Tag: ครู
-
ครูในอเมริกาถูกจับกุม เหตุ “ตัดผม” นักเรียนโดยไร้สาเหตุ แถมร้องเพลงชาติไปด้วย
การที่คุณครูจะทำการ “กล้อนผม” นักเรียนเพื่อลงโทษนักเรียนที่ผมยาวกว่าเกณฑ์นั้นอาจจะเป็นสิ่งที่พบเห็นได้จนชินตาในประเทศไทย แต่สำหรับรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ไม่ใช่เรื่องปกติเลยที่ครูคนไหนจะเข้ามาทำการตัดผมของนักเรียน Margaret Gieszinger ครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนเตรียมเข้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมือง Visalia แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมในข้อหากระทำอันตรายต่อนักเรียน เธอได้บังคับให้นักเรียนของเธอเดินมานั่งเก้าอี้ ขณะที่เธอเองนั้นถือกรรไกรอยู่ในมือ จากนั้นเธอก็ลงมือตัดผมของนักเรียนออกไปเป็นกระจุกพร้อมกับเปล่งเสียงร้องเพลงชาติออกมาอย่างภาคภูมิ Margaret Gieszinger ชมคลิปเหตุการณ์ จากวิดีโอจะเห็นได้ว่า Margaret ครูวัย 52 ปี ได้สั่งนักเรียนชายคนหนึ่งที่กำลังจะเดินกลับโต๊ะเรียนของตัวเอง ให้มานั่งลงบนเก้าอี้ที่วางอยู่หน้าห้อง เธอพูดออกมาว่า “ยังไม่เสร็จนะ” พอนักเรียนชายมานั่งลงที่เก้าอี้ดังกล่าว Margaret เธอก็ทำการ “ตัดผม” ของนักเรียนชายคนนี้ออกหนึ่งกระจุกและโยนผมกระจุกนั้นทิ้งไป พร้อมกับร้องเพลงชาติของสหรัฐอเมริกาควบคู่ไปด้วย เรียกมานั่ง ตัดผมออกไปหนึ่งกระจุก หลังจากนั้น Margaret ก็หันมาเรียกนักเรียนหญิงอีกคนพร้อมดึงผมของนักเรียนหญิงคนดังกล่าวเอาไว้ ทำให้นักเรียนคนอื่นๆ เริ่มหวาดผวา ส่งเสียงกรีดร้องและวิ่งหนีออกจากห้องเรียน นักเรียนหญิงในห้องคนหนึ่งชื่อว่า Lilli Gates เล่าว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันแปลกประหลาดมาก เธอไม่เคยเห็นครูของเธอเป็นแบบนี้มาก่อน… “หนูลองถามเพื่อนๆ คนอื่นดูว่าปกติแล้วครูเป็นอย่างนี้หรือเปล่า เพื่อนๆ…
-
ดราม่าญี่ปุ่น ครูไม่ให้คะแนนเด็ก เพราะไม่ใช้ “ไม้บรรทัด” ขีดเส้น แม้คำตอบจะถูกแล้วก็ตาม
พอเข้าใจได้ว่าวิชาคณิตศาสตร์นั้นเป็นวิชาที่ยากสำหรับใครหลายคน หลายครั้งเมื่อทำการบ้านวิชานี้ส่งครูเมื่อไหร่ก็จะต้องมีผิดมีพลาดกันบ้างเป็นธรรมดา แต่เหตุการณ์ในวันนี้ กลับเป็นความผิดที่ชวนงงงวยสุดๆ เพราะคำตอบที่ได้จากการคำนวณนั้นถูกต้องเป๊ะๆ แต่ครูก็ยังให้ผิดเพียงเพราะ “ไม่ใช้ไม้บรรทัดในการขีดเส้น” ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่น @Toraphgu ผู้เป็นครูกวดวิชาได้โพสต์ภาพการแก้โจทย์การคูณตัวเลขของนักเรียนคนหนึ่ง ที่แม้ว่าจะมีคำตอบที่ถูกต้องแต่คุณครูที่โรงเรียนกลับให้ผิดเพราะว่าเส้นแนวนอนไม่ใช้ไม้บรรทัดในการช่วยขีด คำตอบถูกต้อง แต่ผิดเพราะไม่ใช้ไม้บรรทัด @Toraphgu เขียนอธิบายบนทวีตดังกล่าวว่า “วันนี้ผมตกใจมากที่เห็นนักเรียนกวดวิชาคนหนึ่งของผม ถูกครูที่โรงเรียนตัดสินว่าผิดเพียงเพราะเขาแสดงวิธีทำด้วยมือเปล่าๆ และไม่ได้ใช้ไม้บรรทัด” เมื่อชาวเน็ตผ่านมาเห็นเรื่องดังกล่าวก็เข้ามาคอมเมนต์กันยกใหญ่ เช่น… “ผมคิดว่าครูในโรงเรียนน่าจะทำงานหนัก…หนักจนกลายเป็นบ้า” “ลูกของผมก็มาฟ้องเรื่องแบบนี้ประจำ ผมก็งงว่ามันเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ตรงไหน เขียนด้วยมือมันก็โอเคนี่นา” “ผมว่าไม้บรรทัดมันก็มีข้อดีของมันนะ แต่มาลงโทษเด็กที่ไม่ใช้ไม้บรรทัดแบบนี้มันออกจะผิดประเด็นไปหน่อย” “ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนฉันถูกสอนไม่ให้ใช้ไม้บรรทัดนะเพราะว่ามันเสียเวลา” “หรือว่าคุณครูเขาจะมีเอี่ยวกับบริษัทผลิตไม้บรรทัดกันแน่ นี่เป็นการโฆษณาใช่ไหมเนี่ย?” ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าการใช้ไม้บรรทัดนั้นทำให้การขีดเส้นดูตรงและสะอาด แต่ชาวเน็ตเองก็ไม่เห็นด้วยว่าการคุณครูควรให้ “ผิด” กับคำตอบของนักเรียน ที่มา: Twitter/@Toraphgu และ soranews24
-
คุณครูลงมือบันทึก “รอบประจำเดือน” ของนักเรียนหญิง ช่วยปัญหา ‘วันนั้น’ ของเด็กๆ
ผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์ทั่วไปอาจจะคอยสอนความรู้เชิงวิชาการให้กับเด็กๆ แต่คุณครูผู้ทุ่มหัวใจให้กับการดูแลเด็กนักเรียนมากๆ จะทำอะไรที่มากกว่านั้น เช่นคุณครูมัธยมในเมืองเวลลิง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ที่นอกจากจะสอนเด็กๆ แล้วยังช่วยบันทึกตารางการเป็น “ประจำเดือน” ของนักเรียนหญิง แถมยังต้มน้ำตาลทรายแดงให้ดื่มนักเรียนหญิงดื่มเพื่อบำรุงร่างกายในช่วงที่มีประจำเดือนอีกด้วย Mo Qunli คุณครูวัย 38 ปีชาวจีน ได้ทำการบันทึกตารางการเป็นประจำเดือนของนักเรียนหญิงเพื่อให้นักเรียนของเขาสามารถคาดเดารอบเดือนได้อย่างแม่นยำ ชาวเน็ตส่วนหนึ่งชื่นชมในการกระทำของเขา แต่ส่วนหนึ่งก็คิดเห็นตรงกันข้าม อาจารย์ท่านดังกล่าว กล่าวว่า “บางคนบอกว่าผมเป็นพวกโรคจิต แต่ก็ช่วยไม่ได้เราจะไปบังคับให้ทุกคนมาเข้าใจได้อย่างไร ผมก็เลยไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น” คลิปวิดีโอ . นอกจากนี้ คุณครูท่านนี้ยังมีการนำน้ำตาลทรายแดงมาต้มเพื่อให้นักเรียนหญิงที่มีอาการปวดท้องประจำเดือนได้ดื่มเพื่อบรรเทาอาการ ซึ่งจะได้มีสมาธิในการเรียนหนังสือต่อไป Mo ใช้วิธีบันทึกรอบเดือนของนักเรียนหญิงแต่ละคนลงบนแผ่นกระดาษ และแปะติดไว้บนกระดานไวท์บอร์ด เพื่อให้นักเรียนสามารถเดินมาอ่านกันได้อย่างทั่วถึง และยังทำให้นักเรียนชายเข้าใจว่าควรประพฤติตนอย่างไรต่อนักเรียนหญิงอีกด้วย นักเรียนชายบางคนก็มาช่วยคุณครู Mo ต้มน้ำตาลทรายแดงเอาไว้ให้นักเรียนหญิงได้ดื่ม ต้มน้ำตาลทรายแดง บันทึกรอบเดือนลงกระดาษและแปะไว้ที่ไวท์บอร์ด คุณครู Mo กล่าวว่าการเป็นครูนั้นจะต้องรับบทเป็นพ่อแม่ด้วยในบางครั้ง ดูแลเด็กนักเรียนให้เหมือนกับดูแลลูกของตนเอง แล้วนักเรียนก็จะมองว่าครูคือพ่อและแม่อีกคนของพวกเขา “ฉะนั้น ผมไม่คิดว่าการบันทึกรอบประจำเดือนของเด็กนักเรียนเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม” Mo Qunli…
-
ครูใหญ่โรงเรียนจีนถูก “ไล่ออก” หลังพบว่าใช้ไฟฟ้าโรงเรียนในการ ‘ปั๊ม’ เงินดิจิทัล
ครูใหญ่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งของมณฑลหูหนานประเทศจีนถูกไล่ออกเพราะมีคนจับได้ว่าแอบใช้ไฟฟ้าของโรงเรียนในการสร้างห้อง “ปั๊ม” เงินดิจิทัล Cryptocurrency Lei Hua อาจารย์ใหญ่แห่งโรงเรียนมัธยมต้นในเมืองเฉินโจว ทุ่มเงินกว่า 10,000 หยวน (กว่า 47,000 บาท) ในการซื้ออุปกรณ์สำหรับกอบโกย Cryptocurrency โดยที่เขานั้นไม่รู้เลยว่าการกระทำดังกล่าวทำให้มีค่าใช้จ่ายสำหรับไฟฟ้าสูงขึ้นมาก สูงกระทั่งเขาไม่สามารถจ่ายมันได้ด้วยตัวเอง เขาจึงตัดสินใจย้ายอุปกรณ์ทั้งหมดมาไว้ที่โรงเรียน โดยจัดวางในห้องควบคุมไฟฟ้า เขาใช้ทั้งไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตของโรงเรียนเพื่อกอบโกยเงินดิจิทัลสกุล Ethereum อย่างต่อเนื่อง การกระทำของครูใหญ่ทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าไม่พอและอินเทอร์เน็ตช้าลงจนทำให้เกิดปัญหา ทั้งเด็กนักเรียนทั้งครูผู้สอนต่างพากันบ่นอย่างไม่พอใจ เมื่อมีคนมารายงานปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าให้ครูใหญ่ Hua ฟัง เขาก็กลับปัดความรับผิดชอบโดยการอ้างว่าน่าจะเป็นเพราะอากาศร้อน แต่ภายหลังเสียงการทำงานของเครื่องปั๊มเงินของครูใหญ่ก็ดังจนไม่อาจเก็บซ่อนเอาไว้ได้ กระทั่งถูกค้นพบในที่สุด พอนับมูลค่าความเสียหายรวมของโรงเรียนแล้ว คิดได้เป็นเงิน 14,714 หยวน (เกือบ 70,000 บาท) นั่นทำให้ครูใหญ่ Hua ถูกไล่ออก เพราะประเทศจีนนั้นยังไม่อนุญาตให้ผู้คนมีการข้องเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin หรือ Ethereum จนกว่าทางการจะสามารถแนะแนวการใช้งานที่เหมาะสมได้ ที่มา: nextshark และ Xinhua
-
ครูใหญ่อินโดฯ บังคับเด็กนักเรียน “สูบบุหรี่” หลังจับได้ว่าแอบไปสูบกันในสนามเด็กเล่น
สำหรับนักเรียนที่อยู่ในวัยคาบเกี่ยวระหว่างวัยเด็กกับวัยรุ่น เวลาที่พวกเขามีพฤติกรรมต้องห้าม อย่างเช่น การสูบบุหรี่ เนื่องจากความอยากรู้อยากลอง ผู้ใหญ่และคุณครูเองก็จะต้องมีวิธีสั่งสอนและลงโทษ ขณะที่หลายๆ คนกำลังคิดว่าการรับมือกับเด็กที่กระทำพฤติกรรมแบบนี้อาจจะต้องใช้วิธีสอนให้รู้จักกับโทษของอบายมุขและอาจมีการตีบ้าง หักคะแนนบ้าง โรงเรียนแห่งหนึ่งในอินโดนีเซียกลับมีวิธีการลงโทษเด็กที่ถูกจับได้ว่าแอบสูบบุหรี่ที่แปลกประหลาดกว่าที่พวกเราคิด เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คุณครูท่านหนึ่งจับได้ว่ากลุ่มเด็กนักเรียนราว 11 คนกำลังแอบสูบบุหรี่กันในสนามเด็กเล่นของโรงเรียนประถมในเมืองซูคาบูมี ครูท่านนั้นจึงพาเด็กกลุ่มดังกล่าวไปพบกับครูใหญ่ของโรงเรียนเพื่อรอรับการตัดสินโทษ Tati Maelati ผู้เป็นครูใหญ่ของโรงเรียน แทนที่จะรายงานพฤติกรรมของเด็กให้ผู้ปกครองทราบ เขากลับยื่นบุหรี่ให้เด็กๆ ทั้งกลุ่มคนละหลายมวน แล้วสั่งให้จุดสูบให้ดู ชมคลิปวิดีโอ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมครูใหญ่ถึงมีการลงโทษเด็กแบบนี้ มันจะเป็นการยื่นสิ่งที่ไม่เหมาะสมให้กับเด็กหรือเปล่า? ทางครูใหญ่เองก็เผยออกมาว่า “ที่ทำแบบนี้ก็เพราะว่ามันจะช่วยเป็น เครื่องยับยั้ง ชั้นดีให้กับเด็กๆ เพราะเด็กจะรู้สึกแย่ที่ต้องสูบบุหรี่ รู้สึกว่าการสูบบุหรี่มันไม่สนุกและเป็นอันตราย ซึ่งถือว่าคุ้มมากทีเดียว” วิดีโอด้านบนถูกถ่ายโดยครูประจำชั้น ป.2 คนหนึ่ง ซึ่งเขาหัวเราะออกมาทันทีที่เห็นว่าเด็กทำท่าไม่อยากสูบบุหรี่อีก อย่างไรก็ตามการลงโทษของครูใหญ่ในครั้งนี้ได้ทำให้ผู้ปกครองหลายคนเกิดความไม่พอใจจนต้องขอเข้าพบครูใหญ่คนนี้กันเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันหน่วยงานปกป้องเด็กในชุมชนรวมถึงตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐเองก็ออกมาต่อว่าการกระทำของครูใหญ่ในครั้งนี้เช่นกัน ที่มา: ladbible และ metro
-
ครูกวดวิชาในญี่ปุ่น ถูกจับกุมเพราะ “เลียหู” นักเรียน อ้างเป็นวิธีการจับโกหก!!
หลายครั้งที่เด็กนักเรียนมักโกหกคุณครูด้วยเหตุผลบางประการ นั่นทำให้ครูหลายคนต้องงัดมาตรการจับโกหกของตัวเองออกมาใช้ และครูคนหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นก็งัดไม้เด็ดออกมา เขาบอกว่าเขาสามารถจับโกหกเด็กนักเรียนได้เพียงแค่เขา เลียหู เด็กคนนั้น!!? คุณครูวัย 32 ปี Teruki Suira เป็นครูสอนในโรงเรียนกวดวิชา Shinsei ในจังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น เขากล่าวกับนักเรียนชายคนหนึ่งว่า “ครูจะรู้ทันทีว่าเธอโกหกหรือเปล่า ถ้าครูเลียหูของเธอ” และจากนั้นเขาก็ใช้มือทั้งสองข้างของเขาจับที่ไหล่ของนักเรียนชายวัย 14 ปีคนนี้แล้ว เริ่มเลียหูข้างขวาของนักเรียนทันที จากรายงาน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นราวเวลา 16.50 น. ของวันที่ 14 สิงหาคม และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าจับกุมนาย Teruki ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมา นาย Teruki กล่าวว่า… “ผมเลียหูเด็กก็จริง แต่นั่นเป็นหนึ่งวิธีการสอนเด็กให้อยู่ในลู่ทางที่ถูกต้องนะ” ล่าสุดคุณครูคนนี้ก็ยอมรับว่ามีการใช้วิธีเลียหูเด็กนักเรียนเพื่อจับโกหกจริง และกำลังอยู่ในขั้นตอนสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเดียวกันชาวเน็ตที่รับรู้เรื่องราวดังกล่าวกลับเกิดอารมณ์ขันทันทีเมื่อรู้ว่าคุณครูคนนี้มีพฤติกรรมเลียนแบบตัวละครจากการ์ตูนเรื่อง JoJo’s Bizarre Adventure จินตนาการภาพได้จากคลิปการ์ตูนเรื่องนี้… วิธีจับโกหกของคุณครูคนนี้จะได้ผลจริงมั้ยไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือใครโดนเข้าไปเป็นต้องขนลุกกันแน่นอนเลยล่ะ……
-
เปิดใจหญิงสาวที่ฝึกตนเป็น “แม่ชี” กว่า 8 ปี แต่ลงเอยด้วยอาชีพ “ดาราหนังโป๊”
ชีวิตของคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงได้แทบทุกวินาที เพราะทุกการตัดสินใจนั้นจะเปลี่ยนแปลงผลที่ตามมาเสมอ… อย่างเช่นหญิงคนหนึ่งที่ทุ่มเทเวลาเกือบหนึ่งทศวรรษของชีวิตเธอ ฝึกตนอย่างหนักเพื่อเป็น แม่ชี อย่างเต็มตัว แต่ปัจจุบันเธอได้กลายเป็น ดาราหนังโป๊มืออาชีพ ไปเสียแล้ว Yudi Pineda หญิงสาวจากเมือง Ituango ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโคลอมเบีย ได้ยุติการฝึกตนเป็นแม่ชี และหันมาสร้างผลงานหนังผู้ใหญ่อย่างเต็มความสามารถ Yudi กล่าวกับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า เธอนั้นเข้าโบสถ์ตั้งแต่ยังเป็นเด็กอายุราวๆ 10 ขวบ และฝึกปฎิบัติตนที่นั่นเป็นเวลาถึง 8 ปี เธอกล่าวว่าขณะที่ฝึกตนเป็นแม่ชีอยู่ในโบสถ์เธอมีความสุขมากๆ แต่เมื่อเธอเริ่มโตขึ้นเธอกลับรู้สึก หลงรัก ครูสอนศาสนาของเธอเข้า เธอจึงตัดสินใจออกจากโบสถ์และไปหางานทำ Yudi Pineda ครั้งแรกเธอทำงานเป็นพนักงานในบริษัท Nestlé และทำให้มีโอกาสได้พบกับ Juan Bustos ผู้ที่มองหานางแบบเว็บแคมสำหรับหนังผู้ใหญ่ นั่นทำให้เธอตัดสินใจจะเปลี่ยนงาน Yudi กล่าวว่า… “ทีแรกฉันรู้สึกแย่มาก แต่ตอนนี้โอเคขึ้นแล้ว ฉันรู้สึกดีมากเวลาที่ไปเข้าโบสถ์ ฉันไม่เคยพลาดสักครั้งเลยไม่ว่าจะวันศุกร์ เสาร์ หรืออาทิตย์” เธอบอกว่าเธอมักเลี่ยงที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับอาชีพของเธอ ขณะเข้าไปสารภาพบาปในโบสถ์ แม้ว่าเธอเองจะคิดว่างานของเธอนั้นเป็นสิ่งที่ “เหมาะสม” และ “เป็นศิลปะ”…
-
ผู้สมัครสอบครูผู้ช่วย ส่งเอกสารขอดูคะแนนแต่ติด “แสตมป์ 7-11” สำนักงานศึกษาธิการเงิบ!!
เรียกได้ว่าเป็นภาพเหตุการณ์แปลกๆ ที่ทั้งเรียกเสียงหัวเราะและเสียงวิจารณ์เชิงลบได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อผู้สมัครสอบ “ครูผู้ช่วย” ส่งเอกสารขอรับคะแนนมาเป็นซองพร้อมแสตมป์เซเว่น… เมื่อค่ำวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดหนองบัวลำภู ได้โพสต์ภาพของซองเอกสารขอรับคะแนนสอบที่ไม่เหมาะสม ประกอบไปด้วยสองภาพ ภาพแรก เป็นภาพซองจดหมายที่มีการจ่าหน้าซองเรียบร้อยแต่แสตมป์ที่ติดมานั้นหาใช่ดวงตราไปรษณียากรไม่ แต่กลับเป็นแสตมป์ที่ได้จากการซื้อของในร้าน 7-ELEVEn เสียอย่างนั้น แสตมป์เซเว่น!! ส่วน ภาพที่สอง เป็นภาพของซองเอกสารที่มีการจ่าหน้าซองพร้อมติดดวงตราไปรษณียากรสำหรับส่งแบบด่วน (EMS) ทั้งยังเขียนกำกับหน้าซองว่า “ส่ง EMS ให้ด้วย” ซึ่งดูเหมือนประโยคคำสั่งที่ไม่ควรใช้ในบริบทของทางการ “ส่ง EMS ให้ด้วย” หากว่ากันตามความเหมาะสม การขอดูคะแนนสอบนั้นควรส่งเอกสารคำร้องขอดูคะแนนไปยังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ผ่านทางไปรษณีย์ โดยให้ใช้ซองสีน้ำตาลพร้อมติด ตราไปรษณียากร (ไม่ใช่แสตมป์อะไรก็ได้) งานนี้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดถึงกับกุมขมับกับสิ่งที่พวกเขาได้รับจากผู้สมัครสอบครูผู้ช่วย จึงต้องออกมาโพสต์ภาพซองจดหมายดังกล่าวพร้อมให้ข้อมูลและตักเตือน ไม่ให้ผู้สมัครสอบคนอื่นๆ ทำแบบเดียวกันอีก ชาวเน็ตที่พบเห็นโพสต์นี้ก็ต่างพากันคอมเมนต์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก เช่น… “เอาไรคิด?” “คือไรอะครับ อันนี้ไม่เคยส่งหรือคิดมาแล้วเลยทำเพราะจะเอาฮา หรือ*ง่จริง” “กลัวไม่ถึง จัดเลย 9 บาท 5555” “ติดสแตมป์เซเว่นนี่คือคิดยังไง…
-
หนูน้อยฟ้องครูว่า “พ่อปลูกกัญชา” พอเธอพาไปดูหลักฐาน ถึงกับขำน้องจนท้องแข็ง~
เด็กๆ ที่ไร้เดียงสานั้นจะว่าน่ารักมันก็ใช่ แต่ถ้าจะว่าน่าหยิกมันก็ถูก เพราะหลายครั้งไอ้ความไร้เดียงสาของเด็กๆ นี่เองที่ทำให้เราต้องปวดหัวอย่างมาก เช่นเหตุการณ์นี้ ที่คุณพ่อของหนูน้อย Skylar Holt ได้รับโทรศัพท์จากทางโรงเรียนของเธอซึ่งไม่ใช่เรื่องผลการเรียนหรือพฤติกรรมเกเรแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับที่เขา เพาะปลูกกัญชา ไว้ที่บ้าน! หนูน้อย Skylar ได้รายงานกับคุณครูว่าที่บ้านของเธอนั้น Dax Holt ผู้เป็นพ่อได้ปลูกกัญชาเอาไว้ เมื่อคุณพ่อได้คุยกับครูเรียบร้อย เขาก็มาขอคำอธิบายและหลักฐานจากสาวน้อย Skylar และตรงนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้องของ “ความน่ารักน่าหยิก” ของเด็กน้อย ที่มีความเข้าใจ “ผิดๆ” เกี่ยวกับกัญชา เรื่องราวจะน่ารักน่าหยิกหรือน่าปวดหัวขนาดไหน ไปชมกันเลย… พ่อ: “วันนี้ลูกบอกอะไรกับครูเหรอ?” ลูก: “กัญชาไม่ดีต่อสุขภาพนะคะพ่อ” ลูก: “เพราะกัญชามันดูคล้ายกับหญ้า…” ลูก: “แต่มันไม่ใช่…มันคือกัญชา” พ่อ: “แล้วลูกได้บอกหรือเปล่าว่าบ้านเรามีกัญชาอยู่เยอะเลย?” ลูก: “บอกค่ะ” พ่อ: “วันนี้พ่อคุยกับคุณครู ครูบอกว่าบ้านเรามีกัญชาเยอะแยะเลย ลูกอยากอธิบายอะไรหน่อยมั้ย?” ลูก: “เอ่อ…ไม่ดีกว่า” พ่อ: “เราปลูกกัญชาไว้ที่บ้านเยอะแยะเลยเหรอ?”…
-
โรงเรียนจีนลงโทษ “นักเรียนแอบใช้มือถือ” โดยให้ออกมา ‘ขว้างลงพื้น’ จนกว่าจะแตก…
ภายในโรงเรียนแต่ละแห่งก็จะมีมาตรการในการป้องกันไม่ให้นักเรียนมีการ ใช้โทรศัพท์มือถือขณะเรียน ที่แตกต่างกันไป โดยบางที่อาจจะตัดคะแนน หรือบางที่ก็อาจจะริบโทรศัพท์ไปเลย แต่สำหรับโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งในประเทศจีน มีวิธีการป้องกันและลงโทษนักเรียนที่ถูกจับได้ว่าใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียนที่หนักหน่วงและโหดกว่าที่เคยเจอจากที่ไหนๆ เพราะหากนักเรียนคนใดที่ถูกจับได้ว่าแอบใช้มือถือขณะเรียนจะต้องออกมาหน้าห้องแล้ว ปาโทรศัพท์มือถือ เครื่องนั้นลงพื้นด้วยตัวเอง เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2018 ได้มีคลิปวิดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ออกมาบนโลกออนไลน์ เป็นคลิปวิดีโอการทำโทษเด็กนักเรียนที่แอบเล่นโทรศัพท์มือถือขณะเรียน ทำเอาชาวเน็ตต่างวิจารณ์กันกระหน่ำเกี่ยวกับคลิปดังกล่าว ภายในคลิป เป็นภาพเหตุการณ์การลงโทษนักเรียนที่แอบใช้มือถือขณะเรียนของโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งในหยงเซ่า มณฑลหูหนาน ประเทศจีน โดยมีการให้นักเรียนที่ถูกจับได้ออกมาปาโทรศัพท์มือถือลงพื้นด้วยตนเอง คลิปวิดีโอ นักเรียนปาโทรศัพท์มือถือลงพื้นเพราะถูกจับได้ว่าแอบใช้ในห้องเรียน ตามรายงานจาก The Paper คุณครูในคลิปวิดีโอที่ภายหลังทราบว่าสกุล Xiong บอกว่าเด็กนักเรียนขอขว้างโทรศัพท์มือถือด้วยตนเองหลังพบว่าตนเองทำผิด แต่ตามรายงานแล้วพบว่าคุณครู Xiong เป็นผู้ที่ “บังคับ” ให้นักเรียนทำแบบนั้น ซึ่งกระทรวงการศึกษาก็ชื่นชมที่คุณครูพยายามรักษากฏโรงเรียน แต่การลงโทษในครั้งนี้มีความรุนแรงเกินไป คุณครู Xiong จึงได้รับโทษโดยการถูกลดเงินเดือน นักเรียนขว้างโทรศัพท์มือถือลงพื้นด้วยตนเอง จนกว่าจะเสียหายตามสมควร . นักเรียนอีกคนหนึ่งก็ต้องทำเช่นเดียวกัน . แม้ว่าโรงเรียนดังกล่าวจะมีมาตรการป้องการใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างเรียนที่เข้มงวด แต่ก็มิได้มีบทลงโทษที่เหมาะสมชัดเจน หลังจากเหตุการณ์นี้ ทางโรงเรียนจึงได้ประกาศว่าจะหาทางจัดการกับปัญหานี้ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ส่วนชาวเน็ตที่พบเห็นเรื่องนี้ก็ต่างวิจารณ์กันไปหลากหลายความเห็น เช่น……
-
คุณน้าชี้แจง ‘ครูตรวจการบ้านผิด’ เป็นเพราะ ‘เร่งรีบและงานเยอะ’ วอนขอความเห็นใจด้วย
จากกรณีของ ‘ครูตรวจการบ้านเด็ก’ ที่กลายเป็นประเด็นให้เหล่าวชาวเน็ตมากมายทั่วไทยต้องมาถกกัน สรุปแล้วคำตอบไหนมันถูกกันแน่!? อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่ : สาวถึงกับงง สอนการบ้านหลานไป คุณครูกลับตรวจว่าผิด สรุปผิดหรือไม่ผิดอย่างไร!? เผื่อใครจำไม่ได้ ลองเอาข้อการบ้านลองไปแซมเปิ้ลสัก 2-3 ข้อกันดูหน่อยก็แล้วกัน สรุปแล้วโจ้เก็บมะม่วงได้ทั้งหมดกี่ผลกันแน่!? ลุงมีฝรั่งทั้งหมดกี่ผล? . จากโจทย์การบ้านเหล่านี้ทำให้มีชาวเน็ตมากมายต่างก็สงสัยว่า เอ๊ะ!? เด็กก็ทำถูกหมดแล้วนี่ แต่ทำไมครูถึงบอกว่าผิดล่ะ หรือมันมีวิธีคิดอย่างอื่นที่ถูกต้องอยู่กันแน่นะ!? #เหมียวหง่าว ขอตั้งข้อสันนิษฐานไว้แบบนี้ครับ หากสังเกตดูดีๆ แล้วในคำสั่งได้บอกเอาไว้ว่าเป็นโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ซึ่งจากภาพที่ยกมานั้นเราจะเห็นได้ว่ามีบางข้อที่ถูก ซึ่ง ‘ตัวเลข’ ในข้อที่ถูกนั้นจะมีจำนวนน้อย แสดงว่าข้อนั้นเป็นข้อที่เด็กหาคำตอบได้จากการลบ แต่กลับกลายเป็นว่าข้อที่ต้องบวกนั้น ‘ผิดหมดเลย’ ตรงนี้อาจจะเป็นได้ว่า คุณครูน่าจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับโจทย์การบ้านอย่างแน่นอน!! ซึ่งล่าสุดเมื่อราวๆ 9 นาฬิกา ของวันนี้ ทางด้านคุณน้าของเด็กที่ทำการบ้านผิด และเป็นคนนำภาพเหล่านี้มาแชร์ในโลกโซเชียล ก็ได้ทำการโพสต์ชี้แจงแถลงไขถึงที่มาของการตรวจการบ้านในครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว ลองไปอ่านโพสต์เต็มๆ กันดูครับ เมื่อทราบดังนั้นแล้วชาวเน็ตมากมายต่างก็เข้าไปให้ความเห็นกันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าคนเรามันผิดพลาดกันได้ เป็นการจบที่สวยงาม…
-
คุณครูญี่ปุ่น ‘ฝีมือเทพ’ วาดการ์ตูนบนกระดานดำเพื่อ ‘เรียกสปิริต’ ให้นักเรียนเพื่อแข่งกีฬา!
สำหรับเด็กนักเรียนทั้งหลาย การเรียนนั้นย่อมเป็นสิ่งสำคัญและเป็นหน้าที่หลักที่จะต้องทำ ขณะเดียวกันก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องของ กีฬา เพราะนั่นทำให้พวกเขาได้มีสุขภาพที่ดีและมีความสามัคคีกับผู้อื่น โรงเรียนแทบทุกแห่งจึงต้องมีการจัด กีฬาสี ที่ให้เหล่านักเรียนได้มาแข่งขันกีฬากันอย่างสนุกสนาน ซึ่งถือเป็นอีกสีสันหนึ่งในชีวิตของการเป็นเด็กนักเรียน My Hero Academia ฝีมือวาดบนกระดานดำของอาจารย์ท่านหนึ่งในญี่ปุ่น “เราทุกคนจะออกไปแข่งขันและคว้าชัยชนะมาให้ได้!” นอกจากเด็กๆ ที่จะได้สนุกไปกับการแข่งขันกีฬาสีแล้ว ครู/อาจารย์ เองก็คงสนุกไม่แพ้กันที่จะได้ช่วยผลักดันและเสริมกำลังใจให้เด็กๆ ได้มีสปิริตในการแข่งขันกีฬา อย่างเช่นคุณครูท่านหนึ่งในญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @SwEnve ได้ใช้ฝีมือการวาดภาพของเธอในการ “ปลุกสปิริต” ของเหล่าเด็กนักเรียนให้พร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาสี เธอวาดเป็นตัวการ์ตูนจากหลายๆ เรื่อง ซึ่งนอกจากเรื่อง My Hero Academia แล้วยังมีการ์ตูนเรื่องอื่นๆ อีกซึ่งต้องเลยว่าฝีมือการวาดของเธอนั้นเยี่ยมยอดมาก ไปชมที่เหลือพร้อมๆ กันเลยดีกว่า… อาจารย์ท่านนี้ใช้ชอล์กหลายๆ สีเป็นอุปกรณ์ในการวาดกระดานดำ เอลซาจาก Frozen: “ปล่อยมันออกไปให้เต็มกำลังเลยทุกคน ทีมสีแดงต้องชนะได้แน่!” โอตาคุน่องเหล็ก: “ทีมเขียวสู้ๆ ขึ้นเป็นหนึ่งกันเถอะพวกเรา!” Attack on Titan: “ต่อจากนี้ ทีมน้ำเงินจะเอาจริงแล้วนะ” Your…
-
2 คุณครู ตัดสินใจ ‘บริจาคไต’ เพื่อช่วยชีวิตพ่อของลูกศิษย์ ที่กำลังป่วยเป็นโรคไต
เรื่องราวสุดประทับใจ คุณครูตัดสินใจ ‘บริจาคไต’ ของตัวเองเพื่อช่วยเหลือคุณพ่อของลูกศิษย์ที่ป่วยเป็นโรคไตและเกือบเอาชีวิตไม่รอด คุณ Neil Emmott ป่วยเป็นโรคถุงน้ำในไตมาตั้งแต่ปี 2001 ทำให้ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมาตั้งแต่นั้น แต่ภายหลังไตของเขาก็เกิดเสื่อมสภาพลงในปี 2016 ครอบครัวพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะหาคนบริจาคไตให้ เพราะเนื่องจากปัญหาเรื่องสุขภาพทำให้ครอบครัวและภรรยาของเขาไม่สามารถบริจาคให้ได้ นั่นหมายความว่า คุณหมอจะต้องทำการฟอกไตให้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหาคนบริจาคไตที่เหมาะกับเขาได้ และแล้วโชคฃะตาก็เป็นใจให้กับ Neil และครอบครัว เมื่อ Allison Malouf คุณครูประจำชั้นของ Mackenzie Emmott ผู้เป็นลูกสาวได้รู้ข่าวเกี่ยวกับพ่อของเธอ จึงตัดสินใจที่จะมอบไตของตัวเองให้กับเขา ด้วยความที่สามีของคุณ Allison นั้นเคยบริจาคไตข้างหนึ่งไปเมื่อ 8 ปีก่อน ทำให้เธอรับรู้ว่าชีวิตที่ไม่มีไตอีกข้างนั้นไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจที่จะบริจาคไต “เมื่อคุณเป็นคุณครู คุณจะมีความรู้สึกว่าลูกศิษย์ทุกคนก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา ลูกสาวของพวกเขาก็เปรียบเสมือนลูกสาวของเราด้วย ฉันไม่อยากเห็นเธอใช้ชีวิตต่อไปโดยที่ไม่มีพ่อ…พระเจ้ามอบไตมาให้เราถึง 2 ข้าง แต่เราจำเป็นต้องใช้มันจริงๆ เพียงข้างเดียวเท่านั้น” คุณครู Allison กล่าว อย่างไรก็ตามการบริจาคไตของคุณครู Allison (คนกลาง) ก็ถูกปฏิเสธ เพราะเธอมีเลือดคนละกรุ๊ปกับคุณพ่อ Neil ขณะเดียวกันก็มีคุณครูอีกท่านหนึ่ง…
-
เปิดใจ “ลูกศิษย์ครูวิภา” หลังชาวเน็ตรุมประณาม ค้าง 20,000 เดี๋ยวจ่าย อย่าด่าถึงลูกเมีย
เรื่องราวที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องในกรณีการค้างชำระหนี้กยศ. ของลูกศิษย์ ครูวิภา บานเย็น ในจังหวัดกำแพงเพชร อยู่ในขั้นตอนไกล่เกลี่ยเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหลังจากที่เรื่องราวถูกเปิดเผยออกมาตามสื่อต่างๆ แล้ว ในส่วนของโลกออนไลน์ก็ได้ทำการแฉรายชื่อลูกศิษย์ที่ยังคงค้างอยู่ออกมา… เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมาในรายการ ทุบโต๊ะข่าว จากช่องอมรินทร์ทีวี ได้นำเสนอประเด็นต่อเนื่องหลังจากที่มีการขุดคุ้ยในโลกออนไลน์ เปิดเผยรายชื่อศิษย์ที่ยังคงค้างชำระ ซึ่งตอนนี้มีลูกศิษย์ติดต่อกลับมายังครูวิภาแล้ว 11 คน ปิดยอดไปแล้ว 2 ราย และยังคงเหลืออีก 9 รายกำลังทยอยชำระ สาเหตุที่ลูกศิษย์ไม่ได้ชำระหนี้นั้น ครูวิภาได้รับแจ้งจากลูกศิษย์ว่าบางคนอยู่ต่างประเทศ และต่างจังหวัดจึงไม่ได้รับจดหมายหรือเอกสารใดๆ จนกระทั่งเกิดเป็นเรื่องใหญ่โต… ส่วนในเรื่องของศิษย์ที่มีรถเก๋งขับ กินอยู่สบายนั้น ครูวิภาไม่คิดโกรธหรือเอาเรื่องใดๆ อาจจะเป็นเพราะความจำเป็น แต่อยากให้ลูกศิษย์นั้นมีความรับผิดชอบกับหน้าที่ของตนเอง ทางด้านนายวสรรณ หนึ่งในลูกศิษย์ที่ถูกเปิดเผยรายชื่อและภาพชีวิตส่วนตัว ให้การยอมรับว่ามีความจำเป็นต้องกู้เงินจาก กยศ. ในปี 41-42 เพื่อเรียนหนังสือ และให้ครูวิภาเป็นผู้ค้ำประกัน จนกระทั่งเรียนจบแล้วก็มาหางานทำในกรุงเทพฯ ตนจึงไม่ทราบว่าจะสามารถชำระเงินกู้ได้อย่างไร เนื่องจากไม่ได้รับเอกสารแจ้งหนี้ มาพบภายหลังว่าถูกส่งไปให้ผู้ใหญ่บ้านและพ่อแม่ไม่ทราบเรื่อง…
-
ต่อเนื่องดราม่า อร BNK48 ประเด็นน้องที่วิจารณ์โดนโอตะคุกคาม-ครูเรียกพบตัว
หลังจากที่มีดราม่าประเด็นการตอบคำถามใน Instagram ของ อร BNK48 ก็ทำให้เรื่องราวบานปลายจนผู้วิจารณ์คนหนึ่งถึงกับซวย ถูกอาจารย์ในโรงเรียนเรียกพบเลยทีเดียว เป็นที่เข้าใจได้ว่าเมื่อเราเป็นแฟนคลับหรือชื่นชอบศิลปินคนไหนมากๆ ก็ย่อมรู้สึกไม่ดีที่ศิลปินของเราถูกวิจารณ์ในแง่ลบ ล่าสุด น้องชาวเน็ตคนหนึ่งได้นำประเด็นการตอบคำถามเรื่องน้ำหนักของ “อร BNK48” มาวิจารณ์ลงบนเฟซบุ๊กของตนเองในแง่ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของอร ซึ่ง “โอตะ” คนหนึ่งเห็นเข้า โอตะรายนี้จึงทำการ ฟ้องอาจารย์ที่โรงเรียนของคนวิจารณ์ ในโพสต์ของน้องมีข้อความประมาณว่า อรทำตัวไม่เหมาะสม หากไม่อยากตอบคำถามก็ไม่ควรตอบ จากนั้นโอตะรายหนึ่ง ก็นำเรื่องราวไปเล่าฟ้องอาจารย์ในโรงเรียนของน้องที่วิจารณ์อรอย่างออกรสออกชาติ ผลสุดท้าย น้องที่วิจารณ์อร BNK48 ถึงกับต้องออกมาโพสต์ขอโทษเหล่าโอตะทั้งหลาย เนื่องจากเจ้าตัวถูกอาจารย์ในโรงเรียนเรียกตัวเข้าพบเรียบร้อยแล้ว หลังเกิดเหตุการณ์นี้ ชาวเน็ตต่างมองว่านี่เป็นการกระทำเกินเหตุของแฟนคลับของ อร BNK48 ซึ่งชาวเน็ตก็ช่วยอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงให้กำลังใจน้องคนดังกล่าว ขอให้อาจารย์มีวิจารณญาณมากพอ และเสนอเหตุผลสำหรับการต่อสู้ความผิดเท่านั้น ขอให้อาจารย์มีวิจารณญาณ มีแนะแนวทางการให้เหตุผลเอาไว้ พร้อมแนะนำให้แจ้งความหากใครมาบอกว่าผิดกฎหมาย เราเชื่อว่าผู้ใหญ่มีเหตุผลมากพอ สู้ๆ นะครับ เชื่อว่าผู้ใหญ่น่าจะมีเหตุผลมากพอ ที่มา:…
-
แม่โพสต์ทวิตเตอร์ ลูกชายทำข้อสอบแบบ “คิดนอกกรอบ” คุณครูใจดีให้คะแนนด้วย!!?
การเป็นคุณครูนั้นบางที่ก็ต้องมีความยืดหยุ่น มีความเปิดใจและเข้าใจเด็ก บางครั้งการเข้มงวดและยึดติดจนเกินไปก็อาจจะไม่ใช่ผลดี ดูเหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่าง คุณครูคณิตศาสตร์ในประเทศญี่ปุ่นได้ยอมรับว่าเด็กคนหนึ่งตอบถูกและได้คะแนนถึงแม้ว่า เด็กคนนั้นจะไม่ทำตามโจทย์ที่ให้มาก็ตาม Tomoko Takagawa คุณแม่ของเด็กคนดังกล่าวได้โพสต์ภาพลงบนทวิตเตอร์ @darkmatter_tomo ว่าลูกชายคนเล็กชั้น ป.1 ของเธอได้ทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ที่มาพร้อมภาพสีสันน่ารักได้ถูกต้อง โจทย์ข้อที่ 1 มีเป็ดว่ายน้ำอยู่ในบ่อ 4 ตัว และที่กำลังวิ่งมาที่บ่ออีก 1 ตัว ส่วนข้อที่ 2 มีโหลปลาทองอยู่ 2 โหล โหลแรกมีปลาอยู่ 1 ตัว โหลที่สองมีปลาอยู่ 2 ตัว ซึ่งทั้งสองโหลกำลังถูกเทรวมกันในตู้ปลา และคำถามก็คือ “มีเป็ดรวมกันทั้งหมดกี่ตัวและมีปลารวมกันทั้งหมดกี่ตัว?” ถึงตรงนี้เราคงจะตอบกันโดยแทบไม่ต้องคิดว่า เป็ด 5 ตัว และปลา 3 ตัว แต่เจ้าหนูกลับตอบว่า มีเป็ดอยู่ 6 ตัวและมีปลาอยู่ 4 ตัว… ทุกท่านคงคิดว่ามันผิดแน่ๆ ใช่ไหมล่ะ? แต่เจ้าหนูกลับได้รับคะแนนสำหรับคำตอบเหล่านี้ เพราะว่าเขาได้มีการ วาดรูป เป็ดอีกตัวเพิ่มเข้าไป แถมวาดปลาเพิ่มเข้าไปอีก 1 ตัวด้วยเช่นกัน…
-
ผู้ปกครองเดือด! ครูทำโทษตัดผมลูกสาวแหว่งจนไม่น่าดู นี่หรือทรงผมที่โรงเรียนต้องการ!!?
ปกติแล้ว ทางโรงเรียนส่วนใหญ่ก็จะมีกฎเรื่องของเครื่องแบบนักเรียนรวมไปถึง “ทรงผม” ของนักเรียนด้วย ซึ่งหากว่านักเรียนคนใดไม่ปฏิบัติตามก็อาจจะถูกทำโทษด้วยวิธีต่างๆ ได้ ใครเคยพบเจอมาก็คงรู้ดีว่าบางครั้งหากนักเรียนไว้ผมผิดระเบียบ ครูและอาจารย์ก็จะนำตัวเด็กนักเรียนไปทำโทษด้วยการ กล้อนผมหรืออาจจะตัดผมให้เลยก็เป็นได้ ซึ่งถ้าการลงโทษครั้งนั้นทำให้เด็กถูกระเบียบก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ครั้งนี้ จากโพสต์ของทางเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2561 ได้เผยภาพนักเรียนหญิงที่ถูกคุณครูทำโทษด้วยการตัดผมท้ายทอยออก ทว่าการทำโทษครั้งนี้ดูจะเกินเหตุไปหน่อย . . . เมื่อพบว่า ผมของเด็กหญิงคนนี้ถูกคุณครูตัดเสียจนแหว่งจนดูไม่เรียบร้อย และดูเกินเหตุไปกว่าการทำให้เด็กนักเรียนมีทรงผมที่ถูกระเบียบ ทางผู้ปกครองเองก็ไม่พอใจอย่างมากหวั่นใจว่าเด็กจะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีฝังใจ ถึงแม้ในโพสต์ต้นฉบับทางผู้ปกครองของนักเรียนหญิงที่ถูกก้อนผมแจ้งว่าได้ไปเจรจากับทางโรงเรียนและคุณครูมาเรียบร้อย และก็ได้รับคำขอโทษมาแล้ว แต่ชาวเน็ตที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ต่างก็หัวเสียกันเป็นจำนวนมาก . บ้างก็ว่าคุณครูทำเกินเหตุ ผู้ปกครองและเด็กควรได้รับมากกว่าคำขอโทษ บ้างก็ว่าทรงผมนั้นไม่ได้กำหนดผลการเรียนของเด็ก บ้างก็ว่าเด็กหญิงคนนี้ดูไม่น่าเป็นเด็กเกเรทำไมคุณครูถึงไม่เจรจาดีๆ ก่อน ในขณะเดียวกัน บางคนก็เห็นต่างว่า ทรงผมนั้นไม่ได้เกี่ยวกับผลการเรียน เพียงแต่ว่าการลงโทษในครั้งนี้ถือเป็นการสอนให้เด็กรู้จักอยู่ในกฎระเบียบในสังคม ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงอยู่เสมอ สำหรับเรื่องทรงผมนักเรียน อยากรู้เหมือนกันนะว่า ผู้อ่านทุกท่านคิดอย่างไรกันบ้าง? ที่มา: เฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return via kapook
-
คุณครูสาวถูกไล่ออก หลังมีคลิปเธอ “ยืนกระทืบเท้าบนโต๊ะ” เพื่อปลุกนักเรียนที่แอบงีบ
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าคุณครูสาวจากรัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ถูกเชิญออกจากโรงเรียน หลังแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างการกระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนโต๊ะนักเรียนแล้วกระทืบโต๊ะ และยังมีการดึงผมเด็กนักเรียน เพื่อปลุกให้เขาตื่นจากการงีบในห้องเรียน ตามรายงานบอกว่าคุณครูสาวรายนี้มีชื่อว่า Lisa Houston เป็นครูที่สอนหนังสือในโรงเรียนแห่งนี้มานานกว่า 27 ปี แต่หลังจากที่คลิปเหตุการณ์ของเธอถูกเผยแพร่ออกไปก็มีคำสั่งให้เธอออกจากการสอนหนังสือทันที คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์ที่เธอยืนอยู่บนโต๊ะของนักเรียนคนหนึ่งที่หลับในห้องเรียน ท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมห้องที่หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้พร้อมกับเสียงหัวเราะ ต่อมาเธอก็ได้ใช้เท้าเขี่ยไปที่นักเรียน มีการหยิบผมของเขาขึ้นมาเพื่อปลุกให้ตื่น จากนั้นเธอก็ได้กระทืบลงไปบนโต๊ะอยู่หลายครั้ง Houston ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นว่าสิ่งที่แสดงออกไปนั้นไม่ได้เกิดจากความโมโห แต่เป็นเพราะเธอทำแบบนั้นเป็นประจำอยู่แล้ว “ถ้าคุณไปถามเด็กๆ คนไหนก็ตามที่เรียนกับฉัน พวกเขาจะบอกคุณว่าฉันหยอกล้อพวกเขา ทำให้พวกเขาตื่นตัวและหัวเราะตลอด” นอกจากนี้เธอยังเสริมอีกว่าสถานการณ์จริงๆ มันไม่ได้ดู “เลวร้าย” เท่ากับที่คลิปวิดีโอแสดงให้เราเห็น “ถ้าคุณไม่รู้ถึงสถานการณ์จริงๆ คุณจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันไม่ใช่การกระทำที่มุ่งร้าย มันก็แค่สนุกๆ กัน ฉันอยากให้สาธารณชนรู้ว่าฉันรักนักเรียน และพวกเราก็สามัคคีกันดีมากๆ ฉันคงไม่ทำอะไรที่มันทำร้ายเขาหรอก” ด้านนาย…
-
อาจารย์หน่ายกับ ‘พฤติกรรมเหลวไหลของนักศึกษา’ เลยทำมีมสุดฮา จนกลายเป็นเซเลบ
สำหรับคนเป็นครูแล้วการรับมือกับเหล่านักเรียนที่เหลวไหล คงเป็นอะไรที่ยาก และเหนื่อยหน่ายใจแบบสุดๆ… เช่นเดียวกันกับอาจารย์ David Red จากมหาวิทยาลัย St. John’s River College ที่ตั้งอยู่ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เบื่อกับการรับมือกับนักศึกษาที่ไม่ตั้งใจเรียนจนทำมีมขึ้นมากลายเป็นเรื่องสุดฮา “นักศึกษาในปัจจุบันนั้นชื่นชอบเกี่ยวกับมีม หรือมุกตลก ซึ่งยิ่งถ้าเป็นคนแบบเราๆ ทำแล้วล่ะก็พวกเขาจะชอบมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ผมพยายามที่จะสื่อสารกับพวกเขาและมันช่วยให้เราสามารถเข้าใจกันได้ดีมากยิ่งขึ้น แทนที่จะมานั่งอ่านเนื้อหาในหนังสือให้ฟังอย่างเดียว” อาจารย์กล่าว มีมของเขาถูกใจนักศึกษาและชาวเน็ตในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก จนมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา เอาล่ะ ลองไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง… ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อต้อนรับนักศึกษาของผม ที่ขาดเรียนไปมากกว่า 30 คาบ ในเทอมนี้ และส่งอีเมลล์มาเพื่อขอนัดเพื่อคุยเรื่องเกรดของเขา “นายไม่สมควรผ่าน” “ลองเปลี่ยนใจฉันให้ได้สิ” ผมพูดแทนอาจารย์ทุกคน ในช่วงใกล้ปิดเทอม “การให้เกรดแก่นักศึกษาคนหนึ่ง ที่ทำตัวเหลวไหล” ช่วงส่งเกรดให้มหาลัย “เตรียมตัวไว้ให้ดี” “การขอนัด และการขอร้องกำลังจะมาแล้ว” นึกถึงฉากตอนเรือใบตกลงไปสิ บรึ๋ยยย “ฉันมีเฉลยข้อสอบนะ” “มันอยู่ข้างล่างนี่ มาเอาไปสิ” ผมพูดแทนอาจารย์ทุกคน ในช่วงใกล้ปิดเทอม “มันไม่ง่ายเลย”…
-
เด็ก 7 ขวบโดนทำโทษจากเหตุ “ทรงผมไม่เหมาะสม” จากครูที่ “ย้อมผมสีชมพู”
เวลาใกล้ๆ ช่วงเปิดเทอมนั้น ในบ้านเราก็มักที่จะมีการถกเถียงกันเรื่องทรงผมนักเรียนออกมาให้เห็นกันเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นทำไมต้องตัดผม หรือทำไมไม่ยกเลิกผมทรงนักเรียนไปเลย… เรื่องเหล่านี้นั้น เป็นประเด็นถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน และดูเหมือนว่าจะเป็นประเด็นไปอีกหลายปีเช่นกัน แต่เชื่อไหมล่ะว่าเรื่องผมไม่เหมาะสมอะไรแบบนี้จะไม่ได้มีแต่เพียงในบ้านเรา แถมเรื่องในครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในอังกฤษ ประเทศที่เราคิดว่าเด็กๆ จะมีอิสระในการไว้ทรงผมที่ต้องการเลยด้วย เรื่องราวครั้งนี้เกิดขึ้นกับ Lucian Smith เด็กหนุ่มวัยเจ็ดขวบ ผู้ถูกลงโทษจากครูโรงเรียน Templars Academy ในเมืองวิทแธม มณฑลเอสเซ็กซ์ ประเทศอังกฤษ เนื่องจากเขาไปโรงเรียนในสภาพทรงผมกันลายสุดเฟี้ยว พ่อของเขา Darren Smith และแม่ Stephanie Harman กล่าวว่าพวกเขาคิดว่าผมของลูกจะยาวทันเวลาที่เขากลับมาจากช่วงวันหยุดอีสเตอร์ เลยปล่อยให้เขาตัดผมแบบนี้ แต่สุดท้ายมันก็ยาวไม่ทัน การลงโทษที่ลูกชายของพวกเขาได้รับเป็นการกักบริเวณ ซึ่งนั่นหมายความว่า Lucian จะไม่สามารถใช้เวลาพักร่วมกับเพื่อนๆ ของเขาได้ ซึ่งแม้พ่อแม่ของเขาจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนัก เรื่องที่พ่อแม่ของ Lucian รับไม่ได้จริงๆ คือคุณครูผู้ที่ลงโทษ Lucian นั้น ก็ย้อมผมของตัวเองเป็นสีชมพูเหมือนกันต่างหาก “นี่เป็นกรณีของคำกล่าวที่ว่า ‘ทำตามที่ฉันพูดไม่ใช่อย่างที่ฉันทำ’ ชัดๆ ถ้าคุณรับงานเป็นครู คุณก็ต้องเป็นแบบอย่าง และรับผิดชอบต่อกฎของคุณเอง คุณไม่สามารถบอกเด็กๆ ให้ทำสิ่งหนึ่ง ในขณะที่คุณกำลังทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกันได้ นี่มันการหลอกลวงชัดๆ” Darren กล่าว…
-
เมื่อเด็กชายออทิสติก นำเครื่องอัดเสียงใส่กระเป๋าไปโรงเรียน ทำให้ครูถูกไล่ออกถึง 2 คน!!
เรื่องราวของเด็กชาย Camden Davis วัย 12 ปี จากรัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ผู้เข้าเรียนในโรงเรียน Hope Academy ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยสถานศึกษาแห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับสอนนักเรียนผู้ที่มีความต้องการเป็นพิเศษ จากคำโปรโมทหน้าเว็บไซต์ของโรงเรียนกล่าวถึง “การให้กำลังใจ ความสัมพันธ์เชิงบวก และจดจำความสำเร็จของนักเรียน” Camden Davis วัย 12 ปี โรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษ Hope Academy Camden เป็นเด็กที่ป่วยเป็นโรคออทิสติกอย่างหนัก และ Milissa ผู้เป็นแม่ของเขาก็ได้พาเข้าเรียนที่ Hope Academy แห่งนี้โดยหวังว่าทางโรงเรียนจะช่วยสนับสนุนและเข้าใจสิ่งแวดล้อม ที่จะผลักดันให้ลูกชายสามารถเรียนรู้ในทางของตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม คุณแม่เริ่มสังเกตเห็นสัญญาแห่งความเครียดในตัว Camden หลังจากที่กลับมาจากโรงเรียน และนั่นทำให้เธอรู้ได้ว่าจะต้องมีอะไรผิดปกติแล้วแน่ๆ โดยปกติแล้วลูกชายจะมีความสุขและสดใสอยู่เสมอ จนช่วงหลังลูกชายเริ่มมีความฉุนเฉียวและปัสสาวะบนเตียงอยู่บ่อยครั้ง คุณแม่พยายามติดต่อไปยังทางผู้บริหารของโรงเรียน แต่กลับไร้วี่แววใดๆ ในวันหนึ่ง คุณแม่ตัดสินใจที่จะแอบใส่เครื่องบันทึกเสียงไว้ในกระเป๋าของลูกชาย เพื่อที่จะค้นหาต้นเหตุที่ทำให้ลูกชายรู้สึกไม่สบายใจ อย่างที่เขาไม่สามารถระบายออกมาเองได้ แล้วก็ได้พบกับความจริงที่ว่า…
-
ครูพิเศษชาวสิงคโปร์โดนตัดสินโทษ หลังช่วยเด็กโกงข้อสอบ GCE แบบทันสมัยในปี 2016
ทุกๆ คนรู้กันดีว่าการโกงข้อสอบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี หากว่าเราโกงข้อสอบแล้ว ไม่เพียงแค่ว่าเราไม่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าหน้าที่ แต่เรายังไม่ซื่อสัตย์ต่อความสามารถที่ตัวเรามีจริงๆ อีกด้วย ถึงอย่างนั้นการโกงข้อสอบกลับมีออกมาให้เห็นกันอยู่ร่ำไป แถมยังมีวิธีที่ซับซ้อนและทันสมัยมากขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย เมื่อวันจันทร์ที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา Tan Jia Yan ครูสอนพิเศษสาวชาวสิงคโปร์ วัย 32 ปีได้ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจากคดีมีส่วนร่วมในการช่วยนักเรียนชาวจีน 6 คนของเธอโกงข้อสอบ GCE (General Certificate of Education หรือ ประกาศนียบัตรการศึกษาทั่วไป) ระดับ O (Ordinary Level หรือ ระดับสามัญ) ในปี 2016 วิธีการของเธอคือ Tan Jia Yan จะเข้าร่วมการสอบ GCE ในฐานะผู้สมัครแบบส่วนตัว และจะใช้การวิดีโอคอลติดต่อไปยังนักเรียนของเธอและทำการบอกคำตอบให้แก่พวกเขา โดยที่ฝั่งนักเรียนจะมีการลักลอบนำโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์บลูทูธ และหูฟังขนาดเล็กสีเนื้อเข้าไปในห้องสอบ การโกงข้อสอบในครั้งนี้ถูกเปิดเผยหลังจากที่ผู้คุมสอบได้ยินเสียงประหลาดจากหนึ่งในนักเรียนของเธอและทำการค้นตัวนักเรียนคนดังกล่าว Tan Jia Yan โดนข้อหาเกี่ยวกับการโกงข้อสอบเป็นจำนวน 27 กระทง โดยที่ 26 กระทงนั้นมาจากเหตุการณ์สอบ GCE และอีกหนึ่งกระทงจากคดีช่วยนักเรียนวัย 20 ปีโกงข้อสอบภาษาอังกฤษเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2016 …
-
ครูโพสต์บ่น ‘ลูกคุณไม่ได้น่ารัก สปอยล์ลูกซะเละ’ แถมแฉโรงเรียน ไม่มีใยดีใดๆ กับครูเลย…
ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา จะมีการวางระบบทางสังคมพื้นฐานมาเป็นอย่างดี แต่ทว่าความสมบูรณ์แบบนั้นไม่มีอยู่จริง เพราะเมื่อกาลเวลาผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็ย่อมเสื่อมตามเช่นกัน… อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ แต่สำหรับปัญหาของระบบการศึกษานั้นเริ่มสั่นคลอนมากขึ้นทุกวัน เมื่อคุณครูท่านหนึ่งจากรัฐเท็กซัส ได้ทำการโพสต์เพื่อระบายความในใจ เกี่ยวกับเหตุการณ์อันน่าหดหู่ที่กำลังเกิดขึ้นในโรงเรียนของเธอ Julie Marburger Julie Marburger คุณครูสอนระดับชั้นเกรด 6 (ป.6) ของโรงเรียน Cedar Creek Intermediate School ได้หมดความอดทนในวิชาชีพของตัวเอง หลังจากที่ทำงานในฝันงานนี้มานับสิบปี… “มันคือความฝันของฉัน ตั้งแต่จำความได้ว่าอยากจะมีห้องเรียนเป็นของตัวเอง และตอนในใจของฉันแหลกสลายหลังจากที่ไม่ได้รับแยแสใดๆ ใน 2 ปีที่ผ่านมา” พ่อแม่ไม่ให้ความเคารพคุณครู และเด็กๆ ก็แย่ยิ่งกว่า ผู้บริหารโรงเรียนก็เอาใจผู้ปกครอง นั่นจึงทำให้เธอไม่อาจปฏิบัติตามวิชาชีพที่ถูกจ้างมาเพื่อ ‘สอนเด็ก’ ได้ เธอลาออกจากการสอน และได้แสดงให้เห็นว่าทำไมเธอถึงหมดกำลังใจที่จะเป็นครู เนื่องจากความบกพร่องของผู้ปกครอง ผู้บริหารโรงเรียน และการสนับสนุนของภาครัฐ… โพสต์ดังกล่าวของเธอถูกแชร์ไปกว่า 400,000 ครั้งในโลกออนไลน์ พร้อมกับได้รับความเห็นใจจากเพื่อนร่วมวิชาชีพครูที่กำลังประสบปัญหาเดียวกัน Julie เชื่อว่าครูท่านอื่นเริ่มลาออกตามๆ กัน เพราะวิกฤตในระบบการศึกษาที่กำลังเสื่อมลง…
-
ครูสกลนคร ปฏิรูปการให้เกรด ทุกคนที่ 1 เท่ากัน เพราะคนเราเก่งในแบบที่แตกต่าง!!
เป็นที่รู้กันดีว่าการศึกษาของไทยนั้นเน้นไปที่เรื่องของการสอบวัดผล เกรด และคะแนน หากคุณสอบได้คะแนนน้อย นั่นก็เท่ากับว่าเราอาจจะยังไม่สามารถนำเอาความรู้ที่เรียนมามาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม ทำให้ต้องมีการสอบซ่อมมั่ง เรียนเสริมมั่ง จนเกิดเป็นการแข่งขันที่ทำให้เด็กๆ เครียดได้ แต่เนื่องจากปัญหาเหล่านี้ ทำให้คุณครูจากจังหวัดสกลนครรายหนึ่งนำเอาวิธีการเรียนการสอนมาปรับปรุง เพื่อให้เด็กๆ ทุกคนมองเห็นว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นมีคุณค่าและเก่งในด้านที่แตกต่างกันไป คุณครูที่#เหมียวฟิ้นพูดถึงมีชื่อว่าคุณครูชินกร พิมพิลา ครูพิเศษจากโรงเรียนบ้านนาสีนวล สกลนคร ที่ปรับการให้คะแนนของเด็กๆ ใหม่ จนทุกคนกลายเป็นนักเรียนเก่งที่ได้ที่ 1 กันทุกๆ คนเลย จากภาพนี้จะเห็นได้ว่าในรายชื่อนักเรียนแต่ละคนนั้น จะถูกเขียนกำกับไว้ว่าแต่ละคนเก่งในด้านไหนบ้าง เช่น นำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์เก่งที่สุด, หาปลาเก่งที่สุด, นวดฝ่าเท้าเก่งที่สุด, ย้อมผ้าจากสีธรรมชาติเก่งที่สุด ฯลฯ นอกจากนี้คุณครูยังเขียนข้อความลงในเฟซบุ๊กของตัวเองด้วยว่า “ประกาศผลสอบแล้วนะเด็กๆ พรุ่งนี้ครูรอแจกประกาศผล ไม่เรียงลำดับความเก่ง แต่ทุกคนเก่งในแบบที่แตกต่างกันและมีความเฉพาะด้าน ที่โอเน็ตไม่ได้วัดพวกเธอ” ด้วยวิธีการสอนและให้คะแนนสุดแหวกนี้เอง ทำให้ผู้คนในโลกออนไลน์กล่าวชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์ การสอนนักเรียนให้มีความสุขและการมองเห็นคุณค่าเล็กๆ น้อยๆ ในตัวเอง . . . . ความเห็นบางส่วนจากชาวเน็ตบอกว่า Matinee Ma…
-
โคตรยัวะ… ครูสอนขับรถไม่ให้ยืมรถ เอาคืนจนสอบผ่าน ชูนิ้วกลางห้อยคำสร้อย ‘โยนีบอด’
คงจะเป็นเรื่องที่ชวนหงุดหงิดไม่น้อยเลยล่ะ กับการที่เราจะต้องไปสอบอะไรสักอย่างเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในสังคมนี้ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ฮร่าาาา ที่ #เหมียวเลเซอร์ กำลังพูดถึงก็คือ ‘การสอบใบขับขี่’ นี่แหละ เป็นที่รู้กันดีว่าการไปสอบใบขับขี่ นอกจากจะต้องเสียเงินค่าสอบแล้ว ยังจะต้องใช้เวลาทั้งวันไปกับการสอบอีกต่างหาก ถ้าหากว่าไม่ผ่านขึ้นมา แน่นอนว่าต้องมีหงุดหงิดกันบ้างเนอะ Daniel Parker อย่างเช่นพ่อหนุ่ม Daniel Parker วัย 19 ปี จากประเทศอังกฤษผู้นี้ ที่เจอกับอุปสรรคการสอบใบขับขี่เช่นเดียวกัน เขาได้ทำการเรียนขับรถกว่า 70 ถึง 80 บทเรียน กับครูสอนขับรถนามว่า Clive พร้อมกับทำการจองวันสอบเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่า 4 วันก่อนถึงวันสอบ เขากลับถูก Clive ปฏิเสธ เพราะไม่ยอมให้ Daniel ยืมรถยนต์ของตัวเองเพื่อไปทำการสอบ และค่าใช้จ่ายสำหรับการสอบในแต่ละครั้งก็สูงถึง 3,300 บาท (75 ปอนด์) Daniel ก็ไม่ง้อ ไปหาครูฝึกสอนคนใหม่มาแทน แล้วก็สอบผ่าน จากนั้นก็กลับมาชูนิ้วกลาง พร้อมใบรับรองการสอบส่งให้กับ Clive แบบสวยๆ…
-
ประเด็นอ่อนไหว ‘ทำไมคนจบครูถึงหวงวิชาชีพ’ ชาวเน็ตร่วมถกเถียง จบไม่ตรงสายก็มาทำได้!?
เราต่างก็รู้กันดีว่าการเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษานั้น จะเป็นการเรียนในลักษณะวิชาเฉพาะที่จะนำไปต่อยอดสู่วิชาชีพในอนาคต เมื่อได้รู้ว่าเรียนอะไร จะได้นำความรู้เหล่านี้ไปสมัครงานตามสายงานที่ต้องการ… แต่เมื่อพูดถึงสาย ‘ครุศาสตร์’ หรือ ‘ศึกษาศาสตร์’ ที่มีการเปิดรับสมัครผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีทุกสาขา เพื่อมาเป็นครูผู้ช่วย และไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ทำให้ฝั่งผู้ที่ร่ำเรียนในด้านนี้ มักจะแสดงความคิดเห็นในเชิงหวงแหนวิชาชีพของตน… เนื่องจากว่าตนเรียนมาตรงสาย เสียเวลาไปกับการเรียนที่มากกว่าสาขาอื่นๆ ไหนจะต้องสอบใบอนุญาต รวมไปถึงการสอบเพื่อแย่งกันบรรจุตำแหน่งครูอีก และจำนวนของผู้จบการศึกษาทางด้านนี้มีจำนวนมากกว่าตำแหน่งที่จะสามารถรองรับได้ แม้ว่าบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เรียนทางด้านครุศาสตร์มา อาจจะรู้สึกว่าตนอาจจะคิดไปคนเดียว คุณ สมาชิกหมายเลข 4220500 จากเว็บไซต์พันทิปจึงได้ตั้งกระทู้ถามด้วยหัวกระทู้ว่า ‘ทำไมคนจบครูถึงหวงจังเลยครับเวลาคนที่จบอย่างอื่นจะมาเป็นครูบ้าง’ “ของอย่างนี้มันต้องสู้กันที่ความสามารถหรือเปล่าครับ จะหวงทำไมว่าตัวเองจบตรงสาย แต่คนอื่นจบไม่ตรง ที่จริงคนจบครูตรงสาย ก็น่าจะได้เปรียบกว่าด้วยซ้ำนะครับ ผมเห็นบางอาชีพอย่างโปรแกรมเมอร์นี่ ไม่เห็นเค้าจะหวงกันเลย บางคนจบหมอ จบเภสัช ก็ยังมาเป็นโปรแกรมเมอร์ คนจบคอมเค้าก็ไม่เห็นจะออกมาเรียกร้องอะไรกันเลยครับ” ใจความจากต้นกระทู้ดังกล่าว จากการเปิดประเด็นในครั้งนี้ มีชาวพันทิปเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ทั้งทางด้านผู้เรียนสาขาวิชาชีพครูโดยตรง และผู้ที่ไม่ได้จบสาขาวิชาชีพครูโดยตร #เหมียวเลเซอร์ จะขอยกความคิดเห็นบางส่วนมาให้ท่านได้อ่านและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนด้วยตนเองก่อน ว่าจริงๆ แล้ว ทำไมถึงเกิดประเด็นดราม่าเกี่ยวกับวิชาชีพครูอยู่บ่อยครั้ง… . . . .…
-
คุณครูฉาว มีความสัมพันธ์เกินเลยกับศิษย์วัย 13 สำเร็จความใคร่ให้ทั้งในและนอกโรงเรียน…
ข่าวคราวฉาวภายในแวดวงการศึกษาของต่างประเทศ มักจะเกิดขึ้นให้เห็นอยู่บ่อยๆ อย่างกรณีที่คุณครูล่วงละเมิดทางเพศเด็กนักเรียน โดยทั่วไปจะมองว่าต้องเป็นคุณครูผู้ชาย แต่เดี๋ยวนี้กลับกลายเป็นคุณครูผู้หญิงแทน… โดยที่ผู้ก่อเหตุก็คือนาง Brittany Zamora วัย 27 ปี คุณครูสอนชั้นประถม 6 ของโรงเรียน Las Brisas Academy ในเมือง Goodyear รัฐแอริโซนา ถูกกล่าวหาและจำนนด้วยหลักฐานข้อความในโทรศัพท์ระหว่างคุณครูและนักเรียนชายวัย 13 ปี ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ผู้ปกครองของเด็กพบข้อความตอบโต้ระหว่างสองฝ่ายในโทรศัพท์ของลูกชาย และนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่เกินเลยระหว่างครูและศิษย์ และเธอก็ถูกจับกุมในวันที่ 22 มีนาคม 2018 และต้องให้การเพื่อต่อสู้ในชั้นศาล Brittany Zamora วัย 27 ปี เธอยอมรับสารภาพว่า ใช้ปากสำเร็จความใคร่ให้ลูกศิษย์ทั้งในและนอกสถานศึกษา นั่นก็คือในห้องเรียนและในรถยนต์ส่วนตัวมาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 และเคยมีเพศสัมพันธ์ทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน นอกเหนือจากการส่งข้อความในเชิงชู้สาวระหว่างสองฝ่าย Zamora ได้ทำการส่งรูปภาพเปลือยและภาพสวมชุดลายลูกไม้ไปให้ลูกศิษย์รายนี้ ซึ่งทางด้านลูกศิษย์ได้เปิดเผยว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่เธอเริ่มคุกคาม แต่ทว่าเขาก็ยอมรับว่าส่งภาพเปลือยของตัวเองเพื่อตอบกลับเช่นกัน …
-
เด็กอึ้งครึ่งโรงเรียน หลังพบว่าครูคณิตฯ ในโรงเรียนนั้นเป็น “ดาราหนังโป๊ดาวรุ่ง”
จินตนาการไม่ออกเลยว่า เด็กๆ ในโรงเรียนจะอึ้งกันขนาดไหน เมื่อพวกเขาพบว่า คุณครูสอนคณิตศาสตร์ของพวกเขาเป็นดาราหนังโป๊!? เมื่อเด็กนักเรียนในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งพบว่า Scott Sherwood ครูสอนคณิตศาสตร์วัย 50 ปีของพวกเขา แอบไปเป็นดาราหนังโป๊ Scott มีภาพถ่ายวาบหวิวออกมามากมาย อีกทั้งยังมีการแสดงหนังอย่างว่าด้วยฉายา Aaron Cage อีกด้วย เด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งได้เข้าพบวิดีโอของ Aaron Cage ในเว็บไซต์ยูทูบ และเธอก็เข้าไปแสดงความคิดเห็นว่า “ชายคนนี้เป็นครูสอนคณิตฯ ของฉัน ชื่อจริงๆ ของเขาคือ Scott Sherwood กลัวแล้ววว” โรงเรียน Peacehaven ในเมือง Peacehaven มณฑล East Sussex ประเทศอังกฤษ หลังจากที่ Scott ออกมายอมรับว่าสิ่งที่เขาทำเป็นเพียงงานอดิเรกเท่านั้น เด็กๆ ในโรงเรียนก็เริ่มเผยแพร่ภาพวาบหวิวของคุณครูคณิตศาสตร์ท่านนี้กันอย่างแพร่หลาย จนกระทั่งฝ่ายผู้ปกครองนักเรียนเริ่มพากันเป็นกังวล เนื่องจากทางโรงเรียนไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งตัวของ Scott เองก็ไม่ได้มาทำงานเลยตั้งแต่มีข้อกล่าวหานี้เกิดขึ้น ผู้เป็นแม่ของนักเรียนรายหนึ่งกล่าวว่า โรงเรียนห้ามนักเรียนในการพูดถึงเรื่องครูสอนคณิตฯ…
-
เรื่องราวอันแสนอบอุ่นหัวใจ ของโรงเรียนที่มีเพียง ‘ครูหนึ่งคนกับลูกศิษย์อีกหนึ่งคน’
ภาพของโรงเรียนที่อยู่ในความทรงจำของเรา คือภาพของสถานที่ที่เต็มไปด้วยเด็กๆ ทำกิจกรรมกันอย่างสนุกสนาน มีคุณครูคอยช่วยอบรมสั่งสอน ให้ความรู้ในหลากหลายวิชา แต่โรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศจีนนั้นจะต่างจากที่เราเห็นมาโดยตลอด จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “โรงเรียนที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก” เลยก็ว่าได้ ที่นี่คือโรงเรียนประถม Youcheng Primary School ตั้งอยู่ในส่วนลึกของทิวเขา Taihang เขตมณฑลเหอนาน ประเทศจีน ซึ่งแตกต่างจากโรงเรียนอื่นๆ ตรงที่มีคุณครูเพียงคนหนึ่ง และนักเรียนแค่หนึ่งคนเท่านั้น คุณครูและลูกศิษย์ที่เหลือกันแค่สองคนในโรงเรียน Xu Zefang ชายวัย 54 ปีคืออาจารย์เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของโรงเรียน และเขาได้สอนนักเรียนเพียงแค่คนเดียวนั่นคือเด็กน้อยวัย 11 ปีที่มีชื่อว่า Xu Jiaqi Zefang นั้นเริ่มสอนในโรงเรียนแห่งนี้ตั้งแต่ปี 1982 ซึ่งในตอนช่วงยุค 90s นั้น โรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนอยู่มากกว่า 100 คนและมีคุณครูถึง 9 คน แต่พอวันเวลาผ่านไป ภาครัฐมีการจัดแผนพัฒนาขึ้นมาทำให้เกิดโรงเรียนแห่งใหม่ใจกลางเมืองด้านล่างหุบเขา ทำให้ผู้ปกครองในหมู่บ้านตัดสินใจส่งลูกๆ ของตัวเองไปเรียนในที่แห่งนั้น เพื่อให้ได้รับการศึกษาที่ดีกว่าเดิม ถึงอย่างนั้นเด็กน้อย Jiaqi ก็เลือกที่จะอยู่ ด้วยเหตุผลที่ทำให้หลายๆ…
-
แม่โพสต์ถาม ครูแก้คำผิดในการบ้านลูก จาก ‘ขี้เกียจ’ เป็น ‘ขี้เกลียด’ สรุปอย่างไหนถูกกันแน่!?
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียลของบ้านเรา กับกรณีที่คุณแม่ท่านหนึ่งได้โพสต์กระทู้พันทิปสอบถามถึงความค้างคาใจ เมื่อคุณครูแก้คำผิดในการบ้านให้กับลูกจากคำว่า ‘ขี้เกียจ’ เป็น ‘ขี้เกลียด’ ควรปล่อยผ่านไปดีหรือไม่!? กระทู้ดังกล่าวที่โพสต์โดยสมาชิกเว็บไซต์พันทิปชื่อว่า paripan ในกระทู้มีเนื้อหาว่า “ช่วงนี้ปิดเทอมเลยเคลียร์สมุด หนังสือเก่าของลูกเก็บบริจาค เปิดไปเจอสมุดเล่มนี้เข้า อึ้งไปนิดหน่อย เพราะส่วนใหญ่สมุด หนังสือต่างๆ จะเก็บไว้ที่โรงเรียน เรียกลูกมาถามว่ารู้สึกยังไงที่ครูแก้คำผิดให้ ลูกบอกว่าหนูก็งงๆ เพราะแม่สอนให้หนูสะกดแบบนี้” “ปกติเราจะค่อนข้างเข้มงวดการเขียน การอ่าน การออกเสียง ของลูกให้ถูกต้องค่ะ ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ (เท่าที่สติปัญญาจะพอมี) แต่เห็นที่ครูแก้คำผิดมาแล้ว ใจนึงก็อยากจะแจ้งให้โรงเรียนทราบ แต่อีกใจนึงก็คิดว่าจะปล่อยผ่าน เพราะเรียนจบมาแล้ว ปีหน้าก็ไม่ได้เจอครูท่านนี้อีก” “ก่อนหน้าก็เจอว่าครูขึ้นกระดานให้เด็ก ๆ จดผิด ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เกรงว่าแจ้งโรงเรียนแล้วครูจะโดนตำหนิ แต่โรงเรียนก็คิดค่าเทอมแพงพอสมควร น่าจะมีการพัฒนา ตรวจสอบครูผู้สอนกันบ้าง แม่ ๆ คิดว่าควรทำอย่างไรดีคะ” ภาพของคำที่เป็นปัญหา นอกจากนี้คุณแม่ยังกล่าวถึงประเด็นผิดพลาดของเนื้อหาการสอนของคุณครูในด้านๆ อื่นๆ เช่น วิชาคณิตศาสตร์ ที่คุณครูไม่สามารถหาคำตอบที่ถูกต้องได้ จนถึงกับต้องหยิบเครื่องคิดเลขขึ้นมาใช้งาน โรงเรียนดังกล่าวนี้ทางคุณแม่เล่าว่าท่าน ผอ. รับคุณครูมาจากมหาวิทยาลัยที่เน้นครูโดยเฉพาะ…
-
ครูสาววัย 26 ปี ถูกจับฐานส่งภาพนู้ดให้ลูกศิษย์ พร้อมเลี้ยงต้อยด้วยสมุนไพรมหัศจรรย์…
เป็นเรื่องเป็นราวที่ชวนปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่ไม่น้อยเลย เมื่อกล่าวถึงคุณครูผู้มีหน้าที่บ่มเพาะสั่งสอนนักเรียนให้มีความรู้ตามระบบการศึกษา แต่ทว่าในกรณีนี้กลับเลยเถิดไปไกลกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก… เมื่อวันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2018 เว็บไซต์ Fox News และ Dailymail ได้รายงานข่าวการจับกุมตัวคุณครูสาว Stephanie Peterson วัย 26 ปี ในเมือง New Smyrna Beach รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา Stephanie Peterson วัย 26 ปี อดีตคุณครูสอนวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมต้น โดยที่ต้นเหตุของเบาะแสของการเข้าจับกุมนั้น เริ่มต้นมาจากที่ลูกศิษย์ชั้นเกรด 8 (เทียบเท่าชั้น ม.2) ได้สารภาพกับพ่อแม่ว่าคุณครูสาวรายนี้จะแวะมารับที่บ้านช่วงเวลา 23.00 น. เป็นประจำ และจะใช้เวลาอยู่ร่วมกันแบบส่วนตัวร่วมชั่วโมง ก่อนจะส่งกลับบ้านในช่วงเวลา 01.00 น. หรือ 02.00 น. และนอกเหนือจากนั้น เธอก็ได้ส่งรูปภาพนู้ดของเธอเองให้กับลูกศิษย์ พร้อมกับจะส่งกัญชาให้เขาได้นำไปใช้เสพอีกด้วย ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงเอาไว้ว่า คุณครูวิทยาศาสตร์สาวรายนี้เริ่มมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกศิษย์ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2017…
-
นักเรียนเห็นครูเศร้าที่ต้องเสียหมาไป จึงเขียนจดหมายปลอบใจเพื่อชีวิตที่ต้องเดินต่อไป…
การที่ต้องลาจากกับสิ่งที่ตัวเองรักนั้น ไม่ว่าจะกับใครก็เป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากทั้งนั้น ไม่ว่าสิ่งที่จากไปนั้นจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของก็ตามที เวลามันพังไป ตายไป หรือหายไปก็ล้วนแต่ทิ้งที่ว่างไว้ในจิตใจของเราทั้งสิ้น ความเศร้าที่เรารู้สึกนั้นไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีเสมอไป แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราก็ต้องเดินต่อไปในสักวัน Lucie Dunne ก็เป็นหนึ่งในคนที่ต้องสูญเสียบางสิ่งที่เธอรักไปเช่นกัน Lucie นั้นอาศัยอยู่กับคุณแม่ของเธอ Gemma ผู้เป็นคุณครูระดับประถมศึกษา และ Charlie สุนัข โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ อายุ 18 เดือน ในเมือง กลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ โพสต์ที่แชร์โดย lucie ? (@lucie.dunne) เมื่อ มี.ค. 12, 2017 เวลา 3:05pm PDT โชคร้ายที่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Charlie สุนัขประจำบ้านก็จากพวกเธอไปด้วยโรคร้าย “เราพบก้อนเนื้อก้อนใหญ่ที่อกของมัน เราเลยพามันไปหาสัตว์แพทย์ กว่าที่เราจะรู้ตัว มันก็จำเป็นต้องเข้ารับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะโรคมะเร็ง และเนื้องอกขนาดใหญ่ที่กดเข้าไปในหัวใจของมัน สุดท้ายเราก็ต้องปล่อยให้มันไปสบาย” โพสต์ที่แชร์โดย lucie ? (@lucie.dunne) เมื่อ ม.ค. 20, 2018 เวลา 10:46am…
-
โค้ชทีมฟุตบอลเอาตัวเข้าบัง เพื่อช่วยชีวิตเด็กนักเรียนจากเหตุกราดยิงในฟลอริด้า
ในวันวาเลนไทน์ที่เพิ่งผ่านมานี้มีเรื่องสะเทือนใจเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา อดีตนักเรียน Nikolas Cruz ก่อเหตุใช้ปืนไรเฟิล AR-15 ยิงกราดในโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School รัฐฟลอริด้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย ผู้เสียชีวิตไม่ได้มีแต่นักเรียนเท่านั้น แม้แต่คุณครูภายในโรงเรียนก็กลายเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นเองก็มีโค้ช Aaron Feis รวมอยู่ด้วย Aaron Feis ผู้เป็นทั้งโค้ชและผู้รักษาความปลอดภัย Feis เป็นโค้ชทีมฟุตบอลและผู้รักษาความปลอดภัยภายในโรงเรียน และเขาเองก็ถูกยิงในเหตุการณ์นั้นเช่นกัน แต่จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ เขาไม่ได้ถูกยิง แต่ตั้งใจเอาตัวเองเข้าไปบังกระสุนปืนให้นักเรียนต่างหาก โดยขณะที่นักเรียนคนหนึ่งกำลังหนีจากหนุ่มที่ถือปืน เขาเห็นว่านักเรียนคนนั้นไม่สามารถหนีพ้นวิถีของปืนได้แน่ๆ ก็เลยใช้ตัวเองเป็นโล่เพื่อให้นักเรียนสามารถหนีไปได้อย่างปลอดภัย แต่ตัวเขาเองนั้นต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากที่การเสียสละตัวเองของเขาได้เผยแพร่ออกไป คนจำนวนมากก็ทวีตเพื่อสรรเสริญถึงความดีและระลึกถึงการจากไปของเขา นี่คือโฉมหน้าของโค้ช Aaron Feis วีรบุรุษที่บาดเจ็บจากการเข้าปกป้องนักเรียนในเหตุยิงปืน เขาเป็นที่รักของนักเรียนที่รู้จักเขาทุกคน ขอให้ทุกคนช่วยส่งกำลังใจไปให้เขาด้วย โค้ช Aaron Feis เป็นคอยปกป้องผู้อื่นเสมอมา วันนี้เขาได้เสียสละร่างกายของตัวเองเพื่อปกป้องนักเรียน มันต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมากในการเผชิญหน้ากับมือปืนที่บ้าคลั่ง โค้ช Feis เป็นวีรบุรุษอเมริกัน แทนที่จะพูดถึงมือปืน เรามาให้เกียรติวีรบุรุษ…
-
ครูโอซาก้าถูกไล่ออก หลังปลอมตัวเป็นนักเรียนไปถามผู้หญิง 200 คนเกี่ยวกับเรื่องเพศ!?
ครู คือคนที่ช่วยสั่งสอนลูกศิษย์ให้ได้รับความรู้ที่เหมาะสมและเดินไปในทางที่ถูกต้อง แต่แน่นอนว่าทุกสังคมย่อมมีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกันไป สังคมวิชาชีพครูเองก็เช่นกัน เห็นได้จากตัวอย่างของคุณครูหนุ่มคนนี้ในประเทศญี่ปุ่น เขาคนนี้เป็นคุณครูในโรงเรียนมัธยมปลาย Osakufu Ristunisaki จังหวัดโอซาก้า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2018 สำนักข่าว SoraNews24 รายงานว่า เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียนเพราะเขาปลอมตัวเป็นเด็กมัธยมในโลกออนไลน์ และส่งข้อความไปหาหญิงสาวเพื่อสอบถามในเรื่องเพศ จากการรายงานบอกว่า เขาถามผู้หญิงประมาณ 200 คน ซึ่งไม่มีการบอกว่าอายุประมาณเท่าไหร่ แต่ 2 คนในนั้นเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนเดียวกันกับที่เขาสอน ไม่มีรายงานว่าเขาใช้คำพูดล่อลวงสาวๆ ไปทำมิดีมิร้าย แต่สิ่งที่เขาถามสาวๆ เหล่านั้นก็คือ การถามถึงประสบการณ์ในเรื่องเพศของพวกเธอ จนทำให้เขาต้องถูกด่าย้อนกลับมา ก่อนที่จะถูกตามตัวและแจ้งไปหาโรงเรียนในที่สุด เขาได้พูดถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไปว่า “ผมแค่ต้องการตอบสนองความต้องการในเรื่องเพศของตัวเอง จึงคิดว่าการที่ผมกลายเป็นชายนิรนามก็คงจะไม่ได้เป็นอะไร” แสดงให้เห็นว่าเขาคงจะไม่ค่อยมีโอกาสได้ออกไปมองสาวๆ ในวัยเดียวกันซักเท่าไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม “เยี่ยมไปเลย เขาถูกไล่ออกแล้ว ทีนี้เขาจะได้มีอิสระที่จะทำทุกอย่างได้” “พวกเขาควรจะถอนรากถอนโคนคนที่มีแนวโน้มไปในทางอะไรแบบนี้ ก่อนที่พวกมันจะได้กลายมาเป็นครู” “เขาคิดว่าจะกลายเป็นชายนิรนามบนโลกอินเตอร์เน็ตได้จริงๆ เหรอ เขามีความโง่มากกว่าความโรคจิตของตัวเองซะอีก” “จำนวนของคุณครูโรคจิตเริ่มจะน่าเป็นห่วงขึ้นทุกที” เอาจริงๆ…
-
ครูสาวโรงเรียนคาธอลิกถูกไล่ออก หลังแต่งงานกับเพศเดียวกัน อ้างขัดหลักความเชื่อ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้มีคนเปิดรับและให้การสนับสนุนกลุ่ม LGBT หรือก็คือกลุ่มผู้มีความหลากหมายทางเพศมากขึ้น จึงมีหลายประเทศอนุญาตให้คนกลุ่มนี้แต่งงานกันได้แล้ว ที่รัฐไมอามีประเทศสหรัฐอเมริกาก็ให้กลุ่มรักร่วมเพศแต่งงานกันได้ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา แต่พอครูสาวในรัฐนั้นแต่งงานกับคู่รักเพศเดียวกัน เธอก็ถูกทางโรงเรียนไล่ออกเพราะเรื่องนี้ทันที โดยอ้างว่าขัดต่อความเชื่อของคาธอลิก อดีตครูสาว Jocelyn Morffi สาว Jocelyn Morffi อาศัยอยู่ในรัฐไมอามี ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอสอนหนังสือให้นักเรียนเกรด 1 (เทียบเท่าชั้นประถมศึกษาปีที่ 1) ในโรงเรียนคาธอลิก Saints Peter and Paul Catholic School มา 7 ปีแล้ว เธอเป็นคุณครูที่มีความสามารถและมีจิตใจดี เมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งแต่งงานกับคู่รัก Natasha Hass ที่หาด Florida Keys ในรัฐฟลอริด้า ทั้งคู่มีความสุขกันมาก แต่เมื่อเธอกลับมาทำงานทางโรงเรียนก็ไล่เธอออกโดยไม่บอกเหตุผล เธอเพิ่งแต่งงานกับคู่รักไปเมื่อไม่นานนี้ เธอจึงโพสต์เล่าเรื่องราวลงในโซเชียลมีเดียว่า “เมื่อสุดสัปดาห์นี้ฉันเพิ่งแต่งงานกับคู่ชีวิตไป แต่โชคร้ายที่การแต่งงานครั้งนี้ทำให้ฉันถูกไล่ออก ในสายตาของพวกเขาฉันเลือกคู่ชีวิตที่ไม่ตรงตามความเชื่อของคาธอลิก …” โพสต์ของครูสาวหลังจากเธอโดนไล่ออก นอกจากตัวเธอเองแล้ว ผู้ปกครองหลายคนก็ได้รับจดหมายแจ้งข่าวจากทางโรงเรียนถึงการไล่ครูสาวออกเช่นกัน ผู้ปกครองส่วนมากรู้สึกไม่พอใจเลยกับการตัดสินใจของทางโรงเรียน เพราะในจดหมายไม่ได้แจ้งเหตุผลที่หนักแน่นพอให้ไล่เธอออก ในจดหมายมีใจความว่า…
-
คุณครูอาสารู้สึกผูกพันกับนักเรียนเจ้าปัญหา หลังหมดสัญญาสอน ก็รับเขาเป็นลูกบุญธรรม…
คุณครูและนักเรียนเป็นความสัมพันธ์อีกรูปแบบหนึ่งที่มีความผูกพันกันมาก เพราะคุณครูหลายคนมักจะเอ็นดูลูกศิษย์เหมือนเป็นลูกแท้ๆ และนักเรียนเองก็รู้สึกว่าคุณครูเป็นผู้มีพระคุณของเขาเช่นกัน แต่คงมีครูน้อยคนนักที่จะมีสายใยลึกซึ้งกับลูกศิษย์ อย่างคุณครูสาว Chelsea Haley เธอรู้สึกถูกชะตากับนักเรียนที่ดูแลอยู่มากๆ ถึงขนาดที่ว่ารับเขามาเป็นลูกบุญธรรมเลยล่ะ… คุณครูสาว Chelsea Hailey และ Jerome Robinson นักเรียนเจ้าปัญหาของเธอ Haley เป็นคุณครูขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Teach For America ซึ่งจะส่งอาสาสมัครไปตามโรงเรียนที่มีค่าจ้างต่ำ เพื่อช่วยเหลือด้านการสอนในโรงเรียน โดยมีเป้าหมายให้นักเรียนทุกคนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน เธอถูกส่งมาสอนที่โรงเรียนระดับประถมศึกษาแห่งหนึ่งในกรุงแบตันรูซ รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา และที่นี่เองทำให้เธอได้พบกับนักเรียนเจ้าปัญหาชั้นเกรด 4 (เทียบเท่าป. 4) เป็นครั้งแรก และเขาก็คือหนุ่มน้อย Jerome Robinson Robinson เป็นนักเรียนที่มีปัญหามาก เขาไม่ตั้งใจเรียนและยังเคยถูกพักการเรียนด้วย ปัญหาของเขาน่าจะเกิดจากการที่ครอบครัวของเขายากจน และเพิ่งเสียคนในครอบครัวไปไม่นาน ตอนนี้เขาอาศัยอยู่ที่บ้านกับตา ยาย คุณแม่ และน้องชาย Jace เธอเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Teach For America สอนหนังสือโดยไม่แสวงหาผลกำไร Haley เข้าร่วมโครงการในปี 2013…
-
เด็กหญิงป.5 เป็นลมและเสียชีวิต หลังถูกคุณครูสั่งทำโทษ ให้วิ่งรอบสนามกว่า 4 รอบ
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2561 เวลาประมาณ 11.00 น. ด.ญ.ภัทราพร หรือน้องเนิร์ต วัย 11 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ป.5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้เข้าเรียนวิชาพละศึกษา แล้วมีเด็กนักเรียนชายในห้องเล่นกันขณะที่ครูกำลังสอน ครูจึงสั่งทำโทษนักเรียนทั้งห้องโดยการสั่งให้วิ่งรอบสนาม 4 รอบ น้องเนิร์ตจึงต้องวิ่งไป และเธอก็ล้มลง จนเพื่อนๆ ต้องช่วยกันนำตัวส่งห้องพยาบาล ในเบื้องต้นครูพยาบาลก็เช็ดตัวให้ ขณะนั้นน้องเนิร์ตยังพอรู้สึกตัวและสามารถลุกมากดน้ำเองได้แต่ก็กลับล้มฟุบลงไปอีก จนสุดท้ายทางโรงเรียนต้องติดต่อกลับไปหาผู้ปกครองให้มารับน้องเนิร์ตกลับบ้านเพราะเห็นว่าไม่สบายและตัวร้อน เมื่อพ่อและยายมาถึงก็พบว่าน้องเนิร์ตนอนตัวสั่น หายใจแรง และบอกว่ารู้สึกร้อนภายในตัวมาก จากนั้นพ่อและยายจึงรีบนำตัวน้องเนิร์ตส่งโรงพยาบาลตากสิน ขณะเดินทางไปโรงพยาบาลน้องเนิร์ตมีอาการคลื่นไส้อาเจียน พูดไม่รู้เรื่อง เกร็งกล้ามเนื้อ และก็หมดสติไป เมื่อถึงโรงพยาบาลแพทย์ได้แจ้งว่า น้องเนิร์ตได้ “เสียชีวิต” ตั้งแต่ก่อนมาถึงโรงพยาบาลแล้ว ทางคุณพ่อจึงเข้าไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน และขอนำศพน้องเนิร์ตเข้ารับการชันสูตรที่ โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งต้องรอผล 45 วัน หลังจากนั้นมีการติดต่อเข้ามาจากครูพยาบาลเพื่อสอบถามอาการของน้องเนิร์ต คุณยายจึงได้แจ้งครูพยาบาลไปว่าน้องเนิร์ตเสียชีวิตแล้ว จากนั้นก็ไม่มีใครติดต่อมาอีก และเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2561 พ่อของน้องเนิร์ตก็ได้เข้าพบผู้อำนวยการของโรงเรียน แต่กลับได้รับคำตอบว่าผู้อำนวยการไม่รับทราบเรื่องนี้เลย จากนั้นผู้อำนวยการและคณาจารย์จึงได้เข้ามาเป็นเจ้าภาพงานศพของน้องเนิร์ตในคืนที่ 3…
-
ครูสอนคณิตฯ สุดฮอต ร้อนแรงจนความหนาวก็ทำอะไรพี่แกไม่ได้ ชาวเน็ตตกหลุมรักระนาว!!
การเรียนในห้องเรียนนั้นค่อนข้างน่าเบื่อ จึงต้องอาศัยคุณครูมาช่วยทำให้เด็กสนใจการเรียนมากขึ้น แต่นอกจากเทคนิคการสอนที่สนุกสนานแล้ว ถ้าได้ครูหน้าตาดีมาสอน วิชานั้นจะดูน่าเรียนขึ้นเยอะเลย ถ้าใครคิดแบบนี้เหมือนกันน่าจะอยากมาเรียนกับคุณครู Robert Ligtvoet คุณครูรูปหล่อหุ่นเฟิร์มคนนี้จะมาทำให้ชั้นเรียนของคุณเร่าร้อนจนคุณตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเลยทีเดียว ครูหนุ่มวัย 28 ปีคนนี้นอกจากจะรับงานสอนหนังสือแล้วเขายังทำงานเป็นนายแบบอีกด้วย นอกจากนี้ยังรักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจเลย เวลาเข้าไปส่องรูปในอินสตาแกรมของเขาจึงมีแต่รูปน่าดูน่าชมทั้งน๊านนน พอครูคนนี้เข้ามาสอนทีไรต้องแย่งกันยกมือตอบตลอด คุณครูเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยว และก็เป็นคนรักธรรมชาติด้วย หน้าตาดีแล้วยังจิตใจดีอีก ดูเหมือนว่าครูจะชอบสัตว์น้ำเป็นพิเศษนะ เราก็ชอบ มองแล้วเพลินตาจริงๆ อิอิ หูยภาพใต้ผิวน้ำน่าดูมาก รู้สึกชุ่มฉ่ำหัวใจ นอกจากจะรักสัตว์แล้วคุณครูก็ชอบท่องเที่ยวแล้วถ่ายรูปมาฝากด้วย เห็นความงดงามแบบนี้ก็เคลิ้มเลย ไม่ว่าจะไปเที่ยวไหนคุณครูก็จะเอาสูทคู่ใจติดไปด้วยเสมอ มันทำให้เขาดูเร่าร้อนในทุกสภาพอากาศ ปกติไม่ชอบผู้ชายใส่สูทเท่าไหร่นะ แต่คนนี้ยอมยกใจให้ไปเล้ย เอ้ะ คุณครูใส่สูทเป็นชุดนอนเหรอ ทำไมตื่นเช้ามาเป็นชุดนี้เลย บางอารมณ์ครูก็อยากเป็นเงือกเซ็กซี่ดูบ้าง ซี้ดดด คุณครูไม่ได้หุ่นดีอย่างเดียวนะ ยังแข็งแรงมากด้วย ปกป้องเราได้ทุกสถานการณ์แน่นอน ถ้าซานตาคลอสใส่สูทก็คงจะหน้าตาเป็นแบบนี้แหละ หน้าหล่อไงล่ะ ฮ่าๆๆๆ เดี๋ยวววว ทำไมคุณครูตกผู้ชายล่ะ คุณครูชอบผู้ชายรึเปล่า!?…
-
เด็ก 9 ขวบติเตียนคุณครู ‘โคลัมบัสไม่ได้พบอเมริกา’ อย่าสอนอะไรผิดๆ พร้อมตั้งคำถามย้อน
บางทีสิ่งที่เราร่ำเรียนกันมานั้น อาจจะเป็นความรู้และข้อมูลที่ถูกส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ ซึ่งอาจจะไม่ได้ถูกต้องเสมอไป แต่พวกเราเองเรียนรู้มันมาอย่างนั้น โดยที่ไม่ได้สนใจหรือสังเกตเห็นความผิดปกติ แต่สำหรับเด็กชายวัย 9 ขวบที่ชื่อว่า King Johnson คนนี้ ไม่ยอมปล่อยให้ความผิดพลาดนั้นผ่านไปง่ายๆ แน่นอน เมื่อเขาพบว่าสิ่งที่เขาได้เรียนไปในเรื่องราวเกี่ยวกับ “ผู้คนพบอเมริกา” ที่ว่าเป็น Christopher Columbus นั้นมันไม่เป็นความจริง! เขาจึงทำการเขียนรีวิววิชาดังกล่าวในเชิงตำหนิลงในสมุดบันทึกของเขา พร้อมย้อนครูผู้สอนด้วยคำถามสุดเจ็บแสบเลยทีเดียว โดยใจความในบันทึกที่เขาเขียนก็ประมาณว่า สิ่งที่เขาได้เรียนมาไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นเรื่องโกหก พร้อมทั้งเฉลยความจริงให้ผู้อ่านได้ตาแตกกันไปอีก เขาเขียนว่า “วันนี้เป็นการเรียนหนังสือที่ไม่ค่อยดีนัก บลาๆๆๆ ผมไม่อยากได้ยินคุณครูพูดอะไรอีกแล้ว” “คุณครูสอนผิด และผมก็ไม่อยากจะฟังสิ่งที่ครูโกหกอีก แม่ผมบอกว่า มีคนชื่อ Christofer (Christopher) คนเดียวเท่านั้นที่พวกเรายอมรับ นั่นก็คือ Christopher Wallace“ (Christopher Wallace คือศิลปินแร็พชื่อดัง รู้จักกันในนาม Notorious B.I.G.) เขาเขียนต่อว่า “Columbus ไม่ได้เป็นคนค้นพบประเทศของเราเสียหน่อย ชาวอินเดียแดงต่างหากที่พบ” “ผมยังอยากมีวันหยุดอยู่นะ แต่ผมไม่อยากให้คุณครูสอนอะไรที่มันไม่จริงอีก” “และคำถามสำหรับวันนี้ก็คือ คนขาวจะมาสอนประวัติของคนผิวสีได้อย่างไรกันล่ะ?” ที่หมายความประมาณว่า คนผิวขาวจะมารู้ประวัติศาสตร์คนผิวสีที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกันได้อย่างไรกัน!? …
-
คุณครูผู้ไม่มีนิ้วมือ อุทิศตนด้วยชีวิตที่เหลืออยู่ เพื่อสอนให้กับเด็กที่ยังเรียนอยู่ไม่ไปไหน…
การที่ใครสักคนอุทิศตัวเองเพื่อช่วยเหลือและมอบโอกาสในการศึกษาให้กับผู้อื่นโดยที่ไม่คำนึงถึงความยากลำบากและไม่หวังผลตอบแทนนั้นช่างเป็นเรื่องที่ประเสริฐอย่างยิ่ง บุคคลนั้นก็คือ Chen Haiping คุณครูจากโรงเรียนชนบทวัย 51 ปี ในมณฑลซานซี ประเทศจีนทางตอนเหนือ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นบุคคลตัวอย่างบนเว็บไซต์อาลีบาบาของประเทศจีนจากการทุ่มเทให้กับการสอนหนังสือเด็กๆ แม้ว่าเขาจะเกิดมาโดยไร้นิ้วมือและนิ้วเท้าก็ตาม เรื่องราวของเขานั้นเริ่มต้นเมื่อเขาได้พบกับครูใหญ่ของโรงเรียนหมู่บ้านลิ่วเจียซาน ในปี 1990 ซึ่งในช่วงเวลานั้นทางโรงเรียนก็กำลังขาดแคลนครู จึงได้จ้างเขามาทำงานแทน Chen กล่าวว่า “ตอนนั้นผมอายุ 23 หลังจากที่ผมเรียนจบมาก็ไม่มีใครจ้างผมเลย งานนี้ทำให้ผมได้รับเงิน 50 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 250 บาท) ซึ่งผมก็พอใจอย่างมาก” แต่อย่างไรก็ตาม งานที่เขาทำอยู่นั้นค่อนข้างยากลำบากเนื่องจากความพิการของเขา การเขียนกระดานดำด้วยชอล์คจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ สำหรับเขา บางทีก็ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บจากเสี้ยนตำ และชอล์คก็มักจะหลุดจากมือเขาอยู่บ่อยๆ แต่ความลำบากนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขายอมแพ้จากการให้ความรู้และการศึกษาแก่เด็กๆ เขาจึงก้าวข้ามทุกอุปสรรคที่เขาพบเจอ เขาต้องตื่นแต่เช้าและต้องเดินทางกว่า 10 กิโลเมตรเพื่อมาศึกษาวิธีการสอนจากครูคนอื่น ก่อนที่เขาจะกลับไปสอนเด็กๆ ของเขาที่โรงเรียน โรงเรียนที่เขาสอนอยู่นั้นตั้งอยู่บนเขาในเมืองหลิ่วหลิน ทางตะวันตกของมณฑลซานซี รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า “โรงเรียนผี” ซึ่งแตกต่างกันมากเทียบกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นมีเด็กนักเรียนจำนวนกว่าร้อยคน แต่ตอนนี้เหลือนักเรียนเพียง 6 คนเท่านั้นที่มาเรียนทุกวัน รวมกับ…
-
ข้อสอบสะท้านใจนศ. จีน ดึงความพีคในข้อสุดท้าย ‘สะกดชื่ออาจารย์ผิด’ มีสิทธิ์คะแนนติดลบ!!
สำหรับนักศึกษาแล้วการสอบถือเป็นตัวชี้วัดชะตาของพวกเขา จึงต้องหมั่นขยันอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนอย่างหนัก เพื่อที่จะได้มีความรู้พอจะไปสู้ฟัดกับข้อสอบสุดหินที่อาจารย์ออกมาให้ได้ นักศึกษาในประเทศจีนเองก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน แต่ในปีนี้นักศึกษาจีนกลุ่มหนึ่งต้องตกตะลึงเมื่อพบคำถามสุดท้าทายข้อสุดท้าย พวกเขาต้องสะกดชื่ออาจารย์ที่สอนให้ถูกต้อง ไม่อย่างนั้นก็จะโดนหักคะแนนยับ ข้อสอบที่ว่านี้เป็นข้อสอบจากมหาวิทยาลัย Sichuan Vocational College of Culture and Communication ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยข้อสอบข้อสุดท้ายนี้ให้รูปอาจารย์มาทั้งหมด 7 ท่าน แล้วให้นักศึกษาเขียนชื่อของอาจารย์แต่ละท่านให้ถูกต้อง คำถามพิเศษข้อนี้ไม่มีคะแนนเพิ่มเติมให้นักศึกษาที่ตอบได้ถูกต้อง แต่ถ้าพวกเขาตอบคำถามข้อนี้ไม่ถูกล่ะก็ จะถูกหักคะแนนจากคะแนนที่ทำได้ในครั้งนี้ 41 คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งนับเป็นสัดส่วนที่เยอะพอสมควรเนื่องจากข้อสอบชุดนี้คิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ของเกรดทั้งหมดในเทอมนั้นเลย แม้ว่าคำถามข้อนี้จะดูง่ายไม่ซับซ้อน แต่นักเรียนบางส่วนที่ไม่ค่อยได้เข้าเรียนแล้วอ่านบทเรียนเอง จึงไม่รู้จักหน้าค่าตาอาจารย์แต่ละคนเลย คงไม่แปลกที่นักเรียนบางคนจะตอบคำถามนี้ไม่ได้ ในวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้โพสต์คำถามข้อนี้ลงใน Weibo (โซเชียลมีเดียของประเทศจีน) เอง จากนั้นก็มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากจนกลายเป็นกระแสไวรัลไป ชาวเน็ตบางส่วนมองว่าคำถามข้อนี้เจ้าเล่ห์มาก แต่ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งคิดว่าคำถามมันง่ายและเถรตรงดี ถ้าใครเข้าเรียนก็ได้คะแนนไป นักเรียนคนหนึ่งที่ได้ทำข้อสอบข้อนี้ให้สัมภาษณ์ว่าเขามั่นใจว่าตอบคำถามนี้ได้ถูกต้อง แต่ก็คิดว่าเพื่อนร่วมชั้นบางคนคงจะมีปัญหาเป็นแน่ เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเข้าเรียนและจำหน้าอาจารย์ได้ แต่บางคนก็ยังสะกดชื่ออาจารย์ไม่ถูกอยู่ดี อาจารย์ที่เป็นคนออกข้อสอบและคิดคำถามข้อนี้บอกว่า เหตุผลที่เธอทำคำถามข้อนี้ขึ้นมาก็เพื่อเป็นการวัดผลว่านักศึกษามีให้ความสนใจในชั้นเรียนมากน้อยแค่ไหน หากว่าพวกเขาใส่ใจในรายละเอียดมากพอก็ต้องตอบคำถามข้อนี้ได้แน่นอน เวลาจะไปสอบอย่าลืมดูชื่ออาจารย์เผื่อไว้ด้วยนะครับ…
-
5 ภาพยนตร์เกี่ยวกับ “ครู” เนื่องในวันครูแห่งชาติ ที่แนะนำว่าควรหามาชมให้ครบ..!!
คุณครู คือคนที่ช่วยขัดเกลาความรู้ หยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้กับนักเรียนทุกคน ช่วยส่งเสริมให้เราเป็นคนดี สามารถก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์พร้อม เพราะครูไม่ใช่คนที่มอบให้แต่ความรู้จากหนังสือหรือในห้องเรียน แต่พวกเขาคือคนที่ช่วยสนับสนุนและผลักดันให้เราสามารถมีชีวิตที่ดีได้ในอนาคต เนื่องในโอกาสวันครูแห่งชาติปี 2018 พวกเราชาวเหมียวจึงอยากชวนให้เพื่อนๆ ไปรับชมภาพยนตร์เกี่ยวกับคุณครู เพื่อรำลึกถึงหน้าที่ที่อาจารย์ทุกคนต้องรับผิดชอบ จนทำให้เราก้าวเข้ามาอยู่ในจุดๆ นี้ได้ จะมีเรื่องอะไรที่เราแนะนำบ้าง ลองไปดูกันเลย 1. School of Rock เรื่องราวของมือกีต้าร์สุดร็อก Dewey Finn ที่จับผลัดจับผลูกลายเป็นครูประจำชั้นในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ที่เต็มไปด้วยลูกคุณสนใจแต่การเรียนเป็นหลัก บางคนยังไม่รู้จักเลยว่าดนตรีร็อกคืออะไร แต่แล้ว Dewey ก็บังเอิญได้เห็นพรสวรรค์การเล่นดนตรีของนักเรียนในห้อง เขาจึงเกิดความคิดที่จะตั้งวงร็อกประจำโรงเรียนขึ้นมา 2. Harry Potter ซีรีส์หนังชื่อดังที่กล่าวถึงโรงเรียนเวทมนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้มีจุดเด่นอยู่ที่แค่ตัวละครพระเอก นางเอ หรือตัวโกงเพียงอย่างเดียว แต่เราจะได้เห็นการสั่งสอนของ ศาสตรจารย์ดัมเบิลดอร์ ซึ่งใช้คำพูดที่นิ่มนวลแต่ล้ำลึก คอยนำพาเหล่านักเรียนทุกคนให้เดินไปตามทางที่ถูกต้อง และพร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเด็กๆ อยู่เสมอ อาจารย์อีกคนที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องก็คือ ศาสตราจารย์สเนป ผู้ที่มีใบหน้านิ่งเฉย ดูเคร่งขรึม ดุดัน และน่ากลัว แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังสิ่งเหล่านั้น เขากลับเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยนและคอยช่วยเหลือนักเรียนมาโดยตลอด อย่างที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน…
-
สุดยอดคุณครูผู้เสียสละ สอนหนังสือบนภูเขาอันห่างไกล ส่งเด็กๆ ถึงฝั่งฝันมาร่วม 40 ปี
ผู้ที่ได้ชื่อว่า “ครู” นั้นจะเป็นผู้ที่นำความรู้และการศึกษามาให้กับเด็กๆ ที่เป็นลูกหลานของใครบ้างก็ไม่รู้ ดังนั้น ครูจึงเป็นเสมือนผู้ให้ ที่หารู้ไม่ว่าความรู้ที่คุณครูให้นั้นจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ก่อประโยชน์ให้คนๆ หนึ่งได้ตั้งแต่เด็กจนโต เรื่องราวที่จะนำเสนอต่อไปนี้คือเรื่องราวของผู้ที่ทำหน้าที่ครูผู้สอนถึงแม้ตนเองจะเลยอายุเกษียณแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมาสอนเด็กๆ ในโรงเรียนบนภูเขาอันแสนห่างไกล เพื่อให้เด็กๆ ที่นั่นได้รับการศึกษา มีความรู้ที่จะสามารถนำไปใช้เลี้ยงดูชีวิตตนเองได้ ชายผู้นี้ชื่อว่า Tan Zeguang ผู้ที่ทำการสอนที่โรงเรียนอนุบาลของหมู่บ้าน Gaoshan ในเทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ซึ่งทำการสอนมาแล้วรวม 40 ปี โรงเรียนแห่งนี้อยู่อย่างจากเมืองทืี่ใกล้ที่สุดราว 5 กิโลเมตร สำหรับ Tan Zeguang แล้ว นอกจากการสอน เขายังต้องดูแลชีวิตประจำวันของเด็กๆ ด้วย เมื่อ 40 ปีที่แล้ว มีเด็กที่เขาเคยสอนกว่า 500 คน แต่ทุกวันนี้เด็กๆ มักเลือกที่จะเข้าไปเรียนในเมือง เขาจึงมีเด็กนักเรียนน้อยลง แต่ด้วยวัยที่เข้าสู่ช่วงเกษียณแล้ว การมีครูอีก 2 มาช่วยสอนนั้นถือเป็นช่วยแบ่งเบางานของเขาได้ดีทีเดียว เขามองผู้ปกครองมารับลูกที่โรงเรียน Tan Zeguang กวาดลานที่โรงเรียน นี่คือภาพถ่ายอดีตนักเรียนของเขา บางเวลาเขากับเด็กๆ…
-
ครูสุดโหด ตบหน้านักเรียนกว่า 20 คนหน้าชั้นเรียน ทั้งที่เป็นวันเปิดเทอมวันแรก
การว่ากล่าวตักเตือนหรือลงโทษนักเรียน ก็ควรจะมีขอบเขตและกรอบที่เหมาะสม การกระทำเกินกว่าเหตุหรือการล่วงล้ำสิทธิในตัวของเด็กนับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการทำร้ายร่างกายเหมือนกับที่อาจารย์คนนี้ทำ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของมณฑลอานฮุย ประเทศจีน กับคลิปวิดีโอที่อาจารย์คนหนึ่งตบหน้าเด็กถึง 20 คนในวันเปิดเทอมวันแรก คลิปวิดีโอคุณครูตบนักเรียนหน้าห้อง ว่ากันว่าเสียงที่เกิดจากการตบนั้นดังมากขนาดที่ว่านักเรียนที่อยู่ห้องข้างๆ ยังได้ยิน โดยจากการรายงานของสำนักข่าวปักกิ่งเล่าไว้ว่า คุณครูคนนี้เดินทางมาจากย่านชนบทและให้นักเรียนเขียนบทกวีเก่าแก่ที่อยู่ในความทรงจำมาส่ง ถ้าหากว่าเขียนผิดก็จะถูกตบหน้าห้องเรียนเหมือนในคลิปที่ได้เห็น เป็นการลงโทษที่ไม่ว่าใคร ก็ไม่สมควรที่จะได้รับ เพราะไม่ใช่เป็นเพียงการกระทำที่เกินกว่าเหตุ แต่นี่คือการทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา กระแสของชาวเน็ตมากมายรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นและออกมาคอมเม้นท์ถึงการศึกษาในจีนเอาไว้อย่างเช่น “ผู้ชายในจีนเป็นคนที่อ่อนแอ จึงเอาความก้าวร้าวมาลงกับเด็กที่ไม่มีทางสู้” “การปฏิวัติทางวัฒนธรรมที่ทำให้ครูฉลาดๆ หายไปกันหมด” “เฮ้อออ.. นี่แหละนะการศึกษาที่ดีในประเทศที่ดี” หลังจากคลิปเผยแพร่ออกไป เขาก็ถูกเชิญออกจากโรงเรียนทันที ปิดฉากอาชีพครูแต่เพียงเท่านี้ แน่นอนว่านั่นคือความรุนแรงที่ไม่สมเหตุสมผล จึงไม่แปลกที่ทุกคนจะไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว ดังนั้นหากจะทำอะไรก็อย่าลืมที่จะตระหนักถึงความเหมาะสม หรือหนทางที่ไม่ต้องใช้ความรุนแรงจะดีกว่า ที่มา: shanghaiist
-
ครูสาวถูกจับกุม หลังส่งภาพเปลือยของตัวเอง ให้นักเรียนชายกว่า 5 คนในระยะหลายเดือน…
“ครู” ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่พิมพ์ของชาติ ดังนั้นจึงต้องวางตัวให้เหมาะสมและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียนอยู่เสมอ สิ่งไหนผิดก็ต้องตักเตือน สิ่งไหนไม่ควรก็อย่าไปส่งเสริม และเมื่อเห็นว่านักเรียนทำดีก็ต้องชื่นชม แต่สำหรับคุณครูคนหนึ่งในเมือง Logan รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย กลับส่งภาพเปลือยของตัวเองให้กับนักเรียนไม่ต่ำกว่า 5 คน จนทำให้เธอถูกจับกุมในข้อหาเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร Tracy Miller ครูสาววัย 27 ปี ได้ส่งรูปภาพเปลือยของตัวเอง เป็นจำนวนหลายภาพให้กับนักเรียนชายหลายคนผ่านแอพโซเชียล Snapchat และทำแบบนี้มาเป็นระยะเวลาหลายเดือนแล้ว เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน Logan High School กล่าวว่า พวกเขารับได้รับแจ้งเรื่องนี้หลังจากที่นักเรียนชายคนหนึ่งเข้ามาหา และให้ดูภาพที่เขาได้รับจากคุณครู Miller ต่อมาครูคนสาวคนดังกล่าวจึงถูกเรียกตัวไปสอบสวน เธอรับสารภาพว่าในปีนี้เธอได้มีการแลกเปลี่ยนภาพโป๊ของตัวเองกับนักเรียนชายอย่างน้อย 5 คน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของเธอทั้งหมด โดยจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้กันต่อไป และจะทำการสอบนักเรียนเพิ่มด้วยว่า นอกจาก 5 คนนี้แล้ว ยังมีคนอื่นๆ อีกหรือไม่ที่ได้รับภาพเปลือยจาก Miller? ตอนนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Miller เชื่อมต่อกับแอพที่กลุ่มนักเรียนใช้ได้อย่างไร นำเบอร์โทรศัพท์ของพวกเขามาจากไหน และเธอมีแรงจูงอะไรในการทำแบบนี้? สำหรับ Miller นั้น เธอได้รับว่าจ้างให้มาเป็นครูที่โรงเรียนตั้งแต่เดือนมกราคม…
-
ไปดูระบบการศึกษาของเนเธอร์แลนด์ อีกประเทศที่ประสบความสำเร็จด้านการปฏิรูปการศึกษา
ระบบการศึกษาแต่ละประเทศก็จะมีความแตกต่างกันไปบ้าง เพื่อทำให้ตนเองก้าวสู่ความเป็นหนึ่งในการให้ความรู้กับเยาวชนทั้งหลาย ซึ่ง เนเธอร์แลนด์ ก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับต้นๆ ของเรื่องนี้เลยทีเดียว ปัญหาในเรื่องของการเมืองที่ยาวนานไม่ได้สร้างผลกระทบให้กับความตั้งใจที่จะพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศแต่อย่างใด เพราะหลังจากเรื่องนั้นจบลงรัฐบาลก็ได้มุ่งเป้ามาที่การสร้างความเท่าเทียมให้กับทั้งโรงเรียนรัฐและเอกชน เพื่อการศึกษาที่ดีในทุกที่ทั่วประเทศ การศึกษาที่ดีไม่ถือว่าเพียงพอ เพราะจุดประสงค์ของพวกเขาก็คือทำให้มันอยู่ในระดับดีเยี่ยม จึงใส่ใจให้กับทุกสิ่งที่เป็นส่วนประกอบของการเรียนการสอน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน คุณครู หรือทางโรงเรียนเองก็ตาม ความเป็นอิสระถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นแกนหลักให้เด็กสามารถเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้อย่างเต็มที่ คุณครูสามารถใช้วิธีการสอนได้ตามที่ตนถนัด และเรื่องของการบริหารก็จะปล่อยให้ทางโรงเรียนเป็นคนจัดการโดยที่รัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซงใดๆ ถึงอย่างนั้นการพัฒนาก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอาจารย์ที่จะจะต้องมีประสิทธิภาพในการถ่ายทอดความรู้และทำให้เด็กมีแรงจูงใจกับการเรียนการสอน จึงได้เกิดวิธีการให้ครูผู้สอนสังเกตการณ์การเรียนการสอนของครูผู้สอนคนอื่นๆ และนำมาพัฒนาการเรียนการสอนของตัวเอง หรือแม้แต่การเข้าไปดูการสอนของอีกท่านเพื่อเป็นการชี้แนะและแนะนำให้เป็นไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นวิธีการที่สามารถสร้างได้ทั้งประสิทธิภาพและความสัมพันธ์ระหว่างกันได้อย่างดีเยี่ยม มองว่าคุณครูทุกคนก็เปรียบเสมือนทีมเดียวกันที่จะช่วยกันผลักดันให้ก้าวต่อไป ผู้อำนวยการวิทยาลัยไทลิงเกนในเนเธอร์แลนด์ ได้พูดว่า “แน่นอนว่าความสำคัญอย่างแรกของการเป็นครูคือความเชี่ยวชาญในเรื่องที่สอน และอย่างที่สองคือการเปิดรับเพื่อพัฒนาตนเองให้สามารถเข้าถึงนักเรียนได้ดีที่สุด เพราะว่าเรื่องที่สอนเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดทักษะความรู้” นอกจากนั้นกระทรวงศึกษาธิการของประเทศก็ได้จัดตั้งโปรแกรม School ann Zet ขึ้นเพื่อให้คุณครูในแต่ละภาควิชาที่แตกต่างกัน เข้ามาพูดถึงแผนการสองในอนาคตของตัวเองทุกเดือน และปรึกษาร่วมกันเพื่อให้มีผลสัมฤทธิ์ทางสอนและการเรียนรู้อย่างแท้จริง และแม้ว่าวิชาจะแตกต่างกัน แต่วิธีการหรือแนวทางการสอนก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาการสอนของตัวเองได้อีกด้วย เป็นทั้งการรับความรู้และการให้คำแนะนำในเวลาเดียวกัน คลิปวิดีโอที่มาและการจัดการระบบการศึกษาในเนเธอร์แลนด์ จากวิธีการของระบบดังกล่าวทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าพวกเขานั้นสนใจที่จะพัฒนาศักยภาพในตัวบุคคลทั้งหมด เพราะว่าในขณะที่นักเรียนเป็นผู้รับ อาจารย์เองก็เป็นตัวกลางที่จะถ่ายทอดความรู้ให้กับนักเรียนอย่างมีประสิทธิภาพอีกเช่นเดียวกัน และอิสระที่เท่าเทียมกับการช่วยเหลือกัน…
-
เกินกว่าเหตุ? โซเชียลแชร์คลิปครูบังคับเด็กกราบรองเท้า หลังทำรองเท้าหน้าชั้นไม่เป็นระเบียบ
กลายเป็นกระแสให้โลกโซเชียลถกเถียงกันอย่างร้อนแรง เมื่อมีการแชร์คลิปวิดีโอของคุณครูรายหนึ่งขณะบังคับให้นักเรียนก้มลงกับพื้นเพื่อกราบรองเท้า!? เมื่อช่วงบ่ายสองของวันที่ 4 สิงหาคม เฟซบุ๊กเพจ DR.K v.3 ได้แชร์คลิปวิดีโอของคุณครูในอ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ขณะทำโทษนักเรียนเนื่องจากวางรองเท้าไม่เป็นระเบียบ โดยการสั่งให้เด็กนั่งลงกับพื้นแล้วนำรองเท้ามาวางไว้บนหัว ก่อนจะสั่งให้เด็กนักเรียนก้มลงไปกราบรองเท้าต่อหน้าเพื่อนๆ นับสิบคน หลังจากที่คลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักตามมา โดยบางความเห็นมองว่าการกระทำของคุณครูดูรุนแรงเกินกว่าเหตุ ในขณะที่บางรายบอกว่าควรมองที่ต้นเหตุว่าเกิดจากอะไรมากกว่า ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย วุฒิภาวะขนาดนี้แต่ยังใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง…ยังไงก็ไม่สมควรทำแบบนี้กับเด็กว่ากล่าวตักเตือนก็ได้…ไปอารมณ์เสียมาจากไหนวะ #เเค่วางรองเท้าไม่เป็นระเบียบ #เหตุเกิดที่ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี โพสต์โดย DR.K v.3 บน 4 สิงหาคม 2017 ความเห็นบางส่วนจากโลกออนไลน์ ต่อกรณีคุณครูลงโทษเด็กนักเรียน เยลลี่ สีโซดา “นี่ไม่ใช่การสั่งสอนหรือสมควรที่จะได้รับบทลงโทษแบบนี้ ครูนี่ใส่อารมณ์อย่างฉุนเฉียวแบบรุนแรงเลย มีเตะมีเขี่ยรองเท้า กระทืบๆ รองเท้าคู่นั้นด้วย” Ning Neverdie “เด็กเขาอายเพื่อนนะนั้น สภาพจิตใจของเด็กจะเป็นยังไงน้อ คุณครูขาาา” Shaye Saint John “ต้องดูก่อนเด็กมันทำอะไร ครูมันอาจจะคิดไม่ออกว่าควรทำโทษอย่างไรให้เด็กมันสำนึกก็เลยทำแบบนี้” Olichika Wivien…
-
อดีตครูสาววัย 24 ปีถูกจับ หลังมีเซ็กส์กับนักเรียนชายวัย 17 ปีบ่อยครั้ง ทั้งในรถและในบ้าน…
เข้าใจว่าปัจจุบันนี้เซ็กส์มีหลากหลายรูปแบบ และสามารถทำกันได้ทุกเพศทุกวัย แต่บางทีก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและกฎหมายบ้านเมืองด้วย อย่างกรณีของ Loryn Barclay อดีตครูสาววัย 24 ปี จาก Washburn รัฐ Missouri ถูกกล่าวหาว่ามีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนชายวัย 17 ปี ในข่าวระบุว่าเธอกับลูกศิษย์ได้มีเพศสัมพันธ์กันหลายครั้งบนรถของฝ่ายชาย ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2016 และในเดือนมกราคม 2017 ทั้งคู่ก็มีเซ็กส์กันที่บ้านของนักเรียนชายถึง 2 ครั้ง ในขณะที่เธอเป็นครูอัตราจ้างของโรงเรียน Monett High School ใน Lawrence County หลังจากที่ถูกสอบสวน Barclay ให้การสารภาพว่าเธอมีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนจริงตามที่ถูกกล่าวหา ทางโรงเรียนจึงปลดเธอออกจากตำแหน่งหน้าที่การงาน และปล่อยให้เธอถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ภายหลังจากที่ถูกจับกุมแล้ว Barclay ก็ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว หลังจากยื่นเงินประกันตัวเป็นจำนวน 800,000 บาท แต่ต้องกลับมาขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดีอีกในวันที่ 24 กรกฎาคม 2017 ส่วนข้อมูลของฝ่ายนักเรียนชายคนดังกล่าวนั้นสื่อไม่ได้ระบุเอาไว้แต่อย่างใด ที่มา dailymail
-
เมื่อ นศ. มาสาย โดนปิดประตูห้ามเข้าวิทยาลัย ครูกระชากคอแถมถาม “มึงเก๋าเหรอ!?”
กลายเป็นประเด็นดราม่าพร้อมเสิร์ฟร้อนๆ บนโลกออนไลน์ให้ โดยเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน เฟซบุ๊กของคุณ Mai Anuphab ได้โพสต์ภาพและข้อความถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเผยให้เห็นภาพจากหน้าวิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช ซึ่งมีนักศึกษามายืนรอหน้าประตูอยู่หลายคน ทว่าคุณครูไม่ให้เข้าโดยให้เหตุผลว่าเด็กๆ มาสาย ภาพจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการเล่าว่าภายในวันนั้น มีเด็กเทคนิคคนหนึ่งให้เหตุผลถึงการมาสาย แต่อาจารย์คนดังกล่าวกลับแสดงพฤติกรรมอารมณ์ร้อน และพูดจาหยาบคาย แถมยังมีการกระชากคอเสื้อนักเรียนคนหนึ่ง และพูดกับนักเรียนว่า “มึงเก๋าเหรอ มึงสดนักเหรอมาเจอกับกูนี่มา…” ภาพกลุ่มเด็กนักเรียนที่ไม่สามารถเข้าโรงเรียนได้ ทางเจ้าของโพสต์ก็ได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า.. “เราควรจะมีกฎที่ดีนะครับ ถ้าคุณจะมาทำกันแบบนี้ก็ควรตั้งกฎหรือข้อตกลงร่วมกัน ไม่ใช่มาทำตามอารมณ์ตามอำเภอใจแบบนี้ ทุกคนควรมีเหตุผลมากกว่านี้นะ ทุกคนที่มาสายต่างก็มีธุระของตัวเองทั้งนั้น คุณก็มีธุระของคุณเช่นกัน ฝากท่านผอ. ช่วยตรวจสอบดูหน่อยนะครับว่าพวกเขาทำถูกแล้วหรือยัง” หลังจากที่เรื่องนี้ถูกแชร์ลงบนเฟซบุ๊ก ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นาๆ บ้างก็มองว่าการกระทำของคุณครูไม่เหมาะสมและรุนแรงเกินไป บ้างก็มองว่าเป็นความผิดของตัวเด็กเองที่มาเรียนสาย หรือบ้างก็อาจจะมองว่าอย่าเพิ่งฟังความข้างเดียว รอฝั่งคุณครูออกมาชี้แจงก่อนดีกว่า เราก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะออกมาเป็นยังไง หรือ.. มันจะเงียบหายไปอย่างไร้ร่องรอยกันนะ!? ที่มา: Mai Anuphab
-
คุณครูหนุ่มใช้ “เพลงฮิปฮอป” เป็นสื่อช่วยสอน เพื่อให้ “วิชาคณิตศาสตร์” ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
ในสมัยที่ทุกคนกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยม เชื่อว่าทุกคนต้องเคยมีโมเมนต์ที่เบื่อการเรียนคณิตศาสตร์มากๆ เพราะนอกจากมันจะยากแล้ว การเรียนการสอนมันก็ช่างแสนน่าเบื่ออีกด้วย (#เหมียวอ๊อดโด้ ล่ะคนหนึ่งที่เกลียดวิชาคณิตศาสตร์มากๆ) แต่คุณครูชาวแอฟริกาใต้คนนี้ได้คิดค้นวิธีการสอนคณิตศาสตร์ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนได้อย่างสนุกสนานไม่และไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ด้วยการนำเพลงฮิปฮอป การแรป และการเต้นเข้ามาเป็นสื่อช่วยสอน ฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อที่คณิตศาสตร์กับเพลงฮิปฮอปจะมาอยู่ด้วยกัน แต่ก็เป็นเรื่องจริง คุณครูคนนี้มีชื่อว่า Kurt Minnaar วัย 31 ปี จากเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เขาเล่าว่าเด็กนักเรียนของเขาหลายคนประสบปัญหากับวิชาคณิตศาสตร์มาก เนื่องจากการเรียนการสอนคณิตเป็นเรื่องน่าเบื่อ จนพวกเขาไม่สามารถโฟกัสไปที่เนื้อหาได้ ซึ่ง Kurt ก็เข้าใจดีเพราะเคยผ่านมาก่อน ด้วยความที่เขาเคยเป็นนักออกแบบท่าเต้นและศิลปินเพลงฮิปฮอปมาก่อน เขาจึงตัดสินใจลองพัฒนาแนวทางการสอนใหม่ๆ ขึ้นมาด้วยความรู้ที่เขามี จนกลายเป็นการสอนคณิตศาสตร์แบบฮิปฮอปอย่างที่เราได้เห็นกัน “วิธีการสอนแบบดั้งเดิมนั้นน่าเบื่อมาก มีเด็กในห้องของผมบางคน ทำโจทย์ระดับประถมไม่ได้ด้วยซ้ำ ผมจึงลองใช้เพลงแรป สร้างวิธีการสอนแบบใหม่ขึ้นมา เพื่อให้เหมาะกับเด็กๆ ที่สมาธิสั้นหรือมีอาการไดอาเล็กเซีย” Kurt กล่าว โดยเขาได้เขียนเพลงแรปที่มีเนื้อหาเป็นการสอนบวกลบคูณหารขึ้นมาหลายเพลงและให้นักเรียนได้จำไปร้อง ขณะเดียวกันระหว่างอยู่ในชั้นเรียน เขาก็จะสอนนักเรียนเต้นไปด้วย เพื่อให้นักเรียนได้ผ่อนคลาย และกลับมามีสมาธิกับสิ่งทีกำลังสอน ซึ่งหลังจากทดลองนำสื่อฮิปฮอปมาใช้งาน ผลปรากฎว่านักเรียนของเขาสามารถเรียนวิชาคณิตศาสตร์ได้ดียิ่งขึ้น “ผมเห็นผลลัพธ์ในแง่บวกของนักเรียนของผม…
-
อย่างเนียน!! หนุ่มปลอมตัวเป็น “อาจารย์” เข้าไปสอนในมหา’ลัย ก่อนตัวจริงชะแว๊บเข้ามา
ในหลายๆ ครั้ง (หรือจริงๆ คือส่วนใหญ่) ของการเรียนไม่ว่าจะในระดับมัธยมหรือมหาลัย มันจะค่อนข้างน่าเบื่อขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งเราคาดหวังอยากจะให้มีเรื่องราวสนุกๆ เกิดขึ้นภายในชั้นเรียนของเราบ้าง อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ ช่องยูทูบ Chamber Boys ที่ก่อตั้งโดยคนกวนๆ 4 คน ได้แก่ Munna, Pat, Abby, และ Travis พวกเขาได้สุมหัวกันและได้ไอเดียขึ้นมาว่า อยากจะปลอมตัวเข้าไปเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่ไหนสักแห่งเพื่อแกล้งเหล่านักศึกษาผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และมหาวิทยาลัยที่โชคดีนั้นก็ได้แก่ มหาวิทยาลัยแห่งรอเชสเตอร์ (University of Rochester) โดยหนึ่งในทีมงานที่ชื่อ Munna ได้ร่วมมือกับ Patrick นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ แล้วปลอมตัวเป็นศาสตราจารย์ Hafensteiner ก่อนจะเข้าไปแนะนำตัวกับนักศึกษาในวันแรกของการเปิดเรียน แน่นอนว่าทุกๆ คนไม่มีใครเคยเห็นศาสตราจารย์ Hafensteiner มาก่อน พวกเขาทั้งหมดจึงคิดว่านาย Munna คือศาสตราจารย์ผู้มีความรู้จริงๆ เมื่อเข้ามาถึงชั้นเรียนเขาก็แนะนำตัวเองว่าเขาคือศาสตราจารย์ Hafensteiner ที่จะมาสอนวิชาเคมีและยังบอกกับพวกเขาด้วยว่า “สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับวิชานี้คือมันโคตรจะยากเลยนะ ปีที่แล้วมีคนสอบตก 55% ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดเลย” จากนั้นศาสตราจารย์ Hafensteiner (ตัวปลอม) ก็ประกาศให้ทุกๆ คนรู้ว่าเขาไม่ชอบให้นักเรียนใช้คอมพิวเตอร์ในห้องเรียน เพราะมันจะทำให้พวกเขาเรียนรู้ได้แย่และสั่งให้พับเก็บลงให้หมด ผลปรากฏว่ามีคนเชื่อและเก็บไปแบบงงๆ ถึง 14 คนทีเดียว (นักเรียนคงคิดในใจว่าแล้วจะจดเลคเชอร์กันยังไง)…
-
คุณครูต้อนรับนักเรียนทุกเช้าในชุดที่แตกต่าง เพราะอยากให้เด็กๆ เริ่มต้นวันใหม่ด้วยรอยยิ้ม
เวลานึกถึงคุณครู เราอาจนึกถึงชายหรือหญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวด้วยชุดสุภาพ แล้วยืนต้อนรับนักเรียนด้วยใบหน้าอันแสนเรียบเฉย จนบางทีก็แอบรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อเหมือนกัน แต่นั่นไม่ใช่กับครูโรงเรียนประถมในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาแห่งนี้ เพราะทุกๆ วัน เธอจะออกมาต้อนรับนักเรียนด้วยชุดคอสเพลย์ที่แตกต่างกันออกไป คุณครูคนนี้มีชื่อว่า Cindy Matthews วัย 56 ปี ทุกๆ เช้าเธอจะเป็นคนที่มาคอยยืนต้อนรับนักเรียนที่หน้าโรงเรียน วันหนึ่งเธอก็คิดขึ้นมาว่า มันคงจะดีนะ ถ้าเธอสามารถมอบรอยยิ้มให้กับเด็กๆ ที่เพิ่งมาถึงโรงเรียนได้ เธอจึงเริ่มหาชุดและอุปกรณ์มาคอสเพลย์ “ทำแบบนี้ก็สนุกดีนะ มันทำให้ช่วงเช้าอันแสนน่าเบื่อผ่านไปเร็วขึ้น ฉันจะได้ไม่ต้องแค่นั่งเฉยๆ และท่องคำว่า ‘สวัสดีตอนเช้า’ กับนักเรียน” Cindy กล่าว Cindy เล่าว่า เธอเป็นครูโรงเรียนอนุบาลมากว่า 15 ปีแล้ว แม้จะทำงานมานานขนาดนี้ แต่ทุกวัน เธอก็ยังคงออกมาต้อนรับนักเรียนด้วยรอยยิ้มและความสุขเสมอ “นักเรียนบางคน ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจฉันเท่าไหร่ ฉันจึงเป็นฝ่ายเข้าไปทักทายพวกเขาเอง เท่านั้นก็ทำให้พวกเขายิ้มได้ และฉันก็มีความสุขไปด้วย” Cindy กล่าว โดยชุดของเธอมีตั้งแต่มิกกี้เมาส์ มินนี่ และตัวละครอื่นๆ อีกมากมาย แน่นอนว่าเด็กๆ ชอบเธอมาก ครูใหญ่ของโรงเรียนกล่าวว่า…
-
นักเรียนจีนงง!! เมื่อค้นพบว่าครูหนุ่มเป็นนัก “คอสเพลย์” แถมแต่งเป็นผู้หญิงด้วย
เราคงจะเคยเห็นการคอสเพลย์มานักต่อนักแล้ว การคอสเพลย์สมัยนี้ไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกเพศอีกต่อไป ผู้หญิงบางคนก็สามารถคอสเป็นผู้ชายได้ และผู้ชายบางคนก็สามารถคอสเป็นผู้หญิงได้ด้วยเช่นกัน คอสเพลย์เหมือนเป็นงานอดิเรกที่คนกลุ่มหนึ่งนิยมกัน และคนทั่วไปก็ไม่สามารถเดาได้เลยว่ามีใครที่เคยแต่งชุดคอสเพลย์มาบ้าง เพราะว่าภาพตอนแต่งนั้นจำแทบไม่ได้เลย เหมือนอย่างคุณครูชาวจีนท่านนี้ในนามแฝง Crome Moe จากเมืองกวางตุ้ง เขาทำให้ห้องเรียนลุกเป็นไฟ หลังจากที่นักเรียนได้ค้นพบอีกตัวตนหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณครู เหตุการณ์เริ่มจากมีนักเรียนคนหนึ่งทักครูไป พร้อมกับส่งภาพนักคอสเพลย์สาวคนหนึ่งที่ถูกสงสัยว่าเป็นครู แต่แล้วเหตุการณ์ก็ถูกเปิดเผย เมื่อค้นไปค้นมาก็พบว่าครูก็คือคนที่อยู่ในภาพจริงๆ แถมไม่ใช่แค่ภาพนี้ภาพเดียวด้วย ครูยังคอสเพลย์เป็นอีกหลากหลายตัวละครจากหลายๆ เรื่อง ไปดูกันว่าแต่ละชุดนั้นจะน่ารักแค่ไหน The Guild Sweetheart จาก Monster Hunter . Hanayo Koizumi จาก Love Live! Rikka Takanashi จาก Chuunibyou demo Koi ga Shitai! . . . Riko Aida จาก Kuroko no Basuke . .…
-
แกล้งเซปชั่น!! ครูแกล้งปฏิเสธไปงานปาร์ตี้ ปามือถือนักเรียนลงพื้น นั่งเงียบนั่งเหวอทั้งห้อง
และเรื่องราวต่อไปนี้ จะมาทำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกับความเงียบที่แท้จริง จะเป็นอย่างไรลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า.. ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ Jonathan Takagi และ Noah Endermann ทั้งคู่เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนมัธยม Escondido Charter รัฐแคลิฟอร์เนีย ทั้งคู่มักจะออกไปฉลองวันเกิดด้วยกันอยู่เสมอในทุกๆ ปี สำหรับงานวันเกิดของ Endermann ในปีนี้ คู่หูอาจารย์ทั้งสองคนก็ได้วางแผนเอาไว้ว่าจะทำการเซอร์ไพรส์เหล่านักเรียนด้วยเรื่องที่คาดไม่ถึง!! (เข็มขัดนั่นเองงง ถรุ้ยยยย) “พวกเราใช้เวลามากกว่า 1 สัปดาห์ในการเตรียมตัวเพื่อให้แผนนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี” Joseph Mendoza วัย 18 ลูกศิษย์ของอาจารย์ Takagi กล่าว ในวันครบรอบวันเกิดของอาจารย์ Endermann นักเรียนจากห้องเรียนของอาจารย์ Takagi ก็ได้พากันยกขโยงไปยังห้องเรียนของอาจารย์ Endermann เพื่อเซอร์ไพรส์และเชิญชวนเขาไปงานปาร์ตี้ ซึ่งแผนก็คืออาจารย์ Endermann จะทำการปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย!! ทุกคนหยุดชะงัก จากนั้นอาจารย์ Endermann ก็ยิ่งทำท่าเหมือนกับไม่พอใจ และรำคาญมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการหันมาสอนนักเรียนของตัวเองต่อ “ฉันรู้สึกกลัวมากๆ และไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป” Sara Badrani ลูกศิษย์ของอาจารย์…
-
19 วีรกรรมสุดแสบของ “คุณครู” ที่ทำเอาเหล่านักเรียนปวดตับ กับการสอนสุดแหวก!!!
ปกติแล้ว บรรยากาศในห้องเรียนนั้น ส่วนมากคนที่สร้างความปั่นป่วนให้มากที่สุดก็คงจะเป็นตัวนักเรียนเอง ซึ่งก็จะทำให้ครูผู้สอนปวดหัวกับพฤติกรรมต่างๆ แต่จะเป็นยังไงถ้าเกิดว่าเป็นครูซะเองที่ทำให้นักเรียนปวดหัวได้ และนี่คือ 19 วีรกรรมของคุณครูที่ทั้งเจ๋งและแสบในเวลาเดียวกัน เอาไว้แก้เผ็ดเหล่านักเรียนที่ทำตัวเหลวแหลกได้ จะเป็นยังไง เราไปดูกันเลย ครูเพิ่มช่องทางพิเศษสำหรับคนที่ส่งงานช้า นั่นก็คือลงถัง… ครูที่ให้นักเรียนยืมปากกา แต่ต่อจากนี้นักเรียนคงไม่กล้ายืมแล้วล่ะ เห็นทั้งห้อง ครูส่งเมล์เฉลยข้อสอบมาให้ พอเปิดดู เป็นเพลง Rick Rolled ซะงั้น ครูผู้ซีเรียสกับฟอนต์และขนาดมาก ถ้าฟอนท์ไม่ใช่แบบที่บอก จะเผากระดาษงานทิ้งซะ ฮ่าาา สำหรับนักศึกษาที่เป็นแฟนกัน แล้วชอบมาจิ๊จ๊ะในห้องเรียน พวกเธอน่ะดูไม่ดีเล๊ยยยย เมื่อครูยึดโทรศัพท์จากนักเรียน แล้วเอามาคืน มอบเกียรติบัตรให้นักเรียนในรางวัลเบอร์มิวด้า เพราะว่าการบ้านที่สั่งไปมันหายไปหมดเลย มันคืองานอาร์ต เมื่อนักเรียนอยากรู้ว่าครูดื่มอะไร หมุนมาเจอป้านแปะว่า “น้ำตานักเรียน” เขียนผิดชีวิตเปลี่ยน แต่ครูก็ยังวาดรูปมาให้ดูด้วยนะ (Serial Killer ฆาตกรต่อเนื่อง – Cereal…
-
ครูพละสุดเฟี้ยว ใส่ “ชุดเดิม” มาถ่ายรูปประจำปีมาตลอด 40 ปี เป็นการคุมโทนที่ยาวนานที่สุด!!
ตั้งแต่มีโซเชียลเน็ตเวิร์คที่เราสามารถอัพโหลดรูปภาพได้ ก็ทำให้เกิดกระแสการคุมโทนเพื่อความสวยงามของโปรไฟล์ของเรา แต่รู้หรือไม่ว่าได้มีคนหนึ่งได้คุมโทนมานานกว่า 40 ปีแล้ว คนๆ นี้ชื่อว่า Dale Irby เป็นคุณครูพละที่สอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ย้อนกลับไปในปี 1973 เขาได้ถ่ายภาพประจำปี ซึ่งครูทุกคนก็ต้องถ่าย และภาพที่ออกมานั้นก็เป็นเหมือนภาพถ่ายหน้าตรงทั่วไป แต่อีกหนึ่งปีถัดมา เขาได้ใส่เสื้ออันเดิมไปถ่ายอีกครั้ง ซึ่งเป็นความบังเอิญ พอเห็นว่าโทนมันกำลังไปได้ดี ก็เลยตัดสินใจที่จะทำต่อมาเรื่อยๆ ครูเล่าว่า “ตอนแรกก็รู้สึกเขินๆ ตอนได้รับรูปของปีที่สองที่ไปถ่าย แล้วก็เห็นว่าชุดมันไปเหมือนกับของปีแรก” หลังจากที่เขาเอาชนะความเขินมาได้ และในปีที่ 3 ภรรยาของเขาก็ได้ท้าให้เขาใส่ชุดเดิมอีก เขาก็เลยลองใส่มีอีก 5 ปี “หลังจากถ่ายมา 5 ปี มันเหมือนแบบ ทำไมไม่ทำต่อล่ะ?” หลังจากนั้นคุณครูก็คุมโทนมาตลอดระยะเวลา 40 ปี และในปี 2013 ครูก็ได้เกษียณอายุ ปิดฉากการถ่ายรูปมาตั้งแต่นั้น.. เรียกได้ว่าคุณครูท่านนี้เป็นผู้คุมโทนที่มาก่อนกาลจริงๆ ใครที่มีอินสตาแกรมและอยากคุมโทนก็ลองเอาไอเดียของครูท่านนี้ไปลองใช้กันได้ไม่ว่ากัน ที่มา dallasnews
-
อาจารย์เคมีในจีน ผลิตยาบ้าส่งขายอเมริกา-ยุโรปทุกเดือน ทำเงินกว่า 21 ล้าน?!?!
เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินข่าวหรือได้ดูซีรี่ย์จากอเมริกเรื่องหนึ่งชื่อว่า Breaking Bad ที่ว่าด้วยเรื่องของอาจารย์สอนเคมีที่กำลังจะตายด้วยโรคมะเร็ง เขาจึงใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ผลิตยาบ้าขายเพื่อหาเงินก้อนสุดท้ายให้ครอบครัวให้ได้มากที่สุด ก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไป แต่เชื่อหรือไม่ เรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้เป็นเรื่องราวสมมุติในหนังเท่านั้น แต่ในชีวิตจริงก็มีอาจารย์สอนเคมีผันตัวไปเป็นผู้ผลิตยาเสพติดจนร่ำรวยเหมือนกัน เรื่องราวจะเป็นยังไง ไปติดตามกันเลย เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น ในมณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน เมื่อทางตำรวจได้จับกุมอาจารย์สอนเคมีคนหนึ่งแซ่จางวัย 46 ปี หลังจากพบว่าเขาได้ร่วมมือกับชายอีกสองคนผลิตยาเสพติดจำหน่ายจนมีรายได้เป็นกอบเป็นกำในแต่ละเดือน โดยนายจางได้สำเร็จการศึกษาทางด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ก่อนจะกลายผันตัวเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ต่อมานายจางพบว่ายาเสพติด Flakka กำลังเป็นที่นิยมในออสเตรเลีย แต่กลับหาซื้อได้ยากและมีผู้ผลิตน้อย พอเขากลับมาจีน เขาจึงเช่าโรงงานแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่นสร้างเป็นแหล่งผลิตยาบ้า ส่งขายยังอเมริกาและยุโรป จนเขาสามารถทำเงินได้กว่าเดือนละ 21 ล้านบาทเลยทีเดียว แม้พวกเขาจะพยายามคุมเส้นทางการเดินของเงินให้รัดกุมที่สุดโดยมีการจ่ายเงินผ่าน Bitcoin และ UnionPay แต่สุดท้ายทางตำรวจก็สามารถติดตามและจับกุมพวกเขาได้ในที่สุด เรียกว่าเป็นการใช้ความรู้ไปในทางที่ผิดจริงๆ เห็นแล้วนึกถึงต้นตำหรับยาบ้าในไทยเลย ที่ส่งลูกไปเรียนเคมีเพื่อกลับมาผลิตยาเสพติด (พาไปรู้จัก “กัลยาณี อร่ามเวชอนันต์” ผู้ให้กำเนิด “ยาบ้า” คนแรกในประเทศไทย…) ใครสนใจก็ลองกดเข้าไปอ่านดูได้นะเหมียววว ที่มา Shanghaiist
-
เด็กนักเรียนรวมตัวกันร้องเพลง ให้ครูป่วยมะเร็งถึงบ้าน… และเธอก็สิ้นใจเมื่อเพลงจบลง
มีคุณครูจำนวนไม่น้อยเลยนะ ที่นอกจากจะสอนหนังสือแล้ว พวกเขายังสอนบทเรียนชีวิต ให้ความรักความเอ็นดูแก่เด็กๆ ประหนึ่งว่าพวกเขาเป็นลูกเป็นหลาน ทำให้เด็กๆ รักและยกย่องพวกเขา เช่นเดียวกับเรื่องราวของคุณครู Marian Walker ผู้สอนวิชาขับร้องประสานเสียงในโรงเรียนมัธยม Alvin Junior High School ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเป็นที่รักของนักเรียนเอามากๆ แต่แล้วการสอนหนังสือของเธอก็ต้องหยุดลงเมื่อเธอตรวจพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็ง และมันกำลังเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่งเธอได้ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนเพื่อไปรักษาตัวต่อที่บ้าน เหล่าลูกศิษย์ของเธอรู้ดีว่าการต่อสู้กับโรคร้ายของเธอใกล้จะจบลงในเร็วๆ นี้ พวกเขาเลยรวมตัวกันไปที่บ้านของคุณครู Marian เพื่อร้องเพลงเซอร์ไพรส์เธอที่นอนอยู่ในบ้าน ซึ่งเป็นเพลงที่ครูเคยสอนและคุ้นเคยดี เมื่อครอบครัวของ Marian เห็นเด็กๆ มายืนกันที่หน้าบ้าน พวกเขาจึงเปิดประตูบ้านเพื่อที่เสียงร้องของลูกศิษย์จะได้เข้าไปถึงเธอได้ง่ายๆ ลองฟังเพลงที่เด็กๆ ร้องเพื่อครูของเธอเป็นครั้งสุดท้ายกัน เพลงที่เด็กๆ เลือกมาร้องเป็นเพลง Oceans โดยศิลปิน Hillsong ที่มีเนื้อหาทราบซึ้งกินใจ เมื่อเพลงที่เด็กๆ ร้องจบลงไม่กี่นาที Marian ก็ได้เสียชีวิตลง ทางด้านครอบครัวของเธอเชื่อว่าบทเพลงทั้งหมดช่วยให้เธอผ่อนคลายและจากไปอย่างสงบ ของคุณคุณครูมากเลย ที่ครั้งหนึ่งได้สั่งสอนให้เด็กๆ มีความรู้ความสามารถ และพวกเขาจะจดจำคุณครูตลอดไป ที่มา heroviral , Inside Edition
-
เปิดวาร์ป!! พาไปรู้จัก ‘Oksana Neveselaya’ คุณครูสาวยูเครน ที่กำลังดังในโลกออนไลน์
ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับคุณครูแสนสวย Oksana Neveselaya เมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่นมาคลิปวิดีโอของเธอได้กลายเป็นประเด็นสุดฮ็อตในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง เพราะมีนักเรียนคนหนึ่งแอบถ่ายคลิปตอนที่เธอสอนหนังสือ แล้วก็เอาไปโพสต์ลงในเว็บไซต์ยูทูป เพียงคลิปสั้นๆ 15 วินาทีในยูทูบเท่านั้นก็ทำให้คุณครูสาวกลายมาเป็นที่ป็อปปูลาร์อย่างรวดเร็ว หลังจากที่ชาวเน็ตทั้งหลายได้เข้ามาชมแล้วต่างก็ถามเป็นคำถามเดียวกันว่า ‘สาวสุดฮ็อตคนนี้เป็นใคร?’ เอาล่ะในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับคุณครูคนนี้กันว่าเป็นใครอะไรยังไง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปชมพร้อมกันได้เลยจ้า… Oksana Neveselaya มีบ้านเกิดอยู่ที่เมือง Kiev ประเทศยูเครน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย National University of Kyiv ปัจจุบันเธอเป็นคุณครูสอนคณิตศาสตร์อยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมือง Minsk ประเทศเบลารุส นอกจากนั้นแล้วเธอยังมีงานอดิเรกคือการเป็นนางแบบอีกด้วย (แหม่ แบบนี้จะไม่ให้ฮ็อตได้ไงล่ะ) ด้วยความฮ็อตแบบสุดๆ นี้ทำให้ผู้คนแห่เข้าไปกดติดตามเธอในอินสตาแกรม ทำให้ตอนนี้ยอดผู้ติดตามพุ่งขึ้นไปสูงถึง 439,000 คนแล้ว!! และแต่ละภาพที่เธอโพสต์เองก็มีคนกดไลค์ไม่ต่ำกว่า 20,000 คนเลยล่ะ แหม่ คาดว่าคลาสเรียนของคุณครูคนนี้คงจะไม่มีเด็กขาดเรียนกันอย่างแน่นอน (โดยเฉพาะเด็กผู้ชายอ่ะนะ 555+) แถมวาร์ป!! อินสตาแกรม o_neveselaya เฟซบุ๊ค Oksana Neveselaya ที่มา…
-
ครูจีนใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า ตรวจว่านักเรียนคนไหนเบื่อ จะได้สอนให้ดีขึ้น!!
ปัจจุบันอาจารย์หลายท่านก็หันมาใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการช่วยสอนหนังสือ นอกจะจะสะดวกมากยิ่งขึ้นแล้วยังทำให้นักเรียนสามารถเข้าใจและสนใจการเรียนมากยิ่งขึ้นด้วย แต่สำหรับ Wei Xiaoyong อาจารย์ภาควิทยาศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัย Sichuan University ของจีน เขาได้ใช้เทคโนโลยีที่เหนือไปกว่านั้น นั่นก็คือการจดจำใบหน้าของนักเรียนแต่ละคน เพื่อให้เกิดความน่าสนใจในการสอนมากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เขาเคยใช้เทคโนโลยีชิ้นนี้เพื่อการตรวจว่านักเรียนคนไหนเข้าเรียนบ้าง ตอนแรกก็เอาไว้เช็คชื่อนักเรียนอย่างที่หลายๆ คลาส ในหลายๆ สถาบันทำกันน่ะแหละ แล้วหลังจากนั้นก็พัฒนามาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ ที่ตรวจจับใบหน้าสามารถตรวจจับความรู้สึกของนักเรียนได้แล้ว และทีนี้ก็เลยนำมาประยุกต์เข้ากับการสอน ในการเทคโนโลยีชิ้นนี้ทำให้เรารู้ว่าเด็กรู้สึกยังไงกับเนื้อหาที่เขาได้สอนไป ตรงจุดไหนที่นักเรียนชอบ ตรงจุดไหนที่นักเรียนในห้องไม่ชอบ หรือเกิดอาการเบื่อ จากนั้นเขาก็เก็บข้อมูล และสามารถนำไปปรับปรุงได้ ซึ่งเป็นผลดีต่อทั้งนักเรียนและครูผู้สอนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เขายังแนะนำให้อาจารย์ท่านอื่นได้ลองนำไปใช้ด้วย และหวังว่าเทคโนโลยีชิ้นนี้จะใช้อย่างแพร่หลายเพื่อให้เกิดการสอนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เห็นแล้วน่าลองเอามาใช้ที่บ้านเราดูนะ โดยเฉพาะอาจารย์บางคนที่นักเรียนบ่นเหลือเกินว่าสอนได้น่าเบื่อ ตรงจุดนี้อาจจะเป็นทางออกเล็กๆ ของการศึกษาและแนวทางการสอนให้นักเรียนรู้สึกสนุกด้วยก็ได้… ที่มา telegraph
-
ล้ำมากๆ!! และนี่คือ 18 คุณครูตัวอย่าง ที่ก้าวข้ามการสอนแบบเดิมๆ ไปสู่ระดับที่เจ๋งขึ้น
ต้องขอบอกเลยว่าทุกวันนี้ โลกของเรานั้นพัฒนาไปรวดเร็วมาก ทั้งทางด้านเทคโนโลยี และวัฒนธรรมต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีในเรื่องของการศึกษาที่ต้องเปลี่ยนบทเรียนและวิธีการสอนให้เข้ากันได้กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปด้วย แต่วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเหล่าคุณครูที่ต้องขอบอกเลยว่าพวกเขาได้ก้าวข้ามการสอนแบบเดิมๆ ไปสู่เลเวลใหม่แล้ว จะเป็นอย่างไรกันบ้าง ลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. คุณครูที่ทำรายชื่อมาให้นักเรียน แต่ช่างน่าสงสารคุณครูที่ชื่อก็จำย๊ากยาก เจเดน อายดีน ไอเดน ไอแดน 2. ตื่นเช้าเดินเข้าห้องมา ก็จะพบกับเหตุการณ์ประจำวันที่คุณครูวาดไว้บนกระดาน (เลิศ!!) 3. แต่งชุดไททันเพื่อสอนวิชาอนาโตมี 4. ให้นักเรียนนั่งถกกันไป ส่วนคุณครูเรอะ มานั่งถ่ายรูปกับไฟท้ายของนักเรียน ฮร่า (ดูเหมือนจะเป็นการเรียนการสอนของระดับปริญญาโทนะ) 5. ใช้มีมเป็นตัวช่วยในการสอน เอาซะฮาเลย (เมื่อพระอาทิตย์ถึงจุดจบจะเป็นอย่างไรน่ะเหรอ? ถ้าฉันตายฉันจะพาพวกเธอไปด้วยยย หึๆ) 6. ตื่นมาเรียนตอน 7 โมงเช้า แล้วพบว่าอาจารย์ใส่ชุดนอนมาสอนทุกวัน -*- 7. เป็นการออกข้อสอบที่ต้องขอบอกเลยว่านักเรียนทั้งหลายจะต้องร้องจ๊ากกก เลยทีเดียว…
-
คุณครูเขียนจดหมายให้กำลังใจนักเรียน 130 คน หลังจากเกือบสูญเสียลูกศิษย์เพราะ ‘โรคซึมเศร้า’
ความเศร้าสามารถนำพาชีวิตของคนหนึ่งคนไปสู่การฆ่าตัวตายได้ อาจจะฟังเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่แท้จริงแล้วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามากๆ อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นกับเรา แต่เกิดขึ้นกับคนที่อยู่ข้างๆ เราก็เป็นได้ เรื่องเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน คุณครู Brittni Darras ได้พบปะกับผู้ปกครองของนักเรียนภายใต้การดูแลของเธอในงานประชุมผู้ปกครอง และแล้วก็มีคุณแม่รายหนึ่งเข้ามาหาเธอเพื่อทำการบอกเล่าเหตุผลว่าทำไมลูกสาวของเธอถึงขาดเรียนเป็นประจำ คุณแม่เล่าว่าเหตุที่ลูกสาวของเธอนั้นขาดเรียนบ่อยๆ เป็นเพราะว่าลูกสาวของเธอเป็นโรคซึมเศร้า เคยคิดที่จะฆ่าตัวตายมาแล้ว แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามายับยั้งเอาไว้ได้ โดยที่ลูกสาวของเธอพร้อมที่จะลาโลกนี้ไปด้วยการลบบัญชีสื่อโซเชียลทั้งหมดทิ้งพร้อมกับร่างจดหมายลาตายไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อได้ยินเช่นนั้นคุณครู Brittni Darras ก็เป็นห่วงมาก จึงเขียนจดหมายส่งไปให้ลูกศิษย์ผ่านคุณแม่ ใจความในจดหมายนั้นไม่ไดมีบอกโดยละเอียด แต่พอจะสรุปจากรูปที่เห็นได้คร่าวๆว่า ‘ถึงจะผ่านอดีตอันขมขื่นมา แต่เธอก็พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าประสบความสำเร็จ ครูชอบที่จะรับรู้เรื่องราวบ้าๆบอๆของพวกเธอ แล้เธอจะไปได้สวยแน่ในอนาคต ภูมิใจในตัวเธอมากนะ ทำดีต่อไปล่ะ ลงชื่อ คุณครู Darras’ เมื่อเธอได้รับจดหมายนั้น ทั้งคุณแม่และลูกสาวต่างร้องไห้ทันที ถึงกับพูดออกมาว่า ‘หนูไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนห่วงใยหนูขนาดนี้ หนูไม่คิดเลยว่าจะมีใครคิดถึงหนูถ้าหากว่าหนูจากโลกนี้ไปแล้ว’ จากเหตุการณ์ที่เกือบจะสูญเสียลูกศิษย์ของเธอจากการฆ่าตัวตาย ด้วยความเป็นห่วง คุณครูก็เลยใช้เวลากว่า 2 เดือน เขียนจดหมายให้กับลูกศิษย์อีก 130…
-
ครูไต้หวันสุดเทพ โชว์การวาด “ร่างกายมนุษย์” โดยใช้ชอล์กสีระหว่างการสอน!!
การสอนที่ได้ประสิทภาพคือการสอนที่สามารถทำให้นักเรียนเข้าใจและเห็นภาพไปด้วย แต่จะทำแบบนั้นได้ก็ต้องมีเทคนิค ซึ่งแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป แต่สำหรับคุณครูชาวไต้หวันที่ชื่อว่า Chuan-Bin Chung เขามีเทคนิคที่ไม่เหมือนใคร เพราะเขาสามารถวาดภาพลงบนกระดานได้แบบสดๆ ซึ่งภาพที่เขาวาดนั้นก็เป็นโครงสร้างของมนุษย์ (ขอเดาว่าสอนชีวะ) โดยใช้ชอล์กสี (มีไวท์บอร์ดด้วย) ภาพที่วาดนั้นก็ดูไม่ธรรมดานะ มีการวาดโครงขึ้นรูปจริง และที่สำคัญต้องวาดเร็วมากแน่ๆ เพราะจะให้ทั้งคาบมัวแต่วาดมันก็จะกินเวลามากเกินไปจนไม่ทันสอน ไปชมผลงานการวาดภาพของคุณครูท่านนี้กันเลย . . . . . . . . เป็นไงล่ะ นึกว่ากำลังเรียนศิลปะอยู่เลยใช่มั้ย เด็กดูก็คงจะเห็นภาพมากยิ่งขึ้น ที่มา designyoutrust
-
คุณครูเขียนคำบนโต๊ะ “ให้กำลังใจ” เด็กๆ ที่กำลังจะมาสอบ และลดความเครียด!!
การสอบเรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายของนักเรียนทุกคนเลยก็ว่าได้ เพราะเราต้องทบทวนความรู้ทุกอย่างที่ได้เรียนมาตั้งแต่ต้นเทอมถึงท้ายเทอม เป็นอะไรที่หนักหนาเหมือนกัน ไม่ใช่เฉพาะนักเรียนเท่านั้น ครูก็กังวลไปด้วย เพราะการที่เด็กจะสอบได้หรือไม่ได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าครูจะสามารถถ่ายทอดความรู้ให้นักเรียนได้มากน้อยแค่ไหน เหมือนอย่างที่โรงเรียน Woodbury School System ในนิวเจอร์ซี่ คุณครู Chandni Langford ตั้งใจอยากให้เด็กๆ ทุกคนมีผลสอบที่ดี ก็เลยได้เขียนโน๊ตลงไปบนโต๊ะเพื่อให้กำลังใจเด็กๆ พร้อมกับโดนัทอีก 2 ชิ้น น่ารักมากกกก ที่นิวเจอร์ซี่นั้น ตอนป.5 จะมีการสอบวัดการเรียนที่ชื่อว่า PARCC ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เด็กๆ จะเครียดและกดดันเป็นอย่างมาก คุณครูก็เลยจัดการเขียนบนโต๊ะเด็กทุกคน ด้วยข้อความที่ไม่ซ้ำกันเลย ภาพเหล่านี้ถูกโพสต์ในเพจของโรงเรียน จนมียอดแชร์เกือบ 20,000 และผู้คนต่างก็ชื่นชมความเอาใจใส่ของคุณครูท่านนี้อีกด้วย ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น #เหมียวสามสี ก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน ตอนนั้นครูแจกลูกอมให้ทุกคน มันก็ทำให้เรารู้สึกลดความตึงเครียดลงไปได้เยอะเลย ที่มา distractify
-
18 ภาพฮาๆ ที่จะมาเป็นข้อพิสูจน์ว่า อาชีพครูคือหนึ่งในอาชีพที่เจ๋งและสนุกที่สุดในโลก!!!
สำหรับอาชีพครูและอาจารย์นั้น หลายๆ คนอาจจะมองว่าเป็นอาชีพที่จริงจังเข้งขรึมซีเรียสกลับงาน แถมยังต้องเป็นตัวอย่างที่ดีเป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติอีก อะไรจะขนาดน้านนนนนน!!! แต่แน่นอนว่าอย่างหนึ่งที่คุณจะได้รับก็คือการคลุกคลีกับเหล่าเด็กๆ นั่นเอง และมันหมายความว่าคุณจะสามารถแกล้งหรือกวนพวกเขาขำๆ บางครั้งบางคราวก็ได้นะเออ… และนี่ก็คือทั้ง 18 ภาพที่จะมาพิสูจน์ว่า อาชีพครูเป็นหนึ่งในอาชีพที่เจ๋งและฮาสุดๆ ไปเลยทีเดียว ไม่เชื่อล่ะก็เพื่อนๆ มาดูกันได้เลย!!! นักเรียน: โฟรโด้ จากไชร์ กำลังจะเดินทางไปที่มอร์ดอร์ อนุญาตโดย แกนดัล์ฟสีขาว เอาเข้าไป-*- โดนอาจารย์ยึดมือถือไป…และเมื่อเขาส่งคืนกลับมา เอิ่มมมมมม ที่หนีบกระดาษ (ข้อสอบนักเรียน) ที่เขียนว่า ‘ไม่ได้เรื่อง’ ทุกอัน ฮร่าาา อาจารย์ที่คิดข้อสอบนี้…จัสติน บีเบอร์โยนของขึ้นไปในแนวดิ่งที่ความเร็ว 10.0 m/s จากยอดเขาสูง 122.5 เมตร (น่าทำขึ้นมั้ย?) แต่งชุดนี้มาสอนจริงๆ เหรอจารย์!? ใครทำผิดพลาดอะไรในข้อสอบก็เอามาขึ้นบอร์ดซะเลย นายคนนี้ลืมเขียนชื่อในกระดาษคำตอบ ฮ่าๆๆๆ อาจารย์เป็นคนจีน และพยายามจะทำให้นักเรียนในชั้นดูเป็นคนจีนตอนพรีเซ้นท์งาน -*-…
-
หมอจุดเดือดต่ำ ด่าครูที่เรียกร้องให้ปรับเงินเดือนเท่าหมอ #ควายสอนหนังสือ?!?!
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ มีข่าวว่าจะมีการทำเรื่องปรับเงินเดือนครูให้เท่ากับหมอ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนอินเตอร์เน็ตมากมาย ล่าสุดมีหมอคนหนึ่งได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยเธอบอกว่าเงินเดือนของหมอกับครูนั้นเท่ากันอยู่แล้ว เพราะใช่ฐานเงินเดือนเดียวกัน แต่ที่หมอได้เยอะกว่าเพราะมีค่าเข้าเวรต่างหากถ้าอยากได้เงินเยอะก็ไปเรียกร้องให้ปรับเงินเดือนให้เท่ากันข้าราชประเภทอื่นดีกว่า พร้อมทั้งด่าครูที่ออกมาเรียกร้องว่าเป็นพวก “ควายสอนคน” เมื่อเรื่องโพสของเธอถูกเผยแพร่ออกไป เธอก็ได้รับเสียงวิจารณ์มากมาย เดือดจริงๆ คุณหมอก็ออกจะรุนแรงไปซักนิดหนึ่ง เพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้บ้าง ลองเสนอกันเข้ามานะเหมียวว ที่มา ซักที่บนอินเตอร์เน็ตนี่แหละ
-
มีสไตล์!! อาจารย์มหาลัยญี่ปุ่นสุดเฟี้ยว แต่งชุดคอสเพลย์เข้าสอนในชั้นเรียน
ประเทศญี่ปุ่นนี่มีอะไรมาให้เราได้ตื่นเต้นตลอดจริงๆ ซึ่งส่วนมากก็เป็นอะไรที่สร้างสรรค์ทั้งนั้น (ไม่เหมือนประเทศจีนหรืออินเดียที่เป็นทรงน่าตกใจมากกว่า) อย่างเช่นข่าวที่เหมียวอ๊อดโด้ นำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมวันนี้ รับรองว่าเห็นแล้วต้องอิจฉานักศึกษาญี่ปุ่นแน่นอน ที่พวกเขามีอาจารย์สุดเฟี้ยวแบบนี้!! เรื่องราวดังกล่าวเป็นของ Kazunori Uhyo Sugiura หรือ Pietoro Woo Hiyo Hiyo ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยการออกแบบสื่อ มหาวิทยาลัยไคโอะคนนี้ ซึ่งความเจ๋งของเขาคือ เขาแต่งชุดคอสเพลย์มาสอนหนังสือ!! เขาบอกว่าเขาเป็นอาจารย์สอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิชาวัฒนธรรมโอตาคุ ถ้าวันไหนที่เขาสอนวิชาวัฒนธรรมโอตาคุ เขาก็จะแต่งคอสเพลย์มาสอน ซึ่งชุดส่วนมากเขาก็จะทำชุดเองทั้งนั้น ซึ่งนับตั้งแต่เริ่มสอนวิชานี้ เขาก็แต่งชุดคอสเพลย์มาตลอด โดยเลือกเอาจากการ์ตูนหรือเกมที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้น อย่างล่าสุด แกเพิ่งคอสเพลย์เรื่อง Attack on Titan ไป เป็นไง เฟี้ยวมั้ยละ คงจะเป็นชั้นเรียนที่สนุกน่าดูเลยนะเนี่ย ใครที่ชื่อชอบก็ไปกดติดตามเพจของเขากันได้นะฮะที่ PIetoro Woo Hiyo Hiyo หรือถ้าใครอยากจะลองไปเรียนกับแก ก็ลองไปเรียนได้ที่ญี่ปุ่นนะจ๊ะ ฮาาาา ที่มา Rocketnews24
-
อาจารย์เผลอก็โดนเลย!! นักเรียนเงิบทั้งห้องหลังอาจารย์ลืมปิดจอฉาย รู้กันหมดว่าเปิดดูอะไร
ช่วงเวลาแห่งการเรียนนั้น ในยุคปัจจุบันอาจารย์ก็จะมีการเปิดโปรเจคเตอร์ฉายภาพจากคอมพิวเตอร์เพื่อประกอบการสอนให้กับนักเรียนจำนวนมากๆ และหลังจากที่สอนเสร็จก็จะทำการปิดหน้าจอฉายหรือไม่ก็กดแช่ภาพไว้ พร้อมกับสั่งงานให้นักเรียนทำในชั้น ภายในคลิปดังกล่าวเป็นคลิปสั้นๆ มาจากชั้นเรียนไม่ทราบสถาบัน โดยเป็นบรรยากาศในชั้นเรียนช่วงที่อาจารย์ปล่อยพักระหว่างคาบหรือสั่งงานไปแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คืออาจารย์ดันลืมปิดหน้าจอ สิ่งที่อาจารย์กำลังส่องอยู่นั้นก็โผล่ออกไปให้นักเรียนเห็นหมดเลย!! ภาพที่ปรากฏออกไปนั้นแสดงให้เห็นว่าอาจารย์กำลังส่องชุดชั้นในผู้หญิงอยู่!? สำหรับคลิปดังกล่าวถ่ายมาได้โดยนักเรียนในชั้นโพสต์ผ่านเว็บไซต์ reddit ในนาม D3Gamma แถมยังคิดด้วยว่าที่อาจารย์กำลังส่องอยู่นี้แกอาจจะดูราคาแล้วซื้อไปให้เมียแกก็เป็นได้ แหม่!! เอามาแฉขนาดนี้ อาจารย์จะมาเห็นบ้างมั้ยเนี่ย ว่าแต่ทำไมไม่มีใครบอกอาจารย์ซักหน่อยเลยล่ะ รู้กันไปทั้งบางแล้วพี่น้อง ที่มา : metro, theladbible, reddit
-
คุณครูสุดเฟี้ยว สอนนักเรียนเล่น “ควิชดิช” พร้อมถ่ายภาพออกมาเหมือนเล่นจริงๆ!!
Anshu Agarwal เขาเกิดมาพร้อมกับทักษะการถ่ายภาพที่สวยงามไม่เหมือนใคร เขาได้ปล่อยภาพชุดหนึ่งออกมา เล่าเรื่องราวของเด็กๆ และคุณครูคนหนึ่งในหมู่บ้านใน Uttarakhand ประเทศอินเดีย ที่กำลังเล่นกีฬาควิชดิช ซึ่งเป็นกีฬาชื่อดังในแฮร์รี่ พอตเตอร์ หมูบ้านแห่งนี้ชื่อว่า Kalap เป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลสถานีรถไฟไป 210 กิโลเมตร และ Anshu Agarwal ก็เป็นคนหนึ่งที่เคยมาเยือนที่แห่งนี้ในฐานะครูสอนพูดภาษาอังกฤษจากวรรณกรรมและหนัง หลังจากที่เขาเปิดหนังเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ให้เด็กๆดู พวกเขาก็เริ่มมีความฝันว่าอยากจะเป็นพ่อมดขึ้นมาทันที เขาก็เลยตัดสินใจสร้างการแข่งขันนี้มา พร้อมกับถ่ายภาพเด็กๆ ในคราบนักกีฬาควิชดิช ที่กำลังลอยตัวอยู่บนไม้กวาด . ตอนที่เขาบอกกับนักเรียนว่าจะสอยลอยตัวให้ พวกเขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก พร้อมกับพาเขาไปที่ลานกว้าง ใช้เวลานานกว่า 4 วันในการถ่ายรูปในส่วนต่างๆ ถ่ายมาเยอะมากจนเด็กๆ พอใจ . ดูจากภาพแล้วก็พอจะรู้ว่าการถ่ายลอยตัวมันยากแค่ไหน แต่เด็กๆ ก็ไม่ยอมแพ้ พยายามกระโดดให้เท่ากันและดูเหมือนลอยจริงๆ . และนี่คือคุณ Anshu Agarwal ช่างภาพและคุณครูผู้ใจดี ที่ทำให้เวทมนตร์เกิดขึ้นได้จริงๆกับเด็กๆ ที่มา brightside
-
นักเรียนทำเซอร์ไพรส์ มอบ “เค้กวันเกิด” ให้อาจารย์หลังทราบว่าไม่ได้ฉลองมา 10 ปีแล้ว!!
อาชีพครูเป็นอาชีพแห่งการให้โดยแท้จริง นักเรียนอาจจะมองครูว่าสบาย แต่ความจริงแล้วมันเหนื่อยกว่าที่เราคิดมาก ครูไม่ได้มีหน้าที่แค่สอนหนังสือ แต่ยังต้องทำคะแนน ถ้าคิดว่าการบ้านของนักเรียนเยอะแล้ว ของครูเยอะยิ่งกว่า ยิ่งเป็นครูที่อเมริกายิ่งเหนื่อยยิ่งกว่า ที่นู่นเขามองว่าครูกับนักเรียนเท่ากัน เราจึงจะเห็นว่านักเรียนกับครูจะโต้เถียงกันบ่อยๆ หรือถ้าครูคนไหนขี้เกียจสอนก็เคยมีกรณีที่นักเรียนเดินออกจากห้องไปเลยก็มี แต่สำหรับคุณครู Kyle Simpler วัย 56 ปี เขาเป็นครูอีกคนที่เป็นที่รักของนักเรียน คุณครูท่านนี้ประจำอยู่ที่โรงเรียน Burleson High School และเขาก็ไม่มีโอกาสได้จัดฉลองวันเกิดมานานกว่า 10 ปีแล้ว เด็กนักเรียนจึงติดสินใจที่จะจัดวันเกิดให้คุณครูท่านนี้ซะเลย ทำเอาพูดไม่ออก เราไปชมบรรยากาศจากในคลิปนี้เลย Threw our teacher a surprise party. He doesn’t remember the last time he has a bday cake pic.twitter.com/yR3jOGByTw — Sae (@Saeya8) February 11, 2016 คลิปนี้ถูกรีทวีตไปกว่า 5 หมื่นครั้ง…
-
หนุ่มๆ สาวๆ หลบไป เมื่อคุณปู่ชาวจีนวัย 72 ปี ผันตัวมาเป็นครูสอนโยคะขั้นเทพ!!
ปกติถ้าพูดถึงครูสอนโยคะ ภาพของคุณครูที่อยู่ในหัวของเพื่อนๆ เป็นยังไง? ใช่แบบนี้รึเปล่า? แต่แบบนี้มันอาจจะเชยไปแล้ว เพราะที่ไหนๆ เขาก็มีกัน เหมียวเลยจะพาเพื่อนๆ ไปชมครูสอนโยคะวัยดึก ที่ต้องบอกว่าดึกสุดๆ ไปเลย เพราะปัจจุบัน เขามีอายุถึง 72 ปีแล้ว! คุณปู่คนนี้มีชื่อว่า Le Mingchao เป็นชาวเมืองหางโจวในประเทศจีน ทุกวันนี้เขาเปิดสอนโยคะให้กับคนทั่วไป โดยเขามีชั้นเรียน 1 ห้อง และผู้เข้าร่วมราว 20 คน ซึ่งหลังจากข่าวของคุณปู่เผยแพร่ออกไป ก็มีหลายคนให้ความสนใจอยากมาเรียนด้วย แต่คุณปู่บอกว่า ขอสอนแค่นี้ก่อน แต่กำลังคิดจะเปิดห้องเรียนเพิ่มอีกซักสองสามห้องเหมือนกัน แต่ถ้าคุณปู่คนนี้ยังไม่เร้าใจพอล่ะก็ เหมียวก็มีครูสอนโยคะอีกคนมาแนะนำ นั่นก็คือคุณปู่ Hou Zhenshan วัย 84 ปีคนนี้นั่นเอง ลีลาธรรมดาที่ไหนกันละ สุดยอดเลยคุณปู่แต่ละคน ขนาดเหมียวยังหนุ่มอยู่ ยังทำแบบนี้ไม่ได้เลย…
-
จิตวิญญาณแรงกล้า!! อาจารย์มหาวิทยาลัยยังคนสอนต่อไป ถึงแม้น้ำจะ “ท่วม” ห้องเรียนไปแล้ว
กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงในสังคมออนไลน์ที่เมืองนอก หลังจากภาพเหล่านี้ถูกแชร์ออกไป ซึ่งเป็นภาพของศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ สอนหนังสือให้กับนักศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่พื้นห้องเต็มไปด้วยน้ำ เหมียวว่าชีวิตนี้เราต้องเจอมาบ้างแหละ อาจารย์ที่อยากสอนหนังสือมากๆ แบบที่ฝนตกหนักก็ยังลุยฝนมาสอนได้ นักศึกษาก็ลุ้นใจจะขาดว่าอ.จะมาไหม สุดท้ายพออ.เปิดเข้ามา ทำเอานักศึกษาเซ็งกันไปเลย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ซาน ดิเอโก, แคลอฟอร์เนีย ได้เกิดน้ำท่วมขึ้นในสัปดาห์นี้ ทำให้หลายแห่งต้องหยุดทำการไป แต่ยังมีอาจารย์คนหนึ่งชื่อว่า Kenneth Barrese เขายังทำหน้าที่ผู้สอนได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าห้องเรียนจะถูกน้ำท่วมไปแล้ว นี่มันจิตวัญญาณนักสู้โดยแท้ เขาลงทุนเดินลุยน้ำสอนเลย จนนักศึกษาต้องถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก และในห้องนั้นก็ได้มีนักศึกษาบางส่วนต้องหยุดเรียน เนื่องจากน้ำท่วม มาเรียนไม่ได้ด้วย แต่หลังจากภาพนี้ถูกเผยแพร่ไปมากๆ ก็ได้มีเสียงวิจารณ์ออกมาว่าการเดินลุยน้ำในห้องเรียนมันอันตรายมากๆนะ เพราะน้ำเหล่านี้มันสกปรก การเอาเท้าไปแช่นานๆ เป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อสุขภาพเท้าเลย อาจได้โรคมาด้วย บางคนก็บอกว่ามันไม่คุ้มที่จะเอาตัวเองมาเสี่ยง ทางที่ดีอยู่กับบ้าน นั่งเล่นเกมดีกว่า เพื่อความปลอดภัย ที่มา distractify
-
เมื่อผมสอนวิชาประวัติศาสตร์…คุณครูเผยภาพสมุดของนักเรียน อธิบายประวัติศาสตร์ได้เข้าใจง่ายม๊าก!!
หากจะพูดถึงวิชาที่น่าเบื่อ ที่ไม่ว่าใครได้เรียนก็หลับกันเป็นแถว เห็นจะหนีไม่พ้นวิชาประวัติศาสตร์ละนะ เพราะมีรายละเอียดที่เยอะมากกก ใครทำอะไร เมื่อไหร่ ที่ไหน แถมยังเป็นเหตุการณ์ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว การจะให้มานั่งท่องจำ อาจจะต้องใช้เวลานานสักหน่อย และด้วยความยากของวิชานี้เอง ทำให้เด็กๆ ต้องการวิธีในการจดจำ เช่นการจดโน๊ตเล็กๆ ไว้ในกระดาษ การใช้ปากกาไฮไลท์เพิ่มสีสัน หรือแม้แต่การวาดรูปก็ช่วยให้เนื้อหาในตำรานั้นน่าจดจำได้เหมือนกัน อย่างเช่นเรื่องราวที่เหมียวจะให้ดูต่อไปนี้ เมื่อไม่นานมานี้เหมียวได้ไปเจอเข้ากับภาพชุดหนึ่งจากเฟซบุ๊กของคุณ Chonlapoom Banharn ซึ่งเป็นคุณครูท่านหนึ่งจากโรงเรียนสาธิตมศว. ปทุมวัน เป็นภาพสมุดวิชาเรียนประวัติศาสตร์ของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ที่จดได้ละเอียด เข้าใจง่าย พร้อมกับวาดภาพน่ารักๆ ประกอบไปด้วย ทำให้วิชาที่น่าเบื่อ กลายเป็นวิชาที่ง่ายต่อการเข้าใจมาก . . . . . . . . . . . . . . . . . ทั้งนี้คุณครูยังได้บอกผ่านเฟซบุ๊กด้วยว่า อยากให้มีสำนักพิมพ์สักแห่งจ้างนักเรียนคนนี้ไปวาดรูปให้เหลือเกิน…
-
รวมเหล่าคุณครูสาวๆสุดน่ารักจากทั่วประเทศ เห็นแล้วอยากกลับไปเรียนอีกครั้งเลย <3
ปกติถ้าเราพูดถึงคุณครูผู้หญิง ภาพในหัวของเราอาจเป็นคุณครูวัยกลางคนท่าทางดุๆ ที่เห็นแล้วมีแต่ความเคารถยำเกรงโดยไม่มีจิตอกุศลอย่างใด เหมียวก็ได้แต่สงสัยว่า คุณครูวัยสาวสวยหมวยเอ็กส์ มันหายไปไหนหมด เรียนมาสิบกว่าปีแทบไม่เคยเจอเลย แต่วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมคุณครูสุดสวยน่ารักจากทั่วประเทศ ที่เพื่อนๆเห็นแล้ว จะลืมภาพคุณครูวัยกลางคนไปเลยล่ะ จะน่ารักขนาดไหน ไปชมกันเลย ทำไมตอนเหมียวเรียน ถึงไม่เจอครูแบบนี้บ้างน้าา ว่าแล้วไปซื้อใบสมัครเรียนใหม่อีกรอบก่อน เผื่อได้เจอครูสาวๆสวยๆแบบนี้บ้าง รับรองว่าจะตั้งใจเรียน ไม่เฉไฉไปไหนแน่นอนฮ๊าฟฟ ที่มา สมาคมครูหน้าตาดี แห่งประเทศไทย
-
โหดไปไหม? มนุษย์แม่โพสต์เฟซบุ๊ก บอกลูกสาวโดนครูฟาดท้ายทอยจนเลือดไหล เหตุเพราะเล็บยาว!?
กลายเป็นเรื่องราวที่มีการแชร์กันอย่างมากมายในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมาเลยทีเดียว สำหรับกรณีของคุณครูโหด ที่ใช้สันหนังสือฟาดท้ายทอยเด็กนักเรียนจนเลือดกำเดาไหล สาเหตุเพียงเพราะไม่ได้ตัดเล็บ!? เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Chomphunut Bunsophap ซึ่งเป็นคุณแม่ของเด็กนักเรียนสาว โดยเจ้าตัวได้เล่าว่าเมื่อเวลาประมาณ 13.30 นาฬิกาของวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ตนเองได้รับโทรศัพท์จากลูกสาว โดยบอกว่าเธอถูกคุณครูใช้สันหนังสือฟาดเข้าที่ท้ายทอยจนเลือดกำเดาไหล สาเหตุเพียงเพราะว่าเล็บยาวเกินไป ทำให้มีอาการมึนหัวและเจ็บหน้าอก จนต้องไปนอนที่ห้องพยาบาล แต่ดูเหมือนว่าจะมีอาการเจ็บหน้าอกมากขึ้น ทำให้คุณแม่ต้องรีบไปรับลูกสาวไปส่งโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต เพื่อตรวจหาความผิดปกติทางร่างกาย หลังจาดที่ข้อความของคุณแม่รายนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างแสดงความไม่พอใจในพฤติกรรมของคุณครู พร้อมระบุว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ อยากให้คุณครูที่มีพฤติกรรมแบบนี้ถูกฟ้องร้องและลงโทษทางวินัย ทั้งนี้คุณแม่ได้เผยว่าล่าสุดลูกสาวอาการดีขึ้นแล้ว และจะทำการฟ้องร้อง เพื่อเป็นตัวอย่างในการยั้งคิดยั้งทำ ในการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุอีกด้วย ที่มา Chomphunut Bunsophap , kapook
-
ชมคลิปครูฟุตบอล สอนเด็กที่กำลังทะเลาะต่อยตีกัน จนทั้งคู่ยอมฟังและคืนดี
ในวัยเด็ก โดยเฉพาะผู้ชาย การทะเลาะกันถือเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ เพราะเด็กผู้ชายส่วนใหญ่มักจะเคร่งเรื่องศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้ ดังนั้นเวลามีเรื่อง ก็มักจะใช้กำลังซึ่งกันและกัน แต่มีน้อยครั้งที่จะมีใครมาสั่งสอนเราว่าการใช้กำลังนั้นมันมีผลอย่างไรบ้าง แต่วันนี้เหมียวมีคลิปที่น่าชื่นชมของครูสอนฟุตบอลท่านหนึ่ง ซึ่งถูกแชร์ในโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก เพราะคำสอนของครูนั้นช่างกินใจเหลือเกิน ดูเหมือนว่าเด็กทั้งคู่จะแย่งลูกฟุตบอลกัน และทำท่าว่าจะตีกัน ครูก็เลยยุให้เด็กทั้งสองลองได้ต่อยกันก่อน จากนั้นครูก็ได้นำทั้งคู่มาพูดคุยและได้ให้คำสั่งสอนไป ซึ่งเป็นข้อคิดที่ดีมากๆ เราไปชมคลิปอันน่าประทับใจนี้กันเลยดีกว่า ครูสอนเด็ก.. เมื่อทะเลาะกันครูสอนเด็ก.. เมื่อทะเลาะกัน Posted by 1,000,000 Clips รวมคลิปเด็ด on Monday, October 27, 2014 ที่มา 1,000,000 Clips รวมคลิปเด็ด
-
ครูชีวะฯ สุดเฟี้ยว!! ใช้วิธีสอนเกี่ยวกับ “ร่างกายมนุษย์” ที่แหวกแนวกว่าใครๆ
การเรียนชีวะนั้น สำหรับเหมียวแล้ว เหมียวมองว่ามันยากมากๆ ถึงแม้ว่ามันไม่ต้องคำนวนอะไรก็ตาม แต่ทั้งหมดในเนื้อหาต้องใช้ความเข้าใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งเราต้องพยายามจินตนาการถึงสิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นหรือไม่เคยเห็นมาก่อนได้ Debby Heerkens คุณครูสอนชีวะที่โรงเรียน Groene Hart Rijnwoude ในประเทศเนเธอร์แลนด์จึงได้คิดวิธีที่จะทำให้เด็กๆ สามารถจดจำสิ่งที่เธอสอนได้อย่างเห็นภาพและเข้าใจ เธอจึงออกมายืนบนโต๊ะหน้าห้อง แล้วถอดเสื้อผ้าออก เผยให้เห็นชุดที่เธอใส่มา ซึ่งเป็นลวดลายของร่างกายมนุษย์ที่วาดลงบนผ้าได้อย่างถูกต้องและสวยงาม ส่วนอีกชุดที่เธอใส่นั้นก็เป็นชุดที่วาดลวดลายของโครงกระดูกของเรา เธอได้บอกว่าไอเดียนี้ได้มาจากการที่เธอไปเห็นคนใส่เลกกิ้งที่มีลวดลายคล้ายๆแบบนี้ เธอก็เลยลองไปหาในเน็ตแล้วก็สั่งซื้อมา ซึ่งทางคุณครูท่านอื่นก็อนุญาตให้เธอทำด้วย เธอยังกล่าวอีกว่าเวลาสอนเสร็จเด็กๆยังถามเลยว่าจะมีสอนเรื่องนี้อีกเมื่อไหร่ เราไปชมคลิปการสอนของเธอกันเลย ที่มา boredpanda
-
ชมคลิปการเต้นใน “ค่ายลูกเสือ” ของโรงเรียนสากลศึกษา บอกเลยว่าน่ารักทั้งครูและนักเรียน!!
เหมียวเชื่อว่าทุกคนคงเคยมีประสบการณ์การเข้าค่ายลูกเสือกันมาบ้าง แต่ผู้หญิงบางคนอาจจะไม่เคย เพราะบางโรงเรียนไม่มีเนตรนารี แต่เป็นยุวกาชาดแทน ค่ายลูกเสือของแต่ละที่ก็จะแตกต่างกันออกไป บางโรงเรียนอาจจะพานักเรียนไปผจญภัยในป่าเขา เดินทางสำรวจนู่นนั่นนี่ไปเรื่อยๆ บางโรงเรียนอาจจะให้เดินทางไกล แต่เป็นบนถนน แต่สุดท้ายแล้วจะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือกิจกรรมรอบกองไฟที่ทุกคนจะมาพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งหมู่เสือ สิงห์ กระทิง แรด แต่ที่ค่ายลูกเสือของโรงเรียนสากลศึกษามีสิ่งที่พิเศษกว่านั้น นั่นก็คือกิจกรรมเต้นหมู่(ไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอะไร) ซึ่งจะมีทั้งคุณครูและนักเรียนพากันเต้นประกอบเพลงสุดแสนน่ารัก ทำเอาคลิปนี้คนแชร์ไปเกือบ 2 หมื่นครั้งแล้ว เราไปดูความน่ารักของโรงเรียนนี้กันเลยดีกว่า มิขุ…ร.ร.สากลศึกษา Posted by Navee Thai on Sunday, September 20, 2015 แต่เหมียวขอเดาปิดท้ายต้องมีเพลงสามัคคีชุมนุมแน่นอน อิอิ ที่มา Navee Thai
-
มันส์เหลือเกิน!! “ครูโซ่” ครูคณิตที่สอนนักเรียนด้วยเพลงแดนซ์ ที่มันส์สุดๆใน 3 โลก!!
หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของครูโซ่ ยอดหทัย รีศรีคำ มาบ้างแล้วนะ ด้วยคลิปการเรียนการสอนอันลือลั่น ที่เปิดเพลงแดนซ์ในห้องเรียน ประหนึ่งเป็นดีเจเปิดแผ่น พร้อมกับสอนหนังสือไปด้วย ทำเอานักเรียนถึงกับนั่งไม่ติดโต๊ะ อยากจะลุกขึ้นเต้นตามเลยทีเดียว ล่าสุดเหมียวไปเจอคลิปเด็ดๆจากครูโซ่มาอีกแล้วล่ะ โดยคลิปนี้ถูกเผยแพร่ผ่านแชแนลยูทูบ ClipYouOK เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา เป็นคลิปในระหว่างที่ครูโซ่กำลังเฉลยการบ้านกับเด็กนักเรียน แต่พอเห็นว่าเด็กๆเริ่มไม่สนใจ คุณครูก็เลยเปิดเพลงแดนซ์มันส์ๆ ปลุกเด็กๆ ขึ้นมาจากความเหงาหงอย จากนั้นก็อธิบายข้อสอบไปด้วย โอ้โห นี่มันสุดยอดคุณครูดีเจแห่งยุคเลยนะเนี๊ยะ ชมคลิปการสอนแบบมันส์ๆได้ที่ด้านล่างเลย มีลูกล่อลูกชน และเทคนิคเด็ดๆ แบบนี้ รับรองนักเรียนไม่เบื่อแน่นอน โจ้วๆๆ!! ที่มา ClipYouOK
-
อ่าเฮื้อออออ!! สื่อจีนเผยภาพคุณครูประถมสุดน่ารัก ไม่เป็นอันเรียนกันแล้วทีนี้
เมื่อวันก่อนแอดเหมียวเพิ่งจะนำเสนอเรื่องราวของคุณครูสาวเกาหลีสุดน่ารักไปนี่เอง ดูเหมือนว่าล่าสุดแดนมังกรจะไม่ยอมน้อยหน้าล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Ck101 ก็ได้ออกมารายงานว่า ที่จีนมีคุณครูสุดน่ารักไม่แพ้กันเลย คุณครูชาวจีนที่เหมียวพูดถึงนี่้ เธอมีชื่อว่าคุณครู ถังติงติง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศจีน ด้วยใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มขนาดนี้ ชาวเน็ตจึงนำรูปของเธอมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ Weibo ซึ่งเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ในจีน ทำเอาชาวเน็ตถึงกับตกหลุมรักเธอไปตามๆกัน และนอกจากเป็นครูแล้ว เธอยังเป็นคนรักสุขภาพที่ชอบออกกำลังกายด้วยนะ แหม่ อะไรมันจะดีขนาดนี้ >< ว๊ากกก ไปจีน ไปจีน ไปจีน!! ที่มา ck101
-
คุณครูสุดโหด ใช้ “ถังดับเพลิง” ฉีดใส่นักเรียนที่แอบหลับในชั่วโมงเรียนของเขา
เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา โรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศฮอลแลนด์ได้เกิดเหตุการณ์คุณครูใช้ถังดับเพลิงฉีดใส่เด็กที่กำลังแอบหลับในคาบเรียนของเขา ทำเอาเด็กทั้งห้องวงแตกเนื่องจากฝุ่นผงจากถังดับเพลิงลอยไปทั่วห้อง ในตอนเริ่มคลิปนั้นเพื่อนพยายามที่จะปลุกเขา ทั้งโยนกระดาษใส่ หรือจะสะกิด แต่เขาก็ไม่ยอมตื่น จนกระทั่งคุณครูมองเห็นเขาแล้วพยายามที่จะตะโกนปลุก แต่ก็ไม่ตื่น ก็เลยจัดการฉีดซะเลย พร้อมกับไล่เขาออกไปนอกห้อง เราไปดูคลิปกันเลย หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป หลายคนก็คอมเม้นต์ในทำนองว่า “นี่คือวิธีที่จะทำให้คุณถูกไล่ออกที่ง่ายที่สุด” เพราะพฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย ที่มา ViralHog
-
ครูมะกันซีด เกือบโดนไล่ออกหลังจากทำสถิติ มาสายกว่า 111 ครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา!!!
การที่จะเป็นครู เป็นอาจารย์ เป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาตินั้น แน่นอนต้องเป็นตัวอย่างที่ดีๆ ให้กับเด็กๆ ที่เราสอนอยู่ โดยเฉพาะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหลาย และเรื่องตรงต่อเวลาก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น!!! เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคุณครูชาวมะกันท่านหนึ่ง ที่เรียกได้ว่า ‘ไม่ว่าอย่างไร นักเรียนต้องมาก่อนเสมอสำหรับครู’ มากๆ แต่ไม่ใช่ความสำคัญมาก่อน หากแต่เป็นเรื่องการมาสาย!!! โดยคุณครูเขามีพฤติกรรมแปลกๆ โดยเมื่อเขาทานอาหารเช้า ระหว่างที่ทาน เขาจะเหมือนเหม่อๆ ลอยๆ และลืมในเรื่องของเวลาไปเลยเสียทุกครั้งไป ทั้งๆ ที่เขาได้ทำงานในฐานะอาจารย์มากว่า 15 ปีแล้ว Roosevelt Elementary School โรงเรียนที่เขาทำงานอยู่ โดยได้รับเงินราวๆ 90,000 เหรียญต่อปี หรือประมาณ 3 ล้านบาท จึงได้ตัดสินใจไล่เขาออกจากตำแหน่ง ด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เขาได้สายไปแล้วกว่า 111 ครั้ง!!! แน่นอนเขาก็ชี้แจงเหตุผลจนสามารถรอดตัวไปได้ในครั้งนี้ แต่ก็ต้องทำงานให้กับโรงเรียนฟรีๆ ไปจนถึงเดือนมกราคมเป็นการลงโทษ และติดทัณฑ์บนห้ามสายตลอดช่วงเวลานั้นเลยทีเดียว… โถๆๆๆๆ น่าสงสารจริงๆ นะคุณครู ไม่รู้แกมีปัญหาชีวิตอะไรรึเปล่า แต่ก็นั่นล่ะนะ…
-
ชีวิตครูดอย… ขี่มอเตอร์ไซค์ลุยโคลน หนักแค่ไหนก็ไม่หวั่น เพื่อไป ‘สอนหนังสือ’ นักเรียนบนเขา
ช่วงวันนี้มีกระแสที่ชาวเน็ตพากันแชร์คลิปจากยูทูป ที่โพสต์ขึ้นโดย II โซเชียล คลิป II มีชื่อว่า คลิปนี้ต้องดู…..นี้แหละชีวิตครูดอย เป็นคลิปความยาว 2 นาที ไม่ยาวเกินไปนัก คนที่ถ่ายวีดีโอนี้ได้อธิบายว่า…. นี่คือการเดินทางขึ้นโรงเรียนของคณะครูด้วยรถมอเตอร์ไซค์ ที่ต้องลุยกับโคลนดินถล่ม ซึ่งระยะทางเส้นนี้ชาวบ้านไม่ได้เดินทางเป็นเวลา 1 เดือนแล้ว ส่วนรถที่ขึ้นไปได้แล้ว ก็ต้องลงมาช่วยคันที่ติดโคลนอยู่ การเดินทางขึ้นโรงเรียน มีระยะทาง 100-200 เมตรเท่านั้น แต่เชื่อกันรึเปล่าว่าใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมงเลยล่ะ (ถนนลาดพร้าวที่ว่าติดโคตรก็ยังไม่ขนาดนี้ ) คณะครูจะต้องพิชิตภารกิจลุยโคลนนี้ยังไง รีบมาดูและให้กำลังใจพวกเขากันเถอะ นอกจากการเป็นครูจะให้ความรู้แก่เด็กๆแล้ว พวกเขายังต้องมีใจที่เสียสละด้วยนะ สุดยอดจริงๆเลย ที่มา II โซเชียล คลิป II
-
นักเรียนกว่า 1,700 คน ร่วมสดุดีเป็นครั้งสุดท้ายแก่คุณครูสุดที่รักที่เพิ่งจากโลกนี้ไป!!!
ครูทำหน้าที่หลายอย่าง ทั้งอบรมและสั่งสอนให้ลูกศิษย์ของตนเอง กลายเป็นคนที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และครูหลายคนก็ไม่เคยรู้ตัวว่า ตนเองนั้นได้กลายเป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ให้กับนักเรียน อย่างเช่นคุณครู Dawson Tamatea คนนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาเป็นที่เคารพและรักของนักเรียนขนาดไหน หลังจากที่เขาจากโลกนี้ไป นักเรียนของเขากว่า 1,700 คนได้มาร่วมทำพิธี Haka แก่เขา เรียกได้ว่าทั้งน่าตื้นตันและทรงพลังไปพร้อมๆกัน ไปลองชมกันเลย หลายคนอาจจะงงว่า พิธี Haka คืออะไร พิธี Haka เป็นประเพณีที่ทำเพื่อปลุกใจก่อนออกรบของชาวเมารี โดยพิธีจะประกอบไปด้วยการร้องและเต้นเข้าจังหวะ นอกจากปลุกใจเพื่อออกรบแล้ว บางครั้งก็ใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง หรือในงานศพด้วย ปัจจุบัน กองทัพของประเทศนิวซีแลนด์ ก็ถือว่า Haka เป็นประเพณีประจำของกองทัพด้วย ทหารทุกคนต้องฝึกโดยไม่มีข้อยกเว้น แม้แต่เจ้าชายแฮรี่ของอังกฤษตอนที่ไปประจำที่กองทัพนิวซีแลนด์ เขาก็ต้องทำเช่นกัน ที่มา Viralnova, nzherald.co.nz
-
แม่จ๋าหนูเจอเนื้อคู่… พบกับ ‘ครูเหมียว’ แห่งโรงเรียนบ้านหนองแวง อยากกลับไปเป็นเด็กเลย
วันนี้นั่งเล่นเฟซบุ๊คเพลินๆ ดันไปเจอเพจหนึ่งแชร์ข่าวมา พาดหัวไม่ชวนอึ้ง ตะลึง ผงะ หรือช็อค แต่รูปประกอบนี่แหละ ทำให้เหมียวอดใจไม่ไหวต้องเข้าไปดู…. พักสายตา (คลิกดูภาพเพิ่มเติม)http://www.cm108.com/bbb/index.php?act=ST&f=4&t=5572 Posted by จังหวัดเชียงใหม่ CM108.com on Thursday, July 9, 2015 และพอเข้าไปก็ค้นพบสัจธรรมที่ว่า นางฟ้า มีอยู่จริง แถมยังอยู่ที่โรงเรียนบ้านหนองแวง จังหวัดร้อยเอ็ดซะด้วย ที่สำคัญคือชื่อ เหมียว เหมือนกับเหมียวอีก ชมความน่ารักของคุณครูกันเลยฮะ…. รูปสุดท้ายนี่เหมือนจะมีผงอะไรสักอย่างติดอยู่นะ…… ผงอะไรหรอ…. ผงอยากรู้จักคุงครูอ่ะคับบบบบบบบบบบ !!! ขอบคุณภาพ: cm108
-
นักเรียนทั้งห้อง “แกล้งตาย” ขณะที่ครูสอน แต่ครูกลับหัวเราะออกมาซะงั้น!!
อีกหนึ่งการแกล้งอีกอย่างหนึ่งที่คนไม่ค่อยจะกล้าทำสักเท่าไหร่ก็คือการแกล้งครูนั่นเอง ถ้าเป็นบ้านเราอาจารย์ถือเป็นของสูงที่เราไม่กล้าแตะ แต่ที่เมืองนอกนั้นคุณครูก็เหมือนกับเพื่อนคนหนึ่ง วันนี้เหมียวจะพาไปดูการแกล้งครูแบบสามัคคีโดยการแกล้งตาย จนทำให้ครูถึงกับหัวเราะก๊ากกก เริ่มจากทุกคนกำลังนั่นเรียน รอสัญญาณไอจากเพื่อน แล้วทุกคนก็ล้มลงไป ไปดูปฏิกิริยาของคุณครูกันเลยดีกว่า ที่มา xBaseHead
-
ครูศิลปะสุดเจ๋ง!! ผุดไอเดียวาดรูปลงบนฝ่ามือแล้วก็ทาบลงไปบนกระดาษ
เดิมทีแล้วการวาดภาพนั้นก็ควรวาดลงกระดาษไปเลย แต่คุณครูท่านนี้ที่มีชื่อว่า Russel Powell ซึ่งสอนศิลปะชั้นป.1 ได้วาดภาพแนวสมจริงลงบนฝ่ามือ หลังจากนั้น เขาก็ทาบลงไปบนกระดาษอีกที เกิดเป็นภาพในมุมมองใหม่ๆที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ซึ่งการวาดแบบนี้ต้องใช้ความเร็วพอสมควร ไม่งั้นหมึกจะแห้งไปเสียก่อน ทำให้การทาบหมึกไม่ติดกับกระดาษ คุณครู Powell เรียกการทำแบบนี้ว่า “hand-stamping” หรือการปั้มมือ คุณครูสอนโรงเรียนแห่งนี้มากว่า 14 ปี แล้ว อีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการ Pangaean Studios เขามีความหลงไหลในเสียงเพลง โตมากลับเพลงร็อคแอนด์โรลและบลูส์จากที่พ่อของเขาฟัง งานอดิเรกอีกอย่างของเขาก็คือการที่ตอนเช้าได้ไปฟัง Jim เพื่อนของเขาเล่นเปียโนให้เด็กๆฟัง เราไปดูผลงานของเขากันเลย John Lennon Daenerys Targaryen McCurry’s Afgan Girl Dalai Lama Mario Gerth Tupac Shakur David…