Tag: ความศรัทธา
-
18 ภาพเรื่องราวสุดทรงพลัง ที่จะกู้คืนศรัทธาในตัวของมนุษย์และคืนความสุขให้แก่พวกเรา
เขาว่ากันว่า การที่คนเรานั้นเติบโตขึ้นและได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกใบนี้ยิ่งขึ้น ความคิดที่จะมองโลกในแง่บวกก็ลดลงไปเรื่อยๆ เหมือนดั่งกับการที่เด็กน้อยวัยใสโลกสวยได้เห็นมุมต่างๆ ของโลกที่ไม่ได้สวยงามแบบที่พวกเขาวาดฝันไว้ และการนั้นก็จะทำให้ศรัทธาในตัวของมนุษย์ พร้อมกับความสุขของผู้คนนั้นลดหลั่นลงไปเรื่อยๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ #เหมียวโคบี้ เลยอยากที่จะกู้ศรัทธาในตัวมนุษย์และมอบความสุขคืนแก่ทุกๆ คน เลยได้รวบรวมภาพต่างๆ ที่เมื่อเพื่อนๆ ได้เห็นแล้ว ต้องมีความสุข ต้องยิ้มออกได้อย่างแน่นอนมาให้ชมกันล่ะ ไปรับชมกันเล้ย 1. เจ้าหมาตัวนี้ได้รับบาดเจ็บตอนที่ไปเดินเขากับเจ้าของที่เป็นผู้หญิงและเธอไม่สามารถที่จะพามันกลับมาได้ แต่โชคดีที่คนแปลกหน้าที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือแบกเจ้าหมาลงมาส่งให้ โดยไม่หวังอะไรตอบแทนสักอย่าง 2. คุณครูจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศกานา แม้ว่าไม่มีเทคโนโลยี แต่เขาก็ลงทุนที่จะสอน Microsoft Word โดยผ่านการวาดบนกระดานดำ พอเรื่องนี้ถูกแชร์ผ่านโลกออนไลน์ก็มีคนระดมทุนเพื่อนักเรียนกันทั่วโลก 3. “ครอบครัวคนสำคัญ” 4. ที่ Waffle House ชายชราได้บอกกับพนักงานว่ามือของเขานั้นใช้งานได้ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะเขาต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และมีอาการหายใจลำบาก พนักงานหญิงคนดังกล่าวจึงไม่ลังเลที่จะช่วยชายชราโดยการตัดชิ้นอาหารให้กับเขา 5. น้ำใจที่ชาวโลกมีให้แก่กัน 6. ผู้ชายในรูปนั้นครอบครัวของเขาไม่สามารถมาหาเขาได้ เขาร้องไห้ไม่หยุด ผู้หญิงในภาพจึงไม่อยากเห็นเขาต้องเศร้าจึงได้เข้าไปปลอบว่า “อย่าเศร้าไปเลยคุณ นี่วันคริสมาสต์นะ พวกเราต้องมีความสุขสิ…
-
Swissindo ลัทธิล้างหนี้จากอินโดนีเซีย เพียงสมัครเข้ามา หนี้เก่าก็จะหายวับไปทันที!?
ปัญหาเรื่องหนี้สินเงินทอง เป็นปัญหาที่คนจำนวนมากในปัจจุบันกำลังประสบกันอยู่ ซึ่งมันอาจจะเกิดขึ้นมาจากการที่เราลงทุนทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือเกิดจากการที่เรานำไปใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ทว่าเมื่อเกิดขึ้นมาปัญหานี้มันก็กลายเป็นปัญหาที่คับอกคับใจใครหลายคนไปไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับมันดี ทว่าในตอนนี้ก็มีทางออกสำหรับบุคลลทั้งหลายที่เป็นหนี้สินเหล่านี้แล้ว เพราะว่ามีลัทธิหนึ่งที่อ้างว่าสามารถล้างหนี้ให้กับผู้ที่ศรัทธาในลัทธิได้ ขอเพียงแค่เข้าร่วมเพียงเท่านั้นแล้วหนี้สินต่างๆ ของคนนั้นๆ จะหายไปราวกับเสกเวทมนต์สั่งได้เลยทีเดียว ซึ่งลัทธิที่ว่านี้ก็มีชื่อว่า Swissindo World Trust International Orbit นั่นเอง ลัทธิ Swissindo นี้ตัั้งอยู่ที่เมืองซิเรบอน ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งพวกเขาเรียกตัวเองว่าเป็นองค์กรด้านมนุษยธรรมไม่แสวงหาผลกำไร ที่จะมาช่วยให้ชาวโลกหลุดพ้นจากหนี้สินที่พวกเขาได้สร้างขึ้น โดยลัทธินี้มีผู้นำชื่อว่า Bapak Soegihartonotonegoro หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม M1 ซึ่งเขาได้บอกอ้างเอาไว้ว่า ตัวเองนั้นเป็นลูกหลานของราชวงศ์อินโดนีเซียโบราณ อีกทั้งยังเป็นผู้รับมรดกเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะได้รับทรัพย์สมบัติล้ำค่ารวมถึงเงินทองจากราชวงศ์ดังกล่าว ถ้าหากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างชัดเจนแล้ว เขาก็บอกว่าเขามีเงินพอที่จะแบ่งให้ทุกคนบนโลกได้ถึงคนละ 6 ดอลล่าร์ (ประมาณ 190 บาท) เลยทีเดียว และในตอนนี้เขาก็พร้อมแล้วที่จะแบ่งปันทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับโลกใบนี้ การสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งของ M1 นอกจากนี้เขายังบอกอีกด้วยว่า เขาจะไม่ยอมเปิดเผยแหล่งเก็บทองและทองคำขาวของเขา ที่มากเพียงพอที่จะจ่ายหนี้สินให้กับคนทั้งโลกให้ใครได้รู้อีกด้วย เพราะว่ากลัวว่าจะมีศัตรูของเขาพยายามขโมยมันนั่นเอง อย่างไรก็ตามเขาอ้างว่ามีการแลกเปลี่ยนบางส่วนของทรัพย์สินเหล่านี้เป็นเงินจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์เก็บไว้ในธนาคารทั่วโลกแล้ว ซึ่ง M1 แสนร่ำรวยคนนี้บอกว่าจะช่วยสมาชิกที่เลื่อมใสในลัทธิของเขา ผ่านพ้นปัญหาด้านหนี้สินไปได้แบบสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินที่เกิดขึ้นกับธนาคารหรือว่ารัฐบาลใดๆ ในโลกก็ได้ เพียงแค่ยื่นบัตรกำนัลที่ออกให้อย่างเป็นทางการของลัทธิ Swissindo ให้แก่เจ้าหนี้เพียงเท่านั้น…
-
นักวิจัยเผย “ทำไมคนนับถือศาสนาถึงยึดติดอยู่กับความเชื่อ ทั้งที่ขัดแย้งกับความจริง?”
ศาสนาเป็นเรื่องของความศรัทธา เมื่อเราเชื่อสิ่งใด เราก็จะปฏิบัติตามวิถีของความเชื่อนั้นๆ ที่สำคัญคือความเชื่อเป็นสิ่งที่เปลี่ยนได้ยากที่สุด แม้จะมีเหตุผลหรือข้อพิสูจน์มาหักล้างก็ตาม สอดคล้องกับการศึกษาล่าสุดที่พบว่า คนที่นับถือศาสนาจะ “ยึดมั่น” กับความเชื่อบางอย่างที่มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับมุมมองทางศีลธรรมของพวกเขา นักวิจัยกล่าวว่า “บุคคลที่ดันทุรังยืดมั่นในความศรัทธาของตัวเองแม้สิ่งนั้นจะขัดแย้งกับหลักความเป็นจริงก็ตาม นั่นเป็นเพราะความเชื่อเหล่านั้นสื่ออารมณ์ ความรู้สึก” ในทางตรงข้าม นักวิทยาศาตร์พบว่า คนที่พยายามต่อสู้หรือเชื่อว่าพระเจ้าไม่มีอยู่จะมีมุมมองด้านบวกเกี่ยวกับศาสนา เพราะสมองของพวกเขาถูกครอบงำโดยการคิดวิเคราะห์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Case Western Reserve University ในโอไฮโอ ได้สัมภาษณ์คนที่นับถือศาสนากับคนไม่มีศาสนา จำนวน 900 คน ซึ่งทั้งสองกลุ่มต่างถือความคิดตัวเองเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ทั้งนี้ในทั้งสองกลุ่มนี้ คนที่มีทักษะในการให้เหตุผล จะเป็นคนที่มีความเชื่อน้อยกว่า แต่พวกเขาจะแตกต่างกันในเรื่องความกังวลทางศีลธรรมมีอิทธิพลต่อความคิดของพวกเขา Anthony Jack รองศาสตราจารย์ด้านปรัชญาและผู้ร่วมวิจัย กล่าวว่า “อารมณ์ความรู้สึกจะช่วยให้คนที่นับถือศาสนามีความมั่นใจมากขึ้น เห็นความถูกต้องทางศีลธรรมในบางอย่างมากขึ้น และช่วยยืนยันความคิดของพวกเขามากขึ้นด้วย” “ในทางตรงข้าม ความกังวลทางศีลธรรมจะทำให้คนที่ไม่นับถือศาสนารู้สึกไม่มั่นใจ” Anthony กล่าว ในขณะที่ Jared Friedman นักศึกษาปริญญาเอกและผู้ร่วมวิจัย กล่าวว่า “มันแสดงให้เห็นคนที่นับถือศาสนาจะยืดติดอยู่กับความเชื่อบางอย่าง โดยเฉพาะสิ่งที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกับเหตุผลเชิงวิเคราะห์ นั่นเป็นเพราะความเชื่อเหล่านั้นสอดคล้องกับความรู้สึกทางศีลธรรมของพวกเขา” …