Tag: ความก้าวหน้า

  • 12 เรื่องราวในอดีต ที่ทำให้เรารู้สึกโชคดีเหลือเกิน ที่ได้เกิดมาอยู่ในยุคศตวรรษที่ 21

    12 เรื่องราวในอดีต ที่ทำให้เรารู้สึกโชคดีเหลือเกิน ที่ได้เกิดมาอยู่ในยุคศตวรรษที่ 21

    ในปัจจุบันโลกของเรามีความเปลี่ยนแปลงทางด้านวัฒนธรรมและเทคโนโลยีมาก ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเรานั้นดูง่ายไปเสียหมด จะทำอะไรก็สะดวกสบายและรวดเร็ว ถ้าหากเราลองมองย้อนกลับไปล่ะก็ จะเห็นว่าชีวิตของผู้คนในอดีตลำบากกว่าเรามากนัก วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูว่าถ้าเราเกิดมาอยู่ในยุคก่อนหน้านี้ชีวิตความเป็นอยู่มันจะพึลึกพิลั่นและเหนื่อยยากขนาดไหน   1. การย้อมสีผม   ไม่ว่าคนเราจะเกิดมาในยุคไหนก็รักสวยรักงามด้วยกันทั้งนั้น แต่ในสมัยก่อนไม่มียาย้อมผมที่ใช้ง่ายเหมือนตอนนี้ ใครที่อยากจะย้อมสีผมต้องใช้ของที่มีอยู่ตามธรรมชาติอย่างเช่นหัวหอม อบเชย และขี้เถ้ามานวดผมเป็นประจำให้มันเปลี่ยนสี นอกจากนี้ก็ยังต้องไปนั่งให้ผมโดนแดดจะได้มีผมที่มันวาวดูดี แต่ในทางกลับกันการลองย้อมผมแบบทำกันเองย่อมทำให้ได้สีผมที่ไม่แน่นอน แถมเสี่ยงทำให้ผมเสียด้วย   2. เกิดเป็นชนชั้นสูงต้องเท้าเล็ก   เกิดคุณบังเอิญได้เกิดมาเป็นหญิงชั้นสูงในประเทศจีนสมัยก่อน คนในครอบครัวจะบังคับให้คุณรัดเท้าตั้งแต่เด็กจะได้ใส่รองเท้าอันเล็กๆ ได้ พวกเขาเชื่อว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของผู้สูงศักดิ์ ถ้าใครมีขนาดเท้าปกติแปลว่าเป็นคนชนชั้นทั่วไป แต่การจะได้เท้าแบบนี้มาหญิงสาวต้องทนทุกข์ทรมานทุกวันตั้งแต่ยังอายุน้อย แถมเท้าเล็กแบบนี้ยังทำให้เดินยากอีกด้วย ดีนะที่สมัยนี้ไม่มีใครทำแบบนี้แล้ว   3. เขียนจดหมายร้องเรียน   ในอดีตก็มีการเขียนจดหมายร้องเรียนเช่นกัน ทว่าในยุคนั้นยังไม่มีกระดาษและปากกาให้ใช้ คนในอดีตจึงต้องใช้วิธีการสลักอักษรลงไปบนแผ่นหินเพื่อเขียนจดหมายแทน แน่นอนว่ากว่าจะเขียนจดหมายได้ฉบับหนึ่งกินเวลานานมากเลย ลำบ๊ากลำบาก   4. รักษาโรคด้วยเวทมนตร์และอุจจาระ   ย้อนกลับไปเมื่อ 1500 ปีก่อนคริสตกาล ประเทศอินเดียยังมีความเชื่อในการรักษาโรคด้วยเวทมนตร์อยู่เลย และพวกเขายังใช้อุจจาระมาผสมเป็นยาให้คนป่วยกินด้วย เพราะพวกเขาเชื่อว่าอุจจาระสามารถขับไล่วิญญาณร้ายซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุของอาการป่วยได้นั่นเอง แค่ได้ฟังก็รู้สึกดีใจแล้วที่สมัยนี้มีหมอมาวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องตามหลักการ แล้วยังมียารักษาทั้งแบบกินแบบฉีดด้วย ไม่ต้องมานั่งกินอุจจาระกันอีกต่อไป   5. รักษาโรคด้วยยาที่ทำจากมนุษย์…

  • นักวิทย์ฯ ใกล้ประสบความสำเร็จในการผลิต ‘อสุจิเทียม’ เพื่อประโยชน์สุขของประชากรโลก

    นักวิทย์ฯ ใกล้ประสบความสำเร็จในการผลิต ‘อสุจิเทียม’ เพื่อประโยชน์สุขของประชากรโลก

    วันนี้ เรามาว่ากันด้วยเรื่องของ ‘อสุจิ’ กันดีกว่า อสุจินั้นเป็นตัวสำคัญในกระบวนการให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตหลายๆ ชนิด โดยเฉพาะมนุษย์ ซึ่งการให้กำเนิดลูกของมนุษย์นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนก็มีลูกยาก อาจจะด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ สภาวะทางร่างกาย สุขภาพ และอื่นๆ ซึ่งวันนี้มีข่าวดีมาให้ได้ยินกันแล้วสำหรับคนที่ยังไม่มีลูกหรือมีแล้วแต่อยากมีอีก เพราะนักวิทยาศาสต์ปัจจุบันกำลังจะผลิต ‘อสุจิเทียม’ ได้แล้ว ศาสตราจารย์ Azim Surani นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัยเกอร์ดอน ในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ได้ออกมาแถลงในงานประชุมประจำปี Progress Educational Trust Annual Conference ว่าตัวเขาและคณะได้มาถึงครึ่งทางของความสำเร็จในการผลิตอสุจิเทียมแล้ว     โดยเป้าหมายของพวกเขาคือการผลิตอสุจิเทียมและรังไข่เทียมขึ้นมาจากสเต็มเซลล์ของมนุษย์หรืออาจจะเซลล์ผิวหนังของมนุษย์ได้เลยทีเดียว โดยกระบวนการดังกล่าวนั้นได้ประสบความสำเร็จมาแล้วโดยการทดลองกับหนู อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นเองก็ไม่ได้ง่ายดาย ยังมีปัญหาที่รอการแก้ไขอีกหลายอย่าง ตามที่นาย Azim ได้ชี้แจงไว้ เช่น เซลล์อสุจิที่ได้นั้นยังมีโครงสร้างไม่เหมือนกันของจริงเท่าใดนัก อีกทั้งเซลล์ต่างๆ จำเป็นต้องใช้เวลาในการพัฒนาตัวเอง ซึ่งก็จำเป็นต้องให้เวลามันด้วยเช่นกัน     นาย Azim กล่าวว่า “หากพูดถึงในแง่ของการนำไปใช้จริง มันยังจำเป็นต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน หลายกระบวนการ ซึ่งขั้นตอนและกระบวนการดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง” และกล่าวอีกว่า “การผลิตรังไข่เทียมอาจจะทำให้ดูเหมือนรังไข่จริงๆ ได้ แต่โครงสร้างโมเลกุลนั้นยังไม่ใช่ ซึ่งมันเป็นปัญหามาก…

  • การทดลอง ‘ผ่าตัดเปลี่ยนหัว’ กับศพ ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น เชื่อมต่อระบบร่างกายได้

    การทดลอง ‘ผ่าตัดเปลี่ยนหัว’ กับศพ ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น เชื่อมต่อระบบร่างกายได้

    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายน 2016 #เหมียวฟิ้น ได้นำเสนอข่าวของหนุ่มรัสเซีย Valery Spiridonov วัย 31 ปีผู้ป่วยเป็นโรคแปลกประหลาดและได้เป็นอาสาสมัครให้กับการทดลองผ่าตัดเปลี่ยนหัว ซึ่งตอนนี้การผ่าตัดดังกล่าวได้มีความคืบหน้ามากขึ้นหลังจากที่แพทย์สามารถเปลี่ยนถ่ายหัวของศพได้สำเร็จ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าวเดลี่เมล ได้รายงานว่าศาสตราจารย์ชาวอิตาลี Sergio Canavero และทีมแพทย์ชาวจีนที่นำโดยดอกเตอร์ Xioaping Ren สามารถเปลี่ยนถ่ายหัวของศพในประเทศจีนได้สำเร็จ โดยใช้ระยะเวลาการผ่าตัดนานถึง 18 ชั่วโมง   ศาสตราจารย์ Sergio Canavero ผู้ผลักดันให้เกิดการผ่าตัดปลูกถ่ายศีรษะ   Canavero บอกว่านี่คือการเปลี่ยนถ่ายหัวมนุษย์ครั้งแรกของโลก โดยกระดูกสันหลัง เส้นประสาท และเส้นเลือดต่างๆ ของร่างกายสามารถเชื่อมกับหัวที่ถูกปลูกถ่ายได้สำเร็จ เขาได้พูดกับสื่อว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งไปจากเดิม ธรรมชาติเคยกำหนดความเป็นตายของเรามาโดยตลอด แต่ในยุคนี้เราจะเป็นคนที่กำหนดโชคชะตาของเราด้วยตัวเอง”     เขายังเสริมอีกว่า ตอนนี้เหลือเพียงแค่ขั้นตอนสุดท้ายในการปลูกถ่ายศีรษะและสมองของคนตายที่ได้รับการบริจาคมาให้เข้ากับร่างกายเท่านั้น ซึ่งหากว่าผลออกมาสำเร็จ ในไม่ช้านี้เขาการปลูกถ่ายศีรษะของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะมีให้เราเห็นอย่างแน่นอน ไม่ใช่เพียงแค่ Canavero สำหรับศัลยแพทย์ Ren ก็มีความเชื่อเดียวกัน ก่อนหน้านี้เขาและทีมแพทย์ได้เคยทดลองผ่าตัดปลูกถ่ายศีรษะของหนูทดลองไปกว่า 1,000 ตัว…

  • 2 หนุ่มเล่าประสบการณ์การอยู่กินกับตุ๊กตา Sex Doll พร้อมต่อยอดทำเป็นธุรกิจได้!!

    2 หนุ่มเล่าประสบการณ์การอยู่กินกับตุ๊กตา Sex Doll พร้อมต่อยอดทำเป็นธุรกิจได้!!

    ตุ๊กตายาง “Sex Doll” ถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทำให้คุณหนุ่มๆ ทั้งหลาย สามารถเพลิดเพลินไปกับความสัมพันธ์ที่ดูสมจริงได้ โดยในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า หลายๆ ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น รวมถึงสเปน ได้เปิดบริการซ่องตุ๊กตายางกันมากมาย โดยให้หนุ่มๆ ขี้เหงาทั้งหลายได้ไปใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ตุ๊กตายางยังเข้ามามีบทบาทในชีวิตของมนุษย์มากขึ้น บางคนถึงขั้นกินอยู่กับตุ๊กตายาง แต่งงานกัน และใช้ชีวิตร่วมกันไปแล้วก็มี     ในประเทศสหรัฐอเมริกา ชายหนุ่มที่ชื่อว่า Bryan ได้ทำการจัดตั้งเว็บไซต์ Silicon Wives ขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2016  หลังจากได้รับแรงบันดาลใจบางอย่างจากหนังฮอลลีวู้ด Bryan ได้ออกมาเผยว่า “ผมเคยทำงานในวงการเพาะกายมานานก่อนที่จะจัดตั้งเว็บไซต์ Silicon Wives โดยส่วนใหญ่ผมจะเน้นขายดิลโด กับไวเบรเตอร์ให้ผู้หญิง”     ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีคู่แข่งทางการตลาดที่จำหน่ายสินค้าดังกล่าวเยอะแยะมากมาย และนั่นจึงทำให้ Bryan เริ่มมองหาโอกาสใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งตอนแรกเขาไม่เคยรู้จักตุ๊กตายาง Sex Doll มาก่อน จนได้มาเห็นภาพยนตร์เรื่อง Lars and the Real…