดีโอจาก Netflix ที่มีนักมายากลเสกให้คนล่องหนหายไปได้ และหลอกให้คนที่หายไปเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ” “หนึ่งในเพื่อนของเราก็เลยคิดว่าน่าจะลองทำกับน้องชายคนเล็กสุดของเราดู เพราะเขาน่าจะเชื่อมากที่สุด” “เราตั้งใจวางแผนกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในห้องใต้ดิน ขณะที่น้องชายคนเล็กเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อหาอะไรกิน จากนั้นก็เริ่มถ่ายรูปก่อนเพื่อหลอกให้เขาเชื่อ” “เมื่อสามีของฉันเอาผ้าคลุมตัวของเขา เขาก็จะหายไปทุกคนจะต้องแสดงท่าทีตกใจ ก่อนจะไปหลอกให้เขาเชื่ออีกครั้งด้วยภาพที่ถ่ายไว้ก่อนหน้านี้” “นอกจากนี้ก็ลองให้เขาถืออะไรสักอย่าง ทุกคนก็จะต้องร้องออกมาด้วยความตกใจ แบบว่ามันลอยอยู่กลางอากาศได้อย่างไร แต่ที่จริงแล้วคือทุกคนก็เห็นเขาถือมันอยู่นั่นแหละ” “หลังจากที่ให้สามีของฉันพาเขากลับมาด้วยการคลุมผ้าและเสกมนตร์อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะโชว์คลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ เพื่อให้ดูว่าจริงๆ แล้วเราเห็นเขาตั้งแต่เริ่ม และเขาโดนพวกเราต้มซะเปื่อย” คลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนเข้าชมโดยรวมแล้วกว่า 700,000 ครั้งเลยทีเดียว!! ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า..…
-
ความน่ารักของ “คุณพ่อ” เมื่อต้องอยู่เล่นเกมแต่งตัวกับลูกสาวตัวน้อย ฮากันตรึมล่ะทีนี้!!
การปล่อยลูกน้อยให้อยู่กับพ่อนั้นเป็นสิ่งที่อาจทำให้คุณแม่หลายคนต้องปวดหัว แต่บางครั้งเมื่อลูกน้อยกับคุณพ่อตัวป่วนอยู่ด้วยกันมันก็อาจกลายเป็น “ความฮา” ได้นะเอ้อ! ถึงแม้หนุ่มๆ ที่เป็นพ่อมือใหม่จะไม่ได้อ่อนโยนหรือมีวิธีรับมือกับลูกน้อยได้เหมือนแม่ แต่พวกเขาก็มีความคิดสร้างสรรค์ในการหาวิธีเล่นกับลูกน้อยได้อย่างสุดโต่ง ลองดูตัวอย่างจากคุณพ่อ Sholom Ber Solomon ที่ต้องเล่นเกมแต่งตัวกับ Zoe ลูกสาวตัวน้อยของเขากันหน่อยดีกว่า ว่าทั้งคู่จะเล่นกันได้ฮาและน่ารักสุดโต่งขนาดไหน แต่งกายเป็นเงือกน้อย (ปกติแล้วมันต้องให้ลูกเป็นเงือกน้อยไม่ใช่เหรอ!!?) ชาวร็อกแบบน่ารักๆ นักมายากลเสกกระต่ายออกมาได้น่ารักจริงๆ คุณย่าและเจ้าเหมียว (ว่าแต่คุณย่าดูแปลกๆ ไปนะช่วงนี้) นักอนุรักษ์สัตว์และลิงจ๋อตัวน้อย เชฟทำซูชิกับซูชิที่น่าหม่ำที่สุด อ๊ะ พบเจอลูกฉลามแหละ พากันเข้าร้านเสริมสวยเก๋ๆ แว๊ก หมีป่าอาละวาด น่ากลัวจริงๆ เด็กน้อยและมอนสเตอร์ (น่าจะสลับบทบาทกันมากกว่านะ) คนเลี้ยงผึ้งและผึ้งน้อยจอมดื้อ ธีมจิบน้ำชาสวยๆ งานแสดงดนตรีก็มา มาเป็นวิศวกรกันเถอะ คุณเด็กเกินกว่าที่กฎหมายอนุญาตให้ขับรถนะครับ ยุคหิน (ทำไมหนูน้อยต้องกลายเป็นตัวประหลาดทุกทีเลยนะ ฮ่าๆ)…
-
พ่อรับปากลูกจะให้เงิน 4,200 บาท กับทุก A ที่ทำได้ เลยจัดไปเหนาะๆ 14 ตัว ถึงกับหน้าจาง!!
ถือเป็นเรื่องปกติในบ้านเราที่จะมีการ ‘ใช้เงิน’ เป็นตัวล่อให้ลูกๆ ตั้งใจเรียน ซึ่งก็แล้วแต่พ่อแม่แต่ละคนว่าจะให้เป็นจำนวนเท่าไหร่ หรือกำหนดเกรดเอาไว้อย่างไรบ้าง เช่นเดียวกันกับคุณพ่อชาวเวลส์ ที่อาศัยอยู่ในเมือง Rhondda ได้ทำการรับปากลูกสาวเอาไว้ว่าจะให้เงินเป็นจำนวน 100 ปอนด์ (4,200 บาท) ให้กับลูกสาวต่อเกรด A ที่เธอสามารถทำได้ และลูกสาว Molly Rowlands วัย 16 ปี ก็เลยจัดไปเต็มเหนี่ยวล่อเกรด A ไปทั้งหมด 14 ตัว เท่ากับว่าคุณพ่อจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวน 1,400 ปอนด์ หรือราวๆ 60,000 บาทเลยทีเดียว ในตอนแรกนาย Clive Rowlands วัย 58 ปี ให้คำมั่นกับลูกสาวเอาไว้ก่อนเริ่มเกรด 10 หรือเทียบเท่ามัธยม 4 เอาไว้ว่าจะให้เงินกับลูกสาว 100 ปอนด์ต่อเกรด A ที่เธอสามารถทำได้ แต่ใครเล่าจะรู้ว่าจะเสียเงินไปมากมายขนาดนี้ ขนาดคุณครูเองยังบอกว่าผลการเรียนที่ Molly ทำได้นั้นเป็นผลการเรียนที่ดีที่สุด เท่าที่โรงเรียนเคยมีมาเลยทีเดียว!! “ผมเคยบอกลูกเอาไว้เมื่อราวๆ…
-
เด็กสาวตัวน้อย ‘ลั่นกระดิ่งแห่งชัยชนะ’ หลังต่อสู้กับมะเร็งมานาน 2 ปี และเอาชนะมันมาได้!!
หลังจากที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายมาอย่างยาวนาน และสามารถเอาชนะโรคร้ายได้สำเร็จ ก็ต้องมีการแสดงให้เห็นถึง ‘ความเป็นผู้ชนะ’ กันบ้างล่ะ นี่คือเรื่องราวของหญิงสาวตัวน้อยวัย 4 ขวบ ที่ต้องอดทนดิ้นรน ต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายมาอย่างยาวนานตลอด 2 ปี!! Holly Hughes ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ก่อนที่จะถึงวันครบรอบวันเกิดในปีที่ 2 เมื่อปี 2016 “เราเพิ่งมารู้ก่อนวันเกิดครั้งที่ 2 ของเธอ ตอนนั้นผมไม่ได้อยู่ที่อเมริกา และ Christina ภรรยาของผมก็โทรมาบอกว่า Holly เหมือนจะมีพฤติกรรมแปลกไป” คุณ Chris Hughes พ่อของ Holly เล่า “ตอนเราก็ไม่ได้คิดอะไร และเมื่อผมกลับมาก็พบว่า ลูกดูตัวซีด ก็เลยพาไปหาหมอ และพบว่าเธอกำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และหมอบอกว่าเธออาจจะมีชีวิตได้อีก 6-8 สัปดาห์เท่านั้น หากไม่ทำการรักษา” “ผมจำเหตุการณ์ตอนนั้นได้ดี มันเหมือนกับว่าโลกทั้งใบกำลังแตกสลาย ผมอยากจะหายไปเสียตอนนั้นเลย ผมทั้งโกรธและผิดหวัง” “แต่อย่างไรก็ตามเมื่อรวบรวมสติได้ผมก็ถามหมอว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะผ่านมันไปได้ จะต้องรักษาอย่างไร” ในช่วงเวลาไม่กี่ปีมานี้ Holly ต้องผ่านเรื่องราวมากมาย…
-
ครอบครัวใจสลาย เมื่อ ‘สถานสงเคราะห์สัตว์’ การุณยฆาตหมาของพวกเขาเพราะเข้าใจผิด!?
‘สุนัข’ สำหรับหลายๆ คนแล้วมันเป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยง เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งลูก ที่มอบความสุขให้กับหลายๆ ช่วงชีวิตของเรา แต่เมื่อมีเหตุที่ทำให้ต้องเสียมันไปย่อมทำให้เกิดความทุกข์ใจตามมา ราวกับว่าได้สูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปเลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับครอบครัวนี้ที่ต้องสูญเสียเจ้าหมาไปเพราะการทำงานที่ผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ในสถานสงเคราะห์สัตว์ เรื่องมีอยู่ว่าเจ้าหมา Moses ของคุณ Tony และ Jennifer Wang จากเมือง Peoria รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกพาตัวไปไว้ที่สถานสงเคราะห์สัตว์เพื่อเฝ้าดูอาการ ‘โรคพิษสุนัขบ้า’ เนื่องจากว่าดันไปกัดใส่ช่างซ่อมบำรุงคนหนึ่งเข้า เจ้า Moses จะต้องอยู่ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ Tazewell County Animal Control เป็นเวลาอย่างน้อย 10 วันเพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ได้ป่วยเป็นโรคอะไร จากนั้นก็จะได้รับอนุญาตให้กลับมาอยู่ที่บ้านได้เหมือนเดิม แต่กลายเป็นว่าเจ้า Moses กลับถูกเจ้าหน้าที่ทำการ ‘การุณยฆาต’ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นหมาอีกตัวหนึ่ง “ในทุกๆ วันฉันจะแวะไปเยี่ยมเจ้า Moses ก่อนที่จะไปทำงาน และเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ฉันก็ไปเยี่ยมตามปกติพร้อมกับเอาคุกกี้ติดมือไปให้มันด้วย” คุณ Tony เล่า “เมื่อเวลาประมาณ 9.30 น.…
-
เด็กชายป่วยเป็นมะเร็งหายาก ปลอบแม่ ‘อย่าร้องไห้นะครับ’ เพราะพวกเขาไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา
เรื่องราวอันแสนสลดใจของครอบครัว ที่ลูกชายเกิดมาพร้อมกับโรคสุดหายาก และเขาอาจจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อีกไม่นาน… ผู้เป็นแม่พยายามอย่างหนักเพื่อหาเงินมารักษาเขาโดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกชายของตัวเองจะหายกลับมาเป็นปกติดี แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลกกับพวกเขา เมื่อเงินที่ครอบครัวเก็บสะสมมาเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาล กลับไม่พอจ่ายเสียได้… หนูน้อย Li Junyang วัย 3 ขวบ ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งนิวโรบลาสโตมา (มะเร็งต่อมหมวกไตในเด็ก) ที่หาได้ยากสุดๆ เขาเคยผ่านการผ่าตัดเปิดหน้าอกเพื่อการรักษามาแล้ว 2 ครั้ง รวมไปถึงเข้ารับการฉายรังสี 7 ครั้ง และรับยาคีโมอีก 7 ครั้งด้วยกัน พ่อแม่ของเขาใช้เงินเก็บที่มีทั้งหมดกว่า 22,000 ปอนด์ (934,000 บาท) มาใช้ในการรักษา แต่คุณหมอได้แจ้งว่าค่ารักษาทั้งหมดนั้นจะมีจำนวน 51,000 ปอนด์ (2.1 ล้านบาท) หรือมากกว่านั้น ทำให้การรักษาของเจ้าหนู Li ต้องหยุดลงกลางคัน ผู้เป็นแม่ก็ได้แต่ร่ำไห้พร้อมกับกอดลูกของตน เพราะน้อยใจในโชคชะตา ทางด้านลูกก็ร้องไห้ พร้อมกับปลอบแม่ของตัวเองอย่างไร้เดียงสาว่า “แม่ครับ อย่าร้องไห้” อย่างไรก็ตามล่าสุดมีองค์กรการกุศลยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือหนูน้อย Li แล้ว…
-
มหากาพย์เจ้าหนี้ vs ลูกหนี้ ยืมเงินไปเป็นปีขอผลัดวันประกันพรุ่ง บอกถ้าประจานจะไม่จ่าย!?
เรื่องของการยืมเงินแล้วไม่คืนนี่ถือเป็นปัญหาที่เจ้าหนี้หลายคนต้องพบเจอ และปวดหัวกันมานักต่อนัก โดยเฉพาะกลุ่มที่ ‘ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย’ และเรื่องราวนี้เองก็เป็นอีกครั้ง ที่เจ้าหนี้ต้องคอยตามทวงหนี้มาตลอด 1 ปีเต็มๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ยืมไป จนนำไปสู่การนำมาโพสต์ประจานในที่สุด เรื่องมีอยู่ว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Nasornprom Lathaisrong ได้ทำการโพสต์เรื่องราวที่ตนได้พบเจอมาในฐานะเจ้าหนี้ ที่ถูกลูกหนี้ที่เป็นพี่สาวคนหนึ่งยืมเงินไป ทวงแล้วทวงอีกก็ยังไม่ได้คืน พร้อมกับแคปชันว่า “Ep.1 ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ไม่ตอบ #อย่าให้คนรู้จักยืมเงินเด็ดขาด #มายืมอย่างดีนัดวันอย่างดี #พอถึงวันคืนหาย #มีต่อep2” (บอกไว้ก่อนนะว่ายาวมว๊ากกกก เพื่อนๆ ควรจะมีเวลาว่างซัก 1-2 ชั่วโมงในการเผือกเรื่องนี้เลยทีเดียว!!) เอาล่ะเรามาเริ่มกันที่ EP. แรกกันเลย!! ทุกอย่างเริ่มจากการที่ลูกหนี้ทักมายืมเงินเป็นจำนวน 5,000 บาท แล้วก็ขอยืมเพิ่มอีก 2,000 บาท รวมแล้วเป็น 7,000 บาท เมื่อวันที่ 20 เดือนธันวาคม ปี 2559 . . โดยเป็นคนยืมกำหนดว่าจะคืนเงินทั้งหมดอย่างช้าไม่เกินสิ้นเดือนมกราคม…
-
ครอบครัวตัดสินใจ ‘บริจาคอวัยวะ’ ของลูกชาย และมันช่วยชีวิตเด็กได้อีก 5 คน!!
‘ความสูญเสีย’ เป็นเรื่องอันน่าเศร้าใจ และไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น… เช่นเดียวกันกับครอบครัวของคุณ Brooke และคุณ Ibrahim Usali ได้สูญเสียลูกชาย Zane วัย 3 ขวบไปจากอุบัติเหตุรถชนเมื่อเดือนตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา หลังจากที่ต้องนอนอยู่ในอาการโคม่านานนับ 10 วัน และดูเหมือนว่าจะไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาได้ พวกเขาเลยตัดสินใจที่จะถอดเครื่องช่วยชีวิตออก แต่เรื่องราวทุกอย่างมันไม่ได้จบลงแค่นั้น ทั้งคู่ไม่ได้ทำให้การสูญเสียสูญเปล่าไป แต่เลือกที่จะทำให้มันเกิดคุณค่าตามมา คุณ Brooke และ Ibrahim ได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของลูกชาย และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เด็กอีก 5 คนรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์!! Zane วัย 3 ขวบ หนึ่งในเด็กทั้ง 5 คนนั้นมี Mason วัย 6 ขวบ ที่ได้รับปอดมาจาก Zane คุณแม่ของ Mason คุณ Tatiana Johnson กล่าวว่าเธอดีใจมากเมื่อได้รับข่าวดี มีคนบริจาคปอดให้กับลูกชายของเธอแล้ว แต่ขณะเดียวกันเธอก็รู้และเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเมื่อเรื่องราวนี้เกิดขึ้น…
-
สามสาวพี่น้อง ลงมือสังหารพ่อมาเฟีย เหตุแค้นถูกกดขี่ทารุณ กระทำชำเรานานนับปี!!
เรื่องราวของสามสาวพี่น้องวัยรุ่นถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม จากการก่อเหตุใช้มีดแทงมาเฟียผู้เป็นพ่อแท้ๆ ของตัวเอง ด้วยแรงจูงใจจากการถูกทรมานทั้งกายและวาจามานานนับปี Kristina Khachaturyan พี่สาวคนโตวัย 19 ปี พร้อมกับ Angelina วัย 18 ปี และ Maria วัย 17 ปี ถูกนำตัวไปขังอยู่ในคุกภายในกรุงมอสโก หลังสังหารนาย Mikhail Khachaturyan วัย 57 ปี ผู้เป็นพ่อ Kristina (ซ้าย) Angelina (กลาง) Maria (ขวา) เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าสามสาวพี่น้องสารภาพว่าลงมือร่วมกันฆาตกรรมผู้เป็นพ่อ หลังจากที่ถูกทารุณมาอย่างยาวนาน อีกทั้งผู้เป็นพ่อมีอาการเสพติดเฮโรอีนและมักจะลงมือทำร้ายพวกเธอมาโดยตลอด ซึ่งข้อหาดังกล่าวจะทำให้สามพี่น้องถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 10 – 15 ปี Mikhail Khachaturyan ผู้เป็นพ่อ พี่สาวคนโต Kristina กล่าวว่า “พวกเราเกลียดเขามากๆ และอยากจะให้บางสิ่งเกิดขึ้น ไม่ว่าทำให้เขาหายไปหรือไม่รู้จักเขา เราเพียงแค่อยากให้เขาไปพ้นๆ จากชีวิตและไม่หวนกลับมาอีก”…
-
ครอบครัวมีลูกเป็นโหล จะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะได้ ‘ลูกชาย’ ได้เป็นคนที่ 12 พอดี!!
ตามความเชื่อเรื่องของการสร้างครอบครัวของคนจีน มักจะอยากได้ลูกชายมากกว่าลูกสาว เนื่องจากความสำคัญในเรื่องของการสืบเชื้อสายสกุล จากอดีตจนถึงปัจจุบันค่านิยมนี้ก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิม แต่ใครเล่าจะรู้ว่า ความพยายามของครอบครัวหนึ่งที่อยากจะมีลูกชายนั้น ทำให้ถือกำเนิดลูกได้มากถึง 12 คน เพราะด้วยความตั้งใจที่อยากจะมีลูกชายอย่างไม่ลดละ จะหยุดจนกว่าจะได้ลูกชายตามสมปรารถนา เรื่องราวนี้กลายมาเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมจีน หลังจากที่ทางหนังสือพิมพ์ The Paper ได้เปิดเผยเรื่องราวของพี่สาวทั้ง 11 คนที่อุทิศทั้งชีวิตให้แก่น้องชายเพียงคนเดียวในครอบครัว เพราะนอกจากจะดูแลเรื่องการแต่งงานให้น้องชายแล้ว เหล่าพี่สาวได้ประเคนเจียดเงินส่วนตัวซื้อเรือนหอให้ เนื่องจากพ่อแม่ป่วยหนักและไม่ได้มีเงินถุงเงินถังช่วยลูกชายแต่งได้ อย่างไรก็ตาม ความใจกว้างของเหล่าพี่สาวนั้นยังคงเป็นปริศนาที่ว่า พ่อแม่สามารถเลี้ยงลูกทั้ง 12 คนได้อย่างไรในขณะที่จีนได้ใช้นโยบายคุมกำเนิดไปแล้ว… สิ่งที่ถูกตีแผ่ออกมานั้น คือผู้เป็นพ่อเป็นแม่ไม่ได้ตั้งใจจะมีลูกมากขนาดนี้ ต้องการเพียงแค่ลูกชาย และสุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นนาย Gao Haozhen น้องชายคนสุดท้องคนที่ 12 โดยที่แม่ให้กำเนิดลูกสาวคนแรกในช่วงอายุเพียง 20 ปี และมีลูกเพิ่มมาตลอด 27 ปี โดยหวังเพียงแค่อยากจะได้ลูกชาย แน่นอนว่าเรื่องราวความต้องการของพ่อแม่นี้ กลายมาเป็นประเด็นเดือดในสังคมออนไลน์จีน ถกเถียงถึงความเหมาะสมต่างๆ นานา และทางพี่สาวใหญ่ Gao Yu ได้ชี้แจงผ่านทางสื่อเอาไว้ว่าพ่อแม่ของเธอเป็นคนหัวโบราณ…
-
ไอจีภาพถ่ายครอบครัว “เคน-หน่อย” จากกล้องฟิล์ม สวยคลาสสิกควรค่าแก่การฟอลโลว์
สำหรับดารารูปหล่อขวัญใจมหาชน ที่อยู่ในดวงใจของทุกๆ คนแล้ว คงจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ เคน ธีรเดช หรือไม่ก็พี่ติ๊ก เจษฎาพร รายหลังนี้ยังคงมีผลงานมาให้เราชมกันบ้างประปราย แต่รายแรกนั้นดูจะหายหน้าหายตาไปเลยจากวงการ หลังจากที่แต่งงานกับ หน่อย บุษกร ไปเมื่อ 10 ปีก่อน จนตอนนี้ก็มีลูกด้วยกันแล้วถึงสองคน คือน้องคุน และน้องจุน และสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังหาช่องทางติดตามครอบครัวของพระเอกเคนและครอบครัวล่ะก็ #เหมียวหง่าว ขอแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกับอินสตาแกรม mi_familia_fotos เป็นแอกเคาทน์อินสตาแกรมของพี่เคนธีรเดชที่ถ่ายภาพครอบครัวอันแสนอบอุ่นของเขา ผ่าน ‘กล้องฟิล์ม’ ที่ดูแล้วขอบอกเลยว่าให้ความรู้สึกย้อนยุคแบบคลาสสิกมากๆ เลยล่ะ แม่หน่อย . น้องคุนกับน้องจุน แหนะมีแอบถ่ายภาพตัวเองมาให้เห็นซะด้วย . คลาสสิกจริงๆ ครอบครัว . . แม่กับลูกๆ แม่หน่อยส๊วยยยสวย >< สองพี่น้อง เพื่อนๆ สามารถเข้าไปติดตามผลงานการถ่ายภาพครอบครัวสุดน่ารักของพระเอกเคน…
-
หนุ่มญี่ปุ่นเปิดเผยกับครอบครัวว่า “เป็นเกย์” และผลตอบรับก็ทำให้ชาวเน็ตน้ำตาคลอ…
เรื่องของเพศทางเลือกถึงแม้จะมีการยอมรับมากขึ้นในสังคมปัจจุบัน แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะเปิดเผยตัวเองกับ “พ่อแม่และครอบครัว” ว่าเรา เป็นเกย์ เรื่องการเปิดเผยตัวตนและเพศที่ตนเองเลือกนั้นจะไม่ใช่เรื่องที่ยากเลยหากคนรอบตัวเปิดใจให้การยอมรับ ถึงกระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีว่าก็ยังมีคนที่คอยเหยียดและแบ่งแยกเพศอยู่เสมอๆ บังเอิญได้เจอทวิตเตอร์ของหนุ่มญี่ปุ่นที่ชื่อว่า @_Fromage_ ผู้ที่โพสต์ภาพข้อความการ เปิดเผยเพศตัวเอง พร้อมทั้งแฟนหนุ่มของเขาให้ครอบครัวได้ทราบ แล้วครอบครัวของเขาก็น่ารักมากๆ เสียด้วย เขาเขียนคำบรรยายโพสต์ดังกล่าวว่า: “ขณะที่ผมป่วยอยู่ในโรงพยาบาล ผมเรียกครอบครัวพร้อมทั้งแฟนของผมมา นั่นแหละครั้งแรกที่ผมบอกทุกคนว่าผมเป็นเกย์ และแนะนำแฟนที่คบกันมา 6 ปีของผมให้พวกเขารู้จัก น้องสาวของผมขำก๊ากออกมาแล้วพูดออกมาว่าเธอเองรู้อยู่แล้ว ส่วนแม่ก็แอบขำคิกคัก และวันนั้นก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้อีก แต่พอวันรุ่งขึ้นผมก็ได้ข้อความจากแม่” ข้อความจากแม่ มีใจความดังนี้: “เกี่ยวกับหนุ่มคนนั้นคนที่เป็นเพื่อนสนิทของลูกและคนที่ได้หัวใจของลูกไป แม่เข้าใจนะเขาเองก็ดูเป็นคนดี และพูดตรงๆ แม่โล่งอกมากๆ ที่เห็นลูกได้คบใครแบบนั้น มันไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถึงแม่จะคิดถึงยุคสมัยเก่าๆ แต่แม่ก็ไม่อาจปฏิเสธคนที่เดินตามหัวใจตัวเองแบบลูกได้หรอกนะ ลูกอยู่กับเขาแล้วมีความสุขด้วยกันหรือเปล่า นั่นต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญ ก่อนอื่น ลูกกับเขาควรทำความรู้จักตัวตนกันและกันให้มาก และแม่หวังว่าวันหนึ่งเขาคนนั้นนั่นแหละที่จะกลายเป็นคนที่รู้จักและเข้าใจลูกมากที่สุด” เมื่อเรื่องราวน่าประทับใจนี้ถูกโพสต์เล่าบนทวิตเตอร์ ผู้คนก็เข้ามาคอมเมนต์กันมากมาย เช่น… “เป็นครอบครัวที่น่าทึ่งมาก คุณต้องดูแลพวกเขาและแฟนของคุณให้ดีๆ เลยนะ” “ฉันหวังว่าฉันจะเป็นแม่ที่ดีให้กับลูกๆ อย่างนี้บ้าง” “เป็นแม่ที่ดีมากๆ พ่อแม่บางคนไม่สนใจเลยว่าลูกตัวเองจะเป็นอย่างไร แต่แม่ของคุณนั้นใส่ใจคุณมากๆ เป็นครอบครัวที่เจ๋งจริงๆ” “นี่แหละคือความรักที่แท้จริง ฉันว่าฉันจะร้องไห้แล้วล่ะ”…
-
คู่รักเลิกกันตอนอายุ 20 ตกลงกันว่า ‘หาก 40 ไม่มีใครค่อยมาแต่งงานกัน’ …ได้แต่งจริงๆ!!
หลายๆ คนอาจจะเคยพูดกันเล่นๆ กับเพื่อน หรือแฟนเก่าว่า ‘ถ้าถึงอายุเท่านี้แล้วยังไม่มีใคร เราค่อยมาแต่งงานกันนะ’ หรือไม่ก็อาจจะเห็นประโยคแบบนี้ในหนังหรือในซีรีส์กันมาบ้างแล้ว แต่นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง เมื่อคู่รักคู่หนึ่งเลิกรากันไปเมื่อราวๆ 20 ปีก่อน แต่โชคชะตาก็นำพาให้พวกเขากลับมาแต่งงานกันอีกครั้ง!! Mairi Gordon วัย 45 ปี และ Rhys McLellan วัย 43 ปี ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 2017 ที่ผ่านมา ที่ Thomas Morton Hall ในกรุงเอดินเบอระ ประเทศสก็อตแลนด์ ย้อนกลับไปในปี 1995 ขณะที่พวกเขายังเป็นวัยรุ่นอายุได้ 20 ต้นๆ ได้คบหาเป็นแฟนกัน แต่เนื่องจากว่าความรักมันไม่ได้เป็นอย่างที่ตั้งใจก็เลยตัดสินใจเลิกรากัน แต่ตอนเลิกกันพวกเขาก็พูดกันแบบติดตลกว่า “ถ้าตอนอายุ 40 ปีแล้วพวเราทั้งคู่ยังไม่มีใคร ก็ค่อยมาแต่งงานกันก็แล้วกันนะ” วันเวลาผ่านไปฝ่ายหญิง Mairi ก็ได้เจอคนใหม่และคบกันมาเป็นเวลายาวนานกว่า 12 ปี ก่อนที่จะเลิกรากันไปในปี 2010…
-
พ่อดีใจจนร่ำไห้…เมื่อภรรยาคลอดลูกอย่างปลอดภัย หลังผ่านช่วงลำบากมาตลอด 9 เดือน
ช่วงเวลาของการลืมตาตื่นมาดูโลกของเด็กน้อย ถือเป็นช่วงเวลาที่พิเศษที่สุดของคนเป็นพ่อเป็นแม่… หลังจากที่เฝ้ารอกันมาตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปี ผ่านช่วงเวลาอันแสนยากลำบากที่ต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ก่อนที่จะได้พบหน้าของลูกน้อย เช่นเดียวกันกับว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่อย่างคุณพ่อและคุณแม่คู่นี้ โดยเฉพาะฝ่ายคุณพ่อที่ดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ ทำให้ช่วงเวลาแห่งความสุข กลายเป็นโมเมนต์ที่แสนพิเศษ และหาชมไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ถูกบันทึกภาพไว้โดยช่างภาพ Kirstie Perez ว่าที่คุณพ่อถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความปีติออกมาหลังจากที่ได้เห็นลูกชายเป็นครั้งแรก “ผมไม่ได้ร้องไห้เพราะช็อกที่ได้เห็นลูกชายของผม แต่เพราะว่ามันเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นรอยยิ้มของภรรยาในรอบ 10 เดือนนี้ต่างหาก” ทุกการตั้งครรภ์มันไม่ได้ง่ายเสมอไป ผู้หญิงหลายคนต้องประสบกับปัญหามากมายระหว่างตั้งครรภ์ ภรรยาของคุณพ่อท่านนี้ต้องประสบกับปัญหาภาวะแพ้ท้องอย่างรุนแรง และภาวะครรภ์เป็นพิษ เป็นระยะเวลากว่า 285 วัน จนทำให้เธอน้ำหนักลดลงไปกว่า 13 กิโลกรัม เธอต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกรอดชีวิต แม้ว่าตัวเองจะลำบากแค่ไหนก็ตาม และคนที่ต้องเฝ้ามองดูความลำบากของภรรยาผู้เป็นที่รักก็คือสามีที่รู้สึกปวดใจมาโดยตลอด ตลอดระยะเวลา 9 เดือน ภรรยาต้องเข้าโรงพยาบาลถึง 4 ครั้ง จากการสูญเสียน้ำในร่างกาย จมูกของเธอไวต่อกลิ่นจึงต้องไปนั่งอยู่ข้างนอกบ้านเพื่อทานอาหาร เพราะบางครั้งกลิ่นที่ไม่ได้รุนแรงนักก็อาจจะทำให้เธอป่วยได้ แม้กระทั่งตอนทำคลอด เขาก็มาให้กำลังใจอยู่ข้างๆ เธอไม่ห่างไปไหน ในที่สุดเด็กชายตัวน้อยก็ได้ลืมตาดูโลก พร้อมทั้งความปลอดภัยของคุณแม่ ผู้เป็นสามีก็ยิ้มดีใจอย่างห้ามไม่อยู่ …
-
21 ภาพที่แสดงให้เห็นว่า ‘พ่อแม่ – ลูก’ นั้นมีหน้าตาเหมือนกันแค่ไหน ถ้าไม่บอกนึกว่าฝาแฝด!!
อย่างที่เรารู้กันดีว่า ‘พ่อแม่’ นั้นจะส่งต่อยีนส์หรือพันธุกรรมต่างๆ มาให้ลูก จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ลูกจะมีหน้าตาเหมือนกับพ่อหรือไม่ก็แม่ แต่บางครั้งมันก็เหมือนจนเกินไปจนเข้าใจผิดได้ง่ายๆ ว่าเป็นฝาแฝดกันเลยทีเดียว ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ ลองไปชมภาพเหล่านี้พร้อมๆ กันได้เลย… 1. พ่อตอนอายุ 18 กับลูกชายอายุ 14 2. พ่อกับลูกชายตอนอายุประมาณ 7-10 เดือน 3. พ่อกับลูกสาว 4. แม่กับลูกสาวตอนอายุ 20 ปี 5. แม่กับลูกสาว 6. แม่กับลูกสาวตอนมหาลัย 7. คุณแม่เมื่อปี 1996 กับลูกชายในปี 2018 8. คุณแม่ตอนอยู่เกรด 5 และลูกสาวตอนอยู่เกรด 5 เช่นกัน 9. แม่กับลูกสาวตอน 3 ขวบ 10.…
-
หวานแหวว…เรื่องราวความรักของ ‘คู่รักดาวน์ซินโดรม’ กับชีวิตคู่อันแสนสุขที่ผ่านมา 23 ปี
‘ความรัก’ เป็นสิ่งสวยงามเสมอเมื่อเกิดขึ้น และมันสามารถเกิดขึ้นได้กับใครก็ได้บนโลกใบนี้ หรือแม้แต่ในจักรวาลอันแสนกว้างใหญ่ไพศาลนี้ เช่นเดียวกันกับคู่รักที่ป่วยเป็นโรค ‘ดาวน์ซินโดรม’ ทั้งคู่ และพวกเขาก็เพิ่งฉลองวันครบรอบวันแต่งงานปีที่ 23 ไปไม่นานนี้เอง!! Maryanne และ Tommy Pilling ทั้งคู่ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรม แต่หัวใจของทั้งคู่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อกันและกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะใครหลายคนก็มองว่าความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นเป็นเรื่องที่ ‘น่ารังเกียจ’ แต่อย่างไรก็ตามกาลเวลาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความรักของทั้งคู่นั้น ‘เป็นของจริง’ เพราะล่าสุด Maryanne และ Tommy ก็เพิ่งจะฉลองครบรอบวันแต่งงานปีที่ 23 ไปหมาดๆ “มันคือการตกหลุมรักตั้งแต่ได้เจอกันครั้งแรก” Maryanne กล่าว ขณะที่ฝ่าย Tommy ที่ได้ฟังคำพูดนั้นก็ถึงกับน้ำตาซึม ทางด้านของคุณแม่ Linda ที่เป็นแม่ของ Maryanne เล่าว่า “พ่อแม่หลายคนอาจจะไม่ยอมทำแบบที่ฉันทำก็ได้ แต่พวกเขาได้หมั้นกันก่อน 4 ปี ก่อนที่จะแต่งงานกันในที่สุด” “งานแต่งงานของพวกเขาจัดขึ้นในโบสถ์ ลูกสาวของฉันสวมชุดเจ้าสาวที่ทำขึ้นมาโดยคุณป้าของเธอ และมันช่างงดงามเหลือเกิน” “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้เป็นคนเดินส่งตัวเจ้าสาวในวันนั้น” …
-
เด็กสาวป่วยเป็นโรคสมองพิการ ช่วยเหลือน้องชายให้รอดจากการจมน้ำได้อย่างปาฏิหาริย์
ใครเล่าจะคิดว่าเด็กหญิงที่ป่วยเป็นโรคสมองพิการ ต้องตัวติดกับเก้าอี้รถเข็นอยู่ตลอดเวลา จะกลายเป็นฮีโร่ที่ช่วยชีวิตน้องชายของตัวเองจากการจมน้ำ!? Lexie Comeau-Drisdelle เด็กสาววัย 9 ขวบ เธอคือผู้โชคร้ายที่เกิดมาพร้อมกับ ‘โรคสมองพิการ’ เธอไม่สามารถเดินได้ หรือแม้แต่พูดได้ แต่เธอก็หาวิธีที่สามารถช่วยเหลือน้องชายให้รอดพ้นจากการจมน้ำในสระว่ายน้ำที่บ้านได้ ในวันหนึ่งของช่วงฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่ทุกคนในครอบครัวกำลังวุ่นอยู่กับการจัดเตรียมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดให้กับ Lexie Leeland น้องชายคนเล็กก็วิ่งเล่นไปตามประสาเด็กวัยกำลังซน โดยมีคุณย่าคอยดูอยู่ห่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายใดๆ แต่แล้วเมื่อคุณย่าเผลอเจ้าหนู Leeland ก็เดินตรงเข้าไปที่ประตูหลังบ้านซึ่งมีสระว่ายน้ำอยู่ และเขาเองก็ไม่เคยฝึกว่ายน้ำมาก่อนด้วย Lexie เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ แม้ว่าเธอจะเดินไม่ได้ หรือไม่สามารถพูดได้ เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้เธอได้ตัดสินใจที่จะช่วยชีวิตน้องชายของตัวเองด้วยการ ‘กรีดร้อง’ ออกมา จากเสียงร้องของเธอทำให้ทุกคนที่อยู่ในบ้านหยุดการกระทำที่กำลังทำอยู่ และรีบวิ่งมาหา Lexie ทันที ก่อนที่เธอจะพยายามใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดชี้ไปที่ประตูหลังบ้าน “แม่ของฉันเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันก็เลยรีบวิ่งออกไปดูที่หน้าต่างพบว่า Leeland เดินไปอยู่ที่ขอบสระแล้ว ตอนนั้นฉันรู้สึกกลัวมากเลยวิ่งเข้าไปเอาตัวเขาออกมา” Kelly Jackson คุณแม่ของ Lexie เล่า “ในตอนนั้นฉันกลัวมาก เราคิดว่ามันคงจะจบลงไม่สวยแบบนี้ หากไม่ได้การช่วยเหลือของ…
-
สุดภูมิใจ… ครอบครัวแฝด 5 เลี้ยงลูกให้ได้ดีทุกคน ส่งเรียนที่เดียวกัน และจบพร้อมกัน!!
ความสำเร็จสูงสุดของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ก็คงจะไม่พ้นในวันที่สามารถส่งลูกเรียนจนรอดฝั่ง สำเร็จการศึกษาในระดับสูง มีความรู้และวิชาชีพติดตัวเพื่อเลี้ยงดูตัวเองได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว มีลูกคนเดียวส่งเรียนจนจบก็ชื่นใจ มากที่สุดอาจจะเป็นแฝด 2 หรือ 3 แต่สำหรับคุณพ่อเซลล์แมน Jorge ผู้มีพื้นเพมาจากประเทศเม็กซิโก… และคุณแม่ Enna Diaz ดีใจหนักยิ่งกว่าใคร เพราะได้เห็นและรับรู้ว่าลูกแฝดทั้ง 5 คน เรียนจบพร้อมกันในมหาวิทยาลัยเดียวกันทั้ง 5 สาขา!! Enna, Maria, Emilio, George และ John Diaz ร่วมชักภาพสวมชุดครุยและหมวก พร้อมกับใบปริญญาหลังจากที่ร่ำเรียนภายในมหาวิทยาลัย University of North Texas ร่วมกับแฝดทั้ง 5 ในระยะเวลา 4 ปี โดยที่ผ่านมาแฝด 5 อายุ 21 ปีเท่ากันทุกคน ต่างเคยผ่านประสบการณ์ร่วมกันมาโดยตลอด ทั้งเข้าเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาในสถาบันเดียวกัน รวมไปถึงการเข้าร่วมงานพรอมพร้อมกันทั้ง 5 คนด้วย!!…
-
โมเมนต์สุดประทับใจ…คุณพ่อถึงกับล้มโต๊ะ เมื่อได้พบลูกชายที่ไปเป็นทหารนานกว่า 7 ปี!!
ของขวัญสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ คงไม่มีอะไรที่ดีเกินไปกว่าการได้เห็นหน้าลูกของตัวเองแวะเวียนกลับมาเยี่ยมที่บ้าน… เช่นเดียวกันกับคุณพ่อคนนี้ ที่ลูกชายของเขาไปรับใช้ชาติเป็นเวลานานกว่า 7 ปี และเนื่องในวันพ่อเขาก็ได้รับการเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจากลูกชายที่กลับมาหาที่บ้าน Taylor McCauley ทหารหนุ่มวัย 27 ปี ขับรถจากค่ายทหารกว่า 17 ชั่วโมงเพื่อมาเซอร์ไพรส์คุณพ่อของตัวเอง น้องชายของเขาเป็นคนถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์ตอนที่คุณพ่อได้เจอกับลูกชายหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 7 ปี “พวกเรารู้กันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และวางแผนทุกอย่างให้แนบเนียนเพื่อเซอร์ไพรส์คุณพ่อ เริ่มจากเรามอบจดหมายให้กับพ่อเป็นจดหมายที่ส่งมาจากพี่ชาย ก่อนที่ผมจะส่งข้อความไปให้พี่ชายบอกให้เขามายืนรอที่หน้าประตู และพบว่าพ่อดีใจมากๆ รีบเดินเข้าไปสวมกอดพี่ชายอย่างเร็วไว เนื่องจากต้องไปประจำการที่ต่างประเทศ เพราะอยู่ในสังกัดกองทัพเรือในฐานะนักแม่นปืน ทำให้เขามีโอกาสกลับมาเยี่ยมที่บ้านน้อยมากๆ” Robee น้องชายเล่า ไม่รู้จะเรียกว่าดีใจหรือโมโห เพราะคุณพ่อถึงกับพลิกโต๊ะที่ขวางทางกลับด้าน แล้วก็เดินเข้าไปกอดทหารหนุ่มอย่างรุนแรง ราวกับเป็นการแสดงให้เห็นว่าความคิดถึงของเขามันแรงกล้าแค่ไหน “วันนี้เป็นวันพ่อ และผมก็รู้ว่ามันเป็นวันสำคัญมากสำหรับเขา ผมจะต้องกลับไปหาเขาให้ได้ ผมได้วางแผนไว้กับน้องชาย ให้เขามอบจดหมายของผมให้กับพ่อ แล้วผมจะเดินมารอที่ประตูเพื่อเซอร์ไพรส์” “แต่มันดันไม่เป็นไปตามแผนเพราะผมออกมายืนที่หน้าประตูเร็วกว่าที่ตกลงกันไว้ แต่อย่างไรก็ตามมันก็เป็นช่วงเวลาที่ดีสุดๆ ไปเลยล่ะ” Taylor เล่า คลิปวิดีโอเหตุการณ์นี้ถูกโพสต์ลงทวิตเตอร์ ชาวเน็ตหลายคนต่างก็ประทับใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น มีคนเข้ามากดไลก์มากกว่า 2,900 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า…
-
พ่อลูกชาวซีเรียใช้ ‘กระป๋อง’ มาทำเป็นขาเทียม เพราะไม่มีเงินไปซื้อขาเทียมจริงๆ
โดยปกติแล้วการต้องเป็น ‘ผู้พิการ’ ย่อมทำให้การใช้ชีวิตเป็นเรื่องที่ยากลำบากอยู่แล้ว และยิ่งต้องตกเป็นผู้พิการในประเทศที่กำลังตกอยู่ในช่วงภัยสงครามอย่างซีเรียแล้ว ยิ่งทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบากกว่าเดิมหลายเท่าตัวนัก นี่คือเรื่องราวของ Maya Ali Merhi จากประเทศซีเรีย เธอเกิดมาโดยที่ไม่มีอวัยวะช่วงล่าง โรคนี้เป็นโรคทางพันธุกรรมที่มีชื่อว่าภาวะ Congenital Amputation เช่นเดียวกันกับพ่อของเธอ นาย Mohammed เองก็ป่วยเป็นโรคนี้ด้วยเช่นกัน ครอบครัวของพวกเอาอาศัยอยู่ในค่ายของผู้อพยพ และไม่มีเงินมากพอที่จะไปซื้อขาเทียมมาใส่ พ่อของ Maya จึงประดิษฐ์ขาเทียมขึ้นมาใช้งานเองด้วย ‘กระป๋อง’ ที่พันรอบๆ ด้วยผ้า “หัวใจของผมรู้สึกเจ็บปวด เมื่อได้เห็นลูกสาวของผมยืนอยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ขณะที่พวกเขาวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน” “มันเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากมากๆ แต่อย่างน้อยถ้าเรามีเจ้ากระป๋องนี้ ก็ดียังกว่าไม่มีอะไรเลย” คุณพ่อกล่าว ครอบครัวของ Maya ต้องหลบหนีออกมาจากเมือง Aleppo ที่ต้องตกเป็นพื้นที่ทำสงคราม แม้ว่าจะต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแต่สักวันหนึ่งคุณพ่อก็มีความใฝ่ฝันว่าลูกสาวของตัวเองจะสามารถเดินได้ปกติเหมือนกับคนทั่วๆ ไป อ้างอิงจากรายงานขององค์กรการกุศลในประเทศซีเรีย พบว่ามีผู้คนมากกว่า 13 ล้านคนที่ยังคงต้องการการรักษาพยาบาล และอุปกรณ์ทางการแพทย์ จากจำนวนนี้เป็นเด็กมากกว่า 5 ล้านคน เพราะประชากรหลายคนต้องหลบหนีจากภัยสงคราม ทำให้ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ต้องตั้งแคมป์อยู่กันอย่างยากลำบาก…
-
สาวผู้ป่วย ‘โรคซึมเศร้า’ ได้รู้ความจริงว่าแม่ที่จากไป ได้ฝากฝังทุกอย่างไว้กับสามีแล้ว
‘โรคซึมเศร้า’ ถือเป็นหนึ่งในโรคทางจิตใจที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก และการดูแลรักษาก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเคร่งครัด ทั้งการกินยาและการบำบัดทางอารมณ์ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของ Nikki Pennington หญิงสาวผู้เผชิญกับอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่โชคดีที่แม่ของเธอเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อบำบัดอาการป่วยของเธอ แต่แล้วเรื่องราวอันน่าสลดใจก็เกิดขึ้นเมื่อแม่ของเธอต้องมาด่วนจากไป โลกทั้งใบของเธอต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะต่อจากนี้ไปไม่มีใครดูแลอีกต่อไปแล้ว Nikki ได้ระบายความเศร้าให้กับสามีของเธอฟัง และปรากฏว่าสามีได้เล่าเรื่องราวบางอย่างที่ถูกเก็บเป็นความลับตั้งแต่วันแต่งงานของทั้งคู่!? และนี่คือเรื่องราวชีวิตอันขมขื่นของเธอ…. “โรคซึมเศร้ากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แน่นอนว่าการป่วยเป็นโรคนี้คุณจะต้องมีใครสักคนที่เข้าใจคุณ และคนคนนั้นสำหรับฉันก็คือ ‘แม่’” “แม่เป็นคนที่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรในยามที่ฉันซึมเศร้า เธอช่วยให้ฉันกลับมามองโลกแห่งความเป็นจริง และเอาชนะความคิดลบต่างๆ ได้” “ฉันมักจะคิดอยู่เสมอว่าคนที่เข้าใจฉันได้ คงไม่มีใครอื่นแล้ว นอกจากแม่ของฉัน” “แต่แล้วในวันหนึ่งหลังจากงานแต่งงานของฉันกับสามี ฉันถูกความเศร้าเข้าครอบงำ ฉันตัดสินใจที่จะโทรหาแม่ แต่สามีกลับห้ามและบอกว่า ‘คุณลองพูดกับผมดูมั้ย? ให้ผมลองดู เผื่อว่าผมจะช่วยอะไรได้บ้าง” “ฉันให้โอกาสเขา เพื่อช่วยบรรเทาความเศร้าจากโรคนี้ จากนั้นการโทรหาแม่ก็เริ่มลดน้อยลงไป และวันนั้นก็มาถึง วันที่แม่ของฉันต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ” “ฉันได้โทรหาสามีของฉันและบอกกับเขาว่า ‘แม่ของฉันไปแล้ว เธอเป็นคนที่รู้จักฉันมากที่สุด และรักฉันมากที่สุด คนที่ทำให้ฉันหลุดพ้นจากความกลัวได้ เธอได้จากไปแล้ว’” “จากนั้นสามีของฉันก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับแม่ของฉัน ที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนให้ฟังว่า ในวันแต่งงานแม่ของฉันได้มอบโน้ตให้กับสามีของฉัน โน้ตนั้นเขียนติดเอาไว้ว่า…
-
ลูกชายถูกศาลสั่งห้ามไม่ให้ติดต่อกับ ‘พ่อแม่ของตัวเอง’ 5 ปี เพราะตื๊อขอเงินมากไป
สำหรับคนเป็นลูกการโทรไปขอเงินพ่อแม่ถือเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ เพราะไม่ว่าอย่างไรท่านก็จะยินดีให้ความช่วยเหลือกับเราอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับคุณพ่อคุณแม่สองท่านนี้ ที่ลูกชายวัย 24 ปี ขอเงินใช้อยู่นั่นแหละ ทั้งๆ ที่อายุปาเข้าไป 24 ปีแล้ว ก็เลยไปฟ้องศาลและสุดท้ายศาลก็ตัดสินให้ลูกชายห้ามติดต่อพวกเขาเป็นเวลานานถึง 5 ปี!! และล่าสุดจากรายงานของเว็บไซต์ Mirror ระบุว่านาย Matthew Kerley ถูกศาลตัดสินจำคุกจากการสร้างความก่อกวนให้แก่ผู้อื่น เมื่อปีที่ผ่านมาคุณพ่อของ Matthew คุณ Paul วัย 60 ปี ได้รับการช่วยเหลือและคำแนะนำจากองค์กร Crown Prosecution Service หลังจากที่ลูกชายของตนตามตื๊อขอเงินจนทำให้เขาและภรรยา คุณ Coreen วัย 51 ปี ต้องตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า และต้องจมอยู่กับความเครียด ทำให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจไปฟ้องร้องต่อศาลในเมือง Southampton ทำให้ลูกชายถูกตัดสินห้ามไม่ให้ติดต่อกันอีกเป็นเวลา 5 ปี แต่แล้วเรื่องมันก็เกิดขึ้นอีกเมื่อเดือนที่ผ่านมานาย Matthew ได้โทรหาพ่อแม่เพื่อขอเงินอีกครั้ง!! จากข้อมูลคำให้การของฝ่ายอัยการระบุว่า “เขา (Matthew) บอกพ่อแม่ของเขาว่ากำลังจะไปสัมภาษณ์งานและต้องโกนหนวด แต่บังเอิญว่าที่โกนหนวดมันพังเสียก่อน เลยโทรไปขอเงินพ่อแม่”…
-
เพื่อนบ้านแสบ กินเหล้ากันเสียงดัง บ้านอื่นโทรแจ้งตำรวจ เช้ามาเทยำใส่รถตูเฉย เอ๊า!?
เรื่องของ ‘สิทธิ์’ ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องของตัวเราเอง แต่ยังต้องคำนึงถึง ‘สิทธิ์’ ของผู้อื่นด้วย เพื่อให้สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันกับคนอื่นๆ ในสังคมได้อย่างมีความสุข และเรื่องราวต่อไปนี้เองก็ชี้ให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่าหากเราไม่เคารพสิทธิ์ของคนอื่น ก็จะกลายเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองและผู้อื่น เรื่องมีอยู่ว่าแฟนเพจเฟซบุ๊ก Social Hunter V.ss ได้โพสต์เรื่องราว ที่เกี่ยวกับปัญหาของเพื่อนบ้านที่กินเหล้ากันเสียงดังจนถึงดึกดื่น แถมยังเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าของบ้านเป็นคนโทรแจ้งตำรวจ เลยเอา “ยำ” มาราดที่รถ แถมยังขู่อีกว่าจะทำให้ย้ายออกเลยทีเดียว!! ไปอ่านข้อความในโพสต์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า “ว่าด้วยเรื่องบ้านใกล้เรือนเคียง คนเรานี่ก็แปลกนะ อยู่กันมาจนปีนึงละ ไม่เคยไปด่า ไปมีเรื่องราวกับใครตั้งแต่ซื้อบ้าน แต่อยู่ๆ เรื่องก็มาหาซะงั้น เหตุเกิดเมื่อคืน ราวๆ ตี 2-3 กว่าๆ ข้างบ้านดื่มเหล้าแล้วเสียงดังมากตั้งแต่อยู่มา ครั้งนี้หนักเลย แล้วมีลูกบ้านโทรไปร้องเรียนตำรวจเข้ามาตรวจสอบ เสร็จข้างบ้านคิดว่าบ้านเราโทรแจ้งความเพราะบ้านอยู่ติดกัน แต่เราไม่ได้โทรเลย เราก็นอนของเราปกติ พอตกตอนเช้าน้องสาวออกไปทำงานเรียกให้ลงมาดูรถ เรานึกว่ารถพังหรือโดนชน เปล่าเลย สภาพที่เห็นคือ รถทั้งคันโดนราดไปด้วยยำ มีผัก มีเท้าไก่ มีน้ำราดเต็มรถ คือนี่มันยำเท้าไก่ หรือยำรถกันแน่ เราไม่เคยโวยวายกินเหล้าเสียงดังถึงตี 1…
-
มันคือความน่ารัก!! ขุ่นพ่อให้ลูกสาวออกแบบรอยสัก แล้วไปสักลงบนตัวเขาจริงๆ
การสักนั้นถือเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะลงหมึก อย่างที่เรามักจะเห็นอยู่ตลอดกับรอยสักสุดเฟลต่างๆ หรือรอยสักใบหน้าของแฟนสาว ที่ไปสักตอนเมาๆ และพอตื่นมาก็ต้องมาเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป แต่สำหรับคุณพ่อ Mike Reynolds ท่านนี้ได้ตัดสินใจนำภาพวาดของลูกๆ ไปให้ช่างสักจรดหมึกลงบนร่างกาย แม้ว่ามันจะไม่ได้สวยงามเหมือนกับลวดลายที่ช่างออกแบบให้ก็ตาม!! Mike เป็นคุณพ่อวัย 39 ปี อาศัยอยู่ในเมือง Ottawa ประเทศแคนาดา เขามีลูกสาวสองคนคือ Charlotte วัย 6 ขวบ และ Leah วัย 8 ขวบ เขาเล่าถึงการมีรอยสักที่เป็นฝีมือภาพวาดของลูกๆ ว่า “ผมรักในรอยสักพวกนี้มาก และผมภูมิใจที่จะเดินออกไปไหนมาไหนพร้อมกับมัน และผมคิดว่าจะสักรอยสักจากฝีมือการวาดภาพของลูกๆ เพิ่มอีก” โชคดีที่ภรรยาของเขา Andrea เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี และเธอเองก็มองว่ารอยสักเหล่านี้ช่างงดงามเหลือเกิน เรื่องทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ลูกสาวคนโต Leah เอาภาพที่เธอวาดที่โรงเรียนกลับมาที่บ้าน และ Mike เองก็ได้เห็นภาพผึ้งที่ลูกสาวเป็นคนวาดเลยปิ๊งไอเดียนำมันไปสักติดที่แขน จากนั้นเขาก็มักจะขอให้ลูกเป็นคนออกแบบลายสักให้เสมอมา จนตอนนี้มีรอยสักที่ออกแบบโดยลูกสาวทั้งสองคนมากกว่า 40 ลายบนตัวของเขาแล้ว!!…
-
ใจมันได้…แม่มือใหม่เพิ่ง ‘คลอดลูก’ ได้ 5 ชั่วโมง รีบไปงานแต่งของน้องสาวกลัวไม่ทัน
อย่างที่รู้กันดีว่า ‘งานแต่งงาน’ ถือเป็นงานสำคัญอีกงานหนึ่งในชีวิตของสาวๆ เลยทีเดียวล่ะ ไม่ว่าใครต่างก็ต้องการที่จะลองสวมชุดเจ้าสาวแสนสวยสักครั้งหนึ่งในชีวิต แน่นอนว่าเหล่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทั้งหลายต่างก็ต้องอยากมาร่วมงานแสดงความยินดีให้กับเจ้าสาว ยิ่งสนิทกันแค่ไหน ก็คงไม่อยากพลาดโมเมนต์สำคัญที่สุดในชีวิตของเจ้าสาวกันหรอก เช่นเดียวกันกับสาวคนนี้ ที่แม้ว่าตนเองท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว ก็ยังไม่วายจะมาร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าสาวที่เป็นน้องสาวแท้ๆ ของตนเองให้ได้ Emily Chell วัย 27 ปี จากเมือง Staffordshire ประเทศอังกฤษ ต้องทำการคลอดก่อนกำหนดประมาณ 3 สัปดาห์ ขณะนั้นเธอกำลังพักอยู่ที่โรงแรม เพื่อเตรียมตัวสำหรับวันสำคัญที่สุดในชีวิตของน้องสาว Katie Chell แต่ก่อนจะถึงวันงานเริ่ม Emily ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเสียก่อน และให้กำเนิดเด็กชายตัวน้อยที่ชื่อว่า Brody ออกมาเมื่อเวลาประมาณ 7.10 น. เด็กมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงมีน้ำหนักแรกเกิดที่ 3.3 กิโลกรัม แต่แทนที่จะพักรักษาเนื้อรักษาตัวหลังจากเพิ่งทำคลอดมา 5 ชั่วโมงให้หลัง Emily และสามี Wayne Barratt วัย 34 ปี รีบรุดไปยังงานแต่งของน้องสาวที่โบสถ์ซะงั้น!? …
-
ผลงานภาพถ่ายชุด ‘พ่อบ้านกับการเลี้ยงลูก’ ทั้งตลกและอบอุ่นหัวใจในเวลาเดียวกัน
เรามักจะคุ้นเคยว่า ‘การเลี้ยงลูก’ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหน้าที่ของคนเป็นแม่ ส่วนน้อยนักที่จะได้เห็นภาพของพ่อบ้านที่เป็นฝ่ายคอยเลี้ยงดูลูก Griedre Gomes เป็นช่างภาพที่เล็งเห็นว่ามันเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน และเธอก็เลยตัดสินใจสร้างภาพชุดที่บอกเล่าเรื่องราวของคุณพ่อและลูกมาให้พวกเราได้ชมกัน ก่อนหน้านี้เธอเองก็สร้างชุดภาพถ่ายที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเธอเองกับลูกๆ อีกสองคน และพบว่ามันได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก แต่ตอนนี้เธอได้หันเลนส์ไปทางฝั่งพ่อบ้านบ้าง Gomes เล่าว่า “ฉันต้องการที่จะโชว์ให้เห็นมุมของพ่อดีๆ ที่ช่วยพัฒนาชีวิตของเหล่าเด็กๆ” รวมไปถึงครอบครัวที่มี ‘พ่อ’ สองคนด้วย เธอใช้เวลากว่า 4 สัปดาห์ เพื่อโน้มน้าวให้สามีของเธอร่วมการถ่ายภาพในครั้งนี้ด้วย ซึ่งตัวสามีของเธอนั้นมีความกังวลว่าการถ่ายภาพแบบนี้อาจสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดดราม่า เพราะจากเซตภาพก่อนหน้านี้เองก็เกิดดราม่าเช่นเดียวกัน แต่ Gomes ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่างานชิ้นนี้ของเธอจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่าพ่อบ้านเป็นจำนวนมาก Gomes หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณพ่อควรจะมีเวลาให้กับเหล่าลูกๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันและกัน โดยเฉพาะช่วงหลังเกิดใหม่ๆ ซึ่งบริษัทต่างๆ ควรจะมีวันลาพักร้อนในช่วงนั้นให้กับเหล่าพ่อบ้านด้วย คุณพ่อเล่นกับลูกชาย ช่วงเวลาแห่งความสุขที่พ่อกับลูกได้อยู่ด้วยกัน การรับมือของคุณพ่อเมื่อต้องเจอเจ้าตัวน้อยถึง 2 คน!! ออกกำลังกายร่วมกัน จิบเบียร์นั่งพักสักหน่อย . …
-
16 ช็อตครอบครัวตัวอย่าง เดวิด x วิค รักหวานชื่นมื่นมีอยู่จริง และมีให้เธอทู๊กกกวัน…
การจะเป็นทั้งคนดังมีชื่อเสียงระดับโลก พร้อมกับการดูแลครอบครัวในชีวิตส่วนตัวประคองไปจนรอดฝั่ง เป็นอีกสิ่งที่เรียกได้ว่ายากมากๆ เลยนะ ถ้าหากพลาดเพียงแค่นิดเดียว ผู้คนอาจจะหมดศรัทธาในพริบตาเดียวเลยล่ะ จะว่าไปแล้วครอบครัว Beckham น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ สำหรับบุคคลระดับโลก เนื่องจากความเป็นสามีของพี่ David นั้น ต้องยกเป็นตัวอย่างพ่อบ้านที่ดี ชื่นชมภรรยาแทบจะทุกเวลา และ Victoria เองก็ยอมในจุดนี้ และชื่นชมพร้อมกับให้เกียรติเขาอยู่เสมอ เมื่อ David อยากจะแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้ภรรยา แต่เรียกเธอว่า “คุณแม่สุดมหัศจรรย์” https://www.instagram.com/p/BhrHoPtnyLq/ นอกจากเป็นคุณแม่มหัศจรรย์แล้ว ช่วงครบรอบก็ยกให้เป็นสุดยอดภรรยา แม่ และนักธุรกิจสาวสุดสตรอง https://www.instagram.com/p/BWHW9p3hm9O/ เมื่อ Victoria ได้รับรางวัลอะไรก็ตาม เขาก็มักโพสต์รูปเธอเพื่อชื่นชมอยู่เสมอ https://www.instagram.com/p/BTFPpVLh515/ ในขณะเดียวกัน Victoria ก็เรียก David ว่า คุณสามีสุดอัศจรรย์ และ คุณพ่อสุดวิเศษ https://www.instagram.com/p/BE5sMpIFiGs/ วันครบรอบแต่งงาน ฝ่ายภรรยาก็เผยว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจที่มีให้เธอทุกวัน https://www.instagram.com/p/BHbmdcuhipH/ ครบรอบแต่งงาน 16…
-
‘ยกโทษให้หนูด้วย’ หนูน้อยวัย 5 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายจนเสียชีวิต เหมือนไม่มีตัวตน…
ปัญหาความรุนแรงภายในสถาบันครอบครัวยังคงฝังรากลึกอยู่ในทุกประเทศ และความโหดร้ายในครั้งนี้ก็ถูกเปิดเผยออกมาจากสื่อประเทศญี่ปุ่น กับเหตุพ่อเลี้ยงกระทำลงโทษเด็กหญิง 5 ขวบจนเสียชีวิต เนื่องจากการบังคับให้อยู่ในลู่ทางที่ตนต้องการ ยูอะจัง เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงบังคับและลงโทษอย่างรุนแรง ถูกปฏิบัติอย่างไร้ตัวตนในครอบครัว หลังจากที่พ่อเลี้ยงแต่งงานกับแม่ของเด็กในปี 2016 และให้กำเนิดลูกชายอีก 1 คน พ่อเลี้ยงทำร้ายและทุบตียูอะจัง บังคับให้ทานอาหารกับน้ำซุปเพียงแค่วันละ 1 มื้อเท่านั้น เนื่องจากเขาคิดว่าเธอมีน้ำหนักมากเกินไป เธอมักจะถูกปลุกตั้งแต่ช่วง 4.00 น. เพื่อมาชั่งน้ำหนักทุกๆ วัน และถูกจับแยกให้นอนคนเดียว ซึ่งในบางครั้งถูกบังคับให้นอนบริเวณระเบียงด้านนอกในช่วงอากาศหนาวด้วย ช่วงก่อนเกิดเหตุสลด เพื่อนบ้านสังเกตเห็นเด็กมีเลือดออกตามใบหน้า และถูกบังคับให้มายืนข้างนอกโดยไม่สวมถุงเท้าและรองเท้าใดๆ จนกระทั่งเธอถูกนำตัวส่งไปยังสถานสงเคราะห์เป็นการชั่วคราว แต่สุดท้ายพ่อเลี้ยงและแม่ก็กลับมารับ โดยก่อนกลับไปบ้าน เด็กเคยบอกให้รับรู้ว่าอยากจะไปอยู่กับคุณย่ามากกว่า ระยะสุดท้ายในช่วงเดือนมกราคม ครอบครัวนี้ได้ย้ายมาอยู่ในกรุงโตเกียว แต่ทว่าเพื่อนบ้านสังเกตถึงความผิดปกติ ทั้งที่มีลูก 2 คน แต่กลับปรากฏตัวเพียงแค่เด็กชายคนเดียว จนมารู้ทีหลังว่าน้องยูอะจังนั้นถูกขังลืมเอาไว้ภายในบ้าน ในที่สุดแล้ว น้องยูอะจัง ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล เรื่องจากสภาพร่างกายที่ถูกทำร้ายอย่างหนัก ร่างกายซีดขาว…
-
งานงอก…สาวตั้งใจส่งข้อความลับไปให้ปั๋ว แต่กดผิดส่งให้เพื่อนร่วมงานซะงั้น เขินสิฮะ!!
‘ความผิดพลาด’ เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้ว่าเราจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม โดยเฉพาะการส่งข้อความผิดคน ที่ถือเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดา เพราะปุ่มมันก็เล็กซะปานนั้น การกดผิดจึงเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเป็นการส่งข้อความลับระหว่างคู่สามีภรรยาที่พูดคุยกันทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านแล้วล่ะก็ ขอบอกเลยว่า ‘เป็นเรื่องใหญ่’ เลยล่ะ 555+ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของแม่บ้านท่านนี้ ที่ได้ทำการส่งข้อความผิด ตั้งใจจะส่งให้สามีแต่กลายเป็นว่าส่งไปให้กับเซลแมน ที่ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกันกับเธอซะได้!! ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @gomachannel0 ได้แชร์เรื่องราวสุดเปิ่นของตนเอง เป็นแชทข้อความในไลน์ กับสติ๊กเกอร์รูปเพนกวินน้อยที่ดูท่าทางกำลังมีความสุข พร้อมกับหัวใจล้อมรอบ หากมองเผินๆ ก็จะเข้าใจว่า ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ 18+ แน่นอน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้น!? ข้อความในแชทแปลว่า “ฉันเพิ่งปล่อยของหนักออกมา” รูปเพนกวิน “มันมีขนาดใหญ่มากเลยล่ะ อ่าห์” ดูท่าทางของเธอคงจะมีความสุขมากๆ จากสติ๊กเกอร์เพนกวินน้อยตัวนั้น เพราะความอึดอัด ความตุงๆ ความหน่วงที่ท้อง มันได้มลายหายไปจนหมดสิ้น และเป็นเรื่องธรรมดาที่คู่รักกัน จะพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ยิ่งการปลดปล่อยความทุกข์ที่สั่งสมมานานยิ่งแล้ว ก็จะต้องอวดกันเป็นธรรมดา แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีทางที่จะเอาไปบอกคนอื่นอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทกันก็ตาม แต่แทนที่ข้อความดังกล่าวนี้จะถูกส่งไปให้สามีของเธอ กลับกลายเป็นว่าเธอส่งผิด!! ดั๊นส่งไปให้กับเซลแมนคนหนึ่ง ที่ทำงานในบริษัทเดียวกันกับเธอซะงั้น!? หลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมงตั้งแต่ส่งข้อความนี้ไป…
-
พ่อลูกได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังพยายามแจกใบปลิวมากกว่า 180,000 แผ่น ใน 24 ปี
จากความพยายามอย่างไม่ลดละของคุณพ่อ ในที่สุดก็ได้พบเจอกับลูกชายของตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่เขาหายตัวไปเมื่อ 24 ปีก่อน!! คุณพ่อ Li Shunji และภรรยา Du Li พลัดพรากจากลูกชายของตัวเองไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ปี 1994 ขณะที่เขายังอายุได้ 3 ขวบ บนถนนที่แสนวุ่นวายในเมืองซีอาน ประเทศจีน Lei Lei ลูกชายวัย 27 ปี ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตรวจสอบ DNA เพื่อเทียบกับคุณพ่อของตัวเอง ในที่สุดก็ได้พบกับพ่อแม่ที่แท้จริงของตน คุณพ่อเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟังว่า “วันนั้นผมออกจากบ้านไปขายผ้าที่ร้าน ผมไม่รู้เลยว่าลูกชายของผมเดินตามออกมาด้วย และมารู้ว่าเขาหายไปก็ต่อเมื่อภรรยาของผมมาหาที่ร้านและถามหาว่าลูกอยู่ที่ไหน ตอนนั้นขาผมชาไปหมด” ขณะเดียวกันทางด้านเด็กชายก็ถูกคู่รักคู่หนึ่งพบเจอ พวกเขาตัดสินใจที่จะรับเด็กคนนั้นมาเลี้ยงเป็นลูก เพราะหาพ่อแม่เด็กไม่พบ ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะคู่รักเลี้ยง Lei เหมือนกับเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง “ย้อนกลับไปในอดีต เทคโนโลยียังไม่ได้พัฒนาเหมือนเช่นทุกวันนี้ ทำให้เราไม่สามารถหาตัวเขาได้โดยง่าย” คุณพ่อเล่า จากนั้นคุณพ่อ Li ก็ตัดสินใจขายกิจการ และเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อตามหาลูกชายของตนเอง…
-
ลูกชายออกตามหาแม่ที่แท้จริงตลอด 12 ปี ก่อนจะมาเจอเพราะ ‘ชื่อร้านอาหาร’
เรื่องราวของลูกชายที่ออกตามหาแม่ของตัวเองมาตลอดชีวิต จนยอมแพ้และคิดว่าไม่เจอแล้วแน่ๆ แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น!! ย้อนเรื่องราวกลับไปในอดีต Nobue Ouchi สาวชาวญี่ปุ่น อาศัยอยู่ในเมืองชิสึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ตอนนั้นเธออายุได้เพียง 19 ปีเท่านั้น เธอตกหลุมรักกับนายทหารชาวอเมริกัน ที่ไปประจำการที่ประเทศญี่ปุ่น ณ ช่วงเวลานั้น ทั้งคู่ตกลงปลงใจที่จะแต่งงานกัน แต่ก่อนหน้านั้นนายทหารกลับถูกเรียกตัวกลับไปที่บ้าน ณ รัฐเซาท์แคโรไลนา เสียก่อน Nobue เสียใจเป็นอย่างมาก เธอเข้าใจว่านายทหารหนุ่มทิ้งเธอไปเพื่อมีชีวิตที่ดีกว่า หลายปีหลังจากนั้นเขาก็ติดต่อกลับมา แต่มันสายไปเสียแล้ว เพราะฝ่ายสาวไม่ต้องการที่จะพูดคุยกับเขาอีกต่อไป แต่นายทหารกลับไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า Nobue ได้ตั้งท้อง ภาพของ Bruce หลังจากที่ลูกของ Nobue คลอดออกมา พ่อของเธอที่เป็นชาวประมง ก็ให้การสนับสนุนเธอและลูก แต่เธอรู้อยู่เต็มอกว่าชีวิตของลูกครึ่งญี่ปุ่นกับอเมริกัน ในหมู่บ้านเล็กๆ นี้ จะต้องเป็นไปด้วยความยากลำบากอย่างแน่นอน เธอเลยตัดสินใจที่จะประกาศหาพ่อแม่ใหม่ให้กับลูก เพื่อให้ลูกมีชีวิตที่ดีกว่า และประจวบเหมาะกันกับที่สองสามีภรรยา Edward และ Eleanor Hollywood ก็เป็นทหารจากกองทัพอากาศของสหรัฐเอมริกา ที่มาประจำอยู่ในฐานที่ญี่ปุ่น ทั้งคู่ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะรับลูกของ Nobue มาเลี้ยง…
-
สิ่งที่สะท้อนผ่าน “ของเล่นเด็ก” เหล่านี้ คือคุณภาพชีวิตของแต่ละบ้านที่ฐานะแตกต่างกัน
Anna Rosling Rönnlund ริเริ่มก่อตั้งทีมนักถ่ายภาพให้ออกไปถ่ายภาพของ 264 ครัวเรือนจำนวน 50 ประเทศ โดยในแต่ละบ้านที่พวกเขาเข้าไปถ่ายนั้นจะใช้เวลาเกือบทั้งวัน พวกเขาต้องถ่ายสิ่งของราว 135 ชิ้นในบ้านนั้นๆ เช่น รองเท้า แปรงสีฟัน หรือแม้แต่ของเล่นที่พวกเขามีให้กับลูกๆ สิ่งของเหล่านี้จะแสดงให้เห็นถึง สภาพความเป็นอยู่ คุณภาพชีวิต และรายได้ของแต่ละครอบครัว สิ่งที่เราจะนำมาให้ทุกท่านได้พินิจพิจารณากันในวันนี้ก็คือ ภาพของเล่นเด็ก ในแต่ละบ้าน ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างทางสังคม บางครอบครัวที่มีรายได้หลักแสนต่อเดือน ของเล่นลูกๆ ก็จะเป็นแบบหนึ่ง ส่วนครอบครัวที่มีรายได้ต่อเดือนหลักพัน ก็จะมีของเล่นให้กับลูกๆ อีกแบบที่ต่างกันไป ลองไปชมภาพเหล่านั้นกันเลยดีกว่า… ครอบครัวในประเทศบูร์กินาฟาโซ รายได้ 931 บาท ต่อผู้ใหญ่ 1 คน/เดือน ของเล่นที่ดีที่สุดของหนูก็คือ ยางรถเก่าๆ ครอบครัวในประเทศบุรุนดี รายได้ 931 บาท ต่อผู้ใหญ่ 1 คน/เดือน ของเล่นแสนสนุกของผมคือ หัวปลี ครอบครัวในประเทศอินเดีย รายได้ 995 บาท ต่อผู้ใหญ่ 1…
-
เศรษฐีหมดหวังกับรักแท้ จัดเรียลลิตี้ให้ลูกช่วย ‘เฟ้นหาเมียในฝัน’ แห่มาสมัคร 2,000 คน!!
ประโยคที่ว่า ‘เงินแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง’ ก็น่าจะจริงอย่างนั้น หากคุณมีเงิน หยิบยื่นให้ใครก็ตามที่พร้อมจะน้อมรับ สิ่งที่คุณต้องการก็จะโผล่มาอยู่ต่อหน้ากันเลย… อย่างเช่น Konstantin Scherbinin มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เจ้าของธุรกิจกิจการน้ำมันในวัย 54 ปี ลงทุนเล่นใหญ่ระดับเกมโชว์เรียลลิตี้ เพื่อเฟ้นหาหญิงสาวที่จะเหมาะเจาะพร้อมเป็นคู่ชีวิตให้กับตนเอง ผู้เป็นพ่อจัดตั้งรายการโชว์ดังกล่าวขึ้นมา และจะมอบหน้าที่ตัดสินให้กับลูกสาวทั้ง 3 และลูกชายคนเล็กอีก 1 คน ทำการคัดเลือกหญิงผู้โชคดีจากผู้สมัครทั้งหมด 2,000 คน สู่ตำแหน่งคุณนายในบ้าน Scherbinin (ลูกชายคนโตทำหน้าที่ดำเนินกิจการน้ำมัน) เพื่อให้รายการโชว์นั้นเข้มข้นถึงใจ ก่อนที่จะมาเป็นสาวโสดที่เหมาะสมสำหรับรายการนี้ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องหว่านล้อมสมาชิกในครอบครัวให้เชื่อว่า ‘มีของ’ มากพอที่จะมาเป็นสมาชิกในครอบครัวได้ ระหว่างนั้นก็จะมายืนเรียงกันหน้ากรรมการทั้ง 4 ถูกมองตั้งแต่หัวจรดเท้า วิจารณ์รูปร่างหน้า เสื้อผ้าหน้าผม รวมไปถึงอายุ และโดนปฏิเสธตกรอบด้วยคำถากถางอย่างรุนแรง หนึ่งในผู้เข้าร่วมรายการ Ekaterina นักวอลเลย์บอลหญิงสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว ได้รับคำวิจารณ์จาก Olga ลูกสาววัย…
-
น้องเป่าเปา ‘โดนหยิก’ ขณะไปออกอีเว้นต์ ร้องไห้จ้าละหวั่น กลายเป็นดราม่าคอมเม้นต์เดือด!!
กลายเป็นประเด็นที่กำลังถูกพูดถึงไปทั่วโลกโซเชียลบ้านเรา ณ ขณะนี้ กับการที่น้องเป่าเปา ถูกหยิก จนถึงกับร้องไห้จ้าละหวั่นในงานอีเว้นต์ที่จัดขึ้นในห้างแห่งหนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 ที่ผานมา แฟนเพจเฟซบุ๊ก Paopao and the big family เจ๊เปาบางพลีและครอบครัว ได้ทำการโพสต์ภาพและคลิปวิดีโอเหตุการณ์ พร้อมกับเล่าเล่าว่าน้อง เป่าเปา ลูกสาวของบี้ KPN และกุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ ได้ไปออกงานอีเว้นต์ที่ห้างแห่งหนึ่ง แต่ถูกแฟนคลับหยิกจนถึงกับร้องไห้ ในโพสต์แคปชั่นว่า “วันนี้มีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นกับเป่าเปาของเรา ฟังคลิปเสียงที่นางเล่าให้แม่นางฟังที่เพิ่งลงไปนะคะ” “และนี่คือสีหน้าเปาตอนมีคนมาข้างหลังเปาและนางก็ร้องจ๊ากขึ้นมาทันที ปกติเปาจะเป็นเด็กที่อึดมาก ไม่เจ็บ ไม่ร้อง รักเปาต้องช่วยกันถนอม อย่าทำนางเจ็บ ครอบครัวเราไม่เคยทำกับหลานแบบนี้ แล้วคุณเป็นใคร!!! ใครอยากดูคลิปหาเอาในไอจีค่ะ” คลิปน้องเป่าเปาเล่าเหตุการณ์ https://www.instagram.com/p/Bi7WFP1F8lf/ หากใครไม่เห็นคลิป คลิกเข้าไปชมได้ที่นี่ ในคลิปจะเห็นได้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งแอบเดินมาข้างหลัง แล้วก็หยิกไปที่ข้างหลังของน้องเป่าเปา จนทำให้น้องร้องไห้ด้วยความเจ็บ คลิปเหตุการณ์ตอนน้องเป่าเปาโดนหยิก https://www.instagram.com/p/Bi7NlLejUAi หากใครไม่เห็นคลิป คลิกเข้าไปชมได้ที่นี่ เรื่องราวนี้กลายเป็นกระแสที่ชาวเน็ตมากมายให้ความสนใจ จนมีคนเข้ามากดไลก์ที่โพสต์มากถึง…
-
20 ภาพแห่งความภาคภูมิใจของพ่อแม่ ที่ประสบความสำเร็จ ในการเลี้ยงลูกให้โตมาได้ดี
สำหรับคนที่เป็นพ่อแม่แล้ว การเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จและเป็นคนดีของสังคมถือว่าเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะยากดีมีจนก็ต้องพยายามเลี้ยงให้ลูกสามารถอยู่รอดในสังคมได้ และความภูมิใจของคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายไปกว่าการที่ลูกเป็นคนดี มีความคิดที่ดี ทำดีทั้งกับตัวเองและผู้อื่น เหมือนดังผลผลิตจากพ่อแม่ดัง 20 ภาพต่อไปนี้ที่เป็นภาพแห่งความภาคภูมิใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่ทั้งหลาย ดูแล้วก็ยิ้มตามได้ 1. ของขวัญวันพ่อ เป็นรูปของพ่อในยุค 1970 ตอนที่เขาอายุ 26 และผมในตอนอายุ 25 2. พ่อและผมในปี 1997 และปัจจุบัน 3. พ่อลูกคู่หูแฟนบอยสตาร์วอร์ส 4. ช่วงเวลาที่คนเป็นพ่อแสนจะภูมิใจ สอนวิชาให้กับลูกชาย 5. คุณตาอายุ 96 ปี ชาวพื้นเมืองที่ก่อนหน้านี้ไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง หลังจากที่มีกฎหมายใหม่ออกมาเขาจึงมีสิทธิ์ เขาลงคะแนนเสียงให้กับ Vi Lyles ลูกสาวซึ่งเธอก็ได้รับเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรี 6. พ่อเป็นแบบไหน ลูกชายก็เป็นแบบนั้นแหละ 7. พ่อและลูกสาวเป็นตำรวจเหมือนกัน และได้ประจำตำแหน่งที่ออฟฟิศเดียวกันด้วย 8. น้องชายได้รับตำแหน่งนักอ่านหนังสือเบรลล์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของห้องสมุดโรงเรียน 9.…
-
ชายหนุ่มวัย 22 โดนครอบครัวลงโทษ “ควักลูกตา” เพราะเขาอยากแต่งงานกับสาวที่ชอบ!?
เรื่องของความรัก การแต่งงาน ควรจะเป็นการตกลงปลงใจระหว่าง 2 คน แต่บางครั้ง บางคนก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากคนในครอบครัวญาติสนิทมิตรสหายก่อน และบางครั้งมันมันก็กลายเป็นปัญหาใหญ่โตถึงขั้นเลือดตกอย่างออกก็มี Abdul Baqi ชายหนุ่มวัย 22 ปี จากปากีสถาน มีความหวังที่อยากจะหมั้นหมายแต่งงานกับหญิงสาวที่ตนเองชอบพอ เขาพยายามหว่านล้อมให้ทางครอบครัวช่วยไปสู่ขอเพื่อทำพิธีหมั้นกับครอบครัวของฝั่งแฟนสาว Abdul Baqi ก่อนเกิดเหตุ แต่ทว่าความต้องการของเขากลับขัดใจผู้เป็นพ่อ Dost Muhammmad วัย 70 ปี และพี่ชายทั้ง 4 รายนาม Abdul Ghani, Abdul Sattar, Abdul Rehman และ Abdul Karim พวกเขาร่วมกันจับตัวเขามัดขังไว้ในห้อง และควักนัยน์ตาออกทั้ง 2 ข้าง!! พวกเขาจับผู้เป็นแม่ไปขังไว้อีกห้องหนึ่ง เพื่อที่ไม่ให้มาขัดขวางการลงโทษในครั้งนี้ได้ จากนั้นพวกเขาก็ลงโทษด้วยวิธีการสุดแสนจะโหดร้าย โดยใช้ช้อนและมีด ปาด แทง เสียบและงัดนัยน์ตาออกมา สำหรับนาย…
-
สาวผู้หลับนอนกับ ‘ปั๋วของคนอื่น’ มากกว่า 100 คน เพื่อทำให้ชีวิตครอบครัวของพวกเขาดีขึ้น!?
อย่างที่เรารู้กันดีว่าเรื่องของ ‘ชีวิตคู่’ เป็นเรื่องของคนสองคน หากเมื่อไหร่ที่มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องก็เท่ากับว่าชีวิตคู่ขอคุณมีความเสี่ยงที่จะเดินทางไปถึงจุดจบ แต่สำหรับ Gweneth Lee สาววัย 47 ปี แล้วกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะเธอนอนกับ ‘สามีของคนอื่น’ เป็นอาชีพ และเปิดเผยว่าการทำแบบนั้นเป็นการช่วยเหลือชีวิตของพวกเขาอีกด้วย!! Gweneth เล่าว่าเธอทำแบบนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ที่สามีของเธอ Robert เสียชีวิตไป เธอหลับนอนกับผู้ชายที่มีครอบครัวมากมาย และรับรายได้ไปเหนาะๆ ปีละ 4 ล้านบาท จากการทำแบบนั้น Gweneth และอดีตสามี Robert Gweneth เล่าว่าทุกอย่างมันเริ่มต้นเมื่อเธอตัดสินใจสมัครเว็บไซต์ IllicitEncounters.com ซึ่งเป็นเว็บหาคู่สำหรับคนที่มีครอบครัวแล้ว หลังจากนั้นก็เริ่มมีสัมพันธ์กับผู้ชายมากกว่า 100 คน บ้างก็เป็นนักธุรกิจ บ้างก็เป็นผู้กำกับหนัง บ้างก็เป็นคนรวยที่มีเครื่องบินส่วนตัวเป็นของตัวเองก็มี นอกจากนี้เธอยังเล่าว่า “พวกเขามักจะเสนอค่าเครื่องบินให้ฉัน เวลาที่ติดต่อมาจากต่างประเทศ และบางครั้งฉันก็เป็นคนออกเอง” “มีครั้งหนึ่งที่ผู้ชายคนหนึ่งนัดฉันไป ขณะนั้นเขาไปเที่ยวร่วมกับครอบครัว ภรรยาและลูกของเขาที่นิวยอร์ก ฉันต้องไปจองโรมแรมที่อยู่ห่างจากที่พักของเขาประมาณ 16…
-
ชีวิตเสวยสุขของ ‘พ่อบ้าน’ เงินไม่ขาด-งานบ้านไม่พร่อง กับสามีผู้มีอันจะกิน เปย์ไม่ยั้ง…
วิถีชีวิตของคนเรานั้นไม่สามารถเลือกได้แต่เกิด แต่เป็นการกำหนดทางเดินชีวิตของตนหลังจากนั้น ว่าจะไปในทิศทางไหน เราสามารถกำหนดได้เอง แต่ใครเล่าจะมีความสุขได้เท่า Efren Style ชายผู้ทำหน้าที่เป็น ‘พ่อบ้าน’ อย่างแท้จริงแห่งเมือง San Marino รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เขามาพร้อมกับเบ้าหน้าชุบทอง 24K มีเข็มกลัดแบรนด์ Chanel กระเป๋า Vuitton และชุดแหวกอกโชว์เนื้อใส่ออกงาน ชีวิตตั้งแต่ปี 2007 ของ Efren นั้น มีเพียงแค่ กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ทำความสะอาดทั่วไป ทำอาหาร และออกไปช็อปปิ้งสินค้าในตระกูลแบรนด์ดัง Armani, Louis Vuitton, Chanel และ Gucci ตามประสางานดูแลบ้าน ส่วนเงินที่ได้มาทั้งหมดนั้นก็มาจาก Christopher นายแพทย์ด้านชีวเคมีและเป็นสามีผู้มั่งคั่ง คอยทำหน้าที่จ่ายเงินให้ออกไปซื้อของอยู่เป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่า ‘มีเงินใช้ไม่ขาดมือ’ Christopher และ Efren “ผมจะตื่นก่อนสามีเสมอ หรือไม่ก็ตื่นพร้อมกันเพื่อให้แน่ใจว่าชุดทำงานและอาหารเช้านั้นพร้อมแล้ว ก่อนที่เขาจะออกไปทำงาน… …
-
ภารกิจช่วยเหลือครอบครัวหมา 4 ตัว จากโรงงานเชื่อมเหล็ก มันไม่ง่ายเลยนะเนี่ย!!
สำหรับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Hope for Paws แล้วไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการช่วยเหลือสัตว์จรจัดให้มีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อพวกเขาได้รับแจ้งมาว่ามีครอบครัวหมาอยู่ในเขตโรงงาน พวกเขาก็เลยออกไปช่วยพวกมันทันที โรงงานที่พวกหมาอาศัยอยู่ ครั้งนี้พวกเขาต้องออกไปช่วยครอบครัวหมาที่มีลูกหมา 3 ตัวและแม่หมาอีก 1 ตัว โดยเมื่อไปถึงโรงงานก็เจอพวกมันทันที แต่เจอแค่ลูกหมา 3 ตัวเท่านั้น Eldad Hagar และ Lisa Arturo อาสาสมัครที่ไปช่วยพวกมันในคราวนี้ก็เลยอยู่เล่นกับลูกหมาก่อน เพราะว่าต้องรอให้แม่หมาออกมาแล้วจับมันเป็นตัวแรก เนื่องจากมันเป็นตัวที่จับยากที่สุด รอไม่นานนักแม่หมาก็ออกมาหาลูกตามที่พวกเขาคิดไว้ หลังจากเล่นและให้อาหารมันสักพักแล้ว พวกเขาก็เอาห่วงคล้องคอมันไม่ให้หนีแล้วพยายามพาตัวไปที่รถอย่างปลอดภัย แม่หมาเองก็ขัดขืนและตกใจเพราะไม่เคยถูกจับมาก่อน แต่เมื่อพวกเขาแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายมันก็เลยใจเย็นลงแล้วให้อุ้มไปอย่างว่าง่าย ที่เหลือก็แค่พาตัวลูกหมาไปเท่านั้นเอง ลูกหมาตัวแรกที่พวกเขาจับไปมีท่าทางขัดขืนอย่างรุนแรง เนื่องจากมันไม่เคยถูกมนุษย์แตะตัวมาก่อน พวกเขาจำเป็นต้องใช้ผ้าคลุมตัวมัน พอมันมองไม่เห็นก็เลยใจเย็นลงบ้าง แล้วพอได้เจอแม่ของมันที่อยู่ในกรงมันก็สงบลงในที่สุด สำหรับลูกหมาตัวที่ 2 นั้นพวกเขาสามารถจับมันได้อย่างง่ายดาย มันไม่ร้องและไม่ดิ้นเหมือนแม่หมาหรือลูกหมาตัวแรก พวกเขาก็เลยคิดว่าการช่วยเหลือกำลังจะจบลงแล้ว แต่พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่า ลูกหมาตัวสุดท้ายกลับเป็นตัวที่จับยากมากที่สุด เมื่อมันเหลืออยู่ตัวเดียว มันก็พยายามวิ่งหนีอาสาสมัครสุดชีวิต แม้ว่าจะพยายามต้อนมันเอาไว้ แต่สุดท้ายมันก็ลอดรั้วเข้าไปในเขตอื่นของโรงงานจนได้ พอตามไปก็เจอมันซ่อนอยู่ลึกในกองไม้…
-
อดีตสาวป่วยโรคคลั่งผอม เปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ เพื่อลูกน้อยที่เธอรอคอย…
ผู้หญิงทุกคนมีความเป็นแม่อยู่ในตัวเองเสมอ ถึงแม้ว่าตอนที่เป็นสาวๆ จะใช้ชีวิตแบบสุดสวิงริงโก้ขนาดไหน แต่พอถึงเวลาที่เธอต้องมาใช้คำว่า แม่ แล้ว พวกเธอก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะกำเนิดขึ้นมา เรื่องราวของ Emma O’Neil สาววัย 28 ปี จากเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ผู้ที่เคยป่วยเป็นโรค Anorexic หรือโรคคลั่งผอม โรค Anorexic หรือโรคคลั่งผอม เป็นโรคทางจิตอย่างหนึ่งที่ผู้ป่วยโรคนี้จะมีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ ผู้ป่วยจะมีความวิตกกังวลเรื่องน้ำหนักของตัวเองมาก กลัวน้ำหนักขึ้น จึงควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างหนัก ลามไปจนทำให้ร่างกายเริ่มปฏิเสธอาหารทำให้ขาดสารอาหาร น้ำหนักตัวลดจนเห็นหนังหุ้มกระดูก ถึงแม้ว่าเธอจะคลั่งผอมแค่ไหนตอนสมัยที่เป็นวัยรุ่น แต่ชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมาเจอกับ Jonathan สามีของเธอ เป็นจุดเริ่มต้นที่เธออยากจะสร้างครอบครัว แต่ด้วยโรคคลั่งผอมของเธอ ส่งผลให้ร่างกายเธอผอมเกินไป ร่างกายไม่แข็งแรงพอที่จะมีบุตรได้ เคยมีคนบอกกับเธอว่าด้วยร่างกายแบบนี้เธอไม่มีวันจะตั้งท้องได้หรอก เธอจึงตระหนักได้ว่าถ้าอยากจะมีลูกเธอต้องเอาชนะโรคที่เธอเป็นอยู่ให้ได้ เธอจึงเริ่มการบำบัดโรคคลั่งผอมของเธอ โดยได้รับความร่วมมือจากสามีของเธอเป็นอย่างดี ด้วยพลังแห่งความรักจากสามีและครอบครัวที่เข้ามาดูแลเธอเรื่องของอาหารจนกระทั่งเธอเริ่มแข็งแรงขึ้น และข่าวดีของเธอก็เข้ามา เธอตั้งครรภ์ลูกคนแรก และมันก็เป็นอีกหนึ่งพลังที่ทำให้เธอฮึดสู้ขึ้นไปอีก พยายามที่จะบำรุงร่างกายของตัวเองให้แข็งแรง เธออ้างว่าเธอมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้เป็นเพราะน้ำมันกัญชา ในที่สุดเธอก็เป็นคุณแม่อย่างสมใจอยากด้วยการคลอดลูกคนแรกชื่อว่า India-Rose…
-
พ่อแม่ขอแอบเม้าท์ 25 เหตุผลแปลกๆ ที่ลูกร้องไห้ แบบว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจวัยรุ่นเล๊ยยย
ในการเลี้ยงลูกสักคนให้เติบโตขึ้นได้ พ่อแม่หลายๆ คนคงจะรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่ยากลำบากแค่ไหนกว่าที่จะคอยสอนสิ่งต่างๆ ให้กับพวกเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตบนโลกใบนี้ได้ แต่ทว่าบางทีการสอนลูกมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ในเมื่อเด็กนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการและความไร้เดียงสามากเกินกว่าที่คนเป็นพ่อเป็นแม่จะเข้าใจ ด้วยตรรกะแบบเด็กๆ กับความคิดของผู้ใหญ่ไม่ตรงกันจึงเกิดอาการแบบว่า ขัดใจ จนทำให้ฝ่ายเด็กน้อยนั้นต้องเสียน้ำตาไปตามระเบียบ และนี่เป็น 25 เหตุผลแบบแปลกๆ ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่แอบเอามาแชร์ผ่าน #ReasonsMyKidIsCrying เหตุผลที่ลูกของฉันร้องไห้ 1. เมื่อพ่อแม่เอาเค้กวันเกิดมาให้ มันซึ้งขนาดนั้นเลยเหรอลูก 2. เด็กชาย Cohen ร้องไห้เกือบ 20 นาทีเพราะตอนแรกเขาอยากได้รถบัสสีชมพู แต่ 2 นาทีต่อมากลับบอกว่า “ป๋มไม่ชอบสีชมพูง่าาาา” 3. เจ้าหนูคนนี้ร้องไห้เพราะเค้กผลไม้ของเขานั้นหายไป ก็หนูกินไปแล้วมันก็หมดสิลูก 4. แม่แค่ชิมขนมนิดเดียว ร้องไห้ซะบ้านแตกเลย 5. ทำไมแม่ไม่ให้ดื่มซอสเผ็ดก่อนนอน ทำไมมมมม 6. เมื่อแม่ห้ามไม่ให้เจ้าหนูคนนี้เคี้ยวผ้าอนามัยที่แอบเจอในกระเป๋า 7. “พ่อที่ดีที่สุดในโลก” ไม่ให้หนูกินรีโมท 8. แค่ไม่ให้จุ่มแปรงสีฟันในแก้วไวน์เองค่ะลูก ใจเย็นนะ …
-
โมเม้นต์ประทับใจ ทหารดำน้ำโผล่เซอร์ไพรส์ลูกเมีย หลังจากที่ไม่ได้กลับบ้านมานาน
มีหลายอาชีพที่คำว่า ‘หน้าที่’ ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง จึงมีความจำเป็นต้องเสียสละเวลาส่วนตัวและความสุขสบายในชีวิตเพื่อทำหน้าที่ที่ตัวเองได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุด อย่างเช่นอาชีพที่ #เหมียวบู้บี้ จะมากล่าวถึงในวันนี้ นั่นก็คืออาชีพ ทหาร ที่มีความจำเป็นต้องออกไปทำหน้าที่เพื่อรับใช้ชาติ คลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ไปเมื่อ 5 ปี ที่แล้ว แต่ความประทับใจที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นก็ยังคงตราตรึงอยู่กับเจ้าของเรื่องราวตลอดไป ปี 2013 กัปตัน Hyrum Bronson แพทย์ประจำกองทัพสหรัฐอเมริกาต้องจากบ้านและครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาเพื่อไปประจำการที่อัฟกานิสถานเป็นระยะเวลา 6 เดือน กัปตันจึงต้องยกหน้าที่การดูแลลูกๆ ทั้ง 4 คนให้กับ Bethany ภรรยาของเขา รอจนกว่าวันที่เขาจะกลับมาสู่ครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาอีกครั้ง ภรรยาของเขาได้พาลูกๆ ไปเที่ยวที่เกาะโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่นเพื่อเป็นการผ่อนคลาย พักร้อน แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าคุณพ่อได้อยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาบนท้องทะเลสีครามนี้ เพื่อนของกัปตันได้แอบวางแผนกันอย่างเนียนๆ ในการเซอร์ไพรส์ครั้งนี้ เพื่อนได้ทำทีเป็นถ่ายวิดีโอถามความคิดเห็นของลูกๆ กัปตันแล้วบอกว่าจะส่งให้เขาดูทางเฟซบุ๊ก “หนูจะบอกกับพ่อว่าอะไรคะ ถ้าเกิดว่าพ่อของหนูอยู่ที่นี่ตอนนี้” “หนูจะบอกพ่อว่าหนูจะรักพ่อตลอดไปค่ะ” Charity ลูกสาวตัวน้อยกล่าว จากนั้นก็หันกล้องไปยัง Bethany ที่กำลังดูลูกว่ายน้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมกับถามคำถามเดียวกัน ถ้าเกิดว่าสามีอยู่ที่นี่ จะบอกอะไรกับเขา “รักคุณ คิดถึงคุณนะคะ”…
-
ลูกสาวถูกฆาตกรรม คนร้ายยังลอยนวล พบพิรุธของพ่อเพียงครั้งเดียว ปิดฉากคดีเกือบ 10 ปี…
เรื่องราวอันน่าสลดใจภายในสถาบันครอบครัวที่ได้ชื่อว่าน่าไว้ใจมากที่สุด และควรจะเป็นที่ที่มอบความรักและความอบอุ่น กลับกลายมาเป็นนรกภายในจิตใจของผู้เป็นลูก… คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญของ Shafilea Iftikhar Ahmed วัย 17 ปี ชาวปากีสถาน อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ เธอหายตัวไปจากบ้านเมื่อเดือนกันยายนปี 2003 และถูกพบเป็นร่างไร้วิญญาณอยู่ริมแม่น้ำ Kent มณฑล Cumbria ในปี 2004 Shafilea Iftikhar Ahmed หายตัวไปเมื่อปี 2003 และถูกพบอีกครั้งในปี 2004 ในสภาพร่างไร้วิญญาณ โดยเบื้องลึกแล้วเธอเริ่มถูกกดขี่จากพ่อแม่ในช่วงที่ก่อนจะหายตัวไป จนกระทั่งเป็นเวลานานร่วมสัปดาห์ คุณครูที่โรงเรียนจึงทำการแจ้งตำรวจ ถึงขั้นสื่อใหญ่ช่วยกันปลุกระดมให้ผู้คนช่วยกันออกตามหาเธอทั่วทั้งประเทศ ภาพของเจ้าหน้าที่กำลังทำการชันสูตรศพที่พบข้างแม่น้ำ Kent ในเดือนกุมภาพันธ์ 2004 ศพของเธอถูกพบอยู่ริมแม่น้ำ Kent ในมณฑล Cumbria ห่างจากเมือง Warrington ที่บ้านของเธอตั้งอยู่ 110 กิโลเมตร ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการชันสูตรศพและพบว่าเป็นการจงใจซ่อนศพ สร้อยคอและแหวนเพชรที่หลงเหลืออยู่ถูกระบุถึงตัวผู้เป็นพ่อเป็นแม่ แต่เนื่องจากสภาพศพที่แทบไม่หลงเหลือแล้ว จึงไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ …
-
สาวจำต้องออกเรือนไปศึกษาต่อ ทิ้งโน๊ตไว้ให้แม่เพื่ออำลา น้ำตานองหน้าโหยหาลูก…
ความรู้สึกของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ในช่วงที่รู้ว่าลูกจะต้องออกไปเผชิญโลกกว้างด้วยตัวเอง จากที่เคยเห็นหน้ากันอยู่ทุกวี่ทุกวัน แล้วเมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งต้องห่างไกลกันเป็นระยะเวลานาน ก็คงจะรู้สึกใจหายไม่ใช่น้อย… อย่างในกรณีที่ลูกจะต้องออกไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัย หากนักศึกษาคนใดที่บ้านอยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยก็จะเป็นที่จะต้องอาศัยหอพัก เพื่อย่นระยะเวลาในการเดินทางไปเรียน อย่างเช่นเรื่องราวน่ารักๆ ของ Victoria Nguyen นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส ได้แชร์รูปภาพคุณแม่ของเธอเอง พร้อมกับโน๊ตที่เธอทิ้งไว้ให้เธอ เพื่อเป็นการบอกลาว่านกน้อยจะออกจากรังเพื่อไปร่ำเรียนแล้วนะ… ทวีตของเธอกล่าวไว้ว่า “ฉันมักจะกลับไปเยี่ยมที่บ้านเป็นประจำอยู่แล้ว ฉันทิ้งโน๊ตไว้ให้คุณแม่ได้อ่านแล้วสิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้น” ‘แม่จ๋า หนูรักแม่นะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง หนูคิดถึงแม่นะ’ คุณแม่ถึงกับนำโน๊ตมาแปะบนหน้าผากตัวเองเลย จากนั้นเธอก็ได้แชร์ข้อความจากคุณแม่ที่ส่งมา ด้วยความหวังที่ว่าภาพของเธอนั้นจะเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกคนอื่นๆ เป็นเด็กดีขึ้นมาบ้าง และได้รู้ความจริงภายหลังว่า คุณแม่ต้องทานข้าวเพียงลำพังหลังจากที่เธอไม่อยู่ และแน่นอนว่าชาวเน็ตที่ได้มาเห็นทวีตดังกล่าว ต่างก็รู้สึกไปในทางเดียวกัน บางคนถึงร้องไห้กับความรักที่คุณแม่มีให้ต่อลูกสาวคนนี้ ชีวิตที่ต้องห่างจากครอบครัว หมั่นรักษาเอาไว้ให้ดีน้า รักคุณพ่อคุณแม่เยอะๆ ที่มา : @HELLOHUE, nextshark
-
ครอบครัวเพิ่งมารู้ตัวว่า ‘ลูกชาย’ ที่เลี้ยงมาตลอด 38 ปี ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของตัวเอง!?
ย้อนกลับไปในปี 1980 คุณ Radigena และ Geraldo Gaspar สองสามีภรรยาเดินทางกลับบ้านจากโรงพยาบาลพร้อมกับลูกชายที่เพิ่งให้กำเนิดมาชื่อว่า Romualdo อย่างไรก็ตามวันเวลาผ่านไป เขาค่อยๆ เติบโตขึ้นมาและพบว่าหน้าตาของเขาไม่เหมือนใครในครอบครัวเลยแม้แต่น้อย นาย Romualdo จึงตัดสินใจไปตรวจ DNA และพบว่าเขาไม่ใช่ลูกของพ่อแม่ที่เลี้ยงมาตลอดทั้งชีวิต หลังจากที่ผลออกมาแล้ว ทุกคนในครอบครัวก็มาปรึกษากันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พวกเขาเดินทางไปขอดูบันทึกเหตุการณ์ในโรงพยาบาล Monsenhor Genesio ที่เมือง Juruaia และพบว่าในวันเกิดเหตุมีเด็กผู้ชายสองคนเกิดในเวลาไล่เลี่ยกัน เด็กชายคนหนึ่งคือคนที่ครอบครัว Gaspar พากลับไปที่บ้าน ส่วนอีกคนหนึ่งถูกตั้งชื่อว่า Noel ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นลูกชายของพวกเขา แต่น่าเศร้านักเพราะในบันทึกระบุเอาไว้ว่าเด็กชาย Noel นั้นเสียชีวิตลงหลังจากนั้น 1 ปี ขณะเดียวกัน Romualdo เองก็ไม่รู้มาก่อนว่าตนเองนั้นมีน้องสาวแท้ๆ อยู่ ซึ่งก็คือ Nelma Rezende พอได้ทราบข่าว เธอก็ร่วมมือกับสามีของเธอออกตามหาพี่ชาย พวกเขาตรวจ DNA กันอีกครั้งและพบว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของนาย Romualdo ก็คือพ่อแม่ของ Nelma…
-
คุณแม่มือใหม่ บอกเล่าความสุขในการ ‘ใช้ชีวิตร่วมกับลูกน้อย’ ผ่านลายเส้นสุดน่ารัก
ชีวิตของการเป็นแม่ หลายๆ คนก็คงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่ถึงอย่างไรในความยากลำบากนั้นก็ยังคงมีความสุขไม่น้อยเลยล่ะ เช่นเดียวกันกับคุณแม่มือใหม่ Kara Western ท่านนี้ ที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอ กับการมีเจ้าหนู James ตัวน้อยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แม้ในทุกๆ วันมันจะยากลำบาก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงยิ้มได้ และนี่คือเรื่องราวแห่งความสุขที่เธอจะมาเล่าผ่านลายเส้นปากกาสุดน่ารัก 1. เมื่อตอนเกิดใหม่ๆ ตัวเล็กอุ้มง่าย แต่ผ่านไปแค่ปีเดียวตัวโตขึ้นเยอะเลย 2. เหตุการณ์ในช่วงวันหยุด 3. เวลาดูทีวีกับลูกแล้วมีฉากวาบหวิว ก็ต้องปิดตาลูกทุกครั้ง 4. การวาดภาพของเด็ก 2 ขวบ เป็นอะไรที่แบบว่า ‘อย่ามาแตะตัวฉันด้วยปากกานั่นนะ’ 5. เวลาจะนั่งเล่นโทรศัพท์ทีไร James จะยื่นของเล่นมาให้และชวนให้ไปเล่นด้วยกัน 6. ครั้งล่าสุดที่ไปหาหมอแล้วต้องฉีดวัคซีน 7. เขามักจะช่วยเหลือตลอดเวลา (เหรอ!?) 8. การหลับอย่างสบายกายสบายใจจะถูกรบกวนโดยการนอนดิ้นของเขา 9. เมื่อลูกของคุณอยู่ในช่วงฟันกำลังขึ้น เป็นช่วงที่คุณจะได้นอนน้อยมากเลยล่ะ …
-
[ป๊ะป๋าแห่งแอสการ์ด] รวม 25 โมเมนต์น่ารักๆ ของ Chris Hemsworth กับครอบครัว
แม้ในทีม Avengers จะมีนักแสดงหนุ่มหล่ออยู่หลายคน แต่ถ้าพูดถึงความหลัว ความอบอุ่น ความเป็นสามีแห่งจักรวาลล่ะก็ คงต้องยกตำแหน่งนี้ให้กับพี่ Chris Hemsworth เค้าล่ะ ที่ต้องยกให้พ่อหนุ่มชาวออสซี่วัย 35 ปีคนนี้ก็เพราะว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่แต่งงานตั้งแต่ยังหนุ่ม ตอนที่เขาแต่งงานกับภรรยาสาว Elsa Pataky เขามีอายุเพียง 27 ปี ปัจจุบันเขามีลูกสาว 1 คน และลูกชายฝาแฝด รวมเป็น 3 คน แอบถ่ายภรรยาตอนทีเผลอ หากใครได้ติดตามหนุ่ม Hemsworth ผ่านทาง IG (@chrishemsworth) เป็นประจำแล้วล่ะก็ คุณจะเห็นได้ว่าเขาเป็นคนขี้เล่นและเป็นคุณพ่อที่น่ารักคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะในนั้นกว่า 50% คุณจะได้เห็นภาพของเขาขณะอุ้มลูกๆ ไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ หรือจะเป็นภาพในบ้านพวกเขาก็เล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งความอบอุ่นเหล่านั้นก็แผ่ซ่านมายังเราๆ ที่ดูผ่านหน้าจอด้วย . คุณพ่อที่น่ารักต้องถอดเสื้อโชว์กล้าม . อยู่กับลูกๆ ก็ออกแนวตลกโปฮาไปเลย It’s a true art and an…
-
20 ภาพกิจกรรมครอบครัวสุดพิลึก นี่มันครอบครัวฮาร์ดคอร์ ต้องเก๋าแค่ไหนกัน!?
ใครต่อใครต่างก็อยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น พร้อมหน้าพร้อมตากันทุกคน แต่ถ้าจะให้ดียิ่งกว่านั้น สมาชิกในครอบครัวก็ควรจะมีความสามัคคีกันด้วย ถึงแม้ว่าการอยู่ร่วมกันของคนหลายๆ คนอาจจะต้องมีผิดใจกันบ้าง แต่ยังไงก็ไม่สามารถแยกจากกันได้หรอก เหมือนลิ้นกับฟันนั่นแหละ แต่ละครอบครัวก็ย่อมมีวิถีการดำรงชีวิตแตกต่างกันไป ถ้าคุณคิดว่า ครอบครัวของคุณชอบทำอะไรแปลกๆ ล่ะก็ ลองมาดูครอบครัวเหล่านี้ดูสิ เมื่อพี่ชายอยากจะเปิดศึกด้วยการแย่งกินไอศกรีมรสช็อกโกแลตจนหมด ได้!!!! วิธีการที่จะทำให้เจ้าน้องชายมันอยู่ใต้การควบคุมและสามารถออกกำลังกายได้ในเวลาเดียวกัน หึหึ นี่เจ้าหนู เข้าไปอยู่ในนั้นได้อย่างไร ทางพี่ๆ ก็เล่นกันสนุกเลย พวกเราสร้างหอคอยให้น้องเล่นเองค่ะแม่ ไม่มีอะไรจริงๆ เป็นการแกล้งพี่สาวที่รุนแรงมาก การแกล้งกันในครอบครัว ไม่ได้มีเพียงแค่มนุษย์เท่านั้น น้องหมาก็เอาด้วย อย่าถามเลยว่าแม่จะตีไหม ถามว่าจะโดนกี่ทีดีกว่า ของขวัญจากน้องชายวัย 12 ขวบ โอเค ขอบคุณ เมื่อคุณกับพี่แค่กะจะแกล้งตีกันเบาๆ แต่อีกฝ่ายเล่นแรงขึ้นเรื่อยๆ เป็นกิจกรรมครอบครัวที่ดูแล้วไม่ค่อยจะปลอดภัยเท่าไหร่เลย เมื่อพี่สาวให้ของขวัญน้องชายเป็นเงินในวันคริสต์มาส แต่เงินทั้งหมดถูกใส่ไว้ในเยลลี่ น้องสาวแกล้งด้วยการตัดขนแปรงสีฟันจนสั้นกุด แล้วจะใช้อย่างไรล่ะเนี่ย พี่ชายส่งรุปนี้มาแล้วบอกว่า…
-
ครอบครัว Tim Bergling ‘Avicii’ เผยสาเหตุการเสียชีวิต เพราะเขาไม่อาจแบกรับได้อีกต่อไปแล้ว…
เรื่องราวน่าเศร้ากับการจากไปของดีเจชื่อดังระดับโลก Avicii หรือ Tim Bergling ดีเจชาวสวีเดนวัย 28 ปี ที่ถูกพบเป็นร่างไร้วิญญาณในระหว่างทริปพักผ่อนของเขาในเมืองมัสกัต ประเทศโอมาน เมื่อช่วงวันศุกร์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา Avicii ได้ประกาศหยุดทัวร์คอนเสิร์ตในปี 2016 เนื่องจากประสบกับปัญหาสุขภาพร่างกายเรื้อรัง อีกทั้งยังมีสัญญานความปวดร้าวภายในจิตใจเกิดขึ้นด้วย Avicii หรือ Tim Bergling ดีเจชื่อดังชาวสวีเดน เสียชีวิตในวัย 28 ปี อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลกเพียงชั่วข้ามคืน ทางสำนักข่าวและสื่อทางด้านบันเทิงต่างคาดเดาไปถึงกรณีทางด้านอาชญากรรม การลอบสังหาร และการฆ่าตัวตาย ในวันที่ 26 เมษายน 2018 ทางด้านครอบครัวของ Tim Bergling ได้ร่อนจดหมายเปิดผนึกแก่สาธารณะ โดยที่โฆษกไม่ได้ยืนยันว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่ โดยมีใจความดังต่อไปนี้… ภาพของ Avicii พร้อมคุณแม่ Anki Liden และคุณพ่อ Klas Bergling ระหว่างออกทัวร์ครั้งสุดท้ายในสวีเดน ‘ทิมผู้เป็นที่รักของเรานั้น คือผู้แสวงหา ศิลปินผู้มีจิตวิญญาณอันบอบบาง…
-
10 ชาวเน็ตร่วมแชร์ 10 ประสบการณ์แปลกๆ ในครอบครัวตอนเป็นเด็ก โตมาก็ได้แต่สงสัย!?
เคยคิดบ้างไหมว่าบางครั้งคนเราก็มีเรื่องแปลกๆ ที่ทำลงไปโดยไม่รู้ตัวอยู่เสมอๆ ไม่รู้ตัวในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าทำลงไปโดยสัญชาตญาณ แต่เป็นการไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่เราทำนั้นมันแปลกต่างหาก โดยเฉพาะสิ่งที่เราทำในวัยเด็กแล้วด้วย อย่างไรก็ตามคนเรานั้น เมื่อโตขึ้นก็จะเริ่มรู้สึกถึงความแปลกของเรื่องที่เราคิดมาตลอดในสักวันหนึ่ง… ใช่แล้ว เหมือนกับคนเหล่านี้นั่นเอง 1. จะบอกว่าแอบหลอนนะเนี่ย ตอนที่ผมกับพี่รู้ความจริงว่าซานต้าไม่มีอยู่จริง หลังจากวันนั้นของขวัญคริสต์มาสของพวกเราก็มาจากสัตว์เลี้ยงบ้าง สัตว์เลี้ยงที่ตายไปแล้วบ้าง แถมไปๆ มาๆ ในคริสต์มาสปีหนึ่งก็มีของขวัญส่งมาจาก วิญญาณของอียอเฉยเลย สงสัยพ่อแม่จะคิดอะไรไม่ออกแล้ว 2. ชอบแสบๆ คาวๆ ก็บอกกันดีๆ ไม่รู้เป็นไงตอนเด็กเวลากินข้าวเสร็จจะชอบแอบเอาน้ำปลา, น้ำตาลทราย..แล้วก็พริกป่น เทใส่ถุงเล็กๆ มัดติดกันแล้วเอาไปไว้ใต้ที่นอนแล้วก็นอนทับ พอเวลานอนทับทุกวันถุงน้ำปลาก็แตก กลิ่นน้ำปลาก็เลยฟุ้งทั่วห้องนอน โดนตาจับได้ก็เลยโดนตีจนขาลาย แต่..ก็ไม่เข็ดพอตาเผลอก็ทำแบบเดิมอีก โดนจับได้ก็โดนตีอีก เคยคิดอยู่เหมือนกันว่า..ตอนนั้นทำไมต้องทำแบบนั้น ทำไปแล้วมันได้อะไรขึ้นมา..หาคำตอบให้กับตัวเองไม่เจอ หรือว่า…จะเป็นโรคจิต? 3. ถ้าเครื่องมันเสียไปนานแล้วก็พอจะเข้าใจอยู่นะ ที่บ้านของผมใช้เครื่องล้างจานเป็นที่เก็บของ ที่เก็บของที่ว่านี่ไม่ใช่จาน ชาม หรือว่าถ้วยนะ แต่เป็นข้าวของเครื่องใช้อะไรต่ออะไรมั่วๆ ซั่วๆ เต็มไปหมด ต่างหาก 4. จะว่าไปทำไมเด็กๆ ชอบกินยางลบกันจัง ตอนอยู่อนุบาล นั่งแทะยางลบกับเพื่อน แต่มันไม่หมดซะทีเลยยัดใส่หู…
-
ชายหนุ่มลงมือปลูกต้นไม้ในสวนทั้งที่ทำไม่เป็น เพราะสัญญากับภรรยาไว้ก่อนเธอจะเสียชีวิต
ผู้คนมักจะเปรียบเปรยความรักเป็นเหมือนกับการปลูกต้นไม้ ที่ต้องพรวนดิน นำต้นไม้มาลง และคอยรดน้ำให้มันเจริญงอกงาม ซึ่งมันคงจะเป็นกิจกรรมที่อบอุ่นหากเราได้ทำมันกับคนที่เรารัก แต่บางคนก็ไม่มีโอกาสได้ทำมัน… นี่เป็นเรื่องราวของคู่รักชาวเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาคบหาดูใจกันมานานกว่า 7 ปี เมื่อดอกไม้แห่งความรักเบ่งบาน พวกเขาก็วางแผนว่าจะปลูกต้นไม้ในสวนหน้าบ้านด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่ภรรยาของเขาเกิดประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียก่อน การที่ต้องสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รักไปทำให้ชายหนุ่มเสียใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็เลือกที่จะลุกขึ้นแล้วออกไปเติมเต็มความฝันสุดท้ายของเขาและภรรยา นั่นก็คือการปลูกต้นไม้ในสวนหน้าบ้าน แม้ว่าเขาจะไม่มีความรู้เรื่องการปลูกต้นไม้เลยก็ตาม เมื่อต้องทำในเรื่องที่เขาเองไม่มีความรู้เลย เขาจึงต้องพึ่งพา Google ทำให้รู้ว่าการปลูกอะไรสักอย่างมันไม่ง่ายเลย ชายหนุ่มเริ่มเตรียมสนามหญ้าหน้าบ้านสำหรับการปลูกดอกไม้ครั้งแรกของเขา ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง แต่ทุกๆ อย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง เมื่อเขาได้ไปพบกับคนทำสวนและคนจัดสวน 2-3 คน ที่ให้คำแนะนำเรื่องการทำสวน การพรวนดิน หลังจากนั้นสวนของเขาก็เริ่มผลิบานให้เห็น เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของความฝันที่ภรรยาของเขาวาดเอาไว้ มีคนเดินผ่านไปผ่านมาหน้าบ้านของเขาอยู่หลายคน บางคนเดินผ่าน บางคนหยุดดู แต่มีชายแปลกหน้าอยู่คนนึงหยุดดูและเดินเข้าไปทักทายเขาถึงในบ้าน ก่อนจะหยิบยื่นเอาต้นไม้ให้เขาเอาไปปลูกต่อ เมื่อพูดคุยกันจึงพบว่าชายแปลกหน้าคนนั้นเองเพิ่งจะสูญเสียลูกชายที่มีตำแหน่งเป็นถึงผู้อำนวยการสวนพฤกษศาสตร์ เพื่อเป็นการทำจิตใจให้สงบและไม่จมอยู่กับความเศร้า เขาเลยนำเอาต้นไม้และพืชผักในเรือนกระจกของเขาไปแจกจ่ายให้คนอื่นๆ ดูแลต่อ การลองผิดลองถูกของเขา ทำให้ได้รับบทเรียน และฝีมือที่เพิ่มมากขึ้น จากจุดนั้น ทำให้เกิดเป็นมิตรภาพระหว่างชายหนุ่ม 2…
-
20 ภาพที่จะบ่งบอกว่านังตัวดี มาเฟียขาใหญ่ประจำบ้าน มันไม่ใช่ใครที่ไหนไกลเลย
บ้านหนึ่งหลัง ครอบครัวหนึ่งครอบครัว ประกอบด้วยสมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป หลายๆ ครอบครัวอาจจะเลือกที่จะเพิ่มจำนวนสมาชิกในครอบครัว ให้มีเพิ่มมา อาจจะเป็นน้องหมา น้องแมว หรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เพื่อเพิ่มสีสันในบ้าน นานวันไป จากสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักที่เรารับมาเลี้ยง นับว่ามันก็เริ่มจะพัฒนากลายร่างขึ้นมาเป็นผู้ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านซะงั้น ไม่รู้ว่าบ้านไหนจะเป็นเหมือนกันไหมนะ ที่มีบางสิ่งคอยควบคุมอยู่เงียบๆ และเราไม่สามารถจะจัดการกับมันได้เลย 1. ระรานสมาชิกทุกคนและทุกตัวในบ้าน ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครใหญ่ที่สุดในบ้านหลังนี้ 2. กับคนผู้เป็นเจ้านายของมันก็ไม่เว้น นังตัวดีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต 3. สมบัติของใครแล้วไง ถ้าพอใจจะเอาล่ะก็ ยังไงก็ต้องเป็นของข้าเท่านั้น 4. ให้ภาพมันอธิบายเถอะว่าใครคือมาเฟียคุมบ้านหลังนี้ 5. จะอ่านหนังสือหรอ ฝันไปเถอะ ดมตูดไปซะนังมนุษย์ 6. รักชีวิตอย่าคิดมาเจ๋อกับเพ่!! 7. ไม่มีความปรานีใดๆ ทั้งสิ้นไม่ว่าใคร 8. ถ้าจับอาบน้ำอีกที รับรองว่ากางเกงของมนุษย์จะไม่เปียกแค่ฉี่แน่นอน 9. นี่แหละ ที่มาของคำว่าแมวขโมยของจริง …
-
อบอุ่นหัวใจ….ลูกกตัญญูพาแม่วัย 92 ปี ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ไปทำงานด้วยทุกวันไม่ยอมห่าง
เรื่องราวของชายผู้ทำอาชีพเป็นพนักงานส่งของวัย 52 ปี ในประเทศจีน ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้คนจำนวนมาก ด้วยการพาคุณแม่ของตัวเองที่มีอายุ 92 ปี และป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ไปทำงานด้วยในทุกๆ วัน Cai Yujun ชายผู้ทำหน้าที่เป็นพนักงานส่งของ เขามักจะพาคุณแม่ของตัวเองก็คือคุณยาย Yang Suxiu ไปทำงานด้วย ตามรายงานของเว็บไซต์ CGTN ระบุว่าเธอป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ตั้งแต่เมื่อ 7 ปีก่อน แทนที่จะทิ้งแม้ที่ป่วยหลงๆ ลืมๆ เอาไว้ที่บ้าน ด้วยความเป็นห่วงเขาจึงพาคุณแม่ไปทำงานด้วยทุกๆ วัน ด้วยการทำเบาะหลังจักรยานให้นั่งสบายขึ้น พร้อมกับใช้เชือกมัดติดกับตัวเอาไว้เพื่อความปลอดภัย “แม่ของผมทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อครอบครัว และนี่คือความรับผิดชอบของผมที่ต้องดูแลเธอ แม้ว่ามันจะยากลำบากสักแค่ไหนก็ตาม” Cai ย้ายมาอาศัยอยู่ที่เมืองเฉิงตูพร้อมกับครอบครัว และภรรยา เมื่อราวๆ 20 ปีก่อน ทั้งสองคนได้งานเป็นพนักงานขนส่งที่ร้านคอมพิวเตอร์เล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นคุณแม่ของเขายังไม่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ “ตอนนั้นคุณแม่ยังไม่ป่วยเป็นอะไร เธอก็จะอยู่ที่บ้านคอยดูแลความเรียบร้อย ว่างๆ ก็จะออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้านเพื่อแก้เบื่อ” แต่แล้วทุกสิ่งก็เริ่มเปลี่ยนไป อาการของโรคอัลไซเมอร์เริ่มมาเยือนคุณยาย Yang เธอเริ่มมีความจำเลอะเลือน แถมยังสูญเสียความสามารถในการดูแลตนเอง…
-
เปิดเรื่องเล่าลับๆ ของคนในบ้านกับ 10 ความลับของครอบครัวที่เคยถูกปิดไว้ไม่ให้ใครรู้
ว่ากันว่าทุกๆ ครอบครัวจะมีความลับกันครอบครัวล่ะข้อสองข้อ เพราะไม่ว่าใครก็คงมีเรื่องที่ไม่อยากเล่าให้ใครฟังเหมือนๆ กัน แต่ก็มีคำพูดที่ว่าความลับนั้นไม่มีอยู่ในโลกเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะเรื่องอะไร มันก็ต้องมีคนที่รู้ความจริงของเรื่องนั้นๆ อยู่สักคนนั่นล่ะ แถมความลับน่ะ เป็นสิ่งที่ยิ่งอยากจะปกปิดแค่นั้น มันก็ยิ่งคันปากอยากพูดเสียด้วยสิ ในวันนี้เองความลับของครอบครัวก็กำลังจะถูกเปิดเผยออกมาอีก 10 เรื่อง แต่จะเป็นเรื่องอะไรบ้างนั้น คงจะต้องให้ไปชมกันเอง ข้างล่างนี้ แผนลับเพื่อบ้านเล็ก โดย avcmurray ตอนที่คุณลุงของฉันเสียชีวิตไป พวกเราก็รู้ว่าจริงๆ แล้วเขาได้แอบซ่อนภรรยาลับไว้หนึ่งคน น่าแปลกที่ทั้งฝั่งของภรรยาลับ และฝั่งของพวกเราไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย แถมคุณลุงยังมีบ้านอีกหลัง (หลังที่อยู่กับภรรยาลับนั่นล่ะ) ที่หน้าตาเหมือนกับบ้านของเราเปี๊ยบ ทั้งข้าวของเครื่องใช้และการจัดวาง ราวกับว่าเป็นบ้านที่อยู่ในกระจกเลย ไม่แน่นะว่านั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ไม่มีใครรู้เลยว่าคุณลุงแอบนอกใจก็ได้ ความรักต้องห้าม โดย jessicaw456d24aec คุณยายของสามีของฉันเป็นชาวยิวซึ่งใช้ชีวิตวัยรุ่นอยู่ที่เยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เธอถูกส่งไปที่ค่ายกักกันแต่โชคดีที่มียามนาซีคนหนึ่งหลงรักเธอเข้า เขาแอบเอาอาหารและเสื้อผ้ามาให้เธอเป็นพิเศษ แถมยังคอยปกป้องไม่ให้เธอตายไปเสียก่อนอีกด้วย เมื่อสงครามจบลงเธอได้เดินทางมาที่อเมริกาและเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ เธอบอกเรื่องนี้กลับครอบครัวในวันสุดท้ายของชีวิต และจากไปโดยที่พวกเราไม่ได้รู้เลยว่ายามชาวนาซีคนนั้นเป็นอย่างไรต่อไป เรื่องสั้นๆ แต่บ้าคลั่งกว่าที่คิด โดย erinl4ae5a3000 ป้าของฉันวางยาพิษยายของฉันเพื่อมรดกของเธอ ทุกคนในครอบครัวของฉันรู้เรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้พูดถึงมัน สาเหตุการตาย โดย emilyw42929c600 พี่ชายของปู่ของผมตายเพราะโดนรถไฟชนในช่วงยุค 60 ผมมารู้เอาเมื่อไม่นานมานี้ว่าเหตุผลที่เขาตายนั้นเกิดขึ้นเพราะเขานอกใจไปจู๋จี๋กับสาวคนอื่นอยู่ในรถที่จอดอยู่ที่ทางรถไฟ…
-
พ่อมีความสัมพันธ์กับลูกสาวจนตั้งท้อง ตัดสินใจฆ่าลูกชาย ลูกสาว แล้วฆ่าตัวตายตาม
สืบเนื่องจากเรื่องที่คุณพ่อ Steven Pladl วัย 42 ปี มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ Katie Fusco วัย 20 ปี ลูกสาวในไส้ของตัวเองที่พลัดพรากจากกันไปจนเธอท้อง ทำให้ทั้งคู่ถูกจับในข้อหาร่วมประเวณีกันในครอบครัวตัวเอง (Incest) ต่อมานาย Steven จะถูกประกันตัวออกมาในภายหลังด้วยวงเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 31 ล้านบาท โดยมีข้อแม้ว่าต้องเลิกติดต่อกับ Katie โดยเด็ดขาด และให้ส่ง Bennett ลูกชายวัย 7 เดือนที่เกิดมาจากเธอไปให้แม่ของ Steven เลี้ยงดู (อ่านข่าวเก่าได้ ที่นี่) สำนักข่าว BBC รายงานว่านาย Steven Pladl ได้ลงมือฆ่า Katie และพ่อบุญธรรมของเธอ ก่อนที่จะฆ่าลูกชายที่เกิดจาก Katie ในภายหลัง สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวเมืองเป็นอย่างมาก เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านแม่แท้ๆ ของนาย Steven Pladl โดยเธอเป็นฝ่ายโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐนอร์ธแคโรไลนาด้วยตัวเอง เธอบอกว่านาย Steven โทรมาสารภาพกับเธอว่าเขาได้ลงมือฆ่า Katie Pladl และ Anthony Fusco วัย…
-
หลานสาวปลื้มใจ… ยายตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษ 5 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อที่จะคุยกับหลานตัวเอง
อุปสรรคทางด้านภาษานั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลายๆ คน แต่ทว่าถ้าหากเราลองเปิดใจที่จะเรียนรู้ หมั่นฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเองและคนอื่นด้วยนะ… อย่างเช่นเรื่องราวน่ารักของคุณยายชาวเวียดนามท่านหนึ่ง ที่ถูกเปิดเผยออกมาจากใจหลานสาวให้ชาวเน็ตได้ชื่นชม กับความพยายามเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตัวเองทุกวัน เพื่อจะคุยกับหลานสาวให้ได้ Tracy Vu ได้ทำการทวีตข้อความพร้อมรูปภาพของคุณยายในวันที่ 25 มีนาคม 2018 เธออาศัยอยู่ในเมืองแดลลัส รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ด้วยใจความว่า… “คุณยายของฉันใช้เวลา 4 ถึง 5 ชั่วโมงต่อวันในการเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อที่จะคุยกับฉันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ถ้านี่ไม่ใช่ความรัก ฉันก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วล่ะ” Tracy Vu นั้นมีเชื้อสายเวียดนามก็จริง เธอเติบโตในสหรัฐอเมริกา และพบว่าภาษาเวียดนามนั้นยากเกินไปสำหรับเธอ แม้จะพยายามพูดและเรียนรู้ แต่ก็ยังไม่รู้คำศัพท์และวลีอีกหลายตัว ทางฝั่งคุณยายนั้น กลับจดโน๊ตแทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ วลี และประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาเวียดนาม . แบบว่าจดได้โหดมากๆ ตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง!! เมื่อชาวเน็ตเห็นความน่ารักของคุณยายขนาดนี้ ต่างก็รู้สึกอมยิ้มในความน่ารัก และหลงรักคุณยายเข้าไปแล้ว… …
-
คำตัดสินจากศาล ‘ทำจิตใจบอบช้ำ = ลงมือฆ่า’ เมื่อแฟนหนุ่มบีบบังคับ ให้เธอต้องดับชีวิตลง…
ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวนั้นใกล้ตัวเราเกินกว่าจะรู้สึกได้ ซึ่งกว่าจะรู้ว่ากำลังถูกคุกคามอย่างรุนแรงจนสภาพร่างกายและจิตใจไม่สามารถแบกรับต่อไปได้ไหว มันก็อาจจะสายเกินไปสายแล้ว คดีความตัวอย่างของการทำร้ายจิตใจในรูปแบบทางความสัมพันธ์ ระหว่างอดีตทหารกับหญิงสาวผู้ถูกกระทำ ทั้งทำร้ายร่างกายและบั่นทอนจิตใจผ่านวาจา จนทำให้ฝ่ายหญิงตัดสินใจปลิดชีพตนเอง ซึ่งทำให้ได้รับโทษเทียบเท่ากับการลงมือฆาตกรรม… อดีตทหาร Steven Gane วัย 31 ปี ถูกตัดสินว่ามีความผิดจากพฤติกรรมบีบบังคับหรือควบคุมอีกฝ่าย จากความสนิทสนมทางความสัมพันธ์ ผลการตัดสินของศาล ทำให้ Gane นั้นได้รับโทษจำคุกเป็นระยะเวลา 4 ปี 3 เดือน ในข้อหาเป็นต้นเหตุทำให้นาง Kellie Sutton วัย 30 ปี ทำการฆ่าตัวตาย หลังจากที่ต้องทรมานกับความเจ็บทางร่างกายและจิตใจมาอย่างยาวนาน Steven Gane Philip Grey ผู้พิพากษาได้กล่าวกับเขาว่า “พฤติกรรมของคุณ ชักจูงให้ Kellie Sutton ทำการแขวนคอในเช้าวันนั้น คุณทำร้ายเธอ และทำลายจิตใจของเธอ” Kellie Sutton ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำสำนวนในครั้งนี้มาตั้งเป็นบรรทัดฐานใหม่ เพื่อใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบีบบังคับและควบคุมเหยื่อ…
-
หลานเอา “แมว” ให้ “คุณตา” ที่หงอยเหงา แล้วมันก็เปลี่ยนชีวิตเขาตลอดกาล
เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่แมวตัวเล็กๆ ตัวเดียวสามารถเปลี่ยนชีวิตคนทั้งคนได้ … ช่างภาพ Akiko มีคุณตาที่เธอรักมากคนหนึ่ง เขาก็คือ Jiji หลังจากจบสงครามคุณตาก็ทำงานในบริษัทเอกชนมานานกว่า 64 ปี เขาเป็นคนที่มีนิสัยเป็นมิตรและชอบเข้าสังคมมาก อยู่มาวันหนึ่งเขาก็ล้มป่วยลง ทำให้เขาจำเป็นต้องพักรักษาตัวและไม่ได้ออกไปเจอผู้คนเหมือนเคย เขาเลยดูเศร้าและเซื่องซึมกว่าแต่ก่อน Akiko ก็เลยพาเจ้าเหมียว Kinako มาอยู่เป็นเพื่อนคุณตาเผื่อเขาจะหายเหงาบ้าง แต่มันได้ผลดีกว่าที่เธอคิดไว้มาก เจ้าเหมียวกับคุณตาเข้ากันได้ดี ไม่ว่าคุณตาไปที่ไหนเจ้าเหมียวก็จะตามไปด้วยเสมอ คุณตาเลยหายเหงาและมีความสุขตลอดเวลา เธอในฐานะช่างภาพก็เลยถ่ายรูปช่วงเวลาอันแสนสุขและสวยงามของพวกเขาเก็บไว้ เพื่อแบ่งปันความสุขนี้ต่อให้กับผู้อื่นในรูปแบบของภาพถ่าย ซึ่งก็คือภาพถ่ายต่อไปนี้ Kinako จะอยู่เป็นเพื่อนคุณตา Jiji ตลอดเวลา ถึงแม้คุณตาจะทำงานอดิเรกอยู่ มันก็จะคอยอยู่ข้างๆ ไม่ไปไหน เพราะมันไม่อยากปล่อยให้เขาเหงายังไงล่ะ เติมพลังให้กันหน่อย ฮึบๆ คุณตากับเจ้าเหมียวทำอะไรอยู่น้า อ๋อ…นอนกลางวันด้วยกันอยู่นี่เอง บางที Kinako ก็นวดให้คุณตาด้วย จะได้รู้สึกสบาย คุณตาชอบสะสมหนังสือพิมพ์มากๆ เลย เหมียวก็เลยพลอยชอบดูไปด้วย ดูคุณตาสะสมหนังสือพิมพ์นานเดี๋ยวจะเบื่อ…
-
สองพี่น้องฟ้องกันเอง เพราะอีกฝ่ายชอบสะสมขยะในบ้าน บ่อเกิดเชื้อราและหนูล้นเต็มห้อง!!
การจะต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นนั้น สิ่งแรกที่เราจะต้องคำนึงถึงก็คือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะว่าที่อยู่อาศัยนั้นก็จะกลายมาเป็นพื้นที่ส่วนรวม และจะมีการแบ่งพื้นที่ส่วนตัวระหว่างกันในภายหลัง ทว่าหากการใช้พื้นที่ส่วนตัวมากเกินไป ต่อให้เป็นคนในครอบครัวก็ตาม บางทีมันก็เหลืออดหมดความอดทนแล้ว กล่าวว่าตักเตือนตั้งกี่ครั้งไม่ยอมฟัง มันก็ต้องฟ้องด้วยข้อกฎหมายกันไปเลย!! สภาพภายนอกบ้านยังดูดี สองพี่น้องชาวแมนแฮตตัน ในนครนิวยอร์ก Andrew Lindsay Cohen และพี่ชาย James อาศัยในบ้านหลังเดียวกันหลังจากได้รับเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรษ แต่ทว่าฝ่ายพี่ชายดันอ้างตนเป็นเจ้าของบ้าน โดยที่เข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่ปี 2011 และไม่เคยจ่ายค่าเช่าเลยแม้แค่ครั้งเดียว แต่พอเข้ามาข้างในแล้ว… ฝั่งน้องชาย Andrew แทบจะอยู่ไม่ได้เนื่องจากพี่ชาย นำกองเอกสาร เศษขยะ ของเก่าๆ สารพัดกล่อง และสิ่งของเหม็นเน่าสกปรกเข้ามาทิ้งภายในบ้าน จนไม่สามารถเดินเข้าไปภายในบ้านได้เลย ยิ่งนานวันเชื้อราก็งอกเงยบนพื้นบ้านเต็มไปหมด แทบจะไม่มีที่ยืนกันเลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้ ผลกระทบที่ตามมาก็คือ จากแหล่งที่อยู่อาศัยของคนก็กลายมาเป็นแหล่งพักพิงของหนู อันตรายเกินกว่าที่มนุษย์จะอยู่อาศัยได้แล้ว บอกได้เลยว่าเละ!! น้องชายผู้อมทุกข์จึงตัดสินใจฟ้องพี่ชายตัวเอง ยื่นต่อศาลสูงแมนแฮตตันในวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2018 ด้านพี่ชาย James ก็ยังคงอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของบ้านอยู่…
-
มุมลับน่ารักของคุณแม่ แอบถ่ายภาพ ‘คุณพ่อกุมมือลูกสาว’ โดยที่ทั้งสองไม่เคยรู้เลย…
ความรักสามารถถ่ายทอดและแสดงออกมาได้หลากหลายรูปแบบ แม้ว่าจะเป็นสิ่งเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักในครอบครัว ที่ถึงแม้ว่าในช่วงเวลาหนึ่งที่เราอาจจะยังไม่รู้สึก แต่บางคนอาจจะสัมผัสได้อยู่ตลอดเวลา… ชุดภาพสุดน่ารักน่าเอ็นดูนี้ถูกเผยแพร่โดย MrsIronbad สมาชิกเว็บไซต์ Reddit อันเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ลับเล็กๆ ของเธอ ด้วยการแอบถ่ายภาพลูกสาวตัวน้อย ในช่วงที่อยู่กับคุณพ่อมาตั้งแต่วัยเด็กในปี 2014 ภาพแห่งความประทับใจใบแรก คุณแม่จะเก็บภาพช่วงเวลาที่คุณพ่อกุมมือลูกสาว และเวลาที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ความลับสุดน่ารักนี้ เริ่มขึ้นในปี 2014 . เผยให้เห็นว่าลูกสาวค่อยๆ เติบโต โดยที่ความรักของพ่อไม่เคยลดลง และฝ่ายสามีเองก็เลิกเล่นโซเชียลมีเดียทั้งหมด . และความลับนี้จะยังคงอยู่รอดปลอดภัย… จากคุณสามี . คุณแม่ชาวฟิลิปปินส์ได้สร้างคอลเลคชั่นภาพสุดน่ารักนี้ โดยที่ฝ่ายสามีไม่เคยรับรู้และไม่เคยจับได้ เพราะคุณสามีเลิกเล่นโซเชียลมีเดียแล้ว และความลับของคุณแม่ก็จะถูกเก็บรักษาเอาไว้ จนกว่าจะถึงวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของลูกสาว เพราะคุณแม่มีแผนจะเซอร์ไพรส์ให้กับทั้งสองอยู่… . เธอกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ฉันวางแผนทำวิดีโอคลิปเกี่ยวกับรูปภาพพวกนี้ เพื่อไว้ใช้เปิดในวันเกิดอายุครบ 18 ปีของเธอ หรือไม่ก็เก็บเอาไว้เซอร์ไพรส์ในงานแต่ง” .…
-
ลูกชายรู้ตัวว่าเป็นผู้หญิง จึงเปลี่ยนตัวตนตามใจหวัง และคุณแม่ก็เพิ่งรู้ใจตัวเองเช่นกัน…
เรื่องเพศในปัจจุบันนั้นเริ่มเปิดกว้างมากขึ้นจากแต่ก่อน ในเมื่อเพศสภาพที่เกิดมาไม่ตรงกับในสิ่งที่ใจต้องการ ลักษณะทางกายภาพก็สามารถเปลี่ยนแปลงตามมาได้ในภายหลัง… อย่างเช่นเรื่องของ Corey และ Eric Maison อดีตลูกชายและคุณแม่ ที่เพิ่งจะรู้ตัวตนที่หัวใจเรียกร้อง และกลายมาเป็นคุณพ่อกับลูกสาวข้ามเพศคู่แรกของโลก Corey และ Eric Maison ทั้งสองต่างรู้สึกไม่สบายใจกับสภาพร่างกายของตนหลังจากที่ Corey ได้ลืมตาดูโลกมานานหลายปี ซึ่งในช่วงอายุ 11 ปี ก็เริ่มรู้ว่าหัวใจอยากจะเป็นหญิง แต่รู้สึกกลัวที่จะต้องบอกความจริงกับผู้เป็นพ่อและแม่ ทว่าอีกด้านหนึ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน Erica ผู้เป็นแม่ในขณะนั้น ก็รู้สึกว่าใจของเธอต้องการที่จะเป็นผู้ชายมาโดยตลอด จนกระทั่ง 4 ปีให้หลัง ทั้งสองก็กลายมาเป็นคู่หูพ่อลูกสาว ที่พากันเผชิญหน้าและก้าวข้ามอุปสรรคด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งอย่างภาคภูมิ Corey ในขณะที่ยังเป็นลูกชาย Erica (ปัจจุบันคือ Eric) ได้รับความมั่นใจมากขึ้นกับการเปลี่ยนผ่านตัวตน จากผู้หญิงมาเป็นผู้ชายอย่างเต็มตัว หลังจากที่ได้เห็น Corey เจริญเติบโตในฐานะลูกสาวอย่างที่เธอรู้สึกมาโดยตลอด ซึ่งในตอนแรก Eric ก็กลัวว่าสามีและลูกๆ จะรู้สึกอย่างไรกับการตัดสินใจแบบนี้ เมื่อ…
-
แม่เหมียวและคุณยายเหมียว ร่วมกันคลอดลูกกว่า 10 ตัว ช่วยดูแลกันและกันไม่ยอมห่าง
เราก็เคยได้ยินมาบ้างนะว่าแม่แมว 2 ตัวน่ะช่วยกันดูแลลูกได้ดีมากเลย แต่ก็ยังไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเองสักที พอมาเห็นแม่เหมียวและคุณยายเหมียวคู่นี้ช่วยกันเลี้ยงลูกแล้วมันน่าทึ่งสุดๆ ไปเลย แมวเหมียว Katia อายุ 3 ปี กับแม่ของมัน Kristi อายุ 7 ปีเป็นหนึ่งในแมวจรจัดจากรัฐอลาบามา ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกมันได้รับความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Forgotten Felines of Huntsville และมาอยู่ในความดูแลอาสาสมัคร เจ้าแมวสาว Katia Kristi แม่ของ Katia ตอนที่พวกเขาช่วย Kristi และ Katia มา พวกมันต่างก็ตั้งท้องแก่ด้วยกันทั้งคู่แล้ว Robyn Anderson ก็เลยอาสาดูแลพวก และจะเป็นคนช่วยพวกมันคลอดลูกเอง Robyn คาดว่า Kristi น่าจะคลอดก่อนเพราะว่าท้องของมันโตป่องมากเลย ส่วน Katia น่าจะคลอดหลังจากนั้น ทว่าเจ้าเหมียวทั้ง 2 ตัวก็ทำให้เธอรู้ว่าเธอคิดผิดซะแล้ว Kristi ไม่มีทีท่าว่าจะคลอดง่ายๆ เลย ในทางกลับกันไม่กี่วันต่อมา Katia ก็มาแรงแซงโค้งคลอดลูกออกมาก่อนซะแล้ว ได้ออกมาเป็นลูกเหมียวสีดำสนิท 2…
-
15 ทวีตจากผู้ปกครอง เกี่ยวกับชีวิตการเลี้ยงลูก แต่ว่าคราวนี้ เป็นพ่อแม่ที่แสบเสียเอง
ชีวิตการเลี้ยงลูกนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เด็กๆ นั้นแทบที่จะไม่เคยอยู่นิ่ง ทั้งวิ่งว่อนไปทั่ว แถมยังไม่เคยเชื่อฟังอะไรที่เราพูดเลย จนทำให้พ่อๆ แม่ๆ ทนไม่ไหวกันอยู่ก็หลายครั้ง แต่รู้หรือไม่ว่าชีวิตการเลี้ยงลูกนั้น ไม่ได้มีแต่เด็กที่เป็นผ่ายแสบเสมอไป เพราะ 15 ทวีตต่อไปนี้ จะเป็นตัวอย่างที่ดีเลยว่า บางครั้งนั้น พ่อแม่ของเด็กๆ เองนั่นล่ะ สุดแสบตัวดีเลย ลูกชายวัย 14 ปีล้อเล่นผมเรื่องที่ผมต้องไปทำงานในขณะที่เขาได้หยุด ผมก็เลยเปลี่ยนรหัสไวไฟเสียเลย ขอเปลี่ยนที่นั่งเพราะว่านั่งใกล้เด็กร้องไห้ ดูเหมือนว่าจะใช้ไม่ได้ถ้าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเราเองแฮะ ตอนนี้ผมกำลังช่วยลูกชายตามหาช็อกโกแลต ที่ผมกินไปเมื่อวานนี้ อย่ามองตาเด็กๆ ที่กำลังจะหลับเชียวล่ะ เดี๋ยวพวกเขาจะรู้ว่าเราตื่นเต้นแค่ไหนที่ภารกิจกำลังจะสำเร็จ พี่เลี้ยงเด็กเห็นลูกวัยสามขวบของผมใส่เสื้อกลับข้าง พี่เลี้ยงเด็ก: ว้าว น่ารักจัง คุณให้ลูกแต่งตัวเองเหรอ ผม: ใช่แล้วครับ เธอแต่งตัวเองเลย (เนียนไว้ตรูข้า) ชีวิตวันจันทร์มันลำบาก ชีวิตวันจันทร์ที่มีลูกด้วยมันคือตัวอย่างการทดลองการเอาตัวรอดของมนุษย์ ผมชอบคุยกับเด็กๆ นะ เพราะไม่มีผู้ใหญ่คนไหนเคยถามผมว่า สัตว์เลื้อยคลานที่ผมชอบที่สุดเป็นอันดับสามคือตัวอะไรหรอก สิ่งที่ฉันคิดว่าจะได้พูดตอนเป็นพ่อคนแม่คน “ลูกจะเป็นคนที่เปลี่ยนโลกใบนี้” สิ่งที่ได้พูดจริงๆ…
-
ภาพอันน่าเศร้า “คุณแม่” ยอมทนเจ็บปวดเพื่อคลอดลูก ทั้งที่รู้ว่าลูกของเธอนั้นจะต้อง “ตาย”
(อาจมีภาพหรือเนื้อหาที่ค่อนข้างกระทบกระเทือนจิตใจ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม) สำหรับผู้ที่เป็นแม่ คงไม่มีเรื่องใดน่าโศกเศร้าไปกว่า การที่ต้องเสียลูกไปต่อหน้าต่อตา โดยเฉพาะอย่างย่ิ่ง เมื่อเราต้องรู้ว่า เทวดาตัวน้อยของเราจะไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลกเลยแม้แต่วินาทีเดียว… Sarah Jade คุณแม่วัย 33 ปีจากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียได้คลอดบุตรชาย Aksel Jude หลังจากมีอายุครรภ์ได้ 33 สัปดาห์ ทั้งๆ ที่เธอก็รู้ดีว่าลูกของเธอ “ตาย” ไปตั้งแต่อยู่ในท้องแล้ว เนื่องจากพัฒนาการทางสมองมี โรคแทรกซ้อนที่รุนแรง Sarah วัย 33 ปี และสามีของเธอ Tim วัย 34 ปี Lacey Barratt คือช่างภาพที่ทำหน้าที่เก็บภาพการให้กำเนิดครั้งนี้เอาไว้ แสดงให้เห็นถึงสีหน้าของผู้เป็นแม่ ที่มีทั้งอารมณ์เจ็บปวดและโศกเศร้า Sarah กล่าวว่า “ฉันอยากให้การคลอดเป็นไปอย่างงดงาม ถึงแม้จะรู้ว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง ฉันก็ยังอยากให้กำเนิดลูกของฉันอยู่ดี เพราะฉันอยากเก็บภาพของช่วงเวลาเหล่านี้เอาไว้ในความทรงจำ” “มันเจ็บปวดมาก ร่างกายฉันเบ่งแล้วเบ่งอีก จนกระทั่งน้ำตาฉันไหล” “ร่างกายฉันเบ่งเขาออกมา แต่ใจฉันอยากเก็บเขาไว้ในตัวฉันเหลือเกิน” “ฉันไม่เคยสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยหลายอารมณ์แบบนี้มาก่อน…
-
ภาพวาดถ่ายทอดเรื่องราว ทั้งช่วงเวลาอันโหดร้ายและแสนอบอุ่น ของคำว่า ‘ครอบครัว’
ช่วงชีวิตของเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป หลายๆ ครั้งเราต้องเจอกับอุปสรรคขวากหนามที่เข้ามาทิ่มแทง สร้างความทุกข์ใจให้กับเรา เช่นเดียวกันกับสิ่งที่ศิลปินชาวอเมริกัน Curtis Wiklund ได้เจอมากับตัวเอง ช่วงเดือนสิงหาคม 2016 Curtis ได้ถ่ายทอดเหตุการณ์อันแสนสะเทือนใจลงไปในเฟซบุ๊ก กับช่วงเวลาอันแสนเศร้าเมื่อเขาได้รู้ว่าภรรยาของตัวเองนั้นแท้งลูกไปเสียแล้ว เรื่องราวที่เขาถ่ายทอดผ่านปลายดินสอได้ซึมซับเข้าไปอยู่ในหัวใจของทุกคน สามารถสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าเสียใจที่ไม่มีใครอยากจะเจอ ศิลปินหนุ่มบอกว่ามันคงเป็นเรื่องแปลกที่เขานำมันมาเล่าให้ทุกคนฟัง เขาคิดว่าคงจะดีกว่าหากบอกเล่าผ่านรูปภาพมากกว่าการใช้คำพูด และเหตุผลที่นำมันมาเล่าสู่กันฟังก็เพราะต้องการจะบอกให้ทุกคนที่ได้เจอกับความเจ็บปวดว่า อย่างน้อยคุณก็ไม่ใช่คนเดียวที่กำลังทุกข์ใจอยู่ หลังจากนั้นภาพนี้ก็ได้ถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้าง ทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจที่จะสร้างภาพวาดบอกเล่าถึงคำว่า “ครอบครัว” ขึ้นมา เพราะความเสียใจในเหตุการณ์นั้นไม่ได้ทำลาย Curtis แต่มันคือสิ่งที่สอนให้เขารู้จักคุณค่าของคำว่าครอบครัวมากยิ่งขึ้น จึงตัดสินใจที่จะวาดเรื่องราวการใช้ชีวิตของตัวเอง ภรรยา และลูกชายทั้งสองต่อไป ภาพที่เริ่มบันทึกเรื่องราวอันแสนอบอุ่นหัวใจของคนในครอบครัว นับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2017 เป็นภาพที่ดูเรียบง่าย แต่กลับเปี่ยมไปด้วยความสุข เช้าที่มีกันและกัน คือวันที่สดใสอยู่เสมอ คนที่คอยอยู่เคียงข้างคุณเสมอในวันที่อ่อนล้า เติมความหวานและรอยยิ้มให้กัน โมเมนต์น่ารักๆ ของการใช้ชีวิตคู่ ทั้งสองคงไม่อาจลืมเรื่องราวสุดสะเทือนใจก่อนหน้านี้ไปได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะหาความสุขในปัจจุบันไม่ได้ ทั้งสองยังคงหาเวลาที่จะมีความสุขไปพร้อมๆ…
-
เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า 19 คำพูดของเด็ก ที่ทำให้พ่อแม่ทนไม่ไหวหลุดขำต้องมาแชร์
เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัยเรื่องราวที่เด็กพูดนั้นก็มักจะมีอะไรให้เอามาเล่ากันได้เสมอๆ ทั้งฮา ทั้งแสบสัน ทั้งตลก จนหลายๆครั้งก็ทำให้พ่อแม่ถึงกับทนไม่ไหวต้องเอามาแชร์กันอย่างในครั้งนี้ แต่ไม่ได้ทนไม่ไหวเพราะว่าโกรธนะ ก็แค่ฮามากเกินไปก็เท่านั้นเอง งานของผู้หญิง ลูกชายวัยหกขวบของฉันบอกว่าการล้างจานมันเป็นงานของผู้หญิง ฉันก็เลยให้เขากับพ่อล้างทุกอย่างในห้องครัวซะเลย พูดผิดไปนิดหน่อยเอง ลูกน้อยอายุ 6 ขวบ: อยากได้โสเภณี (hooker) เยอะกว่านี้ ฉัน: โสเภณี? ลูก: ใช่ฮะ ผมอยากได้มาแขวนเสื้อ ฉัน: อ๋อ “ไม้แขวนเสื้อ” จ้ะลูก (hanger) การไปโรงเรียน ผม: ไปเรียนสนุกไหมลูก ลูก 6 ขวบ: ถ้าสนุกมันก็ไม่ใช่โรงเรียนแล้ว ประโยชน์ของเลขในชีวิตประจำวัน ลููกวัยหกขวบของฉัน ตะโกนว่าเขาโกรธฉัน 24% อืม… การเรียนเลขมันได้ใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ เรื่องเล่า 3 ชั่วโมงของปิกาจู ถ้าคุณมีเวลาว่างไม่รู้จะทำอะไรดีสัก 3 ชั่วโมง แนะนำให้มาหาลูกของฉัน เขาจะพล่ามเรื่องปิกาจูให้คุณฟังเอง …
-
21 ภาพถ่ายครอบครัวแสนสุข!?! ที่แสดงให้รู้ว่า กว่าจะได้แต่ละรูป มันไม่ง่ายเลยนะ
ครอบครัว เป็นอีกหนึ่งสถาบันของความรักที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน ความรักจากครอบครัวเป็นอีกหนึ่งความสุขเล็กๆ ที่หาได้ใกล้ตัวที่สุด ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ หรือเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน คนในครอบครัวก็จะคอยอยู่เคียงข้างเสมอ ครอบครัวแต่ละครอบครัว มักจะมีกิจกรรมต่างๆ ที่ทำขึ้นมาเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการออกไปท่องเที่ยว การทานอาหารร่วมกัน หรือการดูทีวีพร้อมๆ กันก็คือความสุขอีกอย่างหนึ่ง และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ว่าครอบครัวไหนก็ต้องทำนั่นก็คือการถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำ การถ่ายรูปครอบครัวมักจะเกิดขึ้นในโอกาสสำคัญต่างๆ ในการถ่ายรูปแต่ละครั้งก็จะมีสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป และภาพถ่ายเเหล่านั้นก็จะบ่งบอกความรู้สึกของคนในภาพ ว่าตอนนั้นพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง ก็แค่ไฟไหม้บ้านเอง ขอถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกหน่อย เหมือนว่าแม่หนูน้อยจะไม่ค่อยแฮปปี้กับการถ่ายรูปเท่าไหร่นะ นี่มันครอบครัวฉันนะ B1 ออกไปเดี๋ยวนี้ ผู้ชนะแคมเปญในการถ่ายภาพวันนี้ก็คือ น้องหมา ไม่รู้จะโพสต์ท่าอะไรก็ยิ้มไว้ก่อน ความแตกต่างระหว่าง เมื่อลูกอยู่กับแม่ และเมื่อลูกอยู่กับพ่อ มาจุ๊บกันต่อหน้าแบบนี้ได้ยังไง ห๊ะ อาณาจักรครอบครัว ถ่ายรูปครอบครัว ธีมสตาร์วอร์ เสียงกรีดร้องกำลังจะเกิดขึ้นใน 3 2 1 ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครคือตัวแสบประจำบ้าน เมื่อจะถ่ายรูปครอบครัวแล้วถึงตาของคุณพ่อเป็นผู้คิดหัวข้อในการถ่ายรูป …
-
เอาอีกแล้ว! United Airlines เข้าใจผิด ส่งหมาของครอบครัวจากสหรัฐฯ ไปญี่ปุ่นเฉ๊ยเลย!?
ใครเล่าจะคิดว่าการส่งน้องหมาขึ้นเครื่องบินเพื่อย้ายบ้าน จะเกิดความผิดพลาดขึ้นจนส่งให้มันบินไกลไปถึงญี่ปุ่น ทั้งที่ตัวเจ้าของยังอยู่ที่สหรัฐอเมริกาอยู่เลย… เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2018 เว็บไซต์ DailyMail รายงานว่า Joseph และ Kara Swindle สองสามีภรรยาได้ย้ายที่อยู่อาศัยจากรัฐ Oregon ไปยังเมือง Wichita รัฐ Kansas กับลูกสาววัย 2 ขวบ 1 คนและลูกชายวัย 7 ขวบอีก 1 คน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาคุณ Kara และลูกๆ นั่งเครื่องบินไปยังเมือง Kansas City ที่อยู่ในรัฐ Missouri จากนั้นก็เดินไปยังสำนักงานอำนวยความสะดวกของสายการบิน United Airlines เพื่อรับเจ้าหมาสายพันธุ์ German Shepherd วัย 10 ปี ของครอบครัวที่ชื่อว่า Irgo ที่พวกเขาส่งมันขึ้นเครื่องบินนำหน้ามาก่อนหน้านี้แล้ว แต่พอไปถึงสำนักงาน ก็พบว่าเจ้าหน้าที่ดั๊นส่งตัวเจ้าหมามาให้พวกเขาผิดตัว กลายเป็นว่าที่ส่งมาให้น่ะคือสายพันธุ์ Great Dane…
-
ครอบครัวหมาใหญ่และแมวตาเดียวอีก 2 ตัว ร่วมมือช่วยกันดูแลเหล่าสัตว์ไร้บ้าน
ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนรักสุนัขอย่าง Kelly H. จะมีวันที่ต้องปันใจมาให้เจ้าเหมียวจนถึงขั้นรับพวกมันมาเลี้ยงด้วย แถมครอบครัว 1 หมาและ 2 เหมียวของเธอยังมีความสุขกันอย่างล้นหลาม จนสามารถแบ่งปันความรักไปให้สัตว์ตัวอื่นอีกต่างหาก ตอนแรก Kelly เป็นคนที่ชอบเลี้ยงสุนัขเท่านั้น เธอมีสุนัขอยู่ตัวหนึ่งชื่อว่า Suzie เธอก็อยู่กับมันตัวเดียวเรื่อยมาอย่างมีความสุขไม่ได้ขาดเหลืออะไร ต่อมาเธออยากหาเพื่อนสุนัขให้กับ Suzie เธอเลยไปที่สถานพักพิงสัตว์ใกล้เคียงเพื่อรับหมามาเลี้ยงเพิ่ม แต่ตอนนั้นพวกเขาไม่มีสุนัขเลยแม้แต่ตัวเดียว ก็เลยเสนอให้เธอเอาลูกแมวไปเลี้ยงแก้เหงาให้เจ้าหมาเป็นการชั่วคราวแทน เธอจึงได้ Kushi มาอยู่ด้วยระยะหนึ่ง หมา Suzie กับเจ้าแมว Kushi เจ้า Kushi เป็นแมวพิการที่สูญเสียตาไปข้างหนึ่ง เธอจึงไม่แน่ใจว่าจะดูแลมันได้ดีพอหรือเปล่า แถมไม่มั่นใจด้วยว่า Suzie จะเข้ากับมันได้ไหม แต่พอเอาเจ้าเหมียวมาดูแลแล้ว มันกลับเข้ากับเจ้าหมาของเธอได้ดีอย่างผิดคาด เจอหน้ากันครั้งแรกก็เข้าไปคลอเคลียกันใหญ่เลย แถมมันยังทำให้เธอรู้สึกเริ่มรักแมวมากขึ้นด้วย นับวันเจ้าแมวกับเจ้าหมาก็ยิ่งรักกันมากกว่าเดิม สุดท้ายแล้วเธอก็เลยตัดสินใจรับมันมาเลี้ยงอย่างเป็นทางการแทนการดูแลชั่วคราวจนได้ ความน่ารักเจ้าเหมียวเปลี่ยนใจสาวให้รับมาเป็นสมาชิกในบ้านจนสำเร็จ จากนั้นเป็นต้นมาเธอก็เริ่มเอาแมวที่ยังไม่มีบ้านมาดูแลเป็นการชั่วคราวบ่อยมากขึ้น เพราะเธอรู้สึกว่าเจ้า Suzie และ Kushi ก็ชอบที่จะมีเพื่อนใหม่บ่อยๆ เหมือนกัน เจ้าแมวและเจ้าหมาชอบให้เธอพาแมวที่ยังไม่มีบ้านมาอยู่ด้วยชั่วคราว พวกมันจะได้มอบความอบอุ่นให้สัตว์ตัวอื่น…
-
คุณแม่ชาวอังกฤษกล่าวหา ‘Fortnite’ ทำให้ลูกเธอเสียคน แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องเผาเกมทิ้ง!!
ปัญหาการเลี้ยงลูกแล้วทำให้ ‘เกม‘ กลายเป็นแพะนั้น ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย เพราะปัญหาแบบนี้ล้วนเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับครอบครัวทั่วโลก เช่นเดียวกับคุณแม่ชาวอังกฤษรายนี้ คุณแม่ชาวอังกฤษได้พาลูกชายนามว่า Leo วัย 10 ขวบ ไปออกรายการทีวี This Morning (คล้ายๆ เรื่องเล่าเช้านี้จากอังกฤษ) เพื่อเล่าถึง Fortnite: Battle Royale เกมที่เพิ่งจะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตลูกชายของเธอ… Fortnite: Battle Royale เกมที่คุณแม่กล่าวถึง เกมดังกล่าวนั้นเป็นเกมแนวสู้เอาตัวรอดที่ตัวเองต้องจัดการศัตรูคนอื่น และปัจจุบันนั้นก็กำลังเป็นที่นิยมมากๆ ทั้งบนคอนโซลและเครื่องคอวพิวเตอร์ แต่ปัญหาของเรื่องทั้งหมดมันอยู่ที่ตัวคุณแม่ของหนูน้อย Leo ได้บอกกับ Phil Schofield และ Holly Willoughby พิธีกรของรายการว่า… เกมดังกล่าวทำให้ลูกชายของเธอเสียผู้เสียคน โดยจากเดิมที่เคยเล่นเกมเพียงไม่กี่ชั่วโมง แล้วลงมาใช้เวลาอยู่กับครอบครัว… พอได้รู้จักกับเกม Fornite เขาก็เปลี่ยนไป เอาแต่มกตัวอยู่หน้าจอทีวีกับเครื่อง Xbox ของเขา และยิ่งไปกว่านั้นเขาเริ่มใช้เสียงตะโกนมากขึ้น เธอยังบอกอีกว่า ก่อนหน้าที่เธอให้ลูกเล่นเกมแนวกีฬาอย่าง Fifa, WWE…
-
พลังโซเชียล… สาวทวีตให้คุณพ่อผู้พิการแค่ครั้งเดียว พลิกงานอดิเรกเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้!!
บางครั้งโลกโซเชียลก็สามารถสร้างเรื่องราวดีๆ ได้มากกว่าที่คุณคิด… เฉกเช่นเดียวกันกับเด็กสาววัย 17 ปี ที่ได้บังเอิญสร้างธุรกิจให้กับคุณพ่อผู้พิการของตัวเอง จากการแชร์โพสต์เพียงแค่โพสต์เดียวเท่านั้น!! คุณ Christopher Gonzales พ่อหม้ายลูกสองจากเมือง Las Vegas ที่ต้องกลายเป็นผู้พิการ เพราะเขาประสบกับอุบัติเหตุในขณะทำงานเป็นพนักงานที่ไซต์ก่อสร้างเมื่อหลายปีก่อน คุณ Christopher ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังจากการตกลงมาจากตึกชั้น 5 ทำให้ร่างกายบางส่วนกลายเป็นอัมพาตไป จากการบาดเจ็บในครั้งนี้ทำให้เขาไม่สามารถทำงานอื่นๆ ได้ และต้องคอยรับเงินจากประกันสังคมเพียงอย่างเดียว อุบัติเหตุในครั้งนั้น ทำให้ชีวิตของ Christopher มีเวลาว่างมากยิ่งขึ้น เขาเริ่มหันมาสนใจทำงานอดิเรกอย่างการวาดภาพ ทาสี และ งานไม้ในโรงรถแทน “วันหนึ่งผมเห็นภาพงานแกะสลักโลโก้แบรนด์กีฬา แล้วก็คิดขึ้นมาในใจว่า ‘แบบนี้เราก็ทำได้’ ผมก็เลยเริ่มลงมือทำมาตั้งแต่ตอนนั้น” Christopher เล่า พอเริ่มทำไปมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มมีผู้คนให้ความสนใจ โดยเริ่มแรกก็เป็นคนในครอบครัว จากนั้นเรื่องราวก็ถูกนำไปบอกต่อๆ กัน จนกลายเป็นอาชีพเล็กๆ ที่สร้างรายได้ต่อเดือนพอประทังชีวิต งานแต่ละชิ้นที่ Christopher ทำนั้น ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 9 ชั่วโมง เขาเล่าว่ามันค่อนข้างลำบาก…
-
สาวลาออกจากแบงก์มาเป็น ‘ผู้ทดลองเซ็กส์ทอย’ แม้รายได้จะลด แต่ความสุขเพิ่ม!!
ชีวิตการทำงานของแต่ละคนต่างก็มีจุดเปลี่ยนกันทั้งนั้น บ้างก็เปลี่ยนเพื่อความเจริญก้าวหน้า บ้างก็เปลี่ยนเพื่อทำตามความฝัน และหญิงสาวที่ชื่อว่า Cara Douglas จากเขต Lincolnshire ประเทศอังกฤษเองก็เช่นกัน จากพนักงานธนาคารที่ทำรายได้ 2.6 ล้านบาทต่อปี ไปทำอาชีพที่เธอรักอย่าง ‘ผู้ทดสอบเซ็กส์ทอย’ เธอได้ให้เหตุผลว่างานประจำที่เธอทำอยู่นั้นมันจำเจและน่าเบื่อ จึงอยากลองหันไปทำอะไรที่มันตื่นเต้นดูบ้าง โดยเริ่มจากการรีวิวไข่สั่น, เจลหล่อลื่น, และสินค้าอื่นๆ ผ่านทางออนไลน์ ก่อนที่จะหันมารับงานเป็นผู้ทดลองเต็มตัว โดยมีรายได้อยู่ที่ 1.3 ล้านบาทต่อปี มันจะมีงานแบบไหนอีกที่จะช่วยให้คุณสามารถถึงจุดสุดยอดได้เป็นจำนวน 20 ครั้งต่อสัปดาห์ แถมยังได้เงินอีกด้วย!? แน่นอนว่ามันหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว “ฉันรักเซ็กส์ทอยมาก และโชคดีมากๆ ที่การใช้เซ็กส์ทอยกลายมาเป็นอาชีพที่ทำเงินให้กับฉันได้” Cara กล่าว “ฉันรู้สึกเบื่อกับการทำงานเป็นพนักงานธนาคาร แต่ตอนนี้ฉันได้รับเงินจากการทำสิ่งที่ชอบ แม้รายได้จะน้อยกว่าตอนทำงานธนาคารกว่าครึ่งหนึ่ง แต่มันก็ทำให้ฉันมีความสุขกว่าเดิมมาก” Cara เล่า ส่วนในเรื่องของชีวิตคู่นั้นเธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะคู่หมั้นของเธอ Darren ก็รู้สึกยินดีที่เห็นเธอมีความสุข แถมบางครั้งก็ช่วยกันทดลองซะด้วย!! “การทำงานของฉันมันก็เปรียบเสมือนการเพิ่มประสิทธิภาพในชีวิตเซ็กส์ มันก็เหมือนกับการออกกำลังนั่นแหละ ยิ่งเราทำมันบ่อยเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น”…
-
คุณแม่ลูก 6 กับปรากฏการณ์สุดหายาก ท้องแฝดสามติดๆ กันสองครั้ง!? โอกาสเกิดหนึ่งในล้าน!!
‘การสร้างครอบครัว’ ถือเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคน แต่สำหรับคู่รักที่มีบุตรยากอย่างคู่ของคุณ Courtney Garrett วัย 38 ปี และ สามี Phillip วัย 42 ปี แล้ว ต้องขอบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ทำใจลำบากเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะลองทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ลูก สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จสักที จนนั่งน้อยใจกับโชคชะตาว่าชาตินี้เราคงไม่มีลูกกันแล้ว แต่ในที่สุดทั้งคู่ก็ตัดสินใจทำ ‘เด็กหลอดแก้ว’ ซึ่งการทำเด็กหลอดแก้วก็คือการนำเซลล์ไข่และตัวอสุจิไปผสมกันในห้องปฏิบัติการ จากนั้นจะย้ายตัวอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูก เพื่อให้เกิดการฝังตัวและตั้งครรภ์ ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในปี 2009 คุณ Garrett ตั้งท้อง และไม่ได้ท้องแบบธรรมดาๆ นะ เพราะเธอตั้งท้องแฝด 3!! หนูน้อย Jack, Oliver, และ Ellie ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลก แต่เท่านั้นยังไม่พอ คุณ Garrett และสามี ได้ตัดสินใจทำเด็กหลอดแก้วกันอีกครั้ง และผลในครั้งนี้ก็พบว่าพวกเขาได้ลูก ‘แฝดสาม’ อีกครั้ง!? โอ้วหม่ายก็อด!! ลูกแฝดสามชุดใหม่นี้ลืมตาดูโลกครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2017 ทั้งสามคนถูกตั้งชื่อว่า Wells, Georgie และ…
-
17 ภาพสุดขำขัน ของคนในครอบครัว ที่พากันมาทำตัวรั่วๆ อย่างไม่มีขีดจำกัด
การมีอารมณ์ขันสามารถช่วยให้ปัญหาต่างๆ ได้ บางครั้งมันอาจจะสามารถช่วยชีวิตการแต่งงานได้เลย มันคือเหตุผลที่ครอบครัวที่สามี และภรรยาสามารถหัวเราะไปด้วยกัน (และหัวเราะใส่กัน) จะมีโอกาสอยู่ด้วยกันอย่างไร้ปัญหามากขึ้น ถ้าสมาชิกในครอบครัวมีอารมณ์ขันด้วยเช่นกัน พวกเขาก็จะมีชีวิตที่มีแต่ความสุข ความขำขันที่ว่านั้นมักจะถูกเก็บเอาไว้เป็นภาพ เพื่อให้พวกเราสามารถรำลึกถึงสิ่งที่พวกเขาเคยยิ้มให้กับมัน และยังคงยิ้มเมื่อเห็นภาพอยู่ทุกครั้ง เฉกเช่น 17 ภาพสุดขำขันของคนในครอบครัว เหล่านี้ พวกเราช่างเป็นพ่อแม่ที่ดีจริงๆ พ่อโดยกวางขับรถชน ช่วยด้วย หลังจากที่พี่ชายฉันหย่าไปสองครั้ง ที่บ้านก็เอาภาพนี้มาติด แม่บอกว่าตอนเด็กๆ ฉันชอบทำแบบนี้มาก… นี่ตอนนั้นฉันทำอะไรลงไปเนี่ย การ์ดวันแม่สุดสวย.. นี่คือของวันแม่? บนการ์ด: ขอแสดงความยินดีที่สร้างหนูขึ้นมา ฉันเดินทางมาตรวจความเรียบร้อยของบ้าน แต่ดูเหมือนว่าคุณลุงจะมาถึงก่อนหน้านี้แล้ว ดูดิ๊ เขาทิ้งอะไรไว้ ฉันพิมพ์บอกสามีว่าได้เลื่อนตำแหน่ง เขาส่งรูปนี้กลับมาพร้อมบอกว่า ดูสิ ผมทำอะไรได้ หลานของฉันบอกว่า “ผมว่านมมันไม่ดีแล้วอ่ะ“ แอบเปลี่ยนรูปพระเยซูเป็นโอบีวัน กว่าพ่อแม่จะรู้ก็ปาไป 3 เดือน สามีของฉันจะไม่มีวันได้ไปซื้อของคนเดียวอีกต่อไป คุณลุงได้ทีวีใหม่มาหนึ่งเครื่อง แต่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านราวๆ…
-
มิ้วน้อยถูกเจ้าไซบีเรียนช่วยเอาไว้ เลยเข้าร่วมครอบครัวเป็นการตอบแทน
ภาพที่เพื่อนๆ จะได้เห็นต่อไปนี้คือชีวิตของน้องเหมียว Rosie กับครอบครัวในปัจจุบัน เป็นภาพที่ดูแล้วช่างมีความสุขและน่าอิจฉาจริงๆ เจ้า Rosie ไม่ได้เป็นแมวที่มีครอบครัวมาตั้งแต่แรก เมื่อปีที่แล้วตอนที่มันยังอายุได้แค่ 2 สัปดาห์มันถูกเก็บมาจากข้างถนน อาการของมันร่อแร่มากแค่จะกินข้าวที่เจ้าของป้อนให้ยังลำบากเลย เจ้าแมว Rosie น้องสาวคนเล็กของฝูง เห็นอาการเจ้าแมวแล้วสุนัขไซบีเรียน Lilo ก็เลยเข้าไปให้กำลังใจมันด้วยการมอบไออุ่นจากร่างกายให้เจ้าเหมียวตลอดเวลา อาจจะเป็นเพราะได้พลังใจอย่างเปี่ยมล้นจากเจ้าหมาทำให้ Rosie สามารถฟื้นตัวกลับมากินนมจนแข็งแรงเหมือนใหม่ หลังจากนั้นเจ้าหมาก็ยังคงคอยอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้มันจนเจ้าเหมียวหายสนิท พอแมวเหมียวหายดีแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมันซาบซึ้งในความช่วยเหลือของเจ้า Lilo หรือว่าหลงเสน่ห์เจ้าสุนัขสุดหล่อตัวนี้กันแน่ มันก็เลยติดเจ้าไซบีเรียนมาก เจ้าของของมันก็เลยรับมันไว้เลี้ยงอย่างถาวร ทำให้มันกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวสุนัขไซบีเรียนในเวลาต่อมา กลายเป็นแมวตัวเดียวในแก๊งไซบีเรียนไปซะแล้ว ตอนนี้เจ้าเหมียวและไซบีเรียนอาศัยอยู่กับเจ้าของในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เจ้าของของมันยังขายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเพื่อนำรายได้จากการขายสินค้าไปช่วยเหลือแมวจรจัด เหมือนกับที่พวกเขาเคยช่วย Rosie มาแล้วด้วย บางครั้งก็อยากจะเนียนเป็นไซบีเรียนบ้าง จะได้ไม่ดูแปลก อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แม้แต่เวลาไปซื้อของ ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน พวไซบีเรียนก็จะพาเจ้า Rosie ไปด้วยเสมอ บางครั้งก็มีแมวที่เจ้าของช่วยเหลือมาอาศัยอยู่ด้วย เลยมีเพื่อนแมวอยู่บ้าง สนิทกันจนมองตาก็รู้ใจแล้ว …
-
คุณแม่วัยชรา เดินทางด้วยรถเมล์เพื่อมาส่งข้าวปลา ให้ลูกสาวแม่ม่ายซึมเศร้าตลอด 3 ปี…
ความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยของคนเป็นพ่อเป็นแม่นั้น ไม่อาจอธิบายให้เห็นได้ชัดเจนเท่ากับภาพของการกระทำแล้วล่ะ เพราะไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร จะมีอายุมากพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว แต่ก็ยังคงตามห่วงอยู่เสมอ อย่างเช่นในเรื่องราวของคุณแม่วัยชรา 70 ปี จากประเทศสิงคโปร์ กับรักที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ที่เธอได้มอบให้กับลูกสาวอย่างสม่ำเสมอ โดยที่เธอนั้นได้นั่งรถเมล์ไปยังอพาร์ตเมนต์ของลูกสาวทุกวันตลอด 3 ปีที่ผ่านมา… เมื่อมาถึงอพาร์ตเมนต์ของลูกสาวแล้ว แม้จะไม่มีลิฟต์ใดๆ เธอก็ยังคงเดินเท้าขึ้นไปยังชั้น 7 จนถึงประตูหน้าห้องของลูกสาวเธอ เพื่อนำอาหารกับข้าวกับปลามาส่งให้ลูกได้รับประทาน เหล่าเพื่อนบ้านสังเกตเห็นพฤติกรรมของคุณแม่ท่านนี้อยู่เสมอ โดยที่เธอจะมายืนอยู่หน้าประตูห้องทุกช่วง 16.00 น. ตะโกนเรียกชื่อลูกสาวเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้เห็นหน้าลูก เพื่อนบ้านวัย 30 ปี ได้เปิดเผยว่าลูกสาวนั้นมีอายุ 40 ปีแล้ว “ฉันได้ฟังเรื่องจากคุณยายมาว่า ตั้งแต่ที่ลูกสาวสูญเสียสามีไป ท่าทีของลูกสาวก็เปลี่ยนไปเป็นอีกคน จะหมกตัวอยู่แต่ในห้องทั้งวันและไม่ยอมออกไปไหนเลย คุณยายจึงต้องมาส่งข้าวส่งอาหารให้ทุกวันแบบนี้” เมื่อนักข่าวได้ลงพื้นที่ก็พบกับคุณยายในช่วงเวลา 16.00 น. จริง โดยในวันนั้นคุณยายตะโกนเรียกลูกสาวดั่งเช่นเคย แต่ก็ไร้วี่แววการตอบรับจากลูกสาว จึงลงมานั่งพักก่อนที่จะกลับไปเรียกอีกครั้งในช่วง 18.00 น. 15…
-
“หมู่บ้านผีดิบ” ที่ชาวบ้านขุดศพคนในครอบครัวขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่ด้วย เพราะเชื่อว่ายังไม่ตาย…
[คำเตือน: มีภาพและเนื้อหาที่กระทบกระเทือนจิตใจ ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม] ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง บนเกาะซูลาเวซี ประเทศอินโดนีเซีย ถูกเรียกว่าเป็น “หมู่บ้านผีดิบ” เพราะที่นั่น มีพิธีกรรมสุดประหลาดอย่างหนึ่ง ที่มีการขุดญาติหรือสมาชิกในครอบครัวที่ “ตาย” ไปแล้ว ขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอีกครั้ง พิธีกรรมดังกล่าว เป็นพิธีกรรมของชาว Torojan ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ชาวบ้านจะมีการขุดศพของญาติและสมาชิกในครอบครัวที่ตายไปแล้ว ขึ้นมาชะล้างทำความสะอาดและแต่งองค์ทรงเครื่อง เพื่ออาศัยอยู่ในบ้านอีกครั้ง ขุดขึ้นมา อาบน้ำ แต่งตัว สูบบุหรี่ และใช้ชีวิตร่วมกัน . . ศพนั้นถูกขุดขึ้นมานำมาไว้ในบ้านนานนับทศวรรษ และทางครอบครัวก็จะใช้ชีวิตร่วมกับศพคนรักของพวกเขา โดยมองว่าเขายังไม่ได้ตาย แต่เขาแค่ “ป่วย” จนกว่าทางครอบครัวจะสามารถจัดพิิธีศพตามความเชื่อได้อย่างสมเกียรติที่ชื่อว่า Rambu Solo จึงจะสามารถยอมรับได้จริงๆ ว่าศพนั้นได้ตายไปแล้ว ชาว Torojan ทำกับคนรักที่พวกเขาขุดขึ้นมาเหมือนกับว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว (ที่ยังมีชีวิต) พวกเขาพูดคุย ให้น้ำ ให้อาหาร และแน่นอนว่า ยามเข้านอน ก็นอนด้วยกัน ไม่ว่าจะศพผู้ใหญหรือเด็ก ก็ถูกนำขึ้นมาแต่งตัว และใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว…
-
คู่รักจึ๋ง….หลังเข้าใจผิดคิดว่า ‘แค่อ้วน’ แต่จริงๆ ‘ท้อง’ มารู้เรื่องก็ตอนคลอดออกมานี่แหละ
เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับอึ้งกิมกี่ไปเลยทีเดียวหลังมีสายประหลาดจากชายหนุ่มโทรเข้ามาแจ้งว่า “ภรรยาของผมปวดท้องหนังมากแถมมีก้อนขนาดใหญ่อยู่ที่ท้องช่วยส่งรถพยาบาลมาที” สายนี้โทรเข้ามาโดยนาย Gereth Williams วัย 34 ปี ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2018 เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ หลังจากที่คู่รักของเขา Rhiannon Oldham วัย 30 ปี เริ่มตะโกนส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับกุมมือเอาไว้ที่ท้อง Gareth พูดผ่านโทรศัพท์ว่า “ช่วยด้วยครับ ภรรยาของผมเจ็บปวดมาก คล้ายกับว่าเธอกำลังจะคลอดลูก แต่เธอไม่ได้ท้องนะ” “เธอมีก้อนเนื้อขนาดใหญ่อยู่ที่บริเวณท้อง มันปูดออกมา แต่ผมแน่ใจว่าเธอไม่ได้ท้อง” เขากล่าวย้ำกับเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนั้นต่อมาพบว่า แฟนสาวของเขาให้กำเนิดลูกชาย แถมยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมีน้ำหนักแรกเกิด 2.2 กิโลกรัม ชื่อว่า Phillip Gareth เล่าถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่า “ก่อนหน้านี้ผมหมั้นกับแฟนสาวของผมในวันวาเลนไทน์ และเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากนั้นในอีก 3 วันต่อมา” นอกจากนี้เขายังเล่าต่ออีกว่าเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ Rihiannon บอกว่าเธอเจ็บท้องตลอดเวลา แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่สนใจมัน …
-
ศิลปินชาวกาน่า วาดภาพการ์ตูนบอกเล่า ‘เป้าหมายในชีวิต’ ในแบบฉบับชาวผิวสี
ศิลปินชาวกาน่านามว่า Poka ได้วาดภาพของเป้าหมายชีวิตที่แสนสุขและงดงามขึ้นมา เพื่อสะท้อนความฝันและความรู้สึกของเขาในฐานะชาวกาน่าผิวสีคนหนึ่ง นอกจากผลงานภาพของเขาจะสวยงามแล้ว ยังทำให้มองเห็นความคิดและต้องการที่เป็นพื้นฐานของมนุษย์ที่ไม่ว่าเชื้อชาติไหนๆ ก็มีลักษณะไม่ต่างกัน เช่น การได้อยู่อย่างมีความสุขกับคนรัก หรือการมีสัตว์เลี้ยง และมีลูก เป็นต้น ยิ่งเมื่อผลงานภาพของ Poka ถูกเผยแพร่และแชร์ต่อๆ กันไปบนโลกอินเทอร์เน็ต ก็ยิ่งทำให้เกิดความคิดเห็นต่างๆ นานา ถึงภาพที่เขาวาดขึ้น หากใครสนใจหรือว่าชอบผลงานของ Poka ก็สามารถเข้ามาติดตามเขาได้ที่ pokagh เอาล่ะ ตอนนี้เชิญไปรับชมภาพของเขากันได้เลย… เป้าหมายของความสัมพันธ์ กำลังจะมีสมาชิกใหม่ มีความสุขกับเจ้าตูบ รูปร่างคือสิ่งสำคัญ เธอคือนางฟ้า ให้ผมดูแลเถอะนะ สาวมั่น ครอบครัวอบอุ่น ความรักทั้งสองคู่ งดงามเสียจนอดใจไม่ไหว นางฟ้าน้อย ฮีโร่ของพวกเรา เพื่อนซี้ พลังศรัทธา ชีวิตประจำวัน …
-
18 ความรู้สึกช้ำๆ ของ ‘ลูกคนกลาง’ จะแย่ไปกว่าน้องสุดท้อง กับพี่คนโตสักแค่ไหนกันเชียว!!
บางครั้งการทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีเสมอไป แม้กระทั่งการเป็นลูกคนกลางที่เราไม่ได้ตั้งใจจะเป็น มันก็เป็นเรื่องที่แย่ซะจริงๆ เพราะว่าบางทีพ่อแม่ก็ให้ความสำคัญกับลูกคนโตกับคนเล็ก จนลืมไปว่ามีเราอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงนี้เหมือนกันนะแม่ และนี่คือภาพความรู้สึกของลูกคนกลาง ที่ชาวเน็ตจากทั่วทั้งโลกได้ส่งต่อกันมาให้ได้รับรู้ว่า บรรยากาศของการเป็นลูกคนกลางนั้นมันเป็นอย่างไร และน่าน้อยเนื้อต่ำใจขนาดไหน แต่ก็นะฉันมันเป็นลูกคนกลางนี่ จะไปทำอะไรถูกใจให้ถูกใจแม่เหมือนคนโตกับคนเล็กได้ยังไงล่ะ ชิชะ เมื่อพี่กำลังเลี้ยงน้องอยู่ แล้วหนูจะทำอะไรดีล่ะ บางครั้งก็โดนพี่เอามาเป็นเกราะกำบังจากการโดนน้องแกล้งอยู่บ่อยๆ กับคนอื่นพ่อไม่เล่นอย่างนี้ด้วยหรอก อภิสิทธิ์พิเศษสำหรับหนูคนเดียว เอาน่าก็สองข้างมันบีบจนเต็มหมดแล้ว อย่าเรื่องมากไปหน่อยเลย โถ แล้วใครจะเห็นหนูกันละเนี่ย ไม่เล่นด้วยก็ได้ ไม่เสียใจหรอก ไม่เลยสักนิด ต้องพยายามทำสิ่งแปลกๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจเสมอ ต้องได้รับเสื้อต่อจากพี่ แต่น้องกลับได้ชุดใหม่เฉยเลย แม่: แม่จำได้ว่าลูกไม่ชอบเสื้อผ้าแนวสตีมพังก์ ใช่หรือเปล่านะ? ฉัน: แม่ หนูไม่ชอบสตีมพังก์แต่ไหนแต่ไรแล้ว นี่แม่คุยกับลูกถูกคนไหมเนี่ย แม่: ถ้าใกล้เลิกเรียนแล้วโทรหาแม่ด้วยนะ ฉัน: หนูอยู่บ้านมาตั้ง 2 ชั่วโมงแล้วแม่ แม่: ถ้าอยากให้ไปรับก็โทรมานะ…
-
ตำรวจรัสเซียเหนือชั้น จัดฉากฆาตกรรมครอบครัวของวัยรุ่นที่จ้างมือปืนมา หวังฮุบมรดก!!
หนุ่มวัย 22 ปี ถูกหลอกล่อโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เชื่อว่าเขาได้ทำสัญญาว่าจ้างนักฆ่ามาให้มาปลิดชีพพ่อแม่และน้องสาววัย 10 ปีของตน เพื่อจะฮุบสมบัติของครอบครัวให้สำเร็จ ทีมนักสืบสืบจนพบแผนการฮุบสมบัติโดยการคิดจะสังหารคนทั้งครอบครัวของเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้ามาสวมบทบาทเป็นนักฆ่ารับจ้างในนครโซชีของรัสเซีย ขณะที่หนุ่มน้อยติดต่อทำสัญญากับนักฆ่า เขายังได้ออกคำสั่งการกับนักฆ่าดังกล่าวถึงวิธีและสถานที่ที่ครอบครัวของเขาจะต้องถูกฆ่า อีกทั้งยังมีการวาดแผนผังของสถานที่ รวมไปถึงระบุจุดที่มีกล้องวงจรปิดและวิธีการหลีกเลี่ยงสุนัขเฝ้ายามอีกด้วย เมื่อเขาและนักฆ่าตกลงกันถึงรายละเอียดและค่าจ้างเสร็จแล้ว หนุ่มน้อยบอกว่าต้องการจะเห็นภาพหลักฐานการตายของครอบครัวของเขา ทางตำรวจจึงจัดฉากให้พ่อและแม่ของเขาแกล้งตายพร้อมถ่ายรูปของพวกเขาที่มีร่องรอยการถูกแทงด้วยมีดจนเลือดไหลออกมาจำนวนมาก . ทางฝ่ายนักฆ่าจึงได้ทำการนัดหมายชายหนุ่มเพื่อจะนำภาพถ่ายการฆาตกรรมไปให้ดู ถึงกระนั้น ไม่มีรูปถ่ายการตายของน้องสาวเขา และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนหลอกล่อของตำรวจครั้งนี้ด้วยหรือไม่ แต่หลังจากที่หนุ่มน้อยได้เห็นภาพยืนยันการเสียชีวิต เขาก็มีสีหน้าที่มีความสุขขึ้นมา พร้อมทั้งยินดีที่จะจ่ายค่าจ้างกว่า 1.6 ล้านบาทให้กับคนที่เขาเชื่อว่าเป็นนักฆ่ารับจ้าง เขาตั้งใจว่าไม่นานสมบัติทุกอย่างก็จะตกมาเป็นของเขา แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อตำรวจพร้อมอาวุธเข้ามาควบคุมตัวเขาไว้ เขาจึงรีบรับสารภาพ โดยตำรวจจากคราสโนดาร์กล่าวว่าเด็กคนนี้เคยวางแผนฆาตกรรมครอบครัวตนเองมาแล้วถึงสองครั้ง “เขาต้องการจะกำจัดพ่อแม่ของเขา เนื่องจากพ่อแม่ไม่ยอมให้เงินแก่เขา” เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว . . เจ้าหน้าที่ตำรวจยังกล่าวอีกว่า “เขาเคยพยายามกำจัดญาติพี่น้องของเขาสองครั้ง เขาใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาวิธีการฆาตกรรม เขาเคยใส่ยาพิษลงในกาต้มน้ำ แต่พ่อของเขากลับสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ จากนั้นเด็กคนนี้ก็ทำให้เทอร์มอมิเตอร์ในรถแตกเพื่อให้พ่อและแม่ของเขาได้รับสารปรอทจากไอระเหยของมัน” ในการสอบสวน เด็กหนุ่มกล่าวว่า “ผมวางแผนนี้มาหลายเดือน ผมทนไม่ไหวกับพวกเขาแล้ว เขาไม่เคยเข้าใจผมเลย จากนั้นผมก็ตัดสินใจจ้างนักฆ่า” เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า “พ่อแม่ของเขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะทำแบบนี้ได้ลงคอ”…
-
คุณแม่สละตัวเองช่วยลูกจนเป็นอัมพาต ถูกสามีทิ้ง แต่ก็เลี้ยงลูกๆ 3 จนเติบโตและได้ดี
เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องสุดน่าประทับใจกับความรักและความห่วงใยที่แม่คนหนึ่งจะสามารถมีให้กับลูกๆ ได้ การเสียสละเพื่อลูกของหญิงคนหนึ่ง โดยที่ไม่คำนึงถึงตัวเองแม้แต่น้อย กลายเป็นความซาบซึ้งที่ลูกๆ ไม่มีวันลืมได้เลย คุณแม่ลูกสาม วัย 30 ปี Joy Veron ได้เคยสร้างวีรกรรมอันแสนยิ่งใหญ่เอาไว้ ทำให้ Annie และ Chloe ลูกสาวของเธอสองคนได้ถือโอกาสเนื่องในวันแม่ ทำคลิปวิดีโอบอกเล่าเหตุการณ์ที่แม่ของพวกเธอได้แสดงความเสียสละช่วยเหลือชีวิตของพวกเธอเอาไว้ โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตนเองเลย คลิปจากใจของลูกๆ “เราอยากจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแม่ของพวกเรา” คุณแม่ Joy และคุณพ่อแต่งงานกันในปี 1991 หลายปีหลังจากนั้น เธอก็มีลูกสาว 2 คน และลูกชายอีก 1 คน ครอบครัวของ Joy อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมาตลอด จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นในปี 1999 ที่ได้เปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของครอบครัวไปตลอดกาล อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ทั้งครอบครัวกำลังไปเที่ยวด้วยกัน รวมไปถึงปู่ย่าตายายอีกด้วย ทั้งครอบครัวตั้งใจว่า จะไปเช่าบ้านไม้ตากอากาศกัน ส่วนเด็กๆ ที่ขณะนั้นต่างมีอายุเพียง 7, 5, และ 3 ปี พากันรู้สึกตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก “มันงดงามมาก…
-
ความรู้สึกของสามี ถ่ายทอดผ่านภาพการ์ตูนชีวิตรัก ทุกวันที่มีเธอก็เหมือนกับท่อน้ำหล่อเลี้ยงใจ…
หลายคนคงเคยอ่านเรื่องราวของ Curtis Wiklund ช่างภาพที่ได้แรงบันดาลใจจากภรรยาที่คอยถ่ายภาพบันทึกตลอด 365 วัน จนเขาหันมาวาดภาพเพื่อบันทึกเรื่องราวอันน่าประทับใจของเขากับภรรยา (อ่านได้ที่นี่) ในตลอดปีที่ผ่านมาเขาก็ได้วาดรูปเรื่องราวชีวิตที่น่าจดจำของเขากับภรรยาและลูกๆ ของพวกเขา Casen กับ Heyden อีกหลายต่อหลายภาพ เขากล่าวว่าเขาชอบวาดรูปตั้งแต่เด็กๆ และได้หันมาชอบดนตรีแทน จนมาพบกับสาวคนหนึ่งที่ชื่อว่า Jordin ซึ่งภายหลังกลายเป็นภรรยาของเขา เธอได้สร้างแรงบรรดาลใจให้เขากลับมารักในการวาดภาพอีกครั้ง ทำให้การวาดภาพเป็นกิจกรรมโปรดที่เขาได้ใช้เวลาร่วมกับภรรยา ภาพวาดของเขานั้นบางบาพก็ดูน่ารัก บางภาพก็ดูเจ็บปวด เช่นภาพนี้ เป็นภาพครอบครัวน่ารักๆ ที่พวกเขาได้นั่งอ่านหนังสือด้วยกันก่อนนอน ภาพนี้แสดงให้เห็นท่านอนของ Jordin ที่ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดทั้งคืน บางทีลูกชายของพวกเขาก็ต้องการความช่วยเหลือในห้องน้ำ ภาพนี้เขาได้ตั้งชื่อมันว่า Us เป็นภาพที่วาดเมื่อปี 2011 แต่ในปี 2016 มันกลับทำให้รู้สึกหนักอึ้งขึ้นเมื่อพวกเขาพบว่า Jordin นั้นแท้งลูก ในตอนนั้นภาพวาดนี้กลับบรรยายความรู้สึกได้มากกว่าคำพูด เขาได้วาดภาพแสดงความรู้สึกถึงการเดินหน้าต่อไปและความใกล้ชิดกันมากขึ้น และภาพวาดของเขาก็แสดงให้เห็นถึงความสุขอีกครั้งเมื่อเขาและภรรยาพบว่าเธอนั้นตั้งท้องอีกครั้ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้วาดภาพมากมายจนสามารถนำมารวมเป็นเล่มหนังสือได้เลย เขาบอกว่าภาพวาดเหล่านั้นทำให้เขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวและสามารถแบ่งปันความรู้สึกให้กับผู้อื่นอีกด้วย การที่ได้แบ่งปันความรู้สึกดีๆ…
-
คู่รักย้ายเข้าบ้านใหม่วาดฝันชีวิตไว้สวยงาม กลับโดนบุคคลปริศนาตามรังควานไม่หยุด
การได้มีบ้านเป็นของตัวเองถือเป็นความสำเร็จก้าวใหญ่ก้าวหนึ่งในชีวิตทุกคน โดยเฉพาะกับคนมีครอบครัวแล้วการหาบ้านที่กว้างขวางพอสำหรับครอบครัวทุกคนและมีเพื่อนบ้านนิสัยดีด้วยถือเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งในฐานะของพ่อแม่เลย Jerry Rice และ Janic Ruhter ก็เพิ่งตัดสินใจซื้อบ้านใหม่ในชุมชน Carmel Valley เมืองซานดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขารู้สึกพึงพอใจกับบ้านหลังใหม่นี้มาก คู่รัก Jerry Rice และ Janic Ruhter คู่รักตัดสินใจซื้อบ้านใหม่เพราะมีลูกด้วยกันคนหนึ่งแล้ว และกำลังตั้งท้องลูกคนเล็กอีกคนด้วย จึงต้องการบ้านที่ใหญ่ขึ้น โดยพวกเขาซื้อบ้านหลังนี้ผ่านทาง Renee Milton นายหน้าขายบ้านของชุมชนแห่งนี้ แถมเพื่อนบ้านรอบๆ ก็เป็นมิตรดีด้วย บ้านหลังใหม่ของคู่รักใน Carmel Vally แต่หลังจากอยู่กันอย่างสงบสุขได้เพียงเดือนเดียว พวกเขาก็ได้รับจดหมายติดต่อมาขอซื้อบ้านหลังนี้ ซึ่งคนส่งจดหมายยินดีจะจ่ายเงินให้มากถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.1 ล้านบาท) อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้ให้ความสนใจจดหมายฉบับนี้นัก เพราะพวกเขาก็ชอบบ้านหลังนี้มากเหมือนกันจึงไม่ได้คิดจะขายมันเลยสักนิดเดียว จดหมายจากคนแปลกหน้า ในวันต่อมาคู่รักรู้สึกตกใจมากที่เห็นบ้านของพวกเขาถูกประกาศขายในเว็บไซต์อสังหาริมทรัย์ที่โด่งดังอย่าง Zilow ทั้งคู่ก็เลยรีบติดต่อไปสอบถามคนที่ขายบ้านให้พวกเขาทันที แต่ก็พบว่าเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับประกาศขายนั้นเลย นอกจากนี้พวกเขายังได้รับนิตยสารจำนวนมากที่ไม่ได้สั่งไว้ด้วย ทำให้พวกเขาต้องมีค่าใช้จ่ายจากการสั่งซื้อนิตยาสารเหล่านี้เป็นมูลค่ากว่า 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 31,000 บาท)…
-
ครอบครัวตั้งกล้อง แอบถ่ายพี่เลี้ยงเด็กที่ทำร้ายลูกของเขาด้วยการทุบตีและบีบจมูก
ปัจจุบันหลายครอบครัวนิยมจ้างพี่เลี้ยงเด็กให้มาดูแลลูกของตัวเอง เพราะตนเองไม่ว่างและไม่อยากปล่อยให้เด็กอยู่ในบ้านตามลำพัง แต่ก่อนจะรับพี่เลี้ยงเด็กมาควรจะตรวจสอบประวัติและพฤติกรรมของเธอให้ดี ไม่เช่นนั้นลูกของคุณอาจจะลำบากเพราะการเลี้ยงดูที่ไม่ดีของพี่เลี้ยงเด็กเอาได้เหมือนกับครอบครัวนี้ Elena Levendeeva เป็นคุณแม่อายุ 26 ปี เธออาศัยอยู่ในเมือง Nefteyugansk ประเทศรัสเซีย เมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งจ้าง Anastasia Zhelyabova หญิงอายุ 31 ปี มาเป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ให้กับลูกชายอายุ 8 เดือนของเธอ Elena Levendeeva และลูกชายของเธอ แต่พอพี่เลี้ยงมาดูแลลูกได้ไม่นาน เธอก็สังเกตเห็นว่าลูกของเธอร้องไห้งอแงทุกครั้งเมื่อพี่เลี้ยงคนนี้มาทำงาน เธอจึงเอะใจว่าบางทีพี่เลี้ยงคนนี้อาจจะเลี้ยงลูกของเธอได้ไม่ดีก็ได้ เธอจึงลองติดกล้องวงจรปิดไว้ในบ้านเพื่อสังเกตพฤติกรรมของพี่เลี้ยงดู หลังจากติดกล้องวงจรปิดได้วันเดียวเท่านั้น สิ่งที่กล้องบันทึกภาพได้ก็ทำให้เธอโมโหมาก เพราะ Zhelyabova ใช้ความรุนแรงกับลูกของเธอหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว ในตอนต้นของคลิป ในขณะที่เธอกำลังให้นมหนุ่มน้อยอยู่ เขาคงขัดขืนจนทำให้เธอโมโหเธอก็เลยใช้มือตบก้นและหน้าของเขา เท่านั้นยังไม่พอตอนที่เธอป้อนนมหนุ่มน้อยอยู่ เธอก็ใช้มือบีบจมูกของเขาเอาไว้ด้วย เพื่อบังคับให้เขาดื่มนมเข้าไป หลังจากเธอป้อนนมเขาเสร็จเธอก็จับมือของเด็กชายไว้และลากเขาไปตามทาง แล้วเธอก็โยนเด็กน้อยไปบนพื้นข้างๆ กันด้วย พอดูคลิปวิดีโอที่เธอแอบถ่ายเอาไว้จบ เธอก็ตัดสินใจนำคลิปวิดีโอส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้พวกเขาดำเนินคดีกับ Zhelyabova ทันที นอกจากนี้เธอยังอัปโหลดคลิปวิดีโอลงในโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับครอบครัวอื่นที่คิดจะจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกของตัวเองด้วย โดยเธอโพสต์ว่า “เนื่องจากลูกของฉันร้องไห้บ่อยมาก ฉันก็เลยลองติดกล้องวงจรปิดดู…
-
หนุ่มสร้างสรรค์ผลงานภาพ โดยมีลูกสาวสามคนและลูกชายอีกคนเป็นตัวเล่าเรื่องราว
ภาพถ่ายคือสิ่งที่ช่วยเก็บความทรงจำตลอดช่วงชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี แต่ช่างภาพชาวสวิตเซอร์แลนด์ John Wilhelm วัย 48 ปี กลับสามารถทำให้มันมีความสวยงามและเต็มไปด้วยจินตนาการมากยิ่งขึ้นไปอีก John คือชายที่เติบโตมากับวงการถ่ายภาพ พ่อของขาคือช่างภาพมืออาชีพผู้มากฝีมือและประสบการณ์ และนั่นก็ทำให้เขาได้รับสิ่งนั้นติดตัวมาตั้งแต่เด็ก ก่อนที่เขาจะเรียนรู้การตัดต่อภาพ 3 มิติเพื่อเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นให้กับผลงานของตัวเอง เขาได้นำฝีมือสุดสร้างสรรค์มาสร้างเรื่องราวให้กับภาพถ่ายครอบครัวที่ถูกเล่าผ่านลูกๆ ทั้ง 4 คน (หญิง 3 ชาย 1) บวกกับภาพของภรรยาอีกนิดหน่อย จนกลายเป็นความอัศจรรย์ในรูปแบบแฟนตาซี ว่าแล้วก็อย่ารอช้า เราลองไปชมตัวอย่างผลงานของเขาคนนี้กันเลยยย ร่มที่ทำให้อากาศแจ่มใส แม้ในวันที่ฝนโปรยปราย ผ้าห่มแห่งท้องทะเล หลับฝันหวานถึงคลื่นที่ซัดเข้ามา เมื่อที่บ้านไม่มีกระดาษทิชชู่ หนูน้อยจึงต้องมาเก็บเอาจากท้องถนน เด็กไม่สามารถเลือกได้ว่า เธออยากเกิดมาในสภาพแวดล้อมแบบไหน จริงๆ แล้วกล้วยมันเหยียดตรง แต่พวกเธอนี่แหละที่ทำให้มันโค้งงอ แสงสว่างจะเข้ามานำทาง ในยามที่มืดมิด ไปคาบมาแม่สาวน้อย ไม่ให้เธอไป เป็นกระดานลื่นที่ดูมึนหัวแบบฝุดๆ การให้อาหารสัตว์เลี้ยงประจำบ้าน การทำครัวไม่ยากอย่างที่คุณคิด…
-
ทหารผ่านศึกผู้สูญเสียแขนขาจากสงคราม บอกภรรยาให้ทิ้งเขาไป แต่เธอยินดีที่จะอยู่ดูแลเขา
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 10 เมษายน ปี 2012 การสู้รบที่ประเทศอัฟกานิสถาน ทำให้ชีวิตของ Travis Mills นายทหารหนุ่มจากกองทัพสหรัฐต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล ในการปฏิบัติภารกิจครั้งนั้น นายทหารหนุ่มบังเอิญเหยียบโดนกับระเบิด อาวุธร้ายจากฝ่ายข้าศึกทำให้แขนและขาของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หนึ่งวันหลังจากเหตุสะเทือนใจ Kelsey ภรรยาของเขาได้เซ็นยินยอมให้แพทย์ตัดแขนและขาของสามีเธอเพื่อยื้อชีวิตเขาไว้ การสูญเสียอวัยวะจากสงคราม ทำให้เขามองไม่เห็นหนทางที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า Travis ไม่รู้ว่าเขาจะรับผิดชอบชีวิตครอบครัวได้อย่างไร ในเมื่อร่างกายที่เคยแข็งแรงของเขา ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว การขอร้องให้ภรรยาพาลูกน้อยวัยแบเบาะ ทิ้งเขาไปดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่นายทหารหนุ่มผู้นี้คิดออก แต่เมื่อเขาบอกความคิดนี้ให้กับภรรยา เธอกลับเลือกที่จะยอมอยู่ข้างๆ เขา “คุณควรจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ตอนนี้ผมไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว” นายทหารผ่านศึกพูดกับภรรยาของเขา “ใช่ ฉันก็คิดอยู่ แต่เป็นเรื่องที่จอดรถสำหรับผู้พิการนะ” ฝ่ายหญิงแกล้งหยอก แต่ถึงอย่างนั้นเธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะทิ้งเขาไปไหนเลย กำลังใจจากคนในคนรอบข้างเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งทำให้นายทหารผ่านศึกผู้นี้มีกกำลังใจที่จะสู้ต่อ แต่เหนื่อสิ่งอื่นใดนั่นก็คือความรักจากภรรยาและลูกสาวของเขานั่นเอง “เมื่อผมมองมาที่ภรรยาและลูกสาวของผม ผมคิดกับตัวเองว่า เมื่อพวกเขายอมที่จะอยู่ข้างผมแล้ว ผมจะต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด นั่นคือสิ่งเดียวที่มีค่ามากที่สุดสำหรับภรรยาของผม” หลังจากที่เริ่มทำกายภาพบำบัด และติดตั้งแขนขาเทียม Travis ก็ได้เรียนรู้ว่า ไม่มีอะไรบนโลกนี้เป็นไปไม่ได้ เขาเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกับอวัยวะใหม่ “ผมหัดเดิน ขับรถ และฝึกทำทุกๆ อย่างที่พอทำได้ “ การฝึกฝนผ่านไปเรื่อยๆ…
-
อดีตภรรยาเผย ‘ไม่มีคำใดจะอธิบายความรู้สึกถูกหักหลังได้เลย’ จากกรณีสามีแต่งกับลูกสาวตัวเอง
สืบเนื่องจากเรื่องที่คุณพ่อ Steven Pladl มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ Katie Fusco ลูกสาวในไส้ของตัวเองที่พลัดพรากจากกันไปจนเธอท้อง ทำให้ทั้งคู่ถูกจับเข้าตารางไปเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้ฝ่ายอดีตภรรยา Alyssa Pladl จะออกมาเปิดเผยเรื่องราวในมุมของเธอให้ได้ฟังกันบ้าง (อ่านข่าวเก่าได้ ที่นี่) คุณพ่อ Steven Pladl และลูกสาว Katie Fusco ก่อนหน้านี้ Alyssa แยกทางอดีตสามีเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 แล้วจึงได้หย่ากันในเดือนมีนาคม 2017 แต่ต่อมาในเดือนพฤศภาคม 2017 เธอก็ได้รู้ความจริงว่าอดีตสามีคบชู้กับลูกสาวของตนเองแล้วยังทำเธอตั้งท้องอีก ด้วยความที่เธอรับเรื่องนี้ไม่ได้เธอก็เลยแจ้งตำรวจถึงเรื่องผิดศีลธรรมและผิดกฎหมายนี้ให้ตำรวจได้ทราบทันที จากนั้นพวกเขาก็สามารถจับทั้งคู่ได้เดือนมกราคมปี 2018 ทว่าอดีตสามีได้รับการประกันตัวออกมาด้วยเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 31 ล้านบาท) ส่วนลูกสาวยังคงติดคุกอยู่ อดีตภรรยาและคุณแม่ Alyssa Pladl Alyssa เล่าย้อนความไปถึงตอนที่เธอเป็นวัยรุ่นอายุ 17 ปีอยู่ ตอนนั้นเธอก็ตั้งท้องกับ Steven ที่อายุ 22 ปีเสียแล้ว แต่เธอไม่พร้อมที่จะเลี้ยงลูก เธอจึงให้พ่อแม่บุญธรรมรับลูกไปเลี้ยงแทนโดยหวังพวกเขาจะมอบอนาคตที่ดีกว่าให้ลูกได้ ตอนที่คลอดลูกสาวออกมาเธอตั้งชื่อลูกน้อยว่า Denise (ปัจจุบันคือ Katie Fusco) การทิ้งลูกสาวไปทำให้เธอรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลาจนเกิดเป็นปมในใจขึ้น…
-
สองหนุ่มพี่น้อง เจ้าของกิจการ ‘ขนย้ายของ’ ฮีโร่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ให้หลุดพ้นการถูกกดขี่
เรื่องราวน่าประทับใจที่จะนำมาเสนอในวันนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสองพี่น้องชายหนุ่มที่ทำอาชีพรับจ้างขนของแถมยังคอยช่วยเหลือผู้คน ราวกับว่าพวกเขา เป็น “ฮีโร่” กันเลยทีเดียว ในรัฐแคลิฟอร์เนียปี 1997 สองพี่น้อง Aaron Steed และ Evan ได้ก่อตั้งกิจการ “ขนย้ายของ” ขึ้นมาเป็นของตัวเอง เนื่องจากในขณะนั้นทั้งคู่เป็นนักกีฬาของโรงเรียน ทำให้พวกเขาต้องพบเจอปัญหาในการหางานเสริมที่มีเวลาตรงกับตารางเวลาที่แน่นขนัดของพวกเขา แต่พวกเขายังคงต้องการเงินที่จะมาส่งตัวเองเรียน ทำให้วันหนึ่งหลังจากที่พวกเขาถูกจ้างโดยพ่อของเพื่อนให้ไปช่วยขนย้ายข้าวของออกจากบ้าน พวกเขาจึงตัดสินใจก่อตั้งกิจการขนย้ายของโดยใช้ชื่อว่า “Meathead Movers” กิจการของพวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นบริษัทขนย้ายของที่ใหญ่ที่สุดในแคลิฟอร์เนีย อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่คอยช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงภายในครอบครัวอีกด้วย หลังจากที่ Aaron กับ Evan ก่อตั้งกิจการได้ไม่นานนัก ก็มีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาที่บริษัทจำนวนหนึ่ง ผู้ติดต่อเผยว่าพวกเขาถูกกดขี่และทำร้ายภายในบ้าน ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้ไม่มีเงินแถมยังแทบจะไม่มีหวังที่จะออกจากสภาวการณ์ที่ถูกกดขี่เช่นนั้น แต่สองพี่น้องคู่นี้คิดว่าอย่างไรก็ต้องช่วยเหลือคนพวกนั้นให้ได้ หากว่าผู้ที่ติดต่อเข้ามาขอความช่วยเหลือให้สามารถหลบหนีออกจากสถานการณ์ความรุนแรงภายในบ้านได้ล่ะก็ สองพี่น้องก็จะช่วยเหลือโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน และไม่มีคำถามใดๆ ทั้งนั้น “ตั้งแต่นั้นมา พวกเราก็ให้การบริการแบบไม่คิดค่าใช้จ่ายสำหรับเหยื่อของความรุนแรงภายในบ้าน” Evan กล่าว สองพี่น้องนึกได้ถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่ติดต่อเข้ามาเมื่อหลายปีก่อน เธอเล่าว่าเธอถูกทำร้ายโดยคนรักเก่าของเธอแทบจะทุกวัน และยังถูกข่มขู่ว่าจะทำร้ายลูกสาวและหลานของเธออีกด้วย จากนั้นบริษัท Meathead ก็เข้ามาช่วย พวกเข้าเข้ามานำตัวหญิงสาวพร้อมลูกสาวและหลานของเธอหนีออกจากบ้านหลังเดิม เท่านั้นยังไม่พอพวกเขายังเตรียมที่นอนพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นให้กับที่พักแห่งใหม่สำหรับหญิงสาวและเด็กๆ แถมยังเอาดอกไม้ใส่กระถางมาให้เป็นของขวัญต้อนรับเข้าสู่บ้านใหม่อีกด้วย จากนั้นชื่อเสียงของพวกเขาได้แพร่กระจายออกไป และหนุ่มๆ ในบริษัทก็เข้ามาทำหน้าที่ตามคำปฏิญาณที่ตั้งใจเอาไว้…
-
หนังสั้น ‘3 นาที’ เวลาอันมีค่าของแม่ในช่วงตรุษจีน โฆษณาของแอปเปิลที่ไม่เห็นโทรศัพท์เลย
ช่วงเทศกาลตรุษจีน ถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่พี่น้องชาวจีนต่างตั้งตารอคอยกัน เพราะนอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่ครอบครัวจะได้มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และในโอกาสที่ใกล้จะถึงช่วงเวลาที่สำคัญของชาวจีนนี้ ทางแอปเปิลเองก็ได้ทำหนังสั้นเรื่องหนึ่งที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริงของคุณแม่ผู้หนึ่งที่มีโอกาสพบหน้าลูกเธอในวันสำคัญนี้เพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น!! หนังสั้นเรื่อง Three Minutes ผลงานการกำกับของผู้กำกับชาวฮ่องกงคุณ Peter Chan ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของพนักงานรถไฟหญิงคนหนึ่งซึ่งประจำอยู่ในขบวนรถไฟสายหนานหนิง-ฮาร์บิน หนึ่งในขบวนรถไฟที่เวลาเดินทางยาวนานถึง 6 วัน ในขณะที่หลายๆ ครอบครัวกำลังเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้น พนักงานรถไฟสาวผู้นี้กลับต้องทำหน้าที่ของเธอ และในเทศกาลตรุษจีนปีนี้เธอเองก็มีโอกาสได้พบหน้าลูกชายที่สถานีบ้านเกิดเพียงแค่ 3 นาทีเพื่อพูดคุยกับเขา ก่อนที่รถไฟจะเคลื่อนออก การพบกันของสองแม่ลูกในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ได้รับความนิยมจากชาวจีนอย่างมาก ปัจจุบันมีผู้เข้าชมหนังสั้นเรื่องนี้มากกว่า 37 ล้านครั้ง หลังจากที่มันถูกเผยแพร่ทางเว็บไซต์ Weibo และนอกจากเรื่องราวสุดซึ้งของทั้งสองแม่ลูกแล้ว ทางแอปเปิลยังได้ปล่อยคลิปวิดีโอเบื้องหลังการถ่ายทำที่ใช้อุปกรณ์หลักคือกล้องจาก iPhone X นั่นเอง วินาทีที่สองแม่ลูกได้พบหน้ากัน ไปชมเรื่องราวของทั้งสองได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ส่วนนี่คือเบื้องหลังการถ่ายทำของหนังสั้นเรื่องนี้ . ที่มา designtaxi
-
20 เรื่องที่ถ้าหากคุณคบกับแฟนมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี จะต้องเคยทำเรื่องพวกนี้แน่ๆ
การแสดงออกในสังคมของมนุษย์นั้นล้วนแบ่งออกเป็นหลายระดับ เช่นถ้าเราเจอคนที่ไม่คุ้นหน้าหรือไม่รู้จัก เราจะพยายามรักษาความสุภาพไว้ให้มากที่เพื่อสร้างความประทับใจ จนกระทั่งเมื่อเราสนิทกันมากขึ้นเราก็จะขี้เล่นกันมากขึ้น ใช้ถ้อยคำที่ดูใกล้ชิดหรืออาจจะหยาบคายกว่าตอนแรก เช่นเดียวกับความสัมพันธ์แบบคู่รักที่ตอนแรกเริ่มเรามักจะทำดีต่อกัน ไม่จะว่านั่งจะนอนจะตดจะกรน คือจะทำอะไรมันก็ดูดีไพเราะไปเสียหมด แต่เมื่อความสัมพันธ์แบบคู่รักมันเกิดขึ้นในระยะยาวเกินกว่า 2 ถึง 3 ปี วิธีการแสดงออกส่วนใหญ่ของเราก็มักจะแปลกไป มันจะมีมุมแปลกๆ ที่ดูหยาบคายมากขึ้น สบายๆ มากขึ้นแต่ยังคงความน่ารักไว้เสมอ เช่น… 1. การพูดด้วยภาษาแปลกๆ ที่เราสร้างขึ้นมาเอง โดยที่รู้เรื่องกันแค่สองคน… 2. เริ่มมีการถกเถียงในเรื่องของการอาบน้ำ การกิน และอื่นๆ ว่าใครจะได้ทำก่อนและหลัง (ช่วงโปรโมชั่นจะพากันยอมให้กันและกันตลอด) 3. เลิกขอโทษเวลา เรอเสียงดัง เวลาตด หรือเวลาทำอะไรน่าเกลียดๆ 4. เริ่มจะนินทาชาวบ้านทั้งที่ตัวเองไม่รู้จักมากขึ้น (ช่วงโปรโมชั่นเรามักจะพูดถึงแต่เรื่องดีๆ ของกันและกันเสียส่วนใหญ่) 5. ข้อความที่ส่งหากันมักจะเลี่ยนน้อยลง แต่มีมุกตลกเกรียนๆ มากขึ้น ซึ่งมันก็จะน่ารักไปอีกแบบ 6. เริ่มลืมจะใส่ใจเรื่องการฉลองวันพิเศษกัน แต่จะสนใจการเตือนเรื่องในบ้านมากขึ้น เช่นวันนี้คิวใครต้องไปกรอกน้ำ ซักผ้า ล้างจาน…
-
‘พ่อไม่เคยอยู่บ้าน’ คำตอบจากการบ้านเด็กชาย ทำให้ได้รู้ถึงความห่างเหินของพ่อลูก…
สำหรับหลายครอบครัว คุณพ่อหรือคุณแม่อาจไม่มีเวลาอยู่กับลูกเพราะต้องทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อหารายได้ส่งเลี้ยงครอบครัว แต่ก็ยังมีคู่ชีวิตของตนคอยอยู่ดูแลลูกรักไม่ให้ขาดความอบอุ่นแต่อย่างใด ลักษณะของครอบครัวแบบนี้อาจจะดูไม่มีปัญหาอะไร ทว่าคำตอบจากการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนคนหนึ่งกลับชี้ให้เห็นว่าครอบครัวมีปัญหาใหญ่เสียแล้ว… แทนที่จะตอบว่ามีคนในครอบครัว 4 คนอย่างที่คุณครูได้ทราบมา แต่เด็กชายกลับตอบว่าครอบครัวของเขามีเพียง 3 คน เพราะไม่นับพ่อที่ไม่ค่อยอยู่บ้าน การบ้านวิชาคณิตศาสตร์ ถามว่าคนในครอบครัวมีจำนวนกี่คน เด็กชายตอบอย่างหนักแน่นว่า 3 คน การบ้านวิชาคณิตศาสตร์ที่ว่านี้เป็นของเด็กชายสกุล Luo ครอบครัวของเขามีกันทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วยพ่อ แม่ เขาและน้องสาวอีกคนหนึ่ง พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกันในชุมชนต้าหวู่ มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน วันหนึ่งเด็กชายได้นำการบ้านวิชาคณิตศาสตร์กลับมาบ้านด้วย แม่ของเขาสังเกตเห็นคำถามข้อแรกที่ถามว่า ‘มีคนในครอบครัวจำนวนกี่คน’ ซึ่งเด็กชายตอบไว้เพียง 3 จึงเรียกมาสอบถามดูว่าเขานับเลขผิดหรืออย่างไร แต่เด็กชายกลับยืนยันหนักแน่นว่า “3 คนเป็นคนตอบที่ถูกต้องแล้ว เพราะพ่อไม่เคยอยู่บ้านเลย” พอได้ยินแบบนั้นคุณแม่ก็รู้สึกหัวเสียมาก จากนั้นจึงส่งรูปการบ้านนี้ไปให้คุณตำรวจ Luo Jian ผู้เป็นพ่อของเด็กชายได้ดู ครอบครัว Luo มีคุณพ่อ คุณแม่ ลูกชายและลูกสาว รวมแล้ว 4 คน ตัวคุณพ่อนั้นทำงานเป็นตำรวจ…
-
ครอบครัวมีลูกทั้งหมด 13 คน เป็นชายล้วน ตอนนี้กำลังรอคนที่ 14 หวังว่าพวกเขาจะได้ลูกผู้หญิง
คู่รักบางคนวาดฝันอยากมีลูกสักคนหรือสองคน บางคนอาจจะหวังไว้มากหน่อยเป็นลูก 4 คน แต่คุณเคยคิดไหมว่าจะมีครอบครัวไหนในโลก ที่วาดฝันว่าอยากมีลูกผู้หญิงแต่ทำยังไงก็ไม่ได้สักที จนรู้ตัวอีกทีก็มีลูกชาย 13 คนแล้ว!? Jay และ Kateri Schwandt ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 สองสามีภรรยาจากรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ตกเป็นข่าวใหญ่โตว่าพวกเขาให้กำเนิดบุตรชายคนที่ 13 …ใช่คุณอ่านไม่ผิดหรอก ลูกคนที่ 13 จริงๆ คือตอนนี้ลูกชายในบ้านรวมกันก็ตั้งทีมฟุตบอลได้สบายๆ ทั้งคู่เล่าว่าพวกเขาอยากได้ลูกสาวที่พวกเขาเป็นคนให้กำเนิดเอง แต่จนแล้วจนรอดนับตั้งแต่ลูกคนแรก Tyler ที่อายุปาเข้าไป 24 ปีแล้ว ลากยาวมาจนถึงลูกคนสุดท้องที่กำลังจะอายุ 2 ขวบ พวกเขาก็ยังไม่ได้ลูกสาวเสียที นอกจากนี้สื่อยังถามทั้งคู่ว่าพวกเขารู้ยังไงกับการมีลูกชายถึง 13 คน แล้วพวกเขามีเงินมากพอจะดูแลทั้งหมดหรือเปล่า ซึ่งตัว Kateri ก็ตอบว่า “ถ้าคุณมีลูกไปแล้ว 3 คน การมีลูก 10 คนก็ไม่ต่างกันแล้ว และถ้าคุณถามฉันว่ามันรู้สึกอย่างไร ฉันก็ตอบได้แค่ว่ามันโกลาหลสุดๆ บ้านคุณจะหนวกหูมากขึ้น นอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วละ”…
-
27 เรื่องราวในครอบครัวสุดโหด มันส์ ฮา ที่ชาวเน็ตต่างเอามาแชร์กันให้อ่านแบบขำค้าง
สิ่งที่เราจะต้องเจอมาตั้งแต่เล็กจนโตก็คือครอบครัว สังคมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น และความทรงจำน่ารักๆ ที่คอยเติมเต็มหัวใจดวงน้อยๆ ของเราอยู่เสมอ วันวานที่ยังหวานอยู่เหล่านั้น เมื่อคิดถึงทีไรก็คงจะอดยิ้มกันไม่ได้ซักที เหมือนกับเรื่องราวมากมายที่ถูกแชร์ลงมาในโลกโซเชียล เผยให้เห็นถึงความสุขและความฮาในอดีต เพื่อบอกให้ทุกคนได้รู้ว่าครอบครัวคือสิ่งที่สวยงามมากขนาดไหน ว่าแล้วราก็ลองไปดูเรื่องราวของพวกเขากันเลย นี่เป็นภาพตอนปี 1980 ในตอนที่ชาวเน็ตคนนี้ยังเป็นเด็กแล้วหัวดันไปติดอยู่กับรั้ว แต่แทนที่พ่อแม่จะช่วย พวกเขากลับถ่ายรูปเก็บเอาไว้ซะอย่างนั้น คุณแม่พยายามช่วยลูกๆ ผ่านด่านสุดหินในเกม Super Mario Land คุณพ่อไม่ไว้ใจเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติว่ามันจะทำความสะอาดได้ดี เขาก็เลยคลานตามเจ้าเครื่องนั้นซะเลย ภรรยาที่มักจะหลับตอนดูหนังด้วยกันเสมอ และวันนี้เธอก็พยายามจะหลอกคนอื่นๆ ว่าเธอไม่ได้หลับ จงอย่าทิ้งโทรศัพท์เอาไว้ให้คุณพ่อคุณแม่ “คุณยายของฉันลองดื่มแอลกอฮอล์เป็นครั้งแรก ในขณะที่คุณยายอีกคนคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ” คุณน้าไม่มีกระเป๋าสำหรับเจ้าเหมียว เธอก็เลยสร้างมันขึ้นมาซะเอง พี่น้องถ่ายรูปย้อนวันวาน เพื่อเป็นการฉลองวันเกิดให้กับคุณยายที่มีอายุครบ 90 ปีบริบูรณ์ ลูกน้อยที่ใช้เวลาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ในการออกสำรวจโลกของเขา ชุดฮาโลวีนของพ่อและแม่ ตามธีม Game of…
-
เจ้าม้าน้อยชอบหนีออกมาจากบ้านเพราะเหงา จนสุดท้ายก็มีครอบครัวที่พร้อมแก้เหงาให้
เช้าวันอาทิตย์วันหนึ่ง สองสามีภรรยา Collum ได้เห็นสัตว์บางชนิดวิ่งอยู่บนถนนที่เขากำลังขับรถอยู่ พวกเขาคิดว่าเป็นเจ้าหมาที่กำลังวิ่งหนีเชือกจูงของตนเอง แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้ก็พบว่ามันคือม้าแคระอเมริกันสีน้ำตาลขาว ซึ่งกำลังวิ่งหนีด้วยความกลัวอะไรบางอย่าง ด้วยความที่มันวิ่งขึ้นมาบนถนน ฝ่ายสามี Craig ได้ล่อมันมาใกล้ๆ ด้วยฟาง เพราะกลัวมันจะถูกรถชน เมื่อวันก่อนหน้านี้ ครอบครัว Collum ยังได้พาม้าของเขา 2 ตัวไปเก็บเข้าคอกเพื่อที่จะได้อยู่รอดในฤดูหนาว โดยเมื่อทั้งคู่เห็นเจ้าม้าแคระตัวนี้พวกเขาจึงคิดได้ว่าต้องหาที่พักอาศัยที่อบอุ่นและปลอดภัยให้กับมัน เจ้าม้าแคระตัวนี้ชื่อว่า Benjamin ซึ่งที่จริงแล้วมันเป็นม้าของบ้านที่อยู่ถัดจากบ้านของพวกเขาไป 3 หลัง เมื่อทั้งคู่ไปแจ้งเจ้าของบ้านว่าม้าของพวกเขาหนีไป ก็ไม่มีใครติดต่อเข้ามาเพื่อรับเจ้า Benjamin กลับไป ฝ่ายภรรยา Connie Collum กล่าวว่า “พวกเรารอที่บ้านหลายชั่วโมง แต่ก็ไม่มีใครมารับตัวมัน พวกเราจึงพยายามหาที่พักที่สบายและปลอดภัยให้กับมัน” เมื่อเจ้าของเจ้า Benjamin กลับมา คู่สามีภรรยาจึงทราบว่า เจ้าม้าแคระตัวนี้มีนิสัยชอบหนีออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน มันออกไปทุกครั้งเมื่อเห็นว่ารั้วบ้านไม่แข็งแรง พวกเขาเล่าว่าครั้งหนึ่งเจ้า Benjamin เคยออกไปไกลถึง 8 กิโลเมตร แถมมีไม้หนามติดหัวและหูเต็มไปหมด “หนามที่ติดมามันทำให้เจ้า…
-
‘ฉันเอ็นดูสามีของลูกชาย’ คุณแม่เปิดเผยความสุขที่ยอมรับได้ กับลูกชายที่มีคนรัก 2 คน
คุณ Debbie McKinnon หญิงสาววัย 45 ปีให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้เธอเริ่มที่จะรักสามีและแฟนหนุ่มของลูกชายเธอแล้ว คุณแม่วัย 45 ปีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งหลังจากพิธีวิวาห์ของ Ross ลูกชายวัย 27 ปีของเธอกับแฟนหนุ่ม Iain Waddell วัย 33 ปี หลังจากที่คบหาดูใจกันมาเป็นเวลานาน แต่ทว่าความดีใจของเธอก็หายไปในเวลาเพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ในตอนที่ลูกชายของเธอบอกว่า เขากำลังคบกับแฟนหนุ่มอีกคนคือนาย Pav Gill วัย 24 ปี แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่ใช้เวลาทำความเข้าใจ เธอก็เริ่มเรียนรู้ที่จะรักชายหนุ่มทั้งสองคนของลูกชายเธอ และกลายเป็นคุณแม่สามีที่น่าภูมิใจที่สุด คุณ Debbie, Ross ลูกชายของเธอ (คนกลาง), Iain สามีของลูกชายเธอ (เสื้อสีแดง) และ Pav แฟนหนุ่มของลูกชายเธอ (เสื้อลาย) หญิงวัย 45 ปีจากสกอตแลนด์ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันเป็นกังวลว่าลูกชายของฉันจะถูกทิ้งให้นอนบนเตียงคนเดียวและร้องไห้ในตอนกลางคืน เพราะคู่รักของเขาออกไปนอนอีกห้องกับคนอื่น แต่ Ross บอกกับฉันว่า ในระหว่างที่เขาและ Iain มีความรักกันอย่างลึกซึ้งนั้น ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่สามารถมีเซ็กส์หรือความสัมพันธ์กับคนอื่นได้” แม่ของ Ross ให้สัมภาษณ์อีกว่า Pav เองก็ยังคงไปร่วมงานแต่งงานของทั้งคู่ ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็เป็นแฟนกันและรักกันเป็นอย่างดี “ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นสิ่งสวยงามมาก” หญิงวัย 45 ปีกล่าว …
-
ตำรวจเข้าจับกุมเด็กสาวและคุณพ่อข้อหาแต่งงานและมีลูกกัน จนแม่แท้ๆ ต้องเป็นฝ่ายหย่าเอง
เด็กสาวมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพ่อแท้ๆ จึงถูกจับทั้งพ่อและลูกเพราะผิดกฎหมายของที่นั่น … Steven Walter Pladl อายุ 42 ปี และลูกสาว Katie Rose Pladl อายุ 20 ปีถูกตำรวจจับกุมตัวในบ้านที่เมืองไนต์เดล รัฐนอร์ธแคโรไลนา หลังอดีตภรรยาแจ้งตำรวจว่าพวกเขามีลูกด้วยกันเอง Katie พลัดพรากจากพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเธออายุ 18 เธอก็พยายามใช้โซเชียลมีเดียตามหาพ่อแม่แท้ๆ จนพบพวกเขาเข้า เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2016 เธอจึงย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันกับพ่อ แม่และพี่น้องอีก 2 คน ลูกสาว Katie Rose Pladl หลังจากที่เธอย้ายเข้าไปอยู่ได้เพียง 3 เดือน แม่ของเธอก็ขอหย่ากับพ่ออย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 พอเธอออกจากบ้านไปเขาก็ย้ายไปนอนกับ Katie ในห้องของเธอแทน ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2017 เธอได้เข้าไปอ่านบันทึกของลูกอีกคนหนึ่ง จึงได้พบความจริงว่าสามีของเธอทำ Katie ท้องและต้องการให้ลูกอีก 2 คนนับถือ Kaite เป็นแม่เลี้ยงทั้งที่จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นพี่น้องกัน…
-
2 สาวรักน้องหมาดั่งคนในครอบครัว พอมันอายุ 12 ปี เลยทำรูปรับปริญญาให้ น่าร้ากกกกก
สัตว์เลี้ยงเปรียบเสมือนสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวของเรา เพราะมันใช้เวลาอยู่กับเรามานานและอยู่กับเราในทุกช่วงเวลาสำคัญของชีวิต Olivia Dufresne ก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน พอถึงอายุที่มันควรจะเรียนจบเธอก็เลยจัดทำรูปน้องหมารับปริญญามาติดบ้านไว้ซะเลย Olivia เป็นหญิงสาวจากรัฐควิเบกประเทศแคนาดา ในครอบครัวของเธอยังมีคุณพ่อคุณแม่ และพี่สาว Pamela อยู่ด้วย นอกจากนี้เธอยังมีสุนัขตัวหนึ่งที่สนิทกันเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆ ด้วย Olivia และหมา Yogi สุนัขของเธอชื่อว่า Yogi มันเป็นสุนัขพันธุ์มัลทีสยอร์กชายร์ผสมชิสุ เธอและพี่สาวสนิทกับมันมากเหมือนกับว่ามันเป็นพี่น้องอีกคนหนึ่งเลยทีเดียว เธอเล่าว่า “พวกเรารักมันมากแม้ว่ามันจะไม่ใช่คนก็ตาม เราก็ยังมองว่ามันเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวอย่างเป็นทางการ” เจ้าสุนัขตัวนี้อยู่กับพวกเธอในทุกช่วงเวลาสำคัญเสมอ พวกเธอเล่าว่ามันฉลาดและเข้าใจพวกเธอดีกว่าคนเสียอีก โดยมันมักจะเล่นซ่อนหากับพวกเธอเป็นประจำ นอกจากนี้เวลาที่พวกเธอเศร้ามันก็ปลอบพวกเธอเช่นกัน เธอเล่าต่อว่า “ตอนที่พวกเราร้องไห้ มันก็จะเข้ามาเลียน้ำตาให้จนทำให้พวกเราอารมณ์ดีจนหัวเราะได้ … แล้วถ้าเกิดพวกเราทะเลาะกัน มันก็จะเอาตัวเองเข้ามากั้นระหว่างกลางเราด้วย เหมือนกับมันมาห้ามเราไม่ให้ทะเลาะกันเลย” ทั้งสองพี่น้องยังมีงานอดิเรกอีกอย่างหนึ่งร่วมกัน พวกเธอมักจะจินตนาการอยู่เสมอว่าถ้าหากเจ้า Yogi เป็นมนุษย์จริงๆ มันจะทำอะไรได้บ้าง โดยพวกเธอเคยจินตนาการให้มันไปโรงเรียน เล่นกีฬา เล่นเกมส์ หรือโดนตำรวจจับด้วย เมื่อไม่นานมานี้เจ้าหมาก็มีอายุครบ 12 ปี Olivia ก็เลยอดจินตนาการไม่ได้ว่าถ้ามันเป็นคนมันก็คงจะเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาพอดี แล้วมันก็คงจะได้รับปริญญาด้วยเช่นกัน…
-
คุณแม่อธิบายว่าทำไมถึงหัวเสียจนต้องตีลูก หลังลูกทำตั๋วรถไฟราคา 5 หยวนหาย
เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2018 ที่ผ่านมานี้ในเว็บไซต์ Pear Video ซึ่งเปรียบเสมือนยูทูบของประเทศจีน ได้มีคนอัปโหลดคลิปวิดีโอของคุณแม่คนหนึ่งที่ตีลูกชายเพราะเขาทำตั๋วรถไฟหาย ในคลิปเธออธิบายถึงสาเหตุของการตีลูกให้ชาวเน็ตฟังด้วย ชาวเน็ตได้ฟังแล้วก็พูดไม่ออกเลย โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นในรถไฟใต้ดินในเมือง Nanchang มณฑล Jiangxi ประเทศจีน คุณแม่ท่านหนึ่งเดินทางมากับลูกชายของเธอ แต่จู่ๆ เธอก็โกรธลูกชายแล้วทุบเขาที่หลัง ทำให้คนในรถไฟหันมาสนใจเธอกันหมดเลย คนที่อยู่ใกล้ๆ ก็เลยนำมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ตอนที่เธอตีลูกนั้นเธอพูดว่า “ทำไมพูดแล้วไม่ยอมฟังเลย เวลาที่บอกว่าอย่าเล่นก็ห้ามเล่น เข้าใจไหม!” จากนั้นเรื่องก็ดูเหมือนจะสงบลง แต่ผ่านไปสักพักเธอก็ตีลูกอีกครั้งหนึ่งและด่าลูกไม่หยุดเลย คนที่เห็นเหตุการณ์อยู่จึงทนดูไม่ได้ เมื่อแม่และลูกลงจากรถไฟใต้ดินแล้ว คนที่ถ่ายคลิปอยู่จึงเข้าไปสอบถามเหตุการณ์จากคุณแม่ เธอจึงอธิบายว่าสาเหตุที่เธอตีลูกไปเพราะโมโหที่เขาทำตั๋วรถไฟราคา 5 หยวน (ประมาณ 25 บาท) หายไปนั่นเอง พอได้ฟังแล้วหญิงที่อยู่ข้างๆ ก็เลยแนะนำว่าแค่ซื้อตั๋วใหม่เสียก็จบแล้ว ทว่าคุณแม่กลับตอบมาว่า “ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอก” เธออธิบายต่อว่าแม้ว่าเงินจำนวนนั้นอาจจะดูไม่มากสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับเธอแล้วเงินจำนวนนั้นมีค่ามากกว่าที่คนอื่นคิด เธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีเงินเดือนเพียง 900 หยวน (ประมาณ 4,500 บาท) เท่านั้น แต่ค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกชายแต่ละเดือนก็ปาเข้าไป 1,000 หยวน…
-
สาวอัดคลิปตอนโดนตำรวจเรียก ที่ไหนได้เป็นพ่อตัวเอง แถมตอนจบดันซึ้งซะงั้น!?
หากคุณเคยพบเจอประสบการณ์การถูกตำรวจเรียกให้จอดข้างทาง คุณก็คงจะรู้ว่ามันน่าตกใจขนาดไหน เพราะปกติแล้วเวลาตำรวจเรียกรถให้จอดก็คงเป็นเพราะต้องขอตรวจใบขับขี่เราหรือไม่ก็เพราะเราทำผิดกฎจราจรแน่ๆ แม้ว่าคนทั่วไปจะรู้สึกเช่นนั้นแต่กับสาวคนนี้นั้นแตกต่างออกไป เมื่อฟังจากคำพูดในคลิปวิดีโอของเธอแล้ว คงจะถูกรถตำรวจเรียกบ่อยจนชินแน่ๆ ครั้งนี้เธอก็เลยถ่ายคลิปประสบการณ์โดนตำรวจเรียกที่น่ารักกึ่งฮามาให้เราได้ชมกัน สาวเจ้าของคลิป โดนตำรวจเรียกเป็นประจำ หญิงสาวเจ้าของคลิปคนนี้ได้โพสต์คลิปวิดีโอที่ชื่อว่า ‘These police will pull you over for literally anything’ (ตำรวจพวกนี้จะโบกให้คุณจอดรถด้วยเหตุผลอะไรก็ได้ทั้งนั้น) ในยูทูบ คลิปวิดีโอของเธอก็ทำให้ชาวเน็ตยิ้มในความน่ารักไปตามๆ กัน คลิปนี้จึงกลายเป็นกระแสไวรัลที่มีคนชมไปแล้วกว่า 2.2 ล้านครั้งเชียวนะ ในคลิปนั้นเธอกำลังขับรถอยู่บนถนนตามปกติ แต่เมื่อมองไปทางด้านหลังก็เห็นว่ามีรถตำรวจคันหนึ่งเปิดไฟสัญญาณเรียกเธอให้จอดรถตรงข้างทาง เธอจึงจอดรถแล้วรอถ่ายคลิปรอให้ตำรวจเดินมาหา ขอตรวจดูใบอนุญาติขับรถด้วยครับ พอเธอเลื่อนกระจกรถลงตำรวจคนนั้นจึงขอตรวจดูใบขับขี่รถยนต์ ทะเบียนรถยนต์ และประกันรถยนต์ของเธอ ซึ่งก็ดูเป็นเรื่องปกติทั่วไปไม่ได้แปลกแต่อย่างใด แต่มันจะเป็นเรื่องปกติก็ต่อเมื่อคุณและตำรวจคนนั้นไม่รู้จักกันเท่านั้น ในกรณีนี้ตำรวจไม่จำเป็นต้องตรวจเอกสารเธอสักใบด้วยซ้ำเพราะอันที่จริงแล้วพวกเขารู้จักกันดีทีเดียว จากนั้นหญิงสาวจึงตอบแบบตลกปนเหนื่อยใจว่า “โธ่ พ่อ! เราคุยกันหลายครั้งแล้วนะว่าพ่อไม่ควรเรียกให้หนูจอดทุกครั้งที่พ่อเห็นรถหนู” พ่อจะทำอย่างนี้ไม่ด๊ายยยยยย ตัวคุณพ่อเองก็รู้ตัวดีว่าเขาทำเกินไปหน่อยที่เรียกเธอจอดเพียงเพราะว่ารู้จักกันเป็นส่วนตัว แต่เขาเองก็เรียกด้วยความหวังดี เขาตอบเธอแบบเป็นห่วงปนรู้สึกผิดว่า “พ่อก็แค่อยากมั่นใจว่าลูกสบายดีแค่นั้นเอง” สาวได้ยินแบบนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นเลย โอ้ยยย ทำไมคุณพ่อถึงได้น่ารักแบบนี้ แต่ถึงจะเป็นห่วงก็อย่าใช้รถตำรวจเรียกจอดแบบนี้ได้ไหม…
-
คุณแม่ลูก 9 ตัดสินใจทิ้งครอบครัว ออกเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่กับคนรักใหม่ชาวแอฟริกัน
ชีวิตของเราเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน จนทำให้บางครั้งเราอาจจะต้องเลือกที่จะทำสิ่งหนึ่งและต้องทิ้งอีกสิ่งไป เหมือนกับสิ่งที่คุณแม่คนนี้ต้องเจอ และเธอก็ตัดสินใจเลือกที่จะไปใช้ชีวิตอยู่กับคนรักใหม่แทนที่จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวเดิมของตัวเอง นี่คือเรื่องราวการตัดสินใจของคุณแม่ลูก 9 ในเมือง Tyneside ประเทศอังกฤษ ที่ชื่อว่า Heidi Hepworth วัย 44 ปี ผู้ตัดสินใจทิ้งครอบครัวของตัวเองไปใช้ชีวิตอยู่กับคนรักใหม่ชาวแกมเบีย Mamadou Salieu Jallow วัย 32 ปี ในเมือง Banjul ประเทศแกมเบีย Heidi และ Mamadou คนรักใหม่เชื้อสายแอฟริกัน Heidi เล่าว่าเธอได้เริ่มคุยกับ Mamadou ครั้งแรกในเฟซบุ๊กเมื่อเดือนมกราคม 2017 ด้วยสถานะเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งระหว่างนั้นเธออาศัยอยู่กับ Andrew ผู้เป็นสามีและลูกๆ อีก 9 คนของเธอ ทั้งสองคุยกันผ่านโซเชียลเป็นเวลานานกว่า 3 เดือน ในขณะที่ความสัมพันธ์ของเธอกับสามีเริ่มแย่ลงไปทุกทีและจบลงด้วยการแยกทางในเดือนพฤษภาคม พอเวลาผ่านไป เธอและคนรักใหม่ยังคงพูดคุยกันอยู่เสมอ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่เกินกว่าคำว่าเพื่อน และเธอเองเชื่อว่านี่คือรักแท้อย่างแน่นอน ในเดือนตุลาคม Heidi จึงตัดสินใจตีตั๋วเดินทางไปหา Mamadou…
-
คุณแม่ถ่ายภาพลูกๆ แฝด 2 ผู้พี่ และน้องๆ แฝด 3 กับการเลี้ยงลูกแสนสนุก ไม่มีเบื่อ
ในยุคปัจจุบันนั้น คนยุคใหม่มักจะเริ่มเบื่อหน่ายกับการมีลูก เพราะพวกเขาคิดว่าการเลี้ยงลูกมันน่าเบื่อหรืออาจจะเพราะความไม่พร้อมของพวกเขา แต่สำหรับคุณแม่ยังสาวชาวญี่ปุ่นคนนี้กลับมองแตกต่างออกไป… Sachina คือคุณแม่ที่มองมุมกลับ โดยเธอได้มองหากิจกรรมสนุกๆ ทำกับลูกของเธอ โดยการให้พวกเขาแต่งตัวในแฟชั่นแบบต่างๆ และด้วยความที่เธอมีลูกชายคนโตเป็นแฝด 2 ลูกชายคนเล็กเป็นแฝด 3 ความสนุกมันก็เลยทวีคูณสุดๆ ดูสิ ครอบครัวหรรษา กับการแปลงร่างเป็นมินเนี่ยน แฝดคนโตทั้งสองคนอายุ 7 ขวบ ส่วนแฝดน้องทั้งสามอายุ 4 ขวบ หลายคนอาจจะสงสัยว่า สรุปน้องหนูแฝด 3 นั้นเป็นหญิงหรือชายกันแน่เพราะผมที่ยาวของพวกเขา แต่เชื่อเหอะว่าน้องหนูทั้งสามเป็นผู้ชายนะฮะ ทั้งหมดมีเสื้อผ้าที่ไว้แต่งให้เข้ากันเยอะแยะ เรียกว่าใส่ได้ไม่มีเบื่อเลย แม่ชอบแต่งตัว ฉะนั้นความเป็นแฟชั่นจึงถ่ายทอดมาสู่ลูกๆ คุณพ่อก็ดูจะเป็นคนมีความสามารถเหมือนกันนะ ถึงทำให้คุณแม่คลอดลูกแฝดออกมาติดกันได้แบบนี้ น่ารักกันจริงๆ เลยให้ตายสิ การแต่งตัวของคุณแม่ก็เฟี้ยวสุดๆ เลยนะเนี่ย ภาพนี้ดูแล้วหยั่งกับดูกระจกเลย แต่จริงๆ ไม่ใช่ อยากจะรู้จริงๆ ว่าถ้าทั้งหมดโตมาจะเป็นยังไง…
-
ลูกน้อยสองคนถูกทิ้งให้อยู่กับร่างไร้วิญญาณของพ่อที่ตายเพราะหัวใจวายตลอดทั้งวัน
คุณแม่ร้อนใจ ลูกสาวสองคนของเธอต้องอยู่กับศพของคุณพ่อที่หัวใจวายตายทั้งวัน เนื่องจากทางโรงเรียนไม่ยอมติดต่อไปหาเธอ ทำให้เธอไม่รู้ว่าที่บ้านเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติขึ้น เธอหวังว่าจะไม่มีครอบครัวไหนต้องเจอเรื่องแบบนี้อีก ครอบครัว Daykin อาศัยอยู่ที่เมืองฮาลิแฟ็กซ์ เขตเวสยอร์กชายร์ ประเทศอังกฤษ Helen Daykin ผู้เป็นแม่ต้องเดินทางไกลไปทำงานนอกสถานที่ค่อนข้างบ่อย สามี Chris Daykin จึงมักจะรับหน้าที่ดูแลรับส่งลูกสาวสองคนไปโรงเรียนอยู่เสมอ ครอบครัว Daykin แต่ในปี 2016 ที่ผ่านมาเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เนื่องจากตอนนั้น Helen จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานที่กรุงลอนดอน แต่สามีของเธอเกิดหัวใจวายเสียชีวิตไปในตอนกลางคืน ทำให้ลูกสาวทั้งสองคนต้องอยู่กับร่างไร้วิญญาณของคุณพ่อทั้งวัน เนื่องจากเด็กสาวทั้งสองคนไม่ได้ไปโรงเรียนในวันถัดมา ทางโรงเรียนจึงได้พยายามติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ของคุณพ่อแล้ว แต่คุณพ่อเสียชีวิตไปแล้วจึงไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้ จากคำบอกเล่าของสำนักข่าว ฺBBC แต่พอทางโรงเรียนพอติดต่อคุณพ่อไม่ได้ พวกเขาก็ไม่ได้พยายามติดต่อไปหาคุณแม่แต่อย่างใด คุณแม่ Helen Daykin และลูกสาวสองคนปัจจุบันอายุ 3 และ 5 ปี ตอนหัวค่ำของวันเดียวกันกับที่เด็กสาวไม่ได้ไปโรงเรียน คุณยายของพวกเธอก็ผ่านมาเห็นว่าไฟในบ้านนั้นมืดสนิทและยังมีนมวางทิ้งไว้หน้าประตูด้วย เธอสังหรณ์ใจว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นจึงโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดูให้ หลังจากตำรวจบุกข้าไปในบ้านจึงพบว่าคุณพ่อเสียชีวิตอยู่ในห้องนอนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ทางด้านคุณแม่นั้นได้โทรหาสามีตั้งแต่ตอนเช้าวันนั้นแล้ว แต่คิดว่าเขาคงไม่รับสายเพราะส่งลูกไปโรงเรียนอยู่ และทางโรงเรียนก็ไม่ได้ติดต่ออะไรมาจึงคิดว่าทุกอย่างปกติดี แต่เมื่อเวลา 20.00 น. ตอนที่เธอกำลังนั่งรถไฟอยู่…
-
พ่อแมวบุญธรรมรับเลี้ยงลูกน้อยสองตัว กลายเป็นครอบครัวที่อบอุ่นสุดแสนน่าร๊ากกก!!
ถ้าหากว่าคุณเป็นทาสแมวตัวจริงล่ะก็ หนึ่งในนิสัยของเจ้าเหมียวที่คุณคุ้นเคยเป็นอย่างดีเลยนั่นก็คือความไม่สนโลกหรือสนสิ่งใดๆ เลย และยิ่งเป็นแมวตัวผู้ด้วยแล้วล่ะก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกมันคือเพลย์บอยชัดๆ !! แต่ทว่าสำหรับเจ้า Sora แมวหนุ่มวัย 3 ปีผู้แสนอบอุ่นตัวนี้กลับไม่เหมือนกับเจ้าเหมียวตัวอื่นๆ มันได้มอบความรักและดูแลเจ้าเหมียวจรจัดตัวน้อยสองตัวและกลายเป็นพ่อบุญธรรมของพวกมันในที่สุด พบกับเรื่อวราวสุดน่ารักของครอบครัวนี้กันได้เลย…. เจ้า Amelie และ Canele ลูกแมวน้อยวัย 2 เดือนทั้งสอง ได้รับความช่วยเหลือจากทีมกู้ภัย ก่อนที่พวกมันจะย้ายเข้ามาบ้านหลังใหม่และได้รู้จักกับพี่ใหญ่อย่างเจ้า Sora แน่นอนว่าเจ้าเหมียวน้อยทั้งสองนั้นยังคงต้องการความอบอุ่นอยู่ พวกมันจึงเริ่มทำความรู้จักกับพี่ใหญ่หลังจากที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ “ในตอนแรกที่พบกัน เจ้า Sora ค่อนข้างระวังตัวนิดหน่อย แต่หลังจากนั้นไม่นานมันก็เริ่มที่จะดูแลเจ้าตัวน้อยทั้งสอง” คุณ Rie เจ้านายของพวกมันให้สัมภาษณ์ เจ้า Amelie และ Canele แมวน้อยทั้งสองตัวที่ได้รับการช่วยเหลือ หลังจากที่เริ่มคุ้นเคยกัน เจ้า Sora ก็เริ่มทำหน้าที่ดูแลพวกเจ้าเหมียวพร้อมกับมอบความรักให้กับพวกมันไม่ว่าจะเป็นการกอด หรือคอยเล่นกับพวกมัน เรียกว่างานนี้พี่เหมียวของเราได้กลายเป็นคุณพ่อไปซะแล้ว “ทั้ง Amelie และ Canele นั้นคุ้นเคยกับเจ้า Sora ตั้งแต่วันแรกที่พวกมันได้เจอกัน พวกมันรักเจ้า Sora ก่อนที่ฉันจะรู้เสียอีก” คุณ Rie กล่าว …
-
คนในครอบครัวพากันอึ้ง เด็กสองคนถูกสลับตัวกันไปตั้งแต่แบเบาะ มารู้ตัวก็อีก 39 ปีให้หลังแล้ว
ตอนเราเป็นเด็กเวลาที่เราทะเลาะกับพ่อแม่ ด้วยความน้อยอกน้อยใจ เราก็ชอบแอบคิดว่าเราเป็นลูกแท้ๆ ของพวกเขาหรือเปล่า? ทำไมไม่เข้าใจเราเลย แต่มันก็เป็นแค่ความคิดน้อยใจของเด็กเท่านั้นไม่ได้เป็นความจริงหรอก แต่สำหรับสาว Tatyana สาวจากประเทศมอลโดวา เมื่อตอนเด็กเธอก็เคยคิดว่าตัวเองไม่ใช่ลูกของพ่อแม่เหมือนกัน พ่อแม่ของเธอก็มองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ทว่าตอนเธออายุ 39 ปีกลับได้พบกับสาวอีกคนที่สลับตัวไปอยู่กับครอบครัวที่แท้จริงของเธอเสียนี่ ย้อนไปเมื่อปี 1978 Vera Lashtur และสามี Nikolay มีลูกสาวคนใหม่ เธอตั้งชื่อเด็กสาวว่า Tatyana แต่ทารกสาวกลับร้องไห้บ่อยกว่าทารกคนอื่นเสียจนผิดสังเกต และเวลาแม่ของเธอให้นมเธอก็มักจะต่อต้านเสมอ Vera ได้แต่หวังว่าพอเธอโตขึ้นปัญหาพวกนี้ก็จะผ่านไป แต่แม้จะโตเป็นสาวน้อยแล้ว Tatyana ก็ยังคงเป็นคนเจ้าอารมณ์และไม่เชื่อฟังพ่อแม่อยู่ดี เพราะว่าเธอมักจะได้ยินผู้ใหญ่ลือกันว่าเธอหน้าตาไม่เหมือนพ่อแม่ คงจะไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของครอบครัวนี้เป็นแน่ เจ้าตัวก็แอบคิดแบบนั้นเช่นกัน แต่พ่อและแม่ของเธอไม่เคยเชื่อเรื่องนี้เลย พวกเขาเชื่อสนิทใจว่า Tatyana ต้องเป็นลูกของตัวเองไม่ผิดแน่ๆ จึงยังคงเลี้ยงเธอตามปกติ จนเมื่อปี 1999 ครอบครัวของ Vera ตัดสินใจที่จะย้ายไปอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยกัน ในตอนนั้นนั่นเองเพื่อนบ้านของเธอก็ตัดสินใจพูดคุยกับเธอถึงเรื่องสำคัญก่อนจะจากกันไป พวกเขาเล่าว่าเขารู้จักอีกครอบครัวหนึ่งที่ให้กำเนิดลูกวันเดียวกันกับที่ Tatyana เกิดมา ทารกของบ้านนั้นก็ร้องไห้อยู่เป็นประจำและปฎิเสธแม่ของตัวเองตอนให้นมเหมือนกัน ตอนนั้นเองที่ Vera เริ่มเชื่อว่าลูกของพวกเธออาจจะสลับกัน…
-
ภาพกอดครั้งสุดท้าย หลังคุณพ่อชาวเม็กซิโกจำใจลาจากครอบครัว เพราะนโยบายของทรัมป์
หลังจากที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีมาตรการตรวจสอบผู้อพยพอย่างเข้มงวด ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในอเมริกาจึงล้วนได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้กันถ้วนหน้า เนื่องจากผู้ที่ไม่ได้มีเชื้อสายอเมริกัน หรือกระทั่งเป็นผู้อพยพที่แม้จะมีครอบครัวในสหรัฐอเมริกานั้น ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในประเทศอเมริกาโดยถูกกฎหมายอีกต่อไป ชายชาวเม็กซิกันคนนี้ชื่อว่า Jorge Garcia วัย 39 ปี จำเป็นต้องจากครอบครัวเนื่องจากกฎหมายผู้อพยพของสหรัฐนั้นมีข้อบังคับให้เขาต้องกลับไปอยู่ที่ประเทศบ้านเกิดที่เม็กซิโก ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ รวมแล้วเป็นเวลา 29 ปี เขาใช้ชีวิตเป็นชาวสวนอยู่ในสหรัฐอเมริกาอย่างเงียบๆ มาจนกระทั่งปี 2005 ที่เขาและภรรยาเริ่มช่วยกันต่อสู้เพื่อให้ Jorge มีสิทธิ์โดยชอบธรรมในการอาศัยอยู่ในอเมริกา จากนั้นในปี 2009 หน่วยงาน ICE ได้แจ้ง Jorge ล่วงหน้าว่าจะต้องถูกเนรเทศออกนอกประเทศ ขณะนั้นเองก็มีนโยบาย DACA ที่ Barack Obama อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐได้ออกมาเพื่อครอบคลุมผู้อพยพ โดยมีเงื่อนไขว่าหากผู้ที่มีอายุไม่เกิน 31 ปี ในปี 2012 จะสามารถต่ออายุเพื่ออาศัยอยู่ในประเทศได้ แต่โชคไม่ดีที่ในเวลานั้น Jorge มีอายุได้ 32 ปี ซึ่งเกินมา…
-
คุณพ่อให้ลูกชายเลือกที่มีค่าที่สุดสำหรับชีวิต และสิ่งนั้นก็คือคุณพ่อของเขาเอง
เพื่อนๆ เคยเห็นผู้ชายรอบตัวร้องไห้กันบ้างหรือเปล่าครับ โดยปกติแล้วเรามักจะไม่ค่อยเห็นผู้ชายร้องไห้บ่อยนัก เพราะผู้ชายบางคนคิดว่าการร้องไห้ทำให้พวกเขาดูอ่อนแอและน่าอาย พวกเขาจึงพยายามทำตัวสุขุมนุ่มลึกตลอดเวลา จะได้ดูเท่ในสายตาคนอื่น แต่จริงๆ แล้วผู้ชายก็ร้องไห้เหมือนกัน จาก การวิจัย พบว่าผู้ชายร้องไห้เดือนละ 0.5-1.5 ครั้งเลย ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงจนน่าตกใจสำหรับผู้ชายหลายๆ คนด้วยซ้ำ และเรื่องที่มักจะทำให้ผู้ชายร้องไห้ได้ก็เป็นเรื่องของความสัมพันธ์นี่แหละ โดยเฉพาะกับคนใกล้ตัวอย่างครอบครัวนั่นเอง เรื่องของคุณพ่อชาวจีนคนนี้ก็เช่นกัน แม้ว่าปกติเขาจะไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น แต่เขาเคยร้องไห้เพราะลูกชายมาแล้ว มาดูกันว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร Han เด็กชายเจ้าของเรื่องเล่า เด็กชายจากประเทศจีนคนนี้ชื่อว่า Han เขาได้โพสต์เรื่องราวของเขาและพ่อลงในเฟสบุ๊ก โดยเขาบอกว่าพ่อของเขาเป็นคนที่เข้มแข็งมาก ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเห็นพ่อร้องไห้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยความสงสัยเขาจึงลองถามพ่อของตัวเองดู ว่าเขาเคยทำให้พ่อร้องไห้บ้างหรือเปล่า พ่อจึงตอบตรงๆ ว่าเคยอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อตอนเขายังเด็กอยู่เลย คุณพ่อเล่าว่าตอนที่เขาอายุได้ 3 ขวบ พ่ออยากรู้ว่าถ้าลูกโตไปจะให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุด จึงได้ทำการทดสอบลูกในแบบของคนจีน โดยวางปากกา เงิน และของเล่นเอาไว้ให้เขาเลือก ถ้าหากว่าเลือกปากกาแปลว่าจะให้ความสำคัญกับความเฉลียวฉลาด ถ้าเลือกเงินแปลว่าจะให้ความสำคัญกับเงินตรา และถ้าหากเขาเลือกของเล่น หมายความว่าเขาให้ความสำคัญกับความสุขในชีวิตมากที่สุด หลังจากวางของเหล่านั้นให้ลูกเลือกแล้ว ลูกก็นั่งมองของเหล่านั้นอยู่นานเลย คุณพ่อเองก็นั่งลุ้นอยู่ว่าลูกของตัวเองจะเลือกอะไรกันแน่ แต่หลังจากนั้น คุณพ่อก็เห็นลูกชายของเขา กวาดของที่วางไว้อยู่ให้พ้นทาง แล้วค่อยๆ คลานเข้ามาพ่อเสียอย่างนั้น…
-
กาลครั้งหนึ่ง 22 ภาพจากอดีตเดินทางสู่ปัจจุบัน ท่าทางเดียวกันเป๊ะ น่ารักน่าหยอกเสียจริง!!
เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยนไปด้วย แต่ถึงแม้จะเปลี่ยนไปแค่ไหนลึกๆ แล้ว มันต้องมีอะไรบางอย่างที่ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยนั่นล่ะ พวกคนในภาพ 22 ภาพ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่ว่าแม้พวกเขาจะโตขึ้นแต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ยังคงเหมือนเดิม จากเด็กสาวกลายเป็นสาว ระวังกระโปรงหน่อยก็ดีนะ พ่อลูกที่เติบโตขึ้น แต่ก็ยังรักกันดีเหมือนเดิม แม่ลูกกับการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา เจ้าหมาน้อยที่ตอนนี้ตัวไม่น้อยเท่าไหร่แล้ว คนรักกันจริง จะนานแค่ไหนก็ยังรักกัน พี่น้องที่เติบโตขึ้นมาด้วยกัน คุณพ่อลูกสามที่ตอนนี้ก็ยังแข็งแรงดี (ก็ยังจะแบกไปได้นะเห็นแล้วหนักแทน) พี่น้องทั้งสามที่แม้เปลี่ยนไปแต่ก็ยังอยู่ด้วยกัน (คนซ้ายก็ยังไม่ยิ้มเหมือนเดิม) เด็กๆ เคยอยู่กับคอมอย่างไร โตมาก็ยังเป็นแบบนั้น พี่คนตรงกลางนี่อาจจะร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาลไปแล้วก็ได้ พี่น้องครอบครัวใหญ่ เป็นหนุ่มเป็นสาวกันไปหมดแล้วล่ะ พ่ออุ้มไม่ไหวแล้วลูกเอ๋ย เดี๋ยวนี้สูงเท่ากันแล้วล่ะ กาลเวลาจะเปลี่ยนไปแค่ไหนเสื้อกางเกงของคุณพ่อก็ยังเหมือนเดิม คนซ้ายนี่พยายามจะทำท่าเดิมอย่างสุดๆ ดูเกาะเข้าสิ ตอนเด็กๆ ยังนั่งเรียงความสูงได้ โตมาก็เท่าๆ กันทุกคน สามพี่น้องที่ยังยิ้มแบบเดิมไม่มีเปลี่ยน …
-
18 เรื่องราวถ้าหากว่าคุณเป็น ‘พี่คนโต’ ของบ้าน จะเข้าใจถึงมันได้เป็นอย่างดี…
สำหรับใครหลายคนที่เกิดมาเป็นลูกเพียงคนเดียวในครอบครัวนั้น น่าจะได้รับการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่เป็นอย่างดี บางคนอาจจะโอ๋เอาใจ มีเงินให้ใช้เต็มจำนวน ได้ของขวัญที่เตรียมไว้ให้ลูกคนเดียวโดยเฉพาะ และเป็นหวานใจของคุณพ่อคุณแม่ แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งที่เกิดมาในครอบครัวที่มีพี่น้อง มันก็อาจจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นมากกว่าครอบครัวลูกคนเดียวก็ได้ เพราะพ่อแม่ต้องแบ่งความรักความใส่ใจให้ลูกแต่ละคน แถมบางทียังเกิดความขัดแย้งกันระหว่างพี่กับน้องด้วย กลายเป็นเรื่องวุ่นวายพอสมควร ในฐานะที่เราก็เป็นพี่ชายคนโตเหมือนกัน เราคิดว่าพี่คนโตน่าจะต้องเคยเจอกับเรื่องเหล่านี้เหมือนกันแน่ๆ 1. การเป็นพี่คนโตนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเมื่อน้องคุณเกิดมา ความรับผิดชอบของคำว่า “พี่” อันมากมาย ก็จะถาโถมมาใส่คุณทันที 2. ทุกครั้งเวลาที่เราทะเลาะกับน้อง พี่คนโตอย่างเราต้องเป็นฝ่ายผิดเสมอ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก็ตาม 3. ต้องดูแลน้องตลอดเวลา ราวกับเป็นพี่เลี้ยงส่วนตัว 4. เป็นความหวังของบ้าน ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับน้อง ต้องเรียนให้ได้เกรดดีๆ อยู่เสมอ หรือบางครั้งต้องส่งเสียดูแลน้องอีก จนบางครั้งก็กดดัน 5. การเสียสละถือเป็นหน้าที่หลัก ทุกอย่างที่คุณได้มา หากน้องอยากได้ คุณก็ต้องจำยอม 6. เวลาที่น้องมาขอให้ช่วยสอนการบ้าน เราจะรู้สึกองค์ลงคิดว่าตัวเองเป็นศาสตราจารย์ แล้วน้องก็จะชื่นชมจนคุณภูมิใจมากๆ 7. ยิ่งวันต่อมารู้ว่าการบ้านที่สอนให้น้องไปถูกหมดทุกข้อ น้องก็จะยิ่งชาบูชาบูเราราวกับเทพเจ้า 8. เวลาไปเที่ยวที่ไหน น้องๆ ที่แสนน่ารักก็จะขอติดตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเพื่อน หรือร้านเกม เหมือนกับคุณเป็นพี่เลี้ยงเด็กเลยล่ะ…
-
เพราะเมียใกล้คลอด ทหารหนุ่มเลยนั่งเครื่องบินกว่า 10 เที่ยวใน 2 วัน เพื่อกลับบ้านไปเจอหน้าลูก
ไม่ว่าพ่อแม่คนไหน ก็ให้ความสำคัญกับลูกเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าเกิดเป็นลูกน้อยคนแรกที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลกแล้ว ยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ แม้จะต้องเดินทางข้ามโลกมาหาลูกก็ตาม นาย Francois Clerfe ทหารของกองทัพสหรัฐอเมริกา ก็กำลังจะมีลูกสาวคนแรก แม้ว่าเขาจะปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ประเทศอิรักก็ตาม แต่เขาก็ยินดีที่จะต้องนั่งเครื่องบินข้ามฟ้า มารอเจอหน้าลูกตอนเธอเกิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา Francois Clerfe ในหน่วยที่ Clerfe ประจำอยู่ มีนโยบายพิเศษให้ทหารกลับไปยังบ้านเกิด เพื่อไปหาภรรยาตอนเธอคลอดได้ พวกทหารจะได้ทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นการรักษาชาติในฐานะทหาร หรือการดูแลครอบครัวในฐานะพ่อด้วย แต่ถึงจะได้รับอนุญาติให้กลับไปรอเจอหน้าลูกที่กำลังจะเกิดได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะกลับไปหาภรรยาและลูก เพราะจากประเทศอิรักไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องนั่งเครื่องบินถึง 7 เครื่อง นับดูแล้วต่อเที่ยวบินถึง 10 ครั้งด้วยกัน แต่คุณพ่อก็ไม่ได้ย่อท้อแต่อย่างใด เขานั่งเครื่องบินเครื่องแล้วเครื่องเล่า รวมแล้วใช้เวลายาวนานกว่า 2 วันกว่าเขาจะมาถึงประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ทหารหนุ่มและครอบครัว ทหารหนุ่มเล่าว่า “ผมต้องเดินทางยาวนานมาก จากคูเวตไปยังตุรกี จากตุรกีไปยังแฟรงค์เฟิร์ต จากแฟรงค์เฟิร์ตไปยังบัลติมอร์ และจากบัลติมอร์ไปยังแอตแลนตา” เขาต้องรีบเดินทางแข่งกับเวลาเพื่อไปให้ทันเวลาที่ภรรยาจะคลอด ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากเลย เขาบอกว่า “ตอนเดินทางน่ะทั้งสนุกและก็ตื่นเต้นไปพร้อมๆ กันเลย” ส่วนภรรยาของเขา Svistunova Clerfe…
-
พ่อแม่ตัดสินใจขายทุกสิ่ง และพาลูกๆ ออกจากโรงเรียน เพื่อไปเรียนรู้โลกทั้งใบ…
คนบ้านเรามีคำพูดที่ว่า “พ่อแม่ขายนาส่งลูกเรียน” ที่เป็นคำพูดเตือนใจให้พวกเราตั้งใจเรียนกันอยู่ แต่ที่ Hertfordshire ยังมีพ่อแม่คู่หนึ่งตัดสินใจเลือกที่จะ ขายของทุกสิ่งทุกอย่างแล้วก็พาลูกๆ ออกจากโรงเรียนไปเที่ยวรอบโลกแทน Chris Jackson อดีตแพทย์สนามประจำรถพยาบาลจาก ลอนดอน วัย 35 ปี และ Donna ภรรยาของเขา คิดว่าการปล่อยลูกสาวคนโตวัย 8 ขวบ Ellie และลูกสาวคนเล็ก Miley เรียนในโรงเรียนต่อไปจะเป็นการทำลายความฝันและทำให้พวกเธอไม่มีความสุข เมื่อปี 2017 พวกเขาตัดสินใจขายทรัพย์สินทั้งหมดที่เขามี พาลูกสาวทั้งสองออกมาโรงเรียนและตัดสินใจออกเดินทางไปรอบโลกโดยไม่หันกลับมา “มันเป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่ในชีวิตเลย” Chris กล่าว “เมื่อก่อนภรรยาของผมกำลังเรียนด้านการพยาบาลเด็ก พวกเราแทบจะไม่ได้เจอกันเลยทั้งที่เป็นสามีภรรยากัน แถมยังไม่ได้ใช้เวลากับลูกๆ อย่างที่ควรจะเป็น พอคิดได้แบบนั้นพวกเราก็คิดขึ้นได้ว่า ‘เราน่าจะไปเที่ยวกันนะ’ แล้วเราก็ทำมัน” Donna ที่อยู่ด้วยกันเสริมขึ้นว่า “ในตอนที่แก่ตัวขึ้นผู้คนมีแนวโน้มที่จะอยากได้ในสิ่งต่างๆ ที่ตัวเองไม่ได้ทำ แล้วก็มานั่งพูดถึงสิ่งที่เขาควรทำ มากกว่าสิ่งที่พวกเขาทำมันจริงๆ” “ในโลกยุคที่ผู้คนให้ iPad กับเด็กๆ ของพวกเขาแล้วก็ปล่อยให้เด็กจ้องมันไปหลายๆ ชั่วโมง พวกเรากำลังสอนพวกเด็กๆ ของเราในสิ่งที่เราอยากให้พวกเขาได้รู้จัก” เธอเล่า ตั้งแต่ออกเดินทางไปพวกเขาได้แชร์เรื่องราวของพวกเขาบนสื่อต่างๆ อย่าง Youtube…
-
คุณยายวัย 83 เขียนจดหมายถึงเพื่อน เต็มไปด้วยบทเรียนชีวิต และควรค่าแก่การอ่าน…
ชีวิตคือการแข่งขัน แข่งกันเลื่อนตำแหน่ง แข่งกันมีรูปร่างที่ดี แข่งกันประกวดนู่นประกวดนี่ มันคือการแสวงหาแบบไม่สิ้นสุด เราไม่มีเวลามาให้เสียซักนาที บางทีสิ่งที่ต้องการก็ไม่ยอมมา หรือบางทีก็มาเวลาที่สายไปแล้ว เมื่อไม่นานมานี้เราได้ไปเจอจดหมายที่เขียนจากผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุ 82 ปี ส่งถึงเพื่อนของเธอ ซึ่งในจดหมายนี้เต็มไปด้วยบทเรียนชีวิต ซึ่งเราอยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน “ถึง เบอร์ธา ฉันอ่านมากขึ้นและปัดฝุ่นน้อยลง ฉันนั่งในสนามและชื่นชมทิวทัศน์โดยที่ไม่เข้าไปยุ่งกับพืชพันธุ์ในสวน ฉันใช้เวลาร่วมกับครอบครัวกับเพื่อนมากขึ้น และทำงานน้อยลง เมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ ชีวิตควรเป็นรูปแบบของประสบการณ์ในการลิ้มลองไม่ใช่การอดทน ฉันกำลังพยายามที่จะจดจำช่วงเวลานี้และหวงแหนพวกเขาให้มากๆ ฉันไม่ได้ ‘ประหยัด’ อะไร เราใช้เครื่องครัวเซรามิกต่างๆ สำหรับทุกเหตุการณ์พิเศษ เช่นการลดน้ำหนักหรือดอก Amaryllis บาน ฉันสวมเสื้อคลุมดีๆ ไปตลาด ทฤษฎีของฉันคือหากฉันดูร่ำรวย ฉันสามารถจ่ายเงิน 28.49 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 918 บาท) เพื่อซื้อกระเป๋าใบเล็กๆ จากร้านขายของชำได้ ฉันไม่ได้ประหยัดน้ำหอมสำหรับงานเลี้ยงที่พิเศษ แต่ใส่มันเหมือนคนขายในร้านคอมหรือเทลเลอร์ที่ธนาคาร “สักวัน”และ”หนึ่งในวันเหล่านี้” กำลังสูญเสียการจับใจความประโยคของฉัน ถ้ามีอะไรที่มันคุ้มค่าที่จะได้เห็นได้ยินหรือได้ทำ ฉันอยากที่จะเห็น ได้ยินและทำมันเดี๋ยวนี้เลย ฉันไม่แน่ใจว่าคนอื่นๆ จะทำอะไรกันหากพวกเขารู้ว่าพวกเขาจะไม่มีชีวิตอยู่ในวันพรุ่งนี้แล้ว นั่นคือสิ่งที่เราทุกคนต้องยอมรับมัน ฉันคิดว่าพวกเขาจะเรียกครอบครัวและเพื่อนสนิทมา พวกเขาอาจจะเรียกเพื่อนเก่าบางคนเพื่อขอโทษและแก้ไข้…
-
สาววัย 19 พบรักแฟนหนุ่มใหญ่วัย 52 จากเริ่มต้นขอเป็นเพื่อนผ่านเฟซบุ๊ก จนผลิบานเป็นดอกรัก…
ความรักอาจจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่มีเส้นแบ่ง หรือข้อแม้ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ ศาสนา หรือแม้แต่ระยะห่างระหว่างอายุก็ตาม เหมือนกับเรื่องราวความรักของชายหญิงที่มีอายุห่างกันมากถึง 33 ปีคู่นี้… “สำหรับ Maik มันเหมือนกับความรักครั้งแรก หลังจากที่เรารู้จักกันเพียงไม่กี่วัน มันเริ่มต้นจากการที่เขาแอดมาหาฉันและส่งข้อความมาทางเฟซบุ๊ก” Selma หญิงสาววัย 19 ปีเล่าถึงการพบกันครั้งแรกระหว่างเธอกับแฟนหนุ่มวัย 52 ปี Selma เล่าว่าในตอนแรกเธอไม่เคยตอบข้อความที่ฝ่ายชายส่งมาเลย แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้ของคุณ Maik ก็ทำให้ฝ่ายหญิงเริ่มใจอ่อนและเปิดใจให้กับเขา “หลังจากที่ฉันเริ่มเปิดใจตอบข้อความของเขา เราก็เริ่มพูดคุยกันในทุกๆ เรื่อง และในตอนนั้นเองฉันก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่ากำลังตกหลุมรัก ความรู้สึกของฉันเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่ในตอนแรกฉันยังไม่กล้าเปิดเผยเพราะฉันยังไม่แน่ใจในตัวเอง” หญิงสาววัย 19 ปีกล่าว ทั้งสองพูดคุยกันในโลกอินเตอร์เน็ตได้ประมาณ 1 เดือนก่อนที่จะนัดพบกันครั้งแรก การพบกันในวันนั้นทำให้ทั้งสองได้มีโอกาสมาอยู่เคียงข้างกันจนถึงทุกวันนี้ Selma เล่าว่าเธอและคู่รักมีหลายๆ อย่างที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการชอบศิลปะเหมือนกัน ชอบฟังเพลงแนวเดียวกัน และสิ่งต่างๆ เหล่านี้เองที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างอายุของพวกเขา การคบกับหนุ่มใหญ่ที่มีอายุห่างกันมากกว่า 30 ปี ทำให้หญิงสาวต้องทะเลาะกับที่บ้านเนื่องจากครอบครัวของเธอไม่พอใจอย่างมาก และนี่คืออุปสรรค์แรกที่กำลังจะพิสูจน์ความรักของทั้งสอง “หลังจากที่เราคบกันมานานกว่าครึ่งปี แม่ฉันก็เริ่มสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของฉันกับ Maik และหลังจากที่เริ่มมีปัญหากับที่บ้านฉันก็ย้ายออกมาอยู่กับเขา นี่คืออุปสรรค์ที่เราต้องผ่านมันไปให้ได้” ฝ่ายหญิงให้สัมภาษณ์…
-
ชีวิตของลูกสาวผู้โชคดี ที่มีคู่พ่อเศรษฐีเลี้ยงดูมันเป็นยังไง ‘ทั้งเปย์ไม่ยั้งและให้ไม่อั้น’
สาวๆ บางคน เวลาเปิดไปดูไอจีของคนอื่นที่ถ่ายรูปคู่กับเสื้อผ้าราคาแพง ก็จะทำให้รู้สึกแอบอิจฉาอยู่ในใจ แต่สำหรับหญิงสาววัย 18 ปีคนนี้ เธออาจจะไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นมาก่อน เพราะไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าราคาแพงขนาดไหน พ่อเธอก็จัดให้ได้แทบทั้งหมดอยู่แล้ว สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่า Saffron Drewitt-Barlow หญิงสาวชาวอังกฤษผู้ที่อยู่ในครอบครัวอันแสนร่ำรวยมั่งคั่ง พิสูจน์ได้จากค่าขนมที่เธอได้เดือนละมากกว่า 200,000 บาท และข้าวของในตู้เสื้อผ้าของเธอที่รวมกันเป็นเงินกว่า 43 ล้านบาท Saffron สาวผู้มีเสื้อผ้าและะเครื่องประดับราคาแพงเอาไว้มากมาย เธอและพี่ชายฝาแฝด Aspen คือสองคนแรกที่ถูกบันทึกไว้ในประเทศอังกฤษ ว่ามีพ่อสองคนโดยที่ไม่มีแม่เลยซักคน ซึ่งพ่อของทั้งสองก็คือ Barrie และ Tony คู่เกย์คู่แรกในอังกฤษที่ใช้วิธีการฝากผู้หญิงคนอื่นตั้งครรภ์แทน จนออกมาเป็นฝาแฝดสองคนนี้ พอเวลาผ่านไป คุณพ่อทั้งสองก็ใช้วิธีการแบบเดียวกันในการให้กำเนิดลูกชาย Orlando และฝาแฝด Jasper กับ Dallas ตามกันมา โดยพวกเขายังตั้งใจเอาไว้ว่าอยากมีลูกสาวเพิ่ม เพราะในบ้านมีผู้ชายเยอะเหลือเกิน ครอบครัวมหาเศรษฐีที่มีลูกสาวแค่คนเดียวในตอนนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า มีลูกเยอะขนาดนี้แล้วจะเลี้ยงไหวหรือเปล่า? มีเงินพอส่งเสียลูกทุกคนได้เหรอ? คำตอบคือคุณพ่อสองคนนี้มีมากกว่าที่คุณคิดเยอะ เพราะทั้งสองคือหนึ่งในคนที่ล่ำซำที่สุดแห่งอังกฤษเลยก็ว่าได้ พวกเขามีทรัพย์สมบัติอันมหาศาล เพียงพอที่จะจับจ่ายหาซื้อความสุขให้กับตัวเองและลูกๆ ของพวกเขา…
-
คุณแม่แชร์คลิปความน่ารักของ “แฝดสี่” ที่เดินกอดกันไปมา รอบรองว่าดูแล้วจะทำให้คุณยิ้มตามแน่นอน
ในครอบครัวที่มีพี่น้องหลายคน มักจะเห็นถึงความสัมพันธุ์น่ารักๆ ระหว่างพี่น้องอยู่เสมอ ยิ่งเป็นฝาแฝดด้วยแล้ว ยิ่งทวีคูณความน่ารักเข้าไปหลายเท่าเลยทีเดียว แต่ถ้าเกิดฝาแฝดทำให้คุณใจละลายได้แล้วละก็ ถ้าเกิดได้ลองไปเห็นความน่ารักของพี่น้องแฝดสี่บ้างละก็ คุณจะรับมันไหวรึเปล่านะ ไปลองดูกัน Tim และ Bethani Webb พ่อแม่ของแฝดสี่ Tim และ Bethani Webb เป็นคู่รักคู่หนึ่งที่อาศัยอยู่ในรัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ทั้งคู่มีลูกแฝดสี่ด้วยกัน ทั้ง 4 คนมีชื่อว่า Abby, Emily, Grace และ Mckayla ทั้งสี่อยู่ในวัยทารกกำลังซนเลย แม้ว่าการมีลูกเยอะจะไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องให้ความใส่ใจดูแลมากเป็นพิเศษ และมีค่าใช้จ่ายมากกว่าการมีลูกทีละคนถึง 4 เท่าเลย แต่ทั้งสองก็ไม่หวั่นเพราะลูกๆ นั้นน่ารักเสียเหลือเกิน และในวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมานี้ คุณพ่อและคุณแม่ก็บังเอิญได้เห็นลูกๆ ในมุมที่น่ารักมุ้งมิ้งเสียจริง เพราะแฝดทั้งสี่คนนั้นกำลังไล่กอดกันอย่างสนุกสนานเลย พอกอดกันเสร็จคู่หนึ่งก็สับเปลี่ยนไปอีกคู่หนึ่ง และทำอย่างนี้วนซ้ำไปเรื่อยๆ ราวกับเด็กๆ เพิ่งเรียนรู้ที่จะกอดกัน แล้วติดใจอย่างไรอย่างนั้น ทั้งคู่จึงได้ถ่ายวิดีโอที่แฝดสี่คนนี้ไล่กอดกันเอาไว้ แล้วเอาไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊กของตนเอง กะว่าจะแบ่งปันความสุขและความน่ารักเล็กๆ น้อยกับชาวเน็ตที่บังเอิญได้ผ่านมาเห็นด้วย แต่คลิปวิดีโอนั้นก็กลายเป็นที่นิยมอย่างมาก…
-
พ่อแม่ขังลูกสาวไว้ในห้องขนาดเพียง 3 ตารางเมตรอยู่อย่างอดยาก จนหนาวตายในที่สุด
บางครอบครัวอาจเลี้ยงดูลูกด้วยวิธีการที่แปลกประหลาด หรือในบางครั้งที่รู้สึกว่าบุตรหลานมีอาการป่วยก็ไม่ยอมพาไปหาหมอ แต่เลือกที่จะจัดการปัญหาดังกล่าวกันด้วยตัวเอง เช่นเดียวกันกับครอบครัวนี้ ที่สุดท้ายผลลัพธ์ออกมาเลวร้ายกว่าที่คาดคิดเอาไว้อย่างมาก ครอบครัวดังกล่าวอาศัยอยู่ในเขตจังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ Yasutaka และ Yukari Kakimoto กักขังลูกสาวของตัวเองเอาไว้นานกว่า 15 ปี เพราะสงสัยว่าเธอป่วยเป็นอาการทางจิตจนทำให้มีพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างหนัก ทั้งสองบอกว่า Airi ลูกสาววัย 33 ปี แสดงอาการผิดปกติทางจิตมาตั้งแต่อายุราว 16-17 ปี เธอเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง จึงขังเด็กสาวเอาไว้ในห้องตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ห้องที่เล็กมาก มีเพียงแค่กล้องวงจรปิดคอยสอดส่องพฤติกรรมต่างๆ ห้องน้ำแบบชั่วคราวภายในและสายยางสำหรับไว้ใช้น้ำจากถังเท่านั้นเอง นอกจากจะมีการติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ในห้องที่ขังเธอไว้แล้ว ทั้งสองยังติดกล้องไว้อีกกว่า 10 ตัวรอบบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เธอสามารถหลบหนีออกมาได้เลย พวกเขาจะนำอาหารมาให้ลูกสาวแค่วันละมื้อเท่านั้น นั่นจึงทำให้เธอมีอาการขาดสารอาหารอย่างหนัก มีส่วนสูงเพียงแค่ 145 เซนติเมตร และน้ำหนักแค่ 19 กิโลกรัม การที่ได้รับอาหารเพียงน้อยนิด อาศัยอยู่ในห้องเล็กๆ แคบๆ และอุณหภูมิที่หนาวเย็น ทำให้ Airi เสียชีวิตลงในวันที่ 18 ธันวาคม…
-
ความน่ารักของครอบครัวหมี ออกมาเที่ยวเล่นบนชายหาดให้มนุษย์ได้ชุ่มชื่นหัวใจ
ทะเลอาจจะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับใครหลายๆ คนในช่วงฤดูร้อน หรือบางครั้งแม้แต่ฤดูอกหักเองก็ตาม เพราะถ้าหากคุณโดนเททะเลอาจจะเป็นจุดหมาย แฮร่!! และไม่ได้มีแค่พวกเราหรือชาวแก๊งค์ศาลาคนเศร้าเท่านั้นที่ชื่นชอบความสวยงามของทะเล แต่สัตว์ป่าอย่างเจ้าหมีเองก็ดูเหมือนจะชอบคลื่นและลมทะเลกับเค้าเหมือนกัน ภาพของเจ้าหมีน้อยทั้ง 3 ตัวและแม่ของมันที่กำลังออกมาพักผ่อนวันหยุดในอุทยานแห่งชาติ Katmai ที่อลาสก้า ภาพอันแสนน่ารักของเจ้าหมีน้อยและแม่ของมันนี้เป็นฝีมือการถ่ายรูปของ Kate และ Adam Rice ที่ถูกถ่ายเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2016 “หลังจากที่น้ำลงในช่วงตอนบ่าย พวกเรารีบไปที่ชายหาดเพื่อหวังที่จะได้เห็นเจ้าหมีและลูกๆ ของมัน ไม่นานเราก็สังเกตเห็นแม่หมีและลูกๆ อยู่ห่างจากเราไปไม่มาก และกำลังมุ่งหน้ามายังจุดที่พวกเราอยู่ เราจึงตัดสินใจหามุมที่เหมาะสมเพื่อถ่ายภาพเหล่านั้นไว้” คู่รักกล่าว แม่หมีและลูกๆ ของมันที่ออกมาวิ่งเล่นบริเวณชายหาด หลังจากที่น้ำลง หลังจากที่ได้เริ่มบันทึกภาพของเหล่าครอบครัวหมี สองสามีภรรยารู้สึกตื่นเต้นมากๆ พวกเขาถ่ายภาพของพวกมันจนกระทั่งพวกหมีพักผ่อนเสร็จเรียบร้อย “ตอนที่เรายืนอยู่นั้นพวกหมีเดินเข้ามาใกล้เรามาก เรายืนถ่ายภาพของพวกมันจนกระทั่งพวกมันจากไป” คู่รักให้สัมภาษณ์ แม่หมีและลูกๆ กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน . และหนึ่งในกิจกรรมสำหรับการเที่ยวทะเลนั่นก็คือการอาบแดดนั่นเอง งานนี้พี่หมีของเราและลูกๆ ก็ไม่พลาด!! เดี๋ยวแม่ขออาบแดดแป๊บนะลูก . และหลังจากเที่ยวกันจนเต็มอิ่มแล้ว งานนนี้ก็ถึงเวลาที่แม่หมีจะต้องพาลูกๆ ของมันกลับบ้านแล้ว แหม่… น่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ยเจ้าหมี ที่มา dailymail
-
คุณยายรับ “แมวหน้ายาว” มาเลี้ยง แต่พอคุณหลานมาเห็นเลยถามว่า “มันใช่เหรอ!?”
นี่คือเรื่องราวน่ารักปนฮาของคุณยายท่านหนึ่งจากรัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ที่ชื่นชอบการดูแลแมวจรจัดในละแวกบ้านของเธออยู่บ่อยๆ นอกจากการดูแลบรรดาเหมียวๆ แล้ว คุณยายยังยินดีที่จะให้พวกมันเข้ามาพักพิงภายในบ้านของเธอ แถมยังให้ข้าวให้น้ำ พร้อมดูแลและมอบความรักให้เป็นอย่างดี คิดแล้วก็น่าอิจฉาไม่น้อย และในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เธอก็ได้พบกับสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งซึ่งดูภายนอกมันก็มีความคล้ายแมวอยู่บ้าง ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คุณยายผู้ใจดีได้ตัดสินใจที่จะรับมันมาเลี้ยงโดยที่ไม่ได้เอะใจเลยว่ามันใช่แมวจริงๆ หรือเปล่า? เมื่อเร็วๆ นี้ Eric Hertlein ผู้เป็นหลานชายก็ได้เดินทางมาเยี่ยมยายของเขา และแน่นอนว่านอกเหนือจากเจ้าเหมียว 2 ตัวที่ Eric เห็นอยู่เป็นประจำแล้ว ครั้งนี้เขาก็ได้สังเกตเห็นว่ามีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามาอีกด้วย Eric ตะลึงกับภาพเบื้องหน้าอยู่ชั่วขณะ เพราะภาพสิ่งมีชีวิตที่เขาเห็นกำลังนอนนิ่งๆ อยู่กับเจ้าเหมียว 2 ตัวนั้น มันคือ “โอพอสซัม” นี่นา และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกสับสนเป็นอย่างมากว่าเจ้าโอพอสซัมตัวนี้มันมาอยู่ในบ้านของคุณยายได้อย่างไร ซึ่งเขาก็ได้แต่คิดว่ามันอาจจะหลงเข้ามา หรือแอบเข้ามากินอาหาร แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่เขารู้สึกสับสนอยู่แล้วก็ยิ่งทำให้เขาต้องกุมขมับมากขึ้นไปอีก เมื่อได้ฟังคำตอบจากปากคุณยายหลังจากที่ถามเรื่องเจ้าโอพอสซัม “เธอบอกว่ามันเป็นแมวตัวหนึ่งของเธอ คุณยายได้บอกกับผมว่าเธออยากจะเลี้ยงมันสักประมาณ 2-3 เดือน แถมตั้งชื่อให้มันด้วยว่า Tete และนั่นก็ทำให้ผมเริ่มหัวเราะออกมา” Eric…
-
2 พี่น้องผู้พลัดพราก กว่า 20 ปี สุดท้ายพบว่าเป็นรุ่นพี่ร่วมมหาลัย แถมอยู่บ้านใกล้ๆ กันอีกด้วย
เรื่องราวที่เหมือนกับละครนี้เกิดขึ้นกับ Kieron Graham หนุ่มวัย 20 ปีที่ถูกรับไปเลี้ยงตั้งแต่ตอนที่เขาอายุได้เพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น พ่อแม่บุญธรรมของ Graham ไม่ได้ปิดบังเกี่ยวกับอดีตของเขา ทั้งสองเล่าเรื่องราวของแม่และพี่ชายให้กับชายหนุ่มฟัง Graham รู้ว่าตัวเองมีพี่ชายแท้ๆ ชื่อว่า Vincent และมีคุณแม่ชื่อว่า Shawn แต่ชายหนุ่มไม่รู้นามสกุลของทั้งคู่ และเมื่อไม่นานมานี้ Graham ได้เข้ารับการตรวจ DNA ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาได้พบคุณ Vincent Ghant ชายวัย 29 ปีที่มีค่า DNA ใกล้เคียงกับเขา และไม่เพียงแค่นั้นชายคนดังกล่าวยังมีวันเกิดใกล้เคียงกับข้อมูลที่ครอบครัวของ Graham มีอีกด้วย ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบทำการติดต่อคุณ Ghant ไปทันที ชายหนุ่มได้เล่าเรื่องของตัวเองให้กับคุณ Ghant ฟังพร้อมกับบอกว่าเขามีข้อมูลเพียงแค่ชื่อและวันเกิดของพี่ชายเท่านั้น คุณ Ghant ให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed ว่าในตอนแรกเขานั้นไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่เพราะ Graham นั้นเปลี่ยนชื่อไปหลังจากที่ถูกรับไปเลี้ยง แต่เมื่อชายหนุ่มพูดชื่อของคุณแม่ขึ้นมาเขาถึงกับอึ้งเลยทีเดียว “ผมรู้สึกประหลาดใจมาก มันไม่รู้จะทำตัวอย่างไรเลยมีความรู้สึกมากมายที่ผ่านเข้ามาในหัวของผม ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เจอหน้าเขาเป็นครั้งแรก” Ghant ให้สัมภาษณ์กับรายการ Good Morning America แต่เรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อของสองพี่น้องยังไม่หมดเพียงเท่านั้น พวกเขาทั้งคู่ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันสาขาเดียวกัน แถมยังอยู่บ้านห่างกันเพียงแค่…
-
มีซึ้ง!! เรื่องราวอบอุ่นหัวใจของคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ที่เขียนจดหมายจากซานต้าให้ลูกสาวทุกปี
ด้วยความที่เป็นพ่อคนแม่คน ก็เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขาที่อยากจะให้ลูกๆ ของพวกเขานั้น เป็นเด็กที่มีความสุขที่สุดในโลกไม่ว่าจะในเรื่องใดๆ ก็ตาม ทว่าในโลกแห่งความเป็นจริง ก็มีหลายครอบครัวที่พ่อแม่ต้องแยกทางกัน ทำให้ครอบครัวนั้นอาจเป็นครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์นัก อีกทั้งเรื่องการขาดหายไปของใครบางคนก็อาจจะกลายเป็นช่องว่างที่เกิดขึ้นในจิตใจของเด็กๆ ที่กำลังเจริญเติบโตและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ ครอบครัวที่มีเพียงสองคนพ่อลูก แต่ว่า Michael Ray ผู้เป็นพ่อไม่ต้องการให้ Charlie ลูกสาววัย 6 ปีของเขารู้สึกว่าขาดอะไรไป แม้ว่าครอบครัวของเขาจะมีเพียงสองพ่อลูกก็ตาม โดย Ray ได้พยายามสุดความสามารถ ที่จะทำให้ลูกสาวของเขารู้ว่าทั้งพ่อและแม่รักเธออย่างสุดหัวใจ เขาจึงเขียนจดหมายฉบับหนึ่งขึ้นมาและบอกลูกสาวของเขาว่านี่เป็นจดหมายจากซานต้าในทุกๆ วันคริสต์มาส และนี่คือจดหมายฉบับหนึ่งของเขาที่มีเนื้อความว่า “ถึง Charlie ฉันต้องของคุณหนูมากจริงๆ ที่ช่วยดูแลเจ้า Jingles แมวสุดน่ารักตัวนี้ มันมักบอกกับฉันว่ามันชอบไปที่บ้านหนู เพราะว่าที่บ้านหลังนั้นมีเด็กที่น่ารักมีจิตใจที่ดีอยู่คนหนึ่ง และคนๆ นั้นก็คือหนูนั่นเอง นอกจากนี้เจ้า Jingles ยังบอกอีกด้วยว่ามันสามารถเห็นได้ถึงความรัก ความภาคภูมิใจอันมากล้นที่พ่อของหนูมีต่อหนู และสุดท้ายมันก็บอกอีกด้วยว่าหนูเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับมันเลยล่ะ มากไปกว่านั้นฉันสามารถรับรู้ได้อีกด้วยว่า แม่ของหนูรักและคิดถึงหนูมากเหนือกว่าสิ่งอื่นใดในโลกใบนี้ อ่อเกือบลืมไป ฉันทิ้งของขวัญบางอย่างเอาไว้ให้นะและหวังว่าเธอจะสนุกกับมัน และสุดท้ายฉันก็หวังว่าหนูจะมีความสุขที่โรงเรียนกับ Lily เพื่อนรักของเธอนะ ฉันจะคอยเฝ้ามองดูอยู่ห่างๆ ต่อจากพ่อของเธอละกัน รักจากซานต้า “ รอยเท้าที่ซานต้าทิ้งเอาไว้ขณะเอาของขวัญมาวาง…
-
การ์ตูนจากจินตนาการลูก เสริมความแกร่งด้วยมือของคุณพ่อ เดินทางมาถึง Episode IV แล้ว!!
กลับมาอีกครั้งกับเซตภาพใหม่ที่สวยกว่าเดิมของคุณพ่อคนเก่ง ที่ก่อนหน้านี้เขาได้เนรมิตภาพวาดจากจินตนาการของลูกชายมาแล้วถึง 3 เซตใหญ่ และตอนนี้มันก็เดินทางมาถึงผลงานชุดที่ 4 แล้วจ้า (สามารถกลับไปอ่านผลงานชุดเก่าได้ที่ ‘จากไอเดียภาพร่างของลูก ต่อยอดสู่ปลายปากกาของพ่อ จนกลายมาเป็นตัวการ์ตูนสุดเจ๋ง!!‘) ส่วนถ้าใครไม่อยากกลับไปเสพผลงานเดิมๆ แต่อยากเสพผ่านงานครั้งนี้ งั้นก็จะขอเล่าประวัติคร่าวๆ ของคุณพ่อคนนี้สักหน่อย โดยเขามีชื่อว่า Thomas Romain เป็นคุณพ่อชาวฝรั่งเศสผู้ทำงานเป็นศิลปินและฝากผลงานอนิเมะไว้เยอะแยะมากมายในญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อเขาว่างเว้นจากงานหลัก เขาก็จะมาเสริมสร้างจินตนาการกับลูกชายของเขา โดยการเปลี่ยนรูปภาพที่มาจากไอเดียของลูกชายให้เป็นผลงานชิ้นใหม่นั่นเอง เอ้าอย่ารอช้า เชิญเสพผลงานชุดใหม่กันได้เลย!! นอกจากจะบอกว่าพ่อเก่งแล้ว ต้องยอมรับนะว่าไอเดียเริ่มต้นของลูกก็ดีไม่แพ้กัน เมื่อสองพ่อลูกร่วมมือกัน งานนี้ตัวละครเจ๋งๆ จึงถือกำเนิดมาได้ไม่หยุด อย่างตัวละครตัวนี้ คือมันดีย์อะ ดีไซน์ของคุณลูกมันเจ๋งเป็นทุนเดิม . . รับรองว่าลูกของชายคนนี้จะต้องโตมาเป็นนักออกแบบตัวละครที่เทพสุดๆ เหลือแค่ฝึกฝีมือกับพ่ออีกสักหน่อย โตมา เก่งแน่นอน!! . . จะว่าไปตัวละครหลายตัวในชุดงานนี้สามารถนำไปใช้ในนวนิยายหรือเกมสักเกมได้เลยนะเนี่ย เพราะส่วนใหญ่ตัวละครมันจะมีธีมและหน้าตาคล้ายๆ กัน ที่สำคัญหลายๆ รูปยังมีการหยิบตัวละครจากภาพเซตก่อนๆ มาใช้ เมื่อมันมีงานชุด…
-
หนุ่มรวบรวมความกล้า สารภาพกับแม่ว่าตัวเองเป็นเกย์ สิ่งที่เกิดขึ้นมันช่างงดงามเหลือเกิน
แม้ว่าในยุคปัจจุบันจะมีการยอมรับกลุ่มคนรักร่วมเพศมากขึ้น ให้พวกเขาสามารถอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติ แต่ก็ยังมีปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ทำให้พวกเขาไม่กล้าเปิดเผยรสนิยมส่วนตัวออกมา นั่นก็คือครอบครัวนั่นเอง เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าโดยปกติแล้ว หากบ้านไหนมีลูกชาย ก็คงจะคาดหวังให้เขาแต่งงานและมีลูกมาสืบสกุล หรือถ้ามีลูกสาวก็หวังจะได้เห็นพวกเธอมีแฟนหนุ่มที่คอยดูแลเอาใจใส่อย่างดี ดังนั้นการเปิดเผยตัวจนว่าชอบเพศเดียวกัน จึงอาจเป็นการทำลายความคาดหวังของครอบครัวตนเอง แต่ในทางกลับกัน คุณพ่อและคุณแม่อาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ เพราะพ่อแม่มักจะใส่ใจและคอยสังเกตลูกอยู่เสมอ ดังนั้นเพียงแค่รวบรวมความกล้าเข้าไปพูดคุยกับพวกเขา อาจจะพบว่าพ่อและแม่นั้นพร้อมจะคอยอยู่เคียงข้างเราทุกเมื่อ เหมือนในคลิปที่เราจะนำเสนอนี้ เพจ Humankind Stories ได้โพสต์คลิปวิดีโอหนึ่งลงในเฟซบุ๊ก เป็นเรื่องราวของลูกชายที่พยายามจะบอกให้แม่รู้ว่าตนเองชอบเพศเดียวกัน โดยคลิปวิดีโอสะท้อนถึงภาพของพ่อแม่ที่เข้าใจและเป็นกำลังใจให้ลูกได้เป็นอย่างดี ในตอนแรกนั้นลูกชายตัวลูกชายรวบรวมความกล้าที่จะบอกกับแม่ไม่ได้ ตัวคุณแม่เห็นดังนั้น จึงพยายามให้ความช่วยเหลือลูก โดยเป็นคนเปิดบทสนทนาเองเสียเลย “แม่: มีอะไรจะบอกกับแม่เหรอ” “ลูก: คือว่า … เอ่อ …” “แม่: … ลูกจะบอกแม่ว่าเป็นเกย์รึเปล่า แม่รู้อยู่แล้วล่ะ แม่เข้าใจลูกนะ” “ลูก: ฮือ แม่ผมขอโทษ” “แม่: ไม่ต้องขอโทษหรอก ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด แม่รักลูกเสมอนะ” เธอยังอธิบายให้ลูกฟังได้ดีอีกด้วยว่า ทำไมพ่อแม่ทั่วไปถึงไม่อยากให้ลูกเป็นเกย์ แน่นอนว่าไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาเกลียดเกย์หรอก แต่พวกเขาไม่อยากให้ลูกต้องมีชีวิตที่ลำบากต่างหาก “แม่แค่ไม่อยากให้ลูกต้องใช้ชีวิตลำบาก…
-
15 ภาพฮาๆ ของเหล่าบุคคนผู้โชคดี ได้พ่อแม่เป็น ‘คนตลก’ ชีวิตก็เลยมีแต่เรื่องสนุกๆ แบบนี้!!
อารมขันนั้นถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์เราทุกๆ คน และแน่นอนว่านอกจากรายการตลกแล้ว บางครั้งคุณอาจจะพบกับเรื่องราวฮาๆ ได้ที่บ้าน ซึ่งดาราตลกที่ว่านั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย นั่นก็คือพ่อแม่ของเรานั่นเอง และบางครั้งมุกของคุณพ่อคุณแม่นั้นก็ทำให้เราอมยิ้มได้บ่อยๆ หรือบางทีก็อาจจะฮาแตกแบบนี้… 1. งานที่โรงเรียนลูกเป็นอย่างไรบ้าง?? สนุกมากเลยจ่ะที่รัก 2. นี่คือของขวัญวันเกิดสำหรับลูกๆ ที่ชอบจิ๊กซอว์ อืม… แค่ชอบไม่ได้นะ อันนี้คงต้องถึงขั้นมือโปรเลยทีเดียว!! 3. ม่ะ เดี๋ยวป๊ะป๋าเล่นเป็นเพื่อน ไม่เอ๊า!! ฮืออออ 4. วันนี้หนูขอกินน้ำส้มได้ไหมค๊ะ!? ได้เลยจ่ะลูกรัก… 5. ภาพคู่ครั้งแรกและครั้งเดียวของคุณพ่อนักตกปลา และลูกชายของเขา เพราะครั้งหน้าภรรยาอาจจะไม่ยอม ตึ่งโป๊ะ!! 6. พ่อคะมีใครอาบน้ำหรือเปล่า ไม่มีจ้าอาบเลย อุ๊ย!! ผีหลอกกก 7. คุณพ่อชาวรัสเซีย และลูกชายตัวน้อยของเขา คงได้ถ่ายเป็นภาพแรกและภาพสุดท้ายเหมือนเดิม!! 8. ออกไปฮาโลวีนกันจ่ะที่รัก!! ได้เลยย แฮกๆ 9. วิธีหลอกลูกน้อยให้กินยาแบบง่ายๆ…
-
คุณพ่อชาวจีนสั่งสอนลูกชาย ด้วยการคุกเข่าแล้วใช้ไม้เรียวเฆี่ยนตีไปที่หลังของตัวเอง
พ่อแม่แต่ละคนจะมีการสั่งสอนลูกๆ ที่แตกต่างกันไป ในหลายครอบครัวก็จะมีการลงโทษเข้ามาเพื่อไม่ให้เด็กทำเรื่องแย่ๆ อีก อย่างคุณพ่อชาวจีนคนนี้ที่สั่งสอนลูกด้วยการเฆี่ยนตีตัวเขาเอง การสั่งสอนในลักษณะดังกล่าวถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ Weibo เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2017 ขณะที่คุณพ่อชาวจีนท่านหนึ่งกำลังสั่งสอนลูกชายของตัวเอง และลูกสาวของเขาอีกคนก็ได้ถ่ายสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ เหตุการณ์นี้เริ่มต้นมาจากการที่ลูกชายนำมือถือไปเล่นเกมที่โรงเรียน โดยอ้างกับพ่อว่าคุณครูเป็นคนบอกให้นำมือถือติดตัวไปด้วย พ่อจึงถามเด็กหนุ่มว่า “พ่อไม่เคยสั่งสอนแกหรือไง?” เมื่อเด็กตอบว่าเคย เขาก็ถามอีกว่า “แกถูกสั่งสอน แต่ไม่เคยเรียนรู้สินะ?” เด็กหนุ่มจึงตอบพ่อด้วยสำนวนอันเก่าแก่จากบทความ Sanzijing ว่า “การสอนโดยปราศจากความเข้มงวด คือสิ่งที่เกิดจากความขี้เกียจของผู้เป็นครู” เมื่อเจอประโยคนั้นเข้าไป คนเป็นพ่อก็ยื่นไม้เรียวให้เด็กหนุ่ม พร้อมกับถอดเสื้อนอกลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น แล้วพูดว่า “ครั้งนี้ความผิดของแกเกิดขึ้นเพราะพ่อเอง พ่อไม่ได้สอนแกดีพอ จึงขอยอมรับความผิดทั้งหมดด้วยตัวเอง” เขาสั่งให้ลูกชายลงโทษเขาด้วยการใช้ไม้เรียวเฆี่ยนมาทีหลังของเขา เด็กหนุ่มปฏิเสธที่จะทำสิ่งนั้น แต่คนเป็นพ่อยังคงตะโกนเร่งให้ลูกชายตีเขาซะ จนเด็กหนุ่มถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา . เมื่อลูกชายไม่ยอมตีเขาสักที คุณพ่อจึงตัดสินใจแย่งไม้เรียวมาเฆี่ยนไปที่หลังของตัวเอง พร้อมกับตะโกนออกมาว่า “ความผิดของพ่อเอง พ่อไม่ได้สอนลูก ความผิดพ่อเอง ความผิดพ่อเอง..” ยิ่งเห็นพ่อทำอย่างนั้นลูกชายก็ยิ่งร้องไห้มากกว่าเดิม ขณะที่ลูกสาวพยายามบอกให้คุณพ่อหยุดตีหลังของตัวเอง จนคุณพ่อหยุดตีและหันไปพูดกับลูกชายว่า “พ่อสอนแกไม่ดีเอง…
-
คุณยายขอแชะภาพครอบครัวที่เจอโดยบังเอิญ แต่นั่นเป็น ‘ภาพครอบครัว’ ภาพสุดท้ายของพวกเขา
คนแต่ละคนย่อมมีงานอดิเรกแตกต่างกัน บางคนก็ชอบดูหนัง บางคนชอบท่องเที่ยว บางคนก็ทำสวนอยู่ที่บ้าน ซึ่งก็มักเป็นกิจกรรมฆ่าเวลาที่เราทำแล้วมีความสุขเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วกิจกรรมเหล่านี้อาจจะมีคุณค่าต่อบุคคลอื่นที่บังเอิญมามีส่วนเกี่ยวเนื่องกับงานอดิเรกเหล่านี้ด้วย อย่างคุณยาย Joyce Rhinehart ที่อาศัยอยู่ในเขตอัปเปอร์อาร์ลิงตัน เมืองแฟรงคลิน รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเธอมีงานอดิเรกคือการถ่ายรูปน่ารักๆ ของคนแปลกหน้า แล้วส่งไปให้พวกเขา คุณยาย Joyce Rhinehart ขณะอยู่กับหลานชาย ในวันที่ 8 มิถุนายน 2017 เธอได้พา Blake หลานชายของเธอแวะซื้อไอศกรีมที่ร้าน Rita’s ขณะกำลังกลับจากการเรียนเทนนิส ตอนนั้นเองเธอได้เจอครอบครัวครอบครัวหนึ่งกำลังนั่งทานไอศกรีมกันอย่างมีความสุข เห็นแล้วเธอก็อดไม่ได้ที่จะขอถ่ายรูปพวกเขาเก็บไว้ แล้วก็ไม่ลืมที่จะขอเบอร์ของลูกสาวครอบครัวนั้นไว้เพื่อจะส่งภาพให้ด้วย เธอก็ทำไปตามปกตินิสัยของเธอ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษในการถ่ายรูปครอบครัวนี้ จากนั้นเธอจึงบอกลาครอบครัวนั้น แล้วพาหลานชายกลับบ้านของตน รูปครอบครัวที่คุณยายถ่ายไว้ แต่ในเวลาต่อมา วันที่ 19 มิถุนายน 2017 ซึ่งเป็นวันพ่อ มีเบอร์ปริศนาส่งข้อความมาหาคุณยาย โดยมีใจความดังนี้ “สวัสดีครับ คุณเคยถ่ายรูปครอบครัวให้กับเราที่หน้าร้าน Rita’s ในวันที่ 2 มิถุนายน ผมอยากจะบอกให้คุณรู้ว่า ภรรยาของผมเสียชีวิตไปเมื่อวานนี้เอง…
-
แฟนๆ สงสัยสาวตระกูล Kardashian ทำไมต้องใส่รองเท้านั่งโซฟากันทุกคน!?
สำหรับใครที่ชื่นชอบตระกูล Kardashians และได้ติดตามรายการ Keeping Up With the Kardashians ของครอบครัวนี้มาโดยตลอด คุณอาจจะแอบสังเกตเห็นว่าใน Season 14 นี้ มีอะไรบางอย่างที่ทำให้แฟนๆ รู้สึกสงสัยและสนใจอยากจะค้นหาคำตอบขึ้นมาว่า ทำไมสาวๆ Kardashians มักจะสวมรองเท้าอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนนั่งโซฟาพวกเธอก็ยังคงสวมมันอยู่? ถ้าไม่เชื่อก็ลองเข้ามาดูสิ นี่คือสิ่งที่เรากำลังพูดถึง…พวกเธอสวมรองเท้าอยู่ตลอดจริงๆ หากใครที่เคยดูตอนนี้ คุณจะเห็นได้ว่าสาวๆ Kardashians ไม่เคยถอดรองเท้าเลยไม่เว้นแม้แต่ตอนนั่งบนโซฟา เพื่อนๆ หลายคนอาจจะกำลังสงสัยอยู่ใช่ไหม มันไม่สามารถลบคำถามออกไปจากหัวได้จริงๆ ว่าทำไมพวกเธอถึงต้องใส่รองเท้าตลอด แฟนๆ บางคนได้ออกมาเผยว่าตอนเด็กๆ พวกเธอไม่เคยถูกสอนให้ถอดรองเท้าเวลานั่งบนโซฟาหรือไง Kourtney คุณจะไม่คิดถึงโซฟาที่น่าสงสารบ้างหรือยังไงนะ ส่วน Kim เธอสวมรองเท้าส้นสูงอยู่เสมอ ว่าแต่ตรงส้นมันจะไม่เจาะเข้าไปในโซฟ้าใช่มั้ย บางคนก็แซะว่า พวกเธอใส่รองเท้าแต่ละคู่ไม่ซ้ำกันเลย และไม่เคยยืนบนพื้นหรอกนอกจากพรมที่เป็นสีแดง บางคนบอกว่า นั่นอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณาแบรนด์รองเท้า หรือผู้ให้การสนับสนุนทางรายการ …
-
เมื่อลูกๆ กลับบ้านในช่วงคริสต์มาส ก็เริ่มแชร์ความแปลกของบ้านพ่อแม่ตัวเอง เกินจะรับด๊ายยย!!
สำหรับบางคนที่ต้องออกไปทำงานไกลบ้าน บางครั้งการจะกลับไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ที่บ้าน หรือไปเยี่ยมคุณตาคุณยายที่ต่างจังหวัดอาจจะต้องรอคอยให้ถึงช่วงวันหยุดยาวๆ ซะก่อน แน่นอนว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมาถึงบ้านของพวกเขาแล้วล่ะก็ สิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องเจอนอกจากอาหารอร่อยๆ ที่เตรียมรอไว้ นั่นก็คือสไตล์การแต่งบ้านที่เปลี่ยนไปแทบจะทุกครั้งนั้นเอง และบางทีนอกจากสไตล์การแต่งบ้านแบบที่ไม่ค่อยพบเห็นทั่วไปแล้ว บางทีคุณอาจจะเจอของใช้แปลกๆ แบบนี้ก็ได้… 1. นี่คือโคมไฟจากฝีมือคุณแม่!! 2. แม่ฮะๆ นั่นคือปูที่ทำจากเปลือกหอยใช่ไหมฮะ!? 3. อืม… แบบนี้รู้เลยว่าเลือกตั้งที่ผ่านมาคุณแม่เลือกพรรคไหน?? 4. บางครั้งเมื่อกลับบ้าน คุณอาจจะพบว่า ตัวเองมีพี่น้องอีกหนึ่งคนที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้!! 5. โคมไฟที่จะทำให้พวกเด็กๆ กลัวกลางคืนไปอีกนาน!! 6. เมอร์รี่คริสต์มาสจ้าลูกรัก!! 7. เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไปบ้านของคุณปู่คุณย่า คุณมักจะเจอสิ่งของน่ากลัวๆ แบบเจ้าม้าตัวนี้!! 8. กบขี่เต่า สมบัติอันล้ำค่าที่สืบทอดต่อกันมา!! 9. ผลงานศิลปะที่สุดแสนจะน่ากลัว 10. ผลงานศิลปะของคุณย่าสามี!! 11. มากันทั้งครอบครัวกันเลยทีเดียว!! 12. ช่วยบอกผมทีฮะแม่…
-
สามีวาดภาพ “ชีวิตของผมและเมียที่น่ารัก” ทำให้เราเข้าใจว่าถึงคำว่า “รัก” ได้อย่างดียิ่งขึ้น…
ภาพวาดเป็นศิลปะที่ประณีตและลึกซึ้ง เวลาคนเราได้มองภาพวาดก็จะทำให้เข้าถึงอารมณ์ต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความเศร้า ความกลัว หรือความโกรธ แต่ภาพวาดก็ไม่จำเป็นต้องลึกซึ้งและเข้าถึงยากเสมอไป จิตรกรบางคนก็ใช้เพียงภาพที่ดูเรียบง่ายแต่สื่อให้เราเข้าใจถึงอารมณ์ได้อย่างชัดเจนเช่นกัน ดังเช่นจิตรกรลูกครึ่งฝรั่งเศสอเมริกันนามว่า Pascal Campion ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองเบอร์แบงก์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาท่านนี้ ผลงานของเขาเป็นรูปภาพเรียบง่ายที่แสดงให้เห็นถึงกิจวัตรในชีวิตประจำวันธรรมดาๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่เรียกว่ารักอย่างชัดเจน แรงบันดาลใจในการวาดภาพของ Pascal ก็มาจากครอบครัวของเขานั่นเอง ซึ่งก็คือ Katrina ภรรยาของเขาที่ใช้ชีวิตร่วมกันมากกว่า 10 ปี ลูกสาวอายุ 9 ปี และลูกชายฝาแฝดอายุ 6 ปีของเขา โดยงานชิ้นนี้ได้รวบรวมกิจวัตรทั่วไปที่สำคัญสำหรับพวกเขาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการชมความงดงามในฤดูใบไม้ร่วง การออกไปรับแสงตะวันกับครอบครัว การจับมือกันในฝูงชน หรืออ่านหนังสือและจิบกาแฟในคืนฝนพรำ แอบมองลอดประตูดูภรรยาให้นมเจ้าตัวเล็ก Pascal กล่าวว่า “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ในชีวิต ต่างก็มีความสำคัญทั้งนั้น” อยู่ข้างๆในเวลาที่เราต้องการ กอดเซอร์ไพรซ์จากจอมซน จู๋จี๋กันระหว่างวัน สายฝนไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา เติมพลังหลังจากวันที่เหนื่อยล้า ตื่นเช้ามาเจอหน้าหวานใจ…
-
สองเด็กชายหลบอยู่ใต้รถเมล์ ข้ามเมืองไปไกลกว่า 90 กม. เพื่อออกไปตามหาพ่อแม่
เหตุการณ์อันน่าตกใจนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน หลังจากที่เด็กชาย 2 ได้แอบเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถบัส และออกเดินทางเกือบ 100 กิโลเมตรเพื่อตามหาพ่อแม่ของพวกเขา เด็กหนุ่มวัย 8 และ 9 ขวบได้แอบขึ้นรถบัสจากหมู่บ้านของพวกเขาที่อยู่ทางตะวันตกของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เพื่อไปตามหาพ่อและแม่ที่ออกไปทำงานในเมือง ทั้งสองซ่อนตัวอยู่ใต้รถบัสนานกว่า 3 ชั่วโมงก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่พบ เด็กน้อยทั้งสองแอบหนีออกจากโรงเรียนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังสถานีรถโดยสาร เด็กน้อยแอบซ่อนตัวอยู่ในช่องแคบๆ บริเวณใต้รถของรถโดยสารที่กำลังจะเดินทางเข้าไปในเมือง ซึ่งราคาตั๋วค่าโดยสารนั้นอยู่ที่ประมาณ 160 บาท สำนักข่าวจากประเทศจีนรายงานว่า หลังจากที่รถคันดังกล่าวเดินทางมาเป็นระยะทางกว่า 90 กิโลเมตรและผ่านเส้นทางที่ทุรกันดารมากมาย เจ้าหน้าที่ของสถานีก็ตรวจพบเด็กน้อยทั้งสองที่ใต้ท้องรถ ในสภาพที่ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยโคลนและฝุ่น โชคดีที่เด็กน้อยทั้งสองไม่ได้รับอันตรายจากการเดินทาง ทั้งสองถูกส่งตัวกลับไปยังบ้านเกิดหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกับทางโรงเรียนให้มารับตัวพวกเด็กๆ ถึงแม้ว่าเด็กน้อยทั้งสองจะได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่ความฝันที่จะได้พบหน้าพ่อแม่ของพวกเขานั้นกลับไกลออกไป ทั้งสองบอกกับเจ้าหน้าที่สถานีว่าพ่อแม่ของพวกเขาทำงานอยู่ใกล้ๆ กับมณฑลกวางตุ้ง แต่พวกเขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเมื่อเดินทางไปถึงเมืองใหญ่แล้วจะออกตามหาพ่อแม่ได้อย่างไร . ปัญหาความยากจนและการกระจายรายได้อาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้หลายๆ คนต้องทิ้งครอบครัว มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวง พร้อมกับความหวังที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยต้องแลกกับความรักความอบอุ่นของครอบครัว ที่มา shanghaiist
-
ญี่ปุ่นขาดแคลนทายาทชาย หลายครอบครัวเลือกเลยรับ “ชายวัยผู้ใหญ่” เป็นบุตรบุญธรรม
ในประเทศญี่ปุ่น การสืบทอดธุรกิจที่ครอบครัวสร้างขึ้นมาถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นคือผู้ที่จะมารับมรดกนั้นไปได้จะต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น แล้วถ้าบ้านไหนมีแต่ลูกสาวล่ะจะทำยังไง? ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าการรับชายวัยผู้ใหญ่เข้ามาเป็นบุตรบุญธรรม จากเหตุผลที่ว่าครอบครัวส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นเลือกที่จะมีลูกแค่คนเดียว ทำให้ครอบครัวเจ้าของธุรกิจจำนวนมากขาดทายาทผู้ชายที่จะเข้ามาสืบทอดกิจการของพวกเขา จึงได้เกิดวิธีการรับผู้ชายที่มีอายุอยู่ในช่วง 20 หรือ 30 ปีเข้ามาเป็นบุตรบุญธรรมเพื่อรับมรดกนั้นไป สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น สังเกตได้จากสถิติการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมในปี 2016 ที่สูงถึง 81,000 คน โดย 90 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดนั้นเป็นการรับเลี้ยงผู้ใหญ่ ไม่ใช่เพียงเหตุผลที่ว่ามีแค่ลูกสาว เพราะบางครอบครัวที่มีลูกชายก็ยังคงใช้วิธีรับเลี้ยงผู้ใหญ่บุญธรรมเข้ามา เพราะว่าลูกชายของพวกเขาอาจไม่มีประสิทธิภาพหรือความรับผิดชอบที่มากพอในการรับธุรกิจของครอบครัวไปดูแล หนึ่งในบุตรบุญธรรมที่ถูกรับเลี้ยงมาให้สืบทอดธุรกิจของครอบครัวหนึ่ง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าลูกๆ ที่แท้จริงของพวกเขาจะไม่มีหน้าที่ในมรดกนั้นเสมอไป เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกสาวของครอบครัวจะได้รับการสั่งสอนและอบรมมาอย่างดีเกี่ยวกับธุรกิจของที่บ้าน จากนั้นพวกเธอก็จะได้แต่งงานกับบุตรบุญธรรมที่รับเข้ามาสืบทอดธุรกิจนั้นๆ แล้วทั้งคู่ก็จะสามารถช่วยกันบริหารได้อย่างดี เมื่อเป็นอย่างนั้นก็ไม่ต่างกับการคลุมถุงชนหรือเปล่า? จากคำตอบของ Chieko Date ผู้ทำการจับคู่ในลักษณะนี้มานานกว่า 10 ปีได้บอกเอาไว้ว่า ก่อนที่หนุ่มสาวจะได้มาเจอกัน ครอบครัวเจ้าของธุรกิจที่มาใช้บริการกับเธอจะเป็นคนกำหนดความต้องการทุกอย่างว่าอยากได้บุตรบุญธรรมที่มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง พวกเขาจะตรวจสอบข้อมูลของผู้ชายคนนั้นอย่างละเอียด เพื่อดูว่าไม่มีหนี้สินติดตัวมาและต้องไม่เป็นเกย์ จากนั้นลูกสาวของพวกเขากับชายหนุ่มถึงจะได้มาเจอกัน และหากว่าพูดคุยกันไม่ถูกคอ ก็สามารถทำการยกเลิกการรับบุตรบุญธรรมคนนี้เพื่อหาคนใหม่ได้ จนกว่าจะเจอคนที่ถูกใจและแต่งงานกันในที่สุด โดยการแต่งงานนั้นฝ่ายชายจะต้องเป็นคนเปลี่ยนนามสกุลเพื่อการสืบทอดธุรกิจของครอบครัวฝ่ายหญิงต่อไป Chieko Date…
-
งานวิจัยเผย ‘ลูกคนชายที่สอง’ มีแนวโน้มที่จะไปข้องเกี่ยวกับคดีอาชญากรรมมากกว่าคนแรก
นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับใครที่เป็นลูกคนโต เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดเผยผลการศึกษาครั้งใหม่ที่เผยว่า ลูกชายคนที่สองนั้นมีแนวโน้มที่จะไปข้องเกี่ยวกับคดีอาชญากรรมมากกว่าคนแรก จากผลการศึกษาของ Joseph Doyle นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย MIT ที่ทำการศึกษาในคู่พี่น้องชาวเดนมาร์กและในรัฐฟลอริดากว่า 1,000 คู่ จากการสุ่มตัวอย่างของพี่น้องทั้งสองแห่งนั้น พบผลการศึกษาที่เหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นก็คือการเกิดก่อนและหลังนั้นมีผลต่อการยุ่งเกี่ยวกับอาชญากรรม ในผลการศึกษาได้เขียนเอาไว้ว่า ถึงแม้ทั้งสองพื้นที่จะมีความแตกต่างกันในด้านสภาพแวดล้อม แต่ทว่าพวกเขาพบสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมากนั่นก็คือในครอบครัวที่มีลูก 2 คนหรือมากกว่านั้น พบว่ามีลูกชายคนที่ มีการถูกลงโทษทางวินัยที่โรงเรียนมากกว่าลูกชายคนแรก 20 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ โดยการศึกษาก่อนหน้านี้ก็ได้เปิดเผยว่าลูกที่เกิดคนแรกนั้นมีโอกาสที่จะมีพัฒนาการทางด้าน IQ สูงกว่า และมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่าด้วย “จากการสำรวจพบว่าการการสนับสนุนเงินในการเลี้ยงดูลูกของพ่อแม่ที่แตกต่างกัน เป็นปัญหาที่เราพบว่าทำให้เด็กที่เติบโตมานั้นมีความแตกต่างกัน ซึ่งข้อแตกต่างของการเลี้ยงดูนี้เราสามารถเห็นได้ในกลุ่มชนชั้นแรงงาน” Doyle ให้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ตามนี่อาจจะเป็นเพียงผลจากการสำรวจ ที่จะช่วยอธิบายบางสิ่งบางอย่างที่เราเห็นเท่านั้น แต่การดำเนินชีวิต และการเลือกทางเดินของตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่เรากำหนดได้เอง และไม่ว่าคุณจะเป็นลูกคนแรกหรือคนที่สองก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้ทั้งนั้น ที่มา ladbible
-
เจ้าเหมียวที่ใครต่างๆ มองว่า “น่าเกลียด” แต่ก็มีคนใจดีรับไปเลี้ยง ตอนนี้แฮปปี้มาก!!
เมื่อเห็นแมวน้อยน่าสงสารถูกทิ้งอยู่ตามพัง หลายคนคงรีบรับมาเลี้ยงโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ แต่สำหรับเจ้าเหมียวตัวนี้ กลับถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้มันไม่สามารถมองหาบ้านที่จะได้อาศัยอยู่อย่างถาวรได้เลย นั่นเป็นเพราะว่ามันมีหน้าตาที่น่าเกลียดนั่นเอง แต่ในความโชคร้ายนั้นอย่างน้อยก็มีความโชคดีเข้ามาแทรกภายหลัง เพราะจากนั้นไม่นานก็มีมนุษย์ใจดีได้มอบโอกาสอันสุดแสนพิเศษโดยการรับเจ้าเหมียวตัวนี้ไปเลี้ยง จนทำให้มันได้มีชีวิตใหม่ที่แสนสุข พบกับเจ้า Romeo แมวที่ใครๆ ต่างก็มองว่าน่าเกลียด แต่ตอนนี้ชีวิตแฮปปี้และสุขสบายมาก สำหรับ Romeo มันเป็นลูกแมวน้อยที่ได้รับการช่วยเหลือโดย Laura Llacer เจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Santuario Compasion Animal ซึ่งเธอได้พบมันที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศสเปน “ขณะที่เรากำลังอยู่ในระหว่างการช่วยเหลือสัตว์ เราได้พบแมวตัวนี้ มันมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากแมวตัวอื่นๆ และนั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้ทุกคนปฏิเสธที่จะรับมันไปเลี้ยง ไม่มีใครต้องการ Romeo เพราะว่าหน้าตาของมันขี้เหร่และน่าเกลียดมาก แต่สำหรับเราแล้ว Romeo เป็นแมวตัวน้อยๆ ที่มีแต่ความน่ารัก แถมยังเป็นลูกแมวขี้เล่นเหมือนแมวทั่วๆ ไป และความที่มันไม่เหมือนใครนี่แหละที่ทำให้ Romeo ดูพิเศษสุดๆ” Laura กล่าว เจ้า Romeo เป็นแมวที่เกิดมาพร้อมกับความปกติเหมือนกับเจ้าเหมียว Monty (แมวน้อยหน้าแปลก ที่เกิดมาผิดปกติ มีดวงตาห่าง และดั้งหัก)…
-
แม่คือแม่!! หญิงชราวัย 98 ยอมย้ายไปอยู่บ้านพักคนชรา เพื่อดูแลลูกชายวัย 80 ปี
ไม่ว่าไม่ว่าคุณจะโตแค่ไหนก็ตาม คุณเองก็ยังคงเป็นเจ้าหนูน้อยของคุณแม่อยู่ดี และด้วยความรักความห่วงใยที่ไม่มีวันหยุดของคุณแม่นี้ก็ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นไม่น้อยเลยทีเดียวนะว่าไหม? และเรื่องราวของ Ada Keating คุณแม่วัย 98 ปีผู้นี้เองก็คงจะทำให้เราได้เข้าใจความรักของคุณแม่ที่มีต่อลูกได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เธอได้ย้ายเข้าไปดูแลลูกชายวัย 80 ปีถึงในบ้านพักคนชราเลยทีเดียว!! คุณปู่ Tom รักแม่ของเขามากๆ ชายวัย 80 ปีที่ไม่มีครอบครัวย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านพักคนชราในเมืองลิเวอร์พูลตั้งแต่ปี 2016 หลังจากที่เขาต้องการคนช่วยดูแลเนื่องจากอายุที่เริ่มมากขึ้น และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปีแม่ของเขาก็ตามมาอยู่ที่นี่ด้วยเพื่อช่วยดูแลเขา ทั้งสองชอบนั่งชมรายการโปรดด้วยกัน และบางครั้งก็เล่นบอร์ดเกมด้วยกัน ส่วนงานอดิเรกของคุณ Ada นั้นก็คือการถักไหมพรมนั่นเอง “ฉันคอยบอกฝันดีกับลูกชายของฉันทุกคืน และฉันจะคอยบอกอรุณสวัสดิ์เขาในทุกๆ เช้า เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันออกไปทำผม เขาจะคอยอยู่ที่บ้านเพื่อรอฉันกลับมา Tom จะเข้ามากอดฉันอย่างดีใจเมื่อเห็นฉันกลับมาบ้าน ฉันไม่เคยหยุดทำหน้าที่แม่เลย” นอกจากคุณปู่ Tom แล้ว Ada ยังมีลูกอีก 3 คนด้วยกัน คุณปู่วัย 80 ปีดีใจอย่างมากที่แม่ของเขาย้ายเข้ามาอยู่ด้วย “ที่นี่ใจดีมากๆ ที่พวกเขายอมให้แม่ผมมาอยู่ด้วย ผมดีใจจริงๆ ที่เห็นเธออยู่ข้างๆ แม่ผมคอดูแลผมอย่างดี” ส่วนทางด้านคุณ Philip Daniels ผู้จัดการของบ้านพักคนชราแห่งนี้ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าการได้เห็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันของทั้งสองนั้นเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ “มันเป็นภาพที่หาดูได้ยากมากๆ ที่จะได้เห็นแม่และลูกชายของเขาในบ้านพักคนชราแบบนี้ เราอยากมอบช่วงเวลาดีๆ…
-
ครอบครัวออกท่องเที่ยวไปพร้อมกับลูกน้อย พร้อมมอเตอร์ไซค์พ่วงคู่ใจ กลายเป็นทริปที่น่าจดจำ
หลายคนมีความฝันอยากพักจากการทำงานหรือการเรียน ขับรถออกไปเที่ยวในที่ไกลๆ สูดรับออกซิเจนให้เต็มปอดท่ามกลางธรรมชาติอันกว้างใหญ่เหมือนกับครอบครัวนี้ ครอบครัวนี้มีด้วยกันอยู่สามคนพ่อแม่ลูกผู้ที่รักการเดินทางกันอย่างมาก ในปี 2015 พวกเขาได้ใช้รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างคู่ใจพากันออกไปเที่ยวทั่วทวีปยุโรป แต่พอผ่านไปหนึ่งปีพวกเขาก็ได้ออกเดินทางในแบบที่เจ๋งกว่านั้น ปี 2016 ทั้งครอบครัวตัดสินใจนำเจ้ามอเตอร์ไซค์คันเดิมแล่นไปทางตะวันออกมุ่งหน้าสู่เทือกเขาคอเคซัส ที่ตั้งอยู่ระหว่างประเทศจอร์เจีย และอาร์เมเนีย บนเส้นทางลูกรังที่ไม่ใช่ถนนใหญ่และไม่ค่อยมีใครขับผ่าน ไปดูกันเลยว่าการเดินทางไกลของพวกเขาในครั้งนี้ต้องเจอกับอะไรมาบ้าง พวกเขาต้องนั่งพักรอเรือข้ามฟาก เพื่อเดินทางจากเมืองโอเดสซา ประเทศยูเครน ไปยังเมืองบาทูมี ประเทศจอร์เจีย ในที่สุดเรือก็มาถึงและกำลังแล่นผ่านทะเลดำไปอย่างสงบ อาจต้องเจอกับลมพายุบ้างเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรฟ้าหลังฝนก็สวยงามเสมอ พอถึงฝั่งพวกเขาก็ได้ขับเข้าหมู่บ้าน Ushgali ประเทศจอร์เจีย เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สูงที่สุดที่ยังมีคนอาศัยอยู่ คุณแม่กับลูกชายวัย 5 ขวบ ที่ชื่อ Vladimir นั่งกอดกันกลมเชียว ภาพของเด็กน้อยกำลังขี่ม้าที่พวกเขาได้เจอขณะพักกันอยู่ในหมู่บ้าน ออกลุยกันต่อด้วยเส้นทางตัดผ่านเทือกเขาไปยังหมู่บ้าน Lentekhi เทือกเขาคอเคซัส ที่กว้างไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา แวะพักกันในเมืองกอรี หายร้อนกันไปทั้งคนทั้งรถ วันหนึ่งเมื่อเด็กชายตื่นขึ้นมา เขามีไข้ขึ้นสูงมากและอาหารเป็นพิษ ทำให้คลื่นไส้จนอ้วกออกมาเต็มที่นอนไปหมด แต่ก็ไม่มีคำว่าย่อท้อหรอกนะ พวกเขาพยายามจะขับรถผ่านหนึ่งในเส้นทางที่อันตรายที่สุดเพื่อไปยังหมู่บ้าน…
-
น้องหมาที่เคยถูกรังแกมาก่อน ไม่ยอมเปิดใจรับใครเลย จนกระทั้งได้พบหนูน้อยคนนี้
เรื่องราวของเจ้า Nora น้องหมาสุดเศร้าที่โตมาพร้อมกับการถูกทำร้ายจากเจ้านายคนก่อน มันต้องอยู่กับความหวาดระแวงตลอดเวลา และกลายเป็นน้องหมาที่ไม่ไว้ใจใครเลย จนกระทั่งได้มาเจอเจ้าหนูน้อยคนนี้!! “เราพาเจ้า Nora มาจากสถานสงเคราะห์สัตว์เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว ก่อนที่เราจะมีเจ้าตัวเล็ก ถึงแม้ว่ามันจะเจอเรื่องราวเลวร้ายมาก่อน แต่เราก็มั่นใจว่ามันจะสามารถอยู่กับเราในบ้านหลังใหม่และมีความสุขได้” คุณ Elizabeth เจ้านายคนใหม่ของเจ้าตูบกล่าว ครอบครัวของคุณ Elizabeth นั้นเป็นครอบครัวใหญ่ นอกจากเจ้า Nora แล้ว สมาชิกในครอบครัวเธอนั้นยังประกอบไปด้วยเจ้าเหมียว 3 ตัว ลูกๆ 3 คน และเจ้าตูบอีก 3 ตัว และในความสัมพันธ์ของสมาชิกในบ้านทั้ง 11 ชีวิต ดูเหมือนว่าเจ้า Nora นั้นจะเข้ากับเจ้าหนูน้อย Archie ลูกชายของ Elizabeth ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เจ้าหนู Archie และเจ้า Nora “Archie เป็นเด็กที่ร่าเริง และอารมณ์ดี เขาเข้ากันได้ดีกับสัตว์ทุกตัวในบ้าน และดูเหมือนว่าเขาจะสนิทกับเจ้า Nora เป็นพิเศษ เจ้าตูบเติบโตมาพร้อมกับความรุนแรง ดังนั้นมันจึงค่อนข้างที่จะระแวงทุกๆ อย่าง แต่สำหรับลูกชายของเรานั้นมันกลับไม่มีอาการหวาดกลัวเลย” คุณ Elizabeth กล่าว…
-
เมื่อพ่อแม่พากันอวดสภาพก่อนและหลังการมีลูกของตัวเองใน IG แต่ละคนเปลี่ยนไปมากจริงๆ
สำหรับใครที่กลายเป็นพ่อแม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่คุณสามารถมองเห็นได้เลยก็คือ ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะจากที่เคยเต็มที่กับทุกอย่าง พอมีลูกแล้วก็เริ่มไม่มีเวลาดูแลตัวเองจนทำให้สภาพร่างกายทรุดโทรม บางคนก็ถึงขั้นเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยทีเดียว และเมื่อเร็วๆ นี้ บรรดาพ่อแม่ทั้งหลายก็ได้พากันมาแบ่งปันภาพถ่ายความเปลี่ยนแปลงของตัวเองลงในอินสตาแกรม เพื่อแสดงให้เห็นสภาพร่างกายก่อนและหลังการมีลูก พร้อมติดแฮชแท็ก #GotToddlered สำหรับไอเดียนี้ได้เริ่มต้นขึ้นมาจาก Mike Julianelle คุณพ่อลูกสองที่ได้เริ่มโพสต์ภาพก่อนและหลังมีลูกของตัวเองลงในโซเซียลในชื่อว่า Dad and Buried งานนี้เลยกลายเป็นกระแสฮิตติดลมบนจนทำให้ผู้ปกครองรายอื่นพากันทำตามกันเพียบ และนี่คือภาพของพวกเขา มาดูกันเลยว่าแต่ละคนจะเปลี่ยนไปขนาดไหนกัน เมื่อครั้งยังเป็นหนุ่มกับสภาพล่าสุดหลังมีลูก จากที่เคยถือแต่แก้ว ตอนนี้กลายมาเป็นอุ้มลูกแทนไปซะแล้ว เดิมทีเป็นหนุ่มหน้าใสที่สาวๆ พากันหลงใหล แต่ตอนนี้กลายเป็นคุณพ่อสุดโหดไปแล้ว ความเปลี่ยนแปลงของหญิงสาวกับสภาพก่อนและหลังการมีลูก โอ้วววว นี่คนๆ เดียวกันหรือเปล่าเนี่ย จากสาวปาร์ตี้ที่ต้องออกไปดื่มนอกบ้านกับเพื่อนทุกวัน แต่หลังจากมีลูกก็หันมาดื่มไวน์ที่บ้านแทนแล้ว ชีวิตก่อนและหลังการมีลูกมันช่างดูแตกต่างจริงๆ ภาพด้านซ้ายคือสาวสวยในวัยแรกแย้ม แต่เมื่อเข้าสู่โหมดคุณแม่เธอก็ดูเปลี่ยนไป นี่คนๆ เดียวกันใช่ไหม เขาดูเปลี่ยนไปเยอะเลย และนี่คือภาพถ่ายสุดทึ่งที่แสดงให้เห็นถึงสภาพของตัวเองก่อนและหลังการมีลูก แต่ถ้ามองอีกด้านหนึ่งนี่ถือเป็นข่าวดีที่จะทำให้พ่อแม่มือใหม่ทั้งหลาย ได้พยายามเรียนรู้ และยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นมากขึ้น ที่มา…
-
บรรณารักษ์ถ่ายภาพถ่ายเลียนแบบสาวๆ ตระกูล Kardashian แถมดูดีไม่แพ้ต้นฉบับเลย
“Keeping Up with the Kardashians” เป็นหนึ่งในรายการเรียลลิตี้ที่โด่งดังของอเมริกา ที่ดำเนินรายการโดยสาวๆ แห่งบ้าน Kardashian และ Jenner สำหรับรายการดังกล่าวได้เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2007 และในเดือนตุลาคมปี 2017 นี้ ก็ได้ถือวาระครบรอบ 10 ปี ของ Keeping Up with the Kardashians เป็นที่เรียบร้อยแล้ว… และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของรายการนี้ ทางเหล่าบรรณารักษ์ห้องสมุด Invercargill City Archives ใน South Island ประเทศนิวซีแลนด์ จึงได้ปิ๊งไอเดียสุดแจ่มโดยการถ่ายภาพเลียนแบบสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล Kardashians ซะเลย นอกจากนี้ พวกเขายังได้นำภาพถ่ายผลงานของตัวเองไปเผยแพร่ลงบนสื่อโซเชียลมีเดียด้วย ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก จนได้กลายเป็นกระแสไวรัลที่โด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ในเวลาอันรวดเร็ว ภาพคอลเล็คชั่นชุดใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสาวๆ ตระกูล Kardashians ส่วนนี่เป็นภาพต้นฉบับนะจ๊ะ เหมือนแค่ไหนถามใจเธอดูวววว์ ทางด้านเจ้าหน้าที่ห้องสมุดก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า…
-
สองครอบครัว สองฐานะ… สลับบ้านกันอยู่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ กับบทเรียนที่เงินไม่อาจทดแทนได้
เคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าอยู่ดีๆ เราที่เคยร่ำรวยสุดๆ สามารถใช้เงินโดยไม่คิดอะไรมากใช้ยังไงก็ไม่มีวันหมด ต้องมาสลับบ้านไปอยู่ในบ้านราคาถูก ส่วนคนที่เคยจนต้องใช้เงินอย่างประหยัดทำอะไรก็ต้องคิด อยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนไปรวยจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณคิดไม่ออก รายการ Rich House, Poor House จากช่อง Channel 5 ในอเมริกาจัดให้!! โดยพวกเขาได้นำครอบครัวของ Matt และ Moniqe Fiddes ที่เป็นคนรวย สลับกันใช้ชีวิตกับ Andy และภรรยาพิการ ของเขา Kim Leamon ทั้งหมดจะต้องแลกความเป็นอยู่ รวมถึงฐานะกันเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์เต็มๆ จากนั้นก็รอดูสิ่งที่พวกเขาได้จากการสลับสับเปลี่ยนในครั้งนี้ ซึ่งแค่ฟังดูมันก็น่าสนใจแล้ว เริ่มกันที่ครอบครัวของ Andy Leamon กันก่อน โดยเขาได้รับการเพิ่มรายรับจากเดิมอยู่ที่ราวๆ 7,400 บาทต่อสัปดาห์ ให้กลายเป็นเท่ากับรายรับของ Matt Fiddes ซึ่งมีรายรับอยู่ที่ 65,000 บาทต่อสัปดาห์ ซึ่งมากกว่าหลายเท่าเลยล่ะ และเช่นเดียวกันด้าน Matt ก็ต้องไปอยู่ในฐานะเดียวกับที่ Andy เคยเป็น ด้าน Andy ที่ได้กลายเป็นคนรวย ก็ค้นพบว่าครอบครัวของ Matt นั่นใช้เงินมากกว่า…
-
“ผมบินมา 3 ปี นี่เป็นวันแรกที่จะได้พาพ่อแม่บิน” คำพูดซึ้งจากนักบิน ทำให้ผู้โดยสารทั้งลำน้ำตาซึม
เวลาขึ้นเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไป การได้เจอนักบินเป็นเรื่องที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นเพราะเราจะได้ยินแต่เสียงของพวกเขาเท่านั้นเอง แต่เที่ยวบินนี้กลับแตกต่างออกไปเมื่อนักบินหนุ่มเดินออกมาจากห้องควบคุมด้วยตัวเอง การได้เจอกับนักบินไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจอะไรเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาประกาศออกมาจนทำให้ผู้โดยสารกว่า 200 คนบนเครื่องถึงกับน้ำตาซึม ใบหน้าที่บอกได้ว่าเขารู้สึกมีความสุขกับการได้บังคับเที่ยวบินนี้มากแค่ไหน นักบินหนุ่ม Joe Woolings ผู้บังคับเครื่องในเที่ยวบินที่ออกเดินทางสู่เมืองเตเน่ริเฟ่ ประเทศสเปน ได้ออกมาพูดกับผู้โดยสารอย่างมีความสุขว่า “วันนี้เป็นวันที่พิเศษมากสำหรับผม มันคือวันแรกที่ผมได้มาขับเครื่องบิน!! ผมล้อเล่นนะ” ติดตลกซะด้วยนะพ่อหนุ่ม เขาพูดต่อว่า “ที่มันพิเศษก็เพราะวันนี้เป็นวันครบรอบ 3 ปีตั้งแต่ที่ผมได้ออกบินครั้งแรก และที่สำคัญมันคือวันแรกที่ผมได้พาพ่อกับแม่ออกบินในช่วงวันหยุดของพวกเขา ทั้งคู่นั่งอยู่ตรงแถวที่ 17 ขอเสียงปรบมือให้กับพวกเขาหน่อยครับ” การเซอร์ไพรส์ที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน โดยเฉพาะพ่อแม่ของเขา เมื่อเขาได้พูดอย่างนั้นออกไปก็ทำให้ผู้โดยสารทุกคนรวมถึงพ่อแม่ของเขาที่ไม่ได้รู้เรื่องนี้มาก่อนรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินไปหาคนทั้งสองท่ามกลางรอยยิ้มของทุกคนและได้รับอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของคนเป็นแม่ เขาพูดกับทุกคนว่า “ผมรู้สึกขอบคุณพ่อแม่ของผมอย่างมาก เพราะถ้าหากทั้งสองไม่ได้เจอกันก็คงจะไม่มีผมมายืนอยู่ตรงนี้” ด้วยความสุขที่มากจนไหลออกมาเป็นน้ำตาแห่งความยินดีของผู้เป็นแม่ คลิปเหตุการณ์อันแสนประทับใจของนักบินหนุ่ม หลังจากคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์ของบริษัท Thomas Cook เจ้าของเที่ยวบินดังกล่าว ก็กลายเป็นกระแสให้ชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมและปลาบปลื้มกับสิ่งที่เขาทำ Robert Valentine “เยี่ยมมากเลยพ่อหนุ่ม พ่อแม่ต้องภูมิใจกับนายมากแน่ๆ และฉันก็รู้สึกดีที่ได้เห็นน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความสุขของคนเป็นแม่” Sandi Baxter “เป็นเรื่องที่น่ารักมากกก มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ เห็นแล้วรักเลย” …
-
คู่รักรับเด็ก 3 พี่น้องมาเลี้ยง แต่มารู้ภายหลังว่าพวกเขามีน้องเล็กอีกคน เลยขอให้เพื่อนบ้านช่วย!!
หลังจากที่ใช้เวลานานหลายปีในสถานรับเลี้ยงเด็ก Michael, Jess, Camden และ Elijah ก็ได้มีโอกาสพบกับชีวิตใหม่อีกครั้งหลังจากที่พวกเขาได้พบกับสองสามีภรรยาผู้ใจบุญ ถึงแม้ว่าคุณ Julia Washington และสามีของเธอจะมีลูกแท้ๆ อยู่ด้วยกันถึง 2 คนแล้ว แต่ทั้งสองก็ยังได้รับเด็กๆ ทั้ง 3 เข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาเพิ่มอีก และถึงแม้ว่าการมีสมาชิกในครอบครัวเพิ่มจะเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับพวกเขา และหนูน้อย Jess วัย 5 ขวบนั้นจะมีความพิการทางสมอง แต่ทั้งสองก็ได้ยื่นเรื่องขอรับบุตรบุญธรรมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่หลังจากที่รับเจ้าหนูทั้ง 3 คนเป็นลูกบุญธรรมเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็พบว่าเด็กๆ ทั้ง 3 ยังมีน้องสุดท้องอีกหนึ่งคนนั่นก็คือ หนูน้อย Elijah วัย 17 เดือนนั่นเอง “เรารู้ดีว่ามีเด็กๆ ประมาณ 2 ถึง 5 คน และหนึ่งในนั้นก็ต้องการการดูแลอย่างเป็นพิเศษ บางคนอาจจะต้องแยกจากพี่น้องของเขาไปอยู่ที่ไกลๆ ถ้าหากเราไม่รับพวกเขาไว้ทั้งหมด” คุณ Julia กล่าว การดูแลเด็กๆ มาถึง 7 คนอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับครอบครัวของ Julia เธอจึงได้ปรึกษากับเพื่อนบ้านและเพื่อนสนิทของเธออย่างคุณ Jay Houston เพื่อช่วยรับดูแลพวกเด็กๆ…
-
แปลกแต่จริง!! ครอบครัวชาวบราซิลเกิดมาพร้อมกับความพิเศษ มีนิ้วมือ 12 นิ้วทั้งตระกูล
โดยส่วนใหญ่แล้วหากพ่อแม่เห็นลูกเกิดมามีภาวะผิดปกติเหนือคนทั่วไป เช่น มีนิ้วเกินมาจากเดิมข้างละ 5 นิ้ว ก็เพิ่มมาเป็นข้างละ 6 นิ้ว นั่นอาจจะทำให้พวกเขาเกิดความกังวลอย่างหนัก เพราะกลัวว่าลูกจะมีปมด้อย แต่นั่นไม่ใช่สำหรับครอบครัว Da Silva จากประเทศบราซิล ที่รู้สึกภูมิใจกับความจริงที่ว่าสมาชิกทั้งหมดในตระกูลรวมถึง Vinicius ซึ่งเป็นสมาชิกใหม่คนล่าสุด ได้เกิดมาพร้อมกับนิ้วมือและนิ้วเท้าข้างละ 6 นิ้วทุกคน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า แม้ตระกูลนี้จะเกิดมามีนิ้วมือที่มากกว่าคนทั่วๆ ไป แต่อย่างน้อยพวกเขาก็จะทำให้มันกลายเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ และยังหวังว่าเมื่อบุตรหลานเติบโตขึ้น พวกเขาจะสามารถนำความพิเศษเหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ เช่น Joao Assis อาจได้กลายเป็นผู้รักษาประตูฟุตบอลในอนาคต หรือ Maria Morena จะสามารถใช้นิ้วเล่นคีย์เพิ่มเติมบนเปียโนได้ ทางด้าน Alessandro หนึ่งในสมาชิกครอบครัวได้ออกมาเผยว่า “นี่ถือเป็นสัญลักษณ์ของครอบครัวเราในแบบที่ครอบครัวอื่นไม่มี แถมยังทำให้พวกเขาดูโดดเด่นจากคนอื่นๆ ด้วย” สำหรับ Alessandro เขาเกิดมาพร้อมกับนิ้วมือข้างละ 6 นิ้ว…
-
เมื่อลูกชายคลั่งไคล้ใน ‘Minecraft’ พ่อก็เลยใช้สกิลตัดต่อสร้างเป็นเรื่องราวให้ซะเลย!!
เมื่อพูดถึงเกมในยุคปัจจุบันที่เด็กๆ จะเข้าถึงได้มากที่สุดในศักราชนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น Minecraft อย่างแน่นอน เพราะด้วยความที่เป็นเกมที่มีภาพน่ารักๆ แถมยังเป็นการฝึกใช้ความคิดสร้างสรรค์ไปพร้อมๆ กัน จึงไม่แปลกอะไรที่เกมนี้จะฮิตติดลมบนมาหลายปี เด็กชาย Tony ก็เป็นเด็กอีกคนที่หลงรักในเกมนี้เช่นกัน เรียกว่าคลั่งไคล้เลยก็ว่าได้ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับมันและเมื่อคุณพ่อของเจ้าหนูเห็นความชอบในตัวลูกชาย แทนที่เขาจะห้ามทว่าเขากลับสนับสนุน พร้อมกับเลือกผลักดันให้ลูกชายไปในทิศทางที่ถูกต้อง เขาเล่าว่าลูกชายนั้นชื่นชอบในเกมดังกล่าวตั้งแต่อายุ 1 ขวบครึ่งแล้ว จนตอนนี้เขาอายุ 6 ขวบไปแล้ว ลูกชายของเขาก็ยังไม่เลิกชอบในเกม Minecraft ฉะนั้นเมื่อลูกรักในเกมนี้มากๆ เขาก็เลยเกิดไอเดียอยากจะเนรมิตรโลกใบใหม่ให้กับเขาจากเกมที่เขาชอบ แต่ตัวคนเป็นพ่อเองก็เล่าว่าตอนแรก เขาก็ไม่รู้นะว่าไอเดียนี้มันเริ่มจริงจังตอนไหน รู้อีกทีก็ไปซื้อเกมดังกล่าวให้ลูกชายแล้ว จากนั้นแหละทุกอย่างเลยเริ่มต้นจริงจังมากขึ้น เขาเริ่มเก็บข้อมูลเกี่ยวกับตัวเกมและจัดการถ่ายภาพลูกชายทันที และใช้ความสามารถในด้าน Photoshop ของเขาผสมเขาไปจึงได้ภาพเซตสุดสวยออกมา… ชุดสีฟ้าและกางเกงสีน้ำเงิน ที่คล้ายคลึงกับตัว Steve ที่เป็นตัวละครหลักในเกม ออกผจญภัยไปในโลก Nether World กับเจ้าหมาเพื่อนรัก Alex สู้กับกองทัพ Creeper และฝูงซอมบี้เพื่อเอาชีวิตรอด!! จากนั้นก็พักผ่อนหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน หายเหนื่อยก็กลับไปขุดแร่ เตรียมออกผจญภัยกันอีกรอบ!! มีแบบฉบับภาพเคลื่อนไหวและเสียงด้วยนะ …
-
รวม 20 ภาพ ความแตกต่างของการทานอาหารมื้อค่ำของแต่ละครอบครัวในสหรัฐอเมริกา
การใช้ชีวิตของแต่ละครอบครัวบนโลกนั้นล้วนจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งก่อนหน้านี้หลายคนน่าจะจำได้ว่าเราเคยนำเสนอความแตกต่างของห้องนอนแต่ละครอบครัวในอเมริกากันไปแล้ว (อ่านข่าวเก่าได้ที่ “ช่างภาพตามถ่าย 20 ภาพห้องนอนของชาวอเมริกัน สะท้อนวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไป“) มาคราวนี้ถึงคราวของโต๊ะอาหารแต่ละครอบครัวกันบ้าง โดยคราวนี้เป็นฝีมือของ Lois Bielefeld ช่างภาพมากฝีมือที่เดินทางไปยังบ้านของแต่ละครอบครัว และขอถ่ายภาพช่วงเวลารับประทานอาหารของทุกครอบครัว เธอบอกว่า “ฉันชอบที่จะเข้าไปสอดส่องการใช้ชีวิตของผู้คน เพราะมันทำให้ฉันได้รู้ถึงชีวิตประจำวัน ความคิดและความเป็นอยู่ของใครสักคน” และแน่นอนว่าการเข้าไปดูความเป็นอยู่ของคนประเภทต่างๆ ต่างฐานะต่างความคิดและต่างวัยนั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ ฉะนั้นอย่ารอช้าเราลองมาดูกันเลยดีกว่า… โต๊ะอาหารของ Willie Mae ที่เธอเลือกจะหยิบจานมากินและไม่ใช้โต๊ะ แต่ห้องโดยรอบนั้นดูหรูหรามากๆ John และ Janet กับห้องอาหารเล็กๆ แต่ที่อบอุ่นของทั้งสอง Glynis, Liam, Jorin, และ Mona กับการกินอาหารกันพร้อมหน้าของครอบครัวพร้อมดูทีวีไปด้วยกัน การกินอาหารนอกบ้านด้วยบรรยากาศสบายๆ ของ Zoe, Dave, Emma, และ Karen บางครั้ง Nik ก็ต้องกินอาหารอย่างโดดเดี่ยว สองสามีภรรยา David และ Cathy ที่ต้องอธิษฐานก่อนกินมื้อค่ำด้วยกัน บางครั้งการกินข้าวกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดกับโซฟาสบายๆ…
-
การตัดสินใจครั้งสำคัญของคู่พ่อลูกข้ามเพศ ซึ่งทั้งสองต่างเคยเป็นอีกเพศหนึ่งมาก่อน!!
การแปลงเพศในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ได้รับการยอมรับทำให้เรามีทางเลือกที่จะเป็นไปตามที่ตนเองต้องการได้มากขึ้น แต่การตัดสินใจที่จะทำสิ่งนั้นก็ยังคงเป็นเรื่องยากเพราะมันถือว่าเป็นสิ่งที่จะติดตัวเราไปอีกนาน เด็กชายวัย 11 ขวบชื่อ Corey Maison เป็นคนหนึ่งที่ต้องติดอยู่กับความไม่แน่ใจว่าตนเองจะแปลงเพศดีหรือไม่ แม้ว่าเขาจะรู้ตัวตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าต้องการเป็นผู้หญิง เหตุผลหลักของปัญหานั้นก็คือเขากลัวว่าครอบครัวจะรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าคุณแม่ Erica สังเกตเห็นว่าเขามีความต้องการที่จะเปลี่ยนไปเป็นอีกเพศหนึ่งมากขนาดไหน และตัวคุณแม่เองก็ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงซักเท่าไหร่ คุณแม่ของลูกๆ 5 คนที่รู้สึกเกลียดการตั้งท้องอย่างมาก หนุ่มน้อยที่รู้ตัวเองว่าไม่ได้ต้องการเกิดมาเป็นผู้ชาย 4 ปีผ่านไปคนเป็นแม่จึงตัดสินใจแปลงเพศไปพร้อมๆ กับลูกชายเสียเลย เพราะเธอเองก็คิดว่าไม่ได้ต้องการจะเป็นผู้หญิงอยู่แล้วและทำให้ลูกของเธอเกิดความกล้าและทำการแปลงเพศในที่สุด ปัจจุบันทั้งคู่ได้เปลี่ยนสถานะจาก “แม่กับลูกชาย” ให้กลายเป็น “พ่อกับลูกสาว” ซะแทน ซึ่งถึงแม้ตอนแรกทั้งสองจะกลัวคนในครอบครัวคนอื่นรับไม่ได้แต่สิ่งนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะทุกคนยังคงมอบความรักให้ทั้งคู่ได้เหมือนเดิม จากชายกลายเป็นหญิงจากหญิงกลายเป็นชาย ตามที่ทั้งสองคนต้องการ . เมื่อกลายเป็นผู้หญิงก็สามารถแสดงออกมาได้อย่างมั่นใจ . . ความฝันที่กลายเป็นจริงและเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต . ตอนนี้คุณแม่ Erica ได้กลายเป็นคุณพ่อ Eric แล้ว ในตอนแรกทั้งสองก็ยังคงกลัวกับการตัดสินใจครั้งนี้ พวกเธอไม่มีใครรู้ว่าผลลัพธ์และอนาคตจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามความวิตกกังวลได้หายไปหมด เมื่อทั้งคู่ได้รับความรักจากทุกคนในครอบครัว …
-
เพราะการกระทำ สำคัญกว่าคำพูด… นี่คือ 21 วิธีบอกรักที่มีค่ายิ่งกว่า การพูดว่า “ฉันรักคุณ” เฉยๆ
จริงหรือเปล่าที่เขาว่ากันว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด… #เหมียวหน่า คิดว่าน่าจะจริงนะ เพราะมีคู่รักหลายคู่แล้วที่เลิกรากันไปกับการดีแต่พูด งั้นจะดีไหมถ้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปชม 21 วิธีบอกรัก ที่ทั้งน่ารักและโรแมนติค มันจะทำให้รักของคุณไม่เก่าและชื่นมื่นได้ตลอดเลยละ ไปดูกันดีกว่าว่ามีวิธีใดบ้าง 1. ใช้เวลาด้วยกันทั้งวันโดยไม่แคร์โทรศัพท์ การที่คุณทั้งสองใช้เวลาด้วยกันโดยไม่สนการแจ้งเตือนของเฟสบุ๊กหรืออีเมลล์ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีสุดๆ เลยล่ะ 2. ซื้อของที่ชอบมาฝากที่บ้านเสมอ หลังจากเลิกงาน คนที่เรารักควรจะได้ทานของอร่อยๆ ที่ชอบไม่ใช่เหรอ?? 3. ทำอาหารเช้าให้กัน สละเวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อทำอาหารให้คนที่คุณรัก ก็เป็นเรื่องเล็กๆ ที่เติมความหวานให้กันได้ทุกวันนะ 4. ร้องเพลงที่คุณชอบในร้านคาราโอเกะ การยอมรับในความชอบของกันและกันและสนุกในสิ่งที่เขาเป็น มันเป็นอะไรที่มีความสุขมากๆเลยนะ 5. วางแผนดูหนังกันในตอนกลางคืน การใช้เวลาร่วมกันตอนก่อนนอน จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีสำหรับคุณทั้งสองคน 6. แอบใส่ขนมที่คนรักชอบไว้ในกระเป๋า เป็นสิ่งน่ารักๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ แฟนจะได้เซอร์ไพรส์กับของขวัญเล็กๆ ในกระเป๋า 7. ทำอาหารทานด้วยกันเสมอ การพูดคุยแลกเปลี่ยนกันตอนทำอาหารเป็นอะไรที่สนุกดีนะ 8. ซื้อเครื่องดื่มที่ชอบมาทานด้วยกัน จะมีเมามายหรือสุขสมก็ต้องทำด้วยกันสิจ๊ะ 9.…
-
25 การมาต้อนรับในสนามบิน ที่โคตรมหากาพย์ ฮาสุดๆ โอ้ย ท้องแข็งไม่ไหวแล้ว..!!
เวลาที่ญาติสนิทมิตรสหายคนรู้ใจเราออกเดินทางไปต่างบ้านต่างเมืองนานหลายปี เมื่อไหร่ที่พวกเขากลับมายังบ้านเกิดก็เป็นธรรมดาที่จะต้องมีการต้อนรับกันซักหน่อย แต่จะเป็นยังไงนะถ้าการยืนต้อนรับหน้าสนามบินไม่ได้มีแค่ป้ายชื่ออย่างเดียว เพราะบางคนก็มาทั้งชุดคอสเพลย์ บางคนก็มาเป็นจริงเป็นจัง หรือไม่บางคนก็มาซะอายเลย เอาเป็นว่าตามไปชมกันเล๊ยย 1. ขอพลังจงสถิตย์กับท่าน… ไม่รักกันจริงไม่ทำขนาดนี้นะเนี่ย 2. “ยินดีต้อนรับกลับบ้านจากคุกนะ… แม่” 3. “หนูอาจจะเพิ่งเจอคุณนะ แต่หนูชื่อ Harper เป็นลูกสาวของคุณเอง!!” 4. เมื่อพ่อมารับลูกสาวถึงสนามบิน ต้องจัดเต็มซักหน่อยแล้วล่ะ 5. “อิสาวอิตาเลี่ยนสุดฮอต” 6. เมื่อเพื่อนรักกลับมาวันคริสต์มาส เอ๊าาาจัดเต็มสิครับ 7. สาวน้อยเขียนป้ายต้อนรับคุณปู่คุณย่า.. เอาซะน่ารักเชียว >< 8. เมื่อลูกๆ เขียนบอกพ่อว่า… “ยินดีต้อนรับกลับฟลอริด้า” ทว่าพวกเขาอาศัยอยู่ที่ซีแอตเติ้ล (มาไงเนี่ยลูก) 9. เพื่อนอ้วนตัวแสบมารับคุณพร้อมป้ายขอแต่งงาน 10. “พ่อไม่ต้องห่วงน๊าา หนูดูแลหม่ามี๊ดีตลอด แต่ตอนนี้ถึงตาพ่อแล้วแหละ เพราะแม่เรื่องเยอะสุดๆ เลย!!” เป็นป้ายที่เซอร์ไพรส์ได้ดีมากๆ…
-
Chris Hemsworth เล่าสุดซึ้งถึงภรรยา “เธอต้องเสียสละหลายสิ่งในชีวิต เพื่อผมและครอบครัว”
เมื่อพูดถึง Chris Hemsworth เชื่อว่าหลายคนคงคิดถึงเทพเจ้าสายฟ้าธอร์กันอยู่แน่ๆ แต่จะมีใครจำภาพของชายผู้รักครอบครัว มักจะถ่ายรูปกับลูกบ่อยๆ บ้างไหม? หลายคนน่าจะรู้กันดีว่า Chris Hemsworth นั้นเป็นคนที่รักครอบครัวมากๆ และเขาก็มักจะพูดถึงลูกกับภรรยาบ่อยๆ เขามักจะพูดว่าภรรยาของเขาเสียสละอะไรหลายอย่างๆ ไปมากขนาดไหน มากกว่าเขาเสียอีก Elsa Pataky กับ Chris Hemsworth มีลูกด้วยกันสามคน โดยหนุ่ม Chris ได้เล่าว่าเมื่อช่วงปี 2011 ที่เขาต้องรับบทธอร์ มันเป็นช่วงขาขึ้นของเขาพอสมควรและเพิ่มกำลังในการทำงาน ทว่าในจังหวะเดียกวันมันก็ทำให้ชีวิตครอบครัวเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะ Elsa ต้องการให้เขารับงานน้อยลงและถอยมาใช้เวลากับลูกให้เยอะขึ้น แต่เขาก็ทำไม่ได้ เพราะเขาให้เหตุผลว่างานของเขากำลังไปได้ดี เขาต้องปูทางให้อนาคตมั่นคงกว่านี้เสียก่อน นั่นจึงทำให้ Elsa เป็นคนเสียสละและรับงานน้อยลง แต่ยังไงซะเมื่อพวกเขามีลูกกันถึงสามคนแล้ว ลูกจึงเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้แน่นแฟ้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีเวลาออกไปเดทหรือทานมื้อค่ำด้วยกันก็ตาม เพราะตกดึกทั้งคู่ก็เหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรแล้ว . . แต่ยังไงซะ ตอนนี้ Chris ก็รู้สึกว่าเขาจะต้องกลับเข้าสู่เกมรักและเติมพลังให้กับภรรยาอีกครั้งแล้ว ยังไงก็หวังว่าทั้งคู่จะกลับมามีเวลาให้กันเป็นส่วนตัวกันมากขึ้นนะ… ที่มา buzzfeed
-
หญิงสาวรู้ความจริงว่าเธอและแม่ของเธอมีพ่อคนเดียวกัน จากจดหมายที่แม่เขียนทิ้งไว้
การข่มขืนและการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กเป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญ และบางครั้งปัญหานี้อาจจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวอย่างเช่นคนในครอบครัวของคุณ และที่หนักว่านั้นอาจจะมาจากฝีมือของคนที่เรียกตัวเองว่า “พ่อ” ด้วยซ้ำไป เหมือนกับเรื่องราวของหญิงสาวผู้นี้ Jodi Cahill หญิงสาวชาวออสเตรเลียวัย 38 ปี ได้ทราบเรื่องราวสุดสะเทือนใจของแม่เธอ หลังจากที่เธอได้รับจดหมายจากคุณแม่ที่ไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นเวลานาน และรู้ความจริงว่าเธอกับแม่ของเธอนั้นมีพ่อคนเดียวกัน!! “แม่บอกฉันว่า ‘มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องบอกเธอว่าพ่อที่แท้จริงของเธอคือใคร อันที่จริงแล้วเธอกับฉันมีพ่อคนเดียวกัน’” หญิงสาวกล่าว Jodi พบว่าแม่ของเธอนั้นถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนและใช้กำลังเมื่อตอนที่แม่ของเธอยังอายุน้อยๆ จากจดหมายที่แม่ของเธอเขียนไว้ “Jodi เธอกับแม่มีพ่อคนเดียวกัน เมื่อตอนที่แม่เด็กๆ แม่ถูกพ่อแท้ๆ ทารุณและทำร้ายร่างกายทุกรูปแบบ คืนหนึ่งแม่ถูกข่มขืนและจากนั้นก็ตั้งครรภ์ แม่ไม่มีทางลืมวันนั้นได้เลย” บางส่วนจากเนื้อหาในจดหมายของแม่ที่เขียนถึง Jodi จากจดหมายดังกล่าวทำให้ Jodi เข้าใจถึงความรู้สึกของแม่เธอ และสิ่งที่แม่ทำกับเธอไม่ดีตอนเด็ก พร้อมกับทิ้งเธอไว้กับคุณยายของเธอ “ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่มีความผิดปรกติทางใจมาตลอด และตอนนั้นฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอทำกับฉันเลย ฉันคิดว่าเธอคงจะรู้สึกแย่มากๆ ทุกครั้งที่มองมาที่ฉัน และตอนนี้ฉันก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว” หญิงสาวกล่าว นอกจากนี้แม่ของ Jodi ยังได้เขียนเล่าถึงความเจ็บปวดของสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธออีกว่า “เมื่อถึงเวลาที่ลูกโตพอ ลูกอาจจะคิดว่าแม่บ้า แต่สิ่งที่แม่เป็นอยู่นั้นเค้าเรียกว่าอาการป่วยทางจิตหรือ Post Traumatic Stress ตอนนี้แม่ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วเพราะในเรื่องร้ายๆ เหล่านั้นก็ยังคงมีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่ นั่นก็คือลูกนั่นเอง Jodi”…
-
ผลวิจัยล่าสุดเผย ทำไมผู้หญิงที่มี “พี่ชายน้องชาย” จะมีรายได้น้อยกว่าการเป็น “ลูกคนเดียว”!?
ผู้หญิงหลายๆ คนชอบการมีน้องชายหรือพี่ชาย เพราะพวกเขาเปรียบเสมือนเพื่อนต่างเพศ ที่คอยให้คำแนะนำในสิ่งที่เราไม่รู้เกี่ยวกับผู้ชายได้ แต่รู้หรือไม่ว่าการที่หญิงสาวมีพี่ชายหรือน้องชายนั้น มันมีผลต่อรายได้นะ!? การวิจัยใหม่จากมหาวิทยาลัย Cornell University พบว่า ผู้หญิงที่มีพี่ชายหรือน้องชายจะมีรายได้ลดลง 10% ในช่วงวัยระหว่าง 20 ปลายๆ และ 30 ต้นๆ ในขณะที่ผู้หญิงวัยเดียวกัน แต่ไม่มีพี่ชายหรือน้องชาย จะรายได้ลดลงเพียง 5% อาจจะฟังดูไม่เข้าท่า แต่ผลวิจัยนี้มีข้อมูลรองรับที่น่าเชื่อถือพอสมควร นักวิจัย Angela Cools และ Eleonora Patacchini ได้รวบรวมข้อมูลในสหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้หญิงที่มีน้องชายหรือพี่ชาย มีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว และวางแผนที่จะมีลูก พวกเขาจะให้ความสำคัญกับครอบครัวมากกว่าคนที่ไม่มีพี่ชายหรือน้องชาย ตามข้อมูลที่ Cools และ Patacchini ได้รวบรวมมานี้ อาจเป็นเพราะเด็กผู้หญิงที่มีพี่ชายหรือน้องชายถูกปลูกฝังเรื่องบทบาททางเพศตั้งแต่อายุยังน้อย “ในสหรัฐอเมริกานั้น ทัศนะเกี่ยวกับบทบาททางเพศแบบดั้งเดิมยังคงมีส่วนที่ทำให้เกิดช่องว่างด้านค่าจ้าง และจากการตรวจสอบบทบาทของเพศระหว่างพี่น้องกับค่าแรงของผู้หญิง แสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในครอบครัว ส่งผลให้ผู้หญิงมีอัคติเกี่ยวเพศสภาพน้อยลง ซึ่งอาจลดช่องว่างรายได้ระหว่างชายและหญิงได้ หลังจากที่ผ่านพ้นวัยดังกล่าว” …
-
หญิงสาวไปเที่ยวต่างประเทศ เจอหมากระดูกหัก พาบินกลับมาอยู่บ้านด้วย แถมรักษามันอย่างดี!!!
เรื่องราวเกี่ยวกับความมีน้ำใจและการเอื้ออาทรแบบนี้นี่แหละที่ทำให้โลกของเรานั้นน่าอยู่มากขึ้นกว่าเดิม Kiara Ijzendoorn หญิงชาวดัตช์และครอบครัวของเธอได้เดินทางไปพักผ่อนที่เกาะครีต ประเทศกรีซ และสถานที่แห่งนั้นเอง พวกเขาได้เจอกับเจ้าหมาที่มีอาการผิดปกติตัวหนึ่ง พวกเขาสามารถสังเกตได้ว่ามันกำลังประสบปัญหาทางด้านร่างกายอย่างหนัก โดยเฉพาะในส่วนของกระดูกสันหลัง ทำให้มันเดินได้ไม่ปกติเหมือนหมาทั่วไป ชะตากรรมเป็นหมาจรจัดก็แย่แล้ว นี่ยังพิการอีก ที่สำคัญที่สุดก็คือมันถูกทิ้งให้รอคอยชะตากรรมใดๆ ก็ตามที่จะเกิดขึ้นกับมันบนท้องถนน… ภาพแรกที่พวกเขาเจอมัน ซ้ำร้ายสัตวแพทย์คิดว่า ดูจากอาการแล้ว เจ้าตูบจะต้องโดนทำร้ายมาอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้ Ijzendoorn เจ้าของใหม่เลยตั้งชื่อมันว่า ‘Fos’ หรือแปลกว่า ‘สดใส’ ในภาษากรีก อาจหมายถึงอนาคตที่สดใสกว่าของมันก็เป็นได้… หลังพากลับประเทศเนเธอร์แลนด์แล้ว แรกๆ เจ้าตูบก็ยังมีอาการตื่นกลัวอยู่ โดยเฉพาะเมื่อเจอเข้ากับผู้ชายหรือแมว แต่วันนี้มันก็มีทั้งสภาพร่างก่ายและจิตใจที่ดีขึ้นแล้วล่ะ นอกจาก Ijzendoorn จะได้สัตว์เลี้ยงสุดเลิฟตัวใหม่แล้ว เจ้า Fos ก็ยังได้ชีวิตใหม่ที่ดีอีกด้วย!! ‘ขาของมันไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่น้อย มีรอยนูนตรงจุดที่กระดูกสันหลังหัก’ Kiara Ijzendoorn กล่าว พอพวกเขาตามมันไปก็พบว่ามันอยู่ในโรงนาร้างแห่งหนึ่ง มันอาศัยอยู่ที่นั่นเพียงลำพัง และต้องหาอาหารกินเอง Ijzendoorn รู้สึกถูกชะตากับเจ้าตูบอย่างมาก เลตัดสินใจว่าจะรับมันมาเลี้ยงและรักษากระดูกสันหลังให้กับมัน ก่อนอื่นเลยเธอพามันไปหาสัตวแพทย์อย่างเร่งด่วน หลังจากอาการทุเลาลงแล้วเธอก็พามันกลับไปใช้ชีวิตด้วยที่บ้านในเนเธอร์แลนด์…
-
อย่างนี้ก็มี!? หญิงแอบเนียนเข้าไปในงานศพ เพื่อกินอาหารฟรีๆ มาเป็นเวลานานกว่า 14 ปี
เราทุกคนล้วนชื่นชอบการทานอาหารฟรีในงานปาร์ตี้ งานแต่งงาน หรืองานเลี้ยงวันเกิด ที่ถูกจัดขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับแขกผู้ร่วมงานอย่างเราๆ แต่ถ้าหากคุณไม่ได้มีส่วนร่วม หรือถูกเชิญมาในงานดังกล่าว แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากจะเอามาทานอาหารแบบฟรีๆ กันหรอกใช่ไหม แต่นั่นไม่ใช่กับหญิงนิรนามรายหนึ่ง ที่มักจะเข้าไปทานอาหารฟรีใน “งานศพ” อยู่เป็นประจำ แถมยังทำมาเป็นเวลานานกว่า 14 ปีแล้วด้วย สำหรับหญิงรายดังกล่าว เธอเป็นที่รู้จักในเหล่านักบวชท้องถิ่น ซึ่งเธอเคยบอกกับพวกเขาว่า มันเป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องเข้ามาร่วมงานศาสนาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถึงกระนั้น กลับไม่มีใครสามารถหยุดการกระทำของหญิงรายดังกล่าวได้เลย ทางด้านบาทหลวง Noah Connolly จากโบสถ์ Holy Redeemer ใน Slough เมือง Berkshire ประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเผยว่า “เธอมักจะมางานศพอยู่เป็นประจำ จากนั้นเธอก็เข้ามากินอาหารแบบฟรีๆ โดยที่ไม่ได้ถูกเชิญเลยแม้แต่น้อย เธอเป็นหญิงคาทอลิก และเธอก็ต้องการทำแบบนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเธอก็ได้ทำมาเป็นเวลานานกว่า 14 ปีแล้ว” จากการรายงานระบุว่า ในงานศพงานหนึ่งที่ Margaret Whitehead ผู้เป็นแม่ต้องสูญเสีย Catherine Whitehead ลูกสาววัย…
-
ครอบครัวส่งต่อ “ชุดโรงเรียนอนุบาล” ที่ถูกใส่ตั้งแต่ยุค 1950 มาจนถึงรุ่นลูกหลานในปัจจุบัน
“เสื้อผ้า” ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันแห่งความสุข ที่นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ในบางครั้งก็เต็มไปด้วยความหมายและความรู้สึกดีๆ มากมายได้เช่นกัน การที่คนรักได้เลือกเสื้อผ้าสวยๆ ให้กับเรา หรือการส่งต่อเสื้อผ้าให้กับคนในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น ก็ถือเป็นการสร้างสตอรี่ดีๆ ที่อบอวลไปด้วยความรัก และความทรงจำเก่าๆ ที่ไม่เคยจางหาย สำหรับการเปิดเทอมวันแรก พ่อแม่ส่วนใหญ่อาจจะมองหาเครื่องแต่งกายที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้แก่ลูกๆ ของพวกเขา แต่สำหรับ Jenny Hirt แล้ว เธอกลับไม่ทำเช่นนั้น เพราะเมื่อ Caroline ลูกสาววัย 4 ขวบของเธอได้เข้าเรียนโรงเรียนอนุบาลเป็นวันแรก เธอจึงเลือกที่จะให้ลูกสวมใส่ชุดเดรสสีเหลืองที่ประดับด้วยลวดลายสีม่วงแสนน่ารักชุดนี้… สำหรับชุดดังกล่าวบอกเลยว่าไม่ใช่ชุดเดรสธรรมดาๆ ทั่วไป แต่มันเป็นชุดที่ถูกส่งต่อกันมาหลายทศวรรษ จากรุ่นย่า-ยาย มาสู่รุ่นแม่ จนถึงรุ่นหลาน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว Jenny ก็เคยใส่ชุดนี้มาแล้วเช่นกันในวันแรกของการเรียน ครอบครัวของ Jenny ได้สวมใส่ชุดเดรสสีเหลืองชุดนี้มาแล้วกว่า 3 ชั่วอายุคน และ Caroline ก็เป็นคนที่ 18 ที่ได้สวมชุดนี้ ขณะที่ Ally วัย 6 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวได้สวมชุดนี้เป็นคนที่ 17…
-
2 แม่แมวจอมวางแผน ลงทุนเดินมาขออาหารกับมนุษย์ ก่อนจะพาไปพบลูกๆ อีก 8 ตัว!!
นี่ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดเซอร์ไพรส์ที่จะมาสร้างความประทับใจให้กับคนรักแมว เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งได้พบกับแมวจรจัด 2 ตัว หลังจากที่มันทั้งคู่ได้เข้ามาหาเธอเพื่อขออาหาร และเมื่อได้กินจนอิ่มแล้ว แมวทั้ง 2 ก็ได้ตัดสินใจที่จะพาหญิงคนดังกล่าวไปพบกับบางสิ่งบางอย่าง และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมาก ใช่แล้ว!! เจ้าเหมียวได้พามนุษย์ใจดีไปกับพบลูกๆ ของมัน ซึ่งมีทั้งหมดถึง 8 ตัว!! พบกับแม่เหมียว Artemis (ซ้าย) และแม่เหมียว Apollo (ขวา) สองแมวจอมวางแผนกับลูกๆ ของพวกมัน ครอบครัว Thoa, Thi และ Trram Bui จาก Lilo the Husky ได้พาเจ้าเหมียวทั้ง 10 มาพักอาศัยอยู่ภายในบ้านของพวกเขา เจ้าเหมียวทั้งสองคงได้วางแผนกันเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะที่ลงทุนเดินเข้ามาขออาหาร ก็เพื่ออยากจะบอกให้มนุษย์ได้รู้ว่าพวกมันมีลูก และอยากจะให้มนุษย์ช่วยย้ายลูกน้อยของพวกมันไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ร้ายนักนะ!! สุดท้ายครอบครัว Bui ก็ใจอ่อนยอมรับครอบครัวเหมียวเข้ามาอยู่ภายในบ้านของเธอจนได้ โดยเธอได้ออกมากล่าวว่า “มือของฉันเต็มไปด้วยลูกแมวถึง 6 ตัว ดังนั้น ฉันจึงต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เพื่อพาพวกมันกลับมาทั้งหมด”…
-
เมื่อไฟลท์บินดีเลย์ พ่อก็เลยตัดสินใจไปเข้าคลาสเรียนกับลูกสาว งานนี้เล่นเอาวุ่นสุดๆ
แม้พายุ Harvey จะนำพาความโศกเศร้าและความศูนย์เสียมาให้ แต่ในเรื่องเศร้าๆ ก็ยังคงมีเรื่องฮาๆ ให้เราได้อ่านกัน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ถูกแชร์ผ่านโลกอินเตอร์เน็ตโดย Omete Anassi วัย 23 ปี เกี่ยวกับครอบครัวของเขาที่บินจากฮูสตันมานิวยอร์คในช่วงนี้ Omete เล่าว่า เดิมทีครอบครัวของเขามาจากเมืองฮูสตันที่เท็กซัส แต่ย้ายมาเมืองนิวยอร์คเพราะ ต้องมาช่วยจัดการเรื่องของเขาที่พึ่งจบการศึกษาและ Kerubo ผู้เป็นน้องสาวที่กำลังย้ายมาเรียนที่นิวยอร์ค แต่ว่าพายุดันเข้าซะก่อนเที่ยวบินเลยถูกยกเลิกไป ทำให้ทั้งครอบครัวติดอยู่ที่นี้ Kerubo ผู้ตกเป็นเหยื่อความว่างของพ่อในครั้งนี้ และเมื่อมันเป็นเช่นนั้น คุณพ่อก็เลยเกิดความว่าง ไม่รู้จะทำอะไรดีในช่วงที่รอเที่ยวบิน งานนี้คุณพ่อเลยตัดสินใจไปเรียนกับลูกที่โรงเรียนซะเลย ภาพความฮาน่ารักๆ จึงบังเกิดขึ้น เซลฟี่ชิวๆ ลูกก็เรียนไป แน่นอนว่าตอนแรกน้องสาวก็คิดว่า ถ้ามีพ่อไปเรียนด้วยมันก็คงตลกดี ซึ่งมันก็เป็นเพียงแค่ความคิดในช่วงแรกเท่านั้น แต่พอคุณพ่อเข้าเรียนด้วยจริงๆ เธอกลับไม่แฮปปี้เลย เพราะมันทั้งน่าอายและตลกมากๆ แถมตัวคุณพ่อก็อยู่ยาวเลยด้วยไม่ยอมไปไหน ที่สำคัญยังส่งข้อความพร้อมถ่ายเซลฟี่บอกทุกคนในครอบครัวอีกต่างหาก ลูกสาวเดือดร้อนถึงกับบอกว่า แม่มาเอาพ่อกลับไปที!! งานนี้เล่นเอาป่วนกันทั้งครอบครัว แต่ดูแล้วก็คงจะมีแค่ตัวน้องสาวที่มีปัญหา เพราะดูพี่ชายจะเฮฮามากๆ แถมยังเฟซไทม์คุยกับพ่อชิวๆ ส่วนคุณพ่อก็ไม่ยอมไปไหนสักที ด้านชาวเน็ตก็ต่างพากันชอบใจยกใหญ่ไปหมด…
-
หนุ่มหายตัวอย่างลึกลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน ครอบครัวเชื่อเขาอาจยังมีชีวิตอยู่ในเกาหลีเหนือ
วันที่ 3 กันยายน 2560 เว็บไซต์ Viralnova ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของ David Sneddon ชายหนุ่มวัย 24 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยบริคแฮม เขาหายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่ปี 2004 ภายหลังจากที่เขาได้เดินทางไปทริปมิชชันนารีที่ประเทศเกาหลีใต้ และช่องเขาเสือกระโจน (Tiger Leaping Gorge) ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน อย่างไรก็ตาม David ได้หายตัวไปหลังจากเดินออกจากร้านอาหารเกาหลีในจีน และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครพบเจอเขาอีกเลย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของจีน ก็ได้มีการสันนิษฐานเอาไว้ว่า เขาอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากได้ออกตามหาแต่กลับไม่พบตัวของ David เลย ในขณะที่ทางครอบครัวก็ยังคงเชื่อว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ จากการรายงานระบุว่า David สามารถพูดภาษาเกาหลีได้อย่างคล่องแคล่ว และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ทางครอบครัวเชื่อว่าเขาอาจจะตกเป็นเป้าหมายที่ถูกลักพาตัวในจีนโดยเจ้าหน้าที่ชาวเกาหลีเหนือ และถูกนำตัวไปยังกรุงเปียงยางในฐานะครูสอนภาษาอังกฤษของ Kim Jong Un ทางด้าน Choi Sung-yong หัวหน้ากลุ่ม Abductees’ Family Union ได้ออกมาเผยว่า…
-
พ่อแม่ลงทุนบินจากอินเดียมาหาลูกชายที่ฟลอริดา เพื่อทำร้ายร่างกายสะใภ้ โทษฐานไม่เชื่อฟัง
Devbir Kalsi วัย 33 ปี พร้อมพ่อแม่ของเขา Jasbir วัย 67 ปีและ Bhupinder วัย 61 ปี ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหาทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว หลังจากภรรยาของเขา Silky Gaind วัย 33 ปี แจ้งตำรวจ เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเริ่มจากการที่ Devbir ได้โทรเรียกพ่อแม่ของเขาจากอินเดียให้บินมายังฟลอริดา ที่บ้านของเขาในเมือง Riverview เพื่อช่วยจัดการสั่งสอนภรรยาของเขาที่ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งต่างๆ ของเขา ตัวภรรยานั้นถูกครอบครัว Kalsi ทุบตีอย่างหนัก และกักขังไว้ในห้องพร้อมกับลูกน้อย จากนั้นก็ทำการยึดโทรศัพท์มือถือมาด้วย เพื่อสั่งสอนให้เธออยู่ในโอวาทของพวกเขา และทุกครั้งที่ Silky พยายามจะสู้เธอก็จะถูกทำร้ายหนักกว่าเดิม ซึ่งร้ายแรงสุดๆ ก็คงจะเป็นการถูกสามีถือมีดและขู่ว่าจะแทงถ้ายังไม่ฟังในขณะที่เธอยังอุ้มลูกน้อยอยู่นั่นเอง แต่ยังไงก็ตามสุดท้ายแล้ว Silky ก็สามารถหาทางโทรกลับไปหาพ่อแม่ที่อินเดียของเธอจนได้ ซึ่งทำให้พ่อแม่ของเธอติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ในรัฐฟลอริด้าและเดินทางมาช่วยเธอในเวลาต่อมา ด้านเจ้าหน้าที่เล่าว่าในช่วงเวลาที่พวกเขามาถึง ตอนแรกประตูถูกล็อคไว้และเมื่อพยายามจะพังเข้าไปก็จะถูกดันไว้โดยตัว Kalsi เอง ทว่าทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่พยายามพวกเขาจะได้ยินเสียงกรีดร้องให้มาช่วยเหลือลูกและตัวเธอเองดังออกมาตลอด นั่นทำให้เจ้าหน้าที่ยิ่งแน่ใจว่าต้องรีบเข้าไปช่วย สุดท้ายแล้วเรื่องก็จบลงที่ทั้งสามคนถูกจับ พร้อมถูกตั้งข้อหามากมายโดยหลักๆ แล้วก็จะเป็นคดีทำร้ายร่างกายและกักขัง แต่ภายหลังก็ถูกเพิ่มข้อหาเกี่ยวกับการทำร้ายเด็กรวมถึงมีอาวุธร้ายแรงไว้ครอบครองด้วย และทั้งหมดจะถูกส่งกลับไปดำเนินคดีต่อที่อินเดีย ทว่าตอนนี้ยังถูกกักขังไว้เพื่อรอการสอบสวนต่อไป……
-
หญิงสาวแชร์ประสบการณ์ ชีวิตที่ไม่เรียบง่าย กับการเติบโตมาจากครอบครัวเลสเบี้ยน…
แม้ว่าปัจจุบันจะมีเทรนด์ครอบครัว LGBT หรือ กลุ่มความหลากหลายทางเพศ มีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทว่าบางครอบครัวก็ยังต้องต่อสู้กับอะไรหลายๆ อย่าง และมันก็อาจจะไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างที่คนนอกคิดเสมอไป ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวการเติบโตในครอบครัวเลสเบี้ยนของ Millie Fontana สาววัย 24 ปี ชาวออสเตรเลีย ที่เธอได้ออกมาปราศัยผ่านงานขององค์กร Australian Christian Lobby (องค์กรเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มชาวคริสต์ขวาจัด) และทั้งหมดนี้คือคำปราศัยของเธอ เกี่ยวกับความรู้สึกส่วนหนึ่งที่เธอเก็บอัดอั้นมาตลอด “ฉันต้องยอมรับว่าฉันเกิดมาในครอบครัวที่มีทั้งพ่อและแม่เป็นผู้หญิง แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกมาตลอดตั้งแต่วัยเด็กนั่นก็คือ… ท้ายที่สุดแล้วเด็กทุกคนย่อมต้องการพ่อ จริงอยู่ที่ฉันได้รับความรักและความอบอุ่นอย่างดีจากคุณแม่ทั้ง 2 แต่ให้พูดเป็นนัยก็คือยังไงพวกเราก็เป็นลูกที่กำพร้าพ่อคนหนึ่งดีๆ นั่นเอง” “ครั้งแรกที่ฉันได้พบกับพ่อที่แท้จริงคือตอนอายุ 14 ปี ฉันกล้าพูดเลยว่ามันส่งผลต่อลักษณะนิสัยอะไรหลายๆ อย่าง และมันก็ทำให้ช่วงวัยเด็กฉันรู้สึกไม่อยากตอบรับใครเข้ามาในโลกของฉัน ฉันสารภาพตามตรงว่ามันมีผลทำให้เรารู้สึกขาดความอบอุ่นอยู่ลึกๆ และมันก็ทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยอยากอยู่บ้านเท่าไหร่ จนต้องออกไปร่วมกลุ่มสังคมต่างๆ เหมือนว่าเราต้องหาที่พักพิงทางจิตใจ” “ฉันต้องขอพูดตามตรงว่า หากคุณกำลังจะวางแผนมีลูกและคุณเป็นเพศเดียวกันละก็ ทางที่ดีก็ควรจะมีคุณพ่อจริงๆ ที่คอยให้คำแนะนำ และไม่ทำให้เด็กรู้สึกบกพร่องทางสังคมด้วย เชื่อฉันเถอะค่ะว่าเด็กทุกคนพวกเขาไม่รู้หรอกว่าตัวเองเกิดมาในครอบครัวแบบไหน พวกเขาต้องการก็แค่ความรักและการเอาใจใส่จากทั้งพ่อ และแม่ ซึ่งการได้รับการดูแลจากคนทั้งสองเพศจะช่วยทำให้พวกเขารู้สึกมีความอบอุ่นมากกว่า” “ลึกๆ…
-
เรื่องราวของหญิงสาวที่ต้องจากสุนัขแสนรักไปตลอดกาล แต่ 11 ปีต่อมาเธอกลับได้พบมันอีกครั้ง
เมื่อตอนที่ Kate Griffin กำลังเรียนอยู่ระดับชั้นประถมศึกษา เธอได้เลี้ยงลูกสุนัขตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่ชื่อ Cami เธอกับพี่สาวของเธอรักเจ้า Cami เป็นอย่างมาก และแน่นอนว่ามันก็รักพวกเธอมากเช่นกัน ครอบครัวของ Kate เป็นครอบครัวเล็กๆ ที่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมาตลอดระยะเวลา 5 ปี แต่จากนั้นไม่นานพ่อและแม่ของเธอก็ได้หย่าร้างกัน และนั่นก็ส่งผลให้ชีวิตของเจ้า Cami ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อครอบครัวของ Kate ไม่ได้อยู่ร่วมกัน เจ้า Cami ก็ได้เข้ามาอาศัยอยู่กับทางแม่ของ Kate แต่หลังจากนั้นไม่นาน ผู้เป็นแม่ก็ได้คิดว่าคงจะต้องปล่อยให้เจ้าหมาได้ไปอยู่กับครอบครัวที่พร้อมจะดูแลมันด้วยความรักสักที และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ Kate และพี่สาวได้เห็นเจ้า Cami แม้ว่าพวกเธอได้ตัดสินใจมอบเจ้าหมาให้กับครอบครัวอื่น แต่ในใจลึกๆ แล้ว พวกเธอก็ยังรู้สึกเศร้ามากที่จะไม่ได้เห็นสุนัขแสนรักอีกต่อไป จนในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปความรักที่เคยมีต่อเจ้า Cami ก็ได้กลายเป็นความทรงจำดีๆ ที่พวกเธอไม่มีวันลืม จนกระทั่ง Kate อายุได้ 24 ปี วันหนึ่งในขณะที่เธอกำลังเดินอยู่บนถนน เธอก็ได้เห็นสุนัขที่มีลักษณะคล้ายกับเจ้า Cami “ฉันกำลังเดินไปสตาร์บัคส์…
-
ภาพถ่ายวิถีชีวิตของคนยากไร้ ต้องอาศัยอยู่ใน ‘สลัมท่อคอนกรีต’ ตามท้องถนนในฟิลิปปินส์
ความหนาแน่นของประชากรในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนยากจนไร้ที่อยู่อาศัย ถึงขนาดที่บางครอบครัวต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในท่อคอนกรีตเล็กๆ ที่อยู่ตามแนวถนน เว็บไซต์เดลีเมล์ ได้แสดงภาพของครอบครัวคนยากไร้ในเมืองหลวง ขณะกำลังนอนหลับในท่อคอนกรีตที่เต็มไปด้วยกองขยะบริเวณรอบๆ โดยมีตั้งแต่เด็กทารก ไปจนถึงผู้ใหญ่ ท่อคอนกรีตที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรก และปราศจากสิ่งอำนวยความสะดวกนี้ คงไม่มีใครคิดว่าจะสามารถนำมาเป็นสถานที่อยู่อาศัยได้ แต่สำหรับคนยากจนในฟิลิปปินส์แล้ว นั่นคือที่อยู่อาศัยของพวกเขา บางคนพยายามที่จะสร้างความเป็นส่วนตัวด้วยการนำผ้ามาปิดบังท่อเอาไว้ ในหลายปีที่ผ่านมาฟิลิปปินส์ ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่เติบโตเร็วที่สุด เนื่องจากทางรัฐบาลพยายามที่จะขึ้นค่าครองชีพกับประชาชน ซึ่งทำให้ผู้คนมากกว่า 100 ล้านคน ต้องเผชิญกับความยากลำบาก รวมทั้งความเสี่ยงที่จะเกิดพายุไต้ฝุ่นและภัยพิบัติจากธรรมชาติมากขึ้น . ฟิลิปปินส์ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นหลายครั้งต่อปี โดยในเดือนธันวาคม ปี 2016 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์พายุใต้ฝุ่นครั้งรุนแรงขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย นอกจากภัยพิบัติดังกล่าวจะทำให้ประชาชนเสียชีวิตแล้ว ยังทำลายที่อยู่อาศัยของผู้คนจนทำให้พวกเขากลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย จนต้องพากันมาตั้งถิ่นฐานอยู่ภายในท่อคอนกรีตเล็กๆ อย่างที่เห็น . . ในขณะที่หลายพื้นที่ในกรุงมะนิลากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่หลายๆ คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เด็กๆ กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน…
-
หญิงสาวถูกแฟนเก่าทิ้งไป เพราะรู้เธอตั้งท้อง แต่แล้วก็ได้พบรักแท้ที่ตามหา…
สำหรับผู้หญิง การได้รับการดูแลเอาใจใส่และได้พบกับชีวิตคู่ที่ดีคงจะเป็นหนึ่งในความสุขของพวกเธอ แต่ทว่าความโชคดีเหมือนเจ้าหญิงในนิยายแบบนี้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน เหมือนกับหญิงสาวชาวมาเลเซียคนนี้ Nicole Tee ต้องพบกับเรื่องราวอันสุดแสนเจ็บปวด เมื่อเธอถูกแฟนหนุ่มทิ้งไป หลังจากที่เขารู้ว่าเธอตั้งท้อง หญิงสาวต้องจมอยู่กับความเศร้าและเริ่มขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง ทำให้ทุกอย่างกำลังแย่ลงไปเรื่อยๆ แต่หลังจากที่ต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดจากการถูกทิ้งและปัดความรับผิดชอบ ในที่สุด Nicole ก็ได้พบกับชายหนุ่ม Fang Sheng ทั้งคู่ก็เริ่มทำความรู้จักกัน จนในที่สุดแล้วเขาก็ได้เข้ามาช่วยพาเธอออกจากความเศร้านั้นได้ และถึงแม้ว่าเขาจะรู้เป็นอย่างดีว่าฝ่ายหญิงนั้นเคยผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจ พร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะดูแลเธอและลูกในท้องด้วย และแล้ววันหนึ่งก็มาถึง ชายหนุ่มมาหาเธอพร้อมกับช่อดอกไม้และบอกความรู้สึกทั้งหมดที่เขามีให้กับเธอ แต่ทางฝ่ายหญิงกลับปฏิเสธและบอกว่าเธอยังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงยืนยันความรู้สึกของเขาที่มี และให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ จนในที่สุดฝ่ายหญิงก็ใจอ่อนและตอบตกลงคบหากับเขา Nicole เคยมีความกังวลเกี่ยวกับแฟนหนุ่มคนใหม่ของเธอ ว่าเขาจะพร้อมที่จะดูแลเจ้าตัวเล็กและเธอไปตลอดหรือไม่ แต่เธอก็ได้รับคำตอบจากฝ่ายชายว่า… “ถึงแม้เจ้าตัวเล็กจะไม่ใช่ลูกของผม แต่ตั้งแต่ผมเลือกคบกับคุณผมก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นทั้งสามีที่ดีและพ่อของเขา” ชายหนุ่มเลือกอาหารที่มีประโยชน์ และดูแลแฟนสาวกับลูกของเธอเป็นอย่างดี และแล้วท้องของ Nicole ก็เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ วันที่เจ้าตัวเล็กจะลืมตาออกมาดูโลกนั้นใกล้เข้ามาทุกที เมื่อท้องเริ่มโต หญิงสาวก็เริ่มเดินไปไหนมาไหนลำบาก แต่ชายหนุ่มก็ยังคงอยู่ข้างเธอตลอดเวลา เขาช่วยนวดและพาเธอเข้าห้องน้ำ คอยดูแลเธอไม่ให้ห่าง …
-
สุดยอดคุณพ่อ ทุ่มเทเนรมิตห้องนอน “โลกแห่งเทพนิยาย” ให้ลูกสาว ด้วยสองมือและหนึ่งแรงใจ
ตอนเราเป็นเด็กเราก็คงอยากจะมีห้องนอนในฝันที่ทำให้เรามีความสุขทุกครั้งเวลาได้เข้าไปเล่น หรือนอนหลับฝันดีอยู่ในนั้นที่ในบางทีความต้องการบางครั้งก็อาจเกินจริงไปหน่อย แต่รับรองว่ามันจะไม่เกินความสามารถของคุณพ่อท่านนี้แน่นอน เมื่อผู้ใช้ Imgur ที่ใช้ชื่อว่า Radamshome ได้มีการโพสต์ถึงรายละเอียดขั้นตอนที่ตัวเองนั้นได้สรรค์สร้างห้องนอนในฝันแนวการ์ตูนแฟนตาซีให้กับลูกสาวที่น่ารัก เราลองมาดูขั้นตอนกว่าจะมาเป็นห้องนอนอันแสนวิเศษนี้จากฝีมือยอดคุณพ่อท่านนี้กัน สภาพของห้องนอน ก่อนที่จะได้รับการเปลี่ยนแปลง “ผมทำงานในบริษัทเกมส์ และไม่ค่อยได้ร่างภาพในกระดาษมากนัก” โมเดลสัดส่วนอยู่ที่ 1:12 พื้นที่ทำงานและอุปกรณ์พร้อมจะลุยงานกันแล้ว วาดพื้นที่เงาเพื่อช่วยให้ง่ายเวลาติดโน่นวางนี่ มาเริ่มขึ้นโครงเหล็กให้กับต้นไม้ของเจ้าภูติน้อยกัน กิ่งก้านแผ่ขยายไปตามเพดานห้อง เมื่อมีโครงก็ต้องทำใยพื้นผิวเพิ่มกันต่อ . หัวหน้าใหญ่ลงมาสำรวจซะหน่อย ว่าไปถึงไหนแล้ว ติดหลอดไฟให้กับหน้าต่างเหล่าภูติจิ๋ว เสริมความแข็งแรงด้วยคอนกรีต คราวนี้ก็พร้อมสำหรับการลงสีแล้ว เริ่มจากโทนมืดแล้วค่อยไล่ไปโทนสว่าง . ถ้านกมันเห็นคงบินมาทำรังกันเต็มไปหมด ภาพที่วางไว้ให้กำลังใจในยามยาก นอกจากต้นไม้แล้วก็ต้องลงสีพื้นหลังซะหน่อย เห็นเป็นรูปเป็นร่างจริงๆ เข้าแล้ว นอกจากจะปูพื้นไม้ทั่วห้องแล้ว ก็ต้องเผื่อที่ให้กับพรมสำหรับให้นั่งสบายๆ การลงสีให้กับหน้าต่างบ้านต้นไม้จากกระดาษแข็ง…
-
จากไอเดียภาพร่างของลูก ต่อยอดสู่ปลายปากกาของพ่อ จนกลายมาเป็นตัวการ์ตูนสุดเจ๋ง!!
พ่อแม่ส่วนใหญ่นั้น มักจะถูกยกให้เป็นไอดอลคนแรกๆ ที่จะส่งผลต่อแรงบันดาลใจในอนาคตของลูกๆ เสมอ เช่นลูกโตมาเห็นพ่อเป็นตำรวจ ลูกก็จะคิดว่าอาชีพตำรวจมันเท่และอยากจะเป็นบ้าง อะไรทำนองนี้ เช่นเดียวกันกับลูกของ Thomas Romain ที่เขาเห็นพ่อเป็นไอดอลและอยากจะกลายเป็นนักวาดการ์ตูนเช่นเดียวกับพ่อของเขา แต่ที่แปลกหน่อยสำหรับพ่อลูกคู่นี้คือ พ่อไม่ได้เป็นแค่ไอดอลให้กับลูก แต่ตัวลูกก็เป็นแรงบรรดาลใจให้พ่อเช่นกัน ก็พ่อวาดเก่งแบบนี้ ลูกจะไม่อยากตามรอยได้ไงกัน!? สำหรับคุณพ่อ Thomas นั้นเป็นศิลปินวาดการ์ตูนชาวฝรั่งเศสที่ทำงานอยู่ในญี่ปุ่น และเขาก็ฝากผลงานในวงการอนิเมชั่นญี่ปุ่นไว้เพียบ แต่สำหรับไอเดียที่ดีที่สุดที่เขาได้มานั้น ก็มาจากลูกชายตัวน้อยของเขานั่นเอง!! ด้วยวิธีการออกแบบตัวละครจากความร่วมมือของลูกชายและคุณพ่อ ในการสร้างสรรค์ตัวละครแปลกๆ ออกมา เมื่อลูกชายสร้างออกมาแล้ว ผู้เป็นพ่อก็จะจัดการเสริมและเติมแต่งความเป็นมืออาชีพเข้าไป เพื่อให้เป็นตัวละครที่สมบูรณ์ ภาพร่างที่ลูกออกแบบ จนเกิดเป็นไอเดียตัวละครสุดเจ๋งโดยฝีมือคุณพ่อ เราอาจจะมองว่าผลงานลูกเขามันไม่สวยเอาซะเลย แต่ถ้ามองเป็นต้นแบบ ก็สามารถต่อยอดไปได้ไกลเลยนะ แล้วพอเอาหลายๆ ตัวมารวมกันก็ได้ผลงานที่ดีกว่าเดิมอีก นอกจากนั้นก็ยังมีดีไซน์เจ๋งๆ เพียบ ดีไซน์ร่างของลูกชายจริงๆ ไอเดียมันดีอยู่แล้วด้วยนะ พอรวมไอเดียจากลูก ฝีมือจากพ่อก็ ตู้มมม!! เกิดเป็นตัวละครที่สามารถนำไปใช้ได้หลากหลาย ดูจากภาพร่างก็มองไม่ออกว่าจะเป็นยังไง แต่คุณพ่อก็ทำได้!!…
-
คุณแม่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง สูญเสียลิ้นจนพูดไม่ได้ และปลูกถ่ายใหม่จากเนื้อบนข้อมือ…
การรักษาโรคบางอย่างอาจต้องทำให้เราสูญเสียบางอย่างไปแลกกัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถมีสิ่งมาทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปในตอนนั้นได้เสมอไป เมื่อเธอผู้นี้ได้สละผิวของอวัยวะส่วนเล็กๆ เพื่อเติมเต็มอีกส่วนที่ขาดหายไป คุณแม่วัย 34 ปีที่มีชื่อว่า Stephanie Wigglesworth ได้ถูกวินิจฉัยว่าเธอนั้นป่วยเป็นโรคมะเร็งหายากชนิดหนึ่งของเธอที่เกิดขึ้นกับช่องปาก หนทางเดียวที่จะรักษาได้นั่นคือการตัดลิ้น… โรงพยาบาลเมือง Cambridgeshire ในประเทศอังกฤษ ได้วินิจฉัยโรคดังกล่าวให้กับเธอ และตัดเอาลิ้นครึ่งหนึ่งของเธอออกไป ก่อนที่จะให้เธอปลูกถ่ายเนื้อลิ้นใหม่ ซึ่งนั่นเป็นทางเดียวที่จะช่วยเยียวยาหลังการผ่าตัดของเธอได้ สิ่งที่นำมาปลูกถ่ายนั้นไม่ได้มาจากไหนไกล แต่มันคือเนื้อเยื่อบริเวณข้อมือของเธอขนาด 3×3 นิ้ว และจากฝีมือการผ่าตัดของศัลยแพทย์ชื่อดังในเดือนมีนาคม ปี 2013 ที่ใช้เวลาถึง 9 ชั่วโมง ก็ทำให้ประสบความสำเร็จได้ หลังจากการผ่าตัดนำเนื้อบริเวณข้อมือไปปลูกถ่ายลิ้น ข้อมือของเธอในปัจจุบัน เธอได้บอกเล่าเรื่องราวว่าในตอนแรกนั้นมันเป็นเรื่องที่สะเทือนใจอย่างมากที่เธอไม่สามารถพูด หรือแม้แต่ไม่สามารถกลืนน้ำลายได้ แถมยังรู้สึกสะอิดสะเอียน ที่ต้องใช้ไวท์บอร์ดในการสื่อสารกับสามีของเธอ มันยากที่จะอธิบายความรู้สึกในตอนนั้นแต่มันรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก และความรู้สึกที่เธอไม่สามารถเรียกชื่อของลูกเธอได้นั้น คือสิ่งที่แย่ที่สุดสำหรับเธอ . แต่แน่นอนว่าหลังจากที่ทุกอย่างหายดีแล้วสุดท้ายเธอก็สามารถกลับมาพูดได้ตามปกติอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่ามันจะยากมากที่จะต้องเรียนรู้การออกเสียงใหม่ตั้งแต่ต้น และสองคำแรกที่เธอพูดได้ก็คือชื่อลูกของเธอทั้งสองคน Keiran และ Daisy เธอใช้เวลาถึง 12…
-
เจ้าหมาทำเป็นเมินแม่แมวที่เข้ามาใหม่ พอมีสมาชิกเหมียวน้อยปุ๊บ หันมาติดแจเชียวนะ!!
ทุกอย่างที่มีการเปลี่ยนไปจากตัวช่วยของสิ่งที่เรียกว่าเวลา พาเอาทุกอย่างเดินทางไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคตที่กำลังจะเจอ ซึ่งอาจเป็นการพบเข้ากับสิ่งที่เราคาดไม่ถึงก็เป็นได้… มันเป็นความบังเอิญจากการที่ Hayley Cameron ได้รับเลี้ยงเจ้าเหมียวเร่ร่อนซึ่งเจ้าของไม่สามารถที่จะดูแลมันต่อไปได้ ในครั้งแรกที่เจอกันเจ้าเหมียวไม่มีอาการตื่นกลัวเหมือนปกติ แต่กลับกลายเป็นว่าจะมาขอความช่วยเหลือซะงั้น เธอได้ตั้งชื่อมันว่า Amber และได้พาเธอกลับบ้านในฐานะสมาชิกใหม่ นอกจากแฟนของเธอแล้วนั้น ก็ยังมีสุนัขอีกตัวชื่อว่า Chloe ที่อาศัยอยู่ร่วมกันที่บ้านด้วย ในตอนแรกนั้นเจ้าสุนัขไม่ได้มีความสนใจในตัวสมาชิกใหม่เลย และเจ้าเหมียวก็สามารถปรับตัวอยู่ในบ้านหลังใหม่ได้อย่างดี จนวันหนึ่งที่เธอสังเกตได้ถึงน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นของมัน และเมื่อจับท้องดูจึงรู้ว่าเจ้าเหมียวกำลังตั้งท้อง!! การให้กำเนิดลูกแมวสุดแสนน่ารักทั้งสี่ตัวนั้นทำให้พฤติกรรมของเจ้าสุนัขเปลี่ยนไป เหมือนโดนจิตวิญญาณของความเป็นแม่เข้าสิงในการคอยดูแลปกป้องเด็กๆ จนเปรียบได้ดั่งพี่เลี้ยงเด็กที่ยอดเยี่ยม มันแสดงออกถึงความรักความเอาใจใส่ที่มีให้กับลูกแมวเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าสามในสี่ตัวนั้นจะเป็นครอบครัวของแฟนเธอรับไปเลี้ยง และเหลือเพียง Leo ลูกแมวตัวน้อยเพียงตัวเดียว แต่นั่นก็ไม่ทำให้เจ้าสุนัขเปลี่ยนไป ความรักที่เปรียบเสมือนแม่กับลูกของสุนัขและเจ้าเหมียวนั้น คือการเริ่มจากศูนย์จนในที่สุดก็สามารถเติมเต็มซึ่งกันและกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ นี่สินะสัญชาตญาณของความเป็นแม่!! ที่มา: thedodo
-
เผยโฉมความน่ารักของครอบครัวสิงโต ช่วยกันดูแลลูกน้อยทั้ง 5 ที่เกิดมามีขนขาวจั๊วะ!!
สัตว์ที่มีสีสันสวยงามต่างๆ บนโลกมีอยู่เต็มไปหมด หลายคนอาจคิดถึงนกยูง หรือพวกสัตว์ที่ดูโดดเด่นดึงดูดสายตา แล้วถ้าเป็นสัตว์กินเนื้อที่ทุกคนเคยได้ยินถึงสมญานามว่า ‘เจ้าป่า’ จากที่ดูน่ากลัว ในครั้งนี้เราจะมาเห็นในอีกมุมกัน พบกับครอบครัวสิงโตที่สวนสัตว์จากเมือง Dvorec ในสาธารณรัฐเช็ก ที่มาพร้อมกับความแปลกตาเมื่อพวกมันทั้งหมดนั้นมีสีขาวโพลน ซึ่งถือได้ว่าเป็นสีที่หาได้ยากยิ่งของสัตว์ชนิดนี้ โดยสีของมันนั้นจะไม่ถูกจำแนกว่าเป็นสัตว์เผือก แต่เกิดจากพันธุกรรมที่หาได้ยากยิ่งของสิงโตแอฟริกันที่จะมีแหล่งอาศัยอยู่ที่แอฟริกาใต้ เขตสัตว์ป่าสงวนทิมบาวาตี และอุทยานแห่วชาติครูเกอร์ เท่านั้น และความแรร์ที่มากกว่านั้นก็คือเด็กๆ ของครอบครัวนี้นั้นมีจำนวนถึงห้าตัว ซึ่งตามปกติแล้วมักจะให้กำเนิดออกมาไม่เกินสี่ตัว ประกอบไปด้วยตัวเมียสี่ กับตัวผู้อีกหนึ่ง โดยภาพที่เราจะได้เห็นคือความน่ารักของการเล่นสนุกของพวกมันภายในกรงที่มีพ่อแม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ภาพความอบอุ่นของคุณแม่ Tia ที่คลอเคลียอยู่กับลูกๆ ในขณะที่คุณพ่อ Aga คอยระวังภัยให้ เด็กๆ ที่เกิดมาในวันที่ 4 พฤษภาคม 2017 ตั้ลล๊ากกกกกกก . พูดไร เราไม่รู้เรื่อง พ่อจ๋าแม่จ๋า หนูตกใจ นอนเล่นสบายกันเลยเชียว . . …
-
18 เรื่องที่คนถูกเลี้ยงโดย “คุณย่าคุณยาย” จะเข้าใจได้อย่างกระจ่างชัดแจ้งแจ่มแมว!!
ว่ากันว่ามนุษย์มักจะมีความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตได้เป็นอย่างดี และบางครั้งความทรงจำดีๆ เหล่านั้นก็อาจมาจากการเลี้ยงดูก็เป็นได้ และสำหรับหลายๆ คนที่ได้มีโอกาสเติบโตมาในอ้อมกอดของคุณย่าคุณยายก็คงจะมีประสบการณ์ที่น่าจดจำหลายเรื่องเลยใช่ไหมละ?? 1. การไปอยู่กับคุณย่าคุณยายนั้น คุณจะคุ้นเคยกับการถูกพาไปวัดเป็นอย่างดี 2. ถึงจะได้เจอพระบ่อยๆ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณยายต้องชอบขู่ให้เรากลัวผีอยู่ตลอดเช่นกัน!? (โตมาก็เพิ่งรู้ว่าแค่ต้องการจะสอนเราในทางอ้อมเท่านั้นแหละ) 3. คุุณจะถูกตามใจหนักมาก เพราะคุณย่าคุณยายจะรักยิ่งกว่าพ่อแม่ของคุณซะอีก!! 4. คุณจะได้ทานอาหารรสชาติอร่อยแทบจะทุกมือ เพราะคุณย่าคุณยายน่ะฝีมือปลายจวักโคตรเทพ 5. ของเล่นที่งอแงแทบตายพ่อแม่ก็ไม่ซื้อให้ แต่คุณจะได้มันง่ายๆ เมื่อมาอยู่กับคุณย่าคุณยาย 6. คุณแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำเมื่อต้องกลับมาอยู่กับแม่ เพราะกลัวแม่รู้ว่าคิดถึงยาย 7. คุณจะได้เห็นภาพวาบๆ หวิวๆ ขณะที่คุณย่าหรือคุณยายเปลี่ยนยกทรงโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ 8. พื้นบ้านจะเต็มไปด้วยแป้ง เพราะพวกเขาชอบปะแป้งเย็นกันซะเหลือเกิน 9. และกลิ่นยาหอมสารพัดยี่ห้อที่ตลบอบอวล นี่พวกเธอเป็นนักสะสมยาหอมในตำนานหรือยังไง!! 10. ช่วงเวลาน่าเบื่อคือตอนคุณยายพาไปบ้านเพื่อนของแก แล้วก็นั่งเมาท์กัน ไอ้เราก็ไม่รู้จะเข้าร่วมวงสนทาได้อย่างไร งานนี้ก็ได้แน่นั่งเงียบๆ คอยไปสิครับ 11. ตอนไปตลาดก็เช่นกัน…
-
ตำรวจรวบพ่อแม่ให้ลูกน้อยเสพ “เฮโรอีน” หลังเด็กติดยาตั้งแต่ในท้องแม่ หวังปกปิดให้เนียนแต่ก็ไม่รอด!!
เรื่องราวสุดหดหู่จากรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อคู่รักวัยรุ่นคู่หนึ่งถูกเข้าจับกุมตัวหลังจากที่ถูกค้นพบว่า พวกเขาให้สารเสพติดแก่ลูกสาวแรกเกิดมาเป็นเวลานานกว่า 2 เดือนแล้ว สาเหตุนั้นเป็นเพราะลูกสาวของพวกเขาติดเฮโรอีนจากแม่ที่ใช้สารเสพติดระหว่างตั้งครรภ์ และนั่นนำไปสู่การจับกุมตัวพ่อแม่ทั้งสองในที่สุด… Lacey Dawn Christenson วัย 26 ปี และ Colby Glen Wilde วัย 29 ปี ผู้เสพติดเฮโรอีนและสารเสพติดอื่นๆ มาเป็นเวลานาน จนสุดท้ายแม้ Lacey จะตั้งท้อง พวกเขาก็ยังไม่เลิกที่จะเสพติดยา ผลของการติดยาจึงส่งต่อมายังลูกของพวกเขาแม้จะยังอยู่ในครรภ์ของเธอ… เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐยูทาห์ได้รายงานว่า Lacey ใช้สารเสพติดอย่างเฮโรอีนและยาแก้ปวดหลายชนิดเป็นเวาติดต่อกันนานมากๆ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ตัวพวกเขาเองยังรู้ดีว่าลูกที่เกิดมาจะมีอาการติดยาแน่ๆ พวกเขาจึงต้องรีบหาทางออกโดยด่วนก่อนเด็กจะเกิดออกมา เพื่อปกปิดความผิดของพวกเขาว่าใช้สารเสพติด เพราะการตรวจสุขภาพลูกน้อยนั้นจะต้องแสดงอาการอยากยาขึ้นมา ทำให้หมอสังเกตถึงความผิดปกติและความซวยอาจจะมาถึงตัวพวกเขาเองได้ ทั้งคู่ให้การสารภาพว่า ก่อนหน้านั้นพวกเขาได้ปรึกษากันรวมถึงปรึกษากับเพื่อนของทั้งคู่ว่าควรจะทำยังไง จนสุดท้ายพวกเขาได้คำตอบว่า ควรจะใช้สารเสพติดให้เด็กกินตั้งแต่แรกเกิดเลย เพื่อกลบอาการอยากยาของเด็ก ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงใช้ยา Suboxone ทาไปบริเวณเหงือกของเด็กเพื่อให้เด็กค่อยๆ ซึมซับยาไปอย่างช้าๆ และไม่แสดงอาการอยากยาขึ้นมา พวกเขาเริ่มทำแบบนี้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน ทำทุกครั้งหลังจากที่พยาบาลออกจากห้องไป พวกเขายังคงทำมันมาเรื่อยๆ จนถึงวันที่…
-
หญิงสาววัย 59 ปี ให้กำเนิดลูกชายคนแรก จากที่ต้องใช้ความพยายามนานถึง 40 ปี!!!
การมีลูกนั้นคงเป็นความฝันของใครหลายๆ คน ในการเติมเต็มและเป็นสายสัมพันธ์ให้กับคำว่า “ครอบครัว” นี่คือเรื่องราวของ Akosua Budu Amoka หญิงสาวอเมริกันวัย 59 ปี ซึ่งประสบความสำเร็จให้กำเนิดลูกชายคนแรก หลังจากที่ต้องรอคอยมานานถึง 40 ปีเต็ม ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เธอก็คลอดเด็กชายน้ำหนัก 3.2 กิโลกรัมได้เป็นผลสำเร็จ ที่โรงพยาบาล Bellevue Woman’s Center ในรัฐนิวยอร์ก ย้อนกลับไปตั้งแต่แต่งงานกับสามี เธอก็พยายามมีลูกมาโดยตลอด แต่ก็ได้หยุดไปช่วงหนึ่งเมื่อเธอพบว่าท่อนำไข่ของเธอนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถมีลูกได้ตามธรรมชาติ จนเมื่อปีที่แล้วหลังจากที่เธอศึกษาเรื่องราวของหญิงสาวจากประเทศกานาที่ได้ให้กำเนิดแฝดสาม ภายหลังการรักษาภาวะเจริญพันธุ์ ทำให้เธอเข้ารับการทำเด็กหลอดแก้วของคลินิกในเขตเมือง Albany โดยใช้สเปิร์มของสามีเธอและไข่ที่มีผู้บริจาคข้ามา โดยเด็กที่เกิดมานั้นได้ใช้ชื่อเดียวกับพ่อของเขา Isaiah Somuah Anim Budu ได้ให้สัมภาษณ์กับ Times Union ว่า “เราไม่ได้หลับกันมากนัก แต่ฉันก็ยินดีและคิดว่าลูกรู้แล้วว่านี่คือเสียงของพวกเรา บางครั้งที่ลูกร้องไห้สามีของฉันจะโทรมาให้ลูกได้ยินเสียง ทำให้หยุดร้องและหลับไปในที่สุด” จากข้อมูลการบันทึกของ Centers for Disease Control and Prevention ระบุว่า มีเด็กที่คลอดจากแม่ที่อายุเกิน 50 ปีเพียง…
-
ตำรวจสาวได้พบกับฮีโร่ ผู้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตเธออีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานถึง 20 ปี
นี่คือเรื่องราวของ Sally Zheng หญิงสาวที่ไม่เคยได้รับความสุขจากครอบครัวของตัวเองเลย โดยเมื่อตอนที่เธออายุ 14 ปี ในเวลานั้นเรียกได้ว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเธอต้องทนอยู่กับผู้เป็นพ่อแม่ที่ชอบทำร้ายเธอ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้รับความช่วยเหลือจาก Ralph Torres เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้มีจิตใจเมตตา ที่ได้พา Sally ออกมาจากขุมนรกแห่งนั้น และพาเธอไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสถานสงเคราะห์ โดยที่ทั้งคู่ได้เจอหน้ากันเพียงแค่ครั้งเดียว แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปทั้งสองเริ่มขาดการติดต่อกัน ซึ่งภายหลังจากที่ Sally จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับวิทยาลัย เธอก็ปรารถนาที่จะได้เห็นหน้าของผู้ที่เคยช่วยชีวิตของเธออีกครั้ง ในตอนนี้ Sally ได้เข้ามาทำงานในกรมตำรวจนครนิวยอร์ก โดยมี Ralph เป็นแรงบันดาลใจในการทำสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่น และด้วยความหวังว่าจะได้เจอกับ Ralph อีกครั้ง ซึ่งภายหลังจากที่เธอได้งานแล้ว เธอก็ได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ ว่ารู้จักเจ้าหน้าที่ Ralph Torres หรือไม่ แต่กลับไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดเลย Sally พยายามติดต่อไปหา Ralph ซึ่งก็เป็นเวลานานกว่า 20 ปีแล้วที่ทั้งคู่ไม่ได้พบกัน และในวันที่ 25…
-
คุณพ่อเดือด หลังโรงเรียนไม่ยอมให้ลูกออทิสติกไปร่วมงานกีฬาสี เพราะกลัวทำเสียงาน..!?
นับว่าเป็นอีกเหตุการณ์ที่คงไม่มีผู้ปกครองคนไหนอยากให้เกิดขึ้นกับลูกของตัวเอง เมื่อลูกชายตัวน้อยถูกโรงเรียนปฏิเสธไม่ยอมให้เข้าร่วมงานกีฬาสี โดยให้เหตุผลว่า ‘กลัวทำเสียงาน’ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2560 เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานเรื่องราวของคุณพ่อวัย 28 ปี Mark Birchall ผู้ออกมาร้องทุกข์หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นกับลูกชายผู้ป่วยเป็นออทิสติก Mark Birchall และ Jacob ลูกชายของเขา โดยคุณพ่อได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่โรงเรียน Banks Road Primary School ประจำเมืองลิเวอร์พูล ได้จัดงานกีฬาสีประจำปีขึ้น ทว่าคุณพ่อกลับได้รับแจ้งจากครูประจำชั้นว่า ขอไม่อนุญาตให้ Jacob เข้าร่วมการแข่งขันกีฬา เนื่องจากคุณครูเกรงว่าถ้าหากเขาแพ้การแข่งขันแล้ว เด็กชายจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์และอาจทำให้งานพังได้ เหรียญที่คุณพ่อนำมามอบให้ลูก หลังจากที่พวกเขาจัดงานแข่งขันกีฬากันเองในครอบครัว “ผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจของบุคลากรที่ไม่แฟร์เอาซะเลย พวกเขาแก้ปัญหาด้วยการไม่ให้ลูกเราเข้าร่วมงานเพียงเพราะเขามีป่วยเป็นออทิสติก และนั่นก็เป็นข้อห้ามสำคัญที่คุณไม่ควรทำกับเด็กที่มีอาการป่วยผิดปกติ” คุณพ่อให้สัมภาษณ์ หลังจากที่เรื่องนี้กลายเป็นข่าวดังในท้องถิ่น ทางครูใหญ่ของโรงเรียนก็ได้ออกมายอมรับว่า การตัดสินใจดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิด และทางโรงเรียนก็ยินดีที่จะแก้ไขไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก ลิเวอร์พูลเป็นอีกเมืองที่ประกาศว่า จะพัฒนาให้กลายเป็นเมืองที่เป็นมิตรต่อผู้ป่วยออทิสติก…
-
ป๊าบเข้าให้!! เมื่อ “เทพเจ้าสายฟ้า” พาลูกๆ ไปเสพธรรมชาติ ดั๊นเจอหมูบั๊มลูกกันซะนี่
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคู่รักที่มีความมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกันไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับคู่รักของพระเอกกล้ามโตจากแอสการ์ด Chris Hemsworth และภรรยาสุดสวย Elsa Pataky นอกจากความรักที่สุดแสนจะหวานแหววแล้ว ทั้งคู่ยังมีพยานรักเป็นเจ้าตัวเล็กด้วยกันถึง 3 คนด้วยกัน และบ่อยครั้งที่พวกเรามักจะเห็น Chris นั้นชอบใช้เวลากับลูกๆ ของเขาอยู่บ่อยๆ อย่างการทำเค้กฉลองวันเกิดให้ลูกสาวด้วยตัวเอง พ่อธอร์ของเราก็จัดมาแล้ว (อ่านข่าวเก่า เมื่อไปซื้อเค้กวันเกิดให้ลูกสาวที่ร้านแล้วไม่มี Chris Hemsworth เลยลงทุนอบด้วยตัวเองซะเลย!!!) และเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Chris และลูกๆ ของพวกเขาก็ได้ไปเที่ยวชมฟาร์มแห่งหนึ่ง และเพลิดเพลินกับเหล่าสัตว์ต่างๆ ที่กำลังทำกิจกรรมของพวกมันอยู่ และนี่คือภาพของการท่องเที่ยวในวันหยุดของพวกเขา ดูเหมือนเจ้าหนูทั้งสามกำลังสนุกกับการดูเจ้าหมูเลยนะเนี่ย แต่เดี๋ยวๆ ภาพนี้มันแปลกๆ อยู่นะว่าไหม?? ไหน ขอดูแบบชัดๆ ดิ๊… อื่ม… ชัดเจนเลย โถ่ เจ้าหมูดั๊นมาทำอะไรกันตรงนั้นเนี่ย สงสารหนูน้อยทั้ง 3 จริงจริ๊ง ฮ่าๆ นอกจากเขาจะเป็นคุณพ่อที่ชอบพาลูกเที่ยวแล้ว หนุ่ม Chris ก็ทำหน้าที่คุณพ่อแสนน่ารักกับลูกๆ อีกมากมาย และนี่คือภาพของ Chris Hemsworth ที่จะมาพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นคุณพ่อที่ดี และน่ารักมากขนาดไหน ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้นอนบนอ้อมแขนอันแสนอบอุ่นของพ่อแล้ว…
-
โถ่!! ขุ่นแม่ครับ ลูกชายถึงกับอึ้งเมื่อเห็นภาพของ “พุ่มไม้” รูปหน้าตัวเอง จากฝีมือคุณแม่
เรื่องราวสุดฮาของคุณแม่ศิลปินท่านหนึ่งที่ตัดแต่งพุ่มไม้ในสวนหลังบ้านให้กลายเป็นรูปของทุกคนในครอบครัว คุณแม่ Michelle Foley เริ่มต้นตัดแต่งพุ่มไม้เป็นรูปหน้าของ Brennan Black ลูกชายวัย 21 ปี ก่อนที่จะตามด้วยรูปของ Andrew Batterham สามีของเธอ คุณ Michelle เล่าว่า “ฉันตัดแต่งพุ่มไม้เป็นรูปหน้าคนมาหลายปีแล้ว ฉันจบการศึกษาด้านศิลปศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Birmingham City University“ คุณแม่กำลังสนุกอยู่กับการตัดแต่งต้นไม้ของเธอ “ฉันชอบที่จะทำงานนี้นะ ตอนนี้รูปของหัวลูกชายฉันกำลังเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว แต่สามีของฉันยังขาดรายละเอียดอีกนิดหน่อย ตอนนี้ฉันกำลังทำแว่นตาอันใหญ่เพื่อติดให้พุ่มไม้ที่เป็นรูปของเขาอยู่” คุณนาย Michelle กล่าว คุณแม่ท่านนี้ยังเสริมอีกว่า “ฉันมีพุ่มไม้มากมายที่นี่ ฉันอยากจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นหน้าของพวกเราทุกคน ฉันกำลังพยายามทำสวนแห่งนี้ให้กลายเป็นแกลอรี่งานศิลปะอยู่” คุณแม่ Michelle และสามีของเธอ คุณ Andrew อันที่จริงคุณแม่ได้เริ่มตัดแต่งพุ่มไม้เหล่านี้มานานแล้ว แต่ทว่าไม่มีใครสังเกตุเห็นเลย Brennan ลูกชายคนโตของ Michelle นั้นเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นหน้าตัวเองอยู่ในสวน จากนั้นจึงตามมาด้วยพุ่มไม้รูปหน้าของคุณพ่อ พุ่มไม้แต่ละอันมีขนาดสูงกว่าตัวคนจริงๆ ถึง 2 เท่า และนี่คือพุ่มไม้หน้าของคุณพ่อ คุณแม่ Brennan ลูกชายคนโตที่ตกเป็นเหยื่องานศิลป์ของคุณแม่ แหม่……
-
พ่อแม่ยอมจ่ายเงินกว่า 2 แสนบาท ให้ลูกสาวไปเสริมหน้าอก ถ้าหากลดน้ำหนักได้!?
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Jayne คุณแม่วัย 44 ปี และ Terence คุณพ่อวัย 45 ปี จากแมนเชสเตอร์ ได้สังเกตเห็นว่า Hollie Modlinsky ลูกสาววัย 23 ปีของพวกเขาดูไม่มีความสุขเอาซะเลย งานนี้ผู้เป็นพ่อแม่จึงได้ทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อให้ลูกสาวกลับมามีความสุขอีกครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2015 Hollie ได้ออกมาเผยว่า เมื่อตอนที่เธอได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอียิปต์ เธอได้จ่ายเงินเป็นจำนวน 150 ปอนด์ หรือราวๆ 6,700 บาทต่อสัปดาห์ เพื่อการกินและดื่มอย่างหนักจนทำให้น้ำหนักของเธอพุ่งพรวดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อนหน้านี้ เธอมีน้ำหนักเพียง 95 กิโลกรัม แต่หลังจากนั้นเพียง 9 เดือน น้ำหนักตัวของเธอก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 117 กิโลกรัมอย่างรวดเร็ว อีกทั้งมันยังทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเวลาที่ได้ใส่กระโปรงตัวเก่งเป็นอย่างมาก และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอตัวใหญ่เกินไปสำหรับเสื้อผ้าของเธอซะแล้ว หลังจากที่ Hollie ได้กลับมาถึงบ้าน พ่อแม่ของเธอก็ได้บอกว่า เธอมีน้ำหนักที่มากเกินไป…
-
ชาวเน็ตประทับใจ ภาพถ่ายครอบครัว ลูกพี่ลูกน้อง 17 คน ยืนเรียงแถวอย่างกับทีมฟุตบอลแหน่ะ!!
กลายเป็นภาพที่เรียกรอยยิ้มให้ชาวเน็ตได้ทั่วโลก หลังจากที่มีครอบครัวหนึ่งได้แชร์ภาพลูกหลานของพวกเขาที่รวมตัวกันแล้วได้มากถึง 17 คนเลยทีเดียว!! ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงบนเพจ LoveWhatMatters ซึ่งเป็นภาพของเด็กๆ รุ่นหลานครอบครัวเดียวกัน 17 คน จากพ่อแม่ที่เป็นพี่น้องกัน 6 คน หรือนี่จะเป็นครอบครัวตัวฮ. กันนะ!? เยอะซะจนพอมายืนเรียงกันเราก็นึกว่าทีมฟุตบอล โดยสีเสื้อจะถูกแบ่งตามครอบครัวของเด็กคนนั้นๆ “ภาพถ่ายนี้เป็นไอเดียของพี่สาวฉันเองค่ะ การที่คุณมีครอบครัวใหญ่แบบนี้มันเป็นอะไรที่สนุกมาก เต็มไปด้วยเสียงเด็กๆ โวยวาย เสียงหัวเราะ และที่สำคัญที่สุดคือความรัก” Chrissy คุณแม่ลูก 6 ให้สัมภาษณ์ ครอบครัวยังเล่าอีกว่าการที่มีลูกหลานเยอะขนาดนี้ ช่วยทำให้เด็กๆ ไม่รู้สึกเหงาอีกต่อไป ราวกับว่าพวกเขามีเพื่อนเล่นตลอดเวลา ยิ่งไปกว่านั้นภาพเด็กๆ ทั้ง 17 คนที่เราเห็น ยังเป็นการถ่ายภาพเพื่อไว้อาลัยให้แด่คุณตาของหลานๆ อีกด้วย เพราะสำหรับพี่น้องผู้ปกครองของเด็กน้อยทั้ง 17 คน ความรักของลูกหลานที่มีให้กัน ก็เปรียบได้ดั่งความรักและความตั้งใจของคุณตาที่อยากให้ครอบครัวนี้เป็น “ทุกครั้งที่เราอยู่กับเด็กๆ เสียงหัวเราะของพวกเขามักจะชวนให้เราคิดถึงพ่อเสมอ และเราก็เชื่อว่าพ่อคงมีความสุขมากถ้าได้เห็นหลานๆ ยิ้มแย้มแจ่มใสกันแบบนี้” Chrissy เล่า หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่…
-
ผู้ปกครองสลด พบพยาบาลที่จ้างมาดูแลเด็กป่วยพิเศษ “ทำร้าย” ลูกของพวกเค้าเอง
นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เปรียบดั่งฝันร้ายของหัวอกคนเป็นพ่อแม่เลยก็ว่าได้ ซึ่งเกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณแม่ Dyanna Ko หลังจากที่เธอพบว่า พยาบาลพี่เลี้ยงเด็กที่จ้างมาดูแลลูกของเธอกลับเป็นคนทำร้ายร่างกายลูกเธอซะเอง!! โดยเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ Dailymail ได้ระบุว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวจำเป็นจะต้องจ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลลูก เนื่องจากอาการป่วยด้วยโรค Rubinstein-Taybi ของลูกชายเธอ อาการป่วยดังกล่าวทำให้เด็กน้อยต้องทานอาหารผ่านท่อ ตาบอดหนึ่งข้าง และต้องดูแลเป็นพิเศษตลอด 24 ชั่วโมง ครอบครัวจึงตัดสินใจที่จะว่าจ้างพยาบาลพี่เลี้ยงเด็กพิเศษ เพื่อมาช่วยแบ่งเบาภาระดูแลลูกชายของพวกเขาตลอด 24 ชั่วโมง แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น… เมื่อคุณแม่สังเกตการณ์จากกล้องวงจรปิด เธอก็ได้เห็นภาพที่ทำให้หัวอกคนเป็นแม่ต้องใจสลาย เริ่มแรกพี่เลี้ยงเด็กพยายามใช้มือเขย่าตัวเด็ก จากนั้นมีการมือตีเป็นบางครั้ง พี่เลี้ยงเด็กมีการนำนิตยสารมาม้วนและใช้ทุบตีเด็กน้อย และดูเหมือนว่าเขาจะตั้งใจทำร้ายร่างกายเด็ก เพราะวิดีโอจากภาพวงจรปิดเผยให้เห็นการทุบตีอยู่หลายครั้ง โชคดีที่ ณ เวลานั้นผู้ปกครองทั้งสองคนอยู่ห่างจากบ้านเพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น ทันทีที่พวกเขาเห็นพฤติกรรมดังกล่าว พวกเขาจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัติพบว่า พี่เลี้ยงเด็กคนดังกล่าวเป็นชาวเม็กซิกันชื่อ Thelma Manalastas ซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัท Maxim Healthcare Services จากเหตุการณ์นี้ทำให้เธอถูกพ้นสภาพการเป็นพนักงาน และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวฐานมีความผิดทางอาญาทันที “มันเป็นความปวดร้าวที่เราต้องเห็นคนอื่นมาทำร้ายลูกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกเราเป็นเด็กที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับครอบครัวอื่นๆ ระวังภัยเรื่องนี้มากขึ้น” คุณแม่ให้สัมภาษณ์…
-
ชายผู้วาดภาพการ์ตูนให้กับแฟนสาวทุกวัน บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์น่ารักตลอด 5 ปี
Pete ชายผู้เริ่มหันมาวาดรูปภาพคอมมิคเพื่อเล่าเรื่องราวของเขาและ Kellie ผู้เป็นภรรยา โดยเขาจะทำแบบนั้นทุกๆ วันจนตอนนี้ก็ยาวนานเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว… เขาเล่าว่าในช่วงไม่กี่ปีแรกนั้นไม่มีใครนอกจากภรรยาของเขาที่ได้เห็นภาพวาดเรื่องราวเหล่านี้ แต่แล้วทั้งคู่ก็ได้ตัดสินใจว่าจะถ่ายทอดเรื่องราวของทั้งคู่ให้คนทั้งโลกได้รับรู้ Pete จึงจัดการสร้างอินสตาแกรมขึ้นมาเพื่อลงรูปภาพเรื่องราวของเขา บางครั้ง Pete ก็ชอบเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วนั่งดูทีวี จนลืมไปว่ายังไม่ได้ใส่กางเกงเลย ในช่วงเวลาที่ยากลำบากของ Kellie ตัว Pete เองก็จะเป็นคนที่คอยอยู่ใกล้ๆ และให้กำลังใจช่วยเหลือกันเสมอ หรือถ้าบางวันอากาศมันร้อนอยากจะกอดกันแต่ก็ทำไม่ได้ พวกเขาก็จะจับมือกันเฉยๆ แบบนี้นี่แหละ ทว่าบางครั้ง Kellie ต้องการจะปั่มปั๊ม แต่ตัว Pete ทำงานมาเหนื่อยๆ เธอก็จะทำท่าทางกวนๆ แบบนี้แหละ บางครั้งทั้งคู่ก็จะเริ่มประโยคสนทนากันหลังจากที่เต้นด้วยกันเบาๆ ในห้องครัว หรือแม้แต่ในตอนที่ทั้งคู่รู่สึกง่วงและเหนื่อยล้ามากๆ แต่ยังไม่อยากไปนอนสภาพหน้าตามันก็จะเป็นแบบในรูปเลย ถ้าหากว่า Pete เป็นฝ่ายกอด เขาจะกลายร่างเป็นปลาหมึกทันที บางครั้ง Pete ก็มักจะใส่กางเกงในขาดร่อง จนทำให้ไข่ของเขามันห้อยออกมา หลายๆ คู่รักคงเคยเป็นแบบนี้แน่ๆ…
-
ชาวเน็ตร่วมแก้ปัญหา “นอนกอดเมียยังไงไม่ให้เมื่อย?” ปัญหาที่ชวนปวดกะบาลของคนมีคู่!!
คนโสดบางคนอาจจะรู้สึกอิจฉาคนมีความรัก เพราะพวกเขาได้อยู่กับแฟนและได้แสดงความน่ารักความโรแมนติกใส่กัน แต่ใครเล่าจะรู้ว่าพวกเขาก็มีปัญหาชวนปวดหมองอย่างการ “นอนกอดแฟน” อยู่เหมือนกัน… ถ้าใครที่แต่งงานมีคู่แล้วก็น่าจะพบว่าปัญหาการนอนกอดแฟนแล้วเมื่อยแขนนั้นเป็นปัญหาที่ต้องเจอเกือบทุกวัน ไม่ว่าจะนอนท่าไหนพอเวลาผ่านไปเราก็จะรู้สึกชาที่แขนจนเหมือนว่าแขนนั้นไม่ใช่ของเราอีกต่อไป ปัญหานี้ถือเป็นปัญหาระดับชาติเลยทีเดียว (เหรอ) จนมีชาวเน็ตกลุ่มหนึ่งตั้งกระทู้ถามในโลกออนไลน์ว่าควรจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี? อย่างเช่นสมาชิกเว็บไซต์พันทิปรายหนึ่งที่ตั้งกระทู้เล่าว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบนอนกอดแฟนมาก แต่ไม่ว่าจะนอนท่าไหนก็จะปวดเมื่อยในตอนเช้าทุกที ส่วนตัว#เหมียวฟิ้นเองก็สงสัยเหมือนกันว่าปัญหาแบบนี้มันจะแก้กันได้จริงเหรอ? เลยต้องลองไปดูคำตอบของแต่ละคนที่แนะนำกันเข้ามา ว่าจะนำไปใช้จริงได้ไหม? สมาชิกหมายเลข 1274271 บอกว่า “ลองนอนตะแคงทั้งคู่ แล้วเอาแขนสอดไปที่ใต้คอ ส่วนอีกข้างก็กอดคุณแฟนได้” ท่าทางก็น่าจะประมาณนี้… คุณ Duangkamol บอกว่า “หันหน้าหากันละกอดไง” งี้อะเหรอ? คุณ BigHuge เสนอว่า “ผมว่านั่งกอดกันหลับก็ได้นะครับ” มันจะเมื่อยๆ หน่อยนะ… ด้านสมาชิกหมายเลข 1428399 แนะนำว่า “ให้เมียคุณนอนหงาย ส่วนคุณนอนตะแคงหันหน้าเข้าค่ะ แขนข้างหนึ่งวางบนตัวเธอ อีกข้างก็วางบนหัวบ้าง เมื่อยก็ขยับลงมาแนบข้างๆ ตัว หรือจะขยับวางบนหมอนแบบตั้งฉากก็ได้” พร้อมกับแนบรูปณเดชเพื่อให้เห็นภาพชัดๆ ความเห็นของสมาชิกหมายเลข 1092716 ถือว่าเด็ดมากทีเดียว เพราะเขาบอกว่า…
-
เมื่อเกม Final Fantasy ช่วยสานสัมพันธ์ พ่อ-ลูก ให้กลับมารักกันอย่างอบอุ่นได้
ช่วงนี้กระแสสถาบันครอบครัวกับเกมถือเป็นอะไรที่ร้อนแรงมากๆ เลยทีเดียว บางคนก็บอกว่าเกมนั้นไม่ดีถ้าปล่อยให้ลูกเล่นชีวิตพวกเขาจะต้องไม่มีอนาคตอย่างแน่นอน ไม่ก็มันไร้ประโยชน์อย่างนั้นอย่างนี้และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้ดีสุดและแย่ที่สุด ต่างก็มีข้อดีข้อเสียในตัวเอง และเกมก็เช่นกันกัน ถ้าเรารู้จักเล่นรู้จักใช้มันอย่างถูกต้องเกมก็จะมีเรื่องดีๆ และประโยชน์มากมายเลยล่ะ อย่างเช่นเรื่องราวของคนญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ชื่อว่า Maidy (นามสมสุติชื่อในบล็อก และในเกม FF14) โดยเขาได้ใช้เกมเชื่อมความสัมพันธ์ของเขากับพ่อให้กลับมาแน่นแฟ้นได้อีกครั้ง เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นที่โด่งดังและถูกพูดถึง จนถูกหยิบมาสร้างเป็นซีรีส์ Final Fantasy XIV “Dad of Light” หรือ คุณพ่อแห่งแสงสว่าง สำหรับคุณพ่อแห่งแสงสว่างนั้น จะมีเนื้อเรื่องเริ่มจากการที่ “อินาบะ ฮิโระทาโร่” ผู้ซึ่งเป็นพ่อของ “อินาบะ อาคิโอะ” ได้ใช้ช่วงเวลาในสมัยก่อนด้วยกันผ่านเกม Final Fantasy 3 ซึ่งมันทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันมากๆ แต่แล้วพอเวลาผ่านไปทั้งตัวอาคิโอะที่โตขึ้นกับฮิโระทาโร่ผู้มีหน้าที่การงานที่มากขึ้น ทำให้ทั้งคู่ต้องห่างกันไปในท้ายที่สุด จนเมื่อไม่นานมานี้อยู่ดีๆ ฮิโระทาโร่ก็ลาออกจากงานดื้อๆ โดยไม่บอกสาเหตุอะไรทั้งสิ้น ทั้งที่เขาเป็นพนักงานมากฝีมือและการงานกำลังรุ่งสุดๆ อาคิโอะผู้เป็นลูกเห็นอย่างนั้นจึงเกิดความสงสัยและเป็นห่วงพ่อขึ้นมา แต่ด้วยความสัมพันธ์ของเขาและพ่อที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนักตามประสาครอบครัวที่ขาดความสัมพันธ์กัน จึงทำให้เขาไม่กล้าที่จะไปถามตรงๆ ได้แต่กังวลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เขาจึงได้นำเรื่องนี้ไปถามเพื่อนๆ ในเกม Final Fantasy 14 ซึ่งเป็นเกมออนไลน์ที่เขาเล่นอยู่ โดยเพื่อนๆ…
-
วิดีโอสุดประทับใจ “วันธรรมดา” ผ่านมุมมองของแม่และลูก จะทำให้หัวใจของคุณพองโต
การจะเป็นแม่คนนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความสามารถ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่านเหมือนกันที่ใครๆ จะเป็นกันได้ ต้องดูแลสามี ลูกๆ และคนรอบข้าง ต้องเรียนรู้ต้องอดทนและไม่สามารถเลิกกลางคันได้ด้วย เช่นเดียวกับเรื่องราวของ Esther Anderson เธอเป็น Vlogger (คล้ายกับการเขียนบล็อค แต่อยู่ในรูปแบบของวิดีโอ) ที่ต้องทำหน้าที่คุณแม่เลี้ยงลูก 2 คน เธอพยายามสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับครอบครัวของเธอ แต่ในทุกๆ วันเธอก็ยังต้องรับมือกับเรื่องปวดหัวที่ลูกๆ ของพวกเธอก่อเอาไว้ วันหนึ่ง Anderson ได้ลองทำคลิปวิดีโอตัวหนึ่งขึ้นมา เธอตั้งชื่อมันว่า A Normal Day (วันธรรมดา) ซึ่งเผยให้เห็นกิจวัตรประจำวันในวันหนึ่ง โดยผ่านมุมมองของทั้งแม่และตัวลูกเอง ในส่วนของเธอตั้งแต่ตื่นนอน แก้ปัญหาให้ลูกๆ เปลี่ยนผ้าอ้อม ห้ามเด็กๆ ทะเลาะกัน ทำบ้านเลอะเทอะ พาไปซื้อของนอกบ้านก็ยังต้องเหนื่อยไม่เว้นแม้แต่วินาทีเดียว ปลุกแม่ตื่นแต่เช้า เด็กๆ แกล้งกัน ก็ต้องเหนื่อยคุณแม่เข้าไปห้ามอีก ไปห้างก็ต้องปวดหัวกับเด็กๆ อีก ทำข้าวของหล่นจนกลายเป็นเรื่องปกติ แม้ว่ากิจกรรมและภาพทั้งหมดนี้จะดูเหมือนว่าเธอล้มเหลวในการเป็นแม่คน เพราะต้องเจอแต่เรื่องแย่ๆ ตลอดวัน แต่เธอก็ได้นำเสนออีกแง่มุมให้เราเห็นผ่านมุมมองของลูกเธอในช่วงครึ่งหลังของวิดีโอ ว่าแท้จริงแล้วเธอเปรียบเสมือนนักมายากลที่ทำให้ลูกๆ มีความสุขผ่านการกระทำเล็กๆ…
-
พ่อแม่ลูก 8 หลั่งน้ำตา เมื่อรายการทีวีรีโนเวทบ้านให้ทั้งหลัง ช้อปปิ้งฟรี 1 ปี รถใหม่อีก 1 คัน
มะเร็งเป็นโรคร้ายที่คงไม่มีใครอยากจะเจอ แม้ปัจจุบันจะมีการรักษาให้หายได้แล้วแต่ก็มีผู้คนอีกไม่น้อยที่ต้องจากโลกนี้ไป เมื่อไหร่ก็ตามที่เราค้นพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคนี้อยู่ สิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คือพยายามเตรียมทุกอย่างให้พร้อม เพื่อให้คนข้างหลังของเราไม่ลำบากในวันที่เราจากโลกนี้ไปแล้ว… นี่เป็นเรื่องราวที่ทั้งน่าเศร้าและชวนซาบซึ้งไปในเวลาเดียวกันของ Audrey คุณแม่ลูก 3 ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งหลอดอาหารและมะเร็งกระเพาะอาหารขั้นที่ 2 เธอรู้ตัวว่าเธออาจจะจากโลกนี้ไปในสักวันหนึ่ง เธอจึงเอ่ยปากขอร้องเพื่อนบ้านอย่าง Tisha และ Kevin สามีของเธอให้ช่วยรับเลี้ยงลูกๆ ทั้ง 3 ของเธอในวันที่เธอจากไปแล้ว Audrey ได้จากโลกนี้ไปในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2016 คำขอร้องนั้นดูจะเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากเพราะครอบครัวของ Tisha เพราะเองก็มีลูกอยู่แล้วถึง 5 คน และถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้สนิทสนมกับ Audrey มากเท่าไหร่นัก แต่เธอก็ตอบรับคำขออันยิ่งใหญ่นี้ เธอคิดว่าเด็กทั้ง 3 คนควรจะได้มีชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นๆ เพราะหากเธอไม่รับเด็กๆ ทั้ง 3 มาเป็นลูกของเธอ พวกเขาก็อาจจะถูกส่งไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหมือนตอนที่ Tisha เป็นเด็กซึ่งเธอเข้าใจความรู้สึกนั้นดี Tisha และสามีต้องช่วยกันดูแลเด็กๆ ถึง 8 คน ถือเป็นภาระและความรับผิดชอบที่หนักมากสำหรับเธอ เพราะบ้านของเธอค่อนข้างคับแคบเมื่อเทียบกับจำนวนคน ทำให้เด็กๆ ที่อาศัยอยู่ที่นี่ต้องแบ่งห้องนอนกัน…
-
เรื่องราวของครอบครัวชาวเปรู ผู้อ้างว่าเจอวิญญาณร้ายในตุ๊กตา ถูกคุกคามมานานนับปี!!
สำหรับคอหนังผีคงไม่มีใครไม่รู้จักเรื่อง Paranormal Activity และหนังเรื่อง Annabelle ที่ต้องอ้างถึงสองเรื่องนี้ก็เพราะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวชาวเปรู ดันละม้ายคล้ายกับเหตุการณ์จากในหนังยังไงยังงั้น โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับครอบครัว Nunez ผู้อาศัยอยู่ในเมือง Callao ประเทศเปรู พวกเขาอ้างว่าเริ่มมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นหลังจากที่หลานสาวผู้เป็นเจ้าของตุ๊กตาตัวนี้ ได้เสียชีวิตลงเมื่อ 7 ปีก่อน คล้ายกับเรื่อง Annabelle มั้ย? ครอบครัวเล่าว่าเดิมทีพวกเขาได้รับตุ๊กตาตัวนี้เป็นของขวัญมาจากญาติ ทว่าหลังจากที่ญาติผู้นั้นได้เสียชีวิตลง เหตุการณ์แปลกๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น แต่ด้วยความที่มันเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายจากญาติที่สนิทกัน ทำให้พวกเขาตัดใจทิ้งมันไม่ลง Ivonne Nunez คุณแม่ลูก 3 ได้เล่าถึงเหตุการณ์แปลกๆ ว่า ‘ปกติแล้วตุ๊กตา Sarita จะสามารถเล่นเพลงได้ถ้าเรากดปุ่มตรงหน้าท้อง แต่บางทีกลางดึกเพลงก็ดังขึ้นมาเอง ที่แปลกกว่าคือบางคืนก่อนเข้านอนเราเอาตุ๊กตาวางไว้บนหิ้งของเธอเอง แต่เช้ามากลับพบว่าตุ๊กตามาตั้งอยู่บนโต๊ะโดยไม่มีใครไปยุ่งกับมัน หรือที่หนักกว่านั้นก็คือลูกๆ ทั้ง 3 คนของดิฉัน ตื่นมาพบรอยขีดข่วนบนร่างกายตัวเอง โดยไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร’ Angie Nunez พี่สาวคนโตวัย 20 ปี ของบ้าน…
-
ปังไหมงานนี้… ภรรยาให้คุณสามีเป็นสไตล์ลิสต์ส่วนตัว ช่วยเลือกชุดให้ใส่ในระยะ 1 สัปดาห์!!
เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่สาวๆ จะเป็นคนเลือกเสื้อผ้าที่จะใส่ในแต่ละวันในดูสวยหรือเปรี้ยวจี๊ดตามแต่ละวน แต่จะสนุกแค่ไหนถ้าลองให้คุณสามีเป็นคนเลือกชุดที่จะใส่ในแต่ละวันให้ อย่างสามีภรรยาคู่นี้ที่ลองให้สามีได้เป็นสไตล์สิสต์ส่วนตัวเลือกเสื้อผ้าให้ภรรยาได้สวมใส่ แล้วคุณสามีเลือกให้จะปังหรือพังแค่ไหนไปดูกันเลย!! ในตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ของภรรยามีเสื้อผ้าอยู่มากมาย เธอทดลองให้สามีเลือกชุดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ คุณสามีจะเลือกเสื้อผ้าได้เหมาะกับคุณภรรยาแค่ไหนกันนะ? วันจันทร์ ในเช้าวันจันทร์คุณสามีได้เข้ามาสำรวจในตู้เสื้อของเธอเพื่อเลือกชุด ในวันนี้คุณภรรยาต้องไปพบปะคู่ค้าทางธุรกิจด้วย เธออยากจะยกเลิกเกมบ้าๆ นี่ เพราะกลัวว่าชุดที่เลือกจะไม่เหมาะกับการประชุม แต่เอาวะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว คุณสามีเลือกชุดที่ปกคลุมมิดชิดเพื่อที่จะได้ไม่มีใครมาจ้องมองเมียของเขาและเป็นชุดสไตล์ฤดูใบไม้ผลิ แต่ชุดนี้ดันทำเอาทุกคนจ้องมองเธออย่างไม่ลดละ และเธอก็ได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมงานว่าชุดสีสันสดใสดีอีกด้วยล่ะ วันอังคาร ในวันที่สองเธอเริ่มสงสัยว่าสามีชอบเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใสจริงๆ ดูอย่างชุดในวันนี้สิ มันสีสันฉูดฉาดเหมือนกับว่าเขาอยากจะให้ภรรยาเป็นพระอาทิตย์ยังไงอย่างงั้น เท่านั้นยังไม่พอคุณสามียังไปค้นเอากระเป๋าเก่าที่พอห้อยแล้วจะดูเด็กลง แต่หลังจากนั้นกระเป๋าใบนี้ก็กลายเป็นของใช้ที่เธอชอบไปแล้ว วันพุธ ในวันนี้เป็นวันครบรอบของเขาและเธอ พวกเขาตัดสินใจที่จะฉลองกันซะหน่อยแต่ด้วยลูกน้อยเบบี๋ 2 คนที่ทำให้เธอไปร้านอาหารข้างนอกบ้านไม่สะดวก จึงขอจัดเป็นดินเนอร์เล็กๆ แต่โรแมนติกที่บ้านแทน ดิพวกเขาเคยจัดนเนอร์แบบนี้ที่บ้านมาแล้วแต่ไม่เคยคิดถึงเรื่องการแต่งตัวสำหรับงานฉลองนี้เลย ดังนั้นสามีจึงเลือกเป็นชุดเดรสสีดำสุดเซ็กซี่ตัวนี้ให้ภรรยาใส่ ซึ่งมันทำให้ทั้งคู่รู้สึกเหมือนเป็นเดทแรกเลยล่ะ วันพฤหัสบดี วันพฤหัสบดีกับชุดสีแดงสุดจี๊ด ในความจริงแล้วเธอลืมชุดนี่ไปแล้วด้วยซ้ำ มันอยู่ในตู้เสื้อและเธอคิดว่ามันสั้นไปแถมสีมันดูแรง จนวันนี้คุณสามีได้คุ้ยขึ้นมาแล้วบอกว่ามันเป็นชุดที่น่าทึ่ง! แม้ว่าเธอจะรู้สึกแย่กับชุดนี้ที่จะต้องใส่ไปพบกับคุณพ่อและคุณแม่ในเย็นนี้ แต่เธอก็รู้สึกมั่นใจขึ้นกับคำพูดของสามีที่บอกว่าเธอดูสวยน่าทึ่งสุดๆ วันศุกร์ ในวันนี้เขาและเธอจะกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้าน และถ้าเป็นภรรยาก็เลือกใส่แค่ชุดเดรสและรองเท้าแตะธรรมดา แต่พอให้คุณสามีเลือกก็ได้อย่างที่เห็นนี่ล่ะ…
-
อะไรจะฟิตขนาดนั้น!! คู่รักชาวสกอตแลนด์ขยันมีลูกทุกๆ 2 ปี จนตอนนี้ปาเข้าไปแล้ว 10 คน
ในยุคที่เศรษฐกิจแย่ๆ แบบนี้การที่ครอบครัวจะตัดสินใจมีลูกซักคนหนึ่งคงจะไม่ใช่เรื่อง่ายแน่นอน เพราะไหนจะค่าต่างๆ ที่ตามมาและภาระที่ต้องเพิ่มขึ้นอีกมากมาย แบบนี้คงจะทำให้หลายๆ คู่ไม่ค่อยอยากจะเปลี่ยนสถานะเป็นคุณพ่อคุณแม่กัน แต่ว่าสองสามีภรรยาชาวสกอตแลนคู่นี้ไม่คิดเช่นนั้น เพราะว่าระยะเพียงไม่กี่ปีพวกเขามีลูกด้วยกันแล้วถึง 9 คน และตอนนี้กำลังมีอีกหนึ่งคนอยู่ในน้องคุณแม่อีกด้วย โอโหอะไรจะฟิตขนาดนั้น ติดตามเรื่องราวของทั้งคู่ได้จากข่าวนี้เลย… คุณ David และคุณ Alexis Brett สองสามีภรรยาชาวสกอตแลนด์ ใช้ระยะเวลาเพียง 15 ปีในการให้กำเนิดลูกๆ ทั้งหมด 9 คน เด็กๆ ทั้งหมดเป็นผู้ชายและตอนนี้เธอก็กำลังตั้งท้องลูกคนที่ 10 ซึ่งก็เป็นผู้ชายอีก!! คุณนาย Brett บอกว่า “ฉันคิดว่าฉันเป็นคนแรกๆ ในสหราชอานจักรเลยก็ว่าได้ที่มีลูกทั้งหมดเป็นผู้ชายถึง 9 คน หลายๆ คนมักจะถามพวกเราว่าสาเหตุที่เรายังไม่หยุดนั่นเพราะว่ายังไม่ได้ลูกผู้หญิงใช่หรือเปล่า ตอบตามตรงเลยนะว่า ไม่ใช่ เราดีใจที่มีลูกชายและไม่เคยคิดจะมีลูกสาวเลย” ทั้งคู่แต่งงานกันในปี ค.ศ. 1998 และในตอนแรกพวกเขาไม่เคยมีแผนว่าจะมีครอบครัวที่ใหญ่มากขนาดนี้ แต่จากนั้นไม่นานคุณนาย Brett ก็ตั้งครรภ์ และได้ลูกชายคนแรกคือ Campbell ซึ่งตอนนี้เจ้าหนูอายุได้ 15 ปีแล้ว และหลังนั้นเธอก็ให้กำเนิดลูกชายทุกๆ 2…
-
ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า… ชายหนุ่มจ่อฟ้องหย่าภรรยา เนื่องจากว่าเธอไม่มีอวัยวะเพศ!?
ใช่ว่าคู่รักทุกคู่จะสามารถประคับประคองความรักไปได้ตลอดรอดฝั่ง หลายคู่ต้องเลิกรากันไปด้วยร้อยแปดเหตุผล และในบรรดาเหตุผลเหล่านั้นก็อาจทำให้คุณถึงกับเหวอได้เหมือนกัน… นี่เป็นเรื่องราวของคู่สามีภรรยาอย่าง Alejandro และ Tania ที่ไปออกรายการทีวี Caso Cerrado (ศาลคู่รัก) โดยที่ฝ่ายชายกำลังจะหย่ากับภรรยาของเขาเนื่องจากเธอไม่มีช่องคลอดและไม่สามารถทำหน้าที่ภรรยาได้อย่างสมบูรณ์ดั่งที่เขาหวังไว้ นาย Alejandro เล่าผ่านรายการทีวีว่าเขาและแฟนสาวเดทกันมาประมาณ 1 ปี ซึ่งในระหว่างนั้นเขาและเธอไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กันเลย เนื่องจาก Tania ได้บอกว่าอยากจะเก็บสิ่งนั้นไว้ในตอนที่พวกเขาแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว แต่แล้ววันหนึ่งความจริงก็ปรากฏเมื่อนาย Alejandro พบว่าภรรยาสาวของเขาไม่มีอวัยวะเพศ นั่นถึงกับทำให้เขาตกใจและรู้สึกรับไม่ได้ที่เธอปิดบังเรื่องนี้กับเขามาโดยตลอด จึงพยายามจะขอหย่ากับเธอผ่านทางรายการ ที่ผ่านมา Tania รับรู้ถึงปัญหาข้อนี้ของตัวเองดีจึงติดต่อหมอศัลยแพทย์เพื่อผ่าตัดอวัยวะเพศให้กับเธอ แต่ถึงจะได้รับการผ่าตัดแล้วเธอก็ไม่เกิดความรู้สึกใดๆ บริเวณนั้นเมื่อมีเพศสัมพันธ์เลย เธอยอมรับว่าหลังจากที่เธอผ่านการผ่าตัดเธอก็ฝันที่จะได้ทำหน้าที่ภรรยาอย่างสมบูรณ์เพราะเธอรู้ว่ามันคือหน้าที่ของภรรยาที่ดี แต่เธอกลับล้มเหลวแม้จะผ่าตัดแล้วมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา อาการที่ Tania เจออยู่นี้มีชื่อเรียกว่า Rokitansky Syndrome ทำให้ช่องคลอดและมดลูกไม่สามารถพัฒนาได้ตามปกติ บางรายอาจจะมีช่องคลอดที่เล็กมาก และในบางรายก็ไม่มีอวัยวะเหล่านี้ตั้งแต่เกิดเลย นั่นจึงทำให้ผู้หญิงที่มีอาการแบบนี้ไม่มีประจำเดือนและไม่สามารถตั้งท้องได้ หลังจากที่ทั้ง Alejandro และ Tania โต้เถียงกันผ่านในรายการ สุดท้ายพิธีกรก็ตัดสินให้ทั้งคู่หย่าขาดจากกันท่ามกลางความสะเทือนใจของผู้ชม ที่มา thesun , ladbible
-
ชาวเน็ตแห่ชื่นชม!! สามีภรรยาที่ทำเสื้อทีมมาเชียร์ลูกสาว ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะหย่ากันแล้ว..
ชีวิตในช่วงวัยเด็กเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ ในช่วงนี้เด็กจะมีการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเด็กนั้น มีผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยเป็นอย่างมาก ตัวอย่างของการดูแลเอาใจใส่ลูกสาวของสามีภรรยาคู่หนึ่ง ที่ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวใหม่แล้วก็ตาม แต่ก็ยังรักและดูแลลูกของพวกเขาอยู่เสมอ… ครอบครัวของ Maelyn Cazeau สาวน้อยวัย 4 ขวบจากรัฐจอร์เจีย ได้ทำเรื่องราวที่สุดแสนจะน่ารักและได้รับคำชมเชยจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก เมื่อพวกเขาทำชุดฟุตบอลเป็นทีมของครอบครัว โดยใส่เบอร์ 37 ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวของสูกสาว เพื่อไปเชียร์เจ้าตัวน้อยในการแข่งฟุตบอล ถึงแม้ว่าคุณ Clara Cazeau และสามีของเธอจะหย่ากันและทั้งสองต่างมีคู่ชีวิตใหม่แล้ว แต่ก็ยังคงมาให้กำลังใจหนูน้อย Maelyn ในการแข่งฟุตบอล นอกจากนี้ทั้งสองครอบครัวยังช่วยกันเลี้ยงดูลูกสาวของพวกเขาอีกด้วย Maelyn เป็นเด็กที่โชคดีมาก เธอได้รับความรักจากพ่อแม่ถึง 2 คู่ด้วยกันซึ่งทั้งพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงก็รักและเอ็นดูสาวน้อยมาก คุณ Clara บอกกับนักข่าวอย่างภาคภูมิใจเกี่ยวกับการร่วมกันเลี้ยงดูลูกน้อยของเธอว่า “มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ลูกของเราควรจะเติบโตมาและเข้าใจว่าพ่อและแม่ ได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อเค้า” และนี่คือชุดทีมฟุตบอลที่ครอบครัวของเธอทำขึ้นมา เมื่อรูปชุดทีมฟุตบอลที่มีทั้งแม่กับพ่อเลี้ยง และพ่อกับแม่เลี้ยงของสาวน้อยได้ถูกเผยแพร่ในทวิตเตอร์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมและแสดงความคิดเห็นมากมาย ภาพดังกล่าวทำให้หลายๆ คนรู้สึกดีและซาบซึ้งกับสิ่งที่พวกเขาทำอย่างมาก อย่างสาวคนนี้บอกว่า “ฉันหวังว่าพ่อแม่จะดูแลฉันแบบนี้หลังจากที่พวกเขาหย่ากันนะ เด็กคนนี้โชคดีจริงๆ” บางคนก็เข้ามายกย่องพวกเขา หรือบางคนถึงขั้นซึ้งจนร้องไห้กันเลยทีเดียว!! และผู้ใช้งานเฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อ Emilee Plaayer ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของ Maelyn…
-
เด็กผิวสีอายุ 10 ปี โดนเพื่อนล้อเลียนจนเสียความมั่นใจ แต่ปัจจุบันเธอเป็นนางแบบสุดมั่น
ผู้ใหญ่บางคนอาจจะมองว่าการเป็นเด็กเป็นเรื่องที่ง่าย ไม่ต้องทำงานหนัก ไม่ต้องคิดมาก แต่ไม่ใช่สำหรับเธอคนนี้ Kheris เด็กสาวผิวสีเข้มอายุเพียง 10 ปี ที่เธอต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในชีวิตวัยประถม จากการล้อเลียนเรื่องสีผิวจากเพื่อนๆ จนเป็นเด็กที่ไม่มีความมั่นใจและมองสิ่งต่างๆ ในแง่ลบ แต่ในปัจจุบันเธอยอมรับและภูมิใจในสิ่งที่เธอมีจากการช่วยเธอจากแม่และพี่สาวที่รักของเธอ ความอบอุ่นในครอบครัวนี้ จะช่วยเธอหนีพ้นจากสังคมอันโหดร้ายได้อย่างไร เราไปทำความรู้จักกับเธอกัน นี่คือครอบครัว Pollard พวกเขาอาศัยอยู่ที่เมืองลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ครอบครัวนี้มีกันอยู่ 3 คน มีคุณแม่ที่ชื่อว่า Erika Pollard ลูกสาวคนโตชื่อ Taylor อายุ 22 ปีและน้องสาวคนสุดท้อง Kheris อายุ 10 ปี ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้นประถม 5 และเป็นช่วงเวลาที่ลำบากในการใช้ชีวิตในโรงเรียนของเธอ เด็กๆ ที่โรงเรียนมักล้อเลียน Kheris เกี่ยวกับสีผิวของเธอ แม่ของเธอจึงตัดสินใจที่จะย้ายโรงเรียนเพราะ Kheris โดนกลั่นแกล้งรุนแรงจนส่งผลให้เสียความเชื่อมั่นในตนเอง Taylor พี่สาวของเธอกล่าวว่าโรงเรียนประถมของน้องสาวเธอนั้น มีเด็กผู้หญิงผิวสีอยู่เพียง 4 คนในหนึ่งห้อง Kheris เล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่เธอทำกิจกรรมวาดภาพร่วมกับเพื่อนในห้อง คุณครูสั่งในนักเรียนวาดภาพตัวเองจากนั้นคุณครูก็ยื่นดินสอสีดำให้เธอ…
-
ถึงแม้จะหย่ากันไป แต่ความเป็นพ่อแม่ยังอยู่ อดีตคู่รักถ่ายรูปครอบครัวพร้อมกับลูกน้อยทุกปี..
การใช้ชีวิตคู่เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การจะทำให้ความรักมั่นคงตลอดรอดฝั่งต้องใช้ความเข้าใจและความพยามของคนทั้งสองคน แต่ถ้าหากเมื่อใดที่ความรักจืดจางลงไป อาจเพราะความไม่เข้าใจหรือเรื่องเล็กน้อยที่สะสมมาอย่างยาวนาน อาจจะทำให้คู่รักที่ถึงแม้จะแต่งงานกันแล้วสามารถที่จะหย่าร้างกันได้ เหมือนเช่นคู่รัก Victoria Baldwin และ Adam Dyson ที่ต้องเลิกรากันไป แต่ถึงแม้ว่าความรักที่มีต่อกันจะหมดลงไปแล้ว หน้าที่ของความเป็นพ่อและแม่นั้นไม่ได้จบไปพร้อมกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่… ถึงแม้ว่าตอนนี้ทั้งคู่จะหย่ากันไปแล้ว แต่ในทุกๆ ปีพวกเขาจะมาพบกันและจ้างช่างภาพ เพื่อถ่ายรูปคู่กันพร้อมกับลูกน้อยที่น่ารักของพวกเขา ทั้งคู่ทิ้งเรื่องราวแย่ๆ ไว้ข้างหลังและทำหน้าที่ของพ่อแม่ร่วมกับลูกน้อยของพวกเขา เธอแบ่งบันเรื่องราวดีๆ นี้ผ่านทางเฟสบุ๊คโดยใช้ชื่อว่า Love What Matters และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีผู้แชร์เรื่องราวของเธอกว่า 1,500 ครั้งและถูกใจอีกถึง 15,000 คน รูปและข้อความที่เธอแชร์ 2 รูปด้านบนคือตอนที่ทั้งคู่แต่งงานกันใหม่ๆ ส่วนสองภาพด้านล่างคือภาพหลังจากที่หย่ากันแล้วประมาณ 1-2 ปี เธอเล่าถึงสิ่งที่ทำในทุกๆ ปีกับอดีตสามีและลูกน้อยของเธอว่า “พวกเราอาจจะไม่ได้รักกันแล้ว เรื่องนั้นเราทั้งคู่รู้ดี และบางครั้งพวกเราก็ไม่ใช่เพื่อนที่ดีต่อกันด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่เรายังไม่ลืมก็คือ เราทั้งคู่มีลูกตัวเล็กน่ารัก เค้ายังเด็กมากและเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส ชีวิตคู่ของเราทั้งสองอาจไม่สมบูรณ์แบบนัก แต่ลูกของเราไม่ควรเป็นคนที่ต้องมารับความไม่สมบูรณ์แบบนั้นด้วย เค้าควรที่จะได้รับการดูแลที่อบอุ่นและความรักจากพ่อและแม่ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราทั้งคู่มาพบกันปีละครั้งและจ้างช่างถ่ายภาพเก็บภาพแห่งช่วงเวลาดีๆ นี้ไว้ นอกจากนี้เรายังนำภาพครอบครัวของเราไปติดยังห้องนอนของลูกด้วย ลูกของเราอาจจะไม่ได้เติบโตมาในบ้านที่มีทั้งพ่อและแม่อยู่ด้วยกัน แต่เขาจะเติบโตด้วยความรักและการเอาใจใส่ที่ดีที่สุดจากพ่อและแม่ของเขา และวันหนึ่งเค้าจะเข้าใจว่าคนเราสามารถที่จะเลิกรากันได้ แต่ไม่สามารถที่จะเลิกบทบาทที่สำคัญอย่างความเป็นพ่อและแม่ได้” …
-
เมื่อ “โอพอสซัมกำพร้า” เกิดความผูกพันกับมนุษย์ผู้ช่วยชีวิตมัน จนไม่อยากกลับป่า
ความรักและความผูกพันธ์เกิดขึ้นมาจากการดูแลและเอาใจใส่ของคนในครอบครัว แต่ความผูกพันก็ไม่ได้เกิดขึ้นแค่เฉพาะระหว่างคนในครอบครัวเท่านั้นนะ แม้แต่คนที่ไม่ได้เป็นครอบครัวเดียวก็กันก็ตาม ถ้าหากครั้งหนึ่งเคยมอบความช่วยเหลือให้แก่กันก็ย่อมทำให้เกิดสายใยของความผูกพันได้ เหมือนอย่างเรื่องความรักของเจ้าโอพอสซัมกำพร้าตัวหนึ่ง กับครอบครัวของหญิงสาวผู้ช่วยชีวิตของมันไว้… Sheri Kassalias หญิงสาวผู้หนึ่งได้ช่วยเหลือลูกโอพอสซัมกำพร้าไว้ 3 ตัว เธอตัดสินใจจะดูแลพวกมันจนแข็งแรงก่อนที่จะปล่อยมันไปใช้ชีวิตในป่าตามเดิม หลังจากที่ดูแลพวกมันทั้งทุกตัวมาได้ซักพัก พวกมันก็พร้อมที่จะกลับไปสู่บ้านเดิมของมัน แต่มีลูกโอพอสซัมตัวหนึ่งที่มีความผูกพันธ์กับเธออย่างมากและมันไม่ยอมไปไหนเลย เธอตั้งชื่อเจ้าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่คล้ายหนูยักษ์ตัวนี้ว่า Opie เธอบอกว่า “Opie น่ารักมากมันมักจะคอยเรียกร้องความสนใจจากฉันอยู่บ่อยๆ มันชอบทำนิสัยคล้ายๆ กับแมวที่ขี้อ้อน” เพื่อนร่วมงานของเธอบอกว่าตัวโอพอสซัมที่เธอเจอนั้นเป็นหนึ่งในไม่กี่ตัวที่มีความเป็นมิตรและผูกพันกับมนุษย์ เธอพยายามหลายครั้งที่จะปล่อยมันกลับสู่ธรรมชาติเหมือนกับเพื่อนตัวอื่นๆ ของมัน แต่มันก็ไม่ยอมไปไหนและเกาะติดเธอมาก “เราอยู่ที่นี้ด้วยกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว” Kassalias กล่าว เจ้า Opie อาศัยอยู่กับครอบครัวของ Kassalias พร้อมด้วยสุนัขของเธออีกหลายตัว มันเดินทางพร้อมกับเธอ เพื่อให้ความรู้แก่เด็กหลายๆ โรงเรียนเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและการกินอาหารของญาติๆ มันในท้องทุ่ง และให้พวกเขารู้ว่ามันกับเพื่อนของมันไม่ใช่ตัวอันตราย เจ้า Opie เป็นดาราดัง Kassalias พามันไปกับเธอในทุกที เธอบอกว่า “ตัวโอพอสซัม จะกินพวกวัชพืชในสวนแต่จะไม่กินผลผลิตของเกษตรกร พวกมันจะไม่ขุดรูในฟาร์ม หรือขึ้นไปอาศัยอยู่ใต้หลังคาของคุณ พวกมันจะอาศัยอยู่บนพื้นดินและโพรงไม้เก่าๆ…
-
ชาวเน็ตช่วยกันแชร์ภาพสุดฮา ถ้าเลี้ยงหมามากกว่า 1 ตัว ชีวิตจะ “วุ่นวาย+น่ารัก” แค่ไหน…
ปกติแล้วเรามักจะเลี้ยงแมว หมา หรือสัตว์เลี้ยงอะไรก็ตามกันตัวเดียว บางครั้งเราก็รู้สึกว่าเรากลัวพวกมันจะเหงา ไม่มีเพื่อนเล่นเวลาที่เราไม่อยู่ เราก็เลยหาเพื่อนให้มัน หรือไม่บางคนก็อยากจะเลี้ยงเยอะๆ สัก 3-4 ตัว เพราะมันดูอบอุ่นดี เมื่อมีเสียงเรียกร้องให้ชาวเน็ตทั้งหลาย ร่วมกันส่งภาพของเจ้าตูบในบ้านของตัวเอง โดยจะต้องเป็นบ้านที่เลี้ยงมากกว่า 1 ตัว งานนี้มาดูกันว่าจะมีภาพน่ารักแค่ไหนให้เราได้ชมบ้าง… เปิดด้วยเจ้าตูบแบบเรียงไซส์กันมาเลย มองผ่านๆ นึกว่าตัดต่อนะเนี่ย เจ้าตูบกับครอบครัวใหญ่ของพวกมัน ยัดกันมาเต็มคันรถ? ครบไซส์ ตัวใหญ่ก็กลายเป็นหมอนให้ตัวเล็กไป ยึดโซฟากันเต็มพื้นที่เลยนะ ไม่กะแบ่งเจ้าของเลยทีเดียว จะเข้าครัวมาทำอาหาร ก็มีผู้ช่วยตามมาเพียบ เดินชายหาดคนเดียวไม่ต้องกลัวอัตราย บอดี้การ์ดเพียบ งานแต่งของเจ้าตูบ พร้อมกับเพื่อนเจ้าบ่าว แต่ละตัว โพสท่าสวยงามดุจดั่งรู้ว่าจะต้องถ่ายรูป และเมื่อเราต้องพามันไปเดินเล่นพร้อมกัน ปัญหาการแย่งนำทางก็จะเกิดขึ้น ไปออกทริปถ่ายรูปคนเดียวได้ไม่เหงา เพราะมีเจ้าตูบตามไปเป็นเพื่อน คุณชายทั้งสาม เช่นเดียวกับการออกทริปถ่ายรูป ทริปปีนเขาพวกมันก็ไปเป็นเพื่อนได้สบายๆ แวะปลดทุกข์?ข้างทางสักหน่อย…
-
คู่แฝด 2 ขวบจอมแสบ แอบจัดปาร์ตี้สุดเหวี่ยง หลังจากที่พ่อแม่ส่งเข้านอนไปแล้ว!!
เชื่อว่าหลายคนตอนวัยเด็กน่าจะเคยมีวีรกรรมอะไรสักอย่างที่แอบทำตอนพ่อแม่หลับกันบ้างใช่ไหมล่ะ อย่างเช่นแอบตื่นมาเล่นของเล่น แอบตื่นมาดูทีวี หรือแอบออกไปเที่ยว แต่การจะทำพฤติกรรมแบบที่กล่าวมาข้างต้นนั้นได้ มันก็ต้องเป็นเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย เราถึงจะคิดอะไรแบบนี้ได้ใช่ไหม แต่มันไม่ใช่กับเด็กสองคนนี้แน่นอน Andrew และ Ryan Balkin เด็กแฝดสุดแสบวัย 2 จากเมืองนิวยอร์ก ซึ่งพ่อแม่ของพวกเขาได้ติดกล้องไว้ในห้องนอนของทั้งคู่ เพื่อความปลอดภัยและจะได้ดูว่าเด็กๆ ทำอะไรกันอยู่ แต่แล้ววันหนึ่งพวกเขาก็ได้เผยแพร่ช่วงเวลาสุดฮาของเด็กทั้งสองออกมาบนโลกอินเตอร์เน็ต…. ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่เจ้าหนูจอมซนทั้งสองต้องเข้านอน ทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของพวกเขาออกจากห้องไปได้ไม่นาน ทั้งคู่ก็ปีนออกมาจากที่นอนพร้อมกับจัดปาร์ตี้ละเลงห้องกันสุดเหวี่ยง จนพ่อแม่จะต้องกลับมาพาทั้งคู่เข้าที่นอนพร้อมทำให้ห้องกลับเป็นเหมือนเดิม แต่มีเหรอที่คู่แฝดสุดแสบจะหยุดลงมือ เช่นเดิมพอพ่อของทั้งคู่ออกจากห้องไป พวกเขาก็พากันปีนออกมาจากที่นอนแล้วเริ่มปาร์ตี้กันอีกครั้ง แถมครั้งนี้เล่นกันยาวกว่าเดิมอีก แค่นั้นยังไม่พอความฉลาดของทั้งคู่มันไม่หยุดพวกเขาเอาหมอนทั้งหมดในห้องไปกั้นประตูเพื่อให้พ่อของพวกเขาเข้ามาไม่ได้อีกด้วย แสบสุดๆ ดูแต่ภาพคงจะไม่รู้ว่าทั้งคู่แสบยังไง เอาเป็นว่าลองดูคลิปกันเลยก็แล้วกัน นอกจากนี้ยังมีความเห็นของชาวเน็ตเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้มาให้ดูกันด้วย ว่าแต่พวกเขาคิดยังไงกันบ้างนะมาดูกัน ตาคนแรกบอกว่า ถ้าปิดไฟหมุนๆ ที่เหมือนไฟดิสโก้นั่น น่าจะช่วยให้พวกเขาหลับได้นะ แต่ก็มีคนออกมาโต้ว่า ถ้าเด็กทั้งสองอยากจะจัดปาร์ตี้จริงๆ ต่อให้ไม่มีไฟปาร์ตี้ก็เกิดอยู่ดี หรือจะเป็นตาคนนี้ที่สงสัยว่าเด็กๆ คิดอะไรอยู่กันนะ แต่คนที่ชมพวกเขาว่าน่ารัก ก็มีเหมือนกันนะ เป็นไงล่ะ แสบสันกันสุดๆ…
-
นำชีวิตครอบครัวในฝัน มาเปรียบเทียบกับความเป็นจริง สวนทางกันไปคนละขั้วเลย!?
เสียหายกันไปเท่าไหร่แล้วกับคำว่า ‘ชีวิตครอบครัวในฝัน’ เชื่อเถอะว่าไม่ใช่แค่คุณคนเดียวหรอกที่ฝันถึงคำนี้ เราทุกคนต่างก็คิดถึงการได้อยู่กับครอบครัวสุขสันต์กันแทบทั้งนั้น ทว่าบางทีภาพที่เราเคยเห็นในหนังแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง หรือภาพฉากบางตอนที่เราแอบจินตนาการไว้สวยหรู กลับไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ ก็คงจะจริงอย่างที่เค้าว่ากันละนะ ความฝันกับความจริงมันต่างกันไอ้น้อง!! เมื่อคุณคิดถึงภาพบ้านอันแสนอบอุ่น ในความคิด แต่นี่คือความจริง… เมื่อคุณนึกถึงภาพการได้อรุณสวัสดิ์มนุษย์เมียยามเช้า สิ่งที่หลายคนคิด แต่นี่คือความจริงของชีวิตครอบครัว (มากันหมดทั้งหมา ทั้งแมว ทั้งลูก ฮ่าๆๆ) ใครๆ ก็นึกถึงภาพวันหยุดสุดสัปดาห์แสนโรแมนติค ในจินตนาการคงคิดว่าอยากจะเปิดแชมเปญ ดื่มด่ำบรรยากาศกับสุดที่รักใช่มั้ย? ความจริงคือ… คุณอาจจะแค่นั่งดูหนัง จากนั้นก็หงอยหลับไปทั้งคู่ ได้ทานอาหารเช้าร่วมกันเป็นครอบครัวสุขสันต์ แหม…ใครๆ ก็คิดถึงภาพแบบนี้ทั้งนั้นแหละ ดูอบอุ่นซะจริ๊งง แต่ความเป็นจริงน่ะเหรอ? ‘รีบๆ หน่อยสิลูก พ่อกับแม่จะไปทำงานสายล๊าววว’ เมื่อคุณคิดอยากจะออกไปเดินเล่นกับครอบครัว อันนี้เป็นภาพที่มักจะเห็นตามโฆษณา หรือสื่อ อยู่บ่อยๆ ส่วนความเป็นจริงก็มักจะลงเอยแบบนี้แหละ …
-
สุดประทับใจ… คุณแม่ชาวเท็กซัส ผู้มอบชีวิตใหม่ให้ชายไร้บ้าน มาเป็นครอบครัวเดียวกัน
เนื่องด้วยภาวะการแข่งขัน และเศรษฐกิจ ทำให้บางประเทศมีอัตราประชากรตกงาน จนกลายมาเป็นคนไร้บ้านเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าสิ่งเดียวที่พวกเขาต้องการก็คือ ‘โอกาส’ นั่นเอง นี่เป็นเรื่องราวที่ทำเอาชาวเน็ตทั่วโลกรู้สึกประทับใจไปตามๆกัน เมื่อ Ginger Jones Sprouse คุณแม่ผู้หยิบยื่นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตให้แก่ชายไร้บ้าน ซึ่งพวกเขาทั้งคู่ต่างก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน Victor Hubbard หนุ่มไร้บ้านวัย 32 ปี เธอมักจะเห็นเขานั่งอยู่ข้างทางเป็นประจำทุกวัน ตอนไปทำงาน เป็นเวลานานกว่า 3 ปี ที่หนุ่มไร้บ้านคนนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน เขาเฝ้ารอวันที่จะได้พบกับมารดาผู้ให้กำเนิดที่ทอดทิ้งเขาไปอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าความฝันนั้นอาจไม่เป็นความจริง ด้วยความเห็นอกเห็นใจ เธอจึงทำการสร้างเพจขึ้นมาเพื่อทำทุกวิถีทางให้ชายไร้บ้านคนนี้ ได้กลับมามีชีวิตอยู่ได้ด้วยตนเองอีกครั้ง เธอสร้างเพจขึ้นมา พร้อมทั้งประกาศให้คนในละแวกนั้นรู้ว่าเธอต้องการจะช่วยเหลือเขา เผื่อว่ามีใครสนใจอยากจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม คุณแม่ได้ทำการระดมทุนจากชาวเน็ตได้มากถึง 9 แสนบาท พร้อมทั้งพาเขาย้ายมาอยู่อาศัยด้วยกัน จนกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน ‘เขาไม่เคยเรียกร้องขอเงิน และไม่เคยเรียกร้องขออะไรเลย เขาต้องการเพียงแค่อาหารประทังชีวิต ทุกครั้งฉันพยายามจะเสนอสิ่งต่างๆ ให้เขา แต่เขาก็มักจะปฏิเสธกลับมาเสมอ เขาเป็นคนดีมากๆ และไม่มีอันตรายใดๆ กับคนรอบข้างค่ะ’ คุณแม่ได้พาเขาไปตรวจสายตา และจัดแจงให้เขาได้แว่นสายตามาใช้ฟรีๆ …
-
เปิดใจศาสตราจารย์ Kelly ที่ถูกลูกๆ ของตัวเองแย่งซีน ขณะให้สัมภาษณ์สดกับช่อง BBC
จากกรณีของศาสตราจารย์ Robert E Kelly ที่กำลังให้สัมภาษณ์สดออกอากาศกับสำนักข่าว BBC News อยู่ แต่แล้วการสัมภาษณ์สดก็ถูกรบกวนโดยลูกๆ ที่น่ารักทั้งสองคน กลายเป็นเรื่องที่โด่งดังไปทั่วโลก… เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ผ่านมาช่วงรายงานข่าวสดของช่อง BBC News ขณะที่กำลังรายงานข่าวรอบโลก BBC World News ผ่านทางเว็บแคมกับศาสตราจารย์ Robert E Kelly ที่อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ ขณะที่ท่านศาสตราจารย์ Kelly กำลังรายงานข่าวผ่านทางเว็บแคมให้กับห้องส่ง ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นไปได้ด้วยดี และมีท่าทางจริงจังเหมือนกับรายงานข่าวทุกครั้ง จู่ๆ ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาในห้องสร้างความปั่นป่วนให้กับทั้งท่านศาสตราจารย์ Kelly และห้องส่ง แต่ถึงอย่างนั้นความน่ารักของแขกทั้งสองคนก็ได้สร้างความสุขให้กับผู้คนทั่วโลกเลยทีเดียว ฮร่าๆ ลูกสาวของเขาสวมเสื้อสีเหลืองค่อยๆ เดินเข้ามาพร้อมกับเต้นรำอย่างอารมณ์ดี ไม่นานก็มีลูกน้องขี่รถตามเข้ามาหวังจะสร้างความก่อกวนในระหว่างการออกอากาศ นี่เอ็งกำลังแข่งรถกันอยู่ใช่ม๊ายยยย ลองไปชมคลิปความน่ารักที่เกิดขึ้นกันที่ข้างล่างนี้ได้เลยนะ ล่าสุดเขาก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว… ท่านศาสตราจารย์ Rebert และภรรยา คุณ Kim Jung-A เล่าว่าพวกเขาได้รับการติดต่อเข้ามามากมายเพื่อทำการสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The Wall Street Journal เป็นที่แรก…
-
คุณแม่มือใหม่หัดเซลฟี่ครอบครัวครั้งแรก ลูกน้อยเพิ่งลืมตาดูโลกปุ๊บ ก็พร้อมยิ้มให้กล้องทันที!!
‘การคลอดลูก’ ในมุมมองของหลายๆ คนอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากที่สุด การมีลูกนั้นเป็นเรื่องที่เจ็บปวด เป็นเรื่องที่เครียด อีกทั้งยังสร้างความเหนื่อยหน่ายให้กับทั้งร่างกายและจิตใจ แต่เมื่อมันผ่านไปก็จะหลงเหลือไว้เพียงความสุขและความภาคภูมิใจ แต่สำหรับคุณแม่มือใหม่ Thaise De Mari แล้วกลับไม่ได้คิดอย่างนั้นแต่อย่างใด เธอแชร์ภาพของตัวเองหลังการคลอดลูกลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ และมันก็เป็นการถ่ายรูปร่วมกับสมาชิกใหม่ กลายเป็นการเซลฟี่ครอบครัวที่ดูมีความสุขมากที่สุดในโลก!! ภาพดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ Thaise เพิ่งออกจากห้องผ่าตัดคลอดไม่นาน ข้างๆ กันนั้นก็มีสามี และลูกน้อยของเธอที่เพิ่งเกิดมาลืมตาดูโลก ทุกคนยิ้มกันอย่างมีความสุขในภาพเซลฟี่ครั้งแรงของครอบครัว ในภาพแสดงให้เห็นถึงความงดงาม ทำให้รู้ว่าไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าช่วงเวลาที่ได้พบหน้ากับลูกของคุณในครั้งแรกอีกแล้ว… ภาพดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมายจนมีคนเข้าไปกดถูกใจในอินสตาแกรมถึง 13,600 คนเลยทีเดียว!! ดูซิ เกิดมาไม่ทันไรก็แปลงร่างกลายเป็นนางเงือกซะแล้ว!! เธอจะต้องเติบโตมาด้วยความสุขสนุกสนานอย่างแน่นอน ดูเธอจะชอบเค้กวันเกิดเอาซะมากๆ เลยนะหนูน้อย ความรักของพ่อแม่ที่ดูแลทะนุถนอมกันมาเป็นอย่างดี เย้!! อีกไม่นานฉันก็จะโตเป็นสาวแซ่บแล้ว มีความเป็นนางแบบถ่ายภาพเล่นกล้องตั้งแต่เด็กๆ เป็นครอบครัวที่น่ารักสุดๆ เพื่อนๆ สามารถเข้าไปติดตามความน่ารักของครอบครัวนี้ได้ที่อินสตาแกรม thaisedemari ได้เลยนะจ๊ะ แหม่ ช่างเป็นครอบครัวที่น่ารักจริงๆ แบบนี้หนูน้อยจะต้องเติบโตมาด้วยความรักและความอบอุ่นอย่างเต็มเปี่ยมอย่างแน่นอน ที่มา…
-
ครอบครัวอังกฤษทำสถิติ มีสมาชิก 6 รุ่นที่มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันเป็นครอบครัวใหญ่!!
สำหรับครอบครัวทั่วไปแล้ว การมีสมาชิกสามรุ่น (ปู่ย่า – พ่อแม่ – ตนเอง) อยู่ในช่วงเดียวกันคงถือว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้ามี 4 รุ่นก็ถือว่าพิเศษหน่อย (อาจเพิ่ม หลาน หรือ ทวด เข้าไป) แต่ครอบครัวชาวอังกฤษครอบครัวนี้กลับมีสมาชิกถึง 6 รุ่นอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน ครอบครัวดังกล่าวมาจากเมืองแบรดฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ความพิเศษของครอบครัวนี้อยู่ตรงที่ พวกเขามีสมาชิกถึง 6 รุ่นในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งแทบจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ครอบครัวบนโลกที่มีลักษณะเช่นนี้ โดยทั้งหกรุ่นประกอบไปด้วย Ruby Snowling วัย 100 ปี, Dorothy Matthews วัย 79 ปี, Sandra Smith วัย 60 ปี, Samantha Smith วัย 40 ปี, Porsche Smith วัย 22 ปี, และ…
-
คุณแม่ชาวนิวซีแลนด์ โชว์ “ภาพหลังคลอด” ที่หลายคนกลัว แม้เจ็บปวดแต่มันสวยงามเสมอ
การที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องมาตั้งท้องและกลายเป็นคุณแม่สักคนหนึ่งดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และหนุ่มๆ อย่างเราก็คงไม่มีทางเข้าใจความทุกข์ทรมานของพวกเธอได้อย่างท่องแท้ด้วยว่าพวกเธอต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ทั้งอารมณ์ที่แปรปรวน น้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น ความเจ็บปวดระหว่างคลอด และไหนจะสภาพหน้าท้องที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับคืนสู่สภาพเดิม เพื่อให้หนุ่มๆ และสาวๆ (ที่ยังไม่เคยมีลูก) ได้เข้าใจถึงสภาวะความเป็นแม่คนสักอีกนิด ด็อกเตอร์ Julie Bhosale ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและโภชนาการจากประเทศนิวซีแลนด์ จึงได้บันทึกภาพหน้าท้องของตัวเองตั้งแต่หลังคลอดได้ 24 ชั่วโมง ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 14 เพื่อดูความเปลี่ยนแปลง ด็อกเตอร์ Julie เล่าว่านี่คือการตั้งท้องลูกคนที่สองของเธอ มันมีทั้งความกดดัน ความเครียด และความปลื้มปิติปนกันอยู่ภายในตัวเธอ มันคือเป็นความเจ็บปวดที่งดงามมากสำหรับเธอ นี่คือสภาพของเธอเมื่อตอนที่ตั้งท้องได้ 38 สัปดาห์เปรียบเทียบกับตอนที่คลอดแล้ว 24 ชั่วโมง หลังคลอดไปแล้ว 2 วัน หลังคลอดไปแล้ว 1 สัปดาห์ หลังคลอดได้ 2 สัปดาห์ หลังคลอดได้ 10 สัปดาห์ หลังคลอดได้ 14 สัปดาห์…
-
พนักงานวัย 22 พาคุณตาออกเดทในรอบ 55 ปี หลังรู้ว่าเขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่อย่างโดดเดี่ยว…
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ Thesun ได้เผยเรื่องราวของ Edwin Holmes อดีตจิตรกรและมัณฑนากร ในวัย 86 ปี ที่ถูกเชิญให้ไปรับประทานอาหารค่ำ กับพนักงานซูเปอร์มาร์เก็ต Sainsbury หลังจากที่ได้ยินว่าเขาไม่มีเพื่อนสนิท หรือครอบครัวเลย เมื่อได้รับคำชวนจาก Ellie Walker พนักงานสาวในวัย 22 ปี คุณตา Edwin ก็ได้ตัดสินใจที่จะไปรับประทานอาหารค่ำร่วมกับเธอ โดยในวันนั้น เขาได้สวมชุดสูทที่ดีที่สุด พร้อมกับนำช่อดอกไม้มามอบให้ Ellie อีกด้วย “คุณตา Edwin บอกว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบ 55 ปี และเขาก็เป็นโรคเส้นประสาทมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กนักเรียน นั่นก็ทำให้ฉันร้องไห้ออกมา เพราะฉันรู้ทันทีว่ามันมีความหมายสำหรับเขามาก และสำหรับฉันมันเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ฉันจะได้พูดคุย และได้ดูแลลูกค้า” Ellie กล่าว สำหรับ Ellie เธอได้เข้ามาทำงานในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้มาเป็นเวลานานกว่า 3 ปีแล้ว ที่ผ่านมาเธอมักจะเห็นคุณตา Edwin เข้าไปซื้อของอยู่บ่อยๆ และมักจะชอบพูดคุยกับเจ้าหน้าที่…
-
แม้เลิกกันแล้ว แต่อดีตสามีก็ยังมอบสิ่งดีๆ ให้ “ภรรยาเก่า” เพื่อความสุขของลูกในฐานะพ่อ
เรื่องราวสุดประทับใจของนาย Billy Flynn Gabois ที่ยังคงไปเซอร์ไพรซ์วันเกิดให้กับภรรยา แม้จะเลิกรากันไปแล้วก็ตาม… เนื่องในวันครบรอบวันเกิดของอดีตภรรยา นาย Billy ได้ทำการเซอร์ไพรซ์ด้วยการมอบการ์ดของขวัญและดอกไม้ จากนั้นก็พาเธอและลูกๆ ไปทานอาหารมื้อพิเศษ Billy เชื่อว่าแม้ว่าจะเลิกรากันไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้ และอยากทำทุกๆ อย่างให้ลูกๆ มีความสุขในฐานะของพ่อ ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ค Love What Matters ได้นำเรื่องราวของเขาไปแชร์ต่อ ทำให้มีผู้คนมากมายต่างก็ให้ความสนใจ มีคนเข้ามากดไลค์มากกว่า 725,000 ครั้ง และแชร์ไปอีก 216,000 ครั้งเลยทีเดียว!! พร้อมกับใส่แคปชั่นเล่าเรื่องราวในวันครบรอบวันเกิดว่า “วันนี้เป็นวันเกิดของภรรยาเก่าผม ผมก็เลยตื่นเช้ากว่าเดิม หาซื้อการ์ดของขวัญ ดอกไม้ และของขวัญสำหรับเด็ก เพื่อนำไปมอบให้กับทุกคน จากนั้นก็พาพวกเขาไปทานอาหารมื้อพิเศษ สำหรับหลายๆ คนที่ถามเข้ามาว่าทำไมผมถึงต้องทำแบบนั้นด้วย? จะขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า…” “ผมมีลูกชายเล็กๆ สองคน ผมอยากจะทำให้พวกเขาดูเป็นตัวอย่างว่าการที่เราทำอะไรดีๆ ให้กับผู้หญิง หรือคนอื่นๆ นั้น จะช่วยให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อพวกเขา ผมคิดว่านี่เป็นตัวอย่างที่ดีที่จะทำให้ลูกๆ เห็น…
-
แฝดตูบจรมาเฝ้าหน้าร้านพิซซ่าทุกวัน เจ้าของร้านสุดจะทน พามาเป็นครอบครัวเดียวกันซะ!!
นี่คืออีกหนึ่งเรื่องราวน่ารักๆ เกิดขึ้นในสังคมเกาหลีใต้ ที่กำลังถูกชาวเน็ตที่นู้นพูดถึงมากที่สุด เพราะเรื่องราวของสองสุนัขฝาแฝด และเจ้าของร้านพิซซ่า เล่นเอาคนที่ได้ชมใจชื้นไปตามๆ กัน เรื่องมันก็มีอยู่ว่าที่ร้านพิซซ่าแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ ทุกวันเจ้าของร้านก็เปิดให้บริการตามปกตินั่นแหละ ทว่ามีวันหนึ่งเขาสังเกตเห็นสองตูบที่มีหน้าตาคล้ายกัน แถมยังชอบทำท่าทางเหมือนกัน มาอาศัยอยู่ที่บริเวณหน้าร้านของเขา ทุกเช้าตอนมาเปิดร้าน เขาจะได้เห็นภาพสองตูบนอนท่าเดียวกันเป๊ะแบบนี้ ด้วยความที่ข้างนอกมีหิมะตก เจ้าของร้านได้พยายามเรียกให้มันมาอยู่ในร้าน แต่ดูเหมือนว่าสองตูบนี้จะมีนิสัยขี้เกรงใจ ถึงกับไม่กล้าเข้าไปในร้าน เมื่อเรียกให้มาอยู่ในร้านแต่ไม่ยอมมา เจ้าของร้านจึงจัดการไปซื้ออาหารเม็ดมาเลี้ยงดูมันซะเลย พอตกกลางคืนหนุ่มเจ้าของร้านได้พบว่า พวกมันต้องหลับนอนข้างถนนท่ามกลางความหนาวจัดแบบนี้ทุกคืน แม้ว่าชีวิตของมันจะยากลำบาก แต่ที่ผ่านมาทั้งสองต่างก็ดูแลซึ่งกันและกันมาโดยตลอด หลังได้เห็นความยากลำบากของพวกมันแล้ว เจ้าของร้านจะไม่ขอทนอีกต่อไป เขานำเอาบ้านหลังน้อยมาตั้งไว้หน้าร้าน เพื่อเป็นที่อยู่ให้พวกมันซะเลย จากนั้นก็พาสัตวแพทย์มาตรวจสุขภาพ หาผ้ามาคล้องคอให้มัน พร้อมทั้งตั้งชื่อให้ว่าเจ้า ‘มินิ’ และ ‘พิซซ่า’ ในที่สุดพวกมันก็ได้กลายเป็นหนึ่งในครอบครัวประจำร้านพิซซ่า ต่อจากนี้พวกมันจะไม่ได้พบกับความอดอยาก และความหนาวเหน็บอีกแล้ว น้องสองตัวหน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบ ท่าทางก็เหมือนกันอีก แล้วแบบนี้จะไม่ให้เจ้าของร้านพิซซ่าใจอ่อนได้อย่างไรล่ะเนอะ โอ๊ยยย น่ารักได้อีกอ่ะแกร >< ที่มา: SBS
-
ร้านอาหารจัดโปรสุดเจ๋ง ส่วนลดพิเศษสำหรับครอบครัวที่ “ควบคุมบุตรหลาน” ได้อยู่หมัด
เคยไหมเวลาที่เราออกไปกินข้าวข้างนอก แล้วเราจะต้องเจอกับครอบครัวที่พาลูกๆ เด็กๆ มากินด้วย แต่แล้วเด็กพวกนี้เนี่ย กลับก่อความวุ่นวาย ส่งเสียงดังไปทั่วทั้งร้าน จนเราไม่อยากจะออกไปกินข้าวตามร้านอาหารเลย แต่ทว่าปัญหานี้จะหมดไป เมื่อร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Antonio Ferrari แห่งนี้ เขาได้มองเห็นถึงปัญหานี้และตั้งโปรโมชั่นใหม่ขึ้นมาว่า “ถ้าลูกๆ ของคุณทำตัวเป็นเด็กดีไม่รบกวนคนอื่น คุณจะได้รับส่วนลด 5% ทันที” เจ้าของร้านคือคุณ Antonio Ferrari ชื่อเดียวกับร้านอาหารเลยนั่นและ เขากล่าวก่อนว่า “ผมเคยเห็นเด็กวัย 5 ขวบเอาเท้าวางไว้ที่โต๊ะ และเด็กวัย 4 ขวบปีนขึ้นไปยื่นอยู่บนโต๊ะและเก้าอี้ในร้าน พ่อแม่ของเด็กพวกนั้น เขาไม่ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ” “ที่สำคัญหลังจากผมไปบอกพ่อแม่ของเด็กพวกเขากลับตอบมาว่า ลูกๆ ของพวกเราจะทำอะไรก็ได้ที่พวกเขาอยากทำ” ด้วยเหตุดังกล่าว เขาเลยตั้งกฎขึ้นมาเป็นพิเศษ นอกจากจะเป็นการช่วยเตือนใจกลุ่มพ่อแม่ที่พาลูกๆ มาทานในร้านให้รบกวนคนอื่นน้อยลง ยังทำให้ทุกคนที่ทำตามกฎได้ส่วนลดดีๆ ไปด้วย Antonio ยังพูดเสริมถึงจำนวนลูกค้าที่ได้รับการลดราคานั่นมีเพียงแค่ 3 ครอบครัวเพียงเท่านั้น นับตั้งแต่เขาเริ่มจัดโปรโมชั่นนี้ขึ้นมา ซึ่งเขาบอกว่ามันหาได้ยากมากๆ ที่จะเจอเด็กกับครอบครัวที่วางตัวดีๆ สักครอบครัวหนึ่ง ท้ายที่สุดเขายังคงหวังว่าจะเจอกับเด็กๆ…
-
ภาพครอบครัวใหญ่ของ “สิงโตขาว” ในเยอรมนี ทั้งอบอุ่นและอบอวลความมุ้งมิ้ง น่ารักมากกก
โดยปกติแล้ว เวลาที่เราเห็นภาพถ่ายของสิงโต มักจะเป็นภาพของสัตว์ตัวใหญ่ที่ดูน่ากลัว และน่าเกรงขาม แต่สำหรับภาพของสิงโตที่เราได้นำมาให้รับชมในครั้งนี้ บอกเลยว่ามันจะทำให้คุณหลงรักสิงโตเหล่านี้ขึ้นมาทันทีเลยล่ะ เพราะเอาจริงๆ แล้ว พวกมันก็มีช่วงเวลามุ้งมิ้งเหมือนกันนะ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ Metro ได้เผยภาพถ่ายหาดูยากของลูกสิงโตสีขาววัยเพียง 8 สัปดาห์ และพ่อแม่ของมัน ที่กำลังคลอเคลีย และนอนพักผ่อนอยู่ด้วยกันที่สวนสัตว์แห่งหนึ่ง ในประเทศเยอรมนี ซึ่งภาพังกล่าว ได้ทำให้เราได้เห็นถึงช่วงเวลาดีๆ ของครอบครัวสิงโตที่ได้อยู่พร้อมกันพ่อแม่ และลูก เรียกได้ว่ามันช่างเป็นภาพที่ดูแล้วน่าประทับใจมากจริงๆ และที่สำคัญเราต้องขอขอบคุณช่างภาพนามว่า Jens Meyer ที่ได้บันทึกภาพหายากเหล่านี้ให้เราได้ชมกัน บอกเลยว่าเห็นแล้วถึงกับยิ้ม และมีความสุขตามเลย ลูกสิงโตน่ารักกำลังเล่นกันอยู่ ส่วนพ่อแม่ก็นอนเฝ้าดูไม่ห่าง ลูกสิงโตขาวตัวน้อยดูรักกั๊นรักกัน อย่าเล่นกันแรงนะลูก ว้าววว!! ภาพครอบครัวสิงโต ที่หาดูได้ยากมากๆ 4 สหายสุดคิ้วท์ สำหรับสิงโตขาว เป็นสิงโตที่มีลักษณะที่แตกต่างจากสิงโตทั่วๆ ไป นั่นก็คือ ขนของมันจะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อน…
-
อะไรจะโชคดีปานนี้? สามีภรรยาท้องลูกแฝดถึง 2 รอบ แชร์ภาพแฟชั่นจนคุณอยากมีลูกแฝดบ้างเลย
น้อยคนมากที่จะมีลูกแฝด (เมื่อเทียบกับสัดส่วนของคนทั่วๆ ไปในปัจจุบัน) บางคนถึงขั้นไปขอพรไหว้พระไหว้เจ้าเพื่อให้ได้ลูกแฝด แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว แต่กับคุณ Juliet และภรรยาสาว Nikki Cannici ดูจะเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพราะเมื่อ 2 ปีที่แล้วพวกเขาได้ให้กำเนิดลูกแฝด 2 คนคือ Nico และ Siena (แฝดชายหญิงด้วยนะ) แต่เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาก็คิดจะมีลูกกันอีกครั้ง ปรากฏว่าท้องที่ 2 ก็ยังคงเป็นลูกแฝดอีก!! พวกเขาตั้งชื่อให้แฝดคู่ใหม่นี้ว่า Gia และ Gemma หลังจากที่คลอดได้ไม่นาน ดูเหมือนว่าแฝดผู้พี่จะประทับใจกับน้องๆ ของพวกเขามาก Juliet และ Nikki เลยจับลูกๆ ของตัวเองมาถ่ายภาพเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก เพราะมันคงไม่บ่อยนักหรอกที่คนเราจะมีลูกแฝดได้ถึง 2 ครั้งติด จากภาพจะเห็นว่า Nico และ Siena แสดงท่าทางราวกับว่าพวกเขาเป็นพี่เลี้ยงเด็กยังไงยังงั้นเลย ครอบครัวของพวกเธอดูจะอบอุ่นขึ้นมาก นางฟ้าตัวน้อยๆ . . .…
-
Mark Zuckerberg แนะพ่อแม่รุ่นใหม่สอนลูกเล่นเกม เพราะมันอาจเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ได้
“เกม” มักจะกลายเป็นจำเลยของสื่อและสังคมอยู่หลายครั้ง เพราะเนื่องจากเป็นสื่อบันเทิงที่เด็กและวัยรุ่นให้ความสนใจมากจนบางครั้งแบ่งเวลาไม่ถูก บางคนก่ออาชญากรรมและโทษว่าทำตามสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากเกม ทำให้ผู้ใหญ่หลายต่อหลายคนมองว่าเกมเป็นสื่อขยะและไม่มีประโยชน์สำหรับเด็กไปโดยปริยาย แต่ในขณะเดียวกัน เกมก็ได้สร้างแรงบันดาลใจอย่างยิ่งใหญ่ให้กับคนบางคน จนสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบชีวิตของคนบนโลกนี้ได้อย่างสิ้นเชิง เช่น Mark Zuckerberg คือผู้ก่อตั้ง Facebook ที่พวกเราใช้งานกันทุกวัน Mark ดูจะเป็นคนที่มีแนวคิดเปิดกว้างเกี่ยวกับเรื่องการเล่นเกมมาก เพราะเขาเองก็เติบโตมากับการเล่นเกมเหมือนกัน และเขายังแนะนำให้พ่อแม่รุ่นใหม่สอนลูกเล่นเกมอีกด้วย ผู้ก่อตั้ง Facebook ได้ตอบคำถามในงานฉลองวันเกิดอายุครบ 31 ปี ค.ศ. 2015 กับสื่อในหลายหัวข้อ และหัวข้อเกี่ยวกับเกมก็เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยเล่าไว้ว่า เขาเติบโตมาทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเมื่อถึงฤดูหนึ่งก็จะมีหิมะให้ปาเล่นกัน แต่ด้วยสภาพอากาศที่แย่ ทำให้พี่สาวของเขาอดเล่นปาหิมะ วันหนึ่งเขาจึงนำเอาการปาหิมะมาเป็นแรงบันดาลใจสร้างเกมปาหิมะบนคอมพิวเตอร์ “มันเป็นเกมที่ห่วยมาก” Mark กล่าว แต่นั่นก็เป็นแรงบันดาลใจเล็กๆ ที่ทำให้เขาสนใจการเขียนโปรแกรมต่างๆ เลยมาจนถึงการสร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างที่เราเห็น และในแง่ของการเล่นเกม ส่วนตัว Mark มองว่าการเล่นเกมเป็นประตูไปสู่การเขียนโปรแกรม หรือทำให้เราอยากต่อยอดมันในแนวทางอื่นๆ “ผมคิดว่าสิ่งรอบๆ ตัวเด็กที่กำลังเติบโตเหล่านี้ เช่นการสร้างเกมและเล่นเกม มันเป็นสิ่งสำคัญมากอย่างหนึ่ง” “เพราะผมคิดว่านี่คือวิธีหนึ่งที่เด็กๆ จะได้เขียนโปรแกรมเป็น…
-
แมวสองพี่น้องถูกแยกที่ศูนย์พักพิงนานกว่า 2 ปี ได้กลับมาเจอกันอีก เมื่อเจ้านายเดทกัน!!
หากสัตว์ที่เคยเป็นพี่น้องกันแยกไปอยู่คนละที่ คิดแล้วมันคงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ หากพวกมันจะมีโอกาสกลับมาพบกันอีกครั้ง แต่ความเป็นไปไม่ได้มันย่อมเป็นไปได้อยู่เสมอ เพราะเรื่องราวที่เราได้นำมาเสนอในครั้งนี้ บอกเลยว่ามันทำจะทำให้คุณรู้สึกประทับใจแบบไม่มีวันลืมเลยละ นี่คือ Ozzy และ Butter แมวเหมียวคู่พี่น้องแสนน่ารัก ที่มีโอกาสกลับมาพบกันอีกครั้ง หลังเคยถูกแยกออกจากศูนย์พักพิงสัตว์ ว้าวววว!! มันน่าเหลือเชื่อมากๆ เลย เรื่องราวของเจ้า Ozzy และ Butter พร้อมกับเหล่าพี่น้องของมันอีกกว่า 4 ตัว เริ่มขึ้นในบ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่มีคนไปพบพวกมันในบ้านหลังนั้น เขาก็ได้นำมันไปส่งที่ศูนย์พักพิงสัตว์แห่งหนึ่งในเปตาลูมา รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าแมวน้อยเพิ่งเกิดทั้งหลายได้รับการดูแลในศูนย์พักพิงเป็นอย่างดี ซึ่งเจ้า Ozzy และ Butter สนิทสนมกันเป็นอย่างมาก พวกมันชอบอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เรียกได้ว่าแทบไม่เคยแยกออกจากกันเลยละ กระทั่ง 9 สัปดาห์ผ่านไป ทางศูนย์พักพิงสัตว์ก็พร้อมที่จะส่งมอบพวกมันให้กับผู้ใจดีที่จะรับมันไปเลี้ยง และเมื่อ Cathleen Cavin และลูกสาวของเธอเดินทางมาถึง เธอก็ได้พบกับเจ้าแมวน้อยที่แสนน่ารัก “ลูกสาวของฉันได้เดินเข้าไปในศูนย์พักพิงสัตว์ เธอเห็นลูกแมวที่น่ารักทั้งสอง พวกมันเหมือนกันมากๆ” Cathleen กล่าว สองแม่ลูกได้ตัดสินใจที่จะรับเจ้าเหมียวทั้งคู่มาเลี้ยง…
-
17 ปฏิกริยาน่าร๊ากจากน้องหมา เมื่อพวกมันได้รู้จักคำว่า ‘ครอบครัว’ เป็นครั้งแรก!!
สำหรับสุนัขไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหนก็ตามแต่ ถ้าหากมันถูกเลี้ยงด้วยความรัก และความเอาใจใส่จากมนุษย์ เชื่อมั้ยล่ะว่าคนที่เลี้ยงมันมาเปรียบได้กับโลกทั้งใบของมันเลยทีเดียว แม้ยามที่เราลำบากพวกมันก็พร้อมที่จะอยู่เป็นกำลังใจเคียงข้างเราเสมอ แต่ก่อนที่เรื่องราวมิตรภาพของทั้งสองจะเริ่มขึ้นได้ ก็ต้องมีวันแรกที่ทั้งคู่ได้เจอกันก่อน เราจะพาไปชม 17 ภาพแห่งควมน่ารัก ที่ส่งผ่านออกมาจากใบหน้า และแววตาของเจ้าตูบน้อย เมื่อพวกมันกำลังจะมีเพื่อนซี้เป็นมนุษย์ใจดี และอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวอันแสนสุข 1. ดูแววตาของเจ้าตัวน้อย ที่กำลังมองพ่อของมันสิ 2. บางทีพวกมันก็ปลื้มปิติซะจนหยุดยิ้มไม่ได้เลย 3. เจ้าตัวเล็กดูท่าทางจะควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นไว้ไม่อยู่นะเนี่ย 4. สำหรับเจ้าตัวนี้ การได้อยู่กับมนุษย์ผู้เป็นที่รัก คือความสุขที่สุดในโลกแล้วล่ะ 5. บางทีก็แอบมาจุ๊บกันตอนเผลอ ไม่ค่อยจะรักเราเท่าไหร่เล๊ยยย 6. ดูแววตา และใบหน้าของมันสิ เปี่ยมล้นไปด้วยความสุขสุดๆ 7. ‘ป๋มรักเจ้านายมากเลย เพราะเจ้านายมีขนหยิกๆ เหมือนกันเลย’ 8. เมื่อเจ้าตัวเล็กได้กอดมนุษย์เป็นครั้งแรก 9. แข่งกันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยนะเจ้าหมาน้อย 10. เจ้าตัวนี้ท่าทางดูไม่ค่อยชินกับการนั่งรถ ถึงกับต้องไปอ้อนแม่เลยเหรอลูก 11. ไม่มีที่ไหนจะปลอดภัย…
-
เด็กสาวและเจ้าตูบ ช่วยชีวิตแม่แพะและลูกแพะแรกเกิด ให้รอดพ้นจากภัยหนาวเหน็บ
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ Thedodo ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวอันสุดแสนประทับใจของ Hamdü Sena Bilgin เด็กหญิงวัยเพียง 11 ปี และ Tomi สุดยอดตูบฮีโร่ ที่ได้ช่วยชีวิตแม่แพะ และลูกแพะตัวน้อยๆ ที่เพิ่งเกิดมาลืมตาดูโลกท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ งานนี้จึงทำให้เธอและเจ้าตูบได้รับคำชื่นชมไปทั่วโลกโซเชียล สำหรับ Hamdü เธออาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งนอกเมือง Rize ในประเทศตุรกี ครอบครัวของเธอทำงานในฟาร์มเลี้ยงแพะเพื่อรีดนมของพวกมันไปขาย ส่วน Hamdü ก็รับหน้าที่เป็นเด็กเลี้ยงแพะ พร้อมกับ Tomi สุนัขแสนรักของเธอ วันหนึ่งในขณะที่เธอและเจ้าตูบกำลังต้อนแพะขึ้นไปกินหญ้าบนเนินเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ Hamdü ก็สังเกตเห็นว่าแม่แพะตัวหนึ่งได้คลอดลูกน้อยของมันออกมา ซึ่งเธอก็ได้คิดว่ามันคงอ่อนแอเกินกว่าที่จะสามารถเดินกลับไปที่ฟาร์ม ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นเธอจึงได้ตัดสินใจทำในบางสิ่งบางอย่าง… “หลังจากที่แม่แพะคลอดลูก เราก็ได้นำฝูงแพะที่เหลือกลับไปที่ฟาร์ม จากนั้นก็ฉันก็คว้ากระเป๋าเป้จากบ้านมาสองใบ แล้วเดินกลับไปหาแม่แพะ และลูกน้อยของมันพร้อมกับเจ้า Tomi” Hamdü กล่าว เมื่อ…
-
ครอบครัวเลี้ยงลูกแนวใหม่ ให้ลูกเรียนรู้ผ่านเกมวันละ 7 ชม. อยู่ที่บ้าน แทนการไปโรงเรียน!!?
เรียกได้ว่าชาวเกมเมอร์ทั้งหลายในบ้านเราทุกวันนี้ คงรู้สึกเหนื่อยใจกับข่าวหน้าหนึ่งที่ผู้ใหญ่มักจะโทษตัวเกม แทนคนเล่น ว่าเกมหน่ะเป็นสิ่งที่ทำให้เยาวชนเสพติด และเป็นต้นเหตุของความรุนแรงทางสังคม (ที่ไม่ใช่ต้นเหตุมาจากความรุนแรงในสถาบันครอบครัว?) แต่สำหรับ ‘Katie Pybus’ คุณแม่ลูก 3 วัย 44 ปี คนนี้เธอมีวิธีการเลี้ยงลูกที่แตกต่างออกไป นั่นก็คือเธอเลือกที่จะให้เด็กๆ หาความรู้จากการเล่นเกมอยู่ที่บ้านวันละ 7 ชม. แทนการไปโรงเรียน!? คุณแม่ได้ให้เหตุผลว่า การที่เธอเลือกที่จะไม่ส่งลูกไปโรงเรียน เพราะเธอคิดว่าการศึกษาในระบบโรงเรียนนั้นมุ่งเน้นไปที่เรื่องของคะแนน และการสอบ มากเกินความจำเป็น “เกมคือสื่อการเรียนรู้อย่างหนึ่งสำหรับครอบครัวเราค่ะ ดิฉันเชื่อมั่นว่าวิธีการหาความรู้ผ่านการเล่น ย่อมเป็นอีกวิธีที่ได้ผลสำหรับเด็กๆ อย่างแน่นอน” คุณแม่เล่า และสิ่งที่เธอทำนั้นเรียกได้ว่าเป็นการศึกษาในรูปแบบ Homeschool คือการศึกษาเรียนรู้อยู่ที่บ้าน ไม่ต้องไปโรงเรียน และทำการเรียนรู้ผ่านสื่อต่างๆ แทนตำราหนังสือ ทุกวันทั้ง 3 พี่น้อง Sapphire, Etienne และ Orin จะตื่นคนละช่วงเวลาตั้งแต่ตี 5, 8 โมงเช้า และเกือบๆ 10 โมงเช้า เมื่อทุกคนพร้อมแล้วก็จะรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน…
-
คุณแม่ถ่ายภาพสุดน่ารักร่วมกับเหล่ามะหมา สร้างความคุ้นเคยให้กับลูกน้อยก่อนคลอด
เชื่อว่าหลายคนบนโลกใบนี้รักสัตว์โดยเฉพาะสุนัข เพราะมันเป็นสัตว์ที่น่ารัก เลี้ยงง่าย และที่สำคัญยังเป็นเพื่อนเล่นเมื่อยามที่เราเหงาอีกด้วย Sanjana Madappa และ Aditya Raheja สองคู่รักชาวอินเดียคู่นี้ ก็เป็นหนึ่งในคนที่รักน้องหมามากๆ เช่นกัน ทั้งคู่ได้แต่งงานกันเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่ฝ่ายภรรยาได้ตั้งครรภ์ ทางแพทย์ก็ได้บอกให้เธอเลือกลูกในท้องมากกว่าสุนัข เพราะเด็กกับสุนัขไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ และเธอต้องหาวิธีการที่จะควบคุมสุนัขเหล่านี้ หรือที่เลวร้ายที่สุดคือเธอจะต้องหาที่อยู่ใหม่ให้กับพวกมัน… แต่เพราะความที่เธอเป็นคนรักสัตว์ เธอไม่สามารถทำได้แน่นอน ดังนั้นเธอจึงปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด ในการหาวิธีที่สร้างความคุ้นเคยระหว่างลูก และสุนัขของเธอ เพื่อพิสูจน์ว่าเด็กสามารถอยู่ร่วมกับสุนัขนั้นทำได้ ดังนั้น เธอจึงได้ตัดสินใจถ่ายภาพสุดประทับใจระหว่างเธอกับสามี พร้อมกับบรรดาสุนัขแสนรักก่อนที่เธอจะคลอด เพื่อแสดงให้เห็นว่าสัตว์เลี้ยงเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนั่นเอง และมันก็เกิดเป็นภาพน่ารักๆ อย่างที่เห็น “ทางครอบครัว เพื่อนๆ รวมถึงแพทย์ได้บอกให้ฉันกำจัดสุนัขเหล่านี้ออกไป เพราะลูกต้องมาก่อน” Sanjana กล่าว สำหรับ Sanjana Madappa ทำงานที่องค์กรสวัสดิภาพสัตว์ ขณะที่ Aditya Raheja สามีของเธอเป็นนักอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงเลี้ยงสุนัขเอาไว้มากมาย หลังจากที่ตั้งครรภ์ Sanjana…
-
พ่อแม่พาลูก 3 ขวบเที่ยวรอบโลก โดยไม่ต้องลาออกจากงาน เพียงแค่ “วางแผน” ให้ดีที่สุด!!
บ่อยแค่ไหนที่เราจะได้ยินเรื่องของคนที่ลาออกจากงานประจำเพื่อที่จะได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่พวกเขาอยากจะทำ โดยส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะออกไปเที่ยวไปดูโลกกว้าง ซึ่งแน่นอนว่าจะมีเกิดคำถามตามมาทันทีว่า “แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อหลังจากลาออก?” “ลาออกแล้วจะมีเงินพอเหรอ?” “มันจะยุ่งยากเกินไปไหม?” Taita Hills, Kenya เรื่องที่กำลังจะพูดถึงนี้เป็นเรื่องของ Łajka กับ Wadyń และลูกสาววัย 3 ขวบของพวกเขา Zazu เดิมทีทั้ง สองทำงานประจำอยู่แล้ว แต่ทั้งคู่ก็เป็นคนที่ชอบเที่ยวเป็นทุนเดิม นั่นจึงทำให้พวกเขาคอยจัดแจงเวลาเพื่อให้พอที่พวกเขาจะได้พาลูกไปเที่ยวที่ต่างๆ อยู่เสมอ พวกเขาเป็นครอบครัวที่จะกำหนดแผนการเดินทางล่วงหน้าตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นแผนสำหรับตอนเย็น แผนสำหรับสุดสัปดาห์ แผนของเดือนหน้า หรือแม้แต่สำหรับครึ่งปีหน้า พวกเขาก็วางแผนไว้ล่วงหน้าเช่นกัน Tonle Sap, Cambodia ซึ่งแน่นอนว่าแผนที่วางไว้ก็เป็นไปได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นไปเจอครอบครัว ไปช็อปปิ้ง ไปเจอเพื่อนฝูง และแน่นอนว่าบ่อยครั้งก็จะเป็นแผนเพื่อไปเที่ยวนั่นเอง ในช่วงเวลา 10 เดือนพวกเขาเดินทางไป 39 สถานที่ใน 9 ประเทศ 3 ทวีป ซึ่งมันเยอะมากๆ เลยทีเดียว เอาเป็นว่ามาดูตัวอย่างกันดีกว่า ว่าพวกเขาไปไหนมาบ้าง Athens, Greece…
-
“Tabboush” เจ้าเหมียวที่เกือบตายอยู่ท่ามกลางสงคราม แต่โชคดีที่มีครอบครัวใจดีมาช่วยไว้
นับตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองในซีเรีย เมื่อปี 2011 มีผู้คนต้องเสียชีวิตไปแล้วกว่า 400,000 คน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ที่ชีวิตรอดทั้งเด็ก และผู้ใหญ่รวมกว่า 11 ล้านคน ต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยเพื่อเอาตัวรอด เมื่อคุณต้องรีบเดินทางออกจากพื้นที่อันตราย แต่กลับพบกับเจ้าเหมียวน้อยตัวหนึ่งถูกทิ้งไว้ คุณจะทำอย่างไร หลายคนอาจจะเดินผ่านมันไปเพราะคิดว่ามันเป็นภาระ หรือบางคนอาจจะเก็บมันมาเลี้ยงเพราะความสงสาร!? ก็เหมือนกับครอบครัวนี้ พวกเขากำลังจะทางอพยพข้ามไปตุรกีเหมือนกับครอบครัวอื่นๆ แต่ทว่าระหว่างนั้นพวกเขาได้พบกับเจ้าเหมียวน้อยตัวหนึ่งต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางสงคราม ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกเขาได้ตัดสินใจเข้าช่วยเหลือมัน และรับมันเข้ามาดูแล มันเป็นลูกแมวที่เพิ่งเกิดได้ไม่นาน แถมต้องอยู่เพียงลำพังท่ามกลางสงครามที่แสนโหดร้าย หลังแม่ของมันถูกฆ่าตายเพราะระเบิด และหลังจากที่พวกเขาได้พบมันเข้า ก็ได้เข้าช่วยเหลือโดยการค่อยๆ ดึงตัวของเจ้าเหมียวน้อยออกจากซากปรักพักพังของบ้านที่ถูกทำลายด้วยระเบิดในเมืองดามัสกัส นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ครอบครัวใจดีได้รับเจ้าเหมียวเข้ามาดูแล พร้อมกับตั้งชื่อให้มันว่า Tabboush ซึ่งในภาษาอาหรับหมายความว่า “อ้วน” นั่นเอง พวกเขาได้เริ่มออกเดินทางกว่าหลายร้อยไมล์ไปยังค่ายผู้ลี้ภัย Idomeni ในประเทศกรีซ และแน่นอนว่าพวกเขาจะต้องพาเจ้า Tabboush ไปด้วย ณ ค่ายผู้ลี้ภัย เจ้า Tabboush ได้มอบความสุขให้กับเด็กๆ และครอบครัวอื่นๆ มันเป็นแมวที่น่ารักมากจริงๆ “เขาอยู่กินกับเรา นอนกับเรา และตื่นขึ้นมาพร้อมๆ…
-
ช่างภาพตระเวนเก็บภาพมื้อเย็น 30 ครอบครัว สะท้อนวัฒนธรรมร่วมโต๊ะของแต่ละบ้าน
อาหารมื้อเย็น ไม่ได้สำคัญเฉพาะกับร่างกายเท่านั้น เพราะอันที่จริงแล้วมันคือช่วงเวลาดีๆของทุกวัน ที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะได้มารับประทานอาหารร่วมกัน พร้อมทั้งพูดคุยเรื่องราวในแต่ละวันที่ผ่านมา ‘Lois Bielefeld’ ช่างภาพสาวที่ออกตระเวณเก็บภาพอาหารมื้อเย็น จาก 30 ครอบครัว โดยเธอได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการถ่ายภาพชุดนี้ว่า “ตอนเด็กๆครอบครัวของฉันมักจะทานอาหารเย็นร่วมกันเสมอ และฉันก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า ทุกครอบครัวจะเป็นแบบนี้เหมือนกันไหม?” “ภาพทั้งหมดนี้ฉันเลือกที่จะถ่ายเฉพาะในเย็นวันจันทร์ ถึงพฤหัสบดีเท่านั้น เพราะฉันอยากจะเก็บภาพอาหารมื้อเย็นของแต่ละครอบครัว หลังจากที่ทุกคนต่างออกไปเจองานหนักมา ซึ่งมันสามารถสะท้อนอะไรหลายๆอย่างได้ดีกว่าอาหารมื้อเย็นในวันหยุดแน่นอน” ช่างภาพเล่า เอาเป็นว่าเราตามไปชมผลงานจากทั้ง 30 ครอบครัวของเธอกันเลย งานนี้ไม่ขออธิบายอะไรมาก ขอปล่อยให้ภาพได้เล่าเรื่องจากตัวมันเองแทนแล้วกันเนาะ จากผลงานของเธอ ทำให้เราได้ตระหนักกลับมาคิดถึงความสำคัญของการใช้เวลาร่วมกับคนในครอบครัวให้มากยิ่งขึ้น จัดว่าเยี่ยมไปเลย!! ที่มา: buzzfeed
-
ครอบครัวหนึ่งช่วยเหลือ ‘3 แมวพี่น้อง’ ขี้กลัวและถูกแม่ทิ้ง แต่ 2 ปีต่อมา พวกมันน่ารักสุดสุ๊ดด
ปัจจุบันยังคงมี ‘แมว’ เร่ร่อนอีกเป็นจำนวนมาก และทาสมนุษย์อย่างเราๆไม่มีวันรู้ได้เลยว่า สำหรับลูกแมวที่ไม่มีครอบครัว หรือไม่มีคนดูแลเอาใจใส่ ในแต่ละวันพวกมันจะต้องเผชิญกับความลำบากมากขนาดไหน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ ลูกแมวทั้ง 3 ชีวิต ที่ถูกนำเอามาเล่าบนเว็บไซต์ LoveMeow เหมือนกัน เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่อากาศภายนอกหนาวเย็นสุดๆ ชายคนหนึ่งได้ยินเสียงลูกแมวกำลังส่งเสียงโอดครวญ เขาจึงเดินตามเสียงนั้นไป แล้วได้พบกับลูกแมว 3 ตัว ที่กำลังดูตื่นกลัว และหิวโหยสุดๆ แมวน้อย 3 ชีวิต ที่ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้ไปเจอเข้า “คุณพ่อของฉันเห็นพวกมันซ่อนตัวอยู่บนทางเดิน ตอนแรกสุดที่เราไปเจอพวกมันมีอายุเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น พวกมันต่างรู้สึกกลัวมนุษย์ ร่างกายสกปรกมอมแมม และหิวโหยอย่างมาก” Zosia Fąfara ลูกสาวเล่า หลังจากนั้นทางครอบครัวจึงได้พาเจ้าเหมียวทั้ง 3 มาอาศัยอยู่ในบ้านเพื่อมอบความอบอุ่น และอาหารให้กับมัน ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้ออกตามหาแม่ของพวกมันด้วย แต่ไม่ว่าจะพยายามหาเท่าไหร่ ก็หาไม่เจอซักที “เราคิดว่าต้องมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับแม่ของพวกมัน เราสังเกตเห็นว่าแมวน้อยทั้ง 3 พยายามจะเรียกร้องหาแม่ และอาหารอยู่ตลอด บางทีมันอาจจะเฝ้ารอให้แม่กลับมา…
-
ครอบครัวหมา 4 ตัว และเหมียวอีก 1 ตัว ต้อนรับ “เจ้านายตัวน้อย” ราวกับรักตั้งแต่แรกเห็น
Roxy, Edith, Rosie, Jake เจ้าหมา 4 ตัว และ Mia เจ้าเหมียวอีก 1 ตัว เป็นครอบครัวที่มีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น พี่น้องทั้ง 5 นั้นรักกันมาก และก็รักเจ้านายของพวกมันด้วยเช่นกัน จนมาวันหนึ่งการมาถึงของสมาชิกใหม่ก็เกิดขึ้น แต่ไม่ใช่รับสัตว์ตัวใหม่เข้ามาเลี้ยงนะ เป็นลูกของเจ้านายที่กำลังจะลืมตาตื่นขึ้นมาดูโลกในเร็ววันนี้ คุณ Kasey Boggs และสามีพบว่าพวกเขากำลังจะมีลูกด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต่างก็ตื่นเต้นที่จะได้ให้การต้อนรับสมาชิกคนใหม่ รวมไปถึง 5 พี่น้องหมาแมวด้วย และวันนั้นก็มาถึงหนูน้อย Sonny ลืมตาตื่นขึ้นมาดูโลก และในที่สุดเจ้านายคนใหม่ของบรรดาพี่น้องหมาแมวก็ได้ย้ายจากโรงพยาบาลมาอยู่ที่บ้าน ในตอนแรกนั้นคุณ Kasey และสามี ก็นึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าเหล่าหมาแมวนั้นจะมีท่าทีอย่างไรบ้าง แต่ทุกอย่างมันง่ายอย่างน่าใจหาย พวกเขาไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลบ “ในตอนแรกนั้นพวกเราก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน และหวังว่าพวกมันน่าจะเข้ากันได้กับสมาชิกใหม่ได้โดยเร็ว พอ Sonny มาถึงที่บ้าน เหล่าหมาแมวทั้งหลายต่างก็กรูกันเข้ามาดมที่เปลของสมาชิกใหม่ด้วยความสงสัย หลังจากนั้นไม่นานพวกมันก็ยอมรับ และแสดงความรักต่อสมาชิกใหม่อย่างรวดเร็ว” คุณ Kasey เล่า ดูสิกอดกันกลมเชียว แต่ดูเหมือนว่าเจ้า…
-
แห่แชร์คลิป หนุ่มน้อยหลั่งน้ำตาปิติ ได้ “ใบรับรอง” ใช้นามสกุลพ่อเลี้ยงเป็นของขวัญ
หากคุณได้ลองถามเด็กๆ ถึงของขวัญที่พวกเขาอยากได้ล่ะก็ เด็กหลายๆ คนคงจะตอบว่าเกม ของเล่น เสื้อผ้า รองเท้า หรืออะไรก็ตามแต่ที่วัยพวกเขาต้องการกัน แต่สำหรับเด็กคนนี้ของสิ่งเดียวที่ล้ำค่าและต้องการมากที่สุดกลับไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลย นี่คือเรื่องราวของหนุ่มน้อย Landon วัย 11 ขวบ ที่เติบโตและได้รับการอุปถัมภ์โดยพ่อเลี้ยงที่ชื่อว่านาย Daniel Rice แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่พ่อลูกกันแท้ๆ แต่พวกเขาก็มีความสนิทสนมกันมากประหนึ่งเป็นพ่อลูกกันจริงๆ จน Landon อยากจะใช้นามสกุล Rice ตามพ่อบุญธรรมของเขาเลย Janelle Rice แม่บุญธรรมของ Landon กล่าวว่า “ตอนที่เขาเรียนจบป. 5 เมื่อเดือนพฤษภาคม เขาขึ้นไปรับใบประกาศณียบัตรแล้วก็บอกกับคุณครูของเขาว่าเขาอยากจะให้นามสกุล Rice มากกว่านามสกุลที่ใช้มาตั้งแต่เกิด นั่นทำให้เรารู้ว่าต้องเริ่มทำอะไรสักอย่าง” แต่ใช่ว่าการเปลี่ยนนามสกุลจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพราะนาย Daniel ต้องยื่นเรื่องและเอกสารมากมายต่อเจ้าหน้าที่รัฐและใช้เวลานานพอสมควร แต่สุดท้ายเข้าก็ได้ “ใบรับรอง” การเปลี่ยนนามสกุลมาให้กับเด็กชาย Landon เรียบร้อย Daniel จึงแอบเอาใบรับรองใส่กรอบมาห่อเป็นของขวัญและเซอร์ไพรส์ลูกชายของตัวเองในวันคริสต์มาส ซึ่งพอ Landon เห็นก็แสดงอาการดีใจจนน้ำตาไหลและแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาดีใจที่ได้ใช้นามสกุลของพ่อขนาดไหน ไปชมเรื่องราวซึ้งๆ ของพวกเขากันเลย …
-
17 ภาพถ่าย ‘บ้าน’ ที่จะทำให้คุณหวนคิดถึง และอยากจะกลับไปกอดคนในครอบครัว
รู้สึกกันมั้ยว่า ระยะเวลาเกือบ 365 วัน มันช่างผ่านไปไวเหลือเกิน เหมือนเรื่องราวทั้งหมดเพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อวานนี้เอง เผลอแป๊ปเดียวก็ใกล้จะได้เวลาต้อนรับปี ‘2017’ เข้าให้แล้ว แน่นอนว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อาจจะด้วยภาระหน้าที่ ที่แตกต่างกัน ทำให้หลายๆคนอาจจะต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัว เพราะฉะนั้นแล้ววันหยุดยาวช่วงปีใหม่นี่แหละ ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่ให้เราได้กลับไปอยู่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง เอาเป็นว่าก่อนจะได้กลับไปเจอญาติสนิทมิตรสหาย เราไปชมภาพถ่ายครอบครัวที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น และความน่ารักกันเลยดีกว่า เห็นแล้วรู้สึกคิดถึง ‘บ้าน’ อย่างบอกไม่ถูกเลยแฮะ สำหรับบ้านนี้ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่รุ่น ‘เบียร์’ ยังคงอยู่ในใจพวกเขาเสมอ ฮ่าๆๆ จากรุ่นสู่รุ่น รอยจูบจากพ่อ ส่งต่อไปจนถึงรุ่นหลาน ภาพถ่ายจากคน 4 รุ่น ที่มีเลือดเนื้อเดียวกัน เอ้าา…เข้าแถวตอน ไล่จากอายุมากสุดไปหาน้อยที่สุด ถึงจะต่างช่วงวัยกัน แต่เมื่อได้มาอยู่รวมกัน ภาพความน่ารักแบบนี้ก็เกิดขึ้น… แฝดสอง 3 รุ่น เป็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะเนี่ย คน 6 รุ่นมารวมตัวกัน แต่ไม่ว่ายังไงทุกคนก็คือครอบครัวของกันและกันอยู่เสมอ …
-
โหดสัสครอบครัวรัสเซีย ถ่ายรูปหมู่กับหมีกริซลี่ ธีมคริสต์มาส แต่ผู้เชี่ยวชาญว่า อันตรายมาก!!
เรียกว่าเป็นความโหดสัสรัสเซียจริงๆ สำหรับภาพถ่ายคริสต์มาสของครอบครัวหนึ่ง ที่จับหมีกริซลี่ตัวเป้ง มาถ่ายภาพสุดฟุ้งฟิ้งกับเด็กเล็กในบ้าน แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การทำแบบนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก และแถมยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า พ่อแม่สองคนนี้ไร้ความรับผิดชอบขนาดไหนอีกด้วย ภาพดังกล่าวเป็นของครอบครัว Alexander และ Darya Vardo จากกรุงมอสโกว ประเทศรัสเซีย ล่าสุดพวกเขาได้ปล่อยภาพถ่ายครอบครัวในธีมคริสต์มาสสุดฟุ้งฟิ้งออกมา ซึ่งมันคงไม่แปลกอะไร ถ้าในภาพไม่ได้มีหมีกริซลี่ตัวบักเอ้กอยู่ด้วย!! โดยในภาพเราจะได้เห็น Alice วัย 8 ปี และ Eve วัย 4 ปี ลูกสาวทั้งสองของบ้านเล่นกับเจ้าหมีกริซลี่อย่างใกล้ชิด ทั้งกอดคอ ขี่หลัง และอื่นๆ อีกมากมาย Olga Barantseva ตากล้องที่ถ่ายภาพชุดนี้เล่าวว่า “Alexander และ Darya อยากได้ภาพคริสต์มาสกับหมีกริซลี่ในฐานะซานต้าคลอส พวกเขาจึงติดต่อขอยืมตัว Stepan เจ้าหมีกริซลี่จากเจ้าของมาถ่ายรูป” “ตอนแรกเด็กๆ มีท่าทางหวั่นเกรงเจ้าหมีตัวนี้เป็นอย่างมาก แต่หลังจากอยู่ด้วยกันซักพัก พวกเขาก็ได้รู้ว่ามันเป็นหมีที่น่ารักและใจดีมาก เห็นว่าแม้แต่ตอนนี้เธอก็ยังถามพ่อแม่อยู่ว่า จะมีโอกาสได้กลับไปเล่นกับ Stepan อีกรึเปล่า” อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับการถ่ายภาพชุดนี้ โดยเฉพาะ Sue…
-
คู่รักจัด ‘ปาร์ตี้ฉลองหย่า’ อดีตรักยังหวานอยู่ เพื่อย้ำว่าทั้งสอง จากกันด้วยดี แฮปปี้นะจ๊ะ…
เรื่องราวของคุณ Michelle Mahoney และอดีตสามีของเธอ Jeff Becerra ทั้งคู่แต่งงานกันมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 20 ปี พร้อมกับมีลูกสาวร่วมกันอีก 2 คน คือ Rylie อายุ 20 ปี และ Emma อายุ 18 ปี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นวันครบรอบที่พวกเขาหย่าขาดจากกัน กลับกลายเป็นว่าทั้งคู่ฃวนกันไปจัดปาร์ตี้ฉลองครบรอบวันหย่ากันซะงั้น!!? แถมยังมีการเชิญชวนแขกเหรื่อมาร่วมงาน ร่วมรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม พร้อมกับเต้นรำด้วยกันอีกต่างหาก (เลิศจริงๆ) “ฉันอาศัยอยู่ร่วมกันกับสามีเก่ามานานถึง 24 ปี และเราก็รู้วิธีการจัดปาร์ตี้สนุกๆ” คุณ Michelle เล่า โดยให้เหตุผลที่จัดงานปาร์ตี้สละชีวิตคู่นี้ขึ้นมาก็เพราะว่าพวกเขาไม่อยากทำให้คนในครอบครัว และเพื่อนๆ รู้สึกอึดอัดใจหลังจากที่เลิกรากันไปแล้ว “พวกเราอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าครอบครัวที่พวกเราสร้างมาด้วยกันกับเรื่องความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่นั้นมันแยกออกจากกัน แน่นอนว่าครอบครัวต้องมาก่อนอยู่แล้ว และพวกเราก็รู้สึกว่าพวกเราทำแบบนั้นจริงๆ และนั่นเป็นเหตุผลที่เราทำการเฉลิมฉลอง” คุณ Michelle กล่าว หนู Emma ได้เล่าถึงครอบครัวของตัวเองว่า…
-
19 สุดยอดภาพถ่าย ‘การคลอดลูก’ ตลอดปี 2016 ที่ผ่านมา กับชีวิตเล็กๆ ที่ตื่นลืมตาดูโลก!!
*คำเตือน!! บทความนี้มีภาพที่อาจจะประกอบไปด้วยเลือด หากใครที่มีอาการเห็นเลือดแล้วจะเป็นลมก็ขอให้ผ่านไปนะจ๊ะ ‘การมีลูก’ เป็นสิ่งที่หลายๆ คนใฝ่ฝันเอาไว้ และตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งในชีวิต ซึ่งแน่นอนว่าเหตุการณ์ในวินาทีที่ชีวิตใหม่ลืมตาขึ้นมาดูโลกย่อมเป็นโมเม้นต์ที่น่าประทับใจและน่าจดจำไปไม่รู้ลืมสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ และในปี 2016 ที่ผ่านมานี้เองก็มีทารกตัวน้อยๆ จำนวนมากมารยที่ลืมตาตื่นขึ้นมาดูโลก และนี่ก็คือภาพถ่ายอันแสนงดงามที่จะมาแสดงให้เห็นถึงความประทับใจของการให้กำเนิดชีวิตใหม่ตลอดปีที่ผ่านมา… 1. คุณพ่อที่พยายามจะตัดสายสะดือด้วยอะเอ่อปาก ของตัวเอง 2. ความจริงหลังการคลอด ที่คุณพ่อต้องดูแล คุณแม่ต้องพักผ่อน เป็นโมเม้นท์ที่ดูแล้วรู้สึกสดชื่นซะจริง 3. การคลอดลูกที่แสนอบอุ่น มีพ่อและพี่ชาย มาช่วยคุณแม่ต้อนรับน้องคนใหม่ 4. การคลอดลูกท่ามกลางธรรมชาติ 5. คุณแม่ที่ทำหน้าที่แม่เป็นอย่างดี แม้ว่ากำลังจะคลอดลูกอีกคนหนึ่งก็ตาม 6. หนูน้อยที่มาให้กำลังใจคุณแม่ ในการคลอดน้อง ราวกับเป็นการต้อนรับสมาชิกใหม่ที่แสนอบอุ่น 7. คุณพ่อที่หลั่งน้ำตาเพราะความดีใจ หลังจากที่ลูกของตัวเองได้ออกมาลืมตาดูโลก 8. ความโล่งใจของคุณแม่หลังจากที่รู้ว่าลูกของตัวเองปลอดภัย 9. ความภาคภูมิใจของคนเป็นแม่ 10. การต้อนรับสมาชิกใหม่สู่ครอบครัว …
-
สามีต้องไปรับใช้ชาติ ภรรยาเลยหาวิธีให้สามี ได้ฉลองคริสต์มาสกับครอบครัว แม้จะอยู่ไกล…
สำหรับชาวตะวันตก เทศกาลคริสต์มาสนั้นสามารถเทียบได้กับวันสงกรานต์ในประเทศไทย ที่เหล่าสมาชิกในครอบครัวต้องกลับมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อเฉลิมฉลองและใช้เวลาร่วมกัน สำหรับครอบครัวของ Ashley Sistrunk เช่นกัน ในวันคริสต์มาสเธออยากให้ครอบครัวของเธออยู่กันพร้อมหน้า และใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุขในวันคล้ายวันเกิดของพระเยซูคริสต์ แต่นั่นคงเป็นไปไม่ได้ เมื่อ Brandon สามีของเธอผู้เป็นทหาร ต้องประจำการอยู่ในประเทศอิรักอันห่างไกล “ฉันเห็นเพื่อนๆ โพสรูปวันคริสต์มาสของครอบครัวพวกเขาลงเฟสบุ๊ก ซึ่งมันน่ารักมากๆ แต่เมื่อมองย้อนมาที่ตัวเอง ฉันก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาที่ทำไมฉันถึงไม่มีภาพแบบนั้นบ้าง ฉันก็เลยคิดว่า ‘ฉันต้องมีภาพวันคริสต์มาสบ้างแล้วล่ะ’” Ashley กล่าว “ฉันเลยเปิดหาไอเดียบนอินเตอร์เน็ตไปเรื่อยๆ จนได้ไอเดียขึ้นมา ฉันให้ Brandon ถือป้ายคำว่า “Merry” แล้วก็ถ่ายรูป จากนั้นฉันก็ถือป้าย “Christmas” แล้วค่อยเอามารวมกัน” “พวกเราแต่งงานกันเมื่อปี 2006 ตั้งแต่เราอายุได้แค่ 18 ปี แต่ด้วยความจำเป็นบางอย่าง Brandon จึงต้องสมัครเข้าเป็นทหารตั้งแต่ฉันท้องได้ 6 เดือน จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่ใจดีมาก เขาสามารถทำทุกอย่างให้กับทุกคนได้ ขอแค่บอกเขา อย่างเช่นภาพคริสต์มาสตลกๆ เหล่านี้ไง” Ashley เล่าอย่างภูมิใจ Ashley…
-
คุณแม่ป่วยมะเร็งสุดซาบซึ้ง หลังได้รับน้ำใจที่คาดไม่ถึง คนแปลกหน้าแอบจ่ายค่าอาหารให้…
เรื่องราวของ Jerina Edwards คุณแม่ลูก 3 วัย 33 ปี ชาวเมืองทุลซา รัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษามากมายเพราะป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559 โดยหลังจากที่ทราบว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งนั้น Jerina ก็เข้ารับการฉายแสงไปแล้วเป็นจำนวนกว่า 33 ครั้ง รวมถึงการทำคีโม และผ่าตัดเต้านมทิ้ง อีกทั้งโรคที่เป็นก็ทำให้เธอต้องสูญเสียเส้นผมไปทั้งหมดอีกด้วย แม้ว่าชีวิตของเธอจะต้องมาเจอกับโรคร้าย แต่ครั้งหนึ่ง Jerina ก็ยังได้พบกับเรื่องราวดีๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งในวันนั้นเป็นวันที่เธอได้ไปรับประทานอาหารกับครอบครัวที่ร้านอาหารจีนแห่งหนึ่ง และหลังจากที่เธอและครอบครัวกำลังรอจ่ายเงินค่าอาหารอยู่นั้น ทางพนักงานของร้านจึงนำบิลค่าอาหารราคาราวๆ 1780 บาท ที่จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วมาให้เธอ พร้อมกับมีข้อความระบุเอาไว้ว่า… “เมื่อ 5 ปีก่อน ภรรยาของผมได้จากไปด้วยโรคมะเร็ง ผมรู้ดีว่าการต่อสู้กับโรคนี้มันยากลำบากแค่ไหน สำหรับค่าอาหารมื้อนี้ ผมได้จ่ายให้คุณแล้ว เมอร์รี่คริสต์มาสครับ” หลังจากอ่านข้อความจบ ก็ทำให้ Jerina รู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก และเธอก็ได้นำภาพบิลที่ถ่ายเอาไว้ไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊ค เพื่อเล่าเรื่องราวดีๆ ที่เธอได้เจอในวันนั้น “การป่วยเป็นมะเร็งก็มีข้อดีเหมือนกัน เพราะมันทำให้ได้เห็นว่ายังมีคนจิตใจดี และห่วงใยผู้อื่นอยู่บนโลกใบนี้…
-
Charles เจ้าหมูที่ยังคงรอรอยเจ้านายอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน หลังจากที่บ้านถูกทำลายเพราะไฟป่า
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า “ไฟป่า” เป็นภัยร้ายแรงที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนไปด้วย และเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2559 ทางเว็บไซต์ Thedodo มีรายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ ในเขตพื้นที่รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ผู้คนที่อาศัยในพื้นที่บริเวณนั้น รวมถึงครอบครัวของ Rob Holmes ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟป่าครั้งรุนแรงในนี้เข้าอย่างจัง ดังนั้น เขาจึงต้องรีบภาพครอบครัวอพยพออกจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เนื่องจากควันไฟจำนวนมาก ได้ทำให้ลูกชายวัย 18 เดือนของเขาหายใจลำบาก ในช่วงเวลานั้น สิ่งที่ Rob สามารถพาขึ้นรถไปได้ก็คือ ลูกๆ และภรรยา รวมถึงสุนัข และแมวเหมียวของเพื่อนบ้าน แต่ทั้งนี้เขายังมีสัตว์เลี้ยงอีกหนึ่งตัวคือ Charles เจ้าหมูตัวอ้วน ที่อยากจะเดินทางไปพร้อมกับเขา แต่ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่มากๆ ของมัน จึงทำให้ Rob ไม่สามารถพามันเข้ารถมาในรถได้ และนั่นก็ทำให้เจ้า Charles ต้องอยู่ท่ามกลางไฟป่าที่รุนแรงเพียงลำพัง อีกทั้งพวกเขาก็ไม่สามารถกลับมารับมันได้ทัน จึงทำให้ Andrea ลูกสาวของเขาร้องไห้ไม่หยุด …
-
15 คู่พ่อแม่ลูกที่มิกซ์แอนด์แมทช์ชุดแต่งกายเข้ากัน จึงกลายเป็น ‘คู่ดูโอ้สุดชิค’ ไปเลย!!
สำหรับเหล่าพ่อแม่ทั้งหลายแล้วการเลือกเสื้อผ้าให้กับลูกๆ ใส่นั้นเองก็ถือเป็นงานที่ยากพอสมควรเลยทีเดียวล่ะ เพราะปัจจุบันนั้นแฟชั่นสำหรับเด็กๆ เองก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบ จนไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดี และบางครั้งพอเลือกมาแล้วก็ไม่ถูกใจคุณลูกๆ ซะอีก แต่ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมการมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าของคุณพ่อคุณแม่มาใส่ให้กับคุณลูกๆ ทั้งหลาย จนกลายเป็นคู่พ่อแม่ลูกสุดชิคไปเลย 1. แหม่ สวยกันทั้งแม่ทั้งลูกเลยจริงๆ valentina.liani 2. พาลูกไปเดินเล่นที่ไหนก็มีแต่คนมองแหละนะ kindofstory_ 3. คู่พ่อลูกสุดชิค jai_amaru_13 4. มาเป็นครอบครัวเลยทีเดียว highwithstyle 5. ร็อคเกอร์กันหน่อยมั้ยล่ะ? mavericksmedia 6. จะเป็นนักบัลเล่ต์ตามรอยคุณแม่มั้ยจ๊ะหนูน้อย? scoutfashion 7. คุณพ่อแซ่บซะขนาดนี้ขอจองตัวลูกไว้ก่อนเลยก็แล้วกัน cananvolkancetin 8. แนวแบ๊วๆ ก็ทำให้โลกดูสดใส >< alonafrans 9. แซ่บตั้งแต่ยังเด็กๆ เลยนะหนูน้อยย fashionabletwinning 10.…
-
18 ภาพช่วงเวลาประทับใจ เมื่อคุณพ่อได้เห็นลูกใน ‘ชุดเจ้าสาว’ ความสุขที่เหนือคำบรรยาย
เมื่อกล่าวถึง ‘งานแต่งงาน’ หลายๆ คนจะรู้ว่ามันเป็นงานที่สำคัญที่สุดในช่วงชีวิตเลยทีเดียว เพราะถืว่าเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของชีวิตครอบครัว เจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็จะออกจากบ้านไปสร้างครอบครัวร่วมกัน เนื่องจากว่า #เหมียวหง่าว ได้ไปเห็นภาพของคุณพ่อที่ได้เห็นลูกสาวตัวเองสวมชุดเจ้าสาวในวันงานแต่งงาน มันช่างเป็นโมเม้นท์ที่น่าประทับใจเสียจริงๆ ก็เลยอยากจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นจะรักและทะนุถนอมคนเป็นลูกผู้หญิงมากกว่าลูกผู้ชาย การที่รู้ว่าลูกสาวสุดที่รักนั้นจะต้องออกจากบ้านไปสร้างครอบครัวเป็นของตัวเอง ย่อมเป็นความภาคภูมิใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่เลยล่ะ น้ำตาแห่งความปิติยินดี… ไม่ว่าใครต่างก็ต้องตกใจ เพราะว่ากันว่าวันที่ผู้หญิงจะสวยที่สุดนั้นก็คือวันที่ได้สวมชุดเจ้าสาว เธอช่างงดงามเสียจริง อ้อมกอดที่จริงใจที่สุด แม้ว่าจะวางมาดดุมาโดยตลอด แต่พอวันนี้มาถึงไม่ว่าใครต่างก็ต้องน้ำตาร่วงกันทั้งนั้น โอ้พระเจ้า ลูกช่างเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเลย เป็นภาพที่บอกเล่าความรู้สึกได้แม้ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ รอยยิ้มที่แสนอบอุ่น… ขอให้โชคดีนะลูกรัก… ต้องขอบอกเลยว่าแต่ละภาพนี่แสดงถึงความรู้สึกได้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องมีคำบรรยายใดเลยล่ะ T T ที่มา : difundir
-
19 ภาพความน่ารักของสัตว์คู่แม่ลูก ที่ทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นหัวใจตาม (คิดถึงแม่ขึ้นมาเลย)
ถึงจะเป็นเพียงแค่สัตว์โลกตัวหนึ่ง แต่ก็ใช้ว่าจะไม่มีการแสดงความรักและความรู้สึกที่มีต่อกันหรอกนะ เพราะในช่วงเวลาที่สัตว์แม่ลูกได้อยู่ด้วยกันนั้น รู้หรือเปล่าว่าพวกเขาน่ารักมากขนาดไหน เพราะนอกจากแม่สัตว์จะรักลูกของมันมากๆ แล้ว ยังคอยดูแลลูกจนเติบใหญ่ และมอบอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นกับลูกๆ ของพวกมันไม่ต่างไปจากมนุษย์เลย ถึงแม้ว่าสัตว์บางชนิดอาจจะไม่ได้อยู่กับแม่ของพวกมันไปตลอด แต่ดูเหมือนพวกลูกๆ จะรู้สึกถึงความรักที่แม่มอบให้ และ 19 ภาพเหล่านี้จะทำให้คุณได้เห็นถึงความรักของสัตว์คู่แม่ลูกที่มีต่อกัน บอกเลยว่ามันดูอบอุ่น และน่าประทับใจมาก ผู้เป็นแม่จะสนับสนุนในสิ่งที่ลูกอย่างทำทุกอย่าง เธอจะคอยปกป้องคุณเสมอ รู้สึกมีพลังขึ้นมาทุกทีที่แม่กอด จูบของแม่อ่อนโยนมากที่สุด ความรักระหว่างแม่กับลูกได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เธออยู่กับคุณมาตั้งแต่เกิดเลยละ พยายามปกป้องลูกน้อยภายใต้ปีกที่แข็งแกร่ง รู้สึกปลอดภัยที่มีแม่คอยดูแล ผู้ที่จะอนุญาตให้คุณขึ้นมานั่งบนไหลได้ก็คือแม่เท่านั้น เป็นภาพที่ดูแล้วรู้สึกมีความสุขมาก แม่มักจะดีใจเวลาที่ได้เห็นลูก หากลูกเศร้า แม่ก็จะยิ่งเศร้ามากกว่าหลายเท่า และถ้าหากเห็นลูกมีความสุข แม่ก็จะมีความสุขด้วย รักของแม่ยิ่งใหญ่เสมอ ไม่มีใครจะทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัยได้เท่าแม่อีกแล้ว ลูกสามารถทำทุกอย่างได้ตามต้องการ โดยที่แม่ไม่เคยบ่นเลย เธอไม่เคยรำคาญ หรือโกรธ เวลาที่คุณจะตามเธอไปทุกที่ๆ…
-
คุณพ่อลูก 4 แชร์ประสบการณ์ความเหนื่อย ของการมีลูกเยอะ มันช่างโหดร้ายอะไรขนาดนี้!!
การมีครอบครัวที่อบอุ่น และมีลูกๆ ที่น่ารักนั้นถือเป็นเป้าหมายของผู้ชายหลายคนเลย ลำพังแค่เราดูแลภรรยาก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยากอะไรเพราะโตเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว (สำหรับบางคนอาจจะยาก) แต่สำหรับการเลี้ยงดูลูกๆ ให้เติบโตเป็นคนที่ดีของสังคม (อย่าเพิ่งพูดถึงคนดีของสังคมเลย เอาแค่เลี้ยงง่ายๆ ก่อนดีกว่า) น่าจะเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายคนเป็นพ่อมาก ยิ่งถ้ามีลูกๆ ที่อายุไล่เลี่ยกันถึง 4 คนด้วยล่ะก็ ไม่ต้องนึกเลยว่าจะวายป่วงขนาดไหน หากคุณยังไม่เคยได้สัมผัสประสบการณ์หนักหน่วงแบบที่ว่านี่ล่ะก็ #เหมียวฟิ้นมีตัวอย่างมากให้ชมกัน นี่คือเรื่องราวของคุณพ่อรายหนึ่งที่ชื่อว่านาย Simon Hooper เขามีลูกทั้งหมด 4 คน ไล่ตั้งแต่คนโต 9 ขวบ 6 ขวบ และฝาแฝดคนเล็ก 10 เดือน อีก 2 คน แม้ว่านาย Simon จะมีประสบการณ์การเลี้ยงลูกมาแล้ว 2 คน แต่เขาก็ไม่ได้เตรียมใจว่าการตั้งครรภ์ของภรรยาครั้งที่ 3 จะออกมาเป็นลูกแฝด ทำให้เขาต้องเหนื่อยคูณ 4 เลย แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็เกิดไอเดียแปลกๆ อย่างการเปลี่ยนความเหนื่อยในแต่ละวันให้กลายเป็นเสียงหัวเราะด้วยการสร้างบัญชีอินสตาแกรมขึ้นมา @father_of_daughters แล้วโพสต์ภาพภารกิจและอุปสรรคที่เขาต้องเจอในแต่ละวันของการเป็นพ่อ ผลจากการโพสต์ภาพฮาๆ ของเขา ทำให้ตอนนี้เขาเริ่มกลายเป็นคนดังในอินเตอร์เน็ต…
-
เจ้าเหมียวจรวางแผนยึด ยืนขวางหน้าประตูบ้าน ข้าเลือกเจ้าแล้ว จงเปิดประตูให้ข้าซะ!!
เกิดเป็นแมวจร วันๆ ได้แต่นั่งมองแมวบ้านใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับเจ้านาย คิดแล้วมันช่างน่าอิจฉายิ่งนัก แล้วเมื่อไหร่กันละ ที่เราจะมีโอกาสได้อยู่ในบ้านหลังใหญ่ แต่ก็นะ…รอแล้วรออีกก็ไม่เห็นมีใครมารับไปเลี้ยงสักคน ถ้าอย่างนั้นขอหาบ้านเองเลยก็แล้วกัน หึ!! และนี่คือ อดีตแมวจนไร้ที่อยู่อาศัย ปัจจุบันมีบ้านหลังใหม่ และมีเจ้านายใจดีคอยดูแลอยู่ ซึ่งก่อนหน้าที่มันจะได้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ มันไม่ได้ถูกพาเข้าบ้าน หรือถูกรับมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ แต่มันมัดมือชกเจ้าของ โดยการมาปรากฏตัวอยู่หน้าประตู พร้อมทำท่าทางราวกับว่า ให้ข้าเข้าไปเดี๋ยวนี้นะ!! ทางด้านเจ้าของบ้าน ที่เลี้ยงแมวอยู่แล้วถึง 2 ตัว ก็ได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด โดยการวางกับดักเพื่อจับตัวมัน พร้อมทั้งพยายามหาบ้านใหม่ให้ โดนผ่านทางศูนย์พักพิงสัตว์ จริงๆ แล้วเรื่องมันควรจะจบลงตั้งแต่นำตัวเจ้าเหมียวไปส่งให้กับทางศูนย์พักพิง แต่ทว่าในขณะที่เขาได้เอากับดักที่จับมันไว้ออกจากรถ เจ้าเหมียวมันกลับหนีออกมาได้… และอีก 3 วันต่อมา พวกเขาก็ได้พบเจ้าเหมียวตัวเดิมอีกครั้ง โดยภาพที่เห็นคือมันกำลังนั่งอยู่ตรงประตูที่เดิมเลยจ้า หืมมม ตื้อจริงๆ จนในที่สุดมนุษย์ก็พ่ายแพ้ให้กับแมวเหมียวอีกครั้ง โดยการรับมันเข้ามาอยู่ในบ้าน เฮ้อ…แผนตื้นๆ ของแมว ก็หลงเชื่อกันง่ายๆ แบบนี้เลยหรอ ฮร่าๆ หลังจากที่ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในครอบครัวของเจ้านายคนใหม่ได้สำเร็จ เจ้าเหมียวก็ดูเหมือนจะมีความสุขกับการเป็นแมวบ้านซะเหลือเกิน …
-
ช่างภาพตามถ่าย ชีวิตของ “สัตว์เลี้ยง” ทั่วทุกมุมโลก จากครอบครัวที่มีรายได้แตกต่างกัน
มีสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ ที่ได้ก่อกำเนิดขึ้นมาเป็นเวลานานนับหมื่นปี เช่นเดียวกับการเลี้ยงสัตว์ ที่มนุษย์ได้เริ่มเลี้ยงเมื่อประมาณ 15,000 ปีมาแล้ว ดังนั้น จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนทั่วโลก ถึงแบ่งปันความรักให้กับเจ้าสัตว์ตัวน้อยๆ อย่างหมา แมว กระต่าย ฯลฯ และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางด้านเว็บไซต์ Dollar Street ได้เผยชุดภาพจากทาง Gapminder ที่เก็บรวบรวมภาพถ่ายของสัตว์เลี้ยงจากทั่วทุกมุมโลก โดยมีจุดประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันของพวกสัตว์ ที่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะดี ไปจนถึงครอบครัวที่ยากจนที่สุด และเปิดหูเปิดตาให้คนทั่วไป ได้เห็นชีวิตของสัตว์เลี้ยงทั่วโลกว่าเป็นอย่างไรบ้าง ว่าแล้วก็มาชมภาพถ่ายของพวกมันกันเลย… เหมียวจากครอบครัวชาวไลบีเรีย ที่มีรายได้เดือนละ 1,700 บาท เจ้าเหมียวที่อาศัยอยู่กับครอบครัวของชาวรัสเซีย ที่มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน พี่หมาที่อาศัยอยู่กับเจ้านายชาวเม็กซิกัน ที่มีรายได้ 224,000 บาทต่อเดือน สุนัขตัวนี้ อาศัยอยู่กับครอบครัวชาวเฮติ ที่มีรายได้เดือนละ 1,400 บาท แมวเหมียว จากครอบครัวชาวตูนิเซีย ที่มีรายได้เดือนละ 7,700 บาท…
-
ปฏิบัติการ ‘ลูกแมวน้อยยึดบ้าน’ เริ่มจากขอให้คนช่วย แล้วจับสัตว์ทุกตัวในบ้านเป็นลูกน้องข้า!!!
เรื่องราวของเจ้าเหมียวน้อยชุดทักซิโด้วัย 3 สัปดาห์ ถูกช่วยเหลือออกมาก่อนที่มันจะถูกการุณยฆาต มันคิดถึงแม่ของมันมาก แต่ก็ได้ครอบครัวใหม่ที่แสนอบอุ่นประกอบไปด้วยเจ้าหมาและเจ้าเหมียวมากหน้าหลายตา ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้า Reggie เจ้าเหมียวมีอายุเพียงแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น แต่ก็ต้องมาพบกับชะตากรรมที่น่าเศร้า “มันถูกพาไปไว้ที่ Kill Shelter (สถานสงเคราะห์สัตว์ที่อนุญาตให้ฆ่าสัตว์ได้ถ้าไม่มีคนมารับไปเลี้ยง) ในเมือง New York City และมีเวลาเหลืออยู่ไม่มากก่อนที่มันจะถูกพาไปรมยา” คุณ Kelly เล่า “แต่โชคยังดีที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ North Shore Animal League และฉันได้เข้าไปติดต่อเพื่อขอรับมันมาอุปถัมป์ไว้ได้ทัน และตอนนี้มันก็ได้อยู่กับฉันแล้ว มันเป็นแมวที่น่ารักมากๆ เลย” เจ้าเหมียวตัวน้อยนั้นไม่มีพี่น้องหรือครอบครัว และดูเหมือนมันจะคิดถึงแม่มันมากๆ เลยล่ะ เมื่อเจ้าเหมียวน้อยมาถึงที่บ้านอุปถัมป์ แมวเหมียวอีกสองตัวที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็ให้การต้อนรับมันเป็นอย่างดี หลังจากนั้นเจ้าเหมียวน้อยก็ได้มีครอบครัวอย่างที่มันไม่เคยได้มีมาก่อน เจ้าหมา Suzie พี่ใหญ่ของที่บ้านอุปถัมป์นี้เองก็เช่นกัน เมื่อเจ้านายของมันพาเจ้าเหมียวตัวน้อยมาไว้ยังบ้านอุปถัมป์แห่งนี้ มันก็รีบปรี่เข้าไปให้การต้อนรับเป็นคนแรกเลย และแน่นอนว่าเจ้า Reggie เองก็ไม่สามารถที่จะทนต่อความรักที่เจ้า Suzie มอบให้ ทั้งคู่ก็กลายมาเป็นครอบครัวเติมเต็มชีวิตในส่วนที่ขาดหายให้แก่กัน เจ้า…
-
รู้จักกับ 8 ครอบครัวลูกดก ขยันสร้างสมาชิกใหม่… เยอะยิ่งกว่าทีมฟุตบอลซะอีก!!
เคยได้ยินคำว่า ‘ขอให้ลูกดกเต็มบ้านเต็มเมือง’ มั้ย? แน่นอนว่ามันเป็นคำอวยพรสำหรับคู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ เพราะเหล่าญาติทั้งสองฝั่ง ต่างก็รอคอยวันที่เจ้าหลานตัวน้อยได้ให้กำเนิดออกมา และสำหรับมนุษย์ยุคใหม่อย่างเราๆ หลายคนอาจจะขอบายเรื่องการมีลูก หลายคนอาจจะบอกว่ามีซัก คนสองคน ก็พอแล้ว แต่คราวนี้ #เหมียวบ็อบ จะพาไปรู้จัก 8 ครอบครัวที่แบบว่า ลูกดกสุดๆ ไม่รู้ว่าพ่อแม่เค้าโด๊ปอะไรกัน ถึงได้แรงดี ไม่มีตกกันขนาดนี้ 1. คู่รักบราซิล กับลูกชายทั้ง 13 คน Irineu Cruz และ Jucicleide Silva สองสามีภรรยาจากบราซิล ทั้งคู่มีความพยายามที่อยากจะมีลูกสาวมาโดยตลอด 20 ปี แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ถึงได้แต่ลูกชายแทนซะงั้น 2. คุณแม่กับลูกสาว 14 คน และจะไม่หยุดจนกว่าจะได้ลูกชาย Augustina Higuera แม่บ้านวัย 29 เธอได้ให้กำเนิดลูกสาวมาแล้วทั้งหมด 14 คน!! อีกทั้งยังมีแพลนว่าจะไม่หยุด จนกว่าจะได้ลูกชาย และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เธอเพิ่งให้กำเนิด คู่ฝาแฝด…
-
เมื่อชายแดนสหรัฐฯ – เม็กซิโก เปิดเพียงแค่ 3 นาที เป็นบรรยากาศแห่งน้ำตาและความคิดถึง…
คราวนี้ #เหมียวบ็อบ จะขอพาเพื่อนๆข้ามไปอีกฝั่งตรงข้ามโลกของเรา นั่นก็คือแถบประเทศสหรัฐฯ นั่นเอง ซึ่งหลายๆคนคงรู้ดีว่า มีคนจำนวนมากที่จำเป็นต้องลี้ภัย หรือพยายาหลบหนีเข้าสหรัฐฯ ทั้งหมดก็เพื่อสร้างชีวิตใหม่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องจากครอบครัวอันเป็นที่รักมาก็ตาม และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีจำนวน 5 ครอบครัว ที่ถูกคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ โดยใช้ชื่อโครงการว่า ‘Opening The Door of Hopes’ ซึ่งเกิดจากการร่วมมือกันของด่านตรวจคนเข้าเมือง และองค์กรไม่แสวงผลกำไร Border Angels ซึ่งทางผู้จัด จะทำการคัดเลือก 5 ครอบครัว ที่ยืนรออยู่ทั้งสองฝั่ง เพื่อให้พวกเขาได้กลับมาอยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแค่ 3 นาทีเท่านั้น (สั้นจัง T_T) และงานนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีจำนวนเพียงแค่ 5 ครอบครัวเท่านั้นที่ถูกเลือกมา แต่ช่วงเวลา 3 นาทีที่เกิดขึ้น ล้วนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากเกินจะอธิบาย เราลองตามไปชมภาพจาก Border Angels กันเลย…
-
คุณพ่อน้ำตาซึม ได้รับ ‘เอกสารรับเลี้ยงบุตร’ เป็นของขวัญวันเกิด จากลูกสาวบุญธรรม!!
ความรู้สึกของผู้เป็นพ่อเป็นแม่นั้นไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดใดๆ ได้เลย เพราะว่าในสิ่งเหล่านี้หากเราไม่ได้ประสบด้วยตัวเองก็คงจะไม่อินกับมันซักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็รับรู้ได้จากสิ่งที่เห็นไม่มากก็น้อย อย่างในกรณีของคุณพ่อ Jay Pages ที่ได้รับเลี้ยงลูกสาวบุญธรรม โดยที่ยังไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกันกับเขา จนกระทั่งวันนั้นก็มาถึงในวันเกิดของเขาเอง ซึ่งนับว่าเป็นวันที่เขาได้รับของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ของขวัญที่ดีที่สุดชิ้นนั้นก็คือ ‘เอกสารอนุญาตรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม’ ที่ลูกสาวได้รับนามสกุลเดียวกันกับพ่อบุญธรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณพ่อได้รับกล่องของขวัญที่ดูเรียบง่าย ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ข้างในนั้นบรรจุซองเอกสารเอาไว้ และเมื่อเขาได้อ่านข้อความในเอกสารนั้นแล้ว เขาถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เพราะนั่นคือเอกสารอนุญาตรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม โดยที่ลูกสาวบุญธรรมของเค้านั้นได้เปลี่ยนนามสกุลเดียวกันกับเขาแล้ว หมายความว่าเธอเป็นลูกสาวของเขาอย่างเต็มตัว แม้จะไม่ใช่ของที่มีมูลค่ามากมาย แต่สำหรับจิตใจนับว่าเป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดสำหรับผู้เป็นพ่อแล้ว ที่มา : Jay Pages
-
ที่นี่รัสเซีย!! ศาลตัดสินให้อดีตคู่รักแบ่งทรัพย์สินคนละครึ่ง ด้วยการ ‘ก่อกำแพง’ ขึ้นกลางบ้าน!?
ก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่าฉายา ‘โหดสึสรัสเซีย’ นั้นไม่ได้มาง่ายๆ เพราะว่าชาวรัสเซียนั้นเขามักจะทำอะไรที่มันโหดสึสซะจริงๆ อย่างเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังต่อไปนี้ คุณ Margarita Tsvitnenko หญิงชาวรัสเซียวัย 45 ปี เพิ่งจะทำการหย่าร้างกับสามีกันไปหมาดๆ ศาลจึงตัดสินให้ทั้งคู่แยกทรัพย์สมบัติออกเป็นสองส่วนและแบ่งกันอย่างละครึ่ง รวมไปถึงแมนชั่นสุดหรูมูลค่า 85 ล้านบ้านด้วย ซึ่งตามวิธีปกติธรรมดาก็คือเราจะต้องเอาไปขายและนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน หรือถ้าไม่อยากขายบ้านก็ต้องให้ฝ่ายที่เก็บบ้านไว้หาเงินมาทดแทน แต่ศาลที่นี่กลับใช้วิธีที่โหดสึสรัสเซีย โดยให้เจ้าหน้าที่เอาอิฐมาก่อแบ่งเขตกันกลางบ้านเท่านั้นเอง!!? หลังจากสิ้นสุดการตัดสินไม่นาน เจ้าหน้าที่จากศาลก็เข้ามาพร้อมกับเทปูนก่ออิฐกั้นที่กลางบ้าน และปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือส่วนของบันไดที่มีอยู่เพียงที่เดียวในบ้านนั้นดันไปอยู่ในฟากที่เป็นของสามี นั่นทำให้เธอและลูกๆ ไม่สามารถเดินขึ้นไปใช้งานห้องข้างบนได้เลย ด้วยความอัดอั้นตันใจก็เลยโพสต์เรื่องราวลงบนโซเชียลมีเดีย เธอเล่าว่า “จู่ๆ มาวันหนึ่ง Sergey (อดีตสามี) ก็มาบอกว่าเขาจะทิ้งฉันไป ก่อนหน้านั้นเรามีปัญหากันเพราะเหมือนว่าธุรกิจของเขากำลังมีปัญหา” “ฉันพยายามปฏิเสธเขาเพราะว่าฉันรักเขา และก็คิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีหากลูกๆ ต้องอยู่โดยที่พ่อแม่แยกจากกัน” “แต่สุดท้ายเขาก็ทิ้งฉันไปอยู่ดี เพื่อไปหาสิ่งที่ดีกว่า และฟ้องหย่ากับฉัน” ศาลได้ตัดสินให้ทั้งคู่แยกทางกันและแบ่งทรัพย์สินกันคนละครึ่ง รวมไปถึงแมนชั่นสุดหรูที่ตั้งอยู่ในเมือง Moscow ด้วย พนักงานของศาลได้เดินทางมายังแมนชั่นของพวกเขาแล้วก็จัดแจงแบ่งพื้นที่กันเรียบร้อย จากนั้นก็ลงมือจัดการก่อกำแพงขึ้นมาซึ่งบันไดที่มีเพียงที่เดียวในบ้านนั้นดันไปอยู่ในฝั่งของอดีตสามีเธอทั้งหมด อันที่จริงแล้วศาลก็ได้บอกว่าให้เธอสร้างบันไดในฝั่งของตัวเองแล้วแต่ คุณ…
-
พ่อถูกตำรวจรวบ หลังพาลูกสาวออกไป ‘ทิ้งไว้นอกบ้าน’ ตอนกลางคืน เพื่อตัวเองได้แอบไปเสพยา
คำกล่าวที่ว่า “พ่อแม่ทุกคนรักลูก” ดูจะขัดกับความเป็นจริงอยู่สักหน่อยนะ เพราะในสังคมทั่วไปแล้ว มีทั้งพ่อแม่ที่รัก ดูแลเอาใจใส่ห่วงใยลูก และพ่อแม่ที่ไม่ใยดีไม่สนว่าลูกของตัวเองจะเป็นตายร้ายดียังไงเหมือนกัน เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่น่าตกใจคลิปหนึ่งของนาย Adrian Justin Sanchez วัย 41 ปีจากรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทิ้งลูกสาวตัวน้อยไว้ที่ด้านนอกอาคารของวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ท่ามกลางอุณหภูมิหนาวจัด ชมคลิปได้ที่นี่ ตามรายงานบอกว่านาย Justin ได้พา Acelynn ลูกสาววัย 5 ขวบ ออกมาเดินแถวๆ หน้าวิทยาลัย Ogden Weber Applied Technology College ในเมืองอ็อกเดน รัฐยูทาห์ ในช่วงเวลาประมาณตี 5 จากนั้นเขาก็ทำท่าเหมือนมองหาอะไรบางอย่าง ก่อนจะเดินหนีลูกสาวไป ปล่อยให้เธออยู่อยู่ท่ามกลางอากาศอุณหภูมิ 3.8 องศา พร้อมกับเสื้อกันหนาวและผ้าห่มผืนเล็กๆ จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าหนูน้อย Acelynn เอาแต่เดินไปเดินมา บางครั้งก็หยุดลงนอนกับพื้นบ้าง จนเธอทนไม่ไหวร้องไห้อยู่คนเดียวท่ามกลางความหนาวเหน็บ ต่อมาในเวลา…