Tag: ความห่วงใย
-
เด็กลูกครึ่งดัตช์ เขียนจดหมายถึงนายกฯ เนเธอร์แลนด์ วอนช่วยจัดการน้ำที่ถ้ำหลวง!!
จากเหตุการณ์ ’13 ชีวิตติดถ้ำหลวง’ ไม่เพียงแค่ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศเท่านั้นที่ติดตามกันอย่างใกล้ชิด แม้กระทั่งผู้คนที่อยู่ต่างประเทศเองก็ให้ความนใจและติดตาม เช่นเดียวกันกับเด็กน้อยลูกครึ่งเนเธอร์แลนด์รายนี้ ที่เป็นห่วงทั้ง 13 ชีวิต จนถึงกับเขียนจดหมายไปหาท่านนายกรัฐมนตรีของประเทศเนเธอร์แลนด์เพื่อขอร้องให้ท่านช่วยเหลือผู้ประสบภัย เรื่องราวดังกล่าวโพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Nantinee Ruangsakorn ในโพสต์มีเนื้อหาแบบเต็มๆ ว่า “ดูข่าวเด็กติดถ้ำไปพร้อมๆ กับโทนนี่และเดนนิส โทนนี่บอกว่า “ผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศเข้าช่วยเหลือ” เราถามกลับว่า “แล้วเนเธอร์แลนด์ไม่คิดจะทำอะไรบ้างเลยหรือ?” โทนนี่บอกว่า “เราไม่ชำนาญเรื่องถ้ำ เพราะประเทศเราไม่มีถ้ำ” …เราตอบโทนนี่กลับไปว่า “ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่ “ถ้ำ” แต่เป็นเรื่อง น้ำที่มีปริมาณมาก จนพาเด็กออกจากถ้ำไม่ได้ และฉันคิดว่า ประเทศเนเธอร์แลนด์ คือ ประเทศที่ดีที่สุดในโลกเรื่องระบบการจัดการน้ำ” …โทนนี่เห็นด้วยกับคำพูดของเรา เดนนิสซึ่งนั่งอยู่ร่วมวงสนทนาด้วย บอกว่า “พวกเราก็ได้แต่หวังว่า น้ำคงจะลดในเร็ววัน…เด็กๆ จะได้ออกมาวิ่งเล่นข้างนอกได้”…เราถามเดนนิสว่า “ลูกอยากจะลองช่วยพวกเขาไหม? ลองเขียนจดหมายไปหานายกรัฐมนตรีของเราสิ” และนี่คือที่มาของจดหมายน้อย ฉบับแรกในชีวิตที่เดนนิสเขียนเอง พรุ่งนี้ เราจะส่งไปถึงนายกรัฐมนตรี ส่วนนายกจะตัดสินใจอย่างไร ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่เราถือว่า “เด็กที่นี่ทุกคนมีเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็น” ข้อความในจดหมาย แปลเป็นภาษาไทยได้ดังนี้ ถึง…
-
คุณแม่วัยชรา เดินทางด้วยรถเมล์เพื่อมาส่งข้าวปลา ให้ลูกสาวแม่ม่ายซึมเศร้าตลอด 3 ปี…
ความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยของคนเป็นพ่อเป็นแม่นั้น ไม่อาจอธิบายให้เห็นได้ชัดเจนเท่ากับภาพของการกระทำแล้วล่ะ เพราะไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร จะมีอายุมากพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว แต่ก็ยังคงตามห่วงอยู่เสมอ อย่างเช่นในเรื่องราวของคุณแม่วัยชรา 70 ปี จากประเทศสิงคโปร์ กับรักที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ที่เธอได้มอบให้กับลูกสาวอย่างสม่ำเสมอ โดยที่เธอนั้นได้นั่งรถเมล์ไปยังอพาร์ตเมนต์ของลูกสาวทุกวันตลอด 3 ปีที่ผ่านมา… เมื่อมาถึงอพาร์ตเมนต์ของลูกสาวแล้ว แม้จะไม่มีลิฟต์ใดๆ เธอก็ยังคงเดินเท้าขึ้นไปยังชั้น 7 จนถึงประตูหน้าห้องของลูกสาวเธอ เพื่อนำอาหารกับข้าวกับปลามาส่งให้ลูกได้รับประทาน เหล่าเพื่อนบ้านสังเกตเห็นพฤติกรรมของคุณแม่ท่านนี้อยู่เสมอ โดยที่เธอจะมายืนอยู่หน้าประตูห้องทุกช่วง 16.00 น. ตะโกนเรียกชื่อลูกสาวเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้เห็นหน้าลูก เพื่อนบ้านวัย 30 ปี ได้เปิดเผยว่าลูกสาวนั้นมีอายุ 40 ปีแล้ว “ฉันได้ฟังเรื่องจากคุณยายมาว่า ตั้งแต่ที่ลูกสาวสูญเสียสามีไป ท่าทีของลูกสาวก็เปลี่ยนไปเป็นอีกคน จะหมกตัวอยู่แต่ในห้องทั้งวันและไม่ยอมออกไปไหนเลย คุณยายจึงต้องมาส่งข้าวส่งอาหารให้ทุกวันแบบนี้” เมื่อนักข่าวได้ลงพื้นที่ก็พบกับคุณยายในช่วงเวลา 16.00 น. จริง โดยในวันนั้นคุณยายตะโกนเรียกลูกสาวดั่งเช่นเคย แต่ก็ไร้วี่แววการตอบรับจากลูกสาว จึงลงมานั่งพักก่อนที่จะกลับไปเรียกอีกครั้งในช่วง 18.00 น. 15…
-
วิธีการรับมือของคุณแม่เมื่อรู้ว่าลูกชายสูบบุหรี่ นี่แหละคือความรักและความห่วงใยของแม่!!
ในช่วงหนึ่งของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่จะต้องเตรียมรับมือกับสิ่งต่างๆ ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปในตัวลูก ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่มักจะพบเจอกับสิ่งใหม่ๆ ทั้งดีและไม่ดี อย่างเช่นในเรื่องของการสูบบุหรี่ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อตัวเองและผู้อื่นด้วย และแล้วถ้าเกิดว่าวันหนึ่งลูกลองสูบบุหรี่ขึ้นมา คุณพ่อและคุณแม่จะรับมืออย่างไร อาจจะมีการว่ากล่าวตักเตือนไปจนถึงการกระทำอันรุนแรง เพื่อที่จะห้ามปราม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัว และหนึ่งในสิ่งที่คุณ Siwagorn Muangsawad ได้ทำการตั้งกล้องวิดีโอแอบเอาไว้ แล้วก็ทำท่าเป็นสูบบุหรี่อยู่ภายในห้องและตั้งใจให้คุณแม่เห็น โดยที่ตัวเขาเองไม่ได้เป็นคนที่สูบบุหรี่อยู่แล้ว แต่ที่ทำไปเพราะอยากจะรู้ว่าคุณแม่จะทำอย่างไรถ้าลูกตัวเองสูบบุหรี่!? จะเป็นอย่างไรเมื่อแม่เห็นเราสูบบุหรี่? โดนแม่จับได้!! แม่เห็นเราสูบบุหรี่แล้ว? Posted by Siwagorn Muangsawad on Friday, February 12, 2016 ความรักและความห่วงใยของคนเป็นแม่นั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าสิ่งใด เพราะอยากจะให้ลูกได้รับแต่สิ่งดีๆ สุดท้ายนี้ วันแห่งความรักก็อย่าลืมไปบอกรักคุณพ่อคุณแม่กันด้วยนะจ๊ะ ที่มา : Siwagorn Muangsawad