Tag: ความเครียด
-
ระวัง 9 วิธีคลายเครียดแบบผิดๆ อาจส่งผลกระทบทำให้ ‘เครียดหนักยิ่งกว่าเดิม’
หลังจากที่ผ่านพ้นวันอันแสนยากลำบากมาได้ คนเราจะต้องพักผ่อนสมองและร่างกาย เพื่อกำจัดความเครียดที่ส่งผลลบต่อสภาพจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง กิจกรรมอะไรก็ได้ที่เรียกได้ว่าเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ แต่รู้หรือไม่ว่าวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปคิดว่าเป็นการพักผ่อน ช่วยลดความเครียดได้ อาจจะกลับกลายมาเป็นผลลัพธ์ในทางตรงกันข้าม ทำให้รู้สึกแย่และหนักยิ่งกว่าเดิม… การนั่งดูโทรทัศน์ วิธีการแรกที่ใครๆ อาจจะเลือกใช้ก็คือการนั่งพักผ่อนอยู่หน้าจอโทรทัศน์เพื่อเปิดชมรายการต่างๆ หรือนั่งเล่นเครื่องเล่นวิดีโอเกม นักวิจัยจากเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์พบว่าผู้คนที่เหนื่อยจากการทำงานมักจะรู้สึกผิด เนื่องจากจะก่อให้เกิดนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง และการเสพสื่อที่แพร่หลายจะกลายมาเป็นภาระและความเครียดมากกว่าการพักผ่อน การคิดย้ำๆ และซ้ำๆ การคิดถึงเรื่องประชุมอยู่ในหัว หรือจดรายการดีและแย่ที่ไม่มีวันจบ เหมือนจะเป็นการช่วยกระตุ้นความคิด แต่อาจจะนำไปสู่ลักษณะนิสัยการครุ่นคิดที่บีบบังคับตัวเอง ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเชื่อว่าการคิดเยอะๆ จะทำให้มองเห็นวิธีแก้ไขปัญหา แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่แบบนั้น ถ้าหนีความเครียดในจิตใจไม่ได้ ให้เลือกออกกำลังกายหรือฟังเพลงเร้าจังหวะแทนจะดีกว่า (ที่มา) การเลิกใส่ใจ การเลิกสนใจบางอย่างที่ทำให้เราเครียดก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เพราะการเลือกที่จะไม่คิดหรือไม่สนไม่ได้ทำให้ความเครียดหายไป เพราะเมื่อหนีปัญหา คุณจะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเจอกับอะไรอยู่ ถ้าหากเลือกจะเผชิญกับปัญหาที่ยากต่อการแก้ไข จะช่วยพัฒนาทักษะการวางแผนเพื่อหาทางที่ดีที่สุดได้มากกว่า หรือทำการปรึกษาและขอให้คนอื่นที่ไว้ใจช่วย (ที่มา) พูดคุยถกปัญหากับเพื่อน ผลวิจัยเผยว่าเมื่อผู้หญิงพูดคุยกับเพื่อนเรื่องปัญหาต่างๆ จะรู้สึกเหมือนมีหนามทิ่มระดับฮอร์โมนความเครียด เพราะจะเป็นการพูดคุยวิเคราะห์ในเชิงลึกแทบทุกมุม ทุกความย่ำแย่ที่ทำให้เกิดขึ้น และจะวนเป็นแบบนี้เรื่อยๆ แนะนำว่าควรพูดถึงแค่ครั้งเดียว และโฟกัสที่การหาทางออกที่ดีที่สุด (ที่มา)…
-
นักจิตวิทยาแนะนำ 8 วิธีช่วยให้คุณจัดการกับ “ความเครียด” แบบได้ผลชะงัดนัก!!
ว่ากันด้วยเรื่องของ “ความเครียด” ที่หลายท่านต้องเคยประสบกันมาอย่างแน่นอน การดำเนินชีวิตไม่ว่าจะในช่วงวัยเรียนหรือวัยทำงานก็ตาม ก็จะมีช่วงที่สามารถทำให้เกิดความเครียดได้ทั้งนั้น เมื่อใดที่คนเราประสบปัญหาที่ส่งผลต่อชีวิต เมื่อนั้นก็มักจะมีความเครียดตามมาเสมอ แต่ทราบหรือไม่ว่าศาสตร์แห่งจิตวิทยานั้นได้ศึกษาเรื่องของความรู้สึกและอารมณ์ของมนุษย์ รวมไปถึงความเครียดด้วยเช่นกัน แน่นอนว่ามันทำให้มนุษย์เราทราบว่า ความเครียดนั้นเกิดขึ้นได้มันก็ย่อมหายไปได้ หากถามว่าจะทำอย่างไรให้ความเครียดหายไป ลองไปฟังคำแนะนำดีๆ จากนักจิตวิทยาที่จะเป็นวิธีช่วยให้คุณกำจัดความเครียดออกไปได้กันเลยดีกว่าครับ วิธีที่ 1 เขียนทุกอย่างที่เข้ามาในสมองลงไปในกระดาษ John Duffy นักจิตวิทยาและผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเด็กวัยรุ่นกล่าวว่า “เพื่อลดความเครียดลง ผมบันทึกสถานการณ์ ความคิด ความสัมพันธ์กับผู้คน และไอเดีย ลงไปในกระดาษ เมื่อเขียนลงไปแล้วลองเชื่อมโยงมันให้เป็นโครงสร้าง วิธีนี้มีประโยชน์มากเพราะมันทำให้เราลืมปัญหาไปขณะหนึ่ง สมองเราจะโล่ง และความตึงเครียดจะลดลง หลังจากนั้นเราจะมองสิ่งต่างๆ ในอีกมุมมองหนึ่งเลย” วิธีที่ 2 ลองทำตัวช่างเลือกเสียหน่อย เวลาซื้อของมาทำอาหาร Jeffrey Sumber นักจิตวิทยาบำบัด ใช้วิธีนี้ลดความเครียด เขากล่าวว่า “เมื่อผมรู้สึกซึมเศร้าผมมักจะหาอาหารทาน แต่มันจะต้องเป็นอาหารเพื่อสุขภาพมากๆ แบบที่ผมไม่เคยทำมาก่อน ผมใช้เวลาไปกับการเลือกซื้อวัตถุดิบ เมื่อได้มาแล้วนำมาหั่นอย่างบรรจง เตรียมซอส และทานอย่างช้าๆ บ่อยครั้งผมมักจะโพสต์มันลงไปใน Facebook จนทำให้เพื่อนๆ อิจฉาเลยล่ะ” …
-
ภาพวาดสไตล์อาร์ต พร้อมแนะวิธีการ ‘ลดความเครียด’ ที่เหมาะสมและสอดคล้องทั้ง 12 ราศี
ทุกวันนี้คนเราจะต้องเจอกับเรื่องราวมากมาย ที่ต้องคอยสรรหาวิธีรับมือให้ได้ แต่ถ้าหากว่าไม่สามารถจัดการปัญหาตรงนั้นให้หมดไป จะกลายมาเป็นความเครียดที่สะสมอยู่ภายในจิตใจแทน… ซึ่งความเครียดที่ได้รับกลับมานั้น เราจะต้องหาวิธีกำจัดมันออกไปโดยเร็ว บางคนอาจจะใช้วิธีง่ายๆ อย่างการนั่งสงบจิตใจ มองต้นไม้ใบหญ้า หาบุคคลที่ไว้ใจปรึกษาหารือ หรือไม่ก็ออกไประบายอารมณ์ด้วยการไปชอปปิง!? แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม หากใช้แล้วไม่ได้ผล ลองมาใช้วิธีการลดความเครียดให้สอดคล้องกับราศีของตัวเองกันเถอะ เผื่อว่าอาจจะดีกว่าวิธีการที่เราใช้อยู่ก็เป็นได้!! โดยผลงานภาพวาดนี้ สร้างสรรค์โดยศิลปินจากกรุงลอนดอน Joey Yu แสดงให้เห็นถึงวิธีการดูแลตัวเอง จัดการกับความเครียด โดยทำการเชื่อมโยงกับหลักโหราศาสตร์ราศี จึงได้ออกมาเป็นชุดภาพดังกล่าวครบทั้ง 12 ราศีเลย ราศีเมษ จงวิ่งไปเรื่อยๆ แต่อย่าไปห่วงให้เป็นเรื่องชิงชัยล่ะ เข้าใจมั้ย? ราศีพฤษภ จงดื่มด่ำไปกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เป็นคนรักสวยรักงามนะจ๊ะ ราศีเมถุน หาคนเล่นบอร์ดเกมด้วยสิ ก็เป็นราศีคนคู่นี่เนอะ หรือหาอะไรเล่นเป็นคู่ก็ได้ ราศีกรกฎ เสกอะไรสักอย่างออกมาด้วยฝีมือปลายจวัก ที่สำคัญต้องอร่อยด้วย ฮร่า ราศีสิงห์ เต้นให้สนุกสุดเหวี่ยง เหมือนทุกสายตากำลังจับจ้องเราอยู่!! ราศีกันย์ จดบันทึกรายการอยู่เสมอ แล้วก็หมั่นกลับมาเช็กอีกทีด้วย …
-
นักวิทย์แนะวิธีการคาดคะเนการเกิด ‘ไมเกรน’ ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ เพื่อรับมือได้ทันท่วงที
อาการปวดหัวไมเกรน คือหนึ่งในสิ่งที่มีคนประสบปัญหานี้กันอยู่ค่อนข้างมาก มันจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน และมีประสาทที่ไวต่อเสียงหรือแสงจนทำให้ต้องนอนพักอยู่บนเตียงแทบจะตลอด หรือหนักกว่านั้นอาจถึงขั้นเข้าห้องฉุกเฉินกันเลย ลักษณะของอาการที่ว่ามานั้นอาจทำให้หลายๆ คนรู้สึกกังวลเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินที่ผิดปกติ แต่ไมเกรนเฉียบพลันบางครั้งไม่ได้เกิดจากสาเหตุเหล่านั้นเสมอไป เมื่อได้มีการศึกษาใหม่ที่บอกว่ามันอาจเกิดจากสาเหตุที่ใกล้ตัวมากกว่านั้น นี่คือ การศึกษา ของดอกเตอร์ Tim Houle จากโรงพยาบาล Massachusettes General ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสาร Headache เมื่อเขาและผู้วิจัยในทีมพบว่าเมื่อไหร่ที่เรามีความเครียด วันต่อมาเราจะเกิดอาการปวดหัวขึ้น โดยความเครียดที่ว่านั้นไม่ใช่แบบธรรมดาทั่วไป แต่มันคือความเครียดขั้นรุนแรง พวกเขาได้ทำการวิจัยกับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 95 คน โดยต้องเป็นคนที่มีอาการปวดหัวเรื้อรังและสามารถเก็บข้อมูลได้ตลอดช่วงเวลากว่า 4,195 วัน โดยจะเก็บข้อมูลระดับความเครียดในแต่ละวันและดูว่ามีวันไหนที่เกิดอาการปวดหัวขึ้นบ้าง จากการบันทึกผลรายงานว่า กลุ่มตัวอย่างต้องเจอกับอาการปวดหัวถึง 1,613 วัน คิดเป็น 38 เปอร์เซ็นต์ของระยะเวลาทั้งหมด ซึ่งโดยรวมแล้วคนเหล่านั้นจะบันทึกผลว่ามีความเครียดอยู่ในระดับน้อยถึงปานกลาง แต่เมื่อไหร่ที่พวกเขารู้สึกว่าตนเองมีความเครียดเพิ่มสูงขึ้น ในวันต่อมาพวกเขาก็จะเกิดอาการปวดหัว ดอกเตอร์ Houle บอกว่า “เราทราบดีว่าบางคนมีความเสี่ยงที่จะถูกอาการดังกล่าวเข้าโจมตีมากกว่าคนอื่นๆ แต่เรายังไม่สามารถคาดเดาความเสี่ยงในแต่ละระดับที่เพิ่มสูงขึ้นภายในตัวบุคคลได้อย่างแม่นยำ การศึกษาในครั้งนี้จึงเป็นตัวสาธิตที่บอกว่ามีความเป็นไปได้ที่เราจะคาดการณ์การโจมตีล่วงหน้าของไมเกรนในคนที่มีอาการปวดหัวในแต่ละราย” หลังจากนี้พวกเขาจะยังคงวิจัยให้มากยิ่งขึ้น…
-
8 สัญญาณที่บ่งบอกว่า ‘ความเครียด’ กำลังเล่นงานคุณเข้าให้แล้วมาลองชมวิธีการแก้กัน
คนเราตามธรรมชาติก็จะมีหลากหลายอารมณ์ทั้ง ดีใจ เศร้า ตื้นตันใจ แต่รู้ไหมว่ามีอยู่อารมณ์หนึ่งที่อาจทำร้ายสุขภาพของเราให้ล้มหมอนนอนเสื่อเอาได้ง่ายๆ อารมณ์นั้นก็คืออารมณ์เครียดนั่นเอง ความเครียดเกิดจากการที่เราคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเวลานานซึ่งความวิตกกังวลนี้อาจทำให้เกิดอาการต่างๆ ขึ้นตามร่างกายและพาไปสู่ความเจ็บป่วยในที่สุด มาลองดูกันดีกว่าว่าอาการจากความเครียดจะเป็นอย่างไรและมีทางแก้อย่างไรบ้าง เริ่มมีตุ่มต่างๆ หรือลมพิษขึ้นตามร่างกาย หากคุณพบตุ่มแดงๆ ขึ้นตามร่างกายนั่นหมายความว่าโรคเครียดกำลังจะเล่นงานคุณแล้วเพราะว่าโลกเครียดจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำลงทำให้มีจุดแดงๆ ซึ่งหากปล่อยไว้จะทำให้เกิดลมพิษขึ้นอีกทั้งยังทำให้ผิวระคายเคืองต่อสิ่งที่ไม่เคยแพ้มาก่อนอย่าง สบู่ อากาศหนาว โลชั่น หรือผงซักฟอก วิธีการแก้: นำผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นหมาดๆ ประคบไว้ในที่ที่มีตุ่มขึ้น แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นควรกินยาแก้แพ้ น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ ความเครียดจะไปกระตุ้นการปลดปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งฮอร์โมนที่ว่านี้จะไปบั่นทอนความสามารถของร่างกายในการลดระดับน้ำตาลในเลือดและเปลี่ยนแปลงวิธีการเผาผลาญไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตนั่นจึงให้น้ำหนักเกิดโยโย่นั่นเอง วิธีการแก้: พยายามกินถั่วให้มากขึ้นเพราะว่า โปรตีนจากถั่วสามารถช่วยได้หากคุณกินอาหารน้อยเกินไปและยังมีไฟเบอร์ที่สามารถช่วยได้หากคุณไม่มีเวลาว่างสำหรับกินอาหารมื้อใหญ่ คุณมักจะปวดหัวบ่อยๆ หากคุณไม่เคยทรมานจากการปวดหัวมาก่อน แต่อยู่ๆ คุณก็รู้สึกปวดหัวจนแทบจะระเบิดนั่นหมายความว่าความเครียดกำลังจะเล่นงานคุณแล้ว โดยความเครียดจะไปปลดปล่อยสารเคมีบางอย่างในสมองซึ่งสารชนิดนั้นอาจทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของเส้นประสาทแหละเส้นเลือดในสมองจะในที่สุดอาจจะทำให้เกิดโรค “ไมเกรน” ได้ วิธีการแก้: หากไม่ต้องการกินยาแก้ปวดลองทาน้ำมันลาเวนเดอร์หรือน้ำมันเปปเปอร์มินต์บริเวณขมับเมื่อเริ่มปวดหัว คุณมักจะปวดท้องบ่อยๆ ความเครียดอาจส่งผลต่อการทำงานของระบบทางเดินอาหารได้มากกว่าหนึ่งโรค โดยมันสามารถทำให้ร่างกายผลิตกรดย่อยอาหารมากขึ้นนำไปสู่อาการเสียดท้อง อีกทั้งความเครียดสามารถชะลอการย่อยอาหารที่กระเพาะอาหารซึ่งเป็นสาเหตุของก๊าซและท้องอืดและทำให้เกิดการเกร็งตัวที่ลำไส้ใหญ่ได่อีกด้วย วิธีการแก้: ใช้ยาแก้ท้องเฟ้อหรืออาจจะลองดื่มน้ำขิงก็สามารถช่วยได้ …
-
บริษัทญี่ปุ่น หวังนำเกม SPARX มาใช้เพื่อเยียวยาปัญหาความเครียดของคนในประเทศ
เราคงจะรู้กันดีว่าญี่ปุ่นนั้นถือเป็นประเทศที่เป็นสูญรวมความเครียด และมีสถิติคนฆ่าตัวตายที่สูงมากๆ ด้วยปัญหาจากการทำงาน การใช้ชีวิตจึงเปลี่ยนคนมากมายให้กลายเป็นโรคซึมเศร้าและเครียดเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้สาวชาวญี่ปุ่น Ayako Shimizu ผู้ก่อตั้งบริษัท Hikari Lab จึงเลงเห็นว่าเธอน่าจะหาวิธีแก้ปัญหาความเครียดของชาวญี่ปุ่นได้ด้วยการนำเกม SPARX ที่พัฒนาโดยประเทศนิวซีแลนด์มาให้เล่นกัน หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วเกมแบบนี้จะช่วยแก้ปัญหาความเครียดยังไง คำตอบคือเจ้าเกม SPARX นั้นเป็นตัวแทนของคำว่า Smart, Positive, Active, Realistic และ X-factor และเจ้าเกมนี้ก็ออกแบบมาเพื่อลดความเครียดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ฉะนั้นเธอจึงคิดว่าเจ้านี้แหละที่จะมาช่วยจัดการปัญหาดังกล่าวได้ ภาพอาจจะดูไม่ค่อยสวย เพราะเป็นเกมที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2013 แล้วนั่นเอง ส่วนเหตุผลที่ทำไมจะต้องนำเกมดังกล่าวมาเป็นตัวช่วยในการจัดการความเครียดนั้น Ayako Shimizu บอกว่าในประเทศญี่ปุ่นนั้นการจะพูดคุยกับคนอื่นหรือระบายความเครียดให้คนอื่นฟังเป็นเรื่องยากมาก กลับกันในประเทศอื่นๆ เช่น Australia ที่เธอได้ไปอยู่มาราวๆ 1 ปีเต็มๆ เธอกลับบอกว่าที่นั้นมีการพูดคุยกันอย่างเปิดเผย ทำให้ปัญหาความเครียดมีน้อยกว่าประเทศบ้านเกิดเธอมากๆ คลิปจากทาง Hikari Lab ที่แสดงให้เห็นว่าการทำงานในญี่ปุ่นมันเครียดขนาดไหน และด้วยความที่เธอศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง Cognitive Behavioral Therapy (CBT) หรือที่เรียกว่า การบำบัดด้วยความรู้ ซึ่งตรงกับเกมดังกล่าวที่บำบัดด้วยความรู้ภายในเกมเช่นกัน เธอจึงติดต่อไปยังผู้พัฒนาเกมที่มหาวิทยาลัย Auckland เพื่อขอลิขสิทธิ์ในการนำมาพัฒนาเป็นภาษาญี่ปุ่น ยังไงก็ตามตัวเกมฉบับออริจินัลนั้นยังเล่นได้เพียงในประเทศนิวซีแลนด์เท่านั้น การเอามาพัฒนาจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด…
-
งานหนักฆ่าคนได้… นักข่าวสาวเสียชีวิตจากการ ‘ทำงานล่วงเวลา’ จำนวน 159 ชั่วโมงต่อเดือน
กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารย์เกี่ยวกับกฎหมายแรงงานของประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังจากผู้ประกาศข่าววัย 31 ปีของสำนักข่าว NHK ต้องเสียชีวิตจากการทำงานอย่างหนัก คุณ Miwa Sado ผู้ประกาศข่าวที่ประจำอยู่ในสำนักงานใหญ่ของสื่อดังกล่าวในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ทำงานล่วงเวลาอย่างหนักถึง 159 ชั่วโมงในหนึ่งเดือน และมีวันหยุดเพียงแค่เดือนละ 2 ครั้งเท่านั้น ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเนื่องจากสภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อปี 2013 โดยการเสียชีวิตของนักข่าวสาวท่านนี้เรียกว่า karoshi หรือการตายจากการทำงานหนัก ซึ่งได้รับการเปิดเผยจากอดีตนายจ้างของเธอเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การเสียชีวิตของผู้ประกาศข่าวสาวทำให้เกิดแรงกดดันเกี่ยวกับสวัสดิการของเหล่าพนักงงาน และเรียกร้องให้ภาครัฐมีการจัดการแก้ปัญหาและทำให้หลายๆ คนเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความสมดุลระหว่างเวลาทำงานและชีวิตส่วนตัว การเสียชีวิตจากการทำงานหนักนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของพนักงานชาวญี่ปุ่น แต่ก่อนหน้านี้ Matsuri Takahashi พนักงานสาววัย 24 ปีก็ตัดสินใจฆ่าตัวตาย เนื่องจากความเครียดจากการทำงานหนัก ตามการรายงานของสำนักงานมาตรฐานแรงงาน Takahashi ทำงานล่วงเวลามากกว่า 100 ชั่วโมงในหนึ่งเดือนก่อนที่เธอจะเสียชีวิต หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่เธอจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในวันที่ 25 ธันวาคม 2015 หญิงสาวได้โพสต์ข้อความว่า “ฉันอยากตาย ตอนนี้ทั้งร่างกายและจิตใจของฉันพังไปหมดแล้ว” การเสียชีวิตจากการทำงานหนักนั้นถือเป็นปัญหาระดับชาติที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ การทำงานหนักนั้นเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการทำงานของพนักงานญี่ปุ่น ที่อยากแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและทุ่มเทให้กับบริษัท แต่อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ทางการญี่ปุ่นได้ออกกฎห้ามพนักงงานทำงานล่วงเวลาเกิน 100 ชั่วโมงต่อเดือน และมีบทลงโทษสำหรับบริษัทที่อนุญาตให้พนักงงานละเมิดกฎข้อห้ามดังกล่าว …
-
ศิลปินสร้างผลงาน Minipeople การต่อสู้กับความเครียด ของชายตัวเล็กในป่าแห่งความน่ากลัว
การต่อสู้กับความเครียดไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยสำหรับใครหลายๆ คน มิหนำซ้ำมันยังเป็นตัวการที่ทำให้สุขภาพร่างกายของเราย่ำแย่ลงอีกด้วย และนี่เป็นผลงานศิลปะ Minipeople ของศิลปินชาวโปแลนด์ชื่อว่า Dawid Planeta ที่ทำขึ้นมาเพื่อช่วยบำบัดความเครียดของตัวเอง จึงสร้างโลกในจินตนาการขึ้นมาเป็นเรื่องราวของชายตัวเล็กๆ ที่เดินทางผจญภัยไปในป่าที่แสนมืดมิด และเผชิญหน้ากับความอ่อนแอ ความหวาดกลัว ที่โผล่ออกมาให้เห็นในรูปแบบของสัตว์ตัวใหญ่ยักษ์ที่มีดวงตาส่องสว่างดูน่ากลัว นอกจากนี้ยังมีการใช้โทนสีที่เป็นขาวดำ ทำให้ภาพแต่ละภาพออกมาดูหลอนๆ น่ากลัว แต่ขณะเดียวกันก็ดูสวยงามและน่าค้นหา . แม้ว่าความกลัวหรือความเครียดมันจะน่ากลัวแค่ไหน แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือการเผชิญหน้ากับมัน . ความเครียดมันช่างน่ากลัวยิ่งนัก แต่ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ . . ความรู้สึกของเราเมื่อต้องเผชิญกับความเครียด มันช่างโดดเดี่ยวและอ้างว้างเหลือเกิน เราอาจจะต้องการแสงสว่าง หรือใครสักคนเพื่อระบายให้ความเครียดให้เขาฟังก็อาจจะช่วยได้นะ . หากเราไม่ต่อสู้กับมัน สักวันหนึ่งมันอาจจะพรากชีวิตของเราไปก็ได้ กองไฟที่สว่างจ้าขึ้นมาก็เปรียบเสมือนกำลังใจในการต่อสู้กับอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามา . . นี่เป็นโลกแห่งความกลัวในจินตนาการของเขา . เปรียบตัวเองเป็นชายตัวเล็กในรูป และสัตว์ต่างๆ ก็คือความเครียดและความหวาดกลัวที่ตัวเองมี บนโลกนี้ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เรายังต้องเผชิญ และเราต้องผ่านมันไปให้ได้ เพื่อนๆ…
-
10 บทเพลงที่ได้รับการพิสูจน์โดยนักวิทยาศาสตร์แล้วว่า ช่วยคลายเครียดได้ดีที่สุด!!
ก็อย่างที่เราพอจะทราบกันอยู่แล้วว่าการดูหนังหรือฟังเพลงนั้นสามารถช่วยให้เราเพลิดเพลินใจและช่วยในเรื่องของการบรรเทาความเครียดได้ แต่นี่คือ 10 บทเพลงที่ได้รับการยอมรับและพิสูจน์จากนักวิทยาศาสตร์แล้วว่าสามารถลดความเครียดได้ดีที่สุดล่ะ!! สำหรับการวิจัยนั้นจัดทำขึ้นโดย Dr. David Lewis-Hodgson แห่ง Mindlab International โดยใช้อาสาสมัครหลายๆ คนมาแก้ปริศนาที่ถูกออกแบบมาให้กระตุ้นในเรื่องของความเครียด และระหว่างนั้นให้ฟังเพลงต่างๆ ไปด้วย เพื่อดูผลว่าเพลงนั้นสามารถช่วยลดความเครียด อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันเลือดหรืออัตราการหายใจได้รึเปล่า!? ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีเพลงอะไรบ้างหน๊อออ… อันดับ 10. We Can Fly, by Rue du Soleil (Café Del Mar) อันดับ 9. “Canzonetta Sull’aria,” by Mozart อันดับ 8. “Someone Like You,” by Adele อันดับ 7. “Pure Shores,” by All Saints อันดับ 6. “Please Don’t Go,” by…
-
บริการใหม่จากญี่ปุ่น หนุ่มหล่อให้เช่าปลดปล่อยความเศร้า ‘เช็ดน้ำตา แล้วมองกันได้ไหม’
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีงานทางด้านการให้บริการเยอะแยะมาก!! มากซะจนแบบว่ามีแทบทุกอย่างที่พร้อมจะอำนวยความสะดวกให้กับคุณ เพียงแค่มีเงินพร้อมจะจ่ายแค่นั้นเอง และล่าสุดนี้การให้บริการในรูปแบบของที่ปรึกษาทางด้านการผ่อนคลายอารมณ์ที่เหมาะกับสาวๆ มากเลยก็คือ ‘บริการหนุ่มหล่อให้เช่า’ โดยจะเป็นในรูปแบบของการบำบัดสุขภาพจิตด้วยการร้องไห้ ให้ผู้หญิงได้ปลดปล่อยความเครียดออกมา โดยจะมีสุภาพบุรุษสุดหล่อคอยเช็ดน้ำตาให้ แถมยังมีหนุ่มหล่อแต่ละประเภทให้เลือกอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น แนวน้องชายหน้าตาดี แนวพี่ชาย ที่ดูมีอายุมากกว่านิดนึง แต่หล่อ!! แนวผู้ชายสุขุม นุ่มลึก แนวผู้ชายสมาร์ทดูฉลาดหลักแหลม แนวแบดบอยก็มีนะเออ หล่ออีกต่างหาก หรือจะชอบแบบแนวหมอฟัน (ใช้แปรงสีฟันเช็ดน้ำตาให้รึเปล่าเนี่ย?) ซึ่งหากเลือกหนุ่มหล่อได้แล้ว เขาก็จะมาหาคุณที่ทำงานพร้อมกับเปิดวิดีโอที่จะชวนให้คุณน้ำตาไหลและร้องไห้ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อปลดปล่อยความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และเมื่อเขาเช็ดน้ำตาให้คุณแล้วเขาก็จะจากไปในทันที (หมดเวลาแล้ว เธอคงต้องไป!!) อย่างไรก็ตามบริการใหม่นี้จะเริ่มให้บริการในวันที่ 24 กันยายนที่จะถึงนี้ ค่าบริการเช่าต่อครั้งก็ตกอยู่ที่ประมาณ 2,349 บาท (7,900 เยน) แล้วมีสาวไทยคนไหนอยากลองเช่าหนุ่มหล่อมาเช็ดน้ำตาให้บ้างมั้ยเนี่ย? ที่มา : rocketnews24
-
ปวดหัวแย่!! รวม 27 อาชีพสุดเครียด ที่คนเครียดง่ายควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง!!!
คุณเป็นคนที่เครียดง่ายหรือเปล่า? เวลาคุณเครียดคุณเป็นยังไง? สติแตกไปเลยหรือเปล่า? ถ้าคุณเป็นอย่างงั้นล่ะก็ นี่คือ 27 อาชีพที่ทาง Business Insider ได้จัดลำดับเอาไว้ว่า เป็นอาชีพที่มีความเครียดสูง โดยพวกเขาจะมีหน่วย “ความอดทนต่อความเครียด” โดยนับตั้งแต่ 0-100 ยิ่งเลขสูงเท่าไหร่ ยิ่งต้องอยู่กับความเครียดมากเท่านั้น จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย ผู้ประสานงานข้อมูลของตำรวจ ดับเพลิง หรือรถพยาบาล ระดับความอดทนต่อความเครียด : 98.5 พยาบาลวิสัญญี ระดับความอดทนต่อความเครียด : 98.2 คอลเซ็นเตอร์ ระดับความอดทนต่อความเครียด : 98.2 นักเต้น ระดับความอดทนต่อความเครียด : 97.0 สูตินรีแพทย์ และ นรีแพทย์ ระดับความอดทนต่อความเครียด : 96.5 ศัลยแพทย์ ระดับความอดทนต่อความเครียด : 96.2 นักบิน นักบินผู้ช่วย วิศวกรการบิน ระดับความอดทนต่อความเครียด…
-
สลัดความเครียดทิ้งไป แล้วมาชม 23 ภาพฮาๆ ที่จะมาสร้างความสุข และเสียงหัวเราะกันดีกว่า!!
ณ จุดจุดนี้ ใครที่กำลังเครียดอยู่กับการทำงาน หรือการเรียน เหมียวอยากจะขอให้คุณเบรกความเครียดนั้นไว้สักครู่ แล้วมาชมอะไรฮาๆ แก้เซงกันดีกว่า เพราะในวันนี้เหมียวจะมามอบความสุขเล็กๆ ให้กับเพื่อนๆ โดยการพามาดู 23 ภาพสุดฮา ที่จะมาสร้างสีสันให้วันที่น่าเบื่อของคุณ กลายมาเป็นวันที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และความสุข หากใครที่พร้อมแล้ว เรามาชมภาเหล่านั้นพร้อมๆ กันเลยจ้า เป็นการดำน้ำดูปะการังที่ล้ำมากจริงๆ ดูเหมือนพี่แกจะภูมิใจ ที่จับจระเข้ยักษ์ตัวนี้ได้ วันว่างๆ ของพี่ม้า นั่งโซฟาเป็นเพื่อนคุณยาย มันลอยได้ยังไงกันเนี่ย หรือว่านี้มันเป็นภาพตัดต่อ ดูวุ่นวายกันเหลือเกิน เครื่องประดับของพี่แกดูแปลกไม่เหมือนใครเลย ช็อตเด็ดเชียร์หลีดเดอร์ มนุษย์ขน ดูสยองเหมือนกันนะว่ามั้ย นี่มันตัวอะไรกันนะ รถคันนี้เจ๋งจริงๆ คนถ่ายก็เก่งเนาะ จับภาพได้พอดีเป๊ะ เท้าประหลาด มีแค่ 3 นิ้วเอง 0.0 เรือโซล่าเซลลำนี้มันใหญ่โตมากจริงๆ …
-
รายการการเมืองญี่ปุ่นเอา “แมว” มาเดินเล่นในห้อง เพื่อลดความเครียดตอนคุยกัน
ทุกวันนี้เราดูรายการทีวี โดยเฉพาะรายการข่าวที่มีประเด็นเครียดๆมากมาย ดูแล้วเราก็รู้สึกเครียดตามไปเลย แต่ที่ประเทศญี่ปุ่นเขาปิ๊งไอเดียลดความเครียดในรายการลงด้วยการเอาแมวมาเดินป่วนกลางรายการ จากคำบรรยายในคลิปได้บอกว่านี่คือรายการหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นที่สนทนาเกี่ยวกัยเรื่องการเมือง ซ่งแน่นอนว่าเนื้อหามันต้องเป็นประเด็นที่ฟังแล้วเครียด แต่เขาก็ได้เอาแมวตัวหนึ่งมาเดินเล่นระหว่างการถ่ายทำ เพื่อให้บบรยากาศดูสบายคน คนดูจะได้ยิ้มได้ ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปดูในคลิปกันเลย แหม่ เป็นไอเดียที่ดีมากๆเลยนะ ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริงๆที่คิดอะไรแบบนี้ได้ ที่มา Potato Head